Professional Documents
Culture Documents
เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 เล่ม3
เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 เล่ม3
เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 เล่ม3
การวิเคราะห์ของพี่สะใภ้รองจ้าวก็สมเหตุสมผลมากเช่ นกัน
หล่ อนสนใจแผนชี วิตของพวกหล่ อ นมากกว่าจ้า วเหวิน เทา
และภรรยาของเขา เรื่ องเหล่านี้ หล่อนแอบนับอยู่เงียบ ๆ ไม่รู้
ตั้งกี่รอบแล้ว
การรอคอยไม่กี่นาทีมนั ช่างยาวนานเหลือเกิน
จ้าวเหวินเทาเห็นก็มีความสุ ขมาก
“ไฟฟ้ามาแล้ว!”
“สว่างจัง!”
“นี่คือไฟฟ้าสิ นะ!”
“ดีจริ ง ๆ!”
“สว่างเหมือนกับตอนเช้าเลย อยากจะทาอะไรก็ทาได้!”
พี่รองจ้าวมองหลอดไฟ ใบหน้าของเขาปรากฎแววมึนงงขณะ
พูด “ดีกว่าตะเกียงน้ ามันอีกนะเนี่ย”
แต่ไม่รู้วา่ ค่าไฟจะคิดอย่างไรนี่สิ
พูดถึงลูกชายคนเล็ก ภายในใจของคุณพ่อจ้าวก็รู้สึกภาคภูมิใจ
และมีความสุ ข ทว่าปากกลับพูดว่า “เกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ เขา
เองก็ได้รับความสะดวกจากความเจริ ญรุ่ งเรื องและความมัน่ คง
ของบ้านเกิดนัน่ แหละ”
คุณแม่จา้ วตาหนิ ดว้ ยสายตาผ่านรอยยิม้ กล่าวว่า “คุณอย่าชัก
แม่น้ าทั้งห้าไปหน่อยเลย ถ้าไม่ใช่เพราะเหวินเทาจะสร้างฟาร์ม
กระต่าย คุณคิดว่าจะได้ติดตั้งไฟฟ้านี้เหรอ?”
ครอบครัวชุยต้าก็มองดูหลอดไฟอย่างมีความสุ ขเช่นกัน
ภรรยาของเขาสวยมากจริ ง ๆ มีความสามารถในการพรากชีวิต
ของเขาอย่างแท้จริ ง ทาไมถึงทาให้เขารู ้สึกหวงแหนขนาดนี้นะ
“ตาบ้า แย่ที่สุ ด เลย” เย่ฉู ฉู่ ที่ ถู ก สามี ก อดอยู่ใ นอ้อ มกอดบ่ น
พึมพา
……
เย่ฉู ฉู่ จึ ง เดิ น มารั บ ลู ก ไปที่ ห้อ งฝั่ ง ตะวัน ตกเพื่ อ ทาชุ ด บุ ฝ้ า ย
ปล่อยให้พวกเขาสองพี่นอ้ งได้คุยกัน
ตอนที่ 202 ฟุ่ มเฟื อยอีกแล้ว
จ้าวเหวินอู่ไม่ทราบว่าจ้าวเหวินเทากาลังคิดอะไร เมื่อได้ฟังก็
ตอบว่า “ใช่ไง 5-6 ปี แล้วนะ!”
“งั้นทีมใหญ่ของพวกเราก็เหมาด้วยกันไปเลยสิ ” จ้าวเหวินเทา
ก็พูด “ไม่เพียงแค่เหมาภาพยนตร์ นะ พวกเราต้องเตรี ยมคณะ
งิ้วด้วย เตรี ยมไว้ให้ห มดเลย ถึ งจะเป็ นความครึ กครื้ น อย่า ง
แท้จริ ง นายว่าไง?”
จ้าวเหวินอู่หวั เราะพร้อมกับยกยอ “เอาสิ นายนี่สุดยอดเลย แค่
ลงมือก็ใจกว้างแล้ว!”
จ้าวเหวินเทาและจ้าวเหวินอู่จึงเดินทางไปที่ทีมใหญ่ดว้ ยกัน
เมื่อเลขาได้ยนิ ก็ถึงกับมึนงงไปหมด เพิ่งจะติดตั้งไฟฟ้าก็คิดจะ
เหมาภาพยนตร์ และคณะงิ้ วแล้ว ถึ ง จะฟุ่ มเฟื อยก็ไม่ ควรจะ
ฟุ่ มเฟื อยขนาดนี้ไม่ใช่เหรอ?
จ้าวเหวินเทารอให้พวกเขาสองคนคุยกันเสร็จ จึงเอ่ยปากพูดว่า
“เลขา ที มใหญ่ ของพวกเรามี 5-6 หมู่ บา้ น ถ้าอยากจะจัดสัก
รอบจริ ง ๆ หารกันแล้วก็ไม่ได้มากมายอะไร พวกเราไปถามที่
ศูนย์วฒั นธรรมก่อนดีไหมว่าถ้าเหมาสักสามสี่ รอบต้องใช้เงิน
เท่าไร แล้วค่อยมาว่ากันอีกที?”
จ้าวเหวินเทายิม้
เขาเองก็ทราบดีว่าเลขาเตือนเพราะหวังดี เขากล่าวด้วยรอยยิม้
ว่า “เลขา นี่ ก็เป็ นเพราะขาดแคลนเงินยิ่งต้องดู ภาพยนตร์ ฟัง
ละครเพลงไง สร้างอารยธรรมจิตวิญญาณขึ้นมาแล้ว ถึงจะมี
อารมณ์ไปทางานหาเงินเพื่อใช้หนี้ไง”
พี่ ส ามจ้า วกลับ ไปขายเต้า หู ้ แ ล้ว วัน นี้ เขากลับ มาเร็ ว และ
ตัดสิ นใจว่าจะนาถัว่ ไปล้างและแช่ไว้แล้วค่อยไปพัก แต่เมื่อได้
ยินเรื่ องนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะด่าว่า “เลขานี่กินยาผิดขวดแล้วมั้ง คิด
จะทาก็ทา ยังจะมาเหมางิ้วเหมาหนังอีก อยากทาก็ออกเงินเอง
สิ !”
ดัง นั้น ถ้า ไม่ คิ ด จะจ่ า ยเงิ น ทั้ง หมู่ บ้า นก็ ต ้อ งไม่ จ่ า ยเงิ น ด้ว ย
ไม่เช่นนั้นก็หนีไม่พน้
ภรรยาของเหล่าหวังสามก็กลับมาจากทีมใหญ่พอดี หล่อนเดิน
ผ่านประตูบา้ นของพี่สามจ้าว ได้ยนิ คาพูดนี้กห็ วั เราะทั้งยังพูด
เสี ยงดังว่า “เหล่าจ้าวสาม นายอย่าเข้าใจเลขาผิดสิ คนที่อยากดู
หนังฟั งงิ้วก็คือจ้าวเสี่ ยวลิ่วของนายนัน่ แหละที่เสนอความคิด
นี้!”
ครั้นเจ้าสามจ้าวได้ยนิ ว่าต้องจ่ายเงินก็นึกปวดใจขึ้นมาจริ ง ๆ
เจ้าสามจ้าวไม่ได้เกรงใจภรรยาของเหล่าหวังสามเลย
พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วก็ช อบเช่ น กัน ในปี นี้ ไม่ มี ใ ครไม่ ช อบดู สิ่ ง
เหล่านี้ แต่สิ่งแรกที่หล่อนนึกถึงคือเรื่ องเงิน
ทุกคนถึงกับเงียบไปครู่ หนึ่ง
“ทาไมไม่พูดอะไรเลย?” พี่รองจ้าวถามต่อ
ปี นี้ขายกระต่ายออกไปได้ส่วนหนึ่ง อาหารก็เก็บได้มากกว่าปี
ที่แล้ว แม้ว่าจะยังไม่ได้ขายออกไป แต่กท็ ราบได้ว่าปี นี้ รายได้
คงมากกว่าก่อนหน้านี้แน่นอน
แต่จิตใจของพี่สะใภ้รองจ้าวกลับไม่มีความมัน่ คงเอาเสี ยเลย
โดยเฉพาะตอนที่ คิ ด ถึ ง ความขัด สนเหล่ า นั้น ท าให้ห ล่ อ น
ถึงกับนอนไม่หลับ
เพราะขัดสนอย่างไรล่ะ!
พี่สะใภ้รองจ้าวถึงกับสะอึก ไม่ได้พูดอะไรอีก
พี่สะใภ้รองจ้าวถอนหายใจ ก่อนจะขึ้นรถ
พี่รองจ้าวก็รีบขับรถออกจากหมู่บา้ น
ไม่ ไ ด้ก ารแล้ว ทาไมหล่ อ นถึ ง ท าไม่ ไ ด้ หล่ อ นต้อ งมี ชี วิต ที่
ดีกว่าพวกเขาให้ได้
พี่สะใภ้สี่จา้ วทราบเรื่ องที่จะดูภาพยนตร์แล้ว จึงบ่นกับพี่สี่จา้ ว
“เงินของน้องหกไม่ใช่ ว่ามีเยอะเกินไปจนไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้
อะไรใช่ ไหม ไม่รู้จะเอาไปใช้ที่ไหนก็เอามาให้พวกเราสิ จะ
เอาไปดูหนังฟังงิ้วเนี่ยนะ จะทาให้ได้เห็นเนื้อเยอะขึ้นหรื อไง!”
เย่ฉู ฉู่ ค รุ่ น คิ ด “งิ้ ว ล่ ะ มั้ง คะ ฉัน คิ ด ว่า คุ ณ พ่ อ กับคุ ณ แม่ น่ าจะ
อยากดู”
เขามองดู ภรรยาของตัวเอง ไม่ว่าจะตอนไหน ก็ยงั มีน้ าใจต่อ
พ่อแม่สามีเสมอ
“ร้องได้ไม่เลวเลยนะ” จ้าวเหวินเทากล่าว
จ้าวเหวินอู่ที่กาลังจมอยู่กบั บทเพลงได้ยินถึงกับตกใจ เขาหัน
มาเห็นจ้าวเหวินเทา จึงหัวเราะเสี ยงทุม้ “สวยด้วย”
จ้าวเหวินอู่ไม่ได้สนใจความอายเมื่อสักครู่ เขาชะโงกหน้าเข้า
มาพูด “หัวหน้าศูนย์ ใช้เวลาไม่ กี่วนั คงไม่ ได้ทาให้งานของ
พวกคุณล่าช้าหรอก วันเดียวก็ได้นะครับ พวกเราสามารถเหมา
ภาพยนตร์ได้อีกสองสามรอบด้วย พนักงานฉายหนังมีเวลาใช่
ไหม”
จ้าวเหวินอู่หนั มามองจ้าวเหวินเทา
จ้าวเหวินเทาคิดแล้วตอบไปว่า “เจ็ดวันแล้วกันครับ”
พี่ชายนักแสดงที่เป็นชายทั้งแท่งก็ไม่ได้ใส่ ใจ เขาโบกมือเพื่อ
แสดงออกว่าไม่ได้ถือสาอะไร
ผลลัพธ์ที่ได้คือหญิงสาวคนนั้นพลันถลึงตา ทั้งยังพูดด้วยเสี ยง
แหลมสู ง แต่ เ ป็ นเสี ย งผู ช้ ายอย่า งไม่ ต ้อ งสงสั ย ว่ า “ฉัน เป็ น
ผูช้ าย!”
“เชี่ย!” จ้าวเหวินอู่อดไม่ได้ที่จะสบถคาหยาบออกมา
จ้าวเหวินเทาขาจนแทบตายอยูแ่ ล้ว หมอนี่ดูผดิ ไปสองครั้งแล้ว
สายตาไม่ดีเลยจริ ง ๆ!
ทั้งสองคนจึงหัวเราะออกมา พวกเขาคือนักแสดงแต่งตัวข้าม
เพศ จึงถูกเข้าใจผิดเป็ นประจา และคุน้ ชินไปแล้ว
จ้าวเหวินเทาไม่ได้มีงานอดิเรกในการเชิ ญคนอื่นรับประทาน
อาหารตามอ าเภอใจ เขาเห็ น ว่า ทั้ง สองคนนี้ แต่ ง ตัว เหมื อ น
ผูห้ ญิงขนาดนี้ จึงถือโอกาสตีสนิ ทให้มากขึ้น ถึงเวลานั้นค่อย
ถามดู ว่า สามารถเล่ น เรื่ อ งเทพธิ ด าฉางเอ๋ อ เหิ น สู่ จ ัน ทราได้
หรื อไม่ แบบนี้กช็ ่วยโฆษณาเรื่ องกระต่ายให้กบั เขาได้พอดีเลย
ในศูนย์มีโรงอาหาร แต่อาหารภายในโรงอาหารจะสู ้อาหารที่มี
คนเลี้ ย งได้อ ย่า งไร ทว่ า ถึ ง อย่า งนั้น ก็เ ป็ นการรั บ ประทาน
อาหารเปล่ า ๆ ท าให้ พ วกเขาทั้ งสองคนนึ ก เกรงใจอยู่
เหมือนกัน
โจวหมิ่นกาลังประคองเอวเดินไปมาอยูด่ า้ นในลานบ้าน
โจวหมิ่นทาให้เขาปวดหัวใจทั้งชีวิตในชาติที่แล้ว ดังนั้นหากมี
โอกาส หล่อนต้องชดเชยให้เขาให้ได้
ตระกูลเย่ได้รับแจ้งข่าวจากทีมใหญ่ คุณพ่อเย่มีท่าทางแอบเป็ น
กังวล ส่ วนคุณแม่เย่เก็บของเสร็ จแล้วจึงรี บรุ ดมาที่เมืองหลวง
ทันที นางคิดว่าคงอีกหลายวันกว่าจะคลอด แต่คิดไม่ถึงเลยว่า
จะปวดท้อ งคลอดเร็ ว ขนาดนี้ และก็ ไ ม่ รู้ ด้ว ยว่ า จะมาทัน
หรื อไม่
ส่ วนพ่อแม่ของโจวหมิ่นทางฝั่งนั้นไม่ได้ดีกบั หล่อนเท่าไรนัก
เพราะโจวหมิ่นคือลู กบุญธรรมของพวกเขา ตอนที่ไปอยู่ใน
ชนบทครั้งนั้น หล่อนก็ไปด้วยตัวเองไม่ได้ปรึ กษาใคร ดังนั้น
จึงไม่ได้ติดต่อพ่อแม่บุญธรรมมาหลายปี แล้ว เย่หมิงเป่ ยเองก็
ไม่สามารถติดต่อพวกเขาได้
ตอนนี้ ไม่ เ หมื อ นกับ ตอนนั้น อี ก แล้ว เบื้ อ งบนได้ใ ห้โ อกาส
หล่อนอีกครั้ง ดังนั้นครั้งนี้หล่อนย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือ
หล่อนอยากใช้ชีวติ อย่างมีความสุ ขกับเย่หมิงเป่ ยจนกว่าชีวิตจะ
หาไม่
ในยุคหลังไม่มีรถสามล้อถีบให้เห็นแล้ว แต่ตอนนี้กลับมีเยอะ
มาก เป็ นรถสามล้อ ที่ ใ ช้แ รงคน ผู โ้ ดยสารนั่ง อยู่ใ นเกวีย น
ด้านหน้า ส่ วนคนขับออกแรงปั่นจักรยานอยูด่ า้ นหลัง
จากนั้นรถสามล้อถีบก็พานางมาถึงสถานที่ที่เย่หมิงเป่ ยเช่าไว้
มี ลุ ง ใหญ่ ที่ มี น้ า ใจคนหนึ่ ง ช่ ว ยเป็ นธุ ร ะพาคุ ณ แม่ เ ย่ม าส่ ง ที่
โรงพยาบาล ตอนที่เย่หมิงเป่ ยได้ยนิ เสี ยงเคาะประตูและประตู
ห้องถูกเปิ ดออก ก็พบว่าคนที่มาถึงคือคุณแม่เย่
นางทราบดีว่าลูกชายและลูกสะใภ้มีฐานะ ดังนั้นการจ้างคนมา
ก็ไม่ใช่เรื่ องไม่ดี
คุณแม่เย่ได้ยินคาพูดที่ฟังดูเหมาะสมนี้ ของลูกสะใภ้ก็รู้สึกพึง
พอใจมาก นางมองหลานที่กาลังดื่มนมพลางกล่าวด้วยรอยยิม้
ว่า “น้ านมมีเยอะเลยนะ มีพอให้ลูกกินด้วย”
………………………………………………………………
รถสามล้อที่ติดเกวียนไว้ดา้ นหน้าจักรยาน
ตอนที่ 206 เสื้ อนวมตัวน้ อย
อย่างอื่นไม่ได้สนใจอะไรมากมาย
น้าพี่เลี้ยงกล่าวทักทายคุณแม่เย่ดว้ ยรอยยิม้
ครอบครัวของหล่อนก็อยูใ่ นชนบท
“นัน่ น่ ะสิ ในชนบทล้าหลังแล้ว หมู่บา้ นที่อยู่ขา้ ง ๆ ของพวก
เราเพิ่งจะมีไฟฟ้ าข้าถึง หมู่บา้ นของเรายังไม่มีเลย เธอดู สิใน
เมืองมีไฟฟ้ าสว่างไสวแล้ว ตอนกลางคืนก็เหมือนกับตอนเช้า
ทาอะไรก็ได้หมดเลย” คุณแม่เย่กล่าว
ส่ วนคุณน้าก็ไปซักผ้าอ้อมให้เจ้าตัวน้อย
เป็ นเพราะในบ้านมี ค นคอยดู แลลู ก ให้ โจวหมิ่ น จึ ง ได้นอน
หลับแบบสงบ
“ลูกชายของพ่อคิดถึงพ่อขนาดนี้เลยเหรอ!” จ้าวเหวินเทากล่าว
ด้วยรอยยิม้ เขาและลูกชายต่างสนิทกันจริ ง ๆ เมื่อเข้ามาก็ทาท่า
จะอุม้
“คณะงิ้ ว ทางฝั่ ง นั้น เตรี ย มตัว กัน วัน นี้ พรุ่ ง นี้ ผมจะไปพามา
ส่ วนพรุ่ งนี้ ตอนค่ าก็ฉายหนังได้แล้ว วันนี้ ช่วงบ่ ายผมจะไป
เรี ยกชาวบ้านมาตั้งเวทีการแสดง ถึงเวลานั้นฝั่งนั้นมาก็แสดง
ได้เลย” จ้าวเหวินเทากล่าว
เย่ฉูฉู่เองก็มองเขาด้วยรอยยิม้
“เคยได้ยิน สิ ฉางเอ๋ อ เหิ น จัน ทรา ดัง มากเลยนะ แต่ เ รื่ อ งนี้
เกี่ยวกับกระต่ายยังไง…” เมื่อพูดถึงตรงนี้ เย่ฉูฉู่ก็ตระหนักขึ้น
ได้ “หรื อในตาหนักจันทรามีกระต่าย?”
“ถู ก ต้อ ง!” จ้า วเหวิ น เทากล่ า วด้ว ยรอยยิ้ม “ในต าหนัก จัน
ทรามีกระต่าย ถึงเวลานั้นก็ให้ฉางเอ๋ ออุม้ กระต่าย จากนั้นพูด
เกี่ยวกับกระต่ายสักสองสามประโยค แบบนั้นก็สามารถขาย
กระต่ายได้แล้วไมใช่เหรอ!”
เย่ฉูฉู่แอบรู ้สึกขบขัน
เย่ฉู ฉู่ โ บกมื อ “คุ ณ อย่า รี บ ให้น้ า แกงมึ น งงกับ ฉัน สิ จะวาด
ออกมาได้หรื อเปล่ามันคนละเรื่ องกันเลยนะ”
พี่สะใภ้รองจ้าวกลับพูดด้วยความโมโห “ยังจะพูดอีกว่าสอง
หยวนกว่า ๆ ทาตัวอย่างกับคุณมีเงินเยอะเลยนะ ไม่ดูบา้ งเลยว่า
ชีวติ ของตัวเองเป็ นยังไง…”
พูดจบก็เดินออกไป
“บ้านหนึ่งต้องจ่ายเงินเกือบสามหยวนเลยนะ!” พี่สามจ้าวเน้น
เสี ยงตรงคาว่าสามหยวน
ตอนนี้กเ็ ป็ นเวลาขายพืชผลทางการเกษตรพอดี
แต่การขายพืชผลไม่ได้ทาให้การดูภาพยนตร์และการแสดงงิ้ว
ล่าช้า คนที่สามารถไปขายพืชผลได้กจ็ ะเป็ นพวกคนหนุ่ มสาว
ที่สามารถแบกของและเคลื่อนย้ายของได้ พวกเขาต่างไม่อยาก
ดูงิ้วที่ส่งเสี ยงร้องแหลมเสี ยดหู ไม่ได้น่าสนใจอะไรเลย
แต่ภาพยนตร์ที่แทบทุกคนชอบดูกค็ ือภาพยนต์สงครามใช้ปืน
และศิลปะการต่ อสู ้อะไรพวกนั้น ไม่ ได้ชอบดู ภาพยนตร์ รัก
โรแมนติ ก เลย ซึ่ ง ตอนนี้ ภาพยนตร์ ส่ ว นมากก็ จ ะเป็ นแนว
สงครามใช้ปืน ส่ วนภาพยนตร์แนวต่อสู ้กาลังภายในยังมีนอ้ ย
ทุกคนทั้งนัง่ และยืนมองกันอย่างตั้งอกตั้งใจ
ถึงอย่างนั้นการดูภาพยนตร์กท็ าให้ลืมความหนาวได้
จ้าวเหวินเทาและพวกพี่ชายยืนกอดอกดูอยูข่ า้ ง ๆ ส่ วนคุณพ่อ
จ้าวไปนัง่ รวมกลุ่มกับผูอ้ าวุโสคนอื่น ๆ แล้ว
ทุกคนต่างก็ตื่นเต้นกันมาก
พี่สามจ้าวกล่าว “เขายังเล็กขนาดนั้นจะไปเข้าใจอะไร”
คุ ณแม่ จา้ วยิ้ม “เด็กคนนี้ ไม่ ตอ้ งเป็ นห่ วงเลยจริ ง ๆ คนเยอะ
ขนาดนี้ วุน่ วายขนาดนี้ ยังไม่รบกวนเวลานอนของเขาเลย”
สุ ดท้ายแล้วก็ไม่มีใครสนใจเด็กผูห้ ญิงอยูด่ ี!
คื น นี้ ฉายภาพยนตร์ ไ ปทั้ง หมดสองเรื่ อ ง เป็ นเรื่ อ งเกี่ ย วกับ
สงครามปื นทั้งหมด ทุกคนต่างก็ติดกันงอมแงม หลังจากแยก
ย้ายแล้ว ก็ยงั เดินไปพลางพูดคุยไปพลาง
………………………………………………………………
จ้าวเหวินเทาอุม้ ลูกชายกลับบ้านพร้อมกับภรรยา
เย่ฉู ฉู่ ว างลู ก ลงแล้ว ก็ใ ช้น้ า ร้ อ นล้า งเนื้ อ ล้า งตัว ด้ว ยเช่ น กัน
“สนุ กมากเลยค่ะ คิดไม่ถึงเลยว่าเพียงพริ บตาเดี ยวจะดูจบไป
สองเรื่ อง ฉันยังนึกว่าจะฉายอีกเรื่ องหนึ่งอยูเ่ ลย?”
เย่ ฉู ฉู่ ยิ้ ม “คุ ณ เป็ นกัง วลว่ า จะมี ไ ม่ กี่ ค นที่ ไ ด้ เ ห็ น โฆษณา
กระต่ายสิ นะคะ?”
เย่ฉูฉู่เองก็นึกขึ้นได้ในตอนที่ทากระต่ายว่าการแทรกโฆษณา
เข้าไปแบบทื่อ ๆ นั้นไม่ค่อยดี เท่าไรนัก ควรเปลี่ยนเป็ นวิธีที่
ดีกว่านี้สักหน่อย แต่จะเปลี่ยนเป็ นวิธีแบบไหนนั้นเธอเองก็ยงั
คิดไม่ออก
แต่เมื่อเธอพูดถึงความคิดนี้ออกมา จ้าวเหวินเทากลับเก็บมาใส่
ไว้ในใจแล้ว
เวทีแสดงถูกตั้งอยู่ภายในลานที่ทาการของทีมใหญ่ เลขาเองก็
เป็ นคนหลงใหลในการแสดงงิ้ว เขาสามารถท่องบทได้สอง
สามบท ทั้งยังบอกว่าเคยขึ้นเวทีดว้ ย
การจัดเวทีแสดงไว้ภายในทีมใหญ่น้ นั สะดวกต่อคนในคณะ
ละคร ไม่ว่าจะกิน พักอาศัยหรื อแต่งหน้าก็อยู่ที่นี่ ทุกคนรู ้สึก
พึงพอใจเป็ นอย่างมาก
พวกเขาและนักแสดงคนอื่น ๆ เพิ่งจะรับประทานอาหารเช้า
เสร็ จ กาลังนั่งแต่งหน้ากันอยู่ อีกครู่ หนึ่ งคนร่ างสู งก็ต ้องขึ้ น
เวที แล้ว จึ งกาลังนั่งแต่ งหน้า ส่ วนคนที่ ตวั เล็กกว่าแสดงวัน
พรุ่ งนี้จึงอยูช่ ่วยงาน
ฉิ นหมิงจึงพาจ้าวเหวินเทาไปที่ห้องที่เขาพักอยู่ แม้ว่าจะเป็น
ห้องพักแบบง่าย ๆ มีแค่เตียงเตาขนาดใหญ่และตูเ้ ก่า ๆ หนึ่งตู ้
แต่บนเตียงก็อุ่นมาก
“คุยที่นี่แล้วกัน” ฉินหมิงกล่าว
ฉิ นหมิงเห็นจ้าวเหวินเทายืนกรานเช่ นนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะพูด
ไปว่า “ฉันไม่ เข้าใจเลย นักแสดงออกจะเยอะแยะขนาดนั้น
ทาไมนายถึงพุ่งเป้ามาที่พวกฉันเนี่ย?”
ฉิ นหมิงถูกจ้าวเหวินเทาใช้คาพูดหยอกล้อจนหลุดขา “นายนี่
จริ ง ๆ เลยนะ เฮ้อ! ก็ได้ แต่ฉนั เขียนบทไม่เป็ นนะ เกาเสี ยงเอง
ก็ไม่ค่อยถนัดเหมือนกัน ละครที่พวกเราเล่นเป็ นละครเก่า นาย
ให้พวกเรามาแสดงเรื่ องใหม่ ระยะเวลาสั้น ๆ แบบนี้ ถา้ แสดง
ออกมาไม่ได้จะทายังไง? อีกอย่าง พรุ่ งนี้นายจะไม่ให้กระต่าย
ของนายขึ้นแสดงเรื่ องฉางเอ๋ อเหินจันทราแล้วเหรอ?”
“ไม่ เ ป็ นไร ฉัน จะช่ ว ยวางแผนให้เ อง พวกนายแค่ รับปากก็
พอแล้ว พรุ่ งนี้กระต่ายของฉันคงไม่ข้ ึนแสดงแล้ว รอให้ถึงบท
ของเราค่อยออกมา แล้วก็อะไรนะ กระต่ายของฉันที่เอาออกมา
แสดง หลังจากแสดงที่หมู่บา้ นพวกเราแล้ว ที่หมู่บา้ นอื่นก็ตอ้ ง
แสดงด้วยนะ” จ้าวเหวินเทาเตือน
“ฮ่า ๆๆ!”
“นั่นสิ เธอสร้างบ้านใหม่พวกเรายังไม่เคยมาเยี่ยมเยียนเลย”
พี่สะใภ้รองเย่ที่อยู่ขา้ ง ๆ กล่าวพลางกวาดสารวจบ้าน “ยุ่งทั้ง
วัน ไม่มีเวลาเลย บ้านหลังนี้ของเธอดีจริ ง ๆ!”
จ้าวเหวินเทาพูดกับลูกชาย เมื่อดูเวลาก็พบว่าถึงเวลาทาอาหาร
เที่ยงแล้ว เขาจึงวางลูกไว้ในรถเข็นและถลกแขนเสื้ อขึ้น
“คุณทาเร็วมากเลยนะคะเนี่ย” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้
“แน่นอน ดูซะก่อนว่าสามีของคุณเป็ นใคร” จ้าวเหวินเทากล่าว
เคล้า รอยยิ้ม “ภรรยา หิ ว แล้ว ใช่ ไ หม รี บ กิ น สิ พี่ ส ะใภ้คุ ณ
กลับไปแล้วเหรอ”
“ต่อให้มีฟางข้าวเพียงพอ แต่มีฟืนมากสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน
นะ” เย่ฉูฉู่กล่าว “ถึงเวลานั้นจะได้ไม่ตอ้ งไปหยิบยืมฟื นจาก
คนอื่นมาเผา แบบนั้นคงรู ้สึกไม่ดีแย่เลย”
“รู ้สึกไม่ดีอะไรกัน ถึงเวลาก็คืนไปสิ ” จ้าวเหวินเทาไม่อายมา
แต่ไหนแต่ไรแล้ว
เขาเองก็ทาแบบนี้ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็จะอ้าปากขอร้องคนอื่น
เมื่อเป็ นหนี้บุญคุณแล้ว จากนั้นเขาก็จะคืนหนี้บุญคุณนี้ แบบนี้
การไปมาหาสู่ กนั ของทั้งสองฝั่งก็จะเกิดความคุน้ เคยด้วย
จากนั้ นก็ จ ะกลายเป็ นเพื่ อ นกัน ช่ ว ยเหลื อ ซึ่ งกัน และกัน
แบ่งปันข้อมูลข่าวสารและร่ ารวยไปด้วยกัน
ดังนั้นในสายตาของจ้าวเหวินเทา หนี้บุญคุณสามารถขยายเป็ น
วงกว้างกลายเป็ นเครื อข่ายของตนเองได้ เป็ นวิธีการใช้ชีวิตที่ดี
ที่สุด
เย่ฉูฉู่ตาหนิเขาด้วยสายตา…จริ ง ๆ เลย
คุณแม่จา้ วพยักหน้า
คุณแม่จา้ วโกรธจนคร้านจะสนใจแล้ว
การแสดงภาพยนตร์ และงิ้วของหมู่ บา้ นตะวันออกสิ้ นสุ ดลง
แล้ว หลังจากนี้กจ็ ะเปลี่ยนไปหมู่บา้ นถัดไป ทุกคนที่ยงั อยากดู
อีกก็แค่ตามไปดู
ตอนค่าค่อยส่ งคณะละครออกจากหมู่บา้ น
“ผมเองก็ช อบเหมื อ นกัน เนื้ อ กระต่ า ยอร๊ อ ยอร่ อ ย!” เด็ ก ที่
แต่งตัวเป็ นเด็กผูช้ ายกล่าว
ทั้งสองคนแสร้งทาเป็ นเดินเข้ามาในร้าน ฉินหมิงที่สวมใส่ ดว้ ย
กางเกงและเสื้ อผ้าลายดอกไม้เล็ก ๆ เดินบิดสะโพกออกมา
“ไม่ใช่วา่ มีอะไรผิดพลาดหรอกนะ?”
“ผูช้ ายเหรอ?”
“ถอดกางเกงดิ!”
หลังจากร้องจบก็เป็นการร้องเพลงของเกาเสี ยง เป็นการตอบ
กลับด้วยการขอโทษ
ทุกคนถึงกับตกตะลึง ก่อนจะเกิดการสนทนาขึ้นระลอกหนึ่ง
ไม่เช่นนั้นอีกฝ่ ายจะพูดแบบนี้เหรอ?
จ้าวเหวินเทานั้นหาตัวได้ง่ายมาก โดยปกติแล้วเขาจะไปที่ร้าน
เกี๊ ย วของจงย่ง ที่ มี ชื่ อ เสี ย งในถนนการค้า ในอ าเภอเพื่ อ ขาย
วัตถุดิบ
ทั้งสองคนหาโอกาสจากวันหยุดเพื่อมาหาจ้าวเหวินเทา และ
หาอะไรรับประทานด้วย จึงนัง่ พูดคุยกันในร้านของจงย่ง
จ้า วเหวิ น เทาฟั ง ที่ พ วกเขาพู ด จบก็ แ อบรู ้ สึกเหนื อ ความ
คาดหมาย เขาก าลัง คิ ด ว่า กระต่ า ยของเขาขายได้เ ยอะ การ
โฆษณากระต่ายก็ไม่เลว คิดไม่ถึงเลยว่าบทละครนี้ จะโด่ งดัง
ด้วย
ง่ายเหรอ?
ง่ายตรงไหนเนี่ย?
ทั้งสองคนรี บขอคาแนะนาของอีกฝ่ าย
จ้า วเหวิน เทาคี บ อาหารใส่ ป ากพลางกล่ า ว “ที่ ล ะครเรื่ อ งนี้
กลายเป็ นที่ นิ ย มของคนขนาดนี้ ก็มี แ ค่ ส องค า คื อ ‘แปลก
ใหม่’!”
ทั้งสองคนชะงัก ‘แปลกใหม่’?
จ้าวเหวินเทากลับไม่ได้คิดมากมายเหมือนกับพวกเขา เมื่อเห็น
พวกเขารู ้สึกขมขื่นมาก ภายในใจก็คิดว่าคนที่ทางานศิลป์ แบบ
นี้ไม่ปกติเลยจริ ง ๆ ละครดังแล้ว ได้เงินแล้ว แต่กลับไม่ดีใจ นี่
ไม่เท่ากับเป็ นการหาเรื่ องใส่ ตวั เหรอ?
อันที่จริ งต่อให้เปลี่ยนพวกเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะเปลี่ยนอย่างไร
ถึงอย่างไรตัวตั้งตัวตีกเ็ ป็ นจ้าวเหวินเทา
เรื่ อ งนี้ ก็เ หมื อ นการท าธุ ร กิ จ สิ่ ง ที่ ต ้อ งการก็คื อ โอกาสทาง
การค้านั้นที่อาจจะหายวับไปกับตาเมื่อใดก็ได้
จ้าวเหวินเทาพูดต่อ “ตอนนี้ พวกนายก็กลับไปคุ ยกับหัวหน้า
ของพวกนายดูนะ พวกเขาน่าจะรู ้วา่ ควรทาหนังออกมายังไง”
จ้าวเหวินเทาทาท่าจะปฏิเสธโดยไม่หยุดไม่คิด
อย่ามองว่าภายในใจของจ้าวเหวินเทาเกิดประกายความคิดมาก
ขนาดนี้ แต่ปากก็ไม่ได้พูดคลุมเครื อ เขาพูดอย่างใจถึงว่า “พวก
เรามีมิตรภาพต่อกันขนาดนี้ ยงั จะพูดเป็นคนอื่นคนไกลไปได้
ฉันจะไปกับพวกนาย ไปคุยกับหัวหน้าของพวกนายเอง แล้ว
ค่อยมาดูกนั ว่าต้องการอะไรบ้าง อย่างอื่นค่อยมาว่ากัน!”
เจ้าหมอนี่ คือคนใจกล้าคนหนึ่งเลย!
ตอนที่ 215 หลอกสาเร็จ
หลังจากรับประทานอาหารเสร็ จ จ้าวเหวินเทาก็ไปหาหัวหน้า
คณะละครพร้ อ มกับ เกาเสี ย งและฉิ นหมิ ง นับ ว่า เป็ นคนที่ มี
ความสามารถ
จ้าวเหวินเทากล่าวเยินยอด้วยท่าทางผ่อนคลาย “หัวหน้าคณะ
เป็ นคนมีจิตสานึ กสู ง! เรื่ องนี้ ผมยังนึ กไม่ถึงเลย ผมแค่คิดว่า
นักแสดงของพวกเราขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีท่ามกลางอากาศ
หนาวทั้งวัน ฤดูร้อนอาการร้อนขนาดนั้น ยังต้องใส่ เสื้ อผ้าหนา
ๆ แบบนั้น อี ก ล าบากเกิ น ไปแล้ว นี่ ถ ้า ท าเป็ นภาพยนตร์ ได้
แบบนั้นก็ผ่อนคลายได้แล้ว คุ ณอย่าหัวเราะเลยนะ ผมไม่ มี
ประสบการณ์อะไรเลย ก็แค่พูดสิ่ งที่อยูใ่ นใจก็เท่านั้น”
จ้าวเหวินเทามองหัวหน้าคณะด้วยความชื่นชม “หัวหน้าคณะ
ผมไม่รู้ว่าควรพูดยังไงดี มีหัวหน้าคณะที่มองการณ์ไกลแบบ
คุ ณ เป็ นผู น้ า คณะละครในอ าเภอของเราต้อ งดี ข้ ึ น เรื่ อ ย ๆ
แน่ นอน ประชาชนตัวเล็ก ๆ อย่างพวกเราก็จะได้ดูละครดี ๆ
ได้มากขึ้นด้วย ถ้าผมเอาเรื่ องนี้ ไปบอกคนในชนบท พวกเขา
ต้องดีใจมากแน่ ๆ!”
ภาพยนตร์ได้รับความสนใจจากคนจานวนมากและทุกคนก็ได้
ประจักษ์แล้ว หัวหน้าคณะไม่ใช่คนโง่ เขาจะมองไม่เห็นเหรอ?
อีกอย่าง ต่อให้ไม่ได้ทาเพื่อเงิน แต่ก็ทาเพื่อชื่ อเสี ยงหรื อไม่ก็
เพื่อความอยู่รอดของคณะละครที่ ดียิ่งขึ้ น หัวหน้าคณะย่อม
ตอบตกลง
ก่อนที่จะกลับบ้าน จ้าวเหวินเทาได้โทรศัพท์ไปหาเย่หมิงเป่ ย
ตอนนี้ เขาชอบโทรศัพท์มาก ของชิ้ นนี้ ดีเกินไปแล้ว มีขอ้ มูล
อะไรก็สามารถแจ้งได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทาให้ล่าช้าเลยสักนิด!
ตอนนี้เขาคิดว่าสักวันหนึ่งจะลองไปถามดูว่าสามารถติดตั้งสิ่ ง
นี้ในบ้านได้หรื อไม่ ถึงเวลานั้นจะได้นอนโทรศัพท์อยูบ่ นเตียง
แบบนั้นคงดีมากเลย!
ต้อ งยอมรั บ ว่ า จ้า วเหวิ น เทาเป็ นคนมี พ รสวรรค์ใ นการทา
การค้า ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อ่อนไหวกับการส่ งข้อมูลขนาดนี้
โจวหมิ่นได้ยินคาพูดของเขาก็หลุดขา “ของเหล่านั้นเป็นการ
หลอกลวง แต่จะพูดว่าหลอกลวงไม่ได้หรอก มันเป็นกลยุทธ์
การตลาด อัน ที่ จ ริ ง แบรนด์ก็คื อ การสร้ า งกระแสนั่น แหละ
จากนั้นขอแค่รักษาคุณภาพและความน่าเชื่อถือไว้ได้กส็ ามารถ
เป็ นแบรนด์อยู่ตลอด ถ้าไม่ สามารถรั กษาคุ ณภาพและความ
น่าเชื่อถือได้ ต่อให้เป็ นสิ นค้าแบรนด์กล็ ม้ อยูด่ ี”
ส่ วนภายในบ้านทางฝั่งนี้ จ้าวเหวินเทากลับถึงบ้านในตอนดึก
หลัง จากรั บ ประทานอาหารเขาก็คุ ย กับ เย่ฉู ฉู่ เ กี่ ย วกับ เรื่ อ ง
ภาพยนตร์
ไม่ตอ้ งพูดก็รู้ว่าเย่ฉูฉู่ถึงกับประหลาดใจ สามีของเธอใช้เวลา
ไม่ถึงหนึ่งวันก็ผลิตภาพยนตร์ได้แล้ว?
ครั้งนี้ที่เขาไป เขาก็เห็นทะเลความคิดมหาศาลเหนือศีรษะของ
หัวหน้าแผนกเซี่ ย ไม่ตอ้ งถามถึงรายละเอียดก็พอจะทราบได้
ว่ามีปัญหามากขนาดไหน
เย่ฉูฉู่มองเขาอย่างไม่เข้าใจ
“ถ้าซื้อที่ดินตรงนั้น ต่อให้พวกเราไม่ไปเลี้ยงกระต่ายก็ทาอย่าง
อื่นได้ ตรงนั้นอยูห่ น้าเมืองเลยนะ ทาอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ได้
เงินแล้ว” จ้าวเหวินเทาวิเคราะห์ให้ภรรยาฟัง “ขนาดพวกเราอยู่
ห่ างจากอาเภอมาก แต่กย็ งั ทาเงินได้มากขนาดนี้ ยิง่ ไม่ตอ้ งพูด
ถึ ง ในจัง หวัด เลย คนในจัง หวัด เยอะกว่ า คนในอ าเภอมาก
กิ จวัตรประจาวันทัว่ ๆ ไปก็ตอ้ งใช้เงิ นทั้งนั้น ในนี้ ไม่ ว่าจะ
เรื่ องอะไรก็สามารถค้าขายได้ท้ งั หมด!”
ลู กลิ งไม่ ยอม มันส่ งเสี ยงร้ องเจี๊ ยก ๆ ทาท่ าจะเข้ามาอี กครั้ ง
เสี่ ยวไป๋ หยางที่นอนอยูข่ า้ ง ๆ จึงร้องอุแว้ออกมา แสดงออกว่า
กาลังประท้วง เย่ฉูฉู่เห็นก็ถึงกับคลี่ยมิ้ อย่างมีความสุ ข
จ้าวเหวินเทาเองก็มีความสุ ข “เจ้าตัวเล็กทั้งสองคนนี้ไม่มีมโน
ธรรมเลยนะ!”
ถ้ารวมเข้ากับครั้งนี้ ก็น่าจะประมาณสองร้อยตัว
ระหว่างนั้นก็จะได้ถามเรื่ องการซื้อขายที่ดินด้วย…
ไม่เพียงแค่จา้ วเหวินเทาที่จะได้รับประโยชน์จากการโฆษณา
กระต่าย ทัว่ ทั้งหมู่บา้ นที่เลี้ยงกระต่ายก็ได้รับประโยชน์ด้วย
พวกเขาขายกระต่ายออกไปได้ไม่นอ้ ย คนที่ขายได้มากที่สุดก็
คือพี่สะใภ้รองจ้าว
พี่สะใภ้รองจ้าวคิดอยากจะบอกตัวเลขที่หล่อนเพิ่งคิดได้ แต่
เมื่ อ คิ ด ๆ ดู แ ล้ว จึ ง พู ด ว่ า “คุ ณ ไปถามคนอื่ น ๆ ในหมู่ บ ้า น
หน่อย ดูวา่ พวกเขาซื้อกระต่ายไปกี่ตวั ”
ถ้าคนอื่นก็เลี้ยงไว้เยอะเหมือนกัน แบบนั้นพวกเขาก็เลี้ยงเยอะ
ๆ แต่ถา้ คนอื่นเลี้ยงน้อย พวกเขาก็เลี้ยงให้มนั น้อย ๆ ในด้าน
จิตวิทยาสิ่ งนี้เรี ยกว่าการกระจายความเสี่ ยง
อีกด้านหนึ่ ง ทางฝั่งพี่สามจ้าวกลับไม่ได้เป็นแบบพี่สะใภ้รอง
จ้าว เขาเป็ นคนฉลาด
เมื่ อ ได้เ งิ น เยอะแล้ว พี่ ส ามจ้า วจึ ง เปลี่ ย นอุ ป กรณ์ เดิ ม ที ใ ช้
แผ่นกระดาษเพื่อจดบัญชี ตอนนี้เขาเปลี่ยนมาใช้กระดาษสี ขาว
แทน กระดาษสี ขาวถูกตัดเข้าเล่มเป็ นหนังสื อเล่มเล็ก ๆ ขนาด
A6 แล้ว
ดินสอที่จากเดิมเคยใช้กเ็ ปลี่ยนเป็ นดินสอแท่งใหม่ ก่อนหน้านี้
เขาใช้ถุงขาด ๆ ที่ถูกปะมาใส่ เงิน แต่ตอนนี้เขายอมปวดใจซื้ อ
กระเป๋ าใบเล็กมาหนึ่งใบ
โดยปกติ แ ล้ว การใส่ ชุ ด ใหม่ จ ะเกิ ด ขึ้ นตอนข้า มปี เท่ า นั้น
หลังจากข้ามปี จบก็จะนาไปเก็บไว้ รอให้ขา้ มปี ต่อไปก็จะนามา
ใส่ ใ หม่ โดยปกติ ถ ้า ไปบ้า นญาติ ใ นช่ ว งส าคัญ ถึ ง จะหยิ บ
ออกมาใส่
“ใครบอกว่าไม่กินกันล่ะ!” พี่สะใภ้สามจ้าวหยิบเนื้อไปจัดการ
พี่สะใภ้สามจ้าวสับไส้เกี๊ยว จากนั้นก็สับผักกาดขาวหัวใหญ่
สองหัว เพราะผักดองยังไม่เปรี้ ยว ท้ายที่สุดจึงใส่ ตน้ หอม ผักชี
แห้ง เกลื อ และผงพริ ก ฮวาเจี ย ว น ามาคลุ ก เคล้า ให้เ ข้า กัน
จากนั้น วางลงบนแผ่น นวดแป้ ง เพื่ อ เริ่ ม นวด ระหว่า งนั้น ก็
พูดคุยกับพี่สามจ้าวไปพลาง ๆ
ส่ วนใหญ่เขาจะฝากแบบประจา ส่ วนแบบออมทรัพย์เขาเก็บ
ไว้เป็ นส่ วนน้อย สิ่ งที่จาเป็ นต้องจ่ายจะดึงเงินออกมาจากออม
ทรัพย์ ในบ้านจึงไม่มีการเก็บเงินไว้
หลัง จากท าเรื่ อ งเหล่ า นี้ เสร็ จ เขาก็ไ ปล้า งมื อ และเดิ น มานั่ง
ตรงหน้าแผ่นนวดแป้งเพื่อช่วยพี่สะใภ้สามจ้าวห่อเกี๊ยว
พี่สะใภ้สามจ้าวได้รับความโปรดปรานอย่างไม่คาดฝันจนรู ้สึก
ประหลาดใจ ได้เงินมาเท่าไรเนี่ย ทาไมถึงได้ทาตัวดีขนาดนี้!
พี่สะใภ้สามจ้าวต่อบทสนทนา “ทาไมเหรอคะ?”
พี่สะใภ้สามจ้าวชะงักพลางพึมพา “แล้วน้องหกได้เงินมาเท่าไร
กันเนี่ย?”
พี่สามจ้าวแอบไม่พอใจ ภรรยาคนนี้ ทาไมถึงไม่ถามว่าเขาได้
เงินมาเท่าไร หรื อว่าตอนนี้ เขาไม่เหมือนกับคนที่ได้เงินเยอะ
เหรอ?
“คุ ณ รู ้ ไ หมว่า เดื อ นนี้ ผมได้เ งิ น เท่ า ไร?” พี่ ส ามจ้า วข่ ม ความ
โกรธไม่ไหวแล้ว หลังจากเงียบอยู่นานก็ควรทาให้ภรรยาของ
เขาได้รู้เสี ยบ้างว่าเขาเก่งกาจแค่ไหน!
“ที่ผมไม่บอกคุณก็เพราะคุณมันไม่มีสมองไง” พี่สามจ้าวแค่น
เสี ยงจากลาคอ “คุณมันโง่ ถ้าผมบอกคุณวันนี้ พรุ่ งนี้คนจากทั้ง
หมู่บา้ นคงรู ้กนั หมด!”
คนอื่นได้เงินมาหนึ่งร้อยกว่าหยวนเธอเองก็ไม่เคยได้ยนิ ต่อให้
ในบ้านจะมีนอ้ งหกที่หาเงินเก่ง แต่กไ็ ม่เคยคิดว่าเรื่ องแบบนี้จะ
เกิดขึ้นกับตัวเอง
สิ่ งนี้ทาให้พี่สามจ้าวโกรธ
ไม่ง่ายเลยที่จะได้โอ้อวด ผลลัพธ์ที่ได้คือภรรยาโง่ของเขากลับ
เอาน้ าเย็นมาสาดใส่ เขา!
พี่สามจ้าวถูกภรรยายัว่ โมโหจนทนไม่ไหวแล้ว
แต่พวกพี่สาวน้องสาวทั้งหกคนก็ถูกดูแลแบบนี้เหมือนกัน แม่
เป็นห่ วงแค่สิ่งของแต่ไม่ได้เป็นห่ วงคน หล่อนไม่ได้สนใจมา
ตั้งนานแล้ว อยากจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ
เอาของลูกสาวไปให้ลูกชาย แบบนี้ใครจะไปทนไหว?
อีกอย่างแม่ของหล่อนก็ชอบตะโกนโหวกเหวกโวยวายเวลาไม่
พอใจ บอกว่าหล่อนเป็ นลูกอกตัญญู บอกว่าหล่อนเกิดมาแล้ว
ไร้ประโยชน์ บ่นฉอด ๆ ไม่หยุด แทบจะทาให้คนเป็ นบ้าอยู่
แล้ว
แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ ท้ายที่สุดพี่สะใภ้สี่จา้ วก็ทาได้เพียง
แค่ตอบตกลงไปอย่างกล้ ากลืนฝืนทน
“พวกแกแยกบ้านกันแล้วไม่ใช่เหรอ ข้าวของแม่สามีแกทาไม
ถึงมาวางที่นี่ล่ะ? โกหกฉันให้มนั น้อย ๆ หน่ อยเถอะ!” แม่ทา
ท่าทางไม่เชื่อ
“แยกบ้านกันแล้วก็จริ ง แต่ฉนั ก็ยงั อยูใ่ นบ้านหลังนี้ไม่ใช่เหรอ
แม่สามีฉนั เอาข้าวมาวางไว้ที่นี่เพราะที่หอ้ งไม่มีที่ให้วางแล้ว”
นาน ๆ ทีคุณพ่อจ้าวจะไม่ชอบขี้หน้าคนคนหนึ่งขนาดนี้
“ที่ลูกสะใภ้สี่อยากได้ลูกชายจนเป็ นบ้าก็เพราะมีแม่บา้ ๆ แบบ
นี้ไง!” คุณแม่จา้ วกล่าว
เฮ่อซงจือพูดเคล้ารอยยิม้ “ดูเหมือนว่าเขาจะเอาไปขายหมู่บา้ น
ข้าง ๆ อาเภอด้วย พอพูดถึงลุงสามของเธอ ก็ดูเป็นคนค้าขาย
เป็ นเหมือนกันนะ”
เฮ่อซงจือทราบดีว่าต้องทาเงินได้แน่นอน แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้
เงินมากขนาดนี้ จึงถอนหายใจอีกครั้ง “ถ้าสร้างบ้านขึ้นมาได้
พวกเราก็คงได้ยา้ ยออกมาเร็ว ๆ”
“ถ้าเธอไม่สะดวกใจก็ถามแม่สามีดูสิ ให้แม่สามีเธอออกหน้า
แทนก็ได้” เย่ฉูฉูกล่าว
“เธอถามแม่สามีเธอหน่อยสิ ฉันจาได้วา่ แม่สามีของเธอก็ถือว่า
เป็ นพี่นอ้ งกับยายฉวีเ่ ลยนะ” เฮ่อซงจือกล่าว
เย่ฉูฉู่เห็นว่าเฮ่อซงจือลาบากใจ จึงคิดว่าเฮ่อซงจือคงทะเลาะกับ
แม่สามีเข้าแล้ว จึงพยักหน้าตอบตกลง
“หืม?” เย่ฉูฉู่คิดไม่ถึงว่าจ้าวเหวินเทาจะพูดแบบนี้
เย่ฉูฉู่มองเขาด้วยรอยยิม้ “กินคุณไง!”
“ภรรยา คุณเรี ยนรู ้เรื่ องไม่ดีแล้วนะ” จ้าวเหวินเทาชะงักไปครู่
หนึ่ง ก่อนจะหลุดหัวเราะในทันที
เย่ฉูฉู่กลอกตาใส่ เขาและเดินไปทาอาหาร
ตอนที่ 222 แม่ สื่อ
ชมอะไรกัน เธอไม่ได้ชมสักหน่อย!
“ยังไม่รู้เลยค่ะ”
“ออกก่อนสองวันค่ะ”
ที่สาคัญก็คือผักทั้งหมดล้วนสดใหม่ ดังนั้นคนจึงเต็มใจที่จะ
ซื้อผักของจ้าวเหวินเทา
วัน พรุ่ ง นี้ จะมี ต ลาดในหมู่ บ้า น แม่ ข องพี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วก็ น า
ข้อความจากฝ่ ายหญิงมาบอกแล้ว ว่าตกลงที่จะไปดูตวั กันจาก
ไกล ๆ ที่ตลาดในวันพรุ่ งนี้
เจ้ารองฉวี่รู้สึกไม่ดี แต่ที่นี่ไม่มีพวกอาวุโส จึงกล้าพูดความใน
ใจของตัวเองออกมา
จ้า วเหวิน เทารั บลู ก ชายมาก็ย กตัว ลู ก ขึ้ น สู ง เสี่ ย วไป๋ หยางมี
ความสุ ขจนกางแขนทั้งสองข้างออกมาโบก
ชุยต้ายืดอกจนตั้งตรง
จ้าวเหวินเทาไม่ได้ใส่ ใจ “มันจะไปหนักหนาแค่ไหนกันเชียว
ก็แค่พาไปด้วย นายอยากไปฉันก็พานายไปได้”
จ้าวเหวินเทาตอบตกลง หลังจากทั้งสองคนนัดเวลากันแล้วก็
กลับไป
จ้าวเหวินเทากล่าว “ผมได้ยินมาว่ากระต่ายของพี่ก็ขายได้เงิน
เยอะอยูน่ ะ”
จ้าวเหวินเทาเห็นพี่สามจ้าวหน้าตอบแถมยังหมองคล้ า เบ้าตา
ทั้งสองข้างก็ลึกโหลดูเหมือนกับคนสู บบุหรี่ จดั ๆ จึงแอบส่ าย
หน้าอยูใ่ นใจ หากเป็ นแบบนี้ต่อไปไม่ว่าจะช้าหรื อเร็ วร่ างกาย
คงแย่แน่ ๆ หาเงินแบบไม่รักชีวติ ขนาดนี้ ไม่รู้วา่ คิดอะไรอยู!่
พี่สามจ้าวไม่ได้พูดอะไร
เย่ฉูฉู่ถอนหายใจ เธอหวังว่าพี่สามจ้าวจะคิดได้
พี่ ส ามจ้า วกลับไปแล้ว ก็ย งั คิ ด ไม่ ไ ด้ เขาคิ ด ว่า ตนไม่ อ าจนา
รายได้จากการค้าขายนี้ แบ่งให้กบั พี่ชายและน้องชาย แต่เมื่อ
นอนคิดถึงเรื่ องนี้ มันก็ทาให้เขาตื่นสายในเช้าวันรุ่ งขึ้น
ในบ้านของพี่รองจ้าวไม่ได้อบอุ่นเหมือนกับบ้านของจ้าวเหวิน
เทา แม้ว่าจะไม่ได้หนาวเป็ นพิเศษ แต่กย็ งั รู ้สึกเย็นอยูด่ ี ตอนนี้
ยังไม่ได้เผาเตา เตียงก็ยงั ไม่ร้อน แค่รู้สึกอุ่น ๆ ก็เท่านั้น พี่สาม
จ้าวเห็นดังนี้กแ็ อบส่ ายหน้าในใจ ยังจะบอกว่าไม่ให้หนาวจน
แข็งอีก ตอนนี้กไ็ ม่เห็นว่าพี่จะอบอุ่นสักเท่าไรเลย ชีวิตของเจ้า
หกต่างหากล่ะที่เรี ยกว่าชีวติ ที่ดี
คิ ดเช่ นนี้ ก็ยิ่งรู ้ สึกว่าต้องพูดให้พี่รองจ้าวยอมเข้าร่ วมให้ได้
แบบนี้ เขาก็จะได้เงินเยอะขึ้นด้วย และมีชีวิตเหมือนกับจ้าวเห
วินเทา
“นายมี ธุ ร ะเหรอ?” พี่ ร องจ้า วไม่ อ ยากคุ ย กับ พี่ ส ามจ้า วให้
มากมาย
พี่สามจ้าวกล่าว “มีนิดหน่อยครับ”
พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วใช้ร ถเข็ น คัน เล็ ก บรรทุ ก หั ว ผัก กาดหวาน
กลับมาและกองไว้ในลานบ้าน หลังจากเข้ามาในห้องก็พบว่าพี่
รองจ้าวกาลังนอนอยูบ่ นเตียง หล่อนจึงกระตุกขาของเขา “เป็ น
อะไร?”
“เปล่า กลับมาแล้วเหรอ?”
พี่สะใภ้รองจ้าวเห็นว่าบนผ้านวมมีรอยบุ๋มลงไปเพราะมีคนนัง่
จึงเอ่ยถาม “ใครมาเหรอคะ?”
“หัวผักกาดหวานแค่หมู่เดียว ต่อให้มีราคามากกว่านี้จะขายได้
สักเท่าไรกันเชียว?” พี่รองจ้าวกล่าว
เขาไม่ คิ ด จะพู ด เรื่ อ งที่ พี่ ส ามจ้า วมาขอให้เ ขาช่ ว ยเหลื อ กับ
ภรรยาของตนเอง จากนิสัยของพี่สะใภ้รองจ้าวก็ตอ้ งทาอยูแ่ ล้ว
พี่สะใภ้รองจ้าวไม่ได้สงสัยอะไร หลังจากคุยสองสามประโยค
ก็ออกไปทาอาหาร
“น้องสามมาหาคุณเพื่อให้ช่วยทาเต้าหู ้ทาไมคุณถึงไม่ทาล่ะ?”
พี่สะใภ้สามจ้าวถามด้วยความสงสัย “เขาไม่ได้ให้คุณทาฟรี ๆ
สั ก หน่ อ ย คุ ณ ไม่ รู้ ห รื อ ไงว่ า บ้า นเราเป็ นหนี้ ก้อ นโตขนาด
ไหน?”
พี่รองจ้าวสู ้พี่สะใภ้รองจ้าวไม่ได้จึงกระแทกประตูเดินออกไป
พี่สะใภ้รองจ้าวโกรธจนถึงขั้นกระทืบเท้า ทาไมหล่อนถึงหา
สามีแบบนี้นะ โง่ยงิ่ กว่าหมูเสี ยอีก!
บ้านของพวกเขาไม่เคยมีอะไรแบบนี้มาก่อน ถ้าไม่มีแขกเหรื่ อ
มาเยี่ ย มเยี ย น ก็ จ ะรั บ ประทานผัก เส้ น ดองเค็ ม หรื อไม่ ก็
ผักกาดขาวดองเค็มทั้งเช้าและค่า มากสุ ดช่วงเที่ยงก็อาจจะตุ๋น
มันฝรั่งและผักกาดขาว หรื อไม่ก็มนั ฝรั่งผักกาดดอง แต่ถา้ มี
แขกมาก็จะจัดอาหารไว้สองอย่าง ดังนั้นเขาจึงกลืนคาพูดที่ว่า
‘ฉันกินข้าวมาแล้ว’ ลงคอ เปลี่ยนเป็ น ‘ได้สิ ฉันออกมาจาก
บ้านก็ยงั ไม่ได้กินข้าวเลย’
“ดื่ มเหล้าไหมพี่รอง?” จ้าวเหวินเทาถาม “ที่ บา้ นมี เหล้าด้วย
นะ”
จ้าวเหวินเทามองออกว่าพี่รองจ้าวคงมีธุระ คิ ดว่าหากมีธุระ
แล้วดื่มเหล้าก็คงไม่ดี จึงบอกเย่ฉูฉู่ให้ตกั อาหาร
จ้าวเหวินเทารับประทานไปหนึ่งถ้วย เย่ฉูฉู่รับประทานไปครึ่ ง
ถ้วย ทั้งสองคนคิดไม่ถึงว่าพี่รองจ้าวจะมาที่นี่ จึงทาอาหารไว้
ไม่เยอะ
“ห้องตะวันตกไม่หนาวเหรอ?” พี่รองจ้าวถาม
จ้าวเหวินเทาไม่ค่อยได้คุยอะไรกับพวกพี่ชาย ตั้งแต่เล็กจนโต
เขารู ้สึกว่าพวกพี่ชายอยูค่ นละโลกกับเขา
“พี่รองมาทาไมเหรอคะ?” เย่ฉูฉู่เอ่ยถามหลังจ้าวเหวินเทากลับ
มาถึง
จ้าวเหวินเทามีความสุ ข “คุณทายสิ ”
จ้าวเหวินเทาพูดไปรอบหนึ่ง เย่ฉูฉู่เองก็รู้สึกว่ายากที่จะเข้าใจ
“ทาไมพี่รองถึงคิดแบบนี้ ล่ะ?” เย่ฉูฉู่ไม่รู้ว่าควรจะใช้คาพูดใด
มาบรรยาย “เรื่ องนี้มนั …ช่าง…”
เย่ฉูฉู่กลอกตาใส่ “คุณพูดจาเหลวไหลอีกแล้วนะคะ!”
นี่ไม่ใช่เพราะคาพูดของจ้าวเหวินเทาหรอก ต่อให้พูดน่าฟังกว่า
นี้ จะไปมีประโยชน์อะไรกัน ความรู ้สึกที่เป็ นจริ งได้ต่างหาก
ล่ะถึงจะเป็นเรื่ องสาคัญที่สุด เมื่อสักครู่ ตอนที่ได้รับประทาน
อาหารมื้อนั้นทาให้พี่รองจ้าวได้รู้ว่าอะไรที่เรี ยกว่าชีวิตที่ดี พูด
ให้ถูกต้องก็คือรู ้วา่ ต้องหาเงินไปเพื่ออะไร
นี่เป็ นสาเหตุที่ทาให้เขาตอบตกลง
ตอนที่ 227 ดูตัว
ตลาดนัดก็คืองานสังสรรค์ภายในชนบท!
จ้าวเหวินเทาขับรถมาถึงตลาด หลังจากทุกคนลงจากรถแล้ว
เขาก็มุ่งหน้าไปที่หมู่บา้ นไท่ผงิ
ตั้งแต่เห็นว่าการค้าขายของจ้าวเหวินเทาแบบส่ วนตัวเป็นไป
ได้ดว้ ยดี ไช่ซื่อหู่จึงมีความคิดอยากจะทาเองมาตั้งนานแล้ว แต่
เขาก็ทาใจไม่ได้ที่จะทิ้งงานในหน่ วยงาน จะร้ายหรื อดี ก็เป็ น
งานทางการ แต่ เ ป็ นเพราะเรื่ อ งที่ เ ขาแอบซื้ อ เนื้ อ ถู ก จับได้
หัวหน้าจึงวิจารณ์เขาอย่างหนัก ทาเอาเขาถึงกับโกรธจนไม่คิด
จะทาที่นนั่ แล้ว และออกมาทางานเองอย่างที่เห็น
ตอนแรกเขาแอบรู ้ สึกเป็ นกังวล แต่ ตอนนี้ ดีข้ ึ นมากแล้ว ถึ ง
อย่างไรก็มีลูกค้าเก่าแก่ ไม่ว่าจะซื้ อหรื อขายก็มีช่องทาง เพียง
ไม่นานก็มีรายได้ที่มนั่ คง ที่สาคัญก็คือเป็ นอิสระ เขาจึงอารมณ์
ดีมาก!
หลังจากคุยเกี่ยวกับจ้าวเหวินเทาไปสองสามประโยค ก็มีคนมา
ซื้ อ เนื้ อ หมู คุ ณ แม่ จ ้า วจึ ง ออกมาจากแผงลอยของไช่ ซื่ อ หู่
จากนั้นก็นงั่ บนเก้าอี้ตวั เล็กข้างเพิงร้านตัดผม
เจ้ารองฉวีร่ ี บกล่าวขอบคุณและเข้าไปผิงไฟด้านหลัง
ฝ่ ายชายบอกว่าจะดูจากไกล ๆ ย่อมไม่สามารถเห็นหน้าได้
คุณพ่อจ้าวกล่าว “แล้วคุณจะไปสนใจทาไม!”
เจ้ารองฉวีเ่ ดินโอ้เอ้ตามมาด้วย
เจ้ารองฉวีไ่ ม่ตอบ
เย่ฉูฉู่เข้าใจถึงความหมายของแม่สามี “งั้นรอเหวินเทากลับมา
หนูจะบอกเขาให้นะคะ คุณแม่คะ เขาชอบกันรึ เปล่าคะ?”
เย่ฉู ฉู่ ส่ ง แม่ ส ามี ก ลับ ไปแล้ว ก็รู้ สึ ก ว่า ที่ แ ม่ ส ามี พู ด ก็ถู ก เจ้า
รองฉวี่ไม่ ชอบคนที่ พี่สะใภ้สี่แนะนาให้ แต่ ก็ไม่ สามารถอยู่
เป็ นโสดแบบนี้ โดยไม่หาคนอื่นไม่ใช่ เหรอ ระหว่างที่คิดก็อุม้
เสี่ ยวไป๋ หยางไว้ในอ้อมกอด นางบอกให้ลูกลิ งเฝ้ าบ้านให้ดี
จากนั้นก็ไปบอกเรื่ องนี้กบั เฮ่อซงจือ
เฮ่อซงจือได้ยินว่าเจ้ารองฉวี่ไม่ชอบคนคนนั้น ก็รู้สึกดีใจมาก
เธอเองก็จะได้ไปบอกกับเพื่อนสนิ ทด้วย เมื่ อตอบตกลง อี ก
สองวันเธอจะส่ งข้อความไปหา เพื่อให้อีกฝ่ ายพาน้องสาวมา
ที่นี่ เมื่อดูตวั กันแล้วก็ค่อยมาว่ากัน
แต่ พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วก็ไ ม่ ไ ด้คิ ด อะไรให้ลึ ก ซึ้ ง หล่ อ นคิ ด ว่ า ไม่
สาเร็จก็ดีเหมือนกัน จะได้ลดข้ออ้างไม่ให้แม่หล่อนมาที่นี่ดว้ ย
ในยุค สมัย นี้ ในชนบทมี ไ ม่ กี่ ค นที่ เ ผาถ่ า น ตระกูล เย่ ก็ไ ม่ มี
เช่นกัน แต่จากประสบการณ์คนที่มีเตาไฟ เย่ฉูฉู่ออกแรงเพียง
ไม่มากก็สามารถจุดไฟในเตาได้แล้ว
เธอล้างทาความสะอาดแบบนี้ให้เขาทุกวัน ตอนค่าก็จะรวมเท้า
และก้นด้วย หากไม่ใช่ฤดูหนาวที่มีอากาศหนาวเย็น เย่ฉูฉู่กค็ ง
จะอาบน้ าให้เขาด้วย ตอนนี้ อากาศหนาว อาบน้ าก็อาจจะเป็น
ไข้ได้ เธอจึงประหยัดเวลาส่ วนนั้นไป แต่ก็ตอ้ งเช็ดทาความ
สะอาดร่ างกาย นี่จึงเป็ นเหตุผลว่าทาไมทุกคนที่เห็นเสี่ ยวไป๋ ห
ยางถึงรู ้สึกได้วา่ เด็กคนนี้เนื้อตัวสะอาดสะอ้านจริ ง ๆ!
เสี่ ย วไป๋ หยางก็เ คยชิ น แล้ว เขาไม่ ไ ด้ร้ อ งไห้ง อแง ทั้ง ยัง ให้
ความร่ วมมือกับแม่ดว้ ยรอยยิม้
เย่ ฉู ฉู่ รู้ สึ ก ขบขัน “ท าอย่ า งกับ เธอใช้ชี วิ ต ไม่ เ ป็ นอิ ส ระงั้น
แหละ”
เย่ฉู ฉู่ เ ดาได้ต้ งั นานแล้ว ไม่ เ ช่ น นั้น เฮ่ อ ซงจื อ คงไม่ วิ่ง มาหา
ท่ามกลางหิ มะตกหนักหรอก “เธอกับอีกคนตกลงเวลาที่จะมา
ได้แล้วเหรอ?”
หากใส่ รวมกั บ เต้ า หู ้ ข องพี่ ส ามจ้ า วคงดี ยิ่ ง กว่ า นี้ เย่ ฉูฉู่
รับประทานไปพลางครุ่ นคิดไปพลาง
“ผมขอแบบที่ทาด้วยมือนะ” จ้าวเหวินเทากาชับพี่สามจ้าว
หลังล้างทาความสะอาดผักกาดดองแล้วก็หั่นเต้าหู ้ เย่ฉูฉู่คลุก
ไส้เกี๊ยว ส่ วนจ้าวเหวินเทานวดแป้ ง เสี่ ยวไป๋ หยางเป็ นผูด้ ู แล
ทั้งครอบครัวมีการแบ่งงานกันอย่างชัดเจน ให้ความร่ วมมือกัน
โดยปริ ยาย ผ่านไปชัว่ ครู่ เกี๊ยวก็ถูกห่ อออกมาจนเสร็ จ เมื่อห่ อ
เกี๊ ย วเสร็ จ แล้ว จ้า วเหวิน เทาก็เ กิ ด ความคิ ด นึ ก สนุ ก เขาฉี ก
กระดาษสี ขาวหนึ่งแผ่น จากนั้นนาเกี๊ยววางลงบนกระดาษขาว
และนาไปวางบนฝาเตา
สองสามีภรรยารับประทานเกี๊ยวย่างไปพลางพูดคุ ยไปพลาง
รู ้ตวั อีกทีกร็ ับประทานจนอิ่มแปล้แล้ว
เพียงแต่ในยุคนี้คนที่แต่งงานก็จะเลือกตระกูลที่มีพี่นอ้ งเยอะ ๆ
แต่งงานกับครอบครัวยากจน ต้องเป็ นแบบนี้ ถึงจะใช้ได้จริ ง
ส่ วนจะเหนื่ อยหรื อเปล่าไม่ได้พิจารณาถึ งจุ ดนั้น ถึงอย่างไร
การใช้ชีวติ ของทุกคนก็เหนื่อยมากอยูแ่ ล้ว
“ใช่ แต่ ก็เ ป็ นการสร้ า งบ้า นที่ ท าให้อ ดอยากเหมื อ นกัน ไม่
เรี ยกว่าร่ ารวยหรอก” เย่ฉูฉู่ไม่อยากหลอกสาวน้อยผูบ้ ริ สุทธิ์
ถึ ง อย่ า งไรนี่ ก็ เ ป็ นแขก เธอต้อ งต้อ นรั บ อย่ า งจริ ง จัง สามี
กลับมาคงต้องพูดสักหน่ อยแล้ว บอกให้เขาจ่ายเงิ นเดื อนให้
เธอด้วย! เย่ฉูฉู่คิดด้วยรอยยิม้ อยูใ่ นใจ
เฮ่อซงจือออกไปไม่นานก็กลับมา แน่นอนว่าคนที่มากับเธอยัง
มีเจ้ารองฉวีแ่ ละยายเฒ่าฉวีแ่ ม่ของเจ้ารองฉวีด่ ว้ ย
เย่ฉูฉู่เข้าใจความหมายของเฮ่อซงจืออย่างถ่องแท้ จึงมาที่ห้อง
ตะวันตกด้วย เหลือเพียงชุนเยีย่ นที่อยูภ่ ายในห้อง ส่ วนไห่เยีย่ น
ก็ตามออกมาเช่นกัน เฮ่อซงจือเดินตามออกมา จากนั้นทั้งสาม
คนก็เดินไปเดินมาอยูใ่ นห้องครัวด้านหลัง ไห่ เยีย่ นเห็นเครื่ อง
ทาความร้อนและก๊อกน้ า โดยเฉพาะก๊อกน้ าที่แค่หมุนน้ าก็ไหล
ออกมา ก็รู้สึกแปลกใหม่มาก
“ตอนแรกฉัน คิ ด ว่า ของชิ้ น นี้ จะติ ด ตั้ง ได้แ ค่ ใ นเมื อ งเท่ านั้น
ชนบทของพวกเราไม่สามารถติดตั้งได้ คิดไม่ถึงเลยว่าชนบท
ของเราก็ติดตั้งได้ดว้ ย” ไห่เยีย่ นกล่าว
เฮ่อซงจือคุยกับเย่ฉูฉู่แค่ไม่กี่คาก็พาไห่ เยี่ยนและชุนเยี่ยนกลับ
ไป หล่อนออกจากบ้านมาค่อนข้างนานแล้ว ตอนนี้ลูกร้องไห้
งอแงไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้
หลังจากพวกเธอกลับไป ลูกลิงก็โผล่มาตั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบ
ได้ มันมาอยูต่ รงหน้าเย่ฉูฉู่พลางส่ งเสี ยงร้องเจี๊ยก ๆ
“ลูกไม่ได้ร้องงอแงใช่ไหม?” เย่ฉูฉู่ถาม
“สาเร็จแล้ว” เฮ่อซงจือกล่าวด้วยรอยยิม้
เย่ฉูฉู่กย็ มิ้ “พวกเขารู ้จกั กันตอนที่มาดูละครใช่ไหม?”
เย่ฉูฉู่ชะงัก
เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้ “เธอมีความคิดเห็นที่ดีมากเลยนะ”
เย่ฉูฉู่นึกถึงการแสดงออกของทางบ้านเหล่าฉวี่ ก็รู้สึกว่าเป็น
เรื่ องน่าฉงน
เย่ฉูฉู่เห็นคุณแม่จา้ วคิดในแง่ดีจึงไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น
อีก
“แล้วหลังจากนั้นล่ะ?” เย่ฉูฉู่ถามด้วยความอยากรู ้
“บ้านที่ ตวั เองสร้ าง ก็ตอ้ งเป็ นหนี้ กนั เอง หลี่ เฟิ นพูดถู กนะ”
เย่ฉูฉู่สรุ ป
เย่ฉูฉู่มองเฮ่อซงจือพลางกล่าวด้วยรอยยิม้ “พอมีลูกก็กลายเป็ น
คนละคนเลยนะ ฟังเข้าสิ ปากของเธอพูดซะคล่องเชียวนะ!”
เฮ่อซงจือแอบรู ้สึกไม่ดี “ฉันเองก็เพิ่งจะไตร่ ตรองได้นี่แหละ
ไม่ว่าจะพูดยังไง แต่งงานก็ตอ้ งแยกบ้าน อยูด่ ว้ ยกันไม่ใช่เรื่ อง
ดี เลยจริ ง ๆ แบบนี้ คงไม่มีทางที่ตกลงกันได้หรอกเธอว่าจริ ง
ไหมล่ะ?”
จากนั้นก็เริ่ มพูดสาธยายออกมา
“งั้นก็แบ่งกันคนละครึ่ ง” จ้าวเหวินเทากล่าว
“ภรรยาจ๋ า ผมว่าโชคที่ใหญ่ที่สุดของผมคือการได้แต่งงานกับ
คุณนะ” จ้าวเหวินเทาพูดด้วยความตื่นเต้นเป็ นอย่างยิง่
ตอนที่ 235 ความคืบหน้ าใหม่ ล่าสุ ด
เย่ ฉู ฉู่ ไ ด้ยิ น ก็ รู้ สึ ก อบอุ่ น อยู่ ใ นใจ ทว่ า ปากกลับ พู ด ไปว่ า
“นับวันเริ่ มพูดจาเหลวไหลมากขึ้นเรื่ อย ๆ แล้วนะคะ!”
เย่ฉูฉู่เห็นก็หลุดหัวเราะออกมา
“จะไม่สาเร็จได้ไง ผมเห็นท่าทางขยันขันแข็งของเจ้ารองฉวี่กร็ ู ้
แล้ว ผูช้ ายพอถึงเวลาถ้าไม่พูดเรื่ องภรรยาคงได้เป็ นบ้า!” จ้าวเห
วินเทากล่าว “อย่าพูดว่าฝ่ ายหญิงอยากจะสร้างบ้านเลย ต่อให้
เป็ นดาวที่อยูบ่ นฟ้าก็ตอ้ งไขว่คว้าเอามาให้! คุณรอดูได้เลย ทาง
ตระกูลเหล่าฉวีต่ อ้ งตอบตกลงแน่นอน”
เย่ฉูฉู่มองสามีดว้ ยความขบขัน “แล้วคุณล่ะคะ ก่อนหน้านี้ตอน
ที่อายุถึงแต่ไม่ได้พูดเรื่ องภรรยาเกือบจะเป็ นบ้าหรื อเปล่า?”
“ดูได้แค่ในโรงหนังใช่ไหมคะ?” เย่ฉูฉู่ถาม
“ดู เหมื อนว่าจะใช่ นะ” แต่ จา้ วเหวินเทากล่ าวจบก็รู้สึกได้ว่า
ภรรยาของเขาสนใจจริ ง ๆ จึงรี บพูดว่า “ภรรยา วันข้ามปี ผมพา
คุณไปดูหนังที่ในเมืองดีไหมครับ?”
จ้าวเหวินเทาพูดไม่ผิดเลยเกี่ยวกับเรื่ องแต่งงานของเจ้ารองฉวี่
ผ่านไปไม่กี่วนั เฮ่ อซงจือก็มาเล่าความคืบหน้าให้ฟัง ตระกูล
ของเหล่าฉวีย่ อมประนีประนอมแล้ว ตอบตกลงที่จะสร้างบ้าน
ให้ ในบ้านจะหยิบเงินออกมาส่ วนหนึ่ งและยืมอี กส่ วนหนึ่ ง
ส่ วนที่ยมื เจ้ารองฉวีต่ อ้ งเป็ นคนคืนเอง ซึ่งฝ่ ายหญิงก็ตอบตกลง
แล้ว
“รักแท้? พรื ด!” เฮ่ อซงจือหัวเราะพรื ดออกมา “ฉู ฉู่ เธอนี่ ช่าง
เข้าใจเล่นนะ! ถูกต้อง รักแท้ ก็คือรักแท้นนั่ แหละ ฮ่า ๆ!”
“แต่เจ้ารองฉวี่คนนี้ ก็เก่งจริ ง ๆ ไปแค่รอบเดี ยวก็สาเร็ จแล้ว”
เย่ฉูฉู่กล่าว
“ฉัน ไม่ รู้ จ ัก พอหรอก แค่ คิ ด ว่า ถ้า เที ย บฉัน สมัย ก่ อ นกับ ชุ น
เยี่ยน ฉันนี่ โง่ชะมัดเลย!” เฮ่อซงจือไม่เต็มใจกับความโง่เขลา
ของตนเองในตอนแรก
เป็ นเพราะเรื่ องนี้ จึงทาให้เจ้ารองฉวี่มีชื่อเสี ยงภายในหมู่บา้ น
ยังไม่ทนั ได้หมั้นก็ไปบ้านฝ่ ายหญิงแล้ว นี่เป็ นความเข้าใจใหม่
ที่ ทุ ก คนมี ต่ อ เขา เมื่ อ เจอหน้า จึ ง พากัน หยอกล้อ ในตอนนี้
พี่สะใภ้สี่จา้ วก็ทราบเรื่ องนี้แล้วเช่นกัน
ไม่ แ ปลกใจที่ พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วจะรู ้ เ รื่ อ งที ห ลัง อัน ที่ จ ริ ง ช่ ว งนี้
หล่ อ นก าลัง ยุ่ ง มาก ตั้ง แต่ ท าเต้า หู ้ ใ ห้ พี่ ส ามจ้า ว แม้แ ต่ จ ะ
ออกไปคุยเล่นข้างนอกก็ยงั ไม่มีเวลาเลย
เรื่ อ งที่ พี่ ส ามจ้า วทาเต้า หู ้อ ร่ อ ยนั้น เป็ นที่ ย อมรั บของทุ ก คน
พี่สะใภ้สี่จา้ วเลยกลัวว่าหากทาออกไปแล้วเขาจะไม่ จ่า ยเงิ น
ดังนั้นจึงทาได้เพียงแค่ต้ งั ใจทา การใช้ชีวิตแบบนี้ทาให้หล่อน
เหนื่ อยจนไม่อยากจะลุกขึ้นมา ประกอบกับต้องเลี้ยงลูกด้วย
จะไปมีเวลานัง่ ซุ บซิ บนินทาชาวบ้านได้อย่างไร ดังนั้นหล่อน
จึงไม่รู้เรื่ องราวที่เกิดขึ้นข้างนอก
เรื่ องนี้ ท าให้ ห ล่ อ นรู ้ สึกเหลื อ เชื่ อ เย่ ฉู ฉู่ เ องก็ เ ป็ นแม่ สื่ อ
เหมือนกันเหรอ?
เย่ฉูฉู่คิดไม่ถึงว่าพี่สะใภ้สี่จา้ วจะมาหาเธอช้าขนาดนี้
“เรื่ องมันเป็ นแบบนี้…” เย่ฉูฉู่จึงเล่าเรื่ องที่เกิดขึ้นให้หล่อนฟั ง
หนึ่งรอบ
ตอนที่ 236 ตอกกลับไป
เมื่ อ เย่ฉู ฉู่ พู ด จบ พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วก็เ หม่ อ อยู่น านกว่ า จะได้ส ติ
“พวกเขารู ้จกั กันตอนที่มาฟังงิ้ว?”
“ค่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิม้
พี่ ส ะใภ้ สี่ จ้ า วถู ก ตอกกลั บ จนพู ด ไม่ อ อก หล่ อ นจึ ง เอ่ ย
กระอึกกระอักกลับมาหนึ่งประโยค “ฉันไม่ได้หมายความแบบ
นั้น”
จากนั้นก็ลุกขึ้นทาท่าจะกลับไป
ยามมองไปด้านหน้าก็พบหมอกลอยปกคลุมอยู่ แอบเห็นป่ า
ภู เ ขาแต่ ไ กล ๆ ส่ ว นแม่ น้ าสายใหญ่ ที่ อ ยู่ ใ กล้ ๆ ตอนนี้ ได้
กลายเป็ นน้ าแข็งแล้ว
ทุกคนต่างก็ไม่มีใครคัดค้าน
“งั้นตัวนี้ให้นายไปเลย!” พี่ใหญ่หลิวกล่าวด้วยรอยยิม้
จ้าวเหวินเทาหัวเราะ “ถึงเวลานั้นผมไม่แย่งทุกคนแน่นอน”
พวกเขาใช้มีดเล่มเล็กที่พกติดตัวมาขอดเกล็ดปลา จากนั้นหัน่
ปลาออกเป็ นส่ ว น ควัก เครื่ อ งในออกมาและล้า งท าความ
สะอาด จากนั้นใช้เหล็กที่เพิ่งเจาะชั้นน้ าแข็งเมื่อครู่ มาเสี ยบไว้
ก่ อ นเข้า มานั่ง ล้อ มกองไฟและค่ อ ย ๆ ย่ า งปลา ตอนนี้ ไม่
สามารถเร่ งได้ หากเร่ งก็อาจจะทาให้ปลาไหม้
เพียงไม่นานกลิ่นหอมก็เริ่ มโชยตลบอบอวล ซึ่ งเป็ นกลิ่นหอม
จากเนื้อปลาทั้งหมด โดยที่ดา้ นนอกตัวปลาค่อย ๆ กลายเป็ นสี
เหลืองส่ งกลิ่นหอมมากขึ้น พี่ใหญ่หลิวรอไม่ไหวจึงหยิบปลา
ตัวหนึ่งขึ้นมารับประทาน ดวงตาของเขาเป็ นประกายในทันที
“คิดไม่ถึงเลยนะว่าปลาจะอร่ อยขนาดนี้!”
“ทาไมฉันถึงคิดไม่ถึงเนี่ย กลับไปฉันจะเอาไปย่างกินแบบนี้”
กลับไปเขาจะย่างให้ภรรยาได้รับประทานด้วย ปลาของที่นี่
อร่ อยจริ ง ๆ! จ้าวเหวินเทาคิดเช่นนี้
พี่ใหญ่หลิวชี้ไปยังตาแหน่งหนึ่ง
ทุกคนต่างพากันหัวเราะร่ า
“ทาไมต้องเลี้ยงล่ะ? พวกเราตกปลาออกไปขายข้างนอกก็ได้
แล้วไม่ใช่เหรอ?” อีกคนกล่าว
พี่ใหญ่หลิวเคยเห็นความสามารถในการขายสิ นค้าของจ้าวเห
วินเทาแล้ว ไม่ว่าจะเป็ นผักจากหมู่บา้ นไท่ผิงหรื อกระต่าย ก็
ประสบความสาเร็จทั้งหมด
“ตกลง ฉันจะกลับไปคิดดูนะ!” พี่ใหญ่หลิวหยิบเหล้าออกมา
กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “มา ๆ ทุกคนมาดื่มกันสักคา จะได้เก็บ
ของไปอาบน้ ากัน!”
ทุกคนจึงนาเหล้าออกมาชนขวดและเริ่ มดื่ม
จ้า วเหวิ น เทารู ้ สึ ก ว่ า เป็ นสิ่ ง ที่ ห าได้ย ากมาก เขารี บ เดิ น ไป
ด้านหน้าบ่อน้ า เมื่อลองสัมผัสผิวน้ า ก็พบว่าร้อนจริ ง ๆ ด้วย!
จ้าวเหวินเทาประหลาดใจ “เหมาภูเขาลูกใหญ่เลยเหรอ?”
เมื่อกลับมาถึงตัวอาเภอ ทุกคนก็นาปลาที่แบ่งกันกลับบ้านของ
ตัวเอง กว่าจ้าวเหวินเทาจะกลับมาถึงบ้านก็เป็ นช่วงค่าแล้ว
เย่ฉูฉู่เข็นลูกออกมาจากห้องครัวด้านหลังบ้าน “ทาไมกลับดึก
ขนาดนี้ล่ะคะ”
เย่ฉูฉู่เห็นปลาแล้วก็รู้สึกเหนือความคาดหมายมาก คิดไม่ถึงเลย
ว่าจะได้มาถึงครึ่ งถุง นี่คงรับประทานได้อีกนานเลย เธอจึงให้
จ้าวเหวินเทาช่วยดูลูกให้ ส่ วนตนเองนาปลาไปแช่แข็ง
เย่ฉูฉู่คิดว่าสามารถทาได้จริ ง จึงพยักหน้าตอบตกลง
เมื่อย่างปลาเสร็ จ จ้าวเหวินเทาก็ลองชิ มหนึ่ งคาและพยักหน้า
รัว ๆ “อร่ อย! ภรรยา คุณรี บชิมสิ !”
นับตั้งแต่ได้รับประทานเกี๊ยวที่สามีย่างคราวก่อน เย่ฉูฉู่ก็รู้สึก
หลงใหลไปกับของที่ใช้ไฟย่าง ถึงอย่างไรในบ้านก็มีเตา จะ
ย่างอะไรก็สะดวกสบาย
เพียงพริ บตาเดียวปลาย่างสองสามตัวก็ถูกรับประทานจนหมด
เกลี้ยง เย่ฉูฉู่ยงั รู ้สึกไม่อิ่มเท่าไรนัก แต่เมื่อเห็นท่าทางที่เหนื่อย
ล้าของสามี เธอจึงเรี ยกให้เขาไปดูลูกเพื่อทาอาหารออกมา
เธอทาอาหารเตรี ยมไว้ก่อนหน้านี้นานแล้ว บะหมี่น้ าแค่ตม้ สัก
หน่ อยก็เรี ยบร้อยแล้ว วันนี้ จา้ วเหวินเทาแค่ รับประทานปลา
ย่าง จึงรู ้สึกหิ วมาก หลังจากรับประทานไปสามถ้วยใหญ่กม็ า
นั่งดื่ มชาอี กนิ ดหน่ อ ยเพื่ อ ย่อ ยอาหาร จากนั้นจึ งล้ม ตัว นอน
วันนี้ ยงั ไม่ ถึงตี สามเขาก็ลุกขึ้ นจากเตี ยงแล้ว ตอนแรกไม่ได้
รู ้สึกอะไร แต่ตอนนี้เขารู ้สึกง่วงมาก
“กลับมาแล้วเหรอคะ” เย่ฉูฉู่เข็นลูกออกมา
จงย่งเห็นก็รู้สึกเอ็นดู
“พี่จา้ ว ทาไมบ้านของพี่ถึงได้อบอุ่นขนาดนี้เนี่ย!”
“ฉันก็เคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ ฉันติดตั้งเครื่ องทาความร้อน
ด้วย!” จ้าวเหวินเทาชี้ไปยังเครื่ องทาความร้อนที่อยูข่ า้ งเตียง
จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้ “ภรรยาของฉันทาอะไรก็อร่ อย
ทั้งนั้นแหละ!”
เย่ฉูฉู่กลอกตาใส่ เขา
ทั้งสองคนถึงกับตกตะลึง เกล็ดปลาเอามาทาของแบบนี้ได้ดว้ ย
เหรอ?!
เย่ฉูฉู่ก็ชะงัก คิดไม่ถึงว่าพวกเขาทั้งสองคนจะไม่รู้ เธอคิดว่า
พวกเขารู ้แล้วจึงอธิบาย
จ้าวเหวินเทาก็เพิ่งทราบว่าเพราะเหตุใดภรรยาของเขาจึ งให้
เก็บเกล็ดปลาไว้
สมองของคนที่ชอบทาการค้าไม่เหมือนกัน เมื่อได้รับประทาน
อาหารหายากก็จะนึกถึงการค้าขาย
“เอาสิ แต่นี่เป็ นอาหารที่ ภรรยาของฉันเป็ นคนทาออกมานะ
นายก็ไม่ควรจะเอาไปขายแบบฟรี ๆ สิ ?” จ้าวเหวินเทาพูดอย่าง
จริ งจัง
จงย่งพยักหน้า “มันก็จริ ง”
ธุ รกิจทาอาหารนับว่ายุ่งยากที่สุด การจัดการวัตถุดิบและล้าง
ทาความสะอาดตั้งแต่ตน้ จนจบต้องเสี ยเวลาอย่างมาก
หลังจากรับประทานอาหารแล้ว จงย่งก็เลือกกระต่ายไปสามสี่
คู่แล้วกลับไป
“ซื้ อกระต่ายออกไปอีกสามสี่ คู่แล้ว!” จ้าวเหวินเทากลับมาอุม้
ลูกชายพร้อมกับพูดคุยหยอกล้อ “เดี๋ยวพ่อซื้ อลูกอมให้ลูกกิน
นะ!”
ตอนนี้ยงั ไม่ถึงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิเลย
โจวหมิ่นมองเห็นท่าทางตกอยู่ในภวังค์ของอีกฝ่ าย จึงนั่งลง
ข้าง ๆ เขา ทั้งยังลูบศีรษะเขาอย่างอ่อนโยน “คุณคงเหนื่อยแล้ว
สิ นะคะ”
เย่ห มิ ง เป่ ยตกตะลึ ง กับความคิ ด ที่ เ ปลี่ ย นปุ บปั บราวกับ ก้า ว
กระโดดของโจวหมิ่น แต่กเ็ ออออตามความคิดของหล่อน “เอา
สิ ผมไม่มีอะไรจะฝาก คุณลองไปถามแม่ดูแล้วกันว่าอยากจะ
ฝากข้อความอะไรหรื อเปล่า”
สองสามีภรรยาไม่พูดไม่จา พวกเขาอ่านจดหมายจนจบก็ถอน
หายใจลากยาว จ้าวเหวินเทาพูดด้วยความรู ้สึกทึ่ง “แบบนี้กไ็ ด้
ด้วย!”
เย่ฉูฉู่เห็นท่าทางของลูกลิงถูกบังคับให้ยอมจานน ก็อดไม่ได้ที่
จะเปล่งเสี ยงหัวเราะออกมา
ขณะที่ท้ งั สองคนกาลังวุ่นวาย เสี่ ยวไป๋ หยางก็ตื่นแล้ว ดวงตา
กลมโตกาลังจ้องมองพ่อและแม่ที่กาลังหยอกล้อกัน จึงส่ งเสี ยง
ร้องงอแง
“พาลูกไปฉี่ค่ะ!” เย่ฉูฉู่ทราบว่าลูกของเธอจะถ่ายเบาหลังจากที่
ตื่นนอน
“รั บ ทราบครั บ !” จ้า วเหวิ น เทาไม่ ลื ม ที่ จ ะท าตัว ต้อ ยต่ า สั ก
หน่อย จากนั้นก็อุม้ ลูกพาไปฉี่ที่กระโถนด้านนอกห้อง
เย่ฉูฉู่หน้าเปลี่ยนสี
จ้าวเหวินเทารี บพูด “ภรรยา คุณฟั งผมพูดก่อน ของพวกนี้ เนี่ ย
จะมองยังไงก็ตอ้ งชอบกันทั้งนั้นแหละ แต่ถา้ มองนาน ๆ ก็ไม่
รู ้สึกน่าสนใจอะไรแล้ว ถ้ามีผชู ้ ายบอกว่าไม่ชอบ เขาไม่ได้พูด
โกหกหรอกนะ แต่เป็ นเพราะเห็นมาเยอะต่างหาก ผมไม่ได้พูด
โกหก ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยเห็นอะไรพวกนี้ นี่เป็ นครั้งแรกเลย
ดังนั้นถึงได้พูดแบบนี้ ไง อีกอย่างนะภรรยา ผมกวาดตามอง
สองสามครั้ง ก็เป็นเพราะอยากดูสไตล์เสื้ อผ้าอะไรพวกนั้นที่
พี่สะใภ้สามของคุณพูดถึงในจดหมาย”
จ้าวเหวินเทาจึงรับประทานอาหารแต่โดยดี
หลังจากรับประทานอาหารเสร็ จ จ้าวเหวินเทาก็เสนอตัวเก็บ
จานและนาไปล้าง สองสามีภรรยาล้างหน้าแปรงฟั นเสร็ จก็มุด
เข้าไปอยูใ่ นผ้าห่ม เย่ฉูฉู่จึงพูดถึงเรื่ องที่โจวหมิ่นจะโอนเงินมา
ให้ส่วนหนึ่ง
“คุณเอาเงินส่ วนนี้ไปเหมาฟาร์มกระต่ายเถอะ” เย่ฉูฉู่กล่าว
“ช่างเจรจาอีกแล้ว” เย่ฉูฉู่กล่าว
จ้าวเหวินเทาแม้ว่าจะมองไม่เห็นแต่ก็พอจะจินตนาการสี หน้า
ของภรรยาออก เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “เปล่าสักหน่ อย ผมพูด
จากใจจริ งเลย แต่วา่ นะ ผมนึกวิธีอื่นออกแล้ว ถ้าทาได้กไ็ ม่ตอ้ ง
แตะเงินนี้แล้ว”
“คุณนึกวิธีอะไรออกเหรอ?” เย่ฉูฉู่พูดด้วยความฉงน
คาพูดของสามีเข้าไปอยูใ่ นใจของเย่ฉูฉู่
“ฉันว่าแบบนี้สวยกว่ากาแพงของบ้านน้องหกอีกนะ” พี่สะใภ้
รองจ้า วกล่ า ว “บ้า นของพวกเขาเป็ นสี ข าวทั้ง หลัง ไม่ ไ ด้มี
ความรื่ นเริ งแม้แต่นอ้ ย จืดชืดเกินไปด้วย!”
พี่สะใภ้สามจ้าวถึงกับตกใจ เยอะขนาดนี้เลย!
พี่สะใภ้สามจ้าวขี้เกียจจะคิดหยุมหยิมกับเขาแล้ว จึงพูดอย่าง
ขอไปที “งั้นปี นี้ขา้ มปี ก็ตอ้ งซื้ออะไรสักหน่อยสิ ?”
บ้า นอื่ น ยากจนแร้ น แค้น แต่ ก็ย งั มี ของกิ น และเครื่ อ งดื่ มดี ๆ
ให้ รั บ ประทาน นี่ พู ด ถึ ง ใครกัน ล่ ะ ไม่ ต ้อ งคิ ด ก็ รู้ ว่ า พู ด ถึ ง
จ้าวเหวินเทา!
ใครจะไปสู ้จา้ วเหวินเทาที่ติดหนี้ เยอะแยะนั้นได้ อีกอย่างใคร
จะไปสู ้ชีวิตดี ๆ ของจ้าวเหวินเทาได้ อีกฝ่ ายได้กินได้ดื่มของดี
ๆ แล้วจะทาไมล่ะ แม้แต่ลิงที่บา้ นยังได้กินได้ดื่มของดีเลย ครั้ง
ก่อนตอนที่เขาไปบ้านจ้าวเหวินเทาก็เห็นสัตว์นอ้ ยตัวนั้นกาลัง
นอนกินกล้วยอยู่ อย่าว่าแต่ตอนนี้ เป็นฤดูหนาวเลย ต่อให้เป็ น
ฤดูร้อนกล้วยก็ไม่ใช่ สิ่งที่คิดจะกินก็หาได้ พอถาม น้องสะใภ้
หกก็บ อกว่ า สั ต ว์ต ัว น้อ ยชอบกิ น กล้ว ย เขาเองก็อ ยากพู ด
เหมือนกันว่าเขาก็ชอบเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็รู้สึกไม่ดีที่จะพูด
วัน พรุ่ ง นี้ เช้า พี่ ส ามจ้า วก็จ ะมาสั่ ง เต้า หู ้ ยัง ต้อ งตื่ น ตั้ง แต่ เ ช้า
เสื้ อผ้าถอดเข้าถอดออกยุ่งยากเกิ นไป ตั้งแต่ ทาเต้าหู ้ หล่ อน
แทบจะหลับสนิทตลอด ลูก ๆ ก็เช่นกัน
พี่สะใภ้สามจ้าวนาเสื้ อกันหนาวที่ทาให้แม่ของหล่อนมาให้เย่ฉูฉู่
ช่วยตั้งแต่เช้า หล่อนช่วยกล่อมเสี่ ยวไป๋ หยาง ส่ วนเย่ฉูฉู่กน็ าเสื้ อ
กันหนาวไปแก้
พี่สะใภ้สามจ้าวเอ็นดู เสี่ ยวไป๋ หยางมาก เด็กคนนี้ ไม่ ร้องไม่
โวยวาย ทั้ง ยัง รู ้ จ ัก ขับ ถ่ า ยเป็ นเวลา ที่ ส าคัญ คื อ สะอาดด้ว ย
หล่อนไม่เคยเห็นเด็กคนไหนสะอาดขนาดนี้มาก่อนเลย
“เด็กคนนี้น่าเอ็นดูเกินไปแล้ว” พี่สะใภ้สามจ้าวพูดกับเย่ฉูฉู่
ผลลัพธ์ที่ได้คืออู่หยากลับร้องไห้ออกมา
น่าเสี ยดายที่อู่หยายังคงร้องไห้ไม่ยอมหยุด
ตอนที่ 245 เหาทีน่ ่ ากลัว
“พี่สะใภ้สาม พี่จะซื้ออะไรหน่อยไหม?”
พี่สะใภ้สามยิ้ม “ฉันบอกเธอแบบไม่ปิดบังเลยนะ ปี นี้ พี่สาม
ของเธอขายเต้าหู ไ้ ด้เงินมาไม่นอ้ ยเลย ฉันอยากได้ผา้ สักผืนเอา
ไปตัด เป็ นชุ ด นี่ ก็ยุ่ง มาทั้ง ปี แล้ว ยัง ไงก็ต ้อ งท าดี ก ับ ตัว เอง
หน่ อย เธอก็รู้ว่าคนแบบน้องสะใภ้สี่ ไม่ว่าอะไรถ้าไปถึงปาก
หล่อนหากพูดออกไปก็จะกลายเป็ นคนละเรื่ องเลย”
ทั้งสองคนพูดคุยไปพลางก็เลือกผ้าไว้แล้ว พี่สะใภ้สามจ้าวพูด
ถึงพี่สะใภ้สี่จา้ วว่าขี้เกียจเสี ยจนไม่รู้ว่ามีเหาจานวนมากกัดลูก
เป็ นแม่ประสาอะไรกัน!
“เหตุผลนี้แหละ” หวังหยางพยักหน้า
“น้องจ้าวพูดอะไรแบบนี้เนี่ย คนฉลาดแบบนายยังต้องกังวลว่า
ลูกชายจะไม่มีขา้ วกินอีกเหรอ?”
หวังหยางทราบที่ทาเลของฟาร์มกระต่ายแล้ว เพียงแต่ไม่คิดจะ
ซื้ อ ช่ วงหลายปี มานี้ สถานการณ์ดีข้ ึนเรื่ อย ๆ โดยเฉพาะอย่าง
ยิง่ สาหรับการขนส่ งที่คล้ายกับการหยิบเงินเลยจริ ง ๆ เขาเองก็
ต้องการสถานที่ที่ใหญ่ข้ ึนเพื่อขยายธุ รกิจ แต่เพิ่งจะมีความคิด
นี้ ผุดขึ้นมา จ้าวเหวินเทาก็มาส่ งให้ถึงบ้าน นี่ มนั เรี ยกว่าอะไร
กัน อยากจะนอนก็มีหมอนส่ งมาให้ประมาณนั้นเลย
ช่ วงค่าเมื่อคืนจ้าวเหวินเทาไม่ได้กลับบ้านแต่ก็โทรศัพท์มาที่
ทีมใหญ่แล้ว บอกให้คนช่ วยไปบอกเย่ฉูฉู่ดว้ ย เขาไม่สามารถ
พูดว่าไปซื้ อฟาร์ มกระต่ายได้ จึงบอกว่าธุ รกิจมีเรื่ องให้ทานิ ด
หน่ อย แล้วก็เยี่ยมจริ ง ๆ พอถึงช่ วงเช้าเรื่ องนี้ ก็ถูกกระจายไป
ทัว่ หมู่บา้ น และถูกกระจายแบบบิดเบือนอย่างมากด้วย
“จริ งเหรอ?”
“จริ งสิ !”
พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วรู ้ สึ ก ว่ า ไม่ มี ท างหรอก ตั้ง แต่ จ ้า วเหวิ น เทา
แต่งงานเขาก็ทะเลาะกับคนอื่นแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แถมยังเป็น
เพราะเผชิญกับความอยุติธรรมด้วย แต่หลังจากนั้นเขาก็ต้ งั ใจ
ทามาค้าขายมาโดยตลอด จะเกิดการชกต่อยขึ้นอย่างกะทันหัน
ได้อย่างไรกัน?
“เธอยังมีกะจิตกะใจเย็บชุดอีกเหรอ? เหวินเทาของเธอเกิดเรื่ อง
แล้วไม่ใช่เหรอ?” เฮ่อซงจือถามรัวเร็ว
เย่ฉูฉู่ชะงัก “เกิดเรื่ อง? เกิดเรื่ องอะไร?”
เฮ่อซงจือเห็นท่าทางมึนงงของเย่ฉูฉู่ หล่อนก็คิดแล้วว่าถ้าเกิด
เรื่ องกับจ้าวเหวินเทาจริ ง ๆ เย่ฉูฉู่ยงั จะมีกะจิตกะใจนัง่ เย็บชุด
ให้ลูกอีกเหรอ?
ตอนที่ 248 เส้ นทางชีวติ
“คิดว่าคงต้องใช้เงินเยอะค่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าว
“ก็น่าจะหลายหมื่นค่ะ” เย่ฉูฉู่กะประมาณราคาพลางกล่าว
เย่ฉูฉู่รู้สึกไม่ดีอย่างมาก แอบราพึงในใจว่าหวังว่าเธอจะเดาไม่
พลาด
ลิ งน้อยกระโดดเข้ามาจากห้องตะวันตกหลังจากคุ ณแม่ จ ้า ว
กลับ ไปแล้ว มัน แย่ง ผ้า มาพัน ที่ ค อตัว เองพลางส่ ง เสี ย งร้ อ ง
‘เจี๊ยก ๆ’
“ไม่ ใ ห้ฉัน นั่ง ตรงนี้ แล้ว จะให้ไปนั่งที่ ไหน?” คุ ณ แม่ จา้ วพูด
อย่างไม่สบอารมณ์ “คุ ณเป็ นสามีของฉันนะ จะให้ฉันไปนั่ง
ข้างคนอื่นเหรอ?”
คุ ณพ่อจ้าวตกใจ เขาหรี่ ตาสารวจอี กฝ่ าย “คุ ณไม่ ได้ป่วยใช่
ไหม?”
จู่ ๆ คุ ณพ่อจ้าวก็รู้สึกอึดอัดกับความใกล้ชิดของภรรยาอย่าง
ฉับพลัน เขาขยับเข้าไปข้างในพลางถาม “เป็ นอะไร?”
คุณพ่อจ้าวหมดคาพูด ภรรยาของเขากลับมาจากบ้านลูกชายก็ดู
คล้ายกับถูกเทพเซียนประทับร่ าง พูดจาก็ไม่ยอมพูดให้ดี ๆ
เรื่ อ งนี้ คุ ณ พ่ อ จ้า วเห็ น ด้ว ยอย่ า งมาก เขาและคุ ณ แม่ จ ้า วก็
เหมือนกัน ต่างก็เชื่อลูกสะใภ้มากกว่าเชื่อลูกชายของตัวเองเสี ย
อีก ที่สาคัญคือนิ สัยของลูกชายปราดเปรี ยว มีความกล้าหาญ
มาก ทั้งยังออกไปค้าขายข้างนอก คนที่ ออกไปขายของข้าง
นอกบ่อย ๆ ก็มกั จะพูดโกหกได้ง่าย ๆ แต่เย่ฉูฉู่ไม่ได้เป็ นแบบ
นั้น เธออยูบ่ า้ นเลี้ยงลูก ไม่ตอ้ งพูดคุยกับคนนอกมากมายอะไร
ไม่ จาเป็ นต้องพูดโกหก แม้ว่าตอนแรกที่ เพิ่งแต่ ง งานเข้า มา
ใหม่ ๆ จะเป็ นคนอารมณ์ ร้ าย แต่ ภ ายหลัง ไม่ ตอ้ งพูด ถึ งเลย
เพราะเธอเป็ นคนกตัญญูมีคุณธรรม มีเหตุผล การที่ได้ลูกสะใภ้
แบบนี้ เข้ามาอยู่ในบ้านถือว่าเป็ นพรของตระกูลจ้าวของพวก
เขา
คุณพ่อจ้าวรู ้สึกว่าการประเมินลูกชายและลูกสะใภ้ของเขาตรง
ประเด็นมาก
ระหว่างที่พูดเขาก็หยิบซองเอกสารออกมาจากกระเป๋ าสะพาย
ข้าง
ตอนที่ 250 เล่นใหญ่ มาก
“คุ ณบอกว่าคุ ณมี วิธีไม่ ตอ้ งใช้เงิ นในบ้าน สัญญาณเช่ าที่ ดิน
ฉบับนี้ ก็ชดั เจนแล้วไม่ใช่เหรอ?” เย่ฉูฉู่อ่านสัญญาการซื้ อขาย
ฟาร์ มกระต่ ายอี กหนึ่ งฉบับ นอกจากนี้ ยงั มี ใบรั บรองการใช้
ที่ดินและอื่น ๆ ด้วย
เย่ฉูฉู่ถอนหายใจอีกครั้ง ทาไมจ้าวเหวินเทาถึงได้โชคดีขนาดนี้
นะ คิดจะซื้ อฟาร์ มแต่ไม่อยากจ่ายเงินเอง ผ่านไปไม่นานก็มี
คนนาเงินมาให้
“นี่ ไม่ ใช่ ว่าโชคดี อะไรหรอก” จ้าวเหวินเทาวิเคราะห์ให้ฟั ง
“คุณคงไม่รู้ว่าในเมืองใช้วิธีแบบไหน มีครั้งหนึ่งผมเคยฟั งนัก
ธุ รกิจคนหนึ่งที่มาจากทางใต้ เขาดื่มเยอะมาก ก็เลยพูดถึงเรื่ อง
ธุ รกิจของเขา โอ๊ยแม่เจ้า เป็ นวิธีที่ลึกลับเชียวนะ! ตอนแรกเขา
ชอบที่ดินผืนหนึ่ง ก็เลยไปคุยกับอีกฝ่ าย คุยจนได้ที่กบ็ อกว่าจะ
ขอกลับไปคิดดูก่อน แต่เผลอแป๊ บเดียวก็ไปหาคนมาเช่าที่แล้ว
ทั้ง ๆ ที่เขายังไม่ได้ที่ดินนั้นมาอยู่ในมือเลยด้วยซ้ า แต่ก็บอก
กับอีกฝ่ ายว่านี่ เป็ นที่ดินของเขาแล้ว มีหลายคนอยากได้ด้วย
อีกฝ่ ายได้ยนิ แบบนี้กร็ ี บจ่ายเงินมัดจาทันทีเลย จากนั้นเขาก็นา
เงิ น มัด จ าส่ ว นนี้ ไปคุ ย กับ เจ้า ของที่ ดิ น คนเดิ ม สิ่ ง ที่ เ ขาท า
เรี ยกว่าเป็ นการจับเสื อมื อเปล่ า เลยนะ แถมยังมี แถลงการณ์
อย่างเป็ นทางการด้วย เรี ยกว่าเป็ นการดึงดูดการลงทุนอะไรสัก
อย่าง ใช่ คานี้แหละ พวกเขาคุยกันเป็ นตลาดการค้าขนาดใหญ่
เลย ภรรยา คุณก็เคยไปอาเภอไม่ใช่เหรอ แบบนั้นเลย ในนั้นมี
แผงลอยแล้วก็แผงลอยให้เช่า เดิมทีผมก็คิดมาตลอดเลยนะว่า
ใครจะหาเงินได้มากขนาดนั้นในเวลาแค่แป๊ บเดียว จนสามารถ
เช่ าที่ดินขนาดใหญ่แบบนี้ ได้ หลังจากนั้นผมถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ าย
จ่ายเงินไปแค่นิดเดียวเอง หลังจองไว้แล้วก็ให้คนอื่นเข้ามาเช่า
จากนั้นก็ใช้เงินค่าเช่าส่ วนนี้ไปเช่ากับเจ้าของที่ดินคนเดิมอีกที
คุณเข้าใจที่ผมพูดไหม?”
จ้าวเหวินเทาพูดอ้อมค้อมเล็กน้อย เพราะเขากังวลว่าเย่ฉูฉู่จะ
ฟังไม่เข้าใจ ท้ายที่สุดจึงถามออกไป
“คุณอยากออกไปเหรอคะ?” เย่ฉูฉู่เอ่ยถาม
“แล้วหวังหยางคนนั้นเขาไม่รอใช้ที่ดินเหรอคะ?” เย่ฉูฉู่ถาม
เย่ฉู ฉู่ ผ ลัก เขาออกไป “ชิ่ ว ๆๆ! ฉัน ยัง ไม่ คิ ด บัญ ชี คุ ณ เลยนะ
พู ด จาก็ไ ม่ พู ด ให้ชัด เจน บอกว่ า มี เ รื่ อ ง คุ ณ รู ้ ไ หมว่ า คนใน
หมู่บา้ นเยาะเย้ยคุ ณยังไง พวกเขาต่างก็คุยกันว่าฉันจะรอคุ ณ
หรื อแต่งงานใหม่ดว้ ย!”
จ้าวเหวินเทาทราบดี ว่าคงไม่ได้พูดในเรื่ องดี ๆ แน่ นอน แต่ก็
คิดไม่ถึงว่าจะพูดแบบนี้ ใบหน้าของเขาพลันเย็นชาลง คนพวก
นี้ ไม่ รู้จกั ดี ชั่วเลยจริ ง ๆ ทาให้พวกเขาร่ ารวยแล้ว เขาไม่ ได้
กลับมาแค่คืนเดียวกลับพูดนิ นทาเขาแบบนี้ ยังมีมโนธรรมอยู่
หรื อเปล่า!
“ค่ะ” เย่ฉูฉู่ออกไปทาอาหารแล้ว
“เจี๊ยก ๆ ๆ!”
มนุษย์ท้ งั สองและลิงอีกหนึ่งหัวเราะอย่างมีความสุ ขดังลัน่ ห้อง
ที่แท้กช็ ุยต้านี่เอง
เย่ ฉู ฉู่ ก ล่ า ว “กิ น ด้ว ยกัน สั ก หน่ อ ยเถอะ เดี๋ ย วฉั น ไปหยิ บ
ตะเกียบมาให้ แล้วก็อุ่นหมัน่ โถวให้ดว้ ย”
“กินข้าวก่อน กินเสร็จแล้วค่อยคุย”
ในเมืองเลยนะ ซื้อที่ดิน!
ต้องใช้เงินเท่าไรกันเนี่ย?
“ใครบอกว่าพี่หกทะเลาะกับคนอื่นจนถูกขังอยู่ในเมืองกันล่ะ
พี่หกไปดาเนินการซื้อที่ดินในเมืองก็เลยกลับมาไม่ทนั ต่างหาก
เล่า เขาซื้อที่ดินเลยนะ ซื้อที่ดิน!”
ทุกคนถึงกับชะงัก ก่อนจะทยอยเอ่ยถาม
“นายไปฟังมาจากใคร?” เหล่าหวังสามถาม
ท้ายที่สุดพ่อของชุยต้าก็ทิ้งทวนด้วยประโยคนี้
ตอนนี้ทุกคนก็เกิดความวุ่นวายขึ้น ต่างก็มาหาจ้าวเหวินเทาถึง
ประตู บ้า น ขอเรี ย นวิ ช า เชื่ อ มสั ม พั น ธไมตรี และตี ส นิ ท
แน่นอนว่ามีคนมายืมเงินด้วย
“นี่ เพิ่งจะซื้ อที่ ดินในเมื อง ตอนนี้ ก็มาซื้ อที่ ดินในหมู่ บา้ นอีก
ไหนจะติดตั้งโทรศัพท์ เด็กคนนี้ ทุกอย่างกลายเป็ นของเขาคน
เดียวเลย เขาไปเอาเงินมาจากไหนตั้งเยอะแยะขนาดนั้นเนี่ย!”
พี่รองจ้าวกาลังล้างทาความสะอาดปลาสองสามตัวเพื่อเตรี ยม
ไว้รับประทานช่วงเที่ยงในวันข้ามปี ปี นี้เป็ นปี ที่ดี เขาไม่อยาก
เป็ นเหมือนกับปี ก่อน ๆ จึงต้องเตรี ยมตัวให้ดีสักหน่อย ไก่และ
ปลาก็ถูกจัดเตรี ยมไว้แล้ว เป็ นคามงคลว่ามีเหลือกินเหลือใช้
ทุกปี
พี่สะใภ้รองจ้าวกาลังจุดเทียนเพื่อเผาไก่ที่เพิ่งถูกเชือด นี่เป็ นไก่
ที่เลี้ยงเอง เป็ นไก่กระทงที่เลี้ยงไว้ได้หนึ่งปี
“ไม่รู้” พี่รองจ้าวกาลังตั้งใจล้างทาความสะอาดปลา
เขาไม่ได้สนใจน้องชายคนนี้แล้ว เพราะทุกครั้งที่สนใจก็จะถูก
โจมตีทุกครั้ง เขาไม่ชอบการถูกโจมตี ดังนั้นเขาจึงสนใจตัวเอง
ให้มาก ๆ แทน
พี่ ส ะใภ้ร องจ้า วกล่ า วต่ อ ไปว่า “ฉัน ได้ยิน หลี่ เ ฟิ นเล่ า ให้ฟั ง
หล่อนบอกว่าน้องหกจะซื้ อที่ดินในหมู่บา้ นด้วย นี่ ก็ไปคุยกับ
ทีมใหญ่แล้ว รอข้ามปี ก็จะดาเนินการซื้อขาย”
พี่รองจ้าวส่ งเสี ยง ‘หึ ’ ออกมาเบา ๆ “หลี่เฟิ นเป็นคนพูดว่าเจ้า
หกไปชกต่อยกับชาวบ้านจนถูกจับไม่ใช่เหรอ นี่เพิ่งจะผ่านไป
ไม่ กี่ ว นั กลับ มาพู ด ว่า เขามี ค วามสามารถแล้ว ปากแบบนั้น
เรี ยกว่าอะไรกัน”
ความอิจฉาในคาพูดของพี่สะใภ้รองจ้าวแฝงด้วยความปวดใจ
ท่ า มกลางความผิด หวัง ก็แฝงด้ว ยความชื่ นชม ภายในใจไม่
สามารถพูดออกมาได้วา่ รู ้สึกอย่างไร
น้องชายของตัวเองใช้ชีวติ ได้ดีขนาดนั้น พี่รองจ้าวก็ทาได้เพียง
แค่ รู้ สึ ก ดี ใ จด้ว ย ส่ ว นเขาไม่ ส ามารถสู ้ น้อ งชายได้ แต่ ก็ไ ม่
เป็ นไรหรอก คนไปเที ยบกับคนก็ตอ้ งตายไปข้า งหนึ่ ง ของ
เทียบกับของก็ตอ้ งถูกเขวี้ยงทิ้ง ดังนั้นอย่าไปเทียบกัน ใช้ชีวิต
ตัวเองให้ดีกพ็ อแล้ว
พี่สะใภ้รองจ้าวเห็นท่าทางไม่แยแสของพี่รองจ้าวก็แอบโมโห
แต่ เ พี ย งไม่ น านก็ถู ก ระบายออก สนใจแล้ว อย่า งไรต่ อ ล่ ะ ?
หล่อนจะเทียบกับจ้าวเหวินเทาได้เหรอ?
มองเห็นจุดนี้ พี่สะใภ้รองจ้าวก็หมดอารมณ์จะย่างไก่แล้ว
ตอนนี้ พี่ ส ามจ้า วก็ก าลัง ยุ่ง อยู่ก ับ การท างาน การขายเต้า หู ้
สิ้ นสุ ดลงแล้ว ของปี ใหม่ที่พี่สะใภ้สามจ้าวซื้อในปี นี้กซ็ ้ือมาไม่
น้อยแล้ว เมื่อเทียบกับปี ที่แล้วดูร่ ารวยกว่าไม่รู้ต้ งั กี่เท่า พี่สาม
จ้าวเห็ นแล้วก็รู้สึก ปวดใจจนทนไม่ ไหว ฟุ่ มเฟื อยชะมัด ยัย
ผูห้ ญิงคนนี้ฟุ่มเฟื อยจริ ง ๆ เลย!
พี่ ส ะใภ้ส ามจ้า วได้ยิน ข่ า วลื อ เหล่ า นั้น ของน้อ งหกแล้ว แต่
ไม่ ได้พูดให้พี่สามจ้าวฟั ง คาพูดเหล่ านั้นแค่ได้ยินก็รู้แล้วว่า
เป็ นเรื่ องโกหก ผลลัพธ์ที่ได้กค็ ือเรื่ องโกหกจริ ง ๆ พี่สะใภ้สาม
จ้าวภูมิใจในการตัดสิ นใจของตัวเองมาก
ระยะเวลาแค่ไม่กี่วนั ทาไมถึงเปลี่ยนแปลงมากขนาดนี้ล่ะ!
พี่สะใภ้สามจ้าวรับไปตามสัญชาตญาณและกะพริ บตาปริ บ ๆ
ราวกับรู ้สึกกาลังฝันไป หล่อนไม่ได้หูแว่วไปใช่ ไหม นึ่ งปลา
ตอนเที่ยง? วันนี้ยงั ไม่ขา้ มปี เลยนะ
“ไม่ ร อกิ น ตอนข้า มปี เหรอ?” พี่ ส ะใภ้ส ามจ้า วเอ่ ย ถามอย่า ง
ระมัดระวัง
พี่สี่จา้ วกาลังล้างปลาอยู่
จ้าวเหวินเทาทางานยุ่งอยู่หลายวันกว่าจะจัดการกับกระต่ายที่
อายุเยอะและป่ วยเป็ นโรคจนเสร็ จ นี่ ก็เป็นเพราะทาเวลาก่อน
ช่วงข้ามปี ตลาดมีความต้องการมาก กลับมาก็เริ่ มจัดการเชื อด
หมู เย่ฉูฉู่กเ็ ย็บชุดให้คุณแม่จา้ วเสร็จแล้ว
“นี่ใกล้จะข้ามปี แล้ว ทาไมถึงเพิ่งมาเชือดหมูล่ะ?” เหล่าไป๋ โถว
ถามด้วยรอยยิม้
“ลุ ง ไป๋ ผมยุ่ ง เกิ น ไปหน่ อ ย นี่ เ พิ่ ง จะมี เ วลาว่ า งมาที่ นี่ ”
จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิม้ “คงต้องรบกวนให้ลุงช่ วยแล้ว
ล่ะ ลาบากหน่อยนะลุง”
พี่ ส ามจ้า วส่ า ยหน้า “เลขา ต่ อ ให้ ผ มได้เ งิ น เยอะกว่ า นี้ ก็ สู้
น้องชายคนนี้ไม่ได้หรอก ปี นี้สร้างบ้านเป็ นหนี้กอ้ นโตเลย หมู
สองร้อยกว่าชัง่ ทาใจกินไม่ลงหรอก ผมเลยเอาไปขายเอาเงิน
ไปจ่ายหนี้แล้ว”
จ้าวเหวินเทาได้ทาการเจรจาซื้อที่ดินแล้วก็จริ ง แต่เลขายังแอบ
เป็นกังวล พวกเขาต่างก็อยู่ในหมู่บา้ นเดี ยวกัน เขาเห็นจ้าวเห
วินเทาเติบโตมาตั้งแต่เล็กจนกระทัง่ ก้าวหน้า ทั้งยังนาชื่อเสี ยง
ของข้าวซานถุนกระจายออกไปสู่ ขา้ งนอก เขาจึงไม่อยากเห็น
จ้าวเหวินเทาล้ม
“ไม่ ใช่ ทุกคนหรอกที่ กินเนื้ อได้ แต่ ตอ้ งมี คนกิ นเนื้ อมากขึ้ น
เรื่ อย ๆ แน่นอน” จ้าวเหวินเทากล่าว
“แล้วนายจะติดตั้งโทรศัพท์ไปทาไม?” พี่สามจ้าวอดไม่ได้ที่จะ
ถามแทรกขึ้นมา
จ้า วเหวิ น เทากล่ า วเสี ย งเรี ย บ “ติ ด ตั้ง โทรศัพ ท์ก็เ พื่ อ ความ
สะดวกสบาย มีธุระอะไรแค่กดก็โทรหาได้แล้ว ไม่ง้ นั คงทาให้
ล่าช้าเกินไป! ก็เหมือนกับตอนที่ผมไปดาเนินเรื่ องซื้อขายที่ดิน
ในเมื อ งครั้ งในไง ไม่ ก ลับ มาคื น เดี ย ว ก็ มี ค นไปพู ด ว่ า ผม
ทะเลาะกับชาวบ้านจนถูกขังแล้ว แบบนี้กม็ ีดว้ ยเหรอ ผมเองก็
ไม่ได้ไปสร้างความขุ่นเคืองให้ใคร มาพูดจาหยอกล้อผมแบบ
นี้ ทาให้ภรรยาของผมทั้งกังวลทั้งกลัว เลขา จะไม่ให้ผมติดตั้ง
โทรศัพท์อีกเหรอ? จะกล้าไม่ ติดตั้งได้เหรอ? ถ้ายังไม่ ติดตั้ง
โทรศัพท์ ครั้งหน้าก็คงพูดถึงผมไปในเรื่ องอื่นอีก!”
จ้าวเหวินเทากล่าว “ก็ผมไม่อยากทาตัวให้กลายเป็นจุดสนใจ
ไง อีกอย่าง ถ้าผมพูดแบบนั้นจริ ง ๆ ก็ตอ้ งมีคนบอกว่าผมโอ้
อวดอีก”
จึงอดไม่ได้ที่จะคิดว่าต้องทาอย่างไรถึงจะทาให้จา้ วเหวินเทา
มาจ้างตนเอง
เลขาพึงพอใจอย่างมาก “เหวินเทา นายเป็นเด็กดีนะ ไม่ว่าใน
หมู่บา้ นจะมองหรื อพูดถึงนายยังไง นายก็ยงั คิดอยากจะให้คน
ในหมู่บา้ นได้ลืมตาอ้าปาก เรื่ องอื่นไม่ตอ้ งพูดถึงหรอก ฉันขอ
เป็ นตัวแทนขอบคุณนายแทนพวกผูใ้ หญ่และเด็ก ๆ ในหมู่บา้ น
แล้วกันนะ!”
ระหว่างที่พูด เลขาก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมาเพื่อคารวะต่อจ้าวเหวิน
เทา
มื้ อ อาหารหลัง การเชื อ ดหมู ม้ื อ นี้ เสร็ จ สิ้ น ในช่ ว งค่ า นี่ เ ป็ น
อาหารหลังการเชื อดหมูหนึ่ งมื้อที่คนในหมู่บา้ นไม่ได้สนใจ
ในช่ วงระยะเวลาหลายปี มานี้ เมื่อผูค้ นกลับบ้านก็พูดถึงเรื่ อง
เนื้อหมูอร่ อยหรื อไม่ไปแค่เล็กน้อย จากนั้นก็รอไม่ไหวที่จะพูด
ถึงเรื่ องที่จา้ วเหวินเทาจะจ้างคน
พี่สะใภ้สามจ้าวไม่สนใจเขา ก่อนหน้านี้สามีของหล่อนก็ทาตัว
ไม่ดีกบั น้องหก ปกติก็เอาแต่ดูถูก แต่ภายหลังน้องหกร่ ารวย
แล้ว เขาจึงเริ่ มเปรี ยบเทียบอีกครั้ง จนทาให้หล่อนเกือบจะตาย
อยูแ่ ล้ว แต่กย็ งั ดีที่เขาคิดได้จนจ้างบ้านพี่รองกับน้องสี่ หล่อน
จึงผ่อนคลายลงนิ ดหน่ อย นี่ ไม่รู้ว่าคิดแผลง ๆ อะไรอีก ไม่ว่า
จะทาอย่างไร ถึงอย่างไรหล่อนก็จะไม่ทาเหมือนกับก่อนหน้า
นี้แล้วที่ให้หล่อนทางานหนักราวกับเป็ นวัวเป็ นม้าแบบนั้น!
พี่รองจ้าวในตอนนี้ ก็กาลังคุยกับพี่สะใภ้รองจ้าวเกี่ยวกับเรื่ อง
จ้าวเหวินเทา
“เจ้าหกจะจ้างคนเลี้ยงกระต่าย ไม่เพียงแต่จะให้เงินเดือนนะ ปี
ใหม่กจ็ ะมีรางวัลให้ดว้ ย เจ้าหกคนนี้ใช้เงินมือเติบเกินไปแล้ว”
พี่รองจ้าวไม่เห็นด้วยอย่างมาก
ภรรยาของเขาวางแผนไว้ดีจริ ง ๆ!
“มันจะทาให้การทานาล่าช้าเหรอ? ไม่ได้ออกไปไหนไกลสัก
หน่ อ ย ก็อ ยู่แ ค่ ห น้า บ้า นนี่ เ อง ก็ถื อ โอกาสท าไปด้ว ยเลย!”
พี่สะใภ้รองจ้าวไม่เห็นด้วย
พี่รองจ้าวกลับพูดว่า “คุ ณคิดว่าจะมีไม่กี่ตวั เหมือนกับที่บา้ น
เราเลี้ยงเหรอ เขาจ้างคนก็ตอ้ งมีเยอะอยูแ่ ล้ว แบบนั้นคงต้องมี
คนช่วยดูให้แบบระยะยาว”
พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วยิ่ ง ไม่ ต ้อ งพู ด ถึ ง เลย ทั้ง ครอบครั ว ต่ า งก็ อ ยู่
รับประทานอาหารกับคุณแม่จา้ วทางนี้ พวกเขาย่อมได้ยนิ เรื่ อง
ที่จา้ วเหวินเทาจ้างคนเพื่อเลี้ยงกระต่ายชัดเต็มสองหู หล่อนก็
คิดเหมือนกับพี่สะใภ้รองจ้าวว่าการทาเต้าหู ้ทาได้แค่ช่ว งฤดู
หนาว ส่ วนฤดู ร้อนทาไม่ ได้แล้ว ดังนั้นเลี้ ยงกระต่ ายก็ถือว่า
เป็ นเรื่ องที่ดี เพราะเลี้ยงได้ตลอดสี่ ฤดูในหนึ่งปี ที่สาคัญคือจ้าว
เหวินเทามี ความใจกว้า งกว่าพี่สามจ้าว หากพี่สี่จา้ วไปเลี้ ย ง
กระต่าย จ้าวเหวินเทาคงไม่เอาเปรี ยบพี่สี่จา้ วแน่ นอน ดังนั้น
หล่อนจึงพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
หลัง จากผ่า นช่ ว งปี ใหม่ ก็เ หมื อ นกับปี ที่ ผ่า นมา เดิ น ทางไป
สวัสดีปีใหม่ เยีย่ มเยียนญาติผใู ้ หญ่ ใช้เวลาเพื่อพักผ่อน เพราะ
หลังจากวันที่สิบห้าของเดือนแรกตามปฏิทินจันทรคติผา่ นพ้น
ไป ก็ตอ้ งตอกบัตรเข้างาน การทางานหนักก็จะเริ่ มต้นขึ้น
เมื่อถึงวันที่สองของเดือนแรกตามปฏิทินจันทรคติ พี่สาวใหญ่
จ้าวและพี่สาวห้าจ้าวต่างก็กลับมาไหว้พ่อแม่ที่บา้ น คุณแม่จา้ ว
สวมใส่ เสื้ อผ้าชุดใหม่ออกมาต้อนรับถึงหน้าบ้าน ครั้นลูกสาว
ทั้งสองได้เห็นคุณแม่จา้ วก็รู้สึกประหลาดใจมาก
“แม่ ไปตัดชุ ดนี้ จากที่ไหนคะเนี่ ย สวยขนาดนี้ เลย!” พี่สาวห้า
จ้าวกวาดตาสารวจพลางกล่าว
“เหวินเทาล่ะคะ?” พี่สาวห้าจ้าวเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“ใช่ มาบ้านคุณยายก็ได้กินแต่เกี๊ยว!”
“คุณยายชอบห่อเกี๊ยวที่สุด!”
ทางฝั่งคุณพ่อจ้าวก็ถามลูกเขยทั้งสองเกี่ยวกับตลอดระยะเวลา
หนึ่งปี มานี้ “ชนบทแยกกันทางานมาปี หนึ่งแล้ว การเก็บเกี่ยวก็
มากกว่าปี ที่แล้วหนึ่งเท่า ก่อนหน้านี้ทุกคนต่างก็ลงนากันแบบ
โง่เขลา ตอนนี้ไม่มีใครโดนหลอกแล้ว แทบอยากจะดูแลทุ่งนา
ให้งอกงาม!”
คุ ณ แม่ จ ้า วพูด อย่า งภาคภู มิใ จ “เหวิน เทาเด็ก คนนี้ เกิ ดมาไม่
ธรรมดาเลย ตั้งแต่เด็กจนโตก็โชคดีกว่าคนอื่น ถ้าให้แม่พูดนะ
โชคที่ ดีที่สุดของเขาคงเป็ นเรื่ องที่ ได้แต่ งงานกับฉู ฉู่นี่แหละ
เขาว่ากันว่าผูห้ ญิงกลัวแต่งงานผิดคน อันที่จริ งการที่ผูช้ ายได้
แต่งงานกับภรรยาเป็ นสิ่ งที่สาคัญกว่าอีก แต่งงานกับคนดี ๆ ก็
เป็ นประโยชน์ไปสามชัว่ อายุคน!”
ฝีมือของเย่ฉูฉู่ทาให้อาหารของคนอื่นถูกปากเขายากขึ้นเรื่ อย ๆ
ตอนนี้แม้แต่อาหารฝีมือแม่ตวั เองก็แอบไม่คุน้ ลิ้นเสี ยแล้ว
“เด็ก คนนี้ นอนเพลิ ดเพลิ น เชี ยวนะ” พี่ ส าวห้า จ้า วมองเสี่ ยว
ไป๋ หยางที่นอนอยู่บนเตียง แขนเล็ก ๆ กาลังกางออก มีผา้ ห่ ม
ผืนเล็กห่มอยู่ นอนหลับตาพริ้ มอมยิม้ สบายเชียว
พี่สาวใหญ่จา้ วและพี่สาวห้าจ้าวหัวเราะ
“อันนี้สวยนะ!”
“ลวดลายตรงแขนเสื้ อตัวนี้ไม่เลวเลย”
สองพี่น้องดู ไปพลางพูดคุ ยไปพลาง เย่ฉูฉู่ก็มองพวกหล่ อน
และริ นน้ าชาให้ดว้ ยรอยยิม้
ท้ายที่สุดพี่สาวห้าจ้าวก็หยิบแบบร่ างที่เย่ฉูฉู่วาดออกมาสามสี่
แผ่น หล่อนตัดสิ นใจว่าจะกลับไปฝึกดูสิหน่อย ลองดูวา่ ตนเอง
จะออกแบบได้หรื อไม่
เย่ฉูฉู่นึกถึงเรื่ องฟาร์มกระต่ายภายในเมืองที่สามีของเธอซื้อไว้
นัน่ ก็เป็ นเพราะผลประกอบการไม่ดีเหมือนกัน สามีเธอบอกว่า
ไม่ รู้ ว่ า จะจัด การอย่ า งไร เพราะในเมื อ งมี โ รงงานที่ มี ผ ล
ประกอบการไม่ ดีแบบนี้ มากขึ้ น เรื่ อ ย ๆ หากโรงงานปิ ดตัว
คนงานที่อยูใ่ นนั้นก็จะตกงาน พวกเขาไม่มีที่ดินก็ไม่รู้ว่าจะไป
ทางานอะไร พี่สาวห้าจ้าวคิดแบบนี้กถ็ ูกต้องแล้ว
พี่ ส าวใหญ่ จ ้า วชอบน้อ งสะใภ้เ ย่ฉู ฉู่ ค นนี้ มาก ดัง นั้น จึ ง พู ด
ออกมาตรง ๆ อย่างไม่ปิดบัง
“เดี๋ยวฉันจะกลับไปคุยกับพี่เขยห้าเธอดูนะ” พี่สาวห้าจ้าวกล่าว
พี่สาวใหญ่จา้ วและพี่สาวห้าจ้าวถึงกับหัวเราะ
“ก่อนหน้านี้ ต่างก็พูดกันว่าเหวินเทาไม่ยอมทาอะไรสักอย่าง
อนาคตคงได้อดอยากปากแห้ง ตอนนี้ เป็นไงล่ะ ในหมู่บา้ นมี
ใครได้กินดีอยูด่ ีสู้เหวินเทาได้บา้ ง?” พี่สาวห้าจ้าวส่ งเสี ยง ‘หึ ’
ออกมาหนึ่งเสี ยง “เหวินเทาใจสู ้มากจริ ง ๆ!”
“แล้วเธอล่ะ อยากกลับมาช่วยเหวินเทาดูแลฟาร์มกระต่ายไหม
ฉันว่าตอนนี้เขาต้องการคนแน่นอน”
พี่สาวห้าจ้าวพยักหน้าเบา ๆ หล่อนเองก็คิดเช่นนี้
เย่ฉูฉู่เพิ่งเข้าใจว่าทาไมพี่สาวห้าจ้าวถึงลังเล ที่แท้ก็เป็นเพราะ
สาเหตุน้ ีนี่เอง
เย่ฉูฉู่รู้สึกขบขันมาก “พูดอย่างกับว่าลูกชายของคุณเป็นได้ง้ นั
แหละค่ะ!”
“ถ้าลูกชายของผมไม่สามารถเป็นในสิ่ งที่อยากเป็นได้! ยังจะ
เป็ นลู ก ชายของผมอี ก เหรอ?” จ้า วเหวิ น เทาเอ่ ย พลางแหย่
เสี่ ยวไป๋ หยาง
เมื่อข้ามผ่านวันที่สิบห้าของเดือนแรกตามปฏิทินจันทรคติ มัน
ก็เป็ นสัญญาณว่าการข้ามปี ได้สิ้นสุ ดลงแล้ว ดังนั้นวันที่สิบห้า
ของเดื อนแรกจึ งฉลองอย่างเป็ นทางการ ปี ที่ แล้วเป็ นปี ที่ ไม่
ค่อยดี แต่ละบ้านห่ อเกี๊ยวด้วยแป้ งบัควีทและไส้ผกั ดองเค็มก็
นับว่าดีแล้ว ใช้กระดาษขาด ๆ ห่ อฝ้ายนิ ดหน่ อย นาไปแช่ ใน
น้ ามันก๊าด จุดโคมไฟไว้สามสี่ ดวง ก็ถือว่าเป็นการฉลองข้าม
ผ่านเทศกาลโคมไฟของวันที่สิบห้าเดือนแรกแล้ว เรี ยบง่ายจน
ค่อนไปทางหยาบ
พี่สี่จา้ วไม่ได้สนใจหล่อนแล้ว
พี่สะใภ้สี่จา้ วกลับพูดต่อไปว่า “ก็เหมือนกับข้ามปี ของปี นี้ ไง
น้องสะใภ้หกตัดชุดให้แม่ใส่ ทั้งหมู่บา้ นก็รู้กนั หมด น้องสะใภ้
หกก็ มี ชื่ อ เสี ย งขึ้ นมาเลย ใคร ๆ ก็ พู ด กัน ว่ า เป็ นลู ก สะใภ้
กตัญญู! พวกเราล่ะ พวกเราก็ไม่ได้อยูว่ ่าง ๆ สักหน่อย ฉันเอง
ก็ตดั รองเท้าให้แม่อีกคู่หนึ่งด้วย! ไม่เห็นมีใครพูดถึงฉันในแง่ดี
เลย!”
“ฉันได้ยินเหวินเทาบอกว่าพวกเราก็สามารถปลูกข้าวสาลีได้
เหมือนกัน เธอกลับไปคุยกับที่บา้ นดูสิ ถ้าอยากปลูก พวกเราก็
มาปลูกด้วยกัน” เย่ฉูฉู่กล่าว
เย่ฉูฉู่มองหล่อนด้วยความฉงนสงสัย
“ได้สิ”
“กิ น อยู่ นายกิ น หรื อ ยัง ถ้า ยัง ไม่ กิ น ก็ เ ข้า มากิ น สั ก หน่ อ ย”
จ้าวเหวินเทาเรี ยก
ครั้งก่อนจ้าวเหวินเทาอยากให้เขาช่วยเลี้ยงกระต่าย ชุยต้าตอบ
ตกลงแล้ว เขาสร้างบ้านใหม่ที่ตงเหลียงช่ วงฤดูใบไม้ผลิพอดี
จึงจัดการเรื่ องฟาร์มกระต่ายได้สะดวก กระต่ายที่อยูใ่ นบ้านเขา
ให้นอ้ งชายไปแล้ว บอกให้เขาเลี้ยงดูให้ดี ได้เงินมาก็สร้างบ้าน
สักหลัง จะได้แต่งงานแต่งการดี ๆ
“งั้นก็พาลูกไปด้วยสิ ?” จ้าวเหวินเทามองออกว่าภรรยาอยาก
ไป
เย่ฉูฉู่กล่าวเคล้ารอยยิม้ “ไม่ใช่ ว่าหลังจากนี้ จะไม่มีโอกาสสัก
หน่ อย รอให้ลูกโตฉันค่อยเข้าร่ วมก็ได้ ยังจะให้พาลูกไปอี ก
คุณนี่ใจกว้างจริ ง ๆ เลยนะ”
“ก็เพราะผมอยากเห็นภรรยาระบาเพลงดานาไง ผมยังไม่เคย
เห็นเลยนะ” จ้าวเหวินเทากล่าว
เทศกาลโคมไฟวันที่สิบห้าเดือนหนึ่งตามปฏิทินจันทรคติ เป็ น
รายการช่วงค่า ช่วงเช้าเป็ นการเต้นระบาเพลงดานา ช่วงเช้าลุง
ป้าน้าอาคนแก่และหนุ่มสาวต่างก็ไปรวมตัวกันที่ทีมใหญ่ พวก
เขาสวมด้วยชุดที่เลขาเช่ามา เสื้ อผ้าไม่พอก็หยิบผ้าลายดอกจาก
ที่บา้ นตัวเองมาคลุม มีสีสันและสวยงามมาก
แต่เมื่อมาถึงสถานที่ก็พบว่าไม่สามารถเข้าไปในลานได้ รอบ
ๆ คือผูค้ น กาแพงและบนต้นไม้เต็มไปด้วยพวกเด็ก ๆ ที่กาลัง
นัง่ ยอง ๆ อยูบ่ นนั้น
“เลขา ทาไมพวกเราไม่เข้าไปล่ะ?”
“ด้านในนั้นเต้นเป็ นยังไงบ้าง?”
“มองไม่เห็นอะไรเลยเนี่ย”
ทุกคนต่างก็กระโดดโหยงเหยงด้วยความร้อนใจ
…………………………………………………………
ทุกคนต่างก็อยากดู ว่าการแสดงระบาเพลงดานาของหมู่บา้ น
อื่ น เป็ นอย่า งไร แต่ เ ป็ นเพราะคนมากเกิ น ไปจึ ง มองไม่ เห็ น
พวกเขาต่างก็ร้อนใจเป็ นอย่างยิง่
จ้าวเหวินเทาจึงตั้งใจไปพูดคุยกับคนอื่น ๆ
เมื่อครู่ ท่าทางที่นิ่งสงบของเลขาก็เป็นแค่ภาพลักษณ์ภายนอก
แต่ เ มื่ อ ได้ยิน ค าถามของจ้า วเหวิ น เทา เขาจึ ง นิ่ ง สงบอย่ า ง
แท้จริ ง
“กระต่ายของข้าวซานถุน!”
“เต้าหูข้ องข้าวซานถุน!”
ตอนนี้มีระบาของข้าวซานถุนเพิม่ เข้ามาอีกหนึ่งการแสดงแล้ว
เมื่อทุกคนได้ยินคาชมก็ยิ่งเต้นกันแรงขึ้นเรื่ อย ๆ จนรถแทบ
เบรกไม่ อยู่ จ้าวเหวินเทามองไปยังเลขาที่ เป็ นคนออกคาสั่ง
เลขาก็กาลังบิดเอวเต้นเช่ นกัน จ้าวเหวินเทาจึงรี บพาพวกเด็ก
หนุ่ มอีกสามสี่ คนออกไปแสดงท่าทางที่ดูเกินจริ ง เพื่อดึ งดู ด
ความสนใจจากผูค้ น ในตอนนี้ เลขาก็ค่อย ๆ ได้สติกลับมา จึง
นากลุ่มคนออกจากลานแสดงอย่างช้า ๆ
“ไอ้เ ด็ ก เวร ท าอะไร ยืน ดู อ ยู่บ นพื้ น ไม่ ไ ด้ ยัง จะขึ้ น ไปบน
กาแพงอีก รี บลงมาเดี๋ ยวนี้ !…แกก็อีกคน ทาอะไร อายุเท่าไร
กันเชี ยว ยังจะไปเล่นประทัดยักษ์อีก ไม่กลัวมันจะระเบิดใส่
มือหรื อไง!…จ้าวเสี่ ยวลิ่ว! เต้นใช้ได้เลยนะ!” ชายสู งวัยพูดคุย
อย่างมีความสุ ข
“ใช่ แ ล้ว ผมเปิ ดฟาร์ ม กระต่ า ยในหมู่ บ้า นแล้ว ตอนนี้ ก าลัง
สร้างรังกระต่ายอยู่ ทาไมเหรอลุง อยากมาเลี้ยงกระต่ายให้ผม
ไหม?”
ทุกคนรี บปรบมือในทันที
ทุกคนจึงหัวเราะออกมาในทันที
พี่สามจ้าวไม่ได้ไปเข้าร่ วม เขาใช้เวลาที่เหลืออยูไ่ ม่กี่วนั สุ ดท้าย
เพื่อทาเต้าหู ้ ตอนที่ได้ยินเสี ยงคนที่มาดู การแสดงระบาเพลง
ด านาตะโกนว่ า เต้า หู ้ข องข้า วซานถุ น เขาก็ตื่ น เต้น เสี ย จน
หายใจไม่ เป็ นจังหวะ จึ งรี บถามติ ด ๆ กันว่า ‘จริ งเหรอ เกิ ด
อะไรขึ้นเหรอ?’
พี่สะใภ้สามจ้าวก็คิดไม่ถึงเช่นกัน หล่อนจึงพูดอย่างมีความสุ ข
“สามี คุณเก่งมากเลย!”
พี่รองจ้าวกล่าว “คุณคิดว่าผมอยากได้อะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ
นี่เป็ นของที่หน่วยงานให้มาทั้งนั้นแหละ”
ตอนที่ 264 กระจำยโคมไฟ
เย่ฉูฉู่มองเขาแขวนโคมไฟอยู่ขา้ ง ๆ โคมไฟหลายดวงถูกวาง
ไว้บนขอบด้านล่างของกาแพง ประตูบา้ น ประตูใหญ่หน้าบ้าน
ถูกแขวนติดกันเป็ นแถว ดูสวยพิลึกเชียวล่ะ
ของหวานนั้นรับประทานได้ไม่มาก เย่ฉูฉู่รับประทานไปแค่
ไม่กี่ลูกก็ไม่อยากกินต่อแล้ว เพราะเลี่ยนเกินไป
“งั้นตอนที่พวกเขามากระจายโคมไฟ พวกเราแจกพวกเขาดี
ไหม?” เย่ฉูฉู่ทอดเกี๊ยวเสร็จก็นามาเสิ ร์ฟ
จ้าวเหวินเทาเห็นด้วย เขานาหยวนเซี ยวใส่ เข้าไปอุ่นในหม้อ
จากนั้นก็กลับมารับประทานเกี๊ยวทอดกับเย่ฉูฉู่ กินของสิ่ งนี้ยงั
มีความสุ ขกว่า รู ้ตวั อีกทีกร็ ับประทานไปหนึ่งจานใหญ่แล้ว
เย่ฉูฉู่นาหยวนเซียวออกมาพร้อมกับตะเกียบ
เดิมทีทุกคนไม่ได้อยากจะรับประทาน เพราะเป็นเรื่ องยุ่งยาก
เกินไปหากต้องเข้าไปในบ้าน ทั้งยังถือโคมไฟอยูด่ ว้ ย อีกอย่าง
คนที่ชวนอาจจะพูดเพราะความเกรงใจ แต่เมื่อเห็นเย่ฉูฉู่เดินถือ
หยวนเซี ยวร้ อนกรุ่ นออกมา ก็เข้าใจได้ว่าจ้าวเหวินเทาเรี ยก
พวกเขาให้รับประทานอย่างจริ งใจ พวกเขารั บประทานกัน
อย่างใจกว้าง คนนี้หนึ่งคาคนนั้นหนึ่งคา หยวนเซี ยวสองถุงจึง
ถูกรับประทานจนหมดเกลี้ยง
………………………………………………………………
พี่สามจ้าวไม่ได้สนใจพี่สะใภ้สามจ้าว ทว่าภายในใจกลับคิดถึง
ฟาร์มกระต่ายของจ้าวเหวินเทา ตอนนี้ในบ้านของจ้าวเหวินเทา
ติดตั้งโทรศัพท์แล้ว เขาจึงรี บไปดู
“โทรศัพ ท์เ ครื่ อ งนี้ ไม่ เ หมื อนกับ ที่ ทีม ใหญ่ เ ลยนะ ไม่ มี จ าน
หมุนด้วย จะหมุนเลขยังไงเนี่ ย ?” คนที่เคยใช้โทรศัพท์ในทีม
ใหญ่แสดงความคิดเห็นของตนเอง
“เขายินดีที่จะจ่าย!”
ทุกคนพูดออกมาหมด มีท้ งั อิจฉา ริ ษยา เกลียดชัง แต่ที่มากกว่า
คือพูดประจบประแจง พวกเขาพูดถึงจ้าวเหวินเทาในแง่ดี เย่ฉู
ฉู่ ได้ยินก็ทาแค่เพียงแย้มยิม้ เมื่อเห็นพี่สามจ้าวมา เธอจึงเรี ยก
ให้เข้ามาในบ้าน
โทรศัพท์ถูกติดตั้งไว้บนตูข้ า้ ง ๆ เตียงในห้องด้านตะวันออก
เวลาโทรศัพท์และรับสายจึงสะดวกมาก เอี่ยวตัวไปทางนั้นก็
สามารถถือโทรศัพท์และพูดคุยได้แล้ว
พี่สามจ้าวลูบโทรศัพท์อย่างระมัดระวังและถามเย่ฉูฉู่ว่าติดตั้ง
โทรศัพ ท์ใ ช้เ งิ น เท่ า ไร แต่ ล ะเดื อ นต้อ งจ่ า ยเงิ น เท่ า ไร ค่ า
โทรศัพท์เวลาโทรจ่ายเท่าไร เมื่อได้ยนิ คาตอบของเย่ฉูฉู่ พี่สาม
จ้าวก็ดึงมือกลับไป แอบราพึงในใจ ของแบบนี้ คือบรรพบุรุษ
เลยล่ะ บรรพบุรุษที่ตอ้ งใช้เงินเพื่อบูชากราบไหว้
พี่สามจ้าวพู ดเรื่ องนู ้นเรื่ องนี่ อยู่ครู่ หนึ่ ง จู่ ๆ ก็พูดว่า “ฟาร์ ม
กระต่ายของเจ้าหกตัดสิ นใจว่าจะจ้างคนกี่คนเหรอ?”
“คะ? จ้า งกี่ ค นเหรอคะ?” เย่ฉู ฉู่ ช ะงัก ครู่ ห นึ่ ง ก่ อ นจะได้ส ติ
กลับมา “ดูเหมือนว่าจะสิ บกว่าคนนะคะ”
เย่ฉูฉู่ไม่รู้ว่าพี่สามจ้าวหมายความว่าอย่างไร จึงพูดไปตามน้ า
ว่า “เหวินเทาบอกว่าทางที่ดีที่สุดคือจ้างคนในหมู่บา้ นตัวเอง
แต่ ถ ้า หาคนในหมู่ บ้า นไม่ ไ ด้ก็ค งท าได้แ ค่ จ ้า งคนที่ อ ยู่น อก
หมู่บา้ นนัน่ แหละค่ะ”
พูดจบ พี่สามจ้าวก็กลับไป
เย่ฉูฉู่จึงเล่าเรื่ องที่พี่สามมาที่นี่ให้หล่อนฟังอย่างไม่ปิดบัง
“ต้อ งท าอยู่ แ ล้ว แหละ” เฮ่ อ ซงจื อ กล่ า ว “เหวิ น จื้ อ บอกว่ า
กระต่ ายเยอะขนาดนั้น ถ้าไม่ มีคนเฝ้ าสัก สามสี่ คนคงไม่ ไ ด้
แถมยังเป็ นผูช้ ายทั้งหมดอี ก อย่ามองว่าพวกเขารั บประทาน
อาหารสามมื้อ นี่ ถา้ ให้พวกเขาทาอาหารเองสามมื้อต่อวัน ใช้
เวลาไม่กี่วนั คงได้เป็ นบ้าพอดี!”
เย่ฉูฉู่ถูกคาพูดของอีกฝ่ ายหยอกจนหลุดขา
เฮ่อซงจือเงียบขรึ มลง
เย่ฉูฉู่ไม่ได้เห็นความสาคัญกับตระกูลมากขนาดนั้น จ้าวเหวินเทา
ก็ไ ม่ ใ ช่ ค นหัว โบราณอะไร ดัง นั้น พวกเขาทั้ง สองคนจึ ง คิ ด ว่า
คลอดลูกก็เพื่อตัวเอง ไม่ได้คลอดมาเพื่อตระกูลหรื อเพื่อสื บสกุล
อะไร
“สวัสดีครับ ใครครับ?”
“บนจดหมายพี่สะใภ้สามบอกไว้แล้วว่า ถ้ามีรายได้เยอะถึงจะ
มีสิทธิ์มีเสี ยง ในบ้านก็เหมือนกัน ตอนนี้ฉนั เป็ นใหญ่!”
เย่หมิงเป่ ยขาจนไม่ไหวแล้ว “ฉู ฉู่ เธอพูดแบบนี้ ไร้มโนธรรม
เกิ น ไปแล้ว นะ ตอนที่ เ ธอยัง หาเงิ น ไม่ ไ ด้เ หวิน เทาก็ฟั ง เธอ
ไม่ใช่เหรอ?”
หลังจากนั้นสองพี่นอ้ งก็กดวางสายไป
จ้าวเหวินเทาจึงเข้าใจว่าทาไมภรรยาของเขาถึงโวยวาย จึงรี บ
พูดว่า “ภรรยา ไม่ได้เจออะไรกัน เมืองหลวงอยู่ห่างจากพวก
เราแค่น้ ี เอง อยากไปก็แค่นั่งรถไฟก็ไปได้แล้ว คุ ณอยากอยู่ที่
นัน่ ก็อยูไ่ ด้ตามที่ตอ้ งการเลยนะ!”
“แล้วคุณล่ะ?”
จ้าวเหวินเทาพูดแล้วก็หรี่ ตา
จ้าวเหวินเทาโบกมือพลางเอ่ยยานคาง “ควรมีการวางแผนแต่
เนิ่น ๆ เป็ นไปไม่ได้ที่จะอยูใ่ นสถานการณ์ที่ดีตลอดไป…”
“ไปยกกับข้าวมา!”
“ครับผม!”
“คุณคุยกับแม่หรื อยังคะ?”
การจ้างคนนอกจากทาความสะอาดรังกระต่ายแล้ว ช่ วงค่ายัง
ต้องเฝ้ากระต่ายด้วย เพื่อป้ องกันไม่ให้มีคนขโมยกระต่าย และ
ป้องกันไม่ให้มีสัตว์ร้ายมาขโมยกระต่ายด้วย
ตอนที่ 268 มีโทรศัพท์ นี่มนั สะดวกจริง ๆ
เย่ฉูฉู่เห็นจ้าวเหวินเทาวางแผนไว้ดีแล้วจึงไม่ได้พูดอะไรให้
มากมายอี ก เธอหยิบแบบเสื้ อผ้าที่ ออกแบบไว้ช่วงนี้ ออกมา
จากตูเ้ พื่อให้เขาดู
จ้าวเหวินเทาเสนอความคิดเห็น
กระโปรงของชุดที่อยูบ่ นนิตยสารเหล่านั้นยาวลากพื้นจนกวาด
ขยะบนถนนได้แล้ว จนแบบของเธอดูเบาไปเลย
จ้าวเหวินเทาคิดไม่ถึงว่าภรรยาจะชอบโทรศัพท์ขนาดนี้ จึงเดิน
ไปกล่อมเสี่ ยวไป๋ หยางด้วยรอยยิม้
โจวหมิ่นกล่าวเคล้ารอยยิม้ “เธอติดตั้งโทรศัพท์ไว้ก็ดีแล้วล่ะ
เขียนจดหมายช้ามาก มีหลายเรื่ องที่ไม่สามารถคุ ยกับเธอให้
ชัดเจนได้ คุยโทรศัพท์นี่แหละดี”
เธอไม่รู้ แต่โจวหมิ่นกลับทราบดี
“ลืมอะไรคะ?” โจวหมิ่นไม่เข้าใจ
“คิดไม่ถึงเลยนะว่าสองพี่นอ้ งสะใภ้จะคุยกันออกรสขนาดนี้ ”
คุณแม่เย่กล่าว “คนไม่รู้คงคิดว่าพวกเธอเป็ นพี่นอ้ งแท้ ๆ”
“ฉันกับฉูฉู่ถูกชะตากันไงคะ” โจวหมิ่นกล่าว
ตอนนี้ โทรศัพท์ก็ดงั ขึ้น ตอนที่โจวหมิ่นรับสาย ก็ได้ยินเสี ยง
หงุดหงิดของเย่ฉูฉู่ดงั ขึ้นจากปลายสาย “พี่สะใภ้สาม ฉันขอคุย
กับแม่หน่อย เมื่อกี้ฉนั ลืมไปเสี ยสนิทเลย”
เย่ฉูฉู่เองก็เพิ่งนึกถึงแม่ จึงโทรศัพท์มาหาอีกครั้ง
“แม่สบายดีไหมคะ?” เย่ฉูฉู่ถาม
เย่ฉูฉู่รีบขอโทษขอโพยอย่างรวดเร็ ว คุณแม่เย่ก็ไม่ได้โทษลูก
สาวของนางจริ ง ๆ นางถามถึงสถานการณ์ภายในบ้าน
สองแม่ลูกคุยกันครู่ หนึ่งก็วาดสายไป
ไม่เพียงแค่เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่เพื่อให้เดินสะดวกเมื่อ
ฝนตกด้วย จ้าวเหวินเทาเห็ นถนนที่สะอาดสะอ้านในเมื อ งก็
รู ้สึกอิจฉามาก เขาจึงทาให้เกิดขึ้นจริ งที่ฟาร์มกระต่ายก่อนเป็ น
ที่แรก
ตอนที่ 269 ฟำร์ มกระต่ ำย
เพื่อให้บรรลุเป้ าหมายในการเลี้ยงกระต่ายแบบปล่อยให้อยู่ใน
ธรรมชาติสีเขียวบริ สุทธิ์ จ้าวเหวินเทาจึงใช้ความพยายามเป็น
อย่ า งยิ่ ง เพื่ อ ท าให้ เ ป็ นธรรมชาติ ไม่ ใ ห้ มี ร่ องรอยของ
สิ่ งประดิษฐ์โดยมนุ ษย์ที่มากเกินไป ผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าไม่เลว
เลยจริ ง ๆ
จ้าวเหวินเทาชะงัก
ลุงจ้าวพูดอีกว่า “นายไม่ตอ้ งไปหาใครหรอก เรื่ องดูแลเป็ ดกับ
ไก่แค่น้ ีฉนั ทาได้ ไม่ง้ นั ฉันจะมาหานายทาไมล่ะ?”
“มีคนเลี้ยงกระต่ายตั้งเยอะแยะขนาดนี้ ยังต้องให้คนแก่อย่าง
ฉันช่ วยอี กเหรอ? ฉันรั กษาความปลอดภัยหน้าประตู มาครึ่ ง
ค่อนชีวติ แล้ว ที่มาหานายก็เพื่อมาช่วยเฝ้าประตูให้ ระหว่างนั้น
ก็เลี้ยงไก่กบั เป็ ดนิ ด ๆ หน่ อย ๆ ด้วย ฉันกินนิ ดเดี ยว ที่เหลือ
นายก็เอาไปขาย ก็ได้รายได้เพิม่ ขึ้นด้วย”
ลุงจ้าวพึงพอใจจ้าวเหวินเทาก็พึงพอใจ หลังจากออกมาจาก
ห้องครัวก็ไปดู ที่ห้องของคุ ณพ่อจ้าวและคุ ณแม่ จา้ ว รู ปแบบ
ของห้องเหมือนกับห้องของลุงจ้าว มีการตกแต่งห้อง เพียงแต่
มี ห้องมากกว่าหนึ่ งห้อง ห้องนี้ เตรี ยมไว้เผื่อพวกพี่สาวใหญ่
จ้าวและพี่สาวห้าจ้าวมาค้างแรม
ตอนที่ 270 ควำมขุ่นเคืองของพีส่ ำมจ้ ำว
เย่ฉูฉู่ยมิ้ “คุณคิดไปไกลมากเลยนะ”
บางทีจา้ วเหวินเทาก็ไม่ได้ตระหนักว่าสภาพแวดล้อมของบ้าน
ตัวเองก็สุดยอดมาก
ฟาร์มกระต่ายดาเนินการตามปกติ คุณพ่อจ้าวและคุณแม่จา้ วก็
ย้ายไปอยู่แล้ว ย่อมต้องเริ่ มทาอาหารด้วย ตอนนี้ เต้าหู ้ของพี่
สามจ้าวเริ่ มส่ งไปที่ฟาร์มกระต่ายแล้ว
พี่สามจ้าวคิดว่าความโชคร้ายที่สุดของเขาคือการแต่งงานกับ
ภรรยาโง่เขลาคนนี้
“ทาไมต้องให้ผมเป็ นคนดูแล?”
พี่สามจ้าวหยิบรองเท้าขึ้นมาเพื่อจะทุบตีหล่อน พี่สะใภ้สาม
จ้าวย่อมไม่เปิ ดโอกาสให้เขาอยู่แล้ว หล่อนหมุนตัววิ่งออกมา
พร้อมกับตะโกน “เจ้าสามจ้าว ถ้าคุ ณกล้าลงมือกับฉันแม้แต่
ปลายนิ้ว ฉันจะไปบอกแม่ของคุณตอนนี้เลย! คุณเดาได้เลยว่า
แม่จะทายังไงกับคุณ แม่ตอ้ งไปบอกน้องหกว่าไม่ให้ซ้ื อเต้าหู ้
ของคุณ ราคาขายส่ งก็ไม่ตอ้ งการแล้ว ดูสิวา่ คุณจะทายังไง!”
“เมียโง่อย่างกับหมูแบบเธอ ทาไมฉันถึงได้ซวยมาแต่งงานกับ
เธอด้วยวะ!” พี่สามจ้าวกระทืบเท้าด้วยความโกรธ
พี่สะใภ้สามจ้าวก็ไม่กลัว หล่อนพอจะมองออกว่าอย่าขี้ขลาด
ต่ อ หน้า สามี หากขี้ ขลาดไปหนึ่ งครั้ ง ครั้ งหน้า เขาก็ จ ะท า
รุ นแรงยิ่งขึ้น คิดจะลงมือก็ลงมือเลย สู ้ไม่ได้ก็หนี เมื่อคุณไม่
กลัว ว่า จะอายคนอื่ น คนที่ อ ายก็จ ะกลายเป็ นเขา ดัง นั้น จะขี้
ขลาดไม่ได้!
พี่สะใภ้สามจ้าวเดินไปทางานที่ตอ้ งทาอย่างสงบจิตสงบใจ
………………………………………………………………
คุ ณ แม่ จ ้า วท าหน้า ที่ อ ยู่ห ลัง ครั ว คุ ณ พ่ อ จ้า วดู แ ลเรื่ อ งบัญ ชี
รายได้และรายจ่ายของฟาร์มกระต่าย จ้าวเหวินเทาเป็ นคนดูแล
เรื่ อ งเงิ น ตอนนี้ ลุ ง จ้า วยัง ไม่ ไ ด้ดู แ ลไก่ แ ละเป็ ด เขาแค่ ดู แล
ประตูและลาดตระเวนดูความเรี ยบร้อย
พี่สามจ้าวเกิดความไม่พอใจขึ้นอีกครั้ง ไม่ใช้คนในครอบครัว
แต่ไปใช้คนข้างนอก จ้าวเหวินเทาไม่นึกถึงครอบครัวสักนิ ด
เลย!
แต่เขาไม่คิดเลยว่า ถ้าเรี ยกเขาให้มาทางานที่ฟาร์มกระต่ายจริ ง
ๆ เขาก็ไม่มาเหมือนกัน!
พ่อของชุยต้าคนนี้ นอกจากลาเอียงเข้าข้างน้องชายตัวเองแล้ว
ยังเป็ นคนโง่ดว้ ยเพราะเขาทางานให้น้องชายและรับผิดชอบ
อย่างจริ งจัง ใช้ใจทางานยิง่ กว่างานของตัวเองเสี ยอีก
โดยเฉพาะภายใต้อิทธิ พลของเหล่าอันธพาลใหญ่ในช่วงหลาย
ปี มานี้ คนแบบนี้ มีเยอะมาก คนแบบนี้ ไม่สามารถใช้ชีวิตได้
ด้วยตนเอง แต่เป็ นคนงานที่ได้รับความดีความชอบจากเถ้าแก่
ยกตัวอย่างเช่นเถ้าแก่อย่างจ้าวเหวินเทา
โจวหมิ่นที่อยู่ทางฝั่งนั้นกล่าวด้วยรอยยิม้ “คนแบบจ้าวเหวินเทา
ไม่ยอมให้ใครมาบงการ เพราะเขารู ้ว่าตัวเองต้องทาอะไร รู ้ว่าทา
ยังไงถึงจะได้ในสิ่ งที่ตอ้ งการ การตระหนักรู ้ในตัวเองสู งมากเลย
นะ มีแค่เธอที่คุมเขาได้”
“ทาไมต้องคุมด้วยล่ะคะ เขาชอบอะไรก็ปล่อยให้เขาทาตามที่
ชอบ แบบนี้ถึงจะเป็ นตัวเขา” เย่ฉูฉู่กล่าว
เย่ฉูฉู่พูดด้วยความประหลาดใจ “เร็วขนาดนี้เลยเหรอคะ!”
“นี่ ถื อ ว่า ช้า มากเลยนะ ฤดู ใ บไม้ผ ลิ ใ กล้จ ะผ่า นไปแล้ว ฉู ฉู่
โดยทัว่ ไปแล้ว สไตล์เสื้ อผ้าที่เป็ นที่นิยมของฤดูร้อนจะออกมา
ในช่ วงฤดูใบไม้ผลิ สไตล์เสื้ อผ้าที่เป็นที่นิยมของฤดูหนาวจะ
ออกมาในช่ วงฤดูร้อน สไตล์เสื้ อผ้าที่เป็นที่นิยมของฤดูใบไม้
ผลิจะออกมาในช่ วงฤดู หนาว จะออกมาล่วงหน้าก่ อนถึ ง ฤดู
เธอต้องรี บทาเวลาออกแบบเสื้ อผ้าของฤดู ร้อนกับฤดู ห นาว
ออกมานะ พวกเราจะได้เตรี ยมตัวล่วงหน้า” โจวหมิ่นอธิบาย
เย่หมิงเป่ ยนอนลงบนเตียงและพูดคุยกับโจวหมิ่น
“หมินหมิ่น ความฝันของผมคือการได้ใช้ชีวิตกับคุณอย่างดีไป
ตลอดทั้งชี วิต” เย่หมิ งเป่ ยโอบกอดโจวหมิ่ น ทั้งยังพูดอย่าง
ลึกซึ้ง
โจวหมิ่นหัวเราะร่ า “ฉันหยอกเล่นน่ะ!”
โจวหมิ่ นพยักหน้า “คุ ณพูดถู ก แต่ กุยช่ ายที่ ฉันพูดถึ งเป็ นแค่
การเปรี ยบเปรย ไม่ใช่กยุ ช่ายไว้กิน แต่หมายถึงผูบ้ ริ โภค”
เย่หมิงเป่ ยแสดงท่าทางตั้งใจฟัง
“ทาไมคุณถึงซื้อให้ฉนั ล่ะ?”
“ก็เพราะคุณชอบไง”
เย่หมิงเป่ ยไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรนัก
“เพราะชอบ?”
“สวย?”
………………………………………………………………
โจวหมิ่ นลู บหน้าเขา “หมิ งเป่ ย ที่ ฉันพูดเรื่ องพวกนี้ ไม่ใช่ ว่า
เสียดายอะไรหรอกค่ ะ แต่ ฉั น อยากบอกคุ ณ ว่ า บางครั้ ง
ความชอบของพวกเราก็ไม่ใช่สิ่งที่เราชอบจริ ง ๆ แต่เป็ นผูข้ าย
ที่บอกให้เราชอบ ถ้าจับจุดนี้ ได้ก็เท่ากับจับโดนรหัสความมัง่
คัง่ เลย แบบนั้นก็จะหาเงินได้ง่ายมากเลยล่ะค่ะ!”
งานออกแบบชุดในฤดูร้อนของเย่ฉูฉู่ชุดนี้คล้ายกับชุดฮัน่ ฝู แม้
จะเรี ยบง่ายกว่าชุดฮัน่ ฝูมาก แต่ยงั รักษาความเรี ยบหรู คลาสสิ ก
ของชุดฮัน่ ฝูไว้ได้ และตัดเย็บด้วยเนื้อผ้าคุณภาพสู ง ภายใต้การ
เสนอสิ นค้าของนางแบบที่เข้ากับบรรยากาศก็จะทาให้ดูสะดุด
ตาและไม่สามารถปล่อยผ่านได้
“พวกคนหนุ่มสาวนี่ไม่รู้เรื่ องเลยนะ”
“พวกหนุ่ ม สาวจะไปเข้า ใจอะไร้ รู ้ แ ต่ อ ยากกิ น แป้ ง ขาวนั่น
แหละ แป้งขาวนัน่ คิดจะกินก็กินได้เหรอ?”
พ่อของชุยต้าจึงสบายใจ
เย่ฉูฉู่รีบยื่นมือออกไปปลอบมัน จากนั้นจึงหยิบนกหวีดของ
ตัวเองขึ้นมาเป่ า ลูกลิงจึงสงบลงในทันที เย่ฉูฉู่คิดว่าลูกลิงคง
ชอบเสี ยงนกหวีดมาก
วันเวลาล่วงเลยผ่านไปอย่างช้า ๆ ต้นหอมขนาดเล็กสี เขียวก็
เติบโตขึ้น ผักกาดขาวหัวเล็กก็ปรากฏใบเล็ก ๆ ออกมาให้เห็น
ดอกไม้ที่อยูโ่ ดยรอบก็มีดอกตูมโผล่ออกมา ใช้เวลาอีกไม่นาน
สวนขนาดเล็กแห่งนี้กม็ ีสีสันสดใสทั้งสวน
ในตอนนี้ลูกลิงเข้าไปซ่อนตัวในบ้านแล้ว
เฮ่ อซงจือแอบรู ้สึกไม่พอใจเท่าไรนัก “ลิงบ้านเธอนี่ ทาไมทา
ตัวเหมือนเด็กผูห้ ญิงเลย เห็นคนก็ไปหลบซ่ อน ฉันมาตั้งหลาย
ครั้งแล้ว แต่กย็ งั ไม่คุน้ หน้ากันอีก!”
แม้เย่ฉูฉู่จะไม่ ค่อยชอบอี กฝ่ ายเท่ าไร แต่ เมื่ อเห็ นก็ตอ้ งเรี ยก
ทักทาย “สะใภ้หวังกลับมาจากทานาแล้วเหรอ รี บเข้ามานัง่ สิ !”
เธอหยิบเก้าอี้ของลูกลิงเข้ามาวางต้อนรับ
ภรรยาเหล่าหวังสามยื่นมือออกมาตีเฮ่อซงจือ “ก็ได้ยินมาจาก
ยายฉวี่น่ะสิ ! แม่สามีพูดแบบนี้แล้ว ยังจะเป็ นเรื่ องโกหกได้อีก
เหรอ?”
เฮ่ อ ซงจื อ ถึ ง กับ หมดแรง “มี ลู ก แล้ว ยัง จะให้ฉัน เป็ นแม่ สื่ อ
ทาไมอีก!”
“เฮ้อ!” เฮ่อซงจือถอนหายใจอีกครั้ง
“เธอดูสิผูช้ ายคนไหนบ้างที่เดินวนอยู่รอบเตาทาอาหารบ้าง!”
ภรรยาเหล่าหวังสามกล่าว
“ไม่ได้พูดเหลวไหลสักหน่ อย ตอนที่พวกเราหมั้นกันแรก ๆ
ผมยังไม่เคยคิดเรื่ องนี้เลย”
“แล้วคุณคิดอะไร?”
“ตอนนี้เฮ่อซงจือลาบากใจแล้วล่ะ” เย่ฉูฉู่เปลี่ยนหัวข้อสนทนา
จ้าวเหวินเทาก็พูดตามเออออว่า “นัน่ สิ ฝ่ ายหญิงเป็นน้องสาว
ของเพื่อนตัวเอง เกิดเรื่ องแบบนี้ แม้ว่าจะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ
หล่ อนที่ เป็ นแม่ สื่อ แต่ ถา้ ฝ่ ายชายไม่ ยอมจ่ ายเงิ นค่ าสิ นสอด
หล่อนจะรับเงินก็ไม่ได้ ไม่รับก็ไม่ได้อีก เฮ้อ ทาเรื่ องแบบนี้
จริ ง ๆ เล๊ย!”
………………………………………………………………
ตอนที่ 276 การประนีประนอม
“ก็ค ้า งจ่ า ยนั่น แหละ แต่ ก็แ ค่ ส่ ว นหนึ่ ง ที่ ดิ น ไม่ ไ ด้ค ้า งจ่ า ย
ค่าจ้างก็ไม่ได้คา้ งจ่าย แต่กจ็ ่ายให้อีกทีหลังฤดูใบไม้ร่วง ถ้าฝ่ าย
หญิ งต้องการสิ นสอดเยอะ ๆ ผมคิ ดว่าตระกูลฉวี่คงทาเรื่ อ ง
เหลืออดจริ ง ๆ แล้วล่ะ” จ้าวเหวินเทากล่าว
“บ้านของพวกเขาก็เลี้ยงกระต่ายด้วยไม่ใช่ เหรอ? ที่ดินก็เยอะ
มาก ปี ที่แล้วไม่มีเงินเก็บสักนิดเลยเหรอ?” เย่ฉูฉู่ไม่ค่อยเข้าใจ
ฐานะทางบ้านของตระกูล ฉวี่ เธอรู ้ แค่ ว่าบ้านของพวกเขาดู
เหมือนจะมีที่ดินเยอะมาก
เฮ่อซงจือโมโหทุกครั้งที่นาคาพูดไปบอกอีกฝ่ าย
“เจ้ารองฉวีว่ า่ ยังไงบ้าง?”
“แล้วเจ้ารองฉวีว่ า่ ยังไงบ้าง?”
“เจ้ารองฉวี่บอกว่าแต่งงานไปก่อน หลังจากนี้ค่อยทยอยซื้ อให้
ฝ่ ายหญิง เธอคิดว่าหลังจากแต่งงานแล้วค่อยซื้ อให้จะเรี ยกว่า
สิ นสอดเหรอ?” เฮ่อซงจือพูดด้วยความหงุดหงิด “ไม่เคยเห็น
ใครเป็ นแบบนี้มาก่อนเลย!”
เรื่ อ งนี้ ยื้อ กัน ไปยื้อ กัน มากัน อยู่ห ลายครั้ งในที่ สุ ด ก็ส รุ ป ได้
ตระกูลฉวีต่ อบตกลงที่จะเย็บชุดให้ฝ่ายหญิงสองชุด นอกจากนี้
ของอย่างอื่นจะถูกแปลงเป็ นเงินอีกสี่ ร้อยหยวน ส่ วนบ้านยัง
ต้องรออีกสองปี ถึงจะสร้างได้ ฝ่ ายหญิงตอบตกลงแล้ว ถ้าไม่
ตอบตกลงก็คงไม่ได้ เพราะหลานในท้องไม่อนุญาตน่ะสิ
ตอนนี้เจ้ารองฉวีก่ ม็ าหาที่บา้ น
เย่ฉูฉู่หันไปมองก็แอบประหลาดใจ เธอพบว่าเจ้ารองฉวี่สวม
ใส่ ดว้ ยชุดจงซานจวงตัวใหม่ครึ่ งตัว ส่ วนกางเกงถูกรี ดจนเรี ยบ
รองเท้าก็เป็ นรองเท้าหนังด้วย!
………………………………………………………………
ตอนที่ 277 เสี ยงปื น
การแต่งงานต้องเลือกตามฤกษ์ยามที่ดี ตระกูลฉวี่ย่อมปฏิบตั ิ
ตามอยูแ่ ล้ว ช่วงกลางดึกจึงส่ งบ่าวสาวเข้าห้องหอ ทาการกราบ
ไหว้ฟ้าดินแล้วเข้าห้องหอ ช่ วงเช้าวันนี้ เป็นงานเลี้ยงของญาติ
ทางฝ่ ายชายและฝ่ ายหญิ ง ตอนค่ า เป็ นการขอบคุ ณ คนที่ ม า
ช่วยงาน แต่จา้ วเหวินเทาไม่อยูบ่ า้ นในช่วงเช้า เจ้ารองฉวี่จึงมา
เชิญช่วงค่า
เย่ฉูฉู่กล่าว “งั้นคุ ณไปเถอะ ดื่ มน้อย ๆ หน่ อยนะคะ รี บกลับ
บ้านด้วย พรุ่ งนี้ยงั ต้องออกไปขายของอีก”
เย่ฉูฉู่ไม่ได้คิดอะไร เป็นเพราะเธอคุยกับโจวหมิ่นมากเกินไป
จึงไม่ได้มีความคิดอนุ รักษนิ ยมเหมือนกับคนในหมู่บา้ น เธอ
เองก็ไม่คิดว่าคนในหมู่บา้ นจะเป็ นพวกอนุรักษนิยม ไม่เช่นนั้น
พวกเขาจะพูดเรื่ องแบบนี้เหรอ?
“พี่สะใภ้สามเคยพูดกับฉันหนึ่งประประโยค ขอแค่เธอไม่รู้สึก
อาย ความอายนั้นก็จะเป็ นของคนอื่น เรื่ องนี้ถา้ ชุนเยีย่ นไม่รู้สึก
อะไรก็ไม่เป็ นอะไรแล้วล่ะ”
เย่ฉูฉู่กล่าวเคล้ารอยยิม้ “พวกเขาสองคนใช้ชีวิตกันอย่างดี คน
นอกจะเข้าไปยุง่ ทาไมล่ะ อีกอย่างมีอะไรให้น่าเข้าไปยุง่ เหรอ”
“เธอยังไม่ได้ถามชุนเยีย่ นเหรอ?”
“เขาไม่อนุญาตให้ล่าสัตว์แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“พี่หก!”
“พวกนายจะไปไหนกัน?” จ้าวเหวินเทาเห็นจึงเอ่ยปากถาม
จ้าวเหวินเทากาชับกับพวกเขาสองสามคา จากนั้นก็นาทุกคน
ไป
จ้า วเหวิน เทาส่ า ยหน้า “ด้า นหลัง ฟาร์ ม กระต่ า ยเป็ นร่ อ งน้ า
ขนาดใหญ่ ลึกหลายเมตรเลย ทาประตูหลังไม่ได้มีประโยชน์
อะไร ก็เลยมีแค่ประตูใหญ่ดา้ นหน้า”
จ้าวเหวินเทาพาพวกเขาเดินลัดเลาะไปตามรั้วลวดหนามที่อยู่
รอบ ๆ ฟาร์ กระต่ายมาจนถึงร่ องน้ าขนาดใหญ่ที่อยู่ดา้ นหลัง
จุดที่ลึกที่สุดมีความลึกอยู่ที่สิบกว่าเมตร มีหญ้างอกขึ้นมา แต่
ไม่มีตน้ ไม้ ต่อให้ลงไปจากตรงนี้กล็ าบากมากอยูด่ ี
“ถ้าไม่ได้เข้าประตูใหญ่จะเข้าไปในฟาร์ มกระต่ายได้ไหม?”
คนๆ นั้นมองดูร่องน้ าขนาดใหญ่พลางเอ่ยถาม
“ได้!”
คนๆ นั้นเห็นก็เลียนแบบท่าทางของจ้าวเหวินเทาด้วยการโอบ
ต้นไม้แล้วปี นขึ้นไป เขาไม่ได้ออกแรงอะไรเลย คนของเขาก็
ขึ้ น มาเช่ น เดี ย วกัน ชุ ย เอ้อ และคนอื่ น ๆ ก็ไ ม่ ไ ด้ยืน เงอะงะ
สาหรับคนในหมู่บา้ นแล้ว การปี นต้นไม้และขึ้นกาแพงเป็ น
ความสามารถตามธรรมชาติ ไม่ได้เป็ นเรื่ องยากอะไร
ชุยเอ้อเห็นพี่ชายไม่เป็ นอะไรก็โล่งอก
ยังไม่รอให้จา้ วเหวินเทาตอบอะไรก็เดินไปแล้ว
“ออกมา ถ้าไม่ออกมาจะยิงแล้วนะ!”
“อย่ายิงนะ พวกเราออกไปแล้ว!”
จากนั้นเงาสองคนก็ปรากฏตัวออกมาจากด้านในกระสอบ คน
จากสถานีตารวจจึงเข้าไปมัดตัวบุคคลทั้งสองไว้
“ค้นหาอย่างละเอียดใหม่อีกครั้ง!”
เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนนี้ ไม่ใช่ คนที่สถานี ตารวจต้องการตัว
แต่จบั ไว้เพื่อนาไปสอบปากคา
จ้าวเหวินเทาไม่ได้ตามไป แต่ร่วมค้นหากับเจ้าหน้าที่ตารวจ
คนอื่น ๆ ต่อ ตอนที่มาถึงรังกระต่าย จ้าวเหวินเทาก็รู้สึกได้ว่า
เกิ ด ปั ญ หาขึ้ น กับ กระต่ า ย บ้า นกระต่ า ยกว้า งขวางมาก แต่
กระต่ายกลับกระจุกตัวอยูท่ ี่มุมบ้าน ส่ วนอีกมุมหนึ่งมีกองขยะ
วางอยู่
ชุยต้ากลัวว่าจ้าวเหวินเทาจะโทษว่าพวกเขาไม่ทาความสะอาด
รังกระต่าย แต่จา้ วเหวินเทาไม่ได้สนใจเรื่ องนี้ เมื่อได้ยนิ แบบนี้
เขาจึ งเปิ ดประตู เข้าไปในบ้านดิ น จากนั้นก็พุ่งเข้าไปยังรั งที่
ผลิตกระต่ายนั้น ยังไม่ทนั ที่เขาจะได้ลงมือทาอะไร รังกระต่าย
นั้นก็แหวกออกอัตโนมัติ จากนั้นก็มีคนผูห้ นึ่ งกระโดดขึ้นมา
ทั้งยังถือมีดที่ส่องประกายวาววับเล่มหนึ่งอยูใ่ นมือ
………………………………………………………………
ตอนที่ 279 ความน่ ากลัวกลางดึก
จ้าวเหวินเทาทะเลาะกับคนอื่นมาตั้งแต่เด็ก เมื่อเห็นแบบนี้ ก็
หลบไปด้านข้างตามสัญชาตญาณ แต่ดา้ นหลังของเขาคือชุ ยต้า
จ้าวเหวินเทาจึงยกเท้าเตะด้วยความรี บร้อนจนอีกฝ่ ายกระเด็น
ออกไป
คนของสถานีตารวจนาตัวคนเหล่านี้เข้าไปในห้องชัว่ คราวเพื่อ
สอบปากคา มีแค่ลุงจ้าวที่ยืนฟั งอยู่ขา้ ง ๆ ได้ เพียงไม่นานลุง
จ้าวก็เดินออกมา ปากก็ก่นด่าว่า “แม่งเอ๊ย ยังมีอีกตัววิ่งเข้าไป
ในหมู่บา้ นแล้ว!”
จ้าวเหวินเทาก็อยากเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เมื่อได้ยนิ
คาพูดนี้ สมองของเขาก็เกิดเสี ยงวิ้งๆ…อะไรนะ วิ่งเข้าไปใน
หมู่บา้ น บ้านของเขาอยู่ติดกับถนนสาหรับเข้าไปในหมู่บา้ น
นะ!
หม่าเสี่ ยวลิ่วและเถียนชีมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในช่วงเวลานี้
คนอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกัน พวกเขาถูกเถียนชีลา้ งสมองไปไม่นอ้ ย
เขาบอกคนพวกนี้ว่าอะไรคือกล้าหาญจนอิ่มตายกับขี้ขลาดจน
อดตาย บอกว่าถ้าอยากได้เงินเยอะ ๆ ก็ตอ้ งเสี่ ยง บนตัวจึงมีมีด
เล่มเล็กเพิ่มเข้ามา คืนนี้หนีออกมาแล้ว เขาอาจจะนาถุงเงินติด
ตัวไปด้วยท่ามกลางความโกลาหล แม้จะไม่ทราบว่ามี เท่าไร
แต่ก็คงไม่นอ้ ย ดังนั้นเมื่อซ่ อนตัวอยู่ในรังกระต่ายของจ้าวเห
วินเทาแล้วถูกเจอตัวจึงชักมีดออกมาโดยไม่รู้ตวั
ผลลัพ ธ์ ที่ ไ ด้ไ ม่ ต ้อ งพู ด ถึ ง เลย หม่ า เสี่ ย วลิ่ ว ถู ก จับตัว ก็รู้ สึ ก
เสี ยใจ เล่นพนันกับพกมีดเพื่อทาร้ายคนอื่นแตกต่างกันอย่างไร
จุดนี้เขาพอจะทราบ
จ้า วเหวิ น เทาฟั ง ลุ ง จ้า วพู ด ยัง ไม่ ทัน จบก็ แ ทรกขึ้ นมาหนึ่ ง
ประโยค “ผมกลับบ้านก่อนนะ!”
จากนั้นก็วงิ่ กลับไป
ชุ ยต้าและคนอื่น ๆ ก็เพิ่งจะเข้าใจได้ว่าทาไมจ้าวเหวินเทาถึง
รี บร้อนขนาดนั้น จึงรี บวิง่ ตามไปทันที
จ้าวเหวินเทาวิ่งเร็ วมาก แต่เขากลับรู ้สึกว่ายังช้า เขาอยากกลับ
ถึงบ้านในทันทีจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว
การกระทาของเงานั้นเร็วมาก กระจกหน้าต่างถูกทุบจนแตกใน
เวลาอันรวดเร็ ว จากนั้นมันก็ยนื่ มือเข้ามาเปิ ดหน้าต่าง เย่ฉูฉู่จึง
ยกไม้ตะบองขึ้นมาแล้วเหวีย่ งฟาดใส่ มือข้างนั้นอย่างแรง!
……
“…อย่าลังเล จงตัดสิ นใจอย่างเด็ดขาด และต้องไร้ความปรานี
เมื่อเหวี่ยงไม้ตะบองลงไปจงใช้แรงทั้งหมดที่เจ้ามี ต่อให้ตีไม่
ตายก็ตอ้ งทาให้อีกฝ่ ายร้องด้วยความเจ็บปวดจนทนไม่ไหว มี
แค่วธิ ีน้ ี เจ้าถึงจะมีโอกาสรอดชีวติ เข้าใจหรื อไม่สาวน้อย?”
เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าคนนั้นพยักหน้าแรง ๆ “องค์ชายอย่าได้
กังวลใจ ข้าจะเรี ยนทักษะกระบองอย่างดี ข้าอยากปกป้ ององค์
ชาย!”
……
ครั้ งนี้ คนผู ้น้ ัน ไหวตัว ได้ใ นทัน ที จึ ง ใช้มื อ ข้า งหนึ่ งจับ ไม้
ตะบองแล้วดึงเข้าหาตัวเพื่อลากเย่ฉูฉู่ออกไป เย่ฉูฉู่จึงปล่อยมือ
ออกจากไม้ตะบอง ทาให้เขาถึงกับซวนเซ
เย่ฉูฉู่ดึงมือกลับมาควานหาไม้กวาดที่อยู่บนเตียงแล้วกระโดด
ออกจากหน้าต่าง ลูกของเธอยังนอนอยู่ในบ้าน ไม่ว่าอย่างไร
เธอก็จะปล่อยให้อีกฝ่ ายเข้ามารบกวนลูกชายของตนไม่ได้!
………………………………………………………………
ตอนที่ 280 ลูกลิงผู้กล้าหาญ
เธอไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือเพราะเกรงว่าจะทาให้ลูกตกใจ
กลัว จึงหวังจะทุบตีอีกฝ่ ายให้ออกไปจากบ้านด้วยตัวเอง
เย่ฉูฉู่เห็นมีดเล่มนั้นก็เข้าใจได้ในทันทีว่าถ้าไม่ใช่เพราะลูกลิง
มาขัดขวางไว้ มีดเล่มนี้ คงแทงใส่ ร่างของเธอไปแล้ว เมื่อเห็น
ลูกลิงยังคงข่วนหน้าของอีกฝ่ าย เธอจึงใช้ไม้กวาดปั ดมีดไปอีก
ด้านหนึ่ งในสวน จากนั้นก็ยกเท้าเตะเข้าที่ทอ้ งของชายคนนั้น
จนกระเด็น ยังไม่จบแค่น้ ี เย่ฉูฉู่รู้สึกโกรธมากที่เขากล้าเอามีด
มาทาร้ายคนอื่น เธอจึงวิ่งไปที่ดา้ นข้างสวน แล้วหยิบจอบเล่ม
หนึ่งมาทุบซ้ าลงที่ขาของเขา
“อ๊าก!” ชายหนุ่มแผดเสี ยงร้องด้วยความเจ็บปวด
โชคดีที่ร่างกายของลูกลิงยังเกาะอยู่บนหน้าของอีกฝ่ าย เสี ยง
นั้นจึงไม่ดงั เท่าไรนัก
“พี่หก!”
“พี่หกจ้าว!”
ทุ กคนที่ อยู่ด้านหลังวิ่งกระหื ดกระหอบมาที่ หน้าประตูบา้ น
ฉากที่เห็นก็ทาเอางงเป็ นไก่ตาแตกเช่นกัน
“ภรรยา!” จ้าวเหวินเทาเดินเข้ามาหา
เถี ย นชี น อนร้ อ งโอดโอยอยู่ ที่ พ้ื น ใบหน้า ชุ่ ม ไปด้ว ยเลื อ ด
สภาพของเขาดูน่าสยดสยองมาก
“จับตัวได้ไหม?” เจ้าหน้าของสถานีตารวจที่อยูด่ า้ นหลังก็ตาม
มาถึงแล้ว เมื่อเห็นสภาพของเถียนชี ก็ถึงกับชะงัก “นี่ มนั เกิด
อะไรขึ้น?”
เย่ฉูฉู่แอบรู ้สึกเขินอาย
เย่ฉูฉู่รู้สึกได้ว่าจ้าวเหวินเทากาลังตัวสั่น ร่ างกายของเธออ่อน
ยวบลงขณะกอดตอบกลับไป “เหวินเทา ไม่ เป็ นไรแล้ว ฉัน
ไม่ใช่เด็ก ๆ นะคะ ฉันโตเป็ นผูใ้ หญ่แล้ว ฉันรู ้วา่ ควรทายังไง”
จ้าวเหวินเทาไม่ได้พูดอะไร
เย่ฉูฉู่พูดเคล้ารอยยิ้ม “โชคของคุ ณดี ออกขนาดนั้น คนเลว ๆ
มาเจอกับคุณคงได้จบเห่กนั หมด!”
ภรรยาของเหล่าหวังสามแขวนถุงกระสอบไว้บนตะปูที่ตอก
อยูบ่ นกาแพง นางเดินเข้ามาในบ้านพลางกล่าว “อากาศวันนี้ก็
จริ ง ๆ เลย เมื่อวานท้องฟ้ายังปลอดโปร่ งอยูเ่ ลย วันนี้ดนั ฝนตก
หนักขนาดนี้ต้ งั แต่เช้าซะงั้น!”
“ฝนตกสั ก หน่ อ ยก็เ ป็ นเรื่ อ งที่ ดี น ะ ที่ น าก็แ อบแห้ง แล้ง นิ ด
หน่อยแล้วเหมือนกัน” พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าว
พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าว “ของแบบนั้นแพงมากเลยนะ”
“หา ฆาตกร!”
“หา!”
แต่พี่สะใภ้รองจ้าวและภรรยาของเหล่าหวังสามชอบความเกิน
จริ ง พวกหล่ อนพยักหน้า “นั่นสิ แต่ ก็พอจะอภัยได้แหละ มี
ฆาตกรเข้า มาช่ ว งกลางดึ ก แบบนี้ ใครเจอก็ต ้อ งสู ้ ยิบ ตากัน
ทั้งนั้นแหละ!”
“ไม่วา่ จะพูดยังไง เย่ฉูฉู่นี่กส็ ุ ดยอดเลยล่ะ!”
เมื่อคืนเย่ฉูฉู่เพียงคนเดียวก็สามารถทาให้เถียนชีนอนหมอบลง
ได้ ลูกลิงก็ข่วนหน้าโจร ไม่เพียงแค่ทาให้พวกหล่อนรู ้สึกว่าเย่
ฉู ฉู่เป็ นคนที่แตะต้องไม่ได้ ทุกคนที่อยูใ่ นหมู่บา้ นที่ทราบเรื่ อง
ก็ต กตะลึ ง เช่ น เดี ย วกัน ภายในใจก็อ ดคิ ด ไม่ ไ ด้ หลัง จากนี้
อย่าได้ไปยัว่ โมโหภรรยาสาวคนนั้นเชี ยว ที่สาคัญคือกล้าที่จะ
เริ่ มลงมือในช่วงเวลาวิกฤติดว้ ย!
ตอนที่ 283 เรื่ องหมาๆ แมวๆ
“ไม่ดูกล่องนี้หน่อยเหรอ?” จ้าวเหวินเทาพูดเตือน
เย่ฉูฉู่หมดคาพูด “แล้วลูกแมวชื่ออะไร?”
“พรื ด!”
เลี้ ย งลิ ง ตั้ง ชื่ อ ไฉไฉ เลี้ ย งสุ นัข สองตัว ตั้ง ชื่ อ ว่ า หลายไฉกับ
ฟาไฉ เลี้ยงแมวก็ต้ งั ชื่อจินเป่ ากับหยวนเป่ าอีก คนที่ไม่รู้คงคิด
ว่าบ้านนี้ตกลงไปอยูใ่ นถังเงินแล้ว!
“ได้ ชื่ อ ที่ ภ รรยาตั้ง เพราะกว่ า ที่ ฉั น ตั้ง อี ก !” จ้า วเหวิ น เทา
หัวเราะคิกคัก
“ได้เลย!”
ผลลัพธ์ที่ได้ลูกแมวทั้งสองตัวก็ไม่ได้สนใจ ยังคงยกก้นเล็ก ๆ
มุดเข้าไปด้านในต่อ เย่ฉูฉู่เห็นก็ขามาก
จ้า วเหวิน เทายัง ไม่ ไ ด้ส่ ง เสี ย งอะไร ต้า เฮยกับเสี่ ย วเฮยก็วิ่ ง
ออกไปแล้ว ทั้งยังส่ งเสี ยงขู่เตือนด้วยเสี ยงไร้เดียงสา
หางของต้าเฮยและเสี่ ยวเฮยแกว่งไปมาราวกับกงล้อไฟ
จ้าวเหวินเทาหันไปมองก็พบว่าเป็ นจ้าวเหวินอู่
จ้า วเหวิน อู่ ก็ไ ม่ ไ ด้บ ัง คับ เขา จึ ง จุ ด บุ ห รี่ ใ ห้ต ัว เองหนึ่ ง มวน
หลังจากสู บเข้าไปหนึ่ งคาก็พูดว่า”เฮ้อ อย่าพูดถึงเลย ปี ที่แล้ว
ฉัน ขุด สุ ส านไปเยอะมาก ทาให้ฉัน ได้ เ งิ น มานิ ด หน่ อ ย ฤดู
ใบไม้ผลิปีนี้กอ็ อกไปต่างที่กบั คนอื่น ๆ เพราะอยากรวย”
จ้าวเหวินอู่ถอนหายใจอีกครั้งและเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “เมื่อ
ไม่กี่วนั ก่อนมีจบั พวกเล่นพนัน พวกมันวิ่งไปที่ฟาร์ มกระต่าย
นายเหรอ?”
“มีฆาตกรวิ่งมาที่บา้ นพวกฉันด้วย!” จ้าวเหวินเทาพูดถึงเรื่ องนี้
ก็รู้สึกโมโหขึ้นมา เขาจึงเล่าเรื่ องที่เกิดขึ้นให้ฟังหนึ่ งรอบ “ไม่
งั้นฉันจะเลี้ยงหมาไว้สองตัวทาไมล่ะ!”
ตอนที่ 284 ยืมเงิน
“ฉันเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าทาไมในหมู่บา้ นถึงได้มีฆาตกรวิ่งเข้า
มาได้!” จ้าวเหวินอู่อดั ควันบุหรี่ เข้าเต็มปอดแรง ๆ หนึ่ งครั้ง
“ฉันเพิ่งกลับมาถึงก็ได้ยินเรื่ องนี้ หมอนัน่ อยู่ในหมู่บา้ นเรามา
เดือนกว่าแล้วนะ แต่ไม่มีใครในหมู่บา้ นสังเกตเลย!”
“นายจะยืมเท่าไหร่ ?” จ้าวเหวินเทาถาม
“จะเอาตอนไหน?”
“ได้ ขอบใจมากนะเหวินเทา!”
ก่อนหน้านี้ เขาก็อาจจะเห็นความสาคัญของเงินกี่สิบหยวนนี้
แต่เมื่อได้เห็นเงินร้อยไปถึงพัน และเงินหลักหมื่น เรี ยกให้เขา
ไปหาเงินหลักสิ บนัน่ เรี ยกว่าทรมานไม่ใช่เหรอ?
จ้าวเหวินเทาเห็นว่าเขาไม่อยากคุยก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่า
นั้น จึงตอบไปตามน้ าว่า “เรื่ องนั้นเหรอ สาเร็ จแล้วล่ะ ทาเป็น
ภาพยนตร์แล้ว ได้ยนิ มาว่าขายให้กบั ข้างนอกด้วย ขายยังไงฉัน
ก็ไม่ค่อยรู ้เหมือนกัน แต่คณะละครดังมากเลยนะ นัน่ เป็ นงาน
ที่ฉนั คิดเลยนะ!”
จ้าวเหวินเทาภาคภูมิใจมาก
“นั่นสิ นายเป็ นคนคิดออกมาทั้งหมด ไม่ง้ นั พวกเขาจะดังได้
เหรอ? แล้วไงต่อ ได้ให้เงินนายไหม?” จ้าวเหวินอู่ขยิบตา
จ้าวเหวินอู่ก็พูดคุยขึ้นมา เขาเล่าถึงประสบการณ์ที่วิ่งออกไป
ข้างนอกมาครึ่ งปี นี้ จ้าวเหวินเทาสร้างคอกให้สุนขั ไปพลางฟัง
ไปพลาง ครั้นสร้างคอกสุ นขั เสร็ จก็ฟังจบพอดี ท้องฟ้ าก็มืดลง
แล้วด้วย
“กินข้าวเย็นด้วยกันก่อนแล้วค่อยกลับสิ ” จ้าวเหวินเทาบอกให้
เขาอยูก่ ่อน
“คุณตอบตกลงไปแล้ว?”
“เรื่ องแบบนี้ฉนั จะปฏิเสธได้เหรอ? ทั้งเคยช่วยชีวติ แถมยังเป็ น
เรื่ องเร่ งด่ วนอี ก” จ้าวเหวินเทาล้างมื อพลางกล่าว “ผมคิดไว้
แล้ว ไม่ว่าจะยังไงก็แซ่ จา้ วเหมือนกัน มีเรื่ องมาขอให้ช่วยจะ
ไม่สนใจก็ไม่ได้ อีกอย่างนึงถ้าเราไม่มีเงินคนอื่นก็ไม่สนใจ ผม
มีเงิน ก็ตอ้ งมีคนมาขอยืมอยู่แล้ว ญาติจน ๆ มีเยอะแยะขนาด
นั้น ไม่ให้เขายืมก็ยงั มีคนอื่นอีก ถ้าให้เขายืมแล้ว มีคนอื่นมา
ยืมอีกก็จะได้มีขอ้ อ้างไม่ให้ยืมไง อีกอย่างผมก็ยมื ชาวบ้านเขา
เหมือนกัน”
เย่ฉูฉู่เข้าใจความหมายของจ้าวเหวินเทา แม้ว่าในบ้านจะไม่มี
เงินหนึ่งพันหยวน แต่กส็ ามารถไปถอนออกมาจากธนาคารได้
ทุกเวลา
“คุ ณดู แล้วกันว่าจะทายังไง แต่คุณก็ตอ้ งเผื่อใจไว้ด้วยนะคะ
ขุดสุ สานแบบนี้ ยงั ไงก็รู้สึกน่ ากลัวอยู่ดี” เย่ฉูฉู่ไม่ได้รู้สึกดีกบั
การขุดสุ สานเลย
จ้าวเหวินเทาได้ยนิ ก็รีบไปหาถ้วยมาเพราะรอไม่ไหวแล้ว
พี่สามจ้าวกล่าว “ฤดูหนาวยังมีงานอะไรให้ทาอีก!”
“ความหมายของคุณคือ คุณจะเปิ ดโรงงานเต้าหูเ้ พื่อทาเต้าหู แ้ ค่
ฤดูหนาวอย่างเดียว?”
“ใคร?”
“เหวินอู่กบั ภรรยาเขาไง”
ทางฝั่งพี่รองจ้าวและพี่สะใภ้รองจ้าวก็กาลังพูดคุยเรื่ องจ้าวเหวิ
นอู่อยูเ่ หมือนกัน
“เร็วมากเลยนะ!”
พี่สะใภ้รองจ้าวถามขึ้น “ไม่ได้ตรวจสอบอะไรเลยเหรอ?”
“ภรรยาเหล่าหวังสามเล่าให้ฟัง”
พี่สี่จา้ วเดินออกไปทันที
พี่สี่จา้ วลูบหัวลาขณะบ่น
คาพูดเหล่านี้เขาก็แค่พูดกับสัตว์เลี้ยงที่บา้ น ถ้าพูดกับคนอื่นคง
มี คนคิ ดว่าเขาป่ วยเป็ นโรคประสาทแน่ นอน แถมไม่ ได้ป่วย
น้อย ๆ ด้วย เพราะไม่ มีใครรั งเกี ยจชี วิตที่ ยืนยาวแต่ กงั วลว่า
ชีวิตจะสั้นกันทั้งนั้น มีแต่เขานี่แหละที่กลัวว่าจะมีอายุขยั นาน
เกินไป ถึงเวลาที่กินอะไรไม่ลง จะไปไหนก็ไปไม่ได้ มีชีวิต
ต่อไปก็ทุกข์ทรมาน สู ้ตายไปยังจะดีเสี ยกว่า
จ้าวเหวินเทาก็เดินออกมาและไปหาคุณพ่อจ้าว
คุณพ่อจ้าวตรวจรังกระต่ายเสร็ จเพิ่งกลับมาพอดี ทั้งยังถือลูก
ซิ่ง(แอปริ คอต)มาหนึ่งกามือด้วย จ้าวเหวินเทาเห็นก็หยิบไปใส่
ในกะละมั ง แล้ ว เอาไปล้ า งน้ า จากนั้ นสองพ่ อ ลู ก จึ ง นั่ ง
รั บ ประทานอยู่ห น้า โต๊ ะ หิ น ขนาดเล็ก บริ เ วณพื้ น ที่ โ ล่ ง แจ้ง
ข้างหน้าห้องนอน
“ไปดูเป็ดของเขาที่ริมตลิ่งแล้ว” คุณพ่อจ้าวรับประทานลูกซิ่ ง
ไปหนึ่ งลูกก็ไม่รับประทานอี ก “เปรี้ ยวเกินไปแล้ว คนแก่ ๆ
กินของพวกนี้ไม่ลงแล้ว”
“หนูกินลูกซิ่งด้วยเหรอ?” จ้าวเหวินเทาพูดด้วยความสงสัย
“แบบนั้นเป็ ดก็กินหมดสิ ?”
จ้าวเหวินเทาก็เคยคิดแบบนี้ ก่อนหน้านี้ เพียงแค่ลุงจ้าวบอกว่า
จะปล่อยเป็ ดในแม่น้ า เขาจึงคิดว่าเคารพงานอดิเรกของลุงจ้าว
ดีกว่า ส่ วนเรื่ องปลาไม่สาคัญหรอก
“ดูพ่อพูดเข้าสิ พ่อกับลุงจัดการกับพืชผลมาเกือบตลอดทั้งชีวิต
แล้ว ยังไงก็ตอ้ งรู ้เยอะกว่าผมอยูแ่ ล้ว ผมจะรังเกียจได้ไงล่ะ”
“ถ้านายไม่รังเกียจที่พวกเราสาธยายยืดยาวก็ได้ท้ งั นั้นแหละ”
ลุงจ้าวยิม้
ระหว่างที่พูด เวลาก็เดินผ่านไปเร็ วเป็นพิเศษ มื้อเที่ยงทาเสร็ จ
แล้ว คนงานสิ บกว่าคนของฟาร์ มกระต่ ายจึ งมารั บประทาน
อาหาร ซึ่ งเป็ นคนในหมู่ บา้ นเกื อ บทั้งหมด คนที่ มาจากข้า ง
นอกล้ว นเป็ นผูช้ ายทั้ง หมด ส่ ว นผูห้ ญิ ง ก็จ ะเป็ นหญิ ง ชราที่
ทางานหลังครัวกับคุณแม่จา้ ว
ทุ ก คนเดิ น มาที่ ห้อ งอาหาร ชุ ย ต้า เห็ น จ้า วเหวิน เทาก็เ ข้า มา
ทักทายอย่างมีความสุ ข “พี่หก!”
มีคนพูดด้วยรอยยิม้ “หัวหน้ามาตรวจงานแล้ว!”
“หัวหน้าอะไรกัน เถ้าแก่ต่างหากล่ะ!”
มีคนตะโกนเถ้าแก่ข้ ึนมา
จ้าวเหวินเทาตอบรับด้วยรอยยิม้ จากนั้นก็พูดคุยกับทุกคน
“ลุงจ้าว ถึงเวลานั้นถ้าผมแต่งงานลุงต้องมาดื่มเหล้าฉลองให้
ได้นะ!”
“ผมจะให้เหล้าเหล่าเจี้ยวหนึ่งขวดเลย!”
“ผมให้ลุงหนึ่งลังเลย!”
“ผมส่ งให้หนึ่งคันรถ!”
สองพี่นอ้ งชนแก้วและดื่มลงคอจนหมด
จ้าวเหวินเทามาดูฟาร์มกระต่ายและร่ วมรับประทานอาหารกับ
ทุกคนเป็นครั้งคราว แม้จะมีพ่อแม่และลุงจ้าวคอยดูแลอยู่ แต่
เขาก็ไม่สามารถทิ้งทุกอย่างให้ผสู ้ ู งวัยทั้งสามได้
“เลี้ยงหมา?” จ้าวเหวินเทาแอบไม่ค่อยเข้าใจ
จ้าวเหวินเทาไม่ได้พูดอะไร
“จะไปท าร้ า ยสั ต ว์พ วกนั้น ไม่ ไ ด้น ะ!” คุ ณ แม่ จ ้า วรี บ กล่ า ว
“พวกมันจะมากินกระต่ายสองสามตัวก็กินไปเถอะ พวกมัน
เป็นสัตว์ฉลาดมาก แค้นฝังหุ่ นเลยล่ะ ถ้าแกไปทาร้ายมันครั้ง
เดียว มันจะจาแกไปตลอดทั้งชีวติ เลย!”
จ้าวเหวินเทาไม่ได้คิดจะทาร้ายพวกมัน แม้เขาจะไม่เชื่อว่าพวก
มันจะฉลาดขนาดนั้น แต่เขาก็รู้สึกไม่สบายใจกับการทาร้ าย
สัตว์พวกนี้อยูด่ ี
“ได้สิ งั้นก็เลี้ยงหมา ถึงเวลานั้นขู่ให้พวกมันกลัว ไม่กล้ามาก็
พอแล้ว”
“แต่ ใ ส่ ปุ๋ ยเคมี แล้ว ได้ผลผลิ ต เยอะนะ ปี ที่ แ ล้ว พี่ ก็ใ ส่ ปุ๋ยเคมี
ข้าวโพดหนึ่ งหมู่เก็บออกมาได้ต้ งั หลายพันชัง่ ขายออกไปได้
ไม่นอ้ ยเลย!” ชุยเอ้อยังไม่เข้าใจ
“หา ขี้ ห มู แ พงขนาดนี้ เลย!” ชุ ย เอ้อ แอบรู ้ สึ ก ว่า เป็ นเรื่ องน่ า
เหลือเชื่อ
“พี่หกบอก” ชุยเอ้อตอบ
“เจ้า หกท าบ้า อะไรอี ก แล้ว ?” พี่ ส ามจ้า วมาคุ ย กับ พี่ ร องจ้า ว
“บอกว่าผลผลิตที่ใส่ ปุ๋ยเคมีไม่ดีกบั ร่ างกาย ถ้าไม่ดีแล้วรัฐบาล
จะบอกให้ใส่ ได้ไง?”
“พี่ ย งั ไม่ รู้ จ ัก เจ้า สี่ อี ก เหรอ ก็เ หมื อ นเดิ ม นั่น แหละ ปี ที่ แ ล้ว
ไม่ได้ใส่ ปุ๋ยเคมี ปี นี้ภรรยาของเจ้าสี่ กจ็ ดั การเทปุ๋ ยเคมีลงทุ่งข้าว
สาลีไปนิดหน่อยแล้ว ข้าวโพดก็ใส่ ไปนิดหนึ่งเหมือนกัน ตอน
ที่ปลูก แม้แต่ปุ๋ยคอกยังใส่ ไปนิดเดียวเอง พึ่งพาเทวดาเลี้ยงปาก
ท้องอย่างสมบูรณ์เลยแหละ” ระหว่างที่พูดพี่สามจ้าวก็ยิ้มไป
ด้วย “เจ้าสี่ นี่นะ ผมว่ายิ่งอยู่ก็ยิ่งใช้ชีวิตง่ายขึ้นเรื่ อย ๆ ไม่มีลูก
ชายก็ยงั ไม่ร้อนใจอะไรเลย พวกเราเทียบไม่ติดเลยแหละ”
“น้องสาม นายอยากใส่ ปุ๋ยเคมีก็ใส่ ไปสิ มันจะทาไมกันเชี ยว
นายเองก็มี เ งิ น ไม่ เ หมื อ นกับ พวกเราที่ ไ ม่ มี เ งิ น สั ก หน่ อ ย”
พี่สะใภ้รองจ้าวได้ยนิ ก็เดินเข้ามาพูดคุย
ค าพู ด นี้ พี่ ส ะใภ้สี่ จ ้า วก็ก าลัง บ่ น ฉอด ๆ กับ พี่ สี่ จ ้า วเช่ น กัน
“ที่ดินใหญ่ขนาดนี้เอามาปลูกข้าวสาลีแล้ว นี่ถา้ เก็บได้หญ้าแค่
กามือเดียว ก็เท่ากับโดนน้องหกหลอกแล้วนะ!”
“เขาก็ไ ม่ ไ ด้ใ ช้มีด บัง คับคุ ณสั ก หน่ อ ย เขาไม่ ไ ด้บอกให้คุณ
ปลู ก แต่ คุ ณ ยิน ดี ที่จ ะปลู กเอง คุ ณ จะโทษใครได้! ” พี่ สี่ จ ้า ว
กล่าว
ตอนนี้หล่อนเองก็คิดได้แล้ว หล่อนทะเลาะกับสามีแบบนี้มีแต่
จะทาให้ตวั เองโกรธตายเสี ยเปล่า ๆ หล่อนยังอยากมีชีวิตมาก
ขึ้นอีกหลายวันนะ!
จ้าวเหวินเทาคิดไม่ถึงว่าการที่เขาไม่ได้ใส่ ปุ๋ยเคมีจะทาให้เกิด
เรื่ องมากมายขนาดนี้ โชคดีที่ตอนนี้ทุกคนไม่ค่อยมีเงิน และอยู่
ในช่ วงที่พืชผลยังไม่สุกงอม ต่อให้มีความคิดมากมายแต่กท็ า
ได้เพียงแค่คิด อีกอย่างหลังจากนี้กจ็ ะถึงเวลารดน้ าให้ขา้ วสาลี
แล้ว จึงไม่มีเวลามาทะเลาะเรื่ องพวกนี้แล้วด้วย
จ้าวเหวินเทาไม่ได้ลาบากขนาดนั้นแล้ว เขาจ้างคนที่ไม่ได้ปลูก
ข้า วสาลี มาช่ วยเกี่ ย วข้าวให้ ไม่ ต ้อ งสนใจเรื่ องอาหาร หนึ่ ง
คนทางานได้เงินหนึ่งหยวนต่อวัน ทุกคนต่างก็แย่งกันทา เดือน
กรกฎาคมนอกจากเก็บข้า วสาลี แ ล้ว ก็ย งั ไม่ ต ้องรี บร้ อ นเก็บ
เกี่ยวพืชผลอื่น ๆ เงินส่ วนนี้จึงเท่ากับได้มาแบบฟรี ๆ!
จ้าวเหวินเทามีประสบการณ์ลงนาแล้ว เขาเกี่ยวได้ไม่ถึงหนึ่ ง
คัน นาก็ท นไม่ ไ หวแล้ว อย่า มองว่า เขาทนความล าบากเพื่ อ
การค้าขายได้ แต่เขาก็ทนความลาบากในการทานาไม่ได้อยูด่ ี
เมื่ อ เที ย บกับ การเก็บ เกี่ ย วฤดู ใบไม้ร่ ว งที่ ย งั ต้อ งท าเวลาเก็บ
ผลผลิตอื่น คนที่ปลูกข้าวสาลีต่างก็ไม่กล้าล่าช้า เมื่อถึงช่วงพัก
กลางคืนก็ตอ้ งมานวดข้าว ถึงอย่างไรการนวดข้าวด้วยกาลังคน
ก็ชา้ มากอยูด่ ี
จ้าวเหวินเทาบ่นถึงเรื่ องในด้านนี้ของคนในเมืองให้เย่ฉูฉู่ฟังไม่
น้อย สาหรั บเธอแล้ว คนในเมื องต่ างก็เ ป็ นแค่ ความสะอาด
จอมปลอม!
“ชนบทของพวกเรา อย่างน้อย ๆ ห้องส้วมก็อยู่ห่าง อีกอย่าง
คนสิ บกว่าคนเบียดอยูใ่ นห้องเดียวกันแบบนั้น แค่คิดก็หายใจ
ไม่ออกแล้ว ดูบา้ นพวกเราสิ สัตว์เลี้ยงถูกย้ายออกไปแล้ว ลาน
ขนาดใหญ่สองลานก็กว้างขวางมาก ไปอยูใ่ นเมืองจะมีสถานที่
แบบนี้เหรอ? ต่อให้มีกอ็ ยู่ที่ชานเมืองนัน่ แหละ ที่แบบนั้นต่าง
จากชนบทตรงไหนกัน” เย่ฉูฉู่พูดพลางส่ ายหน้า “อีกอย่าง ใน
เมืองมีคนเยอะมี รถเยอะ มีมลภาวะมีขยะ สถานที่แบบนั้นดี
ตรงไหน!”
“กลัว อะไรล่ ะ ผมก็ก าลัง วุ่น วายอยู่ก ับแม่ ข องเขา ไม่ ไ ด้ไ ป
วุ่นวายกับคนอื่ นสักหน่ อย!” จ้าวเหวินเทาพูดอย่างมี เหตุผล
มาก
เย่ฉูฉู่ยมิ้ อย่างเคือง ๆ
จ้าวเหวินเทาทนไม่ไหวจึงโน้มน้าวใจอีกครั้ง เย่ฉูฉู่ส่ายหน้า
ปฏิเสธ หลังจากพูดซ้ า ๆ อีกสิ บกว่ารอบ ไม่รู้ว่าเสี่ ยวไป๋ หยาง
เหนื่อยแล้วหรื อว่าฟั งจนเข้าใจแล้ว จึงไม่ได้ร้องไห้อีก และไม่
คิดจะห่ อเกี๊ยวแล้ว เขายังคงสะอึกสะอื้นและส่ งเสี ยงอ้อแอ้พูด
อะไรบางอย่าง
ตอนที่ 292 พึง่ พาตนเอง
“เขาฟังเข้าใจด้วยเหรอ?” จ้าวเหวินเทากระซิบถาม
พวกเขาห่อเกี๊ยวเสร็จแล้ว ส่ วนเกี๊ยวที่ลูกลิงห่อก็ไม่ได้เหลือเค้า
โครงเดิมอยูเ่ ลย แต่เย่ฉูฉู่ยงั คงใช้กระดาษห่ อแล้วใส่ เข้าไปย่าง
ในเตาให้สุกเพื่อให้มนั กิน ลูกลิงได้กินเกี๊ยวที่มนั ห่ อเองก็รู้สึก
มีความสุ ขมาก
ผลลัพธ์ที่ได้คือ หลังจากกินเสร็จแล้วลูกลิงก็หนีไปทันที
จ้าวเหวินเทาเอ่ย “เฮ่อซงจือไม่อยากยุ่งยากก็เลยไม่หอบลูกมา
สิ นะ?”
“แล้วเวลาลูกหิวจะทายังไง?”
“แบบนี้ ยงั จะคิ ดแยกบ้า นอี ก หล่ อนคนเดี ยวจะเลี้ ย งลู ก ไหว
เหรอ? จ้าวเหวินจื้อก็ตอ้ งไปสอนด้วย มีเวลาแค่วนั เสาร์อาทิตย์
เอง” จ้าวเหวินเทาสงสัยมาก
เย่ฉูฉู่ตอบ “ที่ดินสาหรับสามคนน่าจะไหวมั้ง?”
“ชุ ยเอ้อกับพ่อของเขาดูแลที่ดินสาหรับหกคนทั้งของบ้านเขา
และบ้านพวกเรา ส่ วนจ้าวเหวินจื้อและเฮ่อซงจือ คนหนึ่งมีงาน
ต้องทาส่ วนอีกคนมีลูกต้องดูแล ต่อให้เหลือที่ดินสาหรับสาม
คน ก็ดูแลไม่ไหวอยู่ดี เว้นเสี ยแต่ว่าแม่สามีของหล่อนจะช่ วย
ดูแลให้”
ลูกอีกสองคนก็มองพ่อกับแม่อย่างใจจดใจจ่อ
พี่รองจ้าวมองไปทางพี่สะใภ้รองจ้าว จะได้รับประทานทุกวัน
เหรอ?
“ว่า แล้ว เชี ย วว่า พ่ อ กับแม่ ต ้อ งโกหก” เถี่ ย ต้า นแค่ น เสี ย งใน
ลาคอ เขาก้มหน้ารับประทานต่ อไป ทั้งยังบ่นพึมพาอี ก หนึ่ ง
ประโยคว่า “อาเล็กได้กินแป้ งขาวทุกวัน ตอนที่ไม่ได้ปลูกข้าว
สาลีก็ได้กินทุกวันแล้ว นี่ บา้ นเราปลูกข้าวสาลีแล้วแท้ ๆ แต่ก็
ยังไม่ได้กินทุกวันอีก…”
แม้เขาจะพูดอู อ้ ้ ี แต่ พี่รองจ้าวก็ยงั ได้ยินอย่างชัดเจนจนแอบ
รู ้สึกจุกเข้าไปถึงกลางใจ จากนั้นจึงขบฟั นกล่าวว่า “มันก็แค่
แป้ งขาวไม่ใช่เหรอ พ่อให้พวกแกกินเอง! ถ้าไม่พอ ปี หน้าพ่อ
จะปลูกแต่ขา้ วสาลีอย่างเดียวเลย!”
“คุณบ้าไปแล้วเหรอ!” พี่สะใภ้รองจ้าวอารมณ์ร้อนขึ้นทันใด
พี่สะใภ้สามจ้าวมองลูกทั้งสองคนที่กาลังรับประทานอาหาร
เหมือนกับลูกเสื อ หล่อนก็มีความสุ ขมากเช่นกัน
พี่ ส ามจ้า ว “นั่น น่ ะ สิ ผมว่า อร่ อ ยกว่า ที่ ซ้ื อ มาอี ก ไม่ รู้ ว่า คน
สมัยก่อนคิดอะไรกันอยู่ ถึงไม่รู้จกั ปลูกข้าวสาลีกนั ”
“อย่า ว่า แต่ ก่ อ นหน้า นี้ เลย ตอนนี้ ก็เ หมื อ นกัน นั่น แหละ ถ้า
ไม่ใช่เพราะน้องหกจัดการเรื่ องปลูกข้าวสาลี ก็คงไม่มีใครนึ ก
ถึง ไม่เพียงแค่คิดไม่ถึงแต่ยงั ไม่ให้พวกเราปลูกด้วย หัวคร่ าครึ
กันทั้งนั้น!”
พี่สะใภ้สามจ้าวโชคดีมากที่เรี ยนรู ้วิธีปลูกข้าวสาลีในตอนนั้น
ไม่ เ ช่ น นั้ นตอนนี้ จะได้รั บ ประทานแป้ ง ขาวเหรอ? จะได้
รับประทานโดยที่ไม่ตอ้ งผสมแป้งบักวีทแบบนี้เหรอ?
พี่สะใภ้สามจ้าวมองพี่สามจ้าวก็แอบราพึงในใจอยู่สองสาม
ประโยค แต่ เ มื่ อ มาคิ ด ๆ ดู แ ล้ว ก็ ป ล่ อ ยผ่ า นไป กว่ า จะได้
รับประทานเกี๊ยวแป้งขาวไม่ใช่เรื่ องง่าย ดังนั้นอย่าชวนทะเลาะ
เลย
พี่สะใภ้สามจ้าวพึงพอใจกับชีวิตในตอนนี้มาก หล่อนไม่เข้าใจ
เลยว่าพี่สามจ้าวจะเอาแต่จิตใจร้อนรนทั้งวันไปทาไม
พี่สะใภ้สี่จา้ วกาลังพูดถึงความดีความชอบของหล่อนจากเกี๊ยว
ในมื้อนี้อยู่ “ถ้าไม่ใช่เพราะฉันยืนกรานจะปลูกข้าวสาลี ตอนนี้
จะได้กินเกี๊ยวแป้งขาวเหรอ?”
ลูกลิงที่อยูข่ า้ ง ๆ คว้าช่อดอกหยางช่อหนึ่งเหน็บไว้ที่หลังหูแล้ว
เมื่อได้ยนิ คาพูดของเย่ฉูฉู่ มันก็รีบปี นขึ้นไปบนต้นแอปเปิ้ ล
เสี่ ยวไป๋ หยางมองลูกลิงแล้วหันมามองเย่ฉูฉู่ จากนั้นก็กางแขน
ทาท่าจะปี นขึ้นไปด้วย เย่ฉูฉู่ถึงยิม้ อย่างขมขื่น
เย่ฉูฉู่ปิดประตูใหญ่ เธอเข็นรถเข็นเด็กไปทางฝั่งฟาร์มกระต่าย
อากาศดี ๆ แบบนี้เป็ นช่วงเวลาที่ดีที่จะออกไปเดินเตร็ดเตร่ !
“เสี่ ยวไป๋ หยาง นี่ คือต้นป็ อปลาร์ นี่ คือต้นหญ้า นี่ คือดอกไม้ ดู
สิ ลูก นัน่ คือนกตัวเล็ก” เย่ฉูฉู่สอนลูก
ภรรยาเหล่าหวังสามก็ปลูกข้าวสาลีเช่นกัน เพียงแต่ปลูกไว้แค่
หนึ่งหมู่ ตอนแรกหล่อนก็กลัวว่าจะปลูกไม่ข้ ึน จึงไม่กล้าปลูก
ไว้เยอะ ๆ ตอนนี้หล่อนแอบเสี ยดายขึ้นมาแล้ว ต้นข้าวสาลีงอก
งามขึ้นมาได้ไม่เลวเลย ทั้งยังเก็บเกี่ยวได้อย่างดี หากปลูกเพิ่ม
อีกสักสามสี่ หมู่ก็น่าจะดี แต่เมื่อเห็นคนพวกนั้นที่ไม่ได้ปลูก
แม้แต่หมู่เดียวก็รู้สึกโชคดีข้ ึนมา
“สถานการณ์ของแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน บ้านของพวกเราก็
ไม่ได้ดีอย่างที่เธอคิดหรอก” เย่ฉูฉู่พูดถ่อมตน
“ฉู ฉู่ เธอพูดแบบนี้ ก็ไม่ถูกนะ หมู่บา้ นของเรา มีแต่ครอบครัว
เธอนี่แหละที่มีชีวติ ไม่เหมือนใครเลย!”
คาพูดนี้ อนั ที่ จริ ง ก็ไ ม่ ผิด เลยสั กนิ ด ในหมู่ บา้ นคนที่ มี ชี วิต ดี
ที่ สุดก็คือจ้าวเหวินเทา บ้านก็ดี ชี วิตก็ดี ไหนจะธุ รกิ จขนาด
ใหญ่อย่างฟาร์มกระต่ายอีก เย่ฉูฉู่จึงไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้
ท้า ยที่ สุ ด ก็ ไ ด้แ ค่ พู ด ว่ า “หนี้ ของพวกเราก็ ไ ม่ เ หมื อ นใคร
เหมือนกัน!”
ภรรยาของเหล่าหวังสามไม่รู้ว่าจ้าวเหวินเทาล้างหนี้หมดแล้ว
จึงคิดว่าสิ่ งที่เย่ฉูฉู่พูดคือเรื่ องจริ ง แต่หล่อนก็ไม่ได้สนใจอะไร
“เป็ นหนี้ แต่ ทาให้ไม่ เหมื อนใครก็ไม่ ใช่ เรื่ องง่ ายนะ บางคน
อยากเป็ นหนี้แต่กย็ งั ไม่มีปัญญาเป็ นหนี้เลย!”
ถ้าไม่มีธุระจะพูดมากขนาดนี้เหรอ พวกเราก็ไม่ได้เดินไปทาง
เดี ยวกันสักหน่ อย เย่ฉูฉู่บ่นอยู่ในใจ ปากก็พูดไปว่า “มี ธุระ
อะไรล่ะ?”
ภรรยาของเหล่าหวังสามบ่นถึงความทุกข์ทรมานของตนไม่จบ
สิ้ น เย่ฉูฉู่ไม่ได้สนใจเรื่ องครอบครัวของคนอื่นอยู่แล้ว เธอจึง
พูดแทรกไปว่า “เธอพูดมาเถอะว่าเรื่ องอะไร?”
ภรรยาเหล่าหวังสามแอบรู ้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อถูกพูดแทรก
ขณะที่กาลังเล่าอย่างออกรส แต่กย็ งั พูดว่า “ฉันอยากไปทางาน
ที่ฟาร์มกระต่าย ก็เลยอยากถามเธอดูวา่ ทาได้หรื อเปล่า?”
เย่ฉูฉู่เข้าใจแล้ว ที่แท้ภรรยาของเหล่าหวังสามก็อยากไปทางาน
ที่ฟาร์มกระต่ายเพื่อลูกชายนี่เอง
เย่ฉูฉู่รีบห้าม “เธอเดินช้าหน่อย!”
“หา?”
เย่ฉูฉู่เคยผ่านมาแล้ว ย่อมทราบดีว่าการตั้งครรภ์สิบเดือนไม่ใช่
เรื่ องง่าย จึงปลอบใจไปว่า “ตอนนี้ เธอไม่ตอ้ งคิดมากนะ คิด
มากไม่ดีกบั ลูกในท้อง ไม่ว่าจะได้ลูกชายหรื อลูกสาว ร่ างกาย
แข็งแรงคือสิ่ งที่ดีที่สุด”
เย่ฉูฉู่มองเขาด้วยความประหลาดใจ
สัญชาตญาณของจ้าวเหวินเทาทาให้เขารู ้ สึกได้ว่าภรรยาหึ ง
หวง จึงรี บพูดว่า “เป็ นอะไรไปครับ ผมคิดว่าจะปลูกผักป่ าตรง
ที่ดินทางฝั่งทิศใต้ของฟาร์มกระต่าย ช่วงฤดูใบไม้ผลิจะได้ขาย
ผักป่ า”
“ดัง นั้น ผมถึ ง ต้อ งผูก ขาดการซื้ อ ไง” จ้า วเหวิน เทาพู ด อย่า ง
ภาคภูมิใจ “ภรรยา คุณรู ้ไหมว่าอะไรคือการผูกขาด?”
เย่ฉู ฉู่ ข บขัน “เลิ ก อวดได้แ ล้ว ค่ ะ ฉัน ก็อ่ า นหนัง สื อ ของคุ ณ
เหมือนกันนัน่ แหละ”
“คุณกลัวว่าผักป่ าบนภูเขาจะถูกคนอื่นขุดจนหมดเกลี้ยงขนาด
นี้เลย?”
จ้าวเหวินเทาออกไปข้างนอกมานานขนาดนี้ ไม่ว่าจะกับใครก็
คุ ยได้หมด เขาแทบจะติ ดต่ อกับผูซ้ ้ื อและผูข้ ายจากทุ กสาขา
อาชี พแล้ว ไม่ สามารถพูดว่าเป็ นมิ ตรภาพที่ ลึ กซึ้ งได้ แค่ ดื่ม
เหล้า คุ ย โวโอ้ว ดก็ พ อจะเข้า ใจได้ บ้า งแล้ว เขาพบว่ า คน
ในตอนนี้ คิดอยากจะหาเงินจะกลายเป็นบ้าแล้ว ขอแค่ให้เงิน
จะซื้อบรรพบุรุษก็ซ้ือได้!
ไม่ ต ้อ งพู ด ถึ ง อย่า งอื่ น หรอก เหมื อ นอย่า งจ้า วเหวิ น อู่ ที่ ขุ ด
สุ สานก็ติดต่อกับคนขายของเก่าสองคน บอกว่าขายออกนอก
ประเทศไปแล้ว สิ่ งนี้ ทาให้เขารู ้สึกไม่สบายใจ นัน่ เป็นของที่
บรรพบุรุษของพวกเราทิ้งไว้ให้ ทาไมถึงขายให้ชาวต่างชาติ
ล่ะ!
แต่คนเหล่านั้นบอกว่า ในประเทศให้ราคาไม่ดี ฟั งเข้าสิ นี่ คือ
การขายบรรพบุรุษเพื่อเงินเลยนะ!
จ้าวเหวินเทาเอ่ย “ดังนั้นผมก็เลยคิดไว้ว่าจะคุยกับพี่สะใภ้สาม
ดู หล่อนอยากกลับมาลงทุนไม่ ใช่ เหรอ? งั้นก็ลงทุนกับภู เขา
ใหญ่นี่แหละ”
“ลงทุนยังไงคะ?” เย่ฉูฉู่ไม่เข้าใจ
เย่ฉู ฉู่ นึ ก ถึ ง ช่ ว งยุค สมัย นั้น ของตนเอง ภู เ ขาลู ก ใหญ่ ที่ มี วิว
ทิวทัศน์สวยงามแบบนี้ก็จะถูกคนมีเงินกว้านซื้ อไปสร้างเรื อน
หรื อไม่กส็ ร้างสวนขึ้นมา อีกอย่างในยุคสมัยนี้ต่อให้เป็นคนมี
เงินก็ไม่ได้สนใจเรื่ องนี้ ได้ยนิ พี่สะใภ้สามเล่าให้ฟังว่าคนมีเงิน
ในเมืองจะซื้อตึกและบ้านเดี่ยว อืม อีกอย่างดูเหมือนว่าทางการ
จะไม่อนุญาตให้ซ้ือภูเขาแล้วด้วย
ตอนที่ 297 ซื้อไข่ ไก่
“ฉันคิดไม่ออกหรอกค่ะ” เย่ฉูฉู่ส่ายหน้า
กะต๊าก!
กะต๊าก!
ไก่ ต ัว เมี ย สองตัว ลุ ก ขึ้ นจากรั ง หญ้า มัน ส่ ง เสี ย งร้ อ งขึ้ นจมู ก
ออกมา หลี่เฉียจื่อถึงกับยิม้ อย่างมีความสุ ข วางไข่แล้วสิ นะ!
หลี่ เ ฉี ยจื่ อ รั บบุ ห รี่ ไ ปสู บ “นั่น สิ ชี วิต ดี ๆ รออยู่! ตอนนี้ ฉัน
กาลังคิ ดอยู่ว่าจะเลี้ ยงยังไงให้ได้เยอะ ๆ อี กสักหน่ อย แต่ ขา
ของฉันนี่ สิ เลี้ยงเยอะก็ดูแลไม่ไหว พ่อกับแม่ของฉันยังต้อง
ช่วยฉันดูแลกระต่ายอีก ดูแลเยอะขนาดนี้ไม่ไหวหรอก”
จ้าวเหวินเทามองดูแผ่นหลังอวบหนานั้นก็แอบเกิดความคิดชัว่
ร้ายว่า หลี่เฉียจื่อร่ างเล็กขนาดนี้ อย่าถูกภรรยาทับตายก็แล้วกัน
“วันนี้นายไม่ออกไปข้างนอกเหรอ?” หลี่เฉียจื่อถาม
“นายเอาของอะไรไปขายล่ะ?” หลี่เฉียจื่อถาม
จ้าวเหวินเทามาหาหลี่ เฉี ย จื่ อก็เพื่อ ซื้ อไข่ ไก่ ที่อ ยู่ในหมู่ บ้า น
เดียวกัน เขาต้องการไข่ไก่ หลี่เฉี ยจื่อก็เลี้ยงไก่ไว้ขายไข่ ย่อม
ต้องอุดหนุนคนในหมู่บา้ นตัวเองอยูแ่ ล้ว ทาค้าขายก็ตอ้ งทากับ
คนที่คุน้ เคยไม่ใช่เหรอ
หลี่ เฉี ยจื่ อนั่งคิ ดอยู่ตรงนั้นครู หนึ่ งก็ลุกขึ้ นเดิ นกลับบ้าน แม่
หม้า ยหม่ า ท าอาหารเที่ ย งเสร็ จ แล้ว มี ข ้า วสวยจากข้า วฟ่ าง
มะเขือตุ๋นกับพริ ก และตบแตงกวาสองลูกใส่ กระเทียมลงไป
อีกนิดหน่อยหนึ่งจาน
เมื่ อ ได้ยิน ลู ก ร้ อ งเรี ย ก แม่ ห ม้า ยหม่ า ก็รี บอุ ้ม ขึ้ น มาป้ อ นนม
หล่อนเห็นสามีกลับมาก็พูดขึ้นว่า “กับข้าวทาเสร็ จแล้ว คุณไป
ยกมาสิ จ้าวเหวินเทาล่ะ?”
“กลับไปแล้ว” หลี่เฉียจื่อไปยกกับข้าวและข้าวมา
“คุ ณเรี ยกให้เขามากิ นข้าวที่ บา้ นหรื อ ยัง?” แม่ หม้ายหม่ าลู บ
ศีรษะของลูกชายพลางเอ่ยถาม
หลี่เฉียจื่อชะงัก “ทาไมถึงไปตงเหลียงล่ะ?”
“ดูสภาพเหมือนคนตายของคุณสิ !” แม้ว่าแม่หม้ายหม่าจะพูด
แบบนี้ แต่ ภายในใจกลับสบายใจมากและพึงพอใจสามีของ
ตัวเองมากเช่นกัน “แล้วเขาจะให้ราคาเท่าไร?”
“ราคาขายส่ ง” หลี่เฉียจื่อรับประทานผักเข้าไปหนึ่งคา
ไม่ รู้ ว่ า ท าไมหล่ อ นถึ ง ใช้ต รรกะนี้ เรื่ อ งที่ ใ ห้ก าเนิ ด ลู ก ชาย
ของหลี่เฉียจื่อ เกี่ยวอะไรกับจ้าวเหวินเทาเนี่ย?
แม่หม้ายหม่าพูดมีเหตุผลมาก
หลี่เฉี ยจื่อก็ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับหล่อน เพียงแค่ตอบ ‘อืม ๆ
ๆ’ กลับไป
เย่ฉูฉู่ยกชาที่ชงไว้อย่างดีมาวางตรงหน้าเขา เขาได้ลองจิบชาดู
ก็รู้สึกว่าแอบขมนิ ดหน่ อย ไม่ได้อร่ อยมาก แต่ให้ความรู ้สึกดี
เยีย่ ม
จ้าวเหวินเทาตอบตกลงอย่างใจถึง
หลี่เฉี ยจื่อคิดไม่ถึงว่าจ้าวเหวินเทาจะตอบรับอย่างใจถึงแบบนี้
เขาดีใจมาก ส่ วนเรื่ องเงินเดือนและระยะเวลาทดลองงานอะไร
พวกนั้ นเขาได้ ยิ น มาบ้ า งแล้ ว จึ ง ไม่ ไ ด้ รู้ สึ กเหนื อ ความ
คาดหมายอะไร
“งั้นก็ขอบใจนายมาก ๆ เลยนะ!” หลี่เฉี ยจื่อกล่าวขอบคุณ เขา
สามารถนากลับไปบอกภรรยาได้แล้ว
หากดู จ ากนิ สั ย ของหลี่ เ ฉี ย จื่ อ เรื่ องนี้ ก็ ไ ม่ ค ล้า ยกั บ สิ่ งที่
หลี่เฉียจื่อจะทาออกมาได้ ต้องเป็ นแม่หม้ายหม่าอยูแ่ ล้ว ผูห้ ญิง
ชอบเอารัดเอาเปรี ยบและมองแค่เพียงตื้น ๆ
“ไม่พนันหรอก!” เย่ฉูฉู่ปฏิเสธ
โอ้ เจ้าเด็กนี่หน้าตาหล่อเหลาจริ ง ๆ!
“ยัง!”
แม่ ห ม้า ยหม่ า เตรี ย มตัว ร่ า ยยาว เสี่ ย วหม่ า ก็พู ด แทรกอย่ า ง
เหลื อ อด “พอแล้ว ผมรู ้ แ ล้ว บอกพี่ ไ ปพี่ ก็ไ ม่ เ ข้าใจหรอก!”
ระหว่างที่พูดก็สาวเท้ายาว ๆ เดินนาไปด้านหน้า
ภรรยาของเขากาลังวาดภาพหนุ่มหล่อ!
บนโต๊ ะ มี ก ระดาษวางอยู่ห ลายสิ บแผ่น บนนั้น มี ห นุ่ ม หล่ อ
หลากหลายรู ปแบบ มีท้ งั ที่ใส่ ดว้ ยเครื่ องแต่งกายโบราณ และ
แบบที่ไม่ใช่เครื่ องแต่งกายโบราณทั้งหมด มีท้ งั นัง่ ยืน หันข้าง
ก้มหน้า ยิ้ม เรี ยกว่ามีแบบ 360 องศาเลยทีเดี ยว ไม่ขาดแม้แต่
มุมเดียว
ตอนที่ จ รดดิ น สอวาดส่ ว นสุ ด ท้า ยเสร็ จ เย่ฉู ฉู่ ก็ถ อนหายใจ
ออกมาและวางดินสอลง “ในที่สุดก็เสร็จสักที!”
“ภรรยา นี่คุณทาอะไรเนี่ย?” จ้าวเหวินเทาดึงเก้าอี้ไม้ตวั เล็กมา
นัง่ ข้าง ๆ ภรรยาพร้อมกับเอ่ยถาม
“พี่ ส ะใภ้ส ามขายเสื้ อ ผ้า ผูห้ ญิ ง ไม่ ใ ช่ เ หรอ? นี่ คุ ณ ก าลัง วาด
เสื้ อผ้าผูช้ ายนะ”
เย่ฉูฉู่หมดคาพูด “คุณคิดไปถึงไหนแล้วเนี่ย!”