Professional Documents
Culture Documents
คณิตศาสตร์ ม.ต้น พค21001
คณิตศาสตร์ ม.ต้น พค21001
รายวิชาคณิตศาสตร
ระดับมัธยมศึกษาตอนตน
รหัส พค21001
หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551
สํานักงานสงเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
สํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงศึกษาธิการ
หามจําหนาย
หนังสือเรียนนี้จัดพิมพดวยเงินงบประมาณแผนดินเพื่อการศึกษาตลอดชีวิตสําหรับประชาชน
ลิขสิทธิ์เปนของสํานักงาน กศน.สํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
nlun
ttuu
llく ι l∩ 81イνざ∩aml∩ ηl何 ∩υη■o∩ 1811υ 5彫 ∩U∩ η5肩 ∩υη■■耐視筍1■ Ⅶη5籠 ∩ヽη■ 2551
1unη l旬 ∩∩η、何∩υηl済 ″ll∩ aNLも ηИttη u∩ く∩ano ttattt樹 oし 1■ ∩11口 O IJ a■ oく ulullη u■ 0く
nl彫 ηlっ く同∩uη 3∩ lilu∩ ηl日 ∩1彫 ∩lJttaattQη gⅥ lく ∩η、1号 uu剛 oく tttUu∩ nu.ν a∩ 働、∩ηl目 ∩υη■0∩
ζ 冤
ヽ
8Uυ l彫 nlJ∩ η
、日∩
u■ 剛
uⅥ 蹴
in■ 璃η3n∩ 、
η%25511ヂ aく う
u♂ η
膏∩く
ηu∩ 何
■.1くt斉 う∩
デnal」 し
翁oИ η
ttu視 jη
デ献3く 彫
さ 辱く¶ ザllデ ぶ:号 U現 し 105憫 旬彫dく 因al漱嵐ι
もηらくが01斉a彫 ∩η∩ :Q∩ し 員因alttη Ⅵ ηく∩ηitlUu
∩句■
al」 し
Ooν ηデ斉0く 意翻L]OИ ηttη ¶η∩∩ηl』 η
Иず子
Qa。 118.%olビ η膏∩く
ηu∩ nu.潤 η
al」 L倒 oИ η
」1彫 L∩ u31∩ 側 Ⅵao∩ ∩aoく mη 脚因く∩η100∩ 剛OaOυ luLLma彫 lη uη %η 剛0く an■ ∩くη■ ∩籠■.anИ llJ
LO∩ an131」 Lう oⅥ η
デ斉oく ζ
倒♂η
膏∩く
ηu an■ .1討ミqデ 111u弓 %η 憮栴 デQa■ 5 anl彫 lo1 42 5η u6%η
漁倒♂η 膏∩く
η■∩ ■.1斉LS劉 電ι ttUQ%η 旬∩ ηut10Ⅵ l日 ∩υη
Qし Ⅵ何バザ∩
6%η ∩η
ぅanυ η∩1粛 aO■ LLa彫
“
ζι
バUつ も
3く 田η衝1」 ι
倒oИ η
デ斉0く il■ lη U6%η κQ∩ ぎη
η
♂η膏∩くη視 ∩何■.Ⅵ つくLl制 OJη くづくづη旬彫Ll■ 」1彫 18%」 ″υ
ttL号
日 ∩n明 .ν ♂∩筍ml∩ ηl目 ∩ul
・
■0∩ 1彫 lll11彫 ∩υ∩15n∩ υηttuⅦ ■5η 蹴 Ⅶη5n∩ lη %2551 mη tta潤 ∩ηl ηく■oOJOυ naJ 3oη u■ ∩何u.
∩η∩nη ∩ganu■ ∩η
nη lanυ η Ⅵηくl∩ aぶ Liuη %η 電荷n■ ι
」OИ η高∩υη
QLⅥ nバ ■
a5■ lnl16∩ uη
∩
こ和0・ 比 a彫
ふバ
UQ偽 くNη tt lo∩ nai
3く Vη ∩潤2559
สารบัญ
หนา
คําแนะนําการใชเอกสารสรุปเนื้อหาที่ตองรู 1
โครงสรางรายวิชาคณิตศาสตร 3
แบบทดสอบกอนเรียน 4
บทที่ 1 จํานวนและการดําเนินการ 9
เรื่องที่ 1 จํานวนเต็มบวก จํานวนเต็มลบ และศูนย 10
เรื่องที่ 2 การเปรียบเทียบจํานวนเต็ม 11
เรื่องที่ 3 การบวก การลบ การคูณ และการหารจํานวนเต็ม 12
เรื่องที่ 4 สมบัติของจํานวนเต็มและการนําไปใช 16
บทที่ 2 เศษสวนและทศนิยม 21
เรื่องที่ 1 ความหมายของเศษสวน และทศนิยม 22
เรื่องที่ 2 การเขียนเศษสวนดวยทศนิยม และการเขียนทศนิยมซ้ําเปนเศษสวน 23
เรื่องที่ 3 การเปรียบเทียบเศษสวนและทศนิยม 25
เรื่องที่ 4 การบวก ลบ คูณ หารเศษสวนและทศนิยม 26
บทที่ 3 เลขยกกําลัง 32
เรื่องที่ 1 ความหมายและการเขียนเลขยกกําลัง 33
เรื่องที่ 2 การคูณและการหารเลขยกกําลังที่มีฐานเดียวกันและเลขชี้กําลังเปนจํานวนเต็ม 34
เรื่องที่ 3 การเขียนแสดงจํานวนในรูปสัญกรณวิทยาศาสตร 36
บทที่ 4 อัตราสวนและรอยละ 39
เรื่องที่ 1 อัตราสวน 40
เรื่องที่ 2 สัดสวน 44
เรื่องที่ 3 รอยละ 46
เรื่องที่ 4 การแกโจทยปญ
หาเกี่ยวกับอัตราสวน สัดสวน และรอยละ 48
สารบัญ (ตอ)
หนา
บทที่ 5 การวัด 57
เรื่องที่ 1 การเปรียบเทียบหนวยความยาวและพื้นที่ 58
เรื่องที่ 2 การเลือกใชหนวยการวัด ความยาวและพื้นที่ 62
เรื่องที่ 3 การหาพื้นที่ของรูปเรขาคณิต 63
เรื่องที่ 4 การแกโจทยปญ หาเกี่ยวกับพื้นที่ในสถานการณตางๆ 76
เรื่องที่ 5 การคาดคะเนเวลา ระยะทาง ขนาด น้ําหนัก 77
บทที่ 6 ปริมาตรและพื้นทีผ่ ิว 84
เรื่องที่ 1 ลักษณะสมบัติและการหาพื้นที่ผิวและปริมาตรของปริซึม 85
เรื่องที่ 2 การหาปริมาตรและพื้นทีผ่ ิวของทรงกระบอก 87
เรื่องที่ 3 การหาปริมาตรของพีระมิด กรวยและทรงกลม 89
เรื่องที่ 4 การเปรียบเทียบหนวยปริมาตร 95
เรื่องที่ 5 การแกโจทยปญ หาเกี่ยวกับปริมาตรและพื้นทีผ่ ิว 97
เรื่องที่ 6 การคาดคะเนเกี่ยวกับปริมาตรและพื้นทีผ่ ิว 98
บทที่ 7 คูอันดับและกราฟ 104
เรื่องที่ 1 คูอันดับ (Ordered pairs) 105
เรื่องที่ 2 กราฟของคูอันดับ (Graphing Ordered Pairs) 106
เรื่องที่ 3 การนําคูอันดับและกราฟไปใช 108
บทที่ 8 ความสัมพันธระหวางรูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ 114
เรื่องที่ 1 ภาพของรูปเรขาคณิตสองมิติทเี่ กิดจาการคลี่รปู เรขาคณิตสามมิติ 115
เรื่องที่ 2 ภาพสองมิตทิ ี่ไดจากการมองดานหนา ดานขาง หรือดานบนของรูปเรขาคณิตสามมิติ 118
บทที่ 9 สถิติ 127
เรื่องที่ 1 การรวบรวมขอมูล 128
เรื่องที่ 2 การหาคากลางของขอมูล 135
เรื่องที่ 3 การเลือกใชคากลางของขอมูล 137
เรื่องที่ 4 การใชสถิติ ขอมูลสารสนเทศ 139
สารบัญ (ตอ)
หนา
บทที่ 10 ความนาจะเปน 149
เรื่องที่ 1 การทดลองสุม และเหตุการณ 151
เรื่องที่ 2 ความนาจะเปนของเหตุการณ Probabilities of Events. 154
เรื่องที่ 3 การนําความนาจะเปนของเหตุการณไปใชในชีวิตประจําวัน 156
บทที่ 11 การใชทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตรในการประกอบอาชีพ 162
เรื่องที่ 1 ลักษณะ ประเภทของงานอาชีพที่ใชทักษะทางคณิตศาสตร 163
เรื่องที่ 2 การนําความรูทางคณิตศาสตรไปเชื่อมโยงกับงานอาชีพในสังคม 167
แบบทดสอบหลังเรียน 175
ภาคผนวก 180
เฉลยแบบทดสอบกอนเรียน 181
เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน 181
คณะผูจัดทํา 228
1
คําแนะนําการใชเอกสารสรุปเนื้อหาทีต่ องรู
เอกสารสรุ ป เนื้อ หาที่ ต อ งรู รายวิ ชาคณิ ตศาสตร ระดั บ มั ธ ยมศึ ก ษาตอนต น รหั ส พค 21001
ใชสําหรับนักศึกษาหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 แบงออกเปน
2 สวน คือ
สวนที่ 1 โครงสรางรายวิชา แบบทดสอบกอนเรียน โครงสรางของแตละบท เนื้อหาสาระ กิจกรรม
ทายบท และแบบทดสอบหลังเรียน
สวนที่ 2 เฉลยกิจกรรมทายบท และเฉลยแบบทดสอบกอนเรียนและหลังเรียน
วิธีใชเอกสารสรุปเนื้อหาที่ตองรู
ใหนักศึกษาดําเนินการตามขั้นตอน ดังนี้
1. ศึกษารายละเอียดโครงสรางรายวิชาโดยละเอียด เพื่อใหทราบวานักศึกษาตองเรียนรูเนื้อหาในเรือ ่ง
ใดบางในรายวิชานี้
2. วางแผนเพื่อกําหนดระยะเวลาและจัดเวลาที่นักศึกษามีความพรอมที่จะศึกษาเอกสารสรุปเนื้อหาที่
ตองรู เพื่อใหสามารถศึกษารายละเอียดของเนื้อหาไดครบทุกบท
3. ทําแบบทดสอบกอนเรียน เพื่อทราบพื้นฐานความรูเดิมของนักศึกษา โดยตรวจสอบคําตอบจาก
เฉลยแบบทดสอบกอนเรียนทายเลม
4. ศึก ษาเนื้อ หาสาระในแตล ะบทอย า งละเอี ย ดใหเ ข า ใจ และทํา กิ จ กรรมท า ยบทที่ กํ า หนดไว ใ ห
ครบถวน
5. เมื่อทํากิจกรรมทายบทเสร็จแตละกิจกรรมแลว นักศึกษาสามารถตรวจสอบคําตอบไดจากเฉลย
ทายเลม หากนักศึกษายังทํากิจกรรมไมถูกตอง ใหนักศึกษากลับไปทบทวนเนื้อหาสาระในเรื่องนั้นซ้ําจนกวาจะ
เขาใจ
6. เมื่อศึกษาเนื้อหาสาระครบทุกบทแลว ใหนักศึกษาทําแบบทดสอบหลังเรียนและตรวจคําตอบจาก
เฉลยทายเลมวานักศึกษาสามารถทําแบบทดสอบไดถูกตองทุกขอหรือไม หากขอใดยังไมถูกตอง ใหนักศึกษา
กลับไปทบทวนเนื้อหาสาระในเรือ่ งนั้นใหเขาใจอีกครั้งหนึ่ง นักศึกษาควรทําแบบทดสอบหลังเรียนใหไดคะแนน
มากกวาแบบทดสอบกอนเรียน และควรไดคะแนนไมนอยกวารอยละ 60 ของแบบทดสอบทั้งหมด เพื่อใหมั่นใจ
วาจะสามารถสอบปลายภาคผาน
7. หากนั กศึ ก ษาได ทํ าการศึ กษาเนื้อ หาสาระแล ว ยั ง ไม เ ข าใจ นัก ศึ ก ษาสามารถสอบถามและขอ
คําแนะนําไดจากครูหรือแหลงคนควาเพิ่มเติมอื่นๆ
2
8. เอกสารสรุปเนื้อหาที่ตองรูเลมนี้มี 11 บท คือ
บทที่ 1 จํานวนและการดําเนินการ
บทที่ 2 เศษสวนและทศนิยม
บทที่ 3 เลขยกกําลัง
บทที่ 4 อัตราสวนและรอยละ
บทที่ 5 การวัด
บทที่ 6 ปริมาตรและพื้นที่ผิว
บทที่ 7 คูอันดับและกราฟ
บทที่ 8 ความสัมพันธระหวางรูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ
บทที่ 9 สถิติ
บทที่ 10 ความนาจะเปน
บทที่ 11 การใชทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตรในการประกอบอาชีพ
โครงสรางรายวิชาคณิตศาสตร
ระดับมัธยมศึกษาตอนตน
(พค 21001)
สาระสําคัญ
ใหผูเรียนมีความรูความเขาใจเกี่ยวกับจํานวนและการดําเนินการ เศษสวน และทศนิยม เลขยกกําลัง
อัตราสวน สัดสวน และรอยละ การวัด ปริมาตรและพื้นที่ผิว คูอันดับและกราฟ ความสัมพันธระหวางรูปทรง
เรขาคณิตสองมิติและสามมิติ สถิติ และความนาจะเปน และการใชทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตรในการ
ประกอบอาชีพ
ผลการเรียนรูที่คาดหวัง
1. ระบุ ห รื อยกตัวอยางเกี่ ยวกั บ จํ านวนและการดําเนินการ เศษสวนและทศนิยม เลขยกกํ าลั ง
อัตราส วน ร อ ยละ การวัด การหาปริม าตรและพื้นที่ ผิว คูอันดับ และกราฟ ความสั ม พั นธร ะหวางรูป ทรง
เรขาคณิตสองมิติและสามมิติ สถิติ และความนาจะเปน
2. สามารถคิดคํานวณแกปญหาโจทยและนําไปประยุกตใชในชีวิตประจําวันได
ขอบขายเนื้อหา
บทที่ 1 จํานวนและการดําเนินการ
บทที่ 2 เศษสวนและทศนิยม
บทที่ 3 เลขยกกําลัง
บทที่ 4 อัตราสวนและรอยละ
บทที่ 5 การวัด
บทที่ 6 ปริมาตรและพื้นที่ผิว
บทที่ 7 คูอันดับและกราฟ
บทที่ 8 ความสัมพันธระหวางรูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ
บทที่ 9 สถิติ
บทที่ 10 ความนาจะเปน
บทที่ 11 การใชทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตรในการประกอบอาชีพ
สื่อการเรียนรู
เอกสารสรุปเนื้อหาที่ตองรู
4
แบบทดสอบก่ อนเรียน
. ข้อใดต่อไปนี เป็ นเท็จ . ข้อใดเป็ นจํานวนตรงข้ามของ
ก. ไม่ใช่จาํ นวนเต็ม - , , ,-,
ข. - เป็ นจํานวนเต็มลบ ก. - , - , ,
2 ข. , - , , , -
ค. ไม่เป็ นจํานวนเต็ม
5 ค. - , - , , ,
ง. . ไม่เป็ นจํานวนเต็ม ง. , - , ,
4 2 5
. × มีค่าตรงกับข้อใด . มีค่าเท่ากับข้อใด
7 5 6
6 ก. 0.8
ก.
35 ข. .
8 ค. 0.83
ข.
35 ง. 0.8383
14
ค.
35 21.
20
ง.
35
. จํานวนในข้อใด มีค่ามากทีสุด
ข้อใดคือเศษส่วนแทนภาพทีกําหนดให้
ก. .
1
ข. . ก.
ค. . 3
4
ง. . ข.
5
1
. (34.23 + 3.78) – (2.7 × 3.5) มีค่าเท่ากับข้อใด ค.
2
ก. . 1
ง. 1
ข. . 2
ค. .
ง. . . ข้อใดไม่ถกู ต้อง
1
ก. 3 > .
2 2
. เขียนเป็ นทศนิยมซํา ข้อใดถูกต้อง
3 3
ข. 2 = 2.75
ก. . 4
ข. . 1 3
ค. <
ค. . 2 4
ง. 0.6 ง. . > .165
7
23. กําหนด a = 3, b = – 6 , c = 5 .
ค่าของ (a + b) – c เท่ากับเท่าไร
ก. – 10
ข. 2
ค. –
ง. ถ้าถังใบหนึงมีเส้นผ่าศูนย์กลางยาว เมตร
1
. ( – ) มีผลลัพธ์ตรงกับข้อใด มีความสูง เมตร บรรจุ ถัง นําในถังมี
2
ก. ประมาณกีลูกบาศก์เมตร
ข. . ก.
ค. . ข.
ง. . ค. ,
ง. ,
. อัตราส่วนอายุของเมย์กบั มุขเป็ น :
ถ้ามุขอายุ ปี สองคนนี อาบุห่างกันกีปี . กําหนดข้อมูล , , , และ
ก. ค่าเฉลียเลขคณิตของข้อมูลชุดนี
ข. มีค่าตรงกับข้อใด
ค. ก.
ง. ข.
ค.
. ทีดินรู ปสีเหลียมผืนผ้ามีพนที
ื ไร่ งาน ง.
ตารางเมตร และกว้าง เมตร
ทีดินแปลงนี ยาวกีเมตร . กําหนดข้อมูล , , , , ข้อใดถูกต้อง
ก. ก. ค่าเฉลีย = ค่ามัธยฐาน
ข. ข. ฐานนิยม > ค่าเฉลีย
ค. ค. ฐานนิยม = มัธยฐาน
ง. ง. มัธยฐาน < ค่าเฉลีย
8
บทที
จํานวนและการดําเนินการ
สาระสําคัญ
เรื องของจํานวนและการดําเนินการ เป็ นหลักการเบืองต้นทีเป็ นพืนฐานในการนําไปใช้ในชีวิตจริ ง
เกียวกับการเปรี ยบเทียบ การบวก การลบ การคูณ และการหาร
ผลการเรียนรู้ทีคาดหวัง
1. ระบุหรื อยกตัวอย่างจํานวนเต็มบวก จํานวนเต็มลบ และศูนย์ได้
2. เปรี ยบเทียบจํานวนเต็มได้
3. บวก ลบ คูณ หาร จํานวนเต็มได้
4. บอกสมบัติของจํานวนเต็มและนําสมบัติของจํานวนเต็มไปใช้ได้
ขอบข่ ายเนือหา
เรื องที จํานวนเต็มบวก จํานวนเต็มลบ และศูนย์
เรื องที การเปรี ยบเทียบจํานวนเต็ม
เรื องที การบวก การลบ การคูณ และการหารจํานวนเต็ม
เรื องที สมบัติของจํานวนเต็มและการนําไปใช้
10
เรืองที
จํานวนเต็มบวก จํานวนเต็มลบ และศูนย์
จํานวนเต็มประกอบไปด้วย จํานวนเต็มบวก จํานวนเต็มลบ และจํานวนเต็มศูนย์ ดังโครงสร้าง
ต่อไปนี
จํานวนเต็ม
0 1 2 3 4
จํานวนเต็มศูนย์ มีจาํ นวนเดียว คือ ศูนย์ ( )
สําหรับ เป็ นจํานวนเต็ม แต่ไม่เป็ นจํานวนนับ เพราะจะไม่กล่าวว่ามีผเู้ รี ยนจํานวน คน แต่ศนู ย์ก็
ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีเสมอไป เช่น เมือกล่าวถึงอุณหภูมิ เพราะทําให้เราทราบและเกิดความรู้สึกขณะ
อุณหภูมิ องศาเซลเซียสได้
จํานวนเต็มลบ หมายถึงจํานวนทีตรงข้ามกับจํานวนเต็มบวก มีค่าน้อยกว่าศูนย์ ( ) มีค่าลดลงเรื อยๆ ไม่มีที
สิ นสุด เช่น - , - , - , ....
พิจารณาจากเส้นจํานวน จะเห็นว่าจํานวนทีอยูท่ างซ้ายของ เป็ นระยะทาง หน่วย เขียนแทนด้วย
- อ่านว่า ลบหนึง ลบสอง ลบสาม ตามลําดับ
เรืองที
การเปรียบเทียบจํานวนเต็ม
จํานวนเต็ม จํานวน เมือนํามาเปรี ยบเทียบกันจะได้ว่า จํานวนหนึงทีมากกว่าจํานวนหนึง หรื อ
จํานวนหนึงทีน้อยกว่าอีกจํานวนหนึง หรื อจํานวนทัง จํานวนเท่ากัน เพียงอย่างใดอย่างหนึงเท่านัน
ถ้า a, b, c เป็ น จํานวนธรรมชาติใดๆ แล้ว
a–b=c เมือ a มากกว่า b ตัวอย่าง กําหนดให้ a = 5 b = 2 ดังนัน – 2 = 3
a–b=-c เมือ b มากกว่า a ตัวอย่าง กําหนดให้ a = -5 b = 2 ดังนัน (-5) – 2 = -3
หรื อ a น้อยกว่า b
a–b=0 แล้ว a เท่ากับ b ตัวอย่าง a = (-5)
เครื องหมายทีใช้ > แทนมากกว่า
< แทนน้อยกว่า
= แทนเท่ากับ หรื อเท่ากัน
การเปรี ยบเทียบจํานวนเต็มสามารถเปรี ยบเทียบจากเส้นจํานวนได้ดงั นี
จากเส้นจํานวนจะเห็นว่า > > > > > - > - > - ซึงจะเห็นได้ว่า จํานวนทีอยูบ่ นเส้น
จํานวนด้านขวามีค่ามากกว่าจํานวนทีอยูด่ า้ นซ้ายเสมอ
12
เรืองที
การบวก การลบ การคูณ และการหารจํานวนเต็ม
. การบวกจํานวนเต็ม
). การบวกจํานวนเต็มบวกด้วยจํานวนเต็มบวก
การบวกจํานวนเต็มบวกจํานวนใดจํานวนหนึงกับจํานวนเต็มบวกอีกจํานวนหนึง คือการ
เคลือนทีจากจุดทีแทนจํานวนเต็มนัน ไปทางขวาของเส้น จํานวนเป็ นระยะเท่ากับระยะจากศูนย์ไปยังจํานวน
นัน (การเคลือนทีของจุดไปทางขวาคือการเพิมค่า)
ตัวอย่างที จงหาผลบวกของ +
ให้นกั ศึกษาพิจารณาจากเส้นจํานวน
- -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7
วิธีคิด เริ มต้นจาก ไปที บวกเพิมไปทางขวาอีก หน่วย จะได้ หน่วย นันคือ + = 6
2). การบวกจํานวนเต็มลบด้วยจํานวนเต็มลบ
การบวกจํานวนเต็มลบจํานวนใดจํานวนหนึงกับจํานวนเต็มลบอีกจํานวนหนึง คือการเคลือนที
จากจุดทีแทนจํานวนเต็มนันไปทางซ้ายของเส้นจํานวนเป็ นระยะเท่ากับระยะจากศูนย์ไปยังเส้นจํานวนนัน
(เคลือนจุดไปทางซ้ายค่าจะลดลง)
ตัวอย่างที จงหาผลบวกของ (– ) + (– )
ให้นกั ศึกษาพิจารณาจากเส้นจํานวน
- -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7
วิธีคิด เริ มต้นที – บวกเพิมไปทางซ้ายอีก หน่วย จะได้ –
- -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7
13
- -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7
วิธีคิด เริ มจาก ไปยัง – นับเพิมไปทางขวา หน่วย จะได้คาํ ตอบคือ –
นันคือ (– ) + = –
. การลบจํานวนเต็ม
ทบทวนจํานวนตรงข้ามของจํานวนเต็มดังต่อไปนี
จํานวนตรงข้ามของ คือ -
จํานวนตรงข้ามของ – คือ และ + (- ) =
จํานวนตรงข้ามของ - เขียนแทนด้วย –(- ) ดังนี –(- ) = 3
พิจารณาการลบจํานวนเต็มสองจํานวนทีกําหนดให้ดงั นี
1) 12 – ) (-12) – (-8)
2) 12 – 4) (-12) - 8
โดยพิจารณาทังสองแบบ
. แสดงการหาผลลบของสองจํานวนทีกําหนดให้
1) 12 – = 4 ) (-12) – (-8) = -4
2) 12 – = -4 4) (-12) – 8 = -20
. การหารจํานวนเต็ม
การหารจํานวนเต็ม เมือ a, b และ c แทนจํานวนเต็มใดๆ ที b ไม่เท่ากับ จะหาผลหารได้โดยอาศัย
การคูณ ดังนี
ตัวหาร × ผลหาร = ตัวตัง
จากการหาผลหารข้างต้นจะได้ว่า
ถ้าทังตัวตังหรื อตัวหาร ตัวใดตัวหนึงเป็ นจํานวนเต็มลบ จะทําให้ผลหารมีค่าเป็ นลบ
จากการหาผลหารข้างต้นจะได้ว่า
ถ้าทังตัวตังและตัวหารเป็ นจํานวนเต็มบวกทังคู่หรื อจํานวนเต็มลบทังคู่ คําตอบเป็ นจํานวน
เต็มบวก
16
เรืองที
สมบัตขิ องจํานวนเต็มและการนําไปใช้
4.1 สมบัติเกียวกับการบวกและการคูณจํานวนเต็ม
) สมบัติการสลับที
ถ้า a และ b แทนจํานวนเต็มใดๆ
a + b = b + a (สมบัติการสลับทีการบวก) เช่น + = 2 + 3 = 5
a × b = b × a (สมบัติการสลับทีการคูณ) เช่น × 2 = 2 × 3 = 6
) สมบัติการเปลียนหมู่
ถ้า a และ b แทนจํานวนเต็มใดๆ
สมบัติการเปลียนหมู่การบวก
(a + b) + c = a + (b + c) เช่น
( + ) + = + ( + ) = 14
สมบัติการเปลียนหมู่การคูณ
(a × b) × c = a × (b × c) เช่น
(5 × 3) × 6 = 5 × (3 × 6) = 90
) สมบัติการแจกแจง
ถ้า a และ b แทนจํานวนเต็มใดๆ
a × (b + c) = ab + ac เช่น
6 × ( + ) = (6 × 3) + (6 × 2) = 30
และ (b + c) × a = ba + ca เช่น
( + ) × 6 = (6 × 2) + (6 × 3) = 30
. สมบัติของหนึงและศูนย์
) สมบัติของหนึง ถ้าหนึงคูณจํานวนใดๆ จะได้ผลลัพธ์เท่ากับจํานวนนัน
) ถ้า a แทนจํานวนใดๆ แล้ว a 1 = 1 a = a
2) ถ้า a แทนจํานวนใดๆ แล้ว a a
1
ตัวอย่าง × 5 = 5, 1 × 0 = 0, 1 × 10 = 10
) สมบัติของศูนย์
) ถ้า a แทนจํานวนใดๆ แล้ว a + 0 = 0 + a = a
) ถ้า a แทนจํานวนใดๆ แล้ว a 0 = 0 a = 0
) ถ้า a แทนจํานวนใดๆ ทีไม่ใช่ แล้ว 0 0 (เราไม่ใช้ เป็ นตัวหาร
a
ถ้า a แทนจํานวนใดๆ แล้ว a ไม่มีความหมายทางคณิตศาสตร์)
0
) ถ้า a และ b แทนจํานวนใดๆ และ a b = 0 แล้วจะได้ a = 0 หรื อ b = 0
17
กิจกรรมบทที
แบบฝึ กหัดที
1. จงเลือกจํานวนเต็มบวก จํานวนเต็มลบ และจํานวนเต็มจากจํานวนต่อไปนี
0, 6 , -1, , 10 , -3, 4, 7 – 10, 300 , 750
3 2 600 250
จํานวนเต็มบวก ประกอบด้วย...............................................................................................
จํานวนเต็มลบ ประกอบด้วย...............................................................................................
จํานวนเต็ม ประกอบด้วย..............................................................................................
2. จงเติมเครื องหมาย < หรื อ > เพือให้ประโยคต่อไปนี เป็ นจริ ง
1) -6 ..................................... 4
2) -5 ..................................... -4
3) -4 ..................................... -7
4) 2 ...................................... -4
5) 8 ...................................... 3
3. จงเรี ยงลําดับจํานวนเต็มจากน้อยไปหามาก
1) -7, 2, 0, -3, 4, -5, 6, -12, 20
…………………………………………………………………………………………………..
2) 13, -4, 9, 5, -12, 7, 4
…………………………………………………………………………………………………..
18
แบบฝึ กหัดที
1. จงทําให้เป็ นผลสําเร็ จ
. 16 - 9
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
. (-16) – (-9)
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
. 21 – (-8)
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
. (-12) - 14
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
. [10 – (-3)] - 4
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
แบบฝึ กหัดที
จงหาผลลัพธ์
). [(-5) (-3)] (-4)
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
2). (-4) [(-7) (-3)]
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
3). [2 (-4)] (-2)
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
4). 5 [(5) (2)]
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
5). [(-8) (-5)] + [(-4) (-5)]
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
20
แบบฝึ กหัดที
. จงหาผลหาร
. . (- )
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
…………………………………………………. …………………………………………………
…………………………………………………. …………………………………………………
. (- ) (- ) 5. [(- 1) (- )] [1 (- )]
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
…………………………………………………. …………………………………………………
…………………………………………………. …………………………………………………
. (- )
…………………………………………………
…………………………………………………
…………………………………………………
………………………………………………….
………………………………………………….
21
บทที
เศษส่ วนและทศนิยม
สาระสําคัญ
การอ่าน เขียนเศษส่วน และทศนิยมโดยใช้สมบัติ การบวก การลบ การคูณ การหาร
การเปรี ยบเทียบ และการแก้โจทย์ปัญหาตามสภาพการณ์จริ งได้
ผลการเรียนรู้ทีคาดหวัง
1. บอกความหมายของเศษส่วนและทศนิยมได้
2. เขียนเศษส่วนในรู ปทศนิยมและเขียนทศนิยมซําในรู ปเศษส่วนได้
3. เปรี ยบเทียบเศษส่วนและทศนิยมได้
4. บวก ลบ คูณ หาร เศษส่วนและทศนิยมได้
5. นําความรู้เกียวกับเศษส่วนและทศนิยมไปใช้แก้โจทย์ปัญหาได้
ขอบข่ ายเนือหา
เรื องที ความหมายของเศษส่วนและทศนิยม
เรื องที การเขียนเศษส่วนด้วยทศนิยม และการเขียนทศนิยมซําเป็ นเศษส่วน
เรื องที การเปรี ยบเทียบเศษส่วนและทศนิยม
เรื องที การบวก ลบ คูณ หาร เศษส่วนและทศนิยม
22
เรืองที
ความหมายของเศษส่ วน และทศนิยม
. เศษส่ วน เป็ นความสัมพันธ์ระหว่างส่วนหนึง เมือเทียบกับส่วนทังหมดของปริ มาณทีกําหนด
หรื อวัตถุหนึง
รูปสีเหลียมถูกแบ่งเป็ น ส่วน เท่าๆ กัน แรเงา ส่วน
1
คิดเป็ น ส่วน ใน ส่วน เขียนแทนด้ วย อ่านว่า
5
เศษหนึงส่วนห้ า
5
ส่วนทีแรเงาคิดเป็ น
8
a
เศษส่วน คือ จํานวนทีเขียนอยูใ่ นรู ป เมือ a และ b เป็ นจํานวนเต็ม
b
โดยที b ≠ เรี ยก a ว่า ตัวเศษ และ เรี ยก b ว่า ตัวส่วน
เรืองที
การเขียนเศษส่ วนด้ วยทศนิยม และการเขียนทศนิยมซําเป็ นเศษส่ วน
2.1 การเขียนเศษส่ วนด้ วยทศนิยม
กรณีที การทําส่วนให้เป็ น , , , , … โดยถ้ามีส่วนเป็ น จะได้ทศนิยม
ตําแหน่ง ส่วนเป็ น ทศนิยมจะเป็ น ตําแหน่ง ตามลําดับ
3 3 25 75
เช่น = = = 0.75
4 4 25 100
1 = 1 5 = 5 = -0.5
2 25 10
25 1
0.25 = =
100 4
1.2 = 12 = 11
10 5
ตัวอย่าง
298 2 296
. 2.98 = 99 = 99
2516 25 2491
2. 2.2516 = 9900 = 9900
25
เรืองที
การเปรียบเทียบเศษส่ วนและทศนิยม
. การเปรียบเทียบเศษส่ วน
3.1.1 เศษส่ วนทีมีส่วนเท่ ากัน ให้พิจารณาตัวเศษ ถ้าเศษน้อยจะมีค่าน้อย และเศษมากจะ
มีค่ามาก
เช่น
1 <
3
4 4
6 >
2
7 7
เรืองที
การบวก ลบ คูณ หารเศษส่ วนและทศนิยม
. การบวกเศษส่ วน
วิธีการหาผลบวกของเศษส่วน สามารถทําได้ดงั นี
1) ทําตัวส่วนให้มีค่าเท่ากัน
2) บวกตัวเศษเข้าด้วยกันโดยทีตัวส่วนยังคงเท่าเดิม
ตัวอย่างที จงหาผลบวก
3 2
5 3
วิธีทาํ ทําส่วนให้มีค่าเป็ น (พิจารณาจาก ค.ร.น. ของ , )
3 2 3 3 2 5
5 3 5 3 3 5
=
9 10
15 15
19
= = 14
15 15
. การลบเศษส่ วน
การลบเศษส่วน ใช้หลักการเดียวกันกับการลบจํานวนเต็ม คือ
ตัวตัง - ตัวลบ = ตัวตัง + จํานวนตรงข้ามของตัวลบ
ตัวอย่างที จงหาผลลบ 12 2
20 5
วิธีทาํ ทําส่วนให้มีค่าเท่ากับ
12 2 12 2
20 5 20 5
12 2 4
= +
20 5 4
12 8
=
20 20
=
20 =
20
. การคูณเศษส่ วน
ผลคูณของเศษส่วนสองจํานวน คือ เศษส่วนซึงมีตวั เศษเท่ากับผลคูณของตัวเศษสอง
จํานวนและตัวส่วนเท่ากับผลคูณของตัวส่วนสองจํานวนนัน (เศษคูณเศษ และส่วนคูณส่วน)
a c
เมือ และ เป็ นเศษส่วน ซึง b , d 0
b d
27
a c a c ac
ผลคูณของ และ หาได้จากกฎ =
b d b d bd
3
ตัวอย่างที จงหาผลคูณของจํานวน
6
5 7
วิธีทาํ
3 6 =
3 6
5 7 5 7
=
18
35
ตอบ
18
35
4.4 การหารเศษส่ วน
a c
เมือ และ แทนเศษส่วนใดๆ โดยที b, d ≠
b d
a c a d
=
b d b c
ตัวอย่างที จงหาผลหารของ 2 3
12 10
วิธีทาํ 2 3 = 2 10
12 10 12 3
= 20
36
= 5
9
. การบวก และการลบทศนิยม
การบวกและการลบทศนิยม จะต้องตังให้จุดทศนิยมตรงกันก่อน แล้วจึงบวก
ลบ จํานวนในแต่ละหลัก ถ้าจํานวนตําแหน่งทศนิยมไม่เท่ากัน นิยมเติมศูนย์ขา้ งท้ายเพือให้จาํ นวน
ตําแหน่งทศนิยมเท่ากัน
การบวกและการลบทศนิยม ระหว่างจํานวนบวกกับจํานวนลบ ให้ใช้หลักการเช่นเดียวกับ
การบวกลบจํานวนเต็ม
ตัวอย่าง จงหาผลลัพธ์ 4.12 – (-3.2)
วิธีทาํ 4.12 – (-3.2) = . + 3.2
4.12 + 3.2 = 4.12
+
3.20
7.32
4.12 – (-3.2) = 7.32
.7 การคูณทศนิยม
ผลคูณทศนิยม จะมีจาํ นวนหลักทศนิยมเท่ากับผลบวกของจํานวนหลักทศนิยมของตัวตัง
และจํานวนหลักทศนิยมของตัวคูณ
ตัวอย่าง จงหาผลคูณของ (-3.12) × 4.3
วิธีทาํ
(-3.12) × 4.3 = - .
29
. การหารทศนิยม
. การหาทศนิยมในการพิจารณาผลลัพธ์ให้ใช้หลักการเดียวกับการคูณทศนิยม
. การหาทศนิยม ต้องทําให้ตวั หารเป็ นจํานวนเต็มก่อน แล้วหารกันโดยคํานึงถึงจุดทศนิยม
ตัวอย่าง จงหาค่าของ . (- . )
14.436 10
วิธีทาํ . (- . ) =
1.2 10
144.36
=
12
12.03
12 144.36 00
12
24
.
36
. (- . ) = -12.03
.9 การนําความรู้เรืองทศนิยมไปใช้ ในการแก้โจทย์ปัญหา
ในการแก้โจทย์ปัญหาทศนิยม ให้ดาํ เนินการตามโจทย์ และใช้หลักการแก้โจทย์ปัญหา เช่น
การวิเคราะห์โจทย์ การหาวิธีแก้ปัญหา เป็ นต้น
ตัวอย่าง รู ปสีเหลียมผืนผ้ารู ปหนึงมีดา้ นกว้าง . เซนติเมตร มีดา้ นยาว .
เซนติเมตร จงหาความยาวรอบรู ป
วิธีทาํ พิจารณา . ซม.
. ซม. . ซม.
. ซม.
กิจกรรมบทที
แบบฝึ กหัดที
. จงวาดภาพแสดงเศษส่วนทีกําหนดให้
.)
3
4
.)
1
3
. จงเขียนเศษส่วนในรู ปทศนิยม และเขียนทศนิยมในรู ปเศษส่วน
.)
6
20
.)
12
40
.) .
. ) 0.75
. ) 1.256
4. จงหาผลลัพธ์
6 1
.) 1
8 2
3 1
.)
4 2
3 4 1
4.3)
4 5 2
1 5
4. ) 3
2 8
5 4 3
4. )
8 2 4
1 1 2
4. ) 3
2 4 6
4. ) 0.7212.6 0.12
4. ) [0.35 12.6] 0.015
5. จงแก้โจทย์ปัญหา
. ) เชือกเส้นหนึงยาว . เมตร เส้นทีสองยาว . เมตร นํามาผูกต่อกันโดยจะเสียความยาว
ในการผูกปมไป . เมตรเชือกทีต่อกันจะยาวกีเมตร
2
. ) โรงเรี ยนแห่งหนึงมีนกั เรี ยนทังหมด , คน เป็ นชาย ของนักเรี ยนทังหมด จงหาว่ามี
5
นักเรี ยนหญิงมากกว่านักเรี ยยนชายกีคน
32
บทที
เลขยกกําลัง
สาระสําคัญ
การเขียนแทนการคูณจํานวนเดียวกันซําๆ หลายๆ ครัง เขียนแทนด้วย an อ่านว่า a ยกกําลัง n และ
การเขียนแสดงจํานวนในรู ปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ มักจะเขียนแทนตัวเลขทีมีค่ามากๆ และตัวเลขทีมีค่าน้อย
มากๆ
ผลการเรียนรู้ทีคาดหวัง
1. บอกความหมายและเขียนเลขยกกําลังทีมีเลขชีกําลังเป็ นจํานวนเต็มแทนจํานวนทีกําหนดให้ได้
2. บอกและนําเลขยกกําลังมาใช้ในการเขียนจํานวนในรู ปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ได้
3. อธิบายการคูณและหารเลขยกกําลังทีมีฐานเดียวกัน และเลขชีกําลังเป็ นจํานวนเต็มได้
ขอบข่ ายเนือหา
เรื องที ความหมายและการเขียนเลขยกกําลัง
เรื องที การคูณและการหารเลขยกกําลังทีมีฐานเดียวกันและเลขชีกําลังเป็ นจํานวนเต็ม
เรื องที การเขียนแสดงจํานวนในรู ปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์
33
เรืองที
ความหมายและการเขียนเลขยกกําลัง
ความหมาย
เลขยกกําลัง เป็ นการเขียนจํานวนทีเกิดขึนจากการคูณ ซําๆ กัน หลายๆ ครัง เช่น × 6 × 6 × 6
เขียนแทนด้วย อ่านว่า หกยกกําลังสี หรื อหกกําลังสี
นันคือ a a
a ......
a = an
n
a แทนจํานวนใด ๆ
n แทนจํานวนเต็มใดๆ
เรี ยก a n ว่าเลขยกกําลัง โดยมี a เป็ นฐานและ n เป็ นเลขชีกําลัง
ตัวอย่าง
. (-2)3 เป็ นเลขยกกําลังทีมี (- ) เป็ นฐาน และมี เป็ นเลขชีกําลัง
(- ) = (-2) × (-2) × (-2)
4
2 2
2. เป็ นเลขยกกําลังทีมี เป็ นฐาน และมี เป็ นเลขชีกําลัง
3 3
4
2
= 2 × 2 × 2 × 2
3 3 3 3 3
5
3. (0.6) เป็ นเลขชีกําลังทีมี . เป็ นฐาน และมี เป็ นเลขชีกําลัง
การเขียนจํานวนให้ อยู่ในรูปเลขยกกําลัง
การเขียนจํานวนให้อยูใ่ นรู ปของเลขยกกําลัง ทําได้โดยวิธีการแยกตัวประกอบ
เช่น = 5×5×5
= 53
64 = 2×2×2×2×2×2
= 26
หรื อ = 4×4×4
= 43
หรื อ 64 = 8×8
= 82
34
เรืองที
การคูณและการหารเลขยกกําลังทีมีฐานเดียวกันและเลขชีกําลังเป็ นจํานวนเต็ม
. การคูณเลขยกกําลังทีมีฐานเดียวกัน มีเลขชีกําลังเป็ นจํานวนเต็ม
พิจารณา ×3 = (3 × 3 × 3 × 3) × (3 × 3)
= 3×3×3×3×3×3
= 36
+2
นันคือ ×3 =
6
=
ดังนัน am × an = am + n
เมือ a เป็ นจํานวนใดๆ และ m, n เป็ นจํานวนเต็ม
ตัวอย่าง
-
) × 2 = 2-3 + 4
= 21
= 2
(ในกรณี ทีเลขยกกําลังมีเลขชีกําลังเป็ น เช่น a1 จะเขียนเป็ น a )
3 3 1
1 1 1
2) =
2 2 2
4
1
=
2
3) (- ) × 2 = 4×
= 7
(ในกรณี ทีเลขฐานเป็ นจํานวนลบและเลขชีกําลังเป็ นจํานวนเต็มคู่ จะมีผลลัพธ์เป็ นจํานวนบวก
เช่น (-a)2 = a2)
2.2 การหารเลขยกกําลังทีมีฐานเดียวกัน มีเลขชีกําลังเป็ นจํานวนเต็ม
พิจารณา = (2 × 2 × 2 × 2 × 2) (2 × 2 × 2)
///
///
2× 2× 2× 2× 2
=
2× 2× 2
= 2×2
= 22
5–
นันคือ =
2
=
35
am am n
ดังนัน an
เรืองที
การเขียนแสดงจํานวนในรูปสัญกรณ์ วทิ ยาศาสตร์
การเขียนแสดงจํานวนในรู ปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ มีรูปทัวไป เช่น A × 10n เมือ 1 ≤ A < 10 และ n
เป็ นจํานวนเต็ม ซึงมักจะเขียนแทนจํานวนทีมีค่ามากๆ และจํานวนทีมีค่าน้อยมากๆ
ตัวอย่างที จงเขียนจํานวนต่อไปนี ให้อยูใ่ นรู ปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์
) 150,000 = 15 × 10,000
= 1.5 × 10 × 10,000
= 1.5 × 10 × 104
= 1.5 × 105
64
2) 0.000064 =
1,000,000
64
=
10 6
6.4 10
=
106
= 6.4 × 10 × 10-6
= 6.4 × 10-5
กิจกรรมบทที
แบบฝึ กหัดที
. จงทําเครื องหมาย หน้าข้อความทีถูกต้อง และ หน้าข้อความทีไม่ถกู ต้อง
.......... . ) อ่านว่า สามกําลังห้า
.......... . ) มีค่าเท่ากับ × 4
.......... . ) (-2) × (-2) × (-2) × (-2) = (-2)4
.......... .4) (-3)6 = 36
.......... .5) 5 + 5 + 5 + 5 เท่ากับ
. จงเขียนจํานวนต่อไปนีในรู ปเลขยกกําลังทีมีเลขชีกําลังมากกว่า
.) = …………………
2.2) = …………………
2.3) 0.0144 = …………………
2.4) 81 = …………………
.) - = …………………
. จงหาว่าสัญลักษณ์ต่อไปนี แทนจํานวนใด
. ) (- ) = …………………
3
3.2) 2 = …………………
5
3.3) -44 = …………………
3.4) (0.4)3 = …………………
3.5) (-6)3 = …………………
4. จงหาผลลัพธ์
.) × = …………………
3 -2
4.2) 1 × 1 = …………………
2 2
4.3) (-3)4 × 35 = …………………
4.4) (0.2)4 × (0.2)-3 × (0.2)2 = …………………
4.5) 5-3 52 = …………………
38
5. จงเขียนจํานวนต่อไปนีในรู ปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์
. ) 12,000,000 = …………………
8
5.2) 450 × 10 = …………………
5.3) 0.00045 = …………………
5.4) 0.25 × 10-3 = …………………
5.5) 6,275 × 105 = …………………
6. จํานวนทีกําหนดให้แทนจํานวนใด
. ) 4 × 10 = …………………
6.2) 1.6 × 10-7 = …………………
6.3) 7.005 × 106 = …………………
6.4) 0.00027 × 1010 = …………………
6.5) 60 × 103 × 2 × 10-4 = …………………
บทที
อัตราส่ วนและร้ อยละ
สาระสําคัญ
1. อัตราส่วนเป็ นการเปรี ยบเทียบปริ มาณ 2 ปริ มาณขึนไป จะมีหน่วยเหมือนกัน หรื อต่างกันก็ได้
2. ร้อยละเป็ นอัตราส่วนแสดงการเปรี ยบเทียบปริ มาณใดปริ มาณหนึง ต่อ 100
ผลการเรียนรู้ทีคาดหวัง
1. กําหนดอัตราส่วนได้
2. คํานวณสัดส่วนได้
3. หาค่าร้อยละได้
4. แก้โจทย์ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆ เกียวกับอัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละได้
ขอบข่ ายเนือหา
เรื องที อัตราส่วน
เรื องที สัดส่วน
เรื องที ร้อยละ
เรื องที การแก้โจทย์ปัญหาเกียวกับอัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ
40
เรืองที
อัตราส่ วน
อัตราส่ วน (Ratio) ใช้เปรี ยบเทียบปริ มาณ 2 ปริ มาณ หรื อมากกว่าก็ได้ โดยทีปริ มาณ 2 ปริ มาณที
นํามาเปรี ยบเทียบกันนันจะมีหน่วยเหมือนกัน หรื อต่างกันก็ได้
a
บทนิยาม อัตราส่วนของปริ มาณ a ต่อ ปริ มาณ b เขียนแทนด้วย a : b หรื อ
b
เรี ยก a ว่า จํานวนแรกหรื อจํานวนทีหนึงของอัตราส่วน
เรี ยก b ว่า จํานวนหลังหรื อจํานวนทีสองของอัตราส่วน
a
(อัตราส่วน a : b หรื อ อ่านว่า a ต่อ b )
b
การเขียนอัตราส่ วน มี แบบ
1. ปริ มาณ ปริ มาณมีหน่วยเหมือนกัน
เช่น โต๊ะตัวหนึงมีความกว้าง เซนติเมตร ยาว เซนติเมตร
เขียนเป็ นอัตราส่วนได้ว่า
ความกว้างต่อความยาวของโต๊ะ เท่ากับ 50 : 120
2. ปริ มาณสองปริ มาณมีหน่วยต่างกัน
เช่น ปากกา ด้าม ราคา บาท
เขียนเป็ นอัตราส่วนได้ว่า
อัตราส่วนของจํานวนปากกาต่อราคา เป็ น ด้าม : บาท
ตัวอย่างเช่ น
ถ้าเป็ นปริ มาณทีมีหน่วยเหมือนกัน อัตราส่วนจะไม่มีหน่วยเขียนกํากับ เช่น
มานะหนัก 25 กิโลกรัม มานีหนัก 18 กิโลกรัม
25
จะกล่าวว่าอัตราส่วนของนําหนักของมานะต่อมานีเท่ากับ 25: 18 หรื อ
18
ถ้าเป็ นปริ มาณทีมีหน่วยต่างกัน อัตราส่วนจะต้องเขียนหน่วยแต่ละประเภทกํากับด้วย เช่น
สุดาสูง 160 เซนติเมตร หนัก 34 กิโลกรัม
อัตราส่วนความสูงต่อนําหนักของสุดา เท่ากับ 160 เซนติเมตร : 34 กิโลกรัม
41
ตัวอย่าง
จงหาอัตราส่วนอีก 3 อัตราส่วนทีเท่ากับอัตราส่วนทีกําหนด
3
วิธีทาํ 3 : 4 หรื อ
4
3 3 4 12
4 4 4 16
3 3 9 27
4 4 9 36
3 3 11 33
4 4 11 44
12 27 33 3
ดังนัน , , เป็ นอัตราส่วนทีเท่ากับอัตราส่วน
16 36 44 4
การตรวจสอบการเท่ากันของอัตราส่วนใดๆ ทําได้โดยใช้ลกั ษณะการคูณไขว้ ได้โดยใช้วิธีดงั นี
เมือ a , b, c และ d เป็ นจํานวนนับ
a c
) ถ้า a d bc แล้ว
b d
a c
) ถ้า a d bc แล้ว
b d
42
26 39
) พิจารณาการคูณไขว้ของ และ
30 45
เนืองจาก 26 45 = 1,170
30 39 = 1,170
ดังนัน 26 45 = 30 39
26 39
นันคือ =
30 45
1
อัตราส่วนของจํานวนแป้ งข้าวเจ้าต่อนําตาลมะพร้าวเป็ น : หรื อ : 1 หรื อเขียนในรู ปอัตราส่ วน
2
ของจํานวนหลาย ๆ จํานวน ดังนี
1
อัตราส่วนของแป้ งข้าวเจ้าต่อนํากะทิ ต่อนําตาลมะพร้าว เป็ น : 1 : หรื อ : 2 : 1
2
เรืองที
สั ดส่ วน
สัดส่วนเป็ นการเขียนแสดงการเท่ากันของอัตราส่วนสองอัตราส่วน
a c
เช่น a : b = c : d หรื อ อ่านว่า เอต่อบี เท่ากับ ซีต่อดี
b d
3 5
ตัวอย่างที จงหาค่า m ในสัดส่วน
m 12
3 5
วิธีที
m 12
3
5
3 3
5 (ทําเศษให้เท่ากับ 3 โดยคูณด้วย )
m 12 3 5
5
3 3
m 7.2
ดังนัน m มีค่าเท่ากับ 7.2
3 5
วิธีที
m 12
3 5
(คูณไขว้)
m 12
3 12
m
5
ดังนัน m = 7.2
การแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้ สัดส่ วน
ในชีวิตประจําวันเราจะพบสถานการณ์ทีต้องแก้ไขปัญหาโดยการใช้หลักการคิดคํานวณ เช่น
กําหนดอัตราส่วนของเครื องดืมโกโก้สาํ เร็ จรู ป ถ้วย ต่อผงโกโก้ ช้อนโต๊ะ ต่อนําตาล
ช้อนโต๊ะ ต่อนําต้มสุก ถ้วย เท่ากับ 1 : 2 : 1 : 1
ถ้ามีผงโกโก้ทงหมด
ั ช้อนโต๊ะ
สมมติว่า ชงเครื องดืมได้ A ถ้วย ใช้นาตาล
ํ B ช้อนโต๊ะ ครี มเทียม C ช้อนโต๊ะ และนําต้มสุก D ถ้วย
ดังนัน อัตราส่วนของจํานวนถ้วยโกโก้ทีชงได้ต่อจํานวนผงโกโก้ เท่ากับ ถ้วย ต่อ ช้อนโต๊ะ หรื อ
A ถ้วย ต่อ ช้อนโต๊ะ
นันคือ 1:2 = A : 30
1 A
หรื อ =
2 30
45
จะได้ว่า x 30 = Ax2
A = 15
ดังนัน ผงโกโก้ ช้อนโต๊ะ จะชงเครื องดืมได้ ถ้วย
จะได้ว่า A 50 = 3 350
A 50 3 350
=
50 50
A = 21
จะซือส้มโอได้ ลูก
46
เรืองที 3
ร้ อยละ
ในชีวิตประจําวัน ผูเ้ รี ยนจะเห็นว่าเราเกียวข้องกับร้อยละอยูเ่ สมอ เช่น การซือขาย กําไร
ขาดทุน การลดหรื อการเพิมทีคิดเป็ นร้อยละ การคิดภาษีมลู ค่าเพิม ฯลฯ
คําว่า ร้อยละ หรื อ เปอร์เซ็นต์ เป็ นอัตราส่วนแสดงการเปรี ยบเทียบปริ มาณใดปริ มาณหนึง
ต่อ 100 เช่น
50
ร้อยละ 50 หรื อ 50% เขียนแทนด้วย 50:100 หรื อ
100
7
ร้อยละ 7 หรื อ 7% เขียนแทนด้วย 7:100 หรื อ
100
การเขียนอัตราส่วนใดให้อยูใ่ นรู ปร้อยละ จะต้องเขียนอัตราส่วนนันให้อยูใ่ นรู ปทีมีจาํ นวนหลัง
อัตราส่วนเป็ น 100 ดังตัวอย่างต่อไปนี
4 80
80 %
5 100
2 20
0.2 20 %
10 100
การเขียนร้อยละให้เป็ นอัตราส่วนทําได้โดยเขียนอัตราส่วนทีมีจาํ นวนหลังเป็ น 100 ดัง
ตัวอย่างต่อไปนี
33
33% =
100
25.75 2575 103
25.75 % =
100 10000 400
3
ตัวอย่าง จงเขียน ให้อยูใ่ นรู ปร้อยละ
7
3
วิธีทํา วิธีที ทําให้อตั ราส่วน โดยมีจาํ นวนหลังของอัตราส่วนเป็ น
7
100
3 300
3 7
= = 7
7 100 100
7
7
3 300 300
ดังนัน คิดเป็ นร้อยละ หรื อ %
7 7 7
3 A
วิธีที สมมติ = ร้อยละ A หรื อ
7 100
x 100 = Ax7
3 100 300
A =
7 7
47
การคํานวณเกียวกับร้ อยละ
ผูเ้ รี ยนเคยคํานวณโจทย์ปัญหาเกียวกับร้อยละมาแล้วโดยไม่ได้ใช้สดั ส่วน ต่อไปนีจะเป็ นการนํา
ความรู้เรื องสัดส่วนมาใช้คาํ นวณเกียวกับร้อยละ ซึงจะพบใน 3 ลักษณะ ดังตัวอย่างต่อไปนี
1. 25% ของ 60 เท่ากับเท่าไร หมายความว่า ถ้ามี 25 ส่วนใน 100 ส่วน แล้วจะมีกีส่วนใน 60 ส่วน
ให้มี a ส่วนใน 60 ส่วน
a 25
เขียนสัดส่วนได้ดงั นี
60 100
จะได้ a 100 60 25
60 25
a
100
ดังนัน a 15
นันคือ 25% ของ 60 คือ 15
2. 9 เป็ นกีเปอร์เซ็นต์ของ 45 หมายความว่า ถ้ามี 9 ส่วนใน 45 ส่วน แล้วจะมีกีส่วนใน 100 ส่วน
x
ให้ 9 เป็ น x% ของ 45 แปลงให้อยู่ในรู ปสมการ ได้ดงั นี = × 45
100
x
x% หมายถึง
100
9 x
เขียนสัดส่วนได้ดงั นี
45 100
จะได้ 9 100 45 x
9 100
x
45
ดังนัน x = 20
นันคือ 9 เป็ น 20% ของ 45
3. 8 เป็ น 25% ของจํานวนใด หมายความว่า ถ้ามี 25 ส่วนใน 100 ส่วน แล้วจะมี 8 ส่วนในกีส่วน
ให้ 8 เป็ น 25% ของ y
8 25 25
เขียนสัดส่วนได้ดงั นี แปลงให้อยู่ในรู ปสมการ ได้ดงั นี = ×y
y 100 100
จะได้ 8 100 y 25
8 100
y
25
ดังนัน y = 32
นันคือ 8 เป็ น 25% ของ 32
48
เรืองที
การแก้ โจทย์ ปัญหาเกียวกับอัตราส่ วน สั ดส่ วน และร้ อยละ
ให้นกั เรี ยนพิจารณาตัวอย่างโจทย์ปัญหาและวิธีแก้ปัญหาเกียวกับร้อยละ โดยใช้สดั ส่วน หรื อ
อัตราส่วน ต่อไปนี
ตัวอย่าง 1 ในหมู่บา้ นแห่งหนึงมีคนอาศัยอยู่ , คน % ของจํานวนคนทีอาศัยอยูใ่ นหมู่บา้ นทํางานใน
โรงงานสับปะรดกระป๋ อง จงหาจํานวนคนงานทีทํางานในโรงงานแห่งนี
วิธีทาํ
ให้จาํ นวนคนทีทํางานในโรงงานสับปะรดกระป๋ อง เป็ น s คน
s
อัตราส่วนของจํานวนคนทีทํางานในโรงงานต่อจํานวนคนทังหมด เป็ น
1,200
6
อัตราส่วนดังกล่าวคิดเป็ น 6%
100
s 6
เขียนสัดส่วนได้ดงั นี
1,200 100
จะได้ s 100 1,200 6
1,200 6
s
100
ดังนัน s 72
นันคือ จํานวนคนงานทีทํางานในโรงงานสับปะรดกระป๋ องเป็ น 72 คน
ตอบ 72 คน
กิจกรรมบทที
แบบฝึ กหัดที
1. จงเขียนอัตราส่วนจากข้อความต่อไปนี
). ระยะทางในแผนที เซนติเมตร แทนระยะทางจริ ง กิโลเมตร
……………………………………………………………………………………………...
). รถยนต์แล่นได้ระยะทาง กิโลเมตร ในเวลา ชัวโมง
……………………………………………………………………………………………...
). โรงเรี ยนแห่งหนึงมีครู คน นักเรี ยน , คน
……………………………………………………………………………………………...
). อัตราการเต้นของหัวใจมนุษย์เป็ น ครังต่อนาที
……………………………………………………………………………………………...
. สลากกินแบ่งรัฐบาลแต่ละงวดเป็ นเลข หลัก เช่น ซึงมีหมายเลขต่างกันทังหมด , , ฉบับ
ในจํานวนทังหมดนี มีสลากทีถูกรางวัลเลขท้าย ตัวทังหมด , ฉบับ ถูกรางวัลเลขท้าย ตัว ,
ฉบับ และถูกรางวัลที อีก ฉบับ
จงเขียนอัตราส่วนแสดงการเปรี ยบเทียบจํานวนต่อไปนี
1) จํานวนทีถูกรางวัลที ต่อทังหมด
……………………………………………………………………………………………...
2) จํานวนทีถูกรางวัลเลขท้าย ตัวต่อทังหมด
……………………………………………………………………………………………...
3) จํานวนทีถูกรางวัลเลขท้าย ตัวต่อทังหมด
……………………………………………………………………………………………...
4) อัตราส่วนของสลากทีถูกรางวัลเลขท้าย ตัว ต่อเลขท้าย ตัว
……………………………………………………………………………………………...
. พ่อค้าจัดลูกกวาดคละสีขนาดเท่ากันลงในขวดโหลเดียวกัน โดยนับเป็ นชุดดังนี “ลูกกวาดสีแดง เม็ด สี
เขียว เม็ด สีเหลือง เม็ด” จงหา
) อัตราส่วนจํานวนลูกกวาดสีแดงต่อลูกกวาดทังหมด
……………………………………………………………………………………………...
2) อัตราส่วนของจํานวนลูกกวาดสีแดงต่อลูกกวาดสีเหลือง
……………………………………………………………………………………………...
3) ถ้าสุ่มหยิบลูกกวาดขึนมาจากโหลจํานวน เม็ด น่าจะได้ลกู กวาดสีใดมากทีสุด เพราะเหตุใด
……………………………………………………………………………………………...
50
แบบฝึ กหัดที
. ถ้าอัตราการแลกเปลียนเงินดอลลาร์อเมริ กาต่อเงินบาทเท่ากับ ดอลลาร์ : 43 บาท จงเติมราคาเงินในตาราง
เงินดอลลาร์ (US)
งานบาท
. จงตรวจสอบว่าอัตราส่วนต่อไปนีเท่ากันหรื อไม่
แบบฝึ กหัดที
1. พ่อแบ่งเงินให้ลกู สามคนโดยกําหนด
อัตราส่วนของจํานวนเงินลูกคนโต ต่อคนกลาง ต่อคนเล็กเป็ น 5 : 3 : 2 จงหาอัตราส่วนต่อไปนี
1) อัตราส่วนจํานวนเงินทีลูกคนโตได้รับต่อลูกคนเล็ก
……………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………...
2) อัตราส่วนจํานวนเงินทีลูกคนเล็กได้รับต่อลูกคนกลาง
……………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………...
3) อัตราส่วนจํานวนเงินทีลูกคนกลางได้รับต่อเงินทังหมด
……………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………...
4) อัตราส่วนจํานวนเงินทีลูกคนเล็กได้รับต่อเงินทังหมด
……………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………..
52
แบบฝึ กหัดที
. จงเขียนสัดส่วนจากอัตราส่วนต่อไปนี
) :4=6:8 ……………………………………………………..
)A: = : ……………………………………………………..
) : =B: ……………………………………………………..
) : = :D ……………………………………………………..
2. จงหาค่าตัวแปรจากสัดส่วนทีกําหนดให้ต่อไปนี
A 12
)
3 15
……………………………………………………..………………………………………………
3 21
)
B 28
……………………………………………………..………………………………………………
53
แบบฝึ กหัดที
. ขายมะละกอ ผล ราคา บาท ถ้าขาย มะละกอ ผล จะได้เงินเท่าไร
……………………………………………………..………………………………………………
……………………………………………………..………………………………………………
……………………………………………………..………………………………………………
……………………………………………………..………………………………………………
……………………………………………………..………………………………………………
แบบฝึ กหัดที
1. จงแสดงวิธีหาคําตอบ
) % ของ เท่ากับเท่าไร
……………………………………………………………………………………………...………
……………………………………………………………………………………...………………
……………………………………………………………………………...………………………
……………………………………………………………………..................................................
) % ของ เท่ากับเท่าไร
……………………………………………………………………………………………...………
……………………………………………………………………………………...………………
……………………………………………………………………………...………………………
……………………………………………………………………...................................................
) คิดเป็ นกีเปอร์เซ็นต์ ของ
……………………………………………………………………………………………...………
……………………………………………………………………………………...………………
……………………………………………………………………………...………………………
……………………………………………………………………...................................................
) . เป็ นกีเปอร์เซ็นต์ของ
……………………………………………………………………………………………...………
……………………………………………………………………………………...………………
……………………………………………………………………………...………………………
……………………………………………………………………...................................................
) เป็ น % ของจํานวนใด
……………………………………………………………………………………………...………
……………………………………………………………………………………...………………
……………………………………………………………………………...………………………
……………………………………………………………………...................................................
) . เป็ น % ของจํานวนใด
……………………………………………………………………………………………...………
……………………………………………………………………………………...………………
……………………………………………………………………………...………………………
……………………………………………………………………...................................................
55
แบบฝึ กหัดที
จงแสดงวิธีหาคําตอบ
1. นักศึกษา กศน. คน สอบได้เกรด จํานวน % ของทังหมด จงหาจํานวนนักศึกษาทีสอบได้
เกรด
……………………………………………………………………………………………...………
……………………………………………………………………………………...........................
……………………………………………………………………………………………...………
……………………………………………………………………………………...........................
2) จํานวนนักเรี ยนชายทีไม่ได้มาจากต่างจังหวัดทังหมด
……………………………………………………………………………………………...………
……………………………………………………………………………………...........................
บทที
การวัด
สาระสําคัญ
1. การวัดความยาวพืนที ทีมีหน่วยต่างกันสามารถนํามาเปรี ยบเทียบกันได้
2. เครื องมือการวัด ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสิ งทีจะวัด
3. การคาดคะเนเกิดจากประสบการณ์ของผูส้ งั เกตเป็ นสําคัญ
ผลการเรียนรู้ทีคาดหวัง
1. เปรี ยบเทียบหน่วยความยาวพืนทีในระบบเดียวกันและต่างระบบได้
2. เลือกใช้หน่วยการวัดเกียวกับความยาวและพืนทีได้อย่างเหมาะสม
3. หาพืนทีของรู ปเรขาคณิ ตได้
4. แก้โจทย์ปัญหาเกียวกับพืนทีสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวติ ประจําวันได้
5. การคาดคะเนเวลา ระยะทาง ขนาด นําหนัก
ขอบข่ ายเนือหา
เรื องที การเปรี ยบเทียบหน่วยความยาวและพืนที
เรื องที การเลือกใช้หน่วยการวัด ความยาวและพืนที
เรื องที การหาพืนทีของรู ปเรขาคณิ ต
เรื องที การแก้โจทย์ปัญหาเกียวกับพืนทีในสถานการณ์ต่าง ๆ
เรื องที การคาดคะเนเวลา ระยะทาง ขนาด นําหนัก
58
เรืองที 1
การเปรียบเทียบหน่ วยความยาวและพืนที
การวัด
การวัด หมายถึง การชัง การตวง การวัดความยาว การจับเวลา เป็ นต้น ในความเป็ นจริ งนันการวัดมี
หลายอย่างเช่น
. การวัดความยาว มีหน่วยเป็ น มิลลิเมตร เซนติเมตร นิว ฟุต เมตร กิโลเมตร
. การวัดพืนที มีหน่วยเป็ น ตารางวา ตารางเมตร งาน ไร่
. การชัง มีหน่วยเป็ น กรัม ขีด ปอนด์ ตัน
. การตวง มีหน่วยเป็ น ลูกบาศก์เซนติเมตร ลิตร ถัง
. การวัดอุณหภูมิ มีหน่วยเป็ น องศาเซลเซียส องศาฟาเรนไฮต์
. การวัดเวลา มีหน่วยเป็ น วินาที นาที ชัวโมง วัน ปี
. การวัดความเร็วหรื ออัตราเร็ ว มีหน่วยเป็ น กิโลเมตร/ชัวโมง
1.1 การเปรียบเทียบการวัดความยาว
หน่วยการวัดความยาวทีนิยมใช้กนั ในประเทศไทย
หน่ วยการวัดความยาวในระบบอังกฤษ
นิว เท่ากับ ฟุต
ฟุต เท่ากับ หลา
, หลา เท่ากับ ไมล์
หน่ วยการวัดความยาวในระบบเมตริก
มิลลิเมตร เท่ากับ เซนติเมตร
เซนติเมตร เท่ากับ เมตร
, เมตร เท่ากับ กิโลเมตร
หน่ วยการวัดความยาวในมาตรไทย
นิว เท่ากับ คืบ
คืบ เท่ากับ ศอก
ศอก เท่ากับ วา
วา เท่ากับ เส้น
เส้น เท่ากับ โยชน์
กําหนดการเทียบ วา เท่ากับ เมตร
59
1.2 การเปรียบเทียบการวัดพืนที
หน่ วยการวัดพืนทีทีสําคัญ ทีควรรู้จกั
หน่ วยการวัดพืนทีในระบบเมตริก
ตารางเซนติเมตร เท่ากับ หรื อ ตารางมิลลิเมตร
ตารางเมตร เท่ากับ , หรื อ ตารางเซนติเมตร
ตารางกิโลเมตร เท่ากับ , , หรื อ ตารางเมตร
หน่ วยการวัดพืนทีในระบบอังกฤษ
ตารางฟุต เท่ากับ หรื อ ตารางนิ ว
ตารางหลา เท่ากับ หรื อ ตารางนิว
เอเคอร์ เท่ากับ , ตารางหลา
ตารางไมล์ เท่ากับ เอเคอร์
หรื อ ตารางไมล์ เท่ากับ , ตารางหลา
หน่ วยการวัดพืนทีในมาตราไทย
ตารางวา เท่ากับ งาน
งาน เท่ากับ ไร่
หรื อ ตารางวา เท่ากับ ไร่
หน่ วยการวัดพืนทีในมาตราไทยเทียบกับระบบเมตริก
ตารางวา เท่ากับ ตารางเมตร
งาน เท่ากับ ตารางเมตร
หรื อ ไร่ เท่ากับ , ตารางเมตร
ตารางกิโลเมตร เท่ากับ ไร่
ตัวอย่ าง
. ทีดิน . ตารางกิโลเมตร คิดเป็ นกีตารางเมตร
เนืองจากพืนที ตารางกิโลเมตร เท่ากับ ตารางเมตร
ดังนันพืนที . ตารางกิโลเมตร เท่ากับ . x
= 1.25 x 7 ตารางเมตร
ตอบ . x 7 ตารางเมตร
61
เรืองที 2
การเลือกใช้ หน่ วยการวัด ความยาวและพืนที
การวัดความยาว หรื อการวัดพืนที ควรเลือกใช้หน่วยการวัดทีเป็ นมาตรฐาน และเหมาะสมกับสิงที
ต้องการวัด เช่น
- ความหนาของกระเบืองหรื อความหนาของกระจก ใช้หน่วยวัดเป็ น "มิลลิเมตร"
- ความยาวของกระเป๋ าหรื อความสูงของนักเรี ยน ใช้หน่วยวัดเป็ น "เซนติเมตร"
- ความกว้างของถนน ความสูงของตึก ใช้หน่วยวัดเป็ น "เมตร"
- ระยะทางจากกรุ งเทพฯ ถึงนครศรี ธรรมราช ใช้หน่วยวัดเป็ น "กิโลเมตร"
63
เรืองที
การหาพืนทีของรูปเรขาคณิต
. รู ปสามเหลียม
รู ปสามเหลียม คือ รู ปปิ ดทีมีดา้ นสามด้าน มุมสามมุม เมือกําหนดให้ดา้ นใดด้านหนึงเป็ นฐานของ
รู ปสามเหลียม แล้วมุมทีอยูต่ รงข้ามกับฐานจะเป็ นมุมยอด และถ้าลากเส้นตรงจากมุมยอดมาตังฉากกับฐาน
หรื อส่วนต่อของฐานจะเรี ยกเส้นตังฉากว่าส่วนสูง
จากรู ปสามเหลียม ABC ให้กาํ หนด BC เป็ นฐาน
เรี ยก A ว่า มุมยอด
เรี ยก AD ว่า ส่วนสูง
จากรู ปที 1 รู ปที 2 รู ปที 3 พืนทีรู ปสีเหลียมผืนผ้า ABCD แต่ละรู ปเท่ากับ 12 ตารางหน่วย และพืนที
สามเหลียมแต่ละรู ปเท่ากับครึ งหนึงของพืนทีรู ปสีเหลียมผืนผ้า
จากสูตร พืนทีรู ปสีเหลียมผืนผ้า = ฐาน x สูง
1
ดังนัน พืนทีรู ปสามเหลียม = ฐาน สูง
2
64
1
40 = 8 h
2
40 2
h
8
. รู ปสีเหลียม
2.1 พืนทีของรู ปสีเหลียมมุมฉาก
บทนิยาม รู ปสีเหลียมมุมฉาก คือ รู ปสีเหลียมทีมีมุมแต่ละมุมเป็ นมุมฉาก
ข) รู ปสีเหลียมผืนผ้า
เป็ นรู ปสีเหลียมมุมฉากทีมีดา้ นตรงข้ามยาวเท่ากัน
65
หน่วย ซม.
หน่วย ซม.
(ค) นิว
นิว
นิว
นิว
นิว
การหาพืนทีของรู ปสีเหลียมด้านขนาน
D C
ส่วนสูง
A ฐาน B
สูตรพืนที
รู ปสีเหลียมด้านขนาน = ฐาน สูง
= AB AB
= ตารางเซนติเมตร
ดังนัน พืนทีสีเหลียมด้านขนาน ABCD = ตารางเซนติเมตร
ส่ วนสู ง
ฐาน
ตัวอย่าง
กระดาษรู ปสีเหลียมขนมเปี ยกปูนมีความยาวด้านละ นิว สูง นิ ว กระดาษแผ่นนีมีพนที
ื เท่าใด
. การหาพืนทีของรู ปสีเหลียมคางหมู
บทนิยาม รู ปสีเหลียมคางหมู คือรู ปสีเหลียมทีมีดา้ นขนานกันหนึงคู่เท่านัน
1
สูตร พืนที คางหมู = สูง ผลบวกด้านคู่ขนาน
2
69
1
พืนทีสีเหลียมคางหมู ABCD = สูง ผลบวกด้านคู่ขนาน
2
1
= DE AB DC
2
1
= 6 12 8
2
= 3 ตารางเซนติเมตร
ดังนัน พืนทีสีเหลียมคางหมู ABCD = ตารางเซนติเมตร
1
สูตร พืนทีสีเหลียมรู ปว่าว = ผลคูณของเส้นทแยงมุม
2
1
พืนทีรู ปว่าว = ผลคูณของเส้นทแยงมุม
2
1
= AC BD
2
1
= 12 10 ตารางเซนติเมตร
2
ดังนัน พืนทีรู ปสีเหลียมรู ปว่าว ABCD = 60 ตารางเซนติเมตร
71
. พืนทีของรู ปสีเหลียมใดๆ
รู ปสีเหลียมใดๆ เป็ นรู ปสีเหลียมทีไม่เข้าลักษณะของรู ปสีเหลียมข้างต้น การหาพืนทีอาจทําได้โดย
ลากเส้นทแยงมุม ใช้สูตรดังนี
1
สูตร พืนทีสีเหลียมใดๆ = ความยาวของเส้นทแยงมุม ผลบวกของความยาวของเส้นกิง
2
1
พืนที ABCD = เส้นทแยงมุม ผลบวกของความยาวของเส้นกิง
2
1
= AC BE DF
2
1
= 10 7 5 ตารางเซนติเมตร
2
ดังนัน พืนที ABCD = ตารางเซนติเมตร
72
จากรู ป EJ = 6 เซนติเมตร
FJ = 4 เซนติเมตร
. พืนทีรู ปวงกลม
การหาพืนทีของรู ปวงกลมโดยวิธีแบ่งออกเป็ นส่วนเล็กๆ แล้วนําแต่ละส่วนมาสลับกัน ดังรู ป
73
สูตร พืนทีวงกลม = r 2
22
เมือ หรื อ . โดยประมาณ
7
r แทนความยาวรัศมี
พืนทีวงกลม = r 2
22
= 77 ตารางเซนติเมตร
7
พืนทีวงกลม = 154 ตารางเซนติเมตร
74
สรุปสู ตรการหาพืนที
75
76
เรืองที
การแก้ โจทย์ ปัญหาเกียวกับพืนทีในสถานการณ์ ต่างๆ
ตัวอย่าง ทีดินรู ปสีเหลียมผืนผ้ากว้าง วา ยาว วา ต้องการทําถนนในทีดินกว้าง วา โดยรอบ ถนน
จะมีพนทีื กีตารางวา
วิธีทาํ
พืนทีทังหมด =
1
= 240 ตารางวา
10 12 วา พืนทีรู ปใน =
18 = 180 ตารางวา
พืนทีถนน = 240 – 180
20 วา พืนทีถนน = 60 ตารางวา
เรืองที
การคาดคะเนเวลา ระยะทาง ขนาด นําหนัก
ในชีวิตประจําวันบางครังเราอาจต้องการทราบรายละเอียดเกียวกับเวลา ระยะทาง ขนาด หรื อ
นําหนัก ของสิ งต่างๆ แต่ไม่สะดวกทีจะวัดสิ งต่างๆ เหล่านัน เนืองจากมีขอ้ จํากัดบางประการ ตัวอย่างเช่น
ต้องการวัดความยาว และความกว้างของสนามฟุตบอลของโรงเรี ยน แต่ไม่มีอุปกรณ์ทีเหมาะสม ทําให้ตอ้ งมี
การประมาณอย่างคร่ าวๆ ซึงในบางครังอาจจะถูกต้อง หรื ออาจผิดไปจากความเป็ นจริ งบ้าง เราเรี ยกวิธีการ
ประมาณในลักษณะนี ว่า การคาดคะเน
การคาดคะเนปริ มาณต่างๆ เช่น ช่วงเวลา ระยะทาง ขนาด และนําหนักของสิงต่างๆ ผูค้ าดคะเนมัก
ใช้สายตารวมกับประสบการณ์ของผูค้ าดคะเนเอง ซึงในการคาดคะเนแต่ละครังอาจถูกต้องพอดี หรื ออาจมี
ข้อผิดพลาดเกิดขึนบ้างก็ได้ เราเรี ยกข้อผิดพลาดนีว่า ความคลาดเคลือน และความคลาดเคลือนคํานวณได้
จากผลต่างของปริ มาณทีคาดคะเนไว้กบั ปริ มาณทีวัดได้จริ ง เช่น
คะเนว่าหนังสือเรี ยนกว้าง เซนติเมตร ยาว เซนติเมตร และหนา เซนติเมตร แต่เมือวัดจริ ง
พบว่าหนังสือเรี ยนกว้าง . เซนติเมตร ยาว . เซนติเมตร และหนา เซนติเมตร ดังนันคะเนความกว้าง
และความยาวของหนังสือเรี ยนคลาดเคลือนไป . และ . ตามลําดับ ( . เซนติเมตร – . เซนติเมตร =
. เซนติเมตร และ . เซนติเมตร – เซนติเมตร = . เซนติเมตร ส่วนความหนาคาดคะเนได้ถกู ต้องไม่
คลาดเคลือนเลย )
หมายเหตุ บางครังอาจพบการใช้สญ ั ลักษณ์ ตามความคลาดเคลือน เช่น เครื องบรรจุนาได้
ํ ขวด
ละ , ลูกบาศก์เซนติเมตร ลูกบาศก์เซนติเมตร หมายความว่า โดยปกติแล้วนําดืมทีบรรจุขวดโดย
เครื องนี จะมีปริ มาตร , ลูกบาศก์เซนติเมตร แต่อาจจะมีบางขวดทีมีปริ มาตรมากกว่าหรื อน้อยกว่า ,
ลูกบาศก์เซนติเมตร ซึงปริ มาตรทีคลาดเคลือนนีไม่เกิน ลูกบาศก์เซนติเมตร นันคือ นําดืมทีบรรจุขวดจะมี
ปริ มาตรตังแต่ ลูกบาศก์เซนติเมตร ถึง , ลูกบาศก์เซนติเมตร
78
กิจกรรมบทที
แบบฝึ กหัดที
1. จงเติมหน่วยความยาวหรื อหน่วยพืนทีให้เหมาะสมกับข้อความต่อไปนี
1) ไม้อดั ชนิดบางมีความหนาแผ่นละ 4 .........................................................................................
) จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเลยอยูห่ ่างกันประมาณ 1,600 ......................................................
3) สนามฟุตบอลแห่งหนึงมีความกว้าง 45 …………… มีความยาว 90 ..................... และถ้าวิง
รอบสนามแห่งนีสามรอบ จะได้ระยะทาง 1 ...............................
4) ห้องเรี ยนมีพนที
ื ประมาณ 80 ................................................
5) แม่นาโขงช่
ํ วงจังหวัดมุกดาหารมีความกว้างประมาณ 200 ............................
2. จงเติมคําลงในช่องว่างทีกําหนดให้ถกู ต้อง
) พืนที 17 ตารางเมตร คิดเป็ นพืนที .................................. ตารางเซนติเมตร
) ทีดิน 3,119 ตารางวา เท่ากับทีดิน ............................... (ตอบเป็ นไร่ งาน ตารางวา)
) กระดาษแผ่นหนึงมีพนที ื 720 ตารางนิ ว กระดาษแผ่นนีมีพนที ื ............................ ตารางฟุต
) พืนที 9.5 ตารางวา จะเท่ากับ .......................... ตารางเมตร
) ลุงสอนมีทีดินอยู่ 2 งาน 68 ตารางวา คิดเป็ นพืนที ..................... ตารางเมตร แล้วถ้าลุงสอน
ขายทีดินไป ตารางเมตรละ 875 บาท ลุงสอนจะได้รับเงิน ...................... บาท แสดงว่าทีดิน
ของลุงสอน ราคาไร่ ละ......................... บาท
3. จงตอบคําถามต่อไปนี พร้อมแสดงวิธีทาํ
1) สวนแห่งหนึงมีพนที
ื 4,800 ตารางเมตร คิดเป็ นพืนทีกีไร่
) ลุงแดงแบ่งทีดินให้ลกู ชาย 3 คน โดยแบ่งให้ลกู ชายคนโตได้ 2 ไร่ ลูกชายคนกลาง 850 ตารางวา
และลูกชายคนเล็กได้ 3,000 ตารางเมตร อยากทราบว่าใครได้ส่วนแบ่งทีดินมากทีสุด
) สมเกียรติซือโลหะแผ่นชนิดหนึง 3 ตารางเมตร ราคา 456 บาท สมนึกซือโลหะแผ่นชนิดเดียวกัน
4 ตารางหลา ราคา 567 บาท อยากทราบว่าใครซือได้ถกู กว่ากัน ตารางเมตรละกีบาท (กําหนด 1 หลา = 90
เซนติเมตร)
79
แบบฝึ กหัดที 2
.จงเติมหน่วยการวัดทีเหมาะสมลงในช่องว่าง
1.ความยาวของรัวโรงเรี ยน …………………………………
.ความหนาของหนังสือ ………………………………….
. ระยะทางจากกรุ งเทพฯ ถึงเชียงใหม่ ……………………………..
. นําหนักของแตงโม …………………………………………..
. เวลาทีนักเรี ยนใช้ในการวิงแข่งในระยะทาง เมตร ……………………..
. อุณหภูมิหอ้ ง .....................................
. พืนทีสวน ......................................
. ปริ มาณของนํา เหยือก ......................................
. ส่วนสูงของนักเรี ยน .....................................
. นําหนักของข้าวสาร ถุง ....................................
แบบฝึ กหัดที 3
1. จงหาพืนทีส่วนทีแรเงาของรู ปต่อไปนี ตัวเลขทีเขียนกํากับด้านไว้ถือเป็ นความยาวของด้าน และมีหน่วย
เป็ นหน่วยความยาว
............................................................................. ......................................................................
............................................................................ .......................................................................
............................................................................ .......................................................................
............................................................................ .......................................................................
........................................................................... .......................................................................
........................................................................... .......................................................................
........................................................................... .......................................................................
80
แบบฝึ กหัดที 4
1. จงหาพืนทีของรูปสีเหลียมจากรูป
1) รู ปสีเหลียม มี 4) รู ปสีเหลียมคางหมู
ด้านยาวด้านละ เซนติเมตร มีรายละเอียดความยาวด้านต่างๆ
ดังรู ป
ม.
ม. ม.
ม.
2) รู ปสีเหลียมผืนผ้า
มีรายละเอียดความยาวด้านต่างๆ
ดังรู ป 5) รู ปสีเหลียมขนมเปี ยกปูน
มีรายละเอียดความยาวด้านต่างๆ
ดังรู ป
4 ซม. ม.
ม.
ม.
7 ซม.
ม.
3) รู ปสีเหลียมด้านขนาน
6) รู ปสีเหลียมรู ปว่าว
มีรายละเอียดความยาวด้านต่างๆ
มีรายละเอียดความยาวด้านต่างๆ
ดังรู ป
ดังรู ป
ม.
ม.
ม. ม.
ม. ม.
ม.
81
7) รู ปสีเหลียมใดๆ
มีรายละเอียดความยาวด้านต่างๆ
ดังรู ป ม.
ม.
ม. ม.
ม. ม.
9 ม.
แบบฝึ กหัดที 5
1. จงหาพืนทีส่วนทีแรเงา ตัวเลขทีเขียนกํากับด้านมีหน่วยเป็ นเซนติเมตร และจุด O แทน
จุดศูนย์กลางของวงกลม
1) 2)
8 3.5
4 9
0
6
4)
3) 2.
2
7 6
0
2.
1
82
แบบฝึ กหัดที 6
1. แผนผังบ้านหลังหนึงมีลกั ษณะและขนาดดังรู ป ถ้าบริ เวณทีแรเงาต้องการเทปูนซีเมนต์ โดยเสียค่าใช้จ่ายตารางเมตร
ละ บาท จะต้องเสียค่าใช้จ่ายทังหมดกีบาท กําหนดความยาวมีหน่วยเป็ นเมตร
แบบฝึ กหัดที 7
. จงคาดคะเนเวลาหรื อช่วงเวลาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไปนี
1) ฟ้ าใกล้สว่าง อากาศเย็นสบาย ไก่ตวั ผูต้ ีปีกและส่งเสียงขัน มีนาค้ ํ างจับตามยอดหญ้า น่าจะเป็ นเวลา
ประมาณ...................นาฬิกา
) เมืออยูก่ ลางแจ้งดวงอาทิตย์อยูต่ รงศีรษะพอดี เงาของตัวเองอยูบ่ นพืนทียืนอยูพ่ อดี น่าจะเป็ นเวลา
ประมาณ...................นาฬิกา
) ในจังหวัดทางภาคเหนือเป็ นเวลาเช้าตรู่ ฟ้ าสว่างแล้ว แต่ยงั ไม่เห็นพระอาทิตย์ ท้องฟ้ าขมุกขมัวอากาศ
หนาวเย็นจัด น่าจะเป็ นฤดู....................และควรจะเป็ นช่วงเดือน.....................
บทที
ปริมาตรและพืนทีผิว
สาระสําคัญ
การหาพืนทีผิวและปริ มาตรของ ปริ ซึม พีระมิด ทรงกระบอก กรวย ทรงกลม จําเป็ นจะต้องรู้
กระบวนการคิด และการใช้สูตร เพือสะดวกในการคํานวณอันจะเป็ นประโยชน์ต่อการนําไปใช้ในชีวิตจริ ง
ผลการเรียนรู้ทีคาดหวัง
1. อธิบายลักษณะและสมบัติของปริ ซึม พีระมิด ทรงกระบอก กรวย ทรงกลม หาปริ มาตรและพืนที
ผิวของปริ ซึมได้
2. หาปริ มาตรและพืนทีผิวของทรงกระบอกได้
3. เปรี ยบเทียบความจุหรื อหน่วยปริ มาตร ในระบบเดียวกันหรื อต่างระบบได้
4. เลือกใช้หน่วยวัดความจุหรื อปริ มาตรได้อย่างเหมาะสม
5. แก้ปัญหาเกียวกับปริ มาตรและพืนทีผิวแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้
6. คาดคะเนปริ มาตรและพืนทีผิวในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้
ขอบข่ ายเนือหา
เรื องที ลักษณะสมบัติและการหาพืนทีผิวและปริ มาตรของปริ ซึม
เรื องที การหาปริ มาตรและพืนทีผิวของทรงกระบอก
เรื องที การหาปริ มาตรของพีระมิด กรวยและทรงกลม
เรื องที การเปรี ยบเทียบหน่วยปริ มาตร
เรื องที การแก้โจทย์ปัญหาเกียวกับปริ มาตรและพืนทีผิว
เรื องที การคาดคะเนปริ มาตรและพืนทีผิว
85
เรืองที 1
ลักษณะสมบัตแิ ละการหาพืนทีผิวและปริมาตรของปริซึม
พืนทีผิวและปริมาตรของปริซึม
รู ปเรขาคณิ ตสามมิติทีมีหน้าตัด (ฐาน) ทังสองเป็ นรู ปหลายเหลียมทีเท่ากันทุกประการและ
อยูใ่ นระนาบทีขนานกัน มีหน้าข้างเป็ นรู ปสีเหลียมด้านขนาน เรี ยกว่า ปริซึม
เรืองที
การหาปริมาตรและพืนทีผิวของทรงกระบอก
ทรงกระบอก คือ ทรงสามมิติทีมีฐานเป็ นรู ปวงกลมทีเท่ากันทุกประการ และอยูใ่ นระนาบทีขนานกัน ซึง
เมือตัดทรงสามมิตินีด้วยระนาบทีขนานกับฐานแล้วจะได้รอยตัดเป็ นวงกลมทีเท่ากันทุกประการกับฐานเสมอ
พืนทีผิวของทรงกระบอก
เมือคลีผิวข้างของทรงกระบอกใด ๆ พบว่า จะเป็ นรู ปสีเหลียมผืนผ้าทีมีความยาวเท่ากับเส้นรอบฐาน
วงกลม และส่วนสูงเท่ากับความสูงของทรงกระบอก
ปริ มาตรทรงกระบอก
จาก ปริ มาตรของปริ ซึม = พืนทีฐาน x สูง
ปริ มาตรทรงกระบอก = r 2 h
วิธีทาํ
22
= 2 77
7
= ตารางเซนติเมตร
พืนทีผิวข้าง = ความยาวรอบฐาน x สูง
= 2 r h
22
= 2 7 10
7
= ตารางเซนติเมตร
พืนทีผิวกระป๋ อง = 308 + 440
เรืองที
การหาปริมาตรของพีระมิด กรวยและทรงกลม
3.1 พืนทีผิวและปริมาตรของพีระมิด
พีระมิด คือ ทรงสามมิติทีมีฐานเป็ นรู ปเหลียมใดๆ มียอดแหลม ซึงไม่อยูใ่ นระนาบเดียวกับฐาน และหน้า
ทุกหน้าเป็ นรู ปสามเหลียม ทีมีจุดยอดร่ วมกันทียอดแหลม
ลักษณะของพีระมิดตรง
1. หน้าของพีระมิดตรงเป็ นรู ปสามเหลียมหน้าจัว
2. สันของพีระมิดตรงจะยาวเท่ากันทุกเส้น
3. ความสูงเอียงของพีระมิดตรง ด้านเท่า มุมเท่า จะยาวเท่ากันทุกเส้น
4. ปริ มาตรของพีระมิด เป็ นหนึงในสามของปริ มาตร ปริ ซึมทีมีฐานเท่ากับพีระมิด และมีส่วนสูงเท่ากับ
พีระมิด
1
สู ตร พืนทีผิวข้างของพีระมิด = ความยาวรอบฐาน x สูงเอียง
2
พืนทีผิวทังหมดของพีระมิด = พืนทีผิวข้าง + พืนทีฐาน
1
ปริ มาตรของพีระมิด = พืนทีฐาน x สูง
3
90
2. ความสูงเอียงด้านยาว
c 2 5 2 122
= 25 + 144
= 169
c = 13 เซนติเมตร
ความสูงเอียงด้านยาว เซนติเมตร
ตัวอย่างที พีระมิดแห่งหนึงมีฐานเป็ นรู ปสีเหลียมจัตุรัส ยาวด้านละ เมตร สูงเอียง เมตร และสูงตรง เมตร
จงหาพืนทีผิวและปริ มาตรของพีระมิด
วิธีทาํ
1
พืนทีผิวข้างของพีระมิด = ความยาวรอบฐาน x สูงเอียง
2
1
= ( x )x
2
= ตารางเมตร
พืนทีฐาน = x
= ตารางเมตร
ดังนันพืนทีผิวของพีระมิด = + = ตารางเซนติเมตร
1
ปริ มาตรของพีระมิด = พืนทีฐาน x สูง
3
1
= 36 x 4
3
= 48 ลูกบาศก์เมตร
91
. พืนทีผิวและปริมาตรของทรงกรวย
กรวย คือ ทรงสามมิติทีมีฐานเป็ นรู ปวงกลม มียอดแหลมทีไม่อยูบ่ นระนาบเดียวกับฐาน และเส้นทีต่อ
ระหว่างจุดยอดกับจุดใด ๆ บนเส้นรอบวงของฐาน เรี ยกเส้นตรงนีว่า “สูงเอียง”
สูงตรง
สูงเอียง
พืนทีผิวของกรวย
การหาพืนทีผิวเอียงของกรวย ทําได้โดยตัดกรวยตามแนวสูงเอียงแล้วคลีแผ่ออกจะเกิดเป็ นรู ปสามเหลียม
ฐานโค้ง
h l
2
สูตร พืนทีผิวของกรวย = rl r
เมือ r เป็ นรัศมีของฐานกรวย
l เป็ นความยาวของสูงเอียง
ปริ มาตรของกรวย
ความสัมพันธ์ของปริ มาตรของกรวยกับทรงกระบอก จะเหมือนกับความสัมพันธ์ของปริ ซึมกับพีระมิด ที
มีส่วนสูงและพืนทีฐานเท่ากัน นันคือ
92
1
ปริ มาตรของกรวย เป็ น ของปริ มาตรของทรงกระบอก ทีมีพนที
ื ฐานและส่วนสูงเท่ากับกรวย
3
1 2
สูตร ปริ มาตรของกรวย = r h
3
เมือ r แทน รัศมีของฐานกรวย
h แทน ความสูงของกรวย
พืนทีผิวข้าง = rl
= 22
7 25
7
= ตารางเซนติเมตร
พืนทีฐาน = r 2
22
= 77
7
พืนทีผิวทังหมด = พืนทีผิวข้าง + พืนทีฐาน = 154 ตารางเซนติเมตร
= 550 + 154
= ตารางเซนติเมตร
1 2
ปริ มาตรของกรวย = r h
3
1 22
= 7 7 24
3 7
= , ลูกบาศก์เซนติเมตร
พืนทีผิวทังหมด ตารางเซนติเมตร
ปริ มาตรของกรวย , ลูกบาศก์เซนติเมตร
93
. พืนทีผิวและปริมาตรของทรงกลม
ทรงกลม คือ ทรงสามมิติทีมีผวิ โค้งเรี ยบ และจุดทุกจุดอยูบ่ นผิวโค้งอยูห่ ่างจากจุดคงทีจุดหนึงเป็ นระยะ
เท่ากัน
จุดคงที เรี ยกว่า จุดศูนย์กลางของทรงกลม
ระยะทีเท่ากัน เรี ยกว่า รัศมีของทรงกลม
พืนทีผิวของทรงกลม
พืนทีผิวของทรงกลม เป็ นสีเท่าของพืนทีวงกลม ซึงมีรัศมีเท่ากับรัศมีของทรงกลม
จาก พืนทีของรู ปวงกลม = r 2
ดังนัน พืนทีผิวของทรงกลม = r 2
สู ตร พืนทีผิวของทรงกลม = r 2
ปริ มาตรของทรงกลม
ปริ มาตรของทรงกลมอาจหาได้จากการทดลองหาความสัมพันธ์ระหว่างปริ มาตรของครึ งวงกลมกับ
ปริ มาตรของกรวย
4
สูตร ปริ มาตรของทรงกลม = r 3
3
เมือแทน r รัศมีของทรงกลม
พืนทีผิวของทรงกลม = ตารางเซนติเมตร
ปริ มาตรของทรงกลม = 1,437.3 ลูกบาศก์เซนติเมตร
95
เรืองที
การเปรียบเทียบหน่ วยปริมาตร
การตวง คือ การนําสิงทีต้องการหาปริมาตรใส่ ในภาชนะทีใช้ สําหรับตวง หน่ วยการตวงทีนิยมและใช้
กันมาก คือ ลิตร
เรืองที
การแก้ โจทย์ ปัญหาเกียวกับปริมาตรและพืนทีผิว
ตัวอย่างที ลังกระดาษบรรจุกล่องซีดี วัดความยาวภายในได้กว้าง เซนติเมตร บรรจุ ยาว เซนติเมตร และสูง
เซนติเมตร และบรรจุกล่องซีดีเต็มลังพอดี ลังกระดาษนี มีปริ มาตรเท่าไร และถ้าหยิบกล่องซีดีออกมา กล่อง ซึงมี
ปริ มาตร ลูกบาศก์เซนติเมตร กล่องซีดีจะหนาเท่าไร
วิธีทาํ ลังกระดาษมีปริ มาตร = พืนทีฐาน × สูง
= ( x )×
= , ลูกบาศก์เซนติเมตร
กล่องซีดี กล่อง มีปริ มาตร = พืนทีฐาน × หนา
= ( x ) × หนา
270
หนา =
12 15
กล่องใส่ซีดีมีความหนา = . เซนติเมตร
ลังกระดาษมีปริ มาตร , ลูกบาศก์เซนติเมตร
เรืองที
การคาดคะเนเกียวกับปริมาตรและพืนทีผิว
การคาดคะเนพืนที เป็ นการประมาณพืนทีอย่างคร่ าวๆ จากการมองโดยอาศัยประสบการณ์และความรู้
เกียวกับขนาดและความยาวมาช่วยในการเปรี ยบเทียบและตัดสินใจ เพือให้ใกล้เคียงกับพืนทีจริ งมากทีสุด หน่วย
พืนทีทีนิยมใช้ คือ ตารางเซนติเมตร(ซม. ) ตารางเมตร(ม. ) และตารางวา(วา )
การคาดคะเนพืนทีของรู ปหลายเหลียม
ตัวอย่าง จงคะเนหาพืนทีรู ปหลายเหลียมต่อไปนี
99
กิจกรรมบทที
แบบฝึ กหัดที
จงหาพืนทีผิวและปริ มาตรของปริ ซึมต่อไปนี
แบบฝึ กหัดที
1. จงหาปริ มาตร และพืนทีผิวทังหมดของทรงกระบอกสูง เซนติเมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลาง เซนติเมตร
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
แบบฝึ กหัดที
1. จงหาปริ มาตรและพืนทีผิวทังหมดของพีระมิดทีสูง เซนติเมตร ฐานเป็ นรู ปสีเหลียมจัตุรัส ยาวด้านละ
เซนติเมตร
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
แบบฝึ กหัดที
1. จงหาปริ มาตร และพืนทีผิวทังหมดของกรวยกลมทีสูง เซนติเมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลาง เซนติเมตร
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
. จงหาปริ มาตรและพืนทีผิวทังหมดของกรวยกลมทีสูงเอียง เซนติเมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลาง เซนติเมตร
(ตอบในรู ป )
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
แบบฝึ กหัดที
1. จงหาปริ มาตรและพืนทีผิวของทรงกลมซึงมีเส้นผ่านศูนย์กลาง เซนติเมตร
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
. ทรงกลมมีปริ มาตร , ลูกบาศก์เซนติเมตร จงหารัศมีและพืนทีผิว
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
103
บทที 7
คู่อันดับและกราฟ
สาระสําคัญ
คู่อนั ดับ เป็ นการจับคู่ระหว่างสมาชิกสองตัวจากกลุ่ม เพือนําไปจัดทํากราฟบนระนาบพิกดั หาปริ มาณ
ความเกียวข้องของปริ มาณสองชุด
ผลการเรียนรู้ทีคาดหวัง
1. อธิบายความหมายคู่อนั ดับได้
2. แปลความหมายกราฟบนระนาบพิกดั ฉากทีกําหนดให้ได้
3. เขียนกราฟแสดงความเกียวข้องของปริ มาณสองชุดทีกําหนดให้ได้
ขอบข่ ายเนือหา
เรื องที คู่อนั ดับ
เรื องที กราฟของคู่อนั ดับ
เรื องที การนําคู่อนั ดับและกราฟไปใช้
105
เรืองที
คู่อันดับ (Ordered pairs)
นิยาม คู่อนั ดับ คือ การแสดงถึงความสัมพันธ์ของการจับคู่ระหว่างสมาชิกของกลุ่มสองกลุ่ม ถ้า a เป็ น
สมาชิกกลุ่มหน้าหรื อกลุ่มทีหนึง และ b เป็ นสมาชิกกลุ่มหลัง หรื อกลุ่มทีสอง เขียนแทนด้วย
สัญลักษณ์ (a, b) อ่านว่า “คู่อนั ดับเอบี”
ตารางแสดงจํานวนกําของผักคะน้ ากับราคาขาย
จํานวนผักคะน้ า (กํา) ราคาขาย (บาท)
a b
เรืองที
กราฟของคู่อันดับ (Graphing Ordered Pairs)
กราฟของคู่อนั ดับเป็ นแผนภาพทีแสดงความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกของกลุ่มหนึ งกลับสมาชิกของอีก
กลุ่มหนึงโดยใช้เส้นจํานวนในแนวนอนหรื อแนวตัง ให้ตดั กันเป็ นมุมฉาก ทีตําแหน่งของจุดทีแทนศูนย์ ( ) ซึงเรา
เรี ยกว่า จุดกําเนิด ดังภาพ
การอ่านและแปลความหมายกราฟบนระนาบพิกดั ฉากทีกําหนดให้
107
ตําแหน่งของจุด A คือ ( , 2)
ตําแหน่งของจุด B คือ (- , 3)
ตําแหน่งของจุด C คือ (- , )
ตําแหน่งของจุด D คือ ( , -4)
เรี ยกจุดทีแทนตําแหน่งคู่อนั ดับว่ากราฟของคู่อนั ดับ และเรี ยกตําแหน่งของคู่อนั ดับว่า พิกดั
เรืองที
การนําคู่อันดับและกราฟไปใช้
เราสามารถนําคู่อนั ดับและกราฟไปใช้ในชีวติ ประจําวันได้ ซึงจะกล่าวในตัวอย่างต่อไปนี
ตัวอย่างที 1 กราฟทีแสดงปริ มาณนํามัน (ลิตร) และราคานํามัน (บาท) ของวันที เดือนมีนาคม ปี ซึงมีราคาลิตร
ละ บาท
วิธีทํา
กิจกรรมบทที
แบบฝึ กหัดที
1. จงเขียนคู่อนั ดับจากแผนภาพทีกําหนดให้ต่อไปนี
1)
.....................................................................................................................................................................
)
.....................................................................................................................................................................
)
.....................................................................................................................................................................
110
แบบฝึ กหัดที
. จงหาพิกดั ของจุด A, B, C, D ในแต่ละข้อ
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………..…………………………………………………….
.
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………..…………………………………………………….
112
. จงเขียนกราฟของคู่อนั ดับในแต่ละข้อ
). ( , ), (- , ), ( , - ), ( , )
). ( , - ), ( , ), (- , ), (- , )
113
แบบฝึ กหัดที
กราฟข้างล่างแสดงการเดินทางของอนุวฒั น์และอนุพนั ธ์
1. จงใช้กราฟทีกําหนดให้ตอบคําถามต่อไปนี
บทที 8
ความสั มพันธ์ ระหว่างรูปเรขาคณิตสองมิตแิ ละสามมิติ
สาระสําคัญ
รู ปเรขาคณิ ตสองมิติ และสามมิติ มีความสัมพันธ์กนั เป็ นอย่างมาก เหมาะทีจะนําไปใช้ในการประดิษฐ์
เป็ นรู ปลูกบาศก์และใช้ประโยชน์ในชีวิตประจําวัน
ผลการเรียนรู้ทีคาดหวัง
1. อธิบายรู ปเรขาคณิ ตสองมิติทีเกิดจากการคลีรู ปเรขาคณิตสามมิติจากภาพสองมิติทีกําหนดให้ได้
2. บอกภาพสองมิติทีได้จากการมองด้านหน้า ด้านข้าง ด้านบน ของรู ปเรขาคณิ ตสามมิติทีกําหนดให้
ได้
3. บอกรู ปเรขาคณิ ตสามมิติทีได้จากรู ปเรขาคณิ ตสองมิติทีกําหนดให้ได้
ขอบข่ ายเนือหา
เรื องที ภาพของรู ปเรขาคณิ ตสองมิติทีเกิดจากการคลีรู ปเรขาคณิตสามมิติ
เรื องที ภาพสองมิติทีได้จากการมองด้านหน้า ด้านข้าง หรื อด้านบนของรู ปเรขาคณิ ตสามมิติ
115
เรืองที
ภาพของรูปเรขาคณิตสองมิตทิ ีเกิดจาการคลีรู ปเรขาคณิตสามมิติ
รู ปเรขาคณิ ตมีส่วนเกียวข้องสัมพันธ์กบั ชีวิตประจําวันมนุษย์ตงแต่
ั อดีตจนถึงปั จจุบนั สิ งแวดล้อมต่าง ๆ
ทีอยูร่ อบตัวเราล้วนเป็ นไปด้วยวัตถุรูปเรขาคณิ ต นอกจากนี เราใช้เรขาคณิ ตเพือทําความเข้าใจหรื ออธิบายสิ งต่าง
ๆ รอบตัว เช่น การสํารวจพืนที สร้างผังเมือง เป็ นต้น
ภาพของรูปเรขาคณิต
รู ปเรขาคณิ ต เป็ นรู ปทีประกอบด้วย จุด ระนาบ เส้นตรง เส้นโค้ง ฯลฯ อย่างน้อยหนึงอย่าง
ตัวอย่างรู ปเรขาคณิตสองมิติ เช่น รู ปสามเหลียม รู ปสีเหลียม รู ปห้าเหลียม รู ปวงกลม เป็ นต้น
รู ปคลีของรูปเรขาคณิตสามมิติ
รู ปคลีของรู ปเรขาคณิ ตสามมิติ หรื อทรงสามมิติใดๆ เป็ นรูปเรขาคณิตสองมิติทีสามารถนํามาประกอบ
กันแล้วได้ทรงสามมิติ
พิจารณาทรงสีเหลียมมุมฉากทีมีความกว้าง ความยาว และความสูง หน่วย เท่ากัน ซึงเราเรี ยกทรง
สีเหลียมมุมฉากนีว่า “ลูกบาศก์”
117
เรืองที
ภาพสองมิตทิ ีได้ จากการมองด้ านหน้ า ด้ านข้ าง หรือด้ านบนของรูปเรขาคณิตสามมิติ
การมองรู ปเรขาคณิ ตสามมิติในทิศทางหรื อแนวตังฉากกับด้านหน้า ด้านข้าง และด้านบน ตามรู ป
การมองด้ านบน
การมองด้ านหน้ า
การมองด้ านข้ าง
ทิศทางการมองด้านหน้า ภาพด้านหน้า
ทิศทางการมองด้านข้าง ภาพด้านข้าง
119
ภาพด้านบน
วิธีทํา
121
เขียนแสดงภาพทังหมดได้ดงั นี
123
124
กิจกรรมบทที
แบบฝึ กหัดที
. จงบอกชนิดของรู ปเรขาคณิ ตสามมิติทีมีรูปคลีดังต่อไปนี
1. ……..………………………...…. 2. ….……………………………….
3. …….…………………………….. 4. …..……………………………….
แบบฝึ กหัดที
จงเขียนภาพด้านบน ด้านหน้า และด้านข้างของรู ปเรขาคณิ ตสามมิติทีกําหนดให้
126
แบบฝึ กหัดที
จงจับคู่ภาพด้านหน้า ด้านข้าง และด้านบน ในแต่ละข้อต่อไปนี กับรู ปเรขาคณิ ตสามมิติทีกําหนดให้
ทางขวามือ โดยเลือกตัวอักษรทีกํากับไว้ในรู ปเรขาคณิ ตสามมิติ เขียนเติมลงในช่องว่างบนขวาของแต่ละข้อ
127
บทที 9
สถิติ
สาระสําคัญ
1. ข้อมูลเบืองต้นของสถิติ จะช่วยให้ทราบข้อเท็จจริ งทีชัดเจนถูกต้อง ซึงจะเป็ นประโยชน์ สําหรับการ
วางแผนการดําเนินงาน และตัดสินใจปรับปรุ งการดําเนินงานตามผลทีได้นาํ เสนอข้อมูลไว้
. การนําเสนอข้อมูล มีความมุ่งหมายเพือแสดงให้เห็นรายละเอียดของข้อมูลได้ง่าย ชัดเจน และรวดเร็ ว
สามารถนําข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้ทนั ที ฉะนันการเลือกใช้วิธีการนําเสนอข้อมูลต้องให้เหมาะสมกับลักษณะ
ของข้อมูลและการใช้ประโยชน์เป็ นสําคัญ
ผลการเรียนรู้ทีคาดหวัง
1. บอกวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลทีเหมาะสมได้
2. นําเสนอข้อมูลในรู ปแบบทีเหมาะสมได้
3. หาค่ากลางของข้อมูลทีไม่แจกแจงความถี
4. เลือกใช้ค่ากลางของข้อมูลทีกําหนดให้ได้อย่างเหมาะสม
5. อ่าน แปลความหมาย และวิเคราะห์ขอ้ มูล
6. อภิปรายและให้ขอ้ คิดเห็นเกียวกับข้อมูลข่าวสารทางสถิติทีสมเหตุสมผล
ขอบข่ ายเนือหา
เรื องที การรวบรวมข้อมูล
เรื องที การนําเสนอข้อมูล
เรื องที การหาค่ากลางของข้อมูล
เรื องที การเลือกใช้ค่ากลางของข้อมูล
เรื องที การใช้สถิติขอ้ มูลและสารสนเทศ
128
เรืองที
การรวบรวมข้ อมูล
. สถิติ หมายถึง ศาสตร์ทีว่าด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูล การนําเสนอข้อมูล และการวิเคราะห์
ข้อมูล
. การรวบรวมข้ อมูล (Data Collection)
การรวบรวมข้อมูล หมายถึง การนําเอาข้อมูลต่างๆ ทีผูอ้ ืนได้เก็บไว้แล้ว หรื อรายงานไว้ในเอกสารต่างๆ
มาทําการศึกษาวิเคราะห์ต่อ
. ประเภทของข้อมูล
ข้อมูล หมายถึง ข้อเท็จจริ งหรื อสิงทียอมรับว่าเป็ นข้อเท็จจริ งของเรื องทีสนใจศึกษา จําแนกได้เป็ น
ประเภท คือ
) ข้อมูลเชิงปริ มาณ (Quantitative Data) คือ ข้อมูลทีเป็ นตัวเลขหรื อนํามาให้รหัสเป็ นตัวเลข ซึงสามารถ
นําไปใช้วิเคราะห์ทางสถิติได้ เช่น อายุ นําหนัก ส่วนสูง
) ข้อมูลเชิงคุณภาพ (Qualitative Data) คือ ข้อมูลทีไม่ใช่ตวั เลข ไม่ได้มีการให้รหัสตัวเลขทีจะนําไป
วิเคราะห์ทางสถิติ แต่เป็ นข้อความหรื อข้อสนเทศ เช่น เพศ ระดับการศึกษา อาชีพ
. แหล่งทีมาของข้อมูล
แหล่งข้อมูลทีสําคัญ ได้แก่ บุคคล เช่น ผูใ้ ห้สมั ภาษณ์ ผูก้ รอกแบบสอบถาม บุคคลทีถูกสังเกต เอกสาร
ทุกประเภท และข้อมูลสถิติจากหน่วยงาน รวมไปถึง ภาพถ่าย แผนที แผนภูมิ หรื อแม้แต่วตั ถุ สิ งของ ก็ถือเป็ น
แหล่งข้อมูลได้ทงสิั น โดยทัวไปสามารถจัดประเภทข้อมูลตามแหล่งทีมาได้ ประเภท คือ
) ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) คือ ข้อมูลทีผูว้ ิจยั เก็บขึนมาใหม่เพือตอบสนองวัตถุประสงค์การวิจยั ใน
เรื องนันๆ
) ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) คือ ข้อมูลต่างๆ ทีมีผเู้ ก็บหรื อรวบรวมไว้ก่อนแล้ว เพียงแต่นกั วิจยั
นํามาศึกษา
. ขันตอนการเก็บรวบรวมข้ อมูล
1. การสัมภาษณ์บุคคลทีเกียวข้อง
2. การบันทึกข้อมูลจากบันทึกหรื อเอกสารของหน่วยงานต่างๆ
3. การอ่านและศึกษาค้นคว้า
4. การค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต
5. การเข้าร่ วมในเหตุการณ์ต่างๆ
6. การฟังวิทยุและดูโทรทัศน์
130
เรืองที
การนําเสนอข้ อมูล
การนําเสนอข้อมูลเป็ นการนําข้อมูลทีเก็บรวบรวมมาจากแหล่งต่าง ๆ ซึงยังไม่เป็ นระบบ มาจัดเป็ น
หมวดหมู่ให้มีความสัมพันธ์เกียวข้องกันตามวัตถุประสงค์ เพือสะดวกแก่การอ่าน ทําความเข้าใจ วิเคราะห์ และ
แปลความหมาย
การนําเสนอข้อมูลแบ่งออกเป็ น ประเภท ได้แก่
. การนําเสนอข้อมูลอย่างไม่มีแบบแผน (informal presentation) หมายถึง การนําเสนอข้อมูลทีไม่มี
กฎเกณฑ์ หรื อแบบแผนทีแน่นอนตายตัว ทีนิยมใช้มีสองวิธีคือ การนําเสนอข้อมูลในรู ปบทความหรื อข้อความ
เรี ยง และการนําเสนอข้อมูลในรู ปบทความกึงตาราง
2. การนําเสนอข้อมูลอย่างมีแบบแผน เป็ นการนําเสนอข้อมูลทีมีกฎเกณฑ์ โดยแต่ละแบบจะต้อง
ประกอบด้วยชือเรื อง ส่วนของการนําเสนอ และแหล่งทีมาของข้อมูล การนําเสนอข้อมูลอย่างมีแบบแผน
ประกอบด้วย การนําเสนอข้อมูลในรู ปตาราง แผนภูมริ ู ปภาพ แผนภูมิวงกลม (แผนภูมกิ ง) แผนภูมิแท่ง กราฟเส้น
และตารางแจกแจงความถี
. การนําเสนอข้อมูลในรู ปตาราง
การนําเสนอในรู ปตาราง (Tabular presentation) ข้ อมูลต่างๆ ทีเก็บรวบรวมมาได้ เมือทําการประมวลผล
แล้วจะอยู่ในรูปตาราง เป็ นการนําเสนอข้อมูลทีง่าย และนิ ยมใช้กนั อย่างแพร่ หลาย เพราะมีความสะดวกและ
ง่ายแก่การนําไปวิเคราะห์และแปลความหมายทางสถิติ เช่น
เปรียบเทียบการปรับราคานํามันปี 2521-2523
(ราคา : บาท / ลิตร)
ชนิดนํามัน 2521 2522 2523
10 มี.ค. 31 ม.ค. 22 มี.ค. 13 ก.ค. 20 ก.ค. 9 ก.พ. 20 มี.ค.
เบนซิ นพิเศษ 4.98 5.60 - 7.84 - 9.80 -
เบนซิ นธรรมดา 4.98 5.12 - 7.45. - 9.26 -
นํามันก๊าด 2.68 3.06 - 5.12 4.20 6.71 5.70
ดีเซลหมุนเร็ ว 2.64 3.03 - 4.88 - 7.39 6.50
ดีเซลหมุนช้า 2.50 2.93 - 4.71 - 7.12 6.27
ทีมา: ภาวะการค้าของประเทศไทยปี 2522 สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
131
อ่านหนังสือ
วาดรู ป
ประเทศ
แผนภูมแิ ท่ งแสดงการเปรียบเทียบ เป็ นการนําข้อมูลตังแต่ ชุดขึนไปทีเป็ นเรื องเดียวกัน นํามาเขียน
บนแกนคู่เดียวกัน แล้วระบายสีแท่งสีเหลียมให้ต่างกันเพือง่ายต่อการดู แล้วอธิบายว่าสีใดแทนอะไร
132
2.4 การนําเสนอด้ วยกราฟเส้ น (Line graph) เป็ นแบบทีรู้จกั กันดีและใช้กนั มากทีสุดแบบหนึง เหมาะ
สําหรับข้อมูลทีอยูใ่ นรู ปของอนุกรมเวลา เช่น ราคาข้าวเปลือกในเดือนต่างๆ ปริ มาณสินค้าส่งออกรายปี เป็ นต้น
2.5 การนําเสนอด้ วยรู ปแผนภูมวิ งกลม (Pie chart) เป็ นการแบ่งวงกลมออกเป็ นส่วนต่างๆ ตามจํานวน
ชนิดของข้อมูลทีจะนําเสนอ
ตัวอย่าง แผนภูมวิ งกลมแสดงการใช้ ทดิี นทีครอบครอง เพือการเกษตร พ.ศ.
ในทางสถิติเรี ยกว่า ข้อมูลดิบ หรื อคะแนนดิบ หรื อค่าจากสังเกต เมือนํามาจัดเรี ยงใหม่ให้เป็ นระบบโดย
อาจเรี ยงจากมากไปหาน้อยหรื อจากน้อยไปหามาก แล้วบันทึกรอยขีด แสดงจํานวนครังของข้อมูลทีเกิดขึนซํากัน
ในตาราง จํานวนรอยขีดทีนับได้เรี ยกว่า ความถีของแต่ละข้อมูล
ตารางทีนําเสนอข้อมูลในรู ปแบบนี เรี ยกว่า ตารางแจกแจงความถี และวิธีการจําแนกข้อมูลโดยการ
บันทึกรอยขีดเพือหาค่าความถีเรี ยกว่า การแจกแจงความถี
134
การสร้ างตารางแจกแจงความถี
ในกรณี ทีข้อมูลทีเก็บรวบรวมมามีจาํ นวนมากๆ และไม่ค่อยซํากัน ถ้าจะเรี ยงลําดับจะเป็ นการเสียเวลา
และสินเปลืองมาก จึงกําหนดข้อมูลเป็ นช่วงๆ และหาความถีของช่วงข้อมูลนันๆ
วิธีการสร้างตารางแจกแจงความถี โดยจัดเป็ นอันตรภาคชันให้ทุกๆ ชันมีความกว้างเท่ากัน มีวิธีการ
ดังนี
1. หาพิสยั ของข้อมูล
พิสยั = ข้อมูลทีมีค่าสูงสุด – ข้อมูลทีมีค่าตําสุด
2. กําหนดจํานวนชันหรื อกําหนดความกว้างของอันตรภาคชันขึนมา
- ถ้ากําหนดจํานวนชันก็ให้หาความกว้างของอันตรภาคชัน
พิสยั
ความกว้างของอันตรภาคชัน =
จํานวนอันตรภาคชัน
(เศษเท่าไรปัดขึนเสมอ)
- ถ้ากําหนดความกว้างของอันตรภาคชันก็หาจํานวนชันได้จาก
พิสยั
จํานวนอันตรภาคชัน =
ความกว้างของอันตรภาคชัน
(เศษเท่าไรปัดขึนเสมอ)
3. เขียนอันตรภาคชันโดยเรี ยงค่าจากน้อยไปมากหรื อจากมากไปน้อย ถ้าเรี ยงค่าจากน้อยไปมาก ต้องให้ขอ้ มูลทีมี
ค่าตําสุดในอันตรภาคชันแรก และข้อมูลทีมีค่าสูงสุดอยูใ่ นอันตรภาคชันสุดท้าย
4. นําข้อมูลดิบมาใส่ในตารางโดยใช้รอยขีด
5. รวมความถีตามรอยขีด
135
เรืองที
การหาค่ากลางของข้ อมูล
การหาค่ากลางของข้อมูลทีเป็ นตัวแทนของข้อมูลทังหมดเพือความสะดวกในการสรุ ปเรื องราวเกียวกับ
ข้อมูลนันๆ จะช่วยทําให้เกิดการวิเคราะห์ขอ้ มูลถูกต้องดีขนึ การหาค่ากลางของข้อมูลมีวิธีหาหลายวิธี แต่ละวิธีมี
ข้อดีและข้อเสีย และมีความเหมาะสมในการนําไปใช้ไม่เหมือนกัน ขึนอยูก่ บั ลักษณะข้อมูลและวัตถุประสงค์ของ
ผูใ้ ช้ขอ้ มูลนันๆ
x1 x2 x3 ...xn
x
N
X แทน ข้อมูล
N แทน จํานวนข้อมูล
หลักการคิด
1) เรี ยงข้อมูลทีมีอยูท่ งหมดจากน้
ั อยไปมาก หรื อมากไปน้อยก็ได้
N 1
2) ตําแหน่งมัธยฐาน คือ ตําแหน่งกึงกลางข้อมูล ดังนันตําแหน่งของมัธยฐาน =
2
เมือ N คือ จํานวนข้อมูลทังหมด
136
3. ฐานนิยม (Mode)
ฐานนิยมของข้อมูลชุดหนึง คือ ข้อมูลทีมีความถีสูงสุดในข้อมูลชุดนัน หรื ออาจกล่าวว่าข้อมูลใดการซํา
กันมากทีสุด(ความถีสูงสุด) ข้อมูลนันเป็ นฐานนิยมของข้อมูลชุดนัน และ ฐานอาจจะไม่มี หรื อ มีมากกว่า 1 ค่าก็
ได้
ตัวอย่าง จากข้อมูล 2, 3, 4, 3, 4, 5, 6, 8, 6, 4, 6, 7 จงหาฐานนิยม
วิธีทาํ จากข้อมูลจะเห็นว่า
มี อยูห่ นึงตัว
มี อยูส่ องตัว
มี อยูส่ ามตัว
มี อยูห่ นึงตัว
มี อยูส่ ามตัว
มี อยูห่ นึงตัว
มี อยูห่ นึงตัว
ข้อมูลทีมีความถีสูงสุดในทีนีมี ตัวคือ และ ซึงต่างก็มคี วามถีเป็ น
ดังนัน ฐานนิยมของข้อมูลชุดนี คือ และ
137
เรืองที
การเลือกใช้ ค่ากลางของข้ อมูล
ในการทีจะเลือกใช้ค่ากลางค่าใดนัน ขึนอยูก่ บั จุดประสงค์ของผูใ้ ช้ ซึงค่ากลางทังสามมีสมบัติทีแตกต่าง
กันดังนี
ค่าเฉลียเลขคณิต
ข้ อเสีย
. ถ้าข้อมูลมีบางค่าตําเกินไปหรื อสูงเกินไป จะมีผลต่อค่าเฉลียเลขคณิ ต จึงไม่เหมาะสมทีจะใช้ เช่น
รายได้ของพนักงาน คน เป็ นดังนี ,000 บาท 9,000 บาท 13,500 บาท ,00 บาท 80,000 บาท
. ถ้าข้อมูลแจกแจงความถีชนิดปลายเปิ ด เช่น น้อยกว่าหรื อเท่ากับ มากกว่าหรื อเท่ากับ จะคํานวณหา
ค่าเฉลียเลขคณิตไม่ได้
. ใช้ได้กบั ข้อมูลเชิงปริ มาณเท่านัน
ข้ อดี
. มีประโยชน์ในการใช้ขอ้ มูลจากตัวอย่างอ้างอิงไปสู่ประชากร
. สามารถคํานวณได้ง่ายโดยใช้ค่าทีได้มาทุกจํานวน
. มีการนําไปใช้ในสถิติชนสู ั งมากกว่าค่าเฉลียแบบอืน ๆ
. สามารถเปรี ยบเทียบกับข้อมูลชุดอืนได้ง่าย
ฐานนิยม
ข้ อเสีย
. บางครังหาฐานนิยมไม่ได้
. การคํานวณฐานนิยมไม่ได้ใช้ค่าของข้อมูลทุกตัว จึงไม่เป็ นตัวแทนทีดีนกั
. ค่าฐานนิยมไม่ค่อยนิยมใช้ในสถิติชนสู ั ง
ข้ อดี
. เข้าใจง่ายและคํานวณง่าย
. สามารถคํานวณจากกราฟได้
. เป็ นค่ากลางทีใช้ได้กบั ข้อมูลเชิงคุณภาพ
. เมือมีขอ้ มูลบางตัวเล็กหรื อใหญ่ผดิ ปกติจะไม่กระทบฐานนิยม
. ใช้ได้ดีเมือจุดประสงค์มุ่งทีจะศึกษาสิงทีเกิดขึนบ่อย หรื อลักษณะทีคนชอบมากหรื อมีคะแนนส่วน
ใหญ่รวมกันอยู่ ณ ค่าใดค่าหนึง
. กรณี ทีข้อมูลแจกแจงความถีชนิดปลายเปิ ดสามารถหาฐานนิยมได้
138
มัธยฐาน
ข้ อเสีย
. ใช้ได้กบั ข้อมูลเชิงปริ มาณเท่านัน
. สําหรับข้อมูลทีแจกแจงความถีหรื อข้อมูลทีจัดกลุ่มมัธยฐานทีคํานวณได้จะไม่ใช่ค่าข้อมูลจริ ง
ข้ อดี
. คํานวณได้ง่ายสําหรับข้อมูลไม่จดั กลุ่ม
. ข้อมูลบางค่ามีค่าสูงหรื อตําเกินไป ไม่กระทบกระเทือนต่อมัธยฐาน จึงเหมาะทีจะใช้มธั ยฐานมากทีสุด
. กรณี ทีข้อมูลแจกแจงความถีชนิดปลายเปิ ดก็สามารถหามัธยฐานได้
139
เรืองที
การใช้ สถิติ ข้ อมูลสารสนเทศ
. สถิตใิ นชีวติ ประจําวัน
ในชีวิตประจําวันของคนเรานัน สถิติมีส่วนเกียวข้องอยูเ่ สมอ เช่น
- เกียวกับตัวนักเรี ยน อาจจะมีการหาความสูงหรื อหานําหนักโดยเฉลียหรื อหาคะแนนเฉลีย เป็ นต้น
- เกียวกับครู-อาจารย์ เช่น สถิติเกียวกับจํานวนครู-อาจารย์ จํานวนนักเรี ยนทีสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ได้ในแต่ละรุ่ น แต่ละปี
- เกียวกับข่าวสาร สารสนเทศ ซึงเห็นในหนังสือพิมพ์ หรื อโทรทัศน์ เช่น สถิติเกียวกับการเปลียนแปลง
ราคาหุน้ แผนภูมวิ งกลม หรื อกราฟเส้น เป็ นต้น
- ในเรื องของแรงงาน เปอร์เซ็นต์ของคนว่างงาน รายได้หรื อสวัสดิการทีได้รับ
- ในเรื องเกียวกับการกสิกรรม มีการศึกษาทดลองใหม่ๆ เช่น การทดลองปลูกจริ งในทีดินลักษณะ
ต่างๆ การปลูกหม่อนเลียงไหม พันธุไ์ หนจะดีกว่ากัน
- ในเรื องเกียวกับธุรกิจการค้า บริ ษทั ห้างร้านมีสถิติเกียวกับยอดขายสินค้าในแผนกต่างๆ สถิติ
ยอดขายของพนักงานแต่ละคน สถิติช่วยในการกําหนดวิธีเก็บรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ขอ้ มูล
นอกจากนี สถิติยงั ไปเกียวข้องกับชีวิตประจําวันอีกมากมาย เช่น การสํารวจความคิดเห็นหรื อโพล
การร่ วมแสดงความคิดเห็นโดยการส่ง sms เป็ นต้น
140
. การใช้ ข้อมูลสารสนเทศ
การเลือกใช้ขอ้ มูลในการตัดสินใจ เป็ นสิ งทีมีประโยชน์มาก เพราะในการดํารงชีวิตของคนเรามัก
เกียวข้องกับเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย จึงจําเป็ นต้องอาศัยการตัดสินใจอย่างมีระบบระเบียบ มีหลักมีเกณฑ์ และมี
เหตุผล โดยนําปัจจัยต่างๆ มาพิจารณาก่อนทีจะตัดสินใจ เพือให้ได้ทางเลือกทีดีทีสุด ซึงต้องอาศัยทังความรู้
ประสบการณ์ ข้อมูล ข่าวสารต่างๆ เป็ นส่วนประกอบ เพือไม่ให้เกิดความผิดพลาดหรื อโอกาสทีจะผิดพลาดมีนอ้ ย
ทีสุด เช่น
การเลือกสิงต่าง ๆ การตัดสินใจ
การเลือกซือสินค้าอย่างหนึง . คุณภาพดี
. ราคาไม่แพงเกินไป
. มีคนนิยมมาก
. จําเป็ นต้องใช้
. ชอบเป็ นชีวิตจิตใจ
การเลือกธนาคารเพือการออม . ธนาคารของรัฐบาล
. ธนาคารใกล้บา้ น
. ธนาคารใกล้ทีทํางาน
. ให้ผลประโยชน์มาก
. การไปมาสะดวก
. ธนาคารทีมีความมันคงไม่
สันคลอน หรื อ ไม่มีข่าวออกมา
ในทางไม่สูด้ ีอยูเ่ สมอๆ
การลงทุนในกิจการอย่างใดอย่างหนึง . เงินลงทุน
. ผลผลิตทีได้
. คุม้ ค่าแรงงานหรื อไม่
. เป็ นทีนิยมหรื อเปล่า
การเลือกชมรายการโทรทัศน์ช่องต่างๆ . รายการโปรด
. เนือหาสาระดี
. ให้ความบันเทิง
. การนําเสนอทันสมัย
. มีประโยชน์สามารถนําไป
ประยุกต์ใช้ได้
. เพือการลงทุน เช่น หุน้
141
การเดินทาง
รายงานข่าวบอกว่ามีรถติดทีถนนใดบ้าง . อาจหลีกเลียงเส้นทางดังกล่าว
. รอจนกว่าจะเดินรถสะดวกก่อน
เทศกาลต่างๆ รถจะแน่น เมือเดินทาง . อาจไม่กลับในช่วงเทศกาล
ไปต่างจังหวัด . อาจเลือกกลับหลังเทศกาล – วัน
เป็ นต้น
นอกจากนีการตัดสินใจยังมีความสําคัญในการประกอบธุรกิจต่างๆ ทังธุรกิจขนาดเล็กและธุรกิจขนาด
ใหญ่ นักธุรกิจอาจพบปั ญหาในด้านต่างๆ มากมายทีจะต้องตัดสิ นใจอยู่เสมอ เช่น ปั ญหาด้านการตลาด ปั ญหา
ด้านการขยายการลงทุน ปัญหาแรงงาน ปัญหาในด้านการกําหนดราคา ปั ญหาพนักงาน ค่าครองชีพ ปั ญหาด้าน
การเงิน ซึงนักธุรกิจจะใช้ประสบการณ์หรื อคําสังสอนอบรมจากพ่อแม่ บรรพบุรุษมาแก้ปัญหาอย่างเดียวไม่ได้
อาจจะเกิดความผิดพลาดได้ ดังนัน นักธุรกิจควรใช้ขอ้ มูลและวิธีการทางสถิติมาช่วยในการตัดสินใจ
สําหรั บในระดับนี การเลือกใช้ข ้อมูลในการตัดสิ นใจอาจจะเกี ยวกับค่ ากลางทีกล่าวมาแล้วด้วย เช่ น ถ้า
ต้องการกะประมาณรายได้ของประชากรทังประเทศ ควรใช้ค่ากลาง คื อ ค่ าเฉลียเลขคณิ ต หรื อประมาณจํานวน
พลเมืองทีชอบดูทีวีสีช่อง ควรเลือกใช้ค่ ากลางฐานนิ ยม หรื อถ้าข้อมูลมีค่ าตําและค่าสูงแตกต่างกันมากควร
ตัดสินใจเลือกใช้ค่ากลางมัธยฐาน เป็ นต้น
ในเรื องนี ผูเ้ รี ยนจะได้เรี ยนละเอียดในชันสูงต่อไป
142
กิจกรรมบทที
แบบฝึ กหัดที
1. ให้ผเู้ รี ยนพิจารณาข้อความต่อไปนี แล้วเขียนเครื องหมาย ลงในช่องทีตรงกับความคิดเห็นของผูเ้ รี ยน
ข้อมูลสถิติ
ข้อที ข้อความ
เป็ น ไม่เป็ น
1 นําหนักของนักเรี ยนทุกคนทีเรี ยนชุดการเรี ยนทางไกล
2 สมศรี ได้คะแนน คะแนน
ในการโยนเหรี ยญ ครัง เกิดหัว ครัง เกิดก้อย ครัง ได้
3 6
อัตราส่วนทีจะเกิดหัว 10
4 คน คน เป็ นชาย คน เป็ นหญิง คน ทีอยูใ่ นบ้านวิชยั
จํานวนคดีอาชญากรรมในปี ซึงรวบรวมมาจากบันทึกคดี
5
อาชญากรรมแต่ละวันในแต่ละสถานีตาํ รวจ
………………………………………………………………………………………….…………………………
144
แบบฝึ กหัดที
1. แผนภูมิรูปวงกลมแสดงรายได้ของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึงโดยเฉลียต่อวัน จําแนกตามแผนกต่างๆ
จากแผนภูมิจงตอบคําถามต่อไปนี
1) รายได้จากแผนกเสื อผ้าบุรุษ และแผนกเสือผ้าสตรี รวมกันมากกว่าหรื อน้อยกว่ารายได้จากแผนกเครื องเขียน
แบบเรี ยนอยูก่ ีเปอร์เซ็นต์
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………..…………………………………………………….
2) รายได้จากแผนกใดน้อยทีสุด และคิดเป็ นร้อยละเท่าไรของรายได้จากแผนกทีรายได้มากทีสุด
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………..…………………………………………………….
3) รายได้จากแผนกเสื อผ้าสตรี คิดเป็ นร้อยละเท่าไรของรายได้จากแผนกเครื องเขียน แบบเรี ยน
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………..…………………………………………………….
4) แผนกใดทีมีรายได้มากเป็ นอันดับสอง และรายได้นนคิ ั ดเป็ นร้อยละเท่าไรของรายได้ทงหมด
ั
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………..…………………………………………………….
145
. จากการสอบถามงบประมาณทีแต่ละกลุ่มสาระการเรี ยนรู้ได้มาจากการจัดสรรงบประมาณของทางโรงเรี ยน
เป็ นดังนี
กลุ่มสาระการเรียนรู้ งบประมาณ จํานวนเปอร์ เซ็นต์ ขนาดของมุมทีจุดศูนย์กลาง
(บาท) ของรู ปวงกลม (องศา)
คณิ ตศาสตร์ , 35000
100 10.29
35000
360 37.06
340000 340000
วิทยาศาสตร์ ,
ภาษาต่างประเทศ ,
ภาษาไทย ,
ศิลปะ ,
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ,
สุขศึกษาและพลศึกษา ,
สังคมศึกษา ศาสนา และ ,
วัฒนธรรม
รวม ,
4. ให้ผเู้ รี ยนพิจารณากราฟเส้นต่อไปนี
จากกราฟเส้น จงตอบคําถามต่อไปนี
) ใน พ.ศ. ใดบ้างทีปริ มาณไม้สกั ทีผลิตได้มีมากกว่าไม้ประดู่
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………..…………………………………………………….
) ในพ.ศ. ใดทีปริ มาณของไม้สกั และไม้ประดู่ทีผลิตได้ต่างกันมากทีสุด และต่างกันประมาณกีลูกบาศก์เมตร
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………..…………………………………………………….
147
จากตารางจงนําเสนอข้อมูลด้วยกราฟเส้น
148
แบบฝึ กหัดที
1. จากข้อมูล 2, 6,1, 5, 13, 6, 16 จงหาค่าเฉลียเลขคณิต ฐานนิยม และมัธยฐาน
ค่าเฉลียเลขคณิต = ………………………………………………….\
มัธยฐาน = ………………………………………………….
ฐานนิยม = ………………………………………………….
เรี ยงข้อมูลจากมากไปหาน้อยหรื อน้อยไปหามาก
ค่าเฉลียเลขคณิต = ………………………………………………….
มัธยฐาน คือ = ………………………………………………….
ฐานนิยม คือ = ………………………………………………….
บทที
ความน่ าจะเป็ น
Probability
สาระสําคัญ
1. การนับจํานวนผลลัพธ์ทีเกิดจากการทดลองใด ๆ
. ความน่าจะเป็ น แสดงให้ทราบว่า เหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึงมีโอกาสเกิดขึนมากน้อยเพียงใด อันจะมี
ประโยชน์ต่อการตัดสินใจในการดําเนินงานนัน ๆ
ผลการเรียนรู้ทีคาดหวัง
1. อธิบายการทดลองสุ่มและเหตุการณ์ได้
2. หาความน่าจะเป็ นของเหตุการณ์จากการทดลองสุ่ม มีโอกาสทีจะเกิดขึนเท่าๆกันได้
3. ใช้ความรู้เกียวกับความน่าจะเป็ น ในการคาดการณ์หรื อตัดสินใจได้อย่างสมเหตุสมผล
ขอบข่ ายเนือหา
เรื องที การทดลองสุ่มและเหตุการณ์
เรื องที ความน่าจะเป็ นของเหตุการณ์
เรื องที การนําความน่าจะเป็ นของเหตุการณ์ต่างๆ ไปใช้
150
การลงทุนทํากิจการครังนี คาดว่าจะได้กาํ ไร %
ปี หน้าคาดว่านักศึกษา กศน.เขตพญาไทเพิมขึน %
นายโชคดี ซือล๊อตเตอร์รีไม่เคยถูกเลย
เรืองที
การทดลองสุ่ ม และเหตุการณ์
. การทดลองสุ่ ม
การทดลองสุ่ม คือ การทดลองทีเราไม่สามารถบอกได้ล่วงหน้าว่าผลลัพธ์ทีเกิดขึนมาจากแต่ละ
การกระทําจะเป็ นอย่างไร แต่เราสามารถบอกได้ว่ามีผลลัพธ์อะไรบ้างทีจะเกิดขึน ตัวอย่างเช่น
. โยนเหรี ยญ เหรี ยญ ครัง หน้าทีหงายขึนอาจจะออกหัว หรื อ ออกก้อย ก็ได้
หัว ก้อย
ออกหัว ออกก้อย
. หยิบลูกปิ งปอง ลูกจากโหลดังรู ป ลูกปิ งปองทีหยิบได้ อาจจะเป็ นลูกปิ งปอง สีแดง สีเขียว สีฟ้า
หรื อสีเหลือง (ลูกปิ งปองต้องมีขนาดเท่ากัน)
แดง
ฟ้า
เขียว
เหลือง
ผลลัพธ์ ของการสุ่ ม
การโยนเหรี ยญ เหรี ยญ ครัง ผลลัพธ์ทงหมดที
ั อาจจะเกิดขึน สามารถแสดงด้วยแผนภาพต้นไม้ ได้
ดังนี
ผลทีอาจจะเกิดจากการ ผลทีอาจจะเกิดจากการ ผลทีอาจจะเกิดจากการ
โยนเหรี ยญครังที โยนเหรี ยญครังที โยนทังสองครัง
H H, H
T H, T
H T, H
T T, T
จะได้ผลลัพธ์ทงหมดที
ั เกิดจากการทดลองสุ่มข้างต้นทีแตกต่างกัน มี แบบ คือ
HH , HT , TH และ TT
. เหตุการณ์ (Events)
ในการทดลองสุ่มโยนเหรี ยญบาท 1 เหรี ยญและเหรี ยญห้าสิบสตางค์ 1 เหรี ยญ นักเรี ยนทราบแล้วว่าผล
ทังหมดทีอาจจะเกิดขึนได้คือ (H, H), (H, T), (T, H) และ (T, T) ถ้าเราสนใจผลทีจะเกิดก้อยอย่าง
น้อย 1 เหรี ยญ จะได้ว่า ผลทีจะเกิดก้อยอย่างน้อย 1 เหรี ยญ คือ (H, T), (T, H) และ (T, T) เราเรี ยกผลทีเรา
สนใจจากการทดลองสุ่มว่า เหตุการณ์
พิจารณาการหลับตาหยิบลูกบอล 1 ลูกจากถุงซึงมีลกู บอลสีเขียว 4 ลูก คือ ข1, ข2, ข3 และ ข4 ดังนัน
เรืองที
ความน่ าจะเป็ นของเหตุการณ์ Probabilities of Events.
พิจารณาการทดลองสุ่มและเหตุการณ์ทีสนใจ
ทอดลูกเต๋ า ลูก ครัง ผลทังหมดทีอาจเกิดขึน คือ , , , , , ซึงมีทงหมด ั จํานวน
). ถ้าเหตุการณ์ทีสนใจ คือ แต้มหงายบนหน้าลูกเต๋ าเป็ นจํานวนคู่ ซึงได้แก่ , , จะเห็นได้ว่ามี
จํานวน นันคือ จํานวนผลทีจะเกิดในเหตุการณ์ เป็ น
3 1
เรากล่าวว่าความน่าจะเป็ นของเหตุการณ์ทีแต้มหงายบนหน้าลูกเต๋ าเป็ นจํานวนคู่ คือ หรื อ
6 2
). ถ้าเหตุการณ์ทีสนใจ คือ แต้มทีหงายบนหน้าลูกเต๋ า เป็ นจํานวนทีน้อยกว่า ซึงได้แก่
, จะเห็นว่ามีทงหมด
ั จํานวน นันคือ จํานวนผลทีจะเกิดในเหตุการณ์เป็ น
2 1
เรากล่าวว่าความน่าจะเป็ นของเหตุการณ์ทีแต้มหงายบนหน้าลูกเต๋ าเป็ นจํานวนคู่ คือ หรื อ
6 3
จํานวนผลลัพธ์ของเหตุการณ์ทีสนใจ
ความน่ าจะเป็ นของเหตุการณ์
จํานวนผลลัพธ์ทงหมดข
ั องการทดลองสุ่ ม
หมายเหตุ
เมือแต่ละผลลัพธ์ทีอาจเกิดขึนจากการทดลองสุ่ม มีโอกาสเกิดขึนได้เท่าๆกัน
155
P(E) N(E)
N(S)
เรืองที
การนําความน่ าจะเป็ นของเหตุการณ์ ไปใช้ ในชีวติ ประจําวัน
ในปัจจุบนั นักธุรกิจ นักประกันภัย และนักพยากรณ์ต่างๆ ได้นาํ ความรู้เรื องความน่าจะเป็ นและค่า
คาดหมายมาช่วยในการตัดสินใจ ว่าเหตุการณ์ทีพิจารณานัน จะเกิดขึนมากน้อยเพียงใดและจะได้รับหรื อเสีย
ผลประโยชน์ เช่น ด้านธุรกิจ ใช้การคาดหมายในการทํานายผลกําไรทีได้จากการผลิตสินค้าใหม่ ด้านการ
ประกันภัย ใช้การคาดหมายในการกําหนดเงินเบียประกันทีลูกค้าจะต้องส่งมาในแต่ละงวด เพือทีบริ ษทั ยังได้ผล
ประโยชน์ตลอดอายุของกรมธรรม์ หรื อความน่าจะเป็ นกับกีฬา เช่น ในกีฬาฟุตบอลทีก่อนแข่งขันกรรมการจะ
โยนเหรี ยญเพือให้ฝ่ายทีทายผลชนะได้เลือกก่อนว่าจะเขียบอลหรื อเลือกข้าง โอกาสทีจะชนะ / เนืองจาก
เหรี ยญทีโยนจะออกหัวหรื อก้อยก็ได้ มีโอกาสเกิดขึนเท่ากัน ความน่าจะเป็ นกับการพยากรณ์อากาศ ถ้าวางแผนจะ
ไปเทียวทะเลกับเพือนในหน้าฝน ก็ควรจะต้องตรวจเช็คสภาพอากาศล่วงหน้าว่าพยากรณ์ไว้ว่าฝนจะตกหรื อเปล่า
และตกกีเปอร์เซ็นต์ เช่น ถ้าพยากรณ์ว่าฝนตก % ไม่ตอ้ งไป แต่ถา้ พยากรณ์ไว้ว่าฝนจะตก % น่าจะไป
มากกว่า
157
กิจกรรมบทที 0
แบบฝึ กหัดที
มีกล่อง กล่องทีบรรจุลกู แก้วสีต่างๆ ดังรู ป
ให้นกั ศึกษาตอบคําถามต่อไปนี
1) เพชรหยิบลูกแก้วจากกล่องใดจึงมีโอกาสชนะมากกว่า จงอธิบาย
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
) พลอยหยิบลูกแก้วจากกล่องใด จึงจะมีโอกาสชนะมากกว่า จงอธิบาย
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
158
) เพชรหยิบลูกแก้วจากกล่องใด จึงจะไม่มีสิทธิชนะ
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
) ถ้าต้องการให้เพชรและพลอยมีโอกาสชนะเท่ากันควรหยิบลูกแก้วจากกล่องใด
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
สรุ ป
จากกิจกรรมข้างต้น จะเห็นว่า การทีผูเ้ ล่นจะได้เปรี ยบหรื อเสียเปรี ยบ ขึนอยูก่ บั ว่ากติกาละอุปกรณ์การ
เล่น การเล่นแต่ละครัง การทีเราทราบเรื องของความน่าจะเป็ นของเหตุการณ์จะช่วยให้เรารู้ได้ว่า ในการเล่นแต่ละ
ครัง เราได้เปรี ยบหรื อเสียเปรี ยบและตัดสินใจได้ว่าควรจะเล่นหรื อไม่เล่นในเกมนัน
แบบฝึ กหัดที
. ให้ผเู้ รี ยนพิจารณาการทดลองสุ่มต่อไปนี ว่าผลจากการทดลองสุ่มอาจเป็ นอย่างไรบ้าง
). โยนเหรี ยญสิบบาท อัน
……………………………………………………………………………………………...
). โยนเหรี ยญสิบบาทสองอันพร้อมกัน
……………………………………………………………………………………………...
). หยิบลูกปิ งปอง ลูกพร้อมๆกัน จากกล่องทีมีลกู ปิ งปองสีเหลือง ลูก สีแดง ลูก
……………………………………………………………………………………………...
. จงเขียนผลทีอาจจะเกิดขึนได้ทงหมดจากการหมุ
ั นแป้ นวงกลมทีมีหมายเลข และ แล้วมาโยนเหรี ยญบาท อัน
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………..…………….......................
. จงเขียนผลทังหมดทีอาจจะเกิดขึนได้จากการหยิบสลาก ใบ จากสลากทีเขียนหมายเลขตังแต่
ถึง ไว้
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………..…………………….
159
แบบฝึ กหัดที
. ทอดลูกเต๋ า ลูก ครัง จงเขียน
) ผลทังหมดทีอาจเกิดขึน
……………………………………………………………………………………………
) เหตุการณ์ทีได้แต้มไม่เกิน
……………………………………………………………………………………………
) เหตุการณ์ทีได้แต้มเป็ นจํานวนทีหารด้วย ลงตัว
……………………………………………………………………………………………
แบบฝึ กหัดที
. ทอดลูกเต๋ า ลูก ครัง
จงหาความน่าจะเป็ นของเหตุการณ์ต่อไปนี
. ) ออกแต้มเป็ นจํานวนคู่
ตอบ .....................................................................................................................................
. ) ออกแต้มเป็ นจํานวนเฉพาะ
ตอบ .....................................................................................................................................
๑
บาท
๑
บาท
๑
บาท
แบบฝึ กหัดที
จากโจทย์ ครอบครัวหนึงมีบุตร คน อายุต่างกัน จงหาความน่าจะเป็ นทีครอบครัวนี
1) มีบุตรคนโตเป็ นผูห้ ญิง
2) มีบุตรคนสุดท้องเป็ นผูห้ ญิง
3) มีบุตรเป็ นชายทัง คน
4) มีบุตรคนโตเป็ นผูห้ ญิงและคนสุดท้องเป็ นผูช้ าย
162
บทที
การใช้ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ในการประกอบอาชีพ
สาระสําคัญ
ในการประกอบอาชีพต่าง ๆ ในสังคม ผูป้ ระกอบอาชีพในหลายสาขา เช่น เกษตรกรรม การประมง
การก่อสร้าง การบัญชี งานบริ การและการท่องเทียว เป็ นต้น จําเป็ นต้องใช้ทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ไป
ใช้ในการพัฒนาอาชีพให้มีความมันคง เพือเสริ มสร้างรายได้และผลกําไรทีสูงขึน
ผลการเรียนรู้ทีคาดหวัง
มีความสามารถในการเชือมโยงความรู้ต่างๆ ทางคณิ ตศาสตร์กบั งานอาชีพได้ สามารถวิเคราะห์งานอาชีพ
ในสังคม ทีใช้ทกั ษะทางคณิ ตศาสตร์ได้
1. บอกประเภทของงานอาชีพทีใช้ทกั ษะทางคณิ ตศาสตร์ได้
2. นําความรู้ทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในงานอาชีพได้
ขอบข่ ายเนือหา
เรื องที ลักษณะประเภทของงานอาชีพทีใช้ทกั ษะทางคณิ ตศาสตร์
เรื องที การนําความรู้ทางคณิ ตศาสตร์ไปเชือมโยงกับงานอาชีพในสังคม
163
เรืองที
ลักษณะ ประเภทของงานอาชีพทีใช้ ทักษะทางคณิตศาสตร์
. กลุ่มอาชีพเกษตรกรรม ได้แก่ อาชีพ การทํานา ทําไร่ การปลูกผัก การเลียงสัตว์ ฯลฯ
เรืองที
การนําความรู้ทางคณิตศาสตร์ ไปเชือมโยงกับงานอาชีพในสั งคม
การเชือมโยงความรู้ต่าง ๆ ทางคณิ ตศาสตร์กบั งานอาชีพเป็ นการนําความรู้และทักษะ/กระบวนการต่างๆ
ทางคณิ ตศาสตร์ไปสัมพันธ์กบั เนื อหาและความรู้ของงานอาชีพอย่างเป็ นเหตุเป็ นผล ช่วยในการตัดสินใจในงาน
อาชีพ เช่น การใช้ตารางและกราฟประกอบการใช้สถิติมาช่วยในการวิเคราะห์งานอาชีพเพือสํารวจความต้องการ
สินค้าเพือการผลิต ใช้ร้อยละในการคิดคํานวณดอกเบีย ภาษี กําไรขาดทุน เป็ นต้น
. ทักษะการจัดทําบัญชีรายรับ – รายจ่ายประจําวัน
ตัวอย่าง การจัดทําบัญชีรายรับ – รายจ่ายประจําวันของผูป้ ระกอบการร้านอาหาร
วันที กันยายน จ่ายค่าซือวัตถุดิบในการทําอาหาร , บาท จ่ายค่านํา ค่าไฟฟ้ า
บาท ได้รับเงินจากการขายอาหาร , บาท
วันที กันยายน จ่ายค่าโทรศัพท์ บาท จ่ายค่านํามันรถยนต์ , บาท
จ่ายค่าเครื องปรุ ง , บาท จ่ายค่าผลไม้ บาท ได้รับเงินจาก
การขายอาหาร , บาท
วันที กันยายน จ่ายค่าหนังสือพิมพ์ บาท จ่ายค่าวัตถุดิบในการทําอาหาร , บาท
จ่ายค่านําดืม บาท จ่ายค่าซ่อมรถยนต์ , บาท
ได้รับเงินจากการขายอาหาร , บาท
วันที กันยายน จ่ายค่านํามันพืช บาท ซือถุงพลาสติกใส่อาหาร บาท
ได้รับเงินจากการขายอาหาร , บาท
168
. ทักษะการคํานวณรายได้ และการแลกเปลียนเงินตรา
ตัวอย่าง บริ ษทั แห่งหนึงสังซือเครื องจักรจากต่างประเทศราคา , ดอลลาร์สหรัฐ เมือสินค้า
ส่งมาถึงเมืองไทยต้องผ่านพิธีการศุลกากร เสียภาษีศุลกากร % ภาษีมลู ค่าเพิม %
ค่าธรรมเนียมและค่าบริ การต่าง ๆ รวม , บาท ราคาเครื องจักรและค่าใช้จ่ายทังหมดรวมเป็ นเงินเท่าไร (
ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ . บาท)
169
วิธีทํา
ราคาเครื องจักร , × 35.42 = 1, , บาท
10
เสียภาษีศุลกากร % = 1, ,900 × = 1 , 90 บาท
100
7
เสียภาษีมลู ค่าเพิม % = 1, ,900 × = , 3 บาท
100
ราคาเครื องจักรและค่าใช้จ่ายทังหมด รวมเป็ นเงิน
= ราคาเครื องจักร + ภาษีศุลกากร + ภาษีมลู ค่าเพิม +
ค่าธรรมเนียมและค่าบริ การต่าง ๆ
= 1, ,900 + 1 , 90 + , 3 + 4,000
= 1, , 3 บาท
. การคิดคํานวณดอกเบียสินเชือธนาคาร
ตัวอย่าง บริ ษทั สังซือเครื องจักรคิดเป็ นเงินไทยราคา , , บาท บริ ษทั ได้ขอสินเชือจากธนาคารได้รับสิทธิใน
การผ่อนชําระเครื องจักรเป็ นรายเดือน เดือนละ , บาท คิดดอกเบียปี ละ . % เมือผ่อนชําระครบ
เดือน จะต้องเสียเงินทังหมดเท่าไร
เงินต้น อัตราดอกเบบีย ระยะเวลา
วิธีทํา ดอกเบีย =
100
7.5 1
เดือนที เสียดอกเบีย = 2,200 ,000 = , บาท
100 12
เดือนที เงินต้นคงเหลือ = , , 00 – 2 0,000 = , , บาท
7.5 1
เสียดอกเบียเดือนที = 2,000,000 = , บาท
100 12
เดือนที เงินต้นคงเหลือ = , , – 2 0,000 = 1,8 , 00 บาท
7.5 1
เสียดอกเบียเดือนที = 1,800 ,000 = , บาท
100 12
เดือนที เงินต้นคงเหลือ = 1, , 00 – 2 0,000 = 1, 0 , 00 บาท
7.5 1
เสียดอกเบียเดือนที = 1,600,000 = , บาท
100 12
เดือนที เงินต้นคงเหลือ = 1, 0 , 00 – 2 0,000 = , , บาท
7.5 1
เสียดอกเบียเดือนที = 1,400 ,000 = , บาท
100 12
เดือนที เงินต้นคงเหลือ = , , – 20 ,000 = , , บาท
170
7.5 1
เสียดอกเบียเดือนที = 1,200 ,000 = , บาท
100 12
เมือผ่อนชําระครบ เดือน จะต้องเสียเงินทังหมด = ผ่อนชําระเป็ นรายเดือน เดือน + ดอกเบีย เดือน
= ( ,000 × 6) + 13,750 + 12,500 + 11,250
+ 10,000 + 8,750 + 7,500 บาท
= 1, , บาท
. ทักษะการคํานวณภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดา
ตัวอย่างที โอฬารมีรายได้จากการประกอบอาชีพเดือนละ , บาท ไม่มีครอบครัว เมือยืนแบบ
คํานวณภาษี มีสิทธิหกั ค่าใช้จ่ายได้ % ของรายได้แต่ไม่เกิน , บาท
ค่าลดหย่อนผูม้ ีเงินได้ , บาท สิ นปี โอฬารจะต้องชําระภาษีหรื อไม่
วิธีทํา เงินได้พึงประเมินของโอฬารตลอดปี ภาษี = 10,500 12 = 126,000 บาท
40
หัก ค่าใช้จ่ายได้ร้อยละ ของเงินได้พึงประเมิน = 126,000 = 50,400 บาท
100
หัก ค่าลดหย่อนผูม้ ีเงินได้ , บาท
เงินได้สุทธิทีต้องคํานวณภาษี = เงินได้พึงประเมิน – (เงินหักค่าใช้จ่าย + ค่าลดหย่อน)
= 126,000 – ( , + , )
= , บาท
กรมสรรพากรกําหนดให้ผมู้ ีเงินได้สุทธิตงแต่ั ถึง , บาท ได้รับการยกเว้นภาษี
ดังนัน โอฬารต้องยืนแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. ) แต่ไม่ตอ้ งชําระเงิน เพราะได้รับ
การยกเว้นภาษี ดังตาราง
ตารางอัตราภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดา ปี พ.ศ.
เงินได้ สุทธิ
เงินได้ สุทธิ อัตราภาษี ภาษีในแต่ ละ
ขันเงินได้ สุทธิตงแต่
ั จํานวนสู งสุ ด ภาษีเงินได้
แต่ ละขัน ร้ อยละ ขันเงินได้
ของขัน
- , , .............. .... - .............. .... ยกเว้น
เกิน , - , , .............. .... .............. .... ,
เกิน , - , , .............. .... 10 .............. .... ,
เกิน , - , , .............. … .............. … ,
เกิน , - , , , .............. … .............. … ,
เกิน , , - , , , , .............. … .............. … ,
เกิน , , - , , , , ,
เกิน , , บาท ขึนไป
2.7 การประชาสัมพันธ์ โดยทําป้ายจากแผ่นอะครีลกิ
ตัวอย่าง ทําป้ ายจากแผ่นอะครี ลิกติดหน้าห้องต่าง ๆ ดังนี
172
ห้ องประชุม
Meeting Room
ห้ องแสดงสิ นค้ า
Show Room
ห้ องเก็บของ
Store Room
กิจกรรมบทที
แบบฝึ กหัดที
. จงจัดทําบัญชีรับจ่ายประจําวันของนายสมพร ซึงประกอบอาชีพเป็ นผูข้ ายกาแฟ ในเวลา วัน ดังรายการดังนี
วันที ตุลาคม ยอดเงินคงเหลือมาจากเดือนกันยายน , บาท
จ่ายค่าซือวัตถุดิบ , บาท จ่ายค่าแก๊สหุงต้ม บาท
ค่าอาหาร บาท ได้รับเงินจากการขายกาแฟ , บาท
วันที ตุลาคม จ่ายค่านํา ค่าไฟฟ้ า บาท ค่าอาหาร บาท ค่าถุงพลาสติก บาท
ค่าถุงกระดาษ บาท ได้รับเงินจากการขายกาแฟ , บาท
วันที ตุลาคม จ่ายค่าโทรศัพท์ บาท ค่าอาหาร บาท จ่ายค่าหนังสือเรี ยนลูก บาท
ค่านําดืม บาท ได้รับเงินจากการขายกาแฟ , บาท
วันที ตุลาคม จ่ายค่าเสือผ้า , บาท ค่าอาหาร บาท
ซือแป้ งสาลีและวัตถุดิบอืนๆ , บาท ได้รับเงินจากการขายกาแฟ , บาท
วันที ตุลาคม จ่ายค่าอาหาร บาท ค่านําดืม บาท จ่ายค่าหนังสือพิมพ์ บาท
ได้รับเงินจากการขายกาแฟ , บาท
แบบทดสอบหลังเรียน
6. (18 + 8) – มีค่าเท่ากับข้อใด
. ข้อใดเป็ นจํานวนเต็มทังหมด ก.
2 ข.
ก. 1 , - , , -
3 ค.
ข. . , - , . , -
ง.
ค. , , - , - ,
4
ง. . , , - , .
5 . ข้อใดไม่ถกู ต้อง
ก. (- ) + (- ) = -14
. ข้อใดถูกต้อง ข. (-8) + 4 = -4
ค. 12 + (-6) = -6
ก. - > -10
ง. (-12) + 8 = -4
ข. -7 < -12
ค. -8 > -4
ง. 0 < -5 8. [(-4) × 2] + [(-7) + (-4)]
ก. -12
4. ข้อใดเรี ยงลําดับจากมากไปหาน้อย ข. -15
ค. -17
ก. , - , ,-,
ง. -19
ข. - , , ,-,
ค. , , ,-,-
ง. , , ,-,
176
9. ถ้า a = -4 b = 3 c = -5 แล้ว (a × b) + (b - c) 2 3 1
. + + มีค่าเท่ากับข้อใด
มีค่าเท่าไร 5 5 5
ก. 4
ก.
ข. - 5
6
ค. ข.
5
ง. - 7
ค.
5
8
. ข้อใดถูกต้อง ง.
5
ก. (8 × 7) × 2 = 40
ข. (8 ÷ 1) × 8 = 8
ค. (0 × 42) +0 = 0 . ข้อใดเขียนในรู ปทศนิยมได้ถกู ต้อง
ง. (18 ÷ 3) × 3 = 24 4
ก.
5
5
ข.
. จํานวนใดมีค่าน้อยทีสุด 6
5 12
ก. ค.
4 6
6 14
ข. ง.
5 7
12
ค.
10 1 1
30 . 3 + มีค่าเท่ากับข้อใด
ง. 4 3
25
7
ก.
6
8
ข.
6
9
ค.
6
10
ง.
6
177
. จํานวนในข้อใด มีค่ามากทีสุด
ก. .
ข. .
ค. .
ง. .
178
21. ก.
ข. .
ค.
ง. .
ข้อใดคือเศษส่วนแทนภาพทีกําหนดให้
1 . อัตราส่วนอายุของสมร กับ ศักดิ เป็ น :
ก.
2 ถ้าศักดิอายุ ปี สองคนนี มีอายุห่างกันกีปี
1 ก.
ข.
3
ข.
1
ค. ค.
4
2 ง.
ง.
3
. ทีมารู ปสีเหลียมผืนผ้ามีพนที
ื งาน
. ข้อใดถูกต้อง ตารางเมตร กว้าง เมตร ทีดินแปลงนี
1 ยาวกีเมตร
ก. 3.08 > 3
2 ก.
3 ข. .
ข. 2 = 2.75
4
ค. .
1 3
ค. 1 < ง.
2 4
ง. . < 3.08
23. กําหนด a = 3, b = – 6, c = 5
ค่าของ (a - b) + c เท่ากับเท่าไร
ก. 2
ข. 4
ค. 8
ง. 14
24. (252 – ) เท่ากับเท่าไร
179
. . กําหนดข้อมูล , , , , ข้อใดถูกต้อง
ก. ฐานนิยม = ค่าเฉลีย
ข. ค่าเฉลีย > ค่ามัธยฐาน
10
ค. ฐานนิยม > ค่าเฉลีย
ง. มัธยฐาน = ค่าเฉลีย
ถ้าถังใบหนึงมีเส้นผ่าศูนย์กลางยาว เมตร มี
1 . ทอดลูกเต๋ า ลูกพร้อมกัน
ความสูง เมตร บรรจุ ของถัง นําในถัง
3 ความน่าจะเป็ นทีจะทอดได้แต้มรวมกันเป็ น
มีประมาณกีลูกบาศก์เมตร คือข้อใด
ก. 1
ก.
ข. 6
ค. 2
ข.
ง. , 3
5
ค.
36
. กําหนดข้อมูล , , , และ
7
ค่าเฉลียเลขคณิตของข้อมูลชุดนี ง.
36
มีค่าตรงกับข้อใด
ก.
ข.
ค. .
ง.
180
ภาคผนวก
181
เฉลยแบบทดสอบก่ อนเรียน
.ก .ค .ก .ง .ข
.ค .ค .ง .ข .ค
.ก .ข .ข .ก .ก
.ข .ก .ค .ง .ค
21. ค .ค . ค. . ข. .ข
.ง .ข .ข . ค. .ข
เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน
.ก .ค .ก .ง .ข
.ค .ค .ง .ข .ค
.ก .ข .ข .ก .ก
.ข .ก .ค .ง .ค
21. ง .ข .ง . ข. .ค
.ง .ข .ค . ค. .ค
182
เฉลย กิจกรรมบทที
แบบฝึ กหัดที
1. จงเลือกจํานวนเต็มบวก จํานวนเต็มลบ และจํานวนเต็มจากจํานวนต่อไปนี
0, 6 , -1, , 10 , -3, 4, 7 – 10, 300 , - 750
3 2 600 250
แบบฝึ กหัดที
. จงแสดงการหาผลบวกของสองจํานวนทีกําหนดให้
. 24 + 3
24 + 3 = 27
. (-25) + (- 0)
(-25) + (- 0) = -45
. 34 + 78
34 + 78 = 82
183
. (-38) + (-30)
(-38) + (-30) = -68
. 4 + (-20)
4 + (-20) = 25
. (-24) + 9
(-24) + 9 = 35
. (-18) + 20
(-18) + 20 = 2
. 2 + (-14)
2 + (-14) = -12
แบบฝึ กหัดที
1. จงทําให้เป็ นผลสําเร็ จ
. - . (-12) – 14
วิธีทาํ - = + (-9) วิธีทาํ (-12) – 14 = (-12) + (-14)
=7 = -26
. a = 7, b = (-5)
วิธีทาํ a – b = 7 – (-5) b – a = (-5) – 7
=7+5 = (-5) + (-7)
= 12 = -12
. a = (-16), b = (-8)
วิธีทาํ a – b = (-16) – (-8) b – a = (-8) – (-16)
= (-16) + 8 = (-8) + 16
= -8 =8
3. a = (-7), b = (-5)
วิธีทาํ a – b = (-7) – (-5) b – a = (-5) – (-7)
= (-7) + 5 = (-5) + 7
= -2 =2
แบบฝึ กหัดที
จงหาผลลัพธ์
). [(-5) (-3)] (-4)
วิธีทาํ [(-5) (-3)] (-4) = 15 (-4)
= -60
2). (-4) [(-7) (-3)]
วิธีทาํ (-4) [(-7) (-3)] = (4) 21
= 84
3). [2 (-4)] (-2)
วิธีทาํ [2 (-4)] (-2) = (-8) (-2)
= 16
4). 5 [(5) (2)]
วิธีทาํ 5 [(5) (2) ] = 5 10
= 50
185
เฉลยกิจกรรมบทที
แบบฝึ กหัดที
. จงวาดภาพแสดงเศษส่วนทีกําหนดให้
.)
3
4
.)
1
3
.) . =
15 หรื อ 3
100 20
. ) 0.75 =
68
90
. ) 1.256 =
1244
990
3. จงเติมเครื องหมาย >, < หรื อ = ลงในช่อง
.)
2 5
4 8
.) 1
1 3
2 4
. ) 5 1
6 2
.)
4 .
18
.) .
58
100
.) (- . ) (- . )
4. จงหาผลลัพธ์
6 1 1
.) 1 = 2
8 2 4
1
.) 3
1
= 1
4 2 4
1
4.3) 3 4 1
= 1
4 5 2 20
1 5 3
4. ) 3 = 2
2 8 16
15
4. ) 5 4 3
=
8 2 4 16
5
4. ) 1 1 2
3 = 2
2 4 6 8
4. ) 0.7212.6 0.12 = ( . )
4. ) [0.35 12.6] 0.015 = 294
187
5. จงแก้โจทย์ปัญหา
. ) เชือกเส้นหนึงยาว . เมตร เส้นทีสองยาว . เมตร นํามาผูกต่อกันโดยจะเสียความ
ยาวในการผูกปมไป . เมตรเชือกทีต่อกันจะยาวกีเมตร
( . เมตร)
2
. ) โรงเรี ยนแห่งหนึงมีนกั เรี ยนทังหมด , คน เป็ นชาย ของนักเรี ยนทังหมด จงหาว่ามี
5
นักเรี ยนหญิงมากกว่านักเรี ยยนชายกีคน
( คน)
เฉลยกิจกรรมบทที
แบบฝึ กหัดที
. จงทําเครื องหมาย หน้าข้อความทีถูกต้อง และ หน้าข้อความทีไม่ถกู ต้อง
. ) อ่านว่า สามกําลังห้า
. ) มีค่าเท่ากับ × 4
. ) (-2) × (-2) × (-2) × (-2) = (-2)4
.4) (-3)6 = 36
.5) 5 + 5 + 5 + 5 เท่ากับ
. จงเขียนจํานวนต่อไปนีในรู ปเลขยกกําลังทีมีเลขชีกําลังมากกว่า
.) = 53
2.2) = 63
2.3) 0.0144 = (0.12)2
2.4) 81 = 34 หรื อ
.) - = (-3)3 หรื อ -33
. จงหาว่าสัญลักษณ์ต่อไปนี แทนจํานวนใด
. ) (- ) = 81
188
2
3 8
3.2) =
5 125
3.3) -44 = -256
3.4) (0.4)3 = 0.064
3.5) (-6)3 = -216
4. จงหาผลลัพธ์
.) × = 39
3 -2
4.2) 1 × 1 = 1
2 2 2
4.3) (-3)4 × 35 = 39
4.4) (0.2)4 × (0.2)-3 × (0.2)2 = (0.2)3
4.5) 5-3 52 = 5-5 =
1
55
5. จงเขียนจํานวนต่อไปนีในรู ปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์
. ) 12,000,000 = 1.2 × 107
5.2) 450 × 108 = 4.5 × 1010
5.3) 0.00045 = 4.5 × 10-4
5.4) 0.25 × 10-3 = 2.5 × 10-4
5.5) 6,275 × 105 = 6.275 × 108
6. จํานวนทีกําหนดให้แทนจํานวนใด
. ) 4 × 10 = 4,000
6.2) 1.6 × 10-7 = 0.00000016
6
6.3) 7.005 × 10 = 7,005,000
6.4) 0.00027 × 1010 = 2,700,000
6.5) 60 × 103 × 2 × 10-4 = 12
7. ประเทศอินโดนีเซียผลิตข้าวได้ปีละประมาณ × 10 ตัน ประเทศไทยผลิตข้าวได้ปีละประมาณ
20.26 × 10 ตัน อินโดนีเซียผลิตข้าวได้มากกว่าไทยปี ละเท่าไร (ตอบในรู ปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์)
วิธีทาํ อินโดนีเซียผลิตได้ 355 × 10 ตัน
ไทยผลิตได้ 20.26 × 10 ตัน
189
อินโดนีเซียผลิตข้าวได้มากกว่าไทยปี ละ ( 5 × 10 ) – (20.26 × 10 )
(355 × 10 ) – (20.26 × 10 ) = ( .5 × 106) – (20.26 × 10 )
= ( - 20.26) × 10
= 15.24 × 10
= 1.52 × 107
เฉลย กิจกรรมบทที
แบบฝึ กหัดที
. จงเขียนอัตราส่ วนจากข้อความต่อไปนี
. เซนติเมตร : กิโลเมตร
. กิโลเมตร : 3 ชัวโมง
. : ,
. ครัง : นาที
แบบฝึ กหัดที
. ถ้าอัตราการแลกเปลียนเงินดอลลาร์ต่อเงินหนึงบาทเท่ากับ : 43 จงเติมราคาเงินในตาราง
เงินดอลลาร์ (US)
190
แบบฝึ กหัดที
. พ่อแบ่งเงินให้ลกู สามคนโดยกําหนด
อัตราส่วนของจํานวนเงินลูกคนโต ต่อคนกลาง ต่อคนเล็กเป็ น 5 : 3 : 2 จงหาอัตราส่วนต่อไปนี
1.1 5 : 2
1.2 2 : 3
1.3 3 : 10
1.4 2 : 10
191
แบบฝึ กหัดที
. จงเขียนสัดส่วนจากอัตราส่วนต่อไปนี
3 6
.
4 8
A 9
.
7 27
12 B
.
10 5
5 65
.
4 D
. จงหาค่าตัวแปรจากสัดส่วนทีกําหนดให้ต่อไปนี
A 12
.
3 15
12
วิธีทาํ A 3
15
192
= 2.4
3 21
2.2
B 28
28
วิธีทาํ B 3
21
=4
แบบฝึ กหัดที
. ขายมะละกอ ผล ราคา บาท ถ้าขาย มะละกอ ผล จะได้เงินเท่าไร
วิธีทํา ขายมะละกอ ผล ราคา บาท
ขายมะละกอ ผล ราคา x บาท
3 15
จะได้
50 x
15 50
x
3
x = 250
80,000
ดังนัน เงิน ส่วน เป็ นเงิน 20,000 บาท
4
สรุ ปได้ว่า ลูกคนโตได้รับเงินมรดก ส่วน เป็ นเงิน x 20,000 = 140,000 บาท
ลูกคนเล็กได้รับเงินมรดก ส่วน เป็ นเงิน x 20,000 = 60,000 บาท
แบบฝึ กหัดที
.
.
. %
. %
.
. .
แบบฝึ กหัดที
. คน
. . , คน
. คน
. วิธีทาํ สินค้าทุกชนิดลดราคา %
คุณแม่ซือเครื องแก้วแล้วได้ส่วนลด บาท
100
ดังนันร้านค้าปิ ดราคา 250 , บาท
20
4. วิธีทาํ สนามหญ้าแห่งหนึงกว้าง เซนติเมตร ยาว เซนติเมตร
มาตราส่วน เซนติเมตร : เมตร
ดังนันสนามหญ้าจริ งกว้าง เมตร ยาว เมตร
หาพืนทีสีเหลียมผืนผ้า จะได้ × 400 = 100,000 ตารางเมตร
. วิธีทาํ นกน้อยได้อตั ราดอกเบียร้อยละ ต่อปี แต่ถกู หักภาษีร้อยละ คิดเป็ น 15
3 0.45
100
เท่ากับดอกเบียทีถูกหักภาษีแล้ว – . = .
นกน้อยฝากเงิน , บาท สิ นปี จะได้ดอกเบียทีถูกหักภาษี ร้อยละ .
194
2.55
คิดเป็ น 10,000 255 บาท
100
รวมมีเงินบัญชี , + = 10,225 บาทในต้นปี ทีสอง
สิ นปี ทีสองจะได้ดอกเบียร้อยละ . ของเงินฝากปี ทีสอง = 2.55
10,255 261.50 บาท
100
ครบสองปี จะมีเงินในบัญชี , + . = , . บาท
เฉลย กิจกรรมบทที
แบบฝึ กหัดที
1. จงเติมหน่วยความยาวหรื อหน่วยพืนทีให้เหมาะสมกับข้อความต่อไปนี
1) มิลลิเมตร
) กิโลเมตร
) เมตร, เมตร, กิโลเมตร
) ตารางเมตร
) เมตร
2. จงเติมคําลงในช่องว่างทีกําหนดให้ถกู ต้อง
1) 170,000
) ไร่ งาน ตารางวา
)
)
) , , และ , ,
3. จงตอบคําถามต่อไปนี พร้อมแสดงวิธีทาํ
195
1) สวนแห่งหนึงมีพนที
ื 4,800 ตารางเมตร คิดเป็ นพืนทีกีไร่
วิธีทํา พืนที , ตารางเมตร เท่ากับ ไร่
4,800
พืนที , ตารางเมตร เท่ากับ 3 ไร่
1,600
) ลุงแดงแบ่งทีดินให้ลกู ชาย 3 คน โดยแบ่งให้ลกู ชายคนโตได้ 2 ไร่ ลูกชายคนกลาง 850
ตารางวา และลูกชายคนเล็กได้ 3,000 ตารางเมตร อยากทราบว่าใครได้ส่วนแบ่งทีดินมากทีสุด
วิธีทํา คนโตได้ ไร่ คิดเป็ น x 1,600 = 3,200 ตารางเมตร
คนทีสองได้ ตารางวา คิดเป็ น x = 3,400 ตารางเมตร
คนเล็กได้ , ตารางเมตร
แสดงว่า คนกลางได้มากทีสุด
3) สมเกียรติซือโลหะแผ่นชนิดหนึง 3 ตารางเมตร ราคา 456 บาท สมนึกซือโลหะแผ่นชนิด
เดียวกัน 4 ตารางหลา ราคา 567 บาท อยากทราบว่าใครซือได้ถกู กว่ากัน ตารางเมตรละกีบาท (กําหนด 1
หลา = 90 เซนติเมตร)
วิธีทํา หลา = เซนติเมตร
ตารางหลา = x 90 ตารางเซนติเมตร
ตารางหลา = x 90 x 4 ตารางเซนติเมตร
x ตารางเซนติเมตร = ตารางเมตร
90 x90 x 4
ดังนัน x 90 x 4 ตารางเซนติเมตร = 3.24 ตารางเมตร
100 x100
567
ดังนัน สมนึกซือโลหะแผ่น ราคา บาท คิดเป็ นราคาตารางเมตรละ 175 บาท
3.24
456
สมเกียรติซือโลหะแผ่นราคา บาท คิดเป็ นราคาตารางเมตรละ 152 บาท
3
ดังนัน สมเกียรติซือได้ในราคาทีถูกกว่า
แบบฝึ กหัดที 2
.จงเติมหน่วยการวัดทีเหมาะสมลงในช่องว่าง
. เมตร
. มิลลิเมตร
. กิโลเมตร
. กิโลกรัม
. วินาที
196
. องศาเซลเซียส
. ไร่ – งาน – ตารางวา
. ลูกบาศก์เซนติเมตร หรื อ ลิตร
. เซนติเมตร
. กิโลกรัม
แบบฝึ กหัดที 3
1. จงหาพืนทีส่วนทีแรเงาของรู ปต่อไปนี ตัวเลขทีเขียนกํากับด้านไว้ถือเป็ นความยาวของด้าน และมี
หน่วยเป็ นหน่วยความยาว
1 1
. 20 15 150 ตารางหน่วย . 10 5 25 ตารางหน่วย
2 2
แบบฝึ กหัดที 4
1.1 พืนทีรู ปสีเหลียมจัตุรัส = ด้าน x ด้าน = 8 x 8 = 64 ตารางเซนติเมตร
1.2 พืนทีรู ปสีเหลียมผืนผ้า = กว้าง x ยาว = 4 x 7 = 28 ตารางเซนติเมตร
1.3 พืนทีสีเหลียมด้านขนาน = ฐาน x สูง = x = ตารางเมตร
1 1
1.4 พืนทีสีเหลียมคางหมู = x ผลบวกด้านคู่ขนาน x สูง = x5 11x 6 48 ตารางเมตร
2 2
1.5 พืนทีรู ปสีเหลียมขนมเปี ยกปูน = 1 x ผลคูณของเส้นทแยงมุม = 1 x12 x8 48 ตารางเมตร
2 2
1.6 พืนทีรู ปสีเหลียมรู ปว่าว = 1 x ผลคูณของเส้นทแยงมุม = 1 x8 x10 40 ตารางเมตร
2 2
197
1
วิธีทาํ พืนทีสามเหลียมรู ปเล็ก = x 4 x 4 8 ตารางเมตร
2
1
พืนทีสามเหลียมรู ปใหญ่ = x8 x6 24 ตารางเมตร
2
จะเห็นว่าพืนทีส่วนทีแรเงามีพนที
ื เท่ากับ – = 16 ตารางเมตร
แบบฝึ กหัดที 5
1. จงหาพืนทีส่ วนทีแรเงา ตัวเลขทีเขียนกํากับด้ านมีหน่ วยเป็ นเซนติเมตร และจุด O, Q แทนจุด
ศูนย์กลางของวงกลม
.
198
1
วิธีทาํ พืนทีสามเหลียม รู ป = 8 3 12
2
1 1
พืนทีสีเหลียม รู ป (รู ปสีเหลียมคางหมู) = 10 8 10 8 40
2 2
ดังนัน พืนทีทีแรเงาทังหมด = + = ตารางหน่วย
22
วิธีทํา พืนทีวงกลม = x3.5 x3.5
7
พืนทีทีแรเงาทังหมด = . ตารางหน่วย
.
199
22
วิธีทํา พืนทีวงกลม = x7 x 7 154
7
พืนทีสีเหลียม = x 14 = 196
พืนทีทีแรเงาทังหมด = – = 42 ตารางหน่วย
1.4
1 1
2.5
6 2
2.5
1.5
200
แบบฝึ กหัดที 6
1. แผนผังบ้านหลังหนึงมีลกั ษณะและขนาดดังรู ป ถ้าบริ เวณทีแรเงาต้องการเทปูนซีเมนต์ โดยเสีย
ค่าใช้จ่ายตารางเมตรละ บาท จะต้องเสียค่าใช้จ่ายทังหมดกีบาท กําหนดความยาวมีหน่วยเป็ น
เซนติเมตร
แบบฝึ กหัดที 7
. จงคาดคะเนเวลาหรื อช่วงเวลาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไปนี
1.1 5.00 นาฬิกา
. . นาฬิกา
. หนาว , ธันวาคม
. จงวงกลมล้อมรอบข้อทีเหมาะสมทีสุด สําหรับใช้หน่วยในการคาดคะเน ระยะทาง นําหนัก หรื อ
201
ขนาดของสิ งต่อไปนี
. ข
. ข
.
2.3.1 ค
.. ก
.. ข
เฉลย กิจกรรมบทที
แบบฝึ กหัดที
. จงหาพืนทีผิวและปริ มาตรของปริ ซึมต่อไปนี
แบบฝึ กหัดที
1. จงหาปริ มาตรและพืนทีผิวทังหมดของพีระมิดทีสูง เซนติเมตร ฐานเป็ นรู ปสีเหลียมจัตุรัส ยาวด้านละ
เซนติเมตร
วิธีทาํ หาสูงเอียง จากสูตร c2 a2 b2
c 2 82 6 2
203
C = 10
พืนทีฐานสีเหลียมจัตุรัส = 16 x 16 = 256 ตารางเซนติเมตร
1
ปริ มาตรพีระมิด = x พืนทีฐาน x สูง
3
1
= x 256 x 6 = 512 ตารางเซนติเมตร
3
1
พืนทีผิวเอียง = x 4 x16 x10 = ตารางเซนติเมตร
2
ดังนันพืนทีผิวทังหมด = 256 + 320 = ตารางเซนติเมตร
แบบฝึ กหัดที
1. จงหาปริ มาตร และพืนทีผิวทังหมดของกรวยกลมทีสูง เซนติเมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลาง
เซนติเมตร
1 2
วิธีทาํ ปริ มาตร = ¶r h
3
1 22
= x x7 x 7 x 24
3 7
= 1,232 ลูกบาศก์เซนติเมตร
สูงเอียง = A2 242 7 2 = 625
A = 25
204
พืนทีฐาน = ¶r2
22
= x7 x 7 154 ตารางเซนติเมตร
7
พืนทีผิวเอียง = ¶rl
22
= x 7 x 25 550 ตารางเซนติเมตร
7
ดังนันพืนทีผิวทังหมด = 154 + 550 = 704 ตารางเซนติเมตร
พืนทีผิวเอียง = ¶rl
= ¶ (4)(5) = 20 ¶ ตารางเซนติเมตร
พืนทีฐาน = ¶r2
= ¶ 42 = 16 ¶ ตารางเซนติเมตร
พืนทีผิวทังหมด = 20 ¶ + 16¶ = 36¶ ตารางเซนติเมตร
แบบฝึ กหัดที
1. จงหาปริ มาตรและพืนทีผิวของทรงกลมซึงมีเส้นผ่านศูนย์กลาง เซนติเมตร
4 3
วิธีทาํ ปริ มาตรทรงกลม = ¶r
3
4 22
= 777 = 1,437.3 ลูกบาศก์เซนติเมตร
3 7
พืนทีผิวทรงกลม = 4¶ r 2
22
= 4x x7 x7 = ตารางเซนติเมตร
7
205
. ทรงกลมมีพนที
ื ผิว ตารางนิ ว จงหาปริ มาตรของทรงกลม
วิธีทาํ พืนทีผิวทรงกลม = 4¶ r 2
22
616 = 4 r2
7
r2 = 616 1 7
4 22
r = 7 เซนติเมตร
4 3
ปริ มาตรทรงกลม = ¶r
3
= 4 22
777
3 7
= 1,437.33 ลูกบาศก์เซนติเมตร
= 1,437.33 ลูกบาศก์เซนติเมตร
ดังนันปริ มาตรเนื อโลหะ = 38,808 - 1,437.33 = 37,370.67
เฉลย กิจกรรมบทที
แบบฝึ กหัดที
1. จงเขียนคู่อนั ดับจากแผนภาพทีกําหนดให้ต่อไปนี
. ( ,- ), ( ,- ), ( ,- ), ( ,- )
. (1,c), (2,b), (3,a) , (4,d)
1.3 ( , ), ( ,- ), ( ,- ), ( ,- ),( ,- )
. จงหาค่า x และ y จากเงือนไขทีกําหนดให้ในแต่ละข้อต่อไปนี
. x=4 , y=3
2.2 x=y , y=2
2.3 x=6 , y=0
2.4 x=4 , y=4
แบบฝึ กหัดที
1.1 A = ( 1,3) B= (-1,2) C= (-4, -2) D=(1,-1)
1.2 A = ( 0,2) B= (-3,1) C= (4, 0) D=(3,-4)
207
2.1
208
2.2
แบบฝึ กหัดที
กราฟข้างล่างแสดงการเดินทางของอนุวฒั น์และอนุพนั ธ์
3.1 2 ชัวโมง
3.2 ชัวโมง
3.3 กิโลเมตร
3.4 ชัวโมง
3.5 กิโลเมตร
209
เฉลย กิจกรรมบทที
แบบฝึ กหัดที
จงบอกชนิดของรู ปเรขาคณิ ตสามมิติทีมีรูปคลีดังต่อไปนี
แบบฝึ กหัดที
211
แบบฝึ กหัดที
จงจับคู่ภาพด้านหน้า ด้านข้าง และด้านบน ในแต่ละข้อต่อไปนี กับรู ปเรขาคณิ ตสามมิติทีกําหนดให้
ทางขวามือ โดยเลือกตัวอักษรทีกํากับไว้ในรู ปเรขาคณิ ตสามมิติ เขียนเติมลงในช่องว่างบนขวาของแต่ละ
ข้อ
ก
212
เครือง ในวันหนึง
ผู้จดั การถูกสัมภาษณ์ถึงจํานวนเปอร์ เซ็นต์ของเวลาทํางานทีใช้ ใน
การประชุม
เครืองสําอางโดยเฉพาะสีของสีทาปาก ซึงแต่ละบริษัทใน
บริษัท ได้ ระบุว่ามียอดขายมากทีสุ ด
แบบฝึ กหัดที
1. แผนภูมิรูปวงกลมแสดงรายได้ของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึงโดยเฉลียต่อวัน จําแนกตามแผนกต่างๆ
214
. น้อยกว่า . %
. รายได้จากแผนกเครื องสําอางน้อยทีสุด คิดเป็ น . % ของรายได้จากแผนกทีรายได้มากทีสุด
. . %
1.4 แผนกเครื องเขียนแบบเรี ยน คิดเป็ น 20.11% ของรายได้ทงหมด
ั
. จากการสอบถามงบประมาณทีแต่ละกลุ่มสาระการเรี ยนรู้ได้มาจากการจัดสรรงบประมาณของทาง
โรงเรี ยน เป็ นดังนี
กลุ่มสาระการเรียนรู้ งบประมาณ จํานวนเปอร์ เซ็นต์ ขนาดของมุมทีจุดศูนย์กลาง
(บาท) ของรูปวงกลม (องศา)
คณิ ตศาสตร์ , 35,000
100 10.29
35,000
360 37.06
340,000 340,000
วิทยาศาสตร์ , . .
ภาษาต่างประเทศ , . .
ภาษาไทย , . .
ศิลปะ , . .
215
การงานอาชีพและเทคโนโลยี , . .
สุขศึกษาและพลศึกษา , . .
สังคมศึกษา ศาสนา และ , . .
วัฒนธรรม
แบบฝึ กหัดที
1. จากข้อมูล 2, 6,1, 5, 13, 6, 16 จงหาค่าเฉลียเลขคณิต ฐานนิยม และมัธยฐาน
ค่าเฉลียเลขคณิต = 7
มัธยฐาน = 4
ฐานนิยม = 6
2. จากข้อมูล 24, 16,18, 36, 7, 28, 6, 36, 12 จงหาค่าเฉลียเลขคณิ ต ฐานนิยม และมัธยฐาน
ค่าเฉลียเลขคณิต = 20.33
มัธยฐาน = 18
ฐานนิยม = 36
3. จากข้อมูล 10.1, 13.8, 15.6, 4.5, 18.6, 8.4 จงหาค่าเฉลียเลขคณิ ต ฐานนิยม และมัธยฐาน
ค่าเฉลียเลขคณิต = 11.83
มัธยฐาน = 11.95
ฐานนิยม = -
218
เฉลย กิจกรรมบทที
แบบฝึ กหัดที
1. ตอบ กล่องทีสาม เพราะในกล่องทีสามมีลกู แก้วสีแดงมากกว่าสีนาเงิํ น ดังนันโอกาสทีจะจับ
ได้ลกู แก้วสีแดงย่อมมีมากกว่า
. ตอบ กล่งทีสอง เพราะในกล่องทีสองเปป็ นลูกแก้วสีนาเงิ
ํ นทังหมด
. ตอบ กล่องทีสอง เพราะไม่มีลกู แก้วสีแดงเลย
. ตอบ กล่องทีหนึง เพราะในกล่องทีหนึง มีลกู แก้วสีแดงและลูกแก้วสีนาเงิ
ํ นเท่ากัน
แบบฝึ กหัดที
. ให้ผเู้ รี ยนพิจารณาการทดลองสุ่มต่อไปนี ว่าผลจากการทดลองสุ่มอาจเป็ นอย่างไรบ้าง
. อาจได้ หัว หรื อ ก้อย
. อาจได้หวั ทัง เหรี ยญ หรื อได้ หัว และ ก้อย หรื ออาจได้กอ้ ยทังสองเหรี ยญ
1.3 อาจได้ลกู ปิ งปองสีเหลืองสองลูก หรื อสีเหลือง ลูกและสีแดง ลูก
. จงเขียนผลทีอาจจะเกิดขึนได้ทงหมดจากการหมุ
ั นแป้ นวงกลมทีมีหมายเลข และ แล้วมาโยน
เหรี ยญบาท อัน
ตอบ H,1 H,2 T,1 T, 2
. จงเขียนผลทังหมดทีอาจจะเกิดขึนได้จากการหยิบสลาก ใบ จากสลากทีเขียนหมายเลขตังแต่
ถึง ไว้
ตอบ , , , , , , , , , ,
แบบฝึ กหัดที
. ทอดลูกเต๋ า ลูก ครัง
1.1 1, 2, 3, 4, 5,6
1.2 1, 2, 3, 4, 5
1.3 3, 6
219
แบบฝึ กหัดที
. ทอดลูกเต๋ า ลูก ครัง
. ตอบ เหตุการณ์ทีทอดลูกเต๋ า แล้วออกแต้มจํานวนคู่ มีผลลัพธ์คือ , และ จะได้จาํ นวน
ผลลัพธ์ของเหตุการณ์เป็ น
3 1
ดังนัน ความน่าจะเป็ นของเหตุการณ์ ทอดลูกเต๋ า ลูก ครัง แล้วแต้มออกเป็ นจํานวนคู่ = หรื อ
6 2
. ตอบ เหตุการณ์ทีทอดลูกเต๋ า และออกแต้มเป็ นจํานวนเฉพาะมีผลลัพธ์คือ , และ จะได้
ผลลัพธ์ของเหตุการณ์เป็ น
3
ดังนัน ความน่าจะเป็ นของเหตุการณ์ ทอดลูกเต๋ า ลูก ครัง แล้วแต้มออกเป็ นจํานวนเฉพาะ = =
6
1
2
2. ให้ R1, R2, R3 และ R แทนลูกกวาดสีแดง เม็ด และ B1 และ B แทนลูกกวาดสีดาํ เม็ด
R1 R2 R2 R3
R3 R4
R4 B1
B1
B2
B2
R3 R4 R4 B1
B1 B2
B2
B1 B2
จํานวนผลลัพธ์ทงหมดเป็
ั น
. ตอบ เหตุการณ์ทีหยิบได้ลกู กวาดสีแดง เม็ด และ สีดาํ เม็ด คือ (R1, B1), (R1, B2), (R2,
B1), (R2, B2), (R3, B1), (R3, B2), (R4, B1) และ (R4, B2)
จะได้ จํานวนผลลัพธ์ทงหมดเป็
ั น
8
ดังนัน ความน่าจะเป็ นของเหตุการณ์ทีหยิบได้ลกู กวาดสีแดง เม็ด และสีดาํ เม็ด เท่ากับ
15
2.2 ตอบ เหตุการณ์ทีหยิบได้ลกู กวาดสีแดงทังสองเม็ด คือ (R1, R2), (R1, R3), ( R1, R4), (R2, R3),
(R2, R4), (R3, R4)
จะได้ จํานวนผลลัพธ์ทงหมดเป็
ั น
6 2
ดังนัน ความน่าจะเป็ นของเหตุการณ์ทีหยิบได้ลกู กวาดสีแดงทังสอง เท่ากับ หรื อ
15 5
H HHH
H T
H HHT
T H HTH
T HTT
H THH
H
T T THT
T H TTH
T TTT
จะได้ จํานวนผลลัพธ์ทงหมดของเหตุ
ั การณ์เป็ น
. ตอบ เหตุการณ์ทีเหรี ยญออกก้อย อย่างน้อง เหรี ยญ คือ HHT, HTH, HTT, THH, THT,
TTH, TTT
222
จะได้ จํานวนผลลัพธ์ทงหมดของเหตุ
ั การณ์เป็ น
7
ดังนัน ความน่าจะเป็ นของเหตุการณ์ทีเหรี ยญออกก้อยอย่างน้อย เหรี ยญ เท่ากับ
8
. ตอบ เหตุการณ์ทีเหรี ยญออกหัวและก้อย จํานวนเท่ากันคือ นันคือ ไม่มีผลลัพธ์ของ
เหตุการณ์ทีเหรี ยญออกหัวและก้อยจํานวนเท่ากัน
7
ดังนัน ความน่าจะเป็ นของเหตุการณ์ทีเหรี ยญออกหัวและก้อยจํานวนเท่ากัน เท่ากับ =0
8
แบบฝึ กหัดที
อันดับของบุตรเขียนเป็ นแผนภาพต้นไม้ได้ดงั นี
n(E1 )
P(E1) =
n (S)
4
จะได้ = = 0.5
8
เฉลย กิจกรรมบทที
แบบฝึ กหัดที
. บัญชีรับจ่ายประจําวันของนายสมพร ซึงประกอบอาชีพเป็ นผูข้ ายกาแฟในเวลา วัน
จํานวนเงิน จํานวนเงิน
วัน เดือน ปี รายการรับ วัน เดือน ปี รายการจ่าย
บาท สต. บาท สต.
ต.ค. - ยอดเงินคงเหลือ , - ต.ค. - ซือวัตถุดิบ 2,500 -
ยกมาจากเดือน - ค่าแก๊สหุงต้ม 350 -
กันยายน - ค่าอาหาร 270 -
- ได้รับเงินจาก , -
การขายกาแฟ
ต.ค. - ได้รับเงินจาก , - ต.ค. - ค่านํา ค่าไฟฟ้ า 840 -
การขายกาแฟ - ค่าอาหาร 320 -
- ค่าถุงพลาสติก 200 -
- ค่าถุงกระดาษ 100 -
ต.ค. - ได้รับเงินจาก , - ต.ค. - จ่ายค่าโทรศัพท์ 430 -
การขายกาแฟ - ค่าอาหาร 290 -
- ค่าหนังสือเรี ยน 950 -
- ค่านําดืม 160 -
ต.ค. - ได้รับเงินจาก , - ต.ค. - จ่ายค่าเสื อผ้า 1,250 -
การขายกาแฟ - ค่าอาหาร 340 -
- ซือวัตถุดิบอืนๆ 2,000 -
ต.ค. - ได้รับเงินจาก , - ต.ค. - ค่าอาหาร 250 -
การขายกาแฟ - ค่านําดืม 120 -
- ค่าหนังสือพิมพ์ 480 -
225
500,000
ได้รับดอกเบีย 0.25 = , บาท
50
10
. วิธีทาํ ป้ ายมีความกว้าง นิว = ฟุต
12
227
21
ยาว นิ ว = ฟุต
12
10 21
พืนทีป้ ายทังหมด = 3 = 4.375 ตารางฟุต
12 12
เสียค่าใช้จ่ายทังหมด = . = . บาท
228
229
230
231
คณะผู้จดั ทํา
ทีปรึกษา
นายสุรพงษ์ จําจด เลขาธิการ กศน.
นายกิตติศกั ดิ รัตนฉายา รองเลขาธิการ กศน.
นายประเสริ ฐ หอมดี รองเลขาธิการ กศน.
คณะผู้เขียนสรุ ปเนือหา
นายอร่ าม คุม้ ทรัพย์ ข้าราชการบํานาญ
นางสาววรวรรณ เบ็ญจนิรัตน์ ข้าราชการบํานาญ
นางสาวอันน์เกตุ พงศ์เพ็ชร์ วิทยาลัยนาฏศิลป์
นายพิชาญ พรหมสมบัติ วิทยาลัยนาฏศิลป์
นางสาวพจน์วรรณ ชัยประดิษฐ์ วิทยาลัยนาฏศิลป์
นางสาวขจี หวานนุรักษ์ กศน.เขตพญาไท
คณะทํางาน
นายคมกฤช จันทร์ขจร ผูอ้ าํ นวยการสถาบันการศึกษาทางไกล
นางกิตติยา รัศมีพงศ์ รองผูอ้ าํ นวยการสถาบันการศึกษาทางไกล
นางพิชญา นัยนิตย์ สถาบันการศึกษาทางไกล
นางสาวสวรรค์ พลฉกรรณ์ สถาบันการศึกษาทางไกล
นางสาวประภารัช ทิพย์สงเคราะห์ สถาบันการศึกษาทางไกล
นายเกรี ยงไกร มหาโชคดิลก สถาบันการศึกษาทางไกล
ผู้พมิ พ์ต้นฉบับ
นางสาวประภารัช ทิพย์สงเคราะห์ สถาบันการศึกษาทางไกล
นายเกรี ยงไกร มหาโชคดิลก สถาบันการศึกษาทางไกล
ผู้ออกแบบปก
นายศุภโชค ศรี รัตนศิลป์ กลุ่มพัฒนาการศึกษานอกระบบและ
การศึกษาตามอัธยาศัย
232