Professional Documents
Culture Documents
การคำขนวนหาขนาดตัวอย่างเพื่อารวิจัย
การคำขนวนหาขนาดตัวอย่างเพื่อารวิจัย
หน่วยบริการข้อมูลสารสนเทศ
คณะวิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยบูรพา
การคำนวณหาขนาดตัวอย่างเพื่องานวิจัย
1 บทนำ
ในการศึกษาหรือในงานวิจัย ประเด็นทางสถิติที่มีผลต่อความถูกต้องสมบูรณ์ผลงานวิจัย ได้แก่
1. การออกแบบงานวิจัย
2. ระดับนัยสำคัญที่ใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจ (level of significant, α)
3. ความแปรปรวนของตัวแปรที่ศึกษาในเชิงประชากร (population variance)
4. ขนาดของความแตกต่างระหว่างค่าที่แท้จริงของพารามิเตอร์ที่ศึกษาและค่าพารามิเตอร์ที่กำหนด
ในสมมุติฐานหลัก หรือที่เรียกว่า Effect size
5. ชนิดของสมมุติฐานที่ทดสอบ เช่น สมมุติฐานแบบทางเดียว หรือสมมุติฐานแบบสองทาง
6. ชนิดของการทดสอบทางสถิติที่ใช้ เช่น การทดสอบที (t-test) การทดสอบเอฟ (F-test) เป็นต้น
7. ขนาดตัวอย่าง (sample size)
จากประเด็นต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้วจะเห็นได้ว่าขนาดตัวอย่างที่จะใช้ในการวิจัยเป็นสิ่งมีความสำคัญ
อย่างมาก และมีผลโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือของผลงานวิจัย การคํานวณขนาดตัวอย่างล่วงหน้าก่อนทํา
วิจัยจะช่วยให้ผู้วิจัยสามารถตัดสินใจและ เตรียมการต่าง ๆ ได้ก่อนดําเนินการวิจัย เพื่อการเก็บข้อมูลอย่า
งมี ประสิทธิภาพ โดยใช้ ขนาดตัว อย่างน้อยที่สุด ที่ จะตอบคำถามงานวิจัย ได้ เพื่อ ประหยัด เวลา แรงงาน
งบประมาณค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิผลและประสิทธิภาพการวิจัย วิธีหนึ่งที่นิยมใช้ในการคำนวณหาขนาด
ตัวอย่างคือการใช้การวิเคราะห์กำลังการทดสอบ (power analysis) ซึ่งการวิเคราะห์กำลังการทดสอบนี้
สามาถทำได้ทั้ง ก่อนการเก็บข้อมูลหรือ หลังการเก็บข้อมูลก็ได้ อย่างไรก็ตามในที่นี้จะใช้วิธีการวิเคราะห์
กำลังการทดสอบก่อนการเก็บข้อมูล เพื่อหาขนาดตัวอย่างจากการกำหนดระดับของ effect size ระดับ
นัยสำคัญ (α) และกำลังการทดสอบ (power, 1 − β ) โดยทั่วไปการกำหนด α และ β จะกำหนดด้วย
อัตราส่วน α : β = 4:1 เช่น หากใช้ α = 0.05 ควรใช้กำลังการทดสอบ 1 − β = 4 × 0.05 = 0.80
ความหมายของ α และ 1 − β
ระดับนัยสำคัญ (α) คือความน่าจะเป็นของการปฏิเสธสมมุติฐานหลัก (H0 ) เมื่อสมมุติฐานหลักเป็นจริง
หรือถูกต้อง หรือคือความน่าจะเป็นของการเกิดความผิดพลาดชนิดที่ 1 (type I error)
β คือความน่าจะเป็นของการยอมรับสมมุติฐานหลัก เมื่อสมมุติฐานหลักเป็นเท็จหรือไม่ถูกต้อง หรือคือ
ความน่าจะเป็นของการเกิดความผิดพลาดชนิดที่ 2 (type II error)
กำลังการทดสอบ (1 − β ) คือ ความน่า จะเป็น ของการปฏิเสธสมมุติฐานหลัก เมื่อ สมมุติฐานหลัก เป็น
เท็จ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
1
การคำนวณหาขนาดตัวอย่างเพื่องานวิจัย
องค์ประกอบในการหาขนาดตัวอย่าง
องค์ประกอบสําคัญที่ใช้ประกอบการกําหนดขนาดตัวอย่าง มีดังนี้
3. การออกแบบการวิจัย เช่น ออกแบบการวิจัย เป็น แบบกลุ่ม ตัวอย่างหนึ่ง กลุ่ม หรือ ต้องใช้ สอง
หรือ สามกลุ่ม ขนาดตัว อย่างย่อมแตกต่า งกัน ไป การออกแบบการวิจัย เชิง ทดลองย่อมใช้กลุ่ม ตัว
อย่างน้อยกว่าการวิจัยเชิงสํารวจ ๆ ซึ่งใช้กลุ่มตัวอย่างจํานวนมากกว่า
5. สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ขนาดของกลุ่มตัวอย่างขึ้นอยู่กับสถิติที่ใช้ในการวิจัยด้วย
2
การคำนวณหาขนาดตัวอย่างเพื่องานวิจัย
2 One mean
สำหรับงานวิจัยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการทดสอบสมมุติฐานเกี่ยวกับค่าเฉลี่ยของประชากร 1 กลุ่ม โดย
มีสมมุติฐานทางสถิติที่ทดสอบ คือ
Two-tailed test One-tailed test
H0 : µ = µ 0 H0 : µ ≤ µ 0 H0 : µ ≥ µ 0
Ha : µ ̸= µ0 Ha : µ > µ 0 Ha : µ < µ 0
โดยใช้การทดสอบทีในการทดสอบสมมุติฐานนี้
x̄ −√µ0
t=
s/ n
จะมีวิธีการคำนวณขนาดตัวอย่าง ดังนี้
Onetailed test [ ]2
(t +t )σ̂
n = α,n−1 β,n−1 (1)
µ − µ0
เมื่อ σ̂ คือค่าประมาณของค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของประชากร
Twotailed test [ ]
(tα/2,n−1 + tβ,n−1 )σ̂ 2
n= (2)
µ − µ0
3
การคำนวณหาขนาดตัวอย่างเพื่องานวิจัย
เมื่อ พิจารณาสูตร 1 และ 2 จะเห็น ว่า เราจะไม่ สามารถคำนวณขนาดตัว อย่างจากทั้ง สูตรนี้ ได้ โดยตรง
เนื่องจากค่า สถิติ t ในสูตรทั้ง สองนั้น จะหาได้ ก็ ต่อ เมื่อ ทราบค่า n เท่านั้น ดัง นั้น การใช้ สูตรนี้ จึง ใช้ วิธี
การทำซ้ำ (itterative method) โดยการแทนค่า n ด้วยค่าต่าง ๆ จนกว่าจะได้กำลังการทดสอบตามที่
ต้องการ ซึ่งมีความยุ่งยากมาก อย่างไรก็ตาม MINITAB และ G*Power สามารถหาขนาดตัวอย่างจากสูตร
นี้ให้ได้
1-Sample t Test
Sample Target
Difference Size Power Actual Power
2 16 0.8 0.815566
4
การคำนวณหาขนาดตัวอย่างเพื่องานวิจัย
1. การใช้คำสั่ง
2. ผลลัพธ์
สรุป จาก MINITAB และ G*Power ขนาดตัวอย่างหรือ จำนวนซ้ำ ที่ เหมาะสมสำหรับ การทดลองนี้
เท่ากับ 16 ตัวอย่าง
5
การคำนวณหาขนาดตัวอย่างเพื่องานวิจัย
Twotailed test
(σ̂12 + σ̂22 )(tα/2,n1 +n2 −2 + tβ,n1 +n2 −2 )2
n= (4)
(∆ − ∆0 )2
เช่น เดียวกับ กรณี ของการทดสอบค่า เฉลี่ย 1 กลุ่ม นั่น คือ ไม่ สามารถหาขนาดตัวอย่างได้ จากสูตรนี้
โดยตรง แต่สามารถใช้ MINITAB และ G*Power ในการหาขนาดตัวอย่างจากสูตรนี้ได้ดังนี้
ใช้ MINITAB
2-Sample t Test
Sample Target
Difference Size Power Actual Power
1 17 0.8 0.807037
ถ้าในกรณีที่ σ1 ̸= σ2 ใช้ √
′ σ12 + σ22
σ =
2
คำสั่งที่ใช้
7
การคำนวณหาขนาดตัวอย่างเพื่องานวิจัย
ผลลัพธ์ที่ได้
สรุป จาก MINITAB และ G*Power ขนาดตัวอย่างหรือ จำนวนซ้ำ ที่ เหมาะสมสำหรับ การทดลองนี้
เท่ากับ 17 ตัวอย่างต่อกลุ่ม
8
การคำนวณหาขนาดตัวอย่างเพื่องานวิจัย
Twotailed test [ ]
(tα/2,n−1 + tβ,n−1 )σ̂d 2
n= (6)
µd
เมื่อ
√
σ̂d = σ̂y21 + σ̂y22 − 2ρ̂y1 ,y2 σ̂y1 σ̂y2
ตัวอย่างที่ 3 หากผู้วิจัยกำหนด ∆0 = 1, α = .05, One-tailed test, σy1 = σy2 = 5, ρy1 ,y2 = .80
และ Power=.80
ดังนั้น
√ √
σ̂d = 25 + 25 − 2(.8)(25) = 10 = 3.162
ใช้ MINITAB
9
การคำนวณหาขนาดตัวอย่างเพื่องานวิจัย
Paired t Test
Sample Target
Difference Size Power Actual Power
1 64 0.8 0.804517
ใช้ G*Power
คำสั่งที่ใช้
10
การคำนวณหาขนาดตัวอย่างเพื่องานวิจัย
หา effect size
ได้ผลลัพธ์
11
การคำนวณหาขนาดตัวอย่างเพื่องานวิจัย
สรุป จาก MINITAB และ G*Power ขนาดตัวอย่างหรือ จำนวนซ้ำ ที่ เหมาะสมสำหรับ การทดลองนี้
เท่ากับ 64 ตัวอย่าง
5 Experimental designs
สำหรับงานวิจัยที่เป็นงานวิจัยเชิงทดลอง และใช้แผนแบบการทดลองแบบต่าง ๆ จะมีคำนวณขนาด
ตัวอย่างตามแผนแบบการทดลองที่ใช้ โดยสถิติทดสอบที่ใช้ในการทดสอบสมมุติฐานคือสถิติทดสอบเอฟ
(F ) ดังนั้น ในการคำนวณขนาดตัวอย่างจึงพิจารณาจาก Power ของการทดสอบเอฟ
One factor
สำหรับงานวิจัยที่มีปัจจัยที่ศึกษาจำนวน 1 ปัจจัย โดยมีระดับปัจจัยหรือทรีทเมนต์จำนวน a ระดับ มี
ค่า Φ คือ √
nD2
Φ= (7)
2aσ2
เมื่อ D คือผลต่างระหว่างค่าเฉลี่ยของประชากรของทรีทเมนต์ที่มีค่าแตกต่างกันมากที่สุด, a คือจำนวนท
รีทเมนต์ และ σ คือค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของประชากรแต่ละกลุ่มซึ่งเท่ากันทุกกลุ่ม
ซึ่งจะเห็นได้ว่าการหาค่า Φ ต้องทราบค่า n คือจำนวนตัวอย่างในแต่ละทรีทเมนต์ ดังนั้นในการหา
ขนาดตัวอย่างที่จำทำได้ Power ที่ต้องการจึงต้องใช้วิธีการลองแทนค่า n ลงในสูตร Φ เมื่อได้ค่า Φ แล้ว
จึงนำไปหา Power จนกว่าจะได้ Power ตามที่ต้องการ โดย MINITAB สามารถหาขนาดตัวอย่างตามวิธี
ที่กล่าวถึงนี้
ตัวอย่างที่ 4 ในการทดลองหนึ่ง มี ปัจจัย ที่ ศึกษาหนึ่ง ปัจจัย แบ่ง เป็น 4 ระดับ (ทรีท เมนต์) ผู้ ทดลอง
ต้องการหาจำนวนตัวอย่าง (ซ้ำ) ที่เหมาะสม โดยกำหนดพารามิเตอร์ต่าง ๆ ดังนี้
• µ1 = 25 µ2 = 45 µ3 = 100 และ µ4 = 50
MINITAB
12
การคำนวณหาขนาดตัวอย่างเพื่องานวิจัย
One-way ANOVA
13
การคำนวณหาขนาดตัวอย่างเพื่องานวิจัย
หา effect size
14
การคำนวณหาขนาดตัวอย่างเพื่องานวิจัย
หาขนาดตัวอย่าง
Two factors
สำหรับงานวิจัยที่มีปัจจัยที่ศึกษา 2 ปัจจัย คือปัจจัย A และ B โดยปัจจัย A มี a ระดับ และปัจจัย B
มี b ระดับ การหาค่า Φ ทำได้ 2 วิธี ขึ้นอยู่กับผู้วิจัยสนใจอิทธิพลหลักของปัจจัย A หรือ B
• ในกรณีที่ผู้วิจัยสนใจอิทธิพลหลักของปัจจัย A
√
nbD2
Φ= (8)
2aσ2
เมื่อ D คือผลต่างที่มากที่สุดระหว่างค่าเฉลี่ยของระดับปัจจัย A 2 ระดับ
• ในกรณีที่ผู้วิจัยสนใจอิทธิพลหลักของปัจจัย B
√
naD2
Φ= (9)
2bσ2
เมื่อ D คือผลต่างที่มากที่สุดระหว่างค่าเฉลี่ยของระดับปัจจัย B 2 ระดับ
• σ = 25
ใช้ MINITAB
Stat –> Power and Sample Size –> General Full Factorial Design
16
การคำนวณหาขนาดตัวอย่างเพื่องานวิจัย
ใช้ G*Power
ในการใช้ G*Power ต้องคำนวณหา effect size จาก
√
σm2
f=
σ2
เมื่อ σm2 คือ ค่า ความแปปรวนระหว่างระดับ ปัจจัย ของปัจจัย ที่ เลือกมาคำนวณขนาดตัวอย่าง ในที่ นี้ คือ
ปัจจัย A หา สำหรับตัวอย่างนี้
k
1∑ 1[ ]
σm2 = (µi − µ̄)2 = (45 − 65)2 + (65 − 65)2 + (85 − 65)2 = 266.6667
k i=1 3
45 + 65 + 85
เมื่อ µ̄ = = 65
3
คำสั่งที่ใช้
17
การคำนวณหาขนาดตัวอย่างเพื่องานวิจัย
หา effect size
ผลลัพธ์
18
การคำนวณหาขนาดตัวอย่างเพื่องานวิจัย
สรุป จาก MINITAB และ G*Power ขนาดตัวอย่างหรือ จำนวนซ้ำ ที่ เหมาะสมสำหรับ การทดลองนี้
เท่ากับ 4 ตัวอย่าง
6 เอกสารอ้างอิง
1. Dattalo, P. (2008). Determining sample size : balancing power, precision, and
practicality. Oxford University Press, Inc., New York.
2. Faul, F., Erdfelder, E., Lang, A.-G., & Buchner, A. (2007). G*Power 3: A flexible sta-
tistical power analysis program for the social, behavioral, and biomedical sciences.
Behavior Research Methods, 39, 175-191.
3. Thomas P.R. (2013). Sample Size Determination and Power. John Wiley & Son,
Inc., New Jersey.
19
การคำนวณหาขนาดตัวอย่างเพื่องานวิจัย
7 ภาคผนวก
1. ท่านสามารถ download โปรแกรม MINITAB free trial version ได้จาก http://www.minitab.com/
en-us/downloads/
20