Professional Documents
Culture Documents
แนวโน้มตารางธาตุ
แนวโน้มตารางธาตุ
โลหะ อโลหะ
คลอไรด์
ออกไซด์
ซัลไฟด์
โบรไมด์
ขนาดอะตอมและขนาดไอออน
พลังงานไอออไนเซชัน(ionization energy, IE)
คือพลังงานที่ใช้ในการดึง e- ออกในสภาวะแก๊ส
เช่น Na(g) → Na+(g) + e- IE1
Na+(g) → Na2+(g) + e- IE2
ระวัง Na(s) → Na+(g) + e-
IE ใช้ บอกหมู่ได้
Ionization energy(kJ/mol)
Element
IE1 IE2 IE3 IE4 IE5 IE7
Na 498 4560 6910 9540 13,400 16,600
Mg 736 1445 7730 10,600 13,600 18,000
Al 577 1815 2740 11,600 15,000 18,310
สมการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานไอออไนเซชัน อาจเกิดจากหลายค่ารวมกัน
เช่น
Na(g) → Na2+ (g) + 2e- IE1 + IE2
Na+ (g) → Na5+ (g) + 4e- IE2 + IE3 + IE4 + IE5
แนวโน้ มของค่า IE1 ตามคาบ
ระวัง! ถ้าธาตุที่เสี ย e- ง่าย ควรมีค่า IE ต่า
ถ้าความเป็ นอโลหะเพิ่มขึ้น IE1 ควรจะเพิ่มขึ้น
(เสี ย e- ยากขึ้น) แต่พบว่า หมู่ 2 > หมู่ 3
และ หมู่ 5 > หมู่ 6 เนื่องจาก
หมู่ 2 จัดเรี ยง e- ลงท้ายด้วย ns2 แบบ full-filled
หมู่ 5 จัดเรี ยง e- ลงท้ายด้วย np3 แบบ half-filled
ธาตุทรานซิชัน(Transition Elements)
เป็ นธาตุที่มีออกซิเดชันหลายค่า เกิดสี ที่แตกต่างกัน
ปัจจัยที่ส่งผลต่อสี
1. เลขออกซิเดชันของธาตุทรานซิชนั
2. อะตอมล้อมรอบ
ชมพู เขียว นา้ เงิน ม่ วง ส้ ม เหลือง
3+ 3+ 2- -
Cr Cr Cr Cr2O7 CrO4
+ 2+
Cu Cu Cu
2+ 3+
Fe Fe Fe
2+ 2- -
Mn Mn MnO4 MnO4
2+
Co Co
ธาตุกมั มันตรังสี (Radioactive Elements)
เป็ นธาตุที่ไม่เสถียรเกิดการแผ่รังสี ออกมาเช่น
4 4
2α หรื อ 2He เรี ยกว่า รังสี แอลฟา
0
-1
β หรื อ -10e เรี ยกว่า รังสี บีตา
0
+1
β หรื อ +10e เรี ยกว่า โพซิตรอน
0
0γ เรี ยกว่า รังสี แกมมา
1 1
1p หรื อ 1H เรี ยกว่า โปรตอน
1
0n เรี ยกว่า นิวตรอน
การดุลสมการนิวเคลียร์
เลขอะตอมรวมกับเลขมวลรวมทั้งซ้ายและขวาจะต้องเท่ากัน
เช่น 23496Cm + 3 42He → 254 102No + 4 0n
1
การคานวนเกี่ยวกับการสลายตัวของธาตุกมั มันตรังสี
ครึ่งชีวติ (half-file, t1/2)
เมื่อเวลาผ่านไปเท่ากับ t1/2 ปริ มาณของธาตุกมั มันตรังสี จะลดลงเหลือครึ่ งหนึ่ง
ปริ มาณเริ่ มต้น
ปริ มาณที่เหลือ =
2n
เวลาที่ใช้
โดยที่ n คือ จานวนครั้งที่สลาย =
ครึ่ งชีวิต
กรณี ถา้ n ไม่เป็ นจานวนเต็ม
A
ln n = -kt เมื่อ An = ปริ มาณของสาร A ณ เวลา n
A0
A0 = ปริ มาณของสาร A ณ เวลาเริ่ มต้น
t = เวลาที่เปลี่ยนแปลง
k = ค่าคงที่การสลายตัว
0.693
โดยที่ k หาจาก k =
t1/2
การคานวณโดยใช้ ปริมาณสารสั มพันธ์
เช่น 146C → 145B + -10e
โจทย์ส่วนใหญ่มกั จะถามว่า เกิด 145B ขึ้นกี่กรัมหรื อน้ าหนักรวมในภาชนะ
น้ าหนักรวมในภาชนะ = C ที่เหลือ + B ที่เกิด
ไม่เท่ากับปริ มาณตั้งต้น!!!
ตัวอย่าง
จากสมการ 146C → 145B + -10e
ถ้ามี C-14 อยู่ 28 กรัม เมื่อผ่านไป 2 ครึ่ งชีวิต
จะเกิด B-14 กี่กรัม และน้ าหนักในภาชนะจะหนักเท่าไร
ทายังไง
STEP1 : หาปริ มาณของ C-14 ที่เหลือ