หลักปฏิบัติพื้นฐานของ

โค้ด 2D
การใช้งานโค้ด 2D
ฉบับที่ 2 และขนาดการมาร์ก

สารบัญ
บทที่ 1
1-1 โค้ด 2D และวิธีแยกแยะความแตกต่างจากบาร์โค้ด
1-2 ตัวอย่างโค้ด 2D

บทที่ 2
2-1 การก�ำหนดข้อมูลการมาร์ก
และการจัดการเนื้อหาของข้อมูล
2-2 รูปแบบข้อมูล

บทที่ 3
3-1 การค�ำนวณขนาดโมดูล
3-2 จ�ำนวนตัวอักษรที่อินพุตสูงสุด
บทน�ำ
ท�ำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อใช้งานโค้ด 2D

ขั้นตอนที่ 1 ข้อมูลการมาร์กและขนาดของโค้ด 2D ที่จะมาร์ก

❙ การก�ำหนดข้อมูลการมาร์กและการจัดการเนื้อหาของข้อมูล
❙ รูปแบบข้อมูล
❙ ค�ำนวณขนาดโมดูล
ฯลฯ

ขั้นตอนที่ 2 วัสดุที่ใช้มาร์กโค้ด 2D
❙ ข้อควรระวังเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้มาร์ก (สลาก โลหะ เรซิน ฯลฯ)
❙ ข้อควรระวังเกี่ยวกับมาร์กเกอร์แบบเครื่องพิมพ์
ฯลฯ

ขั้นตอนที่ 3 เครื่องอ่านโค้ดและคุณสมบัติของแสงไฟ
❙ การมองโค้ดผ่านเครื่องอ่านโค้ด
❙ ความแตกต่างของสีและลักษณะของแสงไฟ
ฯลฯ

เอกสารนี้ครอบคลุมถึง ขั้นตอนที่ 1

2
1-1 โค้ด 2D และวิธีแยกแยะความแตกต่างจากบาร์โค้ด

มีการใช้งานบาร์โค้ดในแวดวงต่างๆ ทั่วโลก ตั้งแต่ระบบ POS ในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ ไปจนถึงค�ำแนะน�ำผลิตภัณฑ์ใน

อุตสาหกรรมการผลิต และการจัดการค�ำสั่งซื้อระหว่างบริษัท
เมื่อมีการใช้บาร์โค้ดอย่างแพร่หลาย ความสะดวกสบายของบาร์โค้ดก็กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ส่งผลให้มีความต้องการที่จะเพิ่ม
ความสะดวกสบายในการใช้งานให้มากขึ้น ในหลายๆ ธุรกิจต่างก็ต้องการให้บาร์โค้ดมีข้อมูลมากขึ้นและบรรจุข้อมูลของใบสั่งซื้อได้
ทั้งหมด เจ้าของธุรกิจต่างๆ ต้องการให้บาร์โค้ดมีขนาดเล็กลงและสามารถติดบนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ได้
จากความต้องการเหล่านี้ จึงมีการประดิษฐ์โค้ด 2D ขึ้นมา โค้ด 2D สามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าบาร์โค้ดหลายร้อยเท่า และมี
ขนาดเล็กกว่าบาร์โค้ดถึงสิบเท่า หรือเล็กกว่านั้น
คุณลักษณะที่สร้างความได้เปรียบนี้จึงได้รับการประยุกต์ใช้ในแขนงต่างๆ มากมาย

ความจุในการบันทึกข้อมูลขนาดใหญ่
ในขณะที่บาร์โค้ดจะบรรจุดข้อมูลในทิศทางเดียว แต่โค้ด 2D จะบรรจุข้อมูลทั้งในทิศทางแนวตั้งและแนวนอน ซึ่งท�ำให้สามารถ
เขียนโค้ดได้มากกว่าบาร์โค้ดถึงหลายร้อยเท่า

บาร์โค้ด โค้ด 2D

ทิศทางของข้อมูล
ทิศทางของข้อมูล ทิศทางของข้อมูล

โค้ดหลายหลัก
บาร์โค้ด 32 หลัก

โค้ด 2D 7089 หลัก

3
ข้อมูลมีความหนาแน่นสูง
โค้ด 2D สามารถเก็บข้อมูลได้เท่ากับบาร์โค้ดในขนาดที่เล็กกว่า

บาร์โค้ด โค้ด 2D

การเปรียบเทียบ
ขนาดโค้ดส�ำหรับข้อมูล
26 หลัก

* ความกว้างของแถบบาร์โค้ดที่แคบที่สุดมีขนาดเท่ากับกับโมดูลของโค้ด 2D

ความกว้างของแถบบาร์โค้ดที่แคบที่สุด
ความกว้างของแถบบาร์โค้ดที่น้อยที่สุดในการสร้างบาร์โค้ดจะเรียกว่า NB: แถบบาร์โค้ดที่แคบ
WB: แถบบาร์โค้ดที่กว้าง
“ความกว้างของแถบบาร์โค้ดที่แคบที่สุด” (ความกว้างของพื้นที่ว่างที่น้อยที่สุด NS: ช่องว่างที่แคบ
จะเรียกว่า “ความกว้างของพื้นที่ว่างที่แคบที่สุด” ซึ่งจะมีขนาดเท่ากับความกว้าง WS: ช่องว่างที่กว้าง

ของแถบบาร์โค้ดที่แคบที่สุด) นอกจากนี้ ส่วนของแถบบาร์โค้ดและพื้นที่ว่างที่

กว้างจะเรียกว่า “แถบบาร์โค้ดที่กว้าง” และ “ช่องว่างที่กว้าง” ตามล�ำดับ

ขนาดของโมดูล
องค์ประกอบที่เล็กที่สุด (สี่เหลี่ยมจัตุรัสสีด�ำหรือสีขาว) ของโค้ด 2D ขนาดของโมดูล
จะเรียกว่า “โมดูล”
ขนาดของโมดูลจะเท่ากับความยาวของ 1 โมดูล

ความสามารถในการแก้ไขข้อผิดพลาด (การกู้คืนข้อมูล)
โค้ด 2D มีฟังก์ชันในการกู้คืนข้อมูลหากโค้ดเสียหายหรือมีรอยเปื้อน ซึ่งจะช่วยให้สามารถกู้คืนและอ่านข้อมูลได้ แม้จะเกิดพื้นที่
เสียหายบนโค้ดได้สูงสุดถึง 30%
การกู้คืนข้อมูลจะใช้การตรวจจับข้อผิดพลาดและวิธีแก้ไขทางคณิตศาสตร์แบบ Reed-Solomon เพื่อกู้คืนข้อมูลและป้องกัน
การอ่านที่ไม่ถูกต้อง (การอ่านข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง)

เป็นจุด รอยเปื้อน เสียหาย

4
1-2 ตัวอย่างโค้ด 2D

QR Code
QR Code แบ่งประเภทออกเป็น Model 1 และ Model 2 ที่มีรูปแบบการตรวจจับสามต�ำแหน่ง และ Micro QR ที่มีรูปแบบ
การตรวจจับเพียงต�ำแหน่งเดียว ขนาดของพื้นที่ว่าง (Quiet Zone) ส�ำหรับ QR Code นั้นจะต้องใช้ความกว้าง 4 โมดูล
(Micro QR code ใช้ความกว้าง 2 โมดูล)
* ส�ำหรับรายละเอียดของ QR Code โปรดดู “หลักปฏิบัติพื้นฐานของโค้ด 2D ฉบับที่ 1”

DataMatrix ECC200
โค้ด DataMatrix (ECC200) มี 2 ชนิด ได้แก่ การก�ำหนดค่าแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส และการก�ำหนดค่าแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ขนาดของพื้นที่ว่าง (Quiet Zone) ที่โค้ด DataMatrix ต้องใช้คือ 1 โมดูล
* ส�ำหรับรายละเอียดของ DataMatrix ECC200 โปรดดู “หลักปฏิบัติพื้นฐานของโค้ด 2D ฉบับที่ 1”

ชนิดสี่เหลี่ยมจัตุรัส ชนิดสี่เหลี่ยมผืนผ้า

ไม่สามารถ
มาร์กได้

คุณสามารถเลือกชนิดสี่เหลี่ยมผืนผ้าของโค้ด DataMatrix ที่มีข้อมูลเดียวกันได้ ชนิดสี่เหลี่ยมผืนผ้า

ของโค้ด DataMatrix นั้นเหมาะส�ำหรับการมาร์กบนพื้นที่ที่จ�ำกัดหรือบนชิ้นงานทรงกระบอก

5
2-1 การก�ำหนดข้อมูลการมาร์กและการจัดการเนื้อหาของข้อมูล

ขั้นตอนแรกในการใช้งานโค้ด 2D ก็คือการจัดการเนื้อหาของข้อมูล เพื่อจัดการรายการข้อมูลที่คุณต้องการซึ่งมีอยู่มากมาย

เราจะใช้ข้อมูลต่อไปนี้เป็นตัวอย่าง

ตัวอย่างของรายการที่ต้องจัดการ

• หมายเลขผลิตภัณฑ์ : P123456
• หมายเลขล็อต: 00219
ก�ำหนดรูปแบบข้อมูลได้โดยระบุข้อมูลที่จะจัดการ
• หมายเลขผลิตภัณฑ์: 0005365
(ข้อมูลที่จะรวมอยู่ในโค้ด 2D)
• วันที่ผลิต: 19/12/22
• ปริมาณ: 100
• หมายเลขที่ตั้ง: 001
ฯลฯ

2-2 รูปแบบข้อมูล

ขั้นตอนต่อไปคือการก�ำหนดรูปแบบข้อมูล
ขั้นตอนนี้จะต้องใช้การพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากรายการเหล่านี้จะเป็นตัวก�ำหนดการประยุกต์ใช้งานที่สามารถจัดการกับ
ข้อมูลและขนาดของการมาร์กโค้ด 2D

จ�ำนวนหลักของรายการข้อมูล
จ�ำนวนของหลักของข้อมูล (ความยาวของข้อมูล) สามารถแสดงได้เป็น “ความยาวแบบไม่คงที่” ซึ่งจ�ำนวนหลักจะเปลี่ยนแปลงได้
และแสดงได้เป็น “ความยาวคงที่” ซึ่งจ�ำนวนหลักจะคงที่
ขั้นตอนนี้จะต้องใช้การพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากเป็นขั้นตอนที่จะระบุวิธีการประมวลผลข้อมูล ขนาด และเนื้อหา
ของโค้ด 2D

การแยกส่วนข้อมูลที่มีความยาวแบบไม่คงที่
เนื่องจากจ�ำนวนของหลักข้อมูลมีความแตกต่างกัน หากข้อมูลแบบความยาวไม่คงที่ยังคงปรากฏอยู่ในข้อมูล จึงต้องใช้ตัวอักษร
(ตัวแยก) เพื่อใช้ระบุตัวแบ่งของข้อมูลแบบความยาวไม่คงที่

6
 ไม่มีตัวแยก มีตัวแยก
(ข้อมูลแบบความยาวไม่คงที่สามรายการ (สีน�้ำเงิน สีแดง สี (ข้อมูลแบบความยาวไม่คงที่สามรายการ (สีน�้ำเงิน สีแดง สีเขียว))
เขียว))

12345ABCD9876 12345 : ABCD : 9876

963ZYX877123654 963 : ZYX877 : 123654
ไม่มีข้อมูลที่ระบุจุดที่จะแยกข้อมูลแบบความยาวไม่คงที่ รูปแบบนี้จะใช้เครื่องหมายทวิภาค (:) เป็นตัวแยก ตัวแยกจะ
ด้วยเหตุนี้ คอมพิวเตอร์จึงไม่สามารถก�ำหนดจุดแยก ท�ำให้มองเห็นจุดที่จะแยกข้อมูลได้ง่าย คอมพิวเตอร์จึงอ่าน
ข้อมูลได้ ข้อมูลสามชุดได้
(ต้องสร้างกระบวนการแยกข้อมูลในคอมพิวเตอร์)

ผลของข้อมูลแบบความยาวไม่คงที่
โดยทั่วไปแล้ว โค้ด 2D จะถูกสร้างให้มีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วยเหตุนี้ หากมีข้อมูลแบบความยาวไม่คงที่ ขนาดของ
โค้ด 2D จะแตกต่างกันไปตามเนื้อหาของข้อมูล หากพื้นที่การมาร์กมีจ�ำกัด จ�ำเป็นจะต้องตรวจสอบข้อมูลจ�ำเพาะของโค้ด 2D ด้วย
จ�ำนวนหลักสูงสุดที่คาดไว้

เมื่อมีตัวอักษรที่ไม่ใช่ตัวเลขรวมอยู่ในข้อมูลด้วย
โค้ด 2D จะบีบอัดข้อมูลเพื่อท�ำการมาร์กในพื้นที่ขนาดเล็ก แต่เนื่องจากวิธีการบีบอัดจะแตกต่างกันไปตามชนิด จ�ำนวนและ
ล�ำดับของตัวอักษร ขนาดของโค้ดจึงอาจมีการเปลี่ยนแปลง ถึงแม้ว่าจ�ำนวนหลักของข้อมูลจะยังคงเดิมก็ตาม

การเปรียบเทียบโค้ด 2D โดยใช้ตัวอักษรและตัวเลข
ตัวอย่างที่ 1
จ�ำนวนหลักเท่ากัน แต่ใช้ตัวอักษร
ค�ำอธิบายข้อมูล: 41 หลัก โดยใช้ตัวเลขเท่านั้น ค�ำอธิบายข้อมูล: 4 0 หลัก ตัวเลข 1 หลัก, ตัวอักษร

ตัวอย่างที่ 2
จ�ำนวนหลักของตัวอักษรและตัวเลขเท่ากัน แต่ใช้ล�ำดับของข้อมูลที่แตกต่างกัน
ค�ำอธิบายข้อมูล: 20 หลัก, ครึ่งแรกเป็นตัวเลขเท่านั้น ค�ำอธิบายข้อมูล: (2 หลัก, ตัวเลข + 1 หลัก, ตัวอักษร)
10 หลัก, ครึ่งหลังเป็นตัวอักษรเท่านั้น × 10 ชุด
 รวม 30 หลัก รวม 30 หลัก

7
 การแสดงตัวอักษรของโค้ด 2D ที่มีทั้งหมด 4 โหมด
โหมดการแสดงตัวอักษรของโค้ด 2D จะมีอยู่ 4 โหมด
ในแต่ละโหมดจะมีชุดของตัวอักษรที่สามารถแสดงได้และมีอัตราการบีบอัดที่แตกต่างกัน
โดยที่ในขณะสร้างโค้ดจะสามารถใช้โหมดต่างๆ ร่วมกันเพื่อสร้างโค้ดขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะท�ำได้

การแสดงตัวอักษร 4 โหมด
โหมดตัวเลข
สามารถแสดงได้เฉพาะตัวเลขเท่านั้น
ซึ่งเหมาะที่จะใช้งานเมื่อมีตัวเลขอย่างน้อยสองตัวอยู่ติดกัน
มีคุณสมบัติในการลดปริมาณข้อมูลต่อตัวอักษร
โหมดตัวอักษรและตัวเลข
สามารถแสดงตัวอักษรและตัวเลขและสัญลักษณ์บางอย่างได้
ปริมาณข้อมูลต่อตัวอักษรจะมากกว่าโหมดตัวเลข แต่จะน้อยกว่าโหมดไบนารี

โหมดไบนารี
แสดงตัวอักษรแบบไบต์เดี่ยว (โค้ดการควบคุม ฯลฯ) ได้ทุกแบบ
ปริมาณข้อมูลต่อตัวอักษรจะมากกว่าโหมดตัวอักษรและตัวเลข และสามารถแสดงโค้ดการควบคุมได้

โหมดคันจิ
สามารถแสดงตัวอักษรแบบไบต์คู่ เช่น ตัวคันจิ ได้
ปริมาณข้อมูลต่อตัวอักษรมากที่สุดใน 4 โหมด

การเปรียบเทียบปริมาณข้อมูลต่อตัวอักษร

โหมด โหมดตัวอักษร โหมด

โหมดคันจิ
ตัวเลข และตัวเลข ไบนารี

โปรดรับทราบข้อควรระวังต่อไปนี้

สามารถรวมข้อมูลแบบความยาวไม่คงที่ไว้ในโค้ด 2D ได้หรือไม่
เมื่อรวมข้อมูลแบบความยาวไม่คงที่ จะต้องพิจารณาถึงการแยกข้อมูลและขนาดของโค้ดด้วย

หลักที่มีข้อมูลจะสามารถเป็นตัวอักษรและตัวเลข โดยที่ไม่เป็นตัวเลขเพียงอย่างเดียวได้หรือไม่
การเปลี่ยนโหมดจากโหมดตัวเลขไปเป็นโหมดตัวเลขและตัวอักษร อาจท�ำให้ปริมาณข้อมูลต่อตัวอักษรเพิ่มขึ้น
และขนาดของโค้ดอาจเปลี่ยนแปลงไป ในกรณีนี้ จะต้องพิจารณาถึงขนาดโค้ดที่มีปริมาณเนื้อหาของข้อมูลมากที่สุด

ตัวอย่าง: 12345 123A5

8
3-1 การค�ำนวณขนาดโมดูล
การค�ำนวณขนาดโมดูลนั้นมีความส�ำคัญพอๆ กับการก�ำหนดเนื้อหาของข้อมูล ขนาดโมดูลจะมีความส�ำคัญต่อการก�ำหนดเนื้อหา
ที่อ่านได้ รวมไปถึงการเลือกเครื่องอ่านโค้ดและเครื่องพิมพ์หรือมาร์กเกอร์ ขนาดของพื้นที่ว่าง (Quiet Zone) และจ�ำนวนโมดูลที่
ด้านหนึ่งของโค้ดเป็นสิ่งส�ำคัญในการก�ำหนดขนาดโมดูล

(1) พื้นที่ว่าง (Quiet Zone) พื้นที่ว่าง (Quiet Zone) พื้นที่ว่าง (Quiet Zone)
• QR Code : 4 โมดูล
• Micro QR Code : 2 โมดูล

• DataMatrix : 1 โมดูล

(2) จ�ำนวนโมดูลที่ด้านหนึ่งของโค้ด (ขึ้นอยู่กับปริมาณของข้อมูล)

จ�ำนวนโมดูลต่อด้าน

* โปรดดูขนาดโค้ดและจ�ำนวนตัวอักษรที่สามารถแสดงได้ ที่หน้า 10-11

* ยิ่งเลขเวอร์ชันของ QR Code สูงเท่าใด ก็ยิ่งสามารถแสดงตัวอักษรได้
มากขึ้นเท่านั้น

ให้ใช้สูตรต่อไปนี้ในการค�ำนวณขนาดโมดูลตามพื้นที่การมาร์กโค้ด 2D ที่มีอยู่

ตัวอย่าง: เมื่อมีพื้นที่การมาร์ก 30 มม. × 30 มม.

QR Code
ค�ำนวณขนาดโมดูลโดยใช้จ�ำนวนโมดูลที่ด้านหนึ่งของโค้ด และพื้นที่ว่าง (Quiet Zone) พื้นที่ว่าง
จ�ำนวน 4 โมดูล (Quiet Zone)

จ�ำนวนของโมดูลใน 1 ทิศทาง = จ�ำนวนของโมดูล 1 ด้าน + (จ�ำนวนของโมดูล จ�ำนวนโมดูล

พื้นที่ว่าง (Quiet Zone)) × 2 ต่อด้าน
ขนาดโมดูล = ความยาวของ 1 ด้าน ÷ จ�ำนวนของโมดูลใน 1 ทิศทาง
21 โมดูล + 4 โมดูล × 2 = 29 โมดูล พื้นที่ว่าง
30 มม. ÷ 29 โมดูล ≈ 1.03 มม./โมดูล (Quiet Zone)

DataMatrix
ค�ำนวณขนาดของโมดูลโดยใช้จ�ำนวนโมดูลที่ด้านหนึ่งของโค้ด และพื้นที่ว่าง (Quiet Zone) พื้นที่ว่าง
ของ 1 โมดูล (Quiet Zone)

จ�ำนวนของโมดูลใน 1 ทิศทาง = จ�ำนวนของโมดูล 1 ด้าน + (จ�ำนวนของโมดูล จ�ำนวนโมดูล

พื้นที่ว่าง (Quiet Zone)) × 2 ต่อด้าน
ขนาดโมดูล = ความยาวของ 1 ด้าน ÷ จ�ำนวนของโมดูลใน 1 ทิศทาง
10 โมดูล + 1 โมดูล × 2 = 12 โมดูล พื้นที่ว่าง
30 มม. ÷ 12 โมดูล ≈ 2.5 มม./โมดูล (Quiet Zone)

สามารถค�ำนวณขนาดโมดูลที่มาร์กได้ โดยการก�ำหนดข้อมูลการมาร์กและขนาดของโค้ด รวมไปถึงพื้นที่การมาร์ก

เลือกเครื่องอ่านโค้ดและเครื่องพิมพ์ หรือมาร์กเกอร์ตามขนาดของโมดูล

9
3-2 จ�ำนวนตัวอักษรที่อินพุตสูงสุด

QR Code
Model 2
เวอร์ชัน ตัวเลข ตัวเลขและตัวอักษร ไบนารี ตัวคันจิ
(จ�ำนวน
โมดูล) L M Q H L M Q H L M Q H L M Q H
1 (21) 41 34 27 17 25 20 16 10 17 14 11 7 10 8 7 4
2 (25) 77 63 48 34 47 38 29 20 32 26 20 14 20 16 12 8
3 (29) 127 101 77 58 77 61 47 35 53 42 32 24 32 26 20 15
4 (33) 187 149 111 82 114 90 67 50 78 62 46 34 48 38 28 21
5 (37) 255 202 144 106 154 122 87 64 106 84 60 44 65 52 37 27
6 (41) 322 255 178 139 195 154 108 84 134 106 74 58 82 65 45 36
7 (45) 370 293 207 154 224 178 125 93 154 122 86 64 95 75 53 39
8 (49) 461 365 259 202 279 221 157 122 192 152 108 84 118 93 66 52
9 (53) 552 432 312 235 335 262 189 143 230 180 130 98 141 111 80 60
10 (57) 652 513 364 288 395 311 221 174 271 213 151 119 167 131 93 74
11 (61) 772 604 427 331 468 366 259 200 321 251 177 137 198 155 109 85
12 (65) 883 691 489 374 535 419 296 227 367 287 203 155 226 177 125 96
13 (69) 1022 796 580 427 619 483 352 259 425 331 241 177 262 204 149 109
14 (73) 1101 871 621 468 667 528 376 283 458 362 258 194 282 223 159 120
15 (77) 1250 991 703 530 758 600 426 321 520 412 292 220 320 254 180 136
16 (81) 1408 1082 775 602 854 656 470 365 586 450 322 250 361 277 198 154
17 (85) 1548 1212 876 674 938 734 531 408 644 504 364 280 397 310 224 173
18 (89) 1725 1346 948 746 1046 816 574 452 718 560 394 310 442 345 243 191
19 (93) 1903 1500 1063 813 1153 909 644 493 792 624 442 338 488 384 272 208
20 (97) 2061 1600 1159 919 1249 970 702 557 858 666 482 382 528 410 297 235
21 (101) 2232 1708 1224 969 1352 1035 742 587 929 711 509 403 572 438 314 248
22 (105) 2409 1872 1358 1056 1460 1134 823 640 1003 779 565 439 618 480 348 270

Micro QR
เวอร์ชัน การแก้ไข ตัวเลขและ ระดับการแก้ไขข้อผิดพลาดของ QR Code และ Micro QR
(จ�ำนวนโมดูล) ข้อผิดพลาด ตัวเลข ตัวอักษร ไบนารี ตัวคันจิ
ระดับการแก้ไขข้อผิดพลาด พื้นที่เสียหายต่อพื้นที่โค้ดทั้งหมด
M1 (11) — 5 — — —
L 10 6 — — L 7%
M2 (13)
M 8 5 — —
M 15%
L 23 14 9 6
M3 (15)
M 18 11 7 4 Q 25%
L 35 21 15 9
H 30%
M4 (17) M 30 18 13 8
Q 21 13 9 5

จ�ำนวนตัวอักษรในตารางด้านบนคือจ�ำนวนตัวอักษรสูงสุดที่สามารถใส่ได้ อย่างไรก็ตาม เวอร์ชัน

หมายเหตุ (จ�ำนวนโมดูล) อาจเพิ่มขึ้นได้ตามส่วนประกอบข้อมูล (เช่น ส่วนประกอบระหว่างตัวเลขกับสัญลักษณ์
หรือส่วนประกอบของตัวอักษรที่เป็นตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก) แม้ว่าข้อมูลจะมีจ�ำนวนตัวอักษรน้อย
กว่าที่ระบุไว้ในตารางข้างต้นก็ตาม

10
DataMatrix ECC200

ชนิดสี่เหลี่ยมจัตุรัส
ความจุข้อมูล
จ�ำนวนโมดูล อัตราการแก้ไขข้อผิดพลาด
ตัวเลข ตัวเลขและตัวอักษร ไบนารี
10 × 10 โมดูล 6 3 1 25%
12 × 12 โมดูล 10 6 3 25%
14 × 14 โมดูล 16 10 6 28 ถึง 39%
16 × 16 โมดูล 24 16 10 25 ถึง 38%
18 × 18 โมดูล 36 25 16 22 ถึง 34%
20 × 20 โมดูล 44 31 20 23 ถึง 38%
22 × 22 โมดูล 60 43 28 20 ถึง 34%
24 × 24 โมดูล 72 52 34 20 ถึง 35%
26 × 26 โมดูล 88 64 42 19 ถึง 35%
32 × 32 โมดูล 124 91 60 18 ถึง 34%
36 × 36 โมดูล 172 127 84 16 ถึง 30%
40 × 40 โมดูล 228 169 112 15 ถึง 28%
44 × 44 โมดูล 288 214 142 14 ถึง 27%
48 × 48 โมดูล 348 259 172 14 ถึง 27%
52 × 52 โมดูล 408 304 202 15 ถึง 27%
64 × 64 โมดูล 560 418 278 14 ถึง 27%
72 × 72 โมดูล 736 550 366 14 ถึง 26%
80 × 80 โมดูล 912 682 454 15 ถึง 28%
88 × 88 โมดูล 1152 862 574 14 ถึง 27%
96 × 96 โมดูล 1392 1042 694 14 ถึง 27%
104 × 104 โมดูล 1632 1222 814 15 ถึง 28%
120 × 120 โมดูล 2100 1573 1048 14 ถึง 27%
132 × 132 โมดูล 2608 1954 1302 14 ถึง 26%
144 × 144 โมดูล 3116 2335 1556 14 ถึง 27%

ชนิดสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ความจุข้อมูล
จ�ำนวนโมดูล อัตราการแก้ไขข้อผิดพลาด
ตัวเลข ตัวเลขและตัวอักษร ไบนารี
8 × 18 โมดูล 10 6 3 25%
8 × 32 โมดูล 20 13 8 24%
12 × 26 โมดูล 32 22 14 23 ถึง 37%
12 × 36 โมดูล 44 31 20 23 ถึง 38%
16 × 36 โมดูล 64 46 30 21 ถึง 38%
16 × 48 โมดูล 98 72 47 18 ถึง 33%

จ�ำนวนตัวอักษรในตารางด้านบนคือจ�ำนวนตัวอักษรสูงสุดที่สามารถใส่ได้ อย่างไรก็ตาม เวอร์ชัน

(จ�ำนวนโมดูล) อาจเพิ่มขึ้นได้ตามส่วนประกอบข้อมูล (เช่น ส่วนประกอบระหว่างตัวเลขกับสัญลักษณ์
หมายเหตุ
หรือส่วนประกอบของตัวอักษรที่เป็นตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก) แม้ว่าข้อมูลจะมีจ�ำนวนตัวอักษรน้อย
กว่าที่ระบุไว้ในตารางข้างต้นก็ตาม

11
 C O N T A C T U S
www.keyence.co.th SAFETY INFORMATION
02-369-2777 E-mail : info@keyence.co.th
Please read the instruction manual carefully in
order to safely operate any KEYENCE product.

CONTACT YOUR NEAREST OFFICE FOR RELEASE STATUS

KEYENCE (THAILAND) CO., LTD.

2034/140-143 Italthai Tower, 33rd Floor, New Phetchburi Rd., Bangkapi, Huaykwang, Bangkok 10310, Thailand PHONE: +66-2-369-2777 FAX: +66-2-369-2775
The information in this publication is based on KEYENCE’s internal research/evaluation at the time of release and is subject to change without notice. KT11-1069
Company and product names mentioned in this catalogue are trademarks or registered trademarks of their respective companies. Unauthorised reproduction of this catalogue is strictly prohibited.
Copyright © 2019 KEYENCE CORPORATION. All rights reserved. Practice2DCode2-KT-TG-TH 1079-1 633C68