Download as docx, pdf, or txt
Download as docx, pdf, or txt
You are on page 1of 2

สติมโต สทา ภทฺทํ.

คนมีสติ เจริญทุกเมื่อ
ณ บัดนี้ จะได้วิสัชนาธรรมะในเรื่องสติสัมปชัญญะ เป็นเครื่อง
ประดับสติปัญญา ส่งเสริมศรัทธา ความเชื่อ และวิริยะ ความพากเพียร
ของท่านทั้งหลายที่เป็นพุทธบริษัทให้เจริญงอกงามก้าวหน้าในทางแห่ง
พระศาสนาของสมเด็จพระบรมศาสดาอันเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลาย
ธรรมเทศนานี้เป็นธรรมเทศนาเนื่องในวันพระ ณ วัดเนรัญชราราม
แรม๑๕ค่ำ เดือน๒ ปีขาล สติ คือ ความระลึกได้ หมายถึง ความระลึกได้
หรือความรับรู้ หรือการเอาจิตไปรับรู้ ในสิ่งที่เกิดขึ้น หรือปรากฎขึ้น ใน
ปัจจุบันขณะ หรือความระลึกรู้ในปัจจุบันขณะ
สติ คือ ความระลึกรู้ในปัจจุบันขณะนี้ จะเกิดขึ้นก่อน หรือเป็นตัวชักนำ
ให้เกิดความรู้ตัว หรือสัมปชัญญะขึ้นด้วย หมายถึง เมื่อทำให้เกิดสติขึ้น
จะชักนำให้เกิดความรู้ตัวเกิดขึ้นด้วยเสมอ เพราะเหตุนี้ จึงมักพูดติดต่อ
ไปด้วยกัน หรือพูดเป็นคำเดียวกันว่า ‘สติสัมปชัญญะ’ คือ
เมื่อมีความระลึกรู้ในปัจจุบันขณะ จะเกิดความรู้ตัวด้วยเสมอการเอาจิต
ไปรับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้น หรือปรากฎขึ้น ในปัจจุบันขณะนั้น จิตจะมีความ
จดจ่อและสงบแนวแน่ด้วย (แม้จะเป็นเพียงชั่วขณะสั้นๆ คือ ขณิกสมาธิ
ก็ตาม) สติจึงเป็นตัวชักนำให้เกิดสมาธิขึ้นด้วย สมาธิคือความจดจ่อและ
สงบแนวแน่ในสิ่งที่จิตระลึกรู้ (หรือในสิ่งที่จิตใช้เพ่ง) เมื่อมีสติ หรือ
สติสัมปชัญญะ คือ มีความระลึกรู้ในปัจจุบันขณะและความรู้ตัว อย่าง
ต่อเนื่อง บ่อยๆ เนืองๆ จนละเอียดถี่ถ้วน จะเกิดความสำรวมระวังในการ
รับรู้ทางทวาร (หรืออายตนะ หรืออินทรีย์) ทั้ง ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย
และใจ จึงทำให้เกิดศีล หรือเรียกว่า อินทรียสังวรศีล นอกจากนี้
สติสัมปชัญญะที่ละเอียดต่อเนื่อง ยังจะทำให้เห็นชีวิตตามความเป็นจริง
ว่ามีกาย (รูป) และจิต (นาม) หรือมีองค์ประกอบห้าอย่าง (ขันธ์ ๕ คือ
รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ) สติจึงเป็นตัวชักนำให้เกิดการ
เห็นความจริง หรือเกิดปัญญา บางทีจึงเรียกติดต่อกัน หรือเรียกเป็นคำ
เดียวกันว่า ‘สติปัญญา’ สติ หรือสติสัมปชัญญะ จึงเป็นตัวชักนำให้เกิด
ศีล สมาธิ และปัญญา (หรือไตรสิกขา) หรือมรรคมีองค์แปด (คือความ
เห็นที่ถูกต้อง ความดำริที่ถูกต้อง วาจาที่ถูกต้อง การกระทำที่
ถูกต้อง การเลี้ยงชีพที่ถูกต้อง ความเพียรที่ถูกต้อง ความระลึกได้ที่ถูก
ต้อง และการมีจิตตั้งมั่นที่ถูกต้อง) นั่นเอง สรุปว่าคนนั้นสิ่งที่จะขาดไป
ไม่ได้เลย คือ สติสัมปชัญญะ เพราะว่าบุคคลที่ขาดสติไปแล้วนั้น เป็น
บุคคลไม่หน้าคบหา ค้าสมาคมด้วย เพราะเหตุนี้อาตมาจึงอย่างให้
นั้นมีสติทุกท่านทุกคนเถิด แสดงพระธรรมเทศก์นามาก็พอสมควรแก่
เวลา จึงขอยุติพระธรรมเทศนาลงคงไว้แต่เพียงเท่านี้ เอวังก็มีด้วย
ประการฉะนี้

You might also like