Professional Documents
Culture Documents
ART
ART
ART
ตัวละคร
มาร์ ก
แซร์ จ
อีวอง
ห้องหลักในคอนโดฯ
ฉากเดียว เรี ยบง่ายและเป็ นกลางทีส่ ดุ เท่าทีเ่ ป็ นไปได้
เหตุการณ์เกิ ดขึ้นอย่างต่อเนื ่องกันที ่คอนโดฯของแซร์ จ อี วอง และมาร์ ก
ไม่มีอะไรในฉากเปลีย่ น ยกเว้นภาพวาดบนฝาผนัง
(ทีค่ อนโดของแซร์ จ
ผ้าใบสี ขาวมี รอยสี ขาวเป็ นปื ้ นๆวางอยู่ในระดับพืน้ ห้อง แซร์ จมองภาพเขี ยน ท่าทาง
เป็ นปลืม้ มาก
มาร์ กมองภาพเขี ยน แซร์ จมองดูท่าที ทีม่ าร์ กมองภาพเขี ยน
ทัง้ คู่เงี ยบกันอยู่นาน มี การแสดงสี หน้าท่าทางหลากหลายแบบไม่มีคาพูด)
2
มาร์ ก: แพงมัยวะ้
แซร์ จ: สองแสน
มาร์ ก: สองแสนเหรอ
แซร์ จ: เฮ้ ย ฮันทิงตันยังมาขอซื ้อต่อสองแสนสองเลยนะเว้ ย
มาร์ ก: ใครวะ
แซร์ จ: ฮันทิงตันไง
มาร์ ก: ไม่เคยได้ ยิน
แซร์ จ: ฮันทิงตัน หอศิลป์ฮันทิงตัน ไงเล่า!
มาร์ ก: หอศิลป์ฮันทิงตันจะมาขอซื ้อต่อจากมึงสองแสนสองเหรอ
แซร์ จ: ไม่ ไม่ใช่หอศิลป์ ตัวคุณฮันทิงตันเองเลย แกจะซื ้อไปเก็บเข้ าคอลเล็กชัน่ ส่วนตัว
โว้ ย
มาร์ ก: แล้ วทาไมแกไม่ซื ้อเองซะแต่แรกล่ะ
แซร์ จ: อ้ าว ก็ศลิ ปิ นเขาต้ องขายให้ ลกู ค้ ารายย่อยก่อน จะได้ มีการหมุนเวียนในตลาด
มาร์ ก: อ๋อ…
แซร์ จ: เป็ นไง
มาร์ ก: …..
แซร์ จ: ยืนผิดที่นี่หว่า ดูจากมุมนี ้สิ เห็นลายเส้ นมัย้
มาร์ ก: แล้ วใครเป็ น…
แซร์ จ: คนวาดเหรอ ท่านอองทรี ออส
มาร์ ก: ดังเหรอ
แซร์ จ: ดังสิวะ ดังมาก
(หยุดชัว่ ครู่ )
(แซร์ จ คนเดียว)
แซร์ จ: มันไม่ชอบภาพนี ้
ช่างแม่มนั …
แต่ทา่ ทีที่มนั แสดงออกมานี่สิครับ ไม่มีเยื่อใยเลย
ไม่มีสกั นิด
ไม่ชอบก็พดู ดีๆก็ได้
แล้ วยังมาทาเป็ นหัวเราะ
4
หัวเราะแบบว่ากูแน่
ผมล่ะเกลียดจริงๆ
(ทีค่ อนโดของอีวอง
บนผนัง มี ภาพเลอะๆอยู่
อี วองกาลังคลานอยู่ หันหลังให้คนดู ท่าทางเหมื อนกาลังหาอะไรบางอย่างใต้
เฟอร์ นิเจอร์ ระหว่างที ห่ าอยู่นนั้ ก็หนั มาแนะนาตัวเองกับคนดู)
อีวอง: ผมอีวองครับ
ช่วงนี ้ผมอาจจะดูเครี ยดๆหน่อยนะครับ ก็ หลังจากที่ทาธุรกิจสิ่งทอมาตลอด
ชีวิต ผมก็เพิ่งเปลี่ยนมาขายส่งเครื่ องเขียนน่ะครับ
คนอย่างพวกผมเนี่ย ไม่เคยประสบความสาเร็จในอาชีพการงานหรอกครับ
แต่อีกสองอาทิตย์นี่ผมก็จะแต่งงานแล้ วนะครับ กับสาวสวย รวย เก่งครับ
5
มาร์ ก: ทาอะไรวะ
อีวอง: หาปลอกปากกา
(เวลาผ่านไปสักครู่ )
อีวอง: มันสบายดีเหรอ
มาร์ ก: ดีมาก
มันเพิ่งซื ้อรูปมา
อีวอง: เหรอ
มาร์ ก: เอ้ อ
อีวอง: สวยมัยวะ ้
มาร์ ก: สีขาว
อีวอง: สีขาวเหรอ
มาร์ ก: โคตรขาว เลย
นึกภาพนะ ผ้ าใบขนาดห้ าฟุตคูณสี่ฟุต…แบ็คกราวนด์สีขาว…ขาวจัว๊ ะเลย…แล้ ว
ก็มีลายเส้ นทะแยงมุมเล็ก ๆ สีขาว…นึกออกมัย…แล้ ้ วก็ด้านล่างก็อาจจะมี
เส้ นแนวนอนสีขาวอีกเส้ น…
อีวอง: แล้ วจะเห็นได้ ไงละวะ
มาร์ ก: อะไร
อีวอง: ไอ้ ลายเส้ นสีขาวนัน่ น่ะ ก็ถ้าพื ้นมันสีขาว แล้ วจะไปเห็นลายเส้ นได้ ยงั ไงวะ
มาร์ ก: เห็นละกันน่ะ ลายเส้ นมันคงจะเทานิดๆ หรื อไม่พื ้นมันอาจจะเทาหน่อยๆ หรื อมัน
อาจจะขาวหลายขาว สีขาวมันมีหลายเฉดไงวะ
อีวอง: ไม่ต้องยัวะก็ได้ โว้ ย ยัวะเรื่ องอะไรวะ
มาร์ ก: ก็มงึ ขัดทาไมเล่า ให้ กพู ดู ให้ จบก่อนซี่
อีวอง: เออ ไม่ขดั แล้ วโว้ ย
มาร์ ก: ทีนี ้มึงพอนึกออกแล้ วใช่มยว่ ั ้ ารูปเนี่ยเป็ นยังไง
อีวอง: คิดว่าออกนะ
มาร์ ก: แล้ วลองเดาซิวา่ ไอ้ หมอมันจ่ายไปเท่าไหร่
อีวอง: ใครวาดล่ะ
มาร์ ก: ท่านอองทรี ออส เคยได้ ยินชื่อมัย้
อีวอง: ไม่เคย ฮิตมัยวะศิ
้ ลปิ นคนนี ้
มาร์ ก: ว่าแล้ วมึงต้ องถามแบบนี ้!
อีวอง: อ้ าว ก็ต้องว่ากันด้ วยเหตุผล…
มาร์ ก: ไม่ ไม่ใช่เหตุผล…
อีวอง: เหตุผลสิวะ ก็ให้ กเู ดาว่ารูปราคาเท่าไหร่ มึงก็ร้ ูนี่ว่าราคารูปเขียนน่ะขึ ้นอยู่กบั
ความฮิตของศิลปิ น…
7
(หยุดชัว่ ครู่ )
อีวอง: เอาเหอะ…
มาร์ ก: หมายความว่าไงวะ เอาเหอะ
อีวอง: ก็ถ้ามันมีความสุข…แล้ วมันมีตงั ค์ซื ้อ…
มาร์ ก: สรุปว่ามึงเห็นดีเห็นงามด้ วย
อีวอง: ทาไมล่ะวะ แล้ วมึงว่าไงล่ะ
มาร์ ก: มึงไม่เข้ าใจแก่นแท้ ของเรื่ องนี ้เลยใช่มยั ้
อีวอง: เอ่อ…ไม่วะ่
มาร์ ก: แปลกมากที่ไม่เข้ าใจ มึงเข้ าใจแต่ภายนอก ไม่เข้ าใจแก่นมันเลย
อีวอง: แล้ วแก่นมันอะไรล่ะวะ
มาร์ ก: มึงไม่เข้ าใจเหรอว่าหมายความว่าไง
8
(ทีค่ อนโดของแซร์ จ)
(อี วองมาหาแซร์ จ ภาพวาดไม่ได้อยู่ในฉาก)
(แซร์ จตรวจดู)
ร้ ายแรงรึเปล่า
แซร์ จ: ไม่หรอก
อีวอง: เออนี่ มึงเป็ นไงบ้ าง
แซร์ จ: ก็ไม่มีอะไร งานเยอะ เหนื่อย
ดีใจที่ได้ เจอมึงว่ะ ไม่เห็นโทร.มาบ้ างเลย
อีวอง: ไม่อยากกวนน่ะ
แซร์ จ: กวนอะไร ก็ฝากโน้ ตไว้ กบั เลขาฯกูก็ได้ แล้ วเดี๋ยวกูก็โทร.กลับ
อีวอง: เออ
บ้ านมึงนี่ดขู ลังขึ ้นเรื่ อยๆนะ
(แซร์ จหัวเราะ)
บ้ ารึเปล่าวะเนี่ย
อีวอง: บ้ า!
แซร์ จ: สองแสน!
(ทีค่ อนโดของมาร์ ก)
(บนฝาผนังมี ภาพวาด เป็ นภาพวิ วทีม่ องผ่านหน้าต่าง)
อีวอง: ก็ขาออกนี่หว่า
มาร์ ก: มึงขาออกเหรอ
13
อีวอง: ทังสองคนเลยโว้
้ ย ขากลิ ้งกันทังคู
้ ่ กูสาบานด้ วยชีวิตของแคทเธอรี นแฟนกูเลย
มาร์ ก: มึงบอกมันว่าไอ้ ภาพนัน่ เป็ นรูปส้ นตีน แล้ วยังมันขาออกอีกเหรอ
อีวอง: เปล่าโว้ ย กูไม่ทนั ได้ บอกมันว่าเป็ นรูปส้ นตีน มัวแต่ขากันเพลินอยู่
มาร์ ก: มึงไปคอนโดมัน ดูภาพเขียน มึงขา แล้ วมันก็ขาตาม
อีวอง: เออ จะว่างันก็ ้ คงได้ กูคยุ กันก่อนนิดหน่อย แล้ วที่เหลือก็อย่างที่มงึ ว่า
มาร์ ก: ขาแบบจริงใจเหรอวะ
อีวอง: จริงใจมาก
มาร์ ก: เอ้ อ งันกู
้ ก็พลาดไปแล้ ว กูดีใจที่ได้ ยินแบบนี ้
อีวอง: ดีกว่าที่มงึ ว่าอีก มันขาก่อนด้ วยนะโว้ ย
มาร์ ก: มันขาก่อนด้ วย…
อีวอง: เออ
มาร์ ก: มันขาก่อน แล้ วมึงก็ขาตาม
อีวอง: เออ
มาร์ ก: แล้ วมันขาเรื่ องอะไร
อีวอง: ก็มนั รู้สกึ ว่ากูกาลังจะขาน่ะ มันก็เลยขานาร่องให้
มาร์ ก: มันขาก่อน…. แบบนี ้ไม่นบั เว้ ย
มันแกล้ งขาก่อนนี่ก็เพื่อจะไม่ให้ มงึ ขาตัดหน้ าเยาะเย้ ยมันก่อน
แบบนี ้เรี ยกว่าขาแบบไม่จริงใจ
อีวอง: จริงใจสิวะ
มาร์ ก: จริงใจก็ได้ วะ แต่เหตุผลนี่แม่งไม่เข้ าท่า
อีวอง: แล้ วเหตุผลอะไรล่ะวะแม่งถึงจะเข้ าท่า กูชกั งงๆแล้ ว
มาร์ ก: มันไม่ได้ ขาเพราะว่าภาพเขียนมันทุเรศ เพราะงันมึ ้ งกับมันไม่ได้ ขาเรื่ องเดียวกัน
มึงขาไอ้ ภาพเวรนัน่ แต่มนั ขาเพื่อให้ มนั ดูดี ให้ มนั เป็ นพวกเดียวกับมึง ให้ มนั ดูเป็ น
เพื่อนเก่าคนเดิมของมึงที่ยงั หัวเราะเล่นกันได้ ถึงแม้ วา่ มันจะทาตัวเป็ นผู้ชื่นชม
งานศิลปะที่ทมุ่ ซื ้อภาพเขียนภาพนึงด้ วยเงินที่มากกว่าเงินเดือนมันทังปี ้
อีวอง: อ๋อเหรอ…
เอ้ อ นี่นะ…
มาร์ ก: ว่าไง…
14
อีวอง: กูจะบอกอะไรให้ …
มาร์ ก: บอกมา…
อีวอง: กูไม่ได้ ชอบภาพเขียนนัน่ …แต่กกู ็ไม่ได้ เกลียด
มาร์ ก: ก็แหงล่ะ ก็มนั ไม่มีอะไรให้ มงึ เกลียดนี่
อีวอง: มีนะโว้ ย มี มีอะไรบางอย่าง…
มาร์ ก: ยังไงวะ
อีวอง: มันมีอะไรบางอย่างโว้ ย ไม่ใช่ไม่มีอะไรเลย
มาร์ ก: ล้ อเล่นน่ะ
อีวอง: ภาพเขียนนัน่ เป็ นงานศิลปะ มีเรื่ องราวแฝงอยูน่ ะโว้ ย
มาร์ ก: เรื่ องราวเหรอ
อีวอง: เรื่ องราวโว้ ย
มาร์ ก: เรื่ องอะไรวะ
อีวอง: เรื่ องของการเดินทางไปสูจ่ ดุ หมาย…
มาร์ ก: เหอะ
อีวอง: ท่าน อองทรี ออส ท่านไม่ได้ วาดมัว่ นะโว้ ย มันเป็ นงานศิลปะที่มีแนวทาง…
มาร์ ก: เหอะๆ
อีวอง: เอ้ า มึงอยากหัวเราะ ก็ช่างมึง
มาร์ ก: นี่มงึ กาลังติงต๊ องตามไอ้ หมอไปอีกคนแล้ ว เวลามันพูดแบบนี ้นะ กูแทบร้ องไห้
เวลามึงพูดนี่ กูขาว่ะ
อีวอง: มึงมองโลกแง่ร้ายแบบนี ้ ไม่ดีนะโว้ ย
มาร์ ก: เออ กูมนั ยิ่งแก่ ก็ยิ่งก้ าวร้ าวเว้ ย
อีวอง: ตามใจ!
มาร์ ก: เรื่ องราวเหรอ!
อีวอง: มึงนี่พดู ไม่ร้ ูเรื่ องจริงๆ
มาร์ ก: มีเรื่ องราวแฝงอยู่!…มึงดูไอ้ รูปส้ นตีนนี่ แล้ วก็ เอาเหอะ เอาเหอะ มีเรื่ องราวแฝง
อยู่!…มึงว่ามีเรื่ องราวแฝงอยู่เบื ้องหลังภาพวิวนี่เหรอ (ชี ้ไปทีภ่ าพวิ วบนผนัง)…ไม่
มีใช่มยล่ ั ้ ะ ชัดเจนแจ๋มแจ้ งแดงแจ๋ ทุกอย่างอยูบ่ นผืนผ้ าใบหมด! ไม่มีเรื่ องราวแฝง
อยูเ่ บื ้องหลัง!…
อีวอง: สนุกใหญ่แล้ วนะมึง
มาร์ ก: อีวอง เฮ้ ย พูดกันตรงๆดีกว่า มึงเปิ ดอกพูดมาเลย
อีวอง: กูร้ ูสกึ ว่ามันมีประกายความงาม
15
(อีวอง คนเดียว)
อีวอง: แน่นอนครับ ไม่มีความสุขแน่
ถ้ าได้ เป็ นของขวัญแต่งงาน ผมไม่มีความสุขแน่ แต่ถ้าจะว่าไป ผมก็ไม่ใช่คน
ประเภทที่จะพูดพล่อยๆว่าตัวเองมีความสุขนะครับ
ผมพยายามนึกดูวา่ …ตอนไหนบ้ างที่ผมจะตอบได้ เต็มปากเต็มคาว่า “ครับ ผมมี
ความสุข”…แม่ผมถามว่า “อีวอง จะแต่งงานแล้ ว มีความสุขมัยลู ้ ก”…ผมตอบว่า
“ทาไมจะไม่มีละ่ ครับ”
แม่บอก “ยังไงล่ะเนี่ย ทาไมจะไม่มี ก็ต้องตอบว่ามีหรื อไม่มีสิลกู ตอบว่า ทาไมจะ
ไม่มี แบบนี ้มันหมายความว่ายังไง…”
(แซร์ จ คนเดียว)
แซร์ จ: เท่าที่ทราบ ภาพนี ้ไม่ขาว
ที่ผมใช้ คาพูดว่า “เท่าที่ทราบ” เนี่ยหมายถึง มองด้ วยใจเป็ นกลาง นะครับ
ถ้ ามองด้ วยใจเป็ นกลางแล้ ว ภาพนี ้ไม่ขาว
ภาพมีแบ็คกราวนด์สีขาว แล้ วก็มีเทาเฉดต่างๆ…
มีแดงปนด้ วย
16
พอดีแดงซีดไปหน่อยน่ะครับ
ถ้ าขาวล้ วนนี่ ผมไม่ชอบหรอก
ไอ้ มาร์ กมันบอกว่าขาวล้ วน…มันใจแคบ…
มันว่าขาวล้ วน ก็เพราะว่ามันไปยึดติดกับความคิดที่วา่ มันขาว
ไม่เหมือนอีวอง อีวองยังเห็นเลยว่าไม่ได้ ขาวล้ วน
ไอ้ มาร์ กมันจะคิดยังไงก็เรื่ องของมัน ผมไม่สนใจ
(ทีค่ อนโดฯของแซร์ จ)
แซร์ จ: มึงอยากฟั งเรื่ องตลกมัย้
มาร์ ก: เอาสิวะ
แซร์ จ: ไอ้ อีวองชอบภาพท่าน อองทรี ออส
มาร์ ก: อยูไ่ หนแล้ วล่ะ
แซร์ จ: มึงอยากดูอีกเหรอ
มาร์ ก: เอาออกมาสิวะ
แซร์ จ: ว่าแล้ วมึงต้ องขอดูอีกรอบ!…
มาร์ ก: เออ
แซร์ จ: เฮ้ ย เอาเหอะ ก็แค่ภาพเขียนภาพนึง เราไม่ต้องมาเถียงกันเอาเป็ นเอาตายหรอก
เสียเวลาเปล่าๆ…เอ้ อ อ่านนี่รึยงั (หยิ บหนังสือ De Vita Beata ของ เซเนกา
ออกมาวางลงบนโต๊ะตรงหน้ามาร์ ก) ลองอ่านดู “เดอวีต้า บีอาต้ า ชีวิตนี ้มี
ความสุข” ของเซเนกา วรรณกรรมเอกของโลกเลยนะเว้ ย
(แซร์ จหัวเราะอย่างรักษามารยาท)
แซร์ จ: ไม่…ไม่ใส่ๆ
มาร์ ก: ทาไมล่ะ
แซร์ จ: ไม่ควรใส่
มาร์ ก: เหรอ
แซร์ จ: ท่านศิลปิ นท่านไม่ได้ ตงใจให้
ั้ ใส่ ก็ไม่ควรจะผิดเจตนารมณ์ทา่ น แบบนี ้ก็สมบูรณ์ดี
แล้ ว (เรี ยกมาร์ กให้ไปดูตรงขอบภาพเขี ยน) ดูสิ…เห็นมัย้
มาร์ ก: อะไรเนี่ย กระดาษกาวเหรอ
แซร์ จ: ไม่ใช่ เป็ นตระกูลเดียวกับกระดาษสาน่ะ…ท่านศิลปิ นท่านประดิษฐ์ เองเลยนะ
มาร์ ก: ตลกดีนะวะเวลาเรี ยกว่า “ท่านศิลปิ น” เนี่ย
แซร์ จ: แล้ วจะให้ เรี ยกว่าไงล่ะ
มาร์ ก: แทนที่จะเรี ยก “ท่านศิลปิ น” นะวะ ก็นา่ จะเรี ยก “คนวาด” หรื อว่า…เค้ าชื่ออะไร
นะ…อองทรี ออส
แซร์ จ: แล้ วไง
มาร์ ก: เรี ยก “ท่านศิลปิ น” อย่างกับว่าเป็ น…เอ่อ เอาเหอะ ไม่มีอะไรหรอกวะ คืนนี ้จะไป
ดูอะไรกันวะ ลองหาหนังอะไรดูที่มนั ได้ เรื่ องหน่อยละกันวะ
แซร์ จ: สองทุม่ แล้ วโว้ ย หนังฉายไปหมดแล้ ว กูไม่เข้ าใจเลยนะว่าคนคนนี ้ ไอ้ คนที่ไม่ได้ มี
ธุระอะไรมากมาย เนี่ย ทาไมมันถึงมาสายได้ ทกุ ที มันไปไหนของมันวะ
20
(แซร์ จหัวกูะ)
แซร์ จ: ก็ทา่ น อองทรี ออส ท่านเป็ นเทพจริงๆน่ะสิ ถ้ าเป็ นปุถชุ นคนธรรมดา กูไม่ทมุ่ เงิน
ซื ้องานท่านขนาดนันหรอก!… ้
มาร์ ก: เหรอ
แซร์ จ: เมื่อวันจันทร์ กไู ปพิพิธภัณฑ์ ปอมปิ ดูมา มึงรู้มยที ั ้ ่ปอมปิ ดู มีงานท่าน อองทรี ออส
กี่ชิ ้น…สามชิ ้น! งานท่าน อองทรี ออสสามชิ ้น!…ที่ปอมปิ ดู เลยนะเว้ ย!
มาร์ ก: อะเมซซิ่งโว้ ย
แซร์ จ: แล้ วภาพกูเนี่ยก็คณ ุ ภาพทัดเทียมสามภาพนัน่ เลย! อาจจะดีกว่าด้ วย!…
เฮ้ ย ขอเสนอนะ ให้ เวลาไอ้ อีวองมันอีกสามนาที แล้ วไปกันเลย วันก่อนกูไปเจอ
ร้ านใหม่บรรยากาศดีมาก ชื่อ ร้ านลีย็อนแนส
มาร์ ก: ทาไมต้ องรี บด้ วยวะ
แซร์ จ: ไม่ได้ รีบ
มาร์ ก: ก็กเู ห็นอยูว่ า่ รี บนี่วะ
แซร์ จ: ไม่ได้ รีบ เอ่อ รี บก็รีบ ที่รีบก็เพราะกูทนคนมาสายไม่ได้ แล้ วน่ะสิ ทาอะไรไม่มี
ระเบียบมีวินยั เลย!
มาร์ ก: กูกวนประสาทมึงใช่มยล่ ั ้ ะวะ มึงก็เลยไปลงที่ไอ้ อีวอง
แซร์ จ: หมายความว่าไง ลงที่ไอ้ อีวอง มึงหาเรื่ องอะไรอีกวะ มึงไม่ได้ กวนประสาทกูนี่ มึง
จะมากวนกูทาไม
แซร์ จ: มันกวนประสาทผมจริงๆ
กวนตีนเลยล่ะครับ
สอพลอประจบประแจง แต่อมยิ ้มแบบมีเลศนัยตลอด
อย่างกับว่ามันพยายามเสแสร้ งแกล้ งทาดีกบั ผม
21
ไม่ต้องมาทาดีด้วยเลย ไม่ต้องเลย
หรื อว่าจะเป็ นเพราะเรื่ องผมซื ้อภาพท่าน อองทรี ออส…เรื่ องผมซื ้อภาพเขียนมานี่
ทาให้ เราผิดใจกันเลยเหรอ
ซื ้อของมีคา่ …โดยไม่ถามความเห็นมันก่อน…
โธ่เว้ ย ทาไมต้ องถามมันด้ วย! ต้ องให้ มงึ อนุมตั ิด้วยเหรอวะไอ้ มาร์ ก!
(ทีค่ อนโดของแซร์ จ
แซร์ จกับมาร์ กต่อจากฉากเมื ่อสักครู่ )
(กริ่ งประตูดงั )
แซร์ จ: สองทุม่ สิบห้ า
22
วอนน์นะ่ จ้ ะ ก็นา่ อยูห่ รอก” แคทเธอรี นบอก “ชันไม่ ้ ได้ ถามเรื่ องนัน้ ชันถามว่
้ า แม่
ว่าไงเรื่ องที่เราจะแต่งงานกันน่ะ” กูบอก “เปล่านี่จ๊ะ” แคทเธอรี นด่า “โกหก!” กูแก้
ตัว “เปล่านะจ๊ ะ แคทเธอรี น จริงๆนะจ๊ ะ แม่แค่ไม่ยอมให้ ใส่ชื่อแม่คกู่ บั นังอิวอนน์ ”
แคทเธอรี นสัง่ “โทร.ใหม่ บอกแม่วา่ ลูกชายแม่จะแต่งงานทังที ้ แม่ละทิฐิซะบ้ าง
เถอะ” กูเถียง “งันแคทเธอรี
้ นก็บอกแม่เลี ้ยงแคทเธอรี นแบบนี ้บ้ างสิ” แคทเธอรี น
แหกกลับเลย “ไม่เกี่ยวเว้ ย ชันนะที ้ ่เป็ นคนบอกให้ ใส่ชื่อแม่ชนในการ์
ั้ ดน่ะ แม่เค้ า
ไม่ได้ เรี ยกร้ องเลย ถ้ าแม่ร้ ูว่าจะวุน่ วายขนาดนี ้นะ แม่ขอให้ เราเอาชื่อแม่ออกไป
แล้ วล่ะ เอ้ า โทร.หาแม่คณ ุ เดี่ยวนี ้” กูก็เลยต้ องโทร.หาแม่อีก ถึงตอนนันกู ้ โดนอัด
ซะรุ่งริ่งร่อแร่แล้ ว แถมแคทเธอรี นก็ยกเครื่ องพ่วงฟั งด้ วย แม่บอก “อีวอง แก
จัดการทุกอย่างได้ ชลุ มุนชุลเกจริงๆ แล้ วอยูด่ ีๆแกก็จะแต่งงาน ทาให้ ชนต้ ั ้ องโดน
บังคับให้ ไปเจอหน้ าพ่อแกทังวั ้ น ชันไม่
้ ได้ เจอเค้ ามา 17 ปี แล้ วนะ จะมาให้ ชนมา ั้
ใส่ชดุ ราตรี โชว์อวบ โชว์อมึ๋ ให้ พอ่ แกดูอีกเรอะ” แล้ วก็ยงั นังอิวอนน์นนั่ อีก นี่แล้ วชัน้
ได้ ขา่ วมาจากคุณเฟลิกซ์ เปลโลลารี วา่ ตอนนี ้มันเริ่มเล่นกระแดะเล่นบริดจ์แล้ ว
เหรอ” คือแม่กเู ป็ นขาบริ ดจ์น่ะ “เรื่ องแบบนี ้ก็ชา่ งนังตอแหลนัน่ เหอะ แต่วา่ ในบัตร
เชิญที่ทกุ คนจะได้ รับ ได้ อ่านเนี่ย ชันขอยื ้ นยันว่าต้ องมีชื่อชันคนเดี
้ ยวเท่านัน” ้
แคทเธอรี นที่ฟังอยู่อีกเครื่ องส่ายหัว แล้ วก็ทาท่าแหยงเลยนะโว้ ย กูก็บอก “แม่ฮะ
อย่าเอาแต่ใจตัวเองนักสิฮะ” แม่บอก “เปล่านี่ ชันไม่ ้ ได้ เอาแต่ใจตัวเอง อีวอง
อย่ามาหาเรื่ องแม่นะ นี่อย่ามาทาเหมือนอีนงั ป้าโรเมโรที่มาด่าชันเมื ้ ่อเช้ าว่าชันใจ ้
ทมิฬหินชาตินะ เมื่อเช้ าเนี่ยมันมาด่าชัน้ บ้ าแล้ ว จะมาขอเพิ่มค่าแรงเป็ นชัว่ โมง
ละหกสิบฟรังก์ไม่หกั ณ ที่จา่ ยด้ วย พอชันไม่ ้ ให้ มนั ก็ดา่ ว่า ชันไม่
้ มีหวั จิตหัวใจ ว่า
ครอบครัวเราไม่มีหวั จิตหัวใจซักคน พูดยังงี ้ได้ ไง ในเมื่อก็เห็นๆอยู่วา่ อังเดร
พ่อเลี ้ยงแกน่ะมีเครื่ องวัดคลื่นหัวใจติดอยูท่ ี่หน้ าอกตลอด นี่อีวอง แกน่ะไม่ยอม
เชิญเค้ าซักคาเลยนะ ขาอะไร ตลกนักเหรอ ชันน่ ้ ะ ไม่ใช่คนเห็นแก่ตวั นะ แกน่ะ
ยังต้ องเรี ยนรู้ชีวิตอีกมาก ไปซี ้ ไป ไปเลย ไปหาเพื่อนที่แสนดีของแกเดี๋ยวนี ้เลย ไป
”…
อีวอง: กูไม่มีสิทธิเหรอ…
มาร์ ก: ไม่มี
แซร์ จ: ทาไมมันไม่มีสิทธิละ่ กูวา่ มึงไม่คอ่ ยสบายแล้ วว่ะ น่าจะไปหาหมอซะหน่อยนะ
มาร์ ก: มันไม่มีสิทธิพดู ว่า มันประทับใจสีสนั พวกนี ้ เพราะมันไม่ได้ ร้ ูสกึ ประทับใจจริ งๆ
อีวอง: กูไม่ได้ ร้ ูสกึ ประทับใจสีสนั พวกนี ้เหรอ
มาร์ ก: ก็มนั ไม่มีสีอะไรเลยน่ะสิ มึงมองไม่เห็นสักสีนงึ แล้ วก็ไม่ได้ ประทับใจอะไรด้ วย
อีวอง: นัน่ น่ะมึงแล้ ว!
มาร์ ก: ทุเรศจริงๆว่ะไอ้ หอยหลอด!
แซร์ จ: มึงคิดว่ามึงเป็ นใครวะ …
มาทาเป็ นตังกฎเกณฑ์
้ ขึ ้นมาเนี่ย ไม่ชอบอะไรสักอย่าง เกลียดไปหมดทุกคน รู้สกึ
ว่ามึงจะภูมิใจเหลือเกินนะที่มงึ ไม่ได้ มีรสนิยมแบบคนของยุคน่ะ
มาร์ ก: หมายความว่าไงวะ “คนของยุค ”
อีวอง: โอ๊ ย กูกลับล่ะโว้ ย
แซร์ จ: มึงจะไปไหน
อีวอง: กลับแล้ ว ไม่ร้ ูจะอยูด่ หู มากัดกันทาไม
แซร์ จ: อย่าเพิ่งไป! มึงยังไม่ได้ เริ่มเถียงมันเลย …ถ้ ามึงไปตอนนี ้ ก็เท่ากับว่ามึงยอมมัน
นะ
แซร์ จ: นี่ ฟั งนะ กูไม่ได้ พดู ถึงมึงนะเว้ ย อย่าฝั นเฟื่ องให้ มาก! มึงจะยังไงน่ะกูไม่สนหรอก!
กูพยายามจะอธิบายว่าคนของยุคเนี่ยนะ คือคนส่วนใหญ่ที่มงึ เคารพนับถือ เป็ น
คนที่สร้ างคุณประโยชน์ให้ กบั มวลมนุษยชาติ…คนของยุค เนี่ยเขาไม่มีวนั ยอม
หรอกที่จะให้ ประวัตศิ าสตร์ ศิลป์สิ ้นสุดลงด้ วยรูปสไตล์เฟลมมิชเหียกๆแบบรูป
เมืองกาไวยง ของมึงหรอก
มาร์ ก: เมืองการ์ กสั ซอนน์ เว้ ย
แซร์ จ: เหมือนกันแหละ คนของยุคเนี่ยต้ องมีสว่ นร่วมในการเปลี่ยนแปลงโลก
มาร์ ก: แล้ วมึงก็คิดว่านัน่ เป็ นเรื่ องดี
แซร์ จ: ไม่ใช่วา่ ดีหรื อไม่ดี ทาไมต้ องประเมินค่าด้ วยวะ มันก็เป็ นของมันอย่างงันแหละ ้
มาร์ ก: แล้ วคนอย่างมึงก็มีสว่ นร่วมในการเปลี่ยนแปลงโลกด้ วยงันสิ ้
แซร์ จ: ถูกต้ อง
มาร์ ก: แล้ วไอ้ อีวองล่ะ
อีวอง: คงไม่ละ่ วะ สัตว์เซลล์เดียวอย่างกูจะมีสว่ นร่วมอะไรกับเขาได้
แซร์ จ: อีวองนี่ก็เป็ นคนของยุคในแบบของมัน
มาร์ ก: เป็ นได้ ไงวะ เพราะไอ้ ภาพงี่เง่าบัดซบที่แขวนอยูฝ่ าบ้ านมันน่ะเหรอ!
อีวอง: ไม่บดั ซบนะโว้ ย!
แซร์ จ: บัดซบที่สดุ
อีวอง: ไม่บดั ซบ
แซร์ จ: บัด…เอ้ อ ไม่..ไม่บดั ซบก็ได้ .. อีวองนี่มนั ก็มีวิถีชีวิต มีแนวความคิดที่โคตรโมเดิ ้น
เลย มึงก็เหมือนกัน โทษทีวะ่ มึงก็เป็ นคนของยุคแบบโหลๆน่ะ ที่จริงนะ ยิ่งมึง
พยายามหลีกเลี่ยงมากเท่าไหร่ มึงก็ยิ่งเป็ น
มาร์ ก: เอ้ า เอางันก็
้ ได้ แล้ วมีปัญหาตรงไหน
แซร์ จ: ไม่มีปัญหาอะไร ยกเว้ นมึงนี่ละ่ เพราะว่ามึงพยายามทาตัวไม่เหมือนชาวบ้ าน
แล้ วก็ไม่เคยสาเร็จหรอก ก็เหมือนมึงโดนทรายดูดน่ะแหละ ยิ่งพยายาม
ตะเกียกตะกายขึ ้นมา มันก็ยิ่งดูดลงไป ทีนี ้ก็ขอโทษอีวองมันซะ
มาร์ ก: ไอ้ อีวองมันขี ้ขลาดนี่หว่า
แซร์ จ: เจริญ
30
(เงียบ)
(หยุดชัว่ ครู่
31
กริ่ งประตูดงั ขึ้น แซร์ จไปเปิ ดประตู อี วองเดิ นเข้ามา พูดมาตลอดทางแบบเดี ยวกับ
ครั้งทีแ่ ล้ว)
อีวอง: อยากรู้ใช่มยวะ
ั้
(อีวองหยิ บกระดาษออกมาแผ่นหนึ่ง)
มาร์ ก: จดมาเลยเหรอวะ
อีวอง: (คลีก่ ระดาษ) ต้ องจดโว้ ยเพราะว่ามันสลับซับซ้ อนมาก…จะให้ อา่ นให้ ฟังมัย้
แซร์ จ: เอาสิ
อีวอง: …”ถ้ าผมเป็ นผมเพราะว่าผมเป็ นผมและคุณเป็ นคุณเพราะว่าคุณเป็ นคุณแล้ วล่ะ
ก็ ผมก็คือผมและคุณก็คือคุณ แต่ในทางกลับกัน ถ้ าผมเป็ นผมเพราะว่าคุณเป็ น
คุณและคุณเป็ นคุณเพราะว่าผมเป็ นผมแล้ วล่ะก็ ผมก็ไม่ใช่ผม และคุณก็ไม่ใช่
คุณ…”
รู้รึยงั ว่าทาไมต้ องจด
มาร์ ก: ค่าหมอเท่าไหร่วะ
อีวอง: ครัง้ ละสี่ร้อย อาทิตย์ละสองครัง้
มาร์ ก: ยินดีด้วย มึงโคตรโชคดีเลย ได้ หมอโรคจิตที่รักษาคนไข้ จากประสบการณ์ของ
ตัวเอง
แซร์ จ: จริงว่ะ มึงช่วยลอกให้ พวกกูคนละแผ่นนะ
มาร์ ก: ใช่ คงจะใช้ ประโยชน์ได้ หรอก
(อีวองบรรจงพับกระดาษ)
แซร์ จ: ถูกต้ อง
มาร์ ก: หรื อมึงกลัวว่าถ้ ารูปยังอยูน่ ี่ มึงจะเริ่มมองเห็นรูปโดยผ่านสายตากู…
แซร์ จ: เปล่า รู้มยั ้ มึงรู้ใช่มยท่
ั ้ านปอล วาเลรี พูดเรื่ องศิลบะกับชีวิตว่าอะไร กูยิ่งกว่านัน้
อีกนะเว้ ย
มาร์ ก: ปอล วาเลรี จะพูดเหี ้ยยังไงกูไม่สนหรอก
แซร์ จ: มึงเลิกชอบปอล วาเลรี แล้ วเหรอ
มาร์ ก: ไม่ต้องมายกคาพูดปอล วาเลรี ใส่กเู ลยนะ
แซร์ จ: ก็มงึ เคยชอบปอล วาเลรี นี่หว่า
มาร์ ก: ปอล วาเลรี จะพูดเหี ้ยยังไง กูไม่สนหรอก
แซร์ จ: ที่กมู าเข้ าใจ ปอล วาเลรี ได้ ก็เพราะมึงนะ มึงเป็ นคนแนะนาเอง
มาร์ ก: ไม่ต้องมายกคาพูดปอล วาเลรี ใส่กนู ะ ปอล วาเลรี จะพูดเหี ้ยยังไง กูไม่สนหรอก
แซร์ จ: แล้ วมึงสนเรื่ องเหี ้ยอะไรมัง่ วะ
มาร์ ก: ก็สนเรื่ องเหี ้ยที่มงึ ซื ้อไอ้ รูปนี ้น่ะสิ
กูสนเรื่ องเหี ้ยที่มงึ จ่ายเงินไปสองแสนซื ้อไอ้ รูปส้ นตีนนัน่ ไง
อีวอง: ไอ้ มาร์ ก อย่าเริ่มสิโว้ ย!
แซร์ จ: กูจะบอกให้ นะว่ากูสนใจเรื่ องเหี ้ยอะไร ไหนๆทุกคนก็เปิ ดอกพูดกันแล้ ว กูสนเรื่ อง
เหี ้ยที่มงึ ชอบเหน็บแนมแล้ วก็เย้ ยหยัน ไอ้ ที่มงึ พยายามพูดเป็ นนัยว่ากูเองก็คดิ ว่า
ภาพเขียนนี่เป็ นเรื่ องตลก แล้ วก็ที่มงึ ไม่ยอมรับว่ากูผกู พันกับภาพเขียนนี่จริงๆ มึง
พยายามจะสร้ างบรรยากาศว่าเราถูกคอกันดี แล้ วนี่ละ่ ที่ทาให้ กู…ก็อย่างที่มงึ ว่า
นัน่ แหละ กูร้ ูสึกว่าเราห่างเหินกันเหลือเกินช่วงนี ้ ก็มงึ มันแสดงความไม่จริงใจเอง
นี่หว่า
มาร์ ก: ก็ใช่ กูไม่คิดว่ามึงจะรักไอ้ ภาพเขียนนัน่ จริงๆหรอก
แซร์ จ: ทาไมล่ะ
มาร์ ก: ก็มงึ น่ะเป็ นเพื่อนรักกู แต่กรู ักเพื่อนคนที่ซื ้อไอ้ รูปนี่มาไม่ลงหรอกเว้ ย
แซร์ จ: ทาไมมึงต้ องเรี ยกว่า “ซื ้อ” ล่ะ เรี ยกว่า “รัก” ไม่ได้ เหรอ
มาร์ ก: ก็เพราะว่ากูพดู ไม่ได้ นะ่ สิ กูไม่เชื่อหรอกว่ามึงจะรักไอ้ รูปนี่
แซร์ จ: แล้ วกูจะซื ้อมาทาไม ถ้ ากูไม่รัก
มาร์ ก: กูก็อยากถามมึงอยูเ่ หมือนกัน
แซร์ จ: (กับอี วอง) เห็นมัยว่ ้ ามันใจแคบขนาดไหน กูพยายามจะพูดอย่างตรงไปตรงมา
แล้ ว มันก็ตอบแบบวางท่าน่าถีบอีก (กับมาร์ ก) มาถึงขนาดนี ้แล้ ว มึงก็คงไม่เคย
35
มาร์ ก: แต่วา่ วันนี ้ ไอ้ ที่มงึ ประเมินค่าพอลล่า หรื ออีกนัยหนึง่ ก็ตวั กูนนั่ เอง มัน
รุนแรงกว่าตอนนันเยอะเลย ้
แซร์ จ: …กูไม่เข้ าใจ
มาร์ ก: มึงเข้ าใจอยูแ่ ล้ วล่ะ
แซร์ จ: กูไม่เข้ าใจ
มาร์ ก: ช่วงหลังมานี่ที่กไู ม่สนับสนุนรสนิยมไฮโซไร้ สติของมึง กูก็เลยกลายเป็ นไอ้ พวก
“หยิ่งยะโส” “ใจแคบ”…”ไอ้ พวกซากศพ”…
อีวอง: ทรมานเหลือเกิน! เหมือนมีอะไรมาเจาะกะโหลก!
แซร์ จ: จิบบรั่นดีซะหน่อยสิ
อีวอง: อะไรกัน…ถ้ าเกิดมีสว่ นไหนในสมองกูได้ รับความกระทบกระเทือนอยู่ตอนนี ้
ล่ออัลกอฮอล์นี่มนั ไม่เสี่ยงไปหน่อยเหรอโว้ ย
แซร์ จ: เอาแอสไพรินมัยล่ ้ ะ
อีวอง: แอสไพรินคงไม่คอ่ ยถูกกับกูเท่าไหร่
แซร์ จ: แล้ วจะแดกหอยอะไรไม่ทราบ
อีวอง: ไม่ต้องห่วงกูหรอก เชิญมึงทังสองสนทนาธรรมกั
้ นต่อไป ไม่ต้องมาสนใจกูเลยก็ได้
โว้ ย
มาร์ ก: พูดง่ายทายากว่ะ
อีวอง: เมตตากรุณามุทิตาอุเบกขากูซกั นิดก็ได้ โว้ ย แต่อย่าเลย
แซร์ จ: มึงจะควงกับพอลล่ากูก็ไม่วา่ อะไร กูไม่โกรธ
มาร์ ก: ก็ไม่มีเหตุผลอะไรจะมาโกรธอยูแ่ ล้ ว
แซร์ จ: แต่มงึ น่ะสิ…มึงโกรธกู…เอ้ อ ไหนๆก็ไหนๆแล้ วพูดซะเลย มึงโกรธกูเรื่ องภาพเขียน
ท่านอองทรี ออส
มาร์ ก: เออ!
แซร์ จ: ช่วยอธิบายหน่อยเถอะ
มาร์ ก: ถึงกูจะมีพอลล่า แต่กกู ็ไม่ได้ เฉดหัวมึงนี่หว่า
แซร์ จ: สรุปว่า กูมีภาพท่าน อองทรี ออส แล้ วเฉดหัวมึงงันสิ ้
มาร์ ก: ใช่
แซร์ จ: …กูได้ ภาพท่านอองทรี ออสมา แล้ วเฉดหัวมึงเหรอ
มาร์ ก: เออ ภาพไอ้ อองทรี ออส…แล้ วก็ทกุ เรื่ องที่เกี่ยวกับมันนัน่ ล่ะ
แซร์ จ: (กับอี วอง) เข้ าใจที่มนั พูดมัยเนี
้ ่ย
อีวอง: กูไม่สนใจหรอกโว้ ย มึงประสาทแดกทังคู ้ ่
39
พูดกับมาร์ ก) เอาซี่!
(เงียบ)
เอาเลย!
(มาร์ กเดิ นไปทีภ่ าพเขี ยน…
มองหน้าแซร์ จ…
มาร์ กดึงฝาปากกาออก)
อีวอง: อย่านะ
(มาร์ กมองหน้าแซร์ จ)
แซร์ จ: เอาเลย
อีวอง: มึงมันบ้ าไปแล้ ว ..มึงสองตัวเนี่ย
(มาร์ กโน้มตัวลงมาภาพเขี ยน อีวองตะลึงงัน มาร์ กวาดเส้นตามแนวเส้นทะแยง
มุมหนึ่งเส้น แซร์ จยังคงไม่สะดุง้ สะเทือน
แล้วมาร์ กก็บรรจงวาดรู ปคนเล่นสกี ใส่หมวกผ้าขนสัตว์บนเส้นนัน้
พอวาดเสร็ จ ก็ยืดตัวขึ้น แล้วมองดูผลงาน
แซร์ จก็ยงั คงใจแข็ง
อีวองเหมื อนกลายเป็ นหิ นไปแล้ว
เงี ยบไปชัว่ ครู่ )
(ทีค่ อนโดของแซร์ จ
ภาพเขี ยนท่าน อองทรี ออสแขวนอยู่บนผนังหลังห้อง กูงหน้าภาพเขี ยน
มาร์ กถือถังน้า แซร์ จจุ่มผ้าลงในถัง มาร์ กพับแขนเสือ้ ขึ้นแล้ว แซร์ จก็ใส่ผ้ากันเปื ้ อนซึ่ง
สัน้ เกิ นไป อุปกรณ์ ทาความสะอาดหลากหลายชนิ ดวางอยู่เต็มห้อง ทัง้ ทิ นเนอร์ น้ายาขจัด
คราบสกปรก ผ้าขี ้ริ้ว ฟองน้า แซร์ จบรรจงทาความสะอาดภาพเขี ยน
ภาพท่าน อองทรี ออสก็กลับมาขาวจัว๊ ะเหมื อนเดิ ม มาร์ กวางถังน้าลง มองดูภาพ แซร์ จหันไปมอง
อี วองที น่ งั่ อยู่อีกด้านหนึ่งของห้อง อี วองพยักหน้าบอกว่าใช้ได้แล้ว แซร์ จก้าวออกมาแล้วหัน
กลับไปชื ่นชมภาพอีกครั้ง
46
เงียบไปชัว่ ขณะ)
(แสงไฟเริ่ มจับเฉพาะทีภ่ าพเขี ยนท่าน อองทรี ออส มาร์ กเดิ นเข้าไปทีภ่ าพ)