Professional Documents
Culture Documents
06 MagneticField SII2024
06 MagneticField SII2024
(Magnetic fields)
ใช้แท่งแม่เหล็กในการรักษา?
แม่เหล็ก (Magnet)
สนามแม่เหล็กโลกวัดทีส่ ถานีวดั
สนามแม่เหล็กโลกแห่งเดียวของ
ประเทศไทยทีม่ หาวิทยาลัยมหิดล
วิทยาเขตกาญจนบุรี อ.ไทรโยค ได้
50000 nT
ประมาณ 42,000 nT
สนามแม่เหล็กโลก (Earth’s Magnetic field)
ขัว้ เหนือ
ภูมศิ าสตร์
เข็มทิศชีไ้ ปทิศเหนือ
(ภูมศิ าสตร์) เสมอ
แรงแม่เหล็กทีก่ ระทาต่อประจุบวกจะมี
ทิศตรงข้ามกับทีก่ ระทาต่อประจุลบ
แรงแม่เหล็กที่กระทาต่อประจุที่
เคลื่อนที่
ถ้าประจุเป็ นลบ
ทิศทีไ่ ด้จะกลับทิศกับทีไ่ ด้จากการทา
cross product ของ v และ B
แรงแม่เหล็กที่กระทาต่อประจุที่เคลื่อนที่
นิ้วโป้ งชีท้ ศิ ของ v และนิ้วทัง้ สีค่ อื B
ฝ่ ามือชีท้ ศิ แรง
ขนาดของแรง
คือมุมระหว่าง v และ B
สีน่ ้วิ ชีไ้ ปในทิศของ v
ฝ่ ามือคือ B
ทิศของแรง หาจาก วนนิ้วทัง้ สีไ่ ปทาง B
กฏมือขวา นิ้วโป้ งชีท้ ศิ แรง ประจุลบจะมีทศิ ของแรงตรงกันข้ามกับในรูป
ข้อแตกต่างระหว่างแรงไฟฟ้ าและแรงแม่เหล็ก
แรงไฟฟ้ า 𝐹റ𝑞 = q𝐸 แรงแม่เหล็ก
• แรงไฟฟ้ ากระทาตามทิศของสนามไฟฟ้ า • แรงแม่เหล็กกระทาในทิศทีต่ งั ้ ฉากกับ
• แรงไฟฟ้ ากระทากับประจุไม่วา่ มันจะหยุด สนามแม่เหล็ก
นิ่งหรือเคลื่อนที่ • แรงแม่เหล็กกระทาต่อประจุเฉพาะเมือ่ ประจุ
• แรงไฟฟ้ าทางานเพราะทาให้ประจุมรี ะยะ เคลื่อนทีเ่ ท่านัน้
กระจัด • แรงแม่เหล็กไม่ทางานเพราะแรงกับระยะกระ
จัดตัง้ ฉากกันเสมอ นันคื
่ อ แรงแม่เหล็กสามารถ
ทาให้ v เปลีย่ นทิศได้อย่างเดียว แต่ไม่สามารถ
เปลีย่ นขนาด (อัตราเร็ว) และพลังงานจลน์ได้
ตัวอย่าง
สัญลักษณ์ของ B
สนามแม่เหล็ก สนามแม่เหล็ก
พุง่ ออก พุง่ เข้า
การเคลื่อนที่ของประจุในสนามแม่เหล็กที่สมา่ เสมอ
ประจุบวก q เคลื่อนทีต่ งั ้ ฉากในสนามแม่เหล็กที่
สม่าเสมอทีม่ ที ศิ พุง่ เข้า แรงแม่เหล็กกระทาในทิศทีต่ งั ้
ฉากกับ v อนุภาคจึงเคลื่อนทีเ่ ป็ นวงกลมรัศมี r
โดยสนามแม่เหล็กออกแรงกระทาต่ออนุภาคด้วย
ขนาดคงที่ qvB
รัศมีของเส้นทางการเคลื่อนที่
แปรผันตรงกับโมเมนตัม mv
และแปรผกผันกับ q และ B
ถ้าเป็ นประจุลบเคลื่อนทีอ่ ย่างไร?
การเคลื่อนที่ของประจุในสนามแม่เหล็กที่สมา่ เสมอ
4.7E+6 m/s
ตัวอย่าง
ต้องการแยกไอออนตามอัตราส่วนมวลต่อประจุ
ทาโดย ให้ประจุผา่ นเข้าไปใน velocity selector แล้วค่อยเข้าไป
ในพืน้ ทีส่ นามแม่เหล็กสม่าเสมอทีม่ ที ศิ เดียวกับสนามแม่เหล็กใน
velocity selector ทาให้มนั เคลือ่ นทีเ่ ป็ นวงกลม ประจุบวกจะ
เคลือ่ นทีไ่ ปทางซ้าย ประจุลบไปทางขวา
แรงแม่เหล็กที่กระทา
ต่อลวดตัวนาที่มี
กระแสไฟฟ้ าไหล
ถ้าเป็ นประจุตวั เดียว
ขนาดของแรง ขนาดของแรง
𝐹𝐵 = 𝐼𝐿𝐵𝑠𝑖𝑛𝜃 (I)
คือมุมระหว่าง v และ B
คือมุมระหว่าง L และ B
(แรงแม่เหล็กทิศพุง่ ออกจากจอ)
แรงแม่เหล็กทัง้ หมดทีก่ ระทาต่อลวดจาก a ไป b
แรงแม่เหล็กที่กระทาต่อลวดตัวนาที่มีกระแสไฟฟ้ าไหล
(แรงแม่เหล็กทิศพุง่ ออกจากจอ)
แรงแม่เหล็กทัง้ หมดทีก่ ระทาต่อลวดจาก a ไป b
ตัวอย่าง
48.9 องศา
แบบฝึ กหัด
13.2E-19 N
แบบฝึ กหัด
20.9E-3 T;
ทิศ -y
แบบฝึ กหัด
4.27 cm;
1.8E-8 s
v = 2K/qBR
m = (qBR)^2 /2K
แบบฝึ กหัด
บริเวณทางขวามีสนามแม่เหล็กสม่าเสมอ 1 mT
แต่ทางซ้ายมีสนามแม่เหล็กเป็ นศูนย์ ดังรูป
อิเล็กตรอนเดินทางเข้ามาตัง้ ฉากกับขอบของ
สนามแม่เหล็ก (สมมติขอบไม่มคี วามหนา) ผ่าน
เข้าไปในสนามแม่เหล็ก ก) หาเวลาทีท่ าให้
อิเล็กตรอนเคลือ่ นทีอ่ อกจากสนามแม่เหล็ก
(เคลือ่ นทีเ่ ป็ นครึง่ วงกลม) ข) สมมติให้ความลึก
มากสุดทีอ่ เิ ล็กตรอนเข้าไปในสนามได้คอื 2 cm
1.79E-8 s; หาพลังงานจลน์ของอิเล็กตรอน
5.62E-18J (35.1eV)
แบบฝึ กหัด
ไอออนมีประจุตวั หนึ่งมีมวล m เร่ง
จากหยุดนิ่งภายในพืน้ ทีค่ วามต่าง
ศักย์ V มันจะถูกแรงแม่เหล็กทาให้
มันเคลือ่ นทีค่ รึง่ วงกลมรัศมี R โดย
สนามแม่เหล็กมีตงั ้ ฉากกับทิศ
ความเร็ว ต่อมา ไอออนทีม่ ปี ระจุ
8 เพิม่ ขึน้ สองเท่า มีมวล m’ เร่งด้วย
ความต่างศักย์เท่ากัน ผ่านไปใน
สนามแม่เหล็กเดียวกัน วิง่ เป็ นครึง่
วงกลมเช่นกันแต่มรี ศั มี R’ = 2R หา
อัตราส่วนของมวลของไอออนทัง้ สอง
แบบฝึ กหัด
ตัวนามีกระแส I = 15 A ไหลตาม
แกน +x และตัง้ ฉากกับ
สนามแม่เหล็กทีส่ ม่าเสมอ แรง
แม่เหล็กต่อความยาว 0.12 N/m
กระทากับตัวนาในทิศ –y หา (ก)
ขนาด และ ข) ทิศของสนามแม่เหล็ก
ในบริเวณทีก่ ระแสไฟฟ้ าไหลผ่าน
8E-3 T; ทิศ +z
แบบฝึ กหัด
ลวดยาว 2.8 m มีกระแส 5A ไหลใน
บริเวณมีสนามแม่เหล็กทีม่ ขี นาด
0.39 T หา ขนาดของสนามแมเหล็ก
บนเส้นลวด สมมติให้มมุ ระหว่าง
สนามแม่เหล็กและกระแสไฟฟ้ าเป็ น
ก) 60 องศา ข) 90 องศา และ ค)
120 องศา
https://edition.cnn.com/t
ravel/article/southern-
lights-new- ภาควิชาฟิ สกิ ส์ คณะวิทยาศาสตร์
zealand/index.html
วีระชัย สิริพนั ธ์วราภรณ์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ประจุไฟฟ้ าที่เคลื่อนที่ก่อให้เกิดสนามแม่เหล็ก
จากการทดลองโดยบังเอิญ
ของ Oersted วางเข็มทิศ
ใกล้สายไฟ เขาพบว่าเมือ่ มี
กระแสไฟฟ้ าไหลผ่าน เข็ม
ทิศจะเบีย่ งเบนไปจากเดิม
ทิศของกระแสก็สง่ ผลต่อ
การหมุนของเข็มทิศ
ประจุไฟฟ้ าที่เคลื่อนที่ก่อให้เกิดสนามแม่เหล็ก
สนามไฟฟ้ า VS สนามแม่เหล็ก เนื่ องจากประจุ
สนามไฟฟ้ า สนามแม่เหล็ก
• ประจุจะสร้างสนามไฟฟ้ าขึน้ มารอบๆ • ประจุทเ่ี คลื่อนที่ หรือกระแสไฟฟ้ า สร้าง
ประจุ (ทัง้ หยุดนิ่งและเคลื่อนที)่ สนามแม่เหล็กขึน้ มารอบๆ (และสนามไฟฟ้ า
• เมือ่ ใดก็ตามทีม่ ปี ระจุแปลกปลอมหลุดเข้า ด้วย)
มาในสนามไฟฟ้ าของมัน จะมีแรงจาก • ประจุทห่ี ยุดนิ่งไม่สามารถสร้างสนามแม่เหล็กได้
สนามไฟฟ้ ากระทา • เมือ่ ใดก็ตามทีม่ ปี ระจุแปลกปลอมทีเ่ คลื่อนทีห่ ลุด
เข้ามาในสนามแม่เหล็กของมัน จะมีแรงจาก
𝐹റ𝑞 = q𝐸
สนามแม่เหล็กไปกระทา (ถ้าประจุแปลกปลอม
หยุดนิ่ง ก็ไม่เกิดแรง)
สังเกตว่าทิศ
Biot-Savart Law
ของ Biot กับ Savart ทาการทดลองวัดสนามแม่เหล็กทีเ่ กิดจากกระแสไฟฟ้ า พบว่า
สนามแม่เหล็ก
ทีจ่ ุด P และ P’ • เวกเตอร์ dB ตัง้ ฉากกับทัง้ ds (ทิศตามทิศกระแส) และ
ตรงกันข้ามกัน เวกเตอร์หนึ่งหน่วย r (ทิศพุง่ จาก ds ไปยัง P)
• ขนาด dB แปรผกผันกับ r2 และ แปรผันตรง กับ I และ
ขนาดของ ds และ sin (เมือ่ คือมุมระหว่าง ds และ r)
สนามแม่เหล็กลัพธ์ทจ่ี ุด P
สนามไฟฟ้ า VS สนามแม่เหล็ก เนื่ องจากประจุ
สนามไฟฟ้ า สนามแม่เหล็ก
• ขนาดเป็ น inverse square law • ขนาดเป็ น inverse square law
• มีทศิ radial • มีทศิ ตัง้ ฉากกับ ds และ r
• สนามไฟฟ้ าเกิดจากประจุ q เดีย่ วๆ ได้ • สนามแม่เหล็กเกิดจาก Ids แต่ Ids ไม่สามารถ
แยกเดีย่ วๆ ได้ ต้องอยูเ่ ป็ นส่วนหนึ่งของวงจรทีม่ ี
กระแสไหล
สนามแม่เหล็กที่เกิดจากลวดตัวนา
ตรงมีกระแส
ขนาดสนามแม่เหล็กแปรผันตามกระแส I และแปรผกผันกับระยะห่าง
ออกไปจากลวด a (คล้ายคลึงกับสนามไฟฟ้ าเนื่องจากลวดประจุยาว)
ทิศของสนามแม่เหล็กที่เกิดจากลวดตัวนาตรงมีกระแส
สนามแม่เหล็กทีเ่ กิดจากลวดตัวนายาวทีม่ ี หาทิศทางของสนามแม่เหล็กได้จาก กฏมือขวา
กระแสไฟฟ้ าไหลผ่าน จะแปรผันกับ ขนาด
ของกระแส และแปรผกผันกับระยะห่าง และ
มีความสมมาตรรอบๆ ลวดตัวนา วางตัวอยู่
ในระนาบทีต่ งั ้ ฉากกับลวดตัวนา และมี
ขนาด
ตัวอย่าง
ลวดตัวนาตรงยาวมีกระแสไหล 1 A ทีร่ ะยะ
เท่าไรจากแกนของลวดจะมีสนามแม่เหล็ก
ขนาด (ตามโจทย์)
4E-3 m
แบบฝึ กหัด
ลวดยาวตรงสองเส้นขนานกันตัง้ ฉากกับระนาบ
xy ดังรูป ทัง้ คูม่ กี ระแส I ไหลผ่าน แต่ทศิ
ตรงกันข้าม ก) หา B ทีต่ าแหน่ง P1, P2, P3
่ ไปของ B ทีต่ าแหน่งใดๆ บน
ข) หารูปทัวๆ
แกน x ทางขวาของลวดเส้นที่ 2
-I/8d j at P1;
I/d j at P2;
-I/3d j at P3;
-Id/(x^2 – d^2) j when x > d
สนามแม่เหล็กเนื่ องจากลวดตัวนาสองเส้นที่ขนานกัน
ลวด 1 และ 2 วางขนานกันห่างกัน
เป็ นระยะ a มีกระแส I1 และ I2 ใน
ทิศเดียวกัน
(I)
สนามแม่เหล็กเนื่ องจากลวดตัวนาสองเส้นที่ขนานกัน
ลวด 1 และ 2 วางขนานกันห่างกัน
เป็ นระยะ a มีกระแส I1 และ I2 ใน
ทิศสวนทางกัน
(I)
สนามแม่เหล็กเนื่ องจากลวดตัวนาสองเส้นที่ขนานกัน
ลวด 1 และ 2 วางขนานกันห่างกัน
เป็ นระยะ a มีกระแส I1 และ I2 ใน
ทิศเดียวกัน
= 1E4 N/m
แบบฝึ กหัด
ผลรวมของ B และ
ds รอบวง
แนะนา: พิจารณาทิศทางของกระแสด้วย
a=c=d>b=0
ได้ผลเช่นเดียวกับการใช้กฎ biot-savart
สาหรับสนามแม่เหล็กภายใน r < R
I’ คือกระแสภายในรัศมี r
ตัวอย่าง
กฏของเกาส์ในเรื่องแม่เหล็ก
เช่นเดียวกับ ฟลักซ์ไฟฟ้ า ฟลักซ์แม่เหล็กของสนามแม่เหล็ก B ทีผ่ า่ น
พืน้ ที่ dA (เวกเตอร์ตงั ้ ฉากกับพืน้ ผิวทีม่ ขี นาด dA) คือ
B = 0 B = BA
กฏของเกาส์ในเรื่องแม่เหล็ก
เส้นสนามไฟฟ้ า
เส้นแม่เหล็กไม่มเี ริม่ ต้นและ เริม่ ต้นทีป่ ระจุบวก
สิน้ สุด ต่อเนื่องกันตลอด สิน้ สุดทีป่ ระจุลบ
เข้าเท่ากับออก เข้าไม่เท่ากับออก
กฎของฟาราเดย์ของการเหนี่ ยวนา
จากการทดลองง่ายๆ นี้ จะเห็น
ได้วา่ เมือ่ สนามแม่เหล็กมีการ
เปลีย่ นแปลงจะทาให้มกี ารไหล
ของกระแสไฟฟ้ าในวงจร
กระแสทีไ่ หลนี้เรียกว่า กระแส
เหนี่ ยวนา (inducted
current) ทีเ่ กิดจาก emf
เหนี่ ยวนา (induced emf)
นาแม่เหล็กเข้าใกล้ ไม่เคลือ่ นทีแ่ ม่เหล็ก นาแม่เหล็กออก กระแส
กระแสไหลไปทิศหนึ่ง กระแสหยุดไหล ไหลไปอีกทิศหนึ่ง
กฎของฟาราเดย์ของการ
เหนี่ ยวนา
ฟาราเดย์ทาการทดลองคล้ายกัน
ฟาราเดย์พบว่า เมือ่ ปิ ดสวิทซ์ เข็มแอมมิเตอร์เอียงไป
ข้างหนึ่งแล้วกลับคืนสูศ่ นู ย์ทนั ที และเมื่อเปิ ดสวิทซ์
เข็มจะเอียงไปอีกข้างหนึ่งแล้วกลับคืนสูศ่ ูนย์ทนั ที
เช่นกัน
นันแสดงว่
่ า เมือ่ ไม่มกี ระแสไหล หรือมีกระแสไหล
สม่าเสมอ จะไม่มกี ระแสไหลผ่านแอมมิเตอร์ (เพราะ
สนามแม่เหล็กไม่มกี ารเปลีย่ นแปลง) แต่ในขณะที่
เปิ ดหรือปิ ดสวิทซ์ ให้กระแสไหลหรือหยุดไหล จะทาให้
เกิดการเปลีย่ นแปลงของสนามแม่เหล็ก การ
เปลีย่ นแปลงนี้ก่อให้เกิดกระแสเหนี่ยวนา
กฎของฟาราเดย์ของการเหนี่ ยวนา
ฟาราเดย์จงึ สรุปว่ากระแสไฟฟ้ าสามารถถูกเหนี่ยวนาให้เกิดขึน้ ได้เมือ่ ฟลักซ์แม่เหล็กทีผ่ า่ นวงจร
มีการเปลีย่ นแปลงตามเวลา
emf เหนี่ยวนา () ในวงจรแปรผัน
โดยตรงกับอัตราการเปลีย่ นแปลง เครือ่ งหมายลบจะถูกกล่าวถึงต่อไป
ของ ฟลักซ์แม่เหล็กผ่านวงจร
emf สามารถถูกเหนี่ยวนาได้หลายวิธี
-ขนาดของ B เปลีย่ นแปลงตามเวลา
-พืน้ ที่ A เปลีย่ นแปลงตามเวลา
-มุม (ระหว่าง B และพืน้ ทีท่ ต่ี งั ้ ฉาก) เปลีย่ นแปลงตามเวลา
-หรือทัง้ สามสิง่ รวมๆ กัน
ตัวอย่าง
ขดลวดวงกลมอยูใ่ นบริเวณทีม่ สี นามแม่เหล็กสม่าเสมอ และตัง้ ฉากกับเส้นสนาม
ข้อใดต่อไปนี้ทไ่ี ม่ทาให้เกิดการเหนี่ยวนาของกระแส
ก) บีบขดลวดให้เล็กลง
ข) หมุนขดลวดรอบแกนทีต่ งั ้ ฉากกับเส้นสนาม
ค) ไม่หมุนขดลวด แต่จบั ขดลวดเคลื่อนทีไ่ ปมาตามเส้นสนาม
ง) ดึงขดลวดออกจากสนาม
ค) ข้อนี้ไม่เท่าให้ฟลักซ์แม่เหล็กเปลีย่ นแปลง
การประยุกต์ใช้กฎของฟาราเดย์
สายกีตาร์ไฟฟ้ าจะมีแม่เหล็กเล็กๆ ฝั งอยู่ ใกล้ๆ กับสายกีตาร์จะมี pickup coil ทีม่ ขี ดลวดพันอยู่ ขดลวดพวกนี้จะส่ง
สัญญาณเล็กโทรนิกส์ให้กบั amplifier เพือ่ ขยายเสียงออกทางลาโพง
ตัวอย่าง
ขดลวดพันกัน 200 รอบ เป็ นรูปสีเ่ หลีย่ มจตุรสั แต่ละด้านยาว d = 18 cm และอยูใ่ นสนามแม่เหล็ก
ทีส่ ม่าเสมอทีต่ งั ้ ฉากกับระนาบของขดลวด ถ้าสนามแม่เหล็กเปลีย่ นแปลงแบบเชิงเส้นจาก 0 เป็ น
0.5 T ในเวลา 0.8 s ขนาดของ emf เหนี่ยวนาของขดลวดมีคา่ เป็ นเท่าไร ในขณะทีส่ นามแม่เหล็ก
กาลังเปลีย่ นแปลง พร้อมกับหากระแสเหนี่ยวนาทีเ่ กิดในขดลวดด้วยถ้าสมมติวา่ วงจรนี้ต่อกับตัว
ต้านทาน 2 ohm = 4 V; 2 A
ตัวอย่าง
ขดลวดเป็ นวงได้พน้ื ที่ A วางตัง้ ฉากกับสนามแม่เหล็ก ทีข่ นาดของสนามแม่เหล็กขึน้ กับเวลา (ดูโจทย์) นันคื
่ อที่ t
= 0 สนามแม่เหล็กมีคา่ = Bmax และเมือ่ t > 0 สนามแม่เหล็กจะลดลง exponentially หา emf เหนี่ยวนาทีเ่ กิด
ในขดลวด
= aAB_max e^(-at)
กฎของเลนซ์ (Lenz’s Law)
นันคื
่ อ กระแสเหนี่ยวนาจะสร้างสนามแม่เหล็กอันใหม่ขน้ึ มาเพือ่ ต่อต้านการเปลีย่ นแปลงฟลักซ์แม่เหล็กดัง้ เดิมที่
ผ่านวงจร หรือพูดอีกอย่างคือ กระแสเหนี่ยวนาพยายามทีจ่ ะรักษาฟลักซ์แม่เหล็กดัง้ เดิมเอาไว้ไม่ให้เกิดการ
เปลีย่ นแปลง ทัง้ นี้เป็ นผลมาจากกฏการอนุรกั ษ์ของพลังงาน
กฎของเลนซ์ (Lenz’s Law)
สนามแม่เหล็กมีทศิ พุง่ เข้า
เมือ่ มีการเลือ่ นเข้าเลือ่ นออก
เป็ นการเปลีย่ น A ทาให้ฟลักซ์
เปลีย่ น
ทิศทวนเข็มนาฬิกา
ตัวอย่าง
แม่เหล็กถูกวางไว้ใกล้กบั ขดลวดกลม
ก) หาทิศของกระแสเหนี่ยวนาภายในขดลวดกลมเมือ่ ดันแม่เหล็กเข้าหาขดลวด
ข) เช่นกัน แต่เป็ นดึงแม่เหล็กออกห่างจากขดลวดกลม
กระแสเหนี่ยวนาจะสร้างสนามแม่เหล็กอันใหม่ขน้ึ มาเพื่อต่อต้าน
การเปลีย่ นแปลงฟลักซ์แม่เหล็กดัง้ เดิมทีผ่ า่ นวงจร ตัวอย่าง
3.39E-2 V
แบบฝึ กหัด
ลวดวงกลมมีรศั มี 4 cm พันกันอยู่
30 รอบ มีคา่ ความต้านทาน 1 ohm
วางอยูใ่ นสนามแม่เหล็กทีตังฉากกับ
ขดลวด ขนาดของสนามแม่เหล็ก
แปรผันตามเวลา (ดูโจทย์) ในหน่วย
เทสลา หา emf เหนียวนําของ
ขดลวดทีเวลา 5 s
6.18E-2 V
แบบฝึ กหัด
a) หาทิศของกระแสเหนียวนําทีเกิดในตัวต้านทาน
R (รูป a) เมือขยับแท่งแม่เหล็กไปทางซ้าย (b)
หาทิศของกระแสเหนียวนําในตัวต้านทาน R (รูป
b) เมือปิ ดสวิทซ์ S ทันที (c) หาทิศกระแส
เหนียวนําของตัวต้านทาน R เมือกระแส I (รูป c)
ลดลงเข้าใกล้ศนู ย์
a) จาก a ไป b ไปทางขวา
ผ่านตัวต้านทาน b) จาก a
ไป b พุง่ ออกผ่านตัวต้านทาน
c) จาก a ไป b ไปทางขวา
ผ่านตัวต้านทาน