ART

You might also like

Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 47

แปลจาก Art ของ Yasmina Reza

(ฉบับแปลเป็ นภาษาอังกฤษโดย Christopher Hampton)


โดย ปวิตร มหาสารินนั ทน์

ตัวละคร
มาร์ ก
แซร์ จ
อีวอง

ห้องหลักในคอนโดฯ
ฉากเดียว เรี ยบง่ายและเป็ นกลางทีส่ ดุ เท่าทีเ่ ป็ นไปได้
เหตุการณ์เกิ ดขึ้นอย่างต่อเนื ่องกันที ่คอนโดฯของแซร์ จ อี วอง และมาร์ ก
ไม่มีอะไรในฉากเปลีย่ น ยกเว้นภาพวาดบนฝาผนัง

(มาร์ ก คนเดี ยว)


มาร์ ก: แซร์ จเพื่อนผมเพิ่งซื ้อภาพมา เป็ นผ้ าใบขนาดห้ าฟุตคูณสี่ฟตุ แบ็คกราวด์สีขาว
แล้ วถ้ าคุณลองทาตาเหล่ๆเขๆดู ก็จะพอเห็นลายเป็ นเส้ นทะแยงมุมสีขาวๆ
ไอ้ หมอแซร์ จนี่เป็ นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ผมเลยล่ะครับ
ประสบความสาเร็จในอาชีพการงาน เป็ นหมอผิวหนัง แล้ วก็เชี่ยวมากเรื่ องศิลปะ
ผมได้ ไปดูภาพมาเมื่อวันจันทร์ มันได้ ภาพมาตังแต่้ วนั เสาร์ แต่มนั เสี ้ยนภาพนี ้มา
หลายเดือนแล้ วล่ะครับ
ไอ้ ภาพสีขาว ลายเส้ นสีขาวเนี่ย

(ทีค่ อนโดของแซร์ จ
ผ้าใบสี ขาวมี รอยสี ขาวเป็ นปื ้ นๆวางอยู่ในระดับพืน้ ห้อง แซร์ จมองภาพเขี ยน ท่าทาง
เป็ นปลืม้ มาก
มาร์ กมองภาพเขี ยน แซร์ จมองดูท่าที ทีม่ าร์ กมองภาพเขี ยน
ทัง้ คู่เงี ยบกันอยู่นาน มี การแสดงสี หน้าท่าทางหลากหลายแบบไม่มีคาพูด)
2

มาร์ ก: แพงมัยวะ้
แซร์ จ: สองแสน
มาร์ ก: สองแสนเหรอ
แซร์ จ: เฮ้ ย ฮันทิงตันยังมาขอซื ้อต่อสองแสนสองเลยนะเว้ ย
มาร์ ก: ใครวะ
แซร์ จ: ฮันทิงตันไง
มาร์ ก: ไม่เคยได้ ยิน
แซร์ จ: ฮันทิงตัน หอศิลป์ฮันทิงตัน ไงเล่า!
มาร์ ก: หอศิลป์ฮันทิงตันจะมาขอซื ้อต่อจากมึงสองแสนสองเหรอ
แซร์ จ: ไม่ ไม่ใช่หอศิลป์ ตัวคุณฮันทิงตันเองเลย แกจะซื ้อไปเก็บเข้ าคอลเล็กชัน่ ส่วนตัว
โว้ ย
มาร์ ก: แล้ วทาไมแกไม่ซื ้อเองซะแต่แรกล่ะ
แซร์ จ: อ้ าว ก็ศลิ ปิ นเขาต้ องขายให้ ลกู ค้ ารายย่อยก่อน จะได้ มีการหมุนเวียนในตลาด
มาร์ ก: อ๋อ…
แซร์ จ: เป็ นไง
มาร์ ก: …..
แซร์ จ: ยืนผิดที่นี่หว่า ดูจากมุมนี ้สิ เห็นลายเส้ นมัย้
มาร์ ก: แล้ วใครเป็ น…
แซร์ จ: คนวาดเหรอ ท่านอองทรี ออส
มาร์ ก: ดังเหรอ
แซร์ จ: ดังสิวะ ดังมาก

(หยุดชัว่ ครู่ )

มาร์ ก: ไอ้ หมอ มึงไม่ได้ ซื ้อภาพนี ้มาสองแสนหรอกใช่มยั ้


แซร์ จ: มึงไม่เข้ าใจ ราคาสองแสนจริ งๆ ท่านอองทรี ออสนะเว้ ย
มาร์ ก: มึงไม่ได้ ซื ้อมาสองแสนหรอกใช่มยั ้
แซร์ จ: ยังไม่เข้ าใจอีกเหรอวะเนี่ย
มาร์ ก: จ่ายไปสองแสนได้ ไอ้ รูปส้ นตีนนี่มาเหรอ

(แซร์ จ ราวกับว่าอยู่คนเดี ยว)


3

แซร์ จ: มาร์ กเพื่อนผมก็เป็ นคนฉลาดนะครับ ผมสนิทกับเขามาก การงานเขาก็ดี เป็ น


วิศวกรการบิน
ก็พวกปั ญญาชนรุ่นใหม่นนั่ ล่ะครับ ไอ้ พวกนี ้นอกจากจะทาตัวเป็ นศัตรูของศิลปะ
สมัยใหม่แล้ วยังรู้สกึ สะใจที่จะทาลายล้ างมันซะด้ วย ช่วงหลังๆ ไอ้ พวกอนุรักษ์
นิยมพวกนี ้ทาตัวยโสโอหังมาก

(ตัวละครคู่เดิ ม อยู่ทีเ่ ดิ ม ภาพเขี ยนภาพเดิ ม


หยุดชัว่ ครู่ )

แซร์ จ: หมายความว่าไงวะ “ไอ้ รูปส้ นตีนนี่”


มาร์ ก: เฮ้ ย อย่าเครี ยดสิเพื่อน ขาหน่อยสิวะ….มึงซื ้อภาพเขียนมา ก็เจ๋งดีนี่หว่า

(มาร์ กหัวเราะ แซร์ จยังนิ่ งสนิ ทอยู่)

แซร์ จ: เจ๋งไม่เจ๋งกูไม่สนนะเว้ ย แล้ วมึงจะขาอะไรก็เรื่ องของมึง แต่กอู ยากรู้วา่ มึง


หมายความว่าไงที่บอกว่า “ไอ้ รูปส้ นตีนนี่”
มาร์ ก: ก็มงึ โดนต้ มนะสิ
แซร์ จ: ไม่มีทาง มึงเอามาตรฐานอะไรมาวัดว่าอะไรคือส้ นตีนวะ ถ้ ามึงจะบอกว่าอะไรมัน
ส้ นตีน ก็ต้องมีหลักมีเกณฑ์หน่อยสิเว้ ย
มาร์ ก: นี่มงึ พูดกับใคร มึงนึกว่ากูเป็ นใคร เฮ้ ย!…..
แซร์ จ: ก็มงึ ไม่ได้ สนใจศิลปะร่วมสมัยนี่หว่า ไม่เคยสนใจเลย มึงไม่ร้ ูเรื่ องเลย แล้ วจะมา
บอกว่างานที่มงึ ไม่เข้ าใจเป็ นรูปส้ นตีนได้ ยงั ไง
มาร์ ก: ก็เพราะว่ามันส้ นตีนจริงๆนี่ โทษทีวะ่

(แซร์ จ คนเดียว)
แซร์ จ: มันไม่ชอบภาพนี ้
ช่างแม่มนั …
แต่ทา่ ทีที่มนั แสดงออกมานี่สิครับ ไม่มีเยื่อใยเลย
ไม่มีสกั นิด
ไม่ชอบก็พดู ดีๆก็ได้
แล้ วยังมาทาเป็ นหัวเราะ
4

หัวเราะแบบว่ากูแน่
ผมล่ะเกลียดจริงๆ

(มาร์ ก คนเดี ยว)


มาร์ ก: ผมไม่เข้ าใจจริงๆ ที่ไอ้ หมอมันซื ้อไอ้ ภาพเขียนนี่มา มันหงุดหงิดน่ะครับ เป็ นอะไร
ที่ไม่สบายใจเลย
พอออกจากคอนโดมัน ผมก็ต้องซัดยาระงับประสาทไปสามเม็ดตามที่พอลล่าเขา
แนะนา
พอลล่าบอกว่า “เอายี่ห้อเจลซีเมี่ยมหรื อ อิ๊กนาเทีย ก็ได้ จ้ะ มาร์ ก”
“เจลซี่เมี่ยม หรื อ อิ๊กนาเทีย ชอบอันไหนมากกว่าก็กินอันนันนะ” ้
ปั ดโธ่ ผมจะไปรู้ได้ ไงล่ะ กะอีแค่วา่ ทาไมไอ้ หมอแซร์ จเพื่อนผมมันซื ้อภาพเวรนัน่
มา ผมยังไม่เข้ าใจเลย
สองแสน
มันพอมีเงินก็จริง แต่ก็ไม่ได้ เป็ นเศรษฐี พอมีเงิน ก็แค่พอมีเท่านัน้ แต่ก็ดนั จ่ายไป
สองแสนซื ้อภาพเขียนสีขาวมาอีก
ผมต้ องไปหาอีวอง เพื่อนอีกคนของผมกับไอ้ หมอแซร์ จ ผมต้ องลองคุยกับมันดู
บอกไว้ ก่อนนะครับไอ้ อีวองนี่มนั เป็ นคนใจเย็นมาก กับเพื่อนๆด้ วยยิ่งใจเย็นจนน่า
เตะเลยล่ะ ที่มนั ใจเย็นแบบนี ้ก็เพราะมันไม่คอ่ ยสนอะไรหรอกครับ
ถ้ าไอ้ อีวองมันยังใจเย็นเรื่ องที่ไอ้ หมอจ่ายเงินซื ้อไอ้ รูปส้ นตีนสีขาวนี่ ละก็ แสดงว่า
มันไม่สนไอ้ หมอเลย

(ทีค่ อนโดของอีวอง
บนผนัง มี ภาพเลอะๆอยู่
อี วองกาลังคลานอยู่ หันหลังให้คนดู ท่าทางเหมื อนกาลังหาอะไรบางอย่างใต้
เฟอร์ นิเจอร์ ระหว่างที ห่ าอยู่นนั้ ก็หนั มาแนะนาตัวเองกับคนดู)

อีวอง: ผมอีวองครับ
ช่วงนี ้ผมอาจจะดูเครี ยดๆหน่อยนะครับ ก็ หลังจากที่ทาธุรกิจสิ่งทอมาตลอด
ชีวิต ผมก็เพิ่งเปลี่ยนมาขายส่งเครื่ องเขียนน่ะครับ
คนอย่างพวกผมเนี่ย ไม่เคยประสบความสาเร็จในอาชีพการงานหรอกครับ
แต่อีกสองอาทิตย์นี่ผมก็จะแต่งงานแล้ วนะครับ กับสาวสวย รวย เก่งครับ
5

(มาร์ กเข้ามา อีวองหาต่อ หันหลังให้มาร์ ก)

มาร์ ก: ทาอะไรวะ
อีวอง: หาปลอกปากกา

(เวลาผ่านไปสักครู่ )

มาร์ ก: เฮ้ ย เลิกหาเถอะ


อีวอง: 5 นาทีก่อนยังเห็นอยูเ่ ลยนี่หว่า
มาร์ ก: ช่างมันเหอะ
อีวอง: ช่างไม่ได้ โว้ ย

(มาร์ กคุกเข่าลงช่วยอี วองหา หาอยู่ครู่ หนึ่ง มาร์ กลุกขึ้นยื น)

มาร์ ก: พอเหอะ ซื ้อใหม่


อีวอง: รุ่นนี ้พิเศษมากนะ เป็ นแบบหัวลูกกลิ ้ง เขียนได้ ทกุ พื ้นผิว…น่าโมโหชิบหาย
ไอ้ วตั ถุพวกนี ้ ห้ านาทีก่อนยังถืออยูใ่ นมือนี่เลย
มาร์ ก: มึงแต่งแล้ วจะอยูน่ ี่เหรอ
อีวอง: มึงว่าที่นี่เหมาะกับคูร่ ักวัยจ๊ าบหวานเจี๊ยบรึเปล่าล่ะ
มาร์ ก: วัยจ๊ าบเหรอ! เหอะๆ
อีวอง: อย่าหัวเราะแบบนี ้ต่อหน้ าแคทเธอรี นของกูละกัน
มาร์ ก: ขายเครื่ องเขียนเป็ นไงบ้ าง
อีวอง: ก็ใช้ ได้ กาลังค่อยๆเรี ยนรู้งาน
มาร์ ก: ผอมลงนี่หว่า
อีวอง: นิดหน่อยโว้ ย ไอ้ ปลอกนี่ เดี๋ยวหมึกก็แห้ งกันพอดี นัง่ ก่อนสิวะ
มาร์ ก: ถ้ ามึงยังไม่เลิกงมปลอก กูกลับก่อนดีกว่า
อีวอง: เอ้ า เลิกก็ได้ ดื่มอะไรมัยวะ

มาร์ ก: เอาน ้าแร่ ก็ได้
นี่ มึง เจอไอ้ หมอมัง่ รึเปล่า
อีวอง: เปล่าโว้ ย มึงล่ะ
มาร์ ก: เพิ่งเจอเมื่อวาน
6

อีวอง: มันสบายดีเหรอ
มาร์ ก: ดีมาก
มันเพิ่งซื ้อรูปมา
อีวอง: เหรอ
มาร์ ก: เอ้ อ
อีวอง: สวยมัยวะ ้
มาร์ ก: สีขาว
อีวอง: สีขาวเหรอ
มาร์ ก: โคตรขาว เลย
นึกภาพนะ ผ้ าใบขนาดห้ าฟุตคูณสี่ฟุต…แบ็คกราวนด์สีขาว…ขาวจัว๊ ะเลย…แล้ ว
ก็มีลายเส้ นทะแยงมุมเล็ก ๆ สีขาว…นึกออกมัย…แล้ ้ วก็ด้านล่างก็อาจจะมี
เส้ นแนวนอนสีขาวอีกเส้ น…
อีวอง: แล้ วจะเห็นได้ ไงละวะ
มาร์ ก: อะไร
อีวอง: ไอ้ ลายเส้ นสีขาวนัน่ น่ะ ก็ถ้าพื ้นมันสีขาว แล้ วจะไปเห็นลายเส้ นได้ ยงั ไงวะ
มาร์ ก: เห็นละกันน่ะ ลายเส้ นมันคงจะเทานิดๆ หรื อไม่พื ้นมันอาจจะเทาหน่อยๆ หรื อมัน
อาจจะขาวหลายขาว สีขาวมันมีหลายเฉดไงวะ
อีวอง: ไม่ต้องยัวะก็ได้ โว้ ย ยัวะเรื่ องอะไรวะ
มาร์ ก: ก็มงึ ขัดทาไมเล่า ให้ กพู ดู ให้ จบก่อนซี่
อีวอง: เออ ไม่ขดั แล้ วโว้ ย
มาร์ ก: ทีนี ้มึงพอนึกออกแล้ วใช่มยว่ ั ้ ารูปเนี่ยเป็ นยังไง
อีวอง: คิดว่าออกนะ
มาร์ ก: แล้ วลองเดาซิวา่ ไอ้ หมอมันจ่ายไปเท่าไหร่
อีวอง: ใครวาดล่ะ
มาร์ ก: ท่านอองทรี ออส เคยได้ ยินชื่อมัย้
อีวอง: ไม่เคย ฮิตมัยวะศิ
้ ลปิ นคนนี ้
มาร์ ก: ว่าแล้ วมึงต้ องถามแบบนี ้!
อีวอง: อ้ าว ก็ต้องว่ากันด้ วยเหตุผล…
มาร์ ก: ไม่ ไม่ใช่เหตุผล…
อีวอง: เหตุผลสิวะ ก็ให้ กเู ดาว่ารูปราคาเท่าไหร่ มึงก็ร้ ูนี่ว่าราคารูปเขียนน่ะขึ ้นอยู่กบั
ความฮิตของศิลปิ น…
7

มาร์ ก: กูถามว่าคนอย่างมึง คนอย่างไอ้ อีวองเนี่ย จะจ่ายเงินเท่าไหร่ซื ้อไอ้ รูปสีขาว


ลายเส้ นสีขาวเนี่ย
อีวอง: ไม่ซื ้อโว้ ย
มาร์ ก: นัน่ น่ะสิ แล้ วถ้ าเป็ นไอ้ หมอล่ะ ลองเดาตัวเลขสิ
อีวอง: หมื่นนึง
มาร์ ก: เหอะ เหอะ!
อีวอง: ห้ าหมื่น
มาร์ ก: หึ หึ!
อีวอง: แสนนึง
มาร์ ก: อีก
อีวอง: แสนห้ าเหรอ สองแสนเอ้ า!
มาร์ ก: สองแสนโว้ ย สองแสนฟรังก์
อีวอง: ไม่จริง!
มาร์ ก: จริง
อีวอง: สองแสนเนี่ยนะ
มาร์ ก: ก็สองแสนน่ะสิวะ
อีวอง: ไอ้ หมอมันเสียสติไปแล้ วเหรอ
มาร์ ก: ท่าทางจะเสียแน่

(หยุดชัว่ ครู่ )

อีวอง: เอาเหอะ…
มาร์ ก: หมายความว่าไงวะ เอาเหอะ
อีวอง: ก็ถ้ามันมีความสุข…แล้ วมันมีตงั ค์ซื ้อ…
มาร์ ก: สรุปว่ามึงเห็นดีเห็นงามด้ วย
อีวอง: ทาไมล่ะวะ แล้ วมึงว่าไงล่ะ
มาร์ ก: มึงไม่เข้ าใจแก่นแท้ ของเรื่ องนี ้เลยใช่มยั ้
อีวอง: เอ่อ…ไม่วะ่
มาร์ ก: แปลกมากที่ไม่เข้ าใจ มึงเข้ าใจแต่ภายนอก ไม่เข้ าใจแก่นมันเลย
อีวอง: แล้ วแก่นมันอะไรล่ะวะ
มาร์ ก: มึงไม่เข้ าใจเหรอว่าหมายความว่าไง
8

อีวอง: เอาถัว่ สักเม็ดมัย้


มาร์ ก: มึงเข้ าใจมัยว่้ า ไอ้ หมอ ด้ วยวิธีทเุ รศๆของมันเนี่ย มันพยายามทาตัวเป็ น “นัก
สะสมงานศิลปะ”
อีวอง: แล้ ว…
มาร์ ก: ตังแต่
้ นี ้ไป มันก็จะเริ่มเข้ าวงการไฮโซ
อีวอง: ส้ นตีนสิโว้ ย
มาร์ ก: ส้ นตีนจริงๆว่ะ คนอย่างเราจะเข้ าไปง่ายๆได้ ยงั ไง แต่มนั คิดว่ามันทาได้
อีวอง: เข้ าใจแล้ วว่ะ
มาร์ ก: แล้ วมึงไม่ร้ ูสกึ อะไรบ้ างเลยเหรอ
อีวอง: ไม่วะ่ ก็ถ้ามันแฮ็ปปี ้
มาร์ ก: ถ้ ามันแฮ็ปปี ้ หมายความว่าไงวะ
ทาไมคิดแบบนี ้ล่ะ
อีวอง: ก็ถ้าไม่มีใครเดือดร้ อน…
มาร์ ก: มีสิวะ ก็กนู ี่ละ่ เดือดร้ อน หงุดหงิดเว้ ยเฮ้ ย หงุดหงิดมาก แล้ วก็เสียใจมากด้ วย
กูรักมันนะ แต่พอเห็นโดนมันต้ มแล้ วก็เสียสติเพราะอยากเป็ นไฮโซ…
อีวอง: ไม่เห็นแปลกเลย ก็มนั ชอบไปดูงานตามแกลเลอรี่ แบบนี ้ตลอด
มันบ้ างานแสดงภาพเขียนจะตาย
มาร์ ก: แต่ก่อนมันบ้ า แต่มนั ก็บ้าแบบมีอารมณ์ขนั เว้ ย ที่กยู วั ะเนี่ย ก็เพราะว่าตอนนี ้เรา
จะไปล้ อไปอาไปเล่นตลกอะไรกับมันไม่ได้ แล้ ว
อีวอง: ต้ องได้ สิวะ
มาร์ ก: ไม่มีทาง!
อีวอง: มึงลองแล้ วเหรอ
มาร์ ก: ลองแล้ วสิวะ กูเนี่ยขากลิ ้งเลย นึกว่ากูไม่ลองเหรอ มันไม่ยิ ้มสักนิด
จะบอกให้ ตังสองแสนเนี
้ ่ย มันคงขาไม่ออกว่ะ
อีวอง: จริงว่ะ

(ทัง้ คู่หวั เราะ)

เดี๋ยวกูทาให้ มนั ขาเองโว้ ย


มาร์ ก: ไม่มีทาง ถัว่ อีกมัย้
อีวอง: เดี๋ยวขาออกแน่ คอยดูละกันโว้ ย
9

(ทีค่ อนโดของแซร์ จ)
(อี วองมาหาแซร์ จ ภาพวาดไม่ได้อยู่ในฉาก)

แซร์ จ: มึงเข้ ากับพวกญาติฝ่ายนันได้ ้ ใช่มยั ้


อีวอง: แหงอยูแ่ ล้ ว พวกนันเขาเข้
้ าใจว่าที่กเู ปลี่ยนงานบ่อยเนี่ย เพราะโดนแย่งซื ้อตัว
แล้ วก็กาลังไต่เต้ าขึ ้นมาในวงการ…เฮ้ ย ไอ้ หมอ ไอ้ ตมุ่ ๆที่มือกู นี่อะไรวะ…

(แซร์ จตรวจดู)

ร้ ายแรงรึเปล่า
แซร์ จ: ไม่หรอก
อีวอง: เออนี่ มึงเป็ นไงบ้ าง
แซร์ จ: ก็ไม่มีอะไร งานเยอะ เหนื่อย
ดีใจที่ได้ เจอมึงว่ะ ไม่เห็นโทร.มาบ้ างเลย
อีวอง: ไม่อยากกวนน่ะ
แซร์ จ: กวนอะไร ก็ฝากโน้ ตไว้ กบั เลขาฯกูก็ได้ แล้ วเดี๋ยวกูก็โทร.กลับ
อีวอง: เออ
บ้ านมึงนี่ดขู ลังขึ ้นเรื่ อยๆนะ

(แซร์ จหัวเราะ)

แซร์ จ: นี่ มึงเจอไอ้ มาร์ กบ้ างมัย้


อีวอง: ช่วงนี ้ไม่ได้ เจอเลย มึงล่ะ
แซร์ จ: เจอเมื่อวานซืน
อีวอง: มันสบายดีเหรอ
แซร์ จ: เอ้ อ ก็คงงันมั
้ ง้
อีวอง: เหรอวะ
แซร์ จ: เปล่า มันสบายดี
อีวอง: อาทิตย์ที่แล้ วกูคยุ โทรศัพท์กบั มัน ท่าทางมันก็ดีนะ
แซร์ จ: เอ้ อ ก็ดี มันสบายดี
อีวอง: มึงพูดอย่างกับว่า มันไม่คอ่ ยสบาย
10

แซร์ จ: ไม่ใช่ กูบอกว่า มันสบายดี


อีวอง: มึงพูดว่า ก็คงงันมั
้ ง้
แซร์ จ: ก็คงงันมั
้ ง้ ก็คงสบายดีไง

(เงี ยบไปครู่ ใหญ่ อี วองเดิ นไปรอบๆห้อง)

อีวอง: มึงไปเที่ยวไหนมาบ้ างล่ะ ได้ ไปดูอะไรมาบ้ างรึเปล่า


แซร์ จ: เปล่า ไม่คอ่ ยมีตงั ค์
อีวอง: เหรอ
แซร์ จ: (น้าเสียงร่ าเริ ง) ถังแตก
อีวอง: เหรอวะ
แซร์ จ: นี่ มึง อยากดูของดีมยั ้ ดูมยั ้
อีวอง: อยากดูสิวะ เอามาโชว์หน่อย

(แซร์ จออกจากฉากไป กลับเข้ามาพร้อมภาพเขี ยนของท่าน อองทรี ออส แซร์ จกลับภาพ


แล้ววางลงหน้าอีวอง
อี วองมองดูภาพเขี ยน แปลกมากว่าเขาไม่ขา ทัง้ ๆที ก่ ะว่าต้องขาแน่ๆ
หยุดนิ่ งไปชัว่ ครู่ อี วองคร่ าเคร่ งพิ จารณาภาพเขี ยน และแซร์ จก็คร่ าเคร่ งพิจารณา
อีวอง)

อ๋อ เอ่อ เอ่อ


แซร์ จ: ท่าน อองทรี ออส
อีวอง: อ๋อ เอ่อ
แซร์ จ: ขอบอกเลยนะ ว่าเป็ นท่าน อองทรี ออส ยุคเซเวนตีส์ คือว่า ตอนนี ้งานท่านก็ยงั
ออกมาสไตล์นี ้ล่ะนะ แต่ภาพนี ้ท่านเขียนตังแต่
้ ยคุ เซเวนตีส์แล้ ว
อีวอง: อ๋อ เอ้ อ
แพงมัยวะ้
แซร์ จ: ถ้ าจะว่าไปก็แพงนะ แต่จริงๆแล้ วไม่แพงหรอก
มึงชอบมัยล่้ ะ
อีวอง: อ๋อ เอ้ อ ชอบสิ ชอบ
แซร์ จ: เรี ยบง่าย
11

อีวอง: เรี ยบง่ายว่ะ เรี ยบ…ง่าย…แล้ วในขณะเดียวกันก็…


แซร์ จ: มีเสน่ห์ดงึ ดูด
อีวอง: อื ้อ…ดูด…
แซร์ จ: ตอนนี ้ยังไม่คอ่ ยเห็นประกายเท่าไหร่
อีวอง: ก็ เห็นนะ
แซร์ จ: ไม่เห็นหรอก มึงต้ องมาใหม่ตอนกลางวัน ประกายที่เปล่งปลัง่ จากงานสีเดียวเนี่ย
มองไม่เห็นในแสงไฟแบบนี ้หรอก
อีวอง: อ๋อ
แซร์ จ: แต่นี่ก็ไม่ใช่สีเดียวนะ
อีวอง: อืม ไม่ใช่สีเดียว…
เท่าไหร่นะวะ
แซร์ จ: สองแสน
อีวอง: คุ้มมาก
แซร์ จ: คุ้มมาก

(เงี ยบไปครู่ หนึ่ง แซร์ จหัวเราะลัน่ อี วองหัวเราะตามทันที หัวเราะกันกลิ้ งทัง้ คู่)

บ้ ารึเปล่าวะเนี่ย
อีวอง: บ้ า!
แซร์ จ: สองแสน!

(ทัง้ สองคนหัวเราะต่อ หยุดหัวเราะ มองหน้ากัน


หัวเราะอีก แล้วหยุด
คราวนีส้ งบสติ อารมณ์ได้แล้ว)

แซร์ จ: ไอ้ มาร์ กมันมาดูแล้ วนะ


อีวอง: เหรอ
แซร์ จ: มันเกลียดว่ะ
อีวอง: เหรอ
แซร์ จ: มันบอกว่าเป็ นรูปส้ นตีน พูดหมาๆ
อีวอง: หมามาก
12

แซร์ จ: แบบนี ้เรี ยกว่ารูปส้ นตีนได้ ไง


อีวอง: ไม่ได้ เด็ดขาด
แซร์ จ: บอกว่า “ไม่เข้ าใจ” หรื อว่า “เข้ าไม่ถึง” ล่ะก็ได้ แต่ห้ามบอกว่าเป็ นรูปส้ นตีน
อีวอง: ก็มงึ ก็เคยไปบ้ านมันแล้ วนี่
แซร์ จ: ไม่เห็นมีอะไรดู ก็เหมือนบ้ านมึงล่ะ …คือ กูหมายความว่า มึงไม่สนอยูแ่ ล้ วนี่
อีวอง: รสนิยมมันน่ะคลาสสิกน่ะโว้ ย มันชอบงานคลาสสิก มึงจะให้ คนแบบมันมา…
แซร์ จ: มาถึงมันก็พดู จาถากถาง…ไม่ให้ เกียรติกนั เลย…ไม่มีอารมณ์ขนั ด้ วย
อีวอง: มันก็ขี ้โมโหแบบนี ้ล่ะโว้ ย ถึงได้ ทะเลาะกันทุกที …
แซร์ จ: มันไม่มีอารมณ์ขนั เลย กับมึงนี่ กูยงั หัวเราะออก กับมันนะ กูไม่ขาเลย
อีวอง: ตอนนี ้มันคงไม่คอ่ ยสบายใจน่ะ
แซร์ จ: ไอ้ ที่มนั ไม่ชอบภาพเขียนน่ะ กูไม่วา่ อะไรหรอก มันตาไม่ถึงเอง เรื่ องแบบนี ้ต้ องใช้
เวลาเรี ยนรู้ ซึง่ มันไม่เคยมีความรู้ เพราะว่ามันไม่เคยอยากรู้ แล้ วก็มนั ไม่มีหวั ด้ าน
นี ้ กูก็ไม่วา่ อะไร แต่ที่ทนไม่ได้ นี่ก็คือน ้าเสียง ท่าทางเย็นชา แล้ วก็ความไม่
รู้จกั กาละเทศะของมัน
มันไม่แคร์ ความรู้สกึ เพื่อนเลย มันไม่สนใจศิลปะสมัยใหม่กกู ็ไม่วา่ กูชอบมันก็
หลายเรื่ อง…
อีวอง: มันก็ชอบมึงนะ!
แซร์ จ: ไม่ ไม่ ไม่ ไม่เลย เมื่อวันก่อนน่ะกูร้ ูสกึ เลย มันเป็ นอะไรที่ …เป็ นอะไรที่เหยียด
หยาม…มีความพยาบาทที่คอยจะเชือด…
อีวอง: ไม่โว้ ย ไม่ใช่หรอก!
แซร์ จ: ต้ องใช่สิ! มึงอย่าพยายามมาไกล่เกลี่ยหน่อยเลย แล้ วมึงทาไมต้ องมาทาตัวเป็ น
ทูตสันติไมตรี สหประชาชาติด้วยวะเนี่ย ยอมรับซะเถอะว่าไอ้ มาร์ กมันกาลังสมอง
ตีบ ไม่ใช่หรอก ที่จริงน่ะสมองแม่งคงตีบแต๊ ดแต๋ไปนานแล้ ว

(เงี ยบไปครู่ หนึ่ง)

(ทีค่ อนโดของมาร์ ก)
(บนฝาผนังมี ภาพวาด เป็ นภาพวิ วทีม่ องผ่านหน้าต่าง)

อีวอง: ก็ขาออกนี่หว่า
มาร์ ก: มึงขาออกเหรอ
13

อีวอง: ทังสองคนเลยโว้
้ ย ขากลิ ้งกันทังคู
้ ่ กูสาบานด้ วยชีวิตของแคทเธอรี นแฟนกูเลย
มาร์ ก: มึงบอกมันว่าไอ้ ภาพนัน่ เป็ นรูปส้ นตีน แล้ วยังมันขาออกอีกเหรอ
อีวอง: เปล่าโว้ ย กูไม่ทนั ได้ บอกมันว่าเป็ นรูปส้ นตีน มัวแต่ขากันเพลินอยู่
มาร์ ก: มึงไปคอนโดมัน ดูภาพเขียน มึงขา แล้ วมันก็ขาตาม
อีวอง: เออ จะว่างันก็ ้ คงได้ กูคยุ กันก่อนนิดหน่อย แล้ วที่เหลือก็อย่างที่มงึ ว่า
มาร์ ก: ขาแบบจริงใจเหรอวะ
อีวอง: จริงใจมาก
มาร์ ก: เอ้ อ งันกู
้ ก็พลาดไปแล้ ว กูดีใจที่ได้ ยินแบบนี ้
อีวอง: ดีกว่าที่มงึ ว่าอีก มันขาก่อนด้ วยนะโว้ ย
มาร์ ก: มันขาก่อนด้ วย…
อีวอง: เออ
มาร์ ก: มันขาก่อน แล้ วมึงก็ขาตาม
อีวอง: เออ
มาร์ ก: แล้ วมันขาเรื่ องอะไร
อีวอง: ก็มนั รู้สกึ ว่ากูกาลังจะขาน่ะ มันก็เลยขานาร่องให้
มาร์ ก: มันขาก่อน…. แบบนี ้ไม่นบั เว้ ย
มันแกล้ งขาก่อนนี่ก็เพื่อจะไม่ให้ มงึ ขาตัดหน้ าเยาะเย้ ยมันก่อน
แบบนี ้เรี ยกว่าขาแบบไม่จริงใจ
อีวอง: จริงใจสิวะ
มาร์ ก: จริงใจก็ได้ วะ แต่เหตุผลนี่แม่งไม่เข้ าท่า
อีวอง: แล้ วเหตุผลอะไรล่ะวะแม่งถึงจะเข้ าท่า กูชกั งงๆแล้ ว
มาร์ ก: มันไม่ได้ ขาเพราะว่าภาพเขียนมันทุเรศ เพราะงันมึ ้ งกับมันไม่ได้ ขาเรื่ องเดียวกัน
มึงขาไอ้ ภาพเวรนัน่ แต่มนั ขาเพื่อให้ มนั ดูดี ให้ มนั เป็ นพวกเดียวกับมึง ให้ มนั ดูเป็ น
เพื่อนเก่าคนเดิมของมึงที่ยงั หัวเราะเล่นกันได้ ถึงแม้ วา่ มันจะทาตัวเป็ นผู้ชื่นชม
งานศิลปะที่ทมุ่ ซื ้อภาพเขียนภาพนึงด้ วยเงินที่มากกว่าเงินเดือนมันทังปี ้
อีวอง: อ๋อเหรอ…

(เงี ยบไปชัว่ ครู่ )

เอ้ อ นี่นะ…
มาร์ ก: ว่าไง…
14

อีวอง: กูจะบอกอะไรให้ …
มาร์ ก: บอกมา…
อีวอง: กูไม่ได้ ชอบภาพเขียนนัน่ …แต่กกู ็ไม่ได้ เกลียด
มาร์ ก: ก็แหงล่ะ ก็มนั ไม่มีอะไรให้ มงึ เกลียดนี่
อีวอง: มีนะโว้ ย มี มีอะไรบางอย่าง…
มาร์ ก: ยังไงวะ
อีวอง: มันมีอะไรบางอย่างโว้ ย ไม่ใช่ไม่มีอะไรเลย
มาร์ ก: ล้ อเล่นน่ะ
อีวอง: ภาพเขียนนัน่ เป็ นงานศิลปะ มีเรื่ องราวแฝงอยูน่ ะโว้ ย
มาร์ ก: เรื่ องราวเหรอ
อีวอง: เรื่ องราวโว้ ย
มาร์ ก: เรื่ องอะไรวะ
อีวอง: เรื่ องของการเดินทางไปสูจ่ ดุ หมาย…
มาร์ ก: เหอะ
อีวอง: ท่าน อองทรี ออส ท่านไม่ได้ วาดมัว่ นะโว้ ย มันเป็ นงานศิลปะที่มีแนวทาง…
มาร์ ก: เหอะๆ
อีวอง: เอ้ า มึงอยากหัวเราะ ก็ช่างมึง
มาร์ ก: นี่มงึ กาลังติงต๊ องตามไอ้ หมอไปอีกคนแล้ ว เวลามันพูดแบบนี ้นะ กูแทบร้ องไห้
เวลามึงพูดนี่ กูขาว่ะ
อีวอง: มึงมองโลกแง่ร้ายแบบนี ้ ไม่ดีนะโว้ ย
มาร์ ก: เออ กูมนั ยิ่งแก่ ก็ยิ่งก้ าวร้ าวเว้ ย
อีวอง: ตามใจ!
มาร์ ก: เรื่ องราวเหรอ!
อีวอง: มึงนี่พดู ไม่ร้ ูเรื่ องจริงๆ
มาร์ ก: มีเรื่ องราวแฝงอยู่!…มึงดูไอ้ รูปส้ นตีนนี่ แล้ วก็ เอาเหอะ เอาเหอะ มีเรื่ องราวแฝง
อยู่!…มึงว่ามีเรื่ องราวแฝงอยู่เบื ้องหลังภาพวิวนี่เหรอ (ชี ้ไปทีภ่ าพวิ วบนผนัง)…ไม่
มีใช่มยล่ ั ้ ะ ชัดเจนแจ๋มแจ้ งแดงแจ๋ ทุกอย่างอยูบ่ นผืนผ้ าใบหมด! ไม่มีเรื่ องราวแฝง
อยูเ่ บื ้องหลัง!…
อีวอง: สนุกใหญ่แล้ วนะมึง
มาร์ ก: อีวอง เฮ้ ย พูดกันตรงๆดีกว่า มึงเปิ ดอกพูดมาเลย
อีวอง: กูร้ ูสกึ ว่ามันมีประกายความงาม
15

มาร์ ก: มึงรู้สกึ ว่ามันมีประกายความงามเหรอ


อีวอง: มึงจะมาเถียงว่ากูไม่ได้ ร้ ูสกึ ได้ ยงั ไง
มาร์ ก: ก็กจู ะเถียงน่ะ
อีวอง: ทาไมล่ะวะ
มาร์ ก: ก็เพราะกูร้ ูจกั มึงดีนะ่ สิ บางทีมงึ อาจจะชอบทาอะไรบ้ าๆตามใจตัวเองไปบ้ าง แต่
มึงก็คอ่ นค่อนข้ างปกติดี
อีวอง: ตรงข้ ามกับมึง
มาร์ ก: อีวอง มองตากูนะ
อีวอง: มองอยูโ่ ว้ ย
มาร์ ก: มึงประทับใจไอ้ ภาพเขียนนัน่ รึเปล่า
อีวอง: เปล่า
มาร์ ก: ถามอะไรอย่างนะ มึงกาลังจะแต่งงานพรุ่งนี ้ แล้ วมึงกับแคทเธอรี นได้ ไอ้ ภาพเขียน
นี่เป็ นของขวัญแต่งงาน มึงจะมีความสุขมัย… ้
มึงจะมีความสุขมัย… ้

(อีวอง คนเดียว)
อีวอง: แน่นอนครับ ไม่มีความสุขแน่
ถ้ าได้ เป็ นของขวัญแต่งงาน ผมไม่มีความสุขแน่ แต่ถ้าจะว่าไป ผมก็ไม่ใช่คน
ประเภทที่จะพูดพล่อยๆว่าตัวเองมีความสุขนะครับ
ผมพยายามนึกดูวา่ …ตอนไหนบ้ างที่ผมจะตอบได้ เต็มปากเต็มคาว่า “ครับ ผมมี
ความสุข”…แม่ผมถามว่า “อีวอง จะแต่งงานแล้ ว มีความสุขมัยลู ้ ก”…ผมตอบว่า
“ทาไมจะไม่มีละ่ ครับ”
แม่บอก “ยังไงล่ะเนี่ย ทาไมจะไม่มี ก็ต้องตอบว่ามีหรื อไม่มีสิลกู ตอบว่า ทาไมจะ
ไม่มี แบบนี ้มันหมายความว่ายังไง…”

(แซร์ จ คนเดียว)
แซร์ จ: เท่าที่ทราบ ภาพนี ้ไม่ขาว
ที่ผมใช้ คาพูดว่า “เท่าที่ทราบ” เนี่ยหมายถึง มองด้ วยใจเป็ นกลาง นะครับ
ถ้ ามองด้ วยใจเป็ นกลางแล้ ว ภาพนี ้ไม่ขาว
ภาพมีแบ็คกราวนด์สีขาว แล้ วก็มีเทาเฉดต่างๆ…
มีแดงปนด้ วย
16

พอดีแดงซีดไปหน่อยน่ะครับ
ถ้ าขาวล้ วนนี่ ผมไม่ชอบหรอก
ไอ้ มาร์ กมันบอกว่าขาวล้ วน…มันใจแคบ…
มันว่าขาวล้ วน ก็เพราะว่ามันไปยึดติดกับความคิดที่วา่ มันขาว
ไม่เหมือนอีวอง อีวองยังเห็นเลยว่าไม่ได้ ขาวล้ วน
ไอ้ มาร์ กมันจะคิดยังไงก็เรื่ องของมัน ผมไม่สนใจ

(มาร์ ก คนเดี ยว)


มาร์ ก: รู้งี ้ผมกินอิ๊กนาเทียซะก็ดีหรอก
ทาไมผมจะต้ องเลือกยี่ห้อด้ วย
ไอ้ หมอมันหลงงมงายในศิลปะสมัยใหม่ โมเดิ ้นอาร์ ต แล้ วมันหนักอะไรผมด้ วย
คือ มันก็เป็ นปั ญหาใหญ่นะครับ แต่ผมก็ควรหาวิธีอื่นคุยกับมัน
น ้าเสียงผมควรจะแดกดันน้ อยกว่านี ้
การที่เพื่อนรักผมซื ้อภาพเขียนสีขาวล้ วนทาให้ ผมป่ วย แต่ผมก็ไม่ควรไปอัดมัน
ตรงๆแบบนัน้
ควรจะพูดกับมันดีๆ
ตังแต่
้ นี ้ไป ผมคงต้ องทาตัวให้ ดีที่สดุ

(ทีค่ อนโดฯของแซร์ จ)
แซร์ จ: มึงอยากฟั งเรื่ องตลกมัย้
มาร์ ก: เอาสิวะ
แซร์ จ: ไอ้ อีวองชอบภาพท่าน อองทรี ออส
มาร์ ก: อยูไ่ หนแล้ วล่ะ
แซร์ จ: มึงอยากดูอีกเหรอ
มาร์ ก: เอาออกมาสิวะ
แซร์ จ: ว่าแล้ วมึงต้ องขอดูอีกรอบ!…

(แซร์ จออกไป กลับมาพร้ อมภาพเขี ยน พิ นิจพิ จารณาภาพกันอยู่ครู่ หนึ่ง)

ไอ้ อีวองก็เข้ าถึงนะ เข้ าปุ๊ บถึงปั๊ บเลย


17

มาร์ ก: เออ
แซร์ จ: เฮ้ ย เอาเหอะ ก็แค่ภาพเขียนภาพนึง เราไม่ต้องมาเถียงกันเอาเป็ นเอาตายหรอก
เสียเวลาเปล่าๆ…เอ้ อ อ่านนี่รึยงั (หยิ บหนังสือ De Vita Beata ของ เซเนกา
ออกมาวางลงบนโต๊ะตรงหน้ามาร์ ก) ลองอ่านดู “เดอวีต้า บีอาต้ า ชีวิตนี ้มี
ความสุข” ของเซเนกา วรรณกรรมเอกของโลกเลยนะเว้ ย

(มาร์ กหยิ บหนังสื อขึ้นมาพลิ กๆดู)

ขนาดเขียนมาสองพันปี แล้ วแต่ความคิดแม่งยังโคตรโมเดิ ้นเลยว่ะ มึงอ่านเล่มนี ้


แล้ วไม่ต้องอ่านอย่างอื่นแล้ ว แต่ตวั กูนะ่ ทังเรื ้ ่ องงาน เรื่ องที่โรงพยาบาล เรื่ อง
ฟรองซวส มึงรู้มยฟรองซวสั้ เค้ าบอกว่ากูจะต้ องไปหาลูกทุกเสาร์ อาทิตย์ เค้ ายื่น
คาขาดว่าต่อไปนี ้ลูกต้ องเจอพ่อ แค่นี ้ก็กไู ม่มีเวลาไปสนใจอะไรแล้ ว ต้ องเอาแต่
เรื่ องสาคัญ เรื่ องขี ้ๆต้ องตัดทิ ้งไปก่อน
มาร์ ก: …เหมือนอย่างเรื่ องภาพเขียน…ที่มงึ ต้ องตัดเรื่ องขี ้ๆแบบไอ้ พวกรูปทรงและสีสนั
ทิ ้งไปใช่มยั ้ ไอ้ ทฤษฎีเชยๆพวกนันน่ ้ ะ
แซร์ จ: ใช่…แต่จริงๆแล้ วกูก็ยงั พอจะชอบภาพที่เป็ นรูปเป็ นร่างอยูน่ ะ แบบภาพสไตล์
เฟลมมิช ของมึงไง ดูแล้ วสงบดี
มาร์ ก: เฟลมมิช ตรงไหนโว้ ย ภาพเมือง การ์ กสั ซอนน์ในฝรั่งเศส เนี่ยนะ
แซร์ จ: ก็ใช่ แต่วา่ …สไตล์มนั ก็เฟลมมิช นิดๆนะ…มีหน้ าต่าง มีวิวแล้ วก็…เอาเหอะ สวย
ละกัน
มาร์ ก: ไม่ได้ มีคา่ อะไรมากมายหรอกวะ
แซร์ จ: ไม่สาคัญหรอกว่าจะมีคา่ รึเปล่า…ไม่แน่นะ อีกสองสามปี ภาพท่าน อองทรี ออส
อาจจะไม่มีคา่ เลยก็ได้ !
มาร์ ก: …นี่มงึ รู้มยั ้ กูคดิ ดูแล้ วนะ กูคดิ ๆ แล้ วก็ก็เปลี่ยนใจ คือ วันก่อนนี ้กูขบั รถอยูใ่ น
เมืองแล้ วกูคิดถึงเรื่ องมึง กูมานัง่ คิดว่า เฮ้ ย ที่มงึ ซื ้อภาพเขียนนี่มา ลึกๆแล้ วเนี่ย
มันมีความงดงามซ่อนอยู่ การที่มงึ ตอบสนองความต้ องการซื ้ออย่างทันท่วงที
นับว่าเป็ นการกระทาที่งดงามมาก
แซร์ จ: วันนี ้เลียจังเว้ ยเฮ้ ย ไม่คอ่ ยคุ้นเลยว่ะ ทาไมต้ องมาทาเออออห่อหมกทุกเรื่ องด้ วย
วะ ขอบอกนะ ว่าไม่คอ่ ยเข้ ากับมึงเลยว่ะ
มาร์ ก: ไม่ ไม่ใช่อย่างงัน้ กูพยายามอธิบาย จะขอโทษน่ะ
แซร์ จ: ขอโทษเหรอ เรื่ องอะไร
18

มาร์ ก: ก็กตู ื ้นไปน่ะวะ กูใจแคบไป กูเว่อร์ ไปหน่อย…มึงจะว่ากูไม่มีวิจารณญาณก็ได้ นะ


แซร์ จ: มึงไปอ่านวรรณกรรมเอกของ ‘เซเนกา’ ซะ
มาร์ ก: นัน่ ไง เห็นมัย้ พอมึงบอกว่า “ลองไปอ่านวรรณกรรมเอกของ ‘เซเนกา’ ซะ” กูก็
ทาท่าจะหงุดหงิดขึ ้นมาแล้ ว คือ กาลังคุยกันอยู่ดีๆมึงก็มาบอกให้ กู “ลองไปอ่าน
วรรณกรรมเอกของ‘เซเนกา’ ซะ” แค่เนี ้ย กูก็เริ่มทาท่าจะหงุดหงิดอีกแล้ วว่ะ บ้ า
ชิบหาย
แซร์ จ: ไม่ ไม่บ้าหรอก
มาร์ ก: จริงเหรอ
แซร์ จ: เปล่า เพราะว่ามึงคิดว่ามึงเหนือ…
มาร์ ก: กูไม่ได้ บอกว่ากูหงุดหงิดแล้ วนะ…
แซร์ จ: มึงบอกว่ามึงเริ่มจะทาท่า
มาร์ ก: ก็ใช่ กูเริ่มจะทาท่าจะ…
แซร์ จ: หงุดหงิด ซึง่ กูก็เข้ าใจ เพราะตอนที่กบู อกให้ มงึ ไปอ่านวรรณกรรมเอกของเซเนกา
นัน่ น่ะ มึงคิดอยูว่ า่ มึงแน่ แต่วา่ พอมึงสารภาพเองว่าไม่มีวิจารณญาณ กูก็เลย
บอกให้ มงึ ไปอ่านวรรณกรรมเอกของเซเนก้ าซะ มึงก็เลยรู้สกึ หงุดหงิด
มาร์ ก: ค่อนข้ างจะ
แซร์ จ: แต่วา่ ..มึงก็ขาดวิจารณญาณจริงด้ วยว่ะ เพราะกูไม่ได้ บอกว่า“มึงไปลองอ่าน
วรรณกรรมเอกของ ‘เซเนกา’ดูสิ” กูบอก “มึงไปอ่านงาน ’เซเนกา’ ซะ!”
มาร์ ก: ใช่วะ ใช่
แซร์ จ: อันที่จริงก็คือว่า มึงไม่คอ่ ยมีอารมณ์ขนั น่ะ
มาร์ ก: ก็คงใช่นะ่ วะ
แซร์ จ: มึงไม่มีอารมณ์ขนั เลยว่ะมาร์ ก ต่อมขาขันเสื่อมแล้ วว่ะเพื่อน เมื่อวันก่อนที่คยุ กับอี
วอง มันก็เห็นด้ วยนะว่ามึงไม่คอ่ ยมีอารมณ์ขนั แล้ วมันไปไหนวะเนี่ย ไม่เคยมา
ตรงเวลาเลย น่าโมโหจริงๆ เดี๋ยวกูก็อดดูชว่ งแรกกันพอดี
มาร์ ก: …ไอ้ อีวองว่ากูไม่มีอารมณ์ขนั เหรอ…
แซร์ จ: มันเห็นด้ วยกับกู ที่กวู า่ ช่วงนี ้มึงไม่คอ่ ยมีอารมณ์ขนั
มาร์ ก: ครัง้ ล่าสุดที่มงึ เจอมัน มันบอกว่ามันชอบภาพเขียนมึงมาก แล้ วก็วา่ กูไม่มีอารมณ์
ขัน…
แซร์ จ: เออ ใช่สิ ใช่ ภาพเขียน ไอ้ อีวองมันชอบมาก ชอบจริงๆ…มึงกินยาอะไรอยูน่ ะ่
มาร์ ก: ยาแก้ โรคประสาท ยี่ห้ออิ๊กนาเทีย โว้ ย
แซร์ จ: เฮ้ ย เดี๋ยวนี ้เชื่อทฤษฎีหนามยอกเอาหนามบ่งเหรอ
19

มาร์ ก: กูไม่เชื่อทฤษฎีหา่ อะไรทังนั


้ นหรอก

แซร์ จ: เออนี่ มึงว่าไอ้ อีวองมันผอมลงมัย้
มาร์ ก: เมียมันก็ผอมนี่
แซร์ จ: วิ่งแจกการ์ ดกันซะผอมเลย
มาร์ ก: เออว่ะ

(ทัง้ คู่หวั เราะ)


แซร์ จ: พอลล่าเป็ นไงบ้ าง
มาร์ ก: สบายดีโว้ ย (ชี ้ไปทีภ่ าพท่าน อองทรี ออส) จะติดไว้ ตรงไหนวะเนี่ย
แซร์ จ: กูยงั ไม่ได้ ตดั สินใจเลย ตรงนันดี
้ หรื อตรงโน้ น…โชว์มากไปหน่อย
มาร์ ก: จะใส่กรอบรึเปล่าวะ

(แซร์ จหัวเราะอย่างรักษามารยาท)

แซร์ จ: ไม่…ไม่ใส่ๆ
มาร์ ก: ทาไมล่ะ
แซร์ จ: ไม่ควรใส่
มาร์ ก: เหรอ
แซร์ จ: ท่านศิลปิ นท่านไม่ได้ ตงใจให้
ั้ ใส่ ก็ไม่ควรจะผิดเจตนารมณ์ทา่ น แบบนี ้ก็สมบูรณ์ดี
แล้ ว (เรี ยกมาร์ กให้ไปดูตรงขอบภาพเขี ยน) ดูสิ…เห็นมัย้
มาร์ ก: อะไรเนี่ย กระดาษกาวเหรอ
แซร์ จ: ไม่ใช่ เป็ นตระกูลเดียวกับกระดาษสาน่ะ…ท่านศิลปิ นท่านประดิษฐ์ เองเลยนะ
มาร์ ก: ตลกดีนะวะเวลาเรี ยกว่า “ท่านศิลปิ น” เนี่ย
แซร์ จ: แล้ วจะให้ เรี ยกว่าไงล่ะ
มาร์ ก: แทนที่จะเรี ยก “ท่านศิลปิ น” นะวะ ก็นา่ จะเรี ยก “คนวาด” หรื อว่า…เค้ าชื่ออะไร
นะ…อองทรี ออส
แซร์ จ: แล้ วไง
มาร์ ก: เรี ยก “ท่านศิลปิ น” อย่างกับว่าเป็ น…เอ่อ เอาเหอะ ไม่มีอะไรหรอกวะ คืนนี ้จะไป
ดูอะไรกันวะ ลองหาหนังอะไรดูที่มนั ได้ เรื่ องหน่อยละกันวะ
แซร์ จ: สองทุม่ แล้ วโว้ ย หนังฉายไปหมดแล้ ว กูไม่เข้ าใจเลยนะว่าคนคนนี ้ ไอ้ คนที่ไม่ได้ มี
ธุระอะไรมากมาย เนี่ย ทาไมมันถึงมาสายได้ ทกุ ที มันไปไหนของมันวะ
20

มาร์ ก: ไม่ทนั ก็ไปกินข้ าวอย่างเดียวละกัน


แซร์ จ: มึงดูซิ สองทุม่ ห้ านาทีแล้ ว เรานัดกันทุม่ ถึงทุม่ ครึ่ง…นี่ เมื่อกี ้มึงพูดเรื่ องท่านศิลปิ น
ว่าไงนะ
มาร์ ก: เปล่า กูเกือบพูดอะไรโง่ๆออกมาน่ะว่ะ
แซร์ จ: เอ้ า ก็พดู สิ
มาร์ ก: มึงเรี ยก “ท่านศิลปิ น” เหมือนกับว่า…เหมือนกับเรี ยกอะไรที่จบั ต้ องไม่ได้ นะ่ โว้ ย
ท่านศิลปิ น…เหมือนกับเป็ นเทพ…

(แซร์ จหัวกูะ)

แซร์ จ: ก็ทา่ น อองทรี ออส ท่านเป็ นเทพจริงๆน่ะสิ ถ้ าเป็ นปุถชุ นคนธรรมดา กูไม่ทมุ่ เงิน
ซื ้องานท่านขนาดนันหรอก!… ้
มาร์ ก: เหรอ
แซร์ จ: เมื่อวันจันทร์ กไู ปพิพิธภัณฑ์ ปอมปิ ดูมา มึงรู้มยที ั ้ ่ปอมปิ ดู มีงานท่าน อองทรี ออส
กี่ชิ ้น…สามชิ ้น! งานท่าน อองทรี ออสสามชิ ้น!…ที่ปอมปิ ดู เลยนะเว้ ย!
มาร์ ก: อะเมซซิ่งโว้ ย
แซร์ จ: แล้ วภาพกูเนี่ยก็คณ ุ ภาพทัดเทียมสามภาพนัน่ เลย! อาจจะดีกว่าด้ วย!…
เฮ้ ย ขอเสนอนะ ให้ เวลาไอ้ อีวองมันอีกสามนาที แล้ วไปกันเลย วันก่อนกูไปเจอ
ร้ านใหม่บรรยากาศดีมาก ชื่อ ร้ านลีย็อนแนส
มาร์ ก: ทาไมต้ องรี บด้ วยวะ
แซร์ จ: ไม่ได้ รีบ
มาร์ ก: ก็กเู ห็นอยูว่ า่ รี บนี่วะ
แซร์ จ: ไม่ได้ รีบ เอ่อ รี บก็รีบ ที่รีบก็เพราะกูทนคนมาสายไม่ได้ แล้ วน่ะสิ ทาอะไรไม่มี
ระเบียบมีวินยั เลย!
มาร์ ก: กูกวนประสาทมึงใช่มยล่ ั ้ ะวะ มึงก็เลยไปลงที่ไอ้ อีวอง
แซร์ จ: หมายความว่าไง ลงที่ไอ้ อีวอง มึงหาเรื่ องอะไรอีกวะ มึงไม่ได้ กวนประสาทกูนี่ มึง
จะมากวนกูทาไม
แซร์ จ: มันกวนประสาทผมจริงๆ
กวนตีนเลยล่ะครับ
สอพลอประจบประแจง แต่อมยิ ้มแบบมีเลศนัยตลอด
อย่างกับว่ามันพยายามเสแสร้ งแกล้ งทาดีกบั ผม
21

ไม่ต้องมาทาดีด้วยเลย ไม่ต้องเลย
หรื อว่าจะเป็ นเพราะเรื่ องผมซื ้อภาพท่าน อองทรี ออส…เรื่ องผมซื ้อภาพเขียนมานี่
ทาให้ เราผิดใจกันเลยเหรอ
ซื ้อของมีคา่ …โดยไม่ถามความเห็นมันก่อน…
โธ่เว้ ย ทาไมต้ องถามมันด้ วย! ต้ องให้ มงึ อนุมตั ิด้วยเหรอวะไอ้ มาร์ ก!

มาร์ ก: หรื อว่าเป็ นเพราะภาพของไอ้ อองทรี ออส ที่มนั ซื ้อมา


ไม่ใช่นะ่ …
มันเป็ นแบบนี ้มาสักพักนึงแล้ ว…
ถ้ าจะให้ ชี ้เฉพาะเจาะจงลงไปก็ ตังแต่ ้ ที่กกู ะมึงคุยกันเรื่ องงานศิลปะ แล้ วมึงก็พดู
ถึงคาว่าดีคอนสตรักชัน่ ออกมา
ที่กหู งุดหงิดนี่ไม่ใช่เพราะว่าได้ ศลิ ปะเหี ้ยแบบรื อ้ ทิ ้งกระจุยกระจายนี่หรอก แต่
หงุดหงิดไอ้ ท่าทางของมึงเวลามึงพูดคานี ้มากกว่า
เพื่อนรัก มึงพูดคาว่า ดีคอนสตรักชัน่ แบบโคตรจริงจังเลยว่ะ
ตอนนันผมไม่
้ ร้ ูจะจัดการกับสถานการณ์ยงั ไง ก็เลยทิ ้งระเบิดไปเลยว่า “อายุมาก
ขึ ้น ความอดทนกูคงลดลงน่ะ” แล้ วมันก็พดู ว่า “มึงคิดว่ามึงเป็ นใครวะ อะไรทาให้
มึงรู้สกึ สูงส่งสูงศักดิน์ กั หนาเหรอ “
มึงล่ะมีสิทธิอะไรมาต่างจากคนอื่นวะ แล้ วอยูด่ ีๆมันก็พดู เหี ้ยๆออกมาว่า
“มึงก็คือ ไอ้ มาร์ ก ทาไมมึงถึงคิดว่าตัวเองสาคัญอะไรนักหนาวะ”
วันนัน้ ผมน่าจะชกปากมันซักทีนงึ
แล้ วพอมันนอนพะงาบๆอยูก่ บั พื ้นนะ ผมก็จะไปพูดว่า “มึงบอกว่ามึงเป็ นเพื่อนกู
ไม่ใช่เหรอ ไอ้ หมอ เพื่อนเหี ้ยอะไรวะ ที่คิดว่าเพื่อนไม่มีความสาคัญน่ะ”

(ทีค่ อนโดของแซร์ จ
แซร์ จกับมาร์ กต่อจากฉากเมื ่อสักครู่ )

มาร์ ก: ร้ านลีย็อนแนสเหรอ หนักไปหน่อยมัง้ เลี่ยนๆนะไอ้ พวกไส้ กรอกน่ะ…หรื อมึงว่าไง

(กริ่ งประตูดงั )
แซร์ จ: สองทุม่ สิบห้ า
22

(แซร์ จเดิ นไปเปิ ดประตูให้อีวอง อี วองเข้ามา พูดมาตลอดทาง)

อีวอง: เอาล่ะสิโว้ ย หายนะ ปั ญหาแก้ ไม่ตก วิกฤติการณ์สาคัญโว้ ย แม่เลี ้ยงทังสองฝ่ ้ าย


จะให้ ใส่ชื่อในการ์ ดเชิญด้ วย แคทเธอรี นเค้ ารักแม่เลี ้ยงเค้ ามาก ก็เค้ าเลี ้ยงเค้ า
มาน่ะ แคทเธอรี นเค้ าก็เลยจะให้ ใส่ชื่อไว้ ในการ์ ด แม่เลี ้ยงอีก็ไม่นกึ ว่าจะใส่ลงไป
จริงๆหรอกนะ แต่กรณีนี ้กูก็พอทาใจได้ นะโว้ ย เพราะแม่จริ งๆเค้ าตายไปแล้ ว ก็
เลยมาเป็ นเจ้ าภาพคูก่ บั พ่อเค้ าไม่ได้ แน่ๆ ตรงกันข้ ามกับแม่เลี ้ยงกู ซึง่ กูเกลียดเข้ า
ไส้ เลยไม่ต้องถามเลยว่าควรจะใส่ชื่อรึเปล่า แต่พอ่ กูก็ไม่ยอมให้ ใส่ชื่ อพ่อ ถ้ ากูไม่
ใส่ชื่อแม่เลี ้ยงกู แล้ วก็แม่เลี ้ยงแคทเธอรี นด้ วย แบบนี ้มันยอมไม่ได้ โว้ ย กูก็เลย
บอกแคทเธอรี นว่าไม่ต้องใส่ชื่อผู้ใหญ่สกั คนเลยละกัน เราไม่ใช่เด็กวัยรุ่นแล้ วนะ
เชิญแขกมางานเองก็ได้ แคทเธอรี นก็กรี๊ ดลัน่ เลย เค้ าบอกว่าแบบนี ้ก็เหมือนตบ
หน้ าผู้ใหญ่ฝ่ายเค้ าน่ะสิ อุตส่าห์ลงทุนค่างานเลี ้ยงไปตังเยอะ ้ แล้ วแม่เลี ้ยงเค้ าก็
อุตส่าห์ลาบากจัดการเรื่ องโน้ นเรื่ องนี ้ให้ ตงหลายเรื
ั้ ่ องขนาดว่าแคทเธอรี นเค้ าไม่ใช่
ลูกในไส้ นะ กูก็เลยต้ องยอมเค้ าในที่สดุ ถึงแม้ ว่าจะขัดกับวิจารณญาณกูอย่าง
สิ ้นเชิง กูเถียงสู้เค้ าไม่ไหว ก็เลยยอมให้ ใส่ชื่อแม่เลี ้ยงกู ซึง่ กูโคตรเกลียดเลยนะ
โว้ ย เสร็จแล้ วกูก็ต้องโทร.ไปเตือนแม่กโู ว้ ย กูบอกว่า “แม่ฮะ อีวองพยายาม
หลีกเลี่ยงทุกวิธีแล้ วนะฮะแม่ แต่ลกู ไม่มีทางเลือกเลย ต้ องใส่ชื่อนังอิวอนน์ใน
การ์ ดด้ วยฮะแม่” แม่กบู อก “ถ้ ามีชื่อนังอิวอนน์ ก็ไม่ต้องใส่ชื่อชัน!” ้ กูบอก “โธ่แม่
ฮะ ลูกขอร้ องล่ะ อย่าทาให้ เรื่ องมันยุง่ ไปยิ่งกว่านี ้เลยฮะแม่ฮะ” แม่บอก “แล้ วแก
คิดยังไงยะที่จะให้ ชื่อชันลอยเท้
้ งเต้ งอยูใ่ นการ์ ดเป็ นพวกอีแก่ผวั ทิ ้ง จะเอาชื่อชัน้
ไปอยูใ่ ต้ ชื่อนังอิวอนน์ อีกาฝากเกาะใช้ นามสกุลพ่อแกได้ ยงั ไงหา!” กูก็บอกว่า
“แม่ฮะ พอดีอีวองนัดเพื่อนไว้ นะ่ วะ แค่นี ้ก่อนนะฮะแม่ฮะ คืนนี ้หลับสบายๆก่อน
แล้ วพรุ่งนี ้ค่อยคุยต่อละกัน” แม่กบู อก “เรื่ องชันไม่ ้ สาคัญรึไง” กูก็บอก “อะไรกัน
ฮะแม่ สาคัญสิฮะ” แม่บอก “ไม่สาคัญหร้ อก แล้ วที่แกบอกชันว่ ้ าอย่าทาให้ เรื่ อง
มันยุง่ ไปยิ่งกว่านี ้น่ะ ก็หมายความว่า แกตัดสินใจทุกอย่างเรี ยบร้ อยไปแล้ วใช่มยั ้
จัดการทุกอย่างโดยไม่ปรึกษาชัน้ แอบทามุบมิบๆกับไอ้ แก่อแู กตต์พอ่ แก เอาไงก็
เอาละกัน จะได้ จบๆเรื่ องกันไป เพื่อเห็นแก่ไอ้ งานมงคลของแก ซึง่ ชันก็ ้ ไม่เห็นว่า
มันจะสลักสาคัญอะไรนักหนาเลย” กูก็รีบตัดบท “แม่ฮะ เพื่อน อีวองรออยู่นะฮะ
แม่ ” ทีนี ้แม่ดา่ กลับเลย “ใช่สิ มันต้ องมีธุระที่ต้องไปทา มีเรื่ องที่สาคัญกว่าชัน้
เสมอ แค่นี ้นะ” แล้ วก็กระแทกหูเลย แคทเธอรี นที่ยืนอยูข่ ้ างๆกู แต่ไม่ได้ ยินที่แม่
พูด ก็ถามว่า “แม่วา่ ไงคะ” กูก็บอก “แม่ไม่ยอมให้ ใส่ชื่อแม่ในการ์ ดถ้ ามีชื่อนังอิ
23

วอนน์นะ่ จ้ ะ ก็นา่ อยูห่ รอก” แคทเธอรี นบอก “ชันไม่ ้ ได้ ถามเรื่ องนัน้ ชันถามว่
้ า แม่
ว่าไงเรื่ องที่เราจะแต่งงานกันน่ะ” กูบอก “เปล่านี่จ๊ะ” แคทเธอรี นด่า “โกหก!” กูแก้
ตัว “เปล่านะจ๊ ะ แคทเธอรี น จริงๆนะจ๊ ะ แม่แค่ไม่ยอมให้ ใส่ชื่อแม่คกู่ บั นังอิวอนน์ ”
แคทเธอรี นสัง่ “โทร.ใหม่ บอกแม่วา่ ลูกชายแม่จะแต่งงานทังที ้ แม่ละทิฐิซะบ้ าง
เถอะ” กูเถียง “งันแคทเธอรี
้ นก็บอกแม่เลี ้ยงแคทเธอรี นแบบนี ้บ้ างสิ” แคทเธอรี น
แหกกลับเลย “ไม่เกี่ยวเว้ ย ชันนะที ้ ่เป็ นคนบอกให้ ใส่ชื่อแม่ชนในการ์
ั้ ดน่ะ แม่เค้ า
ไม่ได้ เรี ยกร้ องเลย ถ้ าแม่ร้ ูว่าจะวุน่ วายขนาดนี ้นะ แม่ขอให้ เราเอาชื่อแม่ออกไป
แล้ วล่ะ เอ้ า โทร.หาแม่คณ ุ เดี่ยวนี ้” กูก็เลยต้ องโทร.หาแม่อีก ถึงตอนนันกู ้ โดนอัด
ซะรุ่งริ่งร่อแร่แล้ ว แถมแคทเธอรี นก็ยกเครื่ องพ่วงฟั งด้ วย แม่บอก “อีวอง แก
จัดการทุกอย่างได้ ชลุ มุนชุลเกจริงๆ แล้ วอยูด่ ีๆแกก็จะแต่งงาน ทาให้ ชนต้ ั ้ องโดน
บังคับให้ ไปเจอหน้ าพ่อแกทังวั ้ น ชันไม่
้ ได้ เจอเค้ ามา 17 ปี แล้ วนะ จะมาให้ ชนมา ั้
ใส่ชดุ ราตรี โชว์อวบ โชว์อมึ๋ ให้ พอ่ แกดูอีกเรอะ” แล้ วก็ยงั นังอิวอนน์นนั่ อีก นี่แล้ วชัน้
ได้ ขา่ วมาจากคุณเฟลิกซ์ เปลโลลารี วา่ ตอนนี ้มันเริ่มเล่นกระแดะเล่นบริดจ์แล้ ว
เหรอ” คือแม่กเู ป็ นขาบริ ดจ์น่ะ “เรื่ องแบบนี ้ก็ชา่ งนังตอแหลนัน่ เหอะ แต่วา่ ในบัตร
เชิญที่ทกุ คนจะได้ รับ ได้ อ่านเนี่ย ชันขอยื ้ นยันว่าต้ องมีชื่อชันคนเดี
้ ยวเท่านัน” ้
แคทเธอรี นที่ฟังอยู่อีกเครื่ องส่ายหัว แล้ วก็ทาท่าแหยงเลยนะโว้ ย กูก็บอก “แม่ฮะ
อย่าเอาแต่ใจตัวเองนักสิฮะ” แม่บอก “เปล่านี่ ชันไม่ ้ ได้ เอาแต่ใจตัวเอง อีวอง
อย่ามาหาเรื่ องแม่นะ นี่อย่ามาทาเหมือนอีนงั ป้าโรเมโรที่มาด่าชันเมื ้ ่อเช้ าว่าชันใจ ้
ทมิฬหินชาตินะ เมื่อเช้ าเนี่ยมันมาด่าชัน้ บ้ าแล้ ว จะมาขอเพิ่มค่าแรงเป็ นชัว่ โมง
ละหกสิบฟรังก์ไม่หกั ณ ที่จา่ ยด้ วย พอชันไม่ ้ ให้ มนั ก็ดา่ ว่า ชันไม่
้ มีหวั จิตหัวใจ ว่า
ครอบครัวเราไม่มีหวั จิตหัวใจซักคน พูดยังงี ้ได้ ไง ในเมื่อก็เห็นๆอยู่วา่ อังเดร
พ่อเลี ้ยงแกน่ะมีเครื่ องวัดคลื่นหัวใจติดอยูท่ ี่หน้ าอกตลอด นี่อีวอง แกน่ะไม่ยอม
เชิญเค้ าซักคาเลยนะ ขาอะไร ตลกนักเหรอ ชันน่ ้ ะ ไม่ใช่คนเห็นแก่ตวั นะ แกน่ะ
ยังต้ องเรี ยนรู้ชีวิตอีกมาก ไปซี ้ ไป ไปเลย ไปหาเพื่อนที่แสนดีของแกเดี๋ยวนี ้เลย ไป
”…

(เงี ยบชัว่ ครู่ )

แซร์ จ: แล้ วไงต่อ


อีวอง: ไม่มีอะไรต่อโว้ ย คุยกันไม่ร้ ูเรื่ อง กูก็เลยวางหู ทะเลาะกับแคทเธอรี นต่ออีก แต่
แป๊ บเดียวเพราะว่ากูสายแล้ ว
24

มาร์ ก: ทาไมมึงต้ องให้ พวกผู้หญิงเอากระโปรงมาครอบหัวด้ วยวะ


อีวอง: ทาไมกูต้องให้ พวกผู้หญิงเอากระโปรงมาครอบหัว ไม่ร้ ูสิโว้ ย! พวกนี ้เสียสติทงนั
ั ้ น้
แซร์ จ: มึงผอมลง
อีวอง: ก็ผอมลงน่ะสิ เครี ยดจริงๆโว้ ย
มาร์ ก: ไปอ่าน วรรณกรรมเอกของเซเนกาซะ…
อีวอง: “ชีวิตนี ้มีความสุข” แม่งโคตรเหมาะเลย
ไอ้ หมอมันแนะนาเหรอ
มาร์ ก: วรรณกรรมเอกของโลก
อีวอง: เหรอวะ
แซร์ จ: มันยังไม่ได้ อา่ น
อีวอง: อ้ าว
มาร์ ก: ใช่ แต่มนั บอกกูวา่ เป็ นวรรณกรรมเอกของโลก
แซร์ จ: กูบอกว่าเป็ นวรรณกรรมเอกของโลก ก็เพราะว่ามันเป็ นวรรณกรรมเอกของ
โลกจริงๆ
มาร์ ก: ทานองนัน้
แซร์ จ: เป็ นวรรณกรรมเอกของโลกจริงๆ
มาร์ ก: หงุดหงิดเรื่ องอะไรวะ
แซร์ จ: ก็ทา่ ทางมึงไม่คอ่ ยพอใจที่กใู ช้ คาว่าวรรณกรรมเอก
มาร์ ก: เปล่านี่…
แซร์ จ: ก็มงึ พูดคานี ้แบบประชดๆนี่…
มาร์ ก: เปล่าโว้ ย!
แซร์ จ: จริงๆนะ มึงพูดคาว่าวรรณกรรมเอกในทานอง…
มาร์ ก: เปล่าโว้ ย! มันบ้ ารึเปล่าเนี่ย…เอาเหอะ แต่ตอนมึงพูด มึงบอกต่อด้ วยว่า “แม่งโม
เดิ ้น”
แซร์ จ: ใช่ แล้ วไง
มาร์ ก: มึงบอกว่า “แม่งโมเดิ ้น” อย่างกับว่าไอ้ “โมเดิ ้น” นี่เป็ นการสรรเสริญเยินยออย่าง
เลอเลิศ อย่างกับว่าเวลามึงจะอธิบายอะไรสักอย่างนึงเนี่ย ไม่มีคาอะไรที่มนั จะ
น่ายกย่อง สูงค่ายิ่งกว่าไอ้ คาว่า “โมเดิ ้น” นี่อีกแล้ ว
แซร์ จ: แล้ วไง
มาร์ ก: ไม่มีอะไร
อ้ อ นี่กลู ะคาว่า ”โคตร” ออกไปแล้ วนะ…มันบอกว่า “แม่งโคตรโมเดิ ้น!”
25

แซร์ จ: วันนี ้มึงกวนตีนกูจริงๆว่ะ


มาร์ ก: เปล่านะ เปล่า…
อีวอง: นี่มงึ สองคนคงไม่ได้ กะจะทะเลาะกันทังคื ้ นใช่มยั ้ กูจะทนไม่ไหวแล้ ว!
แซร์ จ: ไม่คดิ ว่ามันมหัศจรรย์เหรอที่หนังสือที่แต่งมาสองพันปี แล้ วนี่เนื ้อหามันยังทันสมัย
อยูน่ ะ่
มาร์ ก: แน่นอน วรรณกรรมคลาสสิกไม่มีวนั ล้ าสมัยอยูแ่ ล้ ว
แซร์ จ: เล่นลิ ้นอีก
อีวอง:: เอ้ า แล้ วเราจะทาอะไรกันดีล่ะละ เนี่ย ดูละครอะไรก็ไม่ทนั แล้ ว หาอะไรกินมัย้
มาร์ ก: ไอ้ หมอบอกว่ามึงปลื ้มภาพเขียนมันมาก
อีวอง: กูก็…ก็คอ่ นข้ าง..ชอบนะโว้ ย…
มึงค่อนข้ างไม่ชอบใช่มยล่ ั้ ะ
มาร์ ก: ใช่
ไปหาอะไรกินกันเหอะ ไอ้ หมอมันรู้จกั ร้ านโคตรอร่อย ชื่อร้ านลีย็อนแนส
แซร์ จ: ก็ไหนมึงบอกว่าที่นนั่ อาหารมันเลี่ยน
มาร์ ก: กูบอกว่าอาหารค่อนข้ างเลี่ยนเว้ ย แต่ลองดูก็ได้
แซร์ จ: ไม่เป็ นไร ถ้ ามึงคิดว่าเลี่ยนเกินไป กินร้ านอื่นก็ได้
มาร์ ก: ไม่ต้องหรอก ลองไปกินดู
แซร์ จ: ไปร้ านที่มงึ คิดว่ามึงจะชอบละกัน ถ้ ามึงคิดว่าจะไม่ชอบ ก็เปลี่ยนร้ าน
(กับอี วอง) ชอบอาหารร้ านลีย็อนแนสมัย้
อีวอง: ว่าไงก็วา่ ตามกัน
มาร์ ก: ว่าไงก็วา่ ตามกัน มันชอบอะไร มึงก็ชอบตาม
อีวอง: เป็ นอะไรไปวะเนี่ย ท่าทางแปลกๆทังสองคนเลย

แซร์ จ: มันพูดถูกนะ มึงน่าจะหัดแสดงความคิดเห็นบ้ าง
อีวอง: นี่ ถ้ ามึงสองคนคิดจะใช้ กเู ป็ นลูกไล่นะ กูกลับล่ะ วันนี ้โดนมามากแล้ ว
มาร์ ก: มึง…ไม่มีอารมณ์ขนั เลยนะ
อีวอง: ว่าไงนะ
มาร์ ก: ไอ้ เวรเอ๊ ย อารมณ์ขนั หายไปไหนวะ
อีวอง: อารมณ์ขนั หายไปไหนเหรอ ไม่เห็นมีอะไรน่าขันเลยนี่โว้ ย อารมณ์ขนั หายไปไหน
นี่มงึ พยายามเล่นมุขอยูเ่ หรอ
มาร์ ก: กูก็แค่วา่ ว่าช่วงนี ้มึงไม่คอ่ ยมีอารมณ์ขนั ระวังตัวหน่อยละกัน !
อีวอง: มึงเป็ นอะไรไป
26

มาร์ ก: ก็มงึ ว่าช่วงนี ้กูไม่คอ่ ยมีอารมณ์ขนั เหมือนกันไม่ใช่เหรอ


อีวอง: อ๋อ แบบนี ้นี่เอง!
แซร์ จ: เอาล่ะ พอกันที ตัดสินใจซะทีจะเอายังไง อันที่จริงกูก็ไม่หิวเท่าไหร่นะ
อีวอง: วันนี ้มึงสองคนอารมณ์ไม่ดีเลยนะโว้ ย
แซร์ จ: อยากฟั งความเห็นกูเรื่ องปั ญหาหญิงของมึงมัย้
อีวอง: เอาสิ
แซร์ จ: กูวา่ นะ เท่าที่ฟังมา คนที่ประสาทแดกที่สดุ คือ แคทเธอรี นว่ะ
มาร์ ก: ชัวร์ ป้าบ
แซร์ จ: แล้ วถ้ าตอนนี ้เค้ ายังเอากระโปรงครอบหัวมึงได้ ขนาดนี ้ อนาคตมึงมุดไม่ออกแน่
อีวอง: แล้ วกูจะทาไงได้ ละ่
มาร์ ก: ยกเลิกซะ
อีวอง: ยกเลิกงานแต่งงานน่ะเหรอ
แซร์ จ: มันพูดถูก
อีวอง: ยกเลิกไม่ได้ โว้ ย จะบ้ าเหรอ
มาร์ ก: ทาไมไม่ได้
อีวอง: ก็ เพราะว่า ไม่ได้ นะ่ สิ ยังไงก็ไม่ได้ ทุกอย่างเตรี ยมการไว้ หมดแล้ ว แล้ วกูก็เพิ่งทา
ธุรกิจเครื่ องเขียนมาได้ เดือนเดียวเอง…
มาร์ ก: เกี่ยวอะไรด้ วยวะ
อีวอง: ก็ลงุ ของแคทเธอรี นเป็ นเจ้ าของน่ะสิวะ ปกติแกไม่ยอมรับใครเข้ าไปง่ายๆหรอก
โดยเฉพาะคนที่เคยทาแต่ธุรกิจสิ่งทอมาตลอดชาติ
แซร์ จ: ตามใจละกัน กูก็แนะนาไปแล้ ว
อีวอง: โทษทีนะโว้ ยไอ้ หมอ กูก็ไม่อยากจะเสียมารยาท แต่คนอย่างมึงเนี่ยไม่อยูใ่ นฐานะ
ที่จะมาให้ คาปรึกษานะ เรื่ องครอบครัวมึงเองก็ไม่คอ่ ยจะประสบความสาเร็จสัก
เท่าไหร่…
แซร์ จ: ก็ใช่
อีวอง: กูถอนตัวไม่ได้ หรอกโว้ ย กูร้ ูว่าแคทเธอรี นน่ะประสาทแดก แต่เค้ าก็มีข้อดีหลาย
อย่าง จะมาแต่งงานกับคนอย่างกูเนี่ย ต้ องมีคณ ุ สมบัตพิ ิเศษหลายประการ
มาก…(ชี ้ไปทีภ่ าพของท่าน อองทรี ออส) จะแขวนไว้ ตรงไหนเหรอ
แซร์ จ: ยังไม่ร้ ูเลย
มาร์ ก: ไม่ไว้ นี่ละ่
แซร์ จ: แขวนไว้ นี่ แสงแดดก็เลียหมด
27

อีวอง: เอ้ อ จริงสิ


เมื่อวันก่อนตอนอยูท่ ี่ร้านกูยงั นึกถึงมึงอยูเ่ ลย มีคนมาสัง่ โปสเตอร์ ภาพของศิลปิ น
คนนึง เป็ นรูปดอกกุหลาบสีขาว ขาวจัว๊ ะเลยนะเว้ ย แล้ วพื ้นก็สีขาว
แซร์ จ: ภาพท่านอองทรี ออสไม่ขาวนะ
อีวอง: เออ ไม่ขาวโว้ ย กูพดู ขึ ้นมาเฉยๆ
มาร์ ก: อีวอง มึงว่าไอ้ ภาพนี่ไม่ขาวเหรอ
อีวอง: ก็ไม่ขาวซะทีเดียวนะ
มาร์ ก: อ้ อ แล้ วมันสีอะไรล่ะ
อีวอง: ก็หลายสีนะโว้ ย…เหลืองนิดๆ เทาหน่อยๆ แล้ วก็มีเส้ นมีเหลืองอมส้ มจางๆ
มาร์ ก: แล้ วมึงก็ประทับใจไอ้ สีสนั ในภาพนี ้
อีวอง: เออ…กูประทับใจ
มาร์ ก: มึงนี่มนั ไม่มีแก่นสารเลยว่ะอีวอง เป็ นไอ้ พวกหลักลอย ไอ้ พวกสัตว์เซลล์เดียว
แซร์ จ: ทาไมไปด่ามันแบบนันล่ ้ ะ
มาร์ ก: ก็เพราะมันชอบเลียน่ะสิ ชอบสอพลอ เห็นเงินเข้ าก็ตาโต เห็นอะไรที่มนั คิดว่าเป็ น
ศิลปะวัฒนธรรมเข้ าก็ตาโต มึงก็ร้ ูวา่ กูเกลียดไอ้ พวกกระแดะทาตัวมีวฒ ั นธรรม

(เงี ยบไปชัว่ ครู่ )

แซร์ จ: …ผีหา่ อะไรเข้ าสิงวะ


มาร์ ก: (กับอี วอง) ได้ ยงั ไงวะ ไอ้ อีวอง…ต่อหน้ ากูเลยนะ ต่อหน้ ากูเลยนะมึง
อีวอง: ต่อหน้ ามึงแล้ วยังไงวะ…ต่อหน้ ามึงแล้ วไงไม่ทราบ
ก็กปู ระทับใจสีสนั ของภาพนี ้น่ะ มึงไม่ประทับใจก็เรื่ องของมึงสิ
เลิกบงการชีวิตชาวบ้ านซะทีสิโว้ ย
มาร์ ก: ไอ้ อีวอง มึงพูดออกมาต่อหน้ ากูได้ ไงว่ามึงประทับใจสีสนั ในภาพนี ้
อีวอง: ก็เพราะมันเป็ นความจริงน่ะสิ
มาร์ ก: ความจริงเหรอ มึงประทับใจไอ้ สีสนั พวกนี ้เหรอ
อีวอง: เออ กูประทับใจ
แซร์ จ: ก็มนั ประทับใจแล้ วไง มันก็มีสิทธิจะประทับใจนี่หว่า!
มาร์ ก: ไม่ ไม่มีสิทธิเว้ ย
แซร์ จ: หมายความว่าไง ไม่มีสิทธิ
มาร์ ก: ก็ไม่มีสิทธินะ่ สิวะ
28

อีวอง: กูไม่มีสิทธิเหรอ…
มาร์ ก: ไม่มี
แซร์ จ: ทาไมมันไม่มีสิทธิละ่ กูวา่ มึงไม่คอ่ ยสบายแล้ วว่ะ น่าจะไปหาหมอซะหน่อยนะ
มาร์ ก: มันไม่มีสิทธิพดู ว่า มันประทับใจสีสนั พวกนี ้ เพราะมันไม่ได้ ร้ ูสกึ ประทับใจจริ งๆ
อีวอง: กูไม่ได้ ร้ ูสกึ ประทับใจสีสนั พวกนี ้เหรอ
มาร์ ก: ก็มนั ไม่มีสีอะไรเลยน่ะสิ มึงมองไม่เห็นสักสีนงึ แล้ วก็ไม่ได้ ประทับใจอะไรด้ วย
อีวอง: นัน่ น่ะมึงแล้ ว!
มาร์ ก: ทุเรศจริงๆว่ะไอ้ หอยหลอด!
แซร์ จ: มึงคิดว่ามึงเป็ นใครวะ …
มาทาเป็ นตังกฎเกณฑ์
้ ขึ ้นมาเนี่ย ไม่ชอบอะไรสักอย่าง เกลียดไปหมดทุกคน รู้สกึ
ว่ามึงจะภูมิใจเหลือเกินนะที่มงึ ไม่ได้ มีรสนิยมแบบคนของยุคน่ะ
มาร์ ก: หมายความว่าไงวะ “คนของยุค ”
อีวอง: โอ๊ ย กูกลับล่ะโว้ ย
แซร์ จ: มึงจะไปไหน
อีวอง: กลับแล้ ว ไม่ร้ ูจะอยูด่ หู มากัดกันทาไม
แซร์ จ: อย่าเพิ่งไป! มึงยังไม่ได้ เริ่มเถียงมันเลย …ถ้ ามึงไปตอนนี ้ ก็เท่ากับว่ามึงยอมมัน
นะ

(อีวองยืนนิ่ ง ลังเลว่าจะไปหรื อไม่ไปดี )

“คนของยุค ” ก็คือ คนที่มีชีวิตอยู่ในสมัยหนึง่ สมัยใดน่ะสิ


มาร์ ก: หอยหลอด แล้ วคนเราจะไปอยูส่ มัยไหนล่ะ ถ้ าไม่ใช่สมัยที่มีชีวิตอยูน่ ะ่
ช่วยตอบหน่อยซิ
แซร์ จ: คนของยุค หมายถึง คนที่อีกยี่สิบ อีกร้ อยปี ข้ างหน้ าอาจจะเรี ยกได้ วา่ เขาเป็ น
ตัวแทนของยุคสมัยที่เขามีชีวิตอยู่
มาร์ ก: เออ
แล้ วยังไง
แซร์ จ: หมายความว่าไง แล้ วยังไง
มาร์ ก: แล้ วมันจะมีประโยชน์อะไรกับกูมงั่ ไอ้ การที่จะมีคนรุ่นหลังมาบอกว่ากูเป็ นตัวแทน
ของยุคสมัยกูนะ่
29

แซร์ จ: นี่ ฟั งนะ กูไม่ได้ พดู ถึงมึงนะเว้ ย อย่าฝั นเฟื่ องให้ มาก! มึงจะยังไงน่ะกูไม่สนหรอก!
กูพยายามจะอธิบายว่าคนของยุคเนี่ยนะ คือคนส่วนใหญ่ที่มงึ เคารพนับถือ เป็ น
คนที่สร้ างคุณประโยชน์ให้ กบั มวลมนุษยชาติ…คนของยุค เนี่ยเขาไม่มีวนั ยอม
หรอกที่จะให้ ประวัตศิ าสตร์ ศิลป์สิ ้นสุดลงด้ วยรูปสไตล์เฟลมมิชเหียกๆแบบรูป
เมืองกาไวยง ของมึงหรอก
มาร์ ก: เมืองการ์ กสั ซอนน์ เว้ ย
แซร์ จ: เหมือนกันแหละ คนของยุคเนี่ยต้ องมีสว่ นร่วมในการเปลี่ยนแปลงโลก
มาร์ ก: แล้ วมึงก็คิดว่านัน่ เป็ นเรื่ องดี
แซร์ จ: ไม่ใช่วา่ ดีหรื อไม่ดี ทาไมต้ องประเมินค่าด้ วยวะ มันก็เป็ นของมันอย่างงันแหละ ้
มาร์ ก: แล้ วคนอย่างมึงก็มีสว่ นร่วมในการเปลี่ยนแปลงโลกด้ วยงันสิ ้
แซร์ จ: ถูกต้ อง
มาร์ ก: แล้ วไอ้ อีวองล่ะ
อีวอง: คงไม่ละ่ วะ สัตว์เซลล์เดียวอย่างกูจะมีสว่ นร่วมอะไรกับเขาได้
แซร์ จ: อีวองนี่ก็เป็ นคนของยุคในแบบของมัน
มาร์ ก: เป็ นได้ ไงวะ เพราะไอ้ ภาพงี่เง่าบัดซบที่แขวนอยูฝ่ าบ้ านมันน่ะเหรอ!
อีวอง: ไม่บดั ซบนะโว้ ย!
แซร์ จ: บัดซบที่สดุ
อีวอง: ไม่บดั ซบ
แซร์ จ: บัด…เอ้ อ ไม่..ไม่บดั ซบก็ได้ .. อีวองนี่มนั ก็มีวิถีชีวิต มีแนวความคิดที่โคตรโมเดิ ้น
เลย มึงก็เหมือนกัน โทษทีวะ่ มึงก็เป็ นคนของยุคแบบโหลๆน่ะ ที่จริงนะ ยิ่งมึง
พยายามหลีกเลี่ยงมากเท่าไหร่ มึงก็ยิ่งเป็ น
มาร์ ก: เอ้ า เอางันก็
้ ได้ แล้ วมีปัญหาตรงไหน
แซร์ จ: ไม่มีปัญหาอะไร ยกเว้ นมึงนี่ละ่ เพราะว่ามึงพยายามทาตัวไม่เหมือนชาวบ้ าน
แล้ วก็ไม่เคยสาเร็จหรอก ก็เหมือนมึงโดนทรายดูดน่ะแหละ ยิ่งพยายาม
ตะเกียกตะกายขึ ้นมา มันก็ยิ่งดูดลงไป ทีนี ้ก็ขอโทษอีวองมันซะ
มาร์ ก: ไอ้ อีวองมันขี ้ขลาดนี่หว่า

(ถึงตอนนีอ้ ี วองตัดสิ นใจเดิ นออกจากห้องไปอย่างเร็ ว


หยุดครู่ หนึ่ง)

แซร์ จ: เจริญ
30

(เงียบ)

มาร์ ก: เย็นนี ้ไม่นา่ นัดกันเลยว่ะ……กูกลับมัง่ ดีกว่า…


แซร์ จ: ดีกว่าเยอะเลย
มาร์ ก: เออ
แซร์ จ: มึงน่ะสิขี ้ขลาด…รังแกคนที่ไม่มีทางต่อสู้…มึงก็ร้ ูอยู่แล้ ว
มาร์ ก: ก็ใช่…มึงพูดถูก มึงพูดแบบนี ้ กูยิ่งรู้สกึ แย่วะ่ …อยู่ดีๆนะ กูก็ไม่เข้ าใจว่า ไม่ร้ ูวา่ ไอ้
อีวองกับกูเนี่ยมีอะไรเหมือนกันมัง่ …ไม่ร้ ูวา่ กูกบั มันคบกันอยูไ่ ด้ ยงั ไง
แซร์ จ: ไอ้ อีวองมันก็เป็ นของมันแบบนี ้ตลอด
มาร์ ก: ไม่ มันเคยเพี ้ยนๆ ต๊ องๆ…แล้ วก็เอาแน่อะไรไม่คอ่ ยได้ นะ แต่ชว่ งหลังๆความ
เพี ้ยนมันลดลงว่ะ
แซร์ จ: แล้ วกูละ่
มาร์ ก: เรื่ องอะไร
แซร์ จ: มึงกับกูมีอะไรเหมือนกันมัง่ …
มาร์ ก: ถามแบบนี ้ต้ องรื อ้ ฟื น้ กันยาวเลยนะ…
แซร์ จ: เริ่มรื อ้ เลย

(เงี ยบไปชัว่ ครู่ )

มาร์ ก: …ไม่นา่ ไปว่าไอ้ อีวองมันเลยว่ะ


แซร์ จ: เออ ในที่สดุ มึงก็พดู อะไรที่มนั เหมือนคนเขาพูดกันได้ …ที่แย่ไปกว่านันนะเว้
้ ย
ไอ้ รูปงี่เง่าบัดซบที่แขวนอยู่บ้านไอ้ อีวองน่ะ พ่อมันเป็ นคนวาด
มาร์ ก: ฉิบหาย
แซร์ จ: เออ
มาร์ ก: อ้ าว แต่มงึ ยังบอกว่ามัน…
แซร์ จ: ก็บดั ซบน่ะซี แต่พอกูดา่ เสร็จ กูก็นกึ ขึ ้นมาได้ ว่าใครวาด
มาร์ ก: ฉิบหายคู… ่
แซร์ จ: เออว่ะ

(หยุดชัว่ ครู่
31

กริ่ งประตูดงั ขึ้น แซร์ จไปเปิ ดประตู อี วองเดิ นเข้ามา พูดมาตลอดทางแบบเดี ยวกับ
ครั้งทีแ่ ล้ว)

อีวอง: อีวองกลับมาแล้ วโว้ ย! ลิฟต์เต็มน่ะ กูก็เลยวิ่งลงบันไดไปเลย คิดเรื่ องที่โดนไอ้


มาร์ กด่าว่าไอ้ ขี ้ขลาด ไม่มีแก่นสาร สัตว์เซลล์เดียว คิดว่าจะเอาปื นมาระเบิด
สมองมันซะเลยดีมยั ้ มันจะได้ เห็นว่ากูเป็ นคนโลเล แล้ วก็สอพลอขนาดไหน พอวิ่ง
ลงไปถึงชันล่ ้ าง กูก็พดู กับตัวเองว่า เฮ้ ย อีวอง มึงไม่ได้ บ้านี่หว่าถึงจะได้ เอาปื นมา
เที่ยวยิงเพื่อนรักน่ะ แล้ วก็เพราะว่ามึงไม่ได้ บ้านี่ละ่ มึงก็เลยต้ องเข้ าใจว่าความ
ก้ าวร้ าวของเพื่อนนี่ต้องมีเชื ้อโรคร้ ายเป็ นสาเหตุแฝงอยูแ่ น่ๆ กูก็เลยรวบรวมสติ
ลงโทษตัวเองด้ วยการวิ่งขึ ้นบันไดมา บอกกับตัวเองว่า แบบนี ้ต้ องเป็ นสัญญาณ
ขอความช่วยเหลือ ยังไงก็แล้ วแต่กกู ็ต้องช่วยไอ้ มาร์ กให้ ได้ …อันที่จริงเมื่อวันก่อน
กูยงั คุยเรื่ องมึงสองคนให้ หมอ ฟิ งเกลโซน ฟั งเลย
แซร์ จ: มึงคุยเรื่ องกูสองคนกับไอ้ หมอโรคจิต ฟิ งเกลโซนเหรอ
อีวอง: ก็คยุ ให้ ฟังทุกเรื่ องน่ะแหละโว้ ย
แซร์ จ: แล้ วทาไมมึงถึงคุยเรื่ องกูสองคนล่ะ
มาร์ ก: ห้ ามเอาเรื่ องกูไปคุยกับไอ้ เหี ้ยนัน่ อีกนะ
อีวอง: มึงไม่มีสิทธิมาห้ ามกูนะโว้ ย
แซร์ จ: มึงคุยเรื่ องกูสองคนทาไม
อีวอง: กูก็เห็นว่ามึงสองคนกาลังตึงเครี ยดกัน กูก็เลยอยากไปปรึกษาหมอฟิ งเกลโซน
ว่า…
แซร์ จ: แล้ วไอ้ หอยนัน่ มันว่าไง
อีวอง: ก็พดู ดีนะโว้ ย
มาร์ ก: ยังไม่โดนยึดใบอนุญาตอีกเหรอวะ
อีวอง: ยังโว้ ย ปกติเขาไม่ออกความเห็นเรื่ องเพื่อนคนไข้ หรอก แต่คราวนี ้เขาออก
ความเห็น ทาไม้ ทามือด้ วยนะโว้ ย ปกติแล้ วเขาไม่เคยเลย ทุกทีจะนัง่ ทื่อมาก จนกู
ต้ องบอกว่า “ปั ดโธ่คณ ุ หมอ ทาไม้ ทามือบ้ างก็ได้ !…
แซร์ จ: เอ้ า แล้ วมันว่าไง
มาร์ ก: จะไปสนใจทาไมวะ
แซร์ จ: มันว่าไง
มาร์ ก: มันจะพูดอะไรไม่เห็นจะน่าสนใจตรงไหนเลย
แซร์ จ: ก็อยากรู้วา่ มันพูดว่าไงน่ะ ได้ มยวะั ้ โธ่เว้ ย
32

(อีวองล้วงกระเป๋ าเสื ้อ)

อีวอง: อยากรู้ใช่มยวะ
ั้

(อีวองหยิ บกระดาษออกมาแผ่นหนึ่ง)

มาร์ ก: จดมาเลยเหรอวะ
อีวอง: (คลีก่ ระดาษ) ต้ องจดโว้ ยเพราะว่ามันสลับซับซ้ อนมาก…จะให้ อา่ นให้ ฟังมัย้
แซร์ จ: เอาสิ
อีวอง: …”ถ้ าผมเป็ นผมเพราะว่าผมเป็ นผมและคุณเป็ นคุณเพราะว่าคุณเป็ นคุณแล้ วล่ะ
ก็ ผมก็คือผมและคุณก็คือคุณ แต่ในทางกลับกัน ถ้ าผมเป็ นผมเพราะว่าคุณเป็ น
คุณและคุณเป็ นคุณเพราะว่าผมเป็ นผมแล้ วล่ะก็ ผมก็ไม่ใช่ผม และคุณก็ไม่ใช่
คุณ…”
รู้รึยงั ว่าทาไมต้ องจด

(เงี ยบไปชัว่ ครู่ )

มาร์ ก: ค่าหมอเท่าไหร่วะ
อีวอง: ครัง้ ละสี่ร้อย อาทิตย์ละสองครัง้
มาร์ ก: ยินดีด้วย มึงโคตรโชคดีเลย ได้ หมอโรคจิตที่รักษาคนไข้ จากประสบการณ์ของ
ตัวเอง
แซร์ จ: จริงว่ะ มึงช่วยลอกให้ พวกกูคนละแผ่นนะ
มาร์ ก: ใช่ คงจะใช้ ประโยชน์ได้ หรอก

(อีวองบรรจงพับกระดาษ)

อีวอง: มึงไม่เข้ าใจหรอก เนี่ยลึกซึ ้งมากเลยนะโว้ ย


มาร์ ก: เอาเหอะ ถ้ ามึงกลับมาที่นี่อีกเพราะไอ้ หมอนี่ก็นา่ ขอบใจมันล่ะนะ ไปให้ มนั ล้ าง
สมอง แต่ดนั ชอบ ก็ตามใจละกัน
อีวอง: (กับแซร์ จ) ทังหมดนี
้ ่ก็เพราะมันไม่เชื่อว่ากูชอบภาพท่านอองทรี ออส
33

มาร์ ก: มึงสองคนจะชอบหรื อไม่ชอบ ก็ไม่ใช่เรื่ องของกูเว้ ย


อีวอง: บอกตามตรงนะโว้ ย กูยิ่งดูก็ยิ่งชอบ
แซร์ จ: เลิกคุยกันเรื่ องภาพท่านอองทรี ออสทีเถอะ นะ ขอร้ องล่ะ กูเหนื่อย
มาร์ ก: ทาไมต้ องหงุดหงิดด้ วยวะ
แซร์ จ: กูไม่ได้ หงุดหงิดนะ มึงก็บอกกูแล้ วว่ามึงไม่ชอบรูปนี ้ ก็ไม่เป็ นไร จบเรื่ องนี ้ซะที
มาร์ ก: มึงโมโหนี่หว่า
แซร์ จ: ไม่ได้ โมโห กูเหนื่อย
มาร์ ก: เห็นมัยล่
้ ะ ถ้ ามึงหงุดหงิดนะ ก็เป็ นเพราะว่ามึงใส่ใจกับความรู้สกึ คนอื่นมาก
เกินไป…
แซร์ จ: เหนื่อยแล้ วว่ะมาร์ ก ไร้ สาระเหลือเกินว่ะ…จะบอกให้ นะ กูใกล้ จะหมดความ
อดทนกับมึงสองคนเต็มทีแล้ ว
อีวอง: ไปหาอะไรกินดีกว่าโว้ ย
แซร์ จ: ไปเหอะ มึงไปกันสองคนละกัน
อีวอง: ไม่เอา! นานๆจะได้ เจอกันพร้ อมหน้ าพร้ อมตาสามคน
มาร์ ก: ยังกะมันน่าเจอนักนี่
อีวอง: กูก็ไม่ร้ ูนะว่าเกิดเรื่ องอะไรกัน ใจเย็นๆหน่อยได้ มยโว้
ั ้ ย ไม่มีประโยชน์ที่จะมา
ทะเลาะกันเรื่ องภาพเขียนภาพเดียว
แซร์ จ: ยิ่งมึงบอกว่าให้ ใจเย็นๆ ให้ กยู กธงขาวเนี่ย ก็ยิ่งเหมือนยุให้ ทะเลาะกันต่อว่ะ เป็ น
เทคนิกใหม่รึไง
อีวอง: คราวนี ้กูไม่ยอมแล้ วนะโว้ ย
มาร์ ก: ประทับใจว่ะ กูน่าจะไปหาหมอฟิ งเกลโซน มัง่ ดีกว่าเว้ ยเฮ้ ย
อีวอง: มึงไปไม่ได้ หรอก คิวเขาเต็มหมดแล้ ว
กินอะไรวะ
มาร์ ก: เจลซีเมี่ยม
อีวอง: กูเชื่อในตรรกะของเหตุการณ์ทกุ อย่าง การแต่งงาน การมีลกู ความตาย แล้ วก็
การขายเครื่ องเขียน ไม่มีทางผิดพลาดอยูแ่ ล้ ว

(ลางสังหรณ์บางอย่างบอกแซร์ จให้ยา้ ยภาพเขี ยนท่าน อองทรี ออส ไปไว้อีกห้องหนึ่ง


เสร็ จแล้วก็กลับเข้ามาทันที )

มาร์ ก: กูสองคนมันไม่คคู่ วรที่จะได้ ดรู ูปนัน่ …


34

แซร์ จ: ถูกต้ อง
มาร์ ก: หรื อมึงกลัวว่าถ้ ารูปยังอยูน่ ี่ มึงจะเริ่มมองเห็นรูปโดยผ่านสายตากู…
แซร์ จ: เปล่า รู้มยั ้ มึงรู้ใช่มยท่
ั ้ านปอล วาเลรี พูดเรื่ องศิลบะกับชีวิตว่าอะไร กูยิ่งกว่านัน้
อีกนะเว้ ย
มาร์ ก: ปอล วาเลรี จะพูดเหี ้ยยังไงกูไม่สนหรอก
แซร์ จ: มึงเลิกชอบปอล วาเลรี แล้ วเหรอ
มาร์ ก: ไม่ต้องมายกคาพูดปอล วาเลรี ใส่กเู ลยนะ
แซร์ จ: ก็มงึ เคยชอบปอล วาเลรี นี่หว่า
มาร์ ก: ปอล วาเลรี จะพูดเหี ้ยยังไง กูไม่สนหรอก
แซร์ จ: ที่กมู าเข้ าใจ ปอล วาเลรี ได้ ก็เพราะมึงนะ มึงเป็ นคนแนะนาเอง
มาร์ ก: ไม่ต้องมายกคาพูดปอล วาเลรี ใส่กนู ะ ปอล วาเลรี จะพูดเหี ้ยยังไง กูไม่สนหรอก
แซร์ จ: แล้ วมึงสนเรื่ องเหี ้ยอะไรมัง่ วะ
มาร์ ก: ก็สนเรื่ องเหี ้ยที่มงึ ซื ้อไอ้ รูปนี ้น่ะสิ
กูสนเรื่ องเหี ้ยที่มงึ จ่ายเงินไปสองแสนซื ้อไอ้ รูปส้ นตีนนัน่ ไง
อีวอง: ไอ้ มาร์ ก อย่าเริ่มสิโว้ ย!
แซร์ จ: กูจะบอกให้ นะว่ากูสนใจเรื่ องเหี ้ยอะไร ไหนๆทุกคนก็เปิ ดอกพูดกันแล้ ว กูสนเรื่ อง
เหี ้ยที่มงึ ชอบเหน็บแนมแล้ วก็เย้ ยหยัน ไอ้ ที่มงึ พยายามพูดเป็ นนัยว่ากูเองก็คดิ ว่า
ภาพเขียนนี่เป็ นเรื่ องตลก แล้ วก็ที่มงึ ไม่ยอมรับว่ากูผกู พันกับภาพเขียนนี่จริงๆ มึง
พยายามจะสร้ างบรรยากาศว่าเราถูกคอกันดี แล้ วนี่ละ่ ที่ทาให้ กู…ก็อย่างที่มงึ ว่า
นัน่ แหละ กูร้ ูสึกว่าเราห่างเหินกันเหลือเกินช่วงนี ้ ก็มงึ มันแสดงความไม่จริงใจเอง
นี่หว่า
มาร์ ก: ก็ใช่ กูไม่คิดว่ามึงจะรักไอ้ ภาพเขียนนัน่ จริงๆหรอก
แซร์ จ: ทาไมล่ะ
มาร์ ก: ก็มงึ น่ะเป็ นเพื่อนรักกู แต่กรู ักเพื่อนคนที่ซื ้อไอ้ รูปนี่มาไม่ลงหรอกเว้ ย
แซร์ จ: ทาไมมึงต้ องเรี ยกว่า “ซื ้อ” ล่ะ เรี ยกว่า “รัก” ไม่ได้ เหรอ
มาร์ ก: ก็เพราะว่ากูพดู ไม่ได้ นะ่ สิ กูไม่เชื่อหรอกว่ามึงจะรักไอ้ รูปนี่
แซร์ จ: แล้ วกูจะซื ้อมาทาไม ถ้ ากูไม่รัก
มาร์ ก: กูก็อยากถามมึงอยูเ่ หมือนกัน
แซร์ จ: (กับอี วอง) เห็นมัยว่ ้ ามันใจแคบขนาดไหน กูพยายามจะพูดอย่างตรงไปตรงมา
แล้ ว มันก็ตอบแบบวางท่าน่าถีบอีก (กับมาร์ ก) มาถึงขนาดนี ้แล้ ว มึงก็คงไม่เคย
35

รู้สกึ เลยสิวา่ กูรักภาพเขียนนี่จริงๆ แล้ วก็ไม่เคยรู้สกึ เลยว่าไอ้ ความคิดอย่างคนใจ


แคบแล้ วก็ไอ้ ข้อสันนิษฐานสถุลๆของมึงนี่มนั มาทาร้ ายจิตใจกู
มาร์ ก: ไม่เคยว่ะ
แซร์ จ: ตอนที่มงึ ถามกูวา่ พอลล่าเป็ นยังไง กูจะบอกให้ นะ ผู้หญิงแบบเนี ้ยนะ ทังทุ ้ เรศ
ไม่มีเสน่ห์ แล้ วก็ แร้ งทึ ้ง กูนา่ จะบอกไปแบบนันนะ ้
มาร์ ก: มึงคิดแบบนี ้กับพอลล่าจริงๆเหรอ
แซร์ จ: มึงว่าไงล่ะ
อีวอง: ไม่หรอก มันไม่ได้ คดิ แบบนันแน่ ้ ๆ มันจะคิดแบบนันกั ้ บพอลล่าได้ ยงั ไงกัน เนอะ
มาร์ ก: ตอบมาสิวะ
แซร์ จ: เห็นมัยว่ ้ าเรื่ องใหญ่ขนาดไหน
มาร์ ก: มึงคิดว่าพอลล่าเป็ นอย่างที่มงึ พูดเหรอ
แซร์ จ: แย่กว่านันอี ้ ก
อีวอง: ไม่จริง!
มาร์ ก: แย่กว่านันอี ้ กเหรอ แย่กว่าแร้ งทึ ้งเนี่ยนะ ช่วยอธิบายหน่อยสิวา่ คนเรามันจะแย่
กว่าแร้ งทึ ้งได้ ยงั ไง
แซร์ จ: น่าสนใจเว้ ยเฮ้ ย! ถ้ าอะไรที่เกี่ยวข้ องกับตัวมึงเนี่ย จะต้ องเป็ นเดือดเป็ นแค้ นขึ ้นมา
ทันทีเลย!…
มาร์ ก: ไหน มึงช่วยอธิบายหน่อยสิว่าคนเราจะแย่กว่าแร้ งทึ ้งได้ ยงั ไง…
แซร์ จ: ไม่ต้องทาเสียงเครี ยดขนาดนันก็ ้ ได้ คงเป็ น…ขอนึกดูก่อนนะ…เอ้ อ คงเป็ นท่าปั ด
ควันบุหรี่ ของยายพอลล่าน่ะ
มาร์ ก: ท่าปั ดควันบุหรี่ …
แซร์ จ: ใช่ ท่าปั ดควันบุหรี่
ท่าทางที่ดเู หมือนไม่มีความสาคัญ ไม่มีพิษสงอะไรนี่ละ่ จริงๆแล้ วตรงกันข้ ามเลย
ท่าปั ดควันบุหรี่ เป็ นศูนย์กลางความแร้ งทึ ้งของเค้ าเลยล่ะ
มาร์ ก: นี่มงึ ด่าพอลล่า พอลล่าที่เป็ นคูท่ กุ ข์คยู่ ากของกู มึงว่าเขาด้ วยคาพูดหมาๆแบบนี ้
เพราะมึงไม่ชอบท่าปั ดควันบุหรี่ ของเขา
แซร์ จ: ถูกต้ อง ท่าปั ดควันบุหรี่ ของยายนี่นี่นรกจริงๆว่ะ
มาร์ ก: ไอ้ หมอ ก่อนที่กจู ะระเบิดนะ มึงช่วยอธิบายขยายความให้ มนั ชัดเจนแจ่มแจ้ ง
หน่อย
ไอ้ เรื่ องนี ้มันจริงจังมากนะเว้ ย
36

แซร์ จ: ผู้หญิงปกติทวั่ ไปเขาก็คงจะบอกว่า “โทษนะคะ พอดีแพ้ ควันบุหรี่ นะ่ ค่ะ ช่วยเขยิบ


ที่เขี่ยบุหรี่ ออกไปหน่อยได้ มยคะ”
ั้ แต่พอลล่าไม่โว้ ย ไม่ขมิบปากเลย แต่แสดง
ความเดียดฉันท์ด้วยลีลาดัดจริตสะบัดมือปั ดควันบุหรี่ ไอ้ ลีลาที่เหมือนจะบอก
เป็ นนัยๆว่า “เอ้ า สูบเลย สูบเลยเพ่ สูบบุหรี่ นี่มนั ทุเรศ แต่พอลล่าไม่พดู หรอกฮ่ะ”
นัน่ ก็คือว่า คนสูบไม่มีทางรู้เลยว่าหล่อนไม่พอใจบุหรี่ หรื อคนสูบกันแน่
อีวอง: เว่อร์ ไปแล้ ว!
แซร์ จ: เห็นมัยว่ ้ าไอ้ อีวองยังไม่ได้ บอกว่ากูพดู ผิดเลย มันว่ากูเว่อร์ ไม่ได้ วา่ กูพดู ผิด ไอ้
ท่าทางที่เค้ าปั ดควันบุหรี่ เนี่ยมันส่อเลยว่านังนี่เป็ นคนเย็นชา หยิ่งยโสแล้ วก็ใจ
แคบ ก็อย่างที่มงึ พยายามเป็ นอยูไ่ งล่ะ น่าสมเพชว่ะมาร์ ก น่าสมเพชจริงๆที่มงึ
ต้ องมาเป็ นแฟนกับอีนงั ศพนี่…
อีวอง: พอลล่าไม่ใช่ศพ!
มาร์ ก: ถอนคาพูดเดี๋ยวนี ้ ไอ้ แซร์ จ
แซร์ จ: ไม่
มาร์ ก: มึงต้ องถอน
อีวอง: ถอนเร็ว ถอน! ทุเรศจริงๆ!
มาร์ ก: ไอ้ แซร์ จ ครัง้ สุดท้ ายแล้ วนะ ถอนคาพูดทังหมดเดี
้ ๋ยวนี ้
แซร์ จ: กูวา่ มึงสองคนมันก็ไอ้ พวกจิตตก ไอ้ พวกซาก (มาร์ กปราดเข้าใส่แซร์ จ อีวอง
พยายามเข้าขวาง)
มาร์ ก: (กับอี วอง) อย่ามายุง่ !
แซร์ จ: (กับอี วอง) ไม่ใช่เรื่ องของมึง!….(ชุลมุนกันอยู่ครู่ หนึ่ง แล้วอี วองก็โดนลูกหลง ไป
หนึ่งหมัด)
อีวอง: เวรเอ๊ ย!…เวร!…
แซร์ จ: ไหนดูซิ ดูซิ…(อีวองร้องโอดโอย เกิ นกว่าทีน่ ่าจะร้องไปหน่อย) มา ดูหน่อย…ไม่
เป็ นไรน่ะ…นิดหน่อย…เดี๋ยวนะ (ออกไปจากห้อง กลับมาพร้อมกับผ้าพันแผล)
อีวอง: …มึงสองคนนี่บ้าจริงๆ
แซร์ จ: เอ้ า เอานี่กดแผลไว้ ก่อน
อีวอง: บ้ าขันร้
้ ายแรงเลย!
แซร์ จ: อย่าพูดมากสิ
อีวอง: เจ็บจริงๆ…นี่ถ้าแก้ วหูแตกขึ ้นมาทาไง
แซร์ จ: ไม่หรอกน่า
อีวอง: มึงจะรู้ได้ ไง มึงไม่ใช่หมอหู คอ จมูกนี่หว่า!
37

แซร์ จ: เย็นไว้ เพื่อน


อีวอง: อยูด่ ีๆมึงจะมาด่าแฟนเพื่อนสาดเสียเทเสียเพราะเรื่ องท่าปั ดควันบุหรี่ ไม่ได้ หรอก
แซร์ จ: ต้ องได้ สิวะ
อีวอง: ได้ ก็ได้ วะ แต่มนั ไม่มีเหตุผล
แซร์ จ: มึงจะไปรู้อะไรเรื่ องเหตุเรื่ องผล
อีวอง: นัน่ ซี่ อัดกูเลยโว้ ย อัดกูตอ่ เลยโว้ ยเพื่อน!…นี่กเู ลือดตกในสมองรึเปล่าเนี่ย กูว่ากู
เห็นหนูในบ้ านมึงนะ
แซร์ จ: ไม่ใช่หนูบ้าน หนูนา
อีวอง: หนูนาเหรอ
แซร์ จ: ตัวนี ้มาบ่อย
อีวอง: มึงเลี ้ยงหนูนาไว้ ในบ้ านด้ วยเหรอ
แซร์ จ: อย่าเพิ่งเอาผ้ าออกสิ กดไว้ แน่นๆ
อีวอง: เกิดอะไรขึ ้น…มึงสองคนเป็ นอะไรไป
ต้ องมีอะไรแน่ๆเลย มึงถึงได้ เสียสติขนาดนี ้
แซร์ จ: ก็กซู ื ้อภาพเขียนมา แล้ วคุณมาร์ กท่านไม่สบอารมณ์
อีวอง: เอาอีกแล้ ว…วนไปเวียนมาอยูเ่ นี่ย หยุดไม่ได้ ซะที เหมือนกูกบั นังอิวอนน์
เลย น่าสมเพชที่สดุ
มาร์ ก: ใครวะ นังอิวอนน์
อีวอง: แม่เลี ้ยงกู!
แซร์ จ: อ๋อ ก็มงึ ไม่ได้ พดู ถึงชื่อนี ้มาสักพักนึงแล้ วนี่หว่า (เงียบไปชัว่ ขณะ)
มาร์ ก: ทาไมมึงไม่บอกกูเรื่ องพอลล่าซะตังแต่ ้ ตอนนันวะ ้
แซร์ จ: ไม่อยากให้ มงึ เสียใจน่ะสิ
มาร์ ก: ไม่หรอก ไม่ใช่ ไม่เลย…
แซร์ จ: หมายความว่าไงวะ ไม่หรอก ไม่ใช่ ไม่เลย…
มาร์ ก: ไม่ใช่เลย ตอนนันกู ้ ถามมึงว่าพอลล่าเป็ นไง มึงก็บอกว่าเขาเหมาะกับกูยงั กับกิ่ง
ทองใบหยก
แซร์ จ: ใช่…
มาร์ ก: มึงพูดแบบนี ้ ก็เหมือนชม…
แซร์ จ: ใช่…
มาร์ ก: แล้ วมึงตอนนันก็ ้ ไม่ใช่แบบนี ้
แซร์ จ: เอาล่ะ มึงจะสรุปว่าอะไรไม่ทราบ
38

มาร์ ก: แต่วา่ วันนี ้ ไอ้ ที่มงึ ประเมินค่าพอลล่า หรื ออีกนัยหนึง่ ก็ตวั กูนนั่ เอง มัน
รุนแรงกว่าตอนนันเยอะเลย ้
แซร์ จ: …กูไม่เข้ าใจ
มาร์ ก: มึงเข้ าใจอยูแ่ ล้ วล่ะ
แซร์ จ: กูไม่เข้ าใจ
มาร์ ก: ช่วงหลังมานี่ที่กไู ม่สนับสนุนรสนิยมไฮโซไร้ สติของมึง กูก็เลยกลายเป็ นไอ้ พวก
“หยิ่งยะโส” “ใจแคบ”…”ไอ้ พวกซากศพ”…
อีวอง: ทรมานเหลือเกิน! เหมือนมีอะไรมาเจาะกะโหลก!
แซร์ จ: จิบบรั่นดีซะหน่อยสิ
อีวอง: อะไรกัน…ถ้ าเกิดมีสว่ นไหนในสมองกูได้ รับความกระทบกระเทือนอยู่ตอนนี ้
ล่ออัลกอฮอล์นี่มนั ไม่เสี่ยงไปหน่อยเหรอโว้ ย
แซร์ จ: เอาแอสไพรินมัยล่ ้ ะ
อีวอง: แอสไพรินคงไม่คอ่ ยถูกกับกูเท่าไหร่
แซร์ จ: แล้ วจะแดกหอยอะไรไม่ทราบ
อีวอง: ไม่ต้องห่วงกูหรอก เชิญมึงทังสองสนทนาธรรมกั
้ นต่อไป ไม่ต้องมาสนใจกูเลยก็ได้
โว้ ย
มาร์ ก: พูดง่ายทายากว่ะ
อีวอง: เมตตากรุณามุทิตาอุเบกขากูซกั นิดก็ได้ โว้ ย แต่อย่าเลย
แซร์ จ: มึงจะควงกับพอลล่ากูก็ไม่วา่ อะไร กูไม่โกรธ
มาร์ ก: ก็ไม่มีเหตุผลอะไรจะมาโกรธอยูแ่ ล้ ว
แซร์ จ: แต่มงึ น่ะสิ…มึงโกรธกู…เอ้ อ ไหนๆก็ไหนๆแล้ วพูดซะเลย มึงโกรธกูเรื่ องภาพเขียน
ท่านอองทรี ออส
มาร์ ก: เออ!
แซร์ จ: ช่วยอธิบายหน่อยเถอะ
มาร์ ก: ถึงกูจะมีพอลล่า แต่กกู ็ไม่ได้ เฉดหัวมึงนี่หว่า
แซร์ จ: สรุปว่า กูมีภาพท่าน อองทรี ออส แล้ วเฉดหัวมึงงันสิ ้
มาร์ ก: ใช่
แซร์ จ: …กูได้ ภาพท่านอองทรี ออสมา แล้ วเฉดหัวมึงเหรอ
มาร์ ก: เออ ภาพไอ้ อองทรี ออส…แล้ วก็ทกุ เรื่ องที่เกี่ยวกับมันนัน่ ล่ะ
แซร์ จ: (กับอี วอง) เข้ าใจที่มนั พูดมัยเนี
้ ่ย
อีวอง: กูไม่สนใจหรอกโว้ ย มึงประสาทแดกทังคู ้ ่
39

มาร์ ก: ถ้ ากูยงั อยู่ มึงไม่มีทางซื ้อไอ้ ภาพนัน่ หรอก


แซร์ จ: หมายความว่าไง ถ้ ามึงยังอยู่
มาร์ ก: ก็ชว่ งที่มงึ ยังเห็นกูสาคัญกว่าคนอื่นไง ช่วงที่มงึ ยังใช้ บรรทัดฐานของกูตดั สิน
อยูน่ ะ่
แซร์ จ: มีด้วยเหรอช่วงนันน่ ้ ะ
มาร์ ก: มึง มึงพูดแบบนี ้ กูเจ็บปวดว่ะ …ทุเรศชิบ
แซร์ จ: ไม่ใช่อย่างงัน้ กูงงจริงๆ
มาร์ ก: นี่ถ้าสมองไอ้ อีวองมันไม่ถกู กระทบกระเทือนนะ มันต้ องช่วยกูแล้ ว
อีวอง: เอาเลย เอาเลยโว้ ย เอาไงเอากันโว้ ย
มาร์ ก: (กับแซร์ จ) แต่ก่อนมึงเคยภูมิใจที่เป็ นเพื่อนกู…มึงชอบที่กเู ป็ นเป็ นตัวของตัวเอง
ไม่เหมือนใคร แล้ วมึงก็พากูไปตระเวนแนะนาให้ เพื่อนมึงรู้จกั คนเถื่อนๆแบบกู
เพราะชีวิตมึงมันแสนจะราบเรี ยบ จนมึงต้ องมีกไู ว้ แนบข้ าง แต่ว่า …ในที่สดุ ..
สงสัยไอ้ ความรู้สึกแบบนันมั ้ นคงเหือดแห้ งไปมัง…แล้ ้ วในระยะเวลาต่อมาเนี่ย มึง
ก็มาประกาศอิสรภาพ
แซร์ จ: ชอบที่มงึ ว่า ในระยะเวลาต่อมา เนี่ยจังว่ะ
มาร์ ก: แต่กเู กลียดอิสรภาพของมึง มันรุนแรง มึงทิ ้งกู กูโดนหักหลัง สาหรับกูแล้ วมึงมันก็
คือไอ้ ทรยศ (เงียบไปชัว่ ขณะ)
แซร์ จ: (กับอี วอง)…นี่ถ้ากูเข้ าใจถูกต้ อง ไอ้ เหี ้ยเนี่ยมันเคยเป็ นพ่อกูนะโว้ ย!…
(อีวองไม่แสดงอาการโต้ตอบแต่อย่างใด มาร์ กจ้องตาแซร์ จด้วยความเกลี ยดชัง
หยุดชัว่ ครู่ ) แล้ วถ้ ากูเคยรักมึงหมือนพ่อ ตอนนันมึ ้ งรู้สกึ ยังไงกับลูกอย่างกูละ่
มาร์ ก: มึงก็เดาออกนี่
แซร์ จ: ก็ใช่ แต่กอู ยากได้ ยินพ่อกูพดู
มาร์ ก กูรักที่มงึ มองกูแบบนัน้ กูร้ ูสึกดี กูร้ ูสึกขอบคุณมึงที่เห็นว่ากูไม่เหมือนคนอื่น กูคิด
ซะด้ วยซ ้าว่าที่กไู ม่เหมือนคนอื่นน่ะเป็ นสิ่งที่ทาให้ กดู ีกว่าคนอื่น จนกระทัง่ วันนึ
งมึงก็มาชี ้หน้ า บอกกูวา่ ไม่ได้ เป็ นแบบนัน้
แซร์ จ: น่ากลัวว่ะ
มาร์ ก: นี่ละ่ ความจริง
แซร์ จ: ฉิบหายเลย…!
มาร์ ก: ใช่ ฉิบหาย!
แซร์ จ: ฉิบหาย!
40

มาร์ ก: กูนี่ละ่ ฉิบหายหนัก…มึงมันยังมีครอบครัวใหม่ แล้ วก็มีของใหม่ๆมาให้ ลมุ่ หลงมัว


เมา ท่านศิลปิ นบ้ างล่ะ! ดีคอนสตรักชัน่ บ้ างล่ะ!
อีวอง: ดีคอนสตรักชัน่ คืออะไรเหรอ
มาร์ ก: ไม่ร้ ูจกั ดีคอนสตรักชัน่ เหรอ…ถามไอ้ หมอสิ มันป็ นผู้เชี่ยวชาญสาขานี ้…(กับ
แซร์ จ) มึงต้ องการให้ กเู ห็นด้ วยว่าไอ้ ศลิ ปะแบบเหี ้ยๆเนี่ยเข้ าใจไม่ยาก มึงก็เลยไป
ยกคามาจากหนังสือบ้ านและตกแต่ง …อ้ าว ยิ ้มออกแล้ วนี่หว่า! เนี่ย เวลามึงยิ ้ม
แบบนี ้นะ กูร้ ูสกึ ว่ามันยังมีความหวังว่ะ งี่เง่าดีวะ่ …
อีวอง: คืนดีกนั เถอะน่า คืนนี ้มาสนุกกันดีกว่า ไอ้ เรื่ องทังหมดนี
้ ่มนั ไร้ สาระ
มาร์ ก: …ความผิดกูเองล่ะ ช่วงนี ้เราสองคนไม่คอ่ ยได้ เจอกัน กูไม่อยู่ มึงก็เลยเริ่มเข้ า
วงการไฮโซ…ไปคบพวกตระกูลโรบ้ างล่ะ…พวกเดแพรส-กูแดร์ ทส์ บ้ างล่ะ…แล้ ว
ก็ไอ้ กี อัลลีเอ ไอ้ หมอฟั นนัน่ ล่ะตัวดี …ก็มนั น่ะแหละที่…
แซร์ จ: ไม่ ไม่ ไม่ใช่ ไม่ใช่เลย หมอนัน่ เขาอี กโลกนึงเลย เขาชอบแต่แบบคอนเซ็บช่วล
อาร์ ต มโนทัศนศิลป์ เท่านัน้
มาร์ ก: ก็พวกเดียวกันล่ะวะ
แซร์ จ: คนละแขนงกันเลยโว้ ย
มาร์ ก: นี่ไง เห็นได้ ชดั เลยว่ากูปล่อยให้ มงึ ห่างเหินไป…ขนาดเราคุยกันธรรมดาๆ ยังไม่
ค่อยจะเข้ าใจกันเลย
แซร์ จ: ก็ไม่ร้ ูเหมือนกันว่ะ จริงๆนะ กูก็แปลกใจเหมือนกัน ที่กเู คยอยูใ่ ต้ อิทธิพลมึงน่ะ
เหมือนมึงเป็ นเจ้ าของกู
มาร์ ก: ในที่สดุ แล้ วก็ไม่ได้ เป็ น…คนเราไม่ควรทอดทิ ้งเพื่อนนะเว้ ย ต้ องห่วงใยดูแลกันให้
ตลอด ไม่งนเพื ั ้ ่อนก็หนีสิ…อย่างไอ้ อีวองนี่ไง เราเคยชอบที่มนั เฟอะฟะ แต่แล้ วมัน
ก็กลายมาเป็ นเซลส์เครื่ องเขียน…ใกล้ จะแต่งงานเต็มที…มันเคยเป็ นตัวของ
ตัวเอง แต่เดี๋ยวนี ้มันไม่อยากเป็ นแบบนันแล้ ้ ว
แซร์ จ: มึงต้ องเป็ นศูนย์กลางตลอดเวลาหรื อไงวะ มึงหัดรักคนอื่นอย่างที่เขาเป็ นซะที
เถอะวะ
มาร์ ก: หมายความว่าไง
แซร์ จ: ก็ยอมรับนิสยั เขาไง
มาร์ ก: แล้ วนิสยั มันเป็ นยังไงกันล่ะ พวกมันจะเป็ นยังไงเหรอถ้ ากูไม่มีศรัทธาในตัวมันน่ะ
กูก็พยายามเฟ้นหาเพื่อนที่มนั มีรสนิยมอยูก่ ่อนแล้ ว แต่หาไม่คอ่ ยจะได้ เลยว่ะ
ต้ องคอยช่วยขัดเกลาสร้ างเสริมรสนิยมให้ มนั ตลอด แต่แม่งก็ไม่เคยได้ ผลว่ะ อยู่
ดีๆวันดีคืนดีไอ้ คนที่มงึ อุตส่าห์ปัน้ ขึ ้นมาเนี่ยนี่ก็มีนดั ไปแดกข้ าวกับพวกไฮโซ
41

เดแพรส-กูแดทส์ แล้ วก็เสือกไปซื ้อภาพเขียนสีขาวมาเพื่อจะประกาศว่ากูไฮโซ


แล้ ว
(เงี ยบไปครู่ หนึ่ง)
แซร์ จ: งันที
้ ่เราคบกันมาสิบห้ าปี ก็มาจบเห่กนั ตรงนี… ้
มาร์ ก: เออ…
แซร์ จ: ทุเรศว่ะ…
มาร์ ก: เห็นมัย้ นี่ถ้าเราพยายามพูดกันธรรมดาๆ คือ หมายความว่า ถ้ ากูพยายามพูด
ธรรมดาๆ โดยไม่ต้องใส่อารมณ์นะ่ นะ…
แซร์ จ: แล้ วไง
มาร์ ก: ช่างเหอะ
แซร์ จ: เอ้ า พูดต่อสิ ทาไมเราจะใจเย็นๆคุยกันไม่ได้ ละ่
มาร์ ก: กูไม่คอ่ ยจะศรัทธาไอ้ คณ ุ ค่าของศิลปะแบบสมัยใหม่วะ่ ไอ้ การทาอะไรฉีกๆงี ้
การช็อคคนดูงี ้ กูวา่ แม่งตายไปแล้ วว่ะ ไอ้ ศลิ ปะแบบนี ้ พอปฎิสนธิปั๊บยังไม่ทนั
หลุดจากช่องคลอด แม่งก็แท้ งแล้ ว
แซร์ จ: เอ้ า แล้ วไง
มาร์ ก: เท่านันแหละ

นี่ละ่ สิ่งที่กจู ะพูดกับมึง ความช็อคของกู
แซร์ จ: พูดเรื่ องอะไรวะ
มาร์ ก: ที่จริงกูก็ช็อคอยูช่ ว่ งนึงนะ ยอมรับ
อีวอง: หมอฟิ งเกลโซนนี่อจั ฉริยะจริ งๆ
บอกแล้ วว่าเค้ าเข้ าใจทะลุปรุโปร่ง!
มาร์ ก: นี่มงึ ช่วยเลิกเป็ นกรรมการห้ ามมวยซะทีเถอะ แล้ วก็เลิกคิดด้ วยว่าที่เราสองคนคุย
กันนี่ไม่เกี่ยวข้ องกับมึง
อีวอง: มึงอยากให้ เกี่ยว แต่กไู ม่ขอเกี่ยว มันเกี่ยวอะไรกับกูด้วยล่ะ ก็กโู ดนอัดแก้ วหูแตก
ไปแล้ วนี่ ที่เหลือมึงก็จดั การกันเองสิ!
มาร์ ก: นี่ไอ้ อีวอง เรื่ องมึงที่กทู นไม่ได้ นอกจากที่กไู ด้ สาธยายไปแล้ วนะ ก็คือ การที่มงึ
พยายามจะให้ กกู บั ไอ้ หมอพูดภาษาเดียวกันน่ะ มึงอยากให้ เราสองคนคิด
เหมือนกัน แต่เราสองคนมันไม่เคยเหมือนกันเลยว่ะ อีวอง มึงต้ องเลือ กแล้ วล่ะ
อีวอง: กูเลือกแล้ ว
มาร์ ก: ดีมาก
แซร์ จ: กูไม่ต้องการฝ่ ายสนับสนุนโว้ ย
42

มาร์ ก: นี่มงึ ปฏิเสธไอ้ อีวองได้ ลงคอเหรอเนี่ย


อีวอง: ทาไมเราต้ องเสือกมาคบกันด้ วยวะ ถ้ าเราเกลียดกันน่ะ ก็เห็นๆกันอยูแ่ ล้ วว่าเรา
เกลียดกันจะตายห่ะ! เดี๋ยว กูไม่ได้ เกลียดมึงสองคนนะ แต่มงึ สองคนเกลียดกัน!
แล้ วมาคบกันหาหอกอะไร …ที่กมู าวันนี ้กูอยากจะพักผ่อนนะโว้ ย วุน่ วายมาทัง้
อาทิตย์แล้ ว อยากมาเจอเพื่อนรักสองคน ไปเที่ยว ไปดูหนัง ไม่ต้องเจอเรื่ องเหี ้ยๆ
เนี่ย
แซร์ จ: รู้ตวั บ้ างรึเปล่าว่ามึงพูดแต่เรื่ องตัวเอง
อีวอง: เอ้ า แล้ วมึงพูดเรื่ องใคร ทุกคนก็พดู เรื่ องตัวเองทังนั
้ น้
แซร์ จ: มึงทาวงแตก ไอ้ …
อีวอง: กูทาวงแตกเหรอ
แซร์ จ: เออ
อีวอง: กูทาวงแตกเหรอ กูเนี่ยนะ กูเนี่ยนะทาวงแตก
มาร์ ก: เออ ใช่ แต่ไม่ต้องตื่นเต้ นมากก็ได้ !
อีวอง: มึงว่ากูทาวงแตกเหรอ
แซร์ จ: ไม่ทราบจะย ้าอีกหลายหนมัยวะ ้
อีวอง: ก็ตอบมาสิ มึงว่ากูเป็ นคนทาวงแตกเหรอ
มาร์ ก: มึงมาสายสี่สิบห้ านาที ไม่ขอโทษสักคา แล้ วยังเอาเรื่ องเศร้ าในครอบครัวมึงมา
ถล่มใส่เราสองคน…
แซร์ จ: แล้ วไอ้ ความใจเย็นของมึง การยอมทุกอย่างของมึงทาให้ มาร์ กกับกูออกอาการ
มากเกินไป
อีวอง: มึงด้ วยเหรอ มึงมาหาเรื่ องกูด้วยเหรอเนี่ย
แซร์ จ: เออ เพราะว่าเรื่ องนี ้มาร์ กกับกูเห็นตรงกันเว้ ย มึงเป็ นคนจุดชนวนให้ เราทะเลาะ
กัน
มาร์ ก: มึงทามาใช้ เหตุผลจู้จี ้งี่เง่าตังแต่
้ มาถึงแล้ ว สุดจะทนว่ะ
อีวอง: กูอยากร้ องไห้ จริงๆ…อยากร้ องเดี๋ยวนี ้เลย…ใกล้ จะร้ องแล้ ว
มาร์ ก: ร้ องสิ
แซร์ จ: ร้ องเลย
อีวอง: ร้ องเหรอ! นี่มงึ มาสัง่ ให้ กรู ้ องไห้ เหรอ!
มาร์ ก: ก็นา่ ร้ องอยูห่ รอก เพื่อนรักสองคนก็เลิกคบ แล้ วก็ต้องแต่งงานกับนังงูเกงกองอีก
อีวอง: อ๋อ มึงเอางี ้ใช่มยั ้ ทุกอย่างจบกัน
มาร์ ก: ก็มงึ พูดเองนี่ มาคบกันอยูท่ าไม ถ้ าเราเกลียดกันน่ะ
43

อีวอง: แล้ วงานแต่งกูละ่ มึงสองคนตกลงจะเป็ นสักขีพยานนะ จาได้ มยั ้


แซร์ จ: หาคนอื่นสิ
อีวอง: ไม่ได้ ! ใส่ชื่อมึงสองคนลงไปแล้ ว!
มาร์ ก: เจอใครแถวๆนันก็ ้ ลากๆเข้ าไปก็ได้
อีวอง: ไม่ได้ !
แซร์ จ: ต้ องได้ สิ!
อีวอง: ไม่ได้ !…
มาร์ ก: ไม่ต้องตกใจ กูไปอยูแ่ ล้ ว
แซร์ จ: แต่มงึ ควรจะยกเลิกงานแต่งงานซะ
มาร์ ก: ใช่แล้ ว
อีวอง: สัตว์เอ๊ ย! กูเคยทาอะไรให้ พวกมึงเจ็บแค้ นเหรอ ..ไอ้ เหี ้ย !
(ร้องไห้โฮ)
(เวลาผ่านไปครู่ หนึ่ง)
โหดร้ ายมากเลยนะ พวกมึงสองคนเนี่ย รอไว้ ทะเลาะกันหลังวันที่ 12 ก็ไม่ได้ พวก
มึงตังใจมาท
้ าลายงานแต่งงานกู งานแต่งงานที่มนั หายนะอยูแ่ ล้ วเนี่ย งาน
แต่งงานที่ทาให้ กผู อมลงไปห้ ากิโล แล้ วตอนนี ้พวกมึงก็มาทาให้ มนั ฉิบหายเลย!
เพื่อนสองคนที่พอจะให้ ความหวังสร้ างกาลังใจได้ บ้าง เสือกจะมาฆ่ากันซะอีก
โชคดีจริงๆเลยกู! …(กับมาร์ ก) มึงคิดเหรอว่ากูพิศวาสไอ้ กระดาษแฟ็ กซ์กบั
สก็อตช์เทปน่ะ คิดเหรอว่าคนปกติเขาอยากจะมานัง่ ขายไอ้ แฟ้มเอกสารชนิดเติม
ได้ อยูท่ กุ วี่ทกุ วัน…จะให้ กทู ายังไงล่ะ กูงี่เง่ามาสี่สิบปี แล้ ว กูทาให้ พวกมึงขา อ้ อ
ใช่สิ ก็ดีแล้ ว กูทาติงต๊ องให้ เพื่อนกูขากลิ ้งทุกคน แต่พอตอนกลางคืน ใครต้ องมา
นัง่ น ้าตาเช็ดหัวเข่าอยู่คนเดียวล่ะ ใครต้ องคลานกลับเข้ ารูทกุ คืนคนเดียว ไอ้ งงั่ นี่
ล่ะ กาลังจะเหงาตาย กลับบ้ านที มันต้ องเปิ ดทุกอย่างที่ส่งเสียงได้ แล้ วมีใครบ้ าง
ที่ฝากข้ อความในโทรศัพท์ร้ ูมยโว้ ั ้ ย แม่กโู ว้ ย แม่กโู ทร.มาอีกแล้ ว แม่กโู ทร.มาทุก
วัน
(เงี ยบไปชัว่ ครู่ )
มาร์ ก: อย่าเสียใจนะ
อีวอง: อย่าเสียใจไปเลยน่า! ก็ใครล่ะที่ทาให้ กเู สียใจน่ะ ดูกสู ิ กูไม่ใช่พวกเก็บความ
รู้สกึ เก่งเหมือนพวกมึงนี่ กูมนั ไม่แมน กูไม่เคยออกความเห็นอะไรนี่ กูมนั สัตว์
เซลล์เดียว
มาร์ ก: ใจเย็นๆ…
44

อีวอง: ไม่ต้องมาบอกให้ กใู จเย็นหรอก ทาไมกูต้องใจเย็นด้ วย นี่จะให้ กเู สียสติเหรอไง


ที่มาบอกให้ กใู จเย็นๆน่ะ …กูแค่อยากเป็ นเพื่อนมึง เป็ นอีวอง ไอ้ ตงิ ต๊ อง
อีวอง ไอ้ ตงิ ต๊ อง
(เงียบไป)
แซร์ จ: พยายามอย่าให้ มนั ทุกขเวทนานักได้ มย… ั้
อีวอง: จบแล้ วโว้ ย มีอะไรเคี ้ยวๆมัย้ อะไรก็ได้ โว้ ย จะได้ ไม่หมดสติ
แซร์ จ: มีมะกอก
อีวอง: ส่งมาเลย
(แซร์ จหยิ บโถมะกอก ส่งให้อีวอง)
แซร์ จ: (กับมาร์ ก) เอามัย้
(มาร์ กพยักหน้า อีวองส่งโถให้ ทัง้ สองทานมะกอก)
อีวอง: มีที่ใส่…
แซร์ จ: มีสิ
(หยิ บจานรองมาวางบนโต๊ะ)
(หยุดชัว่ ครู่ )
อีวอง: (ยังทานมะกอกอยู่) …ที่เรามาสุดทางกันตรงนี ้ได้ …มาถึงวันโลกาวินาศนี่ได้ ก็
เพราะไอ้ สี่เหลี่ยมสีขาวอันเดียว
แซร์ จ: ไม่ขาวนะ
อีวอง: ไอ้ รูปส้ นตีนสีขาว!…
(ควบคุมอารมณ์ ไม่อยู่ หัวเราะไม่หยุด)
มองยังไงก็ส้นตีน!…ยอมรับซะเหอะเพื่อน…เสียสติจริงๆว่ะที่ไปเสียเงินซื ้อมา
เนี่ย…(มาร์ กหัวเราะตามไปด้วย แซร์ จออกไปจากห้อง ถื อภาพเขี ยนท่าน
อองทรี ออสกลับเข้ามาทันที )
แซร์ จ: มีปากกาเมจิกมัย้
อีวอง: เอาไปทาอะไร อย่าบอกนะว่าจะมาวาดอะไรลงไปในภาพ
แซร์ จ: มีหรื อไม่มี
อีวอง: เดี๋ยวนะ (ค้นในกระเป๋ าเสือ้ นอก) มี สีฟ้า
แซร์ จ: มานี่เลย
(อีวองส่งปากกาให้แซร์ จ
แซร์ จรับมา ดึงฝาออก ดูหวั ปากกาอยู่ครู่ หนึ่ง ปิ ดฝากลับอย่างเก่า
มองหน้ามาร์ ก แล้วโยนปากกาให้ มาร์ กรับ หยุดนิ่ งไปชัว่ ครู่
45

พูดกับมาร์ ก) เอาซี่!
(เงียบ)
เอาเลย!
(มาร์ กเดิ นไปทีภ่ าพเขี ยน…
มองหน้าแซร์ จ…
มาร์ กดึงฝาปากกาออก)
อีวอง: อย่านะ
(มาร์ กมองหน้าแซร์ จ)
แซร์ จ: เอาเลย
อีวอง: มึงมันบ้ าไปแล้ ว ..มึงสองตัวเนี่ย
(มาร์ กโน้มตัวลงมาภาพเขี ยน อีวองตะลึงงัน มาร์ กวาดเส้นตามแนวเส้นทะแยง
มุมหนึ่งเส้น แซร์ จยังคงไม่สะดุง้ สะเทือน
แล้วมาร์ กก็บรรจงวาดรู ปคนเล่นสกี ใส่หมวกผ้าขนสัตว์บนเส้นนัน้
พอวาดเสร็ จ ก็ยืดตัวขึ้น แล้วมองดูผลงาน
แซร์ จก็ยงั คงใจแข็ง
อีวองเหมื อนกลายเป็ นหิ นไปแล้ว
เงี ยบไปชัว่ ครู่ )

แซร์ จ: เอ้ อ กูหิวจะตายอยูแ่ ล้ ว จะไปกินกันรึยงั

(มาร์ กพยายามยิ้ ม ใส่ปลอกปากกากลับ แล้วแกล้งโยนปากกาไปให้อีวอง อีวอง


รับได้)

(ทีค่ อนโดของแซร์ จ
ภาพเขี ยนท่าน อองทรี ออสแขวนอยู่บนผนังหลังห้อง กูงหน้าภาพเขี ยน
มาร์ กถือถังน้า แซร์ จจุ่มผ้าลงในถัง มาร์ กพับแขนเสือ้ ขึ้นแล้ว แซร์ จก็ใส่ผ้ากันเปื ้ อนซึ่ง
สัน้ เกิ นไป อุปกรณ์ ทาความสะอาดหลากหลายชนิ ดวางอยู่เต็มห้อง ทัง้ ทิ นเนอร์ น้ายาขจัด
คราบสกปรก ผ้าขี ้ริ้ว ฟองน้า แซร์ จบรรจงทาความสะอาดภาพเขี ยน
ภาพท่าน อองทรี ออสก็กลับมาขาวจัว๊ ะเหมื อนเดิ ม มาร์ กวางถังน้าลง มองดูภาพ แซร์ จหันไปมอง
อี วองที น่ งั่ อยู่อีกด้านหนึ่งของห้อง อี วองพยักหน้าบอกว่าใช้ได้แล้ว แซร์ จก้าวออกมาแล้วหัน
กลับไปชื ่นชมภาพอีกครั้ง
46

เงียบไปชัว่ ขณะ)

อีวอง: (ราวกับว่าอยู่คนเดี ยว พูดด้วยน้าเสี ยงที ่อูอ้ ีเ้ ล็กน้อย) …หลังวันแต่งงานหนึง่ วัน


แคทเธอรี นก็เอาช่อดอกไม้ แต่งงานไปวางที่หลุมศพแม่เธอที่สสุ านมงต์ปาร์ นาส
ผมแอบไปร้ องไห้ อยู่คนเดียว พอตกกลางคืนผมมานอนนึกถึงเหตุการณ์นา่
สะเทือนใจนี ้ ก็ร้องไห้ สะอึกสะอื ้นอีก ผมคงต้ องปรึกษา หมอฟิ งเกลโซน เรื่ องนี ้ซะ
แล้ ว เอะอะก็จะร้ องไห้ ร้ องไห้ อยูเ่ รื่ อย อายุก็ปนู นี ้แล้ ว ก็เริ่มออกอาการมาตังแต่
้ ที่
บ้ านไอ้ หมอนัน่ ล่ะครับ คืนนันนั
้ น่ ล่ะ หลังจากที่มนั แสดงให้ ไอ้ มาร์ กเห็นว่ามันแคร์
เพื่อนมากกว่าภาพเขียน บ้ าจริงๆ เสร็จแล้ วเราก็ไปกินกันที่ร้านของเอมิลครับ
ระหว่างกิน มันสองคนก็ตกลงร่วมมือกันสร้ างมิตรภาพขึ ้นมาใหม่ หลังจากที่ถกู
ทาลายไปยับเยินด้ วยการกระทาและคาพูด มีอยูช่ ว่ งนึง ไม่ร้ ูไอ้ หมอหรื อไอ้ มาร์ ก
พูดว่า พวกมันกาลังอยูใ่ น “ระยะทดลอง” แล้ วผมก็ร้องไห้ โฮเลย ไอ้ คาว่า “ระยะ
ทดลอง” ที่มาใช้ กบั มิตรภาพของพวกเรานี่ละ่ ครับที่ทาให้ ผมกลันสะอื ้ ้นไม่อยู่
บอกจริงๆ ตอนนี ้ผมทนการโต้ แย้ งโดยใช้ เหตุผลไม่ได้ อีกต่อไปแล้ ว ผมว่าไอ้ การ
โต้ แย้ งโดยใช้ เหตุผลน่ะ มันไม่ได้ เคยก่อให้ เกิดอะไรที่ มีตวั ตน ยิ่งใหญ่ หรื อ
สวยงามขึ ้นมาในโลกนี ้เลยสักอย่างเดียวเลยนะครับ

(หยุดนิ่ งชัว่ ครู่


แซร์ จเช็ดมื อให้แห้ง เอาน้าในถังไปทิ้ ง แล้วเก็บอุปกรณ์ ทาความสะอาดจนหมด
ไม่เหลือร่ องรอยว่ามี การทางานบ้าน แซร์ จมองภาพเขี ยนอีกครั้ง แล้วหันกลับมา
พูดกับคนดู)

แซร์ จ: พอมาร์ กกับผมวิสามัญฯไอ้ หนุม่ นักสกีสาเร็จ ด้ วยสบูส่ วิสส์ผสมกับดีววั ซึง่ เป็ น


สูตรของพอลล่าเค้ า ผมก็มองไปที่ภาพเขียนท่าน อองทรี ออส แล้ วพูดกับมาร์ ก
“มึงรู้มาก่อนรึเปล่าว่าหมึกนัน่ ล้ างน ้าออก”
มาร์ กบอก “เปล่า ไม่ร้ ู มึงล่ะ”
“ไม่ร้ ู” ผมตอบสวนไปเลย ผมตอแหลน่ะครับ ผมเกือบโพล่งไปแล้ วว่า “รู้สิ ถ้ าไม่ร้ ู
กูจะยอมเหรอ” แต่ผมจะเริ่มระยะทดลองของเราแบบนันได้ ้ ยงั ไง…คิดอีกแง่หนึง่
การเริ่มต้ นการฟื น้ ฟูมิตรภาพด้ วยมุสาวาทานี่จะดีหรื อ ..มุสาวาทา! ปั ดโธ่ ทาไม
ผมต้ องกลัวว่าว่าจะผิดศีลธรรมขนาดนี ้ด้ วยล่ะ ทาไมมิตรภาพของผมกับมาร์ กนี่
มันถึงสลับซับซ้ อนอะไรขนาดนี ้ก็ไม่ร้ ูนะครับ
47

(แสงไฟเริ่ มจับเฉพาะทีภ่ าพเขี ยนท่าน อองทรี ออส มาร์ กเดิ นเข้าไปทีภ่ าพ)

มาร์ ก: ใต้ เมฆสีขาว หิมะโปรยปรายลงมา


คุณมองไม่เห็นก้ อนเมฆหรื อเกล็ดหิมะ
ไม่เห็นความหนาวเย็นและความขาวของพื ้นโลก
ชายคนหนึง่ เล่นสกีลงมาตามเนินเขา
หิมะกาลังตก มันค่อยๆโปรยปรายลงมา
จนกระทัง่ ชายผู้นนหายลั
ั้ บไปในความขาวโพลน

แซร์ จเพื่อนผม เพื่อนเก่าแก่ที่สดุ คนนึงของผม


เพิ่งซื ้อภาพเขียนมา
เป็ นผ้ าใบขนาดห้ าฟุตคูณสี่ฟุต
เป็ นภาพผู้ชายซึง่ เดินทางผ่านที่วา่ งแห่งหนึง่
แล้ วก็หายลับไป.

You might also like