Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 77

แนวข้ อสอบเสมือนจริง

ข้ อที่ 1. 2 6 18 54 162 _______


1 :217
2 :364
3 :486
4 :512
ข้ อที่ 2. 2 3 4 5 6 8 8 12 ________
1 :6
2 :8
3 :10
4 :12
ข้ อที่ 3. 5 6 14 29 51 ________
1 :80
2 :86
3 :92
4 :94
4. _______

24
1:
5
27
2:
5
3:2
4:4
ข้ อที่ 5. 1 M 3 N 5 Q 6 N 9 U 9 N ________
1 :13 Y 12 N
2 :15 Y 15 N
3 :17 Z 18 P
4 :19 Z 19 P
ข้ อที่ 6. กำหนดให้ จงหำค่ำของ
1 :899
2 :800
3 :801
4 :999
ข้ อที่ 7.อึ่งอ่ำงตัวหนึ่งอยู่ก้นบ่อ กระโดดขึ ้นปำกบ่อในเวลำ 1 วินำที กระโดดเกำะข้ ำงบ่อได้ 3 ฟุต แต่ก็ลื่น
ลง 2 ฟุต ในเวลำ 1 วินำทีเท่ำกัน เป็ นดังนี ้เรื่ อยไป หำกอึ่งอ่ำงกระโดดจนเกำะขอบบ่อได้ เวลำ 1 นำที 55
วินำทีบอ่ ลึกกี่ฟตุ
1 :115
2 :85
3 :58
4 :57
ข้ อที่ 8.ข้ อใดต่อไปนี ้ผิด
1 : 100,0012 – 99,9992 = 400,000
2 :(22,226 x 22,224) – 22,2242 = 44,448
3 :1012 + 2(101)(99) + 992 = 40,000
4 :(10,001 x 999) – 999 เป็ นเลขจำนวนเต็ม 8 หลัก
ข้ อที่ 9.เมื่อต้ องกำรทำฐำนเวที โดยกำรนำก้ อนอิฐทรงลูกบำศก์ที่เท่ำกันมำซ้ อนกันจำนวน 36 ลูก
แล้ วทำสีทงั ้ 6 ด้ ำน จงพิจำรณำว่ำข้ อสรุปใดต่อไปนี ้ถูกต้ อง
ก. ลูกบำศก์ทำสี 1 ด้ ำน มี 8 ลูก
ข. ลูกบำศก์ทำสี 2 ด้ ำน มี 16 ลูก
ค. ลูกบำศก์ทำสี 3 ด้ ำน มี 16 ลูก
ง. ลูกบำศก์ไม่ถกู ทำสีเลย มี 2 ลูก
1 :ก และ ข
2 :ก และ ค
3 :ข และ ง
4 :ค และ ง
ข้ อที่ 10.มีเหรี ยญห้ ำบำทอยู่ในกล่อง 2 กล่อง รวมทังหมด
้ 150 เหรี ยญ หยิบเหรี ยญ 17 อัน จำกกล่องที่ 1
ใส่ในกล่องที่ 2 ทำให้ กล่องที่ 2 มีเหรี ยญเป็ นจำนวน 2 เท่ำของเหรี ยญในกล่องที่ 1 อยำกทรำบว่ำมีเหรี ยญ
อยูก่ ี่เหรี ยญในกล่องที่ 1 ก่อนที่จะมีกำรหยิบใส่กล่องที่ 2
1 :87 เหรี ยญ
2 :75 เหรี ยญ
3 :67 เหรี ยญ
4 :50 เหรี ยญ
ใช้ ข้อมูลจำกตำรำงด้ ำนล่ำงนี ้ ตอบคำถำมข้ อ 11 – 15

ข้ อที่ 11.ปี ใดต่อไปนี ้ขำดดุลกำรค้ ำมำกที่สดุ


1 :ปี ที่ 3
2 :ปี ที่ 7
3 :ปี ที่ 9
4 :ปี ที่ 11
ข้ อที่ 12.อัตรำส่วนของมูลค่ำกำรค้ ำระหว่ำงประเทศต่อผลิตภัณฑ์ประชำชำติในปี เดียวกันของปี ใดมีค่ำ
เท่ำกับ 2.5
1 :ปี ที่ 6
2 :ปี ที่ 7
3 :ปี ที่ 10
4 :ปี ที่ 11
ข้ อที่ 13.มูลค่ำกำรค้ ำระหว่ำงประเทศในช่วงระหว่ำงปี ที่ 7 – ปี ที่ 11 เฉลี่ยเพิ่มขึ ้นประมำณกี่ล้ำนบำท
1 :18,190
2 :18,990
3 :22,730
4 :22,740
ข้ อที่ 14. มูลค่ำกำรส่งออกในปี ที่ 10เติบโตขึ ้นประมำณร้ อยละเท่ำใดเมื่อเทียบกับมูลค่ำกำรส่งออกในปี ที่ 9
1 :ร้ อยละ 23
2 :ร้ อยละ 28
3 :ร้ อยละ 35
4 :ร้ อยละ 45
ข้ อที่ 15.อัตรำส่วนของผลิตภัณฑ์ประชำชำติเบื ้องต้ นในปี ใดที่มีอตั รำส่วนต่อกันรำว 1 : 2
1 :ปี ที่ 5 และปี ที่ 9
2 :ปี ที่ 2 และปี ที่ 8
3 :ปี ที่ 7 และปี ที่ 11
4 :ปี ที่ 1 และปี ที่ 6
ข้ อที่ 16.สถำนีขนส่ง : ผู้โดยสำร
1 :โรงเรี ยน : ครู
2 :โรงพยำบำล : หมอ
3 :สถำนีตำรวจ : ผู้ร้ำย
4 :มหำวิทยำลัย : นักศึกษำ
ข้ อที่ 17.เมิน : หลีกเลี่ยง
1 :ปิ ด : เปิ ด
2 :วิจำรณ์ : วิพำกษ์
3 :สนใจ : ทุม่ เท
4 :ส่งเสียง : ตะโกน
ข้ อที่ 18.กลิ่น : ฆำนประสำท
1 :ดม : สัมผัส
2 :เสียง : โสตประสำท
3 :รส : อร่อย
4 :จักษุ : ภำพ
ข้ อที่ 19.รังสี : เอกซเรย์
1 :สี : แดง
2 :อินฟรำเรด : อัลตรำไวโอเลต
3 :ถดถอย : ประสิทธิภำพ
4 :วิตำมิน : อำหำรเสริม
ข้ อที่ 20.งำ : งวง
1 :ช้ ำง : แรด
2 :กีบ : ม้ ำ
3 :ปี ก : จะงอยปำก
4 :เขี ้ยว : เสือ
ข้ อที่ 21.แมวเป็ นสัตว์ที่หลำยคนต่ำงหลงใหลในควำมน่ำรักของมัน แมวมีทงั ้ ลักษณะรู ปร่ ำงที่น่ำเอ็นดู
ควำมขีอ้ ้ อน และนิสัยหลำยประกำรที่ทำให้ คนต่ำงตกหลุมรัก ทังนี ้ ้แมวต่ำงๆ ในโลกใบนี ้ 90% สำมำรถ
กระโดดได้ สงู ถึง 5 เมตรอีกด้ วย ซึง่ ถือเป็ นควำมสำมำรถที่ไม่นำ่ เชื่อเลยจริงๆ
1 :แมวทังหมดกระโดดได้
้ สงู
2 :แมวบำงส่วนกระโดดได้ สงู
3 :แมวส่วนน้ อยกระโดดได้ สงู เกือบจะไม่มีแมวที่กระโดดได้ ไม่สงู
4 :เกือบจะไม่มีแมวที่กระโดดได้ ไม่สงู
ข้ อที่ 22.ประเทศพม่ำเป็ นประเทศเพื่อนบ้ ำนที่อยู่ติดกับไทยและประชำชนชำวพม่ำก็ได้ นบั ถือศำสนำพุทธ
เป็ นส่วนใหญ่ เช่นเดียวกับ โดยมี จ ำนวนมำกกว่ำ 85% ของทัง้ หมด ส่วนที่เหลือก็ จะกระจำยไปนับถื อ
ศำสนำหรื อลัทธิอื่น ๆ สรุปได้ วำ่
1 :ชำวพม่ำส่วนใหญ่นบั ถือศำสนำพุทธ
2 :ชำวพม่ำเกือบทังหมดนั
้ บถือศำสนำพุทธ
3 :ชำวพม่ำบำงส่วนนับถือศำสนำพุทธ
4 :ชำวพม่ำส่วนน้ อยนับถือศำสนำพุทธ
ข้ อ ที่ 23.เมื องบำหลี เ ป็ นสถำนที่ ท่อ งเที่ ยวที่ มี ชื่ อ เสี ย งมำกที่ สุด ของประเทศอิน โดนี เซี ย นักท่องเที่ ย ว
ชำวต่ำงชำติที่เข้ ำมำในประเทศอินโดนีเซีย ก็มักจะต้ องมำเยือนเกำะเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์แห่งนี ้ โดยคิดเป็ น
จำนวนร้ อยละ 45 ของนักท่องเที่ยวชำวต่ำงชำติทงหมดที ั้ ่มำเยือนอินโดนีเซีย สรุปได้ วำ่
1 :ชำวต่ำงชำติที่มำท่องเที่ยวประเทศอินโดนีเซียส่วนใหญ่มำเที่ยวบำหลี
2 :ชำวต่ำงชำติทกุ คนมำเที่ยวบำหลี
3 :ชำวต่ำงชำติเกือบทังหมดมำเที
้ ่ยวบำหลี
4 :ชำวต่ำงชำติสว่ นน้ อยมำเที่ยวอินโดนีเซีย
ข้ อที่ 24.ประชำกรในโลกนี ้ทังหมดกว่
้ ำ 7 พันล้ ำนคนนัน้ กระจำยกำรตังถิ ้ ่นฐำนกันไปในประเทศต่ำงๆ ทัว่
โลก โดยจะอำศัยอยู่ในประเทศจีนมำกที่สุด ทำให้ ประเทศจีนมีกำลังคนในกำรผลิตสินค้ ำอย่ำงมหำศำล
อีกทังยั้ งถือเป็ นเป็ นตลำดที่ใหญ่ที่สดุ ในโลกอีกด้ วย
1 :คนส่วนมำกของโลกอยูใ่ นประเทศจีน
2 :ประเทศจีนมีประชำกรมำกที่สดุ ในโลก
3 :ประเทศจีนรวยที่สดุ ในโลก
4 :ประชำกรของโลกบำงส่วนอยูใ่ นประเทศจีน
ข้ อที่ 25.โรงเรี ยนแห่งหนึ่งมีจำนวนนักเรี ยนทังหมดจ ้ ำนวน 800 คน โดยโรงเรี ยนแห่งนี ้ได้ จดั กำรเรี ยนกำร
สอนภำษำจีนเพื่อให้ นกั เรี ยนได้ พฒ ั นำตนเองอย่ำงต่อเนื่องอี กด้ วย แต่ทว่ำกลับมีนกั เรี ยนที่สนใจสมัครเรี ยน
เพียงแค่ 80 คนเท่ำนัน้ ทำงโรงเรี ยนจึงต้ องหำทำงกระตุ้นให้ นกั เรี ยนเข้ ำมำสมัครเรี ยนให้ มำกยิ่งขึ ้น
1 :มีนกั เรี ยนที่เรี ยนภำษำจีนเพียง 10%
2 :นักเรี ยนชอบเรี ยนภำษำอังกฤษมำกกว่ำ
3 :นักเรี ยนส่วนมำกเรี ยนภำษำจีน
4 :นักเรี ยนเกือบทังหมดเรี ้ ยนภำษำจีน
ข้ อที่ 26. ข้ อสรุปที่ 1 T < C – B
ข้ อสรุปที่ 2 T < 8
1 :ข้ อสรุปทังสองถู
้ กหรื อเป็ นจริงตำมเงื่อนไข
2 :ข้ อสรุปทังสองผิ
้ ดหรื อไม่เป็ นจริงตำมเงื่อนไข
3 :ข้ อสรุปทังสองไม่
้ สำมำรถสรุปได้ แน่ชดั ว่ำถูกหรื อผิดตำมเงื่อนไข
4 :ข้ อสรุปทังสองมี ้ ข้อสรุปใดข้ อสรุปหนึ่งที่เป็ นจริ งหรื อไม่จริ งหรื อไม่แน่ชดั ซึ่งไม่ซ ้ำกับอีกข้ อสรุ ป
หนึง่
ข้ อที่ 27. ข้ อสรุปที่ 1 C > 8
ข้ อสรุปที่ 2 T > (AB + C)2
1 :ข้ อสรุปทังสองถู ้ กหรื อเป็ นจริงตำมเงื่อนไข
2 :ข้ อสรุปทังสองผิ ้ ดหรื อไม่เป็ นจริงตำมเงื่อนไข
3 :ข้ อสรุปทังสองไม่ ้ สำมำรถสรุปได้ แน่ชดั ว่ำถูกหรื อผิดตำมเงื่อนไข
4 :ข้ อสรุปทังสองมี ้ ข้อสรุปใดข้ อสรุปหนึ่งที่เป็ นจริ งหรื อไม่จริ งหรื อไม่แน่ชดั ซึ่งไม่ซ ้ำกับอีกข้ อสรุ ป
หนึง่
ข้ อที่ 28. ข้ อสรุปที่ 1 AB > T – C
ข้ อสรุปที่ 2 T < 8 – C
1 :ข้ อสรุปทังสองถู ้ กหรื อเป็ นจริงตำมเงื่อนไข
2 :ข้ อสรุปทังสองผิ ้ ดหรื อไม่เป็ นจริงตำมเงื่อนไข
3 :ข้ อสรุปทังสองไม่ ้ สำมำรถสรุปได้ แน่ชดั ว่ำถูกหรื อผิดตำมเงื่อนไข
4 :ข้ อสรุปทังสองมี ้ ข้อสรุปใดข้ อสรุปหนึ่งที่เป็ นจริ งหรื อไม่จริ งหรื อไม่แน่ชดั ซึ่งไม่ซ ้ำกับอีกข้ อสรุ ป
หนึง่
ข้ อที่ 29. ข้ อสรุปที่ 1 8 > C – T
ข้ อสรุปที่ 2 A > B
1 :ข้ อสรุปทังสองถู ้ กหรื อเป็ นจริงตำมเงื่อนไข
2 :ข้ อสรุปทังสองผิ
้ ดหรื อไม่เป็ นจริงตำมเงื่อนไข
3 :ข้ อสรุปทังสองไม่
้ สำมำรถสรุปได้ แน่ชดั ว่ำถูกหรื อผิดตำมเงื่อนไข
4 :ข้ อสรุปทังสองมี
้ ข้อสรุปใดข้ อสรุปหนึ่งที่เป็ นจริ งหรื อไม่จ ริ งหรื อไม่แน่ชดั ซึ่งไม่ซ ้ำกับอีกข้ อสรุ ป
หนึง่
ข้ อที่ 30. ข้ อสรุปที่ 1 T > 10
ข้ อสรุปที่ 2 C > 15
1 :ข้ อสรุปทังสองถู
้ กหรื อเป็ นจริงตำมเงื่อนไข
2 :ข้ อสรุปทังสองผิ
้ ดหรื อไม่เป็ นจริงตำมเงื่อนไข
3 :ข้ อสรุปทังสองไม่
้ สำมำรถสรุปได้ แน่ชดั ว่ำถูกหรื อผิดตำมเงื่อนไข
4 :ข้ อสรุปทังสองมี ้ ข้อสรุปใดข้ อสรุปหนึ่งที่เป็ นจริ งหรื อไม่จริ งหรื อไม่แน่ชดั ซึ่งไม่ซ ้ำกับอีกข้ อสรุ ป
หนึง่

อ่ำนข้ อควำมด้ ำนล่ำงแล้ วตอบคำถำม 31-35


- เชิดศักดิ์ ชูชยั และชัชวำลเป็ นเพื่อนกัน
- ชูชยั เป็ นคนเดียวที่มีลกู
- แฟนของเชิดศักดิเ์ ป็ นนักแสดง
- แฟนของชูชยั เป็ นครู
- รัศมีมีแฟนเป็ นนักขำยประกัน
- ปอนด์มีพอ่ เป็ นหมอ
- สมรมีลกู อำยุ 4 ขวบ
- นรำมีอำชีพเดียวกันกับสมรและมีแฟนเป็ นสถำปนิกที่สร้ ำงบ้ ำนให้ เชิดศักดิ์
ข้ อที่ 31. ข้ อสรุปที่ 1 ชูชยั เป็ นหมอ
ข้ อสรุปที่ 2 ปอนด์เป็ นลูกของสมร
1 :ข้ อสรุปทังสองถู
้ กหรื อเป็ นจริงตำมเงื่อนไข
2 :ข้ อสรุปทังสองผิ ้ ดหรื อไม่เป็ นจริงตำมเงื่อนไข
3 :ข้ อสรุปทังสองไม่ ้ สำมำรถสรุปได้ แน่ชดั ว่ำถูกหรื อผิดตำมเงื่อนไข
4 :ข้ อสรุ ปทังสองมี ้ ข้อสรุ ปใดข้ อสรุ ปหนึ่งที่เป็ นจริ งหรื อไม่จริ งหรื อไม่แน่ชดั ซึ่งไม่ซ ้ำกับอีกข้ อสรุ ป
หนึง่
ข้ อที่ 32. ข้ อสรุปที่ 1 ชัชวำลมีแฟนคือนรำ
ข้ อสรุปที่ 2 เชิดศักดิม์ ีลกู อำยุ 4 ขวบ
1 :ข้ อสรุปทังสองถู
้ กหรื อเป็ นจริงตำมเงื่อนไข
2 :ข้ อสรุปทังสองผิ
้ ดหรื อไม่เป็ นจริงตำมเงื่อนไข
3 :ข้ อสรุปทังสองไม่
้ สำมำรถสรุปได้ แน่ชดั ว่ำถูกหรื อผิดตำมเงื่อนไข
4 :ข้ อสรุปทังสองมี
้ ข้อสรุปใดข้ อสรุปหนึ่งที่เป็ นจริ งหรื อไม่จริ งหรื อไม่แน่ชดั ซึ่งไม่ซ ้ำกับอีกข้ อสรุ ป
หนึง่
ข้ อที่ 33. ข้ อสรุปที่ 1 สมรเป็ นครูสอนภำษำอังกฤษ
ข้ อสรุปที่ 2 นรำเป็ นครูสอนสังคมศึกษำ
1 :ข้ อสรุปทังสองถู
้ กหรื อเป็ นจริงตำมเงื่อนไข
2 :ข้ อสรุปทังสองผิ
้ ดหรื อไม่เป็ นจริงตำมเงื่อนไข
3 :ข้ อสรุปทังสองไม่
้ สำมำรถสรุปได้ แน่ชดั ว่ำถูกหรื อผิดตำมเงื่อนไข
4 :ข้ อสรุ ปทังสองมี ้ ข้อสรุ ปใดข้ อสรุ ปหนึ่งที่เป็ นจริ งหรื อไม่จริ งหรื อไม่แน่ชดั ซึ่งไม่ซ ้ำกับอีกข้ อสรุ ป
หนึง่
ข้ อที่ 34. ข้ อสรุปที่ 1 เชิดศักดิม์ ีแฟนเป็ นนักแสดง
ข้ อสรุปที่ 2 สถำปนิกมีแฟนเป็ นครู
1 :ข้ อสรุปทังสองถู
้ กหรื อเป็ นจริงตำมเงื่อนไข
2 :ข้ อสรุปทังสองผิ
้ ดหรื อไม่เป็ นจริงตำมเงื่อนไข
3 :ข้ อสรุปทังสองไม่
้ สำมำรถสรุปได้ แน่ชดั ว่ำถูกหรื อผิดตำมเงื่อนไข
4 :ข้ อสรุ ปทังสองมี ้ ข้อสรุ ปใดข้ อสรุ ปหนึ่งที่เป็ นจริ งหรื อไม่จริ งหรื อไม่แน่ชดั ซึ่งไม่ซ ้ำกับอีกข้ อสรุ ป
หนึง่
ข้ อที่ 35. ข้ อสรุปที่ 1 ชัชวำลเป็ นสถำปนิก
ข้ อสรุปที่ 2 ชูชยั เป็ นแพทย์ผิวหนัง
1 :ข้ อสรุปทังสองถู
้ กหรื อเป็ นจริงตำมเงื่อนไข
2 :ข้ อสรุปทังสองผิ
้ ดหรื อไม่เป็ นจริงตำมเงื่อนไข
3 :ข้ อสรุปทังสองไม่
้ สำมำรถสรุปได้ แน่ชดั ว่ำถูกหรื อผิดตำมเงื่อนไข
4 :ข้ อสรุ ปทังสองมี ้ ข้อสรุ ปใดข้ อสรุ ปหนึ่งที่เป็ นจริ งหรื อไม่จริ งหรื อไม่แน่ชดั ซึ่งไม่ซ ้ำกับอีกข้ อสรุ ป
หนึง่
ข้ อที่ 36.ข้ อควำมใดอยูล่ ำดับที่ 3
1 :กำรอ่ำนออกเสียงจะทำให้ ผ้ อู ื่นเสียสมำธิ
2 :ห้ องสมุดเป็ นหัวใจของกำรศึกษำ เป็ นสถำนที่ศกึ ษำหำควำมรู้ได้ ตลอดชีวิต
3 :ทรัพยำกรที่ยืมมำจำกห้ องสมุดต้ องดูแลรักษำเป็ นอย่ำงดี กำรเขียนข้ อควำมลงในหนังสือจะทำ
ให้ สกปรก
4 :กำรเข้ ำใช้ ห้องสมุดควรสำรวมกิริยำ กำรพูดคุยเสียงดังจะรบกวนผู้อื่น
ข้ อที่ 37.ข้ อควำมใดอยูด่ ำดับที่ 4
1 :เปลือกมีสีนำตำลแกมเหลือง เนื ้อด้ ำนในสีเหลืองถึงเหลืองแกมเขียว
2 :ในประเทศไทยนิยมปลูกกันมำกที่จงั หวัดกำญจนบุรีและสุพรรณบุรี
3 :เหง้ ำไพลแก่ทงสดและแห้
ั้ งจะเผ็ดเล็กน้ อย
4 :ไพลเป็ นไม้ ล้มลุกอยูใ่ ต้ ดนิ
ข้ อที่ 38.ข้ อควำมใดอยูด่ ำดับที่ 1
1 :เช่น หนูในท่อระบำยน ้ำตำมบ้ ำนเรื อน
2 :ทำให้ งตู ้ องปรับตัว และล่ำเหยื่อที่มีอยูใ่ นเมืองเป็ นจำนวนมำก
3 :ปั ญหำงูเข้ ำบ้ ำนเกิดขึ ้นได้ บอ่ ยๆ
4 :เนื่องจำกกำรขยำยตัวของเมืองเข้ ำไปลุกล ้ำที่อยู่อำศัยของงู
ข้ อที่ 39.ข้ อควำมใดอยูล่ ำดับที่ 2
1 :ผิวเรี ยบ เปลือกบำง จึงกินได้ ทงเปลืั ้ อก
2 :มะไฟจีนเป็ นพืชตระกูลส้ มชนิดหนึง่
3 :เนื ้อใสฉ่ำน ้ำ มีรสหวำนอมเปรี ย้ ว
4 :เป็ นไม้ ไม่ผลัดใบ ออกผลตำมลำต้ นและกิ่งเป็ นพวงคล้ ำยมะไฟ
ข้ อที่ 40.ข้ อควำมใดอยูล่ ำดับที่ 3
1 :โดยเฉพำะจำกแสงแดด ซึง่ อำจทำให้ กระจกตำ เลนส์ และจอประสำทตำอักเสบ
2 :จึงควรต้ องสวมแว่นกันแดดทุกครัง้ เมื่อต้ องเผชิญกับแสดงแดดเพื่อลดแสงยูวีที่จะกระทบตำ
3 :ดวงตำเป็ นอวัยวะที่สำคัญ เรำจึงต้ องดูแลให้ ปลอดภัย
4 :มีอำกำรแสบตำ น ้ำตำไหล ในระยะยำวอำจเป็ นต้ อกระจกได้
ข้ อที่ 41.สำนวนมีควำมหมำยว่ำกระทำด้ วยควำมรุนแรง
1 :ปล่อยเสือเข้ ำป่ ำ
2 :ขิงก็รำข่ำก็แรง
3 :หักด้ ำมพร้ ำด้ วยเข่ำ
4 :น ้ำเชี่ยวอย่ำงขวำงเรื อ
ข้ อที่ 42.คำว่ำ ตก ข้ อใดมีควำมหมำยว่ำไม่ได้
1 :ฉันเสียใจมำกที่สอบตก
2 :เสื ้อกีฬำตัวนี ้สีตก
3 :วัวเป็ นสัตว์ตกลูกครัง้ ละตัว
4 :เขำคิดตกแล้ วว่ำจะขับรถไปทำงเหนือ
ข้ อที่ 43.ข้ อใดมีคำที่สลับตำแหน่งแล้ วควำมหมำยเปลี่ยนไปทุกคำ
1 :งำนกำร ชมเชย ผลัดเปลี่ยน
2 :สดใส มะนำวดอง พัดลม
3 :ส่งเสริม มือขำว วอดวำย
4 :งำมหน้ ำ ดีใจ ผลไม้
ข้ อที่ 44.ข้ อใดใช้ คำได้ เหมำะสมที่สดุ
1 :กระทรวงศึกษำธิกำรเรี ยกสอบกรำวรูดกรทุจริ ตกำรสร้ ำงอำคำร
2 :ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยืนกรำนปฏิบตั ติ ำมนโยบำยเดิม
3 :ของขวัญชิ ้นนี ้ถึงไม่สงู รำคำแต่มำกค่ำด้ วยควำมห่วงใย
4 :ศำลปกครองสัง่ ฟั งคดีกระทรวงแรงงำนเป็ นคดีแรก
ข้ อที่ 45.ข้ อควำมใดสื่อควำมคิดได้ ชดั เจนที่สดุ
1 :พรี ไซส์ อำหำรสุนขั และแมวทุกช่วงอำยุ
2 :รี ดผ้ ำมำกแค่ไหนก็ไม่เบื่อด้ วยเก้ ำอี ้รี ดผ้ ำ ไลฟ์ไฮพ์
3 :กระบอกฉีดน ้ำมันมิสโต รูปแบบใหม่ของกำรใช้ น ้ำมันเพียงเล็กน้ อยในกำรประกอบอำหำรต่ำง ๆ
4 :ปลอดภัย ประหยัดเวลำและพลังงำน คงกลิ่น รสชำติและรักษำคุณค่ำอำหำรด้ วยหม้ ออัดควำม
ดันคุนริคอน
ข้ อ ที่ 46.“จุ ด เริ่ ม ต้ น ที่ ท ำให้ สัง คม องค์ ก ร ชุม ชน หรื อ ระบบต่ำ ง ๆ มี คุณ ภำพได้ นัน้ มัก จะเริ่ ม จำก
ปั จจัยพื ้นฐำนสำคัญคือ คนคุณภำพ แทบทังสิ ้ ้น คนคุณภำพในที่นี ้หมำยถึงคนดีและคนเก่ง ใช้ ควำมดีเป็ น
กรอบ และใช้ ควำมเก่ ง เป็ นพลังขับเคลื่อนให้ องค์กรหรื อชุมชนนัน้ อยู่รอดหรื อพัฒนำสมำชิ กให้ เป็ นคน
คุณภำพ ซึง่ ปั จจัยสำคัญที่จะทำให้ มีคนคุณภำพได้ ก็คือกำรศึกษำ”
สำระสำคัญของข้ องควำมนี ้คือข้ อใด
1 :สังคมต้ องกำรคนคุณภำพ
2 :กำรศึกษำสำมำรถพัฒนำให้ คนมีคณ ุ ภำพ
3 :คนคุณภำพคือจุดเริ่มต้ นในกำรพัฒนำสังคม
4 :กำรศึกษำเป็ นจุกเริ่มต้ นในกำรพัฒนำคนคุณภำพ
ข้ อที่ 47.ควำมสำเร็ จไม่อำจวัดกันที่ตำแหน่งที่คนคนหนึ่งสำมำรถกว้ ำขึน้ มำยืนหยัดได้ หำกควรวัดจำก
อุปกรณ์ทงหลำยที
ั้ ่เขำสำมำรถฟั นฝ่ ำมำได้ ขณะที่พยำยำมก้ ำวไปสู่ควำมสำเร็จ ควำมสำเร็จคือ
1 :กำรแก้ ปัญหำได้ ลลุ ว่ ง
2 :กำรได้ รับชัยชนะเหนือผู้อื่น
3 :ควำมรับผิดชอบที่สงู ขึ ้น
4 :กำรได้ รับกำรยกย่องในสังคม
ข้ อที่ 48.“วิธีแก้ กำรอักเสบของเข่ำแบบโบรำณคือเอำขี ้ผึ ้งหรื อพำรำฟิ นมำอุ่นให้ ละลำย แล้ วเอำแปรงจุ่ม
พำรำฟิ นละเลงบนข้ อที่ปวด อำศัยควำมร้ อนจัดจำกพำรำฟิ นทำให้ อำกำรอักเสบของข้ อลดลง ให้ ทำวันละ
สองครัง้ ควบกันไปกับกำรควบคุมอำหำรและกำรดำมเข่ำจะเห็นผลภำยใน 7 วัน”
ข้ อใดที่มีควำมสำคัญน้ อยที่สดุ ในกำรลดกำรอักเสบ
1 :ต้ องอำศัยขี ้ผึ ้งหรื อพำรำฟิ น
2 :ต้ องทำทุกวันวันละครัง้
3 :ต้ องอำศัยควำมร้ อน
4 :ต้ องควบคุมอำหำร
ข้ อที่ 49.“ฝนไม่มีทีทำ่ ว่ำจะเบำลง ตรงกันข้ ำมกับยิ่งหนำเม็ดขึ ้นจนมองทำงแทบไม่เห็น รถแล่นไปได้ ช้ำต้ อง
เปิ ดไฟใหญ่และบีบแตรตลอดทำง ในแต่ละเสี ้ยววินำทีที่ผ่ำนมำนัน้ ไม่มีใครสำมำรถทำนำยได้ ว่ำอะไรจะ
เกิดขึ ้นและถ้ ำพลำดเพียงนิดเดียวสิ่งที่เหลืออยู่ก็คือเศษเหล็กกับกองกระดูกก้ นเหว” จำกข้ อควำมข้ ำงต้ น
อะไรไม่ใช่อปุ สรรคในกำรขับรถครัง้ นี ้
1 :ควำมมืด
2 :สภำพรถ
3 :ฝนตกหนัก
4 :ทำงที่เลียบเขำ
ข้ อที่ 50.“ทังบำงกอกน้
้ อยและบำงกอกใหญ่ แค่แตกต่ำงกันในระดับยศถำบรรดำศักดิ์ของผู้คนในสมัยนัน้
แต่วิถีชีวิตและกำรประกอบสัมมำอำชีพไม่ตำ่ งกัน คือ อำชีพทำสวนผลไม้ เพรำะน ้ำท่ำอุดมสมบูรณ์ ในขณะ
ที่ชำวบ้ ำนริมคลองบำงกอกน้ อยมีฝีมือทำงเชิงช่ำงอยูไ่ ม่น้อย”
จำกข้ อควำมนี ้ ผู้เขียนแสดงทรรศนะในแง่ใด
1 :มีทศั นคติไม่ดีตอ่ กำรแบ่งชนชันของสั
้ งคมไทยในอดีต
2 :ประทับใจในควำมสำมำรถทำงช่ำงของชำวบำงกอกน้ อยเป็ นอย่ำงมำก
3 :ให้ ข้อมูลเกี่ยวกับควำมเป็ นอยูข่ องชุมชนบำงกอกน้ อย บำงกอกใหญ่
4 :บรรยำยถึงสภำพควำมอุดมสมบูรณ์ของบำงกอกน้ อยและบำงกอกใหญ่ในอดีต

อ่ำนข้ อควำมต่อไปนี ้ ตอบคำถำมข้ อที่ 51 – 52


พลำสติกที่สำมำรถย่อยสลำยได้ ทำงชีวภำพ คือ พลำสติกที่ผลิตขึ ้นจำกวัตถุดบิ ทำงธรรมชำติ เช่น
แป้งข้ ำวโพด หรื อ มันสำปะหลัง ซึ่งจะมีควำมต่ำงจำกพลำสติกที่ใช้ กันอยู่ทกุ วันนี ้ซึ่งมีสำรตังต้
้ นจำกปิ โตร
เคมี และจำกกำรผลิตขึ ้นจำกวัตถุดิบทำงธรรมชำตินี ้เอง จึงสำมำรถรับประกันได้ ถึงกำรย่อยสลำยด้ วย
ธรรมชำติ ทำให้ ไม่เกิดขยะที่ไม่พึงประสงค์ และกำรทำลำยธรรมชำติ จำกกระบวนกำรผลิตและกำรทำลำย
ซึง่ นับว่ำเป็ นผลิตภัณฑ์ที่เป็ นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้ อม
ข้ อที่ 51. ลักษณะพิเศษของพลำสติกย่อยสลำยได้ ทำงชีวภำพส่งผลดีตอ่ ระบบนิเวศโลกในด้ ำนใด
1 :ช่วยลดกำรใช้ ปิโตรเคมีในชีวิตประจำวัน
2 :ช่วยให้ เกิดระบวนกำรนำกลับมำใช่ใหม่
3 :ช่วยให้ กำรกำจัดขยะพลำสติกมีประสิทธิภำพ
4 :ช่วยลดกำรใช้ บรรจุภณ ั ฑ์ในชีวิตประจำวัน
ข้ อที่ 52.หำกมีกำรประกำศนโยบำยจำกภำครัฐสนับสนุนให้ มีกำรใช้ พลำสติกย่อยสลำยได้ ทำงชีวภำพแทน
พลำสติกแบบเดิม น่ำจะส่งผลต่อกำรลดลงของสิ่งใด
1 :สัดส่วนของกำรใช้ พนักงำนในกำรผลิต
2 :ปริมำณขยะบรรจุภณ ั ฑ์
3 :ขนำดของรอยเท้ ำคำร์ บอน
4 :อัตรำกำรเกิดภำวะฝนตก

อ่ำนข้ อควำมต่อไปนี ้เพื่อตอบคำถำมข้ อ 53 – 55


งำนวรรณกรรมของไทยควรที่จะได้ รับกำรส่งเสริ มให้ เป็ นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต ไม่ใช่เป็ นเพียงส่วน
หนึ่งของกำรท่องเที่ยว อย่ำงเช่นในต่ำงประเทศ มีกำรรวมใจของประชำชนและท้ องถิ่น ที่ร่วมมือกันทำให้
ศิลปะกลำยเป็ นเครื่ องมือในกำรบำบัดและเยียวยำจิตใจ แม้ ว่ำในช่วงแรกคนอำจยังไม่มำก อำจมีแต่เพียง
คนภำยในท้ อ งถิ่ น แต่ภ ำยหลัง อำจขยำยตัว ออกไปมำกขึน้ แต่สิ่ ง ที่ น่ำสัง เกตคื อ บำงประเทศใช้ ง ำน
วรรณกรรมเป็ นเครื่ องมือทำงกำรเมืองอย่ำงเดียว แทนที่จะเขียนเพื่อยกระดับจิตวิญญำณมนุษย์ แสวงหำ
ควำมงำม ควำมงำมในระดับนำมธรรม แต่กลับนำไปใช้ ในกำรทำลำยกันและกัน
ทังนี
้ ้ บำงประเทศอำจประสบปั ญหำในกำรสรรค์สร้ ำงกวีใน 2 รูปแบบ นัน่ คือทังจำกกำรยึ
้ ดมัน่ ใน
จำรี ตกำรประพันธ์มำกเกินไป จนละเลยสำระของเนื ้อหำ หรื อจำกกำรละเลยจำรี ต กระทัง่ ขำดควำมงดงำม
ทำงฉัน ทลัก ษณ์ ดัง นัน้ ต้ องระมัด ระวัง และจะต้ อ งให้ ค วำมส ำคัญ ทัง้ ในเรื่ องของควำมคิด และควำม
สละสลวย
ดังนัน้ กำรส่งเสริมงำนวรรณกรรม ต้ องบ่มเพำะ ต้ องขัดเกลำ และขับเคลื่อนอย่ำงต่อเนื่อง
ไม่จมดิง่ กับควำมคิดของตนเองกระทัง่ กลำยเป็ นควำมขมขื่น ควรจะต้ องไปเปิ ดหูเปิ ดตำ เปิ ดประสบกำรณ์
พบสิ่งใหม่ๆ และส่งเสริมพลังแห่งจิตวิญญำณในกำรต่อสู้เพื่องำนสร้ ำงสรรค์ตอ่ ไป
ข้ อที่ 53. ข้ อใดเป็ นคุณลักษณะของ “กวีที่ดี” ตำมบทควำมข้ ำงต้ น
1 :รู้รักษำขนบธรรมเนียมอย่ำงเคร่งครัด
2 :รู้รอบ รู้ลกึ รู้จริง รู้ดีชวั่
3 :รู้เชี่ยวชำญในเรื่ องที่ตนสนใจ
4 :รู้สำระด้ ำนสุนทรี ยศำสตร์ อย่ำงลึกซึ ้ง
ข้ อที่ 54.ข้ อใดไม่ใช่แนวทำงในกำรสร้ ำงสรรค์งำนวรรณกรรมให้ เป็ นส่วนหนึ่งของชีวิต จนสำมำรถยกระดับ
จิตวิญญำณมนุษย์ได้ อย่ำงแท้ จริง
1 :กำรจัดพื ้นที่ในชุมชนเพื่อเป็ นเวทีในกำรแลกเปลี่ยนควำมคิดจำกกำรอ่ำน
2 :กำรให้ ควำมสำคัญกับสำระควบคูก่ บั ควำมงำมในกำรสร้ ำงสรรค์วรรณกรรม
3 :กำรส่งเสริมพฤติกรรมกำรอ่ำนให้ เน้ นควำมดีงำมและหลุดพ้ นจำกวัฒนธรรมบริโภค
4 :กำรทุม่ งบโฆษณำสำนักพิมพ์เพื่อก่อกระแสควำมนิยมในงำนวรรณกรรม
ข้ อที่ 55. กวีควรมีบทบำทในกำรส่งเสริ มงำนวรรณกรรมให้ เป็ นเครื่ องมือที่สำมำรถบำบัดเยียวยำจิตใจของ
ประชำชนอย่ำงไร
1 :ส่งงำนวรรณกรรมเข้ ำประกวดเพื่อยืนยันคุณภำพ
2 :สร้ ำงงำนวรรณกรรมที่สะท้ อนภำพสังคมที่แท้ จริง
3 :เข้ ำร่วมเป็ นส่วนหนึง่ ของกรรมกำรด้ ำนวัฒนธรรม
4 :วิพำกษ์วิจำรณ์งำนวรรณกรรมให้ เข้ มข้ น
ข้ อที่ 56. Nan: Hi, how have you been?
Bob: I've been great. __________?
Nan: I've been good. I get a job right now.
1 :What about you
2 :What are you doing
3 :What’s wrong
4 :What’s the matter
ข้ อที่ 57. Ken: Are you free on the sixteenth in the afternoon?
John: ___________. I have to present my project to Mr. Joe.
1 :Yes, see you then
2 :Yes, it’s my day off
3 :No, I'm afraid not
4 :No, I’m free in the morning
ข้ อที่ 58. Henry: How is it going Lohan?
Lohan: I'm doing great. What about you?
Henry: I'm absolutely lovely, thank you.
Lohan: Everything's been good with you?
Henry: _____58_____. My life is going well. How about yourself?
Lohan: I got a new job as a teacher recently.
Henry: Which school do you teach for?
Lohan: I teach at TOPIC ACADEMY.
Henry: Do you enjoy it _____59_____?
Lohan: I enjoy it so much. My classes are pretty good and my colleagues are so
greatright now.
Henry: I wish you luck.
Lohan: _____60_____.
1 :Never been better
2 :I have been better
3 :Could be better
4 :Better stay away
ข้ อที่ 59.1 : so long
2 : so good
3 : so far
4 : so well
ข้ อที่ 60.1 :Sure
2 :I really appreciate it
3 :You bet
4 :It’s easy said than done
ข้ อที่ 61.Even if we had a donor, we'd still need your parents' _________ to treat you.
1 :consent
2 :effort
3 :arrangement
4 :knowledge
ข้ อที่ 62.For dinner tonight, I have bought a pudding cake as _________ from the market.
1 :desert
2 :dessert
3 :dress
4 :descent
ข้ อที่ 63.Perhaps you were suffering from some other _________.
1 :Treatment
2 :development
3 :settlement
4 :ailment
ข้ อที่ 64.For everyone across the world, education is an excellent _________ for the better future.
1 :guarantee
2 :punishment
3 :investment
4 :management
ข้ อที่ 65.Do not rely on the room clock for the _________ time of day.
1 :stable
2 :acceptable
3 :accurate
4 :eligible
ข้ อที่ 66.Neurons can _________ themselves against infection with HIV.
1 :protect
2 :protects
3 :protected
4 :protecting
ข้ อที่ 67._________ do the piles of garbage smell bad, but it is also contaminating groundwater
sources.
1 :However
2 :Because
3 :Not only
4 :Although
ข้ อที่ 68.The main reason for the _________ damage was that there were more visitors to this
National Park.
1 :environment
2 :environments
3 :environmental
4 :environmentally
ข้ อที่ 69.Every year our animal hospitals provide thousands of free veterinary treatments for pets
_________ owners cannot afford private vets’ bills.
1 :who
2 :whose
3 :whom
4 :which
ข้ อที่ 70.At this moment, The man _________ to guess the name of the place.
1 :is trying
2 :are trying
3 :try
4 :tries
Passage 1
Bubble tea lovers have to look away now. The sugary drink has gotten so popular in
Singapore that a local hospital is calling for consumers to modify their orders to make them
healthier.
Mount Alvernia Hospital – a private, not-for-profit tertiary care medical institution –
published an article on its website on tha last Friday of the fifth of July comparing the sugar and
calorie levels of various types of bubble teas and their toppings. It later posted an infographic of
the article to Facebook due to “overwhelming requests” from visitors. In the article, the hospital
warned Singaporeans against the sugar content of bubble tea, since the drink had become
“ubiquitous” and “wildly popular” here in recent years.
It acknowledged that green and black tea were indeed helpful in reducing the risk of
diseases like diabetes, arthritis and cancer, but warned that bubble tea (which contains sugar,
milk and non-dairy creamer) could actually increase the risk of chronic diseases. The hospital
also said Non-dairy creamer is a milk substitute that contains trans fat in the form of hydrogenated
palm oil. This oil has been strongly correlated with an increased risk of heart disease and stroke.
Moreover, the number of calories in a medium cup of bubble tea were equivalent to a slice of
cheesecake, and advised consumers to limit their intake to two cups a week.
ข้ อที่ 71.What is this article mainly about?
1 :Tasty of the bubble tea
2 :Fearfulness of the sugary drink
3 :Duty of the non-for-profit hospital
4 :Helpfulness of the black and green tea
ข้ อที่ 72.What does ‘it’ (paragraph 2) refer to?
1 :Bubble tea
2 :Singapore
3 :Hospital
4 :Website
ข้ อที่ 73. Who are the ‘visitors’ in paragraph 2?
1 :People who read the article from the hospital’s website
2 :People who get the information from Facebook page of the hospital
3 :People who drop to visit the hospital by themselves
4 :People who are the bubble tea lovers and come to visit the hospital
ข้ อที่ 74. Why does the hospital warn people against drinking the bubble tea?
1 :Drinking the black and green tea is extremely reduced.
2 :The bubble tea shops are oversupply in Singapore.
3 :The price of bubble tea is set excessively.
4 :There are much of sugar inside the bubble tea.
ข้ อที่ 75.Which of the following is FALSE?
1 :The calorie’s level of a piece of Cheese cake is equal with that of a medium cup of the
bubble tea.
2 :Drinking bubble tea over 2 glasses a week should be decreased.
3 :Sugar, milk and non-dairy creamer can cause diseases.
4 :It’s hardly to find the bubble tea stores in Singapore.
ข้ อที่ 76.Why did Ms. Dinsawang write the letter?
1 :She needs a copy of a credit card bill.
2 :She requires more service.
3 :She disagrees with a charge.
4 :She is unsatisfied with the service.
ข้ อที่ 77.What mistake did Ms. Dinsawang make?
1 :She didn’t have enough money in her credit card amount.
2 :She added the figured incorrectly.
3 :She filled the wrong amount to pay online
4 :She sent in last two months’ payment late
ข้ อที่ 78.What does the word ‘it’ refers to?
1 :bank
2 :Kenwest Service
3 :Kendo company
4 :Ms. Dinsawang
ข้ อ ที่ 7 9 . According to the letter, how much does Mr. Dinsawang own the Kenwest Service
company now?
1 :1,200 baht
2 :2,400 baht
3 :3,600 baht
4 :4,800 baht
ข้ อที่ 80.What will Ms. Dinsawang do tomorrow?
1 :Get a copy of June’s credit card bill
2 :Write a letter to Kenwest Service Company
3 :Contact her bank
4 :Take a payment
ข้ อที่ 81.ข้ อใดต่อไปนี ้ไม่ใช่วตั ถุประสงค์ของพระรำชบัญญัตริ ะเบียบบริ หำรรำชกำรแผ่นดิน พ.ศ.2534 และ
ที่แก้ ไขเพิ่มเติม
1 :กำรลดขันตอนกำรปฏิ
้ บตั งิ ำน
2 :กำรลดภำรกิจและยุบเลิกหน่วยงำนที่ไม่จำเป็ น
3 :ลดกำรกระจำยภำรกิจแก่ท้องถิ่น
4 :มุง่ ให้ เกิดควำมคุ้มค่ำในเชิงภำรกิจแห่งรัฐ
ข้ อที่ 82.ข้ อใดไม่ใช่กำรจัดระเบียบบริหำรรำชกำรแผ่นดิน
1 :ระเบียบบริหำรรำชกำรส่วนรวม
2 :ระเบียบบริหำรรำชกำรส่วนกลำง
3 :ระเบียบบริหำรรำชกำรส่วนภูมิภำค
4 :ระเบียบบริหำรรำชกำรส่วนท้ องถิ่น
ข้ อที่ 83.สำนักนำยกรัฐมนตรี มีสถำนะเทียบเท่ำกับหน่วยงำนใด
1 :หน่วยงำนอิสระ
2 :กระทรวง
3 :สำนักงำนรัฐมนตรี
4 :กรม
ข้ อที่ 84.กำรยุบ ตัง้ และเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด จะต้ องตรำเป็ นกฎหมำยประเภทใด
1 :พระรำชบัญญัติ
2 :พระรำชกำหนด
3 :พระรำชกฤษฎีกำ
4 :ประกำศกระทรวงมหำดไทย
ข้ อที่ 85.ข้ อใดต่อไปนี ้ไม่ใช่นิตบิ คุ คลที่จดั ตังขึ
้ ้นตำมกำรจัดระเบียบบริหำรรำชกำรส่วนท้ องถิ่น
1 :กรุงเทพมหำนคร
2 :พัทยำ
3 :องค์กำรบริหำรส่วนจังหวัดลำปำง
4 :จังหวัดภูเก็ต
ข้ อที่ 86.แผนปฏิบตั กิ ำรของส่วนรำชกำรนัน้ จะต้ องจัดทำขึ ้นในระยะกี่ปี
1 :1 ปี
2 :3 ปี
3 :5 ปี
4 :10 ปี
ข้ อที่ 87.ในกรณีที่มีกำรยุบเลิก โอน หรื อรวมส่วนรำชกำรใดทังหมดหรื ้ อบำงส่วนไปแล้ ว จะสำมำรถกลับมำ
จัดตังหน่
้ วยงำนในลักษณะเดียวกันนี ้ขึ ้นใหม่ได้ หรื อไม่
1 :สำมำรถดำเนินกำรจัดตังได้ ้ ตำมขันตอนปกติ

2 :สำมำรถดำเนินกำรได้ แต่จะต้ องได้ รับควำมเห็นชอบจำกศำลปกครองก่อน
3 :ไม่สำมำรถดำเนินกำรได้ ในทุกกรณี
4 :ไม่สำมำรถดำเนินกำรได้ เว้ นแต่มีเหตุผลและควำมจำเป็ นต่อควำมมัน่ คงของรัฐหรื อเศรษฐกิจ
ของประเทศ
ข้ อที่ 88.กำรบริ กำรประชำชนและกำรติดต่อประสำนงำนระหว่ำงส่วนรำชกำรด้ วยกัน จะต้ องกระทำกำรใน
ลักษณะใด
1 :ให้ กระทำกำรโดยใช้ แพลตฟอร์ มดิจิทลั กลำงที่สำนักพัฒนำรัฐบำลดิจิทลั กำหนด
2 :ให้ กระทำกำรโดยใช้ แพลตฟอร์ มดิจิทลั กลำงของกระทรวงดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสังคมกำหนด
3 :ให้ กระทำกำรตำมกรอบข้ อกำหนดที่สำนักนำยกรัฐมนตรี ประกำศตำมแผนงำนแต่ละปี
4 :ให้ กระทำกำรผ่ำนเครื อข่ำยดิจิทลั ตำมประกำศกระทรวงของกระทรวงต่ำงๆ ได้ กำหนดไว้
ข้ อที่ 89.ส่วนรำชกำรจะมีกำรทบทวนภำรกิจของตนว่ำมีควำมจำเป็ น หรื อสมควรที่จะยกเลิก ปรับปรุง หรื อ
เปลี่ยนแปลงกำรดำเนินกำรต่อไปหรื อไม่ โดยไม่ต้องคำนึงถึงแผนงำนตำมข้ อใด
1 :แผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ
2 :แนวโน้ มอัตรำกำรกำรเจริญเติบโตทำงเศรษฐกิจ
3 :นโยบำยของคณะรัฐมนตรี ที่แถลงต่อรัฐสภำ
4 :แผนแม่บท
ข้ อที่ 90.แผนกำรบริหำรรำชกำรแผ่นดินเป็ นหน้ ำที่ของส่วนรำชกำรใด
1 :คณะกรรมกำรแผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ
2 :รัฐสภำ
3 :คณะกรรมกำรพัฒนำระบบรำชกำร
4 :คณะรัฐมนตรี
ข้ อที่ 91.พระรำชบัญญัตวิ ิธีปฏิบตั ริ ำชกำรทำงปกครอง พ.ศ. 2539 ไม่บงั คับใช้ แก่ข้อใดต่อไปนี ้
1 :คณะรัฐมนตรี
2 :ปลัดกระทรวง
3 :อธิบดีกรม
4 :ข้ ำรำชกำรระดับวิชำกำร
ข้ อที่ 92.“กำรพิจำรณำทำงปกครอง” หมำยควำมว่ำอย่ำงไร
1 :กำรเตรี ยมกำรและกำรดำเนินกำรของเจ้ ำหน้ ำที่เพื่อจัดให้ มีคำสัง่ ทำงปกครอง
2 :กำรสอบสวนข้ อควำมผิดทำงกำรปกครอง
3 :กำรพิจำรณำโทษควำมผิดทำงกำรปกครอง
4 :กำรปฏิบตั ติ ำมคำสัง่ ศำลปกครองในกรณีที่เกี่ยวข้ องกับข้ อพิพำททำงกำรปกครอง
ข้ อที่ 93.ข้ อใดไม่ใช่ “คณะกรรมกำรวิธีปฏิบตั ริ ำชกำรทำงปกครอง”
1 :ปลัดกระทรวงมหำดไทย
2 :ปลัดสำนักนำยกรัฐมนตรี
3 :ปลัดกระทรวงกลำโหม
4 :เลขำธิกำรคณะรัฐมนตรี
ข้ อที่ 94.“คำสัง่ ทำงปกครอง” จะต้ องจัดทำขึ ้นในรูปแบบใดจึงจะสมบูรณ์
1 :จัดทำเป็ นหนังสือ
2 :บอกกล่ำวด้ วยวำจำ
3 :กำรสื่อสำรโดยรูปแบบอื่นที่มีข้อควำมชัดเจน
4 :ถูกทุกข้ อ
ข้ อที่ 95.คำสัง่ ทำงปกครองจะมีผลบังคับใช้ เมื่อใด
1 :เมื่อมีกำรลงนำมสัง่ กำรของเจ้ ำหน้ ำที่
2 :เมื่อบุคคลได้ รับแจ้ ง
3 :เมื่อมีกำรประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ
4 :เมื่อบุคคลได้ ลงนำมยอมรับคำสัง่
ข้ อที่ 96.ข้ ำรำชกำรที่มีหน้ ำที่จดั ซื ้อ หรื อรักษำในทรัพย์สินรำชกำรใดๆ แล้ วเบียดบังทรัพย์นนเป็ ั ้ นของตน
จะต้ องโทษอย่ำงไรบ้ ำง
1 :จำคุก 5 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 100,000 – 400,000 บำท
2 :จำคุก 1 – 10 ปี หรื อปรับตังแต่ ้ 20,000 – 200,000 บำท หรื อทังจ ้ ำทังปรั้ บ
3 :จำคุก 10 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 500,000 – 1,000,000 บำท
4 :จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรื อปรับไม่เกิน 100,000 บำท หรื อทังจ ้ ำทังปรั
้ บ
ข้ อที่ 97.ผู้ใดเป็ นเจ้ ำพนักงำน ใช้ อำนำจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรื อจูงใจเพื่อให้ บคุ คลใดมอบให้
หรื อหำมำให้ ซงึ่ ทรัพย์สินหรื อประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรื อผู้อื่น จะต้ องโทษอย่ำงไรบ้ ำง
1 :จำคุก 5 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 100,000 – 400,000 บำท
2 :จำคุก 1 – 10 ปี หรื อปรับตังแต่ ้ 20,000 – 200,000 บำท หรื อทังจ ้ ำทังปรั้ บ
3 :จำคุก 10 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 500,000 – 1,000,000 บำท
4 :จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรื อปรับไม่เกิน 100,000 บำท หรื อทังจ ้ ำทังปรั
้ บ
ข้ อที่ 98.ผู้ใดเป็ นเจ้ ำพนักงำน มีหน้ ำที่ซื ้อ ทำ จัดกำรหรื อรักษำทรัพย์ใด ๆ ใช้ อำนำจในตำแหน่งโดยทุจริ ต
อันเป็ นกำรเสียหำยแก่รัฐ เทศบำล สุขำภิบำลหรื อเจ้ ำของทรัพย์นนั ้ จะต้ องโทษอย่ำงไรบ้ ำง
1 :จำคุก 5 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 100,000 – 400,000 บำท
2 :จำคุก 1 – 10 ปี หรื อปรับตังแต่ ้ 20,000 – 200,000 บำท หรื อทังจ ้ ำทังปรั้ บ
3 :จำคุก 10 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 500,000 – 1,000,000 บำท
4 :จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรื อปรับไม่เกิน 100,000 บำท หรื อทังจ ้ ำทังปรั
้ บ
ข้ อที่ 99.ผู้ใดเป็ นเจ้ ำพนักงำน ปฏิบตั ิหรื อละเว้ นกำรปฏิบตั ิหน้ ำที่โดยมิชอบ เพื่อให้ เกิดควำมเสียหำยแก่ผ้ ู
หนึง่ ผู้ใด หรื อปฏิบตั หิ รื อละเว้ นกำรปฏิบตั หิ น้ ำที่โดยทุจริต จะต้ องโทษอย่ำงไรบ้ ำง
1 :จำคุก 5 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 100,000 – 400,000 บำท
2 :จำคุก 1 – 10 ปี หรื อปรับตังแต่ ้ 20,000 – 200,000 บำท หรื อทังจ ้ ำทังปรั้ บ
3 :จำคุก 10 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 500,000 – 1,000,000 บำท
4 :จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรื อปรับไม่เกิน 100,000 บำท หรื อทังจ ้ ำทังปรั
้ บ
ข้ อที่ 100.ผู้ใดเป็ นเจ้ ำพนักงำน รู้ หรื ออำจรู้ ควำมลับในรำชกำร กระทำโดยประกำรใด ๆ อันมิชอบด้ วย
หน้ ำที่ ให้ ผ้ อู ื่นล่วงรู้ควำมลับนัน้ จะต้ องโทษอย่ำงไรบ้ ำง
1 :จำคุก 5 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 100,000 – 400,000 บำท
2 :จำคุก 1 – 10 ปี หรื อปรับตังแต่ ้ 20,000 – 200,000 บำท หรื อทังจ ้ ำทังปรั้ บ
3 :จำคุก 10 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 500,000 – 1,000,000 บำท
4 :จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรื อปรับไม่เกิน 100,000 บำท หรื อทังจ ้ ำทังปรั
้ บ
ข้ อที่ 101.กรณีกำรละเมิดอันเกิดจำกเจ้ ำหน้ ำที่ซงึ่ ไม่ได้ สงั กัดหน่วยงำนของรัฐแห่งใด ให้ ถือว่ำหน่วยงำนใด
เป็ นผู้รับผิดชอบต่อผู้เสียหำยในผลแห่งกำรละเมิดนัน้
1 :สำนักนำยกรัฐมนตรี
2 :กระทรวงมหำดไทย
3 :กระทรวงกำรคลัง
4 :สำนักงำนข้ ำรำชกำรพลเรื อน
ข้ อที่ 102.เจ้ ำหน้ ำที่จะต้ องรับผิดเป็ นกำรเฉพำะตัวเมื่อควำมผิดนันเกิ ้ ดขึ ้นในลักษณะใด
1 :เป็ นควำมผิดจำกกำรปฏิบตั หิ น้ ำที่นอกเวลำงำน
2 :เป็ นควำมผิดจำกกำรปฏิบตั หิ น้ ำที่นอกเหนือคำสัง่
3 :เป็ นควำมผิดนอกเหนือกำรปฏิบตั หิ น้ ำที่
4 :เป็ นควำมผิดที่เกิดจำกกำรจงใจกระทำควำมผิด
ข้ อที่ 103.ในกรณี ที่ หน่วยงำนของรั ฐ ต้ อ งรั บผิ ดใช้ ค่ำสิ นไหมทดแทนแก่ ผ้ ูเสี ยหำยเพื่ อ กำรละเมิ ดของ
เจ้ ำ หน้ ำ ที่ หน่ว ยงำนของรั ฐ มี สิ ท ธิ เ รี ย กให้ เ จ้ ำ หน้ ำ ที่ ผ้ ูท ำละเมิ ด ชดใช้ ค่ำ สิ น ไหมทดแทนดัง กล่ำ วแก่
หน่วยงำนของรัฐได้ หรื อไม่
1 :สำมำรถเรี ยกได้ ในทุกกรณี
2 :สำมำรถเรี ยกได้ ในกรณีที่เจ้ ำหน้ ำที่รัฐผู้นนกระท ั้ ำกำรด้ วยควำมจงใจ
3 :สำมำรถเรี ยกได้ ในกรณีที่มีอตั รำควำมเสียหำยรุนแรง
4 :เจ้ ำหน้ ำที่ไม่ต้องร่วมรับผิดชอบในทุกกรณี
ข้ อที่ 104.ถ้ ำหน่วยงำนของรัฐหรื อเจ้ ำหน้ ำที่ได้ ใช้ คำ่ สินไหมทดแทนแก่ผ้ เู สียหำย สิทธิที่จะเรี ยกให้ อีกฝ่ ำย
หนึง่ ชดใช้ คำ่ สินไหมทดแทนแก่ตนให้ มีกำหนดอำยุควำมเท่ำไร
1 :90 วัน
2 :6 เดือน
3 :2 ปี
4 :1 ปี
ข้ อ ที่ 105.สิ ท ธิ เ รี ย กร้ องค่ำ สิ น ไหมทดแทนจำกเจ้ ำ หน้ ำ ที่ ใ นกรณี ที่ เ จ้ ำ หน้ ำ ที่ เ ป็ นผู้ก ระท ำละเมิ ด ต่อ
หน่วยงำนของรัฐ ให้ มีกำหนดอำยุควำมเท่ำไร
1 :90 วัน
2 :6 เดือน
3 :1 ปี
4 :2 ปี
ข้ อที่ 106.ข้ อใดไม่ใช่มำตรฐำนจริยธรรมตำมพระรำชบัญญัตมิ ำตรฐำนจริยธรรม พ.ศ. 2562
1 :กล้ ำตัดสินใจและกระทำในสิ่งที่ถกู ต้ อง
2 :มุง่ ผลสัมฤทธิ์ของงำน
3 :ดำรงตนเป็ นแบบอย่ำงที่ดี
4 :ประหยัด มัธยัสถ์ อดออม
ข้ อที่ 107.สำหรับข้ ำรำชกำรกำรเมือง องค์กรใดจะเป็ นผู้จดั ทำประมวลจริยธรรม
1 :รัฐสภำ
2 :คณะรัฐมนตรี
3 :สำนักงำนเลขำธิกำรคณะรัฐมนตรี
4 :คณะกรรมกำรข้ ำรำชกำรพลเรื อน
ข้ อที่ 108.ประธำนคณะกรรมกำรมำตรฐำนทำงจริ ยธรรม (ก.ม.จ.) คือใคร
1 :ประธำนรัฐสภำ
2 :นำยกรัฐมนตรี
3 :รองนำยกรัฐมนตรี ฝ่ำยกำรเมือง
4 :ประธำนคณะกรรมกำรพัฒนำระบบรำชกำร
ข้ อที่ 109.คณะกรรมกำรมำตรฐำนทำงจริ ยธรรม (ก.ม.จ.) มีหน้ ำที่ และอำนำจในกำรเสนอแนะและให้
คำปรึ กษำเกี่ยวกับนโยบำยและยุทธศำสตร์ ด้ำนมำตรฐำนทำงจริ ยธรรมและกำรส่งเสริ มจริ ยธรรมภำครัฐ
ต่อข้ อใด
1 :รัฐสภำ
2 :สภำผู้แทนรำษฎร
3 :คณะรัฐมนตรี
4 :ศำลปกครอง
ข้ อที่ 110.ข้ อใดไม่ใช่หลักส ำคัญ ในกำรจัดทำประมวลจริ ยธรรมของหน่วยงำนของรั ฐที่ จะกำหนดเป็ น
หลักเกณฑ์ในกำรปฏิบตั ติ นของเจ้ ำหน้ ำที่ของรัฐ
1 :รักษำภำพลักษณ์ของรำชกำร
2 : มีจิตสำนึกที่ดี
3 :ไม่เลือกปฏิบตั ิ
4 :สำนึกรักบ้ ำนเกิดและสิ่งแวดล้ อม
เฉลยแนวข้ อสอบครูผ้ ชู ว่ ยเสมือนจริง
ข้ อที่ 1. 2 6 18 54 162 _______
1 :217
2 :364
3 :486
4 :512
เฉลย
ตอบ 3. 486

ข้ อที่ 2. 2 3 4 5 6 8 8 12 ________
1 :6
2 :8
3 :10
4 :12
เฉลย
ตอบ 3. 10

ข้ อที่ 3. 5 6 14 29 51 ________
1 :80
2 :86
3 :92
4 :94
เฉลย
ตอบ 1 80
4. _______

24
1:
5
27
2:
5
3:2
4:4
เฉลย
27
ตอบ 2.
5

ข้ อที่ 5. 1 M 3 N 5 Q 6 N 9 U 9 N ________
1 :13 Y 12 N
2 :15 Y 15 N
3 :17 Z 18 P
4 :19 Z 19 P
เฉลย
ตอบ 1 13 Y 12 N
ข้ อที่ 6. กำหนดให้ จงหำค่ำของ
1 :899
2 :800
3 :801
4 :999
เฉลย
ตอบ ข้ อ 3
แนวคิด ข้ อนี ้สำมำรถนำค่ำที่โจทย์กำหนดแทนลงไปในเงื่อนไขที่กำหนดมำให้ ได้ เลย
โดยเริ่มทำจำกในวงเล็บก่อน นัน่ คือ

**ซึง่ จำกเงื่อนไข a2 – b2 ซึง่ ก็คือผลต่ำงกำลังสองซึง่ มีคำ่ ดังนี ้


a2 – b2 = (a – b)(a + b)**
เพรำะฉะนันจะได้
้ วำ่
1012 – 992 = (101 – 99)(101 + 99)
= (2)(200)
= 400

= (401 – 400)(401 + 400)


= (1)(801)
= 801

ข้ อที่ 7.อึ่งอ่ำงตัวหนึ่งอยู่ก้นบ่อ กระโดดขึ ้นปำกบ่อในเวลำ 1 วินำที กระโดดเกำะข้ ำงบ่อได้ 3 ฟุต แต่ก็ลื่น


ลง 2 ฟุต ในเวลำ 1 วินำทีเท่ำกัน เป็ นดังนี ้เรื่ อยไป หำกอึ่งอ่ำงกระโดดจนเกำะขอบบ่อได้ เวลำ 1 นำที 55
วินำทีบอ่ ลึกกี่ฟตุ
1 :115
2 :85
3 :58
4 :57
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 57
แนวคิด: จำกโจทย์ สำมำรถวิเครำะห์และเขียนสรุป ได้ ดงั นี ้
1) แสดงว่ำในระยะเวลำ 2 วินำที (กระโดดขึ ้น 1 วินำที และไถลลงอีก 1 วินำที)อึ่งอ่ำงเกำะขึ ้นได้ จริงเพียง 1
ฟุต
2) ดังนันในเวลำ
้ 1 นำที 55 วินำที (115 วินำที) อึง่ อ่ำงจะกระโดดขึ ้นไปได้ สงู 115/2 = 57.5 ฟุต
3) แต่เมื่ออึ่งอ่ำงกระโดดขึ ้นในวินำทีที่ 115 อึ่งอ่ำงจะกระโดดขึ ้นได้ เลยขอบบ่อจนเกำะได้ (โดยไม่ไถลลื่น ลง
มำในวินำทีที่ 116 อีก) ดังนันหมำยควำมว่
้ ำบ่อนี ้มีควำมสูงทังสิ
้ ้น 57 ฟุต ซึง่ เป็ นคำตอบใน4 นัน่ เอง

ข้ อที่ 8.ข้ อใดต่อไปนี ้ผิด


1 : 100,0012 – 99,9992 = 400,000
2 :(22,226 x 22,224) – 22,2242 = 44,448
3 :1012 + 2(101)(99) + 992 = 40,000
4 :(10,001 x 999) – 999 เป็ นเลขจำนวนเต็ม 8 หลัก
เฉลย
ตอบ ข้ อ 4 (10,001 x 999) – 999 เป็ นเลขจำนวนเต็ม 8 หลัก
แนวคิด จำกโจทย์ พิจำรณำในแต่ละตัวเลือกได้ ดงั นี ้
1 ถูกต้ อง เพรำะ
=> จำก a2 – b2 = (a + b)(a – b)
=> ดังนัน้ 100,0012 – 99,9992 = (100,001 + 99,999)(100,001 - 99,999)
= (200,000)(2)
= 400,000
2 ถูกต้ อง เพรำะ
=> กระจำยได้ ดงั นี ้ = (22,226)(22,224) – (22,224)(22,224)
= (22,224)(22,226 – 22,224)
= (22,224)(2)
= 44,448
3 ถูกต้ อง เพรำะ
=> จำก (a + b)2 = a2 + 2ab + b2
=> ดังนัน้ 1012 + 2(101)(99) + 992 = (101 + 99)2
= 2002
= 40,000
4 ผิด เพรำะ
=> กระจำยได้ ดงั นี ้ = (10,001)(999) – (999)(1)
= (999)(10,001 – 1)
= (999)(10,000)
= 9,990,000 ซึง่ เป็ นตัวเลข 7 หลัก ไม่ใช่ 8 หลัก
ดังนันจึ
้ งตอบ4 นัน่ เอง

ข้ อที่ 9.เมื่อต้ องกำรทำฐำนเวที โดยกำรนำก้ อนอิฐทรงลูกบำศก์ที่เท่ำกันมำซ้ อนกันจำนวน 36 ลูก


แล้ วทำสีทงั ้ 6 ด้ ำน จงพิจำรณำว่ำข้ อสรุปใดต่อไปนี ้ถูกต้ อง
ก. ลูกบำศก์ทำสี 1 ด้ ำน มี 8 ลูก
ข. ลูกบำศก์ทำสี 2 ด้ ำน มี 16 ลูก
ค. ลูกบำศก์ทำสี 3 ด้ ำน มี 16 ลูก
ง. ลูกบำศก์ไม่ถกู ทำสีเลย มี 2 ลูก
1 :ก และ ข
2 :ก และ ค
3 :ข และ ง
4 :ค และ ง
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 ข และ ง
แนวคิด: เพื่อให้ เกิดควำมเข้ ำใจในข้ อนี ้ ควรวำดรูปและพิจำรณำจำกภำพ ซึง่ เมื่อดูจำกรูปแล้ ว
จะสำมำรถเข้ ำใจและสำมำรถตอบข้ อนี ้ได้ ง่ำยมำกยิ่งขึ ้น โดยสำมำรถวำดรูปได้ ดงั นี ้

เมื่อพิจำรณำตำมข้ อ ก จะได้ วำ่ ลูกบำศก์ที่ถกู ทำสีเพียงแค่ด้ำนเดียวมีดงั นี ้


เมื่อนับจำกภำพที่แรเงำข้ ำงต้ นจะได้ เท่ำกับ 5 ลูก ก็นำไปคูณ 2 เพรำะว่ำมีอีกฝั่ งที่มองไม่เห็นในแต่ละด้ ำน
อีก (เช่นเห็นด้ ำนบน ไม่เห็นด้ ำนล่ำง เห็นด้ ำนหน้ ำ ไม่เห็นด้ ำนหลัง เห็นด้ ำนขวำไม่เห็นด้ ำนซ้ ำย) ดังนันจึ
้ ง
ต้ องเอำด้ ำนที่เห็นคูณด้ วย 2 ก็จะสรุปได้ ว่ำ ลูกบำศก์ที่ถกู ทำสีด้ำนเดียวมีทงหมด
ั้ 10 ลูก ซึง่ ผิด ตำมที่
เงื่อนไขจำกโจทย์ระบุ ดังนันจึ้ งสำมำรถตัด choice ที่มี “ก” ออกไปได้ เลย นัน่ ก็คือข้ อ 1, 2, 5 ทำให้ เหลือ
choice ที่ต้องพิจำรณำอีกเพียงแค่ 2 ข้ อ ก็คือข้ อ 3 และ 4ซึง่ เมื่อพิจำรณำแล้ ว จะพบว่ำใน 2 ข้ อนี ้ มีข้อ ง
เหมือนกัน ดังนันชั้ ดเจนว่ำข้ อ “ง” ถูกต้ องแน่นอนทำให้ เลือกพิสจู น์เฉพำะข้ อ “ข” หรื อข้ อ “ค” ก็พอเพรำะ
หำกข้ อใดถูกต้ อง อีกข้ อก็จะผิดทันทีดงั นันจะพิ
้ สจู น์ในข้ อ “ข” ดังนี ้

เมื่อนับจำกภำพที่แรเงำข้ ำงต้ นจะได้ เท่ำกับ 8 ลูก ก็นำไปคูณ 2 เพรำะว่ำมีอีกฝั่ งที่มองไม่เห็นในแต่ละด้ ำน


อีกตำมที่ได้ อธิบำยไว้ ข้ำงต้ น ดังนันจึ
้ งต้ องเอำด้ ำนที่เห็นคูณด้ วย 2 ก็จะสรุปได้ วำ่ ลูกบำศก์ที่ถกู ทำสีด้ำน
เดียวมีทงหมด
ั้ 16 ลูก ซึง่ ถูกต้ อง ตำมที่โจทย์ระบุ ดังนันจึ
้ งสำมำรถตอบข้ อ 3 ได้ เลย โดยไม่ต้องเสียเวลำ
พิจำรณำข้ ออื่นๆ อีก ซึง่ จะทำให้ ทำข้ อสอบได้ ไวมำกยิ่งขึ ้นในเวลำที่จำกัด

ข้ อที่ 10.มีเหรี ยญห้ ำบำทอยู่ในกล่อง 2 กล่อง รวมทังหมด


้ 150 เหรี ยญ หยิบเหรี ยญ 17 อัน จำกกล่องที่ 1
ใส่ในกล่องที่ 2 ทำให้ กล่องที่ 2 มีเหรี ยญเป็ นจำนวน 2 เท่ำของเหรี ยญในกล่องที่ 1 อยำกทรำบว่ำมีเหรี ยญ
อยูก่ ี่เหรี ยญในกล่องที่ 1 ก่อนที่จะมีกำรหยิบใส่กล่องที่ 2
1 :87 เหรี ยญ
2 :75 เหรี ยญ
3 :67 เหรี ยญ
4 :50 เหรี ยญ
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 67 เหรี ยญ
แนวคิด: จำกโจทย์ สำมำรถวิเครำะห์และเขียนออกมำได้ วำ่
กำหนดให้ N1 = จำนวนเหรี ยญ 5 บำทในกล่องที่ 1
N2 = จำนวนเหรี ยญ 5 บำทในกล่องที่ 2
ได้ วำ่ N1 + N2 = 150
N2 = 150 – N1 …(1)
และ N2 + 17 = 2(N1 – 17)
N2 + 17 = 2N1 – 34
N2 = 2N1 – 34 -17
N2 = 2N1 – 51 …(2)
จำกนันเนื
้ ่องจำกสมกำรที่ 1 และ 2 นันมี
้ N2 เหมือนกัน จึงนำเอำทัง้ 2 สมกำรนี ้มำเท่ำกัน จะได้ วำ่
150 – N1 = 2N1 – 51
150 + 51 = 2N1 + N1
3N1 = 201
N1 = 201/3 = 67
ดังนันจึ
้ งตอบใน3 ก็คือ 67 เหรี ยญนัน่ เอง

ใช้ ข้อมูลจำกตำรำงด้ ำนล่ำงนี ้ ตอบคำถำมข้ อ 11 – 15

ข้ อที่ 11.ปี ใดต่อไปนี ้ขำดดุลกำรค้ ำมำกที่สดุ


1 :ปี ที่ 3
2 :ปี ที่ 7
3 :ปี ที่ 9
4 :ปี ที่ 11
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 ปี ที่ 11
แนวคิด: กำรขำดดุลกำรค้ ำ = กำรนำเข้ ำ > กำรส่งออก
ดังนันปี
้ ใดที่มีกำรนำเข้ ำมำกกว่ำกำรส่งออกมำที่สุด ก็จะเป็ นปี ที่ขำดดุลมำกที่สุดทังนี ้ ้กำรพิจำรณำอย่ำง
รวดเร็ ว (เพรำะมี 11 ปี ) ให้ ดเู ฉพำะปี ที่ปรำกฎใน 4 ตัวเลือกก็พอซึ่งจำกตัวเลือกทัง้ 4 นัน้ ชัดเจนว่ำปี ที่ 11
นันมี
้ ตวั เลขขำดดุลอยูท่ ี่ 22,979 ซึง่ มำกที่สดุ นัน่ เอง

ข้ อที่ 12.อัตรำส่วนของมูลค่ำกำรค้ ำระหว่ำงประเทศต่อผลิตภัณฑ์ประชำชำติในปี เดียวกันของปี ใดมีค่ำ


เท่ำกับ 2.5
1 :ปี ที่ 6
2 :ปี ที่ 7
3 :ปี ที่ 10
4 :ปี ที่ 11
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 ปี ที่ 10
แนวคิด: สำมำรถทำข้ อสอบให้ ไวขึ ้นได้ ด้วยกำรพิจำรณำเฉพำะตัวเลือกเท่ำนัน้ นัน่ คือปี ที่ 6 และปี ที่ 7 นัน้
ชัดเจนว่ำมูลค่ำกำรค้ ำต่อมูลค่ำผลิตภัณฑ์ประชำชำติเบื ้องต้ นนันเป็ ้ น 3 เท่ำ(ซึ่งพิจำรณำได้ ง่ำยๆ และไวๆ
ก็คือดูตัวเลขข้ ำงหน้ ำสุด เช่น ปี ที่ 6 มีตัวเลขคือ 53,366 และ162,071 ซึ่งจะเห็นว่ำ 5 x 3 = 15 ดังนัน้
จำนวน 162,071 นัน้ มำกกว่ำ 3 เท่ำของ 53,366 แล้ วทำให้ เกินเงื่อนไขที่โจทย์ต้องกำร คือ 2.5 เท่ำ ... ซึ่ง
กรณีนี ้เกิดขึ ้นในปี ที่ 7 เช่นกัน)
จึงเหลือพิจำรณำเฉพำะปี ที่ 10 และ 11 ที่เมื่อพิจำรณำตำมหลักกำรข้ ำงต้ นแบบคร่ำวๆ แล้ วก็ จะได้ คำ่ รำว
2 เท่ำกว่ำๆ และเมื่อคิดโดยละเอียดจะได้ ว่ำ ในปี ที่ 10 นัน้ มีอตั รำส่วนอยูท่ ี่ 1:2.48ทำให้ ไกล้ เคียงกับ 2.50
มำกที่สดุ นัน่ เอง จึงตอบ3

ข้ อที่ 13.มูลค่ำกำรค้ ำระหว่ำงประเทศในช่วงระหว่ำงปี ที่ 7 – ปี ที่ 11 เฉลี่ยเพิ่มขึ ้นประมำณกี่ล้ำนบำท


1 :18,190
2 :18,990
3 :22,730
4 :22,740
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 22,730
แนวคิด: จำกโจทย์จะได้ วำ่
ปี ที่ 7 - ปี ที่ 8 เพิ่มขึ ้น 39,393
ปี ที่ 8 - ปี ที่ 9 เพิ่มขึ ้น -2,001
ปี ที่ 9 - ปี ที่ 10 เพิ่มขึ ้น 21,832
ปี ที่ 10 - ปี ที่ 11 เพิ่มขึ ้น 31,701
ดังนันจำกปี
้ ที่ 7 - ปี ที่ 11 จึงมีกำรเพิ่มปริมำณขึ ้น 4 ครัง้ ทำให้ คำ่ เฉลี่ยในแต่ละปี ได้ ดงั นี ้

แต่เนื่องจำกโจทย์ถำม “ค่ำประมำณ” ดังนันจึ


้ งตอบ3 นี ้ได้ ทนั ที

ข้ อที่ 14. มูลค่ำกำรส่งออกในปี ที่ 10เติบโตขึ ้นประมำณร้ อยละเท่ำใดเมื่อเทียบกับมูลค่ำกำรส่งออกในปี ที่ 9


1 :ร้ อยละ 23
2 :ร้ อยละ 28
3 :ร้ อยละ 35
4 :ร้ อยละ 45
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 ร้ อยละ 35

แนวคิด: มูลค่ำกำรส่งออกในปี ที่ 10 เติบโตจำกทีที่ 9 ร้ อยละ


แสดงว่ำในปี ที่ 10 เติบโตมำกขึ ้น 35.08% จำกปี ที่ 9 แต่โจทย์ถำม “ค่ำประมำณ”
ดังนันจึ
้ งสำมำรถตอบใน3 นี ้ได้ ทนั ที

ข้ อที่ 15.อัตรำส่วนของผลิตภัณฑ์ประชำชำติเบื ้องต้ นในปี ใดที่มีอตั รำส่วนต่อกันรำว 1 : 2


1 :ปี ที่ 5 และปี ที่ 9
2 :ปี ที่ 2 และปี ที่ 8
3 :ปี ที่ 7 และปี ที่ 11
4 :ปี ที่ 1 และปี ที่ 6
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1 ปี ที่ 5 และปี ที่ 9
แนวคิด: สำมำรถทำข้ อสอบให้ ไวขึ ้นได้ ด้วยกำรพิจำรณำเฉพำะตัวเลือกเท่ำนัน้ นัน่ คือ
ปี ที่ 5 = 143,908 และปี ที่ 9 = 296,298
ปี ที่ 2 = 116,774 และปี ที่ 8 = 269,695
ปี ที่ 7 = 216,543 และปี ที่ 11 = 370,445
ปี ที่ 1 = 108,294 และปี ที่ 6 = 162,071
ซึง่ ชัดเจนว่ำปี ที่ 5 และปี ที่ 9 มีมลู ค่ำในอัตรำส่วนรำว 1:2 ดังนันจึ
้ งตอบ1 ได้ เลย

ข้ อที่ 16.สถำนีขนส่ง : ผู้โดยสำร


1 :โรงเรี ยน : ครู
2 :โรงพยำบำล : หมอ
3 :สถำนีตำรวจ : ผู้ร้ำย
4 :มหำวิทยำลัย : นักศึกษำ
เฉลย
ตอบ ข้ อ 4
แนวคิด สถำนีขนส่ง มีผ้ ใู ช้ บริกำร คือผู้โดยสำร
มหำวิทยำลัย มีผ้ ใู ช้ บริกำร คือนักศึกษำ ดังนันจึ
้ งตอบ4

ข้ อที่ 17.เมิน : หลีกเลี่ยง


1 :ปิ ด : เปิ ด
2 :วิจำรณ์ : วิพำกษ์
3 :สนใจ : ทุม่ เท
4 :ส่งเสียง : ตะโกน
เฉลย
ตอบ ข้ อ 3
แนวคิด เมิน มีควำมหมำยในทำงเดียวกันกับ หลีกเลี่ยง
สนใจ มีควำมหมำยในทำงเดียวกันกับ ทุม่ เท ดังนันจึ
้ งตอบ3

ข้ อที่ 18.กลิ่น : ฆำนประสำท


1 :ดม : สัมผัส
2 :เสียง : โสตประสำท
3 :รส : อร่อย
4 :จักษุ : ภำพ
เฉลย
ตอบ ข้ อ 2
แนวคิด กลิ่น เรี ยกว่ำ ฆำนประสำท
เสียง เรี ยกว่ำ โสตประสำท ดังนันจึ
้ งตอบ2
ข้ อที่ 19.รังสี : เอกซเรย์
1 :สี : แดง
2 :อินฟรำเรด : อัลตรำไวโอเลต
3 :ถดถอย : ประสิทธิภำพ
4 :วิตำมิน : อำหำรเสริม
เฉลย
ตอบ ข้ อ 1
แนวคิด เอ็กซ์เรย์ เป็ นรังสีชนิดหนึง่
แดง เป็ นสีชนิดหนึง่ ดังนันจึ
้ งตอบ1

ข้ อที่ 20.งำ : งวง


1 :ช้ ำง : แรด
2 :กีบ : ม้ ำ
3 :ปี ก : จะงอยปำก
4 :เขี ้ยว : เสือ
เฉลย
ตอบ ข้ อ 3
แนวคิด งำ และ งวง เป็ นอวัยวะของช้ ำง
ปี ก และ จะงอยปำก เป็ นอวัยวะของนก ดังนันจึ
้ งตอบ3

ข้ อที่ 21.แมวเป็ นสัตว์ที่หลำยคนต่ำงหลงใหลในควำมน่ำรักของมัน แมวมีทงั ้ ลักษณะรู ปร่ ำงที่น่ำเอ็นดู


ควำมขีอ้ ้ อน และนิสัยหลำยประกำรที่ทำให้ คนต่ำงตกหลุมรัก ทังนี ้ ้แมวต่ำงๆ ในโลกใบนี ้ 90% สำมำรถ
กระโดดได้ สงู ถึง 5 เมตรอีกด้ วย ซึง่ ถือเป็ นควำมสำมำรถที่ไม่นำ่ เชื่อเลยจริงๆ
1 :แมวทังหมดกระโดดได้
้ สงู
2 :แมวบำงส่วนกระโดดได้ สงู
3 :แมวส่วนน้ อยกระโดดได้ สงู เกือบจะไม่มีแมวที่กระโดดได้ ไม่สงู
4 :เกือบจะไม่มีแมวที่กระโดดได้ ไม่สงู
เฉลย
ตอบ ข้ อ 4
แนวคิด โจทย์ระบุวำ่ แมว 90% สำมำรถกระโดดได้ สงู ซึง่ หมำยถึง “แมวเกือบทังหมดกระโดดได้
้ สงู ”
ดังนันเมื
้ ่อพิจำรณำจำกตัวเลือกทังหมดแล้
้ ว จึงเลือกตอบได้ ใน4 เพรำะมีแมวเพียงแค่
10% เท่ำนันที
้ ่กระโดดได้ ไม่สงู ซึง่ ถือว่ำ “เกือบจะไม่มี” นัน่ เอง

ข้ อที่ 22.ประเทศพม่ำเป็ นประเทศเพื่อนบ้ ำนที่อยู่ติดกับไทยและประชำชนชำวพม่ำก็ได้ นบั ถือศำสนำพุทธ


เป็ นส่วนใหญ่ เช่นเดียวกับ โดยมี จ ำนวนมำกกว่ำ 85% ของทัง้ หมด ส่วนที่เหลือก็ จะกระจำยไปนับถื อ
ศำสนำหรื อลัทธิอื่น ๆ สรุปได้ วำ่
1 :ชำวพม่ำส่วนใหญ่นบั ถือศำสนำพุทธ
2 :ชำวพม่ำเกือบทังหมดนั
้ บถือศำสนำพุทธ
3 :ชำวพม่ำบำงส่วนนับถือศำสนำพุทธ
4 :ชำวพม่ำส่วนน้ อยนับถือศำสนำพุทธ
เฉลย
ตอบ ข้ อ 2
แนวคิด 85% หมำยถึง “เกือบทังหมด” ้ นัน่ เอง

ข้ อ ที่ 23.เมื องบำหลี เ ป็ นสถำนที่ ท่อ งเที่ ยวที่ มี ชื่ อ เสี ย งมำกที่ สุด ของประเทศอิน โดนี เซี ย นักท่องเที่ ย ว
ชำวต่ำงชำติที่เข้ ำมำในประเทศอินโดนีเซีย ก็มักจะต้ องมำเยือนเกำะเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์แห่งนี ้ โดยคิดเป็ น
จำนวนร้ อยละ 45 ของนักท่องเที่ยวชำวต่ำงชำติทงหมดที ั้ ่มำเยือนอินโดนีเซีย สรุปได้ วำ่
1 :ชำวต่ำงชำติที่มำท่องเที่ยวประเทศอินโดนีเซียส่วนใหญ่มำเที่ยวบำหลี
2 :ชำวต่ำงชำติทกุ คนมำเที่ยวบำหลี
3 :ชำวต่ำงชำติเกือบทังหมดมำเที
้ ่ยวบำหลี
4 :ชำวต่ำงชำติสว่ นน้ อยมำเที่ยวอินโดนีเซีย
เฉลย
ตอบ ข้ อ 1
แนวคิด โจทย์ระบุชดั เจนว่ำ “นักท่องเที่ยวชำวต่ำงชำติที่เข้ ำมำในประเทศอินโดนีเซีย ก็มกั จะต้ องมำเยือน
เกำะเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์แห่งนี ้” ซึง่ ก็คือชำวต่ำงชำติที่มำเที่ยวอินโดนีเซียส่วนใหญ่มำเที่ยวที่เกำะ
บำหลีแห่งนี ้นัน่ เอง

ข้ อที่ 24.ประชำกรในโลกนี ้ทังหมดกว่


้ ำ 7 พันล้ ำนคนนัน้ กระจำยกำรตังถิ
้ ่นฐำนกันไปในประเทศต่ำงๆ ทัว่
โลก โดยจะอำศัยอยู่ในประเทศจีนมำกที่สุด ทำให้ ประเทศจีนมีกำลังคนในกำรผลิตสินค้ ำอย่ำงมหำศำล
อีกทังยั้ งถือเป็ นเป็ นตลำดที่ใหญ่ที่สดุ ในโลกอีกด้ วย
1 :คนส่วนมำกของโลกอยูใ่ นประเทศจีน
2 :ประเทศจีนมีประชำกรมำกที่สดุ ในโลก
3 :ประเทศจีนรวยที่สดุ ในโลก
4 :ประชำกรของโลกบำงส่วนอยูใ่ นประเทศจีน
เฉลย
ตอบ ข้ อ 2
แนวคิด โจทย์ระบุชัดเจนว่ำ “กระจำยกำรตังถิ
้ ่นฐำนกันไปในประเทศต่ำงๆ ทั่วโลก โดยจะอำศัยอยู่ใน
ประเทศจีนมำกที่สดุ ” นัน่ เอง

ข้ อที่ 25.โรงเรี ยนแห่งหนึ่งมีจำนวนนักเรี ยนทังหมดจ


้ ำนวน 800 คน โดยโรงเรี ยนแห่งนี ้ได้ จดั กำรเรี ยนกำร
สอนภำษำจีนเพื่อให้ นกั เรี ยนได้ พฒ ั นำตนเองอย่ำงต่อเนื่องอีกด้ วย แต่ทว่ำกลับมีนกั เรี ยนที่สนใจสมัครเรี ยน
เพียงแค่ 80 คนเท่ำนัน้ ทำงโรงเรี ยนจึงต้ องหำทำงกระตุ้นให้ นกั เรี ยนเข้ ำมำสมัครเรี ยนให้ มำกยิ่งขึ ้น
1 :มีนกั เรี ยนที่เรี ยนภำษำจีนเพียง 10%
2 :นักเรี ยนชอบเรี ยนภำษำอังกฤษมำกกว่ำ
3 :นักเรี ยนส่วนมำกเรี ยนภำษำจีน
4 :นักเรี ยนเกือบทังหมดเรี
้ ยนภำษำจีน
เฉลย
ตอบ ข้ อ 1
แนวคิด มีนกั เรี ยนที่เรี ยนภำษำจีน 80 คน จำกทังหมด ้ 800 คน ดังนันจึ้ งหมำยควำมว่ำมีนกั เรี ยน
ส่วนน้ อย คือเพียง 10% เท่ำนันที ้ ่เรี ยนภำษำจีน

จำกเงื่อนไขต่อไปนี ้ใช้ ตอบคำถำมในข้ อ 26 – 30


ชุดข้ อมูลที่ 1 AB + C > T
ชุดข้ อมูลที่ 2 T + C < 8
*เมื่อทุกจำนวนเป็ นจำนวนเต็มบวก

ข้ อที่ 26. ข้ อสรุปที่ 1 T < C – B


ข้ อสรุปที่ 2 T < 8
1 :ข้ อสรุปทังสองถู
้ กหรื อเป็ นจริงตำมเงื่อนไข
2 :ข้ อสรุปทังสองผิ
้ ดหรื อไม่เป็ นจริงตำมเงื่อนไข
3 :ข้ อสรุปทังสองไม่
้ สำมำรถสรุปได้ แน่ชดั ว่ำถูกหรื อผิดตำมเงื่อนไข
4 :ข้ อสรุปทังสองมี ้ ข้อสรุปใดข้ อสรุปหนึ่งที่เป็ นจริ งหรื อไม่จริ งหรื อไม่แน่ชดั ซึ่งไม่ซ ้ำกับอีกข้ อสรุ ป
หนึง่
เฉลย
ตอบ ข้ อ 4
แนวคิด ข้ อสรุปที่ 1 T < C – B => สรุปไม่ได้
ข้ อสรุปที่ 2 T < 8 => ถูกต้ อง
ดังนันจึ
้ งเลือกตอบ4 ได้ เลย

ข้ อที่ 27. ข้ อสรุปที่ 1 C > 8


ข้ อสรุปที่ 2 T > (AB + C)2
1 :ข้ อสรุปทังสองถู
้ กหรื อเป็ นจริงตำมเงื่อนไข
2 :ข้ อสรุปทังสองผิ
้ ดหรื อไม่เป็ นจริงตำมเงื่อนไข
3 :ข้ อสรุปทังสองไม่
้ สำมำรถสรุปได้ แน่ชดั ว่ำถูกหรื อผิดตำมเงื่อนไข
4 :ข้ อสรุปทังสองมี ้ ข้อสรุปใดข้ อสรุปหนึ่งที่เป็ นจริ งหรื อไม่จริ งหรื อไม่แน่ชดั ซึ่งไม่ซ ้ำกับอีกข้ อสรุ ป
หนึง่
เฉลย
ตอบ ข้ อ 2
แนวคิด ข้ อสรุปที่ 1 C > 8 => ไม่ถกู ต้ อง เพรำะ C < 8
ข้ อสรุปที่ 2 T > (AB + C)2 => ไม่ถกู ต้ อง เพรำะ T < (AB + C)2
ดังนันจึ
้ งเลือกตอบ2 ได้ เลย

ข้ อที่ 28. ข้ อสรุปที่ 1 AB > T – C


ข้ อสรุปที่ 2 T < 8 – C
1 :ข้ อสรุปทังสองถู
้ กหรื อเป็ นจริงตำมเงื่อนไข
2 :ข้ อสรุปทังสองผิ
้ ดหรื อไม่เป็ นจริงตำมเงื่อนไข
3 :ข้ อสรุปทังสองไม่
้ สำมำรถสรุปได้ แน่ชดั ว่ำถูกหรื อผิดตำมเงื่อนไข
4 :ข้ อสรุปทังสองมี ้ ข้อสรุปใดข้ อสรุปหนึ่งที่เป็ นจริ งหรื อไม่จริ งหรื อไม่แน่ชดั ซึ่งไม่ซ ้ำกับอีกข้ อสรุ ป
หนึง่
เฉลย
ตอบ ข้ อ 1
แนวคิด ข้ อสรุปที่ 1 AB > T – C => ถูกต้ อง
ข้ อสรุปที่ 2 T < 8 – C => ถูกต้ อง
ดังนันจึ
้ งเลือกตอบ1 ได้ เลย
ข้ อที่ 29. ข้ อสรุปที่ 1 8 > C – T
ข้ อสรุปที่ 2 A > B
1 :ข้ อสรุปทังสองถู
้ กหรื อเป็ นจริงตำมเงื่อนไข
2 :ข้ อสรุปทังสองผิ
้ ดหรื อไม่เป็ นจริงตำมเงื่อนไข
3 :ข้ อสรุปทังสองไม่
้ สำมำรถสรุปได้ แน่ชดั ว่ำถูกหรื อผิดตำมเงื่อนไข
4 :ข้ อสรุปทังสองมี ้ ข้อสรุปใดข้ อสรุปหนึ่งที่เป็ นจริ งหรื อไม่จริ งหรื อไม่แน่ชดั ซึ่งไม่ซ ้ำกับอีกข้ อสรุ ป
หนึง่
เฉลย
ตอบ ข้ อ 4
แนวคิด ข้ อสรุปที่ 1 8 > C – T => ถูกต้ อง
ข้ อสรุปที่ 2 A > B => สรุปไม่ได้
ดังนันจึ
้ งเลือกตอบ4 ได้ เลย

ข้ อที่ 30. ข้ อสรุปที่ 1 T > 10


ข้ อสรุปที่ 2 C > 15
1 :ข้ อสรุปทังสองถู
้ กหรื อเป็ นจริงตำมเงื่อนไข
2 :ข้ อสรุปทังสองผิ
้ ดหรื อไม่เป็ นจริงตำมเงื่อนไข
3 :ข้ อสรุปทังสองไม่
้ สำมำรถสรุปได้ แน่ชดั ว่ำถูกหรื อผิดตำมเงื่อนไข
4 :ข้ อสรุปทังสองมี ้ ข้อสรุปใดข้ อสรุปหนึ่งที่เป็ นจริ งหรื อไม่จริ งหรื อไม่แน่ชดั ซึ่งไม่ซ ้ำกับอีกข้ อสรุ ป
หนึง่
เฉลย
ตอบ ข้ อ 2
แนวคิด ข้ อสรุปที่ 1 T > 10 => ไม่ถกู ต้ อง เพรำะ T < 8
ข้ อสรุปที่ 2 C > 15 => ไม่ถกู ต้ อง เพรำะ C < 8
ดังนันจึ
้ งเลือกตอบ2 ได้ เลย
จำกเงื่อนไขต่อไปนี ้ใช้ ตอบคำถำมในข้ อ 31 – 35
- เชิดศักดิ์ ชูชยั และชัชวำลเป็ นเพื่อนกัน
- ชูชยั เป็ นคนเดียวที่มีลกู
- แฟนของเชิดศักดิเ์ ป็ นนักแสดง
- แฟนของชูชยั เป็ นครู
- รัศมีมีแฟนเป็ นนักขำยประกัน
- ปอนด์มีพอ่ เป็ นหมอ
- สมรมีลกู อำยุ 4 ขวบ
- นรำมีอำชีพเดียวกันกับสมรและมีแฟนเป็ นสถำปนิกที่สร้ ำงบ้ ำนให้ เชิดศักดิ์
ข้ อที่ 31. ข้ อสรุปที่ 1 ชูชยั เป็ นหมอ
ข้ อสรุปที่ 2 ปอนด์เป็ นลูกของสมร
1 :ข้ อสรุปทังสองถู
้ กหรื อเป็ นจริงตำมเงื่อนไข
2 :ข้ อสรุปทังสองผิ
้ ดหรื อไม่เป็ นจริงตำมเงื่อนไข
3 :ข้ อสรุปทังสองไม่
้ สำมำรถสรุปได้ แน่ชดั ว่ำถูกหรื อผิดตำมเงื่อนไข
4 :ข้ อสรุ ปทังสองมี ้ ข้อสรุ ปใดข้ อสรุ ปหนึ่งที่เป็ นจริ งหรื อไม่จริ งหรื อไม่แน่ชดั ซึ่งไม่ซ ้ำกับอีกข้ อสรุ ป
หนึง่
เฉลย
ตอบ ข้ อ 1
แนวคิด ข้ อสรุปที่ 1 ชูชยั เป็ นหมอ => ถูกต้ อง
ข้ อสรุปที่ 2 ปอนด์เป็ นลูกของสมร => ถูกต้ อง
ดังนันจึ
้ งเลือกตอบ1 ได้ เลย
จำกเงื่อนไขในข้ อ 31 – 35 สำมำรถสรุปได้ วำ่
- ชูชยั เป็ นคนเดียวที่มีลกู ดังนันปอนด์
้ จงึ เป็ นลูกข้ องชูชยั
- เนื่องจำกปอนด์มีพอ่ เป็ นหมอ ดังนัน้ ชูชยั จึงเป็ น หมอ
- สมร เป็ นแม่ของปอนด์และภรรยำของชูชยั เพรำะมีลกู อำยุ 4 ขวบ ดังนันปอนด์ ้ จงึ อำยุ 4 ขวบด้ วย
- สมร มีอำชีพเป็ น ครู เพรำะโจทย์ระบุวำ่ ชูชยั มีแฟนเป็ นครู
- นรำ มีอำชีพเป็ น ครู เพรำะว่ำมีอำชีพเดียวกับสมร
- นรำมีแฟนเป็ น ชัชวำล เพรำะว่ำสมรเป็ นแฟนชูชยั ไปแล้ ว และโจทย์ยงั ระบุวำ่ นรำนันมี ้ แฟนเป็ นสถำปนิก
ซึ่งสร้ ำงบ้ ำนให้ กบั เชิดศักดิ์ ฉะนันจึ ้ งเหลือเพียงคนเดียวคือ ชัชวำล ดังนันชั ้ ชวำลจึงมีอำชีพเป็ น สถำปนิก
ด้ วย
- เหลือคูส่ ุดท้ ำย จึงสรุ ปได้ ว่ำ รัศมี เป็ นแฟนของเชิดศักดิ์ มีอำชีพเป็ น นักแสดง และเชิดศักดิ์ มีอำชีพเป็ น
นักขำยประกัน
จำกข้ ำงต้ นจึงสำมำรถนำมำเขียนตำรำงได้ ดงั นี ้
ข้ อที่ 32. ข้ อสรุปที่ 1 ชัชวำลมีแฟนคือนรำ
ข้ อสรุปที่ 2 เชิดศักดิม์ ีลกู อำยุ 4 ขวบ
1 :ข้ อสรุปทังสองถู
้ กหรื อเป็ นจริงตำมเงื่อนไข
2 :ข้ อสรุปทังสองผิ
้ ดหรื อไม่เป็ นจริงตำมเงื่อนไข
3 :ข้ อสรุปทังสองไม่
้ สำมำรถสรุปได้ แน่ชดั ว่ำถูกหรื อผิดตำมเงื่อนไข
4 :ข้ อสรุปทังสองมี ้ ข้อสรุปใดข้ อสรุปหนึ่งที่เป็ นจริ งหรื อไม่จริ งหรื อไม่แน่ชดั ซึ่งไม่ซ ้ำกับอีกข้ อสรุ ป
หนึง่
เฉลย
ตอบ ข้ อ 4
แนวคิด ข้ อสรุปที่ 1 ชัชวำลมีแฟนคือนรำ => ถูกต้ อง
ข้ อสรุปที่ 2 เชิดศักดิม์ ีลกู อำยุ 4 ขวบ => ไม่ถกู ต้ อง เพรำะเชิดศักดิไ์ ม่มีลกู
ดังนันจึ
้ งเลือกตอบ4 ได้ เลย

ข้ อที่ 33. ข้ อสรุปที่ 1 สมรเป็ นครูสอนภำษำอังกฤษ


ข้ อสรุปที่ 2 นรำเป็ นครูสอนสังคมศึกษำ
1 :ข้ อสรุปทังสองถู
้ กหรื อเป็ นจริงตำมเงื่อนไข
2 :ข้ อสรุปทังสองผิ
้ ดหรื อไม่เป็ นจริงตำมเงื่อนไข
3 :ข้ อสรุปทังสองไม่
้ สำมำรถสรุปได้ แน่ชดั ว่ำถูกหรื อผิดตำมเงื่อนไข
4 :ข้ อสรุ ปทังสองมี ้ ข้อสรุ ปใดข้ อสรุ ปหนึ่งที่เป็ นจริ งหรื อไม่จริ งหรื อไม่แน่ชดั ซึ่งไม่ซ ้ำกับอีกข้ อสรุ ป
หนึง่
เฉลย
ตอบ ข้ อ 3
แนวคิด ข้ อสรุปที่ 1 สมรเป็ นครูสอนภำษำอังกฤษ => สรุปไม่ได้ เพรำะสมรเป็ น
ครูจริง แต่โจทย์ไม่ระบุวำ่ เป็ นครูวิชำอะไร
ข้ อสรุปที่ 2 นรำเป็ นครูสอนสังคมศึกษำ => สรุปไม่ได้ เพรำะนรำเป็ น
ครูจริง แต่โจทย์ไม่ระบุวำ่ เป็ นครูวิชำอะไร
ดังนันจึ
้ งเลือกตอบ3 ได้ เลย

ข้ อที่ 34. ข้ อสรุปที่ 1 เชิดศักดิม์ ีแฟนเป็ นนักแสดง


ข้ อสรุปที่ 2 สถำปนิกมีแฟนเป็ นครู
1 :ข้ อสรุปทังสองถู
้ กหรื อเป็ นจริงตำมเงื่อนไข
2 :ข้ อสรุปทังสองผิ
้ ดหรื อไม่เป็ นจริงตำมเงื่อนไข
3 :ข้ อสรุปทังสองไม่
้ สำมำรถสรุปได้ แน่ชดั ว่ำถูกหรื อผิดตำมเงื่อนไข
4 :ข้ อสรุ ปทังสองมี ้ ข้อสรุ ปใดข้ อสรุ ปหนึ่งที่เป็ นจริ งหรื อไม่จริ งหรื อไม่แน่ชดั ซึ่งไม่ซ ้ำกับอีกข้ อสรุ ป
หนึง่
เฉลย
ตอบ ข้ อ 1
แนวคิด ข้ อสรุปที่ 1 เชิดศักดิม์ ีแฟนเป็ นนักแสดง => ถูกต้ อง
ข้ อสรุปที่ 2 สถำปนิกมีแฟนเป็ นครู => ถูกต้ อง
ดังนันจึ
้ งเลือกตอบ1 ได้ เลย

ข้ อที่ 35. ข้ อสรุปที่ 1 ชัชวำลเป็ นสถำปนิก


ข้ อสรุปที่ 2 ชูชยั เป็ นแพทย์ผิวหนัง
1 :ข้ อสรุปทังสองถู
้ กหรื อเป็ นจริงตำมเงื่อนไข
2 :ข้ อสรุปทังสองผิ
้ ดหรื อไม่เป็ นจริงตำมเงื่อนไข
3 :ข้ อสรุปทังสองไม่
้ สำมำรถสรุปได้ แน่ชดั ว่ำถูกหรื อผิดตำมเงื่อนไข
4 :ข้ อสรุ ปทังสองมี ้ ข้อสรุ ปใดข้ อสรุ ปหนึ่งที่เป็ นจริ งหรื อไม่จริ งหรื อไม่แน่ชดั ซึ่งไม่ซ ้ำกับอีกข้ อสรุ ป
หนึง่
เฉลย
ตอบ ข้ อ 4
แนวคิด ข้ อสรุปที่ 1 ชัชวำลเป็ นสถำปนิก => ถูกต้ อง
ข้ อสรุปที่ 2 ชูชยั เป็ นแพทย์ผิวหนัง => สรุปไม่ได้ เพรำะชูชยั เป็ น
หมอจริง แต่โจทย์ไม่ระบุวำ่ เป็ นหมอสำขำใดดังนันจึ ้ งเลือกตอบ4 ได้ เลย

ข้ อที่ 36.ข้ อควำมใดอยูล่ ำดับที่ 3


1 :กำรอ่ำนออกเสียงจะทำให้ ผ้ อู ื่นเสียสมำธิ
2 :ห้ องสมุดเป็ นหัวใจของกำรศึกษำ เป็ นสถำนที่ศกึ ษำหำควำมรู้ได้ ตลอดชีวิต
3 :ทรัพยำกรที่ยืมมำจำกห้ องสมุดต้ องดูแลรักษำเป็ นอย่ำงดี กำรเขียนข้ อควำมลงในหนังสือจะทำ
ให้ สกปรก
4 :กำรเข้ ำใช้ ห้องสมุดควรสำรวมกิริยำ กำรพูดคุยเสียงดังจะรบกวนผู้อื่น
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1 กำรอ่ำนออกเสียงจะทำให้ ผ้ อู ื่นเสียสมำธิ
อธิ บำย: หลักกำรทำข้ อสอบเรี ยงประโยคก็คือ ให้ ดทู ี่คำเชื่อมที่จะสอดคล้ องและต่อเนื่องกัน อีกทัง้ ให้ ดู
ควำมสัมพันธ์ ของแต่ล ะประโยคที่จะต้ องเขียนต่อให้ จบกันเป็ นเรื่ องๆ ไม่ข้ำมไปข้ ำมมำ ซึ่งจะได้ ว่ำ ( 2)
ห้ องสมุดเป็ นหัวใจของกำรศึกษำ เป็ นสถำนที่ศึกษำหำควำมรู้ ได้ ตลอดชีวิต (4) กำรเข้ ำใช้ ห้องสมุดควร
สำรวมกิริยำ กำรพูดคุยเสียงดังจะรบกวนผู้อื่น (1) กำรอ่ำนออกเสียงจะทำให้ ผ้ อู ื่นเสียสมำธิ (3) ทรัพยำกร
ที่ยืมมำจำกห้ องสมุดต้ องดูแลรักษำเป็ นอย่ำงดี กำรเขียนข้ อควำมลงในหนังสือจะทำให้ สกปรก

ข้ อที่ 37.ข้ อควำมใดอยูด่ ำดับที่ 4


1 :เปลือกมีสีนำตำลแกมเหลือง เนื ้อด้ ำนในสีเหลืองถึงเหลืองแกมเขียว
2 :ในประเทศไทยนิยมปลูกกันมำกที่จงั หวัดกำญจนบุรีและสุพรรณบุรี
3 :เหง้ ำไพลแก่ทงสดและแห้
ั้ งจะเผ็ดเล็กน้ อย
4 :ไพลเป็ นไม้ ล้มลุกอยูใ่ ต้ ดนิ
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 2 ในประเทศไทยนิยมปลูกกันมำกที่จงั หวัดกำญจนบุรีและสุพรรณบุรี
อธิบำย: (4) ไพลเป็ นไม้ ล้มลุกอยูใ่ ต้ ดิน (1) เปลือกมีสีนำตำลแกมเหลือง เนื ้อด้ ำนในสีเหลืองถึงเหลืองแกม
เขี ย ว (3) เหง้ ำไพลแก่ ทัง้ สดและแห้ ง จะเผ็ ด เล็ ก น้ อ ย (2) ในประเทศไทยนิ ย มปลูก กัน มำกที่ จัง หวัด
กำญจนบุรีและสุพรรณบุรี

ข้ อที่ 38.ข้ อควำมใดอยูด่ ำดับที่ 1


1 :เช่น หนูในท่อระบำยน ้ำตำมบ้ ำนเรื อน
2 :ทำให้ งตู ้ องปรับตัว และล่ำเหยื่อที่มีอยูใ่ นเมืองเป็ นจำนวนมำก
3 :ปั ญหำงูเข้ ำบ้ ำนเกิดขึ ้นได้ บอ่ ยๆ
4 :เนื่องจำกกำรขยำยตัวของเมืองเข้ ำไปลุกล ้ำที่อยู่อำศัยของงู
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 ปั ญหำงูเข้ ำบ้ ำนเกิดขึ ้นได้ บอ่ ยๆ
อธิบำย: (3) ปั ญหำงูเข้ ำบ้ ำนเกิดขึ ้นได้ บอ่ ยๆ (4) เนื่องจำกกำรขยำยตัวของเมืองเข้ ำไปลุกล ้ำที่อยูอ่ ำศัยของ
งู (2) ทำให้ งูต้องปรั บตัว และล่ำเหยื่ อที่ มี อยู่ในเมื องเป็ นจ ำนวนมำก (1) เช่น หนูในท่อระบำยนำ้ ตำม
บ้ ำนเรื อน

ข้ อที่ 39.ข้ อควำมใดอยูล่ ำดับที่ 2


1 :ผิวเรี ยบ เปลือกบำง จึงกินได้ ทงเปลื
ั ้ อก
2 :มะไฟจีนเป็ นพืชตระกูลส้ มชนิดหนึง่
3 :เนื ้อใสฉ่ำน ้ำ มีรสหวำนอมเปรี ย้ ว
4 :เป็ นไม้ ไม่ผลัดใบ ออกผลตำมลำต้ นและกิ่งเป็ นพวงคล้ ำยมะไฟ
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 เป็ นไม้ ไม่ผลัดใบ ออกผลตำมลำต้ นและกิ่งเป็ นพวงคล้ ำยมะไฟ
อธิบำย: (2) มะไฟจีนเป็ นพืชตระกูลส้ มชนิดหนึ่ง (4) เป็ นไม้ ไม่ผลัดใบ ออกผลตำมลำต้ นและกิ่งเป็ นพวง
คล้ ำยมะไฟ (1) ผิวเรี ยบ เปลือกบำง จึงกินได้ ทงเปลืั ้ อก (3) เนื ้อใสฉ่ำน ้ำ มีรสหวำนอมเปรี ย้ ว

ข้ อที่ 40.ข้ อควำมใดอยูล่ ำดับที่ 3


1 :โดยเฉพำะจำกแสงแดด ซึง่ อำจทำให้ กระจกตำ เลนส์ และจอประสำทตำอักเสบ
2 :จึงควรต้ องสวมแว่นกันแดดทุกครัง้ เมื่อต้ องเผชิญกับแสดงแดดเพื่อลดแสงยูวีที่จะกระทบตำ
3 :ดวงตำเป็ นอวัยวะที่สำคัญ เรำจึงต้ องดูแลให้ ปลอดภัย
4 :มีอำกำรแสบตำ น ้ำตำไหล ในระยะยำวอำจเป็ นต้ อกระจกได้
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1 โดยเฉพำะจำกแสงแดด ซึง่ อำจทำให้ กระจกตำ เลนส์ และจอประสำทตำอักเสบ
อธิบำย: (3) ดวงตำเป็ นอวัยวะที่สำคัญ เรำจึงต้ องดูแลให้ ปลอดภัย (2) จึงควรต้ องสวมแว่นกันแดดทุกครัง้
เมื่อต้ องเผชิญกับแสดงแดดเพื่อลดแสงยูวีที่จะกระทบตำ (1) โดยเฉพำะจำกแสงแดด ซึ่งอำจทำให้ กระจก
ตำ เลนส์ และจอประสำทตำอักเสบ (4) มีอำกำรแสบตำ น ้ำตำไหล ในระยะยำวอำจเป็ นต้ อกระจกได้

ข้ อที่ 41.สำนวนมีควำมหมำยว่ำกระทำด้ วยควำมรุนแรง


1 :ปล่อยเสือเข้ ำป่ ำ
2 :ขิงก็รำข่ำก็แรง
3 :หักด้ ำมพร้ ำด้ วยเข่ำ
4 :น ้ำเชี่ยวอย่ำงขวำงเรื อ
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 หักด้ ำมพร้ ำด้ วยเข่ำ
อธิบำย: “หักด้ ำมพร้ ำด้ วยเข่ำ” = หักโหมด้ วยกำลัง, ใช้ อำนำจ/กำลัง บังคับเอำ
“ปล่อยเสือเข้ ำป่ ำ” = ปล่อยศัตรูไป อำจกลับมำทำร้ ำยเรำได้ ภำยหลัง
“ขิงก็รำ ข่ำก็แรง” = ต่ำงก็มีอำรมณ์ร้อนพอกัน, ต่ำงไม่ยอมกัน
“น ้ำเชี่ยว อย่ำงขวำงเรื อ” = อย่ำขัดขวำงผู้มีอำนำจ

ข้ อที่ 42.คำว่ำ ตก ข้ อใดมีควำมหมำยว่ำไม่ได้


1 :ฉันเสียใจมำกที่สอบตก
2 :เสื ้อกีฬำตัวนี ้สีตก
3 :วัวเป็ นสัตว์ตกลูกครัง้ ละตัว
4 :เขำคิดตกแล้ วว่ำจะขับรถไปทำงเหนือ
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1 ฉันเสียใจมำกที่สอบตก
อธิบำย: "สอบตก” = สอบไม่ได้

ข้ อที่ 43.
ข้ อใดมีคำที่สลับตำแหน่งแล้ วควำมหมำยเปลี่ยนไปทุกคำ
1 :งำนกำร ชมเชย ผลัดเปลี่ยน
2 :สดใส มะนำวดอง พัดลม
3 :ส่งเสริม มือขำว วอดวำย
4 :งำมหน้ ำ ดีใจ ผลไม้
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 งำมหน้ ำ ดีใจ ผลไม้

อธิบำย: ในตัวเลือก 4 นี ้ เมื่อสลับคำ จะได้ ว่ำ หน้ ำงำม ใจดี ไม้ ผล ซึ่งควำมหมำยเปลี่ยนไปจำกเดิมทุกคำ
ส่วนตัวเลือกอื่นๆ นันมี
้ บำงคำที่ไม่เปลี่ยนควำมหมำยเมื่อกลับคำ เช่น
1 คือ กำรงำน และ งำนกำร
2 คือ ใสสด และสดใส
3 คือ ส่งเสริม และเสริมส่ง
ข้ อที่ 44.ข้ อใดใช้ คำได้ เหมำะสมที่สดุ
1 :กระทรวงศึกษำธิกำรเรี ยกสอบกรำวรูดกรทุจริ ตกำรสร้ ำงอำคำร
2 :ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยืนกรำนปฏิบตั ติ ำมนโยบำยเดิม
3 :ของขวัญชิ ้นนี ้ถึงไม่สงู รำคำแต่มำกค่ำด้ วยควำมห่วงใย
4 :ศำลปกครองสัง่ ฟั งคดีกระทรวงแรงงำนเป็ นคดีแรก
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 ของขวัญชิ ้นนี ้ถึงไม่สงู รำคำแต่มำกค่ำด้ วยควำมห่วงใย
อธิบำย: 1 = “กรำวรูด” เป็ นภำษำไม่ทำงกำร
2 = “ยืนกรำน” เป็ นภำษำไม่ทำงกำร
3 = “สัง่ ฟั น” เป็ นภำษำไม่ทำงกำร

ข้ อที่ 45.ข้ อควำมใดสื่อควำมคิดได้ ชดั เจนที่สดุ


1 :พรี ไซส์ อำหำรสุนขั และแมวทุกช่วงอำยุ
2 :รี ดผ้ ำมำกแค่ไหนก็ไม่เบื่อด้ วยเก้ ำอี ้รี ดผ้ ำ ไลฟ์ไฮพ์
3 :กระบอกฉีดน ้ำมันมิสโต รูปแบบใหม่ของกำรใช้ น ้ำมันเพียงเล็กน้ อยในกำรประกอบอำหำรต่ำง ๆ
4 :ปลอดภัย ประหยัดเวลำและพลังงำน คงกลิ่น รสชำติและรักษำคุณค่ำอำหำรด้ วยหม้ ออัดควำม
ดันคุนริคอน
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 ปลอดภัย ประหยัดเวลำและพลังงำน คงกลิ่น รสชำติและรักษำคุณค่ำอำหำรด้ วยหม้ ออัด
ควำมดันคุนริคอน
อธิ บำย: เนื่ องจำก4 นีเ้ ป็ นกำรโฆษณำ จึง ต้ องบอกรำยละเอียดสินค้ ำให้ ครบมำกที่สุด เพื่ อให้ ผ้ ูบริ โภค
ตัดสินใจซื ้อได้ ดังนันจึ
้ งเป็ นข้ อที่สื่อควำมคิดได้ ชดั เจนที่สดุ

ข้ อ ที่ 46.“จุ ด เริ่ ม ต้ น ที่ ท ำให้ สัง คม องค์ ก ร ชุม ชน หรื อ ระบบต่ำ ง ๆ มี คุณ ภำพได้ นัน้ มัก จะเริ่ ม จำก
ปั จจัยพื ้นฐำนสำคัญคือ คนคุณภำพ แทบทังสิ ้ ้น คนคุณภำพในที่นี ้หมำยถึงคนดีและคนเก่ง ใช้ ควำมดีเป็ น
กรอบ และใช้ ควำมเก่ง เป็ นพลังขับเคลื่อนให้ องค์กรหรื อชุมชนนัน้ อยู่รอดหรื อพัฒนำสมำชิ กให้ เป็ นคน
คุณภำพ ซึง่ ปั จจัยสำคัญที่จะทำให้ มีคนคุณภำพได้ ก็คือกำรศึกษำ”
สำระสำคัญของข้ องควำมนี ้คือข้ อใด
1 :สังคมต้ องกำรคนคุณภำพ
2 :กำรศึกษำสำมำรถพัฒนำให้ คนมีคณ ุ ภำพ
3 :คนคุณภำพคือจุดเริ่มต้ นในกำรพัฒนำสังคม
4 :กำรศึกษำเป็ นจุกเริ่มต้ นในกำรพัฒนำคนคุณภำพ
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 2 กำรศึกษำสำมำรถพัฒนำให้ คนมีคณ ุ ภำพ
อธิบำย: เห็นได้ ชดั เจนจำกคำว่ำ “ซึง่ ปั จจัยสำคัญที่จะทำให้ คนมีคณ
ุ ภำพได้ ก็คือ กำรศึกษำ”

ข้ อที่ 47.ควำมสำเร็ จไม่อำจวัดกันที่ตำแหน่งที่คนคนหนึ่งสำมำรถกว้ ำขึน้ มำยืนหยัดได้ หำกควรวัดจำก


อุปกรณ์ทงหลำยที
ั้ ่เขำสำมำรถฟั นฝ่ ำมำได้ ขณะที่พยำยำมก้ ำวไปสู่ควำมสำเร็จ ควำมสำเร็จคือ
1 :กำรแก้ ปัญหำได้ ลลุ ว่ ง
2 :กำรได้ รับชัยชนะเหนือผู้อื่น
3 :ควำมรับผิดชอบที่สงู ขึ ้น
4 :กำรได้ รับกำรยกย่องในสังคม
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1 กำรแก้ ปัญหำให้ ลลุ ว่ ง
อธิบำย: เห็นได้ ชดั เจนจำกคำว่ำ “ควำมสำเร็จไม่อำจวัดกันที่ตำแหน่ง ... หำกควรวัดจำกอุปสรรคทังหลำย

ที่เขำสำมำรถฟั นฝ่ ำ”

ข้ อที่ 48.“วิธีแก้ กำรอักเสบของเข่ำแบบโบรำณคือเอำขี ้ผึ ้งหรื อพำรำฟิ นมำอุ่นให้ ละลำย แล้ วเอำแปรงจุ่ม
พำรำฟิ นละเลงบนข้ อที่ปวด อำศัยควำมร้ อนจัดจำกพำรำฟิ นทำให้ อำกำรอักเสบของข้ อลดลง ให้ ทำวันละ
สองครัง้ ควบกันไปกับกำรควบคุมอำหำรและกำรดำมเข่ำจะเห็นผลภำยใน 7 วัน”
ข้ อใดที่มีควำมสำคัญน้ อยที่สดุ ในกำรลดกำรอักเสบ
1 :ต้ องอำศัยขี ้ผึ ้งหรื อพำรำฟิ น
2 :ต้ องทำทุกวันวันละครัง้
3 :ต้ องอำศัยควำมร้ อน
4 :ต้ องควบคุมอำหำร
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 ต้ องควบคุมอำหำร
อธิบำย: เพรำะไม่มีระบุถึงเลยในบทควำมจำกโจทย์

ข้ อที่ 49.“ฝนไม่มีทีทำ่ ว่ำจะเบำลง ตรงกันข้ ำมกับยิ่งหนำเม็ดขึ ้นจนมองทำงแทบไม่เห็น รถแล่นไปได้ ช้ำต้ อง


เปิ ดไฟใหญ่และบีบแตรตลอดทำง ในแต่ละเสี ้ยววินำทีที่ผ่ำนมำนัน้ ไม่มีใครสำมำรถทำนำยได้ ว่ำอะไรจะ
เกิดขึ ้นและถ้ ำพลำดเพียงนิดเดียวสิ่งที่เหลืออยู่ก็คือเศษเหล็กกับกองกระดูกก้ นเหว” จำกข้ อควำมข้ ำงต้ น
อะไรไม่ใช่อปุ สรรคในกำรขับรถครัง้ นี ้
1 :ควำมมืด
2 :สภำพรถ
3 :ฝนตกหนัก
4 :ทำงที่เลียบเขำ
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 2 สภำพรถ
อธิบำย: เพรำะไม่มีระบุถึงเลยในบทควำมจำกโจทย์

ข้ อที่ 50.“ทังบำงกอกน้
้ อยและบำงกอกใหญ่ แค่แตกต่ำงกันในระดับยศถำบรรดำศักดิ์ของผู้คนในสมัยนัน้
แต่วิถีชีวิตและกำรประกอบสัมมำอำชีพไม่ตำ่ งกัน คือ อำชีพทำสวนผลไม้ เพรำะน ้ำท่ำอุดมสมบูรณ์ ในขณะ
ที่ชำวบ้ ำนริมคลองบำงกอกน้ อยมีฝีมือทำงเชิงช่ำงอยูไ่ ม่น้อย”
จำกข้ อควำมนี ้ ผู้เขียนแสดงทรรศนะในแง่ใด
1 :มีทศั นคติไม่ดีตอ่ กำรแบ่งชนชันของสั
้ งคมไทยในอดีต
2 :ประทับใจในควำมสำมำรถทำงช่ำงของชำวบำงกอกน้ อยเป็ นอย่ำงมำก
3 :ให้ ข้อมูลเกี่ยวกับควำมเป็ นอยูข่ องชุมชนบำงกอกน้ อย บำงกอกใหญ่
4 :บรรยำยถึงสภำพควำมอุดมสมบูรณ์ของบำงกอกน้ อยและบำงกอกใหญ่ในอดีต
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 ให้ ข้อมูลเกี่ยวกับควำมเป็ นอยูข่ องชุมชนบำงกอกน้ อย บำงกอกใหญ่
อธิบำย: บทควำมในโจทย์เป็ นข้ อเท็จจริงที่กล่ำวถึงชุมชนบำงกอกน้ อยและบำงกอกใหญ่

อ่ำนข้ อควำมต่อไปนี ้ ตอบคำถำมข้ อที่ 51 – 52


พลำสติกที่สำมำรถย่อยสลำยได้ ทำงชีวภำพ คือ พลำสติกที่ผลิตขึ ้นจำกวัตถุดบิ ทำงธรรมชำติ เช่น
แป้งข้ ำวโพด หรื อ มันสำปะหลัง ซึ่งจะมีควำมต่ำงจำกพลำสติกที่ใช้ กันอยู่ทกุ วันนี ้ซึ่งมีสำรตังต้
้ นจำกปิ โตร
เคมี และจำกกำรผลิตขึ ้นจำกวัตถุดิบทำงธรรมชำตินี ้เอง จึงสำมำรถรับประกันได้ ถึงกำรย่อยสลำยด้ วย
ธรรมชำติ ทำให้ ไม่เกิดขยะที่ไม่พึงประสงค์ และกำรทำลำยธรรมชำติจำกกระบวนกำรผลิตและกำรทำลำย
ซึง่ นับว่ำเป็ นผลิตภัณฑ์ที่เป็ นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้ อม
ข้ อ 51. ลักษณะพิเศษของพลำสติกย่อยสลำยได้ ทำงชีวภำพส่งผลดีตอ่ ระบบนิเวศโลกในด้ ำนใด
1 :ช่วยลดกำรใช้ ปิโตรเคมีในชีวิตประจำวัน
2 :ช่วยให้ เกิดระบวนกำรนำกลับมำใช่ใหม่
3 :ช่วยให้ กำรกำจัดขยะพลำสติกมีประสิทธิภำพ
4 :ช่วยลดกำรใช้ บรรจุภณั ฑ์ในชีวิตประจำวัน
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1 ช่วยลดกำรใช้ ปิโตรเคมีในชีวิตประจำวัน
อธิบำย: พลำสติกโดยทัว่ ไปนัน่ ผลิตมำจำกสำรปิ โตรเคมี ซึ่งส่งผลเสียอย่ำงมำกมำยต่อสิ่งแวดล้ อม ดังนัน้
หำกมีกำรผลิตพลำสติกจำกวัตถุดิบทำงธรรมชำติก็จะช่วยลดกำรใช้ สำรตรงนี ้ลงไป และจะสำมำรถลด
ภำวะสิ่งแวดล้ อมที่ไม่ดีของโลกลงไปด้ วย

ข้ อที่ 52.หำกมีกำรประกำศนโยบำยจำกภำครัฐสนับสนุนให้ มีกำรใช้ พลำสติกย่อยสลำยได้ ทำงชีวภำพแทน


พลำสติกแบบเดิม น่ำจะส่งผลต่อกำรลดลงของสิ่งใด
1 :สัดส่วนของกำรใช้ พนักงำนในกำรผลิต
2 :ปริมำณขยะบรรจุภณ ั ฑ์
3 :ขนำดของรอยเท้ ำคำร์ บอน
4 :อัตรำกำรเกิดภำวะฝนตก
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 ขนำดของรอยเท้ ำคำร์ บอน
อธิ บำย: รอยเท้ ำคำร์ บอน (carbon footprint) เป็ นกำรวัดผลกระทบจำกกิจกรรมของมนุ ษย์ที่มีต่อระบบ
สิ่งแวดล้ อมในแง่ของปริ มำณแก๊ สเรื อนกระจกที่สร้ ำงขึน้ มำจำกกิ จกรรมนัน้ ๆ ซึ่งแน่นอนว่ำในกำรผลิต
พลำสติก ย่อมต้ องทำให้ เกิดรอยเท้ ำคำร์ บอนมำกขึ ้นเป็ นอย่ำงมำก ดังนัน้ กำรผลิตพลำสติกจำกวัตถุดิบ
ทำงธรรมชำติก็จะช่วยลดรอยเท้ ำนี ้ลงไป

อ่ำนข้ อควำมต่อไปนี ้เพื่อตอบคำถำมข้ อ 53 – 55


งำนวรรณกรรมของไทยควรที่จะได้ รับกำรส่งเสริ มให้ เป็ นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต ไม่ใช่เป็ นเพียงส่วน
หนึ่งของกำรท่องเที่ยว อย่ำงเช่นในต่ำงประเทศ มีกำรรวมใจของประชำชนและท้ องถิ่น ที่ร่วมมือกันทำให้
ศิลปะกลำยเป็ นเครื่ องมือในกำรบำบัดและเยียวยำจิตใจ แม้ ว่ำในช่วงแรกคนอำจยังไม่มำก อำจมีแต่เพียง
คนภำยในท้ อ งถิ่ น แต่ภ ำยหลัง อำจขยำยตัว ออกไปมำกขึน้ แต่สิ่ ง ที่ น่ำสัง เกตคื อ บำงประเทศใช้ ง ำน
วรรณกรรมเป็ นเครื่ องมือทำงกำรเมืองอย่ำงเดียว แทนที่จะเขียนเพื่อยกระดับจิตวิญญำณมนุษย์ แสวงหำ
ควำมงำม ควำมงำมในระดับนำมธรรม แต่กลับนำไปใช้ ในกำรทำลำยกันและกัน
ทังนี
้ ้ บำงประเทศอำจประสบปั ญหำในกำรสรรค์สร้ ำงกวีใน 2 รูปแบบ นัน่ คือทังจำกกำรยึ
้ ดมัน่ ใน
จำรี ตกำรประพันธ์มำกเกินไป จนละเลยสำระของเนื ้อหำ หรื อจำกกำรละเลยจำรี ต กระทัง่ ขำดควำมงดงำม
ทำงฉัน ทลัก ษณ์ ดัง นัน้ ต้ องระมัด ระวัง และจะต้ อ งให้ ค วำมส ำคัญ ทัง้ ในเรื่ องของควำมคิด และควำม
สละสลวย
ดังนัน้ กำรส่งเสริมงำนวรรณกรรม ต้ องบ่มเพำะ ต้ องขัดเกลำ และขับเคลื่อนอย่ำงต่อเนื่อง
ไม่จมดิง่ กับควำมคิดของตนเองกระทัง่ กลำยเป็ นควำมขมขื่น ควรจะต้ องไปเปิ ดหูเปิ ดตำ เปิ ดประสบกำรณ์
พบสิ่งใหม่ๆ และส่งเสริมพลังแห่งจิตวิญญำณในกำรต่อสู้เพื่องำนสร้ ำงสรรค์ตอ่ ไป

ข้ อที่ 53. ข้ อใดเป็ นคุณลักษณะของ “กวีที่ดี” ตำมบทควำมข้ ำงต้ น


1 :รู้รักษำขนบธรรมเนียมอย่ำงเคร่งครัด
2 :รู้รอบ รู้ลกึ รู้จริง รู้ดีชวั่
3 :รู้เชี่ยวชำญในเรื่ องที่ตนสนใจ
4 :รู้สำระด้ ำนสุนทรี ยศำสตร์ อย่ำงลึกซึ ้ง
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 2 รู้รอบ รู้ลกึ รู้จริง รู้ดีชวั่
อธิ บำย: จำกบทควำมจะเห็นได้ ว่ำเป็ นกำรกล่ำวถึง “งำนเขียนที่ดี” นัน้ จะต้ องมีควำมรอบด้ ำน
ไม่ใช่แค่สนุ ทรี ย แต่ต้องมีควำมถูกต้ อง ซึง่ ก็คือต้ องรู้รอบ รู้ลกึ รู้จริง รู้ดีชวั่ นัน่ เอง

ข้ อที่ 54.ข้ อใดไม่ใช่แนวทำงในกำรสร้ ำงสรรค์งำนวรรณกรรมให้ เป็ นส่วนหนึ่งของชีวิต จนสำมำรถยกระดับ


จิตวิญญำณมนุษย์ได้ อย่ำงแท้ จริง
1 :กำรจัดพื ้นที่ในชุมชนเพื่อเป็ นเวทีในกำรแลกเปลี่ยนควำมคิดจำกกำรอ่ำน
2 :กำรให้ ควำมสำคัญกับสำระควบคูก่ บั ควำมงำมในกำรสร้ ำงสรรค์วรรณกรรม
3 :กำรส่งเสริมพฤติกรรมกำรอ่ำนให้ เน้ นควำมดีงำมและหลุดพ้ นจำกวัฒนธรรมบริโภค
4 :กำรทุม่ งบโฆษณำสำนักพิมพ์เพื่อก่อกระแสควำมนิยมในงำนวรรณกรรม
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 กำรทุม่ งบโฆษณำสำนักพิมพ์เพื่อก่อกระแสควำมนิยมในงำนวรรณกรรม
อธิบำย: กำรทุม่ งบโฆษณำสำนักพิมพ์เพื่อก่อกระแสควำมนิยมในงำนวรรณกรรมนันไม่ ้ ได้ เป็ นกำร
ยกระดับจิตวิญญำณของมนุษย์ เพรำะเป็ นเพียงกำรโฆษณำซ ้ำๆ จนทำให้ ผ้ อู ่ำนนันติ ้ ดหู ติดตำเท่ำนันซึ
้ ่ง
อำจไม่มีสำระสำคัญใดๆ ที่จะเป็ นประโยชน์กำรดำเนินชีวิตเลยก็ได้
ข้ อที่ 55. กวีควรมีบทบำทในกำรส่งเสริ มงำนวรรณกรรมให้ เป็ นเครื่ องมือที่สำมำรถบำบัดเยียวยำจิตใจของ
ประชำชนอย่ำงไร
1 :ส่งงำนวรรณกรรมเข้ ำประกวดเพื่อยืนยันคุณภำพ
2 :สร้ ำงงำนวรรณกรรมที่สะท้ อนภำพสังคมที่แท้ จริง
3 :เข้ ำร่วมเป็ นส่วนหนึง่ ของกรรมกำรด้ ำนวัฒนธรรม
4 :วิพำกษ์วิจำรณ์งำนวรรณกรรมให้ เข้ มข้ น
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 2 สร้ ำงงำนวรรณกรรมที่สะท้ อนภำพสังคมที่แท้ จริง
อธิบำย: กำรสร้ ำงงำนวรรณกรรมที่สะท้ อนภำพสังคมที่แท้ จริ ง จะสำมำรถทำให้ ผ้ คู นได้ เห็นถึงควำมเป็ น
จริ งที่เกิดขึ ้น ซึ่งบำงครัง้ กำรที่ประชำชนอยู่ในสังคมก็อำจมองไม่เห็นควำมเป็ นไปที่เกิดขึ ้น แต่เมื่อได้ อ่ำนก็
อำจทำให้ ฉกุ คิด และหันกลับมำใส่ใจในสังคมของตน เพื่อปรับปรุงและพัฒนำให้ ดีมำกยิ่งขึ ้นนัน่ เอง

ข้ อที่ 56. Nan: Hi, how have you been?


Bob: I've been great. __________?
Nan: I've been good. I get a job right now.
1 :What about you
2 :What are you doing
3 :What’s wrong
4 :What’s the matter
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1 What about you (แล้ วเธอล่ะ)
อธิบำย: แนนตอบกลับบ็อบมำว่ำ “สบำยดี” ดังนันข้
้ อนี ้จึงต้ องตอบ1 ว่ำเป็ นกำรที่บ็อบได้ ถำมแนนกลับว่ำ
สบำยดีไหมนัน่ เอง

ข้ อที่ 57. Ken: Are you free on the sixteenth in the afternoon?
John: ___________. I have to present my project to Mr. Joe.
1 :Yes, see you then
2 :Yes, it’s my day off
3 :No, I'm afraid not
4 :No, I’m free in the morning
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1 แล้ วเธอล่ะ
อธิบำย: แนนตอบกลับบ็อบมำว่ำ “สบำยดี” ดังนันข้
้ อนี ้จึงต้ องตอบ1 ว่ำเป็ นกำรที่บ็อบได้ ถำมแนนก
ลับว่ำสบำยดีไหมนัน่ เอง

ข้ อที่ 58. Henry: How is it going Lohan?


Lohan: I'm doing great. What about you?
Henry: I'm absolutely lovely, thank you.
Lohan: Everything's been good with you?
Henry: _____58_____. My life is going well. How about yourself?
Lohan: I got a new job as a teacher recently.
Henry: Which school do you teach for?
Lohan: I teach at TOPIC ACADEMY.
Henry: Do you enjoy it _____59_____?
Lohan: I enjoy it so much. My classes are pretty good and my colleagues are so
greatright now.
Henry: I wish you luck.
Lohan: _____60_____.
1 :Never been better
2 :I have been better
3 :Could be better
4 :Better stay away
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1 Never been better (ทุกอย่ำงดีมำก)
อธิ บ ำย: หลัง จำกประโยคนี ้ เฮนรี่ พูด ต่อ ว่ำ เขำก ำลัง ไปได้ ดี แสดงว่ำ ข้ อ นี ต้ ้ อ งเป็ นค ำในทิ ศ ทำงบวก
(positive) ซึง่ ในตัวเลือกทังหมดแล้
้ ว มีเพียง1 เพียงตัวเลือกเดียว จึงตอบได้ เลยa

ข้ อที่ 59.1 : so long


2 : so good
3 : so far
4 : so well
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 so far (จนถึงตอนนี ้)
อธิบำย: 3 เหมำะสมกับบริบทที่สดุ จะได้ วำ่ “เธอชอบมันไหมจนถึงตอนนี ้”

ข้ อที่ 60.1 :Sure


2 :I really appreciate it
3 :You bet
4 :It’s easy said than done
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 2. I really appreciate it (ขอบคุณมำกๆ)
อธิบำย: เมื่อเฮนรี่ อวยพรขอให้ โชคดี โลฮำนก็ยอ่ มต้ องขอบคุณนัน่ เอง

ข้ อที่ 61.Even if we had a donor, we'd still need your parents' _________ to treat you.
1 :consent
2 :effort
3 :arrangement
4 :knowledge
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1. consent (กำรอนุญำต)

อธิ บำย 1 มีควำมหมำยเข้ ำกับบริ บทของประโยคจำกโจทย์มำกที่สุด และคำว่ำ consent ซึ่งแปลว่ำกำร


อนุญำต ก็เป็ นคำที่ออกข้ อสอบบ่อย และมีควำมหมำยเหมือนกันกับคำว่ำ authorization, permission

ข้ อที่ 62.For dinner tonight, I have bought a pudding cake as _________ from the market.
1 :desert
2 :dessert
3 :dress
4 :descent
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 2. dessert (ของหวำน)
อธิบำย จำกโจทย์จะเห็นได้ ชดั ว่ำเป็ นเรื่ องเกี่ยวกับอำหำร ดังนัน2
้ dessert (ของหวำน) จึงเข้ ำกับบริ บทของ
ประโยคจำกโจทย์มำกที่สุด ทัง้ นีจ้ ำกตัวเลือกทัง้ หมดนัน้ จะเห็นว่ำมีคำที่เขียนคล้ ำยกันแต่ควำมหมำย
ต่ำงกันที่ต้องระมัดระวังเป็ นอย่ำงมำก ก็คือคำว่ำ dessert (ของหวำน) และ desert (ทะเลทรำย) นอกจำกนี ้
คำว่ำ dessert ก็ยงั เป็ นคำที่ออกข้ อสอบบ่อย และมีควำมหมำยเหมือนกันกับคำว่ำ sweet, candy

ข้ อที่ 63.Perhaps you were suffering from some other _________.


1 :Treatment
2 :development
3 :settlement
4 :ailment
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 ailment (โรค)
อธิ บำย คำว่ำ ailment ที่แปลว่ำ โรค ก็เป็ นคำที่ ออกข้ อสอบบ่อย และมี ควำมหมำยเหมือนกันกับคำว่ำ
ailment, illness, disease, sickness
ทังนี
้ ้คำศัพท์ทำงกำรแพทย์หรื อโรคภัยไข้ เจ็บต่ำงๆ นันออกข้
้ อสอบอย่ำงต่อเนื่อง เพรำะเป็ นสิ่งเกิดขึ ้นจริ งใน
ชีวิตประจำวัน ดังนันจึ้ งเป็ นกลุม่ คำที่ควรต้ องทรำบอีกด้ วย

ข้ อที่ 64.For everyone across the world, education is an excellent _________ for the better future.
1 :guarantee
2 :punishment
3 :investment
4 :management
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3. investment (กำรลงทุน)
อธิบำย 3 กำรลงทุน มีควำมหมำยเข้ ำกับบริ บทของประโยคจำกโจทย์มำกที่สดุ และคำว่ำ investment นัน้
ก็เป็ นคำที่ออกข้ อสอบบ่อย และยังมีควำมหมำยว่ำ “เงินลงทุน” ได้ อีกด้ วย

ข้ อที่ 65.Do not rely on the room clock for the _________ time of day.
1 :stable
2 :acceptable
3 :accurate
4 :eligible
คำตอบ ข้ อ 3 acceptable (แม่นยำ)
อธิบำย คำว่ำ accurate ซึ่งแปลว่ำแม่นยำ เป็ นคำที่ออกข้ อสอบบ่อย และมีควำมหมำยเหมือนกันกับคำว่ำ
correct, precise, exact

ข้ อที่ 66.Neurons can _________ themselves against infection with HIV.


1 :protect
2 :protects
3 :protected
4 :protecting
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1 protect
อธิ บ ำย ‘can’ (รวมทัง้ could, shall, should, will, would, may, might) จะต้ อ งตำมด้ ว ย verb infinitive
(กริยำไม่เปลี่ยนรูป) เท่ำนัน้ ดังนันจึ
้ งตอบ1 นัน่ เอง

ข้ อที่ 67._________ do the piles of garbage smell bad, but it is also contaminating groundwater
sources.
1 :However
2 :Because
3 :Not only
4 :Although
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 Not only
อธิบำย รูปประโยคของโจทย์อยู่ในรูปแบบของ correlative conjunction ที่ต้องใช้ คำสันธำนคล้ อยตำม
กันเป็ นคู่ นั่นคือ Not only …, but also … นั่นเอง ทำให้ เมื่อเจอคำว่ำ “…, but it is also …” จึง สำมำรถ
เลือกตอบ3 นี ้ได้ ทนั ที

ข้ อที่ 68.The main reason for the _________ damage was that there were more visitors to this
National Park.
1 :environment
2 :environments
3 :environmental
4 :environmentally
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 environmental
อธิบำย ตัดกำรพิจำรณำได้ เลยที่ “…the _________ damage…” ซึ่งจะเห็นว่ำคำในช่องว่ำงนี ้จะต้ องเป็ น
คำคุณศัพท์ (adjective) เท่ำนัน้ เพรำะอยูใ่ นตำแหน่งหน้ ำคำนำม (damage) นัน่ เอง ดังนันจึ
้ งสำมำรถตอบ
3 นี ้ได้ ทนั ที เพรำะเป็ นคำคุณศัพท์ตำมที่โจทย์ต้องกำร

ข้ อที่ 69.Every year our animal hospitals provide thousands of free veterinary treatments for pets
_________ owners cannot afford private vets’ bills.
1 :who
2 :whose
3 :whom
4 :which
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 2 whose
อธิบำย พิจำรณำจำกประโยคโดยรวม จะพบว่ำประโยคหลักนันมี ้ ครบแล้ วทังประธำน
้ (subject) =
‘our animal hospitals’ กริ ยำ (verb) = ‘provide’ และกรรม (object) = ‘thousands of free veterinary
treatments for pets…” ดังนันจึ ้ งสำมำรถตัดกำรพิจำรณำมำได้ เลยที่ “… pets ________ owners cannot
afford private vets’ bills.” เพรำะเป็ น relative clause ขยำยคำว่ำ ‘pets’ นัน่ เอง
ซึ่ง เมื่ อ พิ จ ำรณำจำกรู ป ควำมหมำย จะได้ ว่ำ “สัต ว์ เ ลี ย้ ง ________ เจ้ ำ ของไม่ ส ำมำรถจ่ ำ ยค่ำ
รักษำพยำบำลได้ ” ทำให้ ตอบ2 ได้ เลย เพรำะ ‘whose’ จะใช้ เพื่อบ่งชี ้กำรเป็ นเจ้ ำของว่ำ คำว่ำ ‘เจ้ ำของ’ นัน้
คือเป็ นเจ้ ำของ ‘สัตว์เลี ้ยง’ ที่ whose ไปขยำยควำมนัน่ เอง

ข้ อที่ 70.At this moment, The man _________ to guess the name of the place.
1 :is trying
2 :are trying
3 :try
4 :tries
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1 is trying
อธิ บ ำย ข้ อ นี ม้ ี ค ำบ่ง ชี เ้ วลำคื อ ‘at this moment’ ซึ่ง ใช้ บ อกสถำนกำรณ์ ที่ ก ำลัง เกิ ด ขึน้ และจะใช้ เ ป็ น
continuous tense แต่ไม่มีระบุวำ่ เกิดในช่วงใด จึงใช้ เป็ นเวลำในปั จจุบนั นัน่ คือ present continuous tense
และต้ องใช้ เป็ นกริ ยำเอกพจน์ เพรำะประธำนคือ ‘the man’ เป็ นเอกพจน์ ดังนัน้ จึงสำมำรถตอบ1 ได้ เลย
นัน่ เอง

Passage 1
Bubble tea lovers have to look away now. The sugary drink has gotten so popular in
Singapore that a local hospital is calling for consumers to modify their orders to make them
healthier.
Mount Alvernia Hospital – a private, not-for-profit tertiary care medical institution –
published an article on its website on tha last Friday of the fifth of July comparing the sugar and
calorie levels of various types of bubble teas and their toppings. It later posted an infographic of
the article to Facebook due to “overwhelming requests” from visitors. In the article, the hospital
warned Singaporeans against the sugar content of bubble tea, since the drink had become
“ubiquitous” and “wildly popular” here in recent years.
It acknowledged that green and black tea were indeed helpful in reducing the risk of
diseases like diabetes, arthritis and cancer, but warned that bubble tea (which contains sugar,
milk and non-dairy creamer) could actually increase the risk of chronic diseases. The hospital
also said Non-dairy creamer is a milk substitute that contains trans fat in the form of hydrogenated
palm oil. This oil has been strongly correlated with an increased risk of heart disease and stroke.
Moreover, the number of calories in a medium cup of bubble tea were equivalent to a slice of
cheesecake, and advised consumers to limit their intake to two cups a week.

ข้ อที่ 71.What is this article mainly about?


1 :Tasty of the bubble tea
2 :Fearfulness of the sugary drink
3 :Duty of the non-for-profit hospital
4 :Helpfulness of the black and green tea
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 2 Fearfulness of the sugary drink (ควำมน่ำกลัวของเครื่ องดื่มที่เต็มไปด้ วยน ้ำตำล)
อธิ บ ำย: บทควำมนี เ้ ริ่ ม ต้ น จำกกำรระบุ ถึ ง ว่ ำ คนที่ ช อบทำนชำไข่ มุ ก คงต้ อ งเมิ น มัน ได้ แ ล้ ว เพรำะ
โรงพยำบำลได้ ออกมำเรี ยกร้ องให้ ผ้ บู ริโภคนันปรั
้ บเปลี่ยนกำรสัง่ ชำของพวกเขำให้ ดีตอ่ สุขภำพมำกยิ่งขึ ้นซึ่ง
ก็คือเครื่ องดื่มที่เต็มไปด้ วยน ้ำตำลนัน่ เอง อีกทังในย่
้ อหน้ ำที่ 2 ก็ยงั ระบุย ้ำอีกว่ำ “ได้ เตือนว่ำชำไข่มกุ (ซึ่ง
เต็ม ไปด้ วยนำ้ ตำล นม และครี ม เที ยม) นัน้ สำมำรถที่ จ ะเพิ่ม ควำมเสี่ ย งของโรคเรื อ้ รั ง ต่ำงๆ ได้ อย่ำ ง
แน่นอน” ดังนันจึ
้ งสำมำรถตอย2 นี ้ได้ เลยนัน่ เอง

ข้ อที่ 72.What does ‘it’ (paragraph 2) refer to?


1 :Bubble tea
2 :Singapore
3 :Hospital
4 :Website
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 Hospital (โรงพยำบำล)
อธิบำย: จำกย่อหน้ ำที่ 2 จะเห็นว่ำมีประโยคก่อนหน้ ำของประโยคที่มี ‘it’ เป็ นประธำนนี ้เพียง 1 ประโยค
(ซึ่งค่อนข้ ำงยำว) ซึ่งประธำนของประโยคก่อนหน้ ำนี ้ก็คือ “โรงพยำบำลเมำท์อลั เวอร์ เนีย ” ดังนัน้ ‘it’ ของ
ประโยคต่อมำจึงเป็ นคำสรรพนำม (pronoun) ที่หมำยถึง “โรงพยำยำล” นัน่ เอง

ข้ อที่ 73. Who are the ‘visitors’ in paragraph 2?


1 :People who read the article from the hospital’s website
2 :People who get the information from Facebook page of the hospital
3 :People who drop to visit the hospital by themselves
4 :People who are the bubble tea lovers and come to visit the hospital
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1 People who read the article from the hospital’s website (ผู้ที่อ่ำนบทควำมจำกเว็บไซต์
ของโรงพยำบำล)
อธิบำย: จำกย่อหน้ ำที่ 2 ที่ระบุว่ำทำงโรงพยำบำลเมำท์อลั เวอร์ เนีย ได้ จดั พิมพ์บทควำมลงในเว็บไซต์ของ
ตัวเอง จำกนันก็้ ได้ นำไปเผยเพร่ตอ่ ในเฟซบุ๊คของโรงพยำบำลเองเพรำะมีเสียงเรี ยกร้ องอย่ำงล้ นหลำมของผู้
เชี่ยมชม ดังนันจึ
้ งชัดเจนว่ำ “ผู้เยี่ยมชม” ก็คือผู้ที่เข้ ำมำอ่ำนบทควำมในเว็บไซต์ของโรงพยำบำลนัน่ เอง

ข้ อที่ 74. Why does the hospital warn people against drinking the bubble tea?
1 :Drinking the black and green tea is extremely reduced.
2 :The bubble tea shops are oversupply in Singapore.
3 :The price of bubble tea is set excessively.
4 :There are much of sugar inside the bubble tea.
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 There are much of sugar inside the bubble tea. (มีน ้ำตำลอยูจ่ ำนวนมำกในชำไข่มกุ )
อธิบำย: ระบุชดั เจนมำกในย่อหน้ ำที่ 3 ว่ำ “...ได้ เตือนว่ำชำไข่มกุ (ซึง่ เต็มไปด้ วยน ้ำตำล นม และครี มเทียม)
นัน้ สำมำรถที่จะเพิ่มควำมเสี่ยงของโรคเรื อ้ รังต่ำงๆ ได้ อย่ำงแน่นอน”

ข้ อที่ 75.Which of the following is FALSE?


1 :The calorie’s level of a piece of Cheese cake is equal with that of a medium cup of the
bubble tea.
2 :Drinking bubble tea over 2 glasses a week should be decreased.
3 :Sugar, milk and non-dairy creamer can cause diseases.
4 :It’s hardly to find the bubble tea stores in Singapore.
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 It’s hardly to find the bubble tea stores in Singapore. (เป็ นเรื่ องที่ยำกมำกในกำรหำร้ ำน
ขำยชำไข่มกุ ในสิงคโปร์ )
อธิบำย: ระบุชดั เจนในย่อหน้ ำที่ 1 ว่ำ “เครื่ องดื่มนี ้ได้ กลำยเป็ น “สิ่งที่มีอยู่ทกุ หนทุกแห่ง” และ “ได้ รับควำม
นิยมอย่ำงกว้ ำงขวำง” ที่นี่ในช่วงหลำยปี มำนี ้” ซึง่ หมำยควำมว่ำชำไข่มกุ นี ้ เป็ นสิ่งที่หำได้ ง่ำยในสิงคโปร์ จึง
ทำให้ 4 นี ้ไม่ถกู ต้ องตำมบทควำมนัน่ เอง
ข้ อที่ 76.Why did Ms. Dinsawang write the letter?
1 :She needs a copy of a credit card bill.
2 :She requires more service.
3 :She disagrees with a charge.
4 :She is unsatisfied with the service.
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 She disagrees with a charge. (เธอไม่เห็นด้ วยกับกำรเรี ยกชำระเงิน)
อธิบำย: ระบุชดั เจนว่ำ “ฉันเขียนจดหมำยมำเนื่องจำกใบแจ้ งหนี ้ล่ำสุดเลขที่ KNS475278 จำกบริ ษัทของ
คุณที่ส่งมำหำเรำที่บริ ษัท เคนโด้ จำกัด โดยในใบแจ้ งหนี ้นี ้แสดงว่ำเรำถูกเรี ยกเก็บเงินเป็ นจำนวน 3 เดือน
ซึง่ มันไม่ถกู ต้ อง...” จึงสำมำรถตอบ3 ได้ ทนั ที
ข้ อที่ 77.What mistake did Ms. Dinsawang make?
1 :She didn’t have enough money in her credit card amount.
2 :She added the figured incorrectly.
3 :She filled the wrong amount to pay online
4 :She sent in last two months’ payment late
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 She sent in last two months’ payment late (เธอชำระเงินของสองเดือนล่ำสุดล่ำช้ ำ)
อธิบำย: 4 สมเหตุสมผลมำกที่สุด เพรำะเธอเขียนจดหมำยชี ้แจงว่ำเธอถูกเรี ยกเก็บเงินผิดพลำดไปเป็ น 3
เดือน จำกเดิมที่เธอค้ ำงจ่ำยก็คือ 2 เดือนล่ำสุด ดังนัน้ ควำมผิดพลำดของคุณดินสว่ำงก็คือกำรชำระเงิน
ล่ำช้ ำของ 2 เดือนสุดท้ ำยนัน่ เอง

ข้ อที่ 78.What does the word ‘it’ refers to?


1 :bank
2 :Kenwest Service
3 :Kendo company
4 :Ms. Dinsawang
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1 bank (ธนำคำร)
อธิบำย: จำกบทควำมที่วำ่ “ฉันได้ ติดต่อธนำคำรของฉันแล้ ว และได้ รับกำรแจ้ งว่ำกำรชำระเงินจำกบัตรของ
ฉันได้ ถูกทำรำยกำรไปแล้ ว และบริ ษัทของคุณได้ รับเงินไปแล้ ว เขำจะส่งสำเนำรำยกำรชำระเงินผ่ำนบัตร
เครดิตของเดือนมิถนุ ำยนให้ ฉนั ภำยในสัปดำห์นี ้” จึงทำให้ ทรำบว่ำ “เขำ” ในที่นี ้ก็คือ “ธนำคำร” นัน่ เอง

ข้ อ ที่ 7 9 . According to the letter, how much does Mr. Dinsawang own the Kenwest Service
company now?
1 :1,200 baht
2 :2,400 baht
3 :3,600 baht
4 :4,800 baht
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 2 2,400 บำท
อธิ บำย: จำกจดหมำยระบุว่ำคุณดินสว่ำงได้ ชำระเงินค่ำบริ กำรให้ กับบริ ษัทเคนเวสต์ เซอร์ วิสไปแล้ วใน
เดือนมิถุนำยน จำนวน 1,200 บำท ซึ่งหมำยควำมว่ำค่ำบริ กำรนันจะมี ้ มูลค่ำ 1,200 บำทต่อเดือน ดังนัน้
เมื่อคุณดินสว่ำงค้ ำงชำระอีก 2 เดือน จึงรวมค้ ำงชำระทังสิ
้ ้น 2,400 บำทนัน่ เอง จึงตอบใน2 ทันที

ข้ อที่ 80.What will Ms. Dinsawang do tomorrow?


1 :Get a copy of June’s credit card bill
2 :Write a letter to Kenwest Service Company
3 :Contact her bank
4 :Take a payment
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 ชำระเงิน
อธิบำย: ระบุชดั เจนว่ำ “ในวันพรุ่งนี ้ฉันจะชำระค่ำบริ กำรที่ติดค้ ำงใน 2 เดือนหลังสุดนี ้เท่ำนัน”
้ จึงสำมำรถ
ตอบ4 ได้ ทนั ที

ข้ อที่ 81.ข้ อใดต่อไปนี ้ไม่ใช่วตั ถุประสงค์ของพระรำชบัญญัตริ ะเบียบบริ หำรรำชกำรแผ่นดิน พ.ศ.2534 และ


ที่แก้ ไขเพิ่มเติม
1 :กำรลดขันตอนกำรปฏิ
้ บตั งิ ำน
2 :กำรลดภำรกิจและยุบเลิกหน่วยงำนที่ไม่จำเป็ น
3 :ลดกำรกระจำยภำรกิจแก่ท้องถิ่น
4 :มุง่ ให้ เกิดควำมคุ้มค่ำในเชิงภำรกิจแห่งรัฐ
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 ลดกำรกระจำยภำรกิจแก่ท้องถิ่น
อธิบำย: ตำมพระรำชบัญญัติระเบียบบริ หำรรำชกำรแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ ไขเพิ่มเติม ในมำตรำที่
3/1
วรรค 1 ระบุชดั เจนว่ำ “กำรบริ หำรรำชกำรตำมพระรำชบัญญัตินี ้ต้ องเป็ นไปเพื่อประโยชน์สขุ ของ
ประชำชน เกิด ผลสัมฤทธิ์ตอ่ ภำรกิจของรัฐ ควำมมีประสิทธิภำพ ควำมคุ้มค่ำในเชิงภำรกิจแห่งรัฐ
กำรลดขันตอนกำรปฏิ
้ บตั ิงำน กำรลดภำรกิจและยุบเลิกหน่วยงำนที่ไม่จำเป็ น กำรกระจำยภำรกิจ
และทรัพยำกรให้ แก่ท้องถิ่น กำรกระจำยอำนำจตัดสินใจ กำรอำนวยควำมสะดวก และกำรตอบสนองควำม
ต้ องกำรของประชำชน ทังนี ้ ้ โดยมีผ้ รู ับผิดชอบต่อผลของงำน” ดังนัน3
้ จึงไม่ถกู ต้ องนัน่ เอง
ข้ อที่ 82.ข้ อใดไม่ใช่กำรจัดระเบียบบริหำรรำชกำรแผ่นดิน
1 :ระเบียบบริหำรรำชกำรส่วนรวม
2 :ระเบียบบริหำรรำชกำรส่วนกลำง
3 :ระเบียบบริหำรรำชกำรส่วนภูมิภำค
4 :ระเบียบบริหำรรำชกำรส่วนท้ องถิ่น
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1 ระเบียบบริหำรรำชกำรส่วนรวม
อธิบำย: ตำมพระรำชบัญญัติระเบียบบริ หำรรำชกำรแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ ไขเพิ่มเติม ในมำตรำที่ 4
ระบุชดั เจนว่ำ ให้ จดั ระเบียบบริหำรรำชกำรแผ่นดิน ดังนี ้
(1) ระเบียบบริหำรรำชกำรส่วนกลำง
(2) ระเบียบบริหำรรำชกำรส่วนภูมิภำค
(3) ระเบียบบริหำรรำชกำรส่วนท้ องถิ่น

ข้ อที่ 83.สำนักนำยกรัฐมนตรี มีสถำนะเทียบเท่ำกับหน่วยงำนใด


1 :หน่วยงำนอิสระ
2 :กระทรวง
3 :สำนักงำนรัฐมนตรี
4 :กรม
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 2 กระทรวง
อธิบำย: ตำมพระรำชบัญญัติระเบียบบริ หำรรำชกำรแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ ไขเพิ่มเติม ในมำตรำที่ 7
(4) ระบุชดั เจนว่ำ “สำนักนำยกรัฐมนตรี มีฐำนะเป็ นกระทรวง”
ข้ อที่ 84.กำรยุบ ตัง้ และเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด จะต้ องตรำเป็ นกฎหมำยประเภทใด
1 :พระรำชบัญญัติ
2 :พระรำชกำหนด
3 :พระรำชกฤษฎีกำ
4 :ประกำศกระทรวงมหำดไทย
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1. พระรำชบัญญัติ
อธิบำย: ตำมพระรำชบัญญัติระเบียบบริ หำรรำชกำรแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ ไขเพิ่มเติม ในมำตรำที่
52 ระบุชดั เจนว่ำ “กำรตัง้ ยุบ และเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด ให้ ตรำเป็ นพระรำชบัญญัติ”
ข้ อที่ 85.ข้ อใดต่อไปนี ้ไม่ใช่นิตบิ คุ คลที่จดั ตังขึ
้ ้นตำมกำรจัดระเบียบบริหำรรำชกำรส่วนท้ องถิ่น
1 :กรุงเทพมหำนคร
2 :พัทยำ
3 :องค์กำรบริหำรส่วนจังหวัดลำปำง
4 :จังหวัดภูเก็ต
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 จังหวัดภูเก็ต
อธิบำย: ตำมพระรำชบัญญัติระเบียบบริ หำรรำชกำรแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ ไขเพิ่มเติม ในมำตรำที่
70 ระบุชดั เจนว่ำ ให้ จดั ระเบียบบริหำรรำชกำรส่วนท้ องถิ่น ดังนี ้
(1) องค์กำรบริหำรส่วนจังหวัด
(2) เทศบำล
(3) สุขำภิบำล
(4) รำชกำรส่วนท้ องถิ่นอื่นตำมที่มีกฎหมำยกำหนด
ซึ่ง4 นันเป็
้ นตัวเลือกเดียวที่มีสถำนะเป็ น “จังหวัด” ตำมกำรจัดระเบียบบริ หำรรำชกำรส่วนภูมิภำค
ในขณะที่ตวั เลือกอื่นๆ นันเป็ ้ นไปตำมกำรจัดระเบียบบริ หำรรำชกำรส่วนท้ องถิ่น จึงเป็ นคำตอบของข้ อนี ้
นัน่ เอง

ข้ อที่ 86.แผนปฏิบตั กิ ำรของส่วนรำชกำรนัน้ จะต้ องจัดทำขึ ้นในระยะกี่ปี


1 :1 ปี
2 :3 ปี
3 :5 ปี
4 :10 ปี
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 5 ปี
อธิบำย: ตำมพระรำชกฤษฎีกำว่ำด้ วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรบริ หำรกิจกำรบ้ ำนเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ฉบับ
ปรับปรุง พ.ศ. 2562 ในมำตรำ 4 นันระบุ้ ชดั เจนว่ำ “ให้ ยกเลิกควำมในวรรคหนึ่งของมำตรำ 16 แห่งพระ
รำชกฤษฎีกำว่ำด้ วย หลักเกณฑ์และวิธีกำรบริหำรกิจกำรบ้ ำนเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 และให้ ใช้ ควำมต่อไปนี ้
แทน “มำตรำ 16 ให้ สว่ นรำชกำรจัดทำแผนปฏิบตั ิรำชกำรของส่วนรำชกำรนันโดยจั ้ ดทำเป็ นแผนห้ ำปี ซึ่ง
ต้ องสอดคล้ องกับยุทธศำสตร์ ชำติ แผนแม่บท แผนกำรปฏิรูป ประเทศ แผนพัฒนำเศรษฐกิจและ สังคม
แห่งชำติ นโยบำยของคณะรัฐมนตรี ที่แถลงต่อรัฐสภำ และแผนอื่นที่เกี่ยวข้ อง”
ข้ อที่ 87.ในกรณีที่มีกำรยุบเลิก โอน หรื อรวมส่วนรำชกำรใดทังหมดหรื
้ อบำงส่วนไปแล้ ว จะสำมำรถกลับมำ
จัดตังหน่
้ วยงำนในลักษณะเดียวกันนี ้ขึ ้นใหม่ได้ หรื อไม่
1 :สำมำรถดำเนินกำรจัดตังได้
้ ตำมขันตอนปกติ

2 :สำมำรถดำเนินกำรได้ แต่จะต้ องได้ รับควำมเห็นชอบจำกศำลปกครองก่อน
3 :ไม่สำมำรถดำเนินกำรได้ ในทุกกรณี
4 :ไม่สำมำรถดำเนินกำรได้ เว้ นแต่มีเหตุผลและควำมจำเป็ นต่อควำมมัน่ คงของรัฐหรื อเศรษฐกิจ
ของประเทศ
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 ไม่ส ำมำรถด ำเนินกำรได้ เว้ น แต่มี เ หตุผลและควำมจ ำเป็ นต่อควำมมั่นคงของรั ฐ หรื อ
เศรษฐกิจของประเทศ
อธิบำย: ตำมพระรำชกฤษฎีกำว่ำด้ วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรบริ หำรกิจกำรบ้ ำนเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ฉบับ
ปรับปรุง พ.ศ. 2562 ในมำตรำ 8 นันระบุ้ ชดั เจนว่ำ “ให้ ยกเลิกควำมในมำตรำ 34 แห่งพระรำชกฤษฎีกำว่ำ
ด้ วยหลักเกณฑ์และ วิธีกำรบริ หำรกิจกำรบ้ ำนเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 และให้ ใช้ ควำมต่อไปนี ้แทน “มำตรำ
34 ในกรณีที่มีกำรยุบเลิก โอน หรื อรวมส่วนรำชกำรใดทังหมดหรื้ อบำงส่วน ห้ ำมมิให้ จดั ตังส่
้ วนรำชกำรที่
มีภำรกิจหรื ออำนำจหน้ ำที่ที่มีลกั ษณะเดีย วกันหรื อคล้ ำยคลึงกันกับ ส่วนรำชกำรดังกล่ำวขึ น้ อีก เว้ นแต่มี
เหตุผลและควำมจำเป็ นเพื่อรักษำควำมมัน่ คงของรัฐหรื อเศรษฐกิจ ของประเทศ หรื อรักษำผลประโยชน์
ส่วนรวมของประชำชน และโดยได้ รับควำมเห็นชอบจำก ก.พ.ร.”

ข้ อที่ 88.กำรบริ กำรประชำชนและกำรติดต่อประสำนงำนระหว่ำงส่วนรำชกำรด้ วยกัน จะต้ องกระทำกำรใน


ลักษณะใด
1 :ให้ กระทำกำรโดยใช้ แพลตฟอร์ มดิจิทลั กลำงที่สำนักพัฒนำรัฐบำลดิจิทลั กำหนด
2 :ให้ กระทำกำรโดยใช้ แพลตฟอร์ มดิจิทลั กลำงของกระทรวงดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสังคมกำหนด
3 :ให้ กระทำกำรตำมกรอบข้ อกำหนดที่สำนักนำยกรัฐมนตรี ประกำศตำมแผนงำนแต่ละปี
4 :ให้ กระทำกำรผ่ำนเครื อข่ำยดิจิทลั ตำมประกำศกระทรวงของกระทรวงต่ำงๆ ได้ กำหนดไว้
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1 ให้ กระทำกำรโดยใช้ แพลตฟอร์ มดิจิทลั กลำงที่สำนักพัฒนำรัฐบำลดิจิทลั กำหนด
อธิบำย: ตำมพระรำชกฤษฎีกำว่ำด้ วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรบริ หำรกิจกำรบ้ ำนเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ฉบับ
ปรับปรุง พ.ศ. 2562 ในมำตรำ 6 นันระบุ ้ ชดั เจนว่ำ “ให้ เพิ่มควำมต่อไปนี ้เป็ นวรรคสองของมำตรำ 29 แห่ง
พระรำชกฤษฎีกำว่ำด้ วย หลักเกณฑ์และวิธีกำรบริหำรกิจกำรบ้ ำนเมืองที่ดี พ.ศ. 2546
ข้ อที่ 89.ส่วนรำชกำรจะมีกำรทบทวนภำรกิจของตนว่ำมีควำมจำเป็ น หรื อสมควรที่จะยกเลิก ปรับปรุง หรื อ
เปลี่ยนแปลงกำรดำเนินกำรต่อไปหรื อไม่ โดยไม่ต้องคำนึงถึงแผนงำนตำมข้ อใด
1 :แผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ
2 :แนวโน้ มอัตรำกำรกำรเจริญเติบโตทำงเศรษฐกิจ
3 :นโยบำยของคณะรัฐมนตรี ที่แถลงต่อรัฐสภำ
4 :แผนแม่บท
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 2 แนวโน้ มอัตรำกำรกำรเจริญเติบโตทำงเศรษฐกิจ
อธิบำย: ตำมพระรำชกฤษฎีกำว่ำด้ วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรบริ หำรกิจกำรบ้ ำนเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ฉบับ
ปรับปรุ ง พ.ศ. 2562 ในมำตรำ 7 นันระบุ
้ ชดั เจนว่ำ “ให้ ยกเลิกควำมในวรรคหนึ่งของมำตรำ 33 แห่งพระ
รำชกฤษฎีกำว่ำด้ วย หลักเกณฑ์และวิธีกำรบริหำรกิจกำรบ้ ำนเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 และให้ ใช้ ควำมต่อไปนี ้
แทน “มำตรำ 33 ให้ สว่ นรำชกำรจัดให้ มีกำรทบทวนภำรกิจของตนว่ำภำรกิจใดมีควำมจำเป็ น หรื อ สมควร
ที่จะยกเลิก ปรับปรุ ง หรื อเปลี่ยนแปลงกำรดำเนินกำรต่อไปหรื อไม่ โดยคำนึงถึงยุทธศำสตร์ ชำติ แผน
แม่บท แผนกำรปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ นโยบำยของคณะรัฐมนตรี ที่
แถลงต่อรัฐสภำ และแผนอื่นที่เกี่ยวข้ อง รวมถึงกำลังเงินงบประมำณของประเทศ ควำมคุ้มค่ำของภำรกิจ
และสถำนกำรณ์อื่นประกอบกัน”

ข้ อที่ 90.แผนกำรบริหำรรำชกำรแผ่นดินเป็ นหน้ ำที่ของส่วนรำชกำรใด


1 :คณะกรรมกำรแผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ
2 :รัฐสภำ
3 :คณะกรรมกำรพัฒนำระบบรำชกำร
4 :คณะรัฐมนตรี
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 คณะรัฐมนตรี
อธิบำย: ตำมพระรำชกฤษฎีกำว่ำด้ วยหลักเกณฑ์ และวิธีกำรบริ หำรกิจกำรบ้ ำนเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ใน
มำตรำ 13 นันระบุ ้ ชดั เจนว่ำ “ให้ คณะรัฐมนตรี จดั ให้ มีแผนกำรบริหำรรำชกำรแผ่นดินตลอดระยะเวลำ

ข้ อที่ 91.พระรำชบัญญัตวิ ิธีปฏิบตั ริ ำชกำรทำงปกครอง พ.ศ. 2539 ไม่บงั คับใช้ แก่ข้อใดต่อไปนี ้


1 :คณะรัฐมนตรี
2 :ปลัดกระทรวง
3 :อธิบดีกรม
4 :ข้ ำรำชกำรระดับวิชำกำร
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1 คณะรัฐมนตรี
อธิบำย: พระรำชบัญญัตวิ ิธีปฏิบตั ทิ ำงปกครอง พ.ศ. 2539 ในมำตรำ 4 ระบุชดั เจนว่ำ พระรำชบัญญัตินี ้มิ
ให้ ใช้ บังคับแก่
(1) รัฐสภำและคณะรัฐมนตรี
(2) องค์กรที่ใช้ อำนำจตำมรัฐธรรมนูญโดยเฉพำะ
(3) กำรพิจำรณำของนำยกรัฐมนตรี หรื อรัฐมนตรี ในงำนทำงนโยบำยโดยตรง
(4) กำรพิจำรณำพิพำกษำคดีของศำลและกำรด ำเนินงำนของเจ้ ำหน้ ำที่ในกระบวนกำร พิจำรณำ
คดี กำรบังคับคดี และกำรวำงทรัพย์
(5) กำรพิจำรณำวินิจฉัยเรื่ องร้ องทุกข์และกำรสัง่ กำรตำมกฎหมำยว่ำด้ วยคณะกรรมกำร กฤษฎีกำ
(6) กำรดำเนินงำนเกี่ยวกับนโยบำยกำรต่ำงประเทศ
(7) กำรดำเนินงำนเกี่ยวกับรำชกำรทหำรหรื อเจ้ ำหน้ ำที่ซึ่งปฏิบตั ิหน้ ำที่ทำงยุทธกำร ร่วมกับทหำร
ในกำรป้องกันและรักษำควำมมัน่ คงของรำชอำณำจักรจำกภัยคุกคำมทังภำยนอก ้ และภำยในประเทศ
(8) กำรดำเนินงำนตำมกระบวนกำรยุตธิ รรมทำงอำญำ
(9) กำรดำเนินกิจกำรขององค์กำรทำงศำสนำ

ข้ อที่ 92.“กำรพิจำรณำทำงปกครอง” หมำยควำมว่ำอย่ำงไร


1 :กำรเตรี ยมกำรและกำรดำเนินกำรของเจ้ ำหน้ ำที่เพื่อจัดให้ มีคำสัง่ ทำงปกครอง
2 :กำรสอบสวนข้ อควำมผิดทำงกำรปกครอง
3 :กำรพิจำรณำโทษควำมผิดทำงกำรปกครอง
4 :กำรปฏิบตั ติ ำมคำสัง่ ศำลปกครองในกรณีที่เกี่ยวข้ องกับข้ อพิพำททำงกำรปกครอง
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1 กำรเตรี ยมกำรและกำรดำเนินกำรของเจ้ ำหน้ ำที่เพื่อจัดให้ มีคำสัง่ ทำงปกครอง
อธิ บำย: พระรำชบัญญัติวิธีปฏิบตั ิทำงปกครอง พ.ศ. 2539 ในมำตรำ 5 วรรค 2 ระบุชัดเจนว่ำ ““กำร
พิจำรณำทำงปกครอง” หมำยควำมว่ำ กำรเตรี ยมกำรและกำรดำเนินกำรของเจ้ ำหน้ ำที่ เพื่อจัดให้ มีคำสัง่
ทำงปกครอง”

ข้ อที่ 93.ข้ อใดไม่ใช่ “คณะกรรมกำรวิธีปฏิบตั ริ ำชกำรทำงปกครอง”


1 :ปลัดกระทรวงมหำดไทย
2 :ปลัดสำนักนำยกรัฐมนตรี
3 :ปลัดกระทรวงกลำโหม
4 :เลขำธิกำรคณะรัฐมนตรี
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 ปลัดกระทรงกลำโหม
อธิบำย: พระรำชบัญญัติวิธีปฏิบตั ทิ ำงปกครอง พ.ศ. 2539 ในมำตรำ 7 ระบุชดั เจนว่ำ “ให้ มีคณะกรรมกำร
คณะหนึ่งเรี ยกว่ำ “คณะกรรมกำรวิธีปฏิบตั ิรำชกำรทำงปกครอง” ประกอบด้ วยประธำนกรรมกำรคนหนึ่ง
ปลัดสำนักนำยกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง มหำดไทย เลขำธิกำรคณะรัฐมนตรี เลขำธิ กำรคณะกรรมกำร
ข้ ำรำชกำรพลเรื อน เลขำธิกำร คณะกรรมกำรกฤษฎีกำ และผู้ทรงคุณวุฒิอีกไม่น้อยกว่ำห้ ำคนแต่ไม่เกินเก้ ำ
คนเป็ นกรรมกำร
ให้ คณะรัฐมนตรี แต่งตังประธำนกรรมกำรและกรรมกำรผู
้ ้ ทรงคุณวุฒิ โดยแต่งตังจำก
้ ผู้ซึ่งมีควำม
เชี่ยวชำญในทำงนิติศำสตร์ รัฐประศำสนศำสตร์ รัฐศำสตร์ สังคมศำสตร์ หรื อกำรบริ หำร รำชกำรแผ่นดิน
แต่ผ้ นู นต้
ั ้ องไม่เป็ นผู้ดำรงตำแหน่งทำงกำรเมือง

ให้ เลขำธิกำรคณะกรรมกำรกฤษฎีกำแต่งตังข้
้ ำรำชกำรของสำนักงำนคณะกรรมกำร กฤษฎีกำเป็ น
เลขำนุกำรและผู้ชว่ ยเลขำนุกำร

ข้ อที่ 94.“คำสัง่ ทำงปกครอง” จะต้ องจัดทำขึ ้นในรูปแบบใดจึงจะสมบูรณ์


1 :จัดทำเป็ นหนังสือ
2 :บอกกล่ำวด้ วยวำจำ
3 :กำรสื่อสำรโดยรูปแบบอื่นที่มีข้อควำมชัดเจน
4 :ถูกทุกข้ อ
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 ถูกทุกข้ อ
อธิบำย: พระรำชบัญญัตวิ ิธีปฏิบตั ทิ ำงปกครอง พ.ศ. 2539 ในมำตรำ 34 ระบุชดั เจนว่ำ “คำสัง่ ทำงปกครอง
อำจท ำเป็ นหนัง สื อ หรื อ วำจำหรื อ โดยกำรสื่ อ ควำมหมำย ในรู ป แบบอื่ น ก็ ไ ด้ แต่ต้ อ งมี ข้ อ ควำมหรื อ
ควำมหมำยที่ชดั เจนเพียงพอที่จะเข้ ำใจได้ ”

ข้ อที่ 95.คำสัง่ ทำงปกครองจะมีผลบังคับใช้ เมื่อใด


1 :เมื่อมีกำรลงนำมสัง่ กำรของเจ้ ำหน้ ำที่
2 :เมื่อบุคคลได้ รับแจ้ ง
3 :เมื่อมีกำรประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ
4 :เมื่อบุคคลได้ ลงนำมยอมรับคำสัง่
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 2 เมื่อบุคคลได้ รับแจ้ ง
อธิบำย: พระรำชบัญญัตวิ ิธีปฏิบตั ทิ ำงปกครอง พ.ศ. 2539 ในมำตรำ 42 ระบุชดั เจนว่ำ “คำสัง่ ทำงปกครอง
ให้ มีผลใช้ ยนั ต่อบุคคลตังแต่
้ ขณะที่ผ้ นู นได้
ั ้ รับแจ้ งเป็ นต้ นไป”

ข้ อที่ 96.ข้ ำรำชกำรที่มีหน้ ำที่จดั ซื ้อ หรื อรักษำในทรัพย์สินรำชกำรใดๆ แล้ วเบียดบังทรัพย์นนเป็


ั ้ นของตน
จะต้ องโทษอย่ำงไรบ้ ำง
1 :จำคุก 5 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 100,000 – 400,000 บำท
2 :จำคุก 1 – 10 ปี หรื อปรับตังแต่ ้ 20,000 – 200,000 บำท หรื อทังจ้ ำทังปรั
้ บ
3 :จำคุก 10 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 500,000 – 1,000,000 บำท
4 :จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรื อปรับไม่เกิน 100,000 บำท หรื อทังจ ้ ำทังปรั
้ บ

เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1 จำคุก 5 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 100,000 – 400,000 บำท
อธิ บำย: ประมวลอำญำ พ.ศ. 2499 มำตรำ 147 ระบุชัดเจนว่ำ “ผู้ใดเป็ นเจ้ ำพนักงำน มีหน้ ำที่ซื ้อ ทำ
จัดกำรหรื อรักษำทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นนเป็
ั ้ นของตน หรื อเป็ นของผู้อื่นโดยทุจริ ต หรื อโดยทุจริ ตยอมให้
ผู้อื่นเอำทรัพย์นนเสี
ั ้ ย ต้ องระวำงโทษจำคุกตังแต่
้ ห้ำปี ถึงยี่สิบปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่
้ หนึ่ง
แสนบำทถึงสี่แสนบำท”

ข้ อที่ 97.ผู้ใดเป็ นเจ้ ำพนักงำน ใช้ อำนำจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรื อจูงใจเพื่อให้ บคุ คลใดมอบให้
หรื อหำมำให้ ซงึ่ ทรัพย์สินหรื อประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรื อผู้อื่น จะต้ องโทษอย่ำงไรบ้ ำง
1 :จำคุก 5 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่้ 100,000 – 400,000 บำท
2 :จำคุก 1 – 10 ปี หรื อปรับตังแต่
้ 20,000 – 200,000 บำท หรื อทังจ ้ ำทังปรั
้ บ
3 :จำคุก 10 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 500,000 – 1,000,000 บำท
4 :จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรื อปรับไม่เกิน 100,000 บำท หรื อทังจ้ ำทังปรั
้ บ
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1 จำคุก 5 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 100,000 – 400,000 บำท
อธิ บำย: ประมวลอำญำ พ.ศ. 2499 มำตรำ 148 ระบุชัดเจนว่ำ “ผู้ใ ดเป็ นเจ้ ำพนักงำน ใช้ อ ำนำจใน
ตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรื อจูงใจเพื่อให้ บคุ คลใดมอบให้ หรื อหำมำให้ ซึ่งทรัพย์สินหรื อประโยชน์อื่นใด
แก่ตนเองหรื อผู้อื่น ต้ องระวำงโทษจำคุกตังแต่
้ ห้ำปี ถึงยี่สิบปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่
้ หนึ่งแสน
บำทถึง สี่แสนบำท หรื อประหำรชีวิต”

ข้ อที่ 98.ผู้ใดเป็ นเจ้ ำพนักงำน มีหน้ ำที่ซื ้อ ทำ จัดกำรหรื อรักษำทรัพย์ใด ๆ ใช้ อำนำจในตำแหน่งโดยทุจริ ต
อันเป็ นกำรเสียหำยแก่รัฐ เทศบำล สุขำภิบำลหรื อเจ้ ำของทรัพย์นนั ้ จะต้ องโทษอย่ำงไรบ้ ำง
1 :จำคุก 5 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 100,000 – 400,000 บำท
2 :จำคุก 1 – 10 ปี หรื อปรับตังแต่
้ 20,000 – 200,000 บำท หรื อทังจ ้ ำทังปรั
้ บ
3 :จำคุก 10 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 500,000 – 1,000,000 บำท
4 :จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรื อปรับไม่เกิน 100,000 บำท หรื อทังจ ้ ำทังปรั
้ บ
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 1 จำคุก 5 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 100,000 – 400,000 บำท
อธิ บำย: ประมวลอำญำ พ.ศ. 2499 มำตรำ 151 ระบุชัดเจนว่ำ “ผู้ใดเป็ นเจ้ ำพนักงำน มีหน้ ำที่ซื ้อ ทำ
จัดกำรหรื อรักษำทรัพย์ใด ๆ ใช้ อำนำจในตำแหน่งโดยทุจริ ต อันเป็ นกำรเสียหำยแก่รัฐ เทศบำล สุขำภิบำล
หรื อเจ้ ำของทรัพย์นนั ้ ต้ องระวำงโทษจำคุกตังแต่ ้ ห้ำปี ถึงยี่สิบปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่
้ หนึ่ง
แสนบำทถึงสี่แสนบำท”

ข้ อที่ 99.ผู้ใดเป็ นเจ้ ำพนักงำน ปฏิบตั ิหรื อละเว้ นกำรปฏิบตั ิหน้ ำที่โดยมิชอบ เพื่อให้ เกิดควำมเสียหำยแก่ผ้ ู
หนึง่ ผู้ใด หรื อปฏิบตั หิ รื อละเว้ นกำรปฏิบตั หิ น้ ำที่โดยทุจริต จะต้ องโทษอย่ำงไรบ้ ำง
1 :จำคุก 5 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 100,000 – 400,000 บำท
2 :จำคุก 1 – 10 ปี หรื อปรับตังแต่
้ 20,000 – 200,000 บำท หรื อทังจ ้ ำทังปรั
้ บ
3 :จำคุก 10 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 500,000 – 1,000,000 บำท
4 :จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรื อปรับไม่เกิน 100,000 บำท หรื อทังจ ้ ำทังปรั
้ บ
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 2 จำคุก 1 – 10 ปี หรื อปรับตังแต่ ้ 20,000 – 200,000 บำท หรื อทังจ ้ ำทังปรั
้ บ
อธิบำย: ประมวลอำญำ พ.ศ. 2499 มำตรำ 157 ระบุชดั เจนว่ำ “ผู้ใดเป็ นเจ้ ำพนักงำน ปฏิบตั ิหรื อละเว้ น
กำรปฏิบตั ิหน้ ำที่โดยมิชอบ เพื่อให้ เกิดควำมเสียหำยแก่ผ้ หู นึ่งผู้ใด หรื อปฏิบตั ิหรื อละเว้ นกำรปฏิบตั ิหน้ ำที่
โดยทุจริต ต้ องระวำงโทษจำคุกตังแต่ ้ หนึง่ ปี ถึงสิบปี หรื อปรับตังแต่
้ สองหมื่นบำทถึงสองแสนบำท หรื อทังจ ้ ำ
ทังปรั
้ บ”
ข้ อที่ 100.ผู้ใดเป็ นเจ้ ำพนักงำน รู้ หรื ออำจรู้ ควำมลับในรำชกำร กระทำโดยประกำรใด ๆ อันมิชอบด้ วย
หน้ ำที่ ให้ ผ้ อู ื่นล่วงรู้ควำมลับนัน้ จะต้ องโทษอย่ำงไรบ้ ำง
1 :จำคุก 5 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 100,000 – 400,000 บำท
2 :จำคุก 1 – 10 ปี หรื อปรับตังแต่ ้ 20,000 – 200,000 บำท หรื อทังจ
้ ำทังปรั
้ บ
3 :จำคุก 10 – 20 ปี หรื อจำคุกตลอดชีวิต และปรับตังแต่ ้ 500,000 – 1,000,000 บำท
4 :จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรื อปรับไม่เกิน 100,000 บำท หรื อทังจ
้ ำทังปรั
้ บ
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรื อปรับไม่เกิน 100,000 บำท หรื อทังจ ้ ำทังปรั
้ บ
อธิบำย: ประมวลอำญำ พ.ศ. 2499 มำตรำ 164 ระบุชดั เจนว่ำ “ผู้ใดเป็ นเจ้ ำพนักงำน รู้หรื ออำจรู้ควำมลับ
ในรำชกำร กระทำโดยประกำรใด ๆ อันมิชอบด้ วยหน้ ำที่ ให้ ผ้ อู ื่นล่วงรู้ควำมลับนัน้ ต้ องระวำงโทษจำคุกไม่
เกินห้ ำปี หรื อปรับไม่เกินหนึง่ แสนบำท หรื อทังจ ้ ำทังปรั
้ บ”

ข้ อที่ 101.กรณีกำรละเมิดอันเกิดจำกเจ้ ำหน้ ำที่ซงึ่ ไม่ได้ สงั กัดหน่วยงำนของรัฐแห่งใด ให้ ถือว่ำหน่วยงำนใด


เป็ นผู้รับผิดชอบต่อผู้เสียหำยในผลแห่งกำรละเมิดนัน้
1 :สำนักนำยกรัฐมนตรี
2 :กระทรวงมหำดไทย
3 :กระทรวงกำรคลัง
4 :สำนักงำนข้ ำรำชกำรพลเรื อน
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 กระทรวงกำรคลัง
อธิ บำย: ตำมพระรำชบัญญัติควำมรับผิดทำงละเมิดของเจ้ ำหน้ ำที่ พ.ศ. 2539 มำตรำ 5 วรรค 2 ระบุ
ชั ด เจนว่ ำ “ถ้ ำกำรละเมิ ด เกิ ด จำกเจ้ ำหน้ ำที่ ซึ่ ง ไม่ ไ ด้ สั ง กั ด หน่ ว ยงำนของรั ฐ แห่ ง ใดให้ ถื อ ว่ ำ
กระทรวงกำรคลังเป็ นหน่วยงำนของรัฐที่ต้องรับผิดตำมวรรคหนึง่ ”

ข้ อที่ 102.เจ้ ำหน้ ำที่จะต้ องรับผิดเป็ นกำรเฉพำะตัวเมื่อควำมผิดนันเกิ


้ ดขึ ้นในลักษณะใด
1 :เป็ นควำมผิดจำกกำรปฏิบตั หิ น้ ำที่นอกเวลำงำน
2 :เป็ นควำมผิดจำกกำรปฏิบตั หิ น้ ำที่นอกเหนือคำสัง่
3 :เป็ นควำมผิดนอกเหนือกำรปฏิบตั หิ น้ ำที่
4 :เป็ นควำมผิดที่เกิดจำกกำรจงใจกระทำควำมผิด
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 เป็ นควำมผิดนอกเหนือกำรปฏิบตั หิ น้ ำที่
อธิบำย: ตำมพระรำชบัญญัตคิ วำมรับผิดทำงละเมิดของเจ้ ำหน้ ำที่ พ.ศ. 2539 มำตรำ 6 ระบุชดั เจนว่ำ “ถ้ ำ
กำรกระทำละเมิดของเจ้ ำหน้ ำที่มิใช่กำรกระทำในกำรปฏิบตั ิหน้ ำที่ เจ้ ำหน้ ำที่ต้องรับผิดในกำรนัน้ เป็ นกำร
เฉพำะตัว ในกรณีนี ้ผู้เสียหำยอำจฟ้องเจ้ ำหน้ ำที่ได้ โดยตรง แต่จะฟ้องหน่วยงำนของรัฐไม่ได้ ”

ข้ อที่ 103.ในกรณี ที่ หน่วยงำนของรั ฐ ต้ อ งรั บผิ ดใช้ ค่ำสิ นไหมทดแทนแก่ ผ้ ูเสี ยหำยเพื่ อ กำรละเมิ ดของ
เจ้ ำ หน้ ำ ที่ หน่ว ยงำนของรั ฐ มี สิ ท ธิ เ รี ย กให้ เ จ้ ำ หน้ ำ ที่ ผ้ ูท ำละเมิ ด ชดใช้ ค่ำ สิ น ไหมทดแทนดัง กล่ำ วแก่
หน่วยงำนของรัฐได้ หรื อไม่
1 :สำมำรถเรี ยกได้ ในทุกกรณี
2 :สำมำรถเรี ยกได้ ในกรณีที่เจ้ ำหน้ ำที่รัฐผู้นนกระท ั้ ำกำรด้ วยควำมจงใจ
3 :สำมำรถเรี ยกได้ ในกรณีที่มีอตั รำควำมเสียหำยรุนแรง
4 :เจ้ ำหน้ ำที่ไม่ต้องร่วมรับผิดชอบในทุกกรณี
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 2 สำมำรถเรี ยกได้ ในกรณีที่เจ้ ำหน้ ำที่รัฐผู้นนกระท ั้ ำกำรด้ วยควำมจงใจ
อธิบำย: ตำมพระรำชบัญญัตคิ วำมรับผิดทำงละเมิดของเจ้ ำหน้ ำที่ พ.ศ. 2539 มำตรำ 6 ระบุชดั เจนว่ำ “ใน
กรณี ที่หน่วยงำนของรั ฐ ต้ องรั บผิ ด ใช้ ค่ำสิ นไหมทดแทนแก่ผ้ ูเสี ยหำยเพื่ อกำรละเมิ ดของเจ้ ำหน้ ำที่ ให้
หน่วยงำนของรัฐมีสิทธิเรี ยกให้ เจ้ ำหน้ ำที่ผ้ ทู ำละเมิดชดใช้ คำ่ สินไหมทดแทนดังกล่ำวแก่หน่วยงำนของรัฐได้
ถ้ ำเจ้ ำหน้ ำที่ได้ กระทำกำรนันไปด้
้ วยควำมจงใจหรื อประมำทเลินเล่ออย่ำงร้ ำยแรง”

ข้ อที่ 104.ถ้ ำหน่วยงำนของรัฐหรื อเจ้ ำหน้ ำที่ได้ ใช้ คำ่ สินไหมทดแทนแก่ผ้ เู สียหำย สิทธิที่จะเรี ยกให้ อีกฝ่ ำย
หนึง่ ชดใช้ คำ่ สินไหมทดแทนแก่ตนให้ มีกำหนดอำยุควำมเท่ำไร
1 :90 วัน
2 :6 เดือน
3 :2 ปี
4 :1 ปี
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 1 ปี
อธิบำย: ตำมพระรำชบัญญัตคิ วำมรับผิดทำงละเมิดของเจ้ ำหน้ ำที่ พ.ศ. 2539 มำตรำ 9 ระบุชดั เจนว่ำ “ถ้ ำ
หน่วยงำนของรัฐหรื อเจ้ ำหน้ ำที่ได้ ใช้ คำ่ สินไหมทดแทนแก่ผ้ เู สียหำย สิทธิที่จะเรี ยกให้ อีกฝ่ ำยหนึ่งชดใช้ ค่ำ
สินไหมทดแทนแก่ตนให้ มีกำหนดอำยุควำมหนึ่งปี นับแต่วนั ที่หน่วยงำนของรัฐหรื อเจ้ ำหน้ ำที่ได้ ใช้ คำ่ สินไหม
ทดแทนนันแก่ ้ ผ้ เู สียหำย”
ข้ อที่ 25.สิทธิเรี ยกร้ องค่ำสินไหมทดแทนจำกเจ้ ำหน้ ำที่ในกรณีที่เจ้ ำหน้ ำที่เป็ นผู้กระทำละเมิดต่อหน่วยงำน
ของรัฐ ให้ มีกำหนดอำยุควำมเท่ำไร
1 :90 วัน
2 :6 เดือน
3 :1 ปี
4 :2 ปี
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 สร้ ำงงำนวรรณกรรมที่สะท้ อนภำพสังคมที่แท้ จริง
อธิบำย: ตำมพระรำชบัญญัติควำมรับผิดทำงละเมิดของเจ้ ำหน้ ำที่ พ.ศ. 2539 มำตรำ 10 วรรค 2 ระบุ
ชัดเจนว่ำ “สิทธิ เรี ยกร้ องค่ำสินไหมทดแทนจำกเจ้ ำหน้ ำที่ทงสองประกำรตำมวรรคหนึ
ั้ ่ง ให้ มีกำหนดอำยุ
ควำมสองปี นับแต่วนั ที่หน่วยงำนของรัฐรู้ถึงกำรละเมิดและรู้ตวั เจ้ ำหน้ ำที่ ผู้จะพึงต้ องใช้ คำ่ สินไหมทดแทน
และกรณีที่หน่วยงำนของรัฐเห็นว่ำเจ้ ำหน้ ำที่ผ้ นู นไม่
ั ้ ต้องรับผิด แต่กระทรวงกำรคลังตรวจสอบแล้ วเห็นว่ำ
ต้ องรับผิด ให้ สิทธิเรี ยกร้ องค่ำสินไหมทดแทนนันมี้ กำหนดอำยุควำมหนึ่งปี นับแต่วนั ที่หน่วยงำนของรัฐมี
คำสัง่ ตำมควำมเห็นของกระทรวงกำรคลัง”

ข้ อที่ 106.ข้ อใดไม่ใช่มำตรฐำนจริยธรรมตำมพระรำชบัญญัตมิ ำตรฐำนจริยธรรม พ.ศ. 2562


1 :กล้ ำตัดสินใจและกระทำในสิ่งที่ถกู ต้ อง
2 :มุง่ ผลสัมฤทธิ์ของงำน
3 :ดำรงตนเป็ นแบบอย่ำงที่ดี
4 :ประหยัด มัธยัสถ์ อดออม
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 ประหยัด มัธยัสถ์ อดออม
อธิบำย: ตำมพระรำชบัญญัติมำตรฐำนทำงจริ ยธรรม พ.ศ. 2562 มำตรำ 5 ระบุชดั เจนว่ำ มำตรฐำนทำง
จริยธรรม คือ หลักเกณฑ์กำรประพฤติปฏิบตั อิ ย่ำงมีคณ ุ ธรรมของเจ้ ำหน้ ำที่ของรัฐ ซึง่ จะต้ องประกอบด้ วย
(1) ยึดมัน่ ในสถำบันหลักของประเทศ อันได้ แก่ ชำติ ศำสนำ พระมหำกษัตริ ย์ และกำรปกครอง
ระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็ นประมุข
(2) ซื่อสัตย์สจุ ริต มีจิตสำนึกที่ดี และรับผิดชอบต่อหน้ ำที่
(3) กล้ ำตัดสินใจและกระทำในสิ่งที่ถกู ต้ องชอบธรรม
(4) คิดถึงประโยชน์สว่ นรวมมำกกว่ำประโยชน์สว่ นตัว และมีจิตสำธำรณะ
(5) มุง่ ผลสัมฤทธิ์ของงำน
(6) ปฏิบตั หิ น้ ำที่อย่ำงเป็ นธรรมและไม่เลือกปฏิบตั ิ
(7) ดำรงตนเป็ นแบบอย่ำงที่ดีและรักษำภำพลักษณ์ของทำงรำชกำร

ข้ อที่ 107.สำหรับข้ ำรำชกำรกำรเมือง องค์กรใดจะเป็ นผู้จดั ทำประมวลจริยธรรม


1 :รัฐสภำ
2 :คณะรัฐมนตรี
3 :สำนักงำนเลขำธิกำรคณะรัฐมนตรี
4 :คณะกรรมกำรข้ ำรำชกำรพลเรื อน
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 2 คณะรัฐมนตรี
อธิบำย: ตำมพระรำชบัญญัติมำตรฐำนทำงจริ ยธรรม พ.ศ. 2562 มำตรำ 6 ระบุชดั เจนว่ำ ให้ องค์กรกลำง
บริ หำรงำนบุคคลของหน่วยงำนของรัฐมีหน้ ำที่จัดทำประมวลจริ ยธรรมสำหรับเจ้ ำหน้ ำที่ของรัฐที่อยู่ใน
ควำมรับผิดชอบในกรณีที่เป็ นเจ้ ำหน้ ำที่ของรัฐซึง่ ไม่มีองค์กรกลำงบริ หำรงำนบุคคลที่รับผิ ดชอบ ให้ องค์กร
ต่อไปนี ้เป็ นผู้จดั ทำประมวลจริยธรรม
(1) คณะรัฐมนตรี สำหรับข้ ำรำชกำรกำรเมือง
(2) สภำกลำโหม สำหรับข้ ำรำชกำรทหำรและข้ ำรำชกำรพลเรื อนกลำโหม
(3) สำนักงำนคณะกรรมกำรนโยบำยรัฐวิสำหกิจ สำหรับผู้บริหำรและพนักงำนรัฐวิสำหกิจ
(4) คณะกรรมกำรพัฒนำและส่งเสริ มองค์กำรมหำชน สำหรับผู้บริ หำร เจ้ ำหน้ ำที่ และผู้ปฏิบตั ิงำน
ขององค์กำรมหำชน

ข้ อที่ 108.ประธำนคณะกรรมกำรมำตรฐำนทำงจริ ยธรรม (ก.ม.จ.) คือใคร


1 :ประธำนรัฐสภำ
2 :นำยกรัฐมนตรี
3 :รองนำยกรัฐมนตรี ฝ่ำยกำรเมือง
4 :ประธำนคณะกรรมกำรพัฒนำระบบรำชกำร
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 2 นำยกรัฐมนตรี
อธิ บำย: ตำมพระรำชบัญญัติมำตรฐำนทำงจริ ยธรรม พ.ศ. 2562 มำตรำ 8 ระบุชัดเจนว่ำ กำหนดให้ มี
คณะกรรมกำรมำตรฐำนทำงจริยธรรมคณะหนึง่ เรี ยกโดยย่อว่ำ “ก.ม.จ.” ประกอบด้ วย
(1) นำยกรัฐมนตรี หรื อรองนำยกรัฐมนตรี ซงึ่ นำยกรัฐมนตรี มอบหมำย เป็ นประธำนกรรมกำร
(2) ผู้แทนคณะกรรมกำรข้ ำรำชกำรพลเรื อนที่ได้ รับมอบหมำย เป็ นรองประธำนกรรมกำร
(3) กรรมกำรโดยต ำแหน่ง จ ำนวนห้ ำคน ได้ แ ก่ ผู้แ ทนที่ ไ ด้ รั บ มอบหมำยจำกคณะกรรมกำร
ข้ ำ รำชกำรพลเรื อ นในสถำบัน อุด มศึก ษำ คณะกรรมกำรข้ ำ รำชกำรครู แ ละบุค ลำกรทำ งกำรศึก ษำ
คณะกรรมกำรข้ ำรำชกำรตำรวจ คณะกรรมกำรมำตรฐำนกำรบริ หำรงำนบุคคลส่วนท้ องถิ่น และสภำ
กลำโหม อย่ำงละหนึง่ คน
(4) กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งนำยกรัฐมนตรี แต่งตังจ
้ ำนวนไม่เกินห้ ำคนเป็ นกรรมกำรให้ เลขำธิกำร
ก.พ. เป็ นกรรมกำรและเลขำนุกำร และให้ เลขำธิ ก ำร ก.พ. แต่ ง ตัง้ ข้ ำรำชกำรในส ำนักงำน ก.พ. เป็ น
ผู้ชว่ ยเลขำนุกำรได้ ตำมควำมจำเป็ น

ข้ อที่ 109.คณะกรรมกำรมำตรฐำนทำงจริ ยธรรม (ก.ม.จ.) มีหน้ ำที่ และอำนำจในกำรเสนอแนะและให้


คำปรึ กษำเกี่ยวกับนโยบำยและยุทธศำสตร์ ด้ำนมำตรฐำนทำงจริ ยธรรมและกำรส่งเสริ มจริ ยธรรมภำครัฐ
ต่อข้ อใด
1 :รัฐสภำ
2 :สภำผู้แทนรำษฎร
3 :คณะรัฐมนตรี
4 :ศำลปกครอง
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 3 คณะรัฐมนตรี
อธิบำย: ตำมพระรำชบัญญัติมำตรฐำนทำงจริ ยธรรม พ.ศ. 2562 มำตรำ 13 ระบุชดั เจนว่ำ ก.ม.จ. มี
หน้ ำที่และอำนำจ ดังต่อไปนี ้
(1) เสนอแนะและให้ คำปรึ กษำเกี่ยวกับนโยบำยและยุทธศำสตร์ ด้ำนมำตรฐำนทำงจริ ยธรรมและ
กำรส่งเสริมจริยธรรมภำครัฐต่อคณะรัฐมนตรี
(2) กำหนดแนวทำงหรื อมำตรกำรในกำรขับเคลื่อน กำรดำเนินกระบวนกำรรักษำจริยธรรม รวมทัง้
กลไกและกำรบังคับใช้ ประมวลจริ ยธรรมสำหรับเจ้ ำหน้ ำที่ของรัฐเพื่ อให้ องค์กรกลำงบริ หำรงำนบุคคล
องค์กรตำมมำตรำ 6 วรรคสอง หรื อผู้บงั คับบัญชำนำไปใช้ ในกระบวนกำรบริ หำรงำนบุคคลอย่ำงเป็ น
รูปธรรม
(3) กำหนดแนวทำงในกำรส่งเสริ มและพัฒนำเพื่อเสริ มสร้ ำงประสิทธิภำพให้ เจ้ ำหน้ ำที่ของรัฐมี
ควำมรู้ควำมเข้ ำใจเกี่ยวกับมำตรฐำนทำงจริยธรรมและยึดถือแนวทำงปฏิบตั ิตำมประมวลจริยธรรม รวมทัง้
เสนอแนะมำตรกำรในกำรเพิ่มพูนประสิทธิภำพและเสริมสร้ ำงแรงจูงใจในกำรปฏิบตั ติ ำมประมวลจริยธรรม
แก่หน่วยงำนของรัฐต่อคณะรัฐมนตรี
(4) กำกับ ติดตำม และประเมินผลกำรดำเนินกำรตำมมำตรฐำนทำงจริ ยธรรม โดยอย่ำงน้ อยต้ อง
ให้ หน่วยงำนของรั ฐจัดให้ มีกำรประเมินควำมรู้ ควำมเข้ ำใจเกี่ยวกับมำตรฐำนทำงจริ ยธรรม และให้ มีกำร
ประเมินพฤติกรรมทำงจริยธรรมสำหรับเจ้ ำหน้ ำที่ของรัฐในหน่วยงำนนัน้
(5) ตรวจสอบรำยงำนประจำปี ของหน่วยงำนของรัฐตำมมำตรำ 19 (3) และรำยงำนสรุ ปผลกำร
ดำเนินงำนดังกล่ำวเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อทรำบอย่ำงน้ อยปี ละหนึง่ ครัง้
(6) ตีควำมและวินิจฉัยปั ญหำที่เกิดจำกกำรใช้ บงั คับพระรำชบัญญัตนิ ี ้
(7) ปฏิบตั หิ น้ ำที่อื่นตำมที่บญ
ั ญัตไิ ว้ ในพระรำชบัญญัตินี ้หรื อตำมที่คณะรัฐมนตรี มอบหมำย
กำรประเมิ นผลตำม (4) ให้ เ ป็ นไปตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรที่ ก.ม.จ. กำหนดโดยอำจจัด ให้ มี องค์กร
ภำยนอกเข้ ำร่วมกำรประเมินผลด้ วยก็ได้

ข้ อที่ 110.ข้ อใดไม่ใช่หลักส ำคัญ ในกำรจัดทำประมวลจริ ยธรรมของหน่วยงำนของรั ฐที่ จะกำหนดเป็ น


หลักเกณฑ์ในกำรปฏิบตั ติ นของเจ้ ำหน้ ำที่ของรัฐ
1 :รักษำภำพลักษณ์ของรำชกำร
2 : มีจิตสำนึกที่ดี
3 :ไม่เลือกปฏิบตั ิ
4 :สำนึกรักบ้ ำนเกิดและสิ่งแวดล้ อม
เฉลย
คำตอบ ข้ อ 4 สำนึกรักบ้ ำนเกิดและสิ่งแวดล้ อม
อธิบำย: ตำมพระรำชบัญญัติมำตรฐำนทำงจริ ยธรรม พ.ศ. 2562 มำตรำ 5 ระบุชดั เจนว่ำ มำตรฐำนทำง
จริยธรรม คือ หลักเกณฑ์กำรประพฤติปฏิบตั อิ ย่ำงมีคณ ุ ธรรมของเจ้ ำหน้ ำที่ของรัฐ ซึง่ จะต้ องประกอบด้ วย
(1) ยึด มั่น ในสถำบันหลัก ของประเทศ อัน ได้ แ ก่ ชำติ ศำสนำ พระมหำกษัต ริ ย์ และกำร
ปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็ นประมุข
(2) ซื่อสัตย์สจุ ริต มีจิตสำนึกที่ดี และรับผิดชอบต่อหน้ ำที่
(3) กล้ ำตัดสินใจและกระทำในสิ่งที่ถกู ต้ องชอบธรรม
(4) คิดถึงประโยชน์สว่ นรวมมำกกว่ำประโยชน์ส่วนตัว และมีจิตสำธำรณะ
(5) มุง่ ผลสัมฤทธิ์ของงำน
(6) ปฏิบตั หิ น้ ำที่อย่ำงเป็ นธรรมและไม่เลือกปฏิบตั ิ
(7) ดำรงตนเป็ นแบบอย่ำงที่ดีและรักษำภำพลักษณ์ของทำงรำชกำร
มำตรฐำนทำงจริ ยธรรมตำมวรรคหนึ่ง ให้ ใช้ เป็ นหลักสำคัญในกำรจัดทำประมวลจริ ยธรรมของ
หน่วยงำนของรัฐที่จะกำหนดเป็ นหลักเกณฑ์ในกำรปฏิบตั ิตนของเจ้ ำหน้ ำที่ของรัฐ เกี่ยวกับสภำพคุณงำม
ควำมดีที่เจ้ ำหน้ ำที่ของรัฐต้ องยึดถือสำหรับกำรปฏิบตั ิงำน กำรตัดสินควำมถูกผิด กำรปฏิบตั ิที่ควรกระทำ
หรื อไม่ควรกระทำ ตลอดจนกำรดำรงตนในกำรกระทำควำมดีและละเว้ นควำมชัว่

You might also like