Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 8

ชีวิตจากนี้ ขอเธอนำทาง – บทที่ 24 ส่วนที่ไม่ดี

ถ้าประโยชน์ที่ชัดเจนที่สุดในการอยู่กับกู้เว่ยคือเรื่องกิน งั้นข้อเสียแน่นอนว่าต้องเป็ น
เรื่องนอน

ปัญหาประการแรก คือ เวลาในการนอน ฉันไม่รู้ว่าหมอคนอื่นเป็ นอย่างไร แต่กู้เว่ยมี


วิถีการใช้ชีวิตที่ดีเยี่ยม ซึ่งทำให้เขามีสุขภาพที่ดีมาก

เขาอาจไม่ได้ตั้งใจใช้ชีวิตประจำวันแบบนี้ แต่ดูเหมือนมันจะฝังลึกถึงกระดูกของเขา
จนกลายเป็ นรูปแบบการใช้ชีวิต เขาแม่นยำในเรื่องเวลาจนฉันสงสัยว่าชาติก่อนเขา
อาจเป็ นคนทำนาฬิกา

ฉันสังเกตว่ากู้เว่ยไม่เคยตั้งนาฬิกาปลุก เขาจะงีบหลับวันละ 40 นาที และนอนหลับ


เป็ นเวลา 7 ชั่วโมงครึ่งทุกคืน และตื่นทันทีที่ถึงเวลา

ส่วนฉันมีความคิดว่าวันหยุดจะไม่สมบูรณ์ถ้าไม่มีการนอนขี้เกียจ

หลังจากที่เขารู้ว่าอาการหวัด เป็ นไข้ ปวดหัว… ของฉันจะดีขึ้นหลังจากที่ฉันได้นอน


หนึ่งวันเต็ม กู้เว่ยก็เริ่มสนใจศึกษาโครงสร้างทางสรีรวิทยาของฉัน “มนุษย์โตเต็มวัย
ที่สามารถนอนหลับได้เหมือนทารก มีบางส่วนของสมองที่พัฒนาช้ากว่าปกติหรือไม่”

ที่จริงตั้งแต่จบชั้นประถม ฉันก็ไม่เคยปล่อยตัวเองตื่นเที่ยงวัน การนอนขี้เกียจของฉัน


ไม่มีอะไรมากไปกว่าการไม่จำเป็ นต้องลุกจากที่นอนก่อน 6.45 น. ในวันเสาร์ และตื่น
เองตามธรรมชาติซึ่งโดยทั่วไปก็คือสายกว่าแปดโมงเช้า เทียบกับซานซานผู้สลับ
กลางวันเป็ นกลางคืนและกลางคืนเป็ นกลางวันหรือเสี่ยวเช่าผู้ไม่เคยลุกก่อนมื้อเที่ยง
ในวันหยุดแล้ว ฉันคิดว่าฉันควบคุมตัวเองได้ดี และมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่ดีกว่า

ความขี้เกียจแบบที่ฉันรับได้ ดูจะไม่เข้ามาตรฐานของกู้เว่ย การนอนขี้เกียจของเขา


เทียบไม่ได้กับของฉัน เขาตื่น 6.30 น. ในวันทำงาน และตื่น 7.00 น. ในวันหยุด…

ดังนั้น ถ้าไม่มีเหตุการณ์พิเศษหรือเขาไม่ได้ทำงานล่วงเวลา และฉันมาค้างบ้านเขา


ในวันหยุด สิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็ นประจำคือการตื่นนอนตอน 7.30 น.
“ตื่นได้แล้ว”

ฉันหันหน้าหนีและนอนต่อ

“ตะวันส่องก้นแล้ว”

ฉันพลิกตัวและหลับต่อ

“ถ้าคุณยังนอนต่อ หัวคุณจะแบนนะครับ”

ฉันเอาหัวมุดหมอนและหลับต่อ

“ตื่นมากินข้าวเช้า ไม่งั้นวันนี้คุณอดแน่”

ฉันจะโมโห เลิกผ้านวมขึ้น และกอดคอเขา “หมอ นอนเป็ นเพื่อนฉันแป๊ บนึงนะ แป๊ บ


เดียวก็พอ” ฉันเอาหัวซุกไหล่ของเขา หลับตา สองแขนโอบตัวเขาไว้ มีเพียงการลาก
เขาลงน้ำไปด้วย ฉันจึงจะหลับต่อได้โดยไม่ถูกกดดัน

กู้เว่ย “. . . .”

ในที่สุด แป๊ บเดียวจริง ๆ แล้วฉันก็ถูกบังคับให้ตื่นตอนแปดโมง ถูกสั่งให้ไปแปรงฟัน


และล้างหน้า

ปัญหาที่สอง คือ ฉันเป็ นคนความดันต่ำ ตอนตื่นนอนความดันจะตก และต้องนอนสัก


ครู่ก่อนจะลุกขึ้น ผลก็คือ เวลาห้านาทีที่ฉันใช้เพื่อคืนพลังชีวิต กลายเป็ นเวลาที่ทารก
ยักษ์กู้เว่ยออกอาการเด็กน้อย

เขาจะแตะขนตาของฉัน เล่นนิ้วมือ บีบแก้ม ถักเปี ย และอีกสารพัดวิธีแกล้ง

ฉันถาม “เด็กน้อย ทำอะไรอยู่”


เขายิ้มและบีบแก้มของฉันต่อ

“เลิกบีบเสียที หน้าฉันใหญ่พอแล้ว”

เขาย้ายไปที่ติ่งหู

“ถ้าคุณไม่เลิก ฉันจะกัดคุณ”

หน้าเคลื่อนมาใกล้กว่าเดิม

––––––––––

ฉันไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน

ส่วนใหญ่ อารมณ์ของกู้เว่ยจะคงที่ แต่มีบางครั้งที่เขาเกิดอ่อนไหว

“หมอ ฉันจะไปอานหุยกับชมรมท่องเที่ยว”

“ไปกี่วัน”

“ห้าวัน”

“คุณจะกลับมาช่วงวันหยุดและตรงไปเมือง Y”

“อืม”

กู้เว่ยเอามือเท้าคาง ตาจ้องจอคอมพิวเตอร์อย่างเงียบ ๆ

ผ่านไปสองนาที ฉันรู้สึกว่าบรรยากาศมีอะไรไม่ถูกต้อง
“กู้เว่ย คุณโกรธเหรอ”

“ผมแสดงออกชัดเลยหรือ” กู้เว่ยพูดขณะที่ยังมองจอคอมพิวเตอร์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ราวกับกำลังเพ่งสมาธิอยู่ “โดยเฉลี่ยแล้วเราพบกันอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ๆ ละ 2 ชั่วโมง
เท่ากับ 24 ชั่วโมงต่อเดือนหรือคิดเป็ น 1 วัน ปี นึงมีวันหยุดหน้าร้อนและหน้าหนาว
ประมาณ 3 เดือน เท่ากับมีเวลาแค่ 9 เดือนที่…”

ฉันขัด “กู้เว่ย”

กู้เว่ยหันมา “หลินจือเซี่ยว ทำไมคุณถึงเดินหนีไปอย่างง่ายดายในทุก ๆ ครั้งที่คุณ


ต้องการเดินจากไป”

จู่ ๆ ฉันก็จนคำตอบ

กู้เว่ยหันกลับไปและจ้องจอคอมพิวเตอร์อย่างเงียบ ๆ ต่อ

ฉันอึ้งไปพักใหญ่ก่อนจะยอมจำนนอย่างง่ายดาย “กู้เว่ย ฉันไม่เคยมีอิสระและไม่เคย


มีชีวิตที่ง่าย”

นี่เป็ นครั้งแรกที่ฉันได้ใช้ความพยายามในการคบกับใครสักคน และหวังว่าความ


สัมพันธ์นี้จะยืนยาว แต่รอบตัวฉันไม่มีตัวอย่างให้ศึกษา ไม่มีแนวทางชี้นำ ได้แต่ค่อย
ๆ เรียนรู้ด้วยตัวเองอย่างช้า ๆ บางครั้ง ฉันหวังว่าตัวเองจะมีความสามารถในการอ่าน
ทะลุใจของเขา ฉันมักจะสับสนกับอุณหภูมิร้อนเย็นภายในที่ไม่เคยปรากฏร่องรอยให้
เห็น

กู้เว่ยถอนใจและเดินมาหาฉัน “ร้องไห้ทำไมครับ…”

“กู้เว่ย คุณเดินนำฉัน และฉันจะติดตามคุณไปทุกที่ ไม่ว่าที่นั่นจะเป็ นภูเขาแห่งคม


ดาบหรือทะเลไฟ ฉันก็พร้อมจะติดตามคุณไป แต่อย่างน้อยช่วยบอกให้ฉันรู้สักนิด
ว่าที่ที่คุณกำลังจะไปเป็ นภูเขาแห่งคมดาบหรือทะเลไฟ”
กู้เว่ยเงยหน้าขึ้นมองเพดาน “เลื่อนการกลับเมือง Y ของคุณออกไปสองวัน และมา
อยู่กับผมที่นี่”

“ฉันจะเลื่อนไปหนึ่งสัปดาห์”

“งั้นเลื่อนไปสองสัปดาห์ถ้าทำได้”

“. . . .”

ความขัดแย้งของเรามักเริ่มต้นอย่างแปลก ๆ และจบลงอย่างแปลก ๆ”

––––––––––

กว่าฉันจะกลับไปเมือง X ก็เป็ นเวลาห้าโมงเศษ ฉันแวะซุปเปอร์มาเก็ตก่อนจะไปที่อ


พาร์ทเม้นท์ของหมอ ฉันส่งข้อความไปหาเขา “คุณยุ่งอยู่หรือเปล่า”

ไม่มีข้อความตอบ แสดงว่าเขากำลังยุ่ง ฉันวางโทรศัพท์และหันไปจัดการกับถุง


ข้าวโพด

ฉันนึ่งมันจนสุก พักไว้ให้เย็นก่อนจะฝานเมล็ดและใส่เครื่องปั่น ฉันพบว่าตัวเองหาน


มกล่องไม่พบ ไม่ถึงอาทิตย์ด้วยซ้ำ เขาจัดการมันจนหมดเลยหรือ

ฉันจุดไฟ ต้มถั่วเหลืองกับเมล็ดข้าวโพดและน้ำตาลกรวด จากนั้น ใส่ทั้งหมดใน


เครื่องทำนมถั่วเหลือง

พอทำทุกอย่างเกือบเสร็จ โทรศัพท์ก็สั่น “ไม่ยุ่งเท่าไหร่ครับ เพิ่งเดินตรวจคนไข้


เสร็จ”

“กินมื้อเย็นหรือยังคะ”
“กินแล้วครับ แต่อาหารไม่ค่อยอร่อยเลยหาแอปเปิ้ลมาสำรองไว้”

(หมอ ระหว่างเราใครชอบกินแอปเปิ้ลมากกว่า)

“ฉันซื้อถั่วฮิกคอรี่กับคุกกี้ชอร์ทเบรดแบบแท่งให้คุณ”

“ผมหิวแล้ว”

ฉันหัวเราะ จากนั้นรีบอาบน้ำก่อนจะนั่งรถไฟใต้ดิน 4 สถานี ไปที่โรงพยาบาล

ฉันผลักประตูห้องทำงานเข้าไป หมอที่กำลังนั่งเคาะคีย์บอร์ดหันหน้ามา ดวงตาของ


เขาเป็ นประกาย 120% จากปกติ

ฉันเอนตัวซบหลังของเขา ปลายนิ้วที่อบอุ่นและแห้ง เสื้อกาวน์สีขาวสะอาด กลิ่นสบู่


ประจำตัวจากซอกคอ ผสมรวมกันเป็ นหมอของฉัน

เขามองฉันและกระพริบตา อ่า ทำไมผู้ชายคนหนึ่งสามารถมีเปลือกนอกที่ใจดี


ภายในที่ร้ายกาจ และแสดงสีหน้าทึ่มทื่อได้ในเวลาเดียวกัน

“นี่คุณกลายเป็ นเจ้าทึ่มไปแล้วหรือคะ”

“. . . . ห้าวัน รวมเวลาเดินทางไปกลับ” ผู้ชายสายวิทย์มักสนใจตัวเลข

ฉันวางน้ำข้าวโพดและคุกกี้ชอร์ทเบรดแบบแท่งลงบนโต๊ะ “นี่เป็ นเวลาที่ฉันเป็ นฝ่ าย


มาหาและดูแลคุณไงคะ”

ฉันกำลังเตรียมตัวจะกระโจนใส่หมอ แต่จู่ ๆ คนที่นั่งโต๊ะตรงข้ามก็โผล่หน้าขึ้นมา


เป็ นอาจารย์หมอ B
ฉันชะงักค้างอยู่ตรงนั้น ตรงหน้าฉัน มีสิ่งมีชิวิตปรากฏตัวขึ้นกะทันหันโดยที่ฉันไม่ได้
เตรียมใจไว้ก่อน

อาจารย์หมอ B มองไปมาระหว่างฉันกับหมอสองรอบ ก่อนจะหัวเราะ “เชือกผูกรอง


เท้าหลุดน่ะ”

ฉันคุ้นเคยกับอาจารย์หมอ B คุ้นเคยมากทีเดียว เขาเป็ นผู้กำกับดูแลการรักษา


อาจารย์หลิน ฉันคิดอย่างว่องไว ต้องหาทางอธิบาย ต้องอธิบาย ต้องอธิบาย… แต่
จะอธิบายยังไงดีล่ะ แค่มาส่งของว่างให้คนรักดีมั้ย >_<

อาจารย์หมอหัวเราะ “ไม่รบกวนพวกคุณแล้ว ผมไปก่อนดีกว่า” แล้วเขาก็รีบเก็บข้าว


ของ หนำซ้ำตอนออกไปยังปิดประตูอย่างเบามือ

ฉันมองตามจนเขาออกจากห้องก่อนจะหันหน้ากลับมา หมอที่กำลังถือถ้วยอยู่จ้องฉัน
พร้อมกับยิ้ม “ทำไมคุณต้องหน้าแดง”

“มันน่าอึดอัดจะตาย…”

“ถ้าคุณไปพบพ่อแม่ของผม คุณจะอึดอัดขนาดไหน”

สมองของฉันเหมือนจะเสียสภาพไป ฉันรู้สึกหงุดหงิด “ตั้งใจกินเถอะค่ะ”

“คุณซื้อมาจากร้านอื่นเหรอ”

“นั่นเพราะฉันไม่ได้เติมนม ฉันหากล่องนมไม่พบ คุณกินหมดแล้วเหรอ”

หมออึ้งไป เขามองถ้วยในมือและหันมามองฉัน “คุณ…”

“ฉันซื้อเครื่องทำนมถั่วเหลืองไปไว้ที่อพาร์ทเม้นท์ของคุณ จากนั้นก็เทนมถั่วเหลือง
ลงไป แล้วบอกว่าฉันทำเอง”
หมอค่อย ๆ กินทุกอย่างจนหมด เขาโอบเอวฉันและแนบแก้มของเขากับท้องของฉัน
เขาระบายลมหายใจอุ่น ๆ ก่อนจะกระซิบว่า “โธ่ เซี่ยวเซี่ยว”

หัวใจฉันก็อ่อนยวบ

*****************************************

ข้อความพิเศษ

หมอ: ตอนที่คุณเพิ่งตื่น คุณดูเหมือนหมั่นโถวผมถึงชอบจับแก้มของคุณ

(หมั่นโถวที่ไหนหุ่นดีขนาดนี้คะ)

*****************************************

ข้อเสียของหมอที่หลินจือเซี่ยวบรรยาย ทำให้อยากสิงร่างเธอมากกว่าเดิม >_<

ข้อเสียที่แท้จริงของหมอคือเป็ นคนที่เข้าใจยาก ยากมาก แถมไม่ยอมสื่อสาร =*= แต่


ทั้งประโยชน์ (รวมถึงข้อเสียเรื่องนอน) ของหมอคงมีค่ามากพอจะทำให้อยากลองดู
สักตั้ง

ตั้งแต่ MV เพลง My Best Summer ออก หน้าหลินจือเซี่ยวในใจก็กลายเป็ นซ่งจู่เอ๋


อร์ไป ยิ่งหมอบอกว่าแก้มของหลินจือเซี่ยวตอนเพิ่งตื่นเหมือนหมั่นโถวยิ่งใช่

เลย

หลังจากการแปลขาดช่วงไป กลับมาคราวนี้ฉาก skinship มาติด ๆ กันเลย ตอนหน้า


ยิ่ง…

You might also like