ประโยคภาษาอังกฤษ: การทักทาย ฉันชื่อดิววี่ แต่คุณเรียกฉันว่าดิวก็ได้ 13.

I was born in London, but now I

ทั่วไป *อย่าลืมเปลี่ยนชื่อเป็ นชื่อตัวเองนะคะ live in Bangkok.
1.How’s it going? 7.I’m Adam, it’s nice to meet you. (อาย-วาซ-บอร์น-อิน-เลินเดิน บัท-
(ฮาวสฺ-อิท-โกอิง) (ไอม-แอเดิม อิทสฺ-ไนสฺ-ทู-มีท-ยู) นาว-อาย-ลีฟ-อิน-แบงคอก)
เป็ นอย่างไรบ้าง ผมชื่ออดัม ยินดีที่ได้รู้จักครับ ฉันเกิดที่ลอนดอน แต่ตอนนี้อาศัยอยู่ที่
2.How have you been? 8.May I know your name, please? กรุงเทพฯ
(ฮาว-แฮฟ-ยู-บีน) (สุภาพ)(เม-อาย-โนว-ยัวร์-เนม-พลีส) 14.How many people are there in
ที่ผ่านมาเป็ นยังไงบ้าง ขอทราบชื่อของคุณหน่อยได้ไหม your family?
3.I’m pretty good. 9.Everyone calls me Ton. (ฮาว-เมนี-พีเพิล-อาร์-แดร์-อิน-ยัวร์-แฟ
(อายมฺ-พริดดี-เกิ้ด) (เอฟวรี่วัน-คอลสฺ-มี-ต้น) เมอะลี)
ฉันค่อนข้างสบายดี ทุกคนเรียกผมว่าต้น ครอบครัวคุณมีกี่คน
4.So far, so good. 10.I’m 32 years old. 15.There are 4 people in my family.
(โซ-ฟาร์-โซ-เกิ้ด) (อายมฺ-เธอร์ดีทู-เยียร์สฺ-โอลดฺ) (แดร์-อาร์-โฟร์-พีเพิล-อิน-มาย-แฟเม
เท่าที่ผ่านมาก็ดีนะ ฉันอายุ 32 ปี อะลี)
5.Couldn’t be better. *เปลี่ยนตัวเลขเป็ นอายุของเราได้นะคะ ครอบครัวฉันมี 4 คน
(คูดเดินทฺ-บี-เบ็ดเดอร์) ประโยคภาษาอังกฤษ: การถามถึงที่อยู่ 16.Do you have any siblings?
ดีมาก ๆ เลย (ดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว) ครอบครัว (ดู-ยู-แฮฟ-เอนี-ซิบลิงสฺ)
ประโยคภาษาอังกฤษ: การแนะนำตัว 11.Where are you from? (แวร์-อาร์-ยู- คุณมีพี่น้องไหม
เอง ฟรอม) 17.I have 2 brothers and a
6.My name is Dewy, but you can call คุณมาจากที่ไหน younger/older sister.
me Dew. 12.I’m from Bangkok, Thailand. (อาย-แฮฟ-ทู-บราเธอร์สฺ-แอนดฺ-อะ-ยัง
(มาย-เนม-อิส-ดิววี บัท-ยู-แคน-คอล-มี- (อายมฺ-ฟรอม-แบงคอก-ไทยแลนด์) เกอร์/โอลเดอร์-ซิสเตอร์)
ดิว) ฉันมาจากกรุงเทพฯ ประเทศไทย ฉันมีพี่ชาย/น้องชาย 2 คน และมีพี่
สาว/น้องสาวคนนึง (อาย-เอ็นจอย-วอทชิง-มูฟวีสฺ-อิน-มาย- 29. K-pop isn’t my thing.
*ถ้ามีพี่ ให้เติม older ข้างหน้า ถ้ามีน้อง ฟรี-ไทมฺ) (เคพ็อพ-อิสเซินทฺ-มาย-ธิง)
ให้ใช้ younger นะคะ ฉันชอบดูหนังในเวลาว่าง เพลงป็ อปเกาหลีไม่ใช่แนวฉันเท่าไหร่
18.I’m an only child. *เปลี่ยนเป็ นกิจกรรมอื่น ๆ ที่ชอบ 30.I’m not keen on comedy shows.
(อายมฺ-แอน-โอนลี-ชายเอิลดฺ) ทำได้นะคะ แต่ต้องอยู่ในรูป V.ing (อายมฺ-น็อท-คีน-ออน-คามเมอะดี-โชว์
ฉันเป็ นลูกคนเดียว เพราะใช้กับ enjoy ค่ะ สฺ)
19.Are you married? 24.My favorite food is Somtum. ฉันไม่ค่อยสนใจรายการตลกเท่าไร
(อาร์-ยู-แมรีด) (มาย-เฟเวอร์ริท-ฟูด-อิส-ส้มตำ) ประโยคภาษาอังกฤษ: การถามถึง
คุณแต่งงานแล้วหรือยัง อาหารที่ฉันชอบที่สุดคือส้มตำ อาชีพและการทำงาน
20.I’m still single. 25.My favorite singer is BamBam 31.What do you do (for a living)?
(อายมฺ-สติล-ซิงเกิล) from GOT7. (ว็อท-ดู-ยู-ดู-ฟอร์-อะ-ลิฟวิง)
ฉันยังโสดอยู่ (มาย-เฟเวอร์ริท-ซิงเงอร์-อิส-แบม คุณทำอาชีพอะไร
ประโยคภาษาอังกฤษ: การถามถึงงาน แบม-ฟรอม-กาทเซเวิน) 32.I work as a purchasing officer at
อดิเรก ความชอบ 26.I’m a cat lover. ABC company.
21.What do you like to do in your free (อายมฺ-อะ-แคท-เลิฟเวอร์) (ไอ-เวิร์ค-แอซ-อะ-เพอร์เชสซิง-อาฟฟิ
time? ฉันเป็ นคนรักแมว เซอร์-แอท-เอบีซี-คัมเพอะนี)
(ว็อท-ดู-ยู-ไลคฺ-ทู-ดู-อิน-ยัวร์-ฟรี-ไทมฺ) 27.I’m really into fashion. ฉันทำงานเป็ นพนักงานจัดซื้อที่
คุณชอบทำอะไรในเวลาว่าง (อายมฺ เรียลลิ อินทู แฟเชิน) บริษัท…
22.Do you have any hobbies? ฉันชอบแฟชั่นมาก ๆ *อย่าลืมเปลี่ยนเป็ นชื่อตำแหน่งและ
(ดู-ยู-แฮฟ-เอนี-ฮ็อบบีสฺ) 28.I don’t like sour food. บริษัทที่เราทำงานอยู่นะคะ
คุณมีงานอดิเรกไหม (อาย-โดนทฺ-ไลค์-ซาวเออร์-ฟูด) 33.I work at a local restaurant.
23.I enjoy watching movies in my free ฉันไม่ชอบอาหารรสเปรี้ยว (ไอ-เวิร์ค-แอท-อะ-โลวเคิล-เรสเตอรา
time. นทฺ)
ฉันทำงานในร้านอาหารในพื้นที่
(ไม่เจาะจงว่าทำตำแหน่งอะไร หรือ
บริษัทอะไร แค่บอกว่าทำที่ไหน)
34.Where do you work?
(แวร์-ดู-ยู-เวิร์ค)
คุณทำงานที่ไหน
35.How long have you been a
teacher?
(ฮาว-ลอง-แฮฟ-ยู-บีน-อะ-ทีชเชอร์)
คุณเป็ นครูมานานเท่าไรแล้ว
*เปลี่ยนเป็ นอาชีพที่คู่สนทนาเราทำอยู่
ได้นะคะ
ประโยคภาษาอังกฤษ: การสัมภาษณ์
งานเป็ นภาษาอังกฤษ
36.Could you tell me about yourself?
(เคิด-ยู-เท็ล-มี-เออะบาวทฺ-ยัวร์เซ็ลฟฺ)
แนะนำตัวเองหน่อยได้ไหม
37.Let me introduce myself.
(เล็ท-มี-อินเทรอะดูส-มายเซ็ลฟฺ)
ขอฉันแนะนำตัวเองหน่อยนะคะ/ครับ
38.What are your strengths and
weaknesses?
(ว็อทอาร์ยัวร์สเตร็งธสฺแอนดฺวีคเนอะ
สิซ)
จุดแข็ง-จุดอ่อนของคุณคืออะไรบ้าง
39.I’m good at dealing with people.
(อายมฺ-กุด-แอท-ดีลิง-วิธ-พีเพิล)
ฉันจัดการผู้คนได้ดี
*ใช้โครงสร้าง I’m good at + V.ing ได้
เลยค่ะ
40.I can work well under pressure.
(อาย-แคน-เวิร์ค-เวล-อันเดอร์-เพรเชอ
ร์)
ฉันทำงานได้ดีภายใต้แรงกดดัน
41.I have a good command of
English.
(อาย-แฮฟ-อะ-กูด-เคิมมานดฺ-เอิฟ-อิง
กลิช)
ฉันสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดี
42.I possess knowledge in digital
marketing.
(อาย-เพอะเซิส-นอลิจ-อิน-ดิจิเทิล-มาร์
เก็ททิง)
ฉันมีความรู้ด้านการตลาดแบบดิจิตอล
43.I’m not good at making decisions.
(อายมฺ-นอท-กูด-แอท-เมคิง-ดิซิเชินซฺ)
ฉันไม่เก่งในเรื่องการตัดสินใจ
44.I’m easily stressed.
(อายมฺ-อิเซิลลี-สเตรสทฺ)
ฉันเป็ นคนเครียดง่าย
45.I focus too much on everything.
(อาย-โฟเกิส-ทู-มัช-ออน-เอฟวรี่ธิง)
ฉันใส่ใจในทุก ๆ เรื่องมากเกินไป
ประโยคภาษาอังกฤษ: การบอก
อารมณ์ความรู้สึก
46.How are you feeling?
(ฮาว-อาร์-ยู-ฟี ลลิง)
คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง
47.What’s wrong?
(ว็อทสฺ-รวอง)
เป็ นอะไรหรือเปล่า
48.What’s the matter?
(ว็อทสฺ-เดอะ-แมดเดอร์)
เป็ นอะไรหรือเปล่า
49.Is everything okay?
(อิส-เอฟวรีธิง-โอเค)
ทุกอย่างโอเคไหม
50.I’m feeling tired.
(อายมฺ-ฟี ลลิง-ทายเอิร์ด)
ฉันรู้สึกเหนื่อย
51.I’m feeling down.
(อายมฺ-ฟี ลลิง-ดาวนฺ)
ฉันรู้สึกเศร้า หดหู่
52.I’m stressed.
(อายมฺ-สเตรสทฺ)
ฉันเครียด
53.I’ve been in a bad mood all day.
(อายฟฺ-บีน-อิน-อะ-แบด-มูด-ออล-เด)
ฉันอารมณ์ไม่ดีมาทั้งวันเลย
54.I feel bored.
(อาย-ฟี ล-บอร์ดฺ)
ฉันรู้สึกเบื่อ
55.Tell me about it.
(เทล-มี-เออะบาวทฺ-อิท)
บอกฉันมาสิ/เล่าให้ฉันฟังสิ
ประโยคภาษาอังกฤษ: การถาม-บอก
สภาพอากาศ
56.What’s the weather like today?
(วาทสฺ-เดอะ-เวเธอร์-ไลค์-เทอะเดย์)
วันนี้อากาศเป็ นยังไงบ้าง
57.Is it hot outside?
(อิส-อิท-ฮาท-เอาทฺไซดฺ)
ข้างนอกร้อนไหม
58.It’s quite cool today.
(อิทสฺ-ไควทฺ-คูล-เทอะเดย์)
วันนี้ค่อนข้างเย็นสบาย
59.It’s raining outside.
(อิทสฺ-เรนนิง-เอาทฺไซดฺ)
ข้างนอกฝนกำลังตก
60.What wonderful weather!
(วาท-วันเดอร์เฟื ล-เวเธอร์)
อากาศดีเยี่ยมอะไรอย่างนี้ *ใช้อุทาน
61.What terrible weather!
(วาท-เทเรอะเบิล-เวเธอร์)
อากาศช่างเลวร้ายอะไรขนาดนี้
62.It’s 37 degrees Celsius.
(อิทสฺ-เธอร์ดี-เซเวิน-ดิกรีสฺ-เซลเซียส)
อากาศอุนหภูมิ 37 องศาเซลเซียส
63.It’s pretty hot today.
(อิทสฺ-พริดี-ฮาท-เทอะเดย์)
วันนี้ค่อนข้างร้อน
64.It’s extremely hot today.
(อิทสฺ-อิกสฺตรีมลี-ฮาท-เทอะเดย์)
วันนี้ร้อนมาก ๆ
65.It will be sunny tomorrow.
(อิท-วิล-บี-ซันนี-เทอะมอโรว)
อากาศจะแจ่มใส มีแดดในวันพรุ่งนี้
ประโยคภาษาอังกฤษ: การถามทาง-
บอกทาง
66.Is this the right way to the
Diamond Hotel?
(อิส-ดิส-เดอะ-ไรทฺ-เวย์-ทู-เดอะ-ไดเมิน
ดฺ-โฮเทล)
ทางนี้เป็ นทางไปโรงแรมไดมอนด์ใช่
ไหมครับ/คะ
67.Could you please tell me how to
get to the Durian Shop?
(คูด-ยู-พลีส-เทล-มี-ฮาว-ทู-เก็ท-ทู-
เดอะ-ดูเรียน-ช็อป)
คุณช่วยบอกทางไปร้านดูเรียนหน่อย
ได้ไหมครับ/คะ
68.Do you know where the Thai
House Restaurant is?
(ดู-ยู-โน-แวร์-เดอะ-ไท-ฮาวสฺ-เรสเตอะ
รานทฺ-อิส)
คุณรู้ไหมว่าร้านอาหารไทยเฮ้าส์อยู่
ที่ไหน
69.Where is the nearest bus station?
(แวร์-อิส-เดอะ-เนียร์ริสทฺ-บัส-สเตเชิน)
สถานีรถบัสที่ใกล้ที่สุดอยู่ตรงไหน
70.How far is the shopping mall from
here?
(ฮาว-ฟาร์-อิส-เดอะ-ช็าพพิงมอล-
ฟรอม-เฮียร์)
ห้างสรรพสินค้าอยู่ไกลจากตรงนี้แค่
ไหน
71.Is there a train station near here?
(อิส-แดร์-อะ-เทรน-สเตเชิน-เนียร์-เฮีย
ร์)
แถวนี้มีสถานีรถไฟไหม
72.Do you know where the restroom
is?
(ดู-ยู-โน-แวร์-เดอะ-เรสทฺรูม-อิส)
คุณรู้ไหมว่าห้องน้ำอยู่ทางไหน
73.Go straight and turn left.
(โก-สเตรท-แอนดฺ-เทิร์น-เล็ฟทฺ)
ตรงไปแล้วเลี้ยวซ้าย
74.Turn right at the crossroads.
(เทิร์น-ไรทฺ-แอท-เดอะ-ครอสโรดซฺ)
เลี้ยวขวาที่ทางแยก
75.The hotel will be on your right/left.
(เดอะ-โฮเทล-วิล-บี-ออน-ยัวร์-ไรทฺ/เล็ฟ
ทฺ)
โรงแรมจะอยู่ทางขวา/ซ้ายมือของคุณ
ประโยคภาษาอังกฤษ: การบอกอาการ
เจ็บป่ วย
76.I’m feeling sick.
(อายมฺ-ฟี ลลิง-ซิก)
ฉันรู้สึกไม่สบาย
77.I’ve been having bad headaches.
(อายฟฺ-บีน-แฮฟวิง-แบด-เฮดเอคสฺ)
ฉันปวดหัวมากมาซักพักแล้ว
78.I’ve got diarrhea.
(อายฟฺ-ก็อท-ดายเออะเรีย)
ฉันท้องเสีย
79.I’m having a runny nose.
(อายมฺ-แฮฟวิง-อะ-รันนี-โนส)
ฉันมีน้ำมูก
80.I’m coming down with a cold.
(อายมฺ-คัมมิง-ดาวนฺ-วิธ-อะ-โคลดฺ)
ฉันเริ่มเป็ นหวัด
81.I’ve got a sore throat.
(อายฟฺ-ก็อท-อะ-ซอร์-โธรท)
ฉันเจ็บคอ
82.What are your symptoms?
(ว็อท-อาร์-ยัวร์-ซิมพฺเทิมสฺ)
คุณมีอาการอย่างไรบ้าง
83.Do you have any allergies?
(ดู-ยู-แฮฟ-เอนี-แอลเลอร์จีสฺ)
คุณแพ้อะไรบ้างไหม
84.I’m allergic to seafood.
(อายมฺ-แอลเลอร์จิก-ทู-ซีฟูด)
ฉันแพ้อาหารทะเล
85.I should go see a doctor.
(อาย-ชูด-โก-ซี-อะ-ดาคเทอร์)
ฉันควรจะไปหาหมอ
ประโยคภาษาอังกฤษ: การซื้อของ ถาม
ราคา
86.What can I do for you?
(ว็อท-แคน-อาย-ดู-ฟอร์-ยู)
ให้ฉันช่วยอะไรไหมคะ
87.I’m looking for denim jeans.
(อายมฺ-ลุคกิง-ฟอร์-เดนิม-จีนสฺ)
ฉันกำลังหากางเกงยีนส์เดนิมอยู่
88.Do you have this item in stock?
(ดู-ยู-แฮฟ-ดิส-ไอเทิม-อิน-สต็อค)
คุณมีสินค้านี้ไหมคะ/ครับ
89.Do you have this in a
bigger/smaller size?
(ดู-ยู-แฮฟ-ดิส-อิน-อะ-บิกเกอร์/สมอล
เลอร์-ไซสฺ)
คุณมีไซส์ใหญ่/เล็กกว่านี้ไหมครับ/คะ
90.Do you have this in other colors?
(ดู-ยู-แฮฟ-ดิส-อิน-อาเธอร์-คัลเลอร์สฺ)
คุณมีสีอื่น ๆ ไหมครับ/คะ
91.Can I try this? (แคน-ไอ-ทราย-ดิส)
ฉันขอลองอันนี้ได้ไหม
92.How much is this? (ฮาว-มัช-อิส-
ดิส)
ราคาเท่าไรคะ/ครับ
93.How much is this dress?
(ฮาว-มัช-อิส-ดิส-เดรส) เฮิร์ท-ยู)
เดรสตัวนี้ราคาเท่าไรคะ/ครับ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณ
94.Can you give me a discount? เสียใจ
(แคน-ยู-กีฟ-มี-อะ-ดิสเคานทฺ) 100.It’s my fault.
คุณลดราคาหน่อยได้ไหมครับ/คะ (อิทสฺ-มาย-ฟอลทฺ)
95.I will pay in cash. เป็ นความผิดของฉันเอง
(อาย-วิล-เพย์-อิน-แคช)
ฉันจะจ่ายด้วยเงินสด
ประโยคภาษาอังกฤษ: การขอโทษเป็ น
ภาษาอังกฤษ
96.I’m sorry about that.
(อายมฺ-ซอร์รี-เออะเบาทฺ-แดท)
ฉันขอโทษเกี่ยวกับเรื่องนั้น
97.I’m truly sorry for what I’ve done.
(อายมฺ-ทรูลี-ซอร์รี-ฟอร์-ว็อท-อายฟฺ-
ดัน)
ฉันขอโทษจริง ๆ สำหรับสิ่งที่ทำลงไป
98.Please accept my apologies.
(พลีส-เอ็กเซ็พทฺ-มาย-เออะพาเลอะจีสฺ)
โปรดรับคำขอโทษของฉัน
99.I’m sorry. I didn’t mean to hurt
you.
(อายมฺ-ซอร์รี-อาย-ดิดเดินทฺ-มีน-ทู-