Professional Documents
Culture Documents
ONCEs TH Criminal Law New Ver.
ONCEs TH Criminal Law New Ver.
โดยชอบด้วยกฎหมาย
เเละ โครงสร้างความรับผิดทางอาญา
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 68
ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของ
ผู้อื่น ให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อ
กฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่
เหตุ การกระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้น
ไม่มีความผิด
กฎหมายอาญา
กฎหมายอาญา ภาคทั่วไป
กฎหมายอาญา ภาคความผิด
*คำอธิบายกฎหมายอาญาภาค ๑
บทบัญญัติทั่วไป
: ดร.เกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์
โครงสร้างความรับผิดทางอาญา
1.การกระทำครบองค์ 2.การกระทำที่ไม่มี 3.การกระทำที่ไม่มี เหตุลดโทษ
ประกอบที่กฎหมาย กฎหมายยกเว้นความ กฎหมายยกเว้นโทษ
บัญญัติ ผิด
1.1 มีการกระทำ กฎหมายให้อำนาจในการกระทำ การกระทำนั้นเป็นความผิด บุคคลนั้นกระทำความ
1.2 การกระทำครบองค์ประกอบ การกระทำนั้นจึงไม่เป็นความผิด เเต่กฎหมายยกเว้นโทษ ผิดเเละต้องรับโทษ เเต่
ภายนอกของความผิดในเรื่อง ศาลอาจใช้ดุลพินิจใน
นั้นๆ การลดโทษ ทำให้ผู้นั้น
1.3 การกระทำครบองค์ประกอบ ต้องรับโทษน้อยลง
ภายในของความผิดในเรื่องนั้นๆ เพิ่มเติม : โทษทางอาญา มีทั้งสิ้นกี่สถาน ?
1.4 ผลของการกระทำสัมพันธ์กับ
ก.4 ข.5 ค.6 ง.7
การกระทำ
คำถาม :
1. ในขณะนอนหลับ นาย ก. ละเมอโดยขาดสติ ใช้มือฟาดไปที่หน้าของ
นาย ข. จนได้รับบาดเจ็บ การกระทำของนาย ก.มีความผิดทางอาญา
หรือไม่
ก. ผิด ข. ไม่ผิด
2. นาย ค. เเละนาง ง. เป็นสามี-ภริยา จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
วันหนึ่ง นาย ค. ได้ขโมยเงินส่วนตัวของนาง ง. ไป การกระทำของนาย
ก.มีความผิดทางอาญาหรือไม่
ก. ไม่ผิด ข. ผิด เเต่ไม่ต้องรับโทษ
ค. ผิด เเละต้องรับโทษ ง. ผิด เเต่มีมีเหตุลดโทษ
การป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
: โครงสร้างข้อที่ 2 เหตุยกเว้นความผิด
เหตุผลเพราะกฎหมายยอมรับความจริงที่ว่า รัฐไม่สามารถให้ความคุ้ม
ครองเเก่ประชาชนได้อย่างทันท่วงทีในทุกกรณี จึงจำเป็นต้องให้อำนาจเเก่
ประชาชนผู้บริสุทธิ์ในการขจัดปัดเป่าภยันตรายซึ่งกำลังจะมาถึงด้วยการใช้สิทธิ
ในการป้องกัน ,อุททิศ เเสนโกศิก, กฎหมายอาญาภาค 1, น.115
การใช้สิทธิป้องกัน คือ "การใช้บังคับกฎหมายด้วยตนเองประการหนึ่ง"
/ Self-defense is a type of enforcement of the law ,Johannes
Andenæs The General Part of the Criminal Law of Norway, p.153
หลักเกณฑ์ในการอ้าง
ป้องกันโดยชอบ
ประมวลกฎหมายอาญา
ด้วยกฎหมาย
ตาม ป.อ.มาตรา 68
ก า ร อ้ า ง ป้ อ ง กั น เ ป็ น เ ห ตุ ย ก เ ว้ น ค ว า ม ผิ ด
มาตรา 68
ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่น ให้
พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็น
ภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็น
การป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด
หลักเกณฑ์ในการพิจารณา
1. มีภยันตราย ซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย
2. ภยันตรายนั้นใกล้จะถึง
3. ผู้กระทำจำต้องกระทำเพื่อป้องกันสิทธิ ของตนเองหรือผู้อื่น ให้พ้นภยันตรายนั้น
4. การกระทำโดยป้องกันสิทธินั้นไม่เกินขอบเขต
หลักเกณฑ์ในการพิจารณา
มีภยันตราย
1. มีภยันตราย
เป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการ
ซึ่งเกิดจากการประทุษร้าย ประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย
อันละเมิดต่อกฎหมาย ละเมิดต่อกฎหมาย
1. มีภยันตราย ซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย
มีภยันตราย
หมายถึง ภัยที่เป็นความเสียหายต่อ ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ
ชื่อเสียง ทรัพย์สิน ฯลฯ ซึ่งเป็นสิทธิของบุคคล
ไม่มีภยันตราย
ฎีกาที่ 5664/2540 ยังไม่มีพฤติการณ์ที่จะส่อว่าผู้ตายจะชักปืนออกมายิง
ทำร้ายจำเลยและไม่ปรากฎว่าผู้ตายมีอาวุธปืน จึงถือว่ายังไม่มีภยันตรายที่จำเลยจำ
ต้องป้องกันแต่อย่างใด
ฎีกาที่ 5664/2540
ก่อนเกิดเหตุผู้ตายเข้ามาต่อว่าและตบหน้าจำเลย จำเลยโมโหจึงชักปืนยิงผู้
ตาย 3 นัด ซึ่งในขณะเกิดเหตุมีผู้อยู่ในเหตุการณ์เพียง 3 คน คือ อ. พยานโจทก์
จำเลย และผู้ตาย อ. ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยหรือผู้ตายมาก่อน จึงเป็นพยาน
คนกลาง พยานปากนี้จึงมีน้ำหนักมาก ยิ่งกว่านั้นเมื่อพิจารณาคำเบิกความของ
จำเลยแล้ว จำเลยเพียงแต่เกรงว่าผู้ตายจะชักปืนออกมายิงทั้งที่ยังไม่พฤติการณ์ที่จะ
ส่อว่าผู้ตายจะชักปืนออกมายิงทำร้ายจำเลยและไม่ปรากฎว่าผู้ตายมีอาวุธปืนจึง
ถือว่ายังไม่มีภยันตรายที่จำเลยจำต้องป้องกันแต่อย่างใดการกระทำของจำเลยจึงไม่
เป็นการป้องกันตามกฎหมาย
1. มีภยันตราย ซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย
เป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย
หมายถึง ผู้ก่อภยันตรายนั้น ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะ
กระทำได้