New Prototype of Torque Transducer by Direct Measurement of Deformed Angle. Amm05

You might also like

Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 10

AMM 05

การประชุมวิชาการเครือขายวิศวกรรมเครื่องกลแหงประเทศไทย ครั้งที่ 24
20-22 ตุลาคม 2553 จังหวัดอุบลราชธานี

ตนแบบเครื่องวัดแรงบิดแบบใหม โดยใชหลักการวัดมุมที่เปลี่ยนรูปไป
New Prototype of Torque Transducer by Direct Measurement of Deformed Angle

ณัฐพล แสนคํา1,* และ ทัศนัย แสนพลพัฒน1

1
หองปฏิบัติการแรงบิด ฝายมาตรวิทยาเชิงกล สถาบันมาตรวิทยาแหงชาติ
3/4-5 หมูที่ 3 ต.คลองหา อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120
*ติดตอ: E-mail: nattapon@nimt.or.th, โทรศัพท: 025 775 100 ตอ 2238, โทรสาร: 025 775 095

บทคัดยอ
บทความนี้นําเสนอการศึกษา ออกแบบ และสรางเครื่องมือวัดแรงบิดตนแบบที่ใชห ลัก การวัดมุมที่เปลี่ยน
รูปไปโดยตรง มีวัตถุประสงคเพื่อลดผลกระทบจากปริมาณแรง ที่ปะปนมากับปริมาณแรงบิดที่ถูกวัด โดยเฉพาะ
อยางยิ่งแรงบิดที่ไดจากเครือ่ งมือประเภทประแจ ตัวแกนวัดแรงบิดถูกออกแบบใหรับแรงบิดสูงสุด 200 N·m ติดตั้ง
อุปกรณรับรูสัญญาณแรงบิด 3 แบบ คือ Strain gauge, อุป กรณวัดมุมแบบ Angle encoder และอุปกรณวัด มุม
แบบ 2 แกน (Coordinate measurement system) โดยที่ความเหมาะสมในการออกแบบถูกยืนยันดวยระเบียบวิธี
ไฟไนตเอลิเมนต
ผลการทดลองพบวาสัญญาณจาก Strain gauge มีค วามเบี่ย งเบนตามปริมาณแรงและตําแหนงมุมที่แรง
กระทําบนแกนรับแรงบิด ±0.15% สอดคลองกับผลการจําลองการทํางานโดยระเบีย บวิธี FEA ในขณะที่สัญญาณ
จากอุปกรณวัดมุมแบบ Angle encoder มีความเบี่ยงเบนตามปริมาณแรงและตําแหนงมุมที่แรงกระทําบนแกนรับ
แรงบิด ±0.30% สวนสั ญญาณจากระบบวัด 2 แกน มีความเบี่ ยงเบนตามปริ มาณแรง ±0.15% แต ไมมี ผลต อ
ตําแหนงมุมที่แรงกระทําบนแกนรับแรงบิด ความถูกตองของเครื่องมือวัด ตนแบบถูก ประเมินทางมาตรวิทยา โดย
การสอบเทียบตามมาตรฐาน DKD-R 3-8: 2003 โดยใช Torque transfer wrench ที่มีความถูกตอง ±0.10% เปน
มาตรฐานอางอิง ซึ่งจากผลการสอบเทีย บพบวาเครื่องมือวัดตนแบบมีความถูก ตองอยูที่ ±0.50% สามารถใชงาน
เปน torque wrench calibrator ไดอยางเหมาะสม ซึ่งความถูก ตองของเครื่องมือตนแบบจะสูงขึ้นถาใชอุป กรณวัด
มุมแบบ 2 แกน ที่มีความสามารถในการทวนซ้ําไดของการวัด (Repeatability) ดีกวา ±0.05 µm และความถูก ตอง
ดีกวา ±0.1 µm
คําหลัก: มาตรวิทยา, เครื่องมือวัดแรงบิด, มุมบิด, ระเบียบวิธไี ฟไนตเอลิเมนต

Abstract
This paper studies, designs, and invents the prototype of torque transducer using the direct
measurement of the deformed angle. The purpose is to reduce the influence of parasitic force in the
torque measurement of wrench types. The maximum capacity of the torque transducer is designed to 200
N.m. The three sensing elements, including the strain gauge, the angle encoder, and the coordinate
AMM 05
measurement system, are applied to use with the transducer. The design is optimized using the finite
element analysis (FEA).
The experimental results, which are supported by the FEA simulation methods, show that the
±0.15% deviation of the strain gauge signal is varied by the quantity and act of force position on the
torque axis. The deviation of the signal from angle encoder is varied by the quantity and act of force
position on the torque axis ± 0.25%. The deviation of signal from the coordinate measurement system is
varied by the quantity of force ± 0.15%, but it does not affect the position of force that acts on the torque
axis. The accuracy of the prototype model is metrologically evaluated by the standard calibration method
DKD-R 3-8: 2003 using the torque transfer wrench with the ± 0.10% accuracy. Based on the calibration
results, the accuracy is ± 0.50% and can be used as the torque wrench calibrator properly. The accuracy
of the prototype equipment will rise if the 2-axis angle measurement device has the repeatability that is
better than ± 0.05 µm and the accuracy that is better than ± 0.1 µm.
Keywords: Metrology, Torque measuring device, Torsional angle and Finite element

1. บทนํา แวดลอมที่ใชในการสอบเทียบกับสถานที่ในการใชงาน
เครื่องมือวัดแรงบิด (Torque transducer, TTS) จริ ง มี ง านวิ จั ย ที่ มี ก ารนํ า เอา Reference torque
ในป จจุ บั น ใช ห ลั ก การวั ด การเปลี่ ย นรูป ไปของวั ส ดุ transducer ไปใชในการสอบเทียบนอกสถานที่ใหกับ
นิย มใช Strain gauge เป นตัวรั บ รูสัญญาณ เพื่ อ Rotating torque transducer ในเครื่อง Power test
สะทอนสมบัติทางกลของวั สดุโดยการแปลงพลั งงาน stand [6] ซึ่งผลของงานวิจัยทั้งหมดขางตนพบวาการ
กลใหเปน พลั ง งานทางไฟฟ า มี สมบัติ ค วามเปนเชิ ง วัด แรงบิด ไดรับ ผลกระทบจาก ทั้งสมบัติ ของตัววัสดุ
เส นสู ง และสามารถรั บ รู ค วามเครี ย ด ได ใ นระดั บ เอง และปจจัยภายนอกดังสิ่งที่กลาวมาแลวขางตน
ไมครอน แตมีความไวตออุณหภูมิและความชื้นสูง ทั้ง เพื่อการหลีกเลี่ยงและลดอิทธิพลจากปจจัยทางกล
ยั งรั บ รู ป ริ มาณอื่ นๆ ที่ ป ะปนเข ามาในระบบการวั ด ตางๆ ที่จะเขามากระทบตอระบบการวัดแรงบิด จนทํา
เชน Axial forces, Bending moments และ Lateral ให เ กิ ด ความคลาดเคลื่ อ นในการวั ด ขึ้ น ดั ง นั้ น ใน
forces เป นต น ซึ่ ง ปริ ม าณเหล า นี้ ทํ า ให เกิ ด ความ งานวิจัยนี้จึงนําเสนอการศึกษาและออกแบบเครื่องมือ
คลาดเคลื่อนในการวัดแรงบิด ดังนั้นเพื่อความถูกตอง วัดแรงบิดที่มีคุณสมบัติทนตอปริมาณที่เขามารบกวน
จึ ง จํ า เป น ต องมี ก ารชดเชยปริ ม าณต า งๆ ที่ เ ข า มา และสามารถชดเชยอิทธิพลของ Cross force ที่ทําให
กระทบ เกิด Bending moment ในการวัดแรงบิดของเครื่องมือ
ในงานวิจัยที่ผานมา มีการศึกษาและวิเคราะหถึง ประเภทประแจ เครื่องมือที่ออกแบบขึ้นอาศัย หลัก การ
อิทธิพลตางที่สงผลกระทบตอการสอบเทียบ Torque วัดมุมบิดของวัสดุที่ถูกบิดไปโดยตรงดวยเครื่องมือวัด
transducer [1-4] ทั้งที่เกิดจากสมบัติของวัสดุเอง และ มุมความละเอี ยดสูง ที่ ไม มีผลจากอิทธิพลของความ
ปจจัยภายนอก อาทิเชน ผลจาก Eccentric mounting แตกตางของสภาวะแวดลอมที่ทําการวัด
และการ Misalignment ในการติดตั้ง ที่ปะปนมากับคา รูปที่ 1 แสดงการบิดที่เกิดจากการใหแรงกระทําที่
แรงบิดที่วัดได รวมถึงการพิจารณาถึงอิทธิพลของการ ระยะหนึ่ ง ของคานทํ า ให เ กิ ด การบิ ด และปริ ม าณ
หมุนโดยรอบของ Rotary torque transducer ที่ถูก Cross force กระทํากับแกนเพลา
สอบเทียบแบบสถิต (Static) [5] และในสวนของการ
พิจารณาถึงอิทธิพลของความแตกตางระหวางสภาวะ
AMM 05
curve
เนื่องจากมุ ม บิ ด เปน radian  ดั ง นั้ น
Cross force radius
curve AB  R  L
R
 (1)
L
τ
Torque Force จากนิยามของโมดูลัสเฉือน G
γ
τ
γ (2)
G
Rθ τ
ใหสมการ (1) และ (2) เทากัน ดังนั้น 
รูปที่ 1 Torque with cross force L G
τ Gθ τ '
2. ทฤษฎีพื้นฐาน   (3)
R L r
โหลดที่กระทําตั้งฉากกับแกนลักษณะหนึ่งคือ การ เมื่อ τ ' เปนความเคนเฉือนที่รัศมี r ใดๆ คา G
บิด โดยที่ตัวอยางของชิ้นงานที่รับโหลดในลักษณะนี้ คือ โมดูลัสเฉือน มีหนวยเปน N/m2 และ  คือ ความ
เชน เพลา อาจจะเปนเพลากลมตัน (Solid) หรือเพลา เคนเฉือน มีหนวยเปน N/m2
กลมกลวง (Hollow) ขนาดเสนผานศูนยก ลางเทากัน 2.2 แรงบิดและโมเมนตความเฉื่อย
ตลอดอยูภายใตการบิด ทุกๆ ภาคตัดของเพลาจะอยู พิจารณา Element บนภาคตัดเพลา ที่อยูที่รัศ มี
ภายใต ก ารเฉื อน ขณะที่ เพลาบิ ด ไปจะมี โมเมนต r และหนา dr ดังรูปที่ 3
ตานทานตอการบิด เนื่องจากความเคนเฉือนบนเพลา
โมเมนตตานทานนี้จะมีคาเทากันตลอดความยาวเพลา
และมี ทิศ ทางตรงข า มกั บ โมเมนต บิด หรื อ แรงบิ ด ที่
กระทํากับเพลา
2.1 มุมบิด
พิจารณาเพลากลมตันรัศมี R อยูภายใตแรงบิด T
รูปที่ 3 ภาคตัดเพลา
ที่ปลายขางหนึ่ง สวนปลายอีกขางหนึ่งยึดแนนดังรูปที่
2 ผลจากแรงบิดนี้ทําใหเสนรัศมีที่ปลายอิสระของเพลา ความเคนเฉือนบน Element นี้คือ τ ' และแรงบน
บิดไปเปนมุมเรเดีย น จุด A เลื่อนไปอยูที่ B และ AB Element นี้คือ dF  τ ' 2πr dr แรงนี้จะทําใหเกิด
รองรั บ มุ มที่ ป ลายยึ ด แน น ดั ง นั้ นจึ งเป นมุ ม ที่ โมเมนต รอบจุด ศูน ยกลางเพลา ซึ่ งทําให เกิ ดแรงบิ ด
เป ลี่ ย นแป ล งต ามแนวยาว ของเพลา ซึ่ งก็ คื อ dT  dF  r  τ '  2πr dr   r  2πτ ' r 2 dr แต
ความเครียดเฉือนของเพลา เนื่องจากความเคนเฉือน มีคาเปลี่ยนแปลงไปตามรัศมี
r ดังนั้นจะตองเปลี่ยนรูป τ ' ใหอยูในรูปของ r โดย

ใชสมการที่ (3) τ'  r ไดสมการแรงบิด
L
R R
Gθ 3 Gθ
T   2π r dr  2πr 3 dr (4)
0
L L 0
R
โดยที่เทอม  2πr 3 dr นี้คือ โมเมนตค วามเฉื่อย
0

รูปที่ 2 เพลากลมภายใตแรงบิด เชิงขั้ว (Polar moment of inertia, J)


AMM 05
3. การประมวลผลการวัดมุมบิดแบบ 2 แกน Cross force
จากสมมติฐ านที่ วา การทํ างานในสภาวะ Pure y
2

torque ระยะกระจัด x1 และ x2 จะตองมีคาที่เทากัน


Laser2
X1 X1,T θ
θ XCF
x
2
X2,T
Laser1

y 1

รูปที่ 5 มุมบิดของการวัดแบบ Torque with cross


force
รูปที่ 4 มุมบิดของการวัดแบบ Pure torque จากรูปที่ 5 เขียนเปนสมการไดดังนี้
x1  x2 x1  x1,T  xCF (14)
x (5)
2 x 2  x 2,T  xCF (15)
x  x2'
'
เมื่อ x1 และ x2 คือระยะกระจัดที่ไดจากอุปกรณวัด
ดังนั้น x 1 (6)
2
มุมแบบ 2 แกน จากการบิด และปะปนไปดวยโมเมนต
เพราะฉะนั้น '
x1  x (7)
ดัด x1,T และ x2,T คือระยะกระจั ด ที่เกิด จากการบิ ด
'
2 x x (8)
เมื่ อ x1 และ x คื อ ระยะที่ ถูก ชดเชยความไม
' ' สวน xCF คือระยะกระจัดที่เกิดจาก Cross force
2

สมบู รณ ในการให สัญญาณ และกํา หนดให คา ชดเชย ให x1,T = x2,T = xT จากนั้นนําสมการที่ (15) ตั้ง
x1 และ x 2 เปน
ลบดวยสมการที่ (14) จะได
x2  x1
x1  x  x1 (9) xCF  (16)
2
x 2  x  x 2 (10) และเมื่อนําสมการที่ (14) บวกดวยสมการที่ (15)
จากสมการที่ (7), (8) และสมการที่ (9), (10) จะ จะได
ไดสมการ x1  x 2
x1'  x1  x1 (11) xT  (17)
2
'
x 2  x 2  x 2 (12) ดังนั้นสามารถหามุมที่บิดไปไดดัง สมการที่ (18)
คา ที่วั ดไดจากอุป กรณวัด มุ มแบบ 2 แกน เป น เมื่อ y1 = y2 = y
ระยะกระจัด x1 และ x2 ดังรูปที่ 4 สวน y1 และ y2 เปน xT
จาก tan  
ระยะที่ ถูก กํ าหนด ดังนั้น สามารถหามุมที่ บิด ไปของ y
เครื่องมือวัดแรงบิดไดดังสมการที่ (13) x
  a tan T (18)
xi y
จาก tan  i 
yi
4. ขั้นตอนการดําเนินงาน
x
 i  a tan i , เมื่อ i = 1, 2 (13) ผูวิจัยไดทําการออกแบบ TTS ขนาด 200 N·m
yi
จํ า นวน 1 ชิ้ น และยื นยั นการออกแบบโดยวิ ธี FEA
ในกรณีที่เปน Torque with cross force ระยะ
จากนั้ นได จัด สรา งชิ้ นงานตามแบบ พร อมกับ จั ด หา
กระจัดที่วัดไดจากอุปกรณวัด มุมแบบ 2 แกน จะเปน
อุปกรณรับ รูสัญญาณที่ มีหลั ก การตางกัน 3 ประเภท
ดังรูปที่ 5
แล วดํ า เนิ นการเก็ บ ผลการทดลองด วยขั้ น ตอนการ
AMM 05
ดํ าเนิน งานที่ เฉพาะเจาะจง เพื่ อให มั่น ใจว า ผลการ 1) Strain gauge เป นชนิด วัด Shear/Torsion
ทดลองดังกลาว สามารถนํามาวิเคราะหหาสมบัติทาง ของ HBM รุ น 1-XY41-6/120 ต อวงจรแบบ Full
มาตรวิ ทยา เช น การทวนซ้ํ า ได และการทํ าซ้ํ า ได bridge เพือ่ ใหได sensitivity 2 mV/V
เนื่ องจากผลของ Cross force, Zero error และ 2) Angle encoder ใชข อง Heidenhain รุน ROD
Hysteresis เปนตน หลังจากนั้นไดทําการเปรียบเทียบ 280 ที่มีความแยกชัด 0.0001°
ความสามารถในการทนต อ Cross force ในแต ละ 3) อุปกรณวัดมุมแบบ 2 แกน รุน LK-G37 ของ
ตําแหนงการวัด และการ Varied cross force ที่ 200 KEYENCE ที่มคี วามเปนเชิงเสน 0.05% of F.S. และ
N·m และสอบเทียบ TTS ที่จัดสรางขึ้น การทวนซ้ําได 0.05 µm
4.1 ออกแบบเครื่องมือวัดแรงบิด 4.4 การติดตั้งตัวรับรูสัญญาณ และวิธีการทดลอง
ผูวิจัยไดออกแบบ TTS โดยกําหนดใหสามารถรับ ลักษณะการติดตั้งตัวรับรูสัญญาณทั้ง 3 แบบเพื่อ
แรงบิดสูงสุด 200 N·m ที่ Sensitivity 1000 µStrain ทําการเก็บผลการทดลองแสดงดังรูปที่ 7, 8 และ 9
(2 mV/V) และมุมบิด 1° ลักษณะเปนเพลากลมกลวง
ขนาดเสนผานศูนยก ลางภายนอก 27.69 mm เส น
ผานศู นย ก ลางภายใน 25.00 mm และมี ค วามยาว
125 mm ดั งรู ปที่ 6 ใช ได กับ ตัวรับ รูสัญญาณทั้ง 3
แบบ เลือกเหล็ก DC53 [7] ซึ่งเปนวัสดุที่มีสมบัติใชทํา
เครื่องมือวัดที่สามารถหาไดภายในประเทศ ชุบแข็งที่
50±2 HRC

รูปที่ 7 ตําแหนงการติดตั้ง Strain gauge

รูปที่ 6 เครื่องมือวัดแรงบิด
4.2 ยืนยันการออกแบบโดยวิธี FEA
ยืนยั นความถู ก ตองโดยพิ จ ารณาถึ ง Sensitivity
และความเหมาะสมของคา Safety factor ของชิ้นงาน
ที่ออกแบบขึ้น โดยวิเคราะหการทํางานทั้งแบบ Pure
torque และ Torque with cross force รูปที่ 8 การติดตั้ง Angle encoder
คาความเคนและความเครียดวิเคราะหจากบริเวณ
ตําแหนง ที่ จะติด ตั้ ง Strain gauge ส วนค า Safety
factor วิเคราะหจากตําแหนงที่ทรานสดิวเซอรรับรูสูง
ที่สุด
4.3 อุปกรณรับรูสัญญาณ
อุปกรณรับรูสัญญาณทั้ง 3 ประเภท มีรายละเอีย ด
ดังตอไปนี้
รูปที่ 9 การติดตั้ง Laser displacement sensor
AMM 05
ทําการทดลองโดยใช Torque transfer wrench ที่ ประเมิ น ความไม แ น น อนของการวั ด ตามวิ ธี ก าร
มีความถูกตอง ±0.10% เปนมาตรฐานอางอิง กําหนด มาตรฐาน DKD-R 3-8: 2003 ”Static calibration of
ตําแหนง บนทรานสดิ วเซอร ทุก 45° ให เปน ตําแหน ง torque wrench calibration devices” [8] โดยเลือก
มุม 0°, 45°, 90°, 135°, 180°, 225°, 270° และ 315° ตํ า แหน ง การวั ด ที่ ตั ว รั บ รู สั ญ ญาณแต ล ะตั ว ทนต อ
ตามลําดับ เริ่ม เก็บขอมูลที่ Cross force กระทํากั บ Cross force ดีที่สุดเปนตําแหนงในการสอบเทียบ
ตําแหนง 0° ที่คาแรงบิด 0, 10, 20, 40, 50, 60, 80 5. ผลการทดลอง และการวิเคราะหผล
และ 100% ตามลําดับ อนุกรมการวัดแสดงดังตารางที่ ผลการทดลองแบ งออกเป น 2 ส วน คื อ ผลที่ ไ ด
1 และรูปที่ 10 เมื่อเสร็จสิ้นการวัด ของตําแหนง 0° ให จากการจําลองการทํางานโดย FEA และผลที่ไดจาก
กระทําตอจนครบทุกตําแหนงตามที่กําหนดไว และกับ การวัดจริงจากตัวรับรูสัญญาณทั้ง 3 แบบ
ตัวรับรูสัญญาณทั้ง 3 แบบ 5.1 ผลการวิเคราะหโดย FEA
ตารางที่ 1 จํานวนครั้งของอนุกรมการวัด ผลการวิ เ คราะห ยื น ยั น ความถู ก ต อ งในการ
จํานวนครั้งของอนุกรมการวัด ออกแบบแสดงดังตารางที่ 2 เมื่อพิจารณาที่ TTS แบบ
ระยะดามปกติ ระยะดามสั้นสุด Torque with cross force พบวาไดคา Sensitivity ต่ํา
ขาขึน้ ขาลง ขาขึ้น ขาลง กวาที่กําหนดไวขางตนในขอ 4.1 ประมาณ 19% เมื่อ
2 1 2 1 แปลงให อ ยู ใ นรู ป ของสั ญ ญาณทางไฟฟ า จะได
sensitivity ประมาณ 1.62034 mV/Vและไดคา Safety
factor ทีส่ ามารถโหลดเกินพิกัดไดประมาณ 32%
ตารางที่ 2 จํานวนครั้งของอนุกรมการวัด
Type of torque Pure torque Torque with
Result cross force
Stress in MPa 224.13 219.99
Micro strain 869.81 810.17
รูปที่ 10 ขั้นตอนการทดลอง Safety factor 1.39 1.32

รูปที่ 11 การติดตั้งอุปกรณในเก็บผลการทดลอง
4.5 การสอบเทียบ TTS
หลังจากการทดลองเพื่อหาความสามารถในการ
ทนตออิทธิพลของ Cross force แลว กอนนําเครื่องมือ
ที่สรางขึ้นไปใชงานจริงจะตองทํ าการสอบเทียบ และ รูปที่ 12 การวิเคราะหโดย FEA
AMM 05
รู ป ที่ 12 แสดงการจํ าลองการทํ า งาน ในการ Varied cross force พบวาในแตละตําแหนงที่ทําการ
วิเคราะหอิทธิพลของ Cross force ที่ มีตอตําแหน ง วัด ไดคาแรงบิดที่แตกตางกันมีรูปแบบเปนไซน แสดง
ตางๆ บน TTS และอิ ทธิพลของการ Varied cross ใหเห็นวาผลการวัดที่ไดสอดคลองกับผลการวิเคราะห
force บนคอมพิวเตอร โดย FEA เพียงแตคาที่ไดตางเฟสกันเทา นั้น ซึ่งเกิด
Varied cross force effect at 200 N·m จากตําแหนงในการติดตั้ง Strain gauge
240
Varied cross force effect at 200 N·m
1.580
230
Stress in MPa

Normal arm length


1.578
Minimum armlength

Torque in mV/V
1.576
220
1.574
Normal arm length
210 1.572
Varied arm length
1.570
200
1.568
0° 45° 90° 135° 180° 225° 270° 315°
1.566
Position
0° 45° 90° 135° 180° 225° 270° 315°
รูปที่ 13 ความเคน ณ ตําแหนงการวัดตางๆ ที่ Cross Position

force ปกติ และ Varied cross force รูปที่ 14 แรงบิด ณ ตําแหนงการวัดตางๆ ที่ Cross
ผลการจํ า ลองการทํ า งานดั ง รู ป ที่ 13 แสดงค า force ปกติ และ Varied cross force
ความเค น ในแต ล ะตํ า แหน ง ที่ เ กิ ด จากการจ า ยค า Varied cross force effect
0.30
แรงบิดใหกับ TTS ที่ Cross force ปกติ และ Varied
cross force ที่ตําแหนง 0° 0.20
deviation in % of rd.

การ Varied cross force กระทําโดยจ า ยแรง 0.10

สูงขึ้นเทาตัวกระทํากับระยะคานกึ่งหนึ่งของระยะปกติ 0.00

เปนการคงคาแรงบิดใหเทาเดิม จากผลดังกลาวแสดง -0.10

ใหเห็นวา Cross force ไมเพียงแตมีผลตอตําแหนงใน -0.20


การวัดเทานั้น การ Varied cross force ก็สงผลตอการ
วัดแรงบิดเชนกัน -0.30
0° 45° 90° 135° 180° 225° 270° 315°

5.2 ผลการทดลอง 40 80 100 120 160


Position
200
ผลการทดลองของตัวรับรูสัญญาณทั้ง 3 แบบ ถูก
ประเมิน ความคลาดเคลื่ อนของการวั ด เนื่ องจากการ รูปที่ 15 อิทธิพลของการ Varied cross force ตอการ
Varied cross force ดังสมการที่ (19) วัดแรงบิดโดยใช Strain gauge เปนตัวรับรูสัญญาณ
X Fnor  X F min รูปที่ 15 แสดงความคลาดเคลื่อนของการวัดที่เกิด
bF   100 (19)
X จากการ Varied cross force ประมาณ ±0.15% ที่คา
เมื่อ X Fnor และ X Fmin คือคาวัดขาขึ้น ของชุด แรงบิ ด ตั้ ง แต 20 ถึ ง 200 N·m แสดงให เ ห็ น ว า
การวัดที่ภาวะ Cross force ปกติ และภาวะ Varied เครื่ องมื อนี้ใ ช งานได ดี ที่ ตํา แหน งมุ ม 0° และ 180°
cross force ตามลําดับ เนื่องจากมีความคลาดเคลื่อนใกลศูนย
5.2.1 ตัวรับรูสัญญาณแบบ Strain gauge 5.2.2 ตัวรับรูสัญญาณแบบ Angle encoder
รู ป ที่ 14 แสดงผลการทดลองที่ ค า แรงบิ ด 200 เป น การวั ด มุ มบิ ด ของเพลาโดยตรง โดยติ ด ตั้ ง
N·m ในหน วย mV/V ที่ Cross force ปกติ และ Flexible coupling ระหวาง Angle encoder และแกน
AMM 05
การวั ด ของ TTS เพื่ อช ว ยลดผลกระทบของการ พบวาสามารถใชงานไดดีบางตําแหนง เชน ที่ตําแหนง
Misalignment แสดงผลดังรูปที่ 16 0° และ 180°
Varied cross force effect at 200 N·m 5.2.3 ตัวรับรูสัญญาณแบบ อุปกรณวัดมุมแบบ 2
0.830
แกน
0.828
การวั ด มุ มบิ ด โดยใชอุป กรณ วัด มุ มแบบ 2 แกน
Torque in degree

0.826
เปนการวัดมุมบิดโดยออม ใชการวัดระยะกระจัด ของ
0.824
การบิดแลวนํามาคํานวณเปนมุม ผลการวัดที่ไดแสดง
0.822 Normal arm length
Minimum armlength ดังรูปที่ 18 และรูปที่ 19
0.820 รู ป ที่ 18 แสดงผลการทดลองที่ ค า แรงบิ ด 200
0° 45° 90° 135° 180° 225° 270° 315°
Pos ition N·m ในหนวยองศา ที่ Cross force ปกติ และ Varied
รูปที่ 16 แรงบิด ณ ตําแหนงการวัดตางๆ ที่ Cross cross force พบวาในแตละตําแหนงที่ทําการวัด ไดคา
force ปกติ และ Varied cross force แรงบิ ดที่ มีค วามตางกันในแต ละตําแหนง การวั ด แต
รู ป ที่ 16 แสดงผลการทดลองที่ค าแรงบิ ด 200 ไดผลของ Varied cross force ที่ดี
Varied cross force effect at 200 N·m
N·m ในหนวยองศา ที่ Cross force ปกติ และ Varied -0.807

cross force พบวาในแตละตําแหนงทีท่ ําการวัด ไดคา -0.808


Torque in degree

-0.809
แรงบิดที่แตกตางกันอยางไมมีรูปแบบ -0.810

Varied cross force effect -0.811

0.60 -0.812
-0.813
Normal arm length
0.40 -0.814
Minimum armlength
deviation in % of rd.

-0.815
0.20 0° 45° 90° 135° 180° 225° 270° 315°
Pos ition
0.00
รูปที่ 18 แรงบิด ณ ตําแหนงการวัดตางๆ ที่ Cross
-0.20
force ปกติ และ Varied cross force
-0.40
Varied cross force effect
-0.60 0.60
0° 45° 90° 135° 180° 225° 270° 315°
Position 0.40
deviation in % of rd.

40 80 100 120 160 200


0.20
รูปที่ 17 อิทธิพลของการ Varied cross force ตอการ
วัดแรงบิดโดยใช AE เปนตัวรับรูสัญญาณ 0.00

-0.20
จากรูปที่ 17 พบวามีความคลาดเคลื่อนในการวัด
เนื่ อ งจากอิ ท ธิ พ ลของการ Varied cross force -0.40

ประมาณ ±0.3% ลั ก ษณะความคลาดเคลื่ อนไม มี -0.60


0° 45° 90° 135° 180° 225° 270° 315°
รู ป แบบที่ ชั ด เจนและมี ค า ค อนข า งสู ง ซึ่ ง แสดงว า Mouting position
40 80 100 120 160 200
Flexible coupling ที่ใชไมสามารถขจัด อิทธิพลของ
Cross force ได อีกทั้งเครื่องมือที่ใชมีความสามารถใน รูปที่ 19 อิทธิพลของการ Varied cross force ตอการ
การแยกชั ด ค อนข างต่ํ า เมื่ อพิ จารณาถึ ง การใช งาน วัดแรงบิดโดยใชอุปกรณวัดมุมแบบ 2 แกน
AMM 05
จากรูป ที่ 19 พบว า Cross force ไม มีผลตอ 5.4 ผลการสอบเทียบ TTS
ตําแหนงของการวัด แตมีค วามคลาดเคลื่อนของการ ผลการสอบเทียบ TTS ของตัวรั บรูสัญญาณทั้ ง
วั ด เนื่ องจากอิ ทธิ พลของการ Varied cross force สามแบบ คื อ Strain gauge, Angle encoder และ
ประมาณ ±0.15% และมีแนวโนมที่จะเปนเสนตรง ถา อุปกรณวัดมุมแบบ 2 แกน ที่ตําแหนงการวัด 0° พิสัย
ไมพิจารณาที่พิสัยการวัดต่ําๆ แสดงวา การวัด แรงบิด การวั ด 10-100% มี ค วามไม แน นนอนของการวั ด
แบบใชอุปกรณวัดมุมแบบ 2 แกน ใหคาที่มีแนวโนมที่ ±0.26%, ±0.50% และ ±0.35% ตามลําดับ ซึ่งทั้งหมด
จะเท า กั น ทุ ก ตํ า แหน ง การวั ด สามารถใช ง าน สามารถใชง านเปน Torque wrench calibrator ได
ทรานสดิวเซอรที่มุมใดก็ได จะใหคาความคลาดเคลื่อน อยางเหมาะสมเปนไปตามข อกํ าหนดของมาตรฐาน
เทากัน ทําใหไมจําเปนตองกําหนดตําแหนงในการใช ISO 6789: 2005(E) “Assembly tools for screws
งานตายตัว อีกทั้ งยังอาจนํา คาแกไปใช ชดเชยความ and nuts-Hand tools-Requirements and test
คลาดเคลื่อนไดอีกดวย methods for design conformance testing and
5.3 การเปรียบเทียบผลการทดลอง recalibration procedure” ที่ รองขอความไมแนนอน
จากรูปที่ 20 แสดงใหเห็นถึงความสามารถในการ ของการวัดของเครื่องมือมาตรฐานตองไมเกิน ±1.0%
ลดผลกระทบของ Cross force ที่มีตอสัญญาณแรงบิด 6. สรุปผลการทดลอง
ของตัวรับรูสัญญาณทั้ง 3 ประเภท ที่แรงบิด 200 N·m 1) วิธีการวิเคราะหสมบัติข องวัสดุโดยระเบียบวิธี
เนื่องจาก Strain gauge สามารถรับรูสัญญาณทุก ไฟไนต เอลิ เมนต ให ผ ลที่ เชื่อถื อได สามารถนํา มาใช
ทิศ ทุ ก ทาง ทํ าใหไ มสามารถแยกแยะระหว างแรงที่ ทวนสอบผลการคํ า นวณ และออกแบบเครื่ องมื อวั ด
กระทํ า กั บ แรงบิ ด ได มีค วามคลาดเคลื่ อน ±0.14% แรงบิดไดเปนอยางดี
สวน Angle encoder ยังคงตองตอรวมกับแกนวัดของ 2) เครื่องมือวัด แรงบิดที่ใช Strain gauge เปนตัว
TTS จึ งได รับ แรงที่ ก ระทํ าด วย แม จ ะลดทอนด ว ย รั บ รู สั ญ ญาณ ในการใช ง านกั บ เครื่ อ งมื อประเภท
Flexible coupling ก็ ต าม มี ค วามคลาดเคลื่ อ น ประแจ จําเปนตองกํ าหนดตํ าแหน งในการใชงานให
±0.20% แต อุป กรณ วั ด มุ ม แบบ 2 แกน ถู ก นํ า ตรงกับตําแหนงที่ถูกสอบเทียบ
สัญญาณมาคํานวณ และกําจัดการเปลี่ยนแปลงแบบ 3) วิธีการวัด มุมโดย Angle encoder สามารถใช
เชิงเส นที่เกิด จาก Cross force ออก ใหคงเหลือแต สรา งเครื่ องมือวั ดแรงบิด ได โดยใหค าอยู ในเกณฑ ที่
การเปลี่ ยนแปลงเชิ งมุ มเท านั้ นที่ นํามาเป นสั ญญาณ ยอมรับได แตถามีเครื่องมือวัดมุมที่มีความละเอีย ดสูง
แรงบิด ทําใหมีความคลาดเคลื่อนนอยที่สุดที่ ±0.04% และ Flexible coupling ที่ดีก วาที่มีก็จะสามารถใหผล
Varied cross force effect at 200 N·m การวัดที่ดีขึ้น
0.60
4) วิธีก ารวั ดมุ มโดยอุ ป กรณ วัด มุมแบบ 2 แกน
deviation in % of rd.

0.40

0.20
สามารถใชสรา งเครื่ องมือวัด แรงบิด ได โดยใหค วาม
0.00 คลาดเคลื่อนเนื่องจากผลของ Cross force เทาๆ กัน
-0.20 ทุกตําแหนงการวัด และมี แนวโนมที่จะสามารถใชค า
-0.40 แกชดเชยความคลาดเคลื่อนนี้ได โดยที่ค วามถูก ตอง
-0.60
0° 45° 90° 135° 180° 225° 270° 315°
ของเครื่องมือตนแบบจะสูงขึ้นถาใชอุปกรณวัดมุมแบบ
Mouting position 2 แกน ที่มีความสามารถในการทวนซ้ําไดข องการวัด
Srain gauge Angle encoder Coordinate measurement sy stem
ดีกวา ±0.05 µm และความถูกตองดีกวา ±0.1 µm
รูปที่ 20 อิทธิพลของการ Varied cross force ตอการ 5) ตั วรั บ รู สัญญาณที่ มี ค วามคลาดเคลื่อนตาม
วัดแรงบิดของตัวรับรูสัญญาณทั้ง 3 ประเภท ปริมาณแรง และตํา แหนง มุมที่แ รงกระทําบนแกนรั บ
AMM 05
แรงบิ ด น อ ยที่ สุ ด คื อ อุ ป กรณ วั ด มุ ม แบบ 2 แกน [5] Brüge, A., (1997). Influence of Rotation on
เหมาะสมที่ จะใช เป นเครื่ องมือมาตรฐานในการสอบ Rotary Torque Transducers Calibrated without
เที ย บเครื่ อ งมื อ ประเภทประแจมากที่ สุ ด และมี Rotation, Proceedings of the XIVth IMEKO World
แนวโน มที่ จะสามารถพั ฒ นาให มีค วามถู ก ต อ ง และ Congress, June 1-6, 1997, Tampere, Finland, vol.
แมนยําสูงขึ้น III, pp. 79-84.
6) เครื่องมือวัดแรงบิดที่จัดสรางขึ้นโดยใชตัวรับรู [6] Wegener, G., Bruns, T., (2002). Use of
สั ญญาณทั้ ง 3 แบบ สามารถนํ าไปใช งานได จ ริ ง ใน Reference Torque Transducers for the On-Site
ระดับมาตรฐานถายทอด และมาตรฐานขั้นใชงาน เพื่อ Calibration of Rotating Torque Transducers in
ใหบ ริ ก ารถ า ยทอดความถู ก ต องของการวั ด แรงบิ ด Power Test Stands, Proc. of 18th int. Conf.
และสามารถใชเปนแนวทางในการพัฒนาตอๆ ไป IMEKO TC3, Celle, Germany, pp. 425-432.
7. กิตติกรรมประกาศ
[7] International Mold Steel DC53 General-
ขอขอบคุณ สํานักงานคณะกรรมการวิจัยแหงชาติ
แล ะสถ า บั น ม า ต รวิ ท ย า แห งช า ติ ที่ สนั บ สนุ น Purpose Cold Work Die and Mold Steel,
งบประมาณในการทําวิจัย www.matweb.com, access on 08/01/2010.
8. เอกสารอางอิง [8] The technical committee Force, Pressure,
[1] Peschel, D., (1993). Mechanical Parasitic Mass of the German Calibration Service
Components and Their Influence on the (Deutscher Kalibrierdienst-DKD) in Cooperation
Calibration of Torque Transducers, Proceedings with the Physikalisch-Technische Bundesanstalt
of the 13th IMEKO TC3 Conference, May 10-14, (PTB), DKD-R 3-8, (2003). Static calibration of
1993, Helsinki, Finland, pp. 91-96. torque transfer wrenches, Braunschweig, August
2003.
[2] Brüge, A., (1996). Influence of Eccentric
Mounting on the Calibration of Torque Measuring [9] Technical Committee ISO/TC 29, Small tools,
Devices, 15th IMEKO TC3 Conference, Madrid, Subcommittee SC 10, Assembly tools for screw
Spain, October 7-11 1996, pp. 255-259. and nuts, pliers and nippers., (2003). ISO 6789:
Assembly tools for screws and nuts-Hand tools-
[3] Brüge, A., Peschel, D. and Röske, D., (2000).
Requirements and test methods for design
The Influence of Misalignment on Torque
conformance testing and recalibration procedure,
Transducers, Proceedings of the XVIth IMEKO
3rd edition, Geneva, Switzerland.
World Congress, September 25-28, 2000, Vienna,
Austria, vol. III, pp. 13-17.
[4] Peschel, D. and Röske, D., (1999).
Determination of Creep Value Using Short-Term
Creep, Proceedings of the XVth IMEKO World
Congress, June 13-18, 1999, Osaka, Japan, vol.
III, pp. 245-249.

You might also like