Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 10

ข้ อสอบการแข่งขันคณิตศาสตร์ แห่งประเทศไทย ( TMC ) ครัง้ ที่ 1 ประถมศึกษาปี ที่ 6

ตอนที่หนึง่ ข้ อ 1-12 ตอบถูกได้ ข้อละ 4 คะแนน ไม่ตอบได้ ข้อละ 1 คะแนน ตอบผิด 0 คะแนน

1. โรงเรี ยนแห่งหนึง่ มีนกั เรี ยน 1,325 คน มีนกั เรี ยนมาใช้ 1) × 1,325 = 1007 คน ตอบ ก.

สิทธิ์ออกเสียงเลือกตังประธานนั
้ กเรี ยน 76%
ของจานวนนักเรี ยนทังหมด
้ มีนกั เรี ยนมาใช้ สิทธิ์กี่คน
ก. 1007 ข. 318 ค. 1000
ง. 325 จ. ไม่มีข้อใดถูก

2. ร้ านค้ าแห่งหนึง่ ต้ องขายกางเกงให้ ได้ กาไร 25% 2) กาไร 25% หมายความว่าติดป้าย 125 บาท จากทุน 100 บาท
จึงติดราคาไว้ 550 บาท ถ้ าร้ านค้ าต้ องการกาไร 10% ติดป้าย 550 บาท ทุน = = 440 บาท
คจ งข
กาไร 10% หมายความว่า ทุน 100 ขาย 110 บาท
ก. 440 ข. 484 ค.444
ทุน 440 ขาย = = 484 บาท ตอบ ข.
ง. 500 ง. 605

3) จากรูป
3. ที่ดนิ แปลงหนึง่ เป็ นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ ากว้ าง 24 เมตร ยาว
30
30 เมตร ต้ องการทาทางเดินกว้ าง 2 เมตรรอบที่ดนิ
2
โดยให้ ทางเดินอยูภ่ ายในอาณาเขตที่ดนิ แปลงนี ้
24
ดังนันทางเดิ
้ นนี ้จะใช้ เนื ้อที่กี่ตารางเมตร
2
ก. 200 ข.184 ค.160 ทางเดิน = 30×2×2 + (24 – 4) ×2 ×2
ง. 132 จ. 120 = 120 + 80 = 200 ตารางเมตร ตอบ ก.

4) ( )
4. ( ) ค่า A เท่ากับเท่าใด
( )

ก. 10 ข. -10 ค. -9 ( )

ง. 11 จ. -11
ตอบ ง.
5. โรงเรี ยนมีเก้ าอี ้ 630 ตัว นาไปจัดในห้ องประชุม 390 ตัว 5) 630 – 390 = 240
ที่เหลือนาไปจัดในห้ องอาหารเป็ นกลุม่ กลุม่ ละ 6 ตัว = 40 กลุม่ ตอบ จ.

จะจัดได้ กี่กลุม่
ก. 100 ข. 70 ค. 60
ง. 50 จ. 40

6. กาหนดตัวเลขชุดหนึง่ ดังนี ้ 45 , 72 , 99 , 153 เมื่อหาร 6) หา ค.ร.น. และ ห.ร.ม. โดยการตังหาร



ค.ร.น. ของเลขชุดนี ้ด้ วย ห.ร.ม. ของเลขชุดนี ้ แล้ ว 3 45 72 99 153
3 15 24 33 51
ผลหารที่เกิดขึ ้นมีคา่ เท่ากับเท่าใด
5 8 11 17
ก. 67,320 ข. 22,440 ค. 7,480 ค.ร.น. = 3×3×5×8×11×17
ง. 9,720 จ. 15,147 ห.ร.ม. = 3×3
ค.ร.น. หารด้ วย ห.ร.ม. = 5×8×11×17 = 7,480 ตอบ ค.

7. จากรูป ทุกแถวแนวตังและ
้ 41 33
7) X สามารถเป็ นได้ ทกุ ค่า ดังรูป
ทุกแถวแนวนอน มีผลบวกที่ X 47
ก. ข. ค.
37 41 43 33 41 43 33 41 43 33
เท่ากันทังหมด
้ จงหาค่าของ X 31 39 47 33 37 47 35 35 47
45 35 37 43 37 37 41 39 37
ก. 31 ข. 33 ค. 35
ง. จ.
ง. 39 จ. 43 41 43 33 41 43 33
39 31 47 43 27 47
37 43 37 33 47 37

8. จากรูปเป็ นรูปกี่เหลี่ยม และมีมมุ ภายในเป็ นมุมฉาก 8) จานวนเหลี่ยม แทนด้ วยตัวอักษรสีน ้าเงิน = 9 เหลี่ยม
ทังหมดกี
้ ่มมุ จานวนมุมฉากภายใน แทนด้ วยอักษรสีแดง = 6 มุมฉาก
ก. 9 ฉก
1 2
ข. 9 ฉก 1 2
ค. 9 7 ฉก 7 4
3
ง. 10 6 ฉก 3
9 6
5 4
จ. 10 7 ฉก 8
6 5
ตอบ ข.
9. จากรูป เส้ นตรงทังสามพบกั
้ นที่ จุด A , B และ C 9) X = 38 + 57 = 95
ก ABC = 57° และ 3X – 94 = 3×95 – 94 = 285 – 94 = 191 ตอบ จ.
C
มุม ACB = 38° A X° 38°

จงหาค่า 3X - 94° 57°


B
ก. 1 ข. 3 ค. 188
ง. 94 จ. 191

10. สี่เหลี่ยมจัตรุ ัส พื ้นที่ 144 ตารางเซนติเมตร 10) ด้ าน× = 144 ได้ ด้ านสี่เหลี่ยมจัตรุ ัส = 12 เซนติเมตร
วาดรูปตามโจทย์ ได้
หากสี่เหลี่ยมผืนผ้ ามีด้านยาวเท่ากับด้ านกว้ างของ
12 12
สี่เหลี่ยมจัตรุ ัส แต่มีความกว้ างเป็ นครึ่งหนึง่ ของด้ านยาว
6
12
ของสี่เหลี่ยมผืนผ้ า จงหาพื ้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้ า
ก. 144 ข. 100 ค. 72
ง. 50 จ. 36 พื ้นที่ สี่เหลี่ยมผืนผ้ า = 6×12 = 72 ตารางเซนติเมตร ตอบ ค.

11. จากรูป พิกดั ของจุด Q คือข้ อใด 11) พิกดั ของจุด Q คือ แกน X = 7
ก. (7,2) แกน Y = -2

ข. (2,7) 6
ตอบ ค.
3
ค. (7,-2)
-6 -3 3 6
ง. (2,-7) -3 Q
-6
จ. (-2,7)

12. จากรูป เป็ นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ า 12 ชิ ้น นามาเรี ยงต่อกัน 12) ตอบ ง.

หากเราต้ องการแรเงาเป็ น ข ง ข ง ง
จง ง ง ง ก
ก. 9 ข. 3
ค. 4 ง. 6
จ. 8
ตอนที่สอง ข้ อ 13-24 ตอบถูกได้ ข้อละ 6 คะแนน
ไม่ตอบได้ ข้อละ 1.5 คะแนน ตอบผิด 0 คะแนน
13. ค่าของ ก 2 13)

น้ อยกว่า 2 อยู่ = 2 – (1 + ) = 1 - = = 0.40 ตอบ ก.


ก. 0.4 ข. 0.5 ค. 0.6
ง. 0.7 จ. 0.8

14. ลาดับของตัวเลขจานวนหนึง่ เริ่มต้ นที่เลขสามตัวแรก คือ 14) ได้ ลาดับของตัวเลขดังนี ้


1 , 3 , 8 , 12 , 23 , 43 , 78 , 144 , 265 , 487
1,3 และ 8 จานวนตังแต่
้ ตวั ที่ 4 เป็ นต้ นไป
จานวนที่ 10 คือ 487 ตอบ ข.
จะเกิดจากผลบวกของเลขโดดในสามลาดับก่อนหน้ ามา
บวกกัน เช่น เลขในลาดับที่ 4 คือ 1+3+8 = 12
และเป็ นเช่นนี ้ต่อไปเรื่ อยๆ จงหาว่าจานวนที่ 10
ของลาดับตัวเลขชุดนี ้เป็ นเลขใด
ก. 265 ข. 487 ค. 140
ง. 507 จ. 345

15) สร้ างสี่เหลี่ยม WXYZ ได้ ดงั รูป


15. หากพื ้นที่ของสี่เหลี่ยมจัตรุ ัส ABCD เท่ากับ 100 A 4 X 6 B
4
ตารางหน่วย และ X , W , Z , Y เป็ นจุดอยูบ่ นด้ าน AB , 6
W
Z 6
BC , CD , AD ตามลาดับ ซึ่งทาให้ 4
D 6 C
Y 4
AX=BW=CZ=DY=4 หน่วย ดังรูป
พื ้นที่สี่เหลี่ยม WXYZ = 10×10 – 4× ½ ×6×4
จงหาพื ้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมจัตรุ ัส WXYZ = 100 – 48 = 52 ตารางหน่วย ตอบ ข.
ก. 58 ข. 52 A X B

ค. 48 ง. 40 W
Z
ง. 36
D Y C
16. จากรูป เป็ นรูปสี่เหลี่ยมจัตรุ ัส ที่มีความยาวด้ านละ 7 16) พื ้นที่สว่ นที่ทบั กัน = 16 ตารางเซนติเมตร = 4×4
เซนติเมตร และทับกันบางส่วนดังรู ป หากส่วนที่ทบั กัน วาดรูปได้ ดงั นี ้

มีพื ้นที่เท่ากับ 16 ตารางเซนติเมตร และทับกันเป็ นรูป 7 4 3


4
สี่เหลี่ยมจัตรุ ัสแล้ ว จงหาความยาวรอบรูปของ 7
3
ส่วนที่แรเงาในรูป
ก. 24 ข. 32 7 ความยาวรอบรูป= 7+7+3+3+7+7+3+3 = 40 เซนติเมตร ตอบ ค.
ค. 40 ง. 42 7
จ. 50

17. ในการสอบกลางภาคการศึกษาครัง้ หนึง่ ของปราโมทย์ 17) คะแนนแต่ละวิชา เป็ นดังนี ้


คณิตศาสตร์ 50 คะแนน ทาได้ A คะแนน
มีการสอบวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาไทย
วิทยาศาสตร์ 40 คะแนน ทาได้ ×40 = 28 คะแนน
หากจานวนคาถามในแต่ละวิชาที่สอบคือ 50 , 40 และ
ภาษาไทย 70 คะแนน ทาได้ ×70 = 35 คะแนน
70 ข้ อ ตามลาดับ และแต่ละข้ อมีคา่ 1 คะแนน รวมคะแนนเต็ม = 160 คะแนน ทาได้ = ×160 = 112 คะแนน
หากปราโมทย์ทาคะแนนในวิชาวิทยาศาสตร์ ได้ 70% ทาคะแนนคณิตศาสตร์ ได้ = 112 – 28 -35 = 49 คะแนน ตอบ ง.
ของคะแนนเต็ม ทาคะแนนวิชาภาษาไทยได้ 50%
ของคะแนนเต็ม และทาคะแนนรวมของทังสามวิ ้ ชาได้
70%ของคะแนนเต็มทังสามวิ
้ ชารวมกัน
จงหาว่าปราโมทย์ทาข้ อสอบวิชาคณิตศาสตร์ ถกู ทังหมดกี
้ ่ข้อ
ก. 45 ข. 35 ค. 39
ง.49 จ. 29

18. ถ้ าต้ องการทาสีดาและสีขาวลงบนแผ่นกระดาษวงแหวนวงกลม 18) ทาสีได้ ดงั นี ้


ที่แบ่งออกเป็ น 12 ช่องเท่าๆกัน ทุกช่อง ดังรูป โดยทาสีดา 10 1. ข ข ด ด ด ด ด ด ด ด ด ด
2. ข ด ข ด ด ด ด ด ด ด ด ด
ช่อง และสีขาว 2 ช่อง แล้ ว จานวนวิธีที่แตกต่างกันในการทาสี
3. ข ด ด ข ด ด ด ด ด ด ด ด
มีจานวนวิธีเท่ากับข้ อใด 4. ข ด ด ด ข ด ด ด ด ด ด ด
ก. 3 วิธี ข. 4 วิธี 5. ข ด ด ด ด ข ด ด ด ด ด ด
6. ข ด ด ด ด ด ข ด ด ด ด ด
ค. 5 วิธี ง. 6 วิธี
รวม 6 วิธี ตอบ ง.
จ. 7 วิธี
19. ลูกแก้ วอยูจ่ านวนหนึง่ ที่แตกต่างกันสามสี ในถังใบหนึง่ 19) สีแดง = , สีเขียว =
ของลูกแก้ วทังหมดเป็
้ นสีแดง รวมสีแดง+เขียว =

ของลูกแก้ วทังหมดเป็
้ นสีเขียว ที่เหลืออีก 12 คงเหลือสีเหลือง = ของทังหมด
้ = 12
ลูกเป็ นสีเหลือง จงหาว่า ถังใบนี ้มีลกู แก้ วทังหมดกี
้ ่ลกู
ดังนัน้ ลูกแก้ วทังหมด
้ = 45 ลูก ตอบ จ.
ก. 30 ข. 90 ค. 54
ง. 60 จ. 45

20. จากแบบรูปต่อไปนี ้ 20) รูปที่ 1 มีจดุ 1 จุด


1 1จ 2 2จ 3 11 จ 4 19 จ
รูปที่ 2 มีจดุ 1+4 จุด (4=2×2)
รูปที่ 3 มีจดุ 1+4+6 จุด (6=2×3)
รูปที่ 4 มีจดุ 1+4+6+8 จุด (8=2×4)
...
รูปที่ 5 มีจดุ 1+4+6+8+...+ (2×10) =
จงหาว่ารูปที่ 10 จะมีจดุ ทังหมดกี
้ ่จดุ = 109 จุด ตอบ ก.
ก. 109 ข. 110 ค. 90
ง. 89 จ. 120

21. ในเดือนพฤษภาคมของปี ค.ศ.2011 มีวนั อาทิตย์ห้าวัน 21) เขียนปฏิทิน ได้ ดงั ด้ านล่าง
ในห้ าวันนันมี
้ สามวันที่มีเลขวันเป็ นจานวนคี่ 1 2 3
เขียนได้ 3 แบบ
จ ฤ ศ แบบที่ 2 มีวนั เลขคี่ 2 วัน
และวันอาทิตย์สดุ ท้ ายของเดือนนี ้ไม่ใช่วนั ที่ 31 1 2 3
แแบที่ 3 วันที่ 31 เป็ นวันอาทิตย์
8 9 10
จงหาว่าวันที่ 8 ของเดือนนี ้เป็ นวันอะไร 15 16 17 ดังนัน้ แบบที่ถกู คือ แบบที่ 1
22 23 24
ก. วันเสาร์ ข. วันอาทิตย์ 29 30 31

ค. วันจันทร์ ง. วันอังคาร
วันที่ 8 ตรงกับวันอาทิตย์ ตอบ ข.
จ. วันศุกร์

22. หากเราลากเส้ นผ่านศูนย์กลาง 4 เส้ น ทับลงบนวงกลม 22) แบ่งได้ ดงั รูป


เต็มวงวงหนึง่ จะแบ่งรูปวงกลมได้ มากที่สดุ กี่สว่ น แบ่งได้ 8 ส่วน ตอบ ก.
ก. 8 ข. 9 ค. 10
ง. 11 จ. 12
23. หาก เมื่อ เป็ นจานวนเต็มบวกทุกจานวน 23)

จงหาค่าของ ได้

ก. 26 ข. 19 ค. 18 ตอบ จ.

ง. 17 จ. 16

24. นายขยันถูกลดเงินเดือนลง 10% ของเงินเดือนปกติ 24) 20,000 ลดลง 10% = 0.9×20,000 = 18,000 บาท
โบนัส 10% ของเงินเดือน = 1.1×18,000 = 19,800 บาท
แต่เขาได้ รับโบนัสเพิ่มเป็ นเงิน 10%ของเงินเดือน
ตอบ ข.
ที่เขาได้ รับ หากเงินเดือนปกติของเขาคือ 20,000 บาท
จงหาว่าในเดือนนี ้เขาได้ รับเงินรวมเป็ นเท่าไร
ก. 16,200 ข. 19,800
ค. 20,000 ง. 20,500
จ. 24,000

ตอนที่สามข้ อ 25-29 ตอบถูกได้ ข้อละ 6 คะแนน


ตอบผิดหรื อไม่ตอบ 0 คะแนน
25. รถประจาทาง A อยูท่ างทิศตะวันออกของรถประจาทาง 25) ไล่กนั ; --- 1
B ห่างออกไป 150 กิโลเมตร หากรถประจาทางทังสองคั ้ น วิ่งหากัน ; --- 2
วิ่งด้ วยความเร็ วคงที่ และวิ่งไปในทางเดียวกัน 1+2 ; ได้ ตอบ
รถประจาทาง A จะทันรถประจาทาง B ในเวลา 10
ชัว่ โมง แต่หากรถประจาทางทังสองคั้ นวิ่งเข้ าหากัน
จะพบกันเมื่อเวลาผ่านไป 2 ชัว่ โมง
จงหาความเร็วของรถประจาทาง A

26. ให้ a+2b+3c+4d+5e = k และ 5a=4b=3c=2d=e 26) a+2b+3c+4d+5e = k ---(1)


(1)×5 ; 5a+10b+15c+20d+25e = 5k ---(2)
จงหาจานวนเต็มบวกที่น้อยที่สดุ ที่เป็ นไปได้ ของค่า k
จากโจทย์ e = 5a = 4b = 3c = 2d แทนใน (2)
หาก a,b,c,d และ e ง จ ก ได้ e + 2.5e + 5e + 10e + 25e = 5k  43.5e = 5k
k= เป็ นจานวนเต็ม นัน่ คือ e น้ อยสุด = 10
k= = 87 ตอบ
27. ยุนต้ องการเดินทางจากบ้ านไปกองถ่าย 27) แผนผังการเดินทางของยุน เป็ นดังนี ้
(ขึ ถ จ ง) ถ ถฟ ใก ก งถ ก งถ
โดยขึ ้นรถประจาทางจากบ้ านไปถึงสถานีรถไฟ
10 12 5
จากนันนั
้ ง่ รถไฟไปจนถึงสถานีรถไฟใกล้ กองถ่าย ดาเนินการย้ อนกลับ โดยเริ่มจากกองถ่าย 8:00 น.
จากนันเดิ
้ นต่อไปยังกองถ่าย โดยที่
(ขึ ถ จ ง) ถ ถฟ ใก ก งถ ก งถ
- รถประจาทางไปสถานีรถไฟผ่านหน้ าบ้ านเธอทุกๆ 8
7:32 7:43 7:55 8:00
นาที ตังแต่
้ 6 โมงเช้ า และใช้ เวลา 10 นาที ถึงที่หมาย งจ ก ถ ก ก 8
6:00 , 6: 08 , ... , 6:56 , 7:04 ,..., 7:28
งจ ก ถ ก ก 6
6:00 , 6: 06 , ... , 7:00 , 7:06 ,..., 7:42
7:28 7:42

- รถไฟออกจากสถานีรถไฟไปสถานีรถไฟใกล้ กองถ่าย นัน่ คือ ต้ องออกจากบ้ าน ช้ าสุด 7:28 น. จึงจะทัน 8 โมงเช้ า ตอบ
ทุก ๆ 6 นาที ตังแต่
้ 6 โมงเช้ า และใช้ เวลา 12
นาทีถึงที่หมาย
- ยุนใช้ เวลาเดินทางจากสถานีรถไฟไปกองถ่าย 5 นาที

จงหาว่ายุนจะออกจากบ้ านช้ าที่สดุ กี่โมง


ถึงจะไปกองถ่ายได้ ทนั 8 โมงเช้ า

28. จากรูป ตัวอักษรภาษาอังกฤษแต่ละตัว แทนตัวเลข 0-9 28) ดาเนินการตามลาดับดังนี ้


ตัวใดตัวหนึง่ โดยที่ตวั อักษรตัวเดียวกันต้ องแทนเลขตัว 1.S+1 = 10D+O ได้ S=9,D=1,O=0
2.N+E = 9
เดียวกัน ตัวอักษรคนละตัวกัน ต้ องแทนตัวเลขคนละตัวกัน
3.V+E = N หรือ 10+N (2.กับ 3.สร้ างตาราง ดังนี ้)
F I V E
+ E 2 7 3 6 4 5
S E V E N N 7 2 6 3 5 4
D O Z E N S V (N) 5 5 3(ซ ้าE) X 1(ซ ้าD) X
จงหาค่าของ F+I+V+E+S+E+V+E+N+D+O+Z+E+N+S V(10+N) X X X 7 X 9(ซ ้า S)
สรุป มี 3 กรณี คือ (i) V=5,E=2,N=7
(ii) V=5,E=7,N=2
(ii) V=7,E=6,N=3
4. V+I+ทด = E หรือ 10+E
(i) V+E =5+2 ไม่ทด 5+I = 2 , 12 (I=7(ซ ้าN))
(ii) V+E =5+7 ทด 15+I+1 = 7(I=1(ซ ้าD)),17(ไม่มีค่า I
ที่เป็ นไปได้ )
(iii) V+E =7+6 ทด 1 7+I+1 = 6 ,16 I = 8
นัน่ คือ V=7,E=6,N=3,I=8
5.1+E+F = Z+10 (E=6) F= Z+3 (เหลือเลขที่ยงั ไม่ใช้ 2 , 4 , 5)
จะได้ 5 = 2+3 (F=5,Z=2)
แทนค่าได้ 5+8+7+6+9+6+7+6+3+1+0+2+6+3+9=78 ตอบ
29. ให้ นกั เรี ยนทาตามขันตอนต่
้ อไปนี ้ 29) ดาเนินการตามคาสัง่ โจทย์ ดังนี ้
ขันตอนที
้ ่หนึ่ง กาหนด 917
ขันตอนที
้ ่หนึง่ เขียนเลขสามหลักขึ ้นมาหนึง่ จานวน
ขันตอนที
้ ่สอง สลับได้ 719
จานวนใดก็ได้ โดยที่ตวั เลขในหลักร้ อยต้ องมีคา่ มากกว่า ขันตอนที
้ ่สาม 917 – 719 = 198
ตัวเลขในหลักหน่วย เรี ยกจานวนที่นกั เรี ยนเขียนนี ้ว่า ขันตอนที้ ่สี่ สลับได้ 891

จานวนที่หนึง่ ขันตอนที
้ ่ห้า 198 + 891 = 1089 ตอบ
ขันตอนที
้ ่สอง นาจานวนที่หนึง่ มาเขียน โดยเรี ยงสลับ
จากหลังไปหน้ า เพื่อให้ เกิดเป็ นเลขสามหลักจานวนใหม่
เป็ นจานวนที่สอง
ขันตอนที
้ ่สาม นาจานวนที่หนึง่ ลบออกด้ วยจานวนที่สอง
เพื่อให้ เกิดเป็ นเลขสามหลักจานวนใหม่เป็ นจานวนที่สาม
ขันตอนที้ ่สี่ นาจานวนที่สาม มาเขียนโดยเรี ยงสลับ
จากหลังไปหน้ า เพื่อให้ เกิดเป็ นเลขสามหลักจานวนใหม่เป็ น
จานวนที่สี่
ขันตอนที ้ ่ห้า หาผลบวกของจานวนที่สาม และจานวนที่สี่
เกิดเป็ นจานวนใหม่เป็ นจานวนที่ห้า
จงหาว่าจานวนที่ห้า คือจานวนใด
ข้ อโบนัส นักเรี ยนเลือกทาหรื อไม่ทาก็ได้ ถ้ าตอบถูกได้ 15
คะแนน ตอบผิด -5 คะแนน ไม่ตอบ 0 คะแนน
30) - เด็กหญิงเรณู ตอบได้ ทนั ทีที่ทราบค่าผลคูณ แสดงว่า
30. คุณครูสอนคณิตศาสตร์ คนหนึง่ กาลังสอนนักเรียนอยูส่ องคน
จานวนที่คณ
ุ ครูให้ จะต้ องเป็ น 1 คูณกับจานวนเฉพาะ
คือ เด็กชายปั ญญา และเด็กหญิงเรณู แล้ วบอกกับนักเรียน
- เด็กชายปั ญญาทราบภายหลังว่าผลบวก ของสองจานวน
ทังสองว่
้ า “คุณครูกาลังนึกถึงเลขอยูส่ องจานวนที่แตกต่างกัน
มากกว่า 90 แต่ไม่ถึง 100 และยังทราบผลต่างของเลข
แต่ไม่บอกว่าคือจานวนใดบ้ าง ต้ องการให้ นกั เรียนทายว่า
สองจานวนนี ้ จากที่คณ
ุ ครูบอกตอนแรก ซึง่ มีจานวนเฉพาะ
คุณครูนกึ ถึงเลขอะไร โดยคุณครูจะบอกข้ อมูลเกี่ยวกับเลข
เพียงคูเ่ ดียวที่ตรงตามเงื่อนไขนี ้ คือ 97 กับ 1
ทังสองจ
้ านวนนี ้ให้ ”
ุ ครูบอกกับเด็กหญิงเรณู คือ 97 ตอบ
ดังนัน้ จานวนที่คณ
คุณครูเรี ยกนักเรียนมาพบคุณครูที่โต๊ ะทีละคน โดยที่คณ ุ ครู
บอกค่าผลต่างของสองจานวนให้ กบั เด็กชายปั ญญา
และบอกค่าผลคูณของสองจานวนให้ กบั เด็กหญิงเรณู
(แต่ละคนจะทราบเพียงข้ อมูลเดียว)
หลังจากที่นกั เรี ยนทังสองกลั
้ บไปยังที่นงั่ ของตัวเองแล้ ว
คุณครูก็เริ่มถามกับนักเรี ยนทังสองดั
้ งนี ้
คุณครู พูดว่า “เด็กชายปั ญญาทราบหรือยังว่าจานวนทังสอง ้
คือจานวนใด”
เด็กชายปั ญญา พูดว่า “ยังไม่ทราบครับ”
คุณครู พูดว่า “แล้ วเด็กหญิงทราบหรื อยังว่าจานวนทังสอง ้
คือจานวนใด”
เด็กหญิงเรณู พูดว่า “หนูทราบแล้ วค่ะว่าจานวนทังสองคื ้ อ ...”
ทันใดนันคุ
้ ณครูก็บอกให้ เด็กหญิงเรณูหยุดก่อนที่จะพูด
จานวนทังสองออกมา
้ แล้ วหันไปถามเด็กชายปั ญญาว่า
“ทราบแล้ วหรื อยังว่าสองจานวนนันคื ้ อจานวนใด”
เด็กชายปั ญญา พูดว่า “หลังจากที่คณ ุ ครูถามเด็กหญิงเรณู
ผมก็ทราบทันทีครับว่า ผลบวกของสองจานวนนันมากกว่ ้ า
90 แต่ไม่ถึง 100 ใช่ไหมครับ”
คุณครู พูดว่า “ถูกต้ อง เก่งมากเด็กชายปั ญญา”
คุณครูทราบว่านักเรี ยนทังสองเป็ ้ นนักเรี ยนที่ซื่อสัตย์ซงึ่ จะไม่พดู โกหก
นัน่ หมายความว่าเด็กชายปั ญญา และเด็กหญิงเรณู ทราบจานวน
ที่ถกู ต้ องจริ ง โดยไม่แอบไปถามข้ อมูลของอีกคนหนึง่ มาก่อน
แล้ วจานวนที่คณ ุ ครูบอกให้ กบั เด็กหญิงเรณู คือจานวนใด

You might also like