ชีวิตจากนี้ ขอเธอนำทาง – บทที่ 19

ความเยือกเย็น
เพราะการระบาดของไข้หวัด H1N1 มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จึงยกเลิกการฝึกทหาร
ของนักศึกษา*ทำให้นักศึกษาใหม่มีเวลาว่างเดินร่อนเร่ไปทั่ว เช่นเดียวกับตู้เหวินจวิ้น

มหาวิทยาลัยของเราไม่ไกลหรือไม่ใกล้กันจนเกินไป ตามคำของเสี่ยวตู้ “ก็แค่

หลับในรถไฟใต้ดินสักงีบ จากนั้นสมองก็ปลอดโปร่งพร้อมรับบรรยากาศของ
นักศึกษาปริญญาโท”

หลังจากพาเขาเดินชมทั่วมหาวิทยาลัย เสี่ยวตู้ดูจะไม่พอใจเท่าไหร่ “ที่นี่ไม่เห็นมี

บรรยากาศแบบชุมชนนักวิชาการ”

สมองฉันตื้อไปชั่วขณะ ทั้งหอพักนักศึกษา ไหนจะตึกเรียน นี่นายคาดหวังอะไรอยู่

“ถ้านายอยากสัมผัสบรรยากาศแบบนักวิชาการก็ควรไปที่ห้องทำงานของหมอ นั่งฟัง
พวกเขาคุยกัน”

“ไปฟังเขาถกกันเรื่องการผ่าท้องมนุษย์?” เสี่ยวตู้สั่นหัว “ไม่ล่ะ”

หลังจากนั้น ฉันก็ได้รับข้อความจากเขาบ่อย ๆ เพื่อถามฉันว่า “เลือกชมรมวอลเล่ย์

บอลหรือชมรมเทควันโด้ดี” “ควรเริ่มเตรียมสอบ CET-4**เทอมนี้หรือเทอมหน้า”
“นวดแบบกัวซาต้องขัดผิวกี่ครั้ง สองครั้งหรือสามครั้ง” ฉันสงสัยว่าทำไมเขาไม่ถาม
หมอ เขาน่าจะสนิทกับหมอมากกว่า

“อ่อ แม้หมอจะมีรอยยิ้มอยู่ตลอดวัน แต่เขา…”

“ไม่เคยแสดงความรู้สึก”

“ใช่ ให้ดีอย่ากวนเขาดีกว่า”

⊙_⊙……
กู้เว่ยเป็ นคนเงียบและไม่แสดงความรู้สึกให้ใครรู้ เขาเงียบมากและไม่เคยทำเรื่อง
อย่าง “100 สิ่งที่คู่รักต้องทำ” ฉันเองก็ไม่มีความกดดันประเภท “เราคบกันมานาน
แล้ว” คู่รักที่เพิ่งคบกัน มักไม่คุ้นเคยกัน แต่เรา.. ไม่มีช่วงเวลาแบบนั้น

เขาเป็ นคนเข้าอกเข้าใจ ปกติเราไม่ได้พบกันบ่อย แต่ความสัมพันธ์ของเราก้าวหน้า

ขึ้นทีละนิดทุกวัน โดยเฉพาะช่วงสิบวันที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของเราก้าวหน้าไปมาก
พอถึงวันที่ 11 ของช่วงหยุดยาวเทศกาลวันชาติ***ฉันก็กอดแขนเขาและตระหนักว่า
ใจฉันคิดถึงเขามากแค่ไหน

หลังเทศกาลวันชาติมีหมอคนนึงลาคลอด อากาศเย็นลงและห้องผ่าตัดก็แน่นเอียด
ตั้งแต่นั้นหมอกู้ก็งานยุ่งจนแทบไม่มีเวลาคุยโทรศัพท์ สำหรับคู่รักอื่น แม้ไม่ได้โทร
คุยกันก็ต้องมีข้อความอย่าง “ผมคิดถึงคุณ” “ฉันก็คิดถึงคุณค่ะ” ยิงกระหน่ำใส่กัน แต่
ระหว่างเราส่วนใหญ่แล้ว…

“ทำอะไรอยู่คะ”

สามชั่วโมงต่อมา

“เพิ่งผ่าตัดเสร็จครับ”

“. . . . =_=” ฉันตั้งใจว่าจะไม่ส่งข้อความแบบนี้ไปอีก

วันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน กู้เว่ยโทรหาฉัน “ผมอยู่ที่มหาวิทยาลัยของคุณ คุณอยู่

ที่ไหน” ฉันกำลังฝังตัวเองอยู่กลางกองแผนที่ หันหน้าไปถามเสี่ยวเช่า “ที่รัก วันนี้วัน
อะไร”

เสี่ยวเช่าส่ายหัว

“วันเสาร์” กู้เว่ยตอบโดยไม่ลังเล ทำให้ฉันหน้าแดง

เสี่ยวเช่าตามฉันมาเพราะหลายเหตุผล เธอยังไม่เคยพบกู้เว่ย และเธอมีความอยากรู้
สูงมาก หลังจากพบเขาตัวเป็ น ๆ เธอมีสีหน้าใคร่ครวญ “เดี๋ยวนี้หมอหน้าตาประมาณ
นี้ทุกคนหรือ” ภาพลักษณ์ของหมอในความคิดของเธอยังเป็ นภาพเดียวกับสมัยที่เธอ
อายุ 6 ขวบ ตอนที่หมอแทงเข็มฉีดยาบนแขน เธอเหมือนได้รับการเปิดโลกโดยชาย
หนุ่มแสนสุภาพที่อยู่ตรงหน้า

“เปล่า ฉันตั้งใจหาคนนี้เป็ นพิเศษ”

“อ้อ” เสี่ยวเช่าพยักหน้า “หมอ อากาศแบบนี้เราควรกินอะไรดีคะ”

หมอ “อยากกินอะไรก็ตามสบาย”

ฉันจึงพาพวกเขาเข้าร้านหม้อไฟ (ไม่รู้ว่าตอนนั้นฉันคิดอะไร)

หนึ่งชั่วโมงต่อมา เราต่างปาดน้ำตา

เด็กเสฉวนเห็นพริกเป็ นเหมือนเครื่องเคียง

กู้เว่ยถอดแว่นออก ตาของเขาเปี ยกชื้นและเป็ นประกาย เขาเอื้อมมือมาซับเหงื่อที่

หน้าผากให้ฉัน

เสี่ยวเช่า “ตอนแรกฉันนึกว่าตัวเองจะเป็ นตัวประกอบ ที่ไหนได้ฉันต่างหากที่เป็ นตัว

(กิน) หลัก”

หลังอาหาร กู้เว่ยคิดว่า ‘มันช่วยให้สมองโล่ง แต่ไม่ดีกับกระเพาะ’ เสี่ยวเช่าตัดสินใจ

กลับมหาวิทยาลัย

ดวงอาทิตย์ให้ความอบอุ่น คนสามคนเดินไปคุยไป เมื่อเราผ่านหอประชุมเล็ก ก็พบ

กับเพื่อนผู้ชายหลายคนที่เรียนสาขาเดียวกัน เราทักทายและเดินต่อไป เสี่ยวเช่าถอน
ใจ “XXX ต้องพ่ายแพ้อย่างอยุติธรรม ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย”
ฉันไม่เข้าใจ แต่กู้เว่ยมีรอยยิ้มพรายบนใบหน้า เมื่อถึงหอ เสี่ยวเช่ามองฉัน “อาเซี่ยว
เธอไม่เห็นหรือว่า XXX เขาทำตาโตเท่าลูกวอลนัทตอนที่เห็นหมอของเธอ”

“?”

“มันเจ็บ เจ็บมากด้วย”

จากนั้น แม้จะงง ๆ เบลอ ๆ แต่ฉันพอจะเข้าใจบางอย่าง

มิน่าเล่า ตอนเดินกลับไปกู้เว่ยถึงแอบยิ้ม

“แต่หมอของเธอควบคุมอารมณ์ได้ดี” เสี่ยวเช่าพูดต่อ “ถ้าฉันเป็ นเขา ฉันคงฆ่าคน

พวกนั้นไปแล้ว”

เดือนธันวาคม งานใหญ่ของมหาวิทยาลัยคือการแสดงคอนเสิร์ตออเคสตร้าเพื่อ
ฉลองปี ใหม่ เราต้องซ้อมจนดึกจึงไม่สะดวกที่จะโทรหาหมอเมื่อถึงหอพัก ฉันมักคุย
กับเขาระหว่างเดินกลับหลังการซ้อม

“มาสิคะ ฉันอยากให้คุณสัมผัสลมหนาวของเมือง X”

“. . . .”

“ว่าอย่างไรคะ”

“ผมไม่หนาว คุณต่างหากครับที่กำลังหนาว”

“อ่า หมอคะ…”

แม้เราจะมีคืนคล้าย ๆ อย่างนี้อีกหลายครั้ง แต่ครั้งนี้เป็ นความหวานที่สุดที่ประทับใน

ความทรงจำของฉัน
ผ้าพันคอหนาพันอยู่รอบคอ ฉันถือโทรศัพท์แนบหู คนสองคนคุยกันเบา ๆ อย่าง
สบาย ๆ ใจฉันมีความสุขราวกับมีเขาเดินเคียงข้าง

*****************************************

ข้อความพิเศษ

หมอ: (หัวเราะแต่ไม่พูดอะไร)

(>_< )

*****************************************

*ในประเทศจีน นักศึกษาใหม่ระดับปริญญาตรีทั้งหญิงและชายจะต้องเข้ารับการ
ฝึกฝนวิชาทหารเป็ นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนเริ่มการศึกษา

**CET-4 (Collage English Test 4) คือ การทดสอบภาษาอังกฤษระดับ 4 นักศึกษา

จีนที่จบการศึกษาอย่างน้อยต้องสอบ CET-4 ผ่าน และส่วนใหญ่ยังต้องสอบ CET-6
(การทดสอบภาษาอังกฤษระดับ 6) ผ่านด้วย

***เทศกาลวันชาติจีนต้นเดือนตุลาคม เป็ นหนึ่งในช่วงวันหยุดยาวประจำปี ของจีน