Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 6

1

พันธะโคเวเลนต์ (Çøvålëñt Bøñd)

การเกิดพันธะ .…………………………………………………………………………………………………………….………………..………

Cl Cl Cl Cl

Çl Çl ___________________________
___

___________________

ค่าความสามารถในการดึงดูอิเล็กตรอน (Ëlëçtrøñëgåtïvïtý : ËÑ)

H
2.20

Lï Bë B Ç Ñ Ø F Ñë
0.98 1.57 2.04 2.55 3.04 3.44 3.98
Ñå Mg Ål Sï P S Çl År
0.93 1.31 1.61 1.90 2.19 2.58 3.16
K Çå Gå Gë Ås Së Br Kr
0.82 1.00 1.81 2.01 2.18 2.55 2.96 2.90
Rb Sr Ïñ Sñ Sb Të Ï Xë
0.82 0.95 1.78 1.96 2.05 2.10 2.66 2.60
Çs Bå Tl Pb Bï Pø Åt Rñ
0.79 0.89 2.04 2.33 2.02 2.00 2.20
Fr Rå
0.70 0.90
2

การอ่านชือ่ สารโคเวเลนต์

แบบที่ 1 : โมเลกุลที่เกิดจากธาตุชนิดเดียว Åx อ่านตามชื่อธาตุ และระบุสถานะเพื่อให้เข้าใจว่าเป็นโมเลกุล


เช่น Ø2 อ่านว่า แก๊สออกซิเจน
แบบที่ 2 : โมเลกุลธาตุคู่ ÅxBý คือโมเลกุลที่เกิดจากธาตุ 2 ชนิด
1. Å เป็นอะตอมที่มี ËÑ ต่ากว่า อ่านตามชื่อธาตุ
2. B เป็นอะตอมที่มี ËÑ สูงกว่า อ่านชื่อธาตุ และเปลี่ยนเสียงลงท้ายเป็น -ïdë
3. อ่านเลขห้อยตามภาษากรีกทุกธาตุ ยกเว้น ธาตุตัวแรกที่มี 1 อะตอม และ H ไม่ต้องอ่านเลขห้อย

จำนวน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 …
คำอ่าน møñø dï trï tëtrå pëñtå hëxå hëptå øçtå ñøñå …

ตัวอย่างการอ่านชือ่ โมเลกุลธาตุคู่

สูตรเคมี ชื่อสาร สูตรเคมี ชื่อสาร


Ñ2Ø dïñïtrøgëñ møñøxïdë ÇØ çårbøñ møñøxïdë
ÑØ ñïtrøgëñ møñøxïdë ÇØ2 çårbøñ dïøxïdë
ÑØ2 ñïtrøgëñ dïøxïdë Çl2Ø7 dïçhlørïñë hëptøxïdë
Ñ2Ø4 dïñïtrøgëñ tëtrøxïdë H2Ø hýdrøgëñ øxïdë

แบบที่ 3 : กรดไฮโดร (Hýdrø åçïd) HxÅý คือกรดที่เกิดจากสารประกอบธาตุคู่กับ H เมื่อละลายน้าแล้วแตกตัวได้ H+

ตัวอย่างการอ่านชือ่ กรดไฮโดร

สูตรเคมี ชื่อสารประกอบ ชื่อสารละลายกรด


HÇl hýdrøgëñ çhlørïdë hýdrøçhlørïç åçïd
H2S hýdrøgëñ sülfïdë hýdrøsülfürïç åçïd
HÇÑ hýdrøgëñ çýåñïdë Hýdrøçýåñïç åçïd

แบบที่ 4 : กรดออกซี (Øxý åçïd) HxÅØý คือกรดที่มี Ø เป็นองค์ประกอบ

ตัวอย่างการอ่านชือ่ กรดออกซี

สูตรเคมี ชื่อสาร สูตรเคมี ชื่อสาร


H2ÇØ3 çårbøñïç åçïd H2SØ4 sülfürïç åçïd
HÑØ3 ñïtrïç åçïd H2SØ3 sülfürøüs åçïd
HÑØ2 ñïtrøüs åçïd HÇlØ4 përçhlørïç åçïd
H3PØ4 phøsphørïç åçïd HÇlØ3 çhlørïç åçïd
H3PØ3 phøsphørøüs åçïd HÇlØ2 çhlørøüs åçïd
H3PØ2 hýpøphøsphørøüs åçïd HÇlØ hýpøçhlørøüs åçïd
3

แบบฝึกหัด Çø.1
คำชี้แจง : จงวงกลมล้อมรอบสารที่เป็นโคเวเลนต์จากสารต่างๆ ต่อไปนี้

PÇl5 SñÇl2 ÑåÑH2 K2MñØ4 ØF2

XëØF2 LïH ÏF5 H2ÇØ3 ÅsH3

ÑH4Çl Ç2H6 PH3 SïH4 ÇåÇØ3

คำชี้แจง : จงเติมคำตอบในตารางต่อไปนี้ให้ถูกต้อง

สูตรเคมี ชื่อสาร
1. F2
2. ÇÇl4
3. XëF4
4. Çl2Ø
5. P2Ø5
6. børøñ trïflüørïdë
7. ålümïñüm trïçhlørïdë
8. tëtråphøsphørüs øçtøxïdë
9. brømïñë pëñtåflüørïdë
10. sëlëñïüm hëxåflüørïdë
4

ทบทวนกันหน่อย ....

อะตอมของธาตุต่อไปนี้ มีเวเลนต์อิเล็กตรอนกี่ตัว ??

F …………………..…. S …………………..…. Ø …………………..…. Cl …………………..…. H …………………..…. N …………………..….

C …………………..…. Br …………………..…. P …………………..…. Si …………………..…. Be …………………..…. Al …………………..….

การเขียนสูตรสารโคเวเลนต์

1. เขียนสัญลักษณ์ของธาตุที่มีคา่ ËÑ ต่าไว้ด้านหน้า
2. ระบุจำนวนอิเล็กตรอนที่ใช้สร้างพันธะบนสัญลักษณ์ของแต่ละธาตุ
3. นำตัวเลขด้านบนของธาตุไขว้มาไว้ด้านล่างของธาตุที่เกิดพันธะ
1 2
เช่น H Ø H2Ø

ธาตุคู่ร่วมพันธะ สูตรโมเลกุล ธาตุคู่ร่วมพันธะ สูตรโมเลกุล


Ç กับ S P กับ H

P กับ Çl Sï กับ H

Ñ กับ Ø Çl กับ Ø

รู้ก่อนไปต่อ : “ธาตุจะเสถียรเมื่อมีอิเล็กตรอนเต็มในแต่ละชัน
้ ระดับพลังงานย่อย”

ควรรูน
้ ะ : สารประกอบทั่วไปจะสร้างพันธะกับธาตุอื่นเพือ
่ ให้มีอิเล็กตรอนวงนอกเต็มระดับพลังงานจึงจะ เสถียร

Øçtët Rülë

Øçtët Rülë : สารโคเวเลนต์ทอี่ ะตอมของธาตุมีอิเล็กตรอนวงนอกครบ 8 (øçtët)

่ ุด s2+p6 = 8 อิเล็กตรอน) ที่เกิดพันธะโคเวเลนต์ได้ดี จะ


พิจารณาธาตุในคาบที่ 2 (บรรจุอิเล็กตรอนได้มากทีส
พบว่าเพื่อให้เกิดพันธะตามกฎ øçtët อะตอมของธาตุจะสร้างพันธะเป็นจำนวนไม่เท่ากัน ดังนี้

Ñë F Ø Ñ Ç
ë- เต็มทั้ง s และ p ขาด 1 ë- ขาด 2 ë- ขาด 3 ë- ขาด 4 ë-

________________ ______________ ______________ _______________ _____________

Ñë F Ø Ñ Ç
5

ลักษณะของพันธะ : พันธะของสารโคเวเลนต์ที่เกิดขึ้นมีลักษณะแตกต่างกัน 3 ลักษณะ ดังนี้

Çl2 Ø2 Ñ2

Çl Çl Ø Ø Ñ Ñ

ชนิดพันธะ ___________________ ชนิดพันธะ ___________________ ชนิดพันธะ ___________________

?? คำถาม : อะตอมคาร์บอน (Ç) สร้างพันธะสี่ได้หรือไม่

____________________________________________________________________________________________________

สรุป

จำนวนอิเล็กตรอนที่ใช้
หมู่ธาตุ จำนวนพันธะที่สร้าง ชนิดของพันธะ
สร้างพันธะ

หมู่ 4Å (ÏV Å) เช่น Ç _________ _________ _____________________

หมู่ 5Å (V Å) เช่น Ñ P _________ _________ _____________________

หมู่ 6Å (VÏ Å) เช่น Ø S _________ _________ _____________________

หมู่ 7Å (VÏÏ Å) เช่น F Çl Br _________ _________ _____________________

Øvër øçtët : สารประกอบที่สามารถสร้างพันธะจนมีอิเล็กตรอนในระดับพลังงานชั้นนอกสุดมากกว่า 8 อิเล็กตรอนได้

เนื่องจาก “อะตอมต่างๆ จะสร้างพันธะเพื่อให้อิเล็กตรอนวงนอกมีคู่ครบเต็มระดับพลังงานย่อย” ดังนั้นการ


สร้างพันธะที่ง่ายทีส
่ ุดคือ การดึงอิเล็กตรอนจากธาตุที่ ËÑ ต่ากว่ามาสร้างพันธะ พิจารณาปฏิกิริยาต่อไปนี้

F S F + F F → F S F
F F

จะได้ว่า F มี ËÑ สูงกว่า S มาก แสดงว่า F สามารถดึงอิเล็กตรอนจาก S มาสร้างพันธะได้งา่ ย และ S เป็นอะตอมที่อยู่


ในคาบที่ 3 ซึ่งบรรจุอิเล็กตรอนได้มากทีส
่ ุดคือ 18 อิเล็กตรอน ทำให้ F บังคับให้ S เกิดสารประกอบเกิน øçtët ได้

แต่ในกรณีของ SH4 ซึ่งมีค่า ËÑ ใกล้เคียงกันมาก H จึงไม่สามารถดึงอิเล็กตรอนจาก S มาสร้างพันธะได้

สรุป ปัจจัยที่ทำให้สารประกอบที่สร้างพันธะเกิน øçtët ได้ คือ อะตอมกลางต้องมีพลังงานย่อย d เพื่อบรรจุ


อิเล็กตรอนมากกว่า s2+p6 ได้ และอะตอมล้อมรอบต้องมีค่า ËÑ สูงกว่าอะตอมกลาง
6

Çøørdïñåtë bøñd : เป็นการสร้างพันธะโดยมีอะตอมหนึ่งให้อิเล็กตรอนคูไ่ ปสู่อก


ี อะตอมหนึ่ง

พิจารณา Çårbøñ møñøxïdë มีสูตรโมเลกุลเป็น ÇØ จะได้ว่า Ø ที่มีค่า ËÑ สูงกว่า Ç จึงดึงอิเล็กตรอนจาก Ç


มาสร้างพันธะเพื่อให้ตัวเองครบ 8 (เสถียร) ดังนี้

Ç Ø

จะสังเกตได้ว่า หลังจากการสร้างพันธะอะตอม Ç อิเล็กตรอน 4 ตัว ซึ่งไม่ครบ 8 และ อะตอม Ø มีอิเล็กตรอนคู่โดด


เดี่ยว 2 คู่ อะตอม Ç จึงดึงอิเล็กตรอนจากอะตอม Ø มา 2 อนุภาค จะเขียนแทนได้ดังนี้

Ç Ø → Ç Ø หรือ Ç Ø

พิจารณา Ø3 จะพบว่า อะตอม Ø 2 ตัว ดึงอิเล็กตรอนให้ตัวเองครบ 8 ดังนี้

Ø Ø Ø

แต่อะตอม Ø ที่เป็นอะตอมกลางมี 10 อิเล็กตรอน ซึง่ เกิน 8 ไม่ได้ เพราะอะตอม Ø เป็นธาตุคาบ 2 บรรจุเวเลนต์


อิเล็กตรอนได้มากทีส
่ ุดคือ 8 ตัว จึงต้องย้ายอิเล็กตรอนกลับมา 1 คู่ จากพันธะคู่จึงเหลือเป็นพันธะเดี่ยว สามารถ
เขียนแทนได้ดังนี้
Ø Ø Ø
Ø Ø Ø → Ø Ø Ø → หรือ

Ø Ø Ø

ซึ่งสามารถเขียนได้ 2 โครงสร้าง ทำให้โครงสร้างที่แท้จริงจึงเป็นโครงสร้างเฉลี่ยที่มีการกระจายอิเล็กตรอนโดยการ


เคลื่อนพันธะหรืออิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยวไปมา เรียกว่า เรโซแนนซ์ (Rësøñåñçë) เขียนแทนได้ดังนี้
Ø

Ø Ø
สรุป การจะเขียนพันธะแบบ Çøørdïñåtïøñ ได้ เมื่ออะตอมมีอิเล็กตรอนไม่ครบ øçtët จึงดึงอิเล็กตรอนมาสร้าง
พันธะเพิ่ม หรืออะตอมในคาบ 2 สร้างพันธะแล้วเกิน øçtët จึงส่งอิเล็กตรอนไปยังอะตอมล้อมรอบ

Úñdër øçtët : สารโคเวเลนต์บางชนิดอาจมีอะตอมกลางที่มจี ำนวนอิเล็กตรอนไม่ครบตาม øçtët เช่น BëÇl2 BF3

F F

You might also like