ปัญหาจราจรติดขัด

You might also like

Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 3

ปัญหาจราจรติดขัด

1. วิเคราะห์ปัญหา
1. วินัยการขับรถของคนไทย
ดิฉันเชื่อว่ามีคนไทยจานวนมากที่มีวินัยในการขับรถที่ดี แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ค่อยมีวินัยในการขับ
รถ ซึ่งการกระทาของคนจานวนหนึ่งนี้ ส่งผลให้เกิดปัญหารถติดได้อย่างไม่น่าเชื่อ เช่น การแทรก
เบียดเข้าคอสะพาน การบังเลนซ้ายสุดในแยกที่ถูกกาหนดให้เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด และอื่น ๆ อีก
มากมาย ซึ่งเราเชื่อว่าปัญหาส่วนหนึ่งสามารถบรรเทาให้เบาบางลงได้ ด้วยการวางอุปกรณ์จราจรให้
เหมาะสม เพราะอุปกรณ์จราจรหลายชนิดสามารถช่วยบังคับใช้กฎให้เป็นไปตามกฎได้ เช่น กรวย
จราจร , เสาหลักอ่อน เป็นต้น
2. การเติบโตที่กระจุกตัว
ลักษณะความเจริญของเมืองหลวงที่กระจุกตัวของประเทศไทย ทาให้ปัญหารถติดเกิดขึ้นตามเมือง
ใหญ่ ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เข้าใจดีว่าการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุอย่างการกระจายตัวของความเจริญ
เป็นทางแก้ไขที่ถูกต้อง แต่มนั เป็นการแก้ไขที่ต้องใช้เวลามากและทาได้ยาก ดังนั้นการใช้อุปกรณ์
จราจรเพื่อช่วยบรรเทาปัญหารถติดจึงเป็นไอเดียที่น่าสนใจ เพราะสามารถแก้ปัญหาได้ทันที
3. ขาดการวางผังเมืองที่ดีตั้งแต่แรก
ที่จริงแล้วการวางผังเมืองสาคัญมากสาหรับการอาศัยอยู่ร่วมกันในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่เหมือนการ
วางผังเมืองจะถูกละเลยตั้งแต่แรก ทาให้ปัญหารถติดเกิดตามมาและแก้ไขได้ยาก ผู้คนจานวนมาก
ต้องแห่กันเข้ามาทางานในโซนเดียวกัน ทาให้รถติดเพราะจานวนรถยนต์ล้นมากเกินไป
4. จานวนรถไม่สัมพันธ์กับเส้นทาง
จานวนรถชนิดต่าง ๆ ในประเทศไทย เพิ่มสูงมากขึ้นทุกปี ปีละมาก ๆ แม้ว่าจะมีการสับเปลี่ยนเก่า
ใหม่และหมุนเวียนอยู่ในตลาดรถมือสอง แต่ก็ยังส่งผลให้จานวนรถที่วิ่งกันอยู่บนท้องถนนน้อยลง
หรือเท่ากับปีก่อน ๆ ได้ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ทั้งรถปีเก่าและรถปีล่าสุดจะออกมาเบียดเสียดกัน
อยู่บนถนน ซึ่งแน่นอนว่า ยิ่งมีจานวนรถบนถนนเยอะ ก็ยิ่งควรมีอุปกรณ์จราจรในการช่วยจัด
ระเบียบและบังคับใช้กฎให้ชัดเจนมากขึ้น เช่น กรวยจราจร , แผงกั้นจราจร และป้ายจราจรแบบ
ต่าง ๆ
5. ป้ายบอกทางไม่ชัดเจน
แม้ว่าประเทศไทยจะมีการใช้อุปกรณ์จราจรอย่างแพร่หลาย แต่การใช้งานจริงนั้นกลับยังทาได้ไม่ดี
พอ จานวนป้ายจราจรที่อาจยังมีไม่มากพอและติดตั้งในบริเวณที่ไม่เหมาะสม อาจทาให้การบอกทาง
ไม่ชัดเจน อาจทาให้คนใช้รถใช้ถนนที่ไม่ใช่คนพื้นที่เกิดความสับสน ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนเลนอย่าง
กะทันหัน เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือเสียเวลาหลงทางไปอ้อมตามจุดต่าง ๆ
6. รถโดยสารจอดรถแช่
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการจอดแช่ ส่งผลต่อการจราจรมากเพียงใดและกระทบไปหลายพื้นที่ นอกจากรถ
โดยสารเหล่านี้จะจอดแช่ที่เลนซ้ายสุดเลนเดียวแล้ว ยังมักจอดแช่เลยออกมากินพื้นที่มากถึง 2 – 3
เลนด้วยกัน แบบนี้แล้วจะไม่ให้รถติดได้อย่างไร ซึง่ ดิฉันมองว่าหากมีการแก้ปัญหาด้วยการส่ง
เจ้าหน้าที่มาดูแลประจาจุดแล้วใช้อุปกรณ์จราจร เช่น กรวยจราจร และแผงกั้นจราจรก็เป็น
สิ่งจาเป็นเช่นเดียวกัน
7. ระบบขนส่งมวลชนยังไม่ดี
ระบบขนส่งมวลชนที่ยังทาได้ไม่ดีพอและไม่ทั่วถึง คืออีกหนึ่งสาเหตุของปัญหารถติดในประเทศไทย
เช่นเดียวกัน หากระบบขนส่งมวลชนมีมากพอที่จะอานวยความสะดวกให้กับคนส่วนใหญ่ หลาย
ครอบครัวคงจะไม่ต้องออกรถมาใช้กันเต็มถนนอย่างในปัจจุบัน
8. งานถนนไม่ค่อยมีคุณภาพ
เมื่องานถนนมีคุณภาพไม่มากพอ อายุการใช้งาน และสภาพการใช้งานจึงเสื่อมถอยเร็วตามไปด้วย
เมื่อเส้นทางเป็นหลุมเป็นบ่อ เกิดการแตกและยุบตัว ก็เป็นเหตุให้คนใช้รถใช้ถนนต้องเบี่ยงหลบหรือ
ชะลอความเร็วลง กลายเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของปัญหารถติดในหลายพื้นที่ได้ เรียกได้ว่าแม้ต้นเหตุ
ของปัญหามีเพียงนิดเดียว แต่อาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้างได้อย่างไม่น่าเชื่อ
การวิเคราะห์ปัญหาจราจรที่ติดขัดในชุมชนต้องพิจารณาหลายปัจจัยและมุมมองเพื่อทาให้เกิดการ
แก้ไขที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน. การรวบรวมข้อมูลและการทางานร่วมกันระหว่างผู้สนใจทุกฝ่ายสาคัญ
มากในการพัฒนาแผนการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมและมีผลสาเร็จในชุมชนนั้น ๆ.

2. การวางแผน
1. การประสานงานร่วมกัน: การทางานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนมีความสาคัญ
มากในการแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัด การสร้างพื้นที่สาหรับการประชุมและการสร้างฐานข้อมูลเพื่อ
การประสานงานอาจช่วยให้การทางานเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น.
2. การปรับปรุงโครงสร้างถนนและทางขนส่ง: การเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างถนน การสร้างทาง
ขนส่งสาธารณะที่สะดวกสบาย และการเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางสามารถช่วยลดปัญหา
การจราจรที่ติดขัดได้.
3. การส่งเสริมการใช้งานระบบการขนส่งสาธารณะ: การส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟใต้
ดิน รถบัส หรือระบบรถร่วมประจาทาง (Carpooling) สามารถช่วยลดปริมาณรถส่วนตัวในถนน และ
ลดการติดขัดในการจราจร.
4. การส่งเสริมการใช้งานยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: การส่งเสริมการใช้ยานพาหนะที่เป็นมิตร
ต่อสิ่งแวดล้อม เช่น รถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงที่เป็นเพียงผลิตภัณฑ์จากพืช สามารถช่วยลด
มลภาวะและปัญหาการจราจรที่ติดขัดได้.
5. การใช้เทคโนโลยี: การใช้เทคโนโลยีเพื่อจัดการและควบคุมการจราจร เช่น ระบบนาทางและการจราจร
อัจฉริยะ (Intelligent Transportation Systems) สามารถช่วยลดปัญหาการจราจรที่ติดขัดโดยการ
เพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนที่และการจัดการการจราจร.
6. การส่งเสริมการใช้พื้นที่เดินทางเลือก: การสร้างพื้นที่เดินทางเลือก เช่น เส้นทางจักรยาน, ทางเดินเท้า,
และพื้นที่สาธารณะสาหรับกิจกรรมนันทนาการสาธารณะ สามารถส่งเสริมการลดปัญหาการจราจรที่
ติดขัดได้.
การวางแผนแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัดในชุมชนต้องพิจารณาทั้งมิติทางเทคนิคและมิติทาง
สังคม และการสร้างความร่วมมือระหว่างหลายส่วนมีความสาคัญมากในการเพิ่มประสิทธิภาพของการ
แก้ไขปัญหาที่มีอยู่ในชุมชน.

3. ดาเนินการ
หลังจากการวางแผนแล้ว จะเริ่มดาเนินการตามแผนที่กาหนดไว้ โดยการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมี
ประสิทธิภาพ เช่น การก่อสร้างโครงสร้างถนน, การปรับเปลี่ยนการจราจรชั่วคราว, หรือการใช้เทคโนโลยีใน
การจัดการการจราจร เป็นต้น.

4. ทบทวน
การทบทวนการแก้ไขปัญหาหมายถึงการตรวจสอบและประเมินกระบวนการและผลลัพธ์ของการ
แก้ไขปัญหาที่ได้ดาเนินการแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่ามีการดาเนินงานอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพตามที่
วางแผนไว้
การทบทวนการแก้ไขปัญหาเป็นขั้นตอนสาคัญที่ช่วยให้การแก้ไขปัญหามีประสิทธิภาพและสามารถ
ปรับปรุงต่อไปได้อย่างเต็มที่ โดยการทบทวนเป็นกระบวนการที่ต้องเป็นส่วนหนึ่งของการดาเนินงานในทุกๆ
ระดับขององค์กรหรือชุมชนที่มีการแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัด.

5. ติดตามผล
เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่มุ่งเน้นการตรวจสอบผลลัพธ์ของการดาเนินงาน โดยการตรวจสอบว่าเป้าหมายการ
แก้ไขได้ถูกบรรลุหรือไม่ และประเมินผลว่ามีการดาเนินการอย่างไรที่สามารถปรับปรุงหรือพัฒนาต่อไปได้.

You might also like