Professional Documents
Culture Documents
เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 เล่ม1
เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 เล่ม1
เย่ฉูฉู่คิดว่าตนเองสิ้ นลมลาลับโลกไปแล้ว
ถึงอย่างไรองค์ชายก็ไม่อยู่แล้ว นางจะใช้ชีวิตเพียงลาพัง
ไปเพื่ออันใด?
ดังนั้นนางจึงพุ่งตัวโขกศีรษะกับโลงศพโดยไม่ลงั เลแม้แต่
น้อย
องค์ชายเพคะ บนเส้นทางสู่ ปรโลกยังมีฉูฉู่อยู่เป็ นเพื่อน
พระองค์ พระองค์จะไม่โดดเดี่ยวแล้ว นางคิดอย่างมีความสุ ข
ก่อนสิ้ นลม
ฉูฉู่ได้สติกลับคืนมาหลังจากที่จา้ วเหวินเทาเดินออกไป
เย่ฉูฉู่ชะงักขณะมองหญิงชราผูน้ ้ ี “เหวินเทา?”
ซึ่งตรงหัวกระดาษก็คือพระนามขององค์ชาย…เหวินเทา
แม้ว่า เย่ฉู ฉู่ จ ะรู ้ สึ ก ปวดหัว ทว่า สิ่ ง หนึ่ ง ได้ม าพร้ อ มกับ
ความทรงจาที่ผุดขึ้นมา ทาให้กลางอกของเย่ฉูฉู่กลับรู ้สึกราว
กับถูกอัดแน่นด้วยดอกไม้ที่เบ่งบาน
เกรงว่าคงจะสติหลุดไปแล้ว!
เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครแล้วนางจึงแอบหยิบยันต์ออกมาหนึ่ง
แผ่น จุดไฟเผาแล้วโยนลงไปในถ้วยพร้อมกับเทน้ าใส่ ถว้ ย ใช้
นิ้ วมื อกวนให้เข้า กันและพูด ว่า “เหวินเทา เอานี่ ไปป้ อ นให้
ภรรยาเธอกินก็เรี ยบร้อยแล้วจ้ะ!”
จ้า วเหวิ น เทาติ ด ตามอย่ า งใกล้ชิ ด ทั้ง ยัง พู ด ปลอบใจ
“ภรรยา นี่คือน้ ามนต์นะ ดื่มเข้าไปก็ไม่เป็ นอะไรแล้ว”
ครั้นเห็นว่าเธอยอมดื่มแต่โดยดี จ้าวเหวินเทาจึงพูดกับเธอ
“ดีข้ ึนไหมครับ?”
จ้าวเหวินเทาถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างเห็นได้ชดั
และพูดขึ้น “ดีแล้วล่ะ ดีแล้ว”
คุณแม่จา้ วเองก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเช่ นกัน นาง
หยิบเงินออกมาจากกระเป๋ าหนึ่งสตางค์แล้วยัดใส่ มือแม่หมอห
ยาง “อีกเดี๋ยวฉันจะเอาไข่ไก่ไปให้พี่นะจ๊ะ”
คุณแม่จา้ วจึงเดินนานางออกไปพูดคุยกันข้างนอก
ภายในห้องจึงเหลือแค่จา้ วเหวินเทาและเย่ฉูฉู่
นี่คือองค์ชายที่มีร่างกายแข็งแรง
ที่สาคัญคือตอนนี้เขาชะโงกหน้าเข้ามาด้วย การที่บุรุษผูน้ ้ ี
ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ทาให้นางเขินอายเสี ยจนใบหน้าแดงก่า เขา
ลูบหน้าผากของนางพลางมองด้วยความห่ วงใยผ่านสายตาคู่
นั้น
ทว่าจ้าวเหวินเทากลับขนลุกชันเพราะสายตาหวานเชื่ อม
ของภรรยาตนเอง แม้ว่าเพิ่งจะแต่งงานกันได้สามเดือน แต่อย่า
ใช้สายตาแบบนี้มองเขาเลยได้ไหม?
“คุณ…คุณมีอะไรอยากจะพูดกับฉันไหมคะ?” ได้เจอกับ
องค์ชายอี กครั้ ง เย่ฉูฉู่จึงตื่ นเต้นจนแทบทนไม่ ไหว แต่ ก็อด
ไม่ได้ที่จะเอ่ยปากพูดออกไปเบา ๆ
นางอยากให้องค์ชายพูดคุยกับนางจริ ง ๆ นะ
.
ตอนที่ 2 อ่อนปวกเปี ยก
ทั้งสองคนพลันแอบคานวณราคากันอย่างเงียบ ๆ
สองสามีภรรยาวางแผนไว้อย่างดิบดี ระหว่างกลับบ้านก็
กินแผ่นไข่ทอดไปพลาง ๆ โดยไม่คิดจะเจียดเงินนี้ไปให้กบั รถ
สาธารณะ เพราะอยากใช้เวลาอยูใ่ นเมืองที่นาน ๆ ทีถึงจะได้มา
สักหน่อย
ด้านหน้าพวกเขา เพิ่งจะมีสหายหญิงคนหนึ่งถูกปล้นกลาง
ทาง เขาจึงเห็นว่าโดยพื้นฐานแล้วพวกเขาคงหนี ไม่พน้ เขาวิง่
หนีทนั ก็จริ ง แต่ภรรยาของเขาวิง่ หนีอีกฝ่ ายไม่ทนั แน่นอน
จ้าวเหวินเทาจะทาอะไรได้อีก? ก็ตอ้ งต่อสู ้น่ะสิ !
นี่คือเรื่ องที่เกิดขึ้นในวันนี้
การกระทาอย่างฉับพลันของเขาทาให้เย่ฉูฉู่ตกตะลึง เดิมที
นางคิดจะหลับตาด้วยใบหน้าแดงก่าเพราะความเขินอาย แต่
นางกลับเห็นรอยแผลถูกฟาดที่แผ่นหลังของเขาเสี ยก่อน
จากนั้นจ้าวเหวินเทาก็ได้ยินเสี ยงร้องไห้สะอึกสะอื้นของ
หญิงสาวที่อยูด่ า้ นหลัง
จ้าวเหวินเทาจ้องมองเธอมากขึ้น
ไม่ เพียงแต่ เงิ นเท่ านั้น แต่ ยงั มี คูปองด้วย แม้ว่าจะไม่ ได้
มากมายอะไร แต่กน็ บั ว่าไม่นอ้ ยเลย
พวกเขาทั้งสองให้กาเนิดลูกสาวสองคนและลูกชายสี่ คน
แน่ น อนว่า ลู ก สาวคนโตต้อ งออกเรื อ นไปนานแล้ว ที่
เหลือก็คือพี่ชายรอง พี่ชายสาม แล้วก็พี่ชายสี่ ทั้งสามคนเป็น
ลูกชายทั้งหมด จนมาถึงพี่สาวห้านี่ แหละถึงจะเป็ นลูกสาวอีก
คน
ตอนที่ครอบครัวของพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ดว้ ยกันมันก็ดีอยู่
หรอก แต่ ห ลัง จากที่ ลู ก สะใภ้เ ข้า มาอยู่ ในบ้า นก็ ย่ อ มไม่
เหมือนเดิมอีกต่อไป
พี่สะใภ้รองจ้าวแต่งเข้าบ้านเป็นคนแรก จากนั้นพี่สะใภ้
สามจ้าวและพี่สะใภ้สี่จา้ วก็ยา้ ยตามเข้ามา ครั้นเหล่าพี่สะใภ้
แต่ ง เข้า มาอยู่ ใ นบ้า นแล้ว เดิ ม ที จ ้า วเหวิ น เทาก็ ย ัง รู ้ สึ ก มี
ความสุ ขเป็ นอย่างมาก
คิดว่าหลังจากที่เหล่าพี่สะใภ้แต่งเข้ามาอยูใ่ นบ้านแล้ว คง
ช่ ว ยพวกพี่ ช ายประคบประหงมเขา ก็เ ท่ า กับว่า มี พี่ ส าวเพิ่ ม
ขึ้นมาอีกสามคน
จ้าวเหวินเทาคิดว่าหัวใจของตัวเองคงแหลกสลายไปแล้ว
เย่ฉูฉู่มองเขาด้วยความตื้นตันใจ ภายในใจหวานหยดย้อย
ยิง่ กว่าน้ าผึ้ง ทาไมโชคชะตาของนางถึงได้ดีแบบนี้นะ?
หลังจากเย่ฉูฉู่ออกไปแล้ว จ้าวเหวินเทาพลันมองไปยัง
สถานที่ที่ภรรยาของเขาซ่ อนเงินไว้ ช่างเป็ นสาวโง่เสี ยจริ ง ไม่
รู ้จกั แอบซ่ อนเงินเอาเสี ยเลย ดันซ่ อนต่อหน้าเขาอีก ไม่กลัวว่า
เขาจะเอาเงินไปเล่นการพนันเลยหรื ออย่างไร?
จ้าวเหวินเทาหลับตาลงเพื่อนอนพัก การถูกทุบตีในวันนี้
เป็ นเรื่ องไม่เบาเลยจริ งๆ
ทว่านางก็คิดในใจกับตัวเองว่าอย่ามองตรงที่ลูกสะใภ้คน
เล็กคนนี้ เอาแต่ ตะคอกใส่ ลูกชายคนสุ ดท้องของนางเลย ถึ ง
ช่ วงเวลาสาคัญแบบนี้ ก็ยงั รู ้จกั เป็นห่ วงเป็ นใยสามีของตัวเอง
แถมน้ าตายังไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ สิ่ งนี้ ทาให้คุณแม่จา้ ว
รู ้สึกพึงพอใจเป็ นอย่างยิง่
ไปหาหมออะไรกันล่ะ ค่าหมอทั้งหมดเข้าไปอยู่ในท้อง
พวกเขาแล้ว
“ไม่ ต ้อ งรี บร้ อ นไป ยัง ไงพวกเธอก็ เ พิ่ ง แต่ ง งานกัน
หลังจากนี้จะเป็ นการเก็บเกี่ยวช่วงฤดูใบไม้ร่วงแล้ว พวกเธอก็
พักผ่อนกันสักหน่อย หลังหมดช่วงเก็บเกี่ยวแล้วค่อยท้อง แบบ
นั้น ถึ ง จะดี ที่ สุ ด ถึ ง เวลาก็ส ามารถพัก ผ่ อ นได้แ ล้ว ไม่ ต ้อ ง
เหนื่อยด้วย” คุณแม่จา้ วพูด
เขาจึงเข้ามาซ่อมแซมห้องด้านหลังบ้าน และยกห้องนอน
เดิมให้บรรดาหลานชายหลานสาว
เมื่อเย่ฉูฉู่กลับมาถึงที่ห้อง ก็พบว่าจ้าวเหวินเทาหลับไป
แล้ว นางจึงไม่ได้ตะโกนเรี ยกเขา เพียงแต่เก็บไข่ไก่ไว้ให้เขา
รับประทานตอนดึก จากนั้นจึงเดินออกไปช่วยงานอย่างอื่นต่อ
นี่คงไม่ตอ้ งให้ควักเงินก้อนโตจ่ายให้หรอกใช่ไหม?
พี่สะใภ้สามจ้าวและพี่สะใภ้สี่จา้ วไม่ได้แสดงท่าทางอะไร
ออกมา แต่พี่สะใภ้รองจ้าวที่เป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของบ้านได้มอง
เย่ฉูฉู่แล้วกล่ าวว่า “น้องสะใภ้หก วันนี้ พวกเธอเข้าไปตรวจ
ร่ างกายที่ในเมืองมานี่นะ ผลตรวจเป็ นยังไงบ้างจ๊ะ?”
เย่ฉู ฉู่ รู้ ดี ว่า การไม่ ไ ด้ไ ปทางานในวัน นี้ ย่อ มทาให้เ หล่ า
พี่สะใภ้ไม่พอใจ นางพลันพูดขึ้น “ขอบคุณพี่สะใภ้สองที่เป็ น
ห่ วง ฉันไปตรวจร่ างกายมาแล้วไม่ ได้มีปัญหาใหญ่อะไรค่ ะ
เพียงแค่อ่อนแอเล็กน้อย”
การทาแบบนี้จะช่วยให้นางมีลูกให้องค์ชายเร็วขึ้น
คิ ดเช่ นนี้ แล้ว เย่ฉูฉู่ก็แอบรู ้ สึกเขิ นอาย แต่ เมื่ อพูดถึ งลู ก
เย่ฉูฉู่พลันมองไปยังเด็ก ๆ ที่อยูเ่ ต็มบ้าน
ถึงเวลานั้นก็คงไม่ต่างจากผงธุลีจริ ง ๆ
พี่สะใภ้สี่จา้ วถึงขั้นสะอึกจนพูดไม่ออก
พี่สะใภ้คนอื่น ๆ ก็หมดคาพูดอย่างกะทันหันเช่นกัน
แม้ว่านางเพิ่งจะมาเข้าร่ าง แต่ก็มีความทรงจาอยู่จึงไม่ใช่
เรื่ องยากที่จะจาได้ ต่อให้มีมากกว่านี้กย็ งั แยกแยะได้สบาย ๆ
ต้าหยาคือลูกของพี่รองจ้าว เอ้อร์หยาคือลูกของพี่สามจ้าว
ส่ วนซานหยาและซื่อหยาเป็ นลูกสาวตัวน้อยของพี่สี่จา้ ว
ทุกคนต่างเดินไปล้างหน้ากันหมด
เย่ฉูฉู่จึงเข้าไปช่วยคุณแม่จา้ วยกอาหารค่าในคืนนี้ออกมา
ชาติที่แล้วตอนที่เย่ฉูฉู่ถูกเนรเทศก็ไม่ได้ใช้ชีวิตสุ ขสบาย
อะไร ดังนั้นนางจึงเคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลาบากมาก่อน ความ
จริ งแล้วข้าวโพดบดหยาบในตอนนี้ ก็ไม่ ได้ต่างจากตอนนั้น
เท่าไรนัก
เพียงแต่ หลังจากที่ เข้าไปในจวนขององค์ชายและได้อยู่
ข้างกายองค์ชาย เสื้ อผ้า อาหารการกิ น ที่ พกั และการสัญจร
ของนางจึงดีกว่าบรรดาคุณหนูตระกูลขุนนางโดยทัว่ ไป
เพียงแต่นางจะตัดใจไปได้อย่างไรกัน? ในเมื่อองค์ชายจาก
ไปก่อน หลังจากนั้นนางจึงตามองค์ชายไป
เหล่าพี่สะใภ้กม็ องมาที่นางเช่นกัน
เย่ฉูฉู่จึงเดินมาเรี ยกจ้าวเหวินทาว
จ้าวเหวินเทาถึงกับหดหู่ไปพักหนึ่ง
ฝี ปากของทุกคนในบ้านมัดรวมกันยังสู ้เขาคนเดียวไม่ได้
เลย
แต่เมื่อเห็นบาดแผลเหล่านี้ พวกเขาก็ตกใจกันจริ ง ๆ
“ก็ต ้อ งกล้า อยู่แ ล้ว สิ ค รั บ!” จ้า วเหวิน เทาพู ด “ผูช้ ายตั้ง
หลายคนฉุ ดกระชากผูห้ ญิงแค่คนเดี ยว แบบนี้ มนั หมายความ
ว่าอะไรล่ะ? ผมเห็นแล้วจะให้แกล้งทาเป็ นไม่เห็นเหรอ? อีก
อย่างผมก็มีเรื่ องชกต่อยมาตั้งแต่เด็ก ก็ตอ้ งมีวิธีอยูแ่ ล้ว แต่เด็ก
ๆ อย่างพวกเธอฟั งไว้ให้ดีนะ ถ้าเจอปั ญหาก็อย่าทาอะไรที่เกิน
ก าลัง ตัว เองเข้า ใจไหม เจอปั ญ หาที่ ต ัว เองรั บ ไม่ ไ หวก็อ ย่า
บุ่มบ่ามเข้าไป เพราะนอกจากจะช่ วยคนอื่นไม่ได้แล้ว แม้แต่
ตัวเองก็จะถูกลากเข้าไปด้วย วิ่งไปเรี ยกคนอื่นมาช่วยต่างหาก
ล่ะคือเรื่ องที่สาคัญ!”
คุยโวไปคุยโวมา คาพูดในภายหลังก็กลับกลายเป็นคาพูด
ที่บอกพวกหลาน ๆ ว่าความกล้าหาญที่ไร้ความเฉลียวฉลาด
นั้นไม่มีประโยชน์ ไหวพริ บต่างหากล่ะคือสิ่ งสาคัญ
*ถูกสกัดความตั้งใจจนดับมอด
วันนี้เย่ฉูฉู่ไม่ได้ไปทางาน ดังนั้นนางจึงขันอาสาทาหน้าที่
เก็บ ล้า งจานชาม เก็บกวาดแค่ เ พี ย งเล็ก น้อ ย ไม่ น านก็เ สร็ จ
เรี ยบร้อยแล้ว
นางเติมน้ าลงในกะละมังล้างหน้าของนางและจ้าวเหวินเทา
ก่อนเดินเข้าบ้านไปชาระล้างร่ างกาย
จะปล่อยให้เนื้อตัวมอมแมมเลอะเทอะได้หรื อ? อย่างไรก็
ต้องล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาด
หลังจากเปลี่ ยนน้ าไปสามกะละมังเต็ม นางก็เปลี่ ยนมา
สวมใส่ ชุดใหม่ และถือโอกาสซักเสื้ อผ้าของตัวเองแขวนตาก
ไว้นอกชายคาบ้านไปด้วย
ลองมาคิดดูแล้วใครจะไปทนไหวกันล่ะ?
“คุ ณไม่ เคยคิ ดแบบนี้ เหรอ? คุ ณไม่ อยากมี บา้ นเป็ นของ
ตัวเองหรื อไง?” พี่สามจ้าวย้อนถาม
พี่สะใภ้สามจ้าวไม่ได้พูดอะไร แต่หล่อนก็มีความคิดนี้อยู่
จริ ง ๆ
是的,就叫牙刷,专门用来刷
牙的,告诉她早上晚上都要刷。
ใช่ แ ล้ ว มั น เรี ยกว่ า แปรงสี ฟั น ใช้ ส าหรั บ แปรงฟั น
โดยเฉพาะ เขาบอกว่านางต้องแปรงทั้งเช้าและค่า
แต่องค์ชายเก็บเงินส่ วนพระองค์ไว้ไม่มากมาแต่ไหนแต่
ไรแล้ว เขาชอบนาไปสร้างสะพานและปูถนน สร้างสะพาน
สาหรับสถานที่ยากจนแร้นแค้นหลายแห่ ง ทั้งยังปูถนนให้กบั
ชนบทในอีกหลายพื้นที่ดว้ ย
หลังพี่สาวห้าของเขาเข้าเมืองไปทางานที่โรงงานยาสี ฟัน
ทุกคนในบ้านก็เริ่ มแปรงฟั น มีหลายคนในชนบททีเดียวที่ไม่
ค่อยแปรงฟันกัน แต่ถา้ ไม่แปรงฟันก็คงจะฟันผุ
ทั้งสองคนแปรงฟันในช่วงกลางดึก จากนั้นจึงขึ้นเตียงเพื่อ
เข้านอน
นี่มนั …ช่างน่าอายจริ ง ๆ
เย่ฉูฉู่อายจนไม่ไหวแล้ว นางไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามอง
เขา
จ้าวเหวินเทาเห็นท่าทางของเธอแล้วก็พลันโอบกอดเธอ
ด้วยรอยยิม้ จากนั้นจึงพูดความในใจกับภรรยา “ถ้าครอบครัว
ของเราแยกบ้านได้กค็ งดีมากเลยนะ”
“แยกบ้า น?” เย่ฉู ฉู่ ไ ด้ยิน ค าพู ด นี้ พลัน ชะงัก ไปเล็ก น้อ ย
นางมองเขาอย่างงุนงง
“ภรรยา คุณไม่คิดที่จะแยกบ้านเหรอครับ?” จ้าวเหวินเทา
เห็นเธอเป็ นแบบนี้ จึงคิดว่าควรจะเจรจากับภรรยาให้เข้าใจสัก
หน่อย “ถ้าพวกเราแยกบ้าน พวกเราก็สามารถกินอะไรตามใจ
ตัวเองได้แล้ว ถึงเวลานั้นพวกเราสองคนอยากกินอะไรก็ได้กิน
อยากทางานก็ทา ไม่อยากทางานก็พกั สบายจะตายไป แถมไม่
ต้องคอยดูสีหน้าพวกพี่ชายพี่สะใภ้ดว้ ย!”
“แต่สุดท้ายทุกคนก็เป็นครอบครัวเดียวกัน คุณพ่อกับคุณ
แม่กย็ งั อยู่ พวกเราจะแยกบ้านได้ยงั ไงล่ะคะ?” เย่ฉูฉู่พูด
จ้าวเหวินเทาจาเป็ นต้องให้ภรรยาของเขาเลี้ยงที่ไหนกัน
ล่ะ เพียงแต่ไม่อยากขัดใจภรรยาของเขาที่นาน ๆ จะรักเขาสุ ด
หัวใจแบบนี้กเ็ ท่านั้นเอง
ไม้ที่ฟาดลงมาในวันนี้ ได้เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อเขาแบบ
180 องศาจริ ง ๆ
เขาไม่ได้ถูกทุบตีอย่างเปล่าประโยชน์ ไม่เปล่าประโยชน์
เลยจริ ง ๆ
เขานอนกอดภรรยาของตนเองโดยไม่รังเกียจความร้ อน
และเนื้อตัวเหนียวเหนอะแต่อย่างใด
เย่ฉูฉู่เองก็เหนื่อยเช่นเดียวกัน ทว่านางกลับนอนด้วยหัวใจ
ที่เปี่ ยมสุ ข
เหล่าลูกชายและลูกสะใภ้โตแล้วย่อมมีความคิดเป็ นของ
ตนเอง อันที่จริ งคุณพ่อจ้าวและคุณแม่จา้ วที่อยู่ในห้องก็กาลัง
พูดคุยเรื่ องนี้กนั อยูเ่ ช่นกัน
ครั้ นถึ ง เวลาเช้า ตรู่ ข องวัน รุ่ ง ขึ้ น คุ ณ แม่ จ ้า วก็ลุ ก ขึ้ น มา
ทาอาหารเช้า พี่สะใภ้รองจ้าว พี่สะใภ้สามจ้าวและพี่สะใภ้สี่
จ้าวก็ทยอยกันตื่นนอนต้อนรับเช้าวันใหม่
ครั้นเห็นว่าคนบ้านหกยังไม่ตื่น พี่สะใภ้รองจ้าวก็ไม่ได้พูด
อะไร ทว่ า พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วกลับ รู ้ สึ ก ถึ ง ความอยุ ติ ธ รรม และ
กระซิ บว่า “น้องสามีกบั น้องสะใภ้หกยังไม่ตื่นอีกเหรอคะ? มี
เสื้ อผ้าในบ้านอีกกองหนึ่งที่ยงั ไม่ได้ซกั นะคะ!”
พี่สะใภ้สี่จา้ วไม่อยากพูดกับพี่สะใภ้ใจดาคนนี้แล้ว
“บ้านจ้าวมีใครอยู่ไหม?” ในเวลานี้ มีเสี ยงตะโกนดังขึ้ น
จากด้านนอก
ครั้นกล่าวจบ สายตาของพี่สะใภ้รองจ้าวก็เหลือบเห็นเนื้อ
หมูที่พ่อค้าเนื้อไช่หิ้วอยูใ่ นมือ
นี่คงไม่ใช่ญาติของใครในบ้านหรอกใช่ไหม?
“ผมมาขอบคุ ณน้องชายเหวินเทา เมื่อวานกลับมาบ้านก็
ไม่ได้มีอะไรติดไม้ติดมือ เช้าวันนี้ผมก็เลยนาเนื้อมาให้เขาหนึ่ง
ชิ้น!” พ่อค้าเนื้อไช่กล่าวด้วยรอยยิม้
หากไม่ใช่ เพราะน้องชายจ้าวเหวินเทาไม่กลัวต่ออานาจ
ความชัว่ ร้าย เงินในกระเป๋ าของภรรยาคงโดนขโมยจนหมด ที่
สาคัญก็คือเมื่อวานมีแค่ภรรยาของเขาอยู่ที่นนั่ เพียงลาพัง แต่
กลับต้องเผชิญหน้ากับผูช้ ายถึงสี่ คน
นี่มนั อันตรายขนาดไหนกัน?
ทาไมน่ะเหรอ?
โชคยังดีที่พ่อค้าเนื้อไช่และสหายมาได้ทนั เวลา
จ้าวเหวินเทาเดินออกมาพลางหาวหวอดก่อนจะเห็นพ่อค้า
เนื้อไช่มาพร้อมกับเนื้อ แม้ในใจจะรู ้สึกพอใจที่คนทางานคนนี้
อยู่เป็ นและเอาใจใส่ ผูอ้ ื่น แต่ปากก็ยงั เอ่ยด้วยความเกรงใจว่า
“พี่ซื่อหู เกรงใจกันเกินไปแล้ว เรื่ องเมื่อวานต่อให้เป็ นคนอื่น
ผมก็ต ้อ งท าแบบนั้น เหมื อ นกัน ท าไมต้อ งเอาเนื้ อ ชิ้ น ใหญ่
ขนาดนี้ มาให้ผ มด้ว ยล่ ะ ครั บ ? พี่ รี บ เอาไปบ ารุ ง ร่ า งกายให้
หลานชายหลานสาวของผมเถอะ ส่ ว นตัว ผมไม่ ต ้อ งใช้ม ัน
หรอก!”
เนื้อชิ้นใหญ่ขนาดนี้เชียวนะ!
คุณแม่จา้ วก็พูดว่า “นัน่ สิ ๆ ถ้าหากเป็ นคนอื่นก็คงทาแบบ
นี้ เหมือนกัน ยังต้องนาเนื้ อชิ้ นใหญ่ขนาดนี้ มาทาไมกัน? เธอ
รี บเอากลับไปกินกันเองเถอะ”
แต่ภรรยาของเขากลับไม่เป็ นอะไรเลย
ดังนั้นวันนี้ไม่วา่ อย่างไรก็ตอ้ งมอบเนื้อชิ้นนี้ให้อีกฝ่ าย
แต่ทางฝั่งตระกูลจ้าวยืนกรานที่จะคืนกลับไป เกี่ยงกันไป
เกี่ยงกันมาจนเกิดเสี ยงดังอื้ออึงเหมือนกาลังทะเลาะกับอีกฝ่ าย
กระทัง่ เพื่อนบ้านทุกคนได้ยนิ กันหมดและเข้ามาห้อมล้อมมุงดู
ท้า ยที่ สุ ด พ่ อ ค้า เนื้ อ ไช่ ก็ก ลับ ไปพร้ อ มกับ เหงื่ อ โชกทั้ง
ศี ร ษะ แต่ ต อนที่ ขี่ จ ัก รยานออกไป ใบหน้า กลับเต็ม ไปด้ว ย
ความพึงพอใจ ตระกูลจ้าวนี้ไม่เลวเลยจริ ง ๆ นับว่าเป็ นตระกูล
ที่มีศีลธรรมก็วา่ ได้!
หลังจากกลับไปเขาก็เล่าให้ภรรยาฟัง ภรรยาของเขาไม่ได้
รู ้ สึกว่าผิดคาดเลยสักนิ ด การที่ ตระกูลนั้นสามารถอบรบสั่ง
สอนน้องชายเหวินเทาให้เป็ นคนแบบนั้นได้ถือว่าไม่เลวเลย
ส่ วนทางฝั่งตระกูลจ้าวก็ดีใจเป็ นอย่างมาก
คุ ณ แม่ จ ้า วถื อ เนื้ อ หมู ส ามชั้ นล่ อ ตาคนมองไว้ใ นมื อ
จากนั้นก็ออกไปยืนคุยโวกับเพื่อนบ้าน
คิดไม่ถึงเลยว่าน้องหกจะอุทิศตนให้กบั ครอบครัวจริ ง ๆ!
เย่ฉูฉู่ออกไปช่วยงานหน้าบ้านแล้ว จ้าวเหวินเทาอดไม่ได้
ที่จะพึมพาขึ้นว่า เหตุใดจู่ ๆ เธอถึงได้เปลี่ยนไปมากมายขนาด
นี้ ภรรยาของเขาไม่ใช่คนขยันหมัน่ เพียรสักหน่อย
เย่ฉูฉู่เดินมาด้านหน้าบ้านจึงได้ทราบเรื่ องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า
ภายในใจกลับไม่ได้มีความสุ ขเท่าไรนัก ถูกทุบตีขนาดนั้นแต่
กลับ แลกได้แ ค่ เ นื้ อ ชิ้ น นี้ หนึ่ งชิ้ น มัน จะไปมี ค วามสุ ข ได้
อย่างไรกันล่ะ?
ตอนนี้ทางฝั่งด้านในห้องครัวมีกลิ่นน้ ามันลอยออกมาแล้ว
กลิ่นนั้นช่างหอมหวนจนทนไม่ไหวจริ ง ๆ
ถึงตอนเช้าจะรับประทานวอโถว[2]มันเทศ แต่คุณแม่จา้ ว
ได้ใช้น้ ามันก้นหม้อผัดกับข้าวจานใหญ่ กลิ่นอาหารที่ผดั ด้วย
น้ า มัน หมู ช่ า งหอมน่ า รั บประทานเหลื อ เกิ น ทั้ง ยัง มี น้ า แกง
มะเขือเทศไข่คน[3]ที่มีน้ ามันลอยเยิม้ อยูอ่ ีกหนึ่งถ้วยด้วย
ต้องบอกว่าทุกคนต่างกินกันจนหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือ
จ้าวเหวินเทาและเย่ฉูฉู่เองก็กินจนหนาใจเช่นกัน
ดูสิ สองสามีภรรยาบ้านหกนี่ช่างสมกับเป็นคู่ชีวิตกันจริ ง
ๆ สวมกางเกงตัวเดียวกัน ไม่ได้เปลี่ยนนิ สัยหลังจากได้สร้าง
วีรกรรมเพื่อความถูกต้องเลย
จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายทาหน้าที่ของตนเอง
[3] น้ าแกงมะเขือเทศไข่คน
ตอนที่ 8 ใต้ ต้นไม้ มกี ระต่ ายป่ าหนึ่งตัว!
ทุกคนที่ได้เห็นกับตาตัวเองต่างพากันส่ ายหน้าอย่างห้าม
ไม่ อ ยู่ น้อ งหกจ้า วยัง เป็ นน้อ งหกจ้า วอยู่ว นั ยัง ค่ า ทุ ก คนไป
ทางานกันหมด แต่เขากลับขึ้นไปตากลมบนยอดเขา หากไม่ใช่
เพราะตระกูลจ้าวมีผชู ้ ายเยอะ คนในหมู่บา้ นคงไม่เห็นด้วย
ท้ายที่สุดการแบ่งอาหารก็แบ่งตามทางานสามครัวเรื อน
เจ็ด!
วันนี้เย่ฉูฉู่เดินทางออกมาถอนต้นมันเทศกับคนอื่น ๆ ด้วย
เช่นกัน
ในหมู่บา้ นเพิ่งจะเริ่ มเลี้ยงหมูเมื่อปี ที่แล้ว ก่อนหน้านี้ อยู่
กันอย่างลาบากยากเข็ญ แค่คนก็ไม่พอจะกินอยูแ่ ล้ว อย่าได้พูด
ถึ งการเลี้ ยงหมู เลย แต่ หลังจากที่ เริ่ มเลี้ ยงหมู เมื่ อไม่ กี่ปีก่ อน
ปฏิกิริยาของเหล่าสมาชิกถือว่าไม่เลว
หมู ชุ ด นี้ มี ท้ งั หมด 14 ตัว บางตัว ก็เ ริ่ ม เลี้ ย งตั้ง แต่ ตน้ ฤดู
ใบไม้ผลิปีที่แล้วจนถึงปี นี้ และมีบางตัวที่จบั มาเลี้ยงในปี นี้ ตัว
ที่ เลี้ ยงตั้งแต่ ปีที่ แล้วจนถึ ง ปี นี้ สามารถส่ งไปยังสถานี รั บซื้ อ
สิ นค้าได้แล้ว สิ่ งนี้ ทาให้เหล่าสมาชิ กต่างตั้งตารอคอยอย่างมี
ความสุ ข
แน่นอนว่าคนที่มีเงื่อนไขได้รับอนุญาตก็จะได้แบ่งเนื้อไป
บางส่ วนด้วย ของที่เหลือจากนั้นไม่ตอ้ งใช้ตวั๋ เนื้ อซื้ อ มีเงินก็
สามารถซื้อได้
ตระกูลจ้าวเคยซื้อมาหลายครั้งแล้ว
เรื่ องนี้ ไม่ตอ้ งพูดถึงเลย เพราะบรรดาหมูเมื่อปี ที่แล้วต่าง
เติบโตจนมีน้ าหนักเกิน 120 ชัง่ ตามที่กาหนดไว้ ดังนั้นทุกคน
จึ ง มี ค วามจริ ง จัง เป็ นอย่า งยิ่ง และให้ก ารดู แ ลปรนนิ บ ัติ ห มู
เหล่านี้อย่างละเอียดอ่อนเป็ นพิเศษ
แต่หลังจากที่เย่ฉูฉู่แต่งงานเข้าตระกูลจ้าว งานของเธอก็
คืองานของต้าหยาและเอ้อร์หยา
เย่ฉูฉู่มีความประทับใจต่อหญิงชราคนนี้ที่กาลังถามเธออยู่
นิ ดหน่ อย ทั้งนางยังเป็ นคนที่มีความสัมพันธ์อนั ดี กบั ตระกูล
จ้าว จึงกล่าวด้วยรอยยิม้ ว่า “จากที่คุณป้ าถามมา เนื้ อมันจะไม่
หอมอร่ อยตรงไหนกันล่ะคะ? ปี นี้หมูของฝ่ ายผลิตพวกเราก็จะ
ถูกปล่อยออกมาจากคอกแล้ว ถึงเวลานั้นด้วยจานวนแรงงาน
ของบ้านคุณป้ าก็คงได้ส่วนแบ่งไม่นอ้ ย ปี นี้ ได้กินจนปากมัน
แผล็บแน่นอนค่ะ”
จ้าวเหวินเทาที่อยูบ่ นเขาได้เข้าไปด้านในพุ่มไม้ที่ค่อนข้าง
ลึกแล้ว เขามักจะเข้ามาในเขาเพื่อหาของกินตอนที่ยงั เด็ก เป็ น
เพราะตอนเด็กเขาหิ วเกินไป และเป็ นเรื่ องยากที่จะกินให้อิ่ม
ท้อ งยามอยู่ที่ บ ้า น โดยเฉพาะหลัง จากที่ พี่ ช ายและพี่ ส ะใภ้
แต่งงานกัน ทั้งยังมีหลานชายและหลานสาวเพิ่มเข้ามาอีกตั้ง
เยอะแยะ
แล้วอาเล็กคนนี้ จะไม่ เข้าป่ ามาหาของกิ นได้อย่างไรกัน
ล่ะ?
“หา?” จ้าวเหวินเทาชะงัก
เอาล่ะ ได้เนื้อมาหนึ่งหม้อแล้ว
แต่เมื่อมาคิดดูแล้ว เขาคิดว่ากระต่ายตัวนี้สะดุดตาเกินไป
หน่อย
ขนาดของไข่ไก่ฟ้าย่อมไม่อาจเทียบไข่ไก่ได้ แต่ไข่ไก่ฟ้า
จานวน 7-8 ฟองก็นบั ว่าไม่นอ้ ยเลย เขาจึงเทราสเบอร์รี่ที่อยูใ่ น
ตะกร้าใบเล็กออกมา หลังจากวางไข่ลงไป จึงนาราสเบอร์รี่ใส่
กลับเข้ามาตามเดิม
วัน นี้ เก็บ ไข่ ไ ก่ ฟ้ า ได้ 7-8 ฟอง ได้ร าสเบอร์ รี่ แถมยัง มี
กระต่ายอีกหนึ่งตัวด้วย
จ้าวเหวินเทาแบกฟื นมัดหนึ่งลงจากเขาอย่างอารมณ์ดี
ตอนเช้าคนอื่นไปทางานส่ วนเขาขึ้นเขา ตอนเที่ยงคนอื่น
เลิกงานส่ วนเขาลงจากเขา แต่ดว้ ยความพยายามในช่ วงเช้านี้
หากเป็ นคนอื่นที่ทางานเป็ น ก็คงแบกฟื นจานวนมากกลับมา!
“ตั้งแต่เมื่อวานฉันก็รู้สึกว่าน้องสะใภ้หกกับน้องสามีตวั
ติดกันหนึ บเชี ยว วันนี้ พอได้เห็นก็เป็ นแบบนั้นจริ ง ๆ ด้วย นี่
แค่ข้ ึนไปบนเขาเองนะ คนที่ไม่รู้คงคิดว่าที่เธอเป็ นห่ วงแบบนี้
เพราะเขาเข้าเมืองหลวง” พี่สะใภ้สามพูดแซว
เย่ฉูฉู่รู้สึกไม่ดีเป็ นอย่างมาก “เขายังมีบาดแผลอยู่บนตัว
ฉันก็เลยเป็ นกังวลน่ะค่ะ”
ทุกคนพลันหยุดชะงัก “…”
พี่สามจ้าวออกไปดูอย่างไม่เชื่อสายตา แต่เขาก็พบว่าด้าน
นอกไม่มีฟืนที่ยงั ไม่นาเข้ามาจริ ง ๆ!
พี่สามจ้าวไม่อยากสนใจเขาอีกต่อไป จ้าวเหวินเทาเลิกคิ้ว
พูด “เอาเข้าไปในห้องครัว ไว้ให้แม่จุดไฟเถอะครับ”
“เดี๋ ยวพี่ ข นเข้า ไปเอง” พี่ ส ะใภ้ส ามจ้า วพู ด ด้ว ยรอยยิ้ม
ก่อนจะแบกฟื นเข้าไปด้านในห้องครัว
“คุณเข้ามาดูสิ!” พี่สะใภ้สามจ้าวพูด
“เบาเสี ยงหน่อย!” คุณแม่จา้ วที่กาลังทากับข้าวตามออกมา
เอ็ดเบา ๆ
ทุกคนค่อนข้างพึงพอใจกับอาหารมื้อเที่ยงนี้ ในเวลานี้ไม่
มีอะไรดีไปกว่ากับข้าวที่มีน้ ามันอีกแล้ว
ต้าหยาและเอ้อร์หยารับผิดชอบเก็บกวาดล้างจาน ส่ วนคน
อื่น ๆ ก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน
พี่สะใภ้รองจ้าวและพี่สะใภ้สามจ้าวไม่ได้มีความคิดเช่นนี้
วันนี้ เหนื่ อยมากพอแล้ว จึงรี บเข้านอนโดยเร็ ว ตื่นขึ้นมาก็ยงั
ต้องไปกาจัดวัชพืชอีก!
“ฉันกับพี่สะใภ้ใหญ่คิดแบบนั้นก็เป็ นเพราะพ่อกับแม่ของ
คุณท่านจากไปแล้ว จึงแยกบ้านออกมา แต่ตอนนี้พวกเรายังอยู่
นะคะ!” คุณแม่จา้ วพูด
คุณแม่จา้ วก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน
ตอนนี้ ทุ ก คนอาศัย อยู่ร่ ว มชายคาเดี ย วกัน กิ น ร่ ว มโต๊ ะ
เดี ยวกัน หากใครมีลูกก็ช่วยกันดู แลให้ได้โดยไม่ตอ้ งลาบาก
มากนัก
เขาเองก็วางแผนไว้แล้วว่าอยากจะแยกบ้านออกไปในปี นี้
เลย แบบนี้ ก็จะทาให้เขาและภรรยาได้อยู่ในโลกของพวกเขา
สองคนอย่างสะดวกสบาย
แน่นอนว่าหลังจากแยกครอบครัวแล้วก็ไม่ได้ยา้ ยออกไป
พวกเขายัง คงอาศัย อยู่ที่นี่ เพราะการออกไปสร้ า งบ้า นด้ว ย
ตนเองนั้นไม่ใช่เรื่ องง่ายเลย
ดังนั้นการแยกครอบครัวโดยไม่แยกบ้านจึงเป็นหนทางดี
ที่สุด ส่ วนเหล่าพี่สะใภ้ของเขาก็ไม่จาเป็ นต้องไปสนใจ
เมื่อสองสามีภรรยากินผลไม้เสร็ จก็เตรี ยมตัวงีบกลางวัน
จ้าวเหวินเทายังกอดภรรยาตนไว้ ส่ วนเย่ฉูฉู่ยงั รู ้ สึกเขิ น อาย
เล็กน้อย เธอกล่าวขึ้น “ตัวฉันเหม็นเหงื่อไปทั้งตัวเลยนะคะ”
เย่ฉูฉู่ใบหน้าแดงระเรื่ อ มองเขาด้วยดวงตาเจือรอยยิม้
เย่ฉู ฉู่ ลุ ก ขึ้ น มาเก็บ ที่ น อน จ้า วเหวิ น เทาพู ด ด้ว ยอาการ
สะลึมสะลือ “ภรรยา จาไว้ว่าต้องอูง้ านบ้างนะครับ อย่าขยัน
เกินไปล่ะ”
“ฉันรู ้แล้วค่ะ คุ ณเองก็พกั ผ่อนเยอะ ๆ รอให้ถึงเวลาคุ ณ
ค่อยลุกขึ้นมาเรี ยกคุณแม่ตม้ ไข่ไก่ให้คุณกินนะคะ” เย่ฉูฉู่กล่าว
“จู บ ผมก่ อ นสิ แ ล้ว ค่ อ ยไป” จ้า วเหวิ น เทาพู ด พร้ อ มกับ
หลับตา
จ้าวเหวินเทานอนหลับต่ออย่างพึงพอใจ
“ครับ” จ้าวเหวินเทาพยักหน้า
เขาถือกะละมังไม้ออกนอกประตูเพื่อนาไปฝังอย่างเงียบๆ
หลังจากเสร็จธุระแล้วก็อาบน้ าที่แม่น้ า ผ่านไปครู่ หนึ่งจึงพบว่า
มีปลาตัวใหญ่ตวั หนึ่งน้ าหนักราว 3-4 ชัง่ เขาชะงักครู่ หนึ่งก่อน
จะได้ส ติ จากนั้น จึ ง เดิ น เข้า ไปอย่า งระมัด ระวัง ก่ อ นจะใช้
กะละมังในมือช้อนปลาขึ้นมา!
“งั้นผมเอาไปให้เลยนะครับ?” จ้าวเหวินเทาพูด
“เอาไปเถอะ ในเมื่อทางนั้นเลี้ยงดูลูกสะใภ้ได้ดีแบบนี้ แก
ก็ควรจะกตัญญูต่อทางนั้นไว้นะ” แม้คุณแม่จา้ วจะแอบเสี ยดาย
แต่ ก ารได้ไ ปมาหาสู่ ก ับ ทางฝั่ ง ตระกู ล เย่ก็ท าให้น างรู ้ สึ ก มี
ความสุ ขมาก
จ้าวเหวินเทาก็ไม่เกรงใจเช่นกัน แต่ก่อนที่จะออกจากบ้าน
เขาก็นาไข่ไก่ฟ้า 8 ฟองที่ซ่อนอยู่มอบให้ผูเ้ ป็นแม่ เพื่อให้นาง
ช่วยต้มให้
เขาเดินหิ้วปลาตัวนี้อย่างมีความสุ ข
แน่ น อนว่ า พวกเขาเลี้ ย งมัน ไว้ห ลัง บ้า นทั้ง หมด ไม่ ไ ด้
ปล่อยออกไป คนที่อยูด่ า้ นนอกจึงไม่ทราบแน่ชดั ว่าเลี้ยงกี่ตวั
“ถ้างั้นก็เหนื่อยแย่เลยนะครับ” จ้าวเหวินเทาพูด
ถ้าไม่โง่แล้วทาไมต้องทางานกันเอาเป็ นเอาตายแบบนั้น
ด้วย?
“แม่เองก็คิดแบบนี้ เหมือนกัน” คุ ณแม่เย่มองลูกเขยด้วย
สายตาชื่ นชม ขณะกระซิ บว่า “ทาไร่ ทานาแค่น้ นั มันจะเลี้ ยง
ครอบครัวใหญ่ได้เหรอ? แต่ละคนก็ได้กินแค่ขา้ วต้มกัน ถ้าไม่
ทางานหาเลี้ยงชีพสารองสักหน่อย ก็อย่าหวังว่าจะอิ่มท้องเลย”
นางข่มสามีได้แล้วด้วยการเลี้ยงไก่ หลังเลี้ยงไปหลายสิ บ
ตั ว แน่ น อนว่ า นั บ ตั้ งแต่ ปี นี้ เป็ นต้ น ไปคงได้ ว างไข่ ก ั น
สนุกสนาน
ช่วงที่พวกมันวางไข่เยอะ ๆ หนึ่งวันสามารถวางไข่ได้ 30
ฟอง เก็บ 3-4 วันก็สามารถให้พวกลูกชายใช้ประโยชน์จากช่วง
กลางดึกแบกออกไปได้แล้ว
รายได้ที่เข้ามาทาให้คุณแม่เย่พึงพอใจมาก
จ้าวเหวินเทารู ้สึกว่าแม่ยายของเขาเป็นคนมีเหตุผลจริ ง ๆ
ซึ่ งมันก็เป็ นเรื่ องจริ ง ไข่ไก่ที่ไก่ 8 ตัวฟั กออกมามันจะไปพอ
กินอะไร?
ดูสิ นี่แหละเหตุผลที่เขาชอบมาหาแม่ยาย
คราวก่อนตอนที่เขามาพร้อมกับภรรยาก็เจอครอบครัวเย่
กาลังทาซาลาเปาอยู่ แม่ยายของเขาจึงให้เขากินซาลาเปาเนื้อสี่
ลูก ให้เขากินแบบไม่เสี ยดายเลยจริ ง ๆ ทั้งยังดูแลเขาคล้ายกับ
เป็ นลูกชายคนหนึ่งด้วย!
ไม่แปลกใจเลยที่ก่อนหน้านี้ภรรยาของเขามักจะพูดกับเขา
ว่าหลังจากมาอยู่กบั เขาแล้วก็ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุ ขเลย
แถมยังรู ้สึกเสี ยใจที่แต่งงานกับเขาด้วย
แม้ว่าตั้งแต่เมื่อวานนี้ภรรยาของเขาจะเริ่ มเป็นห่ วงเป็นใย
เขา ถึ งกับไม่ ยอมให้เขาไปทางานและให้นอนพักผ่อนอยู่ที่
บ้าน แต่เขาก็ไม่เต็มใจให้ภรรยาออกไปทางานเช่นเดียวกัน
เพราะหากอ้างตามกฎของที่นี่ หลังจากแยกบ้านจากพ่อแม่
แล้ว พ่อแม่กจ็ ะกินอยูก่ บั ลูกชายคนโต
เพราะเขามองออกว่าหลังจากนี้ จะไม่มีใครกีดกันเขาใน
การเลี้ยงสัตว์อีกต่อไป ไม่เห็นไก่จานวนมากของแม่ยายเขาที่
กาลังฟักไข่เหรอ?
ก่อนหน้านี้ ใครจะกล้าทาแบบนี้ กนั ล่ะ แต่ตอนนี้ คงไม่ใช่
แบบนั้นแล้ว เขาเข้าไปในบ้านของพ่อตาและพบว่าหลังบ้านมี
ไก่มากมายขนาดนั้น โดยที่คนอื่นก็มองไม่เห็นด้วย ถึงเขาจะ
ไม่เห็นแต่ก็ยงั ได้ยินเสี ยง เสี ยงร้องของไก่หนึ่ งตัวกับไก่ หนึ่ ง
ฝูงแตกต่างกันขนาดไหน ถ้าไม่ใช่คนหู หนวกก็ได้ยนิ กันหมด
นัน่ แหละ
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่มีใครเหมือนกับตระกูลจ้าวของพวก
เธอหรอก ลูกชายลูกสาวโตขนาดนี้แล้ว แถมยังเป็นฝั่งเป็ นฝา
กันหมดแล้วด้วย แต่กลับไม่ยอมแยกบ้าน นี่คิดจะทาอะไร จะ
ให้พวกเธอเลี้ยงดู สองสามีภรรยาเด็กคู่น้ นั ต่อไปเรื่ อย ๆ เลย
เหรอ?” สะใภ้ใ หญ่ ข องเพื่ อ นบ้า นซุ บ ซิ บนิ น ทาราวกับ เป็ น
เดือดเป็ นร้อนแทน
พี่สะใภ้สี่จา้ วไม่ได้อยากแยกบ้าน เพราะหล่อนก็ไม่ได้ดี
ไปกว่าพี่สะใภ้ท้ งั สองคน ตอนนี้ภายในบ้านก็มีแค่ลูกสาวสอง
คนที่เป็ นตัวขาดทุน หล่อนแยกบ้านไปก็เท่ากับเสี ยเปรี ยบอย่าง
หนักไม่ใช่เหรอ?
ค น อื่ น ๆ ใ น ต ร ะ กู ล จ้ า ว แ ล ะ ค น ทั่ ว ไ ป ไ ม่ ไ ด้ มี
ความสามารถนั้น แต่ ไ ม่ รู้ ว่า ด้ว ยเหตุ ผ ลอะไร น้อ งหกแห่ ง
ตระกูลจ้าวถึงได้โชคดีอย่างน่าเหลือเชื่อ เพราะสัตว์ป่าเหล่านั้น
ต่างก็โผล่ออกมาทางฝั่งเขาทั้งหมด
เป็ นเหตุให้เขาจับพวกมันได้และได้เนื้อกลับไปกินที่บา้ น
ไม่ใช่เหรอ?
ทุกคนที่ผา่ นการเก็บเกี่ยวช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงต่าง
ก็เหนื่อยแทบทนไม่ไหวจนสายตัวแทบขาด แต่ผใู ้ หญ่และเด็ก
ๆ ของตระกูลจ้าวกลับมีสีหน้าดูดีมากขึ้นทุกครั้งที่การเก็บเกี่ยว
ช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงมาถึง!
กลิ่นหอมของหมูสามชั้นผัดน้ าแดงทาให้เด็กในหมู่บา้ น
ต้องร้องไห้เพราะความอยากกิน
ทว่าคุณแม่จา้ วเองก็อยูเ่ ป็ น นางจัดการส่ งเนื้อบางส่ วนไป
ให้พี่นอ้ งของคุณพ่อจ้าว พวกลุง ๆ ที่ได้รับความเคารพยกย่อง
ภายในตระกูล รวมถึงพี่ชายของคุณแม่จา้ วด้วย
ยกตัวอย่างเช่นตอนที่พวกหล่อนทางานเสร็ จแล้วกลับไป
ที่บา้ น ก็เห็นน้องสามีหกกาลังนั่งแทะข้าวโพดอยู่หน้าประตู
บ้าน
วันนี้เนื้อที่พ่อค้าเนื้ อไช่นามาให้ถูกกินจนหมดเกลี้ยงแล้ว
แน่นอนว่าตอนค่าจึงไม่มีอะไรอร่ อย ๆ ให้กิน อีกอย่างวันนี้ท้ งั
วันก็ได้กินเนื้อแล้วไม่ใช่เหรอ? นี่กด็ ีเกินกว่าที่คิดไว้แล้ว
ส่ วนกระต่ายตัวนั้นยังตากแดดอยู่ ยังไม่ถึงเวลาที่จะได้กิน
จ้าวเหวินเทาตะโกนเรี ยกเย่ฉูฉู่ที่กาลังช่วยเก็บจานชามไป
ล้าง เย่ฉูฉู่ยมิ้ แล้วพูดกับต้าหยาว่า “ต้าหยา พวกเธอล้างจานกัน
ไปก่อน อีกเดี๋ยวเดินไปเอาผลไม้ป่าที่หอ้ งอาสะใภ้หกนะ”
ไม่ มี อ ะไรดี ไ ปกว่ า ห้ อ งที่ อ ยู่ ด้า นหลัง แล้ว จริง ๆ มัน
ค่อนข้างเป็ นส่ วนตัวทีเดี ยว สองสามีภรรยาจึงปิ ดประตู แ ละ
รับประทานไข่ตม้
ภายในบ้านไม่มีอาหารมัน ๆ อะไรเลยจริ ง ๆ
“ยังอยากแยกบ้านอยู่เหรอคะ?” เย่ฉูฉู่รับประทานไข่ไก่
พลางพูดกับเขาด้วยรอยยิม้
กระต่ายคลอดลูกเร็วไม่ใช่เหรอ?
หลัง กระต่ า ยคลอดลู ก ครอกแรกเพี ย งหนึ่ งเดื อ นมัน ก็
คลอดลูกครอกที่สองออกมาได้แล้ว กระต่ายหนึ่ งครอกมีลูก
กระต่ายหลายตัว เมื่อลองคานวนดูแล้ว ในระยะเวลาหนึ่งปี เขา
ก็จะมีธุรกิจกระต่ายขนาดเล็กได้
“แต่ไม่มีที่เลี้ยงนี่สิคะ” เย่ฉูฉู่พูดความจริ ง
เขามีประสาทสัมผัสที่ว่องไวเป็ นอย่างมากจึงได้เห็นลู่ทาง
แบบนั้น
เย่ฉูฉู่หน้าแดงระเรื่ อ
นี่ไม่ใช่โครงการขนาดเล็กเลย เย่ฉูฉู่เองก็ออกไปกับทุกคน
ตั้งแต่เช้าตรู่ ก่อนออกไป จ้าวเหวินเทาได้กระซิ บบอกเป็ นการ
ส่ ว นตัว กับ ภรรยาซื่ อ บื่ อ คนนี้ ว่า อย่า ปล่ อ ยให้ต ัว เองเหนื่ อย
เกินไป เพราะผลงานที่เขาอุตส่ าห์ขยันทามาตลอดครึ่ งเดือนคง
จะอยูใ่ นท้องของเธอแล้ว
ค าพู ด นี้ ทาให้เย่ฉู ฉู่ อ ายจนทนไม่ ไหว เพราะตลอดครึ่ ง
เดื อนกว่า ๆ ที่ผ่านมา จ้าวเหวินเทาก็สะกิดเธอไม่น้อยจริ ง ๆ
ตอนกินก็กินปกติ แต่ไม่รู้วา่ เขาไปเอาพลังงานมาจากที่ไหน
ส าหรั บ น้อ งสะใภ้เ ย่ฉู ฉู่ ค นนี้ หล่ อ นไม่ มี อ ะไรต้อ งพู ด
เพราะเธอก็ออกมาทางานทุ กวันไม่ ได้แอบอู ้งาน แม้ตอนที่
รอบเดือนมาจะนอนอยูก่ บั บ้านไม่ได้ออกมาทางาน แต่เธอก็ยงั
ทางานบ้าน หล่อนแค่ไม่พอใจน้องสามีคนเล็กก็เท่านั้น
ไม่เช่นนั้นหากเทพเจ้าเกิดความขุ่นเคืองใจ ปล่อยฝนเทลง
มาในช่ วงฤดู ใบไม้ร่วง คงได้ถูกคนนับพันชี้ หน้ารุ มสาปแช่ ง
เป็ นแน่
ดังนั้นจ้าวเหวินเทาจึงขยันมาก และสองสามีภรรยาก็มา
นัง่ รับประทานอาหารด้วยกัน
เย่ฉูฉู่ไม่เคยลาบากที่ไหนกัน? ชาติก่อนที่ถูกเนรเทศได้กิน
แป้ งจี่แบบนี้ ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะ
พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ อาหารของฝ่ ายนั้นก็ดีจริ ง ๆ นัน่ แหละ
แน่นอนว่าอาหารการกินก็แย่กว่าไม่ใช่นอ้ ย ๆ
ดังนั้นเธอจึงได้แค่มองจ้าวเหวินเทาด้วยรอยยิม้ แต่ไม่ได้
พูดอะไร
ทว่าจ้าวเหวินเทากลับรู ้สึกเจ็บปวดใจ เขาเองก็ไม่ได้พูด
อะไร ได้แต่กดั แป้งจี่หนึ่งคาแล้วดื่มน้ าตาม
เย่ฉูฉู่เองก็ทนไม่ไหวแล้ว จึงผลัดเวรกับพวกพี่สะใภ้อยู่
บ้านทากับข้าวและพักผ่อนไปในตัว
กระต่ายตัวนั้นถูกกินจนหมดแล้วเมื่อก่อนหน้านี้ ทั้งบ้าน
จึงหวังว่าจ้าวเหวินเทาจะจับกระต่ายได้เหมือนกับปี ก่อน ๆ
จ้าวเหวินเทาไม่ทาให้ทุกคนผิดหวัง ตอนที่เขากาลังเดิ น
กลับบ้านพร้อมกับพวกพี่ ๆ ในช่วงโพล้เพล้ เขาก็หิ้วกระต่ายสี
เทาตัวอ้วนกลับมาได้หนึ่งตัว
เจ้าหกช่างโชคดีแบบนี้มาตั้งแต่เด็กจนโต!
ส่ วนที่เหลือทุกคนก็เริ่ มรับประทานกัน!
บอกว่าหลังจากที่แม่ม่ายหม่าแต่งงานไปได้สามปี ในที่สุด
ก็ต้ งั ครรภ์ หลี่เฉียจื่อจึงตุ๋นไก่เพื่อบารุ งร่ างกายหล่อน!
ความหอมนั้นทาให้เพื่อนบ้านซ้ายขวาต่างพากันอิจฉาจน
แทบแย่
จ้าวเหวินเทาเองก็ได้ยนิ เช่นกัน
เขาสบโอกาสตอนออกมาลานตากข้าวเพื่อเฝ้าข้าวกับคุณ
พ่อจ้าว พูดเรื่ องที่จะแยกบ้านกับพ่อของเขาอย่างเงียบ ๆ
...........................................................................
อาหารทามาจากแผ่นไข่ผสมแป้งแล้วนาไปจี่ในกระทะ
ตอนที่ 16 แยกบ้ าน
คุณพ่อจ้าวก็คิดไม่ถึงว่าลูกชายของตัวเองจะมาพูดเรื่ องนี้
กับเขา แต่ไม่เพียงไม่นานก็ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ ว จึงถาม
ไปตรง ๆ “พวกหล่อนชักสี หน้าใส่ แกสิ นะ?”
พวกหล่อนที่คุณพ่อจ้าวพูดถึงคือใครจ้าวเหวินเทาย่อมรู ้ดี
ก็คือพวกพี่สะใภ้ของเขานัน่ แหละ
แต่ตอนนั้นฐานะทางบ้านไม่ดี พวกเขาจนมากจริ ง ๆ
ทว่าลู กชายคนนี้ บางที อาจจะเป็ นดวงดาวแห่ งความสุ ข
และความโชคดี ที่จุติล งบนโลกก็เป็ นได้ เพราะเมื่ อมี เ ขาอยู่
ภายในบ้านก็มีความสุ ขอย่างไม่หยุด
ทว่ามันก็ทาให้คุณพ่อจ้าวดีใจมาก ลูกชายและลูกสาวคน
อื่น ๆ เขาไม่เคยอุม้ มาก่อน เคยก็แต่อุม้ หลานเท่านั้น!
ช่ วงเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงและฤดูร้อนทุกคนต่างก็เหนื่อย
จนสายตัวแทบขาด แต่ช่วงเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงและฤดูร้อน
ของบ้านเขากลับมักจะเกิดความประหลาดใจ
ดังนั้นตอนที่เจ้าหกไม่ชอบทางานเป็นประจา คุณพ่อจ้าว
และคุณแม่จา้ วจึงไม่ได้พูดอะไร นาของกลับมาได้มากขนาดนี้
ก็นบั ว่าเพียงพอแล้ว
คุณพ่อจ้าวรู ้ดีว่าลูกชายคนเล็กมาหาเขาในคืนนี้คงคิดตรึ ก
ตรองมานานแล้ว จึงพูดไปว่า “แล้วแกจะแยกยังไง?”
ตอนนี้คุณพ่อจ้าวเองก็พอจะมองออกแล้วว่าลูกชายคนเล็ก
คิดอยากจะแยกบ้าน เดิมทีพวกเขาสองสามีภรรยาต่างคัดค้าน
เพราะเห็นแก่ลูกชายคนเล็ก แต่ในเมื่อลูกชายคนเล็กอยากแยก
บ้านด้วยตนเอง ถ้าเช่ นนั้นพวกเขาก็ไม่ ตอ้ งบี บบังคับไม่ ใ ห้
แยกบ้านอีกต่อไป
เพราะคุณพ่อจ้าวเองไม่เคยสงสัยถึงความสามารถของลูก
ชายคนเล็กมาตั้งแต่ตน้ อีกอย่างถ้าเปรี ยบเทียบกันจริ ง ๆ การ
ไม่ แ ยกบ้า นนั่น แหละที่ จ ะท าให้เ จ้า หกและภรรยาของเขา
เสี ยเปรี ยบ!
เย่ฉูฉู่เองก็ตอ้ งเข้ามาช่วยเช่นกัน
“ซาลาเปา?” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยความประหลาดใจ
“แม่บอกว่าพวกเธอก็คงจะเหนื่อยเหมือนกัน รี บกินเถอะ
ในนี้มีไข่ดว้ ยนะ” พี่ใหญ่เย่พูด
“พี่ใหญ่กินแล้วหรื อยัง? ไม่ใช่ ว่าเก็บไว้ให้พวกเรานะคะ
พวกเรามีแป้งจี่แล้ว” เย่ฉูฉู่พูด
สายตาที่มองมาทาให้เย่ฉูฉู่กระสับกระส่ ายอยู่ภายในใจ
ถึงเข้าร่ างนี้ มาตั้งนานแล้ว เธอก็ยงั ทนต่อสายตาที่เต็มไปด้วย
ความรักของเขาไม่ได้
จ้าวเหวินเทานาซาลาเปาไปให้พ่อของเขาหนึ่งลูก ส่ วนที่
เหลืออีกสามลูกพวกเขาเก็บไว้กินเอง
จ้าวเหวินเทาและเย่ฉูฉู่ทางฝั่งนี้กก็ ินซาลาเปาสามลูกอย่าง
มีความสุ ขเช่นกัน
ใครกล้ามาขัดขวางธุรกิจของเขา เขาไม่มีทางยอม!
ตอนที่ 18 สะใภ้ คนเล็กทีแ่ สนซื่ อสั ตย์
แต่ ก็ช่ ว ยไม่ ไ ด้ เจ้า หกสู ง กว่ า เขาตั้ง เยอะ อี ก อย่า งเป็ น
เพราะแอบอูง้ านไม่ยอมทาการทางานอยู่บ่อย ๆ พ่อแม่ก็แอบ
ช่วยเหลือด้วยการเอาของอร่ อย ๆ ให้เขา ดังนั้นเขาจึงเติบโตมี
สุ ขภาพแข็งแรง
จ้าวเหวินเทาคร้านที่จะสนใจพี่สามคนนี้แล้ว เขาจึงทางาน
ของตัวเองต่อ เพราะเก็บลูกกระต่ายหนึ่งรังนี้ได้ เขาจึงอารมณ์
ดีเป็ นอย่างมาก
ส่ วนคุณพ่อจ้าวเองก็เห็นพวกลูกชายทะเลาะกัน แต่แสร้ง
ท าเป็ นไม่ เ ห็ น ก็เ ท่ า นั้น หลัง จากยุ่ง กับการเก็บเกี่ ย วช่ ว งฤดู
ใบไม้ร่วงเสร็จก็จะได้แยกบ้านแล้ว
แต่เห็นท่าทางของเจ้ารอง เจ้าสาม และเจ้าสี่ ที่เป็ นแบบนั้น
แล้ว ก็เห็นได้ชัดว่าแต่ละคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่จะได้
แยกบ้านเหมือนกัน คุณพ่อจ้าวจึงแอบถอนหายใจอยูภ่ ายในใจ
ต้นไม้ใหญ่แตกกิ่งก้านสาขาย่อมแยกย้ายออกจากกัน นี่ เป็ น
เรื่ องยากเกินกว่าจะหลีกเลี่ยง
คุณพ่อจ้าวเองก็ตดั สิ นใจได้แล้ว
ทว่ า สองวัน มานี้ ไม่ มี เ นื้ อ ให้กิ น แล้ว แม้ว่ า วัน นี้ จะเก็บ
กระต่ายมาได้หนึ่งรังแต่กก็ ินไม่ได้ เพราะอาเล็กบอกว่าจะเลี้ยง
ไว้
คุณแม่จา้ วหยิบมันฝรั่งและหมุนตัวกลับเข้าห้องครัวเพื่อ
นาไปผัดกับไข่ไก่
คุณพ่อจ้าวพูดเรื่ องแยกบ้านกับนางไปแล้ว คุณแม่จา้ วทา
ใจไม่ได้มากเป็ นพิเศษ หลังจากแยกบ้านก็จะกลายเป็ นหลาย
ครอบครัว ไม่ได้เป็ นครอบครัวใหญ่แบบนี้อีกแล้ว
“เดี๋ ย วแม่ ทาเอง วัน นี้ เธอเองก็เ หนื่ อ ยมาทั้ง วัน แล้ว ไป
พักผ่อนเถอะ” คุณแม่จา้ วรี บพูด
พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วและพี่ ส ะใภ้ส ามจ้า วขี้ เกี ย จเข้า มา แต่
พี่สะใภ้สี่จา้ วกลัวว่าแม่สามีของหล่อนจะแอบมอบของดี ให้
น้องสามีและน้องสะใภ้คู่น้ ี จึงรี บตามเข้ามาช่วย
“แค่นอ้ งสะใภ้หกของเธอก็พอแล้ว สะใภ้สี่ไม่ตอ้ งเข้ามา
หรอก ในห้ อ งครั ว แคบจนหมุ น ตัว ไม่ ไ ด้อ ยู่ แ ล้ว ” แค่ เ ห็ น
หล่อนหน้ามุ่ย คุณแม่จา้ วก็รู้แล้วว่าหล่อนคิดจะทาอะไร จึงพูด
ออกไปตรง ๆ
ดัง นั้น เย่ฉู ฉู่ แ ละเฮ่ อ ซงจื อ จึ งค่ อนข้างสนิ ทกัน เป็ นเรื่ อง
ธรรมดา
เฮ่ อ ซงจื อ ยิ้ ม หล่ อ นรู ้ สึ ก พึ ง พอใจกับ ชี วิ ต ของตัว เอง
ในตอนนี้เป็ นอย่างมาก เพียงแต่กาลังรอคอยการมาถึงของลูกก็
เท่านั้น เพราะถ้าหากมีลูก ก็เท่ากับว่าหล่อนได้ยืนภายในบ้าน
สามีอย่างมัน่ คงแล้ว
เพียงไม่นานทางฝั่งนั้นก็มีข่าวดีส่งมา จ้าวเถี่ยต้านลูกชาย
คนโตของพี่รองจ้าววิ่งมาด้วยความดีใจ เขาพูด “อาสะใภ้หก
อาหกจับกระต่ายตัวอ้วนได้คู่หนึ่ ง สองตัวรวมกันได้เนื้ อหนัก
สิ บกว่าชัง่ เลยครับ!”
ข่าวนี้ ทาให้ทุกคนที่กาลังเก็บข้าวโพดต่างพากันอิจฉาตา
ร้อนจนทนไม่ไหว
คุณแม่จา้ วที่กาลังเก็บข้าวโพดและจับกลุ่มพูดคุยกับพี่สาว
น้องสาวทางฝั่งนั้นลุกขึ้นยืนทันที “เถี่ยต้าน เธอพูดจริ งเหรอ?”
“จะโกหกทาไมล่ะครับ? ทั้งกลุ่มใหญ่มีแต่อาหกของผมที่
มี ค วามสามารถนี้ !” เถี่ ย ต้า นนับ ถื อ อาหกของเขาจนไม่ อาจ
เทียบเทียม
เป็นเพราะหล่อนไม่มีลูกชาย ดังนั้นลูกสะใภ้อย่างหล่อน
จึงไม่มีที่ยนื อยูใ่ นสายตาของแม่สามีสินะ!
เย่ฉูฉู่ไม่ได้คิดมากเหมือนกับหล่อนขนาดนั้น ภายในใจ
กลับรู ้สึกมีความสุ ขอย่างมาก
แต่ เ ขารู ้ ยกตัว อย่ า งเช่ น คื น นี้ ที่ บ้า นของเขาก็ จ ะมี เ นื้ อ
กระต่ายผัดน้ าแดงให้รับประทานอีกแล้ว กระต่ายอ้วนสองตัว
เชียวล่ะ!
คุ ณแม่ จา้ วก่ นด่ าด้ว ยรอยยิ้ม “ไม่ ตอ้ งมาประจบ เอาไป
เถอะ!”
นางได้ยิ น สามี พู ด ว่ า ช่ ว งฤดู เ ก็ บ เกี่ ย วฤดู ใ บไม้ร่วงนี้
ตระกูลเย่ทางฝั่งนั้นได้รับประทานของดี ๆ ทั้งยังเผื่อแผ่มาถึง
สองสามีภรรยาคู่น้ ี ดว้ ย มีซาลาเปาไข่ไก่แถมยังมีเกี้ยวน้ าอี ก
สามีของนางก็พลอยได้รับประทานอย่างมีความสุ ขไปด้วย
บ้านพ่อตาของลูกชายคนเล็กถือว่าเป็ นคนในครอบครั ว
ของตัวเองเช่ นกัน ถ้าเช่ นนั้นก็ตอ้ งกระชับสัมพันธ์ให้ดีเข้าไว้
ไม่ใช่เหรอ? หลังจากนี้มีเรื่ องอะไรก็ช่วยเหลือกันได้
อีกอย่างทุกคนต่างก็กาลังจับตาดู อยู่ว่าบ้านของนางดูแล
ลูกสะใภ้ตระกูลเย่อย่างไร วันนี้ลูกชายของตนเองที่เป็ นลูกเขย
จับกระต่ายมาได้สองตัว ถ้าแบ่งไปให้ทางฝั่งพ่อตาแม่ยายหนึ่ง
ตัวแล้วใครจะพูดอะไรได้?
จ้าวเหวินเทาเดินหิ้วกระต่ายเข้ามา ก็พบพวกคุณพ่อเย่และ
คนอื่น ๆ กาลังเกี่ยวข้าวอยูไ่ กล ๆ
ปี นี้พวกเขาไม่ได้ออกไปข้างนอก หากแต่รวมตัวกันอยูใ่ น
บ้าน ต่างจากคนรุ่ นหลังเหล่านั้นที่ออกไปทางานข้างนอกกัน
หมด
คุณพ่อเย่เองก็ไม่พอใจกับลูกเขยคนนี้เท่าไรนัก
โดยไม่ได้สนใจการคัดค้านของคุณพ่อเย่เลย
จ้าวเหวินเทาเองก็รู้ตวั ดี ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รู้สึกเหนือความ
คาดหมายกับการแสดงสี หน้าของพ่อตา เขาคนนี้ มีจุดเด่ นอีก
อย่างหนึ่ง นัน่ ก็คือหน้าหนา
ทุกคนต่างก็เห็นกระต่ายตัวใหญ่ที่เขาหิ้วมา จึงถามไถ่เป็ น
การใหญ่วา่ ไปได้มาจากที่ไหน
ตระกูล เย่มี ฐ านะ และไม่ ได้เดื อ ดร้ อ นอะไร แต่ เ มื่ อคุ ณ
พ่อเย่มองลูกเขยคนนี้ เขาก็พบว่าอีกฝ่ ายดู จริ งใจ จึงพูดไปว่า
“แกจับกระต่ายเอามาให้ทางนี้ แล้วที่บา้ นแกล่ะ?”
“ผมจับมาได้สองตัวครั บ ก็เลยแบ่ งบ้านละตัวพอดี เลย”
จ้าวเหวินเทาแย้มยิม้
เขาเองก็รู้ดีว่าพ่อตาไม่พอใจเขา การแต่งงานระหว่างเขา
และภรรยาสาเร็ จได้กเ็ ป็ นเพราะแม่ยายพึงพอใจในตัวเขา ด้วย
ความพยายามจึงนาไปสู่ ความสาเร็ จ แม้ว่าแบบนี้จะไม่ใช่เรื่ อง
ผิด แต่ทา้ ยที่สุดพ่อตาคนนี้ ก็ยกลูกสาวให้เขา อีกอย่างช่ วงนี้ ก็
มอบของอร่ อย ๆ มาให้พวกเขาสองคนไม่นอ้ ยเลย
ดังนั้นเมื่อวันนี้ได้กระต่ายมาสองตัว เขาจึงคิดอยากจะแบ่ง
ให้ทางฝั่งนี้หนึ่งตัว
“งั้นถึงเวลาก็มาที่บา้ นแล้วกัน” คุณพ่อเย่พยักหน้าพูดและ
ไม่ได้พูดอะไรอีก
หลังจากจ้าวเหวินเทาจากไป ฝ่ ายผลิตตระกูลเย่ทางฝั่งนี้ ก็
เริ่ มพูดคุยกัน
“……”
“ก็ไม่เลว” คุณพ่อเย่ตอบ
ต้องยอมรับว่าเนื้อกระต่ายผัดน้ าแดงคืนนี้หอมมากเลยล่ะ
“แสดงว่าลูกเขยของเราก็ดีสินะคะ?” คุณแม่เย่แค่นเสี ยงหึ
ออกมา
คุณพ่อเย่เพิ่งจะมีปฏิกิริยาตอบสนองได้ว่านางเข้ามาเพื่อ
จะพูดอะไร เขาจึงพูดว่า “ฉู ฉู่แต่งงานกับเขาก็ทะเลาะกัน อยู่
บ่อย ๆ!”
คุ ณพ่อเย่กลอกตามองบน เขาเองก็คร้านจะสนใจภรรยา
คนนี้แล้ว นี่คือเรื่ องปกติของแม่ยายที่มองลูกเขย ยิง่ มองก็ยงิ่ พึง
พอใจ
แม้แต่ลูกสาวตัวเองก็รังเกียจเสี ยอย่างนั้น
“ตอนแรกฉันเองก็บอกไปแล้วว่าการแต่งงานครั้งนี้ดี คุณ
ก็ไม่ยอมเชื่อ ดูตอนนี้สิ ฉันนี่ตาถึงเหมือนกันนะคะ?” คุณแม่เย่
กระหยิม่ ยิม้ ย่อง
“คาดว่าตระกูลจ้าวใกล้จะแยกบ้านแล้ว” คุณพ่อเย่พูดเนิบ
ช้า
พูดถึงทางฝั่งตระกูลจ้าวอีกครั้ง
เนื่ องจากกระต่ า ยทั้งสองตัว จ้าวเหวินเทาเป็ นคนจับมา
และไม่รู้วา่ เขาจับมาได้อย่างไร ทว่าเมื่อกระต่ายวิง่ ผ่านด้านข้าง
เขาไป เขากลับจับพวกมันได้ทีละตัว โดยที่คนอื่น ๆ ไม่อาจ
สังเกตได้เลย สายตาของเขาช่างแม่นยานัก
ดังนั้นเขาจะจัดการกับกระต่ายสองตัวนี้ อย่างไร คนอื่นก็
ไม่อาจพูดอะไรได้
แต่ยงั คงเป็ นเรื่ องที่ว่าตอนนี้ ยงั ไม่แยกบ้าน เพราะยังไม่
แยกบ้านนี่เอง เนื้อชิ้นนี้จึงเป็ นของทุกคน
การที่เขาแบ่งเนื้อออกไปแบบนี้ ย่อมมีคนรู ้สึกไม่พอใจ
พี่สามจ้าวมีความเห็นต่างอัดแน่นในใจเต็มไปหมด
เขาคิ ดว่าเนื้ อกระต่ ายคื นนี้ ไม่ ได้อร่ อยเท่ าไรนัก เพราะ
โมโหจนอิ่มท้องไปแล้ว
จนกระทัง่ กลางดึ กที่หม่าต้านผูเ้ ป็ นลูกชายนอนหลับไป
แล้ว ส่ วนเอ้อร์ หยาผูเ้ ป็นลูกสาวก็ไปนอนกับลูกพี่ลูกน้องคน
อื่น ๆ อีกห้องหนึ่ง
พี่สามจ้าวจึงกระซิ บกับพี่สะใภ้สาม “แม่ของเราลาเอียง
เกินไปแล้ว ฉันได้ยนิ มาว่ากระต่ายอ้วนมีสองตัว คืนนี้พวกเรา
ได้กินเนื้ อแค่น้ นั เอง แต่เจ้าหกกลับเอาไปให้บา้ นพ่อตาซะงั้น
มีสิทธิ์อะไรกัน!”
พี่สะใภ้สามจ้าวค่อนข้างใจกว้าง หล่อนเป็นคนพึงพอใจ
ในสิ่ งที่มี จึงตอบเสี ยงเรี ยบ “แล้วคุณมีสิทธิ์ อะไรถึงพูดแบบนี้
ล่ ะ คะ? กระต่ า ยสองตัว นั้น เป็ นสิ่ ง ที่ น้อ งคุ ณ จับมา ถ้า คุ ณ มี
ความสามารถจับมาได้สองตัว ฉันก็คงถามคุณแม่เหมือนกันว่า
ขอแบ่งไปให้ที่บา้ นฉันสักตัวได้หรื อเปล่า ประเด็นสาคัญก็คือ
คุณจับมันได้ไหมล่ะ?”
คื น นี้ พี่ ส ะใภ้ ส ามจ้ า วค่ อ นข้ า งพึ ง พอใจกั บ เนื้ อที่
รับประทาน นอกจากแบ่งให้ลูกชายและลูกสาวแล้ว หล่อนยัง
ได้รับประทานเนื้อตั้ง 7-8 ชิ้น อร่ อยสุ ด ๆ ไปเลย!
ดังนั้นหล่อนจึงไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไร
พี่จา้ วสามถึงกับสาลัก “ภรรยาคนนี้ นี่ ทาไมถึงพูดกับผม
แบบนี้?”
“แล้วที่ฉันพูดมันไม่จริ งตรงไหนเหรอคะ?” พี่สะใภ้สาม
จ้าวพูดด้วยความงงงวย “เนื้ อนี้ น้องหกเป็ นคนจับมา เขาจะ
กตัญญู ต่อพ่อตามันก็เป็ นเรื่ องปกติไม่ใช่ เหรอ? อะไรกัน ถ้า
คุ ณมีเนื้ อให้กิน คุ ณไม่เต็มใจที่จะแบ่งให้พ่อตากิ นสักคาเลย
หรื อไง?”
จ้าวเหวินเทาย่อมไม่ทาให้ภรรยาของเขาผิดหวัง
หลังจากที่จา้ วเหวินเทารับประทานบะหมี่ที่ภรรยาของเขา
ท าให้ เ สร็ จ แล้ว เขาจึ ง เดิ น ทางไปที่ บ้า นของไช่ ซื่ อ หู่ ที่ อ ยู่
หมู่บา้ นหลังเขา
หมู่บา้ นหลังเขานับว่าไม่ใช่ใกล้ ๆ เลย จ้าวเหวินเทาหยิบ
เหล้าไปหนึ่ งขวดแล้วออกเดิ นทาง ใช้เวลาไปกว่าครึ่ งชัว่ โมง
กว่าจะไปถึงหมู่บา้ นหลังเขา
ไช่ซื่อหู่และพี่สะใภ้ไช่ต่างก็อยูบ่ า้ นทั้งคู่ หมู่บา้ นของพวก
เขาเพิ่งแจกจ่ายอาหารกันเมื่อวาน วันนี้จึงมีเวลาว่าง และจ้าวเห
วินเทาก็เดินทางมาในเวลาที่พอเหมาะพอเจาะ
ทั้งสองคนต่างอยูท่ ี่บา้ นกัน เมื่อเห็นจ้าวเหวินเทา พวกเขา
ต่างก็ดีใจเป็ นอย่างมาก
“เหวินเทา นายเกรงใจกันเกินไปแล้ว ในบ้านจะขาดเหล้า
ได้ยงั ไงกัน?” ไช่ซื่อหู่กล่าว
พี่สะใภ้ไช่ กล่ าวว่า “ใช่ ไหมล่ ะ ครั้ งนี้ ช่างมันเถอะ ครั้ ง
หน้าถ้านายจะมาก็ไม่ตอ้ งเอาอะไรมานะ มาตัวเปล่าก็พอแล้ว!”
จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้ “งั้นก็ได้ครับ ครั้งหน้าผม
จะมามือเปล่า ถึงตอนนั้นพวกพี่อย่ารังเกียจผมก็พอ”
พี่ ส ะใภ้ไ ช่ ป ระทับ ใจเขามาก จนถึ ง ตอนนี้ หล่ อ นยัง จ า
ค าพู ด ของจ้า วเหวิ น เทาที่ ก ล่ า วในตอนที่ ห ล่ อ นสิ้ น หวัง ว่ า
‘ปล่อยพี่สาวคนนั้น แล้วเข้ามาหาฉันนี่!’ ได้อยูเ่ ลย
“พวกคุ ณคุ ยกันไปก่ อนนะคะ ฉันจะไปทากับแกล้ม มา
ให้!” พี่สะใภ้ไช่กล่าวด้วยรอยยิม้
“แบบนี้จะดีเหรอครับ?” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยความรู ้สึก
ไม่ดี
“ไป ๆ ไปคุยกันในบ้าน” ไช่ซื่อหู่ดึงเขาเข้าบ้าน
จ้าวเหวินเทาแสดงความอิจฉาออกมา สมแล้วที่ไช่ ซื่อหู่
ทางานอยู่ในฝ่ ายฆ่าสัตว์ บ้านหลังนี้ เป็นบ้านอิฐ และยังสว่าง
เป็ นพิเศษด้วย
“เมื่อไหร่ ผมจะเป็นแบบพี่ซื่อหู่ ได้บา้ งนะ” จ้าวเหวินเทา
พูดแสดงออกถึงอารมณ์
“จะเป็ นไรไปเล่า? ขอแค่นายมีเงิน ฉันก็สามารถหาเส้น
สายให้นายได้ ฉันสัญญาว่าจะหาทางยัดนายเข้าทีมให้ได้เลย!”
ไช่ซื่อหู่กล่าว
จ้าวเหวินเทาส่ ายหน้า “ที่บา้ นผมเพิ่งจะแยกบ้าน ถึงแบ่ง
เงินกันแล้ว แต่มนั ก็ยงั ไม่พอที่จะสร้างบ้านอิฐอยูด่ ี”
แน่ นอนว่าเขาเองก็อยากได้บา้ นอิ ฐ อาศัยอยู่ในบ้านอิฐ
สบายกว่าตั้งเยอะ บ้านดินที่อาศัยอยูเ่ ทียบไม่ติดเลย
ไช่ ซื่อหู่ หยิบชามออกมาสองใบ จ้าวเหวินเทาเทเหล้าให้
ตัวเองและไช่ ซื่อหู่ จากนั้นจึงกล่าวว่า “พี่ซื่อหู่ ไม่ใช่ ว่าผมขี้
เกียจหรอกนะครับ แต่ผมแค่ไม่อยากทางานในนาเลย” 1 แต้ม
ค่าแรงมีค่าเท่ากับ 6 เฟิ น แม้ว่าจะมี 10 แต้มค่าแรงก็ยงั ได้แค่ 6
เหมาอยูด่ ี
อี ก อย่ า ง 6 เหมานี้ ก็ ไ ม่ ใ ช่ ว่ า จะให้ ท้ ัง หมด ยัง ต้อ งหั ก
ค่าอาหารอะไรพวกนั้นอีก แล้วจะเหลือเท่าไรกันเชียว?
แน่ นอนว่าฝ่ ายผลิ ตของพวกเขาค่ อนข้างยากจน ดังนั้น
แต้มค่าแรงจึงไม่ได้มีค่ามากนัก ฝ่ ายผลิตบางกลุ่มมีงานเสริ ม
มากมาย 1 แต้มค่าแรงจึงมีค่า 1-2 หยวน โดยเฉพาะฝ่ ายผลิต
อันดับหนึ่งในตาบลของพวกเขา ได้ยนิ มาว่า 1 แต้มค่าแรงมีค่า
เท่ากับ 2 หยวน
การลงนาจึงเป็ นเรื่ องที่น่าตั้งตารอ แต่ฝ่ายผลิตของพวก
เขาไม่ได้มีอะไรแบบนั้น
ทุกครั้งที่มีการแจกจ่ายตอนสิ้ นปี บ่อยครั้งจึงไม่สามารถ
แบ่งเงินได้ จึงได้แค่ใช้เป็ นค่าอาหารเท่านั้น
ทางด้านหมู่บา้ นหลังเขาก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไรนัก ดังนั้นไช่
ซื่ อหู่ จึงเข้าใจความรู ้ สึกของเขาเป็ นอย่างดี การอาศัยอยู่ที่นี่
หลังจากเหน็ดเหนื่อยตลอดทั้งปี ก็ทาให้กินอิ่มได้เพียงเล็กน้อย
เท่านั้น การที่จะกลายเป็ นคนร่ ารวยย่อมเป็ นไปไม่ได้
“งั้น น้อ งชายเหวิ น เทามี แ ผนจะท าอะไรล่ ะ ?” ไช่ ซื่ อ หู่
กล่าวพร้อมกับมองจ้าวเหวินเทา
“พี่ ช าย งั้น ผมขอพู ด แบบหน้า ด้า น ๆ เลยนะ” จ้า วเหวิ
นเทากล่าว
ไช่ ซื่อหู่ ปล่อยให้เขาเล่าออกมาทั้งหมด จ้าวเหวินเทาจึ ง
บอกเรื่ องที่ เ ขาอยากไปในเมื อ งเพื่ อ ค้ า ขายผลผลิ ต ทาง
การเกษตร เขากล่าวว่า “นี่ คือสิ่ งที่ผมรู ้มาเมื่อวานนี้ ตอนที่ไป
ส่ ง อาหารให้ก ับ พี่ ส าวผม นายอ าเภอเปิ ดถนนตรงฝั่ ง ถนน
อันซิ่ งเส้นนั้นโดยเฉพาะ สงวนไว้สาหรับทาการซื้ อขายอิสระ
ผมเลยวางแผนว่าเมื่อถึงเวลานั้นจะลองไปดูสักหน่อย จากเรื่ อง
ที่พี่ซื่อหู่มีเส้นสายเยอะแยะ พี่มีความคิดเห็นยังไงบ้างครับ?”
ในขณะนั้นเองพี่สะใภ้ไช่กเ็ ดินถือหู หมูมาจานหนึ่ง ซึ่ งส่ ง
กลิ่นหอมอบอวล
จ้าวเหวินเทารี บกล่ าวว่า “พี่สะใภ้นี่มนั แพงเกิ นไปแล้ว
ครับ ถัว่ ลิสงสักจานก็พอ!”
“มันจะสักเท่าไหร่ กนั เชียว กินเถอะ” พี่สะใภ้ไช่กล่าวด้วย
รอยยิ้ม จากนั้นหล่ อนจึ งออกไปตากผ้าปู ที่นอนและผ้านวม
โดยไม่รบกวนพวกเขาทั้งสองคน วันนี้ อากาศดี เยี่ยม ต้องใช้
ประโยชน์จากแสงแดดตากผ้าสักหน่อย
จ้าวเหวินเทาและไช่ซื่อหู่กินดื่มไปพลาง พูดคุยไปพลาง
จ้าวเหวินเทาบอกว่าเขาต้องการไปขายสิ นค้าที่ตลาด สิ่ งนี้
ตรงใจไช่ ซื่อหู่ อย่างมาก ตอนเขาได้พบเจอกับจ้าวเหวินเทา
ตอนที่ไปรับอาหารส่ วนกลางเขาก็มีความคิดแบบนี้ ตอนนี้ได้
ทราบว่าจ้าวเหวินเทาต้องการไปขายของในตลาดโดยไม่ ได้
รู ้สึกอาย มันจึงทาให้เขาไม่ตอ้ งเกรงใจอีกต่อไป
ไช่ ซื่อหู่ ลดเสี ยงลง “น้องเหวินเทา ฉันจะบอกอะไรนาย
ให้ เรื่ องนี้ฉนั ยังไม่ได้บอกคนอื่นเลย นายอยากฟังไหม?”
จ้า วเหวิ น เทาพยัก หน้า “พี่ ซื่ อ หู่ พู ด มาเถอะ พี่ ไ ม่ ต ้อ ง
กังวล!”
ไช่ ซื่อหู่ พยักหน้า จากนั้นจึงบอกเรื่ องราวทางฝั่ งโรงฆ่ า
สัตว์ให้ฟัง
ด้วยนโยบายที่ผ่อนปรนลงในช่ วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จิตใจ
ของเขาจึ งหวัน่ ไหวบ้างเป็ นธรรมดา ตอนนี้ ทางโรงฆ่ าสัตว์
ของพวกเขาเกือบจะรวมเป็ นกลุ่มเดียวกันแล้ว คนอื่น ๆ ต่างก็
มีอาชีพเสริ มกันหมด แต่ไช่ซื่อหู่ ยงั ไม่มี สิ่ งนี้ไม่ว่าจะมากหรื อ
น้อยก็เสี ยเปรี ยบอยูด่ ี
ดัง นั้น ไช่ ซื่ อ หู่ จึง อยากพัฒ นาอาชี พเสริ ม สัก หน่ อย เขา
สามารถนาของบางส่ วนของโรงฆ่าสัตว์ออกมาได้ การนาเนื้อ
ดี ๆ ออกมาย่อมเป็ นไปไม่ได้ แต่ถึงจะเป็ นของเหลือหรื ออะไร
พวกนั้น ล้วนขายเป็ นเงินได้ท้ งั หมด
ไช่ ซื่อหู่ ยงั ไม่ได้บอกเล่าเรื่ องเหล่านี้ ให้กบั พี่นอ้ งของเขา
ฟั ง แต่เขามาบอกจ้าวเหวินเทาก่อน เพราะรู ้สึกว่าจ้าวเหวินเทา
เป็ นหุน้ ส่ วนที่ไม่เลวเลย
จ้าวเหวินเทาไม่ คิดว่าจะมีเรื่ องดี ๆ เช่ นนี้ เกิ ดขึ้ นกับเขา
ใบหน้าของเขาจึงเปี่ ยมด้วยแววตื่นเต้น
“พี่ซี่อหู่ จะให้ผมทาจริ ง ๆ เหรอครับ? งั้นผมควรจะตกลง
ใช่ไหม?” จ้าวเหวินเทากล่าวรัวเร็ว
ไช่ซื่อหู่ กล่าวด้วยรอยยิม้ “ฉันบอกกับนายหมดแล้ว ยังจะ
เป็ นเรื่ องโกหกอีกเหรอ? เพียงแต่กลัวว่าจะได้ไม่มากนัน่ แหละ
ฉันไม่อาจรับประกันเรื่ องจานวนได้นะ แต่มนั ไม่ตอ้ งใช้คูปอง
เนื้ อ ฉันจะให้ราคาตลาดนาย ส่ วนที่เหลือนายขายในเมืองได้
เท่าไหร่ กอ็ ยูท่ ี่นายแล้วล่ะ”
แน่นอนว่าจ้าวเหวินเทาตกลงไปแล้ว
ราคาเนื้ อหมู ในตลาดปั จจุ บนั แบ่ งออกเป็ นเนื้ อชั้น หนึ่ ง
ชั้นรอง ชั้นสาม เนื้อชั้นหนึ่งมีราคาแพง 1 ชัง่ ราคา 9 เหมา เนื้อ
ชั้น รองถู ก กว่า นิ ดหน่ อ ย แต่ ก็ย งั มี ร าคาสู ง ถึ ง 7 เหมากว่า ๆ
ส่ วนเนื้อชั้นสามจะยิง่ ถูกลงมาอีกหน่อย หนึ่งชัง่ มีราคา 5 เหมา
กว่า
สิ่ งเหล่านี้ยงั ต้องการคูปอง ถ้าไม่ใช้คูปองซื้ อ เนื้อชั้นหนึ่ง
จะขายอยูท่ ี่ราคาประมาณ 1.5 หยวน เนื้อชั้นรองขายอยูท่ ี่ราคา
1.2 หยวน เนื้อชั้นสามขายอยูท่ ี่ราคากว่า 8 เหมากว่า
ผลกาไรที่ได้ดูน่าประทับใจมาก เนื้ อชั้นหนึ่ งและเนื้อชั้น
รองนั้นเขาไม่กล้าคิด แต่ถา้ ภายในหนึ่งวันสามารถขายเนื้ อชั้น
สามได้ 1-2 ชัง่ เขาก็สามารถทาเงินได้ 2-3 เหมาแล้ว
1 วันได้ 2-3 เหมา หนึ่งเดือนก็จะเป็ นสิ บกว่าหยวน
นี่ยงั ไม่นบั เรื่ องที่เขาขายผลผลิตทางการเกษตรของตัวเอง
หนึ่งวันก็สามารถหาได้ประมาณ 2-3 เหมาแล้วสิ นะ? ต่อให้เขา
จะยังไม่เคยขายและไม่ค่อยแน่ ใจเท่าไรนัก แต่ เขารู ้สึกได้ว่า
น่ าจะได้ประมาณนี้ เมื่อคานวณดู แล้วเขาจะมีรายรั บเกือบ 1
หยวนต่อวัน
1 เดือนก็จะมีเงิน 30 หยวนแล้ว!
เขารู ้จกั จ้าวเหวินจื้อ คนที่สอนหนังสื ออยู่ในเมืองที่สอบ
ตกครั้งแล้วครั้งเล่าคนนั้น หมอนั่นก็สอนหนังสื ออยู่ในเมือง
ไม่ใช่เหรอ? เงินเดือนหนึ่งเดือนได้แค่ 28 หยวนเอง!
ถึงแม้จะเป็ นเงิน 28 หยวน คนในหมู่บา้ นต่างพากันอิจฉา
อย่างมาก หนึ่ งเดื อนได้ 28 หยวน หนึ่ งปี ก็เป็ นเงิ น 300 กว่า
หยวน นี่เป็ นเงินที่เขาหาได้เพียงคนเดียว!
เมื่อดูจากการเก็บเงินของตระกูลจ้าวที่เก็บมาหลายปี ได้แค่
900 กว่ า หยวน จ้า วเหวิ น จื้ อ คนเดี ย วสามารถสร้ า งรายได้
มากกว่า 300 หยวนต่อปี ด้วยตัวคนเดียว
ลูกคิดในใจของจ้าวเหวินเทาถูกดีดจนเกิดเสี ยงดังติ้ง ๆ ยิง่
คิดก็ยงิ่ รู ้สึกว่าเรื่ องนี้ช่างน่าสนใจเป็ นอย่างยิง่ !
จ้าวเหวินเทากับไช่ซื่อหู่ดื่มเหล้าหนึ่งขวดและรับประทาน
หู หมูหนึ่ งจานจนหมด เมื่อทาการตกลงรับสิ นค้าในวันพรุ่ งนี้
เช้าเสร็จเรี ยบร้อยแล้ว จ้าวเหวินเทาจึงเดินทางกลับบ้าน
เขาอยากกลับบ้านไปบอกข่าวดี เรื่ องนี้ กบั ภรรยาของเขา
แล้ว!
ตอนที่ 31 วีรบุรุษช่ วยสาวงาม
ครั้นจ้าวเหวินเทากลับมาถึงบ้าน เย่ฉูฉู่ก็นาไข่ไก่สองฟองที่
แลกกับแม่เฒ่าฟางกลับมาพอดี
ปี นี้แม่เฒ่าฟางเลี้ยงไก่จานวนมาก ดังนั้นจึงมีไข่ไก่เหลือไม่นอ้ ย
เธอไม่คิดว่าจะมีเส้นทางชีวิตพลิกผันแบบนี้ แต่ถึงกระนั้นก็
กังวลเล็กน้อย “ทาแบบนี้มนั จะดีเหรอคะ?”
เย่ฉูฉู่พยักหน้า “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”
จ้าวเหวินเทาย่อมไม่มีความเห็นต่าง
ต้าหยาไม่ได้กล่าวอะไร แต่ในใจของเธอก็รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย
เช่ นกัน การแยกบ้านไม่ใช่ เรื่ องที่ดีเลย เมื่อแยกบ้านไปแล้ว
เธอต้องเป็ นคนทางานบ้านทั้งหมดภายในครอบครัวของเธอ
ส่ วนครอบครัวของน้องหกจะได้ส่วนแบ่งข้าวสาลีและแป้ ง
สักเท่าไรกันเชียว มันก็มีแค่น้ นั แหละมั้ง? รอดูต่อไปเถอะว่า
จะมีอะไรให้กิน!
ครอบครัวของพี่สามจ้าวก็กาลังพูดถึงเช่นกัน
พี่สะใภ้สามจ้าวถลึงตามองพลางกล่าว “งั้นแกคงไม่เคยหิ ว
สิ นะ! พอมีมนั เทศให้กินแกก็แอบหัวเราะเยาะ ก่อนหน้านี้
แม้แต่เปลือกไม้ยงั ไม่มีให้แทะเลย ทาไมถึงมาบอกว่าโจ๊กมัน
เทศนี้รสชาติแย่ล่ะ?”
ตั้งแต่แยกบ้าน หล่อนแทบจะรอไม่ไหวที่จะแบ่งเงินออกเป็ น
สองส่ วน พวกเขาดันอยากรับประทานของดี ๆ อีก
“ตอนเที่ยงอาหกกับอาสะใภ้หกกินบะหมี่ ตอนค่าอาหกกับ
อาสะใภ้หกก็กินหมัน่ โถวกับไข่กวนซีอิ๊วอีก” เอ้อร์หยากล่าว
พี่สะใภ้สามจ้าวกลอกตาไปมา ครอบครัวของน้องหกช่างไม่
รู ้จกั การใช้ชีวิตจริ ง ๆ หลังจากแยกบ้านก็ใช้ชีวิตราวกับเป็น
เจ้าบ้านซะแล้ว!
ส่ วนเย่ฉูฉู่ย่อมกลับเข้าห้องไปนอน จ้าวเหวินเทาหลับไป
แล้ว เพราะพรุ่ งนี้เขาต้องออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด
ท้อ งฟ้ า ยัง คงเป็ นสี เ ทา แต่ เ วลากลับ สายแล้ว ไช่ ซื่ อ หู่ ไ ด้
เตรี ยมของเสร็ จเรี ยบร้อย เมื่อเห็นว่าเขามาช้าขนาดนี้จึงกล่าว
ว่า “เหวินเทา นายยังขาดจักรยานนะ”
“ยังต้องพูดอะไรอีก ผมก็จะบอกว่าเข้าเมืองไปหาพี่สาวของ
ผมไง จะเอาเนื้ อ ไปให้พ วกหลาน ๆ สั ก หน่ อ ยไม่ ไ ด้เ ลย
เหรอ?” จ้าวเหวินเทากล่าว
จ้าวเหวินเทาบอกลาเขา จากนั้นก็หิ้วถุงกระสอบเข้าเมืองไป
เนื่องจากพี่สาวทั้งสองของเขาแต่งงานเข้าเมืองแล้ว แม้ว่าเขา
จะไม่ ได้เข้าเมื องบ่ อย ๆ แต่ จา้ วเหวินเทาก็จ าทางได้อ ย่า ง
ชัดเจน
ครั้ งนี้ เขาไม่ ได้ไปฝั่ งถนนอัน ซิ่ ง เนื้ อแบบนี้ จะขายที่ ถ นน
อันซิ่ งได้อย่างไรกัน? อีกอย่างเนื้ อที่ เขาได้มาก็ยงั ไม่ ทราบ
แหล่งที่มาอย่างแน่ ชดั อาจเกิดปั ญหาได้ง่าย ๆ ดังนั้นจึงไม่
ไปดีกว่า
เขาเลือกแหล่งที่อยู่อาศัย จากนั้นก็เลือกค้าขายกับหญิงชรา
เหล่านั้นโดยเฉพาะ
“ได้เลย” จ้าวเหวินเทาพยักหน้า
จ้าวเหวินเทาเคยบ่นให้พี่สาวทั้งสองของเขาฟั งตอนเข้าเมือง
ว่ า ภรรยาของเขาจู ้จ้ ี จุ ก จิ ก กับ เขามาก แถมยัง เป็ นคนน่ า
ราคาญด้วย
เมื่อมองย้อนกลับไป จ้าวเหวินเทาจึงกระแอมไอพลางกล่าว
“เรื่ องพวกนั้นก็ผ่านไปแล้ว ภรรยาของผมตอนนี้ทาตัวดีมาก
ที่แยกบ้านไม่ใช่เพราะภรรยาของผมหรอก เป็ นเพราะผมเอง
ก็แ ต่ ง งานแล้ว พี่ ส ามกับพี่ ส ะใภ้สี่ ต่ า งก็ไ ม่ ช อบขี้ ห น้า ผม
พวกเขาคิดว่าผมเอาเปรี ยบ รู ้สึกว่าผมกับภรรยาเลี้ยงไปก็เสี ย
ข้าวสุ ก เพราะเอาแต่พ่ งึ พาพวกเขา เลยแยกบ้านกันไปเลย ผม
ก็อยากเห็นเหมือนกันว่าหลังจากแยกบ้านแล้วใครจะมีชีวิตดี
ที่สุด!”
“ถ้าผมไม่ มีเงิ นคนอื่ นถึ งจะดู ถูก แต่ ถา้ ผมหาเงิ นและสร้าง
บ้านอิ ฐในหมู่ บา้ นได้สั ก หลัง ใครจะมาดู ถูกผมล่ ะครั บ ?”
จ้าวเหวินเทาพูดอย่างไม่แยแส
จ้าวเหวินเทาต้องการแค่สนทนากับนางเฉย ๆ ไม่คิดว่านาง
จะมีทางออกให้
“ทาไมจะไม่ถูกกฎหมายล่ะ เหล่าเฉินสามซื้อมาตอนแต่งงาน
เมื่ อ ห้ า ปี ที่ แ ล้ว ปี นี้ จะย้า ยไปอยู่ ห้ อ งเดี่ ย ว เลยไม่ ไ ด้ใ ช้
จักรยานแล้ว ห้องเดี่ยวกับโรงงานอยูห่ ่ างแค่ 10 นาทีเอง เดิน
ไปก็ได้ เขาก็เลยอยากขายจักรยาน!” แม่เฒ่าหวังกล่าว
“คุณแม่ทาธุระก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันพาเหวินเทาไปถามสักครู่ ”
พี่สาวใหญ่จา้ วกล่าว
“ยัง ต้อ งพู ด อี ก เหรอครั บ ผมซื้ อ จัก รยานแล้ว นะ” จ้า วเหวิ
นเทากล่าว
พี่สาวใหญ่จา้ วจึงไม่กล่าวอะไรอีก
“ผมจะไปบอกพี่สาวห้าก่อน พี่สาวใหญ่กลับไปเถอะ” จ้าวเห
วินเทากล่าว
“ฉันเห็นว่าความคิดของน้องชายของเธอก็ไม่เลวเลยนะ เธอ
ดูไข่ไก่กบั ถัว่ งอกที่ฉันซื้ อมาสิ แย่งกันดุเดือดมาก!” แม่เฒ่า
หวังกล่าว
จ้าวเหวินเทาปั่ นจักรยานโต้ลมอยู่บนถนนระหว่างทางกลับ
บ้าน เขารู ้สึกราวกับถึงบ้านภายในพริ บตาเดียว
จ้าวเหวินเทากล่าวตามความจริ ง ทาให้ทุกคนต่างพากันตก
ตะลึงอย่างอดไม่ได้
พี่สามจ้าวที่อยู่ในกลุ่มฝูงชนเห็นแล้วก็อดเบ้ปากไม่ได้ นาย
ทาอะไรให้มนั พอตัวหน่อยเถอะ เงินร้อยกว่าหยวนนัน่ ดูสิวา่
นายจะใช้ได้อีกสักกี่วนั เพิ่งจะแยกบ้านก็ใช้เงินแบบนี้แล้ว!
พี่รองจ้าวรู ้สึกร้อนใจ รี บดึงน้องหกเข้ามาคุยในบ้าน จากนั้น
จึงกล่าวว่า “น้องหก ทาไมนายถึงซื้ อจักรยานคันนี้ ? พวกเรา
จะใช้มนั ทาอะไรบ้าง นายใช้จ่ายฟุ่ มเฟื อยเกินไปหรื อเปล่า?”
แต่คนที่เหลือต่างออกมาดูกนั หมด
แม้แต่คุณพ่อจ้าวยังอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ลูกชายคนนี้ใช้
เงินเก่งเกินไปแล้ว คนชนบทจะซื้อจักรยานไปทาไมกัน
“น้องสามี หก นายซื้ อจักรยานมาทาไมเนี่ ย?” เมื่ อเที ยบกับ
สายตาเย็นชาของพี่สะใภ้รองจ้าว พี่สะใภ้สามจ้าวกลับถาม
ออกไปตรง ๆ
ในเมื่ อเรื่ องนี้ ไ ม่ สามารถปิ ดบังได้แ ล้ว ก็ไม่ ตอ้ งปิ ดบัง อี ก
ต่อไป เขาจึงกล่าวออกมาตรง ๆ
“แล้วได้เงินเท่าไรล่ะ?” เหล่าหวังสามถาม
คาพูดนี้ ไม่ น่าเชื่ อถื อเอาเสี ย เลย ยังไม่ เคยลอง และไม่ รู้ว่า
ตลาดเป็ นแบบไหน ก็ใช้เงินจานวนมากซื้อจักรยานเสี ยแล้ว?
ถ้าลองทาแล้วไม่ได้ผลขึ้นมา เงินก็ไม่ได้ แล้วจะทาอย่างไร?
ดังนั้นด้านการกินอยู่ ต้องวางแผนอย่างรอบคอบจึงจะดี
เธอบอกว่าตนไม่สามารถเข้มแข็งได้ เพราะแค่เห็นเหวินเทา
เธอก็ใจอ่อนแล้ว ท้ายที่สุดแม่สามีของเธอจึงหมดทางเลือก
บอกว่าเย่ฉูฉู่ใจอ่อนเกินไป หลังจากนี้ นางจะเป็นคนจับตาดู
เหวินเทาเอง เพื่อไม่ให้เขาใช้จ่ายเงินสุ่ มสี่ สุ่มห้า!
“ฉันกลับก่อนนะ” เย่ฉูฉู่กล่าวพร้อมกับถือตะกร้าที่มีเข็มและ
ด้ายอยูใ่ นนั้น
คนที่มีสายตาเฉี ยบแหลมสามารถมองเห็นได้ว่าเธออารมณ์
ไม่ดีแล้ว ภรรยาของหวังสามกลับยังคงสุ มไฟเพิ่มอีก หล่อน
กล่าวว่า “ภรรยาเหวินเทา เธอฟั งฉันนะ กลับไปต้องบ่นเขา
สักหน่อย เธอจะอ่อนแอแบบนี้ไม่ได้ ตอนเพิง่ จะแต่งงานฉัน
รู ้ สึ ก ว่า เธอเองก็ไ ม่ เ ลวเลย ทาไมยิ่ง อยู่ยิ่ง อ่ อ นแอล่ ะ ? เขา
ไม่ได้มีแผนอะไรเลย เพิ่งจะแยกบ้านก็ใช้เงินสุ รุ่ยสุ ร่าย เธอ
ต้องด่ าเขาหน่ อย ไม่ง้ นั ในอนาคตใครจะกลายเป็ นใหญ่ใน
บ้านล่ะ?”
หล่อนและเย่ฉูฉู่แต่งงานเกือบจะพร้อมกัน เดือนนี้รอบเดือน
ของหล่อนยังไม่มา จึงคิดว่าตนต้องท้องแน่ ๆ เพราะช่วงเก็บ
เกี่ ย วฤดู ใ บไม้ร่ วงเมื่ อเดื อนที่ แล้ว จ้า วเหวิน จื้ อได้ก ลับมา
ช่วยงาน คู่สามีภรรยาย่อมมีเรื่ องให้ทามากกว่านั้น
เงินเดือนในแต่ละเดือนหล่อนก็เป็ นคนเก็บทั้งหมดด้วย!
ตอนที่ 35 อย่ าดับฝัน
เมื่อเช้านางเพิ่งบอกให้ลูกสะใภ้เล็กขยันและประหยัดอดออม
บอกให้ ก ลับ ไปช่ ว ยควบคุ ม ดู แ ลลู ก ชายด้ ว ย แต่ นี่ ก ลับ
กลายเป็ นว่า ลูกชายซื้อจักรยานกลับมาหนึ่งคัน
คุ ณพ่อจ้าวกาลังนั่งสานเล้าไก่อยู่ในห้องเงี ยบ ๆ พี่รองจ้าว
มองจ้าวเหวินเทาที่กาลังเช็ดรถจักรยานสุ ดที่รักด้วยผ้าขี้ริ้ว
พลางทอดถอนใจ
พี่สะใภ้รองและพี่สะใภ้สามพาต้าหยาและเอ้อร์ หยาไปเก็บ
ข้าวโพดแล้ว
ส่ วนพี่สามจ้าวกาลังมัดเชือกฟางไปพลางรอดูฉากชวนปวด
หัวไปพลาง
เขารอให้ภรรยาของตนเองกลับมา จ้าวเหวินเทาอยากจะอวด
ภรรยาของเขาสักหน่ อย แต่ยงั ไม่ทนั ได้อวดภรรยา แม่ของ
เขาก็เดินกระฟัดกระเฟี ยดกลับมาแล้ว
“โอ้โห ทาไมวันนี้ แม่ของผมสวยขนาดนี้เนี่ ย? นี่ ถา้ อายุนอ้ ย
กว่านี้ สักหน่ อย สิ บลี้แปดหมู่บา้ นจะมีใครเทียบแม่ของผม
ได้?” จ้าวเหวินเทารี บพูดด้วยรอยยิม้
จ้าวเหวินเทาตัวลอยจนไม่ไหวแล้ว เขาหันไปพูดกับแม่ว่า
“แม่ฟังสิ นี่คือภรรยาของผม แม่ดูสิว่าหล่อนเชื่อใจผมขนาด
ไหน?”
สามต้านผิดหวังมาก
เย่ฉูฉู่เดินตามเขากลับมา จ้าวเหวินเทานาซาลาเปาไปวางไว้
ในห้องก่อนหน้านี้แล้ว แน่นอนว่ายังมีครี มโหยวอี้ดว้ ย
“ผมถามพนักงานขายที่เคาน์เตอร์แล้ว หล่อนบอกว่าแบบนี้
ใช้ดีที่สุด หอมเป็ นพิเศษด้วย ผมก็เลยซื้ อมาแบบนี้ มา คุ ณ
ลองดูสิครับว่าเป็ นยังไง” จ้าวเหวินเทากล่าว
จ้าวเหวินเทาหยิบเงินที่เหลือบนตัวออกมา วันนี้เขาก็ได้เนื้ อ
มาไม่กี่ชงั่ เพื่อไปขายในเมืองไม่ใช่เหรอ?
“ทาไมไม่ให้ล่ะคะ?” เย่ฉูฉู่ไม่เข้าใจ
ตอนที่เธอไปนัง่ เย็บผ้าพูดคุยกับเฮ่อซงจือก็ไม่ได้ไปคุยเฉย ๆ
เธอเองก็ได้ความรู ้เกี่ยวกับเรื่ องราวในหมู่บา้ นมาไม่นอ้ ย
ยกตัวอย่างเช่นบ้านแม่ของเธอก็ใจกล้าไม่เบา ปี นี้เลี้ยงไก่ไป
หลายสิ บตัว ทั้งยังเป็ นคนที่มีความกล้าหาญกลุ่มแรกด้วย นี่ก็
นานแล้วยังไม่เกิดปั ญหาอะไรขึ้นเลยแม้แต่นอ้ ย ทิศทางลมนี้
ยังสามารถเห็นได้
พี่สะใภ้รองและพี่สะใภ้สามต่างก็อยู่ในบ้านและก็กาลังถัก
เชื อกฟางอยู่ หลังจากถักเสร็ จก็สามารถนาไปส่ งให้ทีมผลิต
ได้แล้ว ที่ผ่านมาตรฐานรับรองก็จะนาไปนับเป็ นแต้มค่าแรง
ได้
ไข่ไก่หนึ่งตะกร้าและแม่ไก่อีกสองตัว ช่างใจกว้างดีจริ ง ๆ!
ส่ วนเจ้าลูกชายคนที่สาม เด็กไม่รักดีคนนั้นนางไม่สนใจแล้ว
ภรรยาของเขาเป็ นปั ญญาชนมีการศึกษา หลังจากการสอบ
เข้ามหาวิทยาลัยได้รับการฟื้ นฟู ในปี แรกหล่ อนก็ส อบเข้า
มหาวิทยาลัยได้แล้ว
นางคิ ด ว่ า คงหมดหวัง แน่ น อน แต่ ก็ ไ ม่ อ าจระงับ ความ
หลงใหลของเขาได้ งั้นก็ปล่ อยให้หลงใหลต่ อไปเพราะขี้
เกียจจะสนใจแล้ว ปล่อยให้เขาสะดุดเองดูบา้ งจะได้รู้ว่าเป็น
อย่างไร
แต่พี่สะใภ้รองและพี่สะใภ้สามที่อยู่ดา้ นนอกได้ยินถึงกับเบ้
ปาก น้องสามีหกทาแต่เรื่ องไร้สาระต่างหากล่ะ วันนี้กเ็ ก็บถัว่
เหลืองในหมู่บา้ นออกไปขายที่ในเมืองตั้งแต่เช้า
ส่ วนเมื่ อ วานนี้ ถั่ ว งอกก็ เ พิ่ ง จะงอก ของพวกนี้ เจอได้
โดยทัว่ ไป มันจะไปหายากตรงไหนกัน?
มีแม่คนไหนบ้างไม่ชอบให้ลูกชายตัวเองถูกชม? โดยเฉพาะ
การได้รับคาชมจากแม่ ยายของเขา ทั้งยังเป็ นความจริ ง ใจ
อย่างแท้จริ ง สามารถมองเห็นได้ว่าคุณแม่เย่ชอบลูกเขยของ
นางจริ ง ๆ ไม่ เช่ นนั้นคงไม่ หิ้วไข่ ไก่ มาหนึ่ งตะกร้ าแบบนี้
หรอก
ดังนั้นตอนที่เย่ฉูฉู่กลับมา จึงพบว่าพวกนางทั้งสองคนกาลัง
พูดคุยกันอย่างถูกคอ
“พวกแกแยกบ้านกะทันหันเกินไปแล้ว ไม่บอกไม่กล่าวกัน
สักคา”
มี กระติ กน้ าร้ อ นสองอัน ซึ่ งเป็ นของที่ พี่สาวห้าจ้า วซื้ อ ให้
ตอนแต่งงานทั้งคู่ พี่สาวห้าจ้าวก็ไม่ได้เป็ นคนขี้เหนี ย วเลย
หลังจากถามถึงส่ วนสู งและน้ าหนักของจ้าวเหวินเทา หล่อน
ก็ท าเสื้ อ ผ้า ชุ ด ใหม่ ม าให้อี ก สองชุ ด สิ่ ง นี้ ก็ห าได้ย ากมาก
เช่นกัน
“ตอนนี้เหวินเทามีแผนการยังไงบ้าง?” คุณแม่เย่เอ่ยปากถาม
เรื่ องนี้
อีกอย่างลูกเขยของนางก็เป็นคนฉลาดมาก แถมยังกล้าหาญ
ด้วย เขาคล้ายคลึงกับนางมากในเรื่ องนี้
ในเวลานี้ นางรู ้ สึ ก ว่า เป็ นโอกาสดี แต่ ต ระกูล จ้า วเป็ นคน
ซื่อสัตย์ จะกล้าฉีกกฎได้อย่างไรกัน?
ถ้ายังไม่แยกบ้านแล้วลงมือทา แบบนั้นจะต้องเกิดความคับ
ข้องใจกับเหล่าพี่ชายและพี่สะใภ้อีกแน่ เมื่อหาเงินมาก็ตอ้ ง
นามาแบ่งอีก แบบนั้นจะไม่อดั อั้นใจตายเลยเหรอ?
ดังนั้นแยกบ้านกันก็ดีแล้ว
“เขาอยากเข้าไปหาเงินในเมือง ถึงตอนนั้นก็จะสร้างบ้านอิฐ
แยกออกไปอยู่กนั เอง เขาบอกกับฉันว่าหลังจากนี้ จะเลี้ ยง
กระต่ายเพื่อเอาไปขายด้วย”เย่ฉูฉู่กล่าว
คุณแม่เย่ยมิ้ และกล่าวด้วยความพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง “เหวิน
เทารู ้จกั คิดนะ แกฟังคาของเขาก็พอ อย่าไปสร้างความวุน่ วาย
ให้เขาเพิ่มล่ะ เข้าใจไหม?”
“ถ้าแม่ไม่ใช่แม่แล้วจะเอาของมากมายขนาดนี้มาให้แกทาไม
กัน? แกคิดไว้ซะสวยหรู เชี ยวนะ ดูพวกพี่สะใภ้ท้ งั สองของ
แกสิ แต่ละคนต่างก็อิจฉาที่แกมีแม่ดี ๆ แบบนี้ต้ งั ไม่รู้เท่าไร!”
คุณแม่เย่แค่นเสี ยงหึออกมาจากลาคอ
เย่ฉูฉู่ยมิ้ เธอย่อมเห็นพี่สะใภ้รองจ้าวและพี่สะใภ้สามจ้าวที่
มองมาด้วยสายตาอิจฉา จึงกล่าวว่า “ฉันรู ้ค่ะว่าแม่รักฉันมาก
ที่สุดแล้ว”
“ของแห้งอะไร?” คุณแม่เย่ถาม
“ก็พ วกเห็ ด ของอย่า งอื่ น ที่ ค ล้า ยกับ พวกถั่ว เหลื อ งอะไร
ทานองนั้น ถ้ามีคนอยากขายก็ซ้ือมาได้เลย” เย่ฉูฉู่กล่าว
“เหวินเทาจะเอาไปขายในเมืองเหรอ?” คุณแม่เย่ถาม
พี่ใหญ่เย่หมิงตงและพี่รองเย่หมิงหนานทั้งสองคนแต่งงานมี
ลูกแล้ว ส่ วนพี่สามของเธอก็แต่งงานแล้วเช่ นกัน แต่แต่งกับ
ปัญญาชนคนหนึ่ง
เย่ฉูฉู่กล่าว “พี่สามก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะคะ”
เย่หมิงเป่ ยที่เป็ นพี่สามของเธอสู ง 180 เซนติเมตร เขาเป็ นคน
ตัวสู ง และตอนนี้ ก็ยงั เป็นหนุ่ มหล่อด้วย ไม่ได้มีนิสัยที่ไม่ดี
แม้แต่นอ้ ย ปี นี้อายุแค่ 22 ปี ยังหนุ่มยังแน่นอยูเ่ ลย
โดนหลอกง่ายเกินไปแล้วจริ งๆ ควรจะให้เขาได้ลิ้มรสความ
เจ็บปวดดูบา้ ง ไม่เช่นนั้นก็คงไม่โตสักที!
เพราะนางเป็นแม่นางจึงกล้าถามออกมาตรง ๆ หากเป็นแม่
สามี เช่นนั้นก็คงไม่ถามตรง ๆ แบบนี้ แต่ถา้ เจอแม่สามีที่ไม่
มีเหตุผลแน่นอนว่าก็เป็ นอีกเรื่ องหนึ่ง
เย่ฉูฉู่จึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ในใจของเธอก็รู้สึก
กังวลเล็กน้อย เพราะเธอก็ตอ้ งการคลอดลูกให้กบั เหวินเทา
เช่ นกัน แต่เจ้าตัวเล็กยังไม่มีสักที คงต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ
ไป
คุณแม่จา้ วยินดีและพอใจอย่างยิง่
“เอาของมาตั้งเยอะแยะขนาดนี้ ยังไม่อยู่กินข้าวด้วยกันอีก”
คุณพ่อจ้าวกล่าว
“ช่ ว ยไม่ ไ ด้ ที่ บ้า นน้อ งสาวเย่ยุ่ง ๆ น่ ะ แต่ ห ลัง จากนี้ ยัง มี
โอกาส” คุ ณแม่จา้ วกล่าว จากนั้นจึงกระซิ บ “แถมยังให้ไก่
สองตัวกับไข่ไก่อีกหนึ่งตะกร้าอย่างไม่เสี ยดายเลยล่ะ!”
แม้ว่าจะไม่ได้นามาให้นาง แต่กใ็ ห้ลูกชายและลูกสะใภ้ของ
นาง สุ ดท้ายแล้วก็เป็ นประโยชน์ต่อครอบครัวของนางอยูด่ ี
คุณพ่อจ้าวจึงตอบตกลง
แสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาอารมณ์ไม่ดี
เหล่าหวังสามอารมณ์ดีมาก เขาหันไปคุยกับภรรยาของเขาที่
กาลังให้นมลูกอยู่ จากนั้นด้วยความปากมากของภรรยาเหล่า
หวังสาม ทุกคนจึงรู ้ว่าวันนี้จา้ วเหวินเทานาถัว่ เหลืองและถัว่
ลิสงไม่กี่ชงั่ ไปขายในเมืองตั้งแต่เช้าตรู่ ออกไปโต้ลมหนาว
ตั้งแต่ก่อนรุ่ งสาง ขายจนถึงตอนนี้ กเ็ พิ่งจะกลับมา ได้เงินมา
ทั้งหมด 1.80 เหมา!
จากนี้ ไปภรรยาและลูกคงได้อดอยากปากแห้งไปพร้อมกับ
เขาแน่!
แต่เมื่อคิดถึงเรื่ องที่ตอนเช้าหลังจากแม่ยายของเขาได้ยินว่า
พวกเขาทั้งสองแยกบ้านกันแล้ว จึงนาไก่สองตัวและไข่ไก่
หนึ่งตะกร้ามาให้ ก็อดไม่ได้ที่จะเดาะลิ้นด้วยความอิจฉา
ใครบอกให้เขาแต่งงานกับภรรยาที่ดี แถมยังมีแม่ยายที่ดีแบบ
นี้กนั ล่ะ?
ตอนที่ 39 เคล็ดลับให้ กาเนิดลูกชาย
ขณะที่มีการพูดคุยกันมากมายภายในหมู่บา้ น จ้าวเหวินเทาก็
พาภรรยาของเขากลับเข้าห้องเพื่อไปนับเงินที่ได้มา
คูปองเนื้อใบนั้นเขาให้พี่สาวใหญ่ไปแล้ว เมื่อวานหล่อนช่ วย
ออกเงิ น ซื้ อ จัก รยานให้เ ขาไปก่ อ น วัน นี้ เขาจึ ง น าเงิ นและ
คูปองเนื้อไปให้พี่สาวใหญ่
ผูอ้ าวุโสของตระกูลจึงไม่ได้กล่าวอะไร
ตัวอย่างเช่ นได้ยินพี่สะใภ้รองจ้าวและพี่สะใภ้สามจ้าวพูด
เรื่ องวันนี้ที่คุณแม่เย่มาเยีย่ ม หิ้วไข่ไก่หนึ่งตะกร้าและไก่สอง
ตัวที่สามารถวางไข่ได้มาให้ ทาให้พี่สะใภ้สี่จา้ วอิจฉามาก
ส่ วนคุณแม่ของหล่อนเมื่อได้ยนิ ว่าตนแยกบ้านแล้ว เรื่ องแรก
ที่นางถามคือหล่อนได้เงินมาเท่าไร? จะได้นากลับไปให้แม่
ดูแล!
มองแม่ของเย่ฉูฉู่แล้วหันกลับมามองแม่ของตัวเองแล้ว มัน
ช่างน่าเศร้าจริ ง ๆ
เดิ มที หล่ อนเองก็แอบรู ้ สึกรั งเกี ยจที่ พี่สี่จา้ วซื่ อสั ตย์ซื่ อ บื่ อ
เกินไป แต่ตอนนี้ พอมาคิด ๆ ดูแล้ว สามีของหล่อนก็นับว่า
ไม่เลวเลย
สุ ดท้ายแล้วการไปทางานในนาของเขาก็ไม่เลว เขาได้แต้ม
ค่าแรงมา 10 แต้ม ไม่เหมือนกับน้องสามีหก ที่เป็ นพวกนอก
รี ตไม่ทาอะไรเป็ นจริ งเป็ นจังสักอย่าง
หล่ อ นในตอนนี้ ไม่ ไ ด้เ กี่ ย วข้อ งกับ พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วและ
พี่สะใภ้สามจ้าวแล้ว แต่กไ็ ม่คิดจะขัดแย้งกับเย่ฉูฉู่อีก ดังนั้น
หล่อนจึงมาโน้มน้าวเย่ฉูฉู่สักหน่อย
“น้องสะใภ้ น้องสามีหกทาแบบนี้ มนั ไม่ได้เรื่ องเลยนะ เธอ
ไม่เกลี้ยกล่อมเขาหน่อยเหรอ?” พี่สะใภ้สี่จา้ วกล่าว
วันนี้จา้ วเหวินจื้อเพื่อนสมัยเด็กของจ้าวเหวินเทาเพิ่งกลับมา
จากในเมือง ย่อมได้ยินเรื่ องที่เฮ่ อซงจือภรรยาของเขาบอก
แล้ว
แต่เมื่อพูดถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัย จ้าวเหวินจื้อจึงถอน
หายใจเล็กน้อยและกล่าวว่า “เกรงว่าฉันคงจะสอบเข้าไม่ได้
แล้วล่ะ”
เย่ฉู ฉู่ เ ตรี ย มตัว นอนแล้ว เมื่ อ เห็ น เขากลับมาจึ ง กล่ า วด้ว ย
รอยยิม้ “พรุ่ งนี้ยงั ต้องตื่นแต่เช้านะคะ รี บเข้านอนเถอะค่ะ”
จ้าวเหวินเทากอดภรรยาของตัวเองและเข้านอน อากาศหนาว
แบบนี้มีภรรยานอนอยู่บนเตียง ไม่มีอะไรสบายไปกว่านี้ อีก
แล้ว
เขากอดภรรยาอย่างอ่อนโยนและอบอุ่น และแล้วเขาก็เกิ ด
ความคิดขึ้นมา
ขอแค่เขาอยูบ่ า้ น ภรรยาของเขาก็จะให้เขารับประทานของดี
ๆ ไม่ตอ้ งรับประทานโจ๊กและมันเทศทุกวันแล้ว
“ยัง ไม่ มี เ นื้ อ ให้กิ น เลยค่ ะ หรื อ ว่ า พรุ่ ง นี้ คุ ณ เหลื อ เนื้ อ หมู
กลับมาบ้านสักหน่อยดีไหมคะ?” เย่ฉูฉู่ถาม
อาหารหลักของบ้านมี เพียงไข่ ไก่ คื นนี้ มีปลาหนึ่ งตัว เป็ น
ปลาที่ พี่ ร องจ้า วให้มา เขาตกมาได้สองตัว ตัว หนึ่ ง เก็บไว้
รับประทานเอง ส่ วนอีกตัวก็เอามาให้เขา
เย่ฉูฉู่หน้าแดงระเรื่ อ แต่กลับปล่อยให้เขาทาตามใจปรารถนา
วัน นี้ ได้เ นื้ อ มาไม่ น้อ ย มี เ นื้ อ ทั้ง หมด 5 ชั่ง ท าให้จ ้า วเหวิ
นเทากล่าวด้วยรอยยิม้ “พี่ซื่อหู่ พอจะมีเนื้อชั้นรองไหมครับ?
พรุ่ งนี้ผมอยากจะเก็บไว้กินที่บา้ นสักหน่อยน่ะ”
“ตกลง” จ้าวเหวินเทาตอบด้วยรอยยิม้
เขาอยากจะลองดูสักหน่อยว่าตกปลาได้สักสองตัวไหม ปลา
นึ่งซีอิ๊วที่ภรรยาของเขาทามันอร่ อยจริ ง ๆ
“คุ ณ ไปบอกกับ คุ ณแม่ สัก หน่ อ ยเถอะ ไม่ รู้ ว่า ในบ้านจะรู ้
เรื่ องนี้ รึยงั แล้วก็ถามด้วยนะ อย่าให้พี่สามถูกอีกฝ่ ายหลอก
เข้าล่ะ” จ้าวเหวินเทากล่าว
จ้าวเหวินเทาหยิบสวิงออกไปจับปลาแล้ว
เมื่ อ วานแม่ ข องเธอยัง น าไข่ ไ ก่ ม าให้ ถึ ง ที่ บ้า น วัน นี้ ก็จ ะ
กลับไปนั่งคุ ยที่ บา้ นอี ก เธอจะกลับไปมื อเปล่ าได้อ ย่า งไร
กัน? ในบ้านไม่มีของอย่างอื่นเลย ทาขนมแป้งทอดสักหน่ อย
ก็ดีมากแล้ว
หลังจากยุง่ จนถึงช่วงบ่ายสองโมงกว่า ๆ ขนมแป้ งทอดก็เพิ่ง
จะทาเสร็ จ เธอเทน้ ามันที่เหลือออกมา ส่ วนกระทะก็ไม่ได้
ล้าง เก็บไว้ผดั กับข้าวตอนค่าคงหอมฉุยไม่นอ้ ย
“แม่คะ…” ต้าหยาหันไปมองแม่ของเธอ
พี่สะใภ้รองจ้าวมีสีหน้าไม่สู้ดี หล่อนจึงพูดกับพี่สะใภ้สาม
จ้าว “ตอนนี้นอ้ งสะใภ้สี่เป็ นอะไรเนี่ย พูดจากลับตาลปั ตรไป
หมด!”
พี่สะใภ้สามจ้าวเบ้ปาก หล่อนจะไปทราบได้อย่างไรว่าเกิด
อะไรขึ้นกับน้องสะใภ้คนนี้ หลังจากที่แยกบ้านแล้วหล่อนก็
พูดแบบนี้ มาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ ไม่กล้าแม้แต่จะพูดเสี ยง
ดังเลยด้วยซ้ า มาวันนี้ กลับรู ้ สึกราวกับพวกหล่ อ นสองคน
เป็ นหนี้อีกฝ่ ายอย่างไรอย่างนั้น ป่ วยแล้วกระมังเนี่ย
อีกอย่างเมื่อวานนี้ คุณแม่เย่ก็นาของมาให้มากมายขนาดนั้น
ลู ก สะใภ้บ ้า นนู ้น จะไม่ คิ ด ได้อ ย่ า งไรกัน ? ลู ก สะใภ้น าง
กลับไปบ้านคราวนี้ ถา้ หากไม่นาของดี ๆ กลับไปสักหน่ อย
คงได้ถูกพวกพี่สะใภ้ที่บา้ นเธอกระซิบกระซาบแย่
แต่เย่ฉูฉู่คงไม่ทาเรื่ องแบบนั้นหรอก
เธอใช้กระดาษไขห่ อขนมแป้ งทอดจานวนหกชิ้นมาให้ แค่
นั้นก็ได้รับการต้อนรับอย่างมากแล้ว
สี หน้าของพี่สะใภ้ใหญ่ เย่และพี่สะใภ้รองเย่ดูดีไม่น้อย ใน
เวลาเดียวกันก็ประหลาดใจนิดหน่อย
“เปลี่ยนไปเยอะเลยจริ ง ๆ” พี่สะใภ้รองเย่กล่าว
พี่สะใภ้ใหญ่เย่ส่ายหน้า “อย่าไปพูดถึงเลย”
แม้หล่อนจะรู ้สึกประหลาดใจมาก แต่นอ้ งสามีสามก็เฝ้ารอ
น้องสะใภ้สามกลับมาจนตาแดงเถือกหมดแล้ว จะพูดจาบัน่
ทอนกาลังใจไม่ได้หรอก
ตอนที่ 42 โจวหมิน่
คุ ณแม่ เย่ก็กล่ าวว่า “เป็ นเรื่ องจริ ง จดหมายส่ งมาถึ งที่ บา้ น
แล้ว”
โจวหมิ่นเองก็ไม่รู้วา่ ทาไมตัวเองถึงกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง
ชาติ ที่ แ ล้ว หลัง จากที่ ห ล่ อ นเข้า มหาวิ ท ยาลัย แล้ว ก็ไ ม่ ไ ด้
กลับไปหาบ้านสามีที่ชนบทอีกเลยจริ ง ๆ หล่อนคิดว่าเย่หมิง
เป่ ยเข้าใจความหมายของหล่ อนแล้ว แต่หล่อนคิดไม่ถึงว่า
บั้นปลายชีวติ ในชาติที่แล้ว หล่อนกลับยังได้พบเจอกับเขาอีก
ครั้ง
ชาติ ที่ แ ล้ ว ตอนที่ ห ล่ อ นเรี ยนอยู่ ช้ ั นปี ที่ ส าม หล่ อ นมี
ความสัมพันธ์ที่ดีกบั เพื่อนนักเรี ยนชายอีกคน เป็ นเพราะพวก
เขามี อุ ด มการณ์ แ ละเป้ า หมายร่ ว มกัน ดัง นั้น จึ ง เป็ นเรื่ อ ง
ธรรมดาที่จะไปด้วยกันได้
แน่นอนว่าหล่อนก็ไม่ได้มีลูกชายและลูกสาวด้วย
ภายในบ้านพักคนชราหล่อนก็ได้ไปเจอกับเย่หมิงเป่ ยที่อยูใ่ น
บ้านพักคนชราเช่นเดียวกัน
โจวหมิ่นร้องไห้จนไม่สามารถร้องไห้ได้อีกแล้ว
ดังนั้นจึงทาได้แค่เขียนจดหมาย
ทางฝั่งนั้นกดรับสายในเวลาอันรวดเร็ ว เพียงไม่นานโจวหมิ่น
ก็กดรับสาย
“หมินหมิ่น!” เย่หมิงเป่ ยตะโกนเรี ยก
ค าพู ด นี้ ไม่ ไ ด้โ กหก ใช้เ วลากี่ ปี กว่ า จะฟื้ นฟู ก ารสอบเข้า
มหาวิ ท ยาลัย อี ก ครั้ ง แถมยัง ไม่ ใ ช่ เ รื่ อ งง่ า ยที่ จ ะประสบ
ความสาเร็ จในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย จะมีใครบ้างที่ ไม่
เรี ยนหนังสื อกันแบบทุ่มสุ ดตัว? แน่ นอนว่าหล่อนเองก็ไม่มี
ข้อยกเว้นเช่นกัน
โดยพื้นฐานแล้วนอกจากกินข้าวและนอนหลับ เวลาอื่น ๆ ก็
ใช้ไปกับการเรี ยนทั้งหมด
ตัวเธอเองก็เป็ นคนภาคใต้
“หมิงเป่ ย โจวหมิ่นภรรยาของเธอจะกลับมาแล้วเหรอ?”
ทุกคนต่างก็เห็นด้วย
คุณพ่อเย่มีสีหน้าดูอ่อนลงมาก คุณแม่เย่เลิกคิ้วขึ้นอย่างเหนือ
ความคาดหมาย นางมองดูลูกชายจอมซื่อบื้อของตัวเอง “แล้ว
หล่อนพูดอะไรอีกไหม?”
แน่นอนว่าต้องมีอยูแ่ ล้ว
ทว่ า เย่ ห มิ ง เป่ ยกลับ ส่ า ยหน้า ค าพู ด เหล่ า นั้ นไม่ ต ้อ งพู ด
ออกมาหรอก หมินหมิ่นพูดว่าคิดถึงเขา คิดถึงมาก ๆ คิดถึง
มากสุ ด ๆ เลย
หึหึ
เหวินเทาของเธอช่างมีความสามารถนัก ออกจากบ้านไปได้
ไม่ นานก็ตกปลาตัวใหญ่ กลับมาได้ 1 ตัว แบบนี้ เธอจะไม่
นาไปทาเป็ นปลาผัดน้ าแดงกินเหรอ?
เป็ นเพราะได้เห็นการรับประทานอาหารจากบ้านเจ้าหกอยู่
บ่อย ๆ จึงยอมกัดฟันทาแป้งจี่ไข่ มื้อนี้รับประทานไข่ไก่ไป 4
ฟองและแป้งอีก 1 ถ้วย แน่นอนว่าก็ยงั มีแป้ งอย่างอื่นผสมลง
ไปด้วย ส่ วนแป้งขาวมีไม่มากเท่าไรนัก
ทว่านี่กท็ าให้พี่สะใภ้รองจ้าวปวดใจมากแล้ว
แต่ก็ไม่รู้ว่าทาไมบ้านเจ้าหกถึงรับประทานแบบนั้นโดยไม่
รู ้สึกเสี ยดายเลย
เถี่ยต้านดีใจเป็นอย่างมาก ตอนที่กลับมาก็พบว่าแม่ของเขา
หน้าตาบูดบึ้ง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร เขาเป็ นลูกชายคนโต
และหลานชายคนโตในบ้าน คุณปู่ และคุณย่าดีกบั เขามาก เขา
ก็ตอ้ งกตัญญูอยูแ่ ล้ว
พี่สะใภ้รองจ้าวแอบน้อยใจ หล่อนจะพูดได้อย่างไรว่าตัวเอง
อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าสามีของตัวเองแอบขโมยเงินส่ วนตัว
ไปให้บา้ นเจ้าหก?
ไม่เช่ นนั้นทั้งสองคนนั้นจะมีความกล้ากินของดีแบบนั้นได้
อย่างไรกัน? ถึงแม้ว่าบ้านเจ้าหกจะตุ๋นแค่ปลาตัวเดียว แต่ได้
ไปเห็นหรื อเปล่าว่าเธอใช้วตั ถุดิบไปเท่าไร? ต้องเหยาะซี อิ๊ว
ลงไปหลายทัพพีแน่ นอน ไหนจะพริ ก ขิง และกระเทียมสับ
อี ก ดู ว ตั ถุ ดิ บ พวกนี้ สิ ไม่ แ ปลกใจเลยที่ ปลาหนึ่ ง ตัว จะส่ ง
กลิ่นหอมตลบอบอวลไปทัว่ ทั้งบ้าน!
อีกอย่างเรื่ องที่บา้ นเจ้าหกนาอาหารไปให้พ่อกับแม่ หล่ อน
ไม่เชื่ อหรอกว่าสองคนนั้นจะกตัญญู จริ ง ๆ ต้องเป็ นเพราะ
พ่อกับแม่กลัวว่าพวกเขาจะใช้เงินหมดแล้ว ก็เลยแอบยัดเงิน
ให้พวกเขา!
พ่อกับแม่ลาเอียงรักน้องสามีคนนี้มากกว่ามาโดยตลอดไม่ใช่
หรื ออย่างไร?
แน่นอนว่าจ้าวเหวินเทาก็ได้ไถ่ถามเรื่ องพี่สามของภรรยาไป
สองสามประโยค เย่ฉู ฉู่ จึ ง บอกไปว่ า ได้ส่ ง จดหมายกลับ
มาแล้ว ปี นี้กค็ งจะกลับมา
ไม่เช่นนั้นคงไม่ส่งจดหมายกลับมาหรอก
จ้าวเหวินเทายื่นหน้าเข้ามาดู ก็พบว่าภรรยาของเขาก็กาลัง
บันทึกบัญชีอยู่ ด้านบนเขียนรายรับและรายจ่ายของวันนี้
ส่ วนรายจ่ายก็เป็นค่าใช้จ่ายค่าหมัน่ โถวที่เขาไปรับประทาน
ในเมือง รวมถึงเงินค่าซีอิ๊วด้วย
“หลังจากนี้ ไม่ตอ้ งกินหมัน่ โถวแล้วนะคะ ซื้ อซาลาเปากิ น
สองลูกไปเลย ไปตอนเช้า ๆ ก็ควรกินของอร่ อยหน่อยไม่ใช่
เหรอ?” หลังจากจดบันทึกเสร็จ เย่ฉูฉู่กห็ นั หน้ามาพูดกับเขา
“อื้อ” เย่ฉูฉู่แก้มแดงระเรื่ อ
“ภรรยาของผมรักความสะอาดจริ ง ๆ ผมชักหวงซะแล้วสิ ”
จ้าวเหวินเทายิม้
“ช่ ว ยไม่ ไ ด้ มัน ไม่ มี เ นื้ อ นี่ ถ้า มี เ นื้ อ คงท าซาลาเปาเนื้ อ ได้
แน่นอน” ชายขายซาลาเปาตอบ
“เนื้อ?” จ้าวเหวินเทาหันไปมองเขา “ปกตินายซื้ อเนื้อชัง่ ละกี่
หยวนเหรอ?”
“นายดูสิ” จ้าวเหวินเทาแง้มตะกร้าบนรถจักรยานให้เขาดู มี
เนื้อแค่ครึ่ งชัง่ เท่านั้น แต่กท็ าให้อีกฝ่ ายมีดวงตาเป็ นประกาย
แล้ว
หลังจากจ้าวเหวินเทาขายของเสร็ จเขาก็ปั่นจักรยานกลับบ้าน
ทว่าตอนที่ กลับมากลับได้ยินเสี ยงโทรโข่ งขนาดใหญ่ จาก
บ้านของหัวหน้าฝ่ ายผลิต อี กฝ่ ายกาลังอ่ านหนังสื อพิมพ์ที่
เพิ่งลงข่าวในวันนี้ ในนั้นระบุว่าทางใต้มีหนึ่ งครอบครั วที่
รับเหมาสร้างเตาเผาอิฐจนกลายเป็ นครัวเรื อนหมื่นหยวน
แต่คาพูดนี้เพิ่งจะกล่าวจบ ก็มีคนพูดขึ้นมา
ภรรยาของเหล่าหวังสามมองเขาด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ไม่
กล้าพูดอะไรอีก
หากมีระบบความรับผิดชอบแบบนี้ ถึงเวลานั้นก็ไม่สามารถ
ทางานแบบชักช้าอืดอาดได้แล้ว
หลายครอบครั ว จึ ง เห็ น ชอบ ขณะที่ ห ลายครอบครั ว ต่ า ง
โศกเศร้า
“เจ้าสามทาไมนายพูดแบบนี้?” พี่รองจ้าวอดไม่ได้ที่จะพูด
คุณพ่อจ้าวเหล่ตามองเจ้าสามที่เป็นคนใจแคบอยู่เสมอ “เจ้า
หกไม่เคยเป็นตัวถ่วงให้กบั ที่บา้ นมาตั้งแต่เล็ก ๆ เป็นเพราะ
เขาทาให้เราได้มีเนื้ อกิ นมากขนาดไหนพวกแกก็น่า จะรู ้ ดี
คาพูดที่บอกว่าหลังจากนี้ถา้ เจ้าหกไม่มีขา้ วกินก็อย่ายืน่ มือมา
ขอความช่วยเหลือ ฉันว่าแกพูดเร็วเกินไปนะเจ้าสาม”
พี่ ส ามจ้า วเถี ยงคอเป็ นเอ็น “ที่ บ อกว่า พู ด เร็ ว เกิ น ไปก็ไ ม่ รู้
หรอกครั บว่าใครกันแน่ ถ้าเขาไม่ ทาตามระบบสั ญญา ถึ ง
เวลานั้นจะทายังไง?”
“พอแล้ว เรื่ องนี้ พอแค่น้ ี ก่อน ไหน ๆ ก็แยกบ้านไปแล้ว ถึง
เวลาพวกแกก็ใช้สถานะหัวหน้าครอบครัวไปเหมาส่ วนของ
ตัวเองก็พอ ส่ วนครอบครัวเจ้าหกถึงเวลานั้นก็ค่อยมารวมกับ
ฉันแล้วก็แม่ของพวกแก” คุณพ่อจ้าวโบกมือ
แต่ อ าศัย ว่ า ตอนนี้ อยู่ ภ ายในหมู่ บ้า นแห่ ง นี้ หล่ อ นจึ ง ไม่
สามารถโวยวายได้ เพราะภายในหมู่ บา้ นเรื่ องการลาเอี ยง
แบบนี้พบเห็นได้ไม่นอ้ ยเลยจริ ง ๆ
พี่สามจ้าวโมโหขึ้นมาแล้ว “คุณนี่วอนโดนตบแล้วนะ”
“คุณก็ลองตบฉันดูสิ ดูสิว่าฉันจะกลับไปหาพวกพี่ ๆ ให้มา
อัดคุณให้ตายหรื อเปล่า!” พี่สะใภ้สามจ้าวสวนกลับไป
……………………………………………………………
พี่สามจ้าวถูกกระตุน้ โทสะจนเดินออกจากห้องไป
เย่ฉูฉู่เองก็รู้สึกค่อนข้างเหนือความคาดหมาย แต่พี่สะใภ้สาม
คนนี้ เป็นคนใจกว้างเสมอ เธอจึงกล่าวด้วยรอยยิม้ “พี่สะใภ้
สามเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ มันก็แค่คาพูดไม่กี่ประโยค เป็ น
เรื่ องปกติอยูแ่ ล้ว ไม่ได้เก็บมาใส่ ใจอะไรหรอกค่ะ”
หลังจากนั้นก็กลับห้องของตัวเอง
“วิสัยทัศน์ไม่กว้างไกล” เย่ฉูฉู่แก้คาให้
“งั้นคุณก็แบกตะกร้าไปด้วยนะคะ ระหว่างทางก็ดูหน่อยว่า
มีพวกผลไม้เปลือกแข็งนากลับมาได้หรื อเปล่า ตอนเย็นที่คุณ
กลับมา ฉันจะทาเกี๊ยวให้คุณกิน ฉันเก็บเนื้อไว้ในตูน้ ่ะค่ะ” เย่
ฉู ฉู่กล่าว ตอนนี้ อากาศหนาวราว 11-12 องศาเซลเซี ยสแล้ว
จึงไม่ตอ้ งกลัวว่าเนื้อจะเน่าเสี ย
“ครับ” จ้าวเหวินเทาพยักหน้า
หลังจากรับประทานบะหมี่ไข่ไก่แล้ว จ้าวเหวินเทาก็ไม่ได้
นอนต่อ เมื่อครู่ เขานอนไปแล้ว จึงนาเคียวและไม้คานขึ้นเขา
ไป สิ่ งเหล่านี้ต่างก็ใช้เพื่อป้องกันตัวเอง
แต่เขาก็ไม่ได้ข้ ึนเขาคนเดี ยว ครั้งนี้ พาเถี่ยต้าน หลูเถี่ยและ
หม่าต้านไปด้วย
“พ่อของผมไม่อยากแยกบ้านเลย มีแต่แม่ที่อยากแยกบ้าน”
หลูตา้ นพูด เขามีแม่คนเดียวกับเถี่ยต้าน ตอนที่กลับไปบ้าน
ยาย เขาก็ได้ยนิ แม่ของเขาบอกกับยายว่าอยากแยกบ้าน
“เฮ้อ!” เถี่ยต้านถอนหายใจ
คาพูดนี้ทาให้พวกเขาดีใจขึ้นมา
ก่อนหน้านี้ ก็พูดไปแล้ว โชคของจ้าวเหวินเทาคงไม่ตอ้ งพูด
ถึง แค่ข้ ึนมาบนเขาได้ไม่นาน เขาก็เจอไก่ฟ้าหนึ่ งตัวเดินอยู่
ในพุ่มไม้ และเมื่อได้เห็น…โอ้โห มีไข่ไก่ฟ้าหนึ่งรังด้วย!
จ้าวเหวินเทาจึงนาเสาคานปี นต้นไม้เพื่อเกี่ยวเกาลัด
ส่ วนแม่ไก่ตวั นั้นก็บินหนีเอาตัวรอดอย่างตื่นตระหนก
…………………………………………………………
[1] เอาใจคนต่ า ต้อ ยวัด ท้อ งสุ ภ าพบุ รุษ หมายถึ ง ใช้ค วาม
คิดเห็นที่เลวไปคาดเดาคนที่มีคุณธรรมสู งส่ ง
ตอนที่ 46 คู่รักหนุ่มสาวแสนกตัญญู
หล่อนอดอิจฉาไม่ได้และกล่าวขึ้นว่า “น้องสามีหกช่างโชคดี
จริ ง ๆ”
วันนี้อากาศหนาวมาก ต้องผัดเนื้อให้สุกถึงจะสามารถเก็บไว้
ได้นานขึ้น
พวกเขารอให้พี่สะใภ้รองจ้าว พี่สะใภ้สามจ้าวและพี่สะใภ้สี่
จ้าวทาอาหารให้เสร็จก่อน พวกหล่อนรับประทานอาหารง่าย
ๆ ซึ่งก็คือโจ๊ก ดังนั้นจึงเสร็จเร็วเป็ นพิเศษ
“อย่าไปทาให้พวกเขาอยากกินอีกล่ะ” เย่ฉูฉู่กระซิบบ่น
พี่สะใภ้สามจ้าวถึงกับเยาะเย้ยพี่สามจ้าว “ดูการใช้ชีวิตของ
บ้านเรา แล้วดู ชีวิตของครอบครัวสองสามีภรรยาบ้านหกสิ
ใช้ชีวิตแบบนี้ คุณยังมีหน้ามาบอกว่าหลังจากนี้ เขาจะยื่นมือ
มาขอให้คุณช่วยอีกเหรอ? ทาไมคุณถึงได้หน้าใหญ่ขนาดนั้น
กัน?”
พี่สามจ้าวเอาแต่หน้าแดงพลางกล่าวว่า “งั้นคุณก็หวังให้เขา
เป็ นแบบนี้ไปทั้งชีวติ ก็แล้วกัน!”
เขานามาให้พี่สาวใหญ่ของเขาทางฝั่งนี้
ถ้ารั บซื้ อถัว่ เขี ยว 1 ชั่ง จานวน 1 ชั่งก็เท่ ากับ 1 เหมา นี่ คือ
ราคาที่ข้ ึนแล้วนะ ปี ที่แล้วก็เพิ่งจะขึ้นราคาไป ก่อนหน้านี้ 1
ชัง่ ราคาอยูท่ ี่ 9 เฟิ น
ถัว่ เขียว 1 ชัง่ สามารถปลูกถัว่ งอกได้ 6 ชัง่ ถัว่ งอก 1 ชัง่ ขาย
ได้ 5 เฟิ น ซึ่ งเท่ากับ 3 เหมา ถ้าหักค่าใช้จ่ายไป 1 เหมา ถัว่
เขียว 1 ชัง่ สามารถขายได้ 2 เหมา!
วันนี้เขานาถัว่ งอกเข้าเมืองมา 20 กว่าชัง่ ส่ วนที่เหลืออีก 3-4
ชัง่ นี้ เขาเก็บแยกไว้เป็นพิเศษ ส่ วนที่เหลือได้ขายออกไปจน
หมดแล้ว!
เนื้อในแต่ละวันไม่ได้มีเยอะขนาดนี้ ยกตัวอย่างเช่นเมื่อวาน
ได้มาแค่ 2 ชัง่ ถือว่าน้อยมาก บ้างก็มากบ้างก็นอ้ ยสลับกันไป
“ผมเอามาให้พวกหลานชายหลานสาวกินนี่แหละครับ” จ้าว
เหวินเทากล่าวอย่างเกรงใจ
อีกครู่ หนึ่งจ้าวเหวินเทาก็จะไปบ้านของพี่สาวห้าแล้ว
“น้องชายลูกสะใภ้ตอนนี้ ทามาค้าขายได้ไม่เลวเลยนะ” แม่
เฒ่าหวังกล่าวด้วยรอยยิม้
รายได้โดยรวมของครอบครัวในทุกทุกเดื อนอยู่ที่ประมาณ
หนึ่ งร้อยหยวน แม้ว่าพวกหลาน ๆ จะใช้เงินจานวนไม่นอ้ ย
แต่กย็ งั พอใช้ ไม่ตอ้ งออกไปทาการค้าขายใด ๆ
คิดไม่ถึงเลยว่าหล่อนจะอยูบ่ า้ นจริ ง ๆ
ไม่ เ พี ย งแค่ พี่ ส าวห้า จ้า วที่ อ ยู่บ้า น ฉิ น หวยเหริ น สามี ข อง
พี่สาวห้าก็อยูบ่ า้ นด้วย
ไม่นานฉินหวยเหริ นก็เดินออกมา
“นายนี่หน้าหนาดีจริ ง ๆ” พี่สาวห้าจ้าวกล่าวตาหนิ
พี่ ส าวห้า จ้า วนึ ก ขึ้ น มาได้ จึ ง เดิ น ไปหยิบ กระเป๋ าที่ เ ขาน า
กลับมามาให้เขา ก็พบว่ากระเป๋ าใบนี้ หนักมาก จึ งอดถาม
ไม่ได้วา่ “คุณใส่ อะไรไว้เนี่ยคะ?”
“ผม…ผมอยากเลี้ยงกระต่าย?” จ้าวเหวินเทากล่าว
ไม่คิดว่าสามีของพี่สาวห้าจะใจกว้างขนาดนี้ ถึงกับให้นาฬิกา
กับเขาหนึ่งเรื อนเลย
จ้า วเหวิ น เทาอยู่ต่ อ สั ก พัก หนึ่ งก็ ข อตัว กลับ เขาไม่ อ ยาก
รบกวนพี่สาวห้าและพี่เขยของพี่สาวห้าให้มากเกินไป
พี่สาวห้าจ้าวจ้องเขาสักพัก เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ร้อนตัวจึงเกิด
ความพึ ง พอใจ จากนั้น ก็ ไ ด้ถ ามว่ า จะขายนาฬิ ก าเหล่ า นี้
อย่างไร?
พี่สาวห้าจ้าวมีความสุ ขมาก
พี่สาวห้าจ้าวเข้ามาคุยกับชายหนุ่มที่เคาน์เตอร์ ชายหนุ่มคนนี้
ก็กาลังจะแต่งงาน ย่อมต้องการหารายได้เสริ ม แต่เงินแค่ 5
หยวนเขาไม่ทา สุ ดท้ายจึงจบลงที่ราคา 8 หยวน
นาฬิกาเหล่านี้จึงขายออกได้ไม่ยาก
เศร้าสุ ด ๆ เลย
เย่ฉูฉู่เองก็กลับมาแล้ว
“ฉันกลับห้องก่อนนะคะ” เย่ฉูฉู่กล่าว
พี่สะใภ้สี่พยักหน้าพลางกล่าว “ถ้าขายไม่ดีก็ปลูกให้ดี ๆ จะ
ได้ไม่ขาดของกิน” หล่อนเห็นน้องสามีกลับมาด้วยสภาพนี้
ในใจของหล่อนก็รู้สึกดีมากเช่นกัน
“งั้นก็แปลว่าเงินถูกปล้นเหรอ?” เย่ฉูฉู่ถามอีกครั้ง
เย่ฉูฉู่ย่อมต้องการให้กาลังใจสามีของตนอยู่แล้ว เธอจึงพูด
ให้สามีเกิดความมัน่ ใจ “ถึงอย่างไรในสายตาของฉัน สามี
ของฉันก็ดีทุกอย่าง เหวินเทา พวกเราใช้ชีวิตของพวกเราก็
พอแล้วนะคะ ไม่ตอ้ งไปเทียบกับคนอื่น ไม่ว่ายังไงฉันก็เชื่ อ
คุณ เชื่ อว่าคุณสามารถทาให้ฉันมีชีวิตที่ดีได้ เชื่ อว่าคุณจะมี
อนาคตที่ สดใส ทาให้ฉันมี เกี ยรติ ที่ได้แต่ งงานกับคุ ณและ
เป็ นภรรยาของคุณ!”
จ้าวเหวินเทาไม่คิดว่าภรรยาจะกล่าวแบบนี้ คาบอกรักแสน
หวานที่น่าฟั งนี้ทาให้ในใจของเขาเกิดความร้อนรุ่ ม ร่ างกาย
ของเขาก็ร้อนรุ่ ม เขาคร่ อมร่ างของภรรยาไว้ในทันที จ้องมอง
ใบหน้าของภรรยาที่ท้ งั ขาวอมชมพูและนุ่ มนิ่มด้วยดวงตาที่
ร้อนผ่าว กล่าวว่า “ภรรยา ผมชักจะเกิดความอยากแล้วสิ มา
สักรอบไหมครับ?”
เขาอยากจะทาเรื่ องนั้นกับภรรยาของเขาจริ งๆ
เย่ฉูฉู่เกิดความเขินอาย แต่ขา้ งนอกยังมีคนอื่นอยูด่ ว้ ย เธอจึง
รี บผลักเขาออกไปพลางกล่าวว่า “กลางวันแสก ๆ คุ ณอย่า
วุน่ วายสิ คะ”
“คุณพอได้แล้วค่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าวอย่างแง่งอน
จ้าวเหวินเทาไม่กล้าทาอะไรมากไปกว่านี้ เพราะกลัวว่าจะ
ทนไม่ไหว ภรรยาของเขาในตอนนี้ สามารถพรากวิญญาณ
ของเขาได้จ ริ ง ๆ แต่ เ ขาก็ไ ม่ ส ามารถท าเรื่ อ งนั้น ในตอน
กลางวัน แสก ๆ แบบนี้ ได้ ท้า ยที่ สุ ด แล้ว ก็ย งั อาศัย อยู่ก ับ
ครอบครัวใหญ่อยู่
เย่ฉูฉู่ไม่ได้รู้สึกอะไรหลังจากได้ยินความกังวลของแม่สามี
เธอจึงทาตัวเป็ นลูกสะใภ้ตวั น้อย กล่าวว่า “คุณแม่ เหวินเทามี
แผนในใจแล้ว ฉั น เชื่ อ เขาค่ ะ คุ ณ แม่ ก็ ต ้อ งเชื่ อ มั่น ในตัว
เหวินเทาสิ คะถึงจะถูก”
“แต่ผมไม่เห็นว่าคุณจะเห็นอกเห็นใจครอบครัวของเจ้าหก
เลย ผมว่าคุณกาลังมีความสุ ขมากต่างหากล่ะ” พี่สี่จา้ วเหลือบ
มองหล่อน
พี่สะใภ้สี่จา้ วถลึงตามอง ปากก็ยงั ไม่ยอมรับ “ฉันมีความสุ ข
ตรงไหน ตาของคุ ณเป็ นอะไรไปแล้ว ? พอแล้ว ๆ…พูดกับ
คุณไปก็เปล่าประโยชน์!”
ทางด้านพี่สะใภ้รองจ้าวก็กาลังคุยกับพี่รองจ้าวเรื่ องการคุยโว
โอ้อวดของจ้าวเหวินเทาในครั้งนี้
พี่ ร องจ้า วเป็ นคนใจดี ทั้ง ยัง เป็ นพี่ ค นโต เมื่ อ ได้ยิน เรื่ องที่
พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าวจึงถอนหายใจ “เจ้าหกยังเป็ นวัยรุ่ น ไม่รู้
เรื่ องรู ้ราว คงได้รับผลกระทบจากพวกอันธพาลในเมืองแน่
ๆ ไม่ได้การล่ะ ผมต้องไปคุยกับเขาหน่อย!”
จิตใจอันมืดมนของหล่อนถูกการมีชีวิตที่ดีของคู่สามีภรรยา
บ้านหกกระตุน้ อย่างสมบูรณ์ เป็ นตระกูลจ้าวเหมือนกันแท้ๆ
ทาไมถึงมีการใช้ชีวติ แตกต่างกันมากขนาดนี้?
โดยเฉพาะน้องสามีหกที่ไร้ความสามารถคนนี้!
พี่สะใภ้สามจ้าวมองพี่สามจ้าวและกล่าวอย่างดูถูก “คุณเป็ น
ผูช้ ายนะ บ่นงุบงิบ ๆ ทุกวี่ทุกวันเพื่ออะไรคะ? ถ้าไม่รู้ฉนั คง
คิดว่าคุณกาลังพูดเรื่ องตลกอะไรอยู่ เขาเป็ นใคร? เขาเป็ นอา
แท้ ๆ ของหม่าต้านนะ! เขาใช้ชีวิตลาบากคุณกลับทาหน้าดี
ใจขนาดนี้ แล้ว? ดู คุณสิ มีความสุ ขบนความทุกข์ของคนอื่น
ชัดๆ!”
พี่ ส ามจ้า วโกรธหน้า แดงควัน ออกหู จึ ง พู ด อย่ า งร าคาญ
“ทาไมผมต้องมาแต่งงานกับคนโง่แบบคุณด้วยก็ไม่รู้!”
บ้านของภรรยาของเหล่าหวังสามในตอนนี้ มีโอ่งขนาดใหญ่
สองโอ่ งวางอยู่ที่ประตู บา้ น มี กระดานไม้หนึ่ งแผ่นวางอยู่
ด้านข้าง ด้านบนมีผกั กาดหลากหลายขนาดตากแดดอยู่ ทั้งยัง
มีผหู ้ ญิงอีกสี่ หา้ คนกาลังห้อมล้อมล้างโอ่งขนาดใหญ่
“ได้ยิน กัน หรื อ ยัง จ้า วเหวิ น เทาบอกว่ า จะพึ่ ง พาการขาย
ถัว่ งอกเพื่อเป็ นครั วเรื อนหมื่ นหยวนด้วยนะ!” ภรรยาของ
เหล่าหวังสามขยิบตากล่าว
ตอนที่ 51 ส่ งเสริมการเปิ ดร้ าน
ภรรยาของเหล่าหวังสามหัวเราะออกมาทันทีเมื่อได้ยิน “เธอ
เพิ่งจะแต่งงานได้ไม่นาน ยังไม่รู้ว่าเขาเป็ นคนยังไง เขาบอกว่า
ขายดีกเ็ ชื่อเขาแล้วเหรอ? มีความสุ ขชะมัดเลย”
ตอนแรกเธอตั้งใจจะมาช่วยทาผักดอง เพราะถึงอย่างไรทุกคน
ต่างก็เป็ นเพื่อนบ้านกันหมด แต่คนเหล่านี้มองสามีของเธอไม่
ดี จึงทาให้เธอหมดอารมณ์ ยังจะต้องช่ วยอะไรอีก ค่อย ๆ ทา
ไปไม่ตอ้ งรี บร้อน!
เย่ฉูฉู่เบ้ปากก่อนจะหมุนตัวกลับบ้านไป
จ้าวเหวินเทาไม่ รู้ว่าภรรยาของตัว เองถู กคนอื่ นทาให้โ มโห
ตอนนี้เขาอยูใ่ นเมืองกาลังพูดคุยอยูก่ บั ชายหนุ่มที่ขายซาลาเปา
“แต่ ผ มกัง วลว่า จะมี นัก เลงมาสร้ า งปั ญ หาน่ ะ สิ ” จงย่ง ลัง เล
เล็กน้อย
อย่า มองว่ า ตอนนี้ ใช้ชี วิ ต ได้อ ย่า งอิ ส ระมาก แม้จ ะไม่ มี ก ฎ
มากมายเหมือนสมัยก่อน แต่พวกสัมภเวสี กม็ ีเยอะขึ้นด้วย
ดังนั้นจึงเหลือแค่คาเดียวก็คือทา!
“มันต้องอย่างนี้” จ้าวเหวินเทายิม้
ทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างมีความสุ ข
เขากล้าออกมาข้างนอกมีเหรอที่จะกลัวในการเผชิ ญหน้ากับ
คนเลว? ตั้งแต่เด็กเรื่ องต่อสู ้เขาไม่เคยแพ้ใคร!
ชาวชนบทจะปลูกผักกาดขาวในแปลงของตนเองและลานบ้าน
สาหรับฤดูหนาว คนในเมืองจะแบ่งผักกาดตามหน่วยงาน ซื้ อ
ขายส่ วนตัวก็มีเช่ นกัน แต่มีจานวนน้อยมาก ปี นี้ ไม่ว่าจะเป็น
เสบียงอะไรก็ขาดตลาดไปหมด ราคาสิ นค้าสู งเกินไปทาให้มี
คนต้องการซื้อน้อยจึงขายออกได้ยาก
“พี่ชาย พี่ดูสง่าแถมยังแต่งตัวดี มองแวบแรกก็รู้แล้วว่าต้องเป็ น
คนฐานะทางบ้ า นดี ก็ เ ลยอยากถามว่ า พี่ ช ายสนใจซื้ อ
ผักกาดขาวไหม? ผมมีผกั กาดขาวกับผักกวางตุง้ ฮ่ องเต้ ไม่ว่า
จะเอาไปทาผักดองหรื อกินสดเป็ นผักฤดูหนาวก็ดีเยีย่ มทั้งคู่เลย
พี่ซ้ือไปไม่ขาดทุนแน่นอน ราคาที่ผมขายก็ไม่แพงด้วย!”
ขณะที่เด็กหนุ่มคนนี้พูด เขาก็เหลียวซ้ายแลขวา
หัว หนึ่ ง เป็ นผัก กาดขาว ส่ ว นอี ก หัว เป็ นผัก กวางตุ ้ง ฮ่ อ งเต้
ทั้งหมดเป็ นผักกาดฉ่า ๆ ทั้งคู่!
จ้าวเหวินเทาพอใจเป็นอย่างยิ่ง ผักกาดขาวนี้ ดีมาก คาดคะเน
ทางสายตาหนึ่งหัวมีน้ าหนักครึ่ งชัง่ ผักกาดขาวของบ้านเขาไม่
สามารถเทียบกับสิ่ งนี้ได้เลย ถ้าเปรี ยบเทียบกันผักกาดขาวของ
เขาก็เหมือนกับหญ้าเลยล่ะ
จ้าวเหวินเทาเลิกคิ้วกล่าว “พาฉันไปดูหน่อยสิ ?”
ครั้ งนี้ จ้า วเหวิ น เทาซื้ อ ผัก เยอะมาก ผัก กาดขาว หัว ไชเท้า
ต้นหอมและพริ ก เขาซื้ อมาทั้งหมด โดยไม่ลืมที่จะบอกกับเด็ก
หนุ่มว่าถ้าฤดูหนาวมีผกั สดก็อย่าลืมมาบอกเขาด้วย
จ้าวเหวินเทาถูกสายตาที่แกล้งทาเป็ นงอนของเธอทาให้รู้สึก
ร้อนรุ่ ม เขาเหลียวซ้ายแลขวา เมื่อไม่เห็นคนอยูร่ อบ ๆ จึงใช้มือ
ทั้งสองข้างประคองแก้มของเย่ฉูฉู่ ก่อนจะบรรจงจูบไปหนึ่ ง
ฟอด “ขอแค่ภรรยาได้กินของดี ๆ ผมลาบากนิ ดหน่ อยจะเป็ น
อะไรไป? ยิง่ ลาบากยิง่ เหนื่อย ก็ยงิ่ คุม้ ค่า!”
เมื่อเย่ฉูฉู่เห็นท่าทางอันอิดโรยของเขาก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจ
เธอหยิบ ผ้า ห่ ม มาคลุ ม ตัว เขาไว้ ก่ อ นจะออกไปจัด การผัก
เหล่านั้น
หัวไชเท้าเหลือไว้หนึ่งหัว ส่ วนที่เหลือนาไปเก็บไว้ในห้องใต้
ดินทั้งหมด เย่ฉูฉู่ฝังดินไว้ดว้ ย แบบนี้ มันก็จะไม่แห้งในช่ วง
ฤดูหนาว
พริ กอยู่ได้ไม่นาน ต้องเอาไปตากแดดเป็ นพริ กแห้ง ไม่ว่าจะ
เอาไปผัดกับเนื้อหรื อรับประทานกับผักดองก็อร่ อยทั้งคู่
ต้นหอมยังเหลืออีกมาก เย่ฉูฉู่วางแผนไว้ว่าจะนาไปตากแดด
ให้แห้งเพื่อทาเป็ นต้นหอมแห้ง
“ฉั น ยัง ต้อ งกัง วลว่ า จะกิ น ผัก พวกนี้ ไม่ ห มดด้ว ยเหรอคะ?
มากกว่านี้พวกเราก็กินหมด”เย่ฉูฉู่ตอบกลับ
พี่สะใภ้สี่จา้ วจึงรู ้สึกไม่ดีที่จะพูดออกไปว่า ‘ขอฉันสักสองสาม
หัวสิ ’ และพอจะรู ้สึกได้วา่ บ้านหกไม่คิดจะให้หล่อน!
ดังนั้นหล่อนจึงเดินหน้ามุ่ยออกไป
พี่สะใภ้รองจ้าวเองก็คิดว่าที่นอ้ งสามีลากผักกลับมาหนึ่งคันรถ
นั้นก็เพราะจงใจทาให้คนอิจฉา
ทว่าพี่รองจ้าวกลับไม่เข้าใจความหมายของภรรยา เขาเพียงแต่
ขัด ล้า งหิ น ที่ ใ ช้ก ดผัก ดอง จากนั้น ก็พู ด ด้ว ยท่ า ทางสบาย ๆ
“ถั่ว งอกมัน จะไปมี ร าคาได้ย งั ไง มากสุ ด ก็แ ค่ 0.8 เหมานั่น
แหละ”
“แล้วเหวินเทาเอาไปซื้ อผักเยอะแยะขนาดนั้นมาจากที่ไหน?”
พี่สะใภ้รองกล่าว เงินที่ได้จากการแยกบ้านก่อนหน้านี้ เขาคง
ใช้ไปจนเกือบหมดแล้วกระมัง?!
“เขาจะกินหรื อซื้ออะไรมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันหรอกค่ะ!”
พี่สะใภ้รองหันหน้ามาพร้อมพูดด้วยท่าทางกระฟั ดกระเฟี ยด
“แต่มาใช้เงินของฉันก็ตอ้ งเป็ นเรื่ องของฉันสิ !”
พี่สะใภ้รองจ้าวรู ้ดีว่าถ้าหากพูดแบบนี้ออกไปย่อมถูกสามีของ
หล่อนด่ าเปิ งแน่ นอน แต่มนั ก็อึดอัด จริ ง ๆ หากเก็บไว้ในใจ
โดยไม่พูดออกมา
จึ ง พู ด ไปว่า “คุ ณ คิ ด ว่า ไงล่ ะคะ? ต่ อ ให้พ่ อ กับ แม่ จ ะล าเอี ยง
มากกว่านี้ แต่กไ็ ม่ควรจะลาเอียงแบบนี้หรื อเปล่า? ก่อนหน้านี้
ตอนที่ยงั ไม่ได้แยกบ้าน ของดี ๆ ก็เอาไปประเคนให้นอ้ งสามี
หมด ตอนนี้แยกบ้านกันแล้วก็ยงั เป็ นแบบนี้อีก!”
พี่สะใภ้รองจ้าวขอบตาแดงก่า “บ้านพวกเรามีสมาชิกมากที่สุด
มีท้ งั ลูกชายและลูกสาวที่กาลังจะโต ตอนที่เลือกผัก ผักแค่น้ ี
มันจะไปพอกินอะไร? ครอบครัวน้องสามีกม็ ีกนั แค่สองคน จะ
กินมากมายเท่าไรกันเชี ยว แถมพวกเขาก็โตกันขนาดนั้นแล้ว
ต่อให้พ่อกับแม่จะรักลูกชายคนเล็ก แต่ก็ควรดูพวกหลานชาย
ของตัวเองด้วยสิ นัน่ คือหลานชายแท้ ๆ ของพวกเขาเลยนะ!
ตอนที่ยงั ไม่แยกบ้าน น้องหกไม่ทาอะไรสักอย่างแต่กลับกิน
ของดีจนหมด ฉันเป็ นลูกสะใภ้จะพูดอะไรได้? แต่ตอนนี้ ก็ยงั
เป็ นแบบนี้ อีก ลาเอี ยงไม่ จบไม่สิ้น คุ ณคิ ดว่าฉันจะรู ้ สึกดี ได้
เหรอคะ!”
พี่สะใภ้รองจ้าวยิง่ พูดก็ยงิ่ น้อยใจ หล่อนนัง่ ร้องไห้ลงกับพื้น
ในเวลานี้พี่สามจ้าวก็เดินเข้ามา เมื่อเห็นพี่สะใภ้รองจ้าวร้องไห้
ด้วยความเจ็บปวดใจ เขาจึงพูดอย่างประหลาดใจ “พี่สะใภ้รอง
เป็ นอะไรครับ?”
“ก็ไม่ได้มีอะไรหรอกครับ” พี่สามจ้าวกลับไม่ได้เดินออกไป
เขายืนมองผักกองนั้นพร้อมกับบ่น “พี่สะใภ้รอง พี่กาลังเตรี ยม
ผักไว้ทาผักดองสิ นะ? เฮ้อ นี่ถา้ ไม่เทียบกันก็คงไม่รู้จริ ง ๆ เมื่อ
กี้ผมเห็นผักที่เจ้าหกซื้ อมา ผักหัวใหญ่จริ ง ๆ แล้วมาดูผกั ของ
พวกเราสิ ก็แค่หญ้า! ผมล่ะอยากรู ้จริ ง ๆ ว่าเจ้าหกไปเอาเงิน
มากมายเหล่านั้นมาจากที่ไหน ซื้ อทั้งรถจักรยานแล้วยังซื้ อผัก
อีก แอบสงสัยเหมือนกันนะว่าเงินนั่นอาจจะเป็ นเงินของพ่อ
กับแม่ ถ้าเป็นแบบนี้ แล้ว การแยกบ้านครั้งนี้ ก็ไม่ยุติธรรมเอา
เสี ยเลยนะครับ”
“พ่อกับแม่อยากจะให้ใครก็ให้ไปเถอะ!” พี่สะใภ้รองเห็นด้วย
อยูภ่ ายในใจ ทว่ายังคงปากแข็งไม่ยอมรับ
พี่สามจ้าวในเวลานี้ดูคล้ายกับพังพอนมาสวัสดีปีใหม่ให้กบั ไก่
[1] เขาถอนหายใจพลางกล่าวว่า “พี่สะใภ้รองมีคุณธรรมจริ ง ๆ
แถมยัง ต้อ งเลี้ ย งลู ก หลายคนด้ว ยความยากล าบาก บ้า นพี่ มี
สมาชิกเยอะสุ ด ตอนที่ยงั มีให้กิน ตอนที่ยงั อยูด่ ว้ ยกัน ก็ได้เท่า
ๆ กัน แต่ตอนนี้ใช้ชีวติ บ้านใครบ้านมันแล้ว ผักแค่นิดเดียวมัน
จะไปพอกินอะไรล่ะครั บ อย่าว่าแต่พี่เลย ต่อให้เป็ นบ้านผม
ผัก แค่ น้ ัน ก็ไ ม่ พ อกิ น เหมื อ นกัน เฮ้อ ถึ ง เวลานั้น คงได้แ ทะ
แตงกวาดองนัง่ ดูเจ้าหกกินผักฉ่ า ๆ แล้วล่ะ!” ระหว่างที่พูดเขา
ก็เตรี ยมตัวเดินออกไป
จ้าวเหวินเทาหัวเราะคิกคักขณะล้างหน้า
เย่ฉูฉู่เขินอายจนทนไม่ไหวแล้ว เธอจึงไม่สนใจเขาอีก
จ้า วเหวิน เทามื อ ยาวเท้า ยาว เพี ย งไม่ น านเขาก็ล ้า งถ้ว ยและ
ตะเกี ย บจนสะอาด ตอนที่ อ อกมาก็เ ห็ น ผัก กาดขาวกองอยู่
ด้านล่างหน้าต่าง
“คาพูดนี้ตรงใจผมพอดีเลย” จ้าวเหวินเทาที่รับประทานจนอิ่ม
และดื่ มจนหนาใจก็ได้อุม้ ภรรยาของเขาขึ้นมา จากนั้นก็มอง
ภรรยาที่เขารักและหวงแหนด้วยรอยยิม้ กล่าวว่า “ภรรยา คุณ
บอกผมมาตรง ๆ เถอะ ว่าคุณเป็ นนางจิง้ จอกจาแลงมาทาให้ผม
หลงเสน่ห์ใช่ไหม?”
จ้าวเหวินเทาเองก็ไม่ได้สร้างความวุ่นวายแล้ว เขากอดเธอไว้
จากนั้นซุ กหน้าลงแบบแก้มแนบแก้ม ขณะพูดกับภรรยาของ
เขาเกี่ยวกับเรื่ องในวันนี้
เย่ ฉู ฉู่ ฟั ง เขา ทั้ง ยัง เอ่ ย ถามเป็ นระยะ ทั้ง สองคนดู อ บอุ่ น
เหลือเกิน
ภรรยาที่อยู่ในอ้อมแขนเขาทั้งตัวหอมทั้งนุ่ ม จ้าวเหวินเทาจึง
รู ้สึกพึงพอใจเป็ นอย่างยิง่ “ภรรยา อันที่จริ งถ้าพวกเราไปอยูใ่ น
เมืองด้วยกัน ผมกล้าพูดเลยว่าถ้าคุณขายบะหมี่หมูเส้น คนที่อยู่
ในเมืองทั้งหมดจะต้องมาต่อแถวซื้ อแน่ นอน บะหมี่ในคืนนี้
ฝีมือระดับเดียวกับแม่ครัวใหญ่ในร้านอาหารรัฐเลยนะครับ!”
[1] พังพอนมาสวัสดี ปีใหม่ให้กบั ไก่ (黄鼠狼给鸡拜
年) หมายความว่า ต่อหน้าทาเป็นรักใคร่ ห่วงใย แต่ใจจริ งมุ่ง
ร้ายไม่หวังดี /ปากปราศรัยน้ าใจเชือดคอ
ตอนที่ 55 แอบฟังมุมกาแพง
“คุณนี่ช่างฉอเลาะจังเลยนะคะ” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้
“ฉันไม่อยากทาอาหารให้คนอื่นกินหรอกค่ะ ฉันอยากทาให้
คุณกินไปตลอดชีวติ ” เย่ฉูฉู่กล่าวอย่างอ่อนโยนทั้งยังออดอ้อน
ตอนนี้สองสามีภรรยาอาวุโสกาลังนอนห่ มผ้าพูดคุยกันอยู่บน
เตียง
คืนนี้จึงมีบางคนฝันดีและมีบางคนที่นอนไม่หลับ
แม้ว่าเหวินเทาจะบอกเธอว่าทาเสร็ จแล้วค่อยนามาให้พ่อแม่
ของเขา แต่เธอรู ้สึกว่านาผักเหล่านี้มาให้แม่สามีดีกว่า มีอาหาร
อะไรที่ แ ม่ ส ามี ช อบรั บ ประทานก็ จ ะได้ท าเองตามใจชอบ
สะดวกกว่าด้วย
“พวกเราก็อายุมากขนาดนี้แล้วจะกินสักเท่าไรกันเชียว ในบ้าน
มี ผ ัก พวกนั้ นก็ พ อกิ น แล้ว ล่ ะ พวกเธออายุ ย ัง น้ อ ย รีบเอา
กลับไปกินกันเถอะ” คุณแม่จา้ วกล่าวด้วยรอยยิม้
สองสามีภรรยาบ้านเล็กคู่น้ ี เมื่อมีอะไรให้รับประทานก็จะเป็น
กังวลปากท้องของพวกเขาทั้งสองคน มีแต่คนบอกว่าพวกเขา
ทั้งสองลาเอียง จะไม่ให้ลาเอียงได้อย่างไร คนอื่น ๆ มีน้ าใจ
แบบนี้ที่ไหนกันล่ะ?
เย่ฉูฉู่หน้าแดงระเรื่ อ “ยังเลยค่ะ”
เพียงแต่ ทาไมถึงยังไม่มาอีกนะ?
อันที่จริ งเย่ฉูฉู่เองก็แอบร้อนใจขึ้นมาแล้วเช่นกัน
คุ ณ แม่ จ ้า วรอจนกระทั่ง ลู ก สะใภ้เ ดิ น ออกไปจึ ง เริ่ มเก็ บ
ผักกาดขาว นางวางแผนว่าจะล้างถังในวันนี้ พรุ่ งนี้ ก็จะนาผัก
ลงไปดอง ในเวลานี้ ก็เห็ นเงาหนึ่ งเดิ นแวบผ่านด้านข้างของ
ห้องไป
“คุณเห็นชัดเจนแล้วเหรอ?” คุณพ่อจ้าวแอบไม่เชื่อ
“แล้วหล่อนมาดูอะไร?” คุณพ่อจ้าวไม่เข้าใจ
หล่อนแอบเป็นกังวลมาตั้งนานแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็ น
ลูกสะใภ้รอง ทั้งยังใช้วธิ ีแบบนี้อีก ก่อนหน้านี้เป็ นลูกสะใภ้สี่ที่
จับตาเฝ้ าระวัง มาตอนนี้ ลูกสะใภ้รองยังเป็ นแบบนี้ อีก บ้าน
ของนางมีลูกสะใภ้แบบนี้ได้อย่างไรกัน?
เป็นไปได้อย่างไรกัน นอกจากสามีของตัวเองแล้วหล่อนก็ไม่
เคยพูดกับใคร อีกอย่างสามีของหล่อนก็ไม่มีทางบอกพ่อกับแม่
ด้วย
พี่รองจ้าวไม่อยากทะเลาะกับภรรยาของน้องชาย เขาจึงนัง่ ลง
บนพื้นด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟี ยด แต่กไ็ ม่ได้พูดอะไร
เพียงแต่ก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่ได้รู้แจ้งเห็นชัดว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ตอนนี้พวกเขาคิดได้ว่า คงเป็ นเพราะกังวลเรื่ องเงินของพ่อ
แม่ ดังนั้นจึงทาแบบนั้น พวกเขาดู ถูกบ้านเจ้าหกมากเกิ นไป
จริ ง ๆ!
“ฉันเองก็ยอมรับว่าฉันลาเอียงรักเจ้าหกมากกว่า และฉันก็ไม่
กลัวว่าพวกเธอจะเพ่งเล็งมาที่ฉัน นิ้วมือห้านิ้วยังมีท้ งั สั้นและ
ยาว ถ้าตรงใจฉันก็ตอ้ งรักมากกว่าหน่ อยอยู่แล้ว แล้วพวกเธอ
จะทาไม? ฉันไม่รักพวกเธออย่างนั้นเหรอ ฉันไปทาลายพวก
เธอเหรอ? ฉันไม่ได้ให้อะไรพวกเธอหรื อว่าฉันไปบังคับพวก
เธอเฉื อนเนื้ อตัวเองไปช่ วยเหลือเจ้าหกกัน พวกเธอก็เลยมาชี้
หน้าด่าว่าฉันลาเอียง?”
“ในหมู่ บ ้า นใช่ ว่า จะไม่ มี ค วามล าเอี ย ง พวกเธอบอกว่ า ฉัน
ลาเอียง เคยเห็นหรื อเปล่าว่าคนอื่นเขาลาเอียงด้วยวิธีไหน? คน
พวกนั้นถึงขั้นเฉื อนเนื้ อลูกชายคนอื่นไปช่ วยเหลื อคนที่พวก
เขาลาเอียงรักมากกว่า ฉันไปเฉื อนเนื้อสู บเลือดพวกเธอเหรอ?
พวกเธอถึงได้มีความคิดเห็นเกี่ยวกับฉันมากขนาดนี้!”
สี หน้าของทุกคนดูแตกต่างกันออกไป
พี่สะใภ้สี่เกิดความตื่นเต้นภายในใจขึ้นอย่างฉับพลัน ราพึงใน
ใจว่า เป็ นเพราะผักหนึ่งคันรถนั้นจริ ง ๆ ด้วยสิ นะ!
หล่อนก็ว่าอยู่แล้วเชี ยว พี่สะใภ้รองจะแสร้งทาเป็นไม่เห็นได้
อย่างไรกัน นัน่ เป็ นถึงผักหนึ่งคันรถใหญ่เชียวนะ น้องสามีคน
เล็กผูม้ ีคุณธรรมคนนั้น ทั้งคุยโวโอ้อวดทั้งใช้จ่ายฟุ่ มเฟื อย จะมี
ปั ญ ญาหาเงิ น มาซื้ อ ผัก หนึ่ ง รถเข็น ได้อ ย่า งไรกัน ถ้า ไม่ ใ ช่
เพราะพ่อแม่ แอบเอาเงิ นไปให้ เรื่ องแบบนี้ ไม่ ได้เกิ ดแค่ครั้ง
สองครั้ง ใครจะไม่รู้บา้ งล่ะ?
อีกอย่าง หล่อนเองก็อดไม่ได้ที่จะมองพี่สะใภ้คนนี้ใหม่อีกครั้ง
คิ ด ไม่ ถึ ง เลยว่ า พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วที่ แ สนอ่ อ นโยนจะมี ด้า นที่
แข็งแกร่ งแบบนี้ กล้าต่อปากต่อคากับแม่สามีดว้ ย
“ฉันจะบอกพวกเธออีกครั้ง พวกฉันไม่ได้ให้เงินเจ้าหกแม้แต่
เฟิ นเดียว พวกเธอจะเชื่อหรื อไม่กต็ ามใจ” คุณแม่จา้ วแค่นเสี ยง
เย็น
เขาหันไปพูดกับลูกที่กาลังยืนดูฉากตื่นเต้นอยู่ดา้ นนอกประตู
ด้วยความประหม่า
“น้องสามีมาแล้ว!” พี่สะใภ้สี่ที่กาลังถูกแม่สามีพ่นไฟแลบจ้อง
ไปที่ประตู เมื่อเห็นจ้าวเหวินเทามา ก็รีบพูดหนึ่งประโยค
พี่สามจ้าวเห็นพี่สะใภ้รองไม่เอ่ยปากพูดอะไร เขาจึงพูดขึ้นว่า
“คือเรื่ องเป็ นอย่างนี้ พี่สะใภ้รองคิดว่าผักในรถคันนั้นเป็ นผักที่
แม่แอบเอาเงินมาให้นายซื้อ ก็เลยเรี ยกนายมาถามดู”
พี่ ส ะใภ้ร องไม่ ไ ด้ป ฏิ เ สธ ถึ ง อย่า งไรก็ส ร้ า งปั ญ หาไปแล้ว
หล่อนจึงไม่กลัวทาให้นอ้ งสามีขุ่นเคือง หล่อนเองก็อยากฟั ง
น้องสามีเหมือนกันว่าจะหน้าด้านหน้าทนพูดอย่างไร
จ้าวเหวินเทาโมโหขึ้นมาแล้ว “ผมได้เงินมายังไงต้องบอกพวก
พี่ดว้ ยเหรอ? พวกพี่เป็ นรุ่ นไหนเหรอ? ผมมีความสามารถได้
กินอยูส่ ุ ขสบายแล้วจะทาไม พวกพี่ไม่มีปัญญาก็กินแกลบไปสิ
จะไปโทษใครได้ล่ะ? กลับห้องไปนัง่ พินิจพิเคราะห์ให้ดีเถอะ
คิดดูว่ายังมีเส้นทางอื่นอีกไหม? ดึก ๆ ดื่น ๆ ยังสร้างปั ญหายุ่ง
เหยิงนี้ ไม่จบไม่สิ้น? แม่เองก็เหมือนกัน พวกเขาโง่แล้วแม่ยงั
ปล่อยให้พวกเขาดึงเข้ามาอีก? ถ้าแม่โกรธจนอาการทรุ ดขึ้นมา
ผมกับฉู ฉู่คงได้เจ็บ ปวดหัวใจตายแน่ ไปเถอะ กลับห้อ งไป
นอนได้แล้ว”
พี่สามจ้าวกล่าว “น้องสะใภ้สี่พูดมีเหตุผล!”
จ้าวเหวินเทาพอจะดูท่าทางของพี่ชายและพี่สะใภ้ในคืนนี้ออก
แล้ว ว่าพวกเขาต่างก็ไม่ใช่คนดีอะไร ขนาดพ่อกับแม่ยงั เดินได้
ยังบ่ นอิ ดออดกันขนาดนี้ ถ้าหากเดิ นไม่ ไหวขึ้ นมาจะขนาด
ไหน?
“เจ้าหก นายพูดอะไรเนี่ย?”
พี่สะใภ้รองแค่นเสี ยง “ทาตามนายให้คนนอกลอบกัดเราหรื อ
ไง พวกเรายังจะเป็ นคนได้อีกเหรอ? ยังจะให้พวกเราเป็ นลูกได้
อีกเหรอ?”
พี่สะใภ้สี่ได้ยิน ก็อดไม่ได้ที่จะชื่ นชมความหัวไวของพี่สะใภ้
รอง คาพูดนี้มีเหตุผล ใช่แล้ว ทาตามน้องสามี คนนอกคงได้คิด
ว่าพวกเขาเป็ นลู กเนรคุ ณแน่ นอน คนพวกนั้นจะพูดถึ งพวก
หล่อนอย่างไร?
“นัน่ สิ พี่สะใภ้รองพูดถูก”
พี่ ส ามจ้า วกล่ า ว “เจ้า หกนายอย่า เพิ่ ง โมโหสิ ต้น ไม้ก็ต ้อ งมี
เปลื อก คนเราก็ตอ้ งมี หน้า พวกเราเองก็ไม่ อยากให้เรื่ องมัน
เป็ นแบบนี้ นายยังหนุ่มยังแน่น ไม่เคยผ่านประสบการณ์ คงไม่
รู ้วา่ สิ่ งนี้มนั รุ นแรงแค่ไหน”
พี่ ส ามจ้า วแสร้ ง ท าเป็ นคนที่ เ ดิ น ผ่ า นมา ท าเป็ นพู ด อย่ า งมี
ระเบียบแบบแผน ทาให้จา้ วเหวินเทาถึงกับโมโห พี่ชายสาม
คนนี้ หน้าหนาเสี ยเหลื อเกิน ไม่กตัญญู แล้วยังจะพูดจาคล่ อง
ปากแต่กลับใช้การจริ ง ๆ ไม่ได้
ตอนที่ 59 เลีย้ งดูยามแก่เฒ่ าไม่ ใช่ เรื่ องเล็ก ๆ
คืนนี้มีเพียงเย่ฉูฉู่ที่นอนหลับสบาย เธอตื่นขึ้นก็ตอนที่สามีของ
เธอกลับมาที่ห้องแล้วพาลมหนาวเข้ามาด้วย ก่อนจะถามด้วย
น้ าเสี ยงงัวเงียหนึ่งประโยค
จ้าวเหวินเทาบอกเธอว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรแล้วก็หลับไป เธอ
จึงหลับปุ๋ ยไปอีกครั้ง ครั้นตื่นมาอีกทีตอนรุ่ งสาง คนเป็ นสามีก็
เข้าเมืองไปแล้ว
“ได้เท่าไรล่ะ?” พี่สะใภ้สี่รีบถาม
“แค่ เ ตรี ย มขายถั่ว งอกเพื่ อ เป็ นครั ว เรื อ นหมื่ น หยวนน่ ะ ค่ ะ
เหวินเทาก็เคยพูดไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้
“มี สิ ” พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วรี บ พู ด “เรื่ อ งเมื่ อ คื น เธอเองก็ รู้ แ ล้ว ใช่
ไหม?”
หล่อนไม่อยากจะนึกเลย หากหล่อนไม่สามารถทาอะไรอย่างที่
คนอื่นทาได้ ต่อไปนางจะคาดหวังอะไรจากหล่อนได้อีก?
พี่สะใภ้สี่ที่คิดว่าตนเองได้ทราบความจริ งแล้วถึงขั้นตบหน้าขา
ตัวเองดังฉาด ราวกับเห็นแสงสว่างส่ องผ่านม่านเมฆ ความจริ ง
กระจ่างโดยพลัน!
ที่แท้กเ็ ป็ นแค่การคุยโวนี่เอง!
เย่ฉูฉู่มาหาคุ ณแม่ จา้ วทางฝั่ งนี้ เธอกล่ าวด้วยรอยยิ้ม “แม่คะ
หลังจากนี้พวกเราคงได้เอาเปรี ยบพี่รองแล้ว”
หลี่ เ ฟิ นไม่ ส นใจว่า เป็ นเรื่ อ งจริ ง หรื อ ไม่ รู ้ เ พี ย งแค่ ว่า นี่ เ ป็ น
สาเหตุกพ็ อแล้ว
“แม่สามีของเธอไม่ยอมรับเหรอว่าให้เงินน้องสามี?” หลี่เฟิ น
ถาม
เมื่อคิดได้ดงั นี้พี่สะใภ้รองจ้าวจึงสบายใจขึ้นมาก
“เขายังบอกว่าจะสร้างบ้านให้คุณพ่อคุณแม่ไปอาศัยอยู่กบั เขา
ด้วยนะ ไร้ระเบียบวินยั แบบนี้ ทั้งชี วิตจะสร้างบ้านได้เหรอ?”
พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วอารมณ์ ดี ข้ ึ น มาแล้ว น้ า เสี ย งของหล่ อ นจึ ง
กระปรี้ กระเปร่ าขึ้นหลายส่ วน
พี่สะใภ้รองจ้าวคิดพลางแค่นเสี ยงเย็นในใจ
“ฉันขอเตือนเธอไว้ก่อนเลยนะ ปกติแล้วคนชราจะไปอาศัยอยู่
กับลูกคนโต เมื่อถึงตอนนั้นเธอห้ามทาอะไรเลอะเทอะนะ อย่า
ให้นอ้ งสามีเอาเปรี ยบ ทาให้พวกเธอแบกรับชื่อเสี ยงว่าเป็ นลูก
เนรคุณล่ะ” หลี่เฟิ นกล่าว
ในใจของพี่สะใภ้รองจ้าวก็คิดแบบนี้ แต่หล่อนกลับกล่าวว่า
“แม้ว่าน้องสามีจะพูดแบบนั้น แต่แม่สามีของฉันก็ยงั ไม่ได้ให้
คาตอบ ทั้งสองต้องการอยูด่ ว้ ยตัวเองอีกสักสองสามปี อีกอย่าง
บ้านของเขาก็ยงั ไม่ได้สร้าง เรื่ องยังไม่เกิดขึ้นเลย เรื่ องนี้อีกสัก
สองสามปี ค่อยพูดก็ยงั ไม่สาย”
เย่ฉูฉู่ช่วยแม่สามีทาความสะอาดไห ตอนบ่ายก็ช่วยแม่สามีใส่
ผักกาดขาวลงไปในไห
แต่ครอบครัวของเจ้าหกมาช่วยงานเมื่อตอนเช้าแล้ว ตอนบ่ายก็
ยังมา มันจะสมเหตุสมผลเหรอถ้าหล่อนไม่มาช่วย?
ผักกาดขาวเพียงนิดหน่อยใช้แรงงานคนไม่เยอะเท่าไรนัก เมื่อ
พี่สะใภ้สามจ้าวมาถึง หล่อนจึงต้องทางานอย่างอื่น “คุณแม่คะ
คุณแม่จะทาผักดองสิ นะคะ ฉันจะช่วยคุณแม่ดองผักเองค่ะ”
พี่สะใภ้สามจ้าวพยักหน้า
หล่ อ นไม่ ไ ด้คิ ด มาก แค่ รู้ สึ ก ว่ า เมื่ อ คื น แม่ ส ามี โ มโหแล้ว
โดยเฉพาะผลงานของสามีของหล่อน ในฐานะลูกสะใภ้แล้ว
หล่อนต้องทาอะไรสักอย่างเพื่อชดเชยสักหน่อยสิ นะ?
หล่อนบังเอิญเห็นเย่ฉูฉู่กาลังช่วยแม่สามีลา้ งโอ่งอยู่ จึงทราบว่า
นางกาลังจะทาผักดอง หล่ อนถึ งเดิ นเข้ามาช่ วย พลางคิ ดว่า
สะใภ้อี ก สองคนก็ ค งคิ ด เหมื อ นกับ ตัว เอง ทุ ก คนต่ า งคิ ด
อยากจะมาชดเชยในสิ่ งที่ทาลงไป
เย่ฉูฉู่นาเขียงออกมาวาง จากนั้นจึงนาผักที่พี่สะใภ้สามจ้าวล้าง
แล้วมาหัน่ ก่อนจะนาไปใส่ ไหที่อยูด่ า้ นข้าง จากนั้นใส่ น้ าเกลือ
และใส่ ผงชูรสตามลงไป เป็ นอันเสร็จเรี ยบร้อย
“น้อ งสะใภ้ห ก เดี๋ ย วตอนที่ เ ธอท าผัก ดอง พี่ จ ะไปช่ ว ยนะ”
พี่สะใภ้สามจ้าวเองก็รู้สึกว่าน้องสามีหกเป็ นคนดีใช้ได้ หล่อน
จึงกล่าวออกมา
“ตกลงค่ะ” เย่ฉูฉู่พยักหน้า
จ้าวเหวินเทาใช้มือทั้งสองข้างประคองหน้าของภรรยา จากนั้น
ก็พ่นลมหายใจออกมาหนึ่ งครั้ง ทาให้เย่ฉูฉู่ได้กลิ่นเหล้าลอย
ออกมา
จ้าวเหวินเทากลับโอบเธอไว้ไม่ยอมปล่อย ก่อนจะจูบลงบนริ ม
ฝี ปากเล็ก ๆ ของเธอ แล้วกล่าวด้วยรอยยิม้ ว่า “เปล่า ผมไปดื่ม
เหล้ากับจงย่งมา”
“อิ่มแล้ว” จ้าวเหวินเทาพยักหน้า
จ้าวเหวินเทาตามภรรยาของเขาไปด้านนอกบ้าน
บ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่เป็ นสามห้องเล็ก ห้องที่อยู่สุดทางทิ ศ
ตะวันออกเป็ นห้องนอน ตรงกลางเป็ นห้องครัว และมีหอ้ งทาง
ทิศตะวันตก เป็ นที่เก็บอาหารและของอื่น ๆ
“ในเมืองมันจะแย่แค่ไหนกันเชียวคะ?” เย่ฉูฉู่กล่าว
ตอนที่ 62 คุณแม่ เย่ มาเยีย่ ม
“มองฉันทาไมคะ?” เย่ฉูฉู่กล่าวกับเขาด้วยรอยยิม้
นี่ขนาดหักเงินซื้อหนังสื อไปแล้วนะ
เย่ฉูฉู่ยิ้ม “แม่ รอบนี้ แม่ พูดผิดแล้วล่ ะค่ ะ นี่ เป็ นผักที่ พวกเรา
ปลูกบนทุ่งนาต่างหาก”
“แม่ ก็ เ ดาว่ า มาจากทางนั้ นเหมื อ นกัน มี แ ค่ ที่ นั่น เท่ า นั้ นที่
สามารถปลูกผักกาดขาวแบบนี้ได้” คุณแม่เย่พยักหน้า เมื่อเห็น
ว่าข้าง ๆ ไม่มีใคร จึงกระซิ บว่า “เหวินเทาซื้ อผักพวกนี้มา คน
อื่นเขาไม่พูดอะไรเหรอ?”
เย่ฉูฉู่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ขิงยิง่ แก่ยงิ่ เผ็ด เดาเพียงครั้งเดี ยวก็
ทายถูกแล้ว
“ไม่ เ ลี้ ย งเป็ ดก็กิ น ไข่ เ ป็ ดไม่ ไ ด้เ หรอ?” คุ ณ แม่ เ ย่ก ล่ า วด้ว ย
รอยยิม้ “แม่ใช้ไข่ไก่เพื่อแลกมา นอกจากของฤดูหนาวแล้วยังมี
ของฤดู ใบไม้ผลิอีก จะกินแต่ผกั ดองกับผักดองเค็มได้ยงั ไง?
เปลี่ยนของกินบ้าง ตอนเช้าตอนค่าต้มโจ๊กสักหน่อย ต้มไข่เค็ม
สักฟอง ดี กว่ากิ นผักดองเค็มเยอะ แม่ ลา้ งไว้แล้ว แกมี ไหใช่
ไหม แม่จะช่วยดองให้”
“แม่ แม่ นี่ ดี จ ริ ง ๆ เลยค่ ะ ถ้า ฉัน กับ เหวิ น เทาได้ดิ บ ได้ดี ใ น
อนาคต จะต้องตอบแทนบุ ญคุ ณแม่ แน่ นอน” เย่ฉูฉู่มองคุ ณ
แม่เย่ดว้ ยรอยยิม้
“ไม่ ตอ้ งหรอก ที่ บา้ นมี ผกั แล้ว พวกลู กเก็บไว้กินเถอะ” คุ ณ
แม่เย่ไม่ได้ตอ้ งการผักของลูกสาว นางกล่าวว่า “ปี นี้ แม่เองก็
ตากผักแห้งไว้ไม่ น้อย พอกิ นแล้วล่ ะ จริ งสิ ทางฝั่ งแกมี เห็ ด
ไหม?”
“คงออกไปช่วยใครสักคนทาผักดองแล้วล่ะค่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าว
บทสนทนาของพวกเธอทั้งสองล้วนเกี่ยวกับประสบการณ์การ
ใช้ชีวิตทั้งหมด ซึ่ งหลัก ๆ คุณแม่เย่จะเป็นคนพูด นางบอกให้
ลูกสาวและลูกเขยเก็บออมเงิน จากนั้นก็ออกไปสร้างบ้านอยู่
อาศัยกันเอง หากขาดเหลือนิ ด ๆ หน่ อย ๆ ก็ให้ไปเอาที่บา้ น
หยิบยืมมาใช้ก่อนได้
เย่ฉูฉู่ฟังคาที่แม่ของเธอกล่าว
เมื่อมาถึงบ้าน ก็พบคุณพ่อเย่กาลังกลับมาจากทีมพอดี
“ไปหาฉู ฉู่ ม าเหรอ?” คุ ณ พ่ อ เย่เ ห็ น คุ ณ แม่ เ ย่หิ้ ว ตะกร้ า เดิ น
กลับมาจากด้านนอก จึงเอ่ยถาม
คุณพ่อเย่เดินเข้าประตูบา้ น “หายากตรงไหนกัน”
“แล้ว สมาชิ ก หนึ่ งคนได้ ส่วนแบ่ ง เท่ า ไรล่ ะ ? จริ งสิ แล้ว
ลูกสะใภ้สามของเราจะแบ่งยังไง ก็ตอ้ งให้ใช่ไหม?” คุณแม่เย่
กล่าว
“เข้าใจแล้วแม่”
ภรรยาของเหล่าหวังสามมองเงาแผ่นหลังเล็ก ๆ ของเย่ฉูฉู่แล้ว
ก็เดาะลิน้ “ภรรยาตัวน้อยคนนี้รักสามีของตัวเอง แต่ไม่ดูเลยว่า
สามีของตัวเองมีความประพฤติเป็ นยังไงบ้าง กินเก่งแต่เกียจ
คร้าน คุยโวโอ้อวดใช้เงินฟุ่ มเฟื อย รักไปก็เปล่าประโยชน์ แต่ง
เข้ามาอยู่ในบ้านนานขนาดนี้ยงั ไม่มีข่าวคราวเรื่ องท้องเลย ถ้า
ยังเหนื่ อยมากไปกว่านี้ หลังจากนี้ คงได้ถึงเวลาที่เธอจะมานั่ง
เสี ยใจแน่”
“มองพลาดมั้ง”
เย่ฉูฉู่กลับไม่ได้คิดมากมายขนาดนั้น เธอเพียงแค่อยากจะแบก
ฟื นให้มากสักหน่อย
แต่จากร่ างกายของเขาก็พอจะมองออกว่าฐานะทางบ้านคงไม่
เลวเลย ไม่เช่นนั้นร่ างกายคงไม่แข็งแรง
“น้องชาย นายคงไม่ รู้สินะ ทางนั้นหลังจากช่ วงเก็บเกี่ ยวฤดู
ใบไม้ร่วงแล้วก็จะพลิกหน้าดินทันที ก่อนที่อากาศจะหนาวจน
แข็ง พลิกหน้าดินได้มากเท่าไรก็ดีเท่านั้น ถ้ารอให้ถึงฤดูใบไม้
ผลิ ตอนนั้นก็คงยุง่ แล้ว ไม่มีเวลาจัดการหรอก” คนขับหลิวเอง
ก็เป็ นคนช่างเจรจา
“เหตุผลนี้แหละ!” คนขับหลิวยิม้
เหล่าชวีโถวถึงกับเงียบสนิท
จ้าวเหวินเทายิม้
หญิงคนนั้นหันมามองจ้าวเหวินเทาที่ออกจากประตูใหญ่ ซึ่ ง
จ้าวเหวินเทามีหน้าตาดี ผิวพรรณขาวผ่องหล่อเหลา จมูกสู ง
โด่ง เห็นใครก็ยมิ้ ให้อย่างดูเป็ นกันเอง
ประกอบกับการตะโกนเรี ยกหล่ อนว่าพี่สาวยิ่ง ทาให้ห ล่ อ น
รู ้สึกเป็ นวัยรุ่ น ผูห้ ญิงน่ ะ ไม่ว่าจะอายุมากขนาดไหนก็อยาก
อ่ อนเยาว์กนั ทั้งนั้น หล่ อนจึ งคลี่ ยิ้มในทันที “เอาสิ น้องชาย
ขอบใจนะ เธอขึ้นบันไดฝั่งนั้น ดึงพลาสติกไปทางนั้นหน่อย”
จ้าวเหวินเทาเดินตามเข้าไปด้านใน ผักที่ใช้ขายมีอยู่สองชนิ ด
คือมะเขือยาวและมะเขือเทศ
ผสมเกสร?
“ทุกๆ วันต้องดึงฟางกับม่านที่คลุมออกเพื่อให้โดนแดด ช่ วง
บ่ายเวลานี้ ก็จะคลุมอีกครั้ง บางครั้งก็คลุมตอนค่า” หญิงสาว
มองท่าทางของจ้าวเฉิ น จึงแย้มยิ้มออกมา “รู ้สึกว่ามันยุ่งยาก
มากเลยใช่ไหมล่ะ?”
………………………………………………………………
“แล้วผมเหมาะกับทาอะไรล่ะครับ?” จ้าวเหวินเทากล่าว
“ฉันว่านายเหมาะกับการขยับปาก แต่ไม่เหมาะกับการขยับมือ
นายทาโรงเรื อนเพาะปลูกไม่ไหวหรอก นายว่าฉันพูดถูกหรื อ
เปล่าล่ะ?” เหล่าชวีโถวกล่าว
จ้าวเหวินเทายิม้ “ถูก ลุงพูดถูกต้องเลยล่ะ ผมทาไม่ไหวจริ ง ๆ
นั่น แหละ อัน ที่ จ ริ ง ที่ ผ มมาก็ไ ม่ ไ ด้จ ะมาเรี ย นเพาะปลู ก ใน
โรงเรื อนหรอก”
คนขับ หลิ ว ก็ย กถ้ว ยเหล้า ขึ้ น มาชนกับ เขา “ขอให้น้อ งชาย
ร่ ารวย ชน!”
เย่ฉูฉู่พยักหน้า “ฉันทราบแล้วค่ะ”
ทว่าเย่ฉูฉู่กลับวางแผนอย่างจริ งจัง
กล่าวถึงทางฝั่ งหมู่บา้ นไท่ผิง สถานที่แห่ งนี้ หารถได้ง่ายมาก
โดยเฉพาะรถที่ไปในเมือง เหล่าชวีโถวรู ้สึกถูกโฉลกกับเขา จึง
บอกว่าเรื่ องนี้ให้เป็ นหน้าที่ของเขาเอง ถึงอย่างไรเขาก็เกิดและ
โตที่นี่ ย่อมคุน้ เคยอยูแ่ ล้ว
“ได้ งั้นผมจะเขียนสัญญายืมเงินสักฉบับ…”
เจ้าหลิวปากมากก็คือฉายาของเหล่าหลิว
“น้อ งชาย นายมาที่ นี่ เ พื่ อ น าเข้าผักเป็ นประจ าสิ น ะ ฉัน เห็ น
เหล่าชวีโถวนัน่ สนิทกับนายเชียว” เจ้าของรถถาม
เหล่าชวีโถวไม่เพียงแต่จะช่วยหารถให้เท่านั้น ทั้งยังช่วยขนผัก
มาไว้บนรถด้วย เงิน 15 หยวน แลกผักมาได้มากโขเชียวล่ะ
คนขับรถก็ไม่ได้ปิดบัง เขาพูดถึงประสบการณ์การค้าขายของ
ตัวเองขึ้นมา “ในเมืองนี้มีคนงานที่อยากกินธัญพืชหยาบอยู่ แต่
ที่พวกเขาได้กินกลับมีแต่แป้ งขาว ส่ วนคนของพวกเราที่อยู่ที่นี่
ก็ได้กินแต่ธัญพืชหยาบ จะหาแป้ งขาวที่ไหนมากินได้? ฉันก็
เลยเอาข้าวฟ่ าง ข้าวโพด เฉียวเมี่ยน(1)อะไรพวกนั้นไปแลกใน
เมือง แป้งขาวที่แลกมาได้กจ็ ะนาไปขายอีกที”
“ใช่ แ ล้ว ครั บ ” จ้า วเหวิ น เทาพยัก หน้า จากนั้น ก็ถ ามข้อ มู ล
เจาะจงแบบสบาย ๆ เกี่ยวกับการแลกแป้ งขาวอีกครั้ง ใครจะ
ไปคิดว่าคนขับรถจะตอบคาถามที่เขาถามไปทั้งหมด
จ้า วเหวิน เทาเห็ น ด้ว ยเป็ นอย่า งมาก มัน ก็จ ริ ง ถ้า หากไม่ ใช่
เพราะเขารู ้จกั กับไช่ซื่อหู่กค็ งขายเนื้อไม่ได้ ดังนั้นจะทาอะไรก็
ต้องขึ้นอยูก่ บั สถานการณ์ของตนเองด้วย
ทั้งสองคนพูดคุยหัวเราะสนุกสนาน ระยะเวลาจึงผ่านไปอย่าง
รวดเร็ ว เมื่อมาถึงบ้านพี่สาวใหญ่จา้ วในเมือง เขาจึงขนผักลง
มา และให้เงินเจ้าของรถไปห้าเหมา
จ้าวเหวินเทาจึงเล่าเรื่ องของเหล่าหลิวให้ฟังแบบง่าย ๆ
พี่ ส าวใหญ่ จ ้า วไม่ รู้ ว่ า ควรจะพู ด อย่ า งไรจริง ๆ โชคของ
น้อ งชายคนนี้ ไม่ ใ ช่ แ ค่ ดี แ บบธรรมดา ขึ้ น เขาลงห้ว ยก็ เ จอ
กระต่ายกาลังทะเลาะกันแถมยังตายด้วยตัวเองอีก ต่อให้เจอกับ
สัตว์ป่าแต่ละชนิ ดที่เข้ามาชนด้วยตัวเอง หากเป็นคนอื่นที่คิด
จะจับก็คงจับไม่ได้หรอก
ขายดีจริ ง ๆ ด้วย!
ขายออกไปได้มากเท่าไรก็เท่านั้น
พี่ ส าวห้า จ้า วรู ้ สึ ก ชื่ น ชมเขามาก น้อ งชายคนนี้ ถึ ง เป็ นห่ ว ง
ภรรยาแต่กไ็ ม่ลืมพ่อแม่ ไม่เสี ยแรงเลยที่รักเขา
“พวกพี่เอาไปห่อเกี๊ยวกินนะ” จ้าวเหวินเทากล่าว
“ให้คนในครอบครัวมันจะไปมากมายอะไรกัน ผมไปแล้วนะ
พี่สาวใหญ่ วันนี้คงไม่ได้กลับมาแล้ว” จ้าวเหวินเทาโบกมือ
พี่สะใภ้สี่ไม่ลืมที่จะตะโกนไล่หลังมาว่า “เย่ฉูฉู่ไปทางสะพาน
ตงเหลี ย งนะ ขับ ไปรั บ หล่ อ นที่ ต ะวัน ออกเลย ต้อ งเจอตัว
แน่นอน!”
จ้าวเหวินเทาหายไปไม่เห็นเงาแล้ว
พี่สะใภ้สี่กลั้นยิ้มไว้ หล่อนเดิ นมาที่หน้าประตูบา้ นของเหล่า
หวังสาม ก่ อนจะเรี ยกภรรยาของเหล่ า หวังสามเพื่อแบ่ ง ปั น
เรื่ องที่จา้ วเหวินเทากลับมา
คาพูดประโยคนั้นของภรรยาเหล่าหวังสามรบกวนใจพี่สะใภ้สี่
มาก ทาให้ไม่ว่าอะไรก็ดูขดั หู ขดั ตาไปหมด โดยเฉพาะยัยเด็ก
สองคนนี้
สุ ดท้ายแล้วก็เป็ นเพราะตนเองไม่มีลูกชาย หากหล่อนมีลูกชาย
ก็คงไม่ตอ้ งมามองดูคนอื่นหาเงินแบบนี้หรอก ลูกชายต่างหาก
ล่ะคือคนที่จะนาความมัง่ คัง่ มาให้!
กลับมาทางฟากของจ้าวเหวินเทา เขาไม่รู้ว่าตอนที่ตนเองเพิ่ง
จะโผล่หน้ากลับมาก็ได้สร้างผลกระทบอันใหญ่หลวงนี้ แล้ว
เขารี บปั่ นจักรยาน มุ่งหน้าไปทางสะพานตะวันออกที่ มีถนน
ขรุ ขระ ระหว่างนั้นก็ตะโกนไปพลาง “ภรรยาจ๋ า!”
สามีของบ้านเธอออกไปหาเงินข้างนอกแล้ว ทั้งยังทางานยุ่ง
มาก เธอย่อมเป็ นคนเตรี ยมฟื นที่ตอ้ งใช้เผาในช่วงฤดูหนาว
“ผมนาผักใบเขียวส่ วนหนึ่ งไปขายในเมือง ก็เลยกลับช้าน่ ะ”
จ้าวเหวินเทาเอ่ยขณะนาฟื นไปวางไว้ที่เบาะท้ายจักรยาน
จ้า วเหวิน เทามองฟื นที่ มี ท้ ัง สั้ นและยาว ไม่ ว่า จะเป็ นอะไร
ขนาดไหนก็มีท้ งั หมด วางไม่ได้จริ ง ๆ ด้วย เขาจึงกล่าวว่า “ก็
ได้ เดี๋ ยวผมแบกเอง คุ ณเอากระสอบวางไว้ที่เ บาะหลัง ของ
จักรยานแล้วประคองไว้นะ เดี๋ยวผมเข็นเอง”
“ไหวเหรอคะ?” เย่ฉูฉู่ลงั เล
“ไหวสิ !”
จ้าวเหวินเทากลับพูดด้วยความโกรธเคืองเล็กน้อย “ทาไมคุณ
ถึงออกมาแบกฟื นล่ะ เดิ นมาตั้งไกล แถมยังแบกมากขนาดนี้
อีก ถ้าเกิดเรื่ องขึ้นมาจะทายังไง? เหนื่อยขึ้นมาจะทายังไง?”
“คุณอย่ามาเปลี่ยนประเด็นนะ ใครบอกให้คุณออกมาแบกฟื น?
ผมบอกไปแล้วไม่ใช่ เหรอ รอให้ผมเสร็ จธุ ระก่อนเรื่ องนี้ เดี๋ ยว
ผมจัดการเอง นี่เป็ นงานของผูช้ ายนะ” ถึงจะซึ้งใจ แต่จา้ วเหวิน
เทาก็ยงั ต้องพูดสอนเธอ
“คอยดูผมได้เลย” จ้าวเหวินเทากล่าว
จ้าวเหวินเทาหยิบกระสอบทั้งสองใบที่อยูห่ ลังเบาะรถจักรยาน
ลงมา ด้ า นในมี ม ะเขื อ ยาวสองลู ก ถั่ว ฝั ก ยาวหนึ่ งก ามื อ
นอกจากนี้ยงั มีบวบเหลี่ยมสามลูกและแตงกวาอีกสามลูก สิ่ งนี้
ไม่สามารถวางทิ้งไว้ได้จนถึงตอนนี้ แน่นอนว่าต้องเอากลับมา
รับประทานสด ๆ
“ค่ะคุณแม่” เย่ฉูฉู่เดินออกมา
“กลับมาก็ดีแล้ว กินอะไรหน่อยแล้วก็รีบนอนนะ” คุณแม่จา้ ว
พยักหน้ากล่าว
คุณแม่จา้ วตอบอืมกลับมา
“เอาอาหารไปให้คุณแม่หน่อยไหมคะ?” เย่ฉูฉู่ถามเขา
ตั้ งแต่ ที่ เ สี ยหน้ า ไปครั้ งก่ อ น พี่ ส ะใภ้ ร องจ้ า วก็ ไ ม่ ช อบ
น้องสะใภ้สี่คนนี้ ที่เอาแต่ปูเสื่ อรับชมเรื่ องสนุ กในคราวก่ อน
แต่ที่บา้ นมีลานอยูแ่ ค่แห่ งเดียว จึงเลี่ยงการพบปะกันไม่ได้ จึง
ตอบกลับไปอย่างเฉยเมย “จะทาอะไรได้อีกล่ะ ก็โจ๊กข้าวโพด
นัน่ แหละ แล้วก็ผสมกับปลายข้าวหักนิดหน่อย”
พี่สะใภ้รองจ้าวเงยหน้าขึ้นมองน้องสะใภ้คนนี้ แอบก่นด่าใน
ใจว่าโง่เขลา!
“เขาจะมีกิจการอะไรล่ะ ถ้ามีคิดว่าครอบครัวจะไม่รู้เหรอ? ก็
ต้องขายถัว่ งอกนัน่ แหละ อีกอย่าง เธอคิดว่าเพื่อนดี ๆ จะหาได้
ง่าย ๆ เหรอ? เธออย่าได้ยนิ เสี ยงลมก็นึกว่าฝนตกสิ ภรรยาของ
เหล่ า หวัง สามคนนั้น ก็พูดน้ าไหลไฟดับไปเรื่ อ ย ค าพู ดของ
หล่อน เธอต้องไปฟั งบนสะพานตะวันออกนูน้ แหละถึงจะฟั ง
จบ” พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์
แต่ ทุก เรื่ อ งต่ า งก็ยุ่ง ยากในช่ ว งเริ่ ม ต้น เธอเชื่ อ ว่า ในอนาคต
จะต้องดีข้ ึนอย่างแน่นอน
เย่ฉูฉู่หน้าแดงกล่าวว่า “คุณนี่หน้าไม่อายสักนิดเลยนะคะ”
“ผมต้อ งอายภรรยาตัว เองด้ว ยเหรอ ผมเป็ นแบบนี้ ก็เ พราะ
ภรรยาผูล้ ้ าค่าของผมไงล่ะ!” จ้าวเหวินเทายิม้ ปากก็พูดจาลามก
ออกมาโดยไม่ได้รู้สึกกดดันใด ๆ
จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้ “ผมเองก็รู้สึกว่าโชคดีที่ได้สนิท
กับพี่ใหญ่หลิว ไม่ง้ นั เขาคงไม่ให้ผมยืมเงินหรอก ยังมีเหล่าชวี
โถวอีกคน ลุงคนนั้นมีความพิถีพิถนั มากเลยนะ ต่อให้ครั้งนี้ไป
แล้วไม่ ได้กาไรกลับมา การได้รู้จกั พวกเขาก็ถือว่าเป็ นกาไร
แล้วล่ะ”
เมื่อออกไปข้างนอก มีเพื่อนหลายคนก็เท่ากับมีเส้นสายมากขึ้น
เป็ นสิ่ งที่แม้แต่เงินไม่อาจแลกมาได้
เย่ฉูฉู่นาเงินไปวางไว้บนเตียง แยกเงินตามมูลค่ามากและน้อย
จากนั้นจึงนับเงินกับสามีของเธอ
“ซื้อไม่ไหวหรอก” จ้าวเหวินเทาพยักหน้า
พี่สี่จา้ ว “…”
พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วโกรธมาก หล่ อ นรู ้ สึ ก เจ็ บ จี๊ ด อยู่ ใ นใจ ทั้ง ยัง
กลับ มามี นิ สั ย ดุ ร้ า ยอี ก ครั้ ง เป็ นเพราะหล่ อ นไม่ มี ลู ก ชาย
อย่ า งไรล่ ะ รอให้ ห ล่ อ นมี ลู ก ชายก่ อ นเถอะ ดู สิ ว่ า จะกล้า
เพิกเฉยกับคาพูดของหล่อนแบบนี้อีกไหม!
พี่สะใภ้รองจ้าวที่อยู่ปีกตะวันตกของบ้านก็กาลังคุยกับพี่รอง
จ้าวเรื่ องที่จา้ วเหวินเทาไม่ได้กลับบ้านเมื่อคืนนี้
“น้องสะใภ้สี่บอกว่าน้องสามีหกได้เงินมาเยอะจากการทาการ
ธุ รกิจใหม่ แถมยังมีเพื่อนดี ๆ อีก เมื่อวานก็เลยไม่ได้กลับบ้าน
ฉันได้ยนิ ก็อยากจะหัวเราะ” พี่สะใภ้รองจ้าวกระซิบอย่างช้า ๆ
เมื่อพี่รองจ้าวได้ยินในตอนแรกก็รู้สึกเอือมระอาเล็กน้อย จะ
ไปถามอะไร? แต่ พอได้ยินจนจบก็รู้สึกว่าภรรยาเป็ นคนที่มี
ความคิดรอบคอบมาก ใช่ แล้ว เขาไม่ได้เข้าไปหาพี่สาวใหญ่
กับน้องสาวห้ามานานแล้ว
หม่าต้านอดไม่ได้ที่จะกล่าวว่า “ใครใช้ให้พ่อห้ามไม่ให้แม่อุ่น
เตียงล่ะ เตียงที่หอ้ งของอาเล็กถูกเผาจนร้อน ทั้ง ๆ ที่อาเล็กก็ยงั
ไม่ได้ข้ ึนเขาไปหาฟื นเลย พวกเราขึ้นเขาไปหาฟื นกันทั้งบ้าน
แต่เตียงยังเย็นขนาดนี้!”
“พวกเจ้าหกไม่ประหยัดสักนิ ด เขาไม่กลัวจะขัดสนบ้างหรื อ
ไง?” พี่ ส ามจ้า วกล่ า วอย่ า งงุ น งง เขาแค่ อ ยากรอดู เ จ้า หก
รั บ ประทานอาหารไม่ อิ่ ม ท้อ งสวมเสื้ อ ผ้า ที่ ไ ม่ ไ ด้ใ ห้ ค วาม
อบอุ่น ใครจะไปรู ้วา่ จนถึงตอนนี้เขาก็ยงั เป็ นแบบเดิมอยู่
พี่สะใภ้สามจ้าวเหนื่อยมาทั้งวันและง่วงนอนแล้ว เมื่อเตียงเริ่ ม
ร้อนจึงผล็อยหลับไป หล่อนไม่อยากรับมือกับสามีของหล่อน
ที่เป็ นคนคิดเล็กคิดน้อยเลยจริ ง ๆ
ถ้าน้องสามีหกมีฐานะขึ้นมาจริ ง ๆ สิ ถึงจะดี
เตี ยงอุ่ นแล้ว ในที่ สุดพี่สามจ้าวก็ยืดขาออกมา เขายืดเหยียด
ร่ างกาย รู ้สึกได้ว่านี่ ต่างหากล่ะที่เรี ยกว่าผ้านวมสาหรับนอน
หลับ ทว่าภายในใจกลับอดไตร่ ตรองไม่ได้
ไม่ได้การล่ะ เขาต้องไปถามให้รู้เรื่ อง
จงย่งพูดอย่างภาคภูมิใจ จ้าวเหวินเทามองจานวนคนที่ยืนต่อ
แถวปราดหนึ่ง พลางกล่าวด้วยรอยยิม้ “ขายให้คนเหล่านี้หมด
ก็ใช้เนื้ อกับถัว่ งอกจานวนมากของฉันไม่หมดหรอก นายไป
เจอลูกค้ารายใหญ่คนไหนมาล่ะ?”
จงย่งรับกระดูกไป ทั้งยังหยิบกระดาษไขมาห่อซาลาเปาร้อน ๆ
สามลูกให้พี่จา้ วของเขาโดยไม่พูดพร่ าทาเพลง
จ้า วเหวิ น เทาวางกระดู ก แกะและกระดู ก หมู ไ ว้ส่ ว นหนึ่ ง
กลับไปก็จะเอาไปให้ภรรยาของเขาลองต้มน้ าแกงดู ดว้ ย เขา
เคยแต่ได้ยนิ ภรรยาพูดแต่ยงั ไม่เคยได้ชิมเลย
จ้าวเหวินเทาชะงักไปเล็กน้อย “ทาไมล่ะ?”
ชุยต้าแอบรู ้สึกไม่ดี ทว่าน้ าเสี ยงของเขาก็แฝงด้วยความขมขื่น
“พี่หก ถ้าพี่ให้เงินผมแล้วเกิดอารองของผมรู ้เข้า เขาคงเอาเงิน
ไปหมดแน่”
ทุกคนต่างก็รู้ดีถึงสถานการณ์ของตระกูลชุ ย เพียงแต่รู้ไปแล้ว
จะทาอะไรได้ อี กฝ่ ายเป็ นพี่น้องแท้ ๆ จึ งทาได้แค่ พูดว่า ไม่
ยุติ ธ รรมนิ ด ๆ หน่ อ ย ๆ แต่ ก็ไ ม่ ส ามารถเข้า ไปจัด การกับ
ความอยุติธรรมได้ ถึงอย่างไรเจ้าตัวเองก็ยงั ไม่ได้โวยวายขึ้นมา
จ้าวเหวินเทาอดไม่ได้ที่จะพูด “พวกเขาอยากได้นายก็ให้เหรอ?
นายหนักแน่นสักหน่อยไม่ได้เลยหรื อไง?”
ชุยต้าละอายใจ แต่กลับพูดด้วยความไม่เต็มใจว่า “พี่หก ผมเอง
ก็อยากห้ามอยู่หรอก แต่ผมก็อยู่บา้ นตลอดเวลาไม่ได้ พ่อของ
ผมอยากให้ ผมจะทาอะไรได้ล่ะ?”
เขาขึ้นมาหอมภรรยาของตัวเองฟอดหนึ่ง
“แหวะ!” เย่ฉูฉู่เกิดอาการคลื่นไส้
จ้าวเหวินเทามองภรรยาของตนเองด้วยรอยยิม้
เย่ฉู ฉู่ เ องก็คิ ด ไม่ ถึ ง ว่า เขาจะแก้ปั ญ หาเรื่ อ งนี้ ได้เ ร็ ว ขนาดนี้
เพียงแต่จา้ งคนให้ไปขนฟื นมาให้จะได้เหรอ?
เย่ฉูฉู่คลี่ยมิ้ จากนั้นจึงรับเงินไปนับ
ต่อให้เธอมีความบาดหมางกับพวกพี่สะใภ้ไปบ้าง แต่หลาน ๆ
เหล่านี้กไ็ ม่มีความจาเป็ นต้องดึงไปเกี่ยวข้องด้วย
เย่ฉูฉู่เคยชินกับการที่สามีของเธอเข้าป่ าและได้ของกลับมาแล้ว
เธอรับไก่ไป “หนักมากเลยนะคะเนี่ย”
เย่ฉู ฉู่ พ ยัก หน้า ด้ว ยรอยยิ้ม “คุ ณ พู ด ถู ก มนุ ษ ย์ก็เ ป็ นแบบนี้
แหละ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเถอะนะคะ เรื่ องในบ้านแค่
นี้ฉนั ยังจัดการไม่ได้ ยังต้องให้คุณที่กงั วลเรื่ องข้างนอกแล้วยัง
ต้องมากังวลเรื่ องในบ้านอีกเหรอ?”
เมื่อพี่สามจ้าวได้ยินก็โกรธจนทนไม่ไหวในทันที เจ้าหกจ้าง
คนขนฟื น? แลกกับธัญพืชหนึ่ งชั่งครึ่ ง นั่นเป็ นธัญพืชเลยนะ
หมอนัน่ ถูกลาเตะกบาลหรื ออย่างไรกัน!
ธัญพืชไม่กี่ชงั่ ?
เมื่อกล่าวแบบนี้พี่รองจ้าวจะกล่าวอะไรได้อีก จึงทาได้เพียงแค่
เดินจากไป
ไม่ใช่ ว่าจ้าวเหวินเทาไม่เคยคิดจะจ้างพี่ชายหรอกนะ เพียงแต่
พี่ ช ายบางคนก็ดี แ ต่ พี่ ส ะใภ้ไ ม่ ดี บางคนพี่ ส ะใภ้ดี แ ต่ พี่ ช าย
ไม่ได้เรื่ อง ให้เงินมากไปหรื อน้อยไป ทาให้อีกฝ่ ายเสี ยเปรี ยบ
หรื อได้เปรี ยบ ถึงเวลานั้นก็ไม่แคล้วทะเลาะกันอีก
เขาไม่ได้มีอารมณ์ขนาดนั้น และไม่มีความพยายามนั้นด้วย
พี่รองจ้าวได้ยนิ จากพี่สาวใหญ่และน้องสาวห้าว่าจ้าวเหวินเทา
นอกจากขายถัว่ งอกแล้วยังขายเนื้อด้วย
เขาสงสัยอย่างยิ่งว่าจ้าวเหวินเทาไปเอาเนื้ อมาจากไหน? เมื่อรู ้
ว่าเป็ นโชคที่เกิดจากความกล้าหาญของจ้าวเหวินเทา จึงโล่งใจ
และยินดีไปกับเขา
พี่สะใภ้รองจ้าวพอใจกับของตอบแทนของพี่สาวและน้องสาว
ของสามีเป็ นอย่างยิ่ง มีเพียงข่าวคราวของน้องสามีหกที่สามี
ของหล่ อนนากลับมาเท่ านั้นที่ ไม่ พอใจ เพราะมันไม่ ชัดเจน
หล่อนอยากจะทาธุ ระให้เสร็ จแล้วไปด้วยตนเอง เพื่อถามทุก
อย่างให้ละเอียดเสี ยเหลือเกิน
พี่สามจ้าวเข้าเมืองช้ากว่าพี่รองจ้าว ถึงอย่างไรเขาก็เข้าไปเพื่อ
ขายถัว่ งอก ใช้เวลาหลายวันกว่าถัว่ งอกจะโต
ตอนเที่ยงเขาไปรับประทานอาหารที่บา้ นของน้องสาวห้าจ้าว
พี่ ส าวใหญ่ จ ้า วอาศัย อยู่ ร่ ว มบ้า นกับ พ่ อ แม่ ส ามี ทั้ง ยัง เป็ น
ครอบครัวพนักงานอีก พี่สามจ้าวไปแล้วรู ้สึกอึดอัด
บ้านของน้องสาวห้าจ้าวดี กว่าเยอะ สามี ของน้องสาวไม่ อ ยู่
บ้าน มีแค่นอ้ งสาวและลูก อีกอย่างเขาก็เป็ นพี่ชาย แถมยังทา
คะแนนในฐานะพี่ชายได้ดว้ ย ดังนั้นถ้าต้องรับประทานอาหาร
และอยู่อาศัยก็ตอ้ งไปบ้านของน้องสาวห้าจ้าว แต่ถา้ เป็นก่อน
กลับเขาก็ไปหาพี่สาวใหญ่เพื่อเยีย่ มเยียน
เมื่อเห็นว่าแม้แต่คนใจแคบอย่างพี่สามจ้าวยังทาการค้าขายได้
ด้วยดี พี่สะใภ้รองจ้าวและพี่สะใภ้สี่จา้ วจึงร้อนรน
ผูช้ ายคนหนึ่ งก็ไม่รู้จะทาอะไร ส่ วนผูช้ ายอีกคนก็หน้าบางไม่
ยอมทา ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลงมือทาเอง หล่อนซื้ อ
พื้นรองเท้าและส่ วนบนของรองเท้า มีท้ งั ของผูใ้ หญ่ ของเด็ก
และของผูส้ ู งวัย ไม่ตอ้ งพูดอะไรหรอก มีคนซื้ อจริ ง ๆ เพียงแต่
มีนอ้ ย ได้กาไรมาไม่กี่เฟิ นก็ถือว่าใช้ได้แล้ว
ปกติหนึ่งวันจะมีรถผ่านสองครั้ง ครั้งแรกตอนเช้าและอีกครั้ง
คือตอนค่า ในเมืองเรี ยกว่ารถประจาทาง ในชนบทเรี ยกว่ารถ
รับส่ ง
จากหมู่บา้ นไปในเมืองและมณฑลมีเพียงรอบเช้าและรอบค่า
เที่ยวเดียวเท่านั้น จากในมณฑลไปในเมืองมีสี่เที่ยว เย่หมิงเป่ ย
ไม่รู้วา่ โจวหมิ่นจะนัง่ รถเที่ยวไหนมาถึงมณฑล เขารู ้เพียงแค่วา่
เป็ นวันนี้
คุณแม่เย่มองดูลูกชายจากไปจนมองไม่เห็นจึงกลับบ้าน
กลัว ว่า เรื่ อ งทั้ง หมดนี้ เป็ นความฝั น ของเขา หล่ อ นไปเรี ย น
มหาวิทยาลัยแล้ว ไปเรี ยนและไม่กลับมาแล้ว
ทาไมเขาถึงโง่ขนาดนี้นะ!
“ตาทึ่ ม คุ ณ มัน โง่ เ ง่ า !” โจวหมิ่ น ก่ น ด่ า ด้ว ยน้ า เสี ย งอู ้อ้ ี เคล้า
น้ าตา หล่อนไม่เคยเจอคนโง่อย่างเขาขนาดนี้ มาก่อนเลย ทั้ง
โง่เง่า ดื้อรั้น!
ทั้งสองมาเจอกันอีกครั้งที่หน้าทางเข้าโรงอาบน้ า
โจวหมิ่นโอบรอบคอเขาพลางกล่าวว่า “หมิงเป่ ย พาฉันกลับ
บ้าน!”
เย่หมิงเป่ ยแก้มแดงระเรื่ อ
พี่สาวกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ดีก็เป็ น
เรื่ องดีนะ ช่วงนี้อากาศหนาว ฉันเห็นเธอสวมเสื้ อผ้าบาง ๆ รี บ
กลับไปเถอะ เดี๋ยวจะเป็ นหวัด”
โจวหมิ่นนอนนิ่งไม่ไหวติงอยูต่ รงนั้น
แน่ น อนว่ า ในวัน ที่ หิ ม ะตกหนัก แบบนี้ ทั้ง คู่ ไ ม่ ไ ด้ท าอะไร
เพียงแต่จูบกันก็เท่านั้น
โชคดีที่เย่หมิงเป่ ยยังคงจาได้ว่าต้องกลับบ้านถึงจะทาอะไรต่อ
อย่างเป็ นจริ งเป็ นจังได้
เพราะก่อนฤดูหนาวในปี นี้คุณแม่เย่เมินการคัดค้านของคุณพ่อ
เย่ นางนาหมูสองตัวกลับมาเลี้ยง ที่บา้ นจึงมีสิ่งมีชีวิตจานวน
ไม่นอ้ ย
แต่ดึกขนาดนี้ แล้วพวกเขาทั้งสองคนยังไม่ กลับมา คุ ณพ่อเย่
และคุณแม่เย่ยอ่ มคิดว่าพวกเขาคงพักที่มณฑลไปแล้ว
โจวหมิ่ น ยัง ต้อ งพู ด อะไรอี ก หล่ อ นบอกให้เ ย่ห มิ ง เป่ ยลาก
กระเป๋ าเข้าห้อง ส่ วนหล่อนก็เดินหัวเราะคิกคักตามไป
ตอนที่ 79 อยากมีลูก
พี่ใหญ่เย่และพี่รองเย่อาศัยอยู่ที่ห้องทางปี กตะวันออกและปี ก
ตะวันตก
เย่ห มิ ง เป่ ยเข้า มาเห็ น หล่ อ นยัง คงยืน อยู่ที่ เ ดิ ม จึ ง กล่ า วด้ว ย
รอยยิม้ “ทาไมถึงยังยืนอยูล่ ่ะ รี บขึ้นเตียงสิ เตียงร้อนแล้ว ตอน
ค่าแม่เผาฟื นไปไม่นอ้ ยเลยนะ”
โจวหมิ่นขจัดอารมณ์เศร้าหมองออกไป
“ห้อ งอุ่ น ขึ้ น มากแล้ว ฉัน ไม่ ห นาวสั ก นิ ด เลยค่ ะ ” โจวหมิ่ น
กล่าวขณะถอดเสื้ อคลุมขนสัตว์สีแดงเข้มออก จากนั้นนาไป
แขวนไว้ที่ตะปูตรงผนังห้อง
ก็สงสัยว่ากลิ่นหอมหวานที่ฟุ้งกระจายทัว่ ห้องนี้มาจากไหนน่ะ
สิ !
“ขอบคุณมากนะคะคุณแม่” โจวหมิ่นกล่าวด้วยรอยยิม้
“กว่ า จะได้กิ น มื้ อ เที่ ย งก็ส ายแล้ว จะไปหิ ว ได้ย งั ไงล่ ะ คะ”
โจวหมิ่นลากเก้าอี้ไม้ที่อยู่ใต้โต๊ะออกมาให้เขา ส่ วนตัวเองนัง่
อยูต่ รงขอบเตียง “คุณหิวแล้วสิ นะ?”
ไม่ได้เจอภรรยาของเขามานานขนาดนี้ ถ้าเขายังคงเฉยเมยก็คง
เป็ นหลิ่วเซี่ยฮุ่ย(2)แล้วล่ะ แบบนั้นก็ไม่ใช่ผชู ้ ายสามัญแล้ว!
เพี ย งแต่ ใ นจัง หวะส าคัญ นั้น เอง โจวหมิ่ น ได้อ่ อ นระทวย
กลายเป็นแอ่งน้ าไปแล้ว หล่อนเองก็เตรี ยมพร้อมการมาเยือน
ของเขา ทว่าเขากลับหยุดลง จากนั้นก็วิ่งไปหยิบถุงยางอนามัย
มา
“คุณ…ไม่อยากมีลูกเหรอ?” โจวหมิ่นอดไม่ได้ที่จะมองเขา
เย่หมิงเป่ ยทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
วันที่หิมะตกอากาศก็จะหนาวเหน็บ โดยเฉพาะตอนกลางคืนที่
อุณหภูมิลดต่าถึง -30 องศาเซลเซี ยสจนทาให้น้ าค้างกลายเป็น
น้ าแข็ง แต่ถา้ ได้นอนบนเตียงเตาที่ร้อนระอุควบคู่กบั บุรุษผูเ้ ร่ า
ร้อน แบบนั้นคงเพลิดเพลินไม่นอ้ ย
เย่ฉูฉู่ซบหน้าอกจ้าวเหวินเทาพลางกล่าวว่า “แม่ของฉันบอกว่า
วันนี้ พี่สะใภ้สามของฉันจะกลับมาแล้ว ไม่รู้ว่าพี่สามของฉัน
จะรับพี่สะใภ้สามมาหรื อยังนะคะ”
เย่ฉูฉู่แอบหยิกเขาเบา ๆ
………………………………………………………………
“พี่ ส ามอรุ ณสวัส ดิ์ ครั บ ” จ้า วเหวิ น เทากล่ า วด้ว ยรอยยิ้ ม
กรุ ้มกริ่ ม
เหมื อ นกับ ชาติ ที่ แ ล้ว น้อ งสาวสามี ค นนี้ ก็ย งั คงแต่ ง งานกับ
น้องเขยที่ดูเหมือนเอ้อระเหยลอยชายคนนี้ แต่กลับถูกน้องเขย
คนนี้รักประคบประหงมทั้งชีวติ
“พี่สะใภ้สามสวัสดีครับ” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้
คุ ณแม่ เย่เดิ นออกมาจากห้อง “หนาวขนาดนี้ ทาไมยังคุ ยกัน
นอกห้องอีก เข้ามาในห้องเร็ว!”
เมื่อเข้าไปในห้องทางทิศตะวันออกของคุณแม่เย่ บนเตียงนั้น
ร้อนมาก เตาอุ่นเตียงก็ร้อนเช่นกัน ภายในห้องจึงไม่หนาวสัก
นิด
“อื้อ” เย่ฉูฉู่ตอบ
จ้าวเหวินเทาจึงเดินไปพร้อมกับคุณแม่เย่
………………………………………………………………
รถ? โจวหมิ่นใจเต้นตึกตัก
“ก็ไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้นหรอก แค่ในเมืองใหญ่มีอะไรให้
เห็ น เยอะกว่ า ย่ อ มได้รั บ แรงบัน ดาลใจอยู่ แ ล้ว เธอดู นี่ สิ ”
โจวหมิ่นไม่ได้คิดอะไร ถึงอย่างไรหล่อนก็มีขอ้ ได้เปรี ยบ
ช่องว่างนี้ห่างกันค่อนข้างมากเลยล่ะ
โจวหมิ่ น มองน้อ งสามี แ ละกล่ า วว่า “ฉู ฉู่ ตอนนี้ ไม่ เ หมื อ น
เมื่อก่อนแล้วนะ ทุกที่ต่างเป็นเงินเป็ นทอง ทุกที่ต่างมีโอกาส
เธอเข้า ใจความหมายของพี่ ส ะใภ้ส ามไหม? เหวิ น เทามี
ความสามารถ ถ้าเขาอยากทาก็ให้เขาทาเถอะ ฉันมีเงิ นใช้ไม่
ขาดมือ ฉันสามารถให้พวกเธอยืมได้ รอพวกเธอได้เงินกลับมา
ค่อยเอามาคืน”
ดูเหมือนว่าทุกคนจะมองผิดแล้ว ที่พี่สามเอาแต่บอกว่าพี่สะใภ้
สามจะกลับมาไม่ใช่ ว่าจะไม่มีเหตุผล ในใจของพี่สะใภ้สาม
ต้องมีพี่สามอยู่แน่ ๆ ไม่เช่ นนั้นพี่สะใภ้สามที่มีความสามารถ
มากขนาดนี้จะกลับมาทาไม?
“อาเล็กเอาของกินอร่ อย ๆ มาแล้ว!”
“พวกเธออย่าไปรบกวนอาเล็กนะ!” พี่สะใภ้ใหญ่เย่รีบกล่าวไล่
หลัง
“นึกว่าพวกเธอจะกลับมาตอนบ่ายซะอีก” คุณแม่เย่กล่าว
พี่ ส ะใภ้ร องเย่ก ล่ า วด้วยรอยยิ้ม “กิ น เนื้ อ หมู เ สร็ จ แล้ว จะอยู่
ท าไมล่ ะ คะ พวกเราก็เ ลยกลับ มา บัง เอิ ญ เจอกับ คุ ณ พ่ อ ใน
หมู่ บา้ นพอดี เหวินเทามาแล้วเหรอ ระหว่างทางที่ มาหนาว
ไหม?”
พี่สะใภ้ใหญ่เย่ถอนหายใจยาว กล่าวขอโทษขอโพยโจวหมิ่น
“เด็กพวกนี้ แต่ละคนต่างเหมือนโจรไม่มีผดิ มาก่อความวุน่ วาย
ให้คนอื่นปวดหัวไปหมด น้องสะใภ้สาม เธอไม่ตอ้ งเกรงใจ
พวกเขานะ ถ้าใครมารบกวนก็ด่าได้เลย เด็กพวกนี้ ตอ้ งโดน
จัดการสักทีถึงจะสานึก”
พี่สะใภ้ใหญ่เย่รู้สึกว่าน้องสะใภ้โจวหมิ่นคนนี้นิสัยดีกว่าก่อน
หน้านี้ มาก ก่อนหน้านี้ เอาแต่ทาสี หน้าเย็นชา ไม่พูดไม่จากับ
ใคร ตอนนี้ดูร่าเริ งกว่าก่อนหน้านี้มาก
เย่ฉูฉู่ดูออกว่าพี่ชายสามหมายถึงอะไร จึงดึงโจวหมิ่นเข้าห้อง
ทางทิศตะวันตกด้วยรอยยิม้ “พี่สะใภ้สาม พี่ชายสามพูดถูก สิ่ ง
ที่พี่ตอ้ งทาในตอนนี้ คือนัง่ คุยเป็นเพื่อนฉันที่เป็นแขกยังไงล่ะ
คะ”
โจวหมิ่นถูกหยอกล้อจนหลุดหัวเราะ “ก็ได้ พวกเราไปคุยกัน
เถอะ ฉันจะให้เธอดูของขวัญที่ฉนั นากลับมาให้คุณแม่ดว้ ย”
การสร้างบ้านเป็ นความปรารถนาของเขามาโดยตลอดเลยนะ
ตอนที่ 83 ตระกูลเย่ คกึ คัก
คุณแม่เดินถือกระดานนวดแป้งเข้ามาวางบนเตียงเตา ด้านนอก
บ้านอากาศหนาว ห่อเกี๊ยวต้องมาห่อข้างใน ถึงจะอบอุ่น
พี่สะใภ้ใหญ่เย่กลับหวังว่าจะได้สร้างบ้านแยกตัวออกไป แต่
หล่อนอยากแยกออกจากครอบครัวน้องสามีท้ งั สอง ไม่ใช่แยก
จากพ่อแม่สามี
สามพี่ น้อ งตระกูล เย่ห่ อ เร็ ว กว่า คุ ณ พ่ อ เย่ มื อ ทั้ง สองข้า งให้
ความร่ วมมือเป็ นอย่างดี ขยับตะเกียบได้รวดเร็ วปานลมกรด
เกี๊ยวปรากฎขึ้นชิ้นแล้วชิ้นเล่า เพียงไม่นานก็เรี ยงจนเต็มหนึ่ ง
กระด้ง
“หนูกด็ ว้ ย”
“ยังมีผมอีกคน!”
ครั้ นน้ า เดื อ ดแล้ว คุ ณ แม่ เ ย่จึ ง ไปต้ม เกี๊ ย ว แล้ว นางก็พู ด กับ
ลู กสะใภ้ท้ งั สองว่า “ผักใบเขี ยวที่ เหวินเทาเอามา พวกเธอก็
เลือกเอาไปทากับข้าวสักสองสามอย่างนะ”
พี่สะใภ้ใหญ่เย่และพี่สะใภ้รองเย่รู้สึกประหลาดใจมาก กล่าว
ด้วยรอยยิม้ ว่า “เหวินเทาเอาผักใบเขียวมาด้วยเหรอคะ?”
“ได้ค่ ะ คุ ณ แม่ ฉัน จะไปตัด ต้นกระเที ย มสั ก หน่ อย” พี่ ส ะใภ้
ใหญ่เย่เดินไปที่บา้ นของตัวเอง
จ้าวเหวินเทายิม้
พวกเด็ก ๆ จึงเข้าห้องทางานตามที่ได้รับมอบหมาย
พี่สะใภ้ใหญ่เย่และพี่สะใภ้รองเย่คอแข็งไม่เบา แม้แต่คุณแม่เย่
ก็ไม่นอ้ ยหน้า ดื่มไปครึ่ งชัง่ แล้วก็ยงั ไม่เป็ นอะไร
แต่ความไม่พอใจเหล่านั้นที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้มลายหายไป
จนหมดหลังจากที่ลูกสะใภ้สามกลับมา นางจึงไม่พูดถึงเรื่ อง
เก่า ๆ เหล่านั้นแล้ว
พี่สะใภ้ใหญ่เย่และพี่สะใภ้รองเย่กม็ ีความสุ ข “นัน่ สิ น้องสะใภ้
สามไม่ ต ้อ งเกรงใจขนาดนี้ หรอก พวกเราเป็ นครอบครั ว
เดียวกันนะ”
คุณแม่เย่มีความสุ ขมาก
พี่สะใภ้ใหญ่เย่และพี่สะใภ้รองเย่ได้รับผ้ามาก็ดีใจมากเช่นกัน
หลายปี มานี้ พวกหล่อนไม่ได้ใส่ เสื้ อผ้าชุ ดใหม่เลย ปี นี้ ท้ งั เด็ก
และผูใ้ หญ่ลว้ นได้เปลี่ยนมาใส่ เสื้ อใหม่กนั ทั้งหมด
สู ้ไม่ได้ๆ พวกหล่อนไม่ขอทาตามแล้วกันนะ
“คุณแม่รับไว้นะคะ” โจวหมิ่นกล่าวด้วยรอยยิม้
พี่สะใภ้ใหญ่เย่และพี่สะใภ้รองเย่กเ็ งี่ยหูฟังด้วยเช่นกัน
จากนั้น ก็ไ ด้ยิน สะใภ้บ ้า นสามเล่ า แบบง่ า ย ๆ ไปหนึ่ ง รอบ
แม้วา่ จะพูดอย่างง่าย ๆ แต่พวกหล่อนก็พอจะทราบแล้วว่าบ้าน
เจ้าสามร่ ารวยแล้วล่ะ!
“กะล่อนนักนะ” โจวหมิ่นหัวเราะเบา ๆ
เมื่อคืนบุรุษหยาบกระด้างเล่นงานเสี ยจนแทบจะเอาชีวิตหล่อน
ไปอยู่แ ล้ว แต่ ห ล่ อ นก็ทราบดี ว่า เขาเองก็ใ ห้ชีวิ ต กับหล่ อน
เช่นกัน
ในเวลานี้เย่ฉูฉู่และจ้าวเหวินเทาก็กลับมาถึงบ้านหลังน้อยของ
ตนเองแล้วเช่นกัน
เย่ฉู ฉู่ ยิ้ม พี่ ส ะใภ้ส ามบอกว่ า ตั้ง ใจซื้ อ มาให้เ ธอโดยเฉพาะ
เพื่อให้จา้ วเหวินเทาหลงใหลในตัวเธอ
จากนั้นเย่ฉูฉู่กห็ ยิบผ้าออกมาอีก “พี่สะใภ้สามซื้ อผ้ามาให้พวก
เราคนละผืนด้วยนะคะ เอาไว้ตดั ชุดสาหรับปี ใหม่”
อีกอย่างน้ าหอมก็ไม่เหมาะกับพวกพี่สะใภ้ใหญ่เย่และพี่สะใภ้
รองเย่ แต่เหมาะกับเย่ฉูฉู่ที่ใช้ชีวติ อย่างสวยงาม
เย่ฉูฉู่นาคาพูดของพี่สะใภ้สามมาพูด “พี่สะใภ้สามถามว่าคุณ
อยากซื้อรถไหม? ถ้าอยากซื้อ พี่เขาจะให้คุณยืมเงินก่อน”
“พี่สะใภ้สามไปเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหนเนี่ย? ตอนนี้
หล่อนยังเรี ยนไม่จบแถมยังไม่ได้ทางานไม่ใช่ เหรอ?” จ้าวเหวิ
นเทากล่าวด้วยความแปลกใจ
เย่ฉูฉู่กล่าว “พี่สะใภ้สามยังเรี ยนไม่จบก็จริ ง แต่หล่อนตัดชุ ด
เอง ทาเงินได้เยอะเลยนะคะ”
“หาเงินจากการตัดชุด?” จ้าวเหวินเทาไม่เข้าใจ
“พี่สะใภ้สามบอกว่าที่ตลาดในเมืองใหญ่มีคนรวยจานวนมาก
โดยเฉพาะพื้นที่ บริ เวณชายฝั่ งทะเล พี่สะใภ้สามบอกว่าบาง
เมืองตามแนวชายฝั่งเปิ ดกว้างแล้วด้วย ทุกที่คือทอง อยูท่ ี่วา่ คุณ
จะไปหยิบมันหรื อเปล่า” อันที่จริ งเย่ฉูฉู่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
เธอจึงพูดตามที่พี่สะใภ้สามบอกไว้
“เหวิน เทา คุ ณ ว่า ฉัน จะท าแบบพี่ สะใภ้ส ามได้ห รื อเปล่ าคะ
พึ่งพาความสามารถของตัวเองเพื่อหาเงินน่ะ?” เย่ฉูฉู่เอ่ยถาม
นี่ไม่ใช่เงินจานวนน้อย ๆ เลยนะ
จ้าวเหวินเทาของเธอวิ่งเต้นตื่นเช้ากลับค่า นอกจากนาเงินที่ได้
ไปดื่มกินข้างนอกก็เก็บเงินได้แค่สิบกว่าหยวน วิธีเก็บเงินแบบ
นี้ตอ้ งใช้เวลาอีกนานแค่ไหนถึงจะเพียงพอนามาสร้างบ้าน?
“พี่สะใภ้สามของฉันจะตกลงเหรอคะ?” เย่ฉูฉู่พูดด้วยความไม่
มัน่ ใจ เธอรู ้สึกว่าพี่สะใภ้สามคงทาใจไม่ได้ที่จะให้พี่สามของ
เธอออกไปทางานนี้ท่ามกลางความหนาวเหน็บ
“ทาไมจะไม่ตกลงล่ะ? นี่กเ็ ป็ นเรื่ องดีไม่ใช่เหรอ” จ้าวเหวินเทา
ไม่ได้อธิบาย
โจวหมิ่นจะยอมได้อย่างไรกัน?
“ฉันให้เหวินเทาไปทาก็เพราะเหวินเทาต้องการ คุ ณต้องการ
ด้วยเหรอคะ?” โจวหมิ่นมองเขาพลางกล่าว
เขาไม่ทราบว่าภรรยาของเขาคิดจะพาเขาไปที่เมืองหลวงด้วย
และไม่อยากจะแยกอยูค่ นละที่กบั เขา
โจวหมิ่นมองออกว่าเขาอยากทาจริ ง ๆ ดังนั้นหล่อนยังจะพูด
อะไรได้อีก?
เย่ฉูฉู่ไม่ กล้าพูดอะไรตั้งแต่ ตน้ จนจบ แต่ ภายในใจก็แอบยก
นิ้วโป้งให้จา้ วเหวินเทาของเธอ เป็ นอย่างที่เขาพูดไว้ท้ งั หมด พี่
สามเชื่อฟังพี่สะใภ้สามจริ ง ๆ ด้วย
เพียงไม่นานรถของพวกเขาก็ถูกซื้อกลับมา
ผ่ า นไปเพี ย งคื น เดี ย ว เช้ า วัน รุ่ งขึ้ นทั้ง สองก็ เ ดิ น ทางไปที่
หมู่บา้ นไท่ผงิ เพื่อรับผักไปขาย
จ้าวเหวินเทานับถือสองสามีภรรยาบ้านพี่สามภรรยาของเขา
เลย เหนียวแน่นยิง่ กว่าคู่สามีที่เพิง่ แต่งงานกันใหม่ ๆ เสี ยอีก
หลังจากสองสามีภรรยาเสร็จกิจก็นอนกอดก่ายและพูดคุยกัน
ดังนั้นหล่อนจึงทาเป็ นหลับตาข้างหนึ่งและลืมตาข้างหนึ่ง
โจวหมิ่นกล่าวตาหนิ “ไม่เอาแล้ว…อ๊า~”
ดังนั้นเธอจึงต้องพยายามบ้างถึงจะดี
ต้องเข้าไปในมณฑลเท่านั้นจึงจะได้เห็นของดีเหล่านี้ ส่ วนใน
ตลาดไม่ได้มีของจาพวกนี้
มีเย่ฉูฉู่อยู่ โภชนาการของจ้าวเหวินเทาก็ไม่เคยขาดแม้แต่ครั้ง
เดียว เป็นเพราะชุ ยต้าและคนอื่น ๆ ไปตกปลา เย่ฉูฉู่จึงใช้ขา้ ว
เพื่ อ แลกกับเขา ชุ ย ต้า ดี ใ จมาก เมื่ อ ได้ป ลาก็จ ะหิ้ ว เอามาหา
พี่สะใภ้หก ตอนนี้ เขาตะโกนเรี ยกเย่ฉูฉู่ว่าพี่สะใภ้หกได้เต็ม
ปากแล้ว
เย่ฉูฉู่เองก็ยมิ้ ตอบรับเช่นกัน
เป็ นเพราะมี ปลา ไข่ ไก่ และมี เนื้ อรวมถึ งผักใบเขี ยวที่ อยู่ใน
ห้องใต้ดิน จ้าวเหวินเทาย่อมไม่ขาดแคลนของรับประทาน อีก
อย่างเป็ นเพราะทาเงินได้มาก คนเราเมื่อเจอกับเรื่ องน่าปี ติยนิ ดี
ย่อมมีอารมณ์ที่เบิกบาน
โจวหมิ่นหันมองน้องสาวสามีคนเล็กคนนี้
เย่ฉู ฉู่ จึ ง ท าได้เ พี ย งแค่ ยิ้ม อบอุ่ น ปล่ อ ยให้พี่ ส ะใภ้ส องมอง
สารวจ โจวหมิ่นมองอยูค่ รึ่ งค่อนวันก็ยงั ไม่พบสิ่ งใด แต่หล่อน
มีความเฉลียวฉลาดมาก หล่อนรู ้สึกได้ว่าน้องสาวสามีคนเล็ก
อาจจะเจอชะตากรรมเดียวกันกับหล่อน
ดัง นั้น เย่ฉู ฉู่ จึ ง ถามเคล้า รอยยิ้ม ไปว่า “พี่ ส ะใภ้ส าม พี่ ช่ ว ยดู
หน่อยสิ คะว่ามีตรงไหนต้องแก้ไหม?”
เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้ “ถ้างั้นก็ดีเลยค่ะ”
โจวหมิ่นมองภาพร่ างเหล่านี้ พลางกล่าว “ฉู ฉู่ เธอมีแผนอะไร
ในใจไหม พูดให้พี่สะใภ้สามฟังได้นะ”
โจวหมิ่นมองน้องสามีคนเล็กผูม้ ีมารยาทสง่างามเหมือนกับกุล
สตรี ที่มาจากตระกูลใหญ่มีฐานะ หล่อนแย้มยิม้ กล่าวว่า “แบบ
นั้นไม่ได้หรอก ให้เธอสองส่ วนแบบนั้นเป็ นการดูถูกแบบร่ าง
นี้ ของเธอมากเกิ น ไปแล้ว ฉัน รู ้ ว่ า ของพวกนี้ ต้อ งใช้ค วาม
พยายามอย่างมาก”
ท้ายที่สุดกาไรของพวกเธอทั้งสองจึงสรุ ปที่สามและเจ็ดส่ วน
เย่ฉูฉู่ได้สามส่ วน โจวหมิ่นได้เจ็ดส่ วน
เย่ฉูฉู่มีความเห็นเดียวกันกับโจวหมิ่นว่าจะไม่พูดเรื่ องที่ร่วมมือ
กันออกไป
เย่ฉูฉู่หนั สบตาโจวหมิ่นก่อนจะหัวเราะออกมา
ไม่ผิดหรอกที่คุณแม่เย่ไปหาคนพวกนั้นเพื่อโอ้อวด ก่อนหน้า
นี้ พวกเขาพูดเกี่ยวกับครอบครัวของนางเสี ย ๆ หาย ๆ ไปไม่
น้อย แทบอยากจะหัวเราะเยาะตระกูลเย่ของนางที่ภรรยาเจ้า
สามหนี ไป ตอนนี้ ลูกสะใภ้ที่เป็ นนักศึกษากลับมาแล้ว ทั้งยัง
รักเจ้าสามอย่างจริ งใจ ทาของอร่ อยให้เจ้าสามรับประทานทุก
วัน แค่เห็นก็รู้แล้วว่าต้องมีชีวติ ที่ดีแน่นอน
ดังนั้นวันนี้นางต้องมีเวลาว่าง หลังเก็บกวาดเรี ยบร้อยแล้ว ก็ใส่
ต่างหู ทองออกจากบ้าน ให้พวกป้ า ๆ กลุ่มนั้นอิจฉาตาร้อนไป
เลย!
เธอไม่ได้มีความหมายอื่น เพียงแค่อยากบอกจ้าวเหวินเทาว่า
หลังจากนี้ เธอก็ทางานหาเงินได้เช่ นกัน เขาเองจะได้ไม่ ตอ้ ง
ลาบากขนาดนั้นแล้ว
เย่ฉูฉู่เห็นการแสดงออกของเขาก็รู้แล้วว่าเขาคิดอะไร เธอจึง
กลอกตาใส่ พลางกล่าว “รอให้ฉันได้เงินเดี๋ยวคุณก็รู้” พี่สะใภ้
สามพอใจกับแบบร่ างเหล่านั้นจริ ง ๆ เธอก็ตอ้ งทาเงิ นได้อยู่
แล้วน่ะสิ ?
เขานาเงินที่ได้กลับมามอบให้ภรรยา
จ้าวเหวินเทาและพี่สามเย่หมิงเป่ ยทาการค้าขายอย่างมีชีวิตชี วา
ทาให้พวกพี่ชายและพี่สะใภ้ต่างก็เกิดความอยากจนยากที่จะ
อดทน
เงินที่เขาได้ในทุก ๆ วันมากกว่างานหัตถกรรมของพี่สะใภ้รอง
จ้าวและพี่สะใภ้สี่จา้ วเป็ นไหน ๆ
ภายในใจย่อมรู ้สึกไม่ดีเท่าไรนัก
“เลิกปวดใจได้แล้ว ใครใช้ให้พวกคุณไม่มีญาติดี ๆ กันล่ะ!” พี่
สี่ จา้ วรู ้สึกราคาญกับเสี ยงบ่นของพี่สะใภ้สี่ เขาจึงพูดอย่างไม่
สบอารมณ์
ทาเอาพี่สะใภ้สี่เกือบสาลักตาย พี่สะใภ้รองจ้าวที่เดินผ่านมาได้
ยิน ก็แอบกลอกตามองบนอยูใ่ นใจเช่นกัน
ญาติที่ร่ ารวยอย่างตระกูลเย่จะมีสักกี่คนกันเชียว?
พวกหล่อนทางานหนักด้วยความยากลาบากจะกินก็เสี ยดายจะ
ดื่ ม ก็เ สี ย ดาย แต่ ก ลับ ไม่ มี อ ะไรเลย พู ด มาสิ ว่ า สวรรค์ย งั มี
เหตุผลอยูห่ รื อเปล่า?
“ลอกเปลือกกัญชงอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน จะขายได้สักกี่ หยวนกัน
เชียว!” พี่สะใภ้รองจ้าวกลั้นใจเดินกลับเข้าบ้าน เมื่อเห็นพี่รอง
จ้าวนัง่ ลอกเปลือกต้นกัญชงอย่างขะมักเขม้นก็โกรธขึ้นมา
พี่สะใภ้รองจ้าวตื่นตระหนกอยู่ในใจ “คุณหวังพึ่งพื้นรองเท้า
แค่ไม่กี่ชิ้นนั้นของฉันเนี่ ยนะคะ นั่นมันจะขายได้สักกี่หยวน
กั น เชี ย ว? ไม่ ต ้ อ งพู ด ถึ ง น้ อ งสามี เ ล็ ก ที่ ไ ด้ ข ั บ รถสามล้อ
เครื่ องยนต์หรอก แม้แต่นอ้ งสามีสามก็ออกไปขายเต้าหู ท้ ุกวัน!
คุณล่ะ? ช่วยมีความคิดออกไปขายของสักหน่อยไม่ได้เลยหรื อ
ไง?”
พี่รองจ้าวพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “คุณพูดว่าขายอะไรงั้นเหรอ?
พวกเรามีอะไรให้ขาย? คุณพูดมาสิ ถ้าคุณพูดออกมาได้ว่าให้
ขายอะไร เราก็ขายอันนั้นแหละ!”
พี่สะใภ้รองจ้าวถึงกับสาลัก ขายอะไรงั้นเหรอ?
“คุณพอได้แล้วล่ะ!” พี่รองจ้าวมองหล่อนอย่างไม่สบอารมณ์
“รถเป็ นรถที่ ต ระกู ล เย่ อ อกเงิ น ซื้ อมา เจ้ า หกเองก็ ไ ด้
ผลประโยชน์จากทางฝั่งนั้นไปด้วย คุณจะให้ผมขึ้นไปขอส่ วน
แบ่งด้วยเนี่ยนะ? ผมต้องหน้าไม่อายขนาดไหนกัน!”
พี่รองจ้าวปฏิเสธในคราวเดียว
ถ้าหากพี่เขยของเขาเป็ นแบบนั้น เขาก็คงไปลองดูได้ แต่นี่เป็ น
พี่สามของภรรยาน้องชายเขา ลาดับญาติน้ ีห่างกันไม่รู้ต้ งั เท่าไร
อีกอย่างเขาเองก็ไม่มีอะไรเลย จะให้เขาเอ่ยปากอย่างไร้ยางอาย
ได้อย่างไรกัน?
พี่รองจ้าวเป็ นคนชอบคิดแทนคนอื่นมาก
พี่สะใภ้รองจ้าวหมดแรงที่จะโต้ตอบ หล่อนเองก็ลืมไปแล้วว่า
พรุ่ งนี้ ถึงคิวแปรรู ปข้าวของพวกหล่อนแล้ว การดาเนิ นการนี้
ใช้เวลาสองวัน หลังจากทางานเสร็จก็ยงั ต้องแช่ถวั่ อีก
“คิ ด ว่ า ผมไม่ รู้ เ หรอว่ า ต้อ งไปโรงโม่ เ พื่ อ โม่ แ ป้ ง ? แป้ ง ถั่ว
เหลืองที่โม่ออกมาจะเทียบได้กบั แป้ งจากโม่หินที่บดด้วยมือ
ได้ย งั ไง? มัน หนาขนาดไหนคุ ณ ไม่ รู้ เ หรอ?” พี่ ส ามจ้า วทั้ง
โมโหทั้งร้อนใจ “ ที่เต้าหู ข้ องพวกเราขายดิบขายดีกเ็ ป็ นเพราะ
บดกับมือ คุณเป็นบ้าอะไร เรื่ องเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่น้ ี ทาน้ ามัน
ดอกคาฝอยก็สิ้นเรื่ องไม่ใช่เหรอ? กว่าพวกเราจะหาเงินได้แบบ
นี้มนั ยากนะ เร็วเข้า ทุกอย่างเป็ นเงินเป็ นทอง!”
พี่สามจ้าวหยิบไม้กวาดขึ้นมาทาท่าจะทุบตีหล่อน “คุณคิดจะ
ต่อต้านเหรอ!”
พี่สะใภ้สามจ้าวเห็ นแบบนั้นจะทนได้อย่างไร? ยังไม่ ทนั ได้
แตะต้องตัวหล่อน หล่อนก็ร้องไห้ออกมาแล้ว และวิง่ ไปหาแม่
สามีท้ งั น้ าตาเพื่อให้ช่วยออกความเห็น
เมื่อกล่าวจบนางจึงเดินกลับห้องไปหาน้ ามันดอกคาฝอย
ในขณะนั้นเองพี่สามจ้าวก็เข้ามา เขามองไปยังพี่สะใภ้สามจ้าว
พลางกล่าว “คุ ณมาหลบตรงนี้ ก็ไม่มีประโยชน์หรอก ยังไงก็
ต้องไปบดถัว่ พวกนั้น!”
“แล้วทาไมแกไม่บดเอง?” แม่เฒ่าหยางกล่าว
พี่สามจ้าวยังจะกล่าวอะไรได้อีก?
เขานัง่ บนเก้าอี้อย่างโกรธเคืองไม่พูดไม่จา
เขาต้องตื่นนอนตอนตีสามกว่า ๆ ถึงบ่ายสองบ่ายสามเขาถึงจะ
ได้พกั ผ่อน ต้องทาแบบนี้ทุกวัน ถือว่านอนไม่พออย่างรุ นแรง
ไหนจะเสี ยดายอาหารไม่ยอมกินไม่ยอมดื่มอีก ไม่เหมือนกับ
ภรรยาของเจ้าหกที่ให้เจ้าหกกินเนื้ อปลากินเนื้ อหมูชิ้นใหญ่ ๆ
แบบนั้น ช่ วงนี้ พี่สามจ้าวทาเงิ นได้ก็จริ ง แต่ ร่างกายของเขา
กลับผอมซูบลง ทั้งยังอิดโรยจนหมดสภาพด้วย
พี่สะใภ้สามจ้าวกล่าว “เงินที่ได้มาเหล่าซานเป็นคนเก็บไว้ค่ะ
ฉันเองก็ไม่รู้วา่ ขายเต้าหูไ้ ด้เงินเท่าไร”
คุ ณ แม่ จ ้า วยืน อยู่ข ้า งลู ก สะใภ้ กล่ า วว่ า “ก็เ ธอมัน โง่ เธอดู
ครอบครัวคนอื่นสิ นอกจากครอบครัวของเธอแล้ว ครอบครัว
ที่เหลืออีกสามครอบครัวมีบา้ นไหนบ้างที่ไม่ให้ผูห้ ญิงเป็ นฝ่ าย
เก็บเงิ น? เขาได้เงินมาไม่ แม้แต่ จะบอกเธอ เธอจะทางานไป
ทาไม? บอกให้เขาทาเองไปเลย!”
หญิงชราที่เหลือต่างพยักหน้าเห็นพ้องต้องกัน
พี่สะใภ้สามจ้าวย่อมรู ้สึกซึ้งใจ
“แต่พูดกันตามตรงแล้ว เต้าหูท้ ี่ทาจากถัว่ เหลืองบดมือมันอร่ อย
และนุ่ มกว่าเต้าหู ท้ ี่แปรรู ปด้วยเครื่ องจักรเสี ยอีกนะ” แม่เฒ่าห
ยางกล่าวขึ้น
“ใช่ ฉันเคยกิ นที่ แปรรู ปมา” หญิ งชราอี กคนกล่ าว “มี คนมา
เยีย่ มฉันตอนไม่สบาย เลยให้เต้าหู ม้ าหนึ่งชิ้น กินเข้าไปก็รู้เลย
ว่าเป็ นของที่แปรรู ปมาจากเครื่ องจักร เต้าหู ้บดแบบหยาบ ๆ
แถมยังคั้นหนักเกินไปอีก ตอนกินทั้งหยาบทั้งแข็ง ไม่อร่ อย
เท่าที่บา้ นเราทาเลย”
พี่ ส ะใภ้ส ามจ้า วรู ้ สึ ก เหมื อ นไม่ ไ ด้รั บ ความเป็ นธรรม “เขา
ฉลาดขนาดนั้นย่อมคิดได้อยูแ่ ล้วค่ะ เพียงแต่เขาไม่ยอมทา”
“ทาไมถึงมีสองราคาล่ะ?” แขกประจามาเห็นจึงเอ่ยถาม
“ภรรยาผมแขนบวมจากการบดน่ะ ก็เลยบดได้ไม่เยอะเท่าก่อน
หน้านี้ ทาออกมาได้แค่น้ ี แหละ นี่ คือเต้าหู ้ที่ได้จากเครื่ องจักร
แปรรู ป ดังนั้นราคาจึงถูกกว่านิดหน่อย ส่ วนนี่คือที่บดด้วยมือ
ราคายังเท่าเดิม ผมทาธุ รกิจด้วยความจริ งใจ ไม่เคยหลอกลวง
ใคร ทาในสิ่ งที่ควรทา คุณอยากได้เต้าหู ้แบบไหนดีล่ะครับ?”
พี่สามจ้าวบอกกับลูกค้าประจาที่มาซื้อเต้าหู ้
อีกอย่างเต้าหูก้ ไ็ ม่ได้แย่จึงซื้อกลับไป
อย่าบอกว่าธุรกิจดีอย่างยิง่ และไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ
เมื่อกลับมาถึงจึงเห็นว่าพี่สะใภ้สามจ้าวยังคงนอนอยู่ จึงกล่าว
ว่า “เอาล่ะ คุณพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวผมจะทากับพวกเด็ก ๆ เอง”
จากนั้นจึงวางผลไม้กระป๋ องไว้ดา้ นข้างหล่อน
หล่อนเองก็ไม่อยากทาแล้ว ดังนั้นให้เขาทาเองเถอะ!
คิดไม่ถึงเลยว่าเขากลับมาวันนี้จะนาผลไม้กระป๋ องกลับมาให้
หล่อนรับประทานด้วย หล่อนจึงใจอ่อน
“พี่สะใภ้รองมาแล้ว” พี่สามจ้าวกล่าวพลางกระแอมเสี ยง
พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วมองเห็ น สภาพของน้ อ งสามี ส ามก็ ต กใจ
เล็กน้อย ไม่เห็นแค่ไม่กี่วนั เปลี่ยนไปถึงขั้นนี้แล้ว
หรื อว่าจะต้องเอาแป้งสาลีขาวไปให้สองถ้วยจริ ง ๆ?
พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วยิ้ม “พี่ ส ะใภ้ค นนี้ กลับมา น้อ งสะใภ้เ ล็ก ก็เ ลย
วิง่ แจ้นกลับไปบ้านแม่ ความสัมพันธ์ระหว่างลูกสะใภ้ดีขนาด
นี้เลยเหรอคะ?”
ถ้า หล่ อ นมี พี่ ส ะใภ้ที่ เ ป็ นนัก ศึ ก ษาสั ก คนหล่ อ นก็ยิน ดี ที่ จ ะ
กลับไปทุกวัน การได้มีโอกาสฟั งอีกฝ่ ายเล่าเรื่ องบางทีอาจจะ
เป็ นความโชคดีกไ็ ด้
เธอไม่ได้เอาของอย่างอื่นไป แต่นาเนื้อหมูสามชั้นไปหนึ่งเส้น
เธอจึงถือโอกาสนาเนื้อหมูสามชั้นไปเยีย่ มพี่สามจ้าว
พี่สะใภ้สามจ้าวออกมาจากห้องและเห็ นเย่ฉูฉู่ถือของมา จึ ง
กล่าวด้วยความตกใจ “น้องสะใภ้หก เธอทาอะไรเนี่ย? เอาเนื้อ
ชิ้นนี้มาทาไม!”
เย่ฉูฉู่ทาได้เพียงหัวเราะ เข้าไปพูดคุยกับพี่สามจ้าวไม่กี่คาก็เดิน
ออกไป เธอและพี่สะใภ้สี่จา้ วเป็ นเหมือนกัน น้องสะใภ้พูดกับ
พี่ชายของสามีมากเกินไปนับว่าไม่เหมาะไม่ควร
เย่ฉูฉู่พูดคุยกับพี่สะใภ้รองจ้าวข้างนอกห้องไม่กี่คา แต่จะว่าไป
แล้ว ไม่รู้ทาไมถึงได้รู้สึกคลื่นไส้นิดหน่อยกันนะ
“อุกก…” เย่ฉูฉู่เอามือกุมหน้าอกทาท่าทางจะอาเจียนออกมา
“น้องสามีหกไม่เป็นอะไรใช่ ไหม?” พี่สะใภ้สามจ้าวตกใจรี บ
กล่าวออกมา
“ไม่ เ ป็ นไร ๆ ฉั น แค่ รู้ สึ ก คลื่ น ไส้ นิ ด หน่ อ ยน่ ะ ค่ ะ ” เย่ ฉู ฉู่
ลูบหน้าอกพลางกล่าว
ตอนที่ 93 พีส่ ะใภ้ สี่จ้าวจอมอวด
“หา?” พี่สะใภ้สามจ้าวไม่เข้าใจ
เย่ฉูฉู่มึนงง “มีอะไรเหรอคะ?”
คาพูดของพี่สะใภ้สามจ้าวทาให้เย่ฉูฉู่รู้สึกตัว ดูเหมือนว่ารอบ
เดือนของเธอจะไม่มานานมากแล้วนะ?
หรื อว่าตัวเธอเองจะมีแล้วจริ ง ๆ?
จากนั้นหล่อนจึงหยิบเนื้อหมูสามชั้นที่เย่ฉูฉู่นามาให้ออกมาให้
เขาดู
เนื้อ?!
เธอเองก็ไม่ได้แน่ใจมากนัก
เย่ฉูฉู่ประหลาดใจ ป้าหลี่มาซื้อผักใบเขียว?
อย่ามองว่าจ้าวเหวินเทาจะซื้ อขายผักใบเขียวมานาน เพราะใน
หมู่บา้ นไม่มีใครซื้ อแม้แต่คนเดียว คนในหมู่บา้ นรับประทาน
ผักใบเขียวในช่ วงฤดู หนาวที่ไหนกันล่ะ? ถ้ามีเงินไปซื้ อเนื้ อ
หมูมารับประทานไม่ดีกว่าเหรอ!
ป้าหลี่ดีใจมากจนอดไม่ได้ที่จะพูดเพิ่มอีกสองสามประโยค “นี่
เป็นบัญชาสวรรค์เลยนะ ครั้งแรกก็ให้เด็กชายตัวอ้วนจ้ าม่ามา
ให้ฉนั แล้ว ในช่วงอยูเ่ ดือนนี้ ปากของหล่อนไม่รู้รสชาติเลย จึง
อยากกินผักใบเขียวสักหน่ อย ในหมู่บา้ นนี้ ก็มีแค่บา้ นของเธอ
นี่แหละที่จะมีผกั ใบเขียว”
“ได้เลยค่ะ คุณป้า คุณป้ารอสักครู่ นะเดี๋ยวฉันไปหยิบให้” เย่ฉูฉู่
หันหลังเดินกลับไปในห้องใต้ดิน หยิบแต่ละชนิดมาส่ วนหนึ่ง
ช่ ว งนี้ จ้า วเหวิ น เทาซื้ อ ผัก ใบเขี ย วมาน้ อ ย แต่ ก็ จ ะเก็ บ ไว้
รับประทานเองทุกครั้ง ผักที่เย่ฉูฉู่หยิบออกมาคือผักใบเขียวที่
เก็บไว้สาหรับรับประทานเอง
ป้าหลี่ถือตะกร้าผักใบเขียวเดินจากไป
ในขณะนั้นเองพี่สะใภ้สี่จา้ วก็ถือขวดโหลเดินออกมาจากลาน
บ้าน ถามว่า “น้องสะใภ้หก เธอคุยกับใครเหรอ?”
“พี่สะใภ้สี่ ถึงตอนนั้นพวกเราไปกินบะหมี่มงคลด้วยกันไหม
คะ? จะได้ไปแสดงความยินดีดว้ ย” เย่ฉูฉู่กล่าวอย่างสบาย ๆ
ตอนที่ 94 ท้ องแล้ว
เย่ฉูฉู่มองแผ่นหลังของพี่สะใภ้สี่จา้ วที่มีท่าทางกระฉับกระเฉง
แล้วได้แต่ส่ายหน้า แต่ก็หวังว่าพี่สะใภ้ของเธอจะได้ลู ก ชาย
จริ ง ๆ หวังว่าอีกฝ่ ายจะสมปรารถนา ไม่เช่ นนั้นลูกสาวสาม
คน…คงถูกหล่อนปฏิบตั ิอย่างเลวร้าย
จ้าวเหวินเทากลับมาตอนค่า ทั้งสองรับประทานอาหารอาบน้ า
เสร็ จแล้วจึงนอนบนเตียงเพื่อเตรี ยมตัวนอน เย่ฉูฉู่บอกเรื่ องที่
ตัว เองอาเจี ย นในตอนเช้า ให้ฟั ง บอกว่ า อยากไปหาหมอที่
มณฑลในวันพรุ่ งนี้
“หลังจากคลอดแล้วน่ะค่ะ” เย่ฉูฉู่ใจเย็นอย่างยิง่
“หา? ภรรยา แล้ว พวกเราจะทายัง ไงดี ล่ ะ ” จ้า วเหวิน เทาทา
ท่าทางราวกับว่าชีวติ ของเขาจบสิ้ นแล้ว
โจวหมิ่นกาลังวางแผนกลับไปนอนที่เตียง เมื่อเห็นเข้ากลับมา
อีกครั้ง จึงถามว่า “ทาไมถึงกลับมาล่ะคะ?”
เมื่อได้ยนิ โจวหมิ่นก็อิจฉาขึ้นมาทันที
เย่ฉูฉู่และจ้าวเหวินเทาต่างตั้งใจฟัง
“คุณอยากไปบ้านไหนล่ะ?” จ้าวเหวินเทาถาม
“ค่ะ” เย่ฉูฉู่พยักหน้าด้วยความเขินอาย
มาถึงแล้วก็ยอ่ มต้องอยากรับประทานอาหาร
ตอนเที่ยงพี่สาวใหญ่จา้ วจึงห่อเกี๊ยวสองแบบคือไส้เนื้อแกะกับ
ขึ้นฉ่ายและไส้ไข่กบั ผักใบเขียว
ไม่ เ หมื อ นลู ก สาวบ้า นอื่ น ที่ ต ้อ งท างานตั้ง แต่ เ ด็ก จนโต ได้
รั บ ประทานน้อ ยที่ สุ ด แต่ ท างานมากที่ สุ ด แต่ ง งานออกไป
ครอบครั ว ฝ่ ายหญิ ง ยัง ต้อ งให้สิ น เดิ ม เจ้า สาวด้ว ย หลัง จาก
แต่งงานแล้วยังต้องถูกสู บเลือดสู บเนื้อต่ออีก
เย่ฉูฉู่แย้มยิม้ ขณะฟัง
จากนั้นจึงพาภรรยาของเขาไปบ้านของพี่สาวห้า
“คุ ณแม่ ครั บ ทุ กอย่างเรี ยบร้ อยดี คุ ณแม่ กาลังจะเป็ นคุ ณยาย
แล้วนะครับ” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้
จ้าวเหวินเทากลับไปพร้อมกับไข่ไก่หนึ่งตะกร้า ส่ วนเย่หมิงเป่ ย
ก็หมุนตัวเดิ นกลับเข้าห้อง โจวหมิ่นกาลังอ่านหนังสื ออยู่ หลัง
กลับมาอยู่บา้ นหล่อนก็ยงั อ่านหนังสื ออยู่เสมอ ไม่ได้ละทิ้งการ
เรี ยน
ท้ายที่สุดแล้ว เขายังคงลาเอียงไปทางลูกสะใภ้คนเล็กมากกว่า
นิ ดหน่ อยอยู่ดี แต่จะโทษเขาก็ไม่ได้ เวลาที่ลูกสะใภ้คนเล็กมี
ของให้รับประทานก็จะเอามาให้พวกเขาทั้งสอง ก่อนหน้านี้
ตอนที่ทะเลาะกับครอบครัวของเจ้ารองที่ได้ยกเรื่ องเลี้ยงดูตอน
แก่ข้ ึนมา ลูกสะใภ้คนเล็กก็แสดงความเต็มใจที่จะเลี้ยงดู พวก
เขาทั้งคู่ให้อยูอ่ าศัยด้วยกัน ถึงเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่ภายใน
ใจจะรู ้สึกไม่โล่งอกได้อย่างไรกัน?
คุ ณ แม่ จ ้าวกล่ าวด้ว ยรอยยิ้ม “เรื่ อ งนี้ คุ ณ ไม่ ตอ้ งกังวลหรอก
ตอนที่เจ้าหกเอารถสามล้อเครื่ องยนต์ไปคืน แม่ของหล่อนยัง
บอกให้เอาไข่ไก่กลับมาอีกหนึ่งตะกร้าด้วยนะ”
คุณพ่อจ้าวพยักหน้า
พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วได้ยิน ดัง นั้น จึ ง กล่ า วทัน ที ว่ า “แค่ เ ริ่ ม ก็ส ร้ า ง
ปั ญหาแล้วเหรอเนี่ย? จะต้องเป็ นเด็กผูห้ ญิงแน่ ๆ เลย ตอนฉัน
ท้องซานหยากับซื่ อหยาก็สร้างปั ญหาให้ฉนั ไม่นอ้ ยเหมือนกัน
แต่ ค นนี้ นิ สั ย ดี ม าก ความอยากอาหารก็ดี ม ากด้ว ย ไม่ ส ร้ า ง
ปัญหาให้ฉนั สักนิดเลย!”
พี่สะใภ้สามจ้าวและพี่สะใภ้รองจ้าวต่างพูดไม่ออก พี่สะใภ้สี่
จ้าวอยากได้ลูกชายจนเป็ นบ้าไปแล้ว
พี่สะใภ้รองจ้าวหาข้ออ้างเพื่อปลีกตัวเดินออกไปก่อน พี่สะใภ้
สามจ้าวก็ไม่อยากเดินไปพร้อมกับพี่สะใภ้สี่จา้ วเช่นกัน
วันรับประทานบะหมี่มงคล*ต้อนรับลูกของหลี่เฉียจื่อได้ม าถึง
ในวันที่สาม
เย่ฉูฉู่และพี่สะใภ้รองจ้าววางของไว้บนโต๊ะห้องโถง จากนั้น
เดินเข้าไปในห้องทางทิศตะวันออกเพื่อเยีย่ มเด็กทารกแรกเกิด
เด็กน้อยที่นอนอยู่ดา้ นข้างแม่ม่ายหม่ายังคงหลับตานอนหลับ
อยู่ เด็กทารกแรกเกิดอายุสามวันดู น่าเกลี ยดเล็กน้อย แต่ก็ยงั
มองออกว่าเป็ นเด็กที่ตวั ใหญ่มาก
“โอ้ เด็กจ้ าม่าแบบนี้นี่หายากมากเลยนะคะ!” พี่สะใภ้สี่จา้ วจ้อง
มองตาไม่กะพริ บ จ้องตาเป็ นมันเกือบจะเข้าไปกอดแล้ว
พี่สะใภ้รองจ้าวถอนหายใจกล่าวว่า “ของเถี่ยต้านยังไม่ถึงห้า
ชัง่ เลย ตัวเล็กอย่างกับหนู เดี๋ยวพวกเธอก็ตามทันแล้ว”
พี่สะใภ้สี่จา้ วได้ยนิ พี่สะใภ้ท้ งั สองคุยกันเรื่ องลูกชาย ตัวเองไม่
มีลูกชาย มีเพียงลูกสาวสองคน จึงอึดอัดเล็กน้อย
งานเลี้ ย งแบบนี้ แต่ ม าร่ ว มด้ว ยก็พ อแล้ว อัน ที่ จ ริ ง เธอไม่ ได้
สนิ ทกับคนอื่ นๆ แต่ ถา้ เธอไม่ มา ก็จะถู กผูค้ นบอกว่าไม่ เ ข้า
สังคม หัวสู ง ดูถูกคน
มองแค่ ป ราดเดี ย ว พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วก็เ ข้า ใจได้ จึ ง กล่ า วด้ว ย
รอยยิ้ม “ที่แท้ก็คุณแม่นี่เอง ถึงได้เป็ นห่ วงลูกสาวของตัวเอง
เอาล่ะค่ะ พวกเรามาเยี่ยมเด็กแล้ว งั้นเราไปนั่งที่ห้องนั้น กัน
เถอะ”
แต่หล่อนก็ไม่ได้กล่าวออกมา
“หลี่เฉียจื่อคนนี้มีทุกอย่างเลยนะ”
“ฮ่า ๆ!”
ทุกคนต่างรับประทานไปพลางดื่มไปพลาง แล้วหัวข้อสนทนา
ก็ถูกเปิ ดออก พูดถึ งเรื่ องชี วิตความเป็ นอยู่ของหลี่ เ ฉี ยจื่ อ ว่า
ทาไมถึงดีขนาดนี้ ตัวเองก็ตอ้ งเรี ยนรู ้สักหน่ อย จากนั้นจึงพูด
ถึงเรื่ องลูกชาย
“แต่ สิ่ ง หนึ่ ง ที่ ค่ อ นข้า งแม่ น ย า คื อ ถ้า ท้อ งเด็ก ผูห้ ญิ ง จะดู น่ า
เกลียดมากเลยล่ะ”
พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าวจบจึงเบ้ปาก
พี่สะใภ้สามจ้าวพยักหน้า “ที่พูดมาก็ถูกนะคะ”
พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วกล่ า ว “ไม่ ต ้อ งพู ด เรื่ อ งอื่ น หรอก งานเลี้ ย ง
ของหลี่เฉียจื่อวันนี้ไม่มีที่ติเลยจริ ง ๆ”
พี่สะใภ้สามจ้าวพยักหน้า
เย่ฉูฉู่แย้มยิม้
“ลูกชายที่รัก หลังจากนี้แม่จะกินอาหารเสริ มให้ลูกเยอะ ๆ นะ
พวกเราจะแย่กว่าครอบครัวของหลี่ เฉี ยจื่อไม่ได้!” พี่สะใภ้สี่
จ้าวลูบท้องของตัวเองพลางกล่าวออกมาเช่นนี้
พี่สะใภ้รองจ้าวและพี่สะใภ้สามจ้าวไม่สนใจคาพูดเหล่านี้โดย
อัตโนมัติ
“อยู่ สิ ” เย่ ฉู ฉู่ ส วมรองเท้า ออกมา เมื่ อ เห็ น เฮ่ อ ซงจื อ จึ ง ยิ้ม
ต้อนรับและเชิญเข้ามาในห้อง “ข้างนอกหนาวแย่เลยสิ นะ?”
แม้ว่าเย่ฉูฉู่จะมีพี่สะใภ้ แต่เธอก็ไม่เคยถามประสบการณ์การ
ตั้ง ครรภ์เ หล่ า นี้ กับ พี่ ส ะใภ้ม าก่ อ น เมื่ อ ได้ยิน เฮ่ อ ซงจื อ พู ด
ขึ้นมาจึงถามไปว่า “เวลาเด็กถีบท้องรู ้สึกยังไงเหรอ? เจ็บหรื อ
เปล่า?”
เฮ่อซงจือขาพรื ด “พอมีลูกแล้วคาพูดคาจาก็ไม่เหมือนเมื่อก่อน
เลยนะ”
ก่อนอื่นต้องนาข้าวไปเข้าโรงโม่ก่อน จากนั้นจึงทาซาลาเปาไส้
ถัว่ ทาขนมเข่ง ทาเต้าหู ้ เชือดหมู ทาความสะอาดครั้งใหญ่ ซัก
เสื้ อผ้า ผึ่งผ้าห่มและอื่น ๆ ผูช้ าย ผูห้ ญิง คนชราและเด็ก ๆ ไม่มี
ใครว่างงานแม้แต่คนเดียว
“แม่ของฉันนึ่งอาหารแห้งให้พวกเราแล้วน่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าว
การตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสแรกถือเป็ นสิ่ งสาคัญมาก คุณแม่เย่
กังวลว่าลูกสาวจะเหนื่อย จึงจัดการเรื่ องเกี่ยวกับวันปี ใหม่น้ ี เอง
ถึงเวลานั้นนางก็จะให้ลูกเขยนากลับมา ถึงอย่างไรสองสามีคู่น้ ี
ก็คงรับประทานไม่มากเท่าไรนัก
“พี่สะใภ้สี่ของเธอท้องได้กี่เดือนแล้วล่ะ?” เฮ่อซงจือเอ่ยถาม
เย่ฉูฉู่เองก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ พี่สะใภ้สี่คนนี้ของเธอบอกกับ
คนอื่นไปทัว่ ว่าลูกชายในท้องหล่อนมีความอดทนและรั กแม่
ของเขามากขนาดไหน ไม่ได้พูดซ้ าไปซ้ ามาเลยสักนิ ด ปากดี
ขึ้นเยอะเลย
“ฉันรู ้ แต่พี่ชายทั้งสองคนของเหวินจื้อก็มีลูกชายเป็นคนแรก
กันทั้งนั้น พี่สะใภ้ท้ งั สองคนก็ยงั จับตามองดู อยู่ แม่สามีของ
ฉัน ยัง มาพู ด แบบนั้น อี ก จะไม่ ใ ห้ฉัน คิ ด มากได้ย งั ไงล่ ะ ?”
เฮ่อซงจือกล่าว
………………………………………………………………
ก่อนหน้านี้หล่อนไม่ได้มีความคิดนี้ ทั้งยังกังวลใจแทนเย่ฉูฉู่ที่
ต้องแยกบ้าน ถึงอย่างไรถ้าแยกบ้านออกไปหล่อนก็ตอ้ งจัดการ
เรื่ องต่างๆ เอง มีเรื่ องให้จดั การไม่นอ้ ยเลยจริ ง ๆ
ภายหลังหล่อนกลับพบว่าเย่ฉูฉู่ใช้ชีวิตได้ไม่เลวเลย มีชีวิตที่ดี
และเป็ นอิสระกว่าตอนที่ยงั ไม่แยกบ้านเสี ยอีก
เมื่ อ ได้ม องแม่ ม่ ายหม่ าอี ก ครั้ ง ก็พ บว่า ของที่ ค นในหมู่ บา้ น
นามาให้ ไม่ว่าจะรับประทานอะไร ดื่ มอะไรหรื อเก็บอะไรก็
ต้องฟั งที่แม่ม่ายหม่าบอก แม้แต่แม่สามีของแม่ม่ายหม่าก็ยงั
ต้องได้รับความยินยอมจากแม่ม่ายหม่าก่อนถึงจะนาไปได้
หล่อนจึงนึกถึงชีวิตของตัวเองในตอนนี้ มันไม่ได้ดีเหมือนกับ
ที่ตนเคยคิดไว้แบบนั้นเลย
“เธออยากแยกบ้านเหรอ?” เย่ฉูฉู่ถามออกไปตรง ๆ
“อยากสิ !” เฮ่อซงจือพยักหน้า
“ฉันเองก็อยากใช้ชีวิตอย่างอิสระเหมือนกับเธอ แถมไม่ตอ้ ง
ไปเบี ย ดเสี ย ดกับทุ ก คนด้ว ย อยากจะท าอะไรก็ไ ม่ ส ะดวก”
เฮ่อซงจืออดไม่ได้ที่จะรู ้สึกถึงความอยุติธรรม “ตอนที่ฉันอยู่
บ้าน ตอนเช้าไม่ได้นงั่ อยูบ่ นเตียงแค่แป๊ บเดียว ขาทั้งสองข้างก็
โดนความเย็นจนเป็ นหนองแล้ว ขาเย็นเจี๊ยบไปหมด”
เย่ฉูฉู่เองก็เข้าใจเฮ่อซงจือ
“เธอดูมือของเธอสิ แค่ดูก็รู้แล้วว่าพวกเราสองคนแตกต่างกัน
ชี วิต ของเธอต่ า งหากล่ ะ ที่ เ รี ย กว่ า ชี วิ ต แสนสบายไร้ ก ัง วล”
เฮ่อซงจือจ้องมองมือของเย่ฉูฉู่ก่อนจะถอนหายใจอีกครั้ง
เที ย บกับ ก่ อ นหน้า นี้ ที่ ท างานร่ ว มกัน ก็ท างานแบบไม่ ไ ด้มี
ความสุ ขเลย ได้รับประทานน้อยแต่ยงั ต้องทางานอย่างหนัก มี
สิ ทธิ์อะไรกัน?
แต่ตอนนี้ตอ้ งทากันเองแล้วไม่ใช่เหรอ? ทุกคนต่างก็ทางานกัน
ด้วยความกระตือรื อร้น เพราะต้องทางานของตัวเองแล้ว ย่อม
เกิดความรู ้สึกที่แตกต่างกัน
“ไม่ให้มีแล้วเหรอ?” เย่ฉูฉู่ขมวดคิ้ว
เย่ฉูฉู่กล่าวว่า “เขาจะมาสนใจว่ามีลูกกี่คนที่ไหนกันล่ะ?”
“ฉัน เองก็พู ด แบบนี้ เหมื อ นกัน แต่ เ หวิน จื้ อ บอกว่า จ านวน
ประชากรมีความสาคัญมาก ต้องควบคุม ถ้ามีมากเกินไปจะไม่
สามารถเลี้ยงชีพได้” เฮ่อซงจือส่ ายหน้าพลางกล่าว
………………………………………………………………