Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 1174

ตอนที่ 1 เงินจากการขายโสมป่ า

เย่ฉูฉู่คิดว่าตนเองสิ้ นลมลาลับโลกไปแล้ว

ถึงอย่างไรองค์ชายก็ไม่อยู่แล้ว นางจะใช้ชีวิตเพียงลาพัง
ไปเพื่ออันใด?

ชัว่ ชี วิตนี้ เป็ นเพราะองค์ชายที่มอบชี วิตที่สองให้แก่ นาง


ดังนั้นชีวติ ครึ่ งหลังของนางจึงอยูต่ ่อไปเพื่อองค์ชายเท่านั้น

บัดนี้องค์ชายได้จากไปแล้ว โลกใบเดิมที่เต็มไปด้วยสี สัน


ไม่ต่างอะไรกับโลกใบเดิมที่ขาดสี สันสาหรับนาง

ดังนั้นนางจึงพุ่งตัวโขกศีรษะกับโลงศพโดยไม่ลงั เลแม้แต่
น้อย
องค์ชายเพคะ บนเส้นทางสู่ ปรโลกยังมีฉูฉู่อยู่เป็ นเพื่อน
พระองค์ พระองค์จะไม่โดดเดี่ยวแล้ว นางคิดอย่างมีความสุ ข
ก่อนสิ้ นลม

แต่ความรู ้สึกนี้ช่างแปลกประหลาดเหลือคณา ทั้ง ๆ ที่นาง


รู ้สึกได้ว่าตนเองได้ตายไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ข้างหู
ของนางกลับได้ยนิ เสี ยงของผูค้ น

“ปกติเมียคนนี้เอาแต่ตะคอกใส่ ผมเสี ยงดังอย่างกับฟ้ าร้อง


คิดไม่ถึงเลยว่าจะใจเสาะยิง่ กว่ากระต่าย ท่อนไม้ยงั ไม่ทนั โดน
ตัว ผมเองก็ถูกทุ บแทนหล่ อนไปแล้ว แต่หล่อนดันตกใจจน
สลบไปซะงั้น” คนผูน้ ้ ีพูดอย่างรังเกียจ

“เหวินเทาเอ๊ย รี บไปเชิ ญแม่หมอหยางมาเร็ วเข้า!” นี่ เป็ น


เสี ยงของหญิงชราผูห้ นึ่ง
“แม่ ยังกล้าไปเรี ยกแม่มดเฒ่ามาอีกเหรอครับ ไม่รู้เหรอว่า
สถานการณ์ตอนนี้เป็ นยังไง ระวังหล่อนโดนลากลงไปแล้ว ถึง
เวลานั้นแม่เองก็อาจจะโดนร่ างแหไปด้วย” จ้าวเหวินเทากล่าว

“นี่มนั เรื่ องตั้งกี่ปีมาแล้ว? อีกอย่างตอนนี้จะจัดการกับเรื่ อง


นี้ยงั ไง ฉูฉู่ยงั ไม่ตื่นเลยนะ?” คุณแม่จา้ วพูด

“ก็ได้ ๆ นับว่าเป็ นหนี้ บุญคุ ณเมียคนนี้ จริ ง ๆ ผมจะแอบ


ไปแล้ว กัน นี่ ก็ย งั ไม่ เ ลิ ก งาน ไม่ พู ด ออกไปก็ค งไม่ มี ใ ครรู ้ ”
จ้าวเหวินเทากล่าว

เสี ยงฝี เท้าย่าเดินออกไป ดูเหมือนว่าจะออกไปเชิญแม่มด


เฒ่าที่เขาเอ่ยถึง

ฉูฉู่ได้สติกลับคืนมาหลังจากที่จา้ วเหวินเทาเดินออกไป

นางรู ้สึกว่าร่ างกายตนหนักอึ้งเป็นพิเศษ ราวกับถูกอะไร


กดทับไว้ จึงใช้พลังอย่างสุ ดความสามารถและค่อย ๆ ลืมตาตื่น
“โอ๊ยตายแล้ว ฉูฉู่ ในที่สุดเธอก็ฟ้ื นแล้ว เมื่อกี้เหวินเทาเพิ่ง
แบกเธอกลับมา แม่ตกใจแทบแย่!” คุณแม่จา้ วรี บพูด

เย่ฉูฉู่ชะงักขณะมองหญิงชราผูน้ ้ ี “เหวินเทา?”

ขอแค่เป็ นองค์ชาย นางล้วนคุน้ เคยและอ่อนไหวไปกับทุก


สิ่ ง รวมถึงคาว่าเหวินเทาที่แสนธรรมดาสองพยางค์น้ ีดว้ ย

ทุกครั้งที่เก็บพู่กนั และหมึกให้องค์ชาย นางมักจะลูบไล้


ตัวอักษรอันเป็ นพระนามที่องค์ชายเขียนไว้ดว้ ยจิตใจที่สดใส
เริ งร่ าอยูห่ ลายครา

ซึ่งตรงหัวกระดาษก็คือพระนามขององค์ชาย…เหวินเทา

แต่หลังจากที่นางเปล่งเสี ยง ‘เหวินเทา’ ออกมาสองพยางค์


สมองของนางพลันรู ้สึกเจ็บจี๊ด ความทรงจาที่ไม่ได้เป็ นของ
นางประดังประเดเข้ามา จนเย่ฉูฉู่ อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมากุม
ศีรษะด้วยความเจ็บปวด
สิ่ งนี้ทาให้คุณแม่จา้ วตกใจ นางรี บพูดขึ้น “ฉู ฉู่ไม่ตอ้ งกลัว
นะ ฉู ฉู่ไม่ ตอ้ งกลัว แม่ อยู่นี่ ปี นั้นแม่ หลอกปี ศาจที่ เข้ามาใน
หมู่บา้ นเข้าไปทาลายในป่ าแล้ว!”

แม้ว่า เย่ฉู ฉู่ จ ะรู ้ สึ ก ปวดหัว ทว่า สิ่ ง หนึ่ ง ได้ม าพร้ อ มกับ
ความทรงจาที่ผุดขึ้นมา ทาให้กลางอกของเย่ฉูฉู่กลับรู ้สึกราว
กับถูกอัดแน่นด้วยดอกไม้ที่เบ่งบาน

ตอนที่จา้ วเหวินเทาพาแม่หมอหยางมา เขาก็พบว่าภรรยา


ของตนกาลังนัง่ อยู่บนเตียงเตา ท่าทางดูเงอะงะ แค่เห็นเขาก็มี
น้ าตาไหลนองเต็มหน้า

“แม่หมอหยาง รี บร่ ายคาถาเร็ วเข้า แม่หมอดู ภรรยาผมสิ


วิญญาณไม่กลับเข้าร่ างแล้ว แถมยังตกใจจนอยูใ่ นสภาพนี้อีก!”
จ้าวเหวินเทาเห็ นท่ าทางภรรยาตัวเองแล้ว ใบหน้าก็พลันตึง
เครี ยดพลางเร่ งเร้าอย่างรี บร้อน
“ถูกต้อง ๆ รี บร่ ายคาถา ๆ!” คุ ณแม่จา้ วเองก็ตกใจเพราะ
ท่าทางของลูกสะใภ้เช่นกัน

หลังจากลื มตาขึ้ นมาได้ หล่ อนก็ปวดหัวแถมยัง ร้ อ งห่ ม


ร้องไห้ ไม่ปกติเลยสักนิด!

เกรงว่าคงจะสติหลุดไปแล้ว!

แม่หมอหยางรี บร่ ายคาถาโดยพลัน ในตอนท้ายยังออกไป


ดู ดา้ นนอกด้วย แต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะการปราบปรามปี ที่แล้ว
รุ นแรงเกินไป จึงแอบรู ้สึกหวาดกลัว!

เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครแล้วนางจึงแอบหยิบยันต์ออกมาหนึ่ง
แผ่น จุดไฟเผาแล้วโยนลงไปในถ้วยพร้อมกับเทน้ าใส่ ถว้ ย ใช้
นิ้ วมื อกวนให้เข้า กันและพูด ว่า “เหวินเทา เอานี่ ไปป้ อ นให้
ภรรยาเธอกินก็เรี ยบร้อยแล้วจ้ะ!”
จ้า วเหวิ น เทาติ ด ตามอย่ า งใกล้ชิ ด ทั้ง ยัง พู ด ปลอบใจ
“ภรรยา นี่คือน้ ามนต์นะ ดื่มเข้าไปก็ไม่เป็ นอะไรแล้ว”

เย่ ฉู ฉู่ ส ะดุ ้ง ขณะจ้อ งมองเขา อย่ า ว่ า แต่ อ งค์ ช ายป้ อ น


น้ ามนต์ให้นางเลย ต่อให้เป็นยาพิษ นางก็จะดื่มโดยไม่เสี ยใจ
ในภายหลังและไม่หนั หลังกลับด้วย!

ครั้นเห็นว่าเธอยอมดื่มแต่โดยดี จ้าวเหวินเทาจึงพูดกับเธอ
“ดีข้ ึนไหมครับ?”

เย่ฉูฉู่เห็นความห่ วงใยที่ฉายชัดอยูใ่ นดวงตาของเขา แม้ว่า


ภายในใจจะมีคาพูดมากมาย แต่นางเลือกที่จะกลืนมันลงไป
และไม่ ได้ถามออกไปในทันที เพียงแต่ พยักหน้า “ดี …ดี ข้ ึ น
มากแล้วค่ะ”

จ้าวเหวินเทาถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างเห็นได้ชดั
และพูดขึ้น “ดีแล้วล่ะ ดีแล้ว”
คุณแม่จา้ วเองก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเช่ นกัน นาง
หยิบเงินออกมาจากกระเป๋ าหนึ่งสตางค์แล้วยัดใส่ มือแม่หมอห
ยาง “อีกเดี๋ยวฉันจะเอาไข่ไก่ไปให้พี่นะจ๊ะ”

“ไม่ตอ้ ง ๆ หนุ่มสาวอย่างพวกเขาไม่เป็ นอะไรก็ดีแล้วล่ะ”


แม่หมอหยางกล่าว ขณะที่นางเองก็รู้สึกพึงพอใจกับพลานุ ภาพ
ของน้ ามนต์ตวั เองเช่นกัน

คุณแม่จา้ วจึงเดินนานางออกไปพูดคุยกันข้างนอก

ภายในห้องจึงเหลือแค่จา้ วเหวินเทาและเย่ฉูฉู่

เย่ฉูฉู่กะพริ บตาปริ บ ๆ ขณะจ้องมองจ้าวเหวินเทา นาง


แทบจะมองจ้าวเหวินเทาด้วยสายตาราวกับหิวโหย

นี่คือองค์ชายที่มีร่างกายแข็งแรง

นางไม่เคยเห็นองค์ชายดู มีชีวิตชี วาแบบนี้ มาก่อน ชาติที่


แล้วหลังจากที่องค์ชายได้รับพิษ ร่ างกายก็อ่อนแอมาโดยตลอด
ถ้วยยาขนาบข้างซ้ายขวาไม่ห่างตัว เจ็บป่ วยกระเสาะกระแสะ
จนแม้แต่ผวิ พรรณก็ดูขาวซีด

ต่างจากชาติน้ ี ที่ท้ งั ร่ างกายและใบหน้ามีสีดุจดัง่ ข้าวสาลีก็


ไม่ปาน

อีกทั้งทัว่ ร่ างกายยังเปี่ ยมด้วยพลังและความแข็งแกร่ ง

ที่สาคัญคือตอนนี้เขาชะโงกหน้าเข้ามาด้วย การที่บุรุษผูน้ ้ ี
ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ทาให้นางเขินอายเสี ยจนใบหน้าแดงก่า เขา
ลูบหน้าผากของนางพลางมองด้วยความห่ วงใยผ่านสายตาคู่
นั้น

เย่ฉูฉู่หัวใจพองโต อันที่จริ งนางไม่เคยคิดเลยว่าชัว่ ชีวิตนี้


จะได้เจอกับองค์ชายอีกครั้ง

นางคิ ดมาโดยตลอดว่าโชคชะตาของตัวเองช่ างเลวร้าย


ไม่เช่นนั้นนางจะมีบิดาแบบนั้นได้อย่างไรกัน?
แต่วนั นี้ นางรู ้สึกได้จริ ง ๆ ว่านางเป็ นคนที่โชคดี ที่สุดใน
โลก

แม้กระทัง่ ชีวติ นี้นางยังได้มาเจอกับองค์ชาย

ทั้งยังเป็ นชายาขององค์ชาย คาที่ คนที่ นี่ใช้เรี ยกกันก็คือ


ภรรยา

นางกลายเป็ นภรรยาขององค์ช ายแล้ว เรื่ อ งนี้ ท าให้ฉู ฉู่


แก้มแดงปลัง่ อย่างห้ามไม่อยู่ ดวงตาของนางชุ่มชื้นและพร่ ามัว
มากยิง่ ขึ้น นางกาลังตกอยูใ่ นภวังค์แห่งความสุ ข

ทว่าจ้าวเหวินเทากลับขนลุกชันเพราะสายตาหวานเชื่ อม
ของภรรยาตนเอง แม้ว่าเพิ่งจะแต่งงานกันได้สามเดือน แต่อย่า
ใช้สายตาแบบนี้มองเขาเลยได้ไหม?

อี กอย่างหนึ่ ง เธอเคยใช้สายตาแบบนี้ มองเขาที่ ไหนกัน


ล่ะ? เป็ นไปได้ไหมที่ประสิ ทธิผลของน้ ามนต์จะไม่ค่อยดี?
ดังนั้นสมองจึงยังไม่เข้าที่เข้าทาง?

“คุณ…คุณมีอะไรอยากจะพูดกับฉันไหมคะ?” ได้เจอกับ
องค์ชายอี กครั้ ง เย่ฉูฉู่จึงตื่ นเต้นจนแทบทนไม่ ไหว แต่ ก็อด
ไม่ได้ที่จะเอ่ยปากพูดออกไปเบา ๆ

นางอยากให้องค์ชายพูดคุยกับนางจริ ง ๆ นะ

น้ าเสี ยงนั้นฟั งดู อ่อนโยน แต่กลับทาให้จา้ วเหวินเทาตัว


สั่นเทิ้ม

ภรรยาที่เป็ นแม่เสื อแก่ของเขาไม่ตะคอกใส่ กน็ บั ว่าดีถมเถ


แล้ว แต่ยงั พูดกับเขาด้วยน้ าเสี ยงแบบนี้อีกเนี่ยนะ?

ขณะที่กาลังตกตะลึงอยู่น้ นั จ้าวเหวินเทาก็พลันนึ กอะไร


ขึ้นได้ เขารี บกระซิ บ “ภรรยา คุณไม่ตอ้ งห่ วงนะ เงินที่พวกเรา
สองคนขายโสมป่ าน่ ะผมเก็บไว้อย่างดี เลย ไม่ได้ถูกพวกมัน
แย่งไป แล้วก็ไม่ได้หายไปแม้แต่แดงเดียวด้วย คุณนัง่ บนเตียง
เตาไปก่อนนะ รอให้แม่ของพวกเราไปแล้วผมจะไปหยิบมาให้
คุณ!”

.
ตอนที่ 2 อ่อนปวกเปี ยก

จะว่าไปแล้วที่เย่ฉูฉู่สลบไปในครั้งนี้ สาเหตุก็เป็ นเพราะ


โสมป่ าที่จา้ วเหวินเทาพูดถึงนี่แหละ

นี่ คือสิ่ งที่จา้ วเหวินเทาพบบนภูเขาโดยบังเอิ ญ เขาจึงขุด


ออกมา ครั้นนากลับมาที่บา้ นให้เจ้าของร่ างเดิมดู เจ้าของร่ าง
เดิมเห็นก็ดีใจจนปลื้มปริ่ ม

ทั้งสองคนพลันแอบคานวณราคากันอย่างเงียบ ๆ

เดิมทีวนั นี้ ตอ้ งออกไปทางาน แต่เจ้าของร่ างเดิมแสร้งทา


เป็ นไม่ สบายท้อง บางที อาจจะตั้งครรภ์แล้ว จึ งอยากเข้าไป
ตรวจในตัวเมืองสักหน่อย!

ตอนนี้เป็ นช่วงเดือนสิ งหาคมแล้ว อีกไม่นานก็จะเริ่ มเข้าสู่


การเก็บเกี่ยวในช่ วงฤดู ใบไม้ร่วง หัวหน้าหมู่บา้ นก็รังเกียจที่
สองสามีภรรยาคู่น้ ีข้ ีเกียจตัวเป็ นขน จึงออกใบรับรองให้พร้อม
กาชับให้รีบไปรี บกลับ อย่าให้การเก็บเกี่ยวช่ วงฤดูใบไม้ร่วง
เกิดความล่าช้า!

แต่เป็ นเพราะไม่มีเกวียนลาเกวียนวัวไปด้วย หากต้องออก


แรงเดินด้วยเท้าเปล่าคงไม่ได้เร็ วขนาดนั้น สองสามีภรรยาจึง
เดินทางกันตั้งแต่รุ่งสาง เดินเท้ามาถึงในเมืองก็เป็ นเวลาเก้าโมง
กว่าแล้ว

แต่ไม่วา่ ระยะทางจะไกลเพียงใด ทว่าพวกเขาทั้งสองต่างก็


ยังรู ้สึกตื่นเต้นจนใจสัน่ อยูด่ ี

จ้าวเหวินเทานาโสมป่ าไปขายที่ตลาดมืด หลังจากต่อรอง


ราคากันไปได้สักพัก ท้ายที่ สุดจึ งขายออกไปได้ในราคา 31
หยวน ไม่ได้มีแค่เท่านี้ เขายังขอคูปองข้าว คูปองเนื้อและคูปอง
อื่น ๆ ด้วย หลังจากได้เงินแล้วสองสามีภรรยาจึงเข้าไปด้านใน
ร้านอาหาร เพื่อรับประทานเกี๊ยวหมูกยุ ช่ายไปหนึ่งมื้อ
ไม่ ตอ้ งพูดถึ งเรื่ องรสชาติ เลย เมื่ อใดที่ นึกถึ งก็มีอนั ต้อ ง
น้ าลายสอทุกที

นอกจากนี้ ก็ไม่ได้มีแค่เกี๊ยวหมูกุยช่ ายเท่านั้น พวกเขายัง


ซื้ อแผ่นไข่ทอดอี กสองสามแผ่นมากิ นระหว่างเดิ นทางกลับ
บ้านด้วย

สองสามีภรรยาวางแผนไว้อย่างดิบดี ระหว่างกลับบ้านก็
กินแผ่นไข่ทอดไปพลาง ๆ โดยไม่คิดจะเจียดเงินนี้ไปให้กบั รถ
สาธารณะ เพราะอยากใช้เวลาอยูใ่ นเมืองที่นาน ๆ ทีถึงจะได้มา
สักหน่อย

แต่ระหว่างทางกลับบ้าน ดันถูกปล้นกลางทางเสี ย อย่าง


นั้น

ด้านหน้าพวกเขา เพิ่งจะมีสหายหญิงคนหนึ่งถูกปล้นกลาง
ทาง เขาจึงเห็นว่าโดยพื้นฐานแล้วพวกเขาคงหนี ไม่พน้ เขาวิง่
หนีทนั ก็จริ ง แต่ภรรยาของเขาวิง่ หนีอีกฝ่ ายไม่ทนั แน่นอน
จ้าวเหวินเทาจะทาอะไรได้อีก? ก็ตอ้ งต่อสู ้น่ะสิ !

เรื่ องต่อสู ้ในวัยเด็กไม่ใช่ เรื่ องที่ดี แต่เขาก็สู้กบั คนอื่นใน


หมู่ บ้า นไปไม่ น้อ ย ไม่ ต ้อ งพู ด ถึ ง ในหมู่ บ้า นหรอก แม้แ ต่
หมู่บา้ นข้าง ๆ ของหมู่บา้ นข้าง ๆ เขาก็เคยสู ้แบบโดนรุ มหมู่
มาแล้ว

ดังนั้นต่อให้อีกฝ่ ายมี 3-4 คน แต่จา้ วเหวินเทาก็เลือกที่จะ


ทามันอยูด่ ี!

กระบวนการนี้ขอไม่พูดเยิน่ เย้อก็แล้วกัน แต่ตอนที่อีกฝ่ าย


กาลังจะหวดไม้เข้าใส่ เจ้าของร่ างเดิ ม จ้าวเหวินเทาก็ใช้ห ลัง
ของตัวเองรับไม้น้ ีไว้

แต่ถึงแม้ว่าจะเป็ นเช่นนี้ เจ้าของร่ างเดิมก็ยงั ตกใจจนสลบ


เหมือดอยูด่ ี
ในเวลานี้ เอง ผูช้ ายและสหายของหญิ งสาวผูร้ ่ วมชะตา
กรรมถูกปล้นกลางทางก็ขี่รถจักรยานกาลังจะกลับบ้านผ่านมา
ทางนี้ พอดี หลังจากตะโกนไล่เสี ยงเกรี้ ยวกราด โจรกลุ่มนั้นก็
วิง่ เตลิดไป

สามีของหญิงสาวร่ วมชะตากรรมคนนั้นมาส่ งพวกเขาที่


บ้าน ทั้งยังพูดว่าพรุ่ งนี้ จะเข้ามาขอบคุ ณถึ งหน้า ประตู อ ย่า ง
จริ งจังอีกครั้ง

นี่คือเรื่ องที่เกิดขึ้นในวันนี้

เย่ฉูฉู่เองก็เพิ่งนึ กขึ้นได้ พลันพูดว่า “ฉันขอดูหลังของคุณ


หน่อยค่ะ”

จ้าวเหวินเทาพูดด้วยท่าทางสบาย ๆ “ผมไม่เป็ นไร ตอน


เด็ก ๆ ก็ถู ก พ่ อ ใช้ไม้ฟาดไปไม่ น้อ ย ใช่ ว่า จะไม่ เ คยถู กตี สัก
หน่อย”
พอพูดอย่างนี้ ออกไป เขาก็พบว่าภรรยาของตัวเองมีขอบ
ตาแดงก่า ทั้งยังมีน้ าตาไหลออกมาด้วย

จ้าวเหวินเทาตกใจจนสะดุ ง้ โหยง ภรรยาที่ดูเหมือนแมว


เหมียวคนนี้ยงั เป็ นแม่เสื อแก่ของเขาอยูห่ รื อเปล่าเนี่ย?

เขาจะรู ้ได้อย่างไรว่าเย่ฉูฉู่เจ็บปวดหัวใจเพราะได้ยนิ คาพูด


นั้นของเขา

เย่ฉูฉู่ได้รับความทรงจามาแล้ว ย่อมรู ้ดีว่าครอบครัวของ


พวกเขามีสถานะยากจน และมีเงินไม่มากเท่าไรนัก กินอิ่มสัก
เจ็ดส่ วนก็นบั ว่าดีมากแล้ว

สามีของนางรับประทานแต่โจ๊กปี้ จิง*เท่านั้น อาหารชั้น


เลิ ศจากทะเลหรื อภู เขาก็ไม่ ทาให้เขารั บประทานมากขึ้ นอี ก
หนึ่ งคาได้ ชาติน้ ี เขากลับได้จุติมาอยู่ในครอบครัวที่แร้นแค้น
เช่นนี้
* ปี้ จิง (碧粳) คือข้าวคุณภาพสู ง

“คุณอย่าร้องไห้สิ ผมทาให้คุณกลัวสิ นะ ได้ ๆๆ ผมให้คุณ


ดูแล้วตกลงไหม” ระหว่างที่จา้ วเหวินเทาพูด เขาก็ถอดเสื้ อออก
และหันหลังให้

การกระทาอย่างฉับพลันของเขาทาให้เย่ฉูฉู่ตกตะลึง เดิมที
นางคิดจะหลับตาด้วยใบหน้าแดงก่าเพราะความเขินอาย แต่
นางกลับเห็นรอยแผลถูกฟาดที่แผ่นหลังของเขาเสี ยก่อน

จากนั้นจ้าวเหวินเทาก็ได้ยินเสี ยงร้องไห้สะอึกสะอื้นของ
หญิงสาวที่อยูด่ า้ นหลัง

“เรามี อะไรก็คุยกันดี ๆ สิ ครั บ อย่าเอาแต่ ร้องไห้แบบนี้


เลย” จ้าวเหวินเทากล่าวอย่างจนใจ

“ที่ คุ ณ ถู ก ทุ บ ตี ก็ เ ป็ นเพราะปกป้ อ งฉั น ” เย่ ฉู ฉู่ พู ด ด้ว ย


น้ าเสี ยงสะอึกสะอื้น
นางไม่ สนใจว่าตนเองจะเป็ นวิญญาณโดดเดี่ ยวที่ เข้ามา
ครอบครองร่ างนี้หรื อไม่ นางคิดแต่ว่าตนเองคือเย่ฉูฉู่ในชาติน้ ี
แล้ว ใครใช้ให้แม้แต่ชื่อก็ยงั เหมือนกันล่ะ?

องค์ ช ายก็ เ ช่ น กัน นางจึ ง คิ ด ว่ า นี่ คื อ ภพก่ อ นและภพ


ปัจจุบนั ของนางและเขา

เพียงแต่ ความทรงจาในอดี ตชาติ ของนางถู กปลุ กให้ตื่น


เพราะไม้ที่ยงั ไม่หวดลงมาบนร่ างกายของนาง ส่ วนองค์ชาย
นั้นยังคงจาอะไรไม่ได้

จ้าวเหวินเทาได้ยินก็หัวเราะออกมาและพูดว่า “คุ ณเป็ น


ผูห้ ญิงนะ ผมจะยืนดูคุณถูกคนอื่นทุบตีต่อหน้าต่อตาได้ยงั ไง
กัน? ผมน่ะหนังเหนียวอยูแ่ ล้ว จะทุบก็ทุบไปเถอะ”

อันที่จริ งวันนี้เขาก็โดนทุบตีไปไม่นอ้ ย ทว่าสองหมัดยาก


ต้านทานสี่ ฝ่ามือ คนหนึ่ งคนจะสู ้กบั คนสี่ คนได้อย่างไร? แต่
มันก็ช่วยไม่ได้ ในเมื่อมีเงินอยูก่ บั ตัวแล้ว เขาก็ตอ้ งสู ้กลับสิ
ไม่เช่นนั้นหากเขาถูกขโมยเงินไป มันก็ไม่ต่างจากการหัน่
เนื้อเขาเลย

เย่ฉูฉู่ซาบซึ้งใจเมื่อได้ยนิ คาพูดนี้ ในใจมีคาพูดนับพัน ทว่า


กลัน่ ออกมาเป็ นหนึ่งประโยคในท้ายที่สุด “หลังจากนี้ฉนั จะใช้
ชีวติ อยูก่ บั คุณอย่างมีความสุ ขดีไหมคะ?”

“ผมไม่กล้าหวังที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุ ขหรอก คุณอย่า


เอาแต่สั่งให้ผมไปทางานก็พอ” จ้าวเหวินเทาพูด

“ในเมื่ อ ต้อ งทางานยากล าบากขนาดนั้น หลัง จากนี้ ฉัน


ออกไปทาก็ได้ค่ะ แล้วให้คุณพักผ่อนอยูท่ ี่บา้ น!” เย่ฉูฉู่พูดขณะ
ก้าวลงจากเตียงเตา

จ้าวเหวินเทาจ้องมองเธอมากขึ้น

“ที่ บ ้า นยัง มี ย าดองอยู่ไ หมคะ?” เย่ฉู ฉู่ ม องซ้า ยมองขวา


ขณะเอ่ยถาม
“คุณพ่อยังมีอยู่ แต่ใครเขาใช้ยาดองเช็ดกันล่ะครับ” จ้าวเห
วินเทาพูด

ในเวลานี้เอง คุณแม่จา้ วก็เดินเข้ามาจากด้านนอก ทั้งยังมา


พร้อมกับยาดองที่หยิบมาจากลานหน้าบ้าน

“ขอบคุ ณมากค่ะ…คุ ณแม่” ครั้นเย่ฉูฉู่เห็นยาดองแบบนี้


นางจึงพูดอย่างมีความสุ ข

“เช็ดให้เหวินเทาดี ๆ นะ แม่จะไปเตรี ยมอาหารค่ าก่ อน


ทุ ก คนก าลัง จะเลิ ก งานกลั บ มากัน แล้ ว ” คุ ณ แม่ จ ้า วเห็ น
ลูกสะใภ้มีอาการดีข้ ึนแล้ว จึงพูดด้วยรอยยิม้

เดิ มทีเย่ฉูฉู่อยากจะพูดว่าช่ วยทาอาหารบารุ งให้สามีนาง


สักหน่อย แต่เมื่อนึกถึงสถานะทางบ้านในตอนนี้ นางจึงทาได้
เพียงแค่ตอบไปว่า “ค่ะ”
คุ ณแม่จา้ วออกไปแล้ว เย่ฉู่ฉู่จึงเริ่ มใช้ยาดองเช็ดแผลให้
จ้าวเหวินเทา

เมื่ อมื อของนางเช็ดลงบนผิวหนังบนแผ่นหลังของสามี


ใบหน้าพลันแดงระเรื่ อขึ้น ทว่านัยน์ตากลับฉายแววเจ็บปวด
รวดร้าว

จ้าวเหวินเทามองไม่ เห็ นขณะที่ นางเช็ดแผ่นหลังให้ แต่


เมื่อเช็ดมาที่แขนของเขา เขาจึงมองเห็นท่าทางเจ็บปวดใจของ
ภรรยาตนเอง

จ้าวเหวินเทาแอบแค่นเสี ยงในใจ ก็แค่เข้าไปรับไม้แทน


เธอครั้งเดียว ผูช้ ายทุกคนก็ตอ้ งทาแบบนั้นกันทั้งนั้น แต่เขาคิด
ไม่ถึงว่ามันจะทาให้สิงโตเหอตง*ซาบซึ้ งใจจนกลายเป็ นคน
อ่อนโยน

*คาที่ใช้เรี ยกแทนภรรยาผูด้ ุร้าย


ที่สาคัญก็คือ ความรู ้สึกนี้กไ็ ม่เลวเลย

หลังจากที่เย่ฉูฉู่เช็ดยาดองให้เขาเรี ยบร้อยแล้ว จ้าวเหวินเทา


จึงกระโดดลงจากเตียงอย่างว่องไว จากนั้นหยิบเงินที่ได้จากการ
ขายโสมป่ าในวันนี้ออกมาจากด้านในตู ้

ไม่ เพียงแต่ เงิ นเท่ านั้น แต่ ยงั มี คูปองด้วย แม้ว่าจะไม่ ได้
มากมายอะไร แต่กน็ บั ว่าไม่นอ้ ยเลย

“ภรรยา หากหักค่าใช้จ่ายที่พวกเราใช้ไปตอนที่อยูใ่ นเมือง


วันนี้ เราก็มีเงินเหลืออยูส่ ามสิ บหยวนยีส่ ิ บสามเหมา ส่ วนอันนี้
คือคูปองเนื้อ คูปองข้าว แล้วก็คูปองน้ าตาลทรายแดง ทั้งหมด
คือของล้ าค่า ผมให้คุณเก็บไว้ท้ งั หมดเลยครับ” จ้าวเหวินเทาลง
มือนับอีกครั้งพลางกระซิบบอก

“แล้ ว ไม่ ใ ห้ แ ม่ ข องพวกเราเหรอคะ?” เย่ ฉู ฉู่ พู ด ด้ ว ย


ความรู ้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
ตอนที่ 3 ภรรยาทีร่ ู้ ร้อนรู้ หนาว

“จะไม่ ใ ห้ แ ม่ ข องพวกเราเหรอคะ?” เย่ ฉูฉู่ พู ด ด้ ว ย


ความรู ้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรนัก

จ้าวเหวินเทามองเธอด้วยสี หน้า ‘สมองของคุณไม่ได้ถูก


เผาไปใช่ไหม’ อย่างฉับพลัน “ครอบครัวของพวกเรายังไม่ได้
แยกบ้านเลยนะ ขืนให้แม่ของพวกเรา เราก็ตอ้ งให้พี่สะใภ้รอง
พี่สะใภ้สาม และพี่สะใภ้สี่ดว้ ย คุ ณยอมได้เหรอ? วัน ๆ พวก
หล่อนก็เอาแต่พูดค่อนแคะว่าพวกเราเอาแต่กินไม่ยอมทางาน
ตั้งหลายครั้ง ทาไมต้องแบ่งให้คนพวกนั้นด้วย?”

ตระกูลจ้าวเป็ นครอบครัวใหญ่ คุณพ่อจ้าวและคุณแม่จา้ ว


ก็ยงั อยู่

พวกเขาทั้งสองให้กาเนิดลูกสาวสองคนและลูกชายสี่ คน
แน่ น อนว่า ลู ก สาวคนโตต้อ งออกเรื อ นไปนานแล้ว ที่
เหลือก็คือพี่ชายรอง พี่ชายสาม แล้วก็พี่ชายสี่ ทั้งสามคนเป็น
ลูกชายทั้งหมด จนมาถึงพี่สาวห้านี่ แหละถึงจะเป็ นลูกสาวอีก
คน

ทุกคนล้วนเกิดก่อนจ้าวเหวินเทา จนมาถึงคนสุ ดท้าย ก็


คือลูกชายอย่างจ้าวเหวินเทาผูน้ ้ ี และเป็ นลูกชายคนสุ ดท้องสม
ชื่อ

คาโบราณกล่าวไว้วา่ จักรพรรดิรักลูกชายคนโต ชาวบ้าน


ชอบลูกชายคนเล็ก

จ้า วเหวิน เทาที่ เ ป็ นลู กคนสุ ด ท้อ งถู กประคบประหงม


ตั้ง แต่ เ ล็ก จนโต ใครใช้ใ ห้เ ขาเป็ นน้อ งเล็ก สุ ด กัน ล่ ะ ? เป็ น
เพราะมีพี่ชายและพี่สาวคอยดูแลออกหน้าให้เสมอ จึงไม่ตอ้ ง
ทาอะไรในบ้านเลย
งานการไม่ทายังพอทน ตอนกินข้าวเขาก็เป็นคนที่ได้กิน
ของดีและกินอิ่มที่สุด

ตอนที่ครอบครัวของพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ดว้ ยกันมันก็ดีอยู่
หรอก แต่ ห ลัง จากที่ ลู ก สะใภ้เ ข้า มาอยู่ ในบ้า นก็ ย่ อ มไม่
เหมือนเดิมอีกต่อไป

พี่สะใภ้รองจ้าวแต่งเข้าบ้านเป็นคนแรก จากนั้นพี่สะใภ้
สามจ้าวและพี่สะใภ้สี่จา้ วก็ยา้ ยตามเข้ามา ครั้นเหล่าพี่สะใภ้
แต่ ง เข้า มาอยู่ ใ นบ้า นแล้ว เดิ ม ที จ ้า วเหวิ น เทาก็ ย ัง รู ้ สึ ก มี
ความสุ ขเป็ นอย่างมาก

คิดว่าหลังจากที่เหล่าพี่สะใภ้แต่งเข้ามาอยูใ่ นบ้านแล้ว คง
ช่ ว ยพวกพี่ ช ายประคบประหงมเขา ก็เ ท่ า กับว่า มี พี่ ส าวเพิ่ ม
ขึ้นมาอีกสามคน

แต่ความเป็ นจริ งกลับตบหน้าเขาฉาดใหญ่


เดิ ม ที เ ขาหวัง ไว้ว่ า เมื่ อ พวกหล่ อ นแต่ ง เข้า มาอยู่ ใ น
ครอบครัวแล้วจะดูแลน้องสามีอย่างเขา เยีย่ มเลย พอแต่งเข้ามา
อยูใ่ นบ้าน พี่ชายทั้งสามของเขาก็เปลี่ยนไป

เขาเคยบังเอิญได้ยิน ไม่ใช่ ว่าจงใจแอบฟั งนะ แค่บงั เอิญ


ได้ยินพี่สะใภ้สี่แอบลากพี่สะใภ้รองไปคุ ยซุ บซิ บเกี่ยวกับเขา
ในทางที่ไม่ดี

พู ด ว่ า ผลประโยชน์ ท้ ั งหมดในบ้ า นถูกน้ อ งสามี


ครอบครองจนหมด นี่มนั ลาขี้เกียจตัวหนึ่งชัด ๆ งานการไม่ทา
สักอย่างแต่เรื่ องกินนี่ที่หนึ่ง

เขายังคิดว่าพี่สะใภ้รองคงช่ วยพูดแก้ต่างให้เขา โต้ตอบ


พี่สะใภ้สี่ไปสักสองประโยค แต่เขากลับได้ยนิ พี่สะใภ้รองเออ
ออเห็นด้วย ทั้งยังพูดว่าพ่อแม่ของเขาลาเอียง ลาเอียงมาทางเขา
เพียงคนเดียว!
อีกอย่างนี่กไ็ ม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่ได้ยนิ พี่สะใภ้รองแอบพูด
กับพี่รองของเขา พี่สะใภ้สามก็เคยพูดกับพี่สามของเขา เรื่ องที่
พี่สามรังเกียจเขามาก เขาเองก็ได้ยนิ ทั้งหมดนัน่ แหละ

ต่อหน้าก็ทาเป็นเกรงอกเกรงใจ แต่ลบั หลังมีมีดซ่ อนอยู่


กันทั้งนั้น เหล่าพี่สะใภ้และพวกพี่ชายเหล่านี้ ทาให้เขาผิดหวัง
จนเจ็บปวดหัวใจ!

ก่อนหน้านี้ ไม่เคยเรี ยกใช้ให้เขาไปทางาน หลังจากพวก


พี่สะใภ้เข้ามาอยูใ่ นบ้าน ก็เหมือนถูกกระตุน้ ขึ้นมา เรี ยกใช้เขา
ตั้งหลายครั้ง!

จ้าวเหวินเทาคิดว่าหัวใจของตัวเองคงแหลกสลายไปแล้ว

โชคดี ที่ครอบครั วของเขาเคยยากจนมาก่ อน เขาจึ งพา


หลานชายออกไปหาอาหารทุกวัน ครั้นคนช่ างกินแบบเขาไป
เจอไข่นกด้านนอกก็ไม่เคยกินหมดเกลี้ยง ตัวเองกินไปเพียง
สองฟอง ส่ วนที่เหลือก็เก็บกลับมาให้หลานชายหลานสาวแบ่ง
กินกันคนละคา ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาทากับเขาแบบนี้!

วัน นี้ ยัง คิ ด จะมาแบ่ ง เงิ น ไปจากเขาอี ก อย่า ว่ า แต่ ท าง


ประตู เลย จะทางหน้าต่ างก็ไม่ มีวนั เหมื อนกัน แม้แต่ หยวน
เดียวก็อย่าหวังว่าจะได้ไปจากเขา

“ก็ได้ค่ะ งั้นฉันจะเก็บไว้ ตอนนี้ เรายังไม่ แยกบ้าน เงิ น


เหล่านี้กค็ งไม่สามารถนาไปทาของอร่ อยให้คุณกินได้ คุณเอง
ก็เก็บไว้สักนิ ดสิ คะ หลังทางานมาเหนื่อย ๆ คุณก็จะได้เข้าไป
ในเมื องหาของบารุ งกิ นสั กหน่ อ ย” ระหว่างที่ เย่ฉูฉู่พูด นาง
พลัน หยิบ เงิ น ออกมาหนึ่ ง หยวน รวมถึ ง ยื่น คู ป องข้า วและ
คูปองเนื้อให้เขาอีกหนึ่งใบด้วย

สิ่ งนี้ทาให้จา้ วเหวินเทาซึ้งใจ ซึ้งใจจริ ง ๆ เขาคิดว่าภรรยา


เป็ นคนที่รักเขาอย่างสุ ดหัวใจจริ ง ๆ แล้ว
“ไม่ แปลกใจเลยที่ แม่ ข องเราพู ด กับผมว่า ต้อ งมี ภ รรยา
เป็ นของตัวเองถึงจะถูก เมื่อมีภรรยาแล้วจึงจะรู ้ร้อนรู ้หนาว”
จ้าวเหวินเทาพูด

เย่ฉูฉู่แก้มแดงปลัง่ เพราะรู ้สึกเขินอายเล็กน้อย

“คุณเก็บเงินไว้รวมกับเงินส่ วนนั้นของคุณเลยก็ได้ พวก


เราสองสามีภรรยาเป็ นคนคนเดียวกัน อยูบ่ นเรื อลาเดียวกัน จะ
ให้ผมนัง่ กินคนเดียวแล้วให้คุณเอาแต่ดูได้ยงั ไงกันล่ะ? ถ้าจะ
กินก็ตอ้ งไปกินด้วยกันสิ ” จ้าวเหวินเทาเองก็ฉลาดในการเอาใจ
ผูอ้ ื่นเช่นกัน

เย่ฉูฉู่มองเขาด้วยความตื้นตันใจ ภายในใจหวานหยดย้อย
ยิง่ กว่าน้ าผึ้ง ทาไมโชคชะตาของนางถึงได้ดีแบบนี้นะ?

“คุ ณ นอนพัก ก่ อ นนะคะ ฉั น จะออกไปช่ ว ยคุ ณ แม่ ”


หลังเย่ฉูฉู่รู้สึกซึ้งใจ นางก็นาเงินไปเก็บไว้ให้เรี ยบร้อย แล้วเอ่ย
ขึ้น
จ้าวเหวินเทาพยักหน้า “ได้ งั้นผมขอพักผ่อนสักงีบ”

หลังจากเย่ฉูฉู่ออกไปแล้ว จ้าวเหวินเทาพลันมองไปยัง
สถานที่ที่ภรรยาของเขาซ่ อนเงินไว้ ช่างเป็ นสาวโง่เสี ยจริ ง ไม่
รู ้จกั แอบซ่ อนเงินเอาเสี ยเลย ดันซ่ อนต่อหน้าเขาอีก ไม่กลัวว่า
เขาจะเอาเงินไปเล่นการพนันเลยหรื ออย่างไร?

แต่การได้รับความเชื่ อใจจากภรรยาตัวเอง มันช่ างเยี่ยม


มากจริ ง ๆ

จ้าวเหวินเทาหลับตาลงเพื่อนอนพัก การถูกทุบตีในวันนี้
เป็ นเรื่ องไม่เบาเลยจริ งๆ

เย่ฉูฉู่เองย่อมรู ้ดี ดังนั้นนางจึงเข้ามาช่ วยคุ ณแม่ จา้ ว ใน


เวลาเดียวกันก็พูดเสี ยงเบาว่า “คุณแม่คะ ช่วยต้มไข่ให้เหวินเทา
หน่อยได้ไหมคะ วันนี้เขาเจอเรื่ องยากลาบากเกินไปแล้ว ที่เขา
โดนไม้ฟาดก็เป็ นเพราะเขาอยากปกป้องฉันน่ะค่ะ”
ขณะที่เย่ฉูฉู่พูด ขอบตาก็พลันแดงก่าอย่างห้ามไม่อยู่

คุณแม่จา้ วรี บพูดปลอบใจ “ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร เขา


เองก็ถู ก ทุ บ ตี ม าไม่ น้อ ย โดนฟาดไม่ กี่ ไ ม้ทาอะไรเขาไม่ ได้
หรอก”

ทว่านางก็คิดในใจกับตัวเองว่าอย่ามองตรงที่ลูกสะใภ้คน
เล็กคนนี้ เอาแต่ ตะคอกใส่ ลูกชายคนสุ ดท้องของนางเลย ถึ ง
ช่ วงเวลาสาคัญแบบนี้ ก็ยงั รู ้จกั เป็นห่ วงเป็ นใยสามีของตัวเอง
แถมน้ าตายังไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ สิ่ งนี้ ทาให้คุณแม่จา้ ว
รู ้สึกพึงพอใจเป็ นอย่างยิง่

ลูกสะใภ้ที่เป็ นห่วงสามีตวั เองนับว่าใช้ได้แล้ว

ดังนั้นคุณแม่จา้ วจึงต้มไข่ไก่สองฟอง ให้พวกเขาแบ่งกัน


กินคนละหนึ่งฟอง
เย่ฉูฉู่แอบรู ้สึกไม่ดี “คุณแม่คะ ของฉันไม่ตอ้ งก็ได้ค่ะ ให้
เหวินเทากินก็พอแล้ว”

“วันนี้เธอเองก็ตื่นตกใจเหมือนกัน บารุ งสักหน่อยก็ดี แต่


จะว่าไปแล้ว วันนี้พวกเธอไปโรงพยาบาลกันมานี่ คุณหมอได้
พูดอะไรหรื อเปล่า?” คุณแม่จา้ วพูด

“เปล่าค่ะ คุณหมอบอกว่าร่ างกายแข็งแรงดีค่ะ เพียงแต่ยงั


ไม่ใช่เวลา” เย่ฉูฉู่พูดเสี ยงเบา

นางแอบละอายใจขึ้ นมา ถึ งอย่างไรนี่ ก็เป็ นเรื่ องโกหก


นางและจ้า วเหวิน เทาไม่ ไ ด้ไ ปโรงพยาบาล เพี ย งแต่ ไ ปหา
อาหารสักมื้อ ส่ วนเงินที่ให้ไปหาหมอนั้น เป็ นเพราะอากาศ
ร้อนเกินไปหน่ อย พวกเขาก็เลยใช้ซ้ื อหวานเย็นกินกันคนละ
แท่งหลังไปถึงที่นนั่ จนหมด

ไปหาหมออะไรกันล่ะ ค่าหมอทั้งหมดเข้าไปอยู่ในท้อง
พวกเขาแล้ว
“ไม่ ต ้อ งรี บร้ อ นไป ยัง ไงพวกเธอก็ เ พิ่ ง แต่ ง งานกัน
หลังจากนี้จะเป็ นการเก็บเกี่ยวช่วงฤดูใบไม้ร่วงแล้ว พวกเธอก็
พักผ่อนกันสักหน่อย หลังหมดช่วงเก็บเกี่ยวแล้วค่อยท้อง แบบ
นั้น ถึ ง จะดี ที่ สุ ด ถึ ง เวลาก็ส ามารถพัก ผ่ อ นได้แ ล้ว ไม่ ต ้อ ง
เหนื่อยด้วย” คุณแม่จา้ วพูด

ระหว่างที่พูด ไข่ไก่ก็สุกพอดี คุ ณแม่จา้ วจึงตักขึ้นมาใส่


ในน้ าเย็นอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะยัดมันใส่ ในมือเธอ “รี บเอา
กลับ ไปที่ ห้ อ งเร็ ว อี ก เดี๋ ย วพี่ ส ะใภ้พ วกนั้ นก็ ก ลั บ มากั น
หมดแล้ว”

เย่ฉูฉู่เองก็เข้าใจดี ดังนั้นนางจึงซ่ อนไข่ไก่สองฟองและ


แอบนาเข้าห้องไป

ในบ้า นตระกู ล จ้า วมี ห้ อ งไม่ น้อ ย แต่ เ พราะมี ส มาชิ ก


ค่อนข้างมากจึงค่อนข้างเบียดเสี ยด เดิมทีจา้ วเหวินเทานอนอยู่
ในห้องด้านหน้า ทว่าในภายหลังก็มีหลานชายและหลานสาว
ของเขาเพิม่ มากขึ้น

เขาจึงเข้ามาซ่อมแซมห้องด้านหลังบ้าน และยกห้องนอน
เดิมให้บรรดาหลานชายหลานสาว

แต่ก็ดีเหมือนกัน ตรงที่ไม่ตอ้ งอยู่ร่วมกับพวกพี่สะใภ้ที่


อยูด่ า้ นหน้า ห้องด้านหลังจึงค่อนข้างเป็ นอิสระ

เมื่อเย่ฉูฉู่กลับมาถึงที่ห้อง ก็พบว่าจ้าวเหวินเทาหลับไป
แล้ว นางจึงไม่ได้ตะโกนเรี ยกเขา เพียงแต่เก็บไข่ไก่ไว้ให้เขา
รับประทานตอนดึก จากนั้นจึงเดินออกไปช่วยงานอย่างอื่นต่อ

อย่ า มองว่ า นางเป็ นบุ ต รี ข องขุ น นางกบฏ เพราะนาง


สามารถทาได้ทุกอย่าง ด้วยเหตุน้ ี ในชาติที่แล้วนางจึงอยู่ขา้ ง
กายองค์ชายได้สาเร็จ
เรื่ อ งชี วิต ประจ าวัน รอบตัว ขององค์ช าย นางล้ว นเป็ น
ผูร้ ับผิดชอบแต่เพียงผูเ้ ดียว โดยไม่ตอ้ งยืมมือคนอื่นเลย
ตอนที่ 4 ตระกูลจ้ าว

ตอนที่คุณพ่อจ้าวพาพี่รองจ้าว พี่สามจ้าว พี่สี่จา้ ว รวมถึง


พี่สะใภ้รองจ้าว พี่สะใภ้สามจ้าว และพี่สะใภ้สี่จา้ วกลับมาจาก
การทางาน บ้านทั้งหลังก็ถูกเก็บกวาดจนสะอาดสะอ้านแล้ว

ครั้ นเห็ นทุ กคนกลับมาถึ ง บ้าน เย่ฉูฉู่จึงรี บเดิ นถื อ กาน้ า


ออกมาริ นน้ าให้ทุกคนได้ดื่มดับกระหาย

ท่ าทางเอาใจใส่ ของน้องสะใภ้หก ทาให้บรรดาพี่สะใภ้


ต่างอดไม่ได้ที่จะหันมาสบตากัน

นี่คงไม่ตอ้ งให้ควักเงินก้อนโตจ่ายให้หรอกใช่ไหม?

พี่สะใภ้สามจ้าวและพี่สะใภ้สี่จา้ วไม่ได้แสดงท่าทางอะไร
ออกมา แต่พี่สะใภ้รองจ้าวที่เป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของบ้านได้มอง
เย่ฉูฉู่แล้วกล่ าวว่า “น้องสะใภ้หก วันนี้ พวกเธอเข้าไปตรวจ
ร่ างกายที่ในเมืองมานี่นะ ผลตรวจเป็ นยังไงบ้างจ๊ะ?”
เย่ฉู ฉู่ รู้ ดี ว่า การไม่ ไ ด้ไ ปทางานในวัน นี้ ย่อ มทาให้เ หล่ า
พี่สะใภ้ไม่พอใจ นางพลันพูดขึ้น “ขอบคุณพี่สะใภ้สองที่เป็ น
ห่ วง ฉันไปตรวจร่ างกายมาแล้วไม่ ได้มีปัญหาใหญ่อะไรค่ ะ
เพียงแค่อ่อนแอเล็กน้อย”

ไม่ ต ้อ งพู ด ก็พ อจะทราบได้ว่า ร่ า งกายนี้ คงมี ส ภาพไม่ ดี


เท่าไรนัก แต่ในเมื่อคนยุคนี้เป็ นแบบนี้กนั หมด เย่ฉูฉู่กอ็ ยากจะ
ดูแลร่ างกายของตัวเองให้ดี

การทาแบบนี้จะช่วยให้นางมีลูกให้องค์ชายเร็วขึ้น

คิ ดเช่ นนี้ แล้ว เย่ฉูฉู่ก็แอบรู ้ สึกเขิ นอาย แต่ เมื่ อพูดถึ งลู ก
เย่ฉูฉู่พลันมองไปยังเด็ก ๆ ที่อยูเ่ ต็มบ้าน

พี่ ร องจ้า วและพี่ ส ะใภ้รองจ้า ว ผูเ้ ป็ นพี่ ช ายและพี่ ส ะใภ้


ใหญ่ของบ้านต่างก็มีอายุสามสิ บต้น ๆ ในปี นี้ ทั้งยังมีลูกชาย
สองคนและลูกสาวอีกหนึ่งคน
พี่สามจ้าวและพี่สะใภ้สามจ้าวมี ลูกชายหนึ่ งคนและลู ก
สาวอีกหนึ่งคน

ส่ วนพี่สี่จา้ วและพี่สะใภ้สี่ตอนนี้ยงั ไม่มีลูกชาย ลูกทั้งสอง


คนของพวกเขาเป็ นผูห้ ญิงทั้งคู่

เนื่ องจากฐานะทางครอบครัวที่ค่อนข้างจากัด เด็ก ๆ ก็มี


จานวนไม่นอ้ ย เด็กเหล่านี้จึงดูไม่ต่างจากลิงน้อยเท่าไรนัก

แต่เป็ นลิงน้อยก็ดีเหมือนกันนะ นางเองก็อยากคลอดลิ ง


น้อยให้องค์ชายเช่นกัน

ทว่าทันทีที่นางพูดออกมาเช่ นนี้ พี่สะใภ้สี่ก็ถึงขั้นบุย้ ปาก


และพูดว่า “ถ้าอย่างเธอเรี ยกอ่อนแอ พวกเรายิง่ ไม่อ่อนแอกว่า
เหรอ?”

จะว่าไปแล้วพี่สะใภ้สี่จา้ วต่างหากล่ะที่อยูใ่ นขั้นวิกฤติ


เพราะหลังจากที่หล่อนแต่งเข้าตระกูลมาก็มีลูกสาวติดกัน
ถึ ง สองคน หากสะใภ้ห กทาส าเร็ จ ในคราวเดี ย ว เช่ น นั้น ใน
บรรดาสะใภ้ตระกูลจ้าวก็เหลือแค่หล่อนคนเดียวที่ไม่มีลูกชาย

ถึงเวลานั้นก็คงไม่ต่างจากผงธุลีจริ ง ๆ

“พี่สะใภ้สี่พูดแบบนี้กไ็ ม่ถูกนะคะ ก่อนที่ฉนั จะแต่งเข้ามา


แม่ของฉันก็บารุ งฉันเป็ นอย่างดี ท่านเชือดไก่หนึ่งตัวนามาตุ๋น
ให้ฉันกิน และให้ฉันกินไข่ไก่วนั ละฟองทุกวันด้วย ที่ตอนนี้
ฉันยังไม่ทอ้ งก็คงเป็ นเพราะโชคชะตายังมาไม่ถึงน่ะค่ะ” เย่ฉูฉู่
กล่าว

ท่ า นพ่ อ และท่ า นแม่ ข องนางในชาติ น้ ี แตกต่ า งจากชาติ


ก่อน เพราะท่านพ่อและท่านแม่ในชาติน้ ี ประคบประหงมนาง
เป็ นอย่างดี

พี่สะใภ้สี่จา้ วถึงขั้นสะอึกจนพูดไม่ออก
พี่สะใภ้คนอื่น ๆ ก็หมดคาพูดอย่างกะทันหันเช่นกัน

ครอบครัวของสะใภ้หกคนนี้ ไม่ใช่ ตระกูลเล็ก ๆ อีกฝ่ าย


เป็ นลูกสาวคนสุ ดท้องในบ้าน พ่อแม่ต่างก็รักทะนุ ถนอมเธอ
เป็ นอย่างดี ก่อนแต่งงานพวกหล่อนก็เคยได้ยนิ เรื่ องทานองว่า
ฝั่งตระกูลเย่เชือดไก่เพื่อบารุ งร่ างกายให้ลูกสาวคนสุ ดท้องจริ ง

เป็ นเรื่ องที่ทุกคนต่างรับรู ้วา่ เธอได้กินไข่ไก่วนั ละฟอง

อีกอย่างการที่นอ้ งสะใภ้หกแต่งเข้ามาด้วยความมัน่ ใจถึง


ขั้นนี้ ก็เป็ นเพราะเธอนาสิ นเดิมเข้ามาไม่นอ้ ย

ยกตัวอย่างเช่ นตูท้ ี่อยู่ในห้องของพวกเขา นอกจากนี้ ยงั มี


ผ้านวมหนึ่งผืน มีแม้กระทัง่ อ่างล้างหน้าและกาต้มน้ ากระเบื้อง
เคลือบ!
สิ น เดิ ม แบบนี้ ก็นับ ว่า ดี สุ ด ๆ แล้ว คนธรรมดาทั่ว ไปที่
ไหนจะยอมยกสิ นเดิมมากขนาดนี้ให้กนั ล่ะ?

ยกตัว อย่ า งเช่ น เหล่ า สะใภ้ท้ ัง สามตอนที่ แ ต่ ง งานเข้า


ตระกูลมาใหม่ ๆ นอกจากเสื้ อผ้าเก่า ๆ สองชุด ก็ไม่มีอะไรติด
ตัวมาแม้แต่อย่างเดียว

ดังนั้นอีกฝ่ ายจึงมีความมัน่ ใจอย่างเต็มเปี่ ยม

หากเปรี ยบเทียบหน้าตาของเย่ฉูฉู่กบั คนอื่น ถือว่าเธอดูดี


ขั้นสุ ดเลยก็ว่าได้ เพียงแต่ เย่ฉูฉู่มีมาตรฐานสู ง เธอมักคิ ด ว่า
ตัวเองหน้าตาไม่ดี จึงต้องคิดหาวิธีเพื่อบารุ งร่ างกายตัวเองสัก
หน่ อยจึงจะดี ไม่เช่ นนั้นจะให้กาเนิดลูกตัวอ้วน ๆ ได้อย่างไร
กันล่ะ?

“พี่สอง พี่สาม พี่สี่ลา้ งหน้าก่อนเถอะค่ะ เถี่ยต้าน หลูตา้ น


หม่าต้าน ต้าหยาก็ดว้ ย ถึงเวลากินมื้อค่ากันแล้ว” เย่ฉูฉู่เอ่ยด้วย
รอยยิม้ โดยไม่ได้สนใจความคิดของเหล่าพี่สะใภ้
พี่รองจ้าวและคนอื่น ๆ ต่างก็เดินไปล้างหน้าล้างตา

เถี่ยต้านและหลูตา้ นคือลูกของพี่รองจ้าว หม่าต้านคือลูก


ของพี่สามจ้าว นี่คือชื่อของเหล่าหลานชายในบ้าน ส่ วนชื่อของ
หลานสาวคือต้าหยา เอ้อร์หยา ซานหยาและซื่อหยา

แม้ว่านางเพิ่งจะมาเข้าร่ าง แต่ก็มีความทรงจาอยู่จึงไม่ใช่
เรื่ องยากที่จะจาได้ ต่อให้มีมากกว่านี้กย็ งั แยกแยะได้สบาย ๆ

ต้าหยาคือลูกของพี่รองจ้าว เอ้อร์หยาคือลูกของพี่สามจ้าว
ส่ วนซานหยาและซื่อหยาเป็ นลูกสาวตัวน้อยของพี่สี่จา้ ว

ทุกคนต่างเดินไปล้างหน้ากันหมด

คุ ณพ่อจ้าวได้รับการปรนนิ บตั ิดีที่สุด เพราะเย่ฉูฉู่ใช้อ่าง


ส่ วนตัวเติมน้ ามาให้เขา ทั้งยังวางผ้าขนหนู หนึ่ งผืนไว้ขา้ ง ๆ
เพื่อให้เขาล้างหน้าเช็ดมือด้วย
พี่สะใภ้สี่จา้ วแอบเบ้ปากอยูใ่ นใจ เพราะหล่อนเองก็เคยใช้
ทักษะพื้นฐานเหล่านี้!

ตอนนี้เป็ นช่วงอากาศร้อนอบอ้าว หลังจากเสี ยงนกหวีดดัง


ในตอนเที่ยงก็ตอ้ งออกไปทางาน จนกระทัง่ ตอนนี้ เพิ่งจะได้
เลิกงานกลับมาบ้าน เหนื่อยจนสายตัวแทบขาดจริ ง ๆ

เย่ฉูฉู่จึงเข้าไปช่วยคุณแม่จา้ วยกอาหารค่าในคืนนี้ออกมา

อันที่จริ งไม่ใช่อาหารเลิศเลออะไรหรอก มันก็คือข้าวโพด


บดหยาบนัน่ แหละ

ชาติที่แล้วตอนที่เย่ฉูฉู่ถูกเนรเทศก็ไม่ได้ใช้ชีวิตสุ ขสบาย
อะไร ดังนั้นนางจึงเคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลาบากมาก่อน ความ
จริ งแล้วข้าวโพดบดหยาบในตอนนี้ ก็ไม่ ได้ต่างจากตอนนั้น
เท่าไรนัก
เพียงแต่ หลังจากที่ เข้าไปในจวนขององค์ชายและได้อยู่
ข้างกายองค์ชาย เสื้ อผ้า อาหารการกิ น ที่ พกั และการสัญจร
ของนางจึงดีกว่าบรรดาคุณหนูตระกูลขุนนางโดยทัว่ ไป

ข้างกายขององค์ชายไม่ มีสตรี นางอื่ น มี นางแค่ คนเดี ยว


เท่านั้น บางครั้งนางก็อดไม่ได้ที่จะคิดเข้าข้างตัวเองเพียงฝ่ าย
เดียวว่า ในใจขององค์ชายนั้น…ชอบนางใช่หรื อไม่?

แน่นอนว่าในชาติที่แล้วตั้งแต่ตน้ จนถึงคราวสิ้ นพระชนม์


องค์ชายไม่เคยเอ่ยวาจาทานองนั้นเลย นางจาได้เพียงแค่ว่าใน
คืนที่องค์ชายสิ้ นพระชนม์ พระองค์ได้มอบตัว๋ เงินจานวนมาก
ให้แก่นาง เพียงพอที่จะทาให้นางได้ใช้ชีวิตอย่างสุ ขสบายชั่ว
ชีวติ ทั้งยังจัดเตรี ยมให้นางออกไปใช้ชีวติ ด้วยตนเอง

เพียงแต่นางจะตัดใจไปได้อย่างไรกัน? ในเมื่อองค์ชายจาก
ไปก่อน หลังจากนั้นนางจึงตามองค์ชายไป

“ฉูฉู่ ไปเรี ยกเหวินเทามากินข้าวสิ ” คุณแม่จา้ วพูด


“ยังนอนอยูเ่ หรอ?” คุณพ่อจ้าวขมวดคิ้ว

“คุ ณ พ่ อ คะ เป็ นเพราะวัน นี้ ระหว่ า งทางที่ พ วกเราเดิ น


กลับมาไม่รู้ว่ามีอนั ธพาลที่ไหนออกมาปล้นชาวบ้านน่ ะค่ะ มี
พี่สาวคนหนึ่ งถูกปล้น เหวินเทาเห็นก็เลยเข้าไปช่ วยอย่างกล้า
หาญ แต่เขาก็โดนทุบตีแทน ฉันเพิ่งใช้ยาดองเช็ดแผลให้เขา
บนหลังกับบนแขนมีแผลเต็มไปหมดเลยค่ะ!” เย่ฉูฉู่รีบพูด

“มีเรื่ องแบบนี้ ดว้ ยเหรอ?” พี่รองจ้าวและคนอื่น ๆ ชะงัก


งัน

เหล่าพี่สะใภ้กม็ องมาที่นางเช่นกัน

“ค่ะ” เย่ฉูฉู่พยักหน้า “ถ้าไม่เชื่ อก็ถามคุ ณแม่ดูสิคะ สามี


ของผู ้ห ญิ ง คนนั้ นซาบซึ้ งในน้ าใจของพวกเรา ก็ เ ลยขี่
รถจักรยานมาส่ งพวกเราด้วยค่ะ”
“คนในหมู่บา้ นก็รู้กนั หมด พวกเธอออกไปถามดู ก็รู้แล้ว
ล่ะ เกิดเรื่ องที่หมู่บา้ นหลังเขาทางฝั่งนูน้ ” คุณแม่จา้ วพูด

“เขาได้รั บ บาดเจ็ บ อยู่ ดัง นั้ นฉั น ก็ เ ลยให้ เ ขานอนพัก


ก่อนน่ะค่ะ” เย่ฉูฉู่พูด

“งั้นก็ไปเรี ยกน้องหกให้ตื่นเถอะ ลุกขึ้นมากินข้าวได้แล้ว


เดี๋ยวอาหารก็ชืดหมดหรอก” พี่สามจ้าวพูด

เย่ฉูฉู่จึงเดินมาเรี ยกจ้าวเหวินทาว

จ้าวเหวินทาวกาลังฝันว่าได้กินซาลาเปา มันเป็ นซาลาเปา


เนื้อลูกใหญ่ที่เสิ ร์ฟโดยพนักงานของร้านอาหารภาครัฐ ตอนที่
เขากาลังลงมือกินนั้นเอง ก็ถูกภรรยาเรี ยกให้ตื่นเสี ยแล้ว

จ้าวเหวินเทาถึงกับหดหู่ไปพักหนึ่ง

“เหวิ น เทาคะ ลุ ก ขึ้ น มากิ น ข้า วก่ อ น กิ น เสร็ จ แล้ว ค่ อ ย


กลับมานอนต่อดีไหมคะ?” เย่ฉูฉู่มองเขาด้วยความเป็ นกังวล
จ้าวเหวินเทายังจะทาอะไรได้อีก ? ก็ทาได้แค่ลุกขึ้นมาน่ะ
สิ ซาลาเปาแป้ งขาวไส้เ นื้ อ ในฝั น ของเขาได้จากไปไม่ ห วน
คืนกลับมาแล้ว

เขาตัดสิ นใจแล้วว่าหากเข้าเมืองในครั้งหน้า เขาจะไปลิ้ม


ลองรสชาติซาลาเปาแป้งขาวไส้เนื้อนี้!

ตอนที่จา้ วเหวินเทาสวมเสื้ อผ้ากาลังจะออกไป เย่ฉูฉู่กลับ


เรี ยกเขาไว้ จากนั้นหยิบไข่ไก่ สองฟองออกมาจากใต้ห มอน
และกระซิ บเสี ยงเบา “คุ ณแม่ตม้ ให้คุณค่ะ ให้คุณกินทั้งหมด
เลย คุณกินเสร็จแล้วค่อยออกไปกินข้าวนะคะ”
ตอนที่ 5 ความคิดของแต่ ละบ้ าน

ไม่ตอ้ งถามก็รู้วา่ ไข่ไก่สองฟองนี้แม่ของเขาต้องให้กินคน


ละฟองอยูแ่ ล้ว เพียงแต่ภรรยาของเขาเสี ยสละเก็บให้เขากินทั้ง
สองฟอง

จ้าวเหวินเทาแย้มยิม้ มองภรรยาของตนเอง เขารู ้สึกคุม้ ค่า


กับการถูกไม้ฟาดจริ ง ๆ

ดู ภ รรยาของเขาในตอนนี้ สิ ก าลัง มองดู เ ขาราวกับเห็ น


วีรบุรุษอย่างไรอย่างนั้น ทาให้เขารู ้สึกอิ่มเอมใจยิง่ นัก

แน่ นอนว่าเขาเองก็ไม่กินคนเดี ยวหรอก จ้าวเหวินเทายัด


ไข่กลับเข้าไปใต้หมอน พลันกระซิ บเสี ยงเบาว่า “เดี๋ยวตอนค่า
ค่อยกลับมากิน”
เย่ฉูฉู่รู้สึกเคลิบเคลิ้มกับสายตาเปื้ อนยิ้มของเขาที่มองมา
เมื่อครู่ นางย่อมฟั งเขาทุกอย่างอยู่แล้ว จึงส่ งเสี ยง ‘อืม’ ตอบ
กลับไปเบา ๆ จากนั้นก็เดินออกไปรับประทานข้าวโพดบดกับ
เขา

ขณะกาลังรับประทานอาหารนัน่ เอง เถี่ยต้านหลานชายคน


โตก็ถามถึงวีรกรรมอันกล้าหาญที่เกิดขึ้นในวันนี้

เรื่ องนี้จา้ วเหวินเทาย่อมพูดให้ดูดีอยูแ่ ล้ว

ระหว่ า งรั บ ประทานข้า วโพดบด เขาได้เ ล่ า วี ร กรรม


ทั้งหมดของตัวเองอย่างอรรถรส สุ ดท้ายก็ถลกเสื้ อให้ทุกคนได้
ดู

หลังเช็ดแผลด้วยยาดองแล้วคราบเลื อดก็ได้หายไป แต่


ร่ องรอยที่ เหลื ออยู่เหล่ านั้นยังดู ค่อนข้างน่ ากลัว ทาให้เย่ฉูฉู่
รู ้สึกเจ็บปวดใจอย่างเหลือแสน
ก่ อนหน้านี้ เขาคุ ยโวโอ้อวดได้เ ก่ งกาจสุ ด ๆ เรี ยกว่า น้ า
ไหลไฟดับเลยก็วา่ ได้ แต่เหล่าพี่สะใภ้กลับไม่เชื่อ คงไม่มีอะไร
ที่นอ้ งสามีคนเล็กเก่งกาจมากไปกว่าการคุยโวอีกแล้ว

ฝี ปากของทุกคนในบ้านมัดรวมกันยังสู ้เขาคนเดียวไม่ได้
เลย

พี่ ร องจ้า วและคนอื่ น ๆ ต่ า งพยายามรั ก ษาท่ า ทางของ


ตนเอง

แต่เมื่อเห็นบาดแผลเหล่านี้ พวกเขาก็ตกใจกันจริ ง ๆ

“น้องหก นายสู ้กบั คนสี่ คนเพียงลาพังเหรอ กล้าทาไปได้


ไงเนี่ย?” พี่สี่จา้ วพูด

“ก็ต ้อ งกล้า อยู่แ ล้ว สิ ค รั บ!” จ้า วเหวิน เทาพู ด “ผูช้ ายตั้ง
หลายคนฉุ ดกระชากผูห้ ญิงแค่คนเดี ยว แบบนี้ มนั หมายความ
ว่าอะไรล่ะ? ผมเห็นแล้วจะให้แกล้งทาเป็ นไม่เห็นเหรอ? อีก
อย่างผมก็มีเรื่ องชกต่อยมาตั้งแต่เด็ก ก็ตอ้ งมีวิธีอยูแ่ ล้ว แต่เด็ก
ๆ อย่างพวกเธอฟั งไว้ให้ดีนะ ถ้าเจอปั ญหาก็อย่าทาอะไรที่เกิน
ก าลัง ตัว เองเข้า ใจไหม เจอปั ญ หาที่ ต ัว เองรั บ ไม่ ไ หวก็อ ย่า
บุ่มบ่ามเข้าไป เพราะนอกจากจะช่ วยคนอื่นไม่ได้แล้ว แม้แต่
ตัวเองก็จะถูกลากเข้าไปด้วย วิ่งไปเรี ยกคนอื่นมาช่วยต่างหาก
ล่ะคือเรื่ องที่สาคัญ!”

คุยโวไปคุยโวมา คาพูดในภายหลังก็กลับกลายเป็นคาพูด
ที่บอกพวกหลาน ๆ ว่าความกล้าหาญที่ไร้ความเฉลียวฉลาด
นั้นไม่มีประโยชน์ ไหวพริ บต่างหากล่ะคือสิ่ งสาคัญ

หากไม่ใช่เพราะภรรยาของเขาอยูด่ ว้ ยในตอนนั้น เขาก็คง


หมุนตัววิ่งหนีออกไป ซึ่ งก็คงไปตะโกนเรี ยกให้คนมาช่วยนัน่
แหละ

แต่ช่วยไม่ได้จริ ง ๆ ภรรยาก็อยูด่ ว้ ย ยังไงก็หนีไม่พน้


ทุ ก คนต่ า งพยัก หน้า เมื่ อ ได้ยิ น ค าพู ด ของเขา เถี่ ย ต้า น
หลูตา้ นและหม่าต้านที่จากเดิมนึกอยากลองเพราะอยากกล้ายืน
หยัดเพื่อสิ่ งที่ถูกต้องต่างก็ถูกสาดด้วยน้ าเย็นหนึ่งถัง*

*ถูกสกัดความตั้งใจจนดับมอด

คุณพ่อจ้าวแค่นเสี ยงหึ แล้วพูดว่า “แกเองก็มีความสามารถ


เหมือนกันนี่ ถูกทุบจนอยูใ่ นสภาพนี้ได้”

“ก็มนั ช่ วยไม่ได้นี่นา ผมมีแค่คนเดี ยว อีกฝ่ ายมากันตั้งสี่


คนนี่ครับ” จ้าวเหวินเทาพูด

“รู ้หรื อเปล่าว่าเป็ นคนที่ไหน?” คุณแม่จา้ วถาม

“ไม่รู้สิครับ แต่ไม่ใช่คนแถวนี้แน่ สาเนียงก็ไม่เหมือนด้วย


ดูเหมือนว่าจะเป็ นคนของอีกฟากแม่น้ า” จ้าวเหวินเทาพูด
“คนของพวกเราทางฝั่งนี้ กล้าทาเรื่ องแบบนี้ ที่ไหนกันล่ะ
ต้องเป็ นคนที่มาจากที่อื่นอยูแ่ ล้ว” คุณพ่อจ้าวพูด

จ้าวเหวินเทาเองก็ไม่ได้พูดถึงเรื่ องนี้ เขาเขี่ยข้าวโพดบด


ไปพลาง รอภรรยาของตัวเองรั บประทานให้เ สร็ จไปพลาง
ครั้นเห็นว่าเธอรับประทานอาหารเสร็ จแล้วจึงพูดว่า “นี่ ก็ดึก
แล้ว วันนี้ ทุกคนก็เหนื่ อ ยแล้วด้ว ย รี บกิ นรี บนอนเถอะครั บ
ภรรยา พวกเรากลับห้องกัน”

เย่ฉูฉู่หนั มายิม้ ให้เขา “คุณกลับห้องก่อนเลยค่ะ ฉันจะเก็บ


จานไปล้าง”

“ก็มีพวกต้าหยาอยูไ่ ม่ใช่เหรอ” จ้าวเหวินเทาพูด

ต้าหยาและเอ้อร์ หยาไม่ใช่ เด็ก ๆ แล้ว พวกเธอเกือบอ้วก


แตกอ้วกแตน เพราะวันนี้ตอ้ งออกไปทางานเก็บผักขม เหนื่อย
จะตายอยูแ่ ล้ว!
เย่ฉูฉู่รู้สึกซึ้ งใจ แต่ก็ยงั ยืนกราน พูดด้วยรอยยิ้ม “คุ ณเอา
เสื้ อผ้าไปอาบน้ าที่แม่น้ าก่อนเถอะค่ะ กลับมาแล้วฉันจะเช็ด
แผลด้วยยาดองให้อีกครั้ง”

ผูช้ ายที่นี่ต่างก็ออกไปอาบน้ าตรงริ มตลิ่งกันหมด น้อยครั้ง


มากที่จะอาบน้ าที่บา้ นตัวเอง ส่ วนพวกผูห้ ญิงแน่ นอนว่าต้อง
อาบน้ าในบ้านของตัวเอง

“ก็ได้” ในเมื่ออากาศร้อนขนาดนี้ จ้าวเหวินเทาเองก็อยาก


ออกไปว่ายน้ าและอาบน้ าในแม่น้ าเหมือนกัน โดยเฉพาะวันนี้
ที่เขาอยากจะออกไปโม้เกี่ยวกับเรื่ องวีรกรรมความกล้าในสิ่ งที่
ถูกต้องจนแทบทนไม่ไหว เป็นเพราะเมื่อครู่ เหนื่ อยเกินไปจึง
ผล็อยหลับไปเสี ยก่อน

ใช้ประโยชน์จากบาดแผลเหล่านี้ ที่ยงั อยู่บนร่ างกาย ก็ถือ


ว่าเป็ นหลักฐานได้แล้ว ดังนั้นต้องออกไปโม้สักหน่อย
“น้องหก ฉันไปกับนายด้วย” พี่จา้ วสี่ รีบพูด

จากนั้นพี่รองจ้าวสอง พี่สามจ้าวสาม รวมถึ งหม่ าต้านก็


ตามไปด้ว ย คุ ณ พ่ อ จ้า วเองก็เ ดิ น ถื อ เสื้ อ ชุ ด ใหม่ ไ ปที่ แ ม่ น้ า
เช่นกัน

วันนี้เย่ฉูฉู่ไม่ได้ไปทางาน ดังนั้นนางจึงขันอาสาทาหน้าที่
เก็บ ล้า งจานชาม เก็บกวาดแค่ เ พี ย งเล็ก น้อ ย ไม่ น านก็เ สร็ จ
เรี ยบร้อยแล้ว

นางเติมน้ าลงในกะละมังล้างหน้าของนางและจ้าวเหวินเทา
ก่อนเดินเข้าบ้านไปชาระล้างร่ างกาย

จะปล่อยให้เนื้อตัวมอมแมมเลอะเทอะได้หรื อ? อย่างไรก็
ต้องล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาด
หลังจากเปลี่ ยนน้ าไปสามกะละมังเต็ม นางก็เปลี่ ยนมา
สวมใส่ ชุดใหม่ และถือโอกาสซักเสื้ อผ้าของตัวเองแขวนตาก
ไว้นอกชายคาบ้านไปด้วย

ทางฝั่ ง พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วก็ ล ากพี่ ส ะใภ้ส ามจ้า วไปกระซิ บ


กระซาบ ใบหน้าของหล่อนมื ดครึ้ ม “พี่สะใภ้สาม อย่าหาว่า
อย่างงั้นอย่างนี้ เลยนะคะ วันนี้ ฉันแทบจะทนไม่ไหวแล้วจริ ง
ๆ!”

“เป็ นอะไรไป?” พี่สะใภ้สามชะงักขณะมองหล่อน

“เมื่อกี้ฉนั ได้ยนิ ซานหยาพูดว่า น้องสะใภ้หกเดินเข้าไปใน


ครั วตอนที่ คุณแม่ กาลัง ทากับข้าว คุ ณแม่ ตม้ ไข่ ให้หล่ อ นตั้ง
สองฟอง แถมยังแอบยัดใส่ มือหล่อนด้วย!” พี่สะใภ้สี่จา้ วพูด

“นี่ ก็ไม่ ใช่ ครั้ งแรกสักหน่ อย ยังจะพูดอะไรอี กล่ ะ ว่าแต่


ซานหยารู ้ได้ยงั ไง” พี่สะใภ้สามจ้าวพูด
“ฉันเป็ นคนสั่งซานหยาเองแหละค่ะ บอกให้เธอจับตาดูไว้
ถ้าอาสะใภ้หกของเธอเดินเข้าไปในครัว และเธอก็ได้ยนิ จริ ง ๆ
ด้วย!” พี่สะใภ้สี่จา้ วพูด

พี่สะใภ้สามจ้าวตอบกลับ “ที่นี่ไม่ใช่ บา้ นของพวกเรา ใน


ห้องครัวคุณแม่พูดยังไงก็ตอ้ งเป็ นไปตามนั้น พวกเราไม่มีสิทธิ์
หรอก”

พี่สะใภ้สี่จา้ วเกือบจะบันดาลโทสะ ทั้งครอบครัวออกไป


ทางานข้างนอกกันหมด เหนื่ อยจนสายตัวแทบขาด ส่ วนน้อง
สามีและน้องสะใภ้หกนั้นไม่ทาอะไรเลย แต่คุณแม่กลับต้มไข่
เพื่อบารุ งร่ างกายให้พวกเขา

ลองมาคิดดูแล้วใครจะไปทนไหวกันล่ะ?

พี่ ส ะใภ้ส ามจ้า วไม่ ไ ด้พู ด อะไรกับ หล่ อ น แต่ ใ นตอน


กลางดึกขณะที่กาลังนอน พี่สะใภ้สามจ้าวก็กระซิ บกับพี่สาม
จ้าวเกี่ยวกับเรื่ องนี้
“บ้านก็ไม่ใช่ของเรา เป็ นบ้านของแม่ แม่จะให้ใครกินก็ให้
กินไปสิ นอกเสี ยจากว่าเป็ นบ้านของพวกเราเอง” พี่สามจ้าว
แค่นเสี ยงหึออกมาเบา ๆ

“บ้านตัวเอง? คุณอยากแยกบ้านเหรอคะ?” พี่สะใภ้สามจ้า


วอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาเบา ๆ

“คุ ณไม่ เคยคิ ดแบบนี้ เหรอ? คุ ณไม่ อยากมี บา้ นเป็ นของ
ตัวเองหรื อไง?” พี่สามจ้าวย้อนถาม

พี่สะใภ้สามจ้าวไม่ได้พูดอะไร แต่หล่อนก็มีความคิดนี้อยู่
จริ ง ๆ

เรื่ องไข่ไก่ในวันนี้ พี่สะใภ้รองจ้าวก็ได้ยินน้องสามี และ


น้องสะใภ้ท้ งั สองคุยกันด้วย

ถึ งพี่สะใภ้รองจ้าวจะได้ยิ นแล้ว ก็ทาเป็ นไม่ ได้ยิน อะไร


อย่างน้อย ๆ ก็ต่อหน้าน้องสะใภ้สามและน้องสะใภ้สี่
อันที่จริ งพี่สะใภ้รองก็ใช่วา่ จะไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบอะไร

ตอนที่ อยู่ในห้องนอน หล่ อนได้พูดเรื่ องนี้ กบั พี่รองจ้าว


เช่นกัน พี่รองกลับพูดว่า “แม่ทาอย่างนั้นก็เพราะเป็ นห่ วงน้อง
หก อี กอย่างคุ ณคงไม่ รู้ว่าน้องสะใภ้หกก็เป็ นลมหมดสติไป
เหมื อนกัน มี คนพาหล่ อนกลับมาส่ งที่ บา้ น ดังนั้นก็เลยต้อ ง
บ ารุ ง สั ก หน่ อ ย โดยปกติ แ ล้ว ก็ปฏิ บัติ อ ย่า งเท่ า เที ย มกัน นั่น
แหละ เอาล่ ะ นี่ ก็ ดึ ก มากแล้ว รี บนอนเถอะ อย่ า ใจแคบ
เหมือนกับน้อง ๆ พวกนั้นเลย”

สะใภ้รองจ้าวอดไม่ได้ที่จะตีเขาเบา ๆ ไปสองครั้ง หล่อน


ใจแคบตรงไหนกัน ? ยัง ไม่ ทัน พู ด อะไรเลย ภายในใจของ
หล่อนคิดอะไรสามีของหล่อนจะไม่รู้ได้อย่างไรกัน เพียงแต่
ผูช้ ายตายด้านแบบเขาทั้ง ๆ ที่รู้ว่าหล่อนคิดอะไรแต่ก็ไม่ยอม
พูดถึง
ลูกชายสองคนและลูกสาวอีกหนึ่ งคนของพวกเขาต่ า งก็
เติบโตพอจะทางานเก็บแต้มค่าแรงได้แล้ว หากได้แยกบ้านกัน
อยู่ ครอบครัวของหล่อนต้องมีชีวติ ที่ดีแน่นอน!

ไฉนเลยจะเป็นเหมือนกับตอนนี้ ที่ตอ้ งทางานหาเงินเพื่อ


เลี้ยงทุกคนในครอบครัว!

แน่นอนว่าในบรรดาลูกสะใภ้ คนที่รู้สึกไม่ยตุ ิธรรมอยู่ใน


ใจมากที่สุดก็คือสะใภ้สี่จา้ ว

พี่สี่จา้ วกาลังทาการบ้านกับหล่อนอยู่ หลังจากเสร็จกิจและ


เตรี ยมตัวเข้านอนนั้น จู่ ๆ เขาก็ได้ยินผูห้ ญิงคนนี้กาลังร้องไห้
พี่สี่จา้ วจึงถามไปว่าหล่อนเป็ นอะไร?
“แม่ตอ้ งดู ถูกฉันเพราะฉันคลอดแต่ลูกสาวแน่ ๆ ค่ะ เลย
ไม่ยอมให้ไข่ไก่ซานหยากับซื่ อหยาแม้แต่ฟองเดียว แต่กลับให้
ครอบครัวบ้านหกกิน” พี่สะใภ้สี่จา้ วพูด
ตอนที่ 6 ปล่อยพีส่ าวคนนั้น แล้วเข้ ามาหาฉันนี่!

พี่ สี่ จ ้า วชะงัก เขาจับต้น ชนปลายไม่ ถู ก ด้ว ยไม่ เ ข้าใจว่า


หล่อนกาลังพูดถึงอะไร

พี่สะใภ้สี่จา้ วกาลังพูดกับเขาเรื่ องไข่ไก่สองฟอง

“นัน่ ก็เป็ นเพราะน้องหกกล้ายืนหยัดเพื่อความถูกต้องไง


แถมยังถูกตีจนอยู่ในสภาพนั้นอี ก เป็ นเรื่ องปกติ ที่แม่ จะเป็ น
ห่วง และให้ไข่ไก่กบั เขาเพื่อบารุ งร่ างกาย” พี่สี่จา้ วพูด

พูดจบพี่สี่จา้ วก็นอนหลับไป โดยไม่สนใจหล่อนอีก

พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วเห็ น อี ก ฝ่ ายพลิ ก ตัว นอนและส่ ง เสี ย งกรน


หลับสนิทไปในทันใด หล่อนก็แทบจะร้องไห้ดว้ ยความโมโห

เป็ นเพราะหล่อนให้กาเนิดแต่ลูกสาวสิ นะ กระทัง่ สามีกไ็ ม่


อยากฟังในสิ่ งที่หล่อนพูด!
ณ ห้ อ งด้า นหลัง บ้า นในเวลานี้ จ้า วเหวิ น เทาก็ ก าลัง
รับประทานไข่ไก่กบั ภรรยาอย่างสบายใจเฉิ บเพราะไม่มีอะไร
ต้องทา

ไข่ไก่ท้ งั สองฟองนี้ พวกเขาแบ่งกันรับประทานคนละใบ


อย่างมีความสุ ข

หลังจากรับประทานเสร็ จ จ้าวเหวินเทาก็เตรี ยมจะขึ้นไป


นอนบนเตียงเตา แต่เย่ฉูฉู่รินน้ าให้เขา บอกให้เขาออกไปแปรง
ฟันก่อนแล้วค่อยเข้านอน

“ดึกดื่นขนาดนี้แล้วจะแปรงฟั นอะไรอีกครับ?” จ้าวเหวินเทา


พูด

“ต้องแปรงนะคะ แปรงให้สะอาดด้วย” เย่ฉูฉู่พูดเสี ยงเบา


นี่ เป็ นสิ่ งที่องค์ชายสอนนางในชาติที่แล้ว องค์ชายช่ างมี
ความรู ้มากนัก ก่อนหน้านี้ ใคร ๆ ก็ใช้กา้ นต้นหลิวขัดฟั น แต่
องค์ชายกลับผลิตแปรงสี ฟันขึ้นมาด้วยตนเอง

是的,就叫牙刷,专门用来刷
牙的,告诉她早上晚上都要刷。
ใช่ แ ล้ ว มั น เรี ยกว่ า แปรงสี ฟั น ใช้ ส าหรั บ แปรงฟั น
โดยเฉพาะ เขาบอกว่านางต้องแปรงทั้งเช้าและค่า

เขาผลิตของออกมามากมาย ยกตัวอย่างเช่ นสบู่อะไรสัก


อย่างนี่แหละที่ขายดีเป็ นพิเศษ จนคนนอกต่างก็พูดว่าองค์ชาย
ช่างร่ ารวยถึงขนาดซื้อดินแดนได้ท้ งั ผืน

แต่องค์ชายเก็บเงินส่ วนพระองค์ไว้ไม่มากมาแต่ไหนแต่
ไรแล้ว เขาชอบนาไปสร้างสะพานและปูถนน สร้างสะพาน
สาหรับสถานที่ยากจนแร้นแค้นหลายแห่ ง ทั้งยังปูถนนให้กบั
ชนบทในอีกหลายพื้นที่ดว้ ย

จ้าวเหวินเทาไม่ค่อยมีความสุ ขเท่าไรนัก “ก่อนหน้านี้ ผม


ไม่ เห็ นต้องทาแบบนี้ เลย แถมมันเปลื องยาสี ฟันด้วย ตอนนี้
พี่สาวห้าแต่งงานออกไปแล้ว ส่ งมาให้ทางบ้านได้ไม่บ่อยนัก
หรอก ”

หลังพี่สาวห้าของเขาเข้าเมืองไปทางานที่โรงงานยาสี ฟัน
ทุกคนในบ้านก็เริ่ มแปรงฟั น มีหลายคนในชนบททีเดียวที่ไม่
ค่อยแปรงฟันกัน แต่ถา้ ไม่แปรงฟันก็คงจะฟันผุ

พี่สาวห้าของเขาเป็ นคนเผยแพร่ ให้กบั ทางบ้าน ดังนั้นทุก


คนจึงต้องแปรงฟั น แต่จะแปรงฟั นอีกครั้งในตอนกลางคืนก็
ออกจะเกินไปหน่อย

“คุณไปแปรงเถอะค่ะ ฉันเองก็จะแปรงด้วย” เย่ฉูฉู่พูดด้วย


น้ าเสี ยงออดอ้อน
จ้าวเหวินเทามองภรรยาของตนเอง ภายในใจก็แอบรู ้ สึก
จักจี้ จึงพูดว่า “ก็ได้ งั้นผมจะไปแปรงกับคุณ!”

วัน นี้ ภรรยาของเขายัว่ ยวนเกิ น ไปแล้ว เขาชัก อยากท า


การบ้านขึ้นมาเสี ยแล้วสิ ดังนั้นตามใจเธอหน่อยก็แล้วกัน

ทั้งสองคนแปรงฟันในช่วงกลางดึก จากนั้นจึงขึ้นเตียงเพื่อ
เข้านอน

ล้า งหน้า แปรงฟั น เสร็ จ ต่ อ ไปก็ต ้อ งเข้า นอนแล้ว เย่ฉู ฉู่


ใบหน้าแดงก่า นาง…กาลังนอนอยู่บนเตียงเดี ยวกับองค์ชาย
เหรอ?

นี่มนั …ช่างน่าอายจริ ง ๆ

“ภรรยา ขึ้นเตียงเถอะ” จ้าวเหวินเทาเลิกคิ้วมองเธอ

เรื่ องหลังจากนี้ เย่ฉูฉู่พูดได้เพียงว่าต่อให้ยกมาทั้งฟ้ าดิ นก็


ไม่เพียงพอที่จะบรรยายออกมาได้
จ้าวเหวินเทาเองก็ตื่นเต้น ทาไมภรรยาของเขาถึงได้เขิน
อายยิง่ กว่าวันส่ งตัวเจ้าสาวอีกล่ะ? เสี ยงร้องครวญครางนัน่ ทา
ให้เขาแทบจะร้องขอชีวติ จริ ง ๆ

“ภรรยา มีลูกตัวอ้วนใหญ่ให้ผมเร็ ว ๆ นะ” จ้าวเหวินเทา


พูดอย่างพึงพอใจ

เย่ฉูฉู่อายจนไม่ไหวแล้ว นางไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามอง
เขา

จ้าวเหวินเทาเห็นท่าทางของเธอแล้วก็พลันโอบกอดเธอ
ด้วยรอยยิม้ จากนั้นจึงพูดความในใจกับภรรยา “ถ้าครอบครัว
ของเราแยกบ้านได้กค็ งดีมากเลยนะ”

“แยกบ้า น?” เย่ฉู ฉู่ ไ ด้ยิน ค าพู ด นี้ พลัน ชะงัก ไปเล็ก น้อ ย
นางมองเขาอย่างงุนงง
“ภรรยา คุณไม่คิดที่จะแยกบ้านเหรอครับ?” จ้าวเหวินเทา
เห็นเธอเป็ นแบบนี้ จึงคิดว่าควรจะเจรจากับภรรยาให้เข้าใจสัก
หน่อย “ถ้าพวกเราแยกบ้าน พวกเราก็สามารถกินอะไรตามใจ
ตัวเองได้แล้ว ถึงเวลานั้นพวกเราสองคนอยากกินอะไรก็ได้กิน
อยากทางานก็ทา ไม่อยากทางานก็พกั สบายจะตายไป แถมไม่
ต้องคอยดูสีหน้าพวกพี่ชายพี่สะใภ้ดว้ ย!”

“แต่สุดท้ายทุกคนก็เป็นครอบครัวเดียวกัน คุณพ่อกับคุณ
แม่กย็ งั อยู่ พวกเราจะแยกบ้านได้ยงั ไงล่ะคะ?” เย่ฉูฉู่พูด

เหตุ ผลที่ ว่าลู กชายลู ก สาวไม่ แ ยกบ้า นเพราะพ่อแม่ ย งั มี


ชีวติ อยู่ นางเองก็พอจะเข้าใจ

“เรามีครอบครัวของเราเอง จะไม่แยกบ้านได้ยงั ไงล่ะครับ


อีกอย่างคุณไม่รู้สึกบ้างเลยเหรอครับ ว่าพี่สะใภ้สามยังพอทน
แต่พี่สะใภ้รองกับพี่สะใภ้สี่น่ะไม่ชอบพวกเราเอาเสี ยเลย” จ้าว
เหวินเทาพูด

“เรื่ องแยกบ้านเกรงว่าคงไม่ง่ายขนาดนั้นน่ะสิ คะ อีกอย่าง


ฉั น คิ ด ว่ า พี่ ส ะใภ้ สี่ เองก็ ค งไม่ อ ยากแยกบ้ า นเหมื อ นกัน
ครอบครั วของหล่ อนมี ลูกสาวทั้งสองคน แยกบ้านไปก็ตอ้ ง
เลี้ยงตัวเอง” เย่ฉูฉู่พูด

“ช่างหล่อนเถอะครับ ทั้งบ้านมีหล่อนที่ข้ ีระแวงที่สุดแล้ว


แยกบ้านนัน่ แหละดีที่สุด แยกบ้านแล้วก็ให้หล่อนดูแลตัวเอง
อย่าหวังว่าพวกเราจะช่วยเลี้ยง!” จ้าวเหวินเทาบุย้ ปาก

“ฉันเชื่ อคุ ณค่ะ ถ้าหากคุ ณอยากแยกบ้าน งั้นก็หาโอกาส


ไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่ดูก็แล้วกันนะคะ” เย่ฉูฉู่ซบอยู่ในอ้อม
กอดที่ แสนอบอุ่ นของเขา พลางกระซิ บต่ อ “ต่ อให้แยกบ้าน
ฉันก็สามารถทางานหาเลี้ยงคุณได้นะคะ”
จ้าวเหวินเทาได้ยนิ ประโยคนี้กร็ ู ้สึกสุ ขล้นขึ้นมา “ได้ๆ ผม
จะพึ่งพาให้ภรรยาเลี้ยงผมก็แล้วกันนะครับ”

“อื้อ คุณสบายใจได้เลยค่ะ” เย่ฉูฉู่พยักหน้าอย่างจริ งจัง

จ้าวเหวินเทาจาเป็ นต้องให้ภรรยาของเขาเลี้ยงที่ไหนกัน
ล่ะ เพียงแต่ไม่อยากขัดใจภรรยาของเขาที่นาน ๆ จะรักเขาสุ ด
หัวใจแบบนี้กเ็ ท่านั้นเอง

ไม้ที่ฟาดลงมาในวันนี้ ได้เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อเขาแบบ
180 องศาจริ ง ๆ

เขาไม่ได้ถูกทุบตีอย่างเปล่าประโยชน์ ไม่เปล่าประโยชน์
เลยจริ ง ๆ

เขานอนกอดภรรยาของตนเองโดยไม่รังเกียจความร้ อน
และเนื้อตัวเหนียวเหนอะแต่อย่างใด
เย่ฉูฉู่เองก็เหนื่อยเช่นเดียวกัน ทว่านางกลับนอนด้วยหัวใจ
ที่เปี่ ยมสุ ข

ก่ อ นนอนนั้น นางก าลัง คิ ด ว่า ไม่ ว่า จะแยกบ้า นหรื อไม่


นางก็อยากจะดูแลเหวินเทาของนางให้ดี

แต่หากแยกบ้าน เห็นได้ชดั ว่าคงดีกว่าเล็กน้อย เพราะนาง


สามารถทาอาหารอร่ อย ๆ ให้เหวินเทากินได้ และไม่ตอ้ งคอย
หลบ ๆ ซ่อน ๆ คนอื่น

เหล่าลูกชายและลูกสะใภ้โตแล้วย่อมมีความคิดเป็ นของ
ตนเอง อันที่จริ งคุณพ่อจ้าวและคุณแม่จา้ วที่อยู่ในห้องก็กาลัง
พูดคุยเรื่ องนี้กนั อยูเ่ ช่นกัน

คุณพ่อจ้าวถามว่าได้บารุ งร่ างกายเจ้าหกแล้วหรื อยัง เพราะ


เขาถูกทุบตีจนอยูใ่ นสภาพแบบนั้น

เห็นได้ชดั ว่าคุณพ่อจ้าวก็เป็ นห่วงลูกชายคนสุ ดท้อง


คุณแม่จา้ วบอกว่าได้ตม้ ไข่ไก่ให้รับประทานไปแล้ว คุณ
พ่อจ้าวจึงไม่ได้กล่าวอะไร และบอกให้ภรรยารี บนอนพักผ่อน

ครั้ นถึ ง เวลาเช้า ตรู่ ข องวัน รุ่ ง ขึ้ น คุ ณ แม่ จ ้า วก็ลุ ก ขึ้ น มา
ทาอาหารเช้า พี่สะใภ้รองจ้าว พี่สะใภ้สามจ้าวและพี่สะใภ้สี่
จ้าวก็ทยอยกันตื่นนอนต้อนรับเช้าวันใหม่

ครั้นเห็นว่าคนบ้านหกยังไม่ตื่น พี่สะใภ้รองจ้าวก็ไม่ได้พูด
อะไร ทว่ า พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วกลับ รู ้ สึ ก ถึ ง ความอยุ ติ ธ รรม และ
กระซิ บว่า “น้องสามีกบั น้องสะใภ้หกยังไม่ตื่นอีกเหรอคะ? มี
เสื้ อผ้าในบ้านอีกกองหนึ่งที่ยงั ไม่ได้ซกั นะคะ!”

“ก็แค่ นิด ๆ หน่ อย ๆ ใช้คนไม่ มากหรอก เดี๋ ยวให้พวก


ต้าหยาเอ้อร์หยาไปซักก็ได้” พี่สะใภ้สามจ้าวเอ่ยขณะยืนแปรง
ฟันอยูข่ า้ ง ๆ

พี่สะใภ้สี่จา้ วไม่อยากพูดกับพี่สะใภ้ใจดาคนนี้แล้ว
“บ้านจ้าวมีใครอยู่ไหม?” ในเวลานี้ มีเสี ยงตะโกนดังขึ้ น
จากด้านนอก

“ใครคะ?” พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วที่ ก าลัง กวาดลานบ้า นเดิ น


ออกมาเปิ ดประตู

คนที่ตะโกนอยูด่ า้ นนอกประตูคือพ่อค้าเนื้อไช่ ซึ่ งพี่สะใภ้


รองจ้าวไม่ รู้จกั เขา เมื่ อเปิ ดประตู เห็ นเขาหล่ อนจึ ง ถามกลับ
“พี่ชายมาหาใครเหรอคะ?”

ครั้นกล่าวจบ สายตาของพี่สะใภ้รองจ้าวก็เหลือบเห็นเนื้อ
หมูที่พ่อค้าเนื้อไช่หิ้วอยูใ่ นมือ

เยี่ยมไปเลย นี่ มนั เนื้ อนี่ เป็ นเนื้ อหมูสามชั้นที่มีมนั แทรก


อยู่ น่าจะหนักราวหนึ่งชัง่ [1] ทีเดียว!

นี่คงไม่ใช่ญาติของใครในบ้านหรอกใช่ไหม?
“ผมมาขอบคุ ณน้องชายเหวินเทา เมื่อวานกลับมาบ้านก็
ไม่ได้มีอะไรติดไม้ติดมือ เช้าวันนี้ผมก็เลยนาเนื้อมาให้เขาหนึ่ง
ชิ้น!” พ่อค้าเนื้อไช่กล่าวด้วยรอยยิม้

“เรื่ องที่นอ้ งสามีของฉันทาเรื่ องกล้าหาญเพื่ อความถูกต้อง


น่ะเหรอคะ?” พี่สะใภ้รองได้ยนิ ก็รีบถามกลับไป

“ใช่ แ ล้ว ๆ ต้อ งขอบคุ ณ น้อ งชายเหวินเทามากจริ ง ๆ!”


พ่อค้าเนื้อไช่พูดด้วยท่าทางจริ งจัง

เมื่อวานภรรยาของเขาได้ใส่ เงินไว้ในกระเป๋ าของหล่อน


เป็ นเงินรายได้ของเขาในเดื อนนี้ รวมแล้วเป็ นเงินทั้งหมด 28
หยวน

หากไม่ใช่ เพราะน้องชายจ้าวเหวินเทาไม่กลัวต่ออานาจ
ความชัว่ ร้าย เงินในกระเป๋ าของภรรยาคงโดนขโมยจนหมด ที่
สาคัญก็คือเมื่อวานมีแค่ภรรยาของเขาอยู่ที่นนั่ เพียงลาพัง แต่
กลับต้องเผชิญหน้ากับผูช้ ายถึงสี่ คน
นี่มนั อันตรายขนาดไหนกัน?

เมื่ อวานหลังจากกลับถึ งบ้าน ภรรยาของเขาก็จบั มื อเขา


แล้วบอกเขาว่า ต้องขอบคุณเหวินเทาให้ดี ๆ หล่อนรู ้สึกซึ้ งใจ
กับศีลธรรมอันสู งส่ งของน้องชายจ้าวจริ ง ๆ!

ทาไมน่ะเหรอ?

ก็เ พราะจ้า วเหวิน เทารู ้ ดี ว่า เขาและภรรยาคงหนี ไ ม่ พ ้น


ดังนั้นเขาจึงตะโกนออกไปด้วยน้ าเสี ยงดุ ดนั สี หน้าเคร่ งขรึ ม
ตั้งแต่แรกเริ่ ม ว่าปล่อยพี่สาวคนนั้นแล้วเข้ามาหาฉันนี่!

ตอนที่สู้กนั หนึ่ งต้านสี่ เขายังตะโกนบอกว่าพี่สาวจงรี บ


หนีไป ผมจะรับมือเอง!

[1] หนึ่งชัง่ เท่ากับ ครึ่ งกิโลกรัม


ตอนที่ 7 หมูสามชั้นหนึ่งชิ้น

ขณะที่พี่สาวไช่ กาลังจมอยู่ท่ามกลางความสิ้ นหวัง เสี ยง


ของเขาก็ฟังดูราวกับเทพยดามาโปรด

ในสายตาของพี่สาวไช่ จ้าวเหวินเทาดูราวกับเป็ นเยาวชน


ดีเด่นห้าประการ[1] จริ ง ๆ หล่อนรู ้สึกซาบซิ้งใจเหลือเกิน

เห็ น เขาถู ก คนรุ ม ทุ บ ตี ม ากขนาดนั้น หล่ อ นก็เ กื อ บจะ


ตะโกนห้ามแล้วยกเงินให้คนพวกนั้นเพื่อให้หยุดทุบตีเขาแล้ว

โชคยังดีที่พ่อค้าเนื้อไช่และสหายมาได้ทนั เวลา

กลับมาพูดเรื่ องตอนนี้กนั ก่อน

พ่อค้าเนื้อไช่ถูกเชิญให้เข้ามาในบ้าน คุณแม่จา้ วได้ยนิ การ


เคลื่อนไหวจึงเดินออกมา สิ่ งแรกที่นางมองเห็นคือเนื้ อชิ้นนั้น
แต่นางไม่ได้เป็นคิดอะไรตื้น ๆ และรี บสั่งให้เถี่ยต้านไปเรี ยก
คุณอาหกให้ลุกขึ้นจากเตียง

จ้าวเหวินเทาเดินออกมาพลางหาวหวอดก่อนจะเห็นพ่อค้า
เนื้อไช่มาพร้อมกับเนื้อ แม้ในใจจะรู ้สึกพอใจที่คนทางานคนนี้
อยู่เป็ นและเอาใจใส่ ผูอ้ ื่น แต่ปากก็ยงั เอ่ยด้วยความเกรงใจว่า
“พี่ซื่อหู เกรงใจกันเกินไปแล้ว เรื่ องเมื่อวานต่อให้เป็ นคนอื่น
ผมก็ต ้อ งท าแบบนั้น เหมื อ นกัน ท าไมต้อ งเอาเนื้ อ ชิ้ น ใหญ่
ขนาดนี้ มาให้ผ มด้ว ยล่ ะ ครั บ ? พี่ รี บ เอาไปบ ารุ ง ร่ า งกายให้
หลานชายหลานสาวของผมเถอะ ส่ ว นตัว ผมไม่ ต ้อ งใช้ม ัน
หรอก!”

เมื่ อคาพูดนี้ ถูกลัน่ วาจาออกไป พี่สะใภ้รองจ้าว พี่สะใภ้


สามจ้าว และพี่สะใภ้สี่จา้ วต่างแทบหัวเราะไม่ออก

เนื้อชิ้นใหญ่ขนาดนี้เชียวนะ!
คุณแม่จา้ วก็พูดว่า “นัน่ สิ ๆ ถ้าหากเป็ นคนอื่นก็คงทาแบบ
นี้ เหมือนกัน ยังต้องนาเนื้ อชิ้ นใหญ่ขนาดนี้ มาทาไมกัน? เธอ
รี บเอากลับไปกินกันเองเถอะ”

“มันเป็นเรื่ องที่ตอ้ งทาน่ ะครับ ผมตั้งใจซื้ อมาให้นอ้ งชาย


โดยเฉพาะ ชายชาตรี แบบน้องจ้าวเหวินเทาควรได้รับรางวัลใน
ความกล้าหาญต่ อความถู กต้องเพื่อเป็ นตัวอย่าง แต่ ผมเองก็
ไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น ดังนั้นจึงทาได้แค่นาเนื้ อชิ้นนี้
มาให้นอ้ งชาย น้องชายรับไว้เถอะ จะได้เอาไปบารุ งร่ างกายให้
น้องสาวฉันด้วย ว่าแต่หล่อนอาการดีข้ ึนรึ ยงั ล่ะ?” พ่อค้าเนื้อไช่
พูด

เรื่ อ งที่ เ มื่ อ วานเย่ฉู ฉู่ ส ลบไป เขาเองก็รู้ สึ ก ไม่ ดี เพราะ


ภรรยาของเหวินเทาก็เกือบถูกไม้ทุบตีเหมือนกัน จึงตกใจจน
เป็ นลมหมดสติ

แต่ภรรยาของเขากลับไม่เป็ นอะไรเลย
ดังนั้นวันนี้ไม่วา่ อย่างไรก็ตอ้ งมอบเนื้อชิ้นนี้ให้อีกฝ่ าย

แต่ทางฝั่งตระกูลจ้าวยืนกรานที่จะคืนกลับไป เกี่ยงกันไป
เกี่ยงกันมาจนเกิดเสี ยงดังอื้ออึงเหมือนกาลังทะเลาะกับอีกฝ่ าย
กระทัง่ เพื่อนบ้านทุกคนได้ยนิ กันหมดและเข้ามาห้อมล้อมมุงดู

ท้า ยที่ สุ ด พ่ อ ค้า เนื้ อ ไช่ ก็ก ลับ ไปพร้ อ มกับ เหงื่ อ โชกทั้ง
ศี ร ษะ แต่ ต อนที่ ขี่ จ ัก รยานออกไป ใบหน้า กลับเต็ม ไปด้ว ย
ความพึงพอใจ ตระกูลจ้าวนี้ไม่เลวเลยจริ ง ๆ นับว่าเป็ นตระกูล
ที่มีศีลธรรมก็วา่ ได้!

หลังจากกลับไปเขาก็เล่าให้ภรรยาฟัง ภรรยาของเขาไม่ได้
รู ้ สึกว่าผิดคาดเลยสักนิ ด การที่ ตระกูลนั้นสามารถอบรบสั่ง
สอนน้องชายเหวินเทาให้เป็ นคนแบบนั้นได้ถือว่าไม่เลวเลย

ส่ วนทางฝั่งตระกูลจ้าวก็ดีใจเป็ นอย่างมาก
คุ ณ แม่ จ ้า วถื อ เนื้ อ หมู ส ามชั้ นล่ อ ตาคนมองไว้ใ นมื อ
จากนั้นก็ออกไปยืนคุยโวกับเพื่อนบ้าน

ทั้งหมู่บา้ นรู ้เรื่ องที่เมื่อวานนี้ จา้ วเหวินเทาแสดงวีรกรรม


เพื่อความถูกต้องแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่ได้ใส่ ใจอะไร ทว่าวันนี้
อี ก ฝ่ ายกลับ ถื อ เนื้ อ หมู ชิ้ น โตมาให้ ต้ ัง แต่ เ ช้ า เพื่ อ เป็ นการ
ขอบคุณ เรื่ องนี้จึงต่างไปจากเดิม

“คนคนนี้ ก็เกรงใจเกินไป บอกให้เขาเอากลับไปก็ยงั ยืน


กรานจะให้ มันก็ช่วยไม่ ได้ ก็เลยทาได้เพียงแค่ รับของขวัญ
ขอบคุณชิ้นนี้มาน่ะจ้ะ” คุณแม่จา้ วพูดกับคนอื่น ๆ

“เหวินเทาลูกชายคนนี้ ก็ควรจะได้กิน ลูกผูช้ ายที่มีความ


กล้าหาญเพื่อความถูกต้องควรได้รับการยกย่องเช่ นนี้ แหละ”
แม่เฒ่าหยางที่ป้อนน้ ามนต์ให้เย่ฉูฉู่ดื่มพูดขึ้น

“ถูกฟาดไม้เดียวแลกกับเนื้ อชิ้นใหญ่ขนาดนี้ เรี ยกให้ฉัน


ไปฉันก็ยนิ ดีที่จะถูกทุบเหมือนกันนัน่ แหละ!” คนอีกคนพูด
“ตอนที่ ผ มถู ก ไม้ทุ บ ผมก็ ไ ม่ รู้ เ หมื อ นกัน ว่ า พี่ ใ หญ่ ไ ช่
ทางานอยูท่ ี่โรงฆ่าสัตว์ทางฝั่งนั้น ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร ก็บุก
เข้าไปโดยไม่ได้พูดพร่ าทาเพลงอะไรเลยน่ ะครับ” จ้าวเหวิน
เทาพูด

พี่ ร องจ้า วและคนอื่ น ๆ ทยอยลุ ก ขึ้ น จากเตี ย งแล้ว และ


พบว่ามีคนจานวนไม่นอ้ ยมายืนอออยูท่ ี่หน้าประตูทางเข้า

หลังจากฟังเรื่ องราวที่เกิดขึ้นจนเข้าใจ และได้เห็นว่ามีเนื้อ


อยู่ในมื อของแม่ พวกเขา ดวงตาก็พลันเป็ นประกายแวววาว
ขึ้นมา

คิดไม่ถึงเลยว่าน้องหกจะอุทิศตนให้กบั ครอบครัวจริ ง ๆ!

คุณแม่จา้ วปล่อยให้เหล่าลูกชายยืนอยูท่ ี่นี่ ส่ วนตนเองเดิน


หิ้วเนื้อกลับเข้าห้องไปแล้ว
ภายในบ้านไม่ มีน้ ามันแม้แต่ หยดเดี ยว แต่ หมู สามชั้นนี้
สามารถขับน้ ามันออกมาได้ไม่นอ้ ย คุณแม่จา้ วจึงหัน่ แล้วใส่ ลง
ไปในหม้อ

เย่ฉูฉู่ยงั งัวเงียอยู่ กว่าจะลุกขึ้นจากเตียง เก็บที่นอนและทา


นู่นทานี่อย่างเชื่องช้า

จ้าวเหวินเทาคุยโม้เสร็ จก็เดินกลับมา ครั้นเห็นภรรยาของ


ตัวเองตื่นแล้ว จึงพูดด้วยรอยยิม้ “ภรรยา อรุ ณสวัสดิ์ครับ”

“อรุ ณสวัสดิ์ค่ะ” เย่ฉูฉู่ใบหน้าแดงระเรื่ อ เมื่อนึกถึงเรื่ องที่


เกิดขึ้นเมื่อคืน

นี่กส็ ายแล้ว นางต้องออกไปช่วยงาน แต่กลับถูกจ้าวเหวิน


เทาจับตัวไว้ “ไม่ตอ้ งไปทางานหรอก มีพวกพี่สะใภ้อยูน่ ะ”

“ฉันต้องไปช่วยเหลือสิ คะถึงจะถูก” เย่ฉูฉู่พูด


อยูใ่ ต้ชายคาเดียวกัน หากตนเองไม่ทาอะไรเลย เช่นนั้นคง
ไม่ได้ ต่อให้ลาเอียงรักลูกสะใภ้ไม่เท่ากันแต่ก็ตอ้ งทาในสิ่ งที่
พึงกระทาจึงจะถูก

เย่ฉูฉู่ออกไปช่วยงานหน้าบ้านแล้ว จ้าวเหวินเทาอดไม่ได้
ที่จะพึมพาขึ้นว่า เหตุใดจู่ ๆ เธอถึงได้เปลี่ยนไปมากมายขนาด
นี้ ภรรยาของเขาไม่ใช่คนขยันหมัน่ เพียรสักหน่อย

แต่กเ็ อาเถอะ อย่างไรก็ไม่ใช่งานหนักอะไร เขาคิดแล้วจึง


เดินไปแปรงฟัน

เย่ฉูฉู่เดินมาด้านหน้าบ้านจึงได้ทราบเรื่ องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า
ภายในใจกลับไม่ได้มีความสุ ขเท่าไรนัก ถูกทุบตีขนาดนั้นแต่
กลับ แลกได้แ ค่ เ นื้ อ ชิ้ น นี้ หนึ่ งชิ้ น มัน จะไปมี ค วามสุ ข ได้
อย่างไรกันล่ะ?

แต่เห็นได้ชดั ว่าเพราะเนื้ อชิ้นนี้ ทุกคนจึงเกรงใจนางมาก


ขึ้นสองส่ วน
หากไม่มีเจ้าหก ในบ้านก็คงไม่มีทางได้รับเนื้อชิ้นนี้

ตอนนี้ทางฝั่งด้านในห้องครัวมีกลิ่นน้ ามันลอยออกมาแล้ว
กลิ่นนั้นช่างหอมหวนจนทนไม่ไหวจริ ง ๆ

ถึงตอนเช้าจะรับประทานวอโถว[2]มันเทศ แต่คุณแม่จา้ ว
ได้ใช้น้ ามันก้นหม้อผัดกับข้าวจานใหญ่ กลิ่นอาหารที่ผดั ด้วย
น้ า มัน หมู ช่ า งหอมน่ า รั บประทานเหลื อ เกิ น ทั้ง ยัง มี น้ า แกง
มะเขือเทศไข่คน[3]ที่มีน้ ามันลอยเยิม้ อยูอ่ ีกหนึ่งถ้วยด้วย

ต้องบอกว่าทุกคนต่างกินกันจนหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือ

จ้าวเหวินเทาและเย่ฉูฉู่เองก็กินจนหนาใจเช่นกัน

ในเวลานี้ เสี ยงนกหวีดดังขึ้นจากด้านนอกแล้ว เมื่อเสี ยง


นกหวีดดังขึ้น ก็เป็ นเวลาที่ตอ้ งไปทางาน
“เหวิ น เทาเมื่ อ วานคุ ณ ถู ก ทุ บ ตี ม า ร่างกายยัง ไม่ ป กติ
กลับไปนอนต่อเถอะค่ะ ฉันไปทางานเอง” เย่ฉูฉู่กล่าวโน้มน้าว
สามีผบู ้ า้ ระห่า

ครั้นเอ่ยวาจานี้ ออกมา ทุกคนต่างเหลือบมองไปทางคุ ณ


พ่อจ้าว ก่อนจะมองมาที่สองสามีภรรยาคู่น้ ี

ดูสิ สองสามีภรรยาบ้านหกนี่ช่างสมกับเป็นคู่ชีวิตกันจริ ง
ๆ สวมกางเกงตัวเดียวกัน ไม่ได้เปลี่ยนนิ สัยหลังจากได้สร้าง
วีรกรรมเพื่อความถูกต้องเลย

“เจ้าหก ยังเจ็บอยูห่ รื อเปล่า?” คุณพ่อจ้าวถาม

“เจ็บอยู่ครับ ถ้าได้พกั อีกสักวันคงดี มากเลย” จ้าวเหวิน


เทาพูดอย่างไม่เกรงใจ
เขาอดไม่ได้ที่จะหันไปมองภรรยาตนเอง ภรรยาของเขา
เริ่ มเปลี่ยนเป็นคนดีแล้วจริ ง ๆ ก่อนหน้านี้ เธอแทบจะหยิบไม้
ขึ้นมาทุบไล่เขาให้ไปทางาน แต่ตอนนี้ กลับปล่อยให้เขานอน
พักผ่อน

ได้ยนิ คาพูดในวันนี้แล้ว มันช่างตื้นตันใจมากขนาดไหน?

คาพูดดี ๆ เมื่อวานไม่ใช่คาพูดปลอบใจเขา แต่ดีกบั เขาด้วย


ใจจริ ง!

“ในเมื่อไม่สบาย งั้นก็หยุดอีกวันก็แล้วกัน แต่พรุ่ งนี้ แก


ต้องไปทางานนะ!” คุณพ่อจ้าวพูด

“ได้ครับ แต่ผมก็จะไม่อยู่บา้ นเฉย ๆ นะ ผมจะขึ้นเขาไป


ตัดฟื นกลับมาสองมัด ” จ้าวเหวินเทาพูด วันนี้ ฤกษ์งามยามดี
ผลไม้ในป่ าขึ้นเยอะ ภรรยาของเขารักเขาขนาดนี้ เขาก็ตอ้ งเข้า
ป่ าเก็บผลไม้ป่ากลับมาให้ภรรยาของเขาสักหน่อยไม่ใช่เหรอ?
พี่สะใภ้สี่จา้ วบุย้ ปาก ทั้งยังราพึงอยูภ่ ายในใจสองประโยค
แต่พ่อแม่สามีตอบตกลงไปแล้ว หล่อนยังจะกล้าพูดอะไรอีก?

“ภรรยา ไปทางานแล้วก็อย่าปล่ อยให้ตวั เองเหนื่ อ ยนะ


ครับ” จ้าวเหวินเทาพูด ขณะที่ภรรยาสวมหมวกและกาลังจะ
เดินออกจากบ้าน

“ฉันรู ้แล้วค่ะ” เย่ฉูฉู่พยักหน้า

จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายทาหน้าที่ของตนเอง

คนที่ควรไปทางานก็ไปทางาน คนที่ควรซักเสื้ อผ้าก็ไปซัก


เสื้ อผ้า คนที่ควรอยูบ่ า้ นเพื่อดูแลบ้านก็ดูแลบ้าน

จ้าวเหวินเทาถื อไม้คานและสะพายตะกร้ าใบเล็กไว้บน


หลัง ก่อนจะเดินขึ้นเขาไปอย่างสบายๆ
[1] เยาวชนดี เด่ นห้าประการ (五好青年) หมายถึ ง
คนที่เรี ยนดี ความคิดดี ทางานดี วินยั ดี และพฤติกรรมดี

[2] อาหารแป้ งที่ ทามาจากแป้ งธัญพืชหยาบ รู ปร่ างทรง


กรวย ตรงกลางมีช่องไว้ใส่ ไส้

[3] น้ าแกงมะเขือเทศไข่คน
ตอนที่ 8 ใต้ ต้นไม้ มกี ระต่ ายป่ าหนึ่งตัว!

ทุกคนที่ได้เห็นกับตาตัวเองต่างพากันส่ ายหน้าอย่างห้าม
ไม่ อ ยู่ น้อ งหกจ้า วยัง เป็ นน้อ งหกจ้า วอยู่ว นั ยัง ค่ า ทุ ก คนไป
ทางานกันหมด แต่เขากลับขึ้นไปตากลมบนยอดเขา หากไม่ใช่
เพราะตระกูลจ้าวมีผชู ้ ายเยอะ คนในหมู่บา้ นคงไม่เห็นด้วย

ท้ายที่สุดการแบ่งอาหารก็แบ่งตามทางานสามครัวเรื อน
เจ็ด!

ทางานสามครั วเรื อนเจ็ดคื อ แบ่ งอาหารตามการทางาน


สามส่ วน อีกเจ็ดส่ วนแบ่งตามจานวนสมาชิกในครัวเรื อน

ต่อให้จา้ วเหวินเทาไม่ ทางาน แต่เขาก็ยงั ได้รับส่ วนแบ่ ง


อาหารตามจานวนสมาชิ กครัวเรื อนอยู่ดี นี่ จึงเป็นเหตุผลที่ ว่า
เหตุใดคนที่เกียจคร้านเหล่านั้นจึงไม่หิวตาย
แน่นอนว่าการกิน ๆ นอน ๆ แบบนี้กไ็ ม่ต่างกับการให้คน
ที่อยูใ่ นทีมผลิตทั้งหมดเลี้ยงชีพ ทุกคนย่อมไม่พอใจอยูแ่ ล้ว ทั้ง
ยังเป็ นหนี้กบั คนในกลุ่มด้วย!

เพียงแต่ตระกูลจ้าวมีจานวนแรงงานเยอะ มีท้ งั คุณพ่อจ้าว


ที่เพิ่งจะอายุห้าสิ บปี บริ บูรณ์ในปี นี้ ส่ วนพี่รองจ้าว พี่สามจ้าว
และพี่สี่จา้ วก็เป็ นยอดชาย พี่สามจ้าวทางานได้ไม่มาก แต่กไ็ ด้
แต้มค่าแรงมา 8 แต้ม ส่ วนพี่รองจ้าวและพี่สี่จา้ วได้รับไปเต็ม
ๆ 10 แต้ม ไหนจะภรรยาของพวกเขาอี ก ที่ ต่างก็ได้รับแต้ม
ค่าแรงไปคนละ 6-7 แต้ม

ดังนั้นจึงไม่ถือว่าเป็ นการเอาเปรี ยบคนในหมู่บา้ นเลย อีก


อย่างจ้าวเหวินเทาก็เป็ นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ทุกคนจึงไม่ได้
ประหลาดใจอะไร

วันนี้เย่ฉูฉู่เดินทางออกมาถอนต้นมันเทศกับคนอื่น ๆ ด้วย
เช่นกัน
ในหมู่บา้ นเพิ่งจะเริ่ มเลี้ยงหมูเมื่อปี ที่แล้ว ก่อนหน้านี้ อยู่
กันอย่างลาบากยากเข็ญ แค่คนก็ไม่พอจะกินอยูแ่ ล้ว อย่าได้พูด
ถึ งการเลี้ ยงหมู เลย แต่ หลังจากที่ เริ่ มเลี้ ยงหมู เมื่ อไม่ กี่ปีก่ อน
ปฏิกิริยาของเหล่าสมาชิกถือว่าไม่เลว

หมู ชุ ด นี้ มี ท้ งั หมด 14 ตัว บางตัว ก็เ ริ่ ม เลี้ ย งตั้ง แต่ ตน้ ฤดู
ใบไม้ผลิปีที่แล้วจนถึงปี นี้ และมีบางตัวที่จบั มาเลี้ยงในปี นี้ ตัว
ที่ เลี้ ยงตั้งแต่ ปีที่ แล้วจนถึ ง ปี นี้ สามารถส่ งไปยังสถานี รั บซื้ อ
สิ นค้าได้แล้ว สิ่ งนี้ ทาให้เหล่าสมาชิ กต่างตั้งตารอคอยอย่างมี
ความสุ ข

เพราะหากเลี้ยงจนโตแล้ว ส่ วนที่เหลือจากการส่ งมอบงาน


ก็ จ ะตกเป็ นของคนในหมู่ บ้ า นตนเอง แน่ น อนว่ า ต้อ งมี
ใบรับรองการเชือดในการเชือดหมูดว้ ย เมื่อขายให้สถานีรับซื้ อ
สิ นค้าก็จะได้รับใบรับรองการเชือดมา
หลังจากขายให้สถานี รับซื้ อสิ นค้าก็จะสามารถแลกเงิน
น ามาแบ่ ง ให้ส มาชิ ก ได้ แต่ ภ ายในหมู่ บ้า นจะไม่ ไ ด้ข ายหมู
ทั้ง หมด เพราะต้อ งเหลื อ ไว้อี ก 1-2 ตัว เพื่ อ ฆ่ า แล้ว แบ่ ง ให้
สมาชิก

เนื้ อหมูหอมและอร่ อยขนาดไหนทุกคนต่างรู ้ดี 70% ของ


คนในหมู่บา้ นไม่ได้ชิมรสชาติของเนื้อมาหลายปี แล้ว

ไม่เช่ นนั้นวันนี้ ตอนที่พ่อค้าเนื้ อไช่ นาเนื้ อชิ้ นนั้นมามอบ


ให้ ทาไมถึงมีกลุ่มคนมาห้อมล้อมหน้าประตูบา้ นตระกูลจ้าว
ล่ะ?

แน่นอนว่าคนที่มีเงื่อนไขได้รับอนุญาตก็จะได้แบ่งเนื้อไป
บางส่ วนด้วย ของที่เหลือจากนั้นไม่ตอ้ งใช้ตวั๋ เนื้ อซื้ อ มีเงินก็
สามารถซื้อได้

ตระกูลจ้าวเคยซื้อมาหลายครั้งแล้ว
เรื่ องนี้ ไม่ตอ้ งพูดถึงเลย เพราะบรรดาหมูเมื่อปี ที่แล้วต่าง
เติบโตจนมีน้ าหนักเกิน 120 ชัง่ ตามที่กาหนดไว้ ดังนั้นทุกคน
จึ ง มี ค วามจริ ง จัง เป็ นอย่า งยิ่ง และให้ก ารดู แ ลปรนนิ บ ัติ ห มู
เหล่านี้อย่างละเอียดอ่อนเป็ นพิเศษ

เย่ฉูฉู่เดินตามคนแก่และเด็ก ๆ เพื่อไปถอนต้นมันเทศ งาน


ถอนต้นมันเทศเป็ นอาหารหมูเหล่านี้เดิมทีมอบหมายให้กบั คน
แก่ เด็กและสตรี เนื่องจากในบรรดางานทั้งหมดถือว่าเป็ นงาน
ที่ค่อนข้างสบาย

แต่หลังจากที่เย่ฉูฉู่แต่งงานเข้าตระกูลจ้าว งานของเธอก็
คืองานของต้าหยาและเอ้อร์หยา

ซึ่ งพวกเธอสองคนก็ตามมาสมทบหลังจากซักเสื้ อผ้าของ


ทั้งบ้านเสร็จแล้ว
ส่ วนสองพี่น้องซานหยาและซื่ อหยาลู กสาวของพี่สี่จา้ ว
และพี่สะใภ้สี่โดยปกติแล้วจะอยู่ที่บา้ นกับคุณแม่จา้ ว คอยขุด
ไส้เดือนและนาไปให้ไก่กิน

ในบ้านเลี้ยงไก่ไว้ดว้ ย เป็ นไก่หลูฮวั [1] จานวน 5 ตัว พวก


มันออกไข่ อย่างขยันขันแข็ง ซึ่ งโดยส่ วนใหญ่ แล้วซานหยา
และซื่ อหยาจะเป็นผูด้ ูแลพวกมัน เช่ นเดียวกันกับเด็กผูช้ ายใน
บ้านนี้ พวกเขาต่างก็ออกไปจับปลาและกุง้ ตัวเล็กกลับมาเป็น
อาหารไก่เช่นเดียวกัน

ที่สามารถเลี้ยงไก่ หลูฮวั ได้ 5 ตัว ก็เป็ นเพราะสมาชิ กใน


ตระกูลจ้าวมี จานวนมาก หากไม่ ใช่ เพราะเหตุ ผลนี้ คงไม่ได้
เลี้ยงพวกมันมากมายขนาดนี้

แต่ ด้ว ยจ านวนสมาชิ ก ที่ ม าก ไก่ 5 ตัว จึ ง ไม่ ไ ด้ม ากมาย


อะไร แน่นอนว่าไก่ 5 ตัวก็ถือเป็ นขีดจากัดสู งสุ ดแล้ว
เย่ฉูฉู่ถอนต้นมันเทศอย่างขะมักเขม้น คนที่อยูข่ า้ ง ๆ ถาม
นางเกี่ยวกับเรื่ องเนื้ อชิ้ นนั้นในตอนเช้าว่ามันมีกลิ่นหอมเป็ น
พิเศษขนาดไหน?

เย่ฉูฉู่มีความประทับใจต่อหญิงชราคนนี้ที่กาลังถามเธออยู่
นิ ดหน่ อย ทั้งนางยังเป็ นคนที่มีความสัมพันธ์อนั ดี กบั ตระกูล
จ้าว จึงกล่าวด้วยรอยยิม้ ว่า “จากที่คุณป้ าถามมา เนื้ อมันจะไม่
หอมอร่ อยตรงไหนกันล่ะคะ? ปี นี้หมูของฝ่ ายผลิตพวกเราก็จะ
ถูกปล่อยออกมาจากคอกแล้ว ถึงเวลานั้นด้วยจานวนแรงงาน
ของบ้านคุณป้ าก็คงได้ส่วนแบ่งไม่นอ้ ย ปี นี้ ได้กินจนปากมัน
แผล็บแน่นอนค่ะ”

หญิงชราคนนี้ เดิ มทีก็มาพร้อมความอิจฉาเล็ก ๆ ครั้นได้


ยินคาพูดของเย่ฉูฉู่ นางจึงยิม้ จนหน้าบานเป็ นกระด้ง “จะว่าไป
แล้วหมูของฝ่ ายผลิตพวกเราก็อว้ นจริ ง ๆ นัน่ แหละ คาดว่าปี นี้
คงแบ่งเงินกันได้ไม่นอ้ ยเลยล่ะ!”
“แน่ นอนอยู่แล้วค่ ะ บ้านคุ ณป้ ามี คนเยอะมาก แถมยังมี
อนาคตที่สดใส คงไม่ได้เลวร้ายอะไร” เย่ฉูฉู่พูด

ไม่ว่าจะเป็ นเนื้อหรื อเงิน ล้วนต้องแบ่งตามแรงงานยึดจาก


หัวหน้าหมู่ บา้ น ทางานเยอะก็ได้ส่วนแบ่ งเนื้ อและเงิ นเยอะ
ทางานน้อยย่อมได้นอ้ ย

ฝั่งแม่เฒ่าฟางยิง่ มองสะใภ้หกตระกูลจ้าวก็ยงิ่ รู ้สึกถูกชะตา


เพราะอีกฝ่ ายพูดได้น่าฟั งจริ ง ๆ นางกล่าวว่า “ทาไมเจ้าเด็กเห
วินเทานั่นไม่ออกมาทางานล่ะ? อายุก็ยงั น้อย วัน ๆ ทาตัวไม่
เข้าท่าเอาเสี ยเลย ก่อนหน้านี้ ยงั พอทน แต่นี่แต่งงานแต่งการ
แล้ว ยังเตร็ดเตร่ ข้ ึนเขาไม่มาเก็บแต้มค่าแรงอีก”

เย่ฉูฉู่พลันอธิ บายไปว่า “วันนี้ ก็ช่วยไม่ได้น่ะค่ะ เมื่อวาน


เป็ นเพราะช่ วยพี่สาวไช่ จึงได้รับบาดเจ็บ คุ ณพ่อก็เลยให้เขา
พักผ่อนที่บา้ นหนึ่งวัน สุ ดท้ายแล้วเขาก็ทาเพื่อคนในครอบครัว
ต่อสู ้เพื่อเป็ นหน้าเป็ นตาให้กบั ฝ่ ายผลิตของพวกเราด้วย ความ
กล้าหาญเพื่อความถูกต้อง หากถูกเผยแพร่ ออกไปย่อมทาให้มี
คนมองสมาชิกทีมผลิตของพวกเราสู งขึ้นด้วยนะคะ”

“มันก็จริ งนะ” แม่เฒ่าฟางพยักหน้า

“แต่เหวินเทาก็ไม่ได้นอนอยูบ่ า้ นเฉย ๆ นะคะ นี่เขาก็หยิบ


ไม้คานขึ้นไปตัดฟื นบนเขาแล้วด้วย” เย่ฉูฉู่กล่าว

แม่ เฒ่ าฟางได้ยินว่าเธอกาลังออกโรงปกป้ อ งผูช้ ายของ


ตนเอง จึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ก่อนหน้านี้ ฉันได้ยินว่าเธอชอบ
ตะคอกใส่ เขา วันนี้เธอดูเหมือนกาลังปกป้องเขาอยูเ่ ลยนะ”

เย่ฉูฉู่ใบหน้าแดงระเรื่ อขณะพูด “คุณป้าอย่าหยอกฉันสิ คะ


เมื่ อวานฉันเองก็เพิ่ ง ทราบ สุ ดท้ายแล้วเขาก็คื อสามี ข องฉัน
ช่ วงเวลาที่สาคัญเขาก็ยงั ปกป้ องฉัน ตอนที่อนั ธพาลพวกนั้น
กาลังฟาดไม้มาที่ฉนั เหวินเทากลับใช้หลังเข้ามารับไม้ปกป้อง
ฉันโดยไม่พูดพร่ าทาเพลงอะไรเลย!”
แม่เฒ่าฟางพยักหน้า ทั้งยังประเมินอีกฝ่ ายสู งขึ้นด้วย นาง
กล่ า ว “เหวิน เทาทาได้ไ ม่ เ ลวเลยนะ ยอมให้ต ัว เองถู กทุ บตี
ดีกว่าปล่อยให้ภรรยาของตัวเองถูกตี เธอเลือกถูกคนแล้วล่ะ!”

เย่ฉูฉู่ ยิ้มพลางถอนวัช พืชพร้ อมหญิ งชราไปพลาง ครั้ น


ถอนทางฝั่ ง ตัว เองเสร็ จ แล้ว เธอก็ย งั มี น้ า ใจช่ ว ยถอนอี กนิ ด
หน่ อย ระหว่างนั้นก็ฟังหญิงชราคนนี้ เล่าเรื่ องสัพเพเหระไป
ด้วย

จ้าวเหวินเทาที่อยูบ่ นเขาได้เข้าไปด้านในพุ่มไม้ที่ค่อนข้าง
ลึกแล้ว เขามักจะเข้ามาในเขาเพื่อหาของกินตอนที่ยงั เด็ก เป็ น
เพราะตอนเด็กเขาหิ วเกินไป และเป็ นเรื่ องยากที่จะกินให้อิ่ม
ท้อ งยามอยู่ที่ บ ้า น โดยเฉพาะหลัง จากที่ พี่ ช ายและพี่ ส ะใภ้
แต่งงานกัน ทั้งยังมีหลานชายและหลานสาวเพิ่มเข้ามาอีกตั้ง
เยอะแยะ
แล้วอาเล็กคนนี้ จะไม่ เข้าป่ ามาหาของกิ นได้อย่างไรกัน
ล่ะ?

ไม่ ต ้อ งพู ด เลยว่า เขาคุ ้น ชิ น กับด้า นในป่ าเป็ นอย่า งมาก


และเขาก็รู้ดีวา่ ที่ไหนมีผลไม้ป่า

ยกตัวอย่างเช่ นเมื่อครู่ เขาก็เพิ่งเจอราสเบอร์ รี่ ราสเบอร์ รี่


เหล่านี้มีสีแดงฉ่าทุกลูก เหมือนกับโคมแดงขนาดเล็กเลย

จ้าวเหวินเทาเห็นก็รู้สึกดี ใจเป็นอย่างมาก เขาเด็ดออกมา


ลองกินหนึ่งผล รสชาติเปรี้ ยวหวานไม่เลว “ภรรยาของฉันต้อง
ชอบแน่นอน”

แต่ตอนนี้ยงั ไม่จาเป็ นต้องรี บเด็ดผลไม้ป่า เขาจึงปี นขึ้นไป


งีบบนต้นไม้ก่อน ตอนนี้ยงั เช้าอยู่ ตื่นแล้วค่อยว่ากันอีกที
แต่ผชู ้ ายคนนี้กช็ ่างขี้เซาเสี ยจริ ง เพิ่งขึ้นมาบนต้นไม้ได้ไม่
นาน เขาก็ผล็อยหลับอยูบ่ นง่ามไม้เสี ยแล้ว หลับไปหนึ่งชัว่ โมง
ก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับหาวหวอดใหญ่

“กี่ โ มงแล้ว เนี่ ย ?” จ้า วเหวิ น เทาพู ด ด้ว ยท่ า ทางที่ ย ัง คง


สะลึ มสะลื อ เขายืนบนต้นไม้มองไปยังพระอาทิ ตย์ที่อยู่บน
ท้องฟ้า คาดการณ์ได้วา่ น่าจะประมาณสิ บโมงแล้ว จึงพูดขึ้นว่า
“ได้เวลาแล้วล่ะ”

ขณะที่กาลังลงจากต้นไม้เพื่อไปเก็บผลไม้ป่านัน่ เอง เขาก็


พลันต้องชะงักไป เพราะใต้ตน้ ไม้มีกระต่ายป่ าสี เทาหนึ่งตัว!

[1] ไก่ ห ลู ฮัว (芦花鸡) เป็ นไก่ พ้ื น เมื อ งของจี น ใน


มณฑลชานตงมีลกั ษณะอ้วนกลมส่ วนใหญ่มีสีดาแทรกด้วยจุด
สี ขาว
ตอนที่ 9 มีเนื้อมากขนาดไหน?

กระต่ายตัวนี้ทาให้จา้ วเหวินเทาตื่นเต้น สาหรับเขาแล้วมัน


ไม่ใช่กระต่าย แต่เป็ นเนื้อกระต่ายน้ ามันเยิม้ หนึ่งหม้อต่างหาก
ล่ะ!

ขณะที่ กาลังจะไต่ ลงจากต้นไม้อ ย่างระมัด ระวัง เพื่ อ จับ


กระต่าย เขาก็ดนั เหยียบกิ่งไม้แห้งที่อยูใ่ ต้เท้าจนหักไปหนึ่ งกิ่ง
โดยไม่ทนั ได้ระวัง

เสี ยงไม้แห้งหักดัง ‘แกรก’ ก่อนจะร่ วงหล่นลงไป

“แย่แล้ว!” จ้าวเหวินเทาร้อนใจ เนื้อที่ส่งมาถึงปากกาลังจะ


โดดหนีไปแล้ว

ตอนที่ เ ขาก าลัง จะกระโดดลงไปจับ กระต่ า ยโดยไม่


คานึ งถึงสิ่ งใดนั้น จู่ ๆ ภาพตรงหน้าก็ทาให้เขาถึงกับตะลึงงัน
เพราะกระต่ายตัวนั้นตกใจจนกระโดดดีดตัวโหม่งศีรษะเข้ากับ
ต้นไม้และตายด้วยตัวมันเอง!

“หา?” จ้าวเหวินเทาชะงัก

เดิ มทีเขาคิดจะกระโดดลงไป แต่เมื่อเห็นกระต่ายตัวนั้น


โหม่ ง ชนต้น ไม้จ นขากระตุ ก อยู่ส องครั้ งก่ อ นจะแน่ นิ่ ง ไป
เช่นนั้นก็คงไม่ตอ้ งรี บร้อนแล้ว เขาจึงปี นต้นไม้ลงมาด้านล่าง

เขาจับ หู ก ระต่ า ยยกขึ้ นมาด้ว ยรอยยิ้ ม “คนโบราณมี


ส านวนว่า เฝ้ า ต้น ไม้ร อกระต่ า ย ไอ้เ ราก็คิ ด ว่า เป็ นแค่ ค าพู ด
หลอกเด็ก คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีกระต่ายโง่แบบนี้จริ ง ๆ”

เอาล่ะ ได้เนื้อมาหนึ่งหม้อแล้ว

จ้าวเหวินเทาเริ่ มเก็บผลไม้ป่า ตะกร้าใบเล็กที่เขานามาด้วย


นั้นทาจากตอกไม้ไผ่สานฝี มื อของพ่อเขา ครั้ นใส่ ไปได้ครึ่ ง
ค่อนตะกร้า เขาก็เก็บจนหมดเกลี้ยงแล้ว
หลังจากปิ ดฝาตะกร้า เขาก็คิดอยากจะหิ้วกระต่ายกลับไป
ที่บา้ น เพราะหากหิ้วกระต่ายตัวนี้กลับบ้านโดยไม่มีฟืนก็คงไม่
มีใครกล้าด่าอะไรเขา

แต่เมื่อมาคิดดูแล้ว เขาคิดว่ากระต่ายตัวนี้สะดุดตาเกินไป
หน่อย

ตอนนี้ไม่ได้เคร่ งครัดเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ที่แม้แต่หญ้าใบ


เดี ย วก็ไ ม่ ส ามารถขยับ ตามอ าเภอใจได้ ตอนนี้ ตราบใดที่ มี
ความสามารถก็สามารถนาของป่ าจากบนเขากลับไปกินที่บา้ น
ได้

ทั้งยังเป็ นแหล่งเนื้อสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดภายในหมู่บา้ นด้วย


แต่วนั นี้ พี่ใหญ่ไช่ เพิ่งจะนาเนื้ อมาให้หนึ่ งชั่ง หากเขาหิ้ ว
กระต่ายตัวนี้กลับไป มันจะไม่สะดุดตาเหรอ? คนอื่นเห็นคงได้
อิจฉาตาร้อนแน่

ดังนั้นเขาจึงทาได้แค่เก็บฟื น จะว่าไปวันนี้ เขาก็โชคดี ไม่


เบา เพราะตอนที่เก็บฟื น ก็ได้เจอกับรังไก่ฟ้าด้วย

ตัวแม่ไก่น้ นั ไม่อยู่ แต่ในรังนั้นมีไข่อยู่ 7-8 ฟอง!

ขนาดของไข่ไก่ฟ้าย่อมไม่อาจเทียบไข่ไก่ได้ แต่ไข่ไก่ฟ้า
จานวน 7-8 ฟองก็นบั ว่าไม่นอ้ ยเลย เขาจึงเทราสเบอร์รี่ที่อยูใ่ น
ตะกร้าใบเล็กออกมา หลังจากวางไข่ลงไป จึงนาราสเบอร์รี่ใส่
กลับเข้ามาตามเดิม

วัน นี้ เก็บ ไข่ ไ ก่ ฟ้ า ได้ 7-8 ฟอง ได้ร าสเบอร์ รี่ แถมยัง มี
กระต่ายอีกหนึ่งตัวด้วย

จ้าวเหวินเทาแบกฟื นมัดหนึ่งลงจากเขาอย่างอารมณ์ดี
ตอนเช้าคนอื่นไปทางานส่ วนเขาขึ้นเขา ตอนเที่ยงคนอื่น
เลิกงานส่ วนเขาลงจากเขา แต่ดว้ ยความพยายามในช่ วงเช้านี้
หากเป็ นคนอื่นที่ทางานเป็ น ก็คงแบกฟื นจานวนมากกลับมา!

แต่คนคนนี้ สุดยอดเป็นอย่างยิง่ เพราะเขาแบกฟื นมัดเล็ก


มัดเดียวกลับมาที่บา้ น

“เหวินเทา ฟื นที่แบกมานี่ ใช้เวลาตัดไปครึ่ งวันเลยเรอะ?”


ป้าใหญ่ของจ้าวเหวินเทาพูดเหน็บแนม

“สวัสดีครับป้ าใหญ่” จ้าวเหวินเทาไม่รู้ว่าอีกฝ่ ายกาลังพูด


เหน็บแนมเขา กลับทักทายด้วยรอยยิม้

“พี่เหวินเทา บาดแผลบนร่ างกายดีข้ ึนรึ ยงั ?” ลูกพี่ลูกน้อง


คนหนึ่งของเขาถามขึ้น
“ดีข้ ึนเยอะแล้วล่ะ ฉันแบ่งราสเบอร์รี่ให้นายเอาไปกินนะ”
ระหว่า งที่ จ ้า วเหวิน เทาพู ด เขาก็ห ยิบราสเบอร์ รี่ ห นึ่ ง ก ามื อ
ออกมาจากตะกร้าใบเล็ก

“ฮ่ า ๆ ขอบคุ ณมากนะพี่เหวินเทา” ลูกพี่ลูกน้องคนนี้ ยิ้ม


แก้มปริ

“เอาล่ะ ฉันกลับแล้วนะ” จ้าวเหวินเทาพูด

เขาเผชิญหน้ากับสายตาของชาวบ้านที่กาลังส่ ายหน้า ขณะ


เดินทางกลับบ้านอย่างอิสระ

ในเวลานี้ทุกคนอยูท่ ี่บา้ นกันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว รวม


ถึ ง เย่ ฉู ฉู่ ที่ ก ลับ มาด้ว ยความกัง วลใจ แม้ว่ า บนเขาจะไม่ มี
อันตรายอะไร แต่ที่นนั่ ก็เป็ นป่ าเขาลาเนาไพรนะ ทั้งยังมีหมูป่า
อะไรพวกนั้นด้วย หากเจอพวกมันเข้าก็ยอ่ มเป็ นอันตราย
ยิง่ เขายังไม่กลับมาแบบนี้ มันทาให้นางยืนรออยูด่ า้ นนอก
ประตูหลายครั้งแล้ว

คุ ณแม่ จา้ วเห็ นก็แ อบรู ้ สึ ก ปลื้ มใจ ลู กสะใภ้หกรู ้ จ ัก เป็ น


ห่วงสามีของตนเองแล้วสิ นะ

เหล่ า พี่ ส ะใภ้ เ ห็ น แล้ ว ก็ แ อบรู ้ สึ กไม่ อ ยากจะมอง


โดยเฉพาะพี่สะใภ้สี่จา้ ว หล่อนถึงกับพูดขึ้น “น้องสะใภ้หก
น้องสามีไม่หายไปไหนหรอก ต่อให้เขาหลับตาอยูใ่ นป่ าก็เดิน
กลับมาได้ เธอไม่ตอ้ งรอขนาดนั้นก็ได้”

“ตั้งแต่เมื่อวานฉันก็รู้สึกว่าน้องสะใภ้หกกับน้องสามีตวั
ติดกันหนึ บเชี ยว วันนี้ พอได้เห็นก็เป็ นแบบนั้นจริ ง ๆ ด้วย นี่
แค่ข้ ึนไปบนเขาเองนะ คนที่ไม่รู้คงคิดว่าที่เธอเป็ นห่ วงแบบนี้
เพราะเขาเข้าเมืองหลวง” พี่สะใภ้สามพูดแซว
เย่ฉูฉู่รู้สึกไม่ดีเป็ นอย่างมาก “เขายังมีบาดแผลอยู่บนตัว
ฉันก็เลยเป็ นกังวลน่ะค่ะ”

“ภรรยา ผมกลับมาแล้ว” เพิ่งพูดจบ เสี ยงของจ้าวเหวินเทา


ก็ดงั ขึ้นพร้อมกับรอยยิม้ ทักทายเธอ

เย่ฉูฉู่มีดวงตาเป็ นประกาย ก่อนจะยิม้ ตาหยีตอ้ นรับเขา ไม่


รู ้ว่าเพราะเหตุใด จ้าวเหวินเทาเห็นภรรยาของตนเองเป็ นเช่นนี้
ก็รู้สึกสุ ขกายสบายใจเป็ นอย่างยิง่

“คงจะเหนื่อยแล้วใช่ไหมคะ? ตัดฟื นกลับมาเยอะแยะเลย”


เย่ฉูฉู่พูด

ได้ยิน เธอพู ด เช่ น นี้ ทุ ก คนจึ ง คิ ด ว่า จ้า วเหวิน เทาตัด ฟื น


กลับมามากจริ ง ๆ จนกระทัง่ จ้าวเหวินเทาเดิ นเข้าประตูบา้ น
ทุกคนก็มองไปที่ฟืนมัดนั้นที่เขาแบกมา

ทุกคนพลันหยุดชะงัก “…”
พี่สามจ้าวออกไปดูอย่างไม่เชื่อสายตา แต่เขาก็พบว่าด้าน
นอกไม่มีฟืนที่ยงั ไม่นาเข้ามาจริ ง ๆ!

“น้องหก ลาบากนายแล้วจริ ง ๆ ใช้เวลาไปครึ่ งค่ อนวัน


กลับได้ฟืนกลับมามากขนาดนี้” พี่สามจ้าวพูดขึ้นทันใด

“พี่จะไปเข้าใจอะไรล่ะครับ? พี่จะไปรู ้ได้ไงว่าผมลาบาก


ขนาดไหน?” จ้าวเหวินเทาสวนกลับไปอย่างไม่เกรงใจ

พี่สามจ้าวถึงขั้นสาลัก ขณะเอ่ยขึ้นว่า “เออ ๆ ๆ นายตัดฟื น


มามัดหนึ่ งมันเป็ นเรื่ องลาบากและเหนื่ อยที่สุดแล้ว ฟื นมัดนี้
ของนายสามารถเผาได้หนึ่งปี เลย”

พี่สะใภ้สี่จา้ วแอบถอนหายใจอย่างโล่ งอก พี่สามี สามก็


พอจะรู ้ ดี อ ยู่แ ก่ ใ จตัว เอง ไม่ เ หมื อ นกับสามี ข องหล่ อ น เห็ น
ความไม่ยตุ ิธรรมแต่กไ็ ม่ยอมพูดอะไร น่าโมโหจะตายอยูแ่ ล้ว
“งั้นพี่สามอยากจะดูจริ ง ๆ หรื อเปล่าล่ะครับ? ว่าฟื นมัดนี้
สามารถเผาได้หนึ่งปี หรื อเปล่า” จ้าวเหวินเทาเยาะเย้ย ก่อนจะ
โยนมัดฟื นไปที่เท้าของเขา

พี่สามจ้าวไม่อยากสนใจเขาอีกต่อไป จ้าวเหวินเทาเลิกคิ้ว
พูด “เอาเข้าไปในห้องครัว ไว้ให้แม่จุดไฟเถอะครับ”

“เดี๋ ยวพี่ ข นเข้า ไปเอง” พี่ ส ะใภ้ส ามจ้า วพู ด ด้ว ยรอยยิ้ม
ก่อนจะแบกฟื นเข้าไปด้านในห้องครัว

จ้าวเหวินเทาตะโกนจากด้านนอก “พี่สะใภ้สาม อย่าลืม


กระจายฟื นด้วยนะครับ ด้านในนั้นยังมีไม้ที่ยงั ไม่แห้ง”

“จ้ะ ” พี่ ส ะใภ้ส ามขานตอบ จากนั้น ไม่ น าน หล่ อ นก็วิ่ง


ออกมาด้วยความตื่นเต้น “น้องหก น้องหก!”

“เป็ นอะไรไป?” พี่สามจ้าวอดไม่ได้ที่จะพูด

“คุณเข้ามาดูสิ!” พี่สะใภ้สามจ้าวพูด
“เบาเสี ยงหน่อย!” คุณแม่จา้ วที่กาลังทากับข้าวตามออกมา
เอ็ดเบา ๆ

คนอื่น ๆ ได้ยินแล้วก็หันมาสบตากัน ก่อนจะเดิ นเข้าไป


ด้านในห้องครัว

จากนั้นจึงพบว่ามีกระต่ายป่ าหนึ่งตัว กระต่ายตัวใหญ่อวบ


อ้ว นขนาดนั้น คาดว่า หลัง จากที่ ถู ก ถลกหนัง แล้วก็จ ะมี เนื้ อ
สะอาดหนักราว 3-4 ชัง่ !

ทุกคนชะงักงัน ไม่แปลกใจที่พี่สะใภ้สามจะตื่นเต้น พวก


เขาจะไม่ตื่นเต้นกับสิ่ งนี้ ได้อย่างไรล่ะ? กระต่ายอ้วนขนาดนี้
ต้องมีเนื้อเยอะมากแน่นอน!

สมาชิกทั้งหมดต่างถูกคุณแม่จา้ วปิ ดปากไว้ ไม่ให้ใครพูด


ถึงเรื่ องนี้ ขา้ งนอก แอบกินกันอยู่ในบ้านก็พอแล้ว ไม่อนุ ญาต
ให้แพร่ งพรายออกไปเด็ดขาด!
ใครกล้า แพร่ ง พรายออกไปก็จ ะเป็ นผู ก้ ระท าความผิ ด
ภายในบ้าน แม้แต่เนื้อคาเดียวก็อย่าหวังว่าจะได้กิน!

ครั้นคาพูดนี่ถูกพูดออกมา สามต้านและสี่ ยาต่างพากันปิ ด


ปากเงียบสนิท คุณย่าของพวกเขาพูดจริ งทาจริ ง พูดออกไปแค่
คาเดียวก็จะไม่ได้กินแม้แต่คาเดียว!
ตอนที่ 11 มอบปลาให้ แม่ ยาย

ทุกคนค่อนข้างพึงพอใจกับอาหารมื้อเที่ยงนี้ ในเวลานี้ไม่
มีอะไรดีไปกว่ากับข้าวที่มีน้ ามันอีกแล้ว

ต้าหยาและเอ้อร์หยารับผิดชอบเก็บกวาดล้างจาน ส่ วนคน
อื่น ๆ ก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน

จากเรื่ องมะเขือผัดครึ่ งทัพพีน้ นั ของเย่ฉูฉู่ พี่สะใภ้สี่จา้ วจึง


กระซิ บกระซาบกับสามี “เป็ นเพราะยัยนัน่ อยู่เป็ น ส่ วนคนอื่น
ๆ อยูไ่ ม่เป็ นต่างหากล่ะ!”

พี่ สี่ จ ้า วเหนื่ อ ยแล้ว เขาพู ด พลางหาว “น้ อ งสะใภ้ห ก


เสี ยสละให้คุณพ่อโดยไม่รู้สึกเสี ยดายแล้ว คุ ณยังจะพูดอะไร
อีก ถ้าคุณไม่เสี ยดายก็ให้คุณพ่อกินเหมือนกันสิ ”
“ฉันมีมากขนาดไหนเชียว? ลาพังแค่ตวั เองก็ไม่พอกินอยู่
แล้ว!”พี่สะใภ้สี่จา้ วแย้ง

“ใช่ สิ พี่สะใภ้รองแบ่งให้พี่รองกิน พี่สะใภ้สามก็แบ่งให้


หม่าต้านกิน ส่ วนคุณนอกจากจะไม่แบ่งให้ผมแล้ว ก็ไม่คิดจะ
แบ่งให้ซานหยาซื่ อหยา กินเองคนเดี ยวทั้งหมดเลย” พี่สี่จา้ ว
พูด

พี่สะใภ้สี่จา้ วถึ งกับสาลัก “นั่นก็เป็ นเพราะฉันอยากกิ น


ของดี ๆ เพื่อมีลูกชายให้คุณเร็ว ๆ ไม่ใช่หรื อไงคะ?”

“เอาล่ะ เราเหนื่ อยมาครึ่ งวันแล้ว รี บนอนเถอะ” พี่สี่จา้ ว


โบกมือ

เขาพลิ กตัวนอนหลับทันที ส่ วนพี่สะใภ้สี่จา้ วที่ เดิ มที ยงั


อยากคุยกับเขาต่อเพื่ออธิ บายว่าตนเองไม่ได้เป็ นคนเห็นแก่ตวั
แบบนั้น แต่ เ มื่ อ เห็ น เขานอนหลับ ไปแล้ว พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วก็
น้อยใจขึ้นมาอีกครั้ง
หากหล่อนมีลูกชาย หล่อนก็ไม่เสี ยดายที่จะแบ่งให้ลูกชาย
ตัวเองกินเยอะ ๆ เหมือนกัน ผูห้ ญิงไม่มีลูกชายไม่ได้ ต้องมีลูก
ชายสักคนถึงจะดี ไม่เช่นนั้นหล่อนคงไม่มีที่ยนื อยูใ่ นบ้านหลัง
นี้

พี่สะใภ้รองจ้าวและพี่สะใภ้สามจ้าวไม่ได้มีความคิดเช่นนี้
วันนี้ เหนื่ อยมากพอแล้ว จึงรี บเข้านอนโดยเร็ ว ตื่นขึ้นมาก็ยงั
ต้องไปกาจัดวัชพืชอีก!

คุณพ่อจ้าวและคุณแม่จา้ วก็กาลังเอนตัวนอนอยูบ่ นเตียง

เป็ นเพราะกับข้าวครึ่ งทัพพีน้ นั คุ ณพ่อจ้าวจึงมีอารมณ์ ดี


อย่างเห็นได้ชดั คุณแม่จา้ วเองก็รู้สึกได้เช่ นเดียวกัน นางจึงยิม้
ออกมา “ฉู ฉู่ไม่เสี ยดายเลย ถ้าเป็ นคนอื่น โดยเฉพาะสะใภ้สี่ ก็
คงอยากจะโกยใส่ ในถ้วยตัวเองอีกหน่อย”

คุ ณ พ่ อ จ้า วไม่ ไ ด้ก ล่ า วค าใดออกมา เขาเอนตัว ลงเพื่ อ


เตรี ยมตัวพักผ่อนแล้ว
“ฉันว่าบ้านเจ้ารองกับบ้านเจ้าสามคงจะมีความคิดอยาก
แยกบ้านแล้วล่ะค่ะ” คุณแม่จา้ วกล่าวเสี ยงเบา

“พวกเขาจะมี ความคิดนี้ ก็เป็ นเรื่ องปกติ ตอนนั้นคุ ณกับ


พี่สะใภ้ใหญ่กเ็ ป็ นแบบนี้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ” คุณพ่อจ้าวพูด

“ฉันกับพี่สะใภ้ใหญ่คิดแบบนั้นก็เป็ นเพราะพ่อกับแม่ของ
คุณท่านจากไปแล้ว จึงแยกบ้านออกมา แต่ตอนนี้พวกเรายังอยู่
นะคะ!” คุณแม่จา้ วพูด

คุณพ่อจ้าวพยักหน้า และพูดว่า “ตอนนี้ ยงั แยกบ้านไม่ได้


เจ้าหกกับสะใภ้หกยังไม่มีลูก ส่ วนเจ้ารองกับเจ้าสามมีลูกโต
กันหมดแล้ว ถ้าแยกบ้านไปจะทันคนอื่น ๆ ได้ยงั ไง?”

คุณแม่จา้ วก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน
ตอนนี้ ทุ ก คนอาศัย อยู่ร่ ว มชายคาเดี ย วกัน กิ น ร่ ว มโต๊ ะ
เดี ยวกัน หากใครมีลูกก็ช่วยกันดู แลให้ได้โดยไม่ตอ้ งลาบาก
มากนัก

แต่ ถา้ หากแยกบ้านออกไปมันก็จะต่ างกัน เมื่ อแยกบ้าน


แล้วก็จะกลายเป็ นคนละครอบครั ว ไม่ สนใจสิ่ งเหล่ านี้ แล้ว
ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง

ครอบครัวเจ้ารองกับเจ้าสามมีลูกโตแล้ว ซึ่ งล้วนช่ วยงาน


ได้หมดทุกคน แต่ครอบครัวเจ้าหกเพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน ลูกก็
ยังไม่มี หากแยกบ้านออกไปจะทาอย่างไร?

ดังนั้นจึงไม่สามารถแยกบ้านได้ ใช้ชีวติ แบบนี้กด็ ีแล้ว


จ้า วเหวิน เทาในเวลานี้ ก าลัง นั่ง รั บ ประทานผลไม้ห ลัง
อาหารกับภรรยาของเขา ไม่ได้เป็ นอย่างที่พ่อแม่ของเขากังวล
สักนิด

เขาเองก็วางแผนไว้แล้วว่าอยากจะแยกบ้านออกไปในปี นี้
เลย แบบนี้ ก็จะทาให้เขาและภรรยาได้อยู่ในโลกของพวกเขา
สองคนอย่างสะดวกสบาย

แน่นอนว่าหลังจากแยกครอบครัวแล้วก็ไม่ได้ยา้ ยออกไป
พวกเขายัง คงอาศัย อยู่ที่นี่ เพราะการออกไปสร้ า งบ้า นด้ว ย
ตนเองนั้นไม่ใช่เรื่ องง่ายเลย

หากต้องออกไปสร้างบ้านดินเอง สู ้อยูท่ ี่นี่ต่อไปยังจะดีเสี ย


กว่า

ดังนั้นการแยกครอบครัวโดยไม่แยกบ้านจึงเป็นหนทางดี
ที่สุด ส่ วนเหล่าพี่สะใภ้ของเขาก็ไม่จาเป็ นต้องไปสนใจ
เมื่อสองสามีภรรยากินผลไม้เสร็ จก็เตรี ยมตัวงีบกลางวัน
จ้าวเหวินเทายังกอดภรรยาตนไว้ ส่ วนเย่ฉูฉู่ยงั รู ้ สึกเขิ น อาย
เล็กน้อย เธอกล่าวขึ้น “ตัวฉันเหม็นเหงื่อไปทั้งตัวเลยนะคะ”

แม้ห ลัง กลับ มาถึ ง บ้า นเธอจะท าความสะอาดร่ า งกาย


ตัวเองไปแล้ว แต่อากาศวันนี้ ร้อนอบอ้าวเกินไป เหงื่อจึงไหล
ออกมาอีกครั้ง

“ผมไม่ ถือหรอก กลิ่ นเหงื่ อบนตัวภรรยาผมหอมจะตาย


ไป” จ้าวเหวินเทาพูด

ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้เย่ฉูฉู่กไ็ ด้ยนิ คาพูดประเภทนี้มา


หลายครั้งแล้ว เธอคิดไม่ถึงเลยว่าองค์ชายในชาติน้ ี จะชอบพูด
เล่นแบบนี้ โดยเฉพาะตอนหัวเราะที่ดูมีเลศนัย แต่เธอรักเขา
มากจริ งๆ

ต่อให้จะได้ยินหลายครั้ง แต่เธอก็ไม่ได้สร้างภูมิตา้ นทาน


ใด ๆไว้ ตอนนี้จึงยังคงหน้าแดงได้ง่ายเหมือนเดิม
จ้าวเหวินเทายิม้ บางขณะยื่นหน้าเข้าไปหอมเธอ “ภรรยา
คุณนี่ชอบทาให้คนอื่นรักซะจริ งนะครับ”

เย่ฉูฉู่ใบหน้าแดงระเรื่ อ มองเขาด้วยดวงตาเจือรอยยิม้

จ้าวเหวินเทายิม้ “รี บนอนเถอะ ตอนบ่ายยังต้องไปทางาน


อี ก มัน เหนื่ อ ยมากเลยนะ หรื อ ไม่ อ ย่า งนั้น คุ ณ ก็ไ ม่ ต ้อ งไป
ทางานซะเลยสิ ?”

“ไม่ ไ ด้ห รอกค่ ะ ” เย่ ฉู ฉู่ ม องเขาด้ว ยรอยยิ้ ม แวบหนึ่ ง


จากนั้นก็นอนกลางวันพร้อมกับเขา

ตอนที่เธอรู ้สึกว่าเพิ่งจะหลับตา เสี ยงนกหวีดจากด้านนอก


ก็ดงั ขึ้นเสี ยแล้ว

เย่ฉู ฉู่ ลุ ก ขึ้ น มาเก็บ ที่ น อน จ้า วเหวิ น เทาพู ด ด้ว ยอาการ
สะลึมสะลือ “ภรรยา จาไว้ว่าต้องอูง้ านบ้างนะครับ อย่าขยัน
เกินไปล่ะ”
“ฉันรู ้แล้วค่ะ คุ ณเองก็พกั ผ่อนเยอะ ๆ รอให้ถึงเวลาคุ ณ
ค่อยลุกขึ้นมาเรี ยกคุณแม่ตม้ ไข่ไก่ให้คุณกินนะคะ” เย่ฉูฉู่กล่าว

“จู บ ผมก่ อ นสิ แ ล้ว ค่ อ ยไป” จ้า วเหวิ น เทาพู ด พร้ อ มกับ
หลับตา

เย่ฉู ฉู่ ถึ ง กับ อายม้ว น แต่ เ มื่ อ มองไปด้า นนอก เธอก็ส บ


โอกาสช่วงที่ไม่มีคน ยืน่ หน้ามาจูบเขาหนึ่งครั้งอย่างกล้าหาญ
ก่อนจะรี บวิง่ ออกไปด้วยใบหน้าแดงระเรื่ อ

จ้าวเหวินเทานอนหลับต่ออย่างพึงพอใจ

เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็ นเวลาบ่ายสามโมงกว่าแล้ว เขาจึง


หาวออกมาหวอดใหญ่ และพบว่าภรรยาได้วางแก้วน้ าไว้ให้
บนโต๊ะ หลังจากดื่ มน้ าจนหมดเกลี้ยง เขาก็เดิ นไปหาแม่ของ
ตน
คุณแม่จา้ วกาลังให้อาหารไก่อยู่ ครั้นเห็นเขาตื่นแล้วก็หัน
ไปมองยังประตูใหญ่พร้อมกับกระซิ บ “เหวินเทา แม่ตากเนื้ อ
กระต่ายไว้แล้ว แกเอาเครื่ องในกับขนพวกนั้นไปฝังให้ทีนะ?”

นางนาเนื้ อกระต่ายไปหมักแล้ว ตอนนี้ กาลังตากแดดอยู่


บนหลังคา

“ครับ” จ้าวเหวินเทาพยักหน้า

เขาถือกะละมังไม้ออกนอกประตูเพื่อนาไปฝังอย่างเงียบๆ
หลังจากเสร็จธุระแล้วก็อาบน้ าที่แม่น้ า ผ่านไปครู่ หนึ่งจึงพบว่า
มีปลาตัวใหญ่ตวั หนึ่งน้ าหนักราว 3-4 ชัง่ เขาชะงักครู่ หนึ่งก่อน
จะได้ส ติ จากนั้น จึ ง เดิ น เข้า ไปอย่า งระมัด ระวัง ก่ อ นจะใช้
กะละมังในมือช้อนปลาขึ้นมา!

“หึ หึ คืนนี้ มีน้ าแกงปลาให้ภรรยาฉันแล้ว!” จ้าวเหวินเทา


ยิม้ กว้าง
เขามีความสุ ขมาก ปลาเฉาตัวใหญ่แบบนี้ มีเนื้ อเพียงพอ
สาหรับรับประทานแล้ว

คุณแม่จา้ วก็คิดไม่ถึงเช่ นกันว่าเพียงนางสั่งให้เขาออกไป


จัดการสิ่ งสกปรก เขากลับเดินมาพร้อมกับปลาอ้วนใหญ่ตวั นี้

ในบ้านไม่มีใครอยูพ่ อดี คุณแม่จา้ วจึงเอ่ยขึ้น “สองวันมานี้


ที่ บา้ นของเรากิ นของดี กนั มากพอแล้ว ปลาตัวนี้ แกเอาไปที่
บ้านแม่ยาย ให้แม่ยายแกทากับข้าวก็แล้วกันนะ”

“แม่ไม่เสี ยดายเลยเหรอครับ ปลาตัวนี้ไม่ใช่เล็ก ๆ เลยนะ”


จ้าวเหวินเทาชะงัก

“เพราะมันไม่เล็กน่ะสิ ถึงต้องเอาไปให้คนอื่น แกรี บเอาไป


ให้เถอะ” คุณแม่จา้ วพูด

“งั้นผมเอาไปให้เลยนะครับ?” จ้าวเหวินเทาพูด
“เอาไปเถอะ ในเมื่อทางนั้นเลี้ยงดูลูกสะใภ้ได้ดีแบบนี้ แก
ก็ควรจะกตัญญูต่อทางนั้นไว้นะ” แม้คุณแม่จา้ วจะแอบเสี ยดาย
แต่ ก ารได้ไ ปมาหาสู่ ก ับ ทางฝั่ ง ตระกู ล เย่ก็ท าให้น างรู ้ สึ ก มี
ความสุ ขมาก

ถึงอย่างไรตระกูลเย่กไ็ ม่ได้เลวร้าย นางกล้าพนันได้เลยว่า


หลังจากลูกชายนาปลาตัวนี้ไปมอบให้ ทางฝั่งนั้นย่อมให้ของ
แลกเปลี่ยนกลับมาอย่างแน่นอน

แน่ นอนว่านางไม่ได้หวังผลตอบแทน แต่การทาแบบนี้ ก็


คงมีเพียงตระกูลเย่เท่านั้นที่จะมอบของกลับมา ส่ วนตระกูล
ของลูกสะใภ้ท้ งั สามคนที่เหลืออย่าได้แม้แต่จะคิด
ตอนที่ 12 แม่ ยายเป็ นคนมีเหตุผล

จ้าวเหวินเทาก็ไม่เกรงใจเช่นกัน แต่ก่อนที่จะออกจากบ้าน
เขาก็นาไข่ไก่ฟ้า 8 ฟองที่ซ่อนอยู่มอบให้ผูเ้ ป็นแม่ เพื่อให้นาง
ช่วยต้มให้

“ไอ้เด็กแสบนี่ ยังจะกล้ามีลบั ลมคมในอีกนะ” คุณแม่จา้ ว


ก่นด่าด้วยรอยยิม้

“แม่กบั พ่อเอาไปสี่ ฟอง ส่ วนของผมกับภรรยาสี่ ฟอง แม่


ต้มเสร็ จช่วยเอาไปเก็บไว้ที่หอ้ งทีนะครับ ผมไปล่ะ” จ้าวเหวิน
เทาพูดด้วยรอยยิม้

บ้านของเย่ฉูฉู่มีแซ่วา่ เย่ เป็ นครอบครัวใหญ่ทางฝั่งหมู่บา้ น


ตระกูลเย่ และไม่ได้ห่างจากตระกูลจ้าวทางฝั่งนี้มากมายเท่าไร
นัก เดินทางเพียงหนึ่งชัว่ โมงก็ถึง
จ้าวเหวินเทาชอบมาเป็นแขกที่บา้ นของพ่อตาแม่ยายมาก
เพราะแม่ยายของเขาพอใจเขาเป็ นอย่างยิง่

เขาเองก็ ไ ด้ยิ น มาว่ า เดิ ม ที พ่ อ ตาไม่ พ อใจเอาเสี ย เลย


หลังจากพูดถึงเรื่ องจับคู่แต่งงานระหว่างเขากับภรรยา ทั้งยัง
รังเกียจที่เขาทางานไม่เป็ น เอ้อระเหยลอยชาย ไม่ทาการทางาน
เป็ นเรื่ องเป็ นราว

แต่แม่ยายของเขาตาถึง ตอนที่เจอเขาข้างนอก แค่เห็นเพียง


ปราดเดียวนางก็ชอบเขาแล้ว ทั้งยังเอาชนะทุกความยากลาบาก
เพื่อให้ลูกสาวแต่งงานกับเขา รวมถึงมอบสิ นเดิมเป็ นสิ่ งของมา
ให้ไม่นอ้ ย

ดังนั้นจ้าวเหวินเทาจึงรู ้สึกซึ้ งใจต่อแม่ยายคนนี้ หากไม่ใช่


เพราะแม่ยาย เขาจะได้ภรรยาที่มีความรอบคอบและพิถีพิถนั
แบบนี้ได้อย่างไรกัน
จ้าวเหวินทาวคิดเช่นนี้เขาก็ลืมเรื่ องราวตอนที่พวกเขาสอง
สามีภรรยาทะเลาะกันเสี ยสนิ ท ตอนนั้นเขาเคยใส่ ร้ายแม่ ยาย
ไปไม่นอ้ ยว่าบางทีอาจจะเป็ นเพราะภรรยาของเขาดุเกินไปจน
ขายไม่ออกแม่ยายจึงถูกใจเขา

เขาเดินหิ้วปลาตัวนี้อย่างมีความสุ ข

คุ ณ แม่ เ ย่ ก าลัง หั่ น ผัก เตรี ยมให้ อ าหารไก่ อ ยู่ ทางฝั่ ง


ตระกูลเย่เลี้ยงไก่ไว้เป็ นจานวนมาก จนเกือบจะเป็ นฟาร์มไก่ที่
มีไก่หลายสิ บตัว

แน่ น อนว่ า พวกเขาเลี้ ย งมัน ไว้ห ลัง บ้า นทั้ง หมด ไม่ ไ ด้
ปล่อยออกไป คนที่อยูด่ า้ นนอกจึงไม่ทราบแน่ชดั ว่าเลี้ยงกี่ตวั

แม้ต อนนี้ การจ ากัด จ านวนไก่ ใ นแต่ ล ะครั ว เรื อ นจะถู ก


ยกเลิกไปแล้วและยังอนุญาตให้จดั การเป็ นการส่ วนตัวได้ แต่ก็
ยังมีคนมากมายในชนบทที่ดูหมิ่นคนยากจนและไม่ตอ้ งการ
ให้คนๆ นั้นร่ ารวย

ถึงตระกูลเย่จะเป็ นครอบครัวใหญ่ แต่กย็ งั ทาตัวติดดินอยู่


ดี บ่อยครั้งที่พี่ใหญ่เย่ พี่รองเย่ พี่สามเย่และคนอื่น ๆ จะแบก
ตะกร้าไข่ไก่เดินเข้าไปในเมือง “ด้วยตัวเอง”

“คุ ณแม่ ครั บ!” เนื่ องจากประตู ไม่ ได้ปิด จ้าวเหวินเทาที่


เดินมาถึงก็พบว่าแม่ยายเขากาลังยุง่ อยูด่ า้ นในบ้าน

“เหวินเทามาแล้วเหรอ?” เมื่อคุณแม่เย่เห็นลูกเขยสุ ดหล่อ


ก็รู้สึกดีใจเป็ นอย่างมาก

“มาแล้ว ครั บ วัน นี้ ตกปลามาได้ต ัว หนึ่ ง ก็เ ลยตั้ง ใจเอา


กับข้าวมาเพิ่มให้คุณแม่กบั คุณพ่อครับ” จ้าวเหวินเทาพูดด้วย
รอยยิม้
คุณแม่เย่เห็นปลาที่เขานามา จึงพูดเจือรอยยิม้ “ทาไมต้อง
เอามาที่นี่ดว้ ยล่ะ? ที่บา้ นนั้นมีคนตั้งเยอะแยะ”

“ที่นี่กม็ ีคนเยอะเหมือนกันครับ” จ้าวเหวินเทายิม้ และถาม


ว่า “คุณพ่อกับคนอื่น ๆ ไม่อยูบ่ า้ นเหรอครับ?”

“ไม่ อ ยู่จ ้ะ พวกเขาออกไปทางานกันหมดยัง ไม่ ก ลับมา


เลย” คุณแม่เย่พยักหน้า

“ถ้างั้นก็เหนื่อยแย่เลยนะครับ” จ้าวเหวินเทาพูด

“ก็ไม่เหนื่ อยหรอกจ้ะ” คุณแม่เย่พูด ก่อนจะกระซิ บ “แม่


คุ ยกับพ่อแล้วว่า ให้เลี้ยงหมูที่บา้ นสักสองตัว รอจนโตเต็มที่
ส่ งไปที่สถานีรับซื้อสิ นค้า คิดดูสิวา่ จะได้เงินตั้งเท่าไหร่ ?”

“นี่ เป็ นเรื่ องที่ ดีเ ลยนะครั บ ” จ้าวเหวินเทาพูดด้ว ยความ


อิจฉา
“แต่ พ่ อ ของเธอไม่ เ ห็ น ด้ว ยน่ ะ สิ ” คุ ณ แม่ เ ย่พู ด อย่า งจน
ปัญญา

“ทาไมไม่เห็นด้วยล่ะครับ? หมูหนึ่ งชัง่ เริ่ มต้นก็สามเหมา


แล้ว ร้อยกว่าชัง่ ก็ได้เงินตั้งไม่รู้เท่าไหร่ ?” จ้าวเหวินเทาพูด

เขาเองก็เสนอพ่อแม่ของเขาแบบนี้ เหมื อนกัน แต่พ่อแม่


ของเขาไม่ เห็ นด้วย บอกให้ต้ งั ใจเลี้ ยงหมู ของส่ วนรวมและ
ตั้งใจทาไร่ ทานาให้ดี

นี่ มนั ทางานเพื่ออะไรกัน ล่ ะ ? แต่ ละคนต่ างก็ทางานกัน


แบบเช้าชามเย็นชาม ดีกว่าเขาไม่มากเท่าไรหรอก จะว่าไปแล้ว
พ่อกับพี่ชายของเขาต่างก็เป็ นคนโง่เขลากันทั้งนั้น

ถ้าไม่โง่แล้วทาไมต้องทางานกันเอาเป็ นเอาตายแบบนั้น
ด้วย?
“แม่เองก็คิดแบบนี้ เหมือนกัน” คุ ณแม่เย่มองลูกเขยด้วย
สายตาชื่ นชม ขณะกระซิ บว่า “ทาไร่ ทานาแค่น้ นั มันจะเลี้ ยง
ครอบครัวใหญ่ได้เหรอ? แต่ละคนก็ได้กินแค่ขา้ วต้มกัน ถ้าไม่
ทางานหาเลี้ยงชีพสารองสักหน่อย ก็อย่าหวังว่าจะอิ่มท้องเลย”

“นัน่ สิ ครับ ผมเองก็พูดกับพ่อแม่ไปแล้ว บอกให้เลี้ยงไก่


ให้มากขึ้นอีกสักหน่ อย แต่แม่ผมไม่ตกลง ก็เลยเลี้ยงไว้แค่ 8
ตัวเอง” จ้าวเหวินเทาพูด

ไม่เช่ นนั้นทาไมเขาถึงคิดจะแยกบ้านล่ะ? อันที่จริ งก็ยงั มี


อีกหลายเรื่ องที่เขาไม่พอใจ เขาจึงอยากเป็ นใหญ่ในบ้าน

รอให้เขาทางานหาเงิ นได้เมื่ อไรก็สามารถสร้ างบ้านอิฐ


ขนาดใหญ่กบั ภรรยาได้แล้ว ถึงเวลานั้นก็ยา้ ยออกไปอยูก่ นั เอง
เลี้ ยงหมู ไว้ในบ้านสัก 2-3 ตัว แล้วก็ค่อยขยายไปเลี้ ยงฝูง ไก่
จากนั้น ก็เ ลี้ ย งหมาเพิ่ ม สั ก ตัว มัน คื อ การใช้ชี วิต ในบ้า นอัน
สวยงามไม่ใช่เหรอ?
คุณแม่เย่พูดด้วยรอยยิม้ “แม่ของเธอเป็ นคนหัวโบราณอยู่
เลี้ยงไก่แค่ 8 ตัวจะไปพอกินอะไร? คนในบ้านก็ไม่ใช่นอ้ ย ๆ”

นางข่มสามีได้แล้วด้วยการเลี้ยงไก่ หลังเลี้ยงไปหลายสิ บ
ตั ว แน่ น อนว่ า นั บ ตั้ งแต่ ปี นี้ เป็ นต้ น ไปคงได้ ว างไข่ ก ั น
สนุกสนาน

ช่วงที่พวกมันวางไข่เยอะ ๆ หนึ่งวันสามารถวางไข่ได้ 30
ฟอง เก็บ 3-4 วันก็สามารถให้พวกลูกชายใช้ประโยชน์จากช่วง
กลางดึกแบกออกไปได้แล้ว

รายได้ที่เข้ามาทาให้คุณแม่เย่พึงพอใจมาก

แต่คุณแม่เย่กย็ งั ไม่ได้พึงพอใจถึงที่สุด เพราะนางคิดว่าไก่


ไม่ กี่ สิ บ ตัว ยัง ถื อ ว่า น้อ ย นางจึ ง อยากเลี้ ย งไก่ เ พิ่ ม ขึ้ น อี ก สั ก
หน่อย แต่กต็ อ้ งรอจนถึงปี หน้า
เพราะหากผ่า นไปถึ ง ปี หน้า ได้อ ย่า งปลอดภัย ก็จ ะไม่ มี
ปัญหาอะไรมากไปกว่านี้แล้ว

จ้าวเหวินเทารู ้สึกว่าแม่ยายของเขาเป็นคนมีเหตุผลจริ ง ๆ
ซึ่ งมันก็เป็ นเรื่ องจริ ง ไข่ไก่ที่ไก่ 8 ตัวฟั กออกมามันจะไปพอ
กินอะไร?

“คุ ณ แม่ ของพวกนี้ คื อ เอามาให้ไก่ กิ น ทั้ง หมดเลยเหรอ


ครับ?” จ้าวเหวินเทามองไปยังผักเหล่านี้พร้อมกับถาม

“ใช่ จะ้ ไก่พวกนั้นกินกันเยอะมาก ยังมีพวกปลากับกุง้ ตัว


เล็กพวกนี้ ดว้ ย ต้มจนสุ กอีกครู่ หนึ่ งก็จะเอาเข้าไปให้พวกมัน
กินได้แล้วล่ะ” คุณแม่เย่พูดพลางชี้ให้เขาดู

“ได้อาหารดี แบบนี้ พวกมัน ต้อ งขยันวางไข่ แน่ นอนเลย


ครับ” จ้าวเหวินเทาพูด ขณะมองการใช้ชีวิตของแม่ยาย นี่สิถึง
จะเรี ยกว่าใช้ชีวติ
คุ ณแม่เย่ยิ้ม “เธอรอแป๊ บหนึ่ งนะ แม่จะเข้าไปทาอาหาร
อร่ อย ๆ ให้กิน”

“ไม่ตอ้ งทาหรอกครับ” จ้าวเหวินเทาพูดด้วยความเกรงใจ

คุณแม่เย่เข้าไปในห้องครัวเพื่อรี บทาอาหารให้เขา ก่อนจะ


เดินออกมาพร้อมกับบะหมี่หนึ่ งชาม บนบะหมี่ยงั มีไข่ไก่โปะ
อีกสองฟองด้วย!

“รี บกินสิ เส้นอืดจะไม่อร่ อยแล้วนะ” คุณแม่เย่พูด

“คุ ณ แม่ ผมแค่ เ อาปลามาให้น ะครั บ ไม่ ไ ด้ม าเพื่ อ กิ น


บะหมี่สักหน่อย” จ้าวเหวินเทามองบะหมี่ใส่ ไข่ปราดหนึ่ง เขา
รู ้สึกเกรงใจจริ ง ๆ

ดูสิ นี่แหละเหตุผลที่เขาชอบมาหาแม่ยาย

คราวก่อนตอนที่เขามาพร้อมกับภรรยาก็เจอครอบครัวเย่
กาลังทาซาลาเปาอยู่ แม่ยายของเขาจึงให้เขากินซาลาเปาเนื้อสี่
ลูก ให้เขากินแบบไม่เสี ยดายเลยจริ ง ๆ ทั้งยังดูแลเขาคล้ายกับ
เป็ นลูกชายคนหนึ่งด้วย!

“แม่ รู้ ว่ า เธอเป็ นคนกตัญ ญู คื น นี้ บ้า นเราก็ กิ น บะหมี่


เพราะฉะนั้นเธอกินไปก่อนเถอะ” คุณแม่เย่พูดด้วยรอยยิม้

แน่ นอนว่าไม่ใช่ ทุกวันที่จะทาอาหารแบบนี้ แต่ตระกูลเย่


จะมี 1-2 วันในหนึ่งเดือนที่จะปรุ งอาหารแบบนี้

จ้า วเหวิ น เทากิ น ไปพลางรู ้ สึ ก อิ จ ฉาไปพลาง ดู ค วาม


แตกต่างของทั้งสองตระกูลสิ

ไม่แปลกใจเลยที่ก่อนหน้านี้ภรรยาของเขามักจะพูดกับเขา
ว่าหลังจากมาอยู่กบั เขาแล้วก็ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุ ขเลย
แถมยังรู ้สึกเสี ยใจที่แต่งงานกับเขาด้วย
แม้ว่าตั้งแต่เมื่อวานนี้ภรรยาของเขาจะเริ่ มเป็นห่ วงเป็นใย
เขา ถึ งกับไม่ ยอมให้เขาไปทางานและให้นอนพักผ่อนอยู่ที่
บ้าน แต่เขาก็ไม่เต็มใจให้ภรรยาออกไปทางานเช่นเดียวกัน

จากมุ ม มองของเขาแล้ว ภรรยาควรอยู่ บ้า นเลี้ ยงลู ก


ทาอาหาร ที่เหลือแค่ได้กินและได้ดื่มของดี ๆ ก็พอแล้ว

เพียงแต่ของกินและเครื่ องดื่มดี ๆ ก็ตอ้ งใช้เงิน ซึ่งจะไปหา


มาจากไหน? อี กอย่างเขาก็ตอ้ งไปทางานด้ว ย ต่ อให้ทางาน
แบบชักช้าอืดอาดแต่กต็ อ้ งไป เว้นเสี ยแต่ว่าไม่อยากได้อาหาร
ส่ วนนั้น

หากเขาเป็ นผูน้ าในบ้านเขาคงไม่อยากได้มนั จริ ง ๆ แล้ว


ล่ะ สู ้ออกไปหางานอื่นที่ไม่ใช่งานทาไร่ ไถนาไม่ดีกว่าเหรอ?

ติ ด ที่ ย งั ไม่ ไ ด้แ ยกบ้า นเลย พ่ อ แม่ ข องเขาคงไม่ อ นุ ญาต


หรอก
ตอนที่ 13 จ้าวเหวินเทาโชคดีอย่างน่าเหลือเชื่อ

จ้าวเหวินเทาไตร่ ตรองถึงเรื่ องแยกบ้านตลอดทางระหว่าง


ที่กาลังเดินทางกลับบ้าน

หากต้องแยกบ้านอย่างไรก็ตอ้ งแยก เขาไม่อยากช่วยเลี้ยง


ลูกของพวกพี่สะใภ้ไปพลางโดนรังเกียจไปพลางหรอก

เขาเคยลองหยัง่ เชิงดูแล้ว ภรรยาของเขาก็คิดแบบเดียวกัน


หากเขาแยกออกมา ภรรยาของเขาย่อมยินดี ที่จะแยกบ้านไป
พร้อมกับเขา คงไม่ถ่วงรั้งเขาไว้ จะเหลือก็แต่พ่อกับแม่เขาแล้ว

เขาเองก็รู้ดีว่าที่พ่อแม่ยงั ไม่ยอมให้แยกบ้านก็เป็ นเพราะ


เขา เพราะหลังจากที่แยกบ้านไป เขาที่ยงั ไม่มีลูกหลังจากนี้กจ็ ะ
ไม่มีใครช่ วยเหลือ อีกอย่างหลานชายและหลานสาวที่อยู่ใน
ห้องด้านหน้าก็เติ บโตมากับครอบครั วใหญ่ ทุ กครั้ งที่ ตวั เขา
ออกไปข้า งนอกก็จ ะน าของกิ น กลับ มาไม่ น้อ ย หลานชาย
หลานสาวเหล่านี้กจ็ ะได้กินคนละคาด้วย
หลังจากแยกบ้านแล้วเขาก็อาจจะไม่มีใครช่วยเหลือ

เพราะหากอ้างตามกฎของที่นี่ หลังจากแยกบ้านจากพ่อแม่
แล้ว พ่อแม่กจ็ ะกินอยูก่ บั ลูกชายคนโต

แต่ ต่อให้จา้ วเหวินเทาจะตัด สิ นใจออกไปอยู่ก ับภรรยา


ด้วยตัวเอง แบบนี้ เขาก็ยงั เป็นลูกที่กตัญญูได้ อีกอย่างพวกเขา
สองสามีภรรยาก็ยงั อยู่ในวัยหนุ่ มสาว สามารถทางานไปด้วย
แล้วก็เลี้ยงลูกไปด้วยได้

ภรรยาของเขาขี้ บ่นแบบนั้นเกรงว่าคงทาคนเดี ยวไม่ได้


เขาจึงวางแผนที่จะทาธุรกิจใหญ่ ถึงเวลานั้นคงไม่มีเวลาว่าง

เพราะเขามองออกว่าหลังจากนี้ จะไม่มีใครกีดกันเขาใน
การเลี้ยงสัตว์อีกต่อไป ไม่เห็นไก่จานวนมากของแม่ยายเขาที่
กาลังฟักไข่เหรอ?
ก่อนหน้านี้ ใครจะกล้าทาแบบนี้ กนั ล่ะ แต่ตอนนี้ คงไม่ใช่
แบบนั้นแล้ว เขาเข้าไปในบ้านของพ่อตาและพบว่าหลังบ้านมี
ไก่มากมายขนาดนั้น โดยที่คนอื่นก็มองไม่เห็นด้วย ถึงเขาจะ
ไม่เห็นแต่ก็ยงั ได้ยินเสี ยง เสี ยงร้องของไก่หนึ่ งตัวกับไก่ หนึ่ ง
ฝูงแตกต่างกันขนาดไหน ถ้าไม่ใช่คนหู หนวกก็ได้ยนิ กันหมด
นัน่ แหละ

ไม่ตอ้ งพูดถึงเรื่ องอื่นไกล พูดถึงบ้านของหลี่เฉี ยจื่อที่อยู่


ในหมู่ บา้ นของพวกเขาก็พอ หลี่ เฉี ยจื่ อคนนี้ ลกั ลอบเลี้ ยงไก่
เกินจานวนเมื่อ 7-8 ปี ก่อน แต่เป็ นเพราะค่านิ ยมของสมัยนั้น
ไม่อาจเทียบได้กบั สมัยนี้ ดังนั้นแล้วเขาจึงถูกจับตัวไปขัง

ขาข้างนั้นถูกทุบจนหักตอนที่ถูกคุมขัง เดิมทีเขาเป็ นคนที่


ไม่เลว เติบโตมาด้วยการแสร้งทาเป็ นสุ ภาพบุรุษ แต่เป็ นเพราะ
ขาข้า งนั้น จึ ง เกื อ บท าให้เ ขาไม่ มี ภ รรยา ทว่ า ท้า ยที่ สุ ด ก็ไ ด้
แต่งงานกับแม่ม่ายคนหนึ่ง
จนถึงตอนนี้ ในบ้านของหลี่เฉี ยจื่อก็ยงั เลี้ยงไก่ไว้ไม่น้อย
จนคนในหมู่บา้ นพากันกระซิ บกระซาบเป็นการส่ วนตัว แต่ก็
ทาได้แค่กระซิ บ เพราะไม่เพียงแค่ในบ้านของหลี่เฉี ยจื่อ คน
อื่น ๆ ก็เลี้ยงไว้เยอะเช่นกัน

ก่ อนหน้านี้ ทางฝั่ งของพวกเขามีกฎในการจากัดจานวน


เลี้ยงไก่แต่ละครั วเรื อน ไม่อนุ ญาตให้เลี้ยงเกินกว่าจานวนที่
กาหนด แต่มาถึงตอนนี้ ล่ะ? ทุกคนต่างเลี้ยงกันในจานวนมาก
จนเป็ นที่เข้าใจกันได้โดยไม่จาเป็ นต้องเอ่ยออกมา

ยกตัว อย่ า งเช่ น บ้า นแม่ ข องเขาที่ ปี นี้ มี ค วามกล้า เลี้ ยง


เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย แต่กม็ ีแค่ 8 ตัวเท่านั้น ช่วงที่ออกไข่จานวน
มากก็ออกไข่มาได้ 5-6 ฟองในหนึ่ งวัน ทว่าคนในบ้านมีเยอะ
ขนาดนั้น มันจะไปพออะไร?
แต่ พ่อแม่ของเขาก็เก็บไว้ตลอดทั้งชี วิต จ้าวเหวินเทาจึง
ไม่ได้พูดอะไร อย่างไรก็ตามเขารู ้สึกอยากแยกบ้านจริ ง ๆ ไม่
แยกคงไม่ได้

ขณะที่ จา้ วเหวินเทากาลังครุ่ นคิ ดเกี่ ยวกับเรื่ องแยกบ้า น


เพื่อนบ้านก็นาเรื่ องที่เขาหิ้ วปลาตัวอ้วนใหญ่ไปให้แม่ยายไป
บอกกับพี่สะใภ้สี่จา้ ว

พี่สะใภ้สี่จา้ วรู ้สึกจุกอยูก่ ลางอกโดยพลัน!

“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่มีใครเหมือนกับตระกูลจ้าวของพวก
เธอหรอก ลูกชายลูกสาวโตขนาดนี้แล้ว แถมยังเป็นฝั่งเป็ นฝา
กันหมดแล้วด้วย แต่กลับไม่ยอมแยกบ้าน นี่คิดจะทาอะไร จะ
ให้พวกเธอเลี้ยงดู สองสามีภรรยาเด็กคู่น้ นั ต่อไปเรื่ อย ๆ เลย
เหรอ?” สะใภ้ใ หญ่ ข องเพื่ อ นบ้า นซุ บ ซิ บนิ น ทาราวกับ เป็ น
เดือดเป็ นร้อนแทน
พี่สะใภ้สี่จา้ วไม่ได้อยากแยกบ้าน เพราะหล่อนก็ไม่ได้ดี
ไปกว่าพี่สะใภ้ท้ งั สองคน ตอนนี้ภายในบ้านก็มีแค่ลูกสาวสอง
คนที่เป็ นตัวขาดทุน หล่อนแยกบ้านไปก็เท่ากับเสี ยเปรี ยบอย่าง
หนักไม่ใช่เหรอ?

แต่หล่อนเองก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน จึงกล่าวว่า “พ่อ


กับแม่ก็อยากให้ทุกคนสามัคคีปรองดองกัน ซึ่ งเรื่ องนี้ ไม่ตอ้ ง
พูดถึงเลย ติดแค่นอ้ งสามีคนเล็กคนนั้นของฉันนี่แหละ ทุกคน
ต่ างก็รู้ว่าพ่อแม่ ของฉันลาเอี ยงมาโดยตลอดไม่ ใช่ เหรอ พอ
พวกเขาสองสามีภรรยาแต่งงานกัน ก็ลาเอียงรักแต่นอ้ งสามีกบั
น้องสะใภ้”

ถึงปากจะพูดว่าสามัคคีปรองดองกัน แต่ในคาพูดนี้ กลับ


กลายเป็ นความปากหวานก้นเปรี้ ยว
“เขาไปส่ งของนัน่ ซะเร็ วเชี ยวนะ ก่อนหน้านี้ มีของดี เก็บ
ไว้ให้บา้ นตัวเองกินแล้วสิ ท่า? ฉันจาได้วา่ ช่วงเก็บเกี่ยวฤดูร้อน
และฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี คนอื่นต่างก็หากระต่ายป่ าไม่ได้ แต่
น้องสามีคนเล็กของเธอไม่รู้ว่าไปโชคดีมาจากไหน กระต่าย
พวกนั้นวิง่ มาอยูข่ า้ งเท้าเขา ข้างละตัวเลย” พี่สะใภ้ขา้ งบ้านพูด

พี่สะใภ้ใหญ่ขา้ งบ้านที่พูดซุบซิ บนินทาได้เกิดความอิจฉา


เสี ยแล้ว เพราะในปี นั้นทุกคนต่างก็ยากจนแร้นแค้น บ้านใคร
จะมีเนื้อให้กดั หนึ่งคากันล่ะ?

ตอนเก็บเกี่ยวช่ วงฤดู ร้อนและฤดูใบไม้ร่วงเป็ นช่ วงเกี่ยว


ข้าวสาลีไม่ใช่ หรื อ ดังนั้นมันจึงมีสัตว์ป่าบางส่ วนออกมาจาก
พื้นดินด้วย

สั ต ว์ป่ าเหล่ า นี้ ใครจับ ได้ก็เ ป็ นของคนนั้น ใครมี ค วาม


อดทนก็ได้กินเนื้อ
ไม่ใช่เรื่ องง่ายเลยที่บา้ นคนอื่นจะจับกระต่ายหรื อไก่ฟ้า ถึง
จับได้กไ็ ม่มากเหมือนกับตระกูลจ้าว

ค น อื่ น ๆ ใ น ต ร ะ กู ล จ้ า ว แ ล ะ ค น ทั่ ว ไ ป ไ ม่ ไ ด้ มี
ความสามารถนั้น แต่ ไ ม่ รู้ ว่า ด้ว ยเหตุ ผ ลอะไร น้อ งหกแห่ ง
ตระกูลจ้าวถึงได้โชคดีอย่างน่าเหลือเชื่อ เพราะสัตว์ป่าเหล่านั้น
ต่างก็โผล่ออกมาทางฝั่งเขาทั้งหมด

เป็ นเหตุให้เขาจับพวกมันได้และได้เนื้อกลับไปกินที่บา้ น
ไม่ใช่เหรอ?

ทุกคนที่ผา่ นการเก็บเกี่ยวช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงต่าง
ก็เหนื่อยแทบทนไม่ไหวจนสายตัวแทบขาด แต่ผใู ้ หญ่และเด็ก
ๆ ของตระกูลจ้าวกลับมีสีหน้าดูดีมากขึ้นทุกครั้งที่การเก็บเกี่ยว
ช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงมาถึง!

กลิ่นหอมของหมูสามชั้นผัดน้ าแดงทาให้เด็กในหมู่บา้ น
ต้องร้องไห้เพราะความอยากกิน
ทว่าคุณแม่จา้ วเองก็อยูเ่ ป็ น นางจัดการส่ งเนื้อบางส่ วนไป
ให้พี่นอ้ งของคุณพ่อจ้าว พวกลุง ๆ ที่ได้รับความเคารพยกย่อง
ภายในตระกูล รวมถึงพี่ชายของคุณแม่จา้ วด้วย

ดังนั้นต่อให้มีคนแอบอิจฉาตาร้อนเป็ นการส่ วนตัว แต่มนั


ก็ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้โชคไม่ดีเองล่ะ? ยังจะโทษใครได้อีก

แต่สิ่งเหล่านี้เป็ นเรื่ องที่คนนอกรู ้ ถึงอย่างนั้นก็ยงั มีเรื่ องที่


คนนอกไม่รู้ดว้ ยเช่นกัน

เพราะเจ้าหกคนนี้ ก็หิ้วปลากลับมาที่บา้ นไม่นอ้ ย ซึ่ งเป็ น


ปลาตัวใหญ่ท้ งั หมด ไม่รู้วา่ เขาไปตกกลับมาจากที่ไหน

แต่วนั นี้คนที่บา้ นคงไม่ได้กินแล้ว เพราะเขามีความกตัญญู


นาไปมอบให้แม่ยายของตัวเอง ก่อนหน้านี้กเ็ พิ่งเอาไปให้หนึ่ง
ตัว คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้ จะเอาไปให้อีกหนึ่ งตัว ช่างเป็ นลูกเขย
ที่ดีเสี ยเหลือเกิน!
ครั้นนึกถึงสามีโง่เง่าของตัวเอง พี่สะใภ้สี่จา้ วก็รู้สึกร้องไห้
ไม่ออกอย่างฉับพลัน เมื่อเทียบกับอีกคนแล้วมันน่าโยนทิ้งจริ ง
ๆ!

แต่พี่สะใภ้สี่จา้ วก็ยงั ไม่หายอึดอัดใจ ดังนั้นจึงมากระซิ บ


เรื่ องนี้กบั พี่สะใภ้สามจ้าว “วันนี้เขาดันคิดถึงบ้านพ่อตาตัวเอง
ขึ้นมา ก็เลยกระตือรื อร้นเอาของไปให้เพื่อเอาอกเอาใจ แต่บา้ น
ตัวเองกลับไม่สนใจใยดี!”

“ในบ้านก็ยงั มีไม่ใช่เหรอ” พี่สะใภ้สามจ้าวพูด หล่อนกด


น้ าเสี ยงให้เบาลง เพราะด้านนอกยังมีคนอื่นอยู่

วันนี้ น้องสามีคนเล็กก็เพิ่งจับกระต่ายกลับมาได้หนึ่ งตัว


ไม่ใช่เหรอ? แถมมันยังตัวอ้วนขนาดนั้น พอตอนบ่ายก็ตกปลา
ตัวอ้วนมาได้อีกตัวหนึ่ง เอาไปให้พ่อตาแม่ยายก็ไม่เห็นจะเป็ น
อะไรเลย
พี่ ส ะใภ้ส ามจ้าวนึ ก ถึ ง กระต่ า ยอ้วนตัว นั้นก็ย งั รู ้ สึ กดี ใจ
เพราะนัน่ น่ะเนื้อทั้งหมดเลยนะ

ในใจหล่อนก็ฉุกคิดถึงเรื่ องแยกบ้านตามที่สามีพูด ต่อให้


หล่อนเองจะเห็นด้วย แต่ลึก ๆ ก็อดทาใจไม่ได้เหมือนกัน ถ้า
แยกบ้านไปแล้ว หลังจากนี้กค็ งไม่ได้กินเนื้อที่นอ้ งสามีคนเล็ก
จับมาแล้วน่ะสิ

วันนี้หล่อนมาชัง่ ใจอีกครั้ง ก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่ องเลวร้าย


อะไรหากไม่แยกบ้าน แต่สามีของหล่อนนี่สิอยากแยกบ้านมาก
เพราะคิดว่าน้องสามีและภรรยาของเขาได้กินของดีโดยไม่ยอม
ทาอะไร ซึ่ งอันที่จริ งมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น เพราะการจับ
เนื้ อกลับมาที่บา้ นได้เป็นประจานั้นเป็นความสามารถที่ใช่ ว่า
คนทัว่ ไปจะทาได้

พี่สะใภ้สี่จา้ วกลอกตาใส่ หล่ อน “เถี่ ยต้าน หลู ตา้ น หม่ า


ต้านก็โตกันหมดแล้ว ต้องกินบารุ งให้เยอะ ๆ หน่ อยถึงจะสู ง
ใหญ่ แต่ เขากลับเอาไปให้ตระกูลเย่ ซึ่ งตระกูลเย่เองก็ไม่ได้
ขาดแคลนของกินสักหน่อยนี่คะ อีกฝ่ ายฐานะดีจะตายไป!”
ตอนที่ 14 วางแผนสาหรับอนาคต

เถี่ ยต้านและหลู ตา้ นเป็ นลู กชายของสะใภ้รองจ้าว ส่ วน


หม่าต้านเป็นลูกชายของสะใภ้สามจ้าว แต่สะใภ้สี่จา้ วกลับรัก
พวกเขาจริ ง ๆ เพราะหล่ อนเองก็อยากมี เป็ นของตัวเองบ้า ง
ใครใช้ให้หล่อนโชคไม่ดีคลอดซานหยากับซื่ อหยาที่เ ป็ นตัว
ขาดทุนออกมากันล่ะ?

ตอนนี้ หล่อนไม่มีที่ยืนภายในบ้านเลย พูดอะไรไปก็ไม่มี


ใครฟัง มันเป็ นเพราะหล่อนไม่มีลูกชายอยูข่ า้ งกายไม่ใช่เหรอ?

ดัง นั้น สะใภ้สี่ จ ้า วจึ ง ถอนวัช พื ช ไปพลางบ่ น พึ ม พ าไป


พลาง “ตอนนี้ ก็รีบร้อนเอาปลาไปให้ขนาดนี้ แล้ว หลังจากนี้
ของดี ๆ จะไม่ถูกย้ายไปฝั่งนั้นหมดเหรอ? มองไม่ออกเลยจริ ง
ๆ ว่าน้องสะใภ้หกจะมีความสามารถแบบนี้ ฉันว่าหล่อนพูด
อะไรไปน้องสามีหกก็คงฟังทุกอย่าง”
สะใภ้ร องจ้า วที่ อ ยู่ข ้า ง ๆ ก็ไ ด้ยิน หล่ อ นก็แ อบรู ้ สึ ก ไม่
สบายใจเช่นกัน

หล่ อ นที่ เ ป็ นลู ก สะใภ้ค นโตจะพู ด อะไรได้? สามี ข อง


หล่อนไม่ได้อยากแยกบ้านขนาดนั้น ถึงหล่อนอยากแยกบ้าน
แต่หล่อนก็ไม่กล้าพูดเอง ไม่เช่นนั้นหลังจากนี้หล่อนจะอยู่ใน
หมู่บา้ นได้อย่างไร?

ทว่าการใช้ชีวติ แบบนี้กอ็ ดไม่ได้ที่จะแอบรู ้สึกอึดอัดใจอยู่


ดี

ยกตัวอย่างเช่นตอนที่พวกหล่อนทางานเสร็ จแล้วกลับไป
ที่บา้ น ก็เห็นน้องสามีหกกาลังนั่งแทะข้าวโพดอยู่หน้าประตู
บ้าน

ทุ ก คนต่ า งก็อ อกไปทางานกัน ข้า งนอก มี เ ขาที่ เ ป็ นเด็ก


หนุ่มเพียงคนเดียวที่ได้กิน ๆ ดื่ม ๆ อยูใ่ นบ้าน เห็นแบบนี้แล้ว
จะมีใครสบายใจกัน?
ใบหน้าของสะใภ้รองจ้าวกับสะใภ้สี่จา้ วดูไม่ค่อยดีเท่าไร
นัก ส่ วนสะใภ้สามจ้าวนั้นไม่ได้คิดมาก ครั้นได้ยินน้องสามี
หกถามว่าทาไมภรรยาของเขายังไม่ กลับมา หล่ อนจึ งพูดว่า
“เมื่อกี้พี่เห็นหล่อนอยู่กบั แม่เฒ่าฟาง คาดว่าอีกไม่นานก็กลับ
มาแล้วล่ะจ้ะ”

ผ่านไปครู่ หนึ่ งเย่ฉูฉู่ก็กลับมา เนื่ องจากวันนี้ เธอทางาน


อย่างจริ งจัง อีกอย่างอากาศช่ วงนี้ ก็ร้อนอบอ้าว จึงถูกแดดเผา
จนใบหน้าเท่าฝ่ ามือแดงก่าไปหมด

ภรรยาซื่ อบื่อคนนี้ นี่ ออกไปทางานตากแดดข้างนอกจน


สภาพเป็ นแบบนี้ ไม่รู้จกั แอบอูง้ านเอาเสี ยเลย

ระหว่างที่จา้ วเหวินเทากาลังคิดเช่ นนี้ เขาก็พบว่าภรรยา


ของเขากาลังเดิ นตรงเข้ามา และส่ งรอยยิ้มหวานหยดย้อยให้
เขา นัน่ ทาให้จา้ วเหวินเทายิม้ ตามไปด้วย
สายตาของพวกเขาทั้งสองคนอยู่ในการมองเห็นของคุณ
แม่จา้ วทั้งหมด ในใจนางรู ้สึกพึงพอใจเป็ นอย่างยิง่

สองสามี ภ รรยาคู่ น้ ี ผ่ า นเรื่ อ งราวมาด้ว ยกัน ความรู ้ สึ ก


ในตอนนี้ช่างดีเหลือเกิน คาดว่าอีกไม่นานนางคงได้เป็ นคุณย่า
อีกครั้งแล้ว

หลังจากทางานมาทั้งวัน คุณแม่จา้ วก็เตรี ยมอาหารเย็นให้


ทุกคน

วันนี้เนื้อที่พ่อค้าเนื้ อไช่นามาให้ถูกกินจนหมดเกลี้ยงแล้ว
แน่นอนว่าตอนค่าจึงไม่มีอะไรอร่ อย ๆ ให้กิน อีกอย่างวันนี้ท้ งั
วันก็ได้กินเนื้อแล้วไม่ใช่เหรอ? นี่กด็ ีเกินกว่าที่คิดไว้แล้ว

ส่ วนกระต่ายตัวนั้นยังตากแดดอยู่ ยังไม่ถึงเวลาที่จะได้กิน

อาหารที่ผดั ในช่วงค่าจึงใส่ เพียงน้ ามันหมูหนึ่ งทัพพี แต่ก็


หอมกรุ่ นมาก นับว่าคุณแม่จา้ วยอมเสี ยสละให้แล้ว
หลังรับประทานอาหารมื้อค่าเสร็จก็ไม่มีอะไรต้องทาแล้ว

จ้าวเหวินเทาตะโกนเรี ยกเย่ฉูฉู่ที่กาลังช่วยเก็บจานชามไป
ล้าง เย่ฉูฉู่ยมิ้ แล้วพูดกับต้าหยาว่า “ต้าหยา พวกเธอล้างจานกัน
ไปก่อน อีกเดี๋ยวเดินไปเอาผลไม้ป่าที่หอ้ งอาสะใภ้หกนะ”

ต้าหยายิม้ เขินให้เธอ ส่ วนเย่ฉูฉู่กเ็ ดินตามออกไป

ไม่ มี อ ะไรดี ไ ปกว่ า ห้ อ งที่ อ ยู่ ด้า นหลัง แล้ว จริง ๆ มัน
ค่อนข้างเป็ นส่ วนตัวทีเดี ยว สองสามีภรรยาจึงปิ ดประตู แ ละ
รับประทานไข่ตม้

ภายในบ้านไม่มีอาหารมัน ๆ อะไรเลยจริ ง ๆ

“วัน นี้ ผมไปหาแม่ ย ายมา ท่ า นเลี้ ย งบะหมี่ ผมถ้วยใหญ่


แถมยังใส่ ไข่เจียวให้ต้ งั สองฟองแน่ ะ หอมสุ ด ๆ เลย” จ้าวเห
วินเทาพูด
เขาคิดจริ ง ๆ ว่าบ้านของแม่ยายเขาต่างหากล่ะที่ เรี ย กว่า
การใช้ชีวิต บ้านของเขาใช้ชีวิตแบบนี้ นับว่ายากจนข้นแค้น
เกินไปแล้ว

อีกอย่างตอนนี้กไ็ ม่เหมือนกับก่อนหน้านี้แล้ว เพราะมีคน


ในหมู่บา้ นจานวนไม่น้อยทีเดี ยวที่ใช้ชีวิตดี ข้ ึน ทว่าบ้านของ
เขากลับยังยา่ อยูก่ บั ที่ แบบนี้มนั ไม่ได้การ

ก่อนหน้านี้ อาจเป็ นเรื่ องที่ว่าต่อให้ฉันยากจนแต่ ฉันก็ยงั


ภูมิใจ ต่อให้เป็ นคนจนรุ่ นที่สามก็ยงั มีภูมิหลังทางครอบครัวที่
ดี แต่ในอนาคตคนแบบนี้จะถูกคนอื่นดูถูกเอาได้

“ยังอยากแยกบ้านอยู่เหรอคะ?” เย่ฉูฉู่รับประทานไข่ไก่
พลางพูดกับเขาด้วยรอยยิม้

“อยากสิ ครับ ถ้าพวกเราแยกบ้านออกไป ต้องได้ใช้ชีวติ ดี


ๆ แน่นอน ภรรยา คุณเชื่อไหมครับว่าผมสามารถทาให้คุณได้
ใช้ชีวติ อย่างสุ ขสบายได้?” จ้าวเหวินเทาพูดด้วยน้ าเสี ยงจริ งจัง
“คุณกับฉันยังจะไม่ไว้ใจกันอีกเหรอคะ? ฉันแต่งงานกับ
คุณแล้วนะ” เย่ฉูฉู่มองเขาอย่างขุ่นเคือง

ครั้นเห็นสายตาเชื่ อมัน่ ที่ดูอ่อนโยนดุ จสายน้ าของภรรยา


จ้าวเหวินเทาพลันคิดภายในใจว่าคงไม่ตอ้ งพูดอะไรแล้ว มัน
ช่างสวยงามเหลือเกิน

เขากระซิ บด้วยน้ าเสี ยงจริ งจัง “คุ ณคิดว่าหลังจากนี้ พวก


เราเลี้ยงกระต่ายได้ไหมครับ?”

“เลี้ ยงกระต่ าย? ได้สิค ะ กระต่ ายคลอดลู กเร็ วนะ” เย่ฉูฉู่


ครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่งและตอบเสี ยงเบา

จ้าวเหวินเทามีดวงตาเป็ นประกาย สมกับที่เป็ นภรรยาของ


เขาจริ ง ๆ เธอคิดเหมือนกับเขาเลย

กระต่ายคลอดลูกเร็วไม่ใช่เหรอ?
หลัง กระต่ า ยคลอดลู ก ครอกแรกเพี ย งหนึ่ งเดื อ นมัน ก็
คลอดลูกครอกที่สองออกมาได้แล้ว กระต่ายหนึ่ งครอกมีลูก
กระต่ายหลายตัว เมื่อลองคานวนดูแล้ว ในระยะเวลาหนึ่งปี เขา
ก็จะมีธุรกิจกระต่ายขนาดเล็กได้

“แต่ไม่มีที่เลี้ยงนี่สิคะ” เย่ฉูฉู่พูดความจริ ง

การเลี้ ย งกระต่ ายจ าเป็ นต้องมี สถานที่ แต่ ต อนนี้ ทุ กคน


อาศัยอยูร่ ่ วมกัน แล้วจะเลี้ยงได้อย่างไร?

“อีกอย่างกระต่ายคู่แรกก็จาเป็ นต้องใช้เวลาครึ่ งปี จึ งจะ


คลอดกระต่ายน้อยออกมา ระยะเวลาครึ่ งปี นี้ พวกเราจะทามา
หากินอะไรล่ะคะ?” เย่ฉูฉู่พูดอีกครั้ง

จ้าวเหวินเทารี บกล่าว “ภรรยา คุณสบายใจได้เลย ถ้าพวก


เราแยกบ้านแล้ว ผมจะขนของส่ วนหนึ่งเข้าไปขายในเมือง ถึง
เวลานั้นต้องขายออกหมดแน่นอน!”
“นั่นก็เท่ากับว่าเป็ นการขายเก็งกาไรน่ ะสิ คะ?” เย่ฉูฉู่อด
ไม่ได้ที่จะพูดออกมา

“ก่อนหน้านี้ ผมก็กงั วลอยู่ แต่ตอนนี้ ไม่มีอะไรต้องกังวล


แล้วล่ะ ถ้ามีคนมาถาม ผมก็จะบอกว่าเอาของไปให้พี่สาวห้า
เพราะตัวหล่อนก็อยูใ่ นเมือง!” จ้าวเหวินเทาพูด

เรื่ อ งพวกนี้ เขาได้ว างแผนไว้แล้ว สามารถพู ด ได้ว่าทุ ก


อย่างพร้อมพรัก ขาดก็แต่ลมบูรพา[1]

เขาวางแผนที่ จะเลี้ ยงกระต่ าย เมื่ อกระต่ ายโตก็สามารถ


นาเข้าสู่ ตลาดได้ไม่ใช่ เหรอ? ถ้าเป็ นเช่ นนั้นเขาย่อมอยากไป
สัมผัสสักหน่อย

อันที่จริ งเขาก็เคยได้สัมผัสมาก่อนแล้ว ตอนเข้าไปในเมือง


เพื่อขายโสม เขาก็ไม่ได้เข้าไปขายโสมป่ าในเมืองเฉย ๆ แต่ยงั
เตร็ ดเตร่ ไปยังสถานที่แห่ งอื่นด้วย โดยเฉพาะตรงหน้าทางเข้า
โรงภาพยนตร์ ก็มีคนถื อตะกร้ าแกล้งถามทางอยู่เช่ นกัน ซึ่ ง
ความจริ งแล้วในตะกร้านั้นเต็มไปด้วยเมล็ดทานตะวัน ถัว่ ลิสง
และอื่น ๆ ครั้นถามทางแล้วก็พากันหลบเข้ามุมและแลกเปลี่ยน
สิ นค้ากัน

แน่ น อนว่ า คนที่ ท าส่ ว นใหญ่ ล ้ว นเป็ นเยาวชน โดยที่


บรรดาสายตรวจก็แ กล้ง ท าเป็ นปิ ดตาข้า งหนึ่ ง แต่ จ ้า วเหวิ
นเทากลับเห็นทั้งหมด

เขามีประสาทสัมผัสที่ว่องไวเป็ นอย่างมากจึงได้เห็นลู่ทาง
แบบนั้น

ดังนั้นเรื่ องแยกบ้านจึงเป็ นเรื่ องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริ ง ๆ

หากเป็ นแบบนี้เขาก็ทาในสิ่ งที่ตวั เองอยากทาได้แล้ว

“เรื่ อ งแยกบ้า นมัน ก็ ไ ด้อ ยู่ ห รอกค่ ะ แต่ ฉั น คิ ด ว่ า ตาม


ความหมายของคุณพ่อคุณแม่แล้ว คาดว่าพวกท่านคงอยากช่วย
พวกเรา ดัง นั้น จึ ง ไม่ พู ด ถึ ง เรื่ อ งแยกบ้า น” เย่ฉู ฉู่ ก ล่ า วด้ว ย
รอยยิม้

“ภรรยา ถ้าพวกเราจะแยกบ้านจริ งๆ ให้พ่อกับแม่ไปอยู่


กับพวกเราได้หรื อเปล่า? ถึงเวลานั้นผมจะสร้างบ้านให้ใหญ่ ๆ
ไม่เป็ นการรบกวนคุณแน่นอน” จ้าวเหวินเทากล่าว

“การกตัญญูต่อบุพการี เป็ นสิ่ งพึงกระทา ฉันไม่คดั ค้านอยู่


แล้วล่ะค่ะ แต่กฎของพวกเราคือพ่อแม่ตอ้ งอยู่กบั ลูกชายและ
ลู กสะใภ้ใหญ่ ถ้าหากคุ ณพ่อกับคุ ณแม่ มาอยู่กบั คุ ณ คงเลี่ ยง
ไม่ได้ที่จะถูกคนในหมู่บา้ นพูดถึง แล้วพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ใหญ่
จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะคะ” เย่ฉูฉู่พูด

จ้าวเหวินเทาเองก็เข้าใจดี “เรื่ องนี้ ผมจะหาวิธี ถ้าคุณไม่มี


ความเห็นอะไร ถึงเวลานั้นผมจะพูดแล้วนะ?”
เย่ฉูฉู่พยักหน้า การกตัญญูต่อบุพการี คือคุณธรรมอันสู งส่ ง
ให้คุณพ่อและคุณแม่มาอยู่ดว้ ยเธอจะติดขัดอะไรล่ะ เธอเองก็
พอจะมองออกว่า ไม่ใช่เรื่ องยากในการดูแลปรนนิ บตั ิพ่อและ
แม่สามีคู่น้ ีเลย

“ภรรยาของผมช่ า งแสนดี เ หลื อ เกิ น ” จ้า วเหวิน เทาอด


ไม่ได้ที่จะยืน่ หน้าเข้ามาหอมแก้มชมพูนุ่ม ๆ ของภรรยาตนเอง

เย่ฉูฉู่หน้าแดงระเรื่ อ

แต่ ภายในใจของเธอก็นึกเห็ นด้วย เพราะระหว่างทางที่


กลับบ้านเธอก็ได้ยินข่าวลือบางอย่าง มีคนมาพูดให้เธอฟั งว่า
พี่สะใภ้สี่ไม่พอใจเป็ นอย่างมากที่จา้ วเหวินเทานาปลาไปให้แม่
ของเธอ ทาเป็ นแสดงออกอย่างประจบสอพลอว่าไว้สาหรับกิน
ดื่มในบ้าน แต่แล้วก็ขนของกลับไปที่บา้ นแม่ของเธอ ทั้งหมด
ก็เป็ นเพราะความลาเอียงของคุณแม่จา้ ว!
เย่ฉูฉู่ไม่ได้เล่าเรื่ องนี้ให้จา้ วเหวินเทาฟังก็จริ ง แต่นนั่ ไม่ได้
หมายความว่าในใจของเธอไม่ได้คิดอะไร

การแยกบ้านกันคงจะเป็ นเรื่ องดี กบั ทุกคนมากกว่าจริ งๆ


ขืนยังให้คนหลายคนมาอยู่ร่วมกันมากขนาดนี้ ต่อไป ไม่ช้าก็
เร็ วในใจแต่ละคนก็จะเปลี่ยนจากดีเป็ นร้าย ถึงเวลานั้นก็คงจบ
ไม่สวย

[1] ทุกอย่างพร้อมพรัก ขาดแต่ลมบูรพา หมายถึง ทุกอย่าง


ได้ตระเตรี ยมไว้พร้อมแล้ว ขาดเพียงสิ่ งที่สาคัญอย่างเดียว
ตอนที่ 15 กระต่ ายนา้ แดง

แต่การแยกบ้านไม่ใช่ เรื่ องง่ าย ทั้งยังอยู่ในช่ วงฤดู กาลนี้


ด้วย

เพียงพริ บตาเดี ยวก็จะถึงช่ วงเก็บเกี่ ยวผลผลิ ตประจาฤดู


ใบไม้ร่วงของปี นี้แล้ว ฝักข้าวโพดในท้องทุ่งก็สุกแก่พร้อมเก็บ

นี่ไม่ใช่โครงการขนาดเล็กเลย เย่ฉูฉู่เองก็ออกไปกับทุกคน
ตั้งแต่เช้าตรู่ ก่อนออกไป จ้าวเหวินเทาได้กระซิ บบอกเป็ นการ
ส่ ว นตัว กับ ภรรยาซื่ อ บื่ อ คนนี้ ว่า อย่า ปล่ อ ยให้ต ัว เองเหนื่ อย
เกินไป เพราะผลงานที่เขาอุตส่ าห์ขยันทามาตลอดครึ่ งเดือนคง
จะอยูใ่ นท้องของเธอแล้ว
ค าพู ด นี้ ทาให้เย่ฉู ฉู่ อ ายจนทนไม่ ไหว เพราะตลอดครึ่ ง
เดื อนกว่า ๆ ที่ผ่านมา จ้าวเหวินเทาก็สะกิดเธอไม่น้อยจริ ง ๆ
ตอนกินก็กินปกติ แต่ไม่รู้วา่ เขาไปเอาพลังงานมาจากที่ไหน

แน่ นอนว่าเย่ฉูฉู่เองก็เพลิดเพลินอย่างมากเช่ นกัน เพราะ


เหวินเทาอ่อนโยนกับเธอเป็นอย่างมาก ถึงขั้นทาให้เธอจมดิ่ง
อยูใ่ นนั้นอย่างไม่อาจถอดถอน

ไม่ตอ้ งให้เหวินเทาเตือน เธอก็พอจะรู ้ดีอยูแ่ ก่ใจ เมื่อหนึ่ง


สัปดาห์ก่อนรอบเดือนของเธอเพิ่งจะหมด ถึงก่อนหน้านี้ไม่ได้
ตั้งครรภ์ แต่ครั้งนี้เธอเองก็ไม่มนั่ ใจจริ งๆ

สามเดื อ นแรกมัก เจอปั ญ หาได้ง่ า ยมาก ดัง นั้น เธอจึ ง


ระมัดระวังตัว แต่ความเร็วในการทางานก็ไม่ได้ชา้ ลง

แม้จะไม่ได้รวดเร็วขนาดนั้น แต่กไ็ ม่ได้เป็ นตัวถ่วง


“น้องสะใภ้เธอคนนั้นช่างสาออยจริ งเชียว คนไม่รู้คงคิดว่า
เป็ นคุ ณหนู เจ้าของที่ดิน ท่าทางดู อ่อนแอบอบบางเหลือเกิน”
เธอไม่ได้เป็ นตัวถ่วงใครก็จริ ง แต่มีบางคนที่ไม่อาจทนดูได้ จึง
มีคนแอบไปกระซิบข้างหูพี่สะใภ้รองจ้าว

พี่สะใภ้รองจ้าวมองเย่ฉูฉู่ ที่กาลังเก็บฝั กข้า วโพด ทั้ง ยัง


แบกตะกร้าข้าวโพดไว้บนหลังตัวเองอย่างแข็งขัน แล้วหล่อน
ก็พูดว่า “หล่อนก็ทาได้ดีไม่ใช่เหรอ”

ส าหรั บ น้อ งสะใภ้เ ย่ฉู ฉู่ ค นนี้ หล่ อ นไม่ มี อ ะไรต้อ งพู ด
เพราะเธอก็ออกมาทางานทุ กวันไม่ ได้แอบอู ้งาน แม้ตอนที่
รอบเดือนมาจะนอนอยูก่ บั บ้านไม่ได้ออกมาทางาน แต่เธอก็ยงั
ทางานบ้าน หล่อนแค่ไม่พอใจน้องสามีคนเล็กก็เท่านั้น

ก็ยงั คงเป็ นคาพูดนั้น ว่าหากแยกบ้านจะดี ขนาดไหนกัน


นะ?
เพื่อนคนนี้ของสะใภ้รองจ้าวพูดเสี ยงเบา “ตระกูลจ้าวของ
พวกเธอไม่คิดจะแยกบ้านเหรอ? ตอนนี้ ในหมู่บา้ นเหลือพวก
เธอแค่ไม่กี่ครอบครัวแล้วนะที่ยงั ไม่แยกบ้าน”

“คุ ณ พ่ อ กับ คุ ณ แม่ ฉั น ไม่ ไ ด้มี ค วามคิ ด แบบนั้ นน่ ะ สิ ”


พี่สะใภ้รองจ้าวพูดขณะทางานไปด้วย

“ต้องเป็ นเพราะลาเอียงไปทางลูกคนเล็กสิ นะ?” เพื่อนของ


หล่อนพูดฉับพลัน

สะใภ้ร องจ้า วไม่ อ ยากพู ด เรื่ อ งในบ้า น จึ ง พู ด ว่ า “รี บ


ทางานเถอะ วันนี้ได้แต้มค่าแรงตั้งเก้าแต้มเลยนะ”

การเก็บข้าวโพดไม่ ใ ช่ งานง่ า ยจริ ง ๆ ดังนั้นการท างาน


แบบนี้ จึงทาให้เย่ฉูฉู่เหนื่ อยจนทนไม่ไหว และเนื่ องจากต้อง
รี บเก็บเกี่ยวผลผลิตช่ วงฤดูใบไม้ร่วงให้เร็ ว ดังนั้นคนในบ้าน
จึงต้องนาอาหารกลางวันมาส่ ง และไม่ได้กลับไปที่บา้ น
จ้าวเหวินเทามักแอบอูง้ านในเวลาอื่นก็จริ ง แต่ในช่วงเก็บ
เกี่ยวฤดู ใบไม้ร่วงเขาไม่ได้แอบอูง้ านเลย เพราะทุกคนต่างก็
ต้องรี บเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงนี้

ไม่เช่นนั้นหากเทพเจ้าเกิดความขุ่นเคืองใจ ปล่อยฝนเทลง
มาในช่ วงฤดู ใบไม้ร่วง คงได้ถูกคนนับพันชี้ หน้ารุ มสาปแช่ ง
เป็ นแน่

ดังนั้นจ้าวเหวินเทาจึงขยันมาก และสองสามีภรรยาก็มา
นัง่ รับประทานอาหารด้วยกัน

อาหารมื้ อ นี้ ไม่ มี ข องอะไรอร่ อ ยหรอก มี แ ค่ แ ผ่ น แป้ งจี่


เท่ านั้น แต่ คุณแม่ จา้ วก็ยอมเสี ยสละใส่ บะหมี่ ไว้ขา้ งในด้ว ย
ระหว่างที่รับประทานสิ่ งนี้กด็ ื่มน้ าไปพลาง นี่นบั ว่าเป็ นอาหาร
เที่ยงแล้ว
หากเป็ นเมื่อก่อน อาหารเที่ยงแบบนี้กน็ บั ว่าไม่เลวแล้ว ทั้ง
ยังมีบะหมี่อยู่ดา้ นในด้วย แต่ตอนนี้ จา้ วเหวินเทาเห็นอาหาร
ของตระกูลเฉิ นที่ อยู่ขา้ ง ๆ บ้านนี้ ไม่กลัวเป็ นที่ ดึงดู ดสายตา
ของคนอื่นแม้แต่นอ้ ย ของที่กินคือหมัน่ โถวแป้ งขาว แค่น้ ี ยงั
ไม่พอ ยังมีไข่คนซีอิ๊ว(1)เป็ นเครื่ องเคียงด้วย!

ไม่ได้มีแค่ตระกูลเฉิ นเท่านั้น ยังมีหลี่เฉี ยจื่ออีกคน หมอนี่


กาลังกินแผ่นไข่ทอด(2)!

ความโชคร้ายของตระกู ลอื่นอีกหลายตระกูลจึงดู ไม่ เลว


นัก ไปถนัด ตา เมื่ อ เที ย บกับ รสชาติ อ ัน เลวร้ า ยของแป้ งจี่ ห่อ
บะหมี่จากบ้านเขา

“ภรรยา ทาให้คุณต้องน้อยใจแล้ว” จ้าวเหวินเทามองดูดว้ ย


ความรู ้สึกค่อนข้างแย่
แม่ ม่ า ยหม่ าที่ อ ยู่ก ับหลี่ เ ฉี ย จื่ อ ยัง ได้กิ นแผ่นไข่ ทอด แต่
ภรรยาที่งดงามดุจบุปผาและหยกของเขากลับทาได้แค่นงั่ แทะ
แป้งจี่กบั เขา จะให้รู้สึกดีได้อย่างไรกัน?

เย่ฉูฉู่ไม่เคยลาบากที่ไหนกัน? ชาติก่อนที่ถูกเนรเทศได้กิน
แป้ งจี่แบบนี้ ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะ
พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ อาหารของฝ่ ายนั้นก็ดีจริ ง ๆ นัน่ แหละ

อีกอย่างฝ่ ายนั้นก็กล้าต่อสู ้ถึงที่สุด เทียบกับครอบครัวสามี


ของเธอที่ ค่อนข้างอนุ รักษ์นิยม ขนาดบ้านพ่อแม่ ของเธอยัง
เลี้ยงไก่ไว้สิบกว่าตัว ในหมู่บา้ นก็มีหลายครอบครัวที่เลี้ยงไก่
ไว้เยอะเช่นกัน แต่ในบ้านสามีกลับมีไม่มาก

แน่นอนว่าอาหารการกินก็แย่กว่าไม่ใช่นอ้ ย ๆ

ดังนั้นเธอจึงได้แค่มองจ้าวเหวินเทาด้วยรอยยิม้ แต่ไม่ได้
พูดอะไร
ทว่าจ้าวเหวินเทากลับรู ้สึกเจ็บปวดใจ เขาเองก็ไม่ได้พูด
อะไร ได้แต่กดั แป้งจี่หนึ่งคาแล้วดื่มน้ าตาม

รอให้การเก็บเกี่ยวฤดู ใบไม้ร่วงผ่านพ้นไปก่อน ถึงเวลา


นั้นก็จะได้แยกบ้านและทาให้ภรรยาของเขาอยูด่ ีกินดีให้ได้!

หลายบ้านที่ ได้กินของดี ก็ทาให้คนอิ จ ฉาตาร้ อน แต่ ก็มี


หลายคนที่แอบกระซิบกระซาบกันเป็ นการส่ วนตัว

การเก็บเกี่ ย วฤดู ใ บไม้ร่ ว งเห็ น ได้ชัดว่าไม่ ใ ช่ ง านสบาย


ข้าวโพดที่สุกงอมเป็นแค่แตรส่ งสัญญาณของการเก็บเกี่ยวฤดู
ใบไม้ร่วง เพราะหลังจากนี้ ยงั มีพืชผลที่สุกแก่ตามมามากขึ้น
อีก

เย่ฉูฉู่เองก็ทนไม่ไหวแล้ว จึงผลัดเวรกับพวกพี่สะใภ้อยู่
บ้านทากับข้าวและพักผ่อนไปในตัว
กระต่ายตัวนั้นถูกกินจนหมดแล้วเมื่อก่อนหน้านี้ ทั้งบ้าน
จึงหวังว่าจ้าวเหวินเทาจะจับกระต่ายได้เหมือนกับปี ก่อน ๆ

จ้าวเหวินเทาไม่ทาให้ทุกคนผิดหวัง ตอนที่เขากาลังเดิ น
กลับบ้านพร้อมกับพวกพี่ ๆ ในช่วงโพล้เพล้ เขาก็หิ้วกระต่ายสี
เทาตัวอ้วนกลับมาได้หนึ่งตัว

“แม่ เอาไปทากระต่ ายน้ าแดงเลยครั บ!” ทันที ที่เดิ นเข้า


บ้าน จ้าวเหวินเทาก็ตกั น้ าเย็นสองกระบวยดับกระหาย ก่อนจะ
เอ่ยขึ้น

“ได้สิ คืนนี้พวกเรากินเนื้อกระต่ายน้ าแดงก็แล้วกัน!” คุณ


แม่จา้ วยิม้ ตาหยี

เจ้าหกช่างโชคดีแบบนี้มาตั้งแต่เด็กจนโต!

ดังนั้นหลังจากที่คนอื่น ๆ ได้ ‘อวดความมัง่ คัง่ ’ ด้วยการ


กินเนื้อแล้ว ตระกูลจ้าวก็มีเนื้อให้กินเช่นเดียวกัน
จากประสบการณ์หลายปี ของคุณแม่จา้ ว นางจึงทราบว่า
หลังจากนี้กย็ งั มีเนื้อกระต่ายให้กินอีก ดังนั้นจึงไม่ได้ประหยัด
แม้แต่นอ้ ย เนื้ อกระต่ายที่มีน้ าหนักสามชัง่ กว่า ๆ ถูกนามาผัด
น้ าแดงจนหมด

ซึ่งก็ถูกแบ่งไปให้พี่นอ้ งของคุณพ่อจ้าวส่ วนหนึ่งด้วย มีไม่


เยอะแต่กต็ อ้ งแบ่งไปส่ วนหนึ่ง

ส่ วนที่เหลือทุกคนก็เริ่ มรับประทานกัน!

คนในบ้า นรั บ ประทานกัน ด้ว ยความรู ้ สึ ก พึ ง พอใจเป็ น


อย่างมาก

หลังจากรับประทานและดื่มจนอิ่มก็มีแรงนัง่ พูดคุย เพียง


ไม่นานก็ได้ยนิ เสี ยงพี่สะใภ้สี่พูด

บอกว่าหลังจากที่แม่ม่ายหม่าแต่งงานไปได้สามปี ในที่สุด
ก็ต้ งั ครรภ์ หลี่เฉียจื่อจึงตุ๋นไก่เพื่อบารุ งร่ างกายหล่อน!
ความหอมนั้นทาให้เพื่อนบ้านซ้ายขวาต่างพากันอิจฉาจน
แทบแย่

พี่สะใภ้สี่จา้ วเองก็แอบอิจฉาเหมือนกัน เพราะหล่อนไม่


เค ยไ ด้ กิ นไ ก่ ทั้ งตั ว เลย คิ ดไ ม่ ถึ งว่ า แม่ ม่า ยหม่าจะมี
ความสามารถ ได้กินมันแล้ว!

อี กอย่างฝ่ ายนั้น เพิ่ งจะตั้งครรภ์แค่ ไม่ กี่ เดื อนก็ได้กิ น ไก่


แล้ว หลังจากคลอดล่ะ? ได้ยนิ มาว่าในบ้านของหลี่เฉี ยจื่อเลี้ยง
ไก่ไว้ต้ งั หลายสิ บตัว นี่กท็ าให้มีกินแล้ว

คนที่ อิจฉาเหมื อ นกับพี่ สะใภ้สี่จา้ วยังมี พี่ สะใภ้รองจ้า ว


และพี่สะใภ้สามจ้าวด้วย ใครจะไม่อิจฉาบ้างล่ะ? แต่แม่ม่าย
หม่าไม่ตอ้ งอยู่กบั แม่สามี อยู่กบั หลี่เฉี ยจื่อแค่สองคนเท่ านั้น
ในบ้านนั้นหล่อนจึงกลายเป็ นใหญ่ ก่อนหน้านี้ หลี่เฉี ยจื่ อก็ดี
กับหล่อนอยูแ่ ล้ว เพราะหวังว่าหล่อนจะคลอดลูกให้ตนเอง
พอหล่อนตั้งครรภ์ก็ไม่ตอ้ งพูดอะไรแล้ว ต้องบารุ งอย่าง
หนักแน่นอน

จ้าวเหวินเทาเองก็ได้ยนิ เช่นกัน

จะว่าไปแล้วอย่างไรก็ตอ้ งแยกบ้าน แยกแล้วอยากจะกิน


อะไรก็ได้กิน เขาชักไม่อยากให้ภรรยาของเขาตั้งครรภ์เสี ยแล้ว
สิ เพราะถึงเวลานั้นคงสู ้แม่มีายหม่าไม่ได้!

เขาสบโอกาสตอนออกมาลานตากข้าวเพื่อเฝ้าข้าวกับคุณ
พ่อจ้าว พูดเรื่ องที่จะแยกบ้านกับพ่อของเขาอย่างเงียบ ๆ

...........................................................................

*ซอสที่กินเคียงกับหมัน่ โถวและบะหมี่อย่างหนึ่ งของคน


จี น ภาคเหนื อ ท าจากไข่ ค นปรุ งรสใส่ต้น หอม ซี อิ๊ ว และ
น้ ามันงา

อาหารทามาจากแผ่นไข่ผสมแป้งแล้วนาไปจี่ในกระทะ
ตอนที่ 16 แยกบ้ าน

คุณพ่อจ้าวก็คิดไม่ถึงว่าลูกชายของตัวเองจะมาพูดเรื่ องนี้
กับเขา แต่ไม่เพียงไม่นานก็ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ ว จึงถาม
ไปตรง ๆ “พวกหล่อนชักสี หน้าใส่ แกสิ นะ?”

พวกหล่อนที่คุณพ่อจ้าวพูดถึงคือใครจ้าวเหวินเทาย่อมรู ้ดี
ก็คือพวกพี่สะใภ้ของเขานัน่ แหละ

จ้าวเหวินเทาไม่แยแสที่ จะราดน้ าสกปรกใส่ พวกหล่ อน


แน่นอนว่ารวมถึงพวกพี่ชายของเขาด้วย “พวกพี่สะใภ้ของผม
จะไปมีอะไร ก็ซุบซิ บนินทาตามประสาผูห้ ญิงนัน่ แหละ คนที่
พูดจริ ง ๆ ก็คือพวกพี่ ๆ ของผมไม่ใช่เหรอ? พ่อ ผมคือลูกชาย
ของพ่ อ ตั้ง แต่ เ ล็ก พ่ อ กับ แม่ ก็ประคบประหงมผมมาตลอด
แม้ว่าผมจะไม่เคยถูกพ่อทุบตี แต่ผมรู ้ว่าภายในใจพ่อก็รักผม
ตอนเด็ก ๆ ตอนที่พ่อออกไปซ่ อมอ่างเก็บน้ าข้างนอก ช่ วงฤดู
หนาวพ่อก็อยู่ดา้ นนอกไม่ยอมกินอะไร แถมยังแอบเอาหมัน่
โถวขาวมาให้ ผ มกิ น เป็ นการส่ ว นตัว อี ก ผมจ าได้ห มดนั่น
แหละ”

คุณพ่อจ้าวส่ งเสี ยงหัวเราะหึออกมา แต่กไ็ ม่ได้พูดอะไร

นี่ เป็นลูกชายของเขานะ เขาเกิดหลังจากที่ลูกสาวคนที่หา้


คลอดออกมา 5 ปี ตอนนั้นคิดว่าจะไม่มีลูกแล้ว แต่ไม่มีใครคิด
ว่าภรรยาของเขาจะให้กาเนิดเจ้าหกออกมาอีกคน

เขาและภรรยาอายุต่างกัน 3 ปี แต่ไม่ใช่ เขาที่อายุมากกว่า


คุณแม่จา้ ว 3 ปี แต่เป็ นคุณแม่จา้ วต่างหากที่อายุมากกว่าเขา 3 ปี
ตอนที่คลอดลูกชายคนนี้ ออกมา คุณแม่จา้ วยังสาวอยู่เลย นาง
อายุแค่ 33 ปี เท่านั้น

แต่ตอนนั้นฐานะทางบ้านไม่ดี พวกเขาจนมากจริ ง ๆ
ทว่าลู กชายคนนี้ บางที อาจจะเป็ นดวงดาวแห่ งความสุ ข
และความโชคดี ที่จุติล งบนโลกก็เป็ นได้ เพราะเมื่ อมี เ ขาอยู่
ภายในบ้านก็มีความสุ ขอย่างไม่หยุด

เริ่ มแรกภรรยาของเขาฝันว่ามีตุ๊กตาสี ทองตกลงมาจากฟ้ า


ตุ๊กตาสี ทองตัวนี้ ในมือกอดปลาแฟนซี คาร์ ป เหมือนกับตุ๊กตา
ในภาพเหนียนฮวา[1]

จากนั้นเขาก็จบั สัตว์ป่าได้โดยไม่รู้ว่าวิ่งมาจากที่ไหน เดิน


ผ่านพุ่มไม้เห็นกระต่ายสองตัวกาลังทะเลาะกันอยู่เขาก็เลยจับ
มาทั้ง สองตัว ตอนเข้า ไปในป่ าเพื่ อ เก็บฟื นก็ย งั ได้ไ ข่ ไ ก่ ฟ้ า
กลับมาที่ บา้ น และในคื นนั้นภรรยาของเขาก็เริ่ มอาเจี ยน จึ ง
เรี ยกหมอเท้าเปล่ าหมายเลขหนึ่ ง[2]มาจับชี พจรแล้วก็พ บว่า
ตั้งครรภ์!

เมื่อแม่ต้ งั ท้องเขา ภายในบ้านก็ได้กินเนื้ ออยู่เป็ นประจา


ไม่วา่ จะเป็ นเนื้ออะไร เนื้อปลาเอย เนื้อกุง้ เอย ก็ได้กินทั้งหมด
ตอนที่เจ้าหกถือกาเนิ ดก็แตกต่างจากลูกบ้านอื่นที่ตวั แดง
ก่าแถมยังผอมกะหร่ อง เพราะเขามีผิวพรรณขาวผ่องและอวบ
อ้วน นี่คือตุ๊กตาเหนียนฮวาที่ภรรยาของเขาฝันถึงไม่ใช่เหรอ?

ทว่ามันก็ทาให้คุณพ่อจ้าวดีใจมาก ลูกชายและลูกสาวคน
อื่น ๆ เขาไม่เคยอุม้ มาก่อน เคยก็แต่อุม้ หลานเท่านั้น!

แต่ ลู ก ชายคนนี้ คุ ณ พ่ อ จ้า วเปลี่ ย นผ้า อ้อ มด้ ว ยตัว เอง


สาหรับผูช้ ายที่อยูใ่ นยุคผูช้ ายเป็ นใหญ่แล้ว สิ่ งนี้นบั ว่าเป็ นเรื่ อง
น่าอัศจรรย์มาก

หลังจากนั้นก็ไม่ตอ้ งพูดอะไรอีก ยิง่ ลูกโตก็ยงิ่ ซน แต่กลับ


ทาให้คนชอบ หลังจากโตขึ้นอีกหน่อย ภายในบ้านก็ยากจนทา
ให้เขากินไม่อิ่ม จึงวิ่งเข้าไปในป่ า และไม่เคยกลับมามือเปล่า
เลย
คนอื่นไม่ได้ของกินกลับมา แต่เมื่อเขาเข้าไปในป่ ามักจะ
ได้ของกลับมาอยู่เสมอ ต่อให้เลวร้ายแค่ไหน อย่างน้อย ๆ ก็
ต้องมีไข่นกกลับมา 7-8 ฟอง

ครึ่ งหนึ่ ง เขาจะเก็บ ไว้แ ล้ว เรี ย กให้พ่ อ แม่ ของเขามากิ น


ส่ วนที่เหลือก็จะแบ่งให้พวกหลาน ๆ ได้กินคนละคา

ทั้งยังเป็ นแบบนี้ อยู่หลายครั้ง มีหลายครั้งที่สามารถเก็บ


ไก่ฟ้าและกระต่ายป่ ากลับมา ในสมัยนั้นในช่วงเวลาสองสามปี
ก็ไม่อาจแน่ ใจได้ว่าจะได้กินเนื้ อ ตอนนั้นในกลุ่มยังไม่มีใคร
เลี้ยงหมูเลย

แต่บา้ นของเขาประมาณหนึ่งเดือนก็จะได้กินเนื้อหนึ่ งครั้ง


เนื้อปลาหนึ่งเดือนจะได้กิน 3-5 ครั้ง ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็ นของที่
เจ้าหกนากลับมา
ช่ วงเก็บเกี่ยวฤดู ใบไม้ร่วง เป็ นฤดู เก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ เจ้า
หกสามารถจับกระต่ายในทุ่งนา ไก่ฟ้า รวมไปถึงหนูนาตัวอ้วน
มาได้!

ช่ วงเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงและฤดูร้อนทุกคนต่างก็เหนื่อย
จนสายตัวแทบขาด แต่ช่วงเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงและฤดูร้อน
ของบ้านเขากลับมักจะเกิดความประหลาดใจ

ดังนั้นตอนที่เจ้าหกไม่ชอบทางานเป็นประจา คุณพ่อจ้าว
และคุณแม่จา้ วจึงไม่ได้พูดอะไร นาของกลับมาได้มากขนาดนี้
ก็นบั ว่าเพียงพอแล้ว

ลูกชายของพวกเขา พวกเขาคิดว่าเท่านี้กพ็ อแล้ว ทว่าเหล่า


ลูกสะใภ้กลับไม่เห็นด้วย

คุณพ่อจ้าวจะไม่รู้ได้อย่างไร เขาเองก็มีพี่นอ้ ง เขาย่อมรู ้ดี


ว่าหลังจากที่พวกพี่สะใภ้เข้ามาอยูใ่ นบ้านก็ตอ้ งกลายเป็ นใหญ่
ในครอบครัว ดังนั้นมีบางเรื่ องที่เขาเองก็ได้แค่ทาเป็นมองไม่
เห็น

อยากจะแยกบ้านคงเป็ นไปไม่ ได้ ลู กชายของเขาเพิ่งจะ


แต่งงาน สองสามีภรรยาต่างก็ยงั ไม่มีคนช่ วย จะแยกบ้านได้
อย่างไรกัน?

แต่คุณพ่อจ้าวรู ้ดีว่าคนอื่น ๆ ก็มีความคิดอยากจะแยกบ้าน


ทว่าคิดไม่ถึงเลยว่าลูกชายคนเล็กของเขาจะมาพูดเรื่ องนี้

จ้าวเหวินเทาพูด “พ่อกับแม่คือคนที่ผมรัก ผมต้องกตัญญู


กับพ่อแม่อยู่แล้ว ถ้าหากแยกบ้าน ผมอยากให้พ่อกับแม่ไปอยู่
กับผม ผมจะเลี้ยงพ่อกับแม่เอง ส่ วนพวกพี่รอง ก็ให้พวกเขา
เอาอาหารมาให้ก็พอแล้ว ตอนนี้ อายุยงั น้อยไม่ตอ้ งขอความ
ช่ วยเหลือจากพวกเขา หลังจากที่แก่ตวั ลงก็ค่อยให้พวกเขาทั้ง
สามบ้านมาแบ่งให้เท่า ๆ กัน พ่อคิดว่ายังไงครับ?”
“มี ใ ครที่ ไ หนเขาย้า ยไปอยู่บ้า นเดี ย วกับลู ก คนเล็ก กัน ”
ครั้นคุ ณพ่อจ้าวได้ยินลูกชายคนเล็กพูดว่ายินดี ที่จะเลี้ยงดู พ่อ
แม่โดยไม่มีท่าทีรังเกียจ เขาจึงพูดด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน

“จะไม่มีได้ยงั ไงล่ะครับ? ตระกูลเซี่ ยงก็อยู่กบั ลูกชายคน


เล็กไม่ใช่เหรอ? ไม่ตอ้ งไปทนดูสีหน้าของลูกสะใภ้ใหญ่ที่บา้ น
ใหญ่ สองสามีภรรยาเฒ่าก็อยู่กนั อย่างเป็ นอิสระจะตายไป!”
จ้าวเหวินเทาพูด

“ตระกูลเซี่ ยงก็คือตระกูลเซี่ ยง บ้านพวกเราก็คือบ้านพวก


เรา พวกเราไม่ได้มีกฎแบบนี้ หากแยกบ้านไปแล้วพ่อกับแม่ก็
ต้องอยูก่ ินที่บา้ นใหญ่” คุณพ่อจ้าวไม่ยนิ ดีที่จะทาให้ลูกชายคน
เล็กเดือดร้อน เขาจึงพูดพร้อมกับส่ ายหน้า

แต่ เพียงไม่ นานคุ ณพ่อจ้าวก็ก ลับมาที่ หัวข้อ สนทนาอี ก


ครั้ง “ทาไมไปพูดถึงเลี้ยงดูยามแก่ล่ะ? เรื่ องแยกบ้านฉันยังไม่
ตอบตกลงเลยนะ!”
“โถ่พ่อ กฎในหมู่บา้ นของพวกเราคือถ้าลูกชายแต่งงานก็
ต้อ งแยกบ้า น ผมเองก็แ ต่ ง งานมาหลายเดื อ นแล้ว อี ก อย่า ง
ตอนนี้แยกบ้านก็ดีกว่าหน่อยหนึ่ง ความสัมพันธ์ยงั ไม่ร้าวฉาน
สี หน้าของทุกคนก็ยงั ดีอยู่ พวกหล่อนรังเกียจผมก็ช่างปะไร แต่
ผมทนไม่ได้ที่พวกหล่อนรังเกียจภรรยาของผม ถึงเวลานั้นถ้า
ผมโกรธขึ้นมาแม้แต่ตวั ผมเองก็ยงั กลัวเลย!” จ้าวเหวินเทาพูด

คุณพ่อจ้าวรู ้ดีว่าลูกชายคนเล็กมาหาเขาในคืนนี้คงคิดตรึ ก
ตรองมานานแล้ว จึงพูดไปว่า “แล้วแกจะแยกยังไง?”

“ยัง ต้อ งถามอี ก เหรอครั บ ควรแยกยัง ไงก็แ ยกแบบนั้น


แหละ แต่ปีนี้คงไม่ทนั แล้ว รอให้ถึงปี หน้าผมจะออกไปสร้าง
บ้า นสั ก หลัง ปี นี้ ก็แ ค่ คิ ดอยากจะแยกครอบครั ว แต่ ยงั ไม่ ได้
แยกกันอยู่ ตอนนี้ เอาเป็นว่าก็อยู่กนั แบบเดิมไปก่อนแล้วกัน”
จ้าวเหวินเทาพูด
“แกอยากสร้างบ้านอีกหลัง?” คุณพ่อจ้าวชะงักไปครู่ หนึ่ ง
อดไม่ได้ที่จะมองเขา “แกรู ้ หรื อเปล่าว่าสร้างบ้านต้องใช้เงิน
เท่าไหร่ ต่อให้ในบ้านมีเงิน แต่แบ่งให้พวกแกก็ยงั ไม่พออยูด่ ี”

“มีอะไรกันล่ะ ผมหาเองได้ รอให้แยกบ้านก่อนผมจะหา


เงินให้พ่อดู พ่อกับแม่รอรับความสุ ขจากผมได้เลย ส่ วนพวก
เขา อย่าคิดว่าจะได้แม้แต่คนเดียว!” จ้าวเหวินเทาแค่นเสี ยง

คุ ณพ่อจ้าวยิ้ม แต่กลับพูดอย่างจริ งจังว่า “เรื่ องแยกบ้าน


แม่ของแกก็เคยพูดกับพ่อมาก่อน เดิมทีพ่อไม่ได้เห็นด้วย แม่
ของแกก็คิดแบบเดียวกัน เพราะคิดว่าพวกแกจะเสี ยเปรี ยบ แต่
ถ้าแกคิดอยากจะแยกบ้านจริ ง ๆ พ่อก็จะไม่หา้ มแก แต่หลังจาก
แยกบ้า นไปแล้ว แกต้อ งเป็ นใหญ่ ใ นบ้า นนะ อย่ า ท าตัว
เอ้อระเหยลอยชายแบบนี้อีกล่ะ”

คุ ณ พ่ อ จ้า วจะไม่ รู้ ไ ด้อ ย่า งไรกัน ว่ า ลู ก ชายคนเล็ ก ของ


ตนเองถูกเหล่าพี่สะใภ้รังเกียจ? คุณแม่จา้ วเองก็กระซิ บบอกไม่
น้อย บอกว่าตอนที่ กินเนื้ อแต่ ละคนก็คุ ยโวโอ้อ วดกัน เวลา
ทางานก็เอาแต่ช้ ี เจ้าหก โดยเฉพาะเจ้าสามที่ไม่ยอมเสี ยเปรี ยบ
แม้แต่ครึ่ งเดียว สะใภ้สี่กเ็ หมือนกัน สั่งให้ลูกสาวสองคนจับตา
มองนางว่าแอบให้เงินช่วยเหลือลูกชายคนเล็กหรื อเปล่า!

ไม่พอใจอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ก็เอาออกไปพูดข้างนอกว่า


ลาเอียงรักน้องสามีคนเล็กอย่างนู ้นทีอย่างนี้ ที คิดว่าพวกเขา
สองสามีภรรยาจะไม่รู้จริ ง ๆ เหรอ?

เพียงแต่ทาเป็ นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ กเ็ ท่านั้นแหละ!

[1] เหนี ยนฮว่า คื อ ภาพมงคลตรุ ษจี น ซึ่ งเป็ นศิลปะการ


วาดภาพแขนงหนึ่งของชาวจีน เมื่อถึงเทศกาลตรุ ษจีน ชาวจีน
จะนาภาพวาดที่แสดงถึงปี ใหม่มาติดตามประตูบา้ นหรื อตาม
กาแพงบ้าน เพื่อเป็ นการแสดงถึงงานเทศกาลอันเป็ นมงคล
[2] หมอเท้าเปล่า คือ เกษตรกรที่ได้รับการฝึ กการแพทย์
และผูช้ ่วยแพทย์พ้นื ฐานขั้นต่าและทางานในหมู่บา้ นชนบท
ตอนที่ 17 ลูกกระต่ ายหนึ่งรัง

ตอนนี้คุณพ่อจ้าวเองก็พอจะมองออกแล้วว่าลูกชายคนเล็ก
คิดอยากจะแยกบ้าน เดิมทีพวกเขาสองสามีภรรยาต่างคัดค้าน
เพราะเห็นแก่ลูกชายคนเล็ก แต่ในเมื่อลูกชายคนเล็กอยากแยก
บ้านด้วยตนเอง ถ้าเช่ นนั้นพวกเขาก็ไม่ ตอ้ งบี บบังคับไม่ ใ ห้
แยกบ้านอีกต่อไป

เพราะคุณพ่อจ้าวเองไม่เคยสงสัยถึงความสามารถของลูก
ชายคนเล็กมาตั้งแต่ตน้ อีกอย่างถ้าเปรี ยบเทียบกันจริ ง ๆ การ
ไม่ แ ยกบ้า นนั่น แหละที่ จ ะท าให้เ จ้า หกและภรรยาของเขา
เสี ยเปรี ยบ!

สองสามีภรรยาคู่น้ ี ยงั ไม่มีทายาทสื บสกุล และไม่มีอะไร


เป็ นภาระถ่วงรั้ง ครอบครัวของเจ้าหกก็ดูมีหลักการดี สามารถ
มีชีวติ ที่ดีได้
คุณพ่อจ้าวไม่เชื่อว่าถ้าหากแยกบ้านแล้ว เจ้าหกและภรรยา
ของเขาจะมีคุณภาพชีวติ แย่กว่าพวกพี่ ๆ

อีกอย่างถ้าหากสู ้พวกพี่ ๆ ไม่ได้ ถ้าเช่นนั้นเขากับภรรยาก็


ยังใช้ประโยชน์จากตอนที่อายุยงั ไม่มากช่ วยเหลือพวกเขาได้
ไม่ใช่เหรอ?

“พ่ อ ไม่ ต ้อ งเป็ นห่ ว งพวกเราหรอกครั บ ผมกับ ภรรยา


จะต้องใช้ชีวิตอย่างรุ่ งโรจน์แน่ นอน!” จ้าวเหวินเทาพู ดด้วย
รอยยิม้

“งั้นรอให้การเก็บเกี่ยวข้าวช่วงฤดูใบไม้ร่วงสิ้ นสุ ดลงก่อน


ถึ งเวลานั้นก็เชิ ญปู่ ของพวกแกมา แยกบ้านให้พวกแกก็แล้ว
กัน” คุณพ่อจ้าวให้คามัน่ พลางพยักหน้า

จ้าวเหวินเทาย่อมรู ้สึกดีใจอย่างมาก เพียงแต่รู้สึกเสี ยดายที่


พ่อแม่ของเขาไม่ยอมย้ายไปอยูด่ ว้ ย
จนกระทัง่ มีคนอื่นมาเปลี่ยนกะในช่วงกลางดึก เขาและพ่อ
จึงกลับเข้าบ้าน

เช้าวันรุ่ งขึ้นหลังจากนอนในช่ วงกลางดึกไปได้ไม่นานก็


ต้องลุกขึ้นจากเตียง ออกเดินทางไปเก็บเกี่ยวผลผลิตในทุ่งนา

นี่ คือการเก็บเกี่ยวช่ วงฤดูใบไม้ร่วง เป็นการเก็บเกี่ยวช่ วง


ฤดูใบไม้ร่วงที่แสนเหน็ดเหนื่อย

เย่ ฉู ฉู่ เ องก็ คิ ด ไม่ ถึ ง ว่ า มัน จะเหนื่ อ ยขนาดนี้ หลัง จาก


ท างานยุ่ง ตลอดครึ่ งวัน เธอจึ ง อยู่ที่บ้า นเพื่ อ ช่ ว ยคุ ณ แม่ จ ้า ว
ทาอาหาร

แน่ นอนว่านี่ เป็ นการผลัดเปลี่ ยนเวรกัน เกือบเรี ยกได้ว่า


เป็ นการพักผ่อน
แต่อยู่ที่บา้ นก็ไม่ได้เป็ นเรื่ องผ่อนคลายอะไร เพราะบ้าน
ตัวเองก็ยงั มี ที่ดินส่ วนตัว ตอนนี้ ก็ถึงช่ วงฤดู ในการเก็บเกี่ยว
แล้วเช่นกัน

“ปี นี้ ถวั่ ลิสงติดฝั กเต็มไปหมด เหมือนกับปี ก่อน ๆ เลย”


คุณแม่จา้ วกลับรู ้สึกมีความสุ ขเป็ นอย่างมาก ที่เหนื่อยมาตลอด
ทั้งปี ก็เพื่อรอเก็บเกี่ยวมันไม่ใช่เหรอ?

ที่ ดินส่ วนตัวภายในบ้านถู กแบ่ งออกเป็ นสองส่ วน ครึ่ ง


แรกปลูกถัว่ ลิสง ส่ วนอีกครึ่ งหนึ่ งปลูกมันเทศ ซึ่ งเก็บเกี่ยวได้
ทั้งคู่

เย่ฉูฉู่เองก็ตอ้ งเข้ามาช่วยเช่นกัน

ไม่ได้มีแค่เธอเท่านั้น พี่สะใภ้รอง พี่สะใภ้สามและพี่สะใภ้


สี่ กด็ ว้ ย เพียงแต่พวกหล่อนช่วยทาอาหารอยูใ่ นบ้าน ไม่มีใครมี
สิ ทธิพิเศษในช่วงฤดูกาลที่แสนวุน่ วายนี้
“เหนื่ อยสายตัวแทบขาดจริ ง ๆ!” ตอนที่ ถึงช่ วงมื้ อเที่ ยง
ของวัน จ้าวเหวินเทาก็ดึ งภรรยาของเขามากิ นข้า วใต้ร่ม เงา
ต้นไม้ใหญ่ พร้อมกับพูดอย่างทนไม่ไหว

“ใช่ ค่ะ เหนื่ อยมาก” เย่ฉูฉู่เองก็เหนื่ อยมากเช่ นกัน แต่ ก็


ช่วยไม่ได้ ทุกคนต่างก็ทาแบบนี้กนั หมด เธอจะขลุกตัวกินข้าว
สบายใจเฉิบอยูใ่ นบ้านได้อย่างไร?

หากเรื่ อ งนี้ ถู ก แพร่ ง พรายออกไปชื่ อ เสี ย งคงไม่ น่ า ฟั ง


เท่าไรนัก เธอไม่อยากให้คนข้างนอกพูดว่าเหวินเทาแต่ งงาน
กับภรรยาจอมขี้เกียจ

“น้องสาว เหวินเทา!” พี่ใหญ่เย่หิ้วกระบุงเดินเข้ามา


“พี่ใหญ่!” ครั้นเย่ฉูฉู่เห็นพี่ใหญ่ของตัวเองก็ดีใจเป็ นอย่าง
มาก จ้าวเหวินเทาดีใจยิง่ กว่า เขารี บพูด “พี่ใหญ่ กินข้าวหรื อยัง
ครับ? มากินแป้งจี่ดว้ ยกันสักหน่อยสิ ?”

“ไม่ตอ้ งหรอก แม่ให้ฉันเอาของกินมาให้พวกเธอน่ ะ” พี่


ใหญ่เย่พูดด้วยรอยยิม้ จากนั้นจึงเปิ ดฝาของกระบุงออก ในนั้น
มีซาลาเปาสี่ ลูก!

“ซาลาเปา?” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยความประหลาดใจ

จ้าวเหวินเทากลับไม่ ได้รู้สึกประหลาดใจ พ่อตาแม่ ยาย


ของเขามีฐานะดี ขนาดไหนเขาย่อมรู ้ดี แต่เขาประหลาดใจที่
พ่อตาแม่ยายดูแลพวกเขาสองสามีภรรยาต่างหากล่ะ

“แม่บอกว่าพวกเธอก็คงจะเหนื่อยเหมือนกัน รี บกินเถอะ
ในนี้มีไข่ดว้ ยนะ” พี่ใหญ่เย่พูด
“พี่ใหญ่กินแล้วหรื อยัง? ไม่ใช่ ว่าเก็บไว้ให้พวกเรานะคะ
พวกเรามีแป้งจี่แล้ว” เย่ฉูฉู่พูด

“พี่กินมาแล้ว พวกนี้เป็ นส่ วนแบ่งของพวกเธอ” พี่ใหญ่เย่


พูด หลังจากมอบมันให้กบั พวกเขาทั้งสองแล้วก็เดินถือกระบุง
กลับไป เพราะอีกไม่นานก็จะถึงเวลาเริ่ มงานอีกครั้งแล้ว

เย่ฉูฉู่กระซิ บบอกจ้าวเหวินเทา “เหวินเทา คุณเอาไปแบ่ง


ให้คุณพ่อด้วยสิ คะ”

พี่ ส ามี แ ละพี่ ส ะใภ้ ค นอื่ น ๆ ย่ อ มไม่ ส นใจอยู่ แ ล้ ว


หลานชายและหลานสาวก็ดว้ ย แต่คุณพ่อจ้าวเป็ นบุพการี ถึง
อย่างไรก็ตอ้ งแบ่ งให้หนึ่ งลู ก คุ ณแม่ จา้ วไม่ได้มา อาหารใน
วันนี้กเ็ ป็ นอาหารที่พี่สะใภ้สี่ผไู ้ ด้รับการผลัดเปลี่ยนเวรเลือกมา
จ้า วเหวิ น เทาก็ คิ ด อยากแบ่ ง ให้ พ่ อ ของเขาเหมื อ นกัน
ภรรยาของเขาพูดแบบนี้ทาให้เขารู ้สึกอบอุ่นอยูภ่ ายในใจ

“ได้ ผมจะทาตามที่ภรรยาบอกนะ” จ้าวเหวินเทาเอ่ยขณะ


มองเธอ

สายตาที่มองมาทาให้เย่ฉูฉู่กระสับกระส่ ายอยู่ภายในใจ
ถึงเข้าร่ างนี้ มาตั้งนานแล้ว เธอก็ยงั ทนต่อสายตาที่เต็มไปด้วย
ความรักของเขาไม่ได้

จ้าวเหวินเทานาซาลาเปาไปให้พ่อของเขาหนึ่งลูก ส่ วนที่
เหลืออีกสามลูกพวกเขาเก็บไว้กินเอง

คุณแม่เย่ใส่ ไส้ไว้เยอะมาก ด้านในซาลาเปาไม่เพียงแต่จะ


มีผกั จานวนมาก แต่ยงั มีไข่ไก่อีกครึ่ งฟองด้วย เป็ นซาลาเปา
แบบแป้งบางไส้แน่น รสชาติซาลาเปาเนื้อนี้ช่างอร่ อยล้ านัก
คุณพ่อจ้าวไม่ได้ปฏิเสธความหวังดีของลูกชายคนเล็ก เขา
รับประทานซาลาเปาหอม ๆ ต่อหน้าลูกชายและลูกสะใภ้

เทียบกับซาลาเปาแป้ งขาวนี้ แล้ว แป้ งจี่แทบไร้รสชาติไป


เลย

พวกพี่ชายและพี่สะใภ้ตระกูลจ้าวยิง่ ไม่ตอ้ งพูดถึง เรี ยกว่า


อิจฉาตาร้อนเป็นแถว ๆ แต่กท็ าอะไรไม่ได้ ใครใช้ให้บา้ นพ่อ
แม่ของพวกหล่อนไม่ได้ร่ ารวยเหมือนกับตระกูลเย่กนั ล่ะ ยิ่ง
ไม่ตอ้ งพูดถึงการไว้หน้าลูกสาวของตัวเองเลย

จ้าวเหวินเทาและเย่ฉูฉู่ทางฝั่งนี้กก็ ินซาลาเปาสามลูกอย่าง
มีความสุ ขเช่นกัน

“นี่ แหละถึงจะเรี ยกว่าใช้ชีวิต” จ้าวเหวินเทารับประทาน


เสร็จก็เดินไปที่ทุ่งนา พร้อมกับถอนหายใจ
เย่ฉูฉู่ยมิ้ เหวินเทาของเธอพึงพอใจง่ายขนาดนี้ จะดาเนิ น
ชีวติ แบบไหนก็พึงพอใจทั้งนั้น ช่างซื่อบื่อเสี ยจริ ง

เธอพูดกลับไปว่า “นี่ขนาดยังไม่มีเนื้อนะคะ ถ้ามีเนื้อคงจะ


อร่ อยกว่านี้”

องค์ชายในชาติ ที่แล้วชอบกิ นซาลาเปาเนื้ อที่ เธอทามาก


ทุกครั้งเขาจะกิน 3-4 ลูก และทุกครั้งที่เธอเห็นองค์ชายเจริ ญ
อาหาร เธอก็จะรู ้สึกพึงพอใจเป็ นพิเศษ

“รอให้แยกบ้านก่อน พวกเราก็จะตัดสิ นใจได้เอง ถึงเวลา


นั้นฉันจะทาซาลาเปาเนื้อให้คุณกินค่ะ” เย่ฉูฉู่พูดอย่างอ่อนโยน

ไม่ตอ้ งบอกเลยว่าจ้าวเหวินเทารู ้สึกสบายใจแค่ไหน เขา


ยื่นหน้าเข้ามาพูดกับภรรยาของเขาเกี่ยวกับเรื่ องที่พ่อตอบตก
ลงตอนออกไปเฝ้าลานตากธัญพืช
เย่ฉูฉู่กล่าวเสี ยงเบา “งั้นรอให้การเก็บเกี่ยวช่ วงฤดู ใบไม้
ร่ วงสิ้ นสุ ดก่อนค่อยแยกบ้านก็ได้ค่ะ”

จ้าวเหวินเทาดีใจอย่างสุ ดชีวิต เขาพูด “ภรรยา คุณไม่ตอ้ ง


ห่ วงนะ ถึงเวลาที่พวกเราได้แยกบ้าน ผมจะทาให้ชีวิตของคุณ
มีความสุ ขอย่างแน่นอน!”

ถึ ง เวลานั้น ธุ ร กิ จ เลี้ ย งกระต่ า ยอัน ใหญ่ โ ตของเขาก็ จ ะ


ดาเนินบนเส้นทางที่ถูกที่ควรได้แล้ว!

แต่ตอ้ งพูดว่าโชคของจ้าวเหวินเทาช่างน่าทึ่งนัก เพราะเขา


ได้เจอกับกระต่ายหนึ่งครอกในทุ่งข้าวสาลีที่เขาได้รับการแบ่ง
งาน!

แม่กระต่ายวิง่ หายไปแล้ว แต่ลูกกระต่ายยังอยู่ ดูเหมือนว่า


ในทุ่งข้าวสาลีจะมีขา้ วเพียงพอ รังกระต่ายนี้จึงมีลูกกระต่ายถึง
9 ตัว ซึ่งเป็ นวัยกาลังเติบโตทั้งหมด!
จ้าวเหวินเทารู ้สึกดีใจจนทนไม่ไหวแล้ว นี่คือหมอนที่ถูก
ส่ งมาขณะงีบหลับจริ ง ๆ!

“ลูกกระต่ายพวกนี้เป็ นของผมทั้งหมด ใครก็อย่าได้คิดจะ


มาแตะ ผมจะเก็บไว้ให้ภรรยาของผมเลี้ยงไว้ดูเล่น!” จ้าวเหวิน
เทารี บปูฟางลงในตะกร้า จากนั้นจึงจับลู กกระต่ายใส่ เข้าไป
ด้านใน!

พี่รองจ้าวและพี่สี่จา้ วไม่ได้พูดอะไร แต่พี่สามจ้าวกลับเบ้


ปากพูด “น้องหก บ้านพวกเราไม่มีของส่ วนตัว ถ้าเอากลับบ้าน
มันคือของทุกคน!”

พี่รองจ้าวและพี่สี่จา้ วชะงัก ด้วยคิดไม่ถึงว่าเจ้าสามจะพูด


แบบนี้ แต่ ไ ม่ รู้ ว่ า ทั้ง สองคนคิ ด อะไรอยู่ จึ ง ไม่ ไ ด้พู ด อะไร
ออกมา
จ้าวเหวินเทาพูดกับพี่สามอย่างไม่เกรงใจ “ผมบอกว่าเป็ น
ของผมก็คือของผมสิ ใครก็หา้ มแตะ ไม่เชื่อก็ลองดู!”

เขาตัดสิ นใจที่จะใช้ลูกกระต่าย 9 ตัวนี้เป็ นเครื่ องเซ่ นไหว้


บรรพบุ รุษ ถึ งเวลานั้น ก็จ ะเลี้ ย งมันให้ดี และทาให้พ วกมัน
คลอดลู ก กระต่ า ยออกมา เขาจะต้อ งพัฒ นาและขยายธุ ร กิ จ
กระต่ายขนาดใหญ่ของเขาให้ได้!

ใครกล้ามาขัดขวางธุรกิจของเขา เขาไม่มีทางยอม!
ตอนที่ 18 สะใภ้ คนเล็กทีแ่ สนซื่ อสั ตย์

พี่ ส ามจ้า วถู ก อี ก ฝ่ ายยัว่ โทสะเข้า แล้ว ตอนที่ ก าลัง จะ


โต้ตอบกลับไปก็ถูกพี่รองจ้าวห้ามไว้ “พอแล้ว รี บทางานเถอะ
วันนี้ดูท่าอากาศจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ !”

พี่สามจ้าวแค่นเสี ยงเย็นชา ทั้งยังพูดว่าไม่สนใจนายแล้ว


จากนั้นก็ลงมือทางานต่อ

เจ้าหกคนนี้ไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่าย ๆ ตั้งแต่เด็กอยูแ่ ล้ว


และไม่มีความรู ้สึกเกรงใจต่อพี่นอ้ งอยู่บ่อยครั้ง ถ้าหากต้องสู ้
กันขึ้นมาจริ ง ๆ…

พี่สามจ้าวรู ้สึกได้วา่ ตนเองอาจจะไม่สามารถสู ้เจ้าหกได้

แต่ ก็ช่ ว ยไม่ ไ ด้ เจ้า หกสู ง กว่ า เขาตั้ง เยอะ อี ก อย่า งเป็ น
เพราะแอบอูง้ านไม่ยอมทาการทางานอยู่บ่อย ๆ พ่อแม่ก็แอบ
ช่วยเหลือด้วยการเอาของอร่ อย ๆ ให้เขา ดังนั้นเขาจึงเติบโตมี
สุ ขภาพแข็งแรง

ขณะพี่สามจ้าวคิดแบบนี้ ในใจก็แอบรู ้สึกไม่ยตุ ิธรรม หาก


แยกบ้านก็คงจะดีไม่นอ้ ยเลยสิ นะ? ดูสิว่าหลังจากนี้ยงั จะมีใคร
ช่ ว ยเหลื อ เจ้า หก ปล่ อ ยให้เ ขากิ น และดื่ ม ของคนอื่ น ทั้ง ยัง
เกรี้ ยวกราดแบบนี้อีก!

จ้าวเหวินเทาคร้านที่จะสนใจพี่สามคนนี้แล้ว เขาจึงทางาน
ของตัวเองต่อ เพราะเก็บลูกกระต่ายหนึ่งรังนี้ได้ เขาจึงอารมณ์
ดีเป็ นอย่างมาก

ส่ วนคุณพ่อจ้าวเองก็เห็นพวกลูกชายทะเลาะกัน แต่แสร้ง
ท าเป็ นไม่ เ ห็ น ก็เ ท่ า นั้น หลัง จากยุ่ง กับการเก็บเกี่ ย วช่ ว งฤดู
ใบไม้ร่วงเสร็จก็จะได้แยกบ้านแล้ว
แต่เห็นท่าทางของเจ้ารอง เจ้าสาม และเจ้าสี่ ที่เป็ นแบบนั้น
แล้ว ก็เห็นได้ชัดว่าแต่ละคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่จะได้
แยกบ้านเหมือนกัน คุณพ่อจ้าวจึงแอบถอนหายใจอยูภ่ ายในใจ
ต้นไม้ใหญ่แตกกิ่งก้านสาขาย่อมแยกย้ายออกจากกัน นี่ เป็ น
เรื่ องยากเกินกว่าจะหลีกเลี่ยง

ในเมื่อทุกคนมีความคิดเป็ นของตนเอง เช่นนั้นก็แยกบ้าน


เถอะ

คุณพ่อจ้าวเองก็ตดั สิ นใจได้แล้ว

วันนี้ นอกจากกระต่ายน้อยหนึ่ งครอกแล้ว จ้าวเหวินเทาก็


ไม่ ไ ด้อ ย่า งอื่ น กลับ มา สิ่ ง นี้ ท าให้พ วกหลาน ๆ ต่ า งพากัน
ผิดหวัง

แม้จะได้กระต่ายน้อยกลับมาเลี้ยงที่บา้ นและรู ้สึกดีใจมาก


แต่วนั นี้กลับไม่มีเนื้อให้กินเลย
ตั้งแต่เสี ยงแตรช่ วงเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงดังขึ้น บ้านของ
พวกเขาก็มีเนื้ อให้กินไม่ขาด ก่อนหน้านี้ อาเล็กจับกระต่ายมา
ได้หนึ่ งตัว คืนนั้นคุ ณย่าของพวกเขานาไปผัดน้ าแดงทั้งหมด
พวกเขาได้กินไปไม่นอ้ ย รสชาติกอ็ ร่ อยมากด้วย

หลังจากนั้นก็ยงั มี กระต่ายป่ า ไก่ฟ้า แล้วก็พวกไข่ไก่ ฟ้า


อะไรพวกนั้นอีก บนโต๊ะมีอาหารจานเนื้อไม่ขาดสายเลย

ทว่ า สองวัน มานี้ ไม่ มี เ นื้ อ ให้กิ น แล้ว แม้ว่ า วัน นี้ จะเก็บ
กระต่ายมาได้หนึ่งรังแต่กก็ ินไม่ได้ เพราะอาเล็กบอกว่าจะเลี้ยง
ไว้

เหล่าเด็ก ๆ รู ้สึกเสี ยดาย แต่ก็ช่วยไม่ได้ การเก็บเกี่ยวฤดู


ใบไม้ร่วงพวกเขาต่างก็ตอ้ งไปทางาน เถี่ยต้าน หลูตา้ น หม่า
ต้าน และต้าหยาก็ได้แต้มค่าแรงด้วยเหมือนกัน

“แต่ละคนมัวทาอะไรอยู?่ คิดว่าไม่มีเนื้อให้กินเหรอ?” คุณ


แม่จา้ วแค่นเสี ยงเย็น
“คุณย่า พวกเราทางานเหนื่อยขนาดนั้น แต่ของกินในบ้าน
กลับแย่ขนาดนี้ แถมไม่มีเนื้ อให้กินแม้แต่คาเดี ยวด้วย” หม่า
ต้านลูกชายของพี่สามจ้าวพูด

“แต่ละมื้อมีไข่ไก่ให้กินยังเรี ยกว่าแย่อีกเหรอจ๊ะ? หรื อเธอ


อยากจะไปใช้ชีวติ ด้วยตัวเอง?” คุณแม่จา้ วพูด

หม่าต้านไม่กล้าใช้ชีวิตเป็ นของตัวเอง จึงทาได้แค่ เพียง


บ่นพึมพา

คุ ณแม่จา้ วเห็นพวกเขาเป็ นแบบนี้ จะไม่ทราบได้อย่างไร


กัน ในใจพูดว่านี่ เป็ นแค่ การเริ่ มต้น หลังจากนี้ พวกเธอแยก
บ้านกันออกไป ดู สิว่าพวกเธอแต่ละคนจะหวังผลประโยชน์
จากอาหกกันอย่างไร!

คุณแม่จา้ วหยิบมันฝรั่งและหมุนตัวกลับเข้าห้องครัวเพื่อ
นาไปผัดกับไข่ไก่
คุณพ่อจ้าวพูดเรื่ องแยกบ้านกับนางไปแล้ว คุณแม่จา้ วทา
ใจไม่ได้มากเป็ นพิเศษ หลังจากแยกบ้านก็จะกลายเป็ นหลาย
ครอบครัว ไม่ได้เป็ นครอบครัวใหญ่แบบนี้อีกแล้ว

แต่คุณแม่จา้ วรู ้ดีวา่ แต่ละคนรังเกียจที่เจ้าหกไม่ยอมทางาน


แต่ พวกหล่ อนเองก็ไม่เคยคิดเลยว่าปลาเค็มที่ พวกหล่ อนหิ้ ว
กลับไปบ้านแม่ตอนวันปี ใหม่น้ นั ใครเป็ นคนหามา ทั้งหมดนั้น
เป็ นปลาที่เจ้าหกตกมา นางเป็ นคนนาไปหมักและตากแห้งไว้!

หนึ่งเดือนต่อมาก็ได้กินเนื้อคนละคาสองคา นี่เป็ นผลงาน


ของใคร ตอนที่กินแต่ละคนก็ยมิ้ แย้มมีความสุ ข แต่พอกินเสร็ จ
ก็แตกคอกันกลายเป็ นไม่รู้จกั กันเสี ยอย่างนั้น

ตอนนี้ ไข่ไก่ฟ้าที่เหล่าลิ่วได้มาก็เก็บไว้กินเอง ไม่ได้แบ่ง


ออกไปแม้แต่ฟองเดียว!

รอก่ อนเถอะ รอให้แยกบ้านก่ อน ถึ งเวลานั้นดู สิว่าจะมี


ใครได้กินของป่ าที่เจ้าหกหามาได้แม้แต่คาเดียวหรื อเปล่า!
คุณแม่จา้ วคิดเช่ นนี้ อยู่ภายในใจ ระหว่างนั้นก็ตอกไข่ไก่
ลงไปในกระทะ

ผ่านไปครู่ หนึ่ง เย่ฉูฉู่ที่เก็บข้าวของหลังสวนเรี ยบร้อยแล้ว


ก็เข้ามาช่วย

“เดี๋ ย วแม่ ทาเอง วัน นี้ เธอเองก็เ หนื่ อ ยมาทั้ง วัน แล้ว ไป
พักผ่อนเถอะ” คุณแม่จา้ วรี บพูด

“คุณแม่ ฉันไม่เป็นไรค่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้ และขอ


อาสาเป็ นลูกมือให้คุณแม่จา้ ว

พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วและพี่ ส ะใภ้ส ามจ้า วขี้ เกี ย จเข้า มา แต่
พี่สะใภ้สี่จา้ วกลัวว่าแม่สามีของหล่อนจะแอบมอบของดี ให้
น้องสามีและน้องสะใภ้คู่น้ ี จึงรี บตามเข้ามาช่วย
“แค่นอ้ งสะใภ้หกของเธอก็พอแล้ว สะใภ้สี่ไม่ตอ้ งเข้ามา
หรอก ในห้ อ งครั ว แคบจนหมุ น ตัว ไม่ ไ ด้อ ยู่ แ ล้ว ” แค่ เ ห็ น
หล่อนหน้ามุ่ย คุณแม่จา้ วก็รู้แล้วว่าหล่อนคิดจะทาอะไร จึงพูด
ออกไปตรง ๆ

พี่สะใภ้สี่จา้ วใบหน้าแข็งค้าง “ก็ได้ค่ะ งั้นฉันจะรอข้าง


นอก มี อ ะไรให้ช่ ว ยคุ ณ แม่ ต ะโกนเรี ย กฉัน ได้เ ลยนะคะ!”
คาพูดนี้เป็ นการบอกแม่สามีของเธอเป็ นนัย ๆ ว่า ยังมีหล่อนอยู่
ด้านนอกอีกหนึ่งคน อย่าได้คิดว่าจะแอบกิน!

คุณแม่จา้ วแสดงสี หน้าดูแคลน จากนั้นก็ทอดไข่ดาวให้เย่


ฉูฉู่กินจริ ง ๆ

เย่ฉูฉู่อยากจะปฏิเสธ คุณแม่จา้ วส่ งสายตามองไปด้านนอก


บอกให้เธอรี บกินและไม่ตอ้ งพูดอะไรทั้งนั้น
เย่ฉูฉู่รู้สึกซึ้ งใจ เธอรี บรั บถ้วยมาและกิ นทันที แม้ว่าจะ
ร้อนไปหน่อย แต่กห็ อมกรุ่ นจริ ง ๆ

สะใภ้สี่จา้ วที่อยูด่ า้ นนอกไม่ได้ยนิ การเคลื่อนไหวใด ๆ จึง


คิดอยากจะเข้าไปดู ดา้ นในอย่างอดไม่ได้ แต่คุณแม่จา้ วกลับ
เดิ นออกมาพร้ อมพูดว่า “น้ าในถังใกล้หมดแล้ว สะใภ้สี่เธอ
ช่วยไปตักกลับมาให้หน่อย”

สะใภ้สี่จา้ วแทบทรุ ด “แม่คะ วันนี้ ฉันยังไม่ได้พกั เลยนะ


คะ อยู่ในบ้านก็ช่วยตากข้าว ให้อาหารไก่ และกวาดเล้าไก่ไป
แล้ว!”

“พอเรี ยกให้เธอทางานนิด ๆ หน่อย ๆ ก็เอาแต่บ่น” คุณแม่


จ้า วแค่ น เสี ย งเย็น ก่ อ นจะหมุ น ตัว กลับ เข้า ไปท าอาหารใน
ห้องครัวต่อ
พี่สะใภ้รองจ้าวและพี่สะใภ้สามจ้าวต่างกาลังพักผ่อนอยู่
ในบ้าน จึงเห็นน้องสะใภ้สี่ยนื กระทืบเท้าตึงตังด้วยความโกรธ
อยูต่ รงนั้น

เย่ฉูฉู่กินไข่ไก่หมดแล้ว จากเดิมที่กาลังหิ วก็รู้สึกดีข้ ึนมาก


เธอมองแม่สามีดว้ ยความเกรงใจ

“ตอนที่ทางานก็คอยสังเกตหน่ อยนะ ในท้องอาจจะมีลูก


อยูแ่ ล้วก็ได้ อย่าฝืนแบบนั้นนะเข้าใจไหม?” คุณแม่จา้ วพูด

แม่ สามี บา้ นอื่ นต่างก็กลัวว่าลู กสะใภ้ของตัวเองก็แอบอู ้


งาน แต่ คุ ณ แม่ จ ้า วกลับ กลัว ว่า ลู ก สะใภ้ที่แ สนซื่ อ สั ต ย์ข อง
ตัวเองจะเหนื่อย

แต่ นี่ก็ไม่ ได้เหนื อความคาดหมายอะไร เพราะสองสามี


ภรรยาคู่น้ ี ต่างก็ไม่มีประสบการณ์ คุ ณแม่จา้ วไม่อยากให้ลูก
ของลูกชายคนสุ ดท้องตัวเองเป็นเหมือนกับบ้านอื่น ที่ทางาน
หนักเกินไปจนแท้งลูกโดยไม่อาจอธิบายสาเหตุได้
“คุ ณแม่ ฉันทราบแล้วค่ะ ฉันเองก็ระมัดระวังตัว ทางาน
อยูใ่ นขอบเขตที่ตวั เองรับไหวค่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าว

เธอเองก็ไม่มนั่ ใจเหมือนกันว่าในท้องมีลูกอยู่หรื อไม่ แต่


การระมัดระวังตัวสักหน่อยก็ไม่ใช่สิ่งที่ผดิ

อันที่จริ งเย่ฉูฉู่ก็ไม่ได้หวังว่าจะตั้งครรภ์ในตอนนี้ ตอนที่


เพิ่งทะลุมิติมาเธอก็ต้ งั หน้าตั้งตารอคอย แต่ตอนนี้ เธอสงบลง
มากแล้ว เพราะคิ ด ว่ า ตอนนี้ ยัง ไม่ ใ ช่ ช่ ว งเวลาที่ ดี ใ นการ
ตั้งครรภ์ เพราะฐานะทางบ้านค่อนข้างแย่

ไม่ตอ้ งพูดถึงรังนกหู ฉลามเลย ได้กินเนื้อสักมื้อหนึ่ งก็หรู


แล้ว ถ้าหากตั้งครรภ์ข้ ึนมาจริ ง ๆ จะทาอย่างไร? ลูกอยูใ่ นท้อง
แต่ไม่มีเนื้อให้กินจะเติบโตได้อย่างไร?

แม้ว่าฐานะทางบ้านจะเป็ นเช่ นนี้ แต่อีกไม่นานก็จะแยก


บ้า นแล้ว ไม่ ใ ช่ เ หรอ? เธอเชื่ อ มัน่ ว่า หากแยกบ้า นแล้ว ด้ว ย
ความสามารถของเธอและเหวินเทา การดาเนิ นชี วิตของพวก
เขาย่อมผ่านไปได้ดว้ ยดีอย่างแน่นอน

ต่อให้ไม่กล้าคิดกินของดี ๆ อย่างรังนกและหู ฉลาม แต่


อย่างไรก็ตอ้ งกินเนื้อ ถึงเวลานั้นถ้าหากตั้งครรภ์ข้ ึนมา ก็คงไม่
มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว

แต่ถึงจะคิดไว้แบบนี้ เธอเองก็ตอ้ งคอยสังเกต เพราะ


กัง วลว่ า อาจจะได้รั บ บาดเจ็บ ขึ้ น มาจริ ง ๆ แม้ว่ า จะไม่ เ คย
ตั้ง ครรภ์ แต่ ก็พ อจะทราบได้ว่าถ้าลู ก ในท้อ งได้รั บบาดเจ็บ
เช่นนั้นก็จะเป็ นเรื่ องยากที่จะชดเชย!
ตอนที่ 19 ถือกระต่ ายไปหาญาติ

พูดถึงตั้งครรภ์ แม่ม่ายหม่าที่ต้ งั ครรภ์ก่อนหน้านี้ ในช่วงนี้


ก็รับประทานไก่อีกแล้ว

กลิ่ น หอมกรุ่ น ของไก่ ต๋ ุ นลอยฟุ้ ง ออกมา ท าให้ ค นใน


หมู่บา้ นต่างพากันพูดคุยแสดงความคิดเห็น

ปี นี้ มี ใ ครบ้า งที่ ต้ งั ท้อ งแล้ว ได้รั บ ประทานของแบบนี้ ?


หล่อนรับประทานไก่หนึ่ งตัวตั้งแต่ตอนที่วินิจฉัยว่าตั้งครรภ์
จวบจนตอนนี้ ก็ เ พิ่ ง จะผ่ า นไปได้ ห นึ่ งเดื อ น กลับ ตุ๋ นไก่
รับประทานอีกแล้ว นี่มนั เรี ยกว่าดวงดีจริ ง ๆ

นี่ คือดวงดีไม่ใช่ เหรอ? คนในหมู่บา้ นต่างก็พูดถึงแม่ม่าย


หม่าแบบนี้กนั ทั้งนั้น
สามีคนก่อนของแม่ม่ายหม่าเสี ยชี วิตไปแล้ว ในภายหลัง
หล่อนจึงได้มาแต่งงานกับคนขาเป๋ หลี่เฉียจื่อ

ก่อนหน้านี้แม่ม่ายหม่าให้กาเนิ ดลูกสาวหนึ่ งคน หลังจาก


ทิ้ ง ไว้ใ ห้ที่ บ ้า นสามี ห ล่ อ นเลี้ ย งดู ก็ก ลับ มาบ้า นตัว เองและ
แต่งงานใหม่ เพื่อที่จะมีลูกได้อีก

หลี่ เฉี ยจื่ อคาดหวัง ว่าหล่ อ นจะให้กาเนิ ด ลู กของเขา แต่


แต่งงานกันมาถึงสามปี นี่กเ็ พิ่งจะตั้งครรภ์ ถึงอย่างไรตอนที่ยงั
ไม่ต้ งั ครรภ์หลี่เฉี ยจื่อก็ไม่ได้ปฏิบตั ิไม่ดีกบั หล่อน มากระทัง่
ตอนนี้หล่อนตั้งครรภ์แล้ว ไม่เท่ากับกลายเป็ นนางอันเป็ นที่รัก
เหรอ?

การเก็บเกี่ ยวช่ วงฤดู ใบไม้ร่วงในช่ วงนี้ ใกล้จะสิ้ น สุ ด ลง


แล้ว เหล่าสาว ๆ ที่มีร่างกายค่อนข้างอ่อนแอต่างก็จะมาเก็บ
ข้าวโพดที่นี่กนั ทั้งหมด ไม่ได้ไปเกี่ยวข้าวต่อแล้ว
เย่ฉู ฉู่ แ ละเฮ่ อ ซงจื อ ที่ แต่ ง เข้ามาอยู่ในหมู่ บ้านแห่ งนี้ ใน
ฐานะลูกสะใภ้คนเล็กในเวลาไล่เลี่ยกันต่างก็มีความสัมพันธ์ที่
ดีต่อกัน ระหว่างที่เฮ่อซงจือเก็บข้าวโพดก็พูดคุยไปพลาง

เฮ่อซงจือแสดงออกถึงความอิจฉา เกี่ยวกับเรื่ องที่แม่ม่าย


หม่าได้รับประทานไก่ตอนตั้งครรภ์ “ช่างเป็ นของรักของหวง
จริ ง ๆ เชี ยว เพิ่งตั้งครรภ์แต่กลับได้กินไก่ต้ งั สองตัว ได้ยินมา
ว่าเป็ นแม่ไก่ตวั ใหญ่ที่กาลังออกไข่ดว้ ยนะ!”

“สามีของเธอก็รักเธอ ถึงเวลานั้นถ้าเธอตั้งครรภ์ เขาก็ตอ้ ง


ตุ๋นไก่ให้เธอเหมือนกันนัน่ แหละ” เย่ฉูฉู่กล่าว

เฮ่อซงจือแอบรู ้สึกละอายใจ หล่อนถอนหายใจแล้วพูดว่า


“ฉัน คิ ด ว่า จะท้อ งได้เ ร็ ว ๆ คิ ด ไม่ ถึ ง เลยว่า จนป่ านนี้ ก็ย งั ไม่
ท้อง”

โชคดี ที่ มี เ ย่ฉู ฉู่ เ ป็ นเพื่ อ น เพราะเย่ฉู ฉู่ ก็ ย งั ไม่ ต้ ัง ครรภ์


เหมือนกัน
ทั้งสองคนแต่งเข้าตระกูลในเวลาไล่เลี่ยกัน

“เธอจะกังวลใจไปทาไม คุณครู จา้ วก็เป็ นครู ประถมอยูใ่ น


เมือง ตอนนี้ที่ยงั ไม่ต้ งั ครรภ์กเ็ พราะยังไม่ถึงเวลา นี่กย็ งุ่ วุ่นวาย
ขนาดนี้ แล้ว คิดจะตั้งครรภ์ก็คงไม่ใช่ เรื่ องง่าย รอให้ว่างจาก
การเก็บเกี่ ยวก่อน ถึงเวลานั้นก็จะเป็ นวันที่ดีของเธอแล้ว ล่ ะ
จ้ะ” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้

สามีของเฮ่อซงจือก็แซ่จา้ วเหมือนกัน ชื่อว่าจ้าวเหวินจื้อ

จ้า วเป็ นหนึ่ ง ในแซ่ ใ หญ่ ข องหมู่ บ้า น และเขาก็เ ป็ นคน


วัฒ นธรรม[1] ที่ ห าได้ยาก เขาได้เ รี ย นมัธ ยมปลาย ตอนนี้ ก็
ยังให้ความสาคัญกับการเรี ยน และเมื่อมีการฟื้ นฟูการสอบเข้า
มหาวิทยาลัย สามีของหล่อนจึงถูกเชิญให้ไปสอนหนังสื อ

ในเดื อนหนึ่ งจะได้เงินเดื อนอยู่ที่ 28 หยวน ซึ่ งนับว่าไม่


เลวแล้ว คนในหมู่บา้ นต่างพากันอิจฉาตาร้อน ทว่าอิจฉาไปก็
ไม่มีประโยชน์ เพราะไม่มีวฒ
ุ ิการศึกษาเหมือนกับอีกฝ่ าย
เห็นได้ชดั ว่าจ้าวเหวินจื้อเองก็ทาตัวสมกับชื่ อของตนเอง
เพราะเขาสอนหนังสื อควบคู่ไปกับทบทวนบทเรี ยนเพื่อเตรี ยม
สอบเข้ามหาวิทยาลัยไปด้วย

ก่ อ นหน้า นี้ ก็ ไ ปสอบมาแล้ว แต่ ส อบไม่ ผ่ า น จวบจน


ตอนนี้กย็ งั ไม่ยอ่ ท้อ

ปี นี้ เขาได้แ ต่ ง งานกับ ภรรยาเหมื อ นกับ จ้า วเหวิ น เทา


เพียงแต่จา้ วเหวินจื้อมีอนาคตมากกว่า ระหว่างที่ทางานหาเงิน
ก็ เ ตรี ย มสอบเข้า มหาวิ ท ยาลัย ไปด้ว ย อายุ ข องทั้ง สองคน
ต่างกันไม่มาก แต่กถ็ ูกคนนาไปเปรี ยบเทียบอยูไ่ ม่นอ้ ย

อันที่จริ งจ้าวเหวินเทาและจ้าวเหวินจื้อต่างก็เป็ นเพื่อนที่


สนิทกันมาก

ดัง นั้น เย่ฉู ฉู่ แ ละเฮ่ อ ซงจื อ จึ งค่ อนข้างสนิ ทกัน เป็ นเรื่ อง
ธรรมดา
เฮ่ อ ซงจื อ ยิ้ ม หล่ อ นรู ้ สึ ก พึ ง พอใจกับ ชี วิ ต ของตัว เอง
ในตอนนี้เป็ นอย่างมาก เพียงแต่กาลังรอคอยการมาถึงของลูกก็
เท่านั้น เพราะถ้าหากมีลูก ก็เท่ากับว่าหล่อนได้ยืนภายในบ้าน
สามีอย่างมัน่ คงแล้ว

ส่ วนเย่ฉูฉู่ตอนนี้ ยงั ไม่หวังว่าจะตั้งครรภ์ เธอยังยืนกราน


เหมื อ นเดิ ม ว่ า รอให้แ ยกบ้า นและฐานะทางบ้า นดี ข้ ึ น ค่ อ ย
ตั้งครรภ์กย็ งั ไม่สาย

เพียงไม่นานทางฝั่งนั้นก็มีข่าวดีส่งมา จ้าวเถี่ยต้านลูกชาย
คนโตของพี่รองจ้าววิ่งมาด้วยความดีใจ เขาพูด “อาสะใภ้หก
อาหกจับกระต่ายตัวอ้วนได้คู่หนึ่ ง สองตัวรวมกันได้เนื้ อหนัก
สิ บกว่าชัง่ เลยครับ!”

ข่าวนี้ ทาให้ทุกคนที่กาลังเก็บข้าวโพดต่างพากันอิจฉาตา
ร้อนจนทนไม่ไหว
คุณแม่จา้ วที่กาลังเก็บข้าวโพดและจับกลุ่มพูดคุยกับพี่สาว
น้องสาวทางฝั่งนั้นลุกขึ้นยืนทันที “เถี่ยต้าน เธอพูดจริ งเหรอ?”

“จะโกหกทาไมล่ะครับ? ทั้งกลุ่มใหญ่มีแต่อาหกของผมที่
มี ค วามสามารถนี้ !” เถี่ ย ต้า นนับ ถื อ อาหกของเขาจนไม่ อาจ
เทียบเทียม

“เธอมาทาแทนย่า ย่าจะกลับไปดู หน่ อย!” คุ ณแม่จา้ วรี บ


พูด

เถี่ยต้านเองก็รู้ดีว่าคืนนี้ ตอ้ งได้รับประทานของดีแน่นอน


จึงเข้าไปเก็บข้าวโพดแทนย่าของเขา

“ฉู ฉู่ เธอท างานไปก่ อ นนะ แม่ จ ะกลับไปเตรี ย มของที่


บ้าน” ครั้นคุณแม่จา้ วนึกขึ้นได้ นางจึงพูดกับลูกสะใภ้หก

สะใภ้ร องจ้าวและสะใภ้ส ามจ้า วไปทามัน เทศตากแห้ง


แล้วจึงไม่ได้อยูท่ ี่นี่ แต่สะใภ้สี่จา้ วยังอยู่ เมื่อเห็นว่าแม่สามีพูด
อย่างอ่อนโยนกับน้องสะใภ้หกขนาดนี้ แต่กลับไม่พูดอะไรกับ
หล่อนแม้แต่ประโยคเดียว จึงรู ้สึกหน้าเสี ยอย่างฉับพลัน

เป็นเพราะหล่อนไม่มีลูกชาย ดังนั้นลูกสะใภ้อย่างหล่อน
จึงไม่มีที่ยนื อยูใ่ นสายตาของแม่สามีสินะ!

เย่ฉูฉู่ไม่ได้คิดมากเหมือนกับหล่อนขนาดนั้น ภายในใจ
กลับรู ้สึกมีความสุ ขอย่างมาก

เหวินเทาของเธอมีความสามารถจริ ง ๆ เขาหาเนื้ อได้อีก


แล้ว

เฮ่อซงจือพูดด้วยความอิจฉา “คนอื่นยังไม่ได้เนื้อป่ าอะไร


เลย แต่บา้ นเธอได้กินเป็ นประจา ลาภปากจริ งเชียว”

“คงเป็ นเพราะทาสาเร็ จโดยบังเอิญนั่นแหละ ก็แค่โชคดี


นิดหน่อยเท่านั้นเองจ้ะ” เย่ฉูฉู่กล่าว
“เหวินเทาโชคดีมาตั้งแต่เล็ก ๆ แล้ว ช่วงเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้
ร่ วงทุก ๆ ปี เขาจับกระต่ายจับไก่ฟ้ามาไม่นอ้ ย ทาให้คนอิจฉา
แทบแย่!” คุณป้าที่อยูข่ า้ ง ๆ กล่าว

“แน่ นอนอยู่แล้วครับ อาหกของผมมีความสามารถที่สุด


เลย!” เถี่ยต้านพูด

เขาโตแล้ว แน่นอนว่าย่อมรู ้ดีว่าเนื้อส่ วนใหญ่ที่ได้มาเป็น


ฝี มือของอาหกทั้งหมด เป็ นเพราะได้รับประทานเนื้ อ เด็ก ๆ
บ้านอื่ นในหมู่ บา้ นต่ างก็อิจฉาเขาไม่ น้อย มี บางคนที่ ยงั ไม่ รู้
รสชาติของเนื้อเลยด้วยซ้ าว่าเป็ นอย่างไร!

แต่ เ ขารู ้ ยกตัว อย่ า งเช่ น คื น นี้ ที่ บ้า นของเขาก็ จ ะมี เ นื้ อ
กระต่ายผัดน้ าแดงให้รับประทานอีกแล้ว กระต่ายอ้วนสองตัว
เชียวล่ะ!

พี่สะใภ้สี่จา้ วนึ กถึงเนื้ อที่จะได้รับประทานในคืนนี้ แล้วก็


ไม่ได้พูดอะไร แม้จะรู ้สึกอิจฉา
ส่ วนคุ ณแม่ จา้ วก็เดิ นมาหาลู กชายทางฝั่ งนี้ จากนั้นก็หิ้ว
กระต่ายไว้ในมือ น้ าหนักตัวขนาดนี้ ทาให้คุณแม่จา้ วดี ใจจน
ทนไม่ไหว

“แม่ ขอปรึ กษาหน่ อยสิ ครับ” จ้าวเหวินเทายื่นหน้าเข้ามา


พูดด้วยรอยยิม้

“มีเรื่ องอะไรค่อยคุยกันคืนนี้ เอากระต่ายตัวนี้ไปให้พ่อตา


แม่ยายก่อน ตอนนี้พวกเขาน่าจะยังไม่กลับ กาลังทางานอยู่ฝั่ง
นู ้น แกไปตอนนี้ ก็น่ า จะทัน พอดี ! ” คุ ณ แม่ จ ้า วพู ด พลางยัด
กระต่ายหนึ่งตัวใส่ มือเขา

จ้าวเหวินเทารู ้สึกมีความสุ ขอย่างฉับพลัน “สมกับที่เป็ น


แม่ของผม ผมคิดอะไรแม่กร็ ู ้ไปหมดทุกอย่างเลย”

คุ ณแม่ จา้ วก่ นด่ าด้ว ยรอยยิ้ม “ไม่ ตอ้ งมาประจบ เอาไป
เถอะ!”
นางได้ยิ น สามี พู ด ว่ า ช่ ว งฤดู เ ก็ บ เกี่ ย วฤดู ใ บไม้ร่วงนี้
ตระกูลเย่ทางฝั่งนั้นได้รับประทานของดี ๆ ทั้งยังเผื่อแผ่มาถึง
สองสามีภรรยาคู่น้ ี ดว้ ย มีซาลาเปาไข่ไก่แถมยังมีเกี้ยวน้ าอี ก
สามีของนางก็พลอยได้รับประทานอย่างมีความสุ ขไปด้วย

พูดอย่างมีมโนธรรมสักหน่ อยก็คือ ในบรรดาครอบครัว


ลู ก สะใภ้ ไม่ มี ใ ครที่ ใ จกว้า งและสมเหตุ ส มผลเหมื อ นกับ
ตระกูลเย่อีกแล้ว

บ้านพ่อตาของลูกชายคนเล็กถือว่าเป็ นคนในครอบครั ว
ของตัวเองเช่ นกัน ถ้าเช่ นนั้นก็ตอ้ งกระชับสัมพันธ์ให้ดีเข้าไว้
ไม่ใช่เหรอ? หลังจากนี้มีเรื่ องอะไรก็ช่วยเหลือกันได้

อีกอย่างทุกคนต่างก็กาลังจับตาดู อยู่ว่าบ้านของนางดูแล
ลูกสะใภ้ตระกูลเย่อย่างไร วันนี้ลูกชายของตนเองที่เป็ นลูกเขย
จับกระต่ายมาได้สองตัว ถ้าแบ่งไปให้ทางฝั่งพ่อตาแม่ยายหนึ่ง
ตัวแล้วใครจะพูดอะไรได้?
จ้าวเหวินเทาเดินหิ้วกระต่ายเข้ามา ก็พบพวกคุณพ่อเย่และ
คนอื่น ๆ กาลังเกี่ยวข้าวอยูไ่ กล ๆ

“พ่อครับ พี่ใหญ่ พี่รอง พี่สาม!” จ้าวเหวินเทาตะโกนเรี ยก

“อ้าว เหล่ าเย่ ลู กเขยของนายมาแล้ว!” หัวหน้าของฝ่ าย


ผลิตตระกูลเย่พูดด้วยรอยยิม้

[1] คนวัฒนธรรม หมายถึง ผูท้ ี่มีความรู ้ เข้าใจถึงศิลปะ มี


ส่ วนร่ วมในการสร้างสรรค์งานศิลปะและการวิจยั
ตอนที่ 20 ลูกเขยเอาเนื้อมาให้

จ้าวเหวินเทาเป็ นลูกเขยตระกูลเย่ ฝ่ ายผลิตตระกูลเย่ย่อมรู ้


ดี

ปี นี้พวกเขาไม่ได้ออกไปข้างนอก หากแต่รวมตัวกันอยูใ่ น
บ้าน ต่างจากคนรุ่ นหลังเหล่านั้นที่ออกไปทางานข้างนอกกัน
หมด

ดังนั้นจึงเข้าใจเรื่ องของจ้าวเหวินเทาเป็ นอย่างดี

คุณพ่อเย่เองก็ไม่พอใจกับลูกเขยคนนี้เท่าไรนัก

ตอนที่คุณแม่เย่พูด คุณพ่อเย่เองก็ได้ยินมาแล้ว และรู ้ดว้ ย


ว่าจ้าวเหวินเทาเป็ นคนแบบไหน เขาจึงประเมินอีกฝ่ ายไว้ต่า
จะยอมปล่อยให้ลูกสาวแต่งงานกับคนแบบนี้ได้อย่างไร?
แต่ ก็ร้ ั งไม่ อยู่เพราะคุ ณแม่ เย่เห็ นเขาก็รู้สึกพึงพอใจเป็ น
อย่างมาก รู ้สึกว่าเด็กคนนี้หน้าตาดี สิ บลี้แปดตาบลก็ไม่อาจหา
คนดี ๆ แบบนี้ ได้ ตอนที่เห็นเขาก็ยมิ้ แย้มให้สามส่ วน แต่ก็ยงั
รู ้สึกไม่ดีอยู่นิดหน่อย ทว่าคุณแม่เย่รู้สึกได้ว่าถูกตาต้องใจเด็ก
คนนี้

โดยไม่ได้สนใจการคัดค้านของคุณพ่อเย่เลย

สิ่ งนี้ทาให้คุณพ่อเย่โกรธจนทนไม่ไหว สายตาของผูช้ ายที่


มองผู ช้ ายแตกต่ า งจากสายตาของผู ้ห ญิ ง ที่ ม องผู ช้ ายอย่ า ง
สิ้ นเชิง สาหรับคุณพ่อเย่แล้วบนตัวของลูกเขยคนนี้ไม่มีอะไรที่
ดูดีเลยสักอย่าง ถึงจะหน้าตาดีแต่มนั ก็ไม่ใช่คุณสมบัติโดดเด่น
อะไร

ผูช้ ายจะหน้าตาดีไปเพื่ออะไร สิ่ งที่สาคัญที่สุดของผูช้ ายก็


คือหาเลี้ยงครอบครัวได้ นี่แหละถึงจะเรี ยกว่าเป็ นผูช้ ายที่ดี!
การประพฤติตวั ของลูกเขยคนนี้ จะให้คุณพ่อเย่พึงพอใจ
ได้อย่างไร? แต่ทา้ ยที่สุดก็สู้ภรรยาของตนเองรวมถึงลูกสาวที่
เต็มใจจะไปไม่ได้อยูด่ ี ครอบครัวนี้จึงลงเอยเช่นนี้

แต่ อ ย่ า พู ด ถึ ง เลย จวบจนตอนนี้ คุ ณ พ่ อ เย่ ก็ ย งั ไม่ ช อบ


ลูกเขยคนนี้อยูด่ ี

จ้าวเหวินเทาเองก็รู้ตวั ดี ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รู้สึกเหนือความ
คาดหมายกับการแสดงสี หน้าของพ่อตา เขาคนนี้ มีจุดเด่ นอีก
อย่างหนึ่ง นัน่ ก็คือหน้าหนา

ดังนั้นเขาจึ งทาเป็ นมองไม่ เห็ น สี หน้าของพ่อตา เขาแค่


เรี ยกว่าคุณพ่อจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรมากมาย

พี่ ใ หญ่ เ ย่ พี่ ร องเย่ และพี่ ส ามเย่ไ ม่ ไ ด้รู้ สึ ก ไม่ พ อใจกับ


น้องเขยคนนี้ พวกเขาต่างยิม้ แย้มทักทาย
จ้าวเหวินเทาตะโกนเรี ยกทุกคน จากนั้นก็ยนื่ กระต่ายให้พี่
ใหญ่ “พี่ ใ หญ่ ผมเพิ่ ง จับ มาได้ พี่ เ อากลับไปทาอาหารคื นนี้
นะ!”

ทุกคนต่างก็เห็นกระต่ายตัวใหญ่ที่เขาหิ้วมา จึงถามไถ่เป็ น
การใหญ่วา่ ไปได้มาจากที่ไหน

“ผมจับมาจากในดินน่ะ พี่ดูสิกระต่ายตัวอ้วนเชียว ไม่รู้ว่า


กินเข้าไปเยอะขนาดไหน ถลกขนออกมาก็น่าจะมีเนื้อ 2-3 ชัง่
การเก็บเกี่ยวฤดู ใบไม้ร่วงต่างก็เหน็ดเหนื่ อยกัน คืนนี้ คุณพ่อ
กินข้าวเยอะหน่ อยนะครับ” ประโยคสุ ดท้ายของจ้าวเหวินเทา
เขาหันไปมองพ่อตาของตัวเอง

ตระกูล เย่มี ฐ านะ และไม่ ได้เดื อ ดร้ อ นอะไร แต่ เ มื่ อคุ ณ
พ่อเย่มองลูกเขยคนนี้ เขาก็พบว่าอีกฝ่ ายดู จริ งใจ จึงพูดไปว่า
“แกจับกระต่ายเอามาให้ทางนี้ แล้วที่บา้ นแกล่ะ?”
“ผมจับมาได้สองตัวครั บ ก็เลยแบ่ งบ้านละตัวพอดี เลย”
จ้าวเหวินเทาแย้มยิม้

“งั้นคืนนี้พวกเธอจะไปกินข้าวที่บา้ นไหม?” คุณพ่อเย่พูด

“ถ้าคุณพ่อไม่รังเกียจ รอให้ว่างจากการเก็บเกี่ยว ถึงเวลา


นั้นผมจะพาฉูฉู่กลับไปเยีย่ มที่บา้ นนะครับ?” จ้าวเหวินเทาเป็ น
คนประจบประแจงเก่ง ได้ยนิ เช่นนี้กพ็ ูดออกไป

เขาเองก็รู้ดีว่าพ่อตาไม่พอใจเขา การแต่งงานระหว่างเขา
และภรรยาสาเร็ จได้กเ็ ป็ นเพราะแม่ยายพึงพอใจในตัวเขา ด้วย
ความพยายามจึงนาไปสู่ ความสาเร็ จ แม้ว่าแบบนี้จะไม่ใช่เรื่ อง
ผิด แต่ทา้ ยที่สุดพ่อตาคนนี้ ก็ยกลูกสาวให้เขา อีกอย่างช่ วงนี้ ก็
มอบของอร่ อย ๆ มาให้พวกเขาสองคนไม่นอ้ ยเลย

ดังนั้นเมื่อวันนี้ได้กระต่ายมาสองตัว เขาจึงคิดอยากจะแบ่ง
ให้ทางฝั่งนี้หนึ่งตัว
“งั้นถึงเวลาก็มาที่บา้ นแล้วกัน” คุณพ่อเย่พยักหน้าพูดและ
ไม่ได้พูดอะไรอีก

จ้า วเหวิ น เทารู ้ สึ ก ดี ใ จมาก เขารู ้ ดี ว่ า พ่ อ ตาเริ่ ม เปิ ดใจ


ยอมรับเขาแล้ว

“พี่ใหญ่ พี่รอง พี่สาม ผมกลับก่อนนะครับ” จ้าวเหวินเทา


พูด

พี่ใหญ่และคนอื่น ๆ จึงบอกให้เขาเดินดี ๆ และบอกให้มา


รั บประทานอาหารด้วยกันที่ บา้ นหลังจากว่างจากการท านา
แล้ว

หลังจากจ้าวเหวินเทาจากไป ฝ่ ายผลิตตระกูลเย่ทางฝั่งนี้ ก็
เริ่ มพูดคุยกัน

“เหล่าเย่ ลูกเขยนายไม่เลวเลยนะ กระต่ายอ้วนแบบนี้ ยงั


ตัดใจเอามาให้นายได้!”
“นัน่ น่ะสิ เมื่อไม่กี่วนั ก่อนฉันเห็นเขาถือปลาตัวใหญ่ไปที่
บ้านด้วย วันนี้ยงั เอากระต่ายตัวอ้วนมาอีก นี่ถา้ ถลกขนออกมา
คงไม่ได้มีเนื้อแค่ 2-3 ชัง่ หรอก อ้วนขนาดนี้เกรงว่าคงมีเนื้อ 4-
5 ชัง่ เลยมั้ง!”

“ลูกเขยนายคนนี้ เทียบกับลูกเขยพวกฉันเหล่านั้น ทาเอา


ด้อยค่าจนต้องโยนทิ้งไปเลย เอามาเทียบกันแล้วมันน่ าโมโห
ชะมัด!”

“……”

คุ ณ พ่ อ เย่ รู้ สึ ก ดี ไ ม่ น้ อ ย กระต่ า ยอ้ว นก็ เ ป็ นเรื่ องของ


กระต่ า ยอ้ว น แต่ ค วามกตัญ ญู ข องลู ก เขยคนนี้ ต่ า งหากล่ ะที่
สาคัญ

ในช่ วงกลางดึ ก คุ ณแม่ เย่นากระต่ ายตัวนี้ ไปทาเป็ นเนื้ อ


กระต่ายผัดน้ าแดงหนึ่งจานแล้ว
เช่นเดียวกับคุณแม่จา้ ว หลังจากที่คุณแม่เย่ทาเนื้อกระต่าย
ผัดน้ าแดงเสร็ จก็ไม่ได้เก็บไว้รับประทานเพียงคนเดียว นางยัง
ตัก แบ่ ง ใส่ถ้ว ยไว้อี ก สองสามถ้ว ย เพื่ อ น าไปเรี ยกความ
ประทับใจจากลูกเขยตัวเองด้วย

จากนั้นก็กลับมารับประทานอาหารที่บา้ น ทุกคนจึงเริ่ มลง


มือรับประทาน

ครั้นรับประทานอาหารเสร็ จ ก็เรี ยกเหล่าลูกสะใภ้มาเก็บ


กวาด คุณแม่เย่เข้าห้องมาหาคุณพ่อเย่ ในตอนนี้คุณพ่อเย่กาลัง
ทากรงไก่อยู่

“เนื้ อกระต่ายคืนนี้ อร่ อยไหมคะ?” คุณแม่เย่ใช้เข็มลับกับ


หิน จากนั้นก็เริ่ มเย็บรองเท้าผ้า ขณะเอ่ยถามสามี

“ก็ไม่เลว” คุณพ่อเย่ตอบ

ต้องยอมรับว่าเนื้อกระต่ายผัดน้ าแดงคืนนี้หอมมากเลยล่ะ
“แสดงว่าลูกเขยของเราก็ดีสินะคะ?” คุณแม่เย่แค่นเสี ยงหึ
ออกมา

คุณพ่อเย่เพิ่งจะมีปฏิกิริยาตอบสนองได้ว่านางเข้ามาเพื่อ
จะพูดอะไร เขาจึงพูดว่า “ฉู ฉู่แต่งงานกับเขาก็ทะเลาะกัน อยู่
บ่อย ๆ!”

คุ ณ แม่ เ ย่ไ ม่ ไ ด้ใ ส่ ใ จ “นิ สั ย นั้น ของฉู ฉู่ ก็เ ป็ นเพราะเรา


ตามใจจนเสี ยคน เลยอารมณ์ร้ายแบบนั้น ชี วิตคู่ของพวกเขา
สองคนเพิ่งจะเริ่ มต้น เรื่ องทะเลาะเบาะแว้งกันก็เป็ นเรื่ องปกติ
ไม่ใช่เหรอคะ?”

คุณพ่อเย่พูด “ฉูฉู่กไ็ ม่ได้นิสัยไม่ดี”

“ลูกสาวของเราเป็นยังไงเราย่อมรู ้ดี คุณอย่ามาโม้กบั ฉัน


เลยค่ะ” คุณแม่เย่พูด ลูกสาวคนเล็กของตัวเองทาอะไรไม่ดีสัก
อย่างจนนางเองก็ข้ ีเกียจจะพูดแล้ว ก่อนหน้านี้ นางเป็ นกังวล
มากว่าการแต่งงานนี้ จะไม่เกิดขึ้น ในที่สุดจ้าวเหวินเทาหนุ่ ม
หล่ อคนนี้ ไม่ เพียงแต่ สูงยาวเข่ าดี แต่ ยงั ช่ างเจรจาด้วย ไม่ มี
ทางเลือกอื่นแล้วจริ ง ๆ

คุ ณพ่อเย่กลอกตามองบน เขาเองก็คร้านจะสนใจภรรยา
คนนี้แล้ว นี่คือเรื่ องปกติของแม่ยายที่มองลูกเขย ยิง่ มองก็ยงิ่ พึง
พอใจ

แม้แต่ลูกสาวตัวเองก็รังเกียจเสี ยอย่างนั้น

“ตอนแรกฉันเองก็บอกไปแล้วว่าการแต่งงานครั้งนี้ดี คุณ
ก็ไม่ยอมเชื่อ ดูตอนนี้สิ ฉันนี่ตาถึงเหมือนกันนะคะ?” คุณแม่เย่
กระหยิม่ ยิม้ ย่อง

ก่อนหน้านี้นางเองก็ไม่ได้ดูแค่เหวินเทา จะซื้ อหมูกต็ อ้ งดู


ให้ครอบคลุม แน่นอนว่าต้องดูตระกูลจ้าวด้วย
สองสามีตระกูลจ้าวต่างก็รักจ้าวเหวินเทาลูกชายคนเล็ก
คนนี้ นางเองก็รู้นิสัยของลูกสาวตัวเอง ถ้าตบแต่งเข้าไปโดยมี
ผูอ้ าวุโสอาศัยอยูด่ ว้ ยการใช้ชีวติ ก็จะไม่ยงุ่ เหยิง

นางจึ งตัดสิ นใจให้ลูกสาวคนเล็กแต่ งงาน ในตอนนี้ ก็ดี


มากเลยไม่ใช่เหรอ?

“คาดว่าตระกูลจ้าวใกล้จะแยกบ้านแล้ว” คุณพ่อเย่พูดเนิบ
ช้า

“แยกบ้านยิง่ ดีเลยค่ะ ฉันว่าต่อให้เด็กที่มีหวั คิดแบบเหวินเทา


แยกบ้านออกไป ตราบใดที่ฉู ฉู่ไม่เป็นคนเจ้าอารมณ์ บ้านนี้ ตอ้ ง
ไม่เลวแน่นอน!” คุณแม่เย่พูด

คุ ณพ่อเย่พูดไม่ ออก นี่ คือภรรยาของเขา สายตาแทบจะ


เอียงถึงขอบฟ้ าอยูแ่ ล้ว มีอย่างที่ไหนรังเกียจลูกสาวแท้ ๆ ของ
ตัวเอง?
“วันนี้ กินเนื้ อไปแล้ว ไก่รุ่นตัวนั้นเก็บไว้ก่อนแล้วกันค่ะ
รอให้พวกเขาสองคนเสร็ จธุ ระกลับมาแล้ว ถึงเวลานั้นค่อยผัด
กับข้าวให้พวกเขากิน” คุณแม่เย่พูดอย่างพึงพอใจ

เดิ มทีก็ตอ้ งกินไก่ในบ้านอยู่แล้ว แต่เพิ่งรับประทานเนื้ อ


กระต่ายไป ดังนั้นเก็บไว้รอลูกสาวและลูกเขยมาก่อนถึงค่ อย
รับประทานแล้วกัน!
ตอนที่ 21 โฉนดทีด่ ิน

พูดถึงทางฝั่งตระกูลจ้าวอีกครั้ง
เนื่ องจากกระต่ า ยทั้งสองตัว จ้าวเหวินเทาเป็ นคนจับมา
และไม่รู้วา่ เขาจับมาได้อย่างไร ทว่าเมื่อกระต่ายวิง่ ผ่านด้านข้าง
เขาไป เขากลับจับพวกมันได้ทีละตัว โดยที่คนอื่น ๆ ไม่อาจ
สังเกตได้เลย สายตาของเขาช่างแม่นยานัก
ดังนั้นเขาจะจัดการกับกระต่ายสองตัวนี้ อย่างไร คนอื่นก็
ไม่อาจพูดอะไรได้
แต่ยงั คงเป็ นเรื่ องที่ว่าตอนนี้ ยงั ไม่แยกบ้าน เพราะยังไม่
แยกบ้านนี่เอง เนื้อชิ้นนี้จึงเป็ นของทุกคน
การที่เขาแบ่งเนื้อออกไปแบบนี้ ย่อมมีคนรู ้สึกไม่พอใจ
พี่สามจ้าวมีความเห็นต่างอัดแน่นในใจเต็มไปหมด
เขาคิ ดว่าเนื้ อกระต่ ายคื นนี้ ไม่ ได้อร่ อยเท่ าไรนัก เพราะ
โมโหจนอิ่มท้องไปแล้ว
จนกระทัง่ กลางดึ กที่หม่าต้านผูเ้ ป็ นลูกชายนอนหลับไป
แล้ว ส่ วนเอ้อร์ หยาผูเ้ ป็นลูกสาวก็ไปนอนกับลูกพี่ลูกน้องคน
อื่น ๆ อีกห้องหนึ่ง
พี่สามจ้าวจึงกระซิ บกับพี่สะใภ้สาม “แม่ของเราลาเอียง
เกินไปแล้ว ฉันได้ยนิ มาว่ากระต่ายอ้วนมีสองตัว คืนนี้พวกเรา
ได้กินเนื้ อแค่น้ นั เอง แต่เจ้าหกกลับเอาไปให้บา้ นพ่อตาซะงั้น
มีสิทธิ์อะไรกัน!”
พี่สะใภ้สามจ้าวค่อนข้างใจกว้าง หล่อนเป็นคนพึงพอใจ
ในสิ่ งที่มี จึงตอบเสี ยงเรี ยบ “แล้วคุณมีสิทธิ์ อะไรถึงพูดแบบนี้
ล่ ะ คะ? กระต่ า ยสองตัว นั้น เป็ นสิ่ ง ที่ น้อ งคุ ณ จับมา ถ้า คุ ณ มี
ความสามารถจับมาได้สองตัว ฉันก็คงถามคุณแม่เหมือนกันว่า
ขอแบ่งไปให้ที่บา้ นฉันสักตัวได้หรื อเปล่า ประเด็นสาคัญก็คือ
คุณจับมันได้ไหมล่ะ?”
คื น นี้ พี่ ส ะใภ้ ส ามจ้ า วค่ อ นข้ า งพึ ง พอใจกั บ เนื้ อที่
รับประทาน นอกจากแบ่งให้ลูกชายและลูกสาวแล้ว หล่อนยัง
ได้รับประทานเนื้อตั้ง 7-8 ชิ้น อร่ อยสุ ด ๆ ไปเลย!
ดังนั้นหล่อนจึงไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไร
พี่จา้ วสามถึงกับสาลัก “ภรรยาคนนี้ นี่ ทาไมถึงพูดกับผม
แบบนี้?”
“แล้วที่ฉันพูดมันไม่จริ งตรงไหนเหรอคะ?” พี่สะใภ้สาม
จ้าวพูดด้วยความงงงวย “เนื้ อนี้ น้องหกเป็ นคนจับมา เขาจะ
กตัญญู ต่อพ่อตามันก็เป็ นเรื่ องปกติไม่ใช่ เหรอ? อะไรกัน ถ้า
คุ ณมีเนื้ อให้กิน คุ ณไม่เต็มใจที่จะแบ่งให้พ่อตากิ นสักคาเลย
หรื อไง?”

พี่สามจ้าวจุกจนพูดไม่ออก นี่คือประเด็นสาคัญเหรอ นี่คือ


ประเด็นสาคัญเหรอ?
“พวกเรายังไม่แยกบ้านเลยนะ!” พี่สามจ้าวพูด
“ทาไมคุณเอาแต่คิดอยากจะแยกบ้านอยูเ่ รื่ อยเลยคะ? เรื่ อง
นี้ ปล่อยให้มนั เป็นไปตามธรรมชาติก็พอแล้ว อีกอย่างถ้าหาก
แยกบ้านไป พวกเราก็ไม่อาจมัน่ ใจได้เลยว่าจะได้กินเนื้ อแบบ
นี้ หรื อเปล่ า” พี่สะใภ้สามจ้าวโบกมื อ ถ้าหากย้ายไปอยู่บา้ น
ตัวเอง หล่ อนจะทาใจซื้ อเนื้ อกิ นได้เหรอ? ตอนนี้ ได้อยู่บา้ น
เดียวกับแม่สามีกน็ บั ว่าไม่เลวแล้ว!
แม้ว่าแม่สามีจะลาเอียงไปทางฝั่งน้องสามีและน้องสะใภ้
หก แต่ อี ก ฝ่ ายก็เ พิ่ ง จะแต่ ง งาน อี ก อย่า งแม้ว่า จะล าเอี ย งไป
หน่ อ ย แต่ ก็ไ ม่ ไ ด้ท าอะไรไม่ ดี ก ับพวกหล่ อ น แล้ว ก็ไ ม่ เ คย
พูดจาเสี ยดสี พวกหล่อนด้วย
พี่สะใภ้สามจ้าวรู ้สึกว่าการใช้ชีวติ อยูใ่ นบ้านแม่สามีดีกว่า
ตอนที่หล่อนยังไม่แต่งงานและอยูท่ ี่บา้ นแม่ตวั เองนิดหน่อย
คาพูดของหล่อนทาให้พี่สามจ้าวโมโห เขาจึงพลิกตัวหัน
หน้าไปนอนอีกฝั่ง
พี่สะใภ้สามจ้าวเองก็ไม่ ได้สนใจเขา เหนื่ อยมาทั้งวัน ก็
ต้องรี บพักผ่อนสักหน่อย พรุ่ งนี้ยงั มีเรื่ องยุง่ ๆ ให้ทาอีก
การแสดงท่าทางหู ทวนลมเช่นนี้ยงั ไม่จบ เพราะในห้องพี่
สี่ จา้ วก็กาลังแสดงอยูเ่ ช่นกัน
พี่สะใภ้สี่จา้ วโกรธจนท้องไส้ปั่นป่ วนไปหมด หล่อนจึง
ต้องร้ องเรี ยนกับพี่สี่จา้ วไปรอบหนึ่ ง พี่สี่จา้ วหาวแล้วพูดว่า
“เจ้าหกให้ไปแล้วก็ให้ไปสิ ในบ้านก็ยงั เหลืออีกตัวหนึ่ งไว้ให้
เรากินไม่ใช่เหรอ คืนนี้คุณเองก็กินไปไม่นอ้ ยเหมือนกัน”
พี่สะใภ้สี่จา้ วโกรธจนหายใจฟึ ดฟั ด “เดิมทีท้ งั สองตัวนั้น
ควรจะเป็ นของในบ้านสิ !”
“เรื่ อ งมากจริ ง ๆ” พี่ สี่ จ ้า วบ่ น พึ ม พ าอย่า งรั ง เกี ย จหนึ่ ง
ประโยค ก่อนจะผล็อยหลับไป
ครั้นเห็นว่าเขาไม่เห็นความสาคัญของหล่อน ทั้งยังไม่ใส่
ใจค าพู ด ของหล่ อ น หั ว ใจที่ เ ปราะบางและอ่ อ นไหวของ
พี่สะใภ้สี่จา้ วจึงถูกโจมตีอีกครั้ง
เป็ นเพราะหล่ อนไม่ มีลูกชาย ไม่ เช่ นนั้นแม่ สามี ก็คงไม่
ล าเอี ย งแบบนี้ และเป็ นเพราะหล่ อ นไม่ มี ลู ก ชาย สามี ข อง
หล่อนจึงไม่ให้ความสาคัญกับหล่อนแบบนี้
เธอไม่มีค่าอะไรในบ้านหลังนี้เลย!
พี่รองจ้าวและพี่สะใภ้รองจ้าวก็ยงั ไม่นอนเช่นกัน
พี่รองจ้าวถอนหายใจ พี่สะใภ้รองจ้าวเองก็มีความคิดเป็น
ของตนเอง หล่อนกล่าวขึ้น “เป็ นอะไรไปคะ?”
“ผมเห็นท่าทางของพ่อ ดูเหมือนว่าใกล้จะให้พวกเราแยก
บ้านแล้วล่ะ” พี่รองจ้าวพูด
พี่สะใภ้รองจ้าวประหลาดใจ หล่อนหันมองลูกชายทั้งสอง
ที่กาลังนอนหลับ ก่อนจะลดเสี ยงลง “ตั้งแต่เมื่อไหร่ คุณมอง
ออกได้ยงั ไง?”
พี่สะใภ้รองจ้าวอยากแยกบ้านมาก มากถึงมากที่สุด แต่ก็
รู ้สึกจนปั ญญาเพราะตัวเองเป็นลูกสะใภ้ใหญ่ ดังนั้นจึงทาได้
แค่ ปิ ดปากเงี ย บสนิ ท เพราะถ้า หากไปพู ด ข้า งนอกเช่ น นั้น
หล่อนก็อย่าคิดเป็ นมนุษย์เลย
“ผมเห็นพ่อมีความคิดแบบนี้” พี่รองจ้าวพูด
เพราะพ่ อ ของเขาก็ คุ ย กับ เขาแล้ว บอกให้ เ ขาไปหา
เลขาธิ การผูจ้ ดั สรรที่ ดิน พ่อของเขาได้ยื่นเรื่ อ งไปนานแล้ว
ตอนนี้โฉนดที่ดินก็มาอยูใ่ นมือแล้วด้วย
แต่ไม่ใครพูดอะไร คุณพ่อจ้าวจึงเก็บไว้ที่ตวั เอง
ลู กชายทั้งสี่ คนต่ างก็มีโฉนดที่ ดินคนละหนึ่ งฉบับ แต่พี่
รองจ้าวเป็ นคนนากลับมาด้วยตัวเอง
ดังนั้นพี่รองจ้าวจึงเข้าใจอย่างแจ่มชัด คาดว่าพ่อคงจะให้
พวกเขาแยกบ้านแล้ว
พี่สะใภ้รองจ้าวดี ใจเป็ นอย่างมาก แน่ นอนว่าหล่ อนไม่
กล้าแสดงออกมาอย่างชัดเจนขนาดนั้น พูดว่า “นี่กเ็ ป็ นเรื่ องที่ดี
นะ ทาไมคุณพ่อถึงคิดอยากจะแยกบ้านล่ะ? ฉันว่าคุณแม่คงไม่
ยอมหรอก”
“ถ้าพ่อตัดสิ นใจจะแยกบ้าน แม่ ก็ทาได้แค่ยอมรั บ ส่ วน
เหตุผลว่าทาไมถึงแยกบ้าน แค่มองก็เข้าใจแล้วล่ะ คุ ณดู น้อง
สามสิ วันนี้ ชกั สี หน้าดูไม่ได้เลย น้องสะใภ้สี่ก็เหมือนกัน” พี่
รองจ้าวพูด
ส่ ว นเหตุ ผ ลไม่ ต ้อ งพู ด ให้ ม ากความ เพราะเจ้า หกน า
กระต่ายไปให้บา้ นพ่อตาแม่ยายหนึ่ งตัว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มี
ความสุ ข
กระต่ายเป็นสิ่ งที่เจ้าหกจับมา เจ้าหกกตัญญูต่อพ่อตา อัน
ที่จริ งกระต่ายตัวเดียวก็ไม่ใช่เรื่ องไม่ดีอะไร พี่รองจ้าวเองก็ไม่
เข้าใจเหมือนกันว่าทาไมพวกเขาถึงมีสีหน้าอมทุกข์กนั ขนาด
นั้น
“ถ้าหากคุณพ่อกับคุณแม่อยากแยกบ้าน ถ้างั้นก็แยกเถอะ
ถึงเวลานั้นคุ ณก็ไม่ตอ้ งไปขัดขวางท่านนะคะ!” พี่สะใภ้สอง
รี บพูด
พี่รองจ้าวรู ้สึกขุ่นเคือง เขาเอ็ดเสี ยงทุม้ “คุณอยากถูกทุ บ
ใช่ ไหม? ผมเป็นลูกชายคนโต พ่อกับแม่แยกบ้านแต่ไม่ให้ผม
ห้าม คุณจะให้ผมตบมือแล้วพูดว่าดีเหรอ!”
“ยัง ไงฉัน ก็ไ ม่ ส นใจคุ ณ หรอกค่ ะ เพราะฉัน อยากแยก
บ้าน!” พี่สะใภ้รองจ้าวพูด
ต่อหน้าสามีตวั เองย่อมไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว หล่อนอยาก
แยกบ้านจริ ง ๆ!
ลูกชายคนโต ลูกชายคนที่สอง และลูกสาวต่างก็เติบโตกัน
ขนาดนี้ แล้ว หากยังไม่แยกบ้านก็ตอ้ งทางานเปล่า ๆ แยกบ้าน
ตอนนี้ นี่ แ หละก าลัง ดี ถึ ง เวลานั้น ขยัน สั ก หน่ อ ยก็ส ามารถ
เตรี ยมตัวพูดเรื่ องแต่งงานของลูกชายคนโตได้แล้ว!
แม้ว่าพี่รองจ้าวจะขุ่นเคือง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจหล่อน ต่อ
ให้ด่าไปหนึ่ งประโยคพวกผูห้ ญิงก็ไม่รู้จกั ดีชวั่ อยู่ดี เพราะแม่
ของเขาไม่ได้พูดจาเสี ยดสี ลูกสะใภ้ ถ้าหากรู ้ว่าหล่อนตั้งตารอ
คอยที่จะได้แยกบ้าน จะรู ้สึกอึดอัดใจแค่ไหนกันนะ!
พี่สะใภ้รองจ้าวไม่สนใจเขา เพราะรู ้ดีวา่ อีกไม่นานก็คงจะ
ได้แยกบ้านแล้ว หล่อนกาลังดีใจอยู!่
คุณพ่อจ้าวและคุณแม่จา้ วอยูใ่ นห้อง อันที่จริ งพวกเขาก็ยงั
ไม่ได้นอน
สองสามีภรรยาเฒ่าต่างก็รู้ดีถึงการทะเลาะกันผ่านสายตา
ของคนในบ้าน คุ ณพ่อจ้าวไม่ค่อยสนใจเท่าไรนัก แต่คุณแม่
จ้าวค่อนข้างโกรธเคือง
“บ้านเจ้ารองกับบ้านเจ้าสามยังพอทน แต่บา้ นเจ้าสี่ มีสิทธิ์
อะไรไปทาหน้าทาตาแบบนั้น? เจ้าหกกับสะใภ้หกไม่ได้ไปกิน
ของหล่อนสักหน่อย!” คุณแม่จา้ วแค่นเสี ยงเย็น
คุณพ่อจ้าวพูดเสี ยงเรี ยบ “อีกไม่นานก็ได้แยกบ้านแล้ว ไม่
ต้องโกรธหรอก”
“บ้านเจ้ารองลูก ๆ โตกันหมดแล้ว ก็อยากจะออกไปสร้าง
เนื้อสร้างตัวด้วยตัวเอง ส่ วนบ้านเจ้าสามยังดีหน่อย เพียงแต่เจ้า
สามใจแคบไปสักนิด นิสัยยิง่ กว่าผูห้ ญิงเสี ยอีก ส่ วนบ้านเจ้าสี่
ฉันเองก็อยากเห็นเหมือนกันถ้าแยกบ้านแล้วหล่อนจะทายังไง
คิดเล็กคิดน้อยทุกวี่ทุกวัน ได้นอ้ ยกว่าคนอื่นหล่อนก็จาขึ้นใจ
ไปหลายเดือน!” คุณแม่จา้ วแค่นเสี ยงเย็น
“ถ้าหากแยกบ้านแล้ว เราจะอยู่กบั เจ้ารองเหรอ?” คุณพ่อ
จ้าวถาม
คุณแม่จา้ วกล่าว “ถ้าไม่ง้ นั จะไปอยูไ่ หนล่ะ?”
“แยกบ้านแล้วพวกเราก็ใช้ชีวิตกันเองไปก่อน รอให้แก่
เฒ่าค่อยว่ากัน เพราะยังไงตอนนี้พวกเราก็ยงั ทางานได้อยู”่ คุณ
พ่อจ้าวพูด
เขาไม่ค่อยวางใจลูกชายคนเล็ก ถ้าหากพวกเขาทั้งสองคน
อาศัยด้วยตัวเองไม่ได้ไปกินอยูก่ บั เจ้ารอง ถึงเวลานั้นถ้าหากมี
เรื่ องอะไรก็ยงั ช่ วยเหลื อได้ ไม่ ตอ้ งสนใจสี หน้าท่ า ทางของ
บ้านเจ้ารอง
“ค่ะ!” คุณแม่จา้ วพยักหน้าโดยไม่พูดพร่ าทาเพลง
ตอนที่ 22 เจอพ่อค้ าเนื้อไช่ อกี ครั้ง

เทียบกับความคิดของบ้านอื่น สองสามีภรรยาที่ อยู่ห้อง


ด้านหลังมีความคิดเรี ยบง่ายกว่ามาก
สาหรั บจ้าวเหวิน เทาแล้ว กับข้าวคื นนี้ นับว่าอร่ อ ยมาก
และถูกปากภรรยาของเขาเช่ นกัน ดังนั้นหลังจากรับประทาน
และดื่ มจนอิ่มก็มาอาบน้ าชาระร่ างกาย ก่อนจะดึ งภรรยาของ
เขาไปออกกาลังกาย
เสร็ จภารกิจแล้วเขาก็กอดภรรยาของตัวเองโดยไม่สนใจ
อากาศอันร้อนอบอ้าว ทั้งยังพูดถึงเรื่ องที่จะไปบ้านพ่อตาแม่
ยายหลังจากว่างจากการทานาแล้ว

เย่ฉูฉู่ยงั คงเนื้ อตัวอ่อนปวกเปี ยก เธอตอบ ‘อืม’ กลับไป


เบา ๆ พร้อมกับกาลังคิดภายในใจ ไม่รู้วา่ พ่อและแม่ของเธอจะ
เห็นสิ่ งผิดปกติของเธอหรื อเปล่า?
ความทรงจาในชาติที่แล้วหลังจากที่ตื่นขึ้นมาแตกต่างจาก
ชาติน้ ีนกั
เป็ นเพราะกังวลเรื่ องนี้ ดังนั้นหลังจากที่เธอทะลุมิติมาถึง
ที่นี่กไ็ ม่กล้ากลับไปที่บา้ นแม่ตวั เอง เพราะกลัวว่าที่บา้ นจะมอง
ออก
ทว่า คงดู ไ ม่ อ อกหรอกมั้ง ? คนที่ แ ต่ ง งานกับคนที่ ยงั ไม่
แต่ ง งานมี ค วามแตกต่ า งกัน มากก็จ ริ ง ต่ อ ให้ต ัว เธอจะดู ไ ม่
เหมือนเดิม ก็สามารถอ้างได้วา่ เป็ นเพราะแต่งงานแล้ว จึงทาให้
เข้าใจอะไรมากขึ้นไม่ใช่เหรอ?

“ภรรยา รี บนอนนะ จะได้รีบมีลูกตัวอ้วน ๆ ให้ผม ถ้าเป็ น


ลูกสาวผมเองก็ชอบเหมือนกัน ขอแค่เป็นลูกของพวกเรา ผม
ชอบหมดนัน่ แหละ” จ้าวเหวินเทาพูด
ประโยคหลังแน่ นอนว่าเขาเองก็ไม่ อยากให้ภรรยาของ
ตนเองแบกรับภาระทางจิตใจ ลูกชายย่อมดีอยู่แล้ว ครอบครัว
ที่อยูใ่ นชนบท ไม่มีลูกชายคงไม่ได้

แต่ถา้ คนแรกยังไม่ใช่ ลูกชายก็ไม่ตอ้ งรี บร้อน หลังจากนี้


ค่อยมีเพิ่มก็ได้ เขาไม่คิดว่าตนเองจะไม่มีลูกชาย
เย่ฉูฉู่รู้สึกเขินอาย ทว่าสิ่ งนี้ทาให้เธอรู ้สึกอุ่นซ่านทัว่ ทั้งใจ
เธอซบในอ้อมกอดของเขาพร้อมพูดเสี ยงเบา “อันที่จริ งตอนนี้
ยังไม่ต้ งั ท้องก็ดีมากนะคะ ฉันอยากรอให้แยกบ้านก่ อนแล้ว
ค่อยท้องน่ะค่ะ”
“ทาไมล่ะ?” จ้าวเหวินเทาไม่ทราบว่าเป็ นเพราะอะไร
“ตอนนี้ คุณแม่ยงั ต้องแอบหลบ ๆ ซ่ อน ๆ เพื่อให้ฉันได้
กินไข่ไก่ ถ้าหากฉันท้องขึ้นมาก็ตอ้ งบารุ งร่ างกายไม่ใช่เหรอ?
ถึงเวลานั้นคงทาให้คุณแม่ตอ้ งลาบาก ถ้าหากเราแยกบ้านแล้ว
ถึ ง เวลานั้น ฉัน ค่ อ ยท้อง อยากจะบ ารุ ง อะไรก็ได้บ ารุ ง พวก
หล่อนก็ไม่มายุง่ แล้ว” เย่ฉูฉู่กล่าว

“ที่คุณว่ามาก็ไม่เลว” จ้าวเหวินเทาพยักหน้า แม้แต่แม่ม่าย


หม่ ายังได้กินไก่ ภรรยาของเขาสวยขนาดนี้ แถมยังตั้งครรภ์
ด้วยกลับไม่ได้กิน ใช้ได้ที่ไหนกันล่ะ!
ถ้ายังไม่แยกบ้านแล้วภรรยาของเขากล้ารั บประทานไก่
พวกพี่สะใภ้เหล่านั้นคงไม่ยอมรับแน่นอน
ดังนั้นหากรอหลังจากที่แยกบ้านแล้วค่อยมีลูกได้กค็ งจะดี
มาก ถึงเวลานั้นเขาก็สามารถหาของอร่ อยให้ภรรยาตนเองได้
ดื่มและรับประทานได้แล้ว
“งั้นหลังจากนี้ ฉันคงต้องทาการบ้านให้น้อยลงแล้ว ล่ ะ ”
จ้าวเหวินเทาพูดอย่างเสี ยดาย
นี่ เ ป็ นช่ ว งวัย ที่ ย งั หนุ่ ม ยัง แน่ น มี ก าลัง วัง ชา หากไม่ ใ ช่
เพราะเหนื่อยเกินไปเขาก็จะทาการบ้านทุกคืน

“ไม่กลัวว่าร่ างกายจะได้รับบาดเจ็บเลยนะคะ!” เย่ฉูฉู่หน้า


แดงก่า เธอพูดเสี ยงเบาอย่างแง่งอน ก่อนหน้านี้ตอนที่ยงั ไม่พูด
เรื่ องแยกบ้านก็ยงั พอทน แต่บดั นี้พูดขึ้นมาแล้ว เธอเองก็ต้ งั ตา
รอคอยที่จะได้แยกบ้านเหมือนกัน
หากแยกบ้านแล้ว เธอก็สามารถทาของอร่ อยให้เหวินเทา
กิ นได้ จะปล่ อยให้ร่างกายของเขาได้รับความเสี ยหายไม่ได้
เด็ดขาด
จ้าวเหวินเทาพูดด้วยรอยยิม้ “ร่ างกายบาดเจ็บอะไรกันล่ะ
ผมเลือกหยินบารุ งหยาง[1]แล้ว และผมก็กาลังบารุ งอยูน่ ี่ไง!”
ทั้งสองคนหัวเราะคิกคักกันครู่ หนึ่ง ก่อนจะผล็อยหลับไป
ช่ ว งเก็ บ เกี่ ย วฤดู ใ บไม้ร่ ว งยัง ต้อ งวิ่ ง วุ่ น กัน ต่ อ ไป รอ
หลังจากเก็บอาหารเข้าโกดัง ทุกคนก็จะได้ถอนหายใจเฮื อก
ใหญ่กนั แล้ว
เพราะหมายความว่าปี นี้ จะเป็นปี ที่ดี ไม่ตอ้ งกังวลว่าท้อง
จะหิวแล้ว
ถึงจะเก็บอาหารเรี ยบร้อยดีแล้ว แต่เรื่ องก็ยงั ไม่จบแค่น้ นั
เพราะยังต้องส่ งมอบอาหารอีก
วันนี้ฝ่ายผลิตใหญ่ได้เดินทางมาส่ งมอบอาหารแล้ว จ้าวเห
วินเทาเองก็ตอ้ งมาเช่นกัน ทั้งยังได้เจอคนคุน้ เคยด้วย
“พี่ ร อง พวกพี่ ดู ไ ปก่ อ นนะ ผมขอไปทัก ทายพี่ ซื่ อ หู
หน่อย!” จ้าวเหวินเทารี บพูด
พี่รองจ้าวตอบรับ จ้าวเหวินเทาจึงเบียดฝูงชนเดินเข้ามา
“น้องเหวินเทา!” วันนี้พ่อค้าเนื้อไช่หรื อไช่ซื่อหู่ กเ็ ดินทาง
มาที่นี่เพื่อช่วยส่ งมอบอาหารภายในทีม ครั้นเห็นจ้าวเหวินเทา
ก็กล่าวทักทายอย่างดีใจ
“ใครกัน รู ้จกั ด้วยเหรอ?” คนที่อยูข่ า้ ง ๆ ถาม
“คนนี้ไงที่ฉนั พูดถึงคราวก่อน น้องชายจ้าวเหวินเทาผูก้ ล้า
หาญเพื่อความถูกต้อง!” ไช่ซื่อหู่ พูดกับคนในหมู่บา้ นที่อยู่ขา้ ง

พู ด เช่ น นี้ ก็ รู้ ไ ด้ หลัง จากที่ พี่ ส ะใภ้ไ ช่ ก ลับ มาถึ ง ก็ พู ด
เกี่ยวกับเรื่ องนี้ไปไม่นอ้ ย คนทางฝั่งนั้นต่างก็รู้กนั หมด
พูดจบจ้าวเหวินเทาก็มาพอดี
“พี่ซื่อหู ไม่เจอกันนานเลยนะ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอพี่
วันนี้ พี่สะใภ้กบั หลานชายสบายดีไหมครับ?” จ้าวเหวินเทาพูด
ด้วยรอยยิม้
เขาแอบราพึงในใจว่าช่างเป็ นโชคชะตาจริ ง ๆ เพราะกาลัง
คิดอยู่ว่าจะไปเยี่ยมเยียนสักวันหนึ่ ง ไช่ ซื่อหู่ เป็ นคนเชื อดหมู
ต้องมี ความสัมพันธ์กบั ทางโรงเชื อดไม่ น้อย รอให้แยกบ้าน
ก่ อน หากภรรยาของเขาตั้งครรภ์และคิดอยากจะกิ นเนื้ อ ถ้า
เช่นนั้นก็มีแหล่งซื้อแล้วไม่ใช่เหรอ?
จ้าวเหวินเทามีหน้าตาดี ร่ างกายสู งใหญ่ สดใสและหล่อ
เหลา ทั้งยังมีใบหน้าเจือรอยยิม้ ร่ าเริ ง เป็นเพราะเก็บเกี่ยวช่ วง
ฤดู ใ บไม้ผ ลิ จึ ง ท าให้ผิว คล้ า จากการตากแดดไประดับ หนึ่ ง
รอยยิม้ กว้างของเขาทาให้เห็นฟั นขาวสะอาด ใครเห็นก็ไม่มี
คนชักสี หน้าใส่
ไช่ซื่อหู่ เองก็มีความสุ ขที่ได้ติดต่อกับเขา คิดว่าเขาคนนี้มี
ความชอบธรรมและมีความกล้าหาญ!

“ทุกคนสบายดี ๆ วันนี้พี่สะใภ้ของนายก็มาด้วยนะ แต่ไป


ซื้ อของที่สหกรณ์ขายเครื่ องอุปโภคบริ โภคทางนั้นแล้ว อาจ้าว
กับ อาหญิ ง จ้า วของฉัน ก็ส บายดี ใ ช่ ไ หม?” ไช่ ซื่ อ หู่ พู ด ด้ว ย
รอยยิม้
“สบายดี สบายดี ทุก คนเลยครั บ มื้ อ หนึ่ ง กิ น ไปไม่ น้อย
ด้วย” จ้าวเหวินเทายิ้ม “ช่ วงนี้ ยุ่งไปหน่ อ ย ไม่ ง้ นั ผมคงแวะ
เวียนไปทางฝั่งนั้นแล้ว เพียงแต่กลัวว่าพี่ซื่อหู่ จะไม่อยูบ่ า้ นนัน่
แหละ”
“ช่วงนี้ฉนั ทางานกะดึก ช่วงเช้าอยูบ่ า้ น นายมาหาได้เลย”
ไช่ซื่อหู่พูด
จ้าวเหวินเทายิม้ ตอบรับกลับไป จากนั้นก็พูดกับอีกฝ่ ายถึง
ของที่เก็บเกี่ยวได้ในปี นี้
อย่า พู ด ถึ ง เลย ปี นี้ เป็ นเพราะฟ้ า ฝนเป็ นใจ ฝนตกตาม
ฤดูกาล การเก็บเกี่ยวจึงไม่เลว
“ฉันได้ยนิ มาว่าปี นี้กาลังจะมีนโยบายใหม่ออกมาด้วยนะ”
หลังจากพูดถึงการเก็บเกี่ยวจบแล้ว ไช่ซื่อหู่กก็ ระซิบบอก
จ้าวเหวินเทาได้ยนิ ก็กระซิบไปว่า “พี่ซื่อหู่ได้รับข่าวอะไร
มาเหรอครับ?”
“ได้ยินมาว่าทางการจะไม่สนใจการซื้ อขายของในตลาด
แล้ว แต่ฉันเองก็ไม่ได้เข้าใจแบบเจาะลึกหรอกนะ ได้ยินคน
อื่นพูดกันมาอีกทีเหมือนกัน” ไช่ซื่อหู่พูดเสี ยงต่า
จ้าวเหวินเทาดวงตาเป็ นประกาย จ้องมองอีกฝ่ ายแล้วพูด
“พี่ซื่อหู่ วันมะรื นผมจะเอาเหล้าไปบ้านพี่นะครับ พวกเราดื่ม
กันสักแก้วดีไหม?”
“เอาสิ ” ไช่ซื่อหู่ยมิ้ เพราะช่วงนี้เขาก็อยากหาคนมาร่ วมมือ
อยูพ่ อดี แต่ยงั หาคนที่เหมาะสมไม่ได้ ภรรยาของเขาบอกว่าให้
ลองไปหาน้องชายเหวิน เทาดู เขาเองก็ลงั เล คุ ณสมบัติข อง
น้องชายเหวินเทาเป็ นอย่างไรคงไม่ตอ้ งพูดถึง แต่สุดท้ายแล้วก็
ยังไม่สนิทกันเท่าไรนัก
ทว่าวันนี้ในเมื่อได้มาเจอกัน ก็นบั ว่าเป็ นโชคชะตา เขาเอง
ก็จะได้ถามน้องชายเหวินเทาดูวา่ อยากจะทาหรื อเปล่า!
แต่ที่นี่ไม่ใช่ สถานที่ที่จะคุ ยกัน ดังนั้นคงไม่มีอะไรดี ไป
กว่านัดไปเจอกันที่บา้ นแล้ว
“แต่นายไม่ตอ้ งเอาอะไรมานะ ที่บา้ นฉันมีแล้ว นายมาแต่
ตัวก็พอ!” ไช่ซื่อหู่กล่าว
จ้าวเหวินเทาไม่ใช่คนที่ทาอะไรไร้สมอง แม้วา่ ไช่ซื่อหู่ จะ
มีความจริ งใจที่ไม่เลว แต่เขาเองก็ไม่ควรจะปั กใจเชื่ อทั้งหมด
ไม่ใช่เหรอ?
อี ก อย่า งนี่ ก็ท าให้จ ้า วเหวิ น เทาเกิ ด ความกระตื อ รื อ ร้ น
ทางการจะไม่สนใจการซื้อขายในตลาดแล้ว?!
เป็ นแบบนี้ เขาก็ตอ้ งเตรี ยมตัวสิ ถึงจะถูก!
หลังจากบอกลาไช่ซื่อหู่ จ้าวเหวินเทาก็กลับมาที่แถวของ
พี่รอง แน่นอนว่าคุณพ่อจ้าวและคนอื่น ๆ ก็อยูด่ ว้ ย
ต่ อ แถวอยู่น านในที่ สุ ด ก็ถึ ง คิ ว ของพวกเขา ผูร้ ั บสิ น ค้า
เหล่านั้นต่างก็เลือกคัดสรรกัน ไม่ใช่เรื่ องง่ายเลยกว่าจะจ่ายปัน
ส่ วนแบ่งสาธารณะ นี่กส็ ายแล้วด้วย
“เอาล่ะ กลับบ้านได้ พรุ่ งนี้พาทุกคนมานะ พวกเราจะแบ่ง
อาหารกัน!” หัวหน้าทีมตะโกนประโยคหนึ่ง
ทุกคนย่อมรู ้สึกดีใจเป็ นอย่างมาก

[1] เลือกหยินบารุ งหยาง หมายถึง การถึงจุดสุ ดยอดของ


การมี เ พศสั ม พัน ธ์ ข องเพศหญิ ง สามารถเสริ ม สร้ า งความมี
ชีวติ ชีวาของผูช้ ายได้ พฤติกรรมทางเพศของผูช้ ายจึงควรได้รับ
การปลดปล่อยออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้
บรรลุวตั ถุประสงค์ในการปรับสมดุลหยินหยางภายในร่ างกาย
ตอนที่ 23 ส่ งอาหารให้ พสี่ าวใหญ่

เมื่อถึงวันที่สองของการส่ งมอบอาหาร หัวหน้าหมู่บา้ นก็


ได้ทาการแบ่งอาหารแล้ว
เย่ฉูฉู่ไม่ได้ไปร่ วมสนุ กกับคนอื่น ๆ เพียงไม่นานจ้าวเห
วินเทา พี่รองจ้าวและคนอื่ น ๆ ก็เข็นรถลากที่ ใส่ อาหารของ
ครอบครัวตัวเองกลับมา
ในนั้นมีอาหารอัดแน่นเต็มไปหมด ทาให้ทุกคนดีใจแทบ
แย่
“คุ ณ ย่ า คื น นี้ พวกเราจะได้ กิ น ของดี ใ ช่ ไ หมครั บ ?!”
เถี่ยต้านหลานชายคนโตพูดด้วยความดีใจ
หลูตา้ น หม่าต้านและคนอื่น ๆ ก็มองคุ ณย่าของพวกเขา
อย่างรอคอย แน่ นอนว่ายังมีสาวน้อยต้าหยา เอ้อร์ หยาและคน
อื่น ๆ ด้วย ทว่าพวกเธอต่างก็ไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไร
“ตกลง งั้นคืนนี้ กินบะหมี่ก็แล้วกัน!” คุ ณแม่จา้ วพูดด้วย
รอยยิม้
เป็ นเพราะเห็ นอาหารมากขนาดนี้ นางจึ งอารมณ์ ดีเป็ น
อย่างยิง่ อีกอย่างการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีในปี นี้ แต่ละครัวเรื อนก็
ได้ส่วนแบ่งเส้นหมี่มาส่ วนหนึ่ งด้วย นัน่ ก็ถือว่าได้กินของดี
ไม่ใช่เหรอ?
เมื่อเทียบกับข้าวโพดบดและมันเทศ บะหมี่ยอ่ มอร่ อยมาก
อยูแ่ ล้ว ดังนั้นพวกเด็ก ๆ จึงดีใจมาก
แน่นอนว่าต่อมาก็ตอ้ งนาอาหารเก็บเข้ายุง้ ส่ วนแบ่งปี นี้ได้
มันเทศมาไม่นอ้ ย จึงต้องเลือกมันเทศออกมาด้วย
ส่ วนที่มีผิวถลอกอยู่ได้ไม่นานก็จะนาออกมากินก่อน ไม่
ก็นาไปต้มหรื ออาจทาเป็นมันเทศอบแห้ง ส่ วนที่ถูกเก็บเกี่ ยว
อย่างดี ก็เก็บไว้ในห้องใต้ดิน สามารถเก็บได้นานและไม่เน่ า
เสี ย
ส่ วนธัญพืชหยาบอย่างเมล็ดข้าวโพด เมล็ดข้าวฟ่ างและ
อื่น ๆ อาหารพวกนี้ถูกตากแดดจนแห้งแล้ว ไม่ตอ้ งกังวลว่าจะ
เน่าเสี ย
อาหารภายในบ้านคุณแม่จา้ วเป็ นคนดูแลทั้งหมด หลังจาก
นางจัดระเบียบไว้อย่างดีแล้วก็พูดเหมือนอย่างเคย “เหวินเทา
เอาอาหารบางส่ วนไปส่ ง ให้พี่ส าวใหญ่ ก ับพี่ส าวห้า ของแก
หน่อย!”
หลัง จากแจกจ่ า ยอาหารใหม่ ใ นทุ ก ทุ ก ปี ทางบ้า นก็จ ะส่ ง
อาหารไปให้พี่สาวใหญ่จา้ วและพี่สาวห้าจ้าวด้วย ซึ่งจ้าวเหวินเทา
จะเป็ นคนนาไปส่ งให้ตลอด ดังนั้นมันจึ งไม่ ได้อยู่เหนื อ ความ
คาดหมายของทุกคนแต่อย่างใด เพราะทั้งบ้านมีแค่นอ้ งสามี คน
เล็กนี่แหละที่ขี่จกั รยานเป็ น
จ้าวเหวินเทาย่อมเต็มใจอยู่แล้ว เขาพูดพร้อมหัวเราะหึ ๆ
“ได้เลย งั้นผมไปยืมจักรยานของคุณลุงก่อนนะครับ!”
เขาเองก็จะได้ไปซื้ อเหล้าที่ ในเมืองกลับมาบ้านสักขวด
ด้วย หากถึงเวลาจะได้นาไปเชื่อมสัมพันธ์กบั ไช่ซื่อหู่ อีกอย่าง
เขารู ้สึกว่าโอกาสที่ไช่ซื่อหู่ จะเปิ ดเผยเรื่ องการซื้ อขายกับเขาคง
มีไม่มากขนาดนั้น บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสของเขาก็ได้ใคร
จะไปรู ้
แต่ในกระเป๋ าของเขาไม่มีเงินเลย แน่ นอนว่าต้องไปขอ
ภรรยาของเขาอยูแ่ ล้ว
เงิ น จากการขายโสมป่ ายัง คงอยู่ แ ละไม่ ไ ด้แ ตะจนถึ ง
ตอนนี้
เย่ฉูฉู่กาลังเย็บผ้าห่ มอยู่ ก่อนหน้านี้ไม่มีเวลาให้ทา ตอนนี้
ว่างจากการทานาแล้ว จึงต้องใช้เวลานี้ เพราะอีกไม่นานก็จะ
เข้าฤดูหนาวแล้ว ตอนนี้อากาศแต่ละวันก็มีการเปลี่ยนแปลง
เหวินเทาของเธอยื่นหน้าเข้ามาหา เย่ฉูฉู่ไม่ทนั ได้ต้ งั หลัก
จึ งหน้าแดงระเรื่ อขึ้ นมา แต่ พอทราบว่าเขามาขอเงิ น เธอจึ ง
กลอกตาใส่ โดยพลันพร้อมกล่าวว่า “คุณเองก็รู้ว่าฉันเก็บไว้ที่
ไหน จะมาขอจากฉันทาไมคะ?”
“มันเหมือนกันที่ไหนกันล่ะครับ เงินต้องผ่านมือภรรยา
ของผมสิ ถึงจะถูก ผมไปหยิบเองได้ยงั ไงกัน” จ้าวเหวินเทาพูด
ด้วยรอยยิม้
เย่ฉูฉู่รู้สึกหวานชื่ นอยู่ภายในใจ หลังจากหัวเราะออกมา
เธอก็หยิบเงินสิ บหยวนให้เขา
จ้าวเหวินเทามองภรรยาที่นาเงินสิ บหยวนให้ตนเอง ซึ่ ง
ไม่ได้ให้เขาแค่ไม่กี่เหมา จึงแอบยิม้ อยูภ่ ายในใจ เธอไม่กลัวว่า
เขาจะนาเงินไปแอบกินคนเดียวเลยจริ ง ๆ สิ นะ

เพิ่งคิดได้เช่ นนี้ เขาก็พบว่าภรรยาของตนเองหยิบคู ปอง


เนื้ อและคู ปองข้าวที่เหลือจากคราวก่อนให้เขา กล่าวว่า “คุ ณ
ไปหาของอร่ อย ๆ กินที่ร้านอาหารสักหน่อยนะคะ”
ช่วงหลายวันมานี้เขาช่างลาบากจริ ง ๆ แค่เก็บเกี่ยวช่วงฤดู
ใบไม้ร่วงก็เหนื่ อยมากแล้ว ในขณะที่เธอยังมีเวลาได้พกั ผ่อน
เช่ นเวลาประจาเดื อนมาก็ยงั ได้หยุดอยู่บา้ น ซึ่ งปกติก็จะสลับ
กับพวกพี่สะใภ้เพื่อพักผ่อน แต่พวกเขาเป็ นผูช้ ายทาแบบนั้น
ไม่ได้ ต้องทางานตั้งแต่ตน้ จนจบ
ส่ ว นอาหารที่ อ ยู่ ใ นบ้า นก็ เ ป็ นแบบนี้ แหละ ถ้า ไม่ ใ ช่
ข้าวโพดบดก็เป็ นบะหมี่มนั เทศ กินจนเลี่ยนเต็มทีแล้ว

จ้าวเหวินเทารู ้สึกตื่นตันใจขณะมองภรรยาคนนี้ เธอวาง


เขาอยูใ่ นใจของเธอจริ ง ๆ
“งั้นผมไม่เกรงใจภรรยาแล้วนะครับ?” จ้าวเหวินเทาพูด
เขาเองก็อยากรับประทานซาลาเปาไส้เนื้ อลูกใหญ่ในเมืองจริ ง

“อื้อ” เย่ฉูฉู่เก็บเงินส่ วนที่เหลือเรี ยบร้อยแล้ว เธอก็กลับมา
เย็บผ้าห่มต่อ
ส่ วนจ้าวเหวินเทานั้น หลังจากกินอาหารเที่ยงแบบง่าย ๆ
ก็ปั่นจักรยานออกเดินทาง
การปั่ นจักรยานจากในชนบทเข้าไปในเมืองต้องใช้เวลา
ประมาณสองชัว่ โมง
ก่อนอื่นต้องเดิ นทางไปหาพี่สาวใหญ่ของเขาที่ทิศเหนื อ
ของเมืองก่อน
สามี ของพี่สาวใหญ่ ทางานอยู่ที่สานักงานทรั พยากรน้ า
รับผิดชอบเรื่ องขุดบ่อ โดยปกติจะไม่อยูบ่ า้ น ภายในบ้านก็จะมี
พี่สาวใหญ่ของเขา หลานชายหลานสาวสี่ คน แน่ นอนว่ามีพ่อ
แม่สามีดว้ ย
“พี่สาวใหญ่!” จ้าวเหวินเทาตะโกนเรี ยก
“น้องชายลู กสะใภ้เหรอ?” คนที่ เดิ นออกมาไม่ ใช่ พี่สาว
ใหญ่จา้ ว แต่เป็ นแม่สามีของหล่อน นางเป็ นหญิงชราเท้าเล็ก
ใบหน้าเต็มไปด้วยความฉลาดหลักแหลม
“คุณป้า ช่วงนี้ร่างกายดูแข็งแรงเชียวนะครับ?” จ้าวเหวินเทา
พูดด้วยรอยยิม้
แม่เฒ่าหวังเองก็รู้ดีว่าช่ วงนี้ เป็นวันอะไร ครั้นเห็นว่าท้าย
จักรยานมี ถุงกระสอบ รอยยิ้มที่ ประดับอยู่บนใบหน้า ก็ยิ่ง มี
มากขึ้น นางพูดด้วยรอยยิม้ “สบายดี ๆ วันมะรื นเจิน้ ซิงกับพวก
จงหั ว ก็ ก ลับ มาแล้ว ให้ น้ า สะใภ้เ ล็ ก ได้เ ห็ น หน้า ค่ า ตาสั ก
หน่อย!”
“วันนี้ เจิ้นซิ งกับจงหัวแล้วก็หรงหรงไปโรงเรี ยนกันหมด
เลยสิ นะครับ?” จ้าวเหวินเทาจอดจักรยาน ระหว่างที่แกะเชือก
ที่มดั อยูบ่ นถุงกระสอบก็ถามไปพลาง

“เจิ้นซิ งกับหรงหรงเรี ยนอยู่ที่โรงเรี ยนมัธยมปลาย จงหัว


เรี ยนอยูท่ ี่โรงเรี ยนมัธยมต้น ส่ วนเยว่เยว่นอนอยู่ เล่นมาทั้งวัน
แล้ว” หญิงชราหวังกล่าวด้วยรอยยิม้
“แล้วพี่สาวใหญ่ของผมล่ะครับ?” จ้าวเหวินเทาถาม
“แม่ ของเจิ้นซิ งเอาเสื้ อ ผ้าไปส่ งแล้ว” แม่ เฒ่ าหวังกล่ า ว
เสี ยงเบา
จ้าวเหวินเทาก็รู้อยู่แล้ว นี่ เป็ นงานส่ วนตัว เดิ มที แม่ เฒ่า
หวังทางานเป็ นลูกจ้างชัว่ คราวในโรงงานทอผ้า แต่ภายหลังอีก
ฝ่ ายเกิ ดการใช้เส้นสายก็เลยบี บให้นางออก แต่ เป็ นเพราะที่
บ้านนางยังมี จกั รเย็บผ้า จึ งทางานส่ วนตัวสะดวกสบายเป็ น
อย่างมาก
เขาเองก็ไม่ได้พูดอะไรและย้ายอาหารหนัก 30 ชั่งลงมา
พร้อมกับพูด “ของพวกนี้แม่บอกให้ผมเอามาให้พวกหลาน ๆ
กิ น มี ไ ม่ เ ยอะ ถื อ ว่า เป็ นน้ า ใจเล็ก ๆ น้อ ย ๆ จากแม่ ข องผม
ครับ”
“แม่ของเธอก็เกรงใจกันเกินไปแล้ว ส่ งอาหารมาให้ทุกปี
เลย!” แม่เฒ่าหวังรี บพูด
จ้าวเหวินเทาจึงยกเข้าไปวางในบ้านให้นาง
แม่เฒ่าหวังเองก็นาน้ าแกงหวาน(1)ที่ตม้ ไว้เรี ยบร้อยแล้ว
ออกมา “เธอกินข้าวเที่ยงมาหรื อยัง? ที่บา้ นยังมีขา้ วอยู่นะ ให้
ฉันไปอุ่นให้สักหน่อยไหม?”
“ไม่เป็ นไรครับ ผมกินมาแล้ว” จ้าวเหวินเทากล่าวขอบคุณ
และพูดว่า “ผมต้องเอาของไปส่ งให้พี่สาวห้าต่ อ คงอยู่นาน
ไม่ได้ครับ”
“เธอกินน้ าแกงหวานก่อนสิ ” แม่เฒ่าหวังกล่าว
จ้าวเหวินเทาพูดด้วยรอยยิม้ “คุณป้ าก็เกรงใจเกินไปแล้ว
ผมมาทุกปี คุณป้าก็ให้ผมกินน้ าแกงหวานทุกปี เลย”
“เป็ นเรื่ องที่ตอ้ งทาอยูแ่ ล้วล่ะ” แม่เฒ่าหวังพูดด้วยรอยยิม้
หลัง จากกิ น น้ า แกงหวานจนหมด จ้า วเหวิ น เทาก็อ อก
เดิ นทางไปยังทิ ศตะวันออกของเมื อง เขากลับไปได้ไม่นาน
พี่สาวใหญ่จา้ วก็กลับมา
แม่เฒ่าหวังจึงเล่ารื่ องที่นอ้ งชายของหล่อนนาอาหารมาส่ ง
ให้หล่อน
“ทาไมกลับไปเร็วจัง” พี่สาวใหญ่จา้ วอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้น
“เห็นบอกว่าต้องเอาอาหารไปส่ งให้นา้ ห้าของเจิ้นซิ งต่อ
แม่กเ็ ลยไม่ได้ให้เขาอยูต่ ่อ” แม่เฒ่าหวังพูด
พี่ ส าวใหญ่ จ ้า วได้ยิ น ก็ ไ ม่ ไ ด้พู ด อะไร หล่ อ นหยิ บ ผ้า
ออกมาจากกระเป๋ า “แม่คะ นี่เป็ นผ้าที่ฉนั เพิ่งรับมา ลูกค้าบอก
ว่าให้ทาตามแบบก่อนหน้านี้ ตัดให้เหมือนกันเลยค่ะ”
“ได้สิ!” แม่เฒ่าหวังรับผ้าไปดูก่อนจะพยักหน้า
“งั้นแม่ทางานเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันไปทากับข้าวก่อน” พี่สาว
ใหญ่จา้ วพูด หล่อนมองอาหารที่นอ้ งชายนามาส่ ง ภายในใจก็
รู ้สึกอบอุ่นขึ้นมา คิดว่ากลับไปคราวหน้าคงต้องนาน้ าตาลแดง
ซักถุงไปบารุ งให้นอ้ งสะใภ้หกสักหน่อยแล้ว
ไม่มีใครสั่นคลอนตาแหน่งภายในตระกูลหวังของหล่อน
ได้
เพราะอะไรน่ ะเหรอ? ก็เพราะว่าหวังคุ นสามีของหล่อน
เป็ นผูส้ ื บสกุลเพียงคนเดียวอย่างไรล่ะ
แม่เฒ่าหวังและพ่อเฒ่าหวังมีลูกชายคนนี้เพียงคนเดียว

(1)มาจากคาว่า ถังสุ่ ย (糖水) ซึ่ งเป็ นขนมหวานแบบ


จีนตอนใต้ มีท้ งั แบบน้ าเชื่อมใสใส่ ธญ
ั พืชต่าง ๆ กับแบบน้ าข้น
ที่สกัดจากธัญพืชเช่ นถัว่ เหลือง งา ซึ่ งเต้าฮวย เต้าทึง น้ าเต้าหู ้
น้ างาดา เรี ยกโดยรวมว่าถังสุ่ ยหมด
ตอนที่ 24 บรรยากาศสั งคมทีแ่ ตกต่ าง

ตอนแรกคุณแม่จา้ วก็ไม่ค่อยพอใจครอบครัวนี้ เท่าไรนัก


เพราะคิ ดว่าครอบครั วที่ มีลูกชายแค่ คนเดี ยวมี แรงกดดัน สู ง
แม้ว่ากรรมพันธุ์ของเขาจะดี แต่ก็ไม่มีใครทนคนที่ไม่มีพี่ชาย
น้องชายช่วยเหลือแม้แต่คนเดียวได้!
ไม่เพียงแค่คุณแม่จา้ วที่ไม่พอใจลูกเขยคนนี้ ตอนแรกแม่
เฒ่าหวังและพ่อเฒ่าหวังก็ไม่พอใจพี่สาวใหญ่จา้ วเหมือนกัน
เพราะพวกเขามีลูกชายคนเดี ยว แถมยังมีงานทา เงื่อนไขทาง
บ้า นก็อ ยู่ใ นเมื อ ง แล้ว ยัง จะต้อ งเฟ้ น หาคนที่ เ หมาะสมอี ก
เหรอ?
แต่ ฐานะตระกูลจ้าวในปี นั้นไม่ค่อยดี เท่ าไรนัก ทั้งสอง
สามีภรรยาก็กลัวว่าจะได้ลูกสะใภ้ที่ตอ้ งเลี้ยงดู พวกน้อง ๆ ที่
อยู่ทางบ้าน หล่อนเป็นพี่สาวคนโต ด้านหลังยังมีนอ้ งชายอีก
ตั้งหลายคน จะไม่ให้กงั วลได้อย่างไรกัน?
แต่ลูกชายพึงพอใจในตัวหล่อน นอกจากหล่อนแล้วก็ไม่
คิดจะแต่งงานกับใคร ท้ายที่สุดก็ได้แต่งงานกันอย่างช่วยไม่ได้
พี่ ส าวใหญ่ จ ้า วเองก็สู้ ยิบ ตาเช่ น กัน แต่ ง เข้า ไปได้ห นึ่ ง
เดื อ นก็มี ข่ า วดี ทัศ นคติ ข องแม่ เ ฒ่ า หวัง และพ่ อ เฒ่ า หวัง จึ ง
เปลี่ยนไป
เมื่ อ ครบหนึ่ ง เดื อ น หลัง จากไปตรวจก็ท ราบว่า หล่ อ น
ตั้งครรภ์ลูกแฝด พวกเขาทั้งสองคนก็แทบจะประคบประหงม
พี่สาวใหญ่จา้ ว
ตอนที่อุม้ ท้อง พี่สาวใหญ่จา้ วก็มีชีวิตที่สุขสบาย ของกิน
และเครื่ องดื่มอร่ อย ๆ ที่อยูใ่ นบ้านก็ให้หล่อนกินทั้งหมด แถม
ยังไม่ตอ้ งทาอะไรด้วย
หลั ง จากคลอดแฝดมั ง กรหงส์ อ อกมา ก็ ก ลายเป็ น
หลานชายคนโตหวังเจิ้นซิ งและหลานสาวคนโตหวังหรง ทา
ให้พ่อสามีและแม่สามีชอบใจเป็ นอย่างยิง่
หลังจากนั้นก็ไม่ใช่ ว่าคลอดลูกแฝดแล้วหล่อนจะไม่มีลูก
อีก สามปี ให้หลังหล่อนก็ต้ งั ครรภ์อีกครั้ง ให้กาเนิดหลานชาย
คนที่ ส องหวัง จงหั ว หลั ง จากนั้ นก็ ต ามมาด้ ว ยหวัง เยว่
หลานสาวคนเล็ก มีชื่อเล่นว่าเยว่เยว่
อาศัยการตั้งครรภ์เพื่อเอาชนะของพี่สาวใหญ่จา้ ว ตระกูล
หวังจึงไม่มีใครกล้าพูดไม่ ดีกบั หล่ อน เพราะนิ สัยของพี่ สาว
ใหญจ้าวคือไม่ยอมให้ใครมารังแกง่าย ๆ และเป็ นเพราะหล่อน
ดิ้นรนอุม้ ท้องจึงเกิดความมัน่ ใจ ใครจะกล้าพูดอะไรกับหล่อน
ได้?
ภายในบ้านมีเสาหลักสองคน คนแรกคือพ่อเฒ่าหวัง เขา
คื อ ผูอ้ านวยการภายในที่ ทาการไปรษณี ย ์ เงิ น เดื อ นอยู่ที่ 42
หยวนต่อเดือน ส่ วนอีกคนคือหวังคุนสามีของพี่สาวใหญ่จา้ ว
ทางานอยู่ที่สานักงานทรั พยากรน้ า ได้เงิ นเดื อนเดื อนละ 40
หยวน น้อยกว่าพ่อของเขาไม่มาก
นอกจากนี้ ยัง แม่ เ ฒ่ า หวัง ที่ ท างานส่ ว นตัว ได้เ งิ น เดื อ น
เดือนละ 20 หยวน เงินเดือนแต่ละเดือนรวมกันมีมากกว่าร้อย
หยวน ถือเป็ นครอบครัวที่มงั่ คัง่ เลยทีเดียว
แต่หลังจากที่มีลูกมากขนาดนี้ ครอบครัวนี้กไ็ ม่กล้าใช้เงิน
ฟุ่ มเฟื อย และต้องประหยัดมัธยัสถ์ ตอนนี้ พวกเด็ก ๆ ก็โตกัน
หมดแล้ว ใช้เงินราวกับสายน้ า กินข้าวเอย เข้าเรี ยนเอย ทั้งหมด
ต่างก็เป็ นเงินเป็ นทองทั้งนั้น
รายจ่ายภายในบ้านไม่ใช่นอ้ ย ๆ เลย
แน่นอนว่า เทียบกับครอบครัวอื่นก็นบั ว่าไม่เลว
ก่อนหน้านี้ แม่เฒ่าหวังก็แอบรังเกียจครอบครัวสะใภ้ใน
ชนบทอยู่ภ ายในใจแต่ ไม่ ได้พูด อะไร แต่ ต อนนี้ นางรู ้ สึกว่า
ตนเองคิดผิดจริ ง ๆ
แม้ลูกสะใภ้จะสนับสนุนครอบครัวทางฝั่งแม่ตวั เอง แต่ก็
ยังมีขีดจากัด อีกอย่างบ้านแม่ของหล่อนทางฝั่งนั้นก็ไม่ได้งอ
มืองอเท้า แถมยังเอาอาหารมาให้อีกไม่ใช่เหรอ?
ต่อให้เป็ นแค่เมล็ดข้าวโพด 30 ชัง่ แต่ในปี นี้ใครจะรังเกียจ
อาหารฟรี กนั ล่ะ?
นางเองก็เคยถามพวกหลาน ๆ เหมื อนกัน ทุ กครั้ งที่ ไ ป
บ้านคุณตาคุณยายของพวกเขา คุณยายก็จะทอดไข่ให้พวกเขา
รับประทาน ทั้งยังมีถวั่ ลิสงต้มอะไรพวกนั้นด้วย ไม่ได้ตอ้ นรับ
หลานชายและหลานสาวของตนเองอย่างไม่ยตุ ิธรรมสักนิด
ดังนั้นครอบครัวนี้ ย่อมไปมาหาสู่ กนั ได้ แน่ นอนว่านาง
เองก็ไม่ได้ข้ ีเหนียวที่จะให้น้ าแกงหวานกับจ้าวเหวินเทาที่เป็น
น้องชายของลูกสะใภ้
อี ก อย่า งจ้า วเหวิน ทาวก็อุ ต ส่ า ห์ ปั่ น จัก รยานมาจากทิ ศ
ตะวันออกของเมืองเชียวนะ
เมื่อสองสามเดือนก่อน ตอนที่เขาเข้ามาในเมืองกับภรรยา
ก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย แต่ตอนนี้จา้ วเหวินเทาเริ่ มคิดแล้ว
ก่อนหน้านี้เขายังไม่ได้ใช้ใบรับรองที่หวั หน้าทีมเขียนให้
เขาก่อนจะเข้าเมือง ส่ วนทหารอาสาก็ไม่ได้ดกั ถาม อย่างวันนี้
ตัวเขาเองก็ทารายงานไว้แล้ว แต่ ก็ยงั เหมื อนเดิ มคื อไม่ มีคน
ตรวจสอบถามไถ่สักคน
เขาเข้ามาในเมื องได้ด้วยตัวเอง ก่ อนหน้านี้ ถา้ หากไม่มี
จดหมายรับรองก็จะไม่สามารถเข้าเมืองได้ แต่ตอนนี้ นบั วันก็
เริ่ มผ่อนปรนมากขึ้นเรื่ อย ๆ แล้ว!
จ้าวเหวินเทาข่มความคิดภายในใจไว้ เขาเดิ นทางไปหา
พี่สาวห้าก่อน แต่เพิ่งจะผ่านเขตที่อยู่อาศัยไม่นานก็มีคนมอง
มาที่ถุงกระสอบท้ายจักรยานของเขาด้วยดวงตาเป็ นประกาย
เสี ยแล้ว
หญิงชราร่ างเล็กที่ไม่คุน้ หน้าถามเสี ยงเบา “ด้านในนั้นคือ
อาหารเหรอ?”
จ้าวเหวินเทามีหรื อจะกลัวหญิงชราตัวเล็ก ๆ มาแย่งของ
จากเขา เขาพยักหน้าตอบ “ใช่ครับ เพิง่ เก็บเกี่ยวปี นี้เลย”
หญิงชราตัวเล็กรี บพูด “แลกไหมจ๊ะ?”
“คุณป้ า อย่าทาให้ผมตกใจสิ ครับ ผมไม่ได้อยากจะเอาไป
เก็งกาไร ของพวกนี้ ผมเอามาส่ งให้พี่สาว” จ้าวเหวินเทามอง
ซ้ายมองขวาขณะพูด
หญิ ง ชราตัว เล็ ก ยิ้ม “เยอะแยะขนาดนี้ แลกกับ ฉั น สั ก
หน่อยคงไม่เป็ นไรหรอก”
“คุณป้ าใจกล้าจริ งเชียว นี่ดีนะที่เป็ นผม ถ้าเปลี่ยนเป็ นคน
อื่ น คงแข่ ง กับ ป้ า ไปแล้ว ถึ ง เวลานั้น ป้ า คงเจอปั ญ หาแน่ แต่
ยัง ไงก็แ ลกให้ไ ม่ ไ ด้จ ริ ง ๆ ครั บ ของพวกนี้ ผมเอามาส่ ง ให้
พี่สาว” จ้าวเหวินเทาเห็นว่ารอบตัวไม่มีใคร จึงพูดด้วยดวงตา
เป็ นประกาย
“พ่ อ หนุ่ ม ท าไมถึ ง ขี้ ขลาดกว่ า ฉั น ได้ ล่ ะ ? ตอนนี้ ไม่
เหมือนกับเมื่อก่อนแล้วนะ” ครั้นหญิงชราตัวเล็กเห็นว่าเขาไม่
ยอมแลกเปลี่ยนก็แอบผิดหวัง แต่กไ็ ม่ได้พูดอะไร พูดจบหนึ่ ง
ประโยคก็โบกมือเดินกลับไป
จ้า วเหวิ น เทาเดิ น ทางมาหาพี่ ส าวห้ า ซึ่ งพี่ ส าวห้ า จ้า ว
ทางานอยูท่ ี่โรงงานยาสี ฟัน
ครั้นพี่สาวห้าจ้าวได้ยนิ คนไปแจ้งก็เดินออกมา และยิม้ ให้
น้องชายหกทันทีที่เห็นหน้า
“นายไปรอที่บา้ นก่อน ฉันยังเหลืออีกสองชัว่ โมงกว่า ๆ
ถึงจะเลิกงาน” พี่สาวห้าจ้าวพูดด้วยรอยยิม้ พร้อมกับยื่นกุญแจ
ให้เขา
“ครับ งั้นผมไปรอที่บา้ นก่อนนะ” จ้าวเหวินเทาตอบด้วย
รอยยิม้
พี่สาวห้าจ้าวหยิบเงินและคูปองออกมาจากกระเป๋ ายัดใส่
มือน้องชาย “ตอนนี้ ไม่รู้ว่ายังมีอะไรให้กินอีกหรื อเปล่า ถ้ามี
นายก็แวะซื้อของกินสักหน่อย ถ้าไม่มีให้ลองขึ้นไปดูดา้ นนอก
เดินทางมาถึงนี่คงหิวแย่เลยใช่ไหม?”
อย่าพูดถึงเลย ตอนนี้เลยเวลาร้านอาหารของรัฐแล้ว จึงไม่
มีอะไรให้กินสักอย่าง
แต่จา้ วเหวินเทาได้กินซาลาเปาเนื้อหอมกรุ่ นแล้ว อีกอย่าง
ราคาก็ถูกกว่าร้านอาหารของรัฐอีกนิดหน่อยด้วย!
นี่เป็ นซาลาเปาที่เขาซื้ อมาจากในตะกร้าของหญิงสาวคน
หนึ่ ง หนึ่ งลูกราคา 1.3 เหมา นอกจากนี้ ยงั มีคูปองข้าวอีกหนึ่ง
ใบด้วย
ถูกกว่าในร้านอาหารของรัฐหนึ่ งเฟิ น แต่ประเด็นสาคัญ
คือไส้ขา้ งในไม่ได้ดอ้ ยไปกว่าร้านอาหารของรัฐเลย!
จ้าวเหวินเทากินเสร็ จไปหนึ่งลูกก็รู้สึกว่ารสชาติไม่เลวจึง
วนกลับไปใหม่อีกครั้ง จากนั้นก็ซ้ื อมาอีกสองลูกและกิ นจน
หมดเกลี้ยง ในท้องจึงอิ่มไปหลายส่ วน
อันที่จริ งเขาคิดอยากจะซื้ อกลับไปให้ภรรยาด้วย เพียงแต่
ไม่ ส ามารถน ากลับ ไปได้ คนในบ้า นมี จ านวนเยอะเกิ น ไป
ซาลาเปาสองลูกจะแบ่งกันอย่างไร? แถมยังสวมใส่ เสื้ อผ้าน้อย
ชิ้นเพราะอากาศร้อนด้วย จึงไม่มีที่ให้ซ่อน
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้นาไปฝากเธอ ซื้ ออีกหนึ่ งลูกเก็บไว้ให้
หลานสาวของเขาก็พอแล้ว
พี่สาวห้าของเขาแต่งงานเมื่อห้าปี ที่แล้ว ตอนนี้หลานสาว
อายุได้สามขวบ และเข้าโรงเรี ยนอนุบาลแล้วด้วย
จ้า วเหวิ น เทาไม่ ไ ด้เ ข้า ไปที่ บ้า นของพี่ ส าวห้า ในทัน ที
ตอนนี้ยงั เช้าอยู่ ดังนั้นเขาจึงปั่ นจักรยานเตร็ ดเตร่ ไปอีกหลายที่
นอกจากหญิงชราตัวเล็กที่เขาเจอก่อนหน้านี้ เขาก็ยงั เจอคนอื่น
ๆ ด้วย ซึ่ งต่างก็ถามว่าเขาจะแลกอาหารที่อยูด่ า้ นหลังจักรยาน
หรื อไม่?
ก่อนหน้านี้ใครจะกล้าถามบนท้องถนนกัน ทาได้เพียงแค่
ถามอยู่ในซอยเล็ก ๆ เท่านั้น ต่อให้ถามก็ยงั ต้องแอบกระซิ บ
ถามเลย
จ้าวเหวินเทาปั่ น จักรยานมาถึ งด้า นนอกโรงภาพยนตร์
และเขาก็พบว่ามีเด็กกาลังถือตะกร้าขายถัว่ ลิสงต้ม ถัว่ เหลือง
ผัดอะไรพวกนั้นมากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้
เขาใช้เงินไม่กี่เฟิ นซื้ อมาหนึ่ งถุง แต่ก็แพงจริ ง ๆ เพียงใช้
น้ าเกลือต้มแบบนั้น ราคาก็เพิม่ ขึ้นหลายเท่าแล้ว!
จ้าวเหวินเทาเห็ นพวกทหารอาสาออกลาดตระเวนด้วย
ก่อนหน้านี้ ถา้ คนพวกนั้นเห็นก็คงมาจับตัวไปแล้ว แต่ตอนนี้
กลับทาเป็ นหลับหูหลับตาข้างหนึ่ง
เขาตระหนักได้อย่างฉับไว กระแสนิยมทางสังคมแตกต่าง
จากเดิมแล้วจริ ง ๆ!
สิ่ งนี้ทาให้เขาที่กาลังจะแยกบ้านในเร็ ว ๆ นี้ร้อนใจจนลุก
เป็ นไฟ!
ตอนที่ 25 พีส่ าวห้ าจ้ าว

เขาไปร้านตีเหล็กเพื่อจองกรงกระต่าย ตอนนี้ กระต่ายยัง


เล็กอยู่จึงยังไม่ตอ้ งกลัว แต่หลังจากที่พวกมันเติบใหญ่ก็ตอ้ ง
เลี้ยงในกรงเหล็กแล้ว
ครั้ นเห็ น ว่า ใกล้ถึ ง เวลา จ้า วเหวิน เทาจึ ง เดิ น ทางมารอ
พี่สาวห้าที่บา้ น
บ้านของพี่สาวห้าเป็นบ้านหลังเดี่ยวขนาดเล็ก ตอนนั้นที่
ซื้ อบ้านก็ใช้เงิ น 400 กว่าหยวนพร้ อมกับธัญพืชขัดสี อีก 100
ชัง่ เนื่องเพราะมีเงินไม่มากพอ พี่สาวห้าจึงยืมเงินอีกส่ วนหนึ่ ง
จากทางบ้าน
แน่นอนว่าใช้คืนจนครบไปตั้งนานแล้ว
ก่อนหน้านี้พี่สาวห้ากับพี่เขยห้าอยูบ่ า้ นเดียวกับพ่อแม่สามี
จะว่า ไปแล้วที่ พี่ สาวห้าได้รู้ จ ัก กับพี่เ ขยห้าก็เ ป็ นเพราะ
ผลงานของพี่เขยใหญ่
พี่ เ ขยห้า เป็ นลู ก พี่ ลู ก น้อ งเพื่ อ นร่ ว มงานของพี่ เ ขยใหญ่
โชคชะตาจึงกลายเป็ นเรื่ องบังเอิญ
เพียงแต่บา้ นสามีของพี่สาวห้านั้นแตกต่างจากบ้านสามี
ของพี่สาวใหญ่ สามีพี่สาวใหญ่เป็นลูกชายคนเดียวจึงไม่ได้มี
ความซับซ้อนอะไร แต่คนในบ้านของสามีพี่สาวห้านั้นมีเยอะ
มาก ครอบครั ว ใหญ่ อ ยู่ ด้ว ยกัน จะไม่ เ กิ ด ความขัด แย้ง ได้
อย่างไร?
สามีพี่สาวห้าเป็นคนขับรถบรรทุก ก่อนจะได้ออกรถก็ดี
ใจเป็ นอย่างมาก เพราะภรรยาของเขาตั้งครรภ์แล้ว หลังจาก
ออกรถและกลับมา ภรรยาของเขากลับต้องการหย่ากับเขา!
เพราะลูกในท้องถูกหลานชายของเขาทาร้ายจนแท้ง อีก
อย่างพ่อแม่ของเขาก็ลาเอียงไปทางฝั่งหลานชายคนโตด้วย!
พี่สาวห้าไม่ได้อยากหย่ากับเขาจริ ง ๆ หรอก ง้อกันไปง้อ
กันมาสุ ดท้ายก็คืนดีกนั จากนั้นก็พูดกับพ่อแม่ถึงเรื่ องแยกบ้าน
ออกไปตรง ๆ
เกื อ บจะเรี ยกได้ ว่ า ออกจากบ้า นตัว เปล่ า เลยก็ ว่ า ได้
เงิ น เดื อ นก่ อ นหน้ า นี้ ก็ จ่ า ยให้ ค นใหญ่ สุ ด ในบ้า นทั้ง หมด
นอกจากค่าใช้จ่ายงานแต่งงานโดยพื้นฐานเขาก็ไม่ได้ใช้เงิ น
เลย อีกอย่างเงินเดือน 52 หยวนที่เขาได้ในแต่ละเดือน ทางาน
มาสามปี เงินก็อยู่กบั พ่อแม่ของเขาทั้งหมด ท้ายที่สุดเมื่อแยก
บ้านออกมาก็ไม่ได้ส่วนแบ่งอะไรแม้แต่นิดเดียว
โชคดี ที่พี่เขยห้าไม่ใช่ คนโง่ เขาแอบซ่ อนเงินส่ วนตัวไว้
ส่ วนหนึ่ ง แต่ซ้ื อบ้านหลังเล็กนี้ ก็ยงั ไม่พออยู่ดี ขาดไปอีกนิ ด
หน่อย จึงต้องกลับมายืมเงินที่บา้ น
หลังจากซื้ อบ้านหลังเล็กนี้ แล้ว พวกเขาทั้งสองคนถึงจะ
ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุ ข หลังจากนั้นผ่านไปไม่นานก็มีลูกสาว
เพิ่มมาหนึ่งคน
พี่เขยห้าต้องขับรถไปส่ งของ ตอนนี้พี่สาวห้าจ้าวของเขาก็
ได้เป็ นลูกจ้างประจาแล้ว ย่อมต้องทางานจนหัวหมุน
ก่อนหน้านี้ ตอนที่หล่อนตั้งครรภ์ หล่อนก็เรี ยกให้พี่สาว
ใหญ่จา้ วไปทางานแทน ตอนนี้ ลูกโตและส่ งเข้าเรี ยนอนุ บาล
แล้ว หล่อนจึงกลับไปทางานอีกครั้ง
พี่ ส าวทั้ง สองของเขาแต่ ง งานเข้า มาอยู่ใ นตัว เมื อ ง ซึ่ ง
ภายในหมู่บา้ นแห่ งนี้รักศักดิ์ศรี มาก โดยเฉพาะช่วงฉลองวันปี
ใหม่ พี่ ส าวทั้ง สองก็จ ะหิ้ ว ของกลับ มา ซึ่ งท าให้ค นที่ อ ยู่ใ น
หมู่บา้ นต่างพากันอิจฉาตาร้อน
ช่ วงนี้ พี่เขยห้าขับรถไปข้างนอก พี่สาวห้าจึงต้องใช้ชีวิต
อยู่ก ับ ลู ก สาว ที่ นี่ อ ยู่ใ กล้เ ขตปกครองมาก จึ ง ไม่ มี ใ ครกล้า
กาเริ บเสิ บสาน
ผ่านไปได้ไม่นานพี่สาวห้าจ้าวก็ขี่จกั รยานพาสวีโหรวผู ้
เป็ นลูกสาวกลับมา
“โหรวโหรว ยังจาน้าได้หรื อเปล่าเอ่ย” จ้าวเหวินเทารับ
หลานสาวมาอุม้ ด้วยรอยยิม้
“หนูจาคุณน้าได้ค่ะ!” โหรวโหรวน้อยพูดเจือรอยยิม้
ชี วิ ต ของสาวน้อ ยช่ า งมี ค วามสุ ข เสี ย เหลื อ เกิ น อยู่ ใ น
ครอบครั ว ที่ มี ร ายได้ส องทาง ตอนนี้ ในบ้า นมี เ ธอหนึ่ ง คน
ฐานะทางบ้านย่อมดีอยูแ่ ล้ว สวมใส่ ดว้ ยเสื้ อตัวเล็กพอดีตวั ไม่มี
รอยเย็บปะ แถมยังตัวอ้วน ๆ ผิวขาว ๆ เป็ นที่ชื่นชอบของผูอ้ ื่น
อย่างมาก
“อันนี้ซาลาเปาเนื้อ เอาไปให้แม่อุ่นให้ร้อนสักหน่อยก็กิน
ได้แล้ว” จ้าวเหวินเทาหยิบซาลาเปาเนื้อที่ถูกห่ ออยูใ่ นกระดาษ
ไขพร้อมกล่าว
สาวน้อยย่อมรู ้สึกดีใจเป็ นอย่างมาก
พี่ ส าวห้ า จ้า วเดิ น เข้า ไปเตรียมท ากับ ข้า วด้า นในด้ว ย
รอยยิม้ และเอ่ยขึ้น “ตอนนี้ที่บา้ นเป็ นยังไงบ้างจ๊ะ?”
“ก็ดีนะครับ” จ้าวเหวินเทาพูด
“แล้วน้องสะใภ้ทอ้ งหรื อยังล่ะ?” พี่สาวห้าจ้าวเอ่ยขณะตัก
ข้าว
“ยังเลยครับ” จ้าวเหวินเทาส่ ายหน้า
“ยังไม่ทอ้ งอีกเหรอ?” พี่สาวห้าจ้าวออกอาการประหลาด
ใจ “นี่แต่งเข้าบ้านมาตั้งนานแล้วนะ ยังไม่มีข่าวดีอีกเหรอ?”
“ยังไม่มีข่าวดีนี่แหละดี ไม่ง้ นั อยากได้อะไรก็ไม่ได้ แถม
ยังดูแลลูกได้ไม่ดีอีกไม่ใช่เหรอครับ?” จ้าวเหวินเทาพูด
“ถึงแม่ดูแลคนอื่นไม่ดี แต่ไม่มีทางดูแลลูกของนายไม่ดี
อยูแ่ ล้ว” พี่สาวห้าจ้าวเอ่ยขณะตั้งเตาถ่าน
จ้าวเหวินเทาแอบรู ้สึกอิจฉาเตาถ่านนี้ ถ้าหากแยกบ้านเขา
ก็อยากมี สักหนึ่ งเตา อยากกิ นอะไรก็จะได้กินได้ “ถึ งแม่ จะ
ลาเอี ยงแต่ ผมจะลาเอี ยงได้ยงั ไงล่ ะครั บ ยังไงก็กินข้าวหม้อ
เดี ยวกันอยู่ดี แต่ไม่เป็ นไรหรอก อีกไม่นานก็จะได้แยกบ้าน
แล้วล่ะครับ”
“แยกบ้าน?” พี่สาวห้าจ้าวตกตะลึง อดไม่ได้ที่จะหันมอง
น้องชายตนเอง
“ใช่ครับ แยกบ้าน ผมแต่งงานแล้วก็ควรจะแยกบ้านสิ รอ
แยกบ้านเมื่อไหร่ ผมกับภรรยาอยากกินอะไรก็สะดวกขึ้นเยอะ
เลย ถึงเวลานั้นถ้าหากหล่อนท้อง ลูกผมก็สามารถเติบโตได้
เป็ นอย่า งดี เ ลยล่ ะ !” จ้า วเหวิ น เทาพู ด อย่ า งมี ห ลัก การและ
เหตุผล
พี่สาวห้าจ้าวไม่ รู้ว่าควรจะร้ องไห้หรื อหัวเราะดี หล่ อน
รู ้สึกดี กบั น้องชายคนเล็กคนนี้ มากที่สุด เพราะหล่อนเป็ นคน
เลี้ยงเขามา แน่นอนว่าน้องชายคนนี้กไ็ ม่ทาให้หล่อนผิดหวัง มี
อะไรก็ไม่เคยลืมที่จะแบ่งปันให้หล่อนส่ วนหนึ่ง
“ถ้าแยกบ้านแล้ว นายก็ตอ้ งตั้งใจไปทางานนะ ไม่ง้ นั จะ
เลี้ยงลูกเลี้ยงเมียได้ยงั ไง?” พี่สาวห้าจ้าวเริ่ มหยิบเนื้อแดดเดี ยว
ออกมาหัน่ ขณะพูด
เนื้ อแดดเดียวเหล่านี้ เป็นเนื้ อที่สามีของหล่อนนากลับมา
จากด้านนอก มีรสชาติอร่ อยมาก หล่อนเองก็ทาใจกินไม่ค่อย
ได้ แต่นอ้ งชายมาทั้งทีกต็ อ้ งหัน่ ออกมาส่ วนหนึ่งอยูแ่ ล้ว
“ทางานอะไรกันล่ะครับ แบบนั้นเหนื่อยตายพอดี” จ้าวเห
วินเทาหยอกหลานสาวไปพลางพูดไปพลาง
“แล้วถ้าไม่ทางาน นายจะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงเมีย? ยังคิด
อยากให้ลูกเมียกินดีอยูด่ ีอีกเหรอ?” พี่สาวห้าจ้าวอดไม่ได้ที่จะ
พูด
“พี่สาวห้า พี่เขยห้าของผมออกไปวิ่งรถข้างนอก ก็ตอ้ งมี
ความรู ้รอบตัวกว้างขวาง เขาเคยเล่าสถานการณ์ดา้ นนอกให้พี่
ฟังบ้างหรื อเปล่าครับ?” จ้าวเหวินเทาถาม

นี่เป็ นครั้งแรกที่เขาถามสิ่ งเหล่านี้ ซึ่ งพี่สาวห้าจ้าวก็ไม่ได้


ปิ ดบัง “นายอยากฟังด้านไหนล่ะ?”
“เมื่อกี้ผมปั่ นวนดู รอบนอก เห็นมีคนทาค้าขายเยอะแยะ
เลย” จ้าวเหวินเทาพูด
พี่สาวห้าจ้าวพลันตระหนักได้ หล่อนพยักหน้า “นายเลิก
พูดไปได้เลย พี่เขยห้าของนายกลับมาก็คุยกับฉันว่า ด้านนอก
ไม่ ใ ช่ สิ่ ง ที่ พ วกเราทางฝั่ ง นี้ จะเปรี ย บได้ คนที่ อ ยู่ด้า นนอก
จานวนไม่นอ้ ยต่างก็คา้ ขายกันหมดแล้ว แต่ไม่สามารถเป็ นนัก
เก็งกาไรได้!”
สามี ของหล่อนใช้ประโยชน์จากการวิ่งรถเพื่อให้ได้รับ
น้ ามันมาส่ วนหนึ่ ง แต่ละเดือนกลับมาไม่ได้มีแค่เงินเดือน 52
หยวนเท่านั้น แต่ยงั มีรายได้ส่วนอื่นอีกร้อยกว่าหยวนด้วย
ก่ อ นหน้า นี้ ไม่ ไ ด้ก ล้า หาญขนาดนี้ และก็ไ ม่ ไ ด้ก ล้า ท า
เท่าไรนัก แต่ตอนนี้มีลูกเมียแล้ว ถ้าหากทาได้เขาก็จะทาเล็ก ๆ
น้อย ๆ ไม่ได้ทามากมายอะไร
แต่รายได้เหล่านี้กถ็ ือว่าดีมากแล้ว
“ผมจะเป็ นนัก เก็ง ก าไรได้ย งั ไงกัน มากสุ ด ก็แ ค่ คิ ด ว่า
อยากจะเอาของในชนบทส่ งมาขายที่ในเมืองนี่แหละครับ” จ้าว
เหวินเทาพูด
“ถ้าแบบนั้นก็ได้ นายก็เอาของส่ งมาที่ถนนอันซิ่ ง ถนน
อันซิ่ งน่ ะรู ้จกั ใช่ ไหม? อยู่ตรงข้ามห้างสรรพสิ นค้า ไปตั้งแผง
ลอยตรงนั้น ไม่มีใครมาสนใจนายหรอก!” พี่สาวห้าจ้าวพูด
จ้าวเหวินเทาชะงัก “เรื่ องนี้ เกิดตั้งแต่เมื่อไหร่ เนี่ ย? ผมไม่
เห็นเคยได้ยนิ เลย”

“เมื่อเดือนที่แล้วนี่ แหละ ผูว้ ่ามณฑลของพวกเราเป็ นคน


คิด” พี่สาวห้าจ้าวพูด “แต่นายต้องไม่กลัวว่าจะขายหน้าด้วย
นะ”
พูดแบบนี้กใ็ ช่ว่าจะไม่มีเหตุผล เพราะในเวลานี้ใครจะไป
ตั้งแผงลอยขายของกันล่ะ? โดยปกติก็จะเป็ นข้าวที่กินไม่ ได้
พวกนั้น คนปกติที่ไหนจะทาแบบนั้นกัน?
ดังนั้นต้องเป็ นคนไม่กลัวอายด้วยถึงจะทาได้
“จะไปอายทาไม ไม่ได้ขโมยไม่ได้แย่งใครมา ซื้ อขายได้
อิสระ!” จ้าวเหวินเทาได้ยนิ ก็เกิดความตื่นเต้นภายในใจ เขาคิด
ว่าฤดูใบไม้ผลิของเขากาลังจะมาถึงแล้ว!
พี่สาวห้าจ้าวเองก็ไม่อายเหมือนกัน ดังนั้นเมื่อเห็นท่าทาง
ของน้องชายที่ เป็ นแบบนี้ จึ งหัว เราะออกมา หล่ อนคิ ดว่าใน
บรรดาคนที่บา้ นก็มีนอ้ งชายคนนี้แหละที่ทาได้ ส่ วนพวกพี่ชาย
คนอื่น ๆ เกรงว่าต่อให้แจกเงินพวกเขาก็ไม่ยินดี ที่จะออกมา
ค้าขายอยูแ่ ล้ว เพราะเห็นว่ามันไร้เกียรติ!
“แล้ ว นายอยากขายอะไร?” พี่ ส าวห้ า จ้ า วถามขณะ
ทากับข้าว
“พี่สาวห้าลองพูดมาหน่ อยสิ ?” จ้าวเหวินเทาให้พี่สาวห้า
ของเขาช่วยสอน
ตอนที่ 26 อยากซื้อจักรยาน

แน่ นอนว่าพี่สาวห้าจ้าวเคยไปถนนอันซิ่ งมาแล้ว ดังนั้น


หล่อนจึงมีประสบการณ์มาบางส่ วน จึงบอกเล่าเกี่ยวกับสภาพ
โดยรอบของถนนอันซิ่งแห่งนั้นได้
อันที่จริ งก็ไม่ได้มีอะไรให้พูดคุ ยมากมาย เพราะสิ นค้าที่
ขายมีอย่างจากัด ก็มีพวกผักผลไม้อะไรทานองนั้น แม้ว่าจะมี
ไข่ไก่และปลาต่าง ๆ แต่เมื่อเทียบกันแล้วก็ยงั นับว่าน้อยกว่าอยู่
ดี
“ที่ถนนอันซิ่ งทางฝั่งนั้น ต่อให้นายนาถัว่ งอกมาถุงหนึ่งก็
สามารถขายออกไปได้” แม้ว่าพี่สาวห้าจ้าวจะกล่าวแบบนี้ แต่
ก็ยงั คงเป็ นประโยคนั้น คือต้องใจกล้าหน้าด้านถึงจะขายได้
เพราะถ้าไปทาค้าขายทางฝั่งนั้นแล้วมีเพื่อนบ้านทราบ ก็
จะถูกพูดถึงปากต่อปาก แม้แต่เด็กในครอบครัวก็จะถูกเด็กคน
อื่น ๆ ทิ้งให้อยูอ่ ย่างโดดเดี่ยว ไม่มาเล่นกับเด็กของครอบครัว
ที่ทาการค้าขาย
เห็ น ได้ว่ า การค้า ขายนั้น ถู ก ผู ค้ นดู ห มิ่ น ขนาดไหน แต่
พี่สาวห้าจ้าวคิ ดว่าไม่ น่ าจะเป็ นปั ญ หาสาหรั บน้องชายหน้า
หนาของหล่อน
สุ ดท้ายแล้วเขาก็มาซื้ อขายด้วยตัวเอง ภรรยาและลูกต่างก็
อยู่ต่างจังหวัดกันหมด อีกอย่างถ้าเขาสามารถหาเงินมาสร้าง
บ้านอิฐที่ชนบทได้ ก็จะไม่มีใครมาดูถูกเขา บางทีอาจจะต้อง
มาขอคาแนะนาจากเขาด้วยซ้ า
ฐานะคนชนบทด้อยกว่าคนในตัวเมื อง คนในตัวเมื องมี
เงิ น เดื อ นหลายสิ บ หยวนต่ อ เดื อ น แต่ ใ นชนบทล่ ะ ? หนึ่ ง ปี
อาจจะยังมีเงินไม่ถึงกี่สิบหยวนเลยด้วยซ้ า
ดังนั้นผูค้ นในตัวเมืองต่างก็กลัวเสี ยหน้า ย่อมไม่สามารถ
นามาเทียบกันได้
จ้าวเหวินเทารู ้ดีอยูแ่ ก่ใจ ตอนนี้เขารู ้สึกร้อนรนอยู่ภายใน
ใจจริ ง ๆ ทนไม่ไหวจนแทบอยากจะกลับไปลองเพาะถัว่ งอก
ตั้งแต่วนั นี้เลย!
แต่เขารู ้ว่าตนทาไม่ได้ ถ้าเขาจะทาอะไรก็ตอ้ งแยกบ้านให้
ได้ก่อน ไม่เช่นนั้นเงินที่เขาหาได้มาจะกลายเป็ นเงินส่ วนรวม
“พี่ พี่ช่วยซื้อจักรยานให้ผมสักคันสิ ” จ้าวเหวินเทากล่าว
ถ้าต้องการไปค้าขายที่ในเมือง ย่อมไม่สามารถเดินเท้าเข้า
เมืองได้แน่ ๆ เพราะเปลืองเวลาเกินไป ไปกลับรอบหนึ่ งต้อง
ใช้เวลาเท่าไรกัน? จาเป็ นต้องมีจกั รยานสักคันถึงจะทาได้
“ที่บา้ นพอจะมีคูปองอุตสาหกรรมอยู่หน่ อยหนึ่ ง พรุ่ งนี้
ฉันจะให้คนไปแลกมาให้ แล้วจะซื้อให้นายคันหนึ่งนะ” พี่สาว
ห้าจ้าวกล่าว
“พี่ลองดู ให้หน่ อยนะว่ามีรถมือสองหรื อเปล่า ถ้าซื้ อคัน
ใหม่เกินไปคงแพงหูฉี่แหง ๆ” จ้าวเหวินเทากล่าว
“ได้ ถึงตอนนั้นเดี๋ยวจะลองถามให้ว่ามีใครอยากขายบ้าง”
พี่สาวห้าจ้าวกล่าว
สายตาของจ้าวเหวินเทาถูกหมูแดดเดียวผัดมันฝรั่งที่พี่สาว
ของเขากาลังทาอยูด่ ึงดูดไปแล้ว
การได้กินข้าวขาวกับหมูแดดเดียวผัดมันฝรั่งนั้นเป็ นอะไร
ที่ไม่อาจอดใจไหว หลังจากที่รับประทานจนอิ่มแปล้ จ้าวเหวิน
เทาจึงบอกลาพี่สาวห้าจ้าวของเขา จากนั้นจึงขี่จกั รยานไปซื้ อ
เหล้าหนึ่งขวด แล้วกลับบ้าน
เขาไม่กล้านาเหล้าเข้าบ้าน ดังนั้นจึงนามันไปซ่ อนไว้ขา้ ง
นอก หลังจากนาจักรยานไปคืนแล้วจึงกลับมาบ้าน
ทุ กคนในตระกูลจ้าวต่ างรั บประทานอาหารกันแล้ว น้ า
แกงก้อนแป้ ง(1)ในคืนนี้ อร่ อยมาก คุ ณแม่จา้ วยังเหลือให้เขา
ถ้วยหนึ่ง
จ้าวเหวินเทารับประทานไปพลางถอนหายใจไปพลาง น้ า
แกงก้อนแป้ งนี้ อ ร่ อ ยมากอยู่แล้ว แต่ ใครจะไปคิ ดว่าเขาเพิ่ ง
รับประทานข้าวกับหมูแดดเดี ยวผัดมันฝรั่งของพี่สาวห้าจ้าว
กันล่ะ? พอได้รับประทานก็ไม่มีรสชาติเลยจริ ง ๆ
“พ่อของลูกบอกว่าพรุ่ งนี้ จะเชิ ญพวกลุง ๆ มาจัดการเรื่ อง
แยกบ้านนะ” คุณแม่จา้ วกระซิบ
จ้า วเหวิน เทาพยัก หน้า กล่ า วว่า “รี บ แยกเร็ ว เท่ า ไรยิ่ ง ดี
ครับ!”
เขาต้องการซื้ อจักรยานมาทาการค้าขาย ของเหล่านี้ ลว้ น
เป็ นเงินทุนทั้งนั้น เขามีตน้ ทุนเป็ นเงินจากการขายโสมป่ าอยู่
แล้ว แต่จกั รยานอะไรพวกนั้นก็ตอ้ งรอวันแยกบ้านก่อน
เมื่อเขากล่าวจบจึงได้ยนิ เสี ยงถอนหายใจของคุณแม่จา้ ว
“แม่ แม่วางใจเถอะ ต่อให้แยกบ้านไปอยู่กบั ฉู ฉู่แล้วก็ยงั
ต้องกตัญญูกบั พ่อกับแม่อยู่ รอให้ผมมีบา้ นอิฐก่อนนะ ถึงเวลา
นั้นผมจะเหลือห้องให้พ่อกับแม่ดว้ ย!” จ้าวเหวินเทากล่าว
พี่ ส ามจ้า วที่ แ อบฟั ง อยู่ด้า นนอกรู ้ สึ ก ตื่ น เต้น มาก แยก
บ้าน? ในที่สุดก็แยกบ้านแล้วเหรอ?
เขาไม่สนใจคาพูดสุ ดท้ายของเจ้าหก เจ้าหกเป็ นคนขี้โม้มา
แต่ไหนแต่ไรแล้ว มีแค่พ่อแม่เท่านั้นแหละที่เชื่อคาพูดของเขา!
พี่สามจ้าวกลับบ้านอย่างตื่นเต้น พี่สะใภ้สามจ้าวที่กาลัง
เย็บเสื้ อผ้าอยูใ่ นห้องเห็นเขาเข้ามาจึงอดไม่ได้ที่จะพูดไป “ดูลูก
ชายของคุ ณ สิ ค ะ เสื้ อ ตัว นี้ ฉัน เพิ่ ง จะเย็บให้เ ขาได้ไ ม่ น านก็
กลับมาอยูส่ ภาพนี้อีกแล้ว”
พี่สามจ้าวไม่สนใจที่จะฟังเรื่ องนี้ เขาปิ ดประตูหอ้ ง
พี่สะใภ้สามจ้าวกล่าว “คุณจะปิ ดประตูทาไมเนี่ย? ห้องมืด
หมดแล้ว”
พี่ ส ามจ้า วจึ ง เล่ า ในสิ่ ง ที่ เ ขาเพิ่ ง แอบฟั ง มาจากห้องโถง
พี่สะใภ้สามจ้าวตาโต “แยก...แยกจริ ง ๆ เหรอ?”
“จะโกหกเพื่ออะไรล่ะ?” พี่สามจ้าวพึมพา จากนั้นจึงมอง
หล่ อ นด้ว ยสี ห น้า ไม่ พ อใจเท่ า ไรนัก “ทาไม ดู คุ ณ ไม่ ค่ อ ยมี
ความสุ ขเลยนะ?”
“อันที่จริ งไม่แยกบ้านก็ดีมากอยู่แล้วน่ ะค่ะ” พี่สะใภ้สาม
จ้าวกล่าว
“คุ ณไม่อยากเป็ นใหญ่ในบ้านหรื อไง?” พี่สามจ้าวกล่าว
เขาไม่สามารถทนเห็นท่าทางโง่เขลาของเจ้าหกได้ ตอนนี้ยงั ไม่
มีลูกก็ดีอยู่ รอให้มีลูกก่อนเถอะ ถึงเวลานั้นบ้านเจ้าหกคงเดิน
ไม่แตะพื้น* นั่นก็เท่ากับต้องเลี้ยงพวกเขาด้วยไม่ใช่ เหรอ? มี
สิ ทธิ์อะไรกัน?
*เหยาะแหยะ ทาอะไรไม่เป็ น
เขาที่คิดเช่นนี้กไ็ ม่ได้ยอ้ นคิดเลยว่า หม่าต้านผูเ้ ป็ นลูกชาย
และเอ้อ ร์ ห ยาผูเ้ ป็ นลู ก สาวของเขาได้รั บประทานปลาและ
เนื้อสัตว์ที่อาเล็กของพวกเขานามาให้ไม่นอ้ ย
แต่คนเราก็มกั จะสนใจในสิ่ งที่พวกเขาเสี ยไป กลับเพิกเฉย
ในสิ่ งที่ ต นเองได้ รั บ ดั ง นั้ นพี่ ส ามจ้ า วจึ ง รู ้ สึ กว่ า ตั ว เอง
เสี ยเปรี ยบครั้งใหญ่!
ดังนั้นต้องแยกบ้าน แยกบ้านนี่แหละดีที่สุด!
แม้ว่าพี่สะใภ้สามจ้าวจะไม่อยากแยกบ้านขนาดนั้น แต่
หล่อนก็อยากจะมีบา้ นเป็ นของตัวเองเหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่
พูดอะไร
จ้ า วเหวิ น เทาท าให้ แ ม่ ข องเขามี ค วามสุ ข หลั ง จาก
รับประทานน้ าแกงก้อนแป้งแล้ว เขาจึงกลับมายังห้องด้านหลัง
บ้ า น เย่ ฉู ฉู่ ก าลั ง เย็ บ เสื้ อให้ เ ขาอยู่ และเย็ บ ได้ ค่ อ นข้ า ง
คล่องแคล่วเลยทีเดียว
“กินอิ่มไหมคะ?” เย่ฉูฉู่เงยหน้ามองเขาแวบหนึ่ ง พร้อม
กล่าวด้วยรอยยิม้
จ้าวเหวินเทาหรี่ ตาลงและหอมแก้มเธอไปหนึ่ งฟอด ทา
ให้เย่ฉูฉู่หน้าแดงระเรื่ อพลางกลอกตาใส่ เขา ก่อนจะควักเงิน
ออกมาด้วยรอยยิม้ เป็ นเพราะมีคูปองและเงินที่พี่สาวห้าให้มา
ดังนั้นเงินที่ภรรยาของเขาให้ นอกจากจะซื้ อเหล้าและสั่งทา
กรงกระต่ายแล้ว ที่เหลือเขาก็นากลับมาทั้งหมด
กรงกระต่ายราคาไม่แพง ราคาเพียงไม่กี่หยวน จ่ายมัดจา
ไว้แล้ว ครั้งหน้าค่อยจ่ายส่ วนที่เหลือก็เรี ยบร้อย
“ไม่ใช่ เรื่ องง่ายสาหรับพี่สาวห้าเหมือนกัน คุ ณเองก็อย่า
ไปรบกวนมากนักเลยค่ะ” เย่ฉูฉู่ตาหนิ
“ไม่ง่ายอะไรกันครับ พี่สาวห้ามีเงินเดื อนของตัวเองทุก
เดือน เงินเดือนของสามีของพี่สาวห้าก็สูงลิ่วยิ่งกว่า แถมยังมี
เงินเหลือให้จบั จ่ายใช้สอยด้วย จะเห็นพี่เป็ นคนอื่นคนไกลไป
ทาไมล่ะ” จ้าวเหวินเทากล่าวอย่างไม่ใส่ ใจ
เย่ฉู ฉู่ จึ ง ไม่ ก ล่ า วอะไรกับ เขา ตอนนี้ ครอบครั ว มี ฐ านะ
แบบนี้ เรื่ องเหล่านี้จาไว้ก่อน หลังจากนี้ ในอนาคตถ้าสามารถ
ช่วยอะไรได้กอ็ อกแรงช่วยเหลือก็พอแล้ว
จ้าวเหวินเทาเล่าเรื่ องในเมืองให้ภรรยาฟั ง ก่อนที่เขาจะ
กลับบ้านเขาอดไม่ได้ที่จะไปยังถนนอันซิ่ งด้วยความตื่นเต้น
เขาคุน้ เคยกับที่นนั่ มาก
ทั้งยังมีผคู ้ นตั้งแผงขายของ ขายหัวไชเท้าตะกร้าหนึ่ง และ
มีขายเส้นมันเทศ กากข้าวโพดและอื่น ๆ ด้วย แถมยังขายใน
ราคายุติธรรมอีก ไม่มีใครเร่ งรี บและไม่มีใครพูดอะไร!
เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้ “แล้วคุณมีแผนจะทาอะไรต่อเหรอ
คะ?”
“แม่บอกกับผมแล้วว่าพรุ่ งนี้ พวกลุงจะมาเป็ นพยาน พ่อ
กับแม่จะให้พวกเราแยกบ้านกันแล้ว!” จ้าวเหวินเทากล่าว
เย่ฉูฉู่พยักหน้า เธอไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่ องนี้ เพราะ
ตอนนี้ เป็นช่ วงเวลาว่างจากการทานาแล้ว ไม่มีเรื่ องอะไรต้อง
กังวล จึงสามารถแยกบ้านได้
“ภรรยา ถ้าแยกบ้านแล้ว ผมอยากซื้ อจักรยานสักคันจะได้
ไหม?” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้ อย่างเอาอกเอาใจ
เขารู ้ดีว่าจักรยานมีราคาแพง แต่มนั เป็ นเรื่ องที่หลีกเลี่ยง
ไม่ได้ ไม่มีรถจักรยานก็ไม่ได้เหมือนกันนัน่ แหละ
“ต้องซื้ออยูแ่ ล้วล่ะค่ะ” เย่ฉูฉู่พยักหน้า
จ้าวเหวินเทาไม่คิดว่าภรรยาของเขาจะเห็นด้วยกับเรื่ องนี้
จึงชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นจึงกล่าวอย่างระมัดระวัง “ภรรยา
จักรยานราคาร้อยกว่าหยวนเลยนะครับ”

(1) 面疙瘩汤 น้ าแกงชนิ ดหนึ่ งที่ใส่ กอ้ นแป้ งพร้อม


กับ เครื่ องเคี ย งอื่ น ๆ คล้า ย ๆ กับ ซุ ป มัก กะโรนี ข องทาง
ตะวันตก
ตอนที่ 27 แยกบ้ าน (1)

จักรยานหนึ่ งคันต้องใช้คูปองอุ ตสาหกรรมหลายสิ บใบ


ไม่เช่นนั้นต่อให้มีเงินก็ไม่สามารถซื้อได้
ถ้าสามารถซื้ อรถมือสองได้ราคาก็จะไม่แพงขนาดนั้น แต่
รถมือสองก็ใช่ว่าจะหาซื้ อได้ง่ายๆ นานๆ จะเจอคนปล่อยขาย
สักหนหนึ่ง
“งั้น ก็ต ้อ งซื้ อ แล้ว ล่ ะ ค่ ะ ระยะทางไกลขนาดนั้น คุ ณ จะ
อาศัยเพียงสองเท้าเดินไปเหรอ ซื้ อมาก็ได้ใช้ทุกวันนัน่ แหละ”
เย่ฉูฉู่นึกว่าเขาตัดใจซื้อไม่ได้ จึงพูดโน้มน้าวใจเขาเสี ยเอง
จ้า วเหวิ น เทาเห็ น แววตาของภรรยาก็เ ข้า ใจได้ เขายิ้ม
ออกมาโดยพลัน มีภรรยาที่คอยสนับสนุ น เขาจะไม่ประสบ
ความสาเร็จได้อย่างไรกัน?
ในคืนนั้นเองตระกูลจ้าวได้จดั ประชุมหารื อเรื่ องการแยก
บ้าน
การแยกบ้านเป็ นเรื่ องกะทันหันขนาดนั้น แต่ยงั ไงมันก็
เป็ นเรื่ องธรรมดา เพราะไม่มีเหตุผลที่จะไม่แยกบ้าน จ้าวเหวิน
เทาลูกชายคนสุ ดท้องก็แต่งงานเป็ นฝั่งเป็ นฝาแล้ว ตามกฎของ
หมู่บา้ นก็ตอ้ งแยกบ้าน
นี่เป็ นเรื่ องที่ปกติมาก
ในฐานะที่พี่รองจ้าวเป็ นลูกชายคนโต เขาย่อมเป็ นคนแรก
ที่เกลี้ยกล่อมให้พ่อและแม่ไม่แยกบ้าน ถึงแม้ว่าพี่สะใภ้รองจ้า
วจะแอบกังวล แต่หล่อนก็ทาได้เพียงคล้อยตามและช่ วยโน้ม
น้าวคุณพ่อคุณแม่
พี่สามจ้าวก็ช่วยเกลี้ยกล่อมด้วย กล่าวว่าเรื่ องนี้ คุยกันจบ
แล้วทาไมถึ งยังมาพูดเรื่ องแยกบ้านกันอี ก? การที่ ครอบครัว
ใหญ่ได้อยูด่ ว้ ยกันมันดีขนาดไหน?
พี่สะใภ้จา้ วสามหน้าไม่หนาเท่าเขาที่จะพูดออกมาแบบนี้
หล่อนจึงทาได้แค่อยูอ่ ย่างเงียบ ๆ
จ้าวเหวินเทาและเย่ฉูฉู่มองดูพวกเขาเล่นใหญ่แล้วก็พอจะ
มองออกว่าพี่รองจ้าวไม่คิดอยากจะแยกบ้านจริ ง ๆ แต่พี่สะใภ้
รองจ้า วกลับ แสดงออกอย่ า งชั ด เจนว่ า ต้อ งการแยกบ้า น
เพียงแต่ปากแค่พูดว่าไม่แยกบ้านก็เท่านั้น
ยัง มี พี่ ส ามจ้า วอี ก คน เย่ ฉู ฉู่ น้ ั นยัง ดี ที่ ไ ม่ ไ ด้ บ่ น อะไร
ออกไป แต่จา้ วเหวินเทากลับอึดอัดใจที่สุดกับพี่สามของเขา
คนนี้ ช่างหน้าซื่อใจคดเสี ยเหลือเกิน
อยากแยกบ้านก็แยกสิ ไม่มีใครว่าอะไรเขาสักหน่ อย แต่
เขากลับทาตัวเป็ นคนดีไปได้!
เมื่ อกล่ าวถึ งเรื่ องนี้ ข้ ึนมาจริ ง ๆ คนที่ ไม่ เต็มใจที่ จะแยก
บ้านมากที่สุดจึงมีเพียงพี่สี่จา้ วและพี่สะใภ้สี่จา้ ว
ทั้งสองคนไม่เคยรู ้ข่าวนี้ มาก่อน ดังนั้นเมื่อได้ยินข่าวนี้ ก็
ถึงกับตกตะลึง
“พวกเธอสองคนพูดอะไรกันเนี่ ย” คุณแม่จา้ วถลึงตามอง
พวกเขาทั้งสองคนแวบหนึ่ง
นางแค่เอ่ยปากถาม แต่อย่างไรก็ตอ้ งแยกบ้านอยูแ่ ล้ว
“พ่อ แม่ พวก...พวกเราอยู่ดว้ ยกันก็ดีอยูแ่ ล้วทาไมถึงต้อง
แยกบ้า นด้ว ยล่ ะ ครั บ ?” พี่ จ ้า วสี่ พู ด ตะกุก ตะกัก แม้ว่า เขาจะ
กล่าวอย่างโง่งม แต่สีหน้าของเขากลับวิตกกังวลจริ ง ๆ
เพราะเขาไม่ได้คิดเรื่ องที่จะแยกบ้านเลยแม้แต่น้อย และ
คิดว่าพ่อกับแม่ของเขาก็คงไม่ยอมให้แยกบ้านด้วย ใครจะไปรู ้
ว่าทั้งคู่จะหยิบยกเรื่ องนี้ข้ ึนมาพูดอย่างกะทันหันแบบนี้!
เช่ น เดี ย วกับ พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วที่ มี ท่ า ทางวิ ต กกัง วลเช่ น กัน
“นั่น สิ ค ะคุ ณ พ่ อ คุ ณ แม่ เราอยู่ก ัน อย่า งนี้ ก็ดี แ ล้ว ครอบครั ว
ใหญ่ ก็ มี ค วามสุ ข ดี ไ ม่ ใ ช่ เ หรอคะ ท าไมถึ ง ต้อ งแยกบ้า น
กะทันหันแบบนี้ ด้วยล่ ะ ?” หล่ อนกล่ าวคนเดี ยวไม่ พอ ยังดึ ง
จ้าวเหวินเทาและเย่ฉูฉู่เข้ามาด้วย “พวกเธอทั้งสองคนก็พู ด
อะไรหน่อยสิ ครอบครัวเราก็ดีอยูแ่ ล้ว จะแยกบ้านไม่ได้นะ!”
การที่ พี่ ส ะใภ้สี่ ไ ม่ อ ยากแยกบ้า นไม่ ใ ช่ เ รื่ อ งผิ ด อะไร
เพราะหล่ อนมี เพียงลู กสาวสองคน แต่ ไม่ มีลูกชายแม้แต่คน
เดี ยว ลู กสาวทั้งสองคนจะไปทาอะไรได้? ทางานแบกหาม
อะไรก็ไม่ได้ ครั้นเติบโตก็เปลี่ยนเป็ นสิ นสอดทองหมั้นแต่ ง
ออกจากบ้านหมดแล้ว ลู กชายที่ จะอยู่ขา้ งกายของหล่อนแม้
เพียงคนเดียวก็ไม่มี!
ถ้าครอบครัวนี้แยกกันแล้ว หล่อนจะทาอย่างไรล่ะ?
“พี่สะใภ้สี่ พี่เองก็ไม่ชอบที่ผมไม่ยอมทางานทาการไม่ใช่
เหรอครับ แยกบ้านกันตอนนี้กเ็ ป็ นเรื่ องที่ดี หลังจากนี้ทุกคนก็
ได้มี ชี วิ ต เป็ นของตัว เอง ไม่ ต ้อ งให้ใ ครพู ด ถึ ง ใครแล้ว นี่ ก็
เป็ นไปตามความปรารถนาของพี่เลยนะครับ!” จ้าวเหวินเทาเบ้
ปากพูด
เสแสร้งแบบนี้ให้ใครมองล่ะ? ปกติกเ็ ป็ นพี่สะใภ้สี่คนนี้ที่
คิดเล็กคิดน้อยมากที่สุด แถมยังพูดจาให้ร้ายลับหลังเขาไม่นอ้ ย
พี่ สี่ จ ้า วกล่ า วอย่า งร้ อ นใจ “นี่ ม ัน อะไรกัน ? นี่ ม ัน อะไร
กัน?”
เขาเองก็ไม่อยากแยกบ้านเหมือนกับพี่สะใภ้สี่จา้ ว เพราะ
เขาไม่ มี ลู ก ชาย ถ้ า แยกบ้ า นไปแล้ ว ก็ มี เ พี ย งไม่ กี่ ค นใน
ครอบครัว เมื่อถึงตอนนั้นคงไม่มีใครช่วยเหลือเขาได้แล้ว
ครอบครัวต้องอาศัยแรงกายของเขาและภรรยาเพียงสอง
คน จะพอหาเลี้ยงปากท้องของคนในครอบครัวได้อย่างไร?
ยังดีที่ภรรยาของเขาไม่ได้ต้ งั ครรภ์ ถ้าหากภรรยาของเขา
ตั้ งครรภ์ ข้ ึ นมาก็ ไ ม่ ส ามารถท างานได้ เท่ า กั บ เขาต้ อ ง
รับผิดชอบครอบครัวเพียงคนเดียวเลยนะ!
“พี่สี่ ผมรู ้ ว่าพี่เป็ นคนดี ในใจของพี่ยงั เห็ นผมคนนี้ เป็ น
น้องชาย ถ้าน้องชายอย่างผมประสบความสาเร็ จในอนาคต ผม
จะไม่ลืมพี่อย่างแน่นอน” จ้าวเหวินเทาปลอบพี่สี่ของเขา
พี่สี่ของเขาคนนี้ เป็นคนซื่ อสัตย์มาก เพราะเขาเป็นคนซื่ อ
เกิ นไปนี่ เอง ดังนั้นแม่ ของเขาจึ งให้เขาแต่ งงานกับผูห้ ญิ ง ที่
ฉลาดกว่าเพื่อที่จะได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
ใครจะไปคิ ด ว่าเขาจะตบแต่ ง กับพี่ส ะใภ้สี่ แสนใจแคบ
กลับมาที่บา้ น
“เจ้าหก นายรี บพูดกับพ่อสิ พวกเรา...พวกเราไม่แยกบ้าน
แล้ว!” พี่สี่จา้ วพูดตะกุกตะกัก เขาเป็นคนพูดไม่เก่ง ยิ่งไม่ตอ้ ง
พูดถึงยามต้องพบเจอเรื่ องด่วนแบบนี้เลย
“เรื่ องนี้เจ้าหกจะไปทาอะไรได้? พ่อกับแม่บอกแล้วไงว่า
จะแยกบ้านแล้ว” พี่สามจ้าวทนไม่ไหวอีกต่อไป ด้วยกลัวว่าจะ
ไม่สามารถแยกบ้านได้ เขาถอนหายใจในทันที
พี่สะใภ้สี่จา้ วมองไปทางบ้านรองและบ้านสาม ทันใดนั้น
จึงพบว่าตัวเองคงจะเป็ นคนเดียวที่โดนหลอกอยู!่
เพราะหล่ อ นค่ อ นข้า งสนิ ท กับพี่ ส ะใภ้ร องและพี่สะใภ้
สาม และตีตวั ออกห่างจากเย่ฉูฉู่นอ้ งสะใภ้หกคนนี้ เพราะอยาก
ให้เธออยูอ่ ย่างโดดเดี่ยว
แต่ในวันนี้จู่ ๆ ชะตาของหล่อนกลับพลิกจากหน้ามือเป็ น
หลังมือ
หล่อนรู ้สึกว่าตัวเองถูกหลอกเข้าแล้ว เพราะหล่อนไม่มีลูก
ชาย จะไปสนิ ทกับพวกหล่อนทั้งสองคนได้อย่างไรกัน? พวก
หล่อนทั้งสองคนต่างก็มีลูกชาย เถี่ยต้านของพี่สะใภ้รองอายุ
สิ บสองปี หลูตา้ นอายุสิบปี ส่ วนหม่าต้านของพี่สะใภ้สามที่
เกิดปี เดียวกันกับหลูตา้ นก็มีอายุสิบปี เช่นเดียวกัน
หลังจากผ่านไปอีกสักสองสามปี ก็สามารถใช้แรงงานได้
แล้ว!
แต่ครอบครัวของหล่อนและบ้านหกล่ะ? หล่อนยังไม่มีลูก
ชาย มีเพียงลูกสาวสองคน ส่ วนครอบครัวทางบ้านหกก็ยงั ไม่มี
ข่าวคราวว่าจะตั้งครรภ์ แม้แต่ลูกสาวก็ไม่มี
นี่เป็ นการยืนผิดฝั่งโดยแท้!
“ก่อนหน้านี้ฉนั มองไม่ออกจริ ง ๆ ไม่คิดว่าพี่สามจะแสดง
ได้ดี ข นาดนี้ เปลี่ ย นสี ห น้า ซะรวดเร็ ว ขนาดนี้ เกรงว่า แม้แ ต่
นักแสดงหลักบนเวทีกเ็ ทียบไม่ติดเลยนะคะ!” พี่สะใภ้สี่จา้ วกัด
ฟันกล่าวด้วยโทสะ
หล่อนรู ้สึกว่าเรื่ องการแยกบ้านนี้ ตอ้ งเป็ นเรื่ องที่บา้ นรอง
และบ้านสามเป็ นคนหยิบยกขึ้นมาพูดอย่างแน่นอน!
“น้องสะใภ้สี่พูดเรื่ องอะไรน่ ะ!” พี่สามจ้าวรู ้สึกเสี ยหน้า
ตาหนิเสี ยงเกรี้ ยวกราด
“แล้ว ฉัน พู ด ผิด ตรงไหน ไม่ ใ ช่ เ พราะพี่ สามกับพี่ รองที่
ต้อ งการให้คุ ณ พ่ อ คุ ณ แม่ แยกบ้า นเหรอคะ? ตอนนี้ ยัง จะมา
แกล้งทาไก๋ อะไรอีก ลูกชายของพวกพี่ก็โตกันหมดแล้ว แยก
บ้า นได้ก็ค งมี ค วามสุ ข มากแน่ ๆ เป็ นเรื่ อ งที่ ดี จ ริ ง ๆ อาศัย
ครอบครัวเลี้ยงดูลูกชายจนเติบใหญ่ แล้วก็คิดแยกบ้านออกไป
คานวณแผนการไว้ได้ดีจริ ง ๆ!” พี่สะใภ้สี่จา้ วร่ ายยาวด้วยความ
คับแค้นใจ
พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าวด้วยสี หน้าเคร่ งเครี ยด “เธอพูดอะไร
ของเธอ พวกเราไม่เคยพูดเรื่ องแยกบ้านมาก่อนเลยนะ!”
“นั่นสิ น้องสะใภ้สี่เธออย่าหาเรื่ องไปทัว่ เลย!” พี่สะใภ้
สามจ้าวก็ไม่มีความสุ ขเช่นกัน จึงกล่าวออกมา
ถ้าเรื่ องนี้ แพร่ งพรายออกไป ชื่ อเสี ยงของพวกหล่อนจะ
เสื่ อมเสี ยขนาดไหนกัน? ยังจะอยูใ่ นหมู่บา้ นนี้ได้อีกเหรอ?
พี่สะใภ้สี่จา้ วกาลังจะลุกขึ้นทะเลาะกับพวกหล่อน
จ้าวเหวินเทาและเย่ฉูฉู่ต่างไม่พูดไม่ จาขณะมองดู ความ
คึกคักนี้ พวกเขาไม่ได้โง่ ทั้งคู่ไม่มีทางพูดออกไปหรอกว่าเป็ น
พวกเขาที่ตอ้ งการแยกบ้าน
แต่ การแยกบ้านอันที่ จริ งแล้วเป็ นเรื่ องที่ ดีมาก เย่ฉูฉู่ ไม่
อยากใช้ชีวติ แบบนี้ต่อไปจริ ง ๆ โดยเฉพาะพี่สะใภ้สี่จา้ วที่ชอบ
จ้องจับผิดคนอื่น การถูกจ้องมองราวกับหัวขโมยแบบนี้ ทาให้
รู ้สึกไม่ดีเอาเสี ยเลย!
“พอแล้ว จะทะเลาะกันทาไม นี่เป็ นเรื่ องที่ฉนั และพ่อของ
พวกเธอคิ ดอยากแยกบ้า นเองต่ า งหาก พวกเธอทุ กคนต่ า งก็
แต่งงานเป็ นฝั่งเป็นฝาแล้ว ตามกฎของหมู่บา้ นก็ตอ้ งแยกบ้าน
ก่อนหน้านี้ เป็นเพราะเหวินเทาเพิ่งแต่งงาน และไม่มีเวลาว่าง
จึงทาให้ล่าช้าออกไป แต่ตอนนี้เป็ นช่วงเวลาว่างจากการทานา
แล้ว การแยกบ้านก็เป็ นเรื่ องที่ควรทาไม่ใช่ เหรอ? จะทะเลาะ
กันเพื่ออะไร!” คุณแม่จา้ วส่ งเสี ยงเอ็ดด้วยใบหน้าเย็นชา
ตอนที่ 28 แยกบ้ าน (2)

“คุ ณแม่ นี่ มนั กะทันหันเกินไปแล้ว พวกเรายังไม่ทนั ได้


เตรี ยมตัวเลยค่ะ” พี่สะใภ้สี่จา้ วกล่าวด้วยสี หน้าขมขื่น
“กะทันหันอะไร? ไม่ ใช่ เธอหรอกเหรอที่ เอาแต่ บอกว่า
พวกฉันลาเอียง? ตอนนี้กแ็ ยกบ้านกันอย่างยุติธรรมให้พวกเธอ
แล้ว แถมยังอ้างตามกฎของหมู่บา้ นด้วย อะไรกัน ครอบครัวสี่
ของเธอยังไม่พอใจอีกเหรอ?” คุณแม่จา้ วจ้องเขม็ง
นางเองก็ ต าบอดตั้ง แต่ ป ล่ อ ยให้ เ จ้า สี่ พ าหล่ อ นคนนี้
กลับมา วันๆ หล่อนเอาแต่เรี ยกซานหยาและซื่ อหยาให้ไปจับ
ตามองนางที่ห้องครัว เพื่อดู ว่ามีของอร่ อยอะไรแอบซ่ อนไว้
หรื อเปล่า ดู ว่าแอบทาของอร่ อยอะไรที่หล่อนไม่รู้หรื อเปล่ า
ทาอย่างกับนางเป็ นหัวขโมยไปได้!
เดิมทีนางก็ไม่อยากจะแยกบ้านหรอก นี่ไม่ใช่เพื่อนาง แต่
เพื่อครอบครัวของเจ้าหกต่างหากล่ะ ทั้งสองคนต่างก็ตอ้ งการ
แยกออกไป ถ้าอย่างนั้นก็แยกออกไปเถอะ จะได้ไม่ ตอ้ งให้
นางคอยจับตาดู อีกต่อไป ต่างคนต่างแยกย้ายไปตามทางของ
ตัวเองก็แล้วกัน!
“ไม่มีความคิดเห็นอะไรแล้วใช่ไหม? ถ้าไม่มีกเ็ อาตามนี้ก็
แล้วกัน พรุ่ งนี้หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จก็แยกบ้านไปเลย ทุกคน
กลับไปพักผ่อนเถอะ!” คุณพ่อจ้าวกล่าวปิ ดท้าย
ในเมื่อคนเป็นพ่อกล่าวแบบนี้ ต่อให้พี่สะใภ้สี่จา้ วจะเห็น
ต่างมากกว่านี้กไ็ ม่กล้าแสดงความคิดเห็นใด ๆ ออกมา
หล่อนทาเพียงเดินกลับห้อง อดไม่ได้ที่จะระเบิดอารมณ์
ออกมา
“ทาไมคุณถึงทาตัวนิ่งเฉยได้ขนาดนี้? การแยกบ้านไม่ได้
มีประโยชน์อะไรสาหรับพวกเราเลย หลังจากแยกบ้านพวกเรา
จะทายังไงคะ?” พี่สะใภ้สี่จา้ วระเบิดอารมณ์ใส่ พี่สี่จา้ ว
“แล้วคุ ณจะให้ผมทายังไง? พ่อกับแม่ต่างก็ตอ้ งการแยก
บ้าน ผมเองก็เกลี้ยกล่อมไปแล้ว มีประโยชน์ไหมล่ะ?” พี่สี่จา้ ว
ก้มหน้า พูดด้วยสี หน้าผิดหวัง
“คุ ณ พ่ อ คุ ณ แม่ อ ยากแยกบ้า นที่ ไ หนกัน ? ต้อ งเป็ นสอง
บ้านนัน่ ที่ตอ้ งการแยกบ้านอย่างแน่นอน!” พี่สะใภ้จา้ วสี่ กล่าว
อย่างหงุดหงิด จากนั้นจึงผลักพี่สี่จา้ ว “คุณไปหาน้องหก บอก
ให้เขาไปเกลี้ยกล่อมคุ ณพ่อคุ ณแม่ไม่ให้แยกบ้าน คุ ณพ่อคุณ
แม่เอ็นดูเขามากที่สุด พวกท่านต้องฟั งแน่นอน พวกเขาไม่ต่าง
จากพวกเรา แถมยังแย่กว่าพวกเราด้วย ถ้าเกิดแยกบ้านไปแล้ว
พวกเขาจะทายังไงต่อ?”
พี่สี่จา้ วไม่อยากแยกบ้านเลยจริ ง ๆ ดังนั้นเขาจึงไปหาจ้าว
เหวินเทา
จ้า วเหวิ น เทาก าลัง อารมณ์ ดี เขามองดู ก ระต่ า ยในรั ง
กระต่ ายที่ สร้ างขึ้ นมาจากอิ ฐและหิ นที่ อยู่ตรงสวนหลัง บ้า น
กระต่ายทุกตัวเติบโตขึ้นมาอย่างดีเยี่ยม อีกไม่กี่วนั เขาต้องเข้า
ไปในเมื อ งอี ก ครั้ งเพื่ อ น ากรงกระต่ า ยที่ สั่ ง ไว้ก ลับ มา เขา
จะต้องเตรี ยมย้ายบ้านให้กระต่ายแล้ว
“พี่สี่มาทาอะไรเหรอครับ” จ้าวเหวินเทาเลิกคิ้ว
พี่สี่จา้ วยิม้ เขาถูมือพลางกล่าวว่า “น้องหก เรื่ องที่พ่อแม่
เราจะแยกบ้านคืนนี้ นายมีความคิดเห็นยังไง?”
“ยังจะมี ความคิ ดเห็ นอะไรได้อีกล่ ะครั บ พ่อแม่ ให้แยก
บ้านก็ตอ้ งเคารพความคิดเห็นของพ่อแม่สิ แยกก็แยกเถอะ ทุก
คนต่างก็ไม่ชอบที่ผมกินเยอะทางานน้อยอยูแ่ ล้ว แยกบ้านไปก็
ดี ให้ทุกคนได้มีเส้นทางของตัวเอง เป็ นแบบนี้ ทุกคนจะได้มี
ความสุ ข” จ้าวเหวินเทาโบกมือ
พี่สี่จา้ วรี บกล่าวว่า “นี่มนั อะไรกัน? น้องหก การแยกบ้าน
มันไม่ดีต่อครอบครัวของพวกเราทั้งสองเลยนะ...”
“พี่สี่ ผมรู ้ว่าการแยกบ้านในตอนนี้ มนั ไม่ได้มีประโยชน์
ต่อครอบครัวของพวกเรา แต่จะทาอะไรได้ล่ะ หมู่บา้ นเราก็
เป็ นแบบนี้มาตลอดไม่ใช่เหรอครับ? เมื่อลูกชายแต่งงานก็ตอ้ ง
แยกบ้า นออกไป ในเมื่ อ พ่ อ แม่ ท าแบบนี้ ใครในหมู่ บ้านจะ
บอกว่ามันไม่ถูกต้องได้ล่ะครับ?” จ้าวเหวินเทากล่าว
พี่สี่จา้ วถอนหายใจครู่ หนึ่ง ก่อนจะเดินกลับไป
เขาพบกับพี่สามจ้าว พี่สี่จา้ วมองเขาแล้วกล่าวว่า “พี่สาม
มีเรื่ องอะไรเหรอครับ?”
“ไม่มีอะไร แค่จะมาบอกว่านายอย่าเศร้ าไปเลย เมื่อนก
เติ บ ใหญ่ ก็ ต ้อ งออกจากรั ง นี่ เ ป็ นเรื่ องปกติ มัน เป็ นการ
ตัด สิ น ใจของพ่ อ กับ แม่ นายไปคุ ย กับ น้ อ งหกมัน จะไปมี
ประโยชน์อะไร” พี่สามจ้าวกล่าว
สี หน้าพี่สี่จา้ วพลันเศร้าหมอง ในใจของเขาคิดว่าพี่สามมี
ลูกชายอายุสิบขวบ อีกไม่กี่ปีก็จะเป็นแรงงานที่แข็งแกร่ ง เขา
ถึงได้กล่าวแบบนี้ออกมา
แต่ลูกชายของเขายังไม่เห็นแม้แต่เงา เขาจึงก้มหน้าก้มตา
เดินกลับไป
พี่สามจ้าวเดินกลับเข้าห้องด้วยรอยยิม้
พี่สะใภ้สามจ้าวถอนหายใจ “ไม่คิดว่าพวกเราจะแยกบ้าน
แบบนี้เลย”
พี่สามจ้าวกลอกตาใส่ หล่อนและกล่าวว่า “แบบนี้ ยงั ไม่ดี
อีกเหรอ? แยกบ้านแล้วคุณก็จะได้เป็นหัวหน้าครอบครัวแล้ว
นะ!”
พี่สะใภ้สามจ้าวกล่าว “มันไม่น่าเสี ยดายเหรอ? หลังจาก
แยกบ้านไปแล้วก็จะเหลือแค่ไม่กี่คนแล้วนะคะ”
“มีไม่กี่คนนี่ แหละดี จะได้ไม่ตอ้ งกินดื่ มร่ วมกัน ต่างคน
ต่างกิน!” พี่สามจ้าวแค่นเสี ยง
พี่ ส ะใภ้ส ามจ้า วกลอกตาใส่ เ ขา แต่ ก็ไ ม่ ไ ด้ก ล่ า วอะไร
เพราะได้ตดั สิ นใจแยกบ้านกันแล้ว
ถึงอย่างนั้นก็ยงั บ่นอย่างไม่พอใจ “คุณเห็นหรื อยัง? ปาก
ของพี่ ส ะใภ้ร องเชิ ด จนจะถึ ง ฟ้ า อยู่แ ล้ว ไม่ รู้ ว่ า หล่ อ นจะมี
ความสุ ขขนาดไหน หล่อนเป็ นคนที่ได้เปรี ยบมากที่สุด!”
หล่อนมีลูกสองคน หม่าต้านผูเ้ ป็นลูกชายและเอ้อร์หยาผู ้
เป็ นลูกสาว
แต่ พี่ ส ะใภ้ร องมี ลู ก สามคน ซึ่ งก็ คื อ เถี่ ย ต้า น หลู ต ้า น
และต้าหยา ทุกคนสามารถไปทางานได้แล้ว คนที่มีความสุ ข
มากที่สุดในการแยกบ้านนี้ยอ่ มเป็ นพี่สะใภ้รองอย่างแน่นอน
และมันก็เป็ นแบบนั้น พี่สะใภ้รองจ้าวกาลังมีความสุ ขอยู่
ภายในห้อง หล่อนยังยิม้ ไม่หุบตั้งแต่กลับห้องมา
พี่รองจ้าวถอนหายใจเบาๆ เขาไม่คิดว่าครอบครัวจะแยก
จากกันแบบนี้
จ้าวเหวินเทาไม่สนใจว่าเหล่าพี่นอ้ งของเขาจะมีปฏิกิริยา
อย่างไร เขาป้อนถัว่ แระให้กระต่ายเสร็จก็กลับห้องไป
เย่ฉูฉู่กาลังเย็บเสื้ อบุ ฝ้ายตัวเก่ าของจ้าวเหวินเทาภายใต้
แสงสลัว รางจากตะเกี ย งน้ า มัน เธอใช้ฝ้ า ยที่ ไ ด้รั บ จากการ
แจกจ่ายในปี นี้ มาเปลี่ยนกับฝ้ ายเก่า เสื้ อบุฝ้ายของปี นี้ จะต้อง
อบอุ่นอย่างแน่นอน
“ภรรยา พรุ่ งนี้ค่อยทาต่อเถอะ มาเย็บผ้าตอนนี้มนั ไม่ดีต่อ
ดวงตานะ” จ้าวเหวินเทายืน่ หน้าเข้ามาพร้อมกล่าวด้วยรอยยิม้
เย่ฉูฉู่พยักหน้า ยังมีเวลาเหลืออีกมาก ดังนั้นก็ไม่ตอ้ งรี บ
ร้อน จึงกล่าวว่า “ปิ ดไฟเถอะค่ะ”
จ้าวเหวินเทารอให้หล่ อนเก็บของเสร็ จก่ อน จึ งค่ อยดับ
ตะเกียงน้ ามันและกล่าวว่า “คนชนบทอย่างพวกเราไม่สามารถ
เทียบกับผูค้ นที่อยู่ในเมืองได้ ผูค้ นในเมืองไม่ได้ใช้ไฟแบบนี้
พวกเขาต่างก็ใช้ไฟฟ้ากันทั้งนั้น”
“พวกเขามีไฟฟ้ าใช้แต่กต็ อ้ งจ่ายค่าไฟ แถมยังต้องจ่ายทุก
เดือนด้วยนะคะ” เย่ฉูฉู่กล่าว
จ้าวเหวินเทายิ้ม จากนั้นจึ งพลิ กตัวคร่ อมร่ างภรรยาเขา
เอาไว้
เย่ฉูฉู่หน้าแดงระเรื่ อ และปล่อยให้เขาทาตามปรารถนา
จ้าวเหวินเทารู ้สึกว่าเป็ นโอกาสที่หาได้ยากยิง่ เขากล่าวขึ้น
“ภรรยา ทาไมผิวของคุณเหมือนหยกเลยครับ ทั้งอบอุ่นแถมยัง
นุ่มนิ่มด้วย?”
เย่ฉูฉู่หน้าแดงปลัง่ เธอขบฟันไม่พูดไม่จา
จ้าวเหวินเทาทาการบ้านไปพลางกล่าวชื่นชมเธอไปพลาง
รักมากเสี ยจนไม่อยากปล่อยมือ
ไม่รู้วา่ เวลาผ่านไปนานเพียงใด จ้าวเหวินเทาก็นอนกอดเย่
ฉูฉู่ที่นอนหมดเรี่ ยวแรง
ค่าคืนนั้นอุณหภูมิลดต่าลง แต่โชคดี ที่มีคนสองคนนอน
อยูบ่ นเตียง จึงอบอุ่นเป็ นพิเศษ
เมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าตรู่ ของวันรุ่ งขึ้น อากาศของวันนี้ ก็
เย็นลงอย่างเห็นได้ชดั
เมื่อทั้งครอบครัวออกมารับประทานอาหารเช้า คุณพ่อจ้าว
จึงให้พี่รองจ้าวที่เป็ นลูกชายคนโตไปเชิญผูอ้ าวุโสของตระกูล
มาเป็ นพยาน หัวหน้าหมู่บา้ นและเลขาธิการก็ถูกเชิญมาด้วย
เนื่ องจากต้องการแยกบ้านกันแล้ว ทะเบียนบ้านย่อมต้อง
ถูกนาออกมา
คุณแม่จา้ วเป็นคนเก็บทะเบียนบ้านไว้ แต่สมุดบัญชี กลับ
เป็นคุณพ่อจ้าวที่เก็บไว้ คุณแม่จา้ วไม่รู้หนังสื อ ดังนั้นรายรับ
รายจ่ายทุกครั้งจะมีคุณพ่อจ้าวจดบันทึกไว้อย่างชัดเจน
เมื่อบวกลบหักจากค่าสร้างบ้านสาหรับงานแต่งงานแล้ว
ยังเหลือเงินอีก 900 กว่าหยวน
ท้ายที่สุดแล้วครอบครัวนี้กไ็ ม่ได้มีค่าใช้จ่ายอะไรมากมาย
ไม่กี่ปีมานี้ยงั ดาเนินชีวิตอย่างราบรื่ น ไม่มีการเจ็บป่ วยร้ายแรง
ใด ๆ การเก็ บ เกี่ ย วของปี ก็ นั บ ว่ า ดี สภาพอากาศเป็ นใจ
โดยเฉพาะอย่า งยิ่ ง ในช่ ว งห้า หรื อ หกปี ที่ ผ่ า นมา ส่ ง ผลให้
รายได้ต่อปี ดีมาก ดังนั้นเงินทั้งหมดจึงถูกเก็บไว้
ยิ่งไปกว่านั้น ลูกสาวทั้งสองคนก็มกั จะนาเงินมาให้เพื่อ
ทดแทนบุญคุณอยู่บ่อยครั้ง โดยปกติแล้วพวกเขาไม่ได้นาเงิน
ไปใช้ ล้วนแต่เก็บออมไว้ ดังนั้นจึงมีเงินเป็ นจานวนมาก
อัน ที่ จ ริงตัว เลขนี้ ก็ ไ ม่ ไ ด้ม ากมายอะไร ครอบครั ว มี
สมาชิ ก มากขนาดนี้ ค่ า อาหารการกิ น ทุ ก คนก็ ต ้อ งใช้ เ งิ น
สามารถเก็บออมเงินก้อนนี้ได้ก็นบั ว่าไม่เลวแล้ว และเป็นคุณ
แม่จา้ วที่เป็ นคนเก็บหอมรอมริ บเอาไว้
แต่ตอนนี้จะแยกบ้านกันแล้ว ดังนั้นเงินจานวนนี้จึงถูกนา
ออกมาจัดสรรปันส่ วน
ตอนที่ 29 แยกบ้ าน (3)

จานวนรวมทั้งสิ้ น 982 หยวน กับ 7 เหมา หากไม่นบั เศษ


ปัดเศษทิง้ ไปก็จะเป็ นการแบ่งจากเงินทั้งหมด 982 หยวน
คุณพ่อจ้าวและคุณแม่จา้ วย่อมต้องการเก็บเงินบานาญนี้ไว้
พวกเขาทั้งสองรับเงินจานวน 282 หยวนไป กล่าวว่า “อนาคต
พ่อกับแม่จะไปอยู่กบั ครอบครัวของเจ้ารอง แต่ตอนนี้ พ่อกับ
แม่ยงั ไม่อยากอาศัยร่ วมกับพวกเขา พวกเรายังพอทางานได้
ดังนั้น พวกเราจะไปตามทางของตัวเอง เงินจานวน 282 หยวน
นี้ พ่อกับแม่จะเก็บไว้ใช้ ส่ วนที่เหลืออีก 700 หยวนจะถูกแบ่ง
ให้กบั ครอบครัวของพวกเธอทั้งสี่ อย่างเท่าเทียมกัน”
“พ่อกับแม่จะไม่อยูก่ บั ผมเหรอครับ?” พี่รองจ้าวกล่าวด้วย
ความร้อนใจ
เขาเป็นลูกชายคนโต ถ้าพ่อแม่ของเขาไม่อาศัยอยู่กบั เขา
เขาจะไม่ถูกคนในหมู่บา้ นนินทาลับหลังหรอกเหรอ
“แม่ไม่ได้บอกว่าจะไม่อยู่กบั พวกเธอ บ้านก็อยู่ที่นี่ไง ถ้า
ไม่อาศัยอยู่ที่นี่แล้วจะไปอยู่ที่ไหน? แต่ตอนนี้ แม่กบั พ่อคิดไว้
แล้วว่าจะไม่กินข้าวร่ วมกับพวกเธอ พวกเราจะทากับข้าวกิน
กันเอง” คุณแม่จา้ วกล่าวพร้อมกับโบกมือ
พี่รองจ้าวได้ยนิ เช่นนี้กถ็ อนหายใจด้วยความโล่งอก
เงินที่เหลืออยูก่ บั ผูอ้ าวุโสของตระกูล หัวหน้าหมู่บา้ นและ
เลขาธิ การเป็ นพยานในการแบ่ งเงิ นอย่างเท่ าเที ยมกัน เงิ นที่
เหลือจานวน 700 หยวนถูกแบ่งให้แต่ละครอบครัวเป็ นจานวน
เงินบ้านละ 175 หยวน
“แบ่งแบบนี้พวกเธอไม่มีความคิดเห็นอะไรแล้วใช่ไหม?”
คุณแม่จา้ วกล่าวเบา ๆ
ครอบครัวใหญ่ได้แยกบ้านกันเช่นนี้แล้ว ในใจของคุณแม่
จ้าวเองก็ทาใจไม่ค่อยได้เท่าไรนัก แต่นางเตรี ยมใจไว้ก่อนแล้ว
การยอมรับเรื่ องนี้จึงไม่ได้ยากเย็นขนาดนั้น
แน่นอนว่าแต่ละบ้านต่างไม่มีปัญหาอะไร
ดั ง นั้ นคุ ณ แม่ จ ้ า วจึ ง แบ่ ง เงิ น ให้ ก ั บ พวกเขา แต่ ล ะ
ครอบครั ว ได้รั บ เงิ น บ้า นละ 175 หยวน ในยุค ที่ ต ้อ งใช้เ งิ น
ตลอดเวลา แน่นอนว่านี่เป็ นเงินก้อนโตก้อนหนึ่งเลย
แต่มนั ก็ทาให้คนรับมีความสุ ขได้
พี่สะใภ้รองจ้าวอดยิม้ ไม่ได้หลังจากได้รับเงินที่พี่รองจ้าว
มอบให้ จากนี้ไปหล่อนก็จะได้เป็ นหัวหน้าครอบครัวแล้ว!
แม้วา่ พี่สะใภ้สามจ้าวจะไม่ตอ้ งการแยกบ้าน แต่เมื่อได้รับ
เงินจานวนมหาศาลนี้ ก็ทาให้หล่อนมีความสุ ขเช่นกัน
ส่ วนพี่สะใภ้สี่จา้ ว แม้วา่ จะได้รับเงินจากพี่สี่จา้ ว แต่สีหน้า
ของหล่อนกลับไม่มีความสุ ข หลังจากนี้ ครอบครัวของหล่อน
จะทาอย่างไร?
ในขณะที่ จ ้า วเหวิน เทาแสดงออกทางสี ห น้า อย่า งไม่ มี
อะไรชัด เจนไปกว่านี้ อี ก แล้ว เขารั บเงิ น จากมื อ ของแม่ ด้วย
รอยยิม้
คุ ณแม่ จา้ วกล่ าวอย่างแง่ งอน “แยกบ้านไปแล้ว แกก็จะ
เป็ นหัวหน้าครอบครั วแล้วนะ ต้องขยันทางานหาเงิ นเลี้ยงดู
ภรรยาด้วยล่ะ!”
จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้ “แม่ แม่กบั พ่อวางใจได้เลย
ผมจะปล่อยให้ภรรยาหิ วได้ยงั ไง? รอผมสร้างบ้านอิฐก่อน ถึง
เวลานั้นพ่อกับแม่ค่อยมาอยู่กบั ผมนะ ไม่ตอ้ งไปอยู่กบั พี่รอง
หรอก มาอยูก่ บั ผมก็ได้เหมือนกัน!”
มุมปากของพี่รองจ้าวกระตุกเมื่อคาพูดนี้ถูกกล่าวออกมา
พี่สามจ้าวเบ้ปาก กล่าวได้ว่าในบรรดาพี่นอ้ งคนที่พูดเก่ง
ที่สุดก็เป็ นเจ้าหกนี่แหละ ช่างปากหวานเสี ยจนทาให้พ่อกับแม่
ลาเอียงไปทางฝั่งเขา!
ราวกับว่าบ้านอิฐมันจะมีกนั ได้ง่าย ๆ เหมือนการกินข้าว
ดื่มน้ าอย่างนั้นแหละ!
ผูอ้ าวุโสของตระกูล หัวหน้าหมู่บา้ นและเลขาธิการต่างพา
กันหัวเราะ แม้ว่าเหล่าลิ่วคนนี้จะพูดจาไร้สาระ แต่คาพูดนั้นก็
ฟังดูรื่นหู
อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้รังเกียจพ่อแม่ของตัวเองไม่ใช่เหรอ?
แน่ น อนว่ า คุ ณ พ่ อ จ้า วและคุ ณ แม่ จ ้า วต่ า งรู ้ สึ ก โล่ ง ใจ
เช่ นกัน เมื่อพี่สามจ้าวเห็นดังนั้นในใจของเขาจึงรู ้สึกคลื่นไส้
แต่เมื่อคิดถึงเรื่ องแยกบ้านแล้ว เขาจึงรู ้สึกดีข้ ึน เขาและภรรยา
ไม่มีทางแย่กว่าสองคนนั้น!
หลังจากเย่ฉูฉู่ได้รับเงินจากเหวินเทา ใบหน้าของเธอจึงมี
รอยยิม้ ประดับ เพราะเมื่อมีเงินจานวนนี้แล้ว ในอนาคตหากเห
วินเทาอยากทาอะไรก็สามารถทาได้ เงินจานวนนี้ตอ้ งเพียงพอ
สาหรับการทาธุรกิจขนาดเล็กอย่างแน่นอน
หลัง จากแบ่ ง เงิ น เสร็ จ แล้ว ขั้น ตอนต่ อ ไปคื อ การแบ่ ง
อาหาร การแบ่ ง อาหารง่ า ยกว่า มาก ไม่ เ หมื อ นกับ การแบ่ ง
เงิน เพราะอาหารจะถูกแบ่งตามจานวนคน
จ้าวเหวินเทาและเย่ฉูฉู่มีกนั แค่สองคน ดังนั้นจึงได้ส่วน
แบ่งไม่มาก ทั้งสองคนได้ไป 360 ชัง่ เมื่ออิงตามปริ มาณการ
รับประทานอาหาร อาหารจานวนนี้ สามารถอยู่ได้ถึงฤดู ร้อน
ของปี หน้า
กล่าวได้วา่ พวกเขาจะต้องรัดเข็มขัดกันแล้ว
ฤดูหนาวไม่ได้ทางาน คนจานวนมากจึงไม่กล้ากินจนอิ่ม
ท้อง กินเพียงสามถึงสี่ ส่วนก็พอแล้ว ไม่เช่นนั้นปี หน้าจะเหลือ
อะไรให้กิน?
หลังต้นฤดู ใบไม้ผลิ ปีหน้ายังไม่ สามารถเก็บเกี่ ยวข้าวที่
เพิง่ ปลูกได้นะ
เมื่อแจกจ่ายอาหารเสร็ จก็หมดเรื่ องหมดราวแล้ว คุณพ่อ
จ้าวเขียนเงื่อนไขของการแยกบ้านต่อหน้าผูอ้ าวุโสของตระกูล
หัว หน้า หมู่ บ ้า นและเลขาธิ ก ารตรวจสอบเสร็ จ พวกเขาจึ ง
เซ็นชื่อลงนาม นับว่าการแยกบ้านของครอบครัวนี้เป็ นอันเสร็ จ
สิ้ น
แน่นอนว่าพวกของใช้บนโต๊ะอาหารภายในบ้านก็ถูกแบ่ง
อย่างง่ าย ๆ ของเหล่ านี้ ไม่ ได้มีค่า อะไร จึ งถู กแจกจ่ ายอย่า ง
ง่ายดาย
นอกจากนี้ ยงั มีไข่ไก่และไก่ในบ้านด้วย ไข่ไก่พ่อกับแม่
เป็ นคนเก็บไว้ ส่ วนไก่กแ็ จกจ่ายกันไป
ที่บา้ นเลี้ยงไก่ไว้ไม่มาก มีแค่ 8 ตัว คุณพ่อและคุณแม่เก็บ
ไว้คนละตัว ส่ วนที่เหลืออีก 6 ตัวถูกแจกจ่ายให้กบั พวกเขา
ไก่ 6 ตัวนี้ แน่ นอนว่าไม่สามารถแบ่งได้ง่าย ๆ ดังนั้นจึ ง
ต้องมีคนนาเงินมาจ่ายเพิ่มเพื่อให้สมดุลกัน
ยกตัวอย่างเช่ น จ้าวเหวินเทาต้องการไก่ 2 ตัว เขาจึงต้อง
จ่ายเงินเพิ่มอีก 2 หยวน พี่สะใภ้รองจ้าวต้องการไก่เพิ่มอีก 1
ตัวเพราะหล่อนมีลูกมากกว่าคนอื่น จึงต้องจ่ายเพิ่ม 2 หยวน
เงินเหล่านี้ ก็จะถูกนาไปแบ่งให้พี่สะใภ้สามจ้าวและพี่สะใภ้สี่
จ้าวอย่างเท่าเทียมกัน
หลัง จากแยกบ้า นเสร็ จ ผู ้อ าวุ โ สของตระกู ล หั ว หน้า
หมู่บา้ นและเลขาธิการก็เดินทางกลับ การแยกบ้านเป็ นไปอย่าง
ราบรื่ นไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง และไม่มีความยุง่ ยากใด ๆ
เหล่าพี่นอ้ งตระกูลจ้าวและลูกสะใภ้ต่างแยกย้ายกันกลับ
ห้องของตัวเองเพื่อนับเงินที่ได้รับมาและซ่อนเงินไว้
จ้าวเหวินเทาและเย่ฉูฉู่กน็ บั เงินที่ได้จากการประชุมครั้งนี้
อยู่ในห้องของพวกเขาเช่ นกัน วันนี้ พวกเขาเงิ นส่ วนแบ่งมา
175 หยวน รวมเข้ากับเงินอีก 20 กว่าหยวนจากการขายโสมป่ า
ครอบครัวของพวกเขาจึงมีเงินเก็บเกือบ 200 หยวน
“เงินเยอะขนาดนี้เลยนะเนี่ย” จ้าวเหวินเทาดีใจมาก
“เงิ น แค่ น้ ี มั น ยัง ไม่ พ อใช้ ห รอกค่ ะ ” เย่ ฉู ฉู่ ไ ม่ ค่ อ ยมี
ความสุ ขเท่าไรนัก
เพราะจ้าวเหวินเทาของเธอยังต้องการซื้ อจักรยาน ต้องใช้
เงินอีกร้อยกว่าหยวน ไหนจะเรื่ องธุ รกิจอีก เรื่ องนี้กต็ อ้ งใช้เงิน
แถมยัง มี เ รื่ อ งจิ ป าถะอื่ น ๆ เช่ น พวกหม้อ และกระทะของ
ครอบครัวที่ตอ้ งซื้อใหม่ ของเหล่านี้ตอ้ งใช้เงินทั้งนั้น
“ภรรยา คุณไม่ตอ้ งกังวล ถึงเวลานั้นผมจะหาเงินกลับมา
คืนให้คุณอย่างแน่นอน!” จ้าวเหวินเทารี บปลอบประโลม
“อืม ฉันเชื่ อคุณค่ะ” เย่ฉูฉู่ยมิ้ จากนั้นจึงหยิบเสื้ อบุฝ้ายมา
เพื่อเริ่ มลงมือเย็บผ้า
ตอนนี้ว่างแล้ว ต้องทาเสื้ อบุฝ้ายสาหรับฤดูหนาวให้เสร็ จ
ถึงจะดี ส่ วนเรื่ องผ้านวมนั้นไม่เป็ นไร เพราะของที่ใช้ในปี นี้
เป็ นของจากงานแต่ ง งาน ของทั้ง หมดจึ ง ยัง ใหม่ เ อี่ ย มและ
อบอุ่นอยู่
เธอมีผา้ นวมสี่ ผนื สองผืนเป็ นสิ นสอดของทางบ้านเธอให้
มา นอกจากนี้ยงั มีอีกสองผืนที่พี่สาวอีกสองคนที่อยูใ่ นหมู่บา้ น
ให้มาคนละผืน ไม่ตอ้ งหนาวจนตัวแข็งแล้ว
“ภรรยา คุณมีอะไรอยากจะซื้ อไหมครับ?” แน่นอนว่าจ้าว
เหวินเทาไม่สามารถปฏิบตั ิต่อภรรยาของเขาอย่างไม่เป็ นธรรม
ได้ เงินทั้งหมดให้เขาใช้ไปแล้ว ส่ วนภรรยาของเขากลับไม่ได้
เงินใช้แม้แต่หยวนเดียว ทาแบบนี้ได้อย่างไรกันล่ะ?
“มีสิคะ ครั้งหน้าถ้าคุณเข้าไปในเมืองช่วยซื้ อครี มทาหน้า
กลับมาให้ฉันหน่ อยก็แล้วกันนะคะ” เย่ฉูฉู่จึงพูดกับเขาอย่าง
ไม่เกรงใจ
ตอนนี้ อากาศยิ่งหนาวขึ้นเรื่ อย ๆ โดยเฉพาะวันนี้ ที่หนาว
กว่าเมื่อวานอย่างเห็นได้ชดั เธอไม่อยากให้ผิวหน้าตัวเองต้อง
พังเพราะลมหนาว ต้องทาเครื่ องประทินผิวบ้างถึงจะดี
“ได้เลย รอผมเข้าเมืองก่อน ผมจะไปซื้อที่หา้ งสรรพสิ นค้า
มาให้คุณนะ!” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้
เย่ฉู ฉู่ เ ริ่ ม เย็บเสื้ อ บุ ฝ้ า ยไปพลางกล่ า วไปพลางว่า “เงิ น
เหล่านี้ฉนั จะเก็บไว้ คุณจะใช้ตอนไหนก็ค่อยมาเอาที่ฉนั ก็แล้ว
กันนะคะ”
จ้าวเหวินเทาตอบกลับด้วยรอยยิม้ “ภรรยา ตอนเที่ยงพวก
เรากินอะไรกันดี? แม่บอกว่าหลังจากนี้ พวกเราต้องทาอาหาร
กินเองแล้วนะครับ”
“กิ นบะหมี่ แล้วกันค่ ะ เดี๋ ยวฉันจะไปถามที่ บา้ นคุ ณ ยาย
ฟางนะคะว่ามีไข่ไก่ขายไหม” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้
“ได้ งั้นเดี๋ ยวผมเอาไก่สองตัวของเราไปเลี้ยงที่สวนหลัง
บ้านก่อน ไม่เลี้ยงร่ วมกับคนพวกนั้นแล้ว!” เมื่อจ้าวเหวินเทาก
ล่าวจบ ก็ไปหาพ่อเพื่อขอเล้าไก่
คุณพ่อจ้าวเพิ่งสร้างเล้าไก่เสร็จ จึงยกมันให้เขา
จ้าวเหวินเทาตกอยู่ภายใต้การจ้องมองของเหล่ าพี่สะใภ้
เขาเลือกแม่ไก่ที่ร่าเริ งสองตัวใส่ เล้าไก่
แม่ไก่ตวั อื่น ๆ ก็ร่าเริ งดี ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาอะไร
ไก่ ท้ งั 2 ตัวถู กจ้าวเหวิน เทาอุ ม้ กลับมายัง ห้อ งด้านหลัง
บ้านเรี ยบร้อยแล้ว
เย่ฉูฉู่มองจ้าวเหวินเทาที่อยูด่ า้ นนอกประตูกาลังพูดคุยกับ
ไก่และกระต่าย เธอจึงอดยิม้ ไม่ได้
แม้เ ธอจะแอบรู ้ สึ ก ไม่ ส บายที่ ต ้อ งมาอยู่ ใ นประเทศที่
แปลกประหลาดนี้ แต่สถานที่ที่มีเขาอยู่ก็นับว่าเป็ นบ้านแล้ว
ในเมื่อมีเขาอยูเ่ ธอก็อุ่นใจ
อีกอย่างตอนนี้ ก็แยกบ้านออกมาแล้ว เธอตั้งตารอคอยที่
จะได้ใช้ชีวติ กับครอบครัวตัวเองเป็ นอย่างมาก
ตอนที่ 30 ธุรกิจของไช่ ซื่อหู่

จ้าวเหวินเทาย่อมไม่ทาให้ภรรยาของเขาผิดหวัง
หลังจากที่จา้ วเหวินเทารับประทานบะหมี่ที่ภรรยาของเขา
ท าให้ เ สร็ จ แล้ว เขาจึ ง เดิ น ทางไปที่ บ้า นของไช่ ซื่ อ หู่ ที่ อ ยู่
หมู่บา้ นหลังเขา
หมู่บา้ นหลังเขานับว่าไม่ใช่ใกล้ ๆ เลย จ้าวเหวินเทาหยิบ
เหล้าไปหนึ่ งขวดแล้วออกเดิ นทาง ใช้เวลาไปกว่าครึ่ งชัว่ โมง
กว่าจะไปถึงหมู่บา้ นหลังเขา
ไช่ซื่อหู่และพี่สะใภ้ไช่ต่างก็อยูบ่ า้ นทั้งคู่ หมู่บา้ นของพวก
เขาเพิ่งแจกจ่ายอาหารกันเมื่อวาน วันนี้จึงมีเวลาว่าง และจ้าวเห
วินเทาก็เดินทางมาในเวลาที่พอเหมาะพอเจาะ
ทั้งสองคนต่างอยูท่ ี่บา้ นกัน เมื่อเห็นจ้าวเหวินเทา พวกเขา
ต่างก็ดีใจเป็ นอย่างมาก
“เหวินเทา นายเกรงใจกันเกินไปแล้ว ในบ้านจะขาดเหล้า
ได้ยงั ไงกัน?” ไช่ซื่อหู่กล่าว
พี่สะใภ้ไช่ กล่ าวว่า “ใช่ ไหมล่ ะ ครั้ งนี้ ช่างมันเถอะ ครั้ ง
หน้าถ้านายจะมาก็ไม่ตอ้ งเอาอะไรมานะ มาตัวเปล่าก็พอแล้ว!”
จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้ “งั้นก็ได้ครับ ครั้งหน้าผม
จะมามือเปล่า ถึงตอนนั้นพวกพี่อย่ารังเกียจผมก็พอ”
พี่ ส ะใภ้ไ ช่ ป ระทับ ใจเขามาก จนถึ ง ตอนนี้ หล่ อ นยัง จ า
ค าพู ด ของจ้า วเหวิ น เทาที่ ก ล่ า วในตอนที่ ห ล่ อ นสิ้ น หวัง ว่ า
‘ปล่อยพี่สาวคนนั้น แล้วเข้ามาหาฉันนี่!’ ได้อยูเ่ ลย
“พวกคุ ณคุ ยกันไปก่ อนนะคะ ฉันจะไปทากับแกล้ม มา
ให้!” พี่สะใภ้ไช่กล่าวด้วยรอยยิม้
“แบบนี้จะดีเหรอครับ?” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยความรู ้สึก
ไม่ดี
“ไป ๆ ไปคุยกันในบ้าน” ไช่ซื่อหู่ดึงเขาเข้าบ้าน
จ้าวเหวินเทาแสดงความอิจฉาออกมา สมแล้วที่ไช่ ซื่อหู่
ทางานอยู่ในฝ่ ายฆ่าสัตว์ บ้านหลังนี้ เป็นบ้านอิฐ และยังสว่าง
เป็ นพิเศษด้วย
“เมื่อไหร่ ผมจะเป็นแบบพี่ซื่อหู่ ได้บา้ งนะ” จ้าวเหวินเทา
พูดแสดงออกถึงอารมณ์
“จะเป็ นไรไปเล่า? ขอแค่นายมีเงิน ฉันก็สามารถหาเส้น
สายให้นายได้ ฉันสัญญาว่าจะหาทางยัดนายเข้าทีมให้ได้เลย!”
ไช่ซื่อหู่กล่าว
จ้าวเหวินเทาส่ ายหน้า “ที่บา้ นผมเพิ่งจะแยกบ้าน ถึงแบ่ง
เงินกันแล้ว แต่มนั ก็ยงั ไม่พอที่จะสร้างบ้านอิฐอยูด่ ี”
แน่ นอนว่าเขาเองก็อยากได้บา้ นอิ ฐ อาศัยอยู่ในบ้านอิฐ
สบายกว่าตั้งเยอะ บ้านดินที่อาศัยอยูเ่ ทียบไม่ติดเลย
ไช่ ซื่อหู่ หยิบชามออกมาสองใบ จ้าวเหวินเทาเทเหล้าให้
ตัวเองและไช่ ซื่อหู่ จากนั้นจึงกล่าวว่า “พี่ซื่อหู่ ไม่ใช่ ว่าผมขี้
เกียจหรอกนะครับ แต่ผมแค่ไม่อยากทางานในนาเลย” 1 แต้ม
ค่าแรงมีค่าเท่ากับ 6 เฟิ น แม้ว่าจะมี 10 แต้มค่าแรงก็ยงั ได้แค่ 6
เหมาอยูด่ ี
อี ก อย่ า ง 6 เหมานี้ ก็ ไ ม่ ใ ช่ ว่ า จะให้ ท้ ัง หมด ยัง ต้อ งหั ก
ค่าอาหารอะไรพวกนั้นอีก แล้วจะเหลือเท่าไรกันเชียว?
แน่ นอนว่าฝ่ ายผลิ ตของพวกเขาค่ อนข้างยากจน ดังนั้น
แต้มค่าแรงจึงไม่ได้มีค่ามากนัก ฝ่ ายผลิตบางกลุ่มมีงานเสริ ม
มากมาย 1 แต้มค่าแรงจึงมีค่า 1-2 หยวน โดยเฉพาะฝ่ ายผลิต
อันดับหนึ่งในตาบลของพวกเขา ได้ยนิ มาว่า 1 แต้มค่าแรงมีค่า
เท่ากับ 2 หยวน
การลงนาจึงเป็ นเรื่ องที่น่าตั้งตารอ แต่ฝ่ายผลิตของพวก
เขาไม่ได้มีอะไรแบบนั้น
ทุกครั้งที่มีการแจกจ่ายตอนสิ้ นปี บ่อยครั้งจึงไม่สามารถ
แบ่งเงินได้ จึงได้แค่ใช้เป็ นค่าอาหารเท่านั้น
ทางด้านหมู่บา้ นหลังเขาก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไรนัก ดังนั้นไช่
ซื่ อหู่ จึงเข้าใจความรู ้ สึกของเขาเป็ นอย่างดี การอาศัยอยู่ที่นี่
หลังจากเหน็ดเหนื่อยตลอดทั้งปี ก็ทาให้กินอิ่มได้เพียงเล็กน้อย
เท่านั้น การที่จะกลายเป็ นคนร่ ารวยย่อมเป็ นไปไม่ได้
“งั้น น้อ งชายเหวิ น เทามี แ ผนจะท าอะไรล่ ะ ?” ไช่ ซื่ อ หู่
กล่าวพร้อมกับมองจ้าวเหวินเทา
“พี่ ช าย งั้น ผมขอพู ด แบบหน้า ด้า น ๆ เลยนะ” จ้า วเหวิ
นเทากล่าว
ไช่ ซื่อหู่ ปล่อยให้เขาเล่าออกมาทั้งหมด จ้าวเหวินเทาจึ ง
บอกเรื่ องที่ เ ขาอยากไปในเมื อ งเพื่ อ ค้ า ขายผลผลิ ต ทาง
การเกษตร เขากล่าวว่า “นี่ คือสิ่ งที่ผมรู ้มาเมื่อวานนี้ ตอนที่ไป
ส่ ง อาหารให้ก ับ พี่ ส าวผม นายอ าเภอเปิ ดถนนตรงฝั่ ง ถนน
อันซิ่ งเส้นนั้นโดยเฉพาะ สงวนไว้สาหรับทาการซื้ อขายอิสระ
ผมเลยวางแผนว่าเมื่อถึงเวลานั้นจะลองไปดูสักหน่อย จากเรื่ อง
ที่พี่ซื่อหู่มีเส้นสายเยอะแยะ พี่มีความคิดเห็นยังไงบ้างครับ?”
ในขณะนั้นเองพี่สะใภ้ไช่กเ็ ดินถือหู หมูมาจานหนึ่ง ซึ่ งส่ ง
กลิ่นหอมอบอวล
จ้าวเหวินเทารี บกล่ าวว่า “พี่สะใภ้นี่มนั แพงเกิ นไปแล้ว
ครับ ถัว่ ลิสงสักจานก็พอ!”
“มันจะสักเท่าไหร่ กนั เชียว กินเถอะ” พี่สะใภ้ไช่กล่าวด้วย
รอยยิ้ม จากนั้นหล่ อนจึ งออกไปตากผ้าปู ที่นอนและผ้านวม
โดยไม่รบกวนพวกเขาทั้งสองคน วันนี้ อากาศดี เยี่ยม ต้องใช้
ประโยชน์จากแสงแดดตากผ้าสักหน่อย
จ้าวเหวินเทาและไช่ซื่อหู่กินดื่มไปพลาง พูดคุยไปพลาง
จ้าวเหวินเทาบอกว่าเขาต้องการไปขายสิ นค้าที่ตลาด สิ่ งนี้
ตรงใจไช่ ซื่อหู่ อย่างมาก ตอนเขาได้พบเจอกับจ้าวเหวินเทา
ตอนที่ไปรับอาหารส่ วนกลางเขาก็มีความคิดแบบนี้ ตอนนี้ได้
ทราบว่าจ้าวเหวินเทาต้องการไปขายของในตลาดโดยไม่ ได้
รู ้สึกอาย มันจึงทาให้เขาไม่ตอ้ งเกรงใจอีกต่อไป
ไช่ ซื่อหู่ ลดเสี ยงลง “น้องเหวินเทา ฉันจะบอกอะไรนาย
ให้ เรื่ องนี้ฉนั ยังไม่ได้บอกคนอื่นเลย นายอยากฟังไหม?”
จ้า วเหวิ น เทาพยัก หน้า “พี่ ซื่ อ หู่ พู ด มาเถอะ พี่ ไ ม่ ต ้อ ง
กังวล!”
ไช่ ซื่อหู่ พยักหน้า จากนั้นจึงบอกเรื่ องราวทางฝั่ งโรงฆ่ า
สัตว์ให้ฟัง
ด้วยนโยบายที่ผ่อนปรนลงในช่ วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จิตใจ
ของเขาจึ งหวัน่ ไหวบ้างเป็ นธรรมดา ตอนนี้ ทางโรงฆ่ าสัตว์
ของพวกเขาเกือบจะรวมเป็ นกลุ่มเดียวกันแล้ว คนอื่น ๆ ต่างก็
มีอาชีพเสริ มกันหมด แต่ไช่ซื่อหู่ ยงั ไม่มี สิ่ งนี้ไม่ว่าจะมากหรื อ
น้อยก็เสี ยเปรี ยบอยูด่ ี
ดัง นั้น ไช่ ซื่ อ หู่ จึง อยากพัฒ นาอาชี พเสริ ม สัก หน่ อย เขา
สามารถนาของบางส่ วนของโรงฆ่าสัตว์ออกมาได้ การนาเนื้อ
ดี ๆ ออกมาย่อมเป็ นไปไม่ได้ แต่ถึงจะเป็ นของเหลือหรื ออะไร
พวกนั้น ล้วนขายเป็ นเงินได้ท้ งั หมด
ไช่ ซื่อหู่ ยงั ไม่ได้บอกเล่าเรื่ องเหล่านี้ ให้กบั พี่นอ้ งของเขา
ฟั ง แต่เขามาบอกจ้าวเหวินเทาก่อน เพราะรู ้สึกว่าจ้าวเหวินเทา
เป็ นหุน้ ส่ วนที่ไม่เลวเลย
จ้าวเหวินเทาไม่ คิดว่าจะมีเรื่ องดี ๆ เช่ นนี้ เกิ ดขึ้ นกับเขา
ใบหน้าของเขาจึงเปี่ ยมด้วยแววตื่นเต้น
“พี่ซี่อหู่ จะให้ผมทาจริ ง ๆ เหรอครับ? งั้นผมควรจะตกลง
ใช่ไหม?” จ้าวเหวินเทากล่าวรัวเร็ว
ไช่ซื่อหู่ กล่าวด้วยรอยยิม้ “ฉันบอกกับนายหมดแล้ว ยังจะ
เป็ นเรื่ องโกหกอีกเหรอ? เพียงแต่กลัวว่าจะได้ไม่มากนัน่ แหละ
ฉันไม่อาจรับประกันเรื่ องจานวนได้นะ แต่มนั ไม่ตอ้ งใช้คูปอง
เนื้ อ ฉันจะให้ราคาตลาดนาย ส่ วนที่เหลือนายขายในเมืองได้
เท่าไหร่ กอ็ ยูท่ ี่นายแล้วล่ะ”
แน่นอนว่าจ้าวเหวินเทาตกลงไปแล้ว
ราคาเนื้ อหมู ในตลาดปั จจุ บนั แบ่ งออกเป็ นเนื้ อชั้น หนึ่ ง
ชั้นรอง ชั้นสาม เนื้อชั้นหนึ่งมีราคาแพง 1 ชัง่ ราคา 9 เหมา เนื้อ
ชั้น รองถู ก กว่า นิ ดหน่ อ ย แต่ ก็ย งั มี ร าคาสู ง ถึ ง 7 เหมากว่า ๆ
ส่ วนเนื้อชั้นสามจะยิง่ ถูกลงมาอีกหน่อย หนึ่งชัง่ มีราคา 5 เหมา
กว่า
สิ่ งเหล่านี้ยงั ต้องการคูปอง ถ้าไม่ใช้คูปองซื้ อ เนื้อชั้นหนึ่ง
จะขายอยูท่ ี่ราคาประมาณ 1.5 หยวน เนื้อชั้นรองขายอยูท่ ี่ราคา
1.2 หยวน เนื้อชั้นสามขายอยูท่ ี่ราคากว่า 8 เหมากว่า
ผลกาไรที่ได้ดูน่าประทับใจมาก เนื้ อชั้นหนึ่ งและเนื้อชั้น
รองนั้นเขาไม่กล้าคิด แต่ถา้ ภายในหนึ่งวันสามารถขายเนื้ อชั้น
สามได้ 1-2 ชัง่ เขาก็สามารถทาเงินได้ 2-3 เหมาแล้ว
1 วันได้ 2-3 เหมา หนึ่งเดือนก็จะเป็ นสิ บกว่าหยวน
นี่ยงั ไม่นบั เรื่ องที่เขาขายผลผลิตทางการเกษตรของตัวเอง
หนึ่งวันก็สามารถหาได้ประมาณ 2-3 เหมาแล้วสิ นะ? ต่อให้เขา
จะยังไม่เคยขายและไม่ค่อยแน่ ใจเท่าไรนัก แต่ เขารู ้สึกได้ว่า
น่ าจะได้ประมาณนี้ เมื่อคานวณดู แล้วเขาจะมีรายรั บเกือบ 1
หยวนต่อวัน
1 เดือนก็จะมีเงิน 30 หยวนแล้ว!
เขารู ้จกั จ้าวเหวินจื้อ คนที่สอนหนังสื ออยู่ในเมืองที่สอบ
ตกครั้งแล้วครั้งเล่าคนนั้น หมอนั่นก็สอนหนังสื ออยู่ในเมือง
ไม่ใช่เหรอ? เงินเดือนหนึ่งเดือนได้แค่ 28 หยวนเอง!
ถึงแม้จะเป็ นเงิน 28 หยวน คนในหมู่บา้ นต่างพากันอิจฉา
อย่างมาก หนึ่ งเดื อนได้ 28 หยวน หนึ่ งปี ก็เป็ นเงิ น 300 กว่า
หยวน นี่เป็ นเงินที่เขาหาได้เพียงคนเดียว!
เมื่อดูจากการเก็บเงินของตระกูลจ้าวที่เก็บมาหลายปี ได้แค่
900 กว่ า หยวน จ้า วเหวิ น จื้ อ คนเดี ย วสามารถสร้ า งรายได้
มากกว่า 300 หยวนต่อปี ด้วยตัวคนเดียว
ลูกคิดในใจของจ้าวเหวินเทาถูกดีดจนเกิดเสี ยงดังติ้ง ๆ ยิง่
คิดก็ยงิ่ รู ้สึกว่าเรื่ องนี้ช่างน่าสนใจเป็ นอย่างยิง่ !
จ้าวเหวินเทากับไช่ซื่อหู่ดื่มเหล้าหนึ่งขวดและรับประทาน
หู หมูหนึ่ งจานจนหมด เมื่อทาการตกลงรับสิ นค้าในวันพรุ่ งนี้
เช้าเสร็จเรี ยบร้อยแล้ว จ้าวเหวินเทาจึงเดินทางกลับบ้าน
เขาอยากกลับบ้านไปบอกข่าวดี เรื่ องนี้ กบั ภรรยาของเขา
แล้ว!
ตอนที่ 31 วีรบุรุษช่ วยสาวงาม

ครั้นจ้าวเหวินเทากลับมาถึงบ้าน เย่ฉูฉู่ก็นาไข่ไก่สองฟองที่
แลกกับแม่เฒ่าฟางกลับมาพอดี

ปี นี้แม่เฒ่าฟางเลี้ยงไก่จานวนมาก ดังนั้นจึงมีไข่ไก่เหลือไม่นอ้ ย

เธอไม่คิดว่าจะมีเส้นทางชีวิตพลิกผันแบบนี้ แต่ถึงกระนั้นก็
กังวลเล็กน้อย “ทาแบบนี้มนั จะดีเหรอคะ?”

“มันจะไม่ดีได้ยงั ไงล่ะครับ? แต่ภรรยา คุณอย่าไปบอกใคร


นะ พวกเรารู ้กนั แค่น้ ีพอ!” จ้าวเหวินเทากล่าว

เย่ฉูฉู่พยักหน้า “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”

จ้าวเหวินเทาเอนนอนลงบนเตี ยง เขาหาวพร้ อมกับถามว่า


“ภรรยา คืนนี้พวกเรากินอะไรกันดีครับ?”
“คื น นี้ กิ น หมั่น โถวแล้ว กัน ค่ ะ ฉัน นวดแป้ ง เตรี ย มไว้แ ล้ว
เดี๋ยวจะทาไข่กวนซี อิ๊วด้วย คุณว่าดีไหมคะ?” เย่ฉูฉู่ถามด้วย
รอยยิม้

จ้าวเหวินเทาย่อมไม่มีความเห็นต่าง

คื นนั้นพวกเขาจึ งรั บประทานหมัน่ โถวพร้ อ มด้ว ยไข่ ก วน


ซีอิ๊ว ช่างหอมฉุยยิง่ นัก

“แม่ อาหกกับอาสะใภ้หกได้กินของน่าอร่ อยขนาดนั้น ทาไม


พวกเราถึงได้กินแต่โจ๊กล่ะครับ?” เถี่ยต้านอดไม่ได้ที่จะกล่าว
ออกมา

พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วหน้ า ชาไปเล็ ก น้ อ ย ก่ อ นกล่ า วขึ้ น “จะ


เหมือนกันได้ยงั ไงล่ะ? อาหกกับอาสะใภ้หกยังไม่มีน้อง มี
แค่พวกเขาสองคน ส่ วนพวกเรามีพวกลูกอีกสามคนที่ตอ้ ง
เลี้ยงดู จะไม่ประหยัดอาหารสักหน่อยได้ยงั ไง?”
“แล้วจะแยกบ้านทาไมล่ะครับ ตอนนี้ พวกเราแยกบ้านแล้ว
หลัง จากนี้ ถ้า อาหกน าเนื้ อ กลับ มาพวกเราก็ จ ะไม่ ไ ด้กิ น
แล้วน่ะสิ !” เถี่ยต้านกล่าวอีก

หลูตา้ นเห็นด้วยเป็ นอย่างยิง่ “นัน่ น่ะสิ จะแยกบ้านทาไม กิน


ด้วยกันดีกว่าตั้งเยอะ!”

อาสะใภ้หกเพิง่ ถือหมัน่ โถวแป้ งขาวและไข่กวนซี อิ๊วกลับไป


เขาอิจฉาจะตายอยูแ่ ล้ว

ต้าหยาไม่ได้กล่าวอะไร แต่ในใจของเธอก็รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย
เช่ นกัน การแยกบ้านไม่ใช่ เรื่ องที่ดีเลย เมื่อแยกบ้านไปแล้ว
เธอต้องเป็ นคนทางานบ้านทั้งหมดภายในครอบครัวของเธอ

ตอนที่ยงั ไม่แยกบ้าน ยังมีเอ้อร์ หยาที่มาผลัดเปลี่ยนกัน อา


สะใภ้หกก็เข้ามาช่วยเหลือด้วย
“แต่ละคนก็เอาแต่กงั วลเรื่ องกิน แม่ดูแลพวกเธอไม่ดีเหรอ?
รอถึงตอนปี ใหม่เดี๋ยวแม่จะทาเกี๊ยวให้กิน!” พี่สะใภ้รองจ้าว
กล่าว ปี ใหม่แล้วต้องรับประทานของดี ๆ หน่ อยสิ นะ? ห่ อ
เกี๊ยวก็ไม่เลวเลย

ส่ วนครอบครัวของน้องหกจะได้ส่วนแบ่งข้าวสาลีและแป้ ง
สักเท่าไรกันเชียว มันก็มีแค่น้ นั แหละมั้ง? รอดูต่อไปเถอะว่า
จะมีอะไรให้กิน!

ครอบครัวของพี่สามจ้าวก็กาลังพูดถึงเช่นกัน

“นี่ไม่ใช่เทศกาลสักหน่อย หมัน่ โถวก็นบั ว่าเยอะแล้ว แถมยัง


เห็นน้องสะใภ้หกทาไข่กวนซีอิ๊วด้วยนะ!” พี่สามจ้าวกล่าว

น้ าลายของหม่าต้านแทบจะไหลออกมาแล้ว เขากล่าว “หอม


มากเลยครับ แต่อาสะใภ้หกไม่ให้ผมกินสักคา!”
เอ้อร์ หยาขมวดคิ้วกล่ าวว่า “อาสะใภ้หกไม่ แบ่ งให้นายอยู่
แล้ว ตอนนี้ พวกเราแยกบ้า นกัน แล้ว ทุ ก ครอบครั ว ต่ า งก็
แยกกันทา แล้วทาไมต้องแบ่งให้นายด้วย?”

พี่สะใภ้สามจ้าวกล่าว “พอได้แล้ว รี บกินเร็ ว โจ๊กมันเทศนี้ ก็


อร่ อยนะ”

“รสชาติแย่มาก จะไปอร่ อยได้ยงั ไงครับ!” หม่าต้านกล่าว

พี่สะใภ้สามจ้าวถลึงตามองพลางกล่าว “งั้นแกคงไม่เคยหิ ว
สิ นะ! พอมีมนั เทศให้กินแกก็แอบหัวเราะเยาะ ก่อนหน้านี้
แม้แต่เปลือกไม้ยงั ไม่มีให้แทะเลย ทาไมถึงมาบอกว่าโจ๊กมัน
เทศนี้รสชาติแย่ล่ะ?”

“ก็มนั ไม่อร่ อยมาตั้งนานแล้วนี่ครับ!” หม่าต้านบ่น

พี่สามจ้าวมีลูกชายคนนี้ เพียงคนเดียว จึงกล่าวว่า “งั้นพรุ่ งนี้


พวกเรากินน้ าแกงแป้งก้อนกัน”
“เพิ่งจะแยกบ้านก็จะกินน้ าแกงแป้ งก้อนแล้ว คุ ณยังอยากมี
ชีวติ อยูอ่ ีกไหมคะ?” พี่สะใภ้จา้ วสามอดกล่าวไม่ได้

พี่สามจ้าวประหลาดใจ “ทาไมจู่ ๆ คุณถึงขี้เหนี ยวขนาดนี้ ?


มันก็แค่น้ าแกงแป้งก้อนเอง?”

“มาบอกว่ า ฉั น ขี้ เหนี ย วเหรอ คุ ณ คิ ด ว่ า การเป็ นหั ว หน้า


ครอบครัวมันง่ายดายถึงขั้นที่คุณจะกินจะดื่มอะไรก็ได้ตามที่
ต้องการงั้นสิ ? ครอบครัวต้องจัดสรรข้าวสาลี ไม่อยากเก็บ
อาหารดี ๆ ไว้กินตอนขึ้ นปี ใหม่ เหรอ? ตอนนี้ ก็จะกิ นแล้ว
ต้องกินเท่าไหร่ มนั ถึงจะพอสาหรับพวกเธอทั้งสองคนกัน?”
พี่สะใภ้จา้ วสามบ่นหน้าดาคร่ าเครี ยด

ตั้งแต่แยกบ้าน หล่อนแทบจะรอไม่ไหวที่จะแบ่งเงินออกเป็ น
สองส่ วน พวกเขาดันอยากรับประทานของดี ๆ อีก

พี่สามจ้าวตกตะลึงกับสิ่ งที่หล่อนพูด เมื่อเห็นว่าลูกชายและ


ลูกสาวของเขากาลังจ้องมองเขาอยู่ เขาจึงรู ้สึกหน้าเสี ยและ
กล่ า วว่ า “ก็ ไ ม่ ไ ด้บ อกว่ า ให้ คุ ณ กิ น ทุ ก วัน สั ก หน่ อ ย นี่ ก็
เรี ยกว่ า เป็ นการปรั บ ปรุ งคุ ณ ภาพอาหารการกิ น ของ
ครอบครัวเราไม่ใช่หรื อไง? ทางานหนักมาทั้งปี แม้แต่อาหาร
ดี ๆ มื้อเดียวก็ไม่มีให้กินเหรอ?”

“ตอนเที่ยงอาหกกับอาสะใภ้หกกินบะหมี่ ตอนค่าอาหกกับ
อาสะใภ้หกก็กินหมัน่ โถวกับไข่กวนซีอิ๊วอีก” เอ้อร์หยากล่าว

พี่สะใภ้สามจ้าวกลอกตาไปมา ครอบครัวของน้องหกช่างไม่
รู ้จกั การใช้ชีวิตจริ ง ๆ หลังจากแยกบ้านก็ใช้ชีวิตราวกับเป็น
เจ้าบ้านซะแล้ว!

แต่ ห ล่ อ นก็ เ ห็ น ด้ว ย วัน พรุ่ งนี้ ครอบครั ว ของหล่ อ นจะ


รับประทานน้ าแกงก้อนแป้ง!

ด้วยเหตุน้ ีนี่เอง พี่สะใภ้สี่จา้ วจึงพาเย่ฉูฉู่มาคุยเป็ นการส่ วนตัว


ในตอนนี้ หล่อนคิดว่าตัวเองกับเย่ฉูฉู่อยู่ในสถานะเดี ยวกัน
เพราะพวกเธอทั้งสองคนต่างก็ยงั ไม่มีลูกชาย
ต่ า งจากพี่ ส ะใภ้ท้ ัง สองคนที่ มี ลู ก ชาย จึ ง ชอบดี ด ลู ก คิ ด
วางแผนในหัว

“น้องสะใภ้หก ฉันรู ้วา่ ตอนนี้พวกเราแยกบ้านกันแล้ว ฉันไม่


ควรเข้าไปยุง่ แต่เธอกับน้องหกจะใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปไม่ได้
นะ นี่ใช้แป้ งสาลีไปเท่าไหร่ แล้ว ตอนเที่ยงกินบะหมี่ตอนค่า
กินหมัน่ โถว แถมยังใช้ไข่ไก่อีกตั้งสามฟองเพื่อทาไข่กวน
ซีอิ๊ว แบบนี้มนั ฟุ่ มเฟื อยเกินไป การใช้ชีวติ ไม่ใช่การอยูอ่ าศัย
เพียงวันสองวันนะ เธอต้องประหยัดหน่อย ไม่ง้ นั ถ้าพวกเธอ
ยังกินอยู่แบบนี้ มีเงินเท่าไหร่ ก็ไม่พอให้พวกเธอกินอยู่ดี! ”
พี่สะใภ้จา้ วสี่ กล่าว

เย่ฉูฉู่กล่าวอย่างอารมณ์ดี “สิ่ งที่พี่สะใภ้สี่พูดมา ฉันรู ้ดีอยู่แก่


ใจ อีกอย่าง ก็เป็นเพราะเหวินเทาชอบกิน เขาชอบฉันก็เลย
ทาให้เขากินค่ะ”
พี่สะใภ้สี่จา้ วเกื อบสาลักออกมา มองดู สีหน้าที่ เต็มไปด้วย
ความรักของเย่ฉูฉู่ หล่อนทนไม่ไหวแล้ว แต่กไ็ ม่มีทางเลือก
พวกเขาเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่กี่เดื อน ดังนั้นความรู ้ สึกของ
พวกเขาจึงยังแน่นแฟ้น

“หลังจากนี้ฉนั จะจาไว้ พี่สะใภ้สี่ พี่กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ


ค่ะ นี่กด็ ึกมากแล้ว” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้

พี่สะใภ้สี่จา้ วจะพูดอะไรได้อีก ? หล่ อนทาได้เพียงกลับไป


อย่างหดหู่

ส่ วนเย่ฉูฉู่ย่อมกลับเข้าห้องไปนอน จ้าวเหวินเทาหลับไป
แล้ว เพราะพรุ่ งนี้เขาต้องออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด

อย่ า งไรก็ ต ามการใช้ ชี วิ ต ของทั้ งสองคนจะต้ อ งถู ก


วิพากษ์วจิ ารณ์อย่างแน่นอน
เหล่าพี่ชายพี่สะใภ้ช่างพวกเขาเถอะ แต่นี่แม้แต่คุณพ่อจ้าว
และคุณแม้จา้ วต่างก็กงั วลเล็กน้อยด้วย

“การที่เหวินเทาและฉู ฉู่ใช้ชีวิตแบบนี้ เกรงว่าเงินของพวก


เขาอาจจะหมดลงในไม่ชา้ ” คุณแม่จา้ วกล่าว

คุณพ่อจ้าวกล่าว “พรุ่ งนี้คุณไปคุยกับภรรยาของเจ้าหกหน่ อย


เหวิน เทาเป็ นคนเลื อกกิ น จะปล่ อ ยให้เ ขาท าแบบนี้ ต่อไป
ไม่ได้ ต้องวางแผนล่วงหน้าถึงจะดี”

เพิ่งแยกบ้านก็รับประทานอาหารดี ๆ แบบนี้แล้ว โดยเฉพาะ


คืนนี้ แน่นอนว่า ลูกสะใภ้เป็ นคนกตัญญู เธอได้แบ่งไข่กวน
ซีอิ๊วส่ วนหนึ่งให้พวกเขาทั้งสองรับประทานด้วย

แต่ นี่ไม่ ใช่ ประเด็น ประเด็นสาคัญคื อหมัน่ โถวแป้ ง ขาวที่


ลูกสะใภ้ทาต่างหากล่ะ
ตลอดทั้ง ปี สามารถแบ่ ง ได้นิ ด หน่ อ ย แต่ ใ ครจะไม่ เ ก็บไว้
รับประทานช่วงปี ใหม่บา้ ง? ถ้ารับประทานหมดตั้งแต่ช่วงนี้
แล้วช่วงปี ใหม่จะรับประทานอะไร?

“พรุ่ งนี้ฉนั จะไปคุยกับฉูฉู่ค่ะ” คุณแม่จา้ วพยักหน้า

คุ ณ แม่ จ ้า วรู ้ จ ัก ลู ก ชายของตัว เองเป็ นอย่ า งดี เมื่ อ ตอนที่


ลูกสะใภ้เพิ่งแต่งเข้ามาใหม่ ๆ ก็ยงั ดี หน่ อย ที่ยงั พอมีปากมี
เสี ยงกับลูกชายของนางได้

แต่ ต้ งั แต่ ที่ลูกชายของนางเป็ นวีรบุ รุษช่ วยสาวงาม แววตา


ของลูกสะใภ้ที่มองลูกชายของนางก็เต็มไปด้วยความรักมาก
ยิง่ ขึ้น นางเห็นก็ชกั จะทนไม่ไหวแล้ว

ตอนนี้ ไม่ ต ้อ งบอกให้เ ย่ฉู ฉู่ ไ ปทะเลาะกับลู ก ชายของนาง


หรอก เกรงว่าทุก ๆ เรื่ องเธอย่อมเข้าข้างลูกชายของนางอยู่
แล้ว
คุณแม่จา้ วภูมิใจในเสน่ห์ของลูกชายของนางไปพลางก็ถอน
หายใจไปพลาง ปล่อยให้เป็นแบบนี้ ต่อไปไม่ได้ ไม่เช่ นนั้น
ครอบครั ว เล็ ก ๆ ของพวกเขาดี จ ะได้ อ ย่ า งไรกั น ล่ ะ ?
ทรั พยากรของครอบครั ว เพีย งน้อ ยนิ ดนั้นจะไม่ ถู กลู ก ชาย
ของนางรับประทานจนหมดเหรอ?

ไม่ แ ปลกใจเลยที่ ค นสมัย ก่ อ นจะรั ก วี ร บุ รุ ษ ช่ ว ยสาวงาม


ได้ผลเกินไปแล้วจริ ง ๆ!
ตอนที่ 32 เสาหลักของบ้ าน

‘วี ร บุ รุ ษ’ จ้า วเหวิ น เทาตื่ น ขึ้ นมาตั้ง แต่ ช่ ว งเช้ า มื ด ของ


วันรุ่ งขึ้น

เย่ฉูฉู่กงั วลเล็กน้อย จึงกล่าวว่า “นี่ยงั มืดอยูเ่ ลยนะคะ”

“ภรรยา คุณนอนต่อเถอะ ผมอยูท่ ี่นี่มาตั้งแต่เด็ก หลับตาเดิน


ยังได้เลย อีกอย่างท้องฟ้ าก็เป็นแบบนี้ แหละ ผมเดินสักพักก็
มองเห็นทางแล้ว” จ้าวเหวินเทากล่าวขณะสวมเสื้ อผ้า

“เดี๋ยวคุณไปซื้ อของกินในเมืองสักหน่อยนะคะ คูปองฉันใส่


ไว้ในกระเป๋ าให้คุณแล้ว” เย่ฉูฉู่กล่าว

จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้ “ครับ ผมรู ้แล้ว คุ ณนอนต่อ


เถอะ นี่ยงั เช้าอยูเ่ ลย” เขาแปรงฟันเสร็จก็ออกจากบ้าน
วันนี้ เป็นวันแรกที่เขาเดินทางมาทางฝั่งโรงฆ่าสัตว์ เขาย่อม
ไม่ตอ้ งการให้เกิดข้อผิดพลาด ดังนั้นจึงออกมาในช่วงเวลาที่
ท้องฟ้ายังคงเป็ นสี เทาอึมครึ มอยู่

ท้อ งฟ้ า ยัง คงเป็ นสี เ ทา แต่ เ วลากลับ สายแล้ว ไช่ ซื่ อ หู่ ไ ด้
เตรี ยมของเสร็ จเรี ยบร้อย เมื่อเห็นว่าเขามาช้าขนาดนี้จึงกล่าว
ว่า “เหวินเทา นายยังขาดจักรยานนะ”

“ผมรู ้ ผมให้พี่สาวรวบรวมคูปองให้แล้ว ขอแค่มีคูปองก็ซ้ื อ


ได้แล้วล่ะครับ!” จ้าวเหวินเทากล่าว

ไช่ ซื่อหู่ ไม่ได้กล่าวอะไร เขาหยิบเนื้ อชั้นสามจานวน 4 ชั่ง


ออกมา จ้าวเหวินเทามีดวงตาเป็ นประกาย เขาคิดว่านามาให้
เขาสัก 2-3 ชัง่ ก็นบั ว่าไม่เลวแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะมีถึง 4 ชัง่ เขา
ทาการคานวณเงินโดยไม่กล่าวอะไรให้มากความ

“รี บไปเถอะ ยังไม่สายเกินไปที่จะเข้าเมืองตอนนี้ ” ไช่ ซื่อหู่


กล่าว
“ถึงจะช้าหน่ อยก็ไม่กลัว เนื้ อนี้ มีเหรอจะขายไม่ออก?” จ้าว
เหวินเทากล่าว

“ถ้าเจอคนรู ้จกั จะทายังไง?” ไช่ ซื่อหู่ ยงั คงกังวลเล็กน้อย จึง


ถามออกมาหนึ่งประโยค

“ยังต้องพูดอะไรอีก ผมก็จะบอกว่าเข้าเมืองไปหาพี่สาวของ
ผมไง จะเอาเนื้ อ ไปให้พ วกหลาน ๆ สั ก หน่ อ ยไม่ ไ ด้เ ลย
เหรอ?” จ้าวเหวินเทากล่าว

ไช่ซื่อหู่ จึงโล่งใจพลางกล่าวด้วยรอยยิม้ “วันนี้กเ็ ยอะขนาดนี้


แล้ว หลังจากนี้ฉนั จะพยายามหามาให้มากขึ้นอีกหน่อย”

จ้าวเหวินเทาบอกลาเขา จากนั้นก็หิ้วถุงกระสอบเข้าเมืองไป

เนื่องจากพี่สาวทั้งสองของเขาแต่งงานเข้าเมืองแล้ว แม้ว่าเขา
จะไม่ ได้เข้าเมื องบ่ อย ๆ แต่ จา้ วเหวินเทาก็จ าทางได้อ ย่า ง
ชัดเจน
ครั้ งนี้ เขาไม่ ได้ไปฝั่ งถนนอัน ซิ่ ง เนื้ อแบบนี้ จะขายที่ ถ นน
อันซิ่ งได้อย่างไรกัน? อีกอย่างเนื้ อที่ เขาได้มาก็ยงั ไม่ ทราบ
แหล่งที่มาอย่างแน่ ชดั อาจเกิดปั ญหาได้ง่าย ๆ ดังนั้นจึงไม่
ไปดีกว่า

เขาเลือกแหล่งที่อยู่อาศัย จากนั้นก็เลือกค้าขายกับหญิงชรา
เหล่านั้นโดยเฉพาะ

ก็แค่เนื้ อไม่กี่ชงั่ เขาซื้ อมาจากไช่ ซื่อหู่ ในราคา 5.40 เหมาต่อ


หนึ่งชัง่ และเขาขายออกไปได้ในราคา 8.60 เหมา ดังนั้นหนึ่ง
ชัง่ จึงได้กาไร 3.20 เหมา

ทั้ง ยัง รั บ คู ป องด้ว ย จะเป็ นคู ป องอะไรก็ ไ ด้ เขาต้อ งการ


ทั้งหมด

ใช้เวลาไม่นาน เขาก็ขายเนื้อไม่กี่ชงั่ นี้จนหมดเกลี้ยง

เขาได้รับคูปองอาหารมา 4 ใบ พร้อมกับเงินอีก 1.28 หยวน!


สิ่ งนี้ทาให้จา้ วเหวินเทาดวงตาเป็ นประกาย เขารู ้สึกว่างานนี้
ไม่ยากลาบากอะไรเลย!

ตอนที่เขามาซื้ อซาลาเปาเนื้ อที่ร้านอาหารของรัฐบาลเขาก็


แอบอาลัยอาวรณ์ เขาอยากได้หมัน่ โถวสองลูกและซาลาเปา
หนึ่งลูก ซาลาเปาถูกห่ อด้วยกระดาษไข จากนั้นก็เก็บไว้ดา้ น
ในกระเป๋ าเสื้ อเพื่อนากลับไปให้ภรรยาของเขารับประทาน
ส่ วนตนเองรับประทานหมัน่ โถว เขารับประทานไปพลางก็
เดินไปยังบ้านของพี่สาวห้าที่อยู่ทางทิศตะวันออกของเมือง
ไปพลาง

แต่ เมื่ อเขามาถึ งก็พบว่าพี่สาวห้าของเขาได้ออกไปทางาน


แล้ว

จ้าวเหวินเทาไม่ มีทางเลื อก จึ งไปหาพี่สาวห้าของเขาที่ ฝั่ง


โรงงานยาสี ฟัน
พี่สาวห้าจ้าวกล่าวด้วยความประหลาดใจ “ทาไมถึงเข้าเมือง
ตั้งแต่เช้าล่ะ กินอะไรมาหรื อยัง?”

“ผมกิ น แล้ว ครั บ พี่ ส าวห้า ผมมาถามเรื่ อ งจัก รยาน มี ข่ า ว


อะไรบ้างไหม?” จ้าวเหวินเทากล่าว

“มันจะเร็ วขนาดนี้ ได้ยงั ไงกัน” พี่สาวห้าจ้าวกล่าว “เธอไม่


ต้องรี บร้อน ฉันจะไปถามมาให้ อีกสองวันพี่เขยของเธอก็
กลับมาแล้ว เขามีเส้นสายเยอะ เดี๋ยวให้เขาช่วยหาให้นะ”

“ได้เลย” จ้าวเหวินเทาพยักหน้า

“เอาไปซื้ อซาลาเปาเนื้อกินสิ ” พี่สาวห้าจ้าวให้เงินและคูปอง


กับเขา

จ้าวเหวินเทาอยากรั บไว้ แต่ เมื่ อนึ กถึ งสิ่ ง ที่ ภ รรยาของเขา


กล่าว เขาจึงลังเลและผลักกลับไป “พี่สาวห้า ครอบครัวของ
พวกเราแยกบ้า นกัน ตั้ง แต่ เ มื่ อ วานแล้ว ผมพอจะมี เ งิ น อยู่
ครับ”

“ทาไมถึงแยกบ้านเร็ วขนาดนี้ ?” พี่สาวห้าจ้าวอดไม่ได้ที่จะ


พูด

“เรื่ องนี้ ไว้ค่อยคุ ย พี่สาวห้ากลับไปทางานก่อนเถอะ ผมจะ


ขึ้นไปหาพี่สาวใหญ่แล้ว” จ้าวเหวินเทากล่าว

“งั้นตอนเที่ยงมากินข้าวที่บา้ นไหม?” พี่สาวห้าจ้าวกล่าว

“ไม่ตอ้ งหรอกครับ ผมไปหาพี่สาวใหญ่แล้วก็จะกลับเลย”


จ้าวเหวินเทากล่าว

พี่สาวห้าจ้าวยังคงยัดเงินและคูปองให้กบั เขา และย้ าให้เขา


ไปหาอะไรกิน ห้ามกลับไปโดยที่ทอ้ งยังหิวอยู่

จ้าวเหวินเทาจึงรับไว้ พี่สาวห้าเป็ นผูห้ ญิงที่ร่ ารวย จึงไม่ตอ้ ง


เกรงใจหล่อนมากนัก
ข้อแรกพี่เขยห้าวิ่งรถและมีเงินเดือนที่สูงมาก ส่ วนอีกข้อคือ
มีน้ ามันให้ใช้ นอกจากนี้ พี่สาวห้าของเขาก็มีเงิ นเดื อนเป็ น
ของตัวเอง ครอบครัวจึงเปี่ ยมล้นด้วยความสุ ข

แน่นอนว่า เขาทราบดีวา่ พี่สาวห้ารักเขา

จ้าวเหวินเทามาเยีย่ มเยียนพี่สาวใหญ่จา้ วของเขาทางฝั่งนี้ดว้ ย


ตัวเอง

วันนี้ พี่สาวใหญ่จา้ วอยู่บา้ น ทั้งยังมีหลานสาวชื่ อเยว่เยว่อีก


คนหนึ่งด้วย

“น้องหก?” เมื่ อเห็ นจ้าวเหวินเทา พี่สาวใหญ่ จา้ วก็รีบถาม


ด้วยความดีใจเป็นอย่างมากว่า “ทาไมถึงเข้าเมืองตอนนี้ล่ะ?
กินอะไรมาหรื อยัง พี่จะไปเอาอะไรร้อน ๆ มาให้กินดีไหม?”

“ไม่ตอ้ งครับ ผมกินมาแล้ว เมื่อกี้เพิ่งไปหาพี่สาวห้ามา พี่สาว


ห้าให้เงินและคูปองกับผมด้วย” จ้าวเหวินเทายิม้ “ผมมาเพื่อ
มาบอกกับพี่สาวใหญ่วา่ พวกเราแยกบ้านกันแล้วนะ เพิ่งแยก
บ้านเมื่อวานนี้เอง”

พี่สาวใหญ่รีบพูดด้วยความตกใจว่า “เกิดอะไรขึ้น? ที่บา้ นก็


อยู่ดว้ ยกันดี ๆ ทาไมถึงแยกบ้านกันล่ะ? หรื อว่าภรรยาของ
เธอทะเลาะกับพวกพี่สะใภ้?”

“ใช่ ที่ไหนกันล่ ะครั บ ภรรยาของผมนิ สัยอย่างกับกระต่าย


อ่ อ นแอยิ่ง กว่า อะไร เธอจะไปทะเลาะกับพวกพี่ ส ะใภ้ได้
ยังไง?” จ้าวเหวินเทาปฏิเสธ

พี่สาวใหญ่ จา้ วชะงักไปครู่ หนึ่ ง แล้วกล่ าวว่า “เธอเป็ นคน


บอกกับฉันว่าภรรยาของเธอจัดการได้ยากไม่ใช่เหรอ?”

จ้าวเหวินเทาเคยบ่นให้พี่สาวทั้งสองของเขาฟั งตอนเข้าเมือง
ว่ า ภรรยาของเขาจู ้จ้ ี จุ ก จิ ก กับ เขามาก แถมยัง เป็ นคนน่ า
ราคาญด้วย
เมื่อมองย้อนกลับไป จ้าวเหวินเทาจึงกระแอมไอพลางกล่าว
“เรื่ องพวกนั้นก็ผ่านไปแล้ว ภรรยาของผมตอนนี้ทาตัวดีมาก
ที่แยกบ้านไม่ใช่เพราะภรรยาของผมหรอก เป็ นเพราะผมเอง
ก็แ ต่ ง งานแล้ว พี่ ส ามกับพี่ ส ะใภ้สี่ ต่ า งก็ไ ม่ ช อบขี้ ห น้า ผม
พวกเขาคิดว่าผมเอาเปรี ยบ รู ้สึกว่าผมกับภรรยาเลี้ยงไปก็เสี ย
ข้าวสุ ก เพราะเอาแต่พ่ งึ พาพวกเขา เลยแยกบ้านกันไปเลย ผม
ก็อยากเห็นเหมือนกันว่าหลังจากแยกบ้านแล้วใครจะมีชีวิตดี
ที่สุด!”

พี่สาวใหญ่ จา้ วกล่ าวอย่างเป็ นกังวล “แล้วเธอกับฉู ฉู่จะทา


ยังไงต่อ? แยกบ้านกันแล้ว ถ้ามีลูกหลังจากนี้ใครจะเลี้ยง?”

“ก็ตอ้ งเป็ นภรรยาของผมอยูแ่ ล้วครับ” จ้าวเหวินเทากล่าว

พี่สาวใหญ่จา้ วกล่าว “ภรรยาของเธอเลี้ยง? ถ้าภรรยาของเธอ


เลี้ ย งลู ก แล้ว จะไปท างานยัง ไง? จะให้พ่ ึ ง พาเธอคนเดี ย ว
เหรอ?”
“แหงสิ ผมเป็ นเสาหลักของบ้านนะ ถ้าไม่พ่ งึ พาผมแล้วจะให้
ไปพึ่งใคร?” จ้าวเหวินเทายอมรับ

พี่สาวใหญ่จา้ วมองน้องของตนเองคนนี้ อายุของเขาห่ างจาก


หล่อน 14 ปี หล่อนแต่งงานตอนอายุ 18 ปี ตอนนั้นน้องชาย
ของหล่อนคนนี้เพิ่งจะ 4 ขวบเอง

แม้วา่ ปี นี้เขาจะอายุ 20 ปี แต่งงานแต่งการและเป็ นผูใ้ หญ่แล้ว


แต่ในใจของหล่อนก็ยงั มองว่าเขาเป็ นน้องชายคนเล็กอยูด่ ี

“ถ้าต้องพึ่งพาเธอคนเดี ยว ฉันคิ ดว่าพวกเธอสองคนคงได้


เลี้ยงลูกแบบอด ๆ อยาก ๆ แน่นอน” พี่สาวใหญ่จา้ วพูดตาม
ความจริ ง

จ้าวเหวินเทากล่ าว “พี่สาวห้าบอกกับผมว่าฝั่ งถนนอัน ซิ่ ง


สามารถค้าขายได้ ถึงตอนนั้นผมจะขนของเข้ามาขายในเมือง
แบบนั้นก็สามารถหาเงินได้แล้วไม่ใช่เหรอครับ?”
“เธอจะไปค้าขายเหรอ?” พี่สาวใหญ่จา้ วอดไม่ได้ที่จะพูด

“ทาไมล่ ะ พี่สาวใหญ่ดูถูกการค้าขายเหรอ?” จ้าวเหวินเทา


เห็นสี หน้าของหล่อนเปลี่ยนไป จึงกล่าวออกมา
ตอนที่ 33 มีจักรยานแล้ว

พี่สาวใหญ่จา้ วรี บกล่าวว่า “พี่ไม่ได้ดูถูกการค้าขายหรอก แต่


คนอื่นอาจจะดูถูกไง ถ้านาย…”

“ถ้าผมไม่ มีเงิ นคนอื่ นถึ งจะดู ถูก แต่ ถา้ ผมหาเงิ นและสร้าง
บ้านอิ ฐในหมู่ บา้ นได้สั ก หลัง ใครจะมาดู ถูกผมล่ ะครั บ ?”
จ้าวเหวินเทาพูดอย่างไม่แยแส

พี่สาวใหญ่จา้ วถึงกับสะอึก สิ่ งที่เขาพูดมันก็ถูก

“แต่ระยะทางไปกลับไกลซะขนาดนี้” พี่สาวใหญ่จา้ วกล่าว

“ดัง นั้ นผมก็ เ ลยให้ พี่ ส าวห้ า ช่ ว ยเก็ บ คู ป องให้ ผ มไว้ซ้ื อ


จักรยานสักคันไงครับ” จ้าวเหวินเทากล่าว
พี่สาวใหญ่จา้ วรู ้สึกกังวลเล็กน้อย น้องชายของหล่อนคนนี้ยงั
ไม่ทนั ได้หาเงิน ก็ใช้เงินซื้ อจักรยานแล้ว ต้องใช้เงินเท่าไร
กัน?

“น้องชายลู กสะใภ้มาเหรอ” แม่ เฒ่ าหวังเอ่ ยถามพร้ อ มกับ


แบกตะกร้าเข้ามา

“คุ ณป้ ากลับมาแล้วเหรอครั บ ” จ้าวเหวินเทากล่ าวทัก ทาย


ด้ว ยรอยยิ้ม เมื่ อ เห็ น ไข่ ไ ก่ ในตะกร้ า ของนางจึ ง กล่ าวด้วย
รอยยิม้ ว่า “ทาไมคุณป้าถึงยังหาซื้อไข่ไก่ได้ล่ะ? หาซื้อมาจาก
ที่ไหนเหรอครับ ถัว่ งอกนี้กด็ ูอ่อนมากเลย”

“ฉันเจอคนขายอยูด่ า้ นนอก เห็นว่าไม่เลวก็เลยซื้อมา” แม่เฒ่า


หวัง กล่ า วด้ว ยรอยยิ้ม “เธออยู่กิ น ข้า วเที่ ย งด้ว ยกัน ก่ อ นสิ
เดี๋ยวให้พี่สาวใหญ่ของเธอผัดไข่ให้กินสักจาน!”

“ไม่ตอ้ งหรอกครับ เดี๋ ยวผมนัง่ สักพักก็กลับแล้ว” จ้าวเหวินเทา


กล่าว
“เมื่ อ กี้ ฉัน ได้ยิน เรื่ อ งจักรยาน อยากจะยืม จัก รยานเหรอ?
จักรยานที่บา้ นถูกลุงของเธอใช้ขี่ไปทางานแล้วล่ะ” แม่เฒ่า
หวังกล่าว

“เปล่าครับ ผมว่าจะซื้อสักคัน” จ้าวเหวินเทากล่าว

“ซื้ อสักคัน? ทาไมจู่ ๆ ถึงอยากซื้ อจักรยานล่ะ?” แม่เฒ่าหวัง


กล่าวอย่างไม่เข้าใจ

“ผมจะเอาของมาขายในเมืองครับ ถ้าไม่มีจกั รยานคงไม่ค่อย


สะดวกเท่ า ไร แต่ ผ มขอให้ พี่ ส าวห้ า ช่ วยเก็ บ คู ปอง
อุตสาหกรรมไว้แล้ว ถ้ามีคนั ที่เหมาะสมก็จะซื้ อเลย” จ้าวเหวิ
นเทากล่าว

แม่เฒ่าหวังได้ยนิ ดังนั้นจึงกล่าวว่า “ของใหม่มนั แพงมากเลย


นะ ต้องใช้คูปองอุตสาหกรรมอย่างน้อยหลายสิ บใบ หาซื้ อ
ได้ยากเชียวล่ะ!”
“เปล่าครับ ถ้ามีรถมือสอง ผมก็เอา” จ้าวเหวินเทากล่าว

“รถมือสองก็เอาเหรอ? ถ้างั้นบ้านเหล่าเฉิ นมีอยู่หนึ่ งคัน เก่า


หน่ อย แต่ก็ทนมากเลยนะ สามารถใช้งานได้!” แม่เฒ่าหวัง
รี บกล่าวโดยพลันทันที

จ้าวเหวินเทาต้องการแค่สนทนากับนางเฉย ๆ ไม่คิดว่านาง
จะมีทางออกให้

“จักรยานคันนั้นถูกกฎหมายไหมครับ?” จ้าวเหวินเทารี บถาม

“ทาไมจะไม่ถูกกฎหมายล่ะ เหล่าเฉินสามซื้อมาตอนแต่งงาน
เมื่ อ ห้ า ปี ที่ แ ล้ว ปี นี้ จะย้า ยไปอยู่ ห้ อ งเดี่ ย ว เลยไม่ ไ ด้ใ ช้
จักรยานแล้ว ห้องเดี่ยวกับโรงงานอยูห่ ่ างแค่ 10 นาทีเอง เดิน
ไปก็ได้ เขาก็เลยอยากขายจักรยาน!” แม่เฒ่าหวังกล่าว

“มีเรื่ องแบบนี้ ดว้ ยเหรอคะ? ทาไมฉันไม่รู้เรื่ องเลย” พี่สาว


ใหญ่จา้ วกล่าว
“เขาเพิ่งบอกว่าต้องการขายเมื่อกี้น้ ี เอง ฉันบังเอิญได้ยินมา
จากทางฝั่งนั้น ยังแนะนาให้ป้าของเธอที่กาลังจะไปซื้ อไข่ไก่
ให้รีบไปดูอยูเ่ ลย” แม่เฒ่าหวังกล่าว

“ราคาเท่าไรครับ?” จ้าวเหวินเทาไม่สนใจเรื่ องไข่ไก่ เขารี บ


ถามอย่างรวดเร็ว

“เป็ นจัก รยานตราหงส์ น่ ะ ได้ยิน ว่า ตอนที่ ซ้ื อ มาราคา 150


หยวน แต่ใช้มาห้าปี แล้ว เมื่อกี้เห็นบอกว่าไม่เอาคูปองแต่ขอ
ในราคาหนึ่งร้อยหยวน” แม่เฒ่าหวังกล่าว

“แพงขนาดนั้น เลยเหรอคะ?” พี่ ส าวใหญ่ จ ้า วกล่ า วขึ้ น มา


อย่างฉับพลัน

“ก็ตอ้ งไปต่อรองราคาดูก่อนสิ เธอเอาเงินมาหรื อเปล่าล่ะ?”


แม่เฒ่าหวังถามเขา
“ผมไม่ได้เอามาครับ แต่คุณป้ าวางใจได้ ผมแยกบ้านแล้ว ได้
เงิ นมา 175 หยวน พี่สาวใหญ่ช่วยออกให้ผมก่ อนนะ เดี๋ ยว
พรุ่ ง นี้ ผมจะเข้า เมื อ งเอาเงิ น มาคื น !” จ้า วเหวิ น เทากล่ า ว
ฉับพลัน

“เธอมองพวกเราเป็ นคนนอกเกินไปแล้ว ใครจะไม่เคยเจอ


เหตุฉุกเฉิ นบ้าง? เรื่ องนี้ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เดี๋ยวจ่ายให้ก่อน
งั้นก็ให้พี่สาวใหญ่ของเธอพาเธอไปถามดู จักรยานคันนั้นไม่
เลวเลยจริ ง ๆ!” แม่เฒ่าหวังยิม้ ตาหยี สร้างความประทับใจได้
เป็ นอย่างดี

“คุณแม่ทาธุระก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันพาเหวินเทาไปถามสักครู่ ”
พี่สาวใหญ่จา้ วกล่าว

“เอาเงินไปด้วย ตกลงเสร็ จแล้วก็จ่ายเงินเลย อย่าไปรอให้คน


อื่นได้ข่าวแล้วมาแย่งล่ะ” แม่เฒ่าหวังกล่าว
พี่สาวใหญ่จา้ วเข้าไปหยิบเงินแล้วพาน้องชายของหล่อนไป
บ้านเหล่าเฉิน

เขาต้อ งการขายจัก รยานจริ ง ๆ โดยเสนอราคาอยู่ ที่ 100


หยวน หลังจากต่อรองราคา สุ ดท้ายก็จบลงที่ 90 หยวน ได้
ลดลงไปอีก 10 หยวน

นี่คงเป็ นเพราะเห็นว่าเป็ นคนจากบ้านใกล้เรื อนเคียง

พี่สาวใหญ่จา้ วขอใบเสร็จจากเหล่าเฉินสาม นับว่าการซื้อขาย


เสร็จสมบูรณ์แล้ว

จ้า วเหวิน เทาเข็นจัก รยานของตัว เอง ภายในใจรู ้ สึ กได้ถึง


ความปิ ติจนแทบทนไม่ไหว รู ้สึกดีใจจนตัวเกือบจะลอยได้
อยูแ่ ล้ว

เขาเองก็กลายเป็ นคนมีจกั รยานขี่แล้ว!


“พี่สาวใหญ่ วันพรุ่ งนี้ ผมยังต้องเข้าเมือง เดี๋ ยวเอาเงินมาให้
นะ!” จ้าวเหวินเทากล่าว

พี่สาวใหญ่จา้ วกล่าว “นายจะค้าขายจริ ง ๆ เหรอ?”

“ยัง ต้อ งพู ด อี ก เหรอครั บ ผมซื้ อ จัก รยานแล้ว นะ” จ้า วเหวิ
นเทากล่าว

พี่สาวใหญ่จา้ วจึงถาม “งั้นนายจะขายอะไร?”

“เยอะแยะจะตายไป ก็พวกของที่ว่ายอยูใ่ นน้ า วิ่งอยูใ่ นป่ าไง


จะไปเอาของที่ ใ นเมื อ งมี อ ยู่แ ล้ว ท าไมล่ ะ ครั บ ?” จ้า วเหวิ
นเทากล่าว

พี่สาวใหญ่ จา้ วจะกล่ าวอะไรได้อีก? เขามัน่ ใจมากขนาดนี้


แล้ว ทั้งยังไม่กลัวว่าจะอายคนอื่นด้วย

พี่สาวใหญ่จา้ วจึงไม่กล่าวอะไรอีก
“ผมจะไปบอกพี่สาวห้าก่อน พี่สาวใหญ่กลับไปเถอะ” จ้าวเห
วินเทากล่าว

“รี บ ขนาดนั้น เลยเหรอ กิ น ข้า วเที่ ย งก่ อ นสิ แ ล้ว ค่ อ ยไป?”


พี่สาวใหญ่จา้ วกล่าว

“พี่ยงั มีลูกอีกสี่ คนที่ตอ้ งเลี้ยงดูนะ ผมจะไปกินข้าวบ้านพี่ได้


ไง” จ้า วเหวิน เทาโบกมื อ เขาบอกลาพี่ ส าวใหญ่ และปั่ น
จักรยานจากไป

แม่เฒ่าหวังคอยอยูท่ ี่บา้ น เมื่อเห็นลูกสะใภ้กลับมาคนเดียวจึง


อดถามไม่ได้วา่ “น้องชายเธอล่ะ?”

“ไปหาพี่สาวห้าของเขาแล้วค่ะ” พี่สาวใหญ่จา้ วกล่าว

“ไม่อยูก่ ินข้าวด้วยกันเหรอ เมื่อวานที่เอาอาหารมาให้กไ็ ม่ได้


กิน” แม่เฒ่าหวังกล่าว
พี่สาวใหญ่จา้ วพูดไม่ได้ว่าน้องชายของหล่อนกังวลว่าจะถูก
ครอบครัวฝ่ ายสามีของหล่อนดูถูกจึงไม่อยูก่ ินข้าวด้วย

แม่ เฒ่ าหวังกระซิ บ “น้องชายของเธอ เขาจะค้าขายจริ ง ๆ


เหรอ?”

พี่สาวใหญ่จา้ วถอนหายใจกล่าว “ไม่รู้ว่าเขาไปฟั งใครมาน่ ะ


ค่ะ ถึงได้มีความคิดริ เริ่ มอยากจะค้าขาย”

“ฉันเห็นว่าความคิดของน้องชายของเธอก็ไม่เลวเลยนะ เธอ
ดูไข่ไก่กบั ถัว่ งอกที่ฉันซื้ อมาสิ แย่งกันดุเดือดมาก!” แม่เฒ่า
หวังกล่าว

“จริ งเหรอคะ?” พี่สาวใหญ่จา้ วถาม

“ก็จริ งน่ะสิ พวกกลุ่มสหกรณ์จาหน่ายเครื่ องบริ โภคอุปโภค


อืดอาดยืดยาดยิ่งกว่าอะไร ถามอะไรก็ไม่ตอบ น้องชายของ
เธอมีนิสัยร่ าเริ งมาก คุยกับใครก็ได้ ถ้าเขาต้องการค้าขายต้อง
มีคนแย่งกันซื้อแน่นอน!” แม่เฒ่าหวังกล่าว

พี่สาวใหญ่จา้ วหัวเราะ หล่อนถอนหายใจเล็กน้อยและกล่าว


ว่า “ครอบครัวก็แยกบ้านกันแล้ว เจ้าหกเองก็ไม่ชอบทานา ก็
คงได้แค่ลองดูล่ะค่ะ”

“เธอไม่ตอ้ งห่ วงหรอก ฉันว่าน้องชายของเธอเป็ นคนคิดเป็ น


อนาคตไม่เลวร้ายอยูแ่ ล้ว ทาไม่ไหวจริ ง ๆ ก็กลับไปเก็บแต้ม
ค่าแรงเหมือนเดิมก็ได้เหมือนกันนัน่ แหละ” แม่เฒ่าหวังกล่าว

พี่สาวใหญ่จา้ วพยักหน้า ซึ่งพี่สาวใหญ่น้ นั นิสัยเหมือนกับแม่


ตรงที่มกั จะกังวลอยูเ่ สมอ

จ้าวเหวินเทาไม่ได้กงั วลเรื่ องนี้ หลังจากที่เขามาบอกพี่สาว


ห้าที่โรงงานยาสี ฟันเสร็ จ เขาก็ปั่นจักรยานเที่ยวเตร่ ที่ถนน
อันซิ่ งอี กรอบ ซึ่ งที่ นี่ดูคึกคักมาก เขามองดู พวกหัวไชเท้า
ผักกาดขาว และถัว่ งอก ของเหล่านี้ต่างถูกคนจานวนมากแย่ง
กัน ซื้ อ ถ้า เขาเอาถั่ว งอกมาขาย มัน คงจะไม่ เ ลวร้ า ยอย่า ง
แน่นอนถูกไหม?

จ้าวเหวินเทาดีใจอย่างยิง่ เขารู ้สึกว่าช่วงเวลาดี ๆ ของเขาและ


ภรรยาจะมาถึงเร็ว ๆ นี้แล้ว เขาขี่จกั รยานไปห้างสรรพสิ นค้า
และซื้อครี มโหยวอี้ที่มาใหม่ให้ภรรยาของเขาหนึ่งกล่อง จ้าว
เหวินเทาไม่เคยซื้ อของแบบนี้มาก่อน จึงไม่คิดว่ามันจะแพง
ขนาดนี้

แม้ว่าราคาแพงแต่ เขาก็ซ้ื อ ภรรยาของเขาสนับสนุ นอาชี พ


ของเขามากขนาดนี้ แค่ซ้ื อครี มโหยวอี้ให้เธอเพียงกล่องเดียว
เขาจะลังเลได้อย่างไรกัน?
ตอนที่ 34 เย่ ฉูฉู่ผู้น่าสงสาร

จ้าวเหวินเทาปั่ นจักรยานโต้ลมอยู่บนถนนระหว่างทางกลับ
บ้าน เขารู ้สึกราวกับถึงบ้านภายในพริ บตาเดียว

เมื่อเขาขี่จกั รยานกลับมา ก็ถูกเพื่อนบ้านพากันเข้ามาถามไถ่


ว่าจักรยานคันนี้ได้มาจากที่ไหน? เพราะนี่ไม่ใช่จกั รยานของ
หัวหน้าหมู่บา้ น

“ไม่ ใ ช่ จ ัก รยานของหัว หน้า หมู่ บ้า นอยู่แ ล้ว ของหัว หน้า


หมู่บา้ นเป็ นยี่ห้อพิราบบิน ของฉันเป็ นยี่ห้อหงส์ เชี ยวนะ!”
จ้าวเหวินเทากล่าวอย่างภาคภูมิใจ

“พวกเรารู ้แล้ว แต่นายไปเอาจักรยานมาจากไหน?” เหล่าฟาง


สามที่อยูข่ า้ งบ้านกล่าว
เขาเป็ นลูกชายคนที่สามของแม่เฒ่าฟางที่เย่ฉูฉู่ไปแลกไข่ดว้ ย
อยูข่ า้ งบ้านนี้เอง

“นี่ เป็ นจักรยานมือสองของฉัน พี่สาวใหญ่ช่วยเป็ นธุ ระซื้ อ


ให้” จ้าวเหวินเทากล่าว

“หา!” ทุกคนถึงกับประหลาดใจ ปรากฏว่าซื้ อจักรยานมาจริ ง


ๆ เหรอ? จึงทยอยถามถึงราคาว่าได้มาในราคาเท่าไร?

จ้าวเหวินเทากล่าวตามความจริ ง ทาให้ทุกคนต่างพากันตก
ตะลึงอย่างอดไม่ได้

พี่สามจ้าวที่อยู่ในกลุ่มฝูงชนเห็นแล้วก็อดเบ้ปากไม่ได้ นาย
ทาอะไรให้มนั พอตัวหน่อยเถอะ เงินร้อยกว่าหยวนนัน่ ดูสิวา่
นายจะใช้ได้อีกสักกี่วนั เพิ่งจะแยกบ้านก็ใช้เงินแบบนี้แล้ว!
พี่รองจ้าวรู ้สึกร้อนใจ รี บดึงน้องหกเข้ามาคุยในบ้าน จากนั้น
จึงกล่าวว่า “น้องหก ทาไมนายถึงซื้ อจักรยานคันนี้ ? พวกเรา
จะใช้มนั ทาอะไรบ้าง นายใช้จ่ายฟุ่ มเฟื อยเกินไปหรื อเปล่า?”

“ผมก็ซ้ื อมาใช้ไง ใครบอกว่าผมซื้ อมาเล่ น ๆ ล่ ะ” จ้าวเหวิ


นเทากลอกตามองบนพลางกล่าว

วันนี้พี่สี่จา้ วและพี่สะใภ้สี่จา้ วพาซานหยาและซื่อหยาไปบ้าน


แม่ยาย ไม่ได้อยูบ่ า้ น ดังนั้นจึงไม่ได้ออกมาดูความวุน่ วายนี้

แต่คนที่เหลือต่างออกมาดูกนั หมด

ครั้นได้เห็นจักรยานคันนี้กไ็ ม่รู้จริ ง ๆ ว่าควรจะพูดอย่างไร

แม้แต่คุณพ่อจ้าวยังอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ลูกชายคนนี้ใช้
เงินเก่งเกินไปแล้ว คนชนบทจะซื้อจักรยานไปทาไมกัน
“น้องสามี หก นายซื้ อจักรยานมาทาไมเนี่ ย?” เมื่ อเที ยบกับ
สายตาเย็นชาของพี่สะใภ้รองจ้าว พี่สะใภ้สามจ้าวกลับถาม
ออกไปตรง ๆ

“ผมจะเอาสิ นค้าจากในนาไปขายในเมือง” จ้าวเหวินเทากล่า


วอย่างใจเย็น

ในเมื่ อเรื่ องนี้ ไ ม่ สามารถปิ ดบังได้แ ล้ว ก็ไม่ ตอ้ งปิ ดบัง อี ก
ต่อไป เขาจึงกล่าวออกมาตรง ๆ

เมื่อประโยคนี้หลุดออกมาจากปาก ทุกคนต่างก็ตกใจ คนอื่น


ๆ ที่เข้ามาดูความวุ่นวายก็ตกใจเช่นกัน จ้าวเหวินเทาตั้งใจจะ
ขายเก็งกาไร?

“ขายเก็งกาไรอะไรกัน เราคุ ยกันก็ตอ้ งว่ากันด้วยเรื่ อ งมโน


ธรรม บ้านเราเป็นชาวนายากจนมาหกชัว่ อายุคน มีภูมิหลัง
ทางครอบครัวที่ดีนะ!” จ้าวเหวินเทากล่าว
“นายเข้าเมืองไปขายของ ไม่กลัวถูกทหารอาสาจับหรื อไง?”
คนหนึ่งถามขึ้น

จ้าวเหวินเทานิ่ งสงบเป็นอย่างมาก “จับเจิบอะไรกันล่ะ ฉัน


ไม่ได้ไปขายที่อื่นสักหน่อย ฉันไปขายบนถนนที่นายอาเภอ
ก าหนดไว้ ฝั่ ง นั้ นมี ต ลาดเสรี ของที่ ข ายทั้ง หมดก็ เ ป็ น
ผลิตภัณฑ์จากไร่ นาของพวกเรา ทั้งหมดเป็ นของสุ จริ ต ไม่มี
ของผิดกฎหมายเลยสักนิด!”

“แล้วได้เงินเท่าไรล่ะ?” เหล่าหวังสามถาม

“ฉัน จะไปรู ้ ไ ด้ย งั ไงว่ า ขายได้เ ท่ า ไร ฉัน ยัง ไม่ เ คยขายเลย


เพราะแบบนี้ จึงเตรี ยมตัวจะไปลองขายดู ไง” จ้าวเหวินเทา
กล่าว

คาพูดนี้ ไม่ น่าเชื่ อถื อเอาเสี ย เลย ยังไม่ เคยลอง และไม่ รู้ว่า
ตลาดเป็ นแบบไหน ก็ใช้เงินจานวนมากซื้อจักรยานเสี ยแล้ว?
ถ้าลองทาแล้วไม่ได้ผลขึ้นมา เงินก็ไม่ได้ แล้วจะทาอย่างไร?

“ทายังไง? ก็ช่างมันสิ !” จ้าวเหวินเทาหัวเราะเสี ยงดัง

ทุกคนเห็นท่าทางไม่คิดมากแบบนี้ ของเขา จึงนึ กเหนื่ อยใจ


แทนลูกสาวตระกูลเย่ ตระกูลเย่มีชื่อเสี ยงที่ดี ผูห้ ญิงแบบนั้น
ต้องมาแต่งงานกับผูช้ ายแบบนี้ เกรงว่าคงจะมีปัญหาในภาย
ภาคหน้าแล้วสิ ?

เย่ฉูฉู่กาลังเย็บผ้านวมอยู่กบั เฮ่อซงจือ แม่สามีของเธอได้มา


คุยกับเธอเมื่อเช้า ว่าการดารงชีวิตต้องใช้เวลายาวนาน ไม่ใช่
แค่วนั สองวัน หรื อเดื อนสองเดื อน นี่ คือการใช้ชีวิตทั้งชี วิต
เลยนะ

ดังนั้นด้านการกินอยู่ ต้องวางแผนอย่างรอบคอบจึงจะดี

เย่ฉูฉู่ รู้ว่าแม่สามีของเธอเป็ นห่ วงพวกเธอทั้งสอง ดังนั้นจึง


ไม่ได้ใจร้อน และตั้งใจฟังคากล่าวของแม่สามี
แต่เมื่อกล่าวตามความรู ้สึกผิดชอบชั่วดี เธอไม่คิดว่าตัวเอง
ฟุ่ มเฟื อยจริ ง ๆ

รับประทานบะหมี่และหมัน่ โถวก็นับเป็ นการฟุ่ มเฟื อยแล้ว


เหรอ? เธอรู ้ ว่า ตัว เองและแม่ ส ามี มี ช่ อ งว่า งระหว่า งวัย อยู่
ดังนั้นสิ่ งที่แม่สามีกล่าวเธอจึงรับฟังทั้งหมด

เธอยังมี การวางแผนในใจมากมาย จึ งโยนไปหาเหวิน เทา


โดยตรง

บอกว่า ไม่ ง่ า ยเลยที่ จ ะพู ด คุ ย กับ เหวิ น เทา บอกว่า เขาเป็ น


หัวหน้าครอบครัว ก็ตอ้ งให้เขารับประทานอาหารดี ๆ เพื่อ
บารุ งเยอะ ๆ อยูแ่ ล้ว

แม่ สามี มองเธอด้วยความพึงพอใจ จากนั้นเธอจึ งกล่ าวอี ก


ครั้งว่าในอนาคตต้องวางแผนอย่างรอบคอบ แต่เหวินเทาใช้
เงินเก่งมาก เกรงว่าจะไม่ฟังเธอ
และเธอก็ยงั เป็นภรรยา จะไปทะเลาะกับหัวหน้าครอบครัว
ได้อย่างไรกัน?

แม่สามีของเธอยิ่งพอใจเข้าไปใหญ่ จากนั้นจึงสนับสนุ นให้


เธอไม่ตอ้ งตามใจเหวินเทา ให้ทาตัวเข้มแข็งขึ้นอีกหน่ อยถึง
จะดี

เธอบอกว่าตนไม่สามารถเข้มแข็งได้ เพราะแค่เห็นเหวินเทา
เธอก็ใจอ่อนแล้ว ท้ายที่สุดแม่สามีของเธอจึงหมดทางเลือก
บอกว่าเย่ฉูฉู่ใจอ่อนเกินไป หลังจากนี้ นางจะเป็นคนจับตาดู
เหวินเทาเอง เพื่อไม่ให้เขาใช้จ่ายเงินสุ่ มสี่ สุ่มห้า!

เมื่อเย่ฉูฉู่ได้ยนิ พี่สะใภ้ใหญ่คนหนึ่งในหมู่บา้ นบอกเธอว่าเห


วินเทาใช้เงิน 90 หยวนซื้ อจักรยานกลับมา สี หน้าของเย่ฉูฉู่
พลันหดหู่
“ช่ วงนี้ …” เย่ฉูฉู่ไม่ได้พูดประโยคนี้ จนจบประโยค แต่จาก
ท่าทางการถอนหายใจอย่างจนปั ญญาของเธอ พี่สะใภ้ใหญ่
ที่มาบอกก็พอจะมองออก

เฮ่อซงจือรี บปลอบใจ “จ้าวเหวินเทาอาจจะมีแผนอะไรอยูก่ ็


ได้นะ? เธอไม่ตอ้ งกังวล ฉันไม่คิดว่าเขาเป็ นคนไม่มีแผนการ
รองรับ!”

พี่สะใภ้ใหญ่ที่มาบอกข่าวเป็ นภรรยาของเหล่าหวังสาม เป็ น


นัก เจรจาที่ โ ด่ ง ดัง ในหมู่ บ้า น หล่ อ นกล่ า วว่ า “เป็ นคนมี
แผนการที่ไหนกัน? แผนการไม่มีแม้แต่นิดเดียวต่างหากล่ะ
บอกว่าจะไปค้าขายในเมื อ ง พอถามว่าได้เงิ นไหม? ขายดี
ไหม? เขากลับบอกว่าไม่รู้ ยังไม่เคยไปขาย เลยไม่รู้ว่าได้เงิน
ไหม นี่ ยงั ไม่รู้ว่าได้เงินไหมก็ซ้ื อจักรยานแล้ว ถ้าไม่ได้เงิน
เงิน 90 หยวนก็เสี ยเปล่าเลยนะ!”
“เสี ยเปล่ า ที่ ไ หนกั น ไม่ ใ ช่ ว่ า ได้ จ ั ก รยานมาเหรอ?”
เฮ่อซงจือกล่าว

“เก็บเงิน 90 หยวนดีกว่าตั้งเยอะ เขากลับเอาไปซื้ อจักรยาน


ซื้อมาก็ไม่ได้ใช้ ไม่เรี ยกว่าเสี ยเปล่าแล้วจะให้เรี ยกว่าอะไร?”
ภรรยาของหวังสามกล่าว

“ฉันกลับก่อนนะ” เย่ฉูฉู่กล่าวพร้อมกับถือตะกร้าที่มีเข็มและ
ด้ายอยูใ่ นนั้น

คนที่มีสายตาเฉี ยบแหลมสามารถมองเห็นได้ว่าเธออารมณ์
ไม่ดีแล้ว ภรรยาของหวังสามกลับยังคงสุ มไฟเพิ่มอีก หล่อน
กล่าวว่า “ภรรยาเหวินเทา เธอฟั งฉันนะ กลับไปต้องบ่นเขา
สักหน่อย เธอจะอ่อนแอแบบนี้ไม่ได้ ตอนเพิง่ จะแต่งงานฉัน
รู ้ สึ ก ว่า เธอเองก็ไ ม่ เ ลวเลย ทาไมยิ่ง อยู่ยิ่ง อ่ อ นแอล่ ะ ? เขา
ไม่ได้มีแผนอะไรเลย เพิ่งจะแยกบ้านก็ใช้เงินสุ รุ่ยสุ ร่าย เธอ
ต้องด่ าเขาหน่ อย ไม่ง้ นั ในอนาคตใครจะกลายเป็ นใหญ่ใน
บ้านล่ะ?”

“พี่ ค วรจะพอได้ แ ล้ ว นะคะ ยัง จะมาสุ มไฟอะไรอี ก ?”


เฮ่อซงจือกลับห้ามไว้

หล่อนและเย่ฉูฉู่แต่งงานเกือบจะพร้อมกัน เดือนนี้รอบเดือน
ของหล่อนยังไม่มา จึงคิดว่าตนต้องท้องแน่ ๆ เพราะช่วงเก็บ
เกี่ ย วฤดู ใ บไม้ร่ วงเมื่ อเดื อนที่ แล้ว จ้า วเหวิน จื้ อได้ก ลับมา
ช่วยงาน คู่สามีภรรยาย่อมมีเรื่ องให้ทามากกว่านั้น

แต่ท้ งั สองเพิ่งจะพูดคุยกัน จนกระทัง่ เดือนนี้ รอบเดือนของ


เย่ฉูฉู่กย็ งั มาตรงเวลาเหมือนเดิม

พวกเขาแต่งงานกันมาเกือบครึ่ งปี แล้ว กลับยังไม่มีข่าวคราว


ภรรยาป้ ายแดงอย่างเธอย่อมไม่มีความมัน่ ใจ จะกล้าทะเลาะ
กับจ้าวเหวินเทาได้อย่างไร?
เมื่ อ คิ ด เช่ น นี้ เฮ่ อ ซงจื อ จึ ง รู ้ สึ ก ว่า เย่ฉู ฉู่ ช่า งน่ า สงสาร เป็ น
ผูห้ ญิงดี ๆ แบบนี้ ดันมาแต่งงานกับจ้าวเหวินเทาซะได้

รอจ้าวเหวินจื้อกลับมาก่ อน หล่อนจะต้องคุ ยกับเขาหน่ อย


แล้ว ให้เขาช่วยไปคุยกับจ้าวเหวินเทาสักหน่อยถึงจะดี!

เมื่อเฮ่อซงจือคิดได้ดงั นั้นหล่อนจึงรู ้สึกว่าตัวเองโชคดีจริ ง ๆ


ที่ ไ ด้แ ต่ ง งานกับ จ้า วเหวินจื้ อ เพราะหล่ อ นไม่ มี อ ะไรต้อง
กังวลเลย

เงินเดือนในแต่ละเดือนหล่อนก็เป็ นคนเก็บทั้งหมดด้วย!
ตอนที่ 35 อย่ าดับฝัน

คุ ณแม่จา้ วที่อยู่ในชนบทกาลังพูดคุ ยเรื่ องสัพเพเหระอยู่กบั


พวกพี่สาวน้องสาว แน่ นอนว่าย่อมได้ยินเรื่ องนี้ คุณแม่จา้ ว
ถึงกับใจสัน่ ระรัว

เมื่อเช้านางเพิ่งบอกให้ลูกสะใภ้เล็กขยันและประหยัดอดออม
บอกให้ ก ลับ ไปช่ ว ยควบคุ ม ดู แ ลลู ก ชายด้ ว ย แต่ นี่ ก ลับ
กลายเป็ นว่า ลูกชายซื้อจักรยานกลับมาหนึ่งคัน

นางมีความคิดแบบเดียวกับคนในหมู่บา้ น คุณแม่จา้ วก็คิดว่า


ลูกชายของตนเองใช้เงินฟุ่ มเฟื อย ต่อให้คิดอยากจะค้าขาย
เดิ นเท้าก็ได้แล้วไม่ใช่ เหรอ? ยังต้องซื้ อจักรยานอะไรอีก นี่
จะทาเงินได้หรื อเปล่าก็ยงั ไม่รู้เลย!
“นังเด็กซิ่ วจือนัน่ รอให้กลับมาช่วงปี ใหม่ก่อนเถอะคอยดูว่า
จะถูกฉันด่าหรื อเปล่า!” คุณแม่จา้ วรี บกลับบ้านไปพลางก็พูด
ด้วยความโมโหไปพลาง

ซิ่วจือมีชื่อเต็ม ๆ ว่าจ้าวซิ่วจือ ก็คือพี่สาวใหญ่จา้ วนัน่ เอง

น้องชายก่อเรื่ อง คิดไม่ถึงเลยว่าหล่อนจะให้ทา้ ยไปด้วย แถม


ยังซื้อจักรยานกลับบ้านมาอีกหนึ่งคันจริ ง ๆ

เมื่อวานกินบะหมี่กบั หมัน่ โถวขาว วันนี้ยงั จะซื้ อจักรยานอีก


คุณแม่จา้ วคิด ๆ ดูแล้วก็เจ็บหัวใจเสี ยเหลือเกิน

ในเวลานี้ ทุกคนต่างก็หาเงินกันแสนยากเย็นแล้ว ตอนที่คุณ


แม่จา้ วกลับมาถึง คนในบ้านก็ยงั ปกติกนั อยู่

คุ ณพ่อจ้าวกาลังนั่งสานเล้าไก่อยู่ในห้องเงี ยบ ๆ พี่รองจ้าว
มองจ้าวเหวินเทาที่กาลังเช็ดรถจักรยานสุ ดที่รักด้วยผ้าขี้ริ้ว
พลางทอดถอนใจ
พี่สะใภ้รองและพี่สะใภ้สามพาต้าหยาและเอ้อร์ หยาไปเก็บ
ข้าวโพดแล้ว

ส่ ว นเถี่ ย ต้า น หลู ต ้า นและหม่ า ต้า นก าลัง ห้ อ มล้อ มรอบ


จักรยานของอาหกด้วยความตื่นเต้นเป็ นพิเศษ

ส่ วนพี่สามจ้าวกาลังมัดเชือกฟางไปพลางรอดูฉากชวนปวด
หัวไปพลาง

คนที่คิดแบบเขาเช่นนี้กม็ ีไม่นอ้ ย ภายในหมู่บา้ นต่างก็กาลังรอ


ดูฉากชวนปวดหัวอยู่ แต่จา้ วเหวินเทากลับไม่ได้เก็บมาใส่ ใจ

เขารอให้ภรรยาของตนเองกลับมา จ้าวเหวินเทาอยากจะอวด
ภรรยาของเขาสักหน่ อย แต่ยงั ไม่ทนั ได้อวดภรรยา แม่ของ
เขาก็เดินกระฟัดกระเฟี ยดกลับมาแล้ว
“โอ้โห ทาไมวันนี้ แม่ของผมสวยขนาดนี้เนี่ ย? นี่ ถา้ อายุนอ้ ย
กว่านี้ สักหน่ อย สิ บลี้แปดหมู่บา้ นจะมีใครเทียบแม่ของผม
ได้?” จ้าวเหวินเทารี บพูดด้วยรอยยิม้

คุณแม่จา้ วเดินกลั้นหายใจกลับมา ทว่าคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าลูก


ชัว่ คนนี้จะทาให้นางคลายโทสะทันทีที่เดินเข้าประตู

“ช่ างคุ ยให้มนั น้อย ๆ หน่ อย รถคันนี้ มนั อะไรกัน?” คุ ณแม่


จ้าวแสร้งทาเป็ นจ้องเขม็งใส่ เขา

“แม่ รอให้ผมทาเงินได้แล้วทดแทนบุญคุณแม่เถอะ แม่ตอ้ ง


เชื่ อใจในตัวลูกชายของแม่คนนี้ นะ ต่อให้คนอื่นบอกว่าลูก
ชายของแม่ทาไม่ได้ แต่แม่ตอ้ งก้าวเท้าออกมา มายืนอยู่ขา้ ง
ๆ ผมและภรรยาของผมแล้ว พู ด ว่า ผมท าได้ ถู ก ต้อ งไหม
ครับ?” จ้าวเหวินเทาพูดด้วยรอยยิม้

คุณแม่จา้ วยังจะพูดอะไรได้อีก? นางทนไม่ไหวที่จะมองไป


ทางเย่ฉูฉู่
เย่ฉูฉู่เห็ นสายตาเป็ นกังวลคู่น้ ันของแม่สามี คงกังวลว่าทั้ง
สองจะทะเลาะกัน เธอจึงกล่าวด้วยรอยยิม้ “แม่คะ ไม่ตอ้ ง
ห่ ว งค่ ะ ฉั น เชื่ อ ใจเหวิ น เทา เขาต้อ งท าได้แ น่ น อนค่ ะ !”
ระหว่างที่พูด เธอก็หันไปมองจ้าวเหวินเทาด้วยดวงตาเป็ น
ประกาย

จ้าวเหวินเทาตัวลอยจนไม่ไหวแล้ว เขาหันไปพูดกับแม่ว่า
“แม่ฟังสิ นี่คือภรรยาของผม แม่ดูสิว่าหล่อนเชื่อใจผมขนาด
ไหน?”

คุ ณแม่จา้ วอดไม่ได้ที่จะตีเขาไปหนึ่ งที “ในเมื่อเป็ นแบบนี้


งั้นแกก็ต้ งั ใจทาให้ดี อย่าทาให้ฉูฉู่ผดิ หวัง แล้วก็อย่าทาให้พ่อ
กับแม่ผดิ หวังด้วย!”

เดิ ม ที น างกลับ มาเพื่ อ สั่ ง สอนเขาสั ก รอบ แต่ ต อนนี้ จะท า


อะไรได้ รถคันนี้กซ็ ้ื อมาแล้ว นางเองก็เข้าใจลูกชายคนเล็กดี
ถึงอย่างไรก็ตอ้ งทาอยูแ่ ล้ว
ในเมื่อเป็นเช่ นนี้ ก็อย่าดับฝันด้วยการเอาน้ าเย็นไปสาด ให้
เขาตั้งใจทาให้ดีกแ็ ล้วกัน!

“ผมไม่ทาให้พ่อกับแม่ผดิ หวังอยูแ่ ล้ว แม่ดูจกั รยานคันนี้ของ


ผมสิ เป็ นไงบ้าง? นี่โชคดีมากเลยนะ ไม่ง้ นั เงิน 90 หยวนไม่มี
ทางซื้ อจักรยานดี ๆ แบบนี้ได้หรอก” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วย
รอยยิม้

“ก็ไม่เลว” คุณแม่จา้ วมองจักรยานที่ถูกผ้าเช็ดจนแวววับ คุม้


กับเงินราคา 90 หยวน ถ้าหากค้าขายนี้ไม่รุ่งรถก็ยงั เปลี่ยนมือ
ออกไปได้ ราคา 90 หยวนใช่วา่ จะไม่มีใครอยากได้

คิดเช่นนี้ คุณแม่จา้ วก็เบาใจขึ้นเยอะ

“อาหก พาพวกผมออกไปเที่ ยวรอบ ๆ ได้ไหม?” เถี่ ยต้า น


รู ้สึกอิจฉามาก เขาจึงถามออกมา
หลู ต ้า นกับ หม่ า ต้า นก็ม องอาหกของพวกเขาอย่างรอคอย
เช่นกัน

“ไม่ได้หรอก รถจักรยานคันนี้เป็ นลูกรักของอาเลยนะ จะเอา


ไปขี่ตามอาเภอใจได้ยงั ไงกัน?” จ้าวเหวินเทาโบกมือปฏิเสธ

สามต้านผิดหวังมาก

“แต่หลังจากนี้ถา้ หากเช็ดจักรยานให้อาติดต่อกันสิ บวัน อาก็


จะพาพวกเธอออกไปเที่ ย วรอบ ๆ ไปทางฝั่ งลานตากทาง
นูน้ ” จ้าวเหวินเทากล่าว

ทั้งสามต้านจึงตื่นเต้นโดยพลัน และยังรับปากว่าหน้าที่ เช็ด


รถหลัง จากนี้ ปล่ อ ยให้พ วกเขาจัด การ พวกเขาจะเช็ ด ให้
สะอาดเป็ นพิเศษเลย!
เย่ฉูฉู่มองสามี ตวั เองก็แอบรู ้ สึกอยากหัวเราะ ทาไมเธอถึ ง
รู ้สึกว่าเขายังไม่โตนะ?

จ้าวเหวินเทายิ้มตาหยี “ภรรยา กลับมาแล้วเหรอครั บ ? ไป


พวกเราเข้าห้องกัน”

เย่ฉูฉู่เดินตามเขากลับมา จ้าวเหวินเทานาซาลาเปาไปวางไว้
ในห้องก่อนหน้านี้แล้ว แน่นอนว่ายังมีครี มโหยวอี้ดว้ ย

“ผมถามพนักงานขายที่เคาน์เตอร์แล้ว หล่อนบอกว่าแบบนี้
ใช้ดีที่สุด หอมเป็ นพิเศษด้วย ผมก็เลยซื้ อมาแบบนี้ มา คุ ณ
ลองดูสิครับว่าเป็ นยังไง” จ้าวเหวินเทากล่าว

เย่ฉูฉู่จึงเปิ ดกระปุกออก เมื่อได้ดมก็พบว่ากลิ่นไม่เลวเลยจริ ง ๆ

จ้าวเหวินเทาเห็นเย่ฉูฉู่ยิ้มก็เบาใจ จากนั้นจึงเริ่ มพูดกับเธอ


เกี่ยวกับเรื่ องรถจักรยาน “ผมเห็นว่ามันไม่เลวเลยก็เลยซื้ อมา
วันนี้ผมไม่ได้เอาเงินไป ก็เลยให้พี่สาวใหญ่ช่วยออกให้ก่อน
พรุ่ งนี้เข้าเมืองค่อยเอาเงินไปคืนพี่สาวใหญ่นะครับ?”

“ก็ตอ้ งคืนอยูแ่ ล้วล่ะค่ะ” เย่ฉูฉู่พยักหน้า “เงินของพวกเราอยู่


ตรงไหนคุณก็รู้ พรุ่ งนี้เช้าคุณตื่นมาก็หยิบไปเลยก็ได้”

จ้าวเหวินเทาหยิบเงินที่เหลือบนตัวออกมา วันนี้เขาก็ได้เนื้ อ
มาไม่กี่ชงั่ เพื่อไปขายในเมืองไม่ใช่เหรอ?

“ภรรยาคุ ณคงไม่รู้ มันขายดี มากเลยจริ ง ๆ นะ ป้ าคนแรก


อยากซื้ อตั้งสามชัง่ แต่ผมไม่ได้ให้หล่อนไป” จ้าวเหวินเทา
กล่าว

“ทาไมไม่ให้ล่ะคะ?” เย่ฉูฉู่ไม่เข้าใจ

“ก็ตอ้ งไม่ให้อยูแ่ ล้ว ผมไม่รู้ว่าราคานี้สูงหรื อต่าเกินไป ยังไง


ก็ตอ้ งกระจายขายให้หลาย ๆ คนไม่ใช่เหรอ? อีกอย่างคุณคง
ไม่รู้ ตอนนี้ในเมืองไม่มีใครสนใจเรื่ องนี้แล้ว ผมได้ยนิ ไช่ซื่อ
หู่ พูดแบบนั้น ไม่ แน่ ปีนี้ อาจจะมีเอกสารประกาศออกมาก็
ได้” จ้าวเหวินเทากล่าว

“ฉัน เห็ น คนในหมู่ บ ้านวางแผนเลี้ ย งไก่ ใ นปี หน้า เยอะขึ้ น


บ้านเหล่าเฉินก็อุม้ ลูกแกะกลับมาเลี้ยงด้วยล่ะค่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าว

ตอนที่เธอไปนัง่ เย็บผ้าพูดคุยกับเฮ่อซงจือก็ไม่ได้ไปคุยเฉย ๆ
เธอเองก็ได้ความรู ้เกี่ยวกับเรื่ องราวในหมู่บา้ นมาไม่นอ้ ย

ก่อนหน้านี้ แต่ละบ้านต่างก็เลี้ยงไก่กนั อย่างจากัด มีจานวน


มากก็ตอ้ งตัดหางทิง้ แตกต่างจากตอนนี้ที่ไม่มีใครพูดถึงสิ่ งนี้
แล้ว เป็ นเพราะการจากัดจานวนถูกล้มไปเมื่อสองปี ก่อนแล้ว

ทุกคนต่างก็ยงั เหลือความกลัวอยูใ่ นใจก็เท่านั้น แต่นบั ตั้งแต่


ปี นี้ ผ่อนปรนลงมากแล้วจริ ง ๆ

ยกตัวอย่างเช่นบ้านแม่ของเธอก็ใจกล้าไม่เบา ปี นี้เลี้ยงไก่ไป
หลายสิ บตัว ทั้งยังเป็ นคนที่มีความกล้าหาญกลุ่มแรกด้วย นี่ก็
นานแล้วยังไม่เกิดปั ญหาอะไรขึ้นเลยแม้แต่นอ้ ย ทิศทางลมนี้
ยังสามารถเห็นได้

จ้า วเหวิ น เทาแอบอิ จ ฉา ลู ก แกะเชี ย วนะ ลู ก แกะหนึ่ ง ตัว


สามารถขายได้กี่หยวน? เนื้อทั้งนั้นเลย

“ตื่นเต้นใช่ไหมคะ? หรื อคุณเองก็ไปซื้ อกลับมาเลี้ยงสักตัวดี


ไหมคะ?” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้

“ไม่ ดีกว่า พวกเรามี กระต่ ายแล้ว อี กไม่ กี่วนั ผมจะเอากรง


กลับมา ถึงเวลานั้นก็ค่อยเลี้ยงแบบแยกกัน เออนี่ วันนี้แม่ไก่
ออกไข่หรื อเปล่าครับ?” จ้าวเหวินเทากล่าว

“ออกไข่แล้ว คุณตาถึงนะคะ เลือกตัวที่ออกไข่ดว้ ย มีไข่ไก่


ตั้งสองฟองแน่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้
“แหงอยู่แล้ว ผมเลือกทั้งทีตอ้ งไม่เลวอยู่แล้ว” จ้าวเหวินเทา
ขึ้นไปนอนบนเตียง พูดด้วยความดีใจถึงขีดสุ ด “หลังจากนี้
อากาศก็หนาวแล้ว กลัวว่ามันจะออกไข่ได้ชา้ ถ้าอยากจะกิน
ไข่เกรงว่าคงต้องไปซื้อแล้วล่ะ”
ตอนที่ 36 คุณแม่ เย่ มาหาถึงบ้ าน

แต่กลับกลายเป็ นว่าพวกเขาไม่ตอ้ งซื้อไข่ไก่จริ ง ๆ แล้ว

เพราะวันรุ่ งขึ้นคุณแม่เย่ได้นาไข่ไก่มาส่ งให้หนึ่ งตะกร้า ทั้ง


ยังนาแม่ไก่ที่สามารถออกไข่ได้มาเพิ่มอีกสองตัว!

“คุ ณแม่ยาย ไหน ๆ ก็มาแล้ว พวกเราก็ตอ้ งต้อนรับอยู่แล้ว


ทาไมถึงเอาของมาเยอะแยะแบบนี้ ล่ะคะ?” คุณแม่จา้ วถึงกับ
ตะลึงกับของในมือของอีกฝ่ าย จึงรี บกล่าว

“พี่สาวจ้าว ฉันได้ยนิ มาว่าแยกบ้านกันแล้วไม่ใช่เหรอ? ฉันก็


เลยมาเยีย่ มเยียนลูก ๆ ทั้งสองหน่อย โดยเฉพาะยัยหนูฉูฉู่ ถูก
ฉันเลี้ยงดูจนเหลิงตั้งแต่เด็ก ๆ สร้างความวุ่นวายให้พี่สาวแย่
เลย” คุณแม่เย่พูดด้วยรอยยิม้
คุ ณแม่จา้ วเชิ ญนางให้เข้ามาในบ้าน “น้องสาวเย่พูดแบบนี้
เกรงใจกันเกินไปแล้ว ฉูฉู่เด็กคนนี้แต่งงานมาอยูใ่ นบ้านฉันก็
นับว่าเป็ นความโชคดีของบ้านเรา เป็ นเพราะน้องสาวเย่เลี้ยง
ดู ม าอย่า งดี ฉัน ก็ไ ม่ ต ้อ งกัง วลอะไรเลย แถมฉัน ยัง รั ก ฉู ฉู่
เหมือนลูกสาวตัวเองด้วย!”

พี่สะใภ้รองและพี่สะใภ้สามต่างก็อยู่ในบ้านและก็กาลังถัก
เชื อกฟางอยู่ หลังจากถักเสร็ จก็สามารถนาไปส่ งให้ทีมผลิต
ได้แล้ว ที่ผ่านมาตรฐานรับรองก็จะนาไปนับเป็ นแต้มค่าแรง
ได้

เหล่าลูกสะใภ้ต่างก็อยู่ในบ้าน แน่ นอนว่าย่อมเห็นของที่คุณ


แม่เย่หิ้วมาด้วย ดวงตาจึงแทบจะถลนออกมา

จากนั้นภายในใจจึงรู ้สึกไม่ดีเท่าไรนัก ทาไมชี วิตของพวก


หล่อนถึงไม่ได้โชคดีและมีบา้ นแม่ที่ดี ๆ แบบนี้นะ? บ้านแม่
ของพวกหล่อนแทบอยากดึงของที่อยูใ่ นบ้านของพวกหล่อน
ไปจนแทบทนไม่ไหว จะมอบความรักให้พวกเธอได้อย่างไร
กัน!

ไข่ไก่หนึ่งตะกร้าและแม่ไก่อีกสองตัว ช่างใจกว้างดีจริ ง ๆ!

“เหม่ออะไรกัน ทักทายสิ ” คุณแม่จา้ วกล่าว

พี่สะใภ้รองและพี่สะใภ้สามต้องรี บกล่าวทักทายอยูแ่ ล้ว คุณ


แม่เย่ยมิ้ ตอบ ก่อนจะพูดว่า “พี่สาวจ้าว พี่ไม่ตอ้ งเป็นธุ ระให้
วุน่ วายหรอก ขอน้ าเย็นสักแก้วก็พอ ไม่ตอ้ งต้มน้ าเชื่อมนะ!”

“ยังไงก็ตอ้ งทาอยูแ่ ล้ว!” คุณแม่จา้ วกล่าว จากนั้นก็ตม้ น้ าตาล


ทรายแดงแก่ ๆ หนึ่งแก้ว

ในเวลานี้ความสัมพันธ์สนิ ทหรื อไม่สนิทกัน ก็อยูท่ ี่น้ าเชื่ อม


ว่าหวานหรื อไม่หวานนี่แหละ
ภายในใจของคุณแม่เย่รู้สึกพึงพอใจมาก แม้ว่ามันจะหวาน
จนนางเกือบดื่มไม่ลง แต่นี่เป็ นเรื่ องของจิตใจ

นางเอ่ยถาม “พี่สาวจ้าว ฉูฉู่กบั เหวินทาวล่ะ?”

“ฉู ฉู่ถือตะกร้าออกไปคุ ยกับเพื่อนข้างนอก ต้าหยา เธอวาง


ของในมือก่อน ไปเรี ยกอาสะใภ้หกที่บา้ นน้าซงจือหน่ อย”
คุณแม่จา้ วกล่าว ต้าหยาจึงออกไปเรี ยก

“ดูสิ พี่สะใภ้สองคนทางานเก็บแต้มค่าแรงกัน นี่แหละถึงจะ


เรี ยกว่าใช้ชีวิต แต่ดูยยั หนู คนนี้ สิคิดไม่ถึงเลยว่าจะวิ่งไปนัง่
คุยกับคนอื่นเสี ยได้!” คุณแม่เย่พูดด้วยน้ าเสี ยงตาหนิ

หากคุ ณ แม่ จ ้า วพู ด จารั ง เกี ย จไปพร้ อ มกับ นาง แบบนั้น ก็


เรี ยกว่าโง่แล้ว นางไม่ได้โง่แม้แต่นอ้ ย

“ฉู ฉู่ ไม่ใช่คนช่างเลือก ก่อนหน้านี้ช่วงเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วง


หล่อนก็ทางานได้เป็ นอย่างดีเชี ยวล่ะค่ะ…” คุณแม่จา้ วกล่าว
เกิ นจริ ง พี่สะใภ้รองและพี่สะใภ้สามที่ นั่งฟั งอยู่ขา้ ง ๆ มุ ม
ปากกระตุก น้องสะใภ้หกคนนี้ถูกชมจนลอยขึ้นฟ้าไปแล้ว

คุณแม่จา้ วชมจบก็วกกลับมา นางถอนหายใจ “มีก็แต่เจ้าลูก


ชายคนเล็กเหวินเทานี่แหละค่ะะ ถูกประคบประหงมจนเสี ย
คน ช่วงนี้ในทีมกาลังหาคนไปซ่อมอ่างเก็บน้ า เจ้ารองกับเจ้า
สามก็ไปกันหมด งานนี้ได้แต้มค่าแรงไม่นอ้ ยเลยนะ แต่เขาก็
ไม่ยอมไป แถมยังซื้ อจักรยานมาอีกคัน ฉันยังไม่รู้เรื่ องอะไร
เลย เขาก็ไปซื้ อมาก่ อนแล้วค่อยมาบอก ถ้าฉันรู ้ คงห้ามไป
แล้ว!”

คุณแม่เย่ถาม “ได้ยนิ มาว่าเขาจะเข้าเมืองไปค้าขายเหรอ?”

ภายในหมู่บา้ นมีสะใภ้คนเล็กแต่งมาทางฝั่งนี้ เมื่อวานตอนที่


หล่ อ นกลับ มาเยี่ย มเยีย นที่ บ ้า น จะไม่ ใ ห้พู ด ถึ ง เรื่ อ งนี้ ได้
อย่างไรกัน? หล่อนจึงเล่าเรื่ องนี้ให้คุณแม่เย่ฟังหมดแล้ว

นี่กท็ าให้นางทราบเรื่ องนี้ดว้ ย และเดินทางมาหาในวันนี้


คุ ณ แม่ เ ย่ รู้ สึ ก ดี ใ จมากจริ ง ๆ คิ ด ว่ า ลู ก เขยคนนี้ มี อ นาคต
ไม่เช่นนั้นจะทาแบบนี้ได้อย่างไรกัน?

เพราะช่ ว งนี้ น างอยากซื้ อ จัก รยานให้ที่บ้านสั ก คัน แบบนี้


เวลาไปซื้ อไข่ไก่ในเมืองก็จะสะดวกขึ้น นางรู ้สึกว่าการให้
เหล่าลูกชายช่วยกันแบกไปแบกกลับนั้นช่างเสี ยเวลา

ทว่าคิดไม่ถึงเลยว่าลูกเขยจะเดิ นนาหน้านางไปแล้ว นี่ ก็จะ


เข้าไปค้าขายในเมืองอีก แบบนี้ไม่เลวเลยจริ ง ๆ

เมื่ อ วานตอนที่ คุ ณพ่อ เย่ได้ยินก็ถึ ง กับแค่ นเสี ย งเย็น ทั้ง ยัง


รังเกียจที่ทาเรื่ องไม่เป็ นเรื่ อง คุณพ่อเย่เป็นผูช้ ายหัวอนุ รักษ์
นิยมมาก เขาจึงไม่เห็นด้วยกับการทาธุรกิจของคุณแม่เย่

ทว่าคุ ณแม่ เย่กลับสนับสนุ นเป็ นอย่างมาก วันนี้ นางจึ งหิ้ ว


ของมาให้ต้ งั แต่เช้า
ไข่ไก่ในตะกร้าใบนี้ มีประมาณสามชัง่ ทั้งยังมีแม่ไก่อีกสอง
ตัว ด้ว ย นางหิ้ ว มาแบบนี้ ลู ก สะใภ้ที่ บ้า นทั้ง สองคนต่ า งก็
ไม่ได้มีความเห็นอะไร แต่ตระกูลเย่ยงั ไม่แยกบ้าน นางจึ ง
เป็ นคนตัดสิ นใจในบ้าน

อีกอย่างตอนแรกก็เป็ นเพราะนางพยายามที่จะเลี้ยง คนอื่น ๆ


ต่างก็ขดั แข้งขัดขา ตอนนี้พิสูจน์แล้วว่านางทาถูกต้อง นางจึง
มีสิทธิ์ในการแจกจ่ายไข่ไก่อย่างสมบูรณ์

นอกจากนี้นางก็ไม่ได้ดูแลลูกสะใภ้ท้ งั สองไม่ดี แต่ละเดือนก็


มอบเงินเก็บให้พวกหล่อนคนละสองหยวนด้วย!

ส่ วนเจ้าลูกชายคนที่สาม เด็กไม่รักดีคนนั้นนางไม่สนใจแล้ว
ภรรยาของเขาเป็ นปั ญญาชนมีการศึกษา หลังจากการสอบ
เข้ามหาวิทยาลัยได้รับการฟื้ นฟู ในปี แรกหล่ อนก็ส อบเข้า
มหาวิทยาลัยได้แล้ว
นางคิ ด ว่ า คงหมดหวัง แน่ น อน แต่ ก็ ไ ม่ อ าจระงับ ความ
หลงใหลของเขาได้ งั้นก็ปล่ อยให้หลงใหลต่ อไปเพราะขี้
เกียจจะสนใจแล้ว ปล่อยให้เขาสะดุดเองดูบา้ งจะได้รู้ว่าเป็น
อย่างไร

ส่ วนคุณแม่จา้ วนั้นไม่แน่ใจกับทัศนคติของคุณแม่เย่ แต่นางรู ้


ดีวา่ ปี นี้คุณแม่เย่เลี้ยงไก่ไว้ไม่นอ้ ย จึงพูดอย่างเป็ นกลางไปว่า
“เหวินเทาก็อยูว่ า่ ง ๆ ไม่ได้เหมือนกัน แม้วา่ จะไม่อยากลงนา
ไปเก็บแต้มค่าแรง แต่เขาก็บอกกับฉันว่าตอนนี้แยกบ้านแล้ว
เขาคือเสาหลักของครอบครัว จะไม่ทาให้ภรรยาของเขาต้อง
เจ็บช้ า!”

ในฐานะที่เป็ นแม่ยอ่ มพูดถึงลูกชายของตัวเองในแง่ดีอยูแ่ ล้ว

แต่พี่สะใภ้รองและพี่สะใภ้สามที่อยู่ดา้ นนอกได้ยินถึงกับเบ้
ปาก น้องสามีหกทาแต่เรื่ องไร้สาระต่างหากล่ะ วันนี้กเ็ ก็บถัว่
เหลืองในหมู่บา้ นออกไปขายที่ในเมืองตั้งแต่เช้า
ส่ วนเมื่ อ วานนี้ ถั่ ว งอกก็ เ พิ่ ง จะงอก ของพวกนี้ เจอได้
โดยทัว่ ไป มันจะไปหายากตรงไหนกัน?

แต่ ก็ไม่ มีใครกล้าไปดับฝั น เขา ในเมื่ อแม่ สามี เป็ นคนช่ ว ย


ปลู ก ถั่ว งอก ก็ห วัง ว่ า มัน จะท าก าไรได้สั ก หน่ อ ยและไม่
ขาดทุน

คุ ณแม่เย่ได้ยินก็ดีใจมาก นางกล่าวด้วยรอยยิม้ “พี่สาวจ้าว


ฉันเชื่อว่าเหวินเทาคนนี้จะไม่ทาให้ฉูฉู่ตอ้ งอดอยากปากแห้ง
พี่ปล่อยเขาไปเถอะ ฉันคิดว่าเขาเป็ นเด็กมีอนาคตนะ อนาคต
ต้องสร้างผลงานดีเด่นได้ดว้ ยความรู ้ความสามารถอย่างเต็มที่
แน่นอน!”

มีแม่คนไหนบ้างไม่ชอบให้ลูกชายตัวเองถูกชม? โดยเฉพาะ
การได้รับคาชมจากแม่ ยายของเขา ทั้งยังเป็ นความจริ ง ใจ
อย่างแท้จริ ง สามารถมองเห็นได้ว่าคุณแม่เย่ชอบลูกเขยของ
นางจริ ง ๆ ไม่ เช่ นนั้นคงไม่ หิ้วไข่ ไก่ มาหนึ่ งตะกร้ าแบบนี้
หรอก

คุณแม่จา้ วย่อมชอบอยูแ่ ล้ว

ดังนั้นตอนที่เย่ฉูฉู่กลับมา จึงพบว่าพวกนางทั้งสองคนกาลัง
พูดคุยกันอย่างถูกคอ

“แม่คะ ทาไมถึงเดินทางมาซะไกลเลยล่ะคะ? ฉันกาลังคิดว่า


อีกสองวันจะไปหาแม่อยู่พอดี เลย” เย่ฉูฉู่พูดด้วยความรู ้สึก
ผิด เดิ ม ที เ ธอคิ ดจะกลับไป แต่ เ ป็ นเพราะเหวินเทาไม่ ว่าง
ครั้นไปคนเดี ยวก็รู้สึกแปลก ๆ เพราะกลัวว่าจะเผลอปล่อย
ไก่ออกไป

คุ ณแม่เย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ก็ไม่ได้ไกลมากมายอะไร วันนี้


แม่เองก็ไม่มีอะไรต้องทาอยูพ่ อดี ก็เลยมาเยีย่ มแกสักหน่อย”
“ดูแม่ของเธอสิ เอาไข่ไก่มาให้พวกเธอสองคนตั้งเยอะแยะ
เลย แถมยังมีแม่ไก่อีกสองตัวด้วยนะ” คุณแม่จา้ วกล่าว

ภายในใจก็อดรู ้สึกประหลาดใจไม่ได้ เพราะต่อให้นางไม่ได้


เป็ นคนรักลูกชายมากกว่าลู กสาวเหมื อนกับคนในหมู่ บา้ น
ทั้งยังปฏิบตั ิกบั ลูกสาวเหมือนกับมนุษย์คนหนึ่ ง ลูกสาวของ
นางที่ แต่ งออกไปนางก็มอบสิ นสอดให้ท้ งั คู่ แต่ ก็ไม่ ได้ใจ
กว้างเหมือนกับคุณแม่เย่ขนาดนี้

เย่ฉูฉู่ดวงตาเป็นประกาย นางกล่าวด้วยรอยยิม้ “แม่คะ แม่ดี


กับฉันจริ ง ๆ!”

คุณแม่เย่กลอกตาใส่ “ส่ งของมาให้ก็เรี ยกว่าดีแล้ว ถ้าไม่ส่ง


มาให้กแ็ ปลว่าไม่ดีสินะ?”

คุ ณแม่จา้ วก็เป็ นคนอยู่เป็ น นางนั่งคุ ยต่อสองสามประโยค


จากนั้นก็ให้พวกเธอทั้งสองคนเข้าไปคุยกันในห้องด้านหลัง
สวน
แน่นอนว่าของพวกนี้กห็ ิ้วไปด้านหลังสวนด้วย ทาให้ตา้ หยา
และเอ้อ ร์ ห ยาอิ จ ฉามาก ไม่ รู้ ว่ า หลัง จากนี้ หากพวกเธอ
แต่งงานออกไป แม่ของพวกเธอจะยอดเยีย่ มแบบนี้หรื อเปล่า
นะ?
ตอนที่ 37 ภรรยาปัญญาชนของพีส่ าม

“พวกแกแยกบ้านกะทันหันเกินไปแล้ว ไม่บอกไม่กล่าวกัน
สักคา”

เมื่อเข้ามาถึงสวนหลังบ้าน คุณแม่เย่จึงกระซิบเสี ยงเบา

“แม่ยงั ถือโทษเรื่ องนี้อีกเหรอคะ? ถ้าแยกบ้านต้องกลับไปคุย


ที่ บ้า นฝ่ ายหญิ ง หรื อ ต้อ งให้ ค รอบครั ว ฝ่ ายหญิ ง มาเป็ น
ประธานเรื่ องการแยกบ้านอีกเหรอ ก็ไม่ได้แบ่งกันอย่างไม่
ยุติธรรมสักหน่อย” เย่ฉูฉู่กล่าวพลางริ นน้ าอุ่นให้นาง

คุณแม่เย่มองกระติกน้ าร้อนพลางกล่าว “กระติกน้ าร้อนอันนี้


ไม่เลวเลยนะ พี่สาวที่อยูใ่ นเมืองคนนั้นไม่เสี ยดายเลย”

มี กระติ กน้ าร้ อ นสองอัน ซึ่ งเป็ นของที่ พี่สาวห้าจ้า วซื้ อ ให้
ตอนแต่งงานทั้งคู่ พี่สาวห้าจ้าวก็ไม่ได้เป็ นคนขี้เหนี ย วเลย
หลังจากถามถึงส่ วนสู งและน้ าหนักของจ้าวเหวินเทา หล่อน
ก็ท าเสื้ อ ผ้า ชุ ด ใหม่ ม าให้อี ก สองชุ ด สิ่ ง นี้ ก็ห าได้ย ากมาก
เช่นกัน

เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้ “ทาไมวันนี้แม่มากะทันหันจังคะ? ฉัน


ยังคิดว่าจะรอให้เหวินเทาว่างสักหน่ อย แล้วกลับไปหาแม่
พร้อมกับเขาอยู่เลย ตอนนี้ เขามีจกั รยานแล้วนะ ไปกลับใช้
เวลาแค่แป๊ บเดียวเอง”

“ตอนนี้เหวินเทามีแผนการยังไงบ้าง?” คุณแม่เย่เอ่ยปากถาม
เรื่ องนี้

เรื่ องแยกบ้านนั้นคุณแม่เย่แค่ถามเฉย ๆ แต่นางก็รู้สึกว่าการ


แยกบ้านก็เป็ นเรื่ องดี เหล่าพี่น้องมีความคิดเห็นขัดแย้งกัน
ทาไมถึงจะไม่แยกบ้านล่ะ?

อีกอย่างลูกเขยของนางก็เป็นคนฉลาดมาก แถมยังกล้าหาญ
ด้วย เขาคล้ายคลึงกับนางมากในเรื่ องนี้
ในเวลานี้ นางรู ้ สึ ก ว่า เป็ นโอกาสดี แต่ ต ระกูล จ้า วเป็ นคน
ซื่อสัตย์ จะกล้าฉีกกฎได้อย่างไรกัน?

ไม่กล้าฉี กกฎและไม่แยกบ้าน นี่ ไม่เท่ากับเป็นการชะลอทา


ให้ลูกเขยของนางก้าวหน้าช้าลงเหรอ? ดังนั้นคุณแม่เย่จึงไม่
มีความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับการแยกบ้าน หลังจากนี้ ลูกเขย
ของนางก็สามารถเริ่ มทาอะไรด้วยตัวเองได้แล้ว

ถ้ายังไม่แยกบ้านแล้วลงมือทา แบบนั้นจะต้องเกิดความคับ
ข้องใจกับเหล่าพี่ชายและพี่สะใภ้อีกแน่ เมื่อหาเงินมาก็ตอ้ ง
นามาแบ่งอีก แบบนั้นจะไม่อดั อั้นใจตายเลยเหรอ?

ดังนั้นแยกบ้านกันก็ดีแล้ว

“เขาอยากเข้าไปหาเงินในเมือง ถึงตอนนั้นก็จะสร้างบ้านอิฐ
แยกออกไปอยู่กนั เอง เขาบอกกับฉันว่าหลังจากนี้ จะเลี้ ยง
กระต่ายเพื่อเอาไปขายด้วย”เย่ฉูฉู่กล่าว
คุณแม่เย่ยมิ้ และกล่าวด้วยความพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง “เหวิน
เทารู ้จกั คิดนะ แกฟังคาของเขาก็พอ อย่าไปสร้างความวุน่ วาย
ให้เขาเพิ่มล่ะ เข้าใจไหม?”

เลี้ยงกระต่ายก็ดี หลังจากกระต่ายออกลูกมาหนึ่ งครอกแล้ว


ผ่านไปหนึ่ งเดือนก็จะออกลูกมาอีกหนึ่ งครอก เลี้ยงไปไม่กี่
เดือนก็สามารถนาไปขายได้แล้ว นี่เป็ นเงินทั้งหมดเลย

“ฉัน จะไปสร้ างความวุ่นวายให้เ ขาได้ย งั ไงคะ เขาเหนื่ อย


ขนาดนั้น ต้องวิง่ ไปกลับหนึ่งวันเต็ม ๆ แถมตัวเมืองก็อยูไ่ กล
ซะขนาดนั้นอีก” เย่ฉูฉู่กล่าว

เมื่ อคุ ณแม่ เย่ได้ยินคาพูดแสดงความเจ็บปวดใจขึ้นมาก็พึง


พอใจอย่างมาก นางบอกแล้วว่าเหวินเทาเป็นเด็กที่ทาให้คน
อื่นรักลูกสาวชอบอย่างแน่นอน หลังจากทั้งสองแต่งงานกัน
จะต้องมีช่วงจู๋จี๋กนั แน่ ๆ
ดังนั้นหลังจากแต่งงานเรื่ องในบ้านที่ท้ งั สองคนทะเลาะกัน
คุณแม่เย่จึงไม่สนใจ ตอนนี้กด็ ีมากเลยไม่ใช่เหรอ

“ปล่อยให้ผูช้ ายเขายุ่งไปเถอะ ยิ่งเขายุ่งก็ยิ่งมัน่ ใจในตัวเอง


ถ้า ปล่ อ ยให้เ ขาอยู่บ้า นทั้ง วัน เขาจะเป็ นยัง ไง?” คุ ณ แม่ เ ย่
กล่ า ว “อี ก อย่า งครอบครั ว เล็ก ๆ ของพวกแกก็ต ้องมี ผูน้ า
นิสัยของแกมีเหรอที่แม่จะไม่รู้? แกต้องพึ่งพาเหวินเทาถึงจะ
ดี แกแค่ดูแลเรื่ องภายในบ้านให้เรี ยบร้อย อย่าไปรั้งเขาไว้ก็
พอแล้ว”

เย่ฉูฉู่อ้ ึง “…แม่เป็ นแม่ของฉันหรื อเปล่าคะเนี่ย?”

“ถ้าแม่ไม่ใช่แม่แล้วจะเอาของมากมายขนาดนี้มาให้แกทาไม
กัน? แกคิดไว้ซะสวยหรู เชี ยวนะ ดูพวกพี่สะใภ้ท้ งั สองของ
แกสิ แต่ละคนต่างก็อิจฉาที่แกมีแม่ดี ๆ แบบนี้ต้ งั ไม่รู้เท่าไร!”
คุณแม่เย่แค่นเสี ยงหึออกมาจากลาคอ
เย่ฉูฉู่ยมิ้ เธอย่อมเห็นพี่สะใภ้รองจ้าวและพี่สะใภ้สามจ้าวที่
มองมาด้วยสายตาอิจฉา จึงกล่าวว่า “ฉันรู ้ค่ะว่าแม่รักฉันมาก
ที่สุดแล้ว”

“ถ้าแกได้ใช้ชีวิตอยู่กบั เหวินเทาดี ๆ แม่ ก็รักแก” คุ ณแม่ เย่


กล่าว

“แน่ น อนค่ ะ แม่ ว างใจเถอะ ตอนนี้ ฉั น แต่ ง งานแล้ว เป็ น


ภรรยาแล้วนะ ไม่ได้เป็ นสาวน้อยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว รู ้ว่า
ตัวเองต้องจัดการงานบ้านให้ดี” เย่ฉูฉู่กล่าว

คุณแม่เย่ก็มองออก อารมณ์ฉุนเฉี ยวของลูกสาวหายไปแล้ว


ได้ถูกแทนที่ดว้ ยนิ สัยของลูกสะใภ้ที่อ่อนโยนและบริ สุทธิ์
คุณแม่เย่รู้เรื่ องนี้ดีในตอนที่ได้มาดูบา้ นเล็ก ๆ หลังนี้ แม้วา่ จะ
ไม่ได้ใหญ่โต แต่ของทุกอย่างก็ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบี ยบ
เรี ยบร้ อย มองเพียงแวบเดี ยวก็รู้ว่าแต่ ละวันจะต้องสะอาด
สะอ้านเป็ นอย่างมาก
หลังจากคุณแม่เย่มาดูกร็ ู ้สึกโล่งใจมาก

“จริ งสิ ถ้าแม่วา่ ง ๆ แม่ช่วยรับพวกของแห้งในหมู่บา้ นให้ฉนั


หน่อยได้ไหม?” เย่ฉูฉู่ถาม

“ของแห้งอะไร?” คุณแม่เย่ถาม

“ก็พ วกเห็ ด ของอย่า งอื่ น ที่ ค ล้า ยกับ พวกถั่ว เหลื อ งอะไร
ทานองนั้น ถ้ามีคนอยากขายก็ซ้ือมาได้เลย” เย่ฉูฉู่กล่าว

“เหวินเทาจะเอาไปขายในเมืองเหรอ?” คุณแม่เย่ถาม

เย่ฉูฉู่พยักหน้า จากนั้นจึงเล่าเรื่ องที่ในเมืองมีถนนสายหนึ่งที่


สามารถทาการค้าขายได้อย่างเสรี ให้ฟังหนึ่งรอบ

คุ ณแม่เย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “แม่รู้ พี่ใหญ่ พี่รอง แล้วก็พี่สาม


ของลูกที่เข้าไปขายไข่ไก่ในเมืองก็ได้ยนิ มาบ้างเหมือนกัน”

เย่ฉูฉู่ถาม “พวกพี่ใหญ่กไ็ ปขายของที่นนั่ เหรอคะ?”


“ทาไมต้องไปขายถึงฝั่งนั้นด้วยล่ะ ไข่ไก่เป็ นของที่นิยมอย่าง
มากในตัวเมือง พวกเขาไปเดินขายตามตรอกซอย ราคาก็ยงั
สู งกว่านิดหน่อยด้วย” คุณแม่เย่กล่าว

เย่ฉูฉู่ชื่นชมคุณแม่ของเธอ ความกล้าหาญนี้ ช่างมากล้นเสี ย


เหลือเกิน

“ตอนนี้ กระแสนิ ย มของสั ง คมไม่ เ หมื อ นเมื่ อ ก่ อ นแล้ว นี่


ไม่ใช่ ปัญหาอะไร อีกอย่างก็อยู่ทางฝั่งเราทางนี้ แม่เห็นข่าว
บนหนังสื อพิมพ์วา่ ทางภาคใต้มีหนังสื อออกมาแล้วเมื่อเดือน
ธันวาคมของปี ที่แล้ว ทางฝั่ งพวกเรายังไม่มีข่าวคราวอะไร
เลย ดังนั้นแกไม่ตอ้ งกลัวหรอก ขอแค่ไม่กลัวว่าจะขายหน้า
ก็ทาไปเถอะ” คุณแม่เย่จะไม่รู้ความคิดของลูกสาวของนาง
ได้อย่างไร นางจึงกล่าวด้วยน้ าเสี ยงนิ่งสงบเป็ นอย่างมาก
เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่สาวสามีท้ งั สองคนที่ อยู่ในเมื อง
พวกหล่อนไม่ได้หา้ มเหวินเทา หนูกเ็ ลยทราบดีว่าไม่มีอะไร
ต้องกังวล”

“ฉลาดมาก” คุณแม่เย่กล่าว “พวกหล่อนต่างก็เอ็นดูเหวินเทา


ถ้าทาไม่ได้กค็ งไม่ปล่อยให้เหวินเทาไปเสี่ ยงอย่างแน่นอน”

“จะฉลาดเท่ าแม่ ได้ยงั ไงกัน? แม่ ของฉันเรี ยนหนังสื อด้วย


ตัวเอง แม้แต่หนังสื อพิมพ์กอ็ ่านออก ระดับการศึกษาของพ่อ
ยังไม่ ดีเท่ าแม่ เลย ระดับการศึกษาในครอบครั วของแม่ สูง
ที่สุดแล้ว” เย่ฉูฉู่พูดประจบ

คุ ณแม่เย่ถูกชมจนตัวลอย นางยิ้มพร้อมกลอกตาใส่ ลูกสาว


ไปปราดหนึ่ง “ไปเรี ยนรู ้วธิ ีกะล่อนแบบนี้ต้ งั แต่เมื่อไรกัน?”

“แม่คะ ตอนนี้ พี่สามเป็นยังไงบ้าง?” เย่ฉูฉู่ให้แม่ของเธอดื่ม


น้ า จากนั้นจึงถามขึ้น
พี่ใหญ่ของนางชื่อเย่หมิงตง พี่สองชื่อเย่หมิงหนาน พี่สามชื่อ
เย่หมิงเป่ ย ตั้งชื่ อมาจากตง (ทิศตะวันออก) หนาน (ทิศใต้)
เป่ ย (ทิ ศเหนื อ) แต่ คาว่าซี (ทิ ศตะวันตก) ในภาษาถิ่ นของ
พวกเธอทางฝั่งนี้ไม่ค่อยน่าฟังเท่าไรนัก ดังนั้นจึงข้ามไป

พี่ใหญ่เย่หมิงตงและพี่รองเย่หมิงหนานทั้งสองคนแต่งงานมี
ลูกแล้ว ส่ วนพี่สามของเธอก็แต่งงานแล้วเช่ นกัน แต่แต่งกับ
ปัญญาชนคนหนึ่ง

ตั้งแต่ปีแรกก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้ว ปี ใหม่ของปี ที่แล้ว


ก็ไม่ได้กลับมา ปี ใหม่ปีนี้กไ็ ม่รู้วา่ จะกลับมาหรื อเปล่า?

คุณแม่เย่กล่าวด้วยสี หน้าไม่สู้ดี “อย่าไปพูดถึงเด็กไม่รักดีคน


นั้นเลย บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าอย่าแต่งงานกับพวกปั ญญาชน
เขาก็ยืนกรานที่จะแต่งงานให้ได้ แต่งเสร็ จแล้วยังไม่มีลูกก็
ปล่อยให้หล่อนไปสอบเข้ามหาวิทยาลัย สอบเข้าแล้วใครจะ
โง่ ก ลับ มาอี ก ? เมื อ งเล็ ก ๆ แบบนี้ จะเที ย บกับ เมื อ งใหญ่
ภายนอกได้เหรอ?”

คุณแม่เย่ไม่ได้คาดหวังอะไรเลย เพราะต่อให้เป็ นนาง นางก็


อาจจะไม่ ก ลับ มา โลกภายนอกกว้า งใหญ่ แ ละมหัศ จรรย์
ขนาดนั้น ออกไปแล้วใครจะกลับมาให้โง่ล่ะ?
ตอนที่ 38 สามีภรรยารักใคร่ กลมเกลียวกันดีหรื อไม่ ?

“แต่ความรู ้สึกระหว่างหล่อนกับพี่สามก็ดีมากเลยนะคะ” เย่ฉูฉู่


กล่าว เธอรู ้จกั พี่สะใภ้ที่เป็ นปั ญญาชนคนนั้น อันที่จริ งหล่อนก็
นิสัยดีมาก อ่อนโยน ทั้งยังมีการศึกษา ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถ
สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ต้ งั แต่ปีแรกหรอก

คุณแม่เย่เอ่ยดูถูก “พวกเธอสองพี่นอ้ งทาไมไม่มีใครเหมือน


แม่ เ ลยสั ก คน? ไร้ เ ดี ย งสากัน ทั้ง คู่ ความรู ้ สึ ก ที่ ดี ม ัน กิ น ได้
เหรอ? ก่อนหน้านี้หล่อนไม่มีตวั เลือกต่างหากล่ะ ถึงได้เลือก
คนที่ ดีที่สุดจากคนกลุ่ มล่ าง และเลื อกพี่สามของลู ก วันนี้
หล่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้ว ฝั่งนั้นเป็ นพวกนักศึกษา
ที่พูดภาษาเดียวกัน ลูกคิดว่าคนที่อยูส่ ู งจะเลือกคนที่อยูต่ ่าเตี้ย
เรี่ ยดินเหรอ?”

เย่ฉูฉู่กล่าว “พี่สามก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะคะ”
เย่หมิงเป่ ยที่เป็ นพี่สามของเธอสู ง 180 เซนติเมตร เขาเป็ นคน
ตัวสู ง และตอนนี้ ก็ยงั เป็นหนุ่ มหล่อด้วย ไม่ได้มีนิสัยที่ไม่ดี
แม้แต่นอ้ ย ปี นี้อายุแค่ 22 ปี ยังหนุ่มยังแน่นอยูเ่ ลย

“เฮ้อ” คุณแม่เย่ถอนหายใจออกมาพลางกล่าวว่า “ไม่พูดเรื่ อง


นี้แล้ว พูดไปก็อารมณ์เสี ย”

ลูกชายคนนั้นเป็นคนหัวดื้อ พูดไปเท่าไรเขาก็ไม่เชื่อ เอาแต่


บอกว่าภรรยาของเขาจะต้องกลับมา หล่อนบอกว่าจะกลับมา
ก็จะต้องกลับมา

โดนหลอกง่ายเกินไปแล้วจริ งๆ ควรจะให้เขาได้ลิ้มรสความ
เจ็บปวดดูบา้ ง ไม่เช่นนั้นก็คงไม่โตสักที!

คุ ณ แม่ เ ย่ เ ปลี่ ย นหั ว ข้อ สนทนา “ของที่ แ กบอกเดี๋ ย วแม่


กลับไปช่วยรับซื้อให้ แต่ดูเหมือนว่าหิมะใกล้จะตกแล้ว หิมะ
ตกก็ออกไปข้างนอกลาบาก บอกให้เหวินเทาระวังหน่อยนะ
รี บหาเงินตอนนี้ ถ้าหิมะตกก็อย่าออกไปข้างนอกล่ะ”
เย่ฉูฉู่พยักหน้าพลางกล่าวว่า “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ” แต่ในใจของ
นางกลับคิดว่า เหวินเทาคงไม่พลาดโอกาสทาเงินนี้หรอก

เพราะสุ ดท้ายแล้วโอกาสนั้นหายาก ทางฝั่งไช่ ซื่อหู่ ก็ไม่รู้ว่า


จะสามารถท าได้จ นถึ ง ตอนไหน ได้ยิน เหวิน เทากล่ า วว่า
ตอนนี้สามารถหาเงินได้มากเท่าไรก็ตอ้ งรี บโกยไว้ก่อน หนึ่ง
วันสามารถนาเนื้ อออกมาได้สามสี่ ชั่ง ก็สามารถหาเงินได้
ประมาณหนึ่งหยวนต่อวันแล้ว ทาไมจะไม่ทาล่ะ?

เมื่อถึงฤดูหนาวเนื้อวางทิ้งไว้กไ็ ม่เสี ย ถึงเวลานั้นเก็บไว้ไม่กี่


วันแล้วค่อยนาเข้าเมืองไปพร้อมกันก็เหมือนกันนัน่ แหละ

แต่เรื่ องเหล่านี้ไม่ตอ้ งพูดกับแม่ของเธอหรอก

คุณแม่เย่พูดคุยเรื่ องเหล่านี้เสร็ จแล้ว จึงกวาดสายตามองมาที่


ท้องของเธอ “ยังไม่มีข่าวคราวอีกเหรอ?”
เย่ฉูฉู่หน้าแดงระเรื่ อ ขณะกล่าว “ค่ะ รอบเดือนของเดือนนี้ ก็
มาตรงเวลา”

คุ ณแม่เย่ขมวดคิ้ว “พวกแกแต่งงานกันมานานขนาดนี้ แล้ว


นะ ทาไมยังไม่มีข่าวดีอีก?”

เย่ฉูฉู่พูดด้วยความรู ้สึกไม่ดี “แล้วฉันจะไปรู ้ได้ยงั ไงล่ะคะ?”

คุ ณแม่ เย่กงั วลเล็กน้อย แม้ว่าจะแต่ งงานกันได้ไม่นาน แต่


โดยทั่ว ไปแล้ว เมื่ อ แต่ ง เข้า บ้า นมานานขนาดนี้ ก็ค วรจะ
ตั้งครรภ์ได้แล้ว

“ความรู ้ สึกของลู กกับเหวินเทาดี ไหม?” คุ ณแม่ เย่ถามด้วย


คาพูดอ้อมค้อม

เมื่อเย่ฉูฉู่ได้ยินดังนั้นย่อมเข้าใจ เธอถึงกับหน้าแดงเป็ นลูก


ตาลึงขณะกล่าวว่า “แม่คะ ทาไมแม่ถึงถามฉันแบบนี้เนี่ย!”
“แม่เป็นแม่แกนะ แกแต่งงานมาก็นานขนาดนี้แล้วแม่ก็ตอ้ ง
ถามสิ โดยเฉพาะเรื่ องท้องนี้ ของแก ยังไม่มีการเคลื่อนไหว
อะไรเลย” คุณแม่เย่กล่าว

เพราะนางเป็นแม่นางจึงกล้าถามออกมาตรง ๆ หากเป็นแม่
สามี เช่นนั้นก็คงไม่ถามตรง ๆ แบบนี้ แต่ถา้ เจอแม่สามีที่ไม่
มีเหตุผลแน่นอนว่าก็เป็ นอีกเรื่ องหนึ่ง

เย่ฉู ฉู่ ห น้า แดงด้ว ยความเขิ น อาย คุ ณ แม่ เ ย่เ ห็ น แบบนั้นจึ ง


เข้าใจได้ ทั้งคู่คงมีความรู ้สึกที่ดีต่อกันอยู่

คุณแม่เย่กล่าวด้วยรอยยิม้ “ในเมื่อเขินอายขนาดนี้ เอาล่ะ มี


ความรู ้สึกที่ดีก็ดีแล้ว ส่ วนเรื่ องลูก อาจเป็นเพราะโชคชะตา
ยังมาไม่ถึง ถ้าโชคชะตามาถึงก็ตอ้ งมีอยูแ่ ล้ว ทาใจตามสบาย
ไว้นนั่ แหละ”
ในใจของนางก็ไม่อยากให้ลูกสาวแบกรับภาระมากเกินไป
แต่ ง งานกัน มายัง ไม่ นับว่านานเท่ า ไรนัก ไม่ ต ้อ งกัง วลให้
มากมายเกินไป

เย่ฉูฉู่จึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ในใจของเธอก็รู้สึก
กังวลเล็กน้อย เพราะเธอก็ตอ้ งการคลอดลูกให้กบั เหวินเทา
เช่ นกัน แต่เจ้าตัวเล็กยังไม่มีสักที คงต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ
ไป

คุณแม่เย่ไม่อยูร่ ับประทานมื้อเที่ยงที่นี่ นางมาถึงตอนเก้าโมง


กว่า และกลับไปตอนสิ บเอ็ดโมง

คุณแม่จา้ วย่อมยื้ออย่างเต็มที่ให้นางอยูต่ ่อ “น้องสาวเย่ อยูก่ ิน


ข้าวเที่ ยงด้วยกันก่ อนสิ ข้าวก็เอามาลงแล้ว เธอจะกลับไป
แบบนี้ไม่ได้นะ”
“พี่สาวจ้าว ฉันรู ้ว่าพี่กระตือรื อร้นที่จะต้อนรับ แต่เป็ นเพราะ
ฉันยุ่งน่ ะสิ คะ ที่บา้ นยังมีไก่ตอ้ งกลับไปให้อาหาร ไหนจะ
พวกหลาน ๆ อีก ไม่มีเวลาจริ ง ๆ” คุณแม่เย่กล่าว

“เธออย่ามาหลอกฉัน ฉันก็เป็ นแม่สามีเหมือนกัน ไม่มีใคร


ในครอบครัวทาแทนได้เลยเหรอ? ยังไงเธอก็ตอ้ งอยู่กินข้าว
ด้วยกันก่อน” คุณแม่จา้ วกล่าว

“ไม่ตอ้ ง ๆ ฉันแค่แวะมาดูเหวินเทากับฉู ฉู่ ในเมื่อทั้งสองคน


มี ชีวิตที่ ดี ตอนนี้ ก็แยกบ้านแล้วฉันคงไม่ กล้าพูดอะไร แต่
พี่สาวจ้าว พวกเขาทั้งสองคนยังเป็ นวัยรุ่ นอยู่ หลังจากนี้หาก
มีเรื่ องต้องยื่นมือช่ วยเหลือ พี่ก็อย่าไปตาหนิ พวกเขาเลยนะ
คะ” คุณแม่เย่กล่าว

“จะทาแบบนั้นได้ยงั ไงกัน? ฉู ฉู่ก็เป็ นลู กสาวของฉันนะ!”


คุณแม่จา้ วกล่าว
หลังจากทั้งสองคนถกเถียงกันไปมา คุณแม่เย่จึงกลับไปด้วย
ความพึงพอใจ ส่ วนคุ ณแม่ จา้ วรู ้ สึกเสี ยใจเล็กน้อย แต่ นาง
กลับรู ้สึกว่าแม่ยายคนนี้เป็ นคนนิสัยดีที่หาได้ยากจริ ง ๆ

จะซื้อหมูตอ้ งดูที่เล้า จะแต่งสะใภ้เข้าบ้านต้องดูพ่อแม่

เมื่ อ เห็ น แม่ ย ายของลู ก เป็ นคนรู ้ เ หตุ รู้ ผ ล ในภายภาคหน้า


ลูกสะใภ้คนเล็กของนางจะแย่ได้อย่างไรกัน?

คุณแม่จา้ วยินดีและพอใจอย่างยิง่

“เอาของมาตั้งเยอะแยะขนาดนี้ ยังไม่อยู่กินข้าวด้วยกันอีก”
คุณพ่อจ้าวกล่าว

“ช่ ว ยไม่ ไ ด้ ที่ บ้า นน้อ งสาวเย่ยุ่ง ๆ น่ ะ แต่ ห ลัง จากนี้ ยัง มี
โอกาส” คุ ณแม่จา้ วกล่าว จากนั้นจึงกระซิ บ “แถมยังให้ไก่
สองตัวกับไข่ไก่อีกหนึ่งตะกร้าอย่างไม่เสี ยดายเลยล่ะ!”
แม้ว่าจะไม่ได้นามาให้นาง แต่กใ็ ห้ลูกชายและลูกสะใภ้ของ
นาง สุ ดท้ายแล้วก็เป็ นประโยชน์ต่อครอบครัวของนางอยูด่ ี

“คุ ณ สร้ า งกรงไก่ อี ก กรงเถอะ ให้ไ ก่ ท้ งั สองตัว นั้น มี ที่ พ ัก


กว้าง ๆ หน่อยจะได้วางไข่ดี ๆ!” คุณแม่จา้ วกล่าว

คุณพ่อจ้าวจึงตอบตกลง

จ้าวเหวินเทาขี่จกั รยานกลับมาตอนเกือบเที่ยง ถัว่ เหลืองและ


ถั่ว ลิ ส งจ านวนไม่ กี่ ชั่ง ที่ เ ขาน าไปในวัน นี้ ถู ก ขายจนหมด
เกลี้ยง

เมื่อเขากลับมาถึง หลายคนในหมู่บา้ นย่อมเข้ามาถามถึงบ้าน

ปี นี้ไม่มีเรื่ องอะไรน่าบันเทิงเลย ทาไมไม่รอฟั งข่าวใหม่จาก


จ้าวเหวินเทาล่ะ?
โดยเฉพาะคนในหมู่ บ้า นต่ า งรู ้ สึกว่ า เขาก าลัง ท าสิ่ ง ไร้
ประโยชน์ซ้ า ๆ ซาก ๆ ทาต่อไปอีกไม่กี่ครั้งเขาต้องวางมือ
อย่างแน่นอน

“วันนี้ได้มา 1.80 เหมาล่ะ” จ้าวเหวินเทากล่าวอย่างไร้อารมณ์

“1.80 เหมา? เป็ นไปได้ยงั ไง!” เหล่าหวังสามกล่าว

“จะได้เท่ าไรกันเชี ยว? ฉันเอาถัว่ เหลื องและถั่วลิ สงไปแค่


ไม่กี่ชงั่ เองนะ มันไม่ใช่ ของมีค่าสักหน่ อย ขายออกหมดก็ดี
ถมเถแล้ว” จ้าวเหวินเทาขมวดคิว้ พลางกล่าว

แสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาอารมณ์ไม่ดี

เหล่าหวังสามอารมณ์ดีมาก เขาหันไปคุยกับภรรยาของเขาที่
กาลังให้นมลูกอยู่ จากนั้นด้วยความปากมากของภรรยาเหล่า
หวังสาม ทุกคนจึงรู ้ว่าวันนี้จา้ วเหวินเทานาถัว่ เหลืองและถัว่
ลิสงไม่กี่ชงั่ ไปขายในเมืองตั้งแต่เช้าตรู่ ออกไปโต้ลมหนาว
ตั้งแต่ก่อนรุ่ งสาง ขายจนถึงตอนนี้ กเ็ พิ่งจะกลับมา ได้เงินมา
ทั้งหมด 1.80 เหมา!

เมื่อคนในหมู่บา้ นได้ยนิ พวกเขาต่างพากันส่ ายหน้าทันที

เจ้าหกจ้าวคนนี้ไม่จริ งจังเอาเสี ยเลย ถ้าเอาพลังงานแบบนี้ไป


ทานา นี่คงได้แต้มค่าแรงไปไม่รู้ต้ งั เท่าไรแล้ว?

หลังจากนั้นก็ได้ยนิ ว่าตอนบ่ายเขาไม่ได้ไปทางานแล้ว แถม


ยังปิ ดประตูนอนสลบเหมือดอยูใ่ นบ้าน และยังบอกว่าพรุ่ งนี้
จะเข้าเมืองไปขายของต่อ ฟั งคาพูดนี้ สิ นี่ เป็นคาพูดที่คนใน
ฐานะหัวหน้าครอบครัวควรพูดออกมาเหรอ?

จากนี้ ไปภรรยาและลูกคงได้อดอยากปากแห้งไปพร้อมกับ
เขาแน่!
แต่เมื่อคิดถึงเรื่ องที่ตอนเช้าหลังจากแม่ยายของเขาได้ยินว่า
พวกเขาทั้งสองแยกบ้านกันแล้ว จึงนาไก่สองตัวและไข่ไก่
หนึ่งตะกร้ามาให้ ก็อดไม่ได้ที่จะเดาะลิ้นด้วยความอิจฉา

ใครบอกให้เขาแต่งงานกับภรรยาที่ดี แถมยังมีแม่ยายที่ดีแบบ
นี้กนั ล่ะ?
ตอนที่ 39 เคล็ดลับให้ กาเนิดลูกชาย

ขณะที่มีการพูดคุยกันมากมายภายในหมู่บา้ น จ้าวเหวินเทาก็
พาภรรยาของเขากลับเข้าห้องเพื่อไปนับเงินที่ได้มา

เมื่อวานมีเนื้อทั้งหมด 4 ชัง่ ได้เงินมา 1.28 หยวน วันนี้ได้เนื้อ


มา 3 ชัง่ น้อยกว่าเมื่อวานนิดหน่อย จึงได้เงินน้อยกว่าเมื่อวาน
เล็กน้อย แต่กไ็ ด้คูปองเนื้อเพิม่ มา 1 ใบ

คูปองเนื้อใบนั้นเขาให้พี่สาวใหญ่ไปแล้ว เมื่อวานหล่อนช่ วย
ออกเงิ น ซื้ อ จัก รยานให้เ ขาไปก่ อ น วัน นี้ เขาจึ ง น าเงิ นและ
คูปองเนื้อไปให้พี่สาวใหญ่

การขายเนื้อหมูทาให้ได้เงินมา 9.60 เหมา แต่วนั นี้มีถวั่ เหลือง


และถัว่ ลิสงเยอะกว่าเมื่อวาน 2-3 ชัง่ ได้เงินมาไม่เยอะเท่าไร
นัก ก็แค่ 1.80 เหมา สิ่ งนี้ไม่ได้ช่วยปลอบใจเลย
เพราะผลผลิตทางการเกษตรเหล่านี้ไม่ได้มีผลกาไรมากมาย
อะไร โดยเฉพาะปริ มาณที่นอ้ ยนิ ดขนาดนี้ สิ่ งสาคัญคือเขา
ต้องแบ่งกับคนในบ้านด้วย ถ้าซื้อกับคนอื่น คาดว่าเขาอาจจะ
ได้เงินไม่กี่เฟิ น

ไม่เช่นนั้นทาไมคนนอกได้ยนิ ก็ได้แต่พากันส่ ายหน้ากันหมด


ล่ะ? ไม่ใช่ เพราะผลกาไรที่ชดั เจนแบบนี้ เหรอ แสดงให้เห็น
ว่าการไป ๆ กลับ ๆ ล้วนเป็ นการทางานที่เหนื่อยเปล่า

มี ลุงในตระกูลมาพูดคุ ยกับคุ ณพ่อจ้าว ก็ได้เอ่ ยขึ้ นมาแบบ


ลอย ๆ หนึ่งประโยค บอกว่าหากทาแบบนี้ต่อไปก็ไม่ใช่ เรื่ อง
ใหญ่ แต่กไ็ ม่ควรให้มนั เกิดขึ้นซ้ า ๆ ซาก ๆ

ตอนนี้ยงั ไม่มีลูก ในอนาคตมีลูกแล้วจะทาอย่างไร สิ่ งที่ทานี้


มันไม่ใช่เรื่ องจริ งจังอะไรเลย

คุณพ่อจ้าวก็กงั วลมากเช่ นกัน แต่เขาไม่คิดว่าลูกชายของตน


จะทาแบบนี้ เขาเป็ นคนฉลาดและซุกซนที่สุด ดังนั้นจึงกล่าว
ไปว่า “ตอนนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องทาอยู่แล้ว ให้เขาไปซ้ า ๆ นัน่
แหละ รอปี หน้ายังไงก็ตอ้ งให้เขาไปทานาแล้วล่ะถึงจะดี”

ผูอ้ าวุโสของตระกูลจึงไม่ได้กล่าวอะไร

เป็ นเพราะเรื่ อ งนี้ ท าให้คุ ณ แม่ จ ้า วถู ก พี่ ส ะใภ้ที่ น างไม่ ไ ด้


จัดการคนนั้นมาเยาะเย้ยไปรอบหนึ่ ง ทาเอานางโกรธจนทน
ไม่ไหว

“แม่ แม่จะไปโกรธป้ าเขาทาไม ป้ าเป็ นคนยังไงใช่ ว่าแม่จะ


ไม่รู้สักหน่อย” จ้าวเหวินเทากล่าว

“แล้วแกหาเงิ นได้บา้ งไหม? ถ้าหาเงิ นได้แล้ว แม่ จะได้ไป


บอกหล่อนต่อหน้า เอาให้อิจฉาตายไปเลย!” คุณแม่จา้ วถาม
เขา

จ้าวเหวินเทาหัวเราะ เขาดึงแม่เข้ามาในห้อง ก่อนจะกระซิ บ


บอกเรื่ องการขายเนื้อหมู
เมื่อคุณแม่จา้ วได้ยนิ ก็ดวงตาเป็ นประกาย “พ่อค้าเนื้อไช่ช้ ีนา
แกแบบนี้จริ ง ๆ เหรอ?”

“ผมจะโกหกอะไรล่ะ? วันนั้นผมเอาเหล้าหนึ่งขวดไปนัง่ ดื่ม


กับเขา เมื่อวานนี้เขาก็ให้เนื้อมาสี่ ชงั่ ผมได้เงินมา 1.28 หยวน
วันนี้ เขาให้เนื้ อมาสามชัง่ เขาบอกว่าวันนี้ ได้นอ้ ยหน่ อย แต่
พรุ่ งนี้ น่าจะเอามาให้ผมได้ประมาณห้าชั่ง!” จ้าวเหวินเทา
หัวเราะเสี ยงเบา

คุณแม่จา้ วได้ฟังก็อารมณ์ดี บอกแล้วว่าลูกชายของตัวเองมี


อนาคตไกล ไม่มีทางถูกคนอื่นดูถูกแน่นอน!

“แต่แม่ เรื่ องนี้ แม่อย่าไปป่ าวประกาศข้างนอกนะ เรื่ องนี้ ถา้


คนนอกรู ้ บางทีอาจจะทาไม่ได้แล้ว เงินส่ วนนี้ก็จะหาไม่ได้
แล้วด้วย” จ้าวเหวินเทากระซิบบอก
“แกวางใจเถอะ ๆ แม่รู้วา่ เรื่ องดี ๆ แบบนี้ตอ้ งเหยียบไว้ จะไม่
พูดออกไปแน่นอน แม่จะบอกพ่อของแกสักหน่อย เขาเอาแต่
เป็ นห่วงแกนี่แหละ” คุณแม่จา้ วกล่าว

จ้าวเหวินเทาพยักหน้า บอกให้พ่อและแม่ของเขารู ้ไม่เป็ นไร


เพราะพ่อแม่ของเขาเป็ นคนรู ้ความ ทั้งยังเป็ นคนปากหนัก
แงะยากอีกด้วย

คุ ณแม่จา้ วกลับไปบอกกับคุ ณพ่อจ้าว คุ ณพ่อจ้าวเลิกคิ้วขึ้น


เล็กน้อย จากนั้นจึงพยักหน้าไม่พูดไม่จา และทาเล้าไก่ต่อ

แต่ ภายในใจของเขาต้องรู ้ สึกดี อย่างแน่ นอน ดู สิ แยกบ้าน


แล้วก็มีผหู ้ ลักผูใ้ หญ่มาอุปถัมภ์

หนึ่ ง วัน สามารถเอาเนื้ อ ไม่ กี่ ชั่ง ไปขายในเมื อ งได้เ งิ น มา


ประมาณ 1 หยวน หนึ่งเดือนก็จะได้มา 30 หยวน
30 หยวนนี้ ไม่ ใ ช่ น้อ ย ๆ เลย จ้า วเหวิ น จื้ อ สอนหนัง สื อ ที่
โรงเรี ยนมัธยมศึ กษาตอนต้นในเมื อ ง หนึ่ งเดื อนได้แค่ 28
หยวน ก็ทาให้หลายคนอิจฉาแล้ว ตอนนี้ลูกชายของเขาหนึ่ ง
เดือนสามารถหาเงินได้ประมาณ 30 หยวน ทั้งยังนาถัว่ งอก
ไปขายในเมื อ งอี ก หนึ่ งเดื อ นจะต้อ งได้เ งิ น ไม่ น้อ ยกว่ า
จานวนนี้อย่างแน่นอน

นี่สามารถทาเงินได้เลยนะ ท้ายที่สุดแล้วหนึ่งปี ก็ได้ 300 กว่า


หยวนแล้ว ไม่ใช่นอ้ ย ๆ เลย

คุ ณ พ่ อ จ้า วและคุ ณ แม่ จ ้า วรู ้ เ รื่ อ งราวภายในแล้ว แต่ เ หล่ า


พี่ชายพี่สะใภ้ของเขายังไม่รู้เรื่ องนี้

พี่รองจ้าวเป็ นกังวลอย่างมาก พี่สามจ้าวเห็ นเป็ นเรื่ องตลก


ส่ วนพี่สี่จา้ วเพิ่งกลับมาจากการไปบ้านแม่ยายกับพี่สะใภ้สี่
จ้าว ก็ได้ยนิ เรื่ องนี้แล้วเช่นกัน
แต่ตอนนี้ แยกบ้านกันแล้ว เจ้าหกต้องรับผิดชอบตัวเองแล้ว
แม้วา่ เขาจะพูดอะไรเจ้าหกก็ไม่ฟังเขาอยูด่ ี

อีกอย่างสิ่ งสาคัญในตอนนี้คือเขาต้องการลูกชาย เขายังไม่มี


ลูกชายเลย มีแค่ลูกสาวสองคนคือซานหยาและซื่อหยา

พี่สะใภ้สี่จา้ วก็อยากมีลูกชาย แต่นนั่ เป็ นเรื่ องกลางคืน ตอนนี้


ไม่มีอะไรต้องทา ตอนกลางคืนถึงจะมีเวลาทาซ้ า ๆ ได้

ดังนั้นในตอนกลางวันแสก ๆ แบบนี้ แน่ นอนว่าหล่อนย่อม


จดจ่ออยูก่ บั เรื่ องอื่น

ตัวอย่างเช่ นได้ยินพี่สะใภ้รองจ้าวและพี่สะใภ้สามจ้าวพูด
เรื่ องวันนี้ที่คุณแม่เย่มาเยีย่ ม หิ้วไข่ไก่หนึ่งตะกร้าและไก่สอง
ตัวที่สามารถวางไข่ได้มาให้ ทาให้พี่สะใภ้สี่จา้ วอิจฉามาก
ส่ วนคุณแม่ของหล่อนเมื่อได้ยนิ ว่าตนแยกบ้านแล้ว เรื่ องแรก
ที่นางถามคือหล่อนได้เงินมาเท่าไร? จะได้นากลับไปให้แม่
ดูแล!

ถ้าพี่สะใภ้สี่จา้ วเป็ นคนโง่ก็คงนาเงินกลับไปให้แม่ของตน


ดูแลแล้ว แต่หล่อนยังไม่มีลูกชายเลยนะ หล่อนต้องการเก็บ
ไว้เป็ นทรัพย์สินให้กบั ลูกชาย!

มองแม่ของเย่ฉูฉู่แล้วหันกลับมามองแม่ของตัวเองแล้ว มัน
ช่างน่าเศร้าจริ ง ๆ

แต่ไม่นานนักพี่สะใภ้สี่จา้ วก็สบายใจได้อีกครั้ง เพราะได้ยนิ


ว่าน้องสามีหกเข้าเมืองตั้งแต่เช้า แต่ได้เงินมาแค่ 1.80 เหมา
เป็ นเพราะเขานาอาหารส่ วนของตัวเองไปขายในเมืองด้วย
ไม่เช่นนั้นคงไม่ได้เงินกลับมา

สิ่ งนี้ทาให้พี่สะใภ้สี่จา้ วรู ้สึกดีข้ ึนมาก


แม้ว่าเย่ฉูฉู่นอ้ งสะใภ้หกคนนี้จะมีโชคชะตาที่ดี มีครอบครัว
ที่รักหล่อน แต่กไ็ ม่สามารถห้ามสามีของตัวเองที่ทาตัวเหลว
แหลกได้

เดิ มที หล่ อนเองก็แอบรู ้ สึกรั งเกี ยจที่ พี่สี่จา้ วซื่ อสั ตย์ซื่ อ บื่ อ
เกินไป แต่ตอนนี้ พอมาคิด ๆ ดูแล้ว สามีของหล่อนก็นับว่า
ไม่เลวเลย

สุ ดท้ายแล้วการไปทางานในนาของเขาก็ไม่เลว เขาได้แต้ม
ค่าแรงมา 10 แต้ม ไม่เหมือนกับน้องสามีหก ที่เป็ นพวกนอก
รี ตไม่ทาอะไรเป็ นจริ งเป็ นจังสักอย่าง

ตอนนี้ ยงั ไม่มีลูก หลังจากนี้ ถา้ มีลูกขึ้นมา ถึงเวลานั้นเด็กจะ


ไม่อดอยากปากแห้งเลยเหรอ?

หล่ อ นในตอนนี้ ไม่ ไ ด้เ กี่ ย วข้อ งกับ พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วและ
พี่สะใภ้สามจ้าวแล้ว แต่กไ็ ม่คิดจะขัดแย้งกับเย่ฉูฉู่อีก ดังนั้น
หล่อนจึงมาโน้มน้าวเย่ฉูฉู่สักหน่อย
“น้องสะใภ้ น้องสามีหกทาแบบนี้ มนั ไม่ได้เรื่ องเลยนะ เธอ
ไม่เกลี้ยกล่อมเขาหน่อยเหรอ?” พี่สะใภ้สี่จา้ วกล่าว

เย่ฉูฉู่กล่ าว “ตอนนี้ ยงั ว่างอยู่ก็ปล่ อยเขาไปเถอะค่ะ ให้เขา


ลองและคิ ดได้ด้ว ยตัว เขาเองว่า มันไม่ ไ ด้ผล ไม่ ง้ นั ใครจะ
เกลี้ยกล่อมเขาได้ละคะ?”

พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วยิ้ม ในใจ พู ด แบบนี้ ก็ถู ก น้อ งสามี ห กคนนั้น


ไม่ใช่คนที่พูดว่าช่างมันแล้วจะปล่อยไปง่าย ๆ

“มีข่าวดีเรื่ องท้องหรื อยังล่ะ? ฉันจะบอกเธอให้นะ ฉันกลับ


บ้านไปครั้งนี้ ได้ยินเคล็ดลับมาอย่างหนึ่ ง สาหรับมีลูกชาย
โดยเฉพาะเลย!” พี่สะใภ้สี่กระซิบ

เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้ “ฉันเองก็มีเคล็ดลับอยูเ่ หมือนกันค่ะ”

เคล็ดลับนี้เป็ นสิ่ งที่เธอเก็บไว้ต้ งั แต่ชาติที่แล้ว ชาติที่แล้วเธอ


ก็อยากให้กาเนิดลูกชายให้สามี แต่กไ็ ม่เคยได้มีโอกาส
แต่ เ คล็ด ลับ นี้ เธอจ าได้ข้ ึ น ใจ ต่ อ ให้เ ป็ นตอนนี้ ก็ ย งั เขี ย น
ออกมาได้ แต่เธอก็ไม่รีบร้อน เพราะไม่เพียงแต่จะให้กาเนิ ด
ลูกหนึ่งคน แต่หลังจากนี้เธอก็ยงั คิดจะให้กาเนิดลูกอีกหลาย
คน

ชาติที่แล้วเธอพบเจอกับความผิดหวัง แต่ชาติน้ ีเธอกลายเป็ น


ภรรยาถูกต้องตามกฎหมายของเขา ดังนั้นเธอจึงต้องการให้
กาเนิดลูกให้กบั เหวินเทาหลาย ๆ คน

เมื่อคิดถึงเรื่ องนี้ ใบหน้าของเย่ฉูฉู่พลันปรากฏรอยยิ้มแห่ ง


ความสุ ข

พี่สะใภ้สี่จา้ วคิดว่าคงเป็ นเพราะสิ่ งที่แม่ของเธอนามาให้วนั นี้


จึงไม่ได้กล่าวอะไร เพราะเคล็ดลับของหล่อนต้องจ่า ยเงิ น
ตอบแทนด้วย การใช้เงินสามหยวนในการซื้ อกลับมามันทา
ให้หล่อนเจ็บปวดแทบตาย จึงไม่คิดจะบอกออกไปเปล่าๆ
ตอนที่ 40 นี่สิถึงจะเรียกว่ าการใช้ ชีวติ

แม้ว่าผลลัพธ์จะไม่เป็ นอย่างที่ตอ้ งการ แต่การค้าขายขนาด


ย่อมของจ้าวเหวินเทาก็เพิ่งจะเริ่ มต้นไม่ใช่เหรอ

วันนี้จา้ วเหวินจื้อเพื่อนสมัยเด็กของจ้าวเหวินเทาเพิ่งกลับมา
จากในเมือง ย่อมได้ยินเรื่ องที่เฮ่ อซงจือภรรยาของเขาบอก
แล้ว

แต่จา้ วเหวินจื้อไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็ นคุณครู ที่สอนอยู่ใน


โรงเรี ยนมั ธ ยมศึ ก ษาในเมื อ ง โรงเรี ยนมั ธ ยมศึ ก ษามี
หนังสื อพิมพ์จานวนมาก ทุ กๆ วันจะมี หนังสื อพิมพ์มาส่ ง
ดังนั้นจ้าวเหวินจื้อจึงรู ้เรื่ องราวของโลกภายนอกดี

“รู ้ดี? รู ้ดีอะไรคะ เขาไม่ได้ทาธุ รกิจที่ถูกต้อง หลังจากนี้ ฉูฉู่


จะทายังไง?” เฮ่ อซงจือในฐานะเพื่อน ทั้งยังเข้ากันได้ดี กบั
เย่ฉูฉู่มาก ไม่สามารถทนดูจา้ วเหวินเทาทาธุ รกิจที่ไม่ถูกต้อง
ได้

เย่ฉูฉู่เป็ นคนอ่ อนโยนขนาดนั้น โดยเฉพาะยังมี ครอบครัว


ของเธอที่ดีขนาดนั้น จ้าวเหวินเทาจะมารังแกเธอไม่ได้

จ้าวเหวินจื้อกล่าว “ทาไมจะไม่ใช่ธุรกิจที่ถูกต้อง คุณดูสิ ปี นี้


ทางฝั่งพวกเรามีเอกสารออกมาแล้ว เหวินเทาอยากค้าขายก็
ไม่ ได้เลวร้ ายอะไร เขาพูดเก่ งมาแต่ ไหนแต่ ไรแล้ว หน้าก็
หนา ต้องประสบความสาเร็จอยูแ่ ล้ว”

เฮ่อซงจือกลอกตาใส่ จา้ วเหวินจื้อ

แต่จา้ วเหวินจื้อก็ยงั มาหาจ้าวเหวินเทาเพื่อคุยเกี่ยวกับเรื่ องนี้


เมื่อได้ยนิ จ้าวเหวินจื้อสนับสนุ นเป็ นอย่างมาก จ้าวเหวินเทา
จึงหัวเราะออกมา
“สมกั บ ที่ เ ป็ นคนสอบเข้ า มหาวิ ท ยาลั ย ได้ มี วิ สั ย ทั ศ น์
กว้า งไกล ฉัน ก็คิ ด ว่า ฉัน ทาได้เ หมื อ นกัน !” จ้า วเหวิน เทา
กล่าวด้วยรอยยิม้

แต่เมื่อพูดถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัย จ้าวเหวินจื้อจึงถอน
หายใจเล็กน้อยและกล่าวว่า “เกรงว่าฉันคงจะสอบเข้าไม่ได้
แล้วล่ะ”

ข้อสอบแต่ละปี ยากขึ้นเรื่ อย ๆ เขายังต้องสอนหนังสื ออะไร


พวกนั้นอีก พลังงานก็มีอย่างจากัด ปี นี้ เขาเองก็ลองเข้าร่ วม
การสอบเหมือนกัน แต่กย็ งั สอบไม่ผา่ นอยูด่ ี

“แล้วยังไงล่ะ? ถึงนายจะสอบไม่ผา่ นแต่นายก็เป็ นครู สอนอยู่


ในโรงเรี ยนมัธยมศึกษานะ เงิ นเดื อนแต่ ละเดื อนได้มา 28
หยวน ไหนจะคูปองอะไรพวกนั้นอีก ผูค้ นในหมู่บา้ นต่างก็
พากันอิจฉา งานสอนหนังสื อเป็ นที่นิยมมากขึ้นเรื่ อย ๆ ชาม
ข้าวเหล็กชัว่ ชีวติ อยูใ่ นมือแล้ว ยังต้องกังวลอะไรอีก?” จ้าวเห
วินเทาพูดปลอบใจ

เมื่ อได้ยินเขากล่ าวแบบนั้น จิ ตใจของจ้าวเหวินจื้ อจึ งดี ข้ ึน


มาก เขากล่าวด้วยรอยยิม้ ว่า “ซงจือท้องแล้ว เมื่อไหร่ ภรรยา
ของนายจะมีล่ะ?”

“พวกเราเองก็ไม่ ได้รีบร้ อนอะไร ตอนนี้ แยกบ้านแล้ว รอ


ฐานะทางบ้านดีถึงขั้นที่มีให้กินก็ไม่กินก่อน เด็กถึงจะมีของ
ดี ๆ กินไม่ใช่ เหรอ? ฉันได้ยินมาว่าเด็กในเมืองได้กินนมผง
ตั้งแต่ เด็ก ถ้าฐานะทางบ้านไม่ ดีสักหน่ อยก็ไม่มีปัญญากิน
แล้ว” จ้าวเหวินเทากล่าว

เขาไม่รีบร้อนจริ ง ๆ นัน่ แหละ นี่ไม่ใช่เรื่ องโกหก เพราะเขา


รู ้สึกว่าไม่มีทางที่ตวั เองจะไม่มีลูกชาย

รอให้การใช้ชีวิตของพวกเขาดีข้ ึนสักหน่ อยแล้วถึงเวลานั้น


ค่อยตั้งครรภ์มนั ก็เหมือนกันนัน่ แหละ
จ้าวเหวินจื้อไม่กล่าวอะไร เพราะพี่สาวทั้งสองคนของจ้าวเห
วินจื้อได้แต่งงานเข้าเมืองไปทั้งคู่ เด็ก ๆ ในเมืองมีนมผงไว้
รับประทานก็ไม่ใช่ เรื่ องที่หาได้ยาก แต่ครอบครัวทัว่ ๆ ไป
กลับ ท าใจไม่ ไ ด้ ก ัน ทั้ง นั้ น มัน แพงเกิ น ไปแล้ว นั่ น น่ ะ
ค่าใช้จ่ายทั้งนั้นเลย

จ้าวเหวินจื้ออยูส่ นทนาครู่ หนึ่งก่อนจะกลับไป

ตอนนี้ อากาศหนาวแล้ว จ้า วเหวิ น เทาจึ ง กลับ ห้อ งไปหา


ภรรยาของเขา

เย่ฉู ฉู่ เ ตรี ย มตัว นอนแล้ว เมื่ อ เห็ น เขากลับมาจึ ง กล่ า วด้ว ย
รอยยิม้ “พรุ่ งนี้ยงั ต้องตื่นแต่เช้านะคะ รี บเข้านอนเถอะค่ะ”

จ้าวเหวินเทากอดภรรยาของตัวเองและเข้านอน อากาศหนาว
แบบนี้มีภรรยานอนอยู่บนเตียง ไม่มีอะไรสบายไปกว่านี้ อีก
แล้ว
เขากอดภรรยาอย่างอ่อนโยนและอบอุ่น และแล้วเขาก็เกิ ด
ความคิดขึ้นมา

จากนั้นเขาจึงร่ วมรักกับภรรยาของเขาไปหนึ่ งยก จนทั้งสอง


คนต่างรู ้สึกสบายตัว

เย่ฉูฉู่ตวั อ่ อนปวกเปี ยกอยู่ในอ้อมแขนของเขา ฟั งเขาถอน


หายใจอย่า งพอใจ “ภรรยา สองวัน นี้ พวกเราได้ใ ช้ชี วิ ต ที่
เรี ยกว่าการใช้ชีวติ แล้วนะ”

ขอแค่เขาอยูบ่ า้ น ภรรยาของเขาก็จะให้เขารับประทานของดี
ๆ ไม่ตอ้ งรับประทานโจ๊กและมันเทศทุกวันแล้ว

เขากลัวการรั บประทานโจ๊กและมันเทศไปแล้ว เพราะเขา


รับประทานมาตั้งแต่เด็ก

“ยัง ไม่ มี เ นื้ อ ให้กิ น เลยค่ ะ หรื อ ว่ า พรุ่ ง นี้ คุ ณ เหลื อ เนื้ อ หมู
กลับมาบ้านสักหน่อยดีไหมคะ?” เย่ฉูฉู่ถาม
อาหารหลักของบ้านมี เพียงไข่ ไก่ คื นนี้ มีปลาหนึ่ งตัว เป็ น
ปลาที่ พี่ ร องจ้า วให้มา เขาตกมาได้สองตัว ตัว หนึ่ ง เก็บไว้
รับประทานเอง ส่ วนอีกตัวก็เอามาให้เขา

เย่ฉูฉู่ก็ไม่ ยอมได้รับประโยชน์อยู่ฝ่ายเดี ยว เธอให้พี่สะใภ้


รองจ้าวสับปลาทั้งสองตัวด้วยกัน จากนั้นก็ทาปลานึ่งซีอิ๊ว

เธอลงเครื่ องปรุ งอย่างไม่เสี ยดาย ทั้งยังส่ งกลิ่นหอมมาก ทา


ให้พี่สะใภ้รองจ้าวมีความสุ ขมากเลยล่ะ

เย่ฉูฉู่ไม่ ใช่ คนเจ้าคิ ดเจ้าแค้น แม้พี่สะใภ้รองจ้าวคนนี้ จะมี


แผนในใจที่ไม่ได้พูดออกมา แต่กไ็ ม่ได้ล้ าเส้นของเธอจริ ง ๆ
ดังนั้นเมื่ออีกฝ่ ายให้ปลา เธอก็ยนิ ดีที่จะทาการแลกหมูไปเอา
ไก่มาเช่นกัน

หากให้พี่สะใภ้รองจ้าวนึ่งปลาด้วยตัวเอง หล่อนย่อมเสี ยดาย


ที่จะใส่ วตั ถุดิบเยอะขนาดนั้น อีกอย่างเธอก็ไม่ได้มีวตั ถุ ดิบ
มากขนาดนั้นด้วย
ตอนค่ า ก็ น่ ึ งหมั่น โถวข้า วโพดอี ก อาหารการกิ น นั บ ว่ า
ค่อนข้างดีเลยทีเดียว

“เนื้ อพวกนั้นไม่ ค่อยดี ผมดู แล้วก็ธรรมดา พรุ่ งนี้ ผมจะไป


ถามพี่ซื่อหู่ ให้นะ ว่าสามารถสั่งเนื้อชั้นรองมาให้พวกเรากิน
ได้ไหม”จ้าวเหวินเทากล่าว

เย่ฉูฉู่ยมิ้ กล่าวว่า “อือ คุณซื้ อกลับมาแล้วเดี๋ยวฉันจะทาเกี๊ยว


ให้คุณกินนะคะ”

“ภรรยา คุณช่ างดีจริ ง ๆ เลย” จ้าวเหวินเทาพึงพอใจอย่างยิง่


จากนั้นจึงกล่าวว่า “ภรรยา มาต่อกันอีกครั้งเถอะ”

เย่ฉูฉู่หน้าแดงระเรื่ อ แต่กลับปล่อยให้เขาทาตามใจปรารถนา

เพราะเมื่อคืนยุ่งทั้งคืน ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าเช้าวันนี้ เหวินเทา


ตื่นตอนไหน เพราะเธอกาลังนอนหลับอุตุอยู่
จ้าวเหวินเทานาถัว่ ไม่กี่ชงั่ ออกจากบ้านแล้ว ตอนที่เขามาถึง
โรงฆ่าสัตว์ทางฝั่งนี้ ก็ยงั คงเช้าอยู่

วัน นี้ ได้เ นื้ อ มาไม่ น้อ ย มี เ นื้ อ ทั้ง หมด 5 ชั่ง ท าให้จ ้า วเหวิ
นเทากล่าวด้วยรอยยิม้ “พี่ซื่อหู่ พอจะมีเนื้อชั้นรองไหมครับ?
พรุ่ งนี้ผมอยากจะเก็บไว้กินที่บา้ นสักหน่อยน่ะ”

ไช่ ซื่อหู่ กล่าวด้วยรอยยิม้ “บังเอิญจริ ง ๆ พี่สะใภ้ของนายก็


บอกให้ฉันเอาเนื้ อกลับไปกินที่บา้ นด้วย งั้นพรุ่ งนี้ เดี๋ ยวฉัน
แบ่งให้นายครึ่ งชัง่ ก็แล้วกันนะ?”

“ตกลง” จ้าวเหวินเทาตอบด้วยรอยยิม้

“จะว่าไปนี่ ก็อีกไม่นานแล้ว คาดว่าหิ มะก็คงจะตกแล้ว ถึง


ตอนนั้นนายวางแผนจะทาอะไร?” เมื่อไช่ซื่อหู่เห็นว่าเวลายัง
เช้าอยู่ และไม่ตอ้ งรี บเข้าเมือง จึงเอ่ยถามออกมา
“อากาศหนาวแบบนี้ ผมคงเข้า เมื อ งทุ ก วัน ไม่ ไ ด้แน่ ๆ ลม
หนาวแรงเกิ นไปร่ างกายอาจจะรั บไม่ ไหว แต่ ผมจะมาเอา
เนื้อจากพี่ทุกวันนัน่ แหละ จะเก็บสะสมไว้สักวันสองวันแล้ว
ค่อยไปขายในเมืองทีเดียว” จ้าวเหวินเทากล่าว

แน่ นอนว่าเขามีแผนไว้แล้ว เมื่อหิ มะตกก็ไม่ตอ้ งกลัวว่าเนื้อ


จะเน่าเสี ย ต่อให้เก็บไว้สองสามวันก็ไม่ตอ้ งกังวล

ไช่ซื่อหู่พยักหน้าด้วยรอยยิม้ พลางกล่าวว่า “ตกลงตามนี้”

จ้าวเหวินเทาจึ งเข้ามาในเมือง เนื้ อวันนี้ ขายออกได้ไม่ยาก


เพียงพริ บตาเดี ยวก็ขายหมดเกลี้ ยงแล้ว เขาจึงเดิ นทางไปที่
ตลาดการค้าเสรี เพื่อขายถัว่ ถัว่ ไม่ กี่ชั่งย่อมถู กขายออกไป
อย่างง่ายดาย จนจ้าวเหวินเทาแอบรู ้สึกเสี ยดายเล็กน้อย เมื่อ
วานเขาเห็นแล้วว่าถัว่ ที่บา้ นยังไม่โต ยังต้องใช้เวลาประมาณ
2 วัน ไม่เช่นนั้นคงขายทาเงินได้แล้ว
เขามาซื้ อหมัน่ โถวสองลู กเพื่อรั บประทาน จ้าวเหวินเทาขี่
จักรยานไปซื้อซีอิ๊วมาอีกหนึ่งขวดก่อนจะกลับมาที่บา้ น

เขาอยากจะลองดูสักหน่อยว่าตกปลาได้สักสองตัวไหม ปลา
นึ่งซีอิ๊วที่ภรรยาของเขาทามันอร่ อยจริ ง ๆ

เดิมทีเขาอยากรี บกลับบ้าน คิดไม่ถึงเลยว่าระหว่างทางกลับ


บ้านเขาจะพบกับเย่หมิงเป่ ยพี่ชายคนที่สามของภรรยาเขา

“พี่สาม จะไปไหนครับเนี่ย?” จ้าวเหวินเทาหยุดพลางกล่าว

“อ้าว เหวินเทา” เย่หมิ งเป่ ยหน้าตาเป็ นอย่างไรไม่ ตอ้ งพู ด


หรอก พัน ธุ ก รรมของตระกูล เย่ถู ก เปลี่ ย นโดยรุ่ น ของคุ ณ
แม่ เ ย่ไ ปแล้ว ทุ ก คนต่ า งก็ส วยหล่ อกัน หมด เย่ห มิ ง เป่ ยยิ้ม
ยิงฟั นขาวพลางกล่าวว่า “ฉันจะเข้าเมือง ภรรยาของฉันส่ ง
จดหมายมาหา ฉันต้องส่ งจดหมายกลับไปหาหล่อน”
“เป็ นเรื่ องที่ดีเลยนะ ให้ผมพาพี่ไปส่ งไหม?” จ้าวเหวินเทา
ถาม

“ไม่ตอ้ ง ๆ ฉันยังมีเรื่ องอื่นต้องทาอีก นายกลับไปก่อนเถอะ”


เย่หมิงเป่ ยเองก็รู้ว่าน้องเขยของเขาคนนี้เข้าเมืองมาค้าขาย จึง
กล่าวออกไป

จ้าวเหวินเทาเห็นว่าอีกฝ่ ายไม่ตอ้ งการให้ไปส่ งจริ ง ๆ คาดว่า


ก็คงมีเรื่ องอื่นที่ตอ้ งทา จึงไม่กล่าวอะไรและกลับบ้านไป
ตอนที่ 41 นาแป้ งทอดกลับไปบ้ านแม่

หลังจากกลับมาถึงบ้าน เขาก็เล่าเรื่ องนี้ ให้ภรรยาฟั งไปหนึ่ง


รอบ

ไม่มีใครไม่รู้ในเรื่ องของเย่หมิงเป่ ยและภรรยาปั ญญาชนคน


นั้น โดยพื้นฐานก็พอจะเดาได้ว่าภรรยาของเขาคงไม่ กลับ
มาแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหล่อนจะเขียนจดหมายกลับมา

นี่เป็ นเรื่ องที่หาได้ยากจริ ง ๆ แน่นอนว่าต้องเล่าให้ภรรยาของ


เขาฟัง

เย่ ฉู ฉู่ ย่ อ มรู ้ สึกเหนื อ ความคาดหมายอยู่ แ ล้ว จากความ


ประทับใจที่มีต่อพี่สะใภ้สามคนนี้ หล่อนถือเป็ นคนที่ไม่เลว
เลย แต่ ก็เ ป็ นอย่า งที่ แ ม่ ข องเธอพู ด ไว้ ว่ า ในเมื่ อ สอบเข้า
มหาวิทยาลัยได้แล้ว หล่อนยังยินดีที่จะกลับมายังชนบทอีก
เหรอ?

โดยเฉพาะหลังจากได้เห็นภูมิทศั น์ภายนอก ไม่ว่าอย่างไรก็


ต้องนึ กดู ถูกชนบทอยู่แล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าจะเขียนจดหมาย
กลับมา

“คุ ณ ไปบอกกับ คุ ณแม่ สัก หน่ อ ยเถอะ ไม่ รู้ ว่า ในบ้านจะรู ้
เรื่ องนี้ รึยงั แล้วก็ถามด้วยนะ อย่าให้พี่สามถูกอีกฝ่ ายหลอก
เข้าล่ะ” จ้าวเหวินเทากล่าว

เย่ฉูฉู่พยักหน้า “งั้นหลังกินข้าวเที่ยงเสร็ จฉันจะกลับไปนะ


คะ”

เธอปรุ งมันเทศเป็ นอาหารมื้ อเที่ ยง ซึ่ งเป็ นมันเทศที่ เพิ่ ง จะ


งอกในปี นี้ มี ร สชาติ ห วานมาก ตลอดทั้ง ปี มี ช่ ว งนี้ เป็ น
ช่วงเวลาที่มนั เทศอร่ อยที่สุดแล้ว
หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จทั้งสองคนก็แยกย้ายกัน
ไปทาธุระของตนเอง

จ้าวเหวินเทาหยิบสวิงออกไปจับปลาแล้ว

ส่ วนเย่ฉูฉู่กท็ าการนวดแป้ ง จากนั้นเทน้ ามันลงไปในกระทะ


เพื่อทอดขนมแป้ งทอด แป้ งทอดนี้หอมมาก ทาให้ทุกคนทั้ง
ผูใ้ หญ่และเด็กต่างพากันชะโงกหน้าเข้ามาในห้องครัว

“น้องสะใภ้ เธอกาลังทาอะไรอยูเ่ หรอ?” พี่สะใภ้สี่จา้ วเดินเข้า


มา ซานหยากับซื่ อหยาก็เดิ นตามเข้ามาด้วยและต่ างพากัน
เขย่งปลายเท้ามองไปที่ดา้ นในกระทะ

“ขนมแป้ ง ทอดค่ ะ ” เย่ฉู ฉู่ ส อดไส้ ข นมด้ว ยน้ า ตาล เพราะ


ภายในบ้านเหลือน้ าตาลนิด ๆ หน่อย ๆ

ส่ วนอย่างอื่นเตรี ยมไม่ทนั แล้ว ดังนั้นทอดด้วยไส้น้ าตาลก็


กาลังดี
“อาสะใภ้หก หอมมากเลยค่ะ” ซานหยาจ้องตาเป็ นมัน

เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้ “แน่ นอนว่าต้องหอม เธอดูสิว่าอาใส่


น้ ามันถัว่ เหลืองที่แบ่งจากในบ้านเทลงไปทอดในหม้อ จะไม่
หอมได้ยงั ไงล่ะจ๊ะ?”

เธอเองก็ พ อจะรู ้ ดี ว่ า ฐานะทางบ้า นมี จ ากัด ท าสิ่ ง นี้ ดู จ ะ


ฟุ่ มเฟื อยเกิ น ไปหน่ อ ยจริ ง ๆ แต่ ห ลัง จากที่ เ ธอแต่ ง งาน
นอกจากวันที่สามีภรรยากลับบ้านฝ่ ายหญิงเพื่อคารวะพ่อแม่
และญาติผใู ้ หญ่ของฝ่ ายหญิงแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่ได้กลับไป
อีกเลย

เมื่ อ วานแม่ ข องเธอยัง น าไข่ ไ ก่ ม าให้ ถึ ง ที่ บ้า น วัน นี้ ก็จ ะ
กลับไปนั่งคุ ยที่ บา้ นอี ก เธอจะกลับไปมื อเปล่ าได้อ ย่า งไร
กัน? ในบ้านไม่มีของอย่างอื่นเลย ทาขนมแป้งทอดสักหน่ อย
ก็ดีมากแล้ว
หลังจากยุง่ จนถึงช่วงบ่ายสองโมงกว่า ๆ ขนมแป้ งทอดก็เพิ่ง
จะทาเสร็ จ เธอเทน้ ามันที่เหลือออกมา ส่ วนกระทะก็ไม่ได้
ล้าง เก็บไว้ผดั กับข้าวตอนค่าคงหอมฉุยไม่นอ้ ย

เธอทอดขนมแป้ งทอดทั้งหมด 8 ชิ้น แบ่งให้คุณพ่อจ้าวและ


คุณแม่จา้ ว 2 ชิ้น ส่ วนที่เหลือเย่ฉูฉู่นากลับไปให้ที่บา้ น

“คุ ณปู่ คุ ณย่า ขนมแป้ งทอดอร่ อยไหมครั บ?” หม่ าต้านลูก


ชายของพี่สามจ้าวและพี่สะใภ้สามจ้าวมานั่งยอง ๆ อยู่บน
ธรณี ประตูหอ้ งของชายหญิงชราทั้งสอง ทั้งยังจ้องขนมแป้ ง
ทอดสองชิ้นที่ต้ งั อยูบ่ นโต๊ะ

ไม่ได้มีแค่เขา เถี่ยต้านและหลูตา้ นก็เหมือนกัน

ช่ วยไม่ ได้ ขนมแป้ งทอดที่ อาสะใภ้หกทาหอมเกิ นไปแล้ว


ดึงดูดให้พวกเขาไม่ยอมเดินออกไปแม้แต่คนเดียว แต่ยงั คง
รออยูอ่ ย่างนั้น
แต่ เ ห็ น ได้ชัด ว่า อาสะใภ้ห กไม่ ไ ด้ใ ห้พ วกเขารั บประทาน
เพราะแยกบ้านกันแล้ว อีกอย่างเธอก็จะนาไปให้ที่บา้ นด้วย
แต่คุณปู่ และคุณย่าได้คนละ 1 ชิ้น

“นี่ เป็ นของที่อาสะใภ้หกของพวกเธอทา ย่าแบ่งให้พวกเธอ


กินหนึ่งชิ้น แต่ตอ้ งจาความดีของอาสะใภ้หกของพวกเธอไว้
ด้วยนะ!” คุณแม่จา้ วเห็นพวกหลาน ๆ จ้องตาเป็ นมัน จึงเอ่ย
ปากพูด

ทั้งสามต้านย่อมพยักหน้าหงึก ๆ อยูแ่ ล้ว

คุ ณแม่ จา้ วแบ่ งขนมแป้ งทอดออกเป็ น 7 ส่ วน สามต้านได้


รับประทาน สี่ หยาก็ได้รับประทานเหมือนกัน

ทั้ง สามต้า นไม่ ต ้อ งพู ด ถึ ง หรอก ต่ า งก็กิ น ด้ว ยใบหน้า พึ ง


พอใจ แถมยังหมดในคาเดี ยวด้วย พวกเขารู ้สึกได้ถึงความ
หอมหวานและอร่ อยมาก!
ซานหยาและซื่ อหยารับมาและรี บรับประทานทันที พี่สะใภ้
สี่ จา้ วที่ ดูอยู่ก็แอบด่ าพวกเด็ก ๆ ว่าไม่ นึกถึ งแม่ ของตัวเอง
แม้แต่นอ้ ย แม้แต่กลิ่นก็ยงั ไม่ได้ดมเลย!

ส่ วนต้าหยากับเอ้อร์ หยากลับรู ้สึกเหนื อความคาดหมาย คิด


ไม่ถึงว่าคุ ณย่าจะแบ่งให้พวกเธอ เช่ นเดี ยวกับเถี่ยต้านและ
หม่าต้าน

“แม่คะ…” ต้าหยาหันไปมองแม่ของเธอ

คุณแม่จา้ วเหล่ตามอง สี หน้าของพี่สะใภ้รองพลันแข็งค้างไป


ครู่ หนึ่ง “นี่เป็ นของที่อาสะใภ้หกทอดไว้ ลูกกินเถอะจ้ะ”

ต้าหยาจึงยอมรับประทานเข้าไป รสชาติอร่ อยมากจริ ง ๆ เธอ


เติ บโตมาขนาดนี้ นี่ เป็ นครั้ งแรกเลยที่ ได้รับประทานขนม
แป้งทอดที่อร่ อยขนาดนี้
เอ้ อ ร์หยาก็ รั บ ประทานส่ วนของตั ว เองเช่นกั น เธอ
รับประทานหมดภายในคาเดียว

จนกระทัง่ พวกเด็ก ๆ รับประทานเสร็ จแล้ว พี่สะใภ้รองจ้าว


จึ ง พู ด ว่ า “น้อ งสะใภ้ห กก็ฟุ่ มเฟื อยเกิ น ไปแล้ว ทอดสิ่ ง นี้
ออกมาโดยไม่เสี ยดาย ทั้งยังใส่ น้ าตาลและน้ ามันด้วย”

น้ ามันขวดนั้นเพิ่งได้มาในปี นี้ ต้องใช้ไปจนถึงปี หน้าเลยนะ


แต่นอ้ งสะใภ้หกคนนี้กลับเทมันลงไปเพื่อทอดขนมแป้งทอด

ใช้ชีวติ ไม่เป็ นเกินไปหรื อเปล่าเนี่ย?

“โอ๊ย ใครจะไปเหมือนกับพี่สะใภ้รองกันล่ะคะ เพิ่งจะกิน


เข้าปากก็เริ่ มพูดถึงน้องสะใภ้หกไม่ดีซะแล้ว” พี่สะใภ้สี่จา้ ว
โพล่งออกมาโดยพลัน

พี่สะใภ้รองจ้าวมีสีหน้าตึงไป “เธอพูดอะไรของเธอ ฉันก็แค่


เป็ นกังวล ใช้ชีวติ แบบบนี้ได้ที่ไหนกัน?”
“จะใช้ชี วิต แบบไหนมัน ก็เ ป็ นเรื่ อ งของพวกน้อ งสามี ไม่
จาเป็นต้องให้คนอื่นมาพูดมากหรอกค่ะ!” พี่สะใภ้สี่จา้ วพูด
ด้วยน้ าเสี ยงเย็นเยียบจบแล้วก็เดินกลับไป

พี่สะใภ้รองจ้าวมีสีหน้าไม่สู้ดี หล่อนจึงพูดกับพี่สะใภ้สาม
จ้าว “ตอนนี้นอ้ งสะใภ้สี่เป็ นอะไรเนี่ย พูดจากลับตาลปั ตรไป
หมด!”

พี่สะใภ้สามจ้าวเบ้ปาก หล่อนจะไปทราบได้อย่างไรว่าเกิด
อะไรขึ้นกับน้องสะใภ้คนนี้ หลังจากที่แยกบ้านแล้วหล่อนก็
พูดแบบนี้ มาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ ไม่กล้าแม้แต่จะพูดเสี ยง
ดังเลยด้วยซ้ า มาวันนี้ กลับรู ้ สึกราวกับพวกหล่ อ นสองคน
เป็ นหนี้อีกฝ่ ายอย่างไรอย่างนั้น ป่ วยแล้วกระมังเนี่ย

อันที่จริ งคุณพ่อจ้าวและคุณแม่จา้ วก็รู้สึกว่าทาขนมแป้ งทอด


ก็ค่อนข้างฟุ่ มเฟื อยไปหน่อย แต่เธอต้องกลับไปหาตระกูลเย่
เชี ยวนะ ต่ อให้ฟุ่มเฟื อยก็ตอ้ งทา ถึ งอย่างไรนี่ ก็นานเท่าไร
แล้วที่ไม่ได้กลับไป?

อีกอย่างเมื่อวานนี้ คุณแม่เย่ก็นาของมาให้มากมายขนาดนั้น
ลู ก สะใภ้บ ้า นนู ้น จะไม่ คิ ด ได้อ ย่ า งไรกัน ? ลู ก สะใภ้น าง
กลับไปบ้านคราวนี้ ถา้ หากไม่นาของดี ๆ กลับไปสักหน่ อย
คงได้ถูกพวกพี่สะใภ้ที่บา้ นเธอกระซิบกระซาบแย่

นี่ ไม่ ใช่ เรื่ องตลกเลยนะ ลู กสาวแต่ งงานออกเรื อนไปแล้ว


สถานะย่อมแตกต่างจากตอนที่เป็ นน้องสามีในบ้านอยูแ่ ล้ว

ก่อนหน้านี้ เป็ นคนในบ้านตัวเอง ตอนนี้ แม้ว่าจะยังเป็ นคน


ในบ้านแต่กเ็ ป็ นแขก ไม่ได้กลับบ้านไปนานแต่ยงั กลับไปมือ
เปล่าอีก แบบนั้นจะให้คนอื่นมองอย่างไรล่ะ?

แต่เย่ฉูฉู่คงไม่ทาเรื่ องแบบนั้นหรอก
เธอใช้กระดาษไขห่ อขนมแป้ งทอดจานวนหกชิ้นมาให้ แค่
นั้นก็ได้รับการต้อนรับอย่างมากแล้ว

พี่ ใ หญ่ เ ย่ห มิ ง ตงมี ลู ก ห้าคน พี่ ส องเย่ห มิ ง หนานมี ลูกสี่ คน


ส่ วนพี่สามเย่หมิงเป่ ยไม่มีลูกแม้แต่คนเดียว

ขนมแป้ งทอดทั้งหกชิ้ นนี้ ไม่สามารถแบ่งให้พวกเขาคนละ


ชิ้ นได้ ในเมื่อไม่พอแบ่ง ก็ตอ้ งรับประทานคนละครึ่ ง แต่ก็
รับประทานจนปากชุ่มด้วยน้ ามัน หอมสุ ด ๆ ไปเลย!

สี หน้าของพี่สะใภ้ใหญ่ เย่และพี่สะใภ้รองเย่ดูดีไม่น้อย ใน
เวลาเดียวกันก็ประหลาดใจนิดหน่อย

น้องเขยน่ะช่างเถอะ เพราะเขาเป็ นคนอยูเ่ ป็ น ปลาที่เอามาให้


ก็ตวั อวบอ้วนเชียว
ส่ วนน้องสาวสามี คนนี้ ไม่ ได้เป็ นมิ ตรเลย ทว่าคิ ดไม่ ถึงว่า
ตอนนี้จะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ดูราศีบนตัวเธอสิ ถ้าไม่รู้จกั
กันเกรงว่าคงจาไม่ได้เลยกระมัง

“เปลี่ยนไปเยอะเลยจริ ง ๆ” พี่สะใภ้รองเย่กล่าว

พี่สะใภ้ใหญ่เย่พยักหน้าเห็นด้วย “สุ ดท้ายก็แต่งงานออกไป


แล้ว ทั้งยังเป็ นภรรยาของสามีแล้วด้วย”

“พี่ว่าเรื่ องที่นอ้ งสะใภ้สามจะกลับมาฉลองปี ใหม่ที่บา้ นปี นี้


เป็ นเรื่ องจริ งหรื อเปล่า? ทาไมฉันรู ้สึกว่าไม่ค่อยน่าเชื่อถือเลย
ล่ะ?” พี่สะใภ้รองเย่กล่าว

เย่หมิงเป่ ยไม่ได้ปิดบังกับที่ บา้ น ดังนั้นภายในบ้านก็ทราบ


แล้วเช่นกัน

พี่สะใภ้ใหญ่เย่ส่ายหน้า “อย่าไปพูดถึงเลย”
แม้หล่อนจะรู ้สึกประหลาดใจมาก แต่นอ้ งสามีสามก็เฝ้ารอ
น้องสะใภ้สามกลับมาจนตาแดงเถือกหมดแล้ว จะพูดจาบัน่
ทอนกาลังใจไม่ได้หรอก
ตอนที่ 42 โจวหมิน่

ภายในห้อง เย่ฉูฉู่กาลังพูดคุยกับแม่ของเธอเกี่ยวกับเรื่ องนี้

“ลู ก รู ้ ไ ด้ ย ัง ไง?” คุ ณ แม่ เ ย่ เ พิ่ ง จะพู ด ว่ า เย่ ฉู ฉู่ ก ลับ มาได้


สิ้ นเปลืองมาก กลับมาที่บา้ นก็กลับมาสิ ทาไมต้องทาขนม
แป้ งทอดกลับมาด้วย? แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจู่ ๆ ลูกสาวของนาง
จะพูดถึงเรื่ องนี้

“วันนี้เหวินเทาก็เข้าไปในเมืองมา ขากลับไปเจอกับพี่สาม พี่


สามก็เลยเล่าให้ฟัง ฉันได้ฟังก็รู้สึกแปลก ๆ เลยกลับมาถาม
แม่นี่แหละค่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าว

คุ ณแม่ เย่ก็กล่ าวว่า “เป็ นเรื่ องจริ ง จดหมายส่ งมาถึ งที่ บา้ น
แล้ว”

“เป็ นเรื่ องจริ งเหรอคะ?” เย่ฉูฉู่ประหลาดใจ


“อื้ ม” คุ ณแม่ เย่พยักหน้า แต่ นางก็ประหลาดใจเหมื อ นกัน
ลูกสะใภ้ปัญญาชนคนนี้ เป็นคนไม่เลวเลย นางเองก็ยอมรับ
เรื่ องนี้ แต่ถา้ หากให้พูดว่าตระกูลเย่ดีเด่นขนาดนั้นก็คงไม่ใช่
ดัง นั้ นส าหรั บ การที่ ลู ก สะใภ้ค นนี้ ส่ ง จดหมายกลับ จาก
มหาวิทยาลัย นางเองก็รู้สึกเหนือความคาดหมายเหมือนกัน

แต่ทุกคนต่างก็ไม่ มีใครรู ้เลย ว่าโจวหมิ่นที่ กาลังเรี ยนอยู่ที่


มหาวิ ท ยาลัย อยากกลับ มาหาเย่ห มิ ง เป่ ยอย่า งใจจดใจจ่ อ
ขนาดนี้

โจวหมิ่นเองก็ไม่รู้วา่ ทาไมตัวเองถึงกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง

ชาติ ที่ แ ล้ว หลัง จากที่ ห ล่ อ นเข้า มหาวิ ท ยาลัย แล้ว ก็ไ ม่ ไ ด้
กลับไปหาบ้านสามีที่ชนบทอีกเลยจริ ง ๆ หล่อนคิดว่าเย่หมิง
เป่ ยเข้าใจความหมายของหล่ อนแล้ว แต่หล่อนคิดไม่ถึงว่า
บั้นปลายชีวติ ในชาติที่แล้ว หล่อนกลับยังได้พบเจอกับเขาอีก
ครั้ง
ชาติ ที่ แ ล้ ว ตอนที่ ห ล่ อ นเรี ยนอยู่ ช้ ั นปี ที่ ส าม หล่ อ นมี
ความสัมพันธ์ที่ดีกบั เพื่อนนักเรี ยนชายอีกคน เป็ นเพราะพวก
เขามี อุ ด มการณ์ แ ละเป้ า หมายร่ ว มกัน ดัง นั้น จึ ง เป็ นเรื่ อ ง
ธรรมดาที่จะไปด้วยกันได้

แต่ ใครจะไปคิ ด เดิ มที ที่คิดว่าจะมี ชีวิตที่ โชคดี และงดงาม


ตอนที่หล่อนตั้งครรภ์กลับถูกทรยศหักหลัง

สามีคนที่สองของหล่อนนอกใจ ไปมีชู้กบั ผูห้ ญิงคนอื่นใน


หน่ วยงาน ร่ างกายของหล่อนเดิมทีก็ค่อนข้างแย่อยู่แล้ว แต่
หล่อนยังโมโหมากจนถึงขั้นแท้งลูก

ทั้งยังมี โรคติ ดตัวที่ แสดงออกมาให้เห็ นในภายหลัง ทาให้


หล่อนกลายเป็ นหมันตลอดชีวติ
แน่ น อนว่ า หล่ อ นเองก็ห ย่า ร้ า งไปแล้ว ทั้ง ยัง ต่ อ ต้า นการ
แต่งงานเป็นอย่างมาก หล่อนต่อต้านผูช้ ายทุกคน ดังนั้นทั้ง
ชีวติ จึงไม่ได้แต่งงานอีก

แน่นอนว่าหล่อนก็ไม่ได้มีลูกชายและลูกสาวด้วย

ตอนที่ ห ล่ อ นเข้าสู่ ว ยั ชราก็ได้เ ข้า ไปอยู่ใ นบ้า นพักคนชรา


ระดับ สู ง แม้ว่ า จะไม่ ไ ด้มี ลู ก ชายและลู ก สาว แต่ ก็ มี เ งิ น
เกษียณมากพอ

ภายในบ้านพักคนชราหล่อนก็ได้ไปเจอกับเย่หมิงเป่ ยที่อยูใ่ น
บ้านพักคนชราเช่นเดียวกัน

ทว่าเขาแตกต่างจากหล่อน เย่หมิงเป่ ยถูกลูกชายและลูกสาว


ของเขาส่ งเข้ามา ตอนนั้นเขาก็อายุมากแล้วเช่นกัน

จะพูดว่าเขาประสบความสาเร็ จมากก็คงไม่ใช่ แต่เห็นได้ชดั


ว่าชี วิตของเขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร หล่อนรู ้สึกเหนื อความ
คาดหมายมาก หลังจากเวลาล่วงเลยไปหลายสิ บปี ปรากฏว่า
พวกเขาก็ได้มาเจอกันอีกครั้งที่บา้ นพักคนชราในเมืองหลวง
แห่งเดียวกัน

ชีวิตหลังจากนั้น หล่อนและเย่หมิงเป่ ยก็ได้อยูด่ ว้ ยกัน หล่อน


เองก็เพิ่งทราบว่า หลังจากที่ เลิ กรากับเย่หมิ งเป่ ย อี กฝ่ ายก็
ไม่ได้แต่งงานใหม่อีกเลย เขาเป็ นคนเลี้ยงลูกชายและลูกสาว
ทั้งสองคนด้วยตัวเอง

โจวหมิ่นร้องไห้จนไม่สามารถร้องไห้ได้อีกแล้ว

หล่อนเดินเคียงข้างเย่หมิงเป่ ยจนถึงช่วงสุ ดท้ายของชีวิต จาก


นั้นโจวหมิ่นก็ตามเขาไป

ทว่ า คิ ด ไม่ ถึ ง เลยว่ า การจากไปของหล่ อ นในครั้ งนี้ จะพา


ตัวเองย้อนกลับมาในช่ วงมหาวิทยาลัยอีกครั้ง นี่ เป็ นช่ วงที่
หล่อนและเย่หมิงเป่ ยยังไม่ได้แยกจากกันอย่างสมบูรณ์
ดังนั้นหลังจากกลับมา หล่อนก็แทบทนไม่ไหวที่จะได้เจอ
หน้าเขา ทว่าเป็ นเพราะอยูห่ ่างจากกันมากเกินไป หล่อนเรี ยน
อยูท่ ี่มหาวิทยาลัยแคปิ ตอลนอร์มอล จึงไม่มีเวลาได้กลับไป

ดังนั้นจึงทาได้แค่เขียนจดหมาย

ในจดหมายหล่ อนนัด เวลาคุ ยโทรศัพ ท์ไว้ จากนั้นก็แ ค่ ร อ


เวลาให้เ ขาโทรมาหาหล่ อ น และหล่ อ นก็จ ะไปยืน เฝ้ า อยู่
ข้างๆ โทรศัพท์

หล่อนอยากได้ยนิ เสี ยงของเขาจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว!

เย่ ห มิ ง เป่ ยอยู่ ที่ เ มื อ งในมณฑล เมื่ อ มาถึ ง ด้ า นข้า งของ


โทรศัพท์แล้ว เขาก็รอจนกระทัง่ ถึ งเวลานัดหมาย จากนั้น
เย่หมิงเป่ ยก็กดโทรไปหาด้วยความรู ้สึกที่ประหม่า

ทางฝั่งนั้นกดรับสายในเวลาอันรวดเร็ ว เพียงไม่นานโจวหมิ่น
ก็กดรับสาย
“หมินหมิ่น!” เย่หมิงเป่ ยตะโกนเรี ยก

“หมิ งเป่ ย ฉันเอง” ล่ วงเลยผ่านไปหนึ่ งชั่ว ชี วิต การได้ยิน


เสี ยงของผูช้ ายคนนี้ อีกครั้ง ทาให้โจวหมิ่นถึงกับหลัง่ น้ าตา
ออกมา

“หมินหมิ่น คุณเป็ นอะไร? มีใครรังแกคุณหรื อเปล่า?” เย่หมิงเป่ ย


ได้ยนิ เสี ยงร้องไห้ของหล่อน จึงพูดอย่างร้อนใจ

“เปล่าค่ะ ฉันอยูใ่ นมหาลัยนะ จะมีคนรังแกฉันได้ยงั ไง? ฉัน


ก็แค่รู้สึกเหนื่อยไปหน่อย” โจวหมิ่นเก็บอารมณ์ความรู ้สึกไว้
พลางพูดปลอบใจ

ค าพู ด นี้ ไม่ ไ ด้โ กหก ใช้เ วลากี่ ปี กว่ า จะฟื้ นฟู ก ารสอบเข้า
มหาวิ ท ยาลัย อี ก ครั้ ง แถมยัง ไม่ ใ ช่ เ รื่ อ งง่ า ยที่ จ ะประสบ
ความสาเร็ จในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย จะมีใครบ้างที่ ไม่
เรี ยนหนังสื อกันแบบทุ่มสุ ดตัว? แน่ นอนว่าหล่อนเองก็ไม่มี
ข้อยกเว้นเช่นกัน
โดยพื้นฐานแล้วนอกจากกินข้าวและนอนหลับ เวลาอื่น ๆ ก็
ใช้ไปกับการเรี ยนทั้งหมด

เย่หมิงเป่ ยจึงเบาใจ ในเวลาเดียวกันเขาก็เตือนหล่อนว่าอย่า


ให้ตวั เองลาบากเกินไป

“หมิงเป่ ย คุณรอฉันอยูท่ ี่บา้ นนะ อีกครึ่ งเดือนกว่า ๆ พวกเรา


ก็จะปิ ดเทอมแล้ว ถึงเวลานั้นฉันจะกลับไป คุ ณมารับฉันที่
สถานี ขนส่ งนะคะตกลงไหม?” โจวหมิ่ นสามารถควบคุ ม
อารมณ์ของตัวเองได้แล้ว เพราะความรู ้สึกที่เต็มไปด้วยความ
ปรารถนา คาพูดที่พูดออกไปย่อมหวานหยาดเยิม้

ตัวเธอเองก็เป็ นคนภาคใต้

“ได้ ถึงเวลานั้นผมจะไปรับคุ ณที่สถานี ขนส่ งนะ!” เย่หมิงเป่ ย


กุมโทรศัพท์แน่นขณะพูด
หลังจากพูดคุยอย่างอาลัยอาวรณ์อยูค่ รู่ หนึ่ ง โทรศัพท์กต็ ดั ไป
จ่ า ยเงิ น ค่ า โทรศัพ ท์ไ ป 4 หยวนเต็ม ๆ เย่ห มิ ง เป่ ยจึ ง มาที่
ห้างสรรพสิ นค้าเพื่อซื้อของ

เขาซื้ อครี มโหยวอี้ให้ภรรยา ทั้งยังซื้ อผ้าพันคออี กหนึ่ งผืน


จากนั้นก็นาของทั้งสองอย่างนี้กลับบ้าน

ตอนที่ ก ลับ มาก็ไ ม่ ต ้อ งพู ด อะไรแล้ว คนในหมู่ บ้า นเห็ น


ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุ ข ต่างก็ทยอยพากันถามไถ่

“หมิงเป่ ย โจวหมิ่นภรรยาของเธอจะกลับมาแล้วเหรอ?”

“จะกลับมาจริ ง ๆ เหรอ? นี่ ก็สอบเข้ามหาลัยได้แล้ว ยังจะ


กลับมาอีกเหรอ?”

“มุมมองที่นี่ของเราจะไปสู ้โลกภายนอกได้ยงั ไงกัน หล่อน


สอบเข้ามหาลัยที่เมืองหลวงฝั่งนั้นเชี ยวนะ จะกลับมาจริ ง ๆ
เหรอ?”
“……”

“หล่อนจะกลับมาฉลองปี ใหม่ดว้ ยกัน ถึงเวลานั้นผมจะไป


รับหล่อนที่สถานีขนส่ ง!” เย่หมิงเป่ ยกล่าวด้วยรอยยิม้

“จริ ง เหรอเนี่ ย ? ท าไมปี ที่ แ ล้ว ถึ ง ไม่ ส่ ง ข่ าวคราวอะไรเลย


ล่ะ?” คนหนึ่งพูด

“นัน่ ก็เพราะเรี ยนยุง่ เกินไปยังไงล่ะ อีกอย่างก็เพิ่งจะเข้าเรี ยน


มหาลัย จะมีเวลาได้ยงั ไงกัน? นอกจากกินข้าวกับนอนหลับ
ก็มีแต่ เรี ยนนี่ แหละ แต่ ละคนก็เรี ยนกัน สุ ดชี วิต เลยนะ จะ
ไม่ให้หล่อนเรี ยนหนักขึ้นได้ยงั ไงกันล่ะ?” เย่หมิงเป่ ยอธิบาย

ทุกคนต่างก็เห็นด้วย

ตอนที่เย่หมิงเป่ ยกลับมา น้องสาวของเขาก็กลับไปแล้ว นี่ ก็


เริ่ มเย็นแล้วด้วย
“น้องสาม เป็ นยังไงบ้าง? น้องสะใภ้สามว่ายังไง?” พี่สะใภ้
ใหญ่เย่เห็นใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุ ข ก็พอจะทราบ
ในใจแล้ว หล่อนจึงถามด้วยรอยยิม้

“หมินหมิ่นบอกว่าจะกลับมาฉลองปี ใหม่ บอกให้ผมไปรับ


หล่อนด้วยครับ!” เย่หมิงเป่ ยกล่าวด้วยรอยยิม้

ตอนนี้ คุ ณ พ่อ เย่แ ละคุ ณแม่ เ ย่ไ ด้เ ดิ น ออกมาพอดี จึ ง ได้ยิน


ประโยคนี้

คุณพ่อเย่มีสีหน้าดูอ่อนลงมาก คุณแม่เย่เลิกคิ้วขึ้นอย่างเหนือ
ความคาดหมาย นางมองดูลูกชายจอมซื่อบื้อของตัวเอง “แล้ว
หล่อนพูดอะไรอีกไหม?”

แน่นอนว่าต้องมีอยูแ่ ล้ว
ทว่ า เย่ ห มิ ง เป่ ยกลับ ส่ า ยหน้า ค าพู ด เหล่ า นั้ นไม่ ต ้อ งพู ด
ออกมาหรอก หมินหมิ่นพูดว่าคิดถึงเขา คิดถึงมาก ๆ คิดถึง
มากสุ ด ๆ เลย

ตอนที่เพ่งอยู่กบั การเรี ยนอย่างเดียวหล่อนก็ไม่ได้รู้สึกอะไร


แต่เมื่อมีเวลานิ ด ๆ หน่ อย ๆ หล่อนก็คิดถึงเขาอย่างควบคุ ม
ไม่อยู่

หึหึ

คุ ณ แม่ เ ย่ท นดู ท่ า ทางซื่ อบื่ อ นั้นของเขาไม่ ไหว จึ ง โบกมื อ


พลางพูด “เอาล่ะ ในเมื่อหล่อนจะกลับมา ถึงเวลานั้นก็ไปรับ
แล้วกัน” ต่ อให้นางรู ้ สึ ก เหนื อความคาดหมาย แต่ นี่ก็เ ป็ น
เรื่ องที่ดีไม่ใช่เหรอ?

ในเมื่อยังกลับมาได้ หลังจากนี้ คงไม่มีเรื่ องหย่าร้างอะไรอีก


แล้ว ก่อนหน้านี้ นางกังวลใจจริ ง ๆ ว่าเจ้าลูกชายหัวดื้อจะรอ
ภรรยาคนนี้โดยไม่แต่งงานกับใครอีกตลอดชีวติ
ตอนที่ 43 พัฒนาช่ องทางเสริม

ทางฝั่ งของเย่ฉูฉู่ห ลัง กลับ มาจากบ้านแม่ แ ล้ว เธอก็เตรี ย ม


อาหารค่า

เหวินเทาของเธอช่างมีความสามารถนัก ออกจากบ้านไปได้
ไม่ นานก็ตกปลาตัวใหญ่ กลับมาได้ 1 ตัว แบบนี้ เธอจะไม่
นาไปทาเป็ นปลาผัดน้ าแดงกินเหรอ?

ระหว่ า งที่ รั บ ประทานเนื้ อ ปลาผัด น้ าแดงคู่ ไ ปกับ แป้ ง จี่


ข้าวโพด จ้าวเหวินเทาก็รู้สึกว่าชีวติ แบบนี้ช่างงดงามเสี ยจริ ง

แน่นอนว่าเนื้อปลานี้กไ็ ม่ได้เก็บไว้รับประทานคนเดียว พวก


เขายัง แบ่ ง อี ก หนึ่ ง ชามให้คุ ณ พ่ อ จ้า วและคุ ณ แม่ จ ้า วด้ว ย
เมื่อใดที่สองสามีภรรยาได้รับประทานของดี ๆ ก็มกั จะนา
ส่ วนหนึ่งไปแบ่งให้พ่อกับแม่เสมอ
ส่ วนพี่รองจ้าวและพี่สะใภ้รองจ้าวในวันนี้ ก็ได้รับประทาน
ของดี เช่ นกัน พวกเขากาลังรั บประทานแป้ งจี่ ไข่ ซึ่ งอร่ อย
มากนัก

เป็ นเพราะได้เห็นการรับประทานอาหารจากบ้านเจ้าหกอยู่
บ่อย ๆ จึงยอมกัดฟันทาแป้งจี่ไข่ มื้อนี้รับประทานไข่ไก่ไป 4
ฟองและแป้งอีก 1 ถ้วย แน่นอนว่าก็ยงั มีแป้ งอย่างอื่นผสมลง
ไปด้วย ส่ วนแป้งขาวมีไม่มากเท่าไรนัก

ทว่านี่กท็ าให้พี่สะใภ้รองจ้าวปวดใจมากแล้ว

แต่ก็ไม่รู้ว่าทาไมบ้านเจ้าหกถึงรับประทานแบบนั้นโดยไม่
รู ้สึกเสี ยดายเลย

“แม่ จะแบ่ ง ไปให้ คุ ณ ปู่ กับ คุ ณ ย่ า ส่ ว นหนึ่ งไหมครั บ ?”


เถี่ยต้านลูกชายคนโตเอ่ยถาม
“ทาอะไร? แกคิดว่ามีมากนักเหรอ?” พี่สะใภ้รองจ้าวได้ยนิ ก็
ลอบถลึงตาใส่ เขา

“อาหกกับ อาสะใภ้ห กก็เ อาไปให้คุ ณ ปู่ กับ คุ ณ ย่า มี ข องดี


อะไรก็เอาไปให้ท้ งั หมดเลย” เถี่ยต้านพูดความจริ ง

พี่สะใภ้รองจ้าวได้ฟังก็โมโห พี่รองจ้าวจึงเป็ นฝ่ ายเอ่ยปาก


พูด บอกให้นาไปแบ่งให้พ่อแม่เขา 2 ชิ้น

เถี่ยต้านจึงอารมณ์ดีไม่นอ้ ย จากนั้นก็นาแป้ งจี่ไข่ 2 ชิ้นไปให้


ปู่ กับย่าของเขา

คุ ณ พ่ อ จ้า วและคุ ณ แม่ จ ้า วรั บ ไว้ ท าไมจะไม่ รั บล่ ะ นี่ เ ป็ น


ความกตัญญูของพวกลูก ๆ หลาน ๆ เชียวนะ

เถี่ยต้านดีใจเป็นอย่างมาก ตอนที่กลับมาก็พบว่าแม่ของเขา
หน้าตาบูดบึ้ง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร เขาเป็ นลูกชายคนโต
และหลานชายคนโตในบ้าน คุณปู่ และคุณย่าดีกบั เขามาก เขา
ก็ตอ้ งกตัญญูอยูแ่ ล้ว

ฤดูใบไม้ผลิจะเริ่ มในปี หน้าแล้ว ถึงเวลานั้นเขาก็จะลงนาไป


เก็บแต้มค่าแรง

เถี่ยต้านรับประทานแป้ งจี่ไข่ ก่อนจะถอนหายใจ “แต่กอ็ ร่ อย


สู ้เนื้อปลาของบ้านอาหกไม่ได้อยูด่ ี ปลาที่อาสะใภ้หกตุ๋นมัน
หอมฉุยเลย”

“เจ้าเด็กเหม็นนี่ ทาไมแกไม่ไปเป็ นลูกชายของอาหกกับอา


สะใภ้หกซะเลยล่ะ!” พี่สะใภ้รองจ้าวโมโหมาก ไม่ใช่ เรื่ อง
ง่ายที่จะได้รับประทานของดีสักมื้อหนึ่ง แต่ลูกชายสองคนนี้
ก็ไม่มีใครทาให้หล่อนไร้กงั วลได้เลย!

ต้าหยาโน้มน้าวใจน้องชายทั้งสอง “พวกนายรี บ ๆ กิน แล้วก็


พูดให้มนั น้อย ๆ หน่อยเถอะ”
“นับวันแม่กย็ งิ่ อารมณ์ร้ายขึ้นเรื่ อย ๆ เลย” หลูตา้ นบ่นพึมพา

“จะกินหรื อไม่กิน?” พี่สะใภ้รองจ้าวพูดพลางถลึงตา

“พอแล้ว คุณเองก็พูดให้มนั น้อย ๆ หน่ อย พวกเด็ก ๆ ต่างก็


กตัญญูรู้คุณคน ไม่ดีตรงไหน?” พี่รองจ้าวกล่าว

พี่สะใภ้รองจ้าวแอบน้อยใจ หล่อนจะพูดได้อย่างไรว่าตัวเอง
อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าสามีของตัวเองแอบขโมยเงินส่ วนตัว
ไปให้บา้ นเจ้าหก?

ไม่เช่ นนั้นทั้งสองคนนั้นจะมีความกล้ากินของดีแบบนั้นได้
อย่างไรกัน? ถึงแม้ว่าบ้านเจ้าหกจะตุ๋นแค่ปลาตัวเดียว แต่ได้
ไปเห็นหรื อเปล่าว่าเธอใช้วตั ถุดิบไปเท่าไร? ต้องเหยาะซี อิ๊ว
ลงไปหลายทัพพีแน่ นอน ไหนจะพริ ก ขิง และกระเทียมสับ
อี ก ดู ว ตั ถุ ดิ บ พวกนี้ สิ ไม่ แ ปลกใจเลยที่ ปลาหนึ่ ง ตัว จะส่ ง
กลิ่นหอมตลบอบอวลไปทัว่ ทั้งบ้าน!
อีกอย่างเรื่ องที่บา้ นเจ้าหกนาอาหารไปให้พ่อกับแม่ หล่ อน
ไม่เชื่ อหรอกว่าสองคนนั้นจะกตัญญู จริ ง ๆ ต้องเป็ นเพราะ
พ่อกับแม่กลัวว่าพวกเขาจะใช้เงินหมดแล้ว ก็เลยแอบยัดเงิน
ให้พวกเขา!

พ่อกับแม่ลาเอียงรักน้องสามีคนนี้มากกว่ามาโดยตลอดไม่ใช่
หรื ออย่างไร?

ภายในใจของพี่สะใภ้รองจ้าวไม่มีความสุ ขเอาเสี ยเลย แต่ก็


ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อมื้อค่าที่แสนเพลิดเพลินของจ้าวเหวิน
เทาและเย่ฉูฉู่

แน่นอนว่าจ้าวเหวินเทาก็ได้ไถ่ถามเรื่ องพี่สามของภรรยาไป
สองสามประโยค เย่ฉู ฉู่ จึ ง บอกไปว่ า ได้ส่ ง จดหมายกลับ
มาแล้ว ปี นี้กค็ งจะกลับมา
ไม่เช่นนั้นคงไม่ส่งจดหมายกลับมาหรอก

จ้าวเหวินเทาไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้เรื่ องในแต่ละวันของเขาก็


ไม่ใช่นอ้ ย ๆ เมื่อรับประทานจนอิ่มและดื่มเพียงพอแล้ว เขาก็
ขึ้นไปเอนตัวบนเตียงเตา

เย่ฉูฉู่เก็บถ้วยและตะเกี ยบเสร็ จก็กลับมาที่ ห้อง ทั้งยังหยิบ


สมุดจดรวมถึงปากกามาเริ่ มจดบัญชี

จ้าวเหวินเทายื่นหน้าเข้ามาดู ก็พบว่าภรรยาของเขาก็กาลัง
บันทึกบัญชีอยู่ ด้านบนเขียนรายรับและรายจ่ายของวันนี้

รายรับของวันนี้คือ 1.83 เหมา วันนี้เนื้อหมูที่ได้มาจากไช่ซื่อ


หู่ ค่ อ นข้า งมาก แน่ น อนว่ า ย่ อ มได้ เ งิ น มากตามไปด้ว ย
นอกจากนี้ยงั ขายถัว่ ได้อีกนิดหน่อย

ส่ วนรายจ่ายก็เป็นค่าใช้จ่ายค่าหมัน่ โถวที่เขาไปรับประทาน
ในเมือง รวมถึงเงินค่าซีอิ๊วด้วย
“หลังจากนี้ ไม่ตอ้ งกินหมัน่ โถวแล้วนะคะ ซื้ อซาลาเปากิ น
สองลูกไปเลย ไปตอนเช้า ๆ ก็ควรกินของอร่ อยหน่อยไม่ใช่
เหรอ?” หลังจากจดบันทึกเสร็จ เย่ฉูฉู่กห็ นั หน้ามาพูดกับเขา

จ้าวเหวินเทาคลี่ยมิ้ “นี่ภรรยาเป็ นห่วงผมสิ นะ?”

“ใช่ น่ะสิ คะ” ตอนนี้ เย่ฉูฉู่ปรับตัวได้มากแล้ว จึงไม่ได้หน้า


แดงพร่ าเพรื่ อเหมือนเมื่อก่อน “ซื้ อซาลาเปาสองลูกก็ไม่ได้
ใช้เงินมากมายอะไร ไม่ตอ้ งประหยัดหรอก อีกอย่างรอให้
ถั่ว งอกชุ ด ต่ อ ไปงอกออกมา ก็ ข ายถั่ว งอกได้ทุ ก วัน แล้ว
ถัว่ งอกทั้งหมดมีแต่อวบน้ า ขายออกไปคงได้ราคาไม่นอ้ ยไป
กว่าถัว่ หรอก ถัว่ เขียวหนึ่ งชั่งสามารถปลูกถัว่ งอกขึ้นมาได้
หกชัง่ ทากาไรได้ไม่นอ้ ยเลยล่ะค่ะ!”

วันนี้หลังจากที่กลับไปบ้านแม่ เธอก็นาถัว่ เหลืองและถัว่ เขียว


มาจากแม่ไม่นอ้ ยเลย แน่ นอนว่าเธอก็จ่ายเงินด้วย ไม่ได้นา
กลับมาฟรี ๆ เพราะนี่เป็ นสิ่ งที่จะนาไปค้าขาย
“ผมรู ้ แ ล้ว ๆ ภรรยาผมค านวณเก่ ง สุ ด ๆ ไปเลย” จ้า วเหวิ
นเทากล่ าว จากนั้นเขาก็ซุกไปที่ ซอกคอของภรรยาตัว เอง
พร้อมกล่าวอย่างคลุมเครื อ “ภรรยา ทาไมตัวคุณถึงได้หอม
แบบนี้ล่ะ? วันนี้ขดั ตัวอีกแล้วเหรอ?”

“อื้อ” เย่ฉูฉู่แก้มแดงระเรื่ อ

“ภรรยาของผมรักความสะอาดจริ ง ๆ ผมชักหวงซะแล้วสิ ”
จ้าวเหวินเทายิม้

จากนั้นเขาก็อุม้ ภรรยาของตนเองขึ้นไปบนเตี ยง และคืนนี้


หนุ่มสาวคู่น้ ีกท็ างานอย่างหนักอีกครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้

ตอนนี้ ฐานะภายในบ้า นเริ่ ม ดี ข้ ึ น แล้ว ของกิ น ก็มี ม ากขึ้ น


ตามลาดับ ดังนั้นเย่ฉูฉู่จึงไม่ลงั เลที่จะตั้งครรภ์

หลัง จากจ้า วเหวิ น เทาได้รั บ ความพึ ง พอใจเป็ นอย่า งมาก


ในช่ วงกลางคืน เช้าวันรุ่ งขึ้นเขาก็เดินทางมายังโรงฆ่าสัตว์
อีกครั้ง เขาเก็บเนื้อชั้นรองไว้ครึ่ งชัง่ เพื่อรับประทานเอง ส่ วน
ที่เหลือนาเข้ามาขายในเมือง

“วันนี้ ก็หนาวจริ ง ๆ นะเนี่ ย” จ้าวเหวินเทาสู ดหายใจเข้า เขา


ซื้ อซาลาเปาสองลูกจากชายหนุ่ มที่ถือตะกร้าอยู่ขา้ งถนนไป
พลางก็พูดไปพลาง

“หนาวมากเลยล่ะ ดูเหมือนว่าอีกไม่นาน หิ มะก็คงจะตกแล้ว


มั้ง?” ชายหนุ่มขายซาลาเปาพูด

“ซาลาเปาผักของนายไม่ค่อยอร่ อยเท่าไรแฮะ” จ้าวเหวินเทา


กล่าว

“ช่ ว ยไม่ ไ ด้ มัน ไม่ มี เ นื้ อ นี่ ถ้า มี เ นื้ อ คงท าซาลาเปาเนื้ อ ได้
แน่นอน” ชายขายซาลาเปาตอบ
“เนื้อ?” จ้าวเหวินเทาหันไปมองเขา “ปกตินายซื้ อเนื้อชัง่ ละกี่
หยวนเหรอ?”

“ทาไมเหรอ พี่ชายมี เหรอ?” ชายหนุ่ มคนนี้ ก็ไม่ ได้กลัวเขา


เพราะจ้า วเหวิ น เทาก็คุ ้น เคยกับ เขาแล้ว ก่ อ นหน้า นี้ ก็ซ้ื อ
ซาลาเปากับแม่ของเขา หลังจากนั้นก็มาซื้ อหมัน่ โถว ตอนนี้
ก็มาซื้ อซาลาเปาผักกาดขาวอีก จึงกลายเป็ นลูกค้าคุน้ หน้าคุน้
ตาไปแล้ว

“นายดูสิ” จ้าวเหวินเทาแง้มตะกร้าบนรถจักรยานให้เขาดู มี
เนื้อแค่ครึ่ งชัง่ เท่านั้น แต่กท็ าให้อีกฝ่ ายมีดวงตาเป็ นประกาย
แล้ว

“พี่ชาย เนื้อนี้รับแลกไหม?” ชายหนุ่มรี บถาม


“จะให้นายได้ยงั ไงกันล่ะ ฉันต้องเอาไปให้ภรรยาของฉันกิน
แต่ฉนั ยังมีเนื้ออื่นนะ ปกติแล้วก็เป็นเนื้อชั้นสาม นายอยากได้
ไหมล่ ะ ? ถ้า นายอยากได้ห ลัง จากนี้ ฉัน จะเก็บไว้ใ ห้น ายนิ ด
หน่ อย นายจะได้เอาไปทาซาลาเปาเนื้ อด้วยไง” จ้าวเหวินเทา
กล่าว

ความคิดของเขาเป็ นแบบนี้ หลังจากนี้ เขาจะไม่ขายเนื้ อทุก


วันแล้ว เพราะปี หน้าเขาจะเลี้ยงกระต่ายอย่างเป็ นทางการ ถึง
เวลานั้นจะไปมีเวลาว่างขนาดนั้นได้อย่างไรกันล่ะ?

ดัง นั้น เขาจึ ง ต้อ งหาช่ อ งทางเสริ ม แบบนี้ เขาก็ ป ระหยัด


แรงกายแรงใจไปได้เยอะเลย

เขาคิดว่าชายหนุ่มที่ชื่อจางฉวนคนนี้ กไ็ ม่เลว ตอนที่เขายุง่ ๆ


ก็สามารถร่ วมมือกันได้
ตอนที่ 44 คิดเล็กคิดน้ อย

หลังจากจ้าวเหวินเทาขายของเสร็ จเขาก็ปั่นจักรยานกลับบ้าน
ทว่าตอนที่ กลับมากลับได้ยินเสี ยงโทรโข่ งขนาดใหญ่ จาก
บ้านของหัวหน้าฝ่ ายผลิต อี กฝ่ ายกาลังอ่ านหนังสื อพิมพ์ที่
เพิ่งลงข่าวในวันนี้ ในนั้นระบุว่าทางใต้มีหนึ่ งครอบครั วที่
รับเหมาสร้างเตาเผาอิฐจนกลายเป็ นครัวเรื อนหมื่นหยวน

นอกจากนี้ ยงั มี อีกหนึ่ งครอบครั ว ที่ เลี้ ยงไก่ และกลายเป็ น


ครัวเรื อนหมื่นหยวนเช่นกัน

ครั้นได้ยนิ สิ่ งนี้ ดวงตาของเขาจึงเป็ นประกาย รี บเข้าไปฟั งที่


บ้านของหัวหน้าฝ่ ายผลิตโดยเร็ ว ซึ่ งในเวลานี้ที่นี่มีคนมายืน
มุงจานวนมาก
ในปี นี้ ครอบครัวที่มีเงิน 100 หยวนก็นบั ว่าเป็ นครอบครั วที่
ร่ ารวยแล้ว ครัวเรื อนหมื่นหยวนเลยนะ นัน่ มันแนวคิดอะไร
เนี่ย?

ตอนที่จา้ วเหวินเทามาถึง จ้าวเหวินจื้อก็อยูด่ ว้ ย

“เหวินจื้อ กลับมาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย?” จ้าวเหวินเทาถาม

“ที่หวั หน้าทีมเฒ่าอ่านอยูก่ ็เป็ นหนังสื อพิมพ์ที่ฉนั เอากลับมา


ฉันเองก็ได้ยินมาจากอาจารย์ใหญ่ อาจารย์ใหญ่บอกว่าสอง
วันนี้จะมีข่าวยืนยันออกมา เมืองข้าง ๆ ก็เริ่ มดาเนินการระบบ
สัญญารับผิดชอบ [1] แล้วนะ” จ้าวเหวินจื้อกล่าวด้วยรอยยิม้

จ้าวเหวินเทากล่าว “ไม่เลวเลย ๆ นายยังไม่ลืมคนในหมู่บา้ น


มีข่าวดีกร็ ี บเอากลับมาแจ้งให้ทราบทันที!”

คนที่ยนื อยูข่ า้ ง ๆ ได้ยนิ ต่างก็แสดงความเห็นว่าจ้าวเหวินจื้อ


นั้นไม่เลวเลย
คุณพ่อจ้าวและพวกพี่ชายต่างก็กาลังฟั งการประกาศอยู่ เรื่ อง
สาคัญแบบนี้ทาให้พวกเขาต่างรี บมาในทันที

ผ่านไปครู่ หนึ่ง หัวหน้าหมู่บา้ นก็ออกมาพลางกล่าวว่า “เชื่อ


ว่าทุกคนคงได้ยนิ ข่าวบนหนังสื อพิมพ์กนั หมดแล้ว หมู่บา้ น
ขนาดเล็กจะได้เก็บเกี่ยวครั้งใหญ่กนั แล้ว ดังนั้นพวกเราทาง
นี้ ก็คงต้องลองกันสักหน่ อย สถานการณ์เป็ นยังไงทุ กคนก็
น่ าจะรู ้ ดีอยู่แก่ ใจ บนหนังสื อพิมพ์ที่ประกาศออกมาไม่ใช่
เรื่ องโกหกแน่นอน”

แต่คาพูดนี้เพิ่งจะกล่าวจบ ก็มีคนพูดขึ้นมา

คนคนนั้ นคื อ ภรรยาของเหล่ า หวัง สามที่ อ ยู่ บ้า นติ ด กัน


“หนังสื อพิมพ์ประกาศไม่ใช่เรื่ องโกหกอะไรกัน ก่อนหน้านี้
ก็ ป ระกาศผ่ า นดาวเที ย มใหญ่ โ ตว่ า จะมี แ ปลงที่ ดิ น สร้ า ง
ผลผลิตหมื่นชั่ง มีหัวไชเท้าน้ าหนักหนึ่ งพันชั่งต่อหัวไม่ใช่
เหรอคะ? นัน่ ก็ประกาศอยูบ่ นหนังสื อพิมพ์เหมือนกัน!”

หัวหน้าหมู่บา้ นถึงกับสะอึก เขาจ้องมองพลางพูดว่า “ตอนนี้


มัน ยุค สมัย ไหนแล้ว จะไปเที ย บกับ ก่ อ นหน้า นี้ ได้ย งั ไง?
ตอนนี้ ต่ า งก็ไ ด้รั บ การพิ สู จ น์ แ ล้ว ปี ที่ แ ล้ว ภาคใต้ก็มี ก าร
ปฏิรูปและเปิ ดเสรี หรื อว่ายังเป็ นเรื่ องโกหกอีก?”

ภรรยาของเหล่าหวังสามมองเขาด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ไม่
กล้าพูดอะไรอีก

คนอื่ น ๆ ต่ า งพากัน เงี ย บเสี ย ง เห็ น ได้ชัด ว่ า มี ค วามคิ ด ที่


หลากหลาย

“พรุ่ งนี้ฉนั จะเข้าไปในเมืองไปถามให้แน่ใจ แต่ในใจของทุก


คนต่างก็รู้ดีอยู่แล้ว ตั้งแต่วนั พรุ่ งนี้ เป็ นต้นไป ไม่แน่ อาจจะ
ไม่ สามารถทางานแบบชักช้าอื ดอาดและกิ นร่ วมกันได้อีก
แล้วนะ” หัวหน้าหมู่บา้ นพูดเยาะเย้ย

เป็ นเพราะต่างก็ทางานร่ วมกัน แต่กม็ ีคนจานวนไม่นอ้ ยที่เอา


แต่ทางานชักช้าอืดอาดเพื่อให้ผา่ นไปวัน ๆ ฝั่งนี้พวกเขาแบ่ง
อาหารกันแบบอ้างตามครัวเรื อนห้าส่ วนและทางานอี ก ห้า
ส่ วน

ถ้าหากคนในหมู่บา้ นสามารถแบ่งได้ ก็จะได้แต้มค่าแรงเยอะ


ขึ้น แต่พวกที่ได้แต้มค่าแรงน้อยก็ยงั ได้ส่วนแบ่งอยูด่ ี

มี บ างคนชอบกิ น แต่ ข้ ี เ กี ย จท างาน ก็ท าให้ค นที่ ข ยัน ต้อ ง


เสี ยเปรี ยบ

หากมีระบบความรับผิดชอบแบบนี้ ถึงเวลานั้นก็ไม่สามารถ
ทางานแบบชักช้าอืดอาดได้แล้ว
หลายครอบครั ว จึ ง เห็ น ชอบ ขณะที่ ห ลายครอบครั ว ต่ า ง
โศกเศร้า

ยกตัวอย่างเช่นตระกูลจ้าวทางฝั่งนี้ คุณพ่อจ้าว จ้าวเหวินเทา


และพวกพี่ชายกาลังนัง่ พูดคุยกัน

“เรื่ องนี้ไม่มีอะไรต้องปรึ กษาหรอก ผมไม่ลงนาแน่นอน ทุก


คนต่ างก็รู้ดีว่าผมไม่ได้ทานามาตั้งแต่ เล็ก ๆ ถึ งเวลานั้นถ้า
หากมีระบบความรับผิดชอบก็ไม่ตอ้ งนับผมเข้าไป แน่ นอน
ว่า อาหารส่ วนนั้นผมก็ยงั ต้องการ แต่ขอไม่เยอะหรอก เพราะ
ผมปลูกเองกินเองได้” จ้าวเหวินเทาพูด

“เจ้าหก นายทาสิ่ งที่มนั น่ าเชื่ อถือหน่ อยสิ ถึงจะดี นายไปทา


ค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนั้นจะไปมีประโยชน์อะไร? หนึ่ ง
วันก็ได้มาแค่ไม่กี่เหมา นายจะเลี้ยงน้องสะใภ้หกกับลูกของ
นายในภายภาคหน้ายังไง? เลี้ยงลูกต้องใช้อาหารเยอะมาก
เลยนะ!” พี่รองจ้าวเอ่ยขึ้น
“แต่ก็ไม่หรอก เจ้าหกคนแบบนายน่ ะเขาเรี ยกตาบอดซ้ า ๆ
ซาก ๆ!” พี่สามจ้าวกล่าว เขาเองก็กงั วลว่าถึงเวลานั้นเจ้าหก
ไม่ได้เงิน แล้วจะมาหยิบยืมเงินและอาหารของตัวเอง ไม่ตอ้ ง
พูดหรอก เรื่ องนี้เจ้าหกทาแน่นอนอยูแ่ ล้ว!

อีกอย่างเขาก็ออกไปขายถัว่ แค่ไม่กี่วนั วันนี้กซ็ ้ื อเนื้อกลับมา


อีกครึ่ งชัง่ อย่างไม่เสี ยดาย เจ้าหกนี่มนั จริ ง ๆ เลย!

“เจ้าหก นายเชื่อพี่สองกับพี่สามเถอะ ภาระเลี้ยงดูครอบครัว


มันหนักนะ!” พี่สี่จา้ วก็โน้มน้าวใจอีกเสี ยง ตอนนี้เขารู ้ซ้ ึ งถึง
ภาระที่หนักอึ้งแล้ว เพราะปี นี้ เขาก็อายุยี่สิบแปดแล้ว แต่ก็มี
ลูกสาวสองคน ไม่มีลูกชายสักคนเลย

ต่ อ ให้ ปี หน้า โชคดี ใ ห้ ก าเนิ ด ลู ก ชายออกมา แต่ ก็ อ ายุ จ ะ


สามสิ บแล้ว ต้องเลี้ยงอีกตั้งสิ บกว่าปี ภาระบนร่ างกายของ
เขาไม่ได้ผอ่ นคลายลงเลยจริ ง ๆ!
“อย่าให้ถึงเวลานั้นนายคนเดี ยวเลี้ยงลูกเมียไม่ไหว แล้วยื่น
มือมาขอความช่วยเหลือคนอื่นก็แล้วกัน” พี่สามจ้าวพูดเสริ ม
หนึ่งประโยค

จ้าวเหวินเทาเดิมทีก็มีสีหน้าดี ๆ อยู่ คิดว่าพวกพี่ ๆ เป็นห่ วง


ตนเอง ภายในใจจึงรู ้สึกมีความสุ ขมาก แต่เมื่อได้ยนิ ประโยค
นี้กพ็ ลันมีสีหน้าอึมครึ มลง “จ้าวเหวินเทาคนนี้ขอพูดไว้ตรง
นี้ เลย ทุกคนไม่ตอ้ งกังวลหรอก ถึงเวลานั้นต่อให้ผมหิ วตาย
ผมก็จะพาภรรยาไปหาของกิน ไม่แบมือขอทุกคนหรอก!”

พูดจบ เขาก็เดินออกไป ไม่คงไม่คุยมันแล้ว

“เจ้าสามทาไมนายพูดแบบนี้?” พี่รองจ้าวอดไม่ได้ที่จะพูด

พี่สามจ้าวเบ้ปาก “ผมพูดผิดตรงไหน? หมอนั่นทางานไม่


เป็ นเรื่ องเป็ นราวแบบนี้ หลังจากนี้มีเรื่ องอะไรก็ตอ้ งให้พวก
เราช่วยอีก มีสิทธิ์อะไรล่ะ?”
“พี่สามอย่าใจแคบไปหน่ อยเลย นี่ ก็พี่นอ้ งนะ ช่ วยเหลือกัน
และกันก็เป็ นสิ่ งที่สมควรอยูแ่ ล้ว” พี่สี่จา้ วพึมพา

เขาไม่มีลูกชาย เขาเองก็คิดไว้ว่าถ้าหากพวกพี่ ๆ มีอนาคต


แล้ว จะช่วยเหลือเขาสักหน่ อย อีกอย่างแม้ว่าจะแยกบ้านไป
แล้ว แต่ปากกาก็เขียนว่าตระกูลจ้าวเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?

คุณพ่อจ้าวเหล่ตามองเจ้าสามที่เป็นคนใจแคบอยู่เสมอ “เจ้า
หกไม่เคยเป็นตัวถ่วงให้กบั ที่บา้ นมาตั้งแต่เล็ก ๆ เป็นเพราะ
เขาทาให้เราได้มีเนื้ อกิ นมากขนาดไหนพวกแกก็น่า จะรู ้ ดี
คาพูดที่บอกว่าหลังจากนี้ถา้ เจ้าหกไม่มีขา้ วกินก็อย่ายืน่ มือมา
ขอความช่วยเหลือ ฉันว่าแกพูดเร็วเกินไปนะเจ้าสาม”

พี่ ส ามจ้า วเถี ยงคอเป็ นเอ็น “ที่ บ อกว่า พู ด เร็ ว เกิ น ไปก็ไ ม่ รู้
หรอกครั บว่าใครกันแน่ ถ้าเขาไม่ ทาตามระบบสั ญญา ถึ ง
เวลานั้นจะทายังไง?”
“พอแล้ว เรื่ องนี้ พอแค่น้ ี ก่อน ไหน ๆ ก็แยกบ้านไปแล้ว ถึง
เวลาพวกแกก็ใช้สถานะหัวหน้าครอบครัวไปเหมาส่ วนของ
ตัวเองก็พอ ส่ วนครอบครัวเจ้าหกถึงเวลานั้นก็ค่อยมารวมกับ
ฉันแล้วก็แม่ของพวกแก” คุณพ่อจ้าวโบกมือ

คาพูดนี้แน่นอนว่าเป็ นคาพูดที่ลาเอียง แต่พ่อกับแม่กล็ าเอียง


มาหลายปี จนเคยชินแล้ว จึงไม่ได้คิดว่าการทาเช่นนี้เป็ นเรื่ อง
ไม่เหมาะสม

ตอนนี้ ก็ไม่ ได้ตอ้ งการให้พวกเขาเลี้ ยงดู ต่ างก็ออกแรงเอง


ทั้งหมด

อี ก อย่า งคุ ณ พ่ อ จ้า วก็ไ ม่ คิ ด ว่า จะมี ปั ญ หาอะไร ใครใช้ใ ห้


ครอบครั วเจ้าหกอายุน้อยกันล่ ะ ? พี่ ๆ คนอื่ นมี ลูกมี เต้ากัน
หมดแล้ว แต่เจ้าหกยังไม่มีสักคน

เป็ นพ่อแม่ให้การช่วยเหลือลูกสักหน่อยก็เป็ นเรื่ องปกติไม่ใช่


เหรอ?
เรื่ องนี้ ย่อมถูกพูดจากปากลูกชายไปถึงหู ของพวกลูกสะใภ้
ในบ้านอยูแ่ ล้ว

ตอนที่ พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วได้ยิน ว่ า พ่ อ กับ แม่ จ ะเหมาร่ ว มกับ


ครอบครัวเจ้าหก ภายในใจก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาจริ ง ๆ

หลังจากนี้พ่อกับแม่กต็ อ้ งมาอยูท่ ี่บา้ นใหญ่ของหล่อนเพื่อให้


เลี้ยงดูยามแก่ แต่ตอนนี้อายุยงั ไม่มากกลับคิดจะไปช่ วยบ้าน
เจ้าหก รอจนกระทัง่ แก่แล้วค่อยมาให้บา้ นหล่อนเลี้ยงดู แบบ
นี้จะไม่ให้กระอักเลือดได้อย่างไรกัน?

แต่ อ าศัย ว่ า ตอนนี้ อยู่ ภ ายในหมู่ บ้า นแห่ ง นี้ หล่ อ นจึ ง ไม่
สามารถโวยวายได้ เพราะภายในหมู่ บา้ นเรื่ องการลาเอี ยง
แบบนี้พบเห็นได้ไม่นอ้ ยเลยจริ ง ๆ

แต่คนแก่กค็ ือมังกรตัวหนึ่ง ชี้ไปทางใครคนนั้นก็จะไม่เจริ ญ


โดยปกติภายในหมู่บา้ นก็เป็ นแบบนี้ หล่อนเองก็อยากจะเห็น
เหมือนกันว่าบ้านเจ้าหกจะเจริ ญขึ้นมาได้อย่างไร!
พี่ ส ะใภ้ส ามจ้าวได้ยิน คาพูด ของพี่ส ามจ้าวก็ถึ ง กับบ่ นเขา
“อย่าพูดว่าน้องหกไม่เคยพึ่งพาพวกเราเลยค่ะ ต่อให้ตอ้ งการ
ความช่วยเหลือจากเรา เราก็ไม่สามารถนัง่ มองเฉย ๆ ได้ แต่
คุณกลับพูดแบบนั้นออกไปเนี่ยนะ?”

“ท าไมผมถึ ง ได้แ ต่ ง งานกับเมี ย โง่ แ บบนี้ นะ?” พี่ ส ามจ้า ว


ถลึงตามอง ถ้าหากเจ้าหกไม่ทาตามระบบสัญญาถึงเวลานั้นก็
ต้องขอความช่ วยเหลื อจากพี่น้องไม่ ใช่ เหรอ? เหล่ าพี่น้อง
ต้องช่วยเหลือเขาไปถึงเมื่อไรกัน?

“ฉัน ไม่ ไ ด้โ ง่ ฉัน ก็แ ค่ เ ป็ นคนใจกว้า ง เป็ นเพราะคุ ณ ขี้ ง ก


เกิ นไปแม่ ถึงได้ให้ฉันมาปรั บความสมดุ ลให้คุณ ความใจ
แคบคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ของคุณเมื่อไรจะแก้ได้สักที? น้อง
สามีหกกินข้าวของคุณสักเม็ดไหม หรื อว่าเคยดื่มน้ าของคุณ
สักอึกหรื อเปล่า?” พี่สะใภ้สามพูดอย่างไม่สบอารมณ์

พี่สามจ้าวโมโหขึ้นมาแล้ว “คุณนี่วอนโดนตบแล้วนะ”
“คุณก็ลองตบฉันดูสิ ดูสิว่าฉันจะกลับไปหาพวกพี่ ๆ ให้มา
อัดคุณให้ตายหรื อเปล่า!” พี่สะใภ้สามจ้าวสวนกลับไป

……………………………………………………………

[1] ระบบสั ญ ญารั บ ผิ ด ชอบ (承包制) หมายถึ ง การที่


ครัวเรื อนต้องรับผิดชอบต่อผลกาไรและขาดทุนขององค์กร
ในการผลิตทางการเกษตร เกษตรกรสามารถทาสัญญากับ
ที่ ดิ น ส่ ว นรวมและใช้วิธี ก ารผลิ ต ขนาดใหญ่ อื่ น ๆ รวมถึ ง
ดาเนินการผลิตและจัดการได้อย่างอิสระตามสัญญา
ตอนที่ 45 โชคดีขนาดนี้

พี่สามจ้าวถูกกระตุน้ โทสะจนเดินออกจากห้องไป

ส่ วนพี่สะใภ้สามจ้าวก็เดินมาหาเย่ฉูฉู่ ตอนนี้ เย่ฉูฉู่กาลังตาก


ผ้าอ้อมอยู่ ซึ่งนากลับมาจากบ้านแม่ของเธอ

แม่ของเธอให้นากลับมา มันเป็ นผ้าอ้อมที่พวกหลาน ๆ ใช้


ตอนเด็ก หากซักสะอาดแล้วนาไปยัดไว้ใต้เตียงจะช่ วยเรี ยก
เด็กได้เป็ นอย่างดี

เย่ฉูฉู่คิดว่าไม่เลว ดังนั้นจึงนากลับมาด้วย หลังใช้สบู่ซักไป


อีกหนึ่งรอบจนหอมแล้ว วันนี้จึงนามาตากแดด

“น้องสะใภ้หก เมื่อกี้พ่อของหม่าต้านพูดสิ่ งที่ไม่น่าฟั งเลย


จริ ง ๆ พี่ก็เลยอยากจะมาขอโทษเธอ เธอช่ วยไปบอกน้อง
สามีหกหน่ อยนะว่าอย่าไปถือสาพี่สามของเขาเลย เขาเป็ น
คนน่าเอือมระอาแบบนั้นแหละ” พี่สะใภ้สามจ้าวกล่าว

เย่ฉูฉู่เองก็รู้สึกค่อนข้างเหนือความคาดหมาย แต่พี่สะใภ้สาม
คนนี้ เป็นคนใจกว้างเสมอ เธอจึงกล่าวด้วยรอยยิม้ “พี่สะใภ้
สามเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ มันก็แค่คาพูดไม่กี่ประโยค เป็ น
เรื่ องปกติอยูแ่ ล้ว ไม่ได้เก็บมาใส่ ใจอะไรหรอกค่ะ”

พี่สะใภ้สามจ้าวเห็ นว่าเธอพูดจากใจจริ ง หล่อนจึงพยักหน้า


จากนั้นก็ถามเรื่ อ งผ้าอ้อม และทราบว่านี่ เป็ นสั ญ ญาณที่ ดี
บอกอีกฝ่ ายว่าดีแล้ว

หลังจากนั้นก็กลับห้องของตัวเอง

เย่ฉูฉู่ไม่ มีอะไรทาเช่ น กันจึ ง กลับห้อ งไป จ้าวเหวินเทายัง


นอนหลับอยูใ่ นห้อง เมื่อครู่ เขาก็เพิ่งจะโกรธเพราะคาพูดของ
พี่สาม จึงกลับมาด้วยความฉุ นเฉี ยว แต่ไม่นานก็หลับไปเสี ย
แล้ว
เย่ฉูฉู่หมุนตัวเพื่อไปเตรี ยมอาหารเที่ยง

อาหารเที่ ย งเป็ นของง่ าย ๆ เธอลงมื อ นวดแป้ ง เพื่ อท าเป็ น


บะหมี่ แถมแม่ไก่ท้ งั 4 ตัวในวันนี้ ก็เก่งมาก ออกไข่มาตั้ง 3
ฟอง ดัง นั้น ตอนที่ ล วกเส้ น เธอก็ ต อกไข่ ไ ก่ ล งไป 2 ฟอง
หลังจากเส้นสุ กแล้วไข่ไก่ก็สุกได้ที่พอดี จากนั้นก็ตม้ ผักใบ
เขียวหนึ่ งหยิบมือมาโปะไว้ดา้ นบน ก่อนจะถือชามกลับเข้า
ไปในห้อง

กลิ่นหอมของบะหมี่ไข่ไก่น้ ี ปลุกให้จา้ วเหวินเทาตื่นขึ้นมา


อย่างอารมณ์ดี

แต่เขาก็ยงั แค้นฝังใจอยู่ ระหว่างที่รับประทานก็แค่นเสี ยงไป


พลาง “พี่ ส ามนี่ ม ัน เอาใจคนต่ า ต้อ ยวัด ท้อ งสุ ภ าพบุ รุษ [1]
ชะมัด ตอนนี้ ผมจะไม่ถือสาเขาก็แล้วกัน แต่คอยดูเถอะ รอ
วันที่ ผมตอกหน้าเขาก่ อน ดู สิว่าผมหรื อเขาที่ จะหาเงิ น ได้
ใครกันแน่ที่จะโดนดูถูก!”
“เมื่อกี้พี่สะใภ้สามก็เพิ่งมาพูด บอกว่านัน่ ก็เป็นแค่คาพูดไร้
สาระของพี่สาม หล่อนเองก็ด่าพี่สามไปแล้วเหมือนกันค่ะ”
เย่ฉูฉู่กล่าว

“พูดไร้สาระอะไร? นัน่ เป็ นคาพูดออกมาจากใจเขาเลยล่ะ เขา


ดูถูกผม แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้เขามาเห็นความสาคัญของผม
อยูแ่ ล้ว เขามีความสามารถแค่น้ นั ก็แค่ลูกตาของหนูแก่ที่เห็น
ไฟด้านหน้า” จ้าวเหวินเทากล่าว

“วิสัยทัศน์ไม่กว้างไกล” เย่ฉูฉู่แก้คาให้

“ใช่ คานี้ แหละ พี่ชายผมอายุมากขนาดนี้ แล้วยังไม่รู้ว่าใคร


เป็ นใครอีก?” จ้าวเหวินเทากล่าว

เย่ฉูฉู่หลุดขา ก่อนจะคีบบะหมี่ยนื่ ให้เขา “รี บกินเถอะค่ะ กิน


เสร็จจะได้พกั ผ่อนต่อ”
“ภรรยาคุณกินเถอะ ผมพอแล้ว” จ้าวเหวินเทาราพึงในใจว่า
คนที่รักเขามากที่สุดก็ยงั เป็ นภรรยาของเขา จึงพูดต่อท้ายอีก
หนึ่ ง ประโยคว่า “ตอนบ่ า ยผมจะขึ้ น เขาไปดู สั ก หน่ อ ยว่ า
พอจะมีไก่ฟ้าสักสองตัวไหม จะได้เอามาเพิ่มกับข้าวด้วย”

“งั้นคุณก็แบกตะกร้าไปด้วยนะคะ ระหว่างทางก็ดูหน่อยว่า
มีพวกผลไม้เปลือกแข็งนากลับมาได้หรื อเปล่า ตอนเย็นที่คุณ
กลับมา ฉันจะทาเกี๊ยวให้คุณกิน ฉันเก็บเนื้อไว้ในตูน้ ่ะค่ะ” เย่
ฉู ฉู่กล่าว ตอนนี้ อากาศหนาวราว 11-12 องศาเซลเซี ยสแล้ว
จึงไม่ตอ้ งกลัวว่าเนื้อจะเน่าเสี ย

“ครับ” จ้าวเหวินเทาพยักหน้า

หลังจากรับประทานบะหมี่ไข่ไก่แล้ว จ้าวเหวินเทาก็ไม่ได้
นอนต่อ เมื่อครู่ เขานอนไปแล้ว จึงนาเคียวและไม้คานขึ้นเขา
ไป สิ่ งเหล่านี้ต่างก็ใช้เพื่อป้องกันตัวเอง
แต่เขาก็ไม่ได้ข้ ึนเขาคนเดี ยว ครั้งนี้ พาเถี่ยต้าน หลูเถี่ยและ
หม่าต้านไปด้วย

“พวกเธอสามคนต้องทางานหนักขึ้นนะ ตอนนี้ พวกเราแยก


บ้านกันแล้ว ไม่ เหมื อนเมื่ อก่ อนแล้ว ดังนั้นแต่ ละคนก็ห า
กันเอง ไม่วางไว้ดว้ ยกันแล้วนะเข้าใจไหม? ตอนที่กลับบ้าน
ไปพ่อแม่ของพวกเธอจะได้ไม่พูดว่าอาเอาเปรี ยบพวกเธอ”
จ้าวเหวินเทากล่าว

“อาหก ตอนแรกทาไมอาถึงไม่โน้มน้าวคุณย่าล่ะครับ? ทาไม


ต้องแยกบ้านด้วย ทุกคนอยู่ดว้ ยกันก็ดีจะตายไป” เถี่ยต้าน
กล่าว

“ยังไงก็ตอ้ งแยกบ้านอยู่แล้ว พ่อแม่ของพวกเธอบอกว่าอา


ไม่ทางานแถมยังเอาเปรี ยบอีก การเก็บเกี่ยวช่ วงฤดูร้อนกับ
ฤดูใบไม้ร่วงอาเหนื่อยจนหลังขดหลังแข็งพวกเขาก็ไม่มีใคร
เห็น อาหิ้วปลาและเนื้อกลับไปบ้านตั้งเยอะแยะ ในเมื่อพวก
เขาไม่เห็น แล้วจะไม่ให้แยกบ้านได้ยงั ไงล่ะ?” จ้าวเหวินเทา
กล่าว

“พ่อของผมไม่อยากแยกบ้านเลย มีแต่แม่ที่อยากแยกบ้าน”
หลูตา้ นพูด เขามีแม่คนเดียวกับเถี่ยต้าน ตอนที่กลับไปบ้าน
ยาย เขาก็ได้ยนิ แม่ของเขาบอกกับยายว่าอยากแยกบ้าน

“เฮ้อ!” เถี่ยต้านถอนหายใจ

หม่าต้านก็ถอนหายใจ แยกบ้านแล้วไม่ดีเลยจริ ง ๆ อาหกกับ


พวกเขาไม่ได้เป็ นครอบครัวเดียวกันแล้ว แต่เป็นครอบครัว
เดียวกับอาสะใภ้หกต่างหากล่ะ

“พอแล้วเจ้าเด็กพวกนี้นี่ ต่อให้แยกบ้านไปแล้วอาก็ยงั เป็ นอา


หกของพวกเธออยู่ รอให้เจอไข่ไก่ฟ้าก่อน อาจะแบ่งให้พวก
เธอคนละฟอง” จ้าวเหวินเทากล่าว

คาพูดนี้ทาให้พวกเขาดีใจขึ้นมา
ก่อนหน้านี้ ก็พูดไปแล้ว โชคของจ้าวเหวินเทาคงไม่ตอ้ งพูด
ถึง แค่ข้ ึนมาบนเขาได้ไม่นาน เขาก็เจอไก่ฟ้าหนึ่ งตัวเดินอยู่
ในพุ่มไม้ และเมื่อได้เห็น…โอ้โห มีไข่ไก่ฟ้าหนึ่งรังด้วย!

“อาหก ๆ ไข่ไก่ฟ้าทั้งหมดเลย!” เถี่ยต้านก็เห็นแล้ว จึงดี ใจ


เป็ นอย่างมาก

“อาเป็ นคนเห็น ดังนั้นอาจะแบ่งให้พวกเธอคนละฟอง ส่ วน


ที่เหลือเป็ นของอา” จ้าวเหวินเทาโบกมือ

แต่ได้คนละหนึ่ งฟองก็นบั ว่าดีแล้ว บรรดาสามต้านต่างดีใจ


เป็ นอย่างมาก จากนั้นก็วางไข่ลงในตะกร้าคนละฟองอย่าง
ระมัดระวัง

จ้าวเหวินเทานาไข่ไก่ฟ้า 7-8 ฟองที่เหลือใส่ เข้าไปในตะกร้า


แล้ว โดยใช้หญ้าแห้งรองไว้ แต่ไข่ไก่ฟ้าหนึ่ งรังเป็นแค่การ
เริ่ มต้นเท่านั้น หลังจากนั้นจ้าวเหวินเทาก็เจอไข่ไก่ฟ้าอีกสอง
รัง แม้ว่าหนึ่งรังจะมีแค่ 5-6 ฟอง แต่มนั ก็ทาให้จา้ วเหวินเทา
ยิม้ หน้าบานได้แล้ว

“ไม่ได้ข้ ึนมาบนเขานานแล้ว คิดถึงชะมัดเลย” จ้าวเหวินเทา


รู ้สึกปี ติยนิ ดี

สามต้านอิจฉาเป็ นอย่างมาก เพียงแค่พริ บตาเดียว อาหกของ


พวกเขาก็ได้ไข่ไก่ป่ามากขนาดนี้แล้ว!

เขาเดิ นเข้าป่ าลึ กขึ้ น ทางฝั่ งนี้ ก็มีผลไม้ป่าเปลื อกแข็ง เป็ น


เกาลัดทั้งหมด

จ้าวเหวินเทาจึงนาเสาคานปี นต้นไม้เพื่อเกี่ยวเกาลัด

หลังจากเกี่ ย วเสร็ จแล้ว จึ ง นาพวกหลานชายไปเก็บ ครั้ งนี้


ไม่ได้แย่งกับพวกหลาน ๆ เพราะเก็บไปได้ครึ่ งหนึ่งเขาก็รู้สึก
ไม่สบายท้อง จึงรี บพูดว่า “พวกเธอรออยูต่ รงนี้นะ อาหกไป
ถ่ายหนักก่อน เดี๋ยวกลับมา!”
“ครับ” เถี่ยต้านและคนอื่น ๆ ต่างก็เชื่อฟังคาพูดเขา

จ้าวเหวินเทาจึงไปทาธุ ระส่ วนตัว แต่ตวั คนก็โชคดีแบบฉุ ด


ไม่อยูจ่ ริ ง ๆ เพิ่งจะทาธุ ระเสร็ จเขาก็เห็นไก่ฟ้าสองตัวกาลังสู ้
กันอยูต่ รงหน้าเหมือนกับไก่ชน โดยที่ดา้ นข้างยังมีแม่ไก่อีก
ตัวหนึ่ง

ไก่ฟ้าตัวผูส้ องตัวนั้นดูเหมือนว่ากาลังสู ้กนั เพื่อแย่งคู่ ดังนั้น


จ้าวเหวินเทาจึงเดินไปอย่างระมัดระวัง จากนั้นใช้ไม้คานตี
ไก่ฟ้าที่กาลังสู ้กนั ดุเดือดชนิดเลือดขึ้นตาทั้งสองตัว

ส่ วนแม่ไก่ตวั นั้นก็บินหนีเอาตัวรอดอย่างตื่นตระหนก

“พวกแกดู สิ แผ่น ดิ น ไม่ ไ ร้ เ ท่ า ใบพุ ทรา ท าไมต้อ งมาแย่ง


ดอกไม้ดอกเดียวกันด้วยล่ะ? พวกแกต้องเผชิ ญโชคร้าย แต่
เจ้าหล่ อนกลับหนี ไปเร็ วกว่าใครเลยนะ” จ้าวเหวินเทาพูด
พลางนึกเสี ยดายที่ไม่สามารถจับได้ท้ งั สามตัวในคราวเดียว
เขาหิ้ วไก่ฟ้าสองตัวกลับมา เถี่ยต้าน หลูตา้ น และหม่าต้าน
เห็นเช่ นนี้ ก็ดวงตาแทบจะถลนออกมา อิจฉาจนทนไม่ไหว
อยูแ่ ล้ว

“ไม่เลวเลย ๆ ช่ วยอาหกเก็บด้วย” จ้าวเหวินเทายัดไก่ฟ้าเข้า


ไปในตะกร้าที่ใส่ เกาลัดไปครึ่ งหนึ่ง พูดด้วยความพึงพอใจ

“อาหก จับมาได้ยงั ไงครั บเนี่ ย ? ไปถ่ ายหนักก็จ ับไก่ ฟ้ า ได้


ด้วยเหรอ?” หลูตา้ นกล่าว

“แหงสิ มีครั้งไหนบ้างที่อาหกของเธอโชคไม่ดี? มีครั้งไหน


ที่พวกเธอเข้าป่ ามากับอาแล้วไม่เจอของกินบ้าง” จ้าวเหวิน
เทาใช้ไม้คานแบกตะกร้าขึ้นมา ทั้งยังกล่าวอย่างมีชยั

คาพูดนี้คือเรื่ องจริ ง ดังนั้นพวกเขาจึงชอบเข้าป่ ามากับอาหก


มากที่สุด เพราะมักจะได้เจอของอร่ อยอยูเ่ สมอ!
“นี่ ก็ เ ย็ น แล้ ว วัน นี้ เก็ บ ไปได้ ไ ม่ เ ลวเลย ลงเขาเถอะ!”
จ้า วเหวิน เทากล่ า ว จากนั้น จึ ง พาหลานชายทั้ง สามลงจาก
ภูเขา

…………………………………………………………

[1] เอาใจคนต่ า ต้อ ยวัด ท้อ งสุ ภ าพบุ รุษ หมายถึ ง ใช้ค วาม
คิดเห็นที่เลวไปคาดเดาคนที่มีคุณธรรมสู งส่ ง
ตอนที่ 46 คู่รักหนุ่มสาวแสนกตัญญู

เกาลัดป่ าครึ่ งตะกร้า ไก่ป่า 2 ตัว พร้อมด้วยไข่ไก่อีก 23 ฟอง


ล้วนเป็ นสิ่ งที่จา้ วเหวินเทาได้รับในวันนี้

เมื่ อ กลับ มาถึ ง บ้านก็เ พิ่ง จะเป็ นเวลาสี่ โ มงกว่า ๆ ฟ้ า ยังคง


สว่างอยู่

เดิมทีเย่ฉูฉู่เตรี ยมตัวรับประทานเกี๊ยวในเย็นนี้ แต่เมื่อเห็นไก่


ป่ าสองตัวเธอจึงเปลี่ยนใจ

“ฉันจะหมักเนื้ อเก็บไว้ คื นนี้ กินไก่ เกาลัดกันนะคะ ฉันนึ่ ง


หมัน่ โถวถัว่ อีกสักหม้อดีไหม?” เย่ฉูฉู่ถามด้วยรอยยิม้

“ได้ ภรรยาคุณจัดการเลย” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้

“งั้นคุณต้มน้ าถอนขนไก่เถอะค่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าวและออกไปตัก


แป้งเพื่อเตรี ยมนวดแป้ง
จ้าวเหวินเทาต้มน้ า จากนั้นนาไก่ฟ้าสองตัวออกมาถอนขน
พี่สะใภ้สี่จา้ วที่เพิง่ กลับมาจากการพูดคุยกับคนอื่น ๆ ก็ได้ยนิ
เรื่ องที่เขาเข้าป่ าได้ไข่ไก่ฟ้ามายีส่ ิ บกว่าฟองและไก่ฟ้าอีกสอง
ตัวแล้ว

หล่อนอดอิจฉาไม่ได้และกล่าวขึ้นว่า “น้องสามีหกช่างโชคดี
จริ ง ๆ”

จ้าวเหวินเทาจึงเจียดเวลาตอบกลับไปหนึ่ งประโยค “ก็ง้ นั ๆ


แหละครับ” แต่ในใจกลับกล่าวว่า ‘เย็นนี้ พวกพี่ก็คอยดูพวก
เราสองคนกินเนื้อเถอะ!’

ไก่ฟ้าทั้งสองตัวมีขนาดไม่ใหญ่ หนึ่ งตัวหนักหนึ่ งชัง่ กว่า ๆ


แต่การตุ๋นทั้งสองตัวก็เยอะเกินไปหน่ อย ดังนั้นเย่ฉูฉู่จึงเก็บ
อีกตัวไว้รับประทานวันพรุ่ งนี้

วันนี้อากาศหนาวมาก ต้องผัดเนื้อให้สุกถึงจะสามารถเก็บไว้
ได้นานขึ้น
พวกเขารอให้พี่สะใภ้รองจ้าว พี่สะใภ้สามจ้าวและพี่สะใภ้สี่
จ้าวทาอาหารให้เสร็จก่อน พวกหล่อนรับประทานอาหารง่าย
ๆ ซึ่งก็คือโจ๊ก ดังนั้นจึงเสร็จเร็วเป็ นพิเศษ

เมื่อพวกหล่อนใช้ครัวเสร็ จแล้วก็ถึงคราวของเย่ฉูฉู่ เดิมทีคุณ


แม่จา้ วก็เตรี ยมตัวจะทาอาหาร และก็คิดจะรับประทานโจ๊ก
เช่นกัน แต่ถูกเย่ฉูฉู่หา้ มไว้

“คุณแม่ไม่ตอ้ งทาค่ะ ฉันนวดแป้ งไว้เยอะเลย อีกเดี๋ยวคุณพ่อ


กับคุณแม่มากินหมัน่ โถวของพวกเราก็ได้นะคะ” เย่ฉูฉู่กล่าว

หากเป็ นคนอื่น ๆ เย่ฉูฉู่ยอ่ มไม่สนใจ แต่นี่เป็ นคุณพ่อคุณแม่


ของสามี ก็ตอ้ งกตัญญู อยู่แล้ว โดยเฉพาะพวกท่ านที่ ยงั รั ก
และเอ็นดูพวกเขาทั้งสองคนมาก

“พ่อกับแม่กินของพวกเธอเปล่า ๆ ตลอดไม่ได้หรอกนะ แม่


จะไปตักแป้ งมาให้หนึ่ งถ้วย” คุณแม่จา้ วกล่าวด้วยสายตาที่
อ่อนโยน
“ค่ะ” เย่ฉูฉู่ยมิ้ เธอไม่ได้หา้ มคุณแม่จา้ วแต่อย่างใด

คุณแม่จา้ วตักแป้งถัว่ มาให้หนึ่งถ้วยต่อหน้าลูกสะใภ้คนอื่นๆ

“คุณแม่เอาไปวางไว้ในห้องก็ได้ค่ะ ฉันไม่ได้ลงกลอนตูไ้ ว้”


เย่ฉูฉู่กล่าว

คุณแม่จา้ วจึงยิม้ และนาแป้ งถัว่ ไปใส่ ไว้ที่ตูใ้ นห้องของเย่ฉูฉู่


ภายในตูย้ ่อมมีของดี ๆ มากมาย เนื้ อหมูหนึ่ งชิ้น ไหนจะไข่
ไก่อีกหนึ่งตะกร้า ตอนนี้มีไข่ไก่ฟ้าเพิ่มมาอีก

ลูกชายของนางมีน้ าใจ เขาเองก็แบ่งไข่ไก่ฟ้า 8 ฟองมาให้คน


แก่ ๆ อย่างพวกเขาทั้งสองคนแล้ว

แม้คุณแม่จา้ วจะรู ้สึกว่าทั้งสองคนใช้ชีวิตฟุ่ มเฟื อยไปหน่อย


แต่กไ็ ม่ได้มากเกินไปไม่ใช่เหรอ?
เย่ฉูฉู่ทาหมัน่ โถวแป้งถัว่ ให้เรี ยบร้อยก่อน หลัก ๆ คือแป้งถัว่
เหลื อ งและแป้ ง ข้าวโพด จากนั้น ก็น าไปหมัก ไว้ในน้ าอุ่ น
แล้วใช้ใช้มีดสับไก่

เริ่ มแรกเธอผัดเนื้อไก่ฟ้าหนึ่งตัว จากนั้นใส่ ขิง กระเทียมและ


พริ กลงไป ทั้งยังใส่ ซีอิ๊วลงไปด้วย แค่น้ ีกอ็ ร่ อยแล้ว

จ้าวเหวินเทาอดไม่ได้ที่จะเดินเข้ามา เขากล่าวว่า “ภรรยา คุณ


จะทาอาหารเก่งเกินไปแล้วนะ ทาไมถึงได้หอมฉุ ยขนาดนี้?”
อันที่จริ งเนื้อไก่ฟ้านั้นแอบเหนียวไปหน่อย แต่ดว้ ยฝี มือของ
ภรรยาก็ท าให้ ม ัน อร่ อ ยจนห้า มใจไม่ อ ยู่ ท าเอาเขาอยาก
รับประทานคาใหญ่ ๆ เสี ยตอนนี้

“ของพวกนี้เอาไว้กินวันพรุ่ งนี้นะคะ” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้


ระหว่างที่ผดั เธอก็เร่ งไฟไปพลาง
เพียงไม่นานก็ทาเสร็ จเรี ยบร้อย เธอจัดเตรี ยมใส่ ในจาน ครั้น
เห็นจ้าวเหวินเทาดูตะกละตะกลามอย่างมาก เธอจึงคีบขาไก่
ให้เขารับประทานหนึ่งชิ้นด้วยรอยยิม้

ขาไก่มีขนาดไม่ใหญ่ เนื้ อส่ วนอื่นถูกเธอสับไปแล้ว ที่เหลือ


คือกระดูกขาไก่ที่มีเนื้อห่ออยู่ แต่มนั ก็ส่งกลิ่นหอมเป็ นพิเศษ

จ้า วเหวิ น เทาออกมายื น แทะข้า งนอก แค่ น้ ี ก็ ท าให้ เ หล่ า


หลานชายและหลานสาวอยากรับประทานจนไม่ไหวแล้ว

“แม่ หนู เองก็อยากกินเหมือนกัน” ซื่ อหยาที่มีอายุแค่สี่ขวบ


ทนไม่ ไหวแล้ว เธอคร่ าครวญอยากรั บประทานหนึ่ ง เสี ยง
ก่อนจะร้องไห้โฮออกมา

พี่สะใภ้สี่จา้ วกล่าวอย่างโกรธเคือง “กิน ๆๆ วัน ๆ รู ้จกั แต่กิน


เมื่อกี้กเ็ พิ่งกินไม่ใช่เหรอ?”
จากนั้น ซื่ อ หยาก็ ถู ก ตี เสี ย งร้ อ งไห้ ท าให้ ค นที่ ไ ด้ยิ น ต่ า ง
อารมณ์เสี ยกันถ้วนหน้า

คุณแม่จา้ วอดไม่ได้ที่จะพูด “พอได้แล้ว ลูกยังเล็กอยูน่ ะ!”

พี่สะใภ้สี่จา้ วอดไม่ได้ที่จะหันไปมองน้องสามีคนเล็ก แต่น่า


เสี ยดายที่น้องสามีของหล่อนไม่ใช่ คนใจอ่อน แยกบ้านไป
แล้วยังต้องทาอะไรอีก? เขาไม่อยากเปิ ดทางให้ ไม่เช่นนั้นถ้า
เขาได้ดิบได้ดีข้ ึนมา ก็ตอ้ งให้พวกเขาคนละส่ วนอีกน่ะสิ ?

ให้พ่อแม่ของตัวเองไม่ใช่ ปัญหา แต่กบั หลานชายหลานสาว


เหล่านี้ให้ไม่ได้หรอก

เพราะถ้าให้ไปแล้วในอนาคตก็จะต้องให้อีก หากจู่ ๆ ไม่ให้


ขึ้ น มา แบบนั้น จะไม่ ท าให้ค นอื่ น เกลี ย ดขี้ ห น้า แย่เ หรอ?
ดังนั้นก็ไม่ตอ้ งให้ต้ งั แต่แรกนัน่ แหละ
“เหวินเทา ของพวกนี้ตอ้ งเก็บไว้กินพรุ่ งนี้ คุณเก็บใส่ ตะกร้า
ปิ ดฝาให้ดีนะคะ อย่าให้หนู มาแทะเอาล่ะ” เย่ฉูฉู่ย่อมได้ยิน
เสี ยงร้องอยูแ่ ล้ว แต่กช็ ่วยไม่ได้ ใช้หอ้ งครัวร่ วมกันใต้ชายคา
เดียวกัน ย่อมต้องเกิดเรื่ องแบบนี้ข้ ึนอยูแ่ ล้ว

แต่ เ ธอเองก็มี ค วามคิ ด หนึ่ ง เธอไม่ ค วรต้อ งรู ้ สึ ก ผิ ด เพี ย ง


เพราะต้องมาพะว้าพะวงเกี่ยวกับคนอื่นไม่ใช่เหรอ?

“ได้เลย” จ้าวเหวินเทาเข้ามาด้วยรอยยิม้ เขาวางจานไว้ดา้ น


ในตะกร้า ก่อนจะใช้จานปากกว้างอีกใบครอบไว้

“อย่าไปทาให้พวกเขาอยากกินอีกล่ะ” เย่ฉูฉู่กระซิบบ่น

จ้าวเหวินเทายิม้ จากนั้นจึงหิ้ วตะกร้ากลับไปเก็บไว้ในห้อง


ให้เรี ยบร้อย
เย่ฉูฉู่เริ่ มตุ๋นไก่เกาลัดอีกครั้ง มันส่ งกลิ่นหอมมาก รอสักพักก็
ใส่ มนั ฝรั่งที่หนั่ เป็ นสี่ เหลี่ยมลูกเต๋ าลงไป ก่อนจะนาหมัน่ โถว
ที่เตรี ยมไว้วางด้านบนเพื่อนึ่ง

ในที่สุดไก่เกาลัดก็เสร็จเป็ นที่เรี ยบร้อย ส่ วนหมัน่ โถวก็ถูกยก


ออกจากหม้อแล้ว

คุ ณ พ่ อ จ้ า วและคุ ณ แม่ จ ้ า วก็ ร่ วมรั บ ประทานด้ ว ยกั น


รั บ ประทานกัน อิ่ ม หน าส าราญ ส่ ว นคนอื่ น ๆ แน่ น อนว่า
ไม่ได้ส่วนแบ่งอยูแ่ ล้ว

พี่สะใภ้สามจ้าวถึงกับเยาะเย้ยพี่สามจ้าว “ดูการใช้ชีวิตของ
บ้านเรา แล้วดู ชีวิตของครอบครัวสองสามีภรรยาบ้านหกสิ
ใช้ชีวิตแบบนี้ คุณยังมีหน้ามาบอกว่าหลังจากนี้ เขาจะยื่นมือ
มาขอให้คุณช่วยอีกเหรอ? ทาไมคุณถึงได้หน้าใหญ่ขนาดนั้น
กัน?”
พี่สามจ้าวเอาแต่หน้าแดงพลางกล่าวว่า “งั้นคุณก็หวังให้เขา
เป็ นแบบนี้ไปทั้งชีวติ ก็แล้วกัน!”

“อาหกเก่งสุ ด ๆ ไปเลย ตั้งแต่ผมเป็ นเด็กจนโต อาก็เป็ นแบบ


นี้ตลอด” หม่าต้านกล่าวอย่างไม่ใส่ ใจ จะดีแค่ไหนถ้าไม่แยก
บ้าน? ถ้าไม่แยกบ้านคืนนี้เขาก็คงได้กินด้วย เขาอยากกินจะ
แย่อยูแ่ ล้ว

“ได้ยิ น ไหม? โชคของน้อ งสามี ห กดี แ บบนี้ มาตลอดนั่น


แหละ!” พี่สะใภ้สามจ้าวแค่นเสี ยงกล่าว

พี่สามจ้าวไม่สนใจหล่อน เขาสะบัดแขนเสื้ อเดินออกไปบ่น


กับคนอื่นด้านนอกบ้านแล้ว

พี่สะใภ้รองจ้าวบ่นในใจ หรื อว่าคุณพ่อคุณแม่ท้ งั สองจะไป


อยู่ ก ับ น้อ งสามี ห ก? ดู ที่ ท ากัน วัน นี้ สิ นี่ เ ป็ นการตบหน้ า
หล่อนและสามีที่เป็ นบ้านใหญ่อีกครั้งแล้ว
ความคิดของพี่สะใภ้สี่จา้ วเรี ยบง่ายและไม่ซับซ้อนกว่ามาก
หล่อนสัง่ ให้พี่สี่จา้ วขึ้นเขาไปหาไก่ฟ้าในวันพรุ่ งนี้!

เพราะหล่อนต้องการบารุ งร่ างกายเพื่อที่จะมี ลูกชายให้เ ขา


ยังไงล่ะ!

พี่สี่จา้ วไม่ได้คดั ค้าน ทั้งยังบอกว่าพรุ่ งนี้จะกลับไปให้วางใจ


ได้

เมื่ อเที ยบกับเรื่ องราวเหล่ านี้ คุ ณพ่อจ้าวและคุ ณแม่ จา้ วจึ ง


พอใจอย่างยิง่

ผูอ้ าวุโสทั้งสองท่านเมื่อรับประทานจนอิ่มแล้วก็ไม่ตอ้ งเก็บ


ล้าง ครอบครั วของเจ้าหกเป็ นคนจัดการให้ท้ งั หมด ทั้งยัง
บอกอีกว่ามีน้ าอยูใ่ นหม้อ อีกเดี๋ยวช่วงค่าก็สามารถตักไปแช่
เท้าได้แล้ว
ดังนั้นคุณแม่จา้ วจึงไม่เกรงใจ เมื่อฟ้ ามืดนางจึงตักน้ ามาแช่
เท้ากับคุ ณพ่อจ้าว จากนั้นก็เตรี ยมตัวเข้านอน วันนี้ อากาศ
หนาวเสี ยจนนอนไม่หลับแล้วจะให้ทาอะไรล่ะ?

“คุณคะ เจ้าหกกับลูกสะใภ้หกกตัญญูไหม?” คุณแม่จา้ วถาม


ด้วยรอยยิม้

“อืม” คุ ณพ่อจ้าวพยักหน้า เจ้าหกไม่ตอ้ งพูดถึงหรอก ส่ วน


ลูกสะใภ้หกก็ไม่มีอะไรต้องพูดเช่ นกัน รับประทานอาหาร
แบบธรรมดาน่ ะไม่เป็ นไร แต่เวลาได้รับประทานของดี ข้ ึน
หน่อย เธอก็ยงั อุตส่ าห์เอามาแบ่งให้ส่วนหนึ่ง

“ฉันว่าหล่อนเองก็ไม่ได้รังเกียจพวกเราแม้แต่นอ้ ยเลย” คุณ


แม่เย่กล่าวด้วยรอยยิม้

“คุ ณหมายความว่ายังไง?” คุ ณพ่อจ้าวฉลาดมากแค่ไ ด้ยินก็


ทราบแล้ว เขาจึงมองมาที่คุณแม่จา้ ว
“ฉันก็กาลังคิดอยูว่ ่า หลังจากคลอดลูกแล้วก็คงไม่มีใครช่ วง
ดู แลไม่ใช่ เหรอ? ไม่รู้ว่าหล่อนจะต้องการให้ฉันช่ วยอะไร
หรื อเปล่าน่ะสิ ?” คุณแม่จา้ วกล่าว

“ถ้าคุ ณยินดี ที่จะช่ วยก็คงไม่มีอะไรดี ไปกว่านี้ แล้วล่ะ” คุ ณ


พ่อจ้าวกล่าว
ตอนที่ 47 ค้ าขายถั่วงอก

คุณแม่จา้ วคุยกับคุณพ่อจ้าวได้ครู่ หนึ่ง แล้วทั้งคู่กห็ ลับไป

เย่ฉูฉู่และจ้าวเหวินเทาที่อยู่ห้องข้าง ๆ ก็เตรี ยมตัวเข้านอน


แล้วเช่นกัน แน่นอนว่าหนุ่มสาวคู่น้ ีกไ็ ด้ออกกาลังกายกันไป
ยกหนึ่งก่อนจะผล็อยหลับไป

ก่ อนเข้านอนจ้าวเหวิน เทายังคิ ดว่า ตั้งแต่ ที่เขาแยกบ้า นมา


ชี วิตแต่ละวันก็ผ่านไปด้วยดี เป็ นอย่างยิ่ง การแยกบ้านเป็ น
อะไรที่ถูกต้องที่สุดแล้วจริ ง ๆ

เพียงพริ บตาเดียวถัว่ งอกของเขาก็งอกออกมาแล้ว

เขาไปรับเนื้อหมูต้ งั แต่เช้าตรู่ จากนั้นก็นาถัว่ งอกถุงใหญ่ของ


เขาเข้าเมืองมาด้วย
เนื้ อหมูยงั คงขายดีเช่ นเคย ส่ วนถัว่ งอกก็ขายดีเกินคาด เพียง
ไม่ น าน ถั่ว งอกที่ เ ขาน ามาขายที่ ต ลาดตอนเช้า ก็ ถู ก ขาย
ออกไปจนเกือบหมด

ส่ วนที่เหลืออีก 3-4 ชัง่ เขาไม่ขายแล้ว

เขานามาให้พี่สาวใหญ่ของเขาทางฝั่งนี้

พี่สาวใหญ่จา้ วยังอยูบ่ า้ น ส่ วนหวังคุนสามีของพี่สาวใหญ่ไม่


อยูบ่ า้ น หนึ่งเดือนเขามีวนั หยุด 3-4 วัน แต่มีโอกาสน้อยมาก
ที่จะได้พบเจอ

แม่ เ ฒ่ า หวัง ก็ อ ยู่ บ้า น ส่ ว นหลานชายและหลานสาวไป


โรงเรี ยนกันหมดแล้ว

“เหวินเทา เข้ามานั่งกินน้ ากินท่าก่อนเร็ ว ดู นายสิ หนาวจน


หน้าซีดหมดแล้วเนี่ย!” พี่สาวใหญ่จา้ วรี บกล่าว

“หึหึ ได้ พี่สาวใหญ่ขอน้ าหน่อยนะ” จ้าวเหวินเทายิม้


แม้ว่าวันนี้ อากาศจะหนาว แต่ภายในใจของจ้าวเหวินเทาก
ลับร้อนรุ่ ม

เพราะถัว่ งอกนี้ ขายดี เกินคาดจริ ง ๆ สิ่ งที่เขาขายคือถัว่ งอก


ถัว่ เขียว 1 ชัง่ สามารถปลูกถัว่ งอกได้ 6 ชัง่

ถ้ารั บซื้ อถัว่ เขี ยว 1 ชั่ง จานวน 1 ชั่งก็เท่ ากับ 1 เหมา นี่ คือ
ราคาที่ข้ ึนแล้วนะ ปี ที่แล้วก็เพิ่งจะขึ้นราคาไป ก่อนหน้านี้ 1
ชัง่ ราคาอยูท่ ี่ 9 เฟิ น

เขาขายถัว่ งอกในราคาค่อนข้างถูก 1 ชัง่ ราคาประมาณ 5 เฟิ น


เท่านั้น ซึ่ งราคานี้ สูงกว่าที่เขาคาดไว้ แต่เขาได้ไปสอบถาม
ราคามาแล้ว พบว่าในเมืองก็ขายกันในราคานี้

ถัว่ เขียว 1 ชัง่ สามารถปลูกถัว่ งอกได้ 6 ชัง่ ถัว่ งอก 1 ชัง่ ขาย
ได้ 5 เฟิ น ซึ่ งเท่ากับ 3 เหมา ถ้าหักค่าใช้จ่ายไป 1 เหมา ถัว่
เขียว 1 ชัง่ สามารถขายได้ 2 เหมา!
วันนี้เขานาถัว่ งอกเข้าเมืองมา 20 กว่าชัง่ ส่ วนที่เหลืออีก 3-4
ชัง่ นี้ เขาเก็บแยกไว้เป็นพิเศษ ส่ วนที่เหลือได้ขายออกไปจน
หมดแล้ว!

เขาค านวณเงิ น ระหว่า งทางมาหาพี่ ส าวใหญ่ หลัง จากหัก


ค่าใช้จ่ายเขาได้กาไรมา 7 เหมา!

วันนี้ เนื้ อหมู ที่เขานามาก็ไม่ ใช่ น้อย ๆ มี ต้ งั 5 ชั่ง ได้เงิ นมา


ทั้งหมด 1.60 หยวน ทั้งยังมีคูปองอาหารอีก 2-3 ใบด้วย

เมื่ อคานวณรวมกับถัว่ งอก วันนี้ เขาได้เงิ นมาทั้งหมด 2.30


หยวน!

เนื้อในแต่ละวันไม่ได้มีเยอะขนาดนี้ ยกตัวอย่างเช่นเมื่อวาน
ได้มาแค่ 2 ชัง่ ถือว่าน้อยมาก บ้างก็มากบ้างก็นอ้ ยสลับกันไป

แต่ถวั่ งอกกลับมีเยอะขนาดนี้ ทุกวัน เป็ นเพราะแบ่งเป็นชุ ด


พรุ่ งนี้ยงั มีอีกหนึ่งชุด วันมะรื นก็ยงั มีอีกหนึ่งชุด วันถัด ๆ ไป
ก็ยงั มีอีก ทั้งยังมีมากขึ้นเรื่ อย ๆ ด้วย เขาตัดสิ นใจแล้วว่าวันนี้
กลับไปจะปลูกให้เยอะขึ้นอีกหน่อย!

พี่สาวใหญ่จา้ วริ นน้ ายกมาให้น้องชายของหล่อน พลางบ่น


ด้วยรอยยิ้ม “เป็ นไง ทาเงิ นได้แล้วสิ นะ? ถึ งได้มีความสุ ข
ขนาดนี้”

“ได้มานิดหน่อยเองครับ” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้ ขณะ


ถือแก้ว

แม่ เฒ่ าหวังก็เดิ นออกมาแล้ว นางถามด้วยรอยยิ้มว่าเขานา


อะไรมาขาย?

จ้าวเหวินเทาจึงบอกไปว่าเขานาถัว่ งอกเข้ามาขายในเมือง ยัง


เหลื อ อี ก นิ ด หน่ อ ย จึ ง น ามาให้ พี่ ส าวใหญ่ ข องเขาเพื่ อ
ทาอาหาร แน่นอนว่าเขาย่อมแบ่งครึ่ งหนึ่งให้พี่สาวห้าด้วย
หลังจากดื่มน้ าแล้วจ้าวเหวินเทาจึงหยิบถุงออกมา ก่อนจะนา
ถัว่ งอกออกมาครึ่ งหนึ่ง

แม่เฒ่าหวังยิ้มอย่างมีความสุ ข กล่าวว่า “น้องชายลูกสะใภ้


เกรงใจกันเกินไปแล้ว เอาไปขายก็ได้ จะเอามาให้ทาไมกัน?”

“ผมเอามาให้พวกหลานชายหลานสาวกินนี่แหละครับ” จ้าว
เหวินเทากล่าวอย่างเกรงใจ

พี่สาวใหญ่จา้ วจึงถามเขาว่ารับประทานอาหารเช้ามาหรื อยัง


จ้าวเหวินเทาจึงตอบว่ารับประทานมาแล้ว เขาซื้ อหมัน่ โถว
มารั บประทานไปสองลู ก ไม่ กี่ ว นั มานี้ ที่ บ้า นมัก จะได้รั บ
ประทานอาหารดี ๆ ท้องจึงเต็มไปด้วยน้ ามัน เขาจึงไม่ตอ้ ง
รับประทานซาลาเปา

อีกครู่ หนึ่งจ้าวเหวินเทาก็จะไปบ้านของพี่สาวห้าแล้ว
“น้องชายลูกสะใภ้ตอนนี้ ทามาค้าขายได้ไม่เลวเลยนะ” แม่
เฒ่าหวังกล่าวด้วยรอยยิม้

“วันนี้หนาวมาก เข้าเมืองมาทุกเช้าไม่ใช่เรื่ องง่ายเลยค่ะ ดูเขา


สิ หนาวจนหน้าซี ดหมดแล้ว ออกจากบ้านตอนเช้าคงหนาว
กว่านี้แน่” พี่สาวใหญ่จา้ วกล่าว

โชคดี ที่น้องสะใภ้เอาใจใส่ เมื่อครู่ หล่อนก็เพิ่งเห็นว่าเสื้ อบุ


ฝ้ ายที่น้องชายสวมใส่ ให้ความอบอุ่นเป็ นอย่างมาก ทั้งยังมี
กางเกงขายาวและรองเท้า ที่สาคัญคือยังมีถุงมืออีกหนึ่งคู่ดว้ ย

พี่สาวใหญ่จา้ วพอใจกับสิ่ งนี้เป็ นอย่างยิง่

ในขณะที่ ผูช้ ายวิ่งเต้นเพื่ อครอบครั ว ผูห้ ญิ งที่ อยู่ในบ้า นก็


ต้องดูแลคนในครอบครัวให้ดีไม่ใช่เหรอ?
แม่เฒ่าหวังเคยกล่าวไปแล้วว่า เรื่ องการค้าขายครอบครัวของ
นางไม่มีทางทา แต่ก็ไม่ใช่ ว่าจะรังเกี ยจ ขายหน้าหรื อดู ถูก
การทาการค้า เพียงแต่มนั ไม่จาเป็ นต่างหากล่ะ

รายได้โดยรวมของครอบครัวในทุกทุกเดื อนอยู่ที่ประมาณ
หนึ่ งร้อยหยวน แม้ว่าพวกหลาน ๆ จะใช้เงินจานวนไม่นอ้ ย
แต่กย็ งั พอใช้ ไม่ตอ้ งออกไปทาการค้าขายใด ๆ

ไม่เช่นนั้นเพื่อนบ้านก็คงดูถูก พวกหลาน ๆ ก็จะถูกเพื่อนใน


โรงเรี ยนหัวเราะเยาะด้วย

พูดถึงจ้าวเหวินเทาอีกครั้ง ตอนนี้ เขาได้มาหาพี่สาวห้าของ


เขาแล้ว เขาคิดไว้แล้วว่าถ้าหากพี่สาวห้าของเขาไม่อยู่บา้ น
เขาจะนาถัว่ งอกไปให้ที่โรงงาน แต่เขาก็เลือกที่จะมาตะโกน
เรี ยกดูสักหน่อย

คิดไม่ถึงเลยว่าหล่อนจะอยูบ่ า้ นจริ ง ๆ
ไม่ เ พี ย งแค่ พี่ ส าวห้า จ้า วที่ อ ยู่บ้า น ฉิ น หวยเหริ น สามี ข อง
พี่สาวห้าก็อยูบ่ า้ นด้วย

“หวยเหริ น ตื่นได้แล้ว น้องฉันมาหา” พี่สาวห้าจ้าวตะโกน

“พี่เขยกลับมาเมื่อคืนเหรอ? ให้เขานอนต่อเถอะครับ ไม่ตอ้ ง


ไปปลุกหรอก ผมไม่ใช่แขกที่หาโอกาสเจอได้ยากสักหน่อย”
จ้าวเหวินเทารี บกล่าว

“นี่ จะเก้าโมงแล้ว เมื่อคืนก็นอนพอแล้ว” พี่สาวห้าจ้าวกล่าว


อย่างไม่ใส่ ใจ

ไม่นานฉินหวยเหริ นก็เดินออกมา

สามีของพี่สาวห้าคนนี้ร่างกายสู งใหญ่มาก คนที่จะขับรถใน


ปี นี้ ต้อ งมี ร่ า งกายแบบนี้ แหละ ไม่ เ ช่ น นั้น คงอัน ตรายเป็ น
อย่างยิง่

“พี่เขย ลาบากพี่แล้ว” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้


“ทาไมจู่ ๆ ถึงเข้าเมืองล่ะ?” ฉิ นหวยเหริ นกล่าวด้วยรอยยิม้
ขณะนัง่ ลง ก่อนจะแบ่งบุหรี่ ให้เขา

จ้าวเหวินเทารับมาสู บ กล่าวด้วยรอยยิม้ ว่า “คงทาให้พี่เขยห้า


หัวเราะเยาะแล้ว ผมเข้าเมืองมาค้าขายน่ะ”

“ค้ า ขาย? ค้ า ขายอะไร?” ฉิ น หวยเหริ นถามด้ ว ยความ


ประหลาดใจ

จ้าวเหวินเทาหยิบถัว่ งอกออกมาพลางกล่าวว่า “อันนี้ผมเก็บ


ไว้ให้พี่สาวห้า มันเป็นของที่ผมขายเมื่อเช้านี้ ส่ วนที่เอาเข้า
มาก็ขายไปจนเกือบหมดแล้ว เหลืออีกนิ ดหน่ อย ผมเอาไป
ให้พี่สาวใหญ่ส่วนหนึ่ งแล้ว ส่ วนที่เหลือเลยเอามาให้พี่สาว
ห้า”

“แล้วค้าขายเป็ นยังไงบ้าง?” พี่สาวห้าจ้าวรี บถาม


“ขายได้ไม่เลวเลย มีลุง ๆ ป้า ๆ ตะโกนโหวกเหวกเสี ยงดังคา
สองคา ก็ขายหมดไปตั้งแต่เช้าแล้ว” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วย
รอยยิม้

“นายนี่หน้าหนาดีจริ ง ๆ” พี่สาวห้าจ้าวกล่าวตาหนิ

ฉิ นหวยเหริ นกล่าว “นี่เป็ นการค้าขายขนาดเล็ก เกรงว่าคงได้


เงินไม่เยอะสิ นะ?”

“ก็ได้อยูน่ ะ ผมเองก็ไม่ได้ตอ้ งการเยอะแยะขนาดนั้นหรอก”


จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้

“ยังไงนายก็ตอ้ งเข้าเมืองมาขายถัว่ งอก นายก็ลองดูว่ามีของ


อย่างอื่นอีกไหม แล้วก็เอามาขายในเมืองด้วยกันเลย ขายได้
ทั้งหมดนัน่ แหละ ตอนนี้ ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว นายไม่
ต้องกังวล หลังจากนี้ จะผ่อนคลายมากขึ้นเรื่ อย ๆ!” ฉิ นหวย
เหริ นบอกเขา
“พี่เขย พี่บอกผมหน่อยสิ วา่ สถานการณ์ดา้ นนอกเป็ นไงบ้าง?
ตอนนี้พวกเราแยกบ้านกันแล้ว ผมต้องหาวิธีทาเงินเพิม่ ถึงจะ
ดี” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้

“แยกบ้านแล้ว?” ฉินหวยเหริ นกล่าวด้วยความตกใจ

เพราะเขาเพิ่งจะกลับมาเมื่อคืนนี้ จึงยังไม่ทราบเรื่ องนี้

“ฉันยังไม่ทนั ได้บอกคุณเลย” พี่สาวห้าจ้าวพยักหน้ากล่าว

“ก็ ดี แ ล้ ว ล่ ะ แต่ ง งานแต่ ง การกั น หมดแล้ ว แยกบ้ า นก็


เหมาะสมดีเหมือนกัน” ฉิ นหวยเหริ นเองก็พยักหน้า จากนั้น
จึงบอกเล่าสถานการณ์ภายนอกให้แก่นอ้ งชายภรรยาฟัง

ตอนนี้ ลมฤดู ใบไม้ผลิได้พดั มาแล้ว แม้ว่าเพิ่งจะเริ่ มต้น แต่


ยอดอ่อนก็ได้โผล่ข้ ึนมาแล้ว นัน่ เป็ นสัญญาณที่ดีเลยล่ะ!
ตอนที่ 48 พีเ่ ขยห้ าผู้มอี นาคต

“คุ ณ ช่ ว ยไปหยิ บ กระเป๋ าที่ ผ มเอากลับ มาให้ ผ มหน่ อ ย”


ฉินหวยเหริ นกล่าวกับพี่สาวห้าจ้าวด้วยรอยยิม้

พี่ ส าวห้า จ้า วนึ ก ขึ้ น มาได้ จึ ง เดิ น ไปหยิบ กระเป๋ าที่ เ ขาน า
กลับมามาให้เขา ก็พบว่ากระเป๋ าใบนี้ หนักมาก จึ งอดถาม
ไม่ได้วา่ “คุณใส่ อะไรไว้เนี่ยคะ?”

ฉินหวยเหริ นรับมา จากนั้นจึงเปิ ดออก

ใส่ อ ะไรไว้ด้า นในน่ ะหรื อ? นาฬิ ก าข้อ มื อ น่ ะสิ ! มี น าฬิ กา


ข้อมืออยู่ 20 กว่าเรื อน!

พี่สาวห้าจ้าวถึงกับชะงักงัน จ้าวเหวินเทาก็เช่ นกัน “พี่เขย พี่


ไปเอานาฬิกามากขนาดนี้มาจากไหนครับเนี่ย?”
“ครั้งนี้ ออกเดิ นทางไปทางใต้ พวกเธอไม่รู้หรอกว่าทางใต้
พัฒ นาเร็ ว ขนาดไหน เมื่ อ สองปี ที่ แ ล้ว ฉั น ก็ เ คยไปที่ นั่ น
มาแล้วครั้งหนึ่ ง เทียบกับครั้งนี้ แล้วราวกับคนละที่กนั เลย”
ฉินหวยเหริ นกล่าว

เขาซื้ อนาฬิกาเหล่านี้ มาจากทางใต้ เงินที่ได้จากการออกรถ


ในครั้งนี้ยงั ได้รายได้พิเศษด้วย จึงทุ่มเงินก้อนนี้ไปกับนาฬิกา
เหล่านี้เป็ นธรรมดา

“น้องหก เรื อนนี้ ฉันให้นาย” ฉิ นหวยเหริ นเลือกนาฬิกาที่ดู


หรู หราขึ้นมาหนึ่งเรื อน ก่อนจะมอบให้กบั จ้าวเหวินเทา

จ้าวเหวินเทารี บส่ ายหน้า “ได้ไงล่ะครับ ผมจะรับของมี ค่า


ขนาดนี้จากพี่เขยได้ยงั ไง?”

“ฉันได้มาในราคานาเข้า 40 หยวน” ฉิ นหวยเหริ นกล่าวด้วย


รอยยิม้
“ราคาน าเข้า แค่ 40 หยวน?!” พี่ ส าวห้า จ้าวเบิ กตาโต ขณะ
กล่าวด้วยความตกใจ

นี่ไม่ได้หมายความว่าเงินจานวน 40 หยวนน้อย อันที่จริ งเงิน


จานวน 40 หยวนเป็ นเงินเดือนของหนึ่งครอบครัวได้เลย แต่
ทางฝั่ งพวกหล่ อนนั้น ต่ อให้นาฬิ กาแบบนี้ มีราคาเรื อนละ
100 หยวนก็ย งั มี ค นมาแย่ง ทั้ง ยัง ต้อ งมี คู ป องแลกเปลี่ ยน
เงินตราต่างประเทศด้วย ไม่เช่นนั้นก็คงไม่มีปัญญาซื้อ

คิดไม่ถึงเลยว่า ของชิ้นนี้มีราคานาเข้าแค่ 40 หยวน?

“ใช่ ของพวกนี้ ก็ราคาพอ ๆ กัน ฉันเอากลับมาทั้งหมดเลย”


ฉิ นหวยเหริ นพยักหน้ากล่าว จากนั้นจึ งมองไปยังน้องชาย
ของภรรยาและกล่ า วว่ า “น้อ งหก ตอนนี้ การพัฒ นาของ
ภาคใต้ล้ าจินตนาการของนายไปไกลแล้ว พวกเราทางฝั่งนี้
พัฒนาช้าไปหน่ อย แต่ในเมืองก็น่าจะมีเอกสารมาเร็ ว ๆ นี้
แหละ ระบบสัญญาก็น่าจะมาเร็ ว ๆ นี้ ถึงตอนนั้นนายคิดจะ
ทาอะไร?”

“ผม…ผมอยากเลี้ยงกระต่าย?” จ้าวเหวินเทากล่าว

ฉิ นหวยเหริ นพยักหน้ากล่าวว่า “อันนี้ ก็ดีนะ กระต่ายโตเร็ ว


แถมยังมีแต่เนื้ อทั้งนั้น ถึงตอนนั้นก็ไม่ตอ้ งกลัวว่าจะขายไม่
ออกแล้ว แต่ถา้ นายต้องการทาแบบนี้โดยเฉพาะ ก็ตอ้ งไปซื้ อ
หนังสื อเกี่ยวกับการเพาะพันธุ์มาสักหน่อย ตอนนี้ทุกคนต่าง
สนใจเกี่ยวกับการเลี้ยงแบบวิทยาศาสตร์ กนั แล้ว เลี้ยงแบบ
เราก็ไม่แย่นะ แต่พวกมันจะเป็ นโรคง่าย ข้อห้ามที่สาคัญที่สุด
คือการเจ็บป่ วย ถ้าหนึ่งตัวป่ วยมันก็จะติดกันหมด”

จ้าวเหวินเทารู ้สึกว่าที่เขาพูดมานั้นมีเหตุผลเป็ นอย่างยิ่ง จึง


พยักหน้ากล่าวว่า “งั้นถึงเวลาผมจะไปถามพี่สามของภรรยา
ของผมดู ภรรยาของเขาเป็ นปั ญญาชน แถมยังอยู่ฝั่ง เมื อ ง
หลวงทางนูน้ ด้วย”
ฉิ น หวยเหริ นประหลาดใจเป็ นอย่ า งมาก เขากล่ า วว่ า
“ปัญญาชน?”

“ใช่ เป็นปั ญญาชน แต่พี่สามของภรรยาผมก็ไม่ได้ถูกทิ้งนะ


ก่อนหน้านี้ไม่นานก็เพิ่งเขียนจดหมายกลับมา บอกว่าสิ้ นปี นี้
จะกลับมาฉลองปี ใหม่ดว้ ย” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้

ฉินหวยเหริ นไม่กล่าวอะไร เขาปรับนาฬิกาเสร็จแล้ว จากนั้น


ก็ยนื่ ให้กบั จ้าวเหวินเทา

อีกฝ่ ายต้องการมอบให้เขาจริ ง ๆ ถ้าเขายังปฏิเสธอีกครั้งก็จะ


กลายเป็ นความหน้าซื่ อใจคดแทน จ้าวเหวินเทากล่ าวด้วย
รอยยิม้ “งั้นผมไม่เกรงใจพี่เขยห้าแล้วนะครับ”

“เกรงใจอะไรกัน” ฉินหวยเหริ นยิม้


จ้า วเหวิ น เทารั บ ไป เขาชอบจนวางไม่ ล งเลย เขาอยากมี
นาฬิกาสักเรื อนมานานหลายปี แล้ว แต่ราคาแพงเกินไป เขา
จะมีปัญญาซื้อได้อย่างไรกัน?

ไม่คิดว่าสามีของพี่สาวห้าจะใจกว้างขนาดนี้ ถึงกับให้นาฬิกา
กับเขาหนึ่งเรื อนเลย

เพราะนาฬิ กาเรื อนนี้ ทาให้สายตาที่ พี่สาวห้าจ้าวมองสามี


ของตัวเองดูอ่อนโยนขึ้น ฉิ นหวยเหริ นย่อมได้รับประโยชน์
อย่างมาก

จ้า วเหวิ น เทาอยู่ต่ อ สั ก พัก หนึ่ งก็ ข อตัว กลับ เขาไม่ อ ยาก
รบกวนพี่สาวห้าและพี่เขยของพี่สาวห้าให้มากเกินไป

พี่ ส าวห้า จ้า วส่ ง น้อ งชายเสร็ จ ก็หัน กลับ มาถามสามี ข อง


ตัวเอง “คุ ณมี เงิ นทุ นเยอะขนาดนั้นตั้งแต่ เมื่ อไหร่ คะ? นับ
รวมกับนาฬิกาของเจ้าหก ก็มีนาฬิกาทั้งหมด 23 เรื อนเลยนะ
ต่ อ ให้ห นึ่ ง เรื อ นราคาน าเข้า 30 หยวนรวมกัน ก็เ กื อ บ 700
หยวนแล้ว คุณไปเอาเงินมาจากไหน?”

“ภรรยา ผมไม่ได้ซ่อนบ้านลับอะไรไว้หรอกนะ ของพวกนี้


ผมได้ม าจากข้า งนอกทั้ง นั้นแหละ รอบนี้ ผมเอาคู ปองที วี
หนึ่ ง ใบไปแลกกับ คนอื่ น มา พอขายออกไปก็ เ ลยได้เ งิ น
กลับมา ถึ งมี เงิ นทุ นมาซื้ อนาฬิ กาพวกนี้ ไง” ฉิ นหวยเหริ น
กล่าว

พี่สาวห้าจ้าวจ้องเขาสักพัก เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ร้อนตัวจึงเกิด
ความพึ ง พอใจ จากนั้น ก็ ไ ด้ถ ามว่ า จะขายนาฬิ ก าเหล่ า นี้
อย่างไร?

พี่สาวห้าจ้าวมีความสุ ขมาก

นาฬิกาแบบนี้ถา้ ไม่ตอ้ งการคูปองก็จะถูกขายออกไปได้อย่าง


ง่ายดาย แต่พวกเขาไม่มีช่องทางน่ะสิ
“เรื่ องนี้มนั จะไปยากอะไร เอาไปขายในห้างสรรพสิ นค้า ขาย
ออกไปหนึ่ งเรื อนก็เจี ยดเงิ นให้เขาสักห้าหยวนสิ บหยวน”
ฉินหวยเหริ นกล่าว

พี่สาวห้าจ้าวรู ้สึกว่าไม่เลวจึงกล่าวด้วยรอยยิม้ “งั้นก็ได้ค่ะ


ฉันจะไปคุยกับเขา”

ใคร ๆ ก็เต็มใจที่จะหารายได้พิเศษกันทั้งนั้น ตอนที่แอบขาย


ก็ไม่ใช่เรื่ องยากอะไร

พี่สาวห้าจ้าวเข้ามาคุยกับชายหนุ่มที่เคาน์เตอร์ ชายหนุ่มคนนี้
ก็กาลังจะแต่งงาน ย่อมต้องการหารายได้เสริ ม แต่เงินแค่ 5
หยวนเขาไม่ทา สุ ดท้ายจึงจบลงที่ราคา 8 หยวน

ขายออกหนึ่งเรื อนต้องการ 8 หยวน


วิธีพูดนั้นง่ายมาก ถ้ามีแขกมาซื้ อหรื อดูนาฬิกา เขาก็จะลอง
แนะนาดูบอกว่าเป็ นนาฬิกาของญาติที่เพิ่งซื้ อมา แต่ทางบ้าน
ต้องการใช้เงินด่วนจึงอยากนามาแลก โดยไม่ตอ้ งใช้คูปอง

รู ปแบบทันสมัย ของใหม่เอี่ยมจากเซี่ ยงไฮ้ แถมยังไม่ตอ้ งใช้


คูปองอีก ราคาใกล้เคียงกับเคาน์เตอร์อื่น ๆ ย่อมมีคนต้องการ
ซื้ออยูแ่ ล้ว

นาฬิกาเหล่านี้จึงขายออกได้ไม่ยาก

ราคาที่ ปล่ อยออกไปต่ า ที่ สุ ดก็ทากาไรได้แ บบครึ่ งต่ อ ครึ่ ง


ส่ วนที่ทากาไรได้มากก็สูงถึง 60-70%

ระหว่างที่จา้ วเหวินเทาขี่จกั รยานกลับบ้าน เขาก็คานวณบัญชี


ของพี่เขยห้าไปพลาง ๆ

ตอนที่ ยงั ไม่ คานวณเขาก็ไม่ รู้หรอก แต่ พอได้มาคานวณดู


แล้วเขาถึงกับตกใจเป็ นอย่างมาก สามีของพี่สาวห้าจ้าวไป
กลับหนึ่ งรอบทาเงินได้มากขนาดไหนกัน? นี่ มนั หลายร้อย
หยวนเลยนะ!

คนอื่น ๆ หนึ่งปี ได้เงินไม่ถึงกี่ร้อยหยวนเลยด้วยซ้ า แต่พี่เขย


ห้าของเขาไปกลับหนึ่งรอบก็ได้เงินมากมายขนาดนี้แล้ว

จ้าวเหวินเทาที่ จากเดิ ม ดี อ กดี ใ จเพราะวัน นี้ ได้เ งิ น มา 2.30


หยวน รู ้สึกราวกับถูกน้ าเย็นเทลงมาหนึ่งถังก็ไม่ปาน

เศร้าสุ ด ๆ เลย

ดั ง นั้ นนาฬิ ก าที่ เ ขาได้ ม าหนึ่ งเรื อนก็ ไ ม่ ไ ด้ ท าให้ เ ขามี


ความสุ ขเท่ าไรนัก หลังจากกลับมาถึ งบ้าน สี หน้าของเขา
ย่อมดูไม่มีความสุ ข จอดจักรยานเสร็ จแล้วเขาก็เดินตรงกลับ
เข้าห้องนอน

“เกิดอะไรขึ้น? ทาไมหน้าบึ้งขนาดนั้น?” พี่สะใภ้รองจ้าวมี


ท่าทางตกใจขณะพึมพา
พี่สะใภ้สามจ้าวเองก็งุนงง กล่าวว่า “คงไม่ใช่ เพราะถัว่ งอก
ขายไม่ดีหรอกมั้ง?”

“มันก็แค่ถวั่ งอก ไม่ใช่ ของหายากอะไร ขายไม่ดีก็เป็นเรื่ อง


ปกติอยู่แล้ว” พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าว ทั้งยังแอบรู ้สึกสบายใจ
มากยิง่ ขึ้นด้วย

พี่สะใภ้สี่จา้ วที่กาลังเก็บถัว่ ที่ตากแดดแล้ว กล่าวกับซานหยา


ว่า “ไปบ้านป้าซงจือแล้วไปเรี ยกอาสะใภ้หกกลับมา”

เย่ฉูฉู่เองก็กลับมาแล้ว

พี่สะใภ้สี่จึงกล่าวว่า “น้องสามีหกไม่รู้เป็นอะไร เขาอารมณ์


ไม่ดีเลย ฉันเห็นเขาเอากระสอบกลับมาด้วย ถัว่ งอกน่าจะขาย
ดีไม่ใช่เหรอ?”

“ฉันกลับห้องก่อนนะคะ” เย่ฉูฉู่กล่าว
พี่สะใภ้สี่พยักหน้าพลางกล่าว “ถ้าขายไม่ดีก็ปลูกให้ดี ๆ จะ
ได้ไม่ขาดของกิน” หล่อนเห็นน้องสามีกลับมาด้วยสภาพนี้
ในใจของหล่อนก็รู้สึกดีมากเช่นกัน

เย่ฉูฉู่กลับมาที่ห้องแล้ว จ้าวเหวินเทายังไม่นอน เมื่อได้ยิน


เสี ยงจึงแอบแง้มดูนิดหน่อย เมื่อเห็นว่าภรรยาของเขากลับมา
ก็ยงิ่ เศร้าใจเข้าไปใหญ่

“เกิดอะไรขึ้น?” เย่ฉูฉู่ถามด้วยรอยยิม้ “ขายไม่ดีเหรอคะ?”

“เปล่าหรอก ถัว่ งอกขายออกจนหมดเกลี้ยงเลย แค่แป๊ บเดียว


ก็ขายออกจนหมดเกลี้ยงแล้ว” จ้าวเหวินเทากล่าว

“งั้นก็แปลว่าเงินถูกปล้นเหรอ?” เย่ฉูฉู่ถามอีกครั้ง

“ภรรยา ทาไมคุณถึงปากเสี ยแบบนี้เนี่ย?” จ้าวเหวินเทากล่าว

“งั้นคุณก็บอกฉันสิ ว่าเป็นอะไร คุณให้ฉันเดาฉันก็เดาไม่ถูก


หรอกค่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้
ตอนที่ 49 คาปลอบโยนจากภรรยา

จ้าวเหวินเทาเล่ าเรื่ องของพี่เขยห้าอย่างหดหู่ “เขาเดิ นทาง


เที่ยวหนึ่ งก็ได้เงินมาหลายร้อยหยวนแล้ว ในหนึ่ งปี พวกเรา
คงหาเงินขนาดนั้นไม่ได้หรอก”

เย่ฉูฉู่เข้าใจแล้ว ที่แท้เขาก็โดนโจมตีทางจิตใจมานี่ เอง เธอ


มองสามี พ ลางกล่ า วว่ า “เหวิ น เทา อย่า บอกนะคะว่ า คุ ณ
อิจฉา?”

“ไม่มีทาง นัน่ พี่เขยของผมนะ เขาปฏิบตั ิกบั ผมดีออกขนาดนี้


เห็นเขาทาเงินได้มากผมก็ยอ่ มดีใจ จากนี้ไปพี่สาวห้าของผม
จะได้มีอนาคตสดใส แล้วที่บา้ นคงไม่ตอ้ งกังวลในเรื่ องของ
หล่อนอีก ผมก็แค่…แค่รู้สึกแย่นิดหน่อยเท่านั้นเอง!” จ้าวเห
วินเทาใช้แขนทั้งสองข้างหนุ นศีรษะ มองดู แสงไฟในห้อง
พลางถอนหายใจ “ว่ากันว่าของเปรี ยบเทียบกันต้องมีถูกทิ้ง
คนเปรี ย บเที ย บกัน ต้อ งตายไปข้า ง* ในที่ สุ ด ผมก็ เ ข้า ใจ
ความหมายของมันแล้ว”

*คนเราต้ อ งพึ ง พอใจในสิ่ งที่ ต นมี ไม่ ส ามารถน ามา


เปรี ยบเทียบกันได้

เย่ฉูฉู่ยมิ้ “ถ้าคุณพูดแบบนี้ บนโลกนี้ ก็เหลือแค่ไม่กี่คนแล้ว


มั้งคะ ไม่ตอ้ งพูดถึงที่อื่นหรอก ดูหมู่บา้ นเราสิ พวกที่ไม่ได้มี
ชีวิตแบบคุณก็ไม่ตอ้ งมีชีวิตอยูก่ นั แล้วน่ะสิ คะ? ดูคุณสิ โตมา
หล่อขนาดนี้ ทั้งยังมีความสามารถ ขึ้นเขาหนึ่ งรอบได้ของ
กลับมาตั้งเยอะแยะ ในขณะที่พวกเขาเอาแต่พูดเรื่ องสัปดน
กันในช่วงอากาศหนาว ๆ แบบนี้ คุณกลับแอบออกไปหาเงิน
อย่างนี้พวกเขายังจะมีชีวติ ต่อไปได้อีกเหรอคะ?”
จ้าวเหวินเทารู ้สึกดี ข้ ึนมาก เขามองภรรยาของตัวเองพลาง
กล่าวขึ้น “ภรรยา พูดอีกได้ไหมครับ?”

เย่ฉูฉู่ย่อมต้องการให้กาลังใจสามีของตนอยู่แล้ว เธอจึงพูด
ให้สามีเกิดความมัน่ ใจ “ถึงอย่างไรในสายตาของฉัน สามี
ของฉันก็ดีทุกอย่าง เหวินเทา พวกเราใช้ชีวิตของพวกเราก็
พอแล้วนะคะ ไม่ตอ้ งไปเทียบกับคนอื่น ไม่ว่ายังไงฉันก็เชื่ อ
คุณ เชื่ อว่าคุณสามารถทาให้ฉันมีชีวิตที่ดีได้ เชื่ อว่าคุณจะมี
อนาคตที่ สดใส ทาให้ฉันมี เกี ยรติ ที่ได้แต่ งงานกับคุ ณและ
เป็ นภรรยาของคุณ!”

จ้าวเหวินเทาเริ่ มมีความกระตือรื อร้นขึ้นมา เขาเอื้อมมือไป


กอดภรรยาไว้ใ นอ้อ มแขน จากนั้ นก็ ก ล่ า วอย่ า งจริ งจัง
“ภรรยา คุณวางใจได้เลย ผมจะทาให้คุณมีชีวติ ที่ดีเอง!”

เย่ฉูฉู่ใจอ่อนระทวย แม้ว่าชาติที่แล้วคือชาติที่แล้ว แต่ความ


ไว้วางใจของนางที่มีต่อเขาไม่ว่าจะเป็ นชาติที่แล้วหรื อชาติน้ ี
ก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย ดังนั้นนางจึงกล่าวอย่างนุ่มนวล “เหวิน
เทา ขอแค่ฉนั ได้อยูก่ บั คุณ ตราบใดที่อยูด่ ว้ ยกัน ไม่ว่าจะเป็ น
วัน ไหนก็เ ป็ นวัน ที่ ดี ต่ อ ให้ท้ ัง สามมื้ อ ได้ดื่ ม แค่ น้ า ต้ม สุ ก
หัวใจของฉันก็ยงั รู ้สึกอบอุ่นอยู่ดี หัวใจของฉัน คุ ณรู ้สึกถึง
มันไหมคะ?”

จ้าวเหวินเทาไม่คิดว่าภรรยาจะกล่าวแบบนี้ คาบอกรักแสน
หวานที่น่าฟั งนี้ทาให้ในใจของเขาเกิดความร้อนรุ่ ม ร่ างกาย
ของเขาก็ร้อนรุ่ ม เขาคร่ อมร่ างของภรรยาไว้ในทันที จ้องมอง
ใบหน้าของภรรยาที่ท้ งั ขาวอมชมพูและนุ่ มนิ่มด้วยดวงตาที่
ร้อนผ่าว กล่าวว่า “ภรรยา ผมชักจะเกิดความอยากแล้วสิ มา
สักรอบไหมครับ?”

เขาอยากจะทาเรื่ องนั้นกับภรรยาของเขาจริ งๆ
เย่ฉูฉู่เกิดความเขินอาย แต่ขา้ งนอกยังมีคนอื่นอยูด่ ว้ ย เธอจึง
รี บผลักเขาออกไปพลางกล่าวว่า “กลางวันแสก ๆ คุ ณอย่า
วุน่ วายสิ คะ”

จ้าวเหวินเทามองไปยังท้องฟ้ าที่ยงั สว่างอยู่ แล้วก็แอบรู ้สึก


เสี ยดาย

“ถ้าพวกเรามี บา้ นเป็ นของตัวเอง ต่ อให้ฟ้ายังสว่างอยู่ก็ทา


ได้!” เขาจูบภรรยาพลางกล่าวออกมา

คาพูดหยาบโลนแบบนี้ ทาให้ร่างกายของเย่ฉูฉู่อ่อนยวบ เธอ


จ้องมองเขาด้วยความขุ่นเคื อง ชาติ ที่แล้วเขาช่ างอ่ อนโยน
และสง่างาม มาชาติน้ ีทาไมถึงกลายเป็ นแบบนี้ไปได้? แต่เธอ
ก็ช อบท่ า ทางที่ คิ ด อยากครอบครองของเขาในตอนนี้ นัก
ท่าทางของเขาเมื่อชาติที่แล้วดูราวกับเมฆบนขอบฟ้ า มักทา
ให้เธอรู ้สึกว่าไกลเกินเอื้อมอยูเ่ สมอ
จ้าวเหวินเทามองดูสายตาที่เต็มไปด้วยความรักของภรรยาที่
มีต่อตัวเอง เขาบรรจงจูบหนึ่ งครั้ง ก่อนจะถอนหายใจกล่าว
ว่า “ภรรยา คุณอย่ามองผมแบบนี้อีกนะ ไม่ง้ นั ผมจะไม่รอให้
ถึงตอนกลางคืนแล้ว!”

“คุณพอได้แล้วค่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าวอย่างแง่งอน

จ้าวเหวินเทาไม่กล้าทาอะไรมากไปกว่านี้ เพราะกลัวว่าจะ
ทนไม่ไหว ภรรยาของเขาในตอนนี้ สามารถพรากวิญญาณ
ของเขาได้จ ริ ง ๆ แต่ เ ขาก็ไ ม่ ส ามารถท าเรื่ อ งนั้น ในตอน
กลางวัน แสก ๆ แบบนี้ ได้ ท้า ยที่ สุ ด แล้ว ก็ย งั อาศัย อยู่ก ับ
ครอบครัวใหญ่อยู่

คุณแม่จา้ วได้ยนิ จากพี่สะใภ้สี่จา้ วว่าสี หน้าของจ้าวเหวินเทา


ไม่สู้ดีนกั นางจึงคิดว่าการขายถัว่ งอกคงต้องเกิดเรื่ องอะไร
บางอย่างขึ้น เมื่อเทียบกับเรื่ องที่เกิดขึ้น การขายออกหรื อไม่
นั้นไม่ ใช่ เรื่ องสาคัญขนาดนั้น ถึ งอย่างไรนางก็เคยผ่านยุค
พิเศษนั้นมาแล้ว นางจึงรู ้สึกกลัวมาตั้งแต่แรก

เมื่ อมาสอบถามจึ งได้ท ราบว่าเป็ นเพราะจิ ตใจของลู ก ชาย


กาลังหดหู่ นางจึ งกล่ าวด้วยท่ า ทางโมโหระคนติ ด ตลกว่า
“เจ้าลูกชัว่ คนนี้ นี่ ทาให้แม่ตกใจแทบตาย คิดว่าจะเกิดเรื่ อง
อะไรขึ้ นกับแกซะแล้ว พี่เขยห้าทาอะไร? เที ยบกันได้ด้วย
เหรอ?!”

แม้ว่าเขาจะรู ้ว่าแม่ของเขาเป็นห่ วง แต่คาพูดนี้กท็ าให้จา้ วเห


วินเทาอารมณ์เสี ย “แม่ แม่พูดแบบนี้ ได้ยงั ไง? ผมมีอะไรที่
เทียบไม่ได้เหรอ ผมมีแขนน้อยกว่า มีหัวน้อยกว่าพี่เขยห้า
เหรอ? พี่เขยห้าแค่เห็นโลกมากกว่าผมนิ ดหน่ อยเอง แต่เรื่ อง
นี้ผมก็สามารถเติบโตได้ แม่ตอ้ งมัน่ ใจในตัวลูกชายของแม่รู้
ไหม? ”
อย่ามองว่าจ้าวเหวินเทาถูกภรรยาปลอบใจจนไม่ได้รู้สึกหด
หู่ แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมเป็นคนธรรมดาแบบ
นี้ แต่เขาเองก็ไม่รีบร้อน ด้วยการสนับสนุ นของภรรยาอัน
เป็ นที่รัก เขาสามารถค่อย ๆ เป็ นค่อย ๆ ไปได้ ถึงอย่างไรไม่
ว่าจะช้าหรื อเร็วเขาก็ประสบความสาเร็จอยูด่ ี!

“เจ้า เด็ก เหม็น นี่ ” คุ ณ แม่ เ หลื อ บมองลู ก ชายของนางอย่า ง


โมโห แม้ว่า นางจะดุ ด่ า ลู ก ชาย แต่ ใ นใจของนางกลับ พึ ง
พอใจ “แม่คนอื่นเขาก็ไม่สนใจลูก แต่แกจะทาเรื่ องโง่ ๆ ไม่
เป็ นจริ งเป็ นจังไม่ ได้นะเข้าใจไหม? นึ กถึ งพ่อกับแม่ ไว้ให้
มาก ๆ รวมถึงภรรยาที่เป็นดัง่ ดอกไม้และหยกของแกด้วย!”
คุณแม่จา้ วกล่าวพร้อมกับมองลูกชาย นางกังวลว่าถ้าลูกชาย
ของนางเลือกเดิ นทางผิด ก็คงไม่มีญาติมิตรคนไหนเข้าไป
กินข้าวเป็ นเพื่อนเขาในคุก
“แม่ แม่พูดไปถึงไหนแล้วเนี่ย ผมจะไปทาเรื่ องโง่ ๆ ได้ยงั ไง
กัน? คอยดูเถอะ อีกไม่กี่ปีข้างหน้า จ้าวเหวินเทาคนนี้ จะทา
ให้แม่กบั พ่อและภรรยาของผมมีความสุ ขให้ได้!” จ้าวเหวิ
นเทากล่าวอย่างมีชยั

“เรื่ องขี้ โม้ไม่ มีใครเอาชนะแกได้เลย” คุ ณแม่ จา้ วดุ ด่าด้วย


รอยยิม้ เจ้าเด็กคนนี้มกั จะร่ าเริ งแบบนี้ อยูเ่ สมอ ใครได้เห็นก็
ชอบเขากันทั้งนั้นแหละ!

คุณแม่จา้ วพูดคุยกับลูกชาย จากนั้นจึงเรี ยกเย่ฉูฉู่ออกมาข้าง


นอก นางคุ ย กับ ลู ก ชายหนึ่ ง รอบ แล้ว ก็คุ ย กับลู ก สะใภ้อีก
หนึ่งรอบ นางกระซิบว่า “ฉูฉู่ แม่วา่ เหวินเทาแอบเหลิงไปนิด
เธอก็ช่วยโน้มน้าวใจเขาสักหน่ อย อย่าให้เขาทาตัวซุ กซน
เกินไปล่ะ งานของพี่เขยห้าไม่ใช่ ว่าจะทาได้ง่าย ๆ เงินที่เขา
หามาก็ยากลาบาก สองปี ที่ผา่ นมากข้างนอกวุน่ วายมาก”
ต่อให้นางจะพอใจในความทะเยอทะยานของลูกชาย แต่คุณ
แม่จา้ วก็เคยได้ยินเรื่ องนี้ จากลูกสาวของนางมาก่อน แม้ว่า
ตอนนี้ จะไม่ เหมื อนกับเมื่ อก่ อนแล้ว แต่ ด้านนอกก็วุ่นวาย
มากจริ ง ๆ คนธรรมดาอย่า งพวกเขา สิ่ ง ส าคัญ คื อ ท าตัว
อนุรักษ์นิยมสักหน่อยก็ดี

เย่ฉูฉู่ไม่ได้รู้สึกอะไรหลังจากได้ยินความกังวลของแม่สามี
เธอจึงทาตัวเป็ นลูกสะใภ้ตวั น้อย กล่าวว่า “คุณแม่ เหวินเทามี
แผนในใจแล้ว ฉั น เชื่ อ เขาค่ ะ คุ ณ แม่ ก็ ต ้อ งเชื่ อ มั่น ในตัว
เหวินเทาสิ คะถึงจะถูก”

คุณแม่จา้ วไม่รู้ว่านี่เป็ นการปลอบใจหรื อจนปั ญญา ลูกสะใภ้


คนนี้ ที่ทาตามทุกอย่างที่สามีบอก คงไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว
นี่กเ็ ป็ นสิ่ งที่ทาให้นางพอใจมากที่สุด นางเองก็เข้าใจลูกชาย
ของนางดี นางจะวางใจได้อย่างไรกัน?
เย่ฉูฉู่เป็ นเด็กกตัญญู เมื่ อเห็ นแม่ สามี เป็ นกังวลจึ ง กล่ า วว่า
“คุณแม่ไม่ตอ้ งกังวล เหวินเทามีแผนอยูใ่ นใจแล้ว พวกเราแค่
สนับสนุ นเขาก็พอค่ะ ตอนนี้ ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้วนะ
แม่ลองปล่อยให้เขาได้ลองดูก่อน ถ้าไม่ได้เราก็ค่อยมาว่ากัน
เราต้องปล่อยให้เขาลองก่อนแล้วค่อยพูดไม่ใช่เหรอ?”

คุณแม่จา้ วไม่กล่าวอะไรอีก จึงบอกให้ลูกสะใภ้ดูแลเงินให้ดี


“ผูช้ ายเป็ นคราดดึงเงิน ส่ วนผูห้ ญิงเป็ นกระปุกเงิน ครอบครัว
จะมีชีวิตที่ดีหรื อไม่ อยู่ที่ผูห้ ญิงที่เป็นกระปุกเงินว่าดูแลเงิน
ได้ดีไหม ดังนั้นเธอไม่ตอ้ งสนใจเรื่ องอื่น แต่เงินนี้ จะปล่อย
ให้เขาใช้ตามอาเภอใจไม่ได้”

เย่ฉูฉู่บอกไม่ได้ว่าตัวเองเชื่ อฟั งเหวินเทา จึงทาได้เพียงพยัก


หน้าตอบกลับไป
ตอนที่ 50 อยากเป็ นครัวเรื อนหมื่นหยวน

คุณพ่อจ้าวได้ยินว่าลูกชายขายถัว่ งอกมาแล้วมีสีหน้าไม่ สู้ดี


จึงรู ้สึกกังวลเล็กน้อย เมื่อภรรยากลับมาจึงถามไถ่ ในที่สุดก็
ทราบว่าที่แท้เรื่ องมันก็เป็ นแบบนี้นี่เอง เขาไม่ได้กงั วลเท่ากับ
ภรรยา จึ ง กล่ า วว่ า “คุ ณ ก็อ ย่า เข้า ไปยุ่ง เลย ลู ก โตจนเป็ น
หัวหน้าครอบครัวแล้ว ปล่อยเขาไปเถอะ”

เมื่อคิดถึงความฝันตอนที่คลอดลูกชายในปี นั้น และมองดูลูก


ชายของตัวเองในปัจจุบนั ไม่แน่ตระกูลจ้าวของเขาอาจจะมีผู ้
มีความสามารถออกมาอีกหนึ่งคนจริ ง ๆ ก็ได้!

ยามคุณพ่อจ้าวนึกถึงท่าทางที่ร่าเริ งของลูกชาย เขาก็อดยิม้ มุม


ปากไม่ได้
ลูกชายคนเล็กเป็นกล่องดวงใจของพ่อแม่ คาพูดนี้ ไม่ผิดเลย
หากลูกชายคนเล็กมีอนาคต คนเป็ นพ่อย่อมมีความสุ ขที่สุด

คุ ณ แม่ จ ้า วเห็ น คุ ณ พ่ อ จ้า วเป็ นแบบนี้ ก็ก ลอกตาใส่ เ ขา “ดู


ท่ า ทางมี ค วามสุ ข ของคุ ณ สิ ไม่ ก ัง วลว่ า เขาจะเผชิ ญ กับ
อันตรายภายนอกเลย!”

คุณพ่อจ้าวโบกมือ “ต่อให้มีอนั ตรายแล้วจะยังไงล่ะ ลูกชาย


ของคุ ณ เป็ นยัง ไงยัง ไม่ รู้ อี ก เหรอ เขามัก จะเปลี่ ย นร้ า ยให้
กลายเป็ นดี อยู่เสมอ หนุ่ มสาวได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่
เยอะ ๆ ก็ไม่ใช่เรื่ องเลวร้ายอะไร คุณอย่ากังวลไปเลย แต่เรื่ อง
ของหวยเหริ นคุ ณก็ปิดปากให้สนิ ทล่ ะ พูดออกไปคาเดี ยว
อาจจะรั่วไหลออกไปหมด เข้าใจไหม!”

คุณแม่จา้ วมัวแต่คิดเกี่ยวกับลูกชาย จนละเลยลูกเขยไป พูด


ถึงขึ้นมาเช่นนี้กต็ ระหนักขึ้นได้ นางจึงถอนหายใจ “นัน่ สิ นะ
คะ คิดไม่ถึงเลยจริ ง ๆ ว่าการขับรถจะได้เงินมากขนาดนี้”
“ขับรถไม่ได้เงินหรอก มันเป็ นการออกไปหาเงินข้างนอก
ต่างหากล่ะ เขาออกไปวิ่ ง รถข้ า งนอกบ่อย ๆ ก็ ไ ด้
ประสบการณ์เยอะขึ้น ไม่เหมือนกับพวกเราที่ถูกฝังตายอยู่
ในหม้อ จะไปเข้าใจอะไร? ตอนนี้ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว
พวกเขาต้องไปได้ดีกว่าพวกเราแน่ นอน” คุ ณพ่อจ้าวกล่าว
ด้วยท่าทางสบาย ๆ

คุ ณแม่จา้ วถอนหายใจ เด็ก ๆ ต่างเติบใหญ่กนั หมดแล้ว ไม่


ต้องให้นางมากังวลอีกต่อไปแล้วสิ นะ

กลับมาทางฝั่งจ้าวเหวินเทา หลังจากถูกพี่เขยห้ากระตุน้ และ


ได้รับการปลอบโยนจากภรรยา พลังงานในร่ างกายของเขา
จึงกลับมาเต็มเปี่ ยมอีกครั้ง เขาออกมาดูไก่และกระต่ายที่เลี้ยง
ไว้ ในใจกาลังคิดหาวิธีว่าจะขยายกิจการของตัวเองอย่างไร
และพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายของตัวเองโดยเร็วที่สุด
พี่สะใภ้สี่จา้ วกังวลว่าน้องสามีหกยังอารมณ์ไม่ดีอยู่ จึงเข้ามา
คุ ย ปากก็พ ร่ า บอกถึ ง ความเป็ นห่ ว งเป็ นใย “เหวิน เทา ถ้า
ถัว่ งอกขายไม่ดีกไ็ ม่ตอ้ งขายแล้ว ก็เห็น ๆ อยูว่ า่ ตอนนี้อากาศ
หนาวแล้ว ยังจะทาซ้ า ๆ อีกทาไม อย่าทาร้ายร่ างกายตัวเอง
ซ้ า ๆ เลย”

มีหรื อที่จา้ วเหวินเทาจะไม่รู้จกั นิสัยของพี่สะใภ้สี่? หล่อนมา


เพื่อหัวเราะเยาะเขาต่ างหากล่ ะ เขาจึ งกล่ าวด้วยรอยยิ้ม ว่า
“พี่สะใภ้สี่ พี่ไปได้ยินมาจากไหน? ทาไมถัว่ งอกของผมจะ
ขายไม่ดีล่ะครับ?”

“ขายดีเหรอ?” พี่สะใภ้สี่จา้ วตกใจ

“แหงสิ ถัว่ งอกของผมเป็ นที่นิยมมากเลยนะครับ พี่ดูสิ อีกไม่


นาน ผมก็จะเป็ นเหมือนกับในหนังสื อพิมพ์แล้ว ขายถัว่ งอก
จนกลายเป็ นครั วเรื อนหมื่ นหยวนยังไงล่ ะ!” จ้าวเหวินเทา
ตอกกลับไฟแลบ
พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วมี ท่ า ทางประหลาดใจในตอนแรก จากนั้น
หล่อนก็เกือบจะหลุดหัวเราะออกมา ด้วยรู ้ดีว่าน้องสามีคนนี้
กาลังคุ ยโว ฝี ปากของทั้งครอบครัวรวมกันยังไม่เท่าเขาเลย
แต่การคุยโวโอ้อวดครั้งนี้ดูจะยิง่ ใหญ่ไปหน่อย!

หล่อนจึงกลับไปคุ ยกับพี่สี่จา้ วด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “คุ ณฟั ง


คาพูดของเหวินเทาสิ เขาขายถัว่ งอกทองคาหรื อไงถึงคิดจะ
เป็ นครัวเรื อนหมื่นหยวน? แม่เจ้า เหวินเทาก่อนหน้านี้ไม่เป็ น
แบบนี้ เลย มากสุ ดก็เป็ นคนขี้เกียจไปนิ ดโลภมากไปหน่ อย
ตอนนี้ทาไมเป็ นแบบนี้ไปแล้ว? นี่คงไม่ใช่วา่ ถูกกระตุน้ อย่าง
หนักหรอกสิ นะ? นี่ ถา้ หากเกิดปั ญหาอะไรขึ้นมา เฮ้อ ฉู ฉู่นี่
น่าสงสารจัง น่าเห็นใจจริ ง ๆ!”

“แต่ผมไม่เห็นว่าคุณจะเห็นอกเห็นใจครอบครัวของเจ้าหก
เลย ผมว่าคุณกาลังมีความสุ ขมากต่างหากล่ะ” พี่สี่จา้ วเหลือบ
มองหล่อน
พี่สะใภ้สี่จา้ วถลึงตามอง ปากก็ยงั ไม่ยอมรับ “ฉันมีความสุ ข
ตรงไหน ตาของคุ ณเป็ นอะไรไปแล้ว ? พอแล้ว ๆ…พูดกับ
คุณไปก็เปล่าประโยชน์!”

ทางด้านพี่สะใภ้รองจ้าวก็กาลังคุยกับพี่รองจ้าวเรื่ องการคุยโว
โอ้อวดของจ้าวเหวินเทาในครั้งนี้

“คุ ณ บอกหน่ อ ยสิ ค ะว่า มัน เกิ ด อะไรขึ้ นกับเหวิน เทา ก่ อ น


หน้านี้ ไม่เคยเป็นแบบนี้ มาก่อน หลังจากเข้าเมืองไม่กี่ครั้งก็
พูดจาแบบนี้ แล้ว?” พี่สะใภ้รองจ้าวกล่ าวด้วยน้ าเสี ยงเศร้า
สร้อย แต่ในใจกลับรู ้สึกสบายใจเป็ นอย่างยิง่

โดยเฉพาะเมื่อนึ กถึงตอนที่ท้ งั สองคนกินแป้ งจี่ไข่และยังมี


ขนมแป้ งทอด จึ งรู ้ สึกโล่ งใจเป็ นอย่างมาก ครอบครั วของ
หล่อนใช้น้ ามันแค่ไม่กี่หยดเพื่อเคลือบกระทะตอนทาอาหาร
เท่านั้น แต่หนุ่มสาวคู่น้ ีกลับทาขนมแป้งทอด!
แต่ในฐานะที่หล่อนเป็ นพี่สะใภ้คนโต เป็ นลูกสะใภ้คนโต
ของตระกูลจ้าว จะให้คนอื่นมองออกไม่ได้ โดยเฉพาะสามี
ของตัวเอง

พี่ ร องจ้า วเป็ นคนใจดี ทั้ง ยัง เป็ นพี่ ค นโต เมื่ อ ได้ยิน เรื่ องที่
พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าวจึงถอนหายใจ “เจ้าหกยังเป็ นวัยรุ่ น ไม่รู้
เรื่ องรู ้ราว คงได้รับผลกระทบจากพวกอันธพาลในเมืองแน่
ๆ ไม่ได้การล่ะ ผมต้องไปคุยกับเขาหน่อย!”

พี่สะใภ้รองจ้าวนึ กโมโหอยู่ในใจ แต่ภายนอกกลับกล่าวว่า


“เขาจะฟั งเหรอคะ? ถ้าเขาฟั งคงไม่ เป็ นแบบนี้ หรอก น้อง
สามีหกเขายึดความคิดของตนเองเป็ นใหญ่! ฉันว่าอากาศก็
เริ่ ม หนาวแล้ว ตอนที่ หิ ม ะตกลงมาเขาก็ไ ม่ ส ามารถออก
เดิ นทางได้แล้ว เมื่อฤดู หนาวมาถึงเขาก็ไม่สามารถออกไป
ท าซ้ า ๆ ซาก ๆ ได้แ ล้ว ขลุ ก ตัว อยู่ใ นบ้า นช่ ว งฤดู ห นาว
อาจจะทาให้นิสัยเปลี่ยนได้ คุ ณไม่ตอ้ งไปพูดหรอก ถ้าคุ ณ
ไปพูดกับเขาตอนนี้ จากนิ สัยของเขา เขาต้องทาสิ่ งตรงกัน
ข้า มแน่ ๆ นิ สั ย ของน้อ งสามี ห กเป็ นยัง ไงคุ ณ ยัง ไม่ รู้ อี ก
เหรอ!”

พี่รองจ้าวรู ้สึกว่าที่ภรรยาพูดก็มีเหตุผล เขาจึงเห็นด้วย

พี่สะใภ้รองจ้าวรู ้ สึกสบายใจมากขึ้ นเมื่ อเห็ นแบบนี้ จะไป


ช่ วยทาไม? ต้องให้เขาล้มแรง ๆ สักรอบสิ ให้เขารู ้ว่าการใช้
ชีวติ ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น!

จิตใจอันมืดมนของหล่อนถูกการมีชีวิตที่ดีของคู่สามีภรรยา
บ้านหกกระตุน้ อย่างสมบูรณ์ เป็ นตระกูลจ้าวเหมือนกันแท้ๆ
ทาไมถึงมีการใช้ชีวติ แตกต่างกันมากขนาดนี้?

โดยเฉพาะน้องสามีหกที่ไร้ความสามารถคนนี้!

พี่สามจ้าวก็กาลังคุยเรื่ องที่จา้ วเหวินเทาคุยโวโอ้อวดอย่างมี


ความสุ ขกับพี่สะใภ้สามจ้าว “ผมบอกคุ ณตั้งแต่แรกแล้วว่า
เขาก็ก่อกวนไปทัว่ นัน่ แหละ การใช้ชีวิตมันจะเจริ ญขึ้นอย่าง
ง่ ายดายขนาดนั้นได้ยงั ไง? ขายถัว่ งอกก็ทาให้ชีวิตดี ข้ ึนได้
แล้วเหรอ ถ้าเป็ นแบบนั้น ก็คงรวยกันหมดแล้วมั้ง? โถ่เอ้ย
ตอนนี้ยงั ไม่มีอะไรเลย ก็คุยโวโอ้อวดซะแล้ว ครัวเรื อนหมื่น
หยวน คุ ณ ฟั ง นะ สภาพแบบนั้น ยัง อยากจะเป็ นครั ว เรื อน
หมื่นหยวน ผมว่ายังไม่ทนั ได้เงินคงได้เป็ นบ้าเพราะคิดถึงแต่
เรื่ องเงินแล้วมั้ง! ”

พี่สะใภ้สามจ้าวมองพี่สามจ้าวและกล่าวอย่างดูถูก “คุณเป็ น
ผูช้ ายนะ บ่นงุบงิบ ๆ ทุกวี่ทุกวันเพื่ออะไรคะ? ถ้าไม่รู้ฉนั คง
คิดว่าคุณกาลังพูดเรื่ องตลกอะไรอยู่ เขาเป็ นใคร? เขาเป็ นอา
แท้ ๆ ของหม่าต้านนะ! เขาใช้ชีวิตลาบากคุณกลับทาหน้าดี
ใจขนาดนี้ แล้ว? ดู คุณสิ มีความสุ ขบนความทุกข์ของคนอื่น
ชัดๆ!”
พี่ ส ามจ้า วโกรธหน้า แดงควัน ออกหู จึ ง พู ด อย่ า งร าคาญ
“ทาไมผมต้องมาแต่งงานกับคนโง่แบบคุณด้วยก็ไม่รู้!”

พี่สะใภ้สามจ้าวก็พูดอย่างโกรธเคืองเช่ นกัน “ใครกันแน่ ที่


โง่ ? เป็ นเรื่ องยากที่ ตระกูลจ้าวของพวกเราจะมีคนออกไป
ข้างนอกสักคน ฉันว่าพวกคุณเองก็ไม่มีใครเห็นดีเห็นงามกัน
สักคน ทาไมเหรอ ตัวเองไม่ได้ใช้ชีวิตดี ๆ ก็เลยอยากให้คน
อื่ น ล าบากด้ว ยถึ ง จะพอใจงั้น เหรอ? ถ้า เหวิ น เทาประสบ
ความสาเร็ จในอนาคต มีเหรอที่เขาจะไม่เหลียวแลหม่าต้าน
สั ก หน่ อ ย? พวกคุ ณ แต่ ล ะคนต่ า งรอหัว เราะเยาะเขา ไม่ มี
อนาคตเลยสักนิด!”

พี่ จ ้า วสามหมุ น ตัว เดิ น “ผมไม่ ส นใจผูห้ ญิ ง โลกทัศ น์แคบ


อย่างคุณแล้ว!”
เรื่ องราวภายในหมู่บา้ นไม่สามารถปิ ดซ่อนได้ เรื่ องที่จา้ วเหวิ
นเทาบอกว่าจะขายถัว่ งอกจนกลายเป็ นครัวเรื อนหมื่นหยวน
ได้แพร่ งพรายออกไปทัว่ หมู่บา้ นอย่างรวดเร็ว

จะสิ้ นสุ ดฤดู ใบไม้ร่วงแล้ว ถึงเวลาเตรี ยมตัวเข้าสู่ ฤดู หนาว


ดังนั้นการทาผักกาดดองและผักดองจึ งกลายเป็ นสิ่ งสาคัญ
อันดับหนึ่งสาหรับผูห้ ญิงในหมู่บา้ น

พวกผูห้ ญิงชอบรวมตัวกัน พูดคุ ยไปพลางลงมือทางานไป


พลาง แบบนี้จึงไม่เหนื่อย

บ้านของภรรยาของเหล่าหวังสามในตอนนี้ มีโอ่งขนาดใหญ่
สองโอ่ งวางอยู่ที่ประตู บา้ น มี กระดานไม้หนึ่ งแผ่นวางอยู่
ด้านข้าง ด้านบนมีผกั กาดหลากหลายขนาดตากแดดอยู่ ทั้งยัง
มีผหู ้ ญิงอีกสี่ หา้ คนกาลังห้อมล้อมล้างโอ่งขนาดใหญ่
“ได้ยิน กัน หรื อ ยัง จ้า วเหวิ น เทาบอกว่ า จะพึ่ ง พาการขาย
ถัว่ งอกเพื่อเป็ นครั วเรื อนหมื่ นหยวนด้วยนะ!” ภรรยาของ
เหล่าหวังสามขยิบตากล่าว
ตอนที่ 51 ส่ งเสริมการเปิ ดร้ าน

“ไม่เคยได้ยินเรื่ องนี้ เลย ทุกคนรู ้กนั แล้วเหรอคะ?” ลูกสะใภ้


วัยรุ่ นคนหนึ่ งเอ่ยถามด้วยความสงสัย “พวกคุณคิดว่าการขาย
ถัว่ งอกนั้นได้กาไรจริ ง ๆ เหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นที่บา้ นฉันยังมี
ถัว่ อยู่ ฉันปลูกแล้วให้สามีเอาไปขายสักหน่อยดีไหม?”

ภรรยาของเหล่าหวังสามหัวเราะออกมาทันทีเมื่อได้ยิน “เธอ
เพิ่งจะแต่งงานได้ไม่นาน ยังไม่รู้ว่าเขาเป็ นคนยังไง เขาบอกว่า
ขายดีกเ็ ชื่อเขาแล้วเหรอ? มีความสุ ขชะมัดเลย”

“นัน่ น่ะสิ !” สะใภ้ที่มีอายุอีกคนกล่าว “จ้าวเหวินเทาคนนั้นเป็ น


หัวหน้าครอบครัวชอบกินแต่เกียจคร้านทาการทางาน ถ้าเขา
ไม่พูดแบบนี้ เขาจะเข้าเมืองได้ทุกวันเหรอ? ตอนนี้ ตอ้ งเตรี ยม
รับหน้าหนาวแล้ว ชีวติ นี้ไม่รู้วา่ จะอยูไ่ ด้นานแค่ไหน!”
“ไม่ใช่แค่น้ นั นะ ถัว่ งอกเป็ นของหายากขนาดนั้นเลยเหรอ? อีก
อย่าง ถ้าได้เงินมากขนาดนั้นยังจะเหลือมาถึงเขาอีกเหรอ? คน
อื่นเขาคงทาไปนานแล้ว”

“ถั่ว งอกไม่ กี่ ต ้น ก็ เ ป็ นครั ว เรื อ นหมื่ น หยวนได้แ ล้ว ต่ อ ให้


ถัว่ งอกนั้นทามาจากทองก็ไม่ได้มีค่าอะไรขนาดนั้น!”

“เฮ้อ น่าสงสารเย่ฉูฉู่โฉมงามผูม้ ีชื่อเสี ยงเลื่องลือเสี ยจริ ง ใครจะ


ไปคิดว่าต้องมาแต่งงานกับคนไม่ได้เรื่ องแบบนี้ ? หลังจากนี้ จะ
ใช้ชีวติ ยังไงเนี่ย” ภรรยาของเหล่าหวังสามแสร้งทาเป็ นเห็นใจ

“ผูช้ ายดี ๆ แต่งงานกับผูห้ ญิงไม่สวย ผูช้ ายไม่ดีได้แต่งงานกับ


ผูห้ ญิงสวย ๆ คาพูดนี้ ไม่ผิดเลย เย่ฉูฉู่คนนั้นก็หน้าตาสวยอยู่
นะ แต่ ชี วิ ต กลับ อาภัพ ไม่ ง้ ัน จะแต่ ง งานกับ คนแบบนี้ ได้
ยังไง?”

“ใช่แล้ว มันเป็ นโชคชะตา!”


พวกหล่อนพูดคุ ยกันอย่างสนุ กสนาน ไม่ได้สนใจเย่ฉูฉู่ที่อยู่
ด้านนอกประตูลานบ้านเลย

เย่ฉูฉู่หงุดหงิดเล็กน้อย นินทาเธอยังพอทน แต่ทาไมต้องนินทา


สามีของเธอด้วย? ประโยคนั้นที่พูดก็แค่พูดลอย ๆ ทาไมถึงมี
คนจานวนมากขนาดนี้ ที่เป็นกังวล เรื่ องนี้ มนั เกี่ยวกับพวกเขา
ตรงไหน?

ตอนแรกเธอตั้งใจจะมาช่วยทาผักดอง เพราะถึงอย่างไรทุกคน
ต่างก็เป็ นเพื่อนบ้านกันหมด แต่คนเหล่านี้มองสามีของเธอไม่
ดี จึงทาให้เธอหมดอารมณ์ ยังจะต้องช่ วยอะไรอีก ค่อย ๆ ทา
ไปไม่ตอ้ งรี บร้อน!

รอเหวินเทาของเธอประสบความสาเร็ จก่อนเถอะ ถึงตอนนั้น


พวกหล่อนได้อิจฉาตาร้อนแน่

เย่ฉูฉู่เบ้ปากก่อนจะหมุนตัวกลับบ้านไป
จ้าวเหวินเทาไม่ รู้ว่าภรรยาของตัว เองถู กคนอื่ นทาให้โ มโห
ตอนนี้เขาอยูใ่ นเมืองกาลังพูดคุยอยูก่ บั ชายหนุ่มที่ขายซาลาเปา

คนในบ้า นและในหมู่ บ ้า นจะพู ด อะไรเขาไม่ รู้ ถึ ง รู ้ เ ขาก็ไ ม่


สนใจ เขามีเวลาว่างที่ไหนกันล่ะ ตอนนี้เขายุง่ มาก!

“ช่วงเช้าวันนี้อากาศหนาวมาก ซาลาเปาเย็นไวมากเลยสิ นะ?”


จ้าวเหวินเทาถาม

ชายหนุ่มแซ่จงคนนี้ชื่อจงย่ง จ้าวเหวินเทารู ้สึกว่าชื่อนี้เป็ นชื่ อที่


ดี แค่ดูกร็ ู ้วา่ มีประโยชน์แล้ว!

“ใช่แล้ว ห่อแน่นกว่านี้กไ็ ม่มีประโยชน์” จงย่งทุกข์ใจเป็ นอย่าง


มาก “ตอนนี้กเ็ ลยไม่กล้าทาเยอะน่ะ ทาแค่จานวนน้อย ๆ แป๊ บ
เดียวก็ขายหมดแล้ว ถ้าทาเยอะ ๆ คงจะเย็นหมด คนอื่นเห็นก็
นึกว่าเสี ย!”
“อันที่จริ งเวลาแบบนี้ กินบะหมี่ร้อน ๆ สักถ้วยคงดีที่สุด มีท้ งั
น้ าทั้งเส้นบะหมี่ร้อน ๆ เลย” จ้าวเหวินเทากล่าวความคิดของ
เขาออกมา

จงย่ง มี ส ายตาที่ เ ฉี ย บแหลม เขารี บถามทัน ที ว่า “พี่ จ ้า ว พี่ มี


ความคิดอะไรเหรอ?”

เขารู ้วา่ พี่จา้ วเป็ นคนฉลาด ย่อมต้องเรี ยนรู ้จากเขา

“ฉันมีความคิดเยอะแยะเลยล่ะ แต่บา้ นฉันอยูไ่ กลจากที่นี่ นาย


อาศัยอยูใ่ นเมือง จะทาอะไรก็ง่ายไปหมด” จ้าวเหวินเทากล่าว
“ฉันว่านายทาเตาไว้สักเตาก็ดีนะ ไว้ทาแผงลอยลวกบะหมี่ ฉัน
มีเนื้ อแถมยังมีถวั่ งอก นายแค่ใส่ ตน้ หอม กระเทียม ขิง ผักชี
อะไรพวกนั้น ทาบะหมี่หมูสับ บอกเลยว่าต้องขายดี แน่ นอน
ไม่ได้เป็ นอุปสรรคในการขายซาลาเปาร้อน ๆ ของนายด้วย!”
จ้าวเหวินเทาย่อมไม่ใช่ ผูท้ ี่มีน้ าใจอันบริ สุทธิ์ อยู่แล้ว เขาและ
จงย่งไม่ใช่ ญาติกนั ไม่จาเป็นต้องให้คาแนะนาก็จริ ง แต่ก็อย่า
ให้คนอื่นคิดว่าเขามีเจตนาไม่ดี

เหตุ ผ ลที่ เ ขาบอกออกไปแบบนี้ ก็เ ป็ นการหาลู ก ค้า ประจ า


สาหรับซื้อถัว่ งอกของเขาเท่านั้นแหละ

อัน ที่ จ ริ งสามารถขายให้ ก ับ ร้ า นอาหารได้ ตัว อย่ า งเช่ น


ร้านอาหารของรัฐ ที่ปัจจุบนั ยังดาเนินธุรกิจอยู่

แต่เขาไม่มีเส้นสาย ยิง่ ไปกว่านั้นเขาก็ทาแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่


สามารถส่ งถัว่ งอกจานวนมากได้ ถ้ามีคนต้องการจานวนมาก
เขาก็ไม่ สามารถหามาได้อยู่ดี ดังนั้นในตอนนี้ เขาจึ งยัง ไม่ มี
ความคิดทางด้านนี้

แต่นี่เป็ นเพราะจงย่งถามขึ้นมา ที่ช่วยเหลือกันก็นบั ว่าเป็นการ


พบกันเพราะซาลาเปา เขารู ้ สึกว่าจงย่งกล้าออกมาค้าขายใน
เวลานี้ ก็นับว่า กล้า หาญแล้ว เขาจึ ง ยิน ดี ที่จ ะเลื อ กจงย่ง เป็ น
ผูร้ ่ วมงานจากนิสัยของอีกฝ่ าย

เมื่อจงย่งได้ยนิ ดวงตาก็พลันเป็ นประกาย เขารู ้สึกว่าความคิดนี้


ไม่เลวเลย เมื่อถึงตอนนั้นก็ขายบะหมี่คู่กบั ซาลาเปาเสี ยเลย มัน
ต้องดีกว่าตอนนี้อย่างแน่นอน!

“แต่ ผ มกัง วลว่า จะมี นัก เลงมาสร้ า งปั ญ หาน่ ะ สิ ” จงย่ง ลัง เล
เล็กน้อย

อย่า มองว่ า ตอนนี้ ใช้ชี วิ ต ได้อ ย่า งอิ ส ระมาก แม้จ ะไม่ มี ก ฎ
มากมายเหมือนสมัยก่อน แต่พวกสัมภเวสี กม็ ีเยอะขึ้นด้วย

จ้าวเหวินเทากล่ าวอย่างไม่ แยแส “แล้วไงล่ ะ นายเปิ ดร้ านที่


ถนนสายหลักฝั่ งนั้น ถนนสองเส้นด้านหลังถนนหลักก็เป็ น
สถานีตารวจไม่ใช่เหรอ? จะมีเรื่ องหรื อไม่มีเรื่ องนายก็ยดั บุหรี่
ให้ตารวจทางฝั่งนั้นสักซองสองซองสิ ชวนให้มาดื่มชาที่ร้าน
ใครจะกล้ามาหาเรื่ องนาย? นายกาลังจะเปิ ดร้านทาธุ รกิจ ก็ตอ้ ง
กล้า ๆ หน่อย พวกเราอายุนอ้ ยไม่กลัวขาดทุนหรอก ถ้าจะกลัว
ก็คงต้องกลัวที่ถอยโดยที่ยงั ไม่ได้ลอง แบบนั้นก็คงไม่มีวนั ไป
ถึงเป้าหมาย นายว่าไหม?”

“พี่จา้ ว พี่พูดถูก!” คาพูดของจ้าวเหวินเทาทาให้จงย่งชื่นชมเขา


ในใจ ความรู ้และคาพูดคาจาไม่ธรรมดาเลยจริ ง ๆ!

ในเมื่ อ วางแผนแล้ว ก็ต ้อ งท า เช่ น นั้น ก็ต ้อ งนึ ก ว่ า ในบ้า นมี


อะไรบ้าง ที่บา้ นมีเตา หม้อก็มีพร้อมใช้งานแล้ว ถ้าทาไม่ได้
จริ ง ๆ เขาก็กลับมาขายซาลาเปาอีกครั้ง ไม่เสี ยหายอะไร!

ดังนั้นจึงเหลือแค่คาเดียวก็คือทา!

“ได้ ตกลงตามนี้แหละ!” จงย่งกล่าว

“มันต้องอย่างนี้” จ้าวเหวินเทายิม้

เขาไม่ ชอบคนที่ เอาแต่ พูดไม่ลงมื อทา เขาชอบคนที่ เด็ดขาด


แบบนี้ ทั้งสองจึงตกลงกันเรื่ องราคา
เมื่อตกลงราคาเสร็ จแล้ว จ้าวเหวินเทาก็ไม่ได้ตระหนี่ เขาลด
ราคาให้สองเฟิ น เรื่ องปริ มาณเนื้อหมูยงั คงยึดตามจานวนก่อน
หน้านี้ ส่ วนถัว่ งอกนั้นเขาเอามาให้ก่อนสองชัง่

หนึ่ งถ้วยใช้แค่หนึ่ งหยิบมือ สองชัง่ สามารถทาได้หลายถ้วย


จงย่งคานวณไว้ในใจ นี่คือผลกาไรเชียวล่ะ

ทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างมีความสุ ข

หลังจากพูดคุยกันเสร็ จ จ้าวเหวินเทาก็ไม่มีเรื่ องอะไรให้ทาใน


เมืองแล้ว เขาจึงขี่จกั รยานกลับบ้าน

แต่เมื่อผ่านตรอกเส้นหนึ่ ง ก็พบว่ามีเด็กหนุ่ มคนหนึ่ งออกมา


หยุดรถของเขาไว้

“ทาอะไรเนี่ย!” จ้าวเหวินเทาตกใจสะดุง้ โหยง เขาเกือบจะชน


คนแล้ว เขาวางเท้าข้างหนึ่งลงบนพื้น จากนั้นก็จอ้ งมองอีกฝ่ าย
เขาสารวจอย่างละเอี ยด อี กฝ่ ายทาแบบนี้ คิดจะออกมาปล้น
เหรอ?

เขากล้าออกมาข้างนอกมีเหรอที่จะกลัวในการเผชิ ญหน้ากับ
คนเลว? ตั้งแต่เด็กเรื่ องต่อสู ้เขาไม่เคยแพ้ใคร!

เด็กหนุ่มรี บขอโทษขอโพย “โทษทีพี่ใหญ่ ฉันไม่ได้ต้ งั ใจ ฉัน


แค่อยากถามว่าพี่อยากซื้อผักกาดขาวไหม”

“ผักกาดขาว?” จ้าวเหวินเทาเลิกคิ้วมองเขา ขายผักกาดขาว?

ชาวชนบทจะปลูกผักกาดขาวในแปลงของตนเองและลานบ้าน
สาหรับฤดูหนาว คนในเมืองจะแบ่งผักกาดตามหน่วยงาน ซื้ อ
ขายส่ วนตัวก็มีเช่ นกัน แต่มีจานวนน้อยมาก ปี นี้ ไม่ว่าจะเป็น
เสบียงอะไรก็ขาดตลาดไปหมด ราคาสิ นค้าสู งเกินไปทาให้มี
คนต้องการซื้อน้อยจึงขายออกได้ยาก
“พี่ชาย พี่ดูสง่าแถมยังแต่งตัวดี มองแวบแรกก็รู้แล้วว่าต้องเป็ น
คนฐานะทางบ้ า นดี ก็ เ ลยอยากถามว่ า พี่ ช ายสนใจซื้ อ
ผักกาดขาวไหม? ผมมีผกั กาดขาวกับผักกวางตุง้ ฮ่ องเต้ ไม่ว่า
จะเอาไปทาผักดองหรื อกินสดเป็ นผักฤดูหนาวก็ดีเยีย่ มทั้งคู่เลย
พี่ซ้ือไปไม่ขาดทุนแน่นอน ราคาที่ผมขายก็ไม่แพงด้วย!”

ขณะที่เด็กหนุ่มคนนี้พูด เขาก็เหลียวซ้ายแลขวา

จ้าวเหวินเทาย่อมมีความสุ ข เด็กหนุ่ มคนนี้ มีที่ไปที่มาอย่างไร


เขาพอจะทราบแล้ว นี่ น่าจะเป็ นคนของหน่ วยงานใดสักแห่ ง
แต่ออกมาทาธุรกิจส่ วนตัวสิ นะ
ตอนที่ 52 ผักหนึ่งคันรถ

แต่เรื่ องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา ขอแค่ผกั คุณภาพดีซ้ื อสักหน่ อย


ก็ไม่ได้เสี ยหายอะไร ต่างจังหวัดในช่ วงฤดูหนาวมีผกั ดองไม่
พอรั บ ประทาน เขาใช้ชี วิ ต แบบนั้น มามากพอแล้ว เขาไม่
ต้องการให้ภรรยาของตัวเองมีชีวติ แบบนั้นในปี นี้อีก!

“นายเอามาให้ฉนั ดูสักหัวสิ ” จ้าวเหวินเทากล่าว

เด็กหนุ่ มได้ยินว่าพอจะมีหวังจริ ง ๆ แล้ว เขาจึงวิ่งกลับเข้าไป


ในตรอกอย่ า งมี ค วามสุ ข เพี ย งไม่ น านก็ ใ ช้เ สื้ อโค้ท ซ่ อ น
ตัวอย่างผักกาดขาวสองหัวออกมาให้จา้ วเหวินเทาดู

หัว หนึ่ ง เป็ นผัก กาดขาว ส่ ว นอี ก หัว เป็ นผัก กวางตุ ้ง ฮ่ อ งเต้
ทั้งหมดเป็ นผักกาดฉ่า ๆ ทั้งคู่!
จ้าวเหวินเทาพอใจเป็นอย่างยิ่ง ผักกาดขาวนี้ ดีมาก คาดคะเน
ทางสายตาหนึ่งหัวมีน้ าหนักครึ่ งชัง่ ผักกาดขาวของบ้านเขาไม่
สามารถเทียบกับสิ่ งนี้ได้เลย ถ้าเปรี ยบเทียบกันผักกาดขาวของ
เขาก็เหมือนกับหญ้าเลยล่ะ

แม้ว่าเขาจะพึงพอใจอยูภ่ ายในใจแต่กไ็ ม่ได้แสดงออกมาทางสี


หน้า จ้าวเหวินเทาถามไปว่า “นายไปเอาผักพวกนี้ มาจากไหน
ปลูกยังไงถึงได้ใหญ่ขนาดนี้?”

เด็กหนุ่ มเห็นจ้าวเหวินเทามีท่าทางแบบนี้ ก็พอจะทราบได้ว่า


เขาพึงพอใจแล้ว แม้ว่าจ้าวเหวินเทาจะไม่ได้แสดงออกมา แต่
เขาก็รู้สึกได้ เขาจึงเต็มใจที่จะกล่าวมากขึ้น “ของพวกนี้มาจาก
หมู่บา้ นไท่ผิง ผูค้ นที่นั่นหลังจากปลูกข้าวสาลีเสร็ จก็จะปลูก
ผักกาดขาว เมื่อฟางข้าวสาลีถูกเผาจนกลายเป็ นขี้เถ้าไม้ ก็จะ
ผสมเข้ า กั บ ปุ๋ ยคอก ไม่ ว่ า จะเป็ นข้า วสาลี ห รื อผัก กาดก็
เจริ ญเติบโตงอกงามเชียวล่ะ ผักฤดูหนาวจานวนมากในเมืองก็
มาจากที่นนั่ นอกจากผักกาดขาวแล้วยังมีแครอท มันฝรั่งและ
ผัก กาดเขี ย วด้ว ยนะ จริ ง สิ ในฤดู ห นาวพวกเขายัง ท าเรื อ น
กระจกปลูกผักด้วย มีทุกอย่างเลย!”

จ้าวเหวินเทาเองก็เคยได้ยินชื่อหมู่บา้ นไท่ผิงมาบ้าง พวกเขามี


ชื่อเสี ยงอย่างมากในด้านนี้

แต่มนั อยูไ่ กลเกินไป เขาจึงไม่เคยไปมาก่อน แต่จา้ วเหวินเทารู ้


ว่าในช่ วงปี ใหม่ ผักที่ขายอยู่ในตลาดเกือบทั้งหมดก็นาเข้ามา
จากหมู่บา้ นไท่ผงิ สถานที่แห่งอื่นต่างก็ไม่ได้มีสิ่งนี้

ก่ อ นหน้า นี้ จ้า วเหวิ น เทาชอบรั บ ประทานมาก ไม่ มี เ นื้ อ ไม่


เป็ นไร เขาก็หาวิธีเข้าไปล่าสัตว์ป่าบนภูเขากลับมารับประทาน
แต่ฤดูหนาวกลับทาเช่นนั้นไม่ได้ แม่ของเขาก็ทาใจไม่ได้ที่จะ
ซื้อผักราคาแพงแบบนั้น ดังนั้นจึงทาได้แค่รับประทานผักดอง

แต่ ต อนนี้ เขาเป็ นคนดู แ ลครอบครั ว แล้ว เขาจึ ง สามารถ


รับประทานผักนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิง่ เขาเองก็ไม่ได้อยูต่ วั คน
เดี ยว เขายังมีภรรยาอีกหนึ่ งคน ดังนั้นฤดู หนาวนี้ ไม่เพียงแต่
ต้องการเนื้อ แต่ยงั ต้องการผักด้วย!

หากได้กินผักสดใหม่คู่กบั เนื้อในฤดูหนาว เพิ่มการดื่มเหล้าอีก


สั ก สองสามแก้ว ชี วิต แบบนั้น ก็ไ ม่ ต่ า งอะไรกับเหล่ า เซี ย น
หรอก ภรรยาของเขาจะต้องมีความสุ ขมากแน่ ๆ!

จ้า วเหวิ น เทาคิ ด ถึ ง การรั บ ประทานจนใบหน้า แดงก่ า ของ


ภรรยา ในใจของเขาก็มีความสุ ขนาไปก่อนแล้ว

ดังนั้นจึงถามว่า “น้องชาย ผักของนายไม่เลวเลยนะ หนึ่ งชัง่


ราคาเท่าไรล่ะ? พวกเราทาการค้าขายต้องซื่ อสัตย์เป็ นอันดับ
แรก อย่าตั้งราคาให้ฉนั ซะสู งปรี๊ ดล่ะ”

เด็ก หนุ่ ม ยิ้ม อย่า งมี ค วามสุ ข “พี่ ช าย จะทาแบบนั้น ได้ไงล่ ะ


ครับ? แค่ดูก็รู้แล้วว่าพี่เป็ นคนกล้าหาญ นี่ เป็ นครั้งแรกที่พวก
เราเป็ นเพื่ อ นกัน ผมจะให้ร าคาถู ก ๆ หนึ่ ง ชั่ง ราคาห้า เฟิ น
เป็ นไง? ราคานี้ ไม่ แ พงเลยนะ ถ้า ขายให้ค นอื่ น ผมให้ร าคา
ต่าสุ ดอยูท่ ี่เจ็ดเฟิ น ต่าสุ ด ๆ แล้ว!”

จ้าวเหวินเทาชั่งน้ าหนักผักกาดขาวด้วยมือ คะเนได้ประมาณ


ครึ่ งชัง่ ถ้าคานวณตามนี้ หนึ่งเหมาได้สี่หวั หนึ่งหยวนได้สี่สิบ
หัว เขาและภรรยาสองคนซื้ อผักดองและผักฤดู หนาวไว้แปด
สิ บหัวก็พอแล้ว

ถึงอย่างไรที่บา้ นของเขาก็ยงั ปลูกผักกาดขาวเหล่านี้ แถมยังมี


มันฝรั่งอะไรพวกนั้นด้วย เอามารับประทานผสมกันได้

ส่ วนพ่อกับแม่ ถ้าทาของอร่ อยรั บประทานค่อยเอาไปให้สัก


ถ้วยก็ได้แล้ว พวกท่านทั้งสองจะได้ประหยัดเวลาด้วย

“เอามาให้ฉนั แปดสิ บหัว!” จ้าวเหวินเทากล่าวอย่างสบาย ๆ

เด็กหนุ่มรู ้สึกว่าตัวเองดูคนไม่ผิด จึงเสนอขายต่อ “พี่ใหญ่ ผม


ยังมีหวั ไชเท้า พวกผักสี ขาวสี แดงสี เขียวสี อะไรก็มีหมดเลยนะ
มันฝรั่งก็มี ต้นหอมกับพริ กก็ดว้ ย ผมรับผิดชอบคนเดียวไม่ได้
มีใครช่วยเหลือ ถ้าพี่ใหญ่อยากได้ผมจะขายให้ราคาถูก ๆ เลย!”

จ้าวเหวินเทาเลิกคิ้วกล่าว “พาฉันไปดูหน่อยสิ ?”

“ครับ!” เด็กหนุ่มกล่าวอย่างกระตือรื อร้น จากนั้นจึงพาเขาเข้า


ไปยังลานแห่งหนึ่งภายในตรอก

ครั้ งนี้ จ้า วเหวิ น เทาซื้ อ ผัก เยอะมาก ผัก กาดขาว หัว ไชเท้า
ต้นหอมและพริ ก เขาซื้ อมาทั้งหมด โดยไม่ลืมที่จะบอกกับเด็ก
หนุ่มว่าถ้าฤดูหนาวมีผกั สดก็อย่าลืมมาบอกเขาด้วย

ในช่ วงฤดูหนาวผักสดเป็นสิ่ งที่ขาดแคลนในทุกพื้นที่ จะต้อง


ทากาไรได้อย่างแน่นอน!

จ้าวเหวินเทาไม่ได้คิดแต่เรื่ องกิน เขาเองก็ดีดลูกคิดในหัวได้


เป็ นอย่างดี ในหัวของเขามีความคิดบางอย่างแล้ว
จ้าวเหวินเทาซื้อของเยอะมาก ฤดูหนาวยังคิดจะซื้อผักสดอีก นี่
คือลูกค้าคนสาคัญเชียวล่ะ หลังจากนี้ เด็กหนุ่มจะทาเงินได้อีก
หรื อเปล่ าก็ไม่ รู้ แต่ ครั้ งนี้ ชัดเจนมาก เขาจึ งเอาของมาส่ งถึ ง
บ้าน!

เย่ฉู ฉู่ เ ห็ น ชายหนุ่ ม ลากรถเข็น ผัก คัน ใหญ่ ก ลับมา ความไม่


พอใจเพื่อนบ้านที่อยูใ่ นใจของเธอจึงหายไป

เธอไม่ใช่ ลูกคุ ณหนู ที่ไม่ทาอะไร ย่อมรู ้ว่าผักฉ่ า ๆ เหล่านี้ หา


ยากแค่ไหน!

นี่ ก็ไม่ ได้ดีไปกว่าชาติ ที่แล้วของเธอหรอก ในฤดู หนาวของ


อะไรที่ขาดแคลน? ก็คือผักอย่างไรล่ะ!

“ภรรยา ดูสิ ผักกาดขาวนี้ ใหญ่ขนาดไหน หนึ่ งหัวเท่ากับของ


พวกเราสองสามหัวเลยนะ! นี่คือผักกวางตุง้ ฮ่องเต้ พวกเราทาง
ฝั่งนี้ ไม่มี แล้วก็มีพวกหัวไชเท้า พริ กและต้นหอมด้วย คุณดูสิ
ว่าชอบรึ เปล่า?” จ้าวเหวินเทายิม้ ตาหยี
“ชอบสิ คะ ฉันรู ้ ว่าคุ ณซื้ อมาเพื่อฉัน” เย่ฉูฉู่มองสามี ของเธอ
อย่างมีความสุ ข ในใจอดรู ้สึกอ่อนไหวไม่ได้ เหวินเทาของเธอ
สามารถทาให้จิตใจของเธอสงบลงได้จริ ง ๆ

จ้าวเหวินเทาถูกสายตาที่แกล้งทาเป็ นงอนของเธอทาให้รู้สึก
ร้อนรุ่ ม เขาเหลียวซ้ายแลขวา เมื่อไม่เห็นคนอยูร่ อบ ๆ จึงใช้มือ
ทั้งสองข้างประคองแก้มของเย่ฉูฉู่ ก่อนจะบรรจงจูบไปหนึ่ ง
ฟอด “ขอแค่ภรรยาได้กินของดี ๆ ผมลาบากนิ ดหน่ อยจะเป็ น
อะไรไป? ยิง่ ลาบากยิง่ เหนื่อย ก็ยงิ่ คุม้ ค่า!”

เย่ฉูฉู่หน้าแดงก่า คนคนนี้ เมื่อใดที่เขาสัมผัสเธอก็จะจูบตลอด


เธอจึงกลอกตาใส่ เขาพลางกล่าวว่า “กลับเข้าไปพักผ่อนที่หอ้ ง
ก่อนค่ะ วันนี้ออกไปทั้งวันแล้ว”

“ภรรยา มื้อค่าวันนี้ผมอยากกินบะหมี่ไข่จงั ” จ้าวเหวินเทารู ้สึก


เหนื่อยเล็กน้อย ระหว่างที่พูดก็อดไม่ได้ที่จะหาวออกมา
“คุ ณรี บไปนอนก่อนเถอะค่ะ ใกล้ถึงเวลาฉันจะปลุกคุ ณเอง”
เย่ฉูฉู่กล่าว

“ได้เลย ภรรยา ผมไปงีบสักพักนะ ผักพวกนี้คุณไม่ตอ้ งล้างล่ะ


เดี๋ยวผมตื่นแล้วจะมาจัดการเอง เดี๋ยวมือคุณแข็งหมด” จ้าวเหวิ
นเทากล่าวจบ ก็เดินกลับไปเอนตัวนอนที่หอ้ ง

วันนี้เขาตื่นเช้ามาก ทั้งยังยุง่ เกือบทั้งวัน ตอนนี้เขาเหนื่อยจนไม่


ไหวแล้ว

เมื่อเย่ฉูฉู่เห็นท่าทางอันอิดโรยของเขาก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจ
เธอหยิบ ผ้า ห่ ม มาคลุ ม ตัว เขาไว้ ก่ อ นจะออกไปจัด การผัก
เหล่านั้น

เหวินเทาเหนื่ อยมากแล้ว เธอปล่ อยให้สามี ที่ไปทางานนอก


บ้านต้องกลับมาทางานบ้านต่อไม่ได้หรอก เรื่ องนี้เธอทาเองได้
เด็ก หนุ่ ม ที่ ข ายผัก คนนั้น ได้น าผัก มาวางไว้ใ ต้ห น้าต่ า งและ
กลับไปแล้ว ผักเหล่านี้วางทิง้ ไว้ตรงนี้ไม่ได้ ต้องนาไปวางไว้ที่
ห้องใต้ดิน เย่ฉูฉู่ทาความสะอาดห้องใต้ดินที่จา้ วเหวินเทาขุด
ไว้แล้ว ตอนนี้แค่นาผักไปวางไว้กเ็ สร็จแล้ว

ผักกาดขาวถูกแบ่งออกเป็นสองส่ วน ส่ วนแรกวางไว้ขา้ งนอก


เพื่อทาผักดอง จาเป็ นต้องตากแดดเพื่อไล่ ความชื้ น อี กส่ วน
หนึ่งใช้ทาผักฤดูหนาว เอาไปใส่ ไว้ในห้องใต้ดิน

ผักกาดขาวนาไปเป็ นผักดองได้อร่ อย ส่ วนผักกวางตุง้ ฮ่องเต้ยงั


ไม่เคยรับประทาน เธอจึงเหลือไว้สองสามต้นเพื่อลองทาผัก
ดองดู ส่ วนผักกวางตุง้ ฮ่องเต้ที่เหลือนาไปเก็บไว้ในห้องใต้ดิน
เป็ นผักฤดูหนาว

หัวไชเท้าเหลือไว้หนึ่งหัว ส่ วนที่เหลือนาไปเก็บไว้ในห้องใต้
ดินทั้งหมด เย่ฉูฉู่ฝังดินไว้ดว้ ย แบบนี้ มันก็จะไม่แห้งในช่ วง
ฤดูหนาว
พริ กอยู่ได้ไม่นาน ต้องเอาไปตากแดดเป็ นพริ กแห้ง ไม่ว่าจะ
เอาไปผัดกับเนื้อหรื อรับประทานกับผักดองก็อร่ อยทั้งคู่

ต่ อ ไปคื อ ต้น หอม เย่ฉู ฉู่ ป ลู ก ไว้ใ นกล่ อ งกระดาษลัง กล่ อ ง


กระดาษลังเป็ นของจากโรงงานยาสี ฟันของพี่สาวห้าจ้าว จ้าว
เหวิน เทาน ากล่ อ งกระดาษลัง จ านวนหนึ่ ง กลับมา ตอนนี้ ก็
นามาใช้ประโยชน์ได้พอดี

ใส่ดิ น รดน้ า น าต้น หอมวางไว้ด้ า นบนหั ว เตี ย ง ก็ จ ะได้


รับประทานต้นหอมสดใหม่ตลอดฤดูหนาวแล้ว

ต้นหอมยังเหลืออีกมาก เย่ฉูฉู่วางแผนไว้ว่าจะนาไปตากแดด
ให้แห้งเพื่อทาเป็ นต้นหอมแห้ง

ผักหนึ่งคันรถนี้ไม่ตอ้ งพูดอะไรแล้ว สิ่ งนี้ทาให้ขวดแห่ งความ


อิ จ ฉาของผูค้ นเปิ ดออกไม่ รู้ ต้ งั เท่ า ไร จนความอิ จ ฉาทะลัก
ออกมาข้างนอกแล้ว!
พี่สะใภ้สี่จา้ วที่เป็ นพวกหู ไวตาไวคือคนแรกที่เดินเข้ามา เมื่อ
เห็นกองผักกาดขาววางอยู่ใต้หน้าต่าง ดวงตาของหล่อนพลัน
ร้อนผ่าว
ตอนที่ 53 วุ่นวายเพราะผักหนึ่งคันรถ

“อาสะใภ้หกของซานหยา เธอไปได้ผกั ดี ๆ แบบนี้ มาจากที่


ไหนเหรอ?” พี่สะใภ้สี่จา้ วยืน่ หน้าเข้ามาถาม

“พี่สะใภ้สี่เองเหรอคะ นี่เป็ นของที่เหวินเทาซื้ อมาจากในเมือง


น่ะค่ะ” เย่ฉูฉู่มองหล่อนปราดหนึ่งแล้วแอบแค่นเสี ยงเย็นเบา ๆ
อยูใ่ นใจ เป็ นเพราะหล่อนนี่เองที่นาคาพูดนั้นของเหวินเทาไป
ป่ าวประกาศบอกคนอื่น ๆ จนรู ้กนั ถ้วนหน้า

แหม! ซื้ อมาหรอกเหรอเนี่ ย เพิ่งจะอวดเสร็ จก็เริ่ มทาตัวเป็ น


ครัวเรื อนหมื่นหยวนแล้ว ? ทั้งยังคิดจะดาเนิ นการฝันที่ไม่อาจ
เป็ นจริ งได้นนั่ อีก!
พี่สะใภ้สี่จา้ วแอบดูถูกภายในใจ ทว่าต่อให้ดูถูกมากกว่านี้กไ็ ม่
อาจดูถูกผักดี ๆ จานวนมากเหล่านี้ได้ หล่อนเอ่ยถามขึ้น “น้อง
สามีหกซื้ออะไรมาเหรอ? ได้ยนิ ว่าใช้รถลากกลับมาด้วย?”

เย่ฉูฉู่สัมผัสได้ถึงความอิ จฉาจากพี่สะใภ้สี่คนนี้ เธอจึ งแอบ


ราพึงในใจว่าจงอิจฉาต่อไปเถอะ อิจฉาให้ตายไปเลย ทว่าปาก
กลับทาเป็ นไม่ รู้ เ รื่ อ งรู ้ ร าวและกล่ า วด้ว ยรอยยิ้ม “ไม่ ไ ด้ซ้ื อ
อะไรมาหรอกค่ะ ก็อยูน่ ี่หมดแล้วไม่ใช่เหรอคะ?”

“โอ้โห ต้นหอมนี้ ก็หนามากเลย พริ กนี้ ก็ใหญ่มากด้วย เอ๋ หัว


ไชเท้านี้ใหญ่ขนาดนี้ ปลูกที่ไหนเนี่ย? อย่าว่าแต่ในบ้านเราเลย
ต่อให้เป็ นที่ปลูกอยู่ในทีมเราก็สู้ไม่ได้แม้แต่ครึ่ ง!” พี่สะใภ้สี่
จ้า วหยิบ ชิ้ น นี้ ขึ้ นมาดู จากนั้น ก็ห ยิบชิ้ น นั้น ขึ้ นมาดู ไม่ ย อม
ปล่อยสักอย่างเดียว

“ได้ยนิ ว่าเป็ นของทางฝั่งหมู่บา้ นไท่ผิงทางนั้นน่ะค่ะ เป็ นผักที่


พวกเขาปลู ก ขึ้ นมา ฉั น เองก็ ไ ม่ ไ ด้ถ ามรายละเอี ย ดอะไร
เหวินเทาเหนื่ อยไปหน่ อยก็เลยหลับไปแล้ว” เย่ฉูฉู่กล่าว “แต่
ของพวกนี้ไม่ใช่ถูก ๆ เลยนะคะ พี่สะใภ้สี่อยากได้ไหมล่ะคะ?
ถ้าอยากได้เดี๋ยวฉันไปถามเหวินเทาให้ ซื้อมาเท่าไรก็จะขายให้
พี่เท่านั้น”

ประโยคนี้ หยุดความคิดของพี่สะใภ้สี่จา้ วที่คิดจะฉวยโอกาส


ในทันที

พี่สะใภ้สี่จา้ วจะยอมควักเงินซื้ อของเหล่านี้ โดยไม่เสี ยดายได้


อย่ า งไร หล่ อ นจึ ง ท าเป็ นเปลี่ ย นหั ว ข้ อ สนทนาทั น ควัน
“หมู่บา้ นไท่ผิงนัน่ พี่กร็ ู ้จกั ได้ยนิ มาว่าร่ ารวยกว่าพวกเราทางนี้
เยอะเลย ก่อนหน้านี้ ทางนั้นก็มีชื่อเสี ยงมากเลยนะ ได้รับการ
ชื่นชมถึงความก้าวหน้าจากชุมชนไปไม่นอ้ ยเลย…”

ระหว่างที่ฟังพี่สะใภ้สี่จา้ วพูดเรื่ องนูน้ ทีเรื่ องนี้ที เย่ฉูฉู่กค็ ุยบ้าง


ไม่ คุ ย บ้า ง ถึ ง อย่า งไรพี่ ส ะใภ้สี่ ค นนี้ ก็อ ย่า ได้ห วัง ว่ า จะเอา
เปรี ยบกันแม้แต่นิดเดียว
พูดจาเสี ย ๆ หาย ๆ แต่คิดอยากจะให้เธอมอบผักให้ เธอไม่ได้
โง่ขนาดที่มีคนมาตบหน้าแล้วจะยื่นหน้าอีกข้างให้ตบหรอก
นะ!

เธอเริ่ ม คิ ด ถึ ง เรื่ อ งอาหารค่ า เหวิน เทาล าบากขนาดนี้ ก็ต ้อ ง


รับประทานของดีสักหน่อย เขาบอกว่าอยากรับประทานบะหมี่
ใส่ ไข่ ถ้าเช่นนั้นก็ทาบะหมี่หมูสับใส่ ไข่แล้วกัน รับประทานคู่
กับไชเท้าขูดฝอยอีกจาน

“ของพวกนี้ เธอจะเอามาทาผักดองเหรอ?” พี่สะใภ้สี่จา้ วยังไม่


ยอมไป ทั้งยังหาบทสนทนามาพูดคุยต่อ

“ค่ะ จะเอาไปดอง” เย่ฉูฉู่กล่าวเสี ยงเรี ยบ

“เยอะขนาดนี้พวกเธอกินไม่หมดหรอก” พี่สะใภ้สี่จา้ วกล่าว

“ฉั น ยัง ต้อ งกัง วลว่ า จะกิ น ผัก พวกนี้ ไม่ ห มดด้ว ยเหรอคะ?
มากกว่านี้พวกเราก็กินหมด”เย่ฉูฉู่ตอบกลับ
พี่สะใภ้สี่จา้ วจึงรู ้สึกไม่ดีที่จะพูดออกไปว่า ‘ขอฉันสักสองสาม
หัวสิ ’ และพอจะรู ้สึกได้วา่ บ้านหกไม่คิดจะให้หล่อน!

ดังนั้นหล่อนจึงเดินหน้ามุ่ยออกไป

พี่สะใภ้รองจ้าวเองก็คิดว่าที่นอ้ งสามีลากผักกลับมาหนึ่งคันรถ
นั้นก็เพราะจงใจทาให้คนอิจฉา

ตอนที่ได้เห็นผักกาดขาวอวบ ๆ นั้น ก็ไม่ตอ้ งพูดถึงความอิจฉา


ที่อยูภ่ ายในใจของพี่สะใภ้รองจ้าวเลย

ยังมีความยุติธรรมอยูอ่ ีกหรื อเปล่า? ไม่ได้ทาอะไรจริ ง ๆ จัง ๆ


วัน ๆ เอาแต่คุยโว แต่กลับใช้ชีวติ ดีกว่าพวกเขาที่รับผิดชอบต่อ
หน้าที่เนี่ยนะ?

ถ้าจะพูดว่าขายถัว่ งอกแล้วสามารถซื้ อผักกลับมาได้หนึ่งคันรถ


หล่อนไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดเลย!
“เหวิ น เทาซื้ อ ผัก กลับ มาเยอะแยะเลยค่ ะ ฉั น เห็ น ด้า นล่ า ง
หน้าต่ างก็ยงั มี วางกองกันอี กหลาย 10 ชั่งเลย แล้วนั่นไม่ ใช่
ทั้งหมดที่มีนะ คุณว่าถัว่ งอกมีราคาขนาดนี้ ต้ งั แต่เมื่อไรกัน?”
พี่สะใภ้รองจ้าวเกิดความคิดหนึ่งขึ้นในใจ ครั้นกลับมาถึงก็พูด
ลอย ๆ ขึ้นกับพี่รองจ้าว

ทว่าพี่รองจ้าวกลับไม่เข้าใจความหมายของภรรยา เขาเพียงแต่
ขัด ล้า งหิ น ที่ ใ ช้ก ดผัก ดอง จากนั้น ก็พู ด ด้ว ยท่ า ทางสบาย ๆ
“ถั่ว งอกมัน จะไปมี ร าคาได้ย งั ไง มากสุ ด ก็แ ค่ 0.8 เหมานั่น
แหละ”

“แล้วเหวินเทาเอาไปซื้ อผักเยอะแยะขนาดนั้นมาจากที่ไหน?”
พี่สะใภ้รองกล่าว เงินที่ได้จากการแยกบ้านก่อนหน้านี้ เขาคง
ใช้ไปจนเกือบหมดแล้วกระมัง?!

พี่รองจ้าวไม่ตอบ เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่ องนี้


พี่สะใภ้รองจ้าวนั่งเลือกผักกาดขาวเพื่อเตรี ยมทาผักดองด้วย
ความโกรธเคือง ทว่าเมื่อเห็นผักกาดขาวที่ท้ งั เล็กและบาง และ
นึ กถึงผักหัวใหญ่ที่กองอยู่ดา้ นล่างหน้าต่างห้องของน้องสามี
คนเล็ก ภายในใจก็คล้ายกับเกิดดวงไฟปะทุข้ ึน ผักเน่า ๆ แบบ
นี้จะเลือกหาสวรรค์วมิ านอะไร!

หล่อนโยนผักลงไปบนกองผัก ก่อนจะลุกขึ้นพรวดพราด พูด


ด้วยน้ าเสี ยงเร่ งร้อน “ผักหนึ่ งคันรถนั้นถ้าไม่จ่ายด้วยเงินสิ บ
กว่าหยวนก็คงซื้อมาไม่ได้หรอก ไหนจะรถจักรยานนัน่ อีก ต่อ
ให้มนั จะดูเก่าก็เถอะ แต่กต็ อ้ งใช้เงินร้อยกว่าหยวนเลยมั้ง? ยัง
มีอีกนะ คุณเองก็เห็นแล้ว วัน ๆ พวกเขาเอาแต่กิน ทั้งข้าวทั้ง
บะหมี่ ไ หนจะเนื้ อ อี ก ไปเอาเงิ น มากมายขนาดนั้น มาจากที่
ไหน!”

ในที่สุดหล่อนก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ช่ วยไม่ได้ หล่อนไม่อาจ


ข่มกลั้นความอิจฉาภายในใจไว้ได้แล้วจริ ง ๆ!
พี่ ร องจ้า วตกใจจนสะดุ ้ง โหยง เขาไม่ รู้ ว่า เพราะเหตุ ใ ดจู่ ๆ
ภรรยาถึงได้ตื่นเต้นขนาดนี้ ใช้เวลานานกว่าจะพูดด้วยความไม่
เต็มใจว่า “คุณพูดอะไรของคุณ เจ้าหกจะใช้ชีวติ แบบไหนมันก็
เรื่ องของเขา ตอนนี้ แยกบ้านกันแล้ว คุณจะสนใจคนอื่นว่าจะ
ซื้ออะไรไปทาไม!”

“เขาจะกินหรื อซื้ออะไรมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันหรอกค่ะ!”
พี่สะใภ้รองหันหน้ามาพร้อมพูดด้วยท่าทางกระฟั ดกระเฟี ยด
“แต่มาใช้เงินของฉันก็ตอ้ งเป็ นเรื่ องของฉันสิ !”

พี่รองจ้าวชะงัก “อะไรของคุ ณ ใช้เงินของคุ ณ ? เจ้าหกไปใช้


เงินของคุณตั้งแต่เมื่อไร?”

พี่สะใภ้รองจ้าวรู ้ดีว่าถ้าหากพูดแบบนี้ออกไปย่อมถูกสามีของ
หล่อนด่ าเปิ งแน่ นอน แต่มนั ก็อึดอัด จริ ง ๆ หากเก็บไว้ในใจ
โดยไม่พูดออกมา
จึ ง พู ด ไปว่า “คุ ณ คิ ด ว่า ไงล่ ะคะ? ต่ อ ให้พ่ อ กับ แม่ จ ะล าเอี ยง
มากกว่านี้ แต่กไ็ ม่ควรจะลาเอียงแบบนี้หรื อเปล่า? ก่อนหน้านี้
ตอนที่ยงั ไม่ได้แยกบ้าน ของดี ๆ ก็เอาไปประเคนให้นอ้ งสามี
หมด ตอนนี้แยกบ้านกันแล้วก็ยงั เป็ นแบบนี้อีก!”

พี่สะใภ้รองจ้าวขอบตาแดงก่า “บ้านพวกเรามีสมาชิกมากที่สุด
มีท้ งั ลูกชายและลูกสาวที่กาลังจะโต ตอนที่เลือกผัก ผักแค่น้ ี
มันจะไปพอกินอะไร? ครอบครัวน้องสามีกม็ ีกนั แค่สองคน จะ
กินมากมายเท่าไรกันเชี ยว แถมพวกเขาก็โตกันขนาดนั้นแล้ว
ต่อให้พ่อกับแม่จะรักลูกชายคนเล็ก แต่ก็ควรดูพวกหลานชาย
ของตัวเองด้วยสิ นัน่ คือหลานชายแท้ ๆ ของพวกเขาเลยนะ!
ตอนที่ยงั ไม่แยกบ้าน น้องหกไม่ทาอะไรสักอย่างแต่กลับกิน
ของดีจนหมด ฉันเป็ นลูกสะใภ้จะพูดอะไรได้? แต่ตอนนี้ ก็ยงั
เป็ นแบบนี้ อีก ลาเอี ยงไม่ จบไม่สิ้น คุ ณคิ ดว่าฉันจะรู ้ สึกดี ได้
เหรอคะ!”
พี่สะใภ้รองจ้าวยิง่ พูดก็ยงิ่ น้อยใจ หล่อนนัง่ ร้องไห้ลงกับพื้น

พี่รองจ้าวได้ยินถึ งกับสับสน “คุ ณจะร้ องไห้ไปทาไม? ไม่สิ


คุณพูดแบบนี้ หมายความว่าไง คุณจะบอกว่าผักนัน่ พ่อกับแม่
เป็ นคนซื้อ?”

สามีของพี่สะใภ้รองจ้าวเป็ นคนคิดอะไรง่าย ๆ หล่อนพูดให้


เข้าใจขนาดนี้แล้วเขายังจะถามอีก!

“ถ้าไม่ใช่เงินของพ่อกับแม่ หรื อจะบอกว่าเป็ นเงินที่ได้จากขาย


ถัว่ งอกล่ะคะ เมื่อกี้คุณเองก็เพิ่งพูดไปว่าถัว่ งอกไม่ได้มีราคา
ขนาดนั้น อยู่ดีกินดีกนั แบบนี้ ถ้าไม่ใช่ พ่อแม่ช่วยเหลือ มันจะ
ตกลงมาจากฟ้าหรื อไงคะ?!” พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าว

พี่รองจ้าวอ้าปากค้าง คิดอยากจะด่ าภรรยาที่พูดจาเหลวไหล


พ่อกับแม่ไม่ได้ทาแบบนั้นสักหน่ อย แต่เมื่อนึ กถึงความรักที่
พ่อแม่มีให้กบั น้องชาย เขาก็รู้สึกว่าที่ภรรยาพูดก็มีความเป็ นไป
ได้เช่นกัน
“ต่ อให้พ่อกับแม่ จะให้เงิ น แต่ มนั ก็เป็ นเงิ นของพ่อแม่ เกี่ ยว
อะไรกับเรา คุณจะร้องเพื่ออะไร!” เขากล่าว

พี่สะใภ้รองจ้าวพูดอย่างโกรธเคือง “เกี่ ยวอะไรกับพวกเรา?


คุณพูดว่าเกี่ยวอะไรกับพวกเรา! ตอนที่ยงั ไม่แยกบ้านเงินก็เป็ น
ของทุกคน พ่อกับแม่แอบเอาไปให้น้องหก นั่นก็ไม่ยุติธรรม
แล้ว ทุ กคนต่ างก็เป็ นลู กชายและลู กสะใภ้ ทาไมพวกเราถึ ง
ไม่ ไ ด้ หลัง จากนี้ พอพ่ อ กับแม่ แ ก่ เ ฒ่ า พวกเรายัง ต้อ งเลี้ ยงดู
ไม่ใช่เหรอคะ?!”

พูดอย่างอื่นยังพอทน แต่พูดถึงเรื่ องนี้ พี่รองจ้าวก็ทนไม่ไหว


เขาถลึงตามองหล่อน “คุณพูดจาเหลวไหลให้มนั น้อย ๆ หน่อย
พ่อแม่เหลือเงินไว้ให้เจ้าหกแล้วจะทาไม พ่อกับแม่อยากให้
ใครก็ให้คนนั้น คุณยังไม่คิดจะเลี้ยงพวกเขายามแก่อีก ดูเอาเอง
ก็แล้วกันว่าตัวเองดีพอหรื อยัง!” ระหว่างที่พูดเขาก็โยนแปรง
ทิ้งแล้วเดินออกไป
พี่สะใภ้รองจ้าวร้องไห้โฮออกมา แบบนี้ คงไปด้วยกันไม่รอด
แล้ว!

ในเวลานี้พี่สามจ้าวก็เดินเข้ามา เมื่อเห็นพี่สะใภ้รองจ้าวร้องไห้
ด้วยความเจ็บปวดใจ เขาจึงพูดอย่างประหลาดใจ “พี่สะใภ้รอง
เป็ นอะไรครับ?”

“…เปล่ า” พี่สะใภ้รองจ้าวยกมือขึ้นมาปิ ดปากเพื่อกลั้นเสี ยง


สะอื้น หล่อนรู ้ดีว่าน้องสามีสามเป็ นคนอย่างไร จึงไม่อยากให้
น้องสามีสามรู ้ในสิ่ งที่หล่อนเพิ่งพูดไปเมื่อครู่
ตอนที่ 54 หนุ่มสาวกินดื่มอิม่ หนาสาราญ

“พี่รองล่ะครับ?” พี่สามจ้าวก็ไม่กล้าถามเซ้าซี้ เมื่อมองซ้ายมอง


ขวาจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา ภายในใจแอบรู ้สึกเสี ยดาย หากมา
เร็ วกว่านี้ สักหน่ อยก็คงดี คงได้รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทาให้
พี่สะใภ้รองโกรธจนร้องไห้แบบนี้?!

“ออกไปแล้ว นายมีอะไร?” พี่สะใภ้รองหมุนตัวแสร้งทาเป็ น


เลือกผัก

“ก็ไม่ได้มีอะไรหรอกครับ” พี่สามจ้าวกลับไม่ได้เดินออกไป
เขายืนมองผักกองนั้นพร้อมกับบ่น “พี่สะใภ้รอง พี่กาลังเตรี ยม
ผักไว้ทาผักดองสิ นะ? เฮ้อ นี่ถา้ ไม่เทียบกันก็คงไม่รู้จริ ง ๆ เมื่อ
กี้ผมเห็นผักที่เจ้าหกซื้ อมา ผักหัวใหญ่จริ ง ๆ แล้วมาดูผกั ของ
พวกเราสิ ก็แค่หญ้า! ผมล่ะอยากรู ้จริ ง ๆ ว่าเจ้าหกไปเอาเงิน
มากมายเหล่านั้นมาจากที่ไหน ซื้ อทั้งรถจักรยานแล้วยังซื้ อผัก
อีก แอบสงสัยเหมือนกันนะว่าเงินนั่นอาจจะเป็ นเงินของพ่อ
กับแม่ ถ้าเป็นแบบนี้ แล้ว การแยกบ้านครั้งนี้ ก็ไม่ยุติธรรมเอา
เสี ยเลยนะครับ”

พอกันที หมอนี่กม็ าที่นี่เพราะผักหนึ่งคันรถนั้นเหมือนกัน

คาพูดที่ พี่ สามจ้าวพูดแทงใจพี่สะใภ้รองพอดี น้ าตาที่ หล่ อน


กลั้นไว้จึงไหลออกมาอี กครั้ ง แม้ว่าน้องสามี สามจะเป็ นคน
ชอบคิดหยุมหยิม แต่อย่างน้อย ๆ ก็เป็นคนมีเหตุผล เทียบกับ
สามีคนนั้นของหล่อน คนๆ นี้เก่งกว่าเยอะ

“พ่อกับแม่อยากจะให้ใครก็ให้ไปเถอะ!” พี่สะใภ้รองเห็นด้วย
อยูภ่ ายในใจ ทว่ายังคงปากแข็งไม่ยอมรับ

พี่สามจ้าวในเวลานี้ดูคล้ายกับพังพอนมาสวัสดีปีใหม่ให้กบั ไก่
[1] เขาถอนหายใจพลางกล่าวว่า “พี่สะใภ้รองมีคุณธรรมจริ ง ๆ
แถมยัง ต้อ งเลี้ ย งลู ก หลายคนด้ว ยความยากล าบาก บ้า นพี่ มี
สมาชิกเยอะสุ ด ตอนที่ยงั มีให้กิน ตอนที่ยงั อยูด่ ว้ ยกัน ก็ได้เท่า
ๆ กัน แต่ตอนนี้ใช้ชีวติ บ้านใครบ้านมันแล้ว ผักแค่นิดเดียวมัน
จะไปพอกินอะไรล่ะครั บ อย่าว่าแต่พี่เลย ต่อให้เป็ นบ้านผม
ผัก แค่ น้ ัน ก็ไ ม่ พ อกิ น เหมื อ นกัน เฮ้อ ถึ ง เวลานั้น คงได้แ ทะ
แตงกวาดองนัง่ ดูเจ้าหกกินผักฉ่ า ๆ แล้วล่ะ!” ระหว่างที่พูดเขา
ก็เตรี ยมตัวเดินออกไป

พี่สะใภ้รองจ้าวอดไม่ ได้ที่จะถามไปว่า “เจ้าสาม นายมาพูด


เรื่ องพวกนี้ที่นี่หมายความว่ายังไง?”

พี่สามจ้าวไม่เสแสร้งแล้ว เขากล่าว “ผมก็แค่อึดอัดใจน่ ะครับ


พ่อกับแม่ไม่ควรจะลาเอียงแบบนี้!”

“นายรู ้ได้ยงั ไงว่าพ่อกับแม่ลาเอียง? ผักที่ซ้ื อมาไม่ใช่ เงินที่ได้


จากการขายถัว่ งอกของเจ้าหกหรอกเหรอ?” พี่สะใภ้รองจ้าว
กล่าว

พี่สามจ้าวขาพรื ด “ขายถัว่ งอกจะซื้อผักได้ขนาดนั้นเชียวเหรอ?


พี่สะใภ้รองเชื่อเหรอครับ?”
“ไม่ ใช่ ว่าเขาจะพึ่งพาการขายถัว่ งอกเพื่อเป็ นครั วเรื อนหมื่น
หยวนเหรอ?” พี่สะใภ้รองกล่าว

“ถัว่ งอกของเขาทามาจากทองคาหรื อไง คุยโวแบบนี้ ใครก็ทา


ได้! นี่ยงั ไม่ชดั เจนอีกเหรอครับ? นอกจากพ่อกับแม่แล้วยังจะมี
ใครได้อีก? ตอนที่อยูด่ ว้ ยกัน พ่อกับแม่กใ็ ช่วา่ จะไม่เคยทา ของ
กินดี ๆ ก็เก็บไว้ให้เขาทั้งหมด ไม่ใช่ แค่ครั้งเดียวนะที่ผมเห็น
กลัวว่าจะมีคนรู ้กเ็ ลยหลบ ๆ ซ่อน ๆ คงคิดว่าผมไม่รู้ล่ะมั้ง!”

พูดเรื่ องนี้ข้ ึนมา พี่สามจ้าวก็ถึงกับโมโห เป็ นลูกเหมือนกันแท้


ๆ ทาไมถึงได้ลาเอียงแบบนี้ ตอนเด็ก ๆ ก็เป็ นแบบนี้ โตมาก็ยงั
เป็นแบบนี้ อีก แต่งงานมีครอบครัวแล้วก็ยงั เป็นแบบนี้ เจ้าหก
คือลูกแท้ ๆ ส่ วนพวกเขาคือลูกที่ถูกเก็บมาเลี้ยงสิ นะ!

อย่าลืมนะว่าเวลาพ่อแม่แก่แล้ว พวกเขาก็ยงั ต้องมานัง่ ดูแล ถึง


เวลานั้นถ้าหากไม่ดูแลพวกเขาก็ถูกด่ าว่าเป็ นลู กอกตัญญู อีก
ไม่ใช่หรื ออย่างไร?
ดังนั้นพอเขาได้ยินเรื่ องผักหนึ่ งคันรถ จึงเกิดความขุ่นเคืองถึง
ขีดสุ ด เขามาที่นี่ก็เพื่อบ่นกับพี่รองจ้าว แต่พี่รองจ้าวไม่อยู่ จึง
ได้มาเจอกับพี่สะใภ้รองที่มีความขมขื่นในใจเหมือนกันกับเขา

คาพูดนี้ เป็นเสี ยงสะท้อนให้กบั พี่สะใภ้รองจ้าว แต่ต่อให้นอ้ ง


สามี ส ามมี ท่า ที ข้ ึ น มาก่ อ น แต่ ห ล่ อ นก็ย งั ไม่ พู ด ความในใจ
ออกมา จึงพูดอย่างขอไปที “จะทาอะไรได้ล่ะ นัน่ พ่อกับแม่นะ
พวกเราที่เป็ นหนุ่มสาวจะไปพูดอะไรได้!”

พี่สามจ้าวเห็นว่าพี่สะใภ้รองยังคงเสแสร้ง เขาจึงบุย้ ปากแล้ว


เดินออกไป ทุกคนต่างก็อยู่ใต้ชายคาเดียวกัน มีใครบ้างที่ไม่รู้
ความคิดของอีกฝ่ าย?

สะใภ้รองจ้าวก็ไม่มีกะจิตกะใจเลือกผักแล้ว ยิง่ คิดก็ยงิ่ น้อยใจ


คิดว่าจะปล่อยให้เป็ นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ต้องคิดหาวิธีสักอย่าง

จ้าวเหวินเทาไม่รู้อะไรเลย เขานอนจนท้องฟ้ ามืดครึ้ มแล้ว ทั้ง


ยังตื่นขึ้นมาเพราะกลิ่นหอมกรุ่ นของอาหาร
“ภรรยาจ๋ า คุณทาของอร่ อยอะไรเอ่ย ถึงได้หอมขนาดนี้!” จ้าว
เหวินเทาขยี้ตาพลางกล่าว

“บะหมี่ น้ าค่ ะ” เย่ฉูฉู่ยกน้ าอุ่ นเข้ามาพลางกล่ าว “มาค่ ะ ล้าง


หน้าล้างตาให้สดชื่นหน่อย จะได้กินข้าวกัน”

จ้าวเหวินเทาหัวเราะหึๆ ให้ภรรยา “ภรรยาของผมแสนดีจริ ง ๆ


เลย”

เย่ฉูฉู่กลอกตาใส่ เขาอย่างแง่งอน “ล้างหน้าล้างตาค่ะ รู ้สึกสด


ชื่นแล้วค่อยกินข้าว”

จ้าวเหวินเทาหัวเราะคิกคักขณะล้างหน้า

เย่ฉูฉู่ยกอาหารเข้ามา บะหมี่นวดด้วยมือ มีหมูเส้นสี แดงและ


ผักสี เขียวตัดกับเส้นหมี่สีขาวหิ มะ เพิ่มด้วยไข่ไก่สองฟองและ
หัวไชเท้าขูดละเอียดหนึ่งจาน ทั้งดูดีและอร่ อยจริ ง ๆ
หิ วเสี ยจนจ้าวเหวินเทาดวงตาเป็ นประกาย เขาหยิบตะเกี ยบ
ขึ้ น มารั บ ประทาน ระหว่ า งนั้น ก็พู ด ด้ว ยน้ า เสี ย งอู ้อ้ ี ข ณะมี
อาหารอยูใ่ นปาก “ภรรยา คุณทาอาหารอร่ อยมากจริ ง ๆ!”

เย่ฉู ฉู่ เ ห็ น เขารั บ ประทานอย่า งเอร็ ด อร่ อ ยโดยไม่ ไ ด้ส นใจ


ภาพลักษณ์แม้แต่นอ้ ย เธอกลับรู ้สึกอบอุ่นภายในใจ ทั้งยังพูด
หยอกเย้า ด้ว ยรอยยิ้ ม “มี อ ะไรบ้า งละคะที่ คุ ณ กิ น แล้ว ไม่
อร่ อย?”

“หึหึ ภรรยาคุณก็กินด้วยกันสิ !” จ้าวเหวินเทายิม้

“ค่ะ” เย่ฉูฉู่นงั่ อยูต่ รงข้ามเขา จากนั้นก็รับประทานในถ้วยของ


ตนเอง

ทั้งสองคนสบตากันด้วยรอยยิม้ เป็ นครั้งคราว บรรยากาศหวาน


เชื่อมลอยอวลระหว่างพวกเขาทั้งสอง
ทั้งสองคนยังเป็ นหนุ่มสาวอายุนอ้ ย จึงรับประทานหมดเกลี้ยง
ไม่ว่าจะเป็ นบะหมี่หรื อหัวไชเท้าหัน่ ฝอย หลังจากรับประทาน
หมดก็แอบเรอออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นดั หมาย จึงอดไม่ได้
ที่จะหัวเราะร่ าออกมา

“ภรรยาคุ ณพักผ่อนเถอะ เดี๋ ยวผมเก็บเอง!” จ้าวเหวินเทาพูด


ขณะเก็บถ้วยและตะเกียบ

เย่ฉูฉู่รีบห้ามเขา “คุณออกไปทางานเหนื่ อยมาทั้งวันแล้ว ฉัน


จะให้คุณทาได้ยงั ไงคะ อีกอย่างนี่ ก็ไม่ใช่ งานที่ผูช้ ายต้องทา
เดี๋ยวฉันเก็บเองค่ะ”

“ภรรยา อย่าว่าแต่ถว้ ยตะเกียบแค่ไม่กี่อนั เลย ต่อให้คุณอยาก


ให้ผมอาบน้ าให้ ผมก็จะอาบให้ แค่ น้ ี มนั จะไปยากอะไรกัน
ครับ?” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้

เย่ฉูฉู่หน้าแดงก่า “คุ ณนี่ พูดจาลามกได้เต็มปากเต็มคาเลยนะ


คะ!”
“อีกเดี๋ ยวคุ ณก็รู้แล้วว่าสามีของคุ ณยังลามกได้มากกว่านี้ อีก”
จ้าวเหวินเทาแอบจักจี้อยู่ภายในใจ คาพูดนี้ ช้ ี ให้เห็นถึงความ
ต้องการในใจของเขา

เย่ฉูฉู่เขินอายจนทนไม่ไหวแล้ว เธอจึงไม่สนใจเขาอีก

จ้า วเหวิน เทามื อ ยาวเท้า ยาว เพี ย งไม่ น านเขาก็ล ้า งถ้ว ยและ
ตะเกี ย บจนสะอาด ตอนที่ อ อกมาก็เ ห็ น ผัก กาดขาวกองอยู่
ด้านล่างหน้าต่าง

เย่ฉูฉู่กล่าว “ฉันขนผักไปวางไว้ในห้องใต้ดินทั้งหมดแล้ว ผัก


พวกนี้จะเตรี ยมทาเป็ นผักดองค่ะ”

“ภรรยา ผมบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ ว่ารอให้ผมตื่นก่อนเดี๋ยวผม


ทาเอง?” จ้าวเหวินเทาเอ่ยอย่างจนปัญญา
เย่ฉูฉู่ลากเขาเข้ามาด้านในห้อง “เห็นว่าเป็ นงานแค่น้ นั ฉันก็เลย
ทาไปแล้ว พรุ่ งนี้ คุณยังต้องตื่นเช้าไม่ใช่ เหรอคะ รี บพักผ่อน
เถอะ”

“คาพูดนี้ตรงใจผมพอดีเลย” จ้าวเหวินเทาที่รับประทานจนอิ่ม
และดื่ มจนหนาใจก็ได้อุม้ ภรรยาของเขาขึ้นมา จากนั้นก็มอง
ภรรยาที่เขารักและหวงแหนด้วยรอยยิม้ กล่าวว่า “ภรรยา คุณ
บอกผมมาตรง ๆ เถอะ ว่าคุณเป็ นนางจิง้ จอกจาแลงมาทาให้ผม
หลงเสน่ห์ใช่ไหม?”

เย่ฉูฉู่อายจนหน้าแดง กระซิบเสี ยงเบา “นี่หน้าประตูนะคะ คุณ


รี บปล่อยฉันลงเถอะค่ะ เดี๋ยวคนอื่นมาเห็นเข้าจะดูไม่ดี!”

“นี่ ก็มืดแล้วใครจะมาดู? ไม่เป็นไร ผมปิ ดประตูก็ได้!” จ้าวเห


วินเทาใช้เท้าปิ ดประตู ก่อนจะอุม้ ภรรยาเข้าไปในห้อง เมื่อกลิ้ง
ไปถึงบนเตียงได้กเ็ ริ่ มตระโบมจูบเธอ

“อย่าเพิ่งค่ะ ฉันยังไม่ได้ลา้ งหน้าล้างตาเลย” เย่ฉูฉู่หลบหลีก


“ภรรยาผมไม่ ลา้ งหน้าก็ยงั สะอาด!” จ้าวเหวินเทาจู บเธออีก
ครั้ง

“พูดเหลวไหล” เย่ฉูฉู่บ่น สุ ดท้ายแล้วเธอก็ไม่ได้หลบเขา และ


ปล่อยให้เขาทาตามใจปรารถนา

จ้าวเหวินเทาเองก็ไม่ได้สร้างความวุ่นวายแล้ว เขากอดเธอไว้
จากนั้นซุ กหน้าลงแบบแก้มแนบแก้ม ขณะพูดกับภรรยาของ
เขาเกี่ยวกับเรื่ องในวันนี้

เย่ ฉู ฉู่ ฟั ง เขา ทั้ง ยัง เอ่ ย ถามเป็ นระยะ ทั้ง สองคนดู อ บอุ่ น
เหลือเกิน

ภรรยาที่อยู่ในอ้อมแขนเขาทั้งตัวหอมทั้งนุ่ ม จ้าวเหวินเทาจึง
รู ้สึกพึงพอใจเป็ นอย่างยิง่ “ภรรยา อันที่จริ งถ้าพวกเราไปอยูใ่ น
เมืองด้วยกัน ผมกล้าพูดเลยว่าถ้าคุณขายบะหมี่หมูเส้น คนที่อยู่
ในเมืองทั้งหมดจะต้องมาต่อแถวซื้ อแน่ นอน บะหมี่ในคืนนี้
ฝีมือระดับเดียวกับแม่ครัวใหญ่ในร้านอาหารรัฐเลยนะครับ!”
[1] พังพอนมาสวัสดี ปีใหม่ให้กบั ไก่ (黄鼠狼给鸡拜
年) หมายความว่า ต่อหน้าทาเป็นรักใคร่ ห่วงใย แต่ใจจริ งมุ่ง
ร้ายไม่หวังดี /ปากปราศรัยน้ าใจเชือดคอ
ตอนที่ 55 แอบฟังมุมกาแพง

“คุณนี่ช่างฉอเลาะจังเลยนะคะ” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้

จ้า วเหวิน เทากลับมี ค วามเชื่ อ มัน่ เป็ นอย่า งมาก “จริ ง ๆ นะ


ภรรยา อาหารที่คุณทาอร่ อยที่สุดเลยนะ ร้านอาหารในเมืองยัง
ไม่มีใครทาอร่ อยเท่าคุณเลย!”

“ฉันไม่อยากทาอาหารให้คนอื่นกินหรอกค่ะ ฉันอยากทาให้
คุณกินไปตลอดชีวติ ” เย่ฉูฉู่กล่าวอย่างอ่อนโยนทั้งยังออดอ้อน

จ้าวเหวินเทาได้ยนิ ก็รู้สึกราวกับร่ างกายเกิดไฟปะทุข้ ึน เขารี บ


พู ด ก่ อ นว่ า “ผมไม่ ป ล่ อ ยให้ ภ รรยาของไปเป็ นแม่ ค รั ว จน
กลายเป็ นสาวแก่หน้าเหลืองอยูแ่ ล้ว ภรรยาผมต้องงามเฉิ ดฉาย
แบบนี้ ตลอดไปถึงจะดี ที่สุด!” พูดจบเขาก็ปิดปากภรรยาของ
ตนเอง ก่อนจะขึ้นคร่ อมร่ างของเธอไว้ “ภรรยาจ๋ า คุณทาให้ผม
หลงใหลจะตายอยูแ่ ล้ว…”

เพียงครู่ เดียว วิญญาณของเย่ฉูฉู่กเ็ กือบหลุดลอยออกไป

ตอนนี้สองสามีภรรยาอาวุโสกาลังนอนห่ มผ้าพูดคุยกันอยู่บน
เตียง

คุณแม่จา้ วกาลังถอนหายใจ “เจ้าหกซื้ อผักมาหนึ่งคันรถ ฉันว่า


คงใช้เงินไปไม่นอ้ ยเลยล่ะค่ะ ได้เงินมาแล้วแต่จะใช้จ่ายแบบนี้
ไม่ได้นะ ยังไงก็ตอ้ งเก็บเงินไว้หน่อย”

“คุณรู ้ได้ไงว่าลูกไม่เก็บเงิน?” คุณพ่อจ้าวกล่าว “อีกอย่างพวก


เขาก็อายุยงั น้อย ยังไม่มีลูก กินนิ ด ๆ หน่ อย ๆ ก็กินไปเถอะ
ดูแลร่ างกายให้ดีเวลามีลูกก็จะได้แข็งแรง คุณก็อย่าไปกังวลให้
มากนักเลย”
“จะไม่ให้เป็ นกังวลได้ยงั ไง ฉันได้ยินคนในหมู่บา้ นพูดเรื่ อง
นั้นแล้วก็ร้อนใจ แถมยังมีอีกนะ…” คุณแม่จา้ วกระซิ บ “ฉันว่า
สะใภ้สี่คงอิจฉามากเชียวล่ะ”

“อิจฉาอะไร?” คุณพ่อจ้าวกล่าว โดยที่ไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้นมา


แยกบ้านไปแล้ว อย่าว่าแต่เจ้าหกซื้อผักมาหนึ่งคันรถเลย ต่อให้
เขาซื้ อเนื้ อมาหนึ่ งคันรถก็เป็ นเงินที่ เขาหามาด้วยตัวเอง ใคร
อิจฉาก็ไปหาเอาเองสิ

คุณแม่จา้ วกลับถอนหายใจหนึ่งเสี ยง มีลูกสาวและลูกชายเยอะ


ก็เป็ นแบบนี้ กังวลใจไม่จบไม่สิ้น

คืนนี้จึงมีบางคนฝันดีและมีบางคนที่นอนไม่หลับ

ส่ วนเย่ฉูฉู่น้ นั กาลังนอนหลับสบาย โดยเฉพาะการได้นอนอยูใ่ น


อ้อมกอดอันแสนอบอุ่นราวกับเตาผิงขนาดใหญ่ของเหวินเทา
วันรุ่ งขึ้นเย่ฉูฉู่หอบผักส่ วนหนึ่งนาไปให้แม่สามีของเธอ

เธออาจจะไม่สนใจคนอื่นก็ได้ แต่กบั พ่อแม่สามีน้ นั ไม่สนใจ


ไม่ได้

ความกตัญญูได้แทรกซึ มเข้ากระดูกของเธอไปแล้ว กับพ่อแม่


ของเหวินเทาเธอก็แสดงความกตัญญู เหมือนกับพ่อแม่แท้ ๆ
ของเธอเอง

แม้ว่าเหวินเทาจะบอกเธอว่าทาเสร็ จแล้วค่อยนามาให้พ่อแม่
ของเขา แต่เธอรู ้สึกว่านาผักเหล่านี้มาให้แม่สามีดีกว่า มีอาหาร
อะไรที่ แ ม่ ส ามี ช อบรั บ ประทานก็ จ ะได้ท าเองตามใจชอบ
สะดวกกว่าด้วย

“พวกเราก็อายุมากขนาดนี้แล้วจะกินสักเท่าไรกันเชียว ในบ้าน
มี ผ ัก พวกนั้ นก็ พ อกิ น แล้ว ล่ ะ พวกเธออายุ ย ัง น้ อ ย รีบเอา
กลับไปกินกันเถอะ” คุณแม่จา้ วกล่าวด้วยรอยยิม้
สองสามีภรรยาบ้านเล็กคู่น้ ี เมื่อมีอะไรให้รับประทานก็จะเป็น
กังวลปากท้องของพวกเขาทั้งสองคน มีแต่คนบอกว่าพวกเขา
ทั้งสองลาเอียง จะไม่ให้ลาเอียงได้อย่างไร คนอื่น ๆ มีน้ าใจ
แบบนี้ที่ไหนกันล่ะ?

คนเราก็ตอ้ งใช้ใจแลกใจ ลูกสะใภ้แบบนี้ ไม่ว่าจะไปอยู่ที่บา้ น


ไหนผูอ้ าวุโสก็รักทั้งนั้นแหละ

เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้ “คุณแม่คะ ส่ วนนั้นของพวกเราก็พอกิน


แล้ว ค่ ะ ผัก พวกนี้ ฉัน ตั้ง ใจเก็บ ไว้ใ ห้คุ ณ พ่ อ กับ คุ ณ แม่ เหวิ
นเทาบอกว่าผักกาดขาวเอาไปทาผักดองอร่ อย ส่ วนกวางตุ ง้
ดอกไม้ไฟเก็บไว้ในห้องใต้ดินได้ตลอดหน้าหนาว เอามากิน
เป็ นผักสด ๆ ได้ เอาไปทาเป็ นไส้ไว้ห่อเกี๊ยวก็ดี คุณแม่กบั คุณ
พ่อจะได้กินของสด ๆ ด้วย”
คุ ณแม่จา้ วมองดู ผกั กาดขาวหัวใหญ่น้ ี ที่หาได้ยากยิ่ง นางพูด
แสดงความรู ้ สึ ก ออกมา “เธอคิ ด ดู สิ อยู่บ นพื้ น ดิ น เดี ย วกัน
ทาไมเขาถึงปลูกผักออกมาได้ใหญ่ขนาดนี้นะ!”

“ฉันได้ยนิ เหวินเทาพูดว่าอวบอ้วนเชียวค่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าว

“จริ งเหรอ งั้นพวกเราคงต้องหาวิธีทาให้มนั ใหญ่ข้ ึนสักหน่ อย


ในช่วงปี หน้าแล้วสิ ” คุณแม่จา้ วพยักหน้า

“ถึงเวลานั้นถ้าปลูกออกมาแล้ว อย่าลืมให้พวกฉันชิ มด้วยนะ


คะ” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้

“จะขาดพวกเธอได้ยงั ไงล่ะ” คุณแม่จา้ วหัวเราะ

“คุณแม่คะ ยังมีตน้ หอมอีกส่ วนหนึ่งด้วย เดี๋ยวฉันไปเอามาให้


นะคะ” เย่ฉูฉู่กล่าว
“ไม่ ตอ้ งเอามาแล้ว พวกเธอเก็บไว้กินเถอะ คนแก่ ๆ กิ นไม่
เยอะหรอก” คุณแม่จา้ วเห็นลูกสะใภ้ลุกขึ้น นางจึงกดเสี ยงต่า
“ฉูฉู่ มีข่าวเรื่ องท้องบ้างไหม?”

เย่ฉูฉู่หน้าแดงระเรื่ อ “ยังเลยค่ะ”

คุ ณ แม่ จ ้า วแอบผิด หวัง นิ ด หน่ อ ย ทว่า นางก็ไ ม่ คิ ด จะกดดัน


ลูกสะใภ้ จึงกล่าวด้วยรอยยิม้ “สิ่ งที่ดีในชี วิตคุ ม้ ค่าแก่การรอ
คอย ไม่เป็ นไร พวกเธอยังเป็ นหนุ่ มสาว ไม่ตอ้ งรี บร้อน ช่ วง
ฤดูหนาวไม่มีอะไรต้องทา ก็ดูแลร่ างกายให้ดี ๆ คิดว่าคงอีกไม่
นานแล้วล่ะ”

เย่ฉูฉู่พยักหน้าตอบกลับไป ภายในใจแอบรู ้สึกซึ้งใจ ไม่เพียงแต่


จะได้เจอเหวินเทาของเธอเท่านั้น แต่ยงั ได้เจอแม่สามีดี ๆ อีก

เพียงแต่ ทาไมถึงยังไม่มาอีกนะ?

อันที่จริ งเย่ฉูฉู่เองก็แอบร้อนใจขึ้นมาแล้วเช่นกัน
คุ ณ แม่ จ ้า วรอจนกระทั่ง ลู ก สะใภ้เ ดิ น ออกไปจึ ง เริ่ มเก็ บ
ผักกาดขาว นางวางแผนว่าจะล้างถังในวันนี้ พรุ่ งนี้ ก็จะนาผัก
ลงไปดอง ในเวลานี้ ก็เห็ นเงาหนึ่ งเดิ นแวบผ่านด้านข้างของ
ห้องไป

แม้ว่า จะเห็ น แค่ เ พี ย งแวบเดี ย ว แต่ น างก็พ อจะเห็ น ได้อ ย่า ง


ชัดเจนว่าเป็ นลู กสะใภ้รอง นางแอบชะงักไป แต่ ก็เข้าใจได้
ในทันที สี หน้าพลันดาอึมครึ มลง

“ฉันหรื อก็เห็ นว่าหล่ อนเป็ นคนดี คิ ดไม่ ถึงเลยว่าจะทาเรื่ อ ง


แอบฟั งที่มุมกาแพงแบบนี้ !” ตอนที่คุณแม่จา้ วพูดกับคุ ณพ่อ
จ้าว นางถึงกับโมโหจนทนไม่ไหว

“คุณเห็นชัดเจนแล้วเหรอ?” คุณพ่อจ้าวแอบไม่เชื่อ

ความประทับ ใจที่ เขามี ต่อ ลู กสะใภ้ร องไม่ เ ลวมาโดยตลอด


หล่อนเป็ นคนสมเหตุสมผล ดูเหมือนกับลูกสะใภ้ใหญ่ แต่งเข้า
มาอยู่ในบ้านตั้งหลายปี แล้วก็ไม่เคยแสดงความโกรธเคืองมา
ก่อน ไม่ว่าจะเป็นผูใ้ หญ่หรื อเด็ก หล่อนก็อยู่ร่วมกับทุกคนได้
ไม่เลวเลย ทาไมถึงมาทาเรื่ องแอบฟังข้างมุมกาแพงแบบนี้ได้?

“อยูใ่ ต้ชายคาเดียวกันมาตั้งหลายปี มีเหรอที่ฉนั จะมองเห็นไม่


ชัด? เงาแบบนั้นนอกจากหล่อนแล้วยังจะมีใครได้อีก!” คุณแม่
จ้าวปิ ดซ่อนความผิดหวังไว้ไม่อยู่ “ไม่เรี ยนรู ้กบั คนดีเลยจริ ง ๆ
แต่ดนั ไปเรี ยนรู ้จากสะใภ้สี่ที่ไม่เอาไหนคนนั้นซะได้!”

ก่อนหน้านี้ตอนที่ยงั ไม่แยกบ้าน สะใภ้สี่กส็ ั่งให้ลูกทั้งสองคน


จับตามองนางในห้องครัว แยกบ้านกันแล้วก็ยงั ไม่ยอมหยุด คิด
ไม่ถึงเลยว่าจะเปลี่ยนเป็ นลูกสะใภ้รองที่เป็ นคนจับตามอง

เป็ นผูใ้ หญ่ขนาดนั้นแล้ว ไม่รู้จกั ขายหน้าคนอื่นเขาบ้าง!

“แล้วหล่อนมาดูอะไร?” คุณพ่อจ้าวไม่เข้าใจ

“ยัง ต้อ งพู ด อี ก เหรอ ก็เ ป็ นเพราะคิ ด ว่ า พวกเราจะแอบเอา


ผลประโยชน์ให้เจ้าหกยังไงล่ะ เมื่อกี้ลูกสะใภ้หกก็เอาผักมาให้
ฉัน คิ ด ว่ า ที่ ห ล่ อ นมาเพ่ ง มองเพราะลู ก สะใภ้ห กมานี่ แ หละ
เพื่อให้แน่ใจไงว่ามาขอเงินหรื อขอของดี ๆ จากฉันหรื อเปล่า!”
คุ ณ แม่ จ ้า วแค่ น เสี ย งเย็น นางย่ อ มเข้า ใจความคิ ด นั้ นของ
ลูกสะใภ้เป็ นอย่างดี!

ฟั ง ถึ ง ตรงนี้ คุ ณ พ่ อ จ้า วจึ ง หัน กลับมา “เพราะผักหนึ่ ง คัน รถ


นั้นน่ะเหรอ?”

“ใช่ ผักหนึ่ งคันรถนั้นนัน่ แหละ ในหมู่บา้ นพูดกันทัว่ บอกว่า


เจ้า หกไปคุ ย โวโอ้อ วด บอกว่ า เจ้า หกฟุ่ มเฟื อย เงิ น ซื้ อ ผัก
มากมายขนาดนั้นได้มาจากที่ไหน? คนอื่นฉันไม่สนใจหรอก
นะ แต่ ค นในบ้า นมัน ไม่ เ หมื อ นกัน คิ ด ไม่ ถึ ง เลยว่ า จะเป็ น
ลูกสะใภ้รอง!” คุณแม่จา้ วกล่าว

หล่อนแอบเป็นกังวลมาตั้งนานแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็ น
ลูกสะใภ้รอง ทั้งยังใช้วธิ ีแบบนี้อีก ก่อนหน้านี้เป็ นลูกสะใภ้สี่ที่
จับตาเฝ้ าระวัง มาตอนนี้ ลูกสะใภ้รองยังเป็ นแบบนี้ อีก บ้าน
ของนางมีลูกสะใภ้แบบนี้ได้อย่างไรกัน?

คุณพ่อจ้าวมีสีหน้าดูไม่ดีเช่นกัน วันธรรมดาเขาสนใจเรื่ องพวก


นี้นอ้ ยมาก แต่ภรรยาเจ้ารองเป็ นลูกสะใภ้ใหญ่ เขาย่อมต้องพูด
“ผมจะไปพูดกับเจ้ารองเอง”

แยกบ้านไปแล้วก็ตวั ใครตัวมัน ยังจะมาจับผิดคนอื่นอีก เห็น


คนอื่นเป็ นอะไร? เป็ นสายลับกันหรื ออย่างไร?

ถึงช่ วงกลางดึ ก คุ ณพ่อจ้าวก็เรี ยกพี่รองจ้าวออกมาคุ ย พี่รอง


จ้าวทั้งละอายใจและโกรธ ตอนนั้นเขาได้บอกพ่อว่าจะกลับไป
จัดการกับภรรยาคนนั้น แต่ก็ถูกคุณแม่จา้ วห้ามไว้ “ที่พ่อของ
แกพู ด กับ แกแบบนี้ ไม่ ใ ช่ เ พราะอยากให้แ กไปทะเลาะกับ
ภรรยาของแกหรอกนะ คนที่ ไม่ รู้คงคิ ดว่าคนแก่ ๆ อย่างเรา
สองคนเป็ นอะไร”
“แม่ ผมคิดไม่ถึงเลยจริ ง ๆ ว่าหล่อนจะทาเรื่ องแบบนี้ได้ ทาไม
หล่อนถึงทาแบบนี้!” พี่รองจ้าวเป็ นคนซื่ อสัตย์มาโดยตลอดจึง
ไม่รู้วา่ ควรจะพูดอย่างไรดี

“ก่ อนหน้านี้ ภรรยาของแกก็ดีมาก มี แค่ วนั นี้ แหละที่ ทาเรื่ อง


แบบนี้ แกกลับไปก็อย่าไปทะเลาะกับหล่อนล่ะ พูดคุยกันดี ๆ
แม่เองก็พอจะรู ้ตวั ดีวา่ พวกเราลาเอียงไปทางเจ้าหก แต่พวกเรา
ก็ไม่เคยปฏิเสธเรื่ องนี้มาก่อน ดังนั้นนะเจ้ารอง แม่ขอพูดกับแก
ไว้ตรงนี้เลย ไม่วา่ บ้านเจ้าหกจะกินหรื อดื่มอะไรก็เป็ นเงินที่เจ้า
หกหามาทั้งหมด พ่อกับแม่ไม่เคยแอบให้เงินช่วยเหลือเจ้าหก
เลยนับตั้งแต่แยกบ้านกันวันนั้น แต่ละคนก็เดิ นตามเส้น ทาง
ของตัวเอง รวมถึงพ่อกับแม่ดว้ ย!” คุณแม่จา้ วกล่าว
ตอนที่ 56 คุณแม่ จ้าวแสดงอานาจ

“ไม่เพียงแต่จะไม่ได้ให้เจ้าหก แม่กบั พ่อก็พ่ ึงครอบครัวเจ้าหก


อยู่บ่อย ๆ ด้วย พวกเขากินของดีอะไรก็เอามาให้พวกเราส่ วน
หนึ่ งทุกครั้ง ตอนนี้ ภรรยาของแกกลับสงสัยว่าพวกเขาได้รับ
ประโยชน์จากพ่อกับแม่ รู ้สึกละอายใจบ้างไหม!” คุณแม่จา้ ว
กล่าว

พี่รองจ้าวยิ่งรู ้สึกอับอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี “พ่อกับ


แม่ไม่ตอ้ งห่วงนะครับ เรื่ องนี้ผมจะคุยกับหล่อนให้เข้าใจ!”

คุณแม่จา้ วกล่าวเสี ยงเรี ยบ “นัน่ เป็นสิ่ งที่ตอ้ งพูดกับหล่อนให้


เข้าใจชัดเจน แต่ตระกูลจ้าวของเราไม่ได้มีธรรมเนียมที่จะทุบตี
ลู กสะใภ้ ดังนั้นแกกลับไปบอกหล่ อนให้ชัดเจน ว่าพวกเรา
สองคนไม่เคยให้เงินเจ้าหกแม้แต่เฟิ นเดียว นัน่ เป็ นเงินที่เจ้าหก
หามาด้วยตัวเองทั้งหมด!”
“ผมเข้าใจแล้วครับ ผมจะไปบอกหล่อนให้ชดั เจน!” พี่รองจ้าว
พูดจบก็เดินออกไป

คุณแม่จา้ วแอบลังเล “คงจะไม่ทะเลาะกันใช่ไหมคะ?”

“ทะเลาะกันก็ดี จะได้จาไว้ให้ข้ ึนใจ!” คุ ณพ่อจ้าวกล่าวเสี ยง


เรี ยบ

เมื่อพี่รองจ้าวกลับมาก็ไม่ได้ออ้ มค้อม เขาพูดกับพี่สะใภ้รอง


จ้าวอย่างตรงไปตรงมา “คุณฟั งผมให้ดีนะ แม่บอกผมแล้วว่า
ไม่ เคยแอบให้เงิ นเจ้าหกแม้แต่เฟิ นเดี ยว หลังจากแยกบ้านก็
ทางใครทางมัน เจ้าหกซื้ ออะไรก็เป็ นเงินของเขาทั้งหมด คุณก็
อย่าเอาแต่คิดเป็ นตุเป็ นตะงานการไม่ทาอีก!”

พี่รองจ้าวเป็ นลูกกตัญญู ไม่ว่าภายในใจจะโกรธพี่สะใภ้รอง


มากขนาดไหน แต่เขาก็ทาตามคาสั่งของพ่อแม่ เขาข่มโทสะไว้
ไม่มีปากเสี ยงกับพี่สะใภ้รอง เพียงแต่พูดเรื่ องนี้อย่างชัดเจน
พี่สะใภ้รองรับไม่ได้ที่จู่ ๆ สามีกม็ าพูดกับหล่อนแบบนี้ตรง ๆ
หมายความว่าอย่างไรที่พ่อกับแม่พูดแบบนี้ หรื อพ่อกับแม่จะรู ้
แล้วว่าหล่อนคิดอะไรในใจ?

เป็นไปได้อย่างไรกัน นอกจากสามีของตัวเองแล้วหล่อนก็ไม่
เคยพูดกับใคร อีกอย่างสามีของหล่อนก็ไม่มีทางบอกพ่อกับแม่
ด้วย

ในเวลานี้ พี่รองจ้าวก็พูดอีกหนึ่ งประโยคว่า “หลังจากนี้ คุณก็


แอบฟั งข้างกาแพงของพ่อกับแม่ให้มนั น้อย ๆ หน่ อย คุ ณไม่
อายแต่ผมอาย!”

พี่สะใภ้รองจึงเข้าใจได้ ที่แท้หล่อนโดนจับได้ในเรื่ องที่วนั นี้


ไปแอบฟั งเสี ยแล้ว หล่อนอายเสี ยจนหน้าร้อนผ่าว คนที่รักษา
หน้าตาแบบหล่อนจึงระเบิดออกในทันที

“คุ ณอาย คุ ณยังมีหน้ามาบอกว่าคุ ณอาย ฉันทาแบบนี้ ไปเพื่อ


อะไรล่ะ? คิดไม่ถึงเลยนะว่าคุณจะพูดกับฉันแบบนี้ คุณยังเป็ น
คนอยูห่ รื อเปล่า? พ่อกับแม่เอาแต่ลาเอียงไปหาน้องสามีตลอด
ฉันพูดอะไรงั้นเหรอ ก็เพื่อเศษผักพวกนั้นไม่ใช่เหรอ ปากของ
ฉันแค่คนเดี ยวมันจะกินสักเท่าไรกันเชี ยว ฉันทาไปเพื่อใคร
ล่ะ? คุณยังมาพูดแบบนี้กบั ฉันอีก? คุณยังมีจริ ยธรรมหลงเหลือ
อยูไ่ หม! เจ้ารองจ้าว ตั้งแต่ฉนั แต่งงานกับคุณในวันนั้นฉันก็ไม่
เคยได้ใช้ชีวิตดี ๆ สักวันเลย นี่กผ็ ่านมาหลายปี แล้ว ฉันต้องลุก
ขึ้ น มากลางดึ ก ปรนนิ บ ัติ ท้ ัง คนแก่ ท้ ัง เด็ ก ฉัน พู ด อะไรได้
เหรอ? ฉันคลอดลูกชายให้พ่อแม่ของคุณตั้งสองคน ฉันทาให้
พวกเขาทั้งสองคนไม่ตอ้ งผิดหวังแล้ว แต่คุณกลับบอกว่าฉัน
หน้าไม่อายแบบนี้เนี่ยนะ!”

พี่สะใภ้รองจ้าวยิง่ พูดก็ยงิ่ ทุกข์ จนถึงขั้นร้องไห้โฮออกมา

พี่ ร องจ้า วเดิ ม ที ก าลัง ข่ ม โทสะไว้ แต่ ก ลับถู ก กระตุ ้น เพราะ


คาพูดของพี่สะใภ้รองจ้าว จึงตะคอกเสี ยงดัง “หุ บปาก! ถ้าคุณ
ทาเรื่ องดี ๆ ยังต้องกลัวว่าคนอื่นจะมาด่าอีกเหรอ?”
ลูกทั้งสามคนตกใจจนวิ่งออกไปหาคุณพ่อจ้าวและคุณแม่จา้ ว
แล้ว

“คุณปู่ คุณย่าคะ พ่อกับแม่ทะเลาะกันแล้ว!” ต้าหยาวิ่งออกมา


พร้อมกับน้องชายทั้งสองคนพลางตะโกนบอก

เด็ก ๆ ตะโกนแบบนี้ บ้านพี่สามจ้าวและพี่สี่จา้ วก็ได้ยนิ เช่ นกัน


ตอนนี้ทุกคนยังไม่นอน จึงใส่ รองเท้าแล้ววิง่ ออกมา

“เกิดอะไรขึ้น ฉันได้ยนิ พี่รองกับพี่สะใภ้รองทะเลาะกันแล้ว?”


พี่สามจ้าวถามด้วยสี หน้าประหลาดใจ

“ไม่รู้สิ ผมได้ยนิ ต้าหยาตะโกนว่าทะเลาะกันแล้ว!” พี่สี่จา้ วเอง


ก็แปลกใจ ช่ วงกลางคืนพี่รองกับพี่สะใภ้รองก็ยงั ดี ๆ อยู่เลย
ทาไมถึงทะเลาะกันได้ล่ะ?

พี่สะใภ้สี่จา้ วข่มกลั้นความตื่นเต้น หล่อนพูดเร่ งว่า “ยังจะพูด


อะไรอีกล่ะ รี บไปดูสิ!”
เพี ย งไม่ น านคุ ณ แม่ จ ้า วก็เ ดิ น ไปพร้ อ มกับ ต้า หยา เถี่ ย ต้า น
และหลูตา้ น

คุณพ่อจ้าวไม่ได้ไป ถึงอย่างไรเรื่ องแบบนี้ เขาที่เป็นพ่อสามีก็


จัดการไม่ได้อยูด่ ี

จ้าวเหวินเทาและเย่ฉูฉู่นอนอยูใ่ นห้องด้านหลัง อยูห่ ่ างจากที่นี่


ค่ อนข้างไกล อี กอย่างก็เพิ่ง จะพลอดรั กอย่า งเร้ า ร้ อนไป จึ ง
นอนหลับฝันหวานไปแล้ว เย่ฉูฉู่ที่ถูกทาให้เหนื่อยซ้ าไปซ้ ามา
ได้ยนิ เสี ยงเคลื่อนไหว จึงพูดด้วยเสี ยงสะลึมสะลือ “เหวินเทา
คุณได้ยนิ เสี ยงอะไรไหมคะ?”

จ้าวเหวินเทาได้ยินอย่างชัดเจน ภายในใจก็แอบแค่นเสี ยงเย็น


เขาจูบภรรยาอย่างอบอุ่น พลางพูดปลอบใจ “เรื่ องเล็ก ๆ ไม่ได้
สาคัญอะไร นอนเถอะ ไม่ตอ้ งสนใจหรอก”
เย่ฉูฉู่เองก็ง่วงนอนมากแล้ว เธอพิงอยู่ในอ้อมกอดของสามี
เพียงไม่นานก็ผล็อยหลับไป อากาศหนาวแบบนี้ มีผูช้ ายนอน
กอดอยูใ่ ต้ผา้ ห่มที่แสนอบอุ่นนั้นช่างรู ้สึกสบายสุ ด ๆ ไปเลย

อี กอย่างเมื่ อครู่ ขาทั้งสองข้างของเธอก็ถูกเขายกขึ้น ร่ างกาย


ของเธอถูกกระทาซ้ าแล้วซ้ าเล่าราวกับตุ๊กตาผ้าขี้ริ้ว เธอจึงหมด
แรงแล้วจริ ง ๆ เพียงไม่นานก็ผล็อยหลับไปอีกรอบ

ตอนนี้ ภายในห้ อ งทางซ้ า ยของลานบ้า นที่ อ ยู่ ด้า นหน้า สุ ด


สงครามครอบครัวกาลังปะทุ!

ตอนที่ พี่ ส ามจ้าวและคนอื่ น ๆ มาถึ ง ก็พ บว่า พี่ ร องจ้าวและ


พี่สะใภ้รองจ้าวกาลังด่ากันอยู่ ถึงจะพูดว่ากาลังด่ากัน แต่อนั ที่
จริ ง พี่ ส ะใภ้ร องต่ า งหากล่ ะ ที่ ก าลัง ด่ า ส่ ว นพี่ ร องจ้า วก็แ ค่
ย้อ นกลับ ไปสองสามประโยค เขาไม่ ใ ช่ ค นที่ ถ นัด ในการ
ทะเลาะเลย
พี่สะใภ้สามจ้าวเห็นพี่สะใภ้รองที่โดยปกติจะเป็ นคนประณี ต
อยู่เสมอ นัง่ อยู่บนเตียงด้วยผมเผ้ารุ งรัง น้ ามูกน้ าตาไหลเลอะ
เต็มหน้า อยูใ่ นสถานการณ์ที่คบั ขันแสนลาบาก หล่อนก็ถึงกับ
ประหลาดใจ จากนั้นก็รีบไปนัง่ ข้าง ๆ พี่สะใภ้รองพลางกล่าว
“พี่สะใภ้รอง เป็ นอะไรไปคะ? พี่รอง พี่ทาอะไร ดู สิพี่สะใภ้
รองร้องไห้ใหญ่แล้ว พี่พูดให้มนั น้อย ๆ หน่อยได้ไหม!”

พี่รองจ้าวไม่อยากทะเลาะกับภรรยาของน้องชาย เขาจึงนัง่ ลง
บนพื้นด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟี ยด แต่กไ็ ม่ได้พูดอะไร

พี่สามจ้าวและพี่สี่จา้ วพูดอยูข่ า้ ง “พี่รอง เกิดอะไรขึ้น?”

ดวงตาของพี่สะใภ้สี่กาลังทางานจนยุง่ เหยิงไปหมด หล่อนยืน


นิ่ งอยู่กบั ที่มองคนนี้ ทีคนนู ้นที ภายในใจก็ลอบซุ บซิ บถึงขั้น
สุ ด พูดตามไปว่า “นัน่ สิ นี่มนั อะไรกันเนี่ยคะ ดึกดื่นป่ านนี้ทุก
คนเขาหลับกันหมดแล้ว ยังดี ๆ อยูเ่ ลยทาไมถึงทะเลาะกันล่ะ?”

พี่สะใภ้รองไม่สนใจหล่อน เอาแต่ร้องห่ มร้องไห้


พี่สะใภ้สามปลอบใจพี่สะใภ้รอง “พี่สะใภ้รองไม่ตอ้ งร้องนะ
คะ ร้ อ งไห้เ ดี๋ ย วตาก็บ วมหมดหรอก ดู สิ ผมเผ้า ยุ่ง เหยิ ง ไป
หมดแล้ว!”

พี่สะใภ้รองจ้าวไม่ได้สนใจพี่สะใภ้สี่ที่เอาแต่ยนื มองเรื่ องสนุก


หล่อนดึงมือสะใภ้สามพลางกล่าวขณะร้องไห้ “น้องสะใภ้สาม
แบบนี้ คงไปกันไม่รอดแล้ว ฉันเองก็ไม่อยากจะมีชีวิตต่อไป
แล้วเหมือนกัน ฉันทนไม่ไหวแล้ว! ฮือ ๆ ๆ!”

“พี่สะใภ้รองพูดอะไรเนี่ยคะ อย่าพูดอะไรมัว่ ๆ สิ ชีวติ แบบนี้ดี


จะตายไป ลูกชายสองคนลูกสาวอีกหนึ่ง พี่มีท้ งั ลูกสาวลูกชาย
จะมีชีวติ ต่อไปไม่ได้ได้ยงั ไงกัน?” พี่สะใภ้สามรี บกล่าว

“เธอก็ล องถามเขาดู สิ เขานั่น แหละที่ ท าให้ฉัน มี ชีวิต ต่ อไป


ไม่ได้!” พี่สะใภ้รองร้องไห้โฮอีกครั้ง

คุณแม่จา้ วที่ถูกหลาน ๆ ทั้งสามเรี ยกมาก็มาถึงแล้ว


ครั้นเห็นสะใภ้รองจ้าวที่ถูกจับได้ว่าแอบลักฟั งมุมกาแพงยัง
กล้าพูดจาสาดเสี ยเทเสี ย นางจึงไม่เกรงใจ อ้าปากด่าซ้ า “พวก
ฉันยังไม่ตาย จะมาร้องคร่ าครวญดึก ๆ ดื่น ๆ เพื่ออะไร!”

พี่สะใภ้รองจ้าวเห็นแม่สามีเดินมา ความรู ้สึกไม่สบายใจที่ถูก


จับได้วา่ ตนแอบไปยืนฟังมุมกาแพงทาให้หล่อนยิง่ รู ้สึกอับอาย
เกินกว่าจะหาสิ่ งใดเทียบเทียม ทั้งหมดนี้ ไม่ใช่ เพราะพวกคุ ณ
ทั้งสองเหรอที่ทาให้เกิดปั ญหาขึ้นมา หากพวกคุ ณไม่ลาเอียง
รักน้องสามีเล็กมากกว่า ฉันจะทาเรื่ องน่าอายแบบนี้ได้อย่างไร
กัน!

“แม่คะ แม่กถ็ ามพ่อของลูกฉันดูสิคะ ฮือ ๆ ๆ!” พี่สะใภ้รองจ้าว


ร้องไห้

คุ ณ แม่ จ ้า วย่อ มรู ้ ดี ว่ า เกิ ด อะไรขึ้ น นางแค่ น เสี ย งเย็น ก่ อ น


ยอกย้อนกลับไป “ฉันรู ้ ดีว่าลู กชายของฉันเป็ นยังไง ยังต้อง
ถามอะไรอีก? มีแต่เธอนัน่ แหละที่ฉนั ต้องถาม ลูกชายของฉัน
ตบเธอหรื อว่าเหน็บแนมเธอล่ะ? ถึงทาให้เธอตะโกนโวยวาย
กลางดึกแบบนี้ ถ้าเรื่ องนี้ถูกแพร่ งพรายออกไปโดยที่ไม่มีใครรู ้
คงคิ ด ว่ า ตระกู ล จ้า วร่ ว มมื อ กัน เรี ย นรู ้ ร ะบบศัก ดิ น าเก่ า มา
ทรมานลูกสะใภ้แบบเธอไปแล้วมั้ง!”

พี่รองจ้าวกล่าว “แม่ ผมยังไม่ได้ทุบตีหล่อนเลย ผมก็แค่พูดกับ


หล่ อนให้ชัดเจน แต่ หล่ อนก็เอาแต่ ร้องไห้โอดครวญอยู่นั่น
แหละ”

คุณแม่จา้ วย่อมรู ้ดีว่าลูกชายรองของตนเองเป็ นอย่างไร ทั้งยัง


เป็ นคนไม่มีอนาคต แม้แต่เมียตัวเองก็ยงั ควบคุมไม่อยู!่

ดูอย่างเจ้าหกสิ ฉูฉู่จะทาอะไรก็ให้เขาเป็ นใหญ่ท้ งั หมด!


ตอนที่ 57 ความขัดแย้ งในครอบครัว

คุณแม่จา้ วก็ไม่ได้สนใจลูกชาย นางยังคงยิม้ ด้วยรอยยิ้มเยือก


เย็นขณะสั่งสอนลูกสะใภ้รองต่อไป “การเข้ามาอยู่ในตระกูล
จ้าวของฉันคงทาให้เธอไม่ได้รับความเป็ นธรรมมากสิ นะ สามี
ยังไม่ทนั ได้ลงไม้ลงมือใส่ เธอ เธอก็ร้องขนาดนี้แล้ว อย่าคิดว่า
คนแก่ ๆ อย่างพวกฉันจะเลอะเลือนจนไม่รู้ว่าคืนนี้ เธอจงใจ
สร้างปั ญหาเพื่อให้คนมารุ มดู เธอเองก็คิดไม่ใช่ เหรอว่าพวก
ฉันสองคนลาเอียงรักเจ้าหกมากกว่า ผักทั้งคันรถที่เจ้าหกซื้ อ
กลับมาในวันนี้คงเป็ นเงินที่พวกฉันช่วยเหลือเขาสิ นะ?”

“ฉันขอพูดตรง ๆ เลยก็แล้วกัน ฉันยังชื่ นชมที่ เธอเป็ นคนใจ


กว้างตรงไปตรงมา คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็ นคนขี้ขลาด ไม่
กล้าพูดออกมาตรง ๆ แต่กลับเอาแต่จอ้ งฉู ฉู่อยู่นนั่ แหละ เธอ
เห็นฉู ฉู่เป็ นอะไร? ผูค้ ุ มนักโทษเขายังไม่จอ้ งเท่ากับที่เธอทา
เลย!”

“อีกอย่างเธอเองก็เห็นแล้วว่าเวลาฉู ฉู่ได้กินของดีก็ยงั เป็นห่ วง


พวกเราสองคน เธอไม่รู้สึกละอายใจบ้างเลยเหรอ? ฉูฉู่เพิง่ แต่ง
เข้ามาอยู่ในบ้านไม่นานยังรู ้จกั กตัญญูขนาดนี้ เธอล่ะแต่งเข้า
มานานแค่ไหนแล้ว? ช่ วงปี ใหม่และวันหยุดเคยต้มน้ าล้างเท้า
ให้พวกฉันสองคนสักครั้งไหม? หลังจากแยกบ้านไป ในทุก
ทุกคืนฉู ฉู่ก็ไม่เคยลืมที่จะต้มน้ ามาให้พวกฉันสองคน อย่าว่า
แต่พวกฉันสองคนไม่ได้ให้เงินช่ วยเหลือพวกเขาสองคนเลย
ต่อให้พวกฉันให้เงินช่วยเหลือ แล้วพวกเธอจะทาไม?”

ลู ก ชายและลู ก สะใภ้ท้ ัง หลายต่ า งพากัน สะอึ ก น้ าเสี ย งที่


ตรงไปตรงมาของคุณแม่จา้ วทาเอาพวกเขาสาลักจนพูดไม่ออก
เลย
แต่กไ็ ม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเย่ฉูฉู่นอ้ งสะใภ้หกคนนี้ เพราะเธอ
มีความกตัญญูอย่างไร้ที่ติจริ ง ๆ

เพียงแต่ก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่ได้รู้แจ้งเห็นชัดว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ตอนนี้พวกเขาคิดได้ว่า คงเป็ นเพราะกังวลเรื่ องเงินของพ่อ
แม่ ดังนั้นจึงทาแบบนั้น พวกเขาดู ถูกบ้านเจ้าหกมากเกิ นไป
จริ ง ๆ!

“ฉันเองก็ยอมรับว่าฉันลาเอียงรักเจ้าหกมากกว่า และฉันก็ไม่
กลัวว่าพวกเธอจะเพ่งเล็งมาที่ฉัน นิ้วมือห้านิ้วยังมีท้ งั สั้นและ
ยาว ถ้าตรงใจฉันก็ตอ้ งรักมากกว่าหน่ อยอยู่แล้ว แล้วพวกเธอ
จะทาไม? ฉันไม่รักพวกเธออย่างนั้นเหรอ ฉันไปทาลายพวก
เธอเหรอ? ฉันไม่ได้ให้อะไรพวกเธอหรื อว่าฉันไปบังคับพวก
เธอเฉื อนเนื้ อตัวเองไปช่ วยเหลือเจ้าหกกัน พวกเธอก็เลยมาชี้
หน้าด่าว่าฉันลาเอียง?”
“ในหมู่ บ ้า นใช่ ว่า จะไม่ มี ค วามล าเอี ย ง พวกเธอบอกว่ า ฉัน
ลาเอียง เคยเห็นหรื อเปล่าว่าคนอื่นเขาลาเอียงด้วยวิธีไหน? คน
พวกนั้นถึงขั้นเฉื อนเนื้ อลูกชายคนอื่นไปช่ วยเหลื อคนที่พวก
เขาลาเอียงรักมากกว่า ฉันไปเฉื อนเนื้อสู บเลือดพวกเธอเหรอ?
พวกเธอถึงได้มีความคิดเห็นเกี่ยวกับฉันมากขนาดนี้!”

คุ ณ แม่ จ ้า วกวาดตามองหน้า เหล่ า ลู ก ชายและลู ก สะใภ้ด้ว ย


ใบหน้าเย็นชา

“แม่ พวกเราไม่ได้…” พี่รองจ้าวพูดอย่างขมขื่น

“นั่ น สิคะคุ ณ แม่ พวกเราจะไปคิ ด แบบนั้ นได้ย ัง ไงกัน ?”


พี่สะใภ้สามรี บพูด

คุณแม่จา้ วแค่นเสี ยงเย็น “พวกเธอไม่ได้คิดแบบนั้น แต่กไ็ ม่ได้


หมายความว่าใครบางคนจะไม่ได้คิดแบบนี้! วันนี้ฉนั ขอพูดไว้
ตรงนี้ อย่างชัดเจนเลยนะ สิ่ งที่เจ้าหกซื้ อหรื อกินเป็นเงินที่เขา
หามาด้ว ยล าแข้ง ของตัว เอง ไม่ ใ ช่ เ งิ น ที่ พ วกฉัน สองคนให้
ตั้งแต่วนั ที่แยกบ้านก็แบ่งกันอย่างชัดเจนแล้ว อย่าเอาแต่โทษ
พวกฉัน สองคนว่ า ล าเอี ย งอย่า งนั้น อย่า งนี้ เพราะตัว เองไร้
ความสามารถ พวกฉันไม่เคยให้เจ้าหกแม้แต่เฟิ นเดียว และจะ
ไม่ให้พวกเธอมากขึ้นแม้แต่เฟิ นเดียวด้วย ถ้ายังสงสัยนัน่ สงสัย
นี่ เห็ น อี ก ฝ่ ายเป็ นหั ว ขโมย ฉั น จะไล่ อ อกจากบ้า นไปเลย
ตระกูลจ้าวของฉันเลี้ยงลู กชายลู กสะใภ้ที่เป็ นแบบนี้ ไม่ ไหว
หรอก!”

สี หน้าของทุกคนดูแตกต่างกันออกไป

มีแค่พี่สะใภ้สี่เพียงคนเดี ยวที่ปิดซ่ อนความตื่นเต้นไว้ไม่ไหว


คาพูดของแม่สามีให้ขอ้ มูลมากพอสมควร ดวงตาเล็ก ๆ ของ
หล่อนกลอกไหวอย่างรวดเร็ ว พยายามฟื้ นต้นสายปลายเหตุที่
เป็ นข้อมูลเดิมทั้งหมดกลับมา

หลังทนให้แม่สามีตนตีววั กระทบคราดนานขนาดนี้ พี่สะใภ้


รองได้ยินจึงพูดอย่างสู ้สุดใจ “คุ ณแม่บอกว่าแม่ไม่ได้ให้เงิน
น้องสามีเล็ก แต่น้องสามีเล็กจะได้เงินมากขนาดนั้นจากการ
พึ่งพาการขายถัว่ งอกเพียงอย่างเดียวเนี่ ยนะคะ? ใช้ชีวิตกินอยู่
สุ ขสบาย ซื้อผักกลับมาเป็ นคัน ๆ รถ พูดออกไปใครจะไปเชื่อ!
คุณแม่ คุณก็เอาแต่ลาเอียงไปหาน้องสามีเล็กตลอด พวกเราจะ
พูดอะไรได้? แยกบ้านกันแล้วก็ยงั เป็ นแบบนี้อีก แม่เป็ นผูใ้ หญ่
แต่มีน้ าในถ้วยไม่เท่ากัน มันก็ไม่ต่างอะไรจากความลาเอียงนัน่
แหละ แม่รักลูกชาย ก็เลยไม่รักหลานชายแล้วสิ นะคะ? พวก
เราเลยได้ผกั กันแค่น้ นั ฤดูหนาวยาวนานขนาดนั้น ไหนจะฤดู
ใบไม้ผลิอีก ถึงเวลานั้นจะมีอะไรให้กิน ที่ฉนั ทาไปเพื่อใครล่ะ
ก็เพื่อลูกของฉันนัน่ แหละค่ะ!”

“ทาให้เธอรู ้สึกถึงความอยุติธรรมจริ ง ๆ สิ นะ คิดไม่ถึงเลยว่า


เธอจะเสแสร้งแกล้งปั้ นหน้าอยู่ในบ้านมานานขนาดนี้ !” คุ ณ
แม่ จ ้า วแค่ น เสี ย งเย็น ก่ อ นหน้า นี้ นางตาบอดจริ ง ๆ คิ ด ว่ า
ลูกสะใภ้คนนี้ ไม่เลวเลย ฟั งดู สิ แบบนี้ ไม่เลวเกินไปแล้วจริ ง
ๆ!
พี่สะใภ้สามถึงขั้นตกตะลึงจนเหม่อลอย นี่คือพี่สะใภ้รองคนที่
แสนใจกว้างและเชื่อฟั งคนนั้นเหรอ ทาไมถึงได้พูดกับแม่สามี
แบบนี้ล่ะ?

“พี่สะใภ้รอง!” หล่อนรี บดึงเสื้ อพี่สะใภ้รอง

พี่สะใภ้สี่เกิดความตื่นเต้นภายในใจขึ้นอย่างฉับพลัน ราพึงใน
ใจว่า เป็ นเพราะผักหนึ่งคันรถนั้นจริ ง ๆ ด้วยสิ นะ!

หล่อนก็ว่าอยู่แล้วเชี ยว พี่สะใภ้รองจะแสร้งทาเป็นไม่เห็นได้
อย่างไรกัน นัน่ เป็ นถึงผักหนึ่งคันรถใหญ่เชียวนะ น้องสามีคน
เล็กผูม้ ีคุณธรรมคนนั้น ทั้งคุยโวโอ้อวดทั้งใช้จ่ายฟุ่ มเฟื อย จะมี
ปั ญ ญาหาเงิ น มาซื้ อ ผัก หนึ่ ง รถเข็น ได้อ ย่า งไรกัน ถ้า ไม่ ใ ช่
เพราะพ่อแม่ แอบเอาเงิ นไปให้ เรื่ องแบบนี้ ไม่ ได้เกิ ดแค่ครั้ง
สองครั้ง ใครจะไม่รู้บา้ งล่ะ?
อีกอย่าง หล่อนเองก็อดไม่ได้ที่จะมองพี่สะใภ้คนนี้ใหม่อีกครั้ง
คิ ด ไม่ ถึ ง เลยว่ า พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วที่ แ สนอ่ อ นโยนจะมี ด้า นที่
แข็งแกร่ งแบบนี้ กล้าต่อปากต่อคากับแม่สามีดว้ ย

ไม่เหมือนกับหล่อน เป็ นเพราะหล่อนไม่มีลูกชาย จึงไม่ได้มี


ความมัน่ ใจมากขนาดนี้ ทาได้เพียงแค่ให้พวกลูก ๆ ไปจ้องมอง
จากนั้นก็แอบนินทาลับหลังนิด ๆ หน่อย ๆ

“ทาไมเธอถึงพูดกับแม่แบบนี้?” พี่รองจ้าวถึงกับโกรธเคือง ต่อ


หน้าน้องชายและภรรยาของน้อ งชาย ภรรยาของเขาพู ด กับ
แม่แบบนี้ได้อย่างไร?

พี่สะใภ้รองรี บหันไปมองพี่รองจ้าวและน้องสามี อีกสองคน


ทันที “ทาไมล่ะ ฉันพูดผิดตรงไหนคะ? เจ้าสาม เจ้าสี่ พวกนาย
เองก็ได้ยนิ แล้ว พวกนายคิดว่าฉันพูดผิดไหมล่ะ?”

พี่สามจ้าวย่อมเสริ มคาพูดของหล่อนอยู่แล้ว เขาพูดเสริ มให้


กาลังใจไปว่า “พี่สะใภ้พูดถูก บ้านพี่มีลูกตั้งหลายคน เด็กผูช้ าย
วัยกาลังโตกิ นเยอะจะตายไป ที่พี่ทาแบบนี้ ก็เพื่อเถี่ ยต้า นกับ
หลูตา้ นทั้งนั้นแหละครับ!”

พี่สี่จา้ วกล่าวเสี ยงเรี ยบ “นัน่ สิ ก็เพื่อเถี่ยต้านกับหลูตา้ น ดังนั้น


แม่กค็ วรให้เงินพวกพี่ ให้พวกพี่ซ้ือผักหนึ่งคันรถใหญ่ถึงจะถูก
มีลูกเยอะก็แบบนี้แหละครับ”

“เจ้าสี่ เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?” พี่สะใภ้รองโกรธจน


ทนไม่ไหว

พี่สี่จา้ วบุย้ ปาก มาตะคอกใส่ แม่ของเขา สุ ดยอดจริ ง ๆ!

สะใภ้สี่ รี บ พู ด “พี่ ส ะใภ้ร องอย่ า โกรธไปเลยค่ ะ เขาไม่ ไ ด้


หมายความว่าอะไรทั้งนั้นแหละ แม่คะ ฉันว่าเรี ยกน้องสามีหก
ออกมาเถอะค่ะ ถามเรื่ องผักคันนั้นไปเลย พี่สะใภ้รองจะได้ไม่
เข้าใจผิดด้วย”
พี่สะใภ้สามกล่าว “เข้าใจผิดอะไรกัน ต่อให้แม่จะให้เงินน้อง
สามีหกก็เป็ นเงินของแม่ มีอะไรให้เข้าใจผิด?”

“ดูพี่สะใภ้สามพูดเข้าสิ มันไม่ใช่ ปัญหาตรงไหนกัน? เป็ นลูก


เป็ นหลานเหมือนกัน น้ าหนึ่งถ้วยก็ตอ้ งให้อย่างเท่าเทียมกันสิ
ไม่ง้ นั ใครจะไปรู ้ล่ะว่าเมฆก้อนไหนจะมีฝน” คาพูดด้านหลัง
ของพี่สะใภ้สี่เบาลง แต่ทุกคนในบ้านก็ยงั ได้ยนิ อย่างชัดเจน

คุ ณแม่จา้ วแอบแค่นเสี ยงเย็นในใจ คาพูดนี้ ช่างน่ าฟั งดี จริ ง ๆ


เมฆก้อนไหนจะมีฝน เธอพูดแบบนี้ เมฆก้อนไหนจะมีฝน ก็คง
เป็ นเมฆก้อนของเธอนัน่ แหละที่วางใจไม่ได้

“ฉันจะบอกพวกเธออีกครั้ง พวกฉันไม่ได้ให้เงินเจ้าหกแม้แต่
เฟิ นเดียว พวกเธอจะเชื่อหรื อไม่กต็ ามใจ” คุณแม่จา้ วแค่นเสี ยง
เย็น

“แม่คะ เรี ยกน้องสามีออกมาถามเถอะค่ะ” สะใภ้สี่กระซิบ


พี่สามรี บพูดต่อ “ใช่ ถามเขาดู เถอะครับ ถามให้ชัดเจนก็สิ้น
เรื่ องแล้ว เอ้อร์หยา หม่าต้าน ไป ไปเรี ยกอาเล็กมา”

เขาหันไปพูดกับลูกที่กาลังยืนดูฉากตื่นเต้นอยู่ดา้ นนอกประตู
ด้วยความประหม่า

ลูกทั้งสองคนรู ้สึกได้ถึงบรรยากาศตึงเครี ยดของผูใ้ หญ่ จึงรี บ


ไปเรี ยก

คุณแม่จา้ วเห็นว่าลูกชายคนเล็กต้องมาเผชิ ญหน้า จึงชี้ หน้าด่า


ลูกชายและลูกสะใภ้ที่อยูใ่ นห้อง “พวกทัศนวิสัยแคบ พวกเธอ
นี่ มนั เก่งจริ ง ๆ เลยนะ ตัวเองไร้ความสามารถแล้วยังกล้ามา
สงสัยเหวินเทาอีก…”
ตอนที่ 58 เรื่ องเลีย้ งดูยามแก่พวกนั้น

ทางฝั่ ง ด้า นหลัง สวน จ้า วเหวิ น เทาได้ยิ น เสี ย งหลานชาย


หลานสาวเดินเข้ามาจึงส่ งเสี ยงออกไปว่าอย่าเคาะประตู แต่เอ้
อร์หยาก็ยงั รี บบอกถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้านนอก

จ้าวเหวินเทากดเย่ฉูฉู่ที่ตื่นขึ้นมาแล้ว “ไม่ใช่ เรื่ องใหญ่อะไร


คุณนอนเถอะไม่ตอ้ งลุกขึ้นมา ผมจะออกไปดูเองว่าเกิดอะไร
ขึ้น”

“ให้ฉนั ไปด้วยเถอะนะคะ?” เย่ฉูฉู่กล่าว

“ไม่ตอ้ งหรอก!” จ้าวเหวินเทายิม้ เขาจูบเธอก่อนยัดเธอเข้าไป


อยูใ่ ต้ผา้ ห่ม

จ้า วเหวิ น เทาสวมเสื้ อ ผ้า จากนั้น จึ ง เดิ น ออกไป เขาได้ยิน


หลานชายหลานสาวพูดว่าเป็ นเพราะผักหนึ่งคันรถนั้น พี่สะใภ้
รองและแม่ของเขาจึงทะเลาะกัน อันที่จริ งไม่ตอ้ งบอกเขาที่อยู่
ในห้องก็ได้ยนิ แล้ว พี่สะใภ้รองของเขาคนนี้นี่มีความสามารถ
จริ ง ๆ เชียว!

“น้องสามีมาแล้ว!” พี่สะใภ้สี่ที่กาลังถูกแม่สามีพ่นไฟแลบจ้อง
ไปที่ประตู เมื่อเห็นจ้าวเหวินเทามา ก็รีบพูดหนึ่งประโยค

คาพูดนี้ จึงขัดจังหวะเสี ยงด่าของแม่สามี หลังจากเข้ามาอยู่ใน


บ้านนี่ เป็ นครั้ งแรกที่ ถูกด่ าเปิ งขนาดนี้ ขื นน้องสามี ยงั ไม่ มา
หล่อนคงรับไม่ไหวแน่

“ทาอะไรกันเนี่ย? ดึก ๆ ดื่น ๆ ไม่หลับไม่นอนแต่มารวมตัวกัน


ทาให้แม่โมโห มีอย่างที่ไหนกัน?” จ้าวเหวินเทากวาดตามอง
พี่ชายและพี่สะใภ้รอบหนึ่ง ก่อนจะกล่าวด้วยน้ าเสี ยงเย็นชา

พี่สามจ้าวเห็นพี่สะใภ้รองไม่เอ่ยปากพูดอะไร เขาจึงพูดขึ้นว่า
“คือเรื่ องเป็ นอย่างนี้ พี่สะใภ้รองคิดว่าผักในรถคันนั้นเป็ นผักที่
แม่แอบเอาเงินมาให้นายซื้อ ก็เลยเรี ยกนายมาถามดู”
พี่ ส ะใภ้ร องไม่ ไ ด้ป ฏิ เ สธ ถึ ง อย่า งไรก็ส ร้ า งปั ญ หาไปแล้ว
หล่อนจึงไม่กลัวทาให้นอ้ งสามีขุ่นเคือง หล่อนเองก็อยากฟั ง
น้องสามีเหมือนกันว่าจะหน้าด้านหน้าทนพูดอย่างไร

คุณแม่จา้ วด่าไปครึ่ งค่อนวันก็แอบเหนื่ อยแล้วเหมือนกัน นาง


ถูกลูกชายคนเล็กประคองไว้ขณะที่ใบหน้าแสดงความเหนื่ อย
ล้า “เจ้าหก พูดไปเลย แม่แอบให้เงินแกหรื อเปล่า? นัน่ เป็ นเงิน
ที่แกหามาด้วยลาแข้งตัวเองทั้งนั้น แต่พี่สะใภ้รองของแกกลับ
คิดว่าแม่แอบเอาเงินให้แกไปซื้ อผัก แกพูดไปสิ ว่าแม่เคยให้
เงินแกหรื อเปล่า?”

จ้าวเหวินเทากลับไม่ให้ความร่ วมมือ เขาแค่นเสี ยงออกมาจาก


ล าคอ “แม่ ใ ห้เ งิ น ฉัน แล้ว จะท าไม เกี่ ย วอะไรกับ พวกพี่ ไ ม่
ทราบ?”

คุณแม่จา้ วตีเขาไปหนึ่ งที “แกอย่ามาพูดจาเหลวไหล นี่ ไม่ใช่


เรื่ องเล่น ๆ นะ แม่ไม่เคยให้เงินแกเลย!”
พี่ ส ะใภ้ร องแค่ นเสี ย งเย็น นี่ ก็เ ป็ นการยอมรั บแล้ว ว่า ให้เงิ น
ช่ ว ยเหลื อ จึ ง พู ด โพล่ ง ออกไปว่า “น้อ งสามี เ ล็ก นี่ ไ ม่ ใ ช่ ว่า
พี่สะใภ้คนนี้ ทา้ ทายอะไรหรอกนะ พ่อกับแม่ลาเอียงไปที่นาย
มาโดยตลอด ตอนที่อยู่ดว้ ยกันยังพอทน แต่แยกบ้านกันแล้ว
ทาแบบนี้มนั ไม่เกินไปหน่อยเหรอ? พวกนายอยูก่ นั แค่สองคน
ได้กินผักมากขนาดนั้น พวกเรามีกนั ตั้งห้าคน แต่ได้ผกั แค่น้ นั
มันจะไปพอกินอะไร? ลูกชายคนเล็กหลานชายคนโต ต่างก็
เป็ นสายเลือดของปู่ ย่า ไม่ว่ายังไงนายก็ไม่สมควรที่จะยึดครอง
ไปคนเดียวไม่ใช่เหรอ? ที่ฉนั พูดมีเหตุผลหรื อเปล่าล่ะ?”

จ้าวเหวินเทาแค่นเสี ยงเย็น “ที่แท้เหตุผลที่พี่สะใภ้รองพูดถึงก็


คืออยากให้แม่เอาเงินให้พี่สินะครับ?”

“น้องสามี พวกเราไม่ได้กงั วลเรื่ องเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพ่อ


กับแม่ พวกเราแค่ตอ้ งการความยุติธรรม!” พี่สะใภ้รองกล่าว
ไปตรง ๆ
“ยุติธรรมอะไร? ความยุติธรรมก็คือทุกคนไม่เห็นความดีของ
ผม ความยุติ ธ รรมก็คือ กลางค่ ากลางคื นทุ ก คนไม่ ย อมหลับ
นอน แถมยังร่ วมมือกันรังแกแม่ผมที่เป็ นคนแก่ง้ นั สิ ? พวกพี่นี่
มันใช้ได้เลยจริ ง ๆ!” จ้าวเหวินเทาเย้ยหยัน

พี่สามจ้าวพูดหนึ่งประโยค “เจ้าหก นายอย่าไปพูดถึงเรื่ องไม่มี


ประโยชน์พวกนั้นเลย นายก็แค่บอกมาว่านายไปเอาเงินมาจาก
ไหน? ขายถัว่ งอกก็คงไม่มีปัญญาซื้ อผักมาหนึ่ งคันรถหรอก
มั้ง? ไหนจะจักรยาน ปลากับเนื้ อชิ้นก้อนใหญ่ ๆ แต่ละมื้ออีก
ของที่พวกเรากินคืออะไรล่ะ แทบจะกินแกลบกันอยูแ่ ล้ว นาย
ยังกล้าพูดอีกเหรอว่าไม่ได้รับการช่วยเหลือจากพ่อแม่?”

พี่สะใภ้สี่เองก็หยิบฉวยโอกาสพูดขึ้นว่า “น้องสามีหก แม่บอก


ว่าไม่ได้ให้เงินนาย ในเมื่อไม่ได้ให้เงินนายแล้วนายไปเอาเงิน
มาจากไหนซื้ อของมากมายขนาดนั้น ขายถัว่ งอกมันจะได้เงิน
สักเท่าไรกันเชียว นายก็บอกพวกเรามาสิ จะได้ไม่มีใครสงสัย
นายไม่ใช่เหรอ?”

จ้าวเหวินเทาโมโหขึ้นมาแล้ว “ผมได้เงินมายังไงต้องบอกพวก
พี่ดว้ ยเหรอ? พวกพี่เป็ นรุ่ นไหนเหรอ? ผมมีความสามารถได้
กินอยูส่ ุ ขสบายแล้วจะทาไม พวกพี่ไม่มีปัญญาก็กินแกลบไปสิ
จะไปโทษใครได้ล่ะ? กลับห้องไปนัง่ พินิจพิเคราะห์ให้ดีเถอะ
คิดดูว่ายังมีเส้นทางอื่นอีกไหม? ดึก ๆ ดื่น ๆ ยังสร้างปั ญหายุ่ง
เหยิงนี้ ไม่จบไม่สิ้น? แม่เองก็เหมือนกัน พวกเขาโง่แล้วแม่ยงั
ปล่อยให้พวกเขาดึงเข้ามาอีก? ถ้าแม่โกรธจนอาการทรุ ดขึ้นมา
ผมกับฉู ฉู่คงได้เจ็บ ปวดหัวใจตายแน่ ไปเถอะ กลับห้อ งไป
นอนได้แล้ว”

ระหว่างที่พูดเขาก็ดึงคุณแม่จา้ วเตรี ยมตัวออกไป

พี่สะใภ้รองเห็ นน้องสามี ด่าพวกหล่ อนไปสองสามประโยค


แล้วคิดจะเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรอีก หล่อนจึงพูดอย่างรี บ
ร้อน “น้องสามีหก นายอย่าลืมนะ พวกเราต้องเลี้ยงดูพ่อกับแม่
ตอนแก่!”

พี่สะใภ้สี่รีบพูดเสริ มหนึ่งประโยค “นัน่ สิ พ่อกับแม่ไม่ได้มีแค่


นายเป็ นลูกชายคนเดี ยวนะ วันที่พ่อกับแม่แก่จนเดิ นไม่ ไหว
พวกเราแต่ละคนก็ตอ้ งแบ่งหน้าที่กนั จะให้สิ่งดี ๆ กับนายคน
เดี ยวได้ยงั ไง ถึ งเวลานั้นก็ตอ้ งให้พวกเราอย่างเท่ าเที ย มกัน
ไม่ใช่เหรอ?”

พี่สามจ้าวกล่าว “น้องสะใภ้สี่พูดมีเหตุผล!”

“พูดความในใจออกมาแล้วสิ นะ” จ้าวเหวินเทากวาดตามอง


พี่สะใภ้รอง พี่สามและพี่สะใภ้สี่ “ไม่คิดจะเลี้ยงดูตอนแก่เฒ่าก็
บอกมาตรง ๆ พวกพี่ไม่คิดจะเลี้ยงดู แต่ภรรยาผมคิดว่านี่ เป็ น
สิ่ งล้ าค่ าที่ สุด หล่ อนบอกกับผมว่าในบ้านมี ค นแก่ สองคนก็
เหมือนกับมีสมบัติสองชิ้น หลังจากนี้ ผมจะออกไปสร้างบ้าน
เอง จะแบ่งห้องไว้หนึ่ งห้อง ถึงเวลานั้นจะรับพ่อกับแม่ไปอยู่
ด้วย ตอนนี้ ในเมื่อพวกพี่พูดออกมาแล้ว งั้นผมก็พูดให้ได้ยิน
กันถ้วนหน้าไปเลย หลังจากนี้ ผมจะเลี้ยงพ่อกับแม่เอง พวกพี่
ไม่ตอ้ งมายุง่ ดังนั้นพวกพี่สบายใจได้เลย!”

“พวกนายพูดอะไรกัน เลี้ยงดู พ่อแม่ยามแก่เป็ นเรื่ องที่ควรทา


อยูแ่ ล้ว!” พี่รองจ้าวโกรธจนทนไม่ไหว จึงถึงขั้นขึ้นเสี ยงใส่

พี่สะใภ้สามจ้าวรี บพูด “นัน่ สิ ๆ เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ


คาพูดพวกนี้ทาร้ายจิตใจกันเกินไปแล้ว!”

จ้าวเหวินเทากล่าวเสี ยงเรี ยบ “ผมไม่ได้หา้ มไม่ให้พวกพี่เลี้ยงดู


พ่อแม่ยามแก่ และผมก็ไม่ได้หา้ มไม่ให้พวกพี่ไม่เจ็บปวดหัวใจ
ถึงเวลานั้นพวกเราจะออกไปสร้างบ้านกันเอง พ่อกับแม่ก็จะ
ไปอยูก่ บั พวกผม ส่ วนคนอื่นที่เหลือก็จดั การกันเอาเอง”

จ้าวเหวินเทาพอจะดูท่าทางของพี่ชายและพี่สะใภ้ในคืนนี้ออก
แล้ว ว่าพวกเขาต่างก็ไม่ใช่คนดีอะไร ขนาดพ่อกับแม่ยงั เดินได้
ยังบ่ นอิ ดออดกันขนาดนี้ ถ้าหากเดิ นไม่ ไหวขึ้ นมาจะขนาด
ไหน?

อยู่ขา้ งตัวเขานี่ แหละถึงจะเบาใจ พวกเขาเต็มใจก็แสดงความ


กตัญญู แต่ ถา้ ไม่ เต็มใจอยากเป็ นลู กอกตัญญู ก็ตามสบาย ถึ ง
อย่างไรเขาก็เลี้ยงดูพ่อแม่ให้ดีได้

“เจ้าหก นายพูดอะไรเนี่ย?”

พี่ ส ามจ้า วอยากจะพู ด ต่ อ อี ก สั ก สองสามประโยค จ้า วเหวิ


นเทากลับพู ด อย่า งหมดความอดทน “พวกพี่ บ อกว่า พ่ อ แม่
ลาเอียงรักผมมากกว่าไม่ใช่ เหรอ งั้นก็ควรให้พ่อกับแม่มาอยู่
กับผมสิ นี่กเ็ ป็ นสิ่ งที่พวกพี่ตอ้ งการอยูแ่ ล้วไม่ใช่หรื อไง”

พี่สะใภ้รองแค่นเสี ยง “ทาตามนายให้คนนอกลอบกัดเราหรื อ
ไง พวกเรายังจะเป็ นคนได้อีกเหรอ? ยังจะให้พวกเราเป็ นลูกได้
อีกเหรอ?”
พี่สะใภ้สี่ได้ยิน ก็อดไม่ได้ที่จะชื่ นชมความหัวไวของพี่สะใภ้
รอง คาพูดนี้มีเหตุผล ใช่แล้ว ทาตามน้องสามี คนนอกคงได้คิด
ว่าพวกเขาเป็ นลู กเนรคุ ณแน่ นอน คนพวกนั้นจะพูดถึ งพวก
หล่อนอย่างไร?

“นัน่ สิ พี่สะใภ้รองพูดถูก”

พี่สามจ้าวจึงพูดตาม “นัน่ สิ เจ้าหก จะให้พ่อกับแม่ใช้ชีวิตอยู่


กับนายคนเดียวไม่ได้ ต่อให้อยูก่ บั นาย ก็ตอ้ งไปบอกให้คนอื่น
รับรู ้ดว้ ย ว่าพวกเราไม่ได้เป็ นลูกอกตัญญู”

จ้าวเหวินเทามองพี่ชายสาม “จะกตัญญู หรื ออกตัญญู ยงั ต้อง


บอกให้คนนอกรู ้ พี่จะกตัญญูให้คนนอกดูหรื อไงครับ?”

พี่ ส ามจ้า วกล่ า ว “เจ้า หกนายอย่า เพิ่ ง โมโหสิ ต้น ไม้ก็ต ้อ งมี
เปลื อก คนเราก็ตอ้ งมี หน้า พวกเราเองก็ไม่ อยากให้เรื่ องมัน
เป็ นแบบนี้ นายยังหนุ่มยังแน่น ไม่เคยผ่านประสบการณ์ คงไม่
รู ้วา่ สิ่ งนี้มนั รุ นแรงแค่ไหน”
พี่ ส ามจ้า วแสร้ ง ท าเป็ นคนที่ เ ดิ น ผ่ า นมา ท าเป็ นพู ด อย่ า งมี
ระเบียบแบบแผน ทาให้จา้ วเหวินเทาถึงกับโมโห พี่ชายสาม
คนนี้ หน้าหนาเสี ยเหลื อเกิน ไม่กตัญญู แล้วยังจะพูดจาคล่ อง
ปากแต่กลับใช้การจริ ง ๆ ไม่ได้
ตอนที่ 59 เลีย้ งดูยามแก่เฒ่ าไม่ ใช่ เรื่ องเล็ก ๆ

คุ ณแม่จา้ วเหล่ตามองเจ้าสามปราดหนึ่ ง จากนั้นจึงพูดกับลูก


ชายคนเล็กว่า “เจ้าหก รอบ้านแกสร้างเสร็ จเมื่อไหร่ ค่อยว่ากัน
ตอนนี้พวกเรายังเดินได้ ไม่ตอ้ งมีใครช่วยทั้งนั้นแหละ พวกเรา
จะใช้ชีวิตกันเอง เรื่ องน่ าราคาญแบบนี้ ทะเลาะไปก็ไม่จบสิ้ น
กลับไปนอนให้หมดเลยไป”

คุ ณแม่ จา้ วลากจ้าวเหวินเทาเดิ นออกมา ระหว่างทางก็พูดว่า


“แกนี่ ก็จริ ง ๆ เลยนะ ไปบอกว่าจะเลี้ยงพ่อกับแม่ตอนแก่คน
เดียวได้ยงั ไง”

ในใจก็รู้สึกซาบซึ้ งอยูห่ รอก แต่นางไม่อยากให้เรื่ องเลี้ยงดูยาม


แก่เฒ่าตกไปอยูท่ ี่ลูกชายคนเล็กเพียงคนเดียว
“แม่ เห็นพวกเขาเป็ นแบบนั้นแล้ว ท่าทางเหมือนกับคนที่จะ
เลี้ยงพ่อกับแม่ตอนแก่เหรอ? รอให้ผมสร้างบ้านได้เมื่อไหร่ พ่อ
กับแม่ก็มาอยู่กบั พวกเรา ส่ วนคนพวกนั้นอยากจะทาอะไรก็
เชิญ” จ้าวเหวินเทากล่าว

คุณแม่จา้ วถอนหายใจ ภายในใจก็อยากจะพูดอีก แต่ตอนนี้ดึก


ขนาดนี้ แล้ว พรุ่ งนี้ เช้าลูกชายคนเล็กก็ตอ้ งตื่นเช้าอีก จึงพูดว่า
“เรื่ องนี้ ค่อยคุยกันวันหลัง รี บกลับไปนอนเถอะ พรุ่ งนี้ ตื่นไม่
ไหวก็ไม่ตอ้ งเข้าเมืองแล้ว พักผ่อนสักวัน”

จ้าวเหวินเทารู ้ดีว่าตอนนี้ ยงั ไม่ได้สร้างบ้าน พูดมากไปก็ไม่มี


ประโยชน์ “อะไรก็ไม่สามารถหยุดการหาเงินของผมได้ท้ งั นั้น
แหละ มันไม่ใช่เรื่ องใหญ่อะไร แม่ งั้นผมกลับไปนอนแล้วนะ
ถ้าพวกเขายังมาสร้างความวุน่ วายก็ไม่ตอ้ งไปสนใจแล้ว”

“เข้าใจแล้ว รี บกลับไปนอนเถอะ” คุณแม่จา้ วพยักหน้า


ทางฝั่งพี่สะใภ้รองจ้าว เมื่อเห็นว่าคุณแม่จา้ วและเหวินเทากลับ
ไปแล้ว ทะเลาะต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงแยกย้ายกันกลับห้อง
ส่ วนพี่รองจ้าวก็ไม่ได้สนใจพี่สะใภ้รอง เขาดึงผ้าห่ มที่ปูอยูบ่ น
เตียง ก่อนจะตะโกนเรี ยกลูกทั้งสามคนที่กาลังตกใจอยูบ่ นพื้น
“รี บขึ้นไปนอนบนเตียง!”

ลูก ๆ ทั้งสามคนนัง่ มองแม่ที่ยงั นัง่ อยูท่ ี่พ้นื ก่อนรี บขึ้นไปนอน


บนเตียงอย่างรวดเร็วโดยไม่กล้าส่ งเสี ยงดัง

เหลือก็แค่พี่สะใภ้รองจ้าวเพียงคนเดียว หล่อนสร้างปั ญหามา


ครึ่ งค่อนวันก็รู้สึกเหนื่อยแล้วเช่นกัน จึงไม่มีกะจิตกะใจจะคิด
เรื่ องอื่น หลังจากเป่ าลมดับไฟก็เอนตัวนอน

คืนนี้มีเพียงเย่ฉูฉู่ที่นอนหลับสบาย เธอตื่นขึ้นก็ตอนที่สามีของ
เธอกลับมาที่ห้องแล้วพาลมหนาวเข้ามาด้วย ก่อนจะถามด้วย
น้ าเสี ยงงัวเงียหนึ่งประโยค
จ้าวเหวินเทาบอกเธอว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรแล้วก็หลับไป เธอ
จึงหลับปุ๋ ยไปอีกครั้ง ครั้นตื่นมาอีกทีตอนรุ่ งสาง คนเป็ นสามีก็
เข้าเมืองไปแล้ว

ชีวติ ในฐานะภรรยาของเธอจะดีเกินไปหรื อเปล่านะ?

เย่ฉูฉู่แอบรู ้สึกละอายใจ แต่เธอก็ชอบชีวติ ที่เป็ นแบบนี้มากจริ ง


เธอนอนขลุกตัวอยู่ในผ้าห่ มอุ่น ๆ อย่างเกียจคร้านอยู่ครู่ หนึ่ ง


ถึ ง จะลุ ก ขึ้ น หลัง จากเก็บ ข้า วของลวก ๆ และรั บ ประทาน
อาหารเช้าแล้ว เธอก็มาหาแม่สามีเพื่อถามถึงเรื่ องที่เกิดขึ้นเมื่อ
คืน เธอรู ้สึกได้ว่าบรรยากาศภายในบ้านผิดปกติ แต่ก็บอกไม่
ถูกว่าผิดปกติอย่างไร มันดูไม่ค่อยเหมือนกับทุก ๆ วันที่ผา่ นมา
เลย

“น้องสะใภ้หก!” พี่สะใภ้สี่จา้ วที่กาลังเรี ยงกองฟื นหันมาโบก


มือเรี ยกเธอ
“พี่สะใภ้สี่ มีอะไรเหรอคะ?” เย่ฉูฉู่เดินเข้าไปหา

พี่ ส ะใภ้สี่ ท าท่ า ทางให้เ ธอลดเสี ย งลง จากนั้น ก็ล ากเธอไป


ด้านหลังกองฟื น ทั้งยังทาท่าหันซ้ายเหลียวขวา ก่อนจะพูดขึ้น
“น้องสะใภ้หก น้องสามีเล็กล่ะ?”

“เข้าไปขายถัว่ งอกในเมืองแล้วค่ะ” เย่ฉูฉู่มองหล่อนขณะตอบ

“ยังมีกะจิตกะใจไปขายถัว่ งอกอี กนะ” พี่สะใภ้สี่ส่งเสี ยงจุ๊ ๆ


สองเสี ยง ก่อนจะพูดต่อไปว่า “น้องสามีขยันจริ ง ๆ ตอนเช้า
หนาวจะตาย ตื่นเช้าแบบนี้ ทุกวันคงขายได้เงินไม่น้อยจริ ง ๆ
สิ นะ?”

เห็นท่าทางซุบซิ บของพี่สะใภ้สี่ เย่ฉูฉู่จึงพยักหน้าตอบกลับไป


“ขายได้เงินไม่นอ้ ยอยูแ่ ล้วค่ะ”

“ได้เท่าไรล่ะ?” พี่สะใภ้สี่รีบถาม
“แค่ เ ตรี ย มขายถั่ว งอกเพื่ อ เป็ นครั ว เรื อ นหมื่ น หยวนน่ ะ ค่ ะ
เหวินเทาก็เคยพูดไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้

พี่สะใภ้สี่รู้สึกได้ในทันทีว่าตนเองถูกหลอก ใช้ชีวิตอยูก่ บั ใคร


ก็เป็ นแบบคนนั้นจริ ง ๆ ก่อนหน้านี้ น้องสะใภ้เล็กคนนี้ แม้ว่า
จะเจ้าอารมณ์แต่ก็เป็ นคนจริ งใจ ดู ตอนนี้ สิ พูดจาทีเล่นทีจริ ง
ออกมาได้เต็มปากเต็มคา!

“พี่สะใภ้สี่ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวนะคะ” เย่ฉูฉู่ไม่ได้มีเวลา


ว่างมากพอที่จะพูดคุยไร้สาระกับอีกฝ่ าย

“มี สิ ” พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วรี บ พู ด “เรื่ อ งเมื่ อ คื น เธอเองก็ รู้ แ ล้ว ใช่
ไหม?”

“เมื่ อ คื น มี เ รื่ อ งอะไรคะ?” เย่ฉู ฉู่ ย งั ไม่ รู้ จ ริ ง ๆ เมื่ อ คื น เธอก็


เหนื่อยมาก จึงหลับลึกโดยไม่รู้เรื่ องรู ้ราว
พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วแปลกใจเมื่ อ เห็ น ท่ า ทางของเย่ฉู ฉู่ ที่ดู ไ ม่ ไ ด้เส
แสร้งอะไร หรื อว่าจะไม่รู้จริ ง ๆ?

ไม่มีทาง เสี ยงดังเอิกเกริ กขนาดนั้นจะไม่รู้ได้อย่างไรกัน? คง


ไม่ รู้ เ รื่ อ งที่ น้อ งสามี เ ล็ ก บอกว่ า จะเลี้ ยงพ่ อ แม่ ย ามแก่ สิ น ะ
หล่อนจึงซุบซิ บเกี่ยวกับเรื่ องที่นอ้ งสามีเล็กสัญญาว่าจะเลี้ยงดู
พ่อแม่ยามแก่ให้ฟัง

“น้องสะใภ้หก ไม่ใช่วา่ พี่พูดอะไรไม่เข้าหูนะ แต่การเลี้ยงดูพ่อ


แม่ยามแก่เฒ่าไม่ใช่ เรื่ องง่ายเลย เรื่ องที่พอจะดีอยู่บา้ งก็มีพวก
อาหารการกิน ที่อย่างไรก็กินข้าวกันแค่ขา้ วถ้วยเดียว เสื้ อผ้าที่
สวมใส่ กไ็ ม่ได้มากมายอะไร เสื้ อหนึ่งตัวใส่ ได้ต้ งั หลายปี ถ้าจะ
ให้กลัวก็กลัวเรื่ องเจ็บป่ วยนี่ แหละ คนแก่ป่วยง่าย ป่ วยนิ ด ๆ
หน่ อย ๆ ไม่ เป็ นไรหรอก แต่ ถา้ ป่ วยหนักขึ้ นมา โอ๊ยเธอเอ๊ย
นอนติดเตียงลุกไม่ข้ ึน อย่าว่าแต่ตอ้ งจ่ายเงินเลย แถมยังต้อง
ดูแลปรนนิบตั ิอีก”
“ยายจางที่อยูถ่ นนด้านหน้าเธอเองก็น่าจะรู ้ อายุยงั ไม่ถึงเจ็ดสิ บ
ฤดู หนาวปี ที่แล้วตอนหิ มะตก ลื่นล้มหัวคะมาเพราะเม็ดแตง
ผลลัพธ์ที่ได้คือเป็ นอัมพาตเลย ถึงตอนนี้ ก็ยงั ลุกไม่ข้ ึน ป้ าจาง
ที่เป็ นลูกสะใภ้อายุสี่สิบกว่าปี ผ่านไปแค่ปีเดียวก็ผมขาวทั้งหัว
เลย ดูแลคนแก่ที่เจ็บไข้ได้ป่วยชนิดที่ไม่ตอ้ งหลับต้องนอนเลย
ล่ะ!”

พี่สะใภ้สี่พูดฉอด ๆ ไม่ หยุด ระหว่างที่ พูดก็เสริ มในใจ เธอ


กตัญญู นักไม่ใช่ เหรอ? ทั้งยกน้ าล้างเท้าทั้งเอาของดี ๆ ไปให้
พ่อกับแม่กิน แล้วอย่างไรล่ะ ใคร ๆ ก็ทาได้ รอให้นอนเป็ น
อัมพาตติดเตียงก่อนเถอะ ดูสิวา่ เธอจะยังกตัญญูอีกหรื อเปล่า!

หล่อนไม่อยากจะนึกเลย หากหล่อนไม่สามารถทาอะไรอย่างที่
คนอื่นทาได้ ต่อไปนางจะคาดหวังอะไรจากหล่อนได้อีก?

เย่ฉูฉู่ฟังอย่างใจเย็น แม้ว่าคาพูดของพี่สะใภ้สี่จะใส่ สีตีไข่เพิ่ม


เข้าไป แต่ความหมายโดยรวมก็ยงั ไม่เปลี่ยน นัน่ ก็คือพี่ชายและ
พี่สะใภ้ต่างก็สงสัยว่าพ่อกับแม่แอบเอาของดีให้พวกเขา และ
สามีของเธอก็เสนอว่าจะเลี้ยงดูพวกท่านยามแก่เฒ่าเพียงลาพัง

แต่ เ หล่ า พี่ ช ายและพี่ ส ะใภ้ไ ม่ ย อม เหตุ ผ ลที่ ไ ม่ ย อมกลับ


กลายเป็ นเพราะกังวลว่าจะได้ชื่อว่าเป็ นลู กเนรคุ ณ ภายหลัง
สามีของเธอบอกว่าอย่างนั้นก็ให้พ่อแม่อยู่กบั พวกเขา แต่กไ็ ม่
มีใครเห็นด้วย ท้ายที่สุดก็จบลงแบบคาราคาซัง

เธอพอจะจินตนาการถึงฉากที่เกิดขึ้นตอนนั้นออก จึงรู ้สึกรัก


สามีของตัวเองมาก ปากก็พูดไปว่า “พี่สะใภ้สี่ เหวินเทาบอก
กับฉันแล้วว่าหลังจากสร้างบ้านจะรับพ่อกับแม่ไปอยูด่ ว้ ย ฉัน
เองก็ตอบตกลงแล้ว ต่อให้ถึงวันนั้นวันที่พ่อกับแม่แก่จนเดิ น
ไม่ไหว ฉันในฐานะลูกสะใภ้ ก็ควรดู แลปรนนิ บตั ิพ่อกับแม่
พี่สะใภ้สี่ ถ้าไม่มีเรื่ องอะไรแล้วฉันไปก่อนนะคะ”
พี่สะใภ้สี่เบิกตากว้าง ที่หล่อนพูดไปครึ่ งค่อนวันกลายเป็ นสู ญ
เปล่ า ? คนคนนี้ คงไม่ ใ ช่ ว่ า เป็ นยัย โง่ ห รอกนะ? ยิ น ดี ที่ จ ะ
ปรนนิบตั ิคนแก่ ทาไมอีกฝ่ ายถึงไม่เชื่อหล่อนล่ะ!

แต่เมื่อย้อนคิดดู ไม่ว่าจะเป็ นน้องสามีเล็กหรื อเย่ฉูฉู่ ทั้งคู่ต่างก็


พู ด ว่ า จะสร้ า งบ้า นแล้ว มารั บ พ่ อ กับ แม่ ไ ปอยู่ ด้ว ย ในทาง
กลับ กัน ถ้า หากไม่ ส ร้ า งบ้า นก็ ไ ม่ ต ้อ งรั บ พ่ อ กับ แม่ ไ ปอยู่
ด้วยน่ะสิ ?

จะสร้างบ้านเมื่อใด ใครจะไปรู ้ ? น้องสามีเล็กก็เป็ นแบบนั้น


คุยโวโอ้อวดใช้เงินฟุ่ มเฟื อย ทั้งชีวติ นี้จะสร้างบ้านได้หรื อเปล่า
ก็ไม่รู้แต่กข็ อให้ได้คุยโวไว้ก่อน!

พี่สะใภ้สี่ที่คิดว่าตนเองได้ทราบความจริ งแล้วถึงขั้นตบหน้าขา
ตัวเองดังฉาด ราวกับเห็นแสงสว่างส่ องผ่านม่านเมฆ ความจริ ง
กระจ่างโดยพลัน!

ที่แท้กเ็ ป็ นแค่การคุยโวนี่เอง!
เย่ฉูฉู่มาหาคุ ณแม่ จา้ วทางฝั่ งนี้ เธอกล่ าวด้วยรอยยิ้ม “แม่คะ
หลังจากนี้พวกเราคงได้เอาเปรี ยบพี่รองแล้ว”

คุณแม่จา้ วชะงัก นางรู ้สึกไม่เข้าใจโดยพลัน “เอาเปรี ยบอะไร


กัน?”

“ที่บา้ นมีคนแก่หนึ่งคนก็เท่ากับมีสมบัติหนึ่ งชิ้น แม่กบั พ่อคือ


สมบัติสองชิ้น หลังจากนี้ ฉันกับเหวินเทาต้องการดูแลพ่อกับ
แม่ นี่ ก็เท่ากับว่าพวกเราเอาเปรี ยบแล้วไม่ใช่ เหรอคะ?” เย่ฉูฉู่
กล่าวด้วยรอยยิม้

คุ ณ แม่ จ ้า วเข้า ใจได้ใ นทัน ที ไม่ ว่ า หลัง จากนี้ จะอยู่ก ับ ใคร


เพื่อให้เลี้ยงดูยามแก่ ทว่าเมื่อได้ยนิ ลูกสะใภ้เล็กพูดแบบนี้ก็เกิด
ความอบอุ่นใจ นางกล่าวด้วยรอยยิม้ “เหวินเทาบอกเธอแล้ว
เหรอ?”
“เหวิ น เทาบอกกับ ฉั น นานแล้ว ค่ ะ รอให้ ส ร้ า งบ้า นเสร็ จ
เมื่อไหร่ พวกเราจะให้พ่อกับแม่ไปอยูด่ ว้ ยกัน” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วย
รอยยิม้

คุ ณแม่ จา้ วได้รับการปลอบประโลมใจเป็ นอย่างมาก ไม่ เสี ย


แรงที่รักลูกคนเล็กเลย ไหนจะภรรยาของลูกชายคนเล็กคนนี้
อีก ต่างก็กตัญญูรู้คุณกันทั้งคู่
ตอนที่ 60 กตัญญูเอาหน้ า

“พวกเรายังทางานได้อยู่ ขออยูด่ ว้ ยตัวเองสักสองสามปี พอแก่


จนขยับไม่ ไหวแล้ว ทุ กคนต่ างก็ตอ้ งแบ่ งกันดู แล จะให้เป็ น
ภาระของครอบครัวพวกเธอครอบครัวเดียวไม่ได้” คุณแม่จา้ ว
กล่าว

เย่ฉูฉู่ไม่คิดเกลี้ยกล่อมอีก ลูกกตัญญูไม่ใช่ว่าต้องให้ผใู ้ หญ่เชื่อ


ฟั ง การจัด การของตนเอง แต่ ใ ห้เ คารพความประสงค์ข อง
ผูใ้ หญ่ให้มากที่สุด อีกอย่างบ้านก็ยงั ไม่ได้สร้าง ตอนนี้ จึงไม่
จาเป็ นต้องให้คุณพ่อคุณแม่ตดั สิ นใจ

เมื่อเห็นแม่สามีวางไหสองใบ และต้มน้ าร้อนอีกหนึ่งหม้อ เย่ฉูฉู่ก็


ทราบได้วา่ แม่สามีกาลังเตรี ยมทาผักดอง เธอจึงอยูช่ ่วยแม่สามีขดั
ล้างไห
ขณะนั้นเองพี่สะใภ้รองจ้าวถูกหลี่เฟิ นเพื่อนสนิ ทในหมู่บา้ น
ลากไปทาผักดอง

หลี่เฟิ นอาศัยอยูต่ รงลานทางทิศตะวันตก อยูต่ ิดกับห้องทางทิศ


ตะวันตกที่พี่สะใภ้รองจ้าวอาศัยอยู่พอดี เมื่อคืนนี้ หล่อนจึงได้
ยินเสี ยงเอะอะโวยวายของพี่สะใภ้รองจ้าว

“เกิดอะไรขึ้น?” หลี่เฟิ นเอ่ยถามพี่สะใภ้รองจ้าวขณะที่ท้ งั สอง


กาลังยืนล้างผักกาดขาวอยูห่ น้าไห

พี่สะใภ้รองจ้าวเก็บซ่ อนไม่ได้ ตาทั้งสองข้างของหล่อนยังคง


ปูดบวมไม่หาย

“ทะเลาะกั บ สามี ม า” พี่ ส ะใภ้ ร องจ้ า วใช้ ส องนิ้ ว แหวก


ผักกาดขาว ทั้งยังหงุดหงิ ดขึ้นมาอีกครั้ ง “น้องสามีซ้ื อผัก มา
หนึ่งคันรถ เธอเองก็รู้สินะ?”

“ทาไมจะไม่รู้ล่ะ ทั้งหมู่บา้ นมีใครบ้างที่ไม่รู้” หลี่เฟิ นกล่าว


“เธอว่าขายถัว่ งอกจะขายได้เงินเท่าไรกันเชียว ซื้ อทั้งจักรยาน
และผักอีกหนึ่งคันรถ เธอไม่รู้หรอกว่าพวกเขากินอะไรกันบ้าง
นี่ยงั ไม่พูดถึงปลากับเนื้อหมูชิ้นใหญ่แต่ละมื้อนะ ไปเอาเงินมา
จากไหน? ฉันแค่พูดไปไม่กี่ประโยค สามีกไ็ ม่พอใจแล้ว”

พี่สะใภ้รองจ้าวพูดจริ งบ้างไม่จริ งบ้าง แม้ว่าจะเป็ นเพื่อนสนิท


แต่กไ็ ม่สามารถบอกความจริ งทั้งหมดได้

หลี่ เ ฟิ นไม่ ส นใจว่า เป็ นเรื่ อ งจริ ง หรื อ ไม่ รู ้ เ พี ย งแค่ ว่า นี่ เ ป็ น
สาเหตุกพ็ อแล้ว

“เขาก็ลาเอียงไปทางน้องคนเล็กมาตั้งแต่แรกอยูแ่ ล้ว นี่กห็ ลาย


ปี แล้วนะ เธอยังไม่เข้าใจอีกเหรอ ทาไมถึงยังทะเลาะเรื่ องนี้ กนั
อีก นี่ไม่ใช่เป็ นการหาเหาใส่ หวั หรอกเหรอ” หลี่เฟิ นปลอบใจ

“เมื่อก่อนก็แบบนั้นแหละ ตอนนี้แยกบ้านแล้ว ครอบครัวของ


ฉันคนเยอะ แบ่งผักกาดขาวกันได้นิดเดียว สู ้ผกั กาดขาวของ
เธอไม่ได้เลยด้วยซ้ า เด็ก ๆ ก็กินเก่ง มันจะไปพอได้ยงั ไง ถึง
พ่อกับแม่จะลาเอียงมากกว่านี้ แต่ก็ไม่ควรเยอะเกินไปไม่ ใช่
เหรอ?” พี่สะใภ้รองจ้าวระบายออกมา

“เธอสร้างความวุน่ วายแล้ว ผลเป็ นยังไงล่ะ?” หลี่เฟิ นกล่าว

“ผลจะเป็ นยังไงได้ล่ะ? คุณพ่อคุณแม่ไม่ยอมรับน่ะสิ ส่ วนจ้าว


เหวินเทาก็โวยวายว่าจะเลี้ยงพ่อแม่ ยามแก่คนเดี ยว” พี่สะใภ้
รองจ้าวแค่นเสี ยงเย็น “น้องสามีสภาพแบบนั้น ต่อให้ไม่ใช่ฉนั
ที่พูด แค่ให้เขาเลี้ยงตัวเองให้รอดก็ยากแล้ว ยังจะเลี้ยงดูพ่อแม่
ยามแก่อีก มีแต่เป็ นภาระนัน่ แหละ!”

“แม่สามีของเธอไม่ยอมรับเหรอว่าให้เงินน้องสามี?” หลี่เฟิ น
ถาม

“แม่เคยยอมรับที่ไหนกันล่ะ? ก่อนหน้านี้พวกเราไม่เคยพูด แต่


ครั้งนี้พูดออกไปแล้ว” พี่สะใภ้รองจ้าวมีความคิดเห็นมากมาย
หลี่เฟิ นครุ่ นคิดพลางกล่าวว่า “แม้ว่าแม่สามีของเธอจะลาเอียง
ไปทางน้องสามี แต่ก็คงไม่โกหกหรอกมั้ง ถึงอย่างไรการใช้
ชีวิตมันก็ไม่ใช่แค่วนั สองวัน ถ้าเป็ นแบบนี้จนเคยชิน จะต้องมี
เงินเท่าไรถึงจะพอ?”

พี่สะใภ้รองจ้าวมื อ ล้า งผัก ปากก็กล่ า วว่า “ไม่ โกหก? ถ้าไม่


โกหกงั้นก็หมายความว่าขายถัว่ งอกจนมีเงินมากขนาดนั้นเลย
เหรอ?”

แต่ คากล่ าวของหลี่ เฟิ นกลับสมเหตุ สมผลอย่างยิ่ง แม้ว่าเงิน


บาเหน็จของคุณพ่อคุณแม่ของสามีจะมีไม่นอ้ ย แต่ก็ใช้ได้ไม่
นาน คุณพ่อคุณแม่ของสามีกไ็ ม่ใช่คนเลอะเลือนแบบนั้น…

คาพูดของแม่สามีไม่ช่วยให้หล่อนเบิกบานใจเลย หรื อว่าแม่


สามีจะไม่ได้ให้เงินกับจ้าวเหวินเทาจริ ง ๆ ทั้งหมดเป็ นเงินที่
จ้าวเหวินเทาหามาเอง? มันจะเป็ นไปได้อย่างไร?
หลี่เฟิ นกล่าว “ขายถัว่ งอกจะได้เงินเท่าไรกันเชี ยว ตอนแยก
บ้านไม่ใช่ว่าพวกเธอแบ่งเงินกันแล้วเหรอ น่าจะเป็ นเพราะใช้
เงินที่แบ่งนัน่ แหละ”

ถ้าครอบครัวในหมู่บา้ นต้องการแยกบ้าน ขั้นตอนการแยกบ้าน


ทุกคนในหมู่บา้ นย่อมรู ้ดี สิ่ งนี้ ไม่สามารถปิ ดซ่ อนได้ ตระกูล
จ้าวก็เช่นกัน แบ่งเงินกันเท่าไร หลี่เฟิ นก็เคยได้ยนิ มาแล้ว “ฉัน
ได้ยนิ มาว่า พวกเธอแบ่งเงินกันได้มาไม่นอ้ ยเลยนะ”

พี่สะใภ้รองจ้าวจึงคานวณคร่ าว ๆ ในใจ ถ้าใช้เงินที่ได้จากการ


แยกบ้านมาก็เหมือนจะพอดีกบั ที่จ่ายไป

แต่ถา้ นับเงินที่แยกบ้าน น้องสามีที่กินเงินเก็บของครอบครัว


แบบนี้ ช่างฟุ่ มเฟื อยจริ ง ๆ

เมื่อคิดได้ดงั นี้พี่สะใภ้รองจ้าวจึงสบายใจขึ้นมาก
“เขายังบอกว่าจะสร้างบ้านให้คุณพ่อคุณแม่ไปอาศัยอยู่กบั เขา
ด้วยนะ ไร้ระเบียบวินยั แบบนี้ ทั้งชี วิตจะสร้างบ้านได้เหรอ?”
พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วอารมณ์ ดี ข้ ึ น มาแล้ว น้ า เสี ย งของหล่ อ นจึ ง
กระปรี้ กระเปร่ าขึ้นหลายส่ วน

“คาพูดสวยหรู ใครก็พูดได้ อีกอย่างนะ สุ ขภาพร่ างกายของพ่อ


แม่สามีของเธอก็ยงั แข็งแรงดี ยังไม่แก่ แถมยังทางานได้ และมี
เงินอยู่ในมือ ถ้าอาศัยอยู่ดว้ ยกันจริ ง ๆ ก็ไม่ได้เสี ยหายอะไร
เผลอ ๆ ยังได้กาไรอีก”

คาพูดของหลี่เฟิ นทาให้พี่สะใภ้รองจ้าวฉุกคิดขึ้นมา คาพูดนี้ไม่


ผิดเลย อีกตั้งกี่ปี่กว่าจะถึงตอนที่ตอ้ งเลี้ยงดูคนชรากัน?

ทาไมหล่อนถึ งคิดไม่ ถึงนะ สองคนนี้ ดีดลู กคิดเก่ งกันจริ ง ๆ


คนที่กตัญญูนี่มนั ก็กตัญญูจริ ง ๆ!

พี่สะใภ้รองจ้าวคิดพลางแค่นเสี ยงเย็นในใจ
“ฉันขอเตือนเธอไว้ก่อนเลยนะ ปกติแล้วคนชราจะไปอาศัยอยู่
กับลูกคนโต เมื่อถึงตอนนั้นเธอห้ามทาอะไรเลอะเทอะนะ อย่า
ให้นอ้ งสามีเอาเปรี ยบ ทาให้พวกเธอแบกรับชื่อเสี ยงว่าเป็ นลูก
เนรคุณล่ะ” หลี่เฟิ นกล่าว

ในใจของพี่สะใภ้รองจ้าวก็คิดแบบนี้ แต่หล่อนกลับกล่าวว่า
“แม้ว่าน้องสามีจะพูดแบบนั้น แต่แม่สามีของฉันก็ยงั ไม่ได้ให้
คาตอบ ทั้งสองต้องการอยูด่ ว้ ยตัวเองอีกสักสองสามปี อีกอย่าง
บ้านของเขาก็ยงั ไม่ได้สร้าง เรื่ องยังไม่เกิดขึ้นเลย เรื่ องนี้อีกสัก
สองสามปี ค่อยพูดก็ยงั ไม่สาย”

“ก็จริ ง แต่เธอก็จะมีปัญหาด้วยนะ บางครั้งคนชราก็เหมือนเด็ก


ต้องเกลี้ยกล่อมบ้าง” หลี่เฟิ นกล่าว ในมือของผูอ้ าวุโสมีเงินอยู่
ถ้าไม่สู้เพื่อสิ่ งนั้นก็ไม่รู้วา่ ใครเอาเปรี ยบใคร!
พี่สะใภ้รองจ้าวไม่กล่าว แต่ในใจกลับกาลังดีดลูกคิด หลังจาก
นี้ตวั หล่อนเองต้องแสดงละครหน่อย เพื่อไม่ให้แม่สามีบอกว่า
พวกเขาเป็ นลูกเนรคุณ

เย่ฉูฉู่ช่วยแม่สามีทาความสะอาดไห ตอนบ่ายก็ช่วยแม่สามีใส่
ผักกาดขาวลงไปในไห

ไม่รู้วา่ เป็ นเพราะเรื่ องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้หรื อไม่ ทาให้ลูกสะใภ้


ที่เหลือทั้งสามคนก็มาร่ วมทาผักดองในตอนบ่ายด้วย คุ ณแม่
จ้าวจึงแทบไม่ตอ้ งลงมือ เพียงแค่ขยับปากเท่านั้น

“คุณแม่คะ ผักเหล่านี้ จะไปตากให้แห้งใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้น


ฉันถักให้นะคะ?” พี่สะใภ้รองจ้าวเดินไปยังกาแพงและชี้นิ้วไป
ยังผักกาดหลากหลายขนาดที่วางกองอยู่

เมื่อคืนนี้ วุ่นวายมาก วันนี้ กลับเหมือนไม่มีเรื่ องอะไรเกิ ดขึ้ น


ถึงเวลาทางานก็ทางาน ถึงเวลาหัวเราะก็หวั เราะ ถ้าไม่ใช่เพราะ
ตาบวมก็คงคิดว่าไม่มีเรื่ องอะไรเกิดขึ้น!
สิ่ งนี้ ทาให้คุณแม่จา้ วมีความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับความคิดของ
ลูกสะใภ้คนนี้ อย่างลึกซึ้ ง นางมองหล่อนและกล่าวว่า “ถ้าเธอ
ไม่เหนื่อยก็ถกั เถอะ”

นางกล่าวเบา ๆ มีคนมาช่วยงานผ่อนแรง ทาไมจะไม่ใช้งานล่ะ

“อย่าดู ถูกว่าผักกาดขาวนี้ เล็กนะคะ ถ้าได้กินกับมันฝรั่ งและ


เมล็ดกัญชงตากแห้งตอนหน้าหนาวล่ะก็ อร่ อยเชี ยวล่ะค่ ะ!”
ขณะถักผัก พี่สะใภ้รองจ้าวก็หาเรื่ องคุยไปด้วย หล่อนไม่ใช่คน
โง่ เพราะหล่อนสัมผัสได้ถึงความเฉยชาของแม่สามีที่มีต่อตน

แต่ครอบครัวของเจ้าหกมาช่วยงานเมื่อตอนเช้าแล้ว ตอนบ่ายก็
ยังมา มันจะสมเหตุสมผลเหรอถ้าหล่อนไม่มาช่วย?

ดังนั้นต่อให้รู้วา่ แม่สามีไม่อยากเห็นหน้า หล่อนก็ตอ้ งมา

“ทาซาจูช่าย [1] ก็ไม่เลวนะคะ” พี่สะใภ้สี่จา้ วเข้ามาช่วยพลาง


กล่าว
พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วไม่ รู้ ว่ า พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วคิ ด อะไรในใจ แต่ เ มื่ อ
พี่สะใภ้รองจ้าวแสดงด้านนี้ให้แม่สามีเห็น หล่อนเองก็ตอ้ งรี บ
มา อย่าปล่อยให้ตนเองพลาดของดีโดยที่ไม่รู้

หลังจากผ่านเรื่ องเมื่อคืน หล่อนจึงมองออกว่าพี่สะใภ้รองคนนี้


ไม่ได้ใจกว้างเหมือนเมื่อก่อน

เมื่อก่อนหล่อนไม่ได้เป็ นใหญ่ในบ้าน ทุกอย่างอยู่ในมือของ


แม่ สามี ตอนนี้ แยกบ้านดู แลครอบครั วของตัว เองแล้ว ย่อม
แตกต่ า งจากเดิ ม อย่า งเช่ น ตัว ของหล่ อ นเอง หล่ อ นก็ ต ้อ ง
วางแผนในอนาคตสาหรับลูกชายของตนไม่ใช่เหรอ?

[1] ซาจูช่าย คือซุปใส่ ผกั ดองและเลือดหมู


ตอนที่ 61 ช่ องว่ างระหว่ างเมืองและชนบท

ผักกาดขาวเพียงนิดหน่อยใช้แรงงานคนไม่เยอะเท่าไรนัก เมื่อ
พี่สะใภ้สามจ้าวมาถึง หล่อนจึงต้องทางานอย่างอื่น “คุณแม่คะ
คุณแม่จะทาผักดองสิ นะคะ ฉันจะช่วยคุณแม่ดองผักเองค่ะ”

เพี ย งพริ บ ตาเดี ย วเหล่ า ลู ก สะใภ้ต่ า งก็พ ากัน มาแสดงความ


กตัญ ญู แม้ว่า คุ ณ แม่ จา้ วจะยิ้ม เย้ย หยันในใจ แต่ น างก็ไม่ ได้
กล่าวอะไร แค่ช้ ีไปที่กองใบผักกาดขาว ต้นหอมและผักชี “นัน่
เป็ นส่ วนที่จะทาผักดอง เธอใช้น้ าร้อนล้างนะ”

พี่สะใภ้สามจ้าวพยักหน้า

หล่ อ นไม่ ไ ด้คิ ด มาก แค่ รู้ สึ ก ว่ า เมื่ อ คื น แม่ ส ามี โ มโหแล้ว
โดยเฉพาะผลงานของสามีของหล่อน ในฐานะลูกสะใภ้แล้ว
หล่อนต้องทาอะไรสักอย่างเพื่อชดเชยสักหน่อยสิ นะ?
หล่อนบังเอิญเห็นเย่ฉูฉู่กาลังช่วยแม่สามีลา้ งโอ่งอยู่ จึงทราบว่า
นางกาลังจะทาผักดอง หล่ อนถึ งเดิ นเข้ามาช่ วย พลางคิ ดว่า
สะใภ้อี ก สองคนก็ ค งคิ ด เหมื อ นกับ ตัว เอง ทุ ก คนต่ า งคิ ด
อยากจะมาชดเชยในสิ่ งที่ทาลงไป

แต่ในความจริ งแล้วคุณแม่จา้ วพอใจกับลูกสะใภ้คนที่สามมาก


ก่อนหน้านี้แม้จะดูท่ ึม ๆ ไปหน่อย แต่ตอนนี้รู้เรื่ องรู ้ราวภายใน
ใจขึ้นมาบ้างแล้ว นับว่าใจกว้างกว่าลูกสะใภ้รองจ้าวมากนัก!

เย่ฉูฉู่เห็นพี่สะใภ้เป็ นแบบนี้ จึงพึมพาในใจว่าเรื่ องเมื่อคืนคงจะ


ร้ายแรงมากจริ ง ๆ แต่ครอบครัวใหญ่ ที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ย่อม
หลี ก เลี่ ย งการทะเลาะกัน ไม่ ไ ด้ จึ ง ท าได้แ ค่ ปิ ดตาข้า งหนึ่ ง
ไม่เช่นนั้นคงทาให้ตวั เองรู ้สึกสะอิดสะเอียนเสี ยเปล่า ๆ ไม่ใช่
หรื อ?

“พี่สะใภ้สาม เดี๋ยวฉันหัน่ ให้ค่ะ” เย่ฉูฉู่หยิบเขียงออกมา


“จะใช้เธอได้ยงั ไง?” พี่สะใภ้สามยิม้ พลางกล่าวว่า “ผักกองนี้พี่
ทาคนเดียวก็พอแล้วจ้ะ”

“งั้น เดี๋ ย วฉั น ช่ ว ยนะคะ” เย่ ฉู ฉู่ ก ล่ า ว เธอชอบสนทนากับ


พี่สะใภ้สามมากกว่า เพราะพี่สะใภ้สามไม่เอาแต่จบั ตาดูเธอว่า
วันนี้หรื อพรุ่ งนี้จะกินอะไร

เย่ฉูฉู่นาเขียงออกมาวาง จากนั้นจึงนาผักที่พี่สะใภ้สามจ้าวล้าง
แล้วมาหัน่ ก่อนจะนาไปใส่ ไหที่อยูด่ า้ นข้าง จากนั้นใส่ น้ าเกลือ
และใส่ ผงชูรสตามลงไป เป็ นอันเสร็จเรี ยบร้อย

“น้อ งสะใภ้ห ก เดี๋ ย วตอนที่ เ ธอท าผัก ดอง พี่ จ ะไปช่ ว ยนะ”
พี่สะใภ้สามจ้าวเองก็รู้สึกว่าน้องสามีหกเป็ นคนดีใช้ได้ หล่อน
จึงกล่าวออกมา

“ฉันว่าจะทาวันมะรื นนี้ น่ะค่ะพี่สะใภ้สาม ยังต้องตากผักสัก


สองวัน พี่สะใภ้สามล่ะคะ ถ้าพี่จะดองล่วงหน้าเมื่อไหร่ ฉันจะ
ไปช่วยพี่ก่อน” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้
“ได้เ ลย พี่ จ ะท าผัก ดองพรุ่ ง นี้ น่ ะ ” พี่ ส ะใภ้ส ามจ้า วไม่ ไ ด้
เกรงอกเกรงใจนางเท่าไรแล้ว

“ตกลงค่ะ” เย่ฉูฉู่พยักหน้า

ทั้งสองคนทางฝั่ งถักผักกาดขาวทางนั้นต่างกาลังพูดถึง เรื่ อง


ช่วยกันทาผักดอง

เหล่าลูกสะใภ้ทาทุกอย่างแล้ว คุณแม่จา้ วจึงไม่มีอะไรทา เลย


คิดจะกลับไปเอนหลังสักหน่อย

ลูกสะใภ้ท้ งั สี่ คนที่อยูด่ า้ นนอกนั้นพูดคุยกันอย่างสุ ภาพ แต่เมื่อ


นางได้ยิน ก็อ ดถอนหายใจออกมาไม่ ไ ด้ พวกเขาเป็ นพี่ ช าย
น้องชายและลูกสะใภ้ เมื่อเติบโตก็เป็ นแบบนี้ แต่ก่อนตัวเองก็
เป็ นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?

การเสแสร้งแกล้งปั้ นหน้าไม่ใช่เรื่ องเลวร้าย ที่น่ากลัวคือแม้แต่


จะเสแสร้งก็ไม่ทาต่างหากล่ะ
หลังจากเหล่าลูกสะใภ้ทาเสร็ จแล้ว จึงแยกย้ายกันกลับไป คุณ
พ่อจ้าวที่ไปปล่อยปศุสัตว์ให้ทีมผลิตก็กลับมาแล้ว

คุ ณ แม่ จ ้า วอดที่ จ ะบอกเรื่ อ งราวของวัน นี้ ให้คุ ณ พ่ อ จ้า วฟั ง


ไม่ได้ คุณพ่อจ้าวมองนางพลางกล่าวว่า “นี่กเ็ หมือนกับคุณใน
ตอนนั้นไม่ใช่เหรอ? จะต้องพูดอะไรอีก?”

คุณแม่จา้ วกลอกตาใส่ เขา กล่าวว่า “จะเหมือนได้ยงั ไง? ตอนนี้


ฉันเป็ นแม่คนแล้วนะ!”

“พอได้แล้ว ถ้ามี เวลาว่างก็ไ ปช่ ว ยเจ้า หกให้อ าหารกระต่ า ย


เถอะ” คุณพ่อจ้าวโบกมือกล่าว

คุ ณแม่จา้ วกล่าว “ยังต้องให้ฉันไปช่ วยเลี้ยงกระต่ายอีก เหรอ


ฉูฉู่ดูแลเรี ยบร้อยดีอยูแ่ ล้ว”

วันนี้จา้ วเหวินเทากลับมาสาย เมื่อเขามาถึงบ้านฟ้าก็มืดแล้ว


“ทาไมถึงกลับมาดึ กขนาดนี้ คะ?” เย่ฉูฉู่มองดู ร่างกายของเขา
ด้วยแววตาเป็ นกังวล

จ้าวเหวินเทาใช้มือทั้งสองข้างประคองหน้าของภรรยา จากนั้น
ก็พ่นลมหายใจออกมาหนึ่ งครั้ง ทาให้เย่ฉูฉู่ได้กลิ่นเหล้าลอย
ออกมา

“คุณดื่มเหล้าเหรอคะ ไปที่บา้ นพี่สาวใหญ่หรื อว่าบ้านพี่สาวห้า


ล่ะ?” เย่ฉูฉู่ถึงกับสาลัก เธอผลักเขาออกไปอย่างไม่ไยดี

จ้าวเหวินเทากลับโอบเธอไว้ไม่ยอมปล่อย ก่อนจะจูบลงบนริ ม
ฝี ปากเล็ก ๆ ของเธอ แล้วกล่าวด้วยรอยยิม้ ว่า “เปล่า ผมไปดื่ม
เหล้ากับจงย่งมา”

ขณะที่กล่าวเขาก็โอบเอวภรรยาเข้าไปในห้อง บอกเล่าเรื่ องราว


วันนี้ให้ฟัง “วันนี้เขาเปิ ดแผงลอย ขายดิบขายดีเชียวล่ะ เขาดีใจ
ผมเองก็ ดี ใ จ ก็ เ ลยไปดื่ ม เหล้า ที่ บ้า นของเขามา ผมไปซื้ อ
หนังสื อมาสองสามเล่มด้วย ก็เลยกลับมาสายหน่อย”
ซื้อหนังสื อ?

เย่ฉูฉูประหลาดใจ สามีของเธอไม่ใช่ คนเรี ยนเก่ง ซื้ อหนังสื อ


อะไรกัน

จ้าวเหวินเทาหยิบหนังสื อออกมาจากกระเป๋ าสองสามเล่ม เย่ฉู


ฉู่ จึงหยิบมันขึ้นมาดู “สู ตรอาหารกระต่าย” “คู่มือป้ องกันโรค
กระต่าย” และ “การจัดการการขยายพันธุ์กระต่าย” ทุกเล่มล้วน
ดูเก่ามาก บางจุดก็ข้ ึนขุยที่ขอบแล้ว

“ผมเจอที่ร้านขายหนังสื อเก่า ราคาถูก สามเล่มแค่ 4.60 เหมา


เอง ถ้าต้องการเล่มใหม่ตอ้ งจ่ายราคา 1 หยวนกว่า ๆ แน่ะ” จ้าว
เหวินเทากล่าวอย่างมีชยั

แต่เดิ มเขาวางแผนว่าจะให้ภรรยาผูเ้ ป็ นปั ญญาชนของพี่ ชาย


สามเย่ ช่ ว ยเหลื อ เพราะถึ ง อย่ า งไรแล้ว หล่ อ นก็ เ ป็ นคนมี
การศึกษา แต่ตอนนี้ เขาเจอแหล่งความรู ้ดว้ ยตัวเองแล้วไม่ใช่
เหรอ
“อ่านออกก็พอค่ะ เก่าหน่อยก็ไม่เป็ นไร” เย่ฉูฉู่วางหนังสื อบน
ตูอ้ ย่างระมัดระวัง เธอเป็ นหนอนหนังสื อคนหนึ่ ง นิ สัยนี้ เธอ
เรี ยนรู ้มาจากองค์ชายในชาติก่อน องค์ชายก็เป็นคนใฝ่ รู ้อย่าง
มาก สะสมหนังสื อไว้มากมายเชียวล่ะ

“ภรรยา คิ ดถึ งผมไหมครั บ ?” จ้าวเหวินเทามองดู ภรรยาของ


ตัวเองพลางกล่าวออกมา วันนี้เขาออกไปข้างนอกหนึ่งวันเต็ม
ๆ ภายในใจของเขามีแต่ภรรยาเท่านั้น

“ฉันจะคิดถึงคุณทาไมคะ ฉันยุง่ มาก วันนี้ไปช่วยคุณแม่ทาผัก


ดองมา” เย่ฉูฉู่มองเขาด้วยสายตาเอาแต่ใจปราดหนึ่ง

จ้าวเหวินเทาแสร้งทาเป็ นงอน “ผมอยูข่ า้ งนอกคิดถึงคุณจนใจ


เจ็บไปหมด คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะไม่คิดถึงผม มาดูสิว่าผมจะ
จัดการกับคุณยังไง!”

เย่ฉู ฉู่ ยิ้ม พลางหลบออกไป “คุ ณ พัก ก่ อ นเถอะค่ ะ ฉัน จะไป


ทาอาหาร”
“แต่ผมอยากกินคุณ” จ้าวเหวินเทาดึงรั้งแขนของเธอไว้ ก่อน
จะพาไปที่เตียง จากนั้นก็บรรจงจูบลงบนปากเล็ก ๆ อันแสน
หวานของภรรยา

เย่ฉูฉู่หน้าแดงระเรื่ อด้วยความเขินอาย เธอปล่อยให้เขาทาตาม


อาเภอใจครู่ หนึ่ง จึงกล่าวว่า “ฉันจะไปทาอาหารให้คุณนะคะ”

จ้าวเหวินเทาปล่อยภรรยาผูอ้ ่อนโยนของเขาอย่างไม่เต็มใจ เขา


มองไปที่เธอพลางกล่าวว่า “ภรรยา อีกเดี๋ยวพวกเราสองคนต้ม
น้ าแล้วไปอาบกันนะครับ”

“หน้าไม่อาย” เย่ฉูฉู่เมื่อเห็นสายตาคู่น้ นั ของเขา เธอจึงหน้าแดง


ระเรื่ อ ผลักเขาไปที่เตียงและไปทาอาหาร

ขณะที่ เย่ฉูฉู่กาลังทาอาหารอยู่ในครั ว คุ ณแม่ จา้ วก็มาถามว่า


จ้าวเหวินเทากลับมาหรื อยัง เมื่อได้ยนิ ว่าลูกชายกลับมาแล้วจึง
โล่งใจ
เย่ฉูฉู่ตม้ บะหมี่ ลวกไข่ ไว้สองฟอง ก่ อนจะโรยด้วยต้นหอม
และผักชี ราดน้ าแกงเต็มถ้วยเล็ก จ้าวเหวินเทาเองก็หิว แล้ว
ตอนเที่ ย งเขารั บประทานอาหารว่า งและดื่ ม เหล้า มา ไม่ ไ ด้
รั บ ประทานอะไรเป็ นจริ ง เป็ นจัง บะหมี่ ถ ้ว ยเล็ก ๆ นี้ จึ ง ถู ก
รับประทานจนหมดเกลี้ยง ไม่เหลือแม้แต่น้ าแกง

“อาหารที่ ภ รรยาท าอร่ อ ยจริ ง ๆ!” จ้า วเหวิน เทาเรอออกมา


หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ

“คุณอิ่มไหมคะ? ถ้าไม่อิ่มฉันจะไปทาให้อีก” เย่ฉูฉู่กล่าวขณะ


มองมาที่เขา

“อิ่มแล้ว” จ้าวเหวินเทาพยักหน้า

“อืม คุ ณอย่าเพิ่งนอนนะคะ รอให้อาหารย่อยก่อนค่อยนอน”


เย่ฉูฉู่กล่าวแล้วไปล้างถ้วย

จ้าวเหวินเทาตามภรรยาของเขาไปด้านนอกบ้าน
บ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่เป็ นสามห้องเล็ก ห้องที่อยู่สุดทางทิ ศ
ตะวันออกเป็ นห้องนอน ตรงกลางเป็ นห้องครัว และมีหอ้ งทาง
ทิศตะวันตก เป็ นที่เก็บอาหารและของอื่น ๆ

ถึงจะบอกว่าเป็ นบ้าน แต่สู้บอกว่าเป็ นเพิงอาศัยยังจะดีเสี ยกว่า


มันคือที่พกั อาศัยชัว่ คราวเท่านั้น เมื่อจ้าวเหวินเทาคิดถึงบ้านที่
พี่สาวทั้งสองของเขาอาศัยอยู่ และบ้านของจงย่งที่เขาเพิ่งไปใน
วันนี้ เขาก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ

เย่ฉูฉู่ได้ยินเสี ยงเขาถอนหายใจ จึงถามว่า “ถอนหายใจทาไม


คะ?”

“ผมคิดว่าคนในเมืองมีชีวิตที่ดีมาโดยตลอด คงเป็ นเหมือนกับ


พี่สาวใหญ่และพี่สาวห้าของผมแน่ ๆ ผมไม่คิดว่าจะมีส่วนที่
แย่หรอก” จ้าวเหวินเทากล่าว

“ในเมืองมันจะแย่แค่ไหนกันเชียวคะ?” เย่ฉูฉู่กล่าว
ตอนที่ 62 คุณแม่ เย่ มาเยีย่ ม

“จริ ง ๆ นะ วันนี้ผมไปบ้านของจงย่งมา ที่พกั ของพวกเขาและ


ของพวกเรามี ขนาดพอ ๆ กัน เลย แต่ มี ค นอยู่ก ันเป็ นสิ บคน
เบียดเสี ยดมาก ถ้าไม่ใช่ เพราะตอนบ่ายอบอุ่น พวกเราคงจัด
โต๊ะในลานแล้ว แต่ คุณรู ้ ไหมมันไม่ มีพ้ื น ที่ เ ลย ลานก็ไม่ ไ ด้
ใหญ่อะไร พอ ๆ กับด้านนอกห้องของพวกเราเลย” จ้าวเหวิ
นเทากล่าว

เย่ฉูฉู่กป็ ระหลาดใจเช่นกัน “ครอบครัวเขามีคนเยอะขนาดนั้น


เลยเหรอคะ?”

“ใช่แล้ว” จ้าวเหวินเทาขนหัวลุกเมื่อนึกถึง “มีท้ งั ปู่ ย่า พ่อแม่ ยัง


มีนอ้ งชายของเขาอีกสองคนและน้องสาวอีกสามคน เขาบอก
ว่า ถ้าหาเงินซื้ อบ้านไม่ได้ ต่อให้แต่งงานมีภรรยาไปก็ไม่มีที่
ให้อยูอ่ ยูด่ ี!”
จ้าวเหวินเทาเห็นด้วยกับคาพูดนี้ เป็นอย่างยิ่ง บ้านแบบนั้นถ้า
แต่ งภรรยาเข้าบ้านจริ ง ขอเพียงดึ งม่ านลงมากั้นก็ถือว่าแยก
ห้องกันแล้ว แต่คู่หนุ่มสาวจะไม่ทาเรื่ องอย่างนั้นได้เหรอ?

เช่ นเดี ยวกับเขาและภรรยา ทุ กคื นจะต้องมี สองถึ งสามรอบ


ตลอด สุ ขสบายจะตาย แต่ถา้ อยูใ่ นสภาพแวดล้อมแบบนั้น เขา
จินตนาการไม่ออกเลย

เย่ฉูฉู่พยักหน้ากล่าว “ห้องเล็กเกินไปสิ นะคะ เขาก็เลยไม่อยาก


แต่งงาน”

จ้าวเหวินเทากล่าว “ใช่แล้ว เขาเองก็มีความคิดแบบนั้น”

หลังจากเย่ฉูฉู่ลา้ งจานเสร็ จ จึงเช็ดมือให้แห้งและกล่าวว่า “มา


คิด ๆ ดูแล้ว ชนบทแบบพวกเราก็ดีนะคะ มีพ้ืนที่กว้างขวางดี
ออก”
“มันก็ไม่เชิ งหรอก ชนบทอย่างพวกเรานอกจากเรื่ องนี้ แล้วก็
ไม่ มีอะไรที่ พวกเรามี เ ลย” จ้าวเหวินเทาหยิบ ตะเกี ยงน้ า มัน
ขึ้นมา กล่าวว่า “คุณดูสิ เทียบกับชนบทของพวกเรา ในเมืองมี
ไฟฟ้ าใช้แล้ว สามารถเปิ ดไฟได้ ส่ วนพวกเราอย่างดีที่สุดก็คือ
จุดไฟตรงมุมห้อง ปกติตะเกียงน้ ามันเล็ก ๆ นี้กม็ ีกลิ่นเหม็นจน
ฉุนจมูกเลยไม่ใช่เหรอครับ?”

ตั้ง แต่ จ ้า วเหวินเทาเห็ นหลอดไฟที่ บ้า นพี่ส าวใหญ่ เขาก็คิด


กังวลมาตลอด แต่ กงั วลไปก็เปล่ าประโยชน์ ที่ หมู่ บา้ นไม่ มี
ไฟฟ้า พูดอย่างไรก็ไร้ประโยชน์

“มีคุณอยู่ ใช้เวลาไม่กี่ปีชนบทแบบพวกเราก็จะมีไฟฟ้ าใช้ เมื่อ


ถึงตอนนั้นพวกเราก็สามารถใช้ไฟฟ้ าได้แล้วค่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าว
กับเขาด้วยรอยยิม้

“ทาไมถึงบอกว่าเพราะมีผมอยู่ ในหมู่บา้ นจึงมีไฟฟ้ าใช้ล่ะ?”


จ้าวเหวินเทามองภรรยาด้วยสายตาที่เป็ นประกาย
“ยังต้องพูดอีกเหรอคะ? เพราะสามีของฉันนาโชคลาภมาให้
หมู่บา้ นไง มีสามีของฉันอยู่ ไม่ชา้ ก็เร็ วหมู่บา้ นก็ตอ้ งมีไฟฟ้ า
ใช้” สิ่ งที่เย่ฉูฉู่กล่าวอย่างมัน่ อกมัน่ ใจ

จ้าวเหวินเทาได้ยนิ ดังนั้น ภายในใจของเขาจึงร้อนรุ่ ม เขารู ้สึก


ว่าภรรยาของเขาช่างน่าเหลือเชื่อจริ ง ๆ ปากเล็ก ๆ นัน่ หวานยิง่
กว่าน้ าผึ้ง เมื่อริ มฝี ปากบนและล่างสัมผัสกันก็สามารถสร้ าง
แรงบันดาลใจได้!

“มองฉันทาไมคะ?” เย่ฉูฉู่กล่าวกับเขาด้วยรอยยิม้

จ้าวเหวินเทายื่นหน้าเข้ามาพลางกล่ าว “ภรรยา ทาไมคุ ณถึง


มัน่ ใจในตัวผมขนาดนั้นล่ะครับ?”

“เพราะคุ ณเป็ นสามีของฉันไงคะ ฉันชอบคุ ณตั้งแต่แรกเห็ น


ตอนนี้ คุณคือผูช้ ายที่ฉันรักสุ ดหัวใจ ฉันมัน่ ใจในสายตาของ
ตัว เองมาก และฉัน ก็ม ั่น ใจในตัว ของสามี เ ช่ น กัน เขาต้อ ง
เชื่อถือได้แน่นอน!” เย่ฉูฉู่กล่าว
จ้าวเหวินเทาอยากจะกดภรรยาของเขาลงบนเตียงแล้วจัดหนัก
สักรอบ แต่ เมื่ อนึ กเรื่ องค้าขายขึ้ นมาจึ งกล่ าวว่า “ภรรยา ขึ้ น
เตียงมานับเงินกัน!”

ใต้ตะเกียงน้ ามัน เงินแต่ละเหมาแต่ละเฟิ นถูกนับอย่างละเอียด


มีท้ งั รายได้จากการขายเนื้อหมูและถัว่ งอก วันนี้ได้กาไรมาไม่
น้อยเลย ทั้งหมดรวมเป็ นเงิน 1.56 หยวน!

นี่ขนาดหักเงินซื้อหนังสื อไปแล้วนะ

“ช่วงนี้ฆ่าหมูกนั เยอะ ไม่นานมานี้พี่ซื่อหู่บอกว่าจะฆ่าแกะด้วย


นะ ถึงตอนนั้นพวกเราจะได้เงินมากกว่านี้ อีก” จ้าวเหวินเทา
กล่าวอย่างพึงพอใจ

เย่ฉูฉู่แบ่งเงินออกเป็ นเป็ นส่ วน ๆ หลังจากจัดเสร็จแล้ว จึงหยิบ


กล่องเก็บเงินออกมา มันเป็ นกล่องไม้ที่ใช้ใส่ เครื่ องสาอางที่
ทางบ้านของเธอมอบให้ตอนแต่งงาน แต่เธอนาเงินใส่ ไว้ขา้ ง
ในแทน นอกจากรายได้ของพวกเขาแล้ว ยังมีเงินที่ได้จากการ
แยกบ้านด้วย

“เรามีเงินเยอะขึ้นเรื่ อย ๆ แล้ว วางไว้ในบ้านไม่ค่อยปลอดภัย


เท่าไหร่ พวกเราเอาไปฝากไว้ที่ธนาคารดีไหมคะ?” เย่ฉูฉู่กล่าว
เธอจาได้วา่ คุณแม่เย่นาเงินไปฝากไว้ที่ธนาคาร

อีกอย่างในบ้านก็มีหูตามากมาย เพื่อป้ องกันไม่ให้เกิดปั ญหา


ระหว่างลูกสะใภ้ ฝากธนาคารคงดีกว่าหน่อย

จ้าวเหวินเทารู ้สึกว่าการฝากเงินไว้กบั ธนาคารเป็ นเรื่ องดี จึง


กล่าวว่า “ก็ได้ พวกเราเก็บไว้ส่วนหนึ่งด้วยนะ”

เย่ฉู ฉู่ น าเงิ น ออกมา 100 หยวน มี เ งิ น จากการแยกบ้า น 175


หยวน แต่ นาไปซื้ อจักรยานแล้ว รวมเข้ากับเงิ นจากการขาย
โสมป่ าและเงินของจ้าวเหวินเทาในตอนนี้ รวมแล้วมีท้ งั หมด
115 หยวน เงินที่เหลือ 15 หยวนเก็บไว้ใช้จ่ายภายในบ้าน
ถ้าให้พี่สะใภ้รองจ้าวรู ้วา่ พวกเขาทั้งสองคนซื้ อของนู่นนี่ ทั้งยัง
รับประทานของดี ๆ และยังสามารถเก็บเงินได้มากขนาดนี้ ไม่
แน่หล่อนอาจจะถึงขั้นโมโหจนระเบิด

แต่เห็นได้ชดั ว่าจ้าวเหวินเทาและเย่ฉูฉู่ไม่สนใจเรื่ องนี้ หลังนา


เงิ น ไปเก็บ ไว้ใ ห้เ รี ย บร้ อ ย จ้า วเหวิ น เทาก็ไ ปตัก น้ า อย่ า งมี
ความสุ ข ก่อนจะเช็ดตัวพร้อมกับภรรยาโดยไม่พูดพร่ าทาเพลง
จากนั้นก็พาภรรยาของเขาขึ้นเตียง

เย่ฉูฉู่กระซิ บถามเขาว่าทาไมเขาถึงต้องการทุกวัน แต่เมื่อถูก


จ้าวเหวินเทากระทาตามความต้องการ เธอกลับกลายเป็นแอ่ง
น้ าในฤดู ใ บไม้ผ ลิ ปล่ อ ยให้ ด วงอาทิ ต ย์แ ผดเผาท าให้เ ธอ
กลายเป็ นไอน้ าลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า

เช้าตรู่ ของวันถัดมา จ้าวเหวินเทาผูท้ ี่นอนพึงพอใจอยูบ่ นเตียงก็


นาเงินและถัว่ งอกไปหาไช่ซื่อหู่ เพื่อนาเนื้อเข้าไปในเมืองด้วย
พลังที่เปี่ ยมล้น
เย่ฉูฉู่กาลังล้างโอ่งและไห ผักต้องนาไปตากแดดก่อนถึงจะเก็บ
มาหมักได้ แต่ผกั กาดดองเค็มไม่ตอ้ งตากแดด เธอวางแผนว่า
วันนี้จะทาผักดองเค็มก่อน แล้วค่อยไปถักผักกาดขาวแห้ง

ผักดอง ผักดองเค็ม ผักแห้ง นี่ เป็นสามวิธีหลักในการผ่านฤดู


หนาวของคนภาคเหนือ สาหรับผักสดฤดูหนาวนั้นมีไว้สาหรับ
แขกและตอนที่ อ ยากลิ้ ม รสชาติ ข องสดใหม่ ไม่ ส ามารถ
รับประทานทุกวันได้

ขณะที่เธอกาลังยุง่ อยู่ คุณแม่เย่กม็ าหา ทั้งยังถือตะกร้ามาด้วย

“แม่ แม่มาทาไมคะเนี่ ย?” เย่ฉูฉู่รีบออกมาต้อนรับอย่างเร่ งรี บ


ทั้งพูดด้วยความประหลาดใจ

“ก็มาดู แกนั่นแหละ ผักกาดขาวนี้ เหวินเทาซื้ อมาเหรอ?” คุ ณ


แม่ เ ย่ เ ห็ น ผัก กาดที่ ต ากแดดอยู่ ใ ต้ช ายคาบ้า นจึ ง กล่ า วด้ว ย
รอยยิม้ ในทันที
แม้ว่าจะเป็ นคาถาม แต่นางรู ้ว่าต้องเป็ นลูกเขยของนางที่เป็น
คนซื้อแน่นอน นอกจากเขาแล้วคนอื่นคงทาใจไม่ได้ที่จะซื้อมา

เย่ฉูฉู่ยิ้ม “แม่ รอบนี้ แม่ พูดผิดแล้วล่ ะค่ ะ นี่ เป็ นผักที่ พวกเรา
ปลูกบนทุ่งนาต่างหาก”

คุณแม่เย่กลอกตาใส่ ลูกสาว “ทุ่งนาของพวกเราจะปลูกผักกาด


หัวใหญ่ ๆ ขนาดนี้ได้เหรอ? คิดว่าแม่จะไม่รู้อะไรเลยสิ นะ”

เย่ฉูฉู่ยมิ้ “เป็ นของที่เหวินเทาซื้ อมาจากในเมืองค่ะ เห็นบอกว่า


มาจากหมู่บา้ นไท่ผงิ ”

“แม่ ก็ เ ดาว่ า มาจากทางนั้ นเหมื อ นกัน มี แ ค่ ที่ นั่น เท่ า นั้ นที่
สามารถปลูกผักกาดขาวแบบนี้ได้” คุณแม่เย่พยักหน้า เมื่อเห็น
ว่าข้าง ๆ ไม่มีใคร จึงกระซิ บว่า “เหวินเทาซื้ อผักพวกนี้มา คน
อื่นเขาไม่พูดอะไรเหรอ?”
เย่ฉูฉู่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ขิงยิง่ แก่ยงิ่ เผ็ด เดาเพียงครั้งเดี ยวก็
ทายถูกแล้ว

เมื่อเห็นสี หน้าของลูกสาว คุณแม่เย่กม็ ีคาตอบในใจ นางกล่าว


ว่า “ซื้อแค่น้ ีหรื อยังมีเก็บไว้ในห้องใต้ดินอีกล่ะ?”

“ห้องใต้ดินก็มีค่ะ” เย่ฉูฉู่พยักหน้า คุ ณแม่เย่จึงเดิ นเข้าไปใน


ห้อง

คุ ณ แม่ เ ย่เ ดิ น เข้า ไปในห้อ ง ก่ อ นจะกระซิ บว่า “พวกเขาพูด


อะไรบ้าง?”

เย่ฉูฉู่จึงกระซิ บบอกเล่าเรื่ องความคิดของเหล่าพี่สะใภ้ เมื่อคุณ


แม่เย่ฟังจบจึงยิม้ ด้วยรอยยิม้ เย็นชา “หน้าไม่อายจริ ง ๆ ตัวเอง
ไม่ มี ค วามสามารถก็ คิ ด ว่ า เหวิ น เทาจะไม่ มี ค วามสามารถ
เหมือนกับพวกหล่อน สมองของพวกหล่อนจะเทียบกับสมอง
ของเหวินเทาได้เหรอ? ต่อให้เหวินเทาได้กินเนื้อก็เป็ นเพราะเห
วินเทามีความสามารถ เกี่ยวอะไรกับพวกหล่อน? คนโง่ชอบ
อวดฉลาดจริ ง ๆ!”

เย่ฉูฉู่ยิ้ม “ถ้าเหวินเทาได้ยินแม่ชมเขาขนาดนี้ ไม่แน่ หางของ


เขาอาจจะชี้ฟ้าไปแล้วก็ได้ค่ะ”

“เดิ ม ที เ หวิ น เทาก็ ดี ไ ปซะทุ ก อย่ า งแล้ว หน้ า ตาดี ท้ ัง ยัง มี


ความก้า วหน้า กตัญ ญู ส มเหตุ ส มผล ย่อ มควรค่ า แก่ ก ารชื่ น
ชม!” คุณแม่จา้ วกล่าว นางถูกใจลูกเขยคนนี้มาก จึงกล่าวต่ออีก
ว่า “แกดูสิ แม่เอาไข่เป็ ดมาให้สองชัง่ ไข่เป็ ดเค็มนี่รสชาติอร่ อย
ที่สุดเลยล่ะ”

“แม่ แม่ ไปเอาไข่ เป็ ดมาจากไหนคะ?” ที่ บา้ นของนางไม่ ได้


เลี้ยงเป็ด เย่ฉูฉู่มองดูไข่เป็ด เปลือกเขียวฟองใหญ่ คุณภาพไม่
เลวเลย

“ไม่ เ ลี้ ย งเป็ ดก็กิ น ไข่ เ ป็ ดไม่ ไ ด้เ หรอ?” คุ ณ แม่ เ ย่ก ล่ า วด้ว ย
รอยยิม้ “แม่ใช้ไข่ไก่เพื่อแลกมา นอกจากของฤดูหนาวแล้วยังมี
ของฤดู ใบไม้ผลิอีก จะกินแต่ผกั ดองกับผักดองเค็มได้ยงั ไง?
เปลี่ยนของกินบ้าง ตอนเช้าตอนค่าต้มโจ๊กสักหน่อย ต้มไข่เค็ม
สักฟอง ดี กว่ากิ นผักดองเค็มเยอะ แม่ ลา้ งไว้แล้ว แกมี ไหใช่
ไหม แม่จะช่วยดองให้”

“แม่ แม่ นี่ ดี จ ริ ง ๆ เลยค่ ะ ถ้า ฉัน กับ เหวิ น เทาได้ดิ บ ได้ดี ใ น
อนาคต จะต้องตอบแทนบุ ญคุ ณแม่ แน่ นอน” เย่ฉูฉู่มองคุ ณ
แม่เย่ดว้ ยรอยยิม้

คุ ณ แม่ เ ย่ ก ล่ า วด้ ว ยรอยยิ้ ม “ดู ไ ม่ อ อกเลยนะนี่ ที ต อนนี้


ปากหวานเชียวนะ”

“ฉัน พู ด มาจากก้น บึ้ ง ของหัว ใจเลยล่ ะ ค่ ะ ” เย่ฉู ฉู่ ก ล่ า วด้ว ย


รอยยิม้

สองแม่ลูกพูดคุ ยหัวเราะคิกคักขณะดองไข่เป็ ด วิธีทานั้นง่าย


มาก แค่นาไข่เป็ ดใส่ ลงไปในไห แล้วแช่ดว้ ยน้ าเกลือเท่านั้น
ตอนที่ 63 เตรียมตัวรับมือกับกลางฤดูหนาว

“ผ่านไปสักสิ บวันครึ่ งเดือนแกก็จะได้ชิมรสเค็มแล้ว ถ้าจืดไป


ก็เติมเกลือลงไปอีกหน่อยนะ” คุณแม่เย่ลา้ งมือพลางกล่าว

“ฉันทราบแล้วค่ะ แม่ เที่ยงนี้ อยู่กินข้าวด้วยกันสิ คะ อีกเดี๋ ยว


ฉัน จะไปหยิบ ผัก มาให้แ ม่ เ อากลับไปส่ ว นหนึ่ ง ด้ว ย” เย่ฉู ฉู่
กล่าว

“ไม่ ตอ้ งหรอก ที่ บา้ นมี ผกั แล้ว พวกลู กเก็บไว้กินเถอะ” คุ ณ
แม่เย่ไม่ได้ตอ้ งการผักของลูกสาว นางกล่าวว่า “ปี นี้ แม่เองก็
ตากผักแห้งไว้ไม่ น้อย พอกิ นแล้วล่ ะ จริ งสิ ทางฝั่ งแกมี เห็ ด
ไหม?”

ช่ ว งฤดู ห นาวของทุ ก ปี คุ ณ แม่ เ ย่จ ะน าผัก ไปตากแห้ง มี ท้ ัง


มะเขือยาวแห้ง บวบเหลี่ยมแห้ง ฟั กทองแห้ง ถัว่ แขกแห้ง หัว
ไชเท้าแห้ง และพริ กแห้งอะไรพวกนั้น เพียงเท่านี้ ก็ทาให้โต๊ะ
อาหารในฤดูหนาวดูอุดมสมบูรณ์มากแล้ว

“ปี นี้พี่สะใภ้สามจะกลับมาไม่ใช่เหรอคะ? จะให้กินแต่ผกั แห้ง


ก็คงไม่ดี” เย่ฉูฉู่กล่าว

คุณแม่เย่ไม่ใส่ ใจ “ไม่ดีอะไรกันล่ะ ในเมืองอยากกินยังไม่ได้


กินเลย แต่แกไม่ตอ้ งเป็นห่ วงหรอก ถ้ากลับมาจริ ง ๆ ถึงเวลา
นั้น ก็ค่ อ ยให้พี่ ส ามของแกไปซื้ อ ผัก สด ๆ มาให้ห ล่ อ นสั ก
หน่อยก็สิ้นเรื่ องแล้ว”

นางไม่ชอบลูกสะใภ้คนนี้ เอาเสี ยเลย ไม่มีความเหมาะสมกัน


ด้วยประการทั้งปวง แต่กไ็ ม่สามารถห้ามความชอบของลูกชาย
ได้ ทั้งเขายังยืนกรานอย่างดื้อรั้นว่าต้องเป็นหล่อน คนเป็ นแม่
อย่างนางจะพูดอะไรได้? จึงทาได้เพียงแค่กลั้นใจยอมรับไป
แม้บอกว่าจะกลับมาในปี นี้ แต่คุณแม่เย่ก็มองว่าน่ าห่ ว งอยู่ดี
ภรรยาเป็นปั ญญาชนมีการศึกษา หน้าตาก็ดี สอบติดไปอยู่ใน
เมืองแล้ว จะกลับมายังสถานที่เล็ก ๆ แบบนี้จริ ง ๆ เหรอ?

“แม่สามีของแกล่ะ ตอนที่แม่มาเห็นยังลงกลอนห้องอยู่เ ลย”


คุณแม่เย่เปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“คงออกไปช่วยใครสักคนทาผักดองแล้วล่ะค่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าว

“แกเองก็รี บ เอาผัก มาดองเถอะ ผ่า นไปอี ก ไม่ กี่ ว นั อากาศก็


เปลี่ยนแล้ว เดี๋ยวล้างผักแล้วจะหนาวมือนะ” คุณแม่เย่กล่าว

“เข้าใจแล้วค่ ะ พรุ่ งนี้ ฉันก็จะเอาผักมาดองแล้ว” เย่ฉูฉู่กล่ าว


ด้วยรอยยิม้

บทสนทนาของพวกเธอทั้งสองล้วนเกี่ยวกับประสบการณ์การ
ใช้ชีวิตทั้งหมด ซึ่ งหลัก ๆ คุณแม่เย่จะเป็นคนพูด นางบอกให้
ลูกสาวและลูกเขยเก็บออมเงิน จากนั้นก็ออกไปสร้างบ้านอยู่
อาศัยกันเอง หากขาดเหลือนิ ด ๆ หน่ อย ๆ ก็ให้ไปเอาที่บา้ น
หยิบยืมมาใช้ก่อนได้

หลังจากลูกสาวและลูกเขยสร้างบ้านขึ้นมาแล้ว ชีวติ ต่อจากนี้ก็


จะสะดวกสบายขึ้ น เยอะ จ าเป็ นต้อ งมาเบี ย ดเสี ย ดใช้ข อง
ร่ วมกับทุกคนอยูท่ ี่นี่ดว้ ยหรื อ?

เย่ฉูฉู่ฟังคาที่แม่ของเธอกล่าว

คุ ณแม่ เย่อยู่ไม่ นานก็กลับบ้านไป ภายในบ้านยังมี เรื่ องใหญ่


ต้องทาอีก โดยเฉพาะนางที่ยงั มีไก่อีกมากมาย

ตอนนี้แต่ละบ้านก็มีเรื่ องวุ่น ๆ ให้ตอ้ งตระเตรี ยมเพื่อผ่านช่ วง


ฤดู ห นาว ตระกู ล เย่ ที่ อ ยู่ ท างฝั่ ง นี้ ก็ เ ช่ น เดี ย วกั น ในเมื่ อ
ครอบครัวมีสมาชิ กมากขนาดนี้ ถ้าไม่เตรี ยมตัวสักหน่ อยก็คง
ไม่ได้

เมื่อมาถึงบ้าน ก็พบคุณพ่อเย่กาลังกลับมาจากทีมพอดี
“ไปหาฉู ฉู่ ม าเหรอ?” คุ ณ พ่ อ เย่เ ห็ น คุ ณ แม่ เ ย่หิ้ ว ตะกร้ า เดิ น
กลับมาจากด้านนอก จึงเอ่ยถาม

“ฉันเอาไข่เป็ ดไปให้ลูกดองนิดหน่อยน่ะ” คุณแม่เย่พยักหน้า

คุ ณพ่อเย่กล่ าว “แล้วไม่ ได้เอาไข่ ไก่ ไปสักหน่ อยเหรอ?” ถึ ง


ทัศนคติที่เขามีต่อลูกเขยจะค่อนข้างต่า แต่เขาก็รักลูกสาว

“เอาไข่เป็ดไปให้นิดหน่ อยก็พอแล้ว มีเหวินเทาอยู่ท้ งั คน ลูก


สาวของคุณจะหิ วได้ยงั ไงกัน?” คุณแม่เย่ยมิ้ พลางกลอกตาใส่
เขา

คุณพ่อเย่หวั เราะเหอะ ๆ “ผมล่ะเป็ นห่วงลูกจริ ง ๆ ที่ตอ้ งไปอด


อยากปากแห้งกับหมอนัน่ ”

คุ ณ แม่ เ ย่ ก ล่ า ว “คุ ณ ดู ถู ก ลู ก เขยของคุ ณ ขนาดนี้ เลยเหรอ?


เหวินเทาซื้ อผักฤดูใบไม้ร่วงมาจากในเมืองหนึ่ งคันรถ เอามา
เสบียงให้ฉูฉู่กินช่ วงฤดู หนาว เป็ นผักที่มาจากหมู่บา้ นไท่ ผิง
ทั้งหมดเลย ผักกาดขาวนัน่ ใหญ่ขนาดนี้ เลยนะ แถมหัวหอมก็
หนาเท่านี้เลย” คุณแม่เย่ทาท่าทางให้เขาดู

คุณพ่อเย่เดินเข้าประตูบา้ น “หายากตรงไหนกัน”

คุณแม่เย่พูดอย่างไม่สบอารมณ์ “มันก็ไม่ได้หายากหรอก แต่เห


วินเทายอมซื้ อกลับมาให้ลูกสาวเราได้กิน ยังไงก็ดีกว่าพวก
ตระหนี่ถี่เหนียวเหล่านั้นไม่ใช่เหรอ?”

คุณพ่อเย่ไม่ได้แย้งอะไรกับคาพูดนี้ เขาขึ้นไปนัง่ ขัดสมาธิ บน


เตียงเตาและดึ งตะกร้ายาสู บออกมา ม้วนยาสู บพลางกล่าวว่า
“เมื่อกี้ผมเพิ่งกลับมาจากในทีม ได้ไปคุยกับหัวหน้าทีมใหญ่มา
บอกว่าปี หน้าคงแบ่งทุ่งนาจริ ง ๆ แล้วล่ะ”

คุ ณแม่เย่รีบนั่งลงข้าง ๆ ด้วยท่าทางกระปรี้ กระเปร่ า ก่อนจะ


กระซิบ “แบ่งยังไงเหรอ?”

คุณพ่อเย่เผยรอยยิม้ บนใบหน้า “แบ่งตามจานวนสมาชิก”


คุณแม่เย่ดวงตาเป็ นประกาย แบ่งตามจานวนสมาชิก ถ้าเช่นนั้น
ก็ ต ้อ งรู ้ สึ ก ดี อ ยู่ แ ล้ว สมาชิ ก บ้า นนางมี จ านวนไม่ น้อ ย ถึ ง
อย่างไรก็ไม่เสี ยเปรี ยบ

“แล้ว สมาชิ ก หนึ่ งคนได้ ส่วนแบ่ ง เท่ า ไรล่ ะ ? จริ งสิ แล้ว
ลูกสะใภ้สามของเราจะแบ่งยังไง ก็ตอ้ งให้ใช่ไหม?” คุณแม่เย่
กล่าว

“หนึ่ งคนได้ที่ดิน 7-8 หมู่ม้ งั ส่ วนลูกสะใภ้สาม…” คุ ณพ่อเย่


ขมวดคิ้ว “ผมเองก็ถามเรื่ องนี้ แล้ว แต่ได้ยินว่าถ้าสอบออกไป
แล้วชื่อในทะเบียนบ้านก็จะย้ายไปด้วย ทะเบียนบ้านไม่ได้อยู่
ที่นี่จะแบ่งยังไงล่ะ เพียงแต่เขาเองก็ยงั ไม่ได้พูดยืนยันแน่ นอน
ถึงยังไงการแบ่งที่ดินก็ยากที่จะเป็ นไปได้อยูด่ ี”

คุณแม่เย่กล่าว “แต่จะให้เจ้าสามเสี ยเปรี ยบไม่ได้นะ ในบ้านมี


เหล้าที่ยงั ไม่ได้เปิ ดอีกขวด พรุ่ งนี้คุณเอาไปด้วยล่ะ”
“คุณไม่ตอ้ งรี บร้อนยัดของหรอก” คุณพ่อเย่กล่าว “สถานการณ์
ของภรรยาเจ้าสามแตกต่างจากคนอื่ น ถึงเวลาค่อยดู กนั อี กที
เถอะ ผมคิดว่าเบื้องบนคงคิดครอบคลุมกว่าพวกเราแน่ นอน
อีกอย่างภรรยาของเจ้าสามจะกลับมาเหรอ?”

ไม่เพียงแต่คุณแม่เย่ แม้แต่คุณพ่อเย่กบ็ ่นพึมพา

คุณแม่เย่กล่าว “คุณก็คิดซะว่าหล่อนจะกลับมาสิ แล้วแบ่งกัน


ตอนนี้ หลังจากนี้จะแบ่งหรื อเปล่า?”

“บอกว่าแบ่งปี ละครั้ง อันนี้กย็ งั ไม่แน่นอน” คุณพ่อเย่กล่าว

“แบ่งปี ละครั้ง แบบนั้นจะวุน่ วายขนาดไหนเนี่ย?” คุณแม่เย่พูด


อย่างไม่ถูกใจ

“นัน่ น่ะสิ คุณคิดว่าก่อนปลูกในแต่ละปี จะแบ่งที่ดินอีกเหรอ?”


คุณพ่อเย่ส่ายหน้า “นัน่ ไม่ใช่วธิ ีการระยะยาวเลย”
“ได้ยนิ มาว่ามีบางที่กแ็ บ่งที่ดินไปแล้วไม่ใช่เหรอ พวกเขาแบ่ง
กันยังไงล่ะ?” คุณแม่เย่ถาม

“ดู เหมือนว่าจะแบ่งตามจานวนคนในตอนนี้ แบ่งเสร็ จก็วาด


แบ่งที่ดินทากินอีกส่ วนหนึ่ง บ้านไหนมีลูกแล้ว ก็ตอ้ งแบ่งใน
ส่ วนของที่ดินทากินให้กบั บ้านพวกเขาด้วย” คุณพ่อเย่อธิ บาย
สิ่ งเหล่านี้

“แบบนี้ ก็ไม่เลวนะ ถ้างั้นพวกเราทาแบบนั้นก็ได้แล้วสิ ” คุ ณ


แม่เย่กล่าว

“เรื่ องนี้ ไม่ใช่ ว่าจะขึ้นอยู่กบั คุณหรอกนะ” คุณพ่อเย่สูบยาสู บ


พลางกล่าว

ระหว่างที่ท้ งั สองคนกาลังพูดคุย สามพี่นอ้ งตระกูลเย่กเ็ ดินทาง


กลับมาจากการไปแบกฟื นบนเขา
ในยุคนี้ ไม่เพียงแค่อาหารการกินที่มีอย่างจากัด ของที่ใช้เป็น
เชื้ อเพลิ ง ก็ จ ากั ด เช่ น กั น การพึ่ งพาเศษวัส ดุ เ หลื อ ใช้ ใ น
เรื อกสวนไร่ นาที่เป็ นส่ วนแบ่งจากทีมเพียงน้อยนิดไม่เพียงพอ
ให้เผาหรอก ฤดูหนาวจาเป็ นต้องได้รับความอบอุ่น ต้องใช้ฟืน
ปริ มาณมากขึ้น ดังนั้นในแต่ละปี ก็จะเริ่ มขึ้นไปเก็บฟื นบนเขา
ในตอนนี้ หลังยุง่ กับการทานาตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิจนถึงตอนนี้ก็
ยังไม่มีเวลาได้หยุดพัก

บ้านอื่นใช้ชีวิตอย่างไร ภายในยุุ้งฉางมีขา้ วหรื อไม่ก็ไม่อาจ


เห็นได้ แต่สามารถมองเห็นกองฟื นภายในลานบ้านได้ หาก
กองฟื นใหญ่มากพอ ถ้าเช่นนั้นก็อธิ บายได้แล้วว่าบ้านหลังนั้น
ย่อมใช้ชีวติ ได้อย่างไม่เลวเลย

คราด รถคัน เล็ก และลาที่ ส ามพี่ น้อ งลากมาเป็ นของในที ม


ทั้งหมด นี่เป็ นสิ่ งที่ยมื มาใช้งาน ตอนนี้เป็ นการขนส่ งฟื นรอบ
ที่สามแล้ว
ทั้งสามคนเริ่ มนาฟื นที่อยูบ่ นรถลงมากองไว้บนกองฟื น

“พวกแกเอารถกับลาไปส่ งเสร็ จก็ไม่ตอ้ งไปแล้ว นี่กส็ ายขนาด


นี้แล้วด้วย”คุณแม่เย่บอก

เย่หมิงตงรี บกล่าว “แม่ พวกเราไปอีกรอบแล้วค่อยเอาไปคืนก็


ยังทัน ตรงนั้นยังมีฟืนอีกเยอะเลย ไม่แน่พรุ่ งนี้อาจจะยืมไม่ได้
แล้วด้วยนะครับ”

เย่หมิงหนานรี บกล่าว “นั่นสิ ครับ รอพรุ่ งนี้ ก็คงมีคนแบกไป


แล้ว แม่ แม่ดูฟืนพวกนี้ สิว่าดี ขนาดไหน เป็ นกิ่งไม้หญ้าแห้ง
ทั้งนั้นเลย”

เย่หมิงเป่ ยอยากนาฟื นกลับมาที่บา้ นเยอะ ๆ จนทนไม่ไหวแล้ว


“แม่ ไม่ เป็ นไรหรอกครับ ใช้ประโยชน์จากอากาศดี ๆ แบก
กลับมาเยอะ ๆ หน่อย หมินหมิ่นกลัวความหนาวที่สุดเลย”
ประโยคแรกก็ ไ ม่ ไ ด้มี อ ะไรหรอก แต่ เ มื่ อ ได้ยิ น ประโยค
หลังสุ ดของเย่หมิงเป่ ย คุณแม่เย่พลันบุย้ ปาก เจ้าลูกโง่คนนี้ใจ
ลอยไปหมดแล้ว ถ้าสอบติดไปแล้วแต่ยงั กลับมาจริ ง ๆ นางเอง
ก็คงจะรักลูกสะใภ้คนนี้เหมือนลูกสาว

“งั้นพวกแกก็รีบกลับไปเร็ว ๆ เลย” คุณแม่เย่ไม่สนใจแล้ว

“เข้าใจแล้วแม่”

ลู ก ชายทั้ง สามคนช่ ว ยกัน ขนฟื นคนละไม้ค นละมื อ อย่ า ง


รวดเร็ว ก่อนจะออกไปพร้อมกับรถ
ตอนที่ 64 ประสบการณ์ จากหมู่บ้านไท่ ผงิ

หลังจากนั้นอากาศก็เริ่ มหนาวขึ้นเรื่ อย ๆ ผูค้ นต่างก็ทาเวลาเพื่อ


เตรี ยมตัวผ่านช่วงฤดูหนาว เย่ฉูฉู่กบั พี่สะใภ้สามนาผักมาดอง
ผักเค็มก็ดองแล้ว ผักแห้งก็ทาเสร็ จแล้ว เมื่อเห็นว่าเหล่าพี่สามี
ขึ้นเขาไปเก็บฟื นกันทุกวัน และนึกได้ว่าในบ้านของเธอยังไม่
มีฟืนสาหรับฤดูหนาว เธอจึงขึ้นเขาไปด้วย

เธอไม่ได้บอกจ้าวเหวินเทา ช่วงนี้เขายุง่ ขนาดนั้น ตอนเช้าก็ตื่น


ตั้งแต่เช้าตรู่ ตอนดึกก็กลับมาเสี ยมืดค่า เห็นถึงความเหนื่อยล้า
อย่างไม่อาจปิ ดบัง เธอจึงไม่รบกวนเขาในเรื่ องเล็ก ๆ แบบนี้

“ฉู ฉู่ ทาไมถึงขึ้นไปเก็บฟื นบนเขาเนี่ย เจ้าหกจ้าวล่ะ?” ภรรยา


ของเหล่าหวังสามในหมู่บา้ นเห็นเย่ฉูฉู่จึงพูดขึ้น
“เขายุ่งอยู่กบั การขายถัว่ งอกน่ ะค่ะ อีกอย่างที่บา้ นก็ไม่มีอะไร
ต้องทา ฉันเลยคิดจะทางานสักหน่อย” เย่ฉูฉู่กล่าว

“ฉู ฉู่ งานพวกนี้มนั เป็ นงานของผูช้ ายนะ ขายถัว่ งอกนัน่ จะขาย


นานสักเท่ าไรกันเชี ยว? ตอนเช้าก็ขายหมดแล้ว กลับมาก็ยงั
แบกฟื นช่ วงบ่ายทัน” ภรรยาของเหล่าหวังสามกล่าว หล่อน
รู ้สึกว่าเจ้าหกจ้าวคนนั้นแอบอูง้ านไม่ยอมทาการทางาน!

“เขาตื่นตั้งแต่เช้า ระยะทางก็ไกล คงเหนื่อยมาก กลับมาก็หลับ


ไปแล้ว ฉันไปก่อนนะคะ” เย่ฉูฉู่ไม่ได้พูดอะไรให้มากมาย เธอ
แบกคราดเดินออกไป

ภรรยาของเหล่าหวังสามมองเงาแผ่นหลังเล็ก ๆ ของเย่ฉูฉู่แล้ว
ก็เดาะลิน้ “ภรรยาตัวน้อยคนนี้รักสามีของตัวเอง แต่ไม่ดูเลยว่า
สามีของตัวเองมีความประพฤติเป็ นยังไงบ้าง กินเก่งแต่เกียจ
คร้าน คุยโวโอ้อวดใช้เงินฟุ่ มเฟื อย รักไปก็เปล่าประโยชน์ แต่ง
เข้ามาอยู่ในบ้านนานขนาดนี้ยงั ไม่มีข่าวคราวเรื่ องท้องเลย ถ้า
ยังเหนื่ อยมากไปกว่านี้ หลังจากนี้ คงได้ถึงเวลาที่เธอจะมานั่ง
เสี ยใจแน่”

ลมเหนื อพัดโชยผ่านมาเบา ๆ หล่อนหดคอก่อนจะรี บเดินเข้า


ไปในบ้าน ภายในใจก็แอบเห็ นใจเย่ฉูฉู่จริ ง ๆ อากาศหนาว
ขนาดนี้ ยงั ต้องขึ้ นเขาไปแบกฟื น ช่ างเป็ นความทุ กข์ทรมาน
จริ ง ๆ

ผูห้ ญิงคนนี้คล้ายกับเมล็ดหญ้ากลางสายลม ปลิวไปตามแรงลม


ไปถึงที่ไหนก็งอกเงยที่นนั่ หากได้เจอกับที่ดินอุดมสมบูรณ์กด็ ี
ไป แต่ถา้ เจอกับความแห้งแล้ง ก็จบเห่ตลอดชีวติ

ไม่ตอ้ งพูดหรอก พูดไปครึ่ งค่อนวันก็เปล่าประโยชน์ เงาผอม


บางและน่ าสงสารของเย่ฉูฉู่เป็ นที่รู้จกั ของคนทั้งหมู่บา้ น ถูก
ภรรยาเหล่าหวังสามพูดอธิ บายอย่างชัดเจนแบบเข้าเนื้ อไม้ลึก
สามเฟิ น [1] เชียวล่ะ
“ชายกลัวเลือกอาชี พผิด หญิงกลัวเลือกสามีผิด ประโยคนี้ พูด
ไม่ผดิ แม้แต่นอ้ ย ลูกสาวตระกูลเย่คนนั้นอ่อนโยน นิสัยก็ดีไม่รู้
ตั้งเท่าไร ทาไมถึงมาแต่งงานกับคนแบบนี้ได้นะ?”

“นัน่ น่ะสิ ลูกสาวคนนี้ของตระกูลเย่ถือว่าถูกทาลายด้วยน้ ามือ


ของเจ้าหกจ้าวเลยแหละ เธอว่าไหม แม่ยายตระกูลเย่กฉ็ ลาดนะ
ทาไมถึงได้ยกลูกสาวให้กบั หัวหน้าครอบครัวแบบนี้ได้ล่ะ?”

“มองพลาดมั้ง”

“มองพลาดอะไรกัน เรี ยกว่าดูจนตาลายต่างหากล่ะ ถึงเจ้าหก


จ้าวจะไม่ได้เรื่ องสักอย่าง แต่ถา้ ไปยืนตรงนูน้ ก็ราศีจบั เชียวล่ะ
คนที่ไม่รู้ต้ืนลึกหนาบางคงคิดว่าเป็ นของล้ าค่าหายาก”

“งานการไม่ทาสักอย่างแต่กินดีอยูด่ ี ถ้าเป็ นฉัน ฉันเองก็ราศีจบั


เหมือนกันนัน่ แหละ!”
“ฮ่ า ๆ พอเหอะ ถ้าเป็ นนาย ต่อให้กินเนื้ อมังกร นายก็ยงั ดู น่า
รังเกียจแบบนั้นอยูด่ ี!”

ภายในหมู่ บ ้า น ผูห้ ญิ ง และผูช้ ายเกี ย จคร้ า นส่ ว นหนึ่ ง ก าลัง


หัวเราะร่ ากันอยู่

เย่ฉูฉู่กลับไม่ได้คิดมากมายขนาดนั้น เธอเพียงแค่อยากจะแบก
ฟื นให้มากสักหน่อย

ส่ วนงานนี้ จะเป็นงานของผูห้ ญิงหรื อไม่ เธอไม่ได้ใส่ ใจ สามี


ของเธอไม่ ไ ด้เ กี ย จคร้ า นอย่า งที่ ค นอื่ น เขาพู ด กัน จริ ง ๆ สั ก
หน่ อย อี กอย่างเขาก็ขยันหาเงิ นเลี้ ยงครอบครั วด้วย ออกไป
ทางานอย่างยากลาบากข้างนอก เธอที่อยูใ่ นบ้านถ้าหากทางาน
ได้มากขึ้นก็ทาสักหน่อยแล้วกัน

จ้า วเหวิ น เทาไม่ รู้ ว่ า ภรรยาของเขาขึ้ น ไปแบกฟื นบนภู เ ขา


ตอนนี้เขายุง่ มาก หลังขายถัว่ งอกและเนื้อเสร็ จ ก็เริ่ มสอบถาม
เรื่ องผักใบเขียว
สองสามวันมานี้ เขาไปถามมาพอสมควรแล้ว เขาจอดจักรยาน
ไว้ที่บา้ นพี่สาวใหญ่ จากนั้นก็ติดรถแทรกเตอร์ ไปด้วยเพื่อไป
ศึกษานอกสถานที่ภายในหมู่บา้ นไท่ผงิ

รถแทรกเตอร์เป็ นของสถานีส่งเสริ มเทคโนโลยีการเกษตร ซึ่ ง


หมู่บา้ นไท่ผงิ จ้างมาพลิกหน้าดิน

จ้าวเหวินเทานัง่ อยู่ตาแหน่ งข้างคนขับภายในรถ เขาพูดคุยกับ


คนขับ “พี่ใหญ่ หลิ ว พลิ กหน้าดิ นเขาทาในช่ วงฤดู ใ บไม้ผ ลิ
ไม่ ใช่ เหรอ ทาไมถึ งมาพลิ กหน้าดิ นในช่ วงฤดู ใ บไม้ร่ ว งล่ ะ
ครับ?”

คนขับหลิวที่กาลังขับรถมีอายุสามสิ บกว่า ๆ รู ปร่ างบึกบึน ไว้


เครา ผิวพรรณดาคล้ า ดู ๆ ไปแล้วแก่กว่าอายุจริ งมากนัก

แต่จากร่ างกายของเขาก็พอจะมองออกว่าฐานะทางบ้านคงไม่
เลวเลย ไม่เช่นนั้นร่ างกายคงไม่แข็งแรง
“น้องชาย นายคงไม่ รู้สินะ ทางนั้นหลังจากช่ วงเก็บเกี่ ยวฤดู
ใบไม้ร่วงแล้วก็จะพลิกหน้าดินทันที ก่อนที่อากาศจะหนาวจน
แข็ง พลิกหน้าดินได้มากเท่าไรก็ดีเท่านั้น ถ้ารอให้ถึงฤดูใบไม้
ผลิ ตอนนั้นก็คงยุง่ แล้ว ไม่มีเวลาจัดการหรอก” คนขับหลิวเอง
ก็เป็ นคนช่างเจรจา

จ้าวเหวินเทาสงสัยใคร่ รู้ “พวกเขายุง่ อะไรกันเหรอครับ?”

“ยุง่ อะไร? ก็เยอะแยะ ที่สาคัญ ๆ ในช่วงฤดูใบไม้ผลินนั่ แหละ


ต้อนแกะ ต้อนวัว แถมยังมีปลูกข้าวสาลีอีก จริ งสิ ยังมีผกั ใบ
เขียวด้วยนะ นายเองก็อยากไปดูเรื อนกระจกไม่ใช่เหรอ ฉันจะ
บอกอะไรให้นะ ปลูกผักยุ่งยากกว่าพืชเกษตรในเรื อกสวนไร่
นาอีก วันสองวันก็ตอ้ งมากาจัดวัชพืชหนึ่งครั้ง ยิง่ ปลูกในเรื อน
กระจกยิง่ ทาให้ลาบากเข้าไปใหญ่” คนขับหลิวบอกเล่าอย่างรู ้
ถึงสถานการณ์ทางฝั่งนี้เป็ นอย่างดี
จ้า วเหวิน เทาได้ยิน ก็รู้ สึ ก ว่า ตนเองคิ ดถู ก แล้ว ที่ ม าในครั้ งนี้
สถานที่ ภ ายในหมู่ บ ้า นที่ มี ข นาดใหญ่ เ ท่ า ฝ่ ามื อ นั้น ย่ อ มมี
ขีดจากัด อยากมีความรู ้งอกเงยก็ตอ้ งออกมาข้างนอก

“พี่ ใ หญ่ ห ลิ ว การประกอบการของทางนี้ เป็ นยัง ไงเหรอ?


สถานที่ใหญ่โตขนาดนั้น คงขาดกาลังคนไม่นอ้ ยเลยมั้ง?” จ้าว
เหวินเทาครุ่ นคิด ก่อนจะเอ่ยถามออกไป

คนขับหลิวกล่าว “ขาดคนอะไรกัน? พวกเขาทากันเองมาตั้ง


นานแล้ว เรื่ องของตัวเองใครจะไม่ทางานหนักกัน?”

“หา?” จ้าวเหวินเทาถึงกับตกตะลึง “พวกเขาทากันเองเหรอ?”

“ใช่ ทาแบบแบ่งที่นาน่ะ แต่กไ็ ม่ได้บอกคนข้างนอกหรอกนะ


สองปี มานี้นโยบายผ่อนปรนลงแล้ว ก็เลยไม่ได้ปิดบังอีกต่อไป
ตอนที่กินข้าวหม้อใหญ่ [2] ในปี นั้น ๆ พวกเขาต่างก็เลี้ยงหมู
ปลูกผักกัน การใช้ชีวิตดีกว่าหมู่บา้ นอื่น ๆ เยอะเลยล่ะ” คนขับ
หลิวกล่าว
จ้าวเหวินเทาค่อนข้างชื่นชมจริ ง ๆ เขากล่าว “ถ้ารู ้แบบนี้ต้ งั แต่
แรก ผมคงมาดูที่หมู่บา้ นไท่ผงิ ให้เร็วกว่านี้”

“มาเร็ วกว่านี้ ก็ไม่มีประโยชน์หรอก ละแวกใกล้เคียงของที่นี่


ผูค้ นก็ทาแบบนี้ กนั ทั้งนั้นแหละ หัวหน้าของพวกเขาเก่งมาก
กล้าหาญ มีกลยุทธ์ ถ้าให้พ่ ึงพาตัวเองก็คงทากันไม่ได้หรอก”
คนขับหลิวกล่าว

จ้า วเหวิ น เทาพยัก หน้ า “เรื่ องนี้ ก็ ถู ก นะครั บ นี่ ก็ ใ ช้ ชี วิ ต


เหมื อนกับประชาชนตัวเล็ก ๆ นั่นแหละ หัวหน้าครอบครัว
ไม่ได้เรื่ องชีวติ ของบ้านหลังนี้กไ็ ม่ดี”

“เหตุผลนี้แหละ!” คนขับหลิวยิม้

จ้า วเหวิ น เทาเป็ นคนช่ า งเจรจา ระหว่ า งทางก็ห ลอกล่ อ ให้


คนขับหลิวเล่าเรื่ องของหมู่บา้ นไท่ผิงไปไม่นอ้ ย ทั้งสองคนยิง่
คุ ย ก็ยิ่ง ถู ก คอ มาถึ ง ที่ แ ล้ว ไม่ ว่า จะพู ด อย่า งไรคนขับหลิ วก็
อยากจะลากจ้าวเหวินเทาไปรับประทานอาหารที่โรงอาหาร
ของทีมใหญ่ดว้ ยกัน

“นี่ ก็เที่ยงแล้ว อากาศก็หนาว จะให้กินอาหารแห้งได้ยงั ไงกัน


ไป ไปหาอะไรร้อน ๆ กินกับฉันสักมื้อ แล้วค่อยไปทาธุระของ
นาย” คนขับหลิวกล่าว

จ้า วเหวิ น เทาเดิ ม ที ก็อ ยากจะเหยีย บเข้า ไปในที ม ใหญ่ ข อง


หมู่บา้ นไท่ผิงเหมือนกัน แบบนี้ ก็ดี เขาไม่ตอ้ งพูดด้วยตัวเอง
อีกอย่างคนขับหลิวก็เป็ นคนซื่ อสัตย์ เขาจึงตอบตกลงอย่างมี
ความสุ ข และตามอีกฝ่ ายมายังทีมใหญ่ของหมู่บา้ นไท่ผงิ

ทีมใหญ่ของหมู่บา้ นทั้งหมดก็เหมือน ๆ กัน รั้วกั้นทาด้วยดิ น


ลานใหญ่โตกว้างขวาง มีบา้ นดินเรี ยงแถวอยูห่ ลายแถว มีหญ้า
ขึ้นบนหลังคา

ภายในบ้านมีเตียงเตาขนาดใหญ่วางอยู่ มีตูแ้ ละห้องครัวแบบ


ง่าย ๆ นี่คือสถานที่ไว้รับรองแขก
คนขับ หลิ ว ถู ก เชิ ญ มาเพื่ อ พลิ ก หน้า ดิ น ที ม ใหญ่ จึ ง ดู แ ลทั้ง
อาหารการกินและที่พกั อาศัย อันที่จริ งเขามาที่นี่หลายวันแล้ว
ครั้งนี้รถมีปัญหานิดหน่อย จึงต้องกลับไปซ่อมในเมือง กลับมา
ก็ได้มาเจอกับจ้าวเหวินเทาพอดี

“ฉันอยู่ที่นี่จนถึงช่ วงหน้าหนาวหิ มะตกหนักถึงจะกลับไป ถ้า


นายมาอีกรอบก็มาหาฉันที่นี่ บอกว่าเป็ นน้องชายของฉัน เรื่ อง
การกินกับที่พกั อาศัยไม่มีปัญหา” คนขับหลิวเรี ยกเขาให้ข้ ึนมา
นัง่ บนเตียงเตา

“ตกลง งั้นรบกวนพี่ใหญ่ หลิ วหน่ อยนะครั บ” จ้าวเหวินเทา


กล่าวขอบคุณ

“รบกวนอะไรกัน อยากกิ นอะไรก็กินให้เต็มที่ เลย!” คนขับ


หลิวหัวเราะร่ าอย่างใจกว้าง
เหล่าชวีโถวคนเฝ้ าประตูควบคู่กบั การเป็ นพ่อครัวให้กบั ที ม
ใหญ่ ยกอาหารมาเสิ ร์ฟพลางกล่าว “พวกชอบกินฟรี มาแล้ว
ฉันต้องไปบอกเลขาของพวกเราสักหน่อย”

[1] เข้าเนื้อไม้ลึกสามเฟิ น (入木三分) เปรี ยบเปรยกับผูท้ ี่


มีความคิดล้ าลึก หรื อ วิเคราะห์ แยกแยะประเด็นปั ญหาต่างๆ
ได้อย่างชัดเจน แจ่มแจ้ง

[2] กินข้าวหม้อใหญ่ (吃大锅饭) เป็ นระบบการจัดสรร


อาหารให้กบั ประชาชนชาวคอมมูน ที่รัฐบาลจีนจัดขึ้น โดยมี
สโลแกนว่า “กินข้าวฟรี ไม่เสี ยสตางค์” ไม่ใช่ ทุกคนจะมีขา้ ว
กินฟรี ท้ งั ประเทศ แต่จะเป็ นกลุ่มคนที่ทางานเพาะปลูกในที่นา
ของรั ฐบาลและคนในชนบทที่ ได้รับสวัสดิ การนี้ รั ฐบาลจะ
ทาอาหารในปริ มาณมาก คล้ายกับอาหารที่โรงอาหาร เพื่อเลี้ยง
คนท างานและครอบครั ว ทุ ก มื้ อ ใครท ามากท าน้อ ยก็ไ ด้รั บ
อาหารเหมือนกัน
ตอนที่ 65 ปลูกผักในโรงเรื อนไม่ ใช่ เรื่ องง่ าย

คนขับหลิวกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เหล่าชวีโถว ผมพาน้องชายมา


กิ น ข้า วมื้ อ หนึ่ ง ลุ ง ยัง จะไปฟ้ อ งอี ก ที ลุ ง ดื่ ม เหล้า เกาเหลี ยง
[1]ของผมไปตั้งหลายขวดผมยังไม่วา่ อะไรเลยนะ?”

เหล่าชวีโถวถึงกับเงียบสนิท

จ้าวเหวินเทายิม้

แม้ จ ะบอกว่ า มี ข องร้ อ น ๆ ให้ รั บ ประทาน แต่ ฝี มื อ การ


ทาอาหารของเหล่าชวีโถวก็แสนจะธรรมดา จ้าวเหวินเทาที่
ได้รับการดู แลอย่างดี จากภรรยาก็รู้สึกว่ามันแค่ทาให้ทอ้ งอิ่ม
เท่านั้น

อาหารล้วนเป็ นจานหลัก มีผกั กาดขาววุน้ เส้นหมูต๋ ุน ไข่ต๋ ุนผัก


โขม ตับหมูผดั พริ ก และผักฉี กมืออีกหนึ่ งจาน ซึ่ งก็คือการใช้
มื อ ฉี ก ผัก กาดขาว ต้น หอม ผักชี และผักกาดหอม ราดด้ว ย
เต้าเจี้ยว กินแล้วให้ความรู ้สึกสดใหม่

สุ ดท้ายแล้วทีมใหญ่ในหมู่บา้ นที่ปลูกผัก ก็สามารถกินผักใบ


เขียวได้

ข้ า วเป็ นข้ า วฟ่ างหุ งสุ ก แต่ ไ ม่ มี เ หล้ า เพราะหลั ง จาก


รั บ ประทานเสร็ จ คนขับรถหลิ ว ต้อ งไปพลิ ก หน้า ดิ น จึ ง ไม่
สามารถดื่มได้ กลับมาช่วงค่าถึงจะดื่มหนึ่งจอก

แม้รสชาติอาหารจะไม่ถูกปาก แต่จา้ วเหวินเทาก็รับประทาน


จนท้องกลมดิก หลังกินเสร็จก็ยงั ดื่มชารสเข้มอีกสองแก้ว ก่อน
จะบอกลาคนขับหลิวเพื่อเข้ามาศึกษานอกสถานที่ตรงด้านใน
หมู่บา้ นไท่ผงิ

เขาสามารถมองเห็นความมัง่ คัง่ ของหมู่บา้ นไท่ผิงจากอาคาร


บ้า นเรือน แม้ว่ า จะไม่ ใ ช่ บ้า นอิ ฐ แต่ ก็ เ ป็ นการสร้ า งบ้า น
ผสมผสานระหว่างอิฐและดิน โดยใช้อิฐเป็นโครงสร้าง ส่ วน
อื่นทาจากดิ น อีกอย่างด้านบนหลังคาบ้านหลายหลังก็ปูด้วย
กระเบื้องแดง ดูทนั สมัยเป็ นอย่างมาก

นอกจากสิ่ งเหล่านี้ ลานบ้านแต่ละบ้านก็ใหญ่โตมาก ด้านหน้า


และด้านหลังเป็ นโรงเรื อนคลุมแผ่นพลาสติกทั้งหมด ด้านหน้า
ปลูกผัก ด้านหลังเลี้ยงไก่ เป็ดและสุ กร ชายหญิงต่างก็เดินเข้า
ๆ ออก ๆ ทางานกันอย่างขะมักเขม้น ให้ความรู ้สึกถึงการใช้
ชีวติ ที่เจริ ญรุ่ งเรื อง

ตอนนี้ เป็ นเวลาประมาณบ่ายสองโมงแล้ว จ้าวเหวินเทาเห็ น


ผูห้ ญิงอายุสามสิ บสี่ สิบปี คนหนึ่ งกาลังปี นบันไดออกแรงดึ ง
แผ่นพลาสติกที่อยูบ่ นโรงเรื อน เขาจึงขันอาสา “พี่สาว เดี๋ยวผม
ช่วยนะครับ!”

หญิงคนนั้นหันมามองจ้าวเหวินเทาที่ออกจากประตูใหญ่ ซึ่ ง
จ้าวเหวินเทามีหน้าตาดี ผิวพรรณขาวผ่องหล่อเหลา จมูกสู ง
โด่ง เห็นใครก็ยมิ้ ให้อย่างดูเป็ นกันเอง
ประกอบกับการตะโกนเรี ยกหล่ อนว่าพี่สาวยิ่ง ทาให้ห ล่ อ น
รู ้สึกเป็ นวัยรุ่ น ผูห้ ญิงน่ ะ ไม่ว่าจะอายุมากขนาดไหนก็อยาก
อ่ อนเยาว์กนั ทั้งนั้น หล่ อนจึ งคลี่ ยิ้มในทันที “เอาสิ น้องชาย
ขอบใจนะ เธอขึ้นบันไดฝั่งนั้น ดึงพลาสติกไปทางนั้นหน่อย”

“ขอบใจอะไรกันครับ เรื่ องเล็กน้อย!” จ้าวเหวินเทามีท่าทาง


กระฉับกระเฉงคล่องแคล่ว เขาขึ้นบันไดทางฝั่งนั้น ก่อนจะดึง
พลาสติกไป หลังจากดึงจนเรี ยบตึงแล้ว ภายใต้การสั่งการของ
หญิงสาว พลาสติกก็ถูกคลุมเสร็จเป็ นที่เรี ยบร้อย

“น้องชาย มา เข้าไปดื่มน้ าดื่มท่าในบ้านก่อน” หญิงคนนั้นชวน


ด้วยรอยยิม้

จ้าวเหวินเทายิ้มตอบ “พี่สาว ผมไม่ ขอเข้าไปดี กว่าครั บ ผม


อยากดูโรงเรื อนนี้ของพวกพี่สักหน่อย ได้หรื อเปล่าครับ?”

หญิงสาวยิม้ แย้ม “ทาไมจะไม่ได้ล่ะ เธอคงเป็ นคนนอกหมู่บา้ น


สิ นะ มาที่นี่เพราะอยากจะปลูกผักในโรงเรื อนเป็ นของตัวเอง
เหรอ?” ระหว่างที่พูดหล่อนก็นาจ้าวเหวินเทาเดิ นเข้าไปด้าน
ในประตูโรงเรื อนที่มีม่านผ้าฝ้ายแขวนอยู่

“พี่สาวดูออกได้ไงครับเนี่ ย?” จ้าวเหวินเทาเดินตามหล่อนเข้า


ไปขณะพูดด้วยรอยยิม้

“คนที่อยากดูโรงเรื อนก็มีแค่คนนอกหมู่บา้ นทั้งนั้นแหละ คน


ในหมู่บา้ นต่างก็ไม่ได้รู้สึกว่าสิ่ งนี้เป็ นของหายากอะไร” หญิง
สาวพูด อีกอย่างจ้าวเหวินเทาก็ไม่ใช่คนแรกที่มา

จ้าวเหวินเทาเข้ามาด้านในโรงเรื อนก็รู้สึกได้ถึงไอร้อนผ่าว แต่


เขาไม่ได้สนใจสิ่ งเหล่านี้ สายตาจ้องมองไปยังผักใบเขียวที่อยู่
ตรงหน้ า มี กุ ย ช่ า ย ผัก กาดขาว ผัก กาดหอม ต้น หอม ต้น
กระเทียมและอื่น ๆ มากมายเต็มไปหมด

เมื่อครู่ ตอนที่คลุมโรงเรื อน เขาก็กวาดมองอยู่ปราดหนึ่ ง แต่


เป็ นเพราะต้องทางานด้วยจึงไม่ได้มองอย่างละเอียด คราวนี้ได้
มองใกล้ ๆ ทาให้เขารู ้สึกถึงความสดใหม่ ด้านนอกนอกจาก
ต้นสนแล้วก็ไม่เห็นสิ่ งที่เป็ นสี เขียวขจีเลย

“นี่ เป็ นของที่เก็บไว้กินเอง ส่ วนทางฝั่ งนั้นเอาไว้ขาย” พี่สาว


คนนี้เรี ยกเขาให้เดินเข้าไปด้านใน

จ้าวเหวินเทาเดินตามเข้าไปด้านใน ผักที่ใช้ขายมีอยู่สองชนิ ด
คือมะเขือยาวและมะเขือเทศ

“ผัก ใบเขี ย วพวกนี้ เป็ นคนละชนิ ด กัน การผสมเกสรก็ ไ ม่


เหมือนกัน สองประเภทนี้มีระยะเวลาเจริ ญเติบโตไล่เลี่ยกัน ก็
เลยปลูกด้วยกัน ดูแลได้ง่าย ของที่ตวั เองกินจะงอกงามออกมา
ได้ดีหรื อเปล่าก็ดว้ ยวิธีน้ นั แหละ” หญิงสาวกล่าวด้วยรอยยิม้

ผสมเกสร?

จ้าวเหวินเทาครุ่ นคิดดูก็เข้าใจขึ้นมา ฤดูหนาวไม่มีผ้ งึ และไม่มี


ผีเสื้ อ จึงจาเป็ นต้องใช้คนเพื่อผสมเกสร
หญิ งสาวคนนี้ เป็ นคนกระตื อรื อร้ น แน่ นอนว่าสิ่ งสาคัญ คื อ
ต้องการมองจ้าวเหวินเทาอย่างเจริ ญหู เจริ ญตา จึ งพูดกับเขา
เกี่ยวกับเรื่ องสาคัญของการปลูกผักในโรงเรื อน อย่างเช่นพวก
การเก็บความร้อน แสงสว่าง การควบคุ มอุณหภูมิ การใส่ ปุ๋ย
การกาจัดศัตรู พืชอะไรทานองนั้น

จ้าวเหวินเทาได้ยนิ ก็แอบเดาะลิ้นในใจ คิดไม่ถึงเลยว่าการปลูก


ผักในโรงเรื อนจะซับซ้อนแบบนี้

“ทุกๆ วันต้องดึงฟางกับม่านที่คลุมออกเพื่อให้โดนแดด ช่ วง
บ่ายเวลานี้ ก็จะคลุมอีกครั้ง บางครั้งก็คลุมตอนค่า” หญิงสาว
มองท่าทางของจ้าวเฉิ น จึงแย้มยิ้มออกมา “รู ้สึกว่ามันยุ่งยาก
มากเลยใช่ไหมล่ะ?”

จ้าวเหวินเทาพยักหน้า “ยุง่ ยากกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลยครับ”

“ตอนที่ไม่ได้ปลูกพืชในโรงเรื อนก็รู้สึกว่าเป็ นเรื่ องง่าย แต่พอ


ปลูกขึ้นมาถึงได้รู้นี่ล่ะว่าการปลูกพืชแบบนี้ เปลืองสมองกว่า
ปลูกในแปลงเยอะเลย ตอนนี้ยงั ดีหน่อยที่อากาศยังไม่ได้หนาว
ขนาดนั้น แต่ ร อจนถึ ง วัน นับ เก้า [2] ช่ ว งกลางดึ ก ก็ต ้อ งลุ ก
ขึ้นมาเติมถ่านหิ นในเตาอีกหลายครั้ง ถ้าเจอกับหิ มะตกหนักก็
ต้องขึ้นไปกวาดหิ มะ ไม่ง้ นั มันจะกดทับหลังคาจนถล่มลงมา
เมื่อปี ที่แล้วมีหิมะตกหนัก ทาให้โรงเรื อนภายในหมู่บา้ นเรา
ถล่มลงมาหลายหลัง อย่าว่าแต่ได้เงินเลย ยังต้องเสี ยเงินอีกไม่
น้อย” หญิงสาวกล่าว

จ้า วเหวิ น เทารี บ หัน มองไปรอบ ๆ ก็พ บว่ า โครงสร้ า งของ


โรงเรือนเป็ นไม้ค้ า ยัน ทั้ง หมด “ท าไมถึ ง ไม่ ใ ช้ ข องที่ ม ัน
แข็งแรงกว่านี้หน่อยล่ะครับ?”

หญิงสาวกล่าว “พวกเราเองก็อยากอยูห่ รอก แต่ถา้ ใช้เหล็กมัน


จะขึ้นสนิม การเชื่อมก็ยงุ่ ยาก แถมยังมีค่าใช้จ่ายสู งอีก”

“ ราคาผักใบเขียวในฤดู หนาวสู งมากเลยนะ ไม่นานก็คืนทุน


ได้แล้วไม่ใช่เหรอครับ?” จ้าวเหวินเทาถาม
“น้องชาย เธอนี่ คิดตื้ นจริ ง ๆ” ครั้ นหญิ งสาวได้ยิน หล่ อนก็
เข้าใจได้ว่าเขาไม่มีประสบการณ์อะไรเลย จึงกล่าวด้วยรอยยิม้
“ฤดูหนาวผักใบเขียวมีราคาสู งก็จริ ง แต่กต็ อ้ งมีคนซื้ อด้วย ก็มี
แค่ช่วงปี ใหม่ไม่กี่วนั นัน่ แหละ ส่ วนเวลาอื่นขายได้แทบจะนับ
นิ้วได้เลย อีกอย่างนะ ปริ มาณถ่านหิ นที่ใช้เผาให้ความร้อนใน
ฤดูหนาวก็ไม่ใช่นอ้ ย ๆ ผักในโรงเรื อนจะทาเงินได้สักเท่าไหร่
กันเชียว? ลองคานวณอย่างละเอียดแล้ว ไม่คุม้ ทุนเอาเสี ยเลย”

จ้าวเหวินทางสังเกตเห็นเตาที่อยู่ดา้ นข้างซึ่ งมีขนาดใหญ่ มาก


ความร้อนในโรงเรื อนนี้ข้ ึนอยูก่ บั การทาความร้อนจากการเผา
ไหม้ถ่านหิ นทั้งหมด ซึ่ งการเผาไม้ไม่สามารถทาให้อุณหภูมิ
ร้อนถึงระดับนั้นได้

จ้าวเหวินเทาส่ ายหน้ารัว ๆ “นี่เท่ากับว่าเป็ นการเผาเงินทิง้ สิ นะ


ครับ”
“ก็ใช่น่ะสิ ฤดูหนาวได้เงินมาแค่ไม่เท่าไร ถึงฤดูร้อนแล้วแต่ละ
บ้านก็ปลูกผักกัน จะมีสักกี่คนที่จะซื้อผัก?” หญิงสาวกล่าว

จ้า วเหวิ น เทายิ้ม “พี่ ส าว แต่ พ วกพี่ ย งั มี ผ ัก ฤดู ใ บไม้ร่วงนี่


ละแวกเพื่อนบ้านนี้ต่างก็รู้ดีว่าผักของหมู่บา้ นไท่ผิงของพวกพี่
เป็ นของดี”

“ผักฤดูใบไม้ร่วงนัน่ เราปลูกในแปลง ไม่มีปัญหาอะไรหรอก


แต่ผกั ฤดูใบไม้ร่วงราคาถูก ถ้าไม่ใช่ เพราะโรงงานหน่ วยงาน
เหล่านั้นต้องการ ก็คงขายได้ไม่เท่าไหร่ เหมือนกัน” หญิงสาว
เองก็ไม่ปฏิเสธ

นี่ ก็จริ ง ตอนนี้ ประชาชนต่างก็ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงกันทั้งนั้น


ไม่ไปซื้อของ และไม่ขายของเช่นกัน

เมื่อสนทนากันครู่ หนึ่ ง จ้าวเหวินเทาก็ไปบ้านถัดไป เขาเป็ น


คนปากหวาน การเจรจาของเขาทาให้คนชื่นชอบ อีกอย่างสิ่ งที่
เขาถามก็ไม่ใช่ ความลับอะไร เดิ นไปเดิ นมาอยู่สองสามบ้าน
โดยพื้นฐานก็ได้ทราบในสิ่ งที่เขาอยากรู ้แล้ว

ท้องฟ้ าใกล้มืดแล้ว เขาจึ งกลับไปที่ ทีมใหญ่ เขาได้บอกกับ


คนขับรถหลิวว่าจะค้างที่นี่หนึ่งคืน ค่อยหารถกลับในวันพรุ่ งนี้

ตอนค่าเหล่าชวีโถวทาข้าวฟ่ างนึ่งและแป้ งจี่ขา้ วโพด ทั้งยังต้ม


โจ๊กข้าวฟ่ างอีกหนึ่ งหม้อ กับข้าวที่เหลือในตอนเที่ยงก็นามา
ผัดรวมเข้าด้วยกันให้ร้อนสักหน่อย จากนั้นหั่นเนื้ อหมูสุกที่มี
เนื้ อแดงติดมันหนึ่ งจาน ราดด้วยซี อิ๊วกระเทียม ก่อนจะหยิบ
เหล้า ขาวที่ แ บ่ ง ขวดขายขึ้ น มา ทั้ง สามคนนั่ง ล้อ มโต๊ ะ ที่ อ ยู่
ตรงหน้าขณะดื่มด้วยกัน

“เป็ นไง ไปดูมาแล้วใช่ไหม?” คนขับหลิวกินเนื้อหมูสุกเข้าไป


หนึ่งชิ้นก่อนจะเอ่ยถาม
เหล่าชวีโถวแค่นเสี ยงเหอะออกมาสองเสี ยง “จะเป็นไงได้ล่ะ
ไม่ไหวอยูแ่ ล้ว ปลูกผักในโรงเรื อนไม่ใช่สิ่งที่ใครก็ปลูกได้ เจ้า
หนูนี่แค่เห็นก็ไม่รอดแล้ว”

จ้าวเหวินเทากาลังมีความสุ ข “ลุง ทาไมลุงถึงมองว่าผมทาไม่


รอดล่ะ?”

………………………………………………………………

[1] เหล้าเกาเหลียง สุ ราหรื อข้าวฟ่ างสุ ราเป็นกลัน่ ที่แข็งแกร่ ง


สุ ราของจีนที่ทาจากการหมักข้าวฟ่ าง
[2] วันนับเก้า เป็นวันที่ชาวจีนจะนาภาพวาดหรื อตัวอักษรมา
เติมแต้มหรื อเขียนทีละขีด อาจจะเป็ นภาพดอกเหมยจานวนเก้า
ดอก ดอกละเก้ า กลีบหรื อตั ว อั ก ษรเก้ า ตั ว แต่ละตั ว
ประกอบด้วยเก้าขีด 9×9 = 81 จะตรงกับจานวนวันในช่วงที่ถือ
ว่าเริ่ มหนาวไปจนถึงหายหนาวพอดี รวมทั้งสิ้ น 81 วัน โดยใช้
หนึ่ งแต้ม หรื อหนึ่ งขี ด แทนหนึ่ งวัน เมื่ อ ครบ 81 วัน ภาพ
ดังกล่าวจะถูกแต้มสี หรื อเขียนเป็ นคาครบพอดี กิจกรรมนี้เป็น
การใช้เวลาว่างในยามที่อากาศหนาวเพื่อเป็ นการเตือนให้รักษา
สุ ขภาพตนเองให้แข็งแรง รอวันที่อากาศหนาวสิ้ นสุ ดลง
ตอนที่ 66 เหล่าชวีโถวและคนขับรถหลิว

คนขับรถหลิวก็แย้มยิม้ “เหล่าชวีโถว มองยังไงของลุง น้องชาย


จ้าวทาไม่รอดได้ไง”

เหล่าชวีโถวดื่มเหล้า ใบหน้าเดี๋ยวคล้ าเดี๋ยวแดงของเขาสารวจ


มองจ้าวเหวินเทาพลางกล่าว “แค่เห็นนายก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนที่
จะทาเรื่ องนี้”

“แล้วผมเหมาะกับทาอะไรล่ะครับ?” จ้าวเหวินเทากล่าว

“ฉันว่านายเหมาะกับการขยับปาก แต่ไม่เหมาะกับการขยับมือ
นายทาโรงเรื อนเพาะปลูกไม่ไหวหรอก นายว่าฉันพูดถูกหรื อ
เปล่าล่ะ?” เหล่าชวีโถวกล่าว
จ้าวเหวินเทายิม้ “ถูก ลุงพูดถูกต้องเลยล่ะ ผมทาไม่ไหวจริ ง ๆ
นั่น แหละ อัน ที่ จ ริ ง ที่ ผ มมาก็ไ ม่ ไ ด้จ ะมาเรี ย นเพาะปลู ก ใน
โรงเรื อนหรอก”

เขาก็แค่เดิ นทางมาดู ไว้เฉย ๆ เพื่อให้มีประสบการณ์ม ากขึ้ น


ไม่ได้คิดจะทาเอง แบบนั้นไม่เหนื่อยตายเลยเหรอ?

“นายอยากจะเป็ นตัวแทนค้าขายผักใบเขียวสิ นะ?” คนขับหลิว


กล่าว

“พี่ใหญ่หลิว นี่ พี่เองก็มองออกด้วยเหรอครับ? ผมแสดงออก


ชัดเจนขนาดนั้นเลย?” จ้าวเหวินเทาประหลาดใจ

พี่ใหญ่หลิวยิม้ “มันจะไปยากอะไร มาหมู่บา้ นไท่ผิงทั้งทีไม่


เรี ยนรู ้การเพาะปลูกผักในโรงเรื อนก็ตอ้ งเป็นเพราะอยากเป็ น
ตัว แทนค้า ขายผัก นั่น แหละ นายบอกว่า ไม่ ได้ม าเรี ย นรู ้ การ
เพาะปลูกผักในโรงเรื อน งั้นก็ตอ้ งมาเพื่อเป็ นตัวแทนขายผักอยู่
แล้ว หรื อนายจะบอกว่ามาเที่ยวเล่นล่ะ?”
เหล่าชวีโถวกล่าว “จริ งด้วย งานแบบนี้ แหละถึงจะเหมาะกับ
นาย”

“ลุง ตาถึงมากเลยนะเนี่ ย!” จ้าวเหวินเทายกนิ้วโป้ งให้ชายชรา


หน้าตาอัปลักษณ์คนนี้

เหล่าชวีโถวยิม้ ก่อนจะพูดอย่างพึงพอใจ “ปี นี้ตาแก่แบบฉันก็


อายุหกสิ บกว่าแล้ว เฝ้ าประตู ให้ทีมใหญ่ น้ ี มาตั้งแต่ เล็ก ๆ ดู
ประตูมาตลอดทั้งชี วิต และได้เห็นคนมาทั้งชี วิต ใครก็ตามที่
เดิ นผ่านแค่ แว๊บเดี ยวก็รู้แบบไม่ ใช่ ก็ใกล้เคี ยงแล้ว เด็กหนุ่ ม
แบบนายแค่เห็นก็รู้แล้วว่าเป็ นบุคคลที่มีความเฉลียวฉลาด เป็ น
คนทาการทางาน”

“เหล่าชวีโถว เดิมทีนอ้ งชายจ้าวก็เป็นคนใช้ได้อยู่แล้ว เรื่ องนี้


ไม่ตอ้ งให้ลุงมองหรอก ฉันว่าลุงดื่มเยอะไปแล้วนะ เลยเริ่ มคุย
โวโอ้อวดอีกแล้วเนี่ย” คนขับหลิวยิม้
เหล่าชวีโถวกล่าว “ดื่มแค่น้ ี จะไปเมาอะไร ดื่มมากกว่านี้ ก็ไม่
เป็ นไร!”

เพิ่ ง จะพู ด จบ ตาแก่ อ ย่า งเขาก็เ อนตัว นอนลงบนเตี ย งสลบ


เหมือด

“นี่คงดื่มเยอะจริ ง ๆ สิ นะ?” จ้าวเหวินเทาพูดอย่างมีความสุ ข

คนขับรถหลิวดึงผ้าห่ มหนึ่งผืนมาคลุมให้เขา “ใช่ ตาแก่นี่เวลา


ดื่มเยอะก็จะเป็นแบบนี้แหละ ไม่เป็ นไร นอนสักหน่อยก็ดีข้ ึน
แล้ว เฮ้อ แต่ก็เป็ นคนอาภัพคนนึ งเลยนะ พ่อกับแม่ตายเพราะ
ความหิ ว เขาเติ บ โตมาได้เ พราะกิ น ข้า วของเพื่ อ นบ้า นใน
หมู่บา้ นนี่แหละ นอนอยูใ่ นทีม ไม่ได้สร้างบ้านเป็ นของตัวเอง
เขามองว่าในทีมก็คือบ้าน ก็อยูแ่ บบนี้มาตลอดตั้งหลายปี แล้ว”

เห็นได้ชดั ว่าเขาเข้าใจสถานการณ์ของเหล่าชวีโถวเป็ นอย่างดี


จ้าวเหวินเทาเองก็ถอนหายใจเช่นกัน แต่ก่อนหน้านี้ในยุคนั้นก็
เป็ นแบบนั้น การใช้ชีวติ ไม่ดีเลยจริ ง ๆ

“ตาแก่ปากไม่ดี แต่ใจดีนะ อย่างอื่นไม่ดี แต่เรื่ องดื่มนี่เก่งเชี ยว


ถ้านายมาก็เอาเหล้ามาให้เขาสักหน่ อย เหล้าอะไรก็ได้ เขาไม่
เลือกหรอก” คนขับรถหลิวชี้แนะ

พูดแบบนี้ จ้าวเหวินเทาก็คิดว่าเหล่าหลิวคนนี้ กเ็ ป็ นคนมีน้ าใจ


เขาพยักหน้า “ลุงพูดถูกนะ ฉันมาก็เพื่อเป็ นตัวแทนขายผักนัน่
แหละ คงต้องรบกวนเขาอีกมาก ครั้งหน้าจะเอาเหล้ามาให้เขา
แน่นอน แต่ไม่รู้วา่ เลขาของทีมใหญ่จะไม่พอใจรึ เปล่า?”

คนขับหลิวหัวเราะ “เรื่ องนี้นายไม่ตอ้ งห่ วง อีกฝ่ ายเป็ นคนมอง


การณ์ไกลนะ เขาก็หวังเป็ นอย่างมากที่จะมีคนแบบนายมาที่นี่
ยิง่ มากก็ยงิ่ ดี ผักของพวกเขาไม่ตอ้ งออกไปข้างนอกก็ขายออก
แล้ว นอกจากผักยังมีพวกไก่เป็ ดแล้วก็หมูดว้ ยนะ ตามคากล่าว
ของเลขา คนแบบพวกนายก็คือเจ้าของทอง[1] เลยล่ะ!”
จ้าวเหวินย่อมรู ้สึกดีใจ เมื่อได้ฟังคานี้แล้ว ก็ตระหนักได้ว่าตน
เป็ นผูน้ าทาในสิ่ งที่ยงิ่ ใหญ่

“มา ขอบคุ ณพี่ใหญ่หลิวมากนะที่สอนฉันมากมายขนาดนี้ ! ”


จ้าวเหวินเทายกจอกเหล้าขึ้นมา

คนขับ หลิ ว ก็ย กถ้ว ยเหล้า ขึ้ น มาชนกับ เขา “ขอให้น้อ งชาย
ร่ ารวย ชน!”

ก่อนที่จา้ วเหวินเทาจะมา เขาได้บอกเย่ฉูฉู่แล้วว่าจะไปหมู่บา้ น


ไท่ ผิง ระยะทางนั้นห่ างไกลนัก คงกลับมาไม่ ทนั ในตอนค่า
เย่ฉูฉู่เองก็บอกกับคุณแม่ที่เข้ามาถามไถ่ไปรอบหนึ่ง แต่กก็ งั วล
ว่าที่นนั่ จะมีอะไรให้รับประทานหรื อไม่

“ไม่ตอ้ งห่วงหรอก ต่อให้หิวก็ไม่มีใครทาให้เขาหิ วได้” คุณแม่


จ้าวได้ยนิ ก็ยอ้ นคาปลอบใจมาที่ลูกสะใภ้ของนาง
เย่ฉูฉู่รู้ดีว่าสามีของเธอเป็ นคนมีความสามารถ ไม่ว่าจะไปที่
ไหนก็ดูแลตัวเองเป็ นอย่างดี เพียงแต่เธอเป็ นกังวลนิ ดหน่ อย
เพราะถึงอย่างไรนี่กเ็ ป็ นครั้งแรกที่เดินทางไกล

“คุณแม่คะ งั้นคุณแม่กร็ ี บกลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าว


ด้วยรอยยิม้

คุ ณแม่ จา้ วยิ้ม “ตกลง เธอเองก็นอนเร็ ว ๆ นะ ตอนนี้ อากาศ


หนาวจริ ง ๆ เลย”

เย่ฉูฉู่พยักหน้า “ฉันทราบแล้วค่ะ”

คุ ณแม่จา้ วเห็นว่าเธอฉลาดมีไหวพริ บ จึงแอบพยักหน้าอย่าง


พึงพอใจอยู่ภายในใจ เหล่ าลิ่ วเป็ นคนโชคดี ได้แต่ งงานกับ
ภรรยาที่รักเขาสุ ดหัวใจขนาดนี้ นางจึงพูดอีกสองประโยคว่า
“หนุ่ม ๆ ลาบากหน่อยไม่เป็ นไรหรอก ถ้าทาเรื่ องเป็ นจริ งเป็ น
จัง ก็ปล่อยให้เขาทาไปเถอะ ผูช้ ายจะให้ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้าน
ไม่ได้ ควรจะออกไปทาอะไรสักหน่อย”
ตอนนี้กระแสนิยมของสังคมไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้แล้ว ทุก
คนต่างก็โยนอาหารลงดิน มีสักคนหนึ่ งออกจากประตูเพื่อไป
ลองก็นบั ว่าไม่เลวเลย

นี่ เป็นสิ่ งที่คุณพ่อจ้าวบอกกับคุณแม่จา้ ว นางมาคิด ๆ ดูแล้วก็


รู ้สึกว่าเป็ นเช่ นนี้ จริ ง ๆ ดังนั้นจึงไม่ได้คดั ค้านขนาดนั้นแล้ว
ต่ อให้ลม้ เหลวอย่างมากก็ยงั กลับบ้านมาทานาได้ ขาดทุ นก็
ไม่ได้มากมายอะไร อายุยงั น้อยไม่กลัวขาดทุนหรอก

เมื่อได้ฟังคาพูดของแม่สามี เย่ฉูฉู่ก็อดถอนหายใจไม่ได้ “พูด


แบบนี้กถ็ ูกค่ะ แต่ตอนนี้อากาศหนาวแล้ว เขาก็ยงั เทียวไปเทียว
มาได้ทุก วัน ” ระหว่า งพู ด ก็ถ ามไปว่า “คุ ณ แม่ ค ะ แม่ ว่า ฉัน
สามารถทาอะไรเพื่อช่วยเขาได้บา้ งไหมคะ?”

คุณแม่จา้ วกล่าวอย่างปลื้มใจ “เธอจัดการอาหารการกินในบ้าน


ให้เขาดี ๆ ก็นบั ว่าดีมากแล้ว”

ทว่าเย่ฉูฉู่กลับวางแผนอย่างจริ งจัง
กล่าวถึงทางฝั่ งหมู่บา้ นไท่ผิง สถานที่แห่ งนี้ หารถได้ง่ายมาก
โดยเฉพาะรถที่ไปในเมือง เหล่าชวีโถวรู ้สึกถูกโฉลกกับเขา จึง
บอกว่าเรื่ องนี้ให้เป็ นหน้าที่ของเขาเอง ถึงอย่างไรเขาก็เกิดและ
โตที่นี่ ย่อมคุน้ เคยอยูแ่ ล้ว

จ้าวเหวินเทาเองก็เชื่ ออีกฝ่ าย หลังจากรับประทานอาหารเช้า


แล้วเขาก็เดินเตร็ ดเตร่ ในหมู่บา้ นต่อ เดินเล่นรอบนี้เขาไม่ได้ดู
อย่างเดียว แต่ยงั ตัดสิ นใจจะซื้อผักใบเขียวกลับไปด้วย

มาช้าไปหนึ่งวัน ต่อให้มาหาประสบการณ์แต่กต็ อ้ งกูค้ ืนความ


สู ญเสี ยกลับมา

อยู่บา้ นประหยัดอดออม แต่เมื่อออกจากบ้านก็ตอ้ งพกเงินติด


ตัวให้พอใช้ ภรรยาของเขาให้เงินมา 10 หยวน ซึ่ งการเดินทาง
อาหารการกิน และที่พกั อาศัยล้วนไม่ตอ้ งใช้เงิน เงินจานวน 10
หยวนนี้จึงยังอยูใ่ นกระเป๋ าเป็ นอย่างดี จ้าวเหวินเทาจึงตัดสิ นใจ
ที่จะใช้เงินสิ บหยวนนี้ซ้ือผักใบเขียวและนาไปขายในเมือง
เหล่ าหลิ วสนับสนุ นเขาเป็ นอย่างมาก ไม่ เพียงแต่ สนับสนุ น
เท่านั้น ทั้งยังมอบเงินให้เขา 5 หยวนด้วย “จะนาผักเข้าเมืองก็
ต้องเอาเข้าไปให้มากหน่ อย ฉันมีเงินติดตัวอยู่ห้าหยวน นาย
เอาไปใช้ก่อน แล้วค่อยมาคืนฉันวันหลัง”

จ้าวเหวินเทาซึ้งใจ แต่กไ็ ม่ได้รับไว้

ทว่าเหล่าหลิวกลับนึ กฉุ น “ไอ้หนุ่ มนี่ อย่ามัวแต่ชักช้าอืดอาด


ฉันให้เงินก็รับไป อีกอย่างฉันก็รู้จกั บ้านนาย นายหนี ไม่รอด
หรอก!”

จ้าวเหวินเทายิ้ม “พี่ใหญ่ หลิ วไม่ กลัวว่าที่ ผมพูดไปเป็ นเรื่ อง


โกหกเหรอ?”

พี่ใหญ่หลิวโบกมือ “งั้นนายก็คงดูถูกฉันเกินไปหน่อยแล้ว ฉัน


ไม่เคยไปเมืองใหญ่มาก่อน แต่ละแวกใกล้เคียงฉันคุน้ เคยมาก
นายพูดเรื่ องจริ งหรื อโกหกมีเหรอที่ฉนั จะไม่รู้?”
จ้าวเหวินเทาเองก็ทราบดี คนที่ออกมาทางานบ่อย ๆ เหมือนกับ
พี่ใหญ่หลิว สายตาเฉียบคม ไม่ใช่คนที่เขาจะเปรี ยบเทียบได้

“ได้ งั้นผมจะเขียนสัญญายืมเงินสักฉบับ…”

“เขียนสัญญายืมเงินอะไร ไม่ตอ้ งใช้สิ่งนี้หรอก” จ้าวเหวินเทา


เพิ่งพูด เหล่าหลิวก็โบกมือก่อนจะไปพลิกหน้าดิน

จ้าวเหวินเทารู ้ สึก จิ ตใจร้ อนผ่าว ภายในใจยืนยันได้ว่า เหล่ า


หลิวคนนี้คือเพื่อนของเขาแล้ว

เขานาเงิน 15 หยวนซื้ อผักใบเขียวเข้าเมืองหนึ่งชุด ซื้ อมาอย่าง


ละนิ ด อย่ า งละหน่ อ ยเกื อ บจะทุ ก ชนิ ด ยัง ไม่ ถึ ง ช่ ว งเที่ ย ง
เหล่าชวีโถวก็หารถให้เขาได้แล้ว

เงิ นทั้งหมดที่ จา้ วเหวินเทามี ถูกนาไปซื้ อผักทั้งหมดแล้ว ใน


กระเป๋ าจึงว่างเปล่า เขาพูดกับเหล่าชวีโถวว่า “ลุง ครั้งหน้าผม
ซื้อเหล้ามาให้ลุงแน่นอน ครั้งนี้ผมติดลุงไว้ก่อนนะ”
[1] เจ้าของทอง (金主) คนมัง่ มี มีอนั จะกิน
ตอนที่ 67 พลิกกิจการ

เหล่าชวีโถวพูดอย่างมีความสุ ข “ตกลง งั้นครั้งหน้านายต้องซื้ อ


เหล้าดี ๆ มาให้ฉันนะ อย่าไปฟั งเจ้าหลิวปากมากนั่นล่ะ เอา
เหล้าแบ่งขายมาหลอกฉันได้”

เจ้าหลิวปากมากก็คือฉายาของเหล่าหลิว

จ้าวเหวินเทาก็มีความสุ ขเช่ นกัน “ลุงไม่ตอ้ งห่ วง ครั้งหน้าผม


จะซื้อเหล้าดี ๆ มาให้แน่ๆ ครับ!”

“งั้นฉันจะรอเหล้าดี ๆ จากนายนะ รี บไปเถอะ นี่ ก็สายแล้ว ”


เหล่าชวีโถวโบกมือ

จ้าวเหวินเทานัง่ อยู่บนรถลาก เจ้าของรถยกแส้เส้นเล็กขึ้นมา


หวด ทาให้ล่อสี ดาตัวใหญ่วงิ่ ทะยานออกไป
ขามาเขาได้นงั่ รถแทรกเตอร์ ขากลับทาได้แค่นงั่ รถล่อลาก ปี นี้
รถที่ใช้ทาการเกษตรจากทั้งเมืองมีเพียงไม่กี่คนั เท่านั้น

เจ้าของรถเป็ นชายวัยกลางคนอายุสี่สิบกว่าปี มาที่หมู่บา้ นไท่ผิง


เพื่อแลกเส้นก๋ วยเตี๋ยว คนที่วิ่งมาค้าขายที่นี่แม้เจอหน้ากันครั้ง
แรกแต่ ก็ใ ห้รู้ สึ ก เหมื อ นเป็ นเพื่ อ นเก่ า แก่ เพี ย งไม่ น านเขาก็
พูดคุยกับจ้าวเหวินเทา

“น้อ งชาย นายมาที่ นี่ เ พื่ อ น าเข้าผักเป็ นประจ าสิ น ะ ฉัน เห็ น
เหล่าชวีโถวนัน่ สนิทกับนายเชียว” เจ้าของรถถาม

เหล่าชวีโถวไม่เพียงแต่จะช่วยหารถให้เท่านั้น ทั้งยังช่วยขนผัก
มาไว้บนรถด้วย เงิน 15 หยวน แลกผักมาได้มากโขเชียวล่ะ

“ก็ระดับหนึ่ ง ลุงคนนั้นเขาเป็นคนใจดีน่ะครับ” จ้าวเหวินเทา


กล่าวด้วยรอยยิม้ ทั้งยังพูดหลอกบ้างจริ งบ้างว่า “พี่ชายเองก็มา
ที่นี่บ่อยสิ นะครับ?”
เขาเป็นคนได้เปรี ยบในเรื่ องนี้ ออกไปข้างนอกเจอใครก็เรี ยก
พี่ ช ายเรี ย กพี่ ส าว ไม่ ไ ด้ท าตัว ไร้ มารยาทแม้แต่ น้อ ย ทั้ง ยัง มี
จิตใจกว้างขวาง

“ไม่ถึงกับมาบ่อยหรอก ก็มาตอนที่วา่ ง ๆ นัน่ แหละ เหล่าชวีโถว


คนนี้ไม่เลวเลยนะ เพียงแต่ปากไม่ค่อยดี ยังมีอีกนะ พอดื่มเยอะก็
จะสลบเหมือดไปเลย!” คนขับรถพูดด้วยรอยยิม้

“พี่ชายพูดถูก ตาแก่คนนี้กเ็ ป็ นแบบนี้แหละ ฉันได้ยนิ ลุงชวีพูด


ว่า พี่ชายมาแลกเส้นก๋ วยเตี๋ยว แลกยังไงเหรอ?” จ้าวเหวินเทา
ถาม

คนขับรถก็ไม่ได้ปิดบัง เขาพูดถึงประสบการณ์การค้าขายของ
ตัวเองขึ้นมา “ในเมืองนี้มีคนงานที่อยากกินธัญพืชหยาบอยู่ แต่
ที่พวกเขาได้กินกลับมีแต่แป้ งขาว ส่ วนคนของพวกเราที่อยู่ที่นี่
ก็ได้กินแต่ธัญพืชหยาบ จะหาแป้ งขาวที่ไหนมากินได้? ฉันก็
เลยเอาข้าวฟ่ าง ข้าวโพด เฉียวเมี่ยน(1)อะไรพวกนั้นไปแลกใน
เมือง แป้งขาวที่แลกมาได้กจ็ ะนาไปขายอีกที”

จ้าวเหวินเทาได้ยนิ การค้าขายแบบนี้เป็ นครั้งแรก เขาถึงกับตก


ตะลึง “มีคนที่ไม่ชินกับการกินแป้ งขาวด้วยเหรอครับเนี่ ย ผม
กินทุกวันก็ยงั กินจนชินเลย”

คนขับรถยิม้ “อะไรก็ตามที่กินทุกวันก็ตอ้ งมีวนั เลี่ยนบ้างแหละ


ต่อให้เป็ นอาหารอันโอชะให้นายกินทุกวันก็ตอ้ งมีสักวันที่นาย
กินไม่ลง ไม่วา่ อะไรก็ตอ้ งเอาไปแลก นายว่าถูกไหมล่ะ?”

จ้าวเหวินเทาครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง ก่อนจะส่ ายหน้า “ที่พี่ชายพูดก็


มีเหตุผลนะ แต่ผมก็ยงั อยากกินแป้งขาวทุกวันอยูด่ ี”

“ฮ่ า ๆ นั่นก็เป็ นเพราะว่าน้องชายยังไม่ได้กินแป้ งขาวทุ กวัน


ยังไงล่ะ” คนขับรถหัวเราะลัน่
จ้าวเหวินเทาพูดเคล้ารอยยิม้ “หวังว่าจะมีวนั นั้นนะครับ วันที่
ผมได้กินแต่แป้งขาวจนเลี่ยน”

“ต้อ งมี อ ยู่ แ ล้ว ล่ ะ การใช้ ชี วิ ต แบบนี้ ก็ ดี ข้ ึ นเรื่ อย ๆ แล้ว ”


คนขับรถรู ้สึกพึงพอใจกับการใช้ชีวิตในตอนนี้ มาก ขณะเอ่ย
ปากกล่าว

“ใช่ แ ล้ว ครั บ ” จ้า วเหวิ น เทาพยัก หน้า จากนั้น ก็ถ ามข้อ มู ล
เจาะจงแบบสบาย ๆ เกี่ยวกับการแลกแป้ งขาวอีกครั้ง ใครจะ
ไปคิดว่าคนขับรถจะตอบคาถามที่เขาถามไปทั้งหมด

“พี่ชาย พี่มาบอกผมในเรื่ องพวกนี้ พี่ไม่กลัวผมแย่งการค้าขาย


ของพี่เลยเหรอครับ” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้

“ค้าขายของพวกนี้ไม่ใช่คิดจะแย่งก็แย่งกันได้ ฉันมีคนรู ้จกั ใน


เมือง ไม่ง้ นั คนคงไม่แลกเส้นก๋ วยเตี๋ยวกับฉันหรอก เรื่ องนี้ ถา้
พูดออกไปอาจจะเกิดผลกระทบที่ไม่ดี” เจ้าของรถพูดอย่างไม่
ใส่ ใจ
จ้าวเหวินเทาพอเข้าใจได้ เป็ นเพราะเจ้าของรถมีคนรู ้จกั ดังนั้น
จึงสบายใจทั้งสองฝ่ าย หากเปลี่ยนเป็ นคนอื่นก็คงไม่ได้

“น้องชาย เรื่ องทาเงินแบบนี้ ก็มีต้ งั เยอะแยะนะ แต่มนั ก็ไม่ได้


เหมาะกับทุกคนหรอก” คนขับรถกล่าวอย่างสบาย ๆ

จ้า วเหวิน เทาเห็ น ด้ว ยเป็ นอย่า งมาก มัน ก็จ ริ ง ถ้า หากไม่ ใช่
เพราะเขารู ้จกั กับไช่ซื่อหู่กค็ งขายเนื้อไม่ได้ ดังนั้นจะทาอะไรก็
ต้องขึ้นอยูก่ บั สถานการณ์ของตนเองด้วย

ทั้งสองคนพูดคุยหัวเราะสนุกสนาน ระยะเวลาจึงผ่านไปอย่าง
รวดเร็ ว เมื่อมาถึงบ้านพี่สาวใหญ่จา้ วในเมือง เขาจึงขนผักลง
มา และให้เงินเจ้าของรถไปห้าเหมา

นอกจากการแลกเปลี่ยนก๋ วยเตี๋ยวแล้ว ก็มีช่วยขนของที่ เ ป็ น


รายได้อีกทางหนึ่ งของเจ้าของรถ แน่ นอนว่าจ้าวเหวินเทาไม่
สามารถนัง่ กลับมาฟรี ๆ ได้
ในบ้านมีแค่พี่สาวใหญ่จา้ วคนเดียว สามีและลูก ๆ คนทางานก็
ไปทางาน คนเข้าเรี ยนก็ไปเข้าเรี ยน ตอนนี้ แม่สามีก็ไม่ได้อยู่
บ้าน เมื่อเห็นน้องชายขนผักใบเขียวมามากขนาดนี้ พี่สาวใหญ่
จ้าวก็เข้าใจได้

“นี่ เป็ นผักใบเขี ยวที่ นายเอามาจากหมู่ บา้ นไท่ ผิงสิ นะ เอามา


เยอะขนาดนี้ ไปเอาเงินมาจากไหนเนี่ย?” พี่สาวใหญ่จา้ วถึงกับ
ตกตะลึง ผักใบเขียวจานวนมากเหล่านี้ไม่ใช่นอ้ ย ๆ เลยนะ

“ผมเอาเงิ น ติ ด ตัว มาสิ บ หยวน แล้ว ก็ มี ค นให้ ผ มยื ม อี ก ห้ า


หยวนน่ ะ ” จ้า วเหวิน เทาถอยรถจักรยานของตัว เองออกมา
จากนั้นก็เริ่ มใส่ ผกั ใบเขียวไว้ทา้ ยรถจักรยาน สิ่ งนี้ เก็บไว้นาน
ไม่ได้ ต้องรี บเอาออกไปขาย

“เงินที่ยมื มา นายไปยืมมาจากใคร?” พี่สาวใหญ่จา้ วถาม หล่อน


จาไม่ได้เลยว่าทางหมู่บา้ นไท่ผงิ มีญาติหรื อเพื่อนอยูด่ ว้ ย

จ้าวเหวินเทาจึงเล่าเรื่ องของเหล่าหลิวให้ฟังแบบง่าย ๆ
พี่ ส าวใหญ่ จ ้า วไม่ รู้ ว่ า ควรจะพู ด อย่ า งไรจริง ๆ โชคของ
น้อ งชายคนนี้ ไม่ ใ ช่ แ ค่ ดี แ บบธรรมดา ขึ้ น เขาลงห้ว ยก็ เ จอ
กระต่ายกาลังทะเลาะกันแถมยังตายด้วยตัวเองอีก ต่อให้เจอกับ
สัตว์ป่าแต่ละชนิ ดที่เข้ามาชนด้วยตัวเอง หากเป็นคนอื่นที่คิด
จะจับก็คงจับไม่ได้หรอก

แต่ ต อนนี้ เขาโตแล้ว ออกไปนอกบ้า นก็ไ ด้เ จอกับ คนคอย


ช่ วยเหลื อ คนที่ เพิ่งเจอหน้า กัน ก็ย อมให้ยืมเงิ น เรื่ องแบบนี้
ไม่ใช่ทุกคนที่จะพบเจอได้เลย

“งั้นนายก็ตอ้ งเอาไปคืนเขาด้วยนะ!” พี่สาวใหญ่จา้ วกาชับ “อีก


ฝ่ ายเชื่ อใจนาย นายเองก็อย่าทาให้คนที่เขาเชื่ อใจต้องผิดหวัง
ล่ะ”

“มันก็แหงอยูแ่ ล้ว ยังต้องให้พี่สาวใหญ่บอกผมเรื่ องนี้อีกเหรอ


ออกนอกบ้านมีเพื่อนเยอะก็มีช่องทางเยอะ ชีวิตของผมเพิ่งจะ
เริ่ มต้น จะปิ ดกั้นเส้นทางของตัวเองได้ไง?” จ้าวเหวินเทาโบก
มือกล่าว “พี่สาวใหญ่ ผมเอาผักใบเขียวพวกนี้ออกไปขายก่อน
นะ เดี๋ ย วจะกลับ มาอี ก รอบ พี่ ดู เ ลยว่ า อยากกิ น อะไร หยิ บ
ออกมาจากถุงได้เลย”

“เอาเถอะ นายไม่ ตอ้ งเป็ นห่ วงฉันหรอก รี บไปเถอะ ขี่ ช้า ๆ


ล่ะ!” พี่สาวใหญ่จา้ วกล่าว

“เข้าใจแล้ว!” จ้าวเหวินเทาขี่จกั รยานออกไปแล้ว

พี่สาวใหญ่จา้ วมองดูผกั ใบเขียวในถุงกระสอบ ซึ่งมีแต่ผกั ฉ่า ๆ


หายากทั้งนั้น หล่อนเห็นแล้วก็ส่ายหน้า เจ้าหกคนนี้ช่างมีความ
กล้าหาญจริ ง ๆ ผักมากขนาดนี้ แถมยังใช้เงินเยอะขนาดนี้ เขา
กลับตัดสิ นใจเพียงคนเดียวโดยไม่ปรึ กษาที่บา้ นเลยสักคา

ก่อนหน้านี้ หล่อนคิดว่าจ้าวเหวินเทาคงแค่ไปดู งาน คิดไม่ถึง


เลยว่าจะนาผักเข้ามามากขนาดนี้ ของพวกนี้เก็บไว้ไม่ได้ ถ้าไม่
ขายออกไปคงได้ขาดทุนแน่
หล่อนกาลังคิดว่าควรจะไปถามสามีและแม่สามีดีไหมนะ ว่าที่
ทางานของพวกเขาจะมีคนอยากได้หรื อเปล่า?

พี่สาวใหญ่จา้ วเป็ นคนแข็งแกร่ ง ครอบครัวหล่อนเป็ นบุคลากร


ในที่ทางานกันทุกคน หล่อนไม่อยากให้สามีรู้สึกว่าหล่อนใช้
เส้นสายของเขาเพื่อช่วยเหลือทางบ้านตัวเอง หากทาแบบนั้นก็
คงจะดูคล้ายกับตักตวงผลประโยชน์จากคนอื่น

แต่ครั้งนี้มนั ไม่เหมือนกัน ผักราคา 15 หยวน แถมยังไปติดหนี้


เขาอี ก ไม่ ว่า จะพู ด อย่า งไรหล่ อ นก็ปล่ อ ยให้น้อ งชายชดใช้
ไม่ได้หรอก

จ้าวเหวินเทาไม่รู้เรื่ องการวางแผนของพี่สาวใหญ่ จา้ ว เขามี


ความมัน่ ใจในตัวเองมาก เขามาขายเนื้อหมูกบั ถัว่ งอกในเมือง
ตั้งหลายรอบแล้ว ลูกค้าเก่าก็มีไม่นอ้ ย มีหลายคนที่แวะเวียน
กลับมาเป็ นลูกค้าอีกครั้ง ถึงอย่างไรผักและเนื้อก็เป็ นของที่ใช้
แล้วหมดไป ต้องรับประทานกันทุกวัน เขาจึงไปขายถึงหน้า
บ้าน บ้านนี้ ครึ่ งชั่ง บ้านนู ้นขีดสองขีด ขายก็ไม่ได้แพงอะไร
ในที่สุดผักหนึ่งกระสอบก็หมดเกลี้ยงแล้ว

ขายดีจริ ง ๆ ด้วย!

จ้าวเหวินเทารู ้สึกดี ใจมาก เขาจึงขี่จกั รยานกลับไปขนผักใบ


เขียวกระสอบที่สองต่อ

“ขายหมดแล้วเหรอ?” พี่สาวใหญ่ จา้ วเห็ นเขากลับมา จึ งเอ่ ย


อย่างเหนือความคาดหมาย คิดไม่ถึงเลยว่าจะเร็วขนาดนั้น

“ผักดี ๆ แบบนี้ จะขายไม่ดีได้ไงล่ะครับ” จ้าวเหวินเทาเลิกคิ้ว


ขึ้นพลางกล่าว

“แต่ราคามันก็ไม่ใช่ถูก ๆ เลยนะ” พี่สาวใหญ่จา้ วกล่าว

“พี่สาวใหญ่ มันไม่ ใช่ ของที่ กินได้บ่อย ๆ สักหน่ อย นาน ๆ


ครั้ งกว่าจะได้กินสักหน ผมไปก่ อนนะ” จ้าวเหวินเทากล่ าว
หลังจากขนผักฤดู ใบไม้ร่ว งใส่ ทา้ ยรถแล้ว เขาจึ งขี่ จกั รยาน
ออกไปอีกครั้ง
ตอนที่ 68 มีความสั มพันธ์ อนั ดี

พี่สาวใหญ่จา้ วรู ้สึกว่าตนเองเป็นกังวลมากเกินไป สมองของ


น้องชายหล่อนเป็นแบบไหน เขากล้าทาแบบนี้ แล้วยังต้องให้
หล่อนมาเป็ นกังวลอีกเหรอ?

หล่อนจึงรู ้สึกคลายใจในทันที จิตใจเกิดความกระตือรื อร้นมาก


ขึ้น แทนที่จะไปขอร้องบ้านแม่สามี สู ้หล่อนออกไปถามเพื่อน
บ้านใกล้เคียงว่าอยากได้ผกั ใบเขียวไหมไม่ดีกว่าเหรอ?

ขายออกไปได้มากเท่าไรก็เท่านั้น

ไม่ตอ้ งพูดเลยว่ามันมีคนอยากซื้ อจริ ง ๆ ตอนที่จา้ วเหวินเทา


กลับมา พี่สาวใหญ่จา้ วก็ช่วยเขาขายออกไปได้หนึ่ งกระสอบ
แล้ว ตอนนี้ยงั เหลืออีกสามกระสอบ จ้าวเหวินเทารู ้สึกดีใจมาก
เขาไม่ ได้พูดอะไรให้มากความ ตอนที่ จา้ วเหวินเทากาลังจะ
ออกไปขายอีกรอบ ก็เหลืออีกแค่ครึ่ งกระสอบแล้ว
“พี่สาวใหญ่ ใช้ได้เลยนะเนี่ย ทาไมถึงขายเร็ วกว่าผมอีก!” จ้าว
เหวินเทาพูดด้วยรอยยิม้

พี่สาวใหญ่จา้ วยิม้ จนแก้มปริ “อะไรกัน นี่เป็ นเพราะเธอโชคดี


ต่างหากล่ะ มีญาติของเพื่อนบ้านเขาเปิ ดร้านอาหาร เขาแค่คน
เดี ยวก็ซ้ื อไปหนึ่ งกระสอบครึ่ งแล้ว บอกว่ามี แขกคนสาคัญ
กาลังคิดอยากจะเข้าไปซื้อผักที่หมู่บา้ นไท่ผิงพอดี คิดไม่ถึงเลย
ว่าจะมีผกั มาส่ งถึงหน้าบ้าน เขาก็เลยซื้ อไปเลย ส่ วนที่เหลือก็
ไว้ให้ครอบครัวกิน นายกานึงฉันกานึง ก็หมดแล้ว แต่ นายอย่า
คิดว่าขายดีแบบนี้แล้วจะเปลี่ยนมาขายสิ่ งนี้แทนนะ คนที่ยอม
จ่ายเงินแบบนี้มีนอ้ ยมาก”

“พี่สาวใหญ่ ไม่ตอ้ งห่วงหรอก ผมมีแผนในใจแล้ว” จ้าวเหวินเทา


กล่าว

ประเด็นหลักครั้งนี้ ก็คือการออกไปดู งาน จึงถือโอกาสลองดู


สักหน่อย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะนาผักเข้ามามากขนาดนี้
“พี่สาวใหญ่ นี่ เหลืออีกครึ่ งกระสอบแล้ว จงย่งบอกให้ผมเก็บ
กุยช่ายกับขึ้นฉ่ ายไว้ให้เขานิดหน่อย ส่ วนที่เหลือพี่กเ็ ก็บไว้สัก
หน่ อยสิ เดี๋ยวผมจะเอาไปให้พี่สาวห้า แล้วก็แบ่งกลับไปบ้าน
อีกสักหน่อย จะได้เอาไปให้ภรรยา แล้วก็พ่อกับแม่ได้ชิมด้วย”
จ้าวเหวินเทากล่าว

พี่ ส าวห้า จ้า วรู ้ สึ ก ชื่ น ชมเขามาก น้อ งชายคนนี้ ถึ ง เป็ นห่ ว ง
ภรรยาแต่กไ็ ม่ลืมพ่อแม่ ไม่เสี ยแรงเลยที่รักเขา

“ฉันเก็บมะเขือเทศไว้นิดหน่ อยก็พอแล้ว นายเองก็ไม่ตอ้ งเอา


ไปให้พี่สาวห้ามากหรอก เก็บไว้ส่วนหนึ่ง ที่เหลือก็เอาไปขาย
ให้หมดเถอะ นายยังติ ดเงิ นคนอื่ น อยู่เ ลยนะ” ระหว่างที่ พู ด
พี่สาวห้าจ้าวก็นาเงินที่ขายได้ให้เขา “เก็บไว้ให้ดี อย่าทาหาย
ล่ะ นี่กอ็ อกมาสองวันแล้ว ถ้าไม่ได้เงินกลับไป ภรรยาของนาย
ได้จดั การนายแน่”
จ้าวเหวินเทาหัวเราะคิกคัก “ต่อให้ผมไม่ได้เงินกลับไป ภรรยา
ผมก็ไม่จดั การผมหรอก”

มะเขือเทศแค่ไม่กี่ลูกมันน้อยเกินไปแล้ว หลาน ๆ สี่ คนของเขา


จะไปพอกินอะไร จ้าวเหวินเทาเป็นคนใจกว้าง เขานามะเขือ
เทศที่ อยู่ในกระสอบออกมาทั้งหมด ทั้งยังให้หุยเซี ยง(1)อี ก
หนึ่งมัดด้วย

“พวกพี่เอาไปห่อเกี๊ยวกินนะ” จ้าวเหวินเทากล่าว

พี่สาวใหญ่จา้ วจนปั ญญา “คนอื่นค้าขายต่างก็วางแผนกันอย่าง


รอบคอบ ดูนายสิ ใช้เงินฟุ่ มเฟื อย จะเก็บเงินอยูไ่ ด้ยงั ไง”

“ให้คนในครอบครัวมันจะไปมากมายอะไรกัน ผมไปแล้วนะ
พี่สาวใหญ่ วันนี้คงไม่ได้กลับมาแล้ว” จ้าวเหวินเทาโบกมือ

“ขี่รถระวังหน่อย!” พี่สาวห้าจ้าวเห็นเขาขี่จกั รยานเอียงไปเอียง


มาจึงอดไม่ได้ที่จะพูดออกไป
“รู ้แล้ว!” เสี ยงของจ้าวเหวินเทาจอมเอ้อระเหยลอยชายดังมา
จากไกล ๆ

จ้าวเหวินเทาขี่จกั รยานไปหาจงย่ง เพื่อนาผักที่อีกฝ่ ายต้องการ


ไปให้

การค้าขายของจงย่งไม่เลวเลยจริ ง ๆ อาหารก็อร่ อยด้วย ตอนนี้


ไม่มีคู่แข่งทางการค้า ราคาก็ไม่แพง อีกอย่างเขายังเพิ่ม เกี๊ ยว
และผักดองเค็มด้วย หนึ่งวันมีคนเข้ามาทีละคนสองคนไม่ขาด
สาย

“พี่ จ ้า ว” จงย่ง ท างานยุ่ง ไปพลางก็พู ด ไปพลาง “พี่ อ ยากกิ น


อะไรตักเองได้เลย!”

เห็นจงย่งค้าขายดี จ้าวเหวินเทาก็ดีใจ เขาวางผักใบเขียวพลาง


กล่าว “ไม่กินแล้วล่ะ นายทางานต่อเถอะ ฉันต้องรี บกลับบ้าน
แล้ว”
“พี่จา้ วขี่รถดี ๆ นะ” จงย่งยุง่ จนตัวเป็ นเกลียว

จ้าวเหวินเทารี บมาที่โรงงานยาสี ฟันของพี่สาวห้าจ้าว หลังจาก


ให้ผ กั ใบเขี ย วแล้ว เขาก็พู ด คุ ย กับพี่ ส าวห้า จ้า วอี ก สองสาม
ประโยค เมื่อพี่สาวห้าจ้าวรู ้ว่าน้องชายไม่ได้ขาดทุน หล่อนจึง
รับผักไว้

จ้าวเหวินเทานาผักใบเขียวที่เหลือไว้สาหรับที่บา้ นและเงิ นที่


ได้จากการขายผักมุ่งหน้ากลับบ้าน

เขาอยากกลับบ้านในทันทีจนอดใจรอไม่ไหวอยูแ่ ล้ว จะได้เงิน


หรื อไม่ได้ก็ตอ้ งกลับบ้าน สิ่ งสาคัญก็คือเขานอนอยู่บนเตี ยง
เดียวกับภรรยาจนเคยชินแล้ว ช่ วงกลางดึกในทุกทุกคืนเขาจะ
นอนกอดร่ างเล็ก ๆ นุ่ม ๆ ของภรรยาเหมือนกับได้นอนอยูก่ บั
หยกอุ่น เมื่อคืนเขาจึงเกือบนอนไม่หลับทั้งคืน!

เขาปั่ นจักรยานอย่างรวดเร็ วราวกับบิน เพิ่งมาถึงประตูบา้ นเขา


ก็ตะโกนว่า “ภรรยาจ๋ า ผมกลับมาแล้ว!”
เสี ยงที่ ดังออกมากลับไม่ ใช่ เสี ยงของเย่ฉู ฉู่ แต่ เป็ นเสี ยงของ
พี่สะใภ้สี่

พี่สะใภ้สี่ไม่อาจปิ ดบังความตื่นเต้นบนใบหน้าได้ “อ้าว น้อง


สามีกลับมาแล้ว! น้องสะใภ้หกไม่อยูบ่ า้ น ออกไปแบกฟื นแล้ว
ล่ ะ นายนี่ จ ริ ง ๆ เลย ออกไปข้า งนอกทั้ง วัน ไม่ ย อมดู แ ล
ครอบครัวเลย แถมยังให้ภรรยาไปแบกฟื นอีก ช่างทนได้นะ!”

เดิ มทีจา้ วเหวินเทาดู ถูกที่หล่ อนกาลังแสดงสี หน้ามีความสุ ข


บนความทุกข์ของคนอื่น แต่เมื่อได้ยนิ คาพูดของหล่อนเข้าก็…
อะไรนะ? ภรรยาของเขาออกไปแบกฟื น เมื่ อเห็ นว่าท้องฟ้ า
ใกล้มืดแล้ว เขาจึงหมุนจักรยานออกไปตามหา!

พี่สะใภ้สี่ไม่ลืมที่จะตะโกนไล่หลังมาว่า “เย่ฉูฉู่ไปทางสะพาน
ตงเหลี ย งนะ ขับ ไปรั บ หล่ อ นที่ ต ะวัน ออกเลย ต้อ งเจอตัว
แน่นอน!”

จ้าวเหวินเทาหายไปไม่เห็นเงาแล้ว
พี่สะใภ้สี่กลั้นยิ้มไว้ หล่อนเดิ นมาที่หน้าประตูบา้ นของเหล่า
หวังสาม ก่ อนจะเรี ยกภรรยาของเหล่ า หวังสามเพื่อแบ่ ง ปั น
เรื่ องที่จา้ วเหวินเทากลับมา

“ดูสิ รอบนี้ ได้ทะเลาะกันแน่ เมื่อคืนก็ไม่ยอมกลับบ้าน ดูจาก


อารมณ์ของสะใภ้หกแล้วไม่ใช่ คนที่จะไปยัว่ โมโหได้นะ คง
ได้จดั การเอาถึงตายแน่!” พี่สะใภ้สี่จา้ วพูดด้วยรอยยิม้

ก่อนหน้านี้ตอนที่เย่ฉูฉู่ยงั ไม่ทะลุมิติมา ภาพลักษณ์อารมณ์ร้าย


ปากจัดของเธอยังอยูใ่ นความทรงจาของพี่สะใภ้สี่ หล่อนจึงคิด
ว่าครั้งนี้ตอ้ งทะเลาะกันแน่นอน

ดวงตาเล็ก ๆ คู่น้ นั ของภรรยาเหล่าหวังสามฉายแววขี้นิน ทา


“เธอลองคิ ดดู สิ ก็แค่ ขายถัว่ งอกจะไม่ กลับบ้านกลับช่ อ งได้
ยังไงกัน ต้องขายถัว่ งอกมากขนาดไหนกันเชียว? ถัว่ งอกนัน่ มี
เหรอที่พวกเราจะไม่รู้ ไม่ใช่วา่ ไปค้าขายอย่างอื่นหรอกนะ?”
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่เธอพูดก็ถูกนะ ทาไมถึงได้ไป
ค้างคืนด้านนอกล่ะ?” พี่สะใภ้สี่จา้ วพูดอย่างทนไม่ไหว

ภรรยาเหล่ าหวังสามแสร้ งทาเป็ นเสี ยดายพลางทอดถอนใจ


“น้องสามีคนเล็กของเธอเป็ นคนหัวใสมาก คงค้าขายอย่างอื่นที่
พวกเธอไม่รู้แน่ๆ เลย ผูช้ ายคนนี้นี่นะ พอมีเงินก็เปลี่ยนเป็ นคน
ไม่ดีซะงั้น แถมน้องสามีของเธอก็หน้าตาน่าดึงดูดเพศตรงข้าม
เสี ยขนาดนั้นด้วย อย่าไปสะดุดรักใครก็แล้วกัน เธอเองก็ตอ้ ง
ไปเตื อน ๆ น้องสะใภ้คนนั้นหน่ อยนะ พวกเราเป็ นผูห้ ญิ งก็
ต้องเข้าข้างผูห้ ญิงด้วยกัน เฮ้อ น้องสะใภ้เธอคนนั้น หน้าตาก็ดี
ฐานะทางบ้านก็ดี เพียงแต่อารมณ์ร้ายไปหน่อย แต่ตอนนี้นิสัย
ก็เปลี่ยนไปแล้ว ขึ้นไปแบกฟื นบนเขาทุกวัน นัน่ เป็ นงานของ
ผูช้ ายนะ จะให้คนอื่นพูดยังไงล่ะ จริ งไหม? ส่ วนน้องสามีคน
เล็กคนนั้นของเธอ อย่าว่าอย่างงูน้ อย่างงี้เลย นับวันก็ยิ่งไม่เอา
การเอางานมากขึ้นทุกที นี่ ได้เงินมาไม่เท่าไรก็ออกไปอยู่ขา้ ง
นอกซะแล้ว? หน้าตาหล่อเหลาแบบนั้น แถมยังรู ้จกั เอาใจอีก
วันนี้ มีเงินแล้ว ผูห้ ญิงไม่จริ งจังที่อยู่ดา้ นนอกนั้นมีเหรอจะไม่
เข้าใกล้?”

พี่สะใภ้สี่จา้ วถึงกับอึ้งไป ไม่น่าใช่ น้องสามีเล็กออกไปมีคน


อื่นเหรอ?

แต่ ถึ ง จะมี ห รื อ ไม่ มี ก็ไ ม่ ใ ช่ เ รื่ อ งที่ ห ล่ อ นจะไปยุ่ง ถ้า มี ค นที่


กังวลจริ ง ๆ ก็ตอ้ งเป็ นบ้านเจ้าหก แต่ถา้ น้องสามีหกไปค้าขาย
อย่างอื่นข้างนอก สิ่ งนี้ คาดว่าคงทาให้หล่อนรู ้สึกเลวร้ายเป็ น
อย่างมาก

เดิมทีหล่อนอยากจะแบ่งปั นเรื่ องที่สองสามีภรรยาจะทะเลาะ


กันกับภรรยาเหล่ าหวังสามอย่างมี ความสุ ข ทว่าการคาดเดา
เรื่ องนี้โดยบังเอิญ ทาให้ความรู ้สึกดีใจนั้นลดฮวบในทันที

“แล้วเธอจะเอาฟื นมัดนี้ไปทาอะไรเนี่ย?” ภรรยาเหล่าหวังสาม


เห็นว่าพี่สะใภ้สี่ไม่พูดไม่จา เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ ายหนีบฟื นหนึ่งมัด
ไว้ใต้รักแร้จึงเอ่ยถาม
“หา?” พี่ ส ะใภ้สี่ ม องฟื นที่ ต ัว เองหนี บอยู่ ก็เ พิ่ ง นึ ก ขึ้ น ได้ว่า
ตัวเองจะไปทาอะไร “ฉันจะไปทากับข้าวแล้ว สามีของฉันใกล้
จะกลับมาจากตัดฟื นแล้วล่ะ เมื่อกี้นอ้ งสามีกลับมา ฉันก็เลยคุย
กับเขาไปสองสามประโยค ลืมไปเสี ยสนิทเลย ฉันต้องรี บกลับ
ก่อนนะ”

ต่างก็เป็ นคนที่มีความคิดเดียวกัน ภรรยาของเหล่าหวังสามได้


ยินก็ตระหนักได้ว่าสะใภ้จา้ วสี่ คิดอะไรอยู่ “รี บไปเถอะ ฉันว่า
สองสามีภรรยาคู่น้ นั ก็คงจะกลับมาแล้วเหมือนกัน”

ต้นเฟนเนล หรื อ 茴香 (Foeniculum vulgare Mill.) ใบและ


ล าต้น ใช้เ ป็ นอาหาร ส่ ว นเมล็ด ใช้เ ป็ นเครื่ อ งเทศ เครื่ อ งยา
เรี ยกว่าเทียนข้าวเปลือก
ตอนที่ 69 สั่ งสอนภรรยา

สะใภ้สี่ จ ้า วกลับ ไม่ ไ ด้มี ค วามกระตื อ รื อ ร้ น เหมื อ นเมื่ อ ครู่


ภายในใจกาลังคิดว่าเป็นเพราะน้องสามีเล็กขายอะไรอย่างอื่น
นอกจากขายถัว่ งอกด้ว ยหรื อ เปล่ า ? หรื อ เป็ นเพราะนอกใจ
ภรรยาจริ ง ๆ? หล่อนจึงตอบอย่างขอไปทีหนึ่ งประโยค ก่อน
จะรี บเดินกลับไป

ตอนนี้ ภายในบ้า นเหลื อ แค่ ห ล่ อ นและลู ก สาวสองคน บ้า น


พี่สะใภ้รองจ้าวและพี่สะใภ้สามจ้าวต่างก็ออกไปแบกฟื นบน
เขากันหมด พ่อกับแม่สามีกข็ ้ ึนเขาไปเก็บฟื นด้วยเช่นเดียวกัน

บ้า นของหล่ อ นมี แ ค่ ส ามี เ พี ย งคนเดี ย วที่ ไ ปเก็ บ ฟื น จะน า


กลับมาเยอะเท่ากับบ้านอื่นได้อย่างไร ครั้นพี่สะใภ้สี่จา้ วมองดู
ลูกสาวทั้งสองที่กาลังเล่นอยู่หน้าประตูหอ้ ง โทสะที่สะสมมา
นานจึงระเบิดออกเพราะมีเรื่ องนี้มาจุดชนวน “ยัยเด็กบ้า มัวแต่
เล่นอยูน่ นั่ แหละ ไปก่อไฟ!”

สาวน้อยทั้งสองตกใจจนรี บวิง่ เข้าไปในห้อง

“ฉันยังไม่ได้เอาฟื นมาเผาพวกแกสักหน่ อย!” สะใภ้สี่จา้ วพูด


พล่ อ ย ๆ อี ก หนึ่ งระลอก “นัง พวกตัว ขาดทุ น ที่ ไ ม่ รู้ จ ัก พา
น้องชายออกมา มีพวกแกออกมาให้กินข้าวเปล่า ๆ หรื อไง? ถ้า
ยังไม่พาน้องชายออกมาอีก สักวันพ่อของแกคงได้ออกไปหา
ผูห้ ญิงอื่นนอกบ้านแล้วไม่เอาพวกแกแน่ ๆ ฉันเองก็อยากเห็น
เหมือนกันว่าถึงเวลานั้นพวกแกจะทายังไง!”

คาพูดประโยคนั้นของภรรยาเหล่าหวังสามรบกวนใจพี่สะใภ้สี่
มาก ทาให้ไม่ว่าอะไรก็ดูขดั หู ขดั ตาไปหมด โดยเฉพาะยัยเด็ก
สองคนนี้
สุ ดท้ายแล้วก็เป็ นเพราะตนเองไม่มีลูกชาย หากหล่อนมีลูกชาย
ก็คงไม่ตอ้ งมามองดูคนอื่นหาเงินแบบนี้หรอก ลูกชายต่างหาก
ล่ะคือคนที่จะนาความมัง่ คัง่ มาให้!

กลับมาทางฟากของจ้าวเหวินเทา เขาไม่รู้ว่าตอนที่ตนเองเพิ่ง
จะโผล่หน้ากลับมาก็ได้สร้างผลกระทบอันใหญ่หลวงนี้ แล้ว
เขารี บปั่ นจักรยาน มุ่งหน้าไปทางสะพานตะวันออกที่ มีถนน
ขรุ ขระ ระหว่างนั้นก็ตะโกนไปพลาง “ภรรยาจ๋ า!”

ตอนนี้ ทอ้ งฟ้ าเริ่ มมืดแล้ว ด้านหน้าด้านล่างสะพาน มีเงาหนึ่ ง


ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น พร้อมกับกองสัมภาระสี ดา ๆ กาลังสัน่ ไหว

จ้าวเหวินเทาเบิกตามอง ก็พบว่ามีคนกาลังแบกฟื น ฟื นจานวน


มากเกินไปแล้ว ดู ๆ ไปคล้ายภูเขาลูกเล็กเลย

“เหวินเทา กลับมาแล้วเหรอคะ!” ด้านล่างของภูเขาฟื นลูกเล็กมี


เสี ยงที่คุน้ เคยดังขึ้น
“ภรรยา!” จ้า วเหวิ น เทาปั่ น จัก รยานอี ก ไม่ กี่ ค รั้ ง ก็ม าหยุ ด
ตรงหน้าเงานั้น ครั้นได้เห็นเขาก็รู้สึกปวดใจทันที

ร่ างเล็ก ๆ ของเย่ฉูฉู่กาลังแบกฟื นจานวนมาก ฟื นซ้อนกันเรี ยง


จนสู ง ร่ างของเธอเอนไปข้างหน้าขณะใช้สองมือจับเชือกที่มดั
ฟื นไว้ นอกจากนี้ ใต้รักแร้ท้ งั สองข้างยังหนี บถุงกระสอบอี ก
สองถุงซึ่งใส่ ของไว้จนตุง

“ภรรยา…” จ้าวเหวินเทาขอบตาแดง เขารี บนาจักรยานไปพิง


ไว้ ก่อนจะยื่นมือออกไปปลดฟื นออกจากตัวเธอ “มา ผมทา
เอง!”

เย่ฉูฉู่กไ็ ม่ได้ยนื กรานที่จะทาต่อไป เธอปล่อยมือเพื่อให้เขารับ


ฟื นไป ปากก็ยงั ถามไปว่า “ทาไมคุณกลับมาค่าขนาดนี้ล่ะคะ?”

สามีของบ้านเธอออกไปหาเงินข้างนอกแล้ว ทั้งยังทางานยุ่ง
มาก เธอย่อมเป็ นคนเตรี ยมฟื นที่ตอ้ งใช้เผาในช่วงฤดูหนาว
“ผมนาผักใบเขียวส่ วนหนึ่ งไปขายในเมือง ก็เลยกลับช้าน่ ะ”
จ้าวเหวินเทาเอ่ยขณะนาฟื นไปวางไว้ที่เบาะท้ายจักรยาน

เย่ฉูฉู่รีบกล่าว “อย่าวางไว้ดา้ นบนสิ คะ เบาะแค่นิดเดียวเอง วาง


ไม่ได้หรอก คุณแบกไว้เถอะ เดี๋ยวฉันเข็นรถให้เอง”

จ้า วเหวิน เทามองฟื นที่ มี ท้ ัง สั้ นและยาว ไม่ ว่า จะเป็ นอะไร
ขนาดไหนก็มีท้ งั หมด วางไม่ได้จริ ง ๆ ด้วย เขาจึงกล่าวว่า “ก็
ได้ เดี๋ ยวผมแบกเอง คุ ณเอากระสอบวางไว้ที่เ บาะหลัง ของ
จักรยานแล้วประคองไว้นะ เดี๋ยวผมเข็นเอง”

“ไหวเหรอคะ?” เย่ฉูฉู่ลงั เล

“ไหวสิ !”

จ้าวเหวินเทาไม่สนใจที่จะอธิ บายอะไร เขาปลดกระสอบทั้ง


สองถุงข้างเอวของเย่ฉูฉู่ แล้ววางไว้ที่ตาแหน่ งเก้าอี้เบาะหลัง
จักรยาน จากนั้นก็ให้เย่ฉูฉู่ประคองไว้ ส่ วนตนเองกลับไปแบก
ฟื นขึ้นหลังอีกรอบ มือข้างหนึ่ งจับเชื อกที่แบกฟื นไว้ ส่ วนอีก
ข้างหนึ่งเข็นจักรยาน เดินได้อย่างมัน่ คงดัง่ ที่พูด

“สุ ดท้ายแล้วก็เป็ นงานผูช้ ายอยูด่ ี มันต้องใช้กาลังเยอะมากเลย


ค่ะ” เย่ฉูฉู่มองสามีดว้ ยรอยยิม้

จ้าวเหวินเทากลับพูดด้วยความโกรธเคืองเล็กน้อย “ทาไมคุณ
ถึงออกมาแบกฟื นล่ะ เดิ นมาตั้งไกล แถมยังแบกมากขนาดนี้
อีก ถ้าเกิดเรื่ องขึ้นมาจะทายังไง? เหนื่อยขึ้นมาจะทายังไง?”

“จะไกลสักเท่าไรกันเชียว นี่กอ็ ยูท่ ี่ปากทางเข้าหมู่บา้ นเอง จะมี


ปั ญหาอะไรได้ล่ะคะ? แต่วนั นี้ฉนั เองก็ไม่ทนั ได้คิดเหมือนกัน
พรุ่ งนี้ถา้ หากมาอีกครั้งก็จะมากับคุณแม่” เย่ฉูฉู่กล่าว แม้ว่าคน
ที่อยูด่ า้ นนอกหมู่บา้ นต่างก็กาลังแบกฟื น แต่ตนเองมาคนเดียว
โดยไม่มีใครเลย อันที่จริ งก็แอบกลัวอยูเ่ หมือนกัน

พูดจบ เย่ฉูฉู่ก็ถามเขาอีกว่า “เมื่อคืนที่พกั อุ่นสบายดีหรื อเปล่า


คะ กินอะไรเข้าไปบ้าง ไม่ได้กินของเย็น ๆ ใช่ไหม?”
จ้าวเหวินเทาได้ยนิ คาพูดเป็ นห่วงเป็ นใยของภรรยา เขาก็ทราบ
ได้วา่ ภรรยารักเขาสุ ดหัวใจ

“คุณอย่ามาเปลี่ยนประเด็นนะ ใครบอกให้คุณออกมาแบกฟื น?
ผมบอกไปแล้วไม่ใช่ เหรอ รอให้ผมเสร็ จธุ ระก่อนเรื่ องนี้ เดี๋ ยว
ผมจัดการเอง นี่เป็ นงานของผูช้ ายนะ” ถึงจะซึ้งใจ แต่จา้ วเหวิน
เทาก็ยงั ต้องพูดสอนเธอ

เย่ฉูฉู่กล่าว “เหวินเทา ตอนนี้ ทุกคนต่างก็กาลังเก็บฟื นกัน รอ


ให้คุณเสร็จธุระแถว ๆ นี้กไ็ ม่เหลือฟื นให้เก็บแล้ว ถึงเวลานั้นก็
มีหิมะตกลงมาอีก เดินไปเดินกลับก็ไม่ใช่เรื่ องง่าย ฉันอยูบ่ า้ น
ก็ไม่มีอะไรต้องทาอยูแ่ ล้ว อะไรทาได้กท็ า”

“ผมขอบอกคุณไว้เลยนะ ว่าผมไม่ชอบที่คุณทาให้ตวั เองต้อง


ล าบากตรากตร าจนผิว พรรณหยาบกระด้า ง” จ้า วเหวิน เทา
เหลือบมองเธอพลางกล่าว
เย่ฉูฉู่ไม่ได้สนใจเรื่ องอื่น เธอไม่สามารถทาตัวไม่สนใจใยดีได้
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองมือตัวเอง ตอนนี้ มนั เริ่ มหยาบกระด้าง
แล้ว!

“งานนี้คุณไม่ตอ้ งทาอะไรหรอก ผมจ่ายเงินนิด ๆ หน่อย ๆ ก็มี


คนเอาฟื นมาส่ งให้เราแล้ว” จ้าวเหวินเทาพูดต่อ

“ถ้าแม่รู้คงด่าคุณที่ใช้เงินฟุ่ มเฟื อยแน่นอนค่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าว

“เงิ น นี้ ผมเป็ นคนหามา ผมจะใช้ย งั ไงก็ไ ด้ ผมเต็ม ใจและมี


ความสุ ข แม่ เองก็ชอบพูดไปอย่างนั้นแหละ แต่ คุณน่ ะ ต้อง
ดู แ ลใบหน้า กับ มื อ เล็ ก ๆ ให้ดี น ะ ผมไม่ ช อบให้ม ัน หยาบ
กระด้าง ผมชอบคุณที่มีความงดงามและผิวขาวเนี ยนนุ่มแบบ
ตอนนี้” จ้าวเหวินเทากล่าว

เขาไม่ ช อบให้ภ รรยาของตัว เองต้อ งมาท างานหนัก เหล่ า นี้


ก่อนที่เธอจะแต่งงาน ตอนที่อยูบ่ า้ นแม่กไ็ ม่ได้ตอ้ งทางานพวก
นี้ เหตุใดแต่งงานกับเขาแล้ว กลับต้องมาทาเรื่ องพวกนี้ดว้ ย?
มันก็แค่เรื่ องเงิน 1-2 หยวนเอง! เป็ นเรื่ องที่เขาสามารถใช้เงิน
แก้ปัญหาได้ ถ้าเช่นนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว!

เย่ฉูฉู่รู้ดีวา่ เขารักเธอ จึงยิม้ ออกมา

อันที่จริ งถ้าหากฐานะทางบ้านดี เธอเองก็ไม่ใส่ ใจถ้าจะใช้เงิน


สักหน่ อยเพื่อจ้างให้คนช่ วยเหลือ แต่ตอนนี้ เขาเพิ่งจะเริ่ มก้าว
เดิน เธอจึงคิดว่าอะไรประหยัดได้กป็ ระหยัด ถึงอย่างไรถ้าหาก
พึ่งพาเขาไม่ได้กค็ งต้องใช้เงินจานวนมากแล้วล่ะ

ทั้งสองคนพูดคุยกัน เพียงไม่นานก็มาถึงบ้าน จ้าวเหวินเทามอง


กองฟื นขนาดใหญ่ ที่ก องอยู่ขา้ งบ้าน แอบต าหนิ ต ัว เองที่ ตา
บอด กองฟื นขนาดใหญ่ แ บบนี้ ไม่ ใ ช่ สิ่ ง ที่ จ ะขนย้า ยมาใน
ระยะเวลา 1-2 วัน คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมองไม่เห็น!

อันที่จริ งก็ไม่โทษอะไรเขาหรอก เดิมทีผชู ้ ายก็ไม่ได้รู้สึกอะไร


กับเรื่ องพวกนี้ อยู่แล้ว ยิง่ เขาออกไปตอนเช้าและกลับดึก เป็น
เรื่ องปกติที่จะไม่ทนั สังเกตเห็น
เย่ฉูฉู่ยนื อยูด่ า้ นหน้ากองฟื น เธอชี้ให้เขาดูพลางกล่าว “ฟื นพวก
นี้ ได้ม าจากที่ พ วกเราแบ่ ง กัน แต่ พ วกนี้ เป็ นฟื นที่ ฉั น แบก
กลับมา”

จ้าวเหวินเทาวางฟื นลง ในที่สุดก็มีโอกาสได้กอดภรรยา เขา


จุมพิตลงบนริ มฝี ปากของเธอตรง ๆ “ครั้งนี้ ผมจะไม่เถียงคุ ณ
แล้ว แต่ครั้งหน้าถ้าคุณยังกล้าทาอีกอย่าหาว่าผมไม่เตือนก็แล้ว
กัน!”

“ตกลง ถ้าคุณจัดการกับแม่ของคุณได้ ฉันก็ไม่มีปัญหาค่ะ” เย่ฉู


ฉู่ กล่าวด้วยรอยยิม้ ถ้าหากแอบอูไ้ ด้เธอเองก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้น
ในเมื่อเขาไม่ตอ้ งการให้เธอทาอะไร เช่ นนั้นเธอก็ไม่ทาแล้ว
เหนื่อยจริ ง ๆ

“คอยดูผมได้เลย” จ้าวเหวินเทากล่าว

“ฉันจะไปต้มน้ าร้อน พวกเราจะได้อาบน้ าอาบท่า แล้วค่อยไป


ทากับข้าว คุณอยากกินอะไรดีคะ?” เย่ฉูฉู่มองเขา
ไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้น ตอนที่สามีอยูบ่ า้ นก็ไม่ได้เป็ นอะไรนัก แต่
ตอนที่ เ ขาไม่ อ ยู่ เธอก็ ม ัก จะรู ้ สึกไม่ ส บายใจเอาเสี ยเลย
โดยเฉพาะเมื่อคืนที่สามีของเธอไม่กลับบ้าน

“ภรรยา ให้ผมทาให้ไหม?” จ้าวเหวินเทากล่าว “คุ ณไปนอน


พักบนเตียงสักหน่อยสิ ?”

“ฉันทาเองค่ะ ฉันทาอาหารอร่ อย ฝี มืออย่างคุ ณก็ทาได้แค่ทา


ให้มนั สุ กเท่านั้นแหละ” เย่ฉูฉู่กล่าวอย่างไม่ถูกใจ

“งั้นผมไปต้มน้ าให้คุณนะ” จ้าวเหวินเทากล่าว

“ค่ะ” เย่ฉูฉู่ไม่ได้คดั ค้านอะไร


ตอนที่ 70 ห่ างกันช่ วงสั้ นเพื่อหวานชื่ นกันใหม่ (1)

จ้าวเหวินเทาหยิบกระสอบทั้งสองใบที่อยูห่ ลังเบาะรถจักรยาน
ลงมา ด้ า นในมี ม ะเขื อ ยาวสองลู ก ถั่ว ฝั ก ยาวหนึ่ งก ามื อ
นอกจากนี้ยงั มีบวบเหลี่ยมสามลูกและแตงกวาอีกสามลูก สิ่ งนี้
ไม่สามารถวางทิ้งไว้ได้จนถึงตอนนี้ แน่นอนว่าต้องเอากลับมา
รับประทานสด ๆ

“ฉู ฉู่ เหวินเทากลับมาแล้วเหรอ?” เสี ยงคุณแม่จา้ วดังเข้ามาจาก


ด้านนอก

จ้าวเหวินเทาจึงออกมาและกล่าวว่า “แม่ ผมกลับมาแล้ว”

คุ ณแม่จา้ วเห็นลูกชายกลับมาแล้วจึงโล่งใจ แต่ก็ไม่ได้เข้ามา


ข้างในห้อง “ฉูฉู่กก็ ลับมาแล้วเหรอ?”

“ค่ะคุณแม่” เย่ฉูฉู่เดินออกมา
“กลับมาก็ดีแล้ว กินอะไรหน่อยแล้วก็รีบนอนนะ” คุณแม่จา้ ว
พยักหน้ากล่าว

“รู ้แล้วแม่ แม่กร็ ี บนอนนะครับ” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้

คุณแม่จา้ วตอบอืมกลับมา

“เอาอาหารไปให้คุณแม่หน่อยไหมคะ?” เย่ฉูฉู่ถามเขา

“ทาเสร็ จแล้วก็เอาไปให้สักหน่ อย ส่ วนของอื่น ๆ คุณก็เอาไป


วางในห้องใต้ดิน ทิ้งไว้สักสองสามวันก็ไม่น่าจะเป็นไร” จ้าว
เหวินเทาครุ่ นคิดพลางกล่าว เขาจาได้วา่ ป้าที่ซ้ือผักกล่าวแบบนี้

“ค่ะ” เย่ฉูฉู่นาของที่จะรับประทานวางไว้ดา้ นนอก ส่ วนของ


อื่น ๆ ที่เหลือนาไปวางเก็บไว้ในห้องใต้ดิน และเริ่ มทาอาหาร

ทางด้านพี่รองจ้าว พี่สามจ้าว พี่สี่จา้ วต่างก็กลับมาแล้ว พวกเขา


นาฟื นมาวาง จากนั้นนารถในทีมและสัตว์ไปคืน ส่ วนพี่สะใภ้
รองจ้าวและพี่สะใภ้สามจ้าวอยูบ่ า้ นทาอาหาร
มื้อค่าทาโจ๊กข้าวโพดรับประทานกับผักดอง นอกจากนี้ ยงั ทา
ข้าวฟ่ างต้ม แค่น้ ี ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว มีบางคนที่ไม่รับประทาน
อาหารในตอนที่ว่างจากการทานาช่ วงกลางดึก เพราะต้องการ
ประหยัดอาหาร

พี่สะใภ้สี่จา้ วทาอาหารเสร็ จนานแล้ว เป็ นโจ๊กข้าวโพดผสม


ผักกาดเขียวดองน้ าเกลือ แม้แต่ผกั และข้าวก็เอาออกมาใช้แล้ว

พี่สี่จา้ วเอาสัตว์และรถไปคืน ต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะกลับ


มาถึ ง พี่สะใภ้สี่ จา้ วจึ งมาบ้านของพี่สะใภ้รองจ้าว หล่ อนจึ ง
พบว่าพี่สะใภ้รองจ้าวกาลังนัง่ ยอง ๆ จุดไฟอยูห่ น้าเตา

“พี่สะใภ้รอง พี่จะทาอะไรกินเหรอคะ?” พี่สะใภ้สี่จา้ วกล่าว

ตั้ งแต่ ที่ เ สี ยหน้ า ไปครั้ งก่ อ น พี่ ส ะใภ้ ร องจ้ า วก็ ไ ม่ ช อบ
น้องสะใภ้สี่คนนี้ ที่เอาแต่ปูเสื่ อรับชมเรื่ องสนุ กในคราวก่ อน
แต่ที่บา้ นมีลานอยูแ่ ค่แห่ งเดียว จึงเลี่ยงการพบปะกันไม่ได้ จึง
ตอบกลับไปอย่างเฉยเมย “จะทาอะไรได้อีกล่ะ ก็โจ๊กข้าวโพด
นัน่ แหละ แล้วก็ผสมกับปลายข้าวหักนิดหน่อย”

“ฉันต้มโจ๊กข้าวโพด เพิ่มด้วยผักดองเค็ม” น้องสะใภ้สี่ จ ้า ว


กล่าว “ก็ได้ออกมาเป็ นกับข้าวแล้ว”

“แบบนั้นจะอร่ อยเหรอ? นี่ เรี ยกว่าเธอขี้ เ กี ยจทากับข้า วนะ”


พี่สะใภ้รองจ้าวจุดไฟ ก่อนจะนาข้าวโพดใส่ เข้าไป ลุกขึ้นยืน
และเริ่ มขัดหม้อ

“ไม่ มี ก ะจิ ต กะใจท าน่ ะ ค่ ะ น้ อ งสามี ห กกลับ มาบ้า นแล้ว


พี่สะใภ้รอง พี่ว่าที่ เมื่ อคื นนี้ เขาไม่ กลับบ้านนี่ เขาไปไหนมา
คะ?” พี่สะใภ้สี่จา้ วกล่าวกับพี่สะใภ้รองจ้าว

พี่สะใภ้รองจ้าวนิ่งเฉย “จะไปทาอะไรอีกล่ะ กลับมาดึกขนาด


นั้นเขาก็ตอ้ งไปพักที่บา้ นพี่สาวเขานัน่ แหละ ไม่ใช่ เรื่ องใหญ่
อะไร เธอคิดว่าเขาจะไปทาอะไรล่ะ?”
“ฉันก็คิดแบบนั้นค่ะ แต่ภรรยาของเหล่าหวังสามกลับบอกว่า
บางทีเขาอาจจะทาค้าขายอย่างอื่นที่ได้เงินก็ได้นะคะ? ผูช้ าย
คนนี้ พอมี เ งิ น ก็ เ ปลี่ ย นเป็ นคนไม่ ดี ยัง บอกอี ก ว่ า อาจจะมี
ความสัมพันธ์ที่ดีอยูด่ า้ นนอก พี่สะใภ้รองว่าเป็ นเรื่ องจริ งไหม
คะ?” พี่สะใภ้สี่จา้ วกระซิ บ “นอกจากถัว่ งอกแล้ว น้องสามีหก
น่ า จะยัง มี อ าชี พ อื่ น ๆ อี ก หรื อ เปล่ า ? ก็เ ลยได้เ งิ น ขนาดนั้น
ไม่ใช่วา่ เอาของไปขายให้คนสนิทเหรอคะ?”

พี่สะใภ้รองจ้าวเงยหน้าขึ้นมองน้องสะใภ้คนนี้ แอบก่นด่าใน
ใจว่าโง่เขลา!

ภรรยาของเหล่าหวังสามคนนั้นมีชื่อเสี ยงด้านปากเปราะ คาพูด


ของหล่อนนั้นจะเชื่อถือได้อย่างไร

“เขาจะมีกิจการอะไรล่ะ ถ้ามีคิดว่าครอบครัวจะไม่รู้เหรอ? ก็
ต้องขายถัว่ งอกนัน่ แหละ อีกอย่าง เธอคิดว่าเพื่อนดี ๆ จะหาได้
ง่าย ๆ เหรอ? เธออย่าได้ยนิ เสี ยงลมก็นึกว่าฝนตกสิ ภรรยาของ
เหล่ า หวัง สามคนนั้น ก็พูดน้ าไหลไฟดับไปเรื่ อ ย ค าพู ดของ
หล่อน เธอต้องไปฟั งบนสะพานตะวันออกนูน้ แหละถึงจะฟั ง
จบ” พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์

พี่สะใภ้สี่จา้ วอารมณ์ดีข้ ึนเล็กน้อย แต่ก็แอบผิดหวังนิ ดหน่อย


ถ้า น้อ งสามี ห กมี เ พื่ อ นดี ๆ อยู่ข ้า งนอกจริ ง ๆ ก็ค งจะดี ม าก
สิ นะ?

“ฉันก็คิดแบบนั้น ขายถัว่ งอกก็คงขายได้เงินไม่เยอะขนาดนี้


หรอก แต่นอ้ งสามีหกไม่เอาถ่านเกินไปแล้ว ก่อนหน้านี้ ตอน
เช้าก็ไม่อยูบ่ า้ น ตอนนี้กลางคืนก็ไม่อยู่บา้ นอีก ครอบครัวของ
น้องสามีหกนี้ ใช้ชีวิตไม่ง่ายเลยจริ ง ๆ นะคะ!” พี่สะใภ้สี่จา้ ว
กล่าว

พี่สะใภ้รองจ้าวกาลังยุ่งอยู่กบั การทาอาหาร ส่ วนอีกฝ่ ายก็ยืน


ขวางมือขวางเท้าอยูท่ ี่หน้าประตู ที่สาคัญคือพูดจาไม่น่าฟังเอา
เสี ยเลย หล่อนจึงกล่าวเสริ มว่า “ไม่ใช่ ว่ากลับมาแล้วเหรอ อีก
อย่าง จะผูกสามีให้อยูต่ ิดตัวก็คงไม่ได้ ยังไงก็ควรให้ออกไปหา
เงิน ในภายภาคหน้าวันที่ขาดเงินก็ยงั มีอีกมาก”

พี่สะใภ้สี่จา้ วได้ยินพี่สะใภ้รองจ้าวเริ่ มทาการเทศนาอีกครั้ งก็


รู ้สึกเอียน ถึงตอนนี้ แล้วก็ยงั มาพูดจาให้ดูดีขนาดนี้ อีก ไม่ได้
คิดถึงความวุน่ วายก่อนหน้านี้ของหล่อนเลย จะเสแสร้งเพื่อ!

พี่สี่จา้ วกลับมาพอดี พี่สะใภ้สี่จา้ วจึงกล่าวว่า “พี่สะใภ้รองพูด


ถูก โดยเฉพาะบ้านของพี่ที่มีลูกเยอะ ก็ตอ้ งเตรี ยมเงินไว้เยอะ ๆ
สามีกลับมาแล้ว ฉันต้องกลับไปแล้วนะคะ พี่สะใภ้รองเชิ ญ
ตามสบายเลย”

พี่สะใภ้รองจ้าวแค่นยิม้ ฉันมีลูกเยอะแล้วจะทาไม ยิง่ มีลูกชาย


มากเท่ าไรก็ยิ่งมี ความสุ ขมากเท่ านั้น ต้องให้คนไม่ มีลูกชาย
เหมือนเธอมากังวลด้วยเหรอ!

เย่ฉูฉู่ไม่ได้ทราบเรื่ องราวระหว่างพี่สะใภ้ท้ งั สอง เธอทาน้ าแกง


ก้อนแป้งขาวเสร็จแล้ว
แป้ งก้อนเล็ก ๆ ในน้ าแกงข้น ๆ ผสมกับต้นหอมและผักชี เพิ่ม
ด้วยยาแตงกวาหนึ่งจานคู่กบั ข้าวสวย จ้าวเหวินเทารับประทาน
ไปสามถ้วยภายในเวลาอันสั้น!

“อยู่ขา้ งนอกคุ ณประหยัดเงินไม่ซ้ื อของอร่ อย ๆ กินเลยเหรอ


คะ?” เย่ฉูฉู่มองเขาพลางกล่าว

“ไม่ใช่ หรอก เป็ นเพราะฝี มือของภรรยายอดเยี่ยม ผมคุ น้ ชิ น


ฝีมือการทาอาหารของคุณแล้ว ส่ วนอาหารด้านนอกผมไม่ค่อย
ชินน่ะ แต่ภรรยาวางใจได้เลยนะ ต่อให้ทางานข้างนอกยุง่ มาก
แต่ผมก็กินอิ่มท้องนะ” จ้าวเหวินเทาพูดเคล้ารอยยิม้

“ถ้างั้นหลังจากนี้ ให้ฉันทาอาหารอร่ อย ๆ ให้คุณเอาออกไป


ข้างนอกสักหน่อยไหมคะ?” เย่ฉูฉู่กล่าวพร้อมกับมองไปที่เขา
เมื่อเห็นสี หน้าของเขายังปกติดีเธอจึงโล่งใจ
“ผมบอบบางขนาดนั้นที่ไหนกัน หลังจากทาธุระข้างนอกเสร็ จ
กลับมาก็มีคุณทาอาหารให้ผมกินก็พอแล้ว เอาอาหารออกไป
มันยุง่ ยากเกินไป” จ้าวเหวินเทาส่ ายหน้า

เย่ ฉู ฉู่ ก็ ไ ม่ พู ด จา ท้า ยที่ สุ ด แล้ว ตอนนี้ มี เ งื่ อ นไขที่ จ ากัด มี


เรื่ องราวมากมายที่อยูใ่ นใจแต่ไร้พลัง

แต่ ทุก เรื่ อ งต่ า งก็ยุ่ง ยากในช่ ว งเริ่ ม ต้น เธอเชื่ อ ว่า ในอนาคต
จะต้องดีข้ ึนอย่างแน่นอน

เย่ฉ ฉู ฉู่ ต ้อ งการเก็บถ้ว ยชามไปท าความสะอาด แต่ จ ้า วเหวิ


นเทากลับรับไว้พลางกล่าวด้วยรอยยิม้ ว่า “ภรรยาพักผ่อนเถอะ
พวกนี้เดี๋ยวผมจัดการเอง”

“สุ ภาพบุรุษอยู่ห่างครัว คุณต้องการทาให้ฉันเหรอคะ?” เย่ฉูฉู่


เลิกคิ้วขึ้น

“ทาสิ !” จ้าวเหวินเทายิม้ ตาหยีมองไปยังภรรยาของตัวเอง


“อิ่มท้องอุ่นกายแล้วก็ฝักใฝ่ ตัณหาสิ นะคะ งั้นไปล้างถ้วยเลย”
เย่ฉูฉู่หน้าแดง กล่าวเบา ๆ

“เดี๋ ย วผมจะจัด การกับ คุ ณ ที ห ลัง ” จ้า วเหวิ น เทากล่ า วและ


ออกไปล้างถ้วยชาม เขายังออกไปต้มน้ าร้ อนหนึ่ งหม้อ ด้ว ย
ขณะต้มน้ าในหม้อ เขาก็กลับบ้านมาพูดคุยหวานหยาดเยิ้มกับ
ภรรยาของเขา

“ภรรยา เมื่อคืนผมเกือบนอนไม่หลับเลยนะ เพราะว่าคิดถึงคุณ


น่ะ” จ้าวเหวินเทากล่าว

“จริ งเหรอคะ?” เย่ฉูฉู่มองเขา “ไม่มีฉนั อยูด่ ว้ ยไม่ใช่ว่าจะนอน


หลับสนิทขึ้นเหรอ?”

“จะเป็ นแบบนั้นได้ยงั ไง แค่คิดส่ วนล่างของผมก็แข็งแล้ว” จ้าว


เหวินเทากล่าว

เย่ฉูฉู่หน้าแดงกล่าวว่า “คุณนี่หน้าไม่อายสักนิดเลยนะคะ”
“ผมต้อ งอายภรรยาตัว เองด้ว ยเหรอ ผมเป็ นแบบนี้ ก็เ พราะ
ภรรยาผูล้ ้ าค่าของผมไงล่ะ!” จ้าวเหวินเทายิม้ ปากก็พูดจาลามก
ออกมาโดยไม่ได้รู้สึกกดดันใด ๆ

ตอนนี้ยงั ไม่นอน ร่ างกายของเย่ฉูฉู่กอ็ ่อนแรงลงเล็กน้อยแล้ว

ใบหน้าของเธอขึ้นริ้ วสี กุหลาบ ดูเหมือนว่าจ้าวเหวินเทาคงเกิด


ความต้องการสุ ด ๆ แล้ว เขาบรรจงจูบเธอซ้ าแล้วซ้ าเล่า

เย่ฉูฉู่ถูกจูบหลายครั้ง ร่ างกายเริ่ มอ่อนปวกเปี ยกของจริ ง เธอจึง


ผลักเขาและกล่าวเสี ยงเบา “ยังไม่ได้อาบน้ าเลย อย่ามายุ่งกับ
ฉันนะคะ”

จ้าวเหวินเทาระงับความร้อนรุ่ มในใจ จะออกไปดู ว่าน้ าร้อน


หรื อยัง

เย่ฉูฉู่ดึงเขาไว้ พลางกล่าวด้วยรอยยิม้ “ทาไมต้องรี บร้อนขนาด


นั้น คุณเล่าเรื่ องหมู่บา้ นไท่ผงิ ให้ฉนั ฟังก่อนสิ คะ?”
ตอนที่ 71 ห่ างกันช่ วงสั้ นเพื่อหวานชื่ นกันใหม่ (2)

“เรื่ องมันยาวน่ะ” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้

“งั้นคุณก็บอกมาสิ คะ” เย่ฉูฉู่กล่าว

จ้าวเหวินเทากอดภรรยาตัวหอม ๆ แสนนุ่ มนิ่ มเอาไว้ จากนั้น


จึงเล่าเรื่ องของหมู่บา้ นไท่ผิงให้ฟังด้วยรอยยิม้ หลังจากเล่าจบ
เขาก็หยิบกระเป๋ าเงินออกมาจากกระเป๋ าเสื้ อ ซึ่ งถูกห่ อไว้ดว้ ย
ผ้าเช็ดหน้าหนึ่งผืน

“ภรรยา นี่คือเงินที่ผมหามาได้ในครั้งนี้น่ะ” จ้าวเหวินเทากล่าว

เย่ฉูฉู่หยิบมาเปิ ดดู ก็พบกับธนบัตรปึ กหนา ทว่าสี หน้าของเธอ


กลับไม่ได้ประหลาดใจมากนัก เธอมองเงินด้วยท่าทางนิ่งสงบ
พลางถามว่า “นี่คือเท่าไรเหรอคะ?”
“ผมยังไม่ได้คานวณอย่างละเอียด น่าจะประมาณ 20 หยวนล่ะ
แต่ยงั ไม่ได้หักต้นทุนออกไป” จ้าวเหวินเทานับธนบัตรพลาง
กล่าว “หักต้นทุนออกไปแล้ว ที่เหลือคือเงินที่ได้จากการขาย
ผักใบเขียวของหมู่บา้ นไท่ผงิ ล่ะครับ”

“ท าไมถึ ง เยอะขนาดนี้ คะเนี่ ย ? ฉัน จ าได้ว่า ให้คุ ณ ไปแค่ 10


หยวนเองนะ” เย่ฉูฉู่กล่าว เธอให้เงินเหวินเทาไป 10 หยวน ได้
เงินกลับมาก็น่าจะ 14-15 หยวน ไม่มีทางถึง 20 หยวนหรอก

“ใจเย็น ฟั งผมก่อนนะ” จากนั้นจ้าวเหวินเทาก็เล่าเรื่ องราวการ


เดินทางไปหมู่บา้ นไท่ผงิ ในครั้งนี้ไปหนึ่งรอบ

เขากล่าวอย่างดีใจจนหน้าบานเป็ นกระด้ง เย่ฉูฉู่ได้ฟังก็วางใจ

“แม่เคยบอกว่าคุ ณโชคดี ต้ งั แต่เด็ก ออกไปข้างนอกก็ไม่ตอ้ ง


กังวล ไม่คิดว่าการเดินทางครั้งนี้ จะพบกับผูช้ ่ วยเหลือ” เย่ฉูฉู่
กล่าวด้วยรอยยิม้
การหาเงินเป็ นเรื่ องรอง เรื่ องหลักคือการได้พบปะผูค้ น พบเจอ
คนดีและคนไม่ดี ผลลัพธ์ยอ่ มไม่เหมือนกัน

จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้ “ผมเองก็รู้สึกว่าโชคดีที่ได้สนิท
กับพี่ใหญ่หลิว ไม่ง้ นั เขาคงไม่ให้ผมยืมเงินหรอก ยังมีเหล่าชวี
โถวอีกคน ลุงคนนั้นมีความพิถีพิถนั มากเลยนะ ต่อให้ครั้งนี้ไป
แล้วไม่ ได้กาไรกลับมา การได้รู้จกั พวกเขาก็ถือว่าเป็ นกาไร
แล้วล่ะ”

เมื่อออกไปข้างนอก มีเพื่อนหลายคนก็เท่ากับมีเส้นสายมากขึ้น
เป็ นสิ่ งที่แม้แต่เงินไม่อาจแลกมาได้

เย่ฉูฉู่กล่าวว่า “งั้นครั้งหน้าคุณก็เอาเงินไปคืนด้วยนะคะ พวก


เรามีเงินทุนอยู่ อีกอย่างคุณลุงคนนั้นก็ชอบดื่มเหล้า อย่าลืมซื้อ
เหล้าดี ๆ ไปให้เขาหน่อยล่ะ”

“ไม่ตอ้ งห่ วง ผมมีแผนในใจแล้ว อีกสองวัน พออากาศหนาว


เยือกแข็งจนไม่สามารถพลิกหน้าดินได้แล้ว ผมจะไปอีกรอบ
จะได้กลับมาพร้อมกับรถของพี่ใหญ่หลิวพอดี ระหว่างนั้นก็
ถื อ โอกาสน าผัก ใบเขี ย วเข้า มาเพิ่ ม ด้ว ยเลย” จ้า วเหวิ น เทา
วางแผนไว้ก่อนแล้ว

เย่ฉูฉู่นาเงินไปวางไว้บนเตียง แยกเงินตามมูลค่ามากและน้อย
จากนั้นจึงนับเงินกับสามีของเธอ

ภายใต้แสงสลัวรางจากตะเกียงน้ ามัน หญิงสาวกาลังนับเงิ น


ส่ วนชายหนุ่ มก็นงั่ มองหญิงสาวนับเงิน มุมปากของเขายกขึ้น
เล็กน้อย

การคาดคะเนของจ้า วเหวิน เทาถู ก ต้อ ง มัน เป็ นเงิ น จ านวน


ทั้งสิ้ น 21.05 หยวน

หักเงินทุนที่หยิบมาจากในบ้านไป 10 หยวน เงินที่ยมื มาจากพี่


ใหญ่หลิว 5 หยวน และหักเงินที่ได้จากการขายเนื้อและถัว่ งอก
ในวันนี้ รวมทั้งเงินค่าจ้างเช่ารถ ได้กาไรมาทั้งสิ้ น 5.05 หยวน!
กาไรนี้มากกว่าการขายเนื้อและขายถัว่ งอกเยอะเลย

แต่จา้ วเหวินเทากลับถอนหายใจ “น่าเสี ยดายที่พวกเราไม่มีรถ


ถ้ามีรถ คงนาผักเข้าไปขายได้ทุกวัน ไม่ตอ้ งพูดถึงได้เงินเยอะ
หรอก อย่างน้อย ๆ ก็ตอ้ งได้มาแล้ว 8 หยวน”

เย่ฉูฉู่รีดเงินให้เรี ยบพลางกล่าวว่า “ทีมผลิตยังมีรถอยูน่ ะคะ ถ้า


ไม่ได้จริ ง ๆ ไปยืมที่บา้ นฉันไหม?”

จ้าวเหวินเทายิม้ กล่าวว่า “ภรรยาจอมทึ่มของผมนี่นะ รถที่ผม


พูดถึงไม่ใช่รถม้าสักหน่อย ที่ผมพูดถึงคือรถแทรกเตอร์แบบที่
พี่ใหญ่หลิวขับต่างหากล่ะ เป็ นรถสาหรับการเกษตร สามล้อ
หรื อสี่ ลอ้ ก็ได้”

เย่ฉูฉู่ลงั เล “ตอนนี้เกรงว่าพวกเราคงไม่มีปัญญาซื้ อรถแบบนั้น


หรอกมั้งคะ?” เธอไม่ รู้ราคาตลาดภายนอก แต่ เมื่ อเที ย บกับ
ราคารถจักรยานก็พอจะรู ้แล้ว
ขนาดรถจักรยานยังใช้เงินเยอะขนาดนั้น รถแบบนั้นยิง่ ไม่ตอ้ ง
พูดถึงเลย

“ซื้อไม่ไหวหรอก” จ้าวเหวินเทาพยักหน้า

“งั้นคุณก็หาเงินเยอะ ๆ สิ คะ ฉันจะเก็บเงินไว้ให้คุณ ถ้าได้เงิน


มากพอแล้ว คุ ณ ก็ค่ อ ยไปซื้ อ มาสั ก คัน เมื่ อ ถึ ง ตอนนั้น คุ ณ ก็
สามารถขยับแขนขยับขาได้แล้ว ไม่ตอ้ งอิจฉาคนอื่นแล้วด้วย”
เย่ฉูฉู่กล่าว

เมื่อได้ยนิ คาพูดนี้ จ้าวเหวินเทาจึงอดไม่ได้ที่จะมองภรรยาของ


เขา กล่าวว่า “ภรรยาจ๋ า คุณไม่เสี ยดายเหรอ ต้องใช้เงินจานวน
มากเลยนะ! ”

“ทาไมต้องเสี ยดายด้วยล่ะคะ มีรถแบบนั้นคุ ณก็ไม่ตอ้ งใช้ขา


ทั้งสองข้างปั่นจักรยานแล้ว เหนื่อยจะตาย” เย่ฉูฉู่กล่าว
จ้าวเหวินเทาทนไม่ ไ หวแล้ว เขาเดิ นออกไปข้างนอกตัก น้ า
ร้อนเข้ามาโดยไม่พูดพร่ าทาเพลง ทั้งคู่ชาระร่ างกายของตนเอง
อย่างรวดเร็ว จากนั้นจ้าวเหวินเทาก็ข้ ึนคร่ อมภรรยาของเขาบน
เตียง

เมื่อห่ างกันก็ยงิ่ ทาให้รักกันมากขึ้น อยูห่ ่ างกันหนึ่งวันหนึ่งคืน


ราวกับทั้งสองไม่ได้พบเจอกันมา 3 ปี พวกเขาทั้งสองจึงตกอยู่
ท่ามกลางความกระตือรื อร้นอันเร่ าร้อน

ในเวลานี้ พี่สะใภ้สี่จา้ วก็กาลังทาภารกิจซ้ าวนไปมาอยู่กบั พี่สี่


จ้าวเช่นกัน “…ครั้งนี้ตอ้ งได้ลูกชายแน่นอน!”

พี่สี่จา้ วพยักหน้า “ใช่ ครั้งนี้ตอ้ งได้ลูกชาย!”

พี่สะใภ้สี่จา้ วราวกับได้พบความเร่ าร้อนของคู่สามีภรรยาที่เพิ่ง


แต่งงานกัน ความคิดของหล่อนจึงเอาแน่เอานอนไม่ได้ ปากก็
กล่าวไปว่า “เมื่อคืนน้องสามีหกไม่ได้กลับบ้าน ฉันสงสัยว่า
เขาอาจจะมีการค้าขายใหม่ และคงมีเพื่อนดี ๆ ด้วย คุณคิดว่า
ไง?”

พี่สี่จา้ ว “…”

ภรรยาคนนี้ ในเวลานี้ยงั จะพูดแบบนี้อีก น่าผิดหวังจริ ง ๆ!

“ผมจะไปรู ้ได้ยงั ไงล่ะ!” เขากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์

“คุณเป็ นอะไรเนี่ยคะ?” พี่สะใภ้สี่จา้ วรู ้สึกได้ความผิดปกติของ


สามี

พี่สี่จา้ วรี บจบภารกิจอย่างเร่ งรี บ ก่อนจะกลับไปนอนบนเตียง


เขาแอบรู ้สึกหมดแรงขณะกล่าวว่า “เหนื่อยแล้ว”

“นี่ แค่แป๊ บเดียวก็เหนื่ อยแล้วเหรอคะ” พี่สะใภ้สี่จา้ วไม่พอใจ


เป็ นอย่างยิง่ “เพื่อลูกชายคุณจะเหนื่อยไม่ได้นะ”

พี่สี่จา้ วกล่าวอย่างเกียจคร้าน “นอนเถอะ พรุ่ งนี้ ยงั ต้องขึ้นเขา


อีก”
ไม่ว่าจะเป็ นร่ างกายหรื ออารมณ์ของพี่สะใภ้สี่จา้ วก็อยูใ่ นจุดที่
กลืนไม่เข้าคายไม่ออก หล่อนจึงผลักเขาอย่างโกรธเคือง “ฉัน
แค่อยากคุยกับคุณ ฉันว่าคุณไปดูในเมืองสักหน่ อยเถอะ น้อง
สามีขายถัว่ งอกได้พวกเราก็ทาได้ ถ้ามีเรื่ องดี ๆ อย่างอื่น พวก
เราก็จะได้ยดึ ก่อน!”

“พูดอย่างกับยึดเก้าอี้นงั่ ตอนดูหนังไปได้ ถึงต้องไปแย่งที่ก่อน


พอได้แล้ว รี บนอนเถอะ” พี่สี่จา้ วหาวก่อนจะพลิกหันหลังไป

“ทาไมจะยึดก่อนไม่ได้ล่ะ?” พี่สะใภ้สี่จา้ วพยายามพูดกับสามี


ด้วยเหตุผล “ครั้งแรกก็กินเนื้ อ ครั้งสองก็ได้กินน้ าแกงแล้ว ที่
ฉันคิดแบบนี้กเ็ พื่อลูกชายของพวกเรา หลังจากมีลูกชาย ก็ตอ้ ง
กินนมผง พอกินข้าวได้ก็ตอ้ งกินขนมไข่และแป้ งจี่ไข่ทุกวัน
ยังมีอีกนะ ฉันเองก็อยากกินไก่เหมือนกัน แม่หม้ายหม่ากินไก่
ได้ ฉันก็ตอ้ งกินให้ได้ นี่ ก็เพื่อสื บทอดตระกูลจ้าวของคุณนะ
ถึงตอนนั้นลูกของพวกเราจะต้องโตมาตัวอ้วน ๆ ขาว ๆ แถม
ยังฉลาดอีกด้วย…”

พี่สะใภ้จา้ วลูบท้องของตัวเองโดยไม่ได้ต้ งั ใจ ราวกับว่าในท้อง


ของหล่อนมีลูกชายอยูจ่ ริ ง ๆ

“ฉันพูดกับคุณอยูน่ ะ คุณได้ยนิ ไหมเนี่ย?” พี่สะใภ้สี่จา้ วพูดมา


ตั้ง ครึ่ งค่ อ นวัน แล้ว แต่ ย งั ไม่ ไ ด้ยิน การตอบรั บ ของพี่ สี่ จ ้า ว
หล่อนจึงขึ้นเสี ยงสู ง

พี่สี่จา้ วตอบสนองทันที แต่กลับเป็ นเสี ยงกรนอย่างต่อเนื่อง

พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วโกรธมาก หล่ อ นรู ้ สึ ก เจ็ บ จี๊ ด อยู่ ใ นใจ ทั้ง ยัง
กลับ มามี นิ สั ย ดุ ร้ า ยอี ก ครั้ ง เป็ นเพราะหล่ อ นไม่ มี ลู ก ชาย
อย่ า งไรล่ ะ รอให้ ห ล่ อ นมี ลู ก ชายก่ อ นเถอะ ดู สิ ว่ า จะกล้า
เพิกเฉยกับคาพูดของหล่อนแบบนี้อีกไหม!
พี่สะใภ้รองจ้าวที่อยู่ปีกตะวันตกของบ้านก็กาลังคุยกับพี่รอง
จ้าวเรื่ องที่จา้ วเหวินเทาไม่ได้กลับบ้านเมื่อคืนนี้

“น้องสะใภ้สี่บอกว่าน้องสามีหกได้เงินมาเยอะจากการทาการ
ธุ รกิจใหม่ แถมยังมีเพื่อนดี ๆ อีก เมื่อวานก็เลยไม่ได้กลับบ้าน
ฉันได้ยนิ ก็อยากจะหัวเราะ” พี่สะใภ้รองจ้าวกระซิบอย่างช้า ๆ

พี่รองจ้าวกล่าว “หล่อนคงจะว่างมากสิ นะ”

“ไม่ ใ ช่ ห ล่ อ นที่ พู ด หรอกค่ ะ เป็ นภรรยาของเหล่ า หวัง สาม


ต่ า งหากล่ ะ ที่ เ ป็ นคนพู ด คุ ณ ยัง ไม่ รู้ จ ัก หล่ อ นอี ก เหรอ ใน
หมู่ บา้ นเรื่ องของครอบครั ว คนอื่ นไม่ ว่า เรื่ อ งไหนหล่ อ นก็รู้
หมดนั่นแหละ แต่ ก็ไม่ รู้เหมื อนกันว่าไปรู ้ ได้ยงั ไง” พี่สะใภ้
รองจ้าวกล่าว

“นัน่ ก็เป็ นเพราะว่างไง ให้หล่อนไปทางานสักวันสิ ดูซิวา่ ยังจะ


มีกะจิตกะใจยุง่ เรื่ องชาวบ้านอีกไหม” พี่รองจ้าวกล่าว
“ใช่น่ะสิ ก็เป็ นเพราะว่างนัน่ แหละ” ระหว่างที่พี่สะใภ้รองจ้าว
กล่าวก็วกกลับมาว่า “แต่ว่านะคะ ช่ วงนี้ นอ้ งสามีก็วิ่งเข้าเมือง
บ่อย ไปหนึ่ งครั้งก็หนึ่ งวัน ฉันได้ยินว่าในเมืองยุ่งวุ่นวายมาก
ทาไมคุณไม่ไปถามพี่สาวใหญ่กบั พี่สาวห้าหน่อยล่ะ? คุณเองก็
ไม่ได้ไปหาตั้งนานแล้วเหมือนกัน ไม่ง้ นั ครอบครัวทางฝั่งสามี
ของพวกพี่สาวคงได้คิดว่าครอบครัวฝั่งภรรยาไม่มีใครแหง ๆ
พี่สาวใหญ่กบั พี่สาวห้าชอบกินผักดองของฉัน ฉันจะทาไปสัก
สองสามอย่าง คุณก็เอาไปด้วยนะ เอาแอปเปิ ลป่ าตากแห้งไป
ให้เด็ก ๆ ด้วย ที่บา้ นไม่ได้มีของดีอะไร จะมากหรื อน้อยก็เป็ น
น้ าใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพวกเรา”
ตอนที่ 72 ความคิดของคนในบ้ าน

สาหรับพี่สาวและน้องสาวสามีท้ งั สอง หล่อนยินดีเป็ นอย่างยิง่


ที่จะไปมาหาสู่ ทั้งสองต่างก็แต่งงานเข้าเมือง ฐานะทางบ้านก็
ดี…

เมื่อพี่รองจ้าวได้ยินในตอนแรกก็รู้สึกเอือมระอาเล็กน้อย จะ
ไปถามอะไร? แต่ พอได้ยินจนจบก็รู้สึกว่าภรรยาเป็ นคนที่มี
ความคิดรอบคอบมาก ใช่ แล้ว เขาไม่ได้เข้าไปหาพี่สาวใหญ่
กับน้องสาวห้ามานานแล้ว

“ได้ คุ ณไปเตรี ยมของเถอะ เตรี ยมเสร็ จแล้วผมจะไป” พี่รอง


จ้าวกล่าว “จริ งสิ ถึงเวลานั้นคุณก็หยิบมันฝรั่งกับมันเทศให้สัก
หน่อยด้วยนะ”
พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วอยากปฏิ เ สธ อาหารที่ บ้า นก็ มี ไ ม่ พ อจะ
รับประทานอยูแ่ ล้ว ยังจะเอาไปให้อีก แต่เมื่อนึกถึงอารมณ์ของ
สามี สุ ดท้ายแล้วหล่อนจึงกล่าวตกลงอย่างไม่เต็มใจ

แน่ นอนว่าพี่รองจ้าวไม่ ทราบว่าภรรยาของเขาไม่มีความสุ ข


เขาจึงรู ้สึกพึงพอใจมาก แม้จะสร้างปั ญหา แต่ภรรยาของเขาก็
ยังเป็ นคนมีคุณธรรมอยูม่ าก

พี่สะใภ้รองจ้าวยอมที่จะใช้เงินในครั้งนี้ หนึ่ งคือหล่อนสงสัย


เรื่ องค่าใช้จ่ายของจ้าวเหวินเทามาโดยตลอด เรื่ องธุ รกิจใหม่
ของจ้าวเหวินเทาก็ยงั ไม่แน่ใจ โดยเฉพาะคาพูดที่ไม่มีขอบเขต
ของน้องสะใภ้สี่ ถ้าจะถามจ้าวเหวินเทาตรง ๆ ย่อมถามไม่ออก
จึงต้องถามกับพี่สาวน้องสาวของสามีเท่านั้น บางทีอาจจะได้
ข้อมูลอะไรกลับมา

อีกอย่างนี่ ก็เป็ นเรื่ องสาคัญ ต้องไปมาหาสู่ กบั พี่สาวน้องสาว


ของสามีท้ งั สองคนให้มาก ๆ หล่อนมีลูกสามคนนะ โดยเฉพาะ
ลูกชายสองคน ในอนาคตหากคนที่เป็ นป้ าหรื ออาเป็ นห่ วงเป็ น
ใยพวกหลาน ๆ ขึ้นมา หล่อนก็จะได้มีที่อาศัยในบ้านหลังใหญ่
ด้วยเช่นกัน

จุดธูปบูชาทุกวันดีกว่าอยูด่ ี ๆ ยัดเยียดให้กบั อีกฝ่ ายอยูแ่ ล้ว!

ยัง มี อี ก อย่ า งหนึ่ งคื อ สามี ข องหล่ อ นเอาของไปหาพี่ ส าว


น้องสาวของสามี ย่อมไม่ได้ให้แบบเปล่า ๆ ทั้งสองจะต้องให้
ของตอบแทนกลับมาแน่ นอน พี่สามีและน้องสามีท้ งั สองคน
นั้นมีชีวติ ที่ดีกว่าพวกเขามาก ของตอบแทนก็คงไม่นอ้ ยเช่นกัน

ตอนนี้ หล่อนหวังว่าพี่สาวและน้องสาวของสามีท้ งั สองคนจะ


ให้ของที่เหมาะสม นี่เป็ นหนึ่งฤดูหนาวหนึ่งฤดูใบไม้ผลิจริ ง ๆ
คนเยอะขนาดนี้ จะใช้ชีวติ อย่างไร? ตอนนี้หล่อนก็แยกบ้านมา
ใช้ชีวติ อยูก่ นั เองแล้ว หล่อนจึงกังวลมากจริ ง ๆ

ก่ อนหน้านี้ คุณแม่ สามี เป็ นคนดู แล จึ งไม่ เคยมี ปัญหาเรื่ องนี้


ตอนนี้หล่อนจึงต้องมากังวลเรื่ องทั้งหมดเอง
พี่สามจ้าวที่อยูอ่ ีกด้านหนึ่งกาลังกระสับกระส่ ายนอนไม่หลับ

“คุณเป็ นอะไร เหนื่อยสิ นะคะ ยังมียาแก้ปวดอยู่ จะกินสักเม็ด


ไหม?” พี่สะใภ้สามจ้าวกล่าว

“เปล่า เตียงนี้มนั หนาวนิดหน่อยน่ะ” พี่สามจ้าวกล่าว “ผ้านวม


ห่มยังไงก็ไม่อุ่น”

ช่ วงนี้ อากาศหนาวมาก โดยเฉพาะช่ วงกลางคืน อากาศเย็นยะ


เยือกจริ ง ๆ

“ฉันบอกให้เผาไฟมากกว่านี้ สักหน่ อยคุณก็ไม่ฟัง ตอนนี้ รู้จกั


หนาวแล้วเหรอ? ทาไมไม่เรี ยกหม่าต้านมานอนห่ มผ้ากับคุ ณ
ล่ะ พ่อลูกนอนเบียดกันก็อุ่นแล้ว” แม้ว่าพี่สะใภ้รองจ้าวจะบ่น
แต่ยงั บอกกับพี่สามจ้าว

พี่สามจ้าวก็กล่าวอย่างไม่เกรงใจ “ลูก มานี่ มานอนห่ มผ้ากับ


พ่อเร็ว!”
หม่าต้านนอนขดตัวเป็นลูกบอลกลม ๆ อยู่ใต้ผา้ ห่ ม เขาดึงผ้า
ห่มคลุมศีรษะไว้ ได้ยนิ พ่อเรี ยกก็ไม่ขยับเขยื้อน แกล้งหลับเป็ น
ตายไม่ยอมขานรับ

เขาไม่อยากนอนกับพ่อ พ่อของเขากรนเสี ยงดังหนวกหู จะตาย


ไป

พี่สามจ้าวก่ นด่ า “ไอ้เด็กเวรนี่ ฉันเลี้ ยงแกมานะ เรี ยกให้ม า


นอนห่มผ้าด้วยกันก็ไม่มา!”

หม่าต้านอดไม่ได้ที่จะกล่าวว่า “ใครใช้ให้พ่อห้ามไม่ให้แม่อุ่น
เตียงล่ะ เตียงที่หอ้ งของอาเล็กถูกเผาจนร้อน ทั้ง ๆ ที่อาเล็กก็ยงั
ไม่ได้ข้ ึนเขาไปหาฟื นเลย พวกเราขึ้นเขาไปหาฟื นกันทั้งบ้าน
แต่เตียงยังเย็นขนาดนี้!”

พี่สามจ้าวได้ยินจึงโมโห “วัน ๆ แกก็เอาแต่บอกว่าอาเล็กของ


แกดี งั้นแกก็ไปหาอาเล็กของแกเลยไป!”
“ถ้าอาเล็กอยากได้ตวั ผมผมก็ไป” หม่าต้านกล่าวอย่างไม่ลงั เล

“ไอ้เจ้าเด็กเวรนี่ เลี้ยงเสี ยข้าวสุ กจริ ง ๆ!” พี่สามจ้าวทาท่าจะลุก


ขึ้นไปตีหม่าต้าน

พี่สะใภ้สามจ้าวหยุดเขาไว้พลางกล่าวว่า “พอได้แล้ว คุณเป็ น


ผู ใ้ หญ่ น ะ จะมาใช้ก าลัง กับ เด็ ก ได้ย งั ไง ลู ก ของคุ ณ พู ด ผิ ด
ตรงไหน? คุ ณเอาแต่ตระหนี่ แบบนี้ ทั้งชี วิตก็แก้ไม่ได้หรอก
แม้แต่ฟืนเล็ก ๆ นี้กเ็ หมือนกัน ฉันจะไปเติมสักกามือ นอนบน
เตียงเย็น ๆ จะป่ วยได้ง่าย ๆ ถ้าป่ วยขึ้นมาฟื นก็ข้ ึนไปเก็บไม่ได้
แล้ว ดูยงั ไงก็ขาดทุน แถมยังเสี ยเปล่าแบบซ้ า ๆ ซาก ๆ อีก!”

“อาเล็กไม่เพียงแค่นอนบนเตียงอุ่น ๆ แถมยังได้กินของดี ทุก


วันอีก” หม่าต้านกล่าวเสริ มหนึ่งประโยค

เอ้อร์หยาที่นอนห่ มผ้ากับพี่สะใภ้สามจ้าวโผล่หวั ออกมากล่าว


ว่า “ตอนค่ าหนู ได้กลิ่ นอาหารของบ้านอาเล็กด้วย หอมมาก
เลย!”
พี่สามจ้าวที่ โมโหอยู่แล้วก็ยิ่งโมโหมากขึ้น พี่สะใภ้สามจ้าว
กลับมีความสุ ข หล่อนตีเด็ก ๆ ไปสองเพียะ “พวกลูกยังจะพูด
อีก ให้พ่อตีพวกลูกดีไหมเนี่ย!”

พี่สะใภ้สามจ้าวเติมน้ าในหม้อ ใส่ ฟืนสองสามกามือเข้าไปใน


เตา จุดไฟ ทาความสะอาดเตาและฟื นก่อนหน้านี้ เสร็ จแล้วจึง
ขึ้นเตียงนอน

จะให้เตียงอุ่นขึ้นก็ตอ้ งใช้เวลา พี่สามจ้าวนอนไม่หลับจึงคุยกับ


ภรรยาของเขา

“พวกเจ้าหกไม่ประหยัดสักนิ ด เขาไม่กลัวจะขัดสนบ้างหรื อ
ไง?” พี่ ส ามจ้า วกล่ า วอย่ า งงุ น งง เขาแค่ อ ยากรอดู เ จ้า หก
รั บ ประทานอาหารไม่ อิ่ ม ท้อ งสวมเสื้ อ ผ้า ที่ ไ ม่ ไ ด้ใ ห้ ค วาม
อบอุ่น ใครจะไปรู ้วา่ จนถึงตอนนี้เขาก็ยงั เป็ นแบบเดิมอยู่

“พวกเขามีกนั แค่สองคน ฐานะทางบ้านของน้องสามีหกก็ดี ถึง


ยังไงก็เรี ยกว่าขัดสนไม่ได้หรอก อีกอย่างถ้าพวกเขาขัดสนแล้ว
มันเกี่ยวอะไรกับคุณล่ะ ทาไมคุณต้องกังวลด้วย?” พี่สะใภ้สาม
จ้าวกล่าวอย่างใจเย็น

พี่สามจ้าวเสี ยใจเล็กน้อย ใช้ชีวิตกินอยูแ่ บบไม่มีขีดจากัดอย่าง


เปิ ดเผย ทั้งยังใช้ชีวิตอย่างดี เยี่ยม ทาให้เขาที่ เป็ นคนไม่ กล้า
รับประทานและไม่กล้าดื่มกลายเป็ นไร้รสชาติไปเลย

“คุณว่าเจ้าหกขายถัว่ งอกจริ ง ๆ ไม่ได้ทาอย่างอื่นเลยเหรอ?” พี่


สามจ้าวอดไม่ได้ที่จะสงสัย ถัว่ งอกสามารถทาเงินได้เท่าไรกัน
เชียว?

พี่สะใภ้สามจ้าวเหนื่อยมาทั้งวันและง่วงนอนแล้ว เมื่อเตียงเริ่ ม
ร้อนจึงผล็อยหลับไป หล่อนไม่อยากรับมือกับสามีของหล่อน
ที่เป็ นคนคิดเล็กคิดน้อยเลยจริ ง ๆ

ถ้าน้องสามีหกมีฐานะขึ้นมาจริ ง ๆ สิ ถึงจะดี
เตี ยงอุ่ นแล้ว ในที่ สุดพี่สามจ้าวก็ยืดขาออกมา เขายืดเหยียด
ร่ างกาย รู ้สึกได้ว่านี่ ต่างหากล่ะที่เรี ยกว่าผ้านวมสาหรับนอน
หลับ ทว่าภายในใจกลับอดไตร่ ตรองไม่ได้

เจ้าหกได้กาไรจากการขายถัว่ งอก มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่เขา


จะทาไม่ได้ บางทีเจ้าหกอาจจะทาอย่างอื่นก็ได้

ไม่ได้การล่ะ เขาต้องไปถามให้รู้เรื่ อง

ทุกคนต่างยินดีที่จะนอนบนเตียงอุ่น ๆ กันทั้งนั้น และทุกคนก็


ยินดีที่จะรับประทานบะหมี่หอมกรุ่ น

วันรุ่ งขึ้นจ้าวเหวินเทายังคงตื่นแต่เช้าและไปหาไช่ซื่อหู่ เพื่อเอา


เนื้อ ครั้งนี้คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เนื้อแกะมาเยอะแยะ

“จะเอากระดูกหมูกบั กระดูกแกะด้วยไหม? มีเยอะมากเลย ฉัน


เก็บไว้นิดหน่ อยแล้ว ถ้านายต้องการส่ วนที่เหลือก็จะให้นาย
ยังมีแพะด้วยนะ เนื้อนี้หายากมาก” ช่ายซื่อหู่กล่าว
ตอนนี้อากาศหนาวแล้ว ทีมใหญ่ท้ งั หมดเริ่ มเชือดสัตว์ที่ถูกคัด
ออก แกะคือสัตว์ที่ถูกเชือดมากที่สุด

ที่นี่ส่วนใหญ่เลี้ยงแกะ แพะซนเกินไป ดูแลได้ลาบาก ส่ วนแกะ


มีความเชื่อง แต่เนื้อไม่แน่นเท่ากับเนื้อของแพะ

“ยังมีเนื้อแพะด้วยเหรอ?” จ้าวเหวินเทาดวงตาเป็ นประกาย “พี่


ซื่ อหู่ ผมขอเนื้ อแพะมากที่สุดเท่าที่จะมากได้เลยนะ ผมอยาก
ได้ของดี ๆ เอากลับไปให้ภรรยาของผมกิน”

ไช่ ซื่อหู่ ยิม้ หมอนี่ รู้จกั รักภรรยามากจริ ง ๆ ผูช้ ายที่รักภรรยา


ร่ วมมือกันขึ้นมาถึงจะมัน่ ใจ เขากล่าวว่า “ได้สิ พรุ่ งนี้ ฉันจะ
เก็บไว้ให้นายนะ แล้วกระดูกล่ะ เอาด้วยไหม?”

“เอา!” จ้าวเหวินเทากล่าวโดยไม่ตอ้ งคิด ถ้าขายไม่ออก กลับ


บ้านไปค่อยเอาไปทาน้ าแกงกระดูกดื่มเป็ นยาบารุ งชั้นดี
“ฉันจะไปเอามาให้” ไช่ซื่อหู่ กลับไปหยิบกระสอบถุงใหญ่มา
สองถุง

ดู ๆ ไปแล้วเหมือนจะเยอะมาก แต่จริ ง ๆ แล้วไม่ได้เยอะขนาด


นั้น เพียงแต่กระดูกกินพื้นที่มาก

จ้า วเหวิ น เทาน าถุ ง กระสอบกระดู ก สองถุ ง มาประกบกัน


จากนั้นมัดเข้าที่ใต้เบาะรถเป็ นแนวขวาง ก่อนจะเดิ นทางเข้า
เมือง

ลมหนาวระหว่างทางช่ างหนาวเหน็บจนกรี ดผิวหน้า โชคดีที่


ภรรยาของเขาเตรี ยมครี มไว้ให้ ไม่เช่นนั้นใบหน้าของเขาคงจะ
แข็งไปแล้ว

เมื่อเดินทางมาถึงเมือง เขาก็มาหาจงย่งที่แผงลอยเป็ นที่แรก


จงย่งเปิ ดร้านตั้งแต่เช้าแล้ว พ่อแม่ของและน้องชายทั้งสองคน
ของเขาต่างกาลังยุง่ อยู่ คนที่มารับประทานบะหมี่และซาลาเปา
ต่างก็กาลังเข้าแถวรอ ธุรกิจรุ่ งเรื องจริ ง ๆ
ตอนที่ 73 จ้ างงานชุยต้ า

ครั้นเห็นว่าจ้าวเหวินเทามาแล้ว จงย่งก็รีบเดินเข้ามา “พี่จา้ ว ผม


กาลังรอพี่มาอยูพ่ อดีเลย ถัว่ งอกวันนี้ผมเหมาหมดเลยนะ แล้ว
ก็เนื้อด้วย ผมเหมาหมดเหมือนกัน!”

จงย่งพูดอย่างภาคภูมิใจ จ้าวเหวินเทามองจานวนคนที่ยืนต่อ
แถวปราดหนึ่ง พลางกล่าวด้วยรอยยิม้ “ขายให้คนเหล่านี้หมด
ก็ใช้เนื้ อกับถัว่ งอกจานวนมากของฉันไม่หมดหรอก นายไป
เจอลูกค้ารายใหญ่คนไหนมาล่ะ?”

จงย่ง กล่ า วด้ว ยรอยยิ้ม “ก็มี ส องสามบ้า นนี่ แ หละที่ ก ลับ มา


อุดหนุ นอีก บอกว่าอยากกินเกี๊ยว แถมยังต้องการในปริ มาณ
มากด้วยนะ”

“นี่ถา้ นายเป็ นแบบนี้ทุกวันงานของฉันคงเบาลงเยอะเลย” จ้าว


เหวิน เทาน าถั่ว งอกและเนื้ อ วางไว้ใ ห้เ ขา ก่ อ นจะถามอี กว่า
“ฉันยังมีกระดูกด้วยนะ กระดูกแกะกับกระดูกหมู นายเอาไว้
สักหน่อยไหมล่ะ?”

อย่าถามคนอื่นว่าอยากได้ไหม แต่บอกไปตรง ๆ เลยว่าให้นาย


เอาไว้สักหน่อย นี่คือทักษะการเจรจาของจ้าวเหวินเทา

“กระดู ก เหรอ?” จงย่ ง มองถุ ง กระสอบนั้ น พู ด ด้ว ยความ


ประหลาดใจ “พี่จา้ ว ทาไมพี่ถึงเอากระดูกมาเยอะแยะขนาดนี้
ล่ะ กระดูกไม่มีเนื้อเลย”

“นี่ นายคงไม่รู้สินะ?” จ้าวเหวินเทามองเขา “กระดู กสามารถ


นาไปต้มน้ าแกงได้นะรู ้ยงั ? ใช้น้ าแกงกระดูกเป็ นน้ าแกงบะหมี่
อย่าหาว่าพี่ชายคนนี้ ไม่ สนใจนายเลย นายคิ ดดู เอาเองก็แล้ว
กัน”

จงย่งดวงตาเป็นประกาย เขายกนิ้วโป้ งพร้อมกับกล่าวชม “พี่


ใหญ่จา้ วหัวใสจังครับ!”
จ้า วเหวิ น เทากล่ า วด้ว ยรอยยิ้ม “น้ า แกงจากการต้ม กระดู ก
เรี ยกว่าน้ าสต๊อก เอาไว้ราดเส้นบะหมี่ เกี๊ยว เอามาทาเป็ นเสี่ ยว
หลงเปา แล้วก็เอามาทาอาหารได้ หอมกว่าเติมน้ าธรรมดาตั้ง
เยอะ แถมยังมีโภชนาการด้วย”

อย่าว่าแต่ คนรุ่ นหลังเลย ทุ กคนล้วนรู ้ จกั ประโยชน์ของน้ าส


ต๊อกกันทั้งนั้น แต่ในตอนนี้ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทราบ อย่างน้อย
ๆ ก็ยงั มีประชาชนตัวเล็ก ๆ ธรรมดา ๆ อย่างพวกจงย่งนี่แหละ
ที่ยงั ไม่ทราบ ถึงอย่างไรคนที่ดิ้นรนอยู่บนเส้นทางในการตาม
หาความอบอุ่นและความอิ่มท้อง คนที่ตอ้ งคิดว่าทาอย่างไรถึง
จะเติมท้องให้อิ่มในทุกทุกวัน จะไปมีแนวคิดเกี่ยวกับน้ าสต๊อก
ได้อย่างไรกัน สิ่ งนี้ จา้ วเหวินเทาก็ได้ยินมาจากภรรยาถึ งได้
ทราบ
จงย่งได้เรี ยนอี กหนึ่ งเคล็ดลับ จ้าวเหวินเทาไม่ใช่ คนใจแคบ
เขาพูดแบ่งปั นไปไม่นอ้ ย “วันนี้นายเอาไปลองฟรี ๆ ก่อนก็ได้
ครั้งหน้าถ้าจะเอากระดูกก็ตอ้ งคิดเงินแล้วนะ”

“พี่จา้ ว ผมรู ้แล้ว ๆ” จ่งยงรู ้สึกว่าจ้าวเหวินเทาคือผูพ้ ลิกชีวติ ให้


เขา เหมื อนกับที่ เปิ ดร้ านนี้ หากไม่ มีพี่จา้ วค่อยชี้ แนะก็คงทา
ไม่ได้จริ ง ๆ ยกตัวอย่างเช่ นทาความรู ้จกั กับสถานี ตารวจทาง
ฝั่ งนั้น เขาเองก็ไม่เคยคิดมาก่อน แต่หลังจากพี่จา้ วชี้ แนะให้
นาน ๆ ทีเขาก็จะนาของไปให้นิด ๆ หน่อย ๆ เปิ ดร้านมาจนถึง
ตอนนี้ ก็ยงั ไม่มีอนั ธพาลหน้าไหนกล้าเข้ามาทาตัวกาเริ บเสิ บ
สาน

จงย่งรับกระดูกไป ทั้งยังหยิบกระดาษไขมาห่อซาลาเปาร้อน ๆ
สามลูกให้พี่จา้ วของเขาโดยไม่พูดพร่ าทาเพลง
จ้า วเหวิ น เทาวางกระดู ก แกะและกระดู ก หมู ไ ว้ส่ ว นหนึ่ ง
กลับไปก็จะเอาไปให้ภรรยาของเขาลองต้มน้ าแกงดู ดว้ ย เขา
เคยแต่ได้ยนิ ภรรยาพูดแต่ยงั ไม่เคยได้ชิมเลย

เป็ นเพราะจงย่งต้องการทั้งหมด เขาจึงไม่ตอ้ งเดินไปตามถนน


ตรอกซอย ทั้งยังประหยัดเวลาด้วย จ้าวเหวินเทารับประทาน
ซาลาเปาจนอิ่มท้องก็เดินทางกลับบ้าน

ตอนที่มาถึงทางเข้าหมู่บา้ น ก็พบว่ามีคนในหมู่บา้ นกาลังขน


ฟื นเข้า ไปในบ้า น จึ ง คิ ด ขึ้ น ได้ว่า บ้า นตัว เองก็ย งั ขาดฟื นอยู่
ไม่ใช่เหรอ?

เขาใช้ขาข้างหนึ่ งค้ ารถจักรยานไว้ ก่อนจะเรี ยกเด็กหนุ่ มอายุ


15-16 ปี ที่อยูใ่ นนั้น “ชุยต้า มานี่หน่อย”

ชุยต้าพักอยูด่ า้ นหลัง แม่ของเขาเสี ยชีวิตไปนานแล้ว เขาอาศัย


อยูก่ บั พี่และน้องชายพึ่งพากันและกันเพื่อความอยูร่ อด ไม่ตอ้ ง
พูดถึงการใช้ชีวิตที่แร้นแค้นนั้นหรอก ในแต่ละปี ตอนที่ เกิ ด
ความขาดแคลนชัว่ คราวก็ตอ้ งไปขอความช่วยเหลือจากในทีม

“พี่จา้ วหก พี่เรี ยกผมเหรอ” ชุยต้าจูงสัตว์เดินเข้ามา

“นี่เป็ นฟื นที่นายขนมาเหรอ?” จ้าวเหวินเทาบุย้ ปากชี้

“ใช่ ฟื นนี้ ของผมเอง ตอนนี้ ต่างก็ขนฟื นกันหมด ช่ วงนี้ ก็ใกล้


จะไม่ มีแล้วล่ ะ ต้องไปขนจากที่ ไกล ๆ คงเหนื่ อยแย่” ชุ ยต้า
มองฟื นที่อยูด่ า้ นหลังพลางพยักหน้ากล่าว

“นี่ เป็ นฟื นอะไรเนี่ ย ?” จ้าวเหวินเทามองไปบนรถ “ยังมี ฟืน


ตะกอนด้วย?”

ฟื นตะกอนก็คือกิ่ งไม้แห้งที่ หล่ นลงไปในแม่ น้ าแล้วถู กโกย


ขึ้นมาจากในน้ า

ชุ ยต้ายิม้ อย่างซื่ อ ๆ “ใช่ แล้ว เพราะไม่มีฟืนแล้ว ผมก็เลยต้อง


โกยฟื นตะกอนขึ้นมาจากแม่น้ าสักหน่อยน่ะ”
จ้า วเหวิ น เทากล่ า วอย่ า งไม่ เ ห็ น ด้ว ย “นายอย่ า ไปโกยฟื น
ตะกอนเลย นัน่ อันตรายมากเลยนะ ตอนนี้น้ าก็เย็นมาก ถ้านาย
ตกลงไปคงปี นขึ้ นมาไม่ ร อดแน่ เดิ นไปไกลอี ก หน่ อ ย แต่ ก็
ปลอดภัยกว่า เข้าใจไหม?”

ชุยต้ายิม้ “ขอบใจที่เตือนนะพี่หกจ้าว แต่ผมไม่ไปแล้วล่ะ”

เด็กคนนี้ เติบโตมาแบบนอนกลางดินกินกลางทราย โดยปกติ


แล้วมีไม่กี่คนที่เป็ นห่ วงเขา จ้าวเหวินเทาพูดแค่ไม่กี่ประโยคก็
ทาให้เขารู ้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมาแล้ว แน่ นอนว่า สาเหตุที่มาก
ไปว่านั้นก็คือก่อนหน้านี้ จา้ วเหวินเทาเคยให้ไข่ไก่ฟ้ากับเขา
เขายังจาได้ไม่ลืม

“พี่จา้ วหก พี่เรี ยกผมมีอะไรหรื อเปล่า?” ชุ ยต้าไม่ใช่คนโง่ เขา


จึงเอ่ยปากพูดขึ้นมาก่อน

จ้าวเหวินเทายิม้ “ก็มีนิดหน่ อย ฉันยุ่งมาก ไม่มีเวลาไปขนฟื น


ฉันอยากถามนายว่าช่ วยฉันขนฟื นสักสองสามคันรถเพื่อให้
ฉันใช้ช่วงฤดูหนาวได้ไหม นายไม่ตอ้ งห่ วง ฉันไม่ได้ให้นาย
ทางานฟรี ๆ หรอก ฉันจะจ่ายเงินให้นายด้วย”

เป็ นเพราะชุ ยต้าตัวผอม ดวงตาคู่น้ นั ของเขาจึงดู กลมโตมาก


ครั้ นได้ยิน ประโยคนี้ ดวงตาก็ยิ่ง โตเข้า ไปใหญ่ เขาพู ด ด้ว ย
ความประหลาดใจว่า “พี่หก พี่พูดจริ งเหรอ?”

“อยูห่ มู่บา้ นเดียวกัน ฉันยังจะหลอกนายอีกเหรอ ฉันเคยหลอก


นายหรื อไง ก่อนหน้านี้ ฉันก็ให้ไข่ไก่ฟ้านายไปตั้งหลายฟอง
จะทาไหมล่ะ? ถ้าไม่ทาฉันจะได้ไปหาคนอื่น” จ้าวเหวินเทายิม้

ชุ ยต้ารี บพูด “พี่หก ผมจะทา! เรื่ องดี ๆ แบบนี้ ทาไมผมจะไม่


ทาล่ะ แต่พี่หก ผมขอไม่เอาเงินได้ไหม ผมอยากได้ขา้ ว พี่ให้
ข้าวผมได้ไหม?”

จ้าวเหวินเทาชะงักไปเล็กน้อย “ทาไมล่ะ?”
ชุยต้าแอบรู ้สึกไม่ดี ทว่าน้ าเสี ยงของเขาก็แฝงด้วยความขมขื่น
“พี่หก ถ้าพี่ให้เงินผมแล้วเกิดอารองของผมรู ้เข้า เขาคงเอาเงิน
ไปหมดแน่”

พ่อของชุยต้ามีพี่นอ้ งสองคน นอกจากพ่อของเขาแล้วก็ยงั มีอา


รองของเขา ครอบครัวอารองของเขาใช้ชีวิตได้อย่างดีเยี่ยม มี
ความสุ ขไร้กงั วล เพียงแต่ชีวิตที่ดีน้ ี กลับมาจากการเอารัดเอา
เปรี ยบครอบครัวของชุยต้า

ครอบครัวนี้ ไม่มีผูห้ ญิง ไม่ว่าจะเป็ นของอะไรก็เก็บไว้ไม่อยู่


ทั้งสามคนทางานหนักมาตลอดหนึ่ งปี แต่ ก็แทบจะเป็ นการ
ทางานให้ครอบครัวอาของชุยต้า แบบนี้ล่ะมั้งที่ทาให้เขายังไม่
หิวตาย

ทุกคนต่างก็รู้ดีถึงสถานการณ์ของตระกูลชุ ย เพียงแต่รู้ไปแล้ว
จะทาอะไรได้ อี กฝ่ ายเป็ นพี่น้องแท้ ๆ จึ งทาได้แค่ พูดว่า ไม่
ยุติ ธ รรมนิ ด ๆ หน่ อ ย ๆ แต่ ก็ไ ม่ ส ามารถเข้า ไปจัด การกับ
ความอยุติธรรมได้ ถึงอย่างไรเจ้าตัวเองก็ยงั ไม่ได้โวยวายขึ้นมา

จ้าวเหวินเทาเองย่อมเข้าใจดี แบบนี้ อย่างไรล่ะที่เรี ยกว่าแต่ละ


บ้านต่างก็มีปัญหาเป็ นของตัวเอง

“ได้ ฉัน จะให้ขา้ วนาย ฉัน จะให้ทุก วัน ก็แล้วกัน นะ ให้น าย


มากๆ เดี๋ ย วอารองของนายก็ ค งเอาไปที่ บ้า นเขาจนหมด”
จ้าวเหวินเทาคิด

ชุ ยต้าพยักหน้า “ใช่ ๆ พี่หกให้ผมแต่ละครั้งก็ไม่ตอ้ งมากนะ


ให้ผมกินได้สักสองมื้อก็พอแล้ว กินเข้าไปอยูใ่ นท้องหมดพวก
เขาก็ไม่มาเอาไปแล้วล่ะ”

จ้าวเหวินเทาอดไม่ได้ที่จะพูด “พวกเขาอยากได้นายก็ให้เหรอ?
นายหนักแน่นสักหน่อยไม่ได้เลยหรื อไง?”
ชุยต้าละอายใจ แต่กลับพูดด้วยความไม่เต็มใจว่า “พี่หก ผมเอง
ก็อยากห้ามอยู่หรอก แต่ผมก็อยู่บา้ นตลอดเวลาไม่ได้ พ่อของ
ผมอยากให้ ผมจะทาอะไรได้ล่ะ?”

ยอมเขาเลย มีพ่อแบบนี้นบั ว่าซวยชะมัด

“เอาล่ะ นับตั้งแต่วนั พรุ่ งนี้ตอนเช้านายก็ขนฟื นมาให้ฉนั ตอน


บ่ายนายก็ขนฟื นให้ตวั เอง ดู จากความจุของรถในตอนนี้ แล้ว
ฉันคาดว่าช่ วงเช้าน่ าจะขนได้สามคันรถ แล้วฉันจะให้ธัญพืช
กับนายหนึ่งชัง่ ครึ่ ง นายคิดว่าไง?”

“ได้ครับ” ชุยต้าพยักหน้าโดยไม่พูดพร่ าทาเพลง ธัญพืชหนึ่งชัง่


ครึ่ ง เวลาแบบนี้กินแบบประหยัดสักหน่อย หนึ่งคนก็สามารถ
รับประทานได้สองวันแล้ว!

ชุยต้าพูดอีกว่า “พี่หก งานนี้พี่ให้ผมทานะ อย่าให้คนอื่นทาล่ะ”


“ก็ตอ้ งดูที่ประสิ ทธิ ภาพของนายแล้วล่ะ ฉันไม่สนใจหรอกว่า
จะเป็ นฟื นอะไร ขอแค่ จุดไฟติ ดก็พอ แต่ ฉันบอกไปแล้วนะ
ห้ า มไปโกยฟื นตะกอนอี ก ถ้ า เกิ ด อั น ตรายขึ้ นมาฉั น คง
รับผิดชอบนายไม่ไหว” จ้าวเหวินเทาพูดเตือนนาไว้ก่อน

“ผมไม่ทาแบบนั้นแล้ว ผมจะไปที่ไกล ๆ” ชุยต้ารับปาก

“อืม นายก็ระวังด้วยล่ะ เรี ยกให้นอ้ งชายไปเป็ นเพื่อน ตอนที่มา


ส่ งฟื นที่บา้ นพี่สะใภ้ของนายจะช่วยจดบัญชี ไว้ ตอนบ่ายหรื อ
อาจจะเป็ นตอนค่าหลังจากฉันกลับมา ฉันจะเอาข้าวไปจ่ายเป็ น
ค่าจ้างให้” จ้าวเหวินเทาพูดถึงขั้นตอนการแลกเปลี่ยนซื้ อขาย
อย่างละเอียดเสร็จก็กลับบ้านไป
ตอนที่ 74 มีวธิ ีควบคุมสามี

เย่ฉูฉู่กาลังนัง่ เย็บผ้าอยู่บนเตียงเตา ครั้นเห็นจ้าวเหวินเทาเดิน


เข้ามา เธอจึงประหลาดใจ “ทาไมวันนี้กลับมาเร็วจัง?”

“คิดถึงคุณก็เลยกลับมาเร็วไงครับ” จ้าวเหวินเทายิม้ ตาหยี

เขาขึ้นมาหอมภรรยาของตัวเองฟอดหนึ่ง

ภรรยาของเขาผิวพรรณดู ดีจริ ง ๆ ใบหน้าเล็ก ๆ ขาวอมชมพู


คิ้วและดวงตาสุ กสกาว ความชุ่ มชื้ นที่เธอมอบให้เป็นสิ่ งที่หา
ได้ยากเป็ นพิเศษ จ้าวเหวินเทารู ้สึกว่ามองอย่างไรก็ไม่พอ

“ไม่มีความจริ งจังเอาเสี ยเลย” เย่ฉูฉู่ยิม้ พลางตาหนิ เขาปราด


หนึ่ ง เธอเห็ น ถุ ง กระสอบในมื อ ของเขาจึ ง ถามไปว่า “นี่ คื อ
อะไรเหรอคะ?”
“ผมเอากระดู กหมู กลับมาเคี่ ยว แล้วก็มีกระดู กแกะด้วยนะ”
จ้าวเหวินเทาเปิ ดถุงกระสอบให้ภรรยาดู

เย่ฉูฉู่ได้กลิ่นสาบลอยออกมา เธอชอบรับประทานเนื้ อแกะก็


จริ ง แต่กลับไม่ชอบกลิ่นสาบนี้เอาเสี ยเลย

“แหวะ!” เย่ฉูฉู่เกิดอาการคลื่นไส้

จ้าวเหวินเทารี บมัดปากถุงกระสอบให้ดี จากนั้นจึงใช้มือลูบ


หลังภรรยาพลางกล่าว “ภรรยา ไม่ใช่ว่าคุณตั้งครรภ์แล้วหรอก
นะ?”

เย่ฉูฉู่กลอกตาใส่ เขา “ตั้งครรภ์แล้วมีเหรอที่ฉนั จะไม่รู้? แต่เป็ น


เพราะกลิ่นนี้ต่างหากล่ะคะที่ทาให้รู้สึกฉุนจมูก”

“งั้นผมเอาออกไปไว้ขา้ งนอก” จ้าวเหวินเทารี บกล่าว

“ไม่เป็ นไรแล้วค่ะ เมื่อกี้ฉันไม่ทนั ได้ต้ งั หลักน่ ะ” เย่ฉูฉู่กล่าว


ก่อนจะรับมาดูครู่ หนึ่ง
เย่ฉูฉู่หยิบออกมาหนึ่งชิ้น “บนนี้ยงั มีเนื้อแกะติดอยูเ่ ลย”

จ้าวเหวินเทาเหลือบมองภรรยา “ภรรยา เราไม่สนใจเนื้อเท่ายุง


นี้หรอก ผมบอกพี่ซื่อหู่ไว้แล้ว พรุ่ งนี้เขาจะเหลือเนื้อแกะไว้นิด
หน่ อ ย ยัง มี เ นื้ อ แพะด้ว ยนะ ครั้ งก่ อ นผมซื้ อ ขึ้ น ฉ่ า ยมาจาก
หมู่บา้ นไท่ผงิ พอดี พวกเราห่อเกี๊ยวเนื้อขึ้นฉ่ายสักมื้อ คุณคิดว่า
ไง?”

เย่ฉูฉู่พยักหน้า เธอเองก็แอบน้ าลายสอแล้ว “วันนั้นแม่พูดกับ


ฉันว่ารอให้ผกั ดองได้ที่แล้วก็ค่อยห่ อเกี๊ยวกิน แบบนี้กด็ ีนะคะ
พ่อกับแม่จะได้กินของอร่ อยด้วย”

จ้าวเหวินเทามองภรรยาของตนเองด้วยรอยยิม้

ภรรยาของเขาเห็ น พ่ อ กับ แม่ ข องเขาเป็ นเหมื อ นพ่ อ แม่ ข อง


ตัวเองจากก้นบึ้งของหัวใจ รับประทานของดีก็ไม่เคยลืมพวก
ท่าน ใต้หล้านี้ยงั จะมีคนแบบนี้อีกสักกี่คน?
ในทางตรงกันข้ามกลับทาให้จา้ วเหวินเทาได้มาเจอ ความโชค
ดีน้ ีไม่ใช่แค่ธรรมดาเลยจริ ง ๆ!

“ภรรยา เมื่อกี้ผมคุ ยกับชุ ยต้าแล้ว เขาจะขนฟื นมาให้พวกเรา


สามคันรถแลกกับธัญพืชหนึ่งชัง่ ครึ่ ง ถึงเวลานั้นถ้าคุณเห็นเขา
เอามาส่ งก็ช่วยจดไว้ดว้ ยนะ ผมจะได้เอาค่าจ้างไปให้เขา” จ้าว
เหวิน เทากล่ า ว “เรื่ อ งนี้ คุ ณ ก็ไม่ ต ้อ งเป็ นกัง วลแล้วนะว่าฤดู
หนาวจะไม่มีฟืนให้เผา?”

เย่ฉู ฉู่ เ องก็คิ ด ไม่ ถึ ง ว่า เขาจะแก้ปั ญ หาเรื่ อ งนี้ ได้เ ร็ ว ขนาดนี้
เพียงแต่จา้ งคนให้ไปขนฟื นมาให้จะได้เหรอ?

จ้าวเหวินเทากล่าวเสี ยงเรี ยบ “ทาไมจะไม่ได้ล่ะ เขากินข้าวไม่


อิ่ม ส่ วนผมก็ไม่มีเวลาไปขนฟื น ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ต่างก็
เป็ นคนในหมู่บา้ นเดียวกัน ใครจะพูดอะไรได้? อีกอย่างตอนนี้
ก็รองรับการทางานส่ วนตัวแล้วด้วย ผมจะจ้างคนให้มาทางาน
ให้แล้วจะทาไมล่ะ ใครจะทาอะไรผมได้”
“พูดจาดี ๆ ค่ะ อย่าอวดดีขนาดนั้น” เย่ฉูฉู่ยมิ้ พลางตาหนิ

“ผมไม่ได้อวดดีสักหน่อย ผมก็ยงั มีภรรยาของฉันที่ช่วยดับไฟ


ผมไม่ใช่เหรอครับ?” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้

ในเมื่ อ ผู ช้ ายไฟแรง ผู ห้ ญิ ง ก็ต ้อ งคอยคุ ม ไฟไว้ ไม่ เ ช่ น นั้น


ออกไปข้างนอกก็จะเกิดเรื่ องขึ้นได้ง่าย ๆ และทาให้ขดั แย้งกับ
คนอื่นได้ง่ายมาก

“ภรรยาจ๋ า คุณกาลังทาอะไรเหรอ?” จ้าวเหวินเทาเบี่ยงประเด็น


ก่อนจะมองไปยังของที่อยูบ่ นเตียงเตา

เย่ฉูฉู่กล่าว “วันนี้ฉนั เก็บห้อง พลิกเจอหนังแกะขาด ๆ อยูส่ อง


สามแผ่น ก็เลยจะเอามาเย็บเป็นสนับเข่าให้คุณ คุณใส่ ไว้ที่ขา
เวลาขี่จกั รยานเจอลมแรง ๆ ก็อย่าปล่อยให้หนาวจนขาแข็ง ฉัน
เย็บสายรัดไว้แล้ว ถึงเวลานั้นคุณใส่ กางเกงผ้าฝ้ายแล้วก็ใส่ มนั
ไว้ดา้ นใน ผูกติดกับขาก็ ไม่หลุดแล้ว”
“ภรรยาจ๋ า ทาไมคุณถึงได้มีคุณธรรมแบบนี้เนี่ย” จ้าวเหวินเทา
ยืน่ หน้าเข้ามาหอมเธอหนึ่งครั้งด้วยรอยยิม้

ตอนนี้เย่ฉูฉู่ไม่ได้หน้าแดงพร่ าเพรื่ อเหมือนกับก่อนหน้านี้แล้ว


เธอตีเขาด้วยความขุ่นเคือง “อย่าวุ่นวาย กลางวันแสก ๆ รี บขึ้น
ไปนอนบนเตียงเร็วเข้า ฉันจะไปทาอาหารแล้ว”

“ขอกอดสักแป๊ บสิ ” จ้าวเหวินเทาไม่ยอมปล่อยมือ

เย่ฉูฉู่ผลักเขาออกไปด้วยท่าทางนิ่งสงบเป็ นอย่างมาก “ควรจะ


ทาอะไรก็ทาไปค่ะ อย่ามาขัดขวางการทางานของฉัน”

“ภรรยา คุณมันไร้ความรู ้สึก” จ้าวเหวินเทาเรี ยกร้อง

เย่ฉูฉู่แย้มยิม้ เธอกอดเขาไปเล็กน้อยอย่างผิวเผิน ก่อนกล่ าว


ด้วยรอยยิม้ ว่า “รางวัลของคุณค่ะ”

“ค่ อยยังชั่วหน่ อย” จ้าวเหวินเทายิ้ม จากนั้นจึ งหยิบ กระเป๋ า


สตางค์ผา้ เช็ดหน้าออกมาจากด้านในกระเป๋ าเสื้ อ “ภรรยาบ้าน
อื่นต่างก็จอ้ งเงินในบ้าน ทาไมคุ ณต้องให้ผมหยิบออกมาให้
คุณอยูเ่ รื่ อยเลย?”

เย่ฉูฉู่พูดอย่างมีเหตุและผล “เรื่ องนี้กต็ อ้ งมีจิตสานึกด้วยตัวเอง


อยู่ แ ล้ ว อี ก อย่ า งถ้ า คุ ณ อยากจะเก็ บ เงิ น เองก็ เ ก็ บ เองได้
เหมือนกัน ฉันจะได้ไม่ตอ้ งกังวลด้วย”

“ได้ ๆ ผมมีจิตสานึกแล้ว ๆ หลังจากนี้ทนั ทีที่กลับมาผมจะเอา


เงินให้ภรรยาของผมอย่างมีจิตสานึ ก!” จ้าวเหวินเทากล่าวติด
ตลก เขารู ้สึกว่าภรรยาของเขามีวิธีควบคุ มสามีได้เป็ นอย่างดี
เชียวล่ะ ดูเขาสิ บุรุษผูส้ ง่างามแต่กลับให้เงินโดยไม่รู้สึกเสี ยใจ
เลย

เย่ฉูฉู่คลี่ยมิ้ จากนั้นจึงรับเงินไปนับ

จ้าวเหวินเทาพูดเรื่ องธุ รกิ จของจงย่งว่าดี ขนาดไหนไปหนึ่ ง


รอบ “เจ้าเด็กนัน่ ไม่ทาให้ผมผิดหวังเลยจริ ง ๆ ขายดีเป็ นเทน้ า
เทท่าเลย”
“การค้าของเขาดีพวกเราเองก็ดีเหมือนกันนะคะ ค้าขายก็ตอ้ ง
ชนะร่ วมกันสิ ” เย่ฉูฉู่พูดอย่างไม่ใส่ ใจ

จ้าวเหวินเทาพยักหน้าหงึก ๆ “ใช่ ชนะร่ วมกันนี่ แหละ ชนะ


ร่ วมกัน ผมชอบคานี้!”

ในตอนเที่ ย งเย่ฉู ฉู่ ไ ด้น ากระดู ก ไปต้ม จนกระทั่ง ถึ ง ช่ ว งค่ า


กลิ่นหอมเข้มข้นก็ลอยอวลทัว่ ทั้งบ้าน ทาเอาพวกหลานชาย
และหลานสาวที่เลิกเรี ยนอดไม่ได้ที่จะเดินตามกลิ่นมา

“อาสะใภ้หก ทาของอร่ อยอะไรเหรอครับ?” เถี่ยต้านถาม

สองต้านและสี่ หยาก็มองตาปริ บ ๆ เข้ามาด้านในบ้านเช่นกัน

เย่ฉูฉู่เดินออกมาด้วยรอยยิม้ พลางกล่าวกับพวกหลาน ๆ ว่า “อา


เล็กของพวกเธอเอากระดูกกลับมาสองสามชิ้นน่ะ อาก็เลยเอา
มาต้ม”

“หอมจังเลย” หลูตา้ นออกแรงสู ดหายใจฟุดฟิ ด ๆ


“อาสะใภ้หกหนู อยากกินกระดูกหมู” ซื่ อหยาเป็ นน้องเล็กสุ ด
เธอจึงพูดในสิ่ งที่อยูใ่ นใจออกมาโดยไม่พะว้าพะวัง

เด็กคนอื่น ๆ จึงรี บเบนสายตาไปขอบคุณเธอในทันที ขอบคุณ


ซื่อหยาที่พูดความในใจที่พวกเขารู ้สึกไม่ดีที่จะพูดออกมา

เย่ฉูฉู่พูดกับพวกเขาด้วยรอยยิ้ม “อาต้มกระดู กไว้ทาน้ าแกง


กระดูกที่ตม้ จะไม่เหลือรสชาติแล้ว พวกเธอกลับไปหยิบหม้อ
มาสิ อาจะตักซุ ปให้ บอกให้แม่เอาไปทาอาหารหรื อไม่ ก็ทา
บะหมี่กิน กินแล้วรสชาติจะหอมมากเลยล่ะ ”

ต่อให้เธอมีความบาดหมางกับพวกพี่สะใภ้ไปบ้าง แต่หลาน ๆ
เหล่านี้กไ็ ม่มีความจาเป็ นต้องดึงไปเกี่ยวข้องด้วย

“จริ งเหรออาสะใภ้หก?” หม่าต้านรี บถาม

“จริ งสิ ไปเอามาเถอะ” เย่ฉูฉู่พยักหน้ายืนยัน


เด็ก ๆ ดีใจกันมาก รี บหมุนตัววิง่ ออกไป เพียงไม่นานก็กลับมา
อีกครั้งพร้อมกับหม้อใบใหญ่และใบเล็ก เย่ฉูฉู่บอกให้พวกเขา
ต่อแถวให้เรี ยบร้อย อย่าเบียดกัน เด็ก ๆ แต่ละบ้านจึงได้รับน้ า
แกงไปคนละหม้อ

ลูก ๆ ของพี่รองจ้าวโตกันแล้ว พวกเขาสามารถเดินถือกลับไป


เองได้ ส่ วนลู ก ๆ ของพี่สามจ้าวและพี่สี่จา้ วยังเล็กอยู่ เย่ฉูฉู่
กลัวว่าพวกเขาจะทาหก จึงช่วยยกให้

วันนี้เป็ นวันจันทร์ เด็ก ๆ ไปโรงเรี ยน พ่อแม่ของพวกเขาต่างก็


ขึ้นเขาไปเก็บฟื นยังไม่กลับมา

หลังจากส่ งซุ ปเสร็ จแล้ว จ้าวเหวินเทาก็เดิ นกลับมาจากด้าน


นอก ในมือมีไก่ป่าอีกหนึ่งตัว

ช่ วงบ่ายเขาขึ้นไปเดินบนเขามา เขาคิดว่านี่ ก็นานแล้วที่ไม่ได้


ขึ้ น ภู เ ขา จึ ง อยากหาสั ต ว์ป่าสั ก หน่ อ ย ตอนที่ เ ข้า ไปในป่ าก็
ไม่ ไ ด้เ จออะไร แต่ คิ ด ไม่ ถึ ง เลยว่า ขากลับเขาจะเจอไก่ ฟ้าที่
ได้รับบาดเจ็บตัวหนึ่ งพอดี เขาจึงหิ้ วกลับมาให้ภรรยาของเขา
นาไก่ไปตุ๋นในน้ าแกงกระดูก

เย่ฉูฉู่เคยชินกับการที่สามีของเธอเข้าป่ าและได้ของกลับมาแล้ว
เธอรับไก่ไป “หนักมากเลยนะคะเนี่ย”

“อื้อ เป็ นไก่อว้ นตัวหนึ่งเลย อีกเดี๋ยวผมจะล้างทาความสะอาด


สั ก หน่ อ ย ต้ม ในน้ าแกงกระดู ก สั ก คื น ไว้กิ น พรุ่ งนี้ เช้ า ”
จ้าวเหวินเทายิม้ ตาหยี
ตอนที่ 75 ต่ างคนต่ างได้ รับผลประโยชน์

“ค่ะ” เย่ฉูฉู่วางไก่ลงและหยิบหม้อให้เขา เธอเล่าเรื่ องที่ตวั เอง


แบ่งน้ าแกงกระดูกให้กบั เด็ก ๆ ด้วยท่าทางสบายๆ

จ้าวเหวินเทาถึงกับบ่น “ภรรยา คุ ณดี เกินไปแล้ว ให้พวกเขา


ทาไมเนี่ย ตอนนี้แยกบ้านกันแล้วนะ อยากกินน้ าแกงกระดูกก็
ให้พ่อแม่พวกเขาไปหามาสิ !”

อย่าคิ ดว่าเขาไม่ รู้ถึงความสงสัยและการดู ถูกที่ อยู่ในใจของ


พวกพี่ชายและพี่สะใภ้ที่มีต่อเขา!

เย่ฉูฉู่ กลอกตาใส่ เขา “ถ้าไม่รู้จกั กันคงคิดว่าคุ ณขี้เหนี ยวมาก


เลยนะเนี่ย น้ าแกงกระดูกแค่นิดเดียวก็อาลัยอาวรณ์ซะแล้ว”

“ผมขี้เหนี ยว ผมอาลัยอาวรณ์ !” จ้าวเหวินเทาส่ งเสี ยงหึ หนึ่ ง


เสี ยง
เมื่ อเห็ นท่ าทางหงุ ดหงิ ดของเขา เย่ฉูฉู่จึงหลุ ดหัวเราะพลาง
กล่าวว่า “เด็ก ๆ ปฏิบตั ิกบั อาอย่างคุณเป็ นอย่างดีเลยนะ”

“ผมปฏิบตั ิต่อพวกเขาได้ยงิ่ กว่า” จ้าวเหวินเทามุ่ยปาก จะว่าไป


เขาแทบจะเป็ นคนเลี้ยงดูพวกหลาน ๆ กลุ่มนี้อยูแ่ ล้ว

“ฉันรู ้ว่าคุณปฏิบตั ิต่อพวกเขาเป็ นอย่างดี มีอะไรกินก็แบ่งให้


พวกเขา” เย่ฉูฉู่กล่าว “เหวินเทา เรื่ องมันผ่านไปแล้ว อย่าไป
สนใจอีกเลยค่ะ ฉันรู ้จกั ความเหมาะสม พวกเด็ก ๆ ก็ฉลาดมาก
เหมือนกัน พวกเขาไม่ได้มาขอนัน่ ขอนี่สักหน่อย”

เธอรู ้ ว่ า ที่ เ ขาไม่ ใ ห้ ห ลาน ๆ รั บ ประทาน เพราะแค่ โ มโห


ทัศนคติของพวกพี่ชายพี่สะใภ้เท่านั้น

สี หน้าของจ้าวเหวินเทาจึงดี ข้ ึนเล็กน้อย “ผมก็ไม่ได้เสี ยดาย


ของพวกนี้ หรอก แต่ก็นนั่ แหละ ถ้าเริ่ มให้แล้วก็ตอ้ งให้อีกไม่
จบสิ้ น ถึ ง ตอนนั้ นถ้า คุ ณ เกิ ด ไม่ ใ ห้ ข้ ึ นมา ก็ จ ะกลายเป็ น
ความผิดของคุณ”
อย่ามองว่าเขาเป็ นวัยรุ่ นที่ไม่ได้มีประสบการณ์มากมายเท่าไร
นัก เพราะในใจของเขากลับเข้าใจเรื่ องราวมากมาย โดยเฉพาะ
นิสัยของพวกพี่ชายพี่สะใภ้

นับตั้งแต่คืนนั้นที่พวกเขาร่ วมมือกันซักถามแม่ของเขา เขาก็รู้


ว่าแม้วา่ ทุกคนจะยังเป็ นครอบครัวอยู่ แต่กไ็ ม่เหมือนเดิมแล้ว!

เย่ฉู ฉู่ พ ยัก หน้า ด้ว ยรอยยิ้ม “คุ ณ พู ด ถู ก มนุ ษ ย์ก็เ ป็ นแบบนี้
แหละ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเถอะนะคะ เรื่ องในบ้านแค่
นี้ฉนั ยังจัดการไม่ได้ ยังต้องให้คุณที่กงั วลเรื่ องข้างนอกแล้วยัง
ต้องมากังวลเรื่ องในบ้านอีกเหรอ?”

จ้าวเหวินเทายิม้ “ภรรยาของผมฉลาดที่สุด มา ขอจูบหน่อย!”

“รี บไปทางานของคุณเลยค่ะ!” เย่ฉูฉู่ไม่สนใจเขา หันหลังกลับ


เข้าห้องไป
ตอนค่ า พวกเด็ก ๆ ก็ได้รับประทานอาหารที่ ทาจากน้ า แกง
กระดูก มีท้ งั เฉี ยวเมี่ยน น้ าแกงก้อนแป้ ง และโจ๊กข้าว รสชาติ
อร่ อยสุ ด ๆ เลยจริ ง ๆ

“เจ้าหกคนนี้รักการกินจริ ง ๆ ไม่มีปัญญากินเนื้อก็เคี่ยวน้ าแกง


กระดูก” พี่สามจ้าวกล่าวพลางถอนหายใจ

พี่สะใภ้สามจ้าวเหลือบมองเขา กล่าวว่า “คุณกินอาหารของคน


อื่นแล้วยังสนใจคนอื่นอีก ใครจะเป็ นแบบคุณอีกบ้าง?”

พี่สามจ้าวแค่นเสี ยง “ไหน ๆ ก็ให้น้ าแกงมาแล้ว ทาไมไม่ให้


เนื้อมาด้วยล่ะ? ของแค่น้ ีกซ็ ้ื อใจคุณได้แล้วเหรอ? เมียแบบคุณ
ผมล่ะไม่อยากจะพูด วัน ๆ รู ้จกั แต่เข้าข้างคนอื่น!”

พี่สะใภ้สามจ้าวรู ้ดีว่านิ สัยของเขาเป็ นอย่างไร จึงกล่าวอย่าง


เนิบช้าหนึ่งประโยค “ก็เพราะคุณเป็ นคนแบบนี้ไง ให้น้ าเปล่า
ยังรู ้สึกว่าเปลืองเลย!”
พี่สามจ้าวถึงกับสาลักจ้องตาเขม็ง

เด็ก ๆ ทั้งสองคนคุ น้ เคยกับการสนทนาแบบนี้ ของพ่อแม่ จึง


ไม่ได้สนใจ เอาแต่กม้ หน้าก้มตารับประทาน

พี่สามจ้าวก็พอจะมองออกแล้ว ถ้าผูช้ ายไม่เอาไหน ภรรยาและ


ลูก ๆ ก็จะไม่สนใจคุณ

“ดูคนอนาคตเท่าหยิบมือแบบพวกแกสิ แค่น้ าแกงกระดูกก็ซ้ื อ


พวกแกได้แล้ว รอให้ฉนั ซื้ อเนื้อกลับมาก่อนเถอะ แล้วมาดูกนั
ว่าจะจัดการพวกแกยังไง!” พี่สามจ้าวแค่นเสี ยงเย็น ขณะแอบ
ราพึงถึงโชคในใจ

พี่สามจ้าวใส่ ใจเรื่ องนี้ จริ ง ๆ เพียงแต่ความสนใจก็ยงั วนเวียน


อยู่ที่จา้ วเหวินเทา ไม่ถึงสองวันเขาก็ทราบเรื่ องที่ชุยต้าได้รับ
ว่าจ้างจากจ้าวเหวินเทา
ชุ ยต้า สามารถปฏิ เ สธที่ จ ะบอกคนอื่ น ได้ แต่ พี่ ส ามจ้า วและ
จ้าวเหวินเทาเป็ นพี่นอ้ งแท้ ๆ เมื่อพี่สามจ้าวมาถามไถ่ ชุยต้าจึง
ไม่ปิดบัง และไม่มีอะไรต้องปิ ดบัง

เมื่อพี่สามจ้าวได้ยินก็โกรธจนทนไม่ไหวในทันที เจ้าหกจ้าง
คนขนฟื น? แลกกับธัญพืชหนึ่ งชั่งครึ่ ง นั่นเป็ นธัญพืชเลยนะ
หมอนัน่ ถูกลาเตะกบาลหรื ออย่างไรกัน!

สิ่ งที่ทาให้เขาโกรธยิง่ กว่าคือ จ้าวเหวินเทาจะจ้างก็จา้ งไปเถอะ


แต่กไ็ ม่ควรจะจ้างคนนอกสิ !

จ้างเขาไม่ดีกว่าเหรอ? เขาเป็นพี่แท้ ๆ เอาธัญพืชเหล่านี้ มาให้


เขาไม่ดีกว่าเหรอ?

ในตอนค่ าพี่สามจ้าวจึ งรอจ้าวเหวินเทากลับมา จากนั้นก็มา


พูดคุยกับเจ้าหกด้วยท่าทางก้าวร้าว
หลังจากจ้าวเหวินเทาฟั งจบ เขาจึงกล่าวอย่างเฉยเมยไปหนึ่ ง
ประโยค “ผมจะจ้างใครก็ได้ ผมจะใช้ธัญพืชยังไงแล้วเกี่ยว
อะไรกับพี่ไม่ทราบ? ตอนนี้แยกบ้านกันแล้ว ทางใครทางมัน”

ถ้าให้พูดถึงบรรดาพี่นอ้ งทั้งหมด คนที่ดูถูกเขามากที่สุดคื อพี่


สามจ้าวนี่แหละ ความประทับใจของเขาที่มีต่อพี่รองจ้าวและพี่
จ้าวสี่ นบั ว่าไม่เลว แต่เขากลับดูถูกพี่สามจ้าวคนนี้เป็ นพิเศษ

“นาย…” พี่สามจ้าวชี้หน้าเขา โกรธเสี ยจนพูดอะไรไม่ออก ใน


ที่สุดก็ช้ ี หน้าพลางกล่าวว่า “เจ้าหกนะเจ้าหก ครอบครัวต้อง
ร่ วมแรงร่ วมใจกัน ตีเสื อก็ตอ้ งเชื่อใจพี่นอ้ ง แต่นายกลับไปหา
คนนอกแทนที่จะหาคนในบ้าน สักวันนายได้ร้องไห้แน่!” เมื่อ
กล่าวจบเขาก็สะบัดแขนเสื้ อจากไป

จ้าวเหวินเทามองอย่างดูถูก ยังมาพูดว่าครอบครัวต้องร่ วมแรง


ร่ วมใจกัน ตี เสื อก็ตอ้ งเชื่ อใจพี่ น้อ งอี ก ถ้าเกิ ดเจอเสื อ ขึ้ น มา
จริ งๆ ไม่เพียงแต่ตอ้ งรับมือกับเสื อ ยังต้องป้ องกันตัวไม่ให้ถูก
พี่สามจ้าวผลักออกไปเป็ นอาหารเสื ออีก! นี่มนั อะไรกัน คิดว่า
ตัวเองดีเกินไปหน่อยแล้วมั้ง!

กลับมาทางฝั่งพี่สามจ้าว เขากลับไปบ่นให้พี่รองจ้าวฟั ง กล่าว


อย่างโมโหภายในรวดเดียวว่าจ้าวเหวินเทาไม่รักครอบครัว

พี่ ร องจ้า วไม่ เ ชื่ อ ว่ า จ้า วเหวิ น เทาจะจ้า งคนขนฟื น จึ ง มาหา


จ้าวเหวินเทาเพื่อยืนยัน เมื่ อรู ้ ว่าเป็ นเรื่ องจริ งก็รู้สึกแปลกใจ
เล็กน้อย

“ทาไมนายถึงจ้างคนขนฟื นล่ะ?” พี่รองจ้าวไม่เข้าใจความคิด


ของจ้าวเหวินเทาเลยแม้แต่นอ้ ย นี่ เป็นเพราะธัญพืชมีเยอะจน
รับประทานไม่หมด หรื อไม่รู้วา่ เอาเงินไปใช้อะไร?

“ผมยุ่ง ผมเองก็ไม่สบายใจที่ตอ้ งให้ฉูฉู่ไปเก็บฟื นคนเดียว ก็


เลยจ้า งชุ ย ต้า ก็ แ ค่ ธั ญ พื ช ไม่ กี่ ชั่ง ท าไมผมจะไม่ จ ้า งล่ ะ ?”
จ้า วเหวิ น เทาตอบขณะก าลัง เล่ น กับ กระต่ า ยอยู่ ห น้ า กรง
กระต่าย
กระต่ายที่อยู่ในกรงเหล็กสั่งทาของเขานั้นเจริ ญเติบโตได้ไม่
เลวเลย

ธัญพืชไม่กี่ชงั่ ?

พี่รองจ้าวราพึงในใจ ธัญพืชไม่กี่ชงั่ ก็เป็นธัญพืชนะ มันก็เป็น


เงิ นนะ มี คนจานวนมากที่ ยงั ไม่ ได้รับประทานอาหารให้อิ่ม
ท้อง เจ้าหกเองก็ยงั ไม่ได้มีชีวิตถึงขั้นจ้างคนอื่นได้ไม่ใช่เหรอ?
ท้ายที่สุดก็คือขี้เกียจนัน่ แหละ

พี่รองจ้าวถอนหายใจ แต่ เขาก็รู้ว่าน้องชายคนนี้ ไม่ สามารถ


โน้มน้าวได้ จึงกล่าวว่า “ต่อให้นายไม่อยากขึ้นเขาไปเก็บฟื น ก็
บอกกันสักคา ฉันกับพี่สามและพี่สี่ของนายก็ลากรถหลายคัน
ไม่ตอ้ งไปจ้างหรอก ธัญพืชไม่ได้ปลิวมากับลมนะ นายเองก็
ทางานหามรุ่ งหามค่า เงินแต่ละหยวนได้มาง่าย ๆ ซะที่ไหนล่ะ
จะมาใช้เงินแบบนี้ได้ยงั ไง”
จ้าวเหวินเทารู ้ว่าพี่รองจ้าวเป็นคนจริ งใจ ความคิดที่จริ งใจต่อ
เขาจริ ง ๆ ถ้าแค่พี่รองจ้าวก็ยงั ได้อยู่ แต่ยงั มีพี่สะใภ้รองจ้าวอีก
คน มีเหรอจะใช้งานได้ฟรี ๆ

“พี่ ร อง ผมมี แ ผนอยู่ ใ นใจแล้ ว พี่ ไ ม่ ต ้ อ งกั ง วลหรอก”


จ้า วเหวิ น เทากล่ า ว จ้า งคนอื่ น ดี จ ะตายไป ไม่ ต ้อ งยุ่ ง เรื่ อ ง
ระหว่างพี่นอ้ งให้มากเกินไปด้วย

พี่รองจ้าวถอนหายใจอีกครั้ง เมื่อนึกถึงคาพูดของพี่สามจ้าว จึง


ลองพูดว่า “ถ้านายคิ ดจะจ้างคนจริ ง ๆ พี่สามของนายอยาก
ทา…”

“คุยเรื่ องเงินระหว่างพี่นอ้ งไม่ใช่ เรื่ องดีนะครับ” จ้าวเหวินเทา


พูดแทรกเขา พูดเป็นเล่น จ้างใครก็ได้แต่ตอ้ งไม่ใช่พี่สามของ
เขา

เมื่อกล่าวแบบนี้พี่รองจ้าวจะกล่าวอะไรได้อีก จึงทาได้เพียงแค่
เดินจากไป
ไม่ใช่ ว่าจ้าวเหวินเทาไม่เคยคิดจะจ้างพี่ชายหรอกนะ เพียงแต่
พี่ ช ายบางคนก็ดี แ ต่ พี่ ส ะใภ้ไ ม่ ดี บางคนพี่ ส ะใภ้ดี แ ต่ พี่ ช าย
ไม่ได้เรื่ อง ให้เงินมากไปหรื อน้อยไป ทาให้อีกฝ่ ายเสี ยเปรี ยบ
หรื อได้เปรี ยบ ถึงเวลานั้นก็ไม่แคล้วทะเลาะกันอีก

เขาไม่ได้มีอารมณ์ขนาดนั้น และไม่มีความพยายามนั้นด้วย

จ้างคนนอกดีกว่า ไม่ยงุ่ ยาก

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ คิดว่าเรื่ องนี้ จะส่ งผลกระทบอย่า งมาก


อย่างแรกคือพี่สามจ้าว หลังจากที่เขาสงบสติอารมณ์ได้ เขาจึง
ตระหนักว่าเจ้าหกจ้างคนแล้วจริ ง ๆ ฟุ่ มเฟื อยก็เป็ นเรื่ องหนึ่ง ที่
สาคัญคือเสี ยของไป นี่แหละคือประเด็น

เมื่อนึกได้วา่ จ้าวเหวินเทาขายถัว่ งอกจึงเริ่ มใช้เงินฟุ่ มเฟื อย แล้ว


ทาไมเขาจะทาไม่ได้?
ตอนที่ 76 เย่ หมิงเป่ ยและโจวหมิน่ (1)

“คุณแช่ ถวั่ เขียวปลูกถัว่ งอกสักหน่ อย ผมจะเอาถัว่ งอกไปขาย


ในเมือง!” พี่สามจ้าวบอกพี่สะใภ้สามจ้าว เขาอยากไปลองดู ดู
สิ วา่ มันจะเป็ นอย่างไรกันแน่?

ทางด้านพี่สะใภ้รองจ้าว หล่อนรี บเตรี ยมของเพื่อให้กบั พี่สาว


และน้องสาวของสามี เรี ยกให้พี่รองจ้าวเข้าเมือง เพื่อถามว่า
จ้าวเหวินเทาค้าขายอะไร ถึงได้จา้ งคนมาขนฟื นแทนได้ ต้อง
ได้เงินไม่นอ้ ยแน่ ๆ

พี่สะใภ้รองจ้าวย่อมพูดด้วยคาพูดสวยหรู อยู่แล้ว หล่อนกล่าว


ว่ากลัวน้องสามีหกจะทาอะไรที่เสี ยเวลาเปล่า

ทางฝั่งพี่สะใภ้สี่จา้ วก็ตระเตรี ยมเช่ นกัน หล่อนทาพื้นรองเท้า


และส่ วนบนของรองเท้าเรี ยกให้พี่สี่จา้ วเอาไปขาย พี่สี่จา้ วทิ้ง
ท้ายไว้หนึ่งประโยคว่า “ผมไม่ได้หน้าหนาแบบนั้น” จากนั้นก็
ขึ้นเขาไปเก็บฟื น

ช่ วงเวลานี้ จะไปขายของก็ตอ้ งหน้าด้าน ไม่เช่ นนั้นใครเขาจะ


ไปยอมรับความอัปยศกัน?

พี่สะใภ้สี่จา้ วโกรธจนน้ าตาไหลออกมา ไม่ใช่เพราะหล่อนไม่


มีลูกชายเหรอ พูดอะไรไปก็ไร้ประโยชน์ ถ้าหล่อนมีลูกชาย มี
เหรอที่เขาจะไม่ฟัง!

พี่สะใภ้สี่จา้ วตั้งใจแน่วแน่วา่ ต้องมีลูกชายให้ได้!

ครั้งนี้ พี่รองจ้าวและพี่สามจ้าวที่ เดิ นทางเข้าเมือง แต่ละคนก็


ได้รับผลประโยชน์เช่นกัน

พี่รองจ้าวได้ยนิ จากพี่สาวใหญ่และน้องสาวห้าว่าจ้าวเหวินเทา
นอกจากขายถัว่ งอกแล้วยังขายเนื้อด้วย
เขาสงสัยอย่างยิ่งว่าจ้าวเหวินเทาไปเอาเนื้ อมาจากไหน? เมื่อรู ้
ว่าเป็ นโชคที่เกิดจากความกล้าหาญของจ้าวเหวินเทา จึงโล่งใจ
และยินดีไปกับเขา

แม้เจ้าหกจะเป็ นคนไม่เอาถ่าน แต่กไ็ ม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ดูสิ


นี่กแ็ ปลว่าคนดียอ่ มได้กรรมดีไม่ใช่เหรอ?

ส่ วนเรื่ องอื่นเขาก็ไม่ได้ถามอะไรมาก เขานาอาหารและเนื้ อ


บางส่ วนที่ พี่สาวใหญ่ และน้องสาวห้าให้มา นอกจากนี้ ยัง มี
เสื้ อผ้าเด็กเก่า ๆ และผ้าขี้ริ้วกลับมาบ้านด้วย

พี่สะใภ้รองจ้าวพอใจกับของตอบแทนของพี่สาวและน้องสาว
ของสามีเป็ นอย่างยิ่ง มีเพียงข่าวคราวของน้องสามีหกที่สามี
ของหล่ อนนากลับมาเท่ านั้นที่ ไม่ พอใจ เพราะมันไม่ ชัดเจน
หล่อนอยากจะทาธุ ระให้เสร็ จแล้วไปด้วยตนเอง เพื่อถามทุก
อย่างให้ละเอียดเสี ยเหลือเกิน
พี่สามจ้าวเข้าเมืองช้ากว่าพี่รองจ้าว ถึงอย่างไรเขาก็เข้าไปเพื่อ
ขายถัว่ งอก ใช้เวลาหลายวันกว่าถัว่ งอกจะโต

ถัว่ งอกขายได้อย่างราบรื่ น พี่สามจ้าวมีความสุ ขสุ ด ๆ แต่เมื่อ


นับเงินแล้ว กลับพบว่าได้มาแค่หา้ เฟิ นเท่านั้น

หนึ่ งแต้มค่าแรงยังมีค่ามากกว่านี้ อีก แต่เมื่อลองคิดดู อี กครั้ ง


ตอนนี้ เป็นช่ วงเวลาว่างจากการทานา จึงไม่ได้รับแต้มค่าแรง
เงินจานวนห้าเฟิ นนี้ได้มาฟรี ๆ สิ่ งนี้ทาให้เขารู ้สึกดีข้ ึนอีกครั้ง

เขาไม่ได้รีบกลับบ้าน เขาเดินเตร็ดเตร่ ไปรอบ ๆ เมือง ดูนนั่ ดูนี่


ก็พบช่องทางทาเงินบางส่ วน สมองของเขาแล่นเร็ วปรื๋ อ เพียง
ไม่นานก็ปะติดปะต่อสถานการณ์จริ งตัวเองและรู ้ว่าควรจะทา
สิ่ งใด

ตอนเที่ยงเขาไปรับประทานอาหารที่บา้ นของน้องสาวห้าจ้าว
พี่ ส าวใหญ่ จ ้า วอาศัย อยู่ ร่ ว มบ้า นกับ พ่ อ แม่ ส ามี ทั้ง ยัง เป็ น
ครอบครัวพนักงานอีก พี่สามจ้าวไปแล้วรู ้สึกอึดอัด
บ้านของน้องสาวห้าจ้าวดี กว่าเยอะ สามี ของน้องสาวไม่ อ ยู่
บ้าน มีแค่นอ้ งสาวและลูก อีกอย่างเขาก็เป็ นพี่ชาย แถมยังทา
คะแนนในฐานะพี่ชายได้ดว้ ย ดังนั้นถ้าต้องรับประทานอาหาร
และอยู่อาศัยก็ตอ้ งไปบ้านของน้องสาวห้าจ้าว แต่ถา้ เป็นก่อน
กลับเขาก็ไปหาพี่สาวใหญ่เพื่อเยีย่ มเยียน

แน่นอนว่าเขาเดินทางไปหาแบบมือเปล่า การซื้ อของเป็ นสิ่ งที่


เป็นไปไม่ได้ เขาไม่เคยซื้ อของมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว และเขาก็
ไม่มีแนวคิดนี้อยูใ่ นหัวด้วยซ้ า

เมื่ อพี่สามจ้าวเข้าเมืองอี กครั้ ง เขาได้เข็นรถขายเต้าหู ้มาด้วย


หนึ่งคัน ใช่แล้ว เขาตัดสิ นใจที่จะขายเต้าหู ้

พี่สามจ้าวเคยทาเต้าหู ้ตอนอยู่ในทีมผลิต เทคนิ คการทาเต้าหู ้


นิ่ มต่างก็ได้รับนิ้ วโป้ งชื่ นชมจากทั้งหมู่ บา้ น เขาทาเยอะมาก
เต้าหู ้หนึ่ งชิ้นใช้ถวั่ เท่าไรใช้น้ าเท่าไร แค่ชงั่ ด้วยมือเขาก็รู้แล้ว
เต้าหู ท้ ี่ขายในเมืองเหล่านั้น เขารู ้สึกดูถูกดูแคลนมาก ถ้าไม่ใช้
วัตถุดิบมากเกินไปก็ใช้น้ ามากเกินไป

ข้อเท็จจริ งได้พิสูจน์ออกมาแล้วว่า เต้าหู ้ที่พี่สามจ้าวทาเป็ นที่


นิ ยมอย่างมาก ดู ภายนอกอ่ อนนุ่ ม รั บประทานเข้าไปก็หอม
ด้วย

เขาทาเต้าหู เ้ สร็ จตั้งแต่ตอนค่า เช้าวันรุ่ งขึ้นเขาก็จะลากเต้าหูไ้ ป


ขายในเมือง ไปถึงก็ทนั เวลารับประทานอาหารพอดี ขายดีมาก
เลยล่ะ

ตอนนี้ อากาศหนาวแล้ว ไม่ตอ้ งกังวลว่าของจะเสี ย สามารถ


ขายได้ตลอดฤดู หนาว พี่สามจ้าวแค่คิดก็มีความสุ ขแล้ว เขา
สัมผัสเงิ นเหมาไม่ กี่ใบที่ อยู่ในอ้อ มแขน ท้ายที่ สุด แล้วเขาก็
อาลัยอาวรณ์ไม่ยอมซื้อเนื้อและกลับบ้านไป

เมื่อเห็นว่าแม้แต่คนใจแคบอย่างพี่สามจ้าวยังทาการค้าขายได้
ด้วยดี พี่สะใภ้รองจ้าวและพี่สะใภ้สี่จา้ วจึงร้อนรน
ผูช้ ายคนหนึ่ งก็ไม่รู้จะทาอะไร ส่ วนผูช้ ายอีกคนก็หน้าบางไม่
ยอมทา ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลงมือทาเอง หล่อนซื้ อ
พื้นรองเท้าและส่ วนบนของรองเท้า มีท้ งั ของผูใ้ หญ่ ของเด็ก
และของผูส้ ู งวัย ไม่ตอ้ งพูดอะไรหรอก มีคนซื้ อจริ ง ๆ เพียงแต่
มีนอ้ ย ได้กาไรมาไม่กี่เฟิ นก็ถือว่าใช้ได้แล้ว

จ้าวเหวินเทาทราบว่าพี่สามจ้าวและพี่สะใภ้ท้ งั สองค้าขาย เขาก็


รู ้สึกดีเป็ นอย่างยิง่ เขาหวังว่าชีวติ ของพวกเขาจะดีข้ ึน จะได้จบั
ตามองเขาให้นอ้ ยลง

คุณพ่อจ้าวและคุณแม่จา้ วก็รู้สึกยินดีมากเช่นกัน การค้าขายแม้


จะฟั งดู ไม่ ดี แต่ ก็เป็ นหนทางที่ สุจริ ต ทาเพื่อดารงชี วิต ไม่ มี
อะไรต้องอาย

“มาเทียบกันดี กว่า มาดู กนั ว่าพี่น้องคนไหนจะมี ชีวิตที่ดี ก ว่า


กัน” คุณพ่อจ้าวกล่าว
คุณแม่จา้ วเย็บเสื้ อผ้าฝ้าย นางเองก็เห็นด้วยกับสิ่ งนี้ “จะได้ไม่มี
เวลาว่างเอาแต่พูดฉอด ๆ อยูใ่ นบ้าน!”

หิมะแรกมาถึงแล้ว ฤดูหนาวก็มาถึงแล้วจริ ง ๆ เมื่อหิมะตกก็ไม่


สามารถเก็บฟื นได้แล้ว ผูค้ นต่างยุ่งกับการสี ขา้ วและนวดแป้ ง
เครื่ องโม่แป้งและโรงสี กเ็ ริ่ มยุง่ แล้ว

หลังจากนี้ ก็จะเป็ นปี ที่วุ่นวาย ในชนบทต้องใช้เวลาล่วงหน้า


สองเดือนกว่า ๆ อีกไม่นานก็จะถึงช่วงวันหยุดฤดูหนาวแล้ว

ใ น บ้ า น ต ร ะ กูล เ ย่ ไ ม่ กี่ วั น ม า นี้ เ ย่ ห มิ ง เ ป่ ย ถึ ง ขั้ น นั่ ง


กระสับกระส่ าย ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับ ตอนรับประทาน
อาหารจิ ตใจก็ไม่ อยู่กบั เนื้ อกับตัว คนตระกูลเย่เห็ นทุ กอย่าง
รู ้สึกจนปั ญญาแถมยังน่าขบขันอีก ใครใช้ให้ภรรยาของเขาจะ
กลับมากันล่ะ?

อากาศหนาวแล้ว หิ มะที่ตกลงมาก็ไม่ได้ละลายไปง่าย ๆ เพื่อ


ป้ องกันไม่ให้แขนขาหักเมื่อออกไปข้างนอก ทุกหมู่บา้ นไม่
เพียงแต่จะกวาดหิ มะที่ลานบ้านของตัวเองเท่านั้น ยังออกไป
กวาดตรงถนนของทั้งหมู่บา้ นด้วย แต่อย่างมากที่สุดก็กวาดไป
ถึงหน้าหมู่บา้ นเท่านั้น จุดที่อยูไ่ กลกว่านั้นก็ทาอะไรไม่ได้แล้ว
แบบนี้เมื่อหิมะตกรถก็จะผ่านไม่ได้

ปกติหนึ่งวันจะมีรถผ่านสองครั้ง ครั้งแรกตอนเช้าและอีกครั้ง
คือตอนค่า ในเมืองเรี ยกว่ารถประจาทาง ในชนบทเรี ยกว่ารถ
รับส่ ง

รถขับออกจากมณฑลในตอนเช้า ผ่านหน้าหมู่บา้ นใหญ่ ๆ ที่มี


ผูค้ นอาศัย อยู่เ ป็ นจ านวนมากส่ ว นหนึ่ ง กลับไปที่ ส ถานี ใ น
มณฑล ไปที่สถานีในเมือง ตอนค่าก็จะขับกลับมาส่ งคนที่หน้า
หมู่บา้ นใหญ่ ๆ และกลับเข้าเมืองอีกครั้ง

จากหมู่บา้ นไปในเมืองและมณฑลมีเพียงรอบเช้าและรอบค่า
เที่ยวเดียวเท่านั้น จากในมณฑลไปในเมืองมีสี่เที่ยว เย่หมิงเป่ ย
ไม่รู้วา่ โจวหมิ่นจะนัง่ รถเที่ยวไหนมาถึงมณฑล เขารู ้เพียงแค่วา่
เป็ นวันนี้

ในเช้าตรู่ เย่หมิงเป่ ยแต่งตัวเต็มยศ กางเกงผ้าฝ้าย แจ็กเกตผ้าฝ้าย


หมวกผ้าฝ้าย ถุงมือผ้าฝ้ายและรองเท้าผ้าฝ้าย แถมยังสวมเสื้ อ
คลุมหนังแกะด้วย คุณแม่เย่ให้เขานาเสื้ อหนังแกะมาให้โจวหมิ่
นอีกตัวด้วย

สิ่ งที่นางคิดคือ ลูกสะใภ้ที่เป็ นปั ญญาชนเป็ นคนสวย ถ้าหาก


สวมเสื้ อกันหนาว หรื อเสื้ อขนสัตว์อะไรกลับมา ระหว่างทางที่
กลับมาจะต้องหนาวแน่ ๆ ลูกชายจะไม่เอาเสื้ อหนังแกะของ
ตัวเองคลุมให้หล่อนเหรอ? นางเห็นแก่ลูกชาย จึงให้หยิบเสื้ อ
ไปด้วย

“ถ้าดึกเกินไป ก็ไปพักที่บา้ นพี่เขยห้าสักคืน ถนนเส้นนี้ลื่น อย่า


เดินตอนกลางคืนนะ” คุณแม่เย่ย้าเตือน
“แม่ ผมรู ้แล้ว แม่กลับไปเถอะ ผมไปแล้วนะ” เย่หมิงเป่ ยสวม
เสื้ อผ้ารวมกับถุงฝ้าย แต่เขารู ้สึกดี จนทนไม่ไหวแล้ว เขาก้าว
ขึ้นรถอย่างแผ่วเบาและออกเดินทางไป

คุณแม่เย่มองดูลูกชายจากไปจนมองไม่เห็นจึงกลับบ้าน

ระหว่างทางยังดี หน่ อย หิ มะตกหนัก รถที่วิ่งผ่านไปมาได้ทิ้ง


รอยล้อลึก ๆ เอาไว้ ถ้าเดินอยูใ่ นรอยล้อก็ไม่ตอ้ งกังวลว่าจะลื่น
ไถลแล้ว

หิ มะสี ขาวตกลงมาอย่างไม่ มี ที่สิ้ นสุ ด พระอาทิ ตย์โผล่ อ อก


มาแล้ว ครั้นกระทบลงบนพื้นหิมะจึงแอบเกิดแสงแสบตา

เย่ห มิ ง เป่ ยลดหมวกลง เขามองเพี ย งพื้ น ถนน ในที่ สุ ด เขาก็


มาถึงมณฑล เวลาประมาณเก้าโมงเช้า เขาเดินทางมาถึงสถานี
ขนส่ งของมณฑล เขามองหาที่เก็บจักรยานชัว่ คราว หลังจาก
ล็อกรถเรี ยบร้อยแล้ว จึงเข้าไปที่ห้องนัง่ รอรถโดยสารเพื่อทา
ร่ างกายให้อบอุ่น
ตอนที่ 77 เย่ หมิงเป่ ยและโจวหมิน่ (2)

ในห้องนัง่ รอรถโดยสารมีคนไม่มากเท่าไรนัก ช่ วงนี้ ไม่มีใคร


ออกไปไหนนอกจากมีเรื่ องจาเป็ นจริ ง ๆ

เย่หมิงเป่ ยได้ยนิ จากพนักงานคนหนึ่ งว่า รถที่มาจากในเมืองที่


ใกล้ที่สุดอยู่ห่างไปประมาณครึ่ งชัว่ โมง เขามองออกไปนอก
หน้าต่ างอย่างคาดหวัง ซึ่ งตรงกับประตู ใหญ่ ที่รถเข้ามาจอด
พอดี

หลังจากผ่านไปครึ่ งชัว่ โมง รถก็เข้ามาจอดที่สถานี เย่หมิงเป่ ย


รี บวิ่งออกไปยืนมองอยู่หน้าประตู มี คนลงมาไม่ มาก แต่ น่า
เสี ยดายที่ไม่มีโจวหมิ่น

เขาไม่ได้ผิดหวัง คิดว่าตอนเที่ยงยังมีอีกรอบ เขาเติมพลังให้


ตัวเองอีกครั้ง
แต่รถที่มาจอดในตอนเที่ยงก็ไม่มีโจวหมิ่นอีกตามเคย เย่หมิงเป่ ย
ไม่มีกะจิตกะใจรับประทานแป้ งจี่ไข่ที่อยู่ในกระเป๋ าแล้ว เขาขอ
แค่น้ าร้อนมาดื่ม อาศัยความร้อนรอรถช่วงบ่ายอย่างใจจดใจจ่อ

ในขณะนั้น เองโจวหมิ่ น ที่ อ ยู่ ส ถานี ข นส่ ง ในเมื อ งก็เ ร่ ง รี บ


เช่นกัน หิมะตกหนักมาก รถไฟก็มาสาย เมื่อไปถึงสถานีขนส่ ง
รถทั้งสองรอบในช่วงเช้าได้ออกไปแล้ว จึงทาได้เพียงแค่นงั่ รถ
รอบบ่าย หล่อนบอกเย่หมิงเป่ ยเสี ยดิบดีวา่ จะถึงตอนเช้า เย่หมิง
เป่ ยไม่เห็นหล่อนในรถทั้งสองรอบ เขาเองก็คงรอจนร้อนรน
แล้วกระมัง?

ไม่มีโทรศัพท์นี่มนั ช่างลาบากเสี ยจริ ง!

โจวหมิ่นผูเ้ คยชิ นกับการใช้โทรศัพท์ในการติดต่อสื่ อสารทุก


เมื่อเกิดความเป็ นกังวลอย่างยิง่
ตอนบ่ า ยโจวหมิ่ น ได้นั่ง รถเที่ ย วแรก ขณะที่ ร ถเคลื่ อ นตัว
ออกไป หล่อนก็มองไปยังทิวทัศน์นอกหน้าต่าง ทั้งรู ้สึกแปลก
และคุน้ เคย

ในปี นั้น หล่ อ นก็ม องทิ ว ทัศน์ น อกหน้า ต่ า งแบบนี้ ตอนนั้น


สภาพอากาศแบบเดี ยวกัน หล่อนนั่งรถจากมณฑลเข้า มาใน
เมือง เพื่อไปเข้าเรี ยนที่มหาวิทยาลัย จากนั้นก็ไม่ได้กลับมาอีก
จนกระทัง่ วินาทีสุดท้ายของชีวติ

ความทรงจาต่ าง ๆ ในชาติ ที่แล้วจนปั จจุ บนั ผุดขึ้ นมาในหัว


ซับซ้อนจนอธิบายออกมาไม่ได้วา่ รู ้สึกอย่างไร

แต่หล่อนรู ้วา่ ตนคิดถึงเขาเข้าแล้ว

คิดถึงเย่หมิงเป่ ยผูช้ ายหยาบกระด้างที่อยูใ่ นชนบทคนนี้ คิดถึง


มาก ๆ คิดถึงเป็ นพิเศษเลย!
อีกนิ ดเดี ยวก็จะได้เจอเขาแล้ว ได้เจอผูช้ ายทึ่มทื่อซื่ อบื่อที่รอ
หล่อนทั้งชีวติ !

ครั้นถึงเวลาบ่ายสองโมง รถได้ขบั เข้ามาในมณฑล โจวหมิ่ น


ลุกขึ้นยืนอย่างห้ามไม่อยู่ และค่อย ๆ เดินไปที่ดา้ นหน้าประตูรถ

พนักงานขายตัว๋ เห็นแล้ว จึงแจ้งเตือนหล่อนว่ายังต้องใช้เวลา


อีกสักพักกว่าจะถึงสถานี ให้หล่อนนัง่ ให้เรี ยบร้อย ระวังจะล้ม
หน้าคะมา

ในที่สุดรถก็มาถึ งสถานี ครั้นเห็นเย่หมิ งเป่ ยที่ วิ่งออกมาจาก


ห้องนัง่ รอรถโดยสาร ร่ างกายของหล่อนก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว
ด้วยความตื่นเต้น

เมื่อรถจอด ประตูรถก็ถูกเปิ ดออก โจวหมิ่นคือคนแรกที่ลงมา


จากรถ หล่อนยืนข้างรถมองดูสามีจอมทึ่มของตน น้ าตาไม่รัก
ดีพลันไหลออกมา หล่อนตะโกนด้วยเสี ยงขึ้นจมูก “หมิงเป่ ย”
เย่หมิ งเป่ ยยืนอยู่ตรงนั้นมองมาที่ หล่อนอยู่อย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่
เป็ นคนที่เขารอคอยมานาน เขาอยากจะเดินเข้าไปหาเหลือเกิน
แต่กลัวว่าจะเป็ นตัวเองที่เพ้อฝัน

กลัว ว่า เรื่ อ งทั้ง หมดนี้ เป็ นความฝั น ของเขา หล่ อ นไปเรี ย น
มหาวิทยาลัยแล้ว ไปเรี ยนและไม่กลับมาแล้ว

เขากลัวว่าจะทาลายความฝันนี้ดว้ ยตัวของเขาเอง ทาให้ตวั เอง


ต้องออกมาจากความฝันและกลับสู่ ความเป็นจริ งที่แสนเหน็บ
หนาว

“หมิงเป่ ย!” โจวหมิ่นกลับควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไป หล่อน


ทิ้ ง กระเป๋ าเดิ น ทางวิ่ง สาวเท้า เข้า มาสองสามก้า ว สวมกอด
เย่หมิงเป่ ยทันที น้ าตาของหล่อนไหลพรั่งพรู ออกมา

โชคดี โชคดีที่หล่อนกลับมาในชาติน้ ี ชาติที่แล้วเขารอหล่อน


นานเท่าไรกัน?
ชาติที่แล้วหล่อนได้ยนิ เรื่ องที่รุ่นหลานของตระกูลเย่กล่าวไว้ว่า
สิ่ งที่ลุงสามของพวกเขาชอบทามากที่สุดคือการไปสถานี

ประโยคเรี ยบ ๆ กลับกระแทกร่ างหล่อนราวกับค้อนหนัก ๆ


ท าให้ ห ล่ อ นปวดใจถึ ง ขี ด สุ ด ชาติ ที่ แ ล้ว เขารอหล่ อ นได้
อย่างไรกัน?

การรอคอยครั้งแล้วครั้งเล่านามาซึ่ งความผิดหวังซ้ าแล้วซ้ าเล่า


เขายังคงรอคอยผูห้ ญิงเนรคุณที่ไม่มีวนั กลับมาคนนี้ตลอดไป

ทาไมเขาถึงโง่ขนาดนี้นะ!

“ตาทึ่ ม คุ ณ มัน โง่ เ ง่ า !” โจวหมิ่ น ก่ น ด่ า ด้ว ยน้ า เสี ย งอู ้อ้ ี เคล้า
น้ าตา หล่อนไม่เคยเจอคนโง่อย่างเขาขนาดนี้ มาก่อนเลย ทั้ง
โง่เง่า ดื้อรั้น!

เย่หมิงเป่ ยรู ้สึกถึงคนที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา เขายิม้ และกอด


หล่อนไว้แน่น ๆ “หมินหมิ่น คุณกลับมาแล้ว ดีจริ ง ๆ”
หลังจากที่ส่งหล่อนไปเรี ยนมหาวิทยาลัย เขาก็เอาแต่บอกกับ
คนในครอบครัวว่าหล่อนจะกลับมา จะต้องกลับมาแน่นอน

แต่อนั ที่จริ งแล้วเขาก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าเขากาลังหลอกตัวเอง แต่


เขากลับ คิ ด ไม่ ถึ ง เลยว่ า หล่ อ นจะกลับ มาแล้ว หล่ อ นกลับ
มาแล้วจริ ง ๆ

หล่อนไม่ได้ทิง้ เขา หล่อนไม่ได้ทิง้ เขาไว้เพียงลาพัง

ทั้งสองกลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากห่ างเหินไปนาน ย่อมเกิด


ความอบอุ่นเป็นอย่างมาก ดึงดูดให้คนที่อยู่รอบ ๆ จานวนไม่
น้อยหันมอง มีบางคนบอกว่าขัดต่อประเพณี และศีลธรรม อยู่
ข้างนอกแต่กลับมาโอบกอดร้องห่ มร้องไห้เหมือนกับอะไรก็
ไม่รู ้ หากเป็ นเมื่ อหลายปี ก่อน ถือเป็ นความผิ ด เป็ น
อาชญากรรมได้เลย
เพียงไม่นานทั้งคู่กจ็ ดั การกับอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ ว โจวหมิ่น
ไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองอย่างไร หล่อนจับมือของเย่หมิงเป่ ย
ไว้ ไม่อยากปล่อยมือแม้เพียงครู่ หนึ่ง

เย่หมิงเป่ ยก็ไม่ยอมปล่อยมือของหล่อนเช่ นกัน เขาเดินมาหิ้ ว


กระเป๋ าของหล่ อนด้วยรอยยิ้ม ทั้งสองจับมื อกันเดิ นออกไป
ท่ามกลางการชี้มือชี้ไม้ของคนอื่น

“หมินหมิ่ น คุ ณไม่ได้ รับความเป็ นธรรมใช่ ไหม? ที่


มหาวิทยาลัยมีคนรังแกคุณใช่หรื อเปล่า?” เมื่อพาหล่อนไปยัง
ร้านอาหารของรัฐเพื่อรับประทานอาหาร เย่หมิงเป่ ยจึงเอ่ยถาม
ด้วยความเป็ นห่ วง เมื่อครู่ เขาเห็นท่าทางน้อยใจของภรรยา เขา
จึงรู ้สึกไม่สบายใจ

“ไม่มีใครรังแกฉันหรอกค่ะ ใครจะมารังแกฉันได้? ฉันก็แค่…


คุ ณ มั น โง่ ถ้ า ฉั น ไม่ ก ลั บ มา คุ ณ ก็ ไ ม่ คิ ด จะไปหาฉั น ที่
มหาวิทยาลัยสิ นะ?” โจวหมิ่นเองก็จดั การกับอารมณ์ไ ว้แล้ว
หล่อนจ้องมองเขาพลางกล่าว

“ผมกลัวว่าจะทาให้คุณอับอายน่ะ” ทาไมเย่หมิงเป่ ยจะไม่อยาก


ไปหาหล่อน? เขาอยากไปหาใจจะขาด แต่เขาเป็ นคนบ้านนอก
จึ ง กลัว ว่ า คนที่ ม หาวิ ท ยาลัย จะรู ้ ว่ า หล่ อ นที่ เ ป็ นนัก ศึ ก ษา
แต่งงานกับเขาที่เป็ นคนบ้านนอกแล้วจะถูกเพื่อนนักศึกษาดู
ถูก

“ไร้สาระ เพื่อนร่ วมห้องในหอพักของฉันทุกคนรู ้ว่าสามีของ


ฉันอยู่ชนบท สามีของเพื่อนร่ วมห้องคนหนึ่ งก็ยงั พาลูกมาหา
หล่อนเลย หล่อนมีความสุ ขมาก ฉันเองก็คาดหวัง แต่กไ็ ม่เห็น
คุณ ทาไมคุณถึงได้ใจร้ายขนาดนั้น?” โจวหมิ่นพลิกจากผูถ้ ูก
ถามเป็ นผูถ้ าม หล่อนกล่าวตาหนิทนั ที
แม้ว่าเย่หมิงเป่ ยจะถูกตาหนิ แต่ในใจของเขากลับมีความสุ ข
เขาส่ งสายตาหยัง่ เชิ งมองภรรยาของตัว เอง “หมิ นหมิ่ น งั้น
หลังจากนี้ผมจะนัง่ รถไปหานะ?”

“จะถามฉันทาไมคะ ฉันหยุดขาคุณไม่ได้สักหน่อย ฉันแค่บอก


คุณ ตัวเองดูแลภรรยาได้ไม่ดี ไม่ไปแสดงความเป็ นเจ้าของ งั้น
ก็อย่ามาโทษฉันก็แล้วกันถ้าทนการตามจีบของคนอื่นไม่ไหว”
โจวหมิ่นแค่นเสี ยง

แม้ว่าหล่อนจะมีอายุมากแล้ว แต่เมื่อกลับมาอยู่ในช่ วงวัยรุ่ น


การเผชิญหน้ากับผูช้ ายคนนี้ ก็ทาให้หล่อนรู ้สึกว่าตัวเองยังเป็ น
สาวน้อย จึงอยากทาตัวเอาแต่ใจบ้าง!

“ปี หน้าผมจะไปหาแน่นอน!” เย่หมิงเป่ ยรี บตอบ

โจวหมิ่นจึงกล่าวว่า “ตอนนี้ยงั เช้าอยู่ รี บกินเร็วเข้า กินเสร็จไป


อาบน้ าที่โรงอาบน้ ากันค่ะ!”
“ผมไม่ได้เอาเสื้ อผ้ามา” เย่หมิงเป่ ยชะงักไปครู่ หนึ่ง

“ตอนอยูม่ หาวิทยาลัยฉันหาเวลาว่างทาเสื้ อให้คุณหนึ่ งตัวแล้ว


อีกครู่ หนึ่งก็เปลี่ยนได้แล้วล่ะ” โจวหมิ่นกล่าว

แม้แต่เกี๊ยวเย่หมิงเป่ ยก็ไม่อยากรับประทานแล้ว เขามองภรรยา


ของตัวเอง ดวงตาดาขลับเป็นมันเงาคู่น้ นั ทาเอาโจวหมิ่นที่ถูก
มองหัวใจเต้นระรัว ร่ างกายเริ่ มชาไปทั้งตัว หล่อนกล่าวเสี ยง
แหว “มองอะไร รี บกินสิ !”

เย่หมิงเป่ ยจึงรับประทาน เพียงไม่นานเขาก็รับประทานเกี๊ยว


กับภรรยาจนหมด ร่ างกายก็รู้สึกสบายตัว

พวกเขาไม่สนใจว่าอาบน้ าหลังจากเพิ่งกินอิ่มไม่ดีต่อร่ างกาย


ทั้งสองเดินทางมายังโรงอาบน้ าและอาบน้ าอย่างมีความสุ ข

ทั้งสองมาเจอกันอีกครั้งที่หน้าทางเข้าโรงอาบน้ า
โจวหมิ่นโอบรอบคอเขาพลางกล่าวว่า “หมิงเป่ ย พาฉันกลับ
บ้าน!”

ตั้งแต่วนั ที่หล่อนกลับมาอีกครั้ง หล่อนก็คิดถึงแต่เย่หมิงเป่ ยต


ลอดเวลา คิดถึงช่ วงเวลาที่อาศัยอยู่ในบ้านพักคนชราในชาติ
ก่อน ช่วงเวลาที่ท้ งั สองใช้ร่วมกัน นอกจากความสานึกผิดแล้ว
ที่มากกว่านั้นคือความตื่นเต้นที่ได้คนรักที่หายไปกลับคืนมา

การกลับชาติ มาเกิดในครั้งนี้ ไม่มีอะไรสาคัญสาหรับหล่ อน


มากไปกว่าเย่หมิงเป่ ยอีกแล้ว
ตอนที่ 78 เย่ หมิงเป่ ยและโจวหมิน่ (3)

เย่ห มิ ง เป่ ยได้ยิน โจวหมิ่ น กล่ า วแบบนี้ จิ ต ใจของเขาก็รู้ สึ ก


อบอุ่น เขาอยากเหยียบกงล้ออัคคีกลับบ้านแทบแย่แล้ว กล่าว
ว่า “ภรรยา ขึ้นรถเถอะ ผมจะพาคุณกลับบ้าน!”

ทั้งสองยังอยูบ่ นถนนใหญ่ มีพี่สาวคนหนึ่งเห็น จึงกล่าวหยอก


ล้อเคล้ารอยยิ้มว่า “ฉันบอกอะไรให้นะเด็ก ๆ ถ้าพวกเธอทั้ง
สองคนจะจูบกันก็ไปจู บกันในบ้าน ด้านนอกโรงอาบน้ าไม่
ต้องพูดถึงหรอกว่าหนาวขนาดไหน แต่ยงั ส่ งผลกระทบไม่ดี
ด้วยนะ”

เย่หมิงเป่ ยแก้มแดงระเรื่ อ

ตอนนี้ ไม่ได้ถูกจากัดแบบคนรุ่ นก่อนหน้านี้ แล้ว โจวหมิ่นได้


ยินกลับนิ่ งสงบมาก แต่ก็รู้ดีว่านี่ ไม่ใช่ สถานที่ที่ดีในการหวน
ราลึกถึงความหลัง หล่อนกล่าวด้วยรอยยิม้ ว่า “ขอโทษนะคะ
พี่สาว พวกเราจะไปแล้วน่ะค่ะ”

พี่สาวกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ดีก็เป็ น
เรื่ องดีนะ ช่วงนี้อากาศหนาว ฉันเห็นเธอสวมเสื้ อผ้าบาง ๆ รี บ
กลับไปเถอะ เดี๋ยวจะเป็ นหวัด”

“ขอบคุณค่ะพี่สาว” โจวหมิ่นกล่าวด้วยรอยยิม้ จึงหันมองคน


โง่เง่าของตัวเอง กล่าวว่า “พวกเรากลับกันเถอะ”

เย่ห มิ ง เป่ ยลากกระเป๋ าเดิ น ทาง จู ง มื อ โจวหมิ่ น ไปยัง ที่ จ อด


รถจักรยานเพื่อนาจักรยานออกมา

กระเป๋ าเดินทางของโจวหมิ่นค่อนข้างใหญ่ ถ้าจะนัง่ เบาะหลังก็


ต้องหิ้ วกระเป๋ าเดิ นทางไว้ เย่หมิงเป่ ยไม่ทาแบบนั้น กระเป๋ า
เดินทางใบนี้ หนักขนาดไหนกัน จะให้ใช้มือถือไว้ได้อย่างไร
เขามัดกระเป๋ าไว้ที่เบาะนัง่ และเรี ยกโจวหมิ่นให้มานัง่ ตรงท่อ
บนด้านหน้าของจักรยาน
“ฉั น นั่ง ด้า นหน้า คุ ณ จะขี่ ไ ด้เ หรอ?” โจวหมิ่ น ดวงตาเป็ น
ประกายแวววาว มองตรงมาที่เขา

เย่หมิงเป่ ยมองดวงตาคู่น้ ี ไม่ตอ้ งพูดถึงว่าขี่จกั รยานได้ไหม ต่อ


ให้ข้ ึนสวรรค์กท็ าได้

“คุณไม่ลองแล้วจะรู ้เหรอ ไม่ตอ้ งห่ วง ผมไม่ทาคุณล้มหรอก


มา สวมเสื้ อหนังแกะตัวนี้ ดว้ ย” เย่หมิงเป่ ยหยิบเสื้ อหนังแกะ
ออกมาให้หล่อนสวม

“ถ้าคุณขี่ไม่ไหวก็บอกนะคะ” โจวหมิ่นขึ้นไปนัง่ ตะแคงข้าง

โจวหมิ่นเป็นคนภาคใต้ หล่อนสู ง 160 กว่าเซนติเมตร รู ปร่ าง


ผอมเพรี ยว ส่ วนเย่หมิงเป่ ยสู ง 180 กว่าเซนติเมตร แถมอาหาร
ที่บา้ นก็ไม่เลว จึงทาให้ดูไม่อว้ น ซึ่ งความจริ งแล้วเขาแข็งแรง
มาก ไม่ตอ้ งพูดถึงเรื่ องที่ขี่จกั รยานให้ภรรยานัง่ เขายังปั่ นได้
อย่างมัน่ คงและรวดเร็ว
โจวหมิ่นเอนตัวพิงหน้าอกของเย่หมิงเป่ ย สัมผัสได้ถึงหัวใจที่
แข็งแรงของเขา ความสุ ขและความพึงพอใจเช่นนี้ทาให้หล่อน
เพลิดเพลินเกินเทียบเทียม

“หมินหมิ่นคุณหนาวไหม?” เย่หมิงเป่ ยกล่าว

“คุณอย่าไปฟั งคาพูดของพี่สาวคนนั้นเลยค่ะ ฉันใส่ กางเกงผ้า


ฝ้ายกับเสื้ อผ้าฝ้าย เพียงแต่ภายนอกฉันสวมเสื้ อคลุมขนสัตว์ก็
เท่านั้นแหละ ตอนนี้สวมเสื้ อหนังแกะเพิ่มเข้ามา แถมคุณยังบัง
ลมด้านหลังให้ฉนั อีก ไม่หนาวเลยสักนิด” โจวหมิ่นกล่าว

“คุณเองก็นงั่ อยูด่ า้ นหน้าบังลมให้ผมเหมือนกันนะ” เย่หมิงเป่ ย


นัง่ หลังโจวหมิ่น ภายในใจถึงกับพูดไม่ออกว่าดีงามขนาดไหน

“งั้นคุ ณชอบให้ฉันบังลมให้คุณหรื อเปล่ าล่ ะคะ?” โจวหมิ่ น


กล่าวจบก็หนั ไปลูบไล้ใบหน้าของเย่หมิงเป่ ย
สิ่ งนี้ เกิดขึ้นโดยไม่ทนั ตั้งตัว ทาเอาเย่หมิงเป่ ยเสี ยการควบคุ ม
ในการปั่ นจักรยาน รถไถลออกนอกเลน ทั้งสองคนจึงล้มลง
บนกองหิมะ

“หมิ น หมิ่ น !” เย่ ห มิ ง เป่ ยตกใจ เขารีบดึ ง โจวหมิ่ น ขึ้ นมา


“หมินหมิ่น คุณไม่เป็ นอะไรใช่ไหม!”

โจวหมิ่นนอนนิ่งไม่ไหวติงอยูต่ รงนั้น

“หมินหมิ่น!” เย่หมิงเป่ ยตกใจมาก รี บก้มตัวเพื่อตรวจอาการ


ของหล่อน

โจวหมิ่นดึงเขา ทาให้เย่หมิงเป่ ยล้มทับลงบนตัวหล่อน โจวหมิ่น


จูบเขาหนึ่งครั้ง จากนั้นก็มองเขาด้วยรอยยิม้

เย่หมิงเป่ ยถึงกับผงะ ดวงตาของเขาเป็นประกาย ใบหน้าแดง


ก่าขณะกวาดตามองรอบ ๆ ไม่มีใคร เขากล้าแค่สัมผัสใบหน้า
ของหล่อนเท่านั้น จากนั้นก็กอดหล่อนให้ลุกขึ้นพลางกล่าวว่า
“หมินหมิ่น คุณอย่าก่อเรื่ องสิ คุณไม่ได้กระแทกโดนอะไรใช่
ไหม?”

“หิ มะตกหนักขนาดนี้ สวมเสื้ อผ้าหนาแบบนี้ อีก แถมยังเป็ น


จักรยานอีก จะกระแทกโดนได้ไงคะ” โจวหมิ่นยิม้ ร่ า

“งั้นก็ดี” เย่หมิงเป่ ยจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก

โจวหมิ่นมองไปที่ดา้ นข้าง มันคือป่ าสน หิ มะสี ขาวโพลนและ


ต้นสนสี เขียว ราวกับภาพวาดด้วยน้ าหมึก

“หมิ งเป่ ย คุ ณดู สิ สวยงามขนาดนั้น พวกเราไปที่ นั่นกัน สั ก


แป๊ บเถอะ” โจวหมิ่นยิม้ เบา ๆ จากนั้นจึงจูงมือของเขาเข้าไป
ในป่ าสน

เย่หมิงเป่ ยย่อมฟั งคาของโจวหมิ่นอยู่แล้ว เขาปฏิบตั ิตามอย่าง


เชื่อฟัง
หิ มะหนากว่าหนึ่งฟุต ยุบตัวลงหนึ่งครั้งทุก ๆ ย่างก้าว การเดิน
ใช้ก าลัง มาก เดิ น ไปสั ก พัก โจวหมิ่ น ก็ เ ดิ น ต่ อ ไม่ ไ หวแล้ว
หล่อนพิงเข้ากับต้นสนต้นหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้ามองเย่หมิงเป่ ย
อย่างลึกซึ้ง

“หมินหมิ่น เกิดอะไรขึ้น?” เย่หมิงเป่ ยไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร


แต่หวั ใจของเขากลับเต้นรัวเร็ว

“หมิงเป่ ย พวกเราไม่ได้เจอกันมานาน คุ ณไม่คิดถึงฉันที่เป็น


ภรรยาเลยเหรอคะ ที่นี่ไม่มีคนนะ” โจวหมิ่นกระซิบ

ถ้าเย่หมิงเป่ ยยังไม่เข้าใจความหมายนี้ อีก เช่ นนั้นเขาก็ไม่ ใช่


ผูช้ ายแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาเป็ นผูช้ าย แถมยังเป็ นผูช้ ายในหมู่
ผูช้ ายด้วย

ดังนั้นเย่หมิงเป่ ยจึงไม่ลงั เลอีกต่อไป เขากอดภรรยาไว้ในอ้อม


แขน จากนั้นก้มหน้าจูบลงบนริ มฝี ปากที่ทาให้เขาปรารถนาคู่
นั้น
เมื่อพวกเขาออกมาจากป่ า เวลาก็ได้ล่วงเลยไปสี่ สิบนาทีแล้ว

แน่ น อนว่ า ในวัน ที่ หิ ม ะตกหนัก แบบนี้ ทั้ง คู่ ไ ม่ ไ ด้ท าอะไร
เพียงแต่จูบกันก็เท่านั้น

ไม่เพียงแต่เย่หมิงเป่ ยที่คิดถึงคะนึงหาภรรยาของเขา หลังจากที่


หล่อนย้อนอดีตกลับมาได้อีกครั้ง โจวหมิ่นเองก็รู้สึกคิดถึงเขา
เช่นเดียวกัน

การบรรเลงจู บนี้ แน่ นอนว่าถึ งขั้นฟ้ าหม่ นแผ่นดิ นมืดกันเลย


ทีเดียว

โชคดีที่เย่หมิงเป่ ยยังคงจาได้ว่าต้องกลับบ้านถึงจะทาอะไรต่อ
อย่างเป็ นจริ งเป็ นจังได้

“หมินหมิ่น พวกเรากลับบ้านกันก่อนเถอะ” เย่หมิงเป่ ยหอบ


หายใจ ส่ วนล่างของเขาแข็งขึงราวกับท่อนเหล็ก แต่จะมาทา
อะไรด้านนอกไม่ได้ ไม่เช่ นนั้นถ้ามันถูกแช่ แข็งขึ้นมาจะทา
อย่างไร?

“อืม” โจวหมิ่นกล่าวเสี ยงอ่อนนุ่มดุจน้ า

ขึ้นรถครั้งนี้ หล่อนไม่ได้รบกวนเขาอีกแล้ว หล่อนเอนตัวพิง


อ้อมแขนของเขา รับฟั งการเต้นของหัวใจที่มีพลังของเขาผ่าน
เสื้ อผ้า

เมื่อทั้งสองกลับถึงบ้านก็ดึกมากแล้ว ถ้าไม่ใช่ เพราะตระกูลเย่


แตกต่างจากตระกูลอื่น ๆ ในเรื่ องต้องให้อาหารหมู ทาความ
สะอาดเล้าไก่ ทานู่นทานี่ ป่ านนี้กค็ งจะหลับไปแล้ว

เพราะก่อนฤดูหนาวในปี นี้คุณแม่เย่เมินการคัดค้านของคุณพ่อ
เย่ นางนาหมูสองตัวกลับมาเลี้ยง ที่บา้ นจึงมีสิ่งมีชีวิตจานวน
ไม่นอ้ ย
แต่ดึกขนาดนี้ แล้วพวกเขาทั้งสองคนยังไม่ กลับมา คุ ณพ่อเย่
และคุณแม่เย่ยอ่ มคิดว่าพวกเขาคงพักที่มณฑลไปแล้ว

“แม่ พ่ อ พวกเรากลับ มาแล้ว !” เย่ห มิ ง เป่ ยอยู่ ที่ ป ระตู ล าน


ตะโกนเสี ยงดัง จากนั้นกล่าวกับโจวหมิ่นที่ลงจากรถว่า “คุณดู
สิ บ้านของพวกเราเปิ ดไฟอยูล่ ่ะ”

แค่โจวหมิ่นมองก็พบแล้วว่าเป็ นเช่นนั้นจริ ง ๆ บ้านของคนอื่น


มืดหมดแล้ว หล่อนจึงแอบรู ้สึกเขินอาย “คุณพ่อคุณแม่รอพวก
เราอยูส่ ิ นะ ไม่ง้ นั คงกลับมาให้เร็วกว่านี้”

เย่หมิงเป่ ยคิดถึงเรื่ องจูบจนฟ้าหม่นแผ่นดินมืดภายในป่ าเล็ก ๆ


ทว่าภายในใจของเขากลับไม่ได้รู้สึกเสี ยใจที่กลับสายแม้แต่นิด
เดียว กล่าวว่า “ครอบครัวของเรานอนดึกมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”

“เจ้า สามเหรอ ทาไมลู ก ถึ ง เพิ่ ง กลับมา?” คุ ณ แม่ เ ย่วิ่ง มาจาก


ด้านหลังบ้าน “หมินหมิ่นล่ะ กลับมาแล้วเหรอ?”
“คุณแม่คะ!” โจวหมิ่นส่ งเสี ยงเรี ยกผ่านประตู

หัวใจของคุ ณแม่เย่ที่ยืนอยู่ดา้ นหลังประตูได้ยินเสี ยงเรี ย กว่า


“คุ ณแม่” พลันเกิดแสงสว่างไสวขึ้นมา พากลับมาบ้านได้ก็ดี
แล้ว

“หมินหมิ่นกลับมาแล้วเหรอ? แม่กบ็ อกหมิงเป่ ยไปแล้ว ถ้าดึก


ก็ให้พกั ที่มณฑล หิ มะตกหนัก เดินทางไม่สะดวก เจ้าเด็กนี่ ก็
ไม่ ฟัง ระหว่างทางกลับมาคงหนาวแย่เลยสิ เนี่ ย? ” คุ ณแม่ เย่
กล่าวขณะเปิ ดประตู

“คุณแม่คะ พอดีรถไฟมาช้าน่ะค่ะ ไม่ง้ นั ก็คงกลับมาเร็ วกว่านี้”


โจวหมิ่นลากกระเป๋ าไปพลางก็เดินพูดไปพลาง

เย่หมิงเป่ ยกล่าว “ตอนกลับมาจากมณฑลฟ้ ายังสว่างอยูเ่ ลย ผม


เองก็ไม่อยากรบกวนคนอื่นด้วย ก็เลยกลับมา”
“ช่วงเช้าในฤดูหนาวสั้น ถึงจะเห็นว่าท้องฟ้ ายังสว่างอยู่กเ็ ถอะ
แต่แค่พริ บตาเดียวก็มืดแล้ว รี บเข้าไปในห้องทาตัวให้อุ่น ๆ ยัง
ไม่ได้กินอะไรกันมาสิ นะ แม่จะไปทาอาหารให้พวกเธอกิน”
คุณแม่เย่ปิดประตู กล่าวกับพวกเขาด้วยรอยยิม้

“คุณแม่คะ มีกบั ข้าวเหลือไหมคะ พวกเรากินกับข้าวที่เหลืออยู่


ก็ได้ค่ะ ไม่ ตอ้ งไปทาใหม่ หรอก ลาบากคุ ณแม่ เกิ นไปแล้ว ”
โจวหมิ่นเห็นว่าแม่สามีไม่ได้ตาหนิ หล่อนที่จากไปโดยไม่ส่ง
ข่าวคราวกลับมาอีก ภายในใจจึงรู ้สึกผิดและรี บกล่าวออกไป

“ลาบากอะไรกัน มีอาหารที่ทาเสร็จแล้วอยู่ แม่เตรี ยมของไว้ต้ งั


นานแล้ว” คุณแม่เย่บอกให้เย่หมิงเป่ ยไปจุดเตา ส่ วนนางก็เดิน
ไปแบกฟื น

โจวหมิ่ น ยัง ต้อ งพู ด อะไรอี ก หล่ อ นบอกให้เ ย่ห มิ ง เป่ ยลาก
กระเป๋ าเข้าห้อง ส่ วนหล่อนก็เดินหัวเราะคิกคักตามไป
ตอนที่ 79 อยากมีลูก

พี่ใหญ่เย่และพี่รองเย่อาศัยอยู่ที่ห้องทางปี กตะวันออกและปี ก
ตะวันตก

เย่ ห มิ ง เป่ ยที่ เ ป็ นลู ก ชายคนสุ ด ท้อ งนอนอยู่ ที่ ห้ อ งทางฝั่ ง


ตะวันตกตรงข้ามห้องพ่อแม่ เตียงเตาถูกเผาให้ร้อนอยู่ตลอด
ทาให้ห้องที่เย่หมิงเป่ ยอาศัยอยู่เป็นที่แวะเวียนเข้าออกไม่ขาด
สาย ภายในห้องจึงไม่เงียบเหงาแม้แต่นอ้ ย

เย่ห มิ ง เป่ ยไปหยิบ ไม้แ ล้ว โจวหมิ่ น อาศัย แสงไฟสลัว จาก


ตะเกียงกวาดมองไปรอบ ๆ ห้อง

มีโต๊ะอยูข่ า้ งกาแพงทางทิศตะวันตกของเตียงนอน ด้านบนมีที่


ใส่ ปากกาของหล่อน มีดินสอและปากกาเสี ยบอยู่ ด้านข้างยังมี
ปากกาหมึกซึม ข้างโต๊ะเป็ นห้องครัว แม้วา่ จะเก่า แต่กถ็ ูกเช็ดถู
จนสะอาดสะอ้าน ข้างในมีหนังสื อและเอกสารเตรี ยมตัวสอบ
เข้ามหาวิทยาลัยของหล่อนวางอยู่ ทั้งหมดล้วนถูกจัดวางอย่าง
เป็ นระเบียบ

ผนังด้านทิศตะวันตกมีกล่องสี แดงคู่หนึ่ งที่พวกเขาขอให้ช่าง


ไม้ทาให้ตอนแต่งงาน ด้านบนเป็นกระจกโต๊ะเครื่ องแป้ งของ
หล่อน ด้านข้างมีครี มโหยวอี้หนึ่งกระปุก

ทุ กอย่างเหมื อนกับตอนที่ หล่ อนอยู่ทุกประการ ขอบตาของ


โจวหมิ่นจึงแดงก่าอีกครั้ง

เย่ห มิ ง เป่ ยเข้า มาเห็ น หล่ อ นยัง คงยืน อยู่ที่ เ ดิ ม จึ ง กล่ า วด้ว ย
รอยยิม้ “ทาไมถึงยังยืนอยูล่ ่ะ รี บขึ้นเตียงสิ เตียงร้อนแล้ว ตอน
ค่าแม่เผาฟื นไปไม่นอ้ ยเลยนะ”

หล่อนมองดูตาทึ่มคนนี้ โชคดีที่สวรรค์มีตา ชาติน้ ีและทั้งหมด


นี้หล่อนยังมีเวลา!

โจวหมิ่นขจัดอารมณ์เศร้าหมองออกไป
“ห้อ งอุ่ น ขึ้ น มากแล้ว ฉัน ไม่ ห นาวสั ก นิ ด เลยค่ ะ ” โจวหมิ่ น
กล่าวขณะถอดเสื้ อคลุมขนสัตว์สีแดงเข้มออก จากนั้นนาไป
แขวนไว้ที่ตะปูตรงผนังห้อง

เย่หมิงเป่ ยก่อกองไฟอย่างรวดเร็ ว เขาเติมฟื นเข้าไป เพียงไม่


นานเตาอุ่นเตียงก็กระจายความร้อนออกมา

“มาผิงไฟกันเถอะครับ” เย่หมิงเป่ ยเรี ยกภรรยาของเขา

โจวหมิ่ นเดิ นมานั่งตรงขอบเตี ยง เตาและเตี ยงรวมเข้าด้ว ยกัน


ปล่องควันและเตียงก็ไปทางเดียวกัน ขอบเตียงอุ่นมาก เย่หมิงเป่ ย
นั่งตรงเตาทางด้า นนั้น และมองมายังภรรยาที่ ส วยงามราวกับ
นางฟ้าของตัวเอง

“ดูท่าทางซื่อบื่อนั้นของคุณสิ มองอะไรนักหนา มีอะไรน่ามอง


กันคะ” โจวหมิ่นถูกสายตาคู่น้ นั มองจนร่ างกายอ่อนระทวย จึง
กล่าวอย่างแง่งอน
เย่หมิงเป่ ยมองดวงตาสุ กสกาวที่กาลังเขินอายเจือโกรธเคืองคู่
นั้นของภรรยา ไม่ตอ้ งพูดถึงความรู ้สึกในใจเลย

คุณแม่เย่เข้ามาในห้องพร้อมกับบะหมี่ นางรู ้สึกสงสัยเล็กน้อย


สงสัยอะไรน่ะเหรอ?

ก็สงสัยว่ากลิ่นหอมหวานที่ฟุ้งกระจายทัว่ ห้องนี้มาจากไหนน่ะ
สิ !

แต่ นางก็มีประสบการณ์ แล้ว จึ งกล่ าวเสี ยงเรี ย บ “ขึ้ นรถกิ น


เกี๊ยวลงรถกินบะหมี่ รี บมากินเถอะ กินเสร็ จแล้วก็เอาถ้วยไป
วางบนที่วางหม้อ ไม่ตอ้ งล้างนะ”

“ขอบคุณมากนะคะคุณแม่” โจวหมิ่นกล่าวด้วยรอยยิม้

เย่หมิงเป่ ยรับถ้วยบะหมี่สองถ้วยใหญ่มาจากคุณแม่เย่ “แม่ แม่


ไปนอนเถอะ เดี๋ยวพวกเราจัดการเอง”
“ได้ พวกเธอก็รีบ ๆ นอนล่ะ” คุณแม่เย่ก็ไม่อยากอยู่นาน การ
ห่ างกันช่วงสั้นเพื่อมาหวานชื่นกันใหม่ไม่ใช่เรื่ องตลกเลย นาง
ไม่อยากอยูเ่ ป็ นก้างขวางคอแล้ว!

บะหมี่ ส องถ้ว ยใหญ่ โปะหน้ า ด้ว ยไข่ ด าวอี ก สี่ ฟ อง และ


ผักกาดขาวหั่นซอย แค่ได้เห็นก็ทาให้คนเกิดความรู ้สึกอยาก
อาหารแล้ว

“หมินหมิ่น หิวแล้วใช่ไหม รี บกินสิ ” เย่หมิงเป่ ยกล่าว

“กว่ า จะได้กิ น มื้ อ เที่ ย งก็ส ายแล้ว จะไปหิ ว ได้ย งั ไงล่ ะ คะ”
โจวหมิ่นลากเก้าอี้ไม้ที่อยู่ใต้โต๊ะออกมาให้เขา ส่ วนตัวเองนัง่
อยูต่ รงขอบเตียง “คุณหิวแล้วสิ นะ?”

“นิดหน่อย” เย่หมิงเป่ ยกล่าวด้วยรอยยิม้ ขณะมองไปที่หล่อน

“แล้วทาไมไม่รีบกินล่ะคะ ยังจะยิม้ โง่ ๆ เหมือนกับคนซื่ อบื้อ


อยูน่ นั่ แหละ” โจวหมิ่นถูกเขามองจนหน้าแดงระเรื่ อเล็กน้อย
เย่หมิงเป่ ยจึงนัง่ ลง หยิบตะเกียบขึ้นมาและลงมือรับประทาน

หลังจากรับประทานอาหารเสร็ จแล้ว ทั้งสองจึงล้างหน้าแปรง


ฟันแบบง่าย ๆ และขึ้นนอนบนเตียง

“ภรรยา ผมคิดถึงคุ ณนะ” เย่หมิงเป่ ยมองแสงไฟอันสลัวราง


ขณะกล่าวเสี ยงทุม้ ต่า

โจวหมิ่นเองก็มีอารมณ์ร่วมด้วยอย่างมากเช่ นกัน เวลาล่วงเลย


ไปหลายปี หล่อนก็ได้กลับมานอนกับผูช้ ายที่หยาบกระด้างคน
นี้ อีกครั้ ง บนเตี ยงในฤดู หนาวนี้ ไม่ เพียงแต่ เตี ยงที่ ร้อนระอุ
ร่ างกายของหล่อนก็ร้อนผ่าวเช่นกัน

“อือ” โจวหมิ่นตอบรับเบา ๆ เสี ยงนี้แผ่วเบาราวกับน้ า เกรงว่า


แม้แต่คิงคอง(1)ได้ฟังก็ยงั ต้องอ่อนระทวย

ย่อมไม่ตอ้ งกล่าวถึงเย่หมิงเป่ ยที่เป็ นเพียงผูช้ ายธรรมดา


หลังจากหยัง่ เชิงระยะสั้นไปอีกครั้ง ก็พบว่าภรรยาของเขาขยิบ
ตาเบาๆ ไม่ ได้ต่อต้านเขาเลยแม้แต่ น้อย แถมยังตอบรั บเป็ น
อย่างดี เขาจึงกลายเป็ นหมาป่ าแล้ว

ไม่ได้เจอภรรยาของเขามานานขนาดนี้ ถ้าเขายังคงเฉยเมยก็คง
เป็ นหลิ่วเซี่ยฮุ่ย(2)แล้วล่ะ แบบนั้นก็ไม่ใช่ผชู ้ ายสามัญแล้ว!

เห็นได้ชดั ว่าเขาเป็ นผูช้ ายสามัญ และแทบจะเป็ นบ้าอยูแ่ ล้ว!

เพี ย งแต่ ใ นจัง หวะส าคัญ นั้น เอง โจวหมิ่ น ได้อ่ อ นระทวย
กลายเป็นแอ่งน้ าไปแล้ว หล่อนเองก็เตรี ยมพร้อมการมาเยือน
ของเขา ทว่าเขากลับหยุดลง จากนั้นก็วิ่งไปหยิบถุงยางอนามัย
มา

“คุณ คุณทาอะไรน่ะคะ?” โจวหมิ่นชะงักงัน

“ผม…ผมไปโรงพยาบาลมา เพื่อไปเอาอุปกรณ์คุมกาเนิ ดอัน


นี้” เย่หมิงเป่ ยกล่าวด้วยใบหน้าแดงก่า ภรรยาของเขาจะคิดว่า
เขาเป็ นคนไม่ เอาถ่ านหรื อเปล่ านะ คิ ดไม่ ถึงเลยว่าขณะจะมี
อะไรกับหล่อนเขายังคิดไปหยิบสิ่ งนี้มา

“คุณ…ไม่อยากมีลูกเหรอ?” โจวหมิ่นอดไม่ได้ที่จะมองเขา

“จะมีได้ยงั ไง คุณยังต้องไปเรี ยนหนังสื อนะ จะมาท้องตอนนี้


ได้ยงั ไง?” เย่หมิ งเป่ ยกล่ าว ถ้าหล่ อนท้องแล้วชี วิตการเรี ยน
ของหล่อนล่ะ?

โจวหมิ่นขอบตาแดงระเรื่ อ ผูช้ ายคนนี้ ไม่ว่าตอนไหนก็คิดถึง


หล่อนก่อนเสมอ ไม่วา่ เรื่ องอะไรก็จะคิดเพื่อหล่อนเสมอ

“หมิ งเป่ ย ฉันอยากอยู่กบั คุ ณโดยไม่ มี อะไรมาขวางกั้น นะ”


โจวหมิ่นโยนถุงยางทิง้ ขณะกระซิบบอกเขา

เย่หมิงเป่ ยกลืนน้ าลาย กล่าวว่า “หมินหมิ่น ถ้าคุณท้องขึ้นมาจะ


ทายังไง?”
“ถ้ามีกค็ ลอดเขาออกมาสิ คะ ฉันจะหยุดเรี ยนสักสองเดือนเพื่อ
คลอดลูก ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว รอให้ลูกคลอดออกมาค่อย
ส่ งไปที่บา้ นให้แม่ช่วยเลี้ยงให้ก็ได้” โจวหมิ่นกล่าวเสี ยงเบา
“หมิงเป่ ย คุณไม่อยากมีลูกเหรอ พวกเรายังไม่มีลูกเลยนะ ฉัน
อยากมีลูกสักคน คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม”

เย่หมิงเป่ ยทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

คื น นี้ ถู ก ก าหนดไว้แ ล้ว ว่ า คงต้อ งอดตาหลับ ขับ ตานอนสั ก


หน่อย

วันที่หิมะตกอากาศก็จะหนาวเหน็บ โดยเฉพาะตอนกลางคืนที่
อุณหภูมิลดต่าถึง -30 องศาเซลเซี ยสจนทาให้น้ าค้างกลายเป็น
น้ าแข็ง แต่ถา้ ได้นอนบนเตียงเตาที่ร้อนระอุควบคู่กบั บุรุษผูเ้ ร่ า
ร้อน แบบนั้นคงเพลิดเพลินไม่นอ้ ย
เย่ฉูฉู่ซบหน้าอกจ้าวเหวินเทาพลางกล่าวว่า “แม่ของฉันบอกว่า
วันนี้ พี่สะใภ้สามของฉันจะกลับมาแล้ว ไม่รู้ว่าพี่สามของฉัน
จะรับพี่สะใภ้สามมาหรื อยังนะคะ”

จ้าวเหวินเทากอดภรรยาตัว หอม ๆ ผิวนุ่ มนิ่ มพลางกล่ า วว่า


“ต้องรับกลับมาอยู่แล้วล่ะ ถ้าพี่สะใภ้สามของคุณไม่กลับมาก็
คงไม่เรี ยกพี่สามของคุณให้ไปรับหรอก ถ้าเรี ยกไปรับแล้วไม่
กลับ มา แบบนั้น ก็เ ท่ า กับ เล่ น กับ ความรู ้ สึ ก คนไม่ ใ ช่ เ หรอ
สมองของพี่สะใภ้สามคงต้องโดนลาเตะแล้วล่ะถึงได้กลายเป็ น
แบบนั้น”

“คุณพูดไร้สาระอีกแล้วนะคะ” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยน้ าเสี ยงไม่สบ


อารมณ์ “พี่สะใภ้สามของฉันไม่ใช่ คนแบบนั้นสักหน่ อย ฉัน
แค่คิดไม่ถึงว่าพี่สะใภ้สามจะกลับมา อันที่จริ งที่บา้ นของฉันก็
ไม่มีใครคิดว่าจะกลับมา มีแต่พี่สามของฉันนัน่ แหละที่เชื่อว่า
พี่สะใภ้สามจะต้องกลับมา”
“อันที่จริ งในใจของพี่สามคุณก็ไม่ค่อยเชื่อนักหรอก” จ้าวเหวิ
นเทากล่าวความในใจของพี่ชายสามของเธอ “เขาก็แค่ทาเป็ น
เข้มแข็งเท่านั้นแหละ”

เย่ฉูฉู่ตีเขา “ทีเรื่ องของพี่ชายฉันรู ้ดีเชี ยวนะ แล้วถ้าเป็นคุณล่ะ


คุณเจอแบบนี้จะทายังไง?”

“ผมยังไม่เคยเจอเรื่ องแบบนี้ ภรรยาผมก็ยงั อยู่กบั ผมที่นี่ไม่ใช่


เหรอ” จ้าวเหวินเทาตีกน้ เย่ฉูฉู่

เย่ฉูฉู่แอบหยิกเขาเบา ๆ

“เอาล่ะ ๆ ผมไม่พูดถึงพี่ชายของคุ ณแล้ว หากคุณไม่สบายใจ


งั้นพรุ่ งนี้ พวกเราก็ไปหาสิ หยิบผักที่อยู่ในห้องใต้ดินกลับไป
สั ก สองสามหัว เอาไปให้พี่ ส ะใภ้ข องคุ ณ ชิ ม ด้ว ย” จ้า วเหวิ
นเทากล่าวด้วยรอยยิม้
ก่อนที่หิมะจะตก จ้าวเหวินเทาได้ไปหมู่บา้ นไท่ผงิ มาสองรอบ
แล้ว รอบแรกเอาเหล้าไปให้และคืนเงิน เพราะพี่ใหญ่หลิวยัง
ต้องพลิกหน้าดินอีกสองวัน เขาจึงไปอีกหนึ่งรอบ เขาซื้อผักใบ
เขี ยวกลับมาทั้งสองครั้ ง นอกจากเหลื อไว้ให้จงย่งบางส่ ว น
ส่ วนที่เหลือก็ถูกเหมาเกลี้ยงโดยเสี่ ยวหวังคนที่ขายผักให้เขา
ครั้งแรกคนนั้น

………………………………………………………………

วานรยักษ์ในภาพยนตร์อเมริ กนั ฉายครั้งแรกเมื่อปี 1933 ในชื่อ


เรื่ อง King Kong

นักปราชญ์จีนผูห้ นึ่งในสมัยชุนชิวจ้านกัว๋ ได้ชื่อว่าเป็ นชายที่มี


คุณธรรมและมีจิตใจแน่วแน่มนั่ คง มีหญิงสาวอยูใ่ นอ้อมกอดก็
ไม่ล่วงเกินต่อนาง
ตอนที่ 80 โจวหมิน่ หญิงแกร่ ง (1)

เดิมที่จา้ วเหวินเทาอยากนาเข้าผักจากเสี่ ยวหวัง เพราะกลัวว่า


จะถู ก โก่ ง ราคาจึ ง ไปดู ที่ห มู่ บ ้า นไท่ ผิง ท าความเข้า ใจราคา
ตลาดสักหน่อย เพื่อที่เขาจะได้เป็ นฝ่ ายได้เปรี ยบ

แต่ พี่ใหญ่ หลิ วกลับไปแล้ว ประกอบกับหิ มะได้ตกลงมาอี ก


ครั้ง หากเดินทางเข้าไปนาผักมาขายอีกครั้งก็คงไม่สะดวกแล้ว
เสี่ ยวหวังมีความสัมพันธ์กบั หน่ วยงานส่ วนหนึ่ ง จึงสั่งผักได้
ค่อนข้างง่าย เพียงแต่ยงั ไม่ได้ตกลงเรื่ องราคากัน

“คุณจะกลับไปกับฉันเหรอคะ? พรุ่ งนี้คุณไม่มีธุระเหรอ คุณจะ


ไปรั บผัก ใบเขี ย วกับ เสี่ ย วหวัง เพื่ อ น าเข้า ไปขายไม่ ใ ช่ เ หรอ
คะ?” เย่ฉูฉู่ถาม

“ไม่มีปัญหา ไม่ตอ้ งรี บซื้อขายถึงที่หรอกครับ ปล่อยว่างไปสัก


สองสามวันก่อน” จ้าวเหวินเทากล่าว
“เขามี ความสัมพันธ์กบั หน่ วยงาน คงหาผูซ้ ้ื อได้ง่ายมากเลย
สิ นะคะ?” เย่ฉูฉู่ครุ่ นคิดพลางกล่าว

“พ่อค้าคนกลางน่ ะหาง่ายมาก แต่จะหาคนที่มีความน่ าเชื่ อถือ


น่ะมันยากนะ” จ้าวเหวินเทากล่าวเคล้ารอยยิม้

เย่ฉูฉู่ได้ยินเขากล่าวอย่างภาคภูมิใจ จึงผลักเขาหนึ่ งที “ยกยอ


ตัวเองอีกแล้วนะคะ”

“ผมไม่จาเป็ นต้องยกยอตัวเองหรอก เพราะผมเป็ นแบบนี้ อยู่


แล้ว” จ้าวเหวินเทาหอมเธอ “ภรรยาไม่ตอ้ งกังวล ผมมีแผนใน
ใจแล้ว นอนกันเถอะ”

เย่ฉูฉู่ย่อมเชื่ อในตัวสามี ของเธอ แค่ พูดคุ ยเฉย ๆ ก็ง่วงนอน


เล็กน้อยแล้ว หลังจากตอบอืมก็ผล็อยหลับไป

วันรุ่ งขึ้น เย่ฉูฉู่หยิบผักใบเขียวสองสามชนิดออกมาจากห้องใต้


ดิน ใช้เศษผ้าห่ อและวางไว้ในตะกร้า แขวนไว้ที่คนั บังคับของ
จักรยาน เธอนัง่ ตรงที่นงั่ ด้านหลัง ส่ วนจ้าวเหวินเทาก็ทาหน้าที่
ขี่จกั รยานไปบ้านพ่อตา

ทั้งสองหมู่บา้ นอยู่ไม่ไกล การขี่จกั รยานจึงเร็ วกว่า ไม่ตอ้ งใช้


ความพยายามมากนักก็ถึงแล้ว

“ฉู ฉู่ เหวินเทา ทาไมพวกลูกถึงกลับมาที่บา้ นได้ล่ะเนี่ ย!” คุณ


แม่เย่ออกมาเห็นพวกเขาพอดี จึงกล่าวอย่างมีความสุ ขในทันที

“แม่คะ!” เย่ฉูฉู่ลงมาจากจักรยาน กล่าวด้วยรอยยิม้ “ก็มาหาแม่


ไงคะ แล้วพี่สามพาพี่สะใภ้กลับมาหรื อยัง?”

“พากลับมาแล้ว” คุณแม่เย่ยมิ้ “กลับมาเมื่อคืน กลับมาถึงก็ดึก


มากแล้ว ตอนนี้ยงั นอนอยูเ่ ลย”

จ้าวเหวินเทาขยิบตาให้ภรรยาของตัวเองทันที มีหรื อที่เย่ฉูฉู่จะ


ไม่รู้วา่ เขาหมายถึงอะไร การหยอกล้ออย่างไรล่ะ

นางยิม้ พลางกลอกตาใส่ เขา จากนั้นก็เดินเข้าบ้านไปกับแม่


“โอ้ คุณแม่ คุณแม่ได้เลี้ยงหมูแล้วเหรอครับเนี่ ย?” เมื่อจ้าวเห
วินเทาเห็นลูกหมูอยูใ่ นเล้าหมูจึงกล่าวด้วยรอยยิม้

“ได้เลี้ยงแล้วล่ะ ก็ว่าง ๆ อยู่ เลยเอามาเลี้ยงซะเลย” คุ ณแม่เย่


กล่าวด้วยรอยยิม้

คนอื่น ๆ ก็ออกมากันแล้ว อาจจะเป็ นเพราะได้ยนิ เสี ยง เย่หมิงเป่ ย


ก็สวมเสื้ อแจ็กเกตออกมาด้วย

“พี่ ส ามอรุ ณสวัส ดิ์ ครั บ ” จ้า วเหวิ น เทากล่ า วด้ว ยรอยยิ้ ม
กรุ ้มกริ่ ม

เย่ฉูฉู่ลอบหยิกเขาไปหนึ่ งครั้ง เพื่อให้เขาสารวมหน่ อย ทาให้


จ้าวเหวินเทาแสยะยิม้ อย่างเจ็บปวด

เย่ ห มิ ง เป่ ยเองก็ ไ ม่ ก ลัว ถู ก ล้อ เรื่ อ งที่ น่ า ยิ น ดี น้ ี ท าให้ เ ขามี


ความสุ ข กล่าวเคล้ารอยยิ้มว่า “ทาไมพวกเธอถึงมากันตั้งแต่
เช้าล่ะเนี่ย”
“ตอนนี้ สิบโมงกว่าแล้วนะคะ ยังเรี ยกว่าเช้าอีกเหรอ?” เย่ฉูฉู่
กล่าวด้วยรอยยิม้

เย่หมิงเป่ ยยิม้ หลังจากพูดคุยกับพวกเขาสักพัก ก็เห็นโจวหมิ่น


เดินออกมา

“พี่สะใภ้สาม ปิ ดเทอมแล้วเหรอคะ?” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้

“ปิ ดเทอมแล้วจ้ะ” โจวหมิ่นกล่าวด้วยรอยยิม้ หล่อนเองก็รู้สึก


ไม่ดีเล็กน้อย เป็นเพราะนอนดึกจริ ง ๆ จึงเพิ่งมาตื่นเอาตอนนี้
หล่ อ นมองไปทางจ้า วเหวิน เทาและกล่ าวว่า “นี่ คื อ น้อ งเขย
สิ นะ?”

เหมื อ นกับ ชาติ ที่ แ ล้ว น้อ งสาวสามี ค นนี้ ก็ย งั คงแต่ ง งานกับ
น้องเขยที่ดูเหมือนเอ้อระเหยลอยชายคนนี้ แต่กลับถูกน้องเขย
คนนี้รักประคบประหงมทั้งชีวติ

“พี่สะใภ้สามสวัสดีครับ” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้
คุ ณแม่ เย่เดิ นออกมาจากห้อง “หนาวขนาดนี้ ทาไมยังคุ ยกัน
นอกห้องอีก เข้ามาในห้องเร็ว!”

เมื่อเข้าไปในห้องทางทิศตะวันออกของคุณแม่เย่ บนเตียงนั้น
ร้อนมาก เตาอุ่นเตียงก็ร้อนเช่นกัน ภายในห้องจึงไม่หนาวสัก
นิด

“คุ ณแม่ คุ ณพ่อล่ะครับ แล้วพี่ใหญ่ พี่รองกับพวกพี่สะใภ้ไป


ไหนกันหมด? เช้าขนาดนี้ แล้วทาไมผมยังไม่ เห็ นใครเลย?”
จ้าวเหวินเทาถามอย่างงุนงง

“พ่อไปที่ทีมใหญ่แล้ว ไปถามว่าจะฆ่าหมูเมื่อไหร่ แล้วก็ถาม


เรื่ องที่อยู่ดว้ ย พี่ใหญ่กบั พี่รองแล้วก็พวกพี่สะใภ้กลับไปบ้าน
แม่ยายแล้ว ทีมของพวกเขาฆ่ าหมู ก็เลยไปกินเนื้ อหมูกนั นัน่
แหละ” คุณแม่เย่ยกถังสุ่ ย[1] มาให้พวกเขาสองถ้วย “รี บดื่มสิ
ทาตัวให้อุ่น ๆ ไว้”
“ทางเดินเส้นนี้ยงั ไม่ทนั เย็นพวกเราก็มาถึงแล้ว คุณแม่ ไม่ตอ้ ง
ทาให้เหนื่อยหรอกครับ” จ้าวเหวินเทารับน้ ามาวางไว้บนเตียง

“พวกเธอกินข้าวมาหรื อยังจ๊ะ?” โจวหมิ่นถามด้วยรอยยิม้

“อื้อ” เย่ฉูฉู่ตอบ

คุณแม่เย่กล่าวด้วยรอยยิม้ “ตอนเที่ยงก็อยูก่ ินข้าวที่นี่สิ พวกเรา


จะกินเกี๊ยว ตอนบ่ายพวกลูกค่อยกลับนะ แม่จะไปต้มอาหาร
หมู พวกลูกนัง่ คุยกันไปก่อน”

“คุณแม่ ให้ผมไปช่ วยนะ” จ้าวเหวินเทารี บกล่าว เขาต้องการ


เรี ยนรู ้เรื่ องการเลี้ยงหมูจากแม่ยายสักหน่อย

“นายเพิ่ ง มาถึ ง ก็จ ะท างานแล้ว เหรอ?” โจวหมิ่ น กล่ า วด้ว ย


รอยยิม้ “ฉูฉู่ เธอไม่เป็ นห่วงเขาเหรอ?”

เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้ “เป็ นห่ วงอะไรกันล่ะคะ เขาอยากทา


อะไรก็ทาไปเถอะ”
คุณแม่เย่รู้ความคิดของลูกเขย จึงกล่าวด้วยรอยยิม้ “มาสิ มาดู
หมูที่แม่เลี้ยง”

จ้าวเหวินเทาจึงเดินไปพร้อมกับคุณแม่เย่

เย่หมิงเป่ ยเรี ยกน้องสาวของตัวเองและภรรยาให้ไปนัง่ คุ ยกัน


บนเตียง แม้วา่ ในห้องจะไม่เย็น แต่การยืนบนพื้นนาน ๆ ก็รู้สึก
เย็นนิดหน่อยเหมือนกัน

ทั้งสองคนขึ้นไปนัง่ บนเตียง วางเท้าไว้หน้าเตาอุ่นเตียง พูดคุย


กันอย่างอบอุ่น

“พี่สะใภ้สาม พวกพี่ปิดเทอมกันกี่วนั เหรอคะ?” เย่ฉูฉู่ยกถังสุ่ ย


ขึ้นมาจิบ ยืน่ ถ้วยอีกใบให้โจวหมิ่น

“ผ่านเทศกาลโคมไฟก็กลับแล้วล่ะ พี่ได้ยินคุ ณแม่บอกว่าอีก


ไม่ น านทางฝั่ ง เราจะมี ร ะบบสั ญ ญาที่ ดิ น แล้ว พวกเธอได้
วางแผนกันหรื อยังว่าจะทาอะไร?” โจวหมิ่นกล่าวขณะถือถ้วย
ถังสุ่ ยอุ่นมือ

หลังจากได้รับความชุ่ มชื้ นจากวสันตวารี เมื่อคืนนี้ สี หน้าและ


แววตาของโจวหมิ่นจึงมีประกายชุ่มชื้นขึ้น

เย่หมิงเป่ ยนัง่ มองภรรยาของตัวเองจากด้านข้าง มองเท่าไรก็ไม่


พอจริ ง ๆ

ในใจของเย่ฉูฉู่แอบหัวเราะท่าทางซื่ อบื่อของพี่สาม กล่าวว่า


“เหวินเทาเขาไม่อยากทานาน่ะค่ะ เขาบอกว่าทานาไม่มีอนาคต
ช่วงไม่กี่เดือนมานี้เขาก็ออกไปค้าขายมา”

จากนั้นจึงเล่าเรื่ องที่จา้ วเหวินเทาไปขายผักขายเนื้ออีกรอบ

โจวหมิ่นเห็นด้วยเป็ นอย่างยิ่ง หล่อนกล่าวว่า “เหวินเทาเป็ น


คนมีวิสัยทัศน์มากเลยนะเนี่ย ทาค้าขายตอนนี้อนาคตจะดีมาก
ๆ เลย”
แม้เย่ฉูฉู่จะไม่ สนใจว่าโจวหมิ่ นพี่สะใภ้สามคนนี้ จะไม่ เห็ น
ด้วยกับสิ่ งที่จา้ วเหวินเทาทาหรื อไม่ แต่โจวหมิ่นที่เป็ นพี่สะใภ้
สามคนนี้ กลับเห็ นด้วย ทาให้เธอมี ความสุ ขมาก ถึ งอย่างไร
พี่สะใภ้คนนี้ ก็เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เรื่ องที่นกั ศึกษาเห็น
ด้วยย่อมสามารถทาได้

“มีคาพูดที่ว่าไม่มีธุรกิจก็ไม่ร่ ารวย ไม่มีการเกษตรก็ไม่มนั่ คง


ตอนนี้ กับ ก่ อ นหน้า นี้ มัน ไม่ เ หมื อ นกัน แล้ว ด้า นนอกมี ก าร
เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ วจริ ง ๆ โดยเฉพาะบริ เวณชายฝั่ ง
ทะเล เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จนทาให้คนแทบไม่อยาก
เชื่ อเลยล่ะ” โจวหมิ่นกล่าว ในขณะที่เย่หมิงเป่ ยอยู่ที่นี่ หล่อน
จึงบอกเล่าเรื่ องราวที่หล่อนรู ้มาจากอนาคตคร่ าว ๆ

การกลับมาครั้งนี้ หล่อนไม่ตอ้ งการแยกทางกับเย่หมิงเป่ ยอีก


ครั้ง หล่อนอยากพาเย่หมิงเป่ ยออกไปด้วย!
เย่ฉูฉู่ย่อมเข้าใจแนวคิดไม่มีธุรกิจไม่ร่ ารวย ไม่มีการเกษตรก็
ไม่มนั่ คง พึ่งพาการทานาเพียงอย่างเดียวย่อมไม่สามารถร่ ารวย
ได้ เพียงแต่ในยุคนี้ธุรกิจมีขอ้ จากัดต่าง ๆ ตอนนี้ดีข้ ึนแล้ว แต่ก็
ยังไม่มีนโยบายอย่างเป็ นทางการที่แน่นอนอยูด่ ี

ภายในใจจึงรู ้สึกไม่มนั่ ใจเล็กน้อย

แต่เมื่อฟั งคาพูดของโจวหมิ่น เธอจึงตระหนักได้ว่าตอนนี้ ต่าง


จากเมื่ อก่ อนมาก ทัว่ ประเทศต้องการจับด้านเศรษฐกิ จ เป็ น
หลักเหรอ?

“ในเมื่อเป็ นแบบนี้ งั้นเหวินเทาก็สามารถทาได้อย่างเป็ นอิสระ


แล้วน่ ่ะสิ คะ” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้

โจวหมิ่นมองดูเย่ฉูฉู่ที่ยมิ้ อย่างมีความสุ ข จึงรู ้ว่าน้องสามีคนนี้


มีชีวิตที่ดี เมื่อนึกถึงตอนที่ตวั เองแต่งงานเข้ามา น้องสามียงั ไม่
แต่งออกไป นิสัยในตอนนั้นไม่เหมือนกับตอนนี้ เลย ไม่คิดว่า
คนที่แต่งงานแล้วจะเปลี่ยนนิสัยได้มากขนาดนี้
โจวหมิ่ น มองไปทางเย่ ห มิ ง เป่ ย เพื่ อ ดู ว่ า เขามี ป ฏิ กิ ริ ยา
อะไรบ้าง?

ผลลัพธ์ที่ได้เย่หมิงเป่ ยนัง่ มองภรรยาของตัวเองด้วยท่าทางโง่


งม เขาไม่ได้ฟังด้วยซ้ าว่าภรรยาของเขาพูดอะไรไปบ้าง

………………………………………………………………

[1] ถังสุ่ ย (糖水) คล้ายกับเต้าทึงไม่ใส่ น้ าแข็ง


ตอนที่ 81 โจวหมิน่ หญิงแกร่ ง (2)

โจวหมิ่นยิม้ พลางกลอกตาใส่ เขา ช่างเป็ นเจ้ายักษ์โง่เง่าจริ ง ๆ

“ฉู ฉู่ เธอบอกว่าเหวินเทาค้าขายผักใบเขียวเหรอ?” โจวหมิ่น


หันไปถามน้องสามี

“ใช่ค่ะ แต่สถานที่ซ้ื ออยูค่ ่อนข้างไกล เขาก็เลยทาได้แค่เข้าไป


ในมณฑลเพื่อให้คนนาเข้าไปให้ เห็นเหวินเทาบอกว่าเขาเป็น
พ่อค้าคนกลาง” เย่ฉูฉู่ยมิ้ ขึ้นมา “แต่กาไรก็ไม่ได้สูงขนาดนั้น
นะคะ”

โจวหมิ่ น กล่ า ว “สถานที่ ที่พ วกเราอยู่มี อ ากาศหนาว ถึ ง ฤดู


หนาวมีหิมะตกเมื่อไหร่ กเ็ ดินทางไม่สะดวกแล้ว มีเพียงผักใบ
เขียวในฤดูหนาวเท่านั้นแหละที่จะมีราคา”
เย่ฉูฉู่กล่าว “อันที่จริ งสภาพถนนก็ยงั ดีอยูน่ ะคะ แค่วิ่งตามรอย
รถ รถก็ไม่ ลม้ แล้ว ถึ งรถจะล้มแต่ หิมะตกหนักขนาดนี้ ก็ไ ม่
กระแทกกับอะไรหรอก ประเด็นคือไม่มีรถน่ะสิ ถ้าเป็นรถม้า
รถล่ อ เหวินเทาบอกว่ามันช้าเกิ นไป ขี่ ไ ปกลับหนึ่ งวัน กลับ
มาถึงก็กลางดึกแล้ว ต้องมีรถถึงจะดีน่ะค่ะ”

รถ? โจวหมิ่นใจเต้นตึกตัก

“ไม่มีกซ็ ้ื อสักคันสิ ฉันเคยเห็นรถสามล้อที่มีตูอ้ ยู่ดา้ นหลัง มัน


เล็กกว่ารถเพื่อการเกษตรอีกนะ แถมยังมีเครื่ องยนต์ด้วย ใช้
น้ ามัน ราคาก็ ไ ม่ แ พงด้ว ยนะ ประมาณเก้า ร้ อ ยหยวนมั้ง ”
โจวหมิ่นใช้แนวคิดในยุคอนาคตมาใช้โดยไม่รู้ตวั หล่อนย่อม
รู ้สึกว่าเงินเก้าร้อยหยวนเป็ นราคาไม่แพง

แต่เย่ฉูฉู่ไม่เหมือนกัน เมื่อได้ยนิ โจวหมิ่นบอกว่าเก้าร้อยหยวน


ไม่ แพง ก็ไม่ รู้ว่าควรจะกล่ าวอย่างไรดี จึ งเตื อนว่า “พี่สะใภ้
สาม เก้าร้อยหยวนแพงมากเลยนะคะ”
จนถึงตอนนี้ เงินเก็บในบ้านมีเท่าไรกันเชียว?

โจวหมิ่นได้นอ้ งสามีบอกแบบนี้ ก็ตระหนักได้ถึงปั ญหาของ


ตัวเอง จึงทาได้แค่ยมิ้ และกล่าวว่า “เอางี้ไหม ฉันจะออกเงินให้
ก่อน พวกเธอเอาไปซื้ อรถหนึ่งคัน มีเงินแล้วค่อยเอามาคืนฉัน
เป็ นยังไง?”

เย่ฉูฉู่ตกตะลึ งไปครู่ หนึ่ ง รี บส่ ายหน้าโดยเร็ ว “พี่สะใภ้สาม


ขอบคุณในความหวังดีของพี่นะคะ แต่พี่ยงั ต้องเรี ยนหนังสื อ มี
เรื่ องให้ใช้จ่ายเงินอีกมาก พวกเราจะไปเอาเงินของพี่ได้ยงั ไง?
มันไม่ใช่นอ้ ย ๆ เลยนะคะ”

โจวหมิ่นกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เรื่ องนี้ เธอไม่ตอ้ งกังวลหรอก ที่


มหาวิทยาลัยยังมีทุนการศึกษา พวกเราไม่ตอ้ งใช้เงินในการ
เรี ยน อีกอย่าง ฉันออกแบบเสื้ อผ้าร่ วมกับคนอื่น ขายดีมากเลย
นะ เธอคงไม่ รู้ ในเมื อ งใหญ่ อ ย่า งเมื อ งหลวง มี ห ลายสิ่ ง ที่
สามารถทาเงินได้ มาสิ ไปที่หอ้ งฉันกัน ฉันจะให้เธอดูเสื้ อผ้าที่
ฉันออกแบบ”

โจวหมิ่ นเรี ยกน้องสามี ไปสวมรองเท้าเพื่อเดิ นไปที่ ห้อ งทิ ศ


ตะวันตก

เย่ฉูฉู่ก็อยากรู ้เกี่ยวกับการออกแบบเสื้ อผ้าของพี่สะใภ้สาม จึง


เดินตามไป

เย่หมิงเป่ ยอยากเข้าไปด้วย โจวหมิ่นกล่าวอย่างขบขันว่า “คุณ


รออยูท่ ี่นี่แหละ ฉันจะไปคุยกับฉูฉู่ คุณจะเข้ามาทาไมคะ?”

เย่หมิงเป่ ยเพิ่งจะได้สติ เขากระแอมไอพลางกล่าว “งั้นคุณก็ไป


คุยกับฉูฉู่เถอะ”

โจวหมิ่นยิม้ แกมตาหนิใส่ เขาไปหนึ่งครั้ง

เย่ฉูฉู่กอ็ ยากจะหัวเราะเหมือนกัน พี่ชายสามของเธอในตอนนี้


กลายเป็ นทาสภรรยาเสี ยแล้ว
แต่ก็อย่าให้พูดเลย มีภรรยาแล้วก็จะแตกต่างไปจากเดิม ห้อง
ของพี่ชายสามเปลี่ยนเป็ นอบอุ่นมาก แถมยังมีกลิ่นหอมจาง ๆ
ด้วย

โจวหมิ่นเปิ ดกระเป๋ าเดิ นทางไปพลาง แนะนาไปพลางว่า “นี่


คื อของขวัญที่ ฉันซื้ อมาจากปั กกิ่ งเพื่อให้พวกเธอ นี่ คือส่ วน
ของพวกเธอ ฉันซื้อน้ าหอมมาให้เธอด้วยนะ ใช้ดีเป็ นพิเศษเลย
ล่ะ เธอมาพอดี เอากลับไปด้วยนะ ของพี่สะใภ้ใหญ่กบั พี่สะใภ้
รองฉันยังไม่มีเวลาให้พวกหล่อนเลย”

โจวหมิ่นหยิบกระเป๋ าใบหนึ่ งออกมาวางบนเตียง จากนั้นนา


ของขวัญอื่น ๆ ออกมาจากกระเป๋ าเดินทาง เป็ นเพราะหล่อน
ตื่นสาย จึงไม่ได้ให้คนที่ออกจากบ้านไปแล้ว

หล่อนยังหยิบสมุดออกแบบหนึ่ งเล่มออกมาจากช่ องกระเป๋ า


เดินทางด้วย
“ดูสิ นี่ เป็นเสื้ อผ้าที่ฉันออกแบบ” โจวหมิ่นยื่นสมุดออกแบบ
ให้เย่ฉูฉู่ดู

เย่ฉูฉู่วางขวดน้ าหอมแสนประณี ตลง รับสมุดมาเปิ ดดู หน้าต่าง


บานใหม่อีกด้านจึงถูกเปิ ดออก เสื้ อผ้าด้านบนนี้เป็ นภาพวาดที่
ถ้าหากไม่วาดด้วยดินสอก็จะเป็ นดินสอสี

มีกระโปรง มีเสื้ อโค้ต ทั้งยังมีเสื้ อเชิ้ตด้วย ทุกตัวล้วนเป็ นแบบ


ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

โจวหมิ่นชี้ ไปที่รูปหนึ่ งในนั้นพลางกล่าว “เธอรู ้ไหมว่าชุ ดเด


รสแขนพองตัวนี้ พวกเราขายได้เท่าไหร่ ? มีท้ งั หมดห้าร้อยตัว
ตัวละสิ บหยวน”

“ห้าร้อยตัว ตัวละสิ บหยวน?” เย่ฉูฉู่ไม่สนใจเรื่ องเงินมากนัก


แต่กแ็ ปลกใจขณะกล่าวว่า “ชุดในเมืองหลวงราคาแพงขนาดนี้
เลยเหรอคะ?”
“ไม่ ใช่ ท้ งั หมดที่ ราคาแพงแบบนี้ แต่ สินค้าของพวกเราเป็ น
สิ นค้าใหม่ คุ ณภาพสู ง อีกอย่างพวกเราก็รับคาสั่งซื้ อส่ วนตัว
ด้วย ซึ่ งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ราคาแพงกว่าของธรรมดามาก
เลยล่ะ” โจวหมิ่นกล่าวด้วยรอยยิม้

“พี่สะใภ้สาม สมกับที่เป็นนักศึกษาหญิงจริ ง ๆ น่ าทึ่งมากเลย


ค่ะ!” เย่ฉูฉู่ถึงกับกล่าวชื่นชม

นักศึกษาหญิง หากเป็ นชาติก่อน ก็ตอ้ งเป็ นยอดบัณฑิ ตหญิ ง


สุ ดยอดมากจริ ง ๆ

“ก็ไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้นหรอก แค่ในเมืองใหญ่มีอะไรให้
เห็ น เยอะกว่ า ย่ อ มได้รั บ แรงบัน ดาลใจอยู่ แ ล้ว เธอดู นี่ สิ ”
โจวหมิ่นไม่ได้คิดอะไร ถึงอย่างไรหล่อนก็มีขอ้ ได้เปรี ยบ

หล่อนพลิกไปอีกไม่กี่หน้า แล้วชี้ ไปยังกระโปรงยาวแบบถัก


ตัวหนึ่ ง “นี่ เป็ นกระโปรงขนสัตว์ ใช้สวมตอนฤดูหนาว ด้าน
ในมีกางเกงผ้าฝ้ายบาง ๆ ด้านนอกสวมกระโปรงขนสัตว์ จะ
ได้ไม่หนาว แถมยังดู ดีอีกด้วย ตัวนี้ ฉันขายได้ประมาณหนึ่ ง
พันตัว ตัวละยีส่ ิ บกว่าหยวน”

“กระโปรงขนสัตว์หนึ่ งตัวก็ยี่สิบกว่าหยวนแล้ว?” เย่ฉูฉู่รู้สึก


แอบตกตะลึงจนพูดไม่ออกเลยจริ ง ๆ

คนงานส่ วนใหญ่ตื่นมาทางานตั้งแต่เช้าจนมืดค่า หนึ่งเดือนได้


เงินแค่ 50-60 หยวน นี่ คือในกรณี ที่สถานการณ์ดีที่สุดนะ แต่
เสื้ อผ้าตัวเดียวก็มีราคายีส่ ิ บกว่าหยวนแล้ว รายรับของพวกเขา
ใน 1 เดือนเท่ากับเสื้ อผ้าแบบนี้ 2 ชิ้นเอง

ช่องว่างนี้ห่างกันค่อนข้างมากเลยล่ะ

โจวหมิ่ น มองน้อ งสามี แ ละกล่ า วว่า “ฉู ฉู่ ตอนนี้ ไม่ เ หมื อ น
เมื่อก่อนแล้วนะ ทุกที่ต่างเป็นเงินเป็ นทอง ทุกที่ต่างมีโอกาส
เธอเข้า ใจความหมายของพี่ ส ะใภ้ส ามไหม? เหวิ น เทามี
ความสามารถ ถ้าเขาอยากทาก็ให้เขาทาเถอะ ฉันมีเงิ นใช้ไม่
ขาดมือ ฉันสามารถให้พวกเธอยืมได้ รอพวกเธอได้เงินกลับมา
ค่อยเอามาคืน”

“พี่สะใภ้สาม ฉันรู ้แล้วค่ะ ฉันจะคุยกับเหวินเทาดูนะคะ” เย่ฉูฉู่


แอบซึ้งใจ กล่าวด้วยรอยยิม้

พี่สะใภ้สามไปเรี ยนหนังสื อที่มหาวิทยาลัยและทาเงินได้มาก


ขนาดนี้ มีความรู ้มาก แต่หล่อนกลับไม่ได้ดูถูกเธอและเหวิน
เทา ทั้ง ยัง เล่ า เรื่ อ งภายนอกจ านวนมากมายให้ฟั ง แถมยัง
สนับสนุ นอีก เย่ฉูฉู่ไม่ใช่ คนอกตัญญู เธอย่อมจดจาบุญคุณนี้
ไว้ในใจ

แน่ นอนว่าเธอเองก็รู้ดี ที่ พี่สะใภ้สามโจวหมิ่ นคนนี้ ช่วยเธอ


แบบนี้ ทั้งหมดก็เป็ นเพราะเห็นแก่หน้าพี่ชายสามของเธอ

ดูเหมือนว่าทุกคนจะมองผิดแล้ว ที่พี่สามเอาแต่บอกว่าพี่สะใภ้
สามจะกลับมาไม่ใช่ ว่าจะไม่มีเหตุผล ในใจของพี่สะใภ้สาม
ต้องมีพี่สามอยู่แน่ ๆ ไม่เช่ นนั้นพี่สะใภ้สามที่มีความสามารถ
มากขนาดนี้จะกลับมาทาไม?

เมื่ อ เย่ฉู ฉู่ ม องดู ส มุ ด ออกแบบเล่ ม นี้ อี ก ครั้ ง ใจของเธอแอบ


หวัน่ ไหวเล็กน้อย เธอเองก็อยากวาดกระโปรงแบบนี้บา้ ง…

ในขณะนั้นเอง จ้าวเหวินเทาก็กาลังช่ วยคุณแม่เย่ถือถังอาหาร


หมูให้อาหารหมูอยู่ เขากล่าวว่า “คุณแม่ ผมได้ยินว่าถ้าจะจับ
หมูกต็ อ้ งจับตอนฤดูใบไม้ผลิไม่ใช่เหรอครับ?”

“ใช่ ควรเป็ นตอนฤดูใบไม้ผลิ ตอนนั้นอากาศเริ่ มอุ่นขึ้นเรื่ อย ๆ


ของกินก็มีเยอะแยะ เลี้ยงง่าย แต่ตอนนั้นราคามันแพง แม่มีคน
รู ้จกั ที่บา้ นของพวกเขาเลี้ยงแม่หมูแก่ไว้ มันออกลูกหลังฤดู
ใบไม้ร่วง แถมยังกิ นเยอะมาก ก็เลยเลี้ ยงไม่ ไหว แม่ เห็ นว่า
ราคามันเหมาะสมดี อาหารในบ้านก็น่าจะพอถึงตอนฤดูใบไม้
ผลิ แม่ ก็เลยเอามาเลี้ ยงนี่ แหละ แต่ เธอก็อย่าพูด เลย แม่ เองก็
แอบเสี ยใจเหมือนกัน เจ้านี่ กินเยอะมาก หนึ่ งวันกินสี่ ม้ือแน่ะ
เหวินเทา ถ้าเธออยากเลี้ยงหมูตอ้ งรอจับตอนฤดูใบไม้ผลินะ”
คุณแม่เย่ถอนหายใจ นางเริ่ มกังวลเกี่ยวกับปั ญหาการกินของ
ลูกหมูหลังจากนี้แล้วสิ

จ้าวเหวินเทาคิดอยู่ครู่ หนึ่ง กล่าวว่า “คุณแม่ พวกมันกินอะไร


ได้บา้ งครับ ผมจะลองดูวา่ พอคิดหาวิธีอะไรได้หรื อเปล่า”
ตอนที่ 82 จ้ าวเหวินเทาได้ รับความโปรดปรานอย่ างไม่ คาดฝัน

คุณแม่เย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “หมูมนั จาเป็ นต้องสนใจด้วยเหรอ


ว่าจะกินอะไร? หมูเป็ นสัตว์ที่กินทุกอย่างนัน่ แหละ เป็ นเพราะ
ตอนนี้มนั ยังเล็ก พอโตขึ้นก็กินได้ทุกอย่างแล้ว ทั้งราข้าว จาน
ดอกทานตะวัน กากถัว่ เหลื อง แป้ งข้าวโพดอะไรพวกนี้ แต่
แป้ งข้าวโพดให้ไม่ได้ คนยังต้องกิน ถ้าเธอมีวิธีเอาราข้าวกับ
จานดอกทานตะวันมาได้ แบบนี้ ก็ง่ายขึ้นหน่ อย แต่จานดอก
ทานตะวันต้องมีการแปรรู ปอีกหน่อยด้วยนะ”

“แล้ว พวกกากเหล้า ล่ ะ ผมได้ยิน ว่ า ใช้ข องพวกนั้น มาเป็ น


อาหารหมูกไ็ ม่เลวเลยนะครับ?” จ้าวเหวินเทาถาม

“ของแบบนั้นมันสาหรับหมูที่โตแล้ว หมูตวั เล็กยังกินไม่ ได้


และป้ อนแบบตรง ๆ ไม่ได้ดว้ ยนะ ต้องค่อย ๆ วางถึงจะให้กิน
ได้ แม่เองก็ยงั ไม่เคยลองป้ อน ก็เลยไม่รู้เหมือนกัน เจ้าสิ่ งนี้จะ
ให้ สุ่ ม สี่ สุ่ ม ห้ า ไม่ ไ ด้” คุ ณ แม่ เ ย่ ก ล่ า ว นางเองก็ มี ช่ อ งทาง
มากมาย

จ้าวเหวินเทาพยักหน้า “ได้ครับ งั้นเดี๋ยวผมจะลองไปถามคน


อื่นให้นะ”

ขณะที่ ก าลัง พู ด อยู่ น้ ั น คุ ณ พ่ อ เย่ ครอบครั ว พี่ ใ หญ่ เ ย่ แ ละ


พี่รองเย่กก็ ลับมา

“คุณย่า พวกเรากลับมาแล้ว!” หลาน ๆ ทั้งเก้าคนของตระกูลเย่


พากันวิง่ เข้ามา ลานบ้านจึงคึกคักขึ้นมาทันที

“เรี ยกแต่คุณย่า แล้วอาล่ะ?” จ้าวเหวินเทาจงใจทาเป็ นพูดด้วยสี


หน้าเคร่ งขรึ ม “รู ้หรื อเปล่าเนี่ยว่าอาเป็ นใคร?”

เด็ก ๆ หัวเราะคิกคักพลางกล่าวว่า “อาเขยเล็ก!”

“ต้องอย่างนี้ สิ อาเล็กของพวกเธอก็มาด้วยนะ” จ้าวเหวินเทา


กล่าวด้วยรอยยิม้
“อาเล็กมาแล้ว!

“อาเล็กเอาของกินอร่ อย ๆ มาแล้ว!”

เด็ก ๆ วิง่ เข้าห้องหลักอีกห้องราวกับสายลม

“พวกเธออย่าไปรบกวนอาเล็กนะ!” พี่สะใภ้ใหญ่เย่รีบกล่าวไล่
หลัง

รบกวนอาเล็กน่ะไม่เป็ นอะไรหรอก แต่ไปรบกวนกับอาสะใภ้


สามคงไม่ดีแน่ ถ้าไปรบกวนจนทาให้อีกฝ่ ายราคาญ อาสามจะ
ไม่โกรธเหรอ?

แต่ อย่าพูดเลย ในฐานะที่ เป็ นลู กสะใภ้ ไม่ ว่าจะเป็ นพี่สะใภ้


ใหญ่เย่หรื อสะใภ้รองเย่ พวกหล่อนต่างก็คาดไม่ถึงว่าโจวหมิ่น
สะใภ้หงส์ทองที่บินออกไปแล้วจะกลับมาจริ ง ๆ

“นึกว่าพวกเธอจะกลับมาตอนบ่ายซะอีก” คุณแม่เย่กล่าว
พี่ ส ะใภ้ร องเย่ก ล่ า วด้วยรอยยิ้ม “กิ น เนื้ อ หมู เ สร็ จ แล้ว จะอยู่
ท าไมล่ ะ คะ พวกเราก็เ ลยกลับ มา บัง เอิ ญ เจอกับ คุ ณ พ่ อ ใน
หมู่ บา้ นพอดี เหวินเทามาแล้วเหรอ ระหว่างทางที่ มาหนาว
ไหม?”

จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้ “พอได้อยู่นะครับ อยู่ใกล้แค่น้ ี


เอง ขี่จกั รยานมาแป๊ บเดียวก็ถึงแล้ว พี่สะใภ้รองพวกพี่กลับมา
กันยังไงครับเนี่ย?”

“ครึ่ งทางแรกติ ด รถในที ม มา ครึ่ งทางหลัง เดิ น กัน มาเอง”


พี่สะใภ้รองเย่กล่าว

ในขณะนั้นเองเสี ยงเด็ก ๆ ที่พูดคุยกันสนุ กสนานก็ดงั ออกมา


จากในห้อง “อาสะใภ้สามให้ลูกอมมากินด้วย!”

เย่หมิงเป่ ยรี บเข้ามาดูในห้อง เพราะกลัวว่าภรรยาจะถูกเด็ก ๆ


สร้างปัญหาให้
“กลับมาพอดีเลย ไปห่อเกี๊ยวกัน” คุณแม่เย่เองก็ไม่ได้สนใจลูก
ชายคนที่สามที่เป็ นกระต่ายตื่ นตู มของนาง แต่เดิ นเข้าไปใน
ห้อง

พี่สะใภ้รองเย่หัวเราะด้วยความยินดี “คุ ณแม่ จะห่ อไส้อะไร


คะ? เดี๋ยวฉันช่วย”

ครอบครัวของหล่อนเทียบไม่ติดกับบ้านแม่สามีเลย หนึ่งปี ถึง


จะกลับไปรับประทานเนื้ อหมูได้หนึ่ งครั้ง ทั้งยังได้ส่วนแบ่ง
จากทีมมาแค่นิดเดียว พวกเขาก็แค่อา้ งว่าจะกลับไปกินเนื้อหมู
เพื่ อ น าของติ ด ไม้ติ ด มื อ กลับไปให้บ้า นแม่ ต ัว เอง ให้ค วาม
ช่วยเหลือสักหน่อย

เพราะเป็นเรื่ องเล็ก ๆ น้อย ๆ คุณแม่เย่จึงปล่อยให้พวกหล่อน


ไป

ในเวลานี้ทุกครอบครัวต่างก็ยากจน ตระกูลเย่ในตอนนี้กน็ บั ว่า


ไม่เลวเลยจริ ง ๆ ดังนั้นลูกสะใภ้ท้ งั สองกลับไปที่บา้ นแม่ตวั เอง
ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล ไม่เกินเที่ยงก็กลับมากันแล้ว ชี วิตที่
บ้านภรรยาไม่ได้ดีเท่าบ้านสามี

“ห่ อไส้หัวไชเท้ากับไส้ผกั กาด เธอเอาเนื้ อไปละลายหน่ อย”


คุณแม่เย่กล่าว

พี่สะใภ้รองเย่ได้ยนิ ว่าใช้เนื้อก็ยงิ่ ดีใจเข้าไปใหญ่ ในใจกล่าวว่า


วันนี้เป็ นวันที่ดีจริ ง ๆ สามารถเพิ่มไขมันในร่ างกายได้ หล่อน
จึงรี บไปจัดการโดยเร็ว

เมื่อเข้าไปในห้อง พวกเด็ก ๆ กาลังพูดคุยเสี ยงดังเจี๊ยวจ๊าว

พี่ใหญ่เย่และพี่รองเย่จึงตะโกน “ไป กลับไปอุ่นเตียงที่หอ้ ง!”

เด็ก ๆ ทั้งเก้าคนส่ งเสี ยงเจี๊ ยวจ๊าวขณะวิ่งกลับไปห้องทางฝั่ ง


ตะวันตก

พี่สะใภ้ใหญ่เย่ถอนหายใจยาว กล่าวขอโทษขอโพยโจวหมิ่น
“เด็กพวกนี้ แต่ละคนต่างเหมือนโจรไม่มีผดิ มาก่อความวุน่ วาย
ให้คนอื่นปวดหัวไปหมด น้องสะใภ้สาม เธอไม่ตอ้ งเกรงใจ
พวกเขานะ ถ้าใครมารบกวนก็ด่าได้เลย เด็กพวกนี้ ตอ้ งโดน
จัดการสักทีถึงจะสานึก”

โจวหมิ่นหัวเราะ “ดูพี่สะใภ้ใหญ่พูดเข้าสิ คะ เด็ก ๆ ก็เป็ นแบบ


นี้เหมือนกันหมดนัน่ แหละ”

พี่สะใภ้ใหญ่เย่รู้สึกว่าน้องสะใภ้โจวหมิ่นคนนี้นิสัยดีกว่าก่อน
หน้านี้ มาก ก่อนหน้านี้ เอาแต่ทาสี หน้าเย็นชา ไม่พูดไม่จากับ
ใคร ตอนนี้ดูร่าเริ งกว่าก่อนหน้านี้มาก

หรื อเป็ นเพราะไปเรี ยนที่ ม หาวิ ท ยาลั ย ความคิ ด จึ ง ไม่


เหมือนเดิมแล้ว

โจวหมิ่นกล่าวด้วยรอยยิม้ “พี่สะใภ้ใหญ่ ฉันมีของขวัญมาให้พี่


กับพี่สะใภ้รองด้วยค่ะ กินข้าวเสร็ จแล้วเดี๋ ยวฉันจะเอาไปให้
พวกพี่นะ”
“ยังต้องให้ของขวัญอะไรกันอีกล่ะเนี่ย?” พี่สะใภ้ใหญ่เย่กล่าว
ด้วยรอยยิม้

“ฉันก็ได้มาชิ้นหนึ่งด้วยนะ พี่สะใภ้สามก็เอามาให้ฉนั ชิ้นหนึ่ง


เหมือนกัน” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้

หลังจากพูดคุยด้วยรอยยิ้มครู่ หนึ่ ง พี่สะใภ้ใหญ่เย่ก็ไปจัดการ


ห่อเกี๊ยว

เย่ฉูฉู่กจ็ ะไปทาเกี๊ยวกับโจวหมิ่นเช่นกัน แต่ถูกคุณแม่เย่หา้ มไว้

“ไม่จาเป็นต้องใช้คนเยอะขนาดนั้น นี่ ก็หมุนตัวไม่ได้อยู่แล้ว


พวกเธอไปคุยกันบนเตียงเถอะ” คุณแม่เย่กล่าว

พี่สะใภ้ท้ งั สองคนต่างถือเนื้อสัตว์และผักเข้ามากล่าวว่า “นัน่ สิ


พวกเราท าเองได้ พวกเธอเองไม่ ไ ด้ก ลับ มากัน ง่ า ย ๆ ไป
พักผ่อนเถอะ”
เย่ฉูฉู่ไม่ได้ลาบากใจอะไร หญิงสาวที่แต่งออกไปอยูบ่ า้ นสามี
กลับมาบ้านก็กลายเป็ นแขก แขกที่ไหนจะเข้าครัวทางานกัน
ล่ะ ดังนั้นเธอจึงไม่เกรงใจมากนัก

ต่างกับโจวหมิ่น หล่อนเป็นลูกสะใภ้ พี่สะใภ้ท้ งั สองต่างก็ยุ่ง


กันอยู่ จะให้นงั่ บนเตียงได้อย่างไรกัน?

หล่อนเป็ นภรรยาของเย่หมิงเป่ ย ภรรยาของลูกชายคนที่สาม


ของตระกูลเย่

เย่หมิงเป่ ยดูออก จึงกล่าวกับภรรยาด้วยรอยยิม้ “คุณไปต้อนรับ


แขกของที่บา้ นเราก็พอแล้วล่ะครับ”

เย่ฉูฉู่ดูออกว่าพี่ชายสามหมายถึงอะไร จึงดึงโจวหมิ่นเข้าห้อง
ทางทิศตะวันตกด้วยรอยยิม้ “พี่สะใภ้สาม พี่ชายสามพูดถูก สิ่ ง
ที่พี่ตอ้ งทาในตอนนี้ คือนัง่ คุยเป็นเพื่อนฉันที่เป็นแขกยังไงล่ะ
คะ”
โจวหมิ่นถูกหยอกล้อจนหลุดหัวเราะ “ก็ได้ พวกเราไปคุยกัน
เถอะ ฉันจะให้เธอดูของขวัญที่ฉนั นากลับมาให้คุณแม่ดว้ ย”

คุณแม่เย่พาลูกสะใภ้ท้ งั สองไปทาข้างนอกห้อง เย่หมิงเป่ ยที่จะไป


ช่วยก็ถูกคุณแม่เย่ดนั ไปห้องตะวันออกพร้อมกับจ้าวเหวินเทา

“พวกเธออย่ามาเกะกะที่นี่ ไปคุยกันในห้องนั้นเถอะ” คุณแม่เย่


สั่ง เมื่อพวกเขาที่เป็นคนแขนขายาวเดินออกไป ในที่สุดด้าน
นอกก็มีพ้นื ที่

เมื่อมีคนเยอะขึ้น ห้องก็ดูเล็กลง คุณพ่อเย่กาลังนัง่ ม้วนยาสู บอยู่


บนขอบเตียง มองดู ลูกชายทั้งสามคนและลูกเขยอี กหนึ่ งคน
ฟั งเสี ยงเจี๊ยวจ๊าวของหลาน ๆ ที่อยู่ดา้ นนอก ก็ยิ่งรู ้สึกว่าพื้นที่
ไม่พออาศัยแล้ว

“วันนี้ ฉันไปถามที่ ทีมมา มี การกาหนดวันที่ จะเชื อดหมูแล้ว


เป็ นวันมะรื นนี้ เหวินเทา ถึงตอนนั้นเธอก็พาฉูฉู่กลับมากินเนื้อ
หมูดว้ ยล่ะ” คุณพ่อเย่กล่าว
จ้าวเหวินเทาได้รับความโปรดปรานอย่างไม่คาดฝั นก็ถึ ง กับ
ประหลาดใจเล็กน้อย นี่เป็ นครั้งแรกที่พ่อตาเอ่ยปากเชิญเขาเลย
นะ

“ได้ครับ ผมจะพาฉู ฉู่กลับมาแน่ นอน” จ้าวเหวินเทาไม่กล่าว


อะไรอีก

คุณพ่อเย่พยักหน้า ก่อนจะกล่าวกับพวกลูก ๆ “ฉันไปถามใน


ทีมเรื่ องสัญญาที่ดินมาแล้ว เรื่ องนี่ ถูกกาหนดแล้ว จะเริ่ มแบ่ง
ที่ดินฤดูใบไม้ผลิเดือนหน้า”

“จริ งเหรอพ่อ?” พี่ใหญ่เย่กล่าวอย่างประหลาดใจ “เอกสารยัง


ไม่มาไม่ใช่เหรอ?”

“มาแล้ว แค่ยงั มาไม่ถึงพวกเรา อีกไม่กี่วนั ก็ถึงแล้ว” คุณพ่อเย่


กล่าวอย่างจริ งจัง แต่ท่ามกลางความจริ งจังก็แฝงด้วยความสุ ข
ตระกูลของเขามีลูกเยอะ ที่ดินที่แบ่งได้ก็จะมากขึ้นด้วย ตอน
ช่ วยเหลือกันพวกเขาก็ใช้ชีวิตได้ไม่เลว ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึงการ
ทางานแยกกันเลย

คอยดูเถอะ ถึงตอนนั้นแต่ละคนได้ไปใช้ชีวิตของตัวเอง การ


ใช้ชี วิต ของตระกูล เย่ข องพวกเขาจะต้อ งดี ที่ สุ ด ในหมู่ บ้า น
แน่นอน!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ คุณพ่อเย่กย็ ดื ตัวขึ้นเล็กน้อย

“ฉั น ยัง มี อี ก หนึ่ งเรื่ อง” คุ ณ พ่ อ เย่ ก ล่ า วอย่ า งช้ า ๆ และ


ตรงไปตรงมา “ฉันขอที่ดินสามผืน พวกแกสามพี่นอ้ งแบ่งไป
คนละผืน ฤดูใบไม้ผลิปีหน้าก็ไปสร้างบ้านแยกเป็ นของตัวเอง
ซะ!”

คุ ณ พ่ อ เย่ก ล่ า วว่ า ปี หน้า จะสร้ า งบ้า น พี่ ช ายทั้ง สามคนของ


ตระกูลเย่ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่จา้ วเหวินเทากลับประหลาดใจ

การสร้างบ้านเป็ นความปรารถนาของเขามาโดยตลอดเลยนะ
ตอนที่ 83 ตระกูลเย่ คกึ คัก

“พ่อ สร้างบ้านหนึ่งหลังต้องใช้เงินตั้งเท่าไร?” พี่ใหญ่เย่กล่าว

ถูกต้อง สร้างบ้านสามหลังพร้อมกัน ต้องใช้เงินเท่าไรกัน?

จ้าวเหวินเทามองพ่อตาตัวเอง เขาเองก็อยากรู ้เช่นกัน

คุณพ่อเย่จุดยาสู บ อัดควันเข้าหนึ่งคาพลางกล่าว “ต้นไม้ที่ปลูก


ไว้หลังบ้านพวกเราจะให้พวกแกเอาไปสร้างบ้าน ฉันไปคุยกับ
น้าเล็กของพวกแกแล้ว ใช้ตน้ ไม้พวกนั้นแลกกับแปไม้บา้ น
ของพวกเขา พวกเขาก็ตกลงแล้ว”

ตอนนี้ ดา้ นหลังบ้านของแต่ละหลังในชนบทต่างก็ปลูกต้นไม้


ซึ่ งก็ คื อ แปไม้บ ้า นที่ เ ตรียมไว้ใ ห้ ลู ก ชายน าไปสร้ า งบ้า น
เพียงแต่ตน้ ไม้ที่เพิ่งโค่นลงจะไม่สามารถใช้ได้ในทันที ต้อง
วางทิ้งไว้ 2-3 ปี รอจนแห้งถึงจะใช้งานได้
ลูก ๆ ของน้องชายคุณแม่เย่ยงั เล็ก ยังไม่ถึงเวลาที่จะสร้างบ้าน
ไม้แ ห้ง ที่ อ ยู่ใ นบ้า นจึ ง น ามาแลกกับต้น ไม้ของตระกูล เย่ได้
พอดี จึงนามาสร้างบ้านในอนาคตได้โดยไม่เสี ยเวลา

คุณพ่อเย่กล่าวต่อไปว่า “แปไม้บา้ นก็มีแล้ว อย่างอื่นก็ง่ายแล้ว


วางรากฐานด้วยหิ น แล้วก็ไปโรงงานอิฐลากอิฐที่ชารุ ดมาสัก
หน่อย นามาขึ้นโครง ส่ วนอื่นก็ใช้ดิน ใช้เงินไม่มากหรอก”

จ้าวเหวินเทาอดไม่ได้ที่จะพูด “คุณพ่อ ทาไมถึงไม่เก็บเงินสัก


สองปี แล้วค่อยสร้างบ้านอิฐล่ะครับ?”

ในเวลานี้ คุณแม่เย่ได้เดิ นเข้ามาเทน้ าเดื อดในห้อง ครั้นได้ฟัง


คาพูดของลูกเขยจึงตอบไปว่า “เหวินเทา บ้านอิฐมันดูดีก็จริ ง
แต่มนั ก็ไม่อบอุ่นเลย ลมเข้าทั้งสี่ ดา้ น”

คุณพ่อเย่กล่าว “แม่ของเธอพูดถูก ปี หน้าก็ตอ้ งทากันเองแล้ว


ไม่ ว่าอะไรก็ตอ้ งจัดการด้วยตัวเอง เก็บเงิ นไว้สักหน่ อยแล้ว
วางแผนให้ดี ๆ ใช้ชีวิตให้ดีข้ ึน มีเงินแล้วอยากจะสร้างแบบ
ไหนก็สร้างได้ท้ งั นั้น”

จ้าวเหวินเทากลับไม่เห็นด้วย สาหรับเขา ถ้าหากจะสร้างบ้านก็


ต้องสร้างแบบที่ดีที่สุด แบบนั้นจะทาให้ได้หน้าขนาดไหนกัน
นะ?

เย่หมิงเป่ ยกล่าว “พ่อ หมินหมิ่นยังต้องกลับไปเรี ยน ผมยังไม่


รี บ สร้างบ้านให้พี่ใหญ่กบั พี่รองก่อนเถอะครับ แบบนี้ สภาพ
ทางการเงินก็ไม่ติดขัดด้วย”

พี่รองเย่รีบกล่าว “พ่อ ผมเองก็ไม่รีบเหมือนกัน ลูก ๆ ยังเด็กอยู่


เลย อยูด่ ว้ ยกันก็ดีจะตายไป”

คุ ณพ่อเย่กล่ าว “ก่ อนหน้านี้ อยู่ด้วยกันก็ไม่ เป็ นไรหรอก ได้


ช่ วยเหลื อกันและกัน แต่ หลังจากนี้ คงไม่ได้แล้ว ถ้าอยากใช้
ชี วิตดี ๆ ก็ตอ้ งออกแรงเยอะ ๆ พอมีเรื่ องคนนูน้ ออกแรงเยอะ
คนนี้ ออกแรงน้อ ย มี ค นเป็ นตัว ถ่ ว งอะไรพวกนี้ ก็มี ปั ญ หา
ขึ้นมาอีก ต่อให้เป็นพี่นอ้ งท้องไส้เดียวกัน นานวันเข้าก็มีห่าง
เหิ น เจ้าสามไม่อยากสร้างก่อนก็ไม่ตอ้ งสร้าง สถานการณ์ของ
เขาพิเศษกว่าคนอื่น ส่ วนพวกแกสองคนต้องสร้าง เป็ นพ่อคน
แล้ว ก็ควรเป็ นเสาหลักของบ้าน พึ่งฉันกับแม่แกไม่ได้แล้ว ถึง
ยังไงพวกเราเองก็อายุเยอะขนาดนี้แล้ว ไม่รู้ว่าจะอยูไ่ ด้อีกนาน
แค่ไหน”

“พ่อ!” พี่รองเย่ได้ยินก็รู้สึกไม่มีความสุ ขขึ้นมา “คุยกันอยู่ดี ๆ


พูดเรื่ องนี้ทาไมครับเนี่ย”

พี่ใหญ่เย่กล่าว “นัน่ สิ พ่อกับแม่ร่างกายแข็งแรงจะตายไป!”

“ทาไมจะพูดไม่ได้ อายุกม็ ากขนาดนี้แล้ว” คุณพ่อเย่กล่าวจบก็


กล่าวอีกว่า “แล้วก็ ฉันกับแม่แกปรึ กษากันแล้ว พวกเราจะอยู่
กันเองอีกสักสองสามปี ไม่ไปอยู่กบั ใครทั้งนั้น รอให้เดินไม่
ไหว ค่ อยมาหาพวกแก ถ้าพวกเราไม่ อยู่แล้ว ทรั พย์สินของ
ครอบครัวที่มีกใ็ ห้พวกแกสามคนพี่นอ้ งแบ่งกันอย่างเท่าเทียม
รวมถึงในบ้านหลังนี้ดว้ ย”

พี่ใหญ่เย่ร้อนใจ “พ่อ พ่อจะอยูก่ บั พวกเราไม่ใช่เหรอ? ทาไมถึง


ไปอยูก่ นั เองแล้วล่ะ”

คุณแม่เดินถือกระดานนวดแป้งเข้ามาวางบนเตียงเตา ด้านนอก
บ้านอากาศหนาว ห่อเกี๊ยวต้องมาห่อข้างใน ถึงจะอบอุ่น

“พวกเราเองก็อยากใช้ชีวิตของตัวเองบ้าง” คุณแม่เย่ยมิ้ “แม่ไม่


เหมือนกับพ่อของลูกหรอกนะ เอาแต่บอกว่าแก่แล้ว ๆ แม่รู้สึก
ว่าตัวเองยังสาวอยู่เลย แม่ตอ้ งใช้ชีวิตอย่างดีต่อไปอีกสามสี่ ปี
เลยล่ะ”

“คุ ณ แม่ มาอยู่ก ับ พวกเราก็ใ ช้ชี วิ ต ดี ๆ ได้เ หมื อ นกัน ไม่ ใ ช่


เหรอ? พวกเราเองก็เชื่ อฟั งคุณแม่นะคะ” พี่สะใภ้ใหญ่เย่กล่าว
“คุ ณ แม่ ก ับ คุ ณ พ่ อ ไปอยู่ ก ัน เองแบบนั้น ถ้า คนอื่ น รู ้ เ ข้า คง
หัวเราะตายเลย?”
คุณแม่เย่รับกะละมังแป้ งจากพี่สะใภ้รองเย่ไปอย่างคล่องแคล่ว
นางเทลงบนกระดานนวดแป้ ง เริ่ มนวดแป้ งไปพลางพูดไป
พลาง “กลัวคนอื่นหัวเราะถึงทาดีกบั พ่อแม่แบบนั้นไม่เรี ยกว่า
กตัญญูนะ”

พี่สะใภ้ใหญ่เย่ไม่ได้โกรธ เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุ ณแม่ ฉัน


เองก็แยกจากคุ ณแม่ไม่ได้อยู่แล้วน่ ะค่ะ ไม่มีคุณแม่คอยช่ วย
ดูแล พวกเราก็ไม่รู้วา่ จะใช้ชีวติ กันยังไง”

พี่สะใภ้รองเย่กล่าว “นั่นสิ คะ คุ ณแม่ ฉันว่าใช้ชีวิตแบบนี้ ก็ดี


นะคะ จะสร้างบ้านทาไมกัน”

ค าพู ด ของพี่ ส ะใภ้ร องเย่ฟั ง ดู จ ริ ง ใจ อยู่ก ับพ่ อ แม่ ส ามี ม าตั้ง


หลายปี ไม่ตอ้ งเป็นกังวลอะไรเลย ถึงเวลาก็กินข้าว ถึงเวลาก็
ทางาน เป็ นอิสระจะตาย

ประเด็ น ส าคัญ ก็ คื อ คุ ณ แม่ เ ย่ ไ ม่ ใ ช่ พ วกอนุ รั ก ษนิ ย ม ไม่


เหมือนกับแม่สามีคนอื่น ๆ ที่ใจร้ายกับลูกสะใภ้ อาศัยอยู่ใต้
การดูแลของแม่สามีคนนี้ เรี ยกได้ว่าใช้ชีวิตสะดวกสบายเชียว
ล่ะ

พี่สะใภ้ใหญ่เย่กลับหวังว่าจะได้สร้างบ้านแยกตัวออกไป แต่
หล่อนอยากแยกออกจากครอบครัวน้องสามีท้ งั สอง ไม่ใช่แยก
จากพ่อแม่สามี

พ่อแม่สามีมีความสามารถ หากอยู่ดว้ ยกันคงช่ วยเหลือหล่อน


ได้ไม่นอ้ ย โดยเฉพาะแม่สามี หล่อนเองก็ไม่ใช่คนโง่ หลายปี
มานี้ลว้ นเห็นทั้งหมด ว่าชีวิตของตระกูลเย่พ่ งึ พาแม่สามีท้ งั นั้น
หล่อนจึงอยากอยูก่ บั แม่สามีจากใจจริ ง

คุ ณ แม่ เ ย่ย่อ มรู ้ ความคิ ด ของลู ก สะใภ้ท้ งั สอง นางกล่ า วด้วย


รอยยิ้ ม “พวกเธอทั้ งสองคนก็ เ ป็ นแม่ ค นแล้ ว ควรต้ อ ง
รับผิดชอบภาระแล้ว แม่ไม่อยากเป็ นกังวลทั้งชีวติ ”

แม่สามีพูดเคล้ารอยยิม้ และตัดสิ นใจเรื่ องนี้


พี่ ใ หญ่ เ ย่ เ ห็ น พ่ อ กับ แม่ ต ัด สิ น ใจแล้ว จึ ง ไม่ ใ ช่ เ รื่ อ งดี ที่ จ ะ
คัดค้านอีก

ภายในใจของพี่รองเย่แอบหดหู่ ใช้ชีวิตกันเองก็ใช้ไปสิ ทาไม


ต้องแยกบ้านด้วย อยูด่ ว้ ยกันก็ดีจะตายไป?

นิสัยของเขาเหมือนกับภรรยา ตรงที่ข้ ีเกียจจะต้องมานัง่ กังวลใจ

เย่ห มิ ง เป่ ยเองก็ไ ม่ ไ ด้มี ค วามเห็ นใด ๆ มาแต่ ไ หนแต่ ไ ร ถึ ง


อย่างไรเขาก็ยงั อยูก่ บั พ่อแม่ได้อีกชัว่ คราว

อีกอย่าง ตอนนี้ภรรยาของตัวเองก็กลับมาแล้ว เรื่ องอื่นยังเป็ น


ปัญหาอะไรอีกเหรอ ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้นแหละ!

จ้ า วเหวิ น เทาแอบลอบถอนหายใจอยู่ ใ นใจ เขามองดู


บรรยากาศภายในบ้านของแม่ภรรยา และย้อนกลับไปดูบา้ น
ของตัวเอง แต่ละคนต่างก็มีความคิดเป็ นของตัวเอง นี่แหละคือ
ความแตกต่าง!
หลังจากพูดเรื่ องเป็ นจริ งเป็ น จังจบแล้ว ก็เริ่ มห่ อเกี๊ยว ผูช้ ายใน
บ้านตระกูลเย่ไม่ได้เหมือนกับผูช้ ายที่มีปัญหาเยอะแยะแบบ
นั้น ภายใต้การนาของคุณพ่อเย่ ลูกชายทั้งสามคนก็เริ่ มลงมือ
ห่อเกี๊ยว

จ้าวเหวินเทาเห็นก็ลงมือเช่นกัน หลังจากห่อเกี๊ยวบิด ๆ เบี้ยว ๆ


ไปสองสามลูก ก็ค่อย ๆ ดูดีข้ ึนมา

คุณแม่เย่พาลูกสะใภ้ท้ งั สองมารี ดแป้ง

มีคนเยอะขนาดนี้ แต่ก็ไม่ได้มีแป้ งขาวมากขนาดนั้น จึงทาได้


แค่ใช้แป้งบักวีต แต่แป้งบักวีตนั้นเละเกินว่าจะใช้ไม้รีดแป้ งได้
จึงทาได้เพียงแค่ใช้มือตบ

นี่ ก็เป็นงานที่ใช้ทกั ษะ ต้องรี ดให้เป็นทรงกลม ขอบห้ามหนา


ไม่ เ ช่ น นั้น จะไม่ อ ร่ อ ย ตรงกลางห้า มบางเพราะไส้ จ ะทะลุ
สามารถพูดได้วา่ แป้งบักวีตทายากกว่าแป้งขาวเสี ยอีก
คุ ณแม่เย่ พี่สะใภ้ใหญ่เย่และพี่สะใภ้รองเย่ต่างก็มีทกั ษะฝี มือ
รี ดแป้ งเป็ นทรงกลม คลึงไปห้าหกครั้ง ก็กลายเป็ นทรงกลม
แล้ว แป้ งทรงกลมที่ตรงกลางหนาขอบบางขึ้นรู ปแล้ว ส่ งออก
ไปเบา ๆ แป้ ง ทรงกลมก็ ส ไลด์ ไ ปด้ า นหน้ า คนห่ อ เกี๊ ย ว
อัตโนมัติ จากนั้นก็ตบก้อนต่อไป การเคลื่อนไหวแบบเมฆเหิ น
น้ าไหลแบบนี้ ย่อมทาให้แป้ งมีขนาดเท่ากันเป็ นธรรมดา ดู ๆ
ไปแล้วให้ความรู ้สึกถึงความงดงามในการเคลื่อนไหว

คนที่ห่อเกี๊ยวก็ไม่ได้ถูกทิ้งไว้ดา้ นหลัง คุณพ่อเย่ใช้มือข้างหนึ่ง


จับแป้ ง ส่ วนอีกข้างถือตะเกียบ คีบไส้หนึ่ งครั้งได้อย่างพอดี
ฝ่ ามือห่อเข้าด้วยกัน นิ้วโป้งกดลงบนนิ้วอื่น ๆ ทั้งสี่ ทีละนิ้ว กด
อยู่สามสี่ ครั้งเกี๊ยวก็ได้รูป จากนั้นจึงนาไปวางบนกระด้งที่ทา
มาจากก้านข้าวฟ่ าง

สามพี่ น้อ งตระกูล เย่ห่ อ เร็ ว กว่า คุ ณ พ่ อ เย่ มื อ ทั้ง สองข้า งให้
ความร่ วมมือเป็ นอย่างดี ขยับตะเกียบได้รวดเร็ วปานลมกรด
เกี๊ยวปรากฎขึ้นชิ้นแล้วชิ้นเล่า เพียงไม่นานก็เรี ยงจนเต็มหนึ่ ง
กระด้ง

จ้าวเหวินเทาทาช้าที่สุด ปกติอยูบ่ า้ นเขาไม่เคยทางานพวกนี้มา


ก่อน แต่เขากลับห่อได้ดูดีมาก เล็กกะทัดรัดดูประณี ต ถ้าได้กิน
ก็คงมีรสชาติที่แตกต่างออกไป

อย่า มองว่า ห่ อ เร็ ว และค่ อ นข้างมี ความเป็ นมื อ อาชี พ ทว่า ก็


ไม่ได้ทาให้การสนทนาล่าช้าลงเลย เธอพูดหนึ่ งประโยคฉัน
พู ด หนึ่ ง ประโยค ตอนที่ พู ด ถึ ง เรื่ อ งมี ค วามสุ ข ก็หัว เราะร่ า
ออกมา สามารถพูดได้วา่ ผูม้ ีฝีมืออยูใ่ นกลุ่มชาวบ้านนี่แหละ

เกี๊ยวของทุกคนใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชัว่ โมงก็ห่อเสร็ จแล้ว ตอนที่


ห่ อเกี๊ยวเสร็ จ พี่สะใภ้ใหญ่เย่กต็ ะโกนเรี ยกลูก ๆ ของตัวเองให้
แบกฟื นไปเผา
ในชนบท เด็กอายุ 4-5 ขวบก็เริ่ มช่ วยที่บา้ นทางานกันแล้ว ยิ่ง
ไม่ตอ้ งพูดถึงเด็กสิ บกว่าขวบเลย เรี ยกว่าเกือบจะเป็ นครึ่ งหนึ่ ง
ของกาลังแรงงานอยูแ่ ล้ว
ตอนที่ 84 ครอบครัวอยู่กนั พร้ อมหน้ าพร้ อมตา

“คุณแม่ หนูเติมหญ้าให้สัตว์เลี้ยงแล้วนะคะ รอพวกมันกินอิ่ม


ค่อยให้กินน้ า จุดเตาเตียงแล้ว อุ่นเชี ยวค่ะ น้ าก็ตม้ ไว้จนเดือด
หม้อหนึ่งแล้ว”

“หนูกด็ ว้ ย”

“ยังมีผมอีกคน!”

“ผมเองก็ทาแล้ว ไปแบกฟื นให้แล้วนะครับ!”

พวกเด็ก ๆ ต่างเข้ามาอ้างความดีความชอบให้ตวั เองกันเสี ยงดัง


เจี๊ยวจ๊าว

“ทาได้ดีจะ้ อี กเดี๋ ยวแม่ จะให้กินเกี๊ ยวเพิ่มอี กสองสามชิ้ นนะ


จ๊ะ!”
“เก่งมาก หลังจากนี้ทาต่อไปนะ”

“อีกเดี๋ยวอย่าลืมเอาเสื้ อไปแช่ในน้ าร้อนแล้วซักนะ”

พวกผูใ้ หญ่ไม่ได้เก็บมาใส่ ใจ กล่าวชื่นชมไปสองสามประโยค


อย่างขอไปที จากนั้นก็จดั เตรี ยมงานที่มากยิง่ ขึ้น

พวกเด็ก ๆ ได้ยนิ ว่าจะได้รับประทานเกี๊ยวเพิ่มอีกสองสามชิ้น


ก็มีพลังงานเต็มเปี่ ยม คนที่ขนฟื นก็ขนฟื น คนที่จุดไฟก็จุดไฟ
เริ่ มทางานกันขันแข็งแล้ว

ไม่ เหมื อนกับยุคหลัง ที่ เด็ก ๆ ล้วนกลายเป็ นบรรพบุ รุ ษ กัน


หมดแล้ว จับต้องไม่ได้ ดุด่าไม่ได้ ให้ทางานเหนื่ อยก็ไม่ได้ ดู
เด็ก ๆ ในตอนนี้สิ แข็งแรงกันขนาดไหน?

ครั้ นน้ า เดื อ ดแล้ว คุ ณ แม่ เ ย่จึ ง ไปต้ม เกี๊ ย ว แล้ว นางก็พู ด กับ
ลู กสะใภ้ท้ งั สองว่า “ผักใบเขี ยวที่ เหวินเทาเอามา พวกเธอก็
เลือกเอาไปทากับข้าวสักสองสามอย่างนะ”
พี่สะใภ้ใหญ่เย่และพี่สะใภ้รองเย่รู้สึกประหลาดใจมาก กล่าว
ด้วยรอยยิม้ ว่า “เหวินเทาเอาผักใบเขียวมาด้วยเหรอคะ?”

จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้ “ผมย้ายที่คา้ ขายก็เลยเหลื อผัก


ใบเขี ย วมานิ ด หน่ อ ย ของพวกนี้ เก็บไว้น านไม่ ไ ด้ แช่ แ ข็งก็
ไม่ได้ อุุ่นร้อนก็ไม่ได้ กินได้กร็ ี บกินเถอะครับ”

“ผักใบเขียวในตอนนี้มีราคาสู งเชียวล่ะ” พี่สะใภ้ใหญ่เย่มองผัก


ใบเขียวที่ถูกห่อด้วยผ้าสักหลาดในตะกร้า กล่าวว่า “คุณแม่ กิน
เกี๊ยวแล้วยังจะทากับข้าวอีกเหรอคะ? คงกินไม่ทนั หรอกค่ะ”

“เอาไปผัดเป็นกับข้าวสักสี่ อย่างเถอะ” คุณแม่เย่กล่าว “เอามา


กินดีกว่าวางไว้จนเน่า”

พี่สะใภ้รองเย่ชอบความใจกว้างแบบนี้ ของแม่ สามี หล่อนจึง


หยิบผักใบเขียวแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อพี่สะใภ้ใหญ่
เสี ยดาย เดี๋ยวฉันทาเองค่ะ!” จากนั้นหล่อนก็เอาผักไปล้าง
พี่สะใภ้ใหญ่เย่แย้มยิม้ “เธอคิดมาสี่ อย่างก็แล้วกัน พี่จะไปทา
อย่างอื่นมาอีกสองจาน ไม่รู้วา่ ผักกาดดองเปรี้ ยวหรื อยัง”

“แม่ชิมดูแล้ว ยังไม่เปรี้ ยว เธอไปทาอย่างอื่นมาสักหน่อยแล้ว


กัน” คุณแม่เย่กวนเกี๊ยวเบา ๆ

“ได้ค่ ะ คุ ณ แม่ ฉัน จะไปตัด ต้นกระเที ย มสั ก หน่ อย” พี่ ส ะใภ้
ใหญ่เย่เดินไปที่บา้ นของตัวเอง

ต้นกระเที ยมตอนนี้ มีบางส่ วนโตอยู่บนถาดชา ก็แค่ วางราก


กระเที ยมลงไปตรง ๆ รดน้ า แค่ ไม่ กี่วนั ก็งอกเงยขึ้ นมาแล้ว
พึ่งพาแค่น้ า ต้นกระเทียมก็คงเติบโตได้ไม่สูงเท่าไรนัก หลัง
ผ่านฤดูปลูกสองฤดูมนั ก็ใช้อาหารสะสมในหัวไปจนหมดแล้ว

ทางที่ดีที่สุดคือใช้ดินปลูก ใส่ ปุ๋ยลงไปสักหน่อย ตอนค่านาไป


วางบนหัวเตียง ตอนเช้าวางใต้แสงอาทิตย์ แต่ไม่ใช่ นาไปวาง
ด้านนอก ต้องวางบนเตียงที่มีแสงแดดเข้าถึง
พี่ใหญ่เย่ตอกแผ่นไม้บนกล่องสองสามกล่อง ใช้สาหรับปลูก
หัวหอมและกระเทียมโดยเฉพาะ พวกมันเติบโตได้เป็ นอย่างดี
ซึ่ งพี่สะใภ้ใหญ่ เย่ก็ลงมื อตัดมันด้วยกรรไกรอย่างมันมื อ ใส่
เนื้อลงไปเล็กน้อยก่อนจะจัดใส่ จาน

มี หม้อสองใบ ทางฝั่ งนี้ ตม้ เกี๊ ยว ทางฝั่ งนั้นผัดกับข้าว ไม่ ได้


เสี ยเวลาแม้แต่นอ้ ย เมื่อเกี๊ยวสุ ก กับข้าวก็ผดั เสร็จพอดี

จ้าวเหวินเทาทุบกระเทียมไปพลางก็มองผ่านช่ องประตู ห้อง


ทิศตะวันตกไปพลาง เขาพบว่าภรรยากาลังคุยอย่างออกรสกับ
พี่สะใภ้สาม จึงตะโกนด้วยรอยยิม้ ว่า “ถ้าพวกเธอยังไม่ออกมา
จะไม่เหลือเกี๊ยวให้กินแล้วนะ!”

โจวหมิ่ น ขานตอบด้ว ยรอยยิ้ม “ไม่ มี ข องฉัน แต่ ก็ย งั มี ข อง


ภรรยานายสิ นะ?”

จ้าวเหวินเทาแย้มยิม้ “ถ้าไม่มีของพี่สะใภ้สาม แบบนั้นพี่สาม


ของผมคงโมโหแย่เลยมั้งครับเนี่ย?”
เย่ฉูฉู่เปิ ดประตูออกมาพลางกลอกตาใส่ เขา “เลิกทาตัวเป็ นเด็ก
สักทีค่ะ”

จ้าวเหวินเทายิม้

“คุ ณย่า พวกเราหิ วแล้ว เมื่อไรจะได้กินข้าวครับ/คะ!” เด็ก ๆ


ทั้ งเก้ า ยื น ต่ อ แถวอยู่ ห น้ า ประตู เอ่ ย ถามด้ ว ยน้ าเสี ยง
กระตือรื อร้น

“จะกินกันแล้ว พวกเธอเลื่อนโต๊ะเลื่อนเก้าอี้เร็ว” คุณแม่เย่กล่าว


ด้วยรอยยิม้

พวกเด็ก ๆ จึงเข้าห้องทางานตามที่ได้รับมอบหมาย

เด็กพวกนี้ ถ้าหากไม่มีเงินสักหน่ อย คงเลี้ยงพวกเขาไม่ ไหว


แน่!

คนมากขนาดนี้ โต๊ะเพียงโต๊ะเดียวนัง่ ไม่พออยูแ่ ล้ว คุณแม่เย่จึง


เรี ย กพวกผู ้ช ายให้ ข้ ึ นไปนั่ ง บนเตี ย งเพื่ อ ท าเป็ นโต๊ ะ เตี ย ง
ส่ วนบนพื้นให้พวกเด็ก ๆ นัง่ ห้องตะวันตกมีโต๊ะเพิ่มขึ้นมาอีก
โต๊ะหนึ่งให้พวกผูห้ ญิงนัง่ อยูท่ างฝั่งนี้

“พวกเรากินกันเงียบ ๆ เถอะ ให้พวกเด็ก ๆ กินของพวกเขาไป”


พี่สะใภ้ใหญ่นาอาหารมาวางด้วยรอยยิม้

กับข้าวมีท้ งั หมดหกอย่าง มีอาหารจากผักใบเขียวที่จา้ วเหวินเทา


และเย่ฉูฉู่นามาให้อยู่สี่อย่าง หมูตากรมควันผัดขึ้นฉ่ าย บวบผัด
ไข่ ยาแตงกวา และมะเขือเส้นผัดพริ กฝอย

ส่ วนอีกสองอย่างที่เหลือเป็ นอาหารที่พี่สะใภ้ใหญ่เย่เ ป็ นคน


พิจารณาทาออกมา คือหมูผดั ต้นอ่อนกระเทียม ผักกาดดองตุ๋น
มันฝรั่งชิ้ น เสริ มด้วยกระเที ยมสับที่จา้ วเหวินเทาเป็ นคนทุ บ
หนึ่ งถ้ว ยเล็ ก ราดด้ว ยซี อิ๊ ว ขาว น้ าส้ ม สายชู แ ละน้ ามัน งา
รับประทานคู่กบั เกี๊ยวแล้วหอมยิง่ นัก
เป็ นเพราะแบ่งออกเป็ นสามโต๊ะ ปริ มาณของกับข้าวจึงไม่มาก
แต่โชคดีที่รับประทานเกี๊ยว จึงรับประทานกับข้าวกันแทบไม่
ทัน แค่น้ ีกพ็ อแล้ว

“จะดื่ มเหล้าก็ไปหยิบมานะ เมื่อไม่กี่วนั ก่อนพ่อของพวกเธอ


เปิ ดเหล้าแบ่งขายมาสองสามถัง สี่ สิบกว่าดีกรี ใครอยากดื่มก็
ไปหยิบเองได้เลย” คุณแม่เย่พูดจบก็ไปทางานของนางต่อ

พี่สะใภ้ใหญ่เย่กล่าว “น้องสะใภ้สามกับน้องสามี พวกเธอสอง


คนอย่าดื่มล่ะ เขาบอกว่าถ้าอยากมีลูกห้ามดื่มเหล้า”

เย่ฉูฉู่และโจวหมิ่นแอบรู ้สึกพิพกั พิพ่วนเล็กน้อย

พี่สะใภ้รองเย่แย้มยิม้ “ทุกคนดูพวกเธอสองคนสิ ขนาดนี้แล้ว


ยังอายอีก ฮ่า ๆ!”

“พี่ ส ะใภ้ร องคะ!” ทั้ง สองคนพร้ อ มใจกัน ส่ ง สายตาต าหนิ


พี่สะใภ้รองเย่
พี่สะใภ้รองเย่หัวเราะร่ า “เอาล่ะ ๆ วัยรุ่ นหน้าบางนี่ นะ ไม่พูด
แล้วก็ได้ พี่จะไปหยิบเหล้า พวกเราดื่มกันสักสองสามถ้วย กิน
เกี๊ยวคู่กบั เหล้า เทพเจ้าไม่เปลี่ยนแปลงโชคชะตาหรอก!”

พี่สะใภ้ใหญ่เย่และพี่สะใภ้รองเย่คอแข็งไม่เบา แม้แต่คุณแม่เย่
ก็ไม่นอ้ ยหน้า ดื่มไปครึ่ งชัง่ แล้วก็ยงั ไม่เป็ นอะไร

อันที่จริ งจะว่าไปแแล้วคนทางเหนื อจานวนมากต่างก็คอแข็ง


กันทั้งนั้น นี่ ก็เป็ นเพราะอากาศหนาว การดื่ มเหล้าจึงช่ วยปั ด
เป่ าความหนาวเหน็บได้

ครั้นดื่มเหล้าแล้ว คุณแม่เย่กน็ งั่ ตัวตรง โจวหมิ่นริ นเหล้าให้คุณ


แม่ เย่เต็มแก้ว ตามด้วยริ นให้พี่สะใภ้ท้ งั สองจนเต็ม จากนั้น
หล่อนจึงพูดว่า “คุณแม่คะ ครั้งนี้ฉนั ไปนานขนาดนี้ หลายปี มา
นี้กไ็ ม่ได้ดูแลข้างกายคุณพ่อกับคุณแม่เลย ทั้งหมดนี้ตอ้ งพึ่งพา
พี่สะใภ้ใหญ่กบั พี่สะใภ้รอง ฉันเป็ นลูกอกตัญญู หวังว่าคุณแม่
จะไม่ตาหนิ ฉัน หลังจากนี้ ฉันกับหมิงเป่ ยจะใช้ชีวิตให้ดีอย่าง
แน่นอนค่ะ”

คุ ณแม่เย่มีความสุ ขมาก นางกล่าว “แม่รู้ว่ามหาวิทยาลัยของ


พวกเธอคงเรี ยนกันยุ่ง แต่ตอนนี้ ก็กลับมาแล้ว อันที่จริ งก็ไม่
ต้องพูดอะไรให้มากมายหรอก พวกเราต่ างก็เป็ นครอบครัว
เดียวกัน”

แม้ว่าจะเคยรู ้สึกไม่ดีกบั ลูกสะใภ้บา้ นเจ้าสาม เพราะหลังจาก


ภรรยาบ้านเจ้าสามสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้หล่อนก็ไม่ส่งข่าว
คราวกลับมาอีกเลย ในหมู่บา้ นมีคนที่นงั่ ว่างๆ จานวนไม่นอ้ ย
ที่คอยซุ บซิ บนิ นทา เจ้าสามต้องแบกรับแรงกดดันมากขนาด
ไหนกันนะ?

แต่ความไม่พอใจเหล่านั้นที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้มลายหายไป
จนหมดหลังจากที่ลูกสะใภ้สามกลับมา นางจึงไม่พูดถึงเรื่ อง
เก่า ๆ เหล่านั้นแล้ว
พี่สะใภ้ใหญ่เย่และพี่สะใภ้รองเย่กม็ ีความสุ ข “นัน่ สิ น้องสะใภ้
สามไม่ ต ้อ งเกรงใจขนาดนี้ หรอก พวกเราเป็ นครอบครั ว
เดียวกันนะ”

เย่ฉูฉู่ยกแก้วขึ้นมาด้วยรอยยิม้ “แม่คะ วันนี้ มีความสุ ขจริ ง ๆ


พวกเราได้อยูก่ นั พร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว!”

คุณแม่เย่มีความสุ ขมาก

พวกผูช้ ายที่อยู่ห้องตะวันออกก็ดื่มเหล้ากันอยู่ จ้าวเหวินเทา


และเย่หมิงเป่ ยก็ถูกลดทอนสิ ทธิ์ในการดื่มเช่นเดียวกัน

“พวกนายสองคนยังไม่มีลูก อย่าดื่ มเลย” พี่ใหญ่เย่พูดอย่างมี


ความรับผิดชอบ “กินเกี๊ยวเถอะ”

จ้าวเหวินเทานึ กถึ งตอนที่ ตนเองดื่ มกับพี่ใหญ่ หลิ วไปหลาย


ครั้ง ก็แอบรู ้สึกผิด จึงรี บตอบไปว่า “พี่ใหญ่พูดถูก พวกพี่ดื่ม
เถอะ คุณพ่อ ผมริ นให้นะครับ”
คุณพ่อเย่ ลูกชายคนโตและลูกชายคนที่สองดื่มเหล้ากันแล้ว

“เหวินเทา มาเถอะพวกเรามากินกัน” เย่หมิงเป่ ยอยู่เป็นเพื่อน


จ้าวเหวินเทา ด้วยการนัง่ รับประทานเกี๊ยวกันสองคน

พวกเด็ก ๆ ที่นงั่ อยูใ่ ต้เตียงห้อมล้อมโต๊ะที่เป็ นแผ่นไม้ประกบ


เข้า ด้ว ยกัน สองสามแผ่น ระหว่า งรั บประทานเกี๊ ย วค าโต ก็
รับประทานกับข้าวไปด้วย แต่ละคนดู คล้ายกับเสื อน้อย จ้อง
มองของหายากนั้น

เกี๊ยวมีท้ งั หมดสองไส้ มีไส้หวั ไชเท้าหมูสับและไส้ผกั กาดขาว


หมูสับ แม้ว่าผักมากเนื้อน้อยแต่กใ็ ส่ มนั หมูลงไปด้วย กัดหนึ่ง
คาน้ ามันจึงเยิม้ เต็มปาก ทุกคนกินกันอย่างหนาใจ นี่ แหละถึง
จะเรี ยกว่าการใช้ชีวติ !

หลังจากรับประทานเสร็ จเก็บกวาดเรี ยบร้อยก็เกือบค่าแล้ว จ้าว


เหวินเทาและเย่ฉูฉู่จึงกลับบ้านของตน
คุณแม่เย่จึงพูดกับลูกสะใภ้สาม “คิดไม่ถึงเลยว่ายัยหนู ฉูฉู่กบั
เธอจะคุยกันถูกคอเชียว”
ตอนที่ 85 กะล่อน

โจวหมิ่นกล่าวด้วยรอยยิม้ “คุณแม่ ฉูฉู่เปลี่ยนไปมากเลยนะคะ


วันนี้ ที่พูดคุยกันก็ดูอ่อนโยนขึ้น ฉันได้เจอแล้วก็รู้สึกว่าหาได้
ยากมากเลย”

คุณแม่เย่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ไม่ตอ้ งรอให้ลูกสะใภ้สามพูดถึง


ลูกสาวของนางหรอก แม้แต่ตวั หล่อนเองก็เปลี่ยนไปไม่น้อย
เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?

ก่อนหน้านี้โจวหมิ่นไม่ยนิ ดีที่จะทากิจกรรมร่ วมกับคนในบ้าน


กลับมาคราวนี้ นางเห็นแล้วก็รู้สึกพึงพอใจเป็ นอย่างมาก รู ้สึก
ได้วา่ หล่อนกลมกลืนเข้ากับตระกูลเย่แล้ว
“คุณแม่คะ ฉันเอาของขวัญมาให้ทุกคนด้วย มีของพวกพี่สะใภ้
ด้วยนะ มีของทุกคนเลย พวกเราไปแบ่งของกันเถอะค่ะ ดู ว่า
ทุกคนจะชอบกันหรื อเปล่า” โจวหมิ่นแย้มยิม้

คุณแม่เย่รีบกล่าว “มีน้ าใจก็พอแล้วล่ะ จะจ่ายเงินพวกนั้นไป


ทาไมกัน? เธอยังเรี ยนอยูน่ ะ เงินของตัวเองพอใช้เหรอ?”

“ฉันทางานหาเงินได้แล้วค่ะ ฉันร่ วมออกแบบเสื้ อผ้ากับเพื่อน


ไว้ขาย ได้เงินมาไม่นอ้ ยเลย” โจวหมิ่นกล่าวเคล้ารอยยิม้

หล่อนหยิบของขวัญออกมาจากกระเป๋ า เป็ นเพราะถือมาไม่


สะดวก คนในบ้านก็มีจานวนมาก ของที่นากลับมาจึงเป็ นของ
ที่ มี ประโยชน์ท้ งั หมด และหล่ อ นก็นาผ้ากลับมาให้พี่สะใภ้
ใหญ่และพี่สะใภ้รอง

คุ ณพ่อเย่และคุ ณแม่ เย่นอกจากจะได้ผา้ แล้ว แต่ ละคนยังได้


กางเกงฤดู ใบไม้ร่วงหนา ๆ หนึ่ งตัว ถุงเท้าสองคู่และรองเท้า
หนึ่ งคู่ และหมวกอีกหนึ่ งใบ เรี ยกได้ว่ามีต้ งั แต่หัวจรดเท้า ทั้ง
ด้านในจนถึงด้านนอกมีครบทั้งหมด

ประเพณี โดยทัว่ ไปของทางฝั่ งนี้ ลูกชายจะดู แลพ่อแม่ยามแก่


เฒ่า ส่ วนลูกสาวจัดการเรื่ องเสื้ อผ้า

แต่โจวหมิ่นรู ้สึกละอายใจ ในเมื่อกลับมาแล้ว หากทุ่มเทอย่าง


เต็มความสามารถได้หล่อนก็จะทาอย่างเต็มที่

“หมิ น หมิ่ น ทาไมเธอถึ ง ซื้ อ ของมาเยอะขนาดนี้ ? ใช้เ งิ น ไป


เท่าไรกันเนี่ ย?” คุ ณแม่เย่คิดไม่ถึงว่าหล่อนจะซื้ อมามากมาย
ขนาดนี้ จึงเอ่ยปากกล่าว

“คุณแม่คะ คุณแม่กบั คุณพ่อเหนื่อยมาทั้งชีวิตแล้ว ปี ใหม่แล้วก็


ควรจะเปลี่ยนของใหม่นะคะ” โจวหมิ่นกล่าวเคล้ารอยยิม้

เย่หมิงเป่ ยไม่ได้พูดอะไร เขาเอาแต่มองภรรยาของตนเองด้วย


รอยยิม้
โจวหมิ่นบอกให้แม่สามีลองสวมใส่ ดู

คุณแม่เย่กไ็ ม่ได้อิดออด ในเมื่อซื้อมาแล้วก็รับไว้อย่างใจกว้าง

พี่สะใภ้ใหญ่เย่และพี่สะใภ้รองเย่ได้รับผ้ามาก็ดีใจมากเช่นกัน
หลายปี มานี้ พวกหล่อนไม่ได้ใส่ เสื้ อผ้าชุ ดใหม่เลย ปี นี้ ท้ งั เด็ก
และผูใ้ หญ่ลว้ นได้เปลี่ยนมาใส่ เสื้ อใหม่กนั ทั้งหมด

แต่เมื่อเห็นโจวหมิ่นซื้ อมาให้พ่อแม่สามีมากขนาดนั้น ภายใน


ใจก็แอบพึมพาเช่นกัน พวกหล่อนที่เป็ นลูกสะใภ้เหมือนกัน ก็
ต้องแสดงน้ าใจในปี ใหม่น้ ีดว้ ยสิ นะ?

โจวหมิ่นเอ่ยปากพูดแล้ว ทั้งยังหยิบต่างหู ทองคู่หนึ่ งออกมา


โดย หล่อนยืน่ ให้คุณแม่เย่พลางกล่าว “คุณแม่คะ นอกจากของ
ชิ้ น อื่ น ๆ ต่ า งหูทองคู่ น้ ี ฉั น ตั้ งใจท าเพื่ อ มอบให้ คุ ณ แม่
โดยเฉพาะเลยนะคะ”
พี่สะใภ้ใหญ่เย่และพี่สะใภ้รองเย่ถึงกับอ้าปากค้าง พวกหล่อน
คิดไม่ถึงเลยว่าบ้านเจ้าสามจะซื้อเครื่ องประดับทองด้วย!

สู ้ไม่ได้ๆ พวกหล่อนไม่ขอทาตามแล้วกันนะ

“เด็กคนนี้” คุณแม่เย่เองก็คิดไม่ถึง นางมองภรรยาของบ้านเจ้าสาม

“แม่ หมิ นหมิ่ นซื้ อกลับมาแล้ว แม่ ก็รับไว้เถอะ” เย่หมิ ง เป่ ย


กล่าว

“คุณแม่รับไว้นะคะ” โจวหมิ่นกล่าวด้วยรอยยิม้

คุ ณแม่เย่พยักหน้าและรับไป ทว่านางเองก็เอ่ยถามเช่ นกันว่า


วิธีการทางธุ รกิจเสื้ อผ้าที่ลูกสะใภ้สามทาอยูด่ า้ นนอกเป็ นแบบ
ใด?

พี่สะใภ้ใหญ่เย่และพี่สะใภ้รองเย่กเ็ งี่ยหูฟังด้วยเช่นกัน
จากนั้น ก็ไ ด้ยิน สะใภ้บ ้า นสามเล่ า แบบง่ า ย ๆ ไปหนึ่ ง รอบ
แม้วา่ จะพูดอย่างง่าย ๆ แต่พวกหล่อนก็พอจะทราบแล้วว่าบ้าน
เจ้าสามร่ ารวยแล้วล่ะ!

ไม่แปลกใจเลยที่หล่อนจะไม่ได้กลับมามือเปล่า ไปเรี ยนแล้วก็


ยังทาเงินได้ดว้ ย!

ทุ กคนต่ างก็หยิบของขวัญของตัว เองกลับไป ตอนที่ ภายใน


ห้องเหลือแค่พวกเขาสองคน เย่หมิงเป่ ยก็เปิ ดกล่องของขวัญที่
ภรรยาซื้อกลับมาให้เขา

มันคือเสื้ อกันหนาวและกางเกงบุขนสัตว์กนั หนาว

“นี่ ใช้ดา้ ยขนแกะบริ สุทธิ์ ฉันตัดเย็บด้วยมือตัวเองเลยนะคะ”


โจวหมิ่นมองเขา “แต่ตอนนี้ ยงั ใส่ ไม่ได้ ฤดูใบไม้ผลิปีหน้าถึง
จะใส่ ได้นะ”
ฤดูหนาวที่นี่ ต่อให้เป็ นเสื้ อกันหนาวขนสัตว์ที่บริ สุทธิ์มากกว่า
นี้ ก็ย งั หนาวอยู่ดี มี เ ฉพาะกางเกงผ้า ฝ้ ายและแจ็ค เก็ต ผ้าฝ้ าย
เท่านั้นที่สามารถสู ้กบั ลมเหนือได้

ส่ ว นเสื้ อ ขนเป็ ด สิ่ ง นั้น เป็ นของที่ มี ร าคาแพงเกิ น ไป ยัง ซื้ อ


ไม่ได้จริ ง ๆ

“สวมใส่ เสื้ อที่ภรรยาเป็ นคนเย็บก็อบอุ่นแล้ว ภรรยา คุ ณช่ าง


แสนดีจริ งๆ” เย่หมิงเป่ ยมองภรรยาพลางกล่าว

“กะล่อนนักนะ” โจวหมิ่นหัวเราะเบา ๆ

“ภรรยา พวกเรานอนลงบนเตี ยงสักแป๊ บสิ ?” เย่ห มิ ง เป่ ยไม่


อยากจะทนอีกต่อไปแล้ว เขาจึงเอ่ยปากกล่าว

โจวหมิ่ นหน้าแดง หล่ อนหยิกเอวเขาพลางกล่ าว “เมื่ อคื น ก็


ไม่ได้พกั ทั้งคืน ไม่กลัวเหนื่อยจนเอวเคล็ดบ้างหรื อไงคะ?”

“งั้นรอคืนนี้กไ็ ด้” เย่หมิงเป่ ยจึงทาได้เพียงแค่พูดไป


โจวหมิ่นหน้าแดงระเรื่ อ หล่อนไม่สนใจเขาอีก

เมื่อคืนบุรุษหยาบกระด้างเล่นงานเสี ยจนแทบจะเอาชีวิตหล่อน
ไปอยู่แ ล้ว แต่ ห ล่ อ นก็ทราบดี ว่า เขาเองก็ใ ห้ชีวิ ต กับหล่ อน
เช่นกัน

ไม่วา่ จะชาติที่แล้วหรื อชาติน้ ี

ในเวลานี้เย่ฉูฉู่และจ้าวเหวินเทาก็กลับมาถึงบ้านหลังน้อยของ
ตนเองแล้วเช่นกัน

คุณแม่จา้ วเติมฟื นในเตาให้พวกเขา เตียงร้อนแล้ว ภายในห้อง


จึงไม่ได้หนาวเหน็บอะไร

จ้าวเหวินเทาเผาเตาแล้ว และรอไปครู่ หนึ่ ง เมื่อรู ้สึกว่าอบอุ่น


ขึ้นเขาจึงกล่าวว่า “ภรรยา พี่สะใภ้สามกลับมาครั้งนี้ ทาเอาพี่
สามมีความสุ ขเชียวเห็นไหมครับ?”
เย่ฉูฉู่ยื่นมื อออกไปบิ ดเขาเบา ๆ “คุ ณเลิ กหยอกล้อพี่สามได้
แล้ว”

จ้าวเหวินเทายิ้ม แต่ มนั ก็มีเหตุ ผลนะ ไม่ ได้เจอภรรยามาตั้ง


หลายปี แล้ว ย่อมมีความสุ ขอยูแ่ ล้ว

เย่ฉูฉู่หยิบกระเป๋ าออกมา ระหว่างที่เปิ ดก็พูดไปว่า “ฉันจะให้


คุณดูของขวัญที่พี่สะใภ้สามเอากลับมาให้ฉนั ค่ะ”

จ้าวเหวินเทาชะโงกหน้าเข้ามาดู กล่าวว่า “นี่ คืออะไรเหรอ มี


กลิ่นหอมแปลก ๆ ด้วย?”

“นี่คือน้ าหอม พี่สะใภ้สามซื้อมาให้ฉนั โดยเฉพาะเลยนะ” เย่ฉูฉู่


ฉีดลงบนมือเล็กน้อย และให้จา้ วเหวินได้ดมกลิ่น

จ้าวเหวินเทาดมไปฟอดหนึ่ง กล่าวว่า “หอมเกินไปมั้งเนี่ย?”

เย่ฉู ฉู่ ยิ้ม พี่ ส ะใภ้ส ามบอกว่ า ตั้ง ใจซื้ อ มาให้เ ธอโดยเฉพาะ
เพื่อให้จา้ วเหวินเทาหลงใหลในตัวเธอ
จากนั้นเย่ฉูฉู่กห็ ยิบผ้าออกมาอีก “พี่สะใภ้สามซื้ อผ้ามาให้พวก
เราคนละผืนด้วยนะคะ เอาไว้ตดั ชุดสาหรับปี ใหม่”

เย่ฉูฉู่ จ้าวเหวินเทา พี่สะใภ้และพี่ชายทั้งสองก็ได้รับของขวัญ


แบบเดียวกัน เพียงแต่เย่ฉูฉู่เป็ นน้องสาวคนเล็กในตระกูลเย่ ต่อ
ให้ได้มากกว่าพี่ชายและพี่สะใภ้กพ็ ูดอะไรไม่ได้อยูด่ ี

อีกอย่างน้ าหอมก็ไม่เหมาะกับพวกพี่สะใภ้ใหญ่เย่และพี่สะใภ้
รองเย่ แต่เหมาะกับเย่ฉูฉู่ที่ใช้ชีวติ อย่างสวยงาม

เย่ฉูฉู่นาคาพูดของพี่สะใภ้สามมาพูด “พี่สะใภ้สามถามว่าคุณ
อยากซื้อรถไหม? ถ้าอยากซื้อ พี่เขาจะให้คุณยืมเงินก่อน”

“พี่สะใภ้สามไปเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหนเนี่ย? ตอนนี้
หล่อนยังเรี ยนไม่จบแถมยังไม่ได้ทางานไม่ใช่ เหรอ?” จ้าวเหวิ
นเทากล่าวด้วยความแปลกใจ
เย่ฉูฉู่กล่าว “พี่สะใภ้สามยังเรี ยนไม่จบก็จริ ง แต่หล่อนตัดชุ ด
เอง ทาเงินได้เยอะเลยนะคะ”

“หาเงินจากการตัดชุด?” จ้าวเหวินเทาไม่เข้าใจ

เย่ฉูฉู่นงั่ ลงข้าง ๆ จ้าวเหวินเทา พลางกล่าวขึ้นว่า “ชุ ดหนึ่ งตัว


ราคาสู งสุ ดคือหนึ่ งร้อยกว่าหยวน ส่ วนที่ถูกที่สุดก็มีราคาถึ ง
สิ บ หยวนเชี ย วนะ แต่ ชุ ด ที่ มี ร าคาสิ บ หยวน ขายครั้ งหนึ่ ง
สามารถขายได้หลายร้อยตัวเลย คุ ณลองคานวณดู สิว่าได้เงิน
เท่าไร?”

จ้าวเหวินเทากลับสงสัย “หนึ่ งร้อยกว่า? ใครกันที่สามารถซื้ อ


เสื้ อแพงขนาดนี้ได้?”

“พี่สะใภ้สามบอกว่าที่ตลาดในเมืองใหญ่มีคนรวยจานวนมาก
โดยเฉพาะพื้นที่ บริ เวณชายฝั่ งทะเล พี่สะใภ้สามบอกว่าบาง
เมืองตามแนวชายฝั่งเปิ ดกว้างแล้วด้วย ทุกที่คือทอง อยูท่ ี่วา่ คุณ
จะไปหยิบมันหรื อเปล่า” อันที่จริ งเย่ฉูฉู่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
เธอจึงพูดตามที่พี่สะใภ้สามบอกไว้

จ้าวเหวินเทานึ กถึงช่ วงเวลานี้ ที่ตนเองวิ่งไปที่มณฑลเพื่อฟั ง


ข่าวเหล่านั้น รวมถึงหนังสื อพิมพ์ที่พี่สาวทั้งสองคนเห็น ไม่
ต่างอะไรกับที่โจวหมิ่นกล่าวไว้เลย

เพียงแต่ในส่ วนของเสื้ อผ้านี้ เขาไม่เข้าใจ แต่ในความเห็นของ


เขา เสื้ อผ้าที่สวมใส่ กไ็ ม่มีทางสู ้ของกินได้อยูด่ ี อย่างน้อย ๆ เขา
ก็คงไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งร้อยกว่าหยวนเพื่อไปซื้ อเสื้ อผ้าหรอก
เอาไปซื้อเนื้อหอมกรุ่ นดีกว่าตั้งเยอะ?

“เหวินเทา ฉันมี ความคิ ดเห็ นอยู่อย่างหนึ่ ง” เย่ฉูฉู่กล่ า วด้ว ย


รอยยิม้

“ความคิดเห็นอะไรเหรอ?” จ้าวเหวินเทาตกใจจนสะดุง้ โหยง


“ฉัน เห็ น รู ป เสื้ อ ผ้า ที่ พี่ ส ะใภ้ส ามออกแบบแล้ว รู ป วาดบน
กระดาษนัน่ ฉันเองก็วาดได้เหมือนกันนะคะ” เย่ฉูฉู่พูดถึงตรง
นี้ ดวงตาของเธอที่มองจ้าวเหวินเทาก็ยงิ่ มองการณ์ไกลมากขึ้น
ตอนที่ 86 ร่ วมหุ้นกับพีส่ ามเย่

การคัดอักษรและวาดภาพเป็ นสิ่ งที่ องค์ชายเป็ นคนสอนเธอ


ทั้งหมด ตอนนั้นต่อให้มีเงินมากก็ยากที่จะขอภาพวาดขององค์
ชายได้ บัดนี้องค์ชายได้กลับชาติมาเกิดใหม่และกลายเป็ นสามี
ของเธอ เขาก็ลืมความสามารถเหล่านี้ไป แต่ตวั เธอนั้นยังไม่ลืม
เลือน

“เหวิน เทา คุ ณ ว่า ฉัน จะท าแบบพี่ สะใภ้ส ามได้ห รื อเปล่ าคะ
พึ่งพาความสามารถของตัวเองเพื่อหาเงินน่ะ?” เย่ฉูฉู่เอ่ยถาม

สิ่ งที่เย่ฉูฉู่คิดก็คือ เธอและสามีตอ้ งการสร้างบ้านอิฐ แต่เมื่อเธอ


ได้ทาความเข้าใจดูแล้ว บ้านอิฐต้องใช้เงิน 700-800 หยวน

นี่ไม่ใช่เงินจานวนน้อย ๆ เลยนะ
จ้าวเหวินเทาของเธอวิ่งเต้นตื่นเช้ากลับค่า นอกจากนาเงินที่ได้
ไปดื่มกินข้างนอกก็เก็บเงินได้แค่สิบกว่าหยวน วิธีเก็บเงินแบบ
นี้ตอ้ งใช้เวลาอีกนานแค่ไหนถึงจะเพียงพอนามาสร้างบ้าน?

ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึง ว่าบ้านที่สร้างขึ้นมาถ้าจะทาหน้าต่าง ประตู


รั้วบ้านรอบ ๆ ลาน ก็ยงั ต้องใช้เงินอี ก แถมต่อให้สร้างเสร็ จ
หมดแล้ว จะไม่ให้มีเงินเหลืออยูใ่ นมือก็ไม่ได้อีก

จ้า วเหวิ น เทามี ค วามเฉลี ย วฉลาด เพี ย งครู่ เ ดี ย วเขาก็เ ข้า ใจ


ความคิดของภรรยา

พ่อตาพูดถึงเรื่ องสร้างบ้าน เขาเองก็ถามไปแล้วว่าถ้าสร้างบ้าน


อิฐต้องใช้เงินเท่าไร ภายในใจก็มีแผนแล้วเช่นกัน

เมื่อลองคานวณรายได้ในตอนนี้ และคานวณเวลาดูแล้ว หาก


ยึดตามแบบนี้ ต่อไป ฤดูใบไม้ผลิปีหน้าคงสร้างบ้านไม่ได้แน่
ๆ ถึงอย่างไรก็ตอ้ งใช้เวลาอีกสองถึงสามปี โน้น
เขาแอบลั ง เล หรื อเขาจะสร้ า งบ้ า นดิ น โดยใช้ โ ครงอิ ฐ
เหมื อนกับตระกูล เย่ดีนะ เงิ น 300-400 หยวนก็เพียงพอแล้ว
เพี ย งแต่ เ งิ นจ านวน 300-400 หยวนต่ อ ให้เ ป็ นฤดู ใบไม้ผลิ ปี
หน้าเขาก็เก็บไม่ครบอยูด่ ี ภรรยาคงคิดอยากจะช่วยเหลือเขา

แต่เขารู ้สึกว่างานนี้ภรรยาของเขาจะทาไหวได้อย่างไรกัน? ถึง


อย่า งไรพี่ ส ะใภ้ส ามก็ เ ป็ นนัก ศึ ก ษานะ ถ้า หากพู ด ค าพู ด นี้
ออกไป คงได้ทาร้ายจิตใจเธอแน่ ภรรยามีความคิดที่จะช่วยเขา
อยูต่ ลอดเวลา เขาจะยอกย้อนทาร้ายจิตใจเธอได้ลงคอเหรอ?

จ้าวเหวินเทายิม้ พลางให้กาลังใจไปว่า “ทาได้อยู่แล้ว ภรรยา


ของผมเฉลียวฉลาด ใครก็สู้คุณไม่ได้หรอก!”

“คุ ณ คิ ด แบบนี้ จริ ง ๆ เหรอคะ?” เย่ฉู ฉู่ เ งยหน้า ถามเขาด้ว ย


รอยยิม้

จ้าวเหวินเทาก้มหน้าจูบเธอ “ทาไมจะไม่เห็นด้วยล่ะ คุณอยาก


ทาก็ทาสิ แต่ว่านะ ภรรยา คุ ณห้ามทางานจนเหนื่ อยเชี ยวนะ
แม่มีจกั รเย็บผ้าอยู่ ห้ามคุณใช้มือเย็บเด็ดขาด มือคู่น้ ี ถา้ ทางาน
มากไปก็จะหยาบกระด้าง ผมไม่อยากให้หญิงสาวผูง้ ดงามของ
ผมกลายเป็ นคนที่ มี ผิ ว หนัง ตะปุ่ มตะป่ า อี ก อย่า งพวกเราก็
เตรี ยมตัวมีลูกแล้ว ทางานเหนื่อยไม่ได้”

ยังไงก็ตอ้ งมี ลูกโดยเร็ ว แบบนี้ ภรรยาของเขาก็จะได้มุ่งเน้น


ความสนใจไปที่ลูกเพียงอย่างเดียว และไม่คิดจะทาเรื่ องพวกนี้
แล้ว

“ฉันรู ้ค่ะ แต่ฉนั ไม่ได้จะเย็บชุดสักหน่อย ฉันแค่เป็ นคนวาดชุด


มือจะหยาบกระด้างได้ยงั ไงกันคะ” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้

จ้าวเหวินเทากลับคิดอยู่ในใจว่า ตนเองก็ควรคิดสักหน่ อยว่า


ฤดู หนาวนี้ ยงั มี อะไรที่ ทาเงิ นได้ ภรรยาของเขาเริ่ มกัง วลใจ
แทนเขาแล้ว เขายังจะมีอนาคตได้อีกเหรอ?

“ภรรยา คุณบอกว่าพี่สะใภ้สามของคุณสามารถช่ วยเราซื้ อรถ


ได้เหรอ?” จ้าวเหวินเทานึกอะไรบางอย่างขึ้นได้
“ใช่ แล้ว พี่สะใภ้สามบอกว่าจะให้พวกเรายืมเงิน ก็เลยให้ฉัน
มาถามคุณว่าอยากได้หรื อเปล่า?” เย่ฉูฉู่พยักหน้าพลางกล่าว

จ้าวเหวินเทายิม้ “ยืมอะไรกันล่ะ พี่สามของคุณเองก็ว่างอยู่ สู ้


ให้เขามาทาร่ วมกับผมไม่ดีกว่าเหรอ เขาออกรถผมออกแรง ได้
เงินมาก็แบ่งกัน คุณคิดว่าความคิดของผมเป็ นยังไง?”

จ้าวเหวินเทามีพรสวรรค์ในการทาธุ รกิจจริ ง ๆ เขารู ้ที่จะหยิบ


ยืมกาลังโดยไม่ตอ้ งมีใครสอน

เดิ มที เย่ฉูฉู่คิดอยากจะยืมเงิ นมา แต่ ก็กลัวว่าจะทาให้เขาเสี ย


หน้า คิดไม่ถึงเลยว่าเขาคิดจะร่ วมหุน้

“พี่สะใภ้สามของฉันจะตกลงเหรอคะ?” เย่ฉูฉู่พูดด้วยความไม่
มัน่ ใจ เธอรู ้สึกว่าพี่สะใภ้สามคงทาใจไม่ได้ที่จะให้พี่สามของ
เธอออกไปทางานนี้ท่ามกลางความหนาวเหน็บ
“ทาไมจะไม่ตกลงล่ะ? นี่กเ็ ป็ นเรื่ องดีไม่ใช่เหรอ” จ้าวเหวินเทา
ไม่ได้อธิบาย

“นี่ ก็ไ ม่ ไ ด้เ ป็ นเรื่ อ งที่ ดี อ ะไรเลยนะคะ โดยเฉพาะตอนนี้ ที่


พี่สะใภ้สามมีเงินขนาดนั้น หล่อนคงทาใจไม่ได้ที่จะให้พี่สาม
ออกจากบ้าน ถ้าฉันมีเงิน ฉันก็คงทาใจไม่ได้ที่จะให้คุณออก
จากบ้านท่ามกลางความหนาวเหน็บนี้ เหมือนกัน” เย่ฉูฉู่กล่าว
ดังนั้นเธอจึงอยากลองทาอาชี พนี้ ของพี่สะใภ้สามดู เพื่อดู ว่า
เธอจะทาได้หรื อไม่

จ้าวเหวินเทาส่ ายหน้า “ผมว่าพี่สามต้องออกไปทางานกับผม


แน่นอน”

เขาคิดไว้ไม่ผิดเลย ตอนที่โจวหมิ่นและเย่หมิงเป่ ยมาหาพวก


เขาที่บา้ น เย่ฉูฉู่กพ็ ูดเรื่ องหุน้ ส่ วนนี้
โจวหมิ่นไม่ได้มีความคิดด้านนี้ จริ ง ๆ เธอพูดว่า “พี่สามของ
เธอไม่ทาหรอก เหวินเทาอยากทาก็ให้เขาทาเถอะ ไม่ตอ้ งกังวล
เรื่ องเงิน”

“ภรรยาจ๋ า แต่ ผมอยากทานะ” ทว่าในเวลานี้ เย่หมิ งเป่ ยที่ รัก


ภรรยาแบบหัวปักหัวปาก็เอ่ยปากพูดออกมา

ใช่แล้ว เขาอยากทา ตอนนี้เขารู ้แล้วว่าตอนที่ภรรยาของตนเอง


อยู่ที่มหาวิทยาลัย หล่อนทางานหนักขนาดไหน เมื่อเทียบกับ
ภรรยาแล้ว เขาไม่ได้ทาอะไรเลย

โจวหมิ่นจะยอมได้อย่างไรกัน?

“ฉันให้เหวินเทาไปทาก็เพราะเหวินเทาต้องการ คุ ณต้องการ
ด้วยเหรอคะ?” โจวหมิ่นมองเขาพลางกล่าว

“ต้องการสิ ” เย่หมิงเป่ ยพยักหน้า


โจวหมิ่นกล่าว “งั้นคุณก็ตอ้ งออกจากบ้านทั้งวันตั้งแต่เช้ายัน
ค่าเลยนะ? คุณรู ้หรื อเปล่าว่าฉันกลับมาครั้งนี้ อยูน่ านแค่ไหน?
คุณจะไม่อยูเ่ ป็ นเพื่อนฉันเหรอ?”

เย่หมิงเป่ ยย่อมอยากอยู่เป็นเพื่อนภรรยาอยู่แล้ว แต่เรื่ องนี้ เป็ น


โอกาสให้เขาได้ทางานไม่ใช่ เหรอ? เขาเองก็อยากใช้โอกาส
ช่ วงฉลองปี ใหม่ได้ทางานสักหน่ อย สะสมเงินสักเล็กน้อย ปี
หน้าจะได้นงั่ รถไปหาภรรยาของเขาไม่ดีเหรอ?

เขาไม่ทราบว่าภรรยาของเขาคิดจะพาเขาไปที่เมืองหลวงด้วย
และไม่อยากจะแยกอยูค่ นละที่กบั เขา

“ภรรยาจ๋ า ผมก็แค่อยากจะลองทากับเหวินเทาดู แค่ลองทาได้


ไหม?” เย่หมิงเป่ ยมองภรรยาของเขา

โจวหมิ่นมองออกว่าเขาอยากทาจริ ง ๆ ดังนั้นหล่อนยังจะพูด
อะไรได้อีก?
เย่ฉูฉู่ไม่ กล้าพูดอะไรตั้งแต่ ตน้ จนจบ แต่ ภายในใจก็แอบยก
นิ้วโป้งให้จา้ วเหวินเทาของเธอ เป็ นอย่างที่เขาพูดไว้ท้ งั หมด พี่
สามเชื่อฟังพี่สะใภ้สามจริ ง ๆ ด้วย

ตอนที่ จา้ วเหวินเทากลับมา ครั้ นได้ยินเรื่ องที่ ภรรยาของเขา


บอกเรื่ องนี้ เขาก็ยมิ้ ออกมาในทันที

เรื่ องที่เป็ นหุน้ ส่ วนกับพี่สามเย่จึงตกลงตามนี้

ไม่ ว่าจะเป็ นยุคสมัยไหนมี กฎหนึ่ งที่ ไม่ เปลี่ ยนแปลง นั่นคื อ


หากมีเงินทุกอย่างก็ง่ายดาย

เพียงไม่นานรถของพวกเขาก็ถูกซื้อกลับมา

รถสามล้อติดเครื่ องยนต์ มีราวกันตกที่กระบะพ่วงท้าย แบบนี้


ทาให้ขนของได้จานวนมาก

จ้าวเหวินเทาและเย่หมิงเป่ ยไปรับรถที่ในมณฑลด้วยกัน และ


พวกเขาก็ขบั กลับมาด้วยกัน
แม้ว่ า จะเป็ นแค่ ร ถสามล้อ เครื่ องยนต์ ห นึ่ งคัน แต่ ภ ายใน
หมู่ บ้า นในเวลานี้ นี่ ก็ไ ม่ ไ ด้ต่ า งอะไรกับ การขับ รถ BMW
กลับมาเลย

ความรู ้สึกที่เกิดขึ้นสามารถจินตนาการได้ ทั้งสองคนรู ้สึกดีจน


ไม่ไหวแล้ว

ผ่ า นไปเพี ย งคื น เดี ย ว เช้ า วัน รุ่ งขึ้ นทั้ง สองก็ เ ดิ น ทางไปที่
หมู่บา้ นไท่ผงิ เพื่อรับผักไปขาย

ตอนบ่ายกลับเข้ามาในตัวมณฑล เพื่อตามหาเสี่ ยวหวังที่ซ้ื อผัก


คนนั้น ขายให้เสี่ ยวหวังครึ่ งหนึ่ ง ส่ วนที่เหลือก็นาไปขายให้
ร้านอาหารและตามบ้าน หลังจากเสร็จธุระก็ดึกมากแล้ว

ถ้าหากยึดตามความหมายของจ้า วเหวินเทา เขาก็จะแวะไป


นอนที่บา้ นพี่สาวห้าจ้าวหนึ่งคืน แต่เย่หมิงเป่ ยไม่ได้ทาเช่นนั้น
ตอนเช้าเขาออกมาทางานไม่เป็ นไร แต่ตอนค่าต้องกลับไปอยู่
กับภรรยา ก่อนที่จะออกจากบ้านก็บอกไว้แล้วว่า กลางคืนถ้า
เขาไม่กลับไปนอนกอดหล่อน หล่อนจะนอนไม่หลับ!

ภรรยาน่ ารั กแบบนี้ เย่หมิ งเป่ ยจะไม่ รักได้อ ย่างไรกัน ชี วิตก็


มอบให้หล่อนได้ ยิง่ ไม่ตอ้ งพูดถึงคาขอแบบนี้เลย

จ้าวเหวินเทานับถือสองสามีภรรยาบ้านพี่สามภรรยาของเขา
เลย เหนียวแน่นยิง่ กว่าคู่สามีที่เพิง่ แต่งงานกันใหม่ ๆ เสี ยอีก

ดังนั้นแม้วา่ จะดึกแล้ว แต่กย็ งั ต้องรี บกลับมา

เย่หมิงเป่ ยส่ งน้องเขยกลับบ้านแล้ว เขาจึงขับรถกลับมา

โจวหมิ่นเห็นเขาตากลมหนาวจนหน้าเริ่ มเขียว หล่อนจึงริ นน้ า


ร้อนให้เขาดื่มเพื่ออบอุ่นร่ างกาย จากนั้นก็รินน้ าหนึ่ งกะละมัง
เพื่อให้เขาแช่ เท้า เมื่อเห็นเขาแช่ เท้าทั้งคู่ลงในน้ าร้อน ก็รู้สึก
อยากหัวเราะและโมโหจริ ง ๆ
“คุณต้องทาซ้ า ๆ คุณทาให้ฉนั ต้องเป็ นกังวลใจ คุณรู ้หรื อเปล่า
ว่ากลับดึกขนาดนี้ ฉันคิดถึงคุณจนไม่รู้ว่าจะคิดถึงยังไงแล้ว!”
โจวหมิ่นกล่าวพลางดึงหูเขา
ตอนที่ 87 ราศีของผู้ชาย

เย่ห มิ ง เป่ ยหัว เราะเหอะ ๆ ขณะกอดภรรยาไว้ใ นอ้อ มกอด


“ภรรยาจ๋ า ผมเองก็คิดถึงคุณนะ วันนี้ไม่ได้เจอทั้งวัน ในใจผม
คัน ยิ บ เหมื อ นกับ มี ม ดไต่ เ ลย เพิ่ ง จะออกจากบ้า นก็ แ ทบ
อยากจะวิง่ กลับมาแล้ว”

“คุณนี่ ช่างรู ้จกั ง้อฉันจริ งนะ ถ้าคุณอาลัยอาวรณ์ฉัน ทาไมคุณ


ถึงไม่อยูเ่ ป็ นเพื่อนฉันล่ะ อากาศแบบนี้ยงั จะออกไปขายผักอีก
พวกเราขาดแคลนเงินมากเลยเหรอ?” โจวหมิ่นกล่าว

“ภรรยาจ๋ า มาให้ผมจูบหน่ อยสิ ผมคิดถึงคุ ณแทบแย่แล้ว” เย่


หมิงเป่ ยไม่กล่าวสิ่ งอื่น เท้าทั้งสองข้างแช่ อยู่ในน้ าร้อน ส่ วน
มือทั้งสองข้างประคองแก้มของภรรยาไว้พลางยื่นหน้าเข้าไป
จูบหล่อน
โจวหมิ่นเองก็ตอบรับเช่นกัน เพียงไม่นานทั้งสองคนก็หายใจ
หอบถี่ สี หน้าของโจวหมิ่นแสดงซึ่ งความรู ้สึกของวสันตฤดู
ทาให้เย่หมิงเป่ ยที่เห็นไม่รู้สึกลังเลแม้แต่นอ้ ย

เพียงครู่ หนึ่ งสองสามี ภรรยาก็ลม้ ลงบนเตี ยง ที่ขาดไม่ได้คือ


การแลกเปลี่ยนแบบเชิงลึกไปหนึ่งรอบ

หลังจากสองสามีภรรยาเสร็จกิจก็นอนกอดก่ายและพูดคุยกัน

เย่หมิงเป่ ยพูดถึงการค้าขายแบบเป็ นตัวแทนขายผักใบเขี ยวนี้


แม้ว่าวันนี้จะขายหมด แต่เขากับน้องเขยก็พอจะมองออกว่ามา
สักครั้งเป็ นครั้งคราวยังดีหน่อย แต่ถา้ ให้มาขายผักใบเขียวทุก
วันคงขายได้ไม่ดี

โจวหมิ่นได้ฟังจึงกล่าวว่า “ตอนนี้ใกล้จะปี ใหม่แล้ว คุณกับเห


วินเทาก็นาของที่ตอ้ งใช้สาหรับปี ใหม่เข้าไปขายตามหมู่บา้ นสิ
คะ?”
โจวหมิ่นทราบว่ากาลังซื้อที่มณฑลและชนบทมีอย่างจากัด แต่
โชคดีที่เทศกาลฤดูใบไม้ผลิกาลังจะมาถึงแล้ว ต่อให้ทุกคนไม่
อยากใช้เงิน แต่กต็ อ้ งซื้ อของบางอย่าง อย่าได้ดูถูกตลาดแห่งนี้
แม้ว่าจะสู ้การซื้ อของเตรี ยมรับปี ใหม่เหมือนคนรุ่ นหลังไม่ได้
และกาไรจากสิ่ งของเหล่านั้นจะไม่ได้สูง แต่กอ็ ย่ามองว่ากาไร
น้อยเลย หากรวมสิ่ งเล็กน้อยสิ่ งน้อยเข้าด้วยกันก็กลายเป็ นมาก
ได้ กาไรก็เยอะเชียวล่ะ

อันที่จริ งโจวหมิ่นก็ไม่อยากเสนอความคิดเห็นอะไรหรอก แต่


เป็ นเพราะวันนี้ หล่อนเห็นเขาออกไปทางานหาเงิน หลังจาก
กลับมาความมีชีวติ ชีวาของเขาก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว

ดังนั้นหล่อนจึงทาเป็ นหลับตาข้างหนึ่งและลืมตาข้างหนึ่ง

เย่หมิงเป่ ยมีดวงตาเป็ นประกาย เขารู ้สึกว่าความคิดนี้น่าสนใจ


จริ ง ๆ เขากล่าว “ภรรยาจ๋ า ทาไมคุ ณถึงได้ฉลาดแบบนี้ เนี่ ย?
แค่นึกก็คิดออกแล้ว”
โจวหมิ่นตาหนิเขาผ่านสายตาปราดหนึ่ง

“ภรรยาจ๋ า จัด อี ก สั ก รอบนะ” เย่ห มิ ง เป่ ยพลิ ก ตัว ขึ้ น คร่ อ ม


หล่อน

โจวหมิ่นกล่าวตาหนิ “ไม่เอาแล้ว…อ๊า~”

เสี ยง ‘อ๊า’ ดังขึ้นหนึ่งเสี ยง หล่อนจึงทาได้เพียงแค่ยดึ ตัวเขาไว้


แน่น ปล่อยให้เขาทาตามใจปรารถนา

เช้าวันรุ่ งขึ้น เย่หมิงเป่ ยที่มีชีวิตชีวาก็มาบอกเรื่ องนี้กบั น้องเขย


ของเขา

จ้าวเหวินเทาได้ยนิ ก็ถึงกับถอนหายใจ พี่สะใภ้สามคนนี้สมกับ


ที่เป็ นนักศึกษาจริ ง ๆ คิดแต่ละอย่างได้เข้าท่าเหลือเกิน

เขาปรึ ก ษากับ พี่ ภ รรยาสามอยู่ค รู่ ห นึ่ ง แล้ว ทั้ง สองคนก็ทา


รายการสิ่ งที่ทุกคนจะซื้ อในปี ก่อน ๆ จากนั้นก็เดินทางเข้าไป
ซื้อของในมณฑล
คุณแม่จา้ วเดินเข้ามาถามเย่ฉูฉู่ว่า “วัน ๆ เอาแต่ขายผักใบเขียว
ซ้ า ๆ มีคนซื้ อมากขนาดนั้นเลยเหรอ? เวลาแบบนี้ ผกั ใบเขี ยว
ราคาแพงขนาดนั้น ระวังจะขายไม่ออกล่ะ”

หากมี เ งิ น ก้อ นนั้น อยู่ ผู ้ค นย่ อ มยิ น ดี ที่ จ ะรั บ ประทานเนื้ อ


มากกว่า คนที่ซ้ือผักใบเขียวจริ ง ๆ มีอย่างจากัดมาก

เย่ฉูฉู่กล่าว “คุ ณแม่อย่าได้กงั วลใจเลยค่ะ วันนี้ พี่สามของฉัน


กับ เหวิ น เทาไม่ ไ ด้ไ ปน าเข้า ผัก ใบเขี ย วแล้ว พวกเขาไปที่
มณฑลเพื่อนาเข้าของอย่างอื่นค่ะ”

“ของอย่างอื่น?” คุณแม่จา้ วเกิดความสงสัย

“เป็นของที่ตอ้ งซื้ อสาหรับวันปี ใหม่ค่ะ คิดว่าคงเป็นพวกป้ าย


คาอวยพร ภาพอวยพร ประทัดอะไรพวกนั้นน่ะค่ะ” เย่ฉูฉู่เองก็
เพิ่งจะได้ยนิ เมื่อครู่ นางกล่าวด้วยรอยยิม้
คุณแม่จา้ วได้ยินถึงกับยิม้ ออกมา “แบบนี้ ถือว่าไม่เลวเลยจริ ง
ๆ”

เย่ฉูฉู่ก็คิดว่าไม่เลวเลย แต่ เธอคิ ดว่ามันคงไม่ใช่ เรื่ องง่ าย ไม่


แปลกใจเลยที่พี่สะใภ้สามจะไม่ยนิ ดีให้พี่สามทา เธอเองก็รู้สึก
ทาใจไม่ได้ที่ให้จา้ วเหวินเทาทาเช่นกัน

ดังนั้นเธอจึงต้องพยายามบ้างถึงจะดี

ด้วยเหตุน้ ี จ้าวเหวินเทาจึงเริ่ มวิ่งไปตามแต่ละหมู่บา้ นพร้อม


กับเย่หมิงเป่ ย

ในเวลานี้ผคู ้ นฉลองปี ใหม่แตกต่างจากรุ่ นหลังอย่างมาก คนรุ่ น


หลั ง ให้ ค วามส าคั ญ กั บ รู ปแบบมากขึ้ น แต่ ต อนนี้ ให้
ความสาคัญกับการใช้งานได้จริ งมากกว่า

สิ่ งที่ซ้ือเป็ นของที่ใช้ได้จริ งทั้งหมด อย่างเช่นเกลือ อุปกรณ์เย็บ


ผ้า ประทัด ในบรรดาสิ่ งเหล่านี้ ประทัดเป็นของที่ตอ้ งซื้ อ ต่อ
ให้เป็ นบ้านที่จนมากกว่านี้ ก็ยงั ยินดี ที่จะแขวนหญ้าแห้งหนึ่ ง
เส้นแล้วแขวนประทัดเล็ก ๆ ไว้เพื่อให้ได้ยินเสี ยงดังสักหน่อย
ถือว่าเป็ นการขับไล่ความโชคร้าย

ถ้าดี ข้ ึนอีกหน่ อยก็จะซื้ อแบบคู่ ในทีมบางทีมก็จะซื้ อดอกไม้


ไฟด้วย

นอกจากของเหล่ า นี้ ก็ย งั มี โ ซดาซัก ผ้า และยัง มี ย างมัด ผม


ประดับดอกไม้ของลูกสาวหญิงสาวในบ้าน ลูกอมผลไม้ของ
เด็ก และภาพวาดปี ใหม่

ภาพวาดฉลองปี ใหม่เป็ นภาพเด็กอ้วนกาลังกอดปลาตัวใหญ่


ไฉ่ ซิงเอี๊ย(เทพเจ้าแห่ งโชคลาภ)มาเยือน 108 ผูก้ ล้าเหลียงซาน
ซุ นหงอคงอาละวาดแดนสวรรค์ ตานานนิ ทานพื้นบ้านต่าง ๆ
และอื่น ๆ

ทั้งสองคนลองนาของแบบนี้ นาเข้ามาส่ วนหนึ่ ง ผลลัพธ์ที่ได้


ขายดีเป็ นอย่างมาก!
นี่ ก็เป็ นเพราะในเวลานี้ การเดิ นทางไม่ สะดวก มี คนจานวน
น้อยมากที่มาขายของในชนบท หากทุกคนจะซื้ อของถ้าไม่ใช่
ที่ตลาดก็เข้าไปในมณฑล

ต้องเข้าไปในมณฑลเท่านั้นจึงจะได้เห็นของดีเหล่านี้ ส่ วนใน
ตลาดไม่ได้มีของจาพวกนี้

ทว่าระยะทางไปถึงมณฑลนั้นไกลมาก การมีหิมะตกยิง่ ทาให้


เดิ นทางไม่สะดวก แต่ตอนนี้ ดีแค่ไหนกัน? สิ นค้ามาถึงหน้า
ประตู บา้ น ให้คุณได้เลื อกซื้ อ สิ่ งนี้ ทาให้หญิ งชรา ลู กสะใภ้
และพวกเด็ก ๆ ดีใจกันใหญ่

แน่ นอนว่า คนที่ดีใจมากที่สุดคือจ้าวเหวินเทาและเย่หมิงเป่ ย


พวกเขาไม่กลัวว่าจะได้กาไรน้อย ขอแค่มีสินค้าจานวนมาก
กาไรย่อมเป็ นกอบเป็ นกาอยูแ่ ล้ว

แต่การหาเงินก็คือการหาเงิน ทั้งสองคนก็เหนื่ อยจนแทบทน


ไม่ไหวเหมือนกัน
ยัง มี พ วกป้ า ใหญ่ ลู ก สะใภ้ใ หญ่ ลู ก สะใภ้เ ล็ก และสาวใหญ่
เหล่านี้อีก ทะเลาะกันเก่งจริ ง ๆ

จ้า วเหวิน เทายัง ดี ห น่ อ ย ถึ ง อย่า งไรเขาก็วิ่ง ซื้ อ ขายมาหลาย


เดือนแล้ว จึงปรับตัวได้แล้ว อีกอย่างฝีปากของเขาก็เราะรายมา
แต่ไหนแต่ไร หนังหน้าก็หนา การรับมือจึงไม่ใช่ ปัญหาอะไร
แต่เย่หมิงเป่ ยกลับทาแบบนั้นไม่ได้

มากสุ ดเขาก็ทาแค่แบกตะกร้าไข่ไก่ไปขายในมณฑล สามถึง


ห้าวันก็จะมาครั้งหนึ่ง ไม่เหมือนกับตอนนี้ ต้องตื่นเช้ากลับดึก
ทุกวัน วิ่งทีหนึ่ งก็ท้ งั วัน ทั้งยังต้องมาเจอกับการทะเลาะวิวาท
กับคนแบบนั้นอีก เขาทนไม่ได้เลยจริ ง ๆ เพียงไม่กี่วนั ก็แสดง
สี หน้าอิดโรยออกมาให้เห็น

แต่เมื่อมาดูจา้ วเหวินเทา ที่ยงั คงดูเหมือนกระเบื้องเคลือบแบบ


นั้น สิ่ ง นี้ ท าให้เ ย่ห มิ ง เป่ ยอดไม่ ไ ด้ที่จ ะนึ ก ถึ ง ค าพู ด ของแม่
ตัวเอง
แม่เคยพูดว่าจ้าวเหวินเทาเป็ นคนที่ทาการใหญ่ได้ ส่ วนพวกเขา
สามพี่ น้อ งไม่ มี ใ ครสู ้ เ ขาได้สั ก คน ก่ อ นหน้า นี้ เย่ห มิ ง เป่ ยก็
ไม่ได้คิดอะไร แต่วนั นี้เขาต้องยอมรับจริ ง ๆ

อีกอย่างเย่หมิงเป่ ยที่น้ าหนักลดลงและมีท่าทางอิดโรยย่อมอยู่


ในสายตาของโจวหมิ่ น อยู่แ ล้ว สิ่ ง นี้ ท าให้เ ธอรู ้ สึ ก ปวดใจ
เช่นกัน

หล่อนไม่สนใจเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ เลยจริ ง ๆ เมื่อแลกกับการ


ต้องขับรถออกไปข้างนอกทุกวัน หล่อนสามารถหาเงินจานวน
นี้มาได้ดว้ ยการขายเสื้ อเพียงไม่กี่ตวั

แต่หลังจากที่เย่หมิงเป่ ยทราบถึงความสาเร็ จหลังจากที่หล่อน


ไปอยูเ่ มืองหลวง เขาก็แอบรู ้สึกด้อยกว่า แม้แต่โจวหมิ่นก็รู้สึก
ได้ หล่อนไม่อยากให้เขารู ้สึกกดดันหรื อรู ้สึกถึงความแตกต่าง
ที่ห่างกันมาก ดังนั้นจึงปล่อยให้เขาไปอย่างช่ วยไม่ได้ เพราะ
ต้องปล่อยให้สามีของหล่อนทางานยุ่งเขาถึงจะมีความมัน่ ใจ
ขึ้นมา

การทาเงิ นเพียงเล็กน้อยนี้ ไม่ ได้มีค่าอะไรสาหรั บหล่ อน แต่


สาหรับเย่หมิงเป่ ยกลับเป็ นเรื่ องสาคัญ เส้นทางในอนาคตของ
พวกเขายังอีกยาวไกล หล่อนหวังว่าพวกเขาทั้งสองจะพึ่งพาซึ่ ง
กัน และกัน ได้ ไม่ ใ ช่ เ ธออ่ อ นแอฉั น แข็ง แกร่ ง ตอนนี้ สามี
เหนื่ อ ยสั ก หน่ อ ยล าบากสั ก หน่ อ ย ในภายภาคหน้า ก็จ ะเต็ม
เปี่ ยมด้วยผลตอบแทน

แต่ อย่ามองว่าเขาเหนื่ อยเลย ราศีใบหน้าและแววตาของเขา


ตอนนี้เป็ นสิ่ งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมีมาก่อน

โจวหมิ่นไม่ได้ทาอะไรเลย เพียงแต่เปิ ดเตาเล็ก ๆ ให้เย่หมิงเป่ ย

หล่อนใช้ความสัมพันธ์ระหว่างจ้าวเหวินเทาเป็ นพิเศษ นาเนื้อ


กลับมาจานวนไม่นอ้ ย เพื่อเก็บไว้ให้เย่หมิงเป่ ยรับประทาน
ตอนเช้าหล่อนตั้งใจลุกขึ้นมาทาเกี๊ ยวน้ า บะหมี่หมูเส้น แป้ ง
ทอดไส้เนื้ อ และอื่น ๆ ตอนค่าหล่อนก็จะทาอาหารให้เย่หมิง
เป่ ยอีกมื้อ เป็ นเกี๊ยว โจ๊กหมู บะหมี่ไข่ไก่อะไรพวกนั้น เพื่อให้
ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ

แน่ นอนว่าของเหล่านี้ หล่อนเป็นคนออกเงินเองทั้งหมด และ


เป็ นเพราะหล่อนนี่เอง คุณภาพอาหารภายในบ้านจึงดีข้ ึน

หล่ อ นเองก็ แ บ่ ง ให้ พ่ อ แม่ ส ามี ไ ปไม่ น้อ ยเพื่ อ แสดงความ


กตัญญู ส่ วนพี่สะใภ้ใหญ่และพี่สะใภ้รองก็ได้รับประทานด้วย
เช่นเดียวกัน

แต่ส่วนใหญ่ก็ยงั อยู่ในมือของโจวหมิ่น ยกตัวอย่างเช่ นคืนนี้


หล่อนตุ๋นไก่ให้เย่หมิงเป่ ยหนึ่งตัว ซึ่ งเป็ นไก่ที่ซ้ื อมาจากคนใน
หมู่บา้ น และหล่อนก็ต้ งั ใจตุ๋นให้เย่หมิงเป่ ยโดยเฉพาะ
ตอนที่ 88 โชคของแต่ ละคน

เย่หมิงเป่ ยย่อมไม่รับประทานคนเดียวอยู่แล้ว เขารับประทาน


ไก่กบั ภรรยาของตัวเอง หลังจากรับประทานจนหมดก็แปรง
ฟันและขึ้นไปเปิ ดศึกบนเตียงต่อ

โจวหมิ่นอยากให้เขาพักผ่อน แต่เย่หมิงเป่ ยแสดงออกว่าตนเอง


ไม่เหนื่อย ได้ขลุกอยูใ่ ต้ผา้ ห่มเขาจะไม่สนใจภรรยาที่เขารักสุ ด
หัวใจได้อย่างไรกัน

โจวหมิ่นรักเย่หมิงเป่ ยสุ ดหัวใจ เย่ฉูฉู่เองก็รักจ้าวเหวินเทาสุ ด


หัวใจเหมือนกัน

มีเย่ฉูฉู่อยู่ โภชนาการของจ้าวเหวินเทาก็ไม่เคยขาดแม้แต่ครั้ง
เดียว เป็นเพราะชุ ยต้าและคนอื่น ๆ ไปตกปลา เย่ฉูฉู่จึงใช้ขา้ ว
เพื่ อ แลกกับเขา ชุ ย ต้า ดี ใ จมาก เมื่ อ ได้ป ลาก็จ ะหิ้ ว เอามาหา
พี่สะใภ้หก ตอนนี้ เขาตะโกนเรี ยกเย่ฉูฉู่ว่าพี่สะใภ้หกได้เต็ม
ปากแล้ว

เย่ฉูฉู่เองก็ยมิ้ ตอบรับเช่นกัน

เป็ นเพราะมี ปลา ไข่ ไก่ และมี เนื้ อรวมถึ งผักใบเขี ยวที่ อยู่ใน
ห้องใต้ดิน จ้าวเหวินเทาย่อมไม่ขาดแคลนของรับประทาน อีก
อย่างเป็ นเพราะทาเงินได้มาก คนเราเมื่อเจอกับเรื่ องน่าปี ติยนิ ดี
ย่อมมีอารมณ์ที่เบิกบาน

นอกจากทาอาหารให้จ ้าวเหวินเทารั บประทานแล้ว เย่ฉู ฉู่ ก็


ไม่ได้อยูบ่ า้ นเฉย ๆ

ดัง นั้น เธอจึ ง ใช้ดิ น สอวาดเสื้ อ ผ้า ไว้ห ลายแบบมาก และใช้


ประโยชน์จากตอนว่างงาน ปั กลายบนผ้าเช็ดหน้าผ้าไหมแบบ
ง่าย ๆ ด้วย วันนี้ หลังจากส่ งจ้าวเหวินเทาออกไปทางานข้าง
นอกแล้ว เธออยู่บา้ นว่าง ๆ ไม่มีอะไรทา จึงหยิบของเหล่านี้
กลับไปให้พี่สะใภ้สามดูที่บา้ น
โจวหมิ่นเห็นก็ถึงกับประหลาดใจอย่างมาก หล่อนชะงัก “ฉู ฉู่
เธอเคยเรี ยนมาเหรอเนี่ย?!”

เย่ฉูฉู่ใจเต้นช้าลง เธอควรจะตอบไปว่าเคยเรี ยนมา เพราะองค์


ชายเป็ นคนสอนเธอเอง จับมือสอนเลยล่ะ

แต่เธอไม่สามารถยอมรับสิ่ งเหล่านี้ได้ จึงตอบด้วยความรู ้สึกที่


ไม่ค่อยดีนกั “ฉันจะถือว่าเป็ นคาชมจากพี่สะใภ้สามนะคะ”

“นี่คือคาชมเลยล่ะ เธอวาดสวยจริ ง ๆ” โจวหมิ่นพูดออกมาจาก


ใจ ตั้งแต่เห็นภาพวาดของเย่ฉูฉู่ หล่อนก็ไม่อาจละสายตาได้เลย
สักครั้ง

ภาพออกแบบเหล่านี้ ไม่ใช่ ภาพออกแบบธรรมดา ผูเ้ ชี่ ยวชาญ


แค่ลงมือก็รู้แล้วว่าการออกแบบนี้มีความพิเศษหรื อไม่

โจวหมิ่นหันมองน้องสาวสามีคนเล็กคนนี้
เย่ฉู ฉู่ จึ ง ท าได้เ พี ย งแค่ ยิ้ม อบอุ่ น ปล่ อ ยให้พี่ ส ะใภ้ส องมอง
สารวจ โจวหมิ่นมองอยูค่ รึ่ งค่อนวันก็ยงั ไม่พบสิ่ งใด แต่หล่อน
มีความเฉลียวฉลาดมาก หล่อนรู ้สึกได้ว่าน้องสาวสามีคนเล็ก
อาจจะเจอชะตากรรมเดียวกันกับหล่อน

เป็นเพราะแบบร่ างนี้ ไม่ใช่ สิ่งที่หญิงสาวผูอ้ ยู่ในชนบทตลอด


ทั้งปี และไม่เคยเรี ยนมาก่อนจะวาดออกมาได้

โจวหมิ่นไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่ องนี้ หล่อนทาเป็ นไม่รู้เรื่ อง


ขนาดหล่อนยังสามารถกลับมาเกิดใหม่ เพื่อชดเชยให้เ ย่หมิ ง
เป่ ยในชาติที่แล้วได้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่คนอื่นจะทาไม่ได้

เย่ฉูฉู่ใช้การวาดลายเส้น แต่เป็ นเพราะมาเกิดในร่ างใหม่ ฝีมือที่


เคยมีจึงเกิดสนิ มเกาะกินเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรเธอก็เคยเรี ยน
มา อยากจะแสดงออกมาก็ยงั แสดงออกมาได้อยู่

ครั้ นเห็ น ท่ า ทางของพี่ ส ะใภ้ส าม แม้ว่ า เย่ฉู ฉู่ จ ะรู ้ สึ ก ผิด นิ ด


หน่อยแต่กย็ งั นิ่งสงบมาก เป็ นเพราะนี่คือชีวิตในอดีตชาติและ
ชาติ น้ ี ของเธอกับ องค์ ช าย เธอไม่ ใ ช่ ผี เ ร่ ร่ อนที่ ม าบัง คับ
ครอบครองร่ างของลูกสาวตระกูลเย่ ตลอดทั้งชีวิตนี้เธอคือลูก
สาวของตระกูลเย่ เป็ นเพราะบังเอิ ญจึงฟื้ นฟูความทรงจาใน
ชาติก่อนได้

ดัง นั้น เย่ฉู ฉู่ จึ ง ถามเคล้า รอยยิ้ม ไปว่า “พี่ ส ะใภ้ส าม พี่ ช่ ว ยดู
หน่อยสิ คะว่ามีตรงไหนต้องแก้ไหม?”

“ไม่มีเลย ฉูฉู่ เธอวาดได้ดีมาก!” โจวหมิ่นกล่าวด้วยรอยยิม้ ทั้ง


ยังไม่ลงั เลที่จะยืนยันไปตรง ๆ

“งั้นพีส่ ะใภ้สามใช้มนั ได้หรื อเปล่าคะ?” เย่ฉูฉู่ยมิ้

โจวหมิ่ น แย้ม ยิ้ม “เธอคิ ด ว่า ไงล่ ะ ? แบบร่ า งแบบนี้ ต่ อ ให้มี


มากกว่านี้ ฉันก็รับไม่อ้ นั ฉันคิดไม่ถึงเลยจริ ง ๆ ว่าเธอจะวาด
ภาพร่ างแบบนี้ออกมาได้”

เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้ “ถ้างั้นก็ดีเลยค่ะ”
โจวหมิ่นมองภาพร่ างเหล่านี้ พลางกล่าว “ฉู ฉู่ เธอมีแผนอะไร
ในใจไหม พูดให้พี่สะใภ้สามฟังได้นะ”

“ไม่มีค่ะ ฉันก็แค่อยากช่วยเหวินเทา ไม่อยากให้เขาต้องเหนื่อย


แบบนี้ ถ้าพี่สะใภ้สามชอบภาพร่ างเหล่านี้ หลังจากนี้ฉนั จะวาด
ให้พี่ได้ไหมคะ?” เย่ฉูฉู่เอ่ยถาม

“ได้สิ งั้นพวกเราก็รับผิดชอบหน้าที่ของตนเองนะ” โจวหมิ่น


ผงกศีรษะ “เธอใช้ความคิดสร้างสรรค์ ฉันเป็ นฝ่ ายขาย ส่ วน
เงินที่ได้รับ ฉันจะไม่เอาเปรี ยบเธอ พวกเราแบ่งกันคนละครึ่ ง
เธอคิดว่าไง?”

“ฉันขอแค่ได้วาดภาพพวกนี้อยูท่ ี่บา้ นก็พอแล้ว กังวลน้อยกว่า


มาก พี่ ส ะใภ้ส ามไม่ ต ้อ งแบ่ ง ให้ฉัน มากขนาดนั้น หรอกค่ ะ
พี่สะใภ้สามแบ่งให้ฉนั สองส่ วนก็พอ” เย่ฉูฉู่ส่ายหน้า

โจวหมิ่นมองน้องสามีคนเล็กผูม้ ีมารยาทสง่างามเหมือนกับกุล
สตรี ที่มาจากตระกูลใหญ่มีฐานะ หล่อนแย้มยิม้ กล่าวว่า “แบบ
นั้นไม่ได้หรอก ให้เธอสองส่ วนแบบนั้นเป็ นการดูถูกแบบร่ าง
นี้ ของเธอมากเกิ น ไปแล้ว ฉัน รู ้ ว่ า ของพวกนี้ ต้อ งใช้ค วาม
พยายามอย่างมาก”

พูดจบโจวหมิ่นก็ชื่นชมยินดี ข้ ึนมา “ฉู ฉู่ ความคิดสร้างสรรค์


ของเธอดี ก ว่ า ฉั น อั น ที่ จ ริ งฉั น เองก็ ไ ม่ ไ ด้ ถ นั ด ด้ า นการ
ออกแบบเหล่ า นี้ หรอก ฉัน ชอบการขายของมากกว่ า ด้า น
ความคิดสร้างสรรค์น้ ีฉนั ไม่ได้มีพรสวรรค์มากเท่าไหร่ ฉันเอง
ก็คิดอยากจะจ้างคนเหมื อนกัน แต่ตอนนี้ ไม่ใช่ เรื่ องง่ายที่ จะ
จ้าง คิดไม่ถึงเลยว่ากลับมาครั้งนี้ จะได้เจอกับฉูฉู่”

หล่ อ นพู ด ออกมาจากใจ ความคิ ด สร้ า งสรรค์เ หล่ า นั้น ของ


หล่อนทั้งหมดเป็ นเพราะนามาจากประสบการณ์ดา้ นนอก ชาติ
ที่แล้วหล่อนได้เห็นอะไรมามากมาย ดังนั้นจึงเลือกดาเนินการ
มาสองสามอย่างเพื่อทาเงินในตอนนี้ แต่น้องสามีคนเล็กไม่
เหมือนกัน ดู ภาพร่ างเหล่านี้ ต่อให้เป็ นชาติที่แล้วก็เป็ นเรื่ อง
ยากมากที่ จะพอเห็ น สิ่ งเหล่ านี้ น่าจะเป็ นสิ่ งที่ เธอคิ ดออกมา
หล่อนไม่รู้เลยว่าน้องสามีเล็กคนนี้จะมีโชคลาภและพรสวรรค์
ด้านนี้

อัน ที่ จ ริ ง ความคิ ด สร้ า งสรรค์ข องเย่ ฉู ฉู่ ก็ ไ ม่ ไ ด้นั บ ว่ า เป็ น


ความคิดของเธอเอง แต่เป็ นสิ่ งที่เธอประยุกต์มาจากในยุคนั้น

ท้ายที่สุดกาไรของพวกเธอทั้งสองจึงสรุ ปที่สามและเจ็ดส่ วน
เย่ฉูฉู่ได้สามส่ วน โจวหมิ่นได้เจ็ดส่ วน

ทั้งสองฝ่ ายมีการลงชื่อในข้อตกลงร่ วมมือกันด้วย

แม้ว่าพี่สะใภ้และน้องสะใภ้จะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ เลว แต่นี่


เกี่ยวข้องกับความร่ วมมือ กระดาษสี ขาวและตัวอักษรหมึ กสี
ดาเขียนไว้อย่างชัดเจน แบบนี้ดีกบั ทั้งสองฝ่ าย

เย่ฉูฉู่ ไม่ได้มีปัญหาอะไร จิตวิญญาณแห่ งสัญญายังเป็ นสิ่ งที่


ต้องมี
โจวหมิ่ นนาสมุ ดที่ นากลับมาออกมาสองสามเล่ ม หล่ อนให้
นิ ตยสารแฟชัน่ นานาชาติ กบั เย่ฉูฉู่ เป็ นเพราะไม่มีอะไรต้อง
แนะนาเย่ฉูฉู่ จึงให้เย่ฉูฉู่ไปดูดว้ ยตัวเอง หล่อนรู ้สึกว่าน้องสามี
คนเล็กคนนี้ไม่ตอ้ งให้หล่อนพูดอะไรให้มากมายในด้านนี้ ถึง
อย่างไรต่อให้หล่อนพูดไปก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี ไม่แน่อาจจะ
ทาให้จินตนาการของน้องสามีคนเล็กมีขีดจากัดด้วย ปล่อยให้
เธอไปดูดว้ ยตนเองก็แล้วกัน

ผ่านไปครู่ หนึ่ งคุ ณแม่เย่ก็กลับมาจากข้างนอก นางกล่าวด้วย


รอยยิม้ “พี่สะใภ้นอ้ งสามีปิดประตูคุยอะไรกันอยูเ่ หรอ?”

เย่ฉูฉู่มีความเห็นเดียวกันกับโจวหมิ่นว่าจะไม่พูดเรื่ องที่ร่วมมือ
กันออกไป

เย่ฉูฉู่ตาแหลมคม เธอสังเกตเห็นต่างหู ที่อยูบ่ นหู ของแม่ตวั เอง


จึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แม่คะ แม่ใส่ ต่างหู ที่พี่สะใภ้สามซื้ อให้
ด้วยเหรอ?”
เดินกลับเข้ามาจากด้านนอก แค่เห็นก็รู้แล้วว่าแม่ของเธอไปทา
อะไรมา

“พี่สะใภ้สามของลูกเป็ นคนมีจิตใจกตัญญู แม่กต็ อ้ งใส่ อยูแ่ ล้ว


สิ เมื่อกี้แม่ไปนัง่ คุยเล่นที่บา้ นป้ า ๆ มาน่ ะ” คุณแม่เย่อารมณ์ดี
ไม่นอ้ ยเลย

เย่ฉูฉู่หนั สบตาโจวหมิ่นก่อนจะหัวเราะออกมา

ไม่ตอ้ งถามก็พอจะทราบได้ว่าคุณแม่เย่ไปทาอะไรมา ก็ไปเชิด


หน้าชูตาน่ะสิ

ไม่ผิดหรอกที่คุณแม่เย่ไปหาคนพวกนั้นเพื่อโอ้อวด ก่อนหน้า
นี้ พวกเขาพูดเกี่ยวกับครอบครัวของนางเสี ย ๆ หาย ๆ ไปไม่
น้อย แทบอยากจะหัวเราะเยาะตระกูลเย่ของนางที่ภรรยาเจ้า
สามหนี ไป ตอนนี้ ลูกสะใภ้ที่เป็ นนักศึกษากลับมาแล้ว ทั้งยัง
รักเจ้าสามอย่างจริ งใจ ทาของอร่ อยให้เจ้าสามรับประทานทุก
วัน แค่เห็นก็รู้แล้วว่าต้องมีชีวติ ที่ดีแน่นอน
ดังนั้นวันนี้นางต้องมีเวลาว่าง หลังเก็บกวาดเรี ยบร้อยแล้ว ก็ใส่
ต่างหู ทองออกจากบ้าน ให้พวกป้ า ๆ กลุ่มนั้นอิจฉาตาร้อนไป
เลย!

เย่ฉูฉู่อยูท่ ี่นี่ตลอด จนกระทัง่ ตอนค่าจ้าวเหวินเทาและเย่หมิงเป่


ยกลับมาหลังจากขายของเสร็ จ เธอจึงกลับบ้านไปพร้ อมกับ
จ้าวเหวินเทา

ตอนกลับมาที่บา้ น เย่ฉูฉู่จึงหยิบเอกสารสัญญาร่ วมมือระหว่าง


เธอกับพี่สะใภ้สามออกมาให้จา้ วเหวินเทาดู

เธอไม่ได้มีความหมายอื่น เพียงแค่อยากบอกจ้าวเหวินเทาว่า
หลังจากนี้ เธอก็ทางานหาเงินได้เช่ นกัน เขาเองจะได้ไม่ ตอ้ ง
ลาบากขนาดนั้นแล้ว

จ้าวเหวินเทาลูบแก้มภรรยาที่แสนดีของเขา เขารู ้สึกว่าพี่สะใภ้


สามคนนี้กาลังปลอบใจภรรยาของตัวเองอยูส่ ิ นะ แม้แต่มณฑล
ภรรยาของเขาก็ไปแทบจะนับครั้งได้ จะวาดเสื้ อผ้าที่คนทางฝั่ง
เมืองหลวงชอบได้อย่างไรกัน?
ตอนที่ 89 อิจฉา

เย่ฉูฉู่เห็นการแสดงออกของเขาก็รู้แล้วว่าเขาคิดอะไร เธอจึง
กลอกตาใส่ พลางกล่าว “รอให้ฉันได้เงินเดี๋ยวคุณก็รู้” พี่สะใภ้
สามพอใจกับแบบร่ างเหล่านั้นจริ ง ๆ เธอก็ตอ้ งทาเงิ นได้อยู่
แล้วน่ะสิ ?

จ้าวเหวินเทาย่อมต้องง้อภรรยาของตัวเอง หลังจากง้อเสร็ จจึง


พูดว่า “ภรรยาจ๋ า คุณดูสินี่อะไร?”

เขานาเงินที่ได้กลับมามอบให้ภรรยา

กระเป๋ าเงินของจ้าวเหวินเทาในวันนี้ อยู่ในสภาพการณ์ที่ดีข้ ึน


จากขาไปที่ใช้เพียงผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กห่ อเงิ นก็ได้เปลี่ยนเป็ น
กระเป๋ าสะพายใบเล็กสี เขียวทหารแล้ว

กระเป๋ าใบนี้มีความทนทาน ใส่ เงินได้เยอะเชียวล่ะ


เย่ฉูฉู่เทเงินออกมานับ

แม้วา่ ในนั้นจะเป็ นเงินเฟิ นและเหมาทั้งหมด แต่วนั นี้กส็ ามารถ


ทาเงินได้ 5-6 หยวน ตอนที่การค้าดี ๆ ก็ได้มากกว่าสิ บหยวน
เช่นกัน ซึ่งนี่เป็ นเงินที่ได้หลังจากแบ่งกับพี่สามแล้ว

เมื่อคานวณเช่ นนี้ ต่อไป หนึ่ งเดื อนสามารถทาเงินได้หนึ่ งถึ ง


สองร้อยหยวนเชียวล่ะ!

ในยุคนี้ เงินจานวนนี้ถือว่าเป็ นรายได้จานวนมากแล้ว

จ้าวเหวินเทาและพี่สามเย่หมิงเป่ ยทาการค้าขายอย่างมีชีวิตชี วา
ทาให้พวกพี่ชายและพี่สะใภ้ต่างก็เกิดความอยากจนยากที่จะ
อดทน

พี่ ร องจ้า วและพี่ สี่ จ ้า วก็ไ ม่ ไ ด้คิ ดอะไรมากนัก คนหนึ่ ง ก็ท า


หน้า ที่ อ ย่า งซื่ อ ตรง ส่ ว นอี ก คนก็ไ ม่ ไ ด้ส นใจการค้า ขาย จึ ง
อยากทางานในนาให้ดี
แต่พี่สะใภ้รองจ้าว พี่สะใภ้สี่จา้ วไม่ได้เป็ นแบบนั้น นอกจาก
อิจฉาตาร้อนแล้วยังร้อนใจอีก

พี่สามจ้าวก็เช่ นกัน เมื่ อเห็ นเจ้าหกมี สีหน้าท่ าทางเปี่ ยมพลัง


แบบนั้น เขาก็ปวดใจจริ ง ๆ

แต่เมื่อเทียบกับพี่สะใภ้รองและพี่สะใภ้สี่แล้ว เขายังดี หน่ อย


เพราะเขายังได้ขายเต้าหู ้

เงินที่เขาได้ในทุก ๆ วันมากกว่างานหัตถกรรมของพี่สะใภ้รอง
จ้าวและพี่สะใภ้สี่จา้ วเป็ นไหน ๆ

เดิ มทีเขาก็รู้สึกภาคภูมิใจแล้ว แต่เมื่อเห็นจ้าวเหวินเทาได้ขบั


รถสามล้อติดเครื่ องยนต์ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นรถที่เจ้าหกซื้ อ แต่
การได้ขบั รถแบบนั้นก็ทาให้เขาอิจฉาอยูด่ ี ทั้งยังทาให้รู้สึกได้
ว่าจ้าวเหวินเทาทาเงินได้มากด้วย

ภายในใจย่อมรู ้สึกไม่ดีเท่าไรนัก
“เลิกปวดใจได้แล้ว ใครใช้ให้พวกคุณไม่มีญาติดี ๆ กันล่ะ!” พี่
สี่ จา้ วรู ้สึกราคาญกับเสี ยงบ่นของพี่สะใภ้สี่ เขาจึงพูดอย่างไม่
สบอารมณ์

ทาเอาพี่สะใภ้สี่เกือบสาลักตาย พี่สะใภ้รองจ้าวที่เดินผ่านมาได้
ยิน ก็แอบกลอกตามองบนอยูใ่ นใจเช่นกัน

ญาติที่ร่ ารวยอย่างตระกูลเย่จะมีสักกี่คนกันเชียว?

ญาติทางฝั่งแม่ที่มีกาลังแบบนั้นยากที่จะมี แถมยังเรี ยกคนไม่


เอาถ่านแบบจ้าวเหวินเทาให้ไปร่ วมด้วย

พวกหล่อนทางานหนักด้วยความยากลาบากจะกินก็เสี ยดายจะ
ดื่ ม ก็เ สี ย ดาย แต่ ก ลับ ไม่ มี อ ะไรเลย พู ด มาสิ ว่ า สวรรค์ย งั มี
เหตุผลอยูห่ รื อเปล่า?
“ลอกเปลือกกัญชงอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน จะขายได้สักกี่ หยวนกัน
เชียว!” พี่สะใภ้รองจ้าวกลั้นใจเดินกลับเข้าบ้าน เมื่อเห็นพี่รอง
จ้าวนัง่ ลอกเปลือกต้นกัญชงอย่างขะมักเขม้นก็โกรธขึ้นมา

พี่รองจ้าวขมวดคิว้ “คุณเป็ นอะไรของคุณอีกแล้วเนี่ย? คุณบอก


ว่า จะท าพื้ น รองเท้า ไม่ ใ ช่ เ หรอ ผมไม่ ล อกเปลื อ กกัญ ชงสั ก
หน่อย คุณจะใช้อะไรถักเชือกป่ าน?”

พี่สะใภ้รองจ้าวตื่นตระหนกอยู่ในใจ “คุณหวังพึ่งพื้นรองเท้า
แค่ไม่กี่ชิ้นนั้นของฉันเนี่ ยนะคะ นั่นมันจะขายได้สักกี่หยวน
กั น เชี ย ว? ไม่ ต ้ อ งพู ด ถึ ง น้ อ งสามี เ ล็ ก ที่ ไ ด้ ข ั บ รถสามล้อ
เครื่ องยนต์หรอก แม้แต่นอ้ งสามีสามก็ออกไปขายเต้าหู ท้ ุกวัน!
คุณล่ะ? ช่วยมีความคิดออกไปขายของสักหน่อยไม่ได้เลยหรื อ
ไง?”
พี่รองจ้าวพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “คุณพูดว่าขายอะไรงั้นเหรอ?
พวกเรามีอะไรให้ขาย? คุณพูดมาสิ ถ้าคุณพูดออกมาได้ว่าให้
ขายอะไร เราก็ขายอันนั้นแหละ!”

พวกผูห้ ญิงเหล่านี้ ไม่ยอมใช้ชีวิตให้ดีเลยจริ ง ๆ ถ้าไม่เอาบ้าน


ตะวันออกไปเที ยบกับบ้านตะวันตก ก็พูดซ้ าไปซ้ ามาอยู่นั่น
แหละ!

พี่สะใภ้รองจ้าวถึงกับสาลัก ขายอะไรงั้นเหรอ?

หล่อนเองก็ไม่รู้เช่ นกันว่าจะขายอะไรดี ขายเต้าหู ้เหรอ? แบบ


นั้นไม่มีทางขายสู ้เจ้าสามได้หรอก

ขายถัว่ งอกเหรอ? ก่อนหน้านี้หล่อนก็เข้าไปในเมืองกับคนอื่น


มาแล้ว แถมไปถามพี่สาวสามีมาแล้วด้วย จึงทราบว่ากาไรจาก
ถั่ว งอกไม่ ไ ด้สู ง อากาศหนาวแบบนี้ วิ่ ง ไปขายถั่ว งอก ไม่
เพียงแต่จะไม่ได้เงิน เผลอ ๆ อาจจะหนาวจนเกิดปั ญหาขึ้นอีก
ไม่คุม้ ทุนอยูด่ ี
หล่ อ นเองก็ รู้ ดี ว่ า จ้า วเหวิ น เทาขายเนื้ อ เป็ นหลัก อี ก อย่ า ง
ช่ องทางในการนาเข้าเนื้ อหมูก็เป็ นเพราะความโปรดปรานที่
จ้าวเหวินเทาได้รับ แต่พวกเขาไม่มี คิดไปคิดมาก็ยงั ไม่รู้เลยว่า
จะขายอะไร

“คุ ณ จะให้ ฉั น พู ด อะไร ฉั น เป็ นผู ้ห ญิ ง คุ ณ เป็ นผู ้ช าย เป็ น


หัวหน้าครอบครั วในบ้าน คุ ณนั่นแหละที่ ตอ้ งคิ ด!” พี่สะใภ้
รองจ้าวคิดไม่ออกจึงผลักภาระไปให้พี่รองจ้าว “ถ้าไม่ได้จริ ง
ๆ คุณก็ไปหาเหวินเทาสิ คุณก็ไปวิ่งรถกับพวกเขาด้วยเลย หา
อะไรทาสักหน่อยก็ได้แล้ว”

“คุณพอได้แล้วล่ะ!” พี่รองจ้าวมองหล่อนอย่างไม่สบอารมณ์
“รถเป็ นรถที่ ต ระกู ล เย่ อ อกเงิ น ซื้ อมา เจ้ า หกเองก็ ไ ด้
ผลประโยชน์จากทางฝั่งนั้นไปด้วย คุณจะให้ผมขึ้นไปขอส่ วน
แบ่งด้วยเนี่ยนะ? ผมต้องหน้าไม่อายขนาดไหนกัน!”

พี่รองจ้าวปฏิเสธในคราวเดียว
ถ้าหากพี่เขยของเขาเป็ นแบบนั้น เขาก็คงไปลองดูได้ แต่นี่เป็ น
พี่สามของภรรยาน้องชายเขา ลาดับญาติน้ ีห่างกันไม่รู้ต้ งั เท่าไร
อีกอย่างเขาเองก็ไม่มีอะไรเลย จะให้เขาเอ่ยปากอย่างไร้ยางอาย
ได้อย่างไรกัน?

ถึ งเวลานั้นก็เ ท่ า กับ ทาให้เ จ้าหกต้อ งล าบากใจไปด้ว ยไม่ ใ ช่


เหรอ?

พี่รองจ้าวเป็ นคนชอบคิดแทนคนอื่นมาก

แม้ว่าพี่สะใภ้รองจ้าวจะเห็นด้วยกับสิ่ งที่พี่รองจ้าวพูด หล่อนก็


แค่เห็นด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยอมรับ

“อันนี้กไ็ ม่ได้อนั นั้นก็ไม่ได้ หรื อว่าจะยืนมองคนอื่นเขาทาเงิน


แบบนี้ เหรอ?” พี่สะใภ้รองจ้าวโมโหขึ้นมาแล้ว จึงขึ้นเสี ยงใส่
เขา
“พอได้แล้ว คุ ณอย่าวางแผนแบบหน้ามืดตามัวไปหน่ อ ยเลย
งานจริ ง ๆ จัง ๆ ยัง ทาไม่ ไ ด้ ยัง มี ห น้า ไปคิ ด ถึ ง เรื่ อ งอื่ นอี ก!
พรุ่ งนี้ ก็ถึงคิวเราต้องแปรรู ปข้าวแล้ว คุณยังไม่น่ ึ งอาหารแห้ง
เลย อย่าปล่อยให้ไปถึงสิ้ นปี ล่ะ คงได้ทางานยุ่งหามรุ่ งหามค่า
แน่ แก้ไขตั้งแต่เนิ่น ๆ ซะ” พี่รองจ้าวพูดจบก็นึกขึ้นได้ “แล้วก็
คุณบอกว่ายังเหลือรองเท้าอีกสองสามคู่ที่ยงั ทาไม่เสร็ จไม่ใช่
เหรอ? คนเขารอใส่ ช่วงปี ใหม่อยูน่ ะ ตอนนี้คุณยังมีกะจิตกะใจ
ไปเพ่งมองเจ้าหกอีก อย่ารอให้ถึงเวลานั้นแล้วยังทาอะไรไม่
เสร็จสักอย่างล่ะ!”

พี่สะใภ้รองจ้าวหมดแรงที่จะโต้ตอบ หล่อนเองก็ลืมไปแล้วว่า
พรุ่ งนี้ ถึงคิวแปรรู ปข้าวของพวกหล่อนแล้ว การดาเนิ นการนี้
ใช้เวลาสองวัน หลังจากทางานเสร็จก็ยงั ต้องแช่ถวั่ อีก

ไหนจะรองเท้าอีกสองสามคู่น้ นั ไม่วา่ อย่างไรก็ตอ้ งทาให้เสร็ จ


นัน่ คือเงินเลยนะ!
หลังจากเข้าสู่ ฤดูหนาวตอนที่แต่ละหมู่บา้ นแปรรู ปข้าว อาหาร
ที่เข้าสู่ ยงุ ้ จะไม่สามารถรับประทานได้โดยตรง จาเป็ นต้องแปร
รู ป ซึ่งก่อนหน้านี้จะกลิ้งด้วยโม่หินบดแป้ง

ตอนนี้มีโรงโม่แป้ งแล้ว ข้าวส่ วนใหญ่จะแปรรู ปที่โรงโม่แป้ ง


แลกกั บ เงิ น นิดหน่อยส าหรั บ ค่ า แปรรู ป แป้ งข้ า วที่ ใ ช้
รับประทานในหนึ่งปี ก็จะเสร็ จเรี ยบร้อยใน 1-2 วัน หากใช้โม่
หินบดแป้งต้องใช้เวลาถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า เหนื่อยตายเลย!

แต่โรงโม่แป้งจากทั้งมณฑลมีอยูเ่ พียงสองแห่ ง ต้องต่อคิว หาก


พลาดไปก็ไม่รู้วา่ จะได้จองคิวเมื่อไร

แน่ นอนว่ามีบางคนไม่ได้ไปโรงโม่แป้ ง เพราะทาใจไม่ได้ที่


ต้องใช้เงิน และรู ้สึกยุง่ ยาก จึงใช้โม่หินเพื่อประหยัดเงินอยู่ใน
หมู่บา้ น เหนื่อยหน่อยก็ยงั คุม้ ค่า

เพียงแต่ใช้ลูกกลิ้งหิ นก็ยงั ต้องต่อคิวเหมือนกัน เพราะชาวบ้าน


คุ น้ ชิ นกับการโม่แป้ งด้วยโม่หินไปแล้ว บดข้าวให้กลายเป็ น
แป้ ง จากนั้นจึงนาอาหารแห้งพวกนี้ ไปนึ่ ง พวกเขามีแผนใน
การนึ่ ง อาหารแห้ง ส าหรั บ ปี ใหม่ อ ยู่แล้ว ของเล็ก ๆ น้อ ย ๆ
เหล่ านั้นไม่ จาเป็ นต้องวิ่งไปแปรรู ปที่ โ รงงานแปรรู ป ถึ ง ใน
มณฑลหรอก

ดังนั้น จนถึงตอนนี้จะใช้โม่หินก็ยงั ต้องเปลี่ยนเวรกัน

อีกอย่างก็คือ มีคนคิดว่าแป้ งที่ได้จากการโม่ดว้ ยโม่หินอร่ อย


กว่าการใช้เครื่ องจักรแปรรู ป หนึ่ งในนั้นคื อพี่สามจ้าวที่ คิ ด
แบบนี้

เต้าหู ท้ ี่พี่สามจ้าวทาเป็ นของที่ใช้แรงงานคนทั้งหมด เขายืมโม่


หิ น ขนาดเล็ก มาจากในที ม จากนั้น ก็ใ ห้พี่ ส ะใภ้ส ามจ้า วใช้
เครื่ องโม่ขนาดเล็กบดถัว่ เหลือง

การทาเต้าหู ้ไม่ใช่ งานง่าย ๆ ต่อให้ใช้เครื่ องจักรเพื่อแปรรู ปก็


ยังเหนื่อยมากอยูด่ ี ยิง่ ไม่ตอ้ งพูดถึงการทาด้วยมือทุกขั้นตอน
หลังจากแช่ถวั่ แล้ว ใช้เครื่ องโม่บดออกมา นาไปต้มให้สุก ตาม
ด้วยน้ านิดหน่อย บีบคั้นน้ าออกและขั้นตอนอื่น ๆ กว่าจะเสร็จ
ก็เช้า คิดดูสิวา่ แบบนั้นจะเหนื่อยขนาดไหน?

อันที่จริ งตีสามกว่า ๆ ก็ตอ้ งลุกขึ้นมาแล้ว ทานู่ นทานี่ ยุ่งจนถึง


6-7 โมงเช้า

ตอนนี้จะปี ใหม่แล้ว จาเป็ นมีน้ าเต้าหู เ้ ยอะ ๆ เต้าหู ท้ ี่พี่สามจ้าว


ทาอร่ อย สิ นค้าจึงไม่เพียงพอต่อความต้องการ

พี่สามจ้าวรู ้สึกมีความสุ ข เขาอยากทาให้มากสักหน่อย ผลลัพธ์


ที่ได้คือพี่สะใภ้สามจ้าวเหนื่อยเจียนตายอยูแ่ ล้ว

หล่อนต้องบดถัว่ ซึ่ งถัว่ ก็ไม่ได้บดง่ายขนาดนั้น หล่อนเหนื่ อย


จนแขนทั้งสองข้างปูดบวมขึ้นมา แม้แต่จะทาอาหารก็ทาไม่
ไหว
“ฉันไม่บดแล้ว คุณไปแปรรู ปที่โรงโม่เถอะ” พี่สะใภ้สามจ้าว
เอนตัวบนเตี ยงขบฟั นด้วยความเจ็บปวด ขณะพูดอย่างหมด
แรง
ตอนที่ 90 คนเห็นแก่เงิน

“คิ ด ว่ า ผมไม่ รู้ เ หรอว่ า ต้อ งไปโรงโม่ เ พื่ อ โม่ แ ป้ ง ? แป้ ง ถั่ว
เหลืองที่โม่ออกมาจะเทียบได้กบั แป้ งจากโม่หินที่บดด้วยมือ
ได้ย งั ไง? มัน หนาขนาดไหนคุ ณ ไม่ รู้ เ หรอ?” พี่ ส ามจ้า วทั้ง
โมโหทั้งร้อนใจ “ ที่เต้าหู ข้ องพวกเราขายดิบขายดีกเ็ ป็ นเพราะ
บดกับมือ คุณเป็นบ้าอะไร เรื่ องเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่น้ ี ทาน้ ามัน
ดอกคาฝอยก็สิ้นเรื่ องไม่ใช่เหรอ? กว่าพวกเราจะหาเงินได้แบบ
นี้มนั ยากนะ เร็วเข้า ทุกอย่างเป็ นเงินเป็ นทอง!”

พี่ ส ะใภ้ส ามจ้า วโมโหสามี ต ัว เองจนจะร้ อ งไห้อ อกมาแล้ว


หล่อนกัดฟันกล่าว “คุณทนได้ คุณทาได้ งั้นคุณก็ไปบดเองสิ !”

พี่สามจ้าวหยิบไม้กวาดขึ้นมาทาท่าจะทุบตีหล่อน “คุณคิดจะ
ต่อต้านเหรอ!”
พี่สะใภ้สามจ้าวเห็ นแบบนั้นจะทนได้อย่างไร? ยังไม่ ทนั ได้
แตะต้องตัวหล่อน หล่อนก็ร้องไห้ออกมาแล้ว และวิง่ ไปหาแม่
สามีท้ งั น้ าตาเพื่อให้ช่วยออกความเห็น

ตอนนี้คุณแม่จา้ วกาลังห่อซาลาเปาไส้ถวั่ อยู่

หลังแยกบ้านกันแล้ว ก็เหลื อแค่ คนแก่ ส องคน นึ่ งซาลาเปา


หม้อเดียวก็เพียงพอแล้ว ไม่เหมือนปี ก่อน ๆ ที่ตอ้ งนึ่ งเป็นสิ บ
หม้อแปดหม้อ

ตอนนี้ เหลือหนึ่ งหม้อแล้ว แต่เหล่าพี่สาวสองสามคนก็ยงั มา


ช่ ว ย ซึ่ ง งานเล็ก น้อ ยแบบนี้ ถื อ เป็ นเรื่ องรอง ถึ ง อย่า งไรการ
พูดคุยในครอบครัวก็คือเรื่ องหลักอยูด่ ี

“คุณแม่ สามีเขาจะทุบตีฉันแล้วค่ะ!” พี่สะใภ้สามจ้าวร้องไห้


โฮเข้ามา ทุกคนต่างพากันตกใจจนสะดุง้ โหยง
คุณแม่จา้ ววางซาลาเปาไส้ถวั่ ที่ห่อเสร็จแล้วลง เอ่ยถามว่า “เกิด
อะไรขึ้น ไปทาอะไรมา?”

พี่สะใภ้สามจ้าวเผยแขนที่บวมเป่ งของตัวเองให้แม่สามี และ


พวกป้ า ๆ คนอื่นดู “ดูสิคะ ขนาดแขนของฉันบวมแบบนี้ แล้ว
เขายังจะให้ฉนั บดถัว่ อีก พอฉันไม่บดเขาก็จะทุบตีฉนั !”

คนที่มาช่ วยห่ อซาลาเปาไส้ถวั่ มีแม่เฒ่าหยางอยู่ดว้ ย เมื่อเห็น


แขนของพี่สะใภ้สามจ้าวเป็ นแบบนี้ นางจึงร้องตะโกนขึ้นมา
“ทาไมถึงบวมเป่ งแบบนี้เนี่ย!”

แขนของพี่สะใภ้สามจ้าวบวมเป่ งเป็ นมันเงา ใครเห็นต่างตกใจ


ถึงขีดสุ ด

“เป็ นเพราะบดถัว่ น่ ะค่ะ” พี่สะใภ้สามจ้าวปาดน้ าตากล่ าวว่า


ช่ ว งนี้ ชี วิ ต ของหล่ อ นช่ า งขมขื่ น จริง ๆ แต่ ห ล่ อ นก็ ย ัง ทน
ท้ายที่ สุดก็ทาเพื่อเงิ น หล่ อนชอบทางานหาเงิ น แต่ ถึงขนาด
หล่อนอยูใ่ นสภาพแบบนี้แล้วก็ยงั ไม่ยอมให้หล่อนได้พกั แถม
ยังคิดจะทุบตีหล่อนอีก หล่อนจะยอมให้พี่สามจ้าวข่มเหงรังแก
แบบนี้เหรอ?

คุณแม่จา้ วโกรธมาก “เจ้าสามไอ้สารเลว แขนของภรรยาตัวเอง


เป็ นแบบนี้แล้วยังไม่รู้อีกเหรอ? ยังจะมาทุบตีเธออีก ผูช้ ายบ้าน
ตระกูลจ้าวหน้าไหนกล้าลองดีทุบตีภรรยา? เดี๋ยวฉันจะจัดการ
มันเอง!”

เมื่อกล่าวจบนางจึงเดินกลับห้องไปหาน้ ามันดอกคาฝอย

ในขณะนั้นเองพี่สามจ้าวก็เข้ามา เขามองไปยังพี่สะใภ้สามจ้าว
พลางกล่าว “คุ ณมาหลบตรงนี้ ก็ไม่มีประโยชน์หรอก ยังไงก็
ต้องไปบดถัว่ พวกนั้น!”

แม่ เฒ่ าหยางทนไม่ ไหวแล้ว จึ ง เอ่ ย ประณามออกไป “ฉันจะ


บอกอะไรให้นะเหล่าจ้าวสาม นี่แกไม่เห็นสภาพของภรรยาแก
เลยเหรอ? ยังจะเรี ยกให้ภรรยาของแกไปบดถัว่ อีก แกยังอยาก
ให้ภรรยาของแกมี แขนอยู่ไหม? ยังอยากให้หล่ อนมี ชีวิตอยู่
ไหม?”

พี่สามจ้าวกล่าว “มันร้ายแรงขนาดนั้นที่ไหนกันล่ะครับ แค่บด


ถัว่ มันจะถึงชีวติ เลยเหรอ?”

“แล้วทาไมแกไม่บดเอง?” แม่เฒ่าหยางกล่าว

“ผมยังต้องสั่งถัว่ ยังต้องคั้นน้ าอีก หล่อนล่ะทาอะไรบ้าง ก็แค่


บดถัว่ เอง!” พี่สามจ้าวกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์

พี่สะใภ้สามจ้าวก่นด่า “คุ ณพูดแบบนี้ ยงั มีมโนธรรมเหลืออยู่


หรื อเปล่า? ฉันแค่บดถัว่ งั้นเหรอ? ฉันไม่ได้ค้ นั น้ าเหรอ คั้นน้ า
ทาคนเดียวได้หรื อไง?!”

คุณแม่จา้ วหยิบน้ ามันดอกคาฝอยเดินเข้ามา จากนั้นจึงคว้าไม้


กวาดที่อยูข่ า้ งมือทุบตีเหล่าจ้าวสาม กล่าวว่า “ตระกูลจ้าวของ
ฉันสร้างคนที่มีความสามารถจริ ง ๆ ใช้ภรรยาเยีย่ งทาส ตื่นมา
ทางานตั้งแต่เช้ามืด แขนล้าจนกลายสภาพเป็นแบบนี้ แถมยัง
ไม่ได้พกั ผ่อนอีก พอจะพักผ่อนก็ถูกเฆี่ยนตี คนตระกูลจ้าวของ
ฉันกลายเป็ นเจ้านายที่เฆี่ยนตีไพร่ แบบสังคมศักดินายุคก่อนไป
แล้ว ดูสิวา่ ฉันจะทุบหมาบ้าแบบแกให้ตายยังไง!”

พี่สามจ้าวถูกทุบตีจนส่ งเสี ยงร้องโอดครวญ เขาหลบไปพลาง


กล่าวไปพลาง “แม่ พวกเราแยกบ้านกันแล้วนะ!”

“แยกบ้านแล้วฉันก็ยงั เป็ นแม่ของแกอยู่ ชื่อเสี ยงของตระกูลจ้า


วจะยอมให้คนสารเลวอย่างแกทาลายเหรอ?” คุณแม่จา้ วตีไป
ก่นด่าไป

พี่สะใภ้สามจ้าวเห็นดังนั้นจึงโล่งใจ ดูสิวา่ หลังจากนี้เขาจะกล้า


ตีหล่อนอีกไหม!

หญิงชราคนอื่น ๆ มองอยูค่ รู่ หนึ่ง จากนั้นถึงจะเริ่ มห้ามปราม


หลังจากที่คุณแม่จา้ วฟาดจนหนาใจแล้ว นางก็เขวี้ยงไม้กวาด
ทิ้งพลางแค่นเสี ยงเย็น “แม่ของหม่าต้านอยู่ในสภาพนี้ แล้วยัง
ต้องบดถัว่ อะไรอีก พรุ่ งนี้ พี่รองของแกจะไปโม่แป้ ง แกก็ไป
บดถัว่ ด้วยเลย!”

“แม่ พรุ่ งนี้ เช้าผมต้องไปขายเต้าหู ้นะ รอให้ถึงวันพรุ่ งนี้ แล้ว


ค่ อยไปโม่ ถวั่ แล้วผมจะขายอะไรล่ ะ ?” พี่สามจ้าวนวดแขน
นวดขาที่ถูกตีจนเจ็บ ระหว่างนั้นก็กล่าวอย่างเป็ นกังวล

“ไม่ขายเต้าหู ส้ ักวันแกจะหิ วตายหรื อไง?” คุณแม่จา้ วจ้องมอง


ลูกชายพลางกล่าว “มีเงินมันก็ดี แต่มนั ก็ไม่สาคัญเท่ากับภรรยา
ของแก แกดูเจ้าหกสิ ว่ารักฉู ฉู่ขนาดไหน แล้วดูแก ภรรยาของ
แกเป็ นแบบนี้ แกยังคิดแต่เรื่ องเงินอี ก แกยังมีอนาคตอยู่หรื อ
เปล่า? อยากบดแกก็ไปบดเอง…เรื่ องของครอบครัวเจ้าสาม แม่
ให้เธอเป็ นหัวหน้านะ ถ้าเขายังกล้าใช้งานเธออีก เธอมาบอก
แม่ แม่จะตีมนั ให้ตายเลย!”
พี่สะใภ้สามจ้าวกล่าวอย่างพอใจ “คุณแม่ช่างดีกบั ฉันเหลือเกิน
ค่ะ!”

พี่สามจ้าวยังจะกล่าวอะไรได้อีก?

เขานัง่ บนเก้าอี้อย่างโกรธเคืองไม่พูดไม่จา

มีแต่ภรรยาของเขาคนเดียวที่เหนื่ อยเหรอ? เขาไม่เหนื่ อยหรื อ


อย่างไร?

แม้ว่าพี่สะใภ้สามจ้าวจะช่ วยทาเต้าหู ้ แต่เขาเป็นคนลากรถไป


ถึงมณฑลเพื่อขายของ กว่าจะกลับมาก็บ่ายแล้ว

เขาต้องตื่นนอนตอนตีสามกว่า ๆ ถึงบ่ายสองบ่ายสามเขาถึงจะ
ได้พกั ผ่อน ต้องทาแบบนี้ทุกวัน ถือว่านอนไม่พออย่างรุ นแรง
ไหนจะเสี ยดายอาหารไม่ยอมกินไม่ยอมดื่มอีก ไม่เหมือนกับ
ภรรยาของเจ้าหกที่ให้เจ้าหกกินเนื้ อปลากินเนื้ อหมูชิ้นใหญ่ ๆ
แบบนั้น ช่ วงนี้ พี่สามจ้าวทาเงิ นได้ก็จริ ง แต่ ร่างกายของเขา
กลับผอมซูบลง ทั้งยังอิดโรยจนหมดสภาพด้วย

คุณแม่จา้ วรู ้วา่ ลูกชายหาเงินมาไม่ใช่ง่าย ๆ ดังนั้นหลังจากทุบตี


เสร็ จจึ งให้รับประทานพุทราหวาน แล้วกล่ าวด้วยน้ าเสี ยงที่
อ่อนลง “อย่ามัวแต่มานัง่ อยู่แบบนี้ กลับห้องไปนอนหลับให้
เต็มตื่น พรุ่ งนี้กห็ ยุดสักวัน ชีวติ ไม่ใช่แค่วนั สองวัน เงินก็ไม่ใช่
ว่าจะหาได้แค่วนั เดี ยว จะรี บไปทาไม? เหนื่ อยจนเกิดปั ญหา
ขึ้นมา ไม่เพียงแต่ตอ้ งจ่ายเงินแถมยังต้องทุ กข์ทรมานอี ก ถึง
เวลานั้นไม่คิดเหรอว่าจะขาดทุน?”

“นัน่ น่ะสิ เงินมันสาคัญแต่ร่างกายสาคัญกว่า ฟั งที่แม่เธอบอก


แล้วรี บกลับไปนอนซะนะ” แม่เฒ่าหยางเกลี้ยกล่อมเช่นกัน

“เธอดู พวกเธอสองคนสิ ว่าเหนื่ อยจนหมดสภาพขนาดไหน?


ต่อให้เป็ นหนุ่มสาวมากกว่านี้กร็ ับความเสี ยหายนี้ไม่ได้ ไม่หา
เงินสักวันมันไม่ทาให้เธอจนลงหรอก เธอจะไปกลัวอะไร รี บ
ไปนอนเถอะ เรี ยกภรรยาของเธอไปพักผ่อนด้วย”

ทุกคนต่างโน้มน้าวใจแบบเธอหนึ่ งประโยคฉันหนึ่ งประโยค


พี่ ส ามจ้า วเองก็รู้ สึ ก เหนื่ อยเช่ นกัน เขามองพี่ ส ะใภ้ส ามจ้าว
ปราดหนึ่ง ก่อนลุกขึ้นยืนและเดินจากไป

คุณแม่จา้ วทาน้ ามันดอกคาฝอยลงบนแขนของลูกสะใภ้เสร็ จ


แล้วก็กล่ าวว่า “กลับไปนอนซะ ตอนนี้ เป็ นช่ วงปิ ดเทอมฤดู
หนาว บอกให้เอ้อร์ หยาทากับข้าว ให้หม่าต้านไปทางาน โต
กันขนาดนั้นแล้ว มีอะไรที่ทาไม่ได้อีก เธอไม่ตอ้ งลงมือทาเอง
แล้ว พักสัก 2-3 วัน ให้แขนหายดีก่อนแล้วค่อยว่ากันใหม่”

“คุ ณแม่ คะ ฉันเชื่ อคุ ณแม่ค่ะ แต่ ฉันขอนั่งพักสักครู่ แล้วค่อย


กลับไปนะคะ” พี่สะใภ้สามจ้าวเอนตัวพิงเข้ากับหัวเตียง พลาง
กล่าวด้วยน้ าเสี ยงที่ค่อนข้างเหนื่อยล้า
“พวกเธอขายเต้าหู ม้ นั จะได้เงินขนาดไหนกันเชี ยว ดูสิเหนื่ อย
จนมีสภาพแบบนี้แล้ว?” แม่เฒ่าหยางถาม

พี่สะใภ้สามจ้าวกล่าว “เงินที่ได้มาเหล่าซานเป็นคนเก็บไว้ค่ะ
ฉันเองก็ไม่รู้วา่ ขายเต้าหูไ้ ด้เงินเท่าไร”

“พอเถอะ เธอจะไม่รู้ได้ยงั ไง ฉันไม่เชื่ อหรอก” แม่เฒ่าหยาง


หัวเราะ

“นัน่ น่ะสิ พวกเธอสองคนได้เงินมาเท่าไหร่ กไ็ ม่รู้เหรอ?” หญิง


ชราอีกท่านหนึ่งกล่าว

“ฉันไม่รู้จริ ง ๆ ค่ะ เขาไม่เคยบอกอะไรฉันเลย บอกแค่ว่าได้


เงินมา พอฉันถามว่าได้มาเท่าไหร่ เขาก็พูดว่าอย่าถาม ให้ฉัน
ตั้งใจบดถัว่ ให้ดี” ในตอนแรกพี่สะใภ้สามจ้าวก็ยงั มีท่าทางดีๆ
อยู่ แต่เมื่อยิง่ พูดก็ยงิ่ น้อยใจ อดปาดน้ าตาไม่ได้ แล้วกล่าวต่อว่า
“ตั้งแต่ทาเต้าหู ้ ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองเป็ นวัวเป็ นควายของเขา ต้อง
บดถัว่ ทุกวัน เขากลายเป็ นคนเห็นแก่เงินไปแล้ว!”
ตอนที่ 91 เจ็บป่ วย

คุ ณ แม่ จ ้า วยืน อยู่ข ้า งลู ก สะใภ้ กล่ า วว่ า “ก็เ ธอมัน โง่ เธอดู
ครอบครัวคนอื่นสิ นอกจากครอบครัวของเธอแล้ว ครอบครัว
ที่เหลืออีกสามครอบครัวมีบา้ นไหนบ้างที่ไม่ให้ผูห้ ญิงเป็ นฝ่ าย
เก็บเงิ น? เขาได้เงินมาไม่ แม้แต่ จะบอกเธอ เธอจะทางานไป
ทาไม? บอกให้เขาทาเองไปเลย!”

แม่เฒ่าหยางหัวเราะ “ฟั งสิ ฟั งคาพูดของแม่สามีเธอ แม้แต่แม่


แท้ ๆ อาจจะเทียบไม่ติดด้วยซ้ า รี บเก็บน้ าตาซะ มีแม่สามีแบบ
นี้ นับว่าโชคดีแล้ว”

หญิงชราที่เหลือต่างพยักหน้าเห็นพ้องต้องกัน

พี่สะใภ้สามจ้าวย่อมรู ้สึกซึ้งใจ
“แต่พูดกันตามตรงแล้ว เต้าหูท้ ี่ทาจากถัว่ เหลืองบดมือมันอร่ อย
และนุ่ มกว่าเต้าหู ท้ ี่แปรรู ปด้วยเครื่ องจักรเสี ยอีกนะ” แม่เฒ่าห
ยางกล่าวขึ้น

“ใช่ ฉันเคยกิ นที่ แปรรู ปมา” หญิ งชราอี กคนกล่ าว “มี คนมา
เยีย่ มฉันตอนไม่สบาย เลยให้เต้าหู ม้ าหนึ่งชิ้น กินเข้าไปก็รู้เลย
ว่าเป็ นของที่แปรรู ปมาจากเครื่ องจักร เต้าหู ้บดแบบหยาบ ๆ
แถมยังคั้นหนักเกินไปอีก ตอนกินทั้งหยาบทั้งแข็ง ไม่อร่ อย
เท่าที่บา้ นเราทาเลย”

“ใช่แล้ว เครื่ องจักรนัน่ ทางานเร็ว บดข้าวทีหนึ่ง แป๊ บเดียวก็บด


หมดแล้ว น้อยกว่าของที่ พ วกเราบดด้ว ยโม่ หิ นตั้งเยอะ เสี ย
หายไปหมดเลย!”

“นั่นนะสิ ฉันก็บอกเจ้าลู กชายที่ บา้ นไปแล้ว บอกว่าถึ งตอน


แปรรู ปให้บดหยาบ ๆ หน่อย อย่าให้ของดี ๆ เสี ยจนกลายเป็ น
แกลบต้องเอาไปให้ไก่ให้หมูกิน แบบนั้นมันไม่บาปเหรอ!”
“ใช่ ตอนที่ ฉัน ยัง เด็ก แม้แ ต่ แ กลบก็ไ ม่ มี จ ะกิ น มี แ ต่ ก ากถัว่
เหลืองเอาไว้กิน ขนาดผักป่ า เปลือกไม้ ใบหญ้าก็ยงั นามาต้ม
น้ ากินเลย”

“ของเธอยังดีที่ยงั มีฟืนไว้ตม้ บ้านฉันไม่มีแม้แต่ฟืนด้วยซ้ า ฉัน


ยังจาได้เลยว่าเมื่อไหร่ ที่หิว เห็นอะไรก็อยากจะเข้าไปกัดสัก
สองคา ชี วิตแบบนั้น เฮ้อ กินก็ไม่ได้กินอาหารก็ไม่ได้ทา! ดู
ตอนนี้ สิ ดี ก ว่า เยอะเลย อาหารที่ กิ น ก็ใ ช้เ ครื่ อ งจัก รแปรรู ป
แล้ว”

หญิ งชราแต่ ละคนต่ างพากันบอกเล่ าเรื่ องราว หวนราลึ กถึ ง


อดีตอันขมขื่นและขอบคุณปัจจุบนั แสนหวานชื่น

พู ด คุ ย กัน ได้สั ก พัก คุ ณ แม่ จ ้า วจึ ง กล่ า วกับ ลู ก สะใภ้ส ามว่า


“ตอนนี้ไม่เหมือนกับสมัยก่อนแล้ว พวกเธออยากขายเต้าหู ้ทา
เงิ น จะใช้เครื่ องจักรก็ใช้ไปเถอะ ไม่ เหมื อนที่ พวกเรากิ น ที่
ไม่ ไ ด้ม ากมายเท่ า ไรนัก นาน ๆ ถึ ง จะได้ท าสั ก ครั้ ง เหนื่ อ ย
หน่อยก็ไม่เป็ นไร แต่พวกเธอต้องการขาย แบบนั้นก็เท่ากับว่า
ยิง่ เยอะยิง่ ดีไม่ใช่เหรอ? ถ้าราคาถูกลง แต่ขายได้เยอะขึ้นมันก็ดี
ขึ้นไม่ใช่เหรอ? บัญชีน้ ีพวกเธอควรคานวณไว้นะ”

พี่ ส ะใภ้ส ามจ้า วรู ้ สึ ก เหมื อ นไม่ ไ ด้รั บ ความเป็ นธรรม “เขา
ฉลาดขนาดนั้นย่อมคิดได้อยูแ่ ล้วค่ะ เพียงแต่เขาไม่ยอมทา”

คุณแม่จา้ วก็ไม่ได้กล่าวอะไรให้มากมาย แค่ช้ ีจุดให้กพ็ อแล้ว

ต่างคนต่างก็โตกันหมดแล้ว เป็ นพ่อเป็ นแม่คนแล้ว ไม่สามารถ


จับมือสอนได้อีก ต้องแสวงหาปั ญญาในการหาเลี้ยงชี พด้วย
ตัวเอง

พี่สะใภ้สามจ้าวนัง่ อยู่ที่นี่จนแม่สามีห่อซาลาเปาเสร็ จแล้วจึง


กลับไป

ผลลัพธ์ที่ได้กค็ ือหล่อนพบว่าพี่สามจ้าวกาลังบดถัว่ ด้วยตัวเอง


หลังจากบดเสร็ จแล้ว พี่สามจ้าวจึงไปบอกกับพี่รองจ้าวว่าตอน
ไปแปรรู ปในวันพรุ่ งนี้ ให้นาถัว่ เหลื องไปแปรรู ปให้เขาด้วย
จากนั้นก็ได้ให้ค่าแปรรู ปกับพี่รองจ้าว พี่รองจ้าวจึงตอบตกลง

พี่สามจ้าวยังคงตื่นตั้งแต่เช้ามาต้มน้ าเต้าหู ้ เมื่อถึงตอนคั้นน้ าก็


เรี ยกเด็กทั้งสองคนมาช่วย

หลัง จากคั้น เต้า หู ้เ สร็ จ จึ ง บรรทุ ก ขึ้ น รถไปมณฑล ขั้น ตอน


ทั้งหมดเขาไม่ได้เรี ยกใช้พี่สะใภ้สามจ้าวเลย

พี่สะใภ้สามจ้าวไม่สนใจเขา หล่อนเองก็รู้สึกมีความสุ ขเช่ นกัน


หล่อนปวดแขนมาก ถึงเวลาที่ควรนอนก็นอน ซึ่ งหล่อนเองก็
อยากรู ้เหมือนกันว่าพี่สามจ้าวจะทนได้สักกี่วนั

หลังจากกลับมาจากการแปรรู ปถัว่ แล้ว พี่สามจ้าวยังคงบดถัว่


ด้วยมืออีกนิดหน่อย จากนั้นจึงต้มแยกกัน ทาเต้าหู อ้ อกมาสอง
แบบ แบบแรกใช้เครื่ องจักรแปรรู ป อีกแบบใช้มือบด
แบบหนึ่งเยอะอีกแบบหนึ่งน้อย ราคาย่อมแตกต่างกัน แบบใช้
เครื่ องจักรแปรรู ปจะถูกกว่านิ ดหน่ อย ส่ วนที่บดด้วยมือยังคง
ราคาเดิม

“ทาไมถึงมีสองราคาล่ะ?” แขกประจามาเห็นจึงเอ่ยถาม

“ภรรยาผมแขนบวมจากการบดน่ะ ก็เลยบดได้ไม่เยอะเท่าก่อน
หน้านี้ ทาออกมาได้แค่น้ ี แหละ นี่ คือเต้าหู ้ที่ได้จากเครื่ องจักร
แปรรู ป ดังนั้นราคาจึงถูกกว่านิดหน่อย ส่ วนนี่คือที่บดด้วยมือ
ราคายังเท่าเดิม ผมทาธุ รกิจด้วยความจริ งใจ ไม่เคยหลอกลวง
ใคร ทาในสิ่ งที่ควรทา คุณอยากได้เต้าหู ้แบบไหนดีล่ะครับ?”
พี่สามจ้าวบอกกับลูกค้าประจาที่มาซื้อเต้าหู ้

คนที่มาขายเต้าหู ้ส่วนมากเป็นรุ่ นแม่ ๆ ป้ า ๆ ได้ยินพี่สามจ้าว


พูดแบบนี้ จึงมีความประทับใจในตัวพี่สามจ้าว ว่าเป็ นคนจริ ง
ในหมู่บา้ น

อีกอย่างเต้าหูก้ ไ็ ม่ได้แย่จึงซื้อกลับไป
อย่าบอกว่าธุรกิจดีอย่างยิง่ และไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ

พี่สามจ้าวคิดถึงภรรยาที่ยงั คงโกรธเขาอยูท่ ี่บา้ น เมื่อมาคิด ๆ ดู


แล้ว จึงไปซื้อผลไม้กระป๋ องมาหนึ่งกระป๋ องด้วยความเจ็บปวด

เมื่อกลับมาถึงจึงเห็นว่าพี่สะใภ้สามจ้าวยังคงนอนอยู่ จึงกล่าว
ว่า “เอาล่ะ คุณพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวผมจะทากับพวกเด็ก ๆ เอง”
จากนั้นจึงวางผลไม้กระป๋ องไว้ดา้ นข้างหล่อน

เดิ มทีพี่สะใภ้สามจ้าวยังโมโหอยู่ ถึงอย่างไรภายในใจก็แอบ


รู ้สึกผิดหวังเล็กน้อย แม่สามีพูดถูกแล้ว ภรรยาคนอื่นต่างก็เป็ น
คนดูแลเรื่ องเงิน แม้แต่ฉูฉู่ที่เป็ นภรรยาของน้องสามีหก เจ้าหก
ก็ยงั ให้เธอดูแลเงินเลย

แต่หล่อนกลับไม่มี และยังไม่รู้ดว้ ยซ้ าว่าได้เงินมาเท่าไร ทาไม


ถึงต่างกันขนาดนี้?

หล่อนเองก็ไม่อยากทาแล้ว ดังนั้นให้เขาทาเองเถอะ!
คิดไม่ถึงเลยว่าเขากลับมาวันนี้จะนาผลไม้กระป๋ องกลับมาให้
หล่อนรับประทานด้วย หล่อนจึงใจอ่อน

ถัดมาพี่สามจ้าวจึงเรี ยกเด็ก ๆ ให้ไปช่วยทาเต้าหู ้ แต่แบบนี้ ทา


ให้เวลาในการพักผ่อนของเขายิง่ น้อยลง สุ ดท้ายแล้วเรื่ องทุก
อย่างก็ตอ้ งให้เขาทา ประกอบกับการที่ไม่ได้กินของดี ๆ เพียง
ไม่กี่วนั ให้หลังเขาจึงล้มป่ วย

“…ฉันไม่อยู่แล้ว ปล่อยให้ฉันตายไปเถอะ เงินของฉัน…” พี่


สามจ้าวนอนอยูบ่ นเตียงพร้อมกับพึมพา

เขาสนใจเรื่ องเงินที่เสี ยไปมากกว่าอาการเจ็บป่ วยเสี ยอีก

พี่สะใภ้สามจ้าวทั้งโกรธทั้งเสี ยใจ หล่อนยกน้ าและยาเข้ามา


พลางกล่าวว่า “รี บกินยาเร็วเข้า นี่ใช้เงินซื้อมานะ จะทิ้ง ๆ ขว้าง
ๆ ไม่ได้”
พี่สามจ้าวในตอนนี้ไม่อยากได้ยนิ เรื่ องการใช้เงิน ไม่ได้หาเงิน
แล้วยังต้องใช้เงินอีก นี่ไม่เท่ากับต้องการชีวติ เขาหรื ออย่างไร?

“ผมบอกคุณแล้วไงว่าไม่ตอ้ งไปซื้ อยา คุณก็ไม่ฟัง นี่ใช้เงินไป


เท่ าไรเนี่ ย? ชี วิตมันล้ าค่ าขนาดนั้นเลยเหรอ ผมนอนพัก สั ก
หน่ อยก็หายแล้ว!” พี่สามจ้าวทาได้แค่รับประทานยา จากนั้น
จึงตวาดใส่ ภรรยาอย่างอ่อนแรง

พี่สะใภ้สามจ้าวคร้านที่จะสนใจเขา หากไม่ใช่ เพราะไม่กี่วนั


ก่อนเขาแสดงความอ่อนโยนต่อหล่อน หล่อนคงไม่ไปซื้ อยา
ให้เขาหรอก ครั้นเห็นว่าเขารับประทานยาจนหมดถ้วยแล้วจึง
เดินออกไป

“ภรรยา ผมป่ วยแล้ว คุณก็ทาเต้าหูส้ ิ ? นัน่ ยังมีเต้าหู ท้ ี่แปรรู ปอยู่


คุณต้มไว้สักหม้อ ให้พวกหม่าต้านมาช่วยคุณคั้น จากนั้นคุณก็
เข็นรถเอาไปขาย…แค่ก ๆ ๆ” พี่สามจ้าวกล่าวไม่กี่ประโยคก็
ไอออกมา
พี่สะใภ้สามจ้าวนัง่ อยูห่ น้าเตาใช้น้ ามันดอกคาฝอยทาแขนของ
ตัวเอง เมื่อได้ยนิ จึงถอนหายใจกล่าวว่า “เอาเถอะ ฉันจะไปขาย
ฉันจะไปหาเงินเอง ส่ วนคุณก็อยูเ่ ฉย ๆ ไปแล้วกัน!”

ในขณะนั้นเองพี่สะใภ้รองจ้าวก็เดินมา “น้องสะใภ้สาม น้อง


สามีสามเป็ นยังไงบ้าง?”

“พี่สะใภ้รองมาแล้วเหรอคะ? ดี ข้ ึ นแล้วแหละ ตอนกลางคืน


ไม่ได้ไอหนักขนาดนั้นแล้ว” พี่สะใภ้สามยืนขึ้นเชื้อเชิญให้เข้า
มาในห้อง

เพื่อประหยัดฟื นในฤดูหนาว พวกเขาจึงเผาฟื นใต้เตียงเตา ให้


ทั้งครอบครั วนอนหลับในช่ วงกลางคืน ตอนกลางวันหากมี
แขกมาเยีย่ มก็จะให้อยูใ่ นห้องนี้ดว้ ย ซึ่ งในชนบทไม่มีการแยก
ห้องนอนกับห้องรับแขก

“พี่สะใภ้รองมาแล้ว” พี่สามจ้าวกล่าวพลางกระแอมเสี ยง
พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วมองเห็ น สภาพของน้ อ งสามี ส ามก็ ต กใจ
เล็กน้อย ไม่เห็นแค่ไม่กี่วนั เปลี่ยนไปถึงขั้นนี้แล้ว

“ไม่สบายขนาดนี้ เลยเหรอ?” พี่สะใภ้รองจ้าวนัง่ ริ มเตียงพลาง


กล่าว

“หมอบอกว่าเป็ นเพราะเหนื่อยน่ะค่ะ อีกอย่างเป็ นไข้หวัดหนัก


ด้วย มันเลยลาม” พี่สะใภ้สามจ้าวริ นน้ าร้อนให้พี่สะใภ้รองจ้าว

พี่สะใภ้รองจ้าวรั บแก้วน้ าร้ อนมาอุ่นมือ ก่อนกล่าวว่า “พี่จะ


บอกอะไรให้นะน้องสามีสาม นี่นายกาลังหาเงินจนไม่รักชี วิต
ตัวเองแล้ว ทาแบบนี้ได้ที่ไหนกัน?”
ตอนที่ 92 รู้ สึกคลื่นไส้

นิสัยเห็นแก่เงินของเจ้าสามนั้น พี่สะใภ้รองจ้าวเองก็แอบรู ้สึก


อิจฉาในใจอยูเ่ หมือนกัน เพราะพี่รองจ้าวไม่ได้มีความคิดแบบ
นี้แม้แต่นอ้ ย

อย่างไรก็ตามสองพี่นอ้ งก็เป็นคนมีความสามารถ คนหนึ่ งรัก


เงิน อีกคนหนึ่งไม่รักเงิน ถ้าแบ่งให้พอดีได้คงดีไม่นอ้ ย?

พี่ ส ะใภ้ส ามจ้าวถอนหายใจนั่ง บนเก้าอี้ ข ้าง ๆ และกล่ า วว่า


“นัน่ น่ะสิ ฉันเองก็พูดไปแล้ว แต่เขาฟังที่ไหนกันล่ะคะ?”

พี่สามจ้าวไอจนหอบเล็กน้อย เขากลอกตามองภรรยา กล่าวว่า


“ก็เป็ นเพราะผมนึ กถึงวันปี ใหม่ ถึงได้คิดอยากจะหาเงินเพิ่ม
ไม่ใช่ เหรอ? ก็เพราะช่ วงนี้ ไม่ได้มีงานยุ่งแถมยังมีเวลาว่างถึง
ได้ออกไปขายเต้าหู ้ รอให้ยุ่งแล้วจะมีเวลาไหม? ไม่เห็นเหรอ
ว่าเจ้าหกหาเงินได้ขนาดไหน? แค่ก ๆ!”

“ถึ งจะหาเงิ นได้ในช่ วงนี้ แต่ จะมาเอาเปรี ยบร่ างกายก็ไม่ได้


เหมือนกัน ดูอาการป่ วยของคุณสิ เสี ยหายมากกว่าอีก” พี่สะใภ้
สามจ้าวกล่าวอย่างโมโห “อีกอย่างคุณก็ไม่ควรไปเทียบกับเจ้า
หกด้วย เขามีรถสามล้อเครื่ องยนต์ ขับไปมารวดเร็ วดัง่ สายลม
ของพวกเราจะเทียบได้เหรอ? อาหารที่น้องสะใภ้หกทาฉันก็
ทาได้ แต่คุณกินขนาดนั้นคุณไม่เสี ยดายหรื อไง?”

พี่สะใภ้รองจ้าวได้ยนิ ก็เกิดความรู ้สึกมากมาย

น้องสามีคนเล็กต้องได้เงินมาไม่นอ้ ยแน่นอน ไม่เช่นนั้นเขาจะ


รั บ ประทานของพวกนั้น โดยไม่ เ สี ย ดายได้อ ย่างไรกัน ? ทุ ก
วันนี้ ได้กลิ่นเนื้ อลอยออกมาตลอด พวกเด็ก ๆ ต่างก็อยากกิน
กันมาก แต่ทางฝั่งนั้นกลับไม่ให้กินแม้แต่คาเดียว
พี่ ส ามจ้า วถึ ง กับ ส าลัก เขาย่อ มเสี ย ดายหากรั บ ประทานถึ ง
ขนาดนั้น ถ้าไม่เสี ยดายเขาก็คงไม่ ทาให้ตวั เองเหนื่ อยจนล้ม
ป่ วยหรอก

อัน ที่ จ ริ งมี ไ ม่ กี่ ค นที่ ไ ม่ เ สียดายกับ การกิ น มากขนาดนั้ น


ครอบครัวของเจ้าหกใช้ชีวิตกันไม่เป็ น เขาย่อมไม่ทาตามแบบ
นั้นอยูแ่ ล้ว!

“น้องสะใภ้สาม เธอก็เลิกเติมเชื้อไฟได้แล้ว จะหาคนที่ใช้ชีวิต


แบบเหล่าลิ่วแบบนั้นก็คงยากจริ ง ๆ นัน่ แหละ พวกเราเป็ นคน
ธรรมดาเดินดิน ใช้ชีวติ อย่างมัน่ คงจะดีกว่า แล้วก็นอ้ งสามีสาม
เธอเองก็อย่าคิดมาก รักษาตัวให้ดี พอหายดีก็กลับไปทาเต้าหู ้
ได้แล้ว” พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าว

พี่สามจ้าวรู ้สึกเจ็บคอ เขาจึงไม่อยากพูดคุยให้มากมาย ทาเพียง


แค่ส่งเสี ยงอืมออกมา
พี่สะใภ้รองจ้าวพูดอีกไม่ กี่ประโยคก็ลุกขึ้ นเดิ นจากไป ก่อน
กลับไปก็ให้น้ าตาลกรวดและสาลี่แช่แข็งสองสามลูกด้วย

“ใช้น้ าเย็นละลายน้ าแข็งออกจากสาลี่นะ แล้วนาน้ าตาลกรวด


ต้มให้เขาดื่ม ดื่มคู่กนั ทั้งน้ าแกงทั้งน้ านัน่ แหละ ของสิ่ งนี้ไม่ได้
มีขอ้ ดีขอ้ เสี ยอะไร” พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าวอย่างมีน้ าใจ

หล่ อ นและครอบครั ว เจ้ า สามมี ค วามสั ม พั น ธ์ ที่ ไ ม่ เ ลว


โดยเฉพาะเจ้าสามที่ชอบหาเงินขนาดนั้น หล่อนจึงแอบหวังว่า
เขาจะพาสามีตอไม้คนนั้นของหล่อนไปบ้าง

“ค่ะ รบกวนพี่สะใภ้รองแล้ว” พี่สะใภ้สามจ้าวกล่าว

“รบกวนอะไรกัน เธอก็อย่าออกมาเลย ระวังจะเป็ นหวัดไปอีก


คน” พี่สะใภ้รองจ้าวเดินจากไป
พี่สะใภ้รองจ้าวมาเยี่ยมแล้ว พี่สะใภ้สี่จา้ วรู ้สึกว่าถ้าตัวเองไม่
ไปเยี่ยมก็คงดู ไม่ดี แต่ไปเยี่ยมแล้วไม่เอาอะไรไปให้ก็ไม่ ได้
เหมือนกัน

“คุณว่าเอาอะไรไปให้ดี?” พี่สะใภ้สี่จา้ วถามพี่สี่จา้ ว

“เอาแป้ งขาวไปสองถ้วยสิ ” พี่สี่จา้ วกล่าวโดยไม่คิด “คนป่ วย


ต้องกินอะไรดี ๆ หน่อย”

พี่สะใภ้สี่จา้ วได้ยินก็อยากจะกลอกตาใส่ “ยังจะให้แป้ งขาว


สองถ้วยอีก ทั้งครอบครัวมีกี่ถว้ ยกันเชี ยว ปี ใหม่คุณจะไม่กิน
เกี๊ยวแป้งขาวเลยเหรอ!”

พี่สี่จา้ วกล่าว “อีกนานกว่าจะถึงปี ใหม่ อีกอย่าง กินเกี๊ยวจาก


แป้งบักวีตก็ได้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วไม่ อ ยากคุ ย กับ สามี ส มองทึ บ คนนี้ แล้ว จึ ง ไป
ควานหาที่หอ้ งเก็บของ หาเป็ นเวลานานก็ไม่รู้ว่าจะหยิบอะไร
ติดไม้ติดมือไปดี

หรื อว่าจะต้องเอาแป้งสาลีขาวไปให้สองถ้วยจริ ง ๆ?

แต่เมื่อดูแป้ งสาลีขาวที่มีอยูน่ อ้ ยนิดของครอบครัวสุ ดท้ายแล้ว


หล่ อนก็ทาใจไม่ ได้ หลังจากคิ ดกังวลอยู่นานหล่ อนจึ ง หยิบ
ปลายข้าวหักไปให้สองสามถ้วย

ปลายข้าวหักคื อเมล็ดข้าวที่แตกหักไม่ เต็มเมล็ด นามาใช้ตม้


โจ๊กได้

“พี่สะใภ้สาม ฉันมาเยี่ยมพี่สามน่ ะค่ะ ฉันไม่มีของอะไรดี ๆ


ข้าวหักนี้ เป็ นเมล็ดข้าวไม่เต็มเม็ดที่เพิ่งแบ่งได้จากปี นี้ ฉันใช้
โม่บดออกมา กินแล้วหอมมาก พี่เอาไปทาโจ๊กให้พี่สามกินนะ
คะ” พี่สะใภ้สี่จา้ วกล่าว
“น้องสะใภ้สี่เธอมาเยีย่ มก็มาเยีย่ มเถอะ ยังจะหยิบของอะไรมา
ให้อีก” พี่สะใภ้สามจ้าวเป็นคนซื่ อสัตย์ ไม่ว่าของจะน้อยหรื อ
มาก หยิบมาให้กน็ บั ว่ามีน้ าใจแล้ว หล่อนจึงไม่รู้สึกรังเกียจ

พี่สะใภ้สี่จา้ วเข้าห้องมาคุยกับพี่สามจ้าวไม่กี่คา ก็เดินเพื่อออก


จากห้องไป ขณะเดินก็กล่าวอย่างสบาย ๆ “น้องสะใภ้หกยังไม่
มาเยีย่ มอีกเหรอคะ?”

“ยังไม่มาเลย ฉันไม่เห็นหน้ามาหลายวันแล้ว ได้ยนิ ว่าพี่สะใภ้


สามของหล่ อ นกลับ มาแล้ว ช่ ว งหลายวัน มานี้ หล่ อ นก็เ ลย
กลับไปบ้านแม่บ่อย ๆ” พี่สะใภ้สามจ้าวกล่าว

พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วยิ้ม “พี่ ส ะใภ้ค นนี้ กลับมา น้อ งสะใภ้เ ล็ก ก็เ ลย
วิง่ แจ้นกลับไปบ้านแม่ ความสัมพันธ์ระหว่างลูกสะใภ้ดีขนาด
นี้เลยเหรอคะ?”

“ต้องดี มากแหละ พี่สะใภ้ของหล่ อนกลับมาสองวันแล้วนะ


น้องสามีหกกับพี่สามของน้องสะใภ้ก็เป็ นหุ ้นส่ วนวิ่งค้าขาย
ด้วยกันไม่ใช่ เหรอ? ความสัมพันธ์ตอ้ งดีอยู่แล้ว” พี่สะใภ้สาม
จ้าวกลับไม่แปลกใจ

ถ้า หล่ อ นมี พี่ ส ะใภ้ที่ เ ป็ นนัก ศึ ก ษาสั ก คนหล่ อ นก็ยิน ดี ที่ จ ะ
กลับไปทุกวัน การได้มีโอกาสฟั งอีกฝ่ ายเล่าเรื่ องบางทีอาจจะ
เป็ นความโชคดีกไ็ ด้

“ฉันลืมไปเลยค่ะ เขาวิง่ ขายของคงได้เงินเยอะเลยเนอะ” คาพูด


นี้ของพี่สะใภ้สี่จา้ วฟังดูแปลก ๆ “พี่สะใภ้สาม พี่ว่าพวกเขาซื้อ
รถมาคันหนึ่งแบบนี้ ก็คงได้เงินมาไม่นอ้ ยเลยสิ นะคะ?”

“เรื่ องนี้ ฉันเองก็ไม่ รู้” พี่สะใภ้สามจ้าวมองหล่อนปราดหนึ่ ง


น้องสะใภ้คนนี้ ดา้ นอื่นก็ดีไปเสี ยทุกอย่าง แต่กลับชอบจับผิด
คนอื่น เหมือนกับสามีของหล่อนไม่มีผดิ เลย

เจ้าหกทาเงินได้ก็เป็ นความสามารถของเจ้าหก อีกอย่างมันก็


ไม่ใช่ เรื่ องง่าย อากาศหนาวขนาดนี้ ก็ตอ้ งออกไปข้างนอกรับ
กับ ความหนาวไม่ ใ ช่ เ หรอ? แต่ ล ะคนต่ า งก็ม องดู เ ขาหาเงิ น
กลับตาลปัตรไปหมด

พี่สะใภ้สี่จา้ วไม่ถามอะไรและไม่รู้สึกอะไร กล่าวอยู่สองสาม


คาก็เดินกลับไป

เรื่ องที่พี่สามจ้าวป่ วย จ้าวเหวินเทายังไม่ทราบ เขายุง่ มากจนไม่


มี เ วลามาสนใจพี่ ส ามที่ ไ ม่ ไ ด้มี ค วามสั ม พัน ธ์ ที่ ดี ว่ า จะป่ วย
หรื อไม่ป่วย ถ้าเขารู ้ ไม่แน่เขาอาจจะหัวเราะเยาะสองสองครั้ง!

แต่เย่ฉูฉู่ทาแบบนั้นไม่ได้ หลังจากที่เธออยูบ่ า้ นและได้รู้เรื่ องนี้


เธอก็ไม่สามารถทาเป็ นไม่รู้ไม่เห็นได้ ตัวอย่างเช่นตอนนี้ ที่เธอ
กาลังเตรี ยมของไปเยีย่ มพี่สามจ้าว

เธอไม่ได้เอาของอย่างอื่นไป แต่นาเนื้อหมูสามชั้นไปหนึ่งเส้น

ช่วงนี้เธอไม่รู้ว่าเป็ นอะไร เหมือนไม่อยากรับประทานเนื้อหมู


ดมก็ไม่อยากดม แค่มองก็รู้สึกเลี่ยนแล้ว
เธอรู ้สึกว่าตัวเองคงรับประทานเยอะเกินไป เพราะตั้งแต่สามี
ขายเนื้ อ หมู ที่ บ้า นก็ไ ม่ ข าดเนื้ อ หมู อี ก เลย รั บประทานมาก
ขนาดนี้จึงเป็ นเรื่ องปกติที่จะแอบรู ้สึกขยาดเล็กน้อย

เธอจึงถือโอกาสนาเนื้อหมูสามชั้นไปเยีย่ มพี่สามจ้าว

“พี่สะใภ้สาม ที่พี่สามไม่สบายอาการเขาดีข้ ึนหรื อยังคะ?” เย่ฉูฉู่


มาถาม

พี่สะใภ้สามจ้าวออกมาจากห้องและเห็ นเย่ฉูฉู่ถือของมา จึ ง
กล่าวด้วยความตกใจ “น้องสะใภ้หก เธอทาอะไรเนี่ย? เอาเนื้อ
ชิ้นนี้มาทาไม!”

“พี่สามไม่สบาย ทาของดี ๆ ให้เขากินหน่ อยสิ คะ?” เย่ฉูฉู่ยื่น


เนื้อหมูให้

“นี่ ม ัน เยอะเกิ น ไปแล้ว ไม่ ไ ด้ห รอก เธอเอากลับ ไปเถอะ”


พี่สะใภ้สามจ้าวไม่กล้ารับเนื้อหมูสามชั้นนี้
“พี่สะใภ้สาม ฉันหยิบมาแล้ว จะเอากลับไปได้ยงั ไงล่ะคะ?”
เย่ฉูฉู่กล่าว

พี่สะใภ้สามจ้าวจึงรับไป “เธอนี่ จริ ง ๆ เลยนะ เอาเนื้ อขนาดนี้


มาให้ แล้วเธอไม่เก็บไว้กินเลยเหรอ?”

เย่ฉูฉู่ทาได้เพียงหัวเราะ เข้าไปพูดคุยกับพี่สามจ้าวไม่กี่คาก็เดิน
ออกไป เธอและพี่สะใภ้สี่จา้ วเป็ นเหมือนกัน น้องสะใภ้พูดกับ
พี่ชายของสามีมากเกินไปนับว่าไม่เหมาะไม่ควร

ไม่เหมือนพี่สะใภ้รองจ้าว ในฐานะที่เป็ นพี่สะใภ้ไม่เพียงแต่จะ


พูดคุย หล่อนยังตาหนิได้ดว้ ย

เย่ฉูฉู่พูดคุยกับพี่สะใภ้รองจ้าวข้างนอกห้องไม่กี่คา แต่จะว่าไป
แล้ว ไม่รู้ทาไมถึงได้รู้สึกคลื่นไส้นิดหน่อยกันนะ

“อุกก…” เย่ฉูฉู่เอามือกุมหน้าอกทาท่าทางจะอาเจียนออกมา
“น้องสามีหกไม่เป็นอะไรใช่ ไหม?” พี่สะใภ้สามจ้าวตกใจรี บ
กล่าวออกมา

“ไม่ เ ป็ นไร ๆ ฉั น แค่ รู้ สึ ก คลื่ น ไส้ นิ ด หน่ อ ยน่ ะ ค่ ะ ” เย่ ฉู ฉู่
ลูบหน้าอกพลางกล่าว
ตอนที่ 93 พีส่ ะใภ้ สี่จ้าวจอมอวด

“หา?” พี่สะใภ้สามจ้าวไม่เข้าใจ

“คือว่า…อุ๊บ…” เย่ฉูฉู่รีบวิ่งออกไปด้านนอก เมื่อถูกลมหนาว


ที่อยูด่ า้ นนอกพัดจึงรู ้สึกดีข้ ึนมาบ้าง

พี่สะใภ้สามจ้าวเดิ นตามออกมา เมื่อเห็นเย่ฉูฉู่เป็ นแบบนี้ จู่ ๆ


หล่อนก็นึกบางอย่างขึ้นได้ จึงกระซิ บด้วยรอยยิม้ “น้องสะใภ้
หก อย่าบอกนะว่าเธอมีแล้ว?”

เย่ฉูฉู่มึนงง “มีอะไรเหรอคะ?”

พี่สะใภ้สามจ้าวหัวเราะร่ า “จะมีอะไรอีก ลูกไงล่ะ ยังจะมีอะไร


ได้อีก!”

เย่ฉูฉู่ยงั คงมึนงงเล็กน้อย ลูก นี่เธอมีลูกแล้วเหรอ? ไม่จริ งมั้ง?


“น้องสะใภ้หก เดือนนี้ รอบเดือนยังไม่มาสิ นะ?” พี่สะใภ้สาม
จ้าวถาม

คาพูดของพี่สะใภ้สามจ้าวทาให้เย่ฉูฉู่รู้สึกตัว ดูเหมือนว่ารอบ
เดือนของเธอจะไม่มานานมากแล้วนะ?

พอมาคานวณดู ก็รู้สึกว่ามันจะไม่ มาเป็ นเวลาสองเดื อนแล้ว


ช่ วงนี้ เธอทุ่ มเทอยู่กบั การออกแบบเสื้ อผ้า ยังต้องฝึ กวาดรู ป
และมี ความคิ ดที่ จะทาอาหารดี ๆ ให้จา้ วเหวินเทา จึ งปล่ อ ย
ปละละเลยตัวเองอย่างแท้จริ ง

หรื อว่าตัวเธอเองจะมีแล้วจริ ง ๆ?

เย่ฉูฉู่ลูบท้องตัวเองโดยไม่ รู้ตวั ในใจเกิดความรู ้สึกที่อธิ บาย


ไม่ได้ ซึ่งมันเปี่ ยมไปด้วยความสุ ข

ดี จริ ง ๆ เธอจะมีลูกสื บสกุลให้เหวิน เทาแล้ว เด็กคนนี้ คือลูก


ของเธอกับเหวินเทา
พี่ ส ะใภ้ส ามจ้า วเห็ น เธอเป็ นแบบนั้น จึ ง กล่ า วด้ว ยรอยยิ้ ม
“น้องสะใภ้หก พรุ่ งนี้เธอหาเวลาว่างไปหาหมอหน่อยนะ ถ้ามี
แล้ว นี่คือลูกคนแรกของเธอเลยนะ จะประมาทไม่ได้”

เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้ “ได้ค่ะพี่สะใภ้สาม พรุ่ งนี้ ฉันจะไปหา


หมอ บางทีอาจจะเป็ นเพราะฉันเบื่ออาหาร เลยคลื่นไส้กไ็ ด้”

เธอยังไม่ได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลให้ชดั เจน จึงพูดได้ไม่เต็ม


ปากเต็มคา

พี่สะใภ้สามจ้าวกล่าวด้วยรอยยิม้ “พอคิด ๆ ดูพวกเธอน่ าจะมี


แล้วล่ะ”

เย่ฉูฉู่ยมิ้ น้อยยิม้ ใหญ่

“รี บ กลับ ไปเถอะ ตอนค่ า น้อ งสามี ห กกลับมาก็บอกเขานะ


บอกว่าพรุ่ งนี้ให้เขาพาเธอไปหาหมอตรวจดูสักรอบ” พี่สะใภ้
สามจ้าวกล่าว
เย่ฉูฉู่ก็ไม่กล้าอยู่ขา้ งนอกเป็ นเวลานาน เพราะไม่อยากทาให้
ร่ างกายของตัวเองเย็น ตอนนี้ ในท้องของเธออาจจะมีเจ้าตัว
น้อยอยูแ่ ล้วก็ได้

พี่สะใภ้สามจ้าวกลับห้องกล่ าวกับพี่สามจ้าวด้วยรอยยิ้ม “ดู


เหมือนว่าน้องสะใภ้หกจะมีลูกแล้วล่ะค่ะ”

“ไม่ใช่ ลูกคุณสักหน่ อย จะตื่นเต้นไปทาไม” พี่สามจ้าวได้ยิน


กลับกล่าวอย่างไม่แยแส “หล่อนเอาอะไรมาให้?”

พี่สะใภ้สามจ้าวได้ยิน ดัง นั้น จึ งชัก สี หน้า กล่ าวด้วยน้ า เสี ย ง


โมโห “ถึงจะพูดยังไงในท้องนั้นก็มีหลานชายหลานสาวของ
คุ ณอยู่นะ กว่าจะท้องได้ก็ไม่ใช่ ง่าย ๆ แต่ คุณกลับมี ทศั นคติ
แบบนี้ อี ก ? คนตาบอดแบบคุ ณ ไม่ เ คยเห็ น อะไรดี ๆ เลยสั ก
อย่าง!”

พี่สามจ้าวแค่นเสี ยงเย็น “เจ้าหกหาเงินได้มากขนาดนั้น ฉันที่


เป็ นพี่ชายป่ วยขนาดนี้ เขายังไม่เอาของดีมาให้อีกเหรอ?”
ขณะที่กล่าว พี่สามจ้าวก็ลุกขึ้นนัง่

พี่สะใภ้สามจ้าวเห็นเขาฝื นกาลังขนาดนี้ จึงส่ ายหน้าอย่างจน


ปัญญา “คนแบบคุณนี่มนั จริ ง ๆ เลย”

จากนั้นหล่อนจึงหยิบเนื้อหมูสามชั้นที่เย่ฉูฉู่นามาให้ออกมาให้
เขาดู

เนื้อ?!

พี่จา้ วสามจับจ้องไปที่เนื้อ อย่ามองว่าเขาไม่เคยขายเนื้อแล้วจะ


หมายความว่ า เขาไม่ ช อบรั บ ประทาน อัน ที่ จ ริ ง เขาอยาก
รับประทานแทบตายอยู่แล้ว แต่เสี ยดายที่จะใช้เงินของตัวเอง
ซื้อ ตอนนี้ได้เนื้อมารับประทานเปล่า ๆ เขาจึงรี บกล่าวขึ้น “เร็ว
เข้า ไปทาบะหมี่ให้ผมหน่อย ใส่ เนื้ อลงไปหน่ อย ผมอยากกิน
บะหมี่เนื้อหมู!”
พี่สะใภ้สามจ้าวถึงกับอ้าปากค้าง ทว่าทั้งรู ้สึกโกรธและขา ดู
คนหน้าไม่อายคนนี้สิ ดูเหมือนคนป่ วยที่ไหนกัน เห็นได้ชดั ว่า
เป็ นผีตะกละตะกลามต่างหากล่ะ

ทางด้านเย่ฉูฉู่เมื่อกลับมา ก็เริ่ มคิดเรื่ องก่อนหน้านี้

นี่กส็ องเดือนกว่าแล้วสิ นะ?

เธอเองก็ไม่ได้แน่ใจมากนัก

“เหล่าจ้าวหกอยูบ่ า้ นไหม?” มีเสี ยงดังมาจากประตูหลังบ้าน

เย่ฉูฉู่จึงออกไปดู ก็พบว่าเป็ นป้าหลี่ที่อยูใ่ นหมู่บา้ น

“คุณป้าคะ เข้ามาข้างในเร็ว” เย่ฉูฉู่กล่าวเรี ยกด้วยรอยยิม้

ป้าหลี่ยมิ้ หน้าบาน “ฉูฉู่ ฉันไม่เข้าไปข้างในหรอก ฉันมาซื้อผัก


ใบเขียวนิดหน่อยน่ะ”

เย่ฉูฉู่ประหลาดใจ ป้าหลี่มาซื้อผักใบเขียว?
อย่ามองว่าจ้าวเหวินเทาจะซื้ อขายผักใบเขียวมานาน เพราะใน
หมู่บา้ นไม่มีใครซื้ อแม้แต่คนเดียว คนในหมู่บา้ นรับประทาน
ผักใบเขียวในช่ วงฤดู หนาวที่ไหนกันล่ะ? ถ้ามีเงินไปซื้ อเนื้ อ
หมูมารับประทานไม่ดีกว่าเหรอ!

ครอบครัวของป้ าหลี่มีฐานะที่ดี มีกาลังทรัพย์ซ้ื อผักได้ แต่ไม่


คิดว่าจะอีกฝ่ ายจะเต็มใจซื้อขนาดนี้

ป้ าหลี่คือใครน่ ะเหรอ นางเป็นแม่ของหลี่เฉี ยจื่อผุู้มีชื่อเสี ยง


ในหมู่ บา้ น เป็ นแม่ สามี ของแม่ ม่ายหม่ าคนที่ รับประทานไก่
ตอนตั้งครรภ์คนนั้น

ครอบครัวนางเลี้ยงไก่เป็ นอาชีพ การซื้ อผักใบเขียวจึงเป็ นเรื่ อง


เล็กน้อย ไม่ใช่เรื่ องใหญ่อะไร

เย่ ฉู ฉู่ คิ ด ถึ ง เรื่ องที่ แ ม่ ม่ า ยหม่ า รั บ ประทานไก่ ก่ อ นหน้า นี้


เป็ นไปได้ไหมว่า…
“คุ ณ ป้ า คะ พี่ ส ะใภ้ค ลอดลู ก แล้ว สิ น ะคะ?” เย่ ฉู ฉู่ ถ ามด้ว ย
รอยยิม้

ป้ าหลี่เห็นว่าเธอเดาถูกจึงพยักหน้ายิม้ “ใช่ แล้ว คลอดลูกชาย


ตัวจ้ าม่าเมื่อคืนนี้เอง!”

คลอดลู กในวัยนี้ แถมยังเป็ นเด็กผูช้ ายอี ก นางจะไม่ ดีใ จได้


อย่างไรกัน?

“ยินดีดว้ ยนะคะคุณป้า!” เย่ฉูฉู่แย้มยิม้ แสดงความยินดี

ป้าหลี่ดีใจมากจนอดไม่ได้ที่จะพูดเพิ่มอีกสองสามประโยค “นี่
เป็นบัญชาสวรรค์เลยนะ ครั้งแรกก็ให้เด็กชายตัวอ้วนจ้ าม่ามา
ให้ฉนั แล้ว ในช่วงอยูเ่ ดือนนี้ ปากของหล่อนไม่รู้รสชาติเลย จึง
อยากกินผักใบเขียวสักหน่ อย ในหมู่บา้ นนี้ ก็มีแค่บา้ นของเธอ
นี่แหละที่จะมีผกั ใบเขียว”
“ได้เลยค่ะ คุณป้า คุณป้ารอสักครู่ นะเดี๋ยวฉันไปหยิบให้” เย่ฉูฉู่
หันหลังเดินกลับไปในห้องใต้ดิน หยิบแต่ละชนิดมาส่ วนหนึ่ง

ช่ ว งนี้ จ้า วเหวิ น เทาซื้ อ ผัก ใบเขี ย วมาน้ อ ย แต่ ก็ จ ะเก็ บ ไว้
รับประทานเองทุกครั้ง ผักที่เย่ฉูฉู่หยิบออกมาคือผักใบเขียวที่
เก็บไว้สาหรับรับประทานเอง

ถ้าเป็ นของอย่างอื่ นนางก็ไม่ อยากจะคิ ดเงิ นหรอก แต่ ผกั ใบ


เขียวในช่วงนี้มีค่ามาก สามีของเธอเองก็ลาบากขนาดนั้น ถ้าไม่
คิดเงินก็คงไม่เหมาะสม แต่เธอก็คิดในราคาที่ถูกลง

เพื่อหลานชายแล้วป้าหลี่ยอ่ มจ่ายได้ นางซื้ อผักใบเขียวทุกชนิด


อย่างละนิดอย่างละหน่อย ทั้งหมดจ่ายไปห้าหยวนกว่า โดยไม่
กะพริ บตาเลยด้วยซ้ า

“ฉู ฉู่ สามวันหลังจากนี้ พวกเธอก็มากินบะหมี่มงคลด้วยนะ!”


ป้าหลี่เชิญเย่ฉูฉู่
ทางภูมิภาคนี้หลังจากคลอดสามวันหรื อเจ็ดวันจะมีการจัดงาน
ฉลอง ญาติสนิทมิตรสหายในละแวกจะนาของขวัญเล็ก ๆ น้อย
ๆ มาแสดงความยินดี

“ได้เลยค่ะคุ ณป้ า สามวันหลังจากนี้ ฉันจะไปแน่ นอน” เย่ฉูฉู่


กล่ าวด้วยรอยยิ้ม อี กฝ่ ายให้กาเนิ ดลู กชาย เธอย่อมอยากไป
แสดงความยินดีอยูแ่ ล้ว

ป้าหลี่ถือตะกร้าผักใบเขียวเดินจากไป

ในขณะนั้นเองพี่สะใภ้สี่จา้ วก็ถือขวดโหลเดินออกมาจากลาน
บ้าน ถามว่า “น้องสะใภ้หก เธอคุยกับใครเหรอ?”

“พี่สะใภ้สี่ พี่ไปทาอะไรมาเหรอคะ?” เย่ฉูฉู่หันกลับมาเห็ น


ขวดโหลที่อยูใ่ นอ้อมแขนของพี่สะใภ้สี่ จึงย้อนถามกลับไป

พี่สะใภ้สี่จา้ วเริ่ มอวด กล่าวว่า “เธอยังไม่รู้สินะ ไม่กี่วนั นี้ ฉัน


อยากกินอะไรเปรี้ ยว ๆ ฉันก็เลยไปถนนหน้าบ้านยายซุ นเพื่อ
สั่งพริ กดอง พริ กดองที่ยายซุ นทาอร่ อยมากเลยนะ น้องสะใภ้
หกเธออยากกินไหม ให้ฉนั แบ่งให้นิดหน่อยไหมล่ะ?”

“ฉันไม่กินล่ะค่ะ พี่สะใภ้สี่ พี่เก็บไว้กินเองเถอะ” เย่ฉูฉู่กล่าว

“คนที่เพิ่งไปคือป้าหลี่เหรอ?” พี่สะใภ้สี่จา้ วถาม

เย่ฉูฉู่พยักหน้า “ค่ะเป็ นป้าหลี่ ลูกสะใภ้ของป้าเพิง่ คลอดลูกเมื่อ


คื น เป็ นเด็กผูช้ ายตัวจ้ าม่ าด้วยนะ ก็เลยมาซื้ อผักใบเขี ยวนิ ด
หน่อย”

“อะไรนะ? แม่ม่ายหม่าคลอดลูกแล้ว? แถมยังเป็ นเด็กผูช้ ายตัว


จ้ าม่าด้วย?” พี่สะใภ้สี่จา้ วไม่เชื่ อหู ตวั เองจึงรี บถามว่า “ตั้งแต่
เมื่อไหร่ ทาไมฉันถึงไม่รู้ล่ะ?”

เย่ฉูฉู่แอบรู ้สึกอยากหัวเราะ พี่สะใภ้สี่คนนี้น่าสนใจจริ ง ๆ ถ้า


ไม่รู้คงคิดว่าหล่อนและแม่ม่ายหม่ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
กล่าวว่า “เพิ่งคลอดเมื่อคืนนี้เองค่ะ”
“ฉันว่าแล้วเชียว คลอดเมื่อคืนนี่เอง” พี่สะใภ้สี่จา้ วกล่าว ทั้งยัง
พูดด้วยความอิจฉาเล็ก ๆ “หลี่เฉี ยจื่อนี้ โชคดี จริ ง ๆ มีลูกชาย
แล้ว!”

“พี่สะใภ้สี่ ถึงตอนนั้นพวกเราไปกินบะหมี่มงคลด้วยกันไหม
คะ? จะได้ไปแสดงความยินดีดว้ ย” เย่ฉูฉู่กล่าวอย่างสบาย ๆ
ตอนที่ 94 ท้ องแล้ว

“ก็ตอ้ งไปกินสิ ไปแสดงความยินดีที่ได้ลูกชาย!” พี่สะใภ้สี่จา้ ว


กล่ า ว จากนั้น ก็เ ริ่ ม อวดเรื่ อ งก่ อ นหน้า นี้ ต่ อ หล่ อ นกล่ า วว่ า
“น้องสะใภ้หก เธอรู ้ ไหม ที่ บอกว่าลู กชายกิ นของเปรี้ ยวลู ก
สาวกินของเผ็ดมีประโยชน์มากเลยนะ ตอนที่แม่ม่ายหม่าท้อง
ก็ช อบกิ น ของเปรี้ ยวเหมื อ นกัน อะไรเปรี้ ยวก็กิ น หมด โอ๊ ย
ตอนนี้ฉนั ก็ชอบกินของเปรี้ ยวแบบนั้นเหมือนกัน น่าเสี ยดายที่
ช่ วงนี้ หาของเปรี้ ยวยาก เป็นเพราะไม่มีทางเลือกอื่น ก็เลยทา
ได้แค่ไปแลกพริ กดองกับยายซุนมากิน”

เย่ฉูฉู่จึงตระหนักถึงความหมายในสิ่ งที่พี่สะใภ้สี่จา้ วกล่าวได้


จึงกล่าวกับเธอว่า “พี่สะใภ้สี่ พี่มีแล้วเหรอคะ?”

“อะไรคือสิ่ งที่เรี ยกว่าความเป็ นไปได้ล่ะ? มีแล้วยังจะต้องคาด


เดาอีกเหรอ” พี่สะใภ้สี่จา้ วสะบัดหน้าอย่างภาคภูมิใจ หล่อน
เลิกคิ้วพลางกล่าวว่า “ฉันจะบอกอะไรให้ ของฉันสองเดื อน
เกือบจะสามเดือนแล้ว เด็กคนนี้ไม่กวนฉันเลยสักนิด ควรกินก็
กินควรดื่ มก็ดื่ม ไม่เหมือนกับซานหยาซื่ อหยา ทาให้ฉันอ้วก
แตกอ้วกแตนทุกวัน ผลที่ได้ออกมาเป็ นเด็กผูห้ ญิงจริ ง ๆ ไม่
แปลกใจเลยที่ผเู ้ ฒ่าผูแ้ ก่จะบอกว่า ลูกชายรักแม่ ฉันว่าเด็กคนนี้
ต้องเป็ นเด็กผูช้ ายแน่นอน!”

ควรบอกว่าเป็ นลู กสาวที่ รักแม่ไม่ใช่ เหรอ? ไม่เช่ นนั้นทาไม


การมีเด็กผูห้ ญิงถึงเรี ยกว่าเสื้ อนวมตัวน้อยล่ะ?

ภายในใจของเย่ฉูฉู่คิดแบบนี้ แต่กร็ ู ้ดีวา่ พี่สะใภ้สี่จา้ วอยากมีลูก


ชาย ก่ อนหน้านี้ ก็มีลูกสาวมาสองคนแล้ว หล่ อนจึ งตั้งตารอ
คอยลูกชาย

“พี่สะใภ้สี่ไปทาธุระต่อเถอะค่ะ” เย่ฉูฉู่เองก็ไม่ได้ร้ ังหล่อนไว้

พี่สะใภ้สี่จา้ วอารมณ์ดีมาก หล่อนยืดท้องและดึงเย่ฉูฉู่ไว้ กล่าว


สองประโยคว่า “น้อ งสะใภ้ห ก เธอดู สิ ท้อ งของฉัน แหลม
ไหม? ฉันจะบอกให้นะ ถ้าท้องแหลมคือเด็กผูช้ าย แต่ถา้ ท้อง
กลมคือเด็กผูห้ ญิง”

เย่ฉูฉู่มองดูทอ้ งของหล่อน หน้าหนาวใส่ เสื้ อหนาขนาดนี้ จะ


มองออกได้อย่างไรว่าท้องเป็นลักษณะไหน? แต่ถึงแม้จะเป็ น
ฤดูร้อน ตั้งครรภ์ช่วงเดือนนี้กย็ งั มองไม่ออกอยูด่ ี

“พี่สะใภ้สี่ พี่จะไปบ้านยายซุ นไม่ใช่ เหรอคะ รี บไปเถอะ ฉัน


จะกลับห้องแล้ว หนาวเกินไปแล้ว” เย่ฉูฉู่กล่าว

พี่สะใภ้สี่จา้ วไม่ได้สนใจนิ สัยที่เย็นชาของเธอ หล่อนรู ้สึกว่า


น้องสะใภ้หกคนนี้ กาลังอิ จฉาตนอยู่ ถึ งอย่างไรก็แต่ งเข้ามา
นานแล้วแต่ยงั ไม่มีความคืบหน้า ส่ วนเจ้าหกนั่นก็ใช้ชีวิตแย่
ขนาดนั้น ชีวติ นี้ตอ้ งไม่มีลูกชายแน่นอน!

เย่ฉูฉู่มองแผ่นหลังของพี่สะใภ้สี่จา้ วที่มีท่าทางกระฉับกระเฉง
แล้วได้แต่ส่ายหน้า แต่ก็หวังว่าพี่สะใภ้ของเธอจะได้ลู ก ชาย
จริ ง ๆ หวังว่าอีกฝ่ ายจะสมปรารถนา ไม่เช่ นนั้นลูกสาวสาม
คน…คงถูกหล่อนปฏิบตั ิอย่างเลวร้าย

จ้าวเหวินเทากลับมาตอนค่า ทั้งสองรับประทานอาหารอาบน้ า
เสร็ จแล้วจึงนอนบนเตียงเพื่อเตรี ยมตัวนอน เย่ฉูฉู่บอกเรื่ องที่
ตัว เองอาเจี ย นในตอนเช้า ให้ฟั ง บอกว่ า อยากไปหาหมอที่
มณฑลในวันพรุ่ งนี้

จ้าวเหวินเทารี บกล่าวว่า “ภรรยา คุณมีแล้วเหรอ?”

เย่ฉูฉู่กล่าว “ฉันก็ไม่แน่ใจ เพิ่งได้ยนิ จากที่พี่สะใภ้สามบอกน่ะ


ค่ะ”

“ต้องมีแล้วแน่ นอนเลย ไม่ง้ นั คุ ณจะรู ้สึกอยากอ้วกได้ไงล่ะ”


จ้าวเหวินเทากล่าวอย่างมีความสุ ข เขารู ้สึกว่าลูกชายคนนี้ เลือก
ได้ถูกที่ถูกเวลาจริ ง ๆ ครอบครัวเพิ่งหาเงินได้ก็มาแล้ว แบบ
นั้นต้องปฏิบตั ิต่อลูกชายให้ดี เขากล่าวว่า “ภรรยา คุณอยากกิน
อะไรไหม?”
เย่ฉูฉู่กล่าว “ฉันไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไหร่ ไม่มีอะไรที่อยาก
กินเป็ นพิเศษ แต่พรุ่ งนี้คุณมีเวลาว่างไหม? พาฉันเข้าอาเภอไป
หาหมอหน่อยสิ คะ?”

“ไม่มีเวลาก็ตอ้ งมีแล้วล่ะ พรุ่ งนี้ ผมจะพาคุณไปเอง!” จ้าวเหวิ


นเทากล่าวอย่างมีความสุ ข “ภรรยา ครั้งนี้พวกเราจะต้องคลอด
เด็กผูช้ ายตัวจ้ าม่าแน่นอนเลย!”

เย่ฉูฉู่เงยหน้ามองเขาพลางกล่าว “แล้วถ้าเป็ นเด็กผูห้ ญิงล่ะ?” ดู


ไม่ออกเลยว่าจ้าวเหวินเทาก็อยากได้ลูกชายเหมือนกัน?

“ลู กสาวก็ดีเหมื อนกันนะ” จ้าวเหวินเทากล่ าวอย่า งไม่ ล ัง เล


“สวยเหมื อนคุ ณไง เป็ นเสื้ อนวมตัวน้อยของพวกเรา แต่ ผม
รู ้สึกว่าลูกคนแรกเป็นลูกชายดีกว่านะ แบบนี้ หลังจากนี้เขาจะ
ได้ปกป้องน้องสาวของเขาได้ไง ภรรยาคุณคิดว่าไงล่ะ?”

เย่ฉูฉู่จึงกล่าวเห็นด้วย “พรุ่ งนี้ ไปตรวจกันเถอะค่ะ ไม่รู้ว่าจะ


ออกมาเป็ นยังไงบ้าง”
จ้าวเหวินเทายิม้ อย่างพึงพอใจพลางหอมภรรยา ใครจะมีชีวิตที่
สุ ข สั น ต์อ ย่า งเขาบ้า ง? มี รายได้ทุกวัน แถมตอนนี้ ก็มี ลู กอี ก
ชีวติ สวยงามเกินไปแล้ว

แต่เขานึกเรื่ องหนึ่งขึ้นมาได้จึงถามว่า “ภรรยา ถ้ามีลูกแล้วก็ทา


เรื่ องแบบนั้นไม่ได้แล้วสิ ?”

เย่ฉูฉู่กล่าวอย่างเคร่ งขรึ ม “ใช่ค่ะ!”

ก่อนหน้านี้ไม่รู้วา่ ตัวเองมีเด็กอยูใ่ นท้อง จึงปล่อยให้เขาทาตาม


อาเภอใจ จริ ง ๆ แล้วตัวเธอเองก็หลงใหลและสนุกกับสิ่ งนี้มาก
แต่ตอนนี้มีลูกแล้ว ย่อมต้องควบคุมไว้

ช่วงเวลานี้ลูกเป็ นสิ่ งที่สาคัญที่สุด

จ้าวเหวินเทาถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย “คุณพระคุณเจ้า มัน


ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกัน?”

“หลังจากคลอดแล้วน่ะค่ะ” เย่ฉูฉู่ใจเย็นอย่างยิง่
“หา? ภรรยา แล้ว พวกเราจะทายัง ไงดี ล่ ะ ” จ้า วเหวิน เทาทา
ท่าทางราวกับว่าชีวติ ของเขาจบสิ้ นแล้ว

“พอได้แล้ว รี บนอนเถอะค่ะ” เย่ฉูฉู่หวั เราะ

เช้าวันรุ่ งขึ้น จ้าวเหวินเทากลับไปที่บา้ นพ่อตาก่อน เขาบอก


กับเย่หมิงเป่ ยว่าวันนี้ ขอหยุด เขาจะพาภรรยาไปตรวจ เพราะ
อาจจะตั้งครรภ์แล้ว

เย่หมิงเป่ ยย่อมเห็นด้วย และให้เขายืมรถสามล้อเครื่ องยนต์ขบั


กลับมา

โจวหมิ่นกาลังวางแผนกลับไปนอนที่เตียง เมื่อเห็นเข้ากลับมา
อีกครั้ง จึงถามว่า “ทาไมถึงกลับมาล่ะคะ?”

“เหวินทาวพาฉู ฉู่เข้าอาเภอไปหาหมอ วันนี้ไม่ออกไปแล้ว” เย่


หมิงเป่ ยกล่าว

“ฉูฉู่เป็ นอะไรคะ?” โจวหมิ่นรี บถาม


“ไม่มีอะไรหรอก หล่อนอาจจะมีลูกแล้ว” เย่หมิงเป่ ยกล่าวด้วย
เสี ยงแฝงความอิจฉา

เมื่อได้ยนิ โจวหมิ่นก็อิจฉาขึ้นมาทันที

เย่หมิงเป่ ยมองดูภรรยาของตัวเอง ก็มีปฏิกิริยาโต้ตอบเช่ นกัน


กล่าวปลอบโยนไปว่า “ภรรยา พวกเราไม่ตอ้ งไปอิจฉาหรอก
สุ ขภาพของพวกเรายังแข็งแรงขนาดนี้ ไม่ ช้าก็เร็ วเดี๋ ยวก็ม า
แน่นอน”

โจวหมิ่นพยักหน้าจากนั้นจึงขึ้นเตียง เย่หมิงเป่ ยก็ข้ ึนเตียงโดย


ไม่กล่าวอะไร

สักพักก็มีเสี ยงหัวเราะคิ กคักออกมาจากใต้ผา้ ห่ ม ผ้าห่ มเริ่ ม


ขยับขึ้น ๆ ลง ๆ ทั้งยังมีเสี ยงครางเบา ๆ ดังออกมา

ต่อให้เป็ นกลางวันแสก ๆ แบบนี้ พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกละอายใจ


อะไร
ทางด้า นเย่ฉู ฉู่ เธอได้ไ ปที่ โ รงพยาบาลในอ าเภอเพื่ อ ตรวจ
ร่ างกายกับจ้าวเหวินเทาแล้ว

ในที่ สุ ด ก็ม าถึ ง โรงพยาบาลประจ าอ าเภอ แม้ว่า สภาพของ


โรงพยาบาลในขณะนี้ จะย่ า แย่ แต่ ค นกลับ ไม่ พ ลุ ก พล่ า น
เหมือนอนาคต ตรวจร่ างกายเสร็จไม่นานผลก็ออกมา

เย่ฉูฉู่ต้ งั ครรภ์แล้วจริ ง ๆ นี่ไม่ใช่ภาพลวงตา เธอท้องมาได้หนึ่ง


เดือนกว่าแล้ว

“สหายหญิง วันธรรมดาต้องใส่ ใจร่ างกายตัวเองให้มาก ๆ นะ


ท้องมาหนึ่งเดือนกว่าแล้วยังไม่รู้ตวั เลยเหรอคะ?” แพทย์หญิง
มองเย่ฉูฉู่ที่อยูต่ รงข้าม “ภายในสามเดือนนี้เป็ นช่วงเวลาที่แท้ง
ง่ายที่สุด”

เย่ ฉู ฉู่ ย่ อ มตั้ง ใจฟั ง เธอพยัก หน้า พลางกล่ า ว “คุ ณ หมอคะ


หลังจากนี้ฉนั จะใส่ ใจตัวเองค่ะ”
“คุณก็เหมือนกัน ทาไมถึงไม่ใส่ ใจภรรยาของตัวเองเลย หล่อน
ตั้งครรภ์แล้ว เรื่ องใหญ่ขนาดนี้ คุณเองก็ไม่รู้สักนิดเลยเหรอ?”
แพทย์หญิงเห็นท่าทางน่ ารักของเย่ฉูฉู่ แค่มองก็รู้ว่าไม่เข้าใจ
อะไรเลย จึงหันไปกล่าวกับจ้าวเหวินเทา

จ้าวเหวินเทาเอาแต่ยมิ้ ยิงฟั น “ที่คุณหมอพูดก็คือ ผมประมาท


เลินเล่อ ไม่ดูแลภรรยาของตัวเองให้ดีสินะครับ ผมจะจา จะจา
ใส่ ใจเลยครับ!”

แพทย์หญิงเห็นคู่รักทั้งสองเป็นแบบนี้ จึงแอบจนปั ญญา แต่ก็


กล่าวอย่างจริ งจัง “นี่เป็ นลูกคนแรก มีความสาคัญมาก พวกคุณ
ต้องใส่ ใจในทุก ๆ ด้านให้มากขึ้นนะ!”

เย่ฉูฉู่ถามอย่างไม่อาย “คุ ณหมอคะ ต้องใส่ ใจเรื่ องอะไรบ้าง


เหรอ?”

จ้าวเหวินเทาก็รี บกล่ า วว่า “คุ ณหมอครั บ ต้องกิ นของบารุ ง


อะไรบ้าง?”
ตอนที่ 95 ประกาศข่ าวดี

แพทย์หญิงเห็นว่าคู่รักหนุ่มสาวคู่น้ ีมีความสัมพันธ์ที่ดี จึงกล่าว


ว่าขึ้น “ระวังอย่าให้เหนื่ อย อย่าเคลื่อนไหวมาก หลีกเลี่ยงการ
ทาอะไรหนัก ๆ โดยเฉพาะสภาพอากาศแบบนี้ อย่าโดนความ
เย็นในสภาพอากาศหนาว ๆ พูดสั้น ๆ คือต้องดูแลดี ๆ รอให้
ผ่านสามเดือนแรกไปก่อน ให้เด็กคงที่ถึงจะปลอดภัยมากขึ้น
ส่ วนเรื่ องอาหารการกิน เอาตามฐานะทางบ้านได้เลย อยากกิน
อะไรก็กิน ถ้ามีอาการคลื่นไส้อาเจียนก็เป็นเรื่ องปกติของการ
ตั้งครรภ์ ไม่ ตอ้ งกังวล ทาตัวตามสบาย แค่ อารมณ์ ดีเข้าไว้ก็
พอแล้ว”

เย่ฉูฉู่และจ้าวเหวินเทาต่างตั้งใจฟัง

แพทย์หญิ งเตื อนอี กนิ ดหน่ อย จากนั้นจึ งให้พวกเขากลับไป


และสุ ดท้ายยังไม่ลืมที่จะเตือนว่า “ห้ามมีเพศสัมพันธ์นะคะ”
เย่ฉู ฉู่ ห น้า แดงรี บกล่ า วขอบคุ ณ คุ ณ หมอ ก่ อ นจะดึ ง จ้า วเหวิ
นเทาออกไปอย่างรวดเร็ว

“ภรรยา คุ ณเดิ นช้าหน่ อย คุ ณหมอบอกแล้วว่าจะเคลื่อนไหว


มาก ๆ ไม่ ได้ ทาไมคุ ณถึ งเดิ นเร็ วแบบนี้ ?” จ้าวเหวินเทารี บ
กล่าว

ตอนนี้เย่ฉูฉู่จึงรู ้สึกดีข้ ึนเล็กน้อย คนที่เป็ นแพทย์หญิงเปิ ดกว้าง


ขนาดนี้เลยเหรอ ถึงได้พูดตรง ๆ ออกมาแบบนี้ น่าอายจริ ง ๆ

จ้าวเหวินเทาหัวเราะออกมา “คนเขาเป็ นหมอ เห็นเรื่ องแบบนี้


มาไม่รู้ต้ งั เท่าไหร่ แล้ว อีกอย่างก็เป็ นเพราะถูกชะตากับพวกเรา
ถึงได้เตือนเยอะขนาดนั้น ไม่ตอ้ งอายหรอก จริ งสิ ภรรยา คุณ
หิวไหม อยากกินอะไรหรื อเปล่า?”

“ฉันยังไม่หิว ไม่ใช่เรื่ องง่ายที่จะเข้ามาในตัวอาเภอ พวกเราไป


บ้านพี่สาวใหญ่หรื อบ้านพี่สาวห้าดีไหมคะ?” เย่ฉูฉู่ถาม
พวกเขามาถึงตัวอาเภอย่อมต้องไปเยี่ยมพี่สาวทั้งสองอยู่แล้ว
จ้าวเหวินเทานาผักใบเขียวและเนื้อมาด้วย ของเหล่านี้เตรี ยมไว้
ให้พี่สาวทั้งสอง

“คุณอยากไปบ้านไหนล่ะ?” จ้าวเหวินเทาถาม

เย่ฉูฉู่มองฟ้ า “เวลานี้ พี่สาวห้ายังไม่เลิกงานสิ นะคะ? งั้นพวก


เราไปบ้านพี่สาวใหญ่ก่อน ขากลับค่อยไปบ้านพี่สาวห้าก็แล้ว
กัน”

“ได้สิ” จ้าวเหวินเทายิม้ ขณะประคองภรรยาขึ้นรถ จากนั้นขับ


รถสามล้อเครื่ องยนต์ไปบ้านพี่สาวใหญ่จา้ ว

มีเพียงพี่สาวใหญ่จา้ วคนเดียวที่อยูบ่ า้ น พี่เขยไปทาธุระในเมือง


แม่ยายตามไปเยีย่ มญาติ เด็ก ๆ ก็ถูกพาไปด้วย ถึงอย่างไรก็เป็ น
เรื่ องยากที่จะแวะเวียนไปสักครั้ง จึงต้องพาไปรู ้จกั ผูค้ น
วัน นี้ สามี ข องพี่ ส าวใหญ่ ไ ปประจ าการที่ ก รมทรั พ ยากรน้ า
ตอนค่าถึงจะกลับมา

“พวกเธอสองคนไปไงมาไงล่ะเนี่ย? เข้ามาในบ้านเร็ ว!” พี่สาว


ใหญ่จา้ วได้ยินเสี ยงด้านนอก เปิ ดประตูออกมาก็เห็นน้องชาย
และน้อ งสะใภ้ จึ ง เรี ย กให้ท้ ัง สองคนเข้า มาในบ้า นอย่า งมี
ความสุ ข จากนั้นหยิบน้ าตาลทรายแดงมาต้มเป็นน้ าหวานจาก
น้ าตาลทรายแดง

“พี่สาวใหญ่ ไม่ตอ้ งหรอกค่ะ พวกเราไม่ใช่คนนอกสักหน่อย”


เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้

พี่สาวใหญ่จา้ วต้มน้ าหวานจากน้ าตาลทรายแดงสองถ้วย หนึ่ง


ถ้ว ยให้ น้อ งสะใภ้อี ก หนึ่ งถ้ว ยให้ น้อ งชาย จากนั้น จึ ง ถาม
น้องชาย “อากาศหนาวขนาดนี้ ทาไมถึงได้พาฉูฉู่มาล่ะ?”

จ้า วเหวิน เทากล่ าวด้ว ยรอยยิ้ม “พี่ ส าวใหญ่ ผมพาฉู ฉู่มาหา


หมอน่ะ”
พี่สาวใหญ่จา้ วมองไปยังน้องสะใภ้อย่างมีความสุ ข “ฉูฉู่ มีแล้ว
เหรอ?”

“ค่ะ” เย่ฉูฉู่พยักหน้าด้วยความเขินอาย

จ้าวเหวินเทากล่าวอย่างเคร่ งขรึ ม “หนึ่งเดือนกว่าแล้วด้วย”

“ฉูฉู่ หมอว่ายังไงบ้าง?” พี่สาวใหญ่จา้ วกล่าวด้วยความยินดียงิ่

เย่ฉูฉู่เขินจึงให้จา้ วเหวินเทาพูด จ้าวเหวินเทาจึงทวนคาพูดของ


แพทย์ไปหนึ่งรอบ

พี่สาวใหญ่จา้ วได้ยินว่าหนึ่ งเดื อนกว่าแล้ว แต่ท้ งั สองเพิ่ง จะ


ทราบว่าท้อง ซึ่งนัน่ ก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด ถึง
อย่างไรทั้งสองก็ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน

หล่อนจึงย้าว่า “ก่อนหน้านี้กช็ ่างมันเถอะ ทีหลังก็ใส่ ใจหน่ อย


หมอเตือนได้ครอบคลุมมาก ฟังไว้นะ”
“พี่สาวใหญ่ ฉันอยู่บา้ นก็ทาแต่ อาหาร” เย่ฉูฉู่พยักหน้า ด้ว ย
รอยยิม้ กล่าวเคล้ารอยยิม้ อีกว่า “ใช่แล้ว พี่สาวใหญ่ พี่สะใภ้สี่ก็
มีแล้วนะคะ ฉันได้ยนิ พี่สะใภ้สี่บอกว่าสองเดือนกว่าแล้ว”

“จริ งเหรอ? นี่กม็ ีความสุ ขเป็ นสองเท่าเลยน่ะสิ ครอบครัวของ


พวกเราจะมี เ ด็ก ๆ เพิ่มมาอี กสองคนแล้ว !” พี่สาวใหญ่ จ ้า ว
กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เดื อนของพวกเธอไล่เลี่ยกัน ถึงตอนนั้นก็
เกิดตาม ๆ หลังกันมาเลย ฉันจะเก็บไข่ไก่ให้พวกเธอมากขึ้น
นะ”

“พี่สาวใหญ่ ไข่ไก่ในหมู่บา้ นก็หาซื้ อได้ ที่บา้ นหลี่เฉี ยจื่ออยาก


ได้ไข่ไก่กี่ฟองก็ได้ จะมาให้พี่สาวใหญ่เก็บไข่ให้พวกเราทาไม
กัน พี่สาวใหญ่เก็บไว้กินเองเถอะ” จ้าวเหวินเทาส่ ายหน้าพลาง
กล่าว

พี่สาวใหญ่มีลูกสี่ คน แค่ของตัวเองก็ไม่ใช่ เรื่ องง่ายแล้ว จะให้


มาช่วยเขาได้อย่างไร?
“พี่สาวใหญ่ เก็บไข่ ไว้ให้น้องชายตัว เอง มันก็เป็ นเรื่ อ งปกติ
ไม่ใช่เหรอ?” พี่สาวใหญ่จา้ วกล่าวด้วยรอยยิม้

มาถึงแล้วก็ยอ่ มต้องอยากรับประทานอาหาร

ตอนเที่ยงพี่สาวใหญ่จา้ วจึงห่อเกี๊ยวสองแบบคือไส้เนื้อแกะกับ
ขึ้นฉ่ายและไส้ไข่กบั ผักใบเขียว

ผักใบเขียวเป็นของที่จา้ วเหวินเทานามา จากนั้นคลุกกับยาไช


เท้าฝอยเปรี้ ยวหวาน คู่กบั กระเทียม หอมสุ ด ๆ ไปเลย

เย่ฉูฉู่ไม่ชินกับกลิ่ นเนื้ อหมู แต่เธอชอบรับประทานเนื้ อแกะ


ไม่รู้วา่ เป็ นเพราะมีลูกหรื อไม่ จึงรับประทานไปสองถ้วยใหญ่

เธอกิ นเกี๊ ยวไส้เนื้ อแกะกับขึ้ น ฉ่ ายหนึ่ ง ถ้ว ย ไส้ไข่ กบั ผักใบ


เขียวหนึ่งถ้วย ทั้งยังดื่มน้ าซุปอีกครึ่ งถ้วย

การรับประทานแบบนี้ ทาให้จา้ วเหวินเทาเงยหน้าขึ้นมามอง


บ่อย ๆ เพราะเขากังวลว่าภรรยาของเขาจะอิ่มเกินไป
เย่ฉูฉู่กลอกตามองเขา ตอนนี้ไม่ได้มีแค่เธอคนเดียวแล้ว เธอแค่
กินเยอะนิ ดหน่ อยจะมองแบบนี้ ทาไมกัน ถ้าไม่รู้คงคิดว่าไม่
อยากให้เธอกิน

“กินไปเถอะ” พี่สาวใหญ่จา้ วกล่าวด้วยรอยยิม้ “ฉูฉู่ เรื่ องที่ทอ้ ง


แล้วเธอเองก็ตอ้ งสนใจไว้นะ แต่ ก็อย่าเป็ นกังวลให้มนั มาก
เกินไป ถึงยังไงก็อย่าไปคิดมาก อยากกินก็กินอยากนอนก็นอน
ไม่ตอ้ งไปสนใจเรื่ องอื่น แม้จะบอกว่าตั้งครรภ์สิบเดือน แต่มนั
ก็จะผ่านไปอย่างราบรื่ น”

พี่สาวใหญ่ จา้ วกล่ าวถึ งประสบการณ์ เย่ฉูฉู่จึงพยักหน้าด้วย


รอยยิม้

“เรื่ องท้องก็แล้วแต่คน บางคนไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย ราวกับ


ไม่ได้ทอ้ ง บางคนก็แพ้ทอ้ งจนไม่ไหว กินอะไรเข้าไปก็อว้ ก
หมด มีปฏิกิริยารุ นแรง ดังนั้นเธอก็อย่าไปฟั งคนอื่น ยึดตาม
ร่ างกายของตัวเองเป็ นหลัก” พี่สาวใหญ่จา้ วกล่าว
“ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว” เย่ฉูฉู่พยักหน้ายิม้

พี่สาวใหญ่จา้ วกล่าวอีกว่า “นี่เป็ นลูกคนแรกของพวกเธอ ไม่วา่


จะเป็ นหญิงหรื อชายก็ได้ท้ งั นั้น เธอไม่ตอ้ งแบกรับภาระทางใจ
นี่ ไม่ใช่ แค่การคลอดเพียงครั้งเดียวเสี ยหน่ อย ตระกูลจ้าวของ
พวกเราไม่เหมือนกับตระกูลอื่น ตระกูลของเราจะลูกชายหรื อ
ลูกสาวก็มีค่าเท่ากันหมด”

เย่ฉูฉู่ยิ้ม คาพูดนี้ ถูกต้อง คุ ณพ่อจ้าวและคุ ณแม่จา้ วปฏิบตั ิต่อ


หลานชายและหลานสาวอย่ า งเท่ า เที ย ม ไม่ เ คยปฏิ บัติ ต่ อ
หลานสาวในทางที่ไม่ดี

โดยเฉพาะซานหยาและซื่ อหยาของครอบครัวพี่สี่จา้ ว คุณแม่


จ้า วแอบเอ็น ดู ม ากกว่ า นิ ด หน่ อ ยด้ว ย ประเด็ น ส าคัญ ก็เ ป็ น
เพราะพี่สะใภ้สี่จา้ วดูถูกลูกสาวมากเกินไป

หัวข้อแบบนี้ จา้ วเหวินเทาพูดแทรกไม่ได้ จนกระทัง่ ตอนนี้จึง


ได้กล่าวว่า “ที่พี่สาวใหญ่พูดมาถูกต้องหมดเลยล่ะ ภรรยาคุณ
อย่ากดดันนะ อย่าไปสนใจพี่สะใภ้สี่ ตระกูลจ้าวของพวกเรา
ไม่ได้สนใจเรื่ องนี้ เลย คุณดูพ่อกับแม่สิ พวกเขารักพี่สาวใหญ่
กับพี่สาวห้ามากขนาดนั้น สมัยก่ อนมี คนจานวนไม่ น้อ ยใน
หมู่บา้ นอยากมาเกี่ยวดองด้วย แต่พ่อแม่มีสายตาเฉี ยบแหลม
ไม่ตอบรับสักคนเลย”

พี่สาวใหญ่ จา้ วดุ ด้วยรอยยิ้ม “ยังจะแซวฉันกับพี่สาวห้าของ


นายอีกเหรอ?”

แต่อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย คาพูดนี้ไม่ผิดสักนิดเดียว พ่อแม่


ของหล่อนปฏิบตั ิกบั หล่อนและน้องสาวห้าอย่าไร้ที่ติ สมัยนั้น
ถ้า พวกน้อ งชายรั บ ประทานอะไร พวกหล่ อ นที่ เ ป็ นพี่ ส าว
น้องสาวก็จะได้รับประทานด้วย เช่ นการเรี ยนหนังสื อ พวก
หล่อนที่เป็ นพี่สาวน้องสาวก็ได้เรี ยนเช่นเดียวกัน

ไม่ เ หมื อ นลู ก สาวบ้า นอื่ น ที่ ต ้อ งท างานตั้ง แต่ เ ด็ก จนโต ได้
รั บ ประทานน้อ ยที่ สุ ด แต่ ท างานมากที่ สุ ด แต่ ง งานออกไป
ครอบครั ว ฝ่ ายหญิ ง ยัง ต้อ งให้สิ น เดิ ม เจ้า สาวด้ว ย หลัง จาก
แต่งงานแล้วยังต้องถูกสู บเลือดสู บเนื้อต่ออีก

เย่ฉูฉู่แย้มยิม้ ขณะฟัง

หลังจากรับประทานอาหารเสร็ จ จึงคุยกันต่ออีกสักพัก พี่สาว


ใหญ่จา้ วเห็นท้องฟ้ าเริ่ มมืดลงจึงบอกให้พวกเขาไปเยีย่ มพี่สาว
ห้าจ้าวบ้าง

“เยี่ยมเสร็ จแล้วก็กลับเถอะ นี่ ก็เย็นมากแล้ว เดินทางระวังกัน


ด้วยนะ” พี่สาวใหญ่จา้ วเดินมาส่ งพวกเขา พร้อมกล่าวเตือน
ตอนที่ 96 โอ้อวดไปทัว่

“ผมเข้าใจแล้วพี่สาวใหญ่ พี่รีบเข้าบ้านเถอะ” จ้าวเหวินเทา


กล่าว

จากนั้นจึงพาภรรยาของเขาไปบ้านของพี่สาวห้า

“ภรรยา ถ้าคุณไม่สบายตรงไหนก็บอกนะ” จ้าวเหวินเทากล่าว


ขณะขับรถ

“คุณไม่ตอ้ งระวังขนาดนี้ ก็ได้ค่ะ นี่ เพิ่งจะเดือนกว่าเอง” เย่ฉูฉู่


กล่าวด้วยรอยยิม้ นอกจากอาเจียนแล้วก็ไม่มีอาการอื่น

ทั้งสองเข้ามานัง่ ในบ้านของพี่สาวห้าจ้าวสักพัก บอกข่าวดีให้


พี่สาวห้าจ้าวฟังแล้วก็กลับบ้าน

จ้าวเหวินเทาพาภรรยากลับ บ้านก่ อ น จากนั้นขับรถสามล้อ


เครื่ องยนต์มาคืนพี่สามเย่
คุณแม่เย่ได้ข่าวจากลูกชายคนที่สามว่าลูกเขยจะพาลูกสาวเข้า
เมืองไปหาหมอ เมื่อเห็นเขากลับมาจึงถามว่า “เหวินเทา ตรวจ
แล้วเป็ นยังไงบ้าง?”

“คุ ณแม่ ครั บ ทุ กอย่างเรี ยบร้ อยดี คุ ณแม่ กาลังจะเป็ นคุ ณยาย
แล้วนะครับ” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้

เมื่อประโยคนี้ถูกพูดออกมา คุณแม่เย่กม็ ีความสุ ขอย่างยิง่ กล่าว


ว่า “เธออย่าเพิ่งรี บกลับนะ แม่จะเอาไข่ไก่ให้หนึ่ งตะกร้า เธอ
เอากลับไปกินนะ”

“คุณแม่ ไม่ตอ้ งขนาดนั้นก็ได้ครับ ที่บา้ นก็ยงั มีไข่ไก่อยู่” จ้าว


เหวินเทารี บกล่าว ครั้งที่แล้วแม่ยายก็เอาไข่เค็มมาให้พวกเขา
ทั้งสองแล้ว

“แม่รักลูกสาวของตัวเองต่างหากล่ะ รักนายที่ไหนกัน? ไข่ไก่น้ ี


เอาไว้ให้ฉูฉู่กิน ไม่ได้ให้นายกินสักหน่ อย” เย่หมิงเป่ ยกล่าว
เคล้ารอยยิม้
คุณแม่เย่กล่าวด้วยรอยยิม้ “เหวินเทาก็กินด้วยสิ แค่ไข่ไก่เอง ก็
ให้เอาไปกินด้วยกันนัน่ แหละ”

จ้าวเหวินเทายิม้ แต่ภายในใจรู ้สึกชอบแม่ยายคนนี้จริ ง ๆ

จ้าวเหวินเทากลับไปพร้อมกับไข่ไก่หนึ่งตะกร้า ส่ วนเย่หมิงเป่ ย
ก็หมุนตัวเดิ นกลับเข้าห้อง โจวหมิ่นกาลังอ่านหนังสื ออยู่ หลัง
กลับมาอยู่บา้ นหล่อนก็ยงั อ่านหนังสื ออยู่เสมอ ไม่ได้ละทิ้งการ
เรี ยน

เมื่อเห็นเขากลับมาจึงกล่าวว่า “เมื่อกี้เสี ยงเหวินเทาเหรอคะ?”

“ใช่ ฉูฉู่ทอ้ งแล้ว ท้องมาได้เดือนกว่าแล้วด้วย” เย่หมิงเป่ ยกล่าว

เมื่อโจวหมิ่นได้ยินจึงจับท้องของตัวเอง กล่าวว่า “ไม่รู้ว่าฉัน


จะมีข่าวดีบา้ งหรื อยัง?”

“ผมขยันออกขนาดนี้ ต้องมีข่าวดีอยูแ่ ล้ว!” เย่หมิงเป่ ยพยักหน้า


กล่าว
โจวหมิ่นยิม้ พลางกลอกตาใส่ เขา คนๆ นี้ ยิ่งอยู่ยิ่งหน้าไม่ อาย
มากขึ้นเรื่ อย ๆ แล้ว

คุณแม่จา้ วกาลังอยูก่ บั เย่ฉูฉู่ทางฝั่งนี้

นางเองก็ได้ถามลูกสะใภ้คนเล็ก เย่ฉูฉู่ยอ่ มไม่ปิดบังข่าวดีน้ ี อยู่


แล้ว เมื่ อคุ ณแม่ จา้ วรู ้ ว่าท้องได้เดื อนกว่า ๆ แล้ว สี หน้าของ
หญิงชราจึงเต็มไปด้วยความสุ ข

“มีกด็ ีแล้ว ฉูฉู่ หลังจากนี้กร็ ะวังหน่อยนะ สามเดือนแรกสาคัญ


ที่สุด” คุณแม่จา้ วกล่าว

เย่ฉูฉู่ยมิ้ พลางกล่าวว่า “คุณแม่คะ ฉันเข้าใจแล้ว พี่สาวใหญ่กบั


พี่สาวห้าก็บอกฉันแบบนี้เหมือนกัน”

คุณแม่จา้ วอยูค่ ุยกับลูกสะใภ้คนเล็ก ไม่นานนักจ้าวเหวินเทาก็


กลับมา ทั้งยังนาไข่ไก่หนึ่งตะกร้ากลับมาด้วย

“ไข่ไก่มาจากไหนเนี่ย? หลี่เฉียจื่อให้มาเหรอ?” คุณแม่จา้ วถาม


“เปล่าครับ แม่ยายได้ยนิ ว่าภรรยาผมท้องแล้ว ก็รีบเอาไข่ไก่มา
ให้แล้วบอกให้ผมเอากลับมากินน่ ะครับ” จ้าวเหวินเทากล่าว
ด้วยรอยยิม้

คุณแม่จา้ วตื้นตันใจ ไม่อย่างนั้นจะบอกว่าโชคของลูกชายคน


เล็กคนนี้ไม่มีทางที่คนธรรมดาจะเทียบเทียมได้อย่างไรกัน?

นอกจากเรื่ องแต่งงานกับลูกสะใภ้สุดสวยอย่างฉู ฉู่แล้ว แม่ยาย


ยัง เป็ นคนใจถึ ง แบบนี้ อี ก ในบ้า นมี ลู ก สะใภ้ห ลายคน มี แ ต่
ตระกูลเย่นี่แหละที่ปฏิบตั ิต่อลูกสาวอย่างไม่เสี ยดายแบบนี้

แน่นอนว่านางย่อมปฏิบตั ิต่อลูกสาวทั้งสองเป็ นอย่างดี นี่นบั ว่า


แต่งงานเข้าบ้านก็จะมีนิสัยแบบเดียวกันสิ นะ?

คุณแม่จา้ วยิม้ นางย้าเตือนไม่กี่คาก็กลับไป

“เป็ นยังไง มีแล้วใช่ ไหม?” ขณะที่คุณแม่จา้ วเพิ่งจะเดิ นกลับ


เข้ามา คุณพ่อจ้าวก็ถามขึ้น
อย่าคิดว่าชายชราไม่เคยถามเรื่ องพวกนี้ แต่นี่เป็นเรื่ องของลูก
ชายคนเล็ ก ไม่ เ ท่ า กับ ลู ก ชายคนอื่ น ลู ก ชายคนเล็ ก เพิ่ ง จะ
แต่งงานปี นี้ ทั้งยังผ่านมาหลายเดือนแล้วยังไม่มีข่าวดี เขาย่อม
กังวลเกี่ยวกับเรื่ องนี้

คุณแม่จา้ วกล่าวด้วยรอยยิม้ “มีแล้ว เดือนกว่าแล้วด้วย”

คุ ณ พ่ อ จ้า วพยัก หน้ า “แบบนี้ ก็ ดี ” จะเป็ นเด็ ก ผู ้ช ายหรื อ


เด็กผูห้ ญิงก็ได้ท้ งั นั้น ที่สาคัญคือมีลูกก็พอแล้ว บรรดาผูห้ ญิง
ด้านนอกเหล่านั้นจะได้ไม่มานัง่ นินทา

คุณแม่จา้ วรู ้ว่าเขาคิดอะไร จึงกระซิ บว่า “ครอบครัวของเจ้าสี่ ก็


มีเหมือนกันนะ มีพร้อมกันเลย”

คุณพ่อจ้าวไม่สนใจมากนัก “มีพร้อมกันแล้วยังไง ตอนนี้ แยก


บ้านแล้ว การใช้ชีวิตของครอบครัวเจ้าหกทั้งสองคนก็ไม่ตอ้ ง
ให้พวกเรามาเป็ นกังวลแล้ว”
คุณแม่จา้ วก็ไม่กงั วลเรื่ องลูกชายคนเล็กและลูกสะใภ้คนเล็ก จึง
กล่าวว่า “ลูกของเจ้าสี่ คนนี้ ถ้าเป็นลูกสาวอีกคน ฉันว่าหล่อน
ต้องกังวลแน่เลย”

คุณพ่อจ้าวกล่าว “ลูกสาวก็ดีเหมือนกัน ดูลูกสาวคนโตกับลูก


สาวคนที่หา้ สิ กตัญญูกว่าพวกเจ้ารองอีกเสี ยอีก”

เขาไม่ได้รู้สึกว่าการมีลูกสาวเป็ นเรื่ องไม่ดี กล่าวถึงผ้าห่ มของ


พวกเขา ผ้าห่ มผืนนี้เป็ นของที่ลูกสาวคนที่หา้ ของเขาทาให้เมื่อ
ปี ที่แล้ว อบอุ่นมากเลยล่ะ

“พวกเราคิ ด แบบนี้ แต่ ห ล่ อ นไม่ ไ ด้คิ ด เหมื อ นกับ เราน่ ะ สิ


หล่อนไม่ชอบลูกสาว แต่จะว่าไปแล้วหล่อนก็เป็นเหมือนกับ
แม่ของหล่อนนัน่ แหละ ตรงที่คลอดลูกสาวเหมือนกัน”คุณแม่
จ้าวกล่าว

ครอบครั ว ของเจ้า สี่ ใ ห้ ค วามส าคัญ กับ เด็ ก ผู ้ช ายมากกว่ า


เด็ ก ผู ห้ ญิ ง ปฏิ บัติ ต่ อ ซานหยาและซื่ อ หยาราวกับ ไม่ ใ ช่ ค น
บางครั้งนางก็ทนไม่ได้อยากจะด่าสักคาสองคา แต่ต่างคนต่าง
มีเส้นทางเป็ นของตัวเอง

คุ ณพ่อจ้าวไม่สนใจเรื่ องนี้ พูดเพียงแค่ว่า “บอกเจ้าหกให้เอา


เนื้ อ กลับ มาให้ภ รรยาของเขามากขึ้ น หน่ อ ย แม่ ม่ า ยคนนั้น
ของหลี่ เ ฉี ย จื่ อ ตอนท้อ งยัง ได้กิ น ไก่ เ ลยนะ ฉู ฉู่ จ ะน้อ ยหน้า
หล่อนไม่ได้”

ท้ายที่สุดแล้ว เขายังคงลาเอียงไปทางลูกสะใภ้คนเล็กมากกว่า
นิ ดหน่ อยอยู่ดี แต่จะโทษเขาก็ไม่ได้ เวลาที่ลูกสะใภ้คนเล็กมี
ของให้รับประทานก็จะเอามาให้พวกเขาทั้งสอง ก่อนหน้านี้
ตอนที่ทะเลาะกับครอบครัวของเจ้ารองที่ได้ยกเรื่ องเลี้ยงดูตอน
แก่ข้ ึนมา ลูกสะใภ้คนเล็กก็แสดงความเต็มใจที่จะเลี้ยงดู พวก
เขาทั้งคู่ให้อยูอ่ าศัยด้วยกัน ถึงเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่ภายใน
ใจจะรู ้สึกไม่โล่งอกได้อย่างไรกัน?
คุ ณ แม่ จ ้าวกล่ าวด้ว ยรอยยิ้ม “เรื่ อ งนี้ คุ ณ ไม่ ตอ้ งกังวลหรอก
ตอนที่เจ้าหกเอารถสามล้อเครื่ องยนต์ไปคืน แม่ของหล่อนยัง
บอกให้เอาไข่ไก่กลับมาอีกหนึ่งตะกร้าด้วยนะ”

คุณพ่อจ้าวพยักหน้า

คุณแม่จา้ วไม่ได้กล่าวอะไรอีก ในใจหวังว่าลูกของครอบครัว


เจ้าสี่ ในครั้งนี้จะเป็ นลูกชาย

ข่าวการตั้งครรภ์ของฉู ฉู่ในตระกูลจ้าวได้แพร่ กระจายออกไป


แล้ว สิ่ ง นี้ ไม่ นับ ว่ า เป็ นเรื่ อ งใหญ่ อ ะไร แต่ พี่ ส ะใภ้ร องจ้า ว
พี่ ส ะใภ้ส ามจ้า วและพี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วต่ า งก็ม าแสดงความยิน ดี
กับเย่ฉูฉู่

เย่ฉูฉู่ก็ทกั ทายพวกหล่อนด้วย สะใภ้ทุกคนอยู่กนั พร้อมหน้า


ความสัมพันธ์ต่อหน้ายังคงต้องรักษาไว้
“น้องสะใภ้หก การรั บรสของเธอในตอนนี้ เป็ นยังไงบ้า ง?”
พี่สะใภ้สี่จา้ วที่ ชอบยุ่งเรื่ องคนอื่ นมากได้ถามเย่ฉูฉู่ข้ ึนพลาง
พึ ม พ าในใจว่ า พอตนตั้ง ครรภ์ น้ อ งสะใภ้ห กก็ เ ลี ย นแบบ
ตั้ง ครรภ์ต ามตน อย่า ได้ม าชอบรั บประทานของเปรี้ ยวตาม
หล่อนเชียวนะ!

“ฉันกิ นรสชาติ จืด ๆ น่ ะ แต่ อาการแพ้ทอ้ งก็ค่อนข้างรุ นแรง


ใช้ได้ เห็นของคาวไม่ได้เลย” เย่ฉูฉู่กล่าว

พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วได้ยิน ดัง นั้น จึ ง กล่ า วทัน ที ว่ า “แค่ เ ริ่ ม ก็ส ร้ า ง
ปั ญหาแล้วเหรอเนี่ย? จะต้องเป็ นเด็กผูห้ ญิงแน่ ๆ เลย ตอนฉัน
ท้องซานหยากับซื่ อหยาก็สร้างปั ญหาให้ฉนั ไม่นอ้ ยเหมือนกัน
แต่ ค นนี้ นิ สั ย ดี ม าก ความอยากอาหารก็ดี ม ากด้ว ย ไม่ ส ร้ า ง
ปัญหาให้ฉนั สักนิดเลย!”

พี่สะใภ้รองจ้าวและพี่สะใภ้สามจ้าวเงียบไป นี่ มนั โอ้อวดไป


ทัว่ จริ ง ๆ
คาพูดของครอบครัวเจ้าสี่ ช่างไม่น่าฟังเอาเสี ยเลย

เย่ฉูฉู่ยอ่ มรู ้นิสัยของพี่สะใภ้คนนี้ จึงกล่าวอย่างใจเย็น “ลูกของ


ฉันกับเหวินเทา ไม่ว่าจะเป็ นเด็กผูช้ ายหรื อเด็กผูห้ ญิง ขอแค่
คลอดอย่างปลอดภัยก็พอแล้วค่ะ ไม่จาเป็นต้องเป็นเด็กผูช้ าย
หรอก ถึงเป็ นเด็กผูห้ ญิงพวกเราก็ดูแลอย่างดี”

“ใช่ แล้ว ๆ เด็กผูห้ ญิงก็ดีนะ ดู เจ้าเด็กหม่าต้านสิ ช่วยอะไรได้


บ้าง? ต้องเป็ นเอ้อร์ หยาถึงจะช่วยงานฉันได้” พี่สะใภ้สามจ้าว
กล่าว

พี่รองจ้าวก็กล่ าว “นั่นน่ ะสิ ต้าหยาต่ างหากล่ ะที่ ช่วยงานได้


สองพี่นอ้ งเถี่ยต้านกินเป็ นอย่างเดียว!”
ตอนที่ 97 งานเลีย้ งของแม่ ม่ายหม่ า

“ลูกชายเอาแต่กินข้าวอย่างเดียวมันก็เป็ นเรื่ องปกติไม่ใช่ เหรอ


ไม่กินข้าวแล้วจะโตได้ยงั ไงล่ะ? ลูกสาวมีชีวิตเพื่อทางาน ย่อม
ต้องทาทุกอย่างอยูแ่ ล้ว” พี่สะใภ้สี่จา้ วกล่าว

พี่สะใภ้สามจ้าวและพี่สะใภ้รองจ้าวต่างพูดไม่ออก พี่สะใภ้สี่
จ้าวอยากได้ลูกชายจนเป็ นบ้าไปแล้ว

พี่สะใภ้ท้ งั สามคนมาเพียงครู่ เดียวก็กลับไป พี่สะใภ้สี่ยงั กล่าว


กับพี่สะใภ้ท้ งั สองว่า “พวกพี่อย่ามองว่าน้องสะใภ้หกบอกว่า
ลูกชายหรื อลูกสาวก็ได้ แต่ในใจก็ตอ้ งอยากได้ลูกชายอยู่แล้ว
ตั้งตารอคอยแน่นอน!”

“ก็ดีไม่ใช่ เหรอ น้องสะใภ้หกไม่ใช่ พวกที่ไม่ชอบลูกสาว ฉัน


เห็นว่าหล่อนปฏิบตั ิต่อซานหยากับซื่ อหยาเป็นอย่างดีเลยนะ”
พี่สะใภ้สามจ้าวเตื อนขึ้ นมา เพื่อให้น้องสะใภ้คนนี้ หยุด พู ด
เรื่ องนี้

พี่สะใภ้สี่จา้ วกลับไม่ฟัง ยังกล่าวต่อไปว่า “นี่ เพิ่งจะท้องก็ไม่


อยากเห็ น เนื้ อ สั ต ว์แ ล้ว ไม่ ใ ช่ พ รที่ ดี เ ลย ต้อ งเป็ นลู ก สาว
แน่นอน”

พี่สะใภ้รองจ้าวหาข้ออ้างเพื่อปลีกตัวเดินออกไปก่อน พี่สะใภ้
สามจ้าวก็ไม่อยากเดินไปพร้อมกับพี่สะใภ้สี่จา้ วเช่นกัน

พี่สะใภ้สี่จา้ วเบ้ปาก กล่าวพึมพา “เป็ นเพราะพวกพี่ท้ งั สองคน


มี ลู ก ชายแล้ว ถึ ง พู ด จาไร้ ส าระได้ ถ้า ยัง ไม่ มี ลู ก ชาย บางที
อาจจะอยูไ่ ม่สุขกว่าฉันก็ได้!”

พอพี่สะใภ้สี่กลับถึงห้อง ก็หยิบพริ กดองมารับประทาน ลูกคน


นี้ ของหล่อนต้องเป็ นลูกชายแน่ ๆ ส่ วนครอบครัวเจ้าหกต้อง
ได้ลูกสาวถึงจะดี!
เย่ฉูฉู่ยอ่ มไม่รู้ว่าพี่สะใภ้คนนี้จะ ‘ห่ วงใย’ นางมากขนาดนี้ แต่
ก็พอจะเดาได้วา่ ไม่ใช่คนดี

วันรับประทานบะหมี่มงคล*ต้อนรับลูกของหลี่เฉียจื่อได้ม าถึง
ในวันที่สาม

*เป็ นธรรมเนี ยมการฉลองให้กบั เด็กเกิดใหม่อย่างหนึ่ ง ตาม


ธรรมเนี ยมเดิมต้องกินบะหมี่ก่อนจะเข้ามาเยี่ยมทารกแรกเกิด
แล้วคนที่เป็ นเจ้าบ้านก็จะจัดงานเลี้ยงให้กบั แขกที่มาเยือน

เย่ฉูฉู่หยิบวุน้ เส้นไปสองก้อนและไข่ไก่อีกหกฟอง ซึ่ งเธอได้


ถามพวกพี่สะใภ้แล้ว พวกพี่สะใภ้เอาไปเท่าไรเธอก็จะเอาไป
เท่านั้น ของทั้งหมดถูกวางบนถาดชา ด้านนอกห่อด้วยผ้าสี แดง
ห่อผูกปมแล้วใช้มือหิ้ว

พี่สะใภ้สี่จา้ วหยิบแป้ งสาลีหนึ่งถ้วยและไข่ไก่หกฟองอย่างไม่


เต็มใจ
พี่สะใภ้รองจ้าวและพี่สะใภ้สามจ้าวก็หยิบมาแบบนี้เช่นกัน

ในช่วงเวลานี้ที่ทุกบ้านต่างยากจน ของดี ๆ มีนอ้ ย มากน้อยแค่


ไหนก็ถือว่าเป็ นน้ าใจ ไม่มีใครเลือก

บ้านของหลี่ เฉี ยจื่ ออยู่ที่หน้าถนนใหญ่ ทางทิ ศตะวันตก เป็ น


บ้านดินสามห้อง ลานหน้าบ้านสั้นด้านหลังยาว ลานหลังบ้าน
เลี้ยงไก่ มีเล้าไก่อยู่ บ้านดินที่อยู่ทางด้านหน้าลานบ้านทั้งซ้าย
และขวามีไว้เก็บของไม่ต่างจากบ้านอื่น ๆ ในหมู่บา้ นนัก

หลี่เฉี ยจื่อเป็นคนที่ใช้ชีวิตเป็น อย่ามองว่าภายนอกจะยากจน


มาก อันที่ จริ งเขาไม่ได้มีฐานะยากจนเลย ไม่ เช่ นนั้นแม่ม่าย
หม่าคงไม่ได้รับประทานไก่สองสามตัวตอนตั้งครรภ์จนทาให้
คนในหมู่บา้ นตกใจหรอก

เย่ฉูฉู่และเหล่ าพี่ สะใภ้เข้าไปพร้ อ มกัน ตระกูลหลี่ มีแขกมา


เยีย่ มแล้ว ไม่ใช่ผหู ้ ญิงก็เป็ นเด็ก ส่ วนเหล่าผูช้ ายต่างไม่สะดวก
ที่จะมางานรับประทานบะหมี่มงคลของเด็กเกิดใหม่น้ ี
“คุณป้า ยินดีดว้ ยนะคะ!” พี่สะใภ้รองจ้าวพี่สะใภ้สามจ้าวกล่าว
ด้วยรอยยิม้ เย่ฉูฉู่เดินตามด้านหลังก็พอแล้วไม่ตอ้ งกล่าวอะไร
มากความ

ป้าหลี่กาลังออกมาตากผ้า ซึ่งเป็ นผ้าอ้อมเด็ก

ในช่ วงเวลานี้ ไม่มีผา้ อ้อมแบบใช้แล้วทิ้งหรื อผ้าที่เป็นผ้าอ้อม


โดยเฉพาะ สิ่ งที่ ใช้คือเสื้ อผ้ากันหนาวในช่ วงฤดู ใ บไม้ผ ลิ ที่
ไม่ได้ใส่ นามาตัดเป็ นชิ้น ๆ หรื อไม่กผ็ า้ ฝ้ายนุ่ม ๆ

ไม่ตอ้ งพูดถึงเลยว่าตั้งแต่เกิดมาเด็กก็รู้จกั ปั สสาวะแล้ว การซัก


ล้างผ้าอ้อมจึงเป็นเรื่ องใหญ่เรื่ องหนึ่ ง การดูแลทารกในช่ วงนี้
จึงไม่ใช่เรื่ องง่าย

“ดี ๆ ๆ!” ใบหน้าของป้ าหลี่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม หลังนางตาก


ผ้าอ้อมเสร็จจึงเรี ยกให้ทุกคนเข้าไปในบ้านด้วยมือที่แดงก่า
ตรงกลางเป็ นห้อ งโถง ทั้ง ยัง เป็ นสถานที่ ที่ ใ ช้รั บ ประทาน
อาหาร

เตียงเตาของบ้านตระกูลหลี่ต้ งั อยูท่ ิศใต้ ดังนั้นเมื่อเข้าประตูมา


ก็เป็นเตาเลย เพราะหลี่เฉี ยจื่อและแม่ม่ายหม่าอาศัยอยู่กนั เอง
จึงอาศัยอยูใ่ นห้องทางทิศตะวันออก

เย่ฉูฉู่และพี่สะใภ้รองจ้าววางของไว้บนโต๊ะห้องโถง จากนั้น
เดินเข้าไปในห้องทางทิศตะวันออกเพื่อเยีย่ มเด็กทารกแรกเกิด

ช่ วงนี้ เป็ นฤดูหนาว เด็กแรกเกิดต้องห้ามโดนลม หน้าต่างใน


ห้องจึงมีม่านผ้าฝ้ายติดไว้ บนหัวเตียงก็มีม่านผ้าฝ่ ายติดไว้ดว้ ย

แม่ม่ายหม่านัง่ อยู่บนหัวเตียง คลุมด้วยผ้าห่ มผืนใหญ่สองผืน


บนศีรษะสวมหมวกผ้าฝ้ าย บนหน้าผากมี ผา้ ขนหนู หนึ่ งผืน
บนร่ างกายของหล่อนยังมีเสื้ อนวมบุฝ้ายตัวใหญ่ เรี ยกได้ว่าปก
คลุมอย่างแน่นหนา
แม่ม่ายหม่ามีสีหน้าดูดีใช้ได้ บางทีอาจเป็ นเพราะตอนตั้งครรภ์
ได้รับประทานไก่ หล่อนจึงมีร่างกายอวบอ้วนผิวขาว ส่ งผลให้
เห็นจุดด่างดาบนใบหน้าเห็นชัดขึ้น

“พวกเรากินบะหมี่น้ ากันก่อนมาแล้วนะคะ” พี่สะใภ้รองจ้าว


เป็ นตัวแทนของสะใภ้ตระกูลจ้าวได้กล่าวด้วยรอยยิม้

บะหมี่น้ าเป็ นของแสดงความยินดีกบั ทารกแรกเกิด

แม่ม่ายหม่าย่อมมีความสุ ข การมาหาในช่วงเวลานี้นบั เป็ นการ


ให้เ กี ย รติ แ ล้ว ครั้ งนี้ เธอให้ก าเนิ ด ลู ก ชาย หล่ อ นจึ ง ยืด หยัด
ขึ้นมาได้ กล่าวด้วยรอยยิม้ ว่า “มานัง่ ก่อนเร็ ว มาดูลูกชายของ
ฉันสิ ”

เด็กน้อยที่นอนอยู่ดา้ นข้างแม่ม่ายหม่ายังคงหลับตานอนหลับ
อยู่ เด็กทารกแรกเกิดอายุสามวันดู น่าเกลี ยดเล็กน้อย แต่ก็ยงั
มองออกว่าเป็ นเด็กที่ตวั ใหญ่มาก
“โอ้ เด็กจ้ าม่าแบบนี้นี่หายากมากเลยนะคะ!” พี่สะใภ้สี่จา้ วจ้อง
มองตาไม่กะพริ บ จ้องตาเป็ นมันเกือบจะเข้าไปกอดแล้ว

แม่ม่ายหม่าภูมิใจเล็กน้อย ใบหน้ายิม้ แย้ม หล่อนรู ้ว่าพี่สะใภ้สี่


จ้าวนั้นมีลูกสาวสองคน!

พี่สะใภ้สามจ้าวเห็ นแล้วก็รู้สึกว่า เด็กคนนี้ อวบอ้วน จึ งถาม


แม่ม่ายหม่าว่า “ตอนคลอดออกมาหนักเท่าไรเนี่ยคะ?”

“เจ็ดชัง่ กว่า ๆ ค่ะ” แม่ม่ายหม่ากล่าวด้วยรอยยิม้ “อ้วนมากเลย


ล่ะ”

“ใช่ ตอนฉันคลอดหม่าต้านยังแค่หกชัง่ เอง” พี่สะใภ้สามจ้าว


พยักหน้าพลางกล่าว

พี่สะใภ้รองจ้าวถอนหายใจกล่าวว่า “ของเถี่ยต้านยังไม่ถึงห้า
ชัง่ เลย ตัวเล็กอย่างกับหนู เดี๋ยวพวกเธอก็ตามทันแล้ว”
พี่สะใภ้สี่จา้ วได้ยนิ พี่สะใภ้ท้ งั สองคุยกันเรื่ องลูกชาย ตัวเองไม่
มีลูกชาย มีเพียงลูกสาวสองคน จึงอึดอัดเล็กน้อย

คอยก่อนเถอะ รอให้ลูกชายของหล่อนเกิดมาก่อน จะต้องหนัก


แปดชัง่ แน่นอน!

จากนั้นหล่อนจะตั้งชื่อเล่นว่า ปาจิน(แปดชัง่ ) ด้วย!

เย่ฉูฉู่ยงั ไม่มีลูก จึงไม่สามารถคุยเรื่ องเด็กทารกได้ เธอทาได้แค่


ยิม้ ไม่พูดไม่จา

งานเลี้ ย งแบบนี้ แต่ ม าร่ ว มด้ว ยก็พ อแล้ว อัน ที่ จ ริ ง เธอไม่ ได้
สนิ ทกับคนอื่ นๆ แต่ ถา้ เธอไม่ มา ก็จะถู กผูค้ นบอกว่าไม่ เ ข้า
สังคม หัวสู ง ดูถูกคน

ในขณะนั้นเองได้มีผูห้ ญิงผิวสี ตวั ผอมอายุหา้ สิ บกว่าปี เดินเข้า


มา มองดู พ วกเธอพูด คุ ย กันขณะที่ ผา้ ม่ านยกขึ้ น จึ ง กล่ าวว่า
“พอแล้ว พวกเธอรี บปิ ดผ้าม่านเร็ ว อย่าให้เด็กกับผูใ้ หญ่ โดน
ลม!” น้ าเสี ยงไม่ได้สุภาพเท่าไรนัก

“แม่ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” แม่ม่ายหม่ารี บกล่าว พลางกล่าวกับ


พวกพี่สะใภ้รองจ้าวว่า “นี่ แม่ ของฉันเอง มาดู แลฉันช่ วงอยู่
เดือนน่ะ”

เย่ฉูฉู่มองผูห้ ญิงผิวสี ร่างผอมหางตาชี้ โหนกแก้มสู ง แค่เห็นก็


ไม่อยากสุ งสิ งด้วยแล้ว

มองแค่ ป ราดเดี ย ว พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วก็เ ข้า ใจได้ จึ ง กล่ า วด้ว ย
รอยยิ้ม “ที่แท้ก็คุณแม่นี่เอง ถึงได้เป็ นห่ วงลูกสาวของตัวเอง
เอาล่ะค่ะ พวกเรามาเยี่ยมเด็กแล้ว งั้นเราไปนั่งที่ห้องนั้น กัน
เถอะ”

แม่ของแม่ม่ายหม่ากล่าวว่า “คลอดออกมาเอง ก็ตอ้ งเป็นห่ วง


อยูแ่ ล้ว ไปนัง่ เล่นห้องนั้นเถอะ ของเตรี ยมไว้ให้เรี ยบร้อยแล้ว”
“ได้ค่ะ” พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าวกับแม่ม่ายหม่าว่า “เธอพักผ่อน
เถอะ พวกเราไปแล้ว”

“ได้ พวกเธอก็กินเยอะ ๆ นะ” แม่ม่ายหม่ากล่าว

ทุ ก คนออกมาถึ ง ห้ อ งทิ ศ ตะวัน ตก บนเตี ย งของห้ อ งทิ ศ


ตะวันตกมีโต๊ะอยู่สองตัว คนที่นั่งอยู่ลว้ นเป็ นผูห้ ญิงและเด็ก
ในหมู่บา้ น หลังจากกล่าวทักทายจึงนัง่ ลง

หลี่เฉี ยจื่อเข้ามาในห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับไก่ที่ถูก


ฆ่าเสร็ จแล้ว เขามองดูผูห้ ญิงทัว่ ทั้งห้องและกล่าวด้วยรอยยิม้
ว่า “ขอบคุณทุกคนที่มาร่ วมงานนะ ผมจะต้มไก่ให้พวกคุณกิน
ดูสิฆ่าเสร็จเรี ยบร้อยแล้ว!”

“เฮ้ หลี่เฉี ยจื่อ นายเพิ่งจะฆ่าไก่เหรอ พวกเรานั่งกันเรี ยบร้อย


แล้วนะ เมื่อไหร่ จะได้กินล่ะ?” พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าวติดตลก
พี่สะใภ้รองจ้าวเป็ นที่นิยมมากในหมู่ บา้ นนี้ เวลานี้ หล่ อนจึ ง
กล้ากล่าวออกมา

ผูห้ ญิงอีกคนหนึ่ งก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่สะใภ้รองจ้าวนี่ ไม่ รู้


อะไรเลย นี่ ไม่ ใช่ ให้พวกเรากิ นนะ แต่ ให้ภรรยาของเขากิ น
ต่างหากล่ะ”
ตอนที่ 98 กินไม่ ย้งั

“หลี่เฉี ยจื่อ ก่อนจะคลอดลูกก็กินไก่หลังคลอดลูกก็กินไก่ นาย


นี่ใช้ได้เลยนะ รวยใหญ่แล้ว!” พี่สะใภ้สามจ้าวก็หยอกล้อด้วย

พี่สะใภ้สี่จา้ วมองไก่ตวั นั้นแล้วอดรู ้สึกอิจฉาในใจไม่ได้ ชี วิต


ของหล่ อ นแย่ ก ว่ า แม่ ม่ า ยหม่ า เสี ยอี ก แม่ ม่ า ยหม่ า ได้
รับประทานไก่ไปตั้งกี่ตวั แล้ว?

แต่หล่อนก็ไม่ได้กล่าวออกมา

คนไม่ กี่ ค นที่ ก ล่ า วออกมาล้ ว นเป็ นคนที่ มี อ ายุ ม ากกว่ า


หลี่เฉี ยจื่อ ตามอันดับอาวุโส พวกหล่อนคือพี่สะใภ้ ดังนั้นจึง
กล้าพูดจาเช่ นนี้ แต่ พี่สะใภ้สี่จา้ วและเย่ฉูฉู่พวกเธออายุน้อย
กว่า ต้องเรี ยกว่าพี่ชาย จึงไม่กล้ากล่าวหยอกล้อ ทาได้แค่ยิ้ม
มองดูความสนุกสนาน
หลี่เฉียจื่อย่อมไม่กลัวเหตุการณ์แบบนี้ จึงหัวเราะร่ าพลางกล่าว
ว่า “พวกพี่มองออกแล้วเหรอ ใช่แล้ว ไก่ตวั นี้ไว้ให้ภรรยาของ
ผมกิน ไม่ได้แบ่งให้พวกพี่ ผมแค่เอามายัว่ พวกพี่เฉย ๆ!”

“หลี่เฉี ยจื่อ เจ้าเด็กน้อยแบบเธอกล้าเล่นกับพวกเราเหรอ เดี๋ยว


ได้ถูกพวกฉันถอดกางเกงของนายออกไปแขวนแน่ ไม่ เชื่ อก็
คอยดู!” หญิงสาวคนหนึ่งถลกแขนเสื้ อทาท่าจะลงมือ

“ใช่ แล้ว ๆ ถอดกางเกงของเขาออกแล้วโยนออกไปข้างนอก


ให้มนั แข็งโป๊ กไปเลย!” ผูห้ ญิงอีกคนหนึ่งก็ส่งเสี ยงโห่ฮาด้วย

หลี่เฉี ยจื่อหัวเราะอย่างมีความสุ ขพลางกล่าวว่า “พวกพี่นี่ร้าย


กาจจริ ง ๆ พี่สะใภ้ท้ งั หลาย ผมไม่กล้าหยอกล้อแล้ว ผมตุ๋นไก่
ไว้นานแล้ว ตุ๋นตั้งแต่เมื่อคืน เดี๋ยวก็ยกมาให้แล้ว”

“ค่อยยังชัว่ หน่อย” พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าวด้วยรอยยิม้


พี่ ส ะใภ้ ค นอื่ น จึ ง ยิ้ ม แสดงสี หน้ า ว่ า ‘ยัง ดี ที่ เ ธออยู่ เ ป็ น’
บรรยากาศคึกคักเป็ นอย่างยิง่

“ทุกคนกินเยอะ ๆ นะ ดื่มเยอะ ๆ เลย มีเหล้าเพียงพอเลยล่ะ!”


หลี่เฉี ยจื่อกล่าวอย่างตรงไปตรงมา เขาหัวเราะขณะหิ้วไก่เดิน
ออกไป

“หลี่เฉียจื่อคนนี้มีทุกอย่างเลยนะ”

“ใช่แล้ว เธอดูเขามีความสุ ขสิ ขายิง่ ดูเป๋ เข้าไปใหญ่!”

“ฮ่า ๆ!”

ผูห้ ญิ งสองคนพูดคุ ยกัน มี ผูห้ ญิ งเยอะมากมายขนาดนี้ ยิ่งไม่


ต้องพูดถึงเลย เธอพูดคาหนึ่งฉันพูดคาหนึ่ง คึกคักสุ ด ๆ

อาหารถูกจัดวางเรี ยบร้อยแล้ว ทุกคนหยิบตะเกียบขึ้นมาเริ่ ม


รั บประทาน แต่ ก็ช่วยไม่ ได้ ในท้องไม่ มีน้ ามัน ก็ตอ้ งมาแก้
ความหิวในโอกาสเช่นนี้
อาหารไม่ เ ลวเลย มี เ นื้ อ หมู ต๋ ุ นผัก ดอง เนื้ อ หมู ร มควัน ตุ๋ น
ผักกาดขาว เนื้อหมูสามชั้นตุ๋นผักกาดเขียว ไข่ไก่ต๋ ุนเต้าหู ้ และ
เนื้อตุ๋นเส้นผักกาดเขียว

สุ ดท้ายคือไก่ต๋ ุนเห็ด อาหารหกอย่างมีเนื้ อหมูใส่ อยู่ในนั้นทุก


รายการ บอกได้เลยว่าเต็มไปด้วยความจริ งใจ!

ข้าวคื อข้าวฟ่ าง เหล้าคื อเหล้าขาวแบ่ งขายห้าสิ บดี กรี นับว่า


เพียงพอแล้ว

ทุกคนต่างรับประทานไปพลางดื่มไปพลาง แล้วหัวข้อสนทนา
ก็ถูกเปิ ดออก พูดถึ งเรื่ องชี วิตความเป็ นอยู่ของหลี่ เ ฉี ยจื่ อ ว่า
ทาไมถึงดีขนาดนี้ ตัวเองก็ตอ้ งเรี ยนรู ้สักหน่ อย จากนั้นจึงพูด
ถึงเรื่ องลูกชาย

“ได้ยนิ มาว่าการที่จะคลอดเด็กผูช้ ายหรื อเด็กผูห้ ญิงก็สามารถดู


ได้นะ” ผูห้ ญิงคนหนึ่งกล่าวด้วยท่าทางมึนเมา
พี่สะใภ้สี่จา้ วหูผ่งึ ในทันที

“ฉันก็เคยได้ยินมาตั้งนานแล้ว ลูกชายอยากกินของเปรี้ ยวลูก


สาวอยากกิ น ของเผ็ ด ท้อ งเด็ ก ผู ้ช ายจะแหลม ส่วนท้ อ ง
เด็กผูห้ ญิงจะกลม เรื่ องนี้ยงั ต้องให้เธอพูดอีกเหรอ?” ผูห้ ญิงอีก
คนหนึ่งกล่าว

“แต่ก็ไม่มีประโยชน์เหมือนกัน ตอนที่ฉันท้องลูกสาว ก็ชอบ


กินของเปรี้ ยว ท้องก็แหลมด้วยนะ มีแต่คนบอกว่าเป็ นลูกชาย
ผลกลับคลอดออกมาเป็ นลูกสาวซะงั้น”

“แต่ สิ่ ง หนึ่ ง ที่ ค่ อ นข้า งแม่ น ย า คื อ ถ้า ท้อ งเด็ก ผูห้ ญิ ง จะดู น่ า
เกลียดมากเลยล่ะ”

น่าเกลียดในที่น้ ี หมายถึงรู ปลักษณ์ตอนตั้งครรภ์จะดูน่าเกลียด


มาก
หลังพูดถึ งความแตกต่ างระหว่างคลอดลู กชายและลู กสาวก็
กล่ าวถึ งเรื่ องซุ บซิ บในหมู่ บา้ นกันต่ อ บรรยากาศคึ กคักเป็ น
อย่างมาก

อาหารมื้อนี้เป็ นที่น่าพอใจสุ ด ๆ ทุกคนกลับบ้านอย่างอิ่มหนา


สาราญ

ทั้งเย่ฉูฉู่ พี่สะใภ้รองจ้าว พี่สะใภ้สามจ้าวและพี่สะใภ้สี่จา้ ว


เหล่าสะใภ้ท้ งั สี่ คนเดินกลับบ้านพร้อมกัน

พี่สะใภ้สามจ้าวเอ่ยปากกล่าวว่า “พี่สะใภ้รอง พี่เห็นหรื อยังคะ


แม่ของแม่ม่ายหม่าคนนั้นดูแล้วไม่ใช่คนดีเลยนะ”

พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าวด้วยรอยยิม้ “ที่ว่ามาไม่ผิดหรอก แค่ดูก็รู้


แล้ว เดือนนี้เจ้าหลี่เฉียจื่อนัน่ คงได้เดือดร้อนแน่ ๆ”

“นัน่ น่ะสิ อาหารมื้อนี้เป็ นอาหารฝี มือหลี่เฉี ยจื่อและแม่ของเขา


ที่เป็ นคนจัดการ แม่ของแม่ม่ายหม่าไม่ลงมาจากเตียงเลย ตอน
ฉันไปเติมอาหารยังได้ยินนางพูดจากในห้องว่าให้เอาอาหาร
ขึ้ นมาให้ด้วย บอกว่าจะนั่งกิ นตรงนั้น นางไม่ ได้เป็ นคนอยู่
เดือนสักหน่อย ยังไม่ยอมลงมากินข้าวอีก!” พี่สะใภ้สามจ้าวเบ้
ปากกล่าว “หลี่เฉี ยจื่อก็หวั อ่อน วิ่งกุลีกุจอยกขึ้นไปให้ ถ้าเป็น
ฉันนะจะกินให้หมด ถ้าไม่กินก็เททิง้ !”

พี่สะใภ้รองจ้าวยิม้ “ลูกสาวเขาคลอดลูกชายเชียวนะ นับว่าเป็ น


วีรชนเลยล่ะ ถ้าไม่เขย่าตอนนี้ แล้วจะเขย่าตอนไหน? เธอไม่
เห็นเหรอว่าหลี่เฉี ยจื่ออายุเท่าไหร่ แล้วเพิ่งจะมีลูกชาย และก็
อย่าสงสารยายหลี่ ครั้งนี้ แม่ม่ายหม่าคลอดลูกชายออกมา ถ้า
เป็นลูกสาว เธอว่านางจะมาดูแลไหม? ตั้งแต่ที่หลี่เฉี ยจื่อแยก
ออกมาตั้งแต่ตอนแรก นางก็ไม่มีความสุ ข ว่าอะไรนะ ในตอน
นั้นนางเรี ยกแม่สามีมาครึ่ งชี วิต ตอนนี้ ถึงคราวที่นางจะเรี ยก
ลูกสะใภ้แล้ว จะแยกออกมาได้ยงั ไง? ถ้าไม่ใช่เพราะหลี่เฉียจื่อ
ขาเป๋ อายุกม็ าก จะหาผูห้ ญิงมาแต่งก็ยาก ไม่ง่ายเลยที่จะทาให้
แม่ม่ายหม่าแต่งเข้ามาอยู่ในบ้านได้ ยังจะบอกว่าพวกเขาอยู่
กันเองอีกเหรอ? ฝันไปเถอะ!”

พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าวจบจึงเบ้ปาก

พี่สะใภ้สามจ้าวพยักหน้า “ที่พูดมาก็ถูกนะคะ”

พี่สะใภ้สี่จา้ วที่ฟังอยู่ดา้ นหลัง ย่อมจับประเด็นหลักที่ ห ล่ อน


ต้องการได้ แม่ ม่ายหม่ าคนนี้ สามารถทาแบบนี้ ได้เพราะให้
กาเนิดลูกชาย ทาให้อดคิดถึงตัวเองไม่ได้

แม้หล่อนจะให้กาเนิดลูกสาวสองคนแต่แม่สามีกไ็ ม่ได้วา่ อะไร


แต่ถา้ หล่อนให้กาเนิดลูกชายจะต้องไม่เหมือนเดิมแน่นอน

ครั้งนี้จะต้องเป็ นลูกชาย ต้องเป็ นลูกชาย!

พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วกลอกตา เดิ น อยู่ ข ้า ง ๆ เย่ ฉู ฉู่ พ ลางกล่ า วว่ า


“น้องสะใภ้หก เมื่อกี้ฉนั เห็นเธอยังไม่ได้กินอะไรเลยนะ?”
เมื่อกี้หล่อนสังเกตเห็นน้องสะใภ้หกว่าไม่ได้ขยับตะเกียบเลย
แค่รับประทานอาหารที่อยู่ตรงหน้าเพียงนิ ดหน่ อย นอกจากนี้
ยังดูไม่มีความอยากอาหารด้วย นี่คงไม่ตอ้ งกล่าวให้มากความ
ต้องเกิดจากเด็กที่อยูใ่ นท้องแน่ ๆ

เป็ นไปตามคาด เด็กที่อยูใ่ นท้องเป็ นเด็กผูห้ ญิงได้สร้างปั ญหา


ให้แล้ว นี่เป็ นการทวงหนี้ จะไปเหมือนกับหล่อนที่มีเด็กผูช้ าย
อยูใ่ นท้องครั้งนี้ได้อย่างไรกัน? ตอนนั้นหล่อนกินไม่ย้งั เลย!

เย่ฉูฉู่รับประทานของมันเลี่ ยนมากๆ ไม่ ไหว ทั้งยังพยายาม


ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่พูดคุ ยกันน้ าลายแตกฟอง
แบบนี้ไม่ได้จริ ง ๆ ดังนั้นเธอย่อมรู ้สึกไม่อยากอาหารมากขึ้น

ก็แ ค่ ก ารไปเข้าร่ ว มความคึ ก คัก เพื่อ ไม่ ให้มีค นมานิ นทา ถึ ง


อย่างไรก็อยูใ่ นหมู่บา้ นเดียวกัน แต่มนั ก็แค่น้ ีแหละ

เธอไม่สามารถบอกความจริ งกับพี่สะใภ้สี่จา้ วคนนี้ได้ จึงได้แต่


พยักหน้า “ไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไหร่ น่ะค่ะ”
พี่สะใภ้สี่จา้ วได้ยินจึงกล่าวด้วยรอยยิม้ “น่ าเสี ยดายจริ ง ๆ ฉัน
กินจนพุงกางเลย”

พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วกล่ า ว “ไม่ ต ้อ งพู ด เรื่ อ งอื่ น หรอก งานเลี้ ย ง
ของหลี่เฉียจื่อวันนี้ไม่มีที่ติเลยจริ ง ๆ”

พี่สะใภ้สามจ้าวพยักหน้า

พวกหล่ อนทั้งสามคนไม่ ใช่ สะใภ้อย่างเย่ฉูฉู่ที่ไม่ ขาดแคลน


น้ ามัน จึงไม่ได้รู้สึกว่าเป็ นของหายาก พวกหล่อนนาของไปให้
ก็ตอ้ งรับประทานเพื่อคืนทุนกลับมา

วันธรรมดาที่อยู่บา้ นก็อยู่กบั สามีและลู ก ๆ ช่ วงเวลาที่ได้รับ


ประทานอย่างจุใจแบบนี้หาได้ยากมาก ทาไมจะไม่รับประทาน
คืนทุนกลับมาล่ะ?

เย่ฉูฉู่แย้มยิม้
“ลูกชายที่รัก หลังจากนี้แม่จะกินอาหารเสริ มให้ลูกเยอะ ๆ นะ
พวกเราจะแย่กว่าครอบครัวของหลี่ เฉี ยจื่อไม่ได้!” พี่สะใภ้สี่
จ้าวลูบท้องของตัวเองพลางกล่าวออกมาเช่นนี้

พี่สะใภ้รองจ้าวและพี่สะใภ้สามจ้าวไม่สนใจคาพูดเหล่านี้โดย
อัตโนมัติ

ถึงตั้งครรภ์เหมือนกัน แต่เย่ฉูฉู่กลับไม่เหมือนพี่สะใภ้สี่จา้ วที่


มัวแต่ติดอยูก่ บั เรื่ องลูกชายหรื อลูกสาว เมื่อกลับเข้าไปในบ้าน
เธอจึงไม่ทาอะไรรับประทานแล้ว เพราะไม่รู้สึกอยากอาหาร
จริ ง ๆ

เธอนั่ ง อยู่ บ นเตี ย งอุ่ น ๆ ด้ า นข้า งมี ก ระดาษและปากกา


นอกจากนี้ยงั มีเศษผ้าชนิดต่าง ๆ ด้วย

เห็นได้ชดั ว่าต้องทาชุ ดเสื้ อผ้าและรองเท้าเล็ก ๆ ให้กบั เด็กใน


ครรภ์
“ฉูฉู่ อยูบ่ า้ นไหม?” เสี ยงของเฮ่อซงจือดังมาจากด้านนอก

“อยู่ สิ ” เย่ ฉู ฉู่ ส วมรองเท้า ออกมา เมื่ อ เห็ น เฮ่ อ ซงจื อ จึ ง ยิ้ม
ต้อนรับและเชิญเข้ามาในห้อง “ข้างนอกหนาวแย่เลยสิ นะ?”

“ใช่ ข้างนอกหนาวจริ ง ๆ บ้านของเธออบอุ่ น จัง เลย” เฮ่ อซ


งจือกอดแขนและหดหัวเข้าไปในเสื้ อ เมื่อเข้ามาในห้องจึงผ่อน
คลายลง

“รี บมานัง่ บนเตียงเร็ ว ตอนเช้าฉันเผาฟื นไว้เยอะเลย” เย่ฉูฉู่ไป


เทถังสุ่ ยใส่ ถว้ ยให้เธอ “ดื่มเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นสักหน่อยนะ”

เฮ่อซงจือขึ้นมานัง่ บนเตียงแล้ว เธอดื่มน้ าในถ้วย “วันนี้ หนาว


จริ ง ๆ ดูเหมือนว่าหิมะจะตกอีกแล้ว”
ตอนที่ 99 เรื่ องเหล่านั้นของแม่ สามี

“หิ มะตกเยอะ ๆ ก็ดีนะ หิ มะตกเป็นลางบอกว่าปี หน้าจะอุดม


สมบู ร ณ์ ไ ง” เย่ฉู ฉู่ หัว เราะ ก่ อ นจะขึ้ น ไปบนเตี ย ง “เธอดื่ ม
หมดแล้วก็วางถ้วยไว้ห่างจากเตาหน่อยก็ได้แล้ว”

เฮ่ อซงจือดื่ มหมดแล้วจึ งวางถ้วยลงข้าง ๆ หล่อนมองเศษผ้า


กระดาษและปากกาที่อยูบ่ นเตียง พลางเอ่ยถาม “นี่เธอกาลังทา
อะไรเหรอ?”

“ก็ไม่ได้ทาอะไรหรอก ว่าง ๆ ไม่มีอะไรทา ก็เลยอยากทาชุ ด


ให้ ลู ก ใส่สั ก หน่ อ ย” เย่ ฉู ฉู่ พู ด ไปพลางก็ ส ารวจท้อ งของ
เฮ่อซงจือไปพลาง จากนั้นกล่าวด้วยรอยยิม้ “ของเธอก็ใกล้จะ
หกเดือนแล้วสิ นะ?”
ฤดู ห นาวใส่ เ สื้ อ ผ้า หนา มี ท้ งั เสื้ อ นวมและกางเกงบุ น วมตัว
ใหญ่ จึ ง เห็ น ได้ไ ม่ ชัด เจน แต่ ใ บหน้า กลับ อ้ว น ๆ กลม ๆ
ใบหน้าที่จากเดิมขาวสะอาดก็เริ่ มมีฝ้าขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว

สิ่ งนี้ ทาให้เย่ฉูฉู่เห็ นแล้วก็อดเป็ นกัง วลไม่ ได้ ถ้าเธอไม่ เป็ น


แบบนี้เพราะตั้งครรภ์กค็ งจะดี

เฮ่อซงจือพยักหน้า หล่อนลูบท้องตัวเองอยูค่ รู่ หนึ่ง บนใบหน้า


ปรากฏแววของความเป็ นแม่ กล่าวด้วยรอยยิม้ “นี่กใ็ กล้จะหก
เดือนแล้ว ตอนนี้เขารู ้จกั ถีบฉันแล้วนะ”

แม้ว่าเย่ฉูฉู่จะมีพี่สะใภ้ แต่เธอก็ไม่เคยถามประสบการณ์การ
ตั้ง ครรภ์เ หล่ า นี้ กับ พี่ ส ะใภ้ม าก่ อ น เมื่ อ ได้ยิน เฮ่ อ ซงจื อ พู ด
ขึ้นมาจึงถามไปว่า “เวลาเด็กถีบท้องรู ้สึกยังไงเหรอ? เจ็บหรื อ
เปล่า?”

“ก็ไม่ได้เจ็บหรอก แค่รู้สึกตึง ๆ หนังท้อง แต่ก็ไม่มีอะไรต้อง


กังวล ตอนนี้ ทอ้ งเธอยังเล็ก ถึงเวลานั้นเดี๋ยวเธอก็รู้เองแหละ”
เฮ่อซงจือกล่าวด้วยรอยยิม้ ก่อนจะถอนหายใจอีกครั้ง “ตอนนี้
ฉันก็ได้แต่หวังว่าจะรี บคลอดออกมา เธอดู หน้าฉันสิ สภาพ
เป็ นยังไงแล้วก็ไม่รู้”

พวกเธอยังเป็ นสะใภ้สาว แน่ นอนว่าก็ตอ้ งรั กสวยรั กงามอยู่


แล้ว หล่อนเองก็ส่องกระจก ย่อมต้องเห็นฝ้าที่อยูบ่ นใบหน้า

ก่อนหน้านี้ไม่มี แต่เพิง่ มีตอนที่ต้ งั ครรภ์นี่แหละ

เย่ฉูฉู่กล่ าวปลอบใจ “ฉันเห็ นบนหน้าของแม่ ม่ายหม่ าก็เป็ น


แบบนี้เลย ได้ยนิ พี่สะใภ้รองบอกว่า หลังจากคลอดออกมาแล้ว
ผ่านไปสักพักก็จะหายไปเอง”

“นี่ ถือว่ายังน้อยนะ ตอนนี้ ยงั เหลืออีกสามสี่ เดือน ถึงเวลานั้น


จะเป็ นช่วงที่ทอ้ งใหญ่มากที่สุด ตอนนี้ฉนั เข้าห้องน้ าก็เหนื่ อย
แล้ว เธอบอกมาสิ ถึงเวลานั้นจะขนาดไหน?” เฮ่ อซงจื อแอบ
กังวล
“ต้องมีทางก่อนรถถึงจะขึ้นเขาได้ ถ้าเป็ นเรื อก็จอดตรงท่าของ
มันเอง [1] ไม่เห็นต้องกังวลเรื่ องนี้เลย ไม่ง้ นั เธอก็ไปถามพวก
พี่สะใภ้ของเธอดูสิ ถามดูว่าตอนแรกพวกหล่อนผ่านเรื่ องนี้ไป
ได้ยงั ไง” เย่ฉูฉู่กล่าว

เฮ่อซงจือขาพรื ด “พอมีลูกแล้วคาพูดคาจาก็ไม่เหมือนเมื่อก่อน
เลยนะ”

เย่ฉูฉู่ยิ้มพลางกลอกตาใส่ หล่ อน จากนั้นยื่นมื อออกไปหยิบ


งานฝี มือที่เธอนามา มันเป็นพื้นรองเท้าสองคู่ที่ถูกตอกไว้ดว้ ย
หมุด จากนั้นใช้เชือกป่ านและหมุดหัวใหญ่ปักลงไปด้านบน

“อากาศหนาวขนาดนี้ ยัง วิ่ ง มาถึ ง ที่ นี่ เ พื่ อ มาท างานฝี มื อ


โดยเฉพาะเนี่ยนะ?” เย่ฉูฉู่เอ่ยถาม

“วิง่ มาที่นี่เพื่อมาคุยกับเธอโดยเฉพาะต่างหากล่ะ” เฮ่อซงจือยิม้


ทั้งสองคนพูดคุยเคล้ารอยยิม้ จากนั้นก็คุยถึงเรื่ องวุ่น ๆ ในปี นี้
ของกันและกันขึ้นมา

ตอนนี้ เป็นช่ วงเวลาที่ทุกคนยุ่งอยู่กบั การเตรี ยมวันปี ใหม่ ปี นี้


ตั้งแต่เดือนสองของปี ที่แล้ว ก็ยงุ่ จนกระทัง่ ได้รับประทานเกี๊ยว
มื้อนั้น จึงนับว่าเสร็จสิ้ นธุระ

ก่อนอื่นต้องนาข้าวไปเข้าโรงโม่ก่อน จากนั้นจึงทาซาลาเปาไส้
ถัว่ ทาขนมเข่ง ทาเต้าหู ้ เชือดหมู ทาความสะอาดครั้งใหญ่ ซัก
เสื้ อผ้า ผึ่งผ้าห่มและอื่น ๆ ผูช้ าย ผูห้ ญิง คนชราและเด็ก ๆ ไม่มี
ใครว่างงานแม้แต่คนเดียว

“ฉันกาลังมีลูก เลยไม่สะดวกจะทาจริ ง ๆ เหวินจื้อกับแม่สามี


ของฉันก็เลยทากันเอง” เฮ่อซงจือกล่าวด้วยรอยยิม้

“ถ้างั้นก็ดีนะ เธอเองก็จะได้มีความสุ ขกับเวลาว่างด้วย ครู เสี่ ยว


จ้าวรักภรรยาของเขาดีนะ” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้
เฮ่ อ ซงจื อ บุ ้ย ปาก “เขารั ก ฉัน ที่ ไ หนกัน ล่ ะ ฉัน ว่ า เหวิ น เทา
ต่างหากที่รักเธอ”

“เหวินเทาของฉันก็ตอ้ งรักฉันอยู่แล้ว นี่ ก็สมเหตุสมผลไม่ใช่


เหรอ? ครู เสี่ ยวจ้าวและเหวินเทาเป็ นเพื่อนที่โตมาด้วยกันตั้งแต่
เด็ก พวกเขาต่างก็รักภรรยาเหมื อนกันทั้งคู่นั่นแหละ” เย่ฉูฉู่
กล่าวพลางแย้มยิม้

เฮ่อซงจือขาพรื ด แต่กอ็ ย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลย จ้าวเหวินจื้อรัก


และดู แลหล่อนเป็ นอย่างดี ช่ วงที่ต้ งั ท้องลูกคนนี้ ก็กลับมาหา
หล่ อนอยู่หลายครั้ ง ทั้งยังซื้ อไข่ ไก่ กลับมาให้หล่ อ นโดยไม่
รู ้สึกเสี ยดาย

แม่สามีของหล่อนก็แอบกระซิ บเป็ นการส่ วนตัว ซึ่ งหล่อนก็


แอบได้ยิน แม่ ส ามี พู ด นางบอกว่า ก็แ ค่ ต้ งั ครรภ์ไ ม่ ไ ด้ล้ า ค่ า
อะไรขนาดนั้น ต้องรับประทานไข่ไก่ทุกวันและรับประทาน
เนื้อสัตว์เป็ นครั้งคราวด้วยเหรอ?
แต่ เ หวิ น จื้ อ ของหล่ อ นไม่ ไ ด้ส นใจสิ่ ง นี้ เขาบอกให้ห ล่ อ น
รับประทานให้เต็มที่ ถึงอย่างไรในแต่ละเดือนเขาก็มีเงินเดือน
อยู่ แ ล้ว ไม่ ต ้อ งประหยัด เงิ น ให้ ม ากเกิ น ไป ขอแค่ ห ล่ อ น
รับประทานของดี ๆ ลูกก็จะเติบโตมาอย่างดี ใช้เงินมากเท่าไร
ก็แลกมาไม่ได้

ผูช้ ายคนนี้ หล่อนแต่งงานไม่ผดิ คนเลย

ไม่เหมือนกันผูห้ ญิงบางคนที่ต้ งั ครรภ์จนท้องโตแล้ว แต่ก็ยงั


ต้องทาทุกอย่าง ลองไม่ทาดูสิ? ดูวา่ คนในบ้านจะยอมหรื อเปล่า
ตั้งครรภ์แล้วก็ยงั ต้องไปทางานนอกบ้าน เรื่ องที่ตอ้ งคลอดลูก
บนพื้นดินก็ใช่วา่ จะไม่มี

“แม่สามีของเธอได้ชื่อว่าดู แลลูกสะใภ้เป็ นอย่างดี แต่เธอกับ


พี่สะใภ้สี่ของเธอตั้งครรภ์พร้อมกัน แม่สามีของเธอคงยุ่งน่าดู
เลยสิ ?” เฮ่อซงจือกล่าว

“แม่ของฉันนึ่งอาหารแห้งให้พวกเราแล้วน่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าว
การตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสแรกถือเป็ นสิ่ งสาคัญมาก คุณแม่เย่
กังวลว่าลูกสาวจะเหนื่อย จึงจัดการเรื่ องเกี่ยวกับวันปี ใหม่น้ ี เอง
ถึงเวลานั้นนางก็จะให้ลูกเขยนากลับมา ถึงอย่างไรสองสามีคู่น้ ี
ก็คงรับประทานไม่มากเท่าไรนัก

“คนที่เป็ นแบบแม่ของเธอก็มีนอ้ ยจริ ง ๆ” เฮ่อซงจือถอนหายใจ


บ้านแม่ของหล่อนแสนจะธรรมดานัก ปฏิบตั ิต่อลูกสาวก็ง้ นั ๆ

เย่ฉูฉู่แย้มยิม้ ไม่ใช่แม่ทุกคนที่จะดี ตัวอย่างเช่นแม่ของพี่สะใภ้


สี่ จา้ วที่เอาแต่จอ้ งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ของลูกสาว แบบนั้นอย่า
หวังว่าจะได้รับการช่ วยเหลือเลย จะว่าไปก็ยงั สู ้แม่สามีไม่ได้
เลยด้วยซ้ า

“พี่สะใภ้สี่ของเธอท้องได้กี่เดือนแล้วล่ะ?” เฮ่อซงจือเอ่ยถาม

“สองเดื อ นกว่า แล้ว เด็ก สองคนนี้ คงคลานตามกัน ออกมา”


เย่ฉูฉู่กล่าว
เฮ่ อ ซงจื อ กล่ า วด้ว ยรอยยิ้ม “ครั้ งนี้ แม่ ย ายของเธอก็ ค งให้
ความสาคัญกับลูกในท้องของพี่สะใภ้สี่ดว้ ยสิ นะ? ได้ยินมาว่า
หล่อนชอบกินของเปรี้ ยวมาก ดูเหมือนว่าคงได้ลูกชายแล้วล่ะ”

“เธอก็รู้ดว้ ยเหรอว่าพี่สะใภ้สี่ชอบกินของเปรี้ ยว?” เย่ฉูฉู่เลิกคิว้

เฮ่อซงจือยิม้ “ทั้งหมู่บา้ นคงรู ้กนั หมดแล้วมั้ง?”

เย่ฉูฉู่เองก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ พี่สะใภ้สี่คนนี้ของเธอบอกกับ
คนอื่นไปทัว่ ว่าลูกชายในท้องหล่อนมีความอดทนและรั กแม่
ของเขามากขนาดไหน ไม่ได้พูดซ้ าไปซ้ ามาเลยสักนิ ด ปากดี
ขึ้นเยอะเลย

เย่ฉูฉู่กาลังคิ ดว่า ขนาดเรื่ องที่ ยงั ไม่ มนั่ ใจกลับพูดแบบนี้ ใน


อนาคตถ้าหากเกิดความคลาดเคลื่อน คาดว่าทั้งหมู่บา้ นคงได้
หัวเราะเยาะหล่อนกันหมด
พูดถึงปั ญหาให้กาเนิ ดลูกชายลูกสาว เฮ่ อซงจือก็ถอนหายใจ
เช่ นกัน “จะว่าไปฉันก็กงั วลเรื่ องนี้ เหมือนกัน แม่สามีของฉัน
วัน ๆ เอาแต่บอกให้ฉนั คลอดลูกชาย แล้วถ้าไม่ใช่ลูกชายขึ้นมา
จะทายังไง?”

“นี่ เ ป็ นลู ก คนแรกของเธอ จะลู ก ชายหรื อ ลู ก สาวก็ไ ม่ เ ห็ น


เป็ นไรเลย แม่สามีของเธอก็คงพูดไปงั้นแหละ เธอก็อย่าเก็บมา
ใส่ ใจให้มากมายเลย” เย่ฉูฉู่กล่าว

“ฉันรู ้ แต่พี่ชายทั้งสองคนของเหวินจื้อก็มีลูกชายเป็นคนแรก
กันทั้งนั้น พี่สะใภ้ท้ งั สองคนก็ยงั จับตามองดู อยู่ แม่สามีของ
ฉัน ยัง มาพู ด แบบนั้น อี ก จะไม่ ใ ห้ฉัน คิ ด มากได้ย งั ไงล่ ะ ?”
เฮ่อซงจือกล่าว

“ชีวติ เป็ นของเธอนะ เธอจะไปเทียบอะไรกับพวกเขา? พวกเรา


เองก็ไม่ใช่ คนที่ไม่ตอ้ งการลูกสาวแบบนั้นสักหน่ อย ไม่ว่าจะ
เป็ นลูกสาวหรื อลูกชาย ขอแค่แข็งแรงปลอดภัยก็พอแล้ว อีก
อย่างหลังจากนี้เธอก็ยงั มีลูกได้อีก คนที่ออกดอกก่อนแล้วค่อย
ออกผลก็มีต้ งั เยอะแยะ” เย่ฉูฉู่กล่าว “ตอนที่ฉนั กับเหวินเทาไป
ตรวจร่ างกาย หมอก็บอกฉันแล้ว ว่าให้ควบคุ มอารมณ์ให้ดี
เธออารมณ์ไม่ดีลูกของเธอก็จะอารมณ์ไม่ดีไปด้วยนะ”

เฮ่อซงจือพยักหน้า กระซิ บเสี ยงเบา “ต่อให้แม่สามีดีกว่านี้กย็ งั


เป็ นแม่ สามี อยู่ดี แค่ ให้เกี ยรติ ก็พอแล้ว แต่ งงานเข้ามาก็ตอ้ ง
เคารพ ยังดีที่เหวินจื้อดีกบั ฉัน แต่หลังจากที่ฉนั ท้อง ไม่รู้วา่ เป็ น
เพราะอะไร ฉันถึงได้รู้สึกว่าใช้ชีวติ แย่ชะมัดเลย”

คาพูดเหล่านี้ ย่อมไม่อาจพูดด้านนอกได้ แต่ก็สามารถพูดกับ


ฉูฉู่ได้ ด้วยรู ้ดีวา่ เย่ฉูฉู่เป็ นคนปากหนัก

………………………………………………………………

[1] ต้องมีทางก่อนรถถึงจะขึ้นเขาได้ หากเป็ นเรื อมันก็จอดตรง


ท่าของมันเอง ความหมายคืออดทนไว้ ทุกอย่างจะผ่านไปได้
ด้วยดี
ตอนที่ 100 ไกลหอมใกล้เหม็น

เย่ฉูฉู่กพ็ อจะเข้าใจความหมายของหล่อน เธอมองอีกฝ่ ายพลาง


กล่าว “นี่เธอกาลังคิด…”

เฮ่ อ ซงจื อ ก็ไ ม่ ไ ด้ป ฏิ เ สธ “เธอเองก็เ ห็ น แล้ว ไม่ ใ ช่ เ หรอว่ า


แม่ม่ายหม่าใช้ช่วงเวลาเหล่านั้นยังไง ฉันรู ้สึกว่า…ใช้ชีวิตด้วย
ตัวเองยังดีเสี ยกว่า”

ก่อนหน้านี้หล่อนไม่ได้มีความคิดนี้ ทั้งยังกังวลใจแทนเย่ฉูฉู่ที่
ต้องแยกบ้าน ถึงอย่างไรถ้าแยกบ้านออกไปหล่อนก็ตอ้ งจัดการ
เรื่ องต่างๆ เอง มีเรื่ องให้จดั การไม่นอ้ ยเลยจริ ง ๆ

ภายหลังหล่อนกลับพบว่าเย่ฉูฉู่ใช้ชีวิตได้ไม่เลวเลย มีชีวิตที่ดี
และเป็ นอิสระกว่าตอนที่ยงั ไม่แยกบ้านเสี ยอีก
เมื่ อ ได้ม องแม่ ม่ ายหม่ าอี ก ครั้ ง ก็พ บว่า ของที่ ค นในหมู่ บา้ น
นามาให้ ไม่ว่าจะรับประทานอะไร ดื่ มอะไรหรื อเก็บอะไรก็
ต้องฟั งที่แม่ม่ายหม่าบอก แม้แต่แม่สามีของแม่ม่ายหม่าก็ยงั
ต้องได้รับความยินยอมจากแม่ม่ายหม่าก่อนถึงจะนาไปได้

หล่อนจึงนึกถึงชีวิตของตัวเองในตอนนี้ มันไม่ได้ดีเหมือนกับ
ที่ตนเคยคิดไว้แบบนั้นเลย

“เธออยากแยกบ้านเหรอ?” เย่ฉูฉู่ถามออกไปตรง ๆ

“อยากสิ !” เฮ่อซงจือพยักหน้า

หล่อนสามารถจัดการเรื่ องในบ้านได้ เหวินจื้อของหล่อนก็มี


เงิ น เดื อ น ถ้า แยกบ้า นแล้ว ชี วิ ต ของหล่ อ นต้อ งไม่ เ ลวร้ า ย
แน่นอน

“ฉันเองก็อยากใช้ชีวิตอย่างอิสระเหมือนกับเธอ แถมไม่ตอ้ ง
ไปเบี ย ดเสี ย ดกับทุ ก คนด้ว ย อยากจะท าอะไรก็ไ ม่ ส ะดวก”
เฮ่อซงจืออดไม่ได้ที่จะรู ้สึกถึงความอยุติธรรม “ตอนที่ฉันอยู่
บ้าน ตอนเช้าไม่ได้นงั่ อยูบ่ นเตียงแค่แป๊ บเดียว ขาทั้งสองข้างก็
โดนความเย็นจนเป็ นหนองแล้ว ขาเย็นเจี๊ยบไปหมด”

เย่ฉูฉู่ขมวดคิ้ว “อะไรกัน? นี่ แม่สามีของเธอตั้งกฎกับเธอด้วย


เหรอ?”

อย่ามองว่านี่ เป็นสังคมใหม่ แต่ก็ยงั มีแม่สามีหัวรั้นบางส่ วนที่


ยังตั้งกฎเกณฑ์กบั ลูกสะใภ้อยู่

“ก็ไม่ได้ต้ งั กฎเกณฑ์อะไรหรอก” เฮ่อซงจือส่ ายหน้า “แต่หอ้ ง


ที่พวกเขาอยู่มนั อยู่ตรงข้ามห้องที่พวกเราอยู่ มีแค่ม่านแขวน
กั้น ไว้ แม่ ส ามี ก็เ ดิ น เข้า ๆ ออก ๆ ฉัน จะกล้า นั่ง อยู่บนเตี ย ง
ตั้งแต่เช้ายันบ่ายได้ยงั ไงกันล่ะ?”

เย่ ฉู ฉู่ ก ล่ า วกั บ เธอว่ า “เธอเองก็ อ ยู่ ใ นกรอบเกิ น ไป ถ้ า


เปลี่ ย นเป็ นฉัน หากได้นั่ง จริ ง ๆ ก็ค งนั่ง ทั้ง เช้า และบ่ ายนั่น
แหละ ขอแค่ฉนั ไม่ทุกข์ใจฉันจะนัง่ นานแค่ไหนก็ไม่กลัว”
“เธออาศัยอยู่ในห้องด้านหลังบ้านนี่ ถ้าแม่ สามี ของเธอไม่มี
ธุ ระอะไรก็คงไม่เดินมาดูหรอกว่าเธอจะนัง่ อยูบ่ นเตียงหรื อยืน
อยูบ่ นพื้น” เฮ่อซงจือส่ ายหน้า

เย่ฉูฉู่เองก็เข้าใจเฮ่อซงจือ

ลองคิดดูว่าถ้าแม่สามีทางานวุ่น แต่ตวั เองที่เป็นลูกสะใภ้กลับ


นัง่ อย่างมัน่ คงอยูบ่ นเตียง จะมากหรื อน้อยก็ยงั รู ้สึกอึดอัดอยูด่ ี

แต่ถา้ แยกบ้านแล้วความรู ้สึกก็แตกต่างกัน เพราะแต่ละบ้านก็


จะยุง่ อยูก่ บั เรื่ องของตัวเอง

“ฉันแต่งงานมานานขนาดนี้แล้ว นับรวมตอนนี้ที่ทอ้ งอยู่ ยังไม่


เคยได้นอนขี้เกียจเลยสักครั้ง ต้องไปหอบฟื นทาอาหารกับพวก
เขาตลอด เธอดู มื อ ของฉั น สิ ? ฉั น ยัง ต้อ งสวมถุ ง มื อ เลย”
เฮ่อซงจือพูดพลางยืน่ มือหยาบกระด้างออกมา “มือหยาบแล้วก็
หยาบไปเถอะ แต่ถึงอย่างนั้นในใจฉันก็ยงั รู ้สึกแย่อยูด่ ี”
เย่ฉูฉู่มองแต่กไ็ ม่ได้พูดอะไร

การเป็ นลู กสะใภ้ไม่ใช่ เรื่ องง่ายเลย ไม่เช่ นนั้นจะมีคนพูด ว่า


เป็ นลูกสะใภ้อดหลับอดนอนหลายปี จนกลายเป็ นแม่สามีได้
อย่างไรล่ะ ในคาว่าอดหลับอดนอนนี้ มีความเสี ยใจอยู่ในนั้น
มากขนาดไหนกันนะ?

แต่ นี่ ห ล่ อ นเป็ นลู ก สะใภ้ของบ้านนั้น ในขณะที่ เ ย่ฉู ฉู่นับว่า


ผ่อนคลายมาก ไม่มีแรงกดดันอะไรเลยจริ ง ๆ

เที ย บกับ มื อ ของหล่ อ นแล้ว มื อ ของอี ก ฝ่ ายยัง คงขาวนุ่ ม อยู่


เทียบกับตอนที่ยงั เป็ นสาวโสดเผลอ ๆ อาจจะดีกว่าด้วยซ้ า

ทุ ก เช้ า ก่ อ นที่ จ ้า วเหวิ น เทาออกไป เขาก็ จ ะเผาเตาไว้ใ ห้


เรี ยบร้อย ทั้งยังเติมฟื นไว้ในเตาด้วย เพื่อให้มนั่ ใจว่าเตาจะร้อน
อยูเ่ สมอ ทาให้ภรรยาของเขาได้นอนจนถึงเช้า
ดัง นั้น เย่ฉู ฉู่ จึ ง ไม่ เ คยได้ตื่ น เช้า ยิ่ง ไม่ ต ้อ งพู ด เลยว่า ต้อ งลุ ก
ขึ้นมากลางดึก ตอนที่แต่งงานเข้ามาเป็ นช่วงฤดูร้อน ตื่นขึ้นมา
คราวใดท้องฟ้าก็สว่างแล้ว

เมื่ อถึ งฤดู หนาวที่ มีกลางวันสั้นลง ประกอบกับแยกบ้านกัน


แล้ว เธอก็ตื่นนอนตอนเจ็ดโมงกว่า ๆ ทุกวัน

“เธอดูมือของเธอสิ แค่ดูก็รู้แล้วว่าพวกเราสองคนแตกต่างกัน
ชี วิต ของเธอต่ า งหากล่ ะ ที่ เ รี ย กว่ า ชี วิ ต แสนสบายไร้ ก ัง วล”
เฮ่อซงจือจ้องมองมือของเย่ฉูฉู่ก่อนจะถอนหายใจอีกครั้ง

“ก่อนหน้านี้ ทาไมฉันไม่เคยได้ยินเธอพูดเรื่ องพวกนี้ เลยล่ะ?”


เย่ฉูฉู่ยมิ้

“โง่ม้ งั ” เฮ่อซงจือกล่าว “ก่อนหน้านี้ฉนั คิดว่าเป็ นลูกสะใภ้ของ


บ้าน การทางานคือสิ่ งที่ควรทา ทุกคนก็ใช้ชีวิตแบบนี้กนั หมด
ไม่ใช่เหรอ?”
แต่เมื่อเห็นเย่ฉูฉู่และแม่ม่ายหม่า จู่ ๆ หล่อนก็ตระหนักขึ้นได้
ว่าชีวติ ของหล่อนก็ง้ นั ๆ แหละ

เย่ฉูฉู่กล่าว “ฉันว่าเธอปล่อยวางความคิดของเธอก่อน เรื่ องแยก


บ้านไม่ใช่สิ่งที่เธอจะทาได้ทนั ทีที่คิด เรื่ องในบ้านยังไม่ถึงเวลา
ที่เธอจะเป็ นใหญ่ ที่สาคัญก็คือต้องดูทศั นคติของพวกพี่ชายครู
เสี่ ยวจ้าวด้วย รวมถึงพี่สะใภ้ท้ งั สองคนของเธอ เธอคิดว่าพวก
เธอเหล่านั้นมีทศั นคติยงั ไงล่ะ?”

อันที่ จริ งเย่ฉูฉู่ก็ทราบดี ว่าเฮ่ อซงจื อ ที่ อ ยู่ตรงหน้ามี ความคิ ด


อย่างไร

เที ย บกับ ก่ อ นหน้า นี้ ที่ ท างานร่ ว มกัน ก็ท างานแบบไม่ ไ ด้มี
ความสุ ขเลย ได้รับประทานน้อยแต่ยงั ต้องทางานอย่างหนัก มี
สิ ทธิ์อะไรกัน?
แต่ตอนนี้ตอ้ งทากันเองแล้วไม่ใช่เหรอ? ทุกคนต่างก็ทางานกัน
ด้วยความกระตือรื อร้น เพราะต้องทางานของตัวเองแล้ว ย่อม
เกิดความรู ้สึกที่แตกต่างกัน

อัน ที่ จ ริ ง การที่ เ ฮ่ อ ซงจื อ ใช้ชีวิต อยู่ในบ้า นแม่ ส ามี ก็นับว่าดี


เยี่ยมแล้ว แต่เมื่อเห็นคนที่ใช้ชีวิตดี กว่าจึงเกิดความคิดแบบนี้
ขึ้นมา แต่กพ็ อจะเข้าใจได้ ใครบ้างจะไม่อยากมีชีวติ ที่ดีข้ ึน?

“พวกเธอเองก็ตอ้ งคิดอยากจะแยกบ้านอยู่แล้ว เป็ นลูกสะใภ้


ใครบ้างไม่อยากแยกบ้านออกมาเป็นใหญ่ในบ้านของตัวเอง?
ติดที่วา่ ไม่เคยมีใครพูดถึงเรื่ องนี้” เฮ่อซงจือกล่าว

“แน่ นอนว่าต้องไม่กล้าพูดถึงอยู่แล้ว ใครพูดถึงคนนั้นคงต้อง


โดนพ่อแม่สามีด่าเปิ งแน่ แถมยังต้องเสี ยชื่ อเสี ยงในหมู่ บา้ น
อีก” เย่ฉูฉู่กล่าวเสี ยงเรี ยบ เป็ นลูกสะใภ้แต่กล้ายุยงให้สามีแยก
บ้าน? ก็อย่าหวังว่าจะมีหน้าอยูใ่ นหมู่บา้ นเลย
เรื่ องนี้ ต่อให้มีความกล้าหาญ แต่ ก็ทาได้เพียงแค่พูดในพื้นที่
ส่ วนตัว ไม่สามารถพูดต่อหน้าโดยเด็ดขาด

“ที่สาคัญก็คือพวกพี่ชายและครู เสี่ ยวจ้าวคิดเห็นยังไงต่างหาก


ล่ะ เรื่ องนี้เธอเคยคุยกับครู เสี่ ยวจ้าวรึ ยงั ?” เย่ฉูฉู่กล่าว

“ยังเลย ตอนนี้ จะพูดได้ยงั ไงล่ะ?” เฮ่ อซงจือส่ ายหน้า “ต่อให้


แยกบ้านกันแล้วก็ยงั ต้องอยู่ที่นนั่ อยูด่ ี จะไปมีประโยชน์อะไร
อยากแยกบ้านก็ตอ้ งย้ายออกไปเหมือนกับแม่ม่ายหม่าที่มีบา้ น
เป็ นของตัวเอง ทางที่ดีที่สุดคืออยูใ่ ห้ห่างจากแม่สามีสักหน่ อย
หากอยู่ ใ นรั้ วบ้า นเดี ย วกัน ถ้า ทางฝั่ ง นั้น มี ก ารเคลื่ อ นไหว
เมื่อไหร่ กย็ งั ต้องลุกขึ้นมา ยังไงฉันก็ใช้ชีวติ ได้ไม่อิสระอยูด่ ี”

เย่ฉูฉู่ยมิ้ “เธอก็ตดั สิ นใจได้แล้วนี่ แต่ที่เธอพูดมาก็ไม่ผดิ นะ อยู่


ให้ห่างจากกันสักหน่อย มีของดีอะไรก็ค่อยเอาไปให้ แบบนั้น
ยิง่ ทาให้สนิทกันมากขึ้น”

เฮ่อซงจือเองก็ยมิ้ ออกมา “อื้อ ไกลหอมใกล้เหม็น[1]สิ นะ!”


เรื่ องในครอบครั ว แบบนี้ มี แ ค่ ต ัว เองที่ ส ามารถแก้ไ ขได้
เฮ่ อ ซงจื อ มาหาก็เ พื่ อ พู ด คุ ย ไม่ ไ ด้คิ ด จะให้เ ย่ฉู ฉู่ อ อกความ
คิดเห็นอะไร หลังจากพูดคุยเสร็จก็เปลี่ยนไปคุยหัวข้ออื่น

เฮ่อซงจือกระซิ บ “เธอรู ้หรื อเปล่า หลังจากนี้เขาบอกว่ามีลูกได้


แค่คนเดียวแล้วนะ ไม่สามารถมีมากกว่านี้ได้แล้ว ถ้ามีลูกชายก็
ยังดีหน่อย แต่ถา้ ไม่มีลูกชายขึ้นมาจะทายังไง?”

“ไม่ให้มีแล้วเหรอ?” เย่ฉูฉู่ขมวดคิ้ว

“เหวินจื้อไปประชุ มที่สานักงานใหญ่ของโรงเรี ยนมา เขาได้


ยินครู พวกนั้นพูดถึงเรื่ องนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่ องจริ งหรื อเปล่า
น่ะ” เฮ่อซงจือกล่าว

เย่ฉูฉู่กล่าวว่า “เขาจะมาสนใจว่ามีลูกกี่คนที่ไหนกันล่ะ?”
“ฉัน เองก็พู ด แบบนี้ เหมื อ นกัน แต่ เ หวิน จื้ อ บอกว่า จ านวน
ประชากรมีความสาคัญมาก ต้องควบคุม ถ้ามีมากเกินไปจะไม่
สามารถเลี้ยงชีพได้” เฮ่อซงจือส่ ายหน้าพลางกล่าว

เย่ฉูฉู่ไม่เข้าใจ มีถอ้ ยคาแบบนี้ดว้ ยเหรอ?

เมื่อเห็นท่าทางของเฮ่อซงจือที่เข้าใจเพียงครึ่ งเดียว เธอจึงคิดว่า


รอให้ได้กลับบ้านแม่เมื่อไรค่อยกลับไปถามพี่สะใภ้สามของ
เธอดูสักหน่อย

หัวข้อนี้จบลงแล้ว จากนั้นก็พูดคุยถึงเรื่ องอื่นต่อ เป็ นต้นว่าการ


แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับประสบการณ์การตั้งครรภ์นิดหน่อย

นอกจากนี้ ในทีมก็กาลังจะเชื อดหมูแล้ว หลังตั้งตารอคอยมา


นานขนาดนี้ในที่สุดก็ได้เห็นเนื้อหมูหนึ่งปี สักที

ทีมของพวกเขาเป็ นแบบนี้ มาตลอด การเชื อดหมูในทุกทุกปี


ยืดเวลาออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า ทีมอื่นจัดการจนเสร็ จหมดแล้ว
พวกเขาก็ยงั ลากเวลาออกไป จนกระทัง่ ลากออกไปไม่ได้แล้ว
จึงยอมเชือดหมู

แบบนี้กแ็ อบมีขอ้ ดีอยูเ่ หมือนกัน นัน่ ก็คือหากฆ่าหมูเร็วก็จะได้


แบ่ ง เนื้ อ เร็ ว ขึ้ น ครอบครั ว ที่ หิ ว โหยก็รั บ ประทานจนหมด
เกลี้ ยงไปตั้ งนานแล้ ว เมื่ อ ถึ ง ช่ ว งปี ใหม่ ก็ ไ ม่ มี อ ะไรให้
รั บประทาน ส่ วนพวกเขาไม่ ตอ้ งกังวลเรื่ อ งนี้ เพราะตอนที่
เชือดหมูกเ็ ป็ นช่วงที่กาลังจะขึ้นปี ใหม่พอดี

………………………………………………………………

[1] ไกลหอมใกล้เหม็น (远香近臭) หมายถึงอยูใ่ กล้กนั มี


แต่ความขัดแย้งบาดหมาง อยูไ่ กลกันจึงจะรักกันมากขึ้น

You might also like