· เ น , &H

AH #

-
↓ +

·
+ + 2 + +
ว SH =
H

9.ปั จจัยที่สำคัญที่เป็ นตัวกำหนดว่ำทำไมธรรมชำติของสำรตัง้ ต้นจึงมีอิทธิพลต่อ

อัตรำกำรเกิดปฏิกิรยิ ำเคมี
ก.ควำมแตกต่ำงของขนำดโมเลกุล ข.ควำมแตกต่ำงของมวลโมเลกุล
· ค.ควำมแตกต่ำงของพันธะที่เกี่ยวข้องในกำรเกิดปฏิกิรยิ ำ
ง.ควำมแตกต่ำงระหว่ำงพลังงำนของสำรตัง้ ต้นและสำรผลิตภัณฑ์
↓
SH = ฟลาย -
ขึ
ต้
ชั
ซ็
ชั
·
10.พลังงำนกระตุน้ ของปฏิกิรยิ ำ
A+B ----> 2C คือ 250 kj/mol และ
พลังงำนกระตุน้ ของปฏิกิรยิ ำ 2C---->A+B คือ 220 kj/mol
ดังนั้นปฏิกิริยาของ A+B---->2C เป็ นปฏิกิรยิ ำ ตำมข้อใด
· ก.ดูดควำมร้อน 30 kj/mol ข.คำยควำมร้อน 30 kj/mol
ค.ดูดควำมร้อน 250 kj/mol ง.คำยควำมร้อน 250 kj/mol

·
11.ตำมทฤษฏีกำรชนกันของโมเลกุลและทฤษฎีจลน์ของแก๊ส ข้อใดที่เป็ นขัน้ กำหนด
อัตรำเร็วของปฏิกิรยิ ำรวม
ก.ปฏิกิรยิ ำขัน้ ตอนย่อยขัน้ แรก
ข.ปฏิกิรยิ ำขัน้ ตอนย่อยขัน้ สุดท้ำย
·ค.ปฏิกิรยิ ำขัน้ ตอนย่อยที่ดำเนินไปช้ำที่สดุ
ง.ปฏิกิรยิ ำขัน้ ตอนย่อยที่ดำเนินไปเร็วที่สดุ
 H= 1,
2=
12, N=
14,0:16, =32
9.โมเลกุลของแก๊สในข้อต่อไปนี แก๊สใดที่มีอตั ราการแพร่ ผานได้เร็ วกว่ากัน เพราะ
เหตุใด HeD HyS

mee4) o >
1) ไอนำ้ กับแก๊สไข่เน่ำ
/
M = 18
Ha 3

2) มีเทน กับ อีเทน

delttop Van > Healt

on 4

M= 16
3) CO2 กับ NO2

M = 44 M= 46 Ver > Prog