Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 6

ชีวิตจากนี้ ขอเธอนำทาง – บทที่ 14 ทะลุปรุโปร่ง

30 มิถุนายน 2009

หนึ่งเดือนหลังจากใช้การรักษาแผนโบราณของจีนเข้าช่วย อาจารย์หลินดูดีขึ้นและ
น้ำหนักเพิ่มขึ้น

วันนี้เมื่อฉันกลับมาจากโรงพยาบาลประจำจังหวัด แม่กำลังยุ่งกับการตุ๋นน้ำแกง ทันที


ที่ก้าวเข้าบ้าน แม่ก็บอกให้ฉันโทรไปที่โรงพยาบาลเพื่อรายงานผล

ฉันโทรไปที่ห้องหมอเวร

“สวัสดีครับ แผนกศัลยกรรมระบบทางเดินอาหารครับ” เสียงแบริโทน*ที่คุ้นเคยดังมา


จากปลายสาย

“สวัสดีค่ะ หมอกู้ ฉันหลินจือเซี่ยว”

เราสองคนคุยกันอย่างเป็ นทางการ จนกระทั่งใกล้จบการสนทนา อีกฝ่ ายหนึ่งก็พูด


อย่างไม่มีปี่ มีขลุ่ยว่า “ผลการสอบของตู้เหวินจวิ้นออกมาแล้ว เขาได้คะแนนสูงกว่าค่า
มาตรฐาน 19 คะแนน”

“ไม่เลว ฝากแสดงความยินดีกับเขาด้วยค่ะ ฉันดีใจกับเขาจริง ๆ”

“ผมจะบอกเขา สวัสดีครับ” แล้ววางสายไปดื้อ ๆ

4 กรกฎาคม 2009

หลังจากฉันกลายเป็ นว่าที่นักศึกษาปริญญาโท ฉันก็กลายเป็ นคนว่างงานด้วย

แม่เข้าใจว่าฉันเรียนปริญญาโทในสาขาใกล้เคียงกับปริญญาตรีที่เรียนมา จนกระทั่ง
ทุกอย่างถูกเปิดโปงเมื่อจดหมายแจ้งรับเข้าศึกษาต่อส่งมาถึงบ้าน
แม่ไม่ชอบธรณีวิทยา แม่จึงเริ่มทำตัวเย็นชาและปั้นปึ่งใส่ฉัน

ช่วงเวลาที่ฉันกำลังตกนรกอยู่นั้น ซานซานก็ทำตัวเป็ นนางงามสันติภาพ อาสามา


ช่วยทำกับข้าวและเล่าให้แม่ฟังว่า เธอกำลังจะได้เป็ นวิศวกรคนใหม่ของเมือง X

เย็นวันนั้นหลังอาบน้ำเสร็จ เราสองคนนอนเล่นอยู่บนเตียง จู่ ๆ ซานซานก็เริ่ม


ซอกแซก “จือเซี่ยว เธอมีความสุขดีไหม”

“ก็ดีนี่”

“แน่ใจเหรอ เธอดูเหมือนคนที่ชีวิตรักยังไม่ได้สะสาง”

“. . . .”

“เรื่องระหว่างเธอกับหมอกู้ไปถึงไหนแล้ว ทำไมต้องเอาไปซ่อน ฉันไม่ยุ่งกับ


โทรศัพท์ของเธอหรอก”

ฉันมองเพดาน “ก็ความสัมพันธ์ทั่วไปแบบหมอกับญาติคนไข้”

“แล้ว..”

“?”

“แล้วไง จบ..แค่นี้ โธ่ ที่รัก” ซานซานเด้งตัวลุกขึ้น “อย่าบอกนะว่าเธอชอบเขาและ


พอใจแค่ได้นั่งมอง”

“อ่า แล้วฉันจะทำอะไรได้”

“หาทางมีชีวิตร่วมกับเขา”
ในตอนนั้น ฉันไม่เคยคิดไกล แค่มีความสุขที่ได้เห็นหมอกู้ ไม่มีประเด็นอื่น

“ความรักคือความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะอยู่ด้วยกัน หวังว่าเขาจะอยู่เคียงข้าง
เธอจนแก่เฒ่า มีลูกมีหลานด้วยกัน” ซานซานมองหน้าฉันอย่างผิดหวัง “ความรู้สึกที่
เธอมีให้เขาต่างอะไรกับความพอใจที่มีต่อแจกัน?”

“อ่า..”

ทันใดนั้น ซานซานก็หันหน้ามาและถามอย่างสงสัย “หมอก็สนใจเธอใช่ไหม”

ฉันส่ายหัวอย่างมั่นใจ “ไม่” (หลังทบทวนอย่างดีแล้ว)

“เป็ นไปไม่ได้ เธอออกจะร่าเริงสดใส อีกอย่าง เขาไม่ใช่พระสักหน่อย”

“ที่โรงพยาบาลมีผู้หญิงตั้งเยอะ เธอคิดว่าเขาว่างพอจะมานั่งรักคนโน้นคนนี้หรือไง
อีกอย่าง เราก็เพิ่งรู้จักกันไม่นาน”

“ที่รัก เธอเคยได้ยินคำว่ารักแรกพบไหม ระยะเวลาไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งสำคัญคือพบ


คนที่ใช่ มา เล่ามาว่าระหว่างเธอกับเขาเกิดอะไรขึ้นบ้าง”

ฉันใช้เวลา 20 นาที เล่าให้ ‘พระแก่’ ซานซานฟัง หลังจากฟังจบเธอก็เคาะหัวฉัน “ผู้


หญิงพวกนั้นชอบแค่รูปลักษณ์ภายนอกของเขา แต่คุณอาคนนี้กำลังมองหารักแท้”

หลังจากได้รับการเบิกเนตรจากซานซานตลอดสองวัน ฉันก็เข้าใจเรื่องพื้นฐาน 2 ข้อ


เรื่องแรก หมอเป็ นผู้ชาย ไม่ใช่ดอกบัว ไม่จำเป็ นต้องนั่งมองเขาจากที่ไกล ๆ ฉัน
สามารถเข้าใกล้เขาและเล่นกับเขาได้ เรื่องที่สอง เขาดูจะสนใจฉันอยู่บ้างเช่นกัน

ด้วยความเข้าใจพื้นฐาน 2 ข้อนี้ ใจของฉันก็เปิดออก แม้ฉันจะยังสับสน แต่เริ่มเห็น


โอกาสของตัวเอง
21 กรกฎาคม 2009

ครบ 50 วัน เป็ นอีกครั้งที่ฉันกลับไปที่โรงพยาบาล ฉันนำชิงถวน**ที่ยายของฉันทำ


มาฝากเสียวอวี่ เธอดีใจจนหัวเราะดังไปทั้งโถงทางเดิน หัวหน้านางพยาบาลต้องมา
พาตัวเธอไป

ครั้งนี้ เราอยู่ในห้องพักคนไข้แบบสองเตียง คนไข้อีกเตียงเป็ นอดีตนายทหาร เขายึด


รีโมทโทรทัศน์ไว้ โดยมีลูกชายคอยดูแล

หกโมงเย็น ฉันกลับไปที่ห้องหลังจากล้างจานเสร็จ เห็นคนไข้อีกเตียงนอนอยู่บน


แขนของลูกชาย “ขอโทษครับ ช่วยตามหมอให้หน่อยได้ไหม” พ่อที่ทั้งสูงทั้งใหญ่
เอาตัวพิงเขา คงยากที่เขาจะขยับตัวไปไหน

ฉันวิ่งไปที่เคาเตอร์พยาบาล “ขอโทษค่ะ อาจารย์หมอ F อยู่ที่ไหนคะ” เขาคือหมอ


เวรประจำวัน

นางพยาบาล “เขาอาจจะอยู่ที่ห้องหมอเวร คุณลองไปดูที่นั่นสิคะ”

ประตูห้องไม่ได้ปิดไว้ ฉันเคาะเบา ๆ และเลื่อนประตูออกเล็กน้อย ก่อนที่ฉันจะตะโกน


เรียกเขาก็เหลือบไปเห็นว่าที่มุมห้องมีหญิงสาวในเครื่องแบบพยาบาลเอนตัวอยู่บน
แขนของผู้ชายในชุดกาวน์สีขาว แขนของพวกเขาคล้องคออีกฝ่ ายไว้

ฉันไม่เห็นหน้าของผู้ชายแต่จำนาฬิกาข้อมือได้ เพราะเขาเพิ่งอวดมันเมื่อหนึ่งชั่วโมง
ที่แล้วพร้อมพูดว่า “วันนี้เวรผมครับ”

ฉันตกใจจนถอยหลังไปสองก้าว ในสมองร้องว่า ‘บ้าจริง ทำไมฉันต้องมาเห็นอะไร


พรรค์นี้’

ฉันหันหลังกลับและเห็นหมอกู้เพิ่งเดินออกมาจากห้อง จิตใต้สำนึกพาเท้าเดินไปหา
เขา ตามที่หมอบอก ตอนนั้นสภาพฉันดูไม่ได้เลย
เขาเหลือบมองประตูห้องหมอเวรข้างหลังฉันและมองไปที่โถงทางเดิน ก่อนจะจับ
แขนของฉันแล้วดึงเข้าไปในห้องทำงานของเขา “เห็นพวกเขาใช่ไหม” ฉันรีบสั่นหัว

ฉันพยายามอย่างหนักที่จะควบคุมลมหายใจ เขาก้มหน้าและเปิดเวชระเบียนคนไข้ใน
มืออย่างเรื่อยเปื่ อย “ดูเหมือนจะเป็ นอย่างที่คุณบอก แต่ผลตรวจไม่มีปัญหา แค่
พยายามสังเกต…”

ฉันเลิกคิ้ว แต่แล้วก็ได้ยินเสียงประตูห้องเปิดจากด้านหลัง ฉันมองหน้าหมอและ


กระแอม “ได้ ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ หมอกู้”

“ยินดีครับ”

“เสี่ยวกู้ ทำไมยังอยู่ที่นี่”

หมอกู้กวาดตามองฉัน ท่าทีของเขาสงบนิ่ง “ตอนเดินกลับ ผมนึกได้ว่าลืมโทรศัพท์


ไว้ที่ห้อง”

ฉันหันหน้าไปยิ้ม “สวัสดีค่ะ อาจารย์ F”

อีกฝ่ ายผงกศีรษะ “รีบกลับได้แล้ว” และหมุนตัวจากไป ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก


ก่อนจะหันหน้ากลับไปด้วยท่าทางกระอักกระอ่วน

หมอมีสีหน้าไม่ค่อยพอใจ แต่เสียงของเขายังอ่อนโยน “ต่อไป อย่าเดินดุ่ม ๆ เข้าห้อง


หมอเวร”

ฉันพยักหน้า “พยาบาลเวรบอกฉันว่า เขาน่าจะอยู่ที่นั่น คนไข้คนนึงมีอาการตะคริว


กิน”

หมอกู้ก้าวเท้าเดินออกจากห้อง เมื่อผ่านเคาเตอร์พยาบาล เขามองพยาบาลที่เข้าเวร


ก่อนจะเดินเข้าห้องพักคนไข้ เขาพูดเสียงเบา “ครั้งหน้า ให้พยาบาลเป็ นคนไปตาม
หมอ”
ฉันแอบบ่นเบา ๆ ‘ที่แท้พยาบาลช่างเม้าส์เบอร์นี้ ถึงกับยืมมือคนอื่นมาร่วมกอสซิป’

*****************************************

ข้อความพิเศษ

หมอ: ทำไมเรื่องอะไรก็เกิดกับคุณได้

(คราวเคราะห์ ว่าแต่ทำไมคืนนั้นคุณถึงอยู่ดึก)

หมอ: เทวดาขอให้ผมอยู่ช่วยคุณ

(. . . .)

*****************************************

*แบริโทน คือ โทนเสียงกลางของนักร้องชายในคณะประสานเสียง

**ชิงถวน ขนมทำจากแป้งสีเขียวสอดไส้ถั่วแดงหรือถั่วดำ สีเขียวได้มาจากต้นโกฐ


จุฬาลัมพาหรือผงหญ้าบาร์เล่ย์

*****************************************

เดาว่าหลินจือเซี่ยวอาจจะจบปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจ ไม่ก็เศรษฐศาสตร์ เพราะใน


บทแรกเธอนั่งคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุน แต่เลือกเรียนธรณีวิทยาในระดับ
ปริญญาโท

You might also like