Professional Documents
Culture Documents
New Prototype of Torque Transducer by Direct Measurement of Deformed Angle. Amm05
New Prototype of Torque Transducer by Direct Measurement of Deformed Angle. Amm05
New Prototype of Torque Transducer by Direct Measurement of Deformed Angle. Amm05
การประชุมวิชาการเครือขายวิศวกรรมเครื่องกลแหงประเทศไทย ครั้งที่ 24
20-22 ตุลาคม 2553 จังหวัดอุบลราชธานี
ตนแบบเครื่องวัดแรงบิดแบบใหม โดยใชหลักการวัดมุมที่เปลี่ยนรูปไป
New Prototype of Torque Transducer by Direct Measurement of Deformed Angle
1
หองปฏิบัติการแรงบิด ฝายมาตรวิทยาเชิงกล สถาบันมาตรวิทยาแหงชาติ
3/4-5 หมูที่ 3 ต.คลองหา อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120
*ติดตอ: E-mail: nattapon@nimt.or.th, โทรศัพท: 025 775 100 ตอ 2238, โทรสาร: 025 775 095
บทคัดยอ
บทความนี้นําเสนอการศึกษา ออกแบบ และสรางเครื่องมือวัดแรงบิดตนแบบที่ใชห ลัก การวัดมุมที่เปลี่ยน
รูปไปโดยตรง มีวัตถุประสงคเพื่อลดผลกระทบจากปริมาณแรง ที่ปะปนมากับปริมาณแรงบิดที่ถูกวัด โดยเฉพาะ
อยางยิ่งแรงบิดที่ไดจากเครือ่ งมือประเภทประแจ ตัวแกนวัดแรงบิดถูกออกแบบใหรับแรงบิดสูงสุด 200 N·m ติดตั้ง
อุปกรณรับรูสัญญาณแรงบิด 3 แบบ คือ Strain gauge, อุป กรณวัดมุมแบบ Angle encoder และอุปกรณวัด มุม
แบบ 2 แกน (Coordinate measurement system) โดยที่ความเหมาะสมในการออกแบบถูกยืนยันดวยระเบียบวิธี
ไฟไนตเอลิเมนต
ผลการทดลองพบวาสัญญาณจาก Strain gauge มีค วามเบี่ย งเบนตามปริมาณแรงและตําแหนงมุมที่แรง
กระทําบนแกนรับแรงบิด ±0.15% สอดคลองกับผลการจําลองการทํางานโดยระเบีย บวิธี FEA ในขณะที่สัญญาณ
จากอุปกรณวัดมุมแบบ Angle encoder มีความเบี่ยงเบนตามปริมาณแรงและตําแหนงมุมที่แรงกระทําบนแกนรับ
แรงบิด ±0.30% สวนสั ญญาณจากระบบวัด 2 แกน มีความเบี่ ยงเบนตามปริ มาณแรง ±0.15% แต ไมมี ผลต อ
ตําแหนงมุมที่แรงกระทําบนแกนรับแรงบิด ความถูกตองของเครื่องมือวัด ตนแบบถูก ประเมินทางมาตรวิทยา โดย
การสอบเทียบตามมาตรฐาน DKD-R 3-8: 2003 โดยใช Torque transfer wrench ที่มีความถูกตอง ±0.10% เปน
มาตรฐานอางอิง ซึ่งจากผลการสอบเทีย บพบวาเครื่องมือวัดตนแบบมีความถูก ตองอยูที่ ±0.50% สามารถใชงาน
เปน torque wrench calibrator ไดอยางเหมาะสม ซึ่งความถูก ตองของเครื่องมือตนแบบจะสูงขึ้นถาใชอุป กรณวัด
มุมแบบ 2 แกน ที่มีความสามารถในการทวนซ้ําไดของการวัด (Repeatability) ดีกวา ±0.05 µm และความถูก ตอง
ดีกวา ±0.1 µm
คําหลัก: มาตรวิทยา, เครื่องมือวัดแรงบิด, มุมบิด, ระเบียบวิธไี ฟไนตเอลิเมนต
Abstract
This paper studies, designs, and invents the prototype of torque transducer using the direct
measurement of the deformed angle. The purpose is to reduce the influence of parasitic force in the
torque measurement of wrench types. The maximum capacity of the torque transducer is designed to 200
N.m. The three sensing elements, including the strain gauge, the angle encoder, and the coordinate
AMM 05
measurement system, are applied to use with the transducer. The design is optimized using the finite
element analysis (FEA).
The experimental results, which are supported by the FEA simulation methods, show that the
±0.15% deviation of the strain gauge signal is varied by the quantity and act of force position on the
torque axis. The deviation of the signal from angle encoder is varied by the quantity and act of force
position on the torque axis ± 0.25%. The deviation of signal from the coordinate measurement system is
varied by the quantity of force ± 0.15%, but it does not affect the position of force that acts on the torque
axis. The accuracy of the prototype model is metrologically evaluated by the standard calibration method
DKD-R 3-8: 2003 using the torque transfer wrench with the ± 0.10% accuracy. Based on the calibration
results, the accuracy is ± 0.50% and can be used as the torque wrench calibrator properly. The accuracy
of the prototype equipment will rise if the 2-axis angle measurement device has the repeatability that is
better than ± 0.05 µm and the accuracy that is better than ± 0.1 µm.
Keywords: Metrology, Torque measuring device, Torsional angle and Finite element
1. บทนํา แวดลอมที่ใชในการสอบเทียบกับสถานที่ในการใชงาน
เครื่องมือวัดแรงบิด (Torque transducer, TTS) จริ ง มี ง านวิ จั ย ที่ มี ก ารนํ า เอา Reference torque
ในป จจุ บั น ใช ห ลั ก การวั ด การเปลี่ ย นรูป ไปของวั ส ดุ transducer ไปใชในการสอบเทียบนอกสถานที่ใหกับ
นิย มใช Strain gauge เป นตัวรั บ รูสัญญาณ เพื่ อ Rotating torque transducer ในเครื่อง Power test
สะทอนสมบัติทางกลของวั สดุโดยการแปลงพลั งงาน stand [6] ซึ่งผลของงานวิจัยทั้งหมดขางตนพบวาการ
กลใหเปน พลั ง งานทางไฟฟ า มี สมบัติ ค วามเปนเชิ ง วัด แรงบิด ไดรับ ผลกระทบจาก ทั้งสมบัติ ของตัววัสดุ
เส นสู ง และสามารถรั บ รู ค วามเครี ย ด ได ใ นระดั บ เอง และปจจัยภายนอกดังสิ่งที่กลาวมาแลวขางตน
ไมครอน แตมีความไวตออุณหภูมิและความชื้นสูง ทั้ง เพื่อการหลีกเลี่ยงและลดอิทธิพลจากปจจัยทางกล
ยั งรั บ รู ป ริ มาณอื่ นๆ ที่ ป ะปนเข ามาในระบบการวั ด ตางๆ ที่จะเขามากระทบตอระบบการวัดแรงบิด จนทํา
เชน Axial forces, Bending moments และ Lateral ให เ กิ ด ความคลาดเคลื่ อ นในการวั ด ขึ้ น ดั ง นั้ น ใน
forces เป นต น ซึ่ ง ปริ ม าณเหล า นี้ ทํ า ให เกิ ด ความ งานวิจัยนี้จึงนําเสนอการศึกษาและออกแบบเครื่องมือ
คลาดเคลื่อนในการวัดแรงบิด ดังนั้นเพื่อความถูกตอง วัดแรงบิดที่มีคุณสมบัติทนตอปริมาณที่เขามารบกวน
จึ ง จํ า เป น ต องมี ก ารชดเชยปริ ม าณต า งๆ ที่ เ ข า มา และสามารถชดเชยอิทธิพลของ Cross force ที่ทําให
กระทบ เกิด Bending moment ในการวัดแรงบิดของเครื่องมือ
ในงานวิจัยที่ผานมา มีการศึกษาและวิเคราะหถึง ประเภทประแจ เครื่องมือที่ออกแบบขึ้นอาศัย หลัก การ
อิทธิพลตางที่สงผลกระทบตอการสอบเทียบ Torque วัดมุมบิดของวัสดุที่ถูกบิดไปโดยตรงดวยเครื่องมือวัด
transducer [1-4] ทั้งที่เกิดจากสมบัติของวัสดุเอง และ มุมความละเอี ยดสูง ที่ ไม มีผลจากอิทธิพลของความ
ปจจัยภายนอก อาทิเชน ผลจาก Eccentric mounting แตกตางของสภาวะแวดลอมที่ทําการวัด
และการ Misalignment ในการติดตั้ง ที่ปะปนมากับคา รูปที่ 1 แสดงการบิดที่เกิดจากการใหแรงกระทําที่
แรงบิดที่วัดได รวมถึงการพิจารณาถึงอิทธิพลของการ ระยะหนึ่ ง ของคานทํ า ให เ กิ ด การบิ ด และปริ ม าณ
หมุนโดยรอบของ Rotary torque transducer ที่ถูก Cross force กระทํากับแกนเพลา
สอบเทียบแบบสถิต (Static) [5] และในสวนของการ
พิจารณาถึงอิทธิพลของความแตกตางระหวางสภาวะ
AMM 05
curve
เนื่องจากมุ ม บิ ด เปน radian ดั ง นั้ น
Cross force radius
curve AB R L
R
(1)
L
τ
Torque Force จากนิยามของโมดูลัสเฉือน G
γ
τ
γ (2)
G
Rθ τ
ใหสมการ (1) และ (2) เทากัน ดังนั้น
รูปที่ 1 Torque with cross force L G
τ Gθ τ '
2. ทฤษฎีพื้นฐาน (3)
R L r
โหลดที่กระทําตั้งฉากกับแกนลักษณะหนึ่งคือ การ เมื่อ τ ' เปนความเคนเฉือนที่รัศมี r ใดๆ คา G
บิด โดยที่ตัวอยางของชิ้นงานที่รับโหลดในลักษณะนี้ คือ โมดูลัสเฉือน มีหนวยเปน N/m2 และ คือ ความ
เชน เพลา อาจจะเปนเพลากลมตัน (Solid) หรือเพลา เคนเฉือน มีหนวยเปน N/m2
กลมกลวง (Hollow) ขนาดเสนผานศูนยก ลางเทากัน 2.2 แรงบิดและโมเมนตความเฉื่อย
ตลอดอยูภายใตการบิด ทุกๆ ภาคตัดของเพลาจะอยู พิจารณา Element บนภาคตัดเพลา ที่อยูที่รัศ มี
ภายใต ก ารเฉื อน ขณะที่ เพลาบิ ด ไปจะมี โมเมนต r และหนา dr ดังรูปที่ 3
ตานทานตอการบิด เนื่องจากความเคนเฉือนบนเพลา
โมเมนตตานทานนี้จะมีคาเทากันตลอดความยาวเพลา
และมี ทิศ ทางตรงข า มกั บ โมเมนต บิด หรื อ แรงบิ ด ที่
กระทํากับเพลา
2.1 มุมบิด
พิจารณาเพลากลมตันรัศมี R อยูภายใตแรงบิด T
รูปที่ 3 ภาคตัดเพลา
ที่ปลายขางหนึ่ง สวนปลายอีกขางหนึ่งยึดแนนดังรูปที่
2 ผลจากแรงบิดนี้ทําใหเสนรัศมีที่ปลายอิสระของเพลา ความเคนเฉือนบน Element นี้คือ τ ' และแรงบน
บิดไปเปนมุมเรเดีย น จุด A เลื่อนไปอยูที่ B และ AB Element นี้คือ dF τ ' 2πr dr แรงนี้จะทําใหเกิด
รองรั บ มุ มที่ ป ลายยึ ด แน น ดั ง นั้ นจึ งเป นมุ ม ที่ โมเมนต รอบจุด ศูน ยกลางเพลา ซึ่ งทําให เกิ ดแรงบิ ด
เป ลี่ ย นแป ล งต ามแนวยาว ของเพลา ซึ่ งก็ คื อ dT dF r τ ' 2πr dr r 2πτ ' r 2 dr แต
ความเครียดเฉือนของเพลา เนื่องจากความเคนเฉือน มีคาเปลี่ยนแปลงไปตามรัศมี
r ดังนั้นจะตองเปลี่ยนรูป τ ' ใหอยูในรูปของ r โดย
Gθ
ใชสมการที่ (3) τ' r ไดสมการแรงบิด
L
R R
Gθ 3 Gθ
T 2π r dr 2πr 3 dr (4)
0
L L 0
R
โดยที่เทอม 2πr 3 dr นี้คือ โมเมนตค วามเฉื่อย
0
y 1
สมบู รณ ในการให สัญญาณ และกํา หนดให คา ชดเชย ให x1,T = x2,T = xT จากนั้นนําสมการที่ (15) ตั้ง
x1 และ x 2 เปน
ลบดวยสมการที่ (14) จะได
x2 x1
x1 x x1 (9) xCF (16)
2
x 2 x x 2 (10) และเมื่อนําสมการที่ (14) บวกดวยสมการที่ (15)
จากสมการที่ (7), (8) และสมการที่ (9), (10) จะ จะได
ไดสมการ x1 x 2
x1' x1 x1 (11) xT (17)
2
'
x 2 x 2 x 2 (12) ดังนั้นสามารถหามุมที่บิดไปไดดัง สมการที่ (18)
คา ที่วั ดไดจากอุป กรณวัด มุ มแบบ 2 แกน เป น เมื่อ y1 = y2 = y
ระยะกระจัด x1 และ x2 ดังรูปที่ 4 สวน y1 และ y2 เปน xT
จาก tan
ระยะที่ ถูก กํ าหนด ดังนั้น สามารถหามุมที่ บิด ไปของ y
เครื่องมือวัดแรงบิดไดดังสมการที่ (13) x
a tan T (18)
xi y
จาก tan i
yi
4. ขั้นตอนการดําเนินงาน
x
i a tan i , เมื่อ i = 1, 2 (13) ผูวิจัยไดทําการออกแบบ TTS ขนาด 200 N·m
yi
จํ า นวน 1 ชิ้ น และยื นยั นการออกแบบโดยวิ ธี FEA
ในกรณีที่เปน Torque with cross force ระยะ
จากนั้ นได จัด สรา งชิ้ นงานตามแบบ พร อมกับ จั ด หา
กระจัดที่วัดไดจากอุปกรณวัด มุมแบบ 2 แกน จะเปน
อุปกรณรับ รูสัญญาณที่ มีหลั ก การตางกัน 3 ประเภท
ดังรูปที่ 5
แล วดํ า เนิ นการเก็ บ ผลการทดลองด วยขั้ น ตอนการ
AMM 05
ดํ าเนิน งานที่ เฉพาะเจาะจง เพื่ อให มั่น ใจว า ผลการ 1) Strain gauge เป นชนิด วัด Shear/Torsion
ทดลองดังกลาว สามารถนํามาวิเคราะหหาสมบัติทาง ของ HBM รุ น 1-XY41-6/120 ต อวงจรแบบ Full
มาตรวิ ทยา เช น การทวนซ้ํ า ได และการทํ าซ้ํ า ได bridge เพือ่ ใหได sensitivity 2 mV/V
เนื่ องจากผลของ Cross force, Zero error และ 2) Angle encoder ใชข อง Heidenhain รุน ROD
Hysteresis เปนตน หลังจากนั้นไดทําการเปรียบเทียบ 280 ที่มีความแยกชัด 0.0001°
ความสามารถในการทนต อ Cross force ในแต ละ 3) อุปกรณวัดมุมแบบ 2 แกน รุน LK-G37 ของ
ตําแหนงการวัด และการ Varied cross force ที่ 200 KEYENCE ที่มคี วามเปนเชิงเสน 0.05% of F.S. และ
N·m และสอบเทียบ TTS ที่จัดสรางขึ้น การทวนซ้ําได 0.05 µm
4.1 ออกแบบเครื่องมือวัดแรงบิด 4.4 การติดตั้งตัวรับรูสัญญาณ และวิธีการทดลอง
ผูวิจัยไดออกแบบ TTS โดยกําหนดใหสามารถรับ ลักษณะการติดตั้งตัวรับรูสัญญาณทั้ง 3 แบบเพื่อ
แรงบิดสูงสุด 200 N·m ที่ Sensitivity 1000 µStrain ทําการเก็บผลการทดลองแสดงดังรูปที่ 7, 8 และ 9
(2 mV/V) และมุมบิด 1° ลักษณะเปนเพลากลมกลวง
ขนาดเสนผานศูนยก ลางภายนอก 27.69 mm เส น
ผานศู นย ก ลางภายใน 25.00 mm และมี ค วามยาว
125 mm ดั งรู ปที่ 6 ใช ได กับ ตัวรับ รูสัญญาณทั้ง 3
แบบ เลือกเหล็ก DC53 [7] ซึ่งเปนวัสดุที่มีสมบัติใชทํา
เครื่องมือวัดที่สามารถหาไดภายในประเทศ ชุบแข็งที่
50±2 HRC
รูปที่ 6 เครื่องมือวัดแรงบิด
4.2 ยืนยันการออกแบบโดยวิธี FEA
ยืนยั นความถู ก ตองโดยพิ จ ารณาถึ ง Sensitivity
และความเหมาะสมของคา Safety factor ของชิ้นงาน
ที่ออกแบบขึ้น โดยวิเคราะหการทํางานทั้งแบบ Pure
torque และ Torque with cross force รูปที่ 8 การติดตั้ง Angle encoder
คาความเคนและความเครียดวิเคราะหจากบริเวณ
ตําแหนง ที่ จะติด ตั้ ง Strain gauge ส วนค า Safety
factor วิเคราะหจากตําแหนงที่ทรานสดิวเซอรรับรูสูง
ที่สุด
4.3 อุปกรณรับรูสัญญาณ
อุปกรณรับรูสัญญาณทั้ง 3 ประเภท มีรายละเอีย ด
ดังตอไปนี้
รูปที่ 9 การติดตั้ง Laser displacement sensor
AMM 05
ทําการทดลองโดยใช Torque transfer wrench ที่ ประเมิ น ความไม แ น น อนของการวั ด ตามวิ ธี ก าร
มีความถูกตอง ±0.10% เปนมาตรฐานอางอิง กําหนด มาตรฐาน DKD-R 3-8: 2003 ”Static calibration of
ตําแหนง บนทรานสดิ วเซอร ทุก 45° ให เปน ตําแหน ง torque wrench calibration devices” [8] โดยเลือก
มุม 0°, 45°, 90°, 135°, 180°, 225°, 270° และ 315° ตํ า แหน ง การวั ด ที่ ตั ว รั บ รู สั ญ ญาณแต ล ะตั ว ทนต อ
ตามลําดับ เริ่ม เก็บขอมูลที่ Cross force กระทํากั บ Cross force ดีที่สุดเปนตําแหนงในการสอบเทียบ
ตําแหนง 0° ที่คาแรงบิด 0, 10, 20, 40, 50, 60, 80 5. ผลการทดลอง และการวิเคราะหผล
และ 100% ตามลําดับ อนุกรมการวัดแสดงดังตารางที่ ผลการทดลองแบ งออกเป น 2 ส วน คื อ ผลที่ ไ ด
1 และรูปที่ 10 เมื่อเสร็จสิ้นการวัด ของตําแหนง 0° ให จากการจําลองการทํางานโดย FEA และผลที่ไดจาก
กระทําตอจนครบทุกตําแหนงตามที่กําหนดไว และกับ การวัดจริงจากตัวรับรูสัญญาณทั้ง 3 แบบ
ตัวรับรูสัญญาณทั้ง 3 แบบ 5.1 ผลการวิเคราะหโดย FEA
ตารางที่ 1 จํานวนครั้งของอนุกรมการวัด ผลการวิ เ คราะห ยื น ยั น ความถู ก ต อ งในการ
จํานวนครั้งของอนุกรมการวัด ออกแบบแสดงดังตารางที่ 2 เมื่อพิจารณาที่ TTS แบบ
ระยะดามปกติ ระยะดามสั้นสุด Torque with cross force พบวาไดคา Sensitivity ต่ํา
ขาขึน้ ขาลง ขาขึ้น ขาลง กวาที่กําหนดไวขางตนในขอ 4.1 ประมาณ 19% เมื่อ
2 1 2 1 แปลงให อ ยู ใ นรู ป ของสั ญ ญาณทางไฟฟ า จะได
sensitivity ประมาณ 1.62034 mV/Vและไดคา Safety
factor ทีส่ ามารถโหลดเกินพิกัดไดประมาณ 32%
ตารางที่ 2 จํานวนครั้งของอนุกรมการวัด
Type of torque Pure torque Torque with
Result cross force
Stress in MPa 224.13 219.99
Micro strain 869.81 810.17
รูปที่ 10 ขั้นตอนการทดลอง Safety factor 1.39 1.32
รูปที่ 11 การติดตั้งอุปกรณในเก็บผลการทดลอง
4.5 การสอบเทียบ TTS
หลังจากการทดลองเพื่อหาความสามารถในการ
ทนตออิทธิพลของ Cross force แลว กอนนําเครื่องมือ
ที่สรางขึ้นไปใชงานจริงจะตองทํ าการสอบเทียบ และ รูปที่ 12 การวิเคราะหโดย FEA
AMM 05
รู ป ที่ 12 แสดงการจํ าลองการทํ า งาน ในการ Varied cross force พบวาในแตละตําแหนงที่ทําการ
วิเคราะหอิทธิพลของ Cross force ที่ มีตอตําแหน ง วัด ไดคาแรงบิดที่แตกตางกันมีรูปแบบเปนไซน แสดง
ตางๆ บน TTS และอิ ทธิพลของการ Varied cross ใหเห็นวาผลการวัดที่ไดสอดคลองกับผลการวิเคราะห
force บนคอมพิวเตอร โดย FEA เพียงแตคาที่ไดตางเฟสกันเทา นั้น ซึ่งเกิด
Varied cross force effect at 200 N·m จากตําแหนงในการติดตั้ง Strain gauge
240
Varied cross force effect at 200 N·m
1.580
230
Stress in MPa
Torque in mV/V
1.576
220
1.574
Normal arm length
210 1.572
Varied arm length
1.570
200
1.568
0° 45° 90° 135° 180° 225° 270° 315°
1.566
Position
0° 45° 90° 135° 180° 225° 270° 315°
รูปที่ 13 ความเคน ณ ตําแหนงการวัดตางๆ ที่ Cross Position
force ปกติ และ Varied cross force รูปที่ 14 แรงบิด ณ ตําแหนงการวัดตางๆ ที่ Cross
ผลการจํ า ลองการทํ า งานดั ง รู ป ที่ 13 แสดงค า force ปกติ และ Varied cross force
ความเค น ในแต ล ะตํ า แหน ง ที่ เ กิ ด จากการจ า ยค า Varied cross force effect
0.30
แรงบิดใหกับ TTS ที่ Cross force ปกติ และ Varied
cross force ที่ตําแหนง 0° 0.20
deviation in % of rd.
สูงขึ้นเทาตัวกระทํากับระยะคานกึ่งหนึ่งของระยะปกติ 0.00
0.826
เปนการวัดมุมบิดโดยออม ใชการวัดระยะกระจัด ของ
0.824
การบิดแลวนํามาคํานวณเปนมุม ผลการวัดที่ไดแสดง
0.822 Normal arm length
Minimum armlength ดังรูปที่ 18 และรูปที่ 19
0.820 รู ป ที่ 18 แสดงผลการทดลองที่ ค า แรงบิ ด 200
0° 45° 90° 135° 180° 225° 270° 315°
Pos ition N·m ในหนวยองศา ที่ Cross force ปกติ และ Varied
รูปที่ 16 แรงบิด ณ ตําแหนงการวัดตางๆ ที่ Cross cross force พบวาในแตละตําแหนงที่ทําการวัด ไดคา
force ปกติ และ Varied cross force แรงบิ ดที่ มีค วามตางกันในแต ละตําแหนง การวั ด แต
รู ป ที่ 16 แสดงผลการทดลองที่ค าแรงบิ ด 200 ไดผลของ Varied cross force ที่ดี
Varied cross force effect at 200 N·m
N·m ในหนวยองศา ที่ Cross force ปกติ และ Varied -0.807
-0.809
แรงบิดที่แตกตางกันอยางไมมีรูปแบบ -0.810
0.60 -0.812
-0.813
Normal arm length
0.40 -0.814
Minimum armlength
deviation in % of rd.
-0.815
0.20 0° 45° 90° 135° 180° 225° 270° 315°
Pos ition
0.00
รูปที่ 18 แรงบิด ณ ตําแหนงการวัดตางๆ ที่ Cross
-0.20
force ปกติ และ Varied cross force
-0.40
Varied cross force effect
-0.60 0.60
0° 45° 90° 135° 180° 225° 270° 315°
Position 0.40
deviation in % of rd.
-0.20
จากรูปที่ 17 พบวามีความคลาดเคลื่อนในการวัด
เนื่ อ งจากอิ ท ธิ พ ลของการ Varied cross force -0.40
0.40
0.20
สามารถใชสรา งเครื่ องมือวัด แรงบิด ได โดยใหค วาม
0.00 คลาดเคลื่อนเนื่องจากผลของ Cross force เทาๆ กัน
-0.20 ทุกตําแหนงการวัด และมี แนวโนมที่จะสามารถใชค า
-0.40 แกชดเชยความคลาดเคลื่อนนี้ได โดยที่ค วามถูก ตอง
-0.60
0° 45° 90° 135° 180° 225° 270° 315°
ของเครื่องมือตนแบบจะสูงขึ้นถาใชอุปกรณวัดมุมแบบ
Mouting position 2 แกน ที่มีความสามารถในการทวนซ้ําไดข องการวัด
Srain gauge Angle encoder Coordinate measurement sy stem
ดีกวา ±0.05 µm และความถูกตองดีกวา ±0.1 µm
รูปที่ 20 อิทธิพลของการ Varied cross force ตอการ 5) ตั วรั บ รู สัญญาณที่ มี ค วามคลาดเคลื่อนตาม
วัดแรงบิดของตัวรับรูสัญญาณทั้ง 3 ประเภท ปริมาณแรง และตํา แหนง มุมที่แ รงกระทําบนแกนรั บ
AMM 05
แรงบิ ด น อ ยที่ สุ ด คื อ อุ ป กรณ วั ด มุ ม แบบ 2 แกน [5] Brüge, A., (1997). Influence of Rotation on
เหมาะสมที่ จะใช เป นเครื่ องมือมาตรฐานในการสอบ Rotary Torque Transducers Calibrated without
เที ย บเครื่ อ งมื อ ประเภทประแจมากที่ สุ ด และมี Rotation, Proceedings of the XIVth IMEKO World
แนวโน มที่ จะสามารถพั ฒ นาให มีค วามถู ก ต อ ง และ Congress, June 1-6, 1997, Tampere, Finland, vol.
แมนยําสูงขึ้น III, pp. 79-84.
6) เครื่องมือวัดแรงบิดที่จัดสรางขึ้นโดยใชตัวรับรู [6] Wegener, G., Bruns, T., (2002). Use of
สั ญญาณทั้ ง 3 แบบ สามารถนํ าไปใช งานได จ ริ ง ใน Reference Torque Transducers for the On-Site
ระดับมาตรฐานถายทอด และมาตรฐานขั้นใชงาน เพื่อ Calibration of Rotating Torque Transducers in
ใหบ ริ ก ารถ า ยทอดความถู ก ต องของการวั ด แรงบิ ด Power Test Stands, Proc. of 18th int. Conf.
และสามารถใชเปนแนวทางในการพัฒนาตอๆ ไป IMEKO TC3, Celle, Germany, pp. 425-432.
7. กิตติกรรมประกาศ
[7] International Mold Steel DC53 General-
ขอขอบคุณ สํานักงานคณะกรรมการวิจัยแหงชาติ
แล ะสถ า บั น ม า ต รวิ ท ย า แห งช า ติ ที่ สนั บ สนุ น Purpose Cold Work Die and Mold Steel,
งบประมาณในการทําวิจัย www.matweb.com, access on 08/01/2010.
8. เอกสารอางอิง [8] The technical committee Force, Pressure,
[1] Peschel, D., (1993). Mechanical Parasitic Mass of the German Calibration Service
Components and Their Influence on the (Deutscher Kalibrierdienst-DKD) in Cooperation
Calibration of Torque Transducers, Proceedings with the Physikalisch-Technische Bundesanstalt
of the 13th IMEKO TC3 Conference, May 10-14, (PTB), DKD-R 3-8, (2003). Static calibration of
1993, Helsinki, Finland, pp. 91-96. torque transfer wrenches, Braunschweig, August
2003.
[2] Brüge, A., (1996). Influence of Eccentric
Mounting on the Calibration of Torque Measuring [9] Technical Committee ISO/TC 29, Small tools,
Devices, 15th IMEKO TC3 Conference, Madrid, Subcommittee SC 10, Assembly tools for screw
Spain, October 7-11 1996, pp. 255-259. and nuts, pliers and nippers., (2003). ISO 6789:
Assembly tools for screws and nuts-Hand tools-
[3] Brüge, A., Peschel, D. and Röske, D., (2000).
Requirements and test methods for design
The Influence of Misalignment on Torque
conformance testing and recalibration procedure,
Transducers, Proceedings of the XVIth IMEKO
3rd edition, Geneva, Switzerland.
World Congress, September 25-28, 2000, Vienna,
Austria, vol. III, pp. 13-17.
[4] Peschel, D. and Röske, D., (1999).
Determination of Creep Value Using Short-Term
Creep, Proceedings of the XVth IMEKO World
Congress, June 13-18, 1999, Osaka, Japan, vol.
III, pp. 245-249.