พระเวสสันดร

กัณฑ์ ๑๓ นคร (๔๘ พระคาถา)

ประวัติความเป็นมาของพระเวสสันดร
“มหาชาติ” แปลว่าชาติที่ยิ่งใหญ่
ซึ่งปรากฏเรื่องราวอยู่ใน มหาเวสสันดรชาดก ด้วยเหตุนี้เมื่อกล่าวถึง
“มหาชาติ” จึงหมายถึงมหาเวสสันดรชาดก
เนื้อเรื่องของมหาเวสสันดรชาดกที่จะกล่าวในที่นี้ นำมาจากอรรถกถา
เวสสันดรชาดก ซึ่งปรากฏ ในพระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อันเป็นเนื้อเรื่อง
หลักของมหาชาติหรือมหาเวสสันดรชาดกที่ปรากฏ ในสังคมไทยส่วนใหญ่
โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็น ๑๓ ตอน หรือเรียกว่า “กัณฑ์”
 กัณฑ์ ๑๓ นคร (๔๘ พระคาถา)
กษัตริย์ทั้ง 6พระองค์ทรงยกทัพกลับพระนคร พระเวสสันดรทรงลาผนวช พร้อมกับพระนางมัทรี
เมื่อกลับถึงพระนคร พระเวสสันดรทรงรับสั่งให้ชาวเมืองสีพี่ปล่อย สัตว์ที่ได้กักขังไว้
ให้หมด และในช่วงเวลาค่ำคืนที่ได้เสด็จกลับมานั้น พระองค์ทรง ดำริว่าในวันรุ่งขึ้นชาวเมืองจะ
มาขอพระราชทานสิ่งของจากพระองค์ พระองค์จะ พระราชทานสิ่งใดแก่ชาวเมือง พระอินทร์
ทรงทราบจึงบันดาลให้เกิดฝนแก้ว ๗ ประการ ตกลงมายังเมืองสีพี่มากมาย สูงจนถึงเข่า
พระเวสสันดรจึงรับสั่งให้ ชาวเมืองนำไปได้ตามความปรารถนา ส่วนที่เหลือเก็บเข้าท้องพระคลัง
ต่อมา พระเวสสันดรได้ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระเจ้ากรุงสีพี
 แปลความหมาย
กล่าวถึงพระเวสสันดรได้รับคำทูลเชิญให้ลาผนวช (สึก) เพื่อรับราช สมบัติและให้ทำพิธีราชาภิเษกใน
บริเวณพระอาศรมแล้วจึงทรงช้างปัจจัยนาค เดินทางกลับนครสีพี บรรดาสัตว์น้อยใหญ่ที่เคยได้อาศัย
ร่มบารมี คุ้มครองป้องกันอันตราย ภัยพิบัติต่างพากันเศร้าโศกเสียใจ เมื่อพระเวสสันดรกลับมาครอง
พระนครก็มี ห่าฝนสัตตรัตนมาศตกไปทั่วพระนคร ให้เป็นทานแก่ชนทั้งหลาย
พระเวสสันดรครองนครสีพีจนพระชนมายุ ๑๒๐ พรรษา ก็สวรรคต ไปบังเกิดในดุสิตเทวโลก
อานิสงส์ : จะช่วยให้ชีวิตอยู่เย็นเป็นสุขในท่ามกลางหมู่ญาติมิตร ชีวิตปราศจากโรคภัยมีพลานามัย
สมบูรณ์ เมื่อถึงคร่าวสิ้นใจจักไปบังเกิดบนสวรรค์ มีพระนิพพานี้เป็นที่ไปในเบื้องหน้า
 คุณค่า
๑) การสรรคำ กวีได้เลือกสรรคำที่สื่อความคิดได้ดี
๑.๑) การใช้ถ้อยคำให้เกิดอารมณ์สะเทือนใจ กวีเลือกใช้คำได้เหมาะสมกับอารมณ์ที่ต้องการจะถ่ายทอด
เช่น การใช้ถ้อยคำรำพึงรำพัน เป็นการรำพึงรำพันบรรยากาศผ่านตัวละครที่ได้อารมณ์ความสะเทือนใจ
๒) การใช้ถ้อยคำสำนวนเชิงตัดพ้อ ให้ให้เกิดอารมณ์สงสารเวทยาและบีบคั้นจิตใจผู้อ่านผู้ฟังเป็นอย่างยิ่ง
 ข้อคิดประจำกัณฑ์ ๑๓
๑)ทานบารมี เสียสละโดยไม่หวังผลตอบแทน
๒)ศีลบารมี ทรงรักษาศีล
๓)เนกขัมมบารมี ทรงมุ่งหน้าหาทางพ้นออกวัฏฏะ
๔)อธิษฐานบารมี ทรงมีความตั้งใจในพระราชดำริ
๕)ขันติบารมี ทรงอดทนต่อความยากลำบาก
๖.เมตตาบารมี ทรงประทานทุกสิ่งอย่างที่แก่ผู้มาขอ
๗. ปัญญาบารมี ทรงมีปณิธานแน่วแน่
๘.วิริยบารมี มีความเพียรเพื่อให้บรรลุถึงพระโพธิญาณ
จบการนำเสนอสมาชิกภายในกลุ่ม
นายสุพลวิชญ์ รอดราวี เลขที่ ๔
นางสาวชนิดาภา ชูเพ็ง เลขที่ ๙
นางสาวจุฑามาศ หนูเนื่อง เลขที่ ๒๐