Professional Documents
Culture Documents
Ex 6
Ex 6
ภาครัฐแห่งชาติ
แบบฟอร์มใบสมัครรางวัลบริการภาครัฐแห่งชาติ
(Thailand Public Service Awards)
ประเภท รางวัลภาพรวมมาตรฐานการบริการที่เป็ น
เลิศ
รางวัลบูรณาการการบริการที่เป็ นเลิศ
รางวัลนวัตกรรมการบริการที่เป็ นเลิศ
รางวัลการพัฒนาการบริการที่เป็ นเลิศ
รางวัลพัฒนาคุณภาพการบริการอย่างต่อเนื่อง
ชื่อส่วนราชการ : กรมควบคุมโรค
e – Mail : naipo492@gmail.com
e – Mail : bonyapong@yahoo.com
e – Mail : fonitdpc5@yahoo.com
แบบฟอร์มที่ 2
แบบฟอร์มประเมินลักษณะของผลงานที่สมัครขอรับรางวัลเบื้อง
ต้น
คำอธิบาย : กรณีหน่วยงานขอรับรางวัลประเภทรางวัลภาพรวมมาตรฐานการบริการที่
เป็ นเลิศ รางวัลบูรณาการการบริการที่เป็ นเลิศ
รางวัลนวัตกรรมการบริการที่เป็ นเลิศ และรางวัลการพัฒนาการบริการที่เป็ น
ชื่อผลงาน : อุปกรณ์ลดฝุ่นหิน นวัตกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพการป้ องกัน
ควบคุมโรคปอดฝุ่นหิน
รางวัลนวัตกรรมการบริการที่เป็ นเลิศ
โปรดทำเครื่องหมาย ในคุณสมบัติดังต่อไปนี้ที่ตรงกับผลงานของ
ท่าน (เลือกได้มากกว่า 1 ข้อ)
เป็ นผลงานที่มีการจดสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร/จดลิขสิทธิ์
บริการใหม่
เป็ นผลงานที่คิดค้นมาไม่เกิน 3 ปี
เป็ นผลงานมีผลต่อประสิทธิภาพและคุณภาพของระบบการ
บริหารจัดการและการให้บริการ ประชาชน
เป็ นผลงานสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ที่ไม่เคยมีในเมืองไทยมาก่อน
เป็ นผลงานที่มีลักษณะบูรณาการงานบริการจากหลายหน่วย
งานมาให้บริการในสถานที่เดียว
เป็ นผลงานที่มีลักษณะเป็ นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่อสารมาใช้ในการให้บริการ
(e-Service)
ประสิทธิภาพในการให้บริการ
ที่มีประสิทธิภาพและการ ให้บริการเชิงรุก
เป็ นผลงานที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงความโปร่งใสในการ
ปฏิบัติราชการ
แบบฟอร์มที่ 3
แบบฟอร์มรายงานผลการดำเนินการ
แบบฟอร์มบทสรุปสาระสำคัญของผลงานที่เสนอขอรับรางวัล
(Executive Summary)
ป้ องกันควบคุมโรคปอดฝุ่นหิน
ชื่อหน่วยงาน : สำนักงานป้ องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา
สรุปผลงานโดยย่อ :
โปรดสรุปเนื้อหาของผลงาน โดยมีความยาวไม่เกิน 3 หน้ากระดาษ A 4
ตัวอักษร TH SarabunPSK ขนาด 16 โดยครอบคลุมหัวข้อ ดังนี้
1. สภาพการปฏิบัติงานเดิม
โรคซิลิโคสิสหรือโรคปอดฝุ่นหิน เป็ นโรคจากการประกอบอาชีพที่
เกิดจากการหายใจฝุ่นหินซิลิกาเข้าไปทำให้ปอดอักเสบและเกิดเนื้อพังผืด
การป้ องกันควบคุมโรคซิลิโคสีสตามที่องค์การอนามัยโลก และองค์การ
แรงงานระหว่างประเทศ ได้สรุปบทเรียนและเสนอมาตรการป้ องกัน
ควบคุมโรคซิลิโคสีสที่มีประสิทธิภาพคือ 1) มาตรการระดับปฐมภูมิ ได้แก่
การควบคุมแหล่งกำเนิดฝุ่น การเฝ้ าระวังสภาพแวดล้อมการทำงาน การ
ประเมินความเสี่ยงทางสุขภาพ การเฝ้ าระวังสภาวะสุขภาพของคนทำงาน
เพื่อวินิจฉัยตั้งแต่ระยะเริ่มแรก 2) มาตรการระดับทุติยภูมิ ได้แก่ พัฒนา
ทักษะการอ่านฟิ ล์มมาตรฐาน และระบบเฝ้ าระวังสภาวะสุขภาพคนทำงาน
โดยปั จจุบันมีพื้นที่ 6 ตำ บล ของอำ เภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา มีผู้
ประกอบอาชีพที่สัมผัสฝุ่นหินทรายที่เป็ นกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคซิลิโคสีส
ตั้งแต่ปี 2550 - 2556 ประมาณ 8,000 ราย ได้รับการเอ๊กซ์เรย์ปอดด้วย
ฟิ ล์มมาตรฐาน 1,587 ราย ได้รับการวินิจฉัยและขึ้นทะเบียนเป็ นผู้ป่ วยโรค
ซิลิโคสีส 70 ราย และเสียชีวิต 2 ราย ซึ่งมีขนาดของปั ญหาและความ
รุนแรงสูงมาก อีกทั้งพบว่ามีกลุ่มผู้ประกอบอาชีพจำนวนมากได้นำหินมา
แปรรูปในบ้านหรือที่พักอาศัยทำให้สมาชิกครอบครัว เช่น เด็ก คนชรา ได้
รับสัมผัสฝุ่นหินทรายในขณะอาศัยอยู่ในบ้าน ทำให้เสี่ยงต่อการหายใจเอา
ฝุ่นหินทรายเข้าไปและป่ วยเป็ นโรคในระยะต่อมาได้ มาตรการป้ องกัน
ควบคุมโรคที่สำคัญคือ การลดปริมาณฝุ่นที่แหล่งกำเนิด โดยการควบคุม
การฟุ้งกระจายของฝุ่นด้วยอุปกรณ์ลดฝุ่นที่เครื่องตัดหินแบบสะพาย และ
ลดฝุ่นในที่พักอาศัยด้วยการพัฒนาปรับปรุงบ้านตามเกณฑ์การปรับปรุง
สภาพแวดล้อมการทำงานที่บ้าน ซึ่งจะลดความเสี่ยงในการรับฝุ่นเข้าสู่
ร่างกายและความเสี่ยงต่อการป่ วยด้วยโรคซิลิโคสีสลง
2. แนวทางในการปรับปรุงบริการ
จากปั ญหาของโรคซิลิโคสีส ที่มีผู้ประกอบอาชีพที่สัมผัสฝุ่น
หินทรายและคนในครอบครัวที่เป็ นกลุ่มเสี่ยงจำนวนมากและเป็ นโรคที่มี
ความรุนแรงสูงคือไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ต้องรักษาตามอาการและ
ใช้ค่ารักษามาก อุปกรณ์ลดฝุ่นมีราคาแพง และมีการนำหินมาแปรรูปใน
ที่พักอาศัยทำ ให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเพิ่มขึ้น ดังนั้น สำ นักงาน
ป้ องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา (สคร.5) จึงได้มีแนวคิดในการ
จัดทำ ต้นแบบ “อุปกรณ์ลดฝุ่นหิน” ที่มีความเหมาะสมกับสภาพการ
ทำงาน ไม่ต้องพึ่งแหล่งพลังงานไฟฟ้ า สามารถทำได้ง่ายด้วยตนเอง ต้นทุน
ต่ำ ซึ่งลดฝุ่นได้เป็ นอย่างดี และดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายที่
เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงที่พักอาศัยของผู้ประกอบอาชีพสัมผัสฝุ่นหินให้เป็ น
“บ้านต้นแบบปลอดโรค ปลอดภัย ห่างไกลซิลิโคสีส” ซึ่งจะนำไปสู่การ
ป้ องกันควบคุมโรคซิลิโคสีสที่มีประสิทธิภาพต่อไป
3. สภาพการปฏิบัติงานหลังการปรับปรุงบริการ
ผู้ประกอบอาชีพที่สัมผัสฝุ่นหินทรายที่นำอุปกรณ์ลดฝุ่นหินไปใช้ มี
ความพึงพอใจกับวิธีการใช้งานในระดับมากที่สุด (มากกว่าเท่ากับร้อยละ
90) รองลงมาคือการลดฝุ่น มีความพึงพอใจในระดับมาก (มากกว่าเท่ากับ
ร้อยละ 80) และสิ่งที่มีความพึงพอใจในระดับพอใช้คือ น้ำหนักของอุปกรณ์
และความทนทาน ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจผลงานเป็ นจำนวนมาก เมื่อประเมิน
ความคุ้มค่าเปรียบเทียบกับราคาต้นทุนการผลิตของอุปกรณ์ลดฝุ่นหินที่มี
จำ หน่ายทั่วไป โดยอุปกรณ์ลดฝุ่นชุดละประมาณ 10,000 บาท แต่
นวัตกรรมอุปกรณ์ลดฝุ่นหินมีต้นทุนการผลิตชุดละประมาณ 2,000 บาท มี
น้ำ หนักเบากว่าอุปกรณ์ลดฝุ่นอื่ น ไม่ต้องใช้ไฟฟ้ าในการใช้งาน มี
ประสิทธิภาพการลดฝุ่นได้เป็ นอย่างดี (ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50) และบ้านที่
อยู่อาศัยของผู้ประกอบอาชีพที่สัมผัสฝุ่นหิน ผ่านเกณฑ์การปรับปรุงสภาพ
แวดล้อมการทำงานที่บ้าน (ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80)
4. ประโยชน์ที่ได้รับ
ประโยชน์ที่สำคัญของอุปกรณ์ลดฝุ่นหินคือ ผู้ประกอบอาชีพที่
สัมผัสฝุ่นหินทรายสามารถนำอุปกรณ์ไปใช้ในการลดฝุ่นจากการตัดหิน และ
นำไปเป็ นต้นแบบในการประดิษฐ์อุปกรณ์ลดปริมาณฝุ่นและควบคุมการฟุ้ง
กระจายของฝุ่นหินได้เอง รวมทั้งสามารถปรับปรุงสภาพที่ทำงานและที่อยู่
อาศัยให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้ องกันควบคุมโรคซิลิโคสีส
ในพื้นที่เสี่ยง และนำนวัตกรรมอุปกรณ์ลดฝุ่นหิน และการพัฒนาบ้านปลอด
โรคปลอดภัยห่างไกลซิลิโคสีส ไปใช้เป็ นแนวทางในการดำเนินงานป้ องกัน
ควบคุมโรคซิลิโคสีสที่มีประสิทธิภาพในพื้นที่ รวมทั้งผู้ประกอบอาชีพที่
สัมผัสฝุ่นหินและหน่วยงานเครือข่ายนำไปใช้เป็ นต้นแบบอุปกรณ์ในการลด
ฝุ่นได้เป็ นอย่างดี
แบบฟอร์มรายงานผลการดำเนินการ
1. ปั ญหา และสภาพการปฏิบัติงานเดิมก่อนที่จะริเริ่มการปรับปรุง
(อธิบาย ความเป็ นมา ปั ญหา และความสำคัญที่นำมาสู่การริเริ่มกิจกรรม/โครงการ
เพื่อการแก้ปั ญหา โดยให้เขียนประเด็นที่เป็นหัวใจสำคัญ แนวโน้ม และเงื่อนไขของสถานการณ์
รวมทั้งกลุ่มที่ได้รับผลกระทบด้วย) (ความยาวไม่เกิน 700 คำ)
โรคซิลิโคสิสหรือโรคปอดฝุ่ นหิน เป็ นโรคจากการประกอบอาชีพ
ที่เกิดจากการหายใจฝุ่ นหินซิลิกาเข้าไปทำให้ปอดอักเสบและเกิดเนื้อ
พังผืด การป้ องกันควบคุมโรคซิลิโคสีสตามที่องค์การอนามัยโลก
(World Health Organization: WHO) และองค์การแรงงานระห ว่าง
ประเทศ (International Labour Organization: ILO) ได้สรุปบทเรียน
และเสนอมาตรการป้ องกันควบคุมโรคซิลิโคสีสที่มีประสิทธิภาพคือ 1)
มาตรการระดับปฐมภูมิ ได้แก่ การควบคุมแหล่งกำเนิดฝุ่ น เฝ้ าระวัง
สภาพแวดล้อมการทำงาน ประเมินความเสี่ยงทางสุขภาพ เฝ้ าระวัง
สภาวะสุขภาพของคนทำ งานเพื่อวินิจฉั ยตั้งแต่ระยะเริ่มแรก 2)
มาตรการระดับทุติยภูมิ ได้แก่ พัฒนาทักษะการอ่านฟิล์มมาตรฐาน และ
ระบบเฝ้ าระวังสภาวะสุขภาพคนทำงาน โดยปัจจุบันมีพื้นที่ 6 ตำบล
ของอำ เภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ประกอบอาชีพที่สัมผัสฝุ่ น
หินทรายที่เป็ นกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคซิลิโคสีส ตั้งแต่ปี 2550-2556
ประมาณ 8,000 ราย ได้รับการเอ๊กซ์เรย์ปอดด้วยฟิล์มมาตรฐาน 1,587
ราย ได้รับการวินิจฉัยและขึ้นทะเบียนเป็ นผู้ป่ วยโรคซิลิโคสีส 70 ราย
และเสียชีวิต 2 ราย ซึ่งมีขนาดของปัญหาและความรุนแรงสูงมาก อีก
ทั้งพบว่ามีกลุ่มผู้ประกอบอาชีพจำนวนมากได้นำหินมาแปรรูปในบ้าน
หรือที่พักอาศัย ทำให้สมาชิกครอบครัว เช่น เด็ก คนชรา ได้รับสัมผัส
ฝุ่ นหินทรายในขณะอาศัยอยู่ในบ้าน ทำให้เสี่ยงต่อการหายใจเอาฝุ่ น
หินทรายเข้าไปและป่ วยเป็ นโรคได้ ซึ่งพบเด็กที่มีผลการตรวจเอ๊กซ์เรย์
ปอดผิดปกติเข้าได้กับโรคซิลิโคสีส 1 ราย มาตรการป้องกันควบคุมโรค
ที่สำคัญคือ การลดปริมาณฝุ่ นในสภาพแวดล้อมที่ทำงาน ควบคุมการ
ฟุ้ งกระจายของฝุ่ นด้วยอุปกรณ์ลดฝุ่ นที่เครื่องตัดหินแบบสะพาย และ
ลดฝุ่ นในที่พักอาศัยด้วยการพัฒนาปรับปรุงบ้านตามเกณฑ์การปรับปรุง
สภาพแวดล้อมการทำงานที่บ้าน จึงมีความสำคัญและมีผลในการลด
ปริมาณฝุ่ นในที่ทำงานและที่บ้าน ส่งผลต่อการลดความเสี่ยงในการรับ
ฝุ่ นเข้าสู่ร่างกายและความเสี่ยงต่อการป่ วยด้วยโรคซิลิโคสีสลงได้
รูปที่ 1 พื้นที่เสี่ยงต่อโรคซิลิโคสีสที่มีผู้ประกอบอาชีพที่สัมผัสฝุ่นหินทราย
ต.หนองน้ำใส อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
โรคซิลิโคสีสเป็ นโรคที่มีอันตรายอย่างยิ่งคือเป็ นโรคที่ไม่สามารถรักษา
ให้หายขาดได้ ดังนั้น การป้ องกันก่อนการเกิดโรคจึงเป็ นสิ่งที่มีความสำคัญ
มาก ประกอบด้วย การป้ องกันทางสุขภาพและป้ องกันทางสิ่งแวดล้อม
ผังการดำเนินงานป้ องกันควบคุมโรคซิลิโคสีส
ด้วยสถานการณ์โรคซิลิโคสีสในพื้นที่รับผิดชอบที่มีขนาดจำนวนผู้ป่ วย
เพิ่มสูงขึ้นทุกปี และเป็ นโรคที่มีความรุนแรงสูงคือ ไม่สามารถรักษาให้
หายขาดได้ ต้องรักษาตามอาการและใช้ค่ารักษามากตลอดชีวิต รวมทั้ง
อุปกรณ์ลดฝุ่นที่มีราคาแพงและไม่เหมาะต่อการนำไปใช้งาน และมีการนำ
หินมาแปรรูปในที่พักอาศัยทำให้คนในครอบครัว เด็ก คนชรา มีความเสี่ยง
ต่อการเกิดโรคเพิ่มมากขึ้น มาตรการที่สำคัญในการป้ องกันควบคุมโรคคือ
การลดปริมาณฝุ่นที่แหล่งกำเนิดด้วยวิธีทางวิศวกรรม ดังนั้น สคร.5 จังหวัด
นครราชสีมา ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี นครราชสีมา จึงได้
พัฒนาต้นแบบ “อุปกรณ์ลดฝุ่นหิน” ซึ่งใช้องค์ความรู้และเทคโนโลยีใน
การประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรม โดยใช้วัสดุที่หาได้ง่าย ทนทาน น้ำหนักเบา
และราคาไม่แพง นำมาติดตั้งที่เครื่ องตัดหญ้าแบบสะพายซึ่งผู้ประกอบ
อาชีพที่สัมผัสฝุ่นหินใช้ในการตัดหิน ซึ่งอุปกรณ์ลดฝุ่นหินที่ติดตั้งที่เครื่อง
ตัดหินแบบสะพายจะช่วยลดฝุ่นที่เกิดจากการตัดหินและควบคุมการฟุ้ง
กระจายของฝุ่น มีความเหมาะสมกับสภาพการทำงาน ไม่ต้องพึ่งแหล่ง
พลังงานไฟฟ้ า ผู้ประกอบอาชีพที่สัมผัสฝุ่นหินหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สามารถนำต้นแบบที่จัดทำขึ้น ไปสร้างอุปกรณ์ลดฝุ่นหินได้ง่ายด้วยตนเอง
โดยใช้อุปกรณ์ที่หาได้ง่ายและต้นทุนต่ำ ซึ่งสามารถลดฝุ่นได้เป็ นอย่างดี (ไม่
น้อยกว่าร้อยละ 50) และเนื่ องจากมีการนำหินมาแปรรูปในที่พักอาศัย
ทำให้ผู้ประกอบอาชีพที่สัมผัสฝุ่นหินทรายและบุคคลในครอบครัวมีความ
เสี่ยงต่อการเกิดโรคเพิ่มมากขึ้น จึงต้องมีการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงาน
เครือข่ายที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ปรับปรุงที่พักอาศัยของผู้ประกอบอาชีพที่
สัมผัสฝุ่นหินให้เป็ น “บ้านต้นแบบปลอดโรค ปลอดภัย ห่างไกลซิลิโค
สีส” เพื่อลดฝุ่นในที่พักอาศัยด้วยการพัฒนาปรับปรุงบ้านตามเกณฑ์การ
ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานที่บ้าน (ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80) การ
พัฒนานวัตกรรมการบริการและแนวทางการแก้ปั ญหาดังกล่าว จึงมีความ
สำคัญและมีผลในการลดปริมาณฝุ่นในที่ทำงานและที่บ้าน ซึ่งส่งผลต่อการ
ลดความเสี่ยงในการรับฝุ่นเข้าสู่ร่างกาย ลดความเสี่ยงต่อการป่ วยด้วยโรคซิ
ลิโคสีสของผู้ประกอบอาชีพที่สัมผัสฝุ่นหินและบุคคลในครอบครัวลง นำไป
สู่การป้ องกันควบคุมโรคซิลิโคสีสที่มีประสิทธิภาพต่อไป
4. กลยุทธ์ที่นำมาใช้ให้การพัฒนาบริการประสบผลสำเร็จ
(สรุปวัตถุประสงค์หลักและกลยุทธ์ที่ใช้ว่ามีวิธีการอย่างไร และแผนปฏิบัติการใน
การนำกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติ ใครเป็ นผู้ดำเนินการ) (ความยาวไม่เกิน 1,400 คำ)
5. ทรัพยากรที่ใช้ในการดำเนินการ
(ระบุทรัพยากรทั้งด้านการเงิน เทคนิค ทรัพยากรบุคคล ผู้สนับสนุนทางการเงินของ
การดำเนินโครงการและอธิบาย วิธีการจัดสรรหรือกระจายทรัพยากร) (ความยาวไม่เกิน 700
คำ)
ทรัพยากรด้านการเงิน
1. การพัฒนาต้นแบบอุปกรณ์ลดฝุ่นหิน และการพัฒนาปรับปรุงบ้าน
ปลอดโรค ปลอดภัย ห่างไกลซิลิโคสีส ตามเกณฑ์การปรับปรุงสภาพ
แวดล้อมการทำงานที่บ้าน ใช้งบประมาณจากสคร.5 จังหวัดนครราชสีมา
โครงการพัฒนาเทคโนโลยีการป้ องกันและควบคุมโรคปอดฝุ่นหิน อำเภอ
สีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
2. อุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดทำต้นแบบอุปกรณ์ลดฝุ่นหิน และเครื่องตัด
หินแบบสะพาย ใช้งบประมาณจากสคร.5 จังหวัดนครราชสีมา โครงการ
พัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการองค์กรให้ได้มาตรฐานสากล
ทรัพยากรด้านบุคคล
1. ผู้ดำเนินการคือ บุคลากรกลุ่มโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่ง
แวดล้อม สคร.5 จังหวัดนครราชสีมา มีบทบาทหน้าที่รับผิดชอบด้านการ
เฝ้ าระวังป้ องกันควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม
สนับสนุนถ่ายทอดองค์ความรู้ ประเมินมาตรฐาน นิเทศติดตามการดำเนิน
งานป้ องกันควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขต
บริการสุขภาพที่ 9 (จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์)
2. ผู้ร่วมพัฒนาอุปกรณ์ต้นแบบลดฝุ่นหินคือ อาจารย์จาก
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี นครราชสีมา ซึ่งใช้องค์ความรู้และ
เทคโนโลยีในการประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมอุปกรณ์ลดฝุ่นหิน โดยใช้วัสดุที่
หาได้ง่าย ราคาไม่แพง ทนทาน และมีน้ำหนักเบา ติดตั้งที่เครื่องตัดหญ้า
แบบสะพายซึ่งผู้ประกอบอาชีพใช้ในการตัดหิน มีการทดสอบการใช้งาน
อุปกรณ์ลดฝุ่นหินและปรับปรุงให้เหมาะสมต่อการใช้งาน มีการประเมิน
ประสิทธิภาพการลดฝุ่นของอุปกรณ์ลดฝุ่นหินจากเครื่องตัดหญ้าแบบ
สะพาย ซึ่งมีประสิทธิภาพการลดฝุ่นไม่น้อยกว่าร้อยละ 50
3. เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานด้านโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่ง
แวดล้อม และผู้ที่มีบทบาทหน้าที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบอาชีพสัมผัสฝุ่นหิน
ของหน่วยงานเครือข่ายที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้แก่ โรงพยาบาลสีคิ้ว โรง
พยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองน้ำใส องค์การบริหารส่วนตำบลหนอง
น้ำใส มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี นครราชสีมา และภาคเอกชน ร่วมกัน
พัฒนาปรับปรุงบ้านที่อยู่อาศัยของผู้ประกอบอาชีพสัมผัสฝุ่นหิน ตามเกณฑ์
การปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานที่บ้าน เพื่อลดปริมาณฝุ่นในที่
ทำงานและที่บ้านตามเกณฑ์ประเมินบ้านปลอดโรค ปลอดภัย ห่างไกลซิลิ
โคสีส ซึ่งผ่านเกณฑ์การปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานที่บ้านร้อยละ
80
6. ขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาการบริการและการนำไปปฏิบัติ
6.1 ลำดับขั้นตอนในการพัฒนา
(อธิบายขั้นตอนและลำดับเหตุการณ์การดำเนินงานหลักในการริเริ่มพัฒนาการ
บริการจนถึงขั้นวางแผนการพัฒนา) (ความยาวไม่เกิน 700 คำ)
ก่อนการดำเนินงาน
(1) วิเคราะห์ปั ญหาจากข้อมูลการดำเนินงานป้ องกันควบคุมโรคซิลิ
โคสีสในพื้นที่เขตบริการสุขภาพที่ 9 ปี พ.ศ. 2545 - 2556 มีการปรับ
เปลี่ยนวิธีการทำงาน โดยมุ่งเน้นการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นเป็ นเครือ
ข่าย การพัฒนาศักยภาพบุคลากร การสร้างความรู้ความเข้าใจกับเครือข่าย
และกลุ่มเป้ าหมาย การพัฒนาระบบฐานข้อมูลการเฝ้ าระวังโรค มีการเฝ้ า
คุมเฝ้ าระวังด้านสิ่งแวดล้อมในการทำงาน และการเฝ้ าระวังด้านสุขภาพ มี
การสำรวจข้อมูลสถานการณ์โรคซิลิโคสิส และสถานประกอบการที่ดำเนิน
การเฝ้ าระวังโรคซิลิโคสีส ซึ่งพบผู้ป่ วย ผู้เสียชีวิต และกลุ่มเสี่ยงเพิ่มขึ้นทุกปี
(2) วางแผนการแก้ไขปั ญหาร่วมกันกับทีมงานและหน่วยงานเครือ
ข่ายที่เกี่ยวข้อง ในการคิดค้นหาวิธีการและแนวทางการแก้ไขปั ญหาที่เกิด
ขึ้น
(3) เขียนโครงการของบประมาณ โดยมีการประชุมของกลุ่มงาน
คณะทำงาน และผู้บริหารของสคร.5 จังหวัดนครราชสีมา ในการพิจารณา
โครงการ โดยงบประมาณของโครงการจะใช้สำหรับการพัฒนาเทคโนโลยี
การป้ องกันและควบคุมโรคปอดฝุ่นหิน อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
การพัฒนาต้นแบบอุปกรณ์ลดฝุ่นหิน และการพัฒนาปรับปรุงบ้านปลอด
โรค ปลอดภัย ห่างไกลซิลิโคสีส ตามเกณฑ์การปรับปรุงสภาพแวดล้อมการ
ทำงานที่บ้าน และประเมินผลการดำเนินงาน
การดำเนินการและลำดับขั้นตอนในการพัฒนา
(1) ดำเนินงานวางแผนตามโครงการพัฒนาเทคโนโลยีการป้ องกัน
ควบคุมโรคปอดฝุ่นหิน อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา การจัดทำเอกสาร
วิชาการ คู่มือการจัดทำอุปกรณ์ลดฝุ่นหิน ประเมินผล และสรุปบทเรียน
(2) จัดทำต้นแบบอุปกรณ์ลดฝุ่นหิน
(2.1) การจัดทำต้นแบบอุปกรณ์ลดฝุ่นหินที่เหมาะสม โดยใช้วัสดุ
ที่หาได้ง่าย ราคาไม่แพง น้ำหนักเบา ไม่ต้องพึ่งแหล่งพลังงานไฟฟ้ า และ
เหมาะสมต่อการนำไปใช้ในการทำงาน แล้วนำมาทดสอบใช้อุปกรณ์ลดฝุ่น
โดยติดตั้งที่เครื่องตัดหญ้าแบบสะพายที่ผู้ประกอบอาชีพใช้ในการตัดหิน
จากนั้นมีการประเมินปริมาณฝุ่นจากการตัดหินด้วยเครื่องตัดหญ้าแบบ
สะพายขณะติดตั้งอุปกรณ์ลดฝุ่น และประเมินประสิทธิภาพการลดฝุ่นของ
อุปกรณ์ลดฝุ่นจากเครื่องตัดหญ้าแบบสะพาย เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิผล
ของอุปกรณ์ลดฝุ่น รวมทั้งมีการประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้อุปกรณ์ลด
ฝุ่นหิน
(2.2) ทำการทดสอบต้นแบบอุปกรณ์ลดฝุ่นหิน มีการนำต้นแบบ
อุปกรณ์ลดฝุ่นหินไปใช้ โดยติดตั้งที่เครื่องตัดหญ้าแบบสะพายที่ผู้ประกอบ
อาชีพใช้ในการตัดหิน มีการปรับปรุงพัฒนาต้นแบบอุปกรณ์ลดฝุ่นหินให้
เหมาะสมต่อการนำไปใช้งาน และใช้งานได้สะดวก มีการประเมินความพึง
พอใจของผู้ใช้อุปกรณ์ โดยมีผลการประเมินประสิทธิภาพการลดฝุ่นหินไม่
น้อยกว่าร้อยละ 50
(3) พัฒนาปรับปรุงบ้านปลอดโรค ปลอดภัย ห่างไกลซิลิโคสีส ตาม
เกณฑ์การปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานที่บ้าน
(3.1) การนำเกณฑ์การปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานที่บ้าน
มาใช้ เนื่องจากมีการนำหินมาแปรรูปในที่พักอาศัย ทำให้ผู้ประกอบอาชีพ
ที่สัมผัสฝุ่นหินทรายและบุคคลในครอบครัวมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเพิ่ม
มากขึ้น
(3.2) มีการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายในพื้นที่ ให้มี
การนำเกณฑ์การปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานที่บ้านมาใช้ เพื่อ
ปรับปรุงที่พักอาศัยของผู้ประกอบอาชีพที่สัมผัสฝุ่นหินทรายให้เป็ น “บ้าน
ต้นแบบปลอดโรค ปลอดภัย ห่างไกลซิลิโคสีส” ลดฝุ่นในที่พักอาศัย โดย
ผ่านเกณฑ์การปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานที่บ้านร้อยละ 80
6.2 ลำดับขั้นตอนในการปฏิบัติ
(อธิบายขั้นตอนและลำดับเหตุการณ์การดำเนินงานหลักในการปฏิบัติตามแผนงาน
โครงการ) (ความยาวไม่เกิน 700 คำ)
6.3 ระบบการติดตามและประเมินผลการพัฒนาบริการ
(อธิบายวิธีการที่ใช้ในการตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินการตามกลยุทธ์)
(ความยาวไม่เกิน 700 คำ)
การตรวจสอบและประเมินผลความสำเร็จการพัฒนาอุปกรณ์ลดฝุ่น
หิน โดยการวัดประสิทธิภาพการลดฝุ่น ด้วยเครื่ องเก็บตัวอย่างฝุ่นชนิด
ติดตัวบุคคล ซึ่งกำหนดเกณฑ์คือ อุปกรณ์ลดฝุ่นจากเครื่ องตัดหินแบบ
สะพายมีประสิทธิภาพการลดฝุ่นหินไม่น้อยกว่าร้อยละ 50
การตรวจสอบและประเมินผลความสำเร็จการพัฒนาบ้านปลอดโรค
ปลอดภัยห่างไกลซิลิโคสีส โดยการประเมินเมินผลการพัฒนาบ้านที่พัก
อาศัยของผู้ประกอบอาชีพที่สัมผัสฝุ่นหิน ซึ่งผ่านเกณฑ์การปรับปรุงสภาพ
แวดล้อมการทำงานที่บ้านร้อยละ 80 หน่วยงานเครือข่ายในพื้นที่มีการร่วม
ติดตามผลการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดการดำเนินงานที่ต่อเนื่องและยั่งยืน
8. ประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินการพัฒนาบริการ
(อธิบาย ผลลัพธ์ ผลสำเร็จ/ผลกระทบเชิงบวก และวิธีการวัดผลทั้งในเชิงปริมาณและ
คุณภาพ และใครคือผู้ได้รับประโยชน์) (ความยาวไม่เกิน 1,400 คำ)
9. การสร้างความยั่งยืนและการขยายผลไปยังหน่วยงานอื่นๆ
(อธิบายถึงวิธีการที่ทำให้เกิดความยั่งยืนในแง่ต่าง ๆ เช่น การเงิน เศรษฐกิจ สังคม
วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม สถาบันและกฎระเบียบ เป็ นต้น และอธิบายว่าหากการพัฒนาการ
บริการหรือ ความคิดริเริ่มนี้ถูกจำลองแบบหรือเผยแพร่สู่การบริการสาธารณะในระดับชาติ
และ/หรือ นานาชาติ จะสามารถนำไปขยายผลได้อย่างไร) (ความยาวไม่เกิน 700 คำ)
สิ่งสำคัญที่สุดที่ได้รับคือ การนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับผู้ประกอบ
อาชีพและบุคคลในครอบครัวที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคซิลิโคสิสหรือโรคปอดฝุ่น
หิน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการประกอบอาชีพที่สัมผัสฝุ่นหินซึ่งเป็ นแรงงาน
ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากที่สุด ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่
ในพื้นที่ที่สละเวลาในการร่วมเรียนรู้และร่วมดำเนินการ ช่วยให้ผู้ประกอบ
อาชีพและบุคคลในครอบครัวที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคซิลิโคสิสหรือโรคปอดฝุ่น
หิน ซึ่งเป็ นโรคที่มีอันตรายอย่างยิ่งคือเป็ นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาด
ได้ ได้รับการดูแลป้ องกันก่อนการเกิดโรค ทั้งการป้ องกันทางสุขภาพและ
การป้ องกันทางสิ่งแวดล้อม แม้ว่าจะไม่สามารถวัดผลในการลดโรคได้ใน
ภาพรวมด้วยระยะเวลาอันสั้นนี้ แต่นวัตกรรมบริการต้นแบบอุปกรณ์ลดฝุ่น
หินนี้ สามารถนำมาเป็ นเครื่องมือเพื่อช่วยป้ องกันสุขภาพของประชาชน
ก่อนการเกิดโรค แม้ช่วยลดการเจ็บป่ วยหรือการเสียชีวิตด้วยโรคซิลิโคสิสห
รือโรคปอดฝุ่นหินเพียง 1 ราย ก็คุ้มค่ากับสิ่งที่ได้พัฒนานวัตกรรมการ
บริการที่ดำเนินการ เพื่อปกป้ องประชาชนจากโรคและภัยสุขภาพ