Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 3253

เกิดใหม่ครังนีชะตาจะต้องไม่ตกตําซํารอยเดิม บุปผาทีเคยชําชอกจะ

กลับมาผลิบานงดงาม ท่ามกลางไฟสงครามทางการค้า พร้อมพาความรักใหม่ที


ค่อยๆ เติมเต็มหัวใจของคนสองคน
บุตรสาวคนโตของตระกูลพ่อค้า ลืมตาตืนขึนมาในวันทีกิจการ
ครอบครัวถูกไฟไหม้วอดวาย
วันนัน...คือห้วงเวลาก่อนทีตัวนางต้องแต่งงานเข้าสกุลหลีเพือพยุงกิจการ
ครอบครัว เป็ นม่ายตังแต่ยงั สาว และพบจุดจบแสนอาภัพ เมือโชคชะตาส่งให้นาง
ย้อนกลับมาแก้ไขเรืองราวก่อนจะสายเกินไป นางจึงต้องทําทุกทาง แม้กระทังไป
พัวพันกับคนสกุลเผยทีสถานะสูงศักดิเหนือผูใ้ ด เพือกอบกูฐ้ านะทางการเงิน เพือ
รักษาครอบครัวให้อยู่พร้อมหน้า ทักษะทางการค้า ไหวพริบ เล่หก์ ลจึงต้องมี
ทว่า นายท่านสามแห่งสกุลเผย ผูท้ ีครังก่อนไม่เคยอยู่ใน
สายตากลับปรากฏตัวให้นางเห็นอยูร่ าไป ํ นอกจากชะตาครังใหม่ เห็นทีเรืองหัวใจ
อาจเป็ นฤดูกาลใหม่เช่นกัน
ฤดูใหม่นี... หญิงสาวไร้เดียงสาดังบุปผากลีบบาง จะเปลียนเป็ นบุปผา
งามทีแข็งแกร่ง นีคือ ห้วงเวลาของบุปผาทีกําลังผลิบาน บนย่านการค้าแห่งนีทีแข่ง
กันเร่าร้อนดังฟอนไฟ!
2

ตอนที่ 1 ไฟไหม้
เปลวเพลิงสูงเสียดฟ้า เสียงแตก ‘เปรีย๊ ะๆ’ ดังต่อเนื่อง แสงฉาบบนฟากฟ้าที่แดงกํ่าไป
ครึง่ หนึ่ง คลื่นร้อนระอุลกู แล้วลูกเล่าแข่งกันโหมตัวสูง คนที่ว่ิงผ่านไปมาล้วนร้องตะโกนว่า “ไฟ
ไหม้! ไฟไหม้!”
สองขาของอวีถ้ ังอ่อนยวบ หากไม่ใช่ซวงเถาประคองนางไว้ เกรงว่านางคงทรุ ดลงไป
กองกับพืน้ แล้ว
“คุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่!” เหตุการณ์ตรงหน้าทําให้ซวงเถาตกใจจนพูดติดขัด “เหตุ
ใดเป็ นเช่นนี?้ มิใช่ว่าผูค้ มุ ของสกุลเผยกับคนของศาลาว่าการจะมาเดินลาดตระเวนตรวจตรา
ร้านค้าของพวกเขายามดึกหรือ นายท่านสามบอกว่าหน้าร้อนปี นีจ้ ะร้อนหนัก อากาศแห้งแล้ง
น่ากลัวจะเกิดไฟไหม้ หลายวันก่อนยังสั่งเป็ นพิเศษให้คนวางโอ่งนํา้ ใหญ่สามสิบแปดใบไว้สอง
ฝั่ งของถนนฉางซิ่ง ทุกวันก็ให้เถ้าแก่แต่ละร้านคอยเติมนํา้ ให้เต็มโอ่ง ถนนฉางซิ่งจะไฟไหม้ได้
อย่างไร? แล้วร้านค้าของสกุลเราจะเป็ นเช่นไรล่ะเจ้าคะ?”
จริงด้วย!
แล้วร้านค้าของสกุลพวกนางจะทําอย่างไรเล่า?
ดวงตาสองข้างของอวีถ้ งั รืน้ นํา้ ตา ภาพเบือ้ งหน้าพลันเลือนรางไม่ชดั เจน
นางได้กลับมาเกิดใหม่หรือนี่!
ซํา้ ยังกลับมาตอนคืนวันที่รา้ นค้าของสกุลนางไฟไหม้อีกด้วย
ครอบครัวนางรักใคร่ปรองดอง มีสมั พันธ์แน่นแฟ้น นางเติบโตมาอย่างราบรื่นสมใจ
จนถึงวัยปั กปิ่ น ก่อนหน้านัน้ สิ่งที่ขดั อกขัดใจนางมากที่สดุ ในชีวิตก็คือบิดามารดาไม่ยอมให้
นางปี นป่ ายต้นไม้หรือลงเล่นนํา้ ในแม่นา้ํ พวกเขาบังคับให้นางรํ่าเรียนวิชาเย็บปั กถักร้อยไม่ให้
ออกไปไหน ความทรงจํานัน้ เป็ นสุขและอุ่นวาบ ทว่าจําได้ไม่แม่นยํานัก เพียงเพราะหน้าร้อนปี
นัน้ เหตุการณ์ไฟไหม้อนั ไม่คาดฝันได้เผาร้านค้าทัง้ หมดในถนนฉางซิ่งจนวอด ร้านค้าเครื่องลง
3
1
รัก ของสกุลนางกับท่านลุงใหญ่ก็หาได้โชคดีหลบเลี่ยงภัยร้ายนีไ้ ปได้ ไม่เพียงวัตถุดิบในร้านที่
0

มอดไหม้ ทัง้ โรงเก็บสินค้าและโรงงานหลังร้านก็ถกู เผาจนวอด สินค้าที่ใกล้จะต้องส่งมอบหาย


วับ แม่แบบอันลํา้ ค่าที่บรรพบุรุษทิง้ เอาไว้ให้ก็ไม่มีเหลือ สกุลอวีล้ ม้ ครืน เริ่มตกตํ่านับตัง้ แต่วนั
นัน้
ห่างไปไม่ไกลมีคนพยายามพุ่งเข้าไปในร้านเพื่อดับไฟ ทว่ากลับถูกคานไม้ถล่มลงมา
ทับอยู่ใต้กองเพลิง
“ตาเฒ่า! ตาเฒ่า!” หญิ งสาววิ่งเข้าไปช่วยคน ทว่ามือเท้าสับสนไม่รูจ้ ะช่วยอย่างไร
ก่อนจะถูกคนห้ามเอาไว้ก่อน
ทัง้ ยังมีชายผูห้ นึ่งนั่งกองอยู่บนพืน้ มือฟาดลงที่ขาพลางร้องไห้โหยหวน “แล้วพวกข้า
จะอยู่ตอ่ ไปอย่างไรเล่า?”
อวีถ้ งั กับซวงเถาถูกคนที่รูข้ ่าวแล้ววิ่งผ่านไปมาเป็ นระลอกชนเข้าที่ไหล่ ซวงเถาถึงได้สติ
ในที่สดุ
นางรีบดึงอวีถ้ งั มายืนด้านข้าง เอ่ยอย่างร้อนรนว่า “คุณหนูใหญ่ นายหญิงยังป่ วยอยู่
นายท่านก็ไม่อยู่ท่ีเรือน ท่านไม่บอกอะไรสักคําก็ว่งิ ออกมาแล้ว…”
อวีถ้ งั พลันได้สติขนึ ้ มาเช่นกัน
สําหรับซวงเถาในตอนนี ้ อวีถ้ ังเพิ่งจะตกจากชิงช้ากลางอากาศสลบไปครึ่งค่อนวัน
เพราะยืนไม่ม่นั แต่สาํ หรับนางแล้ว นางได้ประสบกับความตกตํ่าของตระกูล บิดามารดาสิน้ ชีพ
สามีก็ด่วนจากไป ขณะครองตัวเป็ นม่ายยังถูกพี่ชายสามีคิดรวบหัวรวบหาง ไม่ง่ายกว่าจะเอา
ตัวรอดจากบ้านสามีมาได้ แต่กลับมาถูกฆ่าตายที่อารามซึง่ คุม้ ครองนางเสียอย่างนัน้

1
เครื่องลงรัก คือ สิ่งของเครื่องใช้ท่ที าํ ด้วยไม้เป็ นต้น ฉาบรักสมุกให้ท่วั แล้วแต่งผิวให้เรียบ
4

แม้เหตุการณ์ไฟไหม้ครัง้ นีจ้ ะสําคัญ ทว่าสิ่งที่สาํ คัญยิ่งกว่า คืออาการป่ วยของมารดา


นาง
บิดาของนาง อวีเ้ หวิน กับมารดาสกุลเฉินผูกสมัครรักใคร่ แม้ตอนที่มารดาคลอดนาง
จะทําให้รา่ งกายอ่อนแอจนให้กาํ เนิดบุตรไม่ได้อีก แต่บิดานางก็ทะนุถนอมรักใคร่มารดาราวกับ
ของลํา้ ค่า ไม่เคยวางตัวห่างเหิน ทว่านับแต่มารดาคลอดนางออกมาก็โรคภัยรุมเร้า เจ็ดในสิบ
วันต้องคอยดื่มยาอยู่ตลอด ไม่ก่ีวนั ก่อนบิดาของนางรู ข้ ่าวจากสหายว่าหมอหลวงหยางโต่วซิง
เกษี ยณอายุกลับไปอยู่บา้ นเกิด จึงตัง้ ใจมุ่งหน้าไปที่เมืองซูโจวเพื่อหาวิธีการรักษาและยาดีมา
ให้มารดา
ชาติก่อน บิดาของนางกลับมามือเปล่า มารดาสะเทือนใจเรื่องที่นางตกจากชิงช้าจน
อาการทรุ ดลุกจากเตียงไม่ได้อีก บิดาจึงตัดสินใจพามารดาเดินทางไปเขาผู่ถัวตามหาหมอ
หลวงเร้นกายนามว่าหวังไป๋ เพื่อหาทางรักษา ทว่าระหว่างเดินทางกลับเรือเจอคลื่นพายุจน
อับปาง และสิน้ ชีวิตลงในอุบตั ิเหตุครัง้ นัน้
“ไปเร็ว รีบกลับเรือนกันเถอะ!” อวีถ้ ังใจร้อนเป็ นไฟ ลากซวงเถาวิ่งไปยังทิศทางกลับ
เรือน
“เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ เดี๋ยวก่อน!” ซวงเถาหอบแฮ่กๆ เพราะวิ่งตามนาง ก่อนจะเอ่ยปากว่า
“ท่านจะไปที่ใดเจ้าคะ? เรือนอยู่ทางนัน้ !”
อวีถ้ งั ชะงักเท้า นิ่งเงียบไปพักหนึ่ง
สิบปี แล้วที่นางไม่ได้กลับไปยังเรือนซึ่งตัง้ อยู่บนตรอกชิงจู๋ นางเกือบลืมไปแล้วว่าจาก
ถนนฉางซิ่งไปตรอกชิงจู๋ยงั มีทางลัดเส้นนีอ้ ยู่ดว้ ย
อาจเพราะถนนฉางซิ่งถูกไฟไหม้ ตรอกเล็กๆ ที่ปกติมกั เงียบเหงาจึงยังพอมีคนสัญจร
ไปมาอยู่บา้ ง ทว่าทุกคนต่างสาวเท้าอย่างเร่งร้อน เงยหน้าขึน้ มองกันทีหนึ่ง ก่อนจะเดินสวน
ไหล่กนั ไปด้วยสีหน้าครํ่าเคร่ง
5

ยามนีท้ ่ีเรือนด้านหลังเงียบสงัด ไผ่เซียงเฟยหลายกอที่ตงั้ ตรงเป็ นแนวกําลังแกว่งไกว


กิ่งก้านอยูใ่ ต้แสงจันทร์ เสียงจอแจและความวุน่ วายบนถนนฉางซิ่งคล้ายเป็ นเรื่องของโลกอีกใบ
โดยสิน้ เชิง
เสียงไอของมารดาลอยมาชัดเจน ฟั งคล้ายว่าไอสุดแรงจนตัวโยน “อาถังเป็ นอย่างไร
บ้าง? ตื่นแล้วหรือยัง?”
คนที่ตอบคําถามมารดาคือป้าเฉินที่รบั ใช้อยู่ขา้ งกาย “ตื่นแต่เช้าแล้วเจ้าค่ะ บอกว่า
ต้องกินเกาลัดคั่วนํา้ ตาลถึงจะดีขนึ ้ ท่านว่าฤดูนี ้ ข้าจะไปหาเกาลัดคั่วนํา้ ตาลจากไหนมาให้นาง
ได้? นางมาหลอกทานดอกกุย้ ฮวาลอยนํา้ เชื่อมไปถ้วยหนึง่ กับขนมเถาซู 2 อีกสามชิน้ ถึงได้ยอม
1

นอนพัก”
นํา้ ตาของอวีถ้ งั พลันทะลักออกมา
ชาติก่อน นางไม่เคยคิดอะไรมากมาย มารดาแม้จะล้มป่ วยเป็ นประจํา แต่นางก็ไม่รูส้ กึ
ว่าเป็ นเรื่องใหญ่ โต ซํา้ ยังเอาเรื่องที่ตนตกชิงช้ามาหลอกกินของอร่อย เรื่องที่ปกติมารดาไม่
อนุญาตให้ทาํ นางก็ทาํ เสียจบครบ แม้วนั ที่บิดาพามารดาไปเสาะหายาดี ก่อนออกเดินทางนาง
ยังงอแงให้บิดาหาผงโป่ งรากสนมาฝากนางด้วยสองห่อ ไม่เช่นนัน้ นางจะไม่ยอมท่องหนังสืออีก
“ท่านแม่!” อวีถ้ งั ยืนอยู่หน้าห้องของมารดา ส่งเสียงเรียกนางทีหนึ่งอย่างยากจะสะกด
อารมณ์
เสียงประตูดงั ‘แอ๊ด’ ทีหนึ่งก่อนจะเปิ ดออก
ป้าเฉินยื่นศีรษะออกมาแล้วส่งสายตาให้นาง “คุณหนูใหญ่อยากทานอะไรหรือเจ้าคะ?
ป่ านนีเ้ ตาไฟในครัวคงจะมอดแล้ว อย่างมากก็ค่ วั ข้าวให้ท่านรองท้องได้ชามหนึ่ง มากกว่านีไ้ ม่
มีแล้วเจ้าค่ะ”

2
ขนมเถาซู เป็ นขนมอบกรอบคล้ายกับคุกกีว้ อลนัต
6

อวีถ้ งั ชะงักกึก
นางหาใช่เด็กสาวที่ถูกบิดาประคบประหงมไว้กลางฝ่ ามือ ไร้หัวคิด และไม่รูป้ ระสา
อะไรคนนัน้ อีกแล้ว
ป้าเฉินทําหน้าประหลาดใจ สมองของนางจึงหมุนแล่นเร็วพลัน
หรือว่าเวลานีเ้ มื่อชาติก่อน อาการของมารดายํ่าแย่เหลือเกินแล้ว?
อวีถ้ งั สีหน้าเคร่งเครียด สายตาที่มองป้าเฉินจึงเจือความหนักอึง้ อยู่หลายส่วน นางทํา
มือบอกให้ป้าเฉิ นตามนางมา ทว่ากลับใช้นา้ํ เสียงที่แฝงความเย่อหยิ่งของเด็กสาวกล่าวว่า
“ท่านแม่ขา้ ดีขนึ ้ บ้างหรือไม่? ข้าไม่ได้หิว ข้าอยากจะคุยกับท่านแม่สองสามคํา”
อวีถ้ งั คนนีท้ าํ ให้ปา้ เฉินรูส้ กึ แปลกหน้าและประหลาดใจนัก นางไม่ทนั ได้คิดมากก็พยัก
หน้าส่งให้อวีถ้ งั แต่เอ่ยห้ามนางเอาไว้ “นายหญิงเพิ่งจะดื่มยา ตอนนีบ้ ว้ นปากและพักผ่อนแล้ว
คุณหนูใหญ่มีเรื่องอันใดค่อยมาพรุง่ นีเ้ ถอะเจ้าค่ะ”
อวีถ้ งั ชะโงกศีรษะเข้าไปดูในห้อง
มารดาที่เมื่อครูย่ งั พูดคุยกับป้าเฉินไม่ได้สง่ เสียงใดๆ
เห็นชัดว่าไม่ตอ้ งการพบนาง
หัวใจของอวีถ้ ังหนักอึง้ นางพยายามเลียนแบบนํา้ เสียงของตนตอนอายุสิบห้าอย่าง
เต็มที่ “ก็ได้! ข้าจะกลับไปนอนก่อน เจ้าอย่าลืมบอกท่านแม่ละ่ ว่าข้ามาหา”
“ไม่ลืมเจ้าค่ะ! ไม่ลืม!” ป้าเฉินหัวเราะ แล้วจงใจเอ่ยเป็ นนัยว่า “ลมหนาวนํา้ ค้างหนัก
เช่นนี ้ ให้ขา้ ไปส่งคุณหนูกลับห้องนะเจ้าคะ”
ฤดูกาลนีม้ ีลมมีนา้ํ ค้างเมื่อไรกัน? ก็แค่ตอ้ งการหาโอกาสพูดคุยกับนางเป็ นการส่วนตัว
ก็เท่านัน้
อวีถ้ งั ผงกศีรษะ แล้วเดินกลับไปที่เรือนข้างๆ ของตนพร้อมกับป้าเฉิน
7

เพราะว่ารีบร้อนออกไป ผ้าห่มยังกองขยุกขยุยอยู่บนเตียง รองเท้าใส่ในเรือนก็กระจาย


อยู่คนละทิศ ข้างหนึ่งอยู่หน้าเตียง อีกข้างอยู่กลางห้อง ป้าเฉินจึงตําหนิซวงเถาเสียงดุทันที
“เจ้าดูแลคุณหนูอย่างไร? ห้องรกรุงรังไปหมด ถ้านายหญิงมาเห็นคงต้องอบรมเจ้าอีกแน่”
ซวงเถาหน้าร้อนวูบ พลันหมุนตัวไปเก็บกวาดห้องทันที
อวีถ้ งั ลากป้าเฉินมาพูดคุย “ท่านแม่เป็ นอะไรกันแน่? เจ้าอย่าได้คิดหลอกข้านะ ข้ารูว้ ่า
ปกติหลิวซานเทียที่อยู่โรงยาจีห้ มินเป็ นคนมาตรวจอาการท่านแม่ ไม่อย่างนัน้ ข้าจะไปถามเขาที่
โรงยาจีห้ มินด้วยตัวเอง”
ป้าเฉินมองอวีถ้ งั อย่างฉงนทีหนึ่ง
อวีถ้ งั ถูกเลีย้ งดูอย่างตามใจจนเติบใหญ่ แม้พดู ไม่ได้ว่าถูกตามใจจนเสียคน แต่ก็หาได้
เป็ นเด็กสาวที่แข็งกร้าว นับว่าเป็ นครัง้ แรกที่ได้เห็นนางพูดจาบีบคัน้ เช่นนี ้
ป้าเฉินอดจะออกอาการลังเลมิได้
อวีถ้ ังรู จ้ ักตัวเองดีว่าเป็ นคนเช่น ไร พูดน่าฟั งหน่อยเรียกว่าคนไร้เล่หเ์ หลี่ยม พูดให้
ระคายหูหน่อยเรียกว่าคนไร้สมอง ไม่ว่าในเรือนจะเกิดเรื่องใดขึน้ นางย่อมไม่ใช่ท่ีพ่งึ พา ทุกคน
ก็ไม่เคยบอกเล่าอะไรให้นางฟั งเช่นกัน
นางพูดกับป้าเฉินต่อไปว่า “เจ้าดูสภาพข้าสิ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ข้าเพิ่งวิ่งไปข้าง
นอกมา ถนนฉางซิ่งไฟไหม้แล้ว ร้านค้าของสกุลเราก็ถกู เผาจนเกลีย้ ง”
อาศัยแสงโคมอันริบหรี่ ป้าเฉินเพิ่งจะเห็นว่าเสือ้ ผ้าของอวีถ้ งั หลุดลุย่ นางเอ่ยอย่างตื่น
ตระหนกว่า “ท่านว่าอะไรนะเจ้าคะ? ถนนฉางซิ่งไฟไหม้?”
อวีถ้ งั พยักหน้า “สินค้าในร้านไม่มีเหลือแล้ว แปลงนาก็ตอ้ งรอให้ผ่านวันไหว้พระจันทร์
ไปก่อนถึงจะเก็บผลผลิตได้ ทัง้ ยังต้องรักษาอาการป่ วยของท่านแม่อีก บ้านเราไม่เหลือเงินแล้ว”
วาจานีไ้ ม่ใช่การข่มขู่ปา้ เฉินแต่อย่างใด
8

ชาติก่อนเรื่องราวก็ดาํ เนินไปเช่นนี ้
สกุลอวีก้ าํ ลังทรัพย์ถดถอย ทว่าไม่ถึงขัน้ ตกอับเพียงเพราะร้านค้าสองแห่งถูกไฟไหม้
ทว่าไฟไหม้ครัง้ นี ้ ทําให้ของ
ในโรงเก็บสินค้าที่ผอู้ ่ืนมัดจําเอาไว้ถกู เผาจนวอดวาย สกุลอวีต้ อ้ งชดใช้ดว้ ยเงินก้อนโต
ภาพวาด ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ ของหลี่ถงั ในราชวงศ์ก่อนซึ่งบิดาได้ขอซือ้ ต่อจากสหายก็ถึง
เวลาต้องจ่ายเงินแล้ว มารดาไม่อยากให้บิดาผิดหวัง จึงตัดสินใจขายที่นาชัน้ ดีของครอบครัวไป
สามสิบหมู่ 3 โดยพลการ กระทั่งตอนที่บิดาพามารดาเดินทางไปเขาผู่ถวั ก็แอบมารดาขายที่นา
2

ชัน้ ดีไปอีกยี่สิบหมู่…ภายหลังบิดามารดาสิน้ เพราะต้องจัดงานศพให้สมหน้าสมตา นางจึงได้


ขายที่นาชัน้ ดีซง่ึ เหลืออยู่หา้ สิบหมู่ไปจนเกลีย้ ง
สมบัติ ท่ี ท่ า นปู่ แบ่ง ให้บิ ด าหมดไปแล้ว ส่ว นทางฝั่ งท่ า นลุง ก็ เ จอปั ญ หา จึง ไม่ อ าจ
ช่วยเหลือนางได้
นางถึงต้องตอบตกลงแต่งงานกับคนสกุลหลี่
ภาพความทรงจําแวบผ่าน สีหน้าอวีถ้ งั หนักอึง้ ขึน้ หลายส่วน
นางเอ่ยหน้าตึงว่า “หากว่าเกิดเรื่องอะไรขึน้ กับท่านแม่ละ่ ก็ เมื่อท่านพ่อกลับมาต้องไม่
ปล่อยเจ้าไว้แน่!”
ป้าเฉินหัวเราะไม่ได้รอ้ งไห้ไม่ออก
นางเป็ นสาวใช้ท่ีติดตามเฉินซื่อมาด้วยตอนออกเรือน ทัง้ ยังเป็ นแม่นมของเฉินซื่อ ถ้า
เกิดอะไรขึน้ กับเฉินซื่อ นางย่อมร้อนรนและปวดใจยิ่งกว่าใครเสียอีก ทว่าคุณหนูใหญ่กลับมา
ข่มขู่นาง
เมื่อต้องเจอกับคุณหนูใหญ่ในรูปแบบนี ้ นางกลับรูส้ กึ ปลืม้ อกปลืม้ ใจอย่างบอกไม่ถกู

3
หมู่ เป็ นหน่วยวัดพืน้ ที่ของจีนหน่วยหนึ่งที่ยงั ใช้กนั อยู่ในปั จจุบนั (ราว 666 ตารางเมตร / 1 ไร่เทียบเท่ากับ 2.4 หมู่)
9

นางหยุดคิดเล็กน้อย แล้วบอกอวีถ้ งั ว่า “อากาศร้อนนัก นายหญิงไม่ค่อยเจริญอาหาร


ทานอะไรไม่ลงสักอย่าง ซํา้ ด้วยเป็ นห่วงอาการบาดเจ็บของคุณหนู จึงกินไม่ได้นอนไม่หลับอีก
นางซูบผอมไปมาก แต่ไม่กล้าบอกให้คณ ุ หนูรูเ้ จ้าค่ะ”
อวีถ้ งั อดจะรูส้ กึ ผิดและตําหนิตวั เองไม่ได้
นางในชาติก่อน มีแต่ทาํ ให้บิดามารดาต้องกังวลใจอยู่เสมอ ไม่เคยคอยดูแลห่วงใย ยิ่ง
ไม่ตอ้ งเอ่ยถึงการเป็ นที่พ่งึ พิง
คิดถึงตรงนี ้ อวีถ้ งั พลันประนมมือหันไปทางทิศตะวันตก แล้วเอ่ยว่า ‘อามิตตาพุทธ’
ชาติก่อน นางหาใช่ผมู้ ีศรัทธาเลื่อมใสในศาสนา ทว่าพระพุทธองค์ก็เวทนานาง ส่งนาง
กลับมายังเวลานีใ้ หม่อีกครัง้ กลับมายามที่บิดามารดายังมีชีวิตอยู่ นางย่อมหวงแหนช่วงเวลานี ้
เป็ นอย่างดี มิให้เรื่องเลวร้ายในอดีตต้องเกิดซํา้ มิให้ครอบครัวต้องล่มจมตกอับ แตกแยกซ่าน
กระเซ็น
อวีถ้ งั ปล่อยให้นา้ํ ตาไหลเป็ นสายดั่งหยาดฝน
10

ตอนที่ 2 ร้านค้า
เรื่องที่เหนือความคาดหมายอย่างการเกิดใหม่นนั้ อวีถ้ งั นึกว่าจะทําให้ตนเองนอนไม่
หลับ ใครจะคิดว่าทันทีท่ีหวั ถึงหมอน ได้ดมกลิ่นส้มโอมืออันคุน้ เคยที่ลอยอบอวล แม้กระทั่งฝัน
ก็ยงั ไม่มีให้เห็น พอหลับลงก็ขา้ มไปอีกวันหนึ่งทันที
ทว่านางไม่ได้รูส้ กึ ตัวตื่นเอง
แต่ถกู ซวงเถาปลุกให้ต่นื “คุณหนูใหญ่ นายหญิงใหญ่มาแล้วเจ้าค่ะ!”
ทุกครัง้ ตอนที่อวีถ้ งั ตื่นนอนมักจะสะสึมสะลือง่วงงุนอยู่บา้ ง
นางนั่งเอนพิงหัวเตียง พยายามปรือตากลมโตที่วาววับชุ่มฉํ่า ผ่านไปครึ่งวันกว่าจะ
เรียกสติกลับมาได้ นางอ้าปากหาวทีหนึ่ง “ป้าสะใภ้ใหญ่? ป้าสะใภ้ใหญ่มาตัง้ แต่เมื่อไร?”
ระหว่างที่พดู อวีถ้ งั ก็นกึ ออกในทันใด สัมปชัญญะพลันตื่นขึน้ อย่างสมบูรณ์
ชาติก่อน วันที่สองหลังจากถนนฉางซิ่งไฟไหม้ ฟั ายังไม่ทนั จะสว่าง ป้าสะใภ้ของนางก็
เดินทางมาถึง บอกว่าอากาศร้อนอบอ้าว นอนไม่ค่อยหลับ แต่ละวันผ่านไปอย่างทรมาน จึงได้
หยิบเข็มกับด้ายมาทํางานด้วย ความจริงก็แค่หาข้ออ้างรัง้ ตัวนางกับมารดาให้อยู่แต่ในเรือนทัง้
วัน กระทั่งตกเย็น ลุงใหญ่กบั ลูกชายของเขาจัดการธุระที่รา้ นค้าเสร็จ ส่งจดหมายถึงบิดาที่อยู่
ไกลออกไปถึงเมืองซูโจวแล้ว ป้าสะใภ้ถึงได้เดินทางกลับ
ต่อให้เป็ นเช่นนี ้ แต่ตอนที่ป้าสะใภ้กลับไปก็ยงั กําชับบ่าวรับใช้ในเรือนไว้เป็ นพิเศษว่า
ไม่อนุญาตให้หลุดปากบอกข่าวเรื่องที่รา้ นให้นางกับมารดารู แ้ ม้แต่นิดเดียว แล้วทิง้ ป้าหวังซึ่ง
เป็ นบ่าวรับใช้ขา้ งกายของป้าสะใภ้เอาไว้ท่ีเรือน บอกให้นางทําขนมตังเมเกล็ดหิมะ
มารดาของนางชื่ น ใจหนัก หนาเมื่ อเห็ น ว่า นางสนใจงานครัว จึง ย้า ยเก้า อีไ้ ปนั่ง ใน
ห้องครัวเป็ นเพื่อนนาง แค่ขนมตังเมเกล็ดหิมะ ก็ควบคุมให้พวกนางสองแม่ลกู อยู่ในเรือนได้
จนกระทั่งบิดากลับมาถึง
11

ตอนที่บิดามาถึง ก็รูร้ ายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องร้านค้าเพียงผิวเผินเท่านัน้ ถ้ามิใช่เพราะ


ภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ ผืนนัน้ ที่ผอู้ ่นื มาทวงถามเงิน มารดาก็คงยังไม่รูว้ า่ ครอบครัวขัดสน
เงิน ทอง ส่ว นนางก็เ พิ่งรู ว้ ่า ครอบครัวเหลือเพียงที่นาชั้นดีหา้ สิบหมู่ผืนนั้นก็ หลัง จากที่บิดา
เสียชีวิตแล้ว
เหตุการณ์ไฟไหม้ท่ีถนนฉางซิ่งนัน้ นางก็เพิ่งรูต้ อนที่แต่งเข้าสกุลหลี่จนถูกหลี่ตวนผูเ้ ป็ น
พี่ชายของสามีคิดครอบครอง และเป็ นจุดพลิกผันที่สาํ คัญจุดหนึ่งในชีวิตนาง
อวีถ้ ังรีบร้อนลุกขึน้ จากเตียง “ป้าสะใภ้ใหญ่อยู่กับใคร? ท่านแม่รูห้ รือไม่ว่าป้าสะใภ้
ใหญ่มา?”
ซวงเถาทางหนึ่งก็รบั ใช้สางผมให้นาง อีกทางก็ตอบว่า “มาตัง้ แต่ฟ้ายังไม่สางเลยเจ้า
ค่ะ เห็นบอกว่าอากาศร้อนเกินไปนอนไม่หลับ บอกไม่ให้พวกข้ารบกวนท่านกับนายหญิง ตอนนี ้
ป้าเฉินอยู่เป็ นเพื่อนนางพักคลายร้อนที่ลานโล่งเจ้าค่ะ”
อวีถ้ งั พยักหน้ารับ
เหมือนกับชาติท่ีแล้วไม่มีผิด
ทว่า ชาตินีน้ างไม่มีทางผลักเรื่องเหล่านีใ้ ห้กบั ผูใ้ หญ่ในสกุลอีกแล้ว
อวีถ้ งั เร่งรุดไปที่ลานโล่งทันที
หวังซื่อ ป้าสะใภ้ใหญ่ของนางอยู่ในชุดกระโปรงสีครามที่ทาํ จากผ้าสําหรับหน้าร้อน
นางนั่งอยู่บนเก้าอีไ้ ม้ไผ่ใต้ตน้ การบูร มีป้าเฉินกับป้าหวังยืนขนาบข้างซ้ายขวา คนหนึ่งสนทนา
เป็ นเพื่อน อีกคนหนึ่งช่วยโบกพัดให้ สีหน้าของป้าสะใภ้ดเู หนื่อยล้า ใต้ตาเห็นสีดาํ คลํา้ ชัดเจน
มองดูก็รูท้ นั ทีวา่ ไม่ได้รบั การพักผ่อน
นางในชาติท่ีแล้วต้องคิดน้อยเพียงใด ถึงได้ไม่เคยสังเกตเห็นความผิดปกติของป้า
สะใภ้แม้แต่นิดเดียว
12

“ท่านป้า!” อวีถ้ งั เดินเข้าไปเบือ้ งหน้าแล้วคารวะป้าสะใภ้ใหญ่สกุลหวัง ดวงตาแทบข่ม


นํา้ ตาที่จะทะลักออกมาไว้ไม่อยู่
ชาติก่อน ท่านลุงใหญ่กับลูกชายต้องมาติดร่างแหจนตายก็เพราะนาง ป้าสะใภ้ไร้ท่ี
พึ่งพา จึงกลับบ้านเก่าครองตัวเป็ นม่าย อาศัยฝากชีวิตไว้กบั กับหลานชายหลานสะใภ้ ป้าสะใภ้
ไม่เพียงไม่กล่าวโทษนาง ซํา้ ตอนที่นางตกระกําลําบาก ยังฝากฝั งนางให้ไปอยู่กบั ลูกพี่ลกู น้อง
ซึง่ ออกบวชเป็ นผูด้ แู ลอยู่ท่ีอาราม
“เจ้าเด็กคนนี ้ ร้องไห้ทาํ ไมกัน?” หวังซื่อมองอวีถ้ งั แล้วถอนหายใจ นางเดินเข้าไปพยุง
นางขึน้ มาด้วยตนเอง ก่อนจะทําท่าบอกให้ป้าหวังยกเก้าอีม้ าให้อวีถ้ ังนั่ง จากนัน้ ก็เอ่ยเสียง
อบอุ่น ว่ า “ข้า ได้ยิ น มาว่า เมื่ อ วานเจ้า ไปที่ ถ นนฉางซิ่ ง ไม่ คิ ด ว่ า เจ้า จะรู ค้ วามเช่ น นี ้ คํา พูด
มากมายนั้นข้าคงไม่ตอ้ งพูดแล้ว เรื่องที่รา้ นค้า ไม่ว่าอย่างไรก็ตอ้ งปิ ดไม่ให้แม่เจ้ารู ้ แม่เจ้า
สุขภาพไม่ดี หากรูเ้ รื่องเข้าต้องกังวลใจแน่ พ่อเจ้าก็ไม่อยูเรือน หากว่าแม่เจ้ากลุม้ อกกลุม้ ใจจน
เกิดเรื่องอะไรขึน้ มา เจ้าจะให้พอ่ เจ้าทําอย่างไร?”
อวีถ้ งั พยักหน้าหงึกหงัก ประคองให้หวังซื่อนั่งลงอีกรอบ รินชาเก๊กฮวยมาให้ถว้ ยหนึ่ง
แล้วหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ นาง แล้วเอ่ยว่า “ป้าสะใภ้วางใจได้ ข้าเข้าใจเป็ นอย่างดีเจ้าค่ะ”
หวังซื่อพยักหน้ารับ รูส้ กึ ว่าอวีถ้ งั ในวันนีไ้ ม่เหมือนกับวันก่อนๆ จึงอดจะมองสํารวจนาง
ไม่ได้
เด็กสาวอายุสิบห้าสิบหก ไม่ว่าจะแต่งตัวอย่างไรล้วนสวยงามน่ารัก โดยเฉพาะอวีถ้ งั ที่
ได้ช่ือว่ามีดวงหน้าจิม้ ลิม้ พริม้ เพราในซอยชิงจู๋ แต่เพราะปกติถกู ตามใจจนเคยตัว มองดูแล้วให้
อารมณ์เด็กยังไม่โตอยู่บา้ ง ทว่าวันนีแ้ ผ่นหลังกลับยืดตรง ทอประกายเข้มแข็งขึน้ หลายส่วน
สายตาใสกระจ่างมีชีวิตชีวา ทั่วร่างคล้ายกับต้นไผ่ท่ีเพิ่งแทงยอดอ่อน มองแล้วช่างน่าพิศเจริญ
ตา ทําให้ผคู้ นชมชอบยิ่งนัก
หวังซื่อแอบชื่นชมอยู่ในใจ “ได้ยินว่าเมื่อวานศีรษะเจ้าถูกกระแทก ดีขนึ ้ แล้วหรือยัง?”
13

อวีถ้ งั ตอบทันทีว่า “ข้าไม่เป็ นอะไรเลย! เหตุการณ์เกิดเร็วมาก ตอนนัน้ ข้าเลยตกใจ แต่


ไม่ทนั ไรก็หายดีแล้วเจ้าค่ะ”
หวังซื่อไม่ค่อยเชื่อ เอ่ยต่อว่า “เมื่อครูป่ า้ เฉินเล่าว่า เจ้าสลบไปตัง้ สองชั่วยาม ฟื ้ นขึน้ มา
ก็พดู จาเลอะๆ เลือนๆ ไม่รอให้ซวงเถาไปแจ้งแม่ของเจ้า เจ้าก็ลากนางไปชมความวุน่ วายที่ถนน
ฉางซิ่งแล้ว ห้ามอย่างไรก็หา้ มไม่อยู่ หากมิใช่ว่าป้าเฉินจัดการช่วยเจ้าหาข้ออ้างร้อยแปดมา
ปิ ดบังแม่เจ้าได้ เกรงว่านางคงวิ่งไปตามหาเจ้าบนถนนแล้ว”
อวีถ้ งั รูต้ วั จึงเอ่ยอย่างสํานึกผิดว่า “เป็ นข้าที่ทาํ ไม่ถกู ต่อไปจะไม่ทาํ เช่นนัน้ อีกแล้วเจ้า
ค่ะ”
หวังซื่อเห็นดวงหน้าขาวราวหิมะขมวดมุ่น พลันรู ส้ ึกสงสาร ไม่อาจตัดใจตําหนินางได้
จึงเอ่ยยิม้ ๆ ว่า “เอาล่ะ ข้าไม่ได้มีเจตนาติเตียนเจ้าหรอก เพียงแต่พ่อแม่เจ้าก็มีเจ้าอยู่เพียงคน
เดียว จะต่อว่าก็กลัวคนละลายหาย จะประคองไว้ก็กลัวพลาดทําตก อดจะคิดมากกังวลไปเสีย
หมดมิได้ เจ้าต้องเข้าใจหัวอกคนเป็ นพ่อแม่ให้มากถึงจะใช้ได้ เรื่องที่คนอื่นทําได้ ใช่วา่ เจ้าจะทํา
ได้เช่นเดียวกัน”
“ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะ!” อวีถ้ งั รับคําสอนอย่างเชื่อฟั ง
อาจเพราะในใจยังพะวงถึงสามีและลูกชาย หวังซื่อจึงเอ่ยถึงเหตุการณ์ไฟไหม้เมื่อวาน
กับนางด้วยเสียงเบาตํ่า “ลุงใหญ่กบั พี่ชายเจ้าวิ่งวุ่นอยู่ค่อนวัน ให้คนส่งจดหมายมา บอกว่าไม่
เพียงแต่รา้ นค้าของสกุลเรา ขนาดร้านค้าของสกุลเผยก็ถกู เผาจนเหลือแต่ตอ สกุลเผยทางนัน้
ดันเกิดเรื่องใหญ่ขนึ ้ กระทั่งคนตัดสินใจสักคนยังไม่มี ท่านข้าหลวงสกุลทังทุกวันนีย้ งั จนปัญญา
ไม่รูจ้ ะเขียนฎีกาถวายให้ราชสํานักอย่างไร”
สกุลเผยนับเป็ นสกุลใหญ่ในเมืองหลินอันแห่งนี ้
เป็ นสกุลใหญ่โตมากบารมีอย่างจริงแท้
14

ไม่ ว่า ใครจะเข้า มาเป็ น ข้า หลวงในเมื อ งหลิ น อัน ก่ อ นจะเข้า รับตํา แหน่ง อย่า งเป็ น
ทางการล้วนต้องไปคารวะเยี่ยมเยือนสกุลเผยก่อนทัง้ สิน้
ก่อนที่นางจะตาย สกุลเผยได้กลายเป็ นสกุลที่มีหน้ามีหน้าตาที่สดุ ในเมืองหลินอันแล้ว
ถนนฉางซิ่งซึง่ คึกคักรุง่ เรืองที่สดุ ในเมืองหลินอัน นอกจากร้านค้าที่เปิ ดกิจการมาหลาย
ต่อหลายรุน่ อย่างสกุลอวีท้ ่ีมีประมาณเจ็ดแปดร้านแล้ว ที่เหลือล้วนเป็ นของสกุลเผยทัง้ สิน้ ภูเขา
ที่นา ไร่ชา สวนหม่อนที่อยู่นอกเมืองเกินกว่าครึ่งก็เป็ นของสกุลเผย ผูค้ นมากมายอาศัยบารมี
ของสกุลเผยเพื่อหาเลีย้ งชีพ
ชาติก่อน ที่นาชัน้ ดีหนึ่งร้อยหมู่ของสกุลอวีก้ ็ขายให้กบั สกุลเผยเช่นกัน
สกุลเผยมั่งคั่งอูฟ้ มาหลายชั
ู่ ่ วอายุคน
จากราชวงศ์ก่อนจนถึงวันนีก้ ็มีคนสอบเข้าได้เป็ นจิน้ ซื่อสองป้าย 1 ยี่สิบกว่าคน และมี
3

เจ็ดแปดคนที่เป็ นขุนนางชัน้ หนึ่ง


มาถึงรุน่ นี ้ นายท่านทัง้ สามคนของสกุลเผยล้วนสอบผ่านขัน้ จิน้ ซื่อสองป้าย ผ่านไปอีก
ไม่ก่ีปี คุณชายน้อยของสกุลเผยอีกสองคนก็จะสอบติดจิน้ ซื่อเช่นกัน
ท่านผูเ้ ฒ่าของสกุลเผย ก็คลับคล้ายว่าจะป่ วยตายตอนช่วงเวลานีเ้ ช่นกัน
อวีถ้ งั พลันหลุดปากออกมาว่า “จะบังเอิญเกินไปหรือไม่ ท่านผูเ้ ฒ่าของสกุลเผยนัน้ เหตุ
ใดพอจะสิน้ ก็สนิ ้ ไปง่ายๆ เสียแบบนี!้ ”
ใครจะคิดว่าป้าสะใภ้จะชะงักกึก ย้อนถามว่า “ท่านผูเ้ ฒ่าเผยหรือ? ใครบอกเจ้าว่าท่าน
ผูเ้ ฒ่าเผยสิน้ แล้ว? เป็ นบุตรชายคนโตของสกุลเผยต่างหาก นายท่านใหญ่เผยคนที่เป็ นผูช้ ่วย
เจ้ากรมโยธาในเมืองหลวง ได้ยินว่าก่อนหน้านีไ้ ม่นานก็ลม้ ป่ วยที่เมืองหลวงจนเสียชีวิต ข่าวเพิ่ง

1
จิน้ ซื่อสองป้าย หมายถึง ผูท้ ่ีสอบผ่านได้เป็ นจวี่เหรินในการสอบระดับมณฑล และยังสอบผ่านได้เป็ นจิน้ ซื่อในการสอบ
เบือ้ งหน้าพระพักตร์
15

จะส่งมาถึงเมืองหลินอันนี่เอง ท่านผูเ้ ฒ่าเผยก็พลันล้มพับไปอีกคน เมื่อคืนวานเหล่าคุณชาย


สกุลเผยจึงเร่งรุดไปที่ถงั เจียหลิง พวกผูด้ แู ลมัววุ่นวายอยู่กบั งานศพของนายท่านใหญ่เผย ไม่มี
ใครว่างไปดูแลงานที่ถนนฉางซิ่ง”
อวีถ้ งั ตะลึงไป ทว่ากลับไม่มีเวลาให้หยุดคิดมากนัก
ไม่วา่ จะเป็ นชาติก่อนหรือชาตินี ้ สกุลเผยล้วนแต่อยู่ไกลนางเกินเอือ้ ม เรื่องของสกุลเผย
นางก็แค่ได้ยินได้ฟังผ่านๆ หู หาได้มีความเกี่ยวข้องอันใดไม่
หวังซื่อทอดถอนใจและกล่าวว่า “เหตุเพลิงไหม้ท่ีถนนฉางซิ่งเกิดขึน้ เร็วในชั่วพริบตา ลุง
ใหญ่ของเจ้าบอกว่า ไฟไหม้ครานีด้ ูไม่ชอบมาพากลเท่าไรนัก…บ้านผูอ้ ่ืนไฟไหม้ลว้ นเริ่มไหม้
จากจุดๆ เดียว จากนัน้ ค่อยไหม้ลามไปยังที่อ่ืนๆ ลุงใหญ่ของเจ้าสงสัยว่ามีคนลอบวางเพลิง ยัง
คิดไปแจ้งเรื่องที่ศาลาว่าการอยู่เลย น่าเสียดายที่สกุลเผยเกิดเรื่องเสียก่อน ท่านข้าหลวงถัง
ย่อมไม่มีกะจิตกะใจมาจัดการเรื่องนีเ้ ป็ นแน่…”
อวีถ้ งั ได้ฟัง หัวใจก็เต้นระรัว
ชาติก่อน สกุลหลี่มาขอหมัน้ หมายนางหลังจากที่สกุลนางจะเกิดเรื่อง ตอนนัน้ นางไม่
ใคร่จะเต็มใจเท่าไร รูส้ กึ ว่าตนยังอยู่ในช่วงไว้ทกุ ข์ การมาหารือพูดคุยเรื่องทํานองนีไ้ ม่เหมาะสม
แต่ลงุ ใหญ่กบั ป้าสะใภ้คิดว่าหากรอให้พน้ ช่วงไว้ทุกข์ไป นางก็อายุสิบหกปี แล้ว ถึงเวลานัน้ คง
หาสกุลดีๆ มาแต่งด้วยไม่ได้ จึงปรึกษานางว่าให้หมัน้ หมายกับสกุลหลี่ไว้ก่อน พอผ่านช่วงไว้
ทุกข์แล้วค่อยมาคุยเรื่องงานมงคลกัน
นางยังลังเลอยู่บา้ ง ทว่าสกุลหลี่สง่ คนมาคุยกับนางอย่างลับๆ บอกว่าหากนางยอมตก
ลงหมัน้ หมาย สกุลหลี่ยินดีให้ลงุ ใหญ่หยิบยืมเงินห้าพันตําลึงโดยไม่คิดดอกเบีย้ ให้ครอบครัว
ของลุงใหญ่ได้ก่อร่างสร้างตัวใหม่อีกครัง้
เหตุเ พลิ ง ไหม้ท่ี ถ นนฉางซิ่ ง ร้า นค้า ของครอบครัว นางถูก เผาจนวอด ร้า นค้า ของ
ครอบครัวท่านลุงก็วอดวายไม่ต่างกัน ตอนที่สกุลหลี่ย่ืนข้อเสนอนีม้ าให้ สกุลเผยกําลังซ่อมแซม
ถนนฉางซิ่งอยู่ พืน้ ที่ฐานรากเดิมมีอยู่แล้ว ทว่าเงินที่จะสร้างร้านค้าขึน้ มาใหม่ลว้ นควักเงินของ
16

ใครของมัน หากผูใ้ ดไม่มีกาํ ลังทรัพย์จะสร้างร้านค้าขึน้ มาใหม่อีกครัง้ สามารถตีราคาแล้วขาย


ต่อให้สกุลเผยได้
คนส่วนใหญ่ลว้ นขายพืน้ ที่ให้กบั สกุลเผย
ทว่าลุงใหญ่ของนางไม่ตอ้ งการจะขายทิง้
นั่นเป็ นกิจการที่บรรพบุรุษของสกุลอวีต้ กทอดไว้ให้
ไม่เพียงปฏิเสธการขายต่อ ท่านลุงถึงขนาดคิดจะสร้างร้านค้าอีกสองคูหาของบิดานาง
ขึน้ มาใหม่ดว้ ยซํา้
ตอนที่ท่านปู่ ของนางเสีย ลุงใหญ่กงั วลว่าบิดานางไม่เก่งเรื่องทํามาค้าขาย ถึงได้แบ่ง
ร้านค้าสี่คหู ากันคนละครึง่ กับที่ดินสองร้อยหมู่ โดยแบ่งที่นาชัน้ ดีหนึ่งร้อยหมู่ให้กบั บิดานาง ที่
นาชัน้ กลางอีกห้าสิบหมู่ รวมถึงที่บนภูเขาอีกห้าสิบหมู่ดว้ ย
การสร้างร้านใหม่ขนาดสี่คหู าต้องใช้เงินสี่พนั ตําลึง ต่อให้ขายที่นาทัง้ หมดของลุงใหญ่
ก็เหมือนกับการราดนํา้ หนึ่งถ้วยเพื่อดับรถลากฟื นที่ลกุ ไหม้ กระทั่งเสาร้านก็ยงั ซือ้ ไม่ได้ดว้ ยซํา้
ไป
พอนางได้ฟั ง ข้อ เสนอของสกุล หลี่ คิ ด ว่ า งานมงคลนี ข้ องนางดี ช่ ัว ก็ ส ามารถทํา ให้
ครอบครัวของลุงใหญ่รอดพ้นสภาวะยากลําบากไปได้ นางไม่ทนั บอกกับลุงใหญ่ให้ทราบสักคํา
ก็รบั ปากตกลงเรื่องงานมงคลกับคุณชายรองสกุลหลี่นามว่าหลี่จวิน้ ทันที
ภายหลัง ลุงใหญ่รูส้ กึ ผิดต่อนาง ทัง้ ได้ยินข่าวว่าหากเอาข้าวไปแลกเกลือที่จ่ิวเปี ยนจะ
ได้กาํ ไรก้อนใหญ่ จึงหอบเงินห้าพันตําลึงของสกุลหลี่ไปที่หกู ่วงทันที
แม้ว่าลุงใหญ่กบั ลูกชายแทบจะเอาตัวไม่รอดแต่ก็ได้เงินมาก้อนโต ทว่ากลับทิง้ ปั ญหา
เอาไว้เบือ้ งหลัง…ลุงใหญ่กบั ลูกชายเพื่อที่จะหาสินเจ้าสาวให้นางแล้ว เดินทางเข้าออกจิ่วเปี ยน
อยู่หลายรอบ โดยเริ่มจากสร้างร้านค้าสองคูหาที่บิดาทิง้ ไว้ให้นางจนเสร็จ ต่อมาก็ท่มุ เทอย่าง
หนักเพื่อซือ้ ที่นาชัน้ ดีซ่งึ ครอบครัวขายออกไปคืนกลับมา…ทว่าด้วยเหตุนีไ้ ม่เพียงทําให้ลงุ ใหญ่
17

ต้องมีปากเสียงกับลูกชายถึงเป้าหมายในการใช้ชีวิต ซํา้ ระหว่างทางไปจิ่วเปี ยนก็ถูกโจรเข้า


ปล้นชิง แม้รา่ งก็ยงั ตามหาไม่เจอ
นางเมื่อชาติก่อน ถูกเลีย้ งให้อยู่แต่ในห้องหอไม่รบั รู เ้ รื่องราวภายนอก ต่อให้รูว้ ่าถนน
ฉางซิ่ งเกิ ดไฟไหม้ใหญ่ รู ว้ ่า เพลิงไหม้ครัง้ นีเ้ กิดขึน้ อย่างไม่ชอบกล แต่ก็ ห าได้คิดอะไรมาก
ทว่าอวีถ้ งั ในตอนนี ้ เคยตกอยู่ใต้ความตํ่าตมของสกุลหลี่ ประสบกับวิธีสกปรกมาตัง้ มากน้อย
เท่าไร พอได้ยินเรื่องราวเข้าหู ก็เข้าใจทันทีว่าวิธีท่ีสกุลเผยใช้เขมือบกลืนร้านค้านีไ้ ม่ต่างอะไร
กับวิธีท่ีสกุลหลี่หลอกล่อนางในปี นนั้ เลย
ขอเพียงแค่มีโอกาส ก็พร้อมจะรังแกผูน้ อ้ ยที่ออ่ นแอกว่าเสมอ
จิตใจเหีย้ มโหดไม่ตา่ งกัน เลวทรามตํ่าช้าไม่มีผิด!
18

ตอนที่ 3 กลับเรือน
พอนึกถึงเรื่องในอดีตมีแต่จะให้คนหัวใจหม่นหมอง
ชาตินีข้ องอวีถ้ งั ไม่ยินดีจะข้องเกี่ยวกับสกุลหลี่อีก ยิ่งไม่ขอรู จ้ กั ผูกสัมพันธ์กบั คนสกุล
เผย
นางจึงถือโอกาสนีเ้ ป่ าหูปา้ สะใภ้เสียหน่อย “กระทั่งร้านค้าของสกุลเผยยังไหม้หมดแล้ว
ร้านค้าของพวกเรายิ่งไม่ตอ้ งพูดถึง โชคดีท่ีรากฐานพอมี โอกาสย่อมจะยังเหลืออยู่ อย่างไรคงก็
สามารถลุกขึน้ มาได้อีกครัง้ ส่วนสินค้าที่อยู่ในร้าน หากต้องชดเชยด้วยเงินทอง คงต้องจ่ายถึง
สองเท่าเป็ นแน่ หากว่าสามารถต่อรองกับพ่อค้าได้ ไม่แน่ผอู้ ่ืนอาจจะยอมขยายเวลาออกไปให้
หน่อย พวกเราค่อยผลิตสินค้าชุดใหม่ให้กับพ่อค้าอีกครัง้ บางทีอาจจะลดเงินค่าปรับลงได้
เล็กน้อย เหตุการณ์ไฟไหม้ท่ีถนนฉางซิ่ง ใครต่างก็คาดไม่ถึง ทัง้ ไม่มีใครอยากให้เกิดทัง้ นัน้ ”
“แม้จะพูดแบบนัน้ แต่ยืดเวลาส่งของออกไปคงไม่ได้” ป้าสะใภ้ได้ฟังก็ยมิ ้ ขื่นและเอ่ยว่า
“เจ้ายังเล็กอยู่ ปกติเรื่องในเรือนคงไม่มีใครพูดกับเจ้า หลายปี มานี ้ คนทางฝั่ งหมิ่นหนานออก
ทะเลไปหาเงิ น มาได้เ ป็ นกอบเป็ นกํา ผู้ค นในเมื อ งหั ง โจวได้ฟั ง ก็ ใ จสั่น ใครพอมี เ งิ น มี
ความสามารถ ครอบครัวหนึ่งก็ออกเรือลําหนึ่ง ลําเลียงพวกผ้าไหม ใบชา ทัง้ พวกเครื่องเคลือบ
ต่างๆ แล้วรวมตัวเป็ นกองเรือออกทะเลไปขายสินค้า คนที่ไม่ค่อยจะมีเบีย้ ก็ใช้พวกใบชากับผ้า
ไหมมาขอเป็ นหุน้ ส่วนออกทะเล คนที่ส่งั ทําเครื่องลงรักกับเรา ก็ตอ้ งออกทะเลไปค้าขายเช่นกัน
กองเรือได้กาํ หนดวันออกเรือเสร็จสรรพแล้ว หากว่าถึงเวลาไม่อาจส่งมอบสินค้าที่ถือเป็ นของ
แลกเปลี่ยนได้ การค้านีค้ งล่มไม่เป็ นท่า พวกเขาอย่างไรก็ตอ้ งให้เราชดเชยเป็ นสองเท่า”
อวีถ้ งั ในชาติก่อนไม่รูเ้ รื่องเหล่านี ้
แต่อวีถ้ งั ในชาตินีไ้ ด้รบั ทราบแล้ว
สกุลหลี่ถือเป็ นสกุลใหม่ในเมืองหลินอัน
19

สกุลของพวกเขาแต่ก่อนก็มีทรัพย์สิน แต่เพราะที่เหนือขึน้ ไปยังมีสกุลเผย สกุลของพวก


เขาถึงไม่ได้มีหน้ามีตาเท่าไร ได้ยินว่านับไปก่อนหน้านีส้ ามชั่วอายุ ทุกๆ วันแรกของปี ใหม่สกุล
หลี่ตอ้ งไปเยี่ยมคารวะที่จวนสกุลเผยทุกปี กระทั่งท่านผูเ้ ฒ่าของสกุลหลี่ ซึ่งก็คือท่านปู่ ของหลี่
ตวนกับหลี่จวิน้ สอบได้เป็ นจวี่เหริน 1 บิดาของพวกเขาก็สอบได้เป็ นจิน้ ซื่อ ทัง้ ยังมีอายุรุ่นราว
4

คราวเดียวกับนายท่านรองเผย ภายหลังถึงได้คอ่ ยๆ ยืดหลังตรงได้เต็มที่ ทุกๆ วันแรกของปี ใหม่


ตอนที่ไปเยี่ยมคารวะสกุลเผย คนของสกุลหลี่ก็สามารถร่วมนั่งดื่มนํา้ ชาในห้องโถงกับคนสกุล
เผยได้แล้ว
ด้วยเหตุฉะนีเ้ อง แม้สกุลหลี่จะเริ่มมีฐานะหน้าตาขึน้ มา แต่ก็หมดปั ญญาจะใช้อาํ นาจ
ในมื อ แผ่ ขยายกิ จการของสกุล ให้ใ หญ่ โ ตได้… ไม่ ว่า จะเป็ น ภูเ ขาแม่น า้ํ ในเมื องหลิน อัน ก็ ดี
ร้านค้าบนท้องถนนก็ดี ล้วนแต่เป็ นของสกุลเผยทัง้ สิน้ ที่เหลือรอดเงือ้ มือก็มีเพียงเล็กน้อย สกุล
ใดบ้างที่จะขายอาชีพซึ่งตกทอดจากบรรพบุรุษง่ายๆ เล่า? ต่อให้ตอ้ งขายทิง้ ทุกคนก็อยากจะ
ขายให้กบั สกุลเก่าแก่อย่างสกุลเผยอยู่แล้ว
หรือว่าสกุลหลี่จะกล้ายื่นมือเข้ามายือ้ แย่งกับสกุลเผยเล่า
หากต้องการความเจริญก้าวหน้าในเส้นทางขุนนาง ย่อมไม่อาจละโมบ ทั้งต้องให้
สินจ้างแก่ผบู้ งั คับบัญชา สองอย่างนีล้ ว้ นต้องใช้เงินทอง สกุลหลี่ตอ้ งการเพิ่มพูนทรัพย์สินให้
มากกว่านี ้ จึงได้แต่ทอดมองสายตาไปยังด้านนอกอันไกลโพ้น
ไปๆ มาๆ สกุลหลี่ก็ไปจับกิจการเดินเรือออกทะเล
แน่นอนว่าการออกทะเลมีความเสี่ยง ต้องประสบกับลมพายุ อาจสูญเงินทัง้ หมดโดย
ไม่ได้อะไรตอบแทน ในเมืองหังโจวก็มีหลายสกุลที่หมดตัวด้วยเหตุนี ้ สกุลหลี่นบั ว่ามีโชคไม่เลว
เก้าในสิบของการลงทุนกับกองเรือไปล้วนกลับมาอย่างปลอดภัยทุกครัง้ หลังจากนางแต่งเข้า

1
บัณฑิตที่สอบผ่านสนามสอบระดับมณฑล ซึง่ จัดขึน้ ทุกๆ 3 ปี ผูท้ ่สี อบได้เป็ นอันดับหนึ่งเรียกว่า เจี่ยหยวน
20

ไปในฐานะภรรยาของหลี่จวิน้ สกุลหลี่ก็เริ่มมั่งคั่งรํ่ารวย มารดาของหลี่จวิน้ ชมว่านางมีชะตา


เสริมลาภสามี เพราะเหตุนีห้ ลี่ตวนจึงยิ่งตอแยนางมากกว่าเก่า
ช่างน่าขันเมื่อตอนที่หลี่จวิน้ ตกม้าลงมาตาย มารดาของหลี่จวิน้ ชีน้ ิว้ ใส่จมูกด่าทอนาง
ว่า ‘นังจิง้ จอก’ ก่นด่านางว่าหญิงงามเป็ นบ่อเกิดแห่งหายนะ
พอนึกถึงเรื่องเก่าๆ ก็มีแต่ทาํ ให้ปวดใจ
อวีถ้ ังรีบกดเรื่องราวในอดีตไว้ส่วนลึกสุดใจ ก่อนจะคุยเรื่องร้านค้ากับป้าสะใภ้ต่อ
“สามารถต่อรองกับพ่อค้าได้หรือไม่เจ้าคะ ว่าให้พวกเราออกหน้าช่วยเขาหาซือ้ สินค้าชุดใหม่
รับรองว่าปริมาณและคุณภาพจะไม่ตา่ งกัน”
หวังซื่อได้ยินก็มองอวีถ้ งั ด้วยสายตาสว่างวาบ พูดว่า “เจ้าคิดได้เหมือนข้าไม่มีผดิ เลย”
นางเริม่ นินทาสามีทนั ทีราวกับตามหาผูร้ ูใ้ จตัวเองพบ “ลุงใหญ่ของเจ้าไม่เห็นด้วย บอก
ว่าสกุลอวีข้ องเราเป็ นเจ้าเก่าแก่รอ้ ยปี แล้ว ไม่ตอ้ งพูดถึงเมืองหลินอัน ต่อให้ท่ วั ทัง้ เมืองหังโจวก็
ไม่มีรา้ นใดที่จะมีฝีมือเหนือว่าสกุลอวีไ้ ปได้ เอาสินค้าชั้นสองไปสวมรอยแทนสินค้าชัน้ หนึ่ง
เรื่องพรรค์นีเ้ ขาไม่ทาํ เด็ดขาด”
“ลูกชายข้าก็บอกแล้วว่าเจียงซีทางนั้นมีรา้ นเครื่องลงรักเก่าแก่รอ้ ยปี อยู่หลายร้าน
สินค้าหาได้ดอ้ ยกว่าของเราเลย หากลุงเจ้ากังวลว่าพ่อค้านั่นจะถูกเอาเปรียบ ก็ไปดูดว้ ยตนเอง
สักครัง้ คอยจับตาดูผอู้ ่ืนผลิตของออกมาก็ได้แล้ว ลุงของเจ้ายังเถียงอีกว่าสินค้าที่เจียงซีทางนัน้
ขายถูกกว่าเรา หากว่าเรื่องนีถ้ ูกผูอ้ ่ืนรู เ้ ข้า ชื่อเสียงนับร้อยปี ของสกุลอวีย้ ่อมถูกทําลายสิน้ แน่
หากพ่อค้าพวกนัน้ ยอมเสียผลประโยชน์อันน้อยนิด ทิง้ ของใกล้มือไปคว้าของไกลตัว มัดจํา
สินค้ากับทางเจียงซีแทน ถึงเวลานั้นไม่ตอ้ งพูดถึงชื่อเสียงของสกุลที่ย่อยยับ ซํา้ ยังออกแรง
เหนื่อยเปล่าส่งพ่อค้าไปให้รา้ นเครื่องลงรักถึงเจียงซีอีก”
อวีถ้ ังรู ว้ ่าลุงใหญ่ ค่อนข้างหัวแข็งดือ้ รัน้ เรื่องทําการค้า ไม่เช่นนั้นชาติท่ีแล้วคงไม่มี
ความเห็นแตกกันกับลูกชายเพราะเรื่องนี ้ แต่นางคาดไม่ถึงว่าลุงใหญ่จะดือ้ รัน้ ถึงขัน้ นี ้
21

นางกล่าวว่า “เช่นนัน้ ท่านมิสูใ้ ห้ลุงใหญ่ไปเมืองหังโจวสักครัง้ ข้าได้ยินว่าการค้าใน


ทะเลนิยมพวกใบชา เครื่องเคลือบและผ้าไหมเป็ นที่สดุ พวกเครื่องลงรัก เครื่องดีบกุ นัน้ ไม่ค่อย
ต้องการนัก มีคนรูว้ า่ ร้านค้าที่เจียงซีทางนัน้ มีฝีมือสูสีไม่ดอ้ ยกว่าเรา ราคาก็ยงั ตํ่ากว่า แต่การจะ
ไปก็ตอ้ งเสี่ยงไม่นอ้ ย หากสินค้ามีปัญหาขึน้ มายากจะเปลี่ยนคืน ต่อให้หลีกทางให้พวกเขาแล้ว
อย่างไรเล่า?”
หวังซื่อพยักหน้า ในใจก็ดีดลูกคิดเสียงดังกึกก้อง
คําพูดนีล้ กู ชายของนางก็เคยพูด แต่เพราะสามีหวั รัน้ เกินคน ฟั งไม่เข้าหัวสักครัง้ แต่
หากให้ออกจากปากของน้องสามี ย่อมจะได้ผลลัพธ์ท่ีตา่ งออกไปแน่
หวังซื่อจึงตัง้ หน้าตัง้ ตาคอยให้บิดาของอวีถ้ งั หรือก็คืออวีเ้ หวินกลับมาถึงไวๆ
อวีถ้ ังย้อนกลับมาจากสิบปี ให้หลัง ทัง้ อายุและความคิดความอ่านก็อยู่ในจุดนัน้ ด้วย
เมื่อเจอปั ญหาย่อมจะสุขมุ เยือกเย็นกว่าเด็กสาววัยสิบห้า ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึงว่าเป็ นเรื่องราวที่เคย
เกิดขึน้ มาแล้ว ให้ใจร้อนเป็ นไฟอย่างไรย่อมไม่เกิดประโยชน์ สภาพอารมณ์ของนางจึงดีขึน้
กว่าเดิมมาก
นางทําตามที่ปา้ สะใภ้ตอ้ งการ คือหมกตัวอยู่ท่ีเรือนทัง้ วัน จากนัน้ ก็ตามป้าหวังบ่าวรับ
ใช้ของป้าสะใภ้ใหญ่ไปเรียนทําขนมตังเมเกล็ดหิมะ
สิ่งที่ต่างไปจากชาติก่อนก็คือ ชาติก่อนนางหมดเวลาไปสองวันกว่าจะเรียนทําขนม
สําเร็จ ในชาตินีด้ ว้ ยประสบการณ์ท่ีส่ งั สมมาจากชาติท่ีแล้ว มิเพียงคล่องแคล่วชํานาญอย่าง
รวดเร็ว ซํา้ ยังทําขนมตังเมเกล็ดหิมะเพิ่มมากขึน้ อีกสองหม้อเพื่อให้ปา้ หวังเอาไปแจกเพื่อนบ้าน
ในตรอกด้วย…ชาติก่อน ครอบครัวของนางเจอปั ญหา เพื่อนบ้านในตรอกช่วยเหลือเกือ้ กูลไว้
มาก นางจําได้ดีเสมอมา ในใจก็รูส้ กึ ซาบซึง้

รอถึงวันที่บิดานางอวีเ้ หวินกลับมาถึงเรือน ก็เป็ นสี่วนั ให้หลังแล้ว


22

อวีถ้ งั เพิ่งช่วยมารดาสระผมเสร็จ นั่งอยู่ตรงลานกว้างช่วยหวีผมให้นาง


ป้าเฉินด้านหนึ่งก็โบกพัดให้เฉินซื่อ มารดาของนางไปพลาง อีกด้านก็เอ่ยถึงอวีถ้ งั ว่า
“นายหญิงดูคณ ุ หนูใหญ่สิเจ้าคะ ช่างรูค้ วามนัก กตัญ�ูเป็ นที่สดุ ! ต่อไปท่านก็คอยเสพสุขจาก
คุนหนูใหญ่กบั ท่านเขยได้เลยเจ้าค่ะ!”
เฉินซื่อหัวเราะ
ดวงหน้าผ่ายผอมซีดเซียวเผยให้เห็นความรูส้ กึ ผิด
งานมงคลของอวีถ้ งั ไม่ราบรื่น เป็ นเพราะครอบครัวนางต้องการให้ลกู เขยแต่งเข้า
ชาติก่อนอวีถ้ ังไม่มีความคิดเห็นใดๆ เกี่ ยวกับงานมงคลของตน ทุกอย่างล้วนยกให้
บุพการีเป็ นคนตัดสินใจทั้งสิน้ กระทั่งผ่านเรื่องราวต่างๆ จากชาติท่ีแล้วมานางถึงได้รู ้ หาก
สามารถให้เขยชายแต่งเข้ามาได้ นางก็จะสามารถอยู่ขา้ งกายบิดามารดา นั่นย่อมเป็ นโชค
วาสนาอันยิ่งใหญ่ของนาง
เห็นว่ามารดาตําหนิตนเองถึงเพียงนัน้ นางจึงยื่นหน้าไปข้างๆ ไหล่ของมารดาคล้าย
ออดอ้อน “ข้าอยากได้คนที่รูปงาม ไม่เอาอย่างพี่สาวข้างบ้านที่แต่งให้คนเตีย้ ม่อต้อนะเจ้าคะ!”
นี่เป็ นครัง้ แรกที่อวีถ้ งั แสดงความเห็นของตนที่มีตอ่ งานแต่งเบือ้ งหน้ามารดา
เฉินซื่ออดจะตื่นเต้นยินดีไม่ได้ ถามนางอย่างระมัดระวังว่า “เช่นนัน้ เจ้ายินดีให้เขยแต่ง
เข้ามาหรือไม่?”
“ยินดีสิเจ้าคะ!” อวีถ้ งั ร่วมวงอย่างกระตือรือร้น “ให้สามีแต่งเข้ามาอยู่ท่ีเรือน ข้าก็จะได้
อยู่เป็ นเพื่อนท่านพ่อกับท่านแม่ไปตลอดชีวิต เรื่องในเรือนล้วนถือคําของข้าเป็ นใหญ่ เหตุใดข้า
ถึงจะไม่ยินดีให้เขยชายแต่งเข้ามาเล่า?”
เฉิ น ซื่ อ เห็ น ว่ า นางตอบอย่ า งจริง จัง ตั้ง ใจ ก็ เ ป็ น ปลื ม้ ขึ น้ มาทัน ที ลากอวี ถ้ ัง มาอยู่
ตรงหน้า แล้วพูดกับนางอย่างจริงจังว่า “เจ้าวางใจได้ แม่กบั พ่อจะต้องช่วยเจ้าเลือกเป็ นอย่างดี
ไม่มีทางให้อาถังของพวกเราต้องลําบาก จะไม่ให้เจ้าต้องเจ็บชํา้ นํา้ ใจ”
23

อวีถ้ งั พยักหน้ารับหงึกหงัก
ป้าเฉินเห็นว่าบรรยากาศไม่เลว จึงเข้าผสมโรงด้วย “นายหญิงอย่าลืมเชียวนะเจ้าคะ
ต้องเลือกคนที่รูปงามเข้าไว้ คุณหนูใหญ่ของเราชอบคนรูปงามเจ้าค่ะ”
อย่างไรก็ไม่วาดหวังจะให้สามีเก่งกล้าสามารถอยู่แล้ว แน่นอนว่าต้องเลือกอาหารตา
ไว้ก่อน
อวีถ้ งั พยักหน้าอีกรอบ “ท่านแม่จาํ ให้ม่ นั นะเจ้าคะ! ต้องตัวสูงๆ และว่านอนสอนง่าย
ด้วยเจ้าค่ะ”
เฉินซื่อมองสีหน้าเพราะด้วยไร้เดียงสาจึงไร้ซง่ึ ความกลัวของนาง แล้วหัวเราะเสียงดัง
อวีเ้ หวินในชุดคลุมยาวกลิ่นอายบัณฑิตเดินเข้ามาท่ามกลางเสียงหัวเราะ “แม่ลกู คุย
เรื่องอะไรกัน? อารมณ์ดีถึงปานนัน้ ! เล่าให้ขา้ ฟั งบ้างสิ!”
“ท่านพี่!” ดวงตาของเฉินซื่อทอประกายวิบวับ
สายตาของอวีเ้ หวินก็จบั จ้องอยู่ท่ีรา่ งของเฉินซื่อไม่ห่างเช่นกัน
“ไม่เจอแค่ไม่ก่ีวนั เหตุใดเจ้าผอมลงอีกแล้ว” เขาถามภรรยาอย่างเป็ นห่วงและปวดใจ
“เพราะอาถังอยู่ในเรือนเอาแต่หาเรื่องปวดหัวให้เจ้ารึ? หรือเพราะหลายวันนีอ้ ากาศร้อน เจ้า
เลยทานอะไรไม่ลง? เดี๋ยวข้าสั่งคนไปซือ้ นํา้ แข็งที่ตลาดกลับมา ให้ป้าเฉินต้มนํา้ ถั่วเขียวให้เจ้า
ดื่ม”
“ไม่ตอ้ ง ไม่ตอ้ งหรอกเจ้าค่ะ” เฉินซื่อตอบพลางยิม้ ตาหยี กวาดตาสํารวจอวีเ้ หวินตัง้ แต่
หัวจรดเท้า ราวกับกลัวว่าเขาออกจากเรือนไปแล้วจะได้รบั ความลําบากกลับมา “ท่านหมอหลิว
ที่โรงยาจีห้ มินมิใช่บอกแล้วหรือว่าอาการป่ วยของข้าไม่อาจถูกความเย็นได้ เหตุใดท่านถึงรบ
เร้าให้ขา้ ทานนํา้ แข็งอีก”
อวีเ้ หวินหัวเราะและกล่าวอย่างเจ้าเล่ห ์ “ข้าก็อยากให้เจ้าได้เบิกบานบ้างสักหน่อย
อย่างไรเล่า”
24

นี่ก็คือนิสยั ของบิดานาง
เขาเป็ น คนดีมาก จริง ใจ มองโลกในแง่ บวก ใจดี มี อารมณ์ขัน …ไม่ว่า เรื่องใดก็ไม่
อินงั ขังขอบ ไม่เคยเก็บเรื่องใดมาใส่ใจ ยินดีมีสขุ กับทุกสถานการณ์ท่ีเจอ ตัง้ แต่เล็กเขาก็ตงั้ หน้า
ตัง้ ตาเล่าเรียนเขียนอ่าน พอโตขึน้ ก็พ่งึ พาครอบครัวพี่ชายช่วยเป็ นธุระจัดการงานเล็กๆ น้อยๆ
ไม่ง่ายกว่าจะสอบได้เป็ นซิ่วไฉ 2 แต่กลับรูส้ กึ ว่าการรํ่าเรียนช่างทุกข์ยากยิ่งนัก จึงได้ลม้ เลิกไป
5

หากไม่เกิดเรื่องอะไรก็ดีไป ทว่าเมื่อต้องเจอปั ญหา เกรงว่าอาจจะรับมือไม่อยู่


อวีถ้ งั ลอบถอนหายใจ ก่อนจะก้าวขึน้ ไปทําความเคารพบิดา
อวีเ้ หวินเพิ่งจะสังเกตเห็นลูกสาวของตน จึงเอ่ยอย่างรู ส้ ึกผิดว่า “อาถัง หลายวันนีพ้ ่อ
ไม่อยู่เรือน เจ้าดือ้ รัน้ หรือไม่? เชื่อฟั งคําพูดของมารดาเจ้าหรือเปล่า?”
อวีถ้ งั ใช้ชีวิตมาสองชาติ ล้วนแต่ช่ืนใจที่บิดาปฏิบตั ิตอ่ มารดาเป็ นอย่างดี
นางเอ่ยอย่างขุ่นเคืองว่า “แล้วผงโป่ งรากสนที่ท่านรับปากเอาไว้เล่าเจ้าคะ? ข้ารอจะทํา
ยาโป่ งรากสนอยู่นะ!”
อวีเ้ หวินได้ข่าวว่าร้านค้าของสกุลไฟไหม้ ก็รอ้ นใจจนแทบบ้า ยังจะจําเรื่องโป่ งรากสน
ได้อีกหรือ?
เขาพูดอะไรไม่ออก
อวีถ้ งั ลอบถอนหายใจเฮือกอีกครัง้
เพราะอวีเ้ หวินไม่ตอ้ งการให้เฉินซื่อเป็ นห่วง มีครัง้ ไหนบ้างที่กลับมาจากด้านนอกแล้ว
หน้าตาไม่สดใสชื่นมื่น ดังนัน้ พวกนางจึงไม่เคยสังเกตเห็นอาการทุกข์รอ้ นของเขาเลย

2
ซิ่วไฉ ผูท้ ่ีผ่านการสอบคัดเลือกเข้ารับราชการระดับท้องถิ่น
25

หลายปี มานี ้ กําไรที่ได้จากร้านค้าล้วนนําไปใช้ซือ้ ยาให้มารดาหมด พอบิดารู ว้ ่าถนน


ฉางซิ่ ง ไฟไหม้ ในใจไม่ รู จ้ ะทรมานเพี ย งไหน จะลื ม หาของขวัญ กลับ มาให้น างก็ เ ป็ น เรื่ อ ง
สมเหตุสมผล
ในชาติก่อน นางเคยทะเลาะกับบิดาอยู่ครัง้ หนึ่ง ภายหลังเขาพานางไปเลีย้ งอาหารเลิศ
รสที่รา้ นทิวนอกเขา นางถึงยอมจบเรื่อง ทว่านางในชาตินี ้ เพียงคิดว่าจะทําอย่างไรให้บิดา
มารดารอดพ้นวิกฤติไปให้ได้
“ท่านพ่อไม่รกั ษาสัญญา” อวีถ้ งั ทําทีตลกเฮฮา แล้วดันหลังบิดาไปทางห้องหนังสือ “ข้า
อยากได้หยกแท่งก้อนนัน้ ที่ท่านพ่อซ่อนเอาไว้”
อวีเ้ หวินปวดใจราวกับถูกแล่เนือ้ เถือหนัง ทางหนึ่งก็ถูกลูกสาวดันหลัง ทางหนึ่งก็เริ่ม
เปิ ดการต่อรอง “ข้ามอบแท่นฝนหมึกรู ปใบบัวให้เจ้าดีหรือไม่? หรือว่าจะเอาพู่กนั ขนจิง้ จอกที่
เจ้าพูดถึงคราวก่อนดี?”
“หึ!” อวีถ้ งั ทําเสียงไม่พอใจ “ข้าไม่มีทางหลงกลหรอก! ข้าจะเอาหยกแท่งก้อนนัน้ ข้า
จะเอาไปแกะสลักตราประทับ เอาแบบที่เหมือนท่านพ่อ ห้อยเอาไว้ท่ีเอว”
อวีเ้ หวินเอ่ยว่า “บุรุษเท่านั้นที่จะห้อยตราประทับไว้ท่ีเอว เด็กผูห้ ญิ งอย่างเจ้าห้อย
‘สามสิ่ง’ ก็พอ ข้าสั่งทํา ‘ทองสามสิ่ง’ 3 ให้เจ้าดีหรือไม่?”
6

ครอบครัวแทบจะไม่เหลือเงินซือ้ ยาให้มารดาอยู่แล้ว ทว่าท่านพ่อกลับคิดจะสั่งทํา


‘ทองสามสิ่ง’ เพื่อนาง
อวีถ้ งั ร้องเหอะเสียงเย็น
เฉินซื่อหัวเราะจนตัวงอไปหมด
สองพ่อลูกยือ้ ยุดกันหายเข้าไปในห้องหนังสือ

3
ทองสามสิ่ง คล้ายกับพวงกุญแจอเนกประสงค์ ส่วนประกอบที่พบบ่อยจะมีไม้เคาะหู ไม้จิม้ ฟั น และแหนบ
26

ตอนที่ 4 ท่านพ่อ
ห้องหนังสือของอวีเ้ หวินถูกจัดให้อยู่ในเรือนข้างฝั่งทิศตะวันตกของเรือน เป็ นห้องใหญ่
ขนาดกว้างขวางห้องหนึ่ง ผนังสี่ดา้ นมีหนังสือกองสุม โต๊ะหนังสือหลังใหญ่ตงั้ อยู่กลางห้อง ข้าง
โต๊ะมีอ่างลายครามวางอยู่หลายใบ ในอ่างม้วนภาพวาดสูงๆ ตํ่าๆ เสียบอยู่ บนโต๊ะหนังสือมี
อ่างปลาหลากสีใบเล็กตัง้ อยู่ เลีย้ งปลาทองสีแดงกับสีดาํ เอาไว้อย่างละตัว
อวีถ้ งั ดันหลังบิดาเข้าไปในห้องหนังสือ แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะมาทวงหยกแท่งก้อนนัน้
นางต้องการหารือกับอวีเ้ หวินถึงอาการป่ วยของมารดา
ก่อนที่บิดาจะกลับมา นางได้ขบคิดอย่างถี่ถว้ นแล้ว ชาติก่อนที่ครอบครัวนางต้องบ้าน
แตกสาแหรกขาด ดูคล้ายว่ามีตน้ เหตุมาจากเหตุการณ์ไฟไหม้ท่ีถนนฉางซิ่ง ตามจริงแล้วเป็ น
เพราะอาการป่ วยที่รกั ษาไม่หายขาดของมารดาต่างหากที่เป็ นจุดเริม่ ต้น
หากนางต้องการเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของชาติก่อน จําต้องลงมือจากเรื่องการ
เจ็บป่ วยของมารดา
มีเพียงรักษาอาการป่ วยของมารดาให้หายขาด บิดาของนางจะได้เลิกร้อนใจวิ่งเสาะหา
หมอไปทั่วสารทิศ เลิกเชื่อคําคนเป็ นจริงเป็ นจังเพียงเพราะได้ข่าวลือเบาๆ เพียงเสียงลมพัด
แล้วพามารดาเดินทางไปรักษาตัวทุกที่ ส่วนเรื่องทรัพย์สมบัติ หากจะหมดก็ให้หมดสิน้ ไป รักษา
คนไว้ได้ถือเป็ นสิ่งสําคัญที่สดุ
“ท่านพ่อ ท่านมิใช่ไปหาหมอหลวงหยางที่เมืองซูโจวหรือเจ้าคะ?” อวีถ้ งั จับกระถางไผ่
ใบเกล็ดที่ตงั้ อยู่บนชัน้ หนังสือเล่น “ท่านหมอหลวงหยางว่าอย่างไรเจ้าคะ? อาการป่ วยของท่าน
แม่เขารักษาได้หรือไม่?”
อวีเ้ หวินยังเห็นอวีถ้ ังเป็ นเพียงเด็กน้อย ตอบว่า “นี่เป็ นเรื่องของผูใ้ หญ่ เจ้าไม่ตอ้ งยุ่ง
เจ้ารับผิดชอบอยู่เป็ นเพื่อนมารดาของเจ้าให้ดีก็พอแล้ว อาการป่ วยของมารดาเจ้า มีขา้ อยู่แล้ว
นี่ไง!”
27

อวีถ้ งั เอือ้ มมือไปเด็ดไผ่ใบเกล็ดออกมากิ่งหนึ่ง แล้วแกล้งแหย่ปลาที่ว่ายวนอยู่ในอ่าง


เล่น “ท่านพ่อเลิกมองข้าเป็ นเด็กเล็กๆ ได้แล้ว เรื่องที่ถนนฉางซิ่งไฟไหม้ขา้ รูต้ งั้ แต่แรกแล้วเจ้าค่ะ
ตอนนัน้ ข้ายังไปดูความวุ่นวายด้วยอยู่เลย และข้าก็ยงั ช่วยป้าสะใภ้ปิดบังเรื่องนีจ้ ากท่านแม่
จนถึงวันนีก้ ระทั่งข่าวลือเล็กๆ ก็ไม่มีกระเด็นเข้าหู แม้แต่ปา้ สะใภ้ยงั เอ่ยชมข้าเลยนะเจ้าคะ”
อวีเ้ หวินประหลาดใจยิ่ง มองดูบตุ รสาวก่อกวนปลาทองสองตัวในอ่างจนว่ายนํา้ วุน่ วาย
ไปหมด เขาหัวเราะออกมาอย่างกลัน้ ไม่อยู่ “เจ้าดูสภาพเจ้าสิ แหย่แมวไล่สนุ ขั ไปวันๆ มีตรงไหน
เหมือนเด็กสาวที่โตแล้วบ้าง? ข้าจะมองเจ้าว่าโตเป็ นผูใ้ หญ่แล้วได้อย่างไร?”
ตลอดเจ็ดปี ท่ีอยู่ในสกุลหลี่ช่างขมขื่นนัก หากนางไม่มองหาความสําราญท่ามกลาง
ความทุกข์ระทม เกรงว่านางคงไม่อาจมีชีวิตรอดมาถึงทุกวันนี ้
อวีถ้ ังแกล้งเอ่ยอย่างขุ่นเคือง “แล้วมันเกี่ยวกับเรื่องโตเป็ นผูใ้ หญ่หรือเจ้าคะ? ท่านก็
เป็ นผูใ้ หญ่แล้ว แต่ก็ยงั ตะกละกินขนมแห้วของร้านทิวนอกเขาอยู่มิใช่หรือ”
อวีเ้ หวินกระแอมเสียงสองทีอย่างเคอะเขิน แล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ช่วงนีอ้ าการของ
มารดาเจ้าเป็ นอย่างไรบ้าง? นางชอบปิ ดบังข้า ข้าไม่เคยรูค้ วามจริงเสียที!”
อวีถ้ งั รอประโยคนีข้ องบิดาอยู่พอดี นางรีบกล่าว “ท่านไม่บอกความลับของท่าน ข้าก็
ไม่อยากบอกความลับของข้าให้ท่านฟั งเช่นกัน”
“ไอหยา! เจ้าตัวกลมของเรารูจ้ กั ต่อรองเสียแล้วสิ” อวีเ้ หวินกระเซ้าบุตรสาว เขาช้อนตา
ขึน้ มองสีหน้าจริงจังของนาง ในใจพลันเกิดความรูส้ กึ ไม่คนุ้ เคยขึน้ มาระลอกหนึ่ง คล้ายว่าเวลา
เพียงชั่วพริบตา บุตรสาวของเขาก็เติบโตเป็ นผูใ้ หญ่แล้ว ไม่เพียงรูค้ วาม แต่ยงั รูจ้ กั ห่วงใย ใส่ใจ
และเข้าอกเข้าใจผูเ้ ป็ นบิดามารดา
สิ่งนีท้ าํ ให้เขาทัง้ ทอดถอนใจและภาคภูมิใจเป็ นอย่างยิ่ง
ผูอ้ ่ืนล้วนบอกว่าเขาตามใจบุตรสาวเกินพอดี ทว่าบุตรสาวของเขาหาได้ถกู ตามใจจน
เสียนิสยั สักนิดไม่
28

ทัง้ ยิ่งกตัญ�ูรูค้ ณ
ุ ขึน้ ทุกวัน
อวีเ้ หวินจึงเคารพความต้องการของบุตรสาว
ตัดสินใจมอบหยกแท่งที่บตุ รสาวปรารถนาก้อนนัน้ ให้นางไปเล่นเสีย
ทางหนึ่งเขาก็รอื ้ กล่องหาหยกแท่ง ทางหนึ่งก็เอ่ยว่า “ข้าไม่ได้พบหมอหลวงหยางหรอก
ลูกศิษย์ของเขาบอกว่า หมอหลวงหยางนัน้ ได้รบั บาดเจ็บตรงเส้นเอ็นที่มือสองข้างจึงไม่อาจ
รักษาใครได้อีก ถึงได้ลาออกมาจากสํานักหมอหลวง แล้วข้าจะดึงดันพบเขาให้ได้ได้อย่างไร”
อวีถ้ งั ชะงักไปเล็กน้อย
ชาติก่อน หลังจากหมอหลวงหยางเดินทางกลับบ้านเก่าก็ไม่ได้รกั ษาโรคอีก นางนึกว่า
หมอหลวงหยางชราภาพร่างกายทรุดโทรม คิดไม่ถึงว่าจะเป็ นเพราะสาเหตุนี ้
นางเอ่ยต่อว่า “ท่านพ่อ อาการป่ วยของท่านแม่ ใช่ว่าต้องขอความช่วยเหลือจากท่าน
หมอหลวงหยางเท่านัน้ หรือ?”
ถ้าท่านพ่อคิดจะพาท่านแม่เดินทางไปเขาผู่ถวั ไม่ว่าอย่างไรนางจะต้องขัดขวางให้จง
ได้
อวีเ้ หวินหาหยกแท่งก้อนนัน้ เจอในที่สดุ ก่อนจะตัดสินใจค้นหากล่องที่เหมาะสมสักใบ
มาใส่หยกแท่งให้นาง
เขาเริ่มรือ้ ตูแ้ ละควํ่ากล่องอีกครัง้ “ลุงหลู่ของเจ้าเป็ นคนแนะนําหมอหลวงหยางให้ขา้
บอกว่าหมอหลวงหยางแต่ก่อนอยู่ในวังหลวงก็เชี่ยวชาญเรื่องโรคของสตรี ตอนที่พระพันปี ตงั้
พระครรภ์ฮ่องเต้ก็มีหมอหลวงหยางคอยให้การดูแล โรคเก่าของมารดาเจ้าเหลือทิง้ ไว้หลังจากที่
คลอดเจ้าออกมา แน่นอนว่าไปหาหมอหลวงหยางย่อมจะดีท่ีสดุ ”
ลุงหลูม่ ีช่ือว่าหลู่ซิ่น อายุรุน่ ราวคราวเดียวกับบิดาของนาง สองคนคบหาสนิทสนมกัน
เขาก็คือคนที่ขายภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ ให้กบั บิดาของนาง เขายังเคยกล่อมให้บิดานาง
แต่ง ตํา รากลอนขาย หลอกล่อให้บิดาควัก เงิน ก้อนใหญ่ ผลสุดท้า ยได้ตาํ รากลอนที่ ก ลอน
29

มากกว่าครึง่ เล่มเป็ นของเขา ไม่มีผใู้ ดจดจําบิดาของนางผูซ้ ่งึ เป็ นคนออกทุนได้ ทว่ากลอนของ


หลูซ่ ิ่นกลับค่อยๆ ถูกเผยแพร่ออกไปด้วยเหตุฉะนีเ้ อง
อวีถ้ งั ถึงได้ไม่ชอบคนผูน้ ี ้ จึงบอกว่า “ไม่ว่าเรื่องใดท่านก็อย่าเชื่อเขาไปเสียหมด ในเมื่อ
เขารู ว้ ่า หมอหลวงหยางขอลาออกกลับบ้านเก่า แล้ว ทํา ไมไม่สืบต่ออีกสักหน่อยเล่าว่าเขา
ลาออกด้วยเหตุผลใด? ผลกลับทําให้ท่านพ่อต้องวิ่งวุ่นเหนื่อยเปล่า ซํา้ ทําให้ท่านแม่ตอ้ งคอย
ห่วงกังวลอีก”
ในที่สดุ อวีเ้ หวินก็หากล่องแกะสลักสีแดงใบเล็กที่เหมาะสมเจอ เขานั่งลงบนเก้าอีเ้ กือก
ม้า ที่ อยู่ห ลัง โต๊ะหนัง สือ “เจ้า อย่ า ได้พูดจาเช่ น นี ้ ลุง หลู่ของเจ้า ทํา ไปเพราะหวัง ดี ไม่เพี ย ง
เดินทางไปเมืองซูโจวเป็ นเพื่อนข้าด้วยตนเอง ทัง้ ยังช่วยข้าสืบเรื่องหมอหลวงอีกคนนามว่าหวัง
ไป๋ ที่เก็บตัวอยู่บนเขาผู่ถวั อีกด้วย ทว่าหวังไป๋ เชี่ยวชาญด้านเด็กเล็ก ไม่รูจ้ ะรักษามารดาเจ้าให้
หายได้หรือไม่?”
ที่แท้เรื่องเขาผู่ถวั ก็เกี่ยวพันกับหลูซ่ ิ่นด้วย
อวีถ้ ังขุ่นเคืองหนัก กล่าวด้วยความโมโห “ท่านพ่อ ลุงหลู่เดินทางไปเมืองซูโจวเป็ น
เพื่อนท่าน เป็ นท่านที่ออกเงินให้หรือว่าเป็ นเขาที่ออกเงินเองเจ้าคะ?”
อวีเ้ หวินหัวเราะแล้วตอบว่า “เจ้าเด็กคนนี ้ ทําไมคิดเล็กคิดน้อยนักเล่า?”
นางรูอ้ ยู่แล้วว่าหลูซ่ ิ่นหลอกใช้บิดานาง
อวีถ้ งั เอ่ยอย่างกรุน่ โกรธว่า “ข้ากลับรูส้ กึ ว่า ในเมื่อลุงหลูร่ ูจ้ กั เหล่าหมอหลวงดีถึงเพียง
นี ้ เหตุใดถึงไม่แนะนําให้ท่านพาท่านแม่ไปหาหมอที่เมืองหลวงเสีย อย่างไรในเมืองหลวงก็มี
หมอหลวงเดินอยู่ให้ท่วั คนนีใ้ ช้ไม่ได้ก็ยงั มีคนโน้น อย่างไรก็ตอ้ งมีคนที่รกั ษาอาการของท่านแม่
ได้แน่เจ้าค่ะ”
30

อวีเ้ หวินหลุดหัวเราะ “เจ้าคิดว่าหมอหลวงเป็ นตัวอะไร? ถึงจะได้เดินอยู่ท่วั ! ลุงหลูข่ อง


เจ้าเป็ นห่วงข้า ถึงได้คอยติดตามข่าวของหมอหลวงให้เป็ นพิเศษ เจ้าจะพูดจาถึงลุงหลู่เช่นนี ้
ไม่ได้ ไม่ถกู มารยาทเลย”
อวีถ้ งั อย่างไรก็จะเกลีย้ กล่อมให้บดิ าพามารดาไปรักษาที่เมืองหลวงให้ได้
ขอเพียงหลีกเลี่ยงสถานที่อนั ตรายนัน้ นางก็จะรักษาครอบครัวไว้ได้ ครอบครัวของนาง
ก็จะอยู่กนั พร้อมหน้าและสงบสุข
อวีเ้ หวินฟั งอวีถ้ งั พูดจนเริม่ เอนเอียง แต่การเดินทางไปเมืองหลวงเป็ นเรื่องใหญ่ หากว่า
ตัดสินใจแล้ว ย่อมจะมีหลายสิ่งต้องตระเตรียม
เขาลองหยิบหยกแท่งใส่ลงในกล่อง เอ่ยอย่างใจลอยว่า “นี่เป็ นหยกแท่งที่เจ้าอยากได้
หนักหนา เก็บรักษาให้ดี อย่าได้ทาํ หายล่ะ ของสิ่งนีข้ า้ แย่งมาจากมือลุงหลูข่ องเจ้าเชียวนะ!”
อวีถ้ งั ในตอนนีก้ ระทั่งชื่อก็ไม่อยากจะได้ยินเพิ่มสักคําแล้ว “เช่นนัน้ ข้าไม่แย่งของรักของ
ผูอ้ ่ืนหรอกเจ้าค่ะ ท่านยกแท่นฝนหมึกรูปใบบัวอันนัน้ ให้ขา้ ก็แล้วกัน!”
“ให้เจ้าแล้วก็รบั ไปสิ!” อวีเ้ หวินยื่นของให้แล้วไม่เก็บกลับมาอีก ก่อนจะแกล้งแหย่อวีถ้ งั
ว่า “ข้าจะเก็บแท่นฝนหมึกรูปใบบัวเอาไว้ก่อน เอาไว้ใช้ต่อรองกับเจ้าครัง้ หน้าเวลาที่เจ้าดือ้ รัน้ !
หากว่าให้เจ้าไปตอนนี ้ ข้ามิใช่ขาดทุนย่อยยับรึ!”
อวีถ้ งั คิดได้ว่าหยกแท่งชิน้ นีแ้ ท้จริงก็เป็ นของดีมีค่า นางไม่ควรเอาความโกรธที่มีตอ่ หลู่
ซิ่นมาพาลลงกับสิ่งของ
หากว่านางรูส้ กึ เดียดฉันท์ไม่ชอบใจ ถึงเวลานัน้ ค่อยมอบเป็ นของขวัญให้ผอู้ ่นื ก็ยงั ได้
อวีถ้ งั รับกล่องมาถือ เอ่ยขอบคุณบิดา หลังจากสองคนหารือกันหลายประโยคว่าหยก
แท่งก้อนนีค้ วรจะแกะเป็ นตราประทับอย่างไรดี นางก็เอ่ยเตือนบิดาว่า “ท่านพ่อ หากต้องไปหา
หมอที่เมืองหลวง ย่อมจะใช้เงินทองมากมาย ภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ ผืนนัน้ ท่านก็รบั มา
ชื่นชมหลายวันแล้วมิใช่หรือ”
31

อวีเ้ หวินแสร้งหัวเราะเหอะๆ
ถ้าอวีถ้ งั ไม่พดู ขึน้ มา เขาก็คงลืมเรื่องนีไ้ ปแล้ว
อวีเ้ หวินไม่เคยวางแผนเรื่องเงินทอง ทัง้ ไม่เคยเรียกร้องต้องการ เขาจึงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ
ว่า “ข้ากับลุงหลูข่ องเจ้าเป็ นเพื่อนรูใ้ จ จ่ายเงินล่าช้าไปหลายวันหน่อยเขาก็ไม่วา่ อันใดหรอก อีก
อย่างต่อให้ครอบครัวเราขัดสนเงินทอง แต่ไม่ขาดเงินค่ายาของมารดาเจ้าแน่ เจ้าไม่ตอ้ งกังวล”
อวีถ้ งั รูอ้ ยู่แล้วว่าบิดาต้องตอบเช่นนี ้
นางเอ่ยต่อว่า “ท่านพ่อแต่ไรมาก็ไม่เคยดูบญ
ั ชีของครอบครัวกระมัง? ท่านลองไปถาม
ป้าเฉินดูก็ได้เจ้าค่ะ”
เฉินซื่อด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ แต่ไรมาก็ไม่เคยดูแลงานจุกจิกยิบย่อยในเรือน ป้าเฉิน
เองก็ไม่ทาํ ให้เฉินซื่อผิดหวัง ธุระในเรือนที่อยู่ในมือนางล้วนได้รบั การจัดการอย่างเป็ นระเบียบ
เรียบร้อย ไม่เคยผิดพลาดเลยสักครัง้
อวี เ้ หวิ น ถามด้ว ยสงสัย ว่ า “ไม่ ถึ ง ขึ น้ ที่ ว่ า …กระทั่ง ยาของมารดาเจ้า ก็ ซื อ้ ไม่ ไ หว
กระมัง?”
อวีถ้ งั แค้นใจนักที่ไม่อาจเปลี่ยนเหล็กให้เป็ นเหล็กกล้า และกล่าวอย่างเจ็บแค้น “กินใช้
อย่างเดียวไม่หาเข้าอย่างไรก็ตอ้ งหมด ร้านค้าของสกุลถูกไฟไหม้ไปแล้ว คงอีกนานที่จะไม่มี
รายรับเข้ามา ยาของท่านแม่ไม่อาจขาดได้แม้แต่วนั เดียว ท่านลุงก็คิดจะสร้างร้านค้าขึน้ มาใหม่
ท่านว่าเงินทองเหล่านีจ้ ะเอามาจากไหนกัน?”
อวีเ้ หวินรู ว้ ่าอวีถ้ งั ไม่มีทางพูดจาเกินจริงเพียงเพราะไม่ตอ้ งการให้เขาซือ้ ภาพวาดนัน้
แน่
เมื่องานอดิเรกส่วนตัวกับอาการป่ วยของภรรยาสุดที่รกั ต้องขัดแย้งกัน อวีเ้ หวินก็ยอม
ถอยให้กบั อาการป่ วยของภรรยาโดยไร้ความลังเล
“ข้ารูแ้ ล้ว” เขารับปากด้วยท่าทีละอายเล็กน้อย
32

อวีถ้ งั เชื่อว่าบิดาจะไม่ซอื ้ ภาพวาดผืนนัน้ แล้ว


นางถอนหายใจโล่งอก แล้วยกเรื่องร้านค้ามาพูดอีกครัง้ “ป้าสะใภ้ใหญ่เกิดในตระกูล
พ่อค้า ตอนที่ท่านปู่ ยังอยู่ ก็เห็นว่าป้าสะใภ้เก่งกาจ ถึงไปสู่ขอป้าสะใภ้มาให้ท่านลุง อีกอย่าง
ตอนที่ท่านปู่ สนิ ้ ใจก็ส่งั เสียเอาไว้ ต่อไปเรื่องในร้านค้าห้ามกีดกันป้าสะใภ้เด็ดขาด ความหมายก็
คือ ให้ท่านกับท่านลุงฟั งความเห็นของป้าสะใภ้ให้มากหน่อย ปั ญหาที่เกี่ยวกับร้านค้า ท่านควร
ปรึกษาป้าสะใภ้สกั หน่อยหรือไม่เจ้าคะ? ข้าเห็นว่าหลายวันนีท้ ่านลุงกับพี่ชายวิ่งวุ่นจนซูบผอม
แล้ว ปกติมีแต่ท่านลุงที่คอยช่วยเหลือเกือ้ กูลครอบครัวเรา เวลาลําบากเช่นนี ้ ท่านควรจะไป
ช่วยเหลือลุงใหญ่นะเจ้าคะ”
ก่อนที่ท่านปู่ ของนางจะจากไป ได้ฝากฝังเอาไว้เช่นนีจ้ ริงๆ
อวีเ้ หวินพยักหน้ารับ
อวีถ้ งั จึงฉีกยิม้ จนตาหยี
เกี่ยวกับปั ญหาในครอบครัว นับว่าแก้ไขไปได้เปลาะเล็กๆ เปลาะหนึ่งแล้ว
อวีเ้ หวินลูบศีรษะอวีถ้ งั เล่นพลางเอ่ยว่า “เช่นนัน้ เจ้าก็ช่วยรับหน้ามารดาเจ้าหน่อย ข้า
ได้โอกาสเหมาะก็จะไปหาท่านลุงใหญ่ของเจ้า”
อวีถ้ งั ตอบรับอย่างดีใจ มือก็ถือกล่องแกะสลักสีแดงเดินออกมาจากห้องหนังสือพร้อม
กับบิดา
เฉินซื่อให้อวีถ้ งั ไปตามครอบครัวของลุงใหญ่มาทานข้าวที่เรือน “ช่วงที่ท่านพ่อเจ้าไม่
อยู่บา้ นต้องลําบากลุงใหญ่เจ้าไม่นอ้ ย เจ้าไปเชิญลุงใหญ่มาดื่มสุรากับท่านพ่อเจ้าเถอะ จะได้
คลายล้าได้บา้ ง”
พี่นอ้ งสกุลอวีแ้ ม้จะแยกเรือนกันอยู่ แต่เรือนสองหลังก็อยู่ติดๆ กัน ไปมาหาสู่กนั อย่าง
สนิทสนมยิ่ง
อวีถ้ งั พาซวงเถาออกทางประตูหลังแล้วเดินไปที่เรือนของลุงใหญ่
33

หวังซื่อกําลังตรวจนับสินเจ้าสาวเดิมของตนอยู่
อวีถ้ งั วิ่งพรวดเข้าไปในห้องของหวังซื่อ อวดอ้างความชอบของตนที่ขา้ งหูป้าสะใภ้ว่า
“ข้าพูดกับท่านพ่อแล้วเจ้าค่ะ ท่านพ่อบอกว่า เรื่องของร้านค้าจะมาหารือกับท่าน”
นางหวังให้ปา้ สะใภ้เป็ นฝ่ ายรุกสักหน่อย ไม่เช่นนัน้ บิดาจับคนไหนได้ก็คงไปปรึกษาคน
ผูน้ นั้ อย่างไม่คิดมากอีก
ป้าสะใภ้ปลาบปลืม้ นัก จะยื่นมือไปหยิกแก้มอวีถ้ งั เล่น “เด็กดี ยิ่งฉลาดขึน้ ทุกวัน มีแวว
จะดูแลผูอ้ ่นื ได้แล้วสิ”
อวีถ้ ังหมุนศีรษะ เบี่ยงตัวหลบ ‘กรงเล็บ’ ของป้าสะใภ้ใหญ่ แล้วลากซวงเถาวิ่งหนีไป
“ท่านรีบตามมานะเจ้าคะ ท่านแม่กบั ท่านพ่อข้ารออยู่ท่ีเรือนแล้วเจ้าค่ะ!”
34

ตอนที่ 5 หลู่ซน่ิ
คนสกุลอวีล้ ว้ นมีรูปโฉมน่ามอง
สันจมูกโด่ง ตาโต ผมสีดาํ ขลับ ผิวพรรณขาวผ่อง หากพูดถึงจุดด้อย ก็คือรู ปร่างไม่สงู
ใหญ่นกั
ตรงตามมาตรฐานของคนทางใต้ท่วั ไป
ด้วยเหตุนี ้ แม้อวีป้ ๋ อจะเลยวัยสามสิบมานานแล้ว และเพราะเป็ นคนทํามาค้าขายอยู่
ตลอด ใบหน้ามักมีรอยยิม้ ประดับอยู่สามส่วน มองดูแล้วให้กลิ่นอายของบัณฑิตมากกว่าพ่อค้า
เสียอีก
ลูกพี่ลกู น้องของอวีถ้ ังที่ช่ือว่าอวีห้ ย่วนยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึง นอกจากดวงหน้าจะที่งดงาม
เรียบร้อยแล้ว กิรยิ าวาจาล้วนมีความเหนียมอายแฝงอยู่หลายส่วน เห็นแล้วนึกถึงคุณชายน้อย
ผูส้ ภุ าพเรียบร้อยข้างๆ บ้าน มองแล้วให้ความรูส้ กึ น่าเข้าใกล้
แต่อวีถ้ งั รูด้ ีวา่ ลูกพี่ลกู น้องของนางคนนีม้ ีความคิดเป็ นของตนเอง ชาติก่อน หากมิใช่มี
เขาคอยคํา้ จุน ต่อให้มีเงินห้าพันตําลึงมาอยู่ในมือ ท่านลุงใหญ่ของนางก็อาจจะซือ้ สมบัติตก
ทอดที่ถกู ขายออกไปกลับมาทีละชิน้ ๆ ไม่ได้
อวีถ้ งั รูส้ กึ ซาบซึง้ ในบุญคุณของลูกพี่ลกู น้องผูน้ ีน้ กั
ตอนที่บิดากับท่านลุงใหญ่กาํ ลังสนทนากัน นางก็ใช้นา้ํ ชาแทนสุรา ยกขึน้ คารวะอวีห้ ย่
วนอย่างเงียบๆ
อวีห้ ย่วนมึนงงในทันที
น้องสาวของเขาคนนีถ้ กู ท่านอาและน้าสะใภ้ตามใจจนเคยตัว แม้จะถึงวัยปั กปิ่ นแล้ว
แต่ยงั นิสยั เหมือนเด็กๆ อยู่ นอกจากหาของกินดื่มอร่อยๆ แล้ว เรื่องในสกุลไม่เคยสนใจ เรื่องคบ
ค้าสมาคมด้านนอกก็ไม่เคยข้องเกี่ยว
35

อวีห้ ย่วนลดเสียงถามอวีถ้ งั ว่า “เจ้ามีเรื่องอะไรจะให้ขา้ ไปทําใช่หรือไม่?”


หรือไม่นางก็คงไปก่อเรื่องอะไรมา จําเป็ นต้องให้เขาพูดชมนางสักหลายคําต่อหน้าท่าน
อาและน้าสะใภ้
อวีถ้ งั ถูกทําให้โง่งมไปครูห่ นึ่ง
ที่แท้เมื่อชาติก่อน ในสายตาของญาติผพู้ ่ีนางเป็ นคนเช่นนีเ้ องหรือ?
นางอดจะพิจารณาตัวเองใหม่อีกครัง้ ไม่ได้
อวีห้ ย่วนเห็นท่าทางเช่นนัน้ ของนางก็เข้าใจผิดคิดว่าตนเองเดาถูก จึงอดจะปลอบใจ
นางเสียงเบาไม่ได้ “เจ้าอย่าเพิ่งร้อนใจ มีเรื่องอะไรค่อยๆ เล่าให้ขา้ ฟั งก็ได้ ถ้าเร่งด่วนนัก ข้าจะ
ช่วยเจ้าเดี๋ยวนี ้ แต่ถา้ ไม่ด่วน เจ้าก็รอข้าสักสองวันเถอะ…สองวันนีข้ า้ ต้องช่วยท่านพ่อสะสาง
เรื่องร้านค้า ถ้าจัดการเรียบร้อยแล้วสองวันต่อจากนีจ้ ะไปช่วยเจ้านะ”
อวีถ้ งั หัวเราะไม่ได้รอ้ งไห้ไม่ออก
พอไตร่ตรองดูอย่างละเอียด ชาติก่อนนางก็มีเรื่องไม่นอ้ ยที่ตอ้ งรบกวนญาติผพู้ ่ีคนนีอ้ ยู่
จริงๆ
นางหันไปส่งยิม้ หวานให้อวีห้ ย่วน แล้วยกถ้วยชาคารวะเขาจากที่ไกลๆ “ข้าเห็นว่าท่าน
พี่เหนื่อยมาหลายวันแล้ว ถึงได้คารวะสุราเจ้า”
“จริงรึ?!” อวีห้ ย่วนยังแคลงใจอยู่
อวีถ้ งั ทําปากยื่น คล้ายอยากจะพูดบางอย่าง ทว่าท่านลุงใหญ่ท่ีน่ งั อยู่หวั โต๊ะพลันพูด
เสียงดังขึน้ มาก่อนว่า “เรื่องนีข้ า้ ไม่เห็นด้วย! หากท่านพ่อท่านแม่ท่ีอยู่ในปรโลกรับรู ้ ก็ไม่มีวนั
เห็นด้วยเด็ดขาด”
ภายในห้องพลันเงียบกริบเพราะประโยคนัน้ ของเขา
อวีห้ ย่วนกับอวีถ้ งั ก็กระเด้งตัวนั่งหลังตรงทันที
36

เฉินซื่อดึงชายแขนเสือ้ ของอวีเ้ หวิน เอ่ยเสียงเบาว่า “ท่านพี่ ข้าเองก็ไม่เห็นด้วย”


อวีเ้ หวินมองหน้าภรรยาแล้วถอนหายใจเบาๆ เฮือกหนึ่ง พอจะเปิ ดปากพูด กลับถูกป้า
สะใภ้ใหญ่ตดั บทว่า “น้องสามี พวกเราต่างรูว้ า่ เจ้าร้อนใจ แต่วา่ การรีบร้อนก็ไม่อาจแก้ไขปั ญหา
ได้ เจ้าก็พูดเองนี่ว่าหมอหลวงหวังเชี่ยวชาญตรวจรักษาเด็กเล็ก อาจจะสั่งยาได้ไม่ตรงโรค
รักษาน้องสะใภ้ไม่หายสักทีเดียว เมืองหลวงทางนัน้ พวกเราก็ไม่รูจ้ ักลู่ทาง ประตูสาํ นักหมอ
หลวงเปิ ดไปทางใดก็ไม่อาจรู ้ เจ้าก็จะบุ่มบ่ามพาน้องสาวไปแล้วหรือ ยังไม่ตอ้ งพูดถึงว่าจะหา
หมอที่เหมาะสมเจอหรือไม่ แค่รา่ งกายของน้องสะใภ้เอง เกรงว่าจะรับความทรมานขนาดนัน้ ไม่
ไหวหรอก!”
ตอนที่ท่านปู่ ของอวีถ้ งั ยังมีชีวิตอยู่ก็ยกย่องสะใภ้ใหญ่ของตนผูน้ ีม้ าก คําพูดคําจาของ
หวังซื่อจึงค่อนข้างมีนา้ํ หนักอยู่พอตัว
อวีเ้ หวินหันไปมองหวังซื่ออย่างทําอะไรไม่ถกู “เช่นนัน้ เช่นนัน้ จะทําอย่างไร? ข้าไม่อาจ
ทนมองให้มารดาของลูกผ่ายผอมลงไปทุกวันๆ เช่นนีไ้ ด้หรอก!” พูดไป ดวงตาของเขาก็แดงเรื่อ
เฉิ นซื่อรีบร้อนอธิ บายว่า “ท่านพี่ ข้าเป็ นเช่นนีเ้ พราะอากาศร้อน ไม่ใช่เพราะอาการ
เจ็บป่ วยทรุ ดหนัก ข้ารู ว้ ่าท่านเป็ นห่วงข้า แต่ท่ีท่านลุงกับพี่สะใภ้พดู ก็มีเหตุผล ต่อให้จะไปหา
หมอที่เมืองหลวง ก็ตอ้ งหาคนไปช่วยสืบข่าวเสียก่อน รอให้รา่ งกายของข้าดีขนึ ้ หน่อยค่อยว่ากัน
ใหม่เถอะเจ้าค่ะ”
อวีเ้ หวินชั่วขณะหนึ่งพลันรูส้ กึ สลดใจนัก
หวังซื่อหันไปส่งสายตาให้สามี จนใจที่อวีป้ ๋ อยังรูส้ กึ โมโหน้องชายอยู่จงึ กล่าวว่า “เจ้าโต
จนเป็ นพ่อคนแล้ว ยังจะให้ขา้ พูดอะไรอีก…”
นี่เป็ นประโยคเปิ ดทุกครัง้ ที่เขาจะใช้เวลาอบรมสั่งสอนอวีเ้ หวิน คนในสกุลล้วนรู ก้ ันดี
อวีห้ ย่วนกลัวว่าบิดากับท่านอาจะทะเลาะกัน จึงเปิ ดปากตัดบทอวีป้ ๋ อโดยไม่สนใจสิ่งใดว่า
“ท่านพ่อ มีเรื่องหนึ่งที่ท่านต้องหารือกับท่านอาขอรับ”
37

อวีป้ ๋ อชะงักบทสนทนาไว้เท่านั้น ส่วนสายตาของอวีเ้ หวินก็ จับจ้องอยู่ท่ี ร่างของอวี ้


หย่วน
อวีห้ ย่วนเล่าว่า “ข้าได้ยินมาว่า ศพของนายท่านใหญ่สกุลเผยจะมีพิธีแห่ในวันพรุ ่งนี ้
พวกเราต้องไปดักเคารพศพกลางทางหรือไม่ขอรับ ไม่ว่าอย่างไร แต่ก่อนตอนที่คา้ ขายอยู่บน
ถนนฉางซิ่ง สกุลเผยก็ให้การดูแลสกุลเราอยู่ไม่นอ้ ย”
กิจการบนถนนฉางซิ่งแปดถึงเก้าในสิบส่วนล้วนเป็ นของสกุลเผย พวกมือปราบของ
ศาลาว่าการไม่เพียงไม่กล้ามาอวดเบ่งบนถนนฉางซิ่ง ซํา้ ยังต้องคอยเดินลาดตระเวนบ่อยๆ
พวกเขาที่มีกิจการค้าขายบนถนนฉางซิ่งก็ได้อาศัยบารมีนีไ้ ปด้วย ไม่เพียงอยู่กนั อย่างสงบ ทัง้
ยังไม่เคยมีเหตุการณ์ข่มขู่หรือขูดรีดใดๆ
“สมควรต้องไปดักคารวะศพกลางทาง” อวีป้ ๋ อพยักหน้าหลายครัง้ เอ่ยกับอวีเ้ หวินว่า
“เจ้าเขียนบทสรรเสริญมาสักบทสิ เจ้าเป็ นซิ่วไฉ เรื่องแค่นีส้ าํ หรับเจ้าคงลงมือเขียนเสร็จได้ทนั ที
กระมัง?
อวีเ้ หวินรับคํา ตอบว่า “ข้าจะเขียนให้เสร็จคืนนี ้ พรุง่ นีจ้ ะให้คนนําไปส่งที่จวนสกุลเผย”
อวีป้ ๋ อหยุดคิดเล็กน้อย “ให้อาหย่วนนําไปส่งเถอะ ถนนฉางซิ่งถูกไฟไหม้ สกุลเผยไม่มี
ทางนั่งมองทิง้ พืน้ ที่ให้ว่างเปล่าต่อไปเช่นนีแ้ น่ ให้อาหย่วนไปมาหาสู่กบั สกุลเผยสักหลายครัง้
พวกพ่อบ้านกับผูด้ แู ลของสกุลเผยจะได้คนุ้ หน้าคุน้ ตาเขาบ้าง ต่อไปหากมีเรื่องอะไรก็จะได้มี
ลูท่ างให้พดู คุยได้”
อวีเ้ หวินพยักหน้ารับ ซวงเถาพลันวิ่งเข้ามารายงานว่า “ท่านหลูม่ าถึงแล้วเจ้าค่ะ!”
ชื่อท่านหลูท่ ่ีถกู เรียกในสกุลอวี ้ ทัง้ มาถึงในเวลารับประทานอาหารเช่นนี ้ มีเพียงหลูซ่ ิ่น
คนเดียวเท่านัน้
อวีถ้ งั ขมวดคิว้ มุ่น
อวีเ้ หวินออกไปรับคนเข้ามาด้วยตนเอง
38

“พี่ใหญ่! พี่สะใภ้! น้องสะใภ้!” หลู่ซิ่นอาศัยความสัมพันธ์อนั สนิทชิดเชือ้ ราวครอบครัว


เดียวกันถามไถ่สารทุกข์สกุ ดิบของทุกคนที่น่งั อยู่ เขาเอ่ยต่อด้วยรอยยิม้ ว่า “อาหย่วนกับอาถังก็
อยู่ดว้ ยรึ! ดูท่าวันนีจ้ ะพร้อมหน้าพร้อมตาเป็ นครอบครัวสุขสันต์สินะ!”
ทุกคนต่างลุกขึน้ เพื่อต้อนรับหลูซ่ ิ่นอย่างมีมารยาท
เฉินซื่อสั่งให้ซวงเถาไปจัดเตรียมถ้วยชามมาให้หลูซ่ ิ่นเพิ่มอีกชุดหนึ่งอย่างกระตือรือร้น
“ก่อนหน้านีไ้ ม่รูว้ ่าท่านจะมา จึงไม่ได้เตรียมอาหารสุราดีๆ ไว้ให้ ท่านก็ทานพอกล้อมแกล้มไป
ก่อน เดี๋ยวข้าให้คนไปผัดกับข้าวเพิ่มสักหลายจาน ท่านดื่มสุรากับลุงใหญ่ และอวีห้ ย่วนไป
พลางๆ ก่อนนะเจ้าคะ”
หลู่ซิ่นเช็ดปากที่มนั แผลบไปด้วยนํา้ มัน หัวเราะพลางเอ่ยว่า “น้องสะใภ้เกรงใจไปแล้ว
ข้าทานข้าวเสร็จแล้วถึงได้มาที่น่ี”
อวีถ้ งั เลิกคิว้ มอง
หลู่ซิ่นเป็ นซิ่วไฉเช่นเดียวกันกับบิดาของนาง แต่เพราะบิดาของนางไม่ตอ้ งการจึงได้
เลิกเรียน ทว่าหลู่ซิ่นด้วยฐานะทางบ้านยากจน ไม่มีเงินจะส่งเรียนต่อได้ เช่นนีบ้ ิดาของนางจึง
เชื่อว่าหลูซ่ ิ่นเป็ นแค่ปลาที่ถกู ซัดมาเกยตืน้ จําต้องตกยากเพียงชั่วครูช่ ่ วั คราว อย่างไรก็ตอ้ งมีช่ือ
ติดบนป้ายประกาศทองจนได้ เขาไม่เพียงชวนหลู่ซิ่นมาเกาะข้าวบ้านผูอ้ ่ืนกินบ่อยๆ ซํา้ ยัง
ช่วยเหลือหลูซ่ ิ่นด้านเงินทองอยู่หลายครัง้
ชาติก่อน อวีถ้ งั ไม่รูส้ กึ ว่าเป็ นเรื่องใหญ่โตอะไร
ต่อให้หลู่ซิ่นกับบิดาจะเป็ นเพื่อนสนิทกินดื่มกัน แต่น่ นั ก็นับเป็ นสหาย ทําให้บิดาเบิก
บานใจได้เช่นกัน
แต่นบั จากที่รูว้ ่าข่าวเรื่องหวังไป๋ ออกมาจากปากหลูซ่ ิ่น นางก็ไม่ค่อยจะปลาบปลืม้ เขา
เสียเท่าไร
39

นางสังเกตเห็นว่าชุดคลุมตัวยาวตัดจากผ้าไหมหังโจวสีเขียวนกแก้วของเขามีคราบ
นํา้ มันเลอะอยู่หลายจุด จึงแสร้งถามอย่างไร้เดียงสาทว่าคมกริบไปว่า “ท่านลุงหลูไ่ ปกินข้าวที่
ไหนมาหรือเจ้าคะ? วันนีบ้ า้ นเราทําขาหมูพะโล้ดว้ ย ป้าเฉินบอกว่า ท่านชอบกินจานนีท้ ่ีสดุ ครัง้
ก่อนที่ท่านมาบ้าน ก็กินขาหมูพะโล้ทงั้ จานจนหมดเกลีย้ งเลย”
ดวงหน้าของหลูซ่ ิ่นขึน้ สีแดง รีบร้อนกล่าวว่า “ข้าไปทานที่จวนสกุลเผยมาน่ะ นายท่าน
ใหญ่ เ ผยมิ ใ ช่ ป่ วยตายหรอกรึ? นายท่ า นรองกับ นายท่ า นสามล้ว นกลับ มาหมด ในจวนมี
แขกเหรื่อมากมาย คนมีหน้ามีตามีช่ือเสียงทัง้ นัน้ สกุลเผยกลัวว่าพ่อบ้านจะดูแลไม่ท่ วั ถึง จึง
เชิญให้ขา้ กับสหายสองสามคนไปช่วยต้อนรับเป็ นพิเศษ”
อวีถ้ งั ลอบเบะปากใส่
ต้อนรับแขกอะไรกัน ไปหลอกกินหลอกดื่มของจวนสกุลเผยสิไม่วา่ !
อวีเ้ หวินกลับไม่เคลือบแคลงเลยสักนิด สั่งให้ซวงเถาไปชงชาให้หลู่ซิ่น แล้วเชิญเขาให้
นั่งร่วมวง “เช่นนัน้ ก็เชิญทานอีกสักหน่อยเถอะ”
หลู่ซิ่ น แต่ ไ หนแต่ ไ รก็ เ ห็ น สกุล อวี เ้ ป็ น เหมื อ นครอบครัว ตนเอง หาได้บ อกปั ด ตาม
มารยาท แล้วเข้าร่วมโต๊ะทันที
อวีเ้ หวินพูดขึน้ ว่า “นายท่านสามกลับมาไม่นบั ว่าแปลกอันใด นายท่านสองก็กลับมา
ด้วยหรือ?”
นายท่านทัง้ สามคนของสกุลเผย นายท่านใหญ่กับนายท่านรองอายุเท่ากัน ครานัน้
สอบได้ตาํ แหน่งซู่จ๋ีซ่ือ 1 พร้อมกันด้วยมิตอ้ งการตกเป็ นขีป้ ากชาวบ้าน สองพี่นอ้ งจึงมีเพียงคน
7

เดียวเท่านัน้ ที่จะได้อยู่เมืองหลวง นายท่านรองเสนอตัวออกมา ไปรับหน้าที่นายอําเภอฮั่นหยาง

1
ซู่จ๋ีซ่อื เป็ นตําแหน่งระยะสัน้ เลือกจากผูท้ ่สี อบได้เป็ นจิน้ ซื่อ ให้ฝึกปฏิบตั ิงานก่อนมอบตําแหน่งอย่างเป็ นทางการให้
40

แห่งจังหวัดอู่ชัง บัดนีม้ ีตาํ แหน่งเป็ นท่านข้าหลวงแห่งจังหวัดอู่ชังแล้ว ส่วนนายท่านสาม ปี ท่ี


แล้วที่มีการจัดสอบก็สามารถสอบผ่านเป็ นซูจ่ ๋ีซ่อื ได้ ปั จจุบนั เป็ นเจิง้ กวน 2 อยู่ท่ีกรมอาญา8

นายท่านใหญ่เสียชีวิต นายท่านสามที่อยู่เมืองหลวงจะติดตามกลับมาด้วยย่อมเป็ น
เรื่องปกติ นายท่านรองถึงขัน้ เดินทางกลับมาจากจังหวัดอูช่ งั จะทําเรื่องลาสักครัง้ มิใช่เรื่องง่าย
“ก็ใช่น่ะสิ!” หลู่ซิ่นเล่าต่อว่า “ไม่อย่างนัน้ นายท่านรองจะได้ช่ือว่าเป็ นคนซื่อสัตย์ มือ
สะอาด และกตัญ�ูได้อย่างไร! ข้าคิดว่าการมาร่วมงานศพของนายท่านใหญ่เป็ นเพียงส่วน
หนึ่ง สาเหตุหลักน่าจะเพราะได้ข่าวว่าท่านผูเ้ ฒ่าล้มป่ วยถึงได้กลับมาดูแล” พูดถึงตรงนี ้ สีหน้า
ของเขาก็เปลี่ยนเป็ นตื่นเต้นเกินจริงแล้วเรียกชื่ออวีเ้ หวินเสียงตํ่าว่า “ฮุ่ยหลี่ ข้าได้ยินมาว่า นาย
ท่านรองเห็นอาการของท่านผูเ้ ฒ่า ก็ใช้ช่ือของตนส่งคนไปเมืองซูโจวทันที…”
ดวงตาของอวีเ้ หวินสว่างวาบ ถามว่า “เจ้าจะบอกว่า?”
หลู่ซิ่นหัวเราะหึๆ อย่างมีเลศนัย “ข้าไปสืบข่าวมาให้เจ้าชัดเจนแล้ว หยางโต่วซิงจะ
มาถึงหลินอันพรุง่ นีค้ ่าํ เจ้าต้องรักษาโอกาสนีไ้ ว้ให้ดี”
“ประเสริฐยิ่ง!” อวีเ้ หวินแทบอยากจะลุกออกไปทันที ภายหลังสีหน้ากลับเปลี่ยนเป็ น
หม่นหมอง “ครัง้ ก่อนพวกเราไปตามหาหมอหลวงหยาง ลูกศิษย์ของเขามิใช่บอกว่าเส้นเอ็นที่
มือทัง้ สองข้างของเขาบาดเจ็บ จนรักษาอาการป่ วยไม่ได้แล้วหรือ?”
หลูซ่ ิ่นกลับไม่คิดเช่นนัน้ “เช่นนัน้ ก็รอดูวา่ พรุง่ นีเ้ ขาจะมาที่หลินอันจริงหรือไม่!”
ความหมายก็คือ หากว่าคนมาจริง เรื่องที่สองมือเส้นเอ็นบาดเจ็บก็เป็ นเพียงข้ออ้าง
เพื่อบ่ายเบี่ยงเท่านัน้

2
เจิง้ กวน หมายถึง ผูท้ ่สี อบผ่านเป็ นจิน้ ซื่อแล้วจะไม่ได้รบั ราชการในทันที แต่จะถูกส่งไปเรียนรูง้ านราชการทัง้ หกกรมที่
ศาลาว่าการเสียก่อน
41

อวีเ้ หวินกล่าวอย่างทุกข์ใจว่า “ในเมื่อเป็ นข้ออ้างเพื่อบ่ายเบี่ยง ต่อให้เขามาถึงหลินอัน


ก็ไม่แน่วา่ จะรับปากรักษาอาการของนางให้”
“เหตุใดเจ้าถึงซื่อบือ้ เช่นนี!้ ” หลูซ่ ิ่นเริม่ หมดความอดทน “ตอนที่อยู่เมืองซูโจวเป็ นเพราะ
เราอับจนหนทาง แต่ท่ีน่ีคือหลินอัน พวกเราก็ไปขอร้องสกุลเผยสิ คนบ้านเดียวกันแท้ๆ สกุลเผย
จะไม่ช่วยพูดสักสองประโยคเลยหรือ?”
อวีเ้ หวินพยักหน้าหงึกหงัก เริม่ มองเห็นถึงความหวัง
อวีถ้ งั ถือเสียว่าฟั งเรื่องไร้สาระเรื่องหนึ่ง
ชาติก่อน นางไม่รูว้ ่าหยางโต่วซิงมาที่หลินอันหรือไม่ และไม่รูว้ ่าหลูซ่ ิ่นได้บอกข่าวนีก้ บั
บิดาของนางหรือเปล่า ผลลัพธ์ก็คือ ไม่ก่ีวันหลังจากที่นายท่านใหญ่สกุลเผยเสียชีวิต ท่านผู้
เฒ่าก็ลม้ ป่ วยและจากไปเช่นกัน นายท่านรองกับนายท่านสามกลับมาเพื่อไว้ทกุ ข์ จากนัน้ บิดา
ของนางก็พามารดาเดินทางไปรักษาตัวที่เขาผู่ถวั
เห็นชัดเจนว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึน้ หยางโต่วซิงไม่มีประโยชน์อนั ใดต่ออาการป่ วยของ
มารดานางเลย
อวีป้ ๋ อกลัวว่าอวดฉลาดเกินไปจะกลายเป็ นก่อเรื่อง จึงกล่าวด้วยนิสยั “ข้ารูจ้ กั พ่อบ้าน
ใหญ่ของสกุลเผย มิสใู้ ห้อาหย่วนไปลองถามไถ่ดกู ่อน!”
“อย่าเลยดีกว่า!” หลู่ซิ่นคัดค้าน “ถ้าเป็ นสถานการณ์ปกติ พวกเจ้าจะไปถามถึงหน้า
ประตูก็ไม่มีปัญหา แต่วา่ ตอนนี”้ เขาพูดทิง้ ไว้แค่นนั้ หันมองซ้ายทีขวาที ก่อนจะเอ่ยเสียงเบาทํา
ทีมีลบั ลมคมในว่า “ข้าได้ยินมาว่า ท่านผูเ้ ฒ่าต้องการให้นายท่านสามรัง้ ตัวอยู่เพื่อดูแลกิจการ
ของสกุล ครอบครัวของนายท่านใหญ่ไม่เห็นด้วย ทุกคนกําลังทะเลาะกันอยู่!”
“ฮะ!” ทุกคนสูดลมหายใจเย็นเยือกเข้าลึกพร้อมกันโดยไม่นดั หมาย
บรรพบุรุษสกุลเผยกลัวว่าลูกหลานจะไม่ได้ความ ผลาญสมบัติท่ีตกทอดจนสกุลล่มจม
พาลสร้างความลําบากให้เหล่าลูกหลานไม่มีเงินทองรํ่าเรียน มีเมล็ดพันธุผ์ รู้ ูห้ นังสือแต่กลับไม่
42

อาจก่อร่างสร้างตัว จึงได้ออกกฎว่าหากใครเป็ นผูน้ าํ สกุล ผูน้ นั้ จะได้ครอบครองสี่ในห้าส่วนของ


มรดกทัง้ หมด
นั่นหาใช่จาํ นวนที่นอ้ ยๆ เลย
แน่นอนว่า กิจการทัง้ หลายหาใช่มอบให้ผูน้ าํ สกุลนําไปเสวยสุขเพียงอย่างเดียว ใน
ฐานะผูน้ าํ ของสกุลเผย มีภาระและหน้าที่ใช้ทรัพย์ของสกุลช่วยเหลือคนในสกุลที่ฐานะยากจน
ข้นแค้นและต้องการจะเล่าเรียนเขียนอ่าน ดํารงไว้ซ่ึงความรุง่ เรืองก้าวหน้าของบัณฑิตในสกุล
เพื่อให้ม่นั ใจว่ากิจการของสกุลเผยจะถูกส่งมอบต่อๆ ไปจากรุน่ สูร่ ุน่
สิ่งนีท้ าํ ให้อวีถ้ งั คิดถึงอีกเรื่องหนึ่งขึน้ มาได้
ชาติก่อน ผูน้ าํ ของสกุลเผยก็คือนายท่านสาม ‘เผยเยี่ยน’ นั่นเอง
43

ตอนที่ 6 เรื่องเล่า
ชาติก่อน อวีถ้ ังไม่มีความทรงจําใดๆ เกี่ยวกับตอนที่นายท่านสามได้ขึน้ เป็ นผูน้ าํ ของ
สกุลเผย สาเหตุหลักก็เพราะนางมารู ว้ ่านายท่านสามเป็ นผูน้ าํ สกุลเผยก็ตอนที่นางแต่งเข้า
สกุลหลี่แล้ว แต่ตอนนีม้ าคิดๆ ดู นางกลับไม่เข้าใจเลยสักนิด
ต่อให้กิจการของสกุลเผยจะยิ่งใหญ่เพียงใด สําหรับบัณฑิตคนหนึ่ง การรับตําแหน่ง
ผูน้ าํ สกุล หมายถึงต้องเดินออกห่างจากเส้นทางขุนนาง การรัง้ ตัวอยู่บา้ นนอกเพื่อดูแลกิจการ
ของสกุล จะเทียบกับการเข้าเป็ นส่วนหนึ่งของราชสํานัก ได้รบั จารึกชื่อบนหน้าประวัติศาสตร์ได้
อย่างไร?
อีกทัง้ สกุลใหญ่อย่างเช่นสกุลเผยนี ้ เพื่อให้ม่ นั ใจว่าลูกหลานที่ออกไปรับตําแหน่งยัง
ต่างถิ่นจะไม่ลม้ เหลวด้วยเหตุจากกําลังทรัพย์ ทุกๆ ปี จะมีเงินสนับสนุนส่งให้กอ้ นหนึง่ ลูกหลาน
ของสกุลเผยที่เป็ นขุนนางต่างแดนสามารถแสดงออกถึงอุดมการณ์อนั สูงส่งของตนได้โดยไม่มี
ข้อจํากัดเรื่องเงินทอง ไม่ตอ้ งกังวลเรื่องปากท้อง นี่คือเหตุผลว่าทําไมหลังจากสกุลหลี่ได้ขนึ ้ มา
เป็ นผูม้ ีอาํ นาจใหม่ถึงได้พยายามกวาดเงินจากทุกทาง…สกุลหลี่อยากจะเป็ นให้ได้อย่างสกุล
เผย เป็ นสกุลยิ่งใหญ่ท่ีมีบณ ั ฑิตและขุนนางสืบต่อกันจากรุน่ สูร่ ุน่
แน่นอนว่า อวีถ้ งั เพิ่งรูเ้ รื่องราวเหล่านีห้ ลังจากที่แต่งเข้าสกุลหลี่แล้ว
หลู่ซิ่นผูน้ ีแ้ ม้นิสยั จะไม่ได้ดีเด่ แต่คบเพื่อนเจ้าเล่หไ์ ม่ได้ความไว้หลายคน ข่าวสารของ
เขาฉับไว แม้จะเชื่อไม่ได้ทงั้ หมด แต่ใช่ว่าทัง้ หมดจะเชื่อไม่ได้ ในเมื่อเขาบอกว่าสกุลเผยกําลัง
ทะเลาะกันเรื่องใครจะขึน้ เป็ นผูน้ าํ สกุล เป็ นไปไม่ได้ว่าจะไม่มีมลู ความจริงเลย อย่างน้อยคน
ของสกุลเผยก็ตอ้ งมีปากมีเสียงกันเพราะเรื่องนี ้
ทว่านายท่านสามสกุลเผยเป็ นคนเช่นนัน้ หรือ?
อวีถ้ งั เค้นความทรงจําที่มีตอ่ นายท่านสามเมื่อชาติก่อน
ลึกลับ เก็บตัว แข็งแกร่งและสูงส่งเหนือผูค้ น
44

เขากอบกุมชะตากรรมสุกลเผยไว้ในกํามือ และควบคุมเมืองหลินอันไว้ทงั้ หมด


เหมือนกับเหยี่ยวที่บินวนอยู่บนท้องฟ้า เวลาปกติทุกคนจะไม่รูส้ ึกถึงการมีอยู่ของมัน
แต่พอเจอกับเรื่องใหญ่โตเข้า ก็จะสัมผัสได้ถึงเงาที่ถกู เขาครอบงําอยู่
ขนาดสกุลหลี่ประจบประแจงสกุลเผยถึงเพียงนัน้ นางยังไม่เคยพบหน้านายท่านสาม
เลยสักหน สกุลหลี่คิดสอดมือเข้าไปแย่งการค้าของสกุลเผยครัง้ แล้วครัง้ เล่า แต่ก็ไม่กล้าลงมือ
จริงจังเสียที
คนเช่นนี ้ จะลงไปทะเลาะกับลูกหลานบ้านใหญ่เพื่อตําแหน่งผูน้ าํ ตระกูลหรือ?
อวีถ้ งั ฉงนใจนัก
นางอดจะหันไปเอ่ยกับหลู่ซิ่นยิม้ ๆ ไม่ได้ว่า “ข่าวสารของท่านลุงหลู่ฉับไวยิ่ง! ในเมื่อ
การให้นายท่านสามรัง้ ตัวอยู่เพื่อสืบทอดกิจการเป็ นความต้องการของท่านผูเ้ ฒ่า หมื่นเรื่องนัน้
กตัญ�ูคือสิ่งแรก บ้านใหญ่มีอะไรให้โต้แย้งกัน?”
เมื่อก่อนอวีถ้ ังไม่เคยใส่ใจเรื่องพวกนี ้ หลู่ซิ่นได้ยินก็ฉงนในใจ ตื่นตะลึงเล็กน้อย เขา
หัวเราะแล้วหันไปเอ่ยกับอวีเ้ หวินว่า “อาถังโตเป็ นผูใ้ หญ่แล้ว มีความคิดเป็ นของตัวเองแล้ว
สินะ!”
ความหมายก็คือ พวกเขาคนโตกําลังสนทนากัน อวีถ้ ังเป็ นสตรีนางหนึ่ง ไม่ควรสอด
ปากตามอําเภอใจ
น่าเสียดาย อวีเ้ หวินแต่ไรก็ไม่เคยรู ส้ ึกว่าบุตรสาวของตนเองเป็ นคนนอก หากสงสัยก็
ถามออกมา มีสิ่งใดไม่ถกู ต้องเล่า
เขายิม้ พลันเอ่ยว่า “ก็ใช่น่ะสิ อาถังของพวกเราโตแล้ว รู ค้ วาม รู จ้ ักคิดแทนและดูแล
บิดามารดาได้แล้ว” ระหว่างที่พดู เขาก็คิดได้วา่ ที่บตุ รสาวทําตัวเป็ นผูใ้ หญ่เช่นนีก้ ็เพราะสกุลอวี ้
กําลังประสบปั ญหา ในใจพลันรูส้ กึ เจ็บปวด สีหน้าก็หม่นแสง ถอนหายใจไปเฮือกหนึ่ง
อวีป้ ๋ อกลับถูกวาจาของหลูซ่ ิ่นดึงความสนใจไป
45

เขาทํามาค้าขายอยู่ดา้ นนอก รู จ้ กั ถึงความยิ่งใหญ่ของสกุลเผย ถึงขนาดพูดได้ว่า ถ้า


สกุลเผยทางนัน้ มีการเคลื่อนไหวแม้เพียงใบหญ้าปลิว พวกเขาที่ทาํ มาค้าขายก็ตอ้ งโยกไหวขยับ
ตัวตามไปด้วยเช่นกัน
“เช่นนัน้ สกุลเผยจะมีบา้ นใหญ่เป็ นผูส้ ืบทอดหรือว่าเป็ นนายท่านสามกันแน่เล่า?” เขา
ใส่ใจปั ญหานีม้ ากกว่า “ท่านหลูส่ ามารถพูดให้ชดั เจนอีกสักนิดได้หรือไม่”
หลูซ่ ิ่นเห็นว่าสองพี่นอ้ งไม่ได้คล้อยตาม ในใจก็ไม่ค่อยสบอารมณ์นกั แต่ก็พดู อะไรมาก
ไม่ได้ เพียงเอ่ยเสียงอูอ้ ีต้ อบไปว่า “ตําแหน่งผูน้ าํ สกุลเผยจะตัดสินใจเลือกอย่างเร่งร้อนได้
อย่างไร? แม้ท่านผูเ้ ฒ่าเผยจะเป็ นผูน้ าํ สกุล แต่สกุลเผยบัดนีแ้ ตกกอเป็ นสามกิ่งก้าน หากส่งต่อ
ให้ลกู ชายคนโตของภรรยาเอก ใครก็พดู อะไรไม่ได้ทงั้ สิน้ ทว่าท่านผูเ้ ฒ่าเผยกลับข้ามหน้าบ้าน
ใหญ่กบั บ้านรองไปเช่นนี ้ สองกิ่งก้านนัน้ ย่อมไม่ยินดีแน่! เรื่องนีอ้ ย่างไรก็ตอ้ งยือ้ แย่งกันดู”
เขาพูดจนจบประโยค นํา้ เสียงเจือความยินดีเมื่อเห็นผูอ้ ่นื พบเจอกับหายนะ
อวีถ้ งั ยิ่งรูส้ กึ รังเกียจคนผูน้ ีย้ ่งิ กว่าเก่า
เมื่อครูย่ งั ไปเกาะข้าวเขากิน พอหันหลังกลับก็อยากเห็นสกุลเผยเกิดเรื่องจนทนไม่ไหว
นางลอบกลอกตาใส่หลูซ่ ิ่น
อวีป้ ๋ อรู ว้ ่าหลู่ซิ่นเป็ นคนพูดจาเช่นนีแ้ ต่ไหนแต่ไร จึงไม่ได้เก็บมาใส่ใจ เพียงเอ่ยอย่าง
กังวลว่า “ไม่รูว้ ่าปั ญหาของสกุลเผยจะยุติลงเมื่อไร หากว่าพวกเขาปล่อยทิง้ ถนนฉางซิ่งไม่
สนใจเช่นนี…้ ”
ต่อให้สกุลอวีม้ ีเงินทองมาสร้างร้านค้าใหม่อีกครัง้ แต่ก็ไม่มีปัญญาเปิ ดกิจการได้อยู่ดี
ใครจะมาเดินหาซือ้ ข้าวของกลางซากปรักหักพังกันเล่า?
หลูซ่ ิ่นไม่ใส่ใจเรื่องพวกนี ้ เขาพูดพรํ่าถึงเรื่องซุบซิบในสกุลเผยไม่หยุดปาก อย่างเช่นว่า
นายท่านใหญ่สกุลเผยแต่งกับบุตรสาวคนโตของผูท้ าํ พิธีบวงสรวงคนปั จจุบนั แห่งราชสํานัก
46

บุตรชายสองคนล้วนเป็ นต้นอ่อนชั้นดีในการเล่าเรียนเขียนอ่าน ตัง้ แต่เล็กก็ติดตามท่านตา


ศึกษาหาความรู ้ อายุเพียงไม่มาก แต่กลับมีวิชาความรูเ้ ป็ นเลิศแล้ว
นายท่ า นรองนิ สัย ดั่ง พระโพธิ สัต ว์ดิ น ปั้ น 1 ไม่ ว่ า เจอะเจอเรื่ อ งใดล้ว นพูด เพี ย งว่ า
9

ประเสริฐอยู่คาํ เดียว เขาแต่งกับบุตรสาวของจวี่เหริน 2 ซึ่งเป็ นสหายร่วมเรียนกับท่านผูเ้ ฒ่า มี


10

บุตรสาวและบุตรชายอย่างละหนึ่งคน
นายท่านสามเป็ นลูกหลง ตัง้ แต่เด็กก็ดือ้ ซนยิ่งนัก ชอบเล่นปื นผาหน้าไม้ ไม่ชอบเขียน
อ่าน อายุได้เจ็ดแปดขวบก็ยงั นั่งนิ่งๆ ไม่เป็ น มักจะโดดเรียนจากสํานักศึกษาไปดูละครขับร้อง
ไม่ก็การแสดงปาหี่ท่ีหลีหยวน 3 พอโตขึน้ มาหน่อย ก็รูจ้ ักเข้าบ่อนพนันชนไก่ ก่อเรื่องให้ผูด้ ูแล
11

ต้องคอยตามหาไปทั่วท้องถนน เป็ นคุณชายจอมเสเพลที่ขึน้ ชื่อในเมืองหลินอัน นายท่านใหญ่


สกุลเผยคิดจะสั่งสอนน้องชายคนสุดท้องผูน้ ีส้ กั ครัง้ แต่ลว้ นถูกท่านผูเ้ ฒ่าเผยห้ามเอาไว้ ตอน
นัน้ ใครๆ ต่างก็พดู ว่า ชื่อเสียงนับร้อยปี ของสกุลเผยคงต้องจบลงด้วยนํา้ มือของนายท่านสาม
เผยเป็ นแน่ ใครจะคาดคิดว่าเขากลับสอบผ่านเป็ นจิน้ ซื่อได้อย่างราบรื่น? ไม่ตอ้ งพูดถึงคนนอก
แค่คนสกุลเผยเองก็ยงั แตกตื่นตกใจกันถ้วนหน้า คิดว่านี่ใช่เรื่องเข้าใจผิดกันหรือไม่ ท่านผูเ้ ฒ่า
เผยยังลําเอียงจนเกินงาม เมื่อรูว้ ่านายท่านสามสอบผ่าน ก็เอาเหรียญอีแปะใส่เต็มตะกร้าไม้ไผ่
สานไปโปรยหน้าประตูใหญ่ ประกาศเรื่องงานมงคลให้บตุ รชายคนเล็กอย่างใหญ่โตว่า ต้องแต่ง
กับบุตรีภรรยาเอกจากสกุลขุนนางขั้นสามขึน้ ไปเท่านัน้ สิ่งที่รา้ ยยิ่งกว่านัน้ ก็คือ เรื่องนีก้ ลับ
สมหวังดั่งใจท่านผูเ้ ฒ่าเผยเสียได้ รองมหาเสนาบดีแห่งราชสํานักคนปั จจุบนั ต้องชะตากับนาย
ท่านสามเผย หากมิใช่เพราะนายท่านใหญ่มาสิน้ ไปก่อน งานมงคลนีค้ งสําเร็จไปแล้ว…
อวีถ้ งั ฟั งอย่างออกรสออกชาติย่งิ

1
พระโพธิสตั ว์ดินปั้ น หมายถึง ต่อให้เป็ นคนดีแสนประเสริฐเพียงใด ก็ย่อมมีอารมณ์และเส้นตายที่ไม่อาจก้าวข้าม
2
จวี่เหริน ผูท้ ่ีผ่านการสอบคัดเลือกเข้ารับราชการระดับภูมิภาค โดยผูท้ ่เี ข้าสอบรอบนีต้ อ้ งผ่านการสอบซิ่วไฉ ซึง่ ก็คือการ
สอบระดับท้องถิ่นมาก่อน
3
หลีหยวน หรือสวนลูกแพร์ คํานีเ้ กิดขึน้ ในสมัยราชวงศ์ถงั โดยจักรพรรดิถงั เสวียนจงให้บรรดานักดนตรีและนักแสดงมา
ฝึ กร้องรําทําเพลงในบริเวณสวนลูกแพร์ท่ีสร้างขึน้ โดยเฉพาะ
47

ชาติก่อนนางไม่เคยได้ยินเรื่องเล่าของนายท่านทัง้ สามแห่งสกุลเผยมาก่อน
คนอื่นเมื่อพูดถึงนายท่านสามเผย ทัง้ ทางตรงทางอ้อมล้วนแฝงถึงความภาคภูมิใจและ
เป็ นเกียรติทาํ นองว่า ‘ข้ารูจ้ กั ’ หรือไม่ก็ ‘ข้าเคยเจอ’ ‘ข้าเคยดื่มสุราร่วมโต๊ะอาหารกับนายท่าน
สามมาก่อน’ นางไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าตอนที่นายท่านสามยังเยาว์จะเคยคึกคะนองไม่เป็ นโล้
เป็ นพายเยี่ยงนี ้
นางนึกว่านายท่านสามเป็ นคุณชายผูห้ นักแน่น รูค้ วาม เพียบพร้อมด้วยมารยาทตัง้ แต่
เด็กเสียอีก
อวีเ้ หวินคล้ายว่าไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับนายท่านสามนีเ้ ช่นกัน พึมพําแต่วา่ ไม่น่าเชื่อ
หลู่ซิ่นเอ่ยอย่างไม่เห็นด้วยว่า “แพ้เป็ นอ๋อง ชนะเป็ นโจร ตอนนีเ้ ขาอายุยงั น้อยแต่ได้
เป็ นถึงเจิง้ กวนแห่งหกกรม ทัง้ สกุลเผยมีเจตนาปูทางให้เขา ใครจะสมองตืน้ ขนาดนั่งวิจารณ์
นายท่านสามต่อเล่า ไม่เหมือนเช่นพวกเรานี ้ ไร้หลักยึดเหนี่ยว ถูกผูอ้ ่ืนเล่นงานเพราะเห็นเป็ น
แค่ดอกจอกที่ลอยไปลอยมา”
อวีเ้ หวินรูท้ นั ว่าเขาจะเริ่มครํ่าครวญอีก รีบร้อนกล่อมเขาว่า “เจ้าก็ยงั ดีกว่าข้า บิดาข้า
เป็ นพ่อค้าขายเครื่องลงรัก บิดามารดาเจ้าเป็ นถึงซิ่วไฉ เคยเป็ นถึงที่ปรึกษาทางการทหารให้ใต้
เท้าจั่ว นับว่าเป็ นสกุลบัณฑิต”
ใต้เท้าจั่วมีนามว่ากวงจง เป็ นจิน้ ซื่อสองป้าย ตอนรับตําแหน่งเป็ นผูต้ รวจการที่ซูโจว
และเจ้อเจียง ก็ขับไล่โจรสลัดไปได้หลายครัง้ สร้างความสงบสุขให้ปวงประชาชาวซูโจวและ
เจ้อเจียง เขาถูกเลื่อนขัน้ ให้เป็ นเจ้ากรมกลาโหม ภายหลังเมื่อเสียชีวิตก็ได้รบั พระราชทานนาม
เพื่อเป็ นเกียรติศกั ดิ์แด่ผวู้ ายชนม์ว่าเซียงเม่า เขาเป็ นขุนนางที่มีความสามารถ มีช่ือเสียงและ
ได้รบั ความนิยมเป็ นอย่างสูงในซูโจวและเจ้อเจียง
กระทั่งเด็กสาวที่ไม่เคยสนใจโลกภายนอกอย่างอวีถ้ งั ยังเคยได้ยินชื่อและเรื่องเล่าของ
ใต้เท้าผูน้ ี ้
48

หลู่ซิ่นเริ่มลําพองใจ ให้มารดาของอวีถ้ ังยกสุรามา เขาต้องการจะดื่มกับสองพี่นอ้ ง


สกุลอวีส้ กั ยก หลังจากดื่มไปได้พกั ใหญ่ก็เริม่ พูดเรื่องบรรพบุรุษของเขาขึน้ มาว่า “…บิดาข้าเคย
ติดตามใต้เท้าจั่วออกทะเล วาดผังแผนที่ ทัง้ ยังช่วยใต้เท้าจั่วฝึ กฝนทหารเรือ”
อวีถ้ งั คิดว่าหลูซ่ ิ่นกําลังคุยโว
อาหารหนึ่ ง มื อ้ นั่ง ทานกัน จนพระจัน ทร์แ ขวนโด่ ง บนปลายยอดต้น หลิ ว อวี ห้ ย่ ว น
ประคองหลูซ่ ิ่นที่เมาโซเซและพูดจาเลอะเลือนไม่หยุดปากเข้าไปพักที่เรือนสกุลอวี ้
เช้าวันต่อมา หลูซ่ ิ่นนอนหลับจนตะวันสายโด่งถึงจะตื่น
สีหน้าเขาขาวซีด ปากก็พน่ กลิ่นเหล้าออกมาพลางเดินหัวหมุนไปทั่วห้องเพื่อหารองเท้า
“เวรแล้ว! เวรแล้ว! หลี่ฮ่ยุ บ่าวรับใช้ของเจ้าหาจากไหนกัน? เหตุใดเรื่องเล็กน้อยเท่านีก้ ็ทาํ ให้ดี
ไม่ได้ ทัง้ ๆ ที่รูว้ ่าเช้านีม้ ีขบวนแห่ศพของนายท่านใหญ่เผย ข้ายังต้องไปช่วยจัดการงานพิธีอีก
ตอนเช้ากลับไม่มีใครมาปลุกข้า! เจ้าทําข้าเสียเรื่องแล้ว!”
อวีเ้ หวินในใจรูส้ กึ ผิด ทางหนึ่งก็ช่วยเขาหารองเท้าที่ไม่รูถ้ กู โยนไปใต้เตียงตอนไหนจน
เจอ ทางหนึ่งก็เอ่ยอย่างลุแก่โทษว่า “ไม่เป็ นไร ไม่เป็ นไร สกุลเผยห่างจากเรือนข้าไปนิดเดียว ข้า
ให้อาเสาพาเจ้าไปทางลัดก็แล้วกัน”
“เร็ว! เร็ว! เร็ว!” หลูซ่ ิ่นร้องเร่ง นํา้ ชายังไม่ทนั ได้ด่มื สักอึก ก็ตามบ่าวรับใช้ของอวีเ้ หวินที่
ชื่อว่าอาเสาออกนอกประตูไปแล้ว
อวีถ้ งั ที่อยู่หลังผ้าม่านเม้มปากหัวเราะ แล้วหมุนกายไปรับอาหารเช้าเป็ นเพื่อนมารดา
ท่านป้าสะใภ้ใหญ่กบั ญาติผพู้ ่ีอวีห้ ย่วนมาพบอวีเ้ หวิน
อวีห้ ย่วนมารับบทสรรเสริญที่อวีเ้ หวินเขียนทัง้ คืนแล้วจากไป ส่วนป้าสะใภ้รงั้ ตัวอยู่ตอ่
อวีถ้ ังคิดว่าน่าจะเป็ นเพราะเรื่องสินค้าชุดนัน้ ที่ถูกไฟไหม้ไปพร้อมกับร้าน ถึงได้คอย
แอบฟั งผ่านลูกกรงหน้าต่าง
49

ท่านป้าสะใภ้ใหญ่คิดไหว้วานบิดานางไปเกลีย้ กล่อมท่านลุงให้เดินทางไปซือ้ เครื่องลง


รักที่เจียงซีจริงๆ เสียด้วย
อวีถ้ งั ถึงค่อยวางใจได้บา้ ง
หลังจากส่งท่านป้าสะใภ้ใหญ่และรับประทานมือ้ เที่ยงเรียบร้อยแล้ว อวีเ้ หวินก็ออกไป
ข้างนอก บอกว่าจะไปดูรา้ นค้า
เฉินซื่อรู แ้ ล้วว่าร้านค้าของสกุลถูกไฟไหม้ แต่ไม่รูถ้ ึงระดับความเสียหายที่เกิดขึน้ นาง
มาส่งอวีเ้ หวินหน้าประตูพร้อมกําชับว่า “เงินทองเป็ นของนอกกาย เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในเรือน
ล้วนมีท่านลุงใหญ่เป็ นคนจัดการดูแล หากไม่มีท่านลุงใหญ่ กิจการของเราคงไม่อาจอยู่รอดมา
ได้ มีปัญหาอะไรก็คอ่ ยๆ พูดจากันนะเจ้าคะ เรือนเรายอมเสียหายมากกว่าหน่อยก็ไม่เป็ นไรเลย
เจ้าค่ะ”
อวีเ้ หวินพยักหน้าหงึกหงักอย่างขอไปที ตอนดึกกลับมาก็บอกเฉินซื่อกับอวีถ้ ังว่า “พี่
ใหญ่กบั อาหย่วนมีเรื่องด่วนต้องเดินทางไปเจียงซีสกั หน พวกเราก็เตรียมอาหารแห้งและกับข้าว
ง่ายๆ ให้พวกเขาพกไปกินระหว่างทางเถอะ”
เฉินซื่อยิม้ รับจนตาหยี แล้วพาป้าเฉินไปที่หอ้ งครัว
อวีถ้ งั ถึงได้ถอนหายใจพรูดอย่างโล่งอก
ปั ญหาในเรือนสุดท้ายก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปในทางที่ดี ขอเวลาอีกไม่นานเท่านัน้ จะต้อง
รอดพ้นชะตากรรมเลวร้ายอย่างชาติก่อนไปได้แน่
อวีถ้ งั ไปช่วยงานเฉินซื่อที่หอ้ งครัวด้วยความเบิกบานใจ
หลูซ่ ิ่นหน้าม่อยคอตกกลับมาเยือนอีกครัง้
เขาพูดกับอวีเ้ หวินด้วยสีหน้าบูดบึง้ ว่า “ครัง้ นีเ้ จ้าทําข้าลําบากเกือบตาย! เมื่อเช้าตอน
ที่ขา้ ไปถึงจวนสกุลเผย คุณชายใหญ่ เผยได้ทุ่มกระถางแตกไปแล้ว พ่อบ้านใหญ่ สกุลเผยก็
50

ถลึงตาใส่ขา้ ไม่หยุด ระยํา! มันคิดว่ามันเป็ นตัวอะไร? ก็แค่สนุ ขั ตัวหนึ่งที่สกุลเผยเลีย้ งเอาไว้ ถ้า


ไม่ใช่เห็นแก่หน้าสกุลเผย ใครอยากจะรูจ้ กั มันบ้าง!”
น้อยครัง้ ที่หลู่ซิ่นจะด่าทอผูอ้ ่ืนเสียๆ หายๆ อวีเ้ หวินตะลึงไปครู ่หนึ่ง หลู่ซิ่นก็พดู ต่ออีก
ว่า “ไม่ได้การแล้ว! ข้าอยู่หลินอันต่อไปไม่ได้แล้ว นํา้ นิ่งต้องตายในบึง หากข้ายังอยู่ท่ีน่ีต่อไปก็
คงไม่มีอะไรดีขนึ ้ ข้าจะไปเมืองหลวง บิดาข้ายังพอมีสหายเก่าที่เมืองหลวงอยูบ่ า้ ง” เขาพูดจบก็
หมุนตัวไปลากมืออวีเ้ หวินมาจับไว้ “หลี่ฮ่ยุ ภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ ผืนนัน้ ไม่ใช่วา่ อยู่ท่ีเจ้า
หรือ? วันก่อนเจ้าบอกว่าชื่นชอบนักอยากจะซือ้ ต่อ เอาอย่างนี ้ พวกเรามาซือ้ ขายกันให้จบ ข้า
ไม่ขอพูดอะไรมาก สองร้อยตําลึง จ่ายมาสองร้อยตําลึงเจ้าก็เอาภาพนีไ้ ปได้เลย”
51

ตอนที่ 7 หาหมอ
ภาพวาด ‘ตกปลาใต้ต ้น สนริม นํา้ ’ ของหลี่ ถัง ในราชวงศ์ก่ อ นเป็ น ภาพที่ มี ช่ื อ เสีย ง
นับเป็ นวัตถุเก่าแก่
ราคาสองร้อยตําลึงนี ้ นับว่าไม่แพง
อีกทัง้ อวีเ้ หวินยังชื่นชอบมากเป็ นพิเศษ ดูท่าหลูซ่ ิ่นตอนนีก้ ็กาํ ลังลําบาก ในฐานะสหาย
ของหลูซ่ ิ่น ด้วยนํา้ ใจหรือเหตุผลของอวีเ้ หวินก็ดี สมควรจะซือ้ ภาพนีเ้ อาไว้
ทว่าสองวันนี ้ อวีถ้ งั เพิ่งจะคํานวณบัญชีให้เขาดู
ถ้าหากว่าซือ้ ภาพนีไ้ ว้ก็จะไม่เหลือเงินซือ้ ยาให้ภรรยาแล้ว
ความโปรดปรานของเขาไม่ใช่สิ่งที่สาํ คัญที่สดุ อาการป่ วยของภรรยาต่างหากที่มาเป็ น
อันดับแรก
อวีเ้ หวินแม้จะมีนิสยั อ่อนโยน จัดการเรื่องราวโดยละมุนละม่อม แต่ใครมีนา้ํ หนักมาก
น้อยกว่ากันนัน้ กลับแยกแยะได้ชดั เจน
“พี่หลู่” ดวงหน้าเขาขึน้ สีแดงเรื่อ “เรื่องนีเ้ ป็ นข้าที่ผิดต่อเจ้า เจ้าก็น่าจะรู ้ ร้านค้าของ
สกุลข้าถูกไฟไหม้ไปแล้ว ตอนนีข้ า้ ไม่มีเงินมากเพียงนัน้ หรอก…” พูดไป ก็เดินไปหยิบภาพวาด
นัน้ มาคืนให้หลูซ่ ิ่น “เจ้าลองถามผูอ้ ่นื ดูวา่ มีใครชมชอบภาพนีห้ รือไม่…”
หลู่ซิ่นไม่เชื่อ กล่าวว่า “สกุลเจ้าแต่เดิมก็มีทรัพย์ ทัง้ หาได้มีภาระอะไร เงินแค่สองร้อย
ตําลึงมีหรือจะจ่ายไม่ไหว?”
อวีเ้ หวินรู ส้ ึกอับอายกว่าเก่า เอ่ยว่า “ยังต้องเก็บเงินไว้ให้นายหญิงที่เรือนข้ารักษาตัว
อีก”
หลูซ่ ิ่นไม่พอใจ
ไม่วา่ อย่างไรอวีเ้ หวินก็ไม่ยอมอ่อนข้อ เพียงพูดออกไปตรงๆ “เป็ นข้าที่ทาํ ผิดต่อพี่หลู”่
52

หลูซ่ ิ่นยังตามกัดไม่ปล่อย “ใช่วา่ เจ้ายังมีท่ีนาชัน้ ดีอีกหนึ่งร้อยหมู่หรือ?”


หลินอันมากด้วยภูเขา น้อยด้วยที่นา หากเป็ นเขตพืน้ ที่อ่ืน ที่นาหนึ่งร้อยหมู่ขายได้
ประมาณห้าถึงหกร้อยตําลึง แต่ท่ีหลินอัน อาจขายได้ถึงหนึ่งพันตําลึงเป็ นอย่างตํ่า
อวีเ้ หวินงึมงําตอบไปว่า “ค่ารักษาภรรยาข้าเดิมก็ไม่ค่อยจะพออยู่แล้ว กลัวว่าถึงตอน
นัน้ คงต้องขายที่ขายทาง ข้าไม่อาจยอมให้การรักษาของนางต้องติดขัดเพราะมีขา้ เป็ นต้นเหตุ”
หลู่ซิ่นคิดจะเปิ ดปากพูดต่อ ทว่าอวีถ้ ังที่เพิ่งรู ข้ ่าวแล้วรีบบึ่งตามมา พลันเมื่อมาถึงก็
ผลักประตูเข้ามาพอดี นางเอ่ยด้วยรอยยิม้ แฉล้มว่า “ท่านลุงหลู่หากว่าขัดสนร้อนเงิน ไม่สเู้ อา
ภาพนีไ้ ปจํานําชั่วคราวก่อน รอให้การเงินในมือใช้จ่ายคล่องแล้ว ค่อยไปไถ่กลับมาก็ไม่สาย โรง
จํานําสกุลเผยนับว่าเที่ยงธรรมโดยแท้”
ชาติก่อน นางเคยเอาสิ่งของไปจํานํา แม้ราคาจะถูกกดจนตํ่า แต่เทียบกับโรงจํานําอื่นๆ
แล้ว กลับนับว่าไม่เลวร้ายเลยทีเดียว
หลูซ่ ิ่นรูส้ กึ เสียหน้า ใบหน้าจึงเปลี่ยนสีทนั ใด เอ่ยปากกับอวีเ้ หวินว่า “แม้สกุลอวีจ้ ะเป็ น
แค่สกุลพ่อค้า แต่ในสกุลยังพอมีบณ ั ฑิตอย่างเจ้าอยู่คนหนึ่ง เป็ นสาวเป็ นนาง ควรจะอยู่กับ
เหย้าเฝ้ากับเรือนฝึ กวิชาเย็บปั กถักร้อยให้มากหน่อยจึงจะเข้าที!”
อวีเ้ หวินเริม่ เหงื่อตก
อวีถ้ งั กลับแสยะยิม้ ในใจ เบิกตารู ปผลซิ่ง 1 ทัง้ สองข้างจนโต แสร้งทําทีเป็ นไร้เดียงสา
12

แล้วเอ่ยว่า “วาจานีข้ องท่านลุงหลูเ่ อ่ยได้ผิดถนัด ข้ายังช่วยท่านพ่อวิ่งเอาของไปจํานําอยูบ่ อ่ ยๆ


เลยนะเจ้าคะ”
อวีเ้ หวินพลันชะงักคําที่กาํ ลังจะเอ่ยออกไปทันที
เขามองออกว่าบุตรสาวคงกลัวว่าเขาจะให้หลูซ่ ิ่นหยิบยืมเงิน

1
ผลซิ่ง คือ แอปปริคอท
53

เห็นชัดว่านางเป็ นกังวลอย่างหนักว่าเขาจะผิดสัญญาที่เคยให้ไว้กบั นาง


อวีเ้ หวินรูส้ กึ ปวดใจ เปลี่ยนใจคิดว่าเป็ นเช่นนีก้ ็ดีเหมือนกัน หลูซ่ ิ่นจะได้ไม่มาตําหนิเขา
ว่าไม่ยอมยื่นมือช่วยเหลือเมื่อสหายตกทุกข์ได้ยาก
หลูซ่ ิ่นก้าวขาฉับๆ จากไปด้วยความโมโห
อวีถ้ ังสะใจยิ่งนัก นางเอาเรื่องนีไ้ ปเล่าให้เฉินซื่อผูเ้ ป็ นมารดาฟั ง “ท่านดูสิเจ้าคะ เพื่อ
ท่านแล้ว ท่านพ่อถึงขัน้ ยอมล่วงเกินท่านลุงหลู่ อีกเดี๋ยวถ้าเจอท่านพ่อ ท่านแม่ตอ้ งปลอบใจ
ท่านพ่อดีๆ นะเจ้าคะ”
เฉินซื่อได้ฟังดวงตาสองข้างก็รนื ้ ชืน้ กลับห้องไปก็เอ่ยขอบคุณอวีเ้ หวิน
เช้าตรู ่วันที่สอง อวีถ้ ังกับมารดาถื ออาหารแห้งและกับข้าวง่ายๆ ที่เตรียมไว้ตามอวี ้
เหวินไปส่งอวีป้ ๋ อและอวีห้ ย่วนออกเดินทาง
อวีป้ ๋ อสั่งกับอวีเ้ หวินไว้ว่า “เรื่องของร้านค้าเจ้าไม่ตอ้ งทําสิ่งใด รอให้ขา้ กลับมาค่อย
หารือกัน”
อวีเ้ หวินพยักหน้ารับหลายที
หลังจากส่งอวีป้ ๋ อจากไปแล้ว เขายังไปเยี่ยมเยียนเรือนพ่อค้าที่ประสบกับเหตุการณ์ไฟ
ไหม้อีกหลายคนด้วยความเป็ นห่วง ตกคํ่ากลับมาถึงเรือนก็ถอนหายใจเอ่ยกับภรรยาว่า “ทุกคน
ต่างก็รอดูท่าทีของสกุลเผย! มีสองครอบครัวคิดจะกลับไปทํานาที่บา้ นเก่าแล้วขายพืน้ ที่รา้ นทิง้
เพียงแต่เวลาแบบนี ้ นอกจากสกุลเผยแล้ว ยังมีสกุลใดยินดีจะมารับช่วงต่อ ทั้งไม่รูเ้ ลยว่า
ปั ญหาของสกุลเผยจะสะสางลงเอยได้เมื่อไร”
อวีถ้ งั สนใจใคร่รูเ้ รื่องของสกุลเผยนัก จึงถามว่า “คนในสกุลเผยแตกคอกันจริงๆ อย่าง
ที่ท่านลุงหลูเ่ ล่าให้ฟังไหมเจ้าคะ?”
“ลุงหลูข่ องเจ้าน่าจะพูดจาเกินจริงไปหน่อย” อวีเ้ หวินตอบ “ครอบครัวสกุลเผยล้วนเป็ น
บัณฑิต มีวิชา รูม้ ารยาท แล้วจะทะเลาะกันได้อย่างไร? อย่างมากก็อาจจะพี่นอ้ งโต้เถียงกันสอง
54

สามประโยค อีกอย่างท่านผูเ้ ฒ่าเผยก็ยงั มีชีวิตอยู่ สุดท้ายจะสรุปอย่างไร ก็ตอ้ งฟั งคําจากท่าน


ผูเ้ ฒ่าเผยอยู่ดี”
กลัวแต่วา่ ท่านผูเ้ ฒ่าคนนัน้ จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานน่ะสิ
อวีถ้ งั แอบคิดอยู่ในใจ
หลูซ่ ิ่นผูน้ นั้ พลันย้อนกลับมาอีก
นางเริม่ จะรูส้ กึ รําคาญขึน้ มาบ้างแล้ว งอแงกับบิดาจะตามไปห้องหนังสือด้วย
ครัง้ นีห้ ลูซ่ ิ่นไม่ได้มาเสนอขายภาพวาดของเขาแล้ว แต่นาํ ข่าวใหม่มาบอกต่อสกุลอวีว้ า่
“หวังไป๋ ก็เดินทางมาจากเขาผู่ถวั แล้วเช่นกัน!”
อวีเ้ หวินทัง้ ตกใจและยินดี
หลู่ซิ่นอดจะเอ่ยอย่างอิจฉาไม่ได้ “ยังคงเป็ นสกุลเผยที่เก่งกาจ! เกษี ยณอายุเร้นกาย
อะไรกัน แค่เทียบเชิญของสกุลเผยที่สง่ ออกไป หวังไป๋ ก็กระหืดกระหอบวิ่งมาถึงหลินอันแล้ว”
อวีเ้ หวินเอ่ยว่า “จะพูดเช่นนัน้ ก็ไม่ถูก ท่านผูเ้ ฒ่าเผยเป็ นคนดี เมื่อเขาล้มป่ วย หมอ
หลวงหยางก็ดี หมอหลวงหวังก็ดี หากพอช่วยได้ก็คงอยากช่วยกระมัง!”
“เหอะ!” หลูซ่ ิ่นกลับไม่เห็นด้วย เอ่ยว่า “มีคนจิตใจดีเช่นนัน้ เสียที่ไหนเล่า!”
อวีเ้ หวินยิม้ ออกมาอย่างกระอักกระอ่วน
หลู่ซิ่นพูดต่อว่า “ข้าช่วยเจ้าตระเตรียมไว้หมดแล้ว พรุ ่งนีเ้ ช้าเจ้าก็ตามข้าไปพบท่านผู้
เฒ่าที่จวนสกุลเผย ขอร้องท่านผูเ้ ฒ่าช่วยออกหน้าให้ ให้หมอหลวงหยางไม่ก็หมอหลวงหวังมา
ตรวจอาการน้องสะใภ้ดหู น่อย”
ไม่ตอ้ งพูดถึงอวีเ้ หวิน ขนาดอวีถ้ งั ยังยินดีแทบบ้ากับเรื่องคาดไม่ถึงนี ้
อวีถ้ งั ถึงขัน้ รูส้ กึ ผิดขึน้ มาเล็กน้อย
55

ต่อให้หลูซ่ ิ่นจะนิสยั ไม่ดีอย่างไร แต่เขาก็ปฏิบตั ิตอ่ บิดานางอย่างดี อาศัยแค่จดุ นี ้ ต่อไป


หากเขามาเกาะบิดานางดื่มกินอีก นางตัง้ ใจจะทําเป็ นไม่รูไ้ ม่เห็นเสีย
อวีเ้ หวินกล่าวขอบคุณหลูซ่ ิ่นซํา้ ไปซํา้ มา เอ่ยว่า “ไม่ว่าอาการป่ วยของนายหญิงของข้า
จะรักษาได้หรือไม่ เจ้าล้วนเป็ นผูม้ ีพระคุณยิ่งใหญ่ตอ่ ข้าเช่นเดียวกัน”
หลู่ซิ่นกลับไม่เกรงใจเลยสักนิด กล่าวว่า “เจ้าก็ไม่ดูเสียบ้างว่าพวกเรานับเป็ นสหาย
สนิ ท เพี ย งใด เรื่อ งของเจ้า ข้า ล้ว นจํา ใส่ใ จไว้แ ล้ว เพี ย งแต่ค วามสามารถข้า มี อย่ า งจํา กัด
ช่วยเหลืออะไรเจ้าไม่ได้มาก”
“วาจานีเ้ จ้าพูดห่างเหินเกินไปแล้ว!” อวีเ้ หวินกับหลูซ่ ิ่นแลกเปลี่ยนวาจาเกรงอกเกรงใจ
กันสองสามคํา จากนัน้ ก็เรียกอาเสาไปสั่งอาหารที่หอสุรามาโต๊ะหนึ่ง แล้วสั่งป้าเฉินให้ไปซือ้
สุรากลับมา
“ซือ้ สุราดีมาเลยนะ!” อวีถ้ ังยิม้ แฉ่ง ควักเงินเก็บของตนเองให้ป้าเฉิ นไปหนึ่งตําลึง
“ท่านลุงหลูน่ บั ว่าช่วยเราครัง้ ใหญ่เลย”
ป้าเฉินหัวเราะเหอะๆ แล้วจากไป
คืนนัน้ หลูซ่ ิ่นก็ด่มื สุราจนเมาพับที่เรือนสกุลอวีอ้ ีกครัง้ ยังดีท่ีเขาไม่ลืมเรื่องที่ตอ้ งไปจวน
สกุลเผยกับอวีเ้ หวิน จึงลุกจากเตียงตัง้ แต่เช้าตรู ่ หลังจากล้างหน้าล้างตา ก็กินบะหมี่ผดั แห้งไป
ถ้วยหนึ่ง ดื่มนํา้ เต้าหูไ้ ปสองชาม แล้วออกจากเรือนไปพร้อมกับอวีเ้ หวิน
อวีถ้ งั รออยู่ท่ีเรือนด้วยความกระวนกระวาย
ช่วงบ่าย หลู่ซิ่นกับอวีเ้ หวินสะพายล่วมยาแยกกันมาคนละใบ ก่อนจะเชิญบุรุษแปลก
หน้าสองคนผ่านประตูใหญ่เข้ามาด้วยความระมัดระวังและกระตือรือร้น ผูท้ ่ีเดินอยู่ขา้ งอวีเ้ หวิน
มีรูปร่างสูงกว่าเล็กน้อย ผมเคราขาวโพลน มองดูแล้วน่าจะอายุหกสิบเป็ นอย่างน้อย ท่าทางมี
กําลังวังชา สีหน้าเคร่งขรึม ส่วนผูท้ ่ีเดินอยู่ขา้ งหลู่ซิ่นนัน้ หน้าขาวไร้เครา ค่อนข้างอ้วนท้วม ยิม้
จนตาหยี หน้าผากชุม่ ไปด้วยเหงื่อ ทําให้คนรูส้ กึ น่าเข้าใกล้
56

อวีเ้ หวินถลึงตาใส่อวีถ้ งั ทีหนึ่ง บอกใบ้ให้นางหลบไปที่อ่นื ก่อน


อวีถ้ งั กลับไปที่หอ้ งของตนเอง แต่ก็สง่ ซวงเถาไปแอบฟั งข่าวอย่างไม่วางใจ
ซวงเถาหายไปเกือบหนึ่งชั่วยามเต็มๆ ถึงได้กลับมา ตอนที่มาถึงดวงตาหัวคิว้ ล้วนเต็ม
ไปด้วยความยินดี ทําให้อวีถ้ งั เกิดความหวังอันไร้ขีดจํากัด
“คุณหนูใหญ่ ” ซวงเถาไม่ทาํ ให้อวีถ้ ังผิดหวัง เปิ ดปากก็มีแต่เรื่องดีๆ ออกมาทั้งสิน้
“ท่านผูเ้ ฒ่าเผยช่างเป็ นคนมีเมตตายิ่ง อาการป่ วยของตนยังรักษาไม่หาย แต่ก็ให้ท่านหมอมา
ตรวจอาการนายหญิงที่เรือนเราก่อน อีกทัง้ ยังส่งท่านหมอมาถึงสองท่าน…หมอหลวงหยางกับ
หมอหลวงหวังล้วนมากันครบ หมอหลวงสองท่านจับชีพจรให้นายหญิงแล้ว บอกว่าเป็ นโรคเก่า
ที่เรือ้ รังมาแต่ตอนที่คลอด ขอเพียงไม่ออกแรงให้เหนื่อยจนเกินไป ไม่โมโหเดือดดาล รักษาตัว
ให้ดีเป็ นใช้ได้แล้ว หากให้ด่ืมยาทุกวันๆ กลับมิใช่เรื่องดีอะไร หมอหลวงหวังยังเขียนใบเทียบยา
ให้นายหญิงด้วย บอกว่าต้องทําเป็ นยาลูกกลอน กินวันละหนึ่งเม็ด เช่นนีจ้ ะอยู่รอป้อนข้าวให้
หลานก็ไม่มีปัญหา นายท่านดีใจยิ่งกว่าอะไรดี ถึงขนาดลั่นวาจาว่าจะตัง้ ป้ายสรรเสริญให้หมอ
หลวงทัง้ สองเลยเจ้าค่ะ”
คิดไม่ถึงว่าท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผยจะส่งหมอหลวงมาให้ถึงสองคน
“อามิตตาพุทธ!” อวีถ้ ัง อดจะพนมมื อแล้วสวดมนต์ออกมาคํา หนึ่งไม่ได้ ในใจรู ส้ ึก
ขอบคุณสกุลเผยอย่างไม่มีท่ีสนิ ้ สุด
ไม่ว่าสกุลเผยจะเป็ นเช่นไร แต่ท่านผูเ้ ฒ่าเผยช่วยชีวิตมารดาของนางไว้ ช่วยเหลือ
สกุลอวีข้ องพวกนางไว้ นี่คือเรื่องจริงแท้
อวีถ้ ังนึกขึน้ ได้ว่าอีกไม่ก่ีวนั ท่านผูเ้ ฒ่าเผยก็ตอ้ งหมดลม ในใจพลันรู ส้ ึกร้อนรนขึน้ มา
ทันที
นางต้องส่งสารบอกคนของสกุลเผยหรือไม่ หรือว่าต้องเอ่ยเตือนไว้ลว่ งหน้า?
เช่นนี ้ ไม่แน่วา่ ท่านผูเ้ ฒ่าเผยอาจจะเอาชีวิตรอดจากคราวเคราะห์นีไ้ ปได้
57

แต่จะส่งสารหรือเอ่ยเตือนสกุลเผยอย่างไรจึงจะไม่ให้นางถูกกล่าวหาว่าเสียสติ สมอง
ของอวีถ้ ังตีกันวุ่น เมื่อคิดอะไรไม่ออก ก็ได้แต่ทาํ ตามที่หัวใจเรียกร้อง นางเดินไปทางห้อง
หนังสือของอวีเ้ หวิน เห็นว่าอวีเ้ หวินกําลังยืนส่งหลูซ่ ิ่นกับหมอหลวงสองท่านอยู่หน้าประตูพอดี
“เรือนเจ้ายังมีคนป่ วย ไม่ตอ้ งมากพิธีนกั หรอก” ผูท้ ่ีตวั ท้วมหน้าตาใจดีเอ่ยด้วยรอยยิม้
ตาหยี “ท่านผูเ้ ฒ่าเผยทางนัน้ ยังรอให้พวกข้ากลับไปส่งข่าวน่ะ!”
อีกท่านที่เคราผมขาวโพลนกลับพยักหน้าให้อวีเ้ หวินด้วยท่าทีเย็นชา เอ่ยว่า “พวกเรา
มาถึงที่น่ี ก็เพราะเห็นแก่หน้าท่านผูเ้ ฒ่าเผย เจ้าอยากจะขอบคุณ ก็ไปขอบคุณท่านผูเ้ ฒ่าเถอะ”
อวีเ้ หวินกล่าวตอบด้วยท่าทีนอบน้อมถ่อมตนว่า “สําหรับท่านผูเ้ ฒ่านัน้ อย่างไรข้าต้อง
ไปโขกศีรษะคารวะแน่ขอรับ แต่หมอเทวดาอย่างสองท่านข้าก็ตอ้ งขอบพระคุณด้วยเช่นกัน”
แค่พดู จาไม่ก่ีคาํ ท่านหมอที่ผมเคราขาวโพลนผูน้ นั้ ก็เริม่ เผยสีหน้าหมดความอดทน
หลูซ่ ิ่นรีบตัดบทว่า “ฮุ่ยหลี่ เจ้าอยู่เรือนดูแลน้องสะใภ้เถอะ ข้าจะไปส่งท่านหมอทัง้ สอง
กลับจวนสกุลเผยแทนเจ้าเอง”
อวีเ้ หวินได้แต่รบั ปาก แอบยัดเงินก้อนน้อยให้หลูซ่ ิ่นหลายก้อน ถึงได้สง่ ทัง้ สามคนออก
ประตูไป
อวีถ้ งั รีบปรี่เข้าไปหาทันที ถามบิดาว่า “ท่านแม่มีทางรอดแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ ท่านพ่อ
ไปขอร้องท่านผูเ้ ฒ่าเผยว่าอย่างไรหรือเจ้าคะ?”
อวีเ้ หวินหัวเราะแล้วตอบว่า “ต้องขอบใจท่านลุงหลู่ของเจ้า เขาพูดจนพ่อบ้านใหญ่
ยอมไปแจ้งข่าวแก่ท่านผูเ้ ฒ่าเผย ท่านผูเ้ ฒ่าเป็ นคนดีมีเมตตา จึงสั่งให้ท่านหมอทัง้ สองมาตรวจ
อาการให้มารดาเจ้าทันที ข้ายังไม่ทนั ได้พบหน้าท่านผูเ้ ฒ่าเลยด้วยซํา้ ” พูดถึงตรงนี ้ เขาก็ลบู ผม
ที่ดาํ ขลับดั่งขนกาของนาง “บุญคุณครัง้ นี ้ เจ้าต้องจําใส่ใจไว้ให้ดีละ่ !”
อวีถ้ งั ส่งเสียงรับทราบ เอ่ยถามถึงอาการป่ วยของท่านผูเ้ ฒ่าเผยบ้าง “รูห้ รือไม่เจ้าคะว่า
ไม่สบายที่ตรงไหน?”
58

อวีเ้ หวินตอบว่า “ได้ยินว่าเป็ นเพราะกลัดกลุม้ เกินไป อาจเพราะคนผมขาวต้องส่งคน


ผมดํา คงยังทําใจไม่ได้”
ในเมื่อเป็ นเช่นนี ้ ชาติก่อนเหตุใดจึงเสียชีวิตเล่า?
คงไม่ใช่เพราะมีเบือ้ งลึกเบือ้ งหลังอะไรอีกกระมัง?
อวีถ้ งั นึกถึงเรื่องแก่งแย่งตําแหน่งผูน้ าํ สกุลที่หลูซ่ ิ่นเล่าให้ฟังก่อนหน้านีข้ นึ ้ มาได้ ในใจก็
ยิ่งไม่สงบ แต่นางไม่มีสิ่งใดเพื่อไปหยุดยัง้ เหตุการณ์ท่ีเคยเกิดขึน้ ในชาติก่อน
นางควรทําเช่นไรดี?
ตอนที่อวีถ้ งั กําลังหมดอาลัยอยู่น่ นั เอง นางพลันพบว่าท่านพ่อทําเหมือนกับชาติท่ีแล้ว
ไม่มีผิด เขาขายที่นาชัน้ ดีซง่ึ เป็ นมรดกจากบรรพบุรุษไปแล้วยี่สิบหมู่
“ท่านจะเอาเงินพวกนีไ้ ปทําอะไรหรือเจ้าคะ?” เรื่องของท่านผูเ้ ฒ่าเผยยังคิดหาหนทาง
ไม่ออก บิดานางก็ก่อเรื่องอีกแล้ว นางอดจะรูส้ กึ ขุ่นเคืองไม่ได้ จึงพูดออกไปอย่างไม่คอ่ ยเกรงใจ
นัก “ข้าพูดกี่รอบต่อกี่รอบแล้ว มิให้ท่านขายที่นาของสกุลตามอําเภอใจมิใช่หรือ? ตอนนีอ้ าการ
ป่ วยของท่านแม่เพิ่งจะพอมีล่ทู าง ร้านค้าของสกุลก็ยงั ไม่มีรายรับเข้ามา ต่อให้ตอ้ งขายที่นา
ออกไป ก็ตอ้ งค่อยๆ แบ่งขายเพื่อซือ้ ยามาให้ท่านแม่กิน!”
ใบเทียบยาที่หยางโต่วซิงเขียนให้มีโสมเป็ นองค์ประกอบ นับเดือนสะสมปี สําหรับ
สกุลอวีแ้ ล้วถือว่าเป็ นรายจ่ายก้อนใหญ่เลยทีเดียว
59

ตอนที่ 8 ซือ้ ภาพ


อวีเ้ หวินรู ส้ ึกว่าเรื่องนีเ้ ป็ นความผิดของตน เมื่อถูกบุตรสาวเค้นถาม เขาจึงอดรู ส้ ึกผิด
ไม่ได้ ตอบเสียงแผ่วว่า “อาถัง แม้ตอนนีม้ ารดาเจ้าต้องกินยา แต่ไม่ตอ้ งไปเมืองหลวงแล้ว เงิน
ก้อนนีก้ ็ถือว่าเป็ นเงินที่ขา้ พามารดาเจ้าไปเมืองหลวงก็แล้วกัน อีกอย่าง ท่านลุงหลู่ของเจ้า
ปฏิบตั ิต่อสกุลเราเช่นไร เจ้าก็คงเห็นกับตาตัวเองแล้ว แล้วตอนนีข้ า้ จะมัวสนใจแต่เรื่องตนเอง
จนไม่ไยดีความเป็ นตายของเขาได้อย่างไร?”
อวีถ้ งั โมโหสุดขีด เอ่ยว่า “ตอนนีเ้ ขาเจอเรื่องคอขาดบาดตายอย่างนัน้ รึ? ไม่มีสองร้อย
ตําลึงก็มีชีวิตอยู่ไม่ได้แล้วหรือเจ้าคะ?”
“ก็ประมาณนัน้ !” อวีเ้ หวินตอบ “ท่านลุงหลู่ของเจ้าไปล่วงเกินคนของสกุลเผย ไม่อาจ
รัง้ ตัวอยู่ท่ี เมืองหลินอันได้แล้ว ปี หน้าจะมีการเปิ ดสอบเอินเคอ 1 แล้ว หากเขาไม่มีผูใ้ ห้การ
13

รับรองอย่างจริงจัง เส้นทางบัณฑิตคงยากจะก้าวหน้าได้”
เรื่องประเภทนีอ้ วีถ้ งั พอเข้าใจอยู่
ขุนนางที่เกษียณอายุแล้วล้วนยินดีจะสร้างความสุขสงบเพื่อปวงประชา หากในท้องถิ่น
มีคนหนุ่มเข้าไปสอบในเมืองหลวง ก็จะเขียนจดหมายแนะนําไปยังขุนนางที่ตนรู จ้ ักหรือสนิท
สนม ขอให้พวกเขาช่วยจัดการเรื่องที่พกั หรืออาจถึงขัน้ ช่วยชีแ้ นะบทเรียน เมื่อผลสอบประกาศ
ออกมาจะได้อยู่ในลําดับที่สงู ขึน้
นางแสยะยิม้ เย็น เอ่ยว่า “ถ้าข้าจําไม่ผิด ท่านลุงหลู่มิใช่ยงั เป็ นแค่ซิ่วไฉหรือเจ้าคะ?
สกุลเผยถึงจะเขียนจดหมายแนะนําให้เขา เกรงว่าเขาก็คงไม่ได้ใช้อยู่ดี? อีกอย่าง สกุลเผยแต่ไร
ก็ชอบช่วยเหลือผูค้ นอยู่แล้ว เขาไปทําอันใดถึงได้ล่วงเกินคนสกุลเผยเข้า ท่านพ่อเคยขบคิด
อย่างละเอียดดูหรือไม่เจ้าคะ?”

1
เอินเคอ ก็คือการสอบเคอจวี่ประเภทหนึ่ง ‘เอิน’ แปลว่า บุญคุณ เป็ นการจัดสอบเฉพาะกิจในช่วงเวลาพิเศษ เช่น เนื่องใน
โอกาสเฉลิมพระชนม์พรรษาของไทเฮา เป็ นต้น
60

เห็นชัดว่าอวีเ้ หวินไม่ตอ้ งการอธิบายความยืดยาว เพียงตอบว่า “เขาตัดสินใจที่จะย้าย


ไปอยู่เมืองหลวงแล้ว วันข้างหน้าไม่รูจ้ ะได้กลับมาอีกหรือไม่ ถือเสียว่าข้าช่วยเขาครัง้ สุดท้าย
ตอบแทนที่เขาช่วยชีวิตมารดาของเจ้าไว้ เจ้าก็ไม่ตอ้ งพูดถึงเรื่องนีอ้ ีก”
เรื่องมาถึงขัน้ นี ้ อวีถ้ งั ยังจะพูดอะไรได้อีก
นางเอ่ยเสียงแข็งต่อว่า “ภาพวาดล่ะเจ้าคะ?”
ภาพผืนนัน้ อย่างไรก็เป็ นวัตถุเก่าแก่ นับว่ามีค่าไม่นอ้ ย ต่อไปหากครอบครัวไม่อาจควัก
เงินมาซือ้ ยาให้มารดา ก็สามารถนําของไปจํานําได้อยู่
อวีเ้ หวินส่งม้วนภาพวาดให้อวีถ้ งั อย่างเอาอกเอาใจ
ทางด้านอวีถ้ งั ก็คลี่มว้ นภาพกางออกบนโต๊ะหนังสือ พร้อมกับงึมงําเสียงเบาว่า “มีแต่
ท่านที่ใจดีถึงเพียงนี ้ เงินตัง้ สองร้อยตําลึง หากเขานําภาพไปจํานํา อย่างมากก็ได้แค่หนึ่งร้อย
ตําลึงเท่านัน้ …”
วาจานางพูดยังไม่ทนั จบดี ดวงตาก็เบิกโตกว้าง
นี่ไม่ใช่ภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ ผืนนัน้ ที่นางหยิบมาดูเล่นบ่อยๆ เมื่อชาติก่อน
ชาติก่อน หลังจากเกิดเรื่องกับบิดา ภาพผืนนีก้ ็ถูกทิง้ ไว้ท่ีเรือน โดนผูค้ นหลงลืมไป
กระทั่งนางแต่งงาน ท่านลุงใหญ่คาํ นึงว่าสกุลหลี่ท่ีนางต้องแต่งเข้าไปเป็ นสกุลบัณฑิต อยากจะ
ซือ้ ภาพวาดพู่กันเพิ่มเพื่อให้ขบวนสินเดิมมีหน้ามีตาไม่อายใคร ภาพผืนนีถ้ ึงได้ถูกรือ้ ออกมา
และเพราะภาพผืนนีม้ ีส่วนเกี่ยวกับการจากไปของบิดา นางจึงใช้เป็ นของระลึกต่างหน้า เก็บ
รักษามันไว้อย่างดี และหยิบออกมาดูอยู่บอ่ ยครัง้
นางจําได้อย่างชัดเจน ภาพผืนนีม้ ีตราประทับอยู่ย่ีสิบสามตรา ตราประทับสองลําดับ
ท้ายสุดมีช่ือว่า ‘ชุนสุ่ยถัง’ และ ‘โซ่วเหมยเวิง’ โดยที่ ‘ชุนสุ่ยถัง’ จะถูกประทับอยู่ดา้ นข้างของ
‘โซ่วเหมยเวิง’ ทว่าตอนนี ้ ตําแหน่งเดิมที่ควรจะมีตราประทับว่า ‘ชุนสุย่ ถัง’ กลับกลายเป็ นคําว่า
‘เหมยหลิน’ เสียได้
61

ภาพผืนนีเ้ ป็ นของปลอม!
อวีถ้ งั เดือดดาลสุดขีด เอ่ยว่า “ท่านพ่อ หลูซ่ ิ่นมันเป็ นคนชั่วช้า!”
อวีเ้ หวินเห็นว่าบุตรสาวป้ายสีสหายของตนครัง้ แล้วครัง้ เล่า ในใจก็เริ่มไม่ยินดีนกั เขา
เดินเข้าไปหา ทางหนึ่งจะม้วนภาพเก็บ ทางหนึ่งก็เอ่ยว่า “เจ้าเด็กคนนี ้ เหตุใดพูดจาเช่นนีเ้ ล่า?
เกิดเป็ นคนใครบ้างไม่มีขอ้ ด้อย เจ้าอย่าได้จบั จ้องแต่ส่วนที่ไม่ดีของท่านลุงหลู่อยู่แบบนัน้ การ
มองคน สําคัญอยู่ท่ี…”
“ไม่ใช่นะเจ้าคะ!” อวีถ้ ังตัดบทแทรกอวีเ้ หวิน ห้ามไม่ให้บิดาม้วนภาพผืนนัน้ ไปเก็บ
นิว้ ชีไ้ ปที่ตราประทับซึ่งเขียนว่า ‘เหมยหลิน’ แล้วพูดว่า “ท่านพ่อ ท่านดูสิ ตราประทับตรงนี ้
สมควรจะเป็ น ‘ชุนสุย่ ถัง’…”
อวีเ้ หวินหัวเราะขึน้ มาทันใด ตอบว่า “ปกติให้เจ้าตัง้ ใจท่องหนังสือเจ้าไม่เคยสนใจ
ตอนนีก้ ลายเป็ นเรื่องขบขันไปเสียแล้ว! ‘ชุนสุ่ยถัง’ เป็ นตราประทับของใครข้าไม่รูห้ รอก แต่ว่า
‘เหมยหลิน’ เป็ นตราประทับส่วนตัวของใต้เท้าจั่ว สมัยก่อนข้าเคยศึกษาลายมือและตราประทับ
ของท่านโดยเฉพาะ ภาพผืนนีข้ องท่านลุงหลูข่ องเจ้านัน้ บิดาผูล้ ว่ งลับของเขาได้รบั มอบมาจาก
ใต้เท้าจั่ว ถ้าไม่มีตราประทับนีส้ ิจึงจะนับว่าแปลก เจ้าดูนะ ‘โซ่วเหมยเวิง’ ตรงนี ้ ก็คือฉายาของ
บิดาของท่านลุงหลูข่ องเจ้า”
อวีถ้ งั พลันรูส้ กึ ยุ่งเหยิงไปหมด
หรือว่าภาพผืนที่นางเอาออกมาจับเล่นบ่อยๆ เมื่อชาติก่อนจะเป็ นของปลอม?
อวีถ้ งั ไม่แล้วแก่ใจ นางขอให้อวีเ้ หวินหาคนมาพิสจู น์
อวีเ้ หวินกลับไม่เห็นด้วย “บิดาเจ้าอาจเล่าเรียนไม่สาํ เร็จ แต่ภาพวาดเก่าสมัยราชวงศ์
ก่อนมีไม่ก่ีผืน อย่างไรก็ไม่มีทางมองพลาดไปได้”
ความเคลือบแคลงสงสัยในใจอวีถ้ งั เริม่ เพิ่มพูนขึน้ เรื่อยๆ
62

ชาติก่อน หลังจากที่นางแต่งเข้าสกุลหลี่ เรือนนางถูกขโมยขึน้ ไปหนึ่งครัง้ ภายหลังทุก


คนช่วยกันตรวจนับข้าวของ ก็พบว่าเครื่องประดับทองของนางหายไปเพียงสองสามชิน้ ตอนนัน้
นางยังคิดสงสัย สกุลหลี่ท่ีใหญ่โตและกําแพงสูงลิบเช่นนี ้ เมื่อมีขโมยขึน้ เรือน กลับหยิบของติด
มือไปเพียงไม่ก่ีชนิ ้ เท่านัน้ หรือ?
หรือว่าภาพผืนนีไ้ ด้ถกู คนขโมยไปตัง้ แต่ตอนนัน้ แล้ว?
ช่วงเวลาที่อยู่ในสกุลหลี่ อวีถ้ งั ไม่ใคร่อยากจะนึกถึงมากนัก ปฏิเสธไม่ได้ว่าในใจนางมี
ปมอยู่กระจุกหนึ่ง โดยเฉพาะความเจ็บแค้นที่มีต่อคนสกุลหลี่ หากแตะต้องเพียงนิดเดียวก็ทาํ
ให้นางสะท้านสั่นด้วยความชิงชัง เจ็บแค้นจนพูดอะไรไม่ออก
ไม่ได้!
นางไม่อาจทําเลอะเลือน ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึน้ ไม่ได้
อวีถ้ งั ขอภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ มาจากอวีเ้ หวินไปชื่นชมอย่างละเอียด ก่อนจะ
แอบเอาภาพนัน้ ไปที่โรงจํานําสกุลเผยอย่างเงียบเชียบ
สกุลเผยเปิ ดโรงจํานําที่หลินอันเพียงแห่งเดียวเท่านัน้
ตัง้ อยู่ท่ีส่แี ยกถนนด้านหน้าท่าเรือหลินอัน
เถ้าแก่ก็ยงั เป็ นคนที่รา่ งท้วมๆ ขาวๆ นามว่าถงกุย้
ชาติก่อน อวีถ้ งั นําสินเจ้าสาวมาจํานํากับเขาจํานวนไม่นอ้ ย
นางโพกศีรษะ แต่งตัวเป็ นหญิงชาวบ้านที่ออกเรือนแล้ว เดินเข้าไปในโรงจํานําอย่าง
เงียบๆ
เถ้าแก่ถงไม่อยู่รา้ น ผูท้ ่ีเฝ้าอยู่ตรงโต๊ะคือบุตรชายของเถ้าแก่ถง นามว่าถงไห่
เขาเหมือนกับเถ้าแก่ถงทุกกระเบียด หน้าตาขาวผ่อง ดูทว้ มๆ แม้ปีนีอ้ ายุยงั ไม่ถึงยี่สบิ ดี
แต่เจอคนก็มีรอยยิม้ ประดับเต็มหน้า เห็นแล้วน่าคบหาอย่างยิ่ง
63

อวีถ้ งั ส่งภาพผืนนัน้ ให้เขา เอ่ยเสียงเบาไปคําหนึ่งว่า “จํานําชั่วคราว”


ถงไห่รบั ของไปพร้อมยิม้ ตาหยี ค่อยๆ คลี่มว้ นภาพออกอย่างไม่รอ้ นใจ ทว่าวินาทีท่ีเห็น
ภาพม้วนนัน้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที แม้ภายหลังจะกลบเกลื่อนด้วยรอยยิม้ อย่างรวดเร็ว แต่
ความแตกตื่นบนหน้าเขากลับถูกอวีถ้ งั จับได้เสียแล้ว
เห็นได้ชดั ว่าถงไห่ในตอนนีฝ้ ึ กฝนจนมีสายตาที่คมกริบแล้ว
“แม่ น างโปรดรอสัก ครู ่ เชิ ญ ท่ า นไปดื่ ม ชารอที่ โ ถงด้า นในก่ อ นขอรับ ” เขายิ ม้ แล้ว
เหมื อนกับพระสัง กัจจายน์ย่ิง นัก “สิ่ ง ที่ ท่ า นนํา มาจํา นํา เป็ นภาพวาดพู่กันเก่าแก่ ต้องให้ผู้
ประเมินของร้านเราตรวจสอบก่อนจึงจะตีราคาได้ขอรับ”
เหตุใดถึงบอกว่าโรงจํานําของสกุลเผยเที่ยงตรงเป็ นธรรมน่ะหรือ? โรงจํานําหลายแห่ง
พอเห็นผูอ้ ่ืนนําของมาจํานํา ก็เริ่มต้นหลอกลวงคนก่อนแล้ว ถามว่าอยากจะจํานําเท่าไร ทัง้ ไม่
ว่าผูอ้ ่ืนจะตอบจํานวนมากน้อยเพียงไร พวกเขาก็จะลดค่าของสิ่งนัน้ จนไม่เหลือราคา โน้มน้าว
ให้คนจํานําถาวรไปเสีย
อวีถ้ งั พยักหน้า ความร้อนรนที่สมุ อกตัง้ แต่บิดาซือ้ ภาพนีม้ าค่อยๆ คลายลงไปได้
ชะตาของนางนับว่าประหลาดนัก เรื่องใดๆ ล้วนเปลี่ยนไปเสียหมด แต่อย่างน้อยโรง
จํานําสกุลเผยที่นางคุน้ เคยแห่งนี ้ เถ้าแก่นอ้ ยและเถ้าแก่ใหญ่ของร้านล้วนยังเหมือนเดิมไม่
เปลี่ยน
นางเดินตามเถ้าแก่นอ้ ยถงเข้าไปที่โถงด้านใน
ลมพัดผ่านมาวูบหนึ่ง ต้นการบูรในลานร้านโบกไหวจนเกิดเสียง เป็ นผลให้ปลาจิ๋นหลี่ 2 14

หลายตัวที่เลีย้ งไว้ในสระใต้ตน้ การบูรต้องโผล่หน้าออกมาจากใต้ใบของต้นบัวสาย

2
ปลาจิ๋นหลี่ หรือก็คือปลาคาร์พ นิยมเลีย้ งไว้เพื่อเสริมความเป็ นสิรมิ งคล
64

อวีถ้ งั ชะลอฝี เท้าลงอย่างไม่รูต้ วั นางจ้องมองอยู่หลายที กระทั่งได้ยินเสียงคนพูดคุยดัง


ลอดออกมาจากด้านหลังประตูกนั้ เคลือบสีท่ีอยู่ตรงหน้า
นางหันไปมองตามทิศทางเสียง
นางมองไม่เห็นหน้าคน เห็นเพียงเงาร่างของบุรุษสองคนผ่านรอยต่อของประตู
คนที่อวบอ้วนผูน้ นั้ ก็คือ ถงกุย้ นางเห็นแวบเดียวก็จาํ ได้ทนั ที ส่วนอีกคนรูปร่างสูงใหญ่
อยู่ในชุดต้าวผาว 3 สีเขียวครามเรียบตัดจากผ้าไหมหังโจว แผ่นหลังยืดตรง สองมือไพล่หลัง แม้
15

จะมองจากที่ไกลๆ ทั้งถูกกั้นด้วยประตูอีกชั้นหนึ่ง ก็ยังรับรู ไ้ ด้ถึงกลิ่นอายภูมิฐาน ไม่ใช่คน


ธรรมดาสามัญ
คงจะเป็ นลูกค้าคนพิเศษของร้านกระมัง
อวีถ้ งั มาจํานําสิ่งของโดยไม่เปิ ดเผยตัวตน เพราะกลัวจะถูกจับได้ จึงไม่กล้ามองหลาย
ที แต่อดจะเก็บไปขบคิดต่อในใจไม่ได้
ท่าทางโดดเด่นเพียงนี ้ แต่กลับมาจํานําของ ไม่รูว้ า่ เป็ นคุณชายจากสกุลไหน…
นางสะบัดศีรษะไปมา จูๆ่ รูส้ กึ เสียดายขึน้ มาอย่างไร้เหตุผล
นางดื่มนํา้ ชาไปสองถ้วยแล้ว ในที่สดุ เถ้าแก่นอ้ ยและเถ้าแก่ใหญ่ก็เดินออกมาพร้อมกัน
“แม่นางท่านนี”้ เถ้าแก่ใหญ่ถงถือม้วนภาพวาดที่นางส่งให้เถ้าแก่นอ้ ยถงไปก่อนหน้านี ้
ไว้ในมือ ปาดเหงื่อเล็กน้อยพลางพูดว่า “ภาพวาดผืนนีข้ องท่านเป็ นงานคัดลอกขอรับ”
ภาพปลอม?!
นางกระเด้งตัวลุกขึน้ มาทันที
นางรูอ้ ยู่แล้ว หลูซ่ ิ่นผูน้ ีไ้ ม่ใช่คนดีอะไร!

3
ชุดต้าวผาว เป็ นชุดเสือ้ ยาวทรงตรง คอเสือ้ ป้ายทับกัน จะคาดด้วยเข็มขัด เชือกหรือใช้แถบผ้าผูกทับก็ได้
65

ชาติก่อน บิดาไม่ได้ปฏิเสธและซือ้ ภาพของเขามา ดีช่ ัวอย่างไรเขาก็ยังขายภาพจริง


ให้กบั บิดานาง ชาตินี ้ บิดานางไม่ยินดีจะซือ้ ภาพของเขา เขาถึงกับขายภาพปลอมให้บิดานาง
เชียวรึ?
อวีถ้ งั ได้แค่ขบเขีย้ วเคีย้ วฟั น
แต่ในใจก็อดจะยอมรับไม่ได้ หากมิใช่ว่านางสอดมือเข้าไปยุ่ง ชาตินีก้ ็คงไม่เกิดเรื่อง
เช่นนีข้ นึ ้
ในเมื่อนางเป็ นคนก่อเรื่อง แน่นอนว่านางต้องเป็ นคนเก็บกวาดเรื่องยุ่งๆ นีเ้ อง
ถ้าไม่เอาภาพจริงในมือของหลูซ่ ิ่นคืนมา ก็ตอ้ งเอาเงินในมือของเขากลับมาแทน!
อวีถ้ ังพลันแย่งภาพผืนนัน้ มาจากมือเถ้าแก่ใหญ่ถง เอ่ยเสียงแข็งว่า “ขอบคุณเถ้าแก่
ใหญ่ถงมาก รบกวนท่านแล้ว”
เถ้าแก่ใหญ่และเถ้าแก่นอ้ ยล้วนมองนางอย่างตกตะลึง คล้ายกับถูกทําให้ตกใจ
อวีถ้ งั ทําได้เพียงฝื นยิม้ ออกมาบางๆ
นางจะเคียดแค้นหลูซ่ ิ่นก็เคียดแค้นไปสิ แต่ไม่สมควรจะพาลใส่เถ้าแก่ใหญ่ถงไปด้วย
“ขอประทานโทษด้วย!” นางเอ่ยขอขมา “ข้าคิดไม่ถึงว่านี่จะเป็ นภาพปลอม ทําให้พวก
ท่านต้องเสียเวลาแล้ว”
เถ้าแก่ใหญ่และเถ้าแก่นอ้ ยล้วนถูกอบรมมาเป็ นอย่างดี หากว่าเปลี่ยนเป็ นผูอ้ ่ืน การถือ
ภาพปลอมมาจํานํา คงถูกคนของโรงจํานําโยนออกไปกลางถนนให้ผอู้ ่ืนหัวเราะเยาะเพราะคิด
ว่าเป็ นนักต้มตุน๋ ตัง้ แต่แรกแล้ว
“มิใช่ขอรับ!” เถ้าแก่นอ้ ยพูดจาติดๆ ขัดๆ “ท่าน ผ้าคลุมท่านร่วงน่ะขอรับ”
ผ้าคลุมร่วงแล้วเป็ นอย่างไรเล่า?
ผ่านไปพักหนึ่งอวีถ้ งั ถึงเพิ่งคิดออก
66

เพราะต้องการเอาของมาจํานํา นางจึงจงใจเลือกเสือ้ ผ้าเก่าๆ ของซวงเถามาชุดหนึ่ง


นางยังหวีผมทรงหญิงออกเรือน เสียบด้วยดอกไม้สีแดงบานเย็นดอกหนึ่ง เดิมยังคิดว่าต้องผัด
แป้งสักหน่อยหรือไม่ เพื่อให้ดวงหน้าดูอ่อนล้าซีดเซียว แต่ตอนที่หาตลับแป้งของซวงเถาเจอ
นางก็เดียดฉันท์ว่าแป้งผัดหน้าที่ซวงเถาใช้ไม่เนียนละเอียดพอ ซวงเถาบอกว่าจะไปที่รา้ น ‘เซี่ย
ฟู่ เซียง’ เพื่อซือ้ ตลับใหม่ให้ แต่นางก็รูส้ ึกอีกว่าช่างไม่คมุ้ เงินสองตําลึงที่ตอ้ งจ่ายไปเสียเลย…
เงินสองตําลึงนั่นมากพอให้มารดาซือ้ ยาได้ตงั้ ครึง่ เดือน
อวีถ้ งั นึกย้อนไปถึงชาติก่อน นางเพียงโพกศีรษะอย่างลวกๆ เข้าไปที่รา้ นก็ไม่เห็นมีใคร
จําได้ จึงได้ใจกล้าโพกศีรษะออกไปอีกครัง้ กลับลืมไปว่าตอนนีต้ นเพิ่งจะถึงวัยปั กปิ่ น ดวงหน้า
ยังละอ่อนราวกับต้นอิงเถาที่แตกยอดออกผลได้สามเดือน ปิ ดบังความน่ารักอ่อนหวานไม่มิด
มองอย่างไรก็เหมือนเด็กคนหนึ่งที่เอาชุดผูใ้ หญ่มาใส่เล่น ต่อให้คนตาบอดก็ยงั มองออกว่านาง
เจตนาปลอมตัวมา
ดวงหน้าอวีถ้ งั ขึน้ สีแดงเรื่อ มือก็ว่นุ วายกุมศีรษะไว้ แล้วกําม้วนภาพหมุนตัวออกจาก
โรงจํานํา
กลางวันช่วงฤดูรอ้ นแสงตะวันสาดส่องแรงกล้า แผดเผาจนคนลืมตาแทบไม่ขนึ ้
บนท่าเรือไร้ซ่งึ ผูค้ น ใต้ชายคาของร้านค้าข้างๆ กัน มีเถ้าแก่นอนเปิ ดเสือ้ ท่อนบนอยู่บน
เก้าอีโ้ ยกพลางโบกพัดใบกกไปมา สุนขั ของร้านนอนขดตัวอย่างเบื่อหน่ายอยู่ขา้ งเก้าอีโ้ ยก มัน
ร้องครางไปเรื่อยอย่างไม่รูส้ กึ เหน็ดเหนื่อย ทําให้ช่วงบ่ายที่เงียบเหงาน่าอึดอัดยิ่งกว่าเดิม
อวีถ้ งั ได้สติกลับมา
นางถามไปแค่ว่าภาพนีเ้ ป็ นของจริงหรือของปลอม แต่กลับลืมถามให้ชัดเจนว่ามัน
ปลอมที่ตรงไหน?
หากว่าหลูซ่ ิ่นพลิกลิน้ ขึน้ มา นางควรจะพูดอย่างไรต่อเล่า?
อวีถ้ งั ลังเลอยู่พกั หนึ่ง นางกัดฟั นแน่น แล้วย้อนกลับไปที่โรงจํานําอีกครัง้
67

ภายในโรงจํานํา บุรุษชุดเขียวครามที่นางเห็นก่อนหน้านีไ้ ม่รูว้ ่าออกมาตัง้ แต่เมื่อใด


กําลังยืนพูดกับเถ้าแก่ใหญ่ถงว่า “อายุเท่านีก้ ็รูจ้ กั หลอกลวงคนแล้ว ต่อไปหากมีเรื่องทํานองนี ้
อีก ห้ามปล่อยไปง่ายๆ เด็ดขาด!”
เถ้าแก่ใหญ่ถงยืนค้อมหลังผงกศีรษะอยู่เบือ้ งหน้าบุรุษผูน้ นั้ ขณะกําลังเอ่ยตอบ ก็เงย
หน้าขึน้ มาเห็นอวีถ้ งั เสียก่อน
เขาอ้าปากค้าง ทําหน้ากระอักกระอ่วน
68

ตอนที่ 9 งานคัดลอก
บุรุษชุดเขียวสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของเถ้าแก่ใหญ่ถง ถึงหมุนกายกลับมา
อวีถ้ งั จึงได้เห็นดวงหน้าที่งดงามและมีอาํ นาจกดข่มคนอย่างรุนแรง
นางหยุดหายใจไปในทันที
แต่ก็ถกู สายตาเฉยเมยที่บรุ ุษผูน้ นั้ ใช้มองมาทิ่มแทงจนบาดเจ็บ
ดวงหน้าอวีถ้ งั ร้อนเป็ นไฟ รีบอธิบายไปว่า “ข้าไม่ได้เอาของปลอมมาจํานํา บิดาข้าซือ้
ภาพนีม้ าจากสหายผูห้ นึ่ง…”
บุรุษชุดเขียวไม่เชื่อนางสักนิด มองนางราวกับวัตถุล่องหน เขายกสันกรามขึน้ เล็กน้อย
เป็ นการพยักหน้าให้เถ้าแก่ใหญ่ถง จากนัน้ ก็เดินผ่านอวีถ้ งั ไป
เหตุใดเป็ นเช่นนีเ้ ล่า?!
อวีถ้ งั กรีดร้องในใจ นางนิ่งอึง้ อยู่ค่อนวัน แล้วหันไปมองตามอย่างไม่รูต้ วั ตะโกนอย่าง
ขุ่นเคืองว่า “ข้าไม่ได้มาต้มตุน๋ ผูอ้ ่นื จริงๆ…”
บุรุษชุดเขียวหันกลับมามองนางทีหนึง่
นัย น์ตาสีนิ ลนั้น ใสกระจ่า ง ริน ระเรื่อยดั่ง บึง นํา้ ลึก ในฤดูห นาว เย็น เยี ย บเข้า ลึก ถึง
กระดูก
อวีถ้ งั พลันสะท้านสั่นในอก
วาจามากมายที่คิดจะแก้ตา่ งกลับติดอยู่ในลําคอ
นางยืนนิ่งอยู่ท่ีเก่า
เถ้าแก่ใหญ่ถงรีบร้อนเดินตามไปส่งบุรุษชุดเขียวอย่างกระตือรือร้น
69

อวีถ้ ังเพิ่งจะสังเกตเห็นในตอนนีเ้ องว่า หน้าประตูใหญ่มีรถม้าประดับม่านสีเขียวมา


จอดรออยู่ตงั้ แต่เมื่อไรไม่รู ้
เถ้าแก่ใหญ่ถงย้ายตั่งวางเท้ามาวางให้ดว้ ยตนเอง กําลังจะเข้าไปประคองบุรุษผูน้ นั้ ให้
ปี นขึน้ รถม้า ทว่ากลับถูกชายร่างผอมในชุดตัวสัน้ สีดาํ ซึ่งยืนอยู่ขา้ งรถม้าชิงตัดหน้าถลกม่าน
ขึน้ ให้เสียก่อน เถ้าแก่ใหญ่ถงไม่ได้ถือสา ค้อมหลังถอยออกมาหลายก้าว มองจนรถม้าวิ่ง ‘ตึงๆ’
จากไปไกล จึงค่อยยืดหลังตรงแล้วหมุนกายเดินกลับเข้าโรงจํานํา เขาเอ่ยด้วยรอยยิม้ ตาหยีว่า
“แม่นาง เหตุใดท่านถึงย้อนกลับมาอีกขอรับ? มีเรื่องสําคัญใดอีกหรือไม่?”
อวีถ้ ังอดจะส่งยิม้ สว่างไสวให้กบั เถ้าแก่ใหญ่ถงไม่ได้ กล่าวว่า “คุณชายเมื่อสักครู ่คือ
ใครหรือ?”
เถ้าแก่ใหญ่ถงหัวเราะอย่างอ่อนโยน ไม่ได้ตอบคําถามของนางอย่างตรงไปตรงมา
ค้อมตัวยื่นมือบอกเป็ นนัยว่าให้นางเข้าไปคุยกันด้านใน พร้อมทัง้ ฉีกยิม้ พูดว่า “แม่นางมีเรื่องใด
ก็เข้าไปสนทนาด้านในเถอะขอรับ”
อวีถ้ งั พลันได้สติขนึ ้ มา
แม้จะบอกว่าใช้ชีวิตมาแล้วสองชาติ ทว่านางก็ยงั ไม่เคยพบใครที่งดงามยิ่งไปกว่าบุรุษ
ชุดเขียวผูน้ นั้ เลย แต่นางผูเ้ ป็ นสตรี กลับไต่ถามผูอ้ ่ืนว่าบุรุษผูน้ นั้ เป็ นใคร…ยังดีท่ีเถ้าแก่ใหญ่ถง
เป็ นคนจิตใจกว้างขวาง ไม่ได้แดกดันนางอย่างเดียว ไม่เช่นนัน้ นางคงต้องเอาศีรษะมุดดินหนี
ไปแล้ว
อวีถ้ งั ทําทีว่าลําบากใจ ก่อนจะส่งภาพผืนนัน้ ให้เถ้าแก่ใหญ่ถง แล้วขอคําชีแ้ นะอย่าง
ตรงไปตรงมา “เถ้าแก่ใหญ่ ท่านบอกว่าภาพนีเ้ ป็ นของปลอม ท่านมีหลักฐานอะไรหรือไม่?”
เถ้าแก่ใหญ่ถงพลันชะงักนิ่งไป
เถ้าแก่นอ้ ยถงคิดว่านางย้อนกลับมาเพื่อหาเรื่อง จึงรีบก้าวขึน้ มาขวางเถ้าแก่ใหญ่ถงไว้
ด้านหลัง เอ่ยว่า “แม่นาง โรงจํานําสกุลเผยของพวกเราเป็ นร้านเก่าแก่ในเมืองหลินอันมาร้อย
70

กว่าปี ท่านพอเปิ ดปากก็เรียกชื่อพวกเราถูก คิดว่าคงสืบข่าวมาก่อนแล้ว โรงจํานําของพวกเรา


ไม่เคยทําเรื่องสลับสับเปลี่ยนสินค้ามาก่อน หากว่าท่านไม่เชื่อ สามารถตรวจสอบภาพวาด
อย่างละเอียดดูก็ได้ ท่านเดินถือเข้ามาอย่างไร พวกเราก็คืนกลับไปเช่นนัน้ แม้จะบอกว่า ภาพ
‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ ภาพนีม้ ีช่ือเสียง แต่โรงจํานําของพวกเราใช่ว่าไม่เคยเห็นของดีมีราคา
เพียงเพื่อภาพนัน้ ของท่านแลกกับชื่อเสียงที่ตอ้ งป่ นปี ้ พวกเราคงแลกไม่ลงหรอกขอรับ”
อวี ถ้ ัง อับ อายจนหน้า แดงเถื อ ก รี บ เอ่ ย ว่ า “ไม่ ใ ช่ ไม่ ใ ช่ ข้า ไม่ ไ ด้ส งสัย ว่ า พวกเจ้า
สับเปลี่ยนของ ภาพวาดผืนนี ้ ผูอ้ ่ืนก็ขายต่อให้สกุลข้ามาอีกที ข้าแค่อยากจะรู ว้ ่าภาพผืนนีม้ ี
ปั ญหาที่ตรงไหน ถึงเวลานัน้ ข้าจะได้ไปเอาเรื่องคนถูก!”
เถ้าแก่ถงทัง้ สองต่างถอนหายใจอย่างโล่งอก
เถ้าแก่นอ้ ยถงพูดอย่างรวดเร็วว่า “พวกท่านไม่ควรเห็นแก่ผลประโยชน์เล็กน้อยเลย…
พวกเราสกุลเผยเปิ ดโรงจํานํามาตัง้ กี่ปีแล้ว ไม่ว่าจะจํานําเป็ นหรือจํานําตาย 1 ล้วนไม่บงั คับใจ 16

ผูอ้ ่นื ถ้าเขาขัดสนเงินทองจริงๆ เหตุใดไม่เอามาจํานํากับร้านของเราเล่า…”


“เจ้าพูดจากับลูกค้าเช่นนีไ้ ด้ดว้ ยรึ?” เถ้าแก่ใหญ่ถงตวาดใส่เถ้าแก่นอ้ ยถงพร้อมกับตัด
บทเขา จากนัน้ ก็หยุดคิดเล็กน้อยแล้วเอ่ยว่า “จะบอกว่าภาพนีเ้ ป็ นของปลอม ก็ไม่ถูกต้องเสีย
ทัง้ หมดขอรับ”
อวีถ้ งั ชะงักไป แล้วถามว่า “ท่านหมายความว่าอย่างไร?”
เถ้าแก่ใหญ่ถงพูดต่อว่า “แม่นางอาจจะไม่รู ้ ภาพเก่าแก่ท่ีตกทอดกันมาหลายๆ รุน่ ส่วน
ใหญ่มกั ใช้กระดาษเซวียนจื่อวาด กระดาษเซวียนจื่อนี ้ มีลกั ษณะเด่นอยู่สองประการ หนึ่งคือ
ดูดซับหมึกได้ยอดเยี่ยม หรือพูดว่าหมึกสามารถซึมทะลุผ่านหลังกระดาษไปได้ ส่วนลักษณะ
เด่นอีกประการ มันทํามาจากเยื่อกระดาษที่ซอ้ นทับกันหลายชัน้ แล้วตากแดดซํา้ ๆ จิตรกรชัน้ สูง

1
จํานําตาย หมายถึง การขายขาดสิ่งของชิน้ นัน้ ให้กบั โรงจํานํา ทิง้ สิทธิ์ในการไถ่ของคืน การจํานําประเภทนีจ้ ะได้เงิน
ค่อนข้างสูง ซึง่ จะตรงข้ามกับจํานําเป็ นที่ได้เงินตอบแทนน้อยกว่า แต่ยงั สามารถกลับมาไถ่ของคืนได้
71

ที่ฝีมือถึงขั้น มักจะแยกชั้นกระดาษเซวียนจื่อออกมาเป็ นแผ่นๆ ได้ เหตุใดข้าจึงพูดว่าภาพ


เก่าแก่ผืนนีข้ องท่านเป็ นงานคัดลอกแต่ไม่ใช่ของปลอมน่ะรึ? เมื่อครู ่พวกเราได้ให้คุณชายที่
เชี่ยวชาญในการประเมินภาพวาดของร้านเราดูแล้ว ภาพผืนนีข้ องท่านเป็ นฝี มือของหลี่ถงั จริง
ทว่ากระดาษชัน้ บนสุดถูกผูอ้ ่ืนลอกออกไปแล้ว ภาพผืนนี ้ เป็ นแผ่นที่อยู่ดา้ นล่างลงมา ดังนัน้
ท่านว่า…”
เขาพูดไปก็คลี่มว้ นกระดาษออก แล้วชีใ้ ห้อวีถ้ งั ดู “ตรงนี ้ ตรงนี ้ เห็นชัดว่ามีการวาดเติม
เข้าไปภายหลัง ยังขาดอารมณ์อนั ยิ่งใหญ่และจับต้องไม่ได้อยู่…”
ไม่ใช่เพราะตราประทับหรอกหรือ?
อวีถ้ งั รูส้ กึ สับสนอยู่บา้ ง
เถ้า แก่ ใ หญ่ ถ งมองหน้า อ่ อ นหัด ของอวี ถ้ ัง ไม่ อ าจทนใจแข็ ง ต่ อ ได้ จึ ง เอ่ ย ต่ อ ด้ว ย
ความเห็นอกเห็นใจว่า “หากแม่นางเดือดร้อนเรื่องเงินจริงๆ คิดจะจํานําภาพผืนนี ้ ก็ใช่ว่าจะ
ไม่ได้ ทว่าจํานําได้ไม่ก่ีตาํ ลึงเท่านัน้ ”
อวี ถ้ ัง ฟั ง จบก็ ชีไ้ ปที่ตราประทับ ‘เหมยหลิ น’ ที่ อยู่ดา้ นบน ถามว่า “ตราประทับนีม้ ี
ปั ญหาอะไรหรือไม่?”
เถ้าแก่ใหญ่ถงได้ยินดังนัน้ ก็มองนางอย่างลึกซึง้ ทีหนึง่
ในใจอวีถ้ งั ร้องตะโกนว่าแย่แล้ว
นางถามไปอย่างนัน้ เห็นชัดว่าเป็ นการปล่อยไก่…ในเมื่อสงสัยว่าตราประทับมีปัญหา
รูอ้ ยู่แล้วว่าภาพผืนนีไ้ ม่ถกู ต้อง ยังคิดเอามาจํานําที่รา้ นอีก…
อวีถ้ งั เหลือบมองสีหน้าของเถ้าแก่ใหญ่ถง ซึง่ ไม่เหลือไมตรีดงั เก่า
นางพยายามอธิบายว่า “มิใช่เช่นนัน้ ข้าคิดว่าในเมื่อใต้เท้าจั่วเป็ นผูเ้ ก็บรักษามัน มันก็
ไม่ควรจะมีปัญหาสิ…”
72

เพียงแต่เถ้าแก่ใหญ่ถงไม่เชื่อใจนางอีกแล้ว สีหน้ามีเพียงความเกรงใจและห่างเหิน
อย่างที่พ่อค้ามักทํากัน เขาเอ่ยยิม้ ๆ ว่า “แม่นางกล่าวถูกแล้ว ภาพผืนนีส้ ดุ ท้ายตกอยู่ในมือของ
ใต้เท้าจั่ว ทว่าภาพผืนนีข้ องแม่นางก็เป็ นของคัดลอกมิผิดแน่ ขออภัยที่โรงจํานําของเราไม่อาจ
รับไว้ได้ หากว่าแม่นางยังมีของดีอย่างอื่น ค่อยกลับมาหาพวกเราใหม่เถอะขอรับ”
เถ้าแก่นอ้ ยถงจึงรีบส่งแขกด้วยตนเอง
อวีถ้ งั โมโหจนวิงเวียนศีรษะ ไม่รูด้ ว้ ยซํา้ ว่าตนเองเดินกลับมาได้อย่างไร หลังกลับมาก็
ดื่มชาใบหยาบไปสองถ้วย ถึงค่อยสงบอารมณ์ลงได้
หลูซ่ ิ่นช่างไร้ยางอายจริงๆ!
ได้เงินจากสกุลนางไปแล้วคิดจะหนีอย่างนัน้ รึ มีเรื่องดีๆ เช่นนีท้ ่ีไหนกัน?!
อวีถ้ งั ตะโกนเรียกอาเสา แล้วให้เหรียญทองแดงเขาไปสิบกว่าเหรียญ สั่งการว่า “เจ้าไป
สืบหาที่อยู่ของหลูซ่ ิ่วไฉมาที อย่าให้ท่านพ่อรูล้ ะ่ ”
อาเสาคอยวิ่งซือ้ ขนมให้อวีถ้ งั ลับหลังอวีเ้ หวินและเฉินซื่อบ่อยๆ เขารับคํายิม้ ๆ อย่างไม่
ใส่ใจ จากนัน้ ก็ออกไปตามสืบเรื่องของหลูซ่ ิ่นทันที
กระทั่งตกบ่าย เขาก็กระหืดกระหอบกลับมารายงานอวีถ้ ังว่า “นายท่านหลู่ไม่รูไ้ ป
ล่วงเกินใครเข้า? เขาถึงกับเอาเรือนไปจํานําไว้กบั ผูอ้ ่นื บอกว่าจะไปหาญาติท่ีเมืองหลวง แต่ต่อ
ให้มีญาติพ่ีนอ้ งอยู่เมืองหลวง แล้วจะอาศัยอยู่เรือนผูอ้ ่นื ไปตลอดชีวิตเลยหรือขอรับ?”
ชาติก่อน หลูซ่ ิ่นไม่เคยกลับมาที่เมืองหลินอันอีก
อวีถ้ งั หัวเราะเสียงเย็น ถามว่า “แล้วตอนนีเ้ ขาออกเดินทางหรือยัง?”
“ทุกคนต่างเข้าใจว่าเขาจากไปแล้ว” อาเสาตอบอย่างฉลาดเฉลียว “แต่บ่าวสืบมาแน่
ชัดแล้ว เขามีคนรักอยู่ท่ีตรอกฮวาเอ๋อร์ หลายวันนีเ้ ขาก็กินนอนอยู่ท่ีตรอกนั่น เกรงว่าคงตัดใจ
จากคนรักไปไม่ลงขอรับ”
73

สมองของอวีถ้ งั หมุนแล่นเร็วจี๋ นางถอนหายใจหนึ่งเฮือก แล้วประนมมือไหว้ไปทางทิศ


ตะวันตก จากนัน้ ก็กวักมือเรียกอาเสา สั่งงานข้างหูเขาพักใหญ่
ตรอกฮวาเอ๋อร์ตงั้ อยู่ดา้ นหลังถนนฉางซิ่ง เป็ นตรอกคดเคีย้ วสายหนึ่ง ทิศตะวันออก
เชื่อมกับถนนฉางซิ่ง ทิศตะวันตกเชื่อมกับถนนศาลาว่าการ สองข้างทางล้วนปลูกการบูรต้น
ใหญ่จนคนโอบไม่รอบ พอตกคํ่า โคมแดงจะถูกแขวนสูงเด่น แว่วเสียงสตรีหวั เราะคิกคัก ผูค้ น
วุน่ วายจอแจ
เพราะถนนฉางซิ่งถูกไฟไหม้ ร้านค้าก็โดนเผาวอดวายไม่มีเหลือ ซากปรักหักพังเห็น
แล้วไม่น่ามอง จึงมีคนใช้ผา้ กันฝนไปกัน้ เส้นทางที่เชื่อมไปสู่ถนนฉางซิ่งเอาไว้ เหลือเพียงเส้นที่
เชื่อมกับถนนศาลาว่าการเท่านัน้
ตกคํ่าช่วงยามซวี 2 นับเป็ นเวลาที่ตรอกฮวาเอ๋อร์คึกคักที่สดุ รถม้าหนึ่งคันหยุดลงหน้า
17

ร้า นของฉู่ตา้ เหนี ย ง ฮูห ยิน เอวหนาร่า งใหญ่ เ จ็ดแปดคนเฮโลกัน ลงมาจากรถม้า มื อกํา ไม้
กระบอง เดินดุม่ ๆ เข้าไปในร้านทันที
ทุกคนต่างเป็ นคนเก่าแก่ในตรอกเฟิ งเยวี่ย พอเห็นรู ปการณ์เช่นนีก้ ็รูท้ นั ทีว่าบ้านใหญ่
คงมาตามเอาเรื่องเป็ นแน่ จึงได้ลอ้ มวงกันเข้ามาดูอย่างตื่นเต้น รอดูเรื่องขําขันพร้อมปากที่
ซุบซิบไม่หยุด
เสียงข้าวของแตกโครมครามดังขึน้ ในร้านฉู่ตา้ เหนียง ฮูหยินร่างสูงใหญ่ผหู้ นึ่งกระชาก
คอเสือ้ หลูซ่ ิ่นลากไปนอกร้าน ทางหนึ่งก้าวเท้าสวบๆ ทางหนึ่งก็พดู เสียงดังลั่นว่า “เจ้ามาดื่มกิน
ที่รา้ นก็ด่ืมกินไป เหตุใดเพื่อเด็กสาวในร้านแล้วถึงกลับเอาเรือนไปจํานําเสียได้? ต่อไปเจ้าจะให้
พวกข้าไปอยู่ท่ีไหน? เอาอะไรกิน? เอาอะไรดื่ม?”

2
ยามซวี คือเวลาประมาณ 19:00 – 20:59 น.
74

เมืองหลินอันจะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะว่าเล็กก็ไม่เล็ก ยิ่งหลู่ซิ่นเป็ นคนที่ชอบยุ่งเรื่องคน


อื่นไปทั่ว ที่ไหนมีเรื่องล้วนต้องยื่นเท้าเข้าไปสอด คนที่รูจ้ ักเขาจึงมีมาก พอเห็นว่าเหตุการณ์
ลุกลามใหญ่โตคนก็ย่งิ หัวเราะเสียงดังลั่น…
มีคนพูดขึน้ ว่า “มิน่าหลู่ซิ่วไฉวันๆ เห็นเอาแต่กกตัวอยู่ท่ีรา้ น ที่แท้ฮูหยินในเรือนก็สงู
ใหญ่บกึ บึนเพียงนี ้ ถ้าเป็ นข้า ข้าก็คงอยูไ่ ม่ไหวเหมือนกัน”
จากนั้นก็มีคนตัง้ ข้อสงสัยต่อว่า “มิใช่พูดกันว่าหลังจากฮูหยินของหลู่ซิ่วไฉเสียไปก็
ไม่ได้แต่งงานใหม่ ไม่มีกระทั่งบุตรสาวบุตรชายหรอกรึ? แล้วนี่มีฮหู ยินโผล่มาจากไหนได้?”
มีคนเดาว่า “อาจจะเป็ นคนรักเหมือนกันก็ได้ ทว่าคนหนึ่งเลีย้ งไว้ในเรือน คนหนึ่งเลีย้ ง
ไว้นอกเรือน”
หลู่ซิ่นเดือดดาลจนปากแทบเบีย้ ว ไม่รูว้ ่ามีฮูหยินจากไหนโผล่มาก่อเรื่องต่อหน้าเขา
เขาคิดจะแก้ต่างให้ตนเองสักคํา ทว่าคอเสือ้ ก็รดั ลําคอแน่น สักประโยคก็พดู ออกมาไม่ได้ เขา
ต้องอยู่ในท่านัน้ กระทั่งฮูหยินผูน้ ีล้ ากเขาขึน้ รถม้า ยัดผ้าขีร้ ิว้ อุดปากเขา แล้วออกรถวิ่งไปจาก
ตรอกฮวาเอ๋อร์
เกรงว่าเรื่องในวันนีข้ องเขาจะถูกคนเมืองหลินอันเอาไปนินทากันจนชั่วชีวิต
หลูซ่ ิ่นเกร็งฟั นขบแน่นด้วยความเดือดดาลสุดขีด
ถ้าหากรูว้ า่ ผูใ้ ดวางแผนเล่นงานเขาละก็ เขาไม่ทางปล่อยเอาไว้แน่!
รถม้าหยุดลงที่หน้าถนนฉางซิ่ง
หลูซ่ ิ่นถูกกระชากตัวลงมา
แสงจันทร์สาดกระทบหัวเสาและเศษกระเบือ้ งบนถนนฉางซิ่ง เห็นเป็ นภาพเปลี่ยวร้าง
ได้รางๆ เสียงขับร้องบรรเลงเพลงที่ดงั ลอยมาจากตรอกฮวาเอ๋อร์ซ่งึ อยู่ถดั ไปฟั งแล้วให้อารมณ์
แปร่งหู ทําให้หนังศีรษะเขาชาหนึบ สองขาสั่นระริก
75

“เจ้า พวกเจ้าคิดจะทําอะไร?” หลูซ่ ิ่นถามออกไปอย่างระแวดระวัง


อวีถ้ งั ใช้ผา้ โพกศีรษะไว้ แล้วเดินออกมาจากเงามืดหลังกําแพงรกร้าง
หลูซ่ ิ่นจํานางได้ในแวบแรกที่เห็น
เขากระโดดตัวโยนราวกับโดนเหยียบหาง ชีห้ น้าด่าทอนางว่า “เหตุใดเป็ นเจ้า? เจ้าคิด
จะทําอะไร? ข้าจะให้บิดาเจ้าเป็ นคนตัดสินเรื่องนี!้ ”
อวีถ้ งั ตอบกลับคล้ายยิม้ คล้ายไม่ยิม้ “จะให้บิดาข้าตัดสินทําไม! เจ้ากับข้าไปให้ศาลา
ว่าการตัดสินให้ดีกว่า!”
หลูซ่ ิ่นตกตะลึง
อวีถ้ งั โยนภาพผืนนัน้ ลงที่ขา้ งเท้าของหลู่ซิ่น “เจ้ามิใช่บอกว่านี่เป็ นภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้
สนริมนํา้ ’ ของหลี่ถงั ในราชวงศ์ก่อนรึ? เถ้าแก่ถงที่โรงจํานําสกุลเผยเป็ นเพื่อนกับสกุลข้าพอดี
ข้าถือภาพผืนนีไ้ ปให้เถ้าแก่ตรวจสอบแล้ว เถ้าแก่ถงพูดเองกับปากว่า นี่เป็ นภาพคัดลอก อย่าง
มากก็ขายได้สามตําลึงห้าตําลึงเท่านัน้ เลือกมาสิ ข้ากับเจ้าจะไปที่ศาลาว่าการสักครัง้ หรือเจ้า
จะคืนเงินที่หลอกเอาจากบิดาข้าไป!”
หลู่ซิ่นแทบเต้นเร่าๆ “เจ้ามันเด็กเลีย้ งแกะ คิดห่มหนังเสือมาพูดจาใหญ่โต หวังจะใช้
สกุลเผยมาข่มข้าอย่างนัน้ รึ?! สกุลเจ้ามีพืน้ เพอย่างไรคิดหรือว่าข้าไม่รู?้ เจ้าพูดว่าเป็ นภาพ
คัดลอกก็เป็ นภาพคัดลอกจริงๆ ได้หรือ ข้าว่าเจ้าแอบสับเปลี่ยนของเองมากกว่า อยากได้ภาพ
แต่ไม่คิดจ่ายเงินล่ะสิ ถึงปรักปรําข้าว่าขายของปลอมให้สกุลของเจ้า”
ฮูหยินผูน้ นั้ ออกแรงเพิ่ม กดหลูซ่ ิ่นลงบนพืน้ อีกครัง้ หนึ่ง
อวีถ้ งั เอ่ยอย่างดูแคลนว่า “ข้ารู อ้ ยู่แล้วว่าเจ้าต้องไม่ยอมรับ และไม่หวังให้เจ้ายอมรับ
ผิดด้วย พรุง่ นีต้ อนฟ้าสางพวกเราก็ไปที่ศาลาว่าการ ข้าเชิญเถ้าแก่ถงมาเป็ นพยานให้แล้ว ของ
จริงไม่อาจปลอม ของปลอมไม่อาจจริง ถึงเวลานัน้ เจ้าก็รอรับโทษอย่างคนพ่ายแพ้ไปแล้วกัน!”
76

ตอนที่ 10 ลาก่อน
อย่ามองว่าวาจาของอวีถ้ ังพูดได้เป็ นเหตุเป็ นผล ฟั งดูมีพลังโน้วน้าวใจคนได้ เพราะ
ความจริงในใจนางล้วนเต็มไปด้วยความรูส้ กึ ผิด
นางแอบอ้างชื่อของสกุลเผย นับว่านางทําไม่ถกู
แต่นอกจากวิธีนีแ้ ล้ว นางไม่มีทางอื่นอีก
นางลอบคิดในใจ รอให้เรื่องนีผ้ ่านไปก่อน นางจะต้องไปวัดแล้วจุดธูปขอพรให้ท่านผู้
เฒ่าสกุลเผยแน่ ขอบคุณที่สกุลเผยปกป้องคุม้ ครองสกุลนาง และเหล่าชาวเมืองมาตลอดหลาย
ปี หากว่ามีโอกาสใช้ความสามารถของตนทําอะไรเพื่อตอบแทนสกุลเผยได้ นางจะทุ่มเทกายใจ
ไม่มีย่นย่อแม้สกั นิด
หลูซ่ ิ่นฟั งคําของอวีถ้ งั แล้วยังเชื่อครึง่ ไม่เชื่อครึง่
ไม่กลัวเหตุท่ีแน่นอน กลัวก็แต่เหตุไม่คาดฝัน
สกุลอวีก้ บั สกุลเผยไม่เคยมีปฏิสมั พันธ์ต่อกัน ทว่าหลายวันก่อนเขากลับเชื่อมสะพาน
ให้ดว้ ยตนเอง เชิญหมอหลวงจากสกุลเผยไปตรวจอาการให้กบั เฉินซื่อ อวีเ้ หวินเคยพูดกับเขา
ว่า ต้องการไปคารวะนํา้ ใจท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผยด้วยตนเอง ใครจะรูว้ ่าระหว่างพวกเขาได้สนทนา
สิ่งใดไปบ้าง?
คิดถึงตรงนี ้ เขาก็กระทืบเท้าด้วยความเจ็บใจ
ถ้ารูแ้ ต่แรกว่าจะเป็ นเช่นนี ้ เขาก็คงไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของสกุลอวีห้ รอก
แต่ถา้ ไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของสกุลอวี ้ แล้วอวีเ้ หวินจะยอมควักเงินสองร้อยตําลึงมาซือ้
ภาพวาดของเขาอย่างง่ายดายเช่นนีห้ รือ?
หลู่ซิ่นเอ่ยต่ออย่างดึงดันว่า “ข้าจะไปพบบิดาเจ้า ! ข้ามี บุญคุญด้วยเคยช่วยเหลื อ
ภรรยาเขามาก่อน เขาตอบแทนข้าเยี่ยงนีไ้ ด้ร!ึ ”
77

อวีถ้ งั ก้มหน้ามองเขา เอ่ยว่า “เจ้าคิดว่าข้าจะกล้าทําถึงขัน้ นีห้ ากไม่ได้รบั การเห็นชอบ


จากท่านพ่อหรือ? ท่านพ่อข้าก็แค่ไม่ตอ้ งการเห็นหน้าสหายที่ไร้สจั จะแบบเจ้าอีกก็เท่านัน้ ” พูด
จบ นางก็สง่ สายตาให้อาเสา เอ่ยว่า “เจ้าพาคนไปส่งให้เถ้าแก่ถงก่อน พรุง่ นีค้ อ่ ยมาถกกันใหม่”
อาเสาตอบเสียงดังฟั งชัดว่า “ขอรับ”
หลู่ซิ่นพลันกระสับกระส่าย ทําเป็ นเอ่ยเสียงแข็งว่า “เจ้าคิดจะทําอะไร? เจ้าไม่กลัว
เสื่อมเสียชื่อเสียง วันข้างหน้าหาคนแต่งงานไม่ได้ร?ึ ”
อวีถ้ งั ตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า “สกุลข้าถูกเจ้าต้มตุน๋ จนบ้านแตกสาแหรกขาด ข้ายังจะแต่ง
ให้คนดีๆ ที่ใดได้อีก?”
สองคนแลกเปลี่ยนวาจาคมกริบไปพักหนึ่ง อย่างไรหลูซ่ ิ่นก็เกรงกลัวสกุลเผย จึงเอ่ยว่า
“ถ้าจะเอาเงินก็ไม่มีหรอก…ข้าใช้จ่ายไปห้าสิบตําลึงแล้ว”
อวีถ้ งั ให้อาเสาค้นตัวเขา เจอตั๋วเงินทัง้ สิน้ หนึ่งร้อยแปดสิบตําลึง
นางสบถใส่หลู่ซิ่นไปคําหนึ่ง แล้วร่างหนังสือขึน้ มาตรงนัน้ ให้หลู่ซิ่นประทับลายนิว้ มือ
ลงไป “พวกเรามาตกลงกันให้ชดั เจน เจ้ายินดีขายภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ ฉบับคัดลอกผืน
นัน้ ให้สกุลข้าในราคายี่สิบตําลึง ให้หนังสือฉบับนีเ้ ป็ นหลักฐาน ต่อไปไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกันอีก
อีกอย่างข้าก็จ่ายสามสิบตําลึงนีใ้ ห้เจ้าใช้เป็ นค่าเดินทาง เรื่องนีถ้ ือว่าเลิกแล้วต่อกัน”
หลูซ่ ิ่นมีหรือจะพอใจ
อวีถ้ งั ข่มขู่เขาต่อว่า “ได้ยินว่ามีหลายคนถูกไฟคลอกตายที่ถนนฉางซิ่ง หากว่าข้าซ่อน
เจ้าไว้ตรงนี ้ ไม่รูเ้ มื่อใดจึงจะมีคนมาพบ”
หลูซ่ ิ่นจ้องเขม็งที่อวีถ้ งั อย่างโกรธแค้นราวกับงูพิษตัวหนึ่ง
อวีถ้ ังในชาติก่อนพบเจอเรื่องที่ยากลําบากกว่านีน้ กั มีหรือจะรู ส้ ึกสั่นไหวเพียงเพราะ
สายตาคูน่ นั้ ของหลูซ่ ิ่น?
78

นางกดนิว้ ของหลู่ซิ่นให้ประทับลงบนหนังสือราวกับว่ารอบข้างไร้ผคู้ น เสร็จแล้วก็เก็บ


หนังสือไว้อย่างดี โยนตั๋วเงินสามสิบตําลึงให้หลูซ่ ิ่น แล้วบอกให้เขาไสหัวไป
หลูซ่ ิ่นจากไปพร้อมความเคียดแค้น
อวีถ้ งั ล้วงเงินออกมาอีกยี่สิบตําลึงเพื่อขอบคุณเหล่าฮูหยินที่มาช่วยเหลือ หลังจากส่ง
พวกนางกลับไปแล้ว ก้อนหินใหญ่ท่ีอยู่ในใจพลันวางลงได้เสียที
อาเสาเอ่ยอย่างกังวลใจว่า “คุณหนูใหญ่ หลูซ่ ิ่วไฉคงไม่เอาเรื่องนีไ้ ปฟ้องนายท่านหรอก
นะขอรับ”
อวีถ้ งั ตบหนังสือสัญญาที่เก็บใส่ในถุงหอมข้างเอว เอ่ยว่า “ถ้าเขากล้าโผล่หน้าไปก็ลอง
ดู”
อาเสาค่อยสบายใจขึน้ แล้วเริ่มรู ส้ ึกเสียดายเงินสามสิบตําลึงนัน้ ขึน้ มา “เหตุใดท่าน
ยังให้เงินเขาไปตัง้ มากมายล่ะขอรับ?”
อวีถ้ งั ตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า “คนเท้าเปล่าไม่กลัวคนใส่รองเท้าหรอก 1 มิใช่ว่าเขาร้อนใจ
18

จะไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าพวกเราไม่ให้เงินเขาแม้สกั อีแปะเดียว ปิ ดตายทางรอดของเขา ไม่แน่


เขาอาจจะเข้าตาจน แล้วย้อนมาแว้งกัดสกุลเราก็เป็ นได้ สามสิบตําลึงนัน้ ถือว่าซือ้ ความสงบสุข
ก็แล้วกัน”
หวังว่าหลูซ่ ิ่นจะเหมือนกับชาติท่ีแล้ว หลังจากเดินทางไปเมืองหลวงก็ไม่เคยกลับมาอีก
เลย
อาเสาหัวเราะอย่างเข้าอกเข้าใจ
อวีถ้ งั พลันสบายใจขึน้ มาเปราะหนึ่ง

1
คนเท้าเปล่าไม่กลัวคนใส่รองเท้า หมายถึง คนที่ไม่มีอะไรให้เสียกับคนที่ครอบครองหลายสิ่งมาต่อสูก้ นั ฝ่ ายแรกย่อมเป็ น
ผูช้ นะเสมอ เพราะเขาไม่มีอะไรให้กลัวจะสูญเสียอีกแล้ว
79

เพียงแต่คาดไม่ถึงว่า พอนางหันหลังกลับมา ก็เห็นดวงตามืดสลัวคู่หนึ่งอยู่หลังเงา


กําแพงเก่าฝั่งตรงข้าม จ้องเขม็งมาที่นางอย่างนิ่งเงียบ
อวีถ้ งั ตกใจหัวใจแทบวาย
หรือนั่นคือวิญญาณคนที่ถกู ไฟคลอกตายบนถนนฉางซิ่ง?
นางก้าวขาเตรียมจะออกวิ่ง ใครจะคิดว่าเท้าสองข้างคล้ายถูกถ่วงด้วยตะกั่ว จะออก
แรงอย่างไรก็ยกไม่ขนึ ้
อวีถ้ งั สั่นระริกไปทัง้ ตัว กอดอาเสาจนแทบจะรวมร่างเป็ นหนึ่งเดียวกันแล้ว
เจ้าของดวงตาคูน่ นั้ เคลื่อนตัวออกมาจากหลังกําแพงอย่างไร้สมุ้ เสียง
แสงจันทร์สอ่ งกระทบลงที่ดวงหน้าของเขา
อายุประมาณยี่สิบสามยี่สิบสี่ปี คิว้ ตาน่ายล ทว่าเย็นเยียบดั่งบึงนํา้ ในฤดูหนาว เครื่อง
หน้าดั่งหยกแต่แผ่อาํ นาจกดข่มคน
ที่แท้ก็คือบุรุษชุดเขียวที่นางได้พบที่โรงจํานํานี่เอง
เขาในตอนนีก้ าํ ลังสาวเท้าเข้ามาอย่างเชื่องช้า ซากปรักหักพังบนถนนฉางซิ่งคล้าย
กลายเป็ นสวนหลังบ้านของเขาไปแล้ว
อวีถ้ งั เบิกตาโต
เขามาอยู่ท่ีน่ีได้อย่างไร?
อวีถ้ งั รีบเคลื่อนสายตาไปมองด้านหลังเขา
มีเงา!
นางค่อยถอนหายใจเฮือก
ดีช่วั อย่างไรก็เป็ นคน ไม่ใช่ภตู ผีปีศาจ!
80

อวีถ้ งั ตบอกตัวเองเบาๆ เป็ นการปลอบขวัญ พอนึกถึงท่าทีท่ีเขามีต่อนางตอนอยู่ในโรง


จํานํา ก็ไม่รูว้ ่าต้องทักทายเขาอย่างไร ทว่าบุรุษชุดเขียวกลับมองนางแล้วเลิกคิว้ ถามว่า “สกุล
เผย? เจ้าสนิทกับเถ้าแก่ถงของโรงจํานําสกุลเผยรึ? ทัง้ เถ้าแก่ถงยังบอกกับเจ้าอีกว่านี่เป็ นภาพ
คัดลอก?”
นํา้ เสียงเขาราบเรียบเย็นชา อวีถ้ งั ได้ฟังพลันหน้าขึน้ สี รูส้ กึ จนตรอกอย่างที่สดุ
เรื่องเหลวไหวที่สดุ ที่นางเคยทํามา หนึ่งคือเอาภาพไปจํานําที่โรงจํานําสกุลเผย สองคือ
แอบอ้างชื่อสกุลเผยมาข่มขู่หลูซ่ ิ่น
แล้วทัง้ สองเรื่องนีก้ ลับตกอยู่ในสายตาของบุรุษที่อยู่เบือ้ งหน้าทัง้ หมด
เขาต้องคิดว่านางเป็ นคนเลวทรามตํ่าช้า อวดอ้างแสดงตนเพื่อหลอกลวงผูอ้ ่ืนไปทั่ว
เป็ นแน่
พอคิดได้ดงั นัน้ อวีถ้ งั ก็รูส้ กึ ไม่สบายตัวเอาเสียเลย นางรีบเอ่ยว่า “ไม่ใช่นะ ไม่ใช่! เจ้า
ฟั งข้าพูดก่อน นี่ก็คือคนที่ขายภาพนัน้ ให้ขา้ …”
“ถ้าไม่ใช่เห็นแก่ท่ีเจ้าเป็ นผูเ้ สียหาย เจ้าคิดว่าตนจะมีโอกาสแอบอ้างชื่อสกุลเผยแล้ว
พูดจาเหลวไหลอยู่ตรงนีไ้ ด้หรือ?” บุรุษผูน้ นั้ เอ่ยเสียงคมกริบ ไม่คิดจะฟั งนางอธิบายแม้สกั คํา
เดียว เขาเอ่ยแทรกตัดบทอย่างไร้ซ่ึงความเกรงใจ “เห็นแก่ท่ีเจ้าอายุยงั น้อย เพียงหวังเอาเงิน
ทองที่ถกู หลอกไปกลับคืนมา เรื่องนีข้ า้ จะไม่สืบสาวเอาความ หากว่ามีครัง้ ต่อไป จะไม่อ่อนข้อ
ให้อีก!”
ที่แท้เขาก็เห็นทัง้ หมดแล้วสินะ!
โชคดีท่ีเขาไม่เข้ามาเปิ ดโปงนาง
อวีถ้ งั ค่อยใจชืน้ ขึน้ บ้าง
ทว่า ฟั งจากนํา้ เสียงเช่นนีข้ องเขา หากมิใช่เป็ นคนสกุลเผยก็ตอ้ งมีส่วนเกี่ยวข้องกับ
สกุลเผยแน่
81

หากว่าเปลี่ยนเป็ นนางที่เจอคนทําตัวเป็ นจิง้ จอกอาศัยบารมีเสือเช่นนี ้ นางคงกระโดด


เข้าใส่แต่แรกแล้ว ไม่เหมือนเขาที่ตาํ หนิคนสองประโยคแล้วจบเรื่อง
อวีถ้ งั ก้มหน้ายอมรับผิดโดยดี
บุรุษผูน้ นั้ ไม่คิดสนทนากับนางต่อ สาวเท้ายาวๆ ไปทางตรอกฮวาเอ๋อร์
อวีถ้ ังกําลังลังเลว่าควรตามเขาไปถามชื่อเสียงเรียงนามสักคําดีหรือไม่ เพื่อภายหลัง
ค่อยเชิญบิดาไปเยี่ยมเยียนกล่าวขอบคุณด้วยตนเอง ทว่าบุรุษผูน้ ัน้ เหมือนมีดวงตาติดอยู่ท่ี
แผ่นหลัง เขาหันหน้ามาปรายตามองนางทีหนึ่ง
สายตาคูน่ นั้ คล้ายมีดคมกริบที่ว่งิ ผ่านกลางอากาศแล้วกรีดลงบนร่างนาง
อวีถ้ งั พลันสูญสิน้ ซึง่ ความกล้าหาญนัน้ ไป
แม้จะพูดได้ว่าทําไปเพราะมีเหตุผล แต่ทาํ ผิดอย่างไรก็คือผิด ดูจากท่าทีเขา คงไม่
อยากรูจ้ กั ข้องเกี่ยวกับนางแม้แต่เสีย้ วเดียว แล้วจะให้นางไปตอแยอย่างหน้าไม่อายได้อย่างไร?
บุรุษผูน้ นั้ เดินจากไปแล้ว
ชายหนุ่มท่าทางคล่องแคล่วเจ็ดแปดคนโผล่ออกมาจากเงามืด เดินประกบอยู่ขา้ งกาย
เขา
ที่แท้มีคนซ่อนตัวอยู่ในเงามืดอีกตัง้ หลายคนรึ?
อวีถ้ งั ประหลาดใจเป็ นที่สดุ
นางมองไม่ออกแม้แต่นิดเดียวด้วยซํา้
บุรุ ษ ผู้นั้น กับ คนที่ ล ้อ มรอบอยู่ข้า งกายเขาเดิ น หายไปในความมื ด ยามราตรีอ ย่ า ง
รวดเร็ว
อวีถ้ งั สะท้านสั่นด้วยความเหน็บหนาว
82

อาเสาคล้ายเพิ่งปี นออกมาจากถํา้ นํา้ แข็ง ฟั นบนกับฟั นล่างกระทบกันกึกๆ เอ่ยว่า


“คุณ คุณหนูใหญ่ เขาเป็ นใครหรือขอรับ? เหตุใดน่ากลัวเช่นนี?้ เขาคงไม่เอาเรื่องเราไปฟ้องสกุล
เผยหรอกใช่ไหม?”
อวีถ้ งั ยิม้ ขื่น “คงจะไม่หรอก!”
เขาผูน้ นั้ ไม่ได้เห็นพวกนางอยู่ในสายตาด้วยซํา้
ใครจะมาคิดเล็กคิดน้อยกับคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
ความคิดของอวีถ้ งั ตีกนั วุน่ ยิ่งสนใจใคร่รูเ้ กี่ยวกับบุรุษผูน้ นั้ มากกว่าเดิม
นางสั่งอาเสาว่า “เจ้าไปถามเถ้าแก่ถงดู สืบมาหน่อยว่าเขาเป็ นใครกันแน่?”
อาเสาค่อนข้างขลาดกลัว แต่พอคิดถึงเรื่องที่เกิดขึน้ ในสกุลหลายวันมานี ้ สุดท้ายก็ฝืน
ตอบตกลง
อวีถ้ งั เก็บตั๋วเงินหนึ่งร้อยสามสิบตําลึงกลับเรือน มอบมันให้กบั อวีเ้ หวิน เล่าเรื่องราวที่
ประสบมาทัง้ หมดให้เขาฟั งโดยไม่ปิดบังหลบเลี่ยง
อวีเ้ หวินตกใจจนหน้าถอดสี แตกตื่นจนเหงื่อเย็นๆ ซึมทั่วร่าง ซํา้ ตําหนิบตุ รสาวว่า “เหตุ
ใดถึงใจกล้าเช่นนี?้ เจ้าเป็ นเด็กสาวตัวคนเดียว กล้าไปสถานที่แบบนัน้ ได้เช่นไร? หากว่าเกิด
เรื่องกับเจ้าขึน้ มา เจ้าจะให้ขา้ กับมารดาเจ้าทําอย่างไร? แล้วก็อาเสาอีกคน กําเริบเสิบสาน
ใหญ่แล้ว ถึงกับไปตรอกฮวาเอ๋อร์กบั เจ้าแล้วจ้างฮูหยินพวกนัน้ มาทําให้หลูซ่ ่ินอับอาย ถ้าหลูซ่ ิ่น
โมโหเลือดขึน้ หน้า ลากเจ้าให้ลาํ บากไปด้วยเล่า เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าจะรับมืออย่างไร?” พูดจบ
ก็รูส้ กึ ซาบซึง้ ใจที่บรุ ุษชุดเขียวผูน้ นั้ ได้รบั การสั่งสอนมาดี
“เรื่องนีเ้ ป็ นข้าที่ไม่ดีเองเจ้าค่ะ!” อวีถ้ งั เอ่ย พลางเชิดชูความมีคณ
ุ ธรรมของเถ้าแก่ถงว่า
“เพราะไม่รูว้ า่ ภาพผืนนัน้ เป็ นของจริงหรือปลอม ในมือก็มีเงินทองเหลืออยู่ไม่เท่าไร ถึงได้อา้ งไป
ว่าต้องการจํานําของ ความจริงควรจะไปขอร้องตรงๆ ให้เถ้าแก่ถงช่วยตรวจสอบให้ ส่วนทาง
เถ้าแก่ถง ต้องขอให้ท่านพ่อเตรียมของขวัญไปขอบคุณเขาสักหน่อยนะเจ้าคะ”
83

อย่างไรนางก็เป็ นแค่เด็กสาวอายุสิบห้าสิบหกเท่านัน้ เรื่องสําคัญเช่นนี ้ ต้องให้ผใู้ หญ่


ในสกุลออกหน้าจึงจะถูกต้องเหมาะสม
“สมควรเป็ นเช่นนัน้ !” อวีเ้ หวินพยักหน้าติดๆ กัน เอ่ยว่า “หากสามารถรู ไ้ ด้ว่าบุรุษชุด
เขียวผูน้ นั้ เป็ นใครจะยิ่งดี…สมควรไปขอโทษเขาสักครัง้ ด้วย”
อวีถ้ งั ผงกศีรษะ ยกภาพวาดในมือขึน้ ถามว่า “แล้วจะทําอย่างไรกับภาพผืนนีเ้ จ้าคะ?”
อวีเ้ หวินถอนหายใจเฮือก ตอบว่า “เก็บไว้เป็ นที่ระลึกแล้วกัน! ถื อเสียว่าจ่ายเงินซือ้
บทเรียน ท่านลุงหลูข่ องเจ้าอับอายขายหน้าเพียงนัน้ คงไม่นา่ กลับมาที่หลินอันอีกแล้ว”
อย่างนัน้ ย่อมดีท่ีสดุ !
จะได้ไม่มีคนมาคอยชักชวนบิดานางให้ทาํ เรื่องโน้นเรื่องนีไ้ ปเรื่อยเปื่ อย
อวีถ้ งั ส่งเสียง ‘อืม’ ทีหนึ่ง แล้วเอ่ยเรื่องท่านผูเ้ ฒ่าเผยขึน้ มาอีกรอบ “ท่านพ่อ ตอนที่ไป
จวนสกุลเผยก็ลองถามอาการป่ วยของท่านผูเ้ ฒ่าเผยในช่วงหลายวันนีด้ นู ะเจ้าคะ เฮ้อ! สกุลเรา
ติดค้า งหนี น้ า้ํ ใจเขาก้อนใหญ่ ถึง เพี ย งนี ้ หากว่า มี สิ่ง ใดที่ พ วกเราพอจะช่ว ยเหลือได้ ก็ ตอ้ ง
ช่วยเหลืออย่างเต็มที่”
อวีเ้ หวินถลึงตาใส่นางทีหนึ่ง เอ่ยว่า “สกุลเผยจะขาดแคลนสิ่งใดไปได้? มีหรือที่ตอ้ งให้
เรายื่นมือช่วยเหลือ?”
อวีเ้ หวินเม้มปากหัวเราะ
อวีเ้ หวินรูส้ กึ ขอบคุณสกุลเผย ตอนที่ไปเยือนจวนสกุลเผยจึงสอบถามอาการป่ วยของ
ท่านผูเ้ ฒ่าอย่างจริงจัง
พ่อบ้านใหญ่สกุลเผยรูเ้ รื่องที่ท่านผูเ้ ฒ่าเชิญหมอหลวงหยางกับหมอหลวงหวังไปตรวจ
อาการให้เฉินซื่อ ทัง้ กิรยิ าของอวีเ้ หวินก็นอบน้อมจริงใจ จึงตอบเขาอย่างไม่ปิดบังว่า “ไม่ได้เป็ น
อะไรมากหรอก ก็แค่ไม่สบายทางใจ ถึงเรียกนายท่านสองกับนายท่านสามกลับมา นายท่าน
สามเป็ นคนอยู่น่ิงไม่เป็ น ทว่านายท่านสองแต่ไหนแต่ไรก็เป็ นคนเงียบๆ หลายวันนีก้ ็ด่ืมชา
84

สนทนาเป็ นเพื่อนท่านผูเ้ ฒ่า ทัง้ มีท่านหมอหลายคนคอยดูแล สังเกตว่าสีหน้าท่านผูเ้ ฒ่าก็ดีขนึ ้


ทุกวันๆ อยู่”
ส่ว นเรื่องที่ ว่า บุรุษ ชุดเขี ย วเป็ น ใคร พ่อบ้า นใหญ่ สกุลเผยก็ ตอบอย่ างคลุมเครือไม่
ชัดเจน
อวีเ้ หวินคิดว่าต้องเป็ นคนของสกุลเผยแน่นอนแล้ว คนของสกุลเผยไม่ยอมพูด เห็นชัด
ว่าไม่ได้เก็บเรื่องนีม้ าใส่ใจ เขาก็ไม่สะดวกจะซักไซ้ จึงได้แต่จดจํานํา้ ใจนีเ้ อาไว้เท่านัน้
เขากลับมาก็เทศนาอวีถ้ ังต่อทันทีว่า “ถ้าเจ้ากล้าก่อเรื่องวุ่นวายอีก ข้าจะตีขาเจ้าให้
หัก!”
อวีถ้ งั เดินเข้าไปบีบนวดไหล่ให้บิดาอย่างว่านอนสอนง่าย
อวีเ้ หวินไม่รูจ้ ะจัดการกับบุตรสาวที่มาในรู ปแบบนีอ้ ย่างไร จึงได้แต่ถอนหายใจอย่าง
อับจน
วันที่สองเขาก็หิว้ พวกขนมนํา้ ชาสุราและของกินเล่นไปขอขมาเถ้าแก่ใหญ่ถง
เถ้าแก่ใหญ่ถงรับรูท้ ่ีมาที่ไปของเรื่องราวทัง้ หมดก็หวั เราะลั่น ไม่เพียงไม่กล่าวโทษอวีถ้ งั
ซํา้ ชมว่านางกล้าหาญมีความรู ้ ถึงกับฝากขนมดอกกุย้ ฮวา 2 มาให้อวีถ้ งั ทานเล่นหนึ่งห่อ
19

เพียงแต่เขาก็ไม่ยอมบอกอวีเ้ หวินเช่นเดียวกันว่าบุรุษชุดเขียวผูน้ นั้ เป็ นใคร


ความรูส้ กึ ที่อวีถ้ งั มีตอ่ เถ้าแก่ใหญ่ถงจึงดีขนึ ้ ไปอีกขัน้
พอเกิดเรื่องเช่นนีข้ ึน้ อวีเ้ หวินกับเฉิ นซื่อกลัวว่าอวีถ้ ังจะออกไปก่อเรื่องอีก หลังจาก
หารือกันเสร็จ ก็ส่งั กักบริเวณอวีถ้ งั ให้นางฝึ กเย็บปั กถักร้อยอยู่แต่ในเรือน

2
ขนมดอกกุย้ ฮวา เป็ นขนมทานเล่นที่นิยมขายทั่วไปตามท้องถนน มีทงั้ ทําจากแป้งข้าวเจ้า เนือ้ จะเป็ นเหมือนเค้กเบา ทํา
จากแป้งข้าวเหนียว ให้สมั ผัสนุ่มหนึบ ทําจากแป้งแห้วหรือวุน้ เป็ นต้น
85

อาเสาตามสืบอยู่เป็ นนานแต่ก็สืบไม่รูเ้ สียทีว่าบุรุษที่โรงจํานําในวันนัน้ มีฐานะเช่นใด


กันแน่
มีเรื่องใดในเมืองหลินอันบ้างที่จะรอดพ้นจากสายตาของคนสกุลเผยไปได้
เห็นอยู่ชดั ๆ ว่าผูอ้ ่นื ไม่ยินดีจะพบนาง
อวีถ้ งั ค่อยๆ ลืมเรื่องนีไ้ ป เพียงแต่บางทีก่อนเข้านอน ก็แวบไปคิดถึงเรื่องนีจ้ นนอนไม่
หลับ นึกถึงสายตาที่บรุ ุษผูน้ นั้ ใช้มองนาง ทําให้หวั ใจไม่อาจสงบสุขได้เลย
86

ตอนที่ 11 เสียชีวิต
ผ่านไปเช่นนีอ้ ีกสิบวัน อวีป้ ๋ อกับอวีห้ ย่วนก็กลับจากเจียงซี
อวีเ้ หวินกําลังวาดรู ปอยู่ พอได้ยินข่าวก็ต่ืนเต้น เอ่ยว่า “เหตุใดพวกเขากลับมาเร็ว
เช่นนี?้ หรือว่าเจออุปสรรคใดเข้า?”
จากที่น่ีน่งั เรือไปเจียงซี เมืองหนานชัง ต้องใช้เวลาถึงสองเดือนกว่า
อวีถ้ งั กลับคิดตรงข้ามกับอวีเ้ หวิน
หากเรื่องราวไม่ราบรื่น เช่นนัน้ ถึงต้องใช้เวลามากกว่าเดิม แต่ถา้ ประสบความสําเร็จ
พวกเขาย่อมล่วงหน้ากลับมาก่อน
“เรือนท่านลุงอยู่ขา้ งๆ นีเ้ อง” อวีถ้ งั กดยิม้ เจ้าเล่ห ์ เอ่ยว่า “หรือว่า ให้ขา้ ไปถามดูหน่อย
ไหมเจ้าคะ?”
เฉินซื่อนั่งปั กผ้าเป็ นเพื่อนอวีถ้ งั อยู่ เอ่ยดุอวีถ้ งั พลางหัวเราะว่า “ข้าว่าเจ้าไม่ได้อยากไป
ช่วยถามข่าวมาให้บิดาเจ้าหรอก เจ้าแค่จะแอบอูใ้ ช่หรือไม่?”
อวีถ้ งั ในชาติก่อน เพราะคิดถึงคนในครอบครัว ตกดึกต้องนอนร้องไห้จนหมอนชุ่มทุก
คื น บัด นี น้ างย้อ นเวลากลับ มาได้ นางต้อ งทํา ให้บิ ด ามารดามี ค วามสุข นางแทบจะหล่อ
พระพุทธรู ปทองถวายวัดให้รูแ้ ล้วรู ร้ อดด้วยซํา้ แล้วนางจะกลับไปเป็ นตัวเองคนที่ไม่รูค้ วาม
อย่างเมื่อก่อน ทําให้บิดามารดาห่วงกังวลและเป็ นทุกข์ได้อย่างไร?
สิ บ วัน มานี ้ นางเอาแต่ ปั ก ผ้า อยู่ใ นห้อ งอย่ า งสงบเสงี่ ย ม ทั้ง ยัง วาดลายดอกไม้ซ่ึง
ภายหลัง เป็ น ที่ นิ ย มอี ก สองสามลายให้เ ฉิ น ซื่ อ รู ส้ ึก ว่ า บุต รสาวผ่ า นการอบรมในครั้ง นี ไ้ ด้
เปลี่ยนเป็ นคนใหม่ นางย่อมภาคภูมิใจยิ่ง
“ท่านแม่รูใ้ จข้าที่สดุ ” นางออดอ้อนเอาใจ ถูศีรษะกับไหล่ของเฉินซื่อไปมา เอ่ยว่า “ท่าน
แม่ ท่านให้ขา้ ออกไปสูดอากาศนะเจ้าคะ! ข้าไม่ได้ออกจากเรือนตัง้ หลายวันแล้ว”
87

เฉินซื่อสงสารบุตรสาวยิ่งนัก บวกกับหลายวันก่อนได้ด่ืมยาของหยางโต่วซิง ตนรู ส้ ึก


หายใจสะดวกและกระปรี่กระเปร่าขึน้ มาก คิดว่าต่อให้บุตรสาวก่อเรื่อง ก็ไม่จาํ เป็ นต้องให้
อวีเ้ หวินคอยเก็บกวาดคนเดียวอีกต่อไป จึงส่งยิม้ ให้เอ่ยว่า “ก็ได้! เจ้าไปดูท่ีเรือนลุงใหญ่กับ
ท่านพ่อเจ้าเถอะ”
อวีถ้ งั ส่งเสียงร้องดีใจ
ทว่าอวีป้ ๋ อกับอวีห้ ย่วนมาเยือนถึงเรือนเสียก่อน
ทุกคนมาพร้อมหน้ากัน นั่งล้อมวงอยู่ใต้รม่ ไม้กลางลานกว้าง มีซวงเถาคอยรินนํา้ ชาให้
อวีป้ ๋ อเล่าเรื่องที่เดินทางไปเจียงซีในครัง้ นีว้ ่า “โชคดีย่ิงนัก! พวกเราเพิ่งจะผ่านเข้าเขต
เจียงซีก็เผอิญได้เจอกับพ่อค้าเมืองกว่างโจว เขาเร่ขายเครื่องเขียนสีและกําลังเดินทางไปเสี่ยง
ดวงที่หนิงโป ข้าเห็นว่าสินค้าเขาก็มีไม่นอ้ ย จึงเจรจากับเขาอยู่ครึ่งค่อนวัน เขาถึงได้ยอมแบ่ง
ของให้พ วกเราครึ่ง หนึ่ง บัง เอิญว่า เถ้า แก่ห วงที่ ส่ ัง สิน ค้า กับเราไม่ไ ด้จาํ กัดว่า ต้องเป็ น ของ
ประเภทใด ขอให้ทนั กองเรือออกเดินทะเลก็พอแล้ว การค้าครัง้ นีจ้ งึ เจรจาสําเร็จลุลว่ ง ทว่า สกุล
เราอย่างไรก็ผิดคําพูดต่อผูอ้ ่นื ข้าจึงรับปากว่าจะชดเชยให้เถ้าแก่หวงห้าสิบตําลึง…”
“สมควรยิ่ง สมควรยิ่ง” อวีเ้ หวินรีบตอบ “เงินก้อนนีท้ ่านพี่ตดั สินใจได้เลย”
ร้านค้าเครื่องลงรักของสกุลอวีผ้ ูกรวมอยู่ดว้ ยกัน ค้าขายร่วมกัน ค่าสินค้าออกร่วมกัน
เมื่อสรุปบัญชีตอนสิน้ ปี ออกมาค่อยแบ่งสรรปั นกําไร
ไม่ตอ้ งชดเชยด้วยจํานวนเงินที่สงู ลิ่ว คนในสกุลก็ดีใจมากแล้ว
อวีเ้ หวินรัง้ ให้อวีป้ ๋ อกับอวีห้ ย่วนอยู่กินข้าวด้วยกันก่อน
อวีป้ ๋ อปฏิเสธ เอ่ยว่า “ข้ายังต้องรีบไปสกุลเผยอีก ได้ยินว่าสกุลเผยจะก่อสร้างถนนฉาง
ซิ่งใหม่อีกครัง้ ข้าจะไปสืบข่าวดู”
อวีเ้ หวินค่อนข้างประหลาดใจ ถามว่า “ข่าวนีเ้ ชื่อได้แค่ไหน? ข้าอยู่ท่ีเมืองหลินอันไม่
เคยได้ยินมาก่อน ท่านพี่เพิ่งกลับมาถึงก็รูข้ า่ วแล้วรึ?”
88

อวีป้ ๋ อหัวเราะ “เจ้าสนใจแต่ตาํ ราคัมภีร ์ เรื่องค้าขายเหล่านี ้ ต่อให้มีคนพูดให้เจ้าฟั ง เจ้า


ก็คงไม่ได้ใส่ใจ จะเทียบกับข้าที่ติดตามบิดาจัดการดูแลร้านเครื่องเขียนสีของสกุลเราตัง้ แต่เด็ก
ได้อย่างไร”
อวีเ้ หวินถามต่อ “จู่ๆ สกุลเผยก็คิดจะสร้างถนนฉางซิ่งขึน้ ใหม่?”
อวีป้ ๋ อตอบ “น่าจะเป็ นความต้องการของท่านข้าหลวง มีคนเชิญนายท่านรองเผยไป
หารือโดยเฉพาะ ถึงได้มีข่าวลือนีอ้ อกมา”
อวีถ้ งั ฟั งอยู่ขา้ งๆ รูส้ กึ ว่าเหมือนกับชาติก่อนไม่มีผิด สกุลเผยตกลงจะสร้างถนนฉางซิ่ง
ขึน้ ใหม่ โดยมี เ งื่ อ นไขว่ า หากร้า นค้า ที่ ไ ม่ ใ ช่ ข องสกุล เผยร้า นใดไม่ มี ก าํ ลัง ทรัพ ย์ สกุล เผย
สามารถซือ้ ต่อพืน้ ที่รา้ นของพวกเขาได้
ชาติก่อนตอนที่นางไม่รูถ้ ึงความไม่ชอบมาพากลของเรื่องราวก็ยงั นึกว่าสกุลเผยกําลัง
ทําบุญสร้างกุศล ต่อมาเมื่อเข้าใจกระจ่างก็ลอบกร่นด่าสกุลเผยไปยกใหญ่ ชาตินีน้ างรูค้ วามลับ
ของสกุลเผยเข้า ทว่าตนกลับติดหนีบ้ ญุ คุณครัง้ ใหญ่ตอ่ สกุลเผย…
อวีถ้ งั ถอนหายใจในอก
นางถือว่าการไม่ได้ยินได้ฟังย่อมทําใจให้สงบได้มากกว่า จึงกลับไปปั กผ้าที่หอ้ งของตน
พี่นอ้ งสกุลอวีห้ ารือเรื่องนีท้ ่ีหอ้ งหนังสือต่อ
อวีเ้ หวินเสนอให้สองบ้านขายพืน้ ที่คนละหนึง่ คูหาให้สกุลเผย สกุลเผยก็จะช่วยพวกเขา
สร้างร้านค้าขึน้ มาใหม่ เช่นนี ้ แม้ทรัพย์สินของสกุลอวีจ้ ะหายไปครึ่งหนึ่ง แต่ดีช่ ัวอย่างไรอีก
ครึง่ หนึ่งก็ยงั รักษาไว้ได้
อวีป้ ๋ อกังวลว่าสกุลเผยจะไม่เห็นด้วย เอ่ยว่า “ร้านส่วนใหญ่บนถนนฉางซิ่งเป็ นของสกุล
เผย พวกเขาก็แค่ไม่สนใจเรา ถึงเวลานัน้ พวกเราก็ตอ้ งขายพืน้ ที่รา้ นให้สกุลเผยวันยังคํ่า”
อวีเ้ หวินกลับเสนอขึน้ ว่า “ท่านพี่คอยดูขา้ ก็แล้วกัน!”
89

หลังจากเขารู ว้ ่าหลู่ซิ่นหลอกขายภาพคัดลอกให้และตนมองไม่ออก ก็สนใจอยากรู ้


ความสามารถในการประเมินสิ่งของของเถ้าแก่ถงยิ่งนัก มีสองสามครัง้ ที่หอบเหล้ายาปลาปิ ้งไป
ให้เถ้าแก่ถง บางครัง้ ก็ขอคําชีแ้ นะเคล็ดลับในการประเมินของโบราณต่างๆ ซํา้ ยังยกตัวเองว่า
เป็ นสหายสนิทของเถ้าแก่ถงไปแล้วครึง่ คน
อวีเ้ หวินคิดว่าเขาอาจจะใช้เส้นสายของเถ้าแก่ถงได้
คนเมืองหลินอันต่างรูว้ า่ สกุลของเถ้าแก่ถงรุน่ แล้วรุน่ เล่าล้วนช่วยสกุลเผยดูแลโรงจํานํา
ถึงตอนนีก้ ็นบั ว่ามีเจ็ดแปดรุน่ แล้ว ถือเป็ นคนเก่าแก่ท่ีพอมีหน้ามีตาและพูดคุยกับสกุลเผยได้
อวีป้ ๋ อกลับไม่ได้มองโลกในแง่ดีอย่างอวีเ้ หวิน
หากว่าเถ้าแก่ถงเป็ นคนพูดง่ายเพียงนัน้ มีเรื่องอันใดก็ช่วยออกหน้าไปพูดกับสกุลเผย
จริงๆ มีหรือที่จะยืนอยู่ถึงทุกวันนีไ้ ด้
ทว่าอวีเ้ หวินกําลังตื่นเต้นยินดี เขาจึงไม่อยากสาดนํา้ เย็นใส่หน้า จึงได้แต่พดู ส่งเสริม
น้องชายสองประโยค แล้วพาอวีห้ ย่วนไปช่วยจัดการเรื่องที่รา้ น
อวีเ้ หวินกินอาหารกลางวันเสร็จ จากนัน้ ก็เปลี่ยนเสือ้ ผ้าแล้วออกไปข้างนอก
ตกดึกกลับมา เขาบอกกับภรรยาอย่างหน้าชื่นตาบานว่า “เถ้าแก่ถงเป็ นคนไม่เลวจริงๆ
เขารับปากจะไปถามความให้สกุลเราแล้ว”
เฉินซื่อก็ปลืม้ ใจเป็ นหนักหนา
ทว่าอวีถ้ งั กลับตกตะลึง
อวีเ้ หวินหยิบภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ ออกมาเปิ ดส่องใต้ไฟ ทางหนึ่งพินิจมอง
ทางหนึ่งก็เอ่ยอย่างทอดถอนใจกับอวีถ้ ังว่า “เห็นหรือไม่ เป็ นคนอย่าได้เจ้าคิดเจ้าแค้นมาก
เกินไป เจ้าดูสิ ข้าซือ้ ภาพคัดลอกมาก็จริง แต่มนั ก็ทาํ ให้ขา้ ได้เจอสหายใหม่คนหนึ่ง”
อวีถ้ งั เบ้ปากใส่
90

หากมิใช่นางคิดหาวิธีพิสจู น์ขอ้ เท็จจริงของภาพผืนนี ้ สกุลของนางมีหรือจะรูจ้ กั มักจี่กบั


เถ้าแก่ถงได้ ทว่า ก็ถกู อย่างที่บิดานางพูด เถ้าแก่ถงเป็ นคนไม่เลวเลยจริงๆ
อวีถ้ งั คิดถึงเรื่องเมื่อชาติก่อนอีกครัง้
ตามความหมายของเถ้า แก่ ถ ง ภาพผื น นี ถ้ ูก ลอกชั้น ออกมาจากภาพวาดต้น แบบ
หมายความว่า ตราประทับซึ่งสืบต่อกันมาไม่มีปัญหาอะไร แล้วภาพที่ตกอยู่ในมือนางเมื่อชาติ
ก่อนมีท่ีมาอย่างไรแน่? เป็ นของจริงหรือของปลอมกันเล่า?
อวีถ้ ังอยากหาโอกาสไปถามเถ้าแก่ถง แต่ว่านางหาจังหวะไม่ได้เสียที อวีเ้ หวินพลัน
บอกเฉินซื่อกับอวีถ้ งั ด้วยนํา้ เสียงคึกคักดีใจ “ร้านค้าสกุลเรามีทางรอดแล้ว!”
“นี่มนั เรื่องอันใดกันเจ้าคะ?” เฉินซื่อวางเข็มกับด้ายในมือลง แล้วรินชาให้อวีเ้ หวินด้วย
ตนเอง
อวีเ้ หวินกรอกอึกๆ ลงคอ ความยินดีพุ่งทะลุออกจากใบหน้า เอ่ยว่า “เถ้าแก่ถงตอบ
กลับข้ามาแล้ว บอกว่าพ่อบ้านใหญ่สกุลเผยตอนแรกก็ไม่ยอม คิดว่าแค่พืน้ ที่สองคูหาคงไม่พอ
สร้างร้านค้าสองร้านขึน้ มาใหม่ เถ้าแก่ถงคิดถึงเรื่องที่วนั ก่อนสกุลเราถูกหลอกเอาเงินไปขึน้ มา
ได้ คิดจะขอความเห็นใจให้พวกเรา ให้สกุลเราเพิ่มเงินอีกสักหน่อยก็ใช้ได้ พ่อบ้านใหญ่บอกว่า
ไม่อาจให้เป็ นเยี่ยงย่าง ถ้าสกุลอื่นที่รา้ นค้าถูกไฟไหม้ทาํ เลียนแบบแล้วจะทําอย่างไร ใครจะคิด
ว่าตอนที่สองคนกําลังถกเถียงกันอยู่ นายท่านสามสกุลเผยผ่านมาได้ยินพอดี จึงตัดสินใจ
รับปากเรื่องนี ้ ทัง้ ยังบอกอีกว่า ทุกสกุลที่รา้ นค้าถูกไฟไหม้ สกุลเผยจะช่วยสร้างร้านค้าขึน้ มา
ใหม่ให้ก่อน ค่าใช้จ่ายทัง้ หมดสกุลเผยจะเป็ นคนออกให้ลว่ งหน้า แล้วแบ่งจ่ายหนีเ้ ป็ นห้าปี หรือ
สิบปี โดยไม่คิดดอกเบีย้ ”
“ฮะ!” อวีถ้ งั ตกตะลึง
ถ้าเป็ นเช่นนี ้ ทุกสกุลที่รา้ นค้าถูกไฟไหม้ก็กา้ วผ่านความยามลําบากไปได้อย่างราบรื่น
แล้วน่ะสิ
91

“สกุลเผยช่างเป็ นพระโพธิสตั ว์กวนอิมที่มาช่วยผูต้ กทุกข์ได้ยากเสียจริง!” เฉินซื่อพนม


มือ แล้วโค้งตัวไหว้ไปทางที่ตงั้ ของจวนสกุลเผยอยู่หลายครัง้
นี่มนั ต่างไปจากชาติก่อนโดยสิน้ เชิง
สาเหตุมาจากการที่นางกลับมาเกิดใหม่หรือ?
เช่นนั้นตอนที่สกุลหลี่มาขอหมั้นหมาย นางก็ไม่ตอ้ งทําอะไรทั้งสิน้ แล้วปฏิเสธงาน
มงคลไปเลยใช่หรือไม่?
แล้วต่อไปนางก็ไม่ตอ้ งเกี่ยวพันใดๆ กับสกุลหลี่อีก?
เพราะแผนเดิมของสกุลนางคือหาเขยชายแต่งเข้าต่างหาก!
อวีถ้ งั คิดถึงเรื่องนีก้ ็รูส้ กึ เบาสบายไปหมด
เฉินซื่อเอ่ยอย่างปรีดาว่า “เช่นนัน้ พวกเราก็ไม่ตอ้ งขายพืน้ ที่รา้ นแล้วสิเจ้าคะ?”
“เกรงว่าจะไม่ได้!” อวีเ้ หวินลูบท้ายทอยอย่างลําบากใจ “ก่อนหน้านีส้ กุลเราก็เคยเอ่ย
เรื่องขายพืน้ ที่รา้ นให้กบั สกุลเผยไปแล้ว สกุลเผยใจบุญสุนทาน ยินดีให้ทกุ คนหยิบยืมเงินทอง
แล้วพวกเราจะผิดคําพูดต่อสกุลเผยได้อย่างไร!”
เฉินซื่อสีหน้าหม่นไปเล็กน้อย ถอนหายใจอย่างผิดหวัง
อวีเ้ หวินเอ่ยปลอบเฉินซื่อว่า “เช่นนีก้ ็นบั ว่าดีมากแล้ว เจ้าคิดแบบนีส้ ิ หากไม่ใช่พวกเรา
ขอร้องเถ้าแก่ถงไปเจรจา แล้วนายท่านสามสกุลเผยจะรู เ้ รื่องนีไ้ ด้อย่างไร? ถ้านายท่านสามไม่
ตกลงรับปาก สกุลเผยมี หรือจะให้สกุลอื่นที่ รา้ นค้าถูกไฟไหม้หยิบยืมเงินทองอย่างไม่หวัง
ผลตอบแทน จะว่าไปแล้ว สกุลเรานับว่าได้ทาํ เรื่องประเสริฐเรื่องหนึ่ง”
เฉินซื่อถึงได้ยมิ ้ ออก แสร้งเอ่ยเสียงบึง้ ตึงว่า “มีแต่ท่านคนเดียวที่ใจกว้าง”
อวีเ้ หวินหัวเราะเหอะๆ
92

อวีป้ ๋ อที่ได้ยินข่าวก็เข้าใจว่าคงไม่ตอ้ งขายพืน้ ที่รา้ นค้าของสกุลแล้ว ตอนที่ว่งิ มาปรึกษา


เรื่องนีก้ ับอวีเ้ หวินถึงได้รูว้ ่ามีตน้ สายปลายเหตุอ่ืนอีก เขาหัวเราะไม่ได้รอ้ งไห้ไม่ออก ทว่าก็
คิดเห็นไปทางเดียวกับอวีเ้ หวิน ด้วยจิตใจกว้างขวางทัดเทียมกัน จึงเอ่ยอย่างเบิกบานว่า “ถือ
เสียว่าสกุลเราไร้ซง่ึ วาสนานัน้ ก็แล้วกัน”
เมื่อสองพี่นอ้ งสกุลอวีต้ ดั สินใจเรียบร้อย คนอื่นก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีก
หลายวันผ่านไป สกุลเผยกับสกุลอื่นๆ ที่รา้ นค้าถูกไฟไหม้ก็รว่ มหารือว่าจะสร้างร้านค้า
ใหม่อย่างไร ทว่าท่านผูเ้ ฒ่าเผยกลับเสียชีวติ อย่างกะทันหัน
“เป็ นไปไม่ได้!” อวีเ้ หวินที่ได้รบั แจ้งข่าวกลางดึกคลุมเสือ้ คลุมยืนอยู่กลางลานกว้าง หูก็
ได้ยินเสียงแมลงร้องแข่งกันระงม เขากุมมือเฉินซื่อเอาไว้ดว้ ยสีหน้าตื่นตระหนก “เมื่อวานตอนที่
ข้าไปจวนสุลเผยยังถามถึงท่านผูเ้ ฒ่าเผยอยู่เลย เขาบอกว่าท่านผูเ้ ฒ่าสบายดี เหตุใดจู่ๆ ก็จาก
ไปเช่นนีเ้ ล่า?”
เฉินซื่อเอ่ยอย่างระทมเศร้าว่า “หรือเป็ นโรคเฉียบพลันเจ้าคะ? ท่านผูเ้ ฒ่าเผยก็อายุเกิน
หกสิบแล้วกระมัง?”
“กะทันหันเกินไปจริงๆ” อวีเ้ หวินแทบไม่อยากเชื่อ หันไปสั่งกับอาเสาว่า “เจ้าไปลองสืบ
อีกที ใช่เรื่องเข้าใจผิดหรือไม่?”
อาเสาทางหนึ่งก็ใช้มือเช็ดนํา้ ตา ทางหนึ่งก็สะอืน้ ตอบว่า “ข้าถามดูแล้วขอรับ สกุลเผย
ตีฆอ้ งประกาศแล้ว ตอนนีเ้ ตรียมแจ้งข่าวพิธีศพต่อสกุลอื่น วัดเจาหมิงกับอารามชิงซวีลว้ นได้รบั
แจ้งแล้วเช่นกัน เจ้าอาวาสทัง้ สองแห่งกําลังเร่งเดินทางมา ข่าวนีไ้ ม่มีทางผิดแน่ขอรับ!”
อวีถ้ งั พิงอยู่ขา้ งประตู เพียงรูส้ กึ ถึงหมอกหนายามราตรีอนั หนักอึง้ ที่เสียดแทงเข้าอก
นางให้ความสนใจเรื่องอาการของท่านผูเ้ ฒ่าเผยอยู่ตลอด ทุกคนต่างพูดว่าท่านผูเ้ ฒ่า
เผยแข็งแรงดี เหตุใดท่านผูเ้ ฒ่าเผยถึงได้เสียชีวิตลงเล่า?
อวีถ้ งั รูส้ กึ เสียใจอย่างมาก
93

นางไม่ควรจะฟั งข่าวจากผูอ้ ่นื อย่างเดียว นางควรจะไปดูให้เห็นกับตาสักครัง้


สกุลเผยช่วยเหลือสกุลนางมากมาย นางกลับไม่เคยดิน้ รนเพื่อช่วยสกุลเผยสักครัง้
อวีถ้ งั เดินเข้าไปดึงแขนของมารดาไว้ เอ่ยว่า “ท่านแม่ พวกท่านจะไปเคารพศพท่านผู้
เฒ่าเผยหรือไม่? ถึงตอนนัน้ พาข้าไปด้วยนะเจ้าคะ?”
94

ตอนที่ 12 เคารพศพ
เมืองหลินอันทัง้ สามด้านล้อมรอบด้วยภูเขา แม่นา้ํ เสาซีไหลเอื่อยอ้อมผ่านเมืองหลิน
อันจากตะวันออกไปตะวันตก บรรจบกับแม่นา้ํ เฉียนถัง กลายเป็ นเส้นทางสายสําคัญในการ
เดินทางออกนอกเมืองของชาวเมืองหลินอัน
จวนสกุลเผยสร้างอยู่บนตรอกเสี่ยวเหมยของเมืองฝั่ งตะวันออก เรือนพักที่สร้างอิง
ภูเขานั้นวิจิตรซับซ้อน กินพืน้ ที่ของตรอกเสี่ยวเหมยทั้งหมด ส่วนแม่นา้ํ สายน้อยที่ไหลลงสู่
ท่าเรือเสาซี จะชักนํา้ มาจากแม่นา้ํ เสาซีอีกที มันวางตัวคดเคีย้ วผ่านหลังจวนสกุลเผย และถูก
ชาวเมืองหลินอันเรียกในชื่อธารเสี่ยวเหมย และเพราะธารเสี่ยวเหมยเป็ นแม่นา้ํ สายเดียวใน
เมืองที่เชื่อมต่อกับท่าเรือและเดินเรือผ่านได้ พอพ้นศาลาว่าการและสํานักศึกษาช่วงใจกลาง
เมืองไป สองฝั่ งแม่นา้ํ จะเริ่มมีรวงร้านตัง้ กันเบียดเสียด ผูค้ นขวักไขว่เนืองแน่น แม้ไม่รุ่งเรือง
เท่ากับร้านค้าบนถนนฉางซิง่ เมืองฝั่งตะวันตก แต่ความคึกคักก็ไม่นอ้ ยหน้าถนนฉางซิ่งเลย
รุง่ เช้าในฤดูรอ้ น แม้อาทิตย์ยงั ไม่ปรากฏตัว ทว่าในอากาศก็แผ่ซ่านไปด้วยกลิ่นสดชื่น
ของต้นไม้ใบหญ้าและนํา้ ค้าง
อวีถ้ ังติดดอกไม้ผา้ สีขาว สวมเสือ้ ตัวสัน้ แขนกว้างทับด้วยกระโปรงยาวสีเรียบซึ่งตัด
จากผ้าโปร่งเหมาะกับหน้าร้อน ประคองมารดาเดินผ่านรวงร้านที่ตงั้ อยู่สองข้างทางธารเสี่ยว
เหมย
ตรอกเสี่ยวเหมยตัง้ อยู่ไกลสุดสายตา ทว่าบนหน้าผากกลับมีเหงื่อผุดออกมาแล้ว
นางดึงผ้าเช็ดหน้าสีม่วงอ่อนที่ตดั จากผ้าไหมหังโจวออกมาเช็ดหงื่อ แล้วหันไปมองทาง
มารดาอย่างไม่รูส้ กึ ตัว
เห็นว่าจอนผมของนางมีเหงื่อชุ่ม อวีถ้ งั จึงรีบส่งผ้าเช็ดหน้าให้ เอ่ยเสียงเบาว่า “ท่านแม่
ท่านก็เช็ดเหงื่อหน่อยสิเจ้าคะ!”
95

เฉินซื่อส่ายหน้า แล้วดึงผ้าเช็ดหน้าของตนออกมาซับเหงื่อ พูดชมนางคําหนึ่งว่า “เด็ก


ดี” แล้วเอ่ยว่า “เจ้าไม่ตอ้ งสนใจข้า เจ้าดูแลตนเองให้ดีก็พอแล้ว”
อวีเ้ หวินที่เดินอยู่ขา้ งหน้าอดจะบ่นไม่ได้ “ข้าบอกให้เช่าเกีย้ วมาหลังหนึ่ง เจ้าก็ว่าเป็ น
การไม่เคารพผูต้ าย ร่างกายของเจ้ากว่าจะบํารุ งให้ดีขึน้ มาหน่อยได้ มิใช่ทรมานตนเองจนล้ม
ป่ วยไปเสียอีก หากถามข้า ข้าว่าเจ้าไม่สมควรมาเลย ข้าพาอาถังมาด้วยก็พอแล้ว”
เฉินซื่อรูปร่างผอมสูง สีหน้าขาวซีด เพราะเจ็บป่ วยอยู่ตลอดทําให้เครื่องหน้าอันวิจิตร
ของนางดูน่าสงสารคล้ายดอกสาลี่กลางฤดูฝนอยู่สามส่วน นางยิม้ พลางปลอบอวีเ้ หวินว่า “เอา
ล่ะ เอาล่ะ ข้ารูว้ ่าท่านพี่เป็ นห่วง ข้าจะเดินตามที่กาํ ลังของข้าไหว ไม่ให้ท่านกับอาถังต้องกังวล
ท่านผูเ้ ฒ่าเผยมีบุญคุณกับข้า หากว่าร่างกายข้าแข็งแรง ก็คงเดินสามก้าวโขกศีรษะหนึ่งทีไป
จนถึงวัด เพื่อขอพรให้พระโพธิสตั ว์คมุ้ ครองท่านผูเ้ ฒ่าสูแ่ ดนสุขาวดีแล้ว ทว่าตอนนีก้ ลับเดินไป
จุดธูปเคารพท่านผูเ้ ฒ่าอย่างเอื่อยเฉื่อย อาศัยว่าท่านผูเ้ ฒ่าเป็ นคนเมตตาอารีย ์ จึงได้แอบอูก้ ็
เท่านัน้ ” พูดถึงตรงนี ้ กรอบตาของนางก็เริม่ แดงเรื่อ
หลังจากที่รูข้ ่าวการตายของท่านผูเ้ ฒ่าเผย เฉินซื่อก็รูส้ กึ ผิดมาก
อวีถ้ งั รีบพูดปลอบใจนางว่า “ท่านแม่ ท่านยังบอกเลยว่าท่านผูเ้ ฒ่ามีเมตตา ท่านผูเ้ ฒ่า
คงไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรือ่ งเท่านีห้ รอก ต่อไปถ้าพวกเรามีโอกาส ค่อยไปสวดมนต์ขอพรให้ทา่ น
ผูเ้ ฒ่าที่วดั ก็ได้เจ้าค่ะ”
เฉินซื่อพยักหน้ารับ
อวีเ้ หวินสั่งกําชับสองแม่ลกู ว่า “สกุลเผยเป็ นสกุลใหญ่มีกิจการมาก สามกิ่งก้านแม้จะ
แยกบ้านกันแต่ไม่ได้แยกบรรพบุรุษ ท่านผูเ้ ฒ่าเผยสายนัน้ อาศัยอยู่ท่ีถนนตะวันออก หอบรรพ
ชนสกุลเผยก็ตงั้ อยู่ถนนตะวันออกเช่นกัน ทว่าสถานที่ตงั้ ศพของท่านผูเ้ ฒ่าเผยนัน้ ด้วยมีคนมา
เคารพศพอย่างล้นหลาม จึงให้ตงั้ ศพที่โถงรองในเรือนหลักบนถนนกลาง แขกบุรุษให้จดุ ธูปไหว้
เคารพในโถงรอง แขกสตรีจะจัดสถานที่อีกสองแห่งไว้ให้จดุ ธูปเคารพที่ถนนตะวันออก แห่งหนึง่
96

สําหรับญาติพ่ีนอ้ งและมิตรสหายสตรี อีกแห่งสําหรับชาวเมืองเช่นพวกเรา ตอนที่พวกเจ้าเข้าไป


ต้องคอยเดินตามหลังผูด้ แู ลให้ดี อย่าได้ไปผิดที่ละ่ ”
หลังจากตัง้ ศพได้สามวัน โถงเซ่นไหว้ก็เริม่ เปิ ดให้ชาวเมืองเข้าไปเคารพศพ
อวีเ้ หวินเคยไปมาหาสู่กับสกุลเผยด้วยเรื่องรักษาอาการป่ วยของเฉินซื่อ ทัง้ เขายังมี
ฐานะซิ่วไฉติดตัว จึงได้ไปสอบถามล่วงหน้า หลายวันนีเ้ ขาล้วนแต่อยู่ช่วยงานที่จวนสกุลเผย
วันนีถ้ ึงค่อยพาภรรยาและบุตรสาวมาเคารพศพท่านผูเ้ ฒ่าเผย
เฉินซื่อไม่เคยพบเจอพิธีศพที่จดั อย่างยิ่งใหญ่เช่นนีม้ าก่อน ในใจรู ส้ ึกประหม่าอยู่บา้ ง
จึงตอบกลับเสียงไร้ความมั่นใจไปทีหนึ่ง
อวีถ้ งั แม้จะมีชีวิตมาสองชาติแล้ว แต่ถกู สกุลหลี่กกั ขังไว้แต่ในเรือนหลัง ออกมาสักครัง้
ก็ตอ้ งหลบๆ ซ่อนๆ จึงไม่เคยเห็นพิธีท่ีย่ิงใหญ่เช่นนีเ้ หมือนกัน แต่นางคิดว่าดีช่ วั อย่างไรตนก็ถกู
สกุลหลี่เคี่ยวกรํามาหลายปี เจอแข็ง ต้องแกร่งกว่า ต่อให้เกิดเรื่องอะไรขึน้ ขอเพียงไม่เกี่ยวพัน
ถึงผลประโยชน์ ทัง้ สกุลเผยก็ค่อนข้างใจกว้าง หากถูกตําหนิก็แก้ให้ถกู เสีย หากไม่ผิดพลาดก็
ให้กาํ ลังใจตนเองต่อ นางจึงไม่คอ่ ยเป็ นกังวลเท่าใดนัก
อาจเพราะสกุลเผยมีบญ ุ คุณต่อชาวเมืองหลินอันเป็ นจํานวนมาก อีกทัง้ วันนีย้ งั เป็ นวัน
แรกที่โถงเซ่นไหว้เปิ ดให้เข้าเคารพศพ ตลอดเส้นทางที่เดินผ่านมา ร้านค้าแผงลอยในตรอก
เสี่ยวเหมยจํานวนมากล้วนปิ ดร้าน คนที่เดินจับจ่ายซือ้ ของมีบางตา กระทั่งเดินถึงสํานักศึกษา
ประจําอําเภอ นางถึงเห็นว่าสํานักศึกษาไม่ได้เปิ ดสอน ทัง้ ยังแขวนธงขาวอีกด้วย
อวี เ้ หวิ น ถอนหายใจ “เหล่ า ถงเซิ ง 1 ของสํา นัก ศึ ก ษาประจํา อํา เภอหากไม่ ไ ด้เ งิ น
20

ช่วยเหลือจากท่านผูเ้ ฒ่าเผย มีหรือจะผลิตซิ่วไฉออกมาได้แทบทุกสองสามปี บัดนีท้ ่านผูเ้ ฒ่า


เผยสิน้ แล้ว สกุลเผยก็ยงั ไม่รูใ้ ครจะขึน้ มาเป็ นผูน้ าํ ทุกคนย่อมกังวลใจกันมาก เกินกว่าครึง่ คงไม่
อาจสงบใจเล่าเรียนต่อได้…”

1
ถงเซิง หมายถึง บัณฑิตรุน่ เยาว์ท่สี อบผ่านระดับอําเภอ และระดับจังหวัด
97

เฉินซื่อได้ฟังก็เอ่ยว่า “ท่านคงไม่เชื่อวาจาเหลวไหลของหลู่ซิ่นกระมัง? หากข้ามหน้า


บ้านใหญ่แล้วให้บา้ นสามเป็ นผูน้ าํ สกุลแทน เช่นนีย้ ่อมเกิดเรื่องแน่”
ต่อให้เป็ นราชสํานัก ก็ยงั ต้องแต่งตัง้ ตามบ้านหลักรอง อายุมากน้อย
อวีเ้ หวินลังเลไปพักใหญ่ ก่อนกระซิบเสียงเบาว่า “มีข่าวลือเช่นนีอ้ อกมาก็ไม่แปลก
หรอก นายท่านใหญ่สนิ ้ แต่อายุไม่ถึงสี่สิบ บุตรชายสองคนยังไม่ผ่านพิธีสวมหมวก ก่อนหน้านีก้ ็
ไม่เคยจับงานยิบย่อยของสกุลเผยมาก่อน…”
เฉินซื่อกลับเถียงว่า “ในสกุลมิใช่มีพ่อบ้านอยู่แล้วรึ? ใครเกิดมาก็ทาํ เป็ นเลยเล่า? ขอ
เพียงยินดีเรียนรูก้ ็พอแล้ว!”
อวีเ้ หวินสงสัยต่อว่า “แต่ขา้ ได้ยินคนพวกนัน้ ถกเถียงกัน บอกว่าท่านอาของคุณชาย
สกุลเผยทัง้ สองคนนัน้ นายท่านรองไม่เชี่ยวชาญศาสตร์คาํ นวณ…ไม่แน่น่ีอาจเป็ นที่มาของข่าว
ลือก็ได้”
เพียงแต่เมื่อเป็ นเช่นนี ้ สกุลเผยจึงไม่อาจเลี่ยงเหตุย่งุ ยากได้
พี่นอ้ งใจเดียวกัน แม้แท่งทองก็บ่นั ลงได้
หากว่าภายในเกิดการแก่งแย่ง ต่อให้ตน้ ไม้จะใหญ่เพียงใดก็โค่นล้มลงมาได้
อวีเ้ หวินกับเฉินซื่อพลันตกอยู่ในความเงียบพร้อมกัน
อวีถ้ งั เห็นว่าบรรยากาศไม่ค่อยดี จึงหัวเราะเอ่ยเสียงสนใจใคร่รูว้ ่า “ท่านพ่อ สถานที่ท่ี
สกุลเผยอยู่เหตุใดจึงเรียกว่าตรอกเสี่ยวเหมยเล่าเจ้าคะ? ตรอกเสี่ยวเหมยกลับไม่มีตน้ เหมยสัก
ต้น ทัง้ ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับต้นเหมยเลยด้วย”
คําถามนีน้ างอยากถามตัง้ แต่ชาติก่อนแล้ว
เพียงแค่ไม่รูจ้ ะไปถามใคร
98

อวี เ้ หวิ น หัว เราะ ตอบว่ า “เจ้า ไม่ มี ท างเห็ น หรอก ข้า ก็ เ พิ่ ง ได้ยิ น มาจากเถ้า แก่ ถ ง
เหมือนกัน เล่าว่าตอนที่บรรพบุรุษของสกุลเผยอพยพคนมาหลบโลกภายนอกที่เมืองหลินอันนี ้
ก็เจอกับต้นเหมยป่ าต้นหนึ่ง จึงได้สร้างเรือนพักอาศัยอยู่ขา้ งต้นเหมยต้นนัน้ ตัง้ ชื่อให้ว่าตรอก
เสี่ยวเหมย ทว่าต่อมาสกุลเผยมีลกู หลานมากมาย จึงค่อยๆ ขยายเรือนออกไปกว้างขวาง ต้น
เหมยเก่าแก่ตน้ นัน้ จึงนับว่าอยู่ในเรือนหลัก แขกเหรื่อทั่วไปยากจะมีใครได้เห็น ทว่าก็ทิง้ ชื่อ
ตรอกเสี่ยวเหมยเอาไว้ให้”
ทัง้ สามคนปี นขึน้ เนินไปอย่างไม่รบี ร้อน จนถึงจวนสกุลเผยในที่สดุ
นอกประตูใหญ่เป็ นภาพขาวโพลนทัง้ แถบ
บ่าวไพร่เดินสวนกันไปมา ยุ่งงานในมือทว่าไม่ไร้ระเบียบ
พอเห็นอวีเ้ หวิน คนที่ท่าทีคล้ายพ่อบ้านก็เดินเข้ามาทักทาย “ท่านอวีม้ าแล้ว เชิญไปนั่ง
ที่โถงรองก่อนขอรับ”
อวีเ้ หวินรีบชีน้ ิว้ ไปทางเฉินซื่อกับอวีถ้ งั “นายหญิงของข้ากับบุตรสาว ได้รบั ความเมตตา
ใหญ่หลวงจากท่านผูเ้ ฒ่า ไม่วา่ อย่างไรก็จะขอมาจุดธูปโขกศีรษะให้ท่านผูเ้ ฒ่าให้ได้”
คนเช่นนีม้ ีมากมายเหลือคณา
พ่อบ้านผูน้ นั้ คารวะเฉินซื่อกับอวีถ้ งั อย่างเกรงอกเกรงใจ เรียกหญิงรับใช้ซ่งึ อยู่ในชุดผ้า
กระสอบสีขาวเข้ามาหา สั่งนางให้พาเฉินซื่อกับอวีถ้ งั ไปเคารพท่านผูเ้ ฒ่าเผย
เฉินซื่อกับอวีถ้ งั เกรงอกเกรงใจยกใหญ่ จากนัน้ ก็ตามหญิงรับใช้ไปฝั่งตะวันออก
อวีถ้ งั เพิ่งจะมีเวลามองสํารวจจวนของสกุลเผย
ไม่เสียชื่อผูค้ รอบครองพืน้ ที่อันดับหนึ่งของเมืองหลินอัน ในเมืองหลินอันที่มากด้วย
ภูเขา น้อยที่ราบ กลับหาลานกว้างที่จอดรถม้าได้อย่างน้อยยี่สิบคันได้ ต้นไม้รอบลานหลายต้น
มีขนาดใหญ่กว่าสองแขนโอบ ใบไม้หนาดกทึบ กิ่งก้านแผ่กว้างเหมือนคันร่ม ต้นสนรับแขกตัง้
99

สูงเหนือศีรษะคน กิ่งที่ย่ืนสลับไปมายาวเกินกว่าสามฉื่ อ 2 ระเบียงทางเดินทอดยาวมุงด้วย


21

หลังคากระเบือ้ งเขียว ราวระเบียงไม้แดง ด้านบนสุดวาดลวดลายสีนา้ํ เงิน เสาทัง้ ต้นถูกพันด้วย


ผ้าขาว ระหว่างต้นไม้เขียวชอุ่มสองฟากมี ดอกไม้ผา้ สีขาวขนาดเท่าปากชามใบใหญ่ แขวน
ประดับอยู่
นี่ตอ้ งใช้เงินทองเท่าใดกัน!
อวีถ้ งั ลอบตื่นตระหนกในใจ
จากนัน้ นางก็คน้ พบเรื่องที่แปลกยิ่งกว่า
ตลอดทางที่เดินผ่าน นางยังไม่เห็นดอกไม้สีอ่นื นอกจากสีขาวเลย
จวนของผู้ร ากมากดี มัก จะชอบปลูก ต้น ไม้ใ บไม้ท่ี แ ฝงความหมายอวยพรให้ส กุล
เจริญรุง่ เรือง ดั่งเถาแตงเส้นยาวที่ออกดอกผลมีลกู หลานมากมาย โดยเฉพาะฤดูกาลนี ้ เป็ นฤดู
ที่ตน้ ทับทิมและต้นพุทราผลิดอก ไม่ตอ้ งพูดถึงต้นไม้พวกนี ้ แม้แต่ดอกไม้ท่ีเห็นได้ท่ วั ไปอย่าง
ดอกชบา ดอกยี่เข่งและดอกกุหลาบก็ยงั ไม่มีให้เห็น
ฝี เท้าของอวีถ้ งั ชะลอช้า พิจารณาต้นไม้ขา้ งระเบียงทางเดินที่ย่ืนกิ่งก้านออกมาอย่าง
ละเอียด
หญิงรับใช้ท่ีคอยจับตาแขกผูม้ าเยือนอยู่ก่อนแล้วสังเกตเห็นความผิดปกติได้ในทันที
นางเดินช้าลง แล้วเอ่ยถามเสียงนุ่มว่า “แม่นางน้อยมองหาสิ่งใดหรือเจ้าคะ? มีสิ่งใดให้ขา้ น้อย
ช่วยเหลือหรือไม่?”
เฉินซื่อหันหน้ากลับมามองอย่างมึนงง

2
หนึ่งฉื่อ ประมาณ 10 นิว้
100

อวีถ้ งั รีบดึงสายตากลับ สาวเท้าเดินให้ทนั เฉินซื่อ กลัวว่าหญิงรับใช้ผนู้ ีจ้ ะเข้าใจผิดคิด


ว่านางแอบด้อมมองเรือนใน ไร้การอบรมสั่งสอน จึงอธิบายว่า “ข้าเห็นว่าต้นไม้ตน้ นีค้ ล้ายกับ
ต้นทับทิม แต่กลับไม่เห็นมีดอกเลย…”
หญิงรับใช้ชะงักไป
อาจเพราะกลัวอวีถ้ งั เข้าใจผิดว่าต้นทับทิมของสกุลเผยไม่ผลิดอก นางหยุดคิดสักครู ่
แล้วตอบว่า “เดิมทีก็ออกดอกเจ้าค่ะ นี่เป็ นเพราะว่าท่านผูเ้ ฒ่ามาสิน้ ไป นายท่านและนายน้อย
ในจวนล้วนเห็นแล้วไม่สบายใจ จึงได้ส่งั ให้ตดั ทิง้ เสียเจ้าค่ะ”
ที่แท้ก็เพราะเหตุนีเ้ อง
อวีถ้ งั รูส้ กึ คําตอบที่ได้ฟังเหนือความคาดหมายอยูบ่ า้ ง
เฉินซื่อก็ประหลาดใจ ถามต่อว่า “ตัดทิง้ ทัง้ หมดเลยรึ?”
เท่าที่มองจวนสกุลเผยมีพืน้ ที่กว้างขวาง ดอกไม้ก็ปลูกเอาไว้มาก หากว่าต้องตัดทิง้
ทัง้ หมด ต้องใช้แรงคนสักเท่าใดกัน!
หญิงรับใช้ผนู้ นั้ ทําราวกับตนเป็ นคนเหน็ดเหนื่อยตัดต้นไม้เอง พอได้ฟังก็ยิม้ ขื่นว่า “ก็
ใช่น่ะสิเจ้าคะ! ตัง้ แต่ท่ีนายท่านสามบอกว่าไม่อยากเห็นดอกไม้บานที่สีสนั ฉูดฉาดเกินไป นี่ก็ใช้
เวลาสองวันเต็มๆ พ่อบ้านสามทัง้ ต้องยุ่งเรื่องจัดงานศพ ทัง้ ต้องคอยสั่งให้คนตัดดอกไม้ พวก
เราข้ารับใช้ก็คอยรับคําสั่ง ตอนนีม้ ือแทบยกไม่ขนึ ้ แล้วเจ้าค่ะ”
“ลําบากพวกเจ้าแล้วจริงๆ!” เฉินซื่อเอ่ยอย่างเห็นใจ “ผ่านช่วงนีไ้ ปก็สบายขึน้ แล้วล่ะ”
คงเพราะวาจาของเฉินซื่อพูดออกมาจากใจ ทัง้ นํา้ เสียงอบอุ่นที่เปล่งออกมายังแฝง
ความอ่อนโยนเหนือผูใ้ ดสามส่วน หญิงรับใช้ผูน้ นั้ จึงลอบสังเกตเฉินซื่ออีกหลายครัง้ แล้วเอ่ย
ถามในที่สุดว่า “สกุลสามีขา้ สกุลจี ้ ทุกคนล้วนเรียกข้าว่า จีต้ า้ เหนียง หากท่านมีเรื่องอันใด
สามารถให้คนมาบอกข้าได้เลยเจ้าค่ะ”
101

สามารถให้ผูอ้ ่ืนเรียกว่า ‘ต้าเหนียง’ ได้ หาใช่เป็ นบ่าวรับใช้ท่ วั ไปที่พอมีหน้ามีตา ไม่


ต้องบอกก็รูว้ ่าย่อมเป็ นผูท้ ่ีรบั ใช้สกุลเผยมาหลายชั่วคน ทัง้ อาจจะเฉลียวฉลาดเป็ นงาน จนถูก
เจ้านายบ้านใดมองเห็นความสําคัญ แล้วมอบหมายให้รบั ผิดชอบงานด้านใดด้านหนึ่ง
เฉินซื่อเอ่ยปากเรียก ‘ต้าเหนียง’ คําหนึ่งอย่างเกรงอกเกรงใจ
อวีถ้ งั คล้ายถูกโจมตีดว้ ยคลื่นลมลูกใหญ่
เฉินซื่อฟั งไม่ออก ทว่านางฟั งเข้าใจทันที
ไม่ชมชอบดอกไม้สีสดคือนายท่านสาม วุ่นวายจัดงานศพกับสั่งงานคนให้ตดั ดอกไม้
คือพ่อบ้านสาม แล้วพ่อบ้านใหญ่กบั พ่อบ้านรองมัวทําอะไรกันอยู่เล่า?
หรือสกุลเผยจะเป็ นอย่างที่หลู่ซิ่นเล่าให้ฟังจริงๆ ในมุมที่ผูอ้ ่ืนมองไม่เห็นได้เกิดการ
เปลี่ยนแปลงภายใน รือ้ ระบบการจัดการใหม่ทงั้ หมดแล้ว?
นางไม่ได้กระโตกกระตาก แสร้งทําทีไร้เดียงสา หลอกถามจีต้ า้ เหนียงด้วยสีหน้าอยากรู ้
ว่า “สกุลเผยสมกับเป็ นสกุลอันดับหนึ่งในเมืองหลินอัน ขนาดพ่อบ้านยังมีตงั้ สามคน แล้วปกติ
ต้อ งมี พ่ อ บ้า นกี่ ค นกัน เจ้า คะ? ท่ า นพ่ อ ข้า รู ้จัก กับ เถ้า แก่ ถ ง เขาเล่ า ว่ า เถ้า แก่ ถ งมี ค วามรู ้
กว้างขวางและเก่งกาจยิ่ง แล้วเถ้าแก่ถงเป็ นผูด้ แู ลในจวนหรือว่าเป็ นพ่อบ้านล่ะเจ้าคะ?”
จีต้ า้ เหนียงได้ฟังสายตาก็พลันเปลี่ยนเป็ นอบอุ่นขึน้ มา เอ่ยว่า “เถ้าแก่ถงเป็ นพ่อสามี
ของลูกสาวข้าเอง”
หรือพูดได้วา่ บุตรสาวของจีต้ า้ เหนียงแต่งให้กบั เถ้าแก่นอ้ ยถง
“ไอหยา ช่างบังเอิญเสียจริง!” อวีถ้ ังกับเฉินซื่ออุทานเบาๆ ออกมาเป็ นเสียงเดียวกัน
จากนั้นอวีถ้ ังจึงเริ่มไล่เรียงว่านางรู จ้ ักเถ้าแก่ถงพ่อลูกได้อย่างไรให้จีต้ า้ เหนียงฟั งด้วยท่าที
สมจริงสมจัง พร้อมเอ่ยเยินยอเถ้าแก่นอ้ ยถงไปหนึ่งยกใหญ่
102

ตอนที่ 13 สกุลเผย
แม่ยายคนใดไม่ชอบฟั งผูอ้ ่นื ชื่นชมลูกเขยตนเองบ้างเล่า!
จีต้ า้ เหนียงยิ่งให้ความสนิทสนมกับพวกนางมากกว่าเดิม นางปลดเกราะกําบังในใจลง
แล้วเล่าเรื่องสกุลเผยให้พวกนางฟั ง “งานในจวนมีไม่จบไม่สิน้ พ่อบ้านใหญ่ทงั้ สิน้ มีสามคน มี
อีกเจ็ดคนเป็ นผูด้ ูแล พ่อบ้านใหญ่ ดูแลเรื่องน้อยใหญ่ในจวน พ่อบ้านรองดูแลธุระจุกจิกกับ
แขกเหรื่อ พ่ อ บ้า นสามดูแ ลบัญ ชี กับ เถ้า แก่ ด ้า นนอก ส่ว นผู้ดูแ ลทั้ง เจ็ ด คนนั้น ผู้ดูแ ลใหญ่
ติดตามพ่อบ้านใหญ่ ผูด้ ูแลรองกับผูด้ ูแลสามติดตามพ่อบ้านรอง คนอื่นๆ อีกสี่คนติดตาม
พ่อบ้านสาม ทว่าผูด้ แู ลเจ็ดจะดูแลธุระของเรือนในด้วย อย่างเช่นข้า ข้าขึน้ ตรงกับผูด้ แู ลเจ็ด”
“ส่วนเถ้าแก่ถงที่พดู ถึงนัน้ บรรพบุรุษของเขารับใช้สกุลเผยมาหลายชั่วคน ต่อมาสกุล
เผยมาตัง้ หลักสร้างฐานที่เมืองหลินอัน พวกเขาก็สร้างคุณงามความดีใหญ่หลวง ก่อนที่บรรพ
ชนสกุลเผยจะสิน้ ก็คืนสัญญาทาสให้เขา ทว่าบรรพบุรุษสกุลถงรู จ้ ักคุณคน แม้จะบอกว่าคืน
หนังสือสัญญาทาสให้ แต่ก็ไม่เคยจากไป ยังคงช่วยเป็ นเถ้าแก่ดแู ลโรงจํานําให้ มีหน้ามีตายิ่ง
นักแล้ว ไม่เหมือนกับข้ารับใช้คนอื่นๆ หรอกเจ้าค่ะ” นํา้ เสียงที่เล่าเจือด้วยความภาคภูมิใจ
ขอเพียงใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลินอัน จะมากจะน้อยอย่างไรก็หนีไม่พน้ ต้องเกี่ยวพันกับ
สกุลเผยอยู่ดี
สกุลอวีใ้ นวันนี ้ ไม่ว่าจะสร้างร้านค้าขึน้ มาใหม่ หรือเพราะเรื่องภาพวาดผืนนัน้ ล้วน
ต้องเกี่ยวพันกับสกุลเผยอย่างลึกซึง้
ชาติก่อน นายท่านสามได้ขนึ ้ เป็ นผูน้ าํ สกุล
ด้วยเหตุนี ้ อวีถ้ งั จึงไม่ได้คิดเดาอะไรมากมายเหมือนกับอวีเ้ หวินและเฉินซื่อ
ทว่างานศพของท่านผูเ้ ฒ่าเผยแสดงให้เห็นถึงข้อมูลหลายต่อหลายอย่าง
อย่างเช่นว่า พวกพ่อค้าในเมืองหลินอันมีเรื่องอันใดก็จะไปพูดขอร้องกับพ่อบ้านใหญ่
แต่พอท่านผูเ้ ฒ่าเผยสิน้ ไป พ่อบ้านสามที่สมควรดูแลกิจการด้านนอกกลับเป็ นตัวหลักในการ
103

จัดพิธีศพให้ท่านผูเ้ ฒ่า แล้วพ่อบ้านรองที่เวลานีน้ ่าจะก้าวออกมาช่วยเหลืองานศพกลับไม่รูไ้ ป


ทําอะไรอยู่ท่ีไหน?
นายท่านสามขึน้ เป็ นผูน้ าํ สกุลได้อย่างไร?
ช่วงเวลานีม้ ีเรื่องอะไรเกิดขึน้ อีก?
พ่อบ้านทัง้ สามคนเวลานีล้ ว้ นสนับสนุนให้นายท่านสามขึน้ เป็ นใหญ่ หรือว่าต่างคนต่าง
ใจต่างความคิด?
แล้วใครเป็ นคนของนายท่านสามบ้าง? ใครบ้างที่ยืนอยู่ขา้ งบ้านใหญ่ฝ่ ังนัน้ ?
อวีถ้ งั ในชาติก่อนเมื่อแต่งเข้าสกุลหลี่ไป เพราะถูกขังอยู่แต่ในเรือนหลัง เกี่ยวกับสกุล
เผยนางจึงไม่คอ่ ยรูเ้ รื่องมากนัก
ชาติก่อน นางไม่เคยได้ยินด้วยซํา้ ว่ามีคนวิพากษ์วิจารณ์นายท่านสาม
คล้ายว่าทันทีท่ีเขาปรากฏตัวขึน้ ในสกุลเผยก็กุมทุกอย่างไว้ในกํามือ วาจาของเขาคือ
คําชีข้ าด คนในสกุลล้วนเคารพเชื่อฟั ง หาได้มีใครกล้าแย้งเขาไม่
นางไม่ตอ้ งการให้สกุลอวีเ้ ข้าไปพัวพันกับเรื่องพวกนีข้ องสกุลเผย
ยัง มี บุรุ ษ ชุดเขี ย วที่ น างเจอตอนอยู่โ รงจํา นํา อีก มองจากอายุอ านามแล้ว ไม่น่า ใช่
คุณชายน้อยสองคนจากบ้านใหญ่ เช่นนัน้ เขามีความสัมพันธ์อย่างไรกับสกุลเผยกันแน่?
หรือว่าเป็ นคุณชายน้อยของนายท่านที่เหลืออีกสองคน?
แล้วตอนนีเ้ ขายืนอยู่ขา้ งไหน?
เขาจะรูห้ รือไม่วา่ สุดท้ายแล้วผูช้ นะในสงครามสนามนีค้ ือนายท่านสามสกุลเผย?
หากให้คาดเดานิสยั ของนายท่านสามสกุลเผยโดยดูจากชาติก่อน หลังจากนายท่าน
สามได้ขึน้ มาเป็ นผูน้ าํ สกุลแล้ว เก้าในสิบคงเป็ นพวกเชื่อฟั งคําคนย่อมได้ดี คิดขัดมีเพียงความ
ตายแน่ๆ
104

ไม่รูว้ า่ บุรุษชุดเขียวผูน้ นั้ จะหลบเลี่ยงออกไปด้วยเหตุผลนีห้ รือไม่


ดูจากท่าทาง เขาก็เป็ นพวกพยศ ไม่เชื่อฟั งใครง่ายๆ คนหนึ่งเลย…
ในใจของอวี ถ้ ังว้าวุ่น ไปหมด นางไม่ม่ ันใจว่าตอนนีน้ างต้องการให้สกุลอวีร้ อดพ้น
เคราะห์ภยั ครานีไ้ ปได้หรือต้องการรู ค้ วามเป็ นมาของบุรุษชุดเขียวมากกว่ากัน…แต่นางก็หา้ ม
ตัวเองให้หยุดสนใจเรื่องของสกุลเผยไม่ได้เสียแล้ว
อวีถ้ งั เอ่ยว่า “พ่อบ้านสามคงยุ่งตัวเป็ นเกลียวแน่! ไหนจะต้องจัดการเรื่องนอกจวน ไหน
จะต้องดูแลเรื่องในจวน พ่อบ้านใหญ่กบั พ่อบ้านรองไม่มาช่วยแบ่งเบาบ้างหรือ?”
จีต้ า้ เหนียงตกใจเพราะรูต้ วั ว่าตนหลุดปากไปมาก แต่พอเห็นสีหน้าบริสทุ ธิ์ไม่เข้าใจโลก
ภายนอกของอวีถ้ งั นางก็ตอบอย่างคลุมเครือว่า “พ่อบ้านใหญ่กบั พ่อบ้านรองยังมีเรื่องอื่นต้อง
จัดการเจ้าค่ะ” จากนัน้ นางก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที “ข้าว่าสุขภาพของนายหญิงซิ่วไฉยัง
อ่อนแออยู่มาก ถ้าหากท่านจุดธูปเคารพท่านผูเ้ ฒ่าเสร็จแล้ววางแผนจะกินอาหารเจที่จวนก่อน
แล้วค่อยกลับ ข้าจะให้คนพาท่านไปพักที่อ่ฝู าง 1 หลังโถงรอง เที่ยงตรงแบบนีต้ ะวันร้อนแรงนัก
22

ท่านต้องระวังจะเป็ นลมแดดไป”
ด้วยกลัวว่าจะทําให้จีต้ า้ เหนียงสงสัย อวีถ้ งั จึงต้องหยุดไว้ช่ วั คราวเพียงเท่านี ้
เฉินซื่อกล่าวขอบใจจีต้ า้ เหนียง แล้วเล่าถึงบุญคุณที่ท่านผูเ้ ฒ่าเผยมีตอ่ นาง
อวีถ้ งั ทางหนึ่งก็เงี่ยหูฟัง ทางหนึ่งก็คอยสังเกตรอบข้างไปด้วย
นางพบว่าตลอดเส้นทางที่เดินผ่าน ไม่มีดอกไม้สีอ่นื ให้เห็นได้เลยจริงๆ
เห็นได้ชดั ว่าคําสั่งของนายท่านสามในตอนนี ้ เบือ้ งหน้าไม่มีใครกล้าไม่เชื่อฟั ง
อวีถ้ งั ยิ่งกังวลมากกว่าเก่า

1
อู่ฟาง คือ ห้องเล็ก 2 ห้องที่อยู่ตรงข้ามกับห้องโถงใหญ่
105

เพียงแต่ไม่รูเ้ ลยว่านายท่านสามจะขึน้ นั่งตําแหน่งได้อย่างไร?


เขาจะใช้คาํ สั่ง เสีย ของท่านผู้เฒ่า มาบี บบัง คับให้ทุก คนเชื่ อฟั ง ? หรือว่า ตั้ง แต่ก่อน
หน้าที่พวกหลูซ่ ิ่นจะปล่อยข่าวลือออกมา นายท่านสามก็ควบคุมฮ่องเต้ส่งั การใต้หล้า 2 ไปแล้ว? 23

นางจิตใจไม่อยู่กบั เนือ้ กับตัว กระทั่งได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว ถึงพบว่าตนกับมารดา


ได้ตามจีต้ า้ เหนียงเข้ามาในลานที่เต็มไปด้วยเสียงร้องไห้ดงั ระงม ชาวเมืองคล้ายพวกนางหลาย
ต่อหลายคนกําลังรํ่าไห้หน้าโลงศพ เสียงสวดบริกรรมดังยาวอย่างมีจงั หวะจะโคน ติ่งทองแดง
สามขาสูงเหนือคนมีธูปปั กอยู่แน่น ควันขาวลอยโขมง หากมิใช่เห็นผ้าขาวแขวนไว้ท่ วั ทุกมุม
นางคงนึกว่าตัวเองหลงเข้ามาอยู่ในวัดเสียแล้ว
เฉินซื่อสูดเข้าไปจนสําลักไอหลายที
จีต้ า้ เหนียงเอ่ยว่า “โปรดตามข้ามา!”
พวกนางถูกนําทางให้เดินผ่านเหล่าสตรีออกเรือนแล้วกลุ่มใหญ่ท่ีกาํ ลังร้องไห้หน้าโลง
ศพแล้วเดินเข้าไปที่โถงข้าง จากนัน้ ก็ไปโขกศีรษะจุดธูปไหว้ภาพเหมือนของท่านผูเ้ ฒ่าเผยซึ่ง
ตัง้ อยู่กลางห้อง
ตอนที่ลกุ ยืนขึน้ อวีถ้ งั ก็พิจารณาภาพเหมือนของท่านผูเ้ ฒ่าอย่างตัง้ อกตัง้ ใจ
หนวดเคราสามจุก ทรงคิว้ หนอนไหม ดวงตาผลซิ่ง หน้าผากกว้างสองแก้มอิ่ม สวมชุด
คลุมตัวยาวแขนกว้างคอกลมสีเขียว ปั กดิน้ ทองลวดลายอูฝ่ ู 3 ยิม้ จนตาแทบปิ ด ดูแล้วเป็ นคนใจ
24

ดีย่งิ นัก

2
ควบคุมฮ่องเต้ส่งั การใต้หล้า หมายถึง แอบอ้างเบือ้ งสูงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์สว่ นตน
3
อู่ฝู คือ สัญลักษณ์มงคลของจี น หมายถึงความสุขทั้งห้าประการ ได้แก่ อายุม่ ันยืนยาว มั่นคงมั่งคั่งรํ่ารวย สุขภาพ
พลานามัยแข็งแรง ประพฤติตนในกรอบศีลธรรมอันดี และตายอย่างสงบสุข
106

ไม่รูภ้ าพนีถ้ กู วาดโดยใคร ลายเส้นพู่กนั นับว่ายอดเยี่ยม ไม่เพียงหน้าตาวาดออกมาได้


สมจริง ทัง้ สีหน้าอารมณ์อันละเอียดอ่อนก็ลว้ นวาดออกมาได้หมด ขนาดอวีถ้ ังที่ไม่มีความรู ้
ความเข้าใจเกี่ยวกับภาพวาด ก็ยงั รับรูไ้ ด้ถึงความสามารถของจิตรกร
ไม่รูว้ า่ เป็ นจิตรกรผูย้ ่งิ ใหญ่ท่านใด
ไม่รูว้ ่าตอนที่ท่านผูเ้ ฒ่าเผยถูกวาดภาพเหมือนภาพนีอ้ ยู่ จะเคยคิดหรือไม่ว่าสกุลเผย
จะเกิดเรื่องแก่งแย่งตําแหน่งผูน้ าํ สกุลหลังจากที่เขาตายไปแล้ว?
เห็นทีวา่ โลกนีช้ ่างอนิจจัง
ท่ามกลางเสียงร้องไห้ อวีถ้ งั พลันจมอยู่กบั ความรูส้ กึ โศกาอาดูร
กรอบตานางรืน้ ชืน้ หยดนํา้ ตาร่วงหล่น
เฉินซื่อทางนัน้ กลับปล่อยโฮออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
อวีถ้ งั กับจีต้ า้ เหนียงประคองเฉินซื่อคนละฝั่งแล้วพาเดินออกมาจากโถงรอง
จีต้ า้ เหนียงหยุดคิดพักหนึ่ง แล้วเรียกสาวใช้ท่ีช่ือ ‘เล่ยจือ’ เข้ามาสั่งงานว่า “นี่คือนาย
หญิงและคุณหนูใหญ่ของอวีซ้ ิ่วไฉ เจ้าพานายหญิงกับคุณหนูใหญ่ไปพักที่เซียงฝาง 4 ด้านหลัง 25

ก่อน” และหันมาพูดกับเฉินซื่อว่า “ด้านนอกข้ายังมีเรื่องต้องจัดการ ไม่อาจอยู่เป็ นเพื่อนพวก


ท่านได้ อีกสักครูข่ า้ ค่อยมาหาใหม่เจ้าค่ะ”
อูฝ่ างเปลี่ยนมาเป็ นเซียงฝาง เห็นชัดว่าจีต้ า้ เหนียงดูแลพวกนางเป็ นพิเศษ
เฉินซื่อกับอวีถ้ งั รีบขอบคุณนางเป็ นพัลวัน เอ่ยว่า “พวกเราคอยอยู่ท่ีหอ้ งอู่ฝางก็ใช้ได้
แล้ว”

4
เซียงฝาง เป็ นห้องที่อยู่ดา้ นทิศตะวันตกและทิศตะวันออกของจวน
107

จีต้ า้ เหนียงลดเสียงเบา เอ่ยว่า “ไม่เป็ นไรเจ้าค่ะ! ห้องเซียงฝางเดิมให้แขกสตรีเรือนใน


พัก ตอนนีไ้ ม่ได้ใช้งาน ให้พวกท่านพักสักวันหนึ่ง มิใช่เรื่องใหญ่โต”
นี่ก็เป็ นความปรารถนาดีของจีต้ า้ เหนียง
สองแม่ลกู กล่าวขอบคุณซํา้ อีกหลายรอบ เห็นว่าจีต้ า้ เหนียงเอ่ยด้วยใจจริง ทัง้ มีบ่าวรับ
ใช้เข้ามาขอคําชีแ้ นะ จึงไม่กล้ารบกวนเวลานางอีก ได้แต่ตอบตกลงอย่างซาบซึง้ ใจ แล้วตาม
เล่ยจือขึน้ ระเบียงทางเดินไปฝั่งตะวันตก
“คนดีๆ เช่นนี ้ เหตุใดจึงมาจากไปเสียดือ้ ๆ นะ?!”
อวีถ้ งั ปลอบใจมารดาอยู่หลายประโยค พอเงยหน้าก็พบว่าพวกนางเดินตามทางอันคด
เคีย้ วเลีย้ วลดตามเล่ยจือมาโผล่ยงั เรือนน้อยที่เงียบสงบหลังหนึ่ง
ในลานมีลาํ ธารและต้นไผ่ สะพานไม้และก้อนหิน ตกแต่งไว้อย่างประณีตบรรจง เสียง
ร้องไห้แว่วลอยตามมา เสริมให้เรือนน้อยหลังนีเ้ งียบสงัดยิ่งกว่าเดิม
เล่ยจือผลักประตูเซียงฝางฝั่ งตะวันตกให้เปิ ดออก เชิญเฉินซื่อกับอวีถ้ งั เข้าไปด้านใน
เอ่ยเสียงเบาว่า “นายหญิงอวี ้ เชิญท่านพักที่น่ีก่อน ถึงเวลาทานมือ้ เที่ยงข้าจะมาเชิญอีกรอบ
เจ้าค่ะ” พูดจบ ก็รนิ ชาให้ทงั้ สองด้วยตนเอง
อวีถ้ ังมองดูเครื่องเรือนสีเข้มเพียงสีเดียวที่อยู่ในห้องเซียงฝาง ม่านกั้นสีฟ้าอ่อน ใน
แจกันดอกไม้สีครามมีดอกอวีห้ ลันขาวสูงตํ่าไม่เท่ากันขนาดประมาณปากชามปั กอยู่สองดอก
การจัดวางเรียบง่ายทว่างดงาม เรียบง่ายสบายตายิ่ง
จากอู่ฝางเปลี่ยนเป็ นเซียงฝาง นางเดาว่าสถานที่แห่งนีค้ งจะเตรียมเอาไว้ให้ญาติพ่ี
น้องไม่ก็สหายสนิทที่เป็ นสตรีของสกุลเผยใช้พกั ผ่อน อาจเพราะจีต้ า้ เหนียงเห็นว่าบิดานางเป็ น
ซิ่วไฉ มารดานางร่างกายอ่อนแอซํา้ ยังพูดคุยถูกคอ จึงได้ดแู ลเป็ นพิเศษ จัดการให้พวกนางแม่
ลูกเข้ามาพักที่น่ี
เฉินซื่อรับนํา้ ชามา เอ่ยขอบคุณเล่ยจือเสียงนุ่ม
108

อวีถ้ งั คิดว่าจีต้ า้ เหนียงเรียกใช้งานเล่ยจือ แสดงว่าเล่ยจือผูน้ ีค้ งมีความสัมพันธ์กบั จีต้ า้


เหนียงไม่เลวทีเดียว นางรับถ้วยชามาจากเล่ยจือ กล่าวขอบคุณอีกฝ่ าย “ลําบากพี่เล่ยจือแล้ว”
แล้วพูดต่อว่า “พวกเราได้เข้ามาพักที่น่ี ทัง้ หมดต้องขอบคุณจีต้ า้ เหนียงกับพี่เล่ยจือ รอผ่านไป
หลายวันให้จีต้ า้ เหนียงกับพี่เล่ยจือไม่ย่งุ แล้ว พวกเราจะมาขอบคุณอีกครัง้ ”
เล่ยจือคิดไม่ถึงว่าแม่ลกู ของซิ่วไฉสกุลอวีจ้ ะเกรงอกเกรงใจตนถึงเพียงนี ้ จึงอดเหลือบ
มองอวีถ้ งั หลายครัง้ ไม่ได้
เครื่องประดับและอาภรณ์ของอวีถ้ ังธรรมดาทั่วไป ส่วนสูงระดับกลางๆ เครื่องหน้า
งดงาม กิรยิ าอ่อนหวาน ผิวพรรณเกลีย้ งเกลา ขาวผ่องยิ่งกว่าหิมะ
เล่ยจือตกตะลึง
คุณหนูสกุลอวีม้ ีรูปโฉมงดงามไม่แพ้เหล่านายหญิงและคุณหนูของสกุลเผยเลย
อวีถ้ ังเดิมก็เป็ นคนนิสยั ใจคอกว้างขวาง ภายหลังได้ประสบกับเรื่องไม่คาดฝั น กิริยา
ท่าทางจึงไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่ง ไม่ถ่อมตัวจนดูตอ้ ยตํ่า ทัง้ ยังสุขมุ เยือกเย็น
นางปล่อยให้เล่ยจือมองตามสบาย
จนเป็ นเล่ยจือเองที่รูส้ กึ เสียมารยาท นางก้มศีรษะตํ่า เอ่ยอย่างนอบน้อมว่า “คุณหนูอวี ้
เกรงใจแล้ว คําพูดของท่าน ข้าจะนําส่งให้ถึงแน่เจ้าค่ะ”
“จีต้ า้ เหนียงกับแม่นางเล่ยจือช่างมีนา้ํ ใจนัก!” เฉินซื่อเสริมวาจาตามมารยาทกับเล่ยจือ
อีกหลายประโยค แล้วเดินไปส่งเล่ยจือที่ประตูดว้ ยตนเอง หลังจากหย่อนตัวนั่งบนตั่งนอนไม้ใน
ห้อง สีหน้าถึงได้เผยความอ่อนล้าให้เห็น
อวีถ้ งั คิดว่านี่ีคือการดูแลเป็ นพิเศษที่จีต้ า้ เหนียงมอบให้ หากว่าคนอื่นรู เ้ ข้าคงไม่ดี จึง
ปิ ดหน้าต่างฝั่ งลานเรือน แล้วเปิ ดหน้าต่างฝั่ งด้านนอกแทน และถึงแม้จะเปิ ดออก แต่ก็ไม่กล้า
เปิ ดอ้าเต็มที่ เพียงเปิ ดค้างไว้ครึง่ เดียวเท่านัน้ นางเข้าไปช่วยมารดาบิดผ้าเช็ดหน้าแล้วซับเหงื่อ
ให้ “ท่านแม่ ท่านพักสักครูเ่ ถอะเจ้าค่ะ ถึงมือ้ กลางวันเมื่อไรเดี๋ยวเล่ยจือจะมาเรียกพวกเราเอง”
109

เฉินซื่อพยักหน้า เอ่ยอย่างรู ส้ ึกไม่สบายใจว่า “ถ้าสุขภาพข้าไม่เป็ นปั ญหา พวกเราคง


ไม่ตอ้ งเบียดเบียนอาหารเจของสกุลเผยไปหนึ่งมือ้ ปากบอกว่ามาจุดธูปเคารพท่านผูเ้ ฒ่าเผย
กลับมาขอข้าวเขากินเสียได้”
อวีถ้ งั กล่อมมารดาว่า “สกุลเผยบุญหนักศักดิส์ งู ไม่มาสนใจอาหารมือ้ สองมือ้ หรอกเจ้า
ค่ะ”
เฉิ นซื่อเห็นว่าบนหน้าผากของอวีถ้ ังมีแต่เหงื่อ ก็เอ่ยอย่างปวดใจว่า “เจ้าก็อย่าฝื น
ตัวเองมาก หากว่ารู ส้ ึกร้อน ก็หาที่เย็นๆ หลบไปพักก่อน อย่าได้ตอ้ งเจ็บไข้เพราะมาจุดธูป
เคารพท่านผูเ้ ฒ่าเผยล่ะ”
“ทราบแล้วเจ้าค่ะ!” อวีถ้ งั รับคํา แล้วยกตั่งไม้เตีย้ เดินมาหา จะช่วยนวดขาให้เฉินซื่อ
เฉินซื่อทัง้ ประหลาดใจและยินดี เอ่ยว่า “ไอหยา! เหลือเชื่อจริงๆ ข้าไม่เคยรูส้ กึ มาก่อน
ว่าการมีลกู สาวจะสุขสบายปานนี!้ ”
ถูกต้องแล้ว!
แต่ไรนางก็ไม่เคยรูค้ วาม ไม่เคยรูจ้ กั รักษาสิ่งลํา้ ค่าในมือ
ตอนนีเ้ พิ่งจะได้รูว้ า่ การได้อยู่พร้อมหน้ากัน มันยากเย็นและมีคา่ มากเพียงใด
ดวงตาอวีถ้ ังรืน้ ชืน้ แสร้งทําทีออดอ้อนเพื่อกลบเกลื่อน แล้วนั่งลงข้างเฉินซื่อเพื่อบีบ
นวดขาให้นาง
110

เฉินซื่อกําลังอิ่มเอิบกับความกตัญ�ูของบุตรสาว ทางหนึ่งก็บ่นกับนางว่า “โบราณว่า


เอาไว้ คนมีวาสนามักเกิดเดือนหก คนอาภัพเดือนหกมักตาย 5 …เพราะท่านผูเ้ ฒ่าทํากุศลบุญ
26

ไว้มากมาย…จึงโชคดีท่ีนายท่านทัง้ สองอยู่พร้อมหน้า ใกล้สิน้ ยังมีบตุ รชายอยู่ขา้ งๆ ทว่าก็โชค


ร้ายเหลือเกิน คนผมขาวต้องส่งคนผมดํา เพราะนายท่านใหญ่มาจากไปก่อน…”
อวีถ้ งั ฟั งเข้าหูซา้ ยทะลุออกหูขวา กําลังนึกถึงสวนป่ าแลไร่ชา ถนนแลท่าเรือ ที่เขียนคํา
ว่า ‘เผย’ ติดไว้ทกุ หนทุกแห่ง นางคิดอย่างทอดถอนใจว่า หรือเป็ นเพราะว่าสกุลเผยล้วนแต่ทาํ
ทานสร้างกุศล?
ด้านนอกพลันมีเสียงโหวกเหวกดังลอดเข้ามา
เฉินซื่อกับอวีถ้ งั พากันชะงักกึก
อวีถ้ งั นึกถึงคําของจีต้ า้ เหนียง จึงกระซิบบอกมารดาว่า “ท่านแม่น่ งั อยู่ก่อน ข้าไปดูเอง
เจ้าค่ะ!”

5
คนมีวาสนามักเกิดเดือนหก คนอาภัพเดือนหกมักตาย อธิบายได้ว่า เดือนหกเป็ นช่วงเวลาเก็บเกี่ยวข้าวสาลี เดือนแปด
เก็บเกี่ยวข้าวโพด เช่นนีก้ ็ไม่ตอ้ งกลัวอดอยาก ทัง้ เดือนหกอากาศเริ่มอบอุ่น ไม่ตอ้ งทนรับลมหนาว จึงนับว่าเด็กที่เกิดเดือน
หกมีโชควาสนา แต่ในทางกลับกัน อากาศที่เริ่มอบอุ่นจะทําให้ศพเน่าเปื่ อยและส่งกลิ่นเหม็นเร็วขึน้ ครอบครัวมักตัง้ ศพไว้
เพียงสามวันแล้วฝั งทันที ไม่มีดฤู กษ์เลือกยาม ทัง้ ชาวไร่ชาวนามักวุ่นวายกับการเก็บเกี่ยว พิธีศพจึงเป็ นอย่างลวกๆ และ
เร่งร้อน นับว่าคนที่ตายเดือนหกช่างอาภัพยิ่ง
111

ตอนที่ 14 ไม่ได้ตัง้ ใจ
นางบอกว่าจะไปดู ทว่า เพราะไม่รูด้ า้ นนอกสถานการณ์เ ป็ นอย่างไร อวีถ้ ังถึงผลัก
หน้าต่างออกไปแล้วแอบมองผ่านช่อง
ในลานไร้ซง่ึ ผูค้ น
เสียงเอะอะน่าจะดังมาจากด้านนอกลานเรือนโน่น
อวีถ้ งั กําลังลังเลว่าจะออกไปดูดีหรือไม่ ก็เห็นหญิงรับใช้หา้ หกคนกับสาวใช้เจ็ดแปดคน
รุมล้อมฮูหยินสองคนเดินตรงเข้ามา
พวกหญิงรับใช้กบั สาวใช้ลว้ นสวมเสือ้ กั๊กยาวปี๋ เจี่ย 1 สีนา้ํ เงิน ประดับดอกไม้ผา้ สีขาว
27

ขนาดเท่าปากจอกสุราเอาไว้
ฮูหยินสองท่านอยู่ในช่วงวัยบุปผาผลิบาน รูปร่างสูงโปร่ง คนหนึ่งแต่งขาวทัง้ ชุด มีเพียง
ตุม้ หูไข่มกุ ขนาดเท่าเม็ดบัวห้อยอยู่หนึ่งคู่ อีกคนหนึ่งใส่เสือ้ ตัวบนสีขาวอมเงินที่ตดั จากผ้าไหม
หังโจวลายตรง สวมกับกระโปรงร้อยจีบสีเขียว บนศีรษะปั กปิ่ นหินเขียวเลี่ยมทองแดงสองอัน
ข้อมือสองข้างมีกาํ ไลหยกสีเขียวแวววาวอยู่ฝ่ ังละวง
“พวกเจ้าเฝ้าอยู่ตรงนี”้ อวีถ้ งั เห็นฮูหยินที่ใส่เสือ้ ผ้าไหมหังโจวสั่งพวกหญิงรับใช้กบั สาว
ใช้เสียงเย็นเยียบ “ห้ามให้ใครเข้ามาได้ละ่ !”
หญิ งรับใช้และสาวใช้ต่างหยุดฝี เท้า ลงอย่างพร้อมเพรียง ย่อเข่าลงครึ่งหนึ่งคล้า ย
คารวะ แล้วตอบว่า “เจ้าค่ะ” อย่างนอบน้อม
ฮูหยินเสือ้ ผ้าไหมหังโจวลากแขนฮูหยินที่แต่งขาวทัง้ ตัวเดินเข้ามาทางอวีถ้ งั
ไม่รูว้ า่ ฮูหยินสองคนนีค้ ิดจะทําอะไร?

1
เสือ้ กั๊กยาวปี๋ เจี่ย คือ เสือ้ กั๊กที่ไม่มีแขนและไม่มีคอเสือ้ สาบเสือ้ ตรง ยาวถึงเข่า
112

อวีถ้ งั คาดเดาไม่ออก
ทว่ามองดูก็รูว้ า่ ฮูหยินทัง้ สองมาจากสกุลที่สงู ส่ง
หากว่าเป็ นแขกของสกุลเผยฉะนัน้ ต้องพักผ่อนอยู่ในห้อง สกุลเผยควรจะจัดหญิงรับใช้
และสาวรับใช้ให้คอยนําทางอยู่ขา้ งหน้ามิใช่หรือ?
หรือเป็ นคนสกุลเผย? เพราะว่าเห็นจีต้ า้ เหนียงเลยคิดมาหาเรื่องพวกนาง…พวกนาง
สกุลอวีค้ งไม่ได้หน้าใหญ่ปานนัน้ ?
หรือพวกนางกําลังหาเรือนเงียบๆ เพื่อคุยเรื่องลับๆ กัน?
ขณะที่อวีถ้ งั กําลังคิดไม่ตก ฮูหยินทัง้ สองก็จงู มือกันมาถึงหน้าบันไดห้องเซียงฝางแล้ว
อวีถ้ งั จึงมองเห็นหน้าตาของทัง้ คูไ่ ด้ชดั เจน
ฮูหยินที่สวมเสือ้ ผ้าไหมหังโจวผูน้ นั้ มีรูปหน้ายาว คิว้ ทรงใบหลิว จมูกทรงเซวียนต่าน 2 28

ริมฝี ปากอิงเถา 3 รับกับโครงหน้าสละสลวยดั่งภาพวาดพู่กัน ทว่าดวงตาแข็งกร้าว สีหน้าซีด


29

เซียว
ส่วนอีกคนที่อยู่ในชุดขาวไว้ทกุ ข์ ดวงหน้าเรียวยาว ดวงตาดั่งผลซิ่งแดงกํ่าทัง้ สองข้าง
สีหน้าขาวซีดไม่ตา่ งกัน
สิ่งที่ผิดจริยธรรมอย่าฟั ง สิ่งที่ผิดจริยธรรมอย่าพูด
อวีถ้ งั พลันรู ส้ ึกเสียใจที่ตนไม่ส่งเสียงออกไปก่อนหน้านี ้ เพื่อให้ฮูหยินทัง้ สองรู ว้ ่าเรือน
น้อยหลังนีย้ งั มีผูอ้ ่ืนอยู่ดว้ ย ทว่ายังไม่ทนั ให้นางได้แก้ไข ฮูหยินที่สวมเสือ้ ผ้าไหมหังโจวก็เปิ ด
ปากตํา หนิ ฮูห ยิ น ที่ ส วมชุด ไว้ทุก ข์สี ข าวเสี ย แล้ว “เจ้า เลอะเลื อ นเพี ย งนี ไ้ ด้เ ช่ น ไร? เห็ น ว่า
สถานการณ์ไม่ดีควรจะรีบหาทางส่งข่าวให้ขา้ กับพี่ชายเจ้าสิ แล้วดูเจ้า มาร้อนใจเอาตอนนีย้ งั มี

2
จมูกทรงเซวียนต่าน คือ สันจมูกสูงปานกลาง ปี กจมูกโค้งได้รูป เห็นเป็ นโครงชัดเจน ปลายจมูกมนกลมอวบอิ่ม สันจมูก
แคบเข้า เชื่อว่าเป็ นทรงจมูกของผูม้ ีวาสนาดี
3
อิงเถา คือ เชอร์ร่ี
113

ประโยชน์หรือ? เจ้าสามใช้คาํ สั่งเสียของพ่อสามีเจ้ามาเป็ นเกราะกําบัง พวกเราจะคัดค้านก็ไม่


ทันเสียแล้ว!”
เจ้าสาม?
พ่อสามี?
อวีถ้ งั พลันมึนงง
ฮูหยินคนที่ใส่ชดุ ไว้ทกุ ข์สีขาวคือนายหญิงใหญ่ของสกุลเผย?
ส่วนฮูหยินที่ใส่เสือ้ ผ้าไหมหังโจวคือพี่สะใภ้ฝ่ ังสกุลมารดาของนายหญิงใหญ่?
พวกนางกําลังแอบนินทาเรื่องที่นายท่านสามจะขึน้ เป็ นผูน้ าํ สกุลหรือ?
อวีถ้ งั ถูกการเปลี่ยนแปลงอันไม่คาดฝันทําให้สบั สน จนขนลุกตัง้ ไปทัง้ ตัว
พวกสกุลใหญ่และสูงส่งเช่นนี ้ ไม่ว่าในจวนจะมีเรื่องสกปรกเพียงใด แต่ภายนอกก็ตอ้ ง
ตีหน้าเป็ นลูกหลานกตัญ�ู พี่นอ้ งรักใคร่ปรองดองเอาไว้อยู่เสมอ
เห็นชัดว่านายหญิงใหญ่เผยผูน้ ีม้ ีเรื่องจะสนทนากับคูส่ ะใภ้ของตน
นางต้องมาเจอเรื่องลับๆ เช่นนี ้ แล้วนางกับมารดาจะถูกฆ่าปิ ดปากหรือไม่หนอ?
อวีถ้ งั รูส้ กึ ร้อนรน พลันหมุนตัวไปหามารดาแล้วทํามือ ‘เงียบเสียง’ ส่งให้นาง
เฉินซื่อก็แปลกใจ ไม่รอให้นางเอ่ยปากถาม เสียงของนายหญิงใหญ่เผยก็ดงั ลอดเข้ามา
“ข้าจะรู ไ้ ด้อย่างไรว่าข้าเลีย้ งงูพิษที่จะแว้งกัดข้าเอาไว้? ดูตอนแรกสิ เขาดือ้ รัน้ ไม่เชื่อฟั ง ข้าก็
คอยช่วยพูดกับท่านผูเ้ ฒ่าเผยและท่านแม่เฒ่าให้ เขาไม่ตงั้ ใจเล่าเรียน ก็เป็ นข้าที่ไปขอร้องให้
ท่านพ่อช่วยสอนเขาด้วยตนเอง ไม่เช่นนัน้ ชื่อเขาจะติดอยู่บนป้ายประกาศสอบผ่านซู่จ๋ีซ่ือได้
หรือ? แล้วก็เป็ นเขานั่นแหละที่บอกว่าจะแต่งกับสตรีเชื่อฟั งกตัญ�ู พี่สะใภ้ฝ่ ั งมารดาของท่าน
ถูกใจเขา เขาก็เอาแต่บ่ายเบี่ยง หากมิใช่เพราะข้า เขาจะสอบผ่านเป็ นซู่จ๋ีซ่ือ ได้เป็ นเจิง้ กวนหก
กรมอย่างราบรื่นได้เหมือนทุกวันนีร้ ?ึ ”
114

“เอาเถอะ เอาเถอะ!” พี่สะใภ้ของนายหญิงใหญ่เผยเอ่ยด้วยนํา้ เสียงไม่พอใจว่า “เรื่อง


ที่ผ่านมาแล้ว จะยกขึน้ มาพูดอีกทําไม? พูดไปพูดมา ก็เพราะเขาคิดว่าสกุลฝั่งมารดาข้าตํ่าต้อย
เกินไป คนเดินขึน้ ที่สงู นํา้ ไหลลงที่ต่าํ นี่ก็เป็ นเรื่องธรรมดาของคน หากจะโทษ ก็โทษที่พ่ีนอ้ งฝั่ง
มารดาข้าไม่เอาไหน ไม่อาจสอบผ่านจนเป็ นบัณฑิตได้”
ถึงขนาดได้ฟังเรื่องที่น่าตกใจเช่นนี ้
อวีถ้ งั กับมารดาหันมาสบตากัน แม้แต่หายใจออกแรงๆ ยังไม่กล้า
“เรื่องนีจ้ ะโทษพี่สะใภ้ได้อย่างไรกัน!” นายหญิงใหญ่เผยคล้ายว่าพูดถึงเรื่องนีก้ ็โมโหยิ่ง
กว่าเก่า “ต้องโทษที่เจ้าสามไม่เห็นความหวังดีของผูอ้ ่ืนเอง…”
แม้นา้ํ เสียงพี่สะใภ้ของนายหญิงใหญ่จะไม่ได้กล่าวโทษ แต่ความจริงก็คงอัดอัน้ อยู่ใน
ใจมานานแล้ว พอได้ฟังก็หวั เราะเสียงเย็นพูดแทรกนายหญิงใหญ่เผยว่า “คงมีแต่เจ้าที่คิดว่า
เขาไม่เห็นความหวังดีของผูอ้ ่ืน! แผนการของเขาวางเอาไว้อย่างแยบยล ผลักไสสกุลเราออก
แล้วหันหน้าไปหาสกุลหลีโน่น”
“สกุลหลี?” นายหญิงใหญ่เผยร้องตกใจ “สกุลของหลีซวิ่นที่เป็ นเจ้ากรมพิธีการ และ
มหาบัณฑิตหอเหวินหยวน?”
“นอกจากสกุลหลีนนั้ เจ้าคิดว่ายังมีสกุลหลีไหนที่ทาํ ให้เจ้าสามมองเห็นในสายตาได้
อีก?” พี่สะใภ้ของนายหญิงใหญ่เผยพูดประชดประชัน “ดูท่าเรื่องนีเ้ จ้าจะไม่รูอ้ ะไร แต่ก่อนข้าก็
บอกว่าเจ้าโง่งม ให้คอยระวังเจ้าสามเอาไว้ เจ้าก็ไม่ยอมฟั ง ตอนนีร้ ู ห้ รือยังล่ะว่าเขาร้ายกาจ
เพียงใด? ท่านผูเ้ ฒ่าของพวกเจ้าลําเอียงจะตายไป! พูดถึงสกุลหลีทางนัน้ คุณหนูสามสกุลหลี
กับถงกวนของพวกเราอายุไล่เลี่ยกัน หากอ้างว่าทําเพื่อสกุลเผย ก็คงต้องให้ถงกวนแต่งงาน
เชื่อมไมตรีกบั สกุลหลี”
“พี่สะใภ้ ท่านคงเข้าใจอะไรผิดแล้ว” นายหญิงใหญ่เผยพูดอย่างไม่อาจทําใจให้เชื่อได้
“ก่อนหน้านีไ้ ม่เห็นเคยได้ยินมาก่อนเลย”
115

พี่สะใภ้ของนายหญิงใหญ่เผยร้องเหอะทีหนึ่ง เอ่ยว่า “เรื่องอื่นข้าอาจจะฟั งมาผิด แต่


เรื่องนีไ้ ม่มีทางพลาดแน่ ฮูหยินหลีสนิทกับทางสกุลข้า นางแอบมาพบข้า เพราะต้องการถาม
เรื่องในเรือนของเจ้าสาม ข้ามีหรือจะเข้าใจผิด!”
นายหญิงใหญ่สกุลเผยสูดลมหายใจเย็นเยือกเข้าปอด
พี่สะใภ้ของนายหญิงใหญ่เผยบอกต่อว่า “ท่านผูเ้ ฒ่าเผยดันมาด่วนจากไป บ้านรองกับ
บ้านสามก็ตอ้ งไว้ทกุ ข์สามปี เรื่องหลังจากสามปี นีใ้ ครจะไปรูไ้ ด้? ตอนนีท้ ่ีตอ้ งกังวลคือตําแหน่ง
ผูน้ าํ สกุลของเจ้าสาม นิสยั ของเจ้าสามเจ้าก็รูด้ ี เคยยอมลงให้ใครเสียที่ไหน พี่ชายเจ้าดีกบั เขา
ถึงเพียงนั้น แล้วเขาล่ะ จะหักหลังกันก็ทาํ ได้ง่ายๆ ไม่สงสารเห็นใจกันสักนิด หากว่าเขานั่ง
ตําแหน่งผูน้ าํ สกุลได้ม่นั คงเมื่อไร บ้านใหญ่คงต้องจบเห่แน่”
นายหญิงใหญ่ถามอย่างสงสัยว่า “เขาจะขัดขวางไม่ให้ถงกวนของข้าไปสอบขุนนางได้
รึ? ท่านพ่อพูดไว้วา่ ถงกวนของเราเป็ นเมล็ดพันธุช์ นั้ ยอดในการเล่าเรียน ขอเพียงถงกวนสอบได้
ลําดับไม่เลว เจ้าสามจะทําอะไรพวกเราได้? สกุลเผยยังต้องพึ่งพาถงกวนของข้านํา ความ
รุง่ โรจน์มาให้สกุลสิ!”
นายหญิงใหญ่เผยนับว่ามองการณ์ไกลอยู่บา้ ง
อวีถ้ งั ได้ยินก็เริม่ คิดตามทันที
ชาติก่อน ปี ท่ีหา้ หลังจากที่ท่านผูเ้ ฒ่าเผยสิน้ ไป คุณชายใหญ่เผยก็สอบเป็ นจวี่เหรินได้
ภายหลังก็สอบผ่านเป็ นจิน้ ซื่อได้อีก
เพียงแต่ชาติก่อนนางเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการเอาตัวรอดจากสกุลหลี่ เรื่องของสกุล
เผยรูอ้ ยู่ไม่มาก ไม่แน่ใจว่าคุณชายเผยผูน้ ีภ้ ายหลังเป็ นอย่างไรต่อ
ทว่า นางได้ยินจากมารดาของหลี่จวิน้ ซึ่งก็คือฮูหยินหลี่ผูเ้ ป็ นแม่สามีของนางในชาติ
ก่อน นางเคยคุยกับหลี่ตวนว่า นายหญิงใหญ่เผยมีบิดาที่รูจ้ กั คนกว้างขวาง ทัง้ ยังมีพ่ีนอ้ งที่ได้
116

เลื่อนขัน้ เป็ นขุนนางขัน้ สามด้วย คุณชายใหญ่ผูน้ นั้ ต่อให้ไม่อาศัยสกุลเผย อนาคตก็ไม่มีทาง


ลําบากแน่
พี่สะใภ้ของนายหญิงใหญ่เผยไม่คิดเช่นนัน้ กล่าวว่า “เจ้าเหมือนที่แม่สามีพดู ไม่มีผิด
เสียแรงที่โตมาขนาดนี ้ ถงกวนสามปี นีค้ งต้องอยู่เมืองหลินอันเพื่อไว้ทุกข์ให้นอ้ งเขยก่อน เมื่อ
เจ้าสามขึน้ เป็ นผูน้ าํ สกุล ซํา้ ยังเป็ นอาแท้ๆ ของถงกวน ต่อให้พ่อสามีกบั พี่ชายเจ้าอยากรับเขา
ไปเรียนอ่านเขียนด้วย ก็ตอ้ งให้เขาพยักหน้าเห็นด้วยจึงจะไปได้ ไม่ตอ้ งพูดถึงเรื่องอื่น แค่เขา
ตัดสินใจให้ถงกวนเล่าเรียนที่เมืองหลินอัน แล้วไม่ยอมตัง้ ใจสั่งสอนถงกวนให้ดี ไม่ตอ้ งพูดถึง
สามปี ต่อให้สามสิบปี ถงกวนก็อย่าคิดจะได้ลืมตาอ้าปากเลย”
พี่สะใภ้ของนายหญิงใหญ่เผยผูน้ ีต้ อ้ งการมายุยงคนมากกว่ามาช่วยแก้ปัญหากระมัง?
อวีถ้ งั ยิ่งฟั งยิ่งรูส้ กึ ว่าพี่สะใภ้ของนายหญิงใหญ่เผยผูน้ ีเ้ หมือนผูช้ มละครไม่ตอ้ งกลัวตก
เวที 4 มากกว่า ไม่เหมือนกําลังช่วยนายหญิงใหญ่เผยคิดหาทางออกอย่างจริงใจ
30

ทว่า สะใภ้ของนายหญิงใหญ่เผยพูดถูกอยู่เรื่องหนึ่ง
ชาติก่อน คุณชายใหญ่เผยก็อาศัยอยู่ท่ีหลินอันตลอด กระทั่งครบช่วงไว้ทุกข์ ก็ไม่ได้
เข้าร่วมการสอบเคอจวี่ แต่เพราะบิดาของนายหญิงใหญ่ลม้ ป่ วยหนัก ส่งจดหมายมาบอกว่า
ก่อนตายอยากจะเจอหน้าคุณชายใหญ่เผยสักครัง้ คุณชายใหญ่เผยถึงได้ออกจากหลินอันไป
จากนัน้ ก็ใช้ทะเบียนราษฎร์เมืองหลวง จนสอบเป็ นจวี่เหรินได้
เรื่องจริงที่เกิดขึน้ เป็ นดังที่พ่ีสะใภ้ของนายหญิงใหญ่เผยพูดเอาไว้ไม่มีผิด!?
อวีถ้ งั รู ส้ กึ อีกครัง้ หนึ่งว่า สกุลเผยช่างยากแท้หยั่งถึง คนธรรมดาอย่างพวกนางควรจะ
หลบไปให้ไกลๆ ไว้เป็ นดี
“พี่สะใภ้ ท่านว่าทําอย่างไรดีเล่า?” นายหญิงใหญ่เผยได้ฟังที่พ่ีสะใภ้พดู ก็เอ่ยอย่างร้อน
ใจว่า “หากไม้กลายเป็ นเรือแล้ว เรายังจะกระโดดออกมาขัดขวางคําสั่งเสียของท่านผูเ้ ฒ่าได้

4
ผูช้ มละครไม่ตอ้ งกลัวตกเวที หมายถึง เป็ นแค่ผชู้ มจึงไม่กลัวว่าตนจะตกลงจากเวที ใช้เสียดสีคนที่ไม่คิดถึงจิตใจผูอ้ ่ืน
117

หรือ? คนอื่นคงเอาเราไปพูดว่าพวกเราคิดแย่งสมบัติกับน้องสามี! มีแต่จะทําให้ช่ือเสียงของ


ถงกวนมัวหมอง?”
“เหตุใดเจ้าไม่เข้าใจเสียทีนะ!” พี่สะใภ้ของนายหญิงใหญ่เผยกล่าวเสียงเหีย้ มว่า “มิใช่
ยังมีนายท่านรองอยู่ร?ึ ต่อให้ตาํ แหน่งผูน้ าํ สกุลจะมาไม่ถึงพวกเรา แต่จะยอมถอยให้เจ้าสาม
ง่ายๆ แบบนีไ้ ด้อย่างไร!”
“เป็ นไปไม่ได้หรอก!” นายหญิงใหญ่เผยกล่าว “อารองเป็ นคนซื่อสัตย์และใจกว้าง เขา
ไม่มีทางออกตัวแก่งแย่งแน่ อีกอย่าง การแย่งชิงสิ่งเหล่านีก้ ็ไม่สง่ ผลดีอะไรต่อเขา?”
พี่สะใภ้ของนายหญิงใหญ่เผยเอ่ยว่า “เขาคงไม่ออกหน้าแก่งแย่ง แต่เขาออกมาพูดสิ่ง
ที่เป็ นธรรมได้น่ีนา! สกุลเผยไม่ใช่ว่ามีอีกสองสายรึ? นายท่านอีก้ ับนายท่านวั่งเล่า ไม่แน่ก็
อาจจะมีอะไรที่อยากพูดก็ได้? เจ้าไม่อยากได้สมบัติกองโตของสกุลเผย แต่นายท่านอีก้ บั นาย
ท่านวั่งจะไม่เสียดายรึ? พวกเขาอีกสองสายไม่เหมือนพวกเจ้าที่ผลิตบัณฑิตออกมาได้ทกุ รุน่ ถ้า
เป็ นข้า ของที่ขา้ ไม่ได้ คนอื่นก็อย่าคิดจะฉกไปได้ง่ายๆ เลย”
นายหญิงใหญ่เผยเงียบเสียงไปพักใหญ่
พี่สะใภ้ของนายหญิงใหญ่เผยก็ไม่ได้เร่งเร้านาง ไม่รูว้ ่าทําอะไรกันอยู่ ใต้ชายคาเงียบ
เชียบ ไร้เสียงพูดคุย
อวีถ้ งั กับมารดากลัน้ หายใจนิ่ง กลัวว่าจะถูกคนพบเข้า
ไม่รูว้ ่าผ่านไปนานเท่าไร นายหญิงใหญ่เผยก็เอ่ยเสียงตํ่าว่า “พี่สะใภ้ เรื่องนีข้ า้ จะเชื่อ
ท่าน!”
อวีถ้ ังได้ยินเสียงเจือความพอใจและยินดีของพี่สะใภ้นายหญิงใหญ่เผย เอ่ยว่า “เจ้า
ควรจะเชื่อแต่แรกแล้ว! เมื่อก่อนยังมีนอ้ งเขยคุม้ ครองเจ้า เจ้าก็เลยไม่ตอ้ งสนใจอะไร แต่มาวันนี ้
น้องเขยไม่อยู่แล้ว คิดเสียว่าทําเพื่อหลานทัง้ สองคน เจ้าจะต้องเข้มแข็งกว่านีถ้ ึงจะถูก!”
นายหญิงใหญ่เผยส่งเสียง “อืม” คําหนึ่ง
118

พี่สะใภ้ของนายหญิงใหญ่เผยยังกล่าวต่อว่า “เจ้าเอียงหูมาทางนี ้ ข้าจะบอกว่าควรทํา


เช่นไร!”
อวีถ้ งั มองเห็นศีรษะของนายหญิงใหญ่เผยกับพี่สะใภ้ของนางสุมรวมอยู่ดว้ ยกัน
ส่วนพูดอะไรกันบ้างนัน้ นางได้ยินไม่ชดั เจน
นับหรือไม่วา่ ตนได้เป็ นประจักษ์พยานเห็นช่วงเวลาดํามืดของนายหญิงใหญ่เผยแล้ว?
อวีถ้ งั ส่ายหน้า
ไม่รูว้ า่ บ้านใหญ่กบั นายท่านสามขัดแย้งเรื่องอันใดกัน ทําให้ระหว่างพวกเขาต้องตัดสิน
แพ้ชนะให้ชดั เจนถึงเพียงนี ้ แต่ก็น่าเสียดาย ที่สดุ ท้ายบ้านใหญ่ก็ตอ้ งพ่ายแพ้อยู่ดี
เป็ นนาน กว่านายหญิงใหญ่เผยกับพี่สะใภ้ของนางจะเดินออกไป อวีถ้ งั กับมารดาต่าง
ถอนหายใจยาวเหยียดอย่างโล่งอก เฉิ นซื่อกําชับบุตรสาวด้วยความกังวลว่า “สิ่งที่เจ้าได้ยิน
ต้องเก็บไว้ในท้องเท่านัน้ เรื่องภายในจวนเช่นนี ้ พ่อตาบอกตัวเองมีเหตุผล แม่ยายบอกตัวเองมี
เหตุผล 5 พวกเราต่างเป็ นคนนอก ไม่อาจยื่นมือเข้าไปวุน่ วายเรื่องในจวนผูอ้ ่ืนได้”
31

อวีถ้ งั พยักหน้าหงึกหงัก
เฉิ นซื่อยังคงไม่วางใจ ให้อวีถ้ ังเอ่ยคําสาบานพร้อมแช่งชักตนเองไปรอบหนึ่ง ถึงได้
สบายใจและยอมปล่อยอวีถ้ งั ไป

5
พ่อตาบอกตัวเองมีเหตุผล แม่ยายบอกตัวเองมีเหตุผล เปรียบได้ถึง ต่างคนต่างก็บอกว่าตัวเองเป็ นฝ่ ายถูก
119

ตอนที่ 15 ฐานะ
แต่อย่างไร อวีถ้ ังกับมารดาก็เหมือนนั่งอยู่บนพรมเข็ม สถานที่แห่งนีไ้ ม่อาจรัง้ อยู่ได้
นาน สองคนหารือกันเสร็จ คิดว่าจะบอกกับเล่ยจือไว้สกั คํา ว่าพวกตนจะล่วงหน้าไปยังสถานที่
จัดเลีย้ งอาหารเจของสกุลเผยก่อน
ใครจะรูว้ า่ ตอนที่พวกนางเดินออกมา กลับเจอบ่าวกลุม่ หนึง่ กําลังย้ายหีบลังกันอยู่
ฟั งจากนํา้ เสียง เป็ นฮูหยินหยางพี่สะใภ้ของนายหญิ งใหญ่เผยที่มาร่วมแสดงความ
เสียใจ ตอนนีก้ าํ ลังย้ายข้าวของเข้าไปพักในเรือนซึง่ ห่างจากตรงนีไ้ ม่ไกล
มินา่ เมื่อครูไ่ ด้ยินเสียงเอะอะโวยวาย
เฉินซื่อกับอวีถ้ งั กลัวว่าจะเป็ นจุดสนใจ จึงตามหาเล่ยจือเงียบๆ แล้วบอกลานาง
เล่ยจือนึกว่าพวกนางสองแม่ลกู รูส้ กึ ว่าเรือนนีเ้ งียบเหงาเกินไป คิดว่านี่ก็ใกล้ถึงเวลากิน
ข้าวแล้ว จึงทิง้ งานในมือ แล้วพาพวกนางไปที่เรือนรับรองซึง่ จัดอาหารกลางวันไว้
เที่ยงตรงของฤดูรอ้ น แสงอาทิตย์สาดแสงทิ่มแทงตา ทว่าต้นไม้ใหญ่สองฝั่งของระเบียง
ทางเดินกลับบดบังได้มิดชิด ลมเย็มโชยผ่าน สบายตัวยิ่งนัก
ด้านหน้าไกลๆ อวีถ้ งั เห็นบุรุษหลายคนกําลังเดินจากระเบียงทางเดินตรงเข้ามา
บุรุษที่อยู่ตรงกลาง อายุประมาณยี่สิบสามยี่สิบสี่ปี รู ปร่างสูงใหญ่ผ่าเผย สวมชุดไว้
ทุกข์ สีหน้าขาวซีด สันจมูกโด่งสูง สันกรามที่เครียดเขม็งยกขึน้ เล็กน้อย แม้ท่าทีจะดูเปิ ดเผย
ทว่ากลางหว่างคิว้ กลับแสดงอารมณ์อมึ ครึม
เขาคือบุรุษชุดเขียวที่นางเจอในโรงจํานําวันนัน้ นี่
ดวงตาดั่งผลซิ่งของอวีถ้ งั เบิกกว้าง
เขา มาอยู่ท่ีน่ีได้อย่างไร?
120

นี่เป็ นเรือนชัน้ ในของสกุลเผยนะ!


เล่ยจือวุ่นวายกับการลากชายเสือ้ ของอวีถ้ งั พูดเสียงร้อนรนว่า “คุณหนูใหญ่อวี ้ นั่นคือ
นายท่านสามและสหายของท่านเจ้าค่ะ ท่าน ท่านต้องหลบสักหน่อย”
นายท่านสาม?!
นายท่านสามสกุลเผย?!
ไม่น่าใช่หรอก?!
อวีถ้ งั มองไปทางเล่ยจือ แล้วก็มองไปที่คนตรงหน้า คิดว่าตัวเองหูตาฝ้าฟางไปแล้ว
เล่ยจือเห็นว่าสายตาของอวีถ้ งั ไม่มีหลบเลี่ยง เอาแต่จอ้ งเขม็งที่นายท่านสามตรงๆ ก็
ร้อนใจจนเหงื่อผุดเต็มหน้า ไม่อาจมัวสนใจเรื่องมารยาทได้อีก จึงลากอวีถ้ งั ไปหลบที่มมุ หัวโค้ง
ของระเบียงทันที
เฉินซื่อเห็นสถานการณ์ดงั นัน้ ก็ขนึ ้ มายืนบังอวีถ้ งั ไว้
เผยเยี่ยนไม่ได้แลตามอง เพียงเดินผ่านระเบียงตรงหน้าไป
ทว่าเป็ นบุรุษที่เดินตามเขาอยู่ขา้ งหลัง หันหน้ากลับมามองอวีถ้ งั อยู่หลายที
อวีถ้ งั ไม่ได้สงั เกตเห็นสิ่งเหล่านี ้ นางยังตกอยู่ในความสะพรึงที่วา่ บุรุษชุดเขียวผูน้ นั้ ก็คอื
นายท่านสามสกุลเผย
รอจนเล่ยจือพานางเดินต่อไปเบือ้ งหน้า นางก็ยงั ถามยํา้ กับเล่ยจืออีกรอบอย่างทําใจ
เชื่อไม่ลงว่า “นายท่านสาม เหตุใดถึงอายุนอ้ ยขนาดนี?้ ”
เล่ยจือตอบว่า “นายท่านสามเป็ นลูกหลงของท่านผูเ้ ฒ่าเจ้าค่ะ!”
นางรูอ้ ยู่แล้วว่าเขาเป็ นลูกหลง!
แต่นางไม่รูว้ า่ เขาจะอายุนอ้ ยถึงเพียงนี!้
121

นึกถึงตอนแรก นางยังเดาว่าเขาเป็ นคุณชายของสกุลสาขาอีกสองสายอยูเ่ ลย


เชื่อว่าเขาต้องเป็ นญาติของสกุลเผยแน่
มิน่าตอนนัน้ เขาถึงทําหน้าไม่พอใจ
อวีถ้ งั หน้าขึน้ สี เอ่ยว่า “นายท่านสามของเจ้าสอบผ่านเป็ นซูจ่ ๋ีซ่อื ได้ตอนอายุเท่าไร?”
เล่ยจือตอบว่า “ยี่สิบเอ็ดเจ้าค่ะ”
จะโทษนางก็ไม่ได้
บิดานางตอนที่อายุย่ีสิบเอ็ดยังเป็ นถงเซิงอยู่เลย
อวีถ้ งั ทําปากยู่
เฉินซื่อเอ่ยปรามอวีถ้ งั ว่า “ห้ามเสียมารยาท! ตัง้ ใจเดินไปก็พอ”
มาวิจารณ์คนของสกุลเผยในจวนสกุลเผย จะไร้มารยาทเกินไปแล้ว
อวีถ้ งั ได้แต่ปิดปากเงียบ
เฉินซื่อยังไม่วางใจ พูดต่อว่า “เจ้ารับปากข้าแล้ว จะไม่ก่อเรื่อง ถ้าเจ้ายังอยากรูไ้ ม่เลิก
ก็ข่มกลัน้ เอาไว้เสีย”
อวีถ้ งั ผงกศีรษะอย่างจนใจ
เล่ยจือฟั งออกว่าสองแม่ลกู พูดจาเป็ นนัย จึงถามอย่างวิตกว่า “เกิดเรื่องอะไรขึน้ หรือ
เจ้าคะ?”
เฉินซื่อตอบว่า “ไม่มี ไม่มี เจ้าเด็กคนนี ้ ก็แค่อยากรูอ้ ยากเห็นไปทั่วน่ะ”
นัยน์ตาของเล่ยจือมีกระแสขบขันพาดผ่าน เอ่ยว่า “คนที่ได้เจอหน้านายท่านสามสกุล
เราล้วนแต่ต่ืนตะลึงทุกคน คุณหนูใหญ่อวีม้ ิใช่คนแรกหรอกเจ้าค่ะ” นางพูดไป ก็หนั ไปมองข้าง
หลังทีหนึ่ง จากนัน้ ก็เอ่ยเสียงเบาว่า “นายท่านสามน่าจะไปเยี่ยมฮูหยินหยางเจ้าค่ะ”
122

“เยี่ยมฮูหยินหยาง?” อวีถ้ งั ทวนคําด้วยสีหน้าประหลาด


นายท่านสามสกุลเผยกับฮูหยินหยางมีอะไรให้คยุ กันรึ?
“ก็คือพี่สะใภ้ฝ่ ังมารดาของนายหญิงใหญ่เผยเจ้าค่ะ” เล่ยจือตอบ “พี่นอ้ งฝั่งมารดาของ
นายหญิงใหญ่เผยเป็ นทงเจิง้ สื่ออยู่ท่ีสาํ นักทงเจิง้ 1 ” พูดถึงตรงนี ้ เล่ยจือก็หนั ซ้ายขวามองรอบ
32

ทิศ เห็นว่าไม่มีใคร ก็เผยสีหน้าดูถกู ออกมา เอ่ยว่า “เมื่อครูฮ่ หู ยินหยางไม่สบายเจ้าค่ะ บอกว่า


จัดให้อยู่ในเรือนคงไม่ดี สั่งให้พอ่ บ้านใหญ่เปลี่ยนเป็ นหลังอื่น พ่อบ้านใหญ่ก็จริงๆ เลย เรื่องเล็ก
เท่านีก้ ็ตอ้ งรายงานให้นายท่านสามทราบ…เพราะเรือ่ งท่านผูเ้ ฒ่าทําให้หลายวันนีน้ ายท่านสาม
กินดื่มอะไรแทบไม่ลงอยู่แล้ว นอนก็แทบไม่ได้นอน อารมณ์คงไม่ดีเท่าไร พ่อบ้านใหญ่โผล่
พรวดพราดเข้าไป ท่านคอยดูเถอะ เดี๋ยวพ่อบ้านใหญ่ตอ้ งถูกตําหนิแน่”
ไม่รูน้ ่ีใช่หนึ่งในแผนการของฮูหยินหยางหรือไม่?
อวีถ้ งั ขบคิด
เฉินซื่อได้ฟังก็รูส้ กึ หวาดกลัวมาก เอ่ยเสียงแผ่วว่า “บางทีพ่อบ้านใหญ่อาจจะไม่รูต้ อ้ ง
ทําอย่างไรกับฮูหยินหยาง?”
“ฮูหยินหยางไม่ใช่คนเช่นนัน้ เจ้าค่ะ!” เล่ยจือไม่เห็นด้วย “พ่อบ้านใหญ่ชอบถือว่าตน
อาวุโสกว่าแล้วเที่ยวดูถกู ผูอ้ ่ืน ทว่านายท่านสามเกลียดคนแบบนีท้ ่ีสดุ แต่ก่อนเขายังมีท่านแม่
เฒ่าคอยคุม้ ครอง วันนีท้ ่านแม่เฒ่าล้มป่ วยลงเพราะท่านผูเ้ ฒ่าแล้ว ใครก็ไม่มีอาํ นาจไปสั่งเขา!
เขาก็ไม่ดเู สียบ้างว่านี่มนั เป็ นเวลาเช่นใด!”
นี่จะร้องละครบทไหนกันอีก?

1
สํานักทงเจิง้ เป็ นหน่วยงานส่วนกลางที่ตั้งขึน้ เพื่อเป็ นฝ่ ายสนับสนุน มีหน้าที่ดูแลรับส่งเอกสารราชการและหนังสือ
ทูลเกล้าต่างๆ
123

เฉินซื่อกับอวีถ้ งั ไม่สะดวกจะออกความเห็น เฉินซื่อเออออกับเล่ยจือไปสองสามคํา ก็


มาถึงเรือนรับรองที่จดั เลีย้ งพอดี
ด้านในเรือนรับรองร้อนอบอ้าว มีคนนั่งอยู่แน่นขนัดไปหมด
อวีถ้ งั เห็นคนคุน้ หน้าหลายคน น่าจะเป็ นบรรดาเพื่อนบ้านของนาง
อาจเพราะออกมาจากโถงเซ่นไหว้ ความรู ส้ กึ โศกเศร้าจางหายไปอย่างรวดเร็ว ทุกคน
พูดคุยหัวเราะ เรือนรับรองจึงเต็มไปด้วยเสียงจอแจและความวุ่นวาย ไม่คล้ายกับงานศพ แต่
เหมือนกับมีงานมงคลมากกว่า
อวีถ้ งั นึกถึงท่าทีเมื่อครูข่ องนายท่านสามแห่งสกุลเผย แล้วนึกย้อนไปถึงความเจ็บปวด
เมื่อชาติก่อนตอนที่นางได้รบั ข่าวการตายของบิดามารดา อดจะถอนหายใจออกมาไม่ได้
มีเพียงผูเ้ ป็ นครอบครัวจริงๆ เท่านัน้ ถึงจะเข้าใจความเจ็บปวดที่รวดร้าวในอกได้
เล่ยจือจัดให้เฉินซื่อกับอวีถ้ งั นั่งลงตรงโต๊ะแถวหลัง
ตรงนัน้ ค่อนข้างเงียบ ลมที่พดั ผ่านเข้ามาทําให้เย็นสบายไม่นอ้ ย คนที่น่ งั ร่วมโต๊ะล้วน
เป็ นเหล่าสตรีของครอบครัวคหบดีในชนบท หนึ่งในนัน้ มีแม่นางน้อยหน้ากลมผูห้ นึ่ง อายุน่าจะ
รุน่ ราวคราวเดียวกับอวีถ้ งั พอเห็นนางก็ยิม้ แฉ่งส่งมาให้เป็ นการทักทาย ทัง้ ยังจะมานั่งข้างนาง
อีก
อวีถ้ งั นึกอยู่ครึง่ วันเพิ่งจะนึกออกว่านางก็คือหม่าซิ่วเหนียง บุตรสาวของสกุลหม่าซิ่วไฉ
ในเมืองนี่เอง
ชาติก่อนในช่วงนี ้ พวกนางเล่นด้วยกันได้ดี ตอนที่นางแต่งงาน หม่าซิ่วเหนียงได้ออก
เรือนไปกับถงเซิงสกุลจางแล้ว แต่ยงั ฝากคนให้นาํ กําไลเงินคูห่ นึ่งที่มีมลู ค่ากว่าห้าตําลึงมามอบ
ให้เป็ นของขวัญ พร้อมกับฝากคําพูดมาด้วยว่า หากมีปัญหาให้ไปหานางได้เลย
ทว่าภายหลังสกุลหลี่โหดเหีย้ มนัก นางกลัวจะพานทําให้หม่าซิ่วเหนียงลําบาก จึงไม่
กล้าติดต่อไป กระทั่งก่อนจะตาย ตนก็ยงั ไม่เคยได้กล่าวขอบคุณนางเลยสักครัง้
124

อวีถ้ งั กรอบตารืน้ ชืน้ จับมือหม่าซิ่วเหนียงเอาไว้แล้วนั่งอยู่ขา้ งกายนาง


นายหญิงหม่าผูเ้ ป็ นภรรยาของหม่าซิ่วไฉพูดกับเฉินซื่อว่า “เจ้าดูเด็กสองคนนัน้ สิ แทบ
จะรวมเป็ นร่างเดียวกันอยู่แล้ว ทําเหมือนว่าพวกเราเป็ นหวังหมู่เหนียงเหนียงแยกแม่นา้ํ 2 จะจับ 33

แยกพวกนางออกจากกันหรืออย่างไร”
เฉินซื่ออดจะหัวเราะออกมาไม่ได้
หม่าซิ่วเหนียงถามอวีถ้ งั ว่า “เจ้าหายไปไหนมา? เมื่อครูข่ า้ ตามหาเจ้าอยู่นะ?”
อวี ถ้ ัง ตอบว่า “ข้า ก็ อ ยู่ใ นจวนนี่ แ หละ! แล้ว เมื่ อ ครู ่เ จ้า ไปไหนมา? ข้า ก็ ไ ม่ เ ห็ น เจ้า
เหมือนกัน”
หม่าซิ่วเหนียงบ่นอุบอิบว่า “ช่างแปลกจริงๆ”
อวีถ้ งั เปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที เอ่ยว่า “เจ้ามาถึงตัง้ แต่เมื่อไร? พวกเราไม่เจอหน้ากัน
ช่วงหนึ่งแล้ว เจ้ามัวยุ่งกับเรื่องอะไรอยู่หรือ?”
หม่าซิ่วเหนียงเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ฟัง
เฉินซื่อเห็นว่าอวีถ้ งั ระวังปากระวังคํา ก็ค่อยวางใจลง แล้วหันไปสนทนากับนายหญิง
หม่าต่อ
อวีถ้ งั ทางนีห้ กู ็ฟังไปโดยที่ใจไม่อยู่กบั เนือ้ กับตัว
นางกําลังคิดเรือ่ งนายท่านสามอยู่
ต่อให้นอนฝันนางก็คาดไม่ถึงจริงๆ ว่าเขาคือผูน้ าํ สกุลที่ถกู เล่าลือคนนัน้

2
หวังหมู่เหนียงเหนียง เป็ นเทวีตามศาสนาชาวบ้านจีนซึ่งปรากฏมาแต่โบราณกาล ได้รบั ความนิยมและเชื่อถือว่าเป็ นผู้
ประทานอายุยืนยาว มั่งมีเงินทองและความสงบสุข
125

ก่อนหน้านีน้ างยังกังวลแทนเขาว่าจะเลือกยืนผิดฝั่ งในศึกครานี ้ ใครจะไปนึกว่าเขา


กลับเป็ นเจ้านายที่ไม่มีทางถูกเอาเปรียบแน่
ชาติก่อนเขาไม่เพียงครอบครองตําแหน่งผูน้ าํ สกุลอย่างมั่นคง ทัง้ ยังบงการเหล่าพี่นอ้ ง
สกุลเผยที่เป็ นขุนนางอยู่ดา้ นนอกจนหัวปั่ นไปหมด
ภายหลังสกุลเผยมีจิน้ ซื่อเพิ่มมาอีกสองคน คนหนึ่งคือคุณชายใหญ่จากบ้านใหญ่ อีก
คนคือคุณชายฉานจากสกุลสาขา
คุณชายใหญ่จากบ้านใหญ่นนั้ ถูกเขากดข่มไว้ ไม่รูว้ ่าคุณชายฉานจากสกุลสาขาผูน้ นั้
ได้รบั การสนับสนุนจากเขาหรือไม่?
จะว่าไปแล้ว ก่อนหน้านีเ้ ขาไม่เอาเรื่องนางที่ไปแอบอ้างบารมีของสกุลเผย นางถือว่า
ติดหนีน้ า้ํ ใจเขาหนหนึ่ง
เดิมคิดว่าเขาคงเป็ นคุณชายจากสกุลสาขา นางก็แค่หาภาพวาดเก่าแก่สกั ผืนส่งไปให้
เขา นับว่าเป็ นการแสดงความขอบคุณแล้ว ทว่าบัดนีเ้ ขาเป็ นถึงนายท่านสามสกุลเผย ต่อให้
นางหาภาพวาดโด่งดังลํา้ ค่ามาได้ เขาก็คงไม่เห็นในสายตา
หรือว่า ทําเหมือนเรื่องนีไ้ ม่เคยเกิดขึน้ ? นางก็ทาํ เป็ นไม่รูฐ้ านะของเขาไปเสีย?
พออวีถ้ งั นึกว่าบุรุษชุดเขียวผูน้ นั้ คือคนที่อยู่เบือ้ งหลังสกุลเผยในความทรงจําของนาง
ก็เหมือนกับเงามืดของนายท่านสามสกุลเผยที่ปกคลุมเมืองหลินอันเอาไว้ นางรูส้ กึ หวาดระแวง
ต้องคอยระวังตัว ราวกับว่าอันตรายอาจจะมาโผล่อยู่ตรงหน้าได้ทกุ เวลา
เฮ้อ นายท่านใหญ่เผยย่อมมีเรื่องให้คิดมากมาย ขอให้เขาลืมนางกับเรื่องที่นางเคยทํา
ไปให้หมดด้วยเถอะ
ทว่า สีห น้า ของเขาอึมครึมกว่าตอนที่นางเจอครัง้ ก่อนอยู่ม าก หนแล้วที่ เ จอเขาให้
ความรู ส้ ึกเย็นชาและห่างเหินกับนาง ทว่าตอนนีก้ ลับให้อารมณ์ดุรา้ ยและใจร้อน คล้ายว่า
พร้อมจะระเบิดและสูญเสียสัมปชัญญะได้ตลอด
126

สาเหตุเพราะบิดาที่จากไปหรือ?
ตอนที่บิดามารดาของนางสิน้ นางก็เสียใจมาก แต่ไม่เหมือนกับเขาแบบนี ้
การจากไปของท่านผูเ้ ฒ่าเหมือนจะเอาความสงบและความสุขุมบนร่างเขาจากไป
พร้อมกันด้วย
ตอนที่บิดามารดานางจากไป สิ่งที่ทะลักท่วมสําหรับนางก็คือความเจ็บปวด
นายท่านสามกับท่านผูเ้ ฒ่าคงต้องมีความสัมพันธ์อนั แน่นแฟ้นอย่างยิ่ง
อวีถ้ งั ลอบทอดถอนใจ จู่ๆ พลันรู ส้ กึ ว่าหม่าซิ่วเหนียงกําลังเขย่ามือนาง ทัง้ เอ่ยว่า “ข้า
คุยกับเจ้าอยู่นะ เจ้าได้ฟังหรือไม่? คิดอะไรอยู่อย่างนัน้ รึ?”
นางรีบดึงสติกลับมา เอ่ยว่า “ขออภัย เมื่อครู ข่ า้ คิดเรื่องอื่นอยู่ เจ้าจะบอกอะไรข้าหรือ
ขอรอฟั งอยู่นะ!”
หม่าซิ่วเหนียงไม่ได้เซ้าซี ้ พูดว่า “ข้าบอกว่าอีกไม่เกินสิบวันจะมีงานที่วดั เจาหมิง เจ้า
จะไปกับข้าหรือไม่?”
ถ้านางไม่พดู ถึง อวีถ้ งั คงลืมเรื่องนีไ้ ปแล้ว
ชาติก่อน คุณชายรองสกุลหลี่ ซึ่งก็คือหลี่จวิน้ ได้ยินว่าเขาได้เจอกับนางที่วดั เจาหมิง
เป็ นครัง้ แรก เขาตกหลุมรักนางทันที จะเป็ นจะตายให้ได้ หากไม่ใช่นางจะไม่มีวนั แต่งเด็ดขาด
สกุลหลี่พิจารณาแล้วว่าเขาไม่ใช่บตุ รชายที่จะมาสืบทอดสกุล จึงกลํา้ กลืนตอบตกลงงานแต่งนี ้
ให้แม่ส่อื มาทาบทามเรื่องหมัน้ หมาย
ชาตินี ้ นางไม่ตอ้ งการเกี่ยวพันใดๆ กับสกุลหลี่อีก
“ข้าไม่ไปหรอก” อวีถ้ ังตอบ “เจ้าก็รูว้ ่าท่านแม่ขา้ สุขภาพไม่ดี ข้าต้องอยู่ท่ีเรือนเป็ น
เพื่อนท่านแม่”
127

หม่าซิ่วเหนียงพยักหน้าเป็ นเชิงบอกว่าเข้าใจ ทว่าเฉินซื่อที่น่งั ฟั งอยู่ขา้ งๆ กลับพูดขึน้ ว่า


“ไม่ง่ายที่ซิ่วเหนียงจะชวนเจ้าออกไปข้างนอก เจ้าก็ไปเถอะ! ที่เรือนยังมีปา้ เฉินอยู่อีกคน”
ชาติก่อน ท่านแม่ก็โน้มน้าวนางให้ออกไปเที่ยวเล่นด้านนอกเช่นนี ้
อวีถ้ งั กรอบตาเริ่มชืน้ ๆ เอ่ยว่า “ข้าไม่ไป อากาศร้อนเหลือเกิน ข้าอยู่ท่ีเรือนดีกว่า เดี๋ยว
จะเป็ นลมแดดไป”
นายหญิงหม่าได้ฟัง ก็อบรมหม่าซิ่วเหนียงไปยกหนึ่งว่า “เจ้าดูอาถังเป็ นตัวอย่างสิ เจ้า
ก็อยู่เรือนเสีย ไม่ตอ้ งออกไปไหนทัง้ นัน้ ”
“ท่านแม่!” หม่าซิ่วเหนียงเหมือนถูกฟ้าผ่า นางออดอ้อนอยู่ครึ่งวัน นายหญิงหม่าก็ไม่
ยอมใจอ่อน
อวีถ้ งั หน้าเสีย เอ่ยว่า “ถ้าอย่างนัน้ เจ้ามาเล่นที่เรือนข้าก็แล้วกัน! งานวัดมีอะไรน่าสนุก
กัน? ร้อนจะตายไป นํา้ แข็งยังไม่ทนั กินก็ละลายเต็มมือแล้ว เจ้ามาที่เรือนข้าดีกว่า ข้าจะให้ท่าน
พ่อไปซือ้ นํา้ แข็งให้ แล้วก็มีแตงหวานร้านจิ่งสุย่ ไพ่ดว้ ย”
หม่าซิ่วเหนียงตกลงทันทีดว้ ยความตื่นเต้น นางดีใจจนเล่าเรื่องโน้นเรื่องนีใ้ ห้นางฟั งไม่
หยุด
128

ตอนที่ 16 แม่นาง
อวีถ้ งั ตัง้ ใจฟั งที่หม่าซิ่วเหนียงพูดอย่างใจจดใจจ่อ พลันมีคนเดินเข้ามาทักทายเฉินซื่อ
“เจ้าเป็ นแขกที่หาตัวจับยากนัก! วันที่อากาศร้อนเช่นนี ้ ข้าคิดว่าเจ้าไม่มีทางก้าวออกจากประตู
แน่ คิดไม่ถึงว่าจะมาคารวะศพท่านผูเ้ ฒ่าด้วย”
เฉิ นซื่อกับนายหญิงหม่าซิ่วไฉต่างลุกขึน้ ยืน ทักทายผูม้ าเยือนอย่างเกรงใจว่า “นาย
หญิงทัง ท่านก็มาคารวะศพท่านผูเ้ ฒ่าด้วยหรือ!”
อวีถ้ งั เงยหน้าขึน้ มอง ก็เห็นดวงหน้าของสตรีท่ีเต็มไปด้วยความเจ้าเล่หค์ นหนึ่ง
สายตาของนางเย็นเยียบ
ภรรยาของทังซิ่วไฉ ‘นายหญิงทัง’
นางคือคนที่ชาติก่อนได้รบั การไหว้วานจากสกุลหลี่ให้มาเจรจากับนางลับๆ หากว่านาง
ตอบรับงานมงคลกับสกุลหลี่ สกุลหลี่ก็ยินดีให้สกุลอวีห้ ยิบยืมเงินห้าพันตําลึง
ชาติก่อน นางนับถือนายหญิงทังว่าเป็ นผูม้ ีพระคุณ คิดว่านางช่างมีนา้ํ ใจและจริงใจยิ่ง
ต่อมาพอเริม่ รูอ้ ะไรมากขึน้ นางถึงคิดได้วา่ ที่นายหญิงทังผูน้ ีส้ ามารถข้ามหน้าป้าสะใภ้
แล้วมายุยงให้แม่นางน้อยอย่างนางตอบรับงานมงคลกับสกุลหลี่อย่างลับๆ ได้ ย่อมเป็ นคนใจ
คอเลวทราม ยากแท้หยั่งถึง และมีเจตนาไม่ดีแอบแฝงต่างหาก
นายหญิ งทังทักทายเฉิ นซื่อและนายหญิ งหม่ากลับตามมารยาท นางดึงผ้าเช็ดหน้า
ออกมาซับตรงหางตาที่ไม่ได้มีนา้ํ ตาสักหยด เอ่ยพร้อมสีหน้าเจือความเจ็บปวดว่า “ถูกต้องแล้ว!
การจากไปของท่านผูเ้ ฒ่า ถือเป็ นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งของเมืองหลินอันของพวกเรา! ฮูหยินจวน
ผูต้ รวจการก็มาด้วย ก็น่ีแหละ ข้านั่งพักผ่อนเป็ นเพื่อนนางอยู่ท่ีเรือนทางโน้นตลอด ไม่ได้สงั เกต
ว่าพวกเจ้าก็มาด้วย”
129

เฉินซื่อกับนายหญิงหม่าไม่ค่อยอยากเสวนาพาทีกบั นายหญิงทังผูน้ ีม้ ากนัก ความจริง


ก็เพราะนายหญิงทังผูน้ ีไ้ ม่เพียงชมชอบออกงานพบปะ ปี นป่ ายเกาะพวกชนชัน้ สูง ทัง้ ชอบคุยโว
โอ้อวดอีกด้วย
ท่านข้าหลวงทังกับทังซิ่วไฉมีช่ือสกุลเหมือนกัน ไม่รูว้ า่ ด้วยเหตุผลกลใด ถึงยอมให้ท่าน
ข้าหลวงทังที่อ่อนกว่าทังซิ่วไฉถึงสองปี เป็ นท่านลุงร่วมสกุลของถังซิ่วไฉไปได้ นายหญิงทังผูน้ ีก้ ็
ตามประจบประแจงฮูหยินทังภรรยาของข้าหลวงทังทัง้ วี่วนั กระตือรือร้นจนบางครัง้ ก็ทาํ ให้ฮู
หยินทังเองก็รบั มือไม่ไหว
เมื่อได้ยินนางเริ่มต้นคุยโว เฉินซื่อกับนายหญิงหม่าที่ไม่ค่อยชอบนางก็ถามคําตอบคํา
ไปไม่ก่ีประโยค เตรียมจะไล่นางให้จากไป
ใครจะคิดว่าคนที่ปกติเมื่อฮูหยินทังอยู่ในสายตาแล้วจะมองไม่เห็นหัวใครอีกอย่างนาย
หญิงทัง วันนีค้ ล้ายว่ากินยาผิดขนาน ไม่เพียงไม่ยอมจากไป ยังยิม้ หยดย้อยพลางสํารวจอวีถ้ งั
กับหม่าซิ่วเหนียงไปด้วย เอ่ยว่า “ไม่เจอกันแค่ไม่ก่ีวนั แม่นางน้อยอวีก้ บั แม่นางน้อยหม่าล้วนโต
เป็ นสาวกันแล้ว ทัง้ งดงามและอ่อนหวาน หากว่าเจอกันบนถนน ข้าไม่มีทางจําได้แน่”
เฉินซื่อกับนายหญิงทังจึงต้องให้บุตรสาวของตนออกมาคารวะนายหญิงทัง แล้วพูด
ถ่อมตนไปสองสามคํา
ราวกับว่านายหญิงทังมองไม่เห็นการสนทนาแบบขอไปทีของเฉินซื่อกับนายหญิงหม่า
ยังเอ่ยอย่างสนิทสนมว่า “ข้าถึงได้พดู กับฮูหยินทังอย่างไรเล่า นายหญิงซิ่วไฉทั่วทัง้ เมืองก็มีแต่
พวกเจ้าสองคนนี่แหละที่มีคณ ุ ธรรมเพียบพร้อมกว่าใคร ในเรือนมีแม่นางน้อยที่งดงามเพียงนี ้
ยังไม่ยอมให้ผคู้ นได้ยลโฉมบ้าง หากว่าข้ามีบตุ รสาวที่เป็ นหน้าเป็ นตาเช่นนีค้ งพาเดินอวดไปทั่ว
เมืองแล้ว”
สองคนไม่อยากเสวนากับนางมาก จึงได้แต่อือออตอบกลับ
ไม่รูว้ ่าอวีถ้ งั คิดมากไปเองหรือไม่ นางรูส้ กึ ว่านายหญิงทังกําลังมองสํารวจนางกับหม่า
ซิ่วเหนียง ทัง้ ให้ความสนใจกับนางมากเป็ นพิเศษ
130

นางเบี่ยงตัวไปหลบอยู่หลังมารดาอย่างเงียบๆ
นายหญิงทังหัวเราะพลางดึงมือหม่าซิ่วเหนียงที่น่ งั อยู่ขา้ งๆ มาจับไว้ เอ่ยถามนายหญิง
หม่าว่า “ข้าจําได้ว่าแม่นางน้อยเรือนเจ้าปั กปิ่ นไปเมื่อเดือนสามปี ก่อน หมัน้ หมายแล้วหรือยัง
เล่า? พวกเรามีคณุ หนูท่ีโดดเด่นเช่นนี ้ ไม่อาจยกให้ใครไปง่ายๆ”
หม่าซิ่วเหนียงเขินอายจนก้มหน้างุดๆ
นายหญิงหม่ากลับเริม่ ขมวดคิว้
ต่อหน้าคนมากมายเช่นนี ้ นายหญิงทังกลับพูดเรื่องงานมงคลของหม่าซิ่วเหนียงต่อ
หน้าเจ้าตัวอย่างตรงไปตรงมา นี่เป็ นเรื่องที่เสียมารยาทอย่างยิ่ง
นายหญิงหม่าพูดอย่างไม่พอใจว่า “นายหญิ งทังจําผิดแล้ว ปั กปิ่ นเดือนสามเป็ นแม่
นางน้อยสกุลอวี ้ บุตรสาวข้าปั กปิ่ นตอนเดือนห้า”
“ไอหยา! ดูความจําของข้าสิ!” นายหญิ งทังหัวเราะ มองไปทางเฉินซื่อแม่ลูก เอ่ยว่า
“แม่นางอวีม้ ีคยุ เรื่องหมัน้ หมายแล้วหรือไม่? อยากให้ขา้ ช่วยดูให้ไหมเล่า เจ้าลองเดาดูสิว่าเมื่อ
ครู ่ขา้ ไปเจอใครมา? ฮูหยินหยางที่เป็ นพี่สะใภ้ของนายหญิงใหญ่สกุลเผยนั่นอย่างไร ฮูหยินห
ยางหนนีไ้ ม่ได้มาคนเดียว ยังพาหลานชายของบ้านฝั่ งมารดามาด้วย! อีกอย่างข้าได้ยินมาว่า
สามีของฮูหยินหยางเป็ นถึงทงเจิง้ สื่ออยู่ท่ีสาํ นักทงเจิง้ เชียวนะ! ซํา้ เป็ นขุนนางขั้นสามแล้ว
ไม่อย่างนัน้ ฮูหยินหยางคงไม่คอยอยู่ท่ีโน่นเป็ นเพื่อนหรอก!”
วาจานีห้ มายความว่าอย่างไร?
ฮูหยินหยางพาใครมาด้วยแล้วเกี่ยวอะไรกับอวีถ้ งั เล่า?
คิดจะใช้บารมีของสกุลหยางมาหลอกล่อสกุลอวีอ้ ย่างนัน้ รึ?
เฉิ นซื่อเริ่มโกรธ นํา้ เสียงที่ตอบไปจึงแข็งทื่อ “ไม่ตอ้ งรบกวนนายหญิงทังให้เสียเวลา
หรอก อวีถ้ งั ของเราจะเก็บไว้เตรียมรับเขยชายแล้ว”
131

นายหญิงทังตะลึงไป
ร่างกายผอมบางของเฉินซื่อบังอยู่เบือ้ งหน้าอวีถ้ งั ไม่มีขยับเลยสักนิด
นายหญิงทังฝื นยิม้ ส่งให้ทีหนึ่ง บอกว่า “เช่นนัน้ ข้าไม่รบกวนแล้ว ขอไปอยู่เป็ นเพื่อนฮู
หยินทังก่อน รอมีเวลาจะไปเยี่ยมที่เรือนพวกเจ้า”
“ข้าไม่สง่ แล้วกัน!” เฉินซื่อเอ่ยเสียงเบา
นายหญิงทังจากไปพร้อมความขุ่นเคือง
นายหญิงหม่าถอนหายใจยาวเหยียด ก่อนจะพูดถึงนายหญิงทังด้วยความนึกรังเกียจ
อย่างไม่ปิดบัง “ยังดีท่ีนางรู ต้ วั จากไปเอง ถ้ายังพูดมากอีกสองคํา ข้าคงหมดความอดทนแล้ว”
พูดจบก็เรียกอวีถ้ งั กับหม่าซิ่วเหนียงให้มานั่ง แล้วทําหน้าเข้มงวดใส่พวกนาง “เป็ นสตรี ต่อไป
ถ้าเรื่องเจอแบบนีอ้ ีกก็ไม่ควรฟั งไม่ควรถาม ให้เดินหลบไปเสีย รูห้ รือไม่?”
หม่าซิ่วเหนียงร้องออกมาอย่างเจ็บชํา้ นํา้ ใจว่า “ข้าก็ไม่ได้อยากฟั ง…”
“ผู้ใ หญ่ ก าํ ลัง พูด เด็ ก ต้อ งหยุด ฟั ง ” นายหญิ ง หม่ า ไม่ ร อให้น างพูด จบก็ ตัด บททัน ที
จากนัน้ ก็ไม่สนใจบุตรสาว หมุนตัวไปคุยกับเฉินซื่อต่อว่า “เจ้าว่านายหญิงทังผูน้ ีค้ ิดอะไรอยู่? ฮู
หยินทังก็ดี ฮูหยินหยางก็ดี สกุลผูอ้ ่ืนจะโดดเด่นเพียงไรก็เป็ นเรื่องของสกุลอื่น นางเที่ยวแต่จะ
ป่ ายปี นเกี่ยวเกาะแบบนี ้ ไม่เห็นว่าจะได้ดิบได้ดีอะไร!”
ได้ดี?!
อวีถ้ งั ชะงักไป
เฉินซื่อเข้าร่วมวง แล้วเริม่ วิจารณ์นายหญิงทังกับนายหญิงหม่าเสียงเบา หม่าซิ่วเหนียง
ก็ลากอวีถ้ งั มากระซิบกระซาบว่า “ข้าจะบอกให้ มีคนมาทาบทามเรื่องหมัน้ หมายที่เรือนข้าแล้ว
แต่ว่าสกุลโน้นไม่มีมารดา ในเรือนยังมีนอ้ งสาวน้องชายอีกหลายคน ท่านแม่ขา้ กําลังลังเลอยู่
จึงยังไม่ได้พดู ออกไป”
132

หมัน้ หมาย?
ตอนนีเ้ พิ่งจะเริม่ หมัน้ หมายหรือ?
เป็ นถงเซิงสกุลจางเหมือนกับชาติก่อนหรือไม่?
อวีถ้ งั ถูกคําพูดของหม่าซิ่วเหนียงดึงดูดความสนใจไป จึงไม่มีกะใจครุ ่นคิดคําพูดของ
นายหญิงทัง หันไปถามหม่าซิ่วเหนียงเรื่องคนที่มาขอหมัน้ หมายด้วยความอยากรู ้
หม่าซิ่วเหนียงตอบอย่างเขินอายแต่ก็อดจะอวดๆ ไม่ได้ว่า “เป็ นศิษย์พ่ีจางที่ศกึ ษาเล่า
เรียนกับท่านพ่อข้า คนก็ดีย่ิงนัก ซื่อสัตย์มีความรับผิดชอบ แต่ไรก็ไม่เคยออกไปเที่ยวเล่นดื่ม
สุรากับคนพวกนัน้ ทัง้ ยังหมั่นเพียรศึกษา ท่านพ่อข้าพูดแล้วว่า อย่างไรเขาก็น่าจะสอบเป็ นซิ่ว
ไฉได้ หากว่าตกลงเรื่องหมัน้ หมายเรียบร้อย เกรงว่าต้องรีบจัดงานแต่งทันที”
อวีถ้ งั ฟั งแล้วในใจก็รูส้ กึ ผิด
ชาติก่อน หม่า ซิ่วเหนี ย งดูแลนางเป็ น อย่ างดี นางจมดิ่ง อยู่ในความเจ็บปวดที่ตอ้ ง
สูญเสียทัง้ บิดาและมารดาไป จึงไม่คอ่ ยได้ใส่ใจหม่าซิ่วเหนียงมากนัก หม่าซิ่วเหนียงหมัน้ หมาย
กับจางถงเซิงตอนไหน แต่งงานออกไปเมื่อไรล้วนไม่รูเ้ รื่องทัง้ สิน้ หากมิใช่กาํ ไลเงินหนักห้าตําลึง
นั่น เกรงว่านางคงไม่มีความทรงจําใดเกี่ยวกับหม่าซิ่วเหนียงอีกแล้ว
นางปฏิบตั ิตอ่ หม่าซิ่วเหนียงได้ไม่เท่ากับที่ความจริงใจที่หม่าซิ่วเหนียงมีให้ตอ่ นางเลย
“เจ้าจะต้องมีความสุขแน่!” อวีถ้ งั ไม่รูเ้ ลยว่าหลังแต่งออกไปนางมีชีวิตเป็ นอย่างไรบ้าง
จึงได้แต่มอบคําอวยพรอันจืดชืดให้นาง
หม่าซิ่วเหนียงกลับพยักหน้ารับอย่างแรง คล้ายว่าคําอวยพรนีข้ องอวีถ้ ังมันมากพอ
สําหรับนางแล้ว
อวีถ้ งั บีบมือหม่าซิ่วเหนียงไว้แน่น
เรือนรับรองเริม่ มีอาหารมาขึน้ โต๊ะแล้ว
133

อวีถ้ งั นึกไปถึงฮูหยินหลี่ แม่สามีในชาติก่อนของนาง


พ่อสามีเมื่อชาติก่อนของนางคือหลี่อี ้ ตอนนีร้ บั ตําแหน่งเป็ นท่านข้าหลวงอยู่ท่ีซานตง
ฮูหยินหลี่มกั จะคุยโตว่าตนเป็ นสายเลือดขุนนาง ไม่เห็นสกุลธรรมดาสามัญอยู่ในสายตาสักนิด
พวกบุตรสาวของเหล่าซิ่วไฉยิ่งเป็ น ‘คนบ้านนอกที่ลา้ งกลิ่นความจนออกไม่หมด’ ในสายตานาง
ปกติเวลาเจอนางก็จะเอาจมูกชีข้ ึน้ ฟ้า แสร้งทําว่ามองไม่เห็น นี่ก็คือเหตุผลว่าทําไม แม้จะเป็ น
คนเมืองเดียวกัน แต่อวีถ้ งั กลับไม่กลัวที่จะบังเอิญเจอนางเลยสักนิด
หากลองกวาดตามองทั่วเมืองหลินอัน ฮูหยินของจิน้ ซื่อก็มอี ยู่แค่ไม่ก่ีคนจริงๆ
ฮูหยินทังกับฮูหยินหลี่จงึ ได้ไปมาหาสูก่ นั นับว่ามีความสัมพันธ์ไม่เลว
ในเมื่อฮูหยินหยางมาแล้วก็ตอ้ งมีฮูหยินทังอยู่เป็ นเพื่อน คิดว่าฮูหยินหลี่ก็คงต้องเป็ น
หนึ่งในนัน้ แน่
นายหญิงทังปรี่เข้ามาทักทายพวกนางอย่างงงๆ นางคงไม่ได้ไปเจอกับฮูหยินหลี่อย่าง
งงๆ ด้วยกระมัง?
อวี ถ้ ัง ก้มหน้าก้ม ตากิน ข้าว ตัดสิน ใจหลบเลี่ยงสตรีสูงศักดิ์พวกนั้น…นางไม่กลัวฮู
หยินหลี่ แต่นางกลัวตัวเองจะข่มกลัน้ ไม่ไหวแล้วสาดนํา้ ชาใส่หน้า สุดท้ายไม่อาจให้คาํ อธิบาย
อะไรได้ จนทําให้มารดาของนางต้องขายหน้า
แต่บางเวลา อะไรที่ย่งิ ไม่อยากให้เกิด มันก็ดนั เกิดขึน้ จนได้
อวีถ้ ังนั่งกินอาหารเจที่สกุลเผยอย่างว่างเปล่า เบือ้ งหน้าเห็นว่าแสงแดดยิ่งแรงขึน้
เรื่อยๆ ทุกคนหนังตาเริ่มหย่อน เฉินซื่อกับนายหญิงหม่าพาบุตรสาวเตรียมตัวไปบอกกล่าวลา
กลับ พอออกจากเรือนรับรอง กลับต้องเผชิญหน้ากับนายหญิงทังและฮูหยินหลี่ผเู้ ป็ นแม่สามี
ของนางเมื่อชาติก่อน
134

ฮูหยินหลี่ยังคงทําให้อวีถ้ ังรู ส้ ึกรังเกี ยจได้เหมือนเคย ผมสีดาํ ขลับถูกม้วนขึน้ อย่า ง


บรรจง ติดดอกฉาฮวา 1สีขาวสองดอก สวมเสือ้ ตัวบนที่ตดั จากผ้าไหมหังโจวสีฟ้าอ่อน กระโปรง
34

จับจีบสีเข้ม ทําหน้าบอกบุญไม่รบั สีหน้าเคร่งขรึม เจือความเย่อหยิ่งอยู่หลายส่วน


จากที่ไกลๆ อวีถ้ งั ก็รูส้ กึ ได้ว่าสายตาของนางจับจ้องอยู่ท่ีตน รอกระทั่งนายหญิงทังไม่รู ้
กระซิบอะไรที่ขา้ งหูจนเสร็จ สายตาที่จบั จ้องอวีถ้ งั อยู่ก็ย่งิ ทวีความสนใจมากกว่าเดิม
นี่มนั หมายความว่าอย่างไร?
อวีถ้ งั รู ต้ วั ว่าตนหน้าตาสะสวย อีกทัง้ เพราะสะสวยจึงถูกคนมองบ่อยๆ แต่นางก็ไม่ได้
ภาคภูมิใจอะไร ที่คนไร้เมตตาไร้นา้ํ ใจอย่างฮูหยินหลี่จะสังเกตเห็นนางหรือถึงขัน้ มาสนใจนาง
เพราะหน้าตาที่สะสวยนี ้
ในใจนางพลันมีความคิดบางอย่างแวบผ่าน แต่พอจะคว้าไว้ กลับหายวับไปทันตา
“นายหญิงอวี ้ นายหญิงหม่า!” นายหญิงทังหัวเราะเสียงดังแล้วเดินเข้ามาหา เอ่ยว่า
“นับว่ามีวาสนาต่อกันจริงๆ” พูดจบ นางก็แนะนําฮูหยินหลี่ท่ีอยู่ขา้ งกายให้เฉินซื่อกับนายหญิง
หม่ารูจ้ กั “นี่คือ ‘ฮูหยินหลี่สกุลหลิน’ นางเป็ นฮูหยินของใต้เท้าหลี่ท่ีรบั ตําแหน่งท่านข้าหลวงอยู่
ที่ร่อื เจ้า ซึง่ อยู่ทางใต้ของเมือง ทัง้ เขายังอายุเท่ากับนายท่านรองด้วย”
เฉินซื่อกับนายหญิงหม่าทําได้เพียงหยุดฝี เท้าลง แล้วเอ่ยทักทายพวกนาง
ฮูหยินหลี่ยงั มองอวีถ้ งั อีกหลายที
อวีถ้ งั ตอนนีม้ ่นั ใจแล้วว่าสัญชาตญาณของตนไม่ผิด
นายหญิงทังก็ดี ฮูหยินหลี่ก็ดี ล้วนแต่พงุ่ เป้ามาที่นาง
แล้วนางมีอะไรที่มีคา่ พอให้พวกนางมาสนใจเล่า?

1
ดอกฉาฮวา คือ ดอกคาเมลเลีย
135

ตอนนีห้ ลี่จวิน้ ก็ยงั ไม่เคยเจอนางเสียหน่อย!


ฮูหยินหลี่ทักทายมารดาของอวีถ้ ังกับนายหญิ งหม่าอย่างสง่างาม เอ่ยปากพูดด้วย
ความสนิทสนมอ่อนโยน “ได้ยินชื่อเสียงอันดีงามของสองท่านมานานแล้ว บุพเพไม่นาํ พา ถึงไม่
มีโอกาสได้เจอกันเสียที ตอนนีน้ บั ว่ามีวาสนาถึงได้เจอกันในที่สดุ ”
เฉินซื่อกับนายหญิงหม่าล้วนประสานเสียงบอกว่าไม่กล้ารับ
สายตาของฮูหยินหลี่มกั จะวนเวียนไปทางอวีถ้ งั เสมอคล้ายไม่ตงั้ ใจ
อวีถ้ งั แสยะยิม้ ในใจ ปล่อยให้นางมองตามสบาย
แม้ผิวของนางจะขาวมาก ละเอียดเกลีย้ งเกลาจนไร้ซ่ึงตําหนิ ทว่าแก้มสองข้างยัง
เหมือนเด็กๆ ที่ค่อนข้างจะมีเนือ้ รู ปร่างของนางก็เช่นกัน นุ่มนิ่มละเมียดละไม แม้จะหยดย้อย
แต่ก็อวบอิ่ม ไม่เหมือนบุตรสาวจากหลายสกุลในตอนนี ้ ที่ย่ืนมือออกมาก็เห็นแต่กระดูก ด้วย
เหตุนีฮ้ หู ยินหลี่ถึงนึกรังเกียจว่านางอ้วน คําชมที่ออกมาจึงเหลือแค่ผิวพรรณงดงามเท่านัน้
นางในชาติกอ่ น มีช่วงเวลาหนึ่งที่รูส้ กึ ตํ่าต้อยนัก กินข้าวยังไม่กล้ากินมากเกินไป
กระทั่งพี่สะใภ้ของนางในชาติก่อน ซึ่งก็คือกูซ้ ีภรรยาของหลี่ตวนบอกว่าอิจฉารู ปร่าง
เช่นนี ข้ องนางซึ่งเหมาะกับการให้กาํ เนิดบุตร นางถึงคิดได้ว่าฮูหยินหลี่นั้นหากระดูกในไข่ 2 35

เพราะคิดว่านางทําให้หลี่จวิน้ ต้องตาย นึกรังเกียจนางก็เท่านัน้ เอง

2
หากระดูกในไข่ หมายถึง พยายามหาข้อตําหนิติเตียนคนหรือสิ่งของ ทัง้ ที่ไม่มีขอ้ ให้ตาํ หนิ
136

ตอนที่ 17 หลินซือ่
การได้พบฮูหยินหลี่ในเวลานี ้ ก็จดุ ความทรงจําที่อวีถ้ งั มีตอ่ นางให้เปิ ดออกอีกครัง้
สีหน้าของนางยังคงความสูงส่งไว้หลายส่วน ทว่านํา้ เสียงนุ่มนวล รอยยิม้ เป็ นมิตร มอง
ที่อวีถ้ งั และหม่าซิ่วเหนียงแล้วเอ่ยว่า “นี่คงเป็ นสุดดวงใจของท่านทัง้ สองกระมัง? ดั่งดอกหลัน
ฮวากลางวสันต์ ดอกจวี๋ฮวากลางเหมันต์ 1 งามกันคนละแบบจริงๆ ก่อนหน้านีน้ ายหญิงทังก็เล่า
36

ให้ขา้ ฟั ง ข้ายังคิดว่านายหญิงทังอวดโอ้เกินจริง ไม่คิดว่าเป็ นข้าที่ไม่รูอ้ ะไรเอาเสียเลย”


เฉินซื่อกับนายหญิงหม่าล้วนไม่ใช่คนที่เชี่ยวชาญด้านการพบปะเข้าสังคม ก่อนหน้าก็
ไม่เคยสนทนากับฮูหยินหลี่มาก่อน จึงอดจะระแวดระวังไม่ได้ พอได้ยินดังนัน้ ก็รีบเอ่ยวาจา
เกรงใจตอบกลับไปเพียงว่า “หามิได้ หามิได้” “ฮูหยินกล่าวชมเกินไปแล้ว”
ฮูหยินหลี่กลับทําทีเหมือนเฉินซื่อและนายหญิงหม่าเป็ นสหายเก่าแก่ เอ่ยปากชื่นชมอวี ้
ถังกับหม่าซิ่วเหนียงอีกหลายคํา ทัง้ ยังล้วงป้ายหยกสองชิน้ ออกจากแขนเสือ้ เพื่อมอบให้อวีถ้ งั
กับหม่าซิ่วเหนียงเป็ นของขวัญแรกพบ บอกทํานองว่าไม่คิดจะได้พบพวกนางสองคนที่น่ี เป็ น
เพียงของขวัญเล็กน้อย ขอให้พวกนางอย่าได้รงั เกียจ
มือที่ย่ืนไปย่อมไม่ตบคนที่สง่ ยิม้ ให้ 2 ยิ่งกว่านัน้ หลายปี มานีห้ ลี่อีก้ ็เป็ นถึงท่านข้าหลวง
37

รื่อเจ้าอย่างราบรื่น สกุลเก่าของฮูหยินหลี่ได้ยินว่าเป็ นพ่อค้าใหญ่แห่งฝูเจีย้ น แม้นางจะเย่อหยิ่ง


ไปบ้าง ก็นับว่ามีเหตุอันให้เข้าใจได้ อีกทั้งนางก็ปฏิบัติต่อพวกนางด้วยมารยาท จึงบอกให้
บุตรสาวรับของขวัญไว้ นัดแนะว่าคราวหน้าถ้ามีโอกาสจะไปขอบคุณถึงหน้าประตู

1
ดอกหลันฮวากลางวสันต์ ดอกจวี๋ฮวากลางเหมันต์ อุปมาถึงแต่ละคนต่างมีจุดแข็งของตัวเอง และแต่ละสิ่งก็มีขอ้ ดีของ
มัน
2
มือที่ย่ืนไปย่อมไม่ตบคนที่ส่งยิม้ ให้ หมายถึง เมื่อยื่นมือออกไปจะตีอีกฝ่ ายที่เป็ นคนผิด ทว่าอีกฝ่ ายก็ยอมรับผิดทัง้ ส่งยิม้
กลับมาให้ ถึงเวลานัน้ เจ้าตัวย่อมใจอ่อน ไม่อาจตัดใจตีคนได้อีก
137

ฮูหยินหลี่ยิม้ เอ่ยว่า “ถึงเวลานัน้ ก็พาแม่นางทัง้ สองมาด้วย ข้าให้กาํ เนิดบุตรชายเพียง


สองคน วันๆ เจอแต่เรื่องปวดหัว แต่ไรมาก็อยากจะมีลกู สาว ทว่าวาสนามิได้ดีเพียงนัน้ ” พูดจบ
ยังถอนหายใจยาวเหยียดตามด้วย
เฉินซื่อตัง้ แต่สขุ ภาพไม่แข็งแรง น้อยครัง้ ที่จะออกจากเรือน จึงไม่ค่อยรูเ้ รื่องสกุลหลี่นกั
นายหญิงหม่ายังดีกว่าเฉินซื่ออยู่หน่อย พวกจิน้ ซื่อ จวี่เหริน ซิ่วไฉ ทั่วทัง้ เมืองก็มีอยู่ไม่ก่ีสกุล
งานแต่ง งานศพก็มกั เจอหน้ากันบ้าง พอเห็นว่าฮูหยินหลี่เยินยอพวกนาง จึงคืนลูกหลี่กลับ 3 38

เป็ นคําชื่นชมเช่นกันว่า “พวกเราต้องอิจฉาที่ฮูหยินมีบุตรชายที่ประเสริฐ อายุไม่เท่าไรก็เป็ น


ถึงจวี่เหรินแล้ว! เจ้าตัวเสเพลบ้านข้าหากว่าดีได้สกั ครึ่งของคุณชาย ข้าคงนอนตื่นมาหัวเราะ
กลางดึกแล้ว”
ไม่วา่ จะชาติก่อนหรือชาตินี ้ หลี่ตวนก็คือความภาคภูมิใจของฮูหยินหลี่
นายหญิงหม่าพูดตรงจุดคันของนางพอดี
นางปิ ดสีหน้าลําพองไว้ไม่มิด เล่าถึงหลี่ตวนเหมือนนํา้ ที่ไหลไม่ขาดสายว่า “นายหญิง
หม่ า ก็ ก ล่า วเกิ น ไป! เด็ ก คนนั้น ก็ แ ค่ไ ม่ เ คยให้ข้า เป็ น กัง วลเรื่อ งเขี ย นอ่า น…แต่เ ล็ก ก็ ป่ วย
กระปอดกระแปด กลัวว่าจะอยู่ไม่ถึงโต…พอถึงตอนที่ตบแต่งภรรยา ก็ตอ้ งมาปวดหัวอีกรอบ…
ยังดีท่ีสกุลกูเ้ ห็นเขาเป็ นเมล็ดพันธุช์ นั้ ยอดในการเล่าเรียน ถึงได้ตอบตกลงเรื่องหมัน้ หมาย…ข้า
ก็หวังว่าเขาจะแต่งงานให้เร็วหน่อย เมื่อถึงสนามสอบขุนนางตอนหน้าร้อนปี ถดั ไป จะได้มีช่ือ
ติดบนป้ายบ้าง…”
หากถามว่าอะไรในชีวิตที่ทาํ ให้นางรู ส้ ึกภาคภูมิใจที่สดุ ก็ย่อมจะเป็ นการสอบขุนนาง
ของบุตรชายหลี่ตวน ส่วนเรื่องรองลงมาก็คือช่วยให้หลี่ตวนแต่งกับคุณหนูใหญ่ซ่งึ เป็ นบุตรสาว
ของภรรยาเอกจากบ้านรองสกุลกูแ้ ห่งหังโจวได้สาํ เร็จ

3
คืนลูกหลี่กลับ มาจากสํานวน มอบลูกท้อมา คืนลูกหลี่กลับ หมายถึง ตอบแทนนํา้ ใจซึง่ กันและกัน ตรงกับสํานวนไทยว่า
หมูไปไก่มา
138

สี่สกุลใหญ่แห่งเจียงหนาน
คือสกุลกู้ สกุลเฉิน สกุลลู่ และสกุลเฉียน
ภรรยาของหลี่ตวนชื่อว่ากูซ้ ี ก็เป็ นสตรีจากสกุลกูแ้ ห่งหังโจวนี่เอง
เฉินซื่อกับนายหญิงหม่าฟั งไปด้วยท่าทีสนใจ บางทีก็พดู เสริมบ้างบางจังหวะ
อวีถ้ งั ลอบประเมินอยู่ขา้ งๆ ด้วยสายตาเย็นชา
ราวกับว่าใต้หล้านีม้ ีเพียงหลี่ตวนที่เป็ นอัจฉริยะ เป็ นบุคคลที่ย่ิงใหญ่กว่าผูอ้ ่ืนอย่างไร
อย่างนัน้
นางนึ ก ไปถึ ง ตอนที่ ห ลี่ ต วนกระทํา เรื่ อ งเช่ น นั้น ต่ อ นาง นางไปอ้อ นวอนขอความ
ช่วยเหลือจากฮูหยินหลี่ ฮูหยินหลี่กบั ด่าทอว่านางหน้าด้าน หาว่านางยั่วยวนหลี่ตวน…
อวี ถ้ ัง อยากจะให้ฮูห ยิ น หลี่ ไ ด้ลิ ม้ ลองความรู ส้ ึก เจ็ บ ปวดนั้น บ้า ง ความทรมานจบ
เกือบจะเป็ นความสิน้ หวัง
นางจงใจใช้นา้ํ เสียงที่คล้ายกดตํ่าทว่าคนรอบข้างล้วนได้ยินกันครบ กระซิบกับหม่าซิ่ว
เหนียงด้วยความสงสัยว่า “คุณชายใหญ่สกุลหลี่อายุเท่าไรหรือ? เมื่อครูข่ า้ ได้ยินคนในจวนพูด
ว่า นายท่านสามสกุลเผยตอนอายุย่ีสิบเอ็ดก็สอบจิน้ ซื่อได้แล้ว”
ฮูหยินหลี่เหมือนถูกตบหน้า นํา้ เสียงพลันหยุดกึกในทันที
เฉินซื่อหน้าขึน้ สีเรื่อ แล้วตําหนิอวีถ้ งั ว่า “พูดจาเหลวไหลอะไรกัน? เรื่องของนายท่าน
สาม เจ้าเอามาวิจารณ์ได้อย่างนัน้ รึ?” จากนัน้ ก็เอ่ยขอขมากับฮูหยินหลี่ว่า “บุตรสาวเรือนข้าไม่
รูค้ วาม ท่านอย่าได้เก็บมาใส่ใจ”
ทว่ารอยยิม้ บนหน้าของฮูหยินหลี่คล้ายจะแตกเป็ นเสี่ยงๆ ไปแล้ว
นายหญิงทังเห็นว่าบรรยากาศเริ่มไม่ดี ก็รีบหัวเราะเพื่อแก้สถานการณ์ให้ฮูหยินหลี่
“วาจาเด็กไม่รูป้ ระสา! วาจาเด็กไม่รูป้ ระสา!”
139

ฮูหยินหลี่ได้ฟัง ก็ทาํ หน้าเหมือนกดข่มเพลิงโทสะในใจแล้วหันไปยิม้ ให้เฉินซื่ออย่างฝื ด


เฝื่ อน
อวีถ้ งั ลอบสะใจเงียบๆ
ฮูหยินหลี่เป็ นคนอารมณ์เย็นเช่นนีต้ งั้ แต่เมื่อไรกัน!
นึกถึงแต่ก่อน ตอนที่นางแต่งเข้าสกุลหลี่ ฮูหยินหลี่อยากจะต่อว่านางอย่างไรก็ต่อว่า
อย่างนัน้ ต่อให้เป็ นสะใภ้ท่ีนางพออกพอใจที่สดุ อย่างกูซ้ ี หากว่าทําอะไรไม่ได้ด่งั ใจฮูหยินหลีเ่ ข้า
ฮูหยินหลี่ก็จะอาละวาดใส่นางอย่างไม่ไว้หน้า
ดูท่าแล้วใช่วา่ นางจะอดทนไม่เป็ นเสียทีเดียว
แต่สาํ หรับลูกสะใภ้ ก็แค่ไม่อยากจะอดกลัน้ สักกระผีกก็เท่านัน้
อวีถ้ งั ลอบเสียดสีในใจ
ฮูหยินหลี่พลันพูดขึน้ มาว่า “ข้าผูน้ ี ้ วาจาออกจะมากไปหน่อย พอได้พูดแล้วก็มักจะ
หยุดไม่อยู่”
“ล้วนไม่ตา่ งกัน” เฉินซื่อกับนายหญิงหม่าส่งเสริมนาง
ใครจะรู ว้ ่าฮูหยินหลี่ไม่ได้คิดจะจากไปเลยสักนิด กลับวกมาสนทนาต่อว่า “เรือนใคร
ต่างก็มีคมั ภีรท์ ่ีสวดยาก 4 แม้ขา้ จะรักบุตรคนโต ทว่ากลับเป็ นห่วงบุตรคนเล็กที่สดุ เขาอ่อนกว่า
39

พี่ชายอยู่ส่ีปี ทัง้ เป็ นบุตรคนรอง ไม่ตอ้ งสืบทอดวงศ์สกุล แม่สามีขา้ ก็ตามใจเขาเต็มที่ โตมาเป็ น


คนไม่สนใจโลกภายนอก ตอนนีอ้ ายุได้สิบแปดแล้ว ยังไม่รูค้ วามอยู่อย่างนัน้ รังเกียจว่าสาวใช้ท่ี
จวนจูจ้ ี ้ ไม่ยอมให้รบั ใช้ขา้ งกาย วันๆ ก็เอาแต่เตะลูกหนังขี่มา้ กับบ่าวชายที่ติดตาม หรือไม่ก็
ตามคนคุมบัญชีในเรือนไปตรวจสอบบัญชีท่ีรา้ นค้า เรื่องงานหมัน้ หมายของเขา ข้ากลัดกลุม้ ใจ
ยิ่งแล้ว!”

4
เรือนใครต่างก็มีคมั ภีรท์ ่สี วดยาก หมายถึง ทุกบ้านทุกครอบครัว ล้วนมีปัญหาของตัวเอง
140

พูดจบ นางก็มองอวีถ้ งั อย่างลึกซึง้ ทีหนึ่ง


คนที่อยู่ตรงนัน้ ล้วนตะลึงไปตามๆ กัน
โดยเฉพาะอวีถ้ งั เอง
นางกับสกุลหลี่มีเวรกรรมอะไรต่อกันอย่างนัน้ รึ?
ชาติก่อนได้ฟังว่าหลี่จวิน้ ตกหลุมรักนาง ชาตินีน้ างซ่อนตัวจากหลี่จวิน้ แต่กลับถูกฮู
หยินหลี่จบั จ้องไว้แล้ว
ทว่า ก็ตอ้ งขอบคุณนางจริงๆ
สะใภ้สกุลหลี่นนั้ นางไม่ได้นกึ เสียดายเลยสักนิด
คิดถึงตรงนี ้ นางพลันนึกไปถึงกูซ้ ีดว้ ย
หากว่ากูซ้ ีได้รูว้ ่าหลังแต่งเข้าสกุลหลี่ไปแล้วจะเกิดอะไรขึน้ บ้าง เกรงว่านางคงไม่มีวนั
แต่งให้หลี่ตวนแน่!
เช่นนัน้ ทําลายงานแต่งของนางกับหลี่ตวนทิง้ ดีหรือไม่?
ฮูหยินหลี่คงโมโหจนเต้นเป็ นเจ้าเข้าแน่!
อวีถ้ งั แค่คิดก็รูส้ กึ มีความสุขจนไม่อาจหุบยิม้ ได้เลย
เฉินซื่อตอนนีเ้ พิ่งได้สติกลับมา
เข้าใจในที่สดุ ว่าที่ฮหู ยินหลี่รา่ ยยาวมากมาย ก็เพราะถูกใจอวีถ้ งั ของนางนี่เอง!
เมื่อครู ่ทงั้ ๆ ที่นางได้ปฏิเสธนายหญิงทังอย่างชัดเจนไปแล้ว เหตุใดฮูหยินหลี่ยงั มาดัก
พวกนางแล้วดึงดันจะพูดเรื่องนีใ้ ห้ได้เล่า?
เฉินซื่อรูฐ้ านะของตนเองดี
141

หากพูดเรื่องรู ปโฉม อวีถ้ ังของนางต่อให้เป็ นสกุลเผยก็ยังแต่งให้ได้ แต่ถา้ เรื่องใหญ่


อย่างงานแต่งพิจารณาจากแค่รูปโฉมได้ แล้วจะมีคาํ พูดที่วา่ เหมาะสมคูค่ วรได้อย่างไร
นางมองไปทางนายหญิงทังทีหนี่ง
นายหญิงทังไม่กล้าสบตากับนาง คล้ายว่าทําอะไรผิดมาอย่างนัน้
เฉินซื่อกระจ่างในทันที
ที่แท้ก่อนหน้านีท้ ่ีนายหญิงทัง ‘บังเอิญ’ พบพวกนางที่เรือนรับรอง เพราะได้รบั การไหว้
วานจากฮูหยินหลี่น่ีเอง
และที่ ฮูห ยิน หลี่ไม่คาํ นึงถึงความแปลกหน้าของสองสกุล มายื น คุย เรื่องน่า กระอัก
กระอ่วนกับนางตรงนี ้ ก็เพราะไม่คิดจะยอมแพ้น่นั เอง!
เรื่องประเภทนีไ้ ม่อาจปล่อยให้คา้ งคา ดึงไปลากมามีแต่จะเกิดคําครหาอีกมากมาย
อาถัง ของนางก็ถึงวัยที่ ตอ้ งเตรียมเรื่องหมั้น หมายแล้ว ไม่อาจให้เรื่องนี ม้ ากระทบ
เด็ดขาด
เฉินซื่อส่งยิม้ ให้ฮหู ยินหลี่ เอ่ยว่า “สิ่งที่ท่านเป็ นห่วงนัน้ เหมือนกับข้าไม่มีผิด เรือนข้าก็มี
บุตรสาวเพียงคนเดียว บิดานางประคองไว้กลางฝ่ ามือก็กลัวหล่น อมไว้ในปากก็กลัวจะละลาย
หาย จึงตัง้ ใจแน่วแน่ว่าจะแต่งเขยชายเข้าเรือน ทว่าหาลูกเขยเข้าเรือนมิใช่หากันง่ายๆ ผมบน
ศีรษะข้าแทบจะร่วงหมดแล้ว”
ฮูหยินหลี่ตกตะลึง
อวีถ้ งั แอบสะใจ
ฮูหยินหลี่คงคาดไม่ถึงว่าตนจะถูกปฏิเสธน่ะสิ!
ฮูหยินหลี่ไม่อาจรักษารอยยิม้ ไว้บนหน้าได้อีกครัง้ นางเอ่ยกับเฉินซื่ออย่างลวกๆ อีก
สองสามคํา จากนัน้ ก็ขอตัวกลับไปพร้อมกับนายหญิงทังอย่างรีบร้อน
142

อวีถ้ งั อยากกระโดดกอดแล้วหอมแก้มมารดาสักสองฟอด
นางมองตามแผ่ น หลัง ของฮู ห ยิ น หลี่ ไ ปด้ว ยใจที่ ค ลายโมโห ก่ อ นตั ด สิ น ใจมอบ
‘ของขวัญ’ ให้ฮหู ยินหลี่สกั ชิน้
“ท่านแม่” นางเอ่ยพลางยิม้ ตาหยีวา่ “สกุลหลี่ท่ีอยู่ทางใต้ ใช่สกุลหลี่ท่ีขายผลไม้หรือไม่
เจ้าคะ?”
บรรพบุรุษของหลี่อี ้ ก่อร่างสร้างตัวมาจากการค้าผลไม้
แน่นอนว่า นี่เป็ นเรื่องตัง้ แต่หลายสิบปี ก่อนแล้ว
ตอนนีค้ นในเมืองหลินอันก็มีคนรูไ้ ม่มาก
หลังจากที่นางแต่งเข้าสกุลหลี่ นางก็บงั เอิญได้ยินเรื่องนีจ้ ากบ่าวเก่าแก่ของสกุลหลี่คน
หนึ่ง
สกุลฝั่ งมารดาของฮูหยินหลี่นั้นค้าขายผ้าไหมและใบชา เป็ น พ่อค้าใหญ่ ท่ีสืบทอด
กิจการมาหลายรุ ่น นางสั่งห้ามอย่างเคร่งครัดไม่ให้ใครพูดเรื่องที่บรรพบุรุษสกุลหลี่เคยขาย
ผลไม้มาก่อน
เฉินซื่อกับนายหญิงหม่าต่างไม่เคยได้ยินเรื่องนี ้
พวกนางพลันไม่รูว้ า่ จะตอบกลับอย่างไร
อวีถ้ งั กลับเห็นชัดเจนว่าฝี เท้าของฮูหยินหลี่สะดุดกึก ร่างแทบจะเซล้ม
มารร้ายในตัวของอวีถ้ งั อ้าปากหัวเราะกึกก้อง นางตัดสินใจส่ง ‘ของขวัญ’ ให้ฮหู ยินหลี่
อีกชิน้ “ท่านแม่ หรือว่าพวกท่านไม่เคยได้ยินมาก่อน? ขนาดป้าหวังที่เปิ ดแผงขายผลไม้ท่ีถนน
ตะวันออกกับอาลิ่วที่ขายสาลี่อยู่ธารเสี่ยวเหมยยังรูเ้ ลยนะเจ้าคะ”
“จริงรึ?” เฉินซื่อกับนายหญิงหม่าคิดว่าอวีถ้ งั พูดจาเรื่อยเปื่ อย จึงตอบไปอย่างไม่ใส่ใจ
อวีถ้ งั กลับรูส้ กึ ได้วา่ ฮูหยินหลี่แทบจะยืนไม่ม่นั แล้ว
143

นางหัวเราะคิกคัก ยังคิดจะแดกดันฮูหยินหลี่อีกสักหลายประโยค หางตาพลันเหลือบ


ไปเห็นว่าข้างระเบียงทางเดินมีคนยืนอยู่
อวีถ้ งั เงยหน้าขึน้ มอง สีหน้าพลันอับจน ก้าวถอยหลังไปสองก้าว
คราวนีเ้ ปลี่ยนเป็ นนางที่แทบทรงตัวไม่อยู่แทน
ทว่าซิ่วเหนียงประคองนางไว้ดว้ ยมือไม้ท่วี อ่ งไว ถามอย่างเป็ นห่วงว่า “เจ้าเป็ นอะไรไป?
ยืนไม่ม่นั เพราะเท้าแพลงรึ?”
“เปล่าหรอก เปล่าหรอก” อวีถ้ งั ตอบด้วยสีหน้าแดงเรื่อ “ข้าไม่เป็ นไร!”
คนกลับเขย่งเท้า ชะเง้อคอยืดยาวไปมองด้านหลังของหม่าซิ่วเหนียง
หม่าซิ่วเหนียงก็หนั ไปมองตามนางอยู่หลายครัง้
หลังคาระเบียงทางเดินทาสีเทาเข้ม หินเขียววาววับ ก้านไผ่หยุดนิ่ง ว่างเปล่าไร้คน ทว่า
อุดมชุ่มด้วยสีเขียว จากที่ท่ีไกลออกไป มีสายลมเย็นโชยพัดผ่านมา
“เจ้ามองอะไรน่ะ?” คนอื่นๆ ก็ถามอวีถ้ งั อย่างไม่เข้าใจ
“ไม่ได้มองเจ้าค่ะ! ไม่ได้มอง!” อวีถ้ งั กลบเกลื่อนด้วยท่าทีน่ิงเฉย แล้วกระตุกแขนเสือ้
ของมารดา เอ่ยว่า “แขกกลับเรือนเจ้าบ้านจะได้สงบ พวกเรารีบกลับกันเถอะเจ้าค่ะ!”
ทุกคนต่างก็เหนื่อยล้า
“ไปสิ!” นายหญิงหม่าเชือ้ เชิญอวีถ้ ังกับมารดาด้วยความอบอุ่นว่า “ถ้าพวกเจ้าพอมี
เวลา ก็ไปนั่งเล่นที่เรือนข้าได้ บิดาของนางไปหังโจว อีกตัง้ เจ็ดแปดวันถึงจะกลับ ถ้าพวกเจ้ามา
จะได้อยู่เป็ นเพื่อนข้าบ้าง”
เฉินซื่อตอบตกลง แล้วพูดคุยกับนายหญิงหม่าแม่ลกู ก่อนจะเดินไปบอกอวีเ้ หวินเอาไว้
สักคํา จากนัน้ เดินทางกลับเรือน
อวีถ้ งั ใจไม่อยู่กบั เนือ้ กับตัว
144

ช่วงนีโ้ ชคชะตานางเป็ นอย่างไรหนอ? เหตุใดไม่ว่าไปตรงไหนก็เจอนายท่านสามไปเสีย


ทุกที่
อีกทัง้ ยังเป็ นตอนที่นางน่าขายหน้าที่สดุ …เมื่อครูต่ อนที่อยู่สกุลเผย นางยิม้ ไปแล้ว
พิธีศพที่ตอ้ งสํารวมตามกาลเทศะ นางกลับหัวเราะออกมา ซํา้ ยังหัวเราะอย่างเบิกบาน
แล้วดันมาถูกนายท่านสามจับได้คาหนังคาเขา
เขาจะคิดหรือไม่วา่ นางมีเจตนาหลบหลูผ่ ตู้ าย!
อีกอย่าง สีหน้าของเขาเมื่อครูก่ ็ไม่น่ามองสักนิด
มันดํามืดจนแทบจะมีนา้ํ หมึกหยดลงมาอยู่แล้ว
ไม่รูว้ ่าเพราะเขาได้ยินเสียงนางหัวเราะถึงได้เดือดดาล? หรือเพราะว่าเขาอารมณ์ไม่ดี
อยู่แล้วกันแน่?
ทว่า เขาตัวคนเดียว เหตุใดจึงไปโผล่ตรงนัน้ แล้วบังเอิญเจอพวกนางได้เล่า?
เขาเห็นแค่วา่ นางหัวเราะหรือกระทั่งวาจาที่เยาะหยันฮูหยินหลี่ก็ได้ยินทัง้ หมดด้วย?
อวีถ้ งั ถอนหายใจ
นางในสายตาเขาคงไม่เหลือชิน้ ดีแล้วกระมัง!
อวีถ้ งั นึกไปถึงต้นไม้ของสกุลเผยที่ถกู ตัดดอกออกจนเกลีย้ ง
มีเพียงความเขียวขจีผืนใหญ่
ไร้ซง่ึ สีสนั โดยสิน้ เชิง
ไม่รูว้ า่ นางจะเหมือนกับดอกไม้ท่ีอยู่บนต้นไม้เหล่านัน้ หรือไม่ ถูกเขากําจัดทิง้ …
ทว่า จะพูดอีกอย่างหนึ่ง จิตใจเขาออกจะคับแคบเกินไปหน่อยกระมัง
145

แค่เรื่องเล็กๆ ก็ทาํ หน้าไม่สบอารมณ์แล้ว


เป็ นถึงตัง้ ซูจ่ ๋ีซ่อื แล้วนะ?
ทว่าบัดนีบ้ ิดาเขาจากไปแล้ว เขาคงจะต้องอยู่เฝ้าจวนเพื่อไว้ทกุ ข์?
ต่อไปไม่แน่อาจจะได้พบหน้ากันอีก…
เหตุใดนางจึงโชคร้ายเช่นนี ้
อวีถ้ งั ซึมเศร้าไปหลายวัน
146

ตอนที่ 18 พิธีแห่ศพ
ไม่ว่าอวีถ้ งั จะอยู่ในอารมณ์ไหน แต่เวลาก็ยงั เดินไปข้างหน้า ไม่นานก็ถึงวันพิธีแห่ศพ
ของท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผย
สุสานบรรพชนของสกุลเผยตัง้ อยู่บริเวณแนวสันเขาตะวันออกของเขาเทียนมู่ ด้านหลัง
อิงภูเขาด้านหน้ามีแม่นา้ํ ทุกคนต่างพูดว่าพืน้ ที่ตรงนัน้ มีฮวงจุย้ ที่ดี คนสกุลเผยไม่วา่ กี่รุน่ ต่อกี่รุน่
ถึงได้รุง่ เรืองยิ่งๆ ขึน้ ไปไม่หยุดหย่อน
หนึ่งวันก่อนที่จะฝั งร่างของท่านผูเ้ ฒ่า อวีเ้ หวินก็พกั ที่จวนสกุลเผยเสียเลย อวีถ้ ังกับ
มารดาก็ตระเตรียมกระดาษเงินกระดาษทองและธูปหอมตัง้ แต่เช้า วันต่อมาฟ้ายังไม่สางก็ลกุ
ขึน้ มาหวีผม เปลี่ยนมาใส่ชุดสีสุภาพ พาป้าเฉินกับซวงเถา รวมถึงนายหญิงหม่าแม่ลูกออก
เดินทางไปยังธารเสี่ยวเหมวยด้วยกัน
พวกนางจะไปส่งท่านผูเ้ ฒ่าเป็ นครัง้ สุดท้าย
ตลอดทางเต็มไปด้วยผูค้ น
ทุกคนรวมกันเป็ นกลุม่ ใหญ่ พูดคุยกันถึงงานพิธีศพของท่านผูเ้ ฒ่า
“ต่อให้อากาศจะร้อนตับแตกแต่ไม่ตอ้ งอนาถถึงเพียงนีก้ ระมัง! ตัง้ ศพไว้แค่เจ็ดวันยังไม่
ต้องพูดถึง โลงศพยังแห่เข้าไปฝังในสุสานเลย นี่เป็ นความคิดของใครกัน?”
“ได้ยินว่าเป็ นความต้องการของนายท่านสาม” มีคนรู เ้ รื่องเอ่ยเสียงเบาว่า “คุณชาย
ใหญ่ของนายท่านใหญ่ถึงกับทะเลาะกับนายท่านสาม แต่เขาเป็ นแค่เด็กคนหนึ่ง จะเถียงชนะ
ท่านอาได้อย่างไร! เรื่องนีจ้ งึ ได้จบลงแบบนี!้ ”
“แล้วนายท่านรองไม่พดู อะไรบ้างเลยรึ? เขาก็เป็ นท่านอาคนหนึ่งเหมือนกันนี่!”
“ตอนนีน้ ายท่านสามเป็ นผูน้ าํ สกุล เขาจะพูดอะไรได้?”
147

“มันก็ใช่” อีกคนถอนหายใจ “ตอนที่นายท่านใหญ่จากไป โลงศพยังแห่รอบเมืองถึงเจ็ด


วัน ให้ทุกคนได้เคารพศพระหว่างทาง ตอนนีพ้ วกเราจะเผากระดาษเงินกระดาษทองให้ท่านผู้
เฒ่ายังไม่ได้ ได้แต่สง่ ท่านผูเ้ ฒ่าขึน้ ภูเขาอย่างหยาบๆ เช่นนี”้
ส่วนคนที่สนใจผลประโยชน์ของตนเองมากกว่า ก็แอบถามเป็ นการส่วนตัวว่า “พวกเจ้า
พูดว่าตอนนีส้ กุลเผยมีนายท่านสามเป็ นผูน้ าํ สกุล มีหลักฐานอะไรหรือไม่?”
“เจ้า ดูห ลายวัน นี ส้ ิ พ่อบ้า นใหญ่ โ ผล่ห น้าบ้า งหรือไม่?” มี คนซุบซิบต่อว่า “แต่ก่อน
พ่อบ้านใหญ่เป็ นถึงเพื่อนเรียนของนายท่านใหญ่ มีเรื่องใดในสกุลเผยบ้างที่เขาตัดสินใจไม่ได้?
ยังมีพอ่ บ้านรองอีก หลายวันนีเ้ จ้าเห็นหน้าพวกเขาบ้างหรือไม่เล่า?”
“พ่อบ้านใหญ่ขา้ รู จ้ ักอยู่ แต่มนั เกี่ยวอะไรกับพ่อบ้านรองล่ะ? พ่อบ้านรองหนึ่งปี ส่ีฤดู
มิใช่คอยแต่ดทู ิศทางลมของพ่อบ้านใหญ่หรือ?”
“เจ้าไม่รูอ้ ะไรเสียเลย ก็โดนหางเลขไปด้วยอย่างไรเล่า? พ่อบ้านรองยืนฝั่งพ่อบ้านใหญ่
พ่อบ้านใหญ่ลม้ แล้ว เขายังจะได้ดิบได้ดีอยู่ร?ึ ”
“เฮ้อ! สกุลของซั่นจื่อหลิวคงขาดทุนย่อยยับ พวกเขาเพิ่งจะให้บตุ รสาวแต่งเข้าสกุลของ
พ่อบ้านใหญ่”
“มิใช่แต่งให้ธรรมดา เรียกว่าประเคนให้มากกว่า!” เอ่ยถึงเรื่องดอกท้อ ทุกคนก็เริ่ม
คึกคัก
“ไม่ว่าจะประเคนหรือแต่ง ซั่นจื่อหลิ่วก็เรียกตนเองให้คนข้างนอกฟั งว่าเป็ นญาติสนิท
ของพ่อบ้านใหญ่…”
อวีถ้ งั ได้ยินการใส่รา้ ยป้ายสีเช่นนี ้ ก็นกึ ถึงดวงหน้าอึมครึมของเผยเยี่ยน
ทําไมต้องสร้างเรื่องให้คนนินทาว่าร้ายด้วย?
ก็แค่จดั พิธีศพให้ย่งิ ใหญ่สมเกียรติไม่ใช่ร?ึ
148

สกุลเผยก็ใช่วา่ ขาดแคลนเงินทอง แค่ท่มุ เงินเข้าไปก็เป็ นใช้ได้แล้ว


หรือว่า นี่เป็ นหนึ่งในแผนการที่เขาใช้ตอ่ กรกับบ้านใหญ่?
อวีถ้ งั เดาไปสุม่ สี่สมุ่ ห้า ก็มาถึงจวนสกุลเผยแล้ว
นายหญิงหม่าลากพวกนางไปที่รา้ นขายของจิปาถะร้านหนึ่งตรงท่าเรือ เอ่ยว่า “นี่เป็ น
ร้านที่ขา้ คุน้ เคย พวกเราพักที่น่ีก่อน รอให้แห่โลงท่านผูเ้ ฒ่าออกมา พวกเราค่อยออกไปก็ยงั
ทัน!”
ทว่านางยังพูดไม่ทนั จบ ด้านนอกก็มีเสียงจอแจ มีคนตะโกนว่า “ทุบหม้อ 1 แล้ว” 40

ฝูงชนต่างเข้าไปเบียดเสียดที่หน้าประตูใหญ่จวนสกุลเผย
อวีถ้ งั ได้ยินคนพูดขึน้ มาว่า “เหตุใดเป็ นนายท่านสามถือป้ายวิญญาณ? บ้านใหญ่เล่า?
ต่อให้น ายท่ า นใหญ่ ตายไปแล้ว ก็ ยัง มี น ายท่ า นรอง นับตามลํา ดับอย่า งไรก็ เรีย งไม่ถึง เขา
หรอก!”
“เลิกพูดได้แล้ว!” มีคนเอ่ยขึน้ “เจ้ายังมองไม่ออกอีกรึ? ข่าวลือเป็ นเรื่องจริง ต่อไปสกุล
เผยก็มีนายท่านสามเป็ นผูน้ าํ สกุลแล้ว”
พิธีทบุ หม้อกับถือป้ายวิญญาณล้วนเป็ นหน้าที่ของบุตรชายไม่ก็หลานชายคนโต!
ต่อให้นายท่านใหญ่สนิ ้ แล้ว แต่วา่ นายท่านใหญ่ก็ยงั มีบตุ รชายอีกสองคน
แม้จะบอกว่าชาติก่อนนายท่านสามขึน้ เป็ นผูน้ าํ สกุล ทว่าชาตินีก้ ็มีเรื่องแตกต่างออกไป
จากชาติก่อนเล็กน้อย อย่างเช่นว่า ชาติก่อนสกุลเผยเพียงรับซือ้ พืน้ ที่รา้ นค้า ไม่เคยให้ชาวบ้าน
หยิบยืมเงินทอง

1
ทุบหม้อ เป็ นหนึ่งในขัน้ ตอนก่อนพิธีแห่ศพออกจากเรือนเพื่อไปฝั งที่สสุ าน โดยบุตรชายคนโตหรือหลานชายคนโตของ
ผูต้ ายต้องเอาอ่างดินที่ใช้เผากระดาษเงินกระดาษทองมาโยนให้แตก ถึงจะเคลื่อนขบวนแห่ศพได้ หากโยนไม่แตก จะไม่มี
การโยนซํา้ อีกครัง้ แต่จะให้ผแู้ บกโลงศพเหยียบข้ามให้แตกแทน
149

เพียงแค่อวีถ้ งั ได้ยินก็รอ้ นใจแทนเผยเยี่ยนแล้ว


นี่เรียกว่าให้เขาเป็ นผูน้ าํ สกุลที่ไหน เรียกว่าจับเขามัดไว้แล้วย่างบนกองไฟมากกว่า!
ท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผยทิง้ คําสั่งเสียไว้อย่างไรกันแน่?
ต่อให้ตอ้ งการตัง้ เผยเยี่ยนเป็ นผูน้ าํ สกุล แต่ไม่อาจรอให้พิธีแห่ศพจบไปก่อน แล้วเหล่า
พี่นอ้ งค่อยมานั่งพูดคุยเพื่อหาข้อสรุ ปหรือ? เหตุใดต้องตบหน้าบ้านใหญ่กลางพิธีเช่นนี?้ ทํา
เหมือนว่าบ้านใหญ่เป็ นเพียงญาติสายรอง เปลี่ยนเป็ นผูอ้ ่นื คงไม่มีใครทนรับได้?
อวีถ้ งั เขย่งเท้ามองไปทางด้านใน
นายท่านสามถูกคนประคองเดินออกมาแล้ว
เขาก้มหน้าตํ่า
แสงอาทิตย์แรกของหน้าร้อนส่องกระทบที่หมวกไว้ทกุ ข์ของเขา กลายเป็ นเงาสายหนึ่ง
บดบังดวงหน้าของเขาเอาไว้
“ลูกหลานคารวะ” ตามเสียงตะโกนของพิธีแห่ศพ เหล่าลูกหลานของสกุลเผยต่างพา
กันคุกเข่าลงแล้วโขกศีรษะกับพืน้ สามครัง้
ผูค้ นรอบด้านที่มาเคารพศพท่านผูเ้ ฒ่าต่างก็เริม่ จุดประทัดและจุดธูป
ผูน้ าํ พิธีตะโกนว่า “ส่งวิญญาณ”
โลงศพถูกหามขึน้ เดินหน้าไปสามก้าว
ผูน้ าํ พิธีตะโกนอีกรอบว่า “ลูกหลานคารวะ” โลงศพก็หยุดลง ลูกหลานก็โขกศีรษะอีก
สามที
นายหญิงหม่าลากหม่าซิ่วเหนียง แล้วบอกกับเฉินซื่อว่า “พวกเรารีบเอากระดาษเงิน
กระดาษทองไปเผาเถอะ ไม่อย่างนัน้ รอให้คนอื่นจุดประทัดแล้ว ถูกกระเด็นใส่ขึน้ มาไม่ใช่เรื่อง
เล่นๆ เลย”
150

เฉินซื่อเพิ่งเคยพาบุตรสาวมาร่วมงานแห่ศพเป็ นครัง้ แรก


นางพยักหน้าอย่างไม่ม่นั ใจ แล้วเดินตามหลังนายหญิงหม่าไปติดๆ
เสียงประทัดดังขึน้ กลางอากาศมีแต่ควันที่ทาํ ให้คนสําลักลอยว่อน
อวีถ้ ังกับมารดาเพิ่งจะยืนได้ม่ นั ก็เห็นว่าชายผอมสูงคนหนึ่งพุ่งเข้าไปที่ขบวนแห่ศพ
ของสกุลเผย เขาคุกเข่าเสียงดัง ‘ตึง’ ลงบนพืน้ หน้าโลงศพของท่านผูเ้ ฒ่า ร้องไห้ครํ่าครวญเสียง
ดังว่า “ท่านผูเ้ ฒ่าเผย! ท่านลืมตาขึน้ มามองให้ชดั ๆ เถอะขอรับ ท่านเลือกคนเนรคุณใจดํามา
คนหนึง่ ! เขาแทบจะบีบเหล่าคุณชายบ้านใหญ่จนไม่เหลือทางรอดแล้ว…”
ฝูงชนแตกฮือเป็ นวงกว้าง
“พ่อบ้านใหญ่น่ี!”
“เป็ นพ่อบ้านใหญ่หรอกรึ!”
“นี่มนั เกิดเรื่องอะไรขึน้ ?”
“หรือว่านายท่านสามขึน้ เป็ นผูน้ าํ อย่างมีเงื่อนงํา?”
นายท่านสามเงยหน้าขึน้ มา แล้วมองไปทางพ่อบ้านใหญ่ทีหนึ่ง
เย็นชา เบื่อหน่าย และอึมครึม
อวีถ้ งั ตกใจจนสะดุง้ สุดตัว
มีคนเข้าไปลากพ่อบ้านใหญ่ออกมา
เขาทางหนึ่งก็ดนิ ้ รน ทางหนึ่งก็แหกปากโวยวาย น่าเสียดายที่เสียงประทัดดังเกินไป อวี ้
ถังจึงไม่ได้ยิน
มีคนตะโกนขึน้ มาด้วยเสียงอันดังว่า “ขอให้ท่านผูเ้ ฒ่าไปสู่สคุ ติ” ทุกคนต่างชะงักไป
ภายหลังจึงระลึกได้ถึงบุญคุณที่ทา่ นผูเ้ ฒ่าเคยมีให้กบั ตน แล้วพากันร้องไห้ออกมา
151

ขบวนแห่ศพกลับคืนสูล่ าํ ดับขัน้ ตอนของพิธีอีกครัง้ ไม่นานก็เริม่ เคลื่อนขบวน


เสียงประทัดคล้ายว่าจะส่งเสียงดังกว่าเก่า
อวีถ้ งั คิดว่าเสียงที่ตะโกนขึน้ มานัน้ ไม่ได้ไร้เจตนา
อวีถ้ งั มองหาเจ้าของเสียงร้องไห้ท่ามกลางฝูงชน ทว่ากลับไม่พบอะไร
อวีถ้ งั เขย่งเท้าอีกครัง้ เพื่อมองหาร่างของบิดา
ฝูงชนเบียดเสียด มองไปทางใดก็มีแต่ศีรษะคน
ท่านพ่อไม่รูก้ าํ ลังวุน่ วายอยู่ตรงไหน?
อวีถ้ งั ถอนหายใจ
ตอนที่แยกกับนายหญิงหม่า เมื่อกลับไปที่เรือน ก็เลยยามอูแ่ ล้ว
อวีถ้ งั เหงื่อโชกตัว เสือ้ ชัน้ ในแนบติดกับร่างไปหมด
นางเข้าไปอาบนํา้ อีกรอบ จากนั้นก็เปลี่ยนมาใส่เสือ้ คลุมผ้าไหมหังโจวโปร่งสบาย
หลังจากรับอาหารเที่ยงแล้ว ก็นอนหลับจนตะวันตกดิน
อวีเ้ หวินกลับมาแล้วเช่นกัน เขาอยู่ในเรือนรับแขกทางหนึ่งกินอาหารทางหนึ่งก็บ่นไม่
หยุดว่า “พ่อบ้านใหญ่ก็ถือว่าเสียสละไม่นอ้ ย เพื่อนายท่านใหญ่แล้ว ถึงกลับเอาชีวิตคนทัง้ บ้าน
ไปเสี่ยงด้วย เฮ้อ น่าเสียดาย”
อวีถ้ งั ได้ยินหัวใจพลันกระตุก รีบเดินเข้าไปหาทันที เอ่ยว่า “ท่านพ่อ ท่านพูดว่าอะไรนะ
เจ้าคะ?”
เฉินซื่อนั่งอยู่ขา้ งกายกําลังโบกพัดให้สามี พอได้ยินก็พดู ขึน้ ว่า “เป็ นเด็กเป็ นเล็ก ผูใ้ หญ่
พูดอยู่ตอ้ งหยุดฟั ง เรื่องที่ไม่ควรยุ่งก็หา้ มยุ่ง ผ้าเช็ดหน้าที่ให้เจ้าปั กทําไปถึงไหนแล้ว? ไม่ใช่บอก
ว่าอีกสองวันซิ่วเหนียงจะมาเล่นที่เรือนรึ? นํา้ แข็งกับแตงหวานที่เจ้าสัญญากับนางไว้เตรียม
เสร็จแล้วหรือยัง?”
152

อวีถ้ งั เดินยิม้ ตาหยีเข้าไปบีบไหล่ให้อวีเ้ หวิน เอ่ยว่า “ท่านแม่ ข้าก็กาํ ลังขอท่านพ่ออยู่น่ี


อย่างไรเจ้าคะ? ในมือข้ามีเงินเก็บอยู่สองตําลึง ถ้าเอาไปซือ้ นํา้ แข็งกับแตงหวานก็จะไม่มีเงิน
แล้วเจ้าค่ะ!”
“ใครให้เจ้าชอบใช้เงินสุรุย่ สุรา่ ย” มารดาตําหนินาง แต่ก็ยงั หันไปบอกป้าเฉินว่า “ไปที่
ห้องข้าแล้วหยิบเงินสองสามตําลึงให้อาถัง”
“ท่านแม่ดีท่ีสดุ เลยเจ้าค่ะ!” อวีถ้ งั พุง่ ไปนวดไหล่ให้มารดา
เฉินซื่อทําหน้าไม่ถกู แล้วดึงมือของบุตรสาวที่อยู่บนไหล่ของตนลงมา เอ่ยว่า “ห้ามดือ้
ซนอีก ไปนวดไหล่ให้บิดาเจ้าเสีย ท่านพ่อเจ้าไปช่วยงานที่สกุลเผยอยู่หลายวัน ต้องเหน็ด
เหนื่อยมากแล้ว”
“ได้สิเจ้าคะ!” อวีถ้ งั ย้ายไปนวดไหล่ให้อวีเ้ หวินอีกรอบ ทัง้ พูดว่า “ท่านพ่อ ข้าดีต่อท่าน
ไหมเจ้าคะ?”
อวีเ้ หวินมองภรรยาที่อยู่เบือ้ งหน้า ดวงตาหัวเราะจนเป็ นเส้นโค้ง ตอบว่า “ดี ดี ดี! เรือน
หลังนีอ้ วีถ้ งั ดีท่ีสดุ แล้ว!”
“เช่นนัน้ ก็ดีเลยเจ้าค่ะ!” อวีถ้ ังยื่นมือไปหาอวีเ้ หวิน “ท่านพ่อก็ช่วยข้าออกเงินหน่อยสิ
เจ้าคะ! อย่าให้ขา้ ต้องขายหน้าต่อหน้าสหาย”
“อวีถ้ งั !” เฉินซื่อแสร้งโมโห
อวีเ้ หวินรีบกล่อมภรรยาว่า “อย่าโกรธสิ อย่าโกรธ หมอหลวงหยางกับหมอหลวงหวัง
บอกแล้วว่าห้ามให้เจ้ามีนา้ํ โห” จากนัน้ ก็หนั ไปอบรมอวีถ้ งั “ถ้าเจ้ายังกล้าทําเช่นนีอ้ ีก ระวังข้า
สั่งกักบริเวณเจ้าอีกรอบ ลงโทษให้เจ้าคัดตัวอักษรพันตัวด้วย”
อวีถ้ งั เดิมก็คิดจะหยอกล้อทุกคน แต่ผลกลับเลวร้ายกว่าที่คิด นางเสียใจเป็ นอย่างมาก
รีบเข้าไปออดอ้อนมารดาทันที
153

อวีเ้ หวินถึงได้เรียกชื่อภรรยาว่า “ซิ่วเหยียน เจ้าดูสิ อวีถ้ งั ตกใจจนหน้าซีดแล้ว เจ้าก็เลิก


โมโหเถอะ! อีกอย่างพวกเราก็มีอวีถ้ งั เป็ นลูกคนเดียว ต่อไปกิจการต่างๆ ย่อมเป็ นของนาง พวก
เราจะยกให้ตอนนีห้ รือยกให้ภายหลังก็ไม่ตา่ งกัน เจ้าว่าจริงหรือไม่เล่า?”
เฉิ นซื่อถอนหายใจอย่างจนปั ญญา แล้วสั่งป้าเฉินต่อว่า “หยิบเงินแท่งเล็กให้นางไป
แท่งหนึ่ง” พูดจบก็กลอกตาใส่สามี ถามว่า “ท่านพอใจหรือยังเจ้าคะ!”
“พอใจแล้ว พอใจแล้ว!” อวีเ้ หวินหัวเราะตาแทบปิ ด แล้วหันไปขยิบตาให้อวีถ้ งั “เจ้าดู
มารดาเจ้าสิ นางดีต่อเจ้าขนาดไหน วันก่อนข้าถูกใจพู่กนั ของหูโจวด้ามหนึ่ง ต้องใช้เงินถึงสอง
ตําลึง มารดาเจ้าเสียดายไม่อยากซือ้ ให้ขา้ แต่พอเจ้าเอ่ยปากกลับได้ตงั้ สิบตําลึงเชียว”
“ขอบคุณท่านแม่เจ้าค่ะ!” อวีถ้ งั หัวเราะเหอะๆ พลางกล่าวขอบคุณมารดา
เฉินซื่อส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ
อวีถ้ งั ถามบิดาเรื่องของสกุลเผยว่า “ท่านพ่อ ท่านเมื่อครูก่ าํ ลังพูดถึงพ่อบ้านใหญ่สกุล
เผยหรือเจ้าคะ? เขาเป็ นอย่างไรบ้าง?”
อวีเ้ หวินกลัวว่าเฉินซื่อจะพูดเรื่องเงินสองตําลึงไม่ยอมจบ จึงยอมเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
ตามบุตรสาว “กําลังพูดถึงเขาอยู่น่ีอย่างไร หลังจากกลับไปเขาก็แขวนคอตาย!” พูดถึงตรงนี ้ สี
หน้าเขาก็หม่นแสง เอ่ยต่อว่า “ตอนที่ขา้ กลับมา ได้ยินว่าเพราะเรื่องนี ้ นายท่านสามก็ส่งั ให้กกั
ตัวบ้านใหญ่ไว้ท่ีหอทิงหลันสุ่ย ไม่ยอมให้ใครเข้าพบ พี่สะใภ้ฝ่ ั งมารดาของนายหญิงใหญ่กบั
หลานชายก็ยงั ไม่ได้กลับไป ถึงได้เอะอะโวยวายกันอยู่ตรงนัน้ ”
เฉินซื่อก็เพิ่งรู เ้ รื่องเช่นกัน อุทานว่า “ไอหยา” คําหนึ่ง เอ่ยว่า “นายท่านสามผูน้ ีก้ ็ช่าง
ช่าง…”
นางพลันหาคําที่เหมาะสมมาอธิบายการกระทําของนายท่านสามสกุลเผยไม่ได้
154

อวีเ้ หวินส่ายศีรษะ พูดว่า “ทุกคนต่างก็พดู เช่นนี ้ ข้าคิดว่าสกุลเผยต้องเผชิญคลื่นลม


ครัง้ ใหญ่แน่ จึงได้อา้ งว่าต้องกลับมาดูแลอาการป่ วยของเจ้า แล้วขอตัวกลับมาก่อน พวกทังซิ่ว
ไฉสองสามคนยังอยู่ท่ีจวนสกุลเผยอยู่เลย”
อวีถ้ ังนึกไปถึงบทสนทนาระหว่างนายหญิ งใหญ่สกุลเผยกับฮูหยินหยาง ก็ขมวดคิว้
ทันที คิดว่าที่บิดาเล่ามาไม่ถกู ต้อง เอ่ยว่า “นี่จะโทษนายท่านสามได้อย่างไร? ในฐานะพ่อบ้าน
ใหญ่ เรื่องใดๆ ล้วนต้องคํานึงถึงสกุลเผยเป็ นหลัก วันนีเ้ ป็ นวันแห่ศพของท่านผูเ้ ฒ่า เขากลับ
แขวนคอตาย เขาคิดจะทําอะไรกันแน่? หากว่าข้าเป็ นนายท่านสาม ข้าไม่มีทางเก็บศพลงโลง
ให้แน่ จะให้คนแบกศพออกไปเสียอย่างนัน้ เลย”
155

ตอนที่ 19 คัดค้าน
อวีเ้ หวินกับเฉินซื่อต่างสะดุง้ ตกใจ
แต่ก่อนอวีถ้ งั ไม่เคยสนใจเรื่องพวกนีม้ าก่อน อีกทัง้ วาจาที่ออกมาก็บาดหูย่ิงนัก
เฉินซื่อรีบเอ่ยว่า “เจ้าเด็กคนนี ้ เหตุใดถึงพูดเช่นนีเ้ ล่า? ผูต้ ายย่อมเป็ นใหญ่! ถ้าไปอยู่
ข้างนอก ห้ามพูดแบบนีเ้ ด็ดขาด ผูอ้ ่ืนจะหาว่าเจ้าใจคอโหดเหีย้ ม”
อวี ถ้ ัง ไม่คิดเช่น นั้น ทั้ง รู ส้ ึก ว่า ไม่ อาจให้บิดามารดาตกหลุมพรางของพ่อบ้านใหญ่
เด็ดขาด จึงพูดว่า “เดิมทีก็เป็ นพ่อบ้านใหญ่ท่ีทาํ ไม่ถกู ! ท่านลองคิดดูสิเจ้าคะ ทันทีท่ีเขาฆ่าตัว
ตาย เขาก็รอดตัวแล้ว ได้ช่ือว่าเป็ นผูซ้ ่ือสัตย์ภกั ดี แต่ว่าคนที่อยู่ต่อเล่า? แล้วภาระหน้าที่ของ
สกุลเขานับว่าจบสิน้ แล้วรึ? ไม่หรอกเจ้าค่ะ ไม่ใช่เพียงสกุลเขาเท่านัน้ ต่อให้เป็ นสกุลอื่นที่มี
ความเกี่ยวข้องกับเขา เกรงว่าต่อไปคงไม่อาจรับใช้สกุลเผยได้อีก ทัง้ บ้านใหญ่เองก็ดว้ ย แม้
บอกว่านายท่านสามขึน้ เป็ นผูน้ าํ สกุลเป็ นเรื่องไม่ถกู ต้อง แต่เขาก็มีคาํ สั่งเสียของท่านผูเ้ ฒ่าอยู่
จริง ต่อให้ภายในมีแผนการซับซ้อนซ่อนไว้ แพ้เป็ นโจรชนะเป็ นอ๋อง ไม่ยินยอมก็ลกุ ขึน้ มาสูใ้ หม่
ได้ แต่เขามาตายไปเช่นนี ้ ผูอ้ ่ืนจะมองบ้านใหญ่อย่างไร? นี่คือการแสดงความไม่พอใจต่อการ
ตัดสินใจของท่านผูเ้ ฒ่าหรือ? หรือว่าคิดแก่งแย่งตําแหน่งผูน้ าํ กับนายท่านสามเล่า? สกุลเผย
มิใช่ของคนเพียงสกุลเดียว พวกเขามีสามสกุลสาขา พ่อบ้านใหญ่ก่อเรื่องเช่นนี ้ ไม่กลัวจะถูกอีก
สองสกุลสาขาหัวเราะเยาะรึ? หรือจะบอกว่า บ้านใหญ่ไม่สนใจหน้าตาหรือศักดิ์ศรีแล้ว คิดแต่
จะลากนายท่านสามลงจากม้าเพียงอย่างเดียว?”
อวีเ้ หวินกับเฉินซื่อต่างจ้องหน้ากัน
นี่คือบุตรสาวที่รูจ้ กั แต่การเที่ยวเล่นดื่มกินของพวกเขาใช่ไหม?
ตัง้ แต่เมื่อไร ที่บตุ รสาวมีความคิดความอ่านเช่นนี?้
อวีถ้ ังยังไม่รูต้ ัว ยังถามบิดาต่อว่า “หรือข้าพูดไม่ถูกต้องเจ้าคะ? ข้ารังเกียจผูใ้ หญ่ท่ี
แสวงหาลาภยศโดยไม่สนใจวิธีการอย่างพ่อบ้านใหญ่ท่ีสดุ เลย…สนใจแต่ช่ือเสียงก่อนตายของ
156

ตน ไม่สนความเป็ นตายของผูอ้ ่นื เขามาตายไปเช่นนี ้ นายท่านสามย่อมยากจะปฏิเสธความผิด


บ้านใหญ่ก็จะถูกคนซุบซิบนินทาเช่นเดียวกัน”
นางกําลังคิดว่านกอีก๋อยสูก้ นั กับหอย ชาวประมงกลับได้ประโยชน์ไป 1 เช่นนี ้ ไม่แน่วา่ 41

อาจเป็ นแผนที่นายท่านรองคิดออกมาก็ได้
อย่างไรเขาก็เป็ นผูไ้ ด้ประโยชน์จากเรื่องนี ้
ทว่า อวีถ้ งั ไม่ได้กงั วลว่าเผยเยี่ยนจะพ่ายแพ้
ชาติก่อนเขาคือฝ่ ายที่คว้าชัย
ที่ต่างไปจากชาติก่อนก็คือ ชาติก่อนนางคิดว่านายท่านสามใช้ชีวิตอย่างราบรื่นสุข
สบาย แต่มาในชาตินี ้ คิดว่าคงไม่เป็ นเช่นนัน้ แล้ว
อวีถ้ งั ถอนหายใจ ถามบิดาว่า “ท่านเคยเจอนายท่านรองไหมเจ้าคะ? เขาเป็ นคนเช่นไร
หรือ?”
เวลานีน้ างเริม่ รูส้ กึ เสียใจที่ชาติก่อนไม่ได้สนใจเรื่องพวกนีข้ องสกุลเผยให้มากหน่อย
อวีเ้ หวินดึงสติกลับมา ตอบว่า “ข้าต้องเคยเจอนายท่านรองอยู่แล้ว เขาเป็ นคนไม่เลว
เลยทีเดียว มีความรู ้ มีมารยาท นิสยั นุ่มนวลใจกว้าง ปฏิบตั ิตอ่ ผูอ้ ่ืนด้วยความละเอียดรอบคอบ
ทําให้คนรูส้ กึ เหมือนลมวสันต์พดั ผ่าน เป็ นวิญ�ูชนที่ยากจะพานพบ”
นายท่านรองได้คะแนนประเมินสูงเพียงนีเ้ ชียว?
อวีถ้ งั ออกจะแปลกใจอยู่บา้ ง!

1
นกอีก๋อยสูก้ นั กับหอย ชายประมงกลับได้ประโยชน์ไป หมายถึง สองฝ่ ายที่ต่อสูก้ นั ต่างไม่ได้รบั ผลประโยชน์ แต่กลับให้
ฝ่ ายที่สามกอบโกยผลประโยชน์ไป
157

แค่พอลองมองอีกมุมหนึ่ง บิดานางมองใครล้วนว่าดีไปเสียหมด ขนาดหลู่ซิ่นที่ขาย


ภาพคัดลอกให้เขา หลอกเอาเงินเขาไป เขาก็ยงั เลือกที่จะให้อภัยหลู่ซิ่น ทัง้ ยังไม่โกรธเคืองสัก
นิด
หากใช้คาํ พูดของบิดานาง การเคียดแค้นผูอ้ ่ืนต้องสิน้ เปลืองเรี่ยวแรง หากจะต้องโกรธ
เกลียดใคร มิสไู้ ปปี นเขา ไปซือ้ พูก่ นั หูโจว ไปตัดเสือ้ ผ้าชุดใหม่ เพื่อให้ตวั เองเบิกบานใจดีกว่า
พอคิดถึงตรงนี ้ นางก็นกึ ไปถึงตราประทับ ‘ชุนสุย่ ถัง’ ที่อยู่บนภาพวาดผืนนัน้
ในเมื่อร่องรอยของตราประทับถูกต้อง เช่นนัน้ ภาพที่ตกอยู่ในมือนางเมื่อชาติก่อนมี
ที่มาอย่างไรแน่?
อวีถ้ งั คิดว่า รอบหน้าตอนที่บดิ าไปหาเถ้าแก่ถง นางควรจะรบเร้าขอไปด้วยสักครัง้ แล้ว
ถามเถ้าแก่ถงว่ามีสกุลใดที่แกะตราประทับส่วนตัวว่า ‘ชุนสุย่ ถัง’ หรือไม่
ขณะที่ น างครุ ่น คิดอยู่นั้น ก็ ได้ยิ น เฉิ น ซื่ อที่ ไม่ ส่ง เสีย งสัก คํา เอ่ย กับบิ ดาของนางว่า
“ฮุ่ยหลี่ ข้าคิดว่าอวีถ้ งั พูดมีเหตุผล หากว่าพ่อบ้านใหญ่คิดว่าบ้านใหญ่ได้รบั ความไม่เป็ นธรรม
ต้องการออกหน้าแทนบ้านใหญ่แล้ว ก็สามารถรอให้จบพิธีแห่ศพของท่านผูเ้ ฒ่าแล้วค่อยไป
ถามหาความยุติธรรมจากนายท่านสามได้”
อวีถ้ ึงรูส้ กึ ยินดีกบั การที่มารดาคิดได้เช่นนีม้ าก
อวีเ้ หวินหัวเราะขื่น บอกว่า “เรื่องภายในสกุลเผยมีตน้ สายปลายเหตุอย่างไร เราเองก็
ไม่รู ้ ย่อมไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์” เขาบอกเป็ นนัยๆ ให้เฉินซื่อกับอวีถ้ งั ไม่ตอ้ งพูดถึงเรื่องนีอ้ ีก
อวีถ้ งั รับคําพร้อมรอยยิม้ แฉ่ง
เฉินซื่อก็พยักศีรษะรับ
ครอบครัวอวีป้ ๋ อมาเยือนถึงเรือน
158

อวีเ้ หวินรีบกินข้าวให้เสร็จ เฉินซื่อสั่งให้ปา้ เฉินกับซวงเถารีบเก็บถ้วยชาม แล้วไปชงชา


ด้วยตนเอง
ส่วนอวีถ้ งั นัน้ ไปช่วยล้างผลไม้
สองบ้านนั่งลงสนทนากัน
อวีป้ ๋ อสอบถามเรื่องพ่อบ้านใหญ่กบั อวีเ้ หวิน “เจ้ารูแ้ ล้วใช่หรือไม่?”
“รูแ้ ล้ว!” อวีเ้ หวินเล่าสิ่งที่เขาเข้าใจให้กบั พี่ชายฟั ง รวมถึงความเห็นเมื่อครูท่ ่ีอวีถ้ งั มีต่อ
พ่อบ้านใหญ่ดว้ ย
อวีถ้ งั ค่อนข้างจะแปลกใจ
นางนึกไม่ถึงว่า ข่าวการแขวนคอตายของพ่อบ้านใหญ่จะกระจายไปเร็วเช่นนี ้
ลองคํานวณดูดๆี พ่อบ้านใหญ่เพิ่งจะตายไปไม่ก่ีช่ วั ยามก่อนนี่เอง
แต่ท่ีบิดาลึกๆ แล้วก็เห็นด้วยกับคําพูดของนาง นางรูส้ กึ ดีใจนัก จึงแอบยิม้ มุมปากอยู่
ข้างๆ
อวีป้ ๋ อก็คิดเหมือนกับอวีเ้ หวินก่อนหน้านี ้ ล้วนคิดว่าพ่อบ้านใหญ่เป็ นคนรับใช้ท่ีซ่อื สัตย์
แต่พอได้ยินสิ่งที่อวีเ้ หวินเล่า เขาก็รูส้ กึ ว่าวิธีการของพ่อบ้านใหญ่ไม่ถกู ต้อง เพียงแต่เขามาที่น่ี
ด้วยสาเหตุอ่ืน จึงเอ่ยกับน้องชายอย่างทอดถอนใจว่า “อาตี ้ 2 เจ้ารูห้ รือไม่ว่าใครรับช่วงต่องาน
42

ของพ่อบ้านใหญ่?”
อวีเ้ หวินแต่ไรก็ไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี ้ เขาลังเลก่อนตอบว่า “มิใช่พอ่ บ้านสามหรอกรึ?”
“ข้าได้ยินมาว่าไม่ใช่” อวีป้ ๋ อเอ่ยอย่างกังวล “ฟั งว่าคนที่มารับงานต่อจากพ่อบ้านใหญ่
ไม่ใช่พ่อบ้านอีกสองคน ทัง้ ไม่ใช่หนึ่งในเจ็ดของผูด้ แู ล แต่กลับเป็ นอีกคนที่ช่ือเผยหม่าน ข้าไม่

2
อาตี ้ เป็ นภาษาจีน มาจากคําว่า ตีต้ ี ้ แปลว่าน้องชาย
159

เคยได้ยินชื่อคนผูน้ ีม้ าก่อน หลายวันนีเ้ จ้าช่วยงานอยู่ท่ีจวนสกุลเผย เคยได้ยินชื่อนีผ้ ่านหูบา้ ง


หรือไม่?”
“ไม่เคยเลย!” อวีเ้ หวินประหลาดใจ เอ่ยว่า “สกุลเผยหรือ ทัง้ ยังทํางานเป็ นบ่าวรับใช้ ไม่
มีทางเป็ นพี่นอ้ งกับสกุลเผยแน่ เช่นนัน้ ก็ตอ้ งได้รบั แต่งตัง้ สกุลใหม่ การได้รบั แต่งตัง้ สกุล ย่อม
เป็ นบ่าวรับใช้ท่ีโดดเด่นอย่างมาก ทว่าสกุลเผยก็อยู่ร่วมเมืองเดียวกับพวกเรา หากมีคนที่โดด
เด่นเช่นนีจ้ ริง ต่อให้ไม่เคยเห็นหน้าก็สมควรจะได้ยินชื่อเสียงผ่านหู แต่เผยหม่านผูน้ ีอ้ ยู่ดีๆ ก็ผดุ
ขึน้ มา ทัง้ ได้ขนึ ้ เป็ นพ่อบ้านใหญ่ในทันที…”
“ข้าก็คิดเช่นนัน้ ” อวีป้ ๋ อเอ่ยอย่างหมดหวัง “นึกว่าข้าเป็ นเพียงพ่อค้า ไม่ได้ไปมาหาสูก่ บั
สกุลเผย ถึงได้ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน!”
อวีเ้ หวินบอกว่า “เจ้าอยากรู เ้ รื่องนีท้ าํ ไม? ก่อนหน้านีเ้ รื่องสร้างร้านค้าใหม่มิใช่ว่านาย
ท่านสามรับปากแล้วรึ? ตอนนีเ้ ขาเป็ นผูน้ าํ สกุล ยิ่งไม่มีทางที่จะกลับคําแน่”
อวี ป้ ๋ อเกาศี ร ษะ เอ่ ย ว่า “ข้า ไม่ ไ ด้กัง วลเรื่อ งนี ้ ข้า กํา ลัง คิ ด ว่า ถ้า เผยหม่ า นขึน้ เป็ น
พ่อบ้านใหญ่ ข้าต้องไปแสดงความยินดีอย่างไร หากรูข้ ่าวจากเจ้าทางนีส้ กั หน่อย ถึงเวลานัน้ ก็
ยัง พูด คุย กับ เขาได้สัก หลายประโยค หากว่ า เจ้า ไม่ รู ้ วัน นี ค้ งจัด การอะไรได้ย ากแล้ว พวก
แม่แบบลวดลายที่บรรพบุรุษทิง้ ไว้ก็ถกู เหมาไปหมด ข้าก็คิดอยู่ว่า หากสร้างร้านค้าขึน้ มาใหม่
พวกเราจะเปลี่ยนไปค้าขายอย่างอื่นดีหรือไม่?”
อวีเ้ หวินพลันชะงักวาจาที่อยากพูด
อวีถ้ งั รู ส้ ึกว่าญาติผพู้ ่ีของนางทําการค้าเก่งกว่าท่านลุงใหญ่ จึงตัดสินใจช่วยญาติผูพ้ ่ี
อีกแรง นางอาศัยว่าตนยังเป็ นแม่นางน้อย บิดามารดาทัง้ ท่านลุงใหญ่ปา้ สะใภ้ก็ตามใจนักหนา
จึงสอดปากไปว่า “ท่านลุงใหญ่บอกว่ายากจะทําการค้า หากว่าเราเปลี่ยนเป็ นสินค้าอื่น ไม่สใู้ ห้
ท่ า นพี่ อ วีห้ ย่ ว นออกไปสํา รวจข้า งนอกดู ท่ า นพี่ ไ ด้รับ การสั่ง สอนจากท่า นลุง ใหญ่ โ ดยตรง
ย่อมจะได้อะไรกลับมาแน่ๆ เจ้าค่ะ”
160

อวีป้ ๋ อเห็นว่าหลานสาวประจบเอาใจตน ก็อา้ ปากหัวเราะเสียงดัง อารมณ์เบิกบานเป็ น


ที่สดุ แล้วโบกมือไปมาเอ่ยว่า “ก็ได้! อย่างไรช่วงนีข้ า้ ก็มวั แต่ย่งุ เรื่องสร้างร้านค้า ให้ท่านพี่เจ้า
ไปสํารวจที่หงั โจวสักหลายวัน ดูวา่ ผูอ้ ่นื ทํามาค้าขายอย่างไร”
เขาไม่รูส้ กึ ว่าอวีห้ ย่วนจะมีความคิดดีๆ อะไรได้
อวีห้ ย่วนเป็ นบุรุษ อวีป้ ๋ อจึงค่อนข้างเข้มงวดกับเขา เขาเองก็คอ่ นข้างเป็ นคนมีระเบียบรู ้
กฎเกณฑ์ ตอนที่ผใู้ หญ่คยุ กันก็ไม่กล้าพูดแทรก
เขาถลึงตาใส่อวีถ้ งั ทีหนึ่ง ก่อนจะคล้อยตามอย่างยินดีวา่ “ขอรับ”
อวีป้ ๋ อกับอวีถ้ งั คุยเรื่องสัพเพเหระกันต่อ อวีห้ ย่วนหาจังหวะพาอวีถ้ งั ลุกออกมา แล้วขู่
นางว่า “ถ้าเจ้าพูดจาเช่นนีอ้ ีก ตอนที่ขา้ ไปหังโจวจะไม่ซอื ้ หวีสางกับไม้คาดผมมาให้เจ้า พวกเรา
สกุลอวีส้ ืบทอดเครื่องลงรักมาจากบรรพบุรุษ จะพูดว่าเปลี่ยนก็เปลี่ยนกิจการได้ง่ายๆ อย่างไร?
อีกอย่างแต่ละงานแต่ละสาขาล้วนต้องมีเคล็ดลับเฉพาะตัว ไม่ใช่เหมือนอย่างที่เจ้าพูด ที่ไป
สํารวจดูเรื่อยเปื่ อยก็จะเชี่ยวชาญได้”
อวีถ้ งั ไม่มีความรูเ้ รื่องค้าขายสักกระผีก แต่นางรูอ้ ย่างหนึง่ ว่า หากต้องการทําเรื่องดีๆ ก็
ต้องเป็ นคนดีให้ได้ก่อน หากอยากเป็ นคนดี ก็ตอ้ งมีสายตาเฉียบคมและแบบแผน หากอยากมี
สายตาเฉียบคมและแบบแผนก็ตอ้ งออกไปสัมผัสเรื่องราว บ้านเมือง ผูค้ น ไปดูไปฟั งให้มากๆ
เข้าไว้
“ท่านพี่ ท่านวางใจได้เจ้าค่ะ ข้าไม่ได้กาํ ลังทําเรื่องเหลวไหลอยู่หรอก” นางยิม้ ตาหยี
แล้วอธิบายให้อวีห้ ย่วนฟั งว่า “ต่อให้ท่านไม่เห็นด้วยกับวิธีของท่านลุงใหญ่ แต่ท่านก็คดั ค้าน
ไม่ได้ แล้วอย่างท่านที่ไม่ยินยอมจะทําเรื่องใดๆ ข้างกายท่านลุงใหญ่ มิสอู้ อกไปเปิ ดหูเปิ ดตา
ข้างนอกโน่น…ดูว่าร้านค้าที่มีช่ือเสียงโด่งดังในใต้หล้าเขาดูแลต้อนรับแขกอย่างไรก็ยงั ดีนะเจ้า
คะ”
หัวใจของอวีห้ ย่วนพลันสั่นไหว
161

อวีถ้ งั พูดต่อว่า “ท่านพี่ ข้าช่วยสมทบทุนให้ทา่ นห้าตําลึงเลย”


อวีห้ ย่วนเคาะลงศีรษะของอวีถ้ ัง พูดว่า “เงินเท่านีข้ องเจ้า มากพอจะซือ้ ซาลาเปา
เกลียวไหมได้สองสามลูกเท่านัน้ ยังคิดจะมาสมทบทุนให้ขา้ ”
“ท่านพี่ ท่านไม่ควรดูถกู ผูอ้ ่นื เช่นนี!้ ”
สองพี่นอ้ งเริม่ ทะเลาะกันวุน่ วาย
กระทั่งส่งครอบครัวท่านลุงใหญ่กลับไป อวีถ้ งั ก็เตรียมตัวต้อนรับเรื่องที่หม่าซิ่วเหนียง
จะมาเป็ นแขกที่เรือน เพราะเรื่องนีอ้ วีเ้ หวินถึงได้ตงั้ ใจไปสั่งทํานํา้ แข็งที่ตลาดเอาไว้เป็ นพิเศษ
กําชับอาเสาว่ารอให้หม่าซิ่วเหนียงมาถึงก่อนค่อยไปรับของที่รา้ น
หม่าซิ่วเหนียงได้ทานเฉาก๊วยในนํา้ เชื่อมดอกกุย้ ฮวาใส่นา้ํ แข็ง ก็อิจฉาจนดวงตาพราว
ระยับ เอนตัวพิงตั่งไม้ท่ีปรู องด้วยเสื่อไม้ไผ่ เคีย้ วนํา้ แข็งเสียงดังกร้วมๆ แล้วพูดเสียงไม่เต็มปาก
ว่า “อาถัง…อร่อยนัก…เอาอย่างนีด้ ีหรือไม่ เจ้ารับน้องรองข้าเป็ นเขยชายเถอะ…ถึงแม้ปีนีเ้ ขา
จะอายุแค่แปดขวบ แต่ถา้ เลีย้ งเอาไว้ตงั้ แต่เล็กๆ จะต้องเชื่อฟั งเจ้าแน่…”
อวีถ้ งั เองก็ไม่ได้กินเฉาก๊วยในนํา้ เชื่อมดอกกุย้ ฮวาใส่นา้ํ แข็งมานานแล้ว
แต่ก่อนตอนที่ยงั ไม่ออกเรือน เฉินซื่อไม่ยอมให้นางกิน กลัวว่าจะทําให้ทอ้ งเย็น ต่อมา
เมื่อแต่งเข้าสกุลหลี่ เพราะฮูหยินหลี่คิดทรมานนาง ใครๆ ต่างก็ได้กิน มีแต่นางที่ไม่ได้กิน
นางใช้ชอ้ นตักนํา้ แข็งคําใหญ่เข้าปากอย่างมีความสุข ส่งเสียง ‘เหอะ’ ใส่หม่าซิ่วเหนียง
ทีหนึ่ง เอ่ยว่า “ข้าไม่ช่วยเจ้าเลีย้ งน้องหรอกนะ ครอบครัวข้าต้องการเขยชาย ย่อมต้องหาเขย
ชายที่ทาํ มาค้าขายเป็ น ไม่เอาพวกที่มวั แต่อา่ นหนังสือหรอก!”
“เพราะเหตุใดเล่า?” หม่าซิ่วเหนียงถามอย่างสงสัย “ซิ่วไฉไม่ตอ้ งจ่ายภาษี ทัง้ ได้รบั การ
ยกย่องนับถือ”
162

อวีถ้ งั เอ่ยอย่างไม่เห็นด้วย “คนที่อ่านออกเขียนได้ท่ีไหนจะยอมแต่งเข้าบ้านภรรยาเล่า


อย่างไรเสียสกุลข้าก็มีท่านพ่อเป็ นซิ่วไฉอยู่แล้ว ต้องหาคนที่ดูแลกิจการได้สิ ให้ฐานรากของ
ครอบครัวมั่นคงยิ่งขึน้ ต่อไปจะได้สง่ เสริมให้ลกู หลานเล่าเรียนเขียนอ่าน”
“ฮี่ฮ่ีฮ่ี!” หม่าซิ่วเหนียงปิ ดปากหัวเราะ พลางพูดว่า “ที่แท้เจ้าคิดจะให้บตุ รชายของเจ้า
ไขว่คว้าบรรดาศักดิพ์ ระราชทาน 3 ให้เจ้ารึ!”
43

เมื่อเด็กสาวอยู่ดว้ ยกันมักพูดจาเลอะเทอะไปทั่ว แต่กบั หม่าซิ่วเหนียงผูน้ ี ้ มักทําให้คน


รูส้ กึ ขัดเขินยิ่ง
“เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร!” อวีถ้ งั วางชามลงแล้วจีท้ ่ีรกั แร้ของหม่าซิ่วเหนียง “ข้าว่าเจ้า
นั่นแหละที่รอให้เขยชายคว้าบรรดาศักดิพ์ ระราชทานให้!”
หม่าซิ่วเหนียงร้องโอ๊ยๆ แล้ววิ่งหนีจากตั่งไม้ไปที่หน้าประตู
อวีถ้ งั พลันชะงักมือ หันไปมองไผ่เซียงเฟยที่อยู่นอกหน้าต่าง แล้วขมวดคิว้
“มีอะไรรึ?” หม่าซิ่วเหนียงหมุนตัว แล้วหันไปมองตาม
ด้านนอกหน้าต่าง ป้าเฉินกําลังพาสาวรับใช้ของนายหญิงทังเดินไปทางเรือนหลักของ
เฉินซื่อ
“นางมาทําอะไร?” หม่าซิ่วเหนียงย้ายมายืนข้างอวีถ้ งั พูดเป็ นทํานองเดียดฉันท์วา่ “คน
ผูน้ ี ้ ชอบแต่ประจบเอาใจผูม้ ีอาํ นาจ หากไม่มีเรื่องอะไรไม่มีทางมาถึงที่น่ีแน่”

3
บรรดาศักดิ์พระราชทาน คือ บรรดาภรรยาหรือมารดาของขุนนางที่มียศศักดิ์ โดยจะได้รบั พระราชทานบรรดาศักดิ์
ตามลําดับขัน้ ยิ่งขุนนางผูน้ นั้ มียศสูงเท่าไร จํานวนคนในสกุลก็จะได้พระราชทานบรรดาศักดิม์ ากตามไปด้วย
163

ตอนที่ 20 ขอหมั้น
อวีถ้ งั มีใจระแวงต่อนายหญิงทัง นางเรียกซวงเถาเข้ามา แล้วสั่งว่า “เจ้าไปดูสิว่านาย
หญิงทังมาทําอะไร?”
ซวงเถารับคําแล้วจากไป
อารมณ์อยากเล่นสนุกของอวีถ้ งั กับหม่าซิ่วเหนียงจืดจางไปมาก สองคนนั่งกินนํา้ แข็ง
บนตั่งไม้อย่างเรียบร้อย คุยถึงเรื่องซุบซิบในเมือง และเรื่องซุบซิบในเมืองที่ผคู้ นให้ความสนใจ
มากที่สดุ ก็คือเรื่องของสกุลเผย
“เจ้าเคยได้ยินหรือไม่?” หม่าซิ่วเหนียงกดเสียงตํ่า “ป้าสะใภ้ของคุณชายใหญ่สกุลเผย
ต้องการพาคุณชายใหญ่กลับไปเล่าเรียนที่เมืองหลวง นายท่านสามเรียกผูอ้ าวุโสของสกุลเผย
ไปที่หอบรรพชน แล้วถามต่อหน้าทุกๆ คนว่า คุณชายใหญ่ควรไว้ทกุ ข์อยู่ท่ีจวนหรือว่ากลับไป
อยู่สกุลท่านตาเพื่อเล่าเรียนเขียนอ่าน…”
“ฮะ!” อวีถ้ งั ถามอย่างประหลาดใจว่า “นายท่านสามทําเช่นนี ้ ต่อให้คณ
ุ ชายใหญ่อยาก
กลับไปอยู่สกุลท่านตาเพื่อเล่าเรียนก็คงไม่กล้าหรอก…หากว่าเขาไปจริงๆ ก็ตอ้ งถูกตราหน้าว่า
‘อกตัญ�ู’ ต่อไปก็อย่าหวังจะได้เป็ นขุนนางเลย”
แม้นางจะรูว้ ่าชาติก่อนคุณชายใหญ่ถกู นายท่านสามกดข่มเอาไว้แค่ในสกุล แต่ไม่รูว้ ่า
เขาใช้วิธีการใด
“ก็ใช่น่ะสิ!” หม่าซิ่วเหนียงพูดต่อว่า “บิดาข้าบอกว่า นายท่านสามใจร้ายนัก บอกอีกว่า
ถ้าต่อไปสกุลของเราไม่ไปเกี่ยวข้องกับสกุลเผยได้ก็ให้พยายามหลีกเลี่ยงให้มากที่สดุ ”
อวีถ้ งั หัวเราะเหอะๆ
หม่าซิ่วเหนียงกลับถอนหายใจ “ยังมีสกุลของพ่อบ้านใหญ่อีก ไม่รูว้ ่าเป็ นอย่างไรบ้าง
แล้ว? บิดาข้าเล่าว่า หลังจากที่พ่อบ้านใหญ่ตายไป คนในเมืองหลินอันก็ไม่มีใครได้เห็นหน้า
ครอบครัวของพ่อบ้านใหญ่อีก”
164

อวีถ้ งั ตกตะลึง ถามอย่างสงสัยว่า “น่าจะถูกขับออกจากเมืองหลินอันแล้วกระมัง?!”


หม่าซิ่วเหนียงตอบว่า “แต่ก็ไม่มีใครเห็นครอบครัวของพ่อบ้านใหญ่ออกจากประตูเมือง
นี่นา!”
ความหมายในวาจาก็คือ ครอบครัวของพ่อบ้านใหญ่ประสบโชคร้ายแล้ว
“ไม่หรอกน่า!” อวีถ้ งั เอ่ย “ครอบครัวของพ่อบ้านใหญ่น่าจะมีคนจํานวนไม่นอ้ ยกระมัง!”
“เรื่องแบบนีไ้ ม่มีใครรู ช้ ดั หรอก” หม่าซิ่วเหนียงแสดงชัดว่าไม่เชื่อนายท่านสาม เอ่ยว่า
“ใครทําเรื่องเลวร้ายแล้วจะเขียนประกาศติดหน้าจวนตนเองเล่า!”
คนผูน้ นั้ ฆ่าคนจริงๆ รึ?
อวีถ้ งั เงียบเสียงไปพักใหญ่
ซวงเถาวิ่งเข้ามาหา “คุณหนูเจ้าคะ คุณหนู นายหญิงทังมาเป็ นแม่ส่ือให้ท่านเจ้าค่ะ!”
“ว่าอย่างไรนะ?!” อวีถ้ งั กับหม่าซิ่วเหนียงลุกขึน้ พร้อมกัน
อวีถ้ งั ขมวดคิว้ มุ่น หม่าซิ่วเหนียงเข้าไปจับแขนซวงเถาด้วยความตื่นเต้น “บอกมาเร็ว
เข้า นายหญิงทังมาขอหมัน้ หมายให้สกุลใด?”
ซวงเถายิม้ แล้วตอบว่า “เป็ นคุณชายรองของจิน้ ซื่อสกุลหลี่จากทางใต้เจ้าค่ะ!”
“หลี่จวิน้ !” อวีถ้ งั ตกใจจนนิ่งไป
หม่าซิ่วเหนียงเผยรอยยิม้ เจ้าเล่หบ์ นหน้า ชีไ้ ปทางอวีถ้ ังแล้วพูดว่า “อาถัง เจ้าบอก
ความจริงข้ามา ต้องมีเรื่องลับลมคมในแน่ ข้าคนนี ้ จะเก็บเป็ นความลับให้เจ้าเอง ไม่อย่างนัน้
ข้าจะไปฟ้องท่านป้า บอกว่าเจ้ารูจ้ กั คุณชายรองสกุลหลี่จากทางใต้ผนู้ นั้ …”
“พูดบ้าอะไรน่ะ?” อวีถ้ งั ร้อนใจไปหมด เอ่ยว่า “ข้าจะไปรูจ้ กั หลี่จวิน้ ได้อย่างไร?”
สิ่งที่นางพูดคือความจริง
165

แม้ชาติก่อนนางจะแต่งให้หลี่จวิน้ แต่นางไม่เคยพบคนผูน้ ีม้ าก่อน


ตอนที่คุยเรื่องหมัน้ หมาย นางคิดว่าหลี่จวิน้ คงเคยพบนาง ทัง้ ยังปั กใจต่อนาง อย่าง
น้อยก็ดีกว่าต้องแต่งกับคนที่ไม่เคยรู ห้ น้าค่าตากันและกัน ภายหลังที่นางแต่งเข้าสกุลหลี่ หลี่
จวิน้ ก็ไม่อยู่บนโลกนีแ้ ล้ว
หม่าซิ่วเหนียงไม่เชื่อนาง เอ่ยว่า “แล้วเจ้ารูไ้ ด้อย่างไรว่าคุณชายรองสกุลหลี่มีช่ือว่าหลี่
จวิน้ ?”
อวีถ้ งั ตอบนางกลับไปอย่างขอไปทีเพราะใจไม่อยู่กบั เนือ้ กับตัว “ก่อนหน้านีข้ า้ เคยได้
ยินคนพูด” จากนัน้ ก็หนั ไปถามซวงเถาอย่างร้อนรนว่า “ท่านแม่ขา้ ว่าอย่างไร?”
ซวงเถาหัวเราะ ตอบว่า “นายหญิงบอกว่าเดิมทีสกุลเราคิดจะรับเขยชาย ไม่คิดให้ท่าน
แต่งออกไป เรื่องนีเ้ ป็ นเรื่องใหญ่ นายหญิงต้องหารือกับนายท่านก่อนถึงจะให้คาํ ตอบแก่สกุลห
ลี่ได้เจ้าค่ะ”
อวีถ้ งั ตะลึงไป
เหตุใดมารดานางจึงตอบกลับนายหญิงทังไปเช่นนัน้ ?
นางถามต่อว่า “นายหญิงทังยังพูดอะไรอีกบ้าง?”
ซวงเถาเม้มปากหัวเราะ เอ่ยเป็ นนัยๆ ว่า “นายหญิงทังบอกว่า คุณชายรองสกุลหลี่เคย
พบท่านโดยบังเอิญ หากมิใช่ท่านจะไม่แต่งเด็ดขาด ก่อนหน้านีก้ ็เพราะคุณชายรองโวยวายอยู่
ที่เรือน ดังนัน้ ฮูหยินหลี่จงึ ขอให้นายหญิงทังมาลองหยั่งเชิงนายหญิงก่อน ต่อมาพอนายหญิงทัง
กลับไปให้คาํ ตอบฮูหยินหลี่ ฮูหยินหลี่คงไม่ยอมตัดใจ ถึงได้มาพูดคุยกับนายหญิงอีกรอบ พอ
คุณชายรองรู เ้ รื่องเข้า ไม่เพี ยงไม่ลม้ เลิกความคิด ยังโวยวายร้องว่าจะเป็ นเขยชายแต่งเข้า
สกุลอวี ้ ใครพูดอะไรก็ไม่ยอมฟั ง ฮูหยินหลี่ก็จนปั ญญา ได้แต่ฝากฝังนายหญิงทังให้มาเจรจากับ
นายหญิงเจ้าค่ะ”
มิน่าท่าทีของมารดาจึงอ่อนลง!
166

ไม่ ว่ า บิ ด าหรื อ มารดา สิ่ ง ที่ เ ป็ น ห่ ว งมากที่ สุด คื อ ความรู ส้ ึก ของนาง หากว่ า นางมี
ความสุข จะมีเขยชายแต่งเข้าหรือไม่นนั้ ล้วนไม่ใช่เรื่องสําคัญ อย่างมากก็ให้ญาติผพู้ ่ีอวีห้ ย่วน
เป็ นผูส้ ืบทอดของสองครอบครัวก็ยงั ได้
แต่วา่ เรื่องนีม้ ีพิรุธเกินไป
ชาติก่อน ฮูหยินหลี่บอกชัดเจนว่าหลี่จวิน้ ได้เจอนางที่งานวัด เหตุใดตอนนีก้ ลับพูดอีก
แบบเสียเล่า!
อวีถ้ งั อดจะพึมพําออกมาไม่ได้ “เหตุใดเป็ นเช่นนี?้ ”
หรือว่านางไม่อาจหนีรอดจากโชคชะตาที่ตอ้ งแต่งเข้าสกุลหลี่จริงๆ?!
ทันใดนัน้ สีหน้าของอวีถ้ งั ก็พลันเปลี่ยนเป็ นดูไม่ได้
หม่าซิ่วเหนียงกับซวงเถามองหน้ากัน
อวีถ้ งั ถามซวงเถาว่า “นายหญิงทังกลับไปหรือยัง?”
ซวงเถาตอบว่า “เพิ่งไปเจ้าค่ะ!”
อวีถ้ งั ร้อนใจอย่างมาก ขอโทษหม่าซิ่วเหนียงแล้วขอตัวจากไป นางรวบม่านขึน้ เตรียม
ตัวไปหาเฉินซื่อผูเ้ ป็ นมารดา
หม่าซิ่วเหนียงดูออกในทันที อวีถ้ งั ไม่พอใจการหมัน้ หมายครัง้ นี ้ นางรีบจับอวีถ้ งั เอาไว้
พูดว่า “เจ้ามีเรื่องเช่นนี ้ ไม่ตอ้ งสนใจข้าหรอก ข้าจะกลับไปก่อน รอเจ้าว่างแล้ว ข้าค่อยมาเที่ยว
เรือนเจ้าใหม่”
อวีถ้ งั รูส้ กึ ผิดเป็ นอย่างมาก บอกให้หม่าซิ่วเหนียงอยู่กินมือ้ เย็นแล้วค่อยกลับ
หม่าซิ่วเหนียงตอบอย่างสบายๆ ว่า “พวกเรายังเป็ นพี่นอ้ งที่ดีตอ่ กันหรือไม่? หากว่าเจ้า
เห็นข้าเป็ นพี่สาว ก็ไม่ตอ้ งพูดอะไรทัง้ นัน้ ไปลาท่านป้าสักหน่อย แล้วข้าก็จะกลับเลย”
167

อวีถ้ งั กอดหม่าซิ่วเหนียง เอ่ยว่า “พี่สาว ขอโทษด้วยจริงๆ คราวหน้าพวกเรามาเจอกัน


ใหม่นะ”
หม่าซิ่วเหนียงพยักหน้ารับ อวีถ้ งั ไปเป็ นเพื่อนนางเพื่อบอกลาเฉินซื่อ
ในห้องรับรองมีโต๊ะสี่เหลี่ยมสีดาํ อยู่ตรงกลาง มีกล่องของขวัญกองเป็ นพะเนิน
เฉินซื่อกับป้าเฉินกําลังตรวจนับของขวัญกันอยู่
พอรู ว้ ่าหม่าซิ่วเหนียงจะกลับแล้ว เฉินซื่อก็ให้คนไปหยิบขนมหลายกล่องมาให้หม่าซิ่ว
เหนียง พูดเชิญหม่าซิ่วเหนียงมาเยี่ยมที่เรือนบ่อยๆ ทัง้ สั่งอาเสาไปเช่าเกีย้ วมีหลังคามาหนึ่ง
หลัง ให้อาเสาส่งนางกลับเรือน
หม่าซิ่วเหนียงบอกลาเฉินซื่อ อวีถ้ งั ประคองมารดาให้กลับไปที่เรือนหลัก
นางเอ่ยตรงไปตรงมาว่า “ท่านแม่ ข้าอยากจะอยู่เรือนนีต้ อ่ ไป”
เฉินซื่อมองว่านางอายุยงั น้อย มีหลายเรื่องที่ไม่อาจคิดให้รอบคอบ จึงยิม้ แล้วเอ่ยว่า “ที่
อยากให้เจ้าอยู่กบั เรือน เพราะกลัวแต่งออกไปเจ้าจะลําบาก หากว่ามีคนดีๆ เข้ามา บิดาเจ้ากับ
ข้าให้อาหย่วนคอยดูแลก็เหมือนๆ กัน”
เรื่องราวเป็ นอย่างที่อวีถ้ งั คิดเอาไว้
นางเอ่ยว่า “ไม่รูว้ ่ามีคนตัง้ เท่าไรที่ก่อนแต่งงานก็พูดเสียดิบดี พอแต่งกันไปก็เปลี่ยน
แล้ว ท่านอย่าได้ฟังวาจาสวยหรูของนายหญิงทัง ฮูหยินหลี่แต่ไรก็ชอบดูถกู ผูอ้ ่ืน ข้าไม่ชอบแม่
สามีเช่นนีเ้ จ้าค่ะ”
เฉินซื่อหัวเราะ เอ่ยว่า “เด็กโง่ เจ้าไม่ใช่ว่าต้องอยู่กับแม่สามีไปชั่วชีวิตเสียหน่อย อีก
อย่าง หากว่าเขยชายยินดีปกป้องเจ้า แม่สามีบา้ นไหนจะมารังแกลูกสะใภ้ได้ง่ายๆ เล่า?”
“นั่นก็ไม่แน่หรอกเจ้าค่ะ!” อวีถ้ ังกล่าวว่า “ร้อยเรื่องกตัญ�ูมาที่หนึ่ง สามีบา้ นใดจะ
ยอมทะเลาะกับมารดาเพื่อลูกสะใภ้กนั ”
168

เฉิ นซื่อไม่อยากทําให้อวีถ้ ังอารมณ์ไม่ดี อีกอย่างก็ยังไม่ได้เอาวันเดือนปี เกิดมาลอง


ผูกดวงชะตากันเลย
นางกล่อมบุตรสาวว่า “ได้ๆ ล้วนฟั งเจ้าทัง้ สิน้ รอให้บิดาเจ้ากลับมา พวกเราค่อยมอง
หาจากสกุลอื่นอย่างจริงจังด้วย แล้วค่อยตัดสินใจเรื่องงานแต่งเจ้าให้เรียบร้อย”
อวีถ้ ังเห็นว่ามารดาไม่ได้สนใจสิ่งที่นางพูดจริงๆ ก็รอ้ นใจไม่หยุด คิดว่าทําอย่างไรจะ
โน้มน้าวให้มารดาเปลี่ยนใจได้

รุง่ เช้าของวันถัดมาหม่าซิ่วเหนียงก็มาเยี่ยมอวีถ้ งั อีกครัง้


“เกิดเรื่องอะไรขึน้ หรือ?” อวีถ้ งั ตกอกตกใจ
หม่าซิ่วเหนียงดื่มนํา้ ชาไปหลายถ้วยติดๆ กัน ถึงได้ตอบว่า “อาถัง เมื่อวานข้าให้…”
นางพูดอะไรคล้ายๆ ว่า ‘คุณชายจาง’ แล้วเล่าต่อว่า “ช่วยไปสืบข่าวหลี่จวิน้ ผูน้ นั้ ดู” จากนัน้ ปาก
ที่คล้ายมีหวั ไชเท้าอยู่ดา้ นในก็เรียกชื่อ ‘คุณชายจาง’ อีกครัง้ พูดว่า “บอกว่าหลี่จวิน้ แม้จะหยิ่ง
ผยอง แต่ปฏิบตั ิต่อผูอ้ ่ืนอย่างจริงใจ ทําอะไรเปิ ดเผย ความประพฤติมิด่างพร้อย เป็ นคนที่เจ้า
จะฝากชีวิตเอาไว้ได้”
คิดไม่ถึงว่าหลี่จวิน้ จะเป็ นคนแบบนี ้
ยิ่งคิดไม่ถึงว่าหม่าซิ่วเหนียงจะช่วยเหลือนางเพียงนี ้
อวีถ้ งั กรอบตารืน้ ชืน้ เอ่ยว่า “ขอบคุณพี่สาวมาก! และช่วยขอบคุณพี่เขยด้วยสักคํา”
หม่าซิ่วเหนียงได้ฟัง หน้าก็ขนึ ้ สีแดงกํ่า เอ่ยอย่างเขินอายว่า “ไม่ตอ้ ง ไม่ตอ้ ง ช่วยเจ้าได้
ก็ดแี ล้ว” นางถามด้วยความอยากรูว้ า่ “แล้วเจ้าคิดจะอยู่ท่ีเรือนต่อไปหรือไม่?”
“ข้ายังอยากอยู่ท่ีเรือนต่อไป” อวีถ้ งั บอกนางไปตามความจริง “ข้ารูว้ ่าคู่หมายนีไ้ ม่ค่อย
ดีเท่าไรนัก”
169

หม่าซิ่วเหนียงกล่อมนาง “มีอะไรไม่ดีกนั ? เขาก็บอกแล้ว ขอเพียงได้แต่งกับเจ้า ยินดี


แต่งเข้าสกุลเจ้ามาเป็ นเขยชาย เจ้ายังต้องการอะไรอีก? ผูอ้ ่ืนมิใช่ว่าต้องการเจ้าคนนีห้ รอก
หรือ?”
คําพูดของนางทําให้อวีถ้ งั พลันได้สติราวกับรูต้ ่ืน
จริงด้วย! สกุลหลี่ตอ้ งการเกี่ยวดองกับสกุลนาง เพราะต้องการสิ่งใดหรือ?
หรือว่าเป็ นนางคนนีจ้ ริงๆ?
ชาติก่อน สกุลนัน้ ก็รบั นางแต่งเข้าเรือนด้วยความจริงใจอันเต็มเปี่ ยม ทว่านางก็ตอ้ ง
กลายเป็ นม่ายขันหมาก และฮูหยินหลี่ก็ไม่ได้ปฏิบตั ิกบั นางด้วยความเมตตา
หรือเพราะการตายของหลี่จวิน้ ทําให้ฮหู ยินหลี่พาลโกรธเกลียดนาง?
แต่ฮหู ยินหลี่ก็ไม่ได้ทาํ ดีกบั กูซ้ ีมากไปกว่านางสักเท่าไร!
อวีถ้ งั ลอบเบะปากในใจ
นางตัดสินใจจะไปเจอ ‘คูห่ มาย’ ที่ชาติก่อนไม่เคยได้เห็นหน้าสักครัง้
“พี่เขยสนิทกับคุณชายรองสกุลหลี่มากหรือไม่?” นางถามหม่าซิ่วเหนียง
หม่าซิ่วเหนียงตอบว่า “เจ้าคิดจะทําอะไร?”
“ข้าอยากเจอคุณชายรองสกุลหลี่สกั หน่อย ถึงเวลานัน้ อยากเชิญพี่เขยกับพี่สาวไปเป็ น
เพื่อนข้าด้วย”
หม่าซิ่วเหนียงคิดว่าอวีถ้ งั กลัวหลี่จวิน้ จะมีหน้าตาอัปลักษณ์ ต้องเห็นด้วยตาสักครัง้ จึง
จะวางใจ จึงหัวเราะแล้วตอบว่า “เจ้าสบายใจได้ คุณชายรองผูน้ นั้ นับว่าเป็ นผูโ้ ดดเด่นคนหนึ่ง
ไม่รูว้ า่ มีคนมากเท่าไรที่คิดอยากได้เขามาเป็ นเขย รับประกันว่าเจ้าจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน”
อวีถ้ งั หัวเราะออกมา
170

นางไม่คิดอยากรู ส้ กั นิดว่าหลี่จวิน้ หน้าตาเป็ นอย่างไร นางอยากรู ว้ ่า หลี่จวิน้ ต้องการ


นางมากแค่ไหน
นางไปทําอะไรให้เขากันแน่ นางนั่งเล่นอยู่ในเรือนเฉยๆ ความวุ่นวายก็หล่นใส่ศีรษะ
ทัง้ สองชาติไม่อาจให้นางได้อยู่อย่างสงบ
หม่าซิ่วเหนียงกลัวว่าถ้าตนไม่รบั ปากอวีถ้ งั อวีถ้ งั จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แล้วไปขอให้ผอู้ ่ืน
ไปเป็ นเพื่อนแทน กลายเป็ นก่อเรื่องใหญ่ขนึ ้ อีก
นางกล่าวว่า “เช่นนัน้ เจ้ารอให้ขา้ ไปถาม…คุณชายจาง…”
อวีถ้ งั รับคํายิม้ ๆ
พอส่งหม่าซิ่วเหนียงกลับไป นางก็เรียกอาเสามาหา แล้วให้เงินเขาไปสิบกว่าเหรียญ
สั่งว่า “เจ้าเอาเงินให้อาลิ่วที่ขายสาลี่อยู่ธารเสี่ยวเหมย บอกให้เขาจับตาดูคณ
ุ ชายรองสกุลหลี่
ดูวา่ วันๆ หนี่งเขาทําเรื่องอะไรบ้าง?”
สกุลอวีม้ ีบ่าวเพียงสามคน ป้าเฉิน ซวงเถาแล้วก็อาเสา ในเรือนไม่ว่าจะเรื่องอะไรล้วน
ปิ ดสามคนนีไ้ ม่มิด อาเสาเองแน่นอนว่าต้องเคยได้ยินเรื่องคุณชายรองสกุลหลี่มาขอหมัน้ หมาย
อยู่ก่อนแล้ว คิดว่าคุณหนูใหญ่คงกลัวว่าคุณชายรองสกุลหลี่จะมีหน้าตาขีร้ วิ ้ ขีเ้ หร่แน่ๆ เขาเองก็
กังวลว่าคุณชายรองสกุลหลี่จะไม่ค่คู วรกับคุณหนูใหญ่ของเขาเช่นกัน จึงรีบรับปากด้วยรอยยิม้
แล้วบอกว่า “คุณหนูใหญ่ท่านวางใจได้เลยขอรับ ข้าไม่มีทางบอกนายหญิงแน่”
อวีถ้ งั จึงตกรางวัลให้อาเสาด้วยเงินอีกสิบกว่าเหรียญ

ผ่านไปสองวัน หม่าซิ่วเหนียงให้คนมาส่งข่าวนาง บอกว่าคุณชายจางรับปากจะไป


พบหลี่จวิน้ เป็ นเพื่อนพวกนางแล้ว
อาลิ่วก็สืบข่าวของหลี่จวิน้ มาได้ว่า “คุณชายรองสกุลหลี่นดั กับสหายจะไปกินเจที่วดั
เจาหมิง”
171

อวีถ้ งั ไปบอกเรื่องนีก้ บั หม่าซิ่วเหนียง สองคนวางแผนเรียบร้อยเสร็จสรรพ โดยคุณชาย


จางกับอาเสาจะไปไหว้พระที่วดั เจาหมิงเป็ นเพื่อนพวกนางด้วย
172

ตอนที่ 21 วัด
วัดเจาหมิงตัง้ อยู่ท่ีเขาเทียนมู่ตะวันออก ตีนเขามีหมู่บา้ นหนึ่งชื่อว่าหมีถวั
อวีถ้ งั หม่าซิ่วเหนียงและคุณชายจางนัดว่าจะไปพบกันที่น่นั จากนัน้ จะก็ทาํ เป็ นเหมือน
พบกันโดยบังเอิญ แล้วเดินทางไปวัดเจาหมิงด้วยกัน
หม่าซิ่วเหนียงกับคุณชายจางมาถึงก่อนอวีถ้ งั แล้ว
อวีถ้ งั ลงจากเกีย้ ว ขอโทษขอโพยเป็ นการใหญ่
หม่าซิ่วเหนียงพาสาวใช้ช่ือสี่เชวี่ยมาด้วย นางเม้มปากกลัน้ ยิม้ แล้วดึงแขนของอวีถ้ งั
เอ่ยว่า “พวกเราก็ไม่ได้มาถึงก่อนเจ้านานนักหรอก” แล้วถามอวีถ้ งั ว่า “เจ้ากินมือ้ เช้ามาหรือยัง?
แล้วได้เตรียมนํา้ ชาอาหารว่างมาด้วยหรือไม่?” พูดจบ ก็หนั ไปมองอาเสาที่หอบแฮกๆ อยู่
ทางไปวัดเจาหมิง ต้องปี นเขาไปครึ่งลูก เส้นทางค่อนข้างไกล ทุกคนอาจด้วยมีความ
ตัง้ ใจอยากไหว้พระ หรืออาจเพราะการจ้างเกีย้ วขึน้ เขาราคาสูงลิ่ว โดยทั่วไปจึงมักจอดเกีย้ วไว้
ที่ตีนเขา แล้วเดินเท้าต่อ
อาเสาตบลงที่ห่อผ้าสะพายหลังหลายครัง้ เอ่ยว่า “คุณหนูหม่าวางใจได้ขอรับ เมื่อวาน
ป้าเฉินเตรียมให้พวกเราเรียบร้อยแล้ว” ก่อนจะเดินไปข้างหน้าเพื่อคารวะคุณชายจาง
คุณชายจางพยักหน้ารับเล็กน้อย
อวีถ้ งั เหลือบมองเขาไวๆ ทีหนึ่งด้วยความสนใจอยากรู ้
อายุประมาณสิบแปดสิบเก้าปี รู ปโฉมสําอาง ผิวขาว ตัวผอมสูง มองแล้วดูเป็ นคนที่
อ่อนโยนผูห้ นึ่ง
ในสถานการณ์ท่ีฐานะทางบ้านไม่ได้โดดเด่น ทว่ายังสามารถสอบเป็ นถงเซิงได้แต่อายุ
เท่านี ้ เห็นชัดว่าความหมั่นเพียรและสติปัญญานับว่าไม่เลว
อวีถ้ งั ชมชอบคนฉลาด
173

คุณชายจางพาบ่าวมาด้วยคนหนึ่ง เขาให้หม่าซิ่วเหนียงกับอวีถ้ งั เดินนําหน้า


อวีถ้ ังดึงหม่าซิ่วเหนียงมาใกล้ตวั แล้วกระซิบหยอกเย้าว่า “พี่เขยมองแล้วดูดีทีเดียว
เลย! ท่านลุงนับว่าเลือกคูห่ มายที่ประเสริฐให้เจ้าแล้ว”
หม่าซิ่วเหนียงเขินอายจนหน้าแดงกํ่า ทว่าวาจาเกรงอกเกรงใจกลับไม่มีหลุดออกมาสัก
คํา
เห็นได้ชดั ว่านางก็พออกพอใจกับคูค่ รองคนนีน้ กั
อวีถ้ งั จึงพูดว่า “พี่เขยชื่อว่าอะไรหรือ?”
หม่าซิ่วเหนียงกดเสียงเบา ตอบว่า “ชื่อหนึ่งอักษรนามว่าฮุ่ย ยังไม่ได้รบั การตัง้ ชื่อเลย”
จางฮุ่ยหรือ?
ไม่รูว้ า่ ชาติก่อนเขาสอบผ่านเป็ นซิ่วไฉได้ตงั้ แต่เมื่อไร?
อวีถ้ งั ทอดถอนใจกับตัวเองอีกครัง้ ที่ชาติก่อนตนไม่เคยใส่ใจกับเรื่องอะไรเลย
อาจเพราะมีคนเดินเท้าจํานวนมาก เส้นทางบนภูเขาที่ม่งุ สู่วดั เจาหมิงแม้คดเคีย้ วแต่ก็
ราบเรียบ และเพราะไม่ได้มีการจัดธรรมเทศนาหรือจาริกแสวงบุญ คนที่ไปจุดธูปไหว้พระจึงมี
ไม่มาก ทั้งส่วนใหญ่ก็เป็ นคนเฒ่าคนแก่และสตรีกลางคนที่ออกเรือนแล้ว พวกเด็กสาวอายุ
น้อยๆ อย่างพวกนาง กับกลุ่มคุณชายด้านหลังที่อยู่ห่างไปไกลๆ จึงเป็ นที่ดึงดูดสายตาคนให้
สนใจนัก คนที่เดินผ่านไปล้วนต้องหันหลังมามองพวกนางอีกทีสองที
แม้จะสวมหมวกคลุมหน้าเอาไว้ แต่หม่าซิ่วเหนียงก็อายจนทนไม่ได้ เอ่ยเสียงแผ่ว
กับอวีถ้ ัง ว่า “พวกเรา พวกเรานัดสถานที่ อีก แห่งหนึ่ง แล้ว ค่อยไปเจอกับคุณชายจางที่น่ ัน
เถอะ?”
กลางวันแสกๆ ท้องฟ้าสดใสเช่นนี ้ หม่าซิ่วเหนียงพาสาวใช้ติดตัวมาด้วย นางก็มีบ่าว
รับใช้ อวีถ้ งั หยุดคิดครูห่ นึ่ง ก่อนจะหัวเราะแล้วพยักหน้ารับ
174

หม่าซิ่วเหนียงหมุนตัวกลับไปพูดกับสี่เชวี่ยหลายประโยค สี่เชวี่ยปิ ดปากหัวเราะแล้ว


นําสารไปบอกแก่คณ ุ ชายจาง
จางฮุ่ยเงยหน้ามองหม่าซิ่วเหนียงหลายที ก่อนจะผงกศีรษะอย่างไม่ค่อยยินยอมนัก
ทําให้อวีถ้ งั ต้องหลุดขําออกมาอีกรอบ
หม่าซิ่วเหนียงบิดเนือ้ อวีถ้ ัง แสร้งเคืองๆ เอ่ยว่า “พวกเรามิใช่ทาํ เพื่อเจ้าหรืออย่างไร
หากว่าคนอื่นมองออกขึน้ มา พวกเราจะเอาหน้าไปไว้ท่ีไหน!”
อวีถ้ งั ขออภัยไปหลายคํา กระเซ้าว่า “พี่สาววางใจได้ รอให้ถึงตอนเจ้าออกเรือน ไม่ว่า
อย่างไรข้าก็จะปั กหมอนลายนกยวนยางคูก่ บั มือมอบให้เจ้าเป็ นของขวัญ”
“เจ้าเด็กคนนี ้ ยังจะพูดจาไปเรื่อยอีก”
หม่าซิ่วเหนียงกับอวีถ้ งั หัวเราะคิกคัก เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนที่ดวงอาทิตย์ลอย
ขึน้ สูง พวกนางก็มาถึงวัดเจาหมิงแล้ว
สองคนตรงไปที่วิหารเทียนหวัง
อวีถ้ งั ปลดหมวกคลุมหน้าออก
หม่าซิ่วเหนียงตกใจร้องบอกเสียงเบาว่า “อาถัง วันนีเ้ จ้างดงามเหลือเกิน!”
วันนีอ้ วีถ้ งั สวมเสือ้ คลุมผ้าไหมหังโจวสีแดงสดปั กลายดอกไม้
นางยิม้ ให้บางๆ
หลี่จวิน้ ผูน้ นั้ บอกว่าตกหลุมรักในรู ปโฉมนาง นางก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่า รู ปโฉม
ของนางจะทําให้หลี่จวิน้ ชอบพอได้สกั กี่สว่ น
นางไม่เพียงบํารุงผิวหน้า ขัดหน้าผาก และเขียนคิว้
ทัง้ ยังแต่งหน้ามาอย่างบรรจง
175

หม่าซิ่วเหนียงถามพลางทอดถอนใจว่า “เวลาปกติเจ้าก็ควรจะแต่งตัวให้มากหน่อย”
อาจเพราะมารดาของนางเป็ นหญิงงามผูห้ นึ่ง อวีถ้ งั แม้จะได้ยินคนชมว่าสะสวย แต่คน
ที่เอ่ยปากชมล้วนเป็ นญาติๆ และสหายในเรือน ไม่ก็พวกผูเ้ ฒ่าที่อยู่บา้ นใกล้เรือนเคียง ตอนที่
ส่องกระจกอยู่ขา้ งๆ มารดา ก็ไม่ได้รูส้ กึ ว่าตนเองสวยเพริศพริง้ เท่าใดนัก คิดว่าทุกคนคงชมไป
ตามมารยาท ต่อมาเมื่อแต่งให้สกุลหลี่ จนถูกหลี่ตวนคุกคาม นางถึงเพิ่งสังเกตว่าตนอาจจะ
งดงามเกินหน้าผูอ้ ่ืนอยู่ แต่ตอนนัน้ นางเป็ นหญิงม่าย จะแต่งตัวสวมใส่อะไรล้วนมีระเบียบไป
หมด ฮูหยินหลี่เห็นนางเป็ นตะปูตาํ ตา นางเองก็ไม่คิดจะแหกกฎธรรมเนียม แต่ละวันก็พยายาม
แต่งตัวให้ธรรมดาและไม่โดดเด่นเข้าไว้
เมื่อกลับมาเกิดใหม่ ความคุน้ ชินบางอย่างก็ยงั แก้ไม่หาย ก็มิแปลกที่หม่าซิ่วเหนียงจะ
ออกอาการตกตะลึงเช่นนี ้
สองคนไปจุดธูปไหว้พระ แล้วไปนั่งพักที่อ่ฟู างสําหรับรับรองแขก อาเสาออกไปสืบว่า
หลี่จวิน้ ตอนนีอ้ ยู่ท่ีไหนแล้ว
หม่าซิ่วเหนียงจ้องหน้าอวีถ้ งั อีกรอบก่อนจะถอนหายใจ “ข้าว่านะ ยิ่งมองก็ย่ิงรู ส้ ึกว่า
เจ้างดงามนัก โดยเฉพาะอารมณ์ตอนเจ้าคุยกับข้ากับสายตาที่เจ้าใช้มองข้า เหมือนว่ามันต่าง
ไปจากแต่ก่อนมากเหลือเกิน แต่ขา้ มองแล้วก็เห็นเจ้าเปลี่ยนไปแค่เสือ้ ผ้ากับมีเครื่องประดับเพิ่ม
มาไม่ก่ีชนิ ้ เท่านัน้ ! เป็ นเพราะแต่ก่อนข้าไม่คอ่ ยได้ไปมาหาสูก่ บั เจ้าอย่างนัน้ รึ?”
อาจเพราะประสบการณ์บางอย่างเมื่อชาติก่อนสลักลึกอยู่ในกระดูกนาง นางในเวลานี ้
จึงมีความคิดเป็ นของตนเอง ทัง้ ใจกล้ายิ่งกว่าเก่า
อวีถ้ งั หัวเราะ เอ่ยว่า “เจ้าน่ะ พอรักใครชอบใครก็เห็นว่าคนผูน้ นั้ ดีงามไปเสียหมด ไม่รู ้
ว่าพี่เขยในสายตาของเจ้าก็เป็ นเช่นนีด้ ว้ ยหรือไม่?”
“เจ้ามันนิสยั ไม่ดี ข้าช่วยเจ้า แต่เจ้ากลับหัวเราะเยาะข้า!”
สองคนเริม่ ทะเลาะกันวุน่ วาย
176

เป็ นเวลานานหม่าซิ่วเหนียงถึงรูต้ วั ว่านอนแยกกันกับอวีถ้ งั อยู่บนตั่งไม้ยาว


นางเอ่ยขึน้ ว่า “ข้าคิดว่า อาศัยรูปร่างหน้าตาของเจ้า มีแต่เจ้าที่จะไม่ตอบตกลงผูอ้ ่ืน ไม่
มีผูอ้ ่ืนจะไม่ตอบตกลงเจ้า หากเจ้ารู ส้ ึกว่าคุณชายรองสกุลหลี่หน้าตาพอใช้ได้ เจ้าจะยอมรับ
การหมัน้ หมายครัง้ นีห้ รือไม่?”
หม่าซิ่วเหนียงไม่เคยพบหลี่จวิน้ ตัวเป็ นๆ ไม่รูว้ า่ ที่แท้หลี่จวิน้ มีหน้าตาอย่างไรแน่
ไม่มีทาง!
อวีถ้ งั เกือบจะหลุดปากออกไป
นางกลับมาคิดอีกรอบว่าหากเจอสถานการณ์เช่นนี ้ แล้วนางบอกปฏิเสธหลี่จวิน้ ไป
ย่อมจะทําให้คนอื่นแปลกใจแน่ จึงเอ่ยว่า “แต่งงานมิใช่แต่งให้เขาเพียงคนเดียว แต่แต่งให้กบั
คนทัง้ สกุลของเขาด้วย”
“เจ้าพูดถูกแล้ว” หม่าซิ่วเหนียงหยุดคิด เอ่ยว่า “หากว่าข้ามีแม่สามีอย่างฮูหยินหลี่น่ นั
ข้าคงหงุดหงิดตาย”
สองคนมองหน้ากันก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะออกมา
ในที่สดุ หม่าซิ่วเหนียงก็เลิกโน้มน้าวนาง
อวีถ้ งั ถามหม่าซิ่วเหนียงถึงเรื่องงานแต่ง
หม่าซิ่วเหนียงเล่าให้ฟังว่า นางกับคุณชายจางจะแต่งงานกันช่วงปลายปี บอกว่าเรือน
ของคุณชายจางขาดคนที่ดแู ลเรื่องหุงหาอาหาร อยากให้นางแต่งเข้ามาเร็วๆ หน่อย “ท่านแม่ก็
เป็ นคนเปิ ดเผย คิดว่าหากไม่ตกลงก็คือไม่ตกลง แต่ในเมื่อตกลงแล้ว ก็คือครอบครัวเดียวกัน
อย่างไรการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขก็เป็ นสิ่งที่ถกู ต้อง เรื่องบางเรื่อง ปล่อยผ่านไปสบายๆ เป็ น
ใช้ได้แล้ว” พูดจบ ก็กระซิบเสียงเบาบอกว่า “มารดาข้าบอกกับคนนอกว่าพวกเราสองสกุลหารือ
เรื่องงานแต่งมานานแล้ว เพียงเพราะพวกเราอายุยงั น้อย จึงไม่ได้พดู คุยกันเป็ นจริงเป็ นจัง คน
177

อื่นจะได้ไม่ครหาพวกเราหาว่าเท้าหน้าเพิ่งตกลงหมัน้ หมาย เท้าหลังก็จะแต่งงานเสียแล้ว หาก


มีคนมาถามถึง เจ้าอย่าได้หลุดปากเป็ นอันขาดล่ะ”
“ข้ารู แ้ ล้ว ข้ารู แ้ ล้ว!” อวีถ้ ังรู ส้ ึกอิจฉาเล็กน้อยที่งานแต่งของหม่าซิ่วเหนียงราบรื่นถึง
เพียงนี ้
ไม่รูเ้ หมือนกันว่านางจะตบแต่งให้กบั ผูใ้ ด?
การแต่งเขยชายเข้าบ้านพูดแล้วฟั งดูไม่ยาก แต่ถา้ ต้องการคนที่สง่าผ่าเผยและเฉลียว
ฉลาดด้วยแล้วนัน้ ไม่ง่ายเลย
อวีถ้ งั ลอบถอนหายใจยาวเหยียด
อาเสากลับมารายงานว่า “คุณชายรองสกุลหลี่สวมชุดต้าวผาวหังโจวสีเขียวใบไผ่ ปั ก
ปิ่ นหยกไม้ไผ่สีขาว ผูกผ้ารัดเอวสีขาว ห้อยถุงผ้าหนึ่งคู่ ใบหนึ่งสีเขียวนํา้ ไหล ทรงถุงหอม อีกใบ
สีเขียวทะเลสาบ ทรงหรูอี ้ ตอนนีน้ ่งั ดื่มชากับสหายบัณฑิตอยู่ใต้ตน้ สนตื่นรูข้ อรับ”
ต้นสนตื่นรู ต้ งั้ อยู่ขา้ งหอคัมภีรฝ์ ่ ั งตะวันออกของวัดเจาหมิง เป็ นสนโบราณต้นหนึ่ง แผ่
กิ่งก้านดั่งร่ม ร่มเงาแผ่ขยายออกไปหลายจัง้ บัณฑิตจํานวนมากในหลินอันชอบไปนั่งต่อกลอน
ดื่มชา และเดินหมากที่น่ นั พระสงฆ์ในวัดจึงจัดโต๊ะหิน ตั่งหินเตีย้ และเสื่อไม้ไผ่ไว้ใต้ตน้ ไม้ ให้
เหล่าวิญ�ูชนได้เสพสําราญ
อวีถ้ งั เอ่ยว่า “ตรงนัน้ ไกลจากนํา้ ตกสีป่ี ท่ีเรานัดคุณชายจางเอาไว้มากหรือไม่?”
นํา้ ตกสีป่ี เป็ นอีกสถานที่ท่ีน่าสนใจแห่งหนึ่งของวัดเจาหมิง ตัง้ อยู่ท่ีหน้าผาหลังเขาของ
วัด มีลาํ ธารเล็กๆ ไหลมาจากยอดเขาสายหนึ่ง นํา้ ตรงนัน้ ใสสะอาดหวานชื่นใจ เล่ากันว่าหาก
ดื่ ม นํ้า จากนํ้า ตกจะสามารถชํา ระจิ ต เพิ่ ม พูน ปั ญ ญา ชาวเมื อ งหลิ น อัน หลายคนที่ มี บุต ร
โดยเฉพาะบุตรชาย ล้วนมาที่น่ีเพื่อรองนํา้ หนึ่งเหยือกไปให้บุตรชายดื่ม ขอให้บุตรของตนดื่ม
แล้วมีสติปัญญาฉลาดเฉลียว ถึงขนาดที่ว่าบางคนปวดหัวตัวร้อน ก็มารองนํา้ ที่น่ีกลับไปดื่ม
178

เช่นกัน คนที่มาไหว้พระที่วดั เจาหมิงยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึง ย่อมจะต้องมาที่นา้ํ ตกนีเ้ พื่อดื่มนํา้ สักอึก


ให้ได้
อาเสาตอบอย่างหัวไวว่า “ข้าไปดูมาแล้วขอรับ พวกเราผ่านประตูทางออกมุ่งไปทาง
ทิศตะวันตก พอถึงต้นสนตื่นรูก้ ็เลีย้ วไปทางทิศเหนือ มีประตูทางเข้าอีกแห่งที่นาํ ไปสูห่ ลังเขาวัด
เจาหมิง พอออกจากประตูก็มุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออก มีเส้นทางสายหนึ่งเชื่อมไปถึงนํา้ ตกสีป่ี
ขอรับ”
หรือพูดอีกอย่างว่า พวกนางต้องเดินอ้อมไปทางต้นสนตื่นรูท้ ีหนึ่ง
ถ้ามิใช่ตรงนัน้ มีประตูเชื่อมต่อกับด้านหลังเขาวัดเจาหมิง หากมีคนมาพบเข้า พวกนาง
ต้องบอกว่าตนเองหลงทางหรือ?
หม่าซิ่วเหนียงยกมือปิ ดหน้า
สถานที่นดั พบกับคุณชายจางนัน้ นางเป็ นคนเลือกเอง
อวี ถ้ ัง หัว เราะจนตัว งอ เร่ง นางว่ า “พวกเรารี บ ไปเถอะ ระวัง ว่า ถ้า ชัก ช้า จะมี อ ะไร
เปลี่ยนแปลงอีก”
หม่าซิ่วเหนียงไม่มีเวลาเขินอาย รีบตอบว่า “พวกเรารีบไปกันเถอะ!”
อวีถ้ งั จัดแต่งปอยผม สวมหมวกคลุมหน้าอีกรอบ แล้วเดินทางไปที่ตน้ สนตื่นรูก้ บั หม่า
ซิ่วเหนียง
ใต้ตน้ สนตื่นรู ม้ ีเสื่อไม้ไผ่ปูไว้เจ็ดแปดผืน บัณทิตอายุนอ้ ยหลายคนกําลังนั่งขัดสมาธิ
สนทนากัน มีบ่าวรับใช้สิบกว่าคนอยู่ขา้ งๆ ไม่ก็คอยโบกพัด จุดเครื่องหอม และต้มนํา้ ชาให้…
ยังมีบางคนที่คอยชมดูความสนุกด้วย
ดูท่าศาสนิกชนของวัดเจาหมิงจะมารวมตัวกันที่น่ีหมดแล้ว
179

หม่าซิ่วเหนียงพูดขึน้ มาด้วยความกังวลว่า “ทําอย่างไรดี? ต่อให้พวกเราเดินผ่านไป


แบบนี ้ พวกเขาก็ไม่หนั มาสนใจเราหรอก!”
อวีถ้ งั หัวเราะ
มิใช่ฮหู ยินหลี่บอกว่าหลี่จวิน้ ตกหลุมรักนางรึ?
เช่นนัน้ เขาต้องรูจ้ กั นางแน่ ทัง้ ยังต้องจดจําได้อย่างลึกซึง้ ด้วย
หม่าซิ่วเหนียงถามอย่างระแวงว่า “เจ้าคิดจะทําอะไร?”
หากทําตามที่พวกนางวางแผนไว้ ขอเพียงพวกนางเดินผ่านไปเพื่อดึงดูดความสนใจ
ของหวี่จวิน้ ก็พอแล้ว
อวีถ้ ังตอบว่า “พี่สาว เจ้ารออยู่ตรงนี ้ ข้าจะทําเป็ นไปชมดูความสนุกแล้วแอบมองสัก
นิดก็ใช้ได้แล้ว”
หม่าซิ่วเหนียงเอ่ยอย่างลังเลว่า “ไม่คอ่ ยดีกระมัง?”
อวีถ้ งั รูด้ ีวา่ เช่นนีม้ ีความเสี่ยง ดังนัน้ จึงไม่อาจลากหม่าซิ่วเหนียงมาเกี่ยวด้วย
นางยิม้ ตอบว่า “ไม่เป็ นไร เจ้าเชื่อข้าสิ ไม่มีผิดแน่” พูดจบ ไม่รอให้หม่าซิ่วเหนียงตัง้ ตัว
ก็หนั ไปกําชับสี่เชวี่ยคําหนึ่งว่า “ดูแลคุณหนูของพวกเจ้าให้ดี” จากนัน้ ก็สาวเท้าไปทางต้นสนตื่น
รู ้
หม่าซิ่วเหนียงคิดตะโกนเรียกนางกลับมา คิดไม่ถึงว่านางจะเดินเร็วถึงเพียงนี ้ เพียงชั่ว
ครูก่ ็ห่างไปหลายจัง้ แล้ว นางหันซ้ายขวามองคนรอบด้าน ได้แต่กดเสียงนัน้ ลงคอไป
อวีถ้ งั แม้สว่ นสูงจะไม่มาก แต่วา่ เอวบางขาเรียว ฝี เท้าเบาแผ่ว งดงามอ่อนหวาน คนยัง
เดินไปไม่ถึงต้นสนตื่นรู ้ ทว่าเหล่าวิญ�ูชนน้อยใหญ่ใต้ตน้ สนตื่นรู ก้ ลุ่มนัน้ กลับสังเกตเห็นนาง
แล้ว แต่ละคนเบิกตาโตจ้องมาทางนาง
เสียงสรวลเสใต้ตน้ สนตื่นรูพ้ ลันค่อยๆ เงียบลง
180

ตอนที่ 22 หลี่จวิน้
นี่คือผลลัพธ์ท่ีอวีถ้ งั ต้องการ
นางสาวเท้าเดินต่อไป ไม่สนใจสายตาที่มองมา แสร้งเกี่ยวหมวกคลุมหน้าให้เปิ ดออก
ด้วยความอยากรู ้
จากนัน้ นางก็มองเห็นดวงหน้าที่อา้ ปากค้าง ตาเบิกโต
ต้าวผาวสีเขียวใบไผ่…ถุงผ้าสองใบ…ใบหนึ่งสีเขียวนํา้ ไหล อีกใบสีเขียวทะเลสาบ…
อวีถ้ งั ตามหาหลี่จวิน้ ที่น่งั อยู่ท่ามกลางผูค้ นเบี่ยงไปทางทิศตะวันตกเจออย่างรวดเร็ว
เขายังไม่ถึงวัยสวมหมวก ผิวพรรณขาวผ่อง เครื่องหน้าหล่อเหลา หน้าตาสําราญยิม้
แย้ม กําลังพูดอะไรบางอย่างกับคนที่อยู่ขา้ งๆ
เมื่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ผิดปกติ เขาจึงหันหน้ามามอง สายตาก็พลันเห็นอวีถ้ งั เข้า
พอดี
อวีถ้ งั เห็นปากของเขาเปิ ดอ้าอย่างช้าๆ ดวงตาก็ค่อยๆ เบิกโต จ้องเขม็งมาที่นางอย่าง
ไม่วอกแวกราวกับคนเสียสติ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง
ผูน้ ีก้ ็คือหลี่จวิน้ หรือ?
อวีถ้ งั กะพริบตาปริบๆ
ในจินตนาการของนาง หากว่าหลี่จวิน้ รูจ้ กั นาง เมื่อเห็นว่านางโผล่มาที่น่ีกะทันหัน เขา
ควรจะประหลาดใจถึงจะถูก หากไม่รูจ้ กั นาง ก็ตอ้ งรูส้ กึ แปลกหน้า หรือมองทีหนึ่งก็ผละสายตา
หนี เหมือนกับนายท่านสามสกุลเผยตอนที่เจอนางครัง้ แรก ไม่ก็อาจจะมองสํารวจนางด้วย
ความอยากรู ้
ทว่า…อวีถ้ งั คิดไม่ถึงว่าปฏิกิรยิ าของหลี่จวิน้ จะเป็ นเช่นนี ้
มันทําให้นางไม่อาจตัดสินได้วา่ เขาเคยรูจ้ กั นางมาก่อนหรือไม่
181

แต่นางก็ไม่อาจถอยกลับ…เรื่องราวมาถึงขัน้ นีแ้ ล้ว จะหาโอกาสเช่นนีอ้ ีกคงยากเย็นนัก


สิ่งที่สาํ คัญเหนืออื่นใด นางกลัวว่าบิดามารดาจะชมชอบคู่หมายคนนี ้ แล้วลอบตอบตกลงกับ
สกุลหลี่ไปก่อน
อวีถ้ งั ครุน่ คิด ก่อนจะส่งยิม้ ให้หลี่จวิน้
ดวงหน้าของหลี่จวิน้ พลันขึน้ สีแดงกํ่า แต่เขาก็ดงึ สติกลับมาได้
เขาก้มหน้าลงอย่างละอาย แสร้งจิบชาอึกหนึ่ง แต่ก็หา้ มตัวเองไม่ให้เงยหน้ามองอวีถ้ งั
ไม่ได้ ท่าทีคล้ายว่าสนใจอยากรูเ้ ป็ นที่สดุ
อวีถ้ งั เดินขึน้ ไปอีกหลายก้าว จนหยุดที่ใต้ตน้ สนตื่นรู ้ นางมองหลี่จวิน้ แล้วเอ่ยว่า “ขอ
ถามทางคุณชายทุกท่านได้หรือไม่?”
หลี่จวิน้ ทําหน้าลังเล คุณชายที่อยู่ใกล้อวีถ้ งั ที่สดุ ลุกยืนขึน้ ดวงหน้าแดงแจ๋ แล้วเปล่ง
เสียงค่อนข้างสูงคล้ายตื่นเต้นออกมา “แม่นางท่านนี ้ ท่านสามารถถามข้าได้” พูดจบ ก็หนั ไป
ประสานมือคารวะอวีถ้ งั ทีหนึ่ง “ข้าสกุลเฉิน เป็ นคนหลินอัน อําเภอป่ านเฉียว อยู่ท่ีหมู่บา้ นเฉิน
เจียทางตะวันออกของป่ านเฉียว…”
บัณฑิตสกุลเฉินยังไม่ทนั ได้สาธยายจนจบ ก็ถูกคนผูห้ นึ่งผลักไปด้านข้าง แล้วโผล่มา
พูดกับอวีถ้ ังว่า “แม่นางไม่ตอ้ งฟั งเขา เขาเป็ นคนป่ านเฉียว จะรู ด้ ีกว่าข้าที่ทะเบียนราษฎร์อยู่
หมู่บา้ นหมีถวั ได้อย่างไร แม่นางต้องการถามทางไปที่ใดหรือ?”
“เฮ้ยๆ! ฟู่ เสี่ยวหวั่น เจ้าจะเกินไปแล้วนะ” บัณฑิตสกุลเฉินชีห้ น้าคนที่พดู กับอวีถ้ งั ด้วย
ความโมโห “กระทั่งกฎมาก่อนมาหลังยังไม่รูจ้ ัก เสียทีเป็ นถึงศิษย์สาํ นักขงจื่อ ผูเ้ ลื่อมใสใน
เมิ่งจื่อ”
“แล้วเกี่ยวอะไรกับการเรียนเล่า?” มีคนเดินเข้ามาจับไหล่คนที่ช่ือฟู่ เสี่ยวหวั่น หัวเราะ
ใส่บณ
ั ฑิตสกุลเฉินแล้วเอ่ยว่า “เฉินเหยา พวกเราช่วยแก้ปัญหาให้ผูอ้ ่ืน เป็ นแค่การทําความดี
182

เท่านัน้ นานาจิตตัง ต่างคนต่างคิด เจ้าอย่าคิดว่าผูอ้ ่ืนจะเหมือนกับเจ้า” อาจเพราะวาจานีไ้ ม่


น่าฟั งเท่าไร คนผูน้ นั้ จึงพูดไว้อย่างคลุมเครือ
ผูท้ ่ีถกู เรียกว่าเฉินเหยาโมโหจนเลือดขึน้ หน้า
ทันใดก็มีคนเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ “เอาล่ะ เอาล่ะ เฉินฟาง เฉินเหยา ฟู่ เสี่ยวหวั่น
พวกเจ้าพูดให้นอ้ ยลงหน่อย พวกเจ้าทําผูอ้ ่นื ตกใจเสียแล้ว”
อวีถ้ งั หันไปมอง เป็ นหลี่จวิน้
หลี่จวิน้ มอบรอยยิม้ อบอุ่นให้นาง ประสานมือคารวะแล้วเอ่ยว่า “แม่นาง สหายบัณฑิต
เหล่านีข้ องข้าล้วนเป็ นคนดี เพียงแค่ชอบล้อเล่นเท่านัน้ ไม่ได้ทาํ ให้ท่านตกใจกระมัง!”
ฟู่ เสี่ยวหวั่นปล่อยเสียงหัวเราะพรวดออกมา เอ่ยว่า “หลี่จวิน้ คนยืนพูดย่อมไม่ปวดเอว
1
44 คนอย่างเจ้า ข้าก็ไม่เห็นว่าจะมีมารยาทกว่ากันสักเท่าไร!”
“เสี่ ย วหวั่ น !” เฉิ น ฟางห้ า มปรามฟู่ เสี่ ย วหวั่ น มองออกได้ ทั น ที ว่ า พวกเขามี
ความสัมพันธ์ท่ีดีตอ่ กัน
ฟู่ เสี่ยวหวั่นไม่ได้พดู อะไรอีก
อวีถ้ งั พลันรูส้ กึ ยินดี
นางไม่ได้มองหาผิดคน ทัง้ ยังได้สนทนากับหลี่จวิน้ ด้วย
อวีถ้ งั เอ่ยกับหลี่จวิน้ ด้วยรอยยิม้ ว่า “คุณชายท่านนี ้ ขอบใจมาก! ข้าต้องการไปนํา้ ตกสี
ปี่ ไม่ทราบว่าต้องเดินไปทางใด?”
หลี่จวิน้ ชีท้ างบอกนางอย่างกระตือรือร้น “เจ้าตรงไปทางนี ้ จะมองเห็นมุมประตูสีแดง
แล้วเดินไปทางซ้ายก่อน…”

1
คนยืนพูดย่อมไม่ปวดเอว เปรียบเปรยถึง คนที่ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เดียวกันย่อมไม่เข้าใจ
183

เหล่าสหายข้างกายเขาพลันโห่รอ้ งขึน้ มาจากด้านหลัง


ฟู่ เสี่ยวหวั่นยิ่งกระเซ้าต่อว่า “ที่แท้แม่นางอยากให้คุณชายหลี่เป็ นคนบอกทางนี่เอง!
มิน่ามิสนใจพวกข้าเลย!”
เพียงแต่วาจานีข้ องเขายังไม่ทนั พูดจบ ก็ถูกเฉินฟางตบเข้าที่ไหล่เสียก่อน พลางเอ่ย
ตําหนิวา่ “พูดจาเหลวไหลอะไร?”
ฟู่ เสี่ยวหวั่นหัวเราะชอบใจ
มีคนพูดขึน้ ว่า “เขาเป็ นถึงคุณชายรองสกุลหลี่แห่งตอนใต้ นามว่าหลี่จวิน้ ชื่นชอบการ
ไปขี่ ม ้า ที่ ท างม้า เร็ว นอกเมื องที่ สุด แม่ น างจํา ไว้ให้ดี ครัง้ หน้า หากหลงทางอีก สามารถไป
สอบถามที่น่ นั ได้”
หลี่จวิน้ ทําท่ากระอักกระอ่วนอย่างหนัก แต่ก็ไม่ได้หา้ มปรามหรือปฏิเสธคําพูดของคนผู้
นัน้
อวีถ้ งั ประหลาดใจ
หลี่จวิน้ ทําเช่นนีห้ มายความว่าอย่างไร?
มิใช่เข้าใจผิดว่านางชอบพอเขากระมัง?
อวีถ้ งั กําลังขบคิดว่าทําอย่างไรจะกําจัดความเข้าใจผิดนีไ้ ปได้ ก็ได้ยินเฉินเหยาพูดด้วย
ท่าทีกะล่อนว่า “คุณชายหลี่ช่างไม่รูค้ วามเอาเสียเลย ยังไม่รีบถามอีกว่าแม่นางผูน้ ีเ้ ป็ นคนสกุล
ใด อย่าได้ทาํ ลายความรูส้ กึ อันลึกซึง้ ที่ผอู้ ่นื มีให้เสียเล่า”
วาจานีอ้ อกจะมากเกินไปหน่อย
อวีถ้ งั ขมวดคิว้
หลี่จวิน้ หันกลับไปถลึงตาใส่เฉินเหยาด้วยความไม่พอใจ
184

เฉินฟางเบิกตาโตด้วยความเดือดดาล ตวาดใส่เฉินเหยาไปว่า “พูดจาไม่เป็ นก็ไม่ตอ้ ง


พูด ไม่มีใครคิดว่าเจ้าเป็ นใบ้หรอก”
เฉินเหยาเอ่ยว่า “คุณชายเฉินมาจากสกุลใหญ่โต ทัง้ มาจากเมืองหังโจว เป็ นธรรมดาที่
จะไม่เห็นพวกบ้านนอกอย่างเราอยูใ่ นสายตา”
“เจ้าหมายถึงใคร?” ฟู่ เสี่ยวหวั่นออกหน้าแทนเฉินฟาง โมโหใส่อีกฝ่ ายว่า “เจ้าพูดจา
อะไรให้มนั น้อยๆ หน่อยนะ”
“ข้าพูดถึงเฉินฟาง เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย?”
พวกฟู่ เสี่ยวหวั่นกับเฉินเหยาเริม่ โต้เถียงกัน
หลี่จวิน้ ไม่เพียงเข้าไปช่วย แต่กลับยืนอยู่ตรงหน้าอวีถ้ งั อึกๆ อักๆ อยู่พกั ใหญ่ ประสาน
มือคารวะให้นางอีกรอบ เอ่ยว่า “ยังไม่ทราบเลยว่าแม่นางเป็ นลูกหลานสกุลใด? มีสาวใช้และ
บ่าวรับใช้ติดตามมาด้วยหรือไม่? ทางโน้นมีต่ งั หินเตีย้ หากว่าแม่นางไม่รงั เกียจ มิสไู้ ปนั่งพัก
สักครู ่ ข้าจะให้บา่ วรับใช้ไปตามคนของแม่นางมาที่น่ี”
อวีถ้ งั พลันเหมือนถูกแช่ในธารนํา้ แข็ง
ความจริงเข้าปะทะโดยไม่ทนั ตัง้ ตัว
นางคิดว่าตนต้องออกแรงเพิ่มอีกหน่อย ใครจะคิดว่าหลังจากไม่ก่ีประโยคของหลี่จวิน้ ก็
เปิ ดเผยเรื่องราวออกมาแล้ว
หลี่จวิน้ แต่เดิมก็ไม่รูจ้ กั นาง
ไม่รูด้ ว้ ยซํา้ ว่านางคือใคร
ฮูหยินหลี่โกหก!
แต่ทาํ ไมนางต้องโกหกด้วยเล่า?
เพราะต้องการให้นางแต่งกับหลี่จวิน้ หรือ?
185

ฮูหยินหลี่ตอ้ งการอะไรกันแน่?
ชาติก่อน นางสูญเสียบิดามารดา ครอบครัวตกตํ่า ขนาดสินเจ้าสาว ก็มีเหลืออยู่ไม่
เท่าไร?
เหตุใดฮูหยินหลี่ถึงดึงดันให้นางแต่งกับหลี่จวิน้ ให้ได้?
หรือเพราะฮูหยินหลี่รูว้ า่ หลี่จวิน้ มีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน?
อวีถ้ งั รีบปั ดความคิดนีต้ กไปทันที
ต่อให้หลี่จวิน้ จะจากไปเร็ว แต่สกุลหลี่จะหาหมิงฮุน 2 ให้หลี่จวิน้ ก็ใช่ว่าจะทําไม่ได้ เหตุ
45

ใดต้องทําเรื่องให้วนุ่ วายซับซ้อน จะต้องเป็ นนางให้ได้ดว้ ย?


อวีถ้ งั คิดไม่ออกจริงๆ

ชัน้ สองของหอเก็บคัมภีรท์ ่ีตงั้ อยู่ดา้ นข้าง เผยเยี่ยนได้เห็นทุกความเคลื่อนไหวอยู่ใน


สายตา ใบหน้าขมวดเกร็งแน่น ดวงหน้าเดิมที่ไร้ซง่ึ อารมณ์ย่ิงเย็นเยียบ หนาวยะเยือก
ยังไม่ทนั เข้าหน้าหนาว ก็ทาํ ให้คนรูส้ กึ เย็นเยือกถึงไขกระดูกได้แล้ว
ท่านอาจารย์ฮุ่ยคงเจ้าอาวาสวัดเจาหมิงที่มาถึงได้ไม่นานมองมือแข็งเกร็งที่บีบราว
ระเบียงสีแดงเข้มอยู่ มันขาวผ่องดั่งหยก ยาวเรียวดั่งลําไผ่ แต่กลับกุมอํานาจของสกุลเผยไว้ใน
มือ ทําให้คนมองไม่กล้าขยับตัว และอดจะลอบส่ายหน้าในใจมิได้ “ประสกมองดูอะไรจากตรง
นีห้ รือ?”
เผยเยี่ยนดึงสายตากลับมา มองฮุ่ยคงอย่างเฉยเมยทีหนึ่ง มิได้สง่ เสียงใดๆ

2
หมิงฮุน คือพิธีแต่งงานหลังความตาย เป็ นประเพณีการจัดพิธีแต่งงานให้แก่ชายหรือหญิงที่เสียชีวิตไปแล้ว ด้วยเชื่อว่า
ดวงวิญญาณของผูต้ ายจะเป็ นสุขและส่งผลให้สกุลเจริญรุง่ เรื่อง
186

ฮุ่ยคงไม่ได้ถือสา เดินไปที่ขา้ งกายเขา มองเหล่าชายหญิงให้ตน้ สนตื่นรู ้ แล้วเอ่ยยิม้ ๆ


ว่า “หากว่าประสกไม่มีความเห็นอื่น อาตมาอยากเชิญให้ประสกดูภาพม้วนหนึ่ง”
เผยเยี่ยนไม่ได้พดู จา เส้นลมปรานสีเขียวจางๆ นูนขึน้ หลังมือเขา คล้ายว่ามือนัน้ จะกํา
แน่นยิ่งกว่าเดิม
ฮุ่ยคงชีไ้ ปที่พวกอวีถ้ งั กับหลี่จวิน้ ที่อยู่เบือ้ งล่าง เอ่ยว่า “ประสกท่านดูน่นั สิ!”
เขาไม่คาดหวังว่าเผยเยี่ยนจะตอบกลับ ดังนัน้ จึงเอ่ยต่อไป “พวกเรามองลงไปจากชัน้
สอง รูส้ กึ เพียงว่าพวกเขาเป็ นกิ่งทองใบหยก สวรรค์สรรสร้างคู่หนึ่ง คุณชายท่านนัน้ คล้ายว่าจะ
ปั ก ใจต่อแม่น างท่ า นนั้น ยิ่ ง นัก เขาพูดคุย กับนางด้ว ยท่ า ที ระมัดระวัง ยิ่ง แต่ความจริง แล้ว
คุณชายกับแม่นางท่านนัน้ ไม่ได้รูจ้ กั กันสักนิด อีกอย่างเป็ นแม่นางท่านนัน้ ที่เดินเข้าไปเสวนา
กับคุณชายท่านนัน้ เอง เห็นได้วา่ ความจริงกับสิ่งที่คิดนัน้ มีระยะห่างที่ไกลกันลิบลับ”
“ข้ากับบิดาท่านเดินเส้นทางคนละสาย ตอนที่เขาเรียกท่านกลับมา ก็เคยพูดให้ขา้ ฟั ง
อยู่”
“ตอนนัน้ ข้าคิดว่าบิดาท่านทําถูกต้อง”
“แต่ใครจะรูว้ า่ บิดาท่านจะจากไปด้วยเหตุนี?้ ”
“ดังนัน้ ท่านก็ตดั จิตตัดใจเสียเถิด อย่าให้สิ่งที่คิดซ้อนทับกับความจริง อย่าใช้อนาคต
มาลงทัณฑ์ปัจจุบนั อีกเลย”
“ท่านควรอยู่กบั เวลาตรงหน้า”
“ไม่อย่างนัน้ ที่ท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผยเรียกท่านกลับมาจะมีความหมายอันใดเล่า?”
เผยเยี่ยนหลุบตาลง
ขนตายาวงอนเหมือนกับพัดที่เรียงเส้นเป็ นระเบียบ ทิง้ เป็ นเงาสายหนึ่งใต้ดวงตา
187

ฮุ่ยคงจ้องมอง ท่องว่า ‘อามิตตาพุทธออกมาคําหนึ่ง’ แล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนาว่า


“ประสกต้องการยืมหอคัมภีรใ์ ช้งาน นับเป็ นเกียรติของทางวัดยิ่งนัก ไม่ทราบว่าประสกสนใจ
ตําราเล่มไหนในหอคําภีร?์ ปกติอาตมามักจะท่อง ‘จินกังจิง 3’ เป็ นประจํา ไม่รูว้ ่าประสกเคย
46

อ่านหรือไม่?”
จู่ๆ เผยเยี่ยนก็ลืมตาขึน้ มา จากนัน้ ก็เอ่ยเสียงเย็นตัดบทฮุ่ยคงว่า “ซินจิง 4” 47

ฮุ่ยคงพลันคิดตามไม่ทนั “อะไรนะ?”
“ข้าบอกว่า ‘ซินจิง’” สายตาของเผยเยี่ยนยังคงอยู่ท่ีเก่า พูดว่า “ท่านถามว่าข้าสนใจ
อะไร ข้าสนใจ ‘ซินจิง’”
ฮุ่ยคงถอนหายใจยาวเหยียด
เผยเยี่ยนยอมพูดคุยกับเขานับว่าใช้ได้แล้ว
หลังจากที่ท่านผูเ้ ฒ่าเผยสิน้ ไป เผยเยี่ยนก็ไม่คบค้ากับผูอ้ ่นื อีก วาจาที่เอ่ยออกมาก็แฝง
ไอสังหารราวอยู่กลางสนามรบ ไม่เพียงทําให้คนรอบข้างเขาอึดอัด ทัง้ ยังเกิดข่าวลือมากมายที่
ส่งผลเสียกับสกุลเผยอีกด้วย
นี่คือสิ่งที่พระอาจารย์ฮ่ยุ คงผูม้ ีสมั พันธ์แน่นแฟ้นกับท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผยไม่อยากเห็น
“ตัง้ แต่เล็กเจ้าก็มีความสามารถขอเพียงผ่านตาก็จาํ ได้ไม่ลืม ‘ซินจิง’ สัน้ ๆ แค่รอ้ ยกว่า
ตัวอักษร คิดว่าคงถูกเจ้าท่องได้ขึน้ ใจแล้ว…” ฮุ่ยคงทางหนึ่งพูดกับเผยเยี่ยน ทางหนึ่งก็มองริม
ฝี ปากที่เมื่อครูก่ ระตุกขึน้ ของเขา จึงอดจะหันไปมองตามสายตาเขาไม่ได้ ก็เห็นว่าสตรีท่ีเดิมยืน

3
จินกังจิน คือ วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร เป็ นชื่อพระสูตรสําคัญหมวดปรัชญาปารมิตาของพระพุทธศาสนาฝ่ ายมหายาน
เชื่ อกันว่าพระสูต รหมวดปรัช ญาปารมิต านี เ้ ป็ นพระสูต รมหายานรุ ่นแรก ๆ ที่เกิ ด ขึน้ มีค วามหมายตามตัวอัก ษรว่า
พระสูตรว่าด้วยปั ญญาญาณอันสมบูรณ์ประดุจเพชรที่จะตัดภาพมายา คืออวิชชาและอุปาทานอันเป็ นเครื่องกีดขวางมิให้
บุคคลบรรลุถึงความรูแ้ จ้ง
4
ซินจิง คือ ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร พระสูตรที่สาํ คัญและเป็ นที่นิยมยิ่งในพุทธศาสนาฝ่ ายมหายาน มีความหมายตาม
ตัวอักษรว่า พระสูตรอันเป็ นหัวใจแห่งปฏิปทาอันยวดยิ่งแห่งความรูแ้ จ้ง
188

อยู่ใต้ตน้ สนตื่นรู น้ ัน้ หายไปแล้ว มีเพียงหลี่จวิน้ คุณชายรองสกุลหลี่ยืนอยู่คนเดียวอย่างโดด


เดี่ยว
เหล่าบัณฑิตอายุนอ้ ยที่อยู่หลังเขายังโต้เถียงกันไม่เลิก ทว่าสีหน้าเขากลับงงงวย ราว
กับว่าถูกคนทอดทิง้ อย่างนัน้
เกรงว่าคงมีอีกหนึง่ เหตุการณ์เกิดขึน้ กระมัง
ฮุ่ยคงดึงความคิดกลับมา แล้วคุยเรื่อง ‘ซินจิง’ กับเผยเยี่ยนต่อ เขาอยากใช้ช่องทางนี ้
คลี่คลายปมในใจของเผยเยี่ยน

อวีถ้ งั นัน้ ถูกหม่าซิ่วเหนี่ยงลากออกไป


ตอนที่หม่าซิ่วเหนี่ยงได้ยินเสียงเอะอะมาจากคนกลุม่ นัน้ ก็กลัวอวีถ้ งั จะเจอเรื่องวุน่ วาย
นางจึงเดินสองก้าววิ่งสามก้าวเข้าไปหา แล้วพูดกับหลี่จวิน้ อย่างรีบร้อนว่า “ขออภัย ข้ากับ
น้องสาวเดินพลัดหลงกัน” จากนัน้ ก็ลากอวีถ้ งั ออกมาจากใต้ตน้ สนตื่นรู ้
อวีถ้ งั ก้าวขาสูงบ้างตํ่าบ้าง กระทั่งปี นขึน้ มาถึงเส้นทางบนเขาที่พ่งุ ตรงสู่นา้ํ ตกสีป่ี แล้ว
จึงพอหายใจหายคอได้
นางแทบจะอยากพุง่ กลับเรือนเสียเดี๋ยวนัน้ เพื่อเล่าสิ่งที่ตวั เองค้นพบให้มารดาฟั ง แล้ว
สืบหาให้กระจ่างว่าเหตุใดทัง้ สองชาตินีฮ้ หู ยินหลี่ถึงอยากได้นางเป็ นสะใภ้
แต่ว่าไม่ง่ายที่หม่าซิ่วเหนียงจะได้ออกมาข้างนอกพร้อมกับคุณชายจาง นางจึงไม่อาจ
สนใจแต่ตวั เองแล้วละเลยผูอ้ ่นื ได้
189

ตอนที่ 23 ไม่รู้
อวีถ้ งั กลัวหนักหนาว่าเรื่องราวจะซํา้ รอยเก่า ต้องไปพัวพันกับสกุลหลี่อีกชาติ แต่ก็ไม่
อยากให้หม่าซิ่วเหนียงต้องหมดสนุก จึงค่อยๆ เรียกอาเสามาหาแล้วเอ่ยว่า “เจ้ากลับไปบอก
ท่านแม่ขา้ นะ ฮูหยินหลี่โกหก ก่อนที่ขา้ จะกลับเรือนไป ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตามห้ามตอบตกลง
สกุลหลี่เด็ดขาด”
อาเสาจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่วันนี อ้ วีถ้ ังมาเพื่อดูคุณชายรองสกุลหลี่ เมื่อครู ่ก็ยัง
สนทนากับคุณชายรองสกุลหลี่อยู่เลย อวีถ้ งั กลับรอไม่ไหวจนให้เขากลับเรือนไปส่งข่าวก่อน คิด
ว่าเรื่องนีต้ อ้ งสําคัญมากเป็ นแน่ จึงรีบตอบรับคํา แล้ววิ่งลงเขาไปอย่างไม่เห็นฝุ่ น
อวีถ้ งั ค่อยสงบใจลงได้ ถึงพอมีอารมณ์ไปนํา้ ตกสีป่ี เป็ นเพื่อนหม่าซิ่วเหนียง
ในใจหม่าซิ่วเหนียงเริ่มเกิดความเคลือบแคลงเอ่ยกับอวีถ้ งั ว่า “เป็ นเพราะคุณชายรอง
สกุลหลี่พดู อะไรที่ไม่เหมาะสมหรือ? เมื่อครูข่ า้ ได้ยินพวกเขาเอะอะเสียงดังกัน!”
ตามความคิดนาง บุรุษนิสยั เช่นนีน้ ับว่าใช้ไม่ได้อย่างที่สุด ต่อให้พืน้ ฐานครอบครัวดี
อย่างไร หน้าตางดงามเพียงไหน ก็ไม่อาจตอบตกลงได้
สองชาติท่ีผ่านมา หลี่จวิน้ ไม่เคยทําเรื่องใดที่ผิดต่ออวีถ้ ัง อวีถ้ ังก็ไม่ได้กล่าวโทษเขา
เพียงเพราะสหายเขาเช่นกัน
นางตอบว่า “มิใช่หรอก ข้าแค่ไม่ชอบคนที่หน้าตาอย่างเขาเท่านัน้ เอง”
หม่าซิ่วเหนียงรู ส้ ึกเสียดายเล็กน้อย “เช่นนัน้ ก็ช่วยไม่ได้แล้ว ลางเนือ้ ชอบลางยา ไม่
อาจบังคับกันได้”
ยิ่งอวีถ้ งั ได้รูจ้ กั หม่าซิ่วเหนียงมากเท่าไร ก็ย่ิงรูส้ กึ ว่านางเข้าอกเข้าใจและใส่ใจผูอ้ ่ืนนัก
นับว่าเป็ นสหายที่หาได้ยากคนหนึ่ง
190

นางหัวเราะแล้วคล้องแขนหม่าซิ่วเหนียงไว้ เรียกนางว่า ‘พี่สาว’ อย่างสนิทชิดเชือ้ แล้ว


ชวนคุยเรื่องที่นางสนใจ “วันแต่งงานของเจ้ากับคุณชายจางกําหนดแล้วหรือ? ถึงเวลานัน้ ยัง
ต้องสั่งทําเครื่องเรือน สั่งทําขนมเปี๊ ยะมงคล เชิญเฉวียนฝูเหริน 1 อีก จะทันการหรือไม่?”
48

“ทันสิ!” หม่าซิ่วเหนียงยอมเปลี่ยนบทสนทนาตามคาด นางเล่าเรื่องของตัวเองอย่างมี


ความสุข “เครื่องเรือนพวกนัน้ ท่านแม่ขา้ แต่ก่อนก็ส่ งั ทําหีบไม้การบูรไว้ให้สองใบแล้ว ส่วน
อย่างอื่น ก็ให้ใช้ของสกุลจางไปก่อน มีเท่าไรก็เท่านัน้ …”
สองคนคุยกันไป ไม่นานก็มาถึงนํา้ ตกสีป่ี
นํา้ ตกสีป่ี เป็ นเพียงตานํา้ เล็กๆ ใต้ตานํา้ มีแอ่งขนาดไม่ใหญ่นกั ซึง่ ครึง่ หนึ่งซ่อนอยูใ่ ต้โขด
หินและอีกครึง่ หนึ่งโผล่ออกมาด้านนอก ความกว้างไม่เกินสามฉื่อ ลึกไม่ถึงหัวเข่า นํา้ ใสแจ๋วจน
เห็นถึงก้น สองข้างมีตน้ ไม้ท่ีลาํ ต้นหนาเท่าปากชาม ไม่รูว้ ่าเป็ นต้นอะไร ทว่ากิ่งก้านแผ่กว้างดั่ง
ร่ม กิ่งที่เตีย้ หน่อยก็ละอยู่บนผิวแอ่งนํา้ ยังมีใบไม้ไม่รูช้ ่ือที่ลอยอยู่บนผิวนํา้ อีกด้วย
สตรีออกเรือนเจ็ดแปดคนกําลังมุงรอบแอ่งนํา้ เพื่อตักนํา้ อยู่
จางฮุ่ยพาเด็กรับใช้ไปยืนรออยู่ท่ีหินปูนตะแคงนอนก้อนใหญ่ท่ีอยู่ไกลๆ พอเห็นพวก
นางดวงตาก็วาววับ
หม่าซิ่วเหนียงเม้มปากกลัน้ ยิม้
สองคนไม่ได้พดู จากันสักคํา แต่อารมณ์บนหน้ากลับเปรมปรียย์ ่ิงนัก ทําให้คนมองรูส้ กึ
สบายตาไม่นอ้ ย

1
เฉวียนฝูเหริน หมายถึง คนสําคัญในงานแต่ง สตรีท่ีบิดามารดายังมีชีวิตและแข็งแรงดี มีสามี และมีบุตรสาวบุตรชาย
ตามธรรมเนียมแต่งงานพืน้ บ้าน มีหลายขัน้ ตอนที่ตอ้ งให้นายหญิงผูน้ ีค้ อยชีแ้ นะ เพื่อให้สามีภรรยาโชคดีสมปรารถนาใน
อนาคต
191

อวี ถ้ ัง เห็น ว่า เส้น ทางบนเขาที่ มุ่ง สู่นา้ํ ตกสี ป่ี ยัง คดเคีย้ วต่อไปเบือ้ งบนอีก คล้า ยว่า
สามารถปี นขึน้ ไปได้ นางจึงอดจะหัวเราะแล้วกระซิบกับหม่าซิ่วเหนียงไม่ได้ว่า “พวกเจ้าอยาก
ปี นเขาหรือไม่? ข้ากับสี่เชวี่ยจะพักอยู่ท่ีน่ี ดื่มนํา้ สักนิดแล้วค่อยไป”
หม่าซิ่วเหนียงหน้าแดงกํ่า ตอบด้วยเสียงอันเบา “เจ้าไปปี นเขากับพวกเราจะดีกว่า”
อวีถ้ งั ส่ายหน้าดิกๆ รีบเอ่ยว่า “ข้าเหนื่อยแล้ว ข้าจะพักอยู่ท่ีน่ีแหละ”
หม่าซิ่วเหนียงไม่มีทางปล่อยนางทิง้ ไว้อย่างไม่ไยดีแน่ นางกําลังจะพูดอะไรต่อ อวีถ้ งั ก็
เอ่ยขัดขึน้ มาเสียก่อน “เมื่อครูข่ า้ เพิ่งได้เจอคุณชายรองสกุลหลี่ ข้าอยากจะอยู่เงียบๆ คนเดียว
พิจารณาว่าต่อไปจะทําอย่างไรดี”
หม่าซิ่วเหนียงคิดตามแล้วก็เห็นด้วย ไม่เกลีย้ กล่อมนางอีก แล้วหันไปกําชับสี่เชวี่ยอีก
หลายประโยค พอเห็นว่าคนที่มาตักนํา้ เหลือน้อยลงแล้ว จึงได้ส่งสายตาให้จางฮุ่ยทีหนึ่ง ก่อน
จะเดินขึน้ เขาไป
จางฮุ่ยไม่รูว้ า่ เกิดเรื่องอะไรขึน้ มองอวีถ้ งั ทีหนึ่งอย่างสงสัย รอกระทั่งหม่าซิ่วเหนียงเดิน
ไปได้ระยะหนึ่งแล้ว เขาถึงได้ตามไป
อวีถ้ งั กําลังใคร่ครวญอยู่จริงๆ ว่าต่อไปจะทําอย่างไร
เรื่องราวของสกุลหลี่อย่างไรก็ตอ้ งสืบให้กระจ่าง มิเช่นนัน้ ต่อให้นางแต่งเขยชายแล้ว
เฝ้าอยู่ในเรือน สกุลหลี่ก็มีวิธีท่ีจะจัดการสกุลนางได้อย่างง่ายดาย
ชาติก่อนนางได้ตาสว่างกับสารพัดอุบายของสกุลหลี่แล้ว
ไม่รูเ้ พราะเหตุใด อวีถ้ งั พลันคิดไปถึงนายท่านสามสกุลเผย
นางพลันรูส้ กึ ว่า นางคิดเช่นนีไ้ ม่ถกู ต้องทัง้ หมด
หากว่านางร้องขอความคุม้ ครองจากสกุลเผย สกุลหลี่คงไม่กล้าเล่นงานสกุลอวีไ้ ด้
ตามใจ
192

ปั ญหาเกิดขึน้ ตรง ‘ตามใจ’ สองคํานีน้ ่ีเอง


เหตุใดสกุลเผยต้องยอมเป็ นปฏิปักษ์กบั สกุลหลี่เพียงเพราะสกุลของนางด้วยเล่า?
สิ่งที่ฮหู ยินหลี่ตอ้ งการมีความสําคัญกับสกุลหลี่มากมายเพียงใด สกุลหลี่คงไม่ยินยอม
แตกหักกับสกุลเผยเพราะสิ่งนีก้ ระมัง?
คิดถึงสิ่งเหล่านี ้ อวีถ้ งั เริม่ รูส้ กึ รําคาญใจ
เหตุใดสกุลนางจะต้องพึ่งพาสกุลเผยหรือว่ายอมโอนอ่อนต่อสกุลหลี่ดว้ ยเล่า?
พูดไปพูดมา ต้องยอมรับว่าเพราะสกุลนางไม่มีอาํ นาจบารมีเพียงพอ
ทว่าสกุลนางมีคนหนุ่มไม่ก่ีคน จะให้ญาติผพู้ ่ีไปเล่าเรียนวิชาตอนนีก้ ็คงไม่ทนั การแล้ว!
อย่างไรนํา้ ไกลก็ดบั ความกระหายในตอนนีไ้ ม่ได้
นี่ยงั พอจะมีหนทางที่สองให้เดินหรือไม่?
ทํากิจการค้าขายต่อไป ย้ายไปจากหลินอัน?
เมืองหังโจวมีขุนนางและชนชัน้ สูงมากมาย พวกเขาย้ายมาจากต่างถิ่น ยากนักที่จะ
ได้รบั การคุม้ ครองจากสกุลใหญ่ๆ เช่นนัน้ มิสอู้ ยู่ท่ีหลินอัน อย่างไรรอบข้างก็ยงั มีเพื่อนบ้านที่รู ้
กําพืดกันดี สกุลอวีเ้ ป็ นมิตรกับทุกคนอยู่แล้ว หากว่าสกุลนางเกิดเรื่อง เพื่อนบ้านในตรอกย่อม
ยื่นมือช่วยเหลือ
ชาติก่อน หลังจากที่บิดามารดาของนางจากไป นางก็ได้รบั การช่วยเหลืออย่างมากจาก
พวกเขา
เฮ้อ!
ไปทางขวาก็ยาก ไปทางซ้ายก็ยากจริงๆ เลย
หากว่านายท่านสามเจอปั ญหาแบบนี ้ ไม่รูว้ า่ เขาจะแก้สถานการณ์อย่างไร?
193

อวีถ้ งั นั่งขบคิดอย่างกลัดกลุม้ อยู่ตรงนัน้


สี่เชวี่ยเห็นว่านางนั่งเงียบๆ แน่น่ิงอยู่ตรงนัน้ ไม่พดู ไม่จามาเกือบสองเค่อได้แล้ว รู ส้ ึก
เบื่อหน่ายเล็กน้อย จึงหลบไปม้วนกิ่งไม้เป็ นมงกุฎเล่นตรงบริเวณที่สามารถมองเห็นนางได้
ง่ายๆ
มีคนเดินมาตักนํา้ อีกแล้ว
อวีถ้ งั มองตามไป
เป็ นเด็กน้อยอายุสิบสองสิบสามปี มัดผมสองแกละ สวมต้าวผาวหังโจวสีม่วง ในอก
กอดถังไม้ใบเล็กอยู่ใบหนึ่ง ดวงหน้ากลมดิกสีอมชมพู มองแล้วน่าเอ็นดูย่งิ นัก
เมื่ อ รู ส้ ึก ว่ า ถูก อวี ถ้ ัง จับ จ้อ ง เขาก็ ม องอวี ถ้ ัง กลับ ด้ว ยความอยากรู ้ ก่ อ นสี ห น้า จะ
เปลี่ยนเป็ นตกตะลึงในภายหลัง เป็ นนานก็ไม่ยอมย้ายสายตาหนี
อวีถ้ งั มองว่ารอบด้านไร้ผคู้ น เด็กคนนีก้ ็น่ารักน่าชังนัก จึงกระเซ้าเขาว่า “เจ้ารูจ้ กั ข้า?”
เด็กน้อยเหมือนได้รบั ความตกใจ พลันส่ายหน้ารัว ไม่กล้ามองนางอีก แล้วหมุนกายไป
ตักนํา้
อวีถ้ งั เห็นแล้วรูส้ กึ ขัน อารมณ์ก็เริม่ ดีขนึ ้ ไม่นอ้ ย
เด็กน้อยทางหนึง่ ก็ตกั นํา้ ไป ทางหนึ่งก็แอบมองนาง เหมือนว่านางเป็ นเสือตัวใหญ่ท่พี อ
อ้าปากก็จะจับเขากลืนลงไปอย่างไรอย่างนัน้ น่าสนุกเป็ นที่สดุ
อวีถ้ งั เอ่ยว่า “เจ้ากําลังจะทําอะไรหรือ?”
แม้ถงั ไม้ในอกเขาจะใบเล็ก แต่ดแู ล้วสามารถใส่นา้ํ ได้ถึงสี่หา้ จิน เด็กคนนีอ้ ายุยงั น้อย
เวลาสัน้ ๆ คงไม่เป็ นไร แต่ถา้ ระยะทางไกล คิดว่าคงอุม้ ไม่ไหวแน่ อีกอย่างเด็กคนนีก้ ็แต่งตัว
เหมือนคนสกุลสูงศักดิ์ ทว่ากลับทําเรื่องที่เป็ นหน้าที่ของบ่าวรับใช้ เชื่อว่าคงเป็ นนายท่านสักคน
194

ที่เลีย้ งไว้เป็ นเพื่อนเรียนแน่ๆ อีกอย่างคนผูน้ ีต้ อ้ งไม่เพียงรํ่ารวยเท่านัน้ ทัง้ ต้องปฏิบตั ิต่อบ่าวรับ


ใช้ขา้ งกายเป็ นอย่างดี ไม่เช่นนัน้ สีหน้าของเด็กน้อยคงไม่มีชีวิตชีวาร่าเริงเพียงนี ้
นางคิดว่าเก้าในสิบส่วน เด็กคนนีต้ อ้ งตามเจ้านายสกุลใดมาเที่ยวเล่นที่วดั เจาหมิงเป็ น
แน่
เด็กน้อยครุน่ คิด บอกเสียงเขินอายว่า “เป็ นท่านเจ้าอาวาสต้องการต้มชา นายท่านของ
ข้าจึงให้มาตักนํา้ ”
บ่าวรับใช้ในเรือนยังแต่งกายขนาดนี ้ จะได้รบั การดูแลจากเจ้าอาวาสวัดเจาหมิงด้วย
ตนเองก็เป็ นเรื่องปกติอยู่
อวีถ้ งั หัวเราะ บอกว่า “ข้าได้ยินมาว่านํา้ ตกนีด้ ่ืมแล้วชําระสายตาชําระปอด ไม่รูว้ ่าใช้
ต้มชาได้ดว้ ย แล้วต้มชาอร่อยหรือไม่เล่า?”
เด็ ก น้อ ยได้ยิ น ก็ เ อ่ ย ยิ ้ม ๆ ว่ า “ไม่ อ ร่ อ ย! ทว่ า เจ้า อาวาสพู ด แล้ว การดื่ ม ชาคื อ
เจตนารมณ์ของท่านเจ้าอาวาส ทว่านายท่านเรือนข้ามิชอบหักหน้าผูอ้ ่นื จึงปล่อยเขาทําตามใจ
อย่างไรนายท่านข้าก็ไม่ด่มื อยู่แล้ว”
อวีถ้ งั ได้ฟังก็ชะงักไป ถึงกับวิจารณ์เจ้าอาวาสวัดเจาหมิงเช่นนี…
้ นางรูส้ กึ ว่านายท่าน
ของเด็กคนนีน้ ่าสนใจไม่นอ้ ย จึงหัวเราะเสียงดังออกมา
เด็ ก น้อยเห็น แล้ว ก็ หัวเราะตามนางเช่ น กัน คล้า ยว่า ยิ่ง ให้ความสนิท กับอวี ถ้ ังมาก
กว่าเดิม
เขายกถังไม้ท่ีตกั นํา้ ได้ครึง่ หนึง่ แล้ววางไว้บนแผ่นหินข้างๆ แล้วเล่าอย่างตัดพ้อกึ่งภูมใิ จ
ว่า “จริงๆ นะ! นายท่านของข้าพูดแล้ว นํา้ ตกอันดับหนึ่งในใต้หล้า นํา้ หิมะพันปี อะไรกัน ล้วน
แต่เป็ นพวกปั ญญาชนว่างงานแต่งออกมาเพื่อมอมเมาผูค้ นเท่านัน้ ไม่วา่ จะเป็ นนํา้ อะไร พักไว้ก่ี
วัน ล้วนใช้ได้เหมือนกันหมด นายท่านของข้ายังเคยพูดอีกว่า นายท่านมีศิษย์นอ้ งอยู่คนหนึ่ง
ซือ้ เรือมาหนึ่งลํา กลางคืนดึกดื่นก็จอดไว้กลางแม่นา้ํ พอเรือจมลงไปได้สามจัง้ ค่อยตักนํา้ หนึ่ง
195

ถังขึน้ มาชงชา ทัง้ ยังต้องแบ่งตามหน้าร้อนหนาวผลิโรยอะไรอีก เป็ นปุถุชนกลับแก่งแย่งกรีด


กราย ชั่วนาทีพลันหลงใหลได้ปลืม้ ล้วนแต่เป็ นคนบ้าทัง้ สิน้ ”
อวีถ้ งั หัวเราะฮ่าๆ สุดเสียง หันไปยกนิว้ หัวแม่มือให้เด็กน้อย เอ่ยว่า “นายท่านของเจ้า
ช่างเป็ นปั ญญาชนที่ไม่ถือเนือ้ ถือตัว มีปณิธานอันยิ่งใหญ่โดยแท้”
เด็กน้อยฟั งแล้วก็เผยสีหน้าภูมิใจออกมา กอดถังไม้ใบน้อยเอาไว้ พลางเอ่ยว่า “ท่าน
เจ้าอาวาสกับนายท่านของข้ากําลังรอนํา้ จากข้าอยู่ ข้าต้องไปก่อนแล้ว”
อวีถ้ งั หันไปโบกมือให้เขาแล้วบอกว่า “เดินช้าหน่อย ระวังจะหกล้มล่ะ”
เด็กน้อยพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย แล้วถามนางว่า “ทําไมเจ้าถึงมาอยู่ท่ีน่ีคนเดียว? หรือ
ว่า รอข้าเอานํา้ ไปส่งแล้ว ข้าแจ้งกับนายท่านสักคํา แล้วมาอยู่เป็ นเพื่อนเจ้าดีหรือไม่ รอให้คน
ของเรือนเจ้ากลับมาข้าค่อยจากไป?”
“ไม่ตอ้ งหรอก!” อวีถ้ งั ชีไ้ ปทางสี่เชวี่ยที่อยู่ไกลๆ “ข้าจะพักอยู่ท่ีน่ีสกั ครู!่ ”
เด็กน้อยทําท่าถอนหายใจ แล้วบอกลานางด้วยรอยยิม้ ก่อนจะเดินอุม้ ถังไม้จากไป
อวีถ้ งั ครุน่ คิดเรื่องสกุลหลี่ตอ่
ถ้าหากไม่อาศัยผูอ้ ่นื ทําอย่างไรจะรอดพ้นจากสกุลหลี่ได้?
สกุลหลี่มีผใู้ ดหรือเรื่องใดสามารถหลอกใช้ได้บา้ ง?
นางค่อยๆ ระลึงถึงเรื่องราวที่เกิดขึน้ หลังจากนางแต่งเข้าสกุลหลี่ในชาติก่อน
ภายหลังสกุลหลี่ร่าํ รวยขึน้ มาจากการค้าขายทางทะเล ไม่เหมือนกับคนเมืองหลินอัน
คนอื่นๆ คนเมืองหลินอันที่คา้ ขายทางทะเล ล้วนต้องหาลู่ทางผ่านหังโจว ทว่าสกุลหลี่นั้นมี
ลูท่ างจากฝั่งฝูเจีย้ น เป็ นเส้นสายที่สกุลฝั่งมารดาของฮูหยินหลี่ติดต่อให้ วิธีการที่สกุลหลี่ใช้ก็ย่งิ
รวดเร็วและดุดนั ซึง่ ก็คอื หลังจากรํา่ รวยอูฟ้ แล้ ู่ ว ก็กาํ เริบเสิบสานใช้ตาํ แหน่งขุนนางเป็ นโล่กาํ บัง
แต่น่ีลว้ นเป็ นสิ่งที่ตอนนีย้ งั ไม่เกิดขึน้ เดิมก็ไม่อาจใช้เป็ นจุดอ่อนอะไรได้
196

แน่นอนว่า ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่สามารถใช้ได้ นั่นก็คือความปรารถนาที่หลี่ตวนมีตอ่ นาง


ทว่ามันน่าขยะแขยงเกินไป
นางยอมตายยังดีกว่าได้ใช้ประโยชน์จากเรื่องนี ้
คิดถึงตรงนี ้ สายตานางก็สว่างวาบ
แล้วหลี่จวิน้ เล่า?
ถ้านางหลอกใช้หลี่จวิน้ เล่า?
อย่างเช่น เรื่องที่หลี่จวิน้ ตายไปด้วยอุบตั ิเหตุ
หากว่านางช่วยหลี่จวิน้ ได้ ย่อมเป็ นเจ้าบุญคุณเขา แล้วขอให้เขาเอ่ยสัตย์สาบาน ไม่
แต่งนางเป็ นภรรยา และไม่วางตัวเป็ นศัตรูกบั สกุลอวี?้
อวีถ้ งั ยิ่งคิดก็ย่งิ รูส้ กึ ว่าแผนนีเ้ ป็ นไปได้
ปั ญหาที่ใหญ่ท่ีสดุ ก็คือต้องกําจัดความสนใจที่หลี่จวิน้ มีตอ่ นาง
เช่นนั้นก็ตอ้ งบอกปฏิเสธหลี่จวิน้ ให้ชัดเจนเป็ นกิจลักษณะ หรือว่ารีบหาคนมาหมัน้
หมายให้เร็วที่สดุ จากนัน้ ก็จดั การให้คหู่ มัน้ ของนางไปช่วยชีวิตหลี่จวิน้ เสีย
ภรรยาของผูม้ ีพระคุณ อย่างไรเขาย่อมไม่กล้ารังแกแน่!
อวีถ้ งั รูส้ กึ ว่าความกลัดกลุม้ ตลอดหลายวันค่อยๆ สลายไป อารมณ์เริม่ เบิกบานขึน้ แล้ว
ทว่า สุดท้ายก็ตอ้ งลุกขึน้ มาเข้มแข็งด้วยตัวเองให้ได้จงึ จะดี
แต่ตอนนีน้ างยังไม่มีความคิดดีๆ เลย ได้แต่คอ่ ยๆ พิจารณาไปช้าๆ
อวีถ้ งั ติดสินใจเป็ นมั่นเป็ นเหมาะ นางเดินไปหาสี่เชวี่ย แล้วทํามงกุฎดอกไม้ดว้ ยกัน
197

รอกระทั่งหม่าซิ่วเหนียงกับจางฮุ่ยกลับมา นางก็แบ่งมงกุฎดอกไม้ให้หม่าซิ่วเหนียงไป
หลายอัน
เพื่อหลีกเลี่ยงพวกของหลี่จวิน้ พวกนางไม่ได้รบั ประทานอาหารเจที่วดั เจาหมิง แต่ซือ้
ของว่ า งเจที่ มี เ ฉพาะแต่ วัด เจาหมิ ง เท่ า นั้น มาหลายกล่ อ ง แล้ว หยิ บ ยื ม มุม ลับ สายตาของ
ร้านอาหารข้างทางในหมู่บา้ นหมีถวั นั่งกินเสบียงที่ตวั เองเตรียมกันมา รอจนอาเสามารับ พวก
เขาจึงแยกย้ายกลับทางใครทางมัน
198

ตอนที่ 24 ชื่อเสียง
เฉินซื่อชะเง้อชะแง้คอมอง เป็ นนานกว่าอวีถ้ งั จะกลับมาถึงเรือนได้ นางไม่รอให้อวีถ้ งั
ลงมาจากเกีย้ วแล้วยืนให้ม่นั คง ก็ลากแขนบุตรสาวเข้าห้องรับรองไปเสียแล้ว
ทางหนึ่งเดินไป ทางหนึ่งก็หนั ไปสั่งกับซวงเถาว่า “หั่นแตงหวานที่แช่ไว้ในบ่อยกตาม
เข้ามา ไปตักนํา้ มาดูแลคุณหนูให้ลา้ งหน้าเปลี่ยนเสือ้ ผ้าให้เรียบร้อย”
ซวงเถารับคําแล้วจากไป
อวีถ้ งั ถูกมารดากดให้น่ งั ลงที่เก้าอีไ้ ท่ซือ 1 ในห้องรับรอง
49

เฉินซื่อเห็นว่าปอยผมนางชืน้ เหงื่อไปหมด ก็ปวดใจไม่นอ้ ย หมุนตัวแล้วไม่รูห้ ยิบเอาพัด


กลมมานั่งโบกพัดอยู่ขา้ งนาง “เจ้าอธิบายมาให้ดีๆ สิ วันนีเ้ กิดเรื่องอะไรขึน้ กันแน่? เหตุใดถึง
กลางทางเจ้ากลับให้อาเสาส่งสารมาบอกข้า? ทําเอาข้าตกใจจนนั่งไม่ติด กลัวว่าจะเกิดเรื่องกับ
เจ้า”
อวีถ้ งั คาดไม่ถึงเช่นกัน
นางรีบเอ่ยขอโทษมารดาว่า “ข้ารูส้ กึ ว่านายหญิงทังผูน้ นั้ เกาะติดเกินไป กลัวว่านางจะ
พูดจาไปเรื่อย แล้วท่านแม่กบั ท่านพ่อจะหวั่นไหวเอาได้”
เฉินซื่อหัวเราะ เอ่ยว่า “เจ้าคิดว่าบิดาเจ้ากับข้าเลอะเลือนอย่างนัน้ รึ!”
อวีถ้ งั หัวเราะเหอะๆ
เฉินซื่อเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เป็ นเพราะคุณชายรองสกุลหลี่มีอะไรไม่ดีงามหรือ?”
แม้ต อนออกจากเรื อ นไปบุ ต รสาวจะบอกเหตุ ผ ลไว้อ ย่ า งเลื อ นราง ทว่ า นางมี
ประสบการณ์กว่าบุตรสาวมาก ใคร่ครวญแล้วคิดว่าเป็ นไปได้มากที่อวีถ้ งั จะกังวลเรื่องการหมัน้

1
เก้าอีไ้ ท่ซือ เก้าอีไ้ ม้มีพนักพิง มีท่ีวางแขน ฐานรองนั่งกว้าง
199

หมายกับ สกุล หลี่ อยากจะไปดูคุณ ชายรองสกุล หลี่ ใ ห้เ ห็น กับ ตาว่า เขารู ป ร่า งหน้า ตาเป็ น
อย่างไร สกุลนางก็ไม่ใช่ตระกูลผูด้ ีท่ีมีกฎระเบียบมากมาย ไม่ใช่สกุลยิ่งใหญ่ท่ีมีลกู หลานเต็ม
เมื อง พวกนางสามีภรรยาเพียงหวังให้วันข้างหน้า บุตรสาวของตนมีความสุขก็ พอ หากว่า
สายตาเลือกคนถูก เช่นนัน้ ก็นบั ว่าเป็ นการหมัน้ หมายที่ดีมิใช่หรือ? ดังนัน้ นางจึงแสร้งหลับตา
ข้างหนึ่ง ให้อาเสาออกไปเป็ นเพื่อนอวีถ้ งั
เห็นว่าบุตรสาวยังไม่กลับมาก็สง่ อาเสามาแจ้งความกับนางเสียแล้ว นางจะไม่เป็ นห่วง
ได้อย่างไร?
อวีถ้ งั เล่าเรื่องที่ไปเจอหลี่จวิน้ ในวันนีใ้ ห้เฉินซื่อฟั งอย่างละเอียด
เฉินซื่อตื่นตะลึงจนไม่อาจหุบปากที่อา้ ค้างได้ กระทั่งซวงเถายกแตงหวานเข้ามา รับ
ใช้อวีถ้ ังให้หวีผมเปลี่ยนเสือ้ ผ้าและขอตัวจากไป นางถึงได้ตามหาเสียงของตนเองเจอ แล้ว
ถามอวีถ้ งั อย่างระมัดระวังพลางกินแตงหวานไปด้วยว่า “ก็หมายความว่า คุณชายรองสกุลหลี่
ไม่เคยรูจ้ กั เจ้าด้วยซํา้ คําที่ฮหู ยินหลี่ฝากความนายหญิงทังมาพูดตอนมาขอหมัน้ ก็ตกแต่งเกิน
จริง?”
อวีถ้ งั พยักหน้า รูส้ กึ ว่าแตงหวานในวันนีห้ อมหวานเป็ นพิเศษ จึงป้อนใส่ปากมารดาไป
ชิน้ หนึ่ง แล้วบอกสิ่งที่ตนสงสัยให้มารดาฟั ง “ข้าคิดว่าสกุลหลี่นนั้ ต้องการอะไรบางอย่างจาก
สกุลเราเป็ นแน่เจ้าค่ะ น่าเสียดาย ข้าคิดไม่ออกว่าเรามีอะไรให้พวกเขาคิดครอบครอง”
เฉินซื่อมองดวงหน้าของบุตรสาวที่แม้อยู่ในห้องมืดสลัวก็คล้ายถูกเคลือบด้วยความเงา
งามอีกหนึ่งชัน้ อดจะรูส้ กึ ปลาบปลืม้ ใจไม่ได้
แม่นางที่มีรูปโฉมงดงามเช่นอาถังของสกุลนาง ไม่ตอ้ งพูดถึงเมืองหลินอัน ต่อให้เป็ น
เมืองหังโจว เกรงว่าก็ยงั หาได้ไม่ก่ีคน
หรือว่ามิใช่เพราะถูกใจความสะสวยของอาถังกระมัง?
เฉินซื่อแม้จะคิดเช่นนัน้ แต่ก็รูว้ า่ ไม่คอ่ ยสมเหตุสมผลเท่าไร
200

นางกล่าวว่า “ข้าให้คนไปส่งจดหมายถึงบิดาเจ้าแล้ว ให้วนั นีเ้ ขากลับมาเร็วหน่อย บิดา


เจ้าอย่างไรก็เป็ นถึงซิ่วไฉ มีวิชาความรูก้ า้ วหน้ากว่าพวกเรา เรื่องนีย้ อ่ มต้องให้เขาตัดสินใจ”
คนเขลาสามคน เทียบเท่าหนึ่งจูเก๋อเลี่ยง 2 50

อวีถ้ งั ชอบให้ทกุ คนในครอบครัวล้อมวงพร้อมหน้า ปรึกษาหารือกันไม่ว่าจะเจอปั ญหา


ใดๆ
นางถามว่า “ท่านพ่อวันนีไ้ ปที่ท่าเรือหรือเจ้าคะ?”
เผยหม่านพ่อบ้านใหญ่ท่ีมารับตําแหน่งใหม่ทาํ งานได้คล่องแคล่ว ท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผย
ยังเสียไม่ครบสี่สิบเก้าวัน งานก่อสร้างที่ถนนฉางซิ่งก็เริ่มต้นขึน้ แล้ว ก่อนหน้านีน้ างได้ยินอาเสา
พูดว่า สกุลเผยซือ้ อิฐและกระเบือ้ งจากหังโจวมาหลายลําเรือ สองวันนีค้ งจะมาถึงท่าเรือเสาซี
แล้ว ช่วงนีอ้ วีเ้ หวินจึงต้องตัวติดกันกับอวีป้ ๋ อ
เฉินซื่อส่งเสียง “อืม” คําหนึ่ง รู ส้ ึกว่าแตงหวานลูกนีห้ วานอร่อยกว่าวันอื่นอยู่จริงๆ จึง
เอ่ยกับอวีถ้ งั ว่า “เจ้าเหลือไว้ให้บิดาเจ้ากินบ้างสิ! แตงหวานก็เหลืออยู่เท่านีแ้ ล้ว”
อวีถ้ งั หันไปกะพริบตาปริบๆ ใส่มารดา อวีเ้ หวินก็พลันกลับมาถึงพอดี
เฉินซื่อรีบร้อนเข้าไปรับ ช่วยอวีเ้ หวินล้างหน้าล้างมือ
อวีถ้ งั ลุกยืนขึน้ แล้วเรียก “ท่านพ่อ” เสียงหนึ่ง รอกระทั่งอวีเ้ หวินจัดการตนเองเสร็จแล้ว
ก็ยกแตงหวานไปให้อวีเ้ หวินกิน
อวีเ้ หวินชื่นชมบุตรสาวว่า “เด็กดี” คําหนึ่ง แล้วถามเฉินซื่อว่า “มีเรื่องอะไรรีบร้อนอย่าง
นัน้ หรือถึงได้เร่งข้ากลับมา วันนีข้ า้ ว่าจะเชิญเถ้าแก่ถงไปดื่มเหล้าที่รา้ นปลาจางเอ้อสักหน่อย!
จะกินปลาต้องฤดูนีแ้ หละยอดเยี่ยมที่สดุ ”

2
คนเขลาสามคน เทียบเท่าหนึ่งจูเก๋อเลี่ยง มีความหมายว่า แม้เป็ นคนเขลาก็ตาม แต่หากมีความร่วมแรงร่วมใจกันเปิ ด
กว้างรับความคิดเห็นของกันและกัน ก็จะสามารถคิดวิธีดีๆ ออกได้เช่นเดียวกับผูม้ ีปัญญาอย่างจูเก๋อเลี่ยง (ขงเบ้ง)
201

เฉิ น ซื่ อ เอ่ย ว่า “ข้า ก็ ว่า เหตุใ ดท่ า นหายไปตั้ง นาน? เรื่ อ งอิ ฐ และกระเบื อ้ งราบรื่ น ดี
หรือไม่?”
“ราบรื่น” อวีเ้ หวินตอบ “ที่เรือนเกิดเรื่องใดขึน้ เล่า?”
เฉินซื่อเล่าเรื่องที่อวีถ้ งั ไปวัดเจาหมิงให้ฟังไปรอบหนึ่ง
อวีเ้ หวินนับว่าใจใหญ่ เอ่ยตอบอย่างไม่แยแสว่า “สนใจไปไยว่าพวกเขาต้องการสิ่งใด
พวกเราไม่ตอบตกลงก็สนิ ้ เรื่อง”
เฉิ นซื่อขมวดคิว้ เอ่ยตอบสามีว่า “แต่หากเป็ นเช่นนี ้ กลัวแต่พวกเขาจะใช้อุบายเลว
ทราม หากไม่มีเรื่องนี ้ ก็ตอ้ งหาเรื่องอื่นมาบีบพวกเราอีก ป้องกันอย่างไรก็ไม่ไหวแน่”
อวีเ้ หวินหัวเราะ “นอกจากเรื่องหาคนที่เหมาะสมเพื่อฝากฝั งอาถังของพวกเราแล้ว
เรื่องอื่นมีอะไรน่ากังวลกัน? เงินทองหมดไปก็หาใหม่ได้น่า!”
“ท่านพูดดีไปเถอะ” เฉินซื่อกล่าวอย่างไม่พอใจ “ข้ากลัวว่าเขาจะสอดมือมายุ่งเรื่องงาน
แต่งของอาถัง”
“เรื่องนีเ้ จ้าไม่ตอ้ งยุ่งแล้ว” อวีเ้ หวินบอก “ข้ามีวิธีของข้า”
อวีถ้ งั ได้ยินก็หนังศีรษะชาหนึบ
ตัง้ แต่เรื่องที่หลูซ่ ิ่นขายภาพวาดให้ นางก็เหมือนได้ทาํ ความรูจ้ กั กับบิดาของตนใหม่อีก
รอบ
วิธีท่ีเขาพูดถึง นางไม่รูส้ กึ วางใจเลยสักนิด
อวีถ้ งั เขย่าแขนของมารดา ทําออดอ้อนว่า “ท่านแม่ ท่านดูท่านพ่อสิเจ้าคะ ไม่ห่วงใยข้า
เลยสักนิด นั่นเป็ นเรื่องใหญ่ทงั้ ชีวิตข้าเชียว เขาไม่คิดจะหารือกับใครก็จบเรื่องไปเช่นนีไ้ ด้ท่ีไหน
กัน! ต่อให้ไปซือ้ โต๊ะยังต้องไปดูตงั้ หลายรอบเลยนะเจ้าคะ!”
202

“เจ้าเด็กคนนี ้ พูดจาอย่างไรกันนะ?” อวีเ้ หวินหันไปถลึงตาใส่บุตรสาว เอ่ยว่า “การ


เลือกเขยชายเหมือนกับการซือ้ โต๊ะอย่างนัน้ รึ? เจ้าคิดว่าเรื่องนีข้ า้ ไม่รอ้ นใจรึ มิใช่เพราะไม่มี
ตัวเลือกที่ดีหรืออย่างไร? ข้ารูว้ ่าเจ้ากลัวว่าข้าจะให้เจ้าแต่งกับสกุลหลี่ เจ้าวางใจเถอะ หากเจ้า
ไม่เห็นด้วย สกุลไหนข้าก็ไม่ตกปากรับคําทัง้ นัน้ !”
อวีถ้ งั ร้องเสียงดีอกดีใจ รีบวิ่งเอาจานที่มีแตงหวานไปประเคนให้ขา้ งมืออวีเ้ หวินทันที
แล้วเอ่ยเอาอกเอาใจเขาว่า “ท่านพ่อ ใต้หล้านีท้ ่านนับว่าดีต่อข้าที่สุดแล้ว ท่านเป็ นบิดาที่
ประเสริฐที่สดุ ในใต้หล้าเลยเจ้าค่ะ!”
“แน่นอนอยู่แล้ว!” อวีเ้ หวินแม้จะรูส้ กึ ว่าคําพูดของอวีถ้ งั กล่าวได้เกินจริงไปหน่อย ทว่า
ไปไม่อาจกดรอยยิม้ มุมปากลงได้ รูส้ กึ อิ่มเอมยิ่ง
เฉินซื่อได้แต่สา่ ยหน้าไปมา

เช้าตรู ่วนั ถัดมา เฉินซื่อส่งคนนําจดหมายตอบกลับไปส่งให้นายหญิงทัง บอกว่าสกุล


นางได้ตดั สินใจรับเขยชายเข้าเรือนเพื่ออวีถ้ งั แล้ว เกรงว่าไม่อาจเกี่ยวดองกับสกุลหลี่ได้อีก
นายหญิงทังได้รบั จดหมายก็กระวีกระวาดมาที่เรือนสกุลอวีท้ นั ที ทางหนึ่งก็หอบแฮกๆ
ทางหนึ่งก็ส่งยิม้ ชืดๆ ให้เฉินซื่อและเอ่ยว่า “ข้ารูว้ ่าสกุลเจ้าคิดจะรับเขยชายแต่งเข้า เรื่องนีข้ า้ ก็
บอกกับคุณชายรองสกุลหลี่ไปแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ขอเพียงได้แต่งกับบุตรสาวท่านต่อให้
ต้องแต่งเข้าเป็ นเขยชายเขาก็ยินยอม กลายเป็ นว่า เรื่องนีล้ กุ ลามใหญ่โตจนคุณชายใหญ่สกุลห
ลี่รูเ้ รื่องเขา เขาจึงขังคุณชายรองไว้ในเรือน ทัง้ เขียนจดหมายถึงฮูหยินหลี่ดว้ ย คุณชายรองก็ดึง
ดันไม่ยอมแพ้ ตอนนีเ้ ริม่ อดอาหารประท้วงแล้ว”
“ฮูหยินหลี่รกั บุตรชายอย่างกับอะไรดี ทัง้ กลัวว่าคุณชายรองจะมีอนั เป็ นไป ทัง้ เกรงว่า
ใต้เท้าหลี่รูเ้ รื่องแล้วจะพาลโมโห คนของท่านก้าวเท้าจากไป นางก็ตามมาถึงทันที ไม่วา่ อย่างไร
ก็ตอ้ งให้ขา้ มาเพื่อช่วยคุณชายรองของพวกเขาสักครัง้ บอกว่าบุตรชายของนางชอบพอคุณหนู
เรือนเจ้าด้วยความจริงใจ อย่างไรก็ขอโอกาสให้คณ ุ ชายรองของพวกเขาสักครัง้ อย่าได้เพิ่งรีบ
203

ร้อนตกลงเรื่องงานหมัน้ หมายของบุตรสาว จะสามารถแต่งเข้าเป็ นเขยชายได้หรือไม่นนั้ มาก


ที่สดุ ไม่เกินสามเดือน พวกเขาย่อมให้คาํ พูดที่แน่นอนแก่เจ้าได้”
พูดจบ นางก็ถอนหายใจยาวเหยียด ดึงมือของเฉินซื่อมาแล้วพูดว่า “บรรดานายหญิง
ของซิ่วไฉในเมืองนี ้ ข้าก็อิจฉาแต่เจ้านี่แหละ สามีรกั เดียวใจเดียวต่อเจ้าไม่ตอ้ งพูดถึง กระทั่ง
บุตรสาวเลีย้ งออกมายังเป็ นหน้าเป็ นตาให้เจ้าได้ เจ้าคิดดูสิ สกุลหลี่เป็ นสกุลเช่นไร เขาเป็ น
คุณชายรองอยู่ดีๆ ไม่ชอบ ร้องจะมาเป็ นเขยชายให้สกุลเจ้า ไม่วา่ การหมัน้ หมายครัง้ นีจ้ ะสําเร็จ
หรือไม่ ชาตินีเ้ จ้านับว่าคุม้ ค่าแล้ว”
เฉินซื่อกับอวีถ้ งั ถูกการพลิกผันของเรื่องราวทําเอาตกตะลึง
ไม่คิดว่าเงื่อนไขอันยากเย็นที่สกุลอวีเ้ รียกร้องนี ้ สกุลหลี่กลับยังจะรับไว้พิจารณา
นี่ทาํ ให้อวีถ้ งั หวาดระแวงการหมัน้ หมายและหวาดกลัวสกุลหลี่ย่งิ กว่าเก่า ทัง้ คิดว่าสิง่ ที่
เกิดขึน้ ตามมานีล้ ว้ นเป็ นผลจากเมื่อวานที่นางไปเจอหลี่จวิน้ …
อวีถ้ งั รูส้ กึ สับสน
กระทั่งตกบ่าย นางก็ย่งิ อยากตบตนเองสักหลายฉาด ภาวนาให้เวลาย้อนกลับได้
เฉินเหยาเชิญแม่ส่อื มาขอหมัน้ หมายนางถึงหน้าประตู
เฉินซื่ออ้าปากค้าง เอ่ยกับป้าเฉินว่า “นี่โผล่มาจากไหนอีกคนเล่า?”
ป้าเฉินถูกเรื่องราวที่เกิดขึน้ ในระยะนีท้ าํ เอาหัวหมุนไปหมด นางกล่าวว่า “บอกว่าเล่า
เรียนอยู่สาํ นักศึกษาประจําอําเภอ เมื่อวานตอนไปเที่ยวที่วดั เจาหมิงบังเอิญได้เจอกับคุณหนู ก็
จําฝังใจไม่ลืม พอแจ้งเรื่องนีแ้ ก่บิดามารดา จึงได้เชิญคนมาขอหมัน้ หมายเจ้าค่ะ”
เฉินซื่อถามต่อว่า “เช่นนัน้ เขารูห้ รือไม่วา่ สกุลเราต้องการเขยชายแต่งเข้าสกุล?”
ป้าเฉินตอบว่า “เห็นว่ารูอ้ ยู่เจ้าค่ะ ซํา้ ยังบอกว่าสกุลเขามีบตุ รชายห้าคน เขาเป็ นลําดับ
ที่สาม ทางครอบครัวอนุญาตให้แต่งเข้าเป็ นเขยชายแล้ว”
204

อวีถ้ งั นวดขมับไปมา ได้แต่ออกมาเก็บกวาดเรื่องยุ่งเหยิง นางเล่าเรื่องให้มารดาฟั งว่า


ไปเจอกับเฉินเหยาที่วดั เจาหมิงได้อย่างไร ทัง้ พูดเสริมว่า “เฉินเหยาคนนีไ้ ม่ได้ นิสยั ไม่ผ่านเจ้า
ค่ะ”
เฉินซื่อไม่คิดว่ามีเรื่องเช่นนีด้ ว้ ย จึงถามอวีถ้ งั อย่างอยากรูว้ ่า “เฉินเหยาผูน้ ีพ้ บหน้าเจ้า
แค่ครัง้ เดียวจริงๆ รึ?”
“เพิ่งเคยพบครัง้ เดียวจริงๆ เจ้าค่ะ!” อวีถ้ งั รูส้ กึ ปวดศีรษะ “ท่านคิดจะให้เขาพบหน้าข้า
กี่รอบกัน?”
“อย่าใจร้อน อย่าใจร้อน” เฉินซื่อปลอบบุตรสาว เอ่ยว่า “ข้าแค่นึกไม่ถึงว่าจะมีคนที่พบ
หน้าเจ้าเพียงครัง้ เดียวแล้วมาขอหมัน้ หมายเจ้าอยู่จริงๆ”
เหตุใดอวีถ้ งั ฟั งแล้วรูส้ กึ ว่านํา้ เสียงของมารดามีความภาคภูมิใจเจืออยู่หลายส่วน
นางตอบอย่างหมดแรงว่า “ท่านช่วยไล่แม่ส่ือผูน้ นั้ กลับไปก่อนได้หรือไม่? นางขนข้าว
ของมากองบังหน้าประตูเราเช่นนี ้ ข้ากลัวผูอ้ ่นื เข้าใจผิดคิดว่าข้าจะรีบร้อนออกเรือนเสียอีก!”
คํา พูด ของอวี ถ้ ัง เตื อ นสติ เ ฉิ น ซื่ อ นางรี บ สั่ง ป้า เฉิ น ว่า “เร็ว เข้า รีบ ไปบอกให้แม่ส่ือ
กลับไปก่อน บอกว่าเรื่องงานแต่งงานของอวีถ้ งั นัน้ บิดาของนางได้ตดั สินใจไปแล้ว ตอนนีจ้ ะไม่
เจรจาเรื่องนีอ้ ีก”
ป้าเฉินรับคําแล้วจากไป
ทว่าดวงหน้ากลับอิ่มเอมเปรมปรีย ์
เห็นชัดว่าดีอกดีใจยิ่งนักที่มีคนมาขอหมัน้ หมายถึงเรือน
อวีถ้ งั คิดว่าเรื่องราวจะจบลงไปเช่นนีแ้ ล้ว
ไม่คิดว่าผ่านไปอีกสองวัน ฟู่ เสี่ยวหวั่นก็เชิญแม่ส่อื มาคุยเรื่องหมัน้ หมาย
ทว่าหลังจากที่สกุลฟู่ รูว้ า่ สกุลอวีต้ อ้ งการให้เขยชายแต่งเข้า ก็กลับไปอย่างผิดหวัง
205

ดีช่ วั ก็ยงั มีคนปกติอยู่บา้ งแหละ!


อวีถ้ งั ค่อยโล่งอก
แต่ช่ือเสียงด้านรูปโฉมของนางกลับถูกเล่าลือออกไปไกลด้วยเหตุนี ้
กระทั่งตอนที่ครอบครัวลุงใหญ่ได้ยินข่าว ก็เป็ นช่วงมอบของขวัญในวันไหว้พระจันทร์
แล้ว
ป้าสะใภ้ใหญ่สกุลหวังหัวเราะพลางล้อเฉินซื่อว่า “อาถังของเราช่างวาสนาดี สกุลหนึ่ง
มีบตุ รสาวอยู่คนเดียว อีกร้อยสกุลกลับอยากจะขอไป เรื่องนีค้ งอ่านเจอแต่ในตํารา ไม่คิดว่าจะ
ได้เห็นกับตาเป็ นครัง้ แรก”
เฉินซื่อกลัดกลุม้ แล้วบอกความในใจกับหวังซื่อว่า “พี่สะใภ้วา่ ข้าขีข้ ลาดเกินไปหรือไม่?
ไม้เด่นเกินไพร ลมพัดย่อมหักโค่น 3 เหตุใดข้าจึงรูส้ กึ ว่าชื่อเสียงคราวนีข้ องอวีถ้ งั มิใช่เรื่องดีเลย
51

คิดแล้วหัวใจก็เต้นไม่เป็ นจังหวะอยู่เรื่อย”
หวังซื่อตื่นตะลึง กล่าวว่า “อาถังของพวกเรามีพ่ีชายคอยคุม้ ครอง ทัง้ ยังมีบิดาเป็ นซิ่ว
ไฉ หาใช่เป็ นสกุลเล็กๆ ไร้ท่ีพ่งึ พา มีอะไรให้กลัวกันเล่า แต่ว่าผูเ้ ป็ นสตรีมีช่ือเสียงด้านคุณธรรม
ย่อมสําคัญกว่ารูปโฉม งานแต่งของอาถัง ต้องรีบกําหนดให้เรียบร้อยจึงจะถูก”

3
ไม้เ ด่น เกิ น ไพร ลมพัด ย่ อ มหัก โค่น เปรีย บเปรยว่า หากทํา ตัว โดดเด่น มี แ ต่จ ะตกเป็ น เป้า หมายของผู้อ่ื น ซ่อ นเร้น
ความสามารถถึงจะเป็ นทางเลือกที่ดี
206

ตอนที่ 25 ข่าวลือ
สิ่งที่เฉินซื่อกับหวังซื่อกังวลมิใช่วา่ ไร้เหตุผล
ไม่นาน ก็มีข่าวลือออกมาว่า ‘บุตรสาวสกุลอวีไ้ ม่รูฟ้ ้าสูงแผ่นดินตํ่า อาศัยว่าตนเป็ น
โฉมงาม คิดจะหาบัณฑิตแต่งเข้าเป็ นเขยชาย’ รอจนข่าวลือนีล้ อยมาถึงหูของเฉินซื่อกับอวีถ้ งั
ชาวเมืองหลินอันก็ลือกันเป็ นคุง้ เป็ นแควแล้ว น้อยคนนักที่จะไม่รูเ้ รื่อง
เฉินซื่อเดือดดาลจนตัวสั่น พูดไม่ออกอยู่เป็ นนาน
อวีถ้ งั กลัวว่านางจะเป็ นอะไรไป รีบให้อาเสาไปเชิญท่านหมอมา
เฉินซื่อคว้าหมับที่มืออวีถ้ งั กรอบตาพลันรืน้ ด้วยนํา้ ตาพลางเอ่ยว่า “อาถัง ไปเชิญท่าน
ป้าสะใภ้เจ้ามาด้วย ข้ามีเรื่องจะคุยกับนาง”
อวีถ้ งั ได้ยินแล้วก็เริม่ ครุน่ คิด
หากว่านางยังแสร้งทําตัวเป็ นแม่นางน้อยต่อไป ในเรือนมีปัญหาอะไรเกรงว่าคงไม่มี
ใครหารือกับนางแน่ ทว่านางกลับเป็ นคนที่รูต้ อนจบของเรื่องราวทัง้ หมด และถ้าอยากให้บิดา
มารดาเชื่อมั่นในตัวนาง นางก็ตอ้ งหาวิธีมาทําให้พวกเขาเชื่อว่านางมีความสามารถ มีความรู ้
สามารถช่วยเหลือสกุลให้รอดพ้นจากสถานการณ์ลาํ บากได้
“ท่านแม่!” อวีถ้ งั ตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ไม่เพียงไม่ไปเชิญป้าสะใภ้มา ทัง้ ยังนั่งลงที่หวั
เตียงของเฉินซื่อ เอ่ยออกไปตรงๆ ว่า “เพราะเรื่องข่าวลือที่แพร่อยู่ดา้ นนอกหรือเจ้าคะ?”
เฉินซื่อไม่ตอ้ งการให้บตุ รสาวกังวลใจจึงเอ่ยว่า “เรื่องของผูใ้ หญ่เจ้าไม่ตอ้ งยุ่ง บอกให้
เจ้าไปเชิญป้าสะใภ้มาก็ไปเชิญเสีย เด็กดี”
อวีถ้ งั ยิม้ แล้วเอ่ยว่า “ท่านแม่ ข้าโตแล้วเจ้าค่ะ ปั ญหาบางอย่าง ท่านลองคุยกับข้าก่อน
ก็ได้ หากข้าพูดไม่ถกู ต้องอย่างไร ท่านค่อยให้ขา้ ไปเชิญป้าสะใภ้ก็ยงั ไม่สายเจ้าค่ะ”
เฉินซื่อรูส้ กึ ฉงน
207

อวีถ้ ังจึงรีบพูดว่า “ถ้าหากท่านจะหาป้าสะใภ้ดว้ ยเรื่องอื่น ข้าจะไปเชิญป้าสะใภ้มา


เดี๋ยวนี ้ หากเพราะเรื่องข่าวลือข้างนอกเกี่ยวกับงานหมัน้ หมายของข้า ข้ากลับมีความคิดอยู่บา้ ง
ท่านแม่ลองฟั งดูไหมเจ้าคะ”
เฉินซื่อมองบุตรสาวที่ทาํ ท่าเหมือนเตรียมความพร้อมมาอย่างดี ก็อดจะลังเลมิได้
อวีถ้ ังยิม้ แล้วเอ่ยว่า “จริงๆ แล้วเรื่องนีไ้ ม่ยากเลย ท่านแค่เชิญแม่ส่ือจากทางการมา
จากนัน้ มอบเงินให้นางก้อนหนึ่ง แล้วบอกนางไปว่าสกุลเราต้องการเขยชายแบบไหนก็สิน้ เรื่อง
แล้ว!”
เฉินซื่อรีบพูดว่า “ได้อย่างไรกัน? แม่ส่อื ของทางการพึ่งพาไม่คอ่ ยจะได้”
อวีถ้ งั หัวเราะ “พวกเราก็ไม่ได้ตอ้ งการให้แม่ส่ือหาคู่ให้สาํ เร็จจริงๆ เสียหน่อย จะพึ่งพา
ได้หรือไม่สาํ คัญตรงไหนเจ้าคะ?”
เฉินซื่อยืดตัวนั่งตรงอย่างตื่นตะลึงรีบพูดว่า “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
อวีถ้ ังจึงได้ค่อยๆ อธิ บายให้มารดาฟั งอย่างละเอียด “ลองคิดดูสิเจ้าคะ ข่าวลือด้าน
นอกนั่นก็ไม่รูเ้ หมือนกันว่าเริ่มมาจากตรงไหน พวกเราสืบไปก็คงสืบไม่เจออะไรหรอก ต่อให้
พวกเราบังเอิญสืบเจอขึน้ มา แค่ผอู้ ่ืนตอบว่า ‘ก็แค่พดู ไปเรื่อยเปื่ อย’ เราก็ทาํ อะไรเขาไม่ได้อยู่ดี
จะรับมือกับเรื่องนี ้ วิธีท่ีดีท่ีสดุ คือเราต้องปล่อยข่าวออกไปเช่นกัน คนพวกนัน้ มิใช่บอกว่าข้าไม่
รูจ้ กั ฟ้าสูงแผ่นดินตํ่า คิดจะหาบัณฑิตมาแต่งเข้าเป็ นเขยชายหรือ? พวกเราก็ประกาศคุณสมบัติ
ของเขยชายออกไปเสียเลย ให้ข่าวลือนัน้ มันเงียบหายไปเองโดยไม่ตอ้ งชีแ้ จงใดๆ เพียงเท่านีเ้ รา
ก็แก้ปัญหาได้แล้วมิใช่หรือเจ้าคะ?”
เฉินซื่อเหมือนว่ายังคิดตามเรื่องราวที่บตุ รสาวพูดไม่ทนั “หรือว่าเราจะหาเขยชายที่เป็ น
ใครก็ได้อย่างนัน้ รึ? คนที่เคยเรียนหนังสือกับไม่เคยเรียนหนังสือนัน้ ต่างกัน ก่อนจะสอนให้คน
รูจ้ กั จารีตและความละอาย ควรให้เขาได้กินอิ่มนุ่งอุ่นเสียก่อน หากว่าครอบครัวยากจนเกินไป
ข้าวยังกินไม่อ่มิ แล้วจะไปพิถีพิถนั เรื่องอื่นได้อีกหรือ? ถึงเวลานัน้ ต่อให้แต่งเข้าเรือนเรามา วันนี ้
208

เขาคงอยากได้สิ่งนี ้ พรุ ง่ นีว้ างแผนเอาสิ่งโน้น ไม่มีอะไรก็คงก่อเรื่องขึน้ มาได้ หากว่าลูกๆ ได้รบั


ผลกระทบจากบิดาขึน้ มา…เจ้าคิดว่าจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้อยู่หรือ?”
“จะเป็ นใครก็ได้ได้อย่างไรเจ้าคะ?” อวีถ้ งั หัวเราะ “ท่านคิดมากเกินไปแล้ว”
เฉินซื่อขมวดคิว้
อวีถ้ งั จึงค่อยๆ อธิบายต่อ “บัณฑิตใช่วา่ จะมียศศักดิท์ กุ คนนะเจ้าคะ!”
เฉิ นซื่อพลันเข้าใจแจ่มแจ้ง พลิกมือมาบีบมือบุตรสาวเอาไว้ เอ่ยทันทีว่า “เหตุใดข้า
เลอะเลือนเช่นนี ้ เหตุใดข้าเลอะเลือนเช่นนี!้ ”
อวีถ้ งั เม้มปากกลัน้ ยิม้
เฉินซื่อพูดอย่างตื่นเต้น “พวกมียศศักดิ์ย่อมไม่ยินยอมแต่งเข้าแน่ อีกอย่างต่อให้แต่ง
เข้ามา ภายภาคหน้าก็ตอ้ งยุ่งยาก พวกเราควรจะหาครอบครัวที่ใกล้เคียงกัน เคยเล่าเรียนเขียน
อ่าน เป็ นคนดีมีคุณธรรม อ่านออกเขียนได้ จะได้ช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ ในเรือน ต่อไปหากมี
หลาน สายเลือดทางบิดาก็นับว่าไม่เลว แล้วค่อยส่งให้บิดาเจ้าชีแ้ นะสั่งสอน ไม่แน่สกุลเรา
อาจจะมีจวี่เหรินหรือจิน้ ซื่อบ้างก็ได้?” นางยิ่งพูดก็ย่ิงรู ส้ กึ ว่าเข้าท่า “คนเช่นนี ้ บิดามารดาย่อม
ไม่ใช่ประเภทเจอปั ญหาแล้วนิ่งเฉย ต่อไปถ้าพวกเราไปมาหาสู่บ่อยเข้า ก็นับว่ามีญาติพ่ีนอ้ ง
เพิ่มขึน้ พวกเจ้าหากประสบเรื่องราวอันใด ทางนั้นก็นับว่าช่วยเหลือส่งเสริมได้ พวกเรายัง
สามารถรับปากพวกเขาได้ดว้ ยว่า สามรุน่ คืนสกุล 1 ถึงเวลานัน้ บ้านเล็กก็ยงั กลับไปใช้สกุลของ
52

เขา”
พูดถึงตรงนี ้ ความกลัดกลุม้ ของเฉินซื่อพลันหายวับ กลายเป็ นตื่นเต้นจนแทบจะนั่งไม่
ติด

1
สามรุ ่นคืนสกุล หมายถึง เมื่อบุรุษแต่งเข้าเป็ นเขยของสกุลฝ่ ายหญิ ง จะต้องเปลี่ยนสกุลตามสกุลฝ่ ายหญิ งด้วย แต่
ภายหลังเมื่อให้กาํ เนิดเด็กรุน่ ที่สามออกมา ต้องกลับไปใช้สกุลเดิมของท่านปู่
209

นางเรียกป้าเฉินเข้ามา กําเงินเหรียญจํานวนหนึ่งส่งให้ป้าเฉิน บอกให้นางไปเชิญแม่


สื่อจากทางการมาที่เรือน ทัง้ สั่งว่า “เชิญมาหลายคนหน่อย อย่างไรก็ตอ้ งแพร่ข่าวออกไปให้ไกล
ยิ่งคนรูม้ ากยิ่งดี”
ป้าเฉินเห็นว่าเรื่องของอวีถ้ ังมีทางออกแล้ว ในใจก็ยินดีเป็ นอย่างยิ่ง เดินจากไปด้วย
ความเบิกบาน
เฉินซื่อหัวเราะฮ่าๆ หมุนกายมาจับมือบุตรสาวไว้แล้วมองสํารวจขึน้ ๆ ลงๆ
อวีถ้ งั คิดว่าที่แท้นางมีตรงไหนต่างออกไปจากเมื่อก่อนหรือไม่ ในใจอดจะรูส้ กึ กลัวไม่ได้
จึงถามออกไปอย่างประหม่าว่า “ท่านแม่ ท่านทําอะไรหรือเจ้าคะ?”
“ข้ากําลังมองว่าอาถังของข้าโตเป็ นผูใ้ หญ่แล้วจริงๆ” ดวงหน้าของเฉินซื่อเปี่ ยมด้วย
ความอิ่มเอม “เมื่อก่อนเป็ นข้ากับบิดาเจ้าที่ไม่รู ้ มักคิดแต่วา่ เจ้าชอบก่อเรื่อง แต่เจ้าดูสิ่งที่เจ้าทํา
ตลอดหลายวันนี ้ แม้จะบอกว่าแก่นแก้วเกินไป แต่ก็มีหลักมีการ ถูกต้องเหมาะสมยิ่งนัก” พูด
แล้ว นางก็ถอนหายใจเฮือกทีหนึ่ง เอ่ยอย่างภูมิใจว่า “แต่ก่อนพวกเราไม่แน่ว่าจะให้เจ้าอยู่กบั
เรือนไปตลอด กลัวว่าเจ้าจะดูแลเรือนนีไ้ ม่ไหว แต่วนั นีม้ องแล้ว มารดากับบิดาเจ้าน่าจะกังวล
เกินเหตุ ไม่เคยรูว้ า่ อาถังของเราเป็ นแม่นางที่มีความคิดและมีความรับผิดชอบเช่นนี!้ ”
พวกท่านมองคนไม่ผิดเลย!
เป็ น สวรรค์ท่ี ให้โ อกาสข้า อีก ครัง้ หนึ่ง ข้า ถึ ง ได้ม าแบกภาระหนัก หนานี ไ้ ว้ในยามที่
ครอบครัวควรมีใครสักคนมาช่วยเหลือ
หางตาอวีถ้ งั แดงเรื่อ นางบีบมือมารดาแน่น แล้วพึมพําด้วยความรูส้ กึ ผิดและเจ็บปวด
ว่า “ท่านแม่ ท่านอย่าพูดเช่นนี ้ เป็ นข้า เป็ นข้าที่ผิด…”
“ดูเจ้าสิ พูดจาเหลวไหลอีกแล้ว” เฉินซื่อมีหรือจะเดาออกว่าอวีถ้ งั คิดอะไรอยู่ นึกไปว่า
บุตรสาวไม่รูจ้ ะพูดอะไรดี จึงหัวเราะแล้วดันตัวนางออก เห็นว่าอวีถ้ งั มีนา้ํ ตานองเต็มหน้า ก็ถาม
อย่างแปลกใจว่า “เจ้าเป็ นอะไรไปอีกเล่า?”
210

มารดาไม่รูเ้ รื่องนางกลับชาติมาเกิด แต่กลับทําให้อวีถ้ งั รู ส้ ึกถึงความหนักแน่นมั่นคง


ยิ่งขึน้
นางเช็ดนํา้ ตาแล้วเอ่ยยิม้ ๆ ว่า “ข้า ข้าไม่เป็ นไรเจ้าค่ะ ก็แค่นานแล้วที่ท่านแม่ไม่ได้เอ่ย
ปากชมข้าเช่นนี!้ ”
“เจ้าเด็กคนนี!้ ” เฉินซื่อทําหน้าหัวเราะไม่ได้รอ้ งไห้ไม่ออก “ให้เจ้าทํารองเท้าเจ้าปั กเสร็จ
แล้วหรือยัง? ถ้าหาคนที่เหมาะสมได้จริงๆ ขึน้ มา ก็ตอ้ งจัดงานแต่งให้เจ้าในเร็วๆ นีแ้ ล้ว เจ้าพอ
ถึงเวลาอย่าได้ตอ้ งไปหาซือ้ รองเท้าที่รา้ นเชียวนะ”
ตามประเพณีของเจียงหนาน วันที่สองที่หญิงแต่งงานใหม่ตอ้ งไปคารวะญาติอีกฝ่ าย
จะต้องมอบถุงเท้ารองเท้าที่ปักด้วยตนเองให้ญาติๆ อย่างพ่อสามีและแม่สามีดว้ ย
อวีถ้ งั แต่เด็กก็ไม่ชอบนั่งอยู่น่ิงๆ ทัง้ บิดามารดาก็ตามใจ ฝี มืองานเย็บปั กจึงแค่พอถูไถ
ภายหลังแต่งให้สกุลหลี่ เห็นว่าฮูหยินหลี่ปฏิบตั ิต่อนางไม่ดี นางยิ่งไม่อยากจะเย็บปั กอะไรให้
ใคร กระทั่งดอกไม้ใบไม้ยงั ปั กให้งามไม่ได้ดว้ ยซํา้
เฉินซื่อจ้องนางไม่ยอมหยุด นางมีหรือจะกล้าพูดมาก จึงได้แต่เผ่นแน่บหนีไป
เฉินซื่อมองตามแผ่นหลังของบุตรสาว หัวเราะจนเอวไม่อาจตัง้ ตรงได้ ทว่ากลับถูกอวีเ้ ห
วินที่รบี ร้อนกลับมาจากถนนฉางซิ่งเห็นเข้าพอดี
เขาถอนหายใจเฮือก เอ่ยยิม้ ๆ ว่า “เรื่องอะไรทําให้เบิกบานเพียงนี?้ เมื่อครู ่เจอกับอา
เสา บอกว่าร่างกายเจ้าไม่ดี ต้องไปเชิญท่านหมอมา…”
เฉินซื่อหัวเราะพลางเล่าเรื่องเมื่อครู ใ่ ห้อวีเ้ หวินฟั ง ทัง้ บอกว่า “ได้ความคิดนีข้ องอาถัง
อาการป่ วยของข้าย่อมหายเป็ นปลิดทิง้ แล้ว”
“มีเรื่องเช่นนีด้ ว้ ยรึ?!” อวีเ้ หวินตื่นตกใจ “ไม่เจอกันสามวัน ผูอ้ ่ืนก้าวไปข้างหน้าแล้ว ไม่
อาจมองด้วยสายตาแบบเดิมได้อีก คิดไม่ถึงจริงๆ เลย”
“ก็ใช่น่ะสิเจ้าค่ะ!”
211

สองสามีภรรยาทอดถอนใจกันอยู่ครึง่ ค่อนวัน

อวี เ้ หวิ น เรี ย กอวี ถ้ ัง ไปที่ ห ้อ งหนัง สื อ แล้ว เอ่ ย ชมเชยนางรอบหนึ่ง ทั้ง มอบแท่ น ฝน
หมึกเฉิงหนีเยี่ยน 2 สีเขียวที่เป็ นของตกทอดของสกุลอวีใ้ ห้นาง
53

อวีถ้ งั ถือแท่นฝนหมึกไปฟ้องกับมารดาว่า “แท่นฝนหมึกที่สงู ค่าเช่นนี ้ ถ้าข้าใช้ไป ท่าน


พ่อต้องร้องโวยวายแน่ นี่จะนับเป็ นรางวัลได้อย่างไร? ก็แค่เปลี่ยนสถานที่มาให้ขา้ เป็ นคนเก็บ
รักษาไว้ก็เท่านัน้ ”
เฉินซื่อยิม้ แล้วจิม้ นิว้ บนหน้าผากอวีถ้ งั เอ่ยว่า “ให้เป็ นหนึ่งในสินเดิมของเจ้าไม่นบั ว่ามี
หน้ามีตาพอหรือ?”
อวีถ้ งั หัวเราะฮ่าๆ
เฉินซื่อรักใคร่บตุ รสาว ไม่ตอ้ งการให้นางผิดหวัง จึงไปที่หอเครื่องเงินสั่งทําชุดปิ่ นไข่มกุ
หนึ่งชุด กับเครื่องประดับศีรษะไข่มกุ หนึ่งชุดไว้ให้อวีถ้ งั “ตอนที่พ่ีสาวหม่าของเจ้าแต่งงาน เจ้า
จะได้ใช้ตอนไปดื่มสุรามงคล”
อวีถ้ งั ถามอย่างแปลกใจว่า “วันแต่งงานของนางกําหนดแล้วหรือเจ้าคะ?”
เฉินซื่อพยักหน้ายิม้ ๆ “กําหนดไว้วนั ที่หกเดือนเก้า ของที่จะใส่กล่องของขวัญเจ้าเตรียม
แล้วหรือไม่? หากว่ายังไม่มี ก็รบี ไปสั่งทําที่รา้ นเสีย ข้าจะออกเงินให้”
งานเย็บปั กของบุตรสาวนัน้ นางไม่คาดหวังแล้ว
อวีถ้ งั อยากจะมอบของให้หม่าซิ่วเหนียงหลายๆ ชิน้ หน่อย เงินนัน้ ได้มายิ่งมากก็ย่งิ ดี

2
แท่นฝนหมึกเฉิงหนีเยี่ยน เป็ นหนึ่งในสี่ของแท่นฝนหมึกที่เลื่องชื่อของจีน
212

นางออดอ้อนแล้วขอเงินจากมารดามาได้หา้ ตําลึง เมื่อไปถึงหอเครื่องเงินก็ส่งั ทํากําไล


เงินให้หม่าซิ่วเหนียงคูห่ นึ่ง

ไม่นาน แม่ส่ือของทางการก็ประกาศคุณสมบัติเขยชายที่สกุลอวีต้ อ้ งการไปจนทั่ว ทัง้


ยังอธิบายว่า “มิใช่ว่าคุณชายของหลายสกุลนัน้ ไม่ดี แต่ไม่สอดคล้องกับคุณสมบัติท่ีสกุลอวี ้
ต้องการ นี่ก็เป็ นเรื่องที่จนปั ญญาเช่นกัน”
ทุกคนต่างรูส้ กึ ว่าเรื่องนีม้ ีเหตุมีผล เกี่ยวกับข่าวลือที่อวีถ้ งั ‘มักใหญ่ใฝ่ สงู จะหาบัณฑิต
มาแต่งเข้าเป็ นเขยชายนัน้ ’ ก็คอ่ ยๆ จางหายไป
ทว่า งานหมัน้ หมายของอวีถ้ งั ก็เป็ นที่สนใจของคนหลายคน
วันนีห้ ลังจากที่อวีเ้ หวินกลับมาจากการไปส่งขนมไหว้พระจันทร์ให้เถ้าแก่ถง เขาก็
อารมณ์ดีย่ิงขึน้ เอ่ยกับเฉินซื่อด้วยความมึนเมาเล็กน้อยว่า “เถ้าแก่ถงบอกว่าจะเป็ นพ่อสื่อให้
อาถังของเราล่ะ!”
เฉินซื่อทางหนึ่งก็ประคองนํา้ แกงสร่างเมาให้อวีเ้ หวิน ทางหนึ่งก็ถามอย่างยินดี “เถ้า
แก่ถงเป็ นคนดี คู่หมัน้ หมายที่หามาย่อมไม่มีช่วั แน่ ท่านนั่งลงเล่าให้ขา้ ฟั งอย่างละเอียดหน่อยสิ
เจ้าคะ”
อวีเ้ หวิน ยกนํา้ แกงสร่า งเมาในมื อดื่ ม รวดเดี ย วหมด ก่อนจะนั่ง ใต้แสงตะเกี ย งเอ่ย
กับเฉิ นซื่อว่า “เถ้าแก่ถงบอกว่า เขามีสหายสนิทผูห้ นึ่ง สกุลเว่ย สองสามีภรรยาล้วนเป็ นคน
สบายๆ ไม่เคร่งครัด ครอบครัวทําโรงงานคัน้ นํา้ มันพืช มีท่ีดินสองร้อยกว่าหมู่ ทัง้ ยังมีภเู ขาปลูก
ต้นดอกกุย้ ฮวาไว้สามร้อยกว่าต้น สกุลมีบตุ รชายห้าคน ล้วนแต่เป็ นผูม้ ีวิชาความรู ้ เขาเองก็เห็น
มาตัง้ แต่เล็กจนโต บุตรคนโตต้องเก็บไว้สืบสานกิจการของสกุลแน่แล้ว บุตรชายคนอื่นๆ น่าจะ
แต่งเข้าเป็ นเขยชายได้ทั้งสิน้ หากเจ้าคิดว่าใช้ได้ เขาก็จะลองไปพูดคุยให้ก่อน แล้วนัดคน
ออกมาให้พวกเราได้พบ ถ้าสําเร็จ ก็ให้อาถังของเราปั กรองเท้าให้เขาสักคู่ ถ้าไม่สาํ เร็จ ก็คิดเสีย
ว่าข้านับเป็ นลูกหลานแล้ว”
213

“บุตรชายห้าคน?” เฉินซื่อหัวเราะ “เป็ นเรื่องดีสิ หากว่างานหมัน้ หมายนีล้ ลุ ว่ ง พวกเรา


ก็จะมีเครือญาติมารับมือต่อแล้ว ท่านดูซิ่วไฉอย่างท่านสิ ยังต้องมาจัดการเรื่องในร้านค้าด้วย
ตัวเองอยู่เลย ถ้าในเรือนมีเด็กๆ หลายคนหน่อย ท่านกับท่านลุงใหญ่ก็ไม่ตอ้ งลําบากเช่นนี”้
อวีเ้ หวินด้วยเพราะงานมงคลของอวีถ้ งั เริ่มมีเค้าราง ในใจก็ยินดีนัก จึงเอ่ยล้อเล่นว่า
“จะว่าไปแล้ว ต้องโทษสกุลเผย ถ้ามิใช่สกุลเผยออกเงินช่วยเหลือเหล่าบัณฑิตทุกปี เมืองหลิน
อันมีหรือจะมีซิ่วไฉมากมายขนาดนี ้ เจ้าลองมองดูท่ีอ่ืนสิ ซิ่วไฉมีหน้ามีตาเพียงใด แล้วกลับมา
มองหลินอันของพวกเรานี่ เทียบกันแล้ว ช่างน่าโมโหยิ่งนัก!”
“เอาล่ะ เอาล่ะ ท่านก็พดู ให้นอ้ ยลงหน่อย” เฉินซื่อหัวเราะ เอ่ยว่า “ดื่มเหล้าแล้วพูดจา
เลอะเทอะ สกุลเผยทําความดี แล้วไปขัดขวางอะไรท่านเล่า? ข้ากลับคิดว่า ซิ่วไฉจังหวัดหลิน
อันของเรายิ่งไม่ตอ้ งมีหน้ามีตายิ่งดี เดินออกไปไหนก็น่าฟั งหน่อย! คนที่ทาํ มาค้าขายอยู่ขา้ ง
นอกนัน้ ผูอ้ ่นื จะได้ไม่กล้ารังแกตามอําเภอใจ”
214

ตอนที่ 26 ดูตัว
สองสามีภรรยาพูดคุยเปิ ดอกกันอย่างสบายใจ ป้าสะใภ้ใหญ่สกุลหวังหอบสาลี่สดใหม่
มาจากตลาด บอกว่าให้อวีถ้ งั ลองชิม สะใภ้ทงั้ สองอดจะคุยเรื่องงานหมัน้ หมายของอวีถ้ งั ไม่ได้
พอรูว้ ่าเถ้าแก่ถงจะเป็ นพ่อสื่อให้อวีถ้ งั หวังซื่อก็เอ่ยยินดีว่า “ถ้ากําหนดวันได้แล้ว อย่าลืมบอก
ข้าด้วย ข้าก็อยากไปเห็น”
เฉินซื่อหัวเราะ “ไม่รูว้ า่ จะตกล่องปล่องชิน้ หรือไม่? เพียงไปดูลาดเลาก่อนเท่านัน้ ”
หวังซื่อยิม้ เพราะไม่คิดว่าเป็ นเช่นนัน้ “อาศัยอาถังของพวกเรา มีแต่นางที่เลือกผูอ้ ่ืน ไม่
มีหรอกที่ผอู้ ่ืนเลือกนาง”
เฉินซื่อค่อนข้างคาดหวังกับคู่หมายนีเ้ ช่นกัน จึงยิม้ แล้วเอ่ยต่อว่า “ต้องหยิบยืมความ
โชคดีของท่านแล้ว”

บางทีอาจจะมีวาสนาต่อกันจริง เพราะไม่นานเถ้าแก่ถงก็ตอบจดหมายกลับมา บอกว่า


บุตรชายคนรองกับคนที่สามของสกุลเว่ยล้วนรุ ่นราวคราวเดียวกับอวีถ้ ัง ให้สกุลอวีเ้ ลือกได้
ตามใจ
หวังซื่อได้ยินก็หวั เราะจนหุบปากไม่ได้ พูดกับอวีป้ ๋ อว่า “ดูแล้วสกุลเว่ยน่าจะเป็ นคน
จริงใจไม่เลว ไม่แน่อาจเป็ นคูห่ มายที่ดีก็ได้!”
อวีถ้ ังเป็ นดั่งไข่มกุ บนฝ่ ามือ ยิ่งเป็ นเรื่องใหญ่ของทัง้ ชีวิต อวีป้ ๋ อแม้จะไม่ได้ไปถามไถ่
ด้ว ยตนเอง แต่ก็ ห่ ว งใยอย่า งมาก พอได้ยิน อย่ า งละเอี ย ดแล้ว ก็ ก าํ ชับ หวัง ซื่อว่า “เจ้า อายุ
มากกว่าน้องสะใภ้ จัดการเรื่องใดก็ละเอียดรอบคอบ เรื่องของอาถังนี ้ เจ้าต้องคอยดูให้ดี สิ่งอื่น
ล้วนเป็ นรอง นิสยั ใจคอมาเป็ นอันดับหนึ่ง ครอบครัวกับเรื่องอื่นๆ หากเป็ นคนอารมณ์รอ้ น ต่อ
ให้เก่งกาจ หล่อเหลาเพียงใด ซื่อตรงเพียงไหน ก็ไม่อาจใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้”
215

“ทราบแล้ว ทราบแล้ว!” หวังซื่อพูดถึงเรื่องนีข้ นึ ้ มาก็นกึ ถึงบุตรชายของตน ขณะที่น่งั หวี


ผมอยู่หน้าโต๊ะเครือ่ งแป้งก็เอ่ยกับอวีป้ ๋ อว่า “งานแต่งของหย่วนเอ๋อร์ ท่านตัดสินใจแล้วหรือยัง”
แต่ก่อนหวังซื่อคิดจะดองกับพี่นอ้ งสกุลฝั่ งมารดา ใครจะคิดว่าเด็กคนนัน้ อายุได้แปด
ขวบก็จากไปเสียแล้ว หวังซื่อใจหายใจควํ่า ไปวัดเพื่อทํานายชะตาให้อวีห้ ย่วน ได้ความว่าอวี ้
หย่วนไม่เหมาะจะแต่งงานเร็วเกินไป งานมงคลของเขาถึงได้ยืดเยือ้ มาจนบัดนี ้
สกุลอวีม้ ีลูกหลานน้อย แต่ไรก็เห็นความสําคัญของเด็กๆ เป็ นที่สุด อวีป้ ๋ อจึงไม่กล้า
ตัดสินใจลวกๆ “รอให้ขา้ ปรึกษากับฮุ่ยหลี่ก่อนค่อยว่ากัน” ทัง้ ถามหวังซื่ออีกรอบว่า “จะไปดูตวั
เด็กทัง้ สองคนเลย หรือเลือกแล้วว่าจะไปดูคนไหน?”
หวังซื่อหัวเราะ “น้องสะใภ้เล่าว่า บุตรคนรองโตกว่าอวีถ้ ังสองปี อายุมากกว่าหน่อย
น่าจะรูค้ วาม จึงจะไปดูตวั บุตรคนรองของพวกเขา”
อวีป้ ๋ อพยักหน้า ไม่ถามเรื่องนีต้ อ่ อีก

อวีถ้ งั ทางนัน้ พอถึงเวลา ในใจกลับกระวนกระวายรูส้ กึ ไม่สงบ


งานแต่งงานของนาง จะจบลงเช่นนีแ้ ล้วจริงหรือ?
ไม่รูว้ ่าคนที่ช่ือเว่ยเสี่ยวซานจะหน้าตาเช่นไร? นิสยั แบบไหน? แล้วมองการแต่งงานครัง้
นีอ้ ย่างไรบ้าง?
นางถอนหายใจยาวเหยียด แล้วบอกกับตัวเองว่า สกุลเว่ยมีความจริงใจเต็มเปี่ ยม ได้
ยิ น ว่ า บุต รคนโตสกุล เว่ย ยัง สอบเป็ น ถงเซิ ง ได้ด ้ว ย สามารถมี คู่ห มายเช่ น นี ้ ก็ นับ ว่ า คู่ค วร
เหมาะสม นางควรจะพอใจจึงจะถูก แต่แม้จะคิดเช่นนัน้ หัวใจกลับไม่ฟังคําสั่งของนาง มันมีแต่
ความกลัดกลุม้ ไม่รูส้ กึ ยินดีเลยสักนิด
จนถึงวันที่ไปดูตวั เฉินซื่อก็เชิญหม่าซิ่วเหนียงไปเป็ นเพื่อนอวีถ้ งั ด้วย
216

เพราะสถานที่ดตู วั นัดหมายไว้คือวัดเจาหมิง อวีถ้ งั นอกจากต้องเช่ารถม้า ตระเตรียม


อาหารแห้ง ยังต้องไปจองอาหารเจที่วดั เจาหมิงล่วงหน้าและเชิญคนกลาง…เฉินซื่อมัววุ่นหน้า
วุ่นหลัง อวีถ้ ังก็จงใจปกปิ ด เฉิ นซื่อจึงไม่เห็นท่าทีผิดปกติของอวีถ้ ัง ทว่าหม่าซิ่วเหนียงกลับ
สังเกตเห็นแล้ว
นางหาข้ออ้างไล่ซวงเถาที่รบั ใช้อยู่ในห้องออกไปด้านนอก ดึงมืออวีถ้ งั แล้วกระซิบถาม
นางว่า “เจ้าเป็ นอะไรไปอีก? ไม่พอใจรึ? หรือว่ามีความคิดเป็ นอื่น? อีกเดี๋ยวต้องไปดูตัวแล้ว
หากว่าไม่มีอะไรยํ่าแย่เกินเหตุ เรื่องนีแ้ ปดเก้าส่วนคงตกลงกันได้ ถ้าเจ้ารู ส้ ึกว่ามีอะไรไม่ดี ถือ
โอกาสตอนไม้ยงั ไม่กลายเป็ นเรือ รีบพูดมันออกมาเสีย ถ้าเรื่องหมัน้ หมายกําหนดเรียบร้อยแล้ว
ต่อให้เจ้ามีพนั ความคิดหมื่นคําพูด ก็ตอ้ งกดเอาไว้ในใจชั่วชีวิต นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ มีแต่จะ
เป็ นผลร้ายต่อผูอ้ ่นื และตัวเจ้าเองด้วย”
หม่าซิ่วเหนียงไม่เชื่อว่าอวีถ้ งั จะไม่รูส้ กึ หวั่นไหวสักนิดต่อผูท้ ่ีไม่ว่าจะเป็ นรูปร่างหน้าตา
หรือความจริงใจก็ไม่อาจหาข้อบกพร่องอย่างหลี่จวิน้ ได้
อวีถ้ งั หันไปยิม้ ให้หม่าซิ่วเหนียง เพียงแต่นางคงไม่รูว้ า่ รอยยิม้ ของตนฝื ดเฝื่ อนปานใด
“ข้ารูน้ ่า” นางตอบเสียงเบา “ท่านแม่กบั ท่านพ่อข้าใช่ว่าเป็ นคนไร้เหตุผล ข้าเพียงรูส้ กึ
ว่า ถ้าต้องแต่งออกไปเช่นนี… ้ ”
นางกลัว
คิดถึงตอนแรก หลี่ตวนกับกูซ้ ี ไม่รูว้ ่ามีคนมากมายเท่าไรคอยอิจฉา ขนาดนางเองตอน
ที่ยงั ไม่รูว้ า่ หลี่ตวนเป็ นคนมีความคิดวิปริต ก็ยงั เคยรูส้ กึ ว่าสามีภรรยาคู่นีไ้ ม่วา่ จะดื่มสุรารอบวง
เขียนคิว้ ให้กนั ช่างเหมือนกับนกยวนยางคูห่ นึ่งหรือ?
หม่าซิ่วเหนียงไม่เชื่อ แต่กลัวว่าถ้านางพูดมากไปจะทําให้อวีถ้ งั รูส้ กึ ต่อต้าน ต่อไปหาก
มีเรื่องใดก็จะไม่ปรึกษานางอีก เหมือนก่อนหน้าที่เที่ยวก่อกวนจะไปดูหน้าหลี่จวิน้ ที่วดั เจาหมิง
ให้ได้ ถ้านางก่อเรื่องอะไรขึน้ มาอีกต้องแย่แน่ๆ มิสคู้ อยจับตาดูให้มากหน่อย อย่าให้เกิดเรื่อง
กับอวีถ้ งั
217

“ทุกคนก็เหมือนกันนั่นแหละ!” นางคล้อยตามคําพูดของอวีถ้ งั แล้วปลอบใจนาง “เจ้าดู


ข้าสิ กับคุณชายจางแม้นบั ได้วา่ รูจ้ กั กันมาตัง้ แต่เล็ก แต่ตอนที่คยุ เรื่องหมัน้ หมาย จะตบแต่งกัน
จริงๆ ในใจข้าก็เป็ นกังวลอยู่ตลอด กลัวว่าตอนนีจ้ ะทําได้ไม่ดีพอ ตอนนัน้ จะทําออกมาแย่ รอให้
ผ่านช่วงนีไ้ ป ก็จะค่อยๆ ดีขนึ ้ เอง”
อวีถ้ ังขอบคุณหม่าซิ่วเหนียงด้วยรอยยิม้ เหมือนว่าได้รบั คําปลอบโยนจากนางแล้ว
ทว่าใจยิ่งไม่อาจสงบลงได้มากกว่าเดิม
สิ่งที่นางกลัวกับความกลัวที่หม่าซิ่วเหนียงพูดถึงไม่เหมือนกัน
นางไม่กลัวสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ทัง้ ไม่กลัวว่าพอแต่งออกไปแล้วจะไม่มีความสุข
สิ่งที่นางกลัว คือนางไม่อยากแต่งให้คนผูน้ ี ้ ไม่อยากให้เรื่องราวจบแบบชาติก่อนอีก…
ความคิดที่แวบผ่าน ทําให้อวีถ้ งั ชะงักไป
ที่แท้อวีถ้ งั ไม่อยากแต่งให้คนผูน้ ีอ้ ย่างนัน้ รึ?
แต่คนผูน้ ีม้ ีอะไรไม่ดีกนั เล่า?
ทุกคนก็เหมือนกันหมดมิใช่หรือ? บิดามารดาจัดการ แม่ส่ือชีแ้ นะบอกนํา เมื่อคู่ควร
เหมาะสม ก็แต่งงานกันได้แล้ว
สกุลเว่ยยังโค้งเอวแทบติดพืน้ บุตรชายสองคนให้พวกนางเลือกได้ตามใจชอบ นางยังมี
อะไรให้ไม่พอใจอีก?
นางต้องการคนเช่นไรกันแน่?
อวีถ้ งั ถูกความคิดตัวเองทําให้ตกใจยกใหญ่ อยากจะพูดออกไปให้หม่าซิ่วเหนียงฟั ง แต่
กลับไม่รูจ้ ะเริม่ จากตรงไหน
เฉินซื่อเร่งพวกนางอยู่ดา้ นนอกแล้ว “พวกเจ้าเก็บของเสร็จหรือยัง? รถม้ามาถึงแล้ว เรา
ต้องรีบไปให้ทนั มือ้ เที่ยงที่วดั เจาหมิงอีกนะ!”
218

หม่าซิ่วเหนียงรีบร้องตอบกลับ แล้วช่วยอวีถ้ งั เก็บข้าวของก่อนออกประตูไป


คําพูดมากมายของอวีถ้ งั จึงติดอยู่ในลําคอ
วัดเจาหมิงยังคงโอ่อา่ ยิ่งใหญ่ด่งั ที่เคยเป็ น แต่ในสายตาของอวีถ้ งั ในตอนนี ้ กลับรูส้ กึ ว่า
มันจอแจเกินไป ไม่มีความน่าเกรงขามและเงียบสงบอย่างที่วดั ใหญ่อนั ดับหนึ่งของเมืองควรจะ
มี
อาจเพราะหัวใจเปลี่ยนไปแล้ว อารมณ์ท่ีใช้มองสิ่งต่างๆ จึงเปลี่ยนไปด้วย
นางแอบครุน่ คิดเงียบๆ จนเฉินซื่อพามาถึงวิหารเทียนหวัง
คนที่มาดูตวั เป็ นเพื่อนอวีถ้ ังนับว่าไม่นอ้ ยทีเดียว นอกจากคู่สามีภรรยาอวีเ้ หวิน ฝ่ าย
สตรียงั มีหม่าซิ่วเหนียงกับหวังซื่อ แขกบุรุษมีเถ้าแก่ถง อวีป้ ๋ อและอวีห้ ย่วน
ตามที่นัดหมายกับสกุลเว่ยเอาไว้ หลังจากที่สองสกุลแยกกันกินอาหารเที่ยงแล้ว ทุก
คนจะไปเดินเล่นที่ดา้ นหลังเขา จากนัน้ ค่อยทําทีเป็ นบังเอิญพบกันที่นา้ํ ตกสีป่ี สองสกุลก็ถือ
โอกาสนีม้ องฝ่ ายตรงข้ามให้มากหน่อย
อวีถ้ ังกินมือ้ เที่ยงด้วยหัวใจที่หนักอึง้ นางคล้องแขนหม่าซิ่วเหนียงเอาไว้ เดินตามอยู่
ด้านหลังเฉินซื่อกับหวังซื่อ มุ่งหน้าไปยังนํา้ ตกสีป่ี
เพื่อไม่ให้โดดเด่นเกินหน้าตัวหลัก วันนีห้ ม่าซิ่วเหนียงจึงสวมเสือ้ กั๊กยาวปี๋ เจี่ยตัวบาง
ปั กปิ่ นชุบเงิน ห้อยตุม้ หูดอกติงเซียง ดูแล้วเรียบง่ายยิ่งนัก อวีถ้ ังกลับสวมเสือ้ กั๊กตัวยาวที่ตดั
จากผ้าหังโจวสีแดงปั กขอบด้วยด้ายเขียว หวีผมทรงก้นหอยสองข้าง เสียบหวีสบั ฝังหินสีนา้ํ เงิน
ทัง้ งดงามและมีชีวิตชีวายิ่ง
คนสกุลเว่ยมองปราดเดียวก็เห็นอวีถ้ งั ในทันที
นายหญิงเว่ยไม่รอดูท่าทีของบุตรชายก็พออกพอใจยิ่งแล้ว
กระทั่งหันไปมองบุตรชาย เห็นว่าเขาดวงหน้าแดงกํ่า แทบไม่กล้าเงยหน้าขึน้ มา
219

นายหญิงเว่ยอดจะเม้มปากยิม้ ไม่ได้
คนในสกุลอวีก้ ็มองเห็นเว่ยเสี่ยวซานในทันทีเช่นเดียวกัน
เขาอยู่ในชุดใหม่เอี่ยมที่มีรอยจีบ รูปร่างสูงใหญ่ ผิวค่อนข้างคลํา้ แต่คิว้ หนาตาโต ท่าที
ซื่อสัตย์แฝงความองอาจผึ่งผายอยู่หลายส่วน เป็ นชายหนุ่มที่มีกาํ ลังวังชายิ่ง ตอนที่เขามองอวี ้
ถังดวงตาสองข้างก็เปล่งแสงพราวระยับ แสดงให้เข้าใจได้ในทันทีถึงความชมชอบ ไม่ตอ้ งพูด
ถึงลูกสาวของนางแล้ว ขนาดอวีถ้ งั ที่ตอนมาไม่ค่อยจะสดใส ยังพลันรูส้ กึ ดีตามไปด้วย หัวใจที่
ลอยเคว้งก็เริม่ ไม่คลอนแคลนอีก
หากเป็ นคนนี ้ นับว่าพอไหว
นางคิดในใจ พลางลอบประเมินคนในสกุลเว่ยอยู่ในที
ผูเ้ ป็ นบิดาเป็ นคหบดีชนบทที่เงียบขรึม นายหญิงเว่ยเปิ ดเผยชาญฉลาด สายตาซื่อตรง
เที่ยงธรรม บุตรชายคนโตกับเว่ยเสี่ยวซานหน้าตาคล้ายกันมาก ทว่าดวงหน้าออกแนวคงแก่
เรียนมากกว่าน้องชายอยู่หลายส่วน สะใภ้ใหญ่ ของสกุลเว่ยก็นับว่าไม่เลว งดงามอ่อนโยน
พูดจาเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน คล้ายเป็ นผูเ้ ล่าเรียนเขียนอ่าน ผูท้ ่ีติดตามมาด้วยยังมีพ่ีสะใภ้ฝ่ ั งมารดา
ของนายหญิ งเว่ย ท่าทางสบายๆ คล่องแคล่วยิ่งนัก กลับเป็ นบุตรคนที่หา้ ของสกุลเว่ยนาม
ว่าเว่ยเสี่ยวชวน เขาอายุเพิ่งครบสิบขวบดี แต่พอเห็นอวีถ้ ังก็ฮึดฮัดไม่พอใจ ตอนที่สองสกุล
พูดคุยกัน เขาก็ไปอยู่ดา้ นหลังสุด ไม่รูว้ ่าไปหักกิ่งไม้มาได้ตงั้ แต่ตอนไหน ครู ่หนึ่งก็กวาดไม้ไป
ทางต้นหญ้าที่สูงถึงเข่า ครู ่หนึ่งก็เปลี่ยนไปตีก่ิงไม้ขา้ งกาย บางครัง้ ก็ทาํ เสียงดังลอยมา ขัด
ความสําราญในการสนทนาของสองสกุลยิ่งนัก
นายหญิ ง เว่ย เห็ น แล้ว ก็ ขมวดคิว้ เรีย กบุตรคนโตเข้า ไปหาแล้ว กระซิบสองสามคํา
บุตรชายคนโตสกุลเว่ยนามเว่ยเสี่ยวหยวนจึงหิว้ คอเว่ยเสี่ยวชวนไปด้านข้างด้วยสีหน้าทะมึน
ตําหนิเขาเสียงเบาไปหลายที เว่ยเสี่ยวชวนกลับยิ่งโมโหแล้ววิ่งหนีไป
คนในสกุลอวีท้ กุ คนเห็นแล้วก็รูส้ กึ ประหลาดใจ
220

คงเพราะสังเกตสีหน้าของทุกคนอยู่ตลอด นายหญิงเว่ยจึงรีบอธิบายต่อเฉินซื่อว่า “เด็ก


คนนีเ้ ป็ นลูกคนสุดท้อง ถูกคนในเรือนตามใจจนเคยตัว วันนีเ้ ดิมไม่คิดพาเขามาด้วย แต่พอถึง
วัดเจาหมิงเพิ่งพบว่าไม่รูเ้ ขาตามมาแต่เมื่อไร ได้แต่พาขึน้ เขามาด้วยกัน พวกท่าน…เอ่อ นาย
หญิงอวีอ้ ย่าได้ใส่ใจ กลับไปข้าจะสั่งสอนเขาให้ดี”
เฉิ น ซื่ อ มี นิ สัย เจ้า ให้เ กี ย รติ ข้า หนึ่ ง ฉื่ อ ข้า ต้อ งให้คื น หนึ่ ง จั้ง เห็ น ว่ า นายหญิ ง เว่ ย
เกรงอกเกรงใจถึงเพียงนี ้ รีบตอบว่า “เด็กๆ ก็ซุกซนเช่นนีเ้ ป็ นธรรมดา นายหญิงเว่ยก็อย่าได้ใส่
ใจนัก”
นายหญิ ง เว่ย ได้ยิน ก็ รีบเอ่ย เสริม เฉิ น ซื่อทัน ที แม้หัว ข้อส่ว นใหญ่ ท่ี คุย จะเป็ น เรื่อง
จิปาถะประจําวันทั่วไป แต่ก็พอจะมองออกว่านางใส่ใจเฉิ นซื่อยิ่งนัก อยากจะเกี่ยวดองกับ
สกุลอวีเ้ ป็ นที่สดุ
เฉินซื่อก็พอใจกับคนของสกุลเว่ยเป็ นหนักหนา ตอนแยกย้ายยังพูดกับนายหญิงเว่ยอ
ย่างชัดเจนว่าหากมีเวลาก็เชิญมาเป็ นแขกนั่งเล่นที่เรือนได้
คนในสกุลเว่ย รวมถึงสกุลเว่ยผูเ้ ป็ นบิดา ล้วนแต่มีสีหน้ายินดี
ระหว่างทางที่กลับไป หม่าซิ่วเหนียงก็เยินยอเว่ยเสี่ยวซานไปตลอดทาง
อวีถ้ ังถอนหายใจ เลิกผ้าม่านรถม้าขึน้ แล้วมองวัดเจาหมิงที่ค่อยๆ เลื่อนห่างออกไป
หัวใจที่เต้นไม่เป็ นสุขถึงค่อยๆ สงบลงได้

เช้าตรูว่ นั ถัดมา สกุลเว่ยได้เชิญแม่ส่ือมาถึงประตูเรือน พูดชื่นชมอวีถ้ งั ไปหลายกระบุง


แต่สีหน้าของเฉินซื่อหาได้บา่ ยเบี่ยง สุดท้ายก็ตอบตามจารีตไปว่าจะพิจารณาดูอย่างรักษาท่าที
แม่ส่อื ดูออกว่าการหมัน้ หมายครานีม้ ่นั ใจได้ถึงเก้าส่วนได้ ก็รบั เงินตอบแทนจากเฉินซื่อ
ไปอย่างหน้าชื่นตาบาน
221

ป้าสะใภ้คิดถึงเรื่องก่อนหน้าที่ผคู้ นซุบซิบนินทาหาว่าอวีถ้ งั เย่อหยิ่งใฝ่ สงู คิดหาบัณฑิต


แต่งเข้าเป็ นเขยชาย จึงได้ปล่อยข่าวเรื่องนีอ้ อกไปทันที
222

ตอนที่ 27 พลิกผัน
เวลาเพียงไม่นาน คนในตรอกชิงจู๋ตา่ งรูเ้ รื่องที่สกุลอวีใ้ กล้จะดองกับสกุลเว่ยแล้ว
เพียงแต่เฉินซื่อยังไม่ทนั ได้รบั ของขวัญอย่างเป็ นทางการจากแม่ส่ือสกุลเว่ย นายหญิง
ทังกลับมาถึงก่อนแล้ว
นางโผล่เข้าประตูมาก็โอดครวญทันที “มิใช่ขา้ บอกให้เจ้ารอก่อนหรือ? เหตุใดเจ้าถึงรีบ
ร้อนจนทนรอไม่ไหวเล่า มองไปให้ท่ วั เมืองหลินอันสิ มีใครเทียบกับสกุลหลี่ เทียบคุณชายรอง
สกุลหลี่ได้บา้ ง เจ้าอย่าได้สายตาสัน้ เช่นนี ้ คนที่ยอมแต่งเข้าเป็ นเขยชายให้เจ้า ยังมีท่ีดีๆ อยู่อีก
นะ”
วาจานีพ้ ดู จนเฉินซื่อเกิดโมโห นางจึงตอบกลับอย่างไม่เกรงใจบ้าง
เฉิ น ซื่ อ จิ บ นํ้า ชาอย่ า งไม่ รี บ ร้อ น แล้ว เอ่ ย เสี ย งเรี ย บว่ า “ก็ ต ้อ งดูว่ า เป็ น คนเช่ น ไร
บุตรสาวสกุลข้านับว่ามีวาสนาเช่นนีเ้ อง ต่อให้สกุลหลี่ดีเพียงไหน ก่อนหน้านีท้ ่ีเจ้าให้พวกเรารอ
ก็ มิใช่เ พราะต้องรอสกุลหลี่พิจารณาเรื่องคุณชายรองแต่งเข้ามาเป็ นเขยชายให้พวกเรารึ?
สกุลหลี่จริงใจได้ไม่มากเท่าสกุลเว่ย สกุลเว่ยแซงหน้าพวกเขาไปแล้ว นายหญิงทัง เหตุใดท่าน
จึงพูดว่าสกุลเว่ยเทียบไม่ได้เล่า?”
นายหญิงทังสําลักทันที
เฉินซื่อพูดต่ออีกว่า “นายหญิงทังคงยังไม่รูก้ ระมัง? พวกเราสองสกุลเตรียมว่าก่อนหน้า
วันไหว้พระจันทร์จะต้องตกลงเรื่องงานแต่งให้เสร็จสรรพ ถึงเวลานัน้ เชิญนายหญิงทังมาร่วมดื่ม
สุรามงคลด้วย ขอนายหญิงทังอย่าได้ปฏิเสธ”
นายหญิงทังเดินหน้าบูดบึง้ ออกไป
เฉินซื่อร้องเสียง ‘เพ่ย’ ส่งตามหลังนางเสียงหนึ่ง แล้วสั่งกับป้าเฉินว่า “เอาถ้วยชาที่นาง
ดื่มไปโยนทิง้ เสีย”
223

ป้าเฉินหัวเราะพูดว่า “ท่านไม่จาํ เป็ นต้องเดือดดาล ต่อให้เป็ นถ้วยชาเก่า แต่ก็ราคา


หลายเหรียญ มิสเู้ ก็บเอาไว้ก่อน รอให้มีขอทานผ่านมาขอข้าวขอนํา้ จากเรา ก็ยงั ใช้ใส่นา้ํ ชาให้
ได้นะเจ้าคะ”
เฉินซื่อยิม้ เย็นพลางเอ่ยว่า “จะให้ขอทานใช้ยงั กลัวจะไปสกปรกผูอ้ ่นื เลย”
ป้าเฉินหัวเราะฮ่าๆ ออกมา
เฉินซื่อไปควบคุมอวีถ้ งั ปั กรองเท้าโดยไม่พดู อะไรอีก

ฮูหยินหลี่ได้รบั คําตอบจากนายหญิงทัง สีหน้าก็เปลี่ยนเป็ นสีเขียวคลํา้ อยากจะตะโกน


ออกไปว่าช่างมันเสีย แต่พอคิดถึงบุตรชายคนเล็กที่ยงั อาละวาดไม่เลิกกับแม่สามีท่ีเรียกนางไป
ตําหนิแล้วยกหนึ่ง จึงเอ่ยอย่างติดๆ ขัดๆ ออกไปว่า “สกุลอวีน้ ี ้ ช่าง ช่างไม่รูจ้ กั ประมาณตน”
นายหญิ งทังคิดว่าเรื่องคงจบลงเช่นนีแ้ ล้ว จึงถอนหายใจโล่งอก เวลาเดียวกันก็เอ่ย
กับฮูหยินหลี่ดว้ ยนํา้ เสียงเดือดดาลราวกับมีศัตรู คนเดียวกันว่า “ก็ใช่น่ะสิ เฉิ นซื่อผูน้ ั้น ช่าง
กําเริบเสิบสานจนไม่รูข้ อบเขตแล้ว ก็แค่คลอดบุตรสาวออกมาคนหนึ่ง อาศัยว่าตนเองมีรูปโฉม
ดีหน่อยก็ทาํ เป็ นดูถกู อันนี ้ มองข้ามอันนัน้ ความงามหมดไปความรักย่อมจืดจาง นางก็ไม่กลัว
ว่าวันไหนเขยชายนั่นจะไม่เชื่อฟั งขึน้ มาบ้าง…”
ใครจะคิดว่าฮูหยินหลี่กลับเอ่ยว่า “มิใช่รบั อนุสกั หน่อย? ความงามหมดไป ความรักจืด
จางอะไรกัน?”
นายหญิงทังหมดสนุก คิดว่าคุณหนูนายหญิงสกุลเผยยังไม่เคยหักหน้านางเช่นนีเ้ ลย
ในใจก็เริม่ ไม่สบอารมณ์ ชวนคุยเป็ นพิธีอีกสองสามคําก็ขอตัวกลับแล้ว

ส่วนทางเรือนสกุลอวี ้ อวีเ้ หวินยังให้คนสองสามคนไปตามสืบ ล้วนบอกว่าสกุลเว่ยเป็ น


คนนิ สัย ดี ระหว่า งครอบครัว ด้ว ยกัน ต่า งช่ ว ยเหลื อเกื อ้ กูล เว่ย เสี่ย วซานยิ่ง เป็ น คนเถรตรง
224

กตัญ�ู อวีเ้ หวินถึงได้วางใจ แล้วปรึกษากับเฉินซื่อเรื่องงานแต่งของสองสกุล “ในเมื่อสกุลเว่ย


ให้เกียรติเราถึงเพียงนี ้ พวกเราก็ไม่อาจไม่ไว้หน้าสกุลเว่ย ไม่ตอ้ งให้พวกเขาเอาอะไรมาหรอก
ตอนที่ตบแต่งพวกเราก็วางเงินหนึ่งร้อยตําลึง หมูสองหัว สุราจินฮวาสิบไห ใบชาหนึ่งหาบ
ข้าวสารหนึ่งหาบ เสือ้ ผ้าของสี่ฤดูเจ้าก็จดั เตรียมให้ดี สรุปก็คือ อย่าให้ผอู้ ่นื ติฉินนินทาได้”
เฉิ นซื่อเอ่ยอย่างลําบากใจว่า “หนึ่งร้อยตําลึงรึเจ้าคะ? ไหนจะต้องตกแต่งเรือนใหม่
เครื่องประดับศีรษะของอาถังก็ตอ้ งเพิ่มอีกหน่อย…”
จะให้ควักทัง้ หมดออกมาในทีเดียวค่อนข้างจะติดขัดอยู่บา้ ง
อวี เ้ หวิ น หัว เราะ บอกว่ า “ข้า คุย กับ เถ้า แก่ ถ งไว้แ ล้ว เขาจะให้ข้า ยื ม หกสิ บ ตํา ลึง
ดอกเบี ย้ หกส่ ว น หนึ่ ง ปี คื น จนครบ เจ้า วางใจก็ พ อแล้ว เรื่ อ งพวกนี ้ข้า จัด การเอง เจ้า แค่
เตรียมการให้ดีก็พอ”
เฉินซื่อเอ่ยอย่างยินดีว่า “เถ้าแก่ถงครานีช้ ่วยเราไว้มาก เขามีหลานแล้วหรือยังเจ้าคะ?
ถ้ามีหลานตัวน้อยแล้ว ข้าจะทําเสือ้ ผ้าให้พวกเขาหลายๆ ชุด”
“ยังหรอก!” อวีเ้ หวินตอบ “เขากําลังทุกข์ใจเรื่องนีอ้ ยู่น่ะ! ถ้าเจ้ามีเวลา ก็ไปคุยกับนาย
หญิงถงหน่อย…แต่ก่อนเจ้าไม่ได้ไปวัดบ่อยหรือ? ลองดูสิว่าวัดไหนมีของศักดิ์สิทธิ์ แล้วให้นาย
หญิงถงลองไปกราบไหว้ด”ู
เฉิ นซื่อพูดอย่างลังเลว่า “พูดถึงเรื่องศักดิ์สิทธิ์ ก็ตอ้ งวัดหลิงอิ่นเจ้าค่ะ แต่วัดหลิงอิ่
นค่อนข้างไกล…”
อวีเ้ หวินหัวเราะ บอกว่า “จะเป็ นไรไปเล่า รอให้อาถังของเราแต่งงานแล้ว เจ้าก็วา่ งพอดี
ไปพร้อมกับนายหญิงถงก็ได้ จะได้ไปเสี่ยงเซียมซีให้อาถังของเราด้วย”
เฉินซื่อพลันรูส้ กึ ตื่นเต้นขึน้ มาทันตา ชวนอวีเ้ หวินคุยเรื่องอาหารเลิศรสของหังโจว “ถึง
เวลานัน้ ท่านก็ไปด้วยกันนะเจ้าคะ อาถังก็ดว้ ย พวกเราสกุลอวีถ้ ือโอกาสไปเที่ยวเมืองหังโจว
ด้วยเลย”
225

อวีเ้ หวินเห็นว่าภรรยาอารมณ์ดีเช่นนี ้ ก็พยักหน้าหงึกหงัก ทัง้ ยังคิดวางแผนเป็ นจริง


เป็ นจัง
คิดไม่ถึงว่า เมื่อถึงเวลาที่แม่ส่อื ของสกุลเว่ยควรจะมาเยือนกลับไม่มีใครมา
เฉินซื่อร้อนใจ คิดจะให้อาเสาไปสืบความ แต่ก็กลัวจะเผยพิรุธให้คนอื่นคิดว่าสกุลอวี ้
รีบร้อนแต่งลูกสาว จะกลายเป็ นส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของอวีถ้ งั จึงได้แต่เดินวนไปวนมาในเรือน
ทัง้ ไม่อาจให้ผอู้ ่นื รูเ้ รื่องได้อีก
ทว่ า อวี ้เ หวิ น ที่ ร ออยู่ ใ นเรื อ นกลับ เริ่ ม โมโห คิ ด ว่ า สกุ ล เว่ ย ไม่ รัก ษาสัจ จะ จึ ง เริ่ ม
คลางแคลงใจเรื่องงานหมัน้ หมายที่มีกบั สกุลเว่ย แต่เพราะกลัวเฉินซื่อร้อนใจจนล้มป่ วย จึงได้
ข่มอารมณ์แล้วเอ่ยปลอบใจนางว่า “พวกเขาบอกแล้วว่าจะมาวันนี ้ แต่ไม่ได้บอกว่าเป็ นเช้าหรือ
บ่าย เรือนสกุลเว่ยก็ห่างจากพวกเราไปตัง้ สี่หา้ ลี ้ หากว่ามีเรื่องอะไรล่าช้าขึน้ มา ก็อาจจะมาถึง
เรือนเราช่วงบ่าย หรือจะให้ผูอ้ ่ืนมาอาศัยกินข้าวเรือนเรารึ? คนชนบทนัน้ รู ว้ ่าข้าวยากหมาก
แพง ไม่ยอมไปกินข้าวเรือนผูอ้ ่นื ง่ายๆ หรอก”
เฉินซื่อฝื นยิม้ ออกมาตอบเสียงอ่อยว่า “แม้จะพูดเช่นนัน้ แต่มิใช่ควรเตรียมตัวแต่เช้าตรู ่
แล้วออกจากบ้านตอนฟ้ายังไม่สางหรือ? เช่นนีย้ ามบ่ายจึงจะถึง…”
เห็นชัดว่ายังขาดความจริงใจ
สองสามีภรรยากําลังพูดจากัน หวังซื่อที่มาช่วยรับรองแขกก็เข้ามา
นางเห็นว่าในเรือนยังว่างโล่ง ก็สะดุง้ ตกใจไปทีหนึ่ง รีบถามว่า “อ้าว? แม่ส่อื สกุลเว่ยยัง
ไม่มารึ?”
เฉินซื่อส่ายหน้ากลัดกลุม้
หวังซื่อทําหน้าตึงเครียดแล้วเอ่ยต่อ “นี่ไม่ใช่ปัญหา เดี๋ยวข้าให้อาเสาไปถามดู”
เฉินซื่อรัง้ มือหวังซื่อไว้ก่อนจะบอกว่า “รออีกสักหน่อยเถอะ! บางทีอาจเกิดเรื่องทําให้
ล่าช้า”
226

หวังซื่อได้แต่ยอมเชื่อฟั ง แต่ในใจกลับยังไม่สบายใจ
แน่นอนว่าเรื่องนีไ้ ม่อาจปิ ดบังต่ออวีถ้ งั ได้
นางตะลึงไป ก่อนที่ในใจจะเริม่ รูส้ กึ ผ่อนคลาย
คิดว่าหากการหมั้นหมายล้มเลิกไปเช่นนีก้ ็ไม่เป็ นไร นางยังสามารถใช้ชีวิตวัยเยาว์
ต่อไปได้อีกหลายปี กลัวแต่ผใู้ หญ่ในเรือนจะไม่พอใจ อย่างไรคนก็ดตู วั กันแล้ว ทัง้ คนในสกุลก็
ชอบพอเว่ยเสี่ยวซานมาก
นางไปหาเฉิ น ซื่ อ กับ หวัง ซื่ อ เห็ น ว่ า ทั้ง สองฝื น ยิ ม้ แข็ ง ทื่ อ ต่ อ หน้า นาง ก็ อ ดจะเกิ ด
ความรู ส้ กึ ผิดไม่ได้ เอ่ยว่า “ท่านแม่ ป้าสะใภ้ เรื่องดีๆ ย่อมมีอปุ สรรค หากไม่มีงานหมัน้ หมาย
ของสกุลเว่ย พูดได้เพียงว่าวาสนาของพวกเราไม่มากพอ พวกท่านทัง้ สองอย่าได้ปวดใจไปเลย
เจ้าค่ะ”
“เจ้าเด็กคนนี”้ เฉินซื่อดึงสติกลับมาแล้วปลอบใจอวีถ้ งั “เรื่องของผูใ้ หญ่ไม่ตอ้ งมาวุ่น
เรื่องงานแต่ง มารดาเจ้ารู ว้ ่า ต้องทํา อย่า งไร เจ้า ไปคอยอยู่ในห้องแล้ว ปั ก รองเท้า ให้เ สร็จก็
พอแล้ว” จากนัน้ ก็ไล่นางกลับเข้าห้องไปทํางานเย็บปั กต่อ
อวีถ้ งั ได้แต่ส่ งั ซวงเถาเอาไว้ หากว่ามีคนจากสกุลเว่ยมาก็ให้ไปแจ้งนางสักคํา นางจะ
ได้รูว้ า่ งานหมัน้ หมายของนางกับสกุลเว่ยเกิดข้อผิดพลาดใดกันแน่
ซวงเถารับคําด้วยสีหน้าบูดบึง้

คนของสกุลเว่ยมาถึงก็เลยยามอู่ 1 ไปแล้ว
54

อีกทัง้ เป็ นบุตรชายคนโตเว่ยเสี่ยวหยวนมาพร้อมกับแม่ส่อื

1
ยามอู่ เวลา 11:00-12:59 น.
227

ทัง้ สองมือไม้วา่ งเปล่า สวมเสือ้ สีเรียบ ตรงเอวผูกเชือกไว้ทกุ ข์


หัวใจของคนสกุลอวีเ้ ต้นตึกตักไปมา
เฉินซื่อกับหวังซื่อพึมพํากันอยู่ในห้องว่า “ใครในสกุลเว่ยตายไปอย่างนัน้ รึ? สกุลนัน้ เพิ่ง
จะคุยเรื่องหมัน้ หมายกับอาถัง นางจะถูกดึงเข้าไปเกี่ยวด้วยหรือไม่?”
หวังซื่อตอบกลับในทันที “ไป ไปดูกนั !”
ตามมารยาท เว่ยเสี่ยวหยวนจึงไปพบอวีเ้ หวินก่อน
เฉินซื่อ หวังซื่อรวมถึงอวีถ้ งั ที่เพิ่งได้ข่าว ต่างก็รอฟั งเรื่องราวอยู่ดา้ นนอกห้องหนังสือขอ
งอวีเ้ หวิน
“ท่านลุงอวี”้ เว่ยเสี่ยวหยวนตาแดงกํ่า สีหน้ามีเพียงความโศกเศร้า “เป็ นเพราะเสี่ยว
ซานของเราไร้ว าสนากับคุณหนูอวี ้ เสี่ย วซาน เสี่ย วซานเมื่ อวานออกไปหาปลา แล้ว ไม่ไ ด้
กลับมาอีก ตอนเช้าพวกเราถึงรูว้ า่ เขา เขาจมนํา้ ตายแล้ว!”
“หา!” อวีเ้ หวินที่เตรียมทางลงเอาไว้ให้สกุลเว่ยมือสั่นเทาจนทําถ้วยชาตกพืน้ ดัง ‘เคร้ง’
นํา้ ชากระฉอกไปโดนรองเท้าหัวโตที่เขาเพิ่งเปลี่ยนมาใหม่
“ได้อย่า งไรเล่า ?” เขาเดื อดดาล “พวกเจ้า ไม่ รูว้ ่า ต้องหมั้น หมายหรอกรึ? เขายัง วิ่ง
ออกไปหาปลา? พวกเจ้าขาดแคลนเงินหรือไร?”
ทว่าในใจเขากลับท่องคําว่า ‘ตายแล้ว ตายแล้ว’ อาถังของพวกเขาเพิ่งจะตกลงหมัน้
หมายกับสกุลเว่ย เว่ยเสี่ยวซานก็มาตายไปเช่นนี ้ เกรงว่าตราบาป ‘กินสามี’ ย่อมจะตกบนศีรษะ
อาถังของพวกเขาแน่
สามคนที่แอบฟั งอยู่ก็น่ิงอึง้ ไปตามๆ กัน
คํา พูด ของอวี เ้ หวิ น พูด ได้บ าดใจนัก เว่ ย เสี่ ย วหยวนเพิ่ ง จะสูญ เสี ย น้อ งชาย หาก
เปลี่ย นเป็ น ผูอ้ ่ื น คงได้ทะเลาะกับอวีเ้ หวินไปแล้ว เว่ย เสี่ย วหยวนนั้นไม่เ พียงไม่ท ะเลาะกับ
228

อวีเ้ หวิน กระทั่งวาจารุ นแรงก็ไม่มีสกั ประโยค ยังอดทนเอ่ยด้วยความปวดใจว่า “ท่านลุงอวี ้


เรื่องนีเ้ ป็ นสกุลเราที่ทาํ ผิด ดังนัน้ ที่ขา้ มาในเวลานี ้ ก็เพราะครึ่งวันก่อนหน้าได้หารือกับบิดาข้า
มาเรียบร้อยแล้ว ด้วยกลัวจะทําให้คณ ุ หนูอวีเ้ สื่อมเสียชื่อเสียง บิดาข้าคิดว่า หากมีคนถามถึงก็
ให้บอกว่าคนที่คณ ุ หนูอวีไ้ ปดูตวั คือเจ้าสาม แต่ดว้ ยเพราะเกิดเรื่องร้ายเช่นนีก้ บั คนในครอบครัว
เวลานีจ้ ึงไม่เหมาะจะจัดงานมงคล ให้พวกท่านบอกไปว่ารอไม่ไหว แล้วค่อยหาคูห่ มายที่ดีกว่า
ให้คณ ุ หนูอวี ้ เพราะตอนแรกก็ไม่ได้พดู ชัดเจนว่าจะหมัน้ หมายกับเจ้าสองหรือเจ้าสามกันแน่”
“หา!” เป็ นเรื่องน่าตกใจอีกแล้ว
อวีเ้ หวินตกตะลึงไปครึง่ วันก็ยงั พูดอะไรไม่ออก
คนด้านนอกสามคนที่แอบฟั ง โดยเฉพาะเฉินซื่อกับหวังซื่อนัน้ นํา้ ตาพลันร่วงหล่นลง
“สกุลที่ประเสริฐเพียงนี…
้ เด็กที่ดีเช่นนี…
้ ” เฉินซื่อแทบจะกลัน้ เสียงสะอืน้ ไม่อยู่
อวีถ้ งั นึกถึงสายตาชอบพอตอนที่เว่ยเสี่ยวซานมองตน ก็รอ้ งไห้เงียบๆ ตามไปด้วย
อวีเ้ หวินกับเว่ยเสี่ยวหยวนได้ยินเสียงข้างนอกก็รบี ออกมา เห็นว่าสามคนนํา้ ตาไหลเป็ น
สาย อวีเ้ หวินอดจะถอนหายใจหนักๆ ไม่ได้ เขาค่อยๆ สงบสติลงแล้วกล่าวขอโทษเว่ยเสี่ยว
หยวนว่า “เมื่อครูเ่ ป็ นข้าที่พดู จาขาดการไตร่ตรอง เจ้าอย่าได้ถือโทษโกรธลุงเลย ใครมาเจอเรื่อง
เยี่ยงนี ้ ล้วนย่อมเจ็บปวดทัง้ นัน้ เจ้าก็กล่อมบิดามารดาเจ้า ให้ตดั อกตัดใจเสีย อีกเดี๋ยวข้าจะ
ตามไปดูท่ีเรือนเจ้า ให้ญาติผพู้ ่ีของนางไปจุดธูปไหว้เว่ยเสี่ยวซานด้วย”
สกุลเว่ยมีเหตุมีผลเพียงนี ้ แม้จะเจ็บปวดจากการสูญเสียแต่ก็ไม่วายคํานึงถึงชื่อเสียง
ของอวีถ้ งั พวกเขาควรจะรูส้ กึ ซาบซึง้ จึงจะถูก
เว่ยเสี่ยวหยวนก็ประหลาดใจมาก มองไปทางอวีถ้ ังที่ทางหนึ่งก็นา้ํ ตานองหน้า ทาง
หนึ่งก็ปลอบพวกผูใ้ หญ่ไปด้วยแล้ว ในใจพลันรูส้ กึ ปวดแปลบ
ความรักที่เหนือความหลงใหลและดือ้ ดึงไม่อาจอยู่ได้ยืนยาว
เสี่ยวซานก็พอรูว้ า่ คนสกุลอวีช้ อบพอตน ถึงเอาแต่ดีใจจนทําตัวไม่ถกู
229

แต่คิดไม่ถึงเลย ว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันเช่นนี ้
หากว่าสองคนได้เป็ นสามีภรรยากัน จะเป็ นเรื่องที่ดีเพียงใด!
ทว่า เสี่ยวซานไม่อยู่แล้ว สกุลอวีก้ ลับไม่หลีกลีห้ นีห่าง คุณหนูอวีย้ งั เสียนํา้ ตาให้เขา
หากเสี่ยวซานที่อยู่ใต้ปรโลกษ์รบั รูเ้ ขาจะต้องดีใจมากแน่ๆ
เขาอยากจะปลอบใจอวีถ้ งั สักคํา อวีเ้ หวินกลับตบที่บา่ เขา แล้วเอ่ยเสียงเศร้าว่า “ข้าจะ
ไปเปลี่ยนเสือ้ ผ้าเดี๋ยวนี ้ ให้คนเรียกอาเสามาที ข้าจะไปเรือนเจ้ากับเจ้าด้วย”
เว่ยเสี่ยวหยวนมองอวีถ้ งั อย่างลังเลทีหนึ่ง อยากจะพูดเรื่องน้องชายกับอวีถ้ งั สักหน่อย
แต่ก็เปลี่ยนใจเมื่อคิดได้ว่า ต่อให้อวีถ้ งั รู แ้ ล้วอย่างไร? ก็แค่ปวดใจมากขึน้ เท่านัน้ หากต่อไปใช้
ชีวิตอย่างเป็ นสุขได้ก็พอแล้ว เมื่อใดมีเรื่องทุกข์รอ้ น จะเอาแต่คิดถึงคู่หมายที่ไม่ได้หมัน้ มีแต่จะ
ทําให้นางไม่อาจใช้ชีวิตอย่างสงบได้
สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พดู อะไรออกไป หันไปคารวะสตรีสกุลอวีอ้ ย่างเคร่งขรึม แล้วเดินออก
ประตูใหญ่ไป
230

ตอนที่ 28 ข่าวการตาย
กลางดึกคืนนัน้ อวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนกลับมาจากเรือนสกุลเว่ย อวีป้ ๋ อที่ได้ข่าวก็ตามมา
ด้วย
คนในครอบครัวนั่งคุยเรื่องนีใ้ นโถงรับรอง อวีเ้ หวินแสดงออกชัดถึงความเสียดายใน
การหมัน้ หมายครัง้ นี ้ “ช่างเป็ นสกุลที่เปี่ ยมคุณธรรมเหลือเกิน นายท่านเว่ยไม่พดู อะไรด้วยเป็ น
บุรุษ แต่นายหญิงเว่ยนัน้ พอเห็นข้าก็ไม่มีกล่าวโทษสักคํา เอาแต่ขอโทษอาถังของพวกเราไม่
ยอมหยุด บอกกับข้าซํา้ แล้วซํา้ อีกว่าต่อไปหากมีข่าวลืออะไรไม่น่าฟั ง ก็ผลักไปให้พวกเขาฝั่ ง
โน้นได้เลย เจ้าดูสิ เหตุใดตอนแรกเราถึงไม่หมัน้ กับเจ้าสามของพวกเขานะ? ไม่อย่างนัน้ ก็คงไม่
เกิดเรื่องเช่นนีแ้ ล้ว”
อวีป้ ๋ อได้ฟังก็รูส้ ึกเสียดายและเอ่ยว่า “เช่นนั้นพรุ ่งนีข้ า้ จะไปมอบของเซ่นไหว้ให้สกั
หน่อย! อาหย่วน เจ้าก็ไปช่วยงานสกุลเว่ย ผูอ้ ่ืนมีคณ ุ ธรรม พวกเราย่อมไม่อาจไม่เหลียวแลไต่
ถาม ต่อให้ภายหลังมีข่าวลืออะไรออกมา ก็ไม่อาจโยนไปให้สกุลเว่ยได้ เด็กคนนัน้ จากไปอีกภพ
ภูมิแล้ว จะให้เสื่อมเสียชื่อเขาได้อย่างไร? ลูกหลานของเรานับเป็ นลูกหลาน แล้วลูกหลานของ
บ้านอื่นมิใช่ลกู หลานเช่นเดียวกันหรือ?”
“เหตุผลนีถ้ กู ต้องแล้ว” หวังซื่อถอนหายใจ แต่กลัวว่าอวีถ้ งั ได้ยินแล้วจะไม่สบายใจ จึง
หันไปมองนาง
อวีถ้ งั นั่งเงียบๆ อยู่ขา้ งหน้าต่าง สติไม่อยู่กบั เนือ้ กับตัว
ตอนที่ได้ยินข่าวการตายของเว่ยเสี่ยวซาน นางเพียงรู ส้ ึกตกใจแต่หลังจากตกใจก็คือ
ความเสียดาย และต่อจากความเสียดายก็คือความเจ็บปวดอันหนักอึง้
อายุเท่านีก้ ็มาจากไปเสียแล้ว
บิดามารดาย่อมไม่อาจรับไหวแน่!
ใจเขาใจเรา
231

คิดถึงตอนนัน้ ที่นางได้ฟังข่าวร้ายเกี่ยวกับบิดามารดาของตน มันเหมือนฟ้าถล่มลงมา


อย่างไรอย่างนัน้
การตายของเขาจะต้องทําให้บิดามารดารูส้ กึ เหมือนฟ้าถล่มลงมาไม่ตา่ งกันแน่
พอนางว่างขึน้ มาก็จะนึกถึงดวงตาที่มองนางด้วยความชอบพอคูน่ นั้ ของเขา
อวีถ้ งั พลันกลัน้ นํา้ ตาให้เอ่อออกมาไม่ได้
ยิ่งคิดถึงความมีคณ
ุ ธรรมของสกุลเว่ย นางก็ย่ิงเสียดายวาสนาที่ยงั ไม่ได้เริ่มต้นในครัง้
นี ้
นางนั่งซึมอยู่ตรงนัน้ ไม่พดู อะไรสักคํา
หวังซื่อเดินเข้าไปกอดนางเบาๆ เอ่ยเสียงตํ่าว่า “อาถัง เรื่องนีไ้ ม่เกี่ยวกับเจ้า ชีวิตคนยัง
อีกยืนยาว นี่เป็ นเพียงความทุกข์เล็กน้อยที่ตอ้ งก้าวผ่าน พอเวลาผ่านไป ก็จะดีขนึ ้ เอง”
เฉินซื่อตอนนีเ้ พิ่งรูต้ วั ว่าละเลยความรูส้ กึ ของบุตรสาวไป รีบเดินเข้าไปหาแล้วช่วยหวัง
ซื่อปลอบโยนนาง
อวีถ้ งั ไม่อยากให้ผใู้ หญ่ในเรือนต้องเป็ นกังวล จึงเรียกสติแล้วพูดจากับพวกเขา สุดท้าย
ยังถามไปว่า “ข้าไปจุดธูปไหว้ศพคุณชายรองสกุลเว่ยได้หรือไม่เจ้าคะ?”
เฉินซื่อกับหวังซื่อมองหน้ากัน หยุดคิดเล็กน้อยแล้วตอบอย่างไม่ม่ นั ใจว่า “อาถัง พวก
เราต่ า งรู ว้ ่ า เจ้า เสี ย ใจ แต่ อ ย่ า งไรสกุล เราก็ มิ ไ ด้มี ค วามเกี่ ย วพัน กับ สกุล เว่ ย เจ้า ไปคงไม่
เหมาะสม”
อวีถ้ งั พยักหน้า
แม้นางจะสงสารนายหญิงเว่ยที่ตอ้ งสูญเสียบุตรชาย ทว่าก็ตอ้ งใส่ใจความรู ส้ ึกของ
บิดามารดาตนยิ่งกว่า
232

กระทั่งวันต่อมาตอนที่อวีห้ ย่วนไปเรือนสกุลเว่ย นางก็ให้อวีห้ ย่วนช่วยจุดธูปไหว้เว่ย


เสียวซานแทนนาง แล้วแสดงความเสียใจต่อคนสกุลเว่ยด้วย
อวีห้ ย่วนตอบรับคําขอของญาติผนู้ อ้ งในทันที
นายหญิงเว่ยรูเ้ รื่องก็รอ้ งไห้จนนํา้ ตานอง พูดออกมาเว่ยเสี่ยวซานไร้ซง่ึ วาสนา
อวีห้ ย่วนมองด้วยความโศกเศร้าอยู่เงียบๆ อีกหลายวันถัดไปก็คอยอยู่ช่วยงานที่เรือน
สกุลเว่ย
เว่ยเสี่ยวซานเพราะยังไม่ได้แต่งงาน ทัง้ เป็ นการตายกะทันหัน บิดามารดาและลุงป้า
ต่างยังมีชีวิตอยู่ ตามธรรมเนียมแล้วไม่อาจเข้าฝังในสุสานของสกุล ยิ่งไม่อาจตัง้ ศพไว้ส่ีสิบเก้า
วัน คนสกุลเว่ยปรึกษากันว่าจะยกบุตรชายคนรองของเว่ยเสี่ยวหยวนให้เป็ นลูกบุญธรรมของ
เว่ยเสี่ยวซาน เช่นนี ้ เว่ยเสี่ยวซานก็จะมีผสู้ ืบทอด แล้วเข้าฝั งในสุสานบรรพชนได้ แต่ปัญหาก็
คือ เว่ยเสี่ยวหยวนบัดนีม้ ีบุตรชายอยู่เพียงคนเดียว หากจะยกให้เป็ นลูกบุญธรรมก็ตอ้ งรอให้
เขามีบตุ รชายคนรองเสียก่อน แล้วคนโยนอ่างถือป้ายจะทําอย่างไรเล่า?
เว่ยเสี่ยวหยวนเสนอให้นอ้ งชายคนเล็กเว่ยเสี่ยวชวนเป็ นคนทําแทน
คนสกุลเว่ยก็เห็นชอบว่าสามารถทําได้
เว่ยเสี่ยวชวนตอบตกลงด้วยดวงตาบวมแดง
พวกผูใ้ หญ่ในสกุลเว่ยกําหนดให้ตงั้ ศพเว่ยเสี่ยวซานไว้สิบสี่วนั
นายหญิงเว่ยไม่เห็นด้วย บอกจะตัง้ ศพบุตรชายไว้ย่ีสิบเอ็ดวัน
แต่การตัง้ ศพยี่สิบเอ็ดวัน มีเงินทองที่ตอ้ งใช้จ่าย สกุลเว่ยที่ตอนแรกยอมรับปากยก
บุตรชายหนึ่งคนให้ไปเป็ นเขยสกุลอวี ้ ก็เพราะการมีบุตรชายมากเกินไปนัน้ ทําให้มีค่าใช้จ่าย
ก้อนใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อมีบตุ รคนเล็กอย่างเว่ยเสี่ยวชวนที่มีพรสวรรค์ดา้ นการเล่าเรียน คนใน
เรือนจึงเริม่ แบกรับไม่ไหว
233

สกุลเว่ยผูเ้ ป็ นบิดาต้องคิดให้ไกล…คนตายแม้จะสําคัญ แต่คนที่มีชีวิตอยู่นนั้ สําคัญยิ่ง


กว่า
เขาจึงเอนเอียงไปทางสิบสี่วนั
สกุลเว่ยผูเ้ ป็ นบิดาและมารดาจึงขัดแย้งกันเอง
อวีเ้ หวินหลังจากรู เ้ รื่องนีจ้ ากอวีห้ ย่วน ก็เตรียมเงินยี่สิบตําลึงแล้วไปที่สกุลเว่ยพร้อม
กับเฉินซื่อ
อวีถ้ งั ทางนัน้ จิตใจเศร้ามอง นางอยากไปพูดคุยตามประสาสตรีกบั หม่าซิ่วเหนียง
ชาติก่อน หลี่จวิน้ ตกม้าตาย ชาตินี ้ เว่ยเสี่ยวซานจมนํา้ ตาย
มีหรือที่นางจะไม่คิดอะไรเลย?
หม่าซิ่วเหนียงก็รูเ้ รื่องของเว่ยเสี่ยวซาน จึงยินดีตอ้ นรับให้อวีถ้ งั มาเป็ นแขกที่เรือน ไม่
เพียงเท่านัน้ นางยังไล่นอ้ งชายของตนไปยังจางฮุ่ย ซือ้ ขนมและอาหารว่างมามากมายเพื่อ
รับรองอวีถ้ งั
อวีถ้ ังมีความคิดหลายอย่างตีกันมั่วเต็มท้องไปหมด หลังจากที่ได้พบหม่าซิ่วเหนียง
แล้ว กลับไม่รูจ้ ะพูดอะไรดี
หม่าซิ่วเหนียงเป็ นคนเข้าใจผูอ้ ่นื อวีถ้ งั ไม่พดู นางก็ไม่ถามถึง นั่งเงียบๆ อยู่เป็ นเพื่อนอวี ้
ถังในลานกว้างข้างต้นกล้วยอยู่ครึ่งค่อนวัน ไม่ได้พดู คุยอะไรกันสักคํา ก่อนที่อวีถ้ งั จะกลับไป
นางยังถามอวีถ้ งั ว่าต้องการให้นางไปอยู่เป็ นเพื่อนที่เรือนหรือไม่
หัวใจของอวีถ้ งั อบอุน่ ไปหมด พลันรูส้ กึ ดีขนึ ้ มาในทันที
นางกอดหม่าซิ่วเหนียงแน่นก่อนจะเดินทางกลับเรือนไป
ทว่าเพิ่งนั่งเกีย้ วผ่านเข้าตรอกชิงจู๋ได้ไม่เท่าไร นางก็พบว่าหน้าประตูเรือนมีเพื่อนบ้าน
อออยู่หลายคน
234

อวีถ้ งั หัวใจบีบรัด เร่งให้ยกเกีย้ วเข้าไป ไม่รอให้เกีย้ วหยุดนิ่งดีเสียก่อนก็เลิกม่านแล้วลง


มาจากเกีย้ วแล้ว
มีเพื่อนบ้านที่รูจ้ ักอวีถ้ ังเห็นนางจึงรีบพูดมา “แม่นางอวี ้ เจ้าไปไหนมา? เรือนเจ้าถูก
ขโมยขึน้ แล้ว อาเสาไปตามนายท่านอวี ้ เจ้าก็รบี เข้าบ้านไปดูเถอะ!”
อวีถ้ งั ตกอกตกใจ ผลักคนที่มงุ อยู่ออกแล้วเข้าประตูไป
ป้าเฉินกําลังกวาดพืน้ เห็นว่าอวีถ้ งั กลับมาแล้วก็ด่ิงเข้ามารับพร้อมเอ่ยว่า “คุณหนู ไม่มี
อะไรเจ้าค่ะ หายไปแค่มีดแล่เนือ้ กับข้าวสารครึง่ ถัง”
อวีถ้ งั ขมวดคิว้
เมืองหลินอันหลายปี มานีล้ มดีฝนพอ กระทั่งของตกบนถนนยังไม่มีคนหยิบไป น้อยนัก
ที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนีไ้ ด้ แต่ภายหลังเกิดปี แห่งภัยพิบตั ิ สกุลเผยก็เปิ ดคลังแจกเสบียง ทัง้ ปิ ด
ประตูเมืองปฏิเสธไม่ให้ผอู้ พยพเข้ามา ก็เหมือนจะไม่มีเหตุการณ์ลกั ขโมยอะไรแบบนีข้ นึ ้ ด้วยซํา้
เห็นได้ชดั ว่านายท่านสามผูเ้ ป็ นผูน้ าํ สกุลเผยนีก้ ็ทาํ เรื่องที่ดีๆ อยู่บา้ ง
อวีถ้ งั พูดว่า “เจ้าตรวจนับดีแล้วหรือไม่?”
“ตรวจนับแล้วเจ้าค่ะ” ป้าเฉินตอบ “โรงเก็บของของนายหญิงข้าเอาบันทึกมาตรวจไล่ที
ละชิน้ แล้ว ล้วนอยู่ครบเจ้าค่ะ” พูดถึงตรงนีน้ างก็ตบอกด้วยความโล่งใจ “โชคดีท่ีขา้ ย้อนกลับมา
กลางทาง ไม่อย่างนัน้ ข้าต้องรับโทษหนักแล้ว!”
อวีถ้ งั สอบถามอย่างละเอียดต่อไป ที่แท้เพราะป้าเฉินเห็นว่าในเรือนไม่มีคน เตรียมตัว
จะไปแวะเวียนเรือนข้างๆ เดินได้ครึ่งทางก็คิดว่าตอนที่คุยกันมือไม้ก็ยงั ว่าง ไม่สหู้ ยิบเอางาน
เย็ บ ปั ก ติ ด มื อ ไปด้ว ย ถึ ง ได้ม าปะหน้า กับ ขโมยเข้า พอดี เลยไม่ ไ ด้ห ยิ บ สิ่ ง ของอย่ า งอื่ น ไป
มากมาย
“เจ้าไม่เป็ นไรใช่หรือไม่?” อวีถ้ งั ถามอย่างเป็ นห่วง
235

ป้าเฉินตอบหน้าแดงว่า “ไม่เจ้าค่ะ ไม่เป็ นไร รูแ้ ต่แรกข้าคงไม่ออกไปข้างนอกแล้ว”


อวีถ้ งั เอ่ยว่า “ต่อไประวังให้มากหน่อยก็พอแล้ว”
ป้าเฉินบ่นว่า “ตรอกชิงจู๋ของพวกเราหลายปี มานีไ้ ม่มีเรือนไหนมีของหายเลยด้วยซํา้
ไม่รูว้ า่ พวกสารเลวนีม้ าจากไหน”
อวีถ้ งั ถามอีกว่า “แจ้งทางการหรือยัง?”
“แจ้งแล้วเจ้าค่ะ!” ป้าเฉินพูดต่อว่า “นายท่านอู่เรือนข้างๆ ช่วยแจ้งให้ แต่ประตูไม่พงั
หน้าต่างไร้รอยงัดแงะเช่นนี ้ กลัวว่าแจ้งทางการไปก็คงสืบอะไรออกมาไม่ได้แน่”
ที่สาํ คัญคือของที่หายไปไม่ใช่ของสําคัญ ศาลาว่าการย่อมไม่สนใจ
ไม่วา่ อย่างไร เมื่อมีคนแปลกหน้าเคยบุกรุกเข้าเรือนมาแล้ว…อวีถ้ งั ย่อมกระวนกระวาย
ใจแน่
อวีเ้ หวินกับเฉินซื่อกลับมาถึงก็ค่าํ มืดแล้ว เมื่อได้ยินเรื่องนี ้ อวีเ้ หวินก็รอ้ นใจ สั่งกับอา
เสาว่า “เจ้าไปซือ้ สุนขั สีนา้ํ ตาลมาเฝ้าบ้านตัวหนึ่ง”
แต่ก่อนเรือนนางไม่เคยเลีย้ งสุนขั หลักๆ ก็เพราะอวีถ้ งั ยังเล็กกลัวว่ามันจะกัดอวีถ้ งั เข้า
วันนีม้ ีขโมยขึน้ บ้านย่อมไม่อาจทําเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึน้ ได้
อาเสารับคําแล้วรีบไปทันที
อวีถ้ งั ถามอวีเ้ หวินเรื่องที่ไปเรือนสกุลเว่ย
อวีเ้ หวินถอนหายใจ “สกุลเว่ยไม่ยอมรับเงินจากเรา ดีท่ีขา้ พูดจนปากเปี ยกปากแฉะ
สุดท้ายถึงยอมรับไปได้ แต่บอกว่าเป็ นการยืม จะให้ดอกเบีย้ พวกเราหกส่วนและจะคืนให้ครบ
ในสามปี ”
อวีถ้ งั รูส้ กึ ประหลาดใจ
นางคิดไม่คิดว่าสกุลเว่ยจะยากจนถึงเพียงนี ้
236

อวีเ้ หวินพูดว่า “เจ้าคิดเหลวไหลอะไร? ปี ก่อนคนที่ช่วยพวกเขากลั่นนํา้ มันล้มป่ วย พวก


เขาไม่เพียงช่วยดูแลรักษา ยังรับเลีย้ งเด็กอีกสองคนจากครอบครัวนัน้ กําลังทรัพย์จึงไม่ค่อย
พอใช้”
เฉินซื่อได้ฟังก็เอ่ยเรื่องสกุลเว่ยขึน้ มาว่า “นายท่านเว่ยกับนายหญิงเว่ยล้วนเป็ นคนมี
เมตตา เรือนพวกเขายังมีแม่นางน้อยอีกคน เห็นว่าเป็ นหลานฝั่ งมารดาของนายหญิงเว่ย แต่
เล็กก็กาํ พร้าแม่ จึงถูกรับมาเลีย้ งที่สกุลเว่ย นายหญิงเว่ยก็เห็นนางเป็ นเหมือนบุตรสาวแท้ๆ คน
หนึ่ง สอนให้อ่านเขียนทั้งสอนงานบ้าน งานศพครานีธ้ ุระในเรือนส่วนใหญ่เป็ นแม่นางคนนี ้
แหละที่คอยช่วยเหลืออยู่ขา้ งๆ ข้าเห็นว่าท่าทีจดั การเรื่องราวต่างๆ คล้ายกับนายหญิงเว่ยยิ่งนัก
ฉลาดเฉลียวแต่ไม่ขาดคุณธรรมนับว่าหาได้ยาก”
อวีถ้ งั ไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี ้ นางถามเพียงว่า “พิธีศพของเว่ยเสี่ยวซาน จะตัง้ ไว้ก่ีวนั
หรือเจ้าคะ?”
เฉินซื่อตอบว่า “ยี่สิบเอ็ดวัน”
เช่นนัน้ ก็ดี!
อวีถ้ งั ลอบถอนหายใจ
ด้านนอกมีเสียงบุรุษพูดจาดังลอดเข้ามา
พวกอวีถ้ งั คิดว่าเป็ นคนจากศาลาว่าการที่จะมาตรวจสอบคดีลกั ทรัพย์ในวันนี ้ อวีเ้ หวิน
ไม่รอให้ป้าเฉินร้องแจ้ง ก็ผลักประตูออกไปทันที ใครจะคิดว่าคนที่เข้ามาเป็ นชายแปลกหน้า
อ้วนท้วมหน้าขาวผูห้ นึ่ง
เขาอยู่ในชุดคลุมหลวมผ้าหังโจวสีครามลายดอก ศีรษะกลมโต เมื่อเห็นอวีเ้ หวินก็รีบ
ร้อนร้องถามว่า “ท่านคือนายท่านอวี ้ ฮุ่ยหลี่ ใช่หรือไม่?”
“ข้าเอง!” อวีเ้ หวินตอบรับ
237

บุรุษผูน้ นั้ แสดงท่าทีโล่งอก เอ่ยว่า “ข้ามาจากหังโจว นายท่านหลู่ หลู่ซิ่น ท่านรู จ้ กั ใช่


หรือไม่?”
อวีเ้ หวินรวมถึงเฉินซื่อกับอวีถ้ งั ที่ตามออกมาภายหลังต่างก็ตกตะลึง
ชายผูน้ นั้ เอ่ยต่อว่า “ข้าเป็ นคนไท่หู หลายวันก่อนเข้าพักที่โรงเตี๊ยมเดียวกับเขา ห้าวัน
ก่อนเขาดื่มเหล้าเกินขนาด จู่ๆ ก็ตายอยู่ท่ีโรงเตี๊ยมแห่งนัน้ เถ้าแก่โรงเตี๊ยมแจ้งไปยังทางการ
ทางการให้จดั การกันเอาเอง เถ้าแก่โรงเตี๊ยมเคยได้ยินนายท่านหลู่เล่าว่าผูกพันกับท่านเหมือน
พี่นอ้ ง เห็นว่าข้าจะเดินทางกลับบ้านเกิด จึงฝากความให้ขา้ มาส่งถึงท่านด้วย ถามว่าท่านจะ
ช่วยเขาซือ้ โลงศพแล้วทําการฝั งศพเขาได้หรือไม่ ไม่อย่างนัน้ เถ้าแก่โรงเตี๊ยมก็จะให้คนลากศพ
เขาไปโรงพักศพไร้ญาติแล้ว”
“หา?” อวีเ้ หวิน เฉินซื่อและอวีถ้ งั ต่างมองหน้ากันไปมา
นี่มนั เรื่องอะไรอีกเนี่ย!
เฉินซื่อเอ่ยกับชายผูน้ นั้ ว่า “ท่านควรจะไปแจ้งข่าวที่สกุลหลูม่ ิใช่หรือ?”
ชายผูน้ นั้ ยิม้ ขื่น บอกว่า “ข้าไปมาแล้วแต่วา่ ผูอ้ ่นื ก็บอกว่า หลูซ่ ิ่นกับบิดาเป็ นญาติหา่ งๆ
กับพวกเขาเกินกว่าห้ารุน่ ปกติก็ไม่เคยไปมาหาสู่ หลูซ่ ิ่นก่อนจะจากไปยังขายเรือนของบรรพชน
ทิง้ กลับขายให้คนนอกเพียงเพื่อเงินไม่ก่ีตาํ ลึง เขาจะอยู่หรือตายย่อมไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขา
อีก” ชายคนนัน้ กลัวว่าอวีเ้ หวินจะไม่สนใจเรื่องนีเ้ หมือนกับคนสกุลหลู่ จึงเอ่ยต่อว่า “อย่างไร
ข่าวข้าก็แจ้งไปหมดแล้ว ท่านจะไปช่วยเก็บศพเขาหรือไม่น่ นั ก็เป็ นเรื่องของท่าน ข้ายังต้องรีบ
เดินทางกลับบ้านเกิด ขอไม่รบกวนพวกท่านแล้ว” พูดจบ ก็หมุนกายเดินหนี กระทั่งชาสักถ้วยก็
ไม่หยุดดื่ม
อวีเ้ หวินเดินวนไปวนมา
เฉินซื่อพูดขึน้ ว่า “ท่านคงจะไม่ไปเก็บศพเขาที่หงั โจวกระมัง?”
238

อวีเ้ หวินมองอวีถ้ งั ทีหนึ่งก่อนจะเอ่ยว่า “ข้าควรไปสักหน่อยจะดีกว่า! ถือว่าเพิ่มพูนกุศล


ให้อาถังของพวกเรา”
เฉินซื่อกลืนคําพูดที่อยากเอ่ยลงท้องไปหมด
นางคิดไปถึงสกุลเว่ย
ทําคุณงามความดีทิง้ ไว้ให้คนรุ ่นหลัง พวกนางมีเพียงอวีถ้ ังเป็ นบุตรสาวคนเดียว ขอ
เพียงมีสิ่งดีๆ ก็หวังจะให้บตุ รสาวของตนได้รบั ไป
เฉินซื่อยํ่าเท้าไปมา แล้วสั่งให้ปา้ เฉินเตรียมเก็บสัมภาระให้อวีเ้ หวิน
อวีถ้ ังเดิมคิดจะคัดค้านก็ฉุกคิดได้ว่าทัง้ ชีวิตของบิดาล้วนทําแต่สิ่งดีๆ ต่อผูอ้ ่ืน หลู่ซิ่น
ต่อให้เป็ นคนเลวอย่างไร ก็ได้ตายไปแล้ว ต่อไปก็ไม่อาจมาสร้างปั ญหาให้บิดาได้อีก เพื่อให้
บิดาสบายใจก็ให้เขาเดินทางไปหังโจวสักครัง้ จะดีกว่า
ถือเสียว่าทําบุญ
ชาติก่อนนางไม่เคยรูข้ ่าวของหลูซ่ ิ่น
ไม่รูว้ ่าหลู่ซิ่นจะตายที่ต่างถิ่นเหมือนอย่างตอนนีห้ รือไม่? หรือเพราะบิดามารดาของ
นางเสียไปถึงได้ตดั ขาดข่าวคราวจากเขา
นี่นบั เป็ นอีกหนึ่งปริศนาแล้ว
239

ตอนที่ 29 เสี่ยวชวน
วันรุ ่งขึน้ อวีเ้ หวินไม่รอให้คนของศาลาว่าการมาสอบความเรื่องคดีท่ีเรือนก็เร่งออก
เดินทางไปหังโจวแล้ว
เฉินซื่อกับอวีถ้ งั ไปส่งเขาที่ท่าเรือ
คนที่เฝ้าโรงจํานําอยู่กลับเป็ นเถ้าแก่นอ้ ยถง มิใช่เถ้าแก่ถง
อวีเ้ หวินอดจะถามไม่ได้วา่ “เถ้าแก่ถงไปไหนเสียเล่า?”
เถ้าแก่นอ้ ยถงหัวเราะแล้วบอกว่า “สกุลเผยมีโรงจํานําอยู่ท่ีหงั โจวอีกหลายร้าน ทุกๆ
ต้นเดือน ท่านพ่อจะต้องไปตรวจบัญชีขอรับ พอดีช่วงนีเ้ มืองหลินอันเกิดเรื่องมากมาย ท่านพ่อ
มัวยุ่งกับเรื่องทางนี ้ ไม่ได้ไปที่หงั โจวหลายเดือนแล้ว จึงถือโอกาสที่หลายวันนีไ้ ม่ค่อยยุ่งข้ามไป
ดูสกั หน่อย”
นายท่านใหญ่กับท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผยเสียชีวิตติดๆ กัน ก็มิแปลกที่เถ้าแก่ถงจะไม่ได้
ออกไปไหน
อวีถ้ ังคิดในใจเช่นนั้น แต่อวีเ้ หวินกลับตื่นเต้นดีใจยิ่ง เอ่ยว่า “สกุลเผยมีโรงจํานําที่
หังโจวด้วยรึ? โรงจํานําตัง้ อยู่ท่ีไหน? ข้ากําลังจะไปหังโจวพอดี ถึงเวลานัน้ จะไปกินข้าวกับเขา
สักหน่อย” แล้วบอกอีกว่า “ถ้ารู แ้ ต่แรกว่าเขาจะไปหังโจว ทุกคนไปพร้อมกันจะได้มีเพื่อนร่วม
ทางคงจะดี”
เถ้าแก่นอ้ ยถงสั่งคนตระเตรียมนํา้ ชาให้คนสกุลอวีด้ ่ืมทัง้ ยังเอ่ยอย่างเป็ นห่วงว่า “นาย
ท่านอวีจ้ ะไปทําอะไรที่หงั โจวหรือขอรับ? โรงจํานําสกุลเผยตัง้ อยู่ท่ีฝ่างเหรินหลี่ขา้ งแม่นา้ํ ซือเยา
แถบๆ นัน้ เป็ นร้านค้าห้าคูหา มีป้ายธงสูงเท่าตัวคน มองเห็นได้แต่ไกลๆ บิดาข้าจะยังอยู่ท่ีน่ นั
อีกสองสามวัน ข้างโรงจํานํายังมีรา้ นหนังสือหลายร้าน มีโรงจํานําของเก่าแก่โบราณ นาย
ท่านอวีห้ ากได้ไป สามารถไปเดินเลือกซือ้ กับบิดาข้าได้”
อวีเ้ หวินหน้านิ่วคิว้ ขมวด
240

เขาก็อยากจะเดินซือ้ อยู่หรอกนะ แต่วา่ หลูซ่ ิ่นคงรอไม่ไหวน่ะสิ!


เขาเอ่ยว่า “คงได้แต่รอนัดแนะกับบิดาเจ้ารอบหน้าแล้ว”
สองคนพูดคุยกันไป เรือที่จะไปหังโจวก็มาเทียบท่าพอดี
อวีถ้ งั กับมารดาส่งอวีเ้ หวินขึน้ เรือด้วยตนเอง
เรือยังไม่ทนั ออกจากท่า ก็มีเรือลําใหญ่หรูหราลําหนึ่งมาเทียบท่าข้างเรือโดยสาร
ทุกคนต่างชีไ้ ม้ชีม้ ือหันไปมอง
อวี ถ้ ัง เห็น บุรุษ ชุดเขี ยวรู ปร่างผอมสูง พาคนเร่ง รุ ดเข้า ไปหา สั่ง การให้คนรีบวางไม้
สะพานให้เรียบร้อย
มีคนกระซิบกระซาบอยู่ดา้ นข้างว่า “เห็นแล้วหรือไม่ นั่นก็คือพ่อบ้านใหญ่สกุลเผย เผย
หม่าน”
“จริงด้วย จริงด้วย!” มีคนพูดต่อว่า “เดินขยับไปหน่อย ให้ขา้ ดูบา้ ง”
อวีถ้ งั ประหลาดใจเล็กน้อย เขย่งเท้ามองดูอยู่หลายที
คนที่ช่ือเผยหม่านอายุได้ประมาณยี่สิบหกยี่สิบเจ็ด ดวงหน้าผ่ายผอม สายตามุ่งมั่น สี
หน้าเคร่งขรึม ดูท่าไม่ใช่คนที่คยุ ด้วยได้ง่ายเลย
อวีถ้ งั เม้มปาก
บ่าวก็เหมือนกับนาย
มองแวบเดียวก็รูว้ า่ เป็ นคนที่นายท่านสามชอบใช้งาน
ก็เหมือนเขานั่นแหละ!
นางลอบเสียดสีในใจ จากนัน้ ก็เห็นบุรุษในชุดผ้าแพรสีขาวผูห้ นึ่งเดินลงมาจากเรือลํา
ใหญ่ อายุสามสิบน่าจะได้ เขาไว้หนวดเหนือริมฝี ปาก ในมือถือพัดจินชวนสีดาํ เล่มหนึ่ง ท่วงท่า
241

เย่อหยิ่งยิ่งนัก พอลงจากเรือก็ทาํ หน้าตึงใส่เผยหม่านทันที แล้วพูดว่า “สยากวงเล่า? ทําไมเขา


ไม่มารอรับข้า? ข้ามาตัง้ ไกลจากเมืองหลวงเพื่อมาหาเขาโดยเฉพาะ! เขาไม่ไปรอรับข้าที่เมือง
หังโจวก็แล้วไปเถอะ นี่ขา้ มาถึงท่าเรือเสาซีแล้ว เขาก็ยงั ไม่มารับข้าอีกรึ นี่คือการต้อนรับแขก
ของสกุลเผยหรืออย่างไร?”
เผยหม่านวางตัวนอบน้อมอย่างยิ่ง เดินเข้าไปคารวะคนผูน้ นั้ ด้วยความเคารพ เรียกคน
ผูน้ ั้นว่า ‘โจวจ้วงหยวน’ แล้วเอ่ยว่า “นายท่านสามถูกธุระในเรือนรัดตัว ความสัมพันธ์แน่น
แฟ้นของท่านกับนายท่านสาม นายท่านสามจะไม่มารอรับท่านได้อย่างไรขอรับ?”
โจวจ้วงหยวนร้องเสียงเหอะสองทีแล้วบ่นว่า “ข้าบอกให้เขาไม่ตอ้ งสนใจเรื่องจุกจิก
พวกนั้น บ้านนอกคอกนาเช่นนี ้ มีอะไรให้รงั้ อยู่นานกัน เขาก็ไม่ยอมฟั ง ตอนนีเ้ ป็ นอย่างไร
อากาศดีๆ เช่นนีก้ ลับต้องมาวุน่ วายธุระในเรือน คิดแล้วข้ายังปวดใจแทนเขาเลย”
เผยหม่านยิม้ ตามแต่ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ
โจวจ้วงหยวนคงไม่ได้หวังให้เผยหม่ายตอบคําแต่แรก หันไปโบกมือให้เขาบอกว่า “ไป
เถอะ! เกีย้ วอยู่ท่ีไหน? สยากวงรูจ้ กั นิสยั ข้าดี ในเกีย้ วอบเครื่องหอมอะไรไว้?”
เผยหม่านรีบตอบว่า “เรื่องนีน้ ายท่านสามสั่งการไว้ดว้ ยตนเอง ต้องเป็ นกลิ่นดอกสาลี่
ขาวที่นายท่านสามทําด้วยตนเองขอรับ”
โจวจ้วงหยวนได้ยินก็หนั ไปมองเผยหม่านทีหนึ่งแล้วหัวเราะออกมา “มิน่าสยากวงถึง
เลือกเจ้าให้ทาํ งานข้างกาย คนอย่างเจ้าที่โกหกไม่กะพริบตา ซํา้ ไม่ทาํ ให้คนชังนํา้ หน้าได้ ก็
เหมาะสมกับหน้าที่นีแ้ ล้ว…นายท่านสามของเจ้า แต่ไรก็ไม่เคยใช้เครื่องหอม ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึง
ลงมือทําด้วยตนเอง”
เผยหม่านนับว่าเป็ นคนพูดจาเก่งจึงหัวเราะและเอ่ยตอบ “ทุกคนต่างพูดว่าท่านกับนาย
ท่านสามเป็ นมิตรแท้ท่ีคอยทัดทานกัน คงมีเพียงท่านที่เข้าใจนายท่านสามของพวกเราขอรับ”
แม้ตอนที่เขายิม้ ก็ยงั มีกระแสเย็นชาหลายส่วน ไม่ได้ดสู นิทสนมมากนัก
242

ทว่าคําพูดของเขากลับทําให้โจวจ้วงหยวนพอใจ โจวจ้วงหยวนไม่เรื่องมากอีก เขาคลี่


พัดดัง ‘พรึบ’ แล้วโบกไปมาสองทีและสั่งว่า “นําทางไปสิ”
เผยหม่านรีบทําไม้ทาํ มือบอกให้ ‘เชิญเขาเดินนํา’ แล้วพาโจวจ้วงหยวนไปยังเกีย้ วซึ่ง
จอดไว้ดา้ นข้างท่าเรือ
บ่าวรับใช้หามเอาหีบลังลงจากเรือมาเป็ นขบวน
อวีถ้ งั หันไปมองทีหนึ่ง เห็นว่าหีบลังมีมากกว่าสิบ แต่ละลังล้วนทานํา้ มันต้นถงอย่างดี
มันเป็ นเงาจนแทบจะส่องเห็นหน้าคนได้ สี่มมุ หุม้ ด้วยแผ่นทองเหลืองตีลายเมฆมงคล ยังมีสตรี
อีกเจ็ดแปดคนที่สวมชุดสีเรียบ ใส่หมวกคลุมหน้ายืนอยู่ขา้ งเรือ ดูท่าคงกําลังรอลงจากเรือ แต่
ไม่รูว้ า่ เป็ นสาวใช้หรือว่าสตรีในเรือนของโจวจ้วงหยวนผูน้ นั้ กันแน่
คนรอบข้างที่มองอยู่พลันระเบิดเสียงซุบซิบนินทาทันที
“นี่คงเป็ นสหายสนิทของนายท่านสามกระมัง?”
“มาจากเมืองหลวง ทัง้ ยังเป็ นจ้วงหยวน 2 ด้วย นายท่านสามสกุลเผยช่างมีหน้ามีตา
55

ยิ่ง”
“ดูจากความฟุ่ มเฟื อยหรูหราแล้ว จ้วงหยวนท่านนีต้ อ้ งเกิดในสกุลใหญ่โตเป็ นแน่”
อวีถ้ งั กลับกําลังคิดว่า ที่แท้นายท่านสามก็มีช่ือรองว่า ‘สยากวง’
เป็ น ‘รักลํา้ ฝังดวงใจ เหตุไฉนไร้วาจา’ รึ? หรือว่า ‘เนิ่นนานยาวพันปี ไร้คนดีคลายเศร้า
หมอง’
หรือว่าจะเป็ น ‘สีเขาเขียวครึม้ นอกรัว้ แดง แสงไกลกระทบลอดสาดยอดสน’?

2
จ้วงหยวน ผูท้ ่ีได้คะแนนสูงสุดอันดับหนึ่งในการสอบจิน้ ซื่อ โดยอันดับที่สองเรียกว่าปั่ งเหยี่ยน และอันดับสามเรียกว่า
ทั่นฮวา
243

ทว่า นายท่านสามสกุลเผยสง่าเหมือนดั่งต้นสนต้นไผ่ เจิดจ้าดั่งแสงไฟดั่งไข่มกุ โดดเด่น


เหนือผูใ้ ด
ทัง้ ยังมีโจวจ้วงหยวนคนนัน้ อีก
ชาติก่อนนางไม่เคยได้ยินมาก่อน ไม่รูว้ ่าเขาเป็ นจ้วงหยวนจากสํานักใด แต่ท่าทางหยิ่ง
ผยองวางโตเช่นนีก้ ็เหมือนกันกับนายท่านสามอย่างกับอะไรดี สองคนสมแล้วที่เป็ นสหายกัน
ขณะที่อวีถ้ งั ครุน่ คิด เรือโดยสารของอวีเ้ หวินก็ออกจากท่าเรือไปแล้ว
นางกับมารดาโบกมื อให้กับบิ ดา กระทั่ง เรือเคลื่ อนออกไปไกลแล้ว นางถึง ได้พยุง
มารดาไปที่โรงจํานําแล้วบอกลาเถ้าแก่ถงน้อยก่อนจะขอตัวกลับบ้าน
โจวจ้วงหยวนกับเผยหม่านนัน้ ไม่เห็นเงาแล้ว ทิง้ ผูด้ ูแลเอาไว้สองสามคนคอยสั่งการ
บ่าวรับใช้ให้เคลื่อนย้ายหีบ
หีบใบสูงกองอยู่บนรถม้าสองคันแต่ก็ยงั ใส่ได้ไม่หมด
อวีถ้ งั อดจะกัดลิน้ เล่นไม่ได้
แค่มาเป็ นแขกกลับนําของมามากมายปานนี ้ มองออกทันทีว่าคนผูน้ ีต้ อ้ งเรื่องมากเป็ น
ที่สดุ
นางอดจะอยากรูฐ้ านะความเป็ นมาของโจวจ้วงหยวนผูน้ ีไ้ ม่ได้
พอกลับถึงบ้าน อาเสาอุม้ สุนขั สีนา้ํ ตาลกลับมาตัวหนึ่งตามคําสั่งของอวีเ้ หวิน
ตัวมันเล็กนิดเดียว ขนก็น่มุ นิ่ม ดวงตาสีดาํ สนิท ทําให้คนที่เห็นรูส้ กึ อบอุน่ ใจยิ่งนัก
อวีถ้ งั นั่งยองๆ ลงไปลูบหัวสุนขั น้อย มันที่อยู่ในฝ่ ามือนางก็รอ้ งออกมาเบาๆ
หัวใจของนางละลายทันที ถามอาเสาว่า “ไปจับมาจากไหน? ตัง้ ชื่อแล้วหรือยัง?”
อาเสาหัวเราะ “จับมาจากบ้านชาวนาที่บา้ นเกิดข้าขอรับ ชื่อว่าซานหวง”
244

อวีถ้ งั ร้อง “เอ๊ะ” ด้วยความสงสัย “ทําไมถึงชื่อว่าซานหวงล่ะ?”


อาเสาหัว เราะบอกว่า “เห็ น ว่า คลอดคอกหนึ่ง ออกมาตั้ง สี่ ตัว มัน เป็ น ตัว ที่ สาม จึง
เรียกว่าซานหวงขอรับ”
อวีถ้ งั หัวเราะ “แต่ท่ีเรือนนีม้ ีมนั แค่ตวั เดียวนี่นา เรียกเสี่ยวหวงก็พอแล้ว”
ทุกคนต่างร้องว่า “ดี”
ป้าเฉินคลุกข้าวกับนํา้ ต้มกระดูกให้มนั กิน
เสี่ยวหวงก็กินไปพลางหอบแฮกๆ
เฉินซื่อเห็นว่าน่าสนุกจึงเดินเข้ามาลูบหัวมันบ้าง
อวีถ้ งั นึกได้ว่าในห้องนางยังมีเนือ้ แผ่นที่หม่าซิ่วเหนียงมอบให้ ก็ว่ิงกลับห้องไปหยิบมา
แต่กลับได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากประตูหลังเสียก่อน
คนในเรือนต่างอยู่ท่ีลานด้านหน้า หรือว่าขโมยขึน้ เรือนอีกแล้ว?
อวีถ้ งั ครุน่ คิด มือคว้าท่อนไม้ท่ีใช้ดาลประตูมาถือไว้แล้วตะโกนเสียงดังว่า “ใครอยู่ตรง
นัน้ น่ะ!”
ประตูหลังทางนัน้ ไม่เพียงไม่เงียบเสียงลง กลับมีเสียง ‘ตึง’ ดังขึน้ มาอีก มีคนโยนก้อน
หินเข้ามาที่เรือนหลัง
นี่มิใช่ขโมยแล้ว แต่มีคนไม่พอใจสกุลนางต่างหาก
อวีถ้ งั เดือดดาลมาก
สกุลนางแต่ไรก็ปฏิบตั ิต่อผูอ้ ่ืนเป็ นอย่างดี ระหว่างเพื่อนบ้านก็ไม่เคยมีปากเสียง แล้ว
ยังขโมยที่่เข้ามารอบก่อน ก็หยิบเอาแค่ของกินไปเท่านัน้ ไม่แน่อาจมีใครทําเรื่องตลกร้ายนี ้
ขึน้ มาก็ได้
245

นางสองก้าวเดินสามก้าววิ่งไปผลักประตูหลังให้เปิ ดออก เห็นเด็กผูช้ ายชุดสีฟ้าอ่อน


กําลังวิ่งออกไปจากหลังเรือนอย่างรวดเร็ว
เพราะว่ายังเช้าอยู่มาก ทั้งเป็ นด้านหลังตรอกจึงไม่มีใครอื่นอยู่เลย อวีถ้ ังเห็นคนได้
อย่างชัดเจน นางหยุดตะลึงไปพักหนึ่ง แล้วพึมพําด้วยเสียงมึนงงว่า “เว่ยเสี่ยวชวน!”
ไม่ผิดแน่ เด็กผูช้ ายคนนัน้ ก็คือเว่ยเสี่ยวชวนที่นางเจอตอนนัดดูตวั ครัง้ ก่อน
เขามาทําอะไรที่ดา้ นหลังเรือนของนาง? ทัง้ ๆ ที่รูว้ ่าถูกเจอตัวแล้ว แต่ก็ยงั ขว้างก้อนหิน
ใส่ประตูหลังอีก? ราวกับว่าไม่พอใจอะไรบางอย่าง
นางนึกถึงท่าทางครัง้ ก่อนที่เขาใช้ก่ิงไม้ฟาดต้นหญ้าข้างกายเล่น
นั่นก็เหมือนโมโหอะไรมา อารมณ์ไม่พอใจอย่างที่สดุ
สกุลนางไปหาเรื่องอะไรเขาเข้าอย่างนัน้ รึ?
พอคิดถึงเว่ยเสี่ยวซาน นางก็ค่อยๆ เรียกอาเสาไปสืบความ “บุตรคนสุดท้องของสกุล
เว่ย ชื่อเว่ยเสี่ยวชวน เจ้าลองสืบหน่อยว่าช่วงนีเ้ ขาทําอะไรอยู่?”
อาเสาเคยตามอวีเ้ หวินไปที่เรือนสกุลเว่ย ตอบว่า “น่าจะเข้าเรียนที่สาํ นักศึกษาประจํา
อําเภออยู่นะขอรับ? ข้าได้ยินคนสกุลเว่ยพูดว่า ตอนที่พวกพี่ชายของเขาเริ่มเรียนเขาก็จะคอย
ฟั งอยู่ขา้ งๆ อายุสามขวบก็รูจ้ กั ตัวอักษรแล้ว อายุหา้ ขวบก็ท่อง ‘เสี่ยวจิง’ ได้ทงั้ เล่ม แม้อายุจะ
น้อย แต่ก็เข้าสํานักศึกษาได้อย่างรวดเร็ว คิดว่าปี หน้าก็คงเข้าร่วมสนามสอบแล้ว”
อวีถ้ งั ประหลาดใจมาก ยิ่งเป็ นห่วงว่าใช่เกิดเรื่องอะไรกับเด็กคนนีห้ รือไม่ ตามหลักแล้ว
เด็กที่เฉลียดฉลาดปานนัน้ ไม่ควรมีท่าทีเกรีย้ วกราดเช่นนีถ้ ึงจะถูก
อาเสารับคําแล้วจากไป ไม่ทนั ไรก็กลับมาตอบนางว่า ตอนนีเ้ ว่ยเสี่ยวชวนอยู่ท่ีสาํ นัก
ศึกษาประจําอําเภออย่างเป็ นระเบียบเรียบร้อย!
246

อวีถ้ งั ใคร่ครวญดูแล้วให้ซวงเถาหยิบขนมมาหลายกล่อง พาอาเสามุ่งไปที่สาํ นักศึกษา


ประจําอําเภอ
เพราะว่าให้คนไปสอบถามจากอาจารย์สาํ นักศึกษา แม้เว่ยเสี่ยวชวนจะไม่ยินยอม แต่
ก็ตอ้ งเดินหน้าตึงออกมาจากห้องเรียน ถามอวีถ้ งั เสียงเย็นชาว่า “เจ้าหาข้ามีเรื่องอะไร? พวก
เราสองสกุลไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว!”
อวีถ้ งั ยิ่งเชื่อว่าเรื่องนีต้ อ้ งมีปัญหาอะไรซ่อนอยู่แน่
นางเอ่ยว่า “เจ้าอย่าบอกนะว่าจะปฏิเสธว่าคนที่ขว้างหินใส่เรือนข้าเมื่อเช้าไม่ใช่เจ้า
ลูกผูช้ ายกล้าทําก็ตอ้ งกล้ารับ มีคาํ ก็พูดออกมา มีปัญหาก็ถามออกไป มุดหัวมุดหางเช่นนี ้
นับเป็ นผูช้ ายประสาอะไรได้?”
อย่างไรเด็กก็ยงั เป็ นเด็ก เว่ยเสี่ยวชวนได้ยินก็รอ้ นรนจนตาแดงกํ่าร้องเสียงดังว่า “เจ้า
คิดว่าข้าไม่กล้าไปหาเจ้าอย่างนัน้ รึ เป็ นพี่ส่ีท่ีหา้ มข้าเอาไว้ ไม่ให้ขา้ ไปหาเจ้า เจ้ามันเป็ นนาง
จิง้ จอก เป็ นต้นเหตุของหายนะ พี่รองข้าว่ายนํา้ เก่งจะตาย ก็เพราะว่าต้องแต่งกับเจ้านั่นแหละ
ถึงได้ไปจับปลาที่แม่นา้ํ สุดท้ายเลยต้องจมนํา้ ตาย ทัง้ ยังพี่สามอีก พอได้ยินว่าเจ้าสะสวย แต่
สกุลเจ้ากลับเลือกพี่รองเป็ นเขยชาย เขาจึงต้องทะเลาะกับพี่รอง ตอนนีพ้ ่ีรองข้าไม่อยู่แล้ว พี่
สามก็เสียใจหนัก คิดว่าระหว่างพี่นอ้ งไม่อาจเงยหน้ามองใครได้อีก ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า พี่รองกับ
พี่สามข้าจะเป็ นแบบนีไ้ ด้อย่างไร!”
อวีถ้ งั ตะลึงงัน
“เจ้าไม่ตอ้ งมาหาข้าอีก! ถ้าเจ้ามา ข้าจะเอาเรื่องงามหน้าที่เจ้าเคยทําไปบอกคนอื่น!”
เว่ยเสี่ยวชวนตะโกนใส่นาง ก่อนจะวิ่งหายลับไป
อวีถ้ งั เพียงรูส้ กึ เย็นวาบไปทั่วร่าง คล้ายจะยืนไม่อยู่
247

ชาติก่อน ฮูหยินหลี่ด่าว่านางเป็ นนางจิง้ จอก นางก็แค่แสยะยิม้ อยู่ในใจ ตอนนี ้ เว่ย


เสี่ยวชวนด่าทอนาง นางกลับคิดไปถึงสายตาคู่นนั้ ของเว่ยเสี่ยวซานที่มองนางด้วยความชื่น
ชอบและตกตะลึง ดวงตาที่พราวระยับดั่งดวงดาวคูน่ นั้
นํา้ ตาของนางพลันไหลลงมาอย่างกลัน้ ไม่อยู่
248

ตอนที่ 30 สํานักศึกษาประจําอําเภอ
อวีถ้ งั รูว้ ่านี่ไม่ใช่ความผิดของตนเอง แต่พอนางคิดถึงเรื่องนีข้ ึน้ มาทีไร ก็รูส้ กึ ปวดใจทุก
ที
อาเสาที่ มาเป็ น เพื่ อ นนางกลับไม่ พ อใจอย่ า งมาก เอ่ย ว่า “คุณ หนู ข้า จะไปจับเขา
กลับมา เด็กคนนัน้ พูดจาเช่นนีอ้ อกมาได้อย่างไร? สกุลเขาเกิดเรื่อง แล้วจะมาโยนบาปให้สกุล
เราหรือ”
อวีถ้ ังดึงเขาไว้ เอ่ยว่า “เขายังเด็ก จู่ๆ ต้องมาเสียพี่ชายไป ย่อมจะทําใจไม่ได้ พูดจา
เหลวไหลไปบ้าง ก็เป็ นเรื่องปกติ เจ้าอย่าโวยวายเพราะเรื่องนี ้ ผูใ้ หญ่ของสองสกุลรูเ้ ข้าคงต้อง
เสียใจแน่”
ชาติก่อน หลังจากที่บิดามารดาตาย นางเคยพาลโกรธทุกคน รวมไปถึงสกุลเผยด้วย
คิดว่าหากไม่ใช่เพราะหน่วยลาดตระเวนของสกุลเผยทํางานบกพร่อง แล้วถนนฉางซิ่งจะถูกไฟ
ไหม้ได้อย่างไร? ทว่าหน้าที่ลาดตระเวนยามวิกาลเดิมก็ไม่ใช่ความรับผิดชอบของสกุลเผย สกุล
เผยแค่เพราะเห็นว่าบนถนนฉางซิ่งเป็ นร้านค้าของตนเสียส่วนใหญ่ ถึงได้ช่วยเหลือลาดตระเวน
ให้กับพวกเขาที่มีรา้ นค้าและมีกิจการอยู่บนถนนฉางซิ่งไปด้วย สุดท้ายพอสกุลนางเกิดเรื่อง
นางก็ยงั แอบกล่าวโทษสกุลเผยในใจอีก
อาเสาไม่อาจไปตามหาเว่ยเสี่ยวชวน ปากจึงได้แต่งึมงําพูด เวลานัน้ พลันได้ยินเสียง
ตื่นเต้นดีใจของบุรุษดังขึน้ ที่ขา้ งหูอวีถ้ งั “แม่นางอวี?้ ”
อวีถ้ งั หันไปมองตามเสียง กลับเป็ นหลี่จวิน้
เขาสวมชุดคลุมหลวมสีนา้ํ เงินลายเมฆ ผมดําขลับรวบมัดขึน้ สูง ปั กด้วยปิ่ นหยกขาว
หน้าผากสะอาดเกลีย้ งเกลา ดวงตากระจ่างใส เทียบกับครัง้ ก่อนแล้วดูจะแต่งตัวมีอายุกว่ามาก
249

“เป็ นเจ้าจริงๆ ด้วย!” หลี่จวิน้ มีความยินดีแผ่กระจายเต็มหน้า แล้วรีบเอ่ยว่า “ข้ามอง


จากไกลๆ เห็นว่าคล้ายเจ้า ตอนนัน้ พลันไม่เชื่อสายตาตัวเอง เจ้ามาทําอะไรที่สาํ นักศึกษาหรือ?
มีอะไรให้ขา้ ช่วยหรือไม่?”
อวีถ้ งั หันไปยิม้ ให้เขาอย่างเกรงใจ ตอบว่า “ไม่มีอะไร แค่มาเยี่ยมน้องของญาติเท่านัน้ ”
ดวงตาของนางยังมีรอ่ งรอยผ่านการร้องไห้มาก่อน
หลี่จวิน้ พลันชะงักสิ่งที่อยากพูดไป
อวีถ้ งั บอกลาเขา
หลี่จวิน้ รีบเรียกนางไว้ เอ่ยอย่างจริงใจว่า “แม่นางอวี ้ ถ้าเจ้ามีเรื่องอะไร สามารถพูดกับ
ข้าได้จริงๆ นะ ปกติขา้ จะอยู่ท่ีสาํ นักศึกษาจังหวัดด้วยติดตามท่านพี่ชายมาเล่าเรียน แต่ว่า
สํานักศึกษาอําเภอนีม้ ีท่านเฉินซ่านเหยียน ซึ่งเป็ นญาติผนู้ อ้ งของบิดาเฉินฟางมาบรรยาย เขา
เป็ นทั่นฮวา 1 ในปี จ๋ีเหม่า และเคยเป็ นมหาบัณฑิตของสํานักฮั่นหลิน 2 มาก่อน แตกฉานในตํารา
56 57

คัมภีร ์ ภายหลังเบื่อหน่ายกับการแก่งแย่งในวงขุนนาง ถึงได้ตอบรับคําเชิญของสกุลเผยมาเป็ น


อาจารย์ธรรมดาๆ อยู่ท่ีเมืองหลินอันแห่งนี ้ เขาเป็ นคนมีวิชาความรู ้ เป็ นอาจารย์ผมู้ ีพระคุณของ
พี่ชายข้า แม้วา่ ข้าทําไม่ได้ แต่สามารถขอท่านพี่ขา้ ให้ออกหน้าช่วยเจ้าขอพบอาจารย์เฉินได้”
อวีถ้ งั งงงวยไปหมด
สองชาติท่ีผ่านมา นางไม่เคยรูม้ าก่อนว่าสํานักศึกษาประจําอําเภอแห่งเมืองหลินอัน ที่
แท้มีมงั กรหลับซ่อนตัวอยู่ดว้ ย
หลี่จวิน้ พลันตื่นเต้นขึน้ มาโอ้อวดต่อว่า “แม่นางอวี ้ ข้าติดตามท่านพี่มาทางนี ้ เจ้ารู ้
หรือไม่ว่าโจวจื่อจินก็มาที่หลินอันเช่นกัน แต่ว่า เจ้าอาจจะรู อ้ ะไรไม่มาก ใต้เท้าโจวได้เป็ นจ้วง

1
ทั่นฮวา คือคําเรียนจิน้ ซื่อที่สอบได้เป็ นอันดับสาม อันดับหนึ่งเรียกว่าจ้วงหยวน อันดับสองเรียกว่าปั่ งเหยียน
2
สํา นัก ฮั่น หลิ น เป็ น สํา นัก ที่ ท รงอิ ท ธิ พ ลมากสํา หรับ บัณ ฑิ ต ในยุค นั้น หน้า ที่ ข องสํา นัก ฮั่น หลิ น คื อ บัน ทึก และแก้ไ ข
ประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ รวมไปถึงการวางแผนการศึกษาและการสอบเพื่อเฟ้นหาบัณฑิตเข้ารับราชการอีกด้วย
250

หยวนในปี เหรินอู่ เป็ นลูกหลานสายหลักของสกุลโจวแห่งหนานทง ท่านปู่ ของเขาเป็ นราชครู


บิดาเขาเคยเป็ นโซ่วฟู่ 3 พี่ชายคนโตของเขาคือเจ้ากรมขุนนางคนปั จจุบนั เขายังมีท่านอาอยู่ท่ี
58

ศาลต้าหลี่ ตัวเองก็เคยเป็ นจีซ้ ่ือจง 4 อยู่กรมอาญา ทัง้ สกุลล้วนแต่เป็ นเลิศ เขามาหลินอันเพื่อ


59

เยี่ยมเยียนนายท่านสาม นายท่านสามเจ้าคงรูจ้ กั อยู่แล้ว ก็คือเผยสยากวง เผยเยี่ยน ใต้เท้าโจว


รูว้ ่าท่านเฉินจะมาบรรยายที่สาํ นักศึกษาอําเภอ เลยตัง้ ใจมาคารวะท่านเฉินพร้อมกับนายท่าน
สามด้วย ทุกคนคงไม่รู ้ เพราะบิดาข้าอายุรุน่ ราวคราวเดียวกับนายท่านรองสกุลเผย พี่ชายข้าก็
ไปที่จวนสกุลเผยเพื่อขอคําชีแ้ นะเรื่องการเรียนจากนายท่านรองบ่อยๆ ถึงได้รูว้ า่ พวกเขาจะมาที่
สํานักศึกษาอําเภอ พี่ชายข้าเลยตัง้ ใจพาข้ามาให้พวกเขาเห็นหน้าเห็นตาไว้บา้ ง…”
เขาเป็ นเหมือนนกยูงรําแพนหาง คิดจะดึงดูดความสนใจจากอวีถ้ งั
อวีถ้ งั ได้ยินว่าหลี่ตวนก็อยู่ท่ีน่ีดว้ ย ก็รูส้ กึ ไม่สบายตัวราวกับทั่วร่างมีหนอนไต่ยวั้ เยีย้
นางตัดบทวาจาของหลี่จวิน้ ว่า “คุณชายรองสกุลหลี่ใส่ใจเกินไปแล้ว ข้าไม่มีธุระอันใด
จริงๆ ผูใ้ หญ่ท่ีเรือนยังรอให้ขา้ กลับไป ขอตัวก่อน” พูดจบ ก็หนั ไปส่งสายตาให้อาเสา แล้วหมุน
กายเตรียมจากไป
หลี่จวิน้ ชะงักกึก เห็นว่าอวีถ้ งั เดินไปไกลเกินสิบเก้าแล้ว เขาถึงได้สติกลับมา รีบตะโกน
เรียกอวีถ้ งั เอาไว้
อวีถ้ งั หมุนตัวกลับมาอย่างงงๆ
หลี่จวิน้ ยืนอยู่ท่ีเก่าด้วยสีหน้าแดงเถือก ทําท่าอึกๆ อักๆ ไม่รูว้ า่ ต้องการจะพูดอะไร
อวีถ้ งั มีหรือจะไม่เข้าใจ

3
โซ่วฟู่ เป็ นตําแหน่งผูอ้ าวุโสของหกกรม
4
จีซ้ ่ือจง เป็ นตําแหน่งที่มีอยู่ในทัง้ หกฝ่ าย แม้ว่าลําดับศักดิ์ไม่สงู แต่มีอาํ นาจมาก ภารกิจที่ฮ่องเต้มอบหมายให้ศาลาว่า
การแต่ละแห่งจะมีทั้งหกฝ่ ายคอยติดตามและจดบันทึกทุกๆ ห้าวัน หากล่าช้าหรือทํางานไม่มีประสิทธิ ภาพ หกฝ่ าย
สามารถรายงานต่อฮ่องเต้ได้
251

ชาติก่อน หลี่จวิน้ ไม่เคยได้พบนาง ฮูหยินหลี่บอกว่าเขาฝั งใจกับนางมาก นางจึงอาศัย


การสวดมนต์ เพื่ออดทนกับฮูหยินหลี่มานานปี ชาตินี ้ สวรรค์กลั่นแกล้งคน หลี่จวิน้ ได้พบนาง
แล้ว ซึง่ สอดคล้องกับคําโกหกของฮูหยินหลี่ในชาติก่อน…หลี่จวิน้ ปั กใจต่อนางตัง้ แต่แรกเห็น
น่าเสียดาย นางขยะแขยงสกุลหลี่จนแทบทนไม่ไหว ไม่ว่าหลี่จวิน้ จะประเสริฐปานใด
จริงใจต่อนางเพียงไหน นางก็ไม่คิดจะมีความเกี่ยวพันใดๆ กับสกุลหลี่อย่างเด็ดขาด
อวีถ้ ังยิม้ เย็นพลางเอ่ยว่า “ครัง้ หน้าคุณชายหลี่คิดให้ดีก่อนว่าจะพูดอะไรกับข้าแล้ว
ค่อยเรียกข้าเถอะ!”
ถ้าอยากให้หลี่จวิน้ ตัดใจต่อนาง นางยิ่งไม่อาจแสดงท่าทีใกล้ชิดต่อเขา
หลี่จวิน้ พลันรูส้ กึ ขายหน้าทันใด
อวีถ้ งั พาอาเสาเดินออกไปด้านนอก
หลี่จวิน้ กัดริมฝี ปาก คิดจะตามไปด้วย
“แม่นางอวี!้ ” เขามาดักหน้านางเอ่ยติดๆ ขัดๆ ว่า “แม่นางอวี ้ เอ่อ คือว่านายหญิงทัง
กับท่านแม่ขา้ บอกว่า ไปเยือนที่เรือนเจ้าหลายครัง้ แล้ว สกุลเจ้า…ต้องการหาเขยแต่งเข้า ขอ
เจ้าอย่าใจร้อน รอสักไม่ก่ีวนั ท่านพ่อข้าอีกสองสามวันก็คงตอบจดหมายกลับมาแล้ว…ข้า ข้า
ยินดี…”
คําพูดของเขายังไม่ทนั พูดจบ ก็เห็นสีหน้าของอวีถ้ งั ซีดเผือดและแข็งทื่ออย่างรวดเร็ว
เกิดอะไรขึน้ รึ?
หลี่จวิน้ พึมพําในใจ นํา้ เสียงที่ใช้จึงดังยิ่งกว่าเดิม ราวกับตัดสินใจแน่วแน่แล้ว “แม่
นางอวี ้ เจ้าวางใจได้ สกุลข้ามีบตุ รชายสองคน ข้ารูว้ ่าสกุลเจ้าต้องการให้เขยชายแต่งเข้า ไม่ว่า
อย่างไรข้าต้องให้ท่านพ่อรับปากให้ได้ เจ้ารอข้านะ!”
252

“หลี่จวิน้ เจ้าพูดจาเพ้อเจ้ออะไร!” มีบรุ ุ ษพูดแทรกเขาด้วยความเดือดดาล “ไสหัวของ


เจ้ากลับมาหาข้าเดี๋ยวนี!้ ”
นํา้ เสียงอันคุน้ เคยนี…

หลี่จวิน้ รีบหันไปมอง เห็นดวงหน้าหล่อเหลาทว่าเขียวคลํา้ ของพี่ชายตน อีกทัง้ ด้านหลัง
เขา ยังมีดวงหน้าสูงส่งทว่าไม่อาจคาดเดาของนายท่านสาม เผยเยี่ยน ดวงหน้าที่ดูสนุกกับ
ความทุกข์ของผูอ้ ่นื ของโจวจ้วงหยวน และดวงหน้าตกตะลึงของท่านเฉิน
“ท่านพี่!” หลี่จวิน้ ไหล่ตก เรียกหลี่ตวนไปทีหนึ่งอย่างระมัดระวัง
หลี่ตวนอยากจะตบหน้าน้องชายไร้สมองคนนีใ้ ห้ตายจริงๆ
วันนีเ้ ป็ นโอกาสดีเพียงใด คนหนึ่งเป็ นถึงจ้วงหยวน คนหนึ่งเป็ นถึงทั่นฮวา ยังมีจิน้ ซื่อ
สองป้ายอีก คนอื่นคิดประจบยังหาโอกาสไม่ได้ เขากลับวิ่งมาตอแยหญิงสาวสกุลอื่นอยู่ท่ีน่ี ยัง
กล้าพูดอย่างไร้สาํ นึกว่าจะแต่งเข้าเป็ นเขยผูอ้ ่นื ช่างเป็ นการกระทําที่ไม่สมกับฐานะของบัณฑิต
เอาเสียเลย
ความคิดแวบผ่าน หัวใจเขาพลันกระตุก
แต่งเขยชายเข้าบ้าน!
หรือว่าจะเป็ นหญิงสาวผูน้ นั้ แม่นางสกุลอวี?้
หลี่ตวนอดจะมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าน้องชายทีหนึ่งไม่ได้
ทว่าเพียงครัง้ เดียว เขาก็ไม่อาจย้ายสายตาไปไหนได้อกี
ส่วนสูงปานกลาง รูปร่างไม่ได้ผอมบางอย่างที่นิยมกันเหมือนตอนนี ้ ทว่ามีขาเรียวยาว
เอวแน่งน้อย มีเส้นเว้าโค้งสวยงาม สวมเสือ้ ตัวสัน้ สีขาวธรรมดา ท่อนล่างเป็ นกระโปรงจับจีบสี
แดงเข้มปั กลายดอกไม้ หวีผมทรงก้นหอยสองข้าง เสียบดอกมะลิเอาไว้หนึ่งช่อ ตุม้ หูดอกติง
253

เซียงสีเงินสะท้อนวิบวับใต้แสงอาทิตย์ เมื่อรวมกับหางตาที่แดงเรื่อของนาง ช่างเป็ นการแต่ง


แต้มสีสนั ให้กบั ความงดงามอีกทีหนึ่ง
มิน่าขนาดสกุลฟู่ ยังไปขอหมัน้ หมาย
ที่แท้ก็งามถึงเพียงนี ้
หลี่ตวนพลันสติหลุดลอยไปชั่วขณะ
โจวจ้วงหยวนที่ยืนอยู่ขา้ งๆ หัวเราะชอบใจ สะบัดพัดจินชวนสีดาํ ให้กางออก ทําลาย
ความเงียบทิง้ ในชั่ววินาที “คนหนึ่งสะเทิน้ อายหน้าแดง คนหนึ่งทําหน้าเหมือนร้องไห้ ไม่รูว้ ่า
ได้รบั ความขุ่นข้องหมองใจหรืออย่างไร” เขาพูดพลางมองไปทางหลี่ตวนอย่างขําๆ “มาๆ มีเรื่อง
อะไรก็พดู กับพวกข้าได้ พวกข้าจะเป็ นคนชีข้ าดให้เอง”
ทําเหมือนกับว่าหลี่ตวนเป็ นหวังหมู่เหนียงเหนียงที่ทาํ ลายวาสนาของผูอ้ ่นื เสียอย่างนัน้
“จื่อจิน!” เฉินซ่านเหยียนเรียกชื่อโจวจ้วงหยวนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เอ่ยว่า “ที่น่ีไม่ใช่
เมืองหลวง เจ้าสงบเสงี่ยมลงเสียบ้าง อย่าได้เอาอุบายที่ชอบใช้ในเมืองหลวงมาใช้ท่ีเมืองหลิน
อัน”
เขาเป็ นบุรุษวัยประมาณห้าสิบปี รู ปร่างผอมสูง ผมเคราขาวโพลน สีหน้าเข้มงวด อยู่
ในชุดผ้าคลุมเนือ้ หยาบสีนา้ํ เงิน ดูไม่คล้ายกับทั่นฮวา แต่เหมือนบัณฑิตตกตํ่าที่สอบไม่ผ่านเสีย
มากกว่า
โจวจ้วงหยวนคล้ายว่าจะกลัวเขาอยู่บา้ ง เห็นว่าเขาไม่พอใจ ก็หัวเราะเหอะๆ สองที
ก่อนจะมองไปทางเผยเยี่ยน
ทว่าเผยเยี่ยนกลับมองอวีถ้ งั อยู่
แม่นางผูน้ ีอ้ ีกแล้ว
เขายังจําภาพตอนที่เจอนางครัง้ ก่อนตอนอยู่วดั เจาหมิงได้
254

นางสวมชุดผ้าไหมปั กลายดอกไม้สีแดงเข้ม ขมวดผมเป็ นก้อนกลมกลางศีรษะ ขณะที่


เดิน ผ้าไหมเนือ้ บางจะแนบติดกับเรือนร่างของนาง เอวน้อยอรชรดั่งกิ่งหลิว ปิ่ นเงินชุบฝั งไข่มกุ
ที่ปักเอียงๆ อยู่บนผมขยับไหวเหมือนกับชิงช้า เคียงใกล้ดวงหน้าขาวผ่องของนาง
เหล่าชายหนุ่มใต้ตน้ สนตื่นรูต้ า่ งพากันยือ้ แย่งเพื่อออกแรงช่วยเหลือนาง
ทว่าตอนนี…
้ ดวงตานางกลับแดงชํา้ ดวงหน้าซีดเซียว มองไปทางหลี่ตวนด้วยความตก
ตะลึง
เผยเยี่ยนอดจะหันไปมองหลี่ตวนไม่ได้
อาจเพราะจะมาพบพวกเขา หลี่ตวนจึงแต่งตัวอย่างเป็ นทางการ เสือ้ คลุมตัวหลวมตัด
จากผ้าหังโจวสีแดงพุทราลายอู่ฝู พร้อมผ้าโพกศีรษะสีดอกบัว ที่เอวห้อยถุงผ้ากับจินซานซื่อ
ผิวพรรณขาวผ่อง เครื่องหน้าหล่อเหลา รูปร่างดั่งต้นสน เขายืนแน่น่ิงกับที่อยู่อย่างนัน้ ทําให้คน
นึกถึงคําชื่นชมประเภท ‘ดอกหลันจือต้นอวีซ้ ู่ 5 ’ขึน้ มาได้ 60

เพียงแต่สีหน้าของเขาในเวลานีด้ ไู ม่คอ่ ยถูกต้องนัก


ดวงตามองตรงไปที่แม่นางน้อยสกุลอวี ้ จ้องจนตาไม่กะพริบ…
หรือ ว่า ทั้ง คุณ ชายน้อ ยและคุณ ชายใหญ่ ส กุล หลี่ ต่า งก็ มี เ รื่ อ งราวความหลัง กับแม่
นางอวีผ้ นู้ ี?้
เผยเยี่ยนเม้มปาก แต่เกือบซวนเซเพราะแขนของโจวจื่อจินที่วางพาดไหล่ลงมา
โจวจื่อจินกระซิบข้างหูเขาว่า “นี่ สายตาเจ้าเหตุใดเป็ นเช่นนัน้ ? เจ้าคงมิใช่รูจ้ กั แม่นางผู้
นัน้ ด้วยกระมัง? นี่มนั สถานการณ์ใดกัน? สามารถทําให้บรุ ุษตะโกนว่าอยากแต่งเข้าไปเป็ นเขย
ชายให้ได้อย่างไม่สนใจสิ่งใด แม่นางผูน้ ีไ้ ม่ธรรมดาจริงๆ! เจ้าบอกให้ขา้ ฟั งบ้างสิ ข้ารับรองจะ
เก็บเป็ นความลับ!”

5
ดอกหลันจือต้นอวีซ้ ู่ เป็ นคําเปรียบเปรยถึงคนรุน่ หลังที่เฉิดฉายโดดเด่น
255

เผยเยี่ยนขมวดคิว้ แล้วปั ดแขนเขาออกจากไหล่ดว้ ยสีหน้าหมดความอดทน “เจ้าอย่า


บ้าให้มนั มาก”
โจวจื่อจินกระตุกยิม้ มุมปาก ทําทีเหมือนมีถอ้ ยคําอยากจะพูด หัวใจของเฉินซ่านเห
ยียนกระตุกใหญ่ กลัวว่าเขาจะพูดอะไรที่ไม่น่าฟั งอีก จึงไอเสียงดังไปหลายครัง้
หลี่ตวนไม่นบั ว่าเลอะเลือนเกินเยียวยา ดึงสติกลับมาทันที
เขารูส้ กึ กระดากเล็กน้อย
สิบปี ท่ีเล่าเรียนมาอย่างยากลําบาก เขาไม่เคยจะมองสตรีคนใดสักครัง้ แต่แม่นางที่อยู่
เบือ้ งหน้านี ้ กลับทําให้เขาคันยุบยิบในหัวใจจนไม่อาจไม่จอ้ งมองอย่างละเอียดได้
เขารีบจัดการความคิดของตนเองแล้วพูดกับหลี่จวิน้ ว่า “ยังไม่รีบคารวะผูอ้ าวุโสอีก
ตําราที่ทอ่ งมามากมายหายลงท้องไปแล้วหรือ”
หลี่จวิน้ เดินขึน้ ไปข้างหน้าทุกคนด้วยสีหน้าแดงกํ่า
เผยเยี่ยนโบกมือให้อย่างไม่ใส่ใจ บอกเป็ นนัยว่าไม่ตอ้ งทําความเคารพ จากนัน้ ก็หนั ไป
พูดกับโจวจื่อจินด้วยสีหน้าเฉยเมยว่า “เจ้าจะไปหรือไม่? ถ้าไม่ไป ข้าไปก่อนล่ะ!”
256

ตอนที่ 31 เงือ่ นงํา


ตอนนัน้ เองอวีถ้ งั เพิ่งรูส้ กึ ตัวว่านายท่านสามสกุลเผยก็อยู่ท่ีน่ีดว้ ย
นางมองไปทางเผยเยี่ยน
เขาอยู่ในชุดคลุมตัวหลวมสีฟ้าอ่อน นอกจากปิ่ นไม้ไผ่บนศีรษะแล้ว ทั่วร่างก็ไม่มีของ
ประดับชิน้ อื่นอีก สีหน้าเขาวางเฉย สายตาหม่นแสง ดูอารมณ์คกุ รุน่ ยิ่งกว่าหลายครัง้ ที่เจอก่อน
หน้านีเ้ สียอีก
อวีถ้ งั ตะลึงไป
เขามิใช่ผชู้ นะในการแก่งแย่งของสกุลเผยหรือ? เหตุใดไม่มีท่าทียินดีสกั นิดเล่า?
อวีถ้ งั เพราะความสงสัย รูส้ กึ ว่าร่างกายค่อยๆ รับรูถ้ ึงความอบอุน่ มือเท้าที่ชาหนึบตอน
ที่เห็นหลี่ตวนค่อยๆ กลับมาขยับเคลื่อนไหวได้
เรื่องบางเรื่อง นางนึกว่าตัวเองปล่อยวางได้แล้วเสียอีก
แต่ความจริงกลับไม่ใช่เลย!
พอได้เจอหลี่ตวน นางยังคงเดือดดาล ยังคงโกรธแค้นและรูส้ กึ ไม่เป็ นธรรม
นางข่มใจอดกลัน้ ถึงไม่ได้หลุดปากด่าทออย่างหยาบคายออกไป
ทว่าหลี่ตวนในตอนนีไ้ ม่มีเวลามาสนใจอวีถ้ งั แล้ว
วันนีเ้ ขาตัง้ ใจพาหลี่จวิน้ มาให้ทกุ คนรูจ้ กั นี่ก็เพิ่งจะได้พบพวกเผยเยี่ยน ยังไม่ทนั ได้คยุ
กันสักประโยค เผยเยี่ยนก็จะจากไปแล้ว…เขามิอาจปล่อยให้เป็ นเช่นนัน้ ได้!
หลี่ตวนเร่งสาวเท้าไปด้านหน้า เอ่ยกับเผยเยี่ยนว่า “ท่านอา ท่านโจวยากนักจะได้มา
เยือนสักหน ข้านําชาเหมาเจียนชัน้ เลิศติดมาด้วย อาจารย์ทางนัน้ ยังมีชดุ นํา้ ชาหรูเหยาสีฟ้าอยู่
ชุดหนึ่ง ต้น ดอกกุ้ยฮวาร้อยปี ท่ีลานด้านหลังสํานักศึกษาก็ใกล้จะบานแล้ว หากจะรีบร้อน
257

กลับไป มิสไู้ ปดื่มชาที่ลานด้านหลังก่อน อาศัยครึง่ วันที่ยงั ว่าง ไปสูดกลิ่นหอมของดอกกุย้ ฮวา


ด้วยขอรับ”
อาจารย์ของเผยเยี่ยนคืออดีตเจ้ากรมขุนนางนามว่าจางอิง ทัง้ เจ้ากรมโยธาซึ่งควบ
ตําแหน่งมหาบัณฑิตหอตงเก๋อนามว่าเจียงฮวาและรองเจ้ากรมขุนนางอย่างเฟ่ ยจือ้ เหวินก็ลว้ น
เป็ นศิษย์พ่ีสาํ นักเดียวกับเขา ว่ากันตามเหตุผล ไม่ว่าหลี่อี ้ บิดาของสองพี่นอ้ งสกุลหลี่คิดจะ
ก้าวหน้า หรือว่าหลี่ตวนอยากจะราบรื่นในเส้นทางขุนนาง การแบกหน้าเข้าหาผูอ้ ่ืนมีหรือจะสู้
เข้าทางเผยเยี่ยนผูอ้ ยู่เมืองเดียวกันได้
แต่เผยเยี่ยนกลับมีนิสยั แปลกประหลาด เขามึนตึงกับบ้านใหญ่ไม่พอ ทัง้ กับบ้านรองก็
ไม่ไปมาหาสู่
หลี่อแี ้ ม้จะรุน่ ราวคราวเดียวกับนายท่านรองสกุลเผย หลังจากที่เผยเซวียนกลับมาหลี่ต
วนก็ไปขอคําชีแ้ นะจากเขาอยูบ่ อ่ ยๆ แต่กลับไม่เคยมีโอกาสได้สนทนากับเผยเยี่ยนสักหน
หลี่ตวนอับจนหนทาง จึงได้เข้าทางท่านอาจารย์เฉินซ่านเหยียนแทน
เฉินซ่านเหยียนฝากความหวังอันยิ่งใหญ่ไว้กบั ลูกศิษย์คนนี ้ ถึงได้ถือโอกาสตอนที่เผย
เยี่ยนมาเยี่ยมเขาเป็ นเพื่อนโจวจื่อจิน ตัง้ ใจเรียกหลี่ตวนมาหา คิดใช้จงั หวะนีใ้ ห้เขากับเผยเยี่ยน
ได้ผกู สัมพันธ์กนั
เวลานีเ้ ขาย่อมช่วยพูดแทนหลี่ตวน “สยากวง จื่อฉุนพูดถูก ยากนักที่เจ้าจะมาสํานัก
ศึกษาสักครัง้ ไม่สอู้ ยู่ด่มื ชาก่อนแล้วค่อยกลับ”
หลี่ตวนมีช่ือว่าจื่อฉุน
เผยเยี่ยนไม่ได้พดู อะไร สีหน้าไร้อารมณ์มองไปทางหลี่ตวนทีหนึ่ง แล้วมองไปทางอวีถ้ งั
อีกทีหนึ่ง
คนทัง้ หมดพากันตกตะลึง
258

หลี่ตวนคิดถึงท่าทีเสียมารยาทเมื่อครู ่ของตนได้ ดวงหน้าพลันเปลี่ยนเป็ นสีแดง แล้ว


พึมพําแก้ตา่ งกับเผยเยี่ยนว่า “แม่นางอวี ้ เกือบจะได้หมัน้ หมายกับสกุลของข้าขอรับ!”
ดวงตาของอวีถ้ งั เบิกโต
หลี่ตวนหมายความว่าอย่างไร?
อะไรคือเกือบจะได้หมัน้ หมายกับสกุลของเขา?
อวีถ้ งั เดือดดาลจนปอดแทบระเบิด
เผยเยี่ยนกลับไม่ใส่ใจ ส่งเสียง ‘อ้อ’ อย่างขอไปที
อวีถ้ งั มึนงงไปหมด
พักหนึ่งสายตาของโจวจื่อจินก็หนั ไปมองอวีถ้ งั พักหนึ่งก็หนั ไปจ้องหลี่ตวน
อวีถ้ งั พลันคิดออก เข้าใจทุกอย่างในทันที
เผยเยี่ยนคงไม่ได้สงสัยว่านางกับหลี่ตวน…
จะเป็ นไปได้อย่างไร?
เผยเยี่ยนเหตุใดถึงเข้าใจเช่นนัน้ ?
แต่พอนางคิดว่ามีความเป็ นไปได้ เลือดร้อนก็พงุ่ ขึน้ หน้าทันที
อวีถ้ งั ส่งเสียงเรียก “นายท่านสาม” ไปทีหนึ่ง
เผยเยี่ยนทําเหมือนไม่ได้ยิน เขาพลันหันไปพูดกับเฉินซ่านเหยียนว่า “เช่นนัน้ ก็ไปดื่มชา
ที่ลานด้านหลังก่อน”
เฉินซ่านเหยียนลอบยินดี ด้วยกลัวว่าเผยเยี่ยนจะเปลี่ยนใจจึงลากเขามุ่งไปทางลาน
ด้านหลัง “ความจริงข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า ตัง้ แต่ท่ีเจ้าขึน้ เป็ นผูน้ าํ สกุลเผย ข้าก็ยงั ไม่ได้คยุ กับ
เจ้าจริงๆ จังๆ สักครัง้ ตอนที่ท่านผูเ้ ฒ่าเผยยังอยู่ก็คอยช่วยเหลือสํานักศึกษาของเราไว้มาก
259

บัดนีเ้ ขาจากไปแล้ว เด็กๆ ที่เคยได้รบั การดูแลก็ลว้ นแต่กงั วลใจ หากว่าเจ้าไม่มา อีกไม่ก่ีวนั ข้าก็
เตรียมตัวจะไปหาเจ้าอยู่เหมือนกัน…”
สองคนค่อยๆ เดินห่างออกไป
อวีถ้ ังโมโหจนทนไม่ไหว ตะโกนเสียงดังไล่หลังว่า “นายท่านสาม ข้ามีเรื่องจะพูดกับ
ท่าน!”
เรื่องบางอย่างนางต้องพูดกับเขาให้ชดั เจนจึงจะถูก
สองครัง้ แรกเป็ นนางที่ทาํ ผิด แต่วา่ ครัง้ นี ้ เป็ นเขาที่กล่าวหานาง
ทุกคนหันหน้ากลับมามอง
เผยเยี่ยนราวกับว่าไม่ได้ยินเสียง เขายังเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ
เฉินซ่านเหยียนมองอวีถ้ งั ทีหนึ่ง ครุน่ คิดเล็กน้อย แล้วก็เดินตามเผยเยี่ยนไป
โจวจื่อจินกลับรูส้ กึ สนใจยิ่งนัก
เขากระตุกยิม้ มุมปาก แล้วสะบัดพัดกางออกดัง ‘พรึบ’ เพียงแต่ยงั ไม่ทนั ได้เปิ ดปากพูด
ก็ถูกคนที่มีดวงตาติดอยู่ดา้ นหลังอย่างเผยเยี่ยนหันกลับมาหิว้ คอเสือ้ ไปเสียก่อน แล้วลากเขา
เดินไปข้างหน้า เอ่ยว่า “เจ้าไม่ด่มื ชารึ? ถ้าไม่ด่มื ชาก็กลับเมืองหลวงไปเสีย!”
โจวจื่อจินรีบหุบปากฉับ
หลี่ตวนมองสถานการณ์ตรงหน้าอย่างมึนงง ลากแขนหลี่จวิน้ แล้วเดินตามเผยเยี่ยนไป
หลี่จวิน้ ไม่กล้าเปิ ดปาก ได้แต่มองอวีถ้ งั อยู่อย่างนัน้
อวีถ้ งั โมโหจนแทบตาย ข้างหูพลันได้ยินเสียงตีฆอ้ งดัง ‘เหง่ง เหง่ง เหง่ง’
สํานักศึกษาถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว
นักเรียนรุน่ เยาว์สองสามคนทะยอยกันเดินออกมา
260

อวีถ้ งั กระทืบเท้าลงพืน้ แล้วโยนหลี่ตวนก็ดี หลี่จวิน้ ก็ช่างทิง้ ไว้เบือ้ งหลัง กลับเรือนไป


ด้วยความหัวฟั ดหัวเหวี่ยง แต่เพราะกลัวว่ามารดาจะมองออก จึงกําชับอาเสาไม่ให้พดู เรื่องใน
วันนีอ้ อกไป
อาเสาพยักหน้าหงึกหงัก
นั่นเป็ นนายท่านสามสกุลเผยเชียวนะ!
เขามีหรือจะกล้าพูดเหลวไหล
อวีเ้ หวินกลับมาจากหังโจวแล้ว
สิ่งที่กลับมาพร้อมกัน ยังมีโลงศพของหลูซ่ ิ่น
“ครัง้ นีจ้ ่ายไปก้อนใหญ่เลย” อวีเ้ หวินยิม้ ขื่น “โลงศพไม่ตอ้ งพูดถึง แค่ผูอ้ ่ืนได้ยินว่าข้า
จะย้ายโลงศพกลับบ้าน ต่างไม่มีใครยอมมาส่งสักคน ข้าจึงต้องจ้างเรือไว้เลยหนึ่งลํา แล้วส่ง
โลงศพเขาไปที่วดั ที่น่ นั ก็เก็บเงินค่าทําบุญไปเยอะเหมือนกัน” เขารู ส้ ึกผิดต่อภรรยามากจึงได้
รับปากกับเฉินซื่อและอวีถ้ งั ว่า “นี่จะเป็ นครัง้ สุดท้ายแล้ว ต่อไปจะไม่มีเช่นนีอ้ ีก”
เฉินซื่อเป็ นคนใจกว้าง คิดว่าเรื่องมาถึงขัน้ นีแ้ ล้วพูดมากไปมีแต่จะทําลายนํา้ ใจของอีก
ฝ่ าย จึงไม่เพียงไม่กล่าวโทษเขา ซํา้ ยังเอ่ยปลอบเขาว่า “เป็ นคนขอเพียงใจสงบ พวกเราอย่างไร
ก็นบั ว่าไม่ผิดต่อนายท่านหลูก่ ็พอแล้ว”
อวีเ้ หวินถอนหายใจ “เจ้าไม่รูอ้ ะไร พวกเรายังคงต้องหาทางติดต่อกับสกุลหลู่ดว้ ย
ไม่อย่างนัน้ ยังต้องช่วยเขาจัดการเรื่องสุสาน ต่อไปยังต้องหาคนมาเซ่นไหว้เขาอีก”
เฉินซื่อพูดว่า “ก็มิใช่ว่าไร้หนทางหรอก พรุง่ นีข้ า้ จะให้ป้าเฉินเตรียมของว่างและนํา้ ชา
เอาไว้ ท่านก็ไปเรือนสกุลหลู่สกั ครัง้ ผูต้ ายนับว่าเป็ นใหญ่ ข้าเชื่อว่าสกุลหลู่คงไม่ไร้เหตุผลถึง
เพียงนัน้ ”
“หวังว่าจะเป็ นเช่นนัน้ นะ”
261

อวีเ้ หวินเดินทางไปเรือนสกุลหลูด่ ว้ ยความวิตกกังวล


คนสกุลหลู่เห็นว่าอวีเ้ หวินช่วยไปจัดการเรื่องศพหลู่ซิ่น ทัง้ ยังขนโลงศพกลับมา จึงได้
ยอมถอยก้าวหนึ่ง ตอบตกลงให้ฝังหลูซ่ ิ่นไว้ในสุสานบรรพชน
อวีเ้ หวินถอนหายใจโล่งอก วันถัดมาจึงเดินทางไปวัด เตรียมเชิญพระในวัดสวดส่ง
วิญญาณให้เขาเป็ นเวลาสามวันจากนัน้ ค่อยเลือกวันดีในการฝังศพ
สกุลอวีถ้ กู ขโมยขึน้ เรือนอีกครัง้
ครัง้ นีห้ วั ขโมยถูกพบตอนที่กาํ ลังรือ้ ห้องหนังสือของอวีเ้ หวิน และเสี่ยวหวงเป็ นผูพ้ บเห็น
เสี่ยวหวงอย่างไรก็ยังเล็กอยู่ มันกระโจนใส่หัวขโมยแล้วเห่า ‘โฮ่งๆ!’ ทัง้ มันยังงับขา
กางเกงของหัวขโมยจนถูกถีบไปทีหนึ่ง เจ็บตัวจนครางหงิงๆ
อาเสาแม้จะไปถึงทันเวลา แต่ก็ไม่กล้าประมือตรงๆ กับหัวขโมย ได้แต่ไล่คนกับตื่น
ตกใจจนหัวขโมยหลบหนีไปได้
อวีถ้ งั กอดเสี่ยวหวงเบาๆ แล้วลูบขนมันไปมาอย่างปวดใจ
เฉินซื่อรู ส้ ึกหวาดกลัวมาก หยิบเงินห้าตําลึงส่งให้อาเสา แล้วสั่งให้เขาไปหาอวีเ้ หวิน
“เงินนีใ้ ห้คนของศาลาว่าการไปดื่มเหล้า ต่อให้จับหัวขโมยไม่ได้ก็ขอให้พวกเขามาเดินตรวจ
หน้าเรือนเราหลายๆ รอบหน่อย จะได้ข่หู วั ขโมยให้มนั กลัวเสียบ้าง”
อาเสาตอบรับคํา
อวีถ้ ังคิดว่าหลายวันนีอ้ วีเ้ หวินก็ว่ิงวุ่นไปมา จึงได้ไปเก็บกวาดห้องหนังสือให้เขา ทัง้
ช่วยบิดาตรวจนับสิ่งของไปพร้อมกันด้วย ดูวา่ มีอะไรหายไปบ้างหรือไม่
ในห้องยังคงเป็ นระเบียบเรียบร้อย ไม่รูว้ า่ หัวขโมยคนนัน้ ยังไม่ทนั ได้ลงมือหรือเพราะลง
มืออย่างระมัดระวังกันแน่ ถึงได้เบาไม้เบามือจนคนแทบสังเกตไม่ออก
262

อวีถ้ ังค่อยๆ จัดของให้บิดาอย่างไม่รีบร้อน หัวขโมยนัน้ ขโมยกระดาษเซวียนจื่อของ


บิดาไปครึ่งพับ พวกแท่นฝนหมึกเฉิงหนีเยี่ยนที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษถูกรือ้ ออกมาแต่กลับ
ไม่ได้หยิบเอาไปด้วย
เพราะหัวขโมยผูน้ นั้ มีตาแต่ไม่มีแววหรือ?
อวีถ้ ังมองข้างแท่นฝนหมึกที่แกะสลักเป็ นรู ปนกกางเขนเสมือนจริงกับรู ปดอกเหมยที่
คล้ายฟื ้ นขึน้ มามีชีวิตอีกครัง้ กลับรูส้ กึ ว่าเรื่องนีม้ ีเงื่อนงําบางอย่าง
หากคิดขโมยเงินทอง ก็น่าจะไปที่หอ้ งด้านในของบิดามารดาไม่ใช่หรือ? หากต้องการ
ขโมยของในห้องหนังสือ ก็ย่อมต้องรูจ้ กั ของดี ไม่อย่างนัน้ จะรูไ้ ด้อย่างไรว่าสิ่งใดมีค่าสิ่งใดไม่มี
ค่า?
ป้าเฉินโมโหใหญ่โตกําลังตะโกนด่าคนอยู่กลางลาน “พวกมันรังแกพวกเราเพราะเห็น
ว่านายท่านไม่อยู่บา้ น ไม่อย่างนัน้ จะกล้าเข้ามาขโมยของครัง้ แล้วครัง้ เล่าได้อย่างไร!”
263

ตอนที่ 32 หัวขโมย
อวีถ้ งั ได้ยินเสียงก่นด่าของป้าเฉินก็ขมวดคิว้ ขึน้ เล็กน้อย
แต่ท่ีปา้ เฉินกล่าวมีเหตุผลอยู่จริงๆ
ถูกขโมยขึน้ เรือนสองครัง้ ล้วนเป็ นช่วงเวลาที่อวีเ้ หวินไม่อยู่
ไฉนจึงได้บงั เอิญถึงขนาดนัน้ ?
เฉิ น ซื่ อ ก็ รู ส้ ึก ว่ า เป็ น เรื่อ งบัง เอิ ญ เช่ น กัน จึง พาอวีถ้ ัง ไปถึง เรือนของอวีป้ ๋ อ อยากจะ
เชิญอวีห้ ย่วนมาพักในเรือนยามที่อวีเ้ หวินไม่อยู่เสียหน่อย
อวี ป้ ๋ อยัง คงยุ่ง กับ เรื่ อ งร้า นค้า หวัง ซื่ อ ตกปากรับ คํา ทัน ที กล่า วปรึก ษากับ เฉิ น ซื่ อ
“ไม่อย่างนัน้ จัดการเรื่องงานแต่งของอวีถ้ งั ให้เร็วหน่อยดีหรือไม่? หากเรือนของพวกเจ้ามีคน
คนพวกนัน้ ย่อมไม่กล้าเข้าออกโดยพลการ”
เรือนของพวกเขามีคนน้อยเกินไปจริงๆ
เฉินซื่อถอนหายใจ “รอเด็กสกุลเว่ยผูน้ นั้ จัดพิธีครบยี่สิบเอ็ดวันแล้วค่อยว่ากันเถิด! คน
เขาใจกว้างมีคณุ ธรรม พวกเราไม่อาจใจร้อนเกินไปได้ อาถังก็รอไหวเช่นกัน”
หวังซื่อทอดถอนหายใจ ให้บ่าวใช้ในเรือนขนย้ายข้าวของที่อวีห้ ย่วนมักจะใช้ตามเข้า
ไป
มีเพื่อนบ้านบังเอิญพบเห็น ก็อดถามไถ่ออกมาไม่ได้
เฉินซื่อเล่าเรื่องในบ้านให้เพื่อนบ้านคนนัน้ ฟั ง เพื่อนบ้านคนนัน้ ถอนหายใจตาม ปลอบ
ใจเฉินซื่อ “หากสกุลของพวกเจ้าได้ลกู เขย ก็คงจะดีขนึ ้ แล้ว”
“ขอให้เป็ นดั่งที่เจ้าว่าเถิด!”
264

เฉิ น ซื่ อ ไถ่ถ ามสารทุก ข์สุก ดิ บกับเพื่ อ นบ้า นอยู่พัก หนึ่ง ก่ อ นจะกลับ เข้า ไปในเรือน
จัดเตรียมห้องรับแขก
อวีถ้ งั นั่งหมอบหยอกล้อเสี่ยวหวงอยู่ตรงระเบียง ทว่าในใจกลับนึกถึงเผยเยี่ยน
คนผูน้ ีอ้ วดดีจริงๆ รูเ้ รื่องเพียงผิวเผินก็ด่วนสรุปเสียแล้ว ไม่คิดจะฟั งคนอื่นอธิบาย หาก
ทรัพย์สินมหาศาลของสกุลเผยตกอยู่ในมือเขา ก็ไม่รูว้ า่ เขาจะประคองไว้อย่างไร
อวีถ้ งั ถอนหายใจแผ่วเบา รูส้ กึ ว่าตัวเองดวงซวย ช่วงนีโ้ ชคไม่ดีเอาเสียเลย
นางกอดเสี่ยวหวง ลูบขนมันเบาๆ ก่อนเจ้าหน้าที่สองคนจะมาหาหน้าประตู กล่าวว่า
ได้รบั คําสั่งจากเจ้านาย ภายหลังหากออกลาดตระเวน จะเดินตรวจตราแถวนีใ้ ห้มากขึน้
ป้าเฉินกล่าวขอบคุณไม่หยุดหย่อน เชิญทัง้ สองคนเข้ามาดื่มชา ก่อนจะกําชับให้ซวง
เถาไปซือ้ ของว่างและนํา้ ชาเข้ามา
ทัง้ สองคนไม่เพียงอาศัยที่เมืองหลินอันมาหลายปี แต่ยงั เป็ นเพราะได้รบั คําสั่งให้สืบ
ทอดตําแหน่งที่น่ี แม้จะเป็ นเจ้าหน้าที่ของศาลาว่าการ แต่เมื่อกระทําการอันใดกลับต้องทํา
อย่างเหมาะสม ยามที่ควรรับสินบนก็ไม่ออ้ มค้อม ยามที่ควรให้ความช่วยเหลือก็เต็มที่ ปกติก็
เดินตรวจตราละแวกบ้านของคนใหญ่คนโตในเมืองเช่นกัน
เห็นป้าเฉินกล่าวด้วยความจริงใจ ในเมืองหลินอัน อวีเ้ หวินก็ขึน้ ชื่อเรื่องความใจกว้าง
พวกเขาจึงนั่งดื่มชาระหว่างทางเดินของเรือนหน้าอย่างไม่เกรงใจ พูดคุยสัพเพเหระกับป้าเฉิน
“จะว่าไปก็แปลก แถวนีส้ งบร่มเย็นมาโดยตลอด เหตุใดเรือนของพวกเจ้าจึงถูกขโมยขึน้
ได้ ทัง้ ยังติดๆ กันถึงสองครัง้ คงไม่ใช่ว่าครัง้ ที่แล้วได้ของดีจากพวกเจ้าไปเลยติดใจกระมัง?”
เจ้าหน้าที่หลี่ถามขึน้ มา
ป้าเฉินกล่าว “ไม่หรอกกระมัง! ครัง้ ที่แล้วเรือนของพวกเราก็ไม่มีอะไรหาย อีกอย่าง ไม่
ว่าใครล้วนรู ด้ ี สกุลของพวกเราเกิดเรื่องมากมาย เงินในบ้านใช้แทบหมดแล้ว อย่าเพิ่งพูดถึง
265

เรื่องอื่นเลย แค่งานศพหลู่ซิ่วไฉ นายท่านของพวกเรายังไปยืมเงินไม่ก่ีตาํ ลึงจากเถ้าแก่ถงเลย!


หากจะขโมยก็ไม่ควรมาที่เรือนของพวกเราสิ!”
เจ้าหน้าที่สกุลหวังอีกคนกล่าว “ต้องมีของอะไรหายไปแต่พวกเจ้าไม่รูเ้ ป็ นแน่ จาก
ประสบการณ์ข องข้า หากขโมยของไม่ ส าํ เร็จ ก็ ไ ม่ อ าจกลับ มาเรื อ นของเจ้า ถึ ง สองหนใน
ช่วงเวลาสัน้ ๆ เช่นนีห้ รอก อาจจะมีของบางอย่างที่ตอ้ งตา ครัง้ ที่แล้วขโมยไม่สาํ เร็จ ครัง้ นีจ้ ึง
ย้อนกลับมา”
ลึกๆ อวีถ้ งั คิดว่าเป็ นเช่นนัน้
แต่วา่ เป็ นของอะไรที่ตอ้ งตาขโมยเล่า?
นางนึกถึงห้องหนังสือของอวีเ้ หวิน
หรือเรือนของพวกเขายังมีมรดกตกทอดลํา้ ค่าอะไรที่แม้แต่ท่านพ่อก็ไม่รูอ้ ยู่
นางเล่าให้เฉินซื่อฟั ง
เฉินซื่อหัวเราะขึน้ มา “ก่อนท่านปู่ ของเจ้าจะจากไป ได้แบ่งทรัพย์สินอย่างชัดเจนแล้ว
หลังจากถอดชุดไว้ทุกข์ให้ปของเจ้
ู่ า ลุงใหญ่และบิดาของเจ้าจึงแบ่งกันอย่างเป็ นทางการ ลุง
ใหญ่ของเจ้าเป็ นคนละเอียด ยามที่แบ่งทรัพย์สินกลัวว่าจะไม่ชดั เจน นอกจากเชิญผูน้ าํ หมู่บา้ น
แล้วยังเชิญเพื่อนบ้านมาอีกสองคน หากมีของอะไรคงถูกคนหมายตาไปตัง้ นานแล้ว ยังจะรอถึง
เวลานีอ้ ยู่หรือ?”
อวีถ้ งั นึกถึงชาติท่ีแล้ว เพื่อนบ้านที่ยา้ ยเข้ามาใหม่ขา้ งสกุลหลี่เกลียดต้นการบูรที่ปลูก
ในเรือน ผลลัพธ์กลับขุดเจอหีบเงินใบหนึ่งอยู่ใต้ตน้ ไม้…
อย่างไรก็วา่ งจนไม่มีอะไรทําอยู่แล้ว หลายวันมานีเ้ ฉินซื่อไม่ได้กวดขันให้นางเย็บปักถัก
ร้อยแต่อย่างใด นางไปช่วยบิดาจัดการห้องหนังสือให้รูแ้ ล้วรูร้ อดดีกว่า
266

สิงโตเตะลูกหนังที่หล่นใต้ตหู้ นังสือ บทกวี ‘ปิ่ นทองที่ถกู ทอดทิง้ ’ เต็มไปด้วยฝุ่ นตรงชัน้


บน ‘แบบคัดตัวหนังสือของฮูหยินเว่ย 1’ กองอยู่ขา้ งโต๊ะหนังสือตัวเล็ก…อวีถ้ งั ถึงกระทั่งพบแท่ง
61

ฝนหมึกเฉาซื่อจื่ออวิ๋นตรงมุมห้องหนังสือ
นางถือโอกาสจัดเก็บแบบร่างต่างๆ ทัง้ ภาพวาดของบิดาให้เข้าที่เข้าทาง
ยามที่ เฉิ นซื่อเข้ามาก็เ ห็นกระดาษ หมึก หนัง สือ และภาพวาดระเกะระกะเต็มพื น้
เละเทะราวกับถูกขโมยขึน้ บ้านก็มิปาน ด้านอวีถ้ งั กลับส่งเสียงหัวเราะ ยืนพิงตูอ้ ่านหนังสือเล่ม
หนึ่งอย่างเพลิดเพลิน
“เจ้าเด็กคนนี!้ ” เฉินซื่อเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายบนพืน้ ทัง้ กล่าวตําหนิยิม้ ๆ “ข้าว่า
เจ้านี่รา้ ยกว่าขโมยผูน้ นั้ เสียอีก ดูหอ้ งนีส้ ิ แค่ท่ีจะให้วางเท้ายังไม่มี”
อวีถ้ งั หัวเราะ วางหนังสือในมือลง หยิบกระเป๋ าซอมซ่อใบหนึง่ ขึน้ มา “ท่านแม่ ท่านลอง
ทายสิเจ้าคะว่าในนีม้ ีอะไร?”
“มีสิ่งใดกัน?” เฉินซื่อเผยยิม้ เก็บกวาดที่ให้พอเดินออกมา
“ภาพดอกไม้ท่ีขา้ วาดให้ท่านในตอนเด็ก” นางวิ่งเอามาให้เฉินซื่อดูอย่างเบิกบานใจ
“ข้ายังจําได้ว่าข้าบอกว่าจะเก็บไว้ดีๆ ภายหลังกลับไม่รูท้ าํ ไมถึงหาไม่เจอ วันนีค้ าดไม่ถึงว่าจะ
หาพบ ท่านดูสิ ด้านบนนีย้ งั มีอกั ษรที่ขา้ เขียนไว้ดว้ ยเจ้าค่ะ”
เฉินซื่อรับมาดู บนนัน้ มีตวั อักษรคําว่า ‘ครัง้ แรก’ เขียนอย่างโย้เย้อยู่
นางก็นึกขึน้ มาได้เช่นกัน อดกล่าวด้วยรอยยิม้ ไม่ได้ “นี่เป็ นภาพดอกไม้ท่ีขา้ ให้เจ้าวาด
เป็ นครัง้ แรก”
อวีถ้ งั ผงกศีรษะติดต่อกัน “คาดไม่ถึงว่าเวลานัน้ ข้าจะเก็บไว้ท่ีหอ้ งหนังสือของท่านพ่อ”

1
ฮูหยินเว่ย นักเขียนอักษรพู่กนั จีนหญิง สมัยราชวงศ์จิน้ ตะวันออก
267

เฉินซื่อกล่าวด้วยรอยยิม้ “ห้องหนังสือของบิดาเจ้าคงต้องเก็บกวาดดีๆ เสียแล้ว”


สองแม่ลกู พูดคุยหยอกล้อพากันจัดเก็บห้องหนังสือ
ภาพวาดปลอมที่หลูซ่ ิ่นขายให้พวกเขานัน้ ร่วงลงมาจากระหว่างชัน้ หนังสือ
“เหตุใดจึงวางอยู่ตรงนีล้ ะ่ ?” เฉินซื่อพึมพํา คิดจะเก็บมันสูท่ ่ีเดิม
อวีถ้ งั กลับรู ส้ กึ ไม่ดีนกั “คนไม่อยู่แล้ว ยังจะเก็บมันไว้อีกทําไม พรุ ่งนีข้ า้ จะเอาไปที่โรง
จํานําของเถ้าแก่ถง เถ้าแก่ถงบอกแล้ว ภาพวาดนีส้ ามารถขายได้ไม่ก่ีตาํ ลึง อย่างไรก็นาํ มา
ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายของสกุลเสียหน่อยเถิด เพื่อจัดงานศพของเขา ท่านพ่อยังต้องไปยืมเงินจาก
เถ้าแก่ถง หากสามารถทดแทนส่วนของเถ้าแก่ถงได้ ภาพวาดนีก้ ็นบั ว่าได้กลับคืนสูเ่ จ้าของแล้ว”
เฉินซื่อคิดว่านี่เป็ นความคิดที่ดี กล่าวยิม้ ๆ “เป็ นเจ้าที่ฉลาด”
อวีถ้ งั ย่นจมูกอย่างน่ารัก ม้วนภาพเก็บกลับไปยังห้องของตัวเอง
กลางดึก พวกเขาตกใจตื่นด้วยเสียงของเสี่ยวหวง เสียงตะโกนอย่างโมโหของอวีห้ ย่วน
ดังมาจากทางห้องหนังสือ “ผูใ้ ดกันวิ่งมาขโมยของที่เรือนพวกเรา?!”
อวีถ้ งั สวมชุดคลุมวิ่งออกมา ก่อนจะเห็นอวีห้ ย่วนต่อสูก้ บั คนชุดดําผอมแห้งคนหนึ่ง
“จับขโมยได้แล้ว! จับขโมยได้แล้ว!” อวีถ้ งั ตะโกนเสียงดัง
เพื่อนบ้านต่างก็ตกใจตื่นเพราะเสียงนั่น
แสงไฟค่อยๆ สว่างตามกันขึน้ มา ตรอกชิงจู๋ท่ีเงียบเหงากลับกลายเป็ นโกลาหลทันที
เพื่อนบ้านบางคนถือไม้ตะบอง บางคนก็หยิบมีดทําอาหารวิ่งเข้ามา
คนชุดดําผูน้ นั้ ถูกควบคุมตัวไว้
ป้าเฉินเดินถือตะเกียงเข้าไป
คาดไม่ถึงว่าหัวขโมยจะเป็ นเด็กคนหนึ่งในตรอกชิงจู๋ของพวกเขา
268

ผูค้ นต่างพากันซุบซิบวุน่ วาย


นายท่ า นอู๋ส่ ง คนไปเรี ย กพ่ อ แม่ ข องเด็ ก คนนั้น อย่ า งโกรธเกรี ย้ ว “จํา ต้อ งแจ้ง ให้
ครอบครัวของเจ้าทราบ คนอย่างเจ้านัน้ สมควรถูกไล่ออกจากสกุล”
เด็กคนนัน้ ตกใจร้องไห้ฟมู ฟาย กอดขานายท่านอูข๋ อความเมตตา “ท่านอย่าบอกพ่อแม่
ของข้าเลย ข้า…ข้าถูกคนใส่รา้ ย ข้าเพียงอยากขโมยเงินไม่ก่ีตาํ ลึงไปใช้เท่านัน้ ข้าไม่ได้มีเจตนา
ทําร้ายหรือสังหารใคร ทัง้ ไม่กล้าทําอย่างนัน้ เช่นกัน!”
นายท่านอู๋ไม่เชื่อแต่อย่างใด “ถูกคนใส่รา้ ย? ใครใส่รา้ ยเจ้ากัน? ข้าว่าปกติเจ้าก็ไม่ร่าํ
เรียนหนังสือ เวลานีจ้ งึ เกิดคิดอกุศลขึน้ มา คนอย่างเจ้า ปล่อยไปย่อมไม่เป็ นผลดีตอ่ ใครทัง้ นัน้ !”
เขากล่าวอย่างมีโทสะ มารดาของเด็กคนนัน้ มาแล้ว พอเห็นเหตุการณ์นีก้ ็ทรุดลงกับพืน้
ดัง ‘ตุบ้ ’ อยู่เบือ้ งหน้าเฉินซื่อ ขอความเมตตาให้ลกู ชายด้วยศีรษะที่ส่นั งันงก “ขอเพียงแค่ไม่จบั
ส่งทางการ ท่านเอ่ยปากอะไรล้วนได้ทงั้ นัน้ ”
เฉินซื่อรูส้ กึ ลําบากใจเป็ นอย่างยิ่ง
ไม่ลงโทษเด็กคนนี ้ เรือนของพวกเขาก็ถูกคนขโมยโดยไม่ได้รบั ความเป็ นธรรมเช่นนี ้
หรือ แต่ห ากลงโทษเด็ ก คนนี ้ ทุก คนต่า งก็ อยู่บา้ นใกล้เรือนเคียงมาหลายปี พบหน้ากันอยู่
บ่อยครัง้ ภายหลังหากเจอคนของสกุลพวกเขาจะทําอย่างไรเล่า?
อวีถ้ งั เห็นแล้วก็มีใจคล้อยตาม
นางไม่เคยรู จ้ กั เด็กคนนีม้ าก่อน แต่เมื่อครู ่ท่ีมารดาของเขาโขกศีรษะ เขากลับบิดหน้า
หนีไปทางอื่น คล้ายกับทนดูฉากนัน้ ไม่ได้ ทัง้ ไม่ขอความเมตตาจากนายท่านอูแ๋ ล้วเช่นกัน
นางเดินเข้าไป
เด็กคนนัน้ กําลังร้องไห้อย่างเงียบๆ
อวีถ้ งั ครุน่ คิดในใจ เด็กคนนีก้ ่อเรื่องใหญ่ขนาดนี ้ บิดาของเขากลับไม่มา
269

ไม่รูว้ า่ ไม่มีบิดา? หรือว่าบิดาไม่สนใจ?


ไม่วา่ จะเป็ นอย่างแรกหรืออย่างหลัง กลับสามารถใช้ประโยชน์ได้ทงั้ สิน้
นางเข้าไปดึงแขนเสือ้ ของเฉินซื่อ กระซิบเสียงเบา “พวกเพื่อนบ้านต่างก็มาช่วยเหลือ
ท่านเชิญพวกเขาไปดื่มชาในเรือนก่อนเถิด มีท่านพี่อยู่ เด็กคนนีม้ ดั ไว้ก่อนให้อาเสาคอยเฝ้า รอ
ท่านพ่อกลับมาแล้วค่อยจัดการ”
เฉินซื่อคิดว่านี่เป็ นความคิดที่ดี หลังจากปรึกษากับอวีห้ ย่วนก็เชิญทุกคนไปดื่มชาใน
เรือน
ทุกคนเห็นว่าหมดเรื่องหมดราวแล้ว ดึกดื่นมืดคํ่าเช่นนี ้ ไหนเลยจะมีใจดื่มชา พากัน
กล่าวขอบคุณ ก่อนจะบอกลาเฉินซื่อ
เฉินซื่อส่งพวกเขาทีละคนออกจากเรือนอย่างซาบซึง้ ใจ
มีเพียงมารดาของเด็กผูน้ นั้ นั่งรํ่าไห้เงียบๆ อย่างไร้เรี่ยวแรงราวกับสูญเสียบิดามารดา
ไปก็มิปาน
นายท่านอู๋รูส้ ึกไม่วางใจอยู่บา้ ง “ไม่อย่างนัน้ ให้บ่าวใช้ของสกุลพวกข้ามาช่วยเหลือดี
หรือไม่?”
“ขอบคุณท่านมาก!” อวีห้ ย่วนประสานมือคารวะนายท่านอู๋อีกครัง้ “ข้าจัดการได้ นี่ก็
ดึกมากแล้ว รอท่านอากลับมา ข้าและท่านอาจะไปขอบคุณถึงหน้าประตูอีกครัง้ ”
นายท่านอู๋เห็นว่าอวีห้ ย่วนเป็ นคนรอบคอบ ผงกศีรษะรับคําก่อนจะประสานมือไพล่
หลังกลับเรือนไป
ด้านมารดาของเด็กคนนัน้ โขกศีรษะขอความเมตตากับเฉินซื่ออย่างไม่หยุดหย่อน
เด็กคนนัน้ ร้องไห้สะอึกสะอืน้ จนตัวโยน
270

อวีถ้ งั ชีไ้ ปที่มารดาของเด็กคนนัน้ กล่าวกับเขา “เจ้าดูสิ เจ้าก่อเรื่องแต่กลับทําให้แม่ของ


เจ้าต้องติดร่างแหไปด้วย เจ้าทุกข์ไม่รอ้ งเรียน ทางการย่อมไม่ซกั ไซ้ เจ้าบอกความจริงข้ามาเถิด
ตกลงเจ้ามาที่เรือนของพวกเราทําไมกันแน่? หากเจ้าพูดกับข้าด้วยสัตย์จริง ข้าจะช่วยขอร้องให้
ท่านพ่อปล่อยเจ้าไป มารดาของเจ้าก็จะไม่ถกู ดูแคลน ไม่ตอ้ งเป็ นคนที่เงยหน้าไม่ขนึ ้ ทัง้ ชั่วชีวิต”
เด็กคนนัน้ ได้ยินพลันเงยหน้ามองอวีถ้ งั แวบหนึ่ง เผยสีหน้าลังเล
อวีถ้ งั มีแผนในใจ “การขโมยของนัน้ น่ารังเกียจที่สดุ เจ้าลองดูกฎของสกุลเหล่านัน้ สกุล
ใดบ้างจะยอมปล่อยโจรที่ขโมยของไป ท่านพ่อของข้าและนายท่านอูแ๋ ทบไม่ตา่ งกัน เกลียดเรื่อง
เช่นนีอ้ ย่างถึงที่สดุ เขาอาจจะไม่แจ้งทางการแต่ย่อมต้องทําให้สกุลของเจ้าขับไล่เจ้าออกไป ลบ
ชื่อออกจากสกุลเป็ นแน่ ถึงเวลานัน้ มารดาของเจ้าล่วงลับ คงจะไม่มีแม้แต่คนจุดธูปเทียนกราบ
ไหว้…”
เด็กคนนัน้ นํา้ ตาไหลนองหยดแล้วหยดเล่า กล่าวสะอึกสะอืน้ “ท่านพ่อของข้าเล่นพนัน
ข้างนอก กระทั่งเอาบ้านของบรรพบุรุษขายออกไป ข้า…ข้าเพียงอยากนําเงินไม่ก่ีตาํ ลึงไปเช่า
บ้านเท่านัน้ ”
อวีถ้ งั กล่าวทัง้ ถอนหายใจ “เช่นนัน้ ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว เจ้ารอท่านพ่อข้ากลับมาส่ง
เจ้าไปให้ทางการ จากนัน้ ก็คอ่ ยไปหาครอบครัวของเจ้าแล้วกัน”
“ไม่ใช่! ไม่ใช่!” เด็กคนนัน้ ได้ยินก็กล่าวอย่างร้อนใจ “คุณหนูอวี ้ ท่าน หากท่านให้ขา้ ห้า
ตําลึง ไม่สิ ให้ขา้ สามตําลึงก็ได้ ข้าจะบอกท่าน”
อวีถ้ ังไม่คล้อยตามแต่อย่างใด “เจ้ายังจะหลอกข้าอีก! ตําลึงเดียวก็ไม่มี เจ้าไม่พูดก็
แล้วไป” พูดจบ ก็หยัดกายขึน้ ทําท่าราวกับจะเรียกคนเข้ามา
เด็กคนนัน้ ลนลาน กล่าวอย่างรีบร้อน “มีคนให้เงินข้าห้าตําลึง วานให้ขา้ ขโมยภาพวาด
หนึ่งที่เรือนของพวกท่าน…ท่านอย่าส่งข้าให้ทางการเลย ข้าเองก็ขโมยไม่สาํ เร็จ”
271

ตอนที่ 33 สงสัย
ภาพวาด!
ภาพวาดแบบใดกัน?
อวีถ้ งั ใจเต้นระรัว หายใจถี่ขนึ ้ มา
“เจ้ารูห้ นังสือหรือไม่?” นางได้ยินเสียงของตัวเองแหบพร่าไปอยู่บา้ ง
“ไม่รู”้ เด็กคนนัน้ ร้องไห้ดว้ ยใบหน้าโศกเศร้า เผยท่าทีราวกับไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว
“ผูด้ แู ลบ่อนให้ขา้ มาขโมย กล่าวว่าหากขโมยออกมาได้ จะให้ขา้ ห้าตําลึง เป็ นภาพที่ชายแก่สอง
คนตกปลาริมแม่นา้ํ ในป่ า…”
ชายแก่สองคนตกปลาริมแม่นา้ํ ในป่ า!
อวีถ้ งั นึกถึง ภาพวาด ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ ขึน้ มาทันที
นางรูส้ กึ ว่าตัวเองใจเต้นตึกตัก มือไม้ส่นั ไปหมด
“เป็ นภาพนีใ้ ช่หรือไม่?” อวีถ้ งั แทบไม่รูว้ า่ ตัวเองเดินไปกลับห้องอย่างไร ทัง้ เอาม้วนภาพ
มาให้เด็กผูน้ ั้นดูอย่างไร ทราบแค่เพียงว่ายามที่นางคลี่ภาพออกมา เด็กคนนั้นพลันตาเป็ น
ประกาย คําพูดพรั่งพรู ออกมา “ภาพนีแ้ หละ เป็ นภาพนีแ้ น่นอน ผูด้ แู ลเคยบอกกับข้า ด้านบน
ภาพจะประทับตราบนผมของเด็กชายถัดจากชายแก่ เป็ นภาพนีไ้ ม่ผิดแน่!”
เรือ่ งในอดีตที่ละเลยไปเหล่านัน้ ค่อยๆ ย้อนกลับเข้ามาในหัวของอวีถ้ งั อย่างวุน่ วาย
ชาติท่ีแล้วสกุลหลี่ถกู ขโมยขึน้ เรือน ความอูฟ้ ู่ ที่เกิดขึน้ อย่างฉับพลันของสกุลหลี่…การ
ขโมยทัง้ สองครัง้ ในชาตินี ้ ตราประทับ ‘เหมยหลิน’ อยู่ท่ีบนผมของเด็กน้อย ทัง้ ยังมีตราประทับ
‘ชุนสุ่ยถัง’ แทนที่ ‘เหมยหลิน’…นางราวกับกระจ่างแจ้งขึน้ มา อีกด้านก็คล้ายกับสับสนงงงวย
ไม่รูอ้ ะไรเช่นกัน
272

“อาถัง นี่เจ้าเป็ นอะไรไป?” เฉินซื่อ อวีห้ ย่วน ซวงเถาและคนอื่นๆ ต่างก็พากันล้อมเข้า


มา เฉินซื่อประคองอวีถ้ งั เอ่ยออกมาอย่างไม่เข้าใจ “เจ้าเด็กคนนี ้ ไฉนจึงค้นภาพนีอ้ อกมากัน?
ภาพนีม้ ีอะไรไม่ถูกต้องอย่างนัน้ รึ? หรือว่า…” นางถามพลางมองเด็กที่พยายามขโมยของบน
เรือนของพวกเขา ก่อนจะมองอวีถ้ งั อีกที
มี บางเรื่องที่ ยัง ไม่ก ระจ่า ง…และถึ ง แม้จ ะกระจ่ า งหรือต่อให้ม ารดาของนางทราบ
เรือ่ งราว แต่นอกจากกังวลและร้อนใจไปด้วยแล้ว ก็คงจะทําอะไรไม่ได้อยู่ดี
“ไม่มีอะไร” อวีถ้ ังพยายามควบคุมเกลียวคลื่นที่ ถาโถมภายในใจ เอ่ยด้วยนํา้ เสียง
ราบเรียบ “เขาบอกว่ามาขโมยภาพที่เรือนของพวกเรา ข้าก็แค่ถามเขาไปเท่านัน้ ”
เด็กคนนัน้ พอได้ยิน ก็เอ่ยเสียงดังออกมาทันที “คือว่า…!”
อวีถ้ งั กลับแสร้งใช้มว้ นภาพตบปากเด็กคนนัน้ อย่างไม่ตงั้ ใจไปที ทําให้คาํ พูดของเด็ก
คนนัน้ ฟั งแทบไม่ได้ศพั ท์ “ท่านแม่ เขาไม่รูห้ นังสือ บอกว่าคนอื่นให้เขามาขโมยของที่เรือนของ
พวกเรา ข้าว่าเรื่องนีย้ งั คงต้องค่อยๆ ปรึกษากันให้ดี รอท่านพ่อกลับมาก็เพียงพอแล้ว ยามนี ้
มอบเขาให้ท่านพี่จดั การเถิด เขาจะได้ไม่พดู จาไร้สาระ หาความจริงไม่ได้เช่นนี ้ พวกเราฟั งไปก็
โมโหเปล่าๆ” พูดจบนางก็ยงั คงส่งสายตาเชิงข่มขู่ให้เด็กคนนัน้
เฉินซื่อนัน้ เชื่อมั่นลูกสาวและสามีอย่างสนิทใจ ย่อมไม่คลาแคลงอันใด ทว่าอวีห้ ย่วน
กลับ มองทะลุป รุ โ ปร่ง เขากวาดสายตาพิ นิ จ อวี ถ้ ัง อย่ า งละเอี ย ด ก่ อ นจะช่ ว ยอวี ถ้ ัง คลาย
สถานการณ์ “ใช่แล้ว! อาถังพูดถูก ที่น่ีมีขา้ อยู่ อาสะใภ้รีบไปพักผ่อนจะดีกว่า ร่างกายของท่าน
ไม่คอ่ ยแข็งแรง ไปๆ มาๆ เช่นนี ้ หากเกิดเจ็บป่ วยอันใดก็ย่งุ แล้ว”
อวีถ้ ังมองอวีห้ ย่วนไปที รู ว้ ่าอวีห้ ย่วนจับผิดเรื่องภายในได้ แต่กลับช่วยนาง นางจึง
คล้อยตามอวีห้ ย่วนเช่นกัน “ท่านแม่ เพราะงานศพของหลู่ซิ่น พวกเรายังคงต้องจ่ายหนีใ้ ห้เถ้า
แก่ถง!”
เฉินซื่อไม่กล้าดึงดันอยู่ท่ีน่ีแล้ว กระนัน้ ยังคงถามด้วยความสงสัย “หรือมีคนคิดว่าภาพ
นีเ้ ป็ นของจริง?”
273

“ก็ เ ป็ น ไปได้” ยามนี อ้ วี ถ้ ัง คิ ด อยากจะตะล่อ มให้ม ารดาไปนอนเท่า นั้น กล่า วด้ว ย


รอยยิม้ “ตอนแรกท่านพ่อก็ดพู ลาดว่าเป็ นของจริงไม่ใช่หรือ?”
เฉินซื่อผงกศีรษะ เดินกลับห้องนอนโดยมีซวงเถาเดินห้อยตามหลังไป
มารดาของเด็กคนนัน้ เข้ามาขอร้องอวีห้ ย่วน
อวีห้ ย่วนจ้องมองอวีถ้ งั
อวีถ้ งั ส่งสายตาเป็ นนัยให้เขา
อวีห้ ย่วนจึงกล่าวกับมารดาของเด็กคนนัน้ “เจ้าก็อย่าใจร้อนเกินเหตุเลย พวกเราไม่ใช่
คนใจไม้ไส้ระกํา เพียงแต่เรื่องนีเ้ ป็ นเรื่องของท่านอารอง ข้าไม่อาจตัดสินใจได้ทนั ที ข้าว่าเจ้าก็
เหน็ดเหนื่อยไม่นอ้ ย แต่ถา้ ให้เจ้ากลับไปเกรงว่าเจ้าคงจะไม่ยอม เช่นนัน้ วันนีเ้ จ้านอนกับป้า
เฉินสักคืน ส่วนลูกของเจ้า ก็ให้ขา้ คุมตัวไว้ช่ วั คราว รอท่านอากลับมา พวกเราค่อยปรึกษาหารือ
ว่าจะทําอย่างไร”
มารดาของเด็กคนนัน้ ขอบคุณครัง้ แล้วครัง้ เล่า เอ็ดให้เด็กคนนัน้ โขกศีรษะแก่อวีห้ ย่วน
ทัง้ ตําหนิท่ีเขาไม่รูจ้ กั พัฒนาตัวเอง
ป้าเฉิ นก็พอจะมองเรื่องราวออกจึงตัดบทสนทนา ก่อนจะดึงมารดาของเด็กคนนั้น
ออกไป
อวีห้ ย่วนเรียกอาเสาให้มดั เด็กคนนัน้ ก่อนจะขังไว้ในห้องเขา
สองคนพี่นอ้ งยืนพูดคุยข้างกอไผ่ในลานบ้าน
“ข้าก็รูส้ กึ แปลกๆ หลอกถามเจ้าเด็กนั่นไม่ก่ีคาํ เจ้าเด็กนั่นก็เล่าให้ขา้ ฟั งแล้ว” อวีถ้ งั เล่า
เรื่องที่สอบถามได้เมื่อครูใ่ ห้อวีห้ ย่วนฟั ง “ก็ไม่รูว้ า่ จริงหรือไม่? ท่านพี่ ต่อให้ท่านไม่มาหาข้า ข้าก็
จะไปขอคําปรึกษาจากท่านอยู่ดี”
274

นางพูดจบก็เดินไปห้องหนังสือกับอวีห้ ย่วน จุดโคมไฟขึน้ อีกครัง้ กางภาพออกบนโต๊ะ


หนังสือตัวใหญ่ พินิจภาพนีอ้ ย่างละเอียด ทัง้ กล่าวไปพลาง “แต่ขา้ คิดไม่ออกจริงๆ ว่า ภาพนีม้ ี
ความพิเศษตรงไหน…แม้วา่ มันจะเป็ นของจริง ก็ควรแลกเป็ นเงินได้จึงจะถูก ตอนแรกยามที่หลู่
ซิ่วไฉขายภาพนี ้ หาได้มาหาท่านพ่อคนเดียวไม่ คนผูน้ ั้นหากชื่นชอบภาพนี ้ ไฉนจึงไม่ยอม
จ่ายเงินเพิ่มซือ้ เอาไว้ เหตุใดจึงต้องทําเรื่องยุ่งยาก ยิ่งไปกว่านัน้ ภาพนีเ้ ป็ นของปลอม เถ้าแก่ถง
ก็เป็ นคนบอกเอง หากเขาอยากได้ภาพนีม้ าโดยตลอด ก็ควรจะรูอ้ ยู่แล้วสิ”
อวีห้ ย่วนอ่านตํารามากกว่าอวีถ้ งั ไม่นอ้ ย ทัง้ ยังชื่นชอบตัวอักษรและภาพวาดจีน จึงมี
ความรูเ้ กี่ยวกับเรื่องนีก้ ว่าอวีถ้ งั อยู่มาก
เขากวาดสายตามองภาพนีอ้ ย่างละเอียด กระนัน้ ก็มองไม่ออกจริงๆ ว่ามีความแตกต่าง
ตรงไหน “หรือคราวนีเ้ ถ้าแก่ถงก็มองพลาดไปเช่นกัน?”
อวีถ้ งั ชะงักไป
เหตุใดนางจึงคิดว่าเถ้าแก่ถงไม่อาจมองพลาดได้นะ?
ประการแรก ชาติก่อนเถ้าแก่ถงไม่เคยมีข่าวเสียหาย นางจึงยึดมั่นเช่นนัน้ ประการที่
สอง ชาติก่อน ยามที่ภาพนีอ้ ยู่ในมือนางก็ถกู นางตรวจสอบไม่รูก้ ่ีครัง้ ต่อกี่ครัง้ แล้ว นางย่อมไม่
อาจมองผิด!
แต่คาํ พูดของอวีห้ ย่วนราวกับนํา้ ที่หยดลงในนํา้ มัน พาให้นา้ํ มันสาดกระเซ็นซัดไปทั่ว
หากภาพนัน้ เป็ นของปลอมเล่า?
อวีถ้ งั เพียงรูส้ กึ ว่าในใจสว่างวาบขึน้ มาฉับพลัน
เมื่อครูม่ ิใช่วา่ นางเกิดความคิดที่บา้ บิ่นออกมาหรอกหรือ?
หากชาติก่อน บิดาของนางซือ้ ภาพวาดนีแ้ ละภาพวาดนีก้ ็กลายเป็ นสินเดิมยามที่นาง
แต่งเข้าสกุลหลี่ ครัง้ นัน้ ที่สกุลหลี่ถูกขโมยทรัพย์สิน มีคนสับเปลี่ยนภาพของนางไป…เช่นนัน้
เรื่องทัง้ หมดก็คล้ายจะเข้าที่เข้าทางแล้ว
275

นี่เป็ นของจริง!
เป็ นเถ้าแก่ถงที่มองพลาดไป
ภาพวาดในมือของนางชาติก่อนนัน้ จึงจะเป็ นของปลอม!
แต่เป็ นใครกันที่สบั เปลี่ยนของจริงในมือนางไป?
สมองของอวีถ้ งั แล่นอย่างว่องไว
เวลานัน้ นางกราบไหว้บรรพบุรุษเข้าไปอยู่ในสกุลหลี่แล้ว กลายเป็ นหญิงม่ายที่ครอง
ความบริสุทธิ์ คนทั้งเมืองหลินอันต่างก็จับตามองนาง ดูว่าเมื่อใดนางจะได้รบั ซุม้ เกียรติยศ
ความซื่อสัตย์ 1 ให้แก่เมืองหลินอันและสกุลหลี่ นางไม่คอ่ ยออกจากเรือน แต่เมื่อใดที่นางออกไป
62

ข้างนอก พบเจอคนที่รูจ้ กั นาง พวกเขาก็มกั จะแสดงความเห็นใจนางสามส่วน สะท้อนใจสาม


ส่วน ทัง้ นับถืออีกสามส่วน
ใครกันที่ไร้สมองเข้ามาขโมยของจากนาง
ใครกันที่ใจกล้าเข้ามาขโมยถึงสกุลหลี่
อีกทัง้ การขโมยครัง้ นัน้ สกุลหลี่ก็ปิดเป็ นความลับอย่างแน่นหนามาโดยตลอด
เมื่อก่อนนางคิดว่าสกุลหลี่อาจกลัวข่าวไม่ดีแพร่งพรายออกไป กระทบกับการครอง
พรหมจรรย์ของนาง
แต่หากเรื่องไม่ได้เป็ นเช่นนัน้ ล่ะ?
หากผูท้ ่ีขโมยภาพของนางไปก็คือคนของสกุลหลี่ละ่ ?

1
ซุม้ เกียรติยศความซื่อสัตย์ ในสมัยโบราณ ฮ่องเต้จะมีการประทานซุม้ เกียรติยศความซื่อสัตย์ให้กบั หญิงสาวที่ยืนหยัด
ครองพรหมจรรย์หลังจากสามีตาย ฆ่าตัวตายฝั งร่วมกับสามี หรือประพฤติชอบตามเงื่อนไขศีลธรรมอันดีในสมัยนัน้ เพื่อ
เป็ นการเชิดชูและเป็ นเกียรติแก่วงศ์สกุล
276

ยังมีความอูฟ้ ของสกุ
ู่ ลหลี่ท่ีเกิดขึน้ หลังจากภาพวาดของนางหายไปไม่นานนัก
อวีถ้ งั นึกมาถึงตรงนีก้ ็รูส้ กึ โมโหจนยากจะควบคุม เสียงดัง ‘วิง้ ๆ’ ในหัวเต็มไปหมด
นางย้ายตะเกียงสองอันมาที่โต๊ะหนังสือ กล่าวกับอวีห้ ย่วน “ท่านพี่ เจ้ามองออกหรือไม่
ว่าภาพนีม้ ีความพิเศษตรงไหน?”
อวีห้ ย่วนสั่นศีรษะ หยิบภาพนัน้ มองแล้วมองอีกอยู่ค่อนวัน ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิม้ ขม
ขื่น “มิน่าเล่า คนมักกล่าวกันว่าพอถึงคราวที่จะใช้ความรู จ้ ริงๆ กลับต้องเสียใจเพราะเรียนมา
น้อย หากข้าอ่านเขียนเรียนตําราให้มากกว่านีก้ ็คงจะดี”
เวลานีอ้ วีถ้ งั ก็นกึ ถึงเผยเยี่ยนขึน้ มา
นางส่ายศีรษะเป็ นพัลวัน ราวกับหากทําเช่นนีก้ ็จะสามารถสลัดความคิดเช่นนัน้ ออกไป
ได้
เผยเยี่ยนคือนายท่านสามของสกุลเยี่ยน หากนางนําภาพที่เถ้าแก่ถงรับรองว่าเป็ นของ
ปลอมไปให้เขาช่วยตรวจสอบ เกรงว่าเผยเยี่ยนคงไม่เพียงไล่นางออกมา บางทีอาจจะคิดว่า
นางเข้าไปก่อเรื่องเสียอีก
นางคงบ้าไปแล้วจริงๆ ที่คิดให้เผยเยี่ยนช่วย!
ไม่แปลกใจที่ก่อนหน้านีเ้ ผยเยี่ยนจะดูถกู นาง นางช่าง…ทําเรื่องไม่ยงั้ คิด!
อวี ถ้ ัง ถอนหายใจ ถามอวี ห้ ย่ ว น “ท่ า นพี่ ท่ า นว่า พวกเราควรนํา ภาพนี ไ้ ปให้ค นที่
ชํานาญช่วยดูดีหรือไม่? ข้าคิดว่า หากเด็กคนนัน้ ไม่ได้หลอกลวงพวกเรา พวกเราย่อมต้องถูก
คนที่บงการเขาจับตาดูอยู่ คนผูน้ นั้ ไม่ได้ภาพไป คงต้องเกิดเรื่องอีกแน่ พวกเราไม่รูว้ ่าเขาเป็ น
ใคร แม้จะคิดเสียทรัพย์เพื่อแลกกับความสงบ ส่งภาพนีใ้ ห้เขาก็อบั จนหนทางที่จะติดต่อเขา
เช่นกัน!”
อวีห้ ย่วนครุ ่นคิดเล็กน้อย “พรุ ่งนีข้ า้ จะไปหาท่านอา เล่าเรื่องนีใ้ ห้เขาฟั ง จากนัน้ ค่อย
ขอให้เจ้าหน้าที่หลี่ช่วยสืบเรื่องจากผูด้ แู ลบ่อนคนนัน้ ดูวา่ จะสามารถให้คาํ ตอบได้หรือไม่วา่ เป็ น
277

ใครที่ตอ้ งการภาพวาดของพวกเรา หากท่านอารับปาก พวกเราก็ให้ผดู้ แู ลบ่อนคนนัน้ เป็ นคน


กลาง ขายภาพวาดนีใ้ ห้กบั อีกฝ่ ายก็เพียงพอแล้ว”
อวีถ้ งั กล่าวอย่างกังวล “หากพวกเขาคิดว่าพวกเราขายภาพปลอมให้พวกเขาเล่า?”
อวีห้ ย่วนชะงักไปพักหนึ่งก่อนกล่าว “เช่นนัน้ เจ้ามีความคิดอะไรดีๆ หรือไม่?”
“ข้าคิดว่าอย่างไรก็ตอ้ งหาวิธีพิสจู น์ภาพวาดนีใ้ ห้ชดั เจนจะดีท่ีสดุ ” ขณะที่อวีถ้ งั กล่าว
จู่ๆ ก็นกึ ไปถึงหลูซ่ ิ่น นางเงียบไปทันที มองไปทางอวีห้ ย่วน
อวีห้ ย่วนเห็นความสับสน ลังเล กังวล ถึงกระทั่งความตกใจในแววตาของญาติผนู้ อ้ ง
เขาวูบไหวในใจ นึกไปถึงที่มาของภาพนี ้
หรือว่าการตายของหลูซ่ ิ่นก็เกี่ยวพันกับภาพวาดนีเ้ ช่นกัน?
ความจริงหลู่ซ่ินผูน้ ีเ้ ป็ นคนเห็นแก่ตวั อย่างมาก ทุกครัง้ ที่เขาดื่มสุราจนเมามาย ล้วน
เป็ นผูอ้ ่ืนที่ออกเงินให้ แต่ไหนแต่ไรตัวเขาเองแทบที่จะไม่ซอื ้ สุราดื่มเลย หากกระหาย ส่วนมากก็
มักจะคิดหาวิธีไปร่วมดื่มกับผูอ้ ่ืนโดยไม่เสียเงิน ยามที่ไม่อาจทําได้ จึงค่อยสั่งสุรามากินให้พอ
หายอยากอย่างจําใจ
“ข้า ข้า จะไปหาท่ า นอาเดี๋ ย วนี แ้ หละ” อวี ห้ ย่ ว นเด้ง ตัว ขึน้ มาทัน ที “หลู่ซิ่ น นั้น ตาย
อย่างไร พวกเราล้วนไม่รู ้ ทําได้เพียงต้องถามท่านอา”
อวีเ้ หวินกําลังสาละวนกับงานศพของหลูซ่ ิ่นในวัดหนึ่งตรงชานเมือง
“คนธรรมดาย่อมไร้ความผิด แต่จะผิดเมื่อครอบครองหยก 2 !” อวีถ้ ังมองภาพบนโต๊ะ
63

หนังสือ อยากที่จะนํามันไปเผาไฟทิง้ เสียเดี๋ยวนัน้ “นี่ช่างเป็ นเคราะห์รา้ ยโดยแท้!”


กระนัน้ นางก็ไม่กล้า

2
คนธรรมดาย่อมไร้ความผิด แต่จะผิดเมื่อครอบครองหยก อุปมาว่า ของมีคา่ อาจก่อให้เกิดหายนะได้
278

นางกลัวว่าแม้นางจะเผาภาพนีท้ ิง้ จริงๆ หากคนที่ตอ้ งการภาพไม่เชื่อ ก็อาจจะสร้าง


ปั ญหาให้ครอบครัวนางได้ ทั้งเมื่อถึงเวลานั้นพวกเขาไม่ส่งภาพออกมา สถานการณ์คงจะ
ลําบากยิ่งกว่าตอนนีเ้ ป็ นแน่
อวีถ้ งั เดินไปดูนาฬิกานํา้ “อย่างเร็วที่สดุ ก็อีกสองชั่วยาม ประตูเมืองถึงจะเปิ ด ท่านไป
นอนสักงีบเถิด ถึงเวลานัน้ ข้าจะให้ซวงเถาไปเรียกท่าน จากนัน้ ให้อาเสาไปยืมล่อของนายท่านอู๋
มาตัวหนึ่ง เช้าตรูห่ ากจ้างรถม้าไม่ได้ เจ้าก็ยงั มีลอ่ ขี่ เร็วกว่าเดินเท้าเป็ นไหนๆ!”
อวีห้ ย่วนรูว้ า่ การจัดการเช่นนีข้ องอวีถ้ งั เป็ นวิธีท่ีดีท่ีสดุ
แม้วา่ จิตใจของเขาจะหนักอึง้ แต่ก็ยงั คงทําตามที่อวีถ้ งั บอก ข่มตานอนหลับสักงีบ
ด้านอวีถ้ งั กลับไม่ได้นอนทัง้ คืน
นางเอาแต่จอ้ งมองภาพวาดนัน้ หวังจะหาส่วนที่แตกต่างจากชาติก่อนให้พบ รอจน
ยามที่ฟ้าใกล้สว่าง นางจึงไปเรียกซวงเถาให้ช่วยอวีห้ ย่วนตระเตรียมเสบียง จากนัน้ ก็ให้อาเสา
ไปปลุกอวีห้ ย่วน ส่งเขาออกจากเรือน
279

ตอนที่ 34 แผนรับมือ
ผูท้ ่ีนอนไม่หลับอีกคนยังมีมารดาของเด็กที่ขโมยของผูน้ นั้
เมื่อมารดาของเด็กคนนัน้ ได้ยินความเคลื่อนไหวของสกุลอวี ้ นางก็จดั การตัวเองอย่าง
รวดเร็วแล้วออกมาด้านนอก เห็นป้าเฉินกําลังกวาดลานบ้าน นางไม่ปริปากกล่าวอันใด หาไม้
กวาดมาอันหนึ่งก็เริ่มทําความสะอาดทันที ป้าเฉินขัดขวาง นางจึงกอดไม้กวาดพลางวิงวอน
อย่างขื่นขม “ท่านให้ขา้ ช่วยทําอะไรเพื่อพวกท่านบ้างเถิด มิเช่นนัน้ ข้าคงไม่มีหน้าไปพบนาย
หญิงอวี”้
ป้าเฉินไม่อาจห้ามนางได้ จึงมอบงานกวาดลานบ้านให้นางอย่างรูแ้ ล้วรูร้ อดไป ส่วนตัว
เองก็ไปยุ่งอยู่ในครัวแทน
มารดาของเด็กคนนัน้ ดีอกดีใจ ตัง้ ใจปั ดกวาดลานอย่างขะมักเขม้น
อวีถ้ งั ยืนอยู่ขา้ งหน้าต่าง ฟั งเสียงกวาดพืน้ ครุ น่ คิดเล็กน้อย ก่อนไปเคาะประตูหอ้ งอา
เสา
อาเสาหาวหวอดออกมาเปิ ดประตู เมื่อเห็นว่าเป็ นอวีถ้ งั ก็ตกใจพลันตื่นเต็มตาทันที รีบ
ร้อนกล่าว “คุณหนู มีเรื่องอะไรหรือขอรับ?”
อวีถ้ งั กล่าว “เจ้าเรียกขโมยผูน้ นั้ ออกมา”
อาเสาจึงเข้าไปเรียกคน
บางทีอาจเป็ นเพราะนอนไม่ค่อยหลับ เด็กคนนัน้ จึงมีท่าทีเซื่องซึม ดวงตาแดงกํ่าราว
กับเมล็ดลูกท้อ
อวีถ้ ังชีไ้ ปยังหญิ งที่กวาดลานบ้านอยู่ “เจ้าดูสิ เจ้าทําเรื่องงามหน้าไว้ กลับต้องให้
มารดาช่วยเจ้าชดใช้ วันนีฟ้ ้าไม่ทนั สางนางก็ลกุ ขึน้ มาช่วยคนของข้ากวาดลานบ้านแล้ว”
เด็กคนนัน้ นํา้ ตารืน้ ขึน้ มาทันที
280

อวีถ้ งั กล่าว “ท่านพี่ของข้าไปตามท่านพ่อแล้ว เจ้ามีอะไรจะพูดก็รบี บอกข้าให้เร็วๆ เสีย


มิเช่นนัน้ หากรอให้ท่านพ่อสืบหาได้เอง เจ้าก็รอรับผลที่ตามมาได้เลย”
“ข้าพูดในสิ่งที่รูไ้ ปหมดแล้ว” เด็กคนนัน้ นํา้ ตานอง สะอืน้ กล่าว “จากนีข้ า้ ไม่กล้าทําอีก
แล้วจริงๆ”
อวีถ้ งั เห็นว่าไม่อาจถามอะไรได้ ก็กาํ ชับให้อาเสาดูคนให้ดี ก่อนจะไปหาเฉินซื่อ
เฉินซื่อก็นอนไม่คอ่ ยหลับเช่นกัน กําลังคลึงศีรษะไปมา
อวีถ้ งั เรียก ‘ท่านแม่’ ก่อนจะเข้าไปช่วยนวดขมับ กล่าวปลอบโยน “ท่านอย่าได้กงั วลใจ
ไปเลย ท่านพี่ไปตามท่านพ่อแล้ว ต่อจากนีจ้ ะไม่มีคนมาขโมยของง่ายๆ อีก”
“ขอให้เป็ นเช่นนัน้ เถิด!” เฉินซื่อถอนหายใจ
อวีถ้ งั ครุ น่ คิดเล็กน้อย “เมื่อวานโชคดีท่ีเพื่อนบ้านช่วยเหลือไว้ ท่านว่าทําขนมไปส่งให้
พวกเขาที่บา้ นเพื่อขอบคุณเสียหน่อยดีหรือไม่เจ้าคะ”
“จริงสิ” เฉินซื่อได้ฟังก็กระปรีก้ ระเปร่าขึน้ มา กล่าวชม “อาถังของพวกเราโตเป็ นผูใ้ หญ่
แล้วจริงๆ รูจ้ กั มีมนุษย์สมั พันธ์เสียด้วย”
เฉินซื่อเผยท่าทีช่ืนอกชื่นใจ
อวีถ้ งั อมยิม้
เฉินซื่อมีเรื่องให้ทาํ จึงไม่นกึ ถึงเรื่องเมื่อวานอีกแล้ว
หลังจากกินข้าวเช้า นางและป้าเฉินก็ทาํ ขนมไป๋ ถังเกา 1 หนึ่งหม้อ ทัง้ แบ่งใบชาในเรือน
64

ออกมา ก่อนจะนําไปให้แต่ละบ้านเพื่อแสดงความขอบคุณ รอจนส่งขนมเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลา


อาหารเที่ยงพอดี

1
ไป๋ ถังเกา เป็ นขนมที่ทาํ จากแป้งข้าวเจ้าและนํา้ ตาลทรายขาว เนือ้ ขนมเป็ นสีขาวฟู
281

อวีเ้ หวินกลับมาโดยขี่ลอ่ ของนายท่านอู๋


“แล้วอาหย่วนล่ะ?” เฉินซื่อถามอย่างแปลกใจ
อวีเ้ หวินเอ่ยอย่างอ้อมค้อม “ข้าให้เขาไปทําธุระนิดหน่อย อาหารเสร็จแล้วหรือ? อีกสัก
พักยังต้องเอาล่อไปคืนนายท่านอู๋ ทัง้ ต้องเตรียมของให้เป็ นมารยาท เรื่องเมื่อวาน เขาช่วยไว้ไม่
น้อย”
เห็นได้ชดั ว่ามีเรื่องปิ ดบังเฉินซื่อ
เฉินซื่อเห็นเขามีท่าทีไม่ค่อยดี จึงกําชับอวีถ้ งั ไปช่วยป้าเฉินจัดโต๊ะในครัว ส่วนตัวเองก็
ไปตักนํา้ ล้างหน้าสางผมให้อวีเ้ หวิน
อวีเ้ หวินผลัดเปลี่ยนเสือ้ ผ้า ล้างหน้าล้างตา ก่อนจะถามเฉินซื่อ “ขโมยผูน้ นั้ กับแม่ของ
เขาล่ะ?”
เฉินซื่อกล่าว “อยู่ในโรงฟื น กลัวว่าใครจะมาเห็นเข้า”
อวีเ้ หวินไม่ได้สนใจสองแม่ลกู คู่นนั้ เพียงร่วมโต๊ะอาหารกับเฉินซื่อและอวีถ้ งั ก่อนจะหิว้
ขนมและนํา้ ชา ไปคืนล่อให้นายท่านอู๋ดว้ ยตัวเอง เวลานีจ้ ึงค่อยได้น่ ังลงดีๆ พูดคุยกับเฉินซื่อ
และอวีถ้ งั “หลังจากข้าไปเรือนนายท่านอู๋ ก็ไปหาผูน้ าํ หมู่บา้ น ตรอกชิงจู๋ของพวกเราไม่เคยมี
คนลักเล็กขโมยน้อยมาตัง้ หลายปี เด็กผูน้ ีป้ ล่อยไว้ไม่ได้ แต่เห็นแก่หน้าเพื่อนบ้าน ข้าจะไม่ส่ง
เขาให้ทางการ มอบเขาให้ครอบครัวจัดการลงโทษกันเอง ผูน้ าํ หมู่บา้ นก็เห็นด้วย อีกสักพักเขา
จะเข้ามาพาคนไป”
เฉินซื่อโล่งใจขึน้ มา “แบบนีก้ ็ดี จะได้ไม่เสียชื่อเสียงของตรอกชิงจู๋พวกเราด้วย” จากนัน้
นางก็ถามเรื่องของหลูซ่ ิ่น “กําหนดฤกษ์ฝังศพแล้วหรือยัง? มีอะไรให้พวกเราช่วยหรือไม่?”
เอ่ยถึงเรื่องนี ้ อวีเ้ หวินก็รูส้ กึ เศร้าโศก “เรื่องนีล้ ว้ นเป็ นความผิดของข้า จะให้ดงึ พวกเจ้า
เข้าไปเกี่ยวได้อย่างไร ข้าและพระในวัดจะฝั งศพเขาพรุ ่งนี ้ ถึงเวลานัน้ ให้อาหย่วนไปช่วยเสีย
หน่อยก็เพียงพอแล้ว พวกเจ้าพักผ่อนสบายๆ อยู่ท่ีเรือนเถิด ทําเรื่องของพวกเจ้าไป”
282

ระหว่างที่พดู อวีห้ ย่วนก็กลับมา


อวีเ้ หวินเอ่ยกับเฉินซื่อ “อีกเดี๋ยวข้าจะกลับไปที่วดั หลูซ่ ิ่นไร้บตุ รธิดา คืนนีข้ า้ จะอยู่เป็ น
เพื่อนเขา อากาศหนาวขึน้ เรื่อยๆ เจ้าเตรียมเสือ้ ผ้าหนาๆ ให้ขา้ สักตัวสองตัวเถิด ยามที่ขา้ ไปวัด
จะพกไปด้วย”
เฉินซื่อตอบรับก่อนจะออกไป
อวีเ้ หวินเรียกอวีถ้ งั ทันที “เจ้าตามข้าไปที่หอ้ งหนังสือ”
อวีถ้ งั ตระหนักได้ว่าบิดาย่อมต้องถามเรื่องภาพนัน้ เป็ นแน่ ผงกศีรษะ ก่อนจะตามบิดา
ไปห้องหนังสืออย่างเงียบๆ
อวีห้ ย่วนก็อยู่เช่นกัน
ทัง้ สามคนพูดคุยกันด้วยเสียงเบา
เวลานีอ้ วีถ้ งั จึงรูว้ า่ ที่แท้อวีห้ ย่วนได้รบั คําสั่งจากอวีเ้ หวินให้ไปบ่อนพนัน ผูด้ แู ลบ่อนไม่
ยอมรับว่าถูกคนไหว้วาน ยืนยันว่าตัวเองได้ยินมาว่าเรือนของพวกเขามีภาพวาดเช่นนีอ้ ยู่ ทัง้ ไม่
อยากเสียเงินซือ้ ดังนัน้ จึงจ้างวานเด็กคนหนึ่งไปขโมยของที่เรือนพวกเขา
ผูด้ แู ลบ่อนกล่าวเช่นนี ้ อวีห้ ย่วนก็ไม่อาจให้เขาเป็ นคนกลางได้
ส่วนการตายของหลูซ่ ิ่นกลับไม่ได้รบั ข้อมูลอะไร
อวีเ้ หวินกล่าวว่า “เวลานัน้ ข้าเพียงคิดอยากย้ายศพกลับมาให้เร็วที่สดุ เท่านัน้ คนไร้ลม
หายใจ เขาตายเมื่อไร ก่อนตายมีอะไรแปลกๆ ทัง้ ทิง้ ของต่างหน้าไว้หรือไม่ ข้าคิดว่าคนตายก็
เหมือนตะเกียงที่มอดดับ จึงไม่ได้ถามให้มากความแต่อย่างใด”
เขากล่าวอย่างรูส้ กึ เสียดาย “หากรูว้ า่ จะเป็ นเช่นนี ้ ข้าคงถามให้ชดั เจนไปแล้ว”
เย็นวันนีอ้ วีถ้ งั ครุน่ คิดมากมาย ในใจปรากฏความคิดหนึ่งขึน้ มาอย่างเงียบๆ รอจนบิดา
และญาติผพู้ ่ีพดู จบแล้ว นางจึงค่อยกล่าวหยั่งเชิง “ท่านพ่อ ข้าคิดว่าเรื่องนีพ้ วกเราต้องสืบให้แน่
283

ชัด อย่าเพิ่งพูดถึงอย่างอื่นเลยแต่อย่างน้อยพวกเราก็ควรรูว้ ่าเพราะเหตุใดอีกฝ่ ายจึงจ้องจะเอา


ภาพนีใ้ ห้ได้ แม้ว่าพวกเขาอยู่ท่ีลบั พวกเราอยู่ท่ีแจ้ง พวกเราก็ควรหาวิธีจัดการกับอีกฝ่ าย มิ
เช่นนัน้ พวกเราคงจะถูกกระทําเพียงฝ่ ายเดียว ไม่แน่วา่ อาจจะเหมือนหลูซ่ ่ิวไฉ…”
อวีเ้ หวินได้ฟัง ใบหน้าก็เขียวคลํา้ ขึน้ มา
อวีถ้ งั กล่าว “ท่านพ่อ ท่านพี่ ข้ามีวิธีหนึ่ง”
สายตาของอวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนพุง่ เป้าไปที่นาง
ยามนีน้ างจึงเอ่ยต่อ “ก่อนหน้านีเ้ ถ้าแก่ถงพูดว่า ภาพ ‘คนตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ ไม่
ถึงกับปลอมทัง้ หมด เป็ นอาจารย์ท่ีมีฝีมือยอดเยี่ยมคนหนึ่งแกะกระดาษซวนจื่อ 2 ชัน้ บนสุด 65

ออกไปแผ่นหนึ่ง เหลือชัน้ ด้านล่างเอาไว้ จากนัน้ ก็ลอกภาพวาดจากร่องรอยที่เหลือใหม่อีกครัง้


ไม่ใช่ร?ึ เถ้าแก่ถงยังพูดว่า กระดาษซวนจื่อมีหลายชัน้ เช่นนัน้ แล้ว พวกเราก็หาอาจารย์ท่ีมีฝีมือ
ชํา นาญ แกะภาพชั้น บนสุด นี อ้ อก ให้พ วกเขาขโมยไป เมื่ อ เป็ น เช่น นี ้ นอกจากพวกเราจะ
คลี่คลายสถานการณ์ได้ ยังสามารถตรวจสอบอย่างละเอียดว่าภาพวาดนีม้ ีความลับอะไรกันแน่
ท่านว่าเป็ นอย่างไร?”
ดวงตาของอวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนใสกระจ่างขึน้ มา อวีเ้ หวินไม่ปิดบังความดีใจของ
ตัวเองแม้แต่นอ้ ย ชื่นชมลูกสาว “อาถัง ตัง้ แต่เล็กเจ้าก็หลักแหลมมีไหวพริบ เพื่อลูกอมไม่ก่ีเม็ด
ความคิดพิเรนทร์อนั ใดก็ลว้ นคิดออกมาได้ ในที่สดุ วันนีค้ วามฉลาดของเจ้าก็ใช้อย่างถูกเรื่อง
เสียที เจ้าพูดมีเหตุผล แทนที่จะให้อีกฝ่ ายสงสัยว่าพวกเราส่งภาพปลอมให้เขา สงสัยพวกเราว่า
ไม่ยินดีขายภาพให้เขา ยังมิสทู้ าํ อย่างที่เจ้าว่า พวกเราก็ทาํ ของปลอมขึน้ มาอันหนึ่งก็เพียงพอ
แล้ว”
อวี ห้ ย่ ว นกล่า ว “อารอง อาถัง ก่ อ นหน้า นี ท้ ่ี ข้า ดูแ ลกิ จ การเครื่อ งลงรัก ได้รู จ้ ัก ช่า ง
เลียนแบบวัตถุโบราณคนหนึ่ง พวกเราไปถามเขาได้”

2
กระดาษซวนจื่อ กระดาษที่ใช้เขียนอักษรและวาดภาพในสมัยโบราณ
284

อวีเ้ หวินเอ่ยถาม “ไว้ใจได้หรือไม่? หากมีข่าวลืออะไรแพร่งพรายออกไป จะได้ไม่คุม้


เสีย”
อวีห้ ย่วนตอบด้วยรอยยิม้ “คนผูน้ นั้ แซ่เฉียน อาศัยอยู่ท่ีเมืองหังโจว เพราะไม่ได้คา้ ขาย
อย่ า งตรงไปตรงมา ดั ง นั้ น จึ ง พั ก อยู่ ใ นสถานที่ ท่ี เ รี ย กว่ า ตรอกสื อ จื ้อ ที่ น่ ั น เป็ นสถานที่
เจริญรุ ่งเรืองที่สดุ ของเมืองหังโจว ถนนสองข้างทางมีรา้ นค้าตัง้ เรียงราย ไม่รูว้ ่าทุกวันมีคนเข้า
ออกจํานวนมากมายเท่าใด ทัง้ ถนนหนทางก็เชื่อมต่อกันไปหมด ครึกครืน้ เป็ นอย่างยิ่ง หากเกิด
เรื่อง วิ่งออกจากตรอกไปก็หาตัวไม่เจอแล้ว ท่านวางใจเถิด ยามที่พวกเราไปก็เดินอ้อมไปอ้อม
มา ระวังให้มากหน่อย ย่อมไม่อาจถูกคนพบเห็น”
อวีเ้ หวินเหนือความคาดหมายอยู่บา้ ง กล่าวพึมพํา “อยู่เมืองหังโจวนี่เอง!”
“ใช่แล้ว!” อวีห้ ย่วนคิดโน้มน้าวอวีเ้ หวิน “ท่านลองคิดดู คนที่ทาํ กิจการเช่นนี ้ จะเร้นกาย
หลบอยู่บา้ นนอกได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านัน้ เมืองหังโจวก็อยู่ไม่ไกลจากพวกเรา นั่งเรืออย่างมาก
ที่ สุด ครึ่ง ค่ อ นวัน ก็ ถึ ง แล้ว ทั้ง หากมี ค นถามขึ น้ มาก็ รับ มื อ ง่ า ย นี่ ไ ม่ ใ ช่ ใ กล้ถึ ง เทศกาลไหว้
พระจันทร์แล้วหรือ? แค่เอ่ยว่าอยากไปซือ้ ข้าวของที่เมืองหังโจวเสียหน่อยก็จบแล้ว”
อวีเ้ หวินครุน่ คิดเล็กน้อยพร้อมตบโต๊ะ “เช่นนัน้ ก็เอาแบบนีแ้ หละ!”
อวีถ้ งั รีบขัด “ท่านพ่อ เช่นนัน้ ข้าต้องไปหรือไม่? ข้าอยากไปกับพวกท่านด้วย ข้าเคยไป
เมืองหังโจวตัง้ แต่ยงั เล็กเพียงครัง้ เดียวเอง! ท่านก็พาข้าไปด้วยเถิดนะเจ้าคะ”
อวี เ้ หวิ น ลัง เลไปสัก พัก ก่ อ นจะตัด สิ น ใจ “ได้ พาเจ้า ไปด้ว ย แต่ว่า ระหว่า งทางไม่
อนุญาตให้ก่อเรื่อง เบิกตาให้กว้าง ปิ ดปากให้สนิท แต่หากพบเจออะไรผิดปกติ ต้องรีบบอกข้า
และท่านพี่ของเจ้าทันที”
นี่บิดาเชื่อมั่นในความสามารถของนางแล้วกระมัง!
อวีถ้ งั ดีใจอย่างถึงที่สดุ เดินเข้าไปกอดบิดา “ท่านใจดีจริงๆ”
285

อวีเ้ หวินกลับแสร้งทําหน้านิ่ง เอ่ยอย่างเคร่งขรึม “เจ้าอย่าเพิ่งประจบเร็วไป เรื่องนีต้ อ้ ง


ปิ ดบังแม่ของเจ้า เจ้ารูห้ รือไม่?”
“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ!” อวีถ้ งั รับประกัน
อวีเ้ หวินเผยยิม้ กล่าวด้วยนํา้ เสียงอบอุ่นกับอวีห้ ย่วน “ทางพี่ชายและพี่สะใภ้ เจ้าก็
อย่าได้แพร่งพรายอันใด พวกเขาสองคนจะได้ไม่เป็ นห่วงพวกเรา”
“เข้าใจแล้วขอรับ!” อวีห้ ย่วนเอ่ยอย่างนอบน้อม
อวีถ้ งั วิ่งหายวับไปกับตา “ท่านพ่อ ข้าจะไปเก็บของแล้ว”
อวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนเห็นเช่นนัน้ ก็ยมิ ้ ทัง้ ส่ายศีรษะ
เฉิ นซื่อรู ว้ ่าอวีเ้ หวินจะพาอวีถ้ ังไปเมืองหังโจว ก็อดบ่นพึมพําไม่ได้ “แม้จะพูดว่าใกล้
เทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว แต่ก็ไม่มีความจําเป็ นต้องไปซือ้ ของถึงเมืองหังโจวหรอกกระมัง?
เมืองหลินอันขาดแคลนสิ่งใดกัน?”
อวีเ้ หวินยินดีพาอวีถ้ งั ไปเที่ยวเล่นเมืองหังโจว แน่นอนว่านางดีใจ แต่ยามนี ้ เงินในบ้าน
แทบไม่มี อวีเ้ หวินเป็ นคนหนึ่งที่สรุ ุ ่ยสุร่าย ยังมีอวีถ้ ัง เด็กคนนัน้ แม้ออกจากบ้านไม่เจออะไร
ถูกใจ ก็ยงั ต้องซือ้ ลูกอมกลับมาสองสามเม็ด หากพวกเขาใช้เงินเช่นนี ้ ช่วงเวลาครึง่ ปี หลัง สกุล
ของพวกเขาจะผ่านไปได้อย่างไรเล่า?
อวีถ้ งั คาดเดาความคิดของมารดาได้อย่างเลือนราง นางนวดแขนให้มารดาอย่างแข็ง
ขัน “ท่านแม่ ข้าไปกับท่านพ่อ ก็เพื่อคอยดูเขา ไม่ให้เขาซือ้ ของตามอําเภอใจ”
เฉินซื่อหัวเราะออกมา ลูบศีรษะของลูกสาว “เจ้าสามารถดูแลตัวเองได้ก็พอแล้ว เจ้ายัง
จะช่วยข้าควบคุมพ่อของเจ้าอีกหรือ?”
“จริงๆ นะเจ้าคะ!” อวีถ้ งั สาบาน “หากข้าซือ้ ของสุรุย่ สุรา่ ย ก็ลงโทษไม่ให้ออกจากบ้าน
หนึ่งเดือน”
286

เฉินซื่อบิดจมูกลูกสาว ไม่ได้เชื่อคําพูดของนาง กระนัน้ ก็ไม่อยากขัดขวางลูกสาวและ


สามี เก็บความคิดไว้ในใจ ทําเป็ นไม่รูอ้ ะไร
หากเกิดเรื่องร้ายแรง ครึง่ ปี หลังนางค่อยเอาเครื่องประดับไปจํานําสักชิน้ สองชิน้
สองแม่ลกู นั่งเล่นพูดคุย ก่อนผูน้ าํ หมู่บา้ นจะพาคนจํานวนหนึง่ เข้ามา
อวีเ้ หวินต้อนรับพวกเขาอยู่ท่ีหอ้ งโถง
ดื่มชาไปครึง่ ถ้วย ไถ่ถามสารทุกข์สกุ ดิบไม่ก่ีคาํ คนพวกนัน้ ก็พาเด็กคนนัน้ และมารดา
ของเขาจากไป
ได้ยินว่า คนที่ตามผูน้ าํ หมู่บา้ นมาล้วนเป็ นคนในสกุลเด็กคนนัน้ ส่วนพวกเขาจะจัดการ
ลงโทษแม่ลกู คูน่ ีอ้ ย่างไร ก็จะต้องขึน้ อยู่กบั ชะตาแล้ว
ฝังศพหลูซ่ ิ่นแล้ว อวีเ้ หวินก็เก็บซ่อนภาพไว้ พาอวีห้ ย่วนและอวีถ้ งั ไปยังเมืองหังโจว
ที่ท่าเรือเสาซี พวกเขาพบกับเผยเยี่ยนและโจวจื่อจิน
287

ตอนที่ 35 นั่งเรือ
เผยเยี่ยนสวมเสือ้ คลุมลําลองตัวบางสีเขียวใบไผ่ แม้แต่ป่ิ นก็ยงั ไม่ปัก ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึง
เครื่องประดับอย่างอื่น ทั่วร่างเผยความสะอาดสะอ้าน ยังคงทําหน้านิ่งขรึม ไม่สนใจอะไร ด้าน
โจวจื่อจินสวมชุดคลุมผ้าไหมสีม่วงอมแดงปั กด้วยกิ่งดอกสีฟ้ากระจ่าง ที่เอวห้อยหยกแขวน จิน
ซานซื่อ 1 รวมถึงกระเป๋ าเล็กๆ บนหัวปั กปิ่ นมรกต ถือพัดสีแดงเคลือบทองในมือ กําลังพูดอะไร
66

บางอย่างกับเผยเยี่ยน เผยเยี่ยนพยักหน้าเป็ นครัง้ คราว ท่าทีไม่ใส่ใจนัก


เบือ้ งหน้าของทัง้ สองคนมีเรือเทียบอยู่ลาํ หนึ่ง
เรื อ ใบสองเสากระโดง ยาวประมาณสิ บ จั้ง 2 ผิ ว ไม้มัน วาวจนสะท้อ นเห็ น เงาคน
67

หน้าต่างช่องตารางแกะสลักอย่างงดงาม คลุมด้วยผ้าม่านสีขาว แขวนโคมไฟเคลือบเงา


ไม่ใช่เรือลําเดียวกับที่โจวจื่อจินนั่งมาในวันนัน้
แต่ประณีตชดช้อยกว่ามาก
เผยหม่า นกํา กับบ่าวรับใช้ให้ย กสัม ภาระอยู่ดา้ นข้า งเรือ ดูท่ า แล้ว คงจะมี ใครออก
เดินทาง
อวีถ้ งั ยื่นคอกวาดสายตามองไปแวบหนึง่
อวีเ้ หวินกระปรีก้ ระเปร่าขึน้ มา เผยยิม้ กล่าวกับอวีถ้ งั และอวีห้ ย่วน “คาดไม่ถึงว่าจะเจอ
นายท่านสามสกุลเผยที่น่ี พวกเจ้ารออยูต่ รงนีก้ ่อน ข้าจะเข้าไปทักทายเสียหน่อย”
อวีถ้ งั นึกถึงท่าทีเย่อหยิ่งไร้มารยาทของเผยเยี่ยน ไม่อยากให้บิดาถูกเขาทําลายนํา้ ใจ
จึงดึงแขนเสือ้ อวีเ้ หวินไว้ กระซิบเสียงเบา “เขาไม่ได้เห็นพวกเราเสียหน่อย แล้วเขาก็มากับ
สหายด้วย พวกเราจําเป็ นต้องเข้าไปทักทายด้วยหรือ?”

1
จินซานซื่อ เครื่องใช้สามชนิดที่คนโบราณนิยมห้อยพกติดตัว ได้แก่แหนบ ที่แคะฟั น และไม้แคะหู
2
หนึ่งจัง้ ประมาณ 3.33 เมตร
288

สิ่งที่สาํ คัญที่สดุ คือบิดาของนางไม่คิดที่จะสอบจวี่เหรินแล้ว ทัง้ ไม่ตงั้ ใจจะรับราชการ มี


ความจําเป็ นต้องผูกสัมพันธ์กบั สกุลเผยถึงขนาดนัน้ เลยรึ?
อวีเ้ หวินกลับกล่าว “นายท่านสามเป็ นคนดีคนหนึ่ง ยามที่ท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผยล่วงลับ
ข้าก็อยู่ช่วยเหลือมิใช่ร?ึ นายท่านสามมาทักทายพวกเราทุกวัน ทัง้ ยังส่งบ่าวอีกสองคนมารับใช้
พวกเราเป็ นพิเศษ ดูแลอย่างดี ปฏิบตั ิดว้ ยความจริงใจ วันนีพ้ บเขา ไฉนจึงต้องทําเป็ นไม่เห็นไป
ได้?”
แต่ทา่ นให้ความสําคัญเขา ใช่วา่ เขาจะให้ความสําคัญท่าน?
อวีถ้ งั ดึงแขนเสือ้ ของอวีเ้ หวินไม่ปล่อย “ท่านพ่อ เรือของพวกเราใกล้จะถึงแล้วเจ้าค่ะ”
พวกเขาจะนั่งเรือโดยสารไปเมืองหังโจว
อวีเ้ หวินกล่าว “ยังมีเวลาเหลือเฟื อ หากเรือมาถึงก็ตอ้ งพักที่ท่าเรืออีกสิบห้านาที ไม่กิน
เวลามากหรอก” พูดจบก็สะบัดแขนเสือ้ เดินไป
อวีถ้ งั กระทืบเท้าเงียบๆ อย่างโมโห
ทว่าอวีเ้ หวินกลับคล้ายคิดอะไรได้ ชะงักฝี เท้าก่อนจะหมุนกายกลับมา
อวีถ้ งั เผยสีหน้าดีใจ คิดว่าอวีเ้ หวินเปลี่ยนใจแล้ว
ใครจะรูว้ ่าอวีเ้ หวินกลับกวักมือเรียกอวีห้ ย่วน “เจ้าก็ตามมาทักทายนายท่านสามสกุล
เผยกับข้าด้วย เผยหม่านก็อยู่พอดี ให้เขาได้เห็นหน้าค่าตา ภายหลังเจ้ามีเรื่องอะไร มาหาเขาก็
จะสะดวกราบรื่น”
บิดาของนางเป็ นฝ่ ายเข้าไปทักทายเผยเยี่ยน ลูกผูพ้ ่ียงั ต้องทําความรูจ้ กั กับเผยหม่าน
อวีถ้ งั นัน้ โกรธเหลือทน
แต่อวีห้ ย่วนกลับวิ่งตามบิดานางไปอย่างอารมณ์ดี นางจะโกรธไปก็เปล่าประโยชน์
289

อวีถ้ งั ปิ ดตาตัวเอง ไม่อยากเห็นบิดาของนางถูกเผยเยี่ยนปฏิบตั ิอย่างเย็นชา แต่สิ่งที่ทาํ


ให้นางตกตะลึงก็คือ เผยเยี่ยนยังคงมีสมั มาคารวะต่อเขาไม่นอ้ ย ระหว่างที่พดู คุยยังเงยหน้า
มองมาที่นางแวบหนึ่ง การมองของเขาครัง้ นี ้ ทําให้โจวจื่อจินสังเกตเห็นนางเช่นกัน ทอดสายตา
มายังนาง จากนัน้ ก็ไม่รูว้ ่าพูดอะไรกับบิดาของนาง บิดาของนางโบกไม้โบกมือพักใหญ่ โจวจื่อ
จินก็หวั เราะออกมา ก่อนจะหันกลับไปทางเผยเยี่ยน
เผยเยี่ยนเผยสีหน้าเรียบนิ่ง ไม่กล่าวคําใดออกมา
โจวจื่อจินก็ไม่พดู อะไรเช่นกัน
เผยเยี่ยนตะโกนเรียกเผยหม่าน
เผยหม่านวางงานในมือลง ก่อนจะสาวเท้าเข้ามาทันที
เผยเยี่ยนชีไ้ ปที่อวีห้ ย่วน
เผยหม่านประสานมือคารวะอวีห้ ย่วน
อวีห้ ย่วนรีบร้อนคารวะตอบ เห็นได้ชดั ว่าตื่นเต้นอยู่บา้ ง
เผยเยี่ยนพูดอะไรบางอย่างอีกเล็กน้อย คล้อยหลังอวีห้ ย่วนก็คารวะเผยหม่านอีกครัง้
เผยหม่านคารวะตอบ ก่อนจะหมุนกายไปสะสางงานของเขาต่อ
อวีเ้ หวินและเผยเยี่ยนพูดคุยกันอีกไม่ก่ีคาํ เผยเยี่ยนผงกศีรษะ อวีเ้ หวินและโจวจื่อจิน
ทักทายกันอีกครัง้ ก่อนทุกคนจะแยกย้ายกันไป
อวีถ้ งั ค่อยโล่งใจ รอจนบิดาของนางเดินเข้ามาก็อดถามไม่ได้ “ท่านพ่อ นายท่านสาม
พูดอะไรกับท่านบ้างรึ?”
อวี เ้ หวินเผยใบหน้าอิ่ม เอมราวกับดีใจเป็ นอย่างยิ่ง “นายท่านสามไม่เ ลวเลยจริงๆ
สหายคนนัน้ ของเขาก็ใช้ได้เช่นกัน ได้ยินว่าพวกเราจะไปเมืองหังโจวทางเดียวกับพวกเขาพอดี
จึงเชิญพวกเรานั่งเรือไปด้วยกัน ข้าเห็นท่าทางของนายท่านสามคล้ายมีเรื่องสําคัญจึงปฏิเสธ
290

อย่างสุภาพไป คาดไม่ถึงว่านายท่านสามก็ไม่ได้รงั้ ข้าแต่อย่างใด แต่ว่า เขาอายุนอ้ ยเช่นนีก้ ็


สามารถฝึ กงานกับหกกรมได้แล้ว ย่อมไม่ใช่คนไร้เหตุผล ข้ากับเขาเพิ่งคุยไม่ก่ีคาํ เขาก็เรียกเผย
หม่านเข้ามาแนะนําให้พ่ีเจ้ารู จ้ กั แล้ว อาศัยแค่สายตากว้างไกลของเขาภายหลังย่อมก้าวหน้า
ในหน้าที่การงานและไต่เต้าสูค่ วามสําเร็จได้แน่”
อวีถ้ งั ลอบเบะปากอยู่ในใจ
ก้า วหน้าในหน้าที่การงาน ไต่เ ต้า สู่ความสํา เร็จอย่างนั้นรึ ในอนาคตเขาก็ไม่ได้รบั
ราชการเสียหน่อย
ทัง้ อายุนอ้ ยก็ฝึกงานในหกกรม ไม่ใช่เพราะเขาสอบในตําแหน่งซู่จ๋ีซ่ือได้ร?ึ ไม่เกี่ยวกับ
ว่าเขาสายตากว้างไกลเสียหน่อย?
ส่วนคําชมที่บิดามีต่อเผยเยี่ยน เดิมทีนางก็ไม่เชื่ออยู่แล้ว คิดว่าบิดามองเขาด้วยความ
เมตตา ดังนัน้ จึงได้ชมเขาเช่นนี ้
ไม่อย่างนัน้ ตอนที่โจวจื่อจินเสนอให้พวกเขาร่วมเดินทางไปหังโจว เหตุใดเขาจึงไม่
คล้อยตามเป็ นมารยาทเสียหน่อย?
เดิมทีเขาก็ไม่อยากให้พวกนางร่วมทางไปด้วยเถอะ
หนําซํา้ แค่ทา่ ทีสีหน้าธรรมดาก็ประคองไว้ไม่ได้ คําพูดเป็ นมารยาทไม่มีสกั คํา
ชั่วขณะนัน้ อวีถ้ งั ก็นกึ ถึงยามที่พบกับเผยเยี่ยนครัง้ ที่แล้ว แววตาเผยเยี่ยนยามมองนาง
ช่างน่าโมโหเสียจริง!
นางพองลมจนเต็มแก้ม
กระทั่งอวีห้ ย่วนก็ชมเผยเยี่ยนไม่ขาดปากเช่นกัน “อ่อนน้อมถ่อมตนทัง้ ยังสุภาพ ไม่
เย่ อ หยิ่ ง จองหองสัก นิ ด ข้า ยัง คิ ด ว่ า คนอายุ น ้อ ยที่ ป ระสบความสํา เร็จ อย่ า งเขาจะถื อ ตัว
เหมือนกันหมดเสียอีก ไม่อยากคบค้าสมาคมกับคนอย่างพวกเรา สมแล้วที่นายท่านสามสกุล
291

เผยเป็ น บัณ ฑิ ต ในท้อ งมี ก วี แ ละหนัง สื อ บุค ลิ ก ย่ อ มงามสง่ า โดยธรรมชาติ มี ค วามสุภาพ


อ่อนโยน กิรยิ าน่ามอง”
อวีถ้ งั ทนฟั งต่อไปไม่ไหว “ท่านพี่ ‘คนอย่างพวกเรา’ หมายความว่าอย่างไร สกุลของเรา
ไม่ดีตรงไหนกันเจ้าคะ? ท่านอย่าได้ดถู กู ตัวเองจนเกินไป!”
อวีห้ ย่วนเผยสีหน้าลําบากใจ
อวีเ้ หวินหัวเราะเสียงดัง ตบไหล่หลานชาย “ตอนแรกข้าก็คิดว่าเจ้าควรจะเรียนหนังสือ
ดีๆ ตามข้า แต่พ่ีใหญ่จะให้เจ้าค้าขายเหมือนเขาให้ได้ คงเห็นแล้วกระมัง? ผูท้ ่ีเป็ นบัณฑิตได้รบั
ความนับหน้าถือตาจากผูอ้ ่ืนมากกว่า เจ้าไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสืออีกแล้ว ภายหลังลูกของ
เจ้าไม่อาจจะซํา้ รอยเดิมเจ้าได้เชียว แม้วา่ ต้องขายร้านค้าประจําสกุลออกไป ก็ตอ้ งให้พวกเด็กๆ
ได้เรียนหนังสือ”
อวีห้ ย่วนเห็นด้วยอย่างยิ่ง ผงกศีรษะไม่หยุดหย่อน
อวีถ้ งั กลับไม่คิดเช่นนัน้ นางกล่าวแก้ตา่ งให้อวีห้ ย่วน “หากท่านพี่ไม่ทาํ การค้าตามท่าน
ลุง อย่าพูดถึงท่านลุงเลย แต่ค่ากินค่าอยู่อาศัยของพวกเราคงมิพน้ จะเป็ นปั ญหาเสียหมด ข้า
กลับคิดว่าท่านลุงใหญ่ทาํ ถูกแล้ว”
“เจ้าเด็กคนนี!้ ” อวีเ้ หวินกล่าว “ไฉนจึงเหมือนประทัดเช่นนี ้ แค่จดุ ก็ติดไฟ ไม่สิ ไม่ตอ้ ง
จุด ก็ ติ ด ไฟแล้ว ข้า ไม่ ไ ด้จ ะพูด อะไร เพี ย งอยากให้ส ายตาพี่ ข องเจ้า กว้า งไกลกว่า นี ้ เด็ ก ๆ
จําเป็ นต้องได้เรียนหนังสือ”
สองพ่อลูกเถียงกันไปมา ก่อนเรือจะเข้ามาเทียบท่า
อวีถ้ งั ตามบิดาและพี่ชายขึน้ เรือ
ก่อนจะเข้าไปในเรือ นางก็ยงั ทอดสายตามองไปทางเผยเยี่ยนอีกครัง้ อย่างอดไม่ได้
บ่าวรับใช้พวกนัน้ ยังคงขนสัมภาระ
292

นางนึกถึงเหตุการณ์ยามที่โจวจื่อจินมา อดกล่าวถามอวีห้ ย่วนเสียงเบาไม่ได้ “ท่านพี่


พวกเขาไปทําอะไรที่เมืองหังโจว? นายท่านสามก็ไปด้วยหรือ?”
อวีห้ ย่วนชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะมองไปทางเผยเยี่ยน “ได้ยินโจวจ้วงหยวนผูน้ นั้ กล่าว
ว่า ผูต้ รวจการศึกษาเจ้อเจียงคนใหม่เป็ นศิษย์ร่วมสํานักของนายท่านสามสกุลเผย โจวจ้วง
หยวนเหมือนว่าจะมีเรื่องอะไรอยากให้ผูต้ รวจการศึกษาช่วยเหลือ จึงลากนายท่านสามไป
ด้วยกัน มิเช่นนัน้ นายท่านสามก็คงยังอยู่ในช่วงไว้ทกุ ข์ ไม่ถ่อไปถึงเมืองหังโจวหรอก”
อวีถ้ งั เหนือความคาดหมายอยู่บา้ ง ในใจคาดเดาเผยเยี่ยนในแง่ลบ
ไม่แน่ว่าเขาพูดกับบิดาของนางเช่นนี ้ ก็เพราะต้องการให้บิดานางช่วยพูดแทนเขาว่าไป
เมืองหังโจวด้วยเหตุใด คนอื่นจะได้ไม่คิดว่าเขาไม่อยู่เรือนช่วงไว้ทกุ ข์ กลับออกมาเที่ยวเล่นใน
เมืองหางโจวเช่นนี ้
อวีถ้ งั มองเผยเยี่ยนอย่างดูแคลนไปอีกครัง้
วันนีค้ นโดยสารเรือมีไม่มาก กระจัดกระจายกันไป จึงมีท่ีวา่ งเหลือเฟื อ
พวกเขาหามุมนั่งลง
หลังจากเรือออกท่า ลมเย็นต้นสารทฤดูก็ปะทะใบหน้า สดชื่นและเย็นสบาย สุขอุรา
เป็ นอย่างยิ่ง
อวีห้ ย่วนไปซือ้ นํา้ ชาเข้ามาให้สองพ่อลูก ก่อนทัง้ สามคนจะนั่งดื่มชาพูดคุยกัน
อวีเ้ หวินถามอวีถ้ งั “เจ้ามีท่ีใดอยากไปหรือไม่? หรืออยากจะซือ้ ของอะไร?”
อวีถ้ ังยังคงพะวงเกี่ยวกับภาพวาด ไหนเลยจะมีใจไปเที่ยวเล่น? แต่ว่าในเมื่อนางมา
เมืองหังโจว อย่างไรก็ควรซือ้ ของไปฝากท่านแม่และหม่าซิ่วเหนียงเสียหน่อย
นางนวดแขนให้บิดาอย่างออดอ้อน “ข้าจะซือ้ ผ้าเช็ดหน้ากับผ้าคลุมผมกลับไปสักสอง
สามผืนได้หรือไม่เจ้าคะ?”
293

อวีเ้ หวินรูส้ กึ แปลกใจ “ซือ้ แค่นีง้ นั้ หรือ?”


ทุกครัง้ ที่เขาออกจากบ้าน อวีถ้ งั แทบอยากจะเขียนรายการสิ่งของใส่กระดาษยาวๆ ให้
เขาซือ้ ของกลับมาทัง้ หมด
อวีถ้ งั หน้าแดง กล่าวอ้อมแอ้ม “นั่นข้ายังไม่คอ่ ยรูค้ วามเท่าไรต่างหาก?”
อวีเ้ หวินฟั งก็หวั เราะออกมา ในใจกลับรู ส้ กึ เงียบสงบอย่างแปลกประหลาด โบกมือไป
มา “เจ้าไม่ตอ้ งกังวลเรื่องเงิน อยากซือ้ อะไรก็ซือ้ รอหลังจากพ้นเทศกาลไหว้พระจัน ทร์ไป
เสียก่อน กําไรจากที่นาย่อมถูกส่งเข้ามา ในบ้านก็มีเงินใช้แล้ว”
อวีถ้ งั ลอบถอนหายใจกับตัวเอง
เหตุใดชาติก่อนนางจึงไม่รูว้ า่ บิดามีรายได้ไม่พอกับรายจ่ายกันนะ
แต่วา่ นางก็เหมือนจะ…
อวีถ้ งั เผยสีหน้าอึดอัดใจ
มีคนเกาะหน้าต่างเรือส่งเสียงร้อง
คนในเรือล้วนตกใจ รีบหันมองออกไปอย่างวุน่ วาย
ก่อนจะพบกับเรือใบเงาวาวสองเสากระโดงล่องนํา้ มาอย่างคล่องแคล่วราวกับมัจฉา
ฝ่ าลมโต้คลื่นผ่านด้านข้างพวกเขาไป
“เป็ นเรือของสกุลเผย!” มีคนตะโกนเสียงดัง “ข้าเคยเห็น ยามที่ท่านผูเ้ ฒ่าเผยมีชีวิตอยู่
ทุกครัง้ ที่ไปเมืองหังโจวก็จะนั่งเรือแบบนีแ้ หละ”
“จริงรึ?” คนผูน้ นั้ ไม่พูดยังจะดีกว่า พอพูดออกมา ก็มีคนถลาไปเกาะดูท่ีหน้าต่างเรือ
เพิ่มขึน้ อีก
“ช่างเร็วเสียจริง!”
294

“งามยิ่งนัก!”
ทุกคนต่างพากันชม
ก่อนจะมีคนตะโกน “พวกเจ้ารีบดู นั่นใช่ปา้ ยทางการหรือไม่! มีใครรูห้ นังสือบ้าง รีบดูสิ
ว่าเขียนว่าอะไร?”
อวีห้ ย่วนก็ชะโงกดูเช่นกัน
อวีถ้ ังดึงเขากลับมา “ท่านพี่ มีอะไรให้ดูกนั นักหนา ก็แค่เรือลําเดียวเท่านัน้ คนอื่นจะ
คิดว่าพวกเราไม่เคยเห็นเอาได้”
อวีห้ ย่วนหัวเราะ “นี่ไม่ใช่ว่าข้าอิจฉาหรอกหรือ? หากมีวนั ใดที่สกุลของพวกเราขับเรือ
เช่นนัน้ ได้ก็คงจะดี”
อวีถ้ งั ยู่ปาก
อวีห้ ย่วนลูบศีรษะนาง “อาถังอย่าได้โกรธไป ภายหลังพี่ย่อมจะหาเงินมากๆ ให้หลาน
ของเจ้า ได้เ รีย นหนัง สื อ ดี ๆ ยามที่ อ าถัง กลับ บ้า นเกิ ด ข้า ก็ จ ะให้ห ลานของเจ้า ชัก ป้า ยของ
ทางการ ใช้เรือใหญ่เช่นนัน้ ไปรับเจ้า”
พี่ชายของนางคนนีช้ ่างพูดไปเรื่อย!
อวีถ้ งั เอ่ยด้วยนํา้ เสียงเอาแต่ใจ “ข้าจะอยู่ท่ีเรือน ไม่แต่งออกให้ใคร กลับบ้านเกิดอะไร
กัน!”
อวีห้ ย่วนยิม้ อย่างฝื ดๆ ก่อนจะมองไปทางอวีเ้ หวินคล้ายกับขอความช่วยเหลือ
อวีเ้ หวินที่ไม่ปริปากตัง้ แต่เมื่อครู ก่ ลับตบโต๊ะขึน้ มา เอ่ยอย่างจริงจัง “อาถังพูดถูก ควร
จะทํากิจการให้ดี แล้วค่อยคิดวิธีให้ลกู หลานเรียนหนังสือ สกุลเผยก็เป็ นเช่นนัน้ ยามที่เพิ่งจะ
295
3
ย้ายมาที่ น่ีก็ไม่ได้สอบเคอจวี่ ในทันที แต่เริ่มต้นจากรุ ่นที่ สอง” ก่อนจะพูดกับอวีห้ ย่วนต่อ
68

“หลายปี มานีข้ า้ เข้าใจบิดาของเจ้าผิดไป รอกลับไปหลินอัน ข้าจะไปเลีย้ งสุราพี่ใหญ่!”


อวีห้ ย่วนพูดคําว่า ‘มิกล้า’ ติดต่อกันอย่างขัดเขิน
อวีถ้ งั กลับหมดอารมณ์ท่ีจะพูดอีกแล้ว
เหตุใดไม่วา่ จะอยู่ท่ีไหนก็พบแต่คนของสกุลเผย พูดอะไรก็ลว้ นแต่เอ่ยถึงสกุลเผย!
นางไม่อาจใช้ชีวิตที่ไม่มีเผยเยี่ยน ไม่มีสกุลเผยได้เลยหรือ?
ช่างน่าโมโหเสียจริง!

3
เคอจวี่ การสอบเข้ารับราชการของจีน แบ่งเป็ นระดับต้นคือถงซื่อ ระดับกลางคือเซียงซื่อ ระดับสูงคือฮุ่ยซื่อ และระดับ
สูงสุดคือเตีย้ นซื่อ
296

ตอนที่ 36 เข้าเมือง
เจียงหนานเมืองริมนํา้ สายธารไหลเชื่อมทั่วสารทิศ ชาวบ้านออกเดินทางมาจากต่าง
ถิ่น ล้วนมักจะอาศัยเส้นทางนํา้
ท่าเรือน้อยใหญ่ ของเมืองหังโจวมีไม่ก่ี แห่ง ในนั้นสามท่าเรือที่ ใหญ่ ท่ี สุดอยู่ใกล้กัน
แบ่งเป็ นประตูอหู่ ลิน ประตูหย่งจินและประตูเฉียนถัง
ท่าเรือประตูอ่หู ลินตัง้ อยู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง เชื่อมต่อกับคลองต้าอวิน้ เหอ
1
69ของเจียงหนาน เป็ นเส้นทางนํา้ ที่ตอ้ งผ่านยามขึน้ เหนือล่องใต้ เพราะว่าวัดเซียงจีอายุเก่าแก่
ห่างจากที่น่ีไม่มาก ท่าเรือนีจ้ งึ มีอีกชื่อหนึ่งว่าท่าเรือวัดเซียงจี
ท่าเรือประตูหย่งจินอยู่ทางตะวันตกของเมือง ด้านข้างเป็ นทะเลสาบซีหู ซึง่ เป็ นเส้นทาง
สําคัญไปยังทะเลสาบไท่หู และหลินอัน
ท่าเรือประตูเฉียนควันธูปคละคลุง้ ตลอดทัง้ ปี ผูแ้ สวงบุญมากมายดุจมวลเมฆ จึงมี
คําพูดที่วา่ ‘นอกประตูเฉียนถังควันธูปลอยล่อง’
เรือโดยสารของพวกอวีถ้ งั จอดเทียบท่าเรือประตูหย่งจิน
พวกเขาต้องลงเรือที่น่ี อาจต้องเปลี่ยนไปนั่งเรืออูเผิง 2 ลําเล็ก ไม่ก็จา้ งเกีย้ วเพื่อเข้า
70

เมือง
นั่งเรือนัน้ สะดวกและสบายกว่านั่งเกีย้ วมาก ทัง้ ยังสามารถชื่นชมทัศนียภาพตลอดทาง
สิ่งที่แย่อย่างเดียวคือใช้เวลามากกว่าการนั่งเกีย้ ว ดีท่ีพวกอวีเ้ หวินวางแผนจะอยู่เมืองหังโจว
หลายวัน มีเวลาเหลือเฟื อ เขาจึงตัดสินใจจะนั่งเรืออูเผิงเข้าเมืองตัง้ นานแล้ว

1
คลองต้าอวิน้ เหอ เป็ นคลองขุดเพื่อให้เดินเรือได้สะดวก ทัง้ เชื่อมต่อดินแดนภาคเหนือและใต้เข้าด้วยกัน
2
เรืออูเผิง เป็ นยานพาหนะทางนํา้ ที่เป็ นเอกลักษณ์ของพืน้ ที่เจียงหนาน โดยมีการทากันสาดเรือเป็ นสีดาํ ตัวเรือแคบเล็ก
หลังคาเตีย้
297

อาจเป็ นเพราะว่านั่งเรือนานเกินไป ยามที่ลงเรือ อวีถ้ งั จึงแข้งขาอ่อน รู ส้ ึกว่าร่างกาย


สั่นไหวไปหมด
อวีห้ ย่วนประคองนาง ชีไ้ ปยังใต้ตน้ ไหว 3 ที่มีแผงขายชาตัง้ อยู่ “เจ้าอยากดื่มชาพักผ่อน
71

สักหน่อยหรือไม่?”
ท่าเรือผูค้ นเบียดเสียด ไหล่ถูกกระทบไม่หยุดหย่อน เสียงขายของ เสียงตะโกน เสียง
ร้องเรียกและเสียงเอะอะโวยวาย สารพัดเสียงที่ดงั แข่งกันโกลาหลอลหม่านจนพาให้รูส้ กึ เวียน
ศีรษะ
“ไม่เป็ นไร!” อวีถ้ ังเอ่ยด้วยเสียงเจือความอ่อนเพลีย “อย่างไรรีบไปโรงเตี๊ยมให้เร็วๆ
ดีกว่า!”
พอถึงโรงเตีย๊ ม นางก็จะได้พกั ผ่อนดีๆ แล้ว
อวีห้ ย่วนผงกศีรษะ
อวีถ้ งั ฉวยโอกาสกวาดสายตาสังเกตท่าเรือ
บันไดหินปูนแข็งหนา สะพานโค้งห้ารูท่ีงดงามราบเรียบ เรือแต่ละประเภทจอดอยู่รมิ นํา้
นางกลับไม่เห็นเรือของสกุลเผย
อวีเ้ หวินไปติดต่อเรืออูเผิงไว้แล้ว หนึ่งคนห้าเหรียญอีแปะ ส่งถึงถนนเสี่ยวเหอด้านข้าง
โรงเตีย๊ มหรูอี ้
เขากล่าว “ข้ามาเมืองหังโจว ส่วนมากก็มักจะพักที่น่ี สะดวกสบาย ห้องหับสะอาด
สะอ้าน เถ้าแก่ไม่เลว อาหารก็เลิศรส”
อวีถ้ งั และอวีห้ ย่วนผงกศีรษะ ตามอวีเ้ หวินขึน้ เรืออูเผิงไป

3
ต้นไหว เป็ นไม้ดอกยืนต้นชนิดหนึ่ง มีดอกสีขาว
298

คนพายเรือยกนํา้ ชามาต้อนรับพวกเขา
อวีถ้ งั ทนไม่ไหว ถามอวีห้ ย่วนเสียงเบา “เรือของสกุลเผยควรจะมาถึงก่อนเรา ไฉนจึงไม่
เห็นเลยเล่า?”
อวีห้ ย่วนหัวเราะเสียงดัง เอ่ยหยอกล้อนาง “เจ้าไม่ใช่กล่าวว่า แม้จะมองอย่างไร ก็เป็ น
เรือของคนอื่นอยู่ดีไม่ใช่ร?ึ อะไรกัน เจ้าก็สนใจเรือของพวกเขาเช่นกันหรือ?”
อวีถ้ งั ทัง้ เขินทัง้ โมโห “ช่างเถิด ไม่พดู แล้ว”
อวีห้ ย่วนหัวเราะเบาๆ ขึน้ มาอีก “พวกเขาน่าจะเข้าทางท่าเรือประตูอหู่ ลิน”
อวีถ้ งั ไม่เข้าใจ
อวีห้ ย่วนเอ่ยต่อ “ท่าเรือวัดเซียงจีเชื่อมต่อกับแม่นา้ํ เถาฮวาในเมือง พวกเขาล่องเรือ
สองเสากระโดง คงจะเข้าเมืองไปโดยตรงเลย”
มีเรือเป็ นของตัวเองช่างสบายเสียจริง
อวีถ้ งั เบะปาก
อวีห้ ย่วนชีไ้ ปที่เรือนริมนํา้ และต้นหลิวสองข้างทางให้นางดู “สวยหรือไม่?”
ใบหลิวที่เรียวบางย้อยลงบนผิวนํา้ ราวกับเส้นผม เรือนริมนํา้ ปกคลุมไปด้วยดอกเถิง
หลัว ข้างโต๊ะหินเก้าอีไ้ ผ่เต็มไปด้วยดอกไม้สีสนั สดใสบานสะพรั่ง ระเบียงกลางแจ้งตากพวก
กะหลํ่าปลีและหน่อไม้ไว้ หญิงสาวแรกรุ ่นสวมเสือ้ สีสดสวย พวกเด็กๆ เตะลูกขนไก่ กระโดด
เชือกอยู่หน้าประตู ยังมีพอ่ ค้าหาบเร่เรียกขาย ‘ขนมถั่วตัด’ และ ‘กรรไกรตัดด้าย’
“สวยมากจริงๆ เจ้าค่ะ!” อวีถ้ งั มองอย่างหลงใหล
อวีห้ ย่วนกล่าวอย่างอิจฉา “หากสามารถย้ายมาที่น่ีได้ก็คงจะดี กิจการต้องรุ ่งเรือง
อย่างแน่นอน”
นี่ไม่ใช่ ‘พอเห็นสิ่งแปลกใหม่ก็ลืมบ้านเกิดเมืองนอน’ หรอกรึ?
299

ชาติท่ีผ่านมา อวีถ้ งั กลับไม่รูว้ า่ อวีห้ ย่วนมีความคิดความอ่านขนาดนี ้


อาจเป็ นเพราะชาติท่ีแล้ว ใช้ชีวิตอย่างยากลําบาก เขาจึงไม่กล้าคิดกระมัง? หรือว่า
นางเองก็ย่งุ อยู่กบั ตัวเองจนไม่รูอ้ ะไร?
รอยยิม้ ของอวีถ้ งั เลือนหายไปจากใบหน้าเล็กน้อย
อวีห้ ย่วนทอดสายตามองทิวทัศน์ของทัง้ สองฝั่ง ยังคงพูดขึน้ มาอย่างตื่นเต้น “ยามที่ขา้
ตามท่านพ่อมาเมืองหังโจวเป็ นครัง้ แรกก็รูส้ กึ ว่าที่น่ีไม่เลว แม้จะขายปลาตากแห้ง ลูกค้าก็ย่อม
มากกว่าเมืองของพวกเรา ทางเมืองของพวกเราไม่ค่อยเปิ ดกว้าง คนที่ไปๆ มาๆ ก็มีแต่พวก
เดียวกัน จะว่าไปแล้วล้วนเป็ นเพราะเรื่องพวกนัน้ …”
อวีถ้ งั ฟั งอย่างนิ่งเงียบ ดื่มชาอย่างช้าๆ
เรืออูเผิงเข้าฝั่ ง ทัง้ สองฟากล้วนเป็ นร้านค้าที่มีประตูดา้ นหน้าสามถึงห้าบาน ป้ายร้าน
หากไม่ปักด้วยด้ายทอง ก็ปักล้อมรอบด้วยด้ายเงิน ผูค้ นที่เดินอยู่บนถนนส่วนมากก็สวมใส่ผา้
ไหมผ้าแพร มีบา่ วรับใช้หอ้ ยสอยติดตาม ทั่วทัง้ ถนนดูสดใสรื่นตาไปหมด
แต่วา่ โรงเตีย๊ มหรูอีอ้ ยู่ท่ีไหนกัน?
ยามที่อวีเ้ หวินจ่ายเงิน อวีถ้ งั ก็กอดสัมภาระ มองซ้ายมองขวา
ก่อนป้ายตัวอักษรคําว่า ‘ตัง 4’ ที่เขียนไว้ตวั ใหญ่ ด้านล่างปั กด้ายทองว่า ‘เผยซื่อ 5’ จะ
72 73

ปลิวไสวอยู่เบือ้ งหน้า ดึงดูดสายตาของนาง


อวีถ้ งั ตกตะลึง
โรงรับจํานําของสกุลเผยอย่างนัน้ หรือ?

4
当โรงรับจํานํา
5
裴氏 สกุลเผย
300

ไม่ใช่วา่ อยู่ท่ีแม่นา้ํ ซือเยา ฝ่ างเหรินหลี่อะไรมิใช่ร?ึ


ไม่ใช่วา่ พวกเขาต้องไปถนนเสี่ยวเหอหรอกหรือ?
เช่นนัน้ ตอนนีน้ างอยู่ท่ีใดกัน?
อวีถ้ งั รีบดึงแขนเสือ้ อวีเ้ หวิน ชีไ้ ปยังป้ายที่โบกสะบัด “ท่านพ่อ ดูสิ!”
อวีเ้ หวินกลับไม่ตกใจแต่อย่างใด กล่าวกับนางด้วยรอยยิม้ “เจ้าตาดีเสียจริง นั่นเป็ นโรง
รับจํานําของสกุลเผย น่าเสียดายที่เถ้าแก่ถงไม่อยู่ ไม่อย่างนัน้ ข้าคงพาเจ้าไปแวะทักทายแล้ว”
เช่นนัน้ พวกเขามาทําไมกัน?
อวีถ้ งั เบิกตากว้าง
อวีเ้ หวินคิดขึน้ มาได้
เขาหัวเราะเสียงดัง “เด็กโง่ แม่นา้ํ ตรงหน้าพวกเรานีก้ ็คือแม่นา้ํ ซือเยา ถนนที่พวกเรายืน
อยู่ก็คือถนนเสี่ยวเหอ ทางโรงรับจํานําของสกุลเผยนัน้ เรียกว่าฝ่ างเหรินหลี่ เห็นตรอกเล็กๆ เส้น
นัน้ ข้างโรงรับจํานําหรือไม่ ตัง้ แต่น่นั มาจนถึงพวกเราเรียกว่า จีซ่นั หลี่ โรงเตีย๊ มหรูอกี ้ ็อยู่ในตรอก
นัน้ แหละ”
ก็หมายความว่า พวกเขาพักอยู่ดา้ นหลังโรงรับจํานําของสกุลเผย
อวีถ้ งั โมโหขึน้ มา
นางมาถึงเมืองหังโจวแล้ว ไฉนยังพบกับสกุลเผยไม่จบไม่สนิ ้ เสียที!
อวีเ้ หวินคิดว่าลูกสาวมีท่าทีสนใจ จึงชีไ้ ปที่โรงหนังสือด้านข้างโรงรับจํานําสกุลเผย
“เห็นหรือไม่? นั่นก็เป็ นของสกุลเผย ด้านข้างยังมีรา้ นขายวัตถุโบราณ ร้านขายเครื่องแป้ง ร้าน
ขายผมปลอมและปิ่ นดอกไม้ ล้วนเป็ นของสกุลพวกเขาทัง้ หมด…ฝ่ างเหรินหลี่ จีซ้ ่นั หลี่ ทัง้ ยังมี
ตรอกจือหว่าที่อยู่ใกล้เคียง รวมถึงเรือนพํานักส่วนตัวล้วนเป็ นของสกุลพวกเขา”
เช่นนัน้ มีท่ีไหนไม่ใช่ของพวกเขาบ้าง?
301

อวีถ้ งั กล่าว “นายท่านสามสกุลเผยก็พกั ที่น่ีหรือเจ้าคะ?”


“จะเป็ นไปได้อย่างไร?” อวีเ้ หวินกล่าวยิม้ ๆ “สกุลของพวกเขามีเรือนนอกอยู่ท่ีเขาเฟิ่ ง
หวง แถวประตูชิงปั ว สะพานเหมยเจีย วัดหมิงชิ่งก็ลว้ นมีเรือนพํานักอยู่ แต่ว่า ในเมื่อพวกเขา
เข้าเมืองทางท่าเรือวัดเซียงจี หากไม่อยู่เรือนนอกที่เขาเฟิ่ งหวง ก็คงพักอยู่ท่ีเรือนตรงสะพาน
เหมยเจียกระมัง”
อวีห้ ย่วนถามด้วยความสงสัย “ท่านอารูไ้ ด้อย่างไรกัน? ข้ากลับเพิ่งได้ยินเป็ นครัง้ แรก”
อวีเ้ หวินกล่าวอย่างโอ้อวดอยู่บา้ ง “เถ้าแก่ถงเป็ นคนบอกข้า ได้ยินเถ้าแก่ถงพูดว่า เรือน
ทางสะพานเหมยเจียและประตูชิงปั ว เป็ นของนายท่านสามสกุลเผยเอง ท่านตาของนายท่าน
สามเป็ นผูท้ งิ ้ ไว้ให้เขา ไม่ได้เป็ นทรัพย์สินของสกุลเผยแต่อย่างใด”
อวีห้ ย่วนประหลาดใจ “นายหญิงของสกุลเผยเป็ นคุณหนูจากสกุลใดกัน?”
“คุณหนูสกุลเฉียนแห่งเฉียนถัง” อวีเ้ หวินกล่าว “เฉียนที่เป็ นสกุลของชาวอูเ๋ ยวี่ย 6”74

สี่สกุลใหญ่ของเจียงหนาน สกุลเฉียนนับเป็ นอันดับหนึ่ง


อวีห้ ย่วนกล่าว “ท่านตาของนายท่านสามไม่มีลกู ชายหรอกหรือ?”
“ได้ยิน ว่า มี ลูก ชายคนหนึ่ง อายุยัง ไม่ ถึ ง ยี่ สิบปี ก็ ป่วยตายเสีย ก่อน” อวีเ้ หวิน กล่าว
“แม้วา่ ภายหลังจะรับเด็กจากญาติพ่ีนอ้ งมาเลีย้ งดูเป็ นลูก แต่ทรัพย์สินในสกุลครึง่ หนึ่งก็มอบให้
นายหญิงเป็ นสินเดิม ทัง้ ยังมีอีกครึ่งหนึ่งที่แบ่งให้พวกหลานๆ ยามที่ท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเฉียนจะ
จากไป นายท่านใหญ่สกุลเผย นายท่านรองก็ลว้ นเป็ นฝั่งเป็ นฝาหมดแล้ว มีเพียงนายท่านสาม
ที่อายุยงั น้อย ท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเฉียนกลัวว่านายท่านสามจะเสียเปรียบพวกพี่ๆ ตอนสู่ขอ จึงทิง้
ทรัพย์สินไว้ให้เขามากมาย”

6
อู๋เยวี่ย ชาวพืน้ เมืองโบราณที่เคยอาศัยในเจ้อเจียง
302

“ว้าว!” ดวงตาอวีห้ ย่วนระยิบระยับขึน้ มาทันที “ช่างเป็ นดั่งที่วา่ ฮ่องเต้เทิดทูนบุตรคนโต


ชาวบ้านเอ็นดูลกู คนเล็ก นายท่านสามสกุลเผยวาสนาดีเสียจริง!”
“มิผิด” อวีเ้ หวินพูดสัพเพเหระกับอวีห้ ย่วน “เถ้าแก่ถงบอกว่า เรือนที่อยู่ทางสะพาน
เหมยเจีย ก็มีบ่าวรับใช้เป็ นร้อยแล้ว เรือนตรงประตูชิงปั วนัน้ ใหญ่ย่ิงกว่าที่น่ นั อีก ปกติก็ไม่มีคน
ไปอยู่ แค่ค่าใช้จ่ายสองเรือนนีก้ ็ไม่นอ้ ยแล้ว ทัง้ ค่าใช้จ่ายพวกนีล้ ว้ นเป็ นนายท่านสามที่ดูแล
จัดการเอง เห็น ว่านายท่านสามยังมีทรัพย์สินของตัว เอง แต่ท รัพ ย์สินพวกนั้นอยู่ท่ีไหน? มี
เท่าใด? ใครล้วนไม่อาจรู ้ เพราะว่าเรื่องนี ้ ยามที่ท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผยยังมีชีวิตอยู่ ลูกชายคนโต
ของสกุลเผยก็เอาแต่สงสัยมาตลอดว่าท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผยแอบมอบทรัพย์สินส่วนตัวให้นายท่าน
สามสกุลเผย…”
อวีห้ ย่วนกล่าว “หากเป็ นข้า ข้าก็สงสัยเช่นกัน นายท่านสามเพิ่งจะอายุเท่าใดเอง…”
อย่างไรก็เป็ นเพราะสกุลเผยมีเงินมากมาย!
อวีถ้ งั นิ่งเงียบเป็ นเป่ าสาก
นางไม่อยากพูดอะไร
ยามที่เดินตามบิดา เลีย้ วซ้ายอ้อมขวาจนมาถึงโรงเตีย๊ มหรูอี ้ นางก็ไม่มีความตื่นตาตื่น
ใจอะไรสักนิด เพียงเดินตามเด็กรับใช้ของโรงเตี๊ยมขึน้ ไปยังห้องตัวเอง นางไม่มีอารมณ์แม้แต่
จะสํารวจดูโรงเตีย๊ มหรูอี ้ พอล้มตัวนอนลงได้ก็เข้าสูน่ ิทราทันที
อวีห้ ย่วนเข้ามาปลุกนาง “ท่านลุงบอกว่าจะพาพวกเราไปเดินเล่นที่ตลาดกลางคืน เจ้า
รีบเปลี่ยนเสือ้ ผ้าเสีย ท่านลุงบอกว่า อีกสิบห้านาที พวกเราจะออกเดินทาง”
303

อวีถ้ งั โตขนาดนีแ้ ล้วยังไม่เคยไปตลาดกลางคืนมาก่อน ในที่สดุ นางก็กระปรีก้ ระเปร่า


ขึน้ มาเล็กน้อย เปลี่ยนเป็ นสวมชุดต่วนหรู 7 ใช้ผา้ คลุมผมก่อนจะออกไปพร้อมกับบิดาและ
75

พี่ชาย
ท้องฟ้านัน้ เกือบโพล้เพล้แล้ว พวกเขาเดินทางไปตามทิศเหนือ คนที่สญ
ั จรไปมากลับ
ไม่ลดน้อยลงแต่อย่างใด
อวีห้ ย่วนบอกนาง “พวกเราจะไปประตูอ่หู ลิน ตลาดกลางคืนประตูเหนืออยู่ดา้ นนอก
ประตูอหู่ ลิน”
พวกเขาคงไม่เจอเผยเยี่ยนหรอกกระมัง?
อวีถ้ งั กล่าว “เมืองหังโจวมีตลาดกลางคืนเพียงแห่งเดียวหรือเจ้าคะ?”
“เมืองหังโจวมีตลาดกลางคืนอยู่หลายแห่ง แต่ตลาดกลางคืนทางประตูเหนือกลับมี
ชื่อเสียงมากที่สดุ ” อวีห้ ย่วนกล่าวด้วยรอยยิม้ “ผูท้ ่ีเดินทางมาเมืองหังโจวส่วนมากก็ลว้ นแต่มา
เที่ยวเล่นซือ้ ของ แต่หากเป็ นคนหังโจวที่อยู่มานานแล้วกลับชอบไปตลาดกลางคืนของถนน
เสี่ยวเหอ ตลาดที่น่ นั มีคนน้อยกว่าหน่อย ข้าวของก็แพงกว่าเล็กน้อย ส่วนตลาดกลางคืนประตู
เหนือล้วนเป็ นพ่อค้าต่างถิ่นที่ขนึ ้ เหนือล่องใต้ไม่ก็คนเรือที่ไปเที่ยว”
อวีเ้ หวินที่เดินอยู่ดา้ นหน้าได้ยินก็ตอบรับบทสนทนาของอวีห้ ย่วน “ที่สาํ คัญคือเจ้าไม่
เคยไป ข้าอยากให้เจ้าเห็น เป็ นสตรี ภายหลังออกเรือนย่อมไม่อาจทําตัวตามใจได้แล้ว ยามนี ้
สามารถฉวยโอกาสเที่ยวได้มากเท่าใดก็เที่ยวให้ได้มากเท่านัน้ เกิดเป็ นมนุษย์ ต้องเปิ ดหูเปิ ดตา
จึงจะมีความกล้า รอวันพรุง่ นี ้ ข้าจะพาเจ้าไปตลาดกลางคืนทางถนนเสี่ยวเหอ ให้เจ้าได้เห็นว่า
ตลาดทัง้ สองแห่งแตกต่างกันที่ใด”
คนอย่างเผยเยี่ยน หากจะเดินตลาดกลางคืน ก็คงเดินที่ถนนเสี่ยวเหอกระมัง?

7
ชุดต่วนหรู เป็ นชุดฮั่นฝู (ชุดของชาวฮั่น) ชนิดหนึ่ง เสือ้ ตัวบนจะยาวไม่เกินเข่า ใส่คกู่ บั กระโปรงยาวคล่องตัว
304

อวีถ้ ังมีความสุขขึน้ มา กล่าวถามบิดาด้วยรอยยิม้ “ตลาดทางเหนือมีอะไรอร่อยบ้าง


หรือเจ้าคะ?”
อวีเ้ หวินกล่าวยิม้ ๆ “ปลาเผาของแม่นางกวนซาน บัวลอยสุราดอกกุย้ ฮวาของป้าหวัง
ขนมแป้งทอดของถังเอ้อร์สา่ จือ…มากมายนับไม่ถว้ น เจ้าอย่ากินเยอะเกินไปก็แล้วกัน”
อวีถ้ งั อดตื่นเต้นไม่ได้ “ครัง้ หน้าต้องพาท่านแม่มาด้วยนะเจ้าคะ!”
อวีเ้ หวินแย้มยิม้ “ยามที่ขา้ และมารดาของเจ้าแต่งงานกันใหม่ๆ เคยมาที่น่ีสองครัง้ แล้ว
ภายหลังร่างกายมารดาของเจ้าไม่ค่อยแข็งแรง ข้าจึงไม่กล้าพานางออกมา ทัง้ เพราะเจ้า ข้า
กลัวนางจะเป็ นห่วง จึงไม่พาเจ้าออกมาด้วยเช่นกัน”
ทัง้ สามคนคุยเล่นกันไป ก่อนจะออกจากประตูอหู่ ลิน
อวีถ้ งั คาดไม่ถึงว่าตลาดกลางคืนประตูเหนือจะไกลจากที่พวกเขาพักถึงขนาดนี ้ เดินจน
เท้าปวดไปหมด
อวีห้ ย่วนเห็นฝูงชนเดินเบียดเสียดจนแทบแทรกเข้าไปไม่ได้ ใช้เวลากว่าค่อนวันจึงหา
ร้านอาหารที่มีท่ีน่งั แห่งหนึง่ ได้ กล่าวปรึกษากับอวีเ้ หวิน “พวกเราพักกันสักหน่อยดีหรือไม่?”
อวีเ้ หวินลังเลอยู่บา้ ง กล่าวเสียงเบา “การค้าคึกคักเช่นนี ้ ร้านของพวกเขากลับไม่มีคน
แสดงว่าของอาจจะไม่อร่อย พวกเราเดินไปข้างหน้าอีกหน่อยดีกว่ากระมัง?”
พวกเขาไม่อาจนั่งร้านคนอื่นเฉยๆ โดยไม่ส่งั ของอะไรได้กระมัง?
อวีถ้ งั ก็คิดเช่นนัน้ เพียงแต่ขณะที่นางกําลังจะพูด เงยหน้าขึน้ ก็พบกับเผยเยี่ยนและโจ
วจื่อจินยืนอยู่ขา้ งร้านอาหาร
305
306

ตอนที่ 37 ตลาดกลางคืน
นี่มนั ชะตากรรมอะไรของนาง?
ไม่ใช่ว่าเผยเยี่ยนอยู่ท่ีเรือนหรู หราตรงเขาเฟิ่ งหวงไม่ก็ท่ีสะพานเหมยเจียหรอกหรือ?
เขาถ่อมาตลาดพืน้ ๆ ทางเหนือทําไมกัน?
อวีถ้ งั เบิกตาค้างอย่างตกตะลึง
เผยเยี่ยนก็คล้ายจะคาดไม่ถึงเช่นกัน เบิกตากว้างมองนาง
ทัง้ สองคนชะงักอยู่เช่นนัน้ ท่ามกลางผูค้ นที่เดินกันขวักไขว่ เจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า ไม่มี
ใครปริปากพูด ยิ่งไม่ตอ้ งถามเรื่องทักทาย
ยังคงเป็ นโจวจื่อจินที่เห็นอวีเ้ หวิน “ไอหยา นี่ไม่ใช่อวีซ้ ิ่วไฉหรอกรึ? ไฉนท่านจึงมาอยู่
ที่น่ี?”
ขณะที่เขาพูดก็ปราดสายตามองอวีถ้ งั แวบหนึง่
อวีถ้ งั สวมชุดคลุมเนือ้ หยาบสีฟ้าปั กดอก ทัง้ ใช้ผา้ คลุมผมไว้ มองแวบๆ คล้ายกับสาว
ชาวบ้านที่เข้าเมืองมาดูความคึกคัก มีเพียงมือที่ขาวเนียนโผล่ออกมาให้เห็นเท่านัน้ งดงามราว
กับดอกอวีห้ ลัน 1 ที่เพิ่งออกดอกเบ่งบาน
76

อวีเ้ หวินก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่าจะพบกับเผยเยี่ยนและโจวจื่อจินที่น่ี เขารูส้ กึ ดีใจที่ได้พบ


คนรูจ้ กั ที่น่ี “โจวจ้วงหยวน นายท่านสาม! บังเอิญเสียจริง! ข้าคิดว่าในเมื่อมาเมืองหังโจว ก็ควร
มาเดินเล่นตลาดกลางคืนทางเหนือเสียหน่อย จึงพาหลานชายและลูกสาวมา พวกท่านก็มา
ตลาดทางเหนือเช่นกันรึ? พวกท่านมาด้วยกันแค่สองคนหรือ?”
เผยเยี่ยนผงกศีรษะอย่างเรียบนิ่ง

1
ดอกอวีห้ ลัน ดอกแมกโนเลีย
307

โจวจื่อจินกลับกระตือรือร้นกว่ามาก เอ่ยทัง้ รอยยิม้ “พวกเราพักอยู่ตรงสะพานเหมย


เจียด้านนั้น สะพานเหมยเจียห่างจากที่น่ีไม่มาก ข้าก็ไม่ได้มาหลายปี แล้ว จึงลากสยากวง
ออกมาเที่ยวเล่น” ขณะที่เขาพูดก็มองอวีถ้ งั ไปอีกครัง้
เขามีความประทับใจต่อคุณหนูผนู้ ีไ้ ม่นอ้ ย
คนที่หน้าตาสะสวย ใช่ว่าเขาไม่เคยพบมาก่อน แต่คนอย่างอวีถ้ ัง ผูท้ ่ีสามารถทําให้
สองพี่นอ้ งยินยอมมอบใจ ทําให้ชายหนุ่มตะโกนก้องว่าจะแต่งเข้าบ้านเป็ นลูกเขยของพวกเขา
นับว่าเพิ่งเคยเห็นเป็ นครัง้ แรก
ทัง้ อวีถ้ งั ที่เขาเห็นครัง้ นีก้ ลับแตกต่างจากครัง้ ก่อน
ครัง้ ที่แล้ว แม้ว่าอวีถ้ งั จะแต่งตัวธรรมดา กลับเป็ นหญิงสาวที่พาให้คนตาเป็ นประกาย
งดงามจนไม่อาจละสายตา ครัง้ นีแ้ ต่งกายราวกับสาวบ้านนอก ทว่ากลับยากจะปกปิ ดความ
พริม้ พราย เห็นได้ชดั ว่าเด็กสาวผูน้ ีม้ ีบคุ ลิกกิรยิ าที่งดงามเป็ นของตัวเอง ไม่วา่ จะแต่งหน้าทําผม
อย่างไรก็ไม่อาจทําลายความโดดเด่นของนางได้
โจวจื่อจินอดถามอวีเ้ หวินไม่ได้ “แม่นางน้อยผูน้ ีเ้ ป็ นลูกสาวของสกุลพวกท่านจริงๆ รึ?”
อวีเ้ หวินไม่รูว้ า่ เหตุใดเขาจึงถามเช่นนี ้ อดหัวเราะไม่ได้ “หรือไม่ใช่อย่างนัน้ รึ?”
โจวจื่อจินหัวเราะ “ข้าเพียงเสียดายอยู่บา้ งเท่านัน้ ท่านคงไม่รู ้ ช่วงนีข้ า้ กําลังวาดภาพ
สิบสองสาวงาม…”
คนงามย่อมงามจากภายในหาใช่ใบหน้า
หากสาวน้อยผูน้ ีไ้ ม่ใช่ลกู สาวของสกุลอวีก้ ็คงจะดี
เขาจะได้สามารถควักเงินจํานวนหนึ่งเพื่อขอนางออกมาเป็ นแบบวาดภาพได้
308

เผยเยี่ยนที่อยู่ดา้ นข้างรูว้ ่าโจวจื่อจินนัน้ เป็ นคนที่คลั่งไคล้การวาดภาพ เพราะเรื่องนีถ้ ึง


กระทั่งลาออกจากหกกรมไม่ว่า แต่เมื่อเห็นสาวงามหรือเด็กตัวน้อยๆ ดวงตาก็จะคล้ายถูกตรึง
เอาไว้ ไม่อาจขยับไปไหนได้
เขาขมวดคิว้ อย่างไม่พอใจนัก ไม่รอให้โจวจื่อจินได้พดู จนจบก็เอ่ยเสียงทุม้ กับอวีเ้ หวิน
“นายท่านอวีเ้ พิ่งมาหรือกําลังจะไปแล้ว?”
อวีเ้ หวินก็เดาคําพูดที่กล่าวไม่จบของโจวจื่อจินได้เช่นกัน เขาพาลูกสาวออกมาเผยหน้า
ค่าตาเป็ นเรื่องหนึ่ง ให้คนวาดภาพลูกสาวก็เป็ นอีกเรื่องหนึ่ง เขามองเผยเยี่ยนอย่างซาบซึง้ ไปที
“พวกเราเพิ่งมา! นายท่านเผยและโจวจ้วงหยวนเพิ่งมาหรือเตรียมจะกลับแล้ว? อยากจะไปเดิน
เที่ยวกับพวกเราหรือไม่?”
เผยเยี่ยนกลับเอ่ยว่า “ไม่เป็ นไร ตลาดแห่งนีค้ วันไฟคละคลุง้ ร้อนอบอ้าว ข้าเดินดูเป็ น
เพื่อนเขาก็พอ…”
โจวจื่อจินรีบขัด “สยากวง ในเมื่อออกมาแล้ว เจ้าก็อย่าทําตัวน่าเบื่อเลย พบคนรู จ้ ัก
ไกลบ้านเช่นนี ้ นับเป็ นเรื่องที่น่ายินดี มิสพู้ วกเราเดินเที่ยวด้วยกัน”
อวีเ้ หวินมองออกว่าเผยเยี่ยนไม่ค่อยยินดีนกั ไม่ทนั ได้พดู ปฏิเสธออกมา ก็ถูกโจวจื่อจิ
นคว้าไหล่ ผลักให้เดินไปด้านในอย่างไร้ทางโต้แย้ง “ไป! ต้นปี ยามที่ขา้ มา กินขนมแป้งทอดของ
ร้านถังเอ้อร์ส่าจื่อไปครัง้ หนึ่งก็ลืมไม่ลงจนถึงวันนี ้ ครัง้ นีข้ า้ มาตลาดประตูเหนือก็เพื่อขนมแป้ง
ทอดนี่แหละ”
อวีเ้ หวินกลับชอบนิสยั เป็ นกันเองของโจวจื่อจินมาก เขาครุ ่นคิดและรู ส้ ึกว่าทุกคนไป
ด้วยกันก็คงดีไม่นอ้ ย ยิ่งกว่านัน้ โจวจื่อจินและเผยเยี่ยนล้วนเป็ นคนที่มีฐานะหน้าตา ย่อมไม่
อาจพูดอะไรที่เขาพาลูกสาวออกมาเที่ยวตลาดกลางคืน จึงตัดสินใจตามโจวจื่อจินเดินไปด้าน
ใน ทัง้ คุยกับเขาไปพลาง “ข้ายังคิดว่าท่านจะชอบกินบัวลอยสุราดอกกุย้ ฮวาเสียอีก ท่านเป็ น
คนเมืองหนานทงไม่ใช่ร?ึ คนทางใต้อย่างพวกเราล้วนชอบกินสิ่งนีท้ งั้ นัน้ ”
309

“ข้าเป็ นคนทางใต้! แต่เกิดในเมืองหลวง ทัง้ เติบโตในเมืองหลวง” โจวจื่อจินกล่าวด้วย


รอยยิม้ “แต่ขา้ ชอบกินอาหารประเภทเส้น!”
คุยกันไม่ก่ีคาํ เงาของทัง้ สองก็แทบกลืนไปกับฝูงชน
อวีห้ ย่วนรีบเรียกอวีถ้ งั “เจ้ามาเดินข้างหน้าข้า จะได้ไม่พลัดหลง”
อวีถ้ งั มองเผยเยี่ยนที่ทาํ สีหน้าอึมครึม ก็จดั แจงผมอย่างไม่เป็ นตัวเองอยู่บา้ ง เวลานีจ้ งึ
ค่อยทําตามที่อวีห้ ย่วนบอก เดินอยู่ดา้ นหลังอวีเ้ หวิน
ด้านหน้ามีการแสดงละครลิงอยู่
อวีเ้ หวินและโจวจื่อจินเบียดเข้าไปดู ทัง้ กวักมือเรียกอวีถ้ งั เช่นกัน
สีหน้าของเผยเยี่ยนบูดบึง้ ยิ่งกว่าเก่า
อวีถ้ งั กับอวีห้ ย่วนกลับสนใจเป็ นอย่างมาก
อวีห้ ย่วนคว้าแขนเสือ้ อวีถ้ งั ก่อนจะเบียดเข้าไปด้านใน
อวีถ้ งั อดมองเผยเยี่ยนแวบหนึ่งไม่ได้
เขาสวมชุดคลุมเนือ้ หยาบสีคราม ยังคงไม่มีเครื่องประดับหรือแขวนห้อยอะไร ใบหน้า
ขาวกระจ่าง หน้าตาหล่อเหลา เผยท่าทีเคร่งขรึม เดินประสานมือไพล่หลังอยู่หน้าแผงลอยของ
ตลาดท่ามกลางผูค้ นมากมาย กระนัน้ กลับสามารถพาความเงียบเหงาเข้ามาแทนที่ความสดใส
อย่างง่ายดาย
คนผูน้ ีช้ ่างสันโดษเสียจริง!
อวีถ้ ังตรึกตรองในใจ ก่อนจะทิง้ เรื่องนายท่านสามสกุลเผยไว้ดา้ นหลัง ไปดูละครลิง
กับอวีห้ ย่วนอย่างครืน้ เครง
แต่วา่ เพียงดูสกั พักหนึ่ง อวีถ้ งั ก็เริม่ รูส้ กึ ไม่ดีขนึ ้ มาอยู่บา้ ง
310

ดวงตาสีดาํ ของลิงน้อยนัน้ สุกสกาว ยามที่มองคนก็คล้ายมีอะไรอยากจะพูด ร่างกายที่


ผอมเล็กปกคลุมไปด้วยขนสีเหลืองเบาบาง เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว เจ้าของให้ทาํ อะไรมันก็ทาํ
อย่างนัน้ ยังรูจ้ กั ประสานมือทักทายขอของกินจากคน น่ารักไม่หยอก ทว่าที่คอของมันกลับถูก
คล้องด้วยโซ่เหล็ก อาจจะเพราะตอนรัดห่วงลิงโตแล้ว ขนรอบคอจึงร่วงไปหมด ยิ่งมันเชื่อฟั ง
เชื่องขึน้ มากเท่าใด นางก็ย่งิ ทนดูไม่ได้เท่านัน้
ลิงพวกนีเ้ ติบโตในป่ าใหญ่ ถูกคนเหล่านีจ้ บั ตัวมาฝึ กละคร ต้องทําอะไรสักอย่างเพื่อขอ
ความเมตตาจากมุนษย์จงึ จะค่อยได้กินอิ่ม มีชีวิตอยู่ตอ่ ไปได้
นางรู ส้ ึกหดหู่ในใจ ดึงแขนเสือ้ อวีห้ ย่วน ก่อนจะกระซิบข้างหูเขา “พวกเราอย่าดูเลย
ดีกว่า ตอนกลางวันพวกเรากินเนือ้ แห้งรองท้องเท่านัน้ ข้าหิวแล้ว พวกเราไปหาอะไรกินเสีย
หน่อยเถิด”
ลิงน้อยตัวนัน้ กําลังแสดงการระบําสะบัดธง อวีห้ ย่วนมองด้วยความสนใจ เอ่ยแบบขอ
ไปที “เจ้ารอเดี๋ยวก่อน ข้าดูจบแล้วจะไปหาของกินกับเจ้า”
อวีถ้ งั คิดว่าแขนขาของลิงน้อยพวกนีเ้ ดิมทีก็ควรอยู่บนพืน้ ตอนนีก้ ลับถูกบังคับให้ยืน
สองขา…ยิ่งทนดูไม่ได้ กล่าวด้วยท่าทีหม่นหมอง “เช่นนัน้ ท่านพี่อยู่ดเู ถิด ข้าจะรอเจ้าด้านนอก”
อวีห้ ย่วนได้ยินพลันดึงสติกลับมา รีบกล่าว “เช่นนัน้ ข้าไม่ดแู ล้ว ไปรอท่านอาเป็ นเพื่อน
เจ้าดีกว่า”
อวีเ้ หวินก็ยงั ไม่ได้กินข้าวเย็น
อวีถ้ งั ผงกศีรษะ เบียดออกไปกับอวีห้ ย่วน
อวีห้ ย่วนไปตามอวีเ้ หวิน
อวีถ้ งั กวาดสายตาแวบเดียวก็พบเผยเยี่ยนยืนอยู่ใต้ตน้ ไม้ดา้ นข้าง
เขาไม่ไปดูละครลิง แต่กลับยืนนิ่งเงียบอยู่ใต้ตน้ ไม้
311

อาจจะเป็ นเพราะรูส้ กึ ได้วา่ อวีถ้ งั กําลังมองเขาอยู่ เขาจึงหันมามองอวีถ้ งั แวบหนึ่ง


อวีถ้ งั ส่งยิม้ เป็ นมารยาทให้เขา
เขากลับแสดงสีหน้าเรียบนิ่งหันกลับไป
อวีถ้ งั ถูกกระตุน้ โทสะไม่นอ้ ย
คนผูน้ ีม้ นั อะไรกัน?
มองไม่ออกหรืออย่างไร?
นางแสดงความเป็ นมิตรกับเขาก่อน คาดไม่ถึงว่าเขาจะทําท่าทีเช่นนี!้
ในหัวอวีถ้ งั ดัง ‘วิง้ ๆ’ ขึน้ มา ใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะดึงสติกลับมาได้
อวีเ้ หวิน อวีห้ ย่วนและโจวจื่อจินเดินเข้ามา
โจวจื่อจินกล่าวอย่างรู ส้ ึกผิด “ข้าไม่รูว้ ่าพวกท่านยังไม่ได้กินมือ้ เย็น ข้าเลีย้ งเอง พวก
ท่านอยากกินอะไร?” ประโยคสุดท้ายกลับถามอวีถ้ งั
อวีถ้ งั จะกล้าไปกินข้าวที่โจวจื่อจินเลีย้ งเปล่าๆ ได้อย่างไร รีบกล่าวเป็ นมารยาท “ท่าน
อย่าได้เกรงใจ ข้ากินอะไรก็ได้ทงั้ นัน้ ”
โจวจื่อจินได้ยินก็กล่าวด้วยรอยยิม้ “เช่นนัน้ พวกเราไปกินปลาเผาของแม่นางกวนซาน
กันดีหรือไม่? ข้ากินครัง้ ที่แล้ว รูส้ กึ ว่าไม่เลวเลย”
คนเจียงหนานชอบกินปลาอยู่แล้ว
อวีถ้ งั รูส้ กึ ดีกบั โจวจื่อจินขึน้ มาโดยพลัน ส่งยิม้ ขอบคุณโจวจื่อจิน
โจวจื่อจินโบกมือ “เรื่องพวกนีเ้ ป็ นเรื่องเล็กน้อย…” พูดถึงตรงนี ้ เขาก็หยุดชะงัก
เผยเยี่ยนเรียก ‘จื่อจิน’ ขึน้ มาอย่างเยือกเย็น “ตอนเย็นเจ้ากินปลาปั กเป้าย่างไปหนึ่ง
กิโล เจ้ายังกินได้อีกรึ?”
312

“ไอหยา! ทําไมจะกินไม่ได้กัน” โจวจื่อจินกล่าวทันที “ข้าเดินมาเกือบค่อนวัน ปลา


ปั กเป้าย่างนั่นไม่รูไ้ ปอยู่ท่ีใดแล้ว แน่นอนว่าต้องไปลิม้ รสปลาเผาของร้านแม่นางกวนซาน”
ขณะที่เขาพูด ก็กล่าวอย่างสงสัย “หรือเจ้าจะไม่กิน?”
เผยเยี่ยนบอกปั ดอย่างรังเกียจ “ไม่กิน!”
สายตาของพวกอวีถ้ งั ล้วนพุง่ เป้าไปที่โจวจื่อจิน
โจวจื่อจินเอ่ยอย่างร้อนใจ “อย่างไรข้าก็เป็ นแขก! สยากวง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลหรือ
ความรูส้ กึ อย่างไรเจ้าก็ควรไปเป็ นเพื่อนข้า!”
เผยเยี่ยนชําเลืองสายตามองเขาไปที ก่อนจะเดินตรงไปข้างหน้าอย่างไม่ออ้ มค้อม “เจ้า
ไม่ใช่พดู ว่าจะกินปลาเผาของแม่นางกวนซานหรอกรึ? ยังไม่มาอีก!”
“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว” โจวจื่อจินตามไปทันที
อวีเ้ หวินส่ายศีรษะ พาอวีห้ ย่วนและอวีถ้ งั ตามไปเช่นกัน
อวีถ้ งั กระซิบถามอวีเ้ หวิน “ท่านพ่อ พวกเราจําเป็ นต้องตามไปด้วยหรือเจ้าคะ?”
ท่าทีของเผยเยี่ยนเสียมารยาทเกินไปแล้ว นางรูส้ กึ ว่านางตามไปย่อมกินข้าวไม่ลง
อวีเ้ หวินกล่าว “อย่างไรพวกเราก็ตอ้ งไปกินข้าว มิสไู้ ปกินที่รา้ นของแม่นางกวนซาน
บะหมี่แห้งของพวกเขาก็รสชาติไม่เลว ครัง้ ที่แล้วข้ายังพูดกับแม่เจ้าว่า อยากให้ป้าเฉินเรียนไว้
หน่อย ปรากฏว่าไม่วา่ อย่างไรป้าเฉินก็ทาํ ไม่เหมือน”
ก็ได้!
อวีถ้ งั ตัดสินใจแล้ว เพื่ออาหารเลิศรส อย่างไรก็อดทนเสียหน่อยเถิด
ร้านปลาเผาของแม่นางกวนซานยังนับว่าค่อนข้างกว้าง กระนัน้ คนก็น่ งั เบียดเสียดกัน
อยู่มากมาย
โจวจื่อจินทําท่าเป็ นผูด้ ี ควักเงินออกมาตรงๆ ให้คนมอบโต๊ะแก่พวกเขา
313

ทุกคนเตรียมจะนั่งลง ไม่รูว้ ่าเผยเยี่ยนควักผ้าเช็ดหน้าสีขาวผืนหนึ่งมาจากไหน เช็ด


ตรงที่เขาจะนั่งอย่างละเอียดลออไปทีหนึ่ง
อวีถ้ งั เห็น ก็แอบลูบโต๊ะเล็กน้อย
โต๊ะตัวนัน้ แม้จะดูเก่า ภายใต้แสงไฟคล้ายส่องมันวาว แต่เมื่อลูบดูกลับสะอาดไม่นอ้ ย
อย่าพูดถึงคราบนํา้ มันเลย กระทั่งเศษฝุ่ นก็ไม่มีให้เห็น
นางนั่งลงอย่างวางใจ ก่อนเผยเยี่ยนจะเริม่ เช็ดโต๊ะอีกครัง้
โจวจื่อจินทนไม่ไหว “สยากวง เจ้าอย่าพิถีพิถนั ขนาดนีไ้ ด้หรือไม่?”
เผยเยี่ยนเม้มปาก ยังคงเช็ดโต๊ะจนเสร็จ
โจวจื่อจินจนใจ จึงหันไปหารือกับอวีเ้ หวิน สั่งอาหารขึน้ ชื่อของร้านมา
เป็ นที่รูจ้ กั ในตลาดกลางคืนแห่งนีไ้ ด้ย่อมต้องมีช่ือเสียงสมคํารํ่าลือ
ปลาเผากรอบหอมมัน บะหมี่แห้งคลุกพริกนํา้ มัน ขาหมูก็ไม่เลี่ยนเกินไป นํา้ แกงเห็ดหู
หนูหวานกลมกล่อม…อวีถ้ งั นัน้ กินอย่างเอร็ดอร่อย ด้านโจวจื่อจินก็ชมไม่ขาดปาก
เผยเยี่ยนกลับนั่งอยู่ตรงนัน้ ไม่แตะอาหารแม้แต่คาํ เดียว
โจวจื่อจินแสร้งกระซิบกล่าวถึงเขากับอวีเ้ หวิน “ท่านดู ช่างเป็ นคนที่น่าเบื่อจริงๆ! วันนี ้
หากไม่เจอพวกท่าน แม้ขา้ จะกินของเลิศรสปานใดเข้าไปก็คงกลายเป็ นก้อนหินถ่วงในใจข้าอยู่
ดี”
อวี เ้ หวิ น เห็ น ว่ า เผยเยี่ ย นนั่ง อยู่ ส บายๆ ตรงนั้น กลับ คล้า ยต้น สนที่ ยื น ตระหง่ า น
ท่ามกลางหิมะ แผ่ความทระนงออกมาจากภายในอย่างเลือนราง รู ส้ ึกว่าโจวจื่อจินกล่าวไม่
เหมาะสมกับเผยเยี่ยนอยู่บา้ ง
“ทุกคนล้วนมีนิสยั เฉพาะตัวต่างกันไป สหายที่ดีย่อมไม่ควรสร้างความอึดอัดใจต่อกัน”
อวีเ้ หวินเอ่ยด้วยรอยยิม้ ยกแก้วสุราไปทางโจวจื่อจิน “แก้วนีข้ า้ ดื่มให้กบั ท่าน”
314

โจวจื่อจินหัวเราะ ก่อนจะทิง้ เรื่องพวกนัน้ ไว้ดา้ นหลัง


เผยเยี่ยนกลับไม่อาจควบคุมสายตาตัวเองได้ มองไปยังอวีถ้ งั ที่น่งั อยู่ตรงข้ามเขา
315

ตอนที่ 38 ปล่อยวาง
อวีถ้ งั กําลังกัดขาหมู
เดิมทีนางใช้ตะเกียบแต่ภายหลังพบว่าใช้ตะเกียบไม่สะดวกนัก ขาหมูรว่ งตกลงมาครัง้
แล้วครัง้ เล่า คนด้านข้างล้วนใช้มือกัดอย่างเอร็ดอร่อย นางมองไปรอบกาย พบว่าคนพวกนีเ้ อา
แต่ด่ืมสุราคุยโวเท่านัน้ ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าสาวน้อยอย่างนางติดตามบิดาและพี่ชายมากิน
ข้าวด้วย จึงค่อยวางใจลง แอบวางตะเกียบลงเปลี่ยนเป็ นใช้มือแทน
มีสองมือช่วย ขาหมูพวกนัน้ ก็ถกู นางแทะจนเกลีย้ ง
เผยเยี่ยนกําลังมองมืออวีถ้ งั อยู่
มือของอวีถ้ ังนัน้ งดงาม ผิวขาวละเอียด นิว้ มือเรียวยาว ขนาดพอเหมาะ ไม่มีตาํ หนิ
แม้แต่นอ้ ย
แต่ยามนี ้ มือที่สวยงามทัง้ สองข้างกลับเปื ้อนไปด้วยพริกสีแดง มันเยิม้ ทัง้ สะท้อนแสง
ราวกับไข่มกุ ที่ถกู ฝุ่ นปกคลุม ราวกับหยกพิสทุ ธิ์ท่ีถกู ไฟลน พาให้คนมองรูส้ กึ ไม่สบาย
ตาขึน้ มา
กระทั่งเผยเยี่ยนเองก็ไม่รูต้ วั ว่าเขาได้เริม่ จ้องอวีถ้ งั ตัง้ แต่เมื่อใด
อวีถ้ งั กําลังเคีย้ วขาหมูดว้ ยความพอใจ กลับรับรูถ้ ึงสายตาที่มีอานุภาพมองมายังตน
นางเงยหน้าขึน้ ก็พบกับใบหน้าเย็นชาของเผยเยี่ยนที่แฝงด้วยความโมโหอย่างเลือน
ราง
อวีถ้ งั งุนงง
ไฉนเขาจึงมองตนเองเช่นนี?้
เมื่อครูน่ างไม่ได้ทาํ อะไรเสียหน่อย!
316

นางกินไม่น่ามอง?
หรือนางแต่งตัวไม่เหมาะสม?
อวีถ้ งั ก้มลงสังเกตตัวเอง
จากนัน้ ก็คน้ พบอย่างน่าตกใจว่า บนเสือ้ ของนางมีนา้ํ มันเปื ้อนหยดหนึ่ง
ไฉนจึงเป็ นเช่นนี?้
อวีถ้ งั รูส้ กึ ว่าตัวเองเลอะเทอะไปอยู่บา้ ง
นางยกขาหมูมองไปยังเผยเยี่ยน คิดว่าตัวเองควรจะอธิบายอะไรให้เขาฟั งเสียหน่อย
แต่ไม่ทนั ที่นางจะเอ่ยปาก เผยเยี่ยนก็ยา้ ยสายตาไปทางอื่นอย่างเรียบนิ่ง
อวีถ้ งั กะพริบตาปริบๆ
เผยเยี่ยน นี่คือเขาเกลียดชังนางรึ?
อวีถ้ งั พลันรูส้ กึ น้อยใจเป็ นอย่างยิ่ง
ม้ายังมีคราวที่ทาํ ฮ่องเต้พลัดหล่น คนก็มียามที่พลาดพลัง้ …วันนีท้ งั้ วันนางล้วนไม่ได้
กินอะไรจริงๆ จังๆ เห็นของอร่อยเช่นนี ้ ไหนเลยจะทําเป็ นมองไม่เห็น ควบคุมตัวเองได้? อีก
อย่าง นี่เป็ นตลาดกลางคืน มากินของอร่อยที่ตลาดกลางคืนย่อมต้องตื่นเต้นเป็ นธรรมดาไม่ใช่
หรือ?
เมื่อครู ่นางยังตื่นตะลึงในอาหารเลิศรส ช่วงพริบตาเดียวกลับทําให้นางหมดความ
อยากอาหาร
เฮ้อ!
นางรู อ้ ยู่แล้ว นางและนายท่านสามสกุลเผยผูน้ ีไ้ ม่ถกู ชะตากัน ขอเพียงแค่พบกันย่อม
ไม่เกิดเรื่องดีอนั ใด ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึงภาพลักษณ์ของนางเมื่ออยู่ตอ่ หน้าเขาเป็ นอย่างไร!
317

อวีถ้ งั นึกโกรธตัวเองอยู่ในใจ ทว่าจู่ๆ เผยเยี่ยนก็หนั หน้ากลับมา ขมวดคิว้ ก่อนจะควัก


ผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งออกจากเสือ้ ทิง้ ลงเบือ้ งหน้านาง “เช็ดเสีย!”
นางตกตะลึง
อวีห้ ย่วนกําลังรินสุรา อวีเ้ หวินที่กาํ ลังยกแก้วดื่ม ทัง้ โจวจื่อจินที่ได้ยินล้วนหันมามอง
อวี เ้ หวิน และโจวจื่ อจิ น หัว เราะขึน้ มา อวี เ้ หวิ น ถึง ขนาดชี ไ้ ปที่ มุม ปากของอวี ถ้ ัง “มี
ต้นหอมติดอยู่”
อวีถ้ งั เบิกตาโต “ท่านพ่อ มีใครเขาทําแบบท่านกัน?”
อวีเ้ หวินไม่เข้าใจ “ข้าทําไม?” ขณะที่พดู มือก็ชีท้ ่ีมมุ ปากของตัวเอง บอกเป็ นนัยให้อวี ้
ถังรีบเช็ดปาก
มีคนนอกอยู่มากมาย เขาจะแอบกระซิบบอกนางเป็ นการส่วนตัวมิได้เชียวรึ?
อวีถ้ งั ฉุนขึน้ มา รูส้ กึ ว่าผ้าเช็ดหน้าที่เผยเยี่ยนทิง้ ไว้ให้นางคล้ายเป็ นเข็มแหลมที่ท่ิมแทง
อย่าพูดถึงหยิบมาใช้เลย แต่แค่เห็นก็ไม่สบายตาแล้ว
นางควักผ้าเช็ดหน้าของตัวเองออกมา เช็ดมุมปากไปแรงๆ จากนัน้ ก็เช็ดไม้เช็ดมือไป
ด้วย ปล่อยให้ผา้ เช็ดหน้าสีขาวทิง้ อยู่บนโต๊ะเช่นนัน้
เผยเยี่ยนค่อยโล่งอก รูส้ กึ อารมณ์ดีขนึ ้ มาบ้าง
อวีเ้ หวินและโจวจื่อจินหัวเราะอยู่พกั หนึ่ง ก่อนจะทิง้ เรื่องนีไ้ ปแล้วดื่มสุราของพวกเขา
ต่อ พูดคุยสัพเพเหระ อวีห้ ย่วนที่น่งั อยู่ขา้ งกาสุราก็น่ งั ฟั งพวกเขาด้วยท่าทีสนใจ
อวีถ้ งั ดึงสายตากลับมาจากเผยเยี่ยน กัดขาหมูตอ่ อีกครัง้
สายตาของเผยเยี่ยนหยุดอยู่ท่ีเสือ้ ของนาง
อวีถ้ งั มุมปากกระตุก
318

เขาจะเอาอย่างไรกันแน่
มิใช่ว่าเป็ นผูช้ าย หากเรื่องอะไรไม่เหมาะสมก็ไม่ควรดูหรอกหรือ? เขาแสร้งทําเป็ นไม่รู ้
ไม่เห็นจะเป็ นไรไป?
อวีถ้ งั กระทืบเท้าอยู่ในใจอย่างโมโห
นางว่าแล้ว เขาต้องเป็ นคนใจแคบ เอาแต่จบั ผิดข้อเสียของคนอื่น อย่าพูดถึงเรื่องอื่น
เลย นางและเขาก็นบั ว่าพบกันหลายครัง้ แล้ว แต่เขาเคยเผยรอยยิม้ ให้ใครเห็นบ้างกัน?
ทัง้ ยังคิดว่าตัวเองถูกอยู่ตลอดเวลา
ครัง้ แรกพบนาง คิดว่านางจะหลอกเอาเงิน ครัง้ ที่สองพบนาง คิดว่านางเป็ นนักต้มตุ๋น
ครัง้ ที่สามพบนาง คิดว่านางเป็ นหญิงใจง่าย…นึกถึงเรื่องพวกนี ้ อวีถ้ งั ก็คล้ายกับลูกหนังที่ถกู
เข็มทิ่มแทง
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในสายตาของเขา นางก็คงไม่ใช่คนดีอะไร
ยิ่งไปกว่านัน้ พวกเขาแตกต่างราวฟ้ากับดิน แม้วา่ นางจะไม่ใช่คนดี แล้วจะเกี่ยวกับเขา
ตรงไหนกัน?
พออวีถ้ งั คิดเช่นนี ้ ก็รูส้ กึ ดีขนึ ้ มาในชั่วพริบตา
นางไม่จาํ เป็ นต้องวิตกกับผลได้ผลเสียของตัวเองเช่นนี ้ ช่วงเวลานีก้ ็เพียงบังเอิญพบ
เผยเยี่ยนบ่อยขึน้ เท่านัน้ ชาติก่อน นางใช้ชีวิตอยู่ท่ีหลินอันกว่ายี่สิบปี ก็ไม่เคยพบเขาแต่อย่างใด
เห็นได้วา่ ไม่มีเผยเยี่ยน นางก็สามารถใช้ชีวิตอย่างดีได้
เช่นนัน้ เผยเยี่ยนจะมองนาง คิดกับนางอย่างไร แล้วมันจะอย่างไร?
ไยนางจะต้องสิน้ เปลืองความคิดกับคนที่แทบไม่มีความเกี่ยวข้องกัน?
อวีถ้ งั รูส้ กึ ว่าตัวเองคิดตกแล้ว
319

นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเริม่ กัดขาหมูอีกครัง้


อาหารร้านแม่นางกวนซานอร่อยจริงๆ!
หากครัง้ หน้ามีคนถามขึน้ มา นางย่อมจะบอกแน่ ร้านของแม่นางกวนซาน นอกจาก
ปลาเผา ยังมีขาหมู แน่นอนว่าบะหมี่แห้งของพวกเขาก็เลิศรสเช่นกัน
อวีถ้ งั ฟื ้ นฟูความสดใสและความกระตือรือร้นก่อนหน้ากลับมาอีกครัง้
เผยเยี่ยนแทบจะถลึงดวงตาออกมา
เด็กสาวผูน้ ี ้ ไฉนจึงไม่สนใจอะไร นอกจากคําพูดแล้วก็ลว้ นมองอย่างอื่นไม่ออก
กินจนมือเลอะไปด้วยนํา้ มัน มีเด็กสาวเช่นนีท้ ่ีไหนกัน?
แต่อวีถ้ งั ที่วางภาระในใจลง กลับไม่มีความกังวลอะไรแล้ว
นางไม่เพียงใช้มือกัดขาหมู แต่ยงั ยืนดื่มบัวลอยสุราดอกกุย้ ฮวาข้างแผงร้านค้า เดินไป
พลาง กินนํา้ ตาลปั้นไปพลาง ชิมเนือ้ ลา ลงเดิมพันทัง้ สองฝั่ง…เผยเยี่ยนอยากจะจ้องนางเท่าใด
ก็ให้จอ้ งไป นางไม่ใช่คนของสกุลเผยที่หากจะใช้เงินค่าขนมของเขา ก็ตอ้ งให้เกียรติเขาเสีย
หน่อย
คืนนี ้ นางมีความสุขกว่าคืนไหนๆ
นี่คงเป็ นความสุขของท่านพ่อและท่านแม่กระมัง?
อวีถ้ งั ประคองบิดาที่ด่ืมจนเมา ครุน่ คิดอย่างพอใจ
ออกมาครัง้ นี ้ พอกลับไปหลินอันแล้ว นางคงจะไม่ได้ออกมาเที่ยวเล่นง่ายๆ แล้ว ยิ่งไม่
ต้องพูดถึงการออกมาเดินเล่นกับบิดาเช่นนี ้
ต่อไปคงยากที่จะมีความสุขเช่นนีแ้ ล้วกระมัง?
320

อวีถ้ ัง บิดาและพี่ชายเดินทอดน่องอย่างช้าๆ บนถนนเสี่ยวเหอ ลมยามราตรีพัดโชย


ผ่านใบหน้านาง พกพาความเย็นของต้นฤดูใบไม้ร่วง ทําให้คนที่เพิ่งผ่านอากาศร้อนอบอ้าว
อย่างยาวนานรูส้ กึ เย็นสบายขึน้ มา
ความสุขล้นย่อมพาความทุกข์ยากมาภายหลัง
อวีถ้ งั กลับถึงโรงเตีย๊ ม ล้างหน้าสางผม ล้มตัวนอนไม่ทนั ไร ก็เริม่ ปวดท้องขึน้ มา
นางสะดุดใจเล็กน้อย ในหัวปรากฏภาพพวกเผยเยี่ยนที่เนือ้ ตัวซีดขาวนั่งแผงลอยใน
ตลาดท่ามกลางควันคละคลุง้
หรือนางกินมากจนปวดท้อง!
อวีถ้ งั กุมท้องที่ปวดหนักขึน้ เรื่อยๆ ไปเคาะประตูของอวีห้ ย่วนทันที
อวีห้ ย่วนสวมชุดคลุมก่อนจะไปตามหมอมาให้นาง
อาการเมาของอวีเ้ หวินหายเป็ นปลิดทิง้
แต่กลางคํ่ากลางคืนเช่นนี ้ ทัง้ พวกเขายังเป็ นคนต่างถิ่น ไหนเลยจะหาหมอพบง่ายๆ!
อวีเ้ หวินไม่มีทางเลือก ทําได้เพียงไปเคาะประตูโรงจํานําของสกุลเผย
ผูด้ แู ลของโรงจํานําสกุลเผยแห่งนีค้ ือน้องชายของเถ้าแก่ถง เถ้าแก่รองถง
เขาและอวีเ้ หวินรู จ้ ักกัน ได้ยินเช่นนั้นก็ไปหาป้ายชื่อที่เผยเยี่ยนวางไว้ในร้านอย่าง
เร่งด่วน “หมอหลวงหวังไป๋ บังเอิญอยู่ในหังโจวพอดี ข้าจะไปเชิญเขามาดูคณ ุ หนูอวีเ้ ดี๋ยวนี”้
อวีเ้ หวินขอบคุณซํา้ แล้วซํา้ เล่า สวมรองเท้าตามเถ้าแก่รองถงไปทันที
อวีถ้ งั กลับใช้ผา้ ห่มคลุมหน้า
ป้ายชื่อของนายท่านสามสกุลเผย…พรุง่ นีเ้ ขาย่อมมิวายรูเ้ รื่องเป็ นแน่!
อวีถ้ งั รูส้ กึ ว่าตัวเองไม่อาจออกไปพบหน้าคนได้
321

ตอนที่ 39 ปิ่ นดอกไม้


อวีถ้ งั นอนบนเตียงอย่างหมดอาลัยตายอยาก อีกฟากของฉากกัน้ ห้อง หมอหวังไป๋ ผูท้ ่ี
ใบหน้าขาวซีด ตัวอ้วนฉุ เผยยิม้ จนแทบมองไม่เห็นดวงตากําลังพูดกับอวีเ้ หวินอยู่ “ไม่ใช่เรื่อง
ใหญ่อนั ใด! เด็กผูห้ ญิง ตัง้ แต่เล็กก็ถูกเลีย้ งประคบประหงมในห้องหับ จู่ๆ ตามเจ้าออกมากิน
ดื่มซีซ้ วั้ ท้องไส้จึงรับไม่ไหว ไม่จาํ เป็ นต้องกินยาอะไร งดอาหารสองวันก็เพียงพอแล้ว หลังจาก
นีก้ ็ตอ้ งเพลาๆ พวกอาหารเผ็ดลงหน่อย”
อวีเ้ หวินรูส้ กึ เสียใจไม่นอ้ ย ค้อมกายผงกศีรษะ กล่าวรับทราบ
หวังไป๋ ยังคงจําพวกเขาได้ ถามด้วยรอยยิม้ “อาการป่ วยของนายหญิงพวกเจ้าดีขนึ ้ แล้ว
หรือ? เหล่าหยาง คนผูน้ นั้ อย่ามองว่าเขาหน้านิ่งเย็นชาเลย นั่นเป็ นเพราะฝี มือการรักษาของเขา
ยอดเยี่ยม มากความความสามารถ ยาที่เขาจ่ายให้ยอ่ มไม่มีอะไรผิดพลาด”
แม้ว่าครัง้ ที่แล้วเขาและหยางโต่วซิงจะไปรักษาอาการป่ วยให้เฉินซื่อ แต่คนที่จ่ายยาก
ลับเป็ นหยางโต่วซิง
อวีเ้ หวินรีบร้อนกล่าว “ภรรยานัน้ สํานึกบุญคุณของท่านทัง้ สอง! ไม่ก่ีวนั ก่อนยังไปวัด
ขอพรให้ท่านทัง้ สองอยู่สขุ กายสบายใจ หากไม่ใช่วา่ ท่านทัง้ สองกําลังอยู่ในช่วงรุง่ เรืองที่สดุ ของ
ชีวิต ก็คงจะมอบป้ายอวยพรอายุยืนให้แล้ว!”
“ฮ่ า ๆ!” หวัง ไป๋ หัวเราะเสียงดัง “ข้า ไม่เ ป็ นไรหรอก แต่ห ยางโต่ว ซิงกลับหมกมุ่นใน
ชื่อเสียงเกียรติยศ ชอบเรื่องพวกนีเ้ ป็ นที่สดุ ครัง้ หน้าหากเจ้าพบเขา ย่อมต้องบอกเขา ภายนอก
เขาอาจทําหน้าเรียบนิ่ง แต่ในใจต้องดีใจจนเนือ้ เต้นแน่นอน”
บัณฑิตดูแคลนกัน เพื่อนร่วมอาชีพโค่นล้มกันก็มีไม่นอ้ ย
คําพูดนีไ้ ม่วา่ ใครก็ยากจะรับปาก
อวีเ้ หวินต่อบทสนทนาอย่างอ้อมแอ้ม “ท่านทัง้ สองต่างเป็ นคนที่มีภาระรัดตัว สามารถ
เจอกันหนึ่งครัง้ ก็นบั ว่าเป็ นวาสนาแล้ว ไหนเลยจะพบเจอบ่อยๆ ได้”
322

“นั่นก็ไม่แน่” หวังไป๋ กล่าวด้วยรอยยิม้ “หลายวันมานีน้ ายหญิงใหญ่สกุลเผยอาการไม่


ค่อยดี หยางโต่วซิงนัน้ แทบจะอยู่ท่ีหลินอันแล้ว พวกเจ้ามีเรื่องอันใด ก็สามารถไปขอพบที่จวน
สกุลเผยได้”
ครัง้ นีก้ ็ไม่ใช่วา่ ป้ายชื่อของสกุลเผยก็เรียกเขาออกมากลางดึกหรอกรึ?
คนสกุลอวีต้ กตะลึง ก่อนจะดีใจขึน้ มาทันควัน
มีหมอที่มีช่ือเสียงเช่นนีอ้ ยู่ใกล้ๆ แม้บางครัง้ อาจจะไม่ได้เรียกหา แต่กลับรู ส้ ึกอุ่นใจ
ขึน้ มา
อวีเ้ หวินขอบคุณแล้วขอบคุณอีก หยอกหวังไป๋ ให้หวั เราะ ก่อนจะส่งเขากลับไป ยามที่
กลับมา แม้ว่าจะเป็ นต้นฤดูใบไม้ร่วง แต่หน้าผากก็มีเหงื่อผุดพรายเต็มไปหมด “เฮ้อ คนมี
ชื่อเสียงพวกนี ้ คบค้าสมาคมยากคนแล้วคนเล่า”
อวีห้ ย่วนรีบรินชาให้อวีเ้ หวิน ก่อนจะขอบคุณเถ้าแก่รองถง
เถ้าแก่รองถงเห็นว่าที่น่ีไม่มีเรื่องอันใดแล้ว ก็กล่าวลาทัง้ รอยยิม้ “หากมีเรื่องอันใดก็ให้
เด็กในโรงเตี๊ยมไปส่งข่าวที่รา้ นค้าด้านหน้าได้ คนบ้านเดียวกัน พบกันข้างนอกก็ควรให้ความ
ช่วยเหลือกัน ท่านอย่าได้เกรงใจไป”
อวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนรีบเอ่ยขอบคุณ ส่งเถ้าแก่รองถงออกจากประตูดว้ ยตัวเอง “รอสัก
สองวันคนของพวกเราดีขนึ ้ แล้ว ข้าจะไปขอบคุณกับนายท่านสามสกุลเผยอีกครัง้ ”
นี่ย่อมไม่ใช่เรื่องที่เถ้าแก่รองถงตัดสินใจได้
เขาตอบรับด้วยรอยยิม้ พูดว่า ‘ดูแลลูกสาวให้ดีๆ’ ก่อนจะกลับไปพักผ่อน
เมื่อรูว้ ่าอวีถ้ งั ไม่เป็ นอะไรแล้ว ใจที่แขวนกลางอากาศของอวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนก็รว่ งลง
มา อวีห้ ย่วนถึงขนาดกล่าวหยอกล้อนาง “ใครใช้ให้เจ้าไม่รูจ้ กั บันยะบันยัง ยามนีค้ งรูจ้ กั ควบคุม
แล้วกระมัง?”
323

อวีถ้ งั นอนมองอวีห้ ย่วนอย่างไร้เรี่ยวแรงอยู่ตรงนัน้


อวีห้ ย่วนรูส้ กึ ว่านางน่าสงสารอยู่บา้ ง เดินไปรินนํา้ ร้อน ก่อนจะพยุงนางขึน้ ดื่มนํา้
อวีถ้ ังปิ ดปากแน่น กล่าวขอร้องกับญาติผูพ้ ่ีอย่างน่าสงสาร “ข้าดื่มนํา้ ไปสองกาแล้ว
หากดื่มอีก ท้องคงกลายเป็ นถุงหนังใส่นา้ํ แล้ว”
“สมนํา้ หน้า!” อวีเ้ หวินได้ยินก็กล่าวยิม้ ๆ “ใครใช้ให้เจ้าไม่เชื่อฟั ง?”
อวีถ้ งั เถียงกลับเสียงดัง “ข้าไม่เชื่อฟั งหรือท่านไม่ได้กาํ ชับข้า ข้าจะไปรูไ้ ด้อย่างไรว่าของ
พวกนัน้ จะร้ายแรงขนาดนี ้ ข้ากลับไปจะรายงานท่านแม่ บอกท่านแม่ว่าท่านพาข้าออกมา กลับ
ไม่ดแู ลข้า ให้ขา้ กินซีซ้ วั้ ”
“เจ้ากล้ารึ!” อวีเ้ หวินไม่อยากให้เฉินซื่อเดือดเนือ้ ร้อนใจจริงๆ “หากเจ้ากลับไปกล้าปริ
ปากฟ้องแม่เจ้าแม้แต่คาํ เดียว คราวหลังข้าไปไหนก็จะไม่พาเจ้าไปด้วยอีกแล้ว”
อวี ถ้ ัง ส่ง เสีย งในลํา คอแสดงความไม่ พ อใจ จากนั้น ก็ ต่อ รองกับบิด า “เช่น นั้น ท่า น
กลับไปก็อย่าบอกว่าข้ากินอาหารจากตลาดกลางคืนจนปวดท้อง”
อวีเ้ หวินงงงัน
อวีห้ ย่วนหัวเราะ “ท่านอา ท่านตกหลุมพรางอาถังแล้ว นางไม่อยากให้ท่านบอกคนอื่น
ว่านางกินอาหารจากตลาดกลางคืนจนปวดท้อง”
อวีเ้ หวินหัวเราะขึน้ มา ดีดหน้าผากอวีถ้ งั “เจ้าเด็กมากเล่ห ์ ข้าและพี่ชายเจ้าจะปิ ดปาก
เงียบ เจ้าพอใจแล้วหรือยัง?”
“นี่คอ่ ยใช้ได้หน่อย!” อวีถ้ งั พึมพําเสียงเบา เพราะดื่มนํา้ มากจึงอยากเข้าห้องนํา้ อีกครัง้
อวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนพากันหัวเราะ ขอเถ้าแก่เนีย้ ของโรงเตี๊ยมให้ช่วยดูแลอวีถ้ งั ก่อน
จะกลับห้องของตัวเอง
324

พลิกกายไปมาอยู่ค่อนคืน ยามที่ฟ้าใกล้สว่างอวีถ้ ังจึงเพิ่งจะหลับสนิท รอจนนางตื่น


ขึน้ มา ถูกความหิวประท้วงจนตื่นยังไม่วา่ แต่อวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนกลับไม่อยู่ในโรงเตีย๊ มอีก
เถ้าแก่เนีย้ เป็ นหญิงอายุประมาณสี่สิบปี ใบหน้าเปี่ ยมไปด้วยความจริงใจ ยกนํา้ ร้อน
เข้ามาให้นางด้วยรอยยิม้ “เจ้าดื่มนํา้ สักหน่อย ยามที่บิดาและพี่ชายเจ้าออกไปเอาแต่กาํ ชับ
พวกเราซํา้ แล้วซํา้ เล่าว่า ไม่อาจให้เจ้ากินอะไร ดื่มได้เพียงนํา้ เท่านัน้ เจ้าอดทนเสียหน่อยเถิด
พรุง่ นีก้ ็ดีขนึ ้ แล้ว”
อวีถ้ ังรู ส้ ึกว่าตัวเองใกล้จะกลายเป็ นถุงหนังเก็บนํา้ แล้ว ในท้องล้วนมีแต่นา้ํ ขยับนิด
หน่อยก็ส่ นั กระเพื่อม นางปฏิเสธนํา้ จากเถ้าแก่เนีย้ กล่าวถามแทน “ท่านรู ห้ รือไม่ว่าพ่อและ
พี่ชายข้าไปที่ใด?”
“เห็นบอกว่าออกไปเดินเล่น” เถ้าแก่เนีย้ ก็ไม่ฝืนใจนาง วางนํา้ อุน่ ไว้ท่ีต่งั ตัวเล็กข้างเตียง
นางด้วยรอยยิม้ “บอกว่าหากเจ้าตื่นแล้ว ก็ให้พกั ผ่อนอยู่ท่ีน่ี ตอนเย็นพวกเขาจะกลับมา”
หรือไปหาอาจารย์สกุลเฉียนผูน้ นั้ ?
อวีถ้ งั ไม่กล้าถามมากความ กลัวจะถูกคนอื่นรู ค้ วามลับ กล่าวเป็ นมารยาทกับเถ้าแก่
เนีย้ ของโรงเตีย๊ มไม่ก่ีคาํ ก็แสร้งหาวหวอดขึน้ มา
เถ้าแก่เนีย้ เห็นก็หยัดกายขึน้ บอกลาทันที “ท่านพักผ่อนเถิด มีเรื่องอะไรก็เรียกหาข้า
ตรงๆ”
อวีถ้ งั ขอบคุณเถ้าแก่เนีย้ รอจนเถ้าแก่เนีย้ จากไป นางก็ย่ิงรูส้ กึ หิวกว่าเก่า น่าเสียดายที่
ไม่อาจกินอะไรได้
นางนับเงิน ที่ ม ารดาแอบบิ ดาเอาใส่ก ระเป๋ าให้น างก่อนออกจากบ้า น คิ ดว่า ครัง้ นี ้
เสียเปรียบจริงๆ
บิดาและพี่ชายไม่อยู่ นางไม่อาจวิ่งเต้นไปทั่วได้ ขังตัวเองอยู่ในโรงเตี๊ยมนั่งนิ่งอยู่ค่อน
วัน จู่ๆ ก็รูส้ กึ ว่าตัวเองคล้ายจะย้อนกลับไปมีชีวิตเหมือนอยู่ในคุกของสกุลหลี่ชาติก่อน…เพราะ
325

นางเคยรับปากสกุลหลี่ว่าจะครองพรหมจรรย์ นางจึงควบคุมตัวเองอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ถึง
จุด หมาย ตั้ง ใจกับ ทุก อย่า ง ระมัด ระวัง ทุก สิ่ ง นางรัก ษาสัญ ญา แต่ส กุล หลี่ ก ลับทรยศต่อ
คําพูด…นึกถึงเรื่องพวกนี ้ ความไม่พอใจที่ถูกนางกดไว้ขา้ งในเหล่านัน้ ก็คล้ายจะแตกทะลัก
สาดซัดรุนแรงอย่างไม่อาจหยุดยัง้
นางไม่อาจนั่งนิ่งอยู่ท่ีน่ีแบบนี ้
นางอยากออกไปเดินข้างนอก
ไม่ก็หาเรื่องอะไรให้ตวั เองทําสักหน่อย
ชาติก่อน นางสลัดคืนวันที่กลัดกลุม้ พวกนัน้ ไปได้อย่างไรนะ?
ทําปิ่ นดอกไม้
ใช่แล้ว ทําปิ่ นดอกไม้
ทําปิ่ นดอกไม้หลากหลายรูปแบบ
ยามที่นางรับปากสกุลหลี่ คิดว่าเรื่องราวนัน้ ง่ายดาย คิดว่าชีวิตคนผ่านไปไม่ก่ีสิบปี
พริบตาเดีย วกับล่ว งลับดับขัน ธ์แ ล้ว หากสามารถตอบแทนบุญคุณของครอบครัว ลุง ใหญ่
ครอบครัวทัง้ สองของพวกเขามีครอบครัวหนึ่งที่สามารถปี นขึน้ ฝั่งได้ นางเหน็ดเหนื่อยเสียหน่อย
จะเป็ นไรไป? รอจนนางเริ่มครองพรหมจรรย์จริงๆ จึงค่อยเข้าใจ ที่แท้วันเวลานัน้ ผ่านพ้นไป
อย่างลําบากยากเข็ญ จากฟ้ามืดรอฟ้าสว่าง จากฟ้าสว่างคอยให้ฟา้ มืด จากแสงอาทิตย์สอ่ งทั่ว
ฟ้านั่งจนตะวันรอนลาลับ สิบห้านาที หนึ่งชั่วยาม นับให้ผ่านพ้นไป นางรูส้ กึ ว่าไม่รูจ้ ะทําอย่างไร
ต่อไปกับชีวิต มักจะหงุดหงิดใจ ทําเรื่องอะไรก็ทาํ ได้ไม่ดี ทัง้ ไม่อยากทํา ปลูกดอกไม้ ปั กผ้า ทอ
เสือ้ ล้วนทํามาหมดแล้ว ก็ยงั คงรูส้ กึ แย่
จวบจนถึงเทศกาลไหว้บ๊ะจ่างในปี หนึ่ง สาวใช้ท่ีช่ือไป๋ ซิงของสกุลหลี่ผนู้ นั้ แอบเอาปิ่ น
ดอกไม้กาํ มะหยี่สีแดงกํ่ามาให้นาง ยังกระซิบกับนางว่า “ข้ารูว้ ่าท่านไม่อาจสวมได้ แต่ท่านเก็บ
ไว้ได้ หากว่างๆ ก็ควักออกมาชมเล่น”
326

นั่นเป็ นปิ่ นดอกไม้ท่ีแสนจะธรรมดา


ทําเป็ นรูปแบบดอกซานฉา 1 77

ขนาดประมาณถ้วยสุราเล็กๆ
ลวดที่ทาํ เป็ นก้านดอกไม้นนั้ พันระเกะระกะ ปรากฏให้เห็นสนิมประปราย
ไม่มีความบรรจงประณีต
หากเป็ นยามที่นางอยู่บา้ นเกิด คาดว่าซวงเถาก็คงไม่ซอื ้ มาเช่นกัน
แต่ก็มีเพียงดอกนีท้ ่ีนางมักหยิบขึน้ มาดูบอ่ ยๆ
กลีบดอกไม้สีแดงกํ่า แฝงด้วยขนกํามะหยี่บางเบา คาดไม่ถึงว่าจะค่อยๆ บรรเทาความ
หงุดหงิดใจของนาง
นางเริ่มใช้ผา้ ไหมพันรอบก้านดอกไม้ท่ีขึน้ สนิม ใช้ผา้ ใยป่ านสีเขียวทํากลีบเลีย้ งให้
ดอกไม้…ภายหลัง นางก็เริม่ ทําปิ่ นดอกไม้ให้พวกสาวใช้
ผ้าหังโฉว 2 ผ้ากํามะหยี่ ผ้าปั กด้ายทอง ผ้าทอเนือ้ หยาบ ผ้าฝ้ายเนือ้ นิ่ม…ดอกติงเซียง 3
78 79

ดอกอวีจ้ าน 4 ดอกมะลิ ดอกโบตั๋น…ขนาดเท่าถ้วยสุราเล็กๆ ขนาดเท่าฝาแก้ว ขนาดเท่าเล็บ


80

มือ…ร้อยด้วยมุกทองแดง มุกเงิน ลูกปั ดหลากสี…ภายหลังถึงขัน้ เอาของปลอมมาปนของจริง


ในเดือนหกได้ทาํ ดอกอวีห้ ลันไปแขวนบนต้นการบูร…
นางใช้เวลาส่วนมากหมดไปกับการทําปิ่ นดอกไม้
อวีถ้ งั ปิ ดหน้าตัวเอง

1
ดอกซานฉา ดอกคามิเลีย
2
ผ้าหังโฉว ผ้าไหมชนิดหนึ่งของหังโจว เนือ้ ผ้าบางและนุ่ม
3
ดอกติงเซียง ดอกไลแลค
4
ดอกอวีจ้ าน มีสีขาว ลักษณะคล้ายกับดอกซ่อนกลิ่น
327

ตั้งแต่กลับมาเกิ ดอีกครัง้ นางรู ส้ ึกว่าตัวเองควรจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ลืมเรื่องในอดีต


ทัง้ หมดให้เสียสิน้
โดยเฉพาะความคุน้ ชินที่บม่ เพาะขึน้ ในสกุลหลี่
นางไม่ได้แตะต้องปิ่ นดอกไม้อีก ไม่ได้ตามไปล้างแค้นสกุลหลี่ กระทั่งอารามดับทุกข์ท่ี
ตัวเองตาย นางก็ไม่เคยไปดูสกั ครัง้
แต่บางเรื่องเกิดขึน้ แล้วก็คือเกิดขึน้ แล้ว สลักลึกอยู่ในใจนาง หลอมรวมกับเลือดเนือ้
ภายใน
นางไม่อาจเปลี่ยน ไม่อาจลบเลือน
อวีถ้ งั อยากทําปิ่ นดอกไม้อนั หนึ่ง
ดอกเล็กๆ สีชมพู ทํากลีบดอกซ้อนเป็ นชัน้ แบบดอกซานฉา มีแมลงตัวเล็ก ขนาดเท่าถั่ว
เขียว ดูมีชีวิตเสมือนจริง เกาะอยู่บนดอกซานฉา ปั กที่บนผมของนาง
นั่นเป็ นการแต่งกายของชาติก่อน ทว่านับตัง้ แต่หลี่จวิน้ ตาย นางก็ไม่ได้แต่งอีกเลย
อวีถ้ งั ในเวลานีค้ ล้ายกับนักเดินทางที่กระหายนํา้ ไม่อาจข่มกลัน้ ต่อความปรารถนาใน
ใจได้
นางหยัดกายขึน้ สางผมแต่งตัว
มองหญิงสาวในกระจกทองเหลืองที่มีแววตาสุกสกาวดุจดวงดารา ใสกระจ่างราวกับ
สามารถส่องสว่างบนท้องนภาในยามราตรี
นางค่อยๆ เสียบปิ่ นดอกไม้ลกู ปั ดให้ตวั เอง สวมหมวกเหวยเม่า 5 ก่อนจะลุกไปหาเถ้า
81

แก่เนีย้ “แถวๆ นีม้ ีพวกผ้าไหม ลวดทองแดงขายที่ไหนบ้าง? ข้าอยากทําปิ่ นดอกไม้เสียหน่อย”

5
หมวกเหวยเม่า หมวกที่มีผา้ ตาข่ายคลุมทุกด้าน ยาวจนถึงลําคอ ปิ ดบังใบหน้าเอาไว้
328

เถ้าแก่เนีย้ รู ว้ ่านางเป็ นบุตรีสกุลบัณฑิต ส่วนมากสกุลบัญฑิตล้วนต้องการให้สตรีใน


บ้านเย็บปั กถักร้อย ใช้ความรู ท้ าํ มาหากิน นางเพียงมองอวีถ้ งั ด้วยความเห็นใจ ก่อนจะชีไ้ ปที่
ถนนเล็กด้านนอก “จากที่น่ีออกไปเจอสี่แยกให้เลีย้ วซ้าย ตรอกเส้นนัน้ ขายปิ่ นดอกไม้ หวีผม
ผ้าเช็ดหน้า กระเป๋ าเหอเปา 6 เต็มไปหมด”
82

ไม่เพียงมีของพวกนีข้ าย แต่ยงั มีวสั ดุท่ีทาํ ของพวกนีข้ ายด้วย


มีรา้ นที่รบั ของเหล่านี ้ ทัง้ มีพอ่ ค้าต่างถิ่นที่ขายของพวกนีเ้ ช่นกัน
เถ้าแก่เนีย้ คิดว่าสกุลพวกเขาและสกุลเผยคุน้ เคยกัน จึงเรียกบ่าวใช้คนหนึ่งตามนางไป
ด้วย “ให้เขาช่วยยกข้าวของ คอยนําทาง” เจอพวกลามกบ้ากาม จะได้ช่วยข่มขู่หรือไปเรียกคน
มาช่วยได้
อวีถ้ งั ขอบคุณซํา้ แล้วซํา้ เล่า ก่อนจะออกไปข้างนอกโดยมีบา่ วผูน้ นั้ คอยนําทาง
เสียเงินไปสามตําลึง ใช้เวลาไปครึ่งวัน นางซือ้ ลวดทองแดงหนึ่งม้วนใหญ่ มุกทองมุก
เงิน ลูกปั ดหลากสี ทัง้ เศษผ้าประเภทต่างๆ กองหนึ่งกลับมา
ดื่มนํา้ เล็กน้อย ก่อนนางจะนั่งอยู่ตรงบานหน้าต่างเริม่ ทําปิ่ นดอกไม้
อุปกรณ์ท่ีคนุ้ เคย วัสดุท่ีคนุ้ ชิน สีสนั ที่คนุ้ ตา…ใจของอวีถ้ งั ค่อยรู ส้ ึกสงบลงมา ไม่รูส้ ึก
ถึงความเหน็ดเหนื่อย ทัง้ ไม่รูส้ กึ หิวเช่นกัน

6
กระเป๋ าเหอเปา กระเป๋ าเล็กๆ ที่ปักลวดลายสวยงาม มักพกติดตัวเพื่อใช้ใส่ของกระจุกกระจิก
329

ตอนที่ 40 เปิ ดเผย


แสงสว่างในห้องเริม่ มืดลงโดยไม่รูเ้ นือ้ รูต้ วั เวลานีอ้ วีถ้ งั พบว่าตะวันคล้อยลงแล้ว
นางหยัดกายขึน้ ขยีต้ าที่ปวดอยู่บา้ ง ก่อนจะออกจากประตู เรียกบ่าวรับใช้คนหนึ่งเข้า
มาถาม “นายท่านอวีแ้ ละคุณชายอวีก้ ลับมาหรือยัง?”
“ยังขอรับ!” บ่าวผูน้ นั้ ตอบ ก่อนอวีถ้ งั จะเห็นเถ้าแก่รองถงเดินเข้ามา
เขาและเถ้า แก่ ใ หญ่ ถ งคล้า ยกัน มาก ไม่ ใ ช่ รู ป ลัก ษณ์ แต่เ ป็ น กิ ริย าท่ า ทาง ต่า งให้
ความรูส้ กึ เป็ นมิตรและรูจ้ กั พูดจา
เถ้าแก่ของโรงเตีย๊ มกําลังจัดการบัญชีอยู่ท่ีโต๊ะด้านหน้า
เขาถามเถ้าแก่ของโรงเตี๊ยม “เถ้าแก่เนีย้ ไม่อยู่ร?ึ คุณหนูสกุลอวีเ้ ป็ นอย่างไรบ้าง? ข้า
ตัง้ ใจจะเข้ามาถามนานแล้ว ปรากฏว่าวันนีท้ ่ีรา้ นกลับยุ่งวุน่ วาย ไม่มีเวลาให้ปลีกตัว”
ธรรมเนียมระหว่างชายหญิงนัน้ เข้มงวด
เถ้าแก่ของโรงเตี๊ยมก็ไม่อาจไปเยี่ยมดูอวีถ้ งั เช่นกัน “คงจะไม่เป็ นไรแล้วกระมัง? ก่อน
หน้านีย้ งั ได้ยินจากเด็กในโรงเตี๊ยมว่าคุณหนูสกุลอวีอ้ อกไปซือ้ ของมา…ไปเดินเล่นได้ คงจะดี
ขึน้ ไม่นอ้ ยแล้ว” แต่แท้จริงแล้วดีหรือไม่ เขาก็ไม่รูเ้ ช่นกัน พูดจบ เขาก็ให้คนเรียกเถ้าแก่เนีย้
ออกมา
เถ้าแก่เนีย้ กล่าวด้วยรอยยิม้ “ดีขึน้ แล้ว ดีขึน้ แล้ว! เพียงแค่ไม่ค่อยมีชีวิตชีวา แต่ไม่ว่า
ใครไม่ได้กินอะไรทัง้ วันก็คงจะไม่มีชีวิตชีวาด้วยกันทัง้ นัน้ !”
“เช่นนัน้ ก็ดี” เถ้าแก่รองถงมีท่าทีโล่งใจ “นายท่านสามของพวกเรารูว้ า่ ข้าใช้ปา้ ยชื่อของ
เขาเชิญหมอมารักษาคุณหนูอวีแ้ ล้ว ถึงเวลานัน้ หากนายท่านสามเอ่ยถามเรื่องสกุลอวีข้ ึน้ มา
ข้าก็รูแ้ ล้วว่าควรจะตอบอย่างไร!” จากนัน้ เขาก็ถามถึงอวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วน จึงรูว้ ่าพวกเขาทัง้
สองออกไปแต่เช้าตรู ่ ยังไม่ได้กลับมา “เช่นนัน้ ข้าก็ไม่ไปเยี่ยมคุณหนูอวีแ้ ล้ว หากนายท่านและ
คุณชายอวีก้ ลับมา ท่านช่วยแจ้งให้พวกเขาหน่อย พรุง่ นีข้ า้ จะมาเยี่ยมพวกเขาอีกครัง้ ”
330

เถ้าแก่และเถ้าแก่เนีย้ รับปาก ก่อนจะส่งเถ้าแก่รองถงออกไป


อวีถ้ งั ก็อายเกินกว่าจะออกไปทักทาย จึงย้อนกลับไปในห้องตัวเอง

ยามที่ฟ้ามืด อวีเ้ หวินก็กลับมาเป็ นคนแรก


เขามีสีหน้าเหนื่อยล้า ยามที่เถ้าแก่ทักทายเขา รอยยิม้ ของเขาก็ดูฝืนไปอยู่บา้ ง เขา
พูดคุยกับเถ้าแก่พอเป็ นมารยาทไม่ก่ีคาํ ก็กลับห้องไป
อวีถ้ งั ได้ยินความเคลื่อนไหว ก็ไปห้องของบิดา
“นั่งเถิด!” แววตาของอวีเ้ หวินแฝงความอ่อนล้า ราวกับมาจากก้นบึง้ ในใจ เขานวดขมับ
“เจ้าไม่มาหาข้า ข้าก็เตรียมจะไปดูเจ้าอยู่แล้ว วันนีเ้ จ้าเป็ นอย่างไรบ้าง? ยังปวดท้องอยู่หรือไม่?
ยามที่พวกเราไม่อยู่ เจ้าทําอะไรในโรงเตีย๊ มคนเดียว?”
อวีถ้ งั ค่อยๆ ตอบไล่เลียงไป จากนัน้ ก็รนิ ชาร้อนให้บิดา เวลานีจ้ งึ ค่อยนั่งลงด้านข้างเขา
“ท่านไปเจอเรื่องอะไรมาใช่หรือไม่?”
อวีเ้ หวินพยักหน้า ยกถ้วยชาแต่กลับไม่ได้ด่ืมชา นั่งมองอวีถ้ งั อย่างนิ่งงัน แววตาดิ่งลึก
เห็นได้ชดั ว่าว่ามีทา่ ทีจริงจัง
อวีถ้ งั ใจเต้นตึกตัก
ตามแผนก่อนหน้านีข้ องพวกเขา เพื่อไม่ให้ตกเป็ นเป้าสนใจของผูค้ น บิดาของนางจะ
ไปสื บ เรื่อ งของหลู่ซิ่ น ดูว่ า การตายของหลู่ซิ่ น มี อ ะไรผิ ด ปกติ ห รือ ไม่ ส่ว นอวี ห้ ย่ ว นก็ ไปหา
อาจารย์สกุลเฉียนผูน้ นั้ ดูว่าเขาจะสามารถแกะภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ ได้หรือไม่ ยาม
นีอ้ วีห้ ย่วนยังไม่กลับมา ไม่รูว้ ่าอาจารย์สกุลเฉี ยนผูน้ ั้นให้คาํ ตอบอย่างไรกับเขา แต่ดูจากสี
หน้าอวีเ้ หวินแล้ว คงจะไม่ใช่ข่าวดีอะไร
นางรวบรวมสติ รอบิดาไตร่ตรองว่าจะพูดเรื่องนีก้ บั นางอย่างไร
331

คาดไม่ถึงว่าอวีเ้ หวินจะเงียบไปเนิ่นนาน เวลานีจ้ ึงเอ่ยว่า “อาถัง เจ้าถูกแล้ว! การตาย


ของลุงหลูเ่ จ้านัน้ เกรงว่าจะเป็ นอย่างที่เจ้าคาดเดา!”
ได้รบั ข้อมูลเช่นนี ้ อวีถ้ งั กลับรูส้ กึ สบายใจขึน้ มา นางกล่าว “หรือลุงหลูถ่ กู คนทําร้ายจน
ตาย?”
“ไม่รูว้ ่าถูกคนทําร้ายจนตายหรือไม่ แต่ตามหลักเหตุผลแล้ว เขาไม่ควรตายเช่นนี”้ อวี ้
เหวินบอกอวีถ้ งั เกี่ยวกับเรื่องที่เขาสืบมาได้อย่างละเอียด “ก่อนหน้าที่ลงุ หลูจ่ ะตาย ยังติดหนีค้ า่
ห้องของโรงเตี๊ยมและค่าสุราของร้านอาหารเล็กๆ ในตรอก นอกจากนีเ้ ขาเพิ่งจะผูกมิตรกับ
ผูต้ รวจการศึกษาที่ขึน้ รับตําแหน่งใหม่ ได้ยินเถ้าแก่ของโรงเตี๊ยมผูน้ ัน้ กล่าวว่า เขาได้รบั การ
แนะนํา จากผู้ตรวจการศึก ษาคนนั้น อี ก สองวัน ก็ จ ะไปเรีย นหนังสือที่ ก๋ ัว จื่อเจี ย้ น 1 ในเมื อง
83

หลวง…”
อวีถ้ งั ขมวดคิว้ “เป็ นไปได้หรือไม่วา่ หลูซ่ ิ่วไฉจะคุยโว?”
“ไม่ว่าจะโม้โอ้อวดหรือไม่ แต่ท่ีเขาเตรียมตัวไปเมืองหลวงคือเรื่องจริง” อวีเ้ หวินกล่าว
“เขายังไปขอยืมเงินจากคนรู จ้ ักหลายคน คิดจะจัดการค่าที่พักและค่าสุราให้เรียบร้อย ทาง
โรงเตีย๊ มยังพอว่า แต่เถ้าแก่รา้ นอาหารผูน้ นั้ ได้ยินว่าเขาจะไปแล้ว กลัวว่าเขาจะเบีย้ วเงินค่าสุรา
หนีไป จึงส่งลูกชายของตัวเองติดตามลุงหลูอ่ ยู่ตลอด เถ้าแก่รา้ นอาหารผูน้ นั้ บอกว่า เย็นวันนัน้
ลูกชายของเขาเห็นกับตาว่าลุงหลูข่ องเจ้ากลับไปพักผ่อนที่โรงเตีย๊ มแล้ว กลัวว่าลุงหลูเ่ จ้าจะถูก
คนเรียกออกไปเที่ยวเล่นกลางดึก ลูกชายเถ้าแก่รา้ นอาหารรอจนถึงกระทั่งเสียงตีกลองบอก
เวลายามสอง 2 เมื่อเฝ้าไม่ไหวจริงๆ จึงค่อยกลับไป”
84

“ใครจะรูว้ ่าเช้าตรูข่ องวันที่สอง กลับพบว่าลุงหลู่ของเจ้าจมนํา้ ตายในแม่นา้ํ เถาฮวาไม่


ไกลจากโรงเตีย๊ ม”

1
กั๋วจื่อเจีย้ น คือสํานักศึกษาระดับสูงสุด ทัง้ เป็ นหน่วยงานบริหารการศึกษาในสมัยโบราณ
2
ยามสอง เวลาประมาณ 21:00 – 22:59 น.
332

“ข้าก็ได้ถามจากเถ้าแก่โรงเตีย๊ มเช่นกัน เถ้าแก่โรงเตีย๊ มสาบานอย่างจริงใจว่าไม่เห็นลุง


หลูเ่ จ้าออกไป”
อวีถ้ งั สั่นสะท้านในใจ
อวีเ้ หวินก็มีท่าทีหดหู่เช่นกัน
ทัง้ สองคนล้วนรูส้ กึ ว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี ไม่กล้าสืบต่อไป กลัวจะแหวกหญ้าให้งตู ่ืน
ทัง้ ไม่กล้าแสร้งทําเป็ นไม่รูอ้ ะไร รอให้ภยั ร้ายมาเคาะถึงประตูแบบนีเ้ ช่นกัน
ชั่วขณะนัน้ สองพ่อลูกต่างก็อบั จนหนทาง
อวีเ้ หวินทําได้เพียงปลอบใจตัวเอง “บางทีพวกเราอาจจะคิดซับซ้อนเกินไป รออาหย่วน
กลับมาค่อยว่ากันเถิด”
คนทําการค้าอย่างอาจารย์เฉียน ปกติก็ลว้ นระมัดระวังคนแปลกหน้า วันนีอ้ วีห้ ย่วนเข้า
ไป ไม่ได้นาํ ภาพไปด้วย แต่ขอให้สหายคนหนึ่งที่มีความสัมพันธ์สว่ นตัวดีกบั อาจารย์เฉียนผูน้ นั้
เป็ นคนกลาง ลองขอให้อาจารย์เฉียนช่วยเหลือ
ส่วนจะสําเร็จหรือไม่ก็ยากจะพูด
อวีถ้ งั เห็นบิดาเศร้าโศกอยู่บา้ ง จึงกล่าวว่า “ท่านพ่อ ท่านยังไม่ได้กินข้าวเย็นกระมัง?
ข้าให้เถ้าแก่เนีย้ ยกอาหารขึน้ มาสักหน่อยดีหรือไม่เจ้าคะ วันนีโ้ รงเตี๊ยมทอดปลา ข้านั่งในห้อง
ยังได้กลิ่นหอมตลบอบอวล”
โรงเตีย๊ มแห่งนีม้ ีอาหารที่จดั ไว้ให้เป็ นเวลา ทัง้ สามารถสั่งอาหารขึน้ มาได้เช่นกัน
พวกอวีเ้ หวินไม่รูว้ ่าเรื่องราวจะเป็ นอย่างไร ไม่มีอาหารที่จดั ไว้แล้ว ทําได้เพียงสั่งขึน้ มา
เท่านัน้
“อย่างไรรออวีห้ ย่วนกลับมาก่อนเถิด!” อวีเ้ หวินกล่าวอย่างไม่มีอารมณ์ คล้อยหลังอวี ้
หย่วนก็กลับมา
333

เขากลับมีท่าทีกระปรีก้ ระเปร่า กล่าวอย่างดีใจ “ท่านอา อาจารย์เฉียนให้พวกเราไปพบ


พรุง่ นีเ้ ช้าตรู ่ ต้องดูภาพก่อนจึงจะให้คาํ ตอบที่แน่นอนกับพวกเราได้”
นี่นบั ว่าเป็ นข่าวดี
อวีเ้ หวินพยายามทําให้ตวั เองสดชื่นขึน้ มา แต่อวีห้ ย่วนยังคงมองออกถึงความผิดปกติ
อวีเ้ หวินก็ไม่ได้ปิดบังเขา เล่าความเป็ นมาของเรื่องราวให้อวีห้ ย่วนฟั ง
อวีห้ ย่วนมีสีหน้าเคร่งขรึม “เช่นนัน้ พรุง่ นีพ้ วกเราก็ตอ้ งระมัดระวังมากขึน้ หน่อย”
อวีเ้ หวินถอนหายใจ “กินข้าวเถิด! ความพยายามอยู่ท่ีคน ความสําเร็จอยู่ท่ีฟ้า 3 เรื่อง 85

ของพรุง่ นีก้ ็คอ่ ยว่ากันในวันพรุง่ นีเ้ ถิด”


อวีถ้ งั รีบไปสั่งอาหาร
กินข้าวเสร็จ เดิมทีตงั้ ใจจะไปตลาดกลางคืนของถนนเสี่ยวเหอ แต่ทกุ คนต่างก็ไม่มีกะ
จิตกะใจ จึงแยกย้ายกลับห้องพักของตนเอง
อวีถ้ งั ทําปิ่ นดอกไม้ตอ่ จนได้ยินเสียงกลองตีบอกเวลายามสาม 4 จึงล้มตัวลงนอน
86

ยามที่นางตื่นขึน้ มาอีกวัน ก็ได้ยินอวีเ้ หวินกําลังคุยกับเถ้าแก่โรงเตีย๊ ม ส่วนอวีห้ ย่วนนํา


ภาพวาดออกจากประตูไปนานแล้ว
แต่วา่ ครัง้ นีเ้ ขากลับมาค่อนข้างเร็ว
ก่อนเวลาอาหารกลางวันก็กลับมา ทัง้ ยังทิง้ ภาพไว้ท่ีอาจารย์เฉียน
สองตาของเขาเป็ นประกาย กล่าวเสียงเบากับอวีเ้ หวินและอวีถ้ งั “อาจารย์เฉียนดูภาพ
แล้ว กล่าวว่าภาพนีอ้ ย่างน้อยที่สดุ ยังสามารถแกะได้สามชัน้ ถามพวกเราว่าอยากจะแกะกี่ชนั้

3
ความพยายามอยู่ท่ีคน ความสําเร็จอยู่ท่ีฟ้า อุปมาว่า ฟ้าเป็ นสิ่งที่ไม่แน่นอน ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ ดังนัน้ พยายาม
ทําเรื่องของตัวเองให้ดีท่สี ดุ ก็พอ
4
ยามสาม เวลาประมาณ 23:00 – 24:59 น
334

ข้าคิดว่าอย่างไรก็ตอ้ งรบกวนเขาอยู่ดี จึงไม่ได้เกรงใจ เขาสามารถแกะได้ก่ีชนั้ ก็เอาตามนัน้ แต่


ว่า เงินนัน้ เยอะกว่าที่คยุ ไว้ตอนแรก เขาต้องการห้าตําลึง ตอนบ่ายพรุง่ นีถ้ ึงจะได้ของ”
ตัง้ แต่เมื่อวานที่อวีเ้ หวินรู เ้ รื่องการตายของหลู่ซิ่นก็จิตใจหม่นหมอง ฟั งจบก็ตอบรับ
สัน้ ๆ ว่า ‘ได้’ ก่อนจะเอาเงินให้อวีห้ ย่วน
อวีห้ ย่วนนําเงินไป ก่อนจะออกไปอีกครัง้
335

ตอนที่ 41 ขายหน้า
ยามบ่าย อวีห้ ย่วนกลับมา ทําตามแผนได้อย่างราบรื่น…ตอนนีก้ ็ตอ้ งรอดูทางอาจารย์
เฉียนว่าพบอะไรบ้างหรือไม่เท่านัน้
อวีเ้ หวินรอจนร้อนใจ จึงเล่นหมากรุ กฆ่าเวลากับเถ้าแก่ของโรงเตี๊ยม อวีห้ ย่วนก็น่ งั ไม่
ติดที่อยู่บา้ ง ทักทายอวีเ้ หวิน ก่อนจะไปเดินเล่นข้างนอก อยากดูว่ากิจการใดรุ ่งเรืองในเมือง
หังโจว ทุกคนทําการค้าขายอะไรกันบ้าง ทัง้ ดําเนินการอย่างไร
อวีถ้ งั ทําปิ่ นดอกไม้อยู่ในห้อง
มีคนเข้ามา “นายท่านอวีอ้ ยู่ท่ีน่ีหรือไม่?”
อวีเ้ หวินเงยศีรษะขึน้ “ผูใ้ ดมาหาข้ารึ!”
ผูท้ ่ีมาอายุประมาณสิบห้าสิบหกปี ปากแดงฟั นขาว แต่งกายคล้ายบ่าวติดตาม เขา
กล่าวด้วยรอยยิม้ “ข้าเป็ นบ่าวของนายท่านโจว นายท่านของพวกเราให้ขา้ มาดูว่าท่านอยู่
โรงเตีย๊ มหรือไม่” ขณะที่พดู ก็ว่งิ ไปแทบไม่เห็นฝุ่ น
อวีเ้ หวินกล่าวอย่างสงสัย “นายท่านโจว? นายท่านโจวคนใดกัน”
เขาพูดไม่ทนั จบ ก็เห็นบ่าวผูน้ นั้ เดินเข้ามาพร้อมกับโจวจื่อจินและเผยเยี่ยน
อวีเ้ หวินหัวเราะขึน้ มา รีบลุกขึน้ ไปต้อนรับ ประสานมือคารวะ “ข้าก็คิดว่าใคร? ที่แท้คือ
โจวจ้วงหยวน ท่านมาได้อย่างไรกัน? มีเรื่องอะไรกับข้างัน้ หรือ?” ก่อนจะคารวะเผยเยี่ยนเช่นกัน
เผยเยี่ยนยังคงมีท่าทีเยือกเย็น ผงกศีรษะไปทางอวีเ้ หวินอย่างเรียบนิ่ง
โจวจื่อจินกล่าว “ได้ยินว่าลูกสาวของท่านไม่สบาย? พวกเราควรมาเยี่ยมเมื่อวาน แต่
เมื่อวานข้านัดคนผูห้ นึ่งไปกินข้าวกลางวัน กินกันจนถึงบ่าย ข้าก็ด่ืมจนเมามาย ไม่อาจเสีย
มารยาทจึงไม่ได้เข้ามา เป็ นอย่างไร ลูกสาวท่านดีขนึ ้ หรือยัง? มีอะไรให้พวกเราช่วยหรือไม่?”
336

อวีเ้ หวินได้ยินก็ซาบซึง้ ใจ “ลูกของข้ากินของซีซ้ วั้ ได้นาํ ป้ายชื่อของนายท่านสามไป


เชิญหมอหลวงหวังมาดูแล้ว กล่าวว่าไม่เป็ นอะไร แค่ให้อดอาหารเท่านัน้ ทําให้ท่านทัง้ สองเป็ น
ห่วงแล้ว ข้าเตรียมจะไปขอบคุณที่สกุลเผยอีกสองวัน คาดไม่ถึงว่าท่านทัง้ สองจะเข้ามาก่อน
รูส้ กึ ผิดจริงๆ” พูดจบ ก็คารวะขอบคุณเผยเยี่ยน
เผยเยี่ยนไม่ได้กล่าวอะไร รับการคารวะจากอวีเ้ หวิน
อวีเ้ หวินกล่าว “โจวจ้วงหยวนและนายท่านเผยมีธุระที่ใดหรือไม่? มิสใู้ ห้ขา้ เป็ นเจ้ามือ
หาแผงลอยไม่ก็รา้ นอาหารใกล้ๆ สักแห่ง ข้าจะเลีย้ งสุราพวกท่านทัง้ สองเสียหน่อย”
โจวจื่ อ จิ น ตาใสกระจ่ า ง เห็ น ได้ชัด ว่ า สนใจเป็ น อย่ า งยิ่ ง ใครจะรู ว้ ่ า เผยเยี่ ย นที่ อยู่
ด้านข้างกลับชิงเอ่ยปากขึน้ มาก่อนเขา “ไม่เป็ นไร ยามนีท้ ่านคงจะมีธุระอีกมาก ภายหลังมี
โอกาสค่อยไปร่วมดื่มด้วยกันเถิด!”
อวีเ้ หวินเพียงคิดว่าเขาเกรงใจ นํา้ เสียงก็ย่ิงจริงใจขึน้ มา “เรื่องของภายหลัง ภายหลัง
พวกเราพบก็ค่อยว่ากันเถิด พวกท่านมาเยี่ยมลูกสาวของข้า ในใจข้าดีใจจนไม่รูจ้ ะพูดอย่างไร!
หากไปเช่นนี ้ ท่านจะให้ขา้ คิดอย่างไร? โดยเฉพาะนายท่านเผย เมื่อวานหากไม่ใช่ป้ายชื่อนัน้
ของท่าน ลูกสาวของข้าก็ยงั ไม่รูว้ า่ จะประสบพบเจอเรื่องอันใด!”
“นั่นเป็ นความบังเอิญ!” เผยเยี่ยนเอ่ยอย่างเรียบเย็น ดึงดันจะไป
โจวจื่อจินกลับอยากอยู่ต่อ แต่เห็นท่าทีของเผยเยี่ยน จึงทําได้เพียงออกหน้า “ไม่ได้
เกรงใจกับท่านจริงๆ วันนีพ้ วกเราเพียงเข้ามาดูลกู สาวของท่าน ในเมื่อลูกสาวของท่านไม่เป็ น
อะไร พวกเราก็คงต้องบอกลาแล้ว”
แน่นอนว่าอวีเ้ หวินไม่อาจปล่อยให้พวกเขาไปเช่นนีไ้ ด้จงึ รัง้ ทัง้ สองคนไว้ไม่ปล่อย
โจวจื่อจินจนใจ “ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่ไว้หน้าท่าน จริงๆ แล้ว สยากวง เขา…ลูกสาวท่าน
กินจนปวดท้อง เพราะเหตุนีเ้ ขาจึงขัดขวางข้า ไม่ให้ขา้ ไปตลาดกลางคืนตรงถนนเสี่ยวเหอ…”
ท่าทีเสียใจเป็ นอย่างยิ่ง
337

เพียงแต่เขาพูดยังไม่ทนั จบ ก็ได้ยินเสียงปิ ดประตูดงั ‘ปั ง’ มาจากห้องพักชัน้ สอง


ทุกคนอดไม่ได้ท่ีจะหันไปมองอย่างพร้อมเพรียง
เห็นเพียงประตูหอ้ งที่ปิดสนิท
อวีเ้ หวินครุน่ คิด เอ่ยด้วยรอยยิม้ “น่าจะลูกสาวของข้า ขอโทษจริงๆ!”
“ไม่หรอก ไม่หรอก!” โจวจื่อจินยังคงมีรอยยิม้ อยู่เต็มหน้า
แววตาของเผยเยี่ยนตัง้ แต่ตน้ จนจบกลับไม่เคลื่อนไหวแม้แต่นอ้ ย
อวีถ้ งั ที่อยู่ในห้องหน้าแดงกํ่า กัดเล็บมือวนอยู่อย่างนัน้
ไม่ใช่ว่าเผยเยี่ยนมาพบผูต้ รวจการอะไรนั่นหรอกหรือ? วิ่งมาที่น่ีทาํ ไมกัน? สะพาน
เหมยเจียกับโรงเตีย๊ มหรูอนี ้ นั้ อยู่กนั แทบจะคนละทิศละทาง
แต่วา่ โรงรับจํานําสกุลเผยอยู่ท่ีน่ี
หรือเขามาทําธุระที่โรงรับจํานําสกุลเผย พอผ่านมาก็ถกู โจวจ้วงหยวนลากมาด้วย?
ไฉนนางจึงไม่ได้นกึ ถึงจุดนี!้
ช่างขายหน้าเหลือเกิน!
กินอาหารมั่วซั่วจนปวดท้อง
นี่ก็ทาํ ให้เผยเยี่ยนหัวเราะได้ทงั้ ชีวิตเลยกระมัง?
อวีถ้ งั รูว้ า่ ตัวเองไม่มีหน้าจะไปพบผูค้ นแล้ว
โดยเฉพาะเมื่อครู…
่ ได้ยินคนเรียกบิดาของนาง ก่อนจะวิ่งออกไป ผลปรากฏว่านางเห็น
เผยเยี่ยนจึงหุนหันไปชั่วครู ่ ยามที่ปิดประตูจงึ ลืมนึกถึงความเหมาะสม เกิดเสียงดังขึน้ มา…นาง
อยากจะมุดดินหนีจริงๆ!
338

อวีถ้ งั รูส้ กึ หงุดหงิดใจเป็ นที่สดุ จู่ๆ ก็รูส้ กึ ดีใจที่ตวั เองยังอยู่ในช่วงอดอาหาร


เป็ นเช่นนีน้ างก็สามารถหลบอยู่ในห้องไม่ออกไปได้
อวีถ้ งั รู ส้ ึกโล่งใจขึน้ มา คิดว่าตัวเองควรเอาปิ่ นดอกไม้ออกมาทําดีๆ หากทําได้เร็ว ไม่
แน่วา่ ยังอาจจะทําให้ท่านแม่ได้อีกหนึ่งอัน
แต่ถือเข็มไว้ในมือ ผ่านไปพักใหญ่นางกลับไม่รูว้ ่าควรจะเย็บที่ใด ในหัวสับสนวุ่นวาย
ไม่ รู ้ว่ า กํ า ลั ง คิ ด อะไรอยู่ แม้ จ ะรู ้ดี ว่ า ตั ว เองทํา เช่ น นี ้ไ ม่ ถู ก กระนั้ น กลั บ ทํา ให้ ตั ว เอง
กระปรีก้ ระเปร่าขึน้ มาไม่ได้ คิดว่าใครไม่แอบขีเ้ กียจบ้างกัน นางรออีกเดี๋ยวค่อยเร่งทําก็คงไม่
สาย
คิดได้เช่นนี ้ รอจนยามที่นางดึงสติกลับมา ตะวันก็คล้อยแล้ว เถ้าแก่เนีย้ ยกนํา้ อุ่นเข้า
มาให้นาง
เวลานีอ้ วีถ้ งั รูส้ กึ ว่าตัวเองหิวจนแทบนั่งตัวตรงไม่ได้
นางกล่าวอย่างเร่งรีบ “ท่านพ่อข้าเล่า?”
“เล่นหมากรุ กกับสามีขา้ อยู่ดา้ นล่าง” เถ้าแก่เนีย้ ยิม้ หวาน กล่าวอย่างอิจฉา “เมื่อวาน
ยามที่ขา้ เห็นเถ้าแก่รองถงถือป้ายชื่อของนายท่านเผยเข้ามาก็คิดไปทีหนึ่งแล้ว สกุลพวกเจ้า
และสกุลเผยช่างมีความสัมพันธ์ท่ีดีต่อกัน คาดไม่ถึงว่าวันนีน้ ายท่านเผยจะมาเยี่ยมไข้ดว้ ย
ตัวเอง สกุลของพวกเจ้าก็คงเป็ นคนที่มีหน้ามีตาในหลินอันกระมัง? นายท่านอวีก้ ลับดูสมถะ
เรียบง่าย สมแล้วที่เป็ นสกุลบัณฑิต ทําการอันใดก็ออ่ นน้อมสุภาพ”
อวีถ้ งั ชะงักไป
บิดาของนางไม่ได้เชิญเผยเยี่ยนไปกินข้าวหรอกรึ?
นางอดถามไม่ได้ “ท่าน ท่านก็รูจ้ กั นายท่านสามสกุลเผยหรือ?”
339

“รูจ้ กั สิ จะไม่รูจ้ กั ได้อย่างไร!” เถ้าแก่เนีย้ กล่าวด้วยรอยยิม้ “คนแถวนีใ้ ครจะไม่รูจ้ กั นาย


ท่านสามกัน! พวกเราล้วนพึ่งพาอาศัยสกุลเผยในการทํามาหากิน โรงเตี๊ยมนีข้ องพวกเราก็เช่า
ของสกุลเผยมาเช่นกัน ถนนเส้นนัน้ ที่เจ้าไปซือ้ ปิ่ นดอกไม้ไข่มกุ ก็เป็ นของสกุลเผยเช่นกัน แต่ว่า
นายท่านสามกลับเป็ นครัง้ แรกที่มาหาพวกเราที่น่ี นายท่านสามหน้าตาหล่อเหลาไม่เบา! ครัง้ ที่
แล้วพบเขา ท่านผูเ้ ฒ่ายังอยู่ในช่วงอายุท่ีรุ่งโรจน์ เขาก็อายุเพียงสิบสามสิบสี่ ท่านผูเ้ ฒ่ามา
ตรวจสอบบัญชีท่ีโรงรับจํานํา เขามีท่าทีราวกับไม่ชอบใจเท่าใด จึงนั่งรอบนรัว้ หินริมแม่นา้ํ ด้าน
นอก ทุกคนต่างไม่เคยพบคนที่รูปงามราวเทพบุตรเช่นนี ้ อยากจะชื่นชมให้ชดั ๆ ก็ไม่กล้า จึงหา
เหตุผลเดินวนเวียนรอบกายเขา มีเพียงคุณหนูสกุลไช่ท่ีอยู่ทา้ ยถนนใจกล้าที่สดุ ทําดอกไม้ดอก
หนึ่งหล่นใส่เขา เขามองเพียงแวบเดียวก็ไม่ปริปากกล่าวอันใด ทุกคนคิดว่าน่าสนใจ ต่างก็
เลียนแบบคุณหนูสกุลไช่จงึ ทําดอกไม้หล่นใส่เขา บ้างก็เป็ นผ้าเช็ดหน้า”
“เขาโมโหเหลือทน วิ่งหนีจนแทบไม่เห็นฝุ่ น”
“จนถึงวันนีแ้ ล้วข้ายังจําท่าทีตอนนัน้ ของเขาได้ดี”
“จริงรึ!” อวีถ้ งั นึกตามก็เบิกบานใจขึน้ มา หัวเราะเสียงดัง
“จริงสิ!” เถ้าแก่เนีย้ ก็หวั เราะเช่นกัน แววตาเปลี่ยนเป็ นอ่อนโยนขึน้ มา “พริบตาเดียว
เวลาก็ผ่านไปหลายปี แล้ว นับวันนายท่านสามก็สง่างามขึน้ เรื่อยๆ แต่ดูเหมือนว่าจะมีปัญหา
เรื่องนิสยั ไม่นอ้ ย”
“ใช่แล้ว!” อวีถ้ ังว่าตาม นึกถึงหลายครัง้ ที่นางพบเขา ท่าทีนั้นของเขา ทั้งตรึกตรอง
คําพูดของเถ้าแก่เนีย้ นอกจากไม่รูส้ กึ กลัวแล้ว ยังรูส้ กึ คุน้ ชินขึน้ มาอย่างแปลกประหลาด “นาย
ท่านเผยไปเมื่อใดรึ? ท่านพ่อข้าไม่ได้รงั้ เขาให้กินข้าวหรอกหรือ?”
“รัง้ แล้ว” เถ้าแก่เนีย้ คิดว่าน้อยครัง้ ที่จะได้พดู เรื่องเผยเยี่ยนกับคนอื่น กล่าวด้วยรอยยิม้
“นายท่านเผยไม่ตอบรับ โจวจ้วงหยวนก็ทาํ ได้เพียงว่าตาม เขายังคงเหมือนกับเมื่อก่อน ไม่ชอบ
คบค้าสมาคม”
340

อวีถ้ ังฉีกยิม้ ความหงุดหงิดในใจหายไปในพริบตา เรื่องที่กินจนปวดท้องก็ไม่ได้ใส่ใจ


มากแล้ว
อย่างไรเทียบกับเรื่องที่เผยเยี่ยนถูกพวกสาวน้อยโยนดอกไม้ใส่จนต้องวิ่งหนีไปอย่าง
เขินอาย เรื่องของนางก็ไม่นบั เป็ นเรื่องใหญ่อนั ใดแล้วกระมัง?
341

ตอนที่ 42 ภาพทีถ่ ูกประกบ


อวีห้ ย่วนกลับมาโรงเตี๊ยมในยามพลบคํ่า มือซ้ายหอบซาลาเปาใบบัว 1 มือขวาถือโถ 87

แก้วใบหนึ่ง เห็นอวีเ้ หวินลงหมากอยู่ในโถงรับแขกก็ถลาเข้าไปทันที ยกของในมือให้ดูดว้ ย


รอยยิม้ “ท่านอา ท่านดูสิ ข้าเอาอะไรกลับมา?”
ยามที่เขาเข้ามาใกล้ อวีเ้ หวินก็ได้กลิ่นของพะโล้ เขาสูดดมอย่างเต็มปอด “หัวหมูต๋นุ
ของร้านเจิน้ เป่ ยเฉิง”
อวีห้ ย่วนหัวเราะเสียงดัง “ท่านอา จมูกท่านดีจริงๆ”
“แน่อยู่แล้ว!” อวีเ้ หวินกล่าวยิม้ ๆ “เจ้าก็ไม่คิดเสียบ้าง ครัง้ แรกที่เจ้ากินหัวหมูต๋นุ ใคร
เป็ น คนซื อ้ จากหังโจวกลับไปให้? หากกระทั่งร้านหัวหมูตุ๋นของเขา ข้า ยัง ดมไม่ออก ยัง จะ
เรียกว่าตะกละตะกลามได้อย่างไร?” ขณะที่พดู เขาก็ชีไ้ ปที่โถแก้วในมืออวีห้ ย่วน “นี่คืออะไร?
ใช้โถแก้วบรรจุไว้ โถนีค้ งหลายตําลึง เจ้าไปได้จากไหนมา?”
อวีห้ ย่วนและเถ้าแก่ทกั ทายกัน ยอบตัวนั่งลงที่มา้ นั่งยาวด้านข้างอย่างโอ้อวดอยู่บา้ ง
“อันนีท้ ่านเดาไม่ได้หรอกรึ? นี่คือเหล้าองุ่น เหยาซานเอ๋อร์ให้ขา้ มา”
“เหล้าองุ่น?” อวีเ้ หวินขมวดคิว้ “เหยาซานเอ๋อร์?”
“ก็ลกู ชายคนที่สามสกุลเหยาที่อยู่เฉิงเป่ ย ตัง้ แต่เด็กก็เติบใหญ่มาพร้อมข้า ภายหลังทํา
การค้าขายตามอาของเขาผูน้ นั้ อย่างไร” อวีห้ ย่วนกล่าวอย่างดีใจ “บ่ายวันนีข้ า้ ไปเที่ยวเล่นที่เฉิง
เป่ ย คาดไม่ถึงว่าจะพบเขา ตอนนีเ้ ขาเป็ นเถ้าแก่ เปิ ดร้านขายของชําอยู่ท่ีประตูอ่หู ลิน พอรู ว้ ่า
ข้าและท่านมาด้วยกัน เดิมทีเขาอยากจะมาทักทายท่านเสียหน่อย แต่ท่ีรา้ นกลับมีของเข้ามิ
อาจปลีกตัวมาได้ จึงให้เหล้าองุ่นโถนีแ้ ก่ขา้ มา กล่าวว่ามาจากทางอาหรับ ตอนนีผ้ มู้ ่งั คั่งรํ่ารวย
ในเมืองหังโจวต่างก็ส่งของสิ่งนีใ้ ห้เป็ นของขวัญกันทัง้ นัน้ และเพื่อแสดงความเคารพต่อท่าน

1
ซาลาเปาใบบัว เป็ นซาลาเปาที่มีลกั ษณะคล้ายใบบัว ข้างในใส่ไส้เนือ้ สัตว์ตา่ งๆ
342

อยากให้ท่านอยากชิมดู หัวหมูต๋นุ จากร้านเจิน้ เป่ ยเฉิงก็เป็ นเขาที่ซือ้ มาเช่นกัน เขาเตรียมจะมา


เยี่ยมเยียนท่านในวันพรุง่ นี”้
อวีเ้ หวิน นึก ขึน้ ได้ “ที่ แท้ก็ เ ป็ น เขา! ปี นั้น เขาสูญเสี ยทั้ง พ่อและแม่ เจ้า มัก จะให้เงิน
ช่วยเหลือเลีย้ งข้าวเขาบ่อยๆ คาดไม่ถึงว่าเขาจะยังจําเจ้าได้ นี่คงเป็ นโชคชะตาแล้ว”
อวีห้ ย่วนพยักหน้าติดต่อกัน เอ่ยด้วยรอยยิม้ ว่า “ยามนีเ้ ขาไม่เลวเลยจริงๆ ยังซือ้ เรือน
เล็กๆ หลังหนึ่งที่ประตูช่งิ ชุน แต่งหญิงสาวในเมืองหังโจวเข้าบ้าน ลงหลักปั กฐานในเมืองหังโจว
แล้ว”
อวีเ้ หวินผงกศีรษะ เชิญเถ้าแก่มาดื่มสุราด้วยกันกับเขา “ยากที่พวกเราจะถูกชะตากัน
เช่นนี ้ เจ้าก็อย่าเกรงใจเลย พวกเรามาชิมด้วยกันเถิดว่าเหล้าองุ่นนีจ้ ะรสชาติเป็ นอย่างไร”
เถ้าแก่โรงเตี๊ยมและอวีเ้ หวินคบค้าสมาคมกันมาหลายครัง้ แล้ว รู ว้ ่าเขาเป็ นคนที่ใจ
กว้าง รวมทัง้ ช่วงนีเ้ หล้าองุ่นก็มีช่ือเสียงจนทุกคนต่างอยากรูอ้ ยากเห็น จึงไม่คิดเกรงใจ ให้เถ้า
แก่เนีย้ ไปยกอาหารมาเพิ่มไม่ก่ีอย่าง ก่อนจะย้ายไปที่ลานด้านนอกพร้อมกับอวีเ้ หวินและอวีห้ ย่
วน เทหัวหมูตนุ๋ ใส่จาน ดื่มสุรากัน
อวีห้ ย่วนถือกา
พอรินสุรานีล้ งในแก้ว อวีเ้ หวินก็ได้กลิ่นหอมของผลไม้ แตกต่างกับสุราที่เขาดื่มยาม
ปกติอย่างสิน้ เชิง เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะก้มลงดูในแก้วเครื่องเคลือบสีขาว สุรานัน้ กลับ
แดงชํา้ ราวกับสีเลือด เขาตกใจเสียยกใหญ่ “ไฉนจึงเป็ นสีนี?้ ”
อวีห้ ย่วนรีบกล่าว “เป็ นสีนีม้ ิผิด ก่อนหน้านีเ้ หยาซานเอ๋อร์ยงั กําชับข้าเป็ นพิเศษ หาก
ไม่ใช่สีนี ้ นั่นก็เป็ นสุราปลอมแล้ว”
อวีเ้ หวินพยักหน้า ฝื นดื่มไปหนึ่งคํา
เถ้าแก่โรงเตีย๊ มรีบถาม “เป็ นอย่างไร? รสชาติดีหรือไม่?”
343

อวีเ้ หวินปิ ดปากเงียบ ก่อนจะกล่าวอย่างเรียบนิ่ง “สุรานีเ้ หมือนกับชา รสชาติขนึ ้ อยูก่ บั


ความชอบของแต่ละคน ข้าว่ารสชาติไม่เลว เจ้าอาจจะคิดว่าแย่ ย่อมต้องชิมดูจงึ จะรูเ้ อง”
เถ้าแก่โรงเตี๊ยมคิดว่าคําพูดนีม้ ีเหตุผลจึงยกแก้วขึน้ ดื่มหนึ่งคํา…จากนัน้ ก็น่ิงค้างอยู่
อย่างนัน้
อวีห้ ย่วนเห็นว่าผิดปกติ กล่าวอย่างร้อนรน “เป็ นอย่างไร? ผิดปกติตรงไหนหรือไม่?”
เถ้าแก่โรงเตี๊ยมมองอวีเ้ หวินไปแวบหนึ่ง กลืนสุราในปากลงไป เวลานีจ้ ึงค่อยกล่าว
กับอวีห้ ย่วน “เจ้าชิมดูก็จะรู”้
อวีห้ ย่วนมองทัง้ สองคนอย่างสงสัย ลองดื่มดู เพียงแต่สรุ านีย้ งั ไม่ทนั ลงคอก็ถกู เขาพ่น
ออกมาก่อน
“นี่มนั รสชาติอะไรกัน?” เขาขมวดคิว้ “ไม่ใช่กล่าวว่ามีช่ือเสียงมากหรอกรึ?”
อวีเ้ หวินและเถ้าแก่โรงเตี๊ยมหัวเราะเสียงดังขึน้ มา เวลานีอ้ วีเ้ หวินจึงค่อยกล่าวตรงๆ
“สุราชื่อดังอะไรกัน? ไม่เห็นจะเทียบกับสุราจินหวา 2ของพวกเราได้? แต่ว่า ลองชิมครัง้ แรกก็
88

พอใช้ได้ ลองเอาไปให้นอ้ งเจ้าชิมสักแก้วสิ ยากที่จะมาเยือนหังโจว เปิ ดหูเปิ ดตากับสิ่งใหม่ๆ จึง


จะนับว่าคุม้ ค่า!”
อวีห้ ย่วนกะพริบตาก่อนจะยกสุราไปให้อวีถ้ งั
อวีถ้ งั มองอวีห้ ย่วนอย่างสงสัย “ไม่ใช่กล่าวว่าให้ขา้ งดอาหารหรอกหรือเจ้าคะ?”
“สุรานีม้ ีช่ือเสียงไม่นอ้ ย เจ้าลองดมดู ชิมดูคาํ หนึ่ง เจ้าคิดว่าข้าจะให้เจ้าดื่มหมดแก้ว
เลยหรืออย่างไร!” อวีห้ ย่วนกล่าว
อวีถ้ งั ไม่เคลือบแคลงอันใด ดื่มเข้าไปอึกหนึ่ง

2
สุราจินหวา สุราที่มีช่ือเสียงของเจ้อเจียง
344

ทัง้ ขมทัง้ เปรีย้ ว นี่มนั สุราอะไรกัน!


อวีถ้ งั หยัดกายขึน้ เตรียมจะลงไม้ลงมือกับอวีห้ ย่วน
อวีห้ ย่วนวิ่งวุน่ อยู่รอบโต๊ะเป็ นวงกลม “ท่านอาให้ขา้ ยกมาให้เจ้าชิม”
“แต่ท่านก็ไม่ควรทําเช่นนี!้ ”
ทัง้ พี่นอ้ งกําลังตะลุมบอนวุน่ วาย เด็กของโรงเตีย๊ มก็เคาะประตูอยู่ขา้ งนอก “คุณชายอวี ้
มีคนมาหาขอรับ!”
อวีถ้ งั ไม่อาจจัดการกับเขาอีกแล้ว อวีห้ ย่วนจัดเสือ้ ให้เข้าที่เข้าทาง กล่าวถามไปพลาง
“เป็ นใครกัน?”
เด็กคนนัน้ ตอบ “เป็ นเด็กอายุประมาณสิบสองสิบสามคนหนึ่ง กล่าวเพียงว่ามาหาท่าน
ไม่ยอมบอกว่าตัวเองเป็ นใครขอรับ”
อวีห้ ย่วนกล่าวอย่างงุนงง “ใครกัน?” จากนัน้ ก็กล่าวกับอวีถ้ งั “ข้าไปดูเสียหน่อยแล้วจะ
กลับมา”
อวีถ้ งั พยักหน้า ส่งอวีห้ ย่วนออกจากประตู
ไม่นานอวีห้ ย่วนก็ยอ้ นกลับมา เขากระซิบข้างหูอวีถ้ งั “อาจารย์เฉียนส่งคนมาตามข้า
รอท่านอากลับมา เจ้าก็บอกกล่าวกับเขาหน่อยเถิด”
เวลานีอ้ วีเ้ หวินกําลังดื่มสุรากับเถ้าแก่โรงเตีย๊ ม
อวีถ้ งั กล่าวอย่างกังวล “ไม่ได้บอกหรือว่าเรื่องอะไร?”
อวีเ้ หวินส่ายศีรษะ “เจ้าวางใจ หากมีเรื่องอะไร ข้าจะให้คนส่งจดหมายมารายงานพวก
เจ้าทันที”
อวีถ้ งั จะกังวลใจอย่างไรก็ทาํ ได้เพียงปล่อยเขาไป
345

ยามที่กลองตีบอกเวลายามสอง อวีเ้ หวินก็ออกมาจากวงสุรา เขาเข้ามาดูอวีถ้ งั “เจ้าดี


ขึน้ หรือยัง?”
“ดีขนึ ้ มากแล้วเจ้าค่ะ!” อวีถ้ งั ประคองบิดาให้น่ งั ลงบนตั่ง ก่อนจะรินชาร้อนให้เขา
อวีเ้ หวินเห็นงานเย็บที่อวีถ้ ังทําทิง้ ไว้ครึ่งหนึ่งบนโต๊ะ ก็อดยกขึน้ มาส่องใกล้ตะเกียงดู
ไม่ได้ “ไอหยา คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะทํามันได้ แมลงตัวเล็กนีท้ าํ ได้สมจริงไม่นอ้ ย จุดดําเจ็ดแห่งที่
หลังล้วนไม่เลวเลย ไม่เลวเลยจริงๆ!”
อวีถ้ ังชํานาญในการทําแมลงเป็ นอย่างมาก นอกจากเต่าทอง ยังมีแมลงปอ ตั๊กแตน
ผึง้ …นางล้วนทําได้เสมือนจริง
อวีเ้ หวินกล่าว “ดอกไม้นีก้ ็ทาํ ได้ดี ข้ามองแล้วเหมือนดอกไป๋ โถวเวิง 3รอเจ้ากลับไป ก็ทาํ
89

ให้แม่เจ้าใส่สกั อัน”
นี่นบั ว่าเป็ นการชมเชยและยอมรับจากบิดา
อวีถ้ งั ดีใจเป็ นอย่างมาก กล่าวด้วยรอยยิม้ “ข้าวางแผนแล้วว่าจะทําดอกโบตั๋นให้ท่าน
แม่เจ้าค่ะ”
อวีเ้ หวินกลับกล่าว “ข้าคิดว่าแม่เจ้าสวมดอกไห่ถงั 4ไม่ก็ดอกติงเซียงจะเหมาะกว่า”
90

หรือว่าในใจของท่านพ่อ มารดานัน้ คล้ายดอกไห่ถงั ไม่ก็ดอกติงเซียง?


อวีถ้ งั พยักหน้า เผยยิม้ เริงร่า ก่อนจะบอกเรื่องอวีห้ ย่วนกับอวีเ้ หวิน
อวีเ้ หวิน กัง วลใจไม่น ้อย แต่ไม่ก ล้า แสดงออกมาให้อวี ถ้ ัง เห็ น กล่า วเรีย บง่า ยหนึ่ง
ประโยค “ข้าเข้าใจแล้ว” ก่อนจะกําชับอวีถ้ งั “เจ้านอนเร็วหน่อยเถิด พรุง่ นีก้ ็ทาํ ปิ่ นดอกไม้ให้แม่
เจ้า พวกเราลองพูดว่าซือ้ มาจากเมืองหังโจว ดูสิวา่ แม่เจ้าจะแยกออกหรือไม่”

3
ดอกไป๋ โถวเวิง เป็ นดอกสีม่วง เกสรด้านในสีเหลือง มีขนอ่อนขึน้ ตามลําต้น ใบ และดอก
4
ดอกไห่ถงั ดอกบีโกเนีย
346

อวีถ้ งั ตอบรับทัง้ รอยยิม้


กลางดึกนางกลับนอนพลิกตัวไปมา ไม่วา่ อย่างไรก็นอนไม่หลับ
ฟ้ายังไม่สว่าง อวีห้ ย่วนก็กลับมา
ยามที่เขาเข้ามาในห้องก็ทาํ ให้อวีถ้ งั ที่พะว้าพะวังอยู่หอ้ งด้านข้างตกใจตื่นเช่นกัน นาง
ค่อยๆ สวมเสือ้ คลุมก่อนจะออกไปห้องบิดา
อวีห้ ย่วนมาเปิ ดประตู
อวีเ้ หวินสวมเสือ้ คลุม เผยสีหน้าเรียบนิ่ง ยืนอยู่หน้าโต๊ะหนังสือ เห็นอวีถ้ งั เข้ามาก็ไม่ได้
พูดอะไร
รอจนอวีถ้ งั เดินเข้ามาใกล้ เวลานีจ้ ึงพบว่าบนโต๊ะหนังสือมีภาพวาดสามแผ่นที่ยงั ไม่ได้
เอาเข้าม้วนภาพ สองภาพในนัน้ สามารถมองออกว่าเป็ นภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ ยังมีอีก
ภาพที่ดเู หมือนภูเขาทัง้ คล้ายกับทะเล ด้านบนยังมีสญ ั ลักษณ์ตา่ งๆ ที่ทาํ ให้คนดูไม่เข้าใจ
อวีเ้ หวินกล่าวอย่างเงียบเชียบ “อาถัง เจ้าเดาถูกจริงๆ ด้วย ในภาพนีม้ ีเงื่อนงําอยู่!”
ไม่จาํ เป็ นต้องให้บิดาพูด อวีถ้ งั ก็มองออกแล้ว นางมองไปทางอวีห้ ย่วน
สีหน้าของอวีห้ ย่วนก็ไม่ได้ดดู ีไปกว่ากันเท่าไร เขากดเสียงเบา “นี่เป็ นภาพสามแผ่นที่
อาจารย์เฉียนแกะออกมา ภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ อยู่ชนั้ บนและล่าง ส่วนตรงกลางไม่รูว้ ่า
เป็ นสิ่งใด กระทั่งอาจารย์เฉียนล้วนไม่ทนั ได้ใส่มว้ นภาพก็เอากลับมาให้พวกเราดูก่อนเสียแล้ว”
เห็นได้วา่ อาจารย์เฉียนก็มองออกว่าภายในมีสิ่งผิดปกติ
อวีถ้ งั ชีไ้ ปที่ภาพซึง่ ไม่รูว้ า่ คืออะไร “นี่คืออะไรหรือเจ้าคะ?”
อวีห้ ย่วนส่ายศีรษะ “ข้าเองก็ไม่รูเ้ ช่นกัน”
อวีเ้ หวินจ้องภาพที่ไร้ช่ือ พ่นสองคําออกมาด้วบใบหน้าอึมครึม “แผนที่!”
347

“อะไรนะ?!” อวีถ้ งั และอวีห้ ย่วนร้องเสียงหลงอย่างพร้อมเพรียงกัน


อวีเ้ หวินกล่าวอธิ บาย “เป็ นภาพภูมิประเทศภูเขาแม่นา้ํ เมื่อก่อนทําศึกสงคราม ทํา
ชลประทาน ล้วนต้องใช้แผนที่เช่นนีจ้ ึงจะสามารถรูไ้ ด้ว่าบริเวณรอบๆ เป็ นภูเขาหรือแม่นา้ํ เป็ น
ป่ าเขาหรือเป็ นพืน้ ที่ราบ”
อวีถ้ งั นึกถึงตัวเองเมื่อครัง้ ไปวัดเจาหมิง ไม่มีคนนําทางล้วนไม่รูว้ า่ ควรจะไปอย่างไร ชั่ว
ขณะนัน้ คิดว่าคนที่สามารถวาดเช่นนีอ้ อกมาได้คงจะเป็ นที่ได้รบั การนับหน้าถือตาจากผูค้ นไม่
น้อย ทั้งย่อมต้องเสียกําลังคนกําลังทรัพย์เป็ นอย่างมากเช่นกัน มีคุณค่าอย่างแน่นอน นาง
กล่าว “หรือสิ่งที่พวกเขาหาก็คือภาพแผ่นนี”้
อวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนไม่ได้เอ่ยขัด ยอมรับคําพูดของนางโดยปริยาย เป็ นนานกว่าอวีเ้ ห
วินจะเอ่ย “แผนที่เป็ นสิ่งที่ลา้ํ ค่าและหายาก หากไม่อยู่ในการดูแลของกรมกลาโหมก็คงเป็ นกรม
โยธาธิการ คนทั่วไปล้วนไม่อาจได้ครอบครอง เมื่อก่อนที่แม่ทพั ออกรบ ต้องเป็ นขุนนางขัน้ สาม
หรือขุนนางขัน้ ผูใ้ หญ่จึงจะสามารถนําเอกสารราชการจากกรมกลาโหมไปเอาแผนที่จากกรม
โยธาธิการได้ ทําศึกสงครามเสร็จแล้ว แผนที่ก็ควรคืนกลับสูท่ ่ีเดิม นี่เป็ นสิ่งที่ขา้ บังเอิญได้ฟังมา
จากหลูซ่ ิ่น”
อวีห้ ย่วนได้ฟังก็อดหวาดกลัวขึน้ มาบ้างไม่ได้ “ภาพนีร้ ่วั ไหลมาจากที่ใดกัน? ตกลงเป็ น
ใครกันที่ตามหาภาพนี?้ เขารูไ้ ด้อย่างไรว่าในภาพนีม้ ีสิ่งนีซ้ อ่ นอยู?่ ไฉนเขาจึงไม่มาขอซือ้ ที่สกุล
เราอย่างตรงไปตรงมาเลยล่ะ?”
คําถามพวกนีใ้ ครก็ไม่อาจตอบได้
อวีเ้ หวินก็ดี อวีถ้ ังก็ดี ไม่เคยตระหนักได้อย่างชัดเจนเท่าเวลานีม้ าก่อน สกุลของพวก
เขากําลังประสบปั ญหาใหญ่แล้ว
อวีห้ ย่วนกล่าว “เช่นนัน้ เช่นนัน้ พวกเราควรทําอย่างไรดี?”
348

อวีเ้ หวินทรุ ดนั่งอย่างไร้เรี่ยวแรงบนเก้าอีโ้ บราณที่อยู่ดา้ นหลังโต๊ะหนังสือ “เจ้าให้ขา้


ครุน่ คิด ให้ขา้ ได้คิด…แม้ขา้ จะมองออกว่านี่คือแผนที่ แต่ภาพนีเ้ ป็ นภูมิลกั ษณ์ของที่ใดกันแน่ มี
ประโยชน์อย่างไรกลับไม่รูแ้ ม้แต่นอ้ ย…หากอยากรูค้ งทําได้เพียงต้องตามหาคนที่เคยเห็นแผนที่
หรือกระทั่งคนที่เข้าใจและคุน้ เคยกับแผนที่ประเภทต่างๆ เป็ นอย่างดี…” ขณะที่กล่าว เขาก็ชีท้ ่ี
เส้นคลื่นในภาพวาด ซึ่งแทนความหมายของนํา้ “ไม่มีสัญลักษณ์อะไรเลย เดิมก็ไม่รูว้ ่าเป็ น
แม่นา้ํ ทางเหนือหรือทางใต้ พวกเราถือภาพนีไ้ ว้ ก็เหมือนกับเด็กที่ถือมีดเล่มใหญ่ ไม่เพียงข่มขู่
คนอื่นไม่ได้ แต่ยงั จะเป็ นภัยต่อตัวเอง”
คนที่เคยเห็นแผนที่ คนที่เข้าใจและคุน้ เคยกับแผนที่เป็ นอย่างดี…ในหัวอวีถ้ ังพลัน
ปรากฏใบหน้าของเผยเยี่ยนขึน้ มา
“ท่านพ่อ!” อวีถ้ งั อํา้ อึง้ “ไม่อย่างนัน้ พวกเราไปหานายท่านสามดีหรือไม่?”
อวีเ้ หวินหันมามองนางทันที
ชั่วขณะนัน้ อวีถ้ งั ก็รอ้ นใจอย่างแปลกประหลาด รู ส้ กึ ไม่สบายใจขึน้ มา คล้ายถูกคนฉีก
ชุดด้านนอกอย่างไรอย่างนัน้ “ไม่อย่างนัน้ ไม่อย่างนัน้ ไปหาโจวจ้วงหยวนก็ได้ พวกเขาล้วน
เป็ นคนที่มีความรู ้ ย่อมต้องรูว้ า่ ภาพนีว้ าดอะไรไว้…”
349

ตอนที่ 43 ของปลอม
“ไม่ได้!” อวีเ้ หวินแทบไม่ตอ้ งใช้เวลาคิดก็ปฏิเสธอวีถ้ งั ทันที
อวีถ้ งั และอวีห้ ย่วนมองไปยังอวีเ้ หวิน
อวี เ้ หวิ น กล่า ว “หากอวี ถ้ ัง เดาไม่ ผิ ด เก้า ส่ว นการตายของหลู่ซิ่ น ย่ อ มเกี่ ย วพัน กับ
ภาพวาดนี ้ เดิมทีพวกเราก็ไม่รูว้ ่าเบือ้ งหลังของคนผูน้ ีเ้ ป็ นใคร แล้วจะให้นายท่านสามสกุลเผย
มาเดือดร้อนด้วยได้อย่างไร?”
อวีถ้ งั ใบหน้าร้อนฉ่า
นางคิดเพียงว่าชาติก่อน เผยเยี่ยนเป็ นผูท้ ่ีเก่งกาจเหนือใคร กลับลืมไปว่าเผยเยี่ยนใน
ชาติก่อนไม่ได้ขอ้ งเกี่ยวกับเรื่องในสกุลพวกเขา ถึงกระทั่งไม่รูจ้ กั นางแต่อย่างใด
บิดาพูดถูก
ภาพวาดนีแ้ บกรับชีวิตคนๆ หนึ่งไว้แล้ว พวกเขาไม่อาจเห็นแก่ตวั ลากเผยเยี่ยนลงมา
ด้วยได้
เวลานีอ้ วีถ้ ังจึงค่อยค้นพบอย่างตกใจว่า เส้นทางของตัวเองได้เดินไปอย่างบิดเบีย้ ว
แล้ว
นางกล่าวตามตรง “ท่านพ่อ เช่นนัน้ พวกเราควรทําอย่างไรดีเจ้าคะ?”
“เจ้าให้เวลาข้าคิดหน่อยเถิด!” อวีเ้ หวินยิม้ อย่างขมขื่น
เห็นได้ชดั ว่าเขาก็อบั จนหนทางเช่นกัน
อวีถ้ งั นึกถึงหลูซ่ ิ่นขึน้ มา
เขาก็คงไม่รูว้ ่าภาพนีซ้ ่อนความลับไว้ภายในหรอกกระมัง? มิเช่นนัน้ เขาก็คงไม่จากไป
เช่นนี ้
350

หลังจากนางกลับหลินอัน คงต้องจุดธูปไหว้เขาเสียแล้ว
อวีถ้ งั ถอนหายใจอย่างเงียบเชียบ จูๆ่ ในใจก็ปรากฏความคิดหนึ่งขึน้ มา
นางหยั่งเชิงกล่าว “ท่า นพ่อ ไม่อย่า งนั้น พวกเราให้ลุงหลู่เ ป็ นแพะรับบาปไปเลย?
อย่างไรเรื่องนีก้ ็เป็ นเขาที่ก่อเรื่อง สกุลหลู่เองก็ตดั สัมพันธ์เขาแล้ว ไม่ได้ไปมาหาสู่ ย่อมไม่อาจ
ติดร่างแห”
อวีเ้ หวินก็อบั จนหนทางแล้วจริงๆ ตระหนักได้ว่าคนธรรมดาสามคน เอาชนะขงเบ้งคน
เดียว 1 ตัง้ แต่เล็กอวีถ้ งั ก็ฉลาดมีไหวพริบ ไม่แน่ว่าอาจจะมีความคิดอะไรดีๆ “เจ้าลองพูดให้ขา้
91

ฟั งสิ”
อวีถ้ งั กระปรีก้ ระเปร่าขึน้ มา “ท่านลองคิดดูสิเจ้าคะ ลุงหลู่เอาชีวิตมาทิง้ เพราะเรื่องนี ้
คนพวกนัน้ ย่อมเคยมาหาลุงหลูแ่ ล้ว หากไม่เป็ นเพราะรูว้ า่ ภาพวาดอยู่ท่ีสกุลเรา ก็คงเป็ นเพราะ
ลุงหลู่ไม่รูค้ วามลับในภาพนีเ้ ช่นกัน จึงไม่ได้กาํ ชับอะไรให้ชดั เจนทัง้ สิน้ ข้าตรึกตรองดู ไม่ว่าจะ
เป็ นอย่างหน้าหรืออย่างหลัง เรื่องสําคัญที่พวกเราควรต้องจัดการอย่างเร่งด่วนก็คือดึงสกุลของ
พวกเราออกมาจากเรื่องนี ้ เช่นนัน้ มิสพู้ วกเราก็เอาภาพนีใ้ ห้พวกเขาไปเลย”
“ข้าเข้าใจที่เจ้าพูด” อวีเ้ หวินเอ่ย “แต่ปัญหาอยูท่ ่ีวา่ จะเอาภาพนีใ้ ห้พวกเขาอย่างไร?”
อวีถ้ ังเอ่ยด้วยรอยยิม้ ว่า “คนพวกนัน้ เข้าไปค้นเรือนของพวกเราแล้วไม่พบภาพมิใช่
หรือ? ยามที่พวกเรากลับไป มิสบู้ อกกับคนอื่นว่าพวกเรามาหังโจวเพื่อเก็บของต่างหน้าให้ลงุ หลู่
หากพวกเขาได้ยินคําพูดนี ้ ย่อมจะหาวิธีเอาของต่างหน้าของลุงหลูม่ าไว้ในมือ ถึงเวลานัน้ พวก
เราก็บอกกับคนอื่นว่าจะเอาของต่างหน้าของลุงหลูเ่ ผาไปให้เขาทัง้ หมด…”
อวีห้ ย่วนตาเป็ นประกาย “นี่เป็ นความคิดที่ดี! พวกเขาต้องคิดวิธีให้ของต่างหน้าพวกนี ้
มาอยู่ในมือเป็ นแน่ พวกเราก็แค่สง่ ภาพนัน้ ออกไปด้วย?”

1
คนธรรมดาสามคน เอาชนะขงเบ้งคนเดียว อุปมาว่า หลายหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว
351

อวีถ้ งั พยักหน้าติดต่อกัน คล้อยตามอวีห้ ย่วน ก่อนกล่าวกับอวีเ้ หวิน “ท่านไม่ตอ้ งพูดว่า


ภาพนัน้ คือแผนที่ คนทั่วไปอย่าพูดเลยว่าเคยเห็น แต่แค่ได้ยินก็คงไม่เคยเช่นกัน พวกเราไม่รูจ้ กั
ย่อมเป็ นเรื่องปกติ ถึงเวลานัน้ พวกเราก็แค่พดู ว่า ไม่รูว้ ่าสิ่งนีค้ ืออะไร แค่นีก้ ็สามารถดึงตัวเอง
ออกมาจากเรื่องนีไ้ ด้แล้วกระมัง”
“เจ้าพูดมีเหตุผล” อวีเ้ หวินปั ดความรูส้ กึ มืดมัวเมื่อครูท่ งิ ้ ไป เดินหัวเราะรอบห้อง “แต่วา่
เรื่องนีเ้ ป็ นเรื่องใหญ่ พวกเรายังคงต้องปรึกษาหารือกันดีๆ”
แต่ทิศทางส่วนใหญ่ก็คงไม่ผิดพลาดอะไรแล้ว
อวีถ้ งั และอวีห้ ย่วนต่างก็โล่งใจ อดเผยยิม้ ให้กนั ไม่ได้
ด้านอวีเ้ หวินกลับกล่าวพึมพําอยู่ตรงนัน้ “ต้องคิดวิธีปิดบังคนพวกนัน้ ไม่อาจให้พวก
เขาทราบว่าพวกเรารูค้ วามลับของภาพนี”้ พูดมาถึงตรงนี ้ เขาก็หยุดฝี เท้ากะทันหัน กล่าวกับอวี ้
หย่วน “เรื่องนีย้ งั ต้องรบกวนอาจารย์เฉียน ให้เขาหาวิธีเก็บภาพไว้เหมือนเดิม”
“ท่านพ่อ!” อวีถ้ งั ตัดบทสทนาของอวีเ้ หวิน “คืนสูส่ ภาพเดิมเกรงว่าคงไม่เหมาะเท่าไร…
ทุกคนต่างรูว้ า่ สกุลของเราซือ้ ภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ จากลุงหลูแ่ ล้ว”
ใช่แล้ว! หากมีคนถามถึงภาพของพวกเขาขึน้ มาจะทําอย่างไร?
อวีเ้ หวินถามอวีห้ ย่วน “เช่นนัน้ ในเมื่ออาจารย์เฉียนอยู่ในแวดวงนี ้ เจ้าลองถามเขาได้
หรือไม่ ดูว่าเขารู จ้ กั นักคัดลอกภาพวาดโบราณฝี มือดีหรือไม่ พวกเราก็เชิญคนมาคัดลอกภาพ
‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ มาไว้ในบ้านของพวกเรา”
เมื่อเป็ นเช่นนี ้ ก็ไร้ขอ้ ผิดพลาดแล้ว
อวี ห้ ย่วนกล่าวด้ว ยรอยยิม้ “แกว่ง ขวานหน้าช่างมีฝีมือ เชิญใครก็ มิสูเ้ ชิญอาจารย์
เฉียน…เขาเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญด้านนีอ้ ยู่แล้ว”
“ดีเหลือเกิน!” อวีเ้ หวินกล่าว “เมื่อครู ่ขา้ ยังกังวลว่าจะดึงคนมาเกี่ยวข้องมากเกินไป
เกรงว่าเก็บความลับไม่อยู่”
352

อวีห้ ย่วนยิม้ “ท่านวางใจเถิด อาจารย์เฉียนไม่รูว้ ่าพบเจอเรื่องเช่นนีม้ ามากน้อยเท่าใด


แล้ว ไม่อย่างนัน้ พอเจอภาพที่ถกู ประกบอยู่ดา้ นในก็คงไม่เรียกข้าเข้าไปดูทนั ทีเช่นนีห้ รอก”
อวีเ้ หวินผงกศีรษะ “เช่นนัน้ ก็เอาแบบนีแ้ หละ!”
อวีห้ ย่วนตอบรับ เก็บภาพ เตรียมจะไปหาทางอาจารย์เฉียนทันที “ฉวยยามที่ฟ้ายังไม่
สว่างเท่าใด ทําเรื่องนีใ้ ห้เสร็จเร็วขึน้ ดีกว่า พวกเราก็จะได้สบายใจเร็วขึน้ เช่นกัน รีบกลับไปหลิน
อัน”
อวีถ้ งั กลับรัง้ อวีห้ ย่วนไว้ กล่าวกับอวีเ้ หวิน “ท่านพ่อ เรื่องนีไ้ ม่จาํ เป็ นต้องรีบร้อนนัก ข้า
มาใคร่ครวญดีๆ ในเมื่ออาจารย์เฉียนผูน้ นั้ มีฝีมือทางด้านนี ้ เรื่องทัง้ หมดอยู่ในความรับผิดชอบ
ของผูเ้ ดียว มิสพู้ วกเราขอให้เขาช่วยลอกแผนที่นีด้ ว้ ยล่ะเจ้าคะ”
“อวีถ้ งั ” อวีเ้ หวินไม่เห็นด้วย “พวกเราไม่อาจข้องเกี่ยวกับเรื่องนีอ้ ีกได้ หากสามารถถอย
ห่างได้ไกลเท่าใดก็ถอยให้ไกลเท่านัน้ ไม่ว่าในนีจ้ ะมีความลับอันใด พวกเราก็อย่าได้ลอบมอง
เลย บางที ยิ่งรูม้ ากก็ย่งิ ตายไว ทัง้ ยังตายอย่างอเนจอนาถ”
อวีถ้ งั กล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน “ท่านพ่อ หลักการนีข้ า้ ก็เข้าใจ แต่ขา้ รูส้ กึ ว่าพึ่งพาใครก็มิ
สูพ้ ่งึ ตัวเอง พวกเราสามารถส่งภาพไปอย่างราบรื่นย่อมเป็ นเรื่องดี แต่หากคนพรรค์นนั้ เดิมทีก็
ไม่เชื่อพวกเราล่ะ? หรือพวกเรายังหวังให้พวกเขามอบความเมตตาให้ได้? จิตใจคิดร้ายผูอ้ ่ืนมิ
ควรมี แต่การระวังคนอื่นก็มิควรขาดเช่นกัน!”
นี่เป็ นบทเรียนที่นางได้รบั หลังจากแต่งเข้าสกุลหลี่
ทัง้ เป็ นการตัดสินใจแน่วแน่หลังจากที่นางกลับมาเกิดอีกครัง้
พึ่งภูเขายังมียามที่เขาล้ม พึ่งนํา้ ก็มียามที่นา้ํ แห้งเช่นกัน มีแค่ตอ้ งควบคุมทุกอย่างไว้ใน
มือตัวเองเท่านัน้ จึงจะสามารถพลิกแพลงตามสถานการณ์ ไม่อาจพ่ายแพ้
“ท่านพ่อเจ้าคะ…” นางโน้มน้าวอวีเ้ หวิน “ครัง้ นีท้ ่านฟั งข้าเถิด! ไม่ว่าเรื่องอันใดก็ไม่
ควรประมาท หากคนพวกนัน้ รู ว้ ่าพวกเราพบความลับของภาพนี ้ พวกเขาจะไม่คิดฆ่าพวกเรา
353

ปิ ดปากหรือ? จะสงสัยว่าภาพนัน้ ปลอมหรือไม่? พวกเราควรจะรู ว้ ่าเรื่องราวทั้งหมดเป็ นมา


อย่างไร? ก็เหมือนลุงหลู่ หากเขารู ว้ ่าในภาพนีม้ ีสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ เขาจะยังมีจุดจบเช่นนีห้ รือ?
คนอื่นไม่รู ้ แต่พวกเรารู ้ เขาไม่รูว้ ่าในภาพนีม้ ีความลับ แต่คนพวกนัน้ ก็ยงั ไม่ปล่อยให้เขามีชีวิต
รอด”
อวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนมองนางอย่างตกตะลึง ค่อนวันก็ยงั ไม่กล่าวอะไร
อวีถ้ งั กลับไม่หลบสายตาของบิดาและพี่ชายแม้แต่นอ้ ย นางยืนอย่างมั่นคง ปล่อยให้
พวกเขาพินิจนาง ใช้ท่าทีเช่นนีบ้ อกพวกเขาว่านางนัน้ ตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ไม่อาจจะเปลี่ยน
อย่างง่ายๆ ทัง้ คิดตกในเรื่องนีแ้ ล้วให้บิดาและพี่ชายวางใจ นางเติบใหญ่จนสามารถรับผิดชอบ
ได้
เนิ่นนาน ก่อนแววตาที่เคร่งขรึมของอวีเ้ หวินจะถูกย้อมไปด้วยรอยยิม้
เขามองอวีห้ ย่วนไปทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึน้ มา “สกุลอวีน้ นั้ ภายหลังต้องมอบให้พวกเจ้า
สองพี่นอ้ งแล้ว ข้าและพ่อเจ้าล้วนแก่แล้ว กลัวเรื่องกลัวราว ทัง้ ตามความเปลี่ยนแปลงของโลก
นีไ้ ม่ทนั แล้ว”
“ท่านพ่อ!”
“ท่านอา!”
อวีถ้ งั และอวีห้ ย่วนพูดขึน้ มาพร้อมเพรียงกัน
อวีเ้ หวินโบกมือ กล่าวด้วยรอยยิม้ “พวกเจ้าอย่าได้คิดว่าข้าพูดเพราะท้อแท้ แต่ขา้
กําลังดีใจอยู่ เห็นได้ว่าคํากล่าวของบรรพบุรุษนัน้ ยังคงมีเหตุผล มนุษย์นนั้ ใช้ได้หรือไม่ ต้องดู
ยามที่มีเรื่องสําคัญว่าสามารถประคองได้หรือเปล่า พวกเจ้าล้วนเป็ นเด็กที่ประคองเรื่องราวใน
ยามสําคัญได้ ข้าวางใจเป็ นอย่างยิ่ง” พูดจบ เขาก็สูดลมหายใจเข้าลึก “เช่นนั้นก็ทาํ ตามนี ้
แหละ!”
อวีห้ ย่วนและอวีถ้ งั รีบห้ามขึน้ พร้อมกัน “ท่านเบาเสียงหน่อย! กําแพงมีหู ประตูมีช่อง!”
354

อวีเ้ หวินหัวเราะเสียงดัง พอหอมปากหอมคอก็หยุดไป เอ่ยเสียงเบาว่า “ฟั งพวกเจ้า


ล้วนต้องฟั งพวกเจ้า”
อวีถ้ งั และอวีห้ ย่วนส่งยิม้ ให้กนั อีกครัง้ ล้วนมองออกถึงความดีใจจากแววตาอีกฝ่ าย อวี ้
ถังถึงขนาดรู ส้ กึ ว่า เพราะเรื่องนี ้ ความสัมพันธ์ของนางและญาติผพู้ ่ีจึงเปลี่ยนเป็ นแน่นแฟ้นขึน้
ในชั่วพริบตา
อวีเ้ หวินเก็บภาพพวกนัน้ ทัง้ ถามอวีถ้ งั อย่างสนใจไปพลาง “เจ้ายังมีอะไรจะกําชับอีก
หรือไม่?”
เพราะว่าบิดาและพี่ชายต่างก็ร่วมแรงร่วมใจ อวีถ้ ังจึงหัวแล่นอย่างว่องไว “ท่านพ่อ
เกี่ยวกับเรื่องแผนที่นนั้ ข้ามีวิธีหนึ่งเจ้าค่ะ”
อวีเ้ หวินได้ฟัง ก็สนใจขึน้ มา “เจ้าลองว่ามา!”
เวลานีอ้ วีห้ ย่วนก็ไม่รบี แล้ว นั่งลงข้างโต๊ะอีกครัง้
ทัง้ สามคนล้อมวงกันพูดคุยภายใต้แสงไฟริบหรี่
อวีถ้ งั กล่าว “ท่านพ่อ ข้ารู ส้ ึกว่าลุงหลู่มีบางคําพูดที่ยงั พูดถูก ตัวอย่างเช่น พ่อของเขา
เคยเป็ นที่ปรึกษาทางทหารให้ใต้เท้าจั่ว จั่วกวงจง ไม่แน่ว่า ภาพนีอ้ าจจะเป็ นของใต้เท้าจั่ว
จริงๆ”
ส่วนกล่าวว่าได้มาหรือใช้วิธีอ่นื ฉกชิงมา นั่นก็ไม่มีใครรูแ้ ล้ว
อวีถ้ งั กล่าว “ดังนัน้ ข้าคิดว่า หากท่านจะสืบเรื่องแผนที่ ทางที่ดีท่ีสดุ ควรไปเมืองหลวง
หรือไม่ก็ฝเู จีย้ นเจ้าค่ะ”
อวีเ้ หวินฟั งก็ต่ืนตัวขึน้ มา “เจ้าหมายความว่า…เมืองหลวงมีมงั กรซ่อนพยัคฆ์เร้น ผูท้ ่ีมี
ความรู ้ม ากมาย ใต้เ ท้า จั่ ว เป็ นนั ก รบที่ มี ช่ื อ เสี ย งในการขั บ ไล่ โ จรสลัด ญี่ ปุ่ น จึ ง มี อ ดี ต
ผูใ้ ต้บงั คับบัญชาอยู่ทางฝูเจีย้ นเป็ นจํานวนมาก?”
355

“ข้ากระทั่งคิดว่าไปฝูเจีย้ นจึงจะได้อะไรมากกว่า” อวีถ้ งั กล่าวต่อ “นอกจากทางใต้เท้า


จั่ว สกุลหลู่ก็คงไม่อาจเอาภาพนีม้ าได้ หากเป็ นเช่นนี ้ ใต้เท้าจั่วล่วงลับไปสิบกว่าปี แล้ว หาก
แผนที่สญ ู หาย ยามที่ใต้เท้าจั่วมีชีวิตอยู่ก็ควรจะมีคนมาซักไซ้ไล่เลียง แต่เรื่องนีก้ ลับเพิ่งมาเกิด
เอาตอนนี ้ ย่อมไม่ใช่คนของราชสํานักที่มาสืบสาวราวเรื่อง…”
ถึงเวลานัน้ ย่อมต้องอันตรายเป็ นอย่างมาก!
แต่หากสลัดจากเรื่องร้ายนีไ้ ม่พน้ เล่า?
พวกเขาจําเป็ นต้องเตรียมการไว้ตงั้ แต่เนิ่นๆ
อวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนล้วนรูว้ า่ คําพูดที่ยงั กล่าวไม่จบของนางคืออะไร
อวีถ้ งั กล่าวต่อ “นํา้ ที่วาดบนแผนที่นี ้ หากไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับแม่นา้ํ ก็คงเกี่ยวข้อง
กับทะเล ส่วนถึงเวลานัน้ พวกเราจะพูดแบบไหน อย่างไรเสียพวกเราก็ตอ้ งขออาจารย์เฉียนลอก
ภาพวาดและแผนที่นีใ้ ห้อยู่ดี ฉะนัน้ แล้วเหตุใดจึงไม่ทาํ ให้รูแ้ ล้วรูร้ อดไปเลย ภาพต้นฉบับเอาไว้
ที่เรา ส่วนของเลียนแบบก็ให้เป็ นของต่างหน้าของลุงหลู่ จากนัน้ พวกเราแบ่งภาพต้นฉบับอีก
ครัง้ แอบเอาภาพหนึ่งไปถามว่ายามที่พวกเราจัดการของต่างหน้าของลุงหลูก่ ็พบภาพนีเ้ ข้า ขอ
ความชีแ้ นะจากคนพวกนัน้ ว่าภาพนีว้ าดอะไร เป็ นที่แห่งใด? ก็ได้แล้วนี่เจ้าคะ!”
ยามนีเ้ รื่องสําคัญที่เร่งด่วนคือเตรียมสิ่งที่ควรจะเตรียมไว้ให้พร้อม ไม่แน่ว่าอาจจะได้
ใช้ในอนาคต
“ไม่เลว!” อวีเ้ หวินแปะมือนาง “เอาแบบนีแ้ หละ! เตรียมภาพวาดให้ดีก่อน เผื่อมีการ
เปลี่ยนแปลงอะไรกระชัน้ ชิด พวกเราจะรับมือไม่ทนั ”
“แต่ท่านก็อย่าได้ฝืนเกินไป” อวีถ้ งั กําชับบิดา “เรื่องนีจ้ ะเล็กจะใหญ่ รักษาชีวิตไว้ย่อม
เป็ นเรื่องสําคัญที่สดุ ”
“เจ้าวางใจ ข้ายังต้องรอดูเจ้ารับลูกเขยเข้าบ้านอยู!่ ” อวีเ้ หวินหยอกล้อลูกสาว
อวีถ้ งั ยิม้ ให้บิดา ในใจกลับไม่ได้ผ่อนคลายลงสักนิด
356

นางมีลางสังหรณ์อย่างเลือนรางว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครัง้ ใหญ่
นางเพียงหวังว่าลมฝนครัง้ นีจ้ ะไม่กระทบผูค้ นมากไปกว่านี ้
อวีห้ ย่วนกลับยกนิว้ โป้งให้อวีถ้ งั อย่างชื่นชม
อวีถ้ งั กระตุกยิม้ ให้เขา
ประกายไฟในตะเกียงส่งเสียงแตก ‘เปรีย๊ ะๆ’ อยู่พกั ใหญ่ อวีเ้ หวินกล่าวกับอวีถ้ งั และอวี ้
หย่วนด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “เอาตามที่อวีถ้ งั กล่าว ขออาจารย์เฉียนช่วยทําภาพสามแผ่น แผ่น
แรกอิงตามภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ ที่พวกเราส่งไปก่อนหน้านี ้ คืนสู่สภาพเดิม อีกแผ่น
ลอกภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ อีกแผ่นก็ลอกแผนที่นนั้ ภาพต้นฉบับพวกเราเก็บไว้ ลองคิด
ดูก่อนว่าตัวเองจะสามารถรู ไ้ ด้หรือไม่ว่าแผนที่นีว้ าดอะไรบ้าง หากไม่ไหวจริงๆ ข้าก็จะไปฝู
เจีย้ น แล้วค่อยไปเมืองหลวง เดี๋ยวข้าจะไปหาคนที่คนุ้ เคย ดูว่ามีใครจะไปฝูเจีย้ นหรือไม่ เมื่อ
ไปฝูเจีย้ นก็จะมีคนที่คนุ้ เคยคอยสืบข่าวได้”
นี่คงจะต้องเสียเงินในบ้านมิใช่นอ้ ยอีกแล้ว
ยังมีอวีห้ ย่วน ร้านค้าที่ถนนฉางซิ่ง เมื่อถึงสิน้ ปี ก็จะสร้างเสร็จ ร้านเครื่องลงรักของ
สกุลอวีก้ ็ตอ้ งฉวยโอกาสใช้ช่วงปลายปี เปิ ดกิจการอีกครัง้ เช่นกัน อวีห้ ย่วนต้องไปดูแลช่วยเหลือ
ร้านค้า ถึงเวลานัน้ ใครจะออกไปเป็ นเพื่อนบิดานางกัน?
เรือ่ งต่างๆ นานา ล้วนพาให้อวีถ้ งั ปวดหัว
แต่อวีห้ ย่วนไม่รูถ้ ึงความกังวลของอวีถ้ งั เห็นว่าได้จดั การเรื่องราวอย่างเหมาะสมแล้ว
ก็หยัดกายขึน้ อย่างร่าเริง เก็บภาพสามแผ่นพกติดกาย ออกจากประตูไป
อวีถ้ งั สูดลมหายใจเข้าเบาๆ
คิดได้ ก็ตอ้ งทําได้ นางจะพยายามอย่างเต็มที่
ความพยายามอยู่ท่ีคน ความสําเร็จอยู่ท่ีฟ้า!
357

ในยามที่อวีถ้ งั กําลังครุน่ คิดในใจ เวลานีจ้ งึ ค่อยพบว่าตัวเองหิวจนแทบนั่งตัวตรงไม่ได้


นางขอร้อ งกับ อวี เ้ หวิ น “ท่ า นพ่ อ ข้า คงไม่ ต ้อ งงดอาหารแล้ว กระมัง ? ยามนี ข้ ้า กิ น
ข้าวต้มได้สามชามเชียว”
เรื่องนีม้ ีทางออกแล้ว อวีเ้ หวินก็ผ่อนคลายขึน้ มา หยอกลูกสาวว่า “หึ เจ้าคิดว่าเจ้ายัง
กินอะไรได้กัน? หลังจากงดอาหารก็ทาํ ได้เพียงกินข้าวต้มเท่านัน้ ทัง้ ต้องค่อยๆ กินไปทีละนิด
กินไปชามเดียวก่อน หากไม่เป็ นอะไรจึงค่อยเพิ่มจํานวนไป เมื่อวานข้าพูดกับเถ้าแก่เนีย้ แล้ว
เช้าวันนีน้ างจะต้มข้าวต้มให้เจ้า”
อวีถ้ งั มองท้องฟ้าที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็ นสีขาวก็ครํ่าครวญขึน้ มา “ท่านพ่อ ยามนีฟ้ ้ายังไม่
สางเลย ไม่รูว้ ่าทางครัวต้มข้าวต้มแล้วหรือยัง ข้าหิวจนหน้ามืดตาลายแล้ว ท่านไปซือ้ ซาลาเปา
ไส้เนือ้ ให้ขา้ สักสองลูกเถิดนะเจ้าคะ เมื่อวานยามที่ขา้ ออกไป ไม่ไกลจากด้านหน้าโรงรับจํานํา
สกุลเผย ละแวกตรงที่พวกเราลงเรือ ท่าเรือเล็กๆ ของถนนเสี่ยวเหอ ตรงนัน้ ย่อมมีอาหารเช้า
ขายแต่เช้าตรู ่ ซาลาเปาไส้เนือ้ ไม่ได้ เต้าฮวยก็ยงั ดี! ท่านพ่อ ข้าขอร้องท่านล่ะ!”
อวีเ้ หวินหัวเราะ ก่อนจะออกไปซือ้ อาหารเช้าให้อวีถ้ งั
อวีถ้ งั นอนควํ่าหน้ารออวีเ้ หวินตรงบานหน้าต่างอย่างน่าสงสาร
อวีเ้ หวินไม่เพียงซือ้ เต้าฮวยกลับมา แต่ยงั ซือ้ ซาลาเปาไส้เนือ้ มาด้วย
ดวงตาอวีถ้ งั เป็ นประกาย
แต่อวีเ้ หวินกลับวางเต้าฮวยลงเบือ้ งหน้าอวีถ้ งั “นี่ของเจ้า!” คล้อยหลังก็ยดั ซาลาเปาไส้
เนือ้ ใส่ปากตัวเอง กล่าวด้วยเสียงอูอ้ ี ้ “นี่ของข้า”
อวีถ้ งั ร้องไม่ออก ดื่มเต้าฮวยไปหนึ่งคําอย่างหงุดหงิด
ยังดีท่ีบิดานางไม่ได้ถึงกับละเลยนาง เต้าฮวยนีอ้ ย่างไรก็หวานอร่อย ทําให้นางได้ฟื้นฟู
กําลังขึน้ บ้าง
358

ส่วนข้าวต้มของเถ้าแก่เนีย้ นางก็ไม่ได้ละเลย กินจนเกลีย้ งชาม


อวีเ้ หวินยังคงกระตุน้ นาง “เจ้าอยู่ท่ีน่ีทาํ ปิ่ นดอกไม้ดีๆ อย่าลืมทําให้แม่เจ้าหนึ่งอันด้วย
ตอนเย็นข้าวางแผนจะไปเดินเที่ยวตลาดกลางคืนตรงถนนเสี่ยวเหอกับพี่เจ้า ถึงเวลานัน้ กลับมา
จะเล่าให้เจ้าฟั ง”
อวี ถ้ ัง แกล้งแทงเข็มที่ กลี บเลี ย้ งดอกไม้บนปิ่ นแรงๆ ในใจกลับคล้ายเอ่อล้น ไปด้วย
นํา้ เชื่อม หัวตาก็มีหยาดนํา้ แวววับเช่นกัน
มีบิดาอยู่ขา้ งกาย มีมารดาอยู่รอคอย วันเวลาเช่นนี ้ จึงจะนับเป็ นความสุขที่แท้จริง!
359

ตอนที่ 44 กลับบ้าน
อวีถ้ งั เป็ นคนใจกว้างคนหนึ่ง
ไม่อย่างนัน้ เวลาหลายปี ท่ีอยู่สกุลหลี่ นางก็คงถูกฮูหยินหลี่บีบให้เป็ นบ้าไปนานแล้ว
ในเมื่อตัดสินใจแล้ว นางก็ไม่อาจคิดมากอีก
เพียงทําตามการปรึกษาหารือของพวกเขาก็เพียงพอแล้ว
ทางอาจารย์เฉียนกล่าวว่า หากจะเอาภาพคืนสูส่ ภาพเดิม ทัง้ ต้องทําของปลอมให้พวก
เขา ลอกภาพออกมาสามแผ่น ไม่อาจส่งของให้ในเวลาสัน้ ๆ ไม่ว่า แต่ยงั ต้องเพิ่มเงินอีกสามสิบ
ตําลึง
อวีเ้ หวินตัดสินใจอย่างฉับไว ขอยืมเงินกับเถ้าแก่รองถงลับๆ สามสิบตําลึง สัญญาว่า
หลังจากกลับหลินอันจะคืน ยังกลัวว่าเถ้าแก่รองถงจะแพร่งพรายเรื่องนีอ้ อกไป อาจทําให้คน
อื่นสงสัยจุดประสงค์การมาหังโจวของพวกเขา อวีเ้ หวินจึงขอร้องครัง้ แล้วครัง้ เล่าให้เถ้าแก่
รองถงเก็บเป็ นความลับ “อย่างไรข้าก็เป็ นซิ่วไฉ เรื่องนีห้ ากเผยแพร่ออกไปคงขายหน้าแย่ เจ้าก็
ช่วยข้าปกปิ ดหน่อยเถิด”
แต่ในความเป็ นจริงนัน้ กลัวว่าจะมีคนสงสัยจุดประสงค์ในการมาหังโจวของพวกเขา
บัณฑิตตกอับนัน้ มีถมเถไป กระทั่งขุนนางบางคนก็ไร้เงินในมือเช่นกัน เถ้าแก่รองถงพบ
เจอมามาก เอ่ยด้วยรอยยิม้ ว่า “ท่านวางใจ เรื่องนีข้ า้ ไม่บอกใครหรอก” จากนัน้ ก็ให้อวีเ้ หวิน
เขียนหลักฐานการยืมเงิน เก็บไว้ในคลังเก็บสินค้าของโรงรับจํานํา “ที่น่ีน่าเชื่อถือกว่าคลังเก็บ
สินค้าของศาลาว่าการเมืองหังโจวเสียอีก ท่านวางใจเถิด!”
หากอวีเ้ หวินไม่เชื่อมั่นในโรงรับจํานําสกุลเผย ก็คงไม่มายืมเงินที่น่ีหรอก
เขาขอบคุณเถ้าแก่รองถงเป็ นมั่นเป็ นเหมาะ เวลานีจ้ งึ กลับไปโรงเตีย๊ ม
360

อวีถ้ งั อยู่ในโรงเตีย๊ มไม่มีอะไรทํา ทัง้ สองวันนีไ้ ม่เพียงใช้เวลาหมดไปกับการทําปิ่ นดอก


ไห่ถงั คูใ่ ห้มารดา แต่ยงั ทําปิ่ นดอกเหมยกํามะหยี่สีแดงให้เถ้าแก่เนีย้ ของโรงเตีย๊ ม
หลังจากที่เถ้าแก่เนีย้ ได้รบั ก็ดีใจยกใหญ่ ชมว่านางทําปิ่ นดอกไม้ได้อย่างงดงาม ยัง
กล่าวว่า “หลายปี มาแล้วที่ขา้ ไม่ได้เห็นของที่ประณีตงดงามเช่นนี ้ เจ้าอยากจะใช้สิ่งนีห้ ารายได้
ให้ตวั เองบ้างหรือไม่? หากเจ้าสนใจ ข้าสามารถช่วยเจ้าถามร้านฮวาเฟิ่ นของสกุลไช่ได้วา่ รับซือ้
เท่าใด? หลังจากเจ้ากลับไปหลินอัน สามารถส่งปิ่ นดอกไม้ท่ีทาํ เสร็จแล้วให้เถ้าแก่ใหญ่ถงของ
โรงรับจํานําพาเข้ามาได้ ข้าจะช่วยเจ้านําไปขายในร้านฮวาเฟิ่ นของสกุลไช่”
ทัง้ สองชาติของอวีถ้ งั ล้วนไม่ได้นึกถึงว่าจะใช้สิ่งนีใ้ นการหาเงินได้ นางอดลังเลอยู่บา้ ง
ไม่ได้ “ปิ่ นดอกไม้ของข้าดีขนาดนั้นเลยรึ? ร้านฮวาเฟิ่ นจะยินดีอย่างนัน้ รึ? ข้าไม่รูว้ ่าในหนึ่ง
เดือนจะสามารถทําได้ก่ีอนั ในใจยังไม่มีแผนอันใดเลย”
เถ้าแก่เนีย้ เอ่ยด้วยรอยยิม้ “หากเจ้ามีใจจะทําการค้าขายสิ่งนีจ้ ริงๆ ก็กลับไปครุน่ คิดดีๆ
เสีย ดูว่าเดือนหนึ่งเจ้าสามารถทําได้ก่ีอนั แต่ละอันต้องใช้ตน้ ทุนเท่าใด? รอเจ้าได้คาํ ตอบแล้ว
ค่อยมาหาข้าก็ไม่สาย อย่างไรข้าก็อยู่ท่ีน่ีตลอดเวลาอยู่แล้ว เพียงแค่เจ้ามาก็หาข้าเจอแล้ว”
อวีถ้ งั ขอบคุณซํา้ แล้วซํา้ เล่า ใช้เวลาว่างหลายวันนีท้ าํ ปิ่ นดอกไม้ติดต่อกันเจ็ดแปดอัน
ประจวบเหมาะที่อวีห้ ย่วนกลับมาเปลี่ยนเสือ้ ผ้าพอดี นางยังเรียกอวีห้ ย่วนขอให้เขาช่วยนางคิด
ต้นทุน
นี่หากไม่คาํ นวณก็ไม่รูจ้ ริงๆ พอคํานวณดูถึงกับตกใจ
แค่ป่ิ นดอกไม้เจ็ดแปดอัน เสียเงินไม่ถึงสิบอีแปะ อย่างน้อยดอกหนึ่งขายสามสิบอีแปะ
ก็ได้เงินมากมายแล้ว
อวี ห้ ย่ว นทํา ท่าคล้ายกับกํา ลังคิดอะไรอยู่ ปรึก ษากับอวีถ้ ัง “เจ้า ว่า พวกเราทําการ
ค้าขายนีจ้ ะเป็ นอย่างไร?”
361

บางครัง้ หากมีเวลาว่างทําปิ่ นดอกไม้ไม่ก่ีอนั เพื่อช่วยภาระค่าใช้จ่ายในบ้านนัน้ ย่อมได้


แต่ท าํ การค้า นี ร้ ะยะยาว อวี ถ้ ัง ไม่ เ คยนึก ถึ ง มาก่ อ น แต่เ รื่อ งที่ อ วี ห้ ย่ ว นอยากทํา นางล้ว น
สนับสนุนทัง้ นัน้
“เช่นนัน้ ท่านพี่ไปสํารวจความต้องการในตลาดดู!” อวีถ้ งั กล่าว
อวีห้ ย่วนครุน่ คิดเล็กน้อย สุดท้ายก็ยงั คงถอนหายใจ เผยรอยยิม้ ขมขื่นอยู่บา้ ง “อย่างไร
ก็ปล่อยไปก่อนเถิด! ท่านพ่อนัน้ ต้องการลงแรงส่งเสริมร้านเครื่องลงรักของพวกเรา”
อวีถ้ งั ไม่เคยเดินเล่นที่เมืองหังโจวดั่งเช่นตอนนีม้ าก่อน คิดว่าร้านค้าของสกุลนัน้ ดีมา
โดยตลอด ยามนีม้ าเที่ยวเล่นที่เมืองหังโจว จึงรู ส้ ึกว่าหลินอันเล็กไปอยู่บา้ ง เข้าใจอวีห้ ย่วนว่า
เหตุใดเขาจึงทําตัว ‘ไม่เหมาะสม’ อยู่บา้ ง แต่บางเส้นทาง อวีห้ ย่วนจําเป็ นต้องเดินด้วยตนเอง
สัมผัสด้วยตนเอง เลือกด้วยตนเอง ทัง้ ช่วงชิงด้วยตนเอง
นางเผยยิม้ ถามเรื่องทางอาจารย์เฉี ยนขึน้ มา “หลายวันนีท้ ่านพี่อยู่ท่ีน่ ัน ราบรื่น ดี
หรือไม่?”
“ราบรื่นดี!” อวีห้ ย่วนกล่าว “ฝี มือของอาจารย์เฉียนนัน้ แทบไม่ตอ้ งพูดถึง”
รอจนยามที่เขานํางานที่เสร็จกลับมา ทุกคนพากันส่องซ้ายมองขวา กลับมองไม่ออกว่า
แตกต่างกับภาพต้นฉบับอย่างไร อวีเ้ หวินถึงกับประหลาดใจ อยากทําความรู จ้ ักอาจารย์เฉีย
นเป็ นอย่างมาก แต่ถกู อาจารย์เฉียนปฏิเสธอย่างตรงๆ อวีเ้ หวินผิดหวังไม่นอ้ ย แต่รูว้ า่ เรื่องเช่นนี ้
ไม่อาจดึงดันได้ จึงจัดเก็บสัมภาระเตรียมที่จะกลับหลินอัน
อวีถ้ ังให้อวีห้ ย่วนไปตรอกขายเครื่องแป้งเครื่องประดับผมเป็ นเพื่อนนาง ซือ้ วัสดุและ
อุปกรณ์ในการทําปิ่ นดอกไม้ ก่อนที่จะเดินทางกลับหลินอัน อวีเ้ หวินวางแผนจะพาพวกเขาไป
กล่าวขอบคุณเผยเยี่ยนด้วย
แต่เผยเยี่ยนและโจวจ้วงหยวนไปเมืองไหวอัน
362

ตามที่เถ้าแก่รองถงกล่าว หลานชายของโจวจ้วงหยวนย้ายมาเป็ นข้าหลวงที่ไหวอัน


โจวจ้วงหยวนจึงลากเผยเยี่ยนไปด้วยกัน
อวี เ้ หวิ น อิ จ ฉาไม่ น ้อ ย “อ่ า นหนัง สื อ หมื่ น เล่ม เดิ น ทางหมื่ น ลี ้ ก็ ไ ม่ รู ว้ ่ า วัน ใดข้า จะ
สามารถเป็ นเช่นนีไ้ ด้บา้ ง”
ล่องเรือควบม้าล้วนมากอันตราย อวีถ้ งั กลับไม่อยากให้อวีเ้ หวินเดินทางไกล
นางกล่าวไปตรงๆ “นั่นเพราะว่านายท่านสามสกุลเผยและโจวจ้วงหยวนล้วนมีคนรู จ้ กั
มักคุน้ อย่างไรท่านอยู่บา้ นเป็ นเพื่อนท่านแม่กบั ข้าดีกว่า!”
อวีเ้ หวินหัวเราะเสียงดัง ลูบเส้นผมนุ่มลื่นของลูกสาว กล่าวด้วยรอยยิม้ “วางใจเถิด ข้า
ก็เพียงอิจฉาเท่านัน้ ให้ขา้ ทิง้ เจ้าและแม่เจ้าออกไปเที่ยว สามวันสี่วนั ยังพอว่า แต่หากนานไปก็
คงไม่ไหว”
อวีถ้ งั กระตุกยิม้ ขึน้ มา
พวกเขาขอบคุณเถ้าแก่และเถ้าแก่เนีย้ ของโรงเตี๊ยม ก่อนจะขึน้ เรือที่ท่าเรือเล็กๆ ซึ่งไม่
ไกลจากโรงรับจํานําสกุลเผย
การเดินทางนัน้ ราบรื่น ไม่ถึงสองชั่วยามก็เห็นท่าเรือเสาซีในครรลองสายตา
ป้ายของโรงรับจํานําสกุลเผยยังคงปลิวไสวสูล้ ม ท่าเรือก็คกึ คักอยู่เช่นนัน้ ไม่เปลี่ยน
อวีถ้ งั รูส้ กึ คล้ายจากไปเกือบครึง่ ปี เสียงจ้อกแจ้กจอแจพวกนัน้ เปลี่ยนเป็ นคุน้ เคยขึน้ มา
นางกระโดดลงจากเรือ
เถ้าแก่ถงตะโกนบอกนางจากไกลๆ “ช้าหน่อย ช้าหน่อย ระวังตกนํา้ เอา”
อวีถ้ งั หัวเราะ เข้าไปคารวะเถ้าแก่ถง
363

เถ้าแก่ถงเดินเข้ามาหาอย่างอารมณ์ดี กล่าวทักทายอวีเ้ หวิน “น้องข้าบอกว่าพวกเจ้า


จะกลับ มาวัน นี ้ เมื่ อ ครู ่ข้า ยัง คิ ด ว่ า ไฉนพวกเจ้า จึง ยัง ไม่ ถึ ง แต่พ วกเจ้า กลับ มาถึ ง พอดี ไป
หังโจวราบรื่นดีหรือไม่?”
“ราบรื่นดี!” อวีเ้ หวินและเถ้าแก่ถงเดินเคียงคู่ไปด้านหน้า ทัง้ กล่าวขอบคุณเขาไปพลาง
“หากไม่ใช่เพราะน้องชายเจ้า ลูกสาวของข้าคงแย่ไม่นอ้ ย” ก่อนจะเล่าเรื่องที่เชิญหมอให้เถ้า
แก่ถงฟั ง
อวีถ้ งั โมโหอยู่ดา้ นข้าง “ท่านพ่อ ท่านพูดกับเถ้าแก่ถงก็พอแล้ว อย่าได้ไปพูดกับใครอีก
นะเจ้าคะ”
อวี เ้ หวิ น และเถ้า แก่ ถ งชะงัก ไป คล้อ ยหลัง ก็ หัว เราะขึ น้ มา “สาวน้อ ยอายเสี ย แล้ว
ภายหลังพวกเราย่อมไม่พดู แล้ว ไม่พดู แน่นอน”
เถ้าแก่ถงเชิญอวีเ้ หวินไปดื่มชา พักผ่อนในร้าน
อวีเ้ หวินเป็ นห่วงเฉินซื่อที่รออยู่ท่ีเรือน จึงปฏิเสธอย่างสุภาพไป
ด้านอวีถ้ งั ก็มอบปิ่ นดอกไม้ท่ีตวั เองทําให้กบั พวกหญิงสาวในสกุลถง
นายหญิ งถงและนายหญิ งเล็กถงล้วนชื่นชอบเป็ นอย่างมาก รู ว้ ่าอวีถ้ ังทําเอง ก็นาํ
ผ้าเช็ดหน้าไม่ก็ถุงเท้ามอบให้เป็ นการตอบแทน ยังกําชับกับอวีถ้ ังว่าหากว่างๆ ก็เข้ามาเที่ยว
เล่นที่น่ีพร้อมเฉินซื่อได้
อวีถ้ งั รับปากทัง้ รอยยิม้
หลังจากกลับถึงบ้านก็เริม่ แจกจ่ายของที่ตวั เองทําอย่างใจกว้าง
เฉิ นซื่อ ป้าเฉิ น ซวงเถา หม่าซิ่วเหนียง นายหญิ งหม่า…พวกหญิ งสาวของสกุลนาย
ท่านอูข๋ า้ งบ้านก็มอบกล่องไม้เล็กๆ ให้เช่นกัน
364

ทุกคนต่างพากันชมฝี มือของอวีถ้ งั มีเพียงเฉินซื่อที่ถามอวีถ้ งั อย่างสงสัย “นี่เจ้าทําเอง


จริงๆ รึ? ไม่ใช่ซอื ้ มาหรอกหรือ?”
อวีถ้ งั จึงทําตรงนัน้ ให้เฉินซื่ออีกอัน
เฉิ นซื่อตกใจเป็ นอย่างยิ่ง กอดอวีถ้ ังทัง้ รอยยิม้ “เจ้าเด็กคนนี ้ คาดไม่ถึงว่าจะมีฝีมือ
เช่นนี ้ ไปรํ่าเรียนมาเมื่อใด? ไฉนข้าจึงไม่รู?้ ”
อวีถ้ งั ไม่บอกเฉินซื่อ
จนถึงยามเย็น ยามที่เฉิ นซื่อและอวีเ้ หวินพูดคุยกันเป็ นการส่วนตัวก็ตาํ หนิตัวเองอยู่
บ้าง “แม้จะกล่าวว่าข้าป่ วย ไม่มีเวลามาดูแลทุกเรื่องของอวีถ้ งั แต่ขา้ ยังคงละเลยนางเกินไป
กระทั่งนางทําปิ่ นดอกไม้เป็ น ข้าก็ยงั ไม่รู”้
อวีเ้ หวินกลับนึกถึงเรื่องแผนที่นั้น พึมพําตอบกลับ “รีบนอนเถิด! เจ้าก็อย่าคิดมาก
ตอนนีอ้ าถังมีความคิดความอ่านแล้ว ภายหลังนางสามารถประคับประคองครอบครัวขึน้ ได้ ไม่
แน่วา่ พวกเราจะได้เสวยสุขจากนางจริงๆ”
365

ตอนที่ 45 เดินเล่น
ไม่วา่ ลูกจะเติบโตเท่าใดก็ยงั เป็ นเด็กในสายตาบิดามารดาทัง้ นัน้
เฉิ น ซื่ อ คิ ด ว่ า คํา พูด ของอวี เ้ หวิ น นั้น ไม่ ค่ อ ยจริง จัง เท่ า ใด แต่ เ มื่ อ หัน ไปมองอี ก ที ก็
พบว่าอวีเ้ หวินนอนหลับไปแล้ว อดหาข้อแก้ตวั ให้สามีไม่ได้ คิดว่าเขาอาจจะเหนื่อยเกินไป นาง
ครุน่ คิดคนเดียวอยู่ตรงนัน้ เนิ่นนาน รูส้ กึ ว่าตัวเองละเลยต่อลูกสาวเกินไป
เช้าตรูข่ องอีกวัน จึงทํานํา้ แกงข้าวหมากใส่ไข่ดว้ ยตัวเอง ยกเข้าไปถึงในห้องอวีถ้ งั
ชาติก่อนอวีถ้ งั กลับพบเจอกับเรื่องเช่นนีบ้ ่อยครัง้ แต่หลังจากเกิดใหม่ นี่ยงั คงนับเป็ น
ครัง้ แรก อดตกใจขึน้ มาไม่ได้ รีบปี นป่ ายออกมาจากกองผ้าห่ม “ท่านแม่ นี่อะไรกันเจ้าคะ?”
เฉินซื่อไม่ได้ตอบ มองนางสวมเสือ้ ผ้าด้วยรอยยิม้ “หลายวันแล้วที่แม่ไม่ได้พดู คุยกับ
เจ้าดีๆ วันนีเ้ จ้าอยากไปกินเจที่วดั กับข้าหรือไม่?”
หลังจากท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผยจากไป เฉิ นซื่อก็มักไปทําบุญให้ท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผยที่วดั
บ่อยๆ
อวีถ้ งั ใช้เกลือบ้วนปาก “วันนีป้ ้าเฉินไม่ว่างหรือเจ้าคะ? ข้าและท่านพ่อวางแผนจะไป
ทําความสะอาดสุสานลุงหลู่ ใกล้จะครบรอบยี่สิบเอ็ดวันของเขาแล้ว ท่านพ่อกล่าวว่าจะเผา
กระดาษให้เขาสักหน่อย” ทัง้ ให้คนในเมืองหลินอันรับรู ้ การที่พวกเขาไปเมืองหังโจวก็เพื่อนํา
ของต่างหน้าของหลูซ่ ิ่นกลับมา เตรียมที่จะเผาให้เขา
เฉินซื่อผิดหวังอยู่บา้ ง แต่ว่าอวีถ้ งั ออกไปกับอวีเ้ หวิน พวกเขาสองพ่อลูกสนิทสนมกลม
เกลียว นางก็ยงั คงชื่นใจ
“ได้!” นางตอบอย่างพอใจ “รีบดื่มนํา้ แกงที่แม่ทาํ ให้เจ้าเสีย เดี๋ยวเย็นก็จะไม่อร่อยแล้ว
ข้าจะให้ปา้ เฉินทําขนมแป้งอบให้เจ้าและพ่อเจ้าพกไปด้วย”
หลู่ซิ่นถูกฝั งที่ชิงซานหูตรงชานเมือง เดินทางจากเมืองหลินอันต้องใช้เวลาประมาณ
สองชั่วยาม ตลอดทางล้วนเป็ นขุนเขา ไม่มีกระทั่งร้านนํา้ ชา ทําได้เพียงกินอาหารแห้งเท่านัน้
366

อวีถ้ งั ขานรับ ก่อนจะเปลี่ยนสวมชุดต่วนหรูเนือ้ หยาบสีจนั ทร์กระจ่าง เกล้าผมขึน้ อย่าง


ง่ายๆ ดื่มนํา้ แกงที่มารดาทํา ก่อนจะออกไปกินอาหารเช้าข้างนอกกับบิดาและมารดา
กินข้าวเสร็จ ขนมแป้งอบของป้าเฉินก็เสร็จพอดี เฉินซื่อตักกับข้าวใส่กล่อง ไม่ลืมกําชับ
อาเสา “ระหว่างทางก็ระวังหน่อย อย่าให้นายท่านและคุณหนูหิวเชียว”
อวีเ้ หวินเป็ นห่วงเฉินซื่อมากกว่า “ให้อาเสาอยู่รบั ใช้พวกเจ้าเถิด! ข้ามีอาถังเป็ นเพื่อน
แล้ว”
สองสามีภรรยาต่างข้ายอมให้เจ้า เจ้ายอมให้ขา้ อวีถ้ งั กระตุกยิม้ ขึน้ มา ขอตะกร้าสาน
จากป้าเฉิน
เฉินซื่อกล่าว “เจ้าจะเอาตะกร้าสานไปทําอะไร?”
อวีถ้ งั ส่งสายตาเป็ นนัยให้บิดา “ก็ไม่ใช่วา่ ต้องเอาไปใส่ธูปเทียนให้ลงุ หลูห่ รอกรึ?”
เฉินซื่อไปหาตะกร้าสานขนาดพอเหมาะมาให้อวีถ้ งั อวีถ้ งั และบิดาออกจากเรือนไปซือ้
ธูปเทียน
เป็ นดังที่คาด พอทัง้ สองคนออกไปข้างนอกก็พบเจอคนคุน้ เคยไม่ใช่นอ้ ย ทุกคนล้วนรู ้
ว่าหลายวันมานีอ้ วีเ้ หวินไปหังโจว พอเขากลับมาวันที่สองก็เห็นถือของเซ่นไหว้ไม่รูจ้ ะเอาไปทํา
อะไร ต่างพากันแปลกใจ เก้าในสิบคนถามว่าเขาจะไปทําอะไร มีเพียงคนเดียวที่รงั้ ตัวถามพวก
เขาว่าหังโจวมีท่ีไหนสนุกบ้าง
อวี เ้ หวิ น ตอบทุก คนตามที่ ป รึก ษาหารือ มากับ อวี ถ้ ัง ก่อ นหน้า นี ้ “หลู่ซิ่ ว ไฉยัง มี ของ
บางอย่างทิง้ ไว้ท่ีหงั โจว ข้าจึงไปช่วยเขาเก็บเสียหน่อย รอจนครบสี่สิบเก้าวัน ก็จะเผาสิ่งของไป
ให้เขา”
ทุกคนต่างชื่นชมว่าอวีเ้ หวินมีเมตตามากคุณธรรม
อวีเ้ หวินถ่อมตัวอยู่คอ่ นวัน เวลานีจ้ งึ ค่อยจ้างเกีย้ วสองหลังเดินทางไปชิงซานหู
367

หลุมฝั งศพของหลู่ซิ่น ต้นสนสูงใหญ่เขียวขจีอยู่รอบทิศ หน้าหลุมศพยังหลงเหลือเศษ


ซากประทัดสีแดงที่จดุ ในยามฝังศพ
อวีเ้ หวินถอนหายใจ คุกเข่าลงบนหินหน้าป้ายหลุมศพเผากระดาษเงินให้หลูซ่ ิ่น “ก็ไม่รู ้
ว่าสิ่งที่เจ้าพูดต่อหน้าข้า เรื่องไหนเป็ นเรื่องจริงเรื่องไหนเป็ นเท็จ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ข้าล้วนหวัง
ให้เจ้าลืมเรื่องของชาตินี ้ สามารถไปเกิดในที่ดีๆ ได้ในเร็ววัน อย่าได้ไม่เป็ นโล้เป็ นพายเหมือนใน
ชาตินี”้
อวีถ้ งั มองพินิจป้ายหลุมศพของคนอื่นอยูด่ า้ นข้างด้วยความอยากรูอ้ ยากเห็น
บางคนมีทงั้ ลูกสาวลูกชาย นับว่าสุขสมหวัง บางคนอายุยงั น้อยก็มาด่วนจากไป บาง
คนเหลือที่อีกครึง่ หนึ่งเพื่อรอฝังคูช่ ีวิตร่วมกัน ทัง้ มีสสุ านคูท่ ่ีฝังร่วมกันตัง้ นานแล้ว
ลมของสารทฤดูพัดมา พาให้ไพรพนาที่ไร้ผูค้ นเกิดเสียงหวีดหวิว ทั้งหอบเอาความ
หนาวเหน็บเข้ามา
อวีถ้ ังใช้สองมือลูบแขน “ท่านพ่อ ท่านหนาวหรือไม่? ที่น่ี ดูอึมครึมน่ากลัว พวกเรา
กลับไปก่อนดีกว่ากระมัง!”
อวีเ้ หวินผงกศีรษะ ลงเขาไปพร้อมกับอวีถ้ งั
ผูค้ นมากมายในเมืองหลินอันล้วนทราบถึงข่าวนี ้
กระทั่งหม่าซิ่วเหนียงก็ยงั ถือโอกาสที่มาขอบคุณอวีถ้ งั ถามถึงเรื่องนีอ้ ย่างสงสัย “หลู่
ซิ่วไฉทิง้ อะไรไว้บา้ งรึ?”
“แค่พวกภาพวาดตํารา” อวีถ้ งั กล่าว “ล้วนเป็ นสิ่งของที่เขาใช้ในยามปกติ ทัง้ ไม่อาจจะ
ทิง้ ไว้ในเรือนพวกเรา”
หม่าซิ่วเหนียงกล่าวอย่างเห็นใจ “ท่านลุงอวีก้ ็โชคไม่ดีท่ีคบหาสหายอย่างเขา เขาตาย
ไปก็ไม่รูอ้ ะไรอีกแล้ว ท่านลุงอวีก้ ลับต้องเก็บกวาดช่วยเขา”
368

อวี ถ้ ัง ไม่ อ ยากพูด เรื่ อ งนี ก้ ับ นางมาก ถามนางด้ว ยรอยยิ ม้ “ยามที่ ส กุล สามี ม าส่ง
สินสอดทองหมัน้ เจ้าจะสวมชุดอะไรรึ?” นางก็เลือกชุดที่ไม่เป็ นที่สะดุดตาเพื่อขับให้หม่าซิ่ว
เหนียงดูเด่น ไม่อาจจะฉกฉวยความสนใจไปจากหม่าซิ่วเหนียงได้
หม่าซิ่วเหนียงกล่าวอย่างขัดเขิน “แม่ขา้ เตรียมชุดสีแดงสดให้ขา้ แล้ว”
อวีถ้ งั เผยยิม้ “เช่นนัน้ ข้าใส่ชดุ สีม่วงอ่อนดีกว่า!”
หม่าซิ่วเหนียงขานตอบรับในลําคอ ก่อนจะคุยเรื่องส่วนตัวกับอวีถ้ งั เสียงเบา “แม่ของ
ข้าแอบเอาตั๋วเงินสิบตําลึงสามใบให้ขา้ ไม่ให้บอกใคร หลังจากแต่งงานจะได้ไม่ตอ้ งยื่นมือขอ
เงินคุณชายจางซือ้ เครื่องแป้ง เครื่องชาด”
แต่ไหนแต่ไรอวีถ้ งั ก็ไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนีม้ าก่อน นางถามอย่างแปลกใจ “ไม่ใช่
ว่าเจ้ามีท่ีย่ีสิบหมู่เป็ นสินเดิมแล้วหรอกรึ?”
หม่ า ซิ่ ว เหนี ย งกล่า ว “แม่ ข้า บอกแล้ว แม้จ ะกล่า วว่ า ที่ ย่ี สิ บ หมู่นั้น เป็ น สิ น เดิ ม แต่
ทรัพย์สินพวกนัน้ ล้วนจัดแจงไว้ดีแล้ว สกุลจางไม่ได้ม่งั คั่ง หากข้าฟุ้งเฟ้อ กลัวว่าคนของพวกเขา
จะไม่ชอบใจ…”
อวีถ้ งั อดดีใจไม่ได้ท่ีตวั เองไม่ตอ้ งแต่งออกไป
ผ่ า นไปเช่ น นี ้อ ยู่ห ลายวัน เมื อ งหลิ น อัน ก็ แ พร่ ข่ า วไปทั่ว อวี ถ้ ัง คิ ด ว่ า เรื่ อ งนี ้น่ า จะ
พอเหมาะพอควรแล้ว…คนพวกนัน้ ไม่มาขโมยของต่างหน้าของหลู่ซิ่น พวกเขาก็จะเผามันทิง้
แล้ว ไม่วา่ จะอย่างหน้าหรืออย่างหลัง เผือกร้อนในมือก็สามารถโยนทิง้ ไปได้แล้ว
หลายวันนีห้ ากอวีเ้ หวินไม่ศึกษาเรื่องแผนที่อยู่ในเรือน ก็ไปสืบข่าวอย่างระมัดระวังว่า
ในเมืองหลินอันมีใครบ้างที่ทาํ การค้าขายที่ฝเู จีย้ น? ทํากิจการใหญ่หรือเล็ก? คนผูไ้ หนเปิ ดเผย
ใจกว้าง เป็ นต้น มีครัง้ หนึ่งถูกคนถามว่าเหตุใดเขาจึงสืบเสาะเรื่องพวกนี ้ หรือสกุลอวีเ้ ตรียมจะ
เปลี่ยนไปทํามาหากินอย่างอื่น
เขาแสร้งโง่ กล่าวอย่างขอไปทีออกไป กลับมาถึงบ้านก็พบว่าเหงื่อชุ่มไปทัง้ ตัว
369

อวีเ้ หวินเล่าเรื่องนีใ้ ห้อวีถ้ งั ฟั ง “เห็นได้ชดั ว่าข้านัน้ ไม่ถนัดทําเรื่องเลวร้ายเอาเสียเลย”


อวีถ้ ังหัวเราะ กังวลอยู่บา้ ง ไม่รูว้ ่าเหมาะสมหรือไม่ท่ีบิดาจะไปสืบข่าวที่เมืองหลวง
และฝูเจีย้ น
อวีเ้ หวินกลับปลอบใจนาง “มีครัง้ แรกก็ย่อมมีครัง้ ที่สอง มนุษย์ลว้ นต้องการโอกาสใน
การฝึ กฝนทัง้ นัน้ ”
คําพูดนีก้ ็มีเหตุผล
ชาติท่ีแล้วนางเป็ นคนที่ไม่สนใจเรื่องราวของผูอ้ ่นื ตอนนีห้ าได้เป็ นเช่นนัน้ ไม่
อวีเ้ หวินกลัวนางคิดมาก จึงนําภาพทัง้ สองที่อาจารย์เฉียนลอกแบบขึน้ มาชม “เจ้าว่า
อาจารย์เฉี ยนผูน้ ีม้ ีฝีมือยอดเยี่ยมถึงขนาดนี ้ เหตุใดจึงทําอาชีพนีอ้ ยู่? แม้จะกล่าวว่าหาเงิน
ได้มาก แต่ความเสี่ยงก็ไม่นอ้ ยเช่นกัน ทัง้ ไม่อาจทิง้ ชื่อเสียงสูค่ นรุน่ หลังได้ น่าเสียดายจริงๆ”
ใครจะไม่มีตน้ สายปลายเหตุบา้ งกัน
อวีถ้ ัง ไม่พูดอันใดเกี่ ย วกับเรื่องนี ้ รอจนมารดาเรีย กกิ นมือ้ เย็น ยามที่ นางช่วยบิดา
จัดเตรียมโต๊ะอาหารกลับยืนนิ่งราวกับถูกฟ้าผ่าอยูต่ รงนัน้
“นี่ นี่มนั อะไรกัน?” นางร้องเสียงหลง
370

ตอนที่ 46 ตราประทับ
ยามนีต้ ะวันกําลังลาลับพอดี ก้อนเมฆแผ่แสงสีแดงราวกับเพลิงไหม้อยู่ปลายขอบฟ้า
ย้อมห้องหนังสือครึง่ หนึ่งให้กลายเป็ นสีแดง
อวีถ้ งั จับม้วนภาพแน่น
แผนที่แผ่นนัน้ ที่อาจารย์ลอกแบบมา ครึง่ หนึ่งวางบนโต๊ะหนังสือ อีกครึง่ แขวนอยู่กลาง
อากาศ
อวีเ้ หวินตกใจเสียงร้องของอวีถ้ งั รีบเดินตัวปลิวเข้ามา “เป็ นอะไร”
อวีถ้ งั ใบหน้าซีดเผือด พละกําลังทัง้ หมดคล้ายถูกดึงออกไป ชีไ้ ปที่แผนที่นนั้ อย่างสั่นๆ
“ท่านดู ท่านดู ชุนสุย่ ถัง!”
อวีเ้ หวินไม่เข้าใจว่าหมายความว่าอย่างไร เดินเข้าไปพินิจอย่างละเอียด กลับไม่พบ
อะไร
อวีถ้ งั รีบยัดม้วนภาพใส่มือบิดา “ท่านลองมองจากตรงนี ้ มองผ่านแสงตะวัน ยอดเขา
นัน้ มีตราประทับอยู่ ประทับคําว่าชุนสุย่ ถัง”
อวีเ้ หวินรับม้วนภาพจากลูกสาว มองจากวิธีท่ีอวีถ้ งั บอกก่อนหน้านี ้ คาดไม่ถึงว่าจะเห็น
รางๆ ผ่านแสงตะวัน ตรา ‘ชุนสุย่ ถัง’ ที่แกะสลักด้วยตัวอักษรฉินซู 1 92

เขาขมวดคิว้ แน่น เรียกอาเสาเข้ามาเป็ นอันดับแรก ให้เขาไปเรียกอวีห้ ย่วนที่ช่วยอวีป้ ๋ อ


ซ่อมแซมร้านเข้ามา จากนัน้ ก็ปิดประตูดว้ ยใบหน้าเคร่งขรึม กล่าวเสียงเบากับอวีถ้ งั “เจ้าอย่า
ลนลานไป นี่เป็ นลูกไม้ท่ีช่างพวกนัน้ ชอบใช้…เพื่อตบตา กลับคิดทิง้ ชื่อให้เป็ นที่ประจักษ์อย่าง

1
ตัวอักษรฉินซู ซึ่งก็คือตัวอักษรลี่ซู เป็ นตัวอักษรจีนโบราณที่พฒ
ั นามาจากตัวอักษรจ้วนซู ใช้ในสมัยรัชวงศ์ฉินและรัชวงศ์
ฮั่น โดยในรัชวงศ์ฉินมีการเรียกตัวอักษรนีว้ า่ ฉินซู
371

ภาคภูมิ ประทับตราตัวเองลงในที่คนปกติไม่อาจสังเกตเห็นได้ง่าย ให้คนพบอย่างบังเอิญไม่ก็


พบหลังจากร้อยปี ผ่านไปว่าสิ่งนีเ้ ขาเป็ นคนทําขึน้ มา”
หากก่อนหน้านีก้ ล่าวว่าอวีเ้ หวินชื่นชมในตัวอาจารย์เฉียนผูน้ ีเ้ ท่าใด ในยามนีก้ ็ระอาใจ
กับเขามากเท่านัน้
“ก็ไม่รูว้ ่านอกจากตราประทับนี ้ เขายังหลงเหลืออะไรไว้หรือไม่? ตราประทับนีส้ ามารถ
เห็นได้ในยามพลบคํ่า แล้วยังเห็นในสถานการณ์แบบใดได้อีก?” สีหน้าของอวีเ้ หวินยํ่าแย่ “รอ
อาหย่วนกลับมา พวกเราทัง้ สามต้องช่วยกันดูดีๆ อีกที”
อวีถ้ งั พยักหน้าอย่างปลกๆ ในใจนัน้ เละเทะวุน่ วายประหนึ่งข้าวต้มไปแล้ว
นางไม่ได้เข้าใจผิด ‘ชุนสุย่ ถัง’ นัน้ และตราประทับในภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ ของ
นางในชาติก่อนเหมือนกันไม่ผิดเพีย้ น
ตอนบิดามารดาล่วงลับ สกุลหลี่ก็มาทาบทามรับปากจะช่วยฟื ้ นฟูกิจการของสกุลพวก
เขา นางออกเรือนกับหลี่จวิน้ สกุลหลี่ไม่ชอบใจที่สินเจ้าสาวนางน้อยเกินไป จึงมอบที่ดินซึ่ง
เงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวให้นางเป็ นสินเจ้าสาว จากนัน้ สกุลหลี่ก็ถูกโจรกรรม สิ่งของหายเพียง
เล็กๆ น้อยๆ ขนาดที่วา่ ฮูหยินหลี่ก็ยงั ไม่ไปแจ้งกับทางการ…
ทัง้ หมดทัง้ มวลนีค้ ล้ายไข่มกุ ที่รว่ งลงมากระจัดกระจาย ถูกตราประทับ ‘ชุยสุ่ยถัง’ ร้อย
เรียงเรื่องทัง้ หมดเข้าด้วยกัน
อวีถ้ งั คล้ายกับเข้าใจเรื่องราวทัง้ หมดในชั่วพริบตา ทัง้ คล้ายกับไม่รูอ้ ะไรเลยเช่นกัน
ในหัวนางยุ่งเหยิงไปหมด สองขาอ่อนแรง ทัง้ ยืนไม่อยู่ ทรุดตัวนั่งลงเก้าอีด้ า้ นหลัง
อวีเ้ หวินเห็นก็กล่าวขึน้ มา “อาถัง เจ้าอย่าหวาดกลัวไป เรื่องเช่นนีไ้ ม่ถกู ผูท้ ่ีตกเป็ นเหยื่อ
เห็นความผิดปกติก็แล้วไป หากมองออก พวกเราสามารถให้อาจารย์เฉียนผูน้ นั้ จ่ายเงินทดแทน
ได้ ทัง้ ขอให้เขาวาดภาพใหม่ให้พวกเราได้เช่นกัน ดีท่ีอีกหลายวันกว่าจะครบรอบสี่สิบเก้าวัน
ของลุงหลู่ เวลานีใ้ ห้พ่ีเจ้าวิ่งโร่ไปที่หงั โจวอีกครัง้ ก็ยงั ไม่สาย” ขณะที่พดู เขาก็ถอนหายใจด้วย
372

รอยยิม้ ขมขื่น “ใครจะรูว้ า่ จะเกิดเรื่องเช่นนี ้ ก่อนหน้านีข้ า้ ยังคิดเสียดายแทนเขา กลัวก็แต่วา่ เขา


จะทําเรื่องเช่นนีม้ าไม่นอ้ ยแล้ว”
สิ่งที่สาํ คัญที่สดุ คือ เรื่องนีข้ องพวกเขาเกี่ยวพันกับความเป็ นความตายของคน พวกเรา
ยังไม่รูว้ า่ ผูท้ ่ีอยู่เบือ้ งหลังนัน้ เป็ นใคร หากอีกฝ่ ายจิตใจโหดเหีย้ ม ไม่แน่วา่ อาจารย์เฉียนก็อาจจะ
โดนดีดว้ ยเช่นกัน
อวีถ้ งั ขนลุกชันขึน้ มา
อาจารย์เฉียน!
ภาพวาดชาติก่อนนัน้ ในมือนางก็คืออาจารย์เฉียนที่เป็ นผูล้ อกภาพวาด ทัง้ หมายความ
ว่า ครานัน้ มีคนตระหนักได้เหมือนกับนาง ขอให้อาจารย์เฉียนลอกภาพวาดปลอมขึน้ มา ทัง้ ใช้
การขโมยภาพ สลับภาพจริงในมือนางไป
ยังมีลงุ หลู่
ที่แท้นางก็กล่าวโทษเขาผิดไป
สิ่งที่เขาขายให้กบั สกุลนางก็คือภาพจริงที่เขามี
เป็ นนาง
เป็ นนาง กี่ปีแล้วที่เอาแต่ทะนุถนอมภาพปลอมนัน้ ไว้ในมือ เห็นของปลอมเป็ นของจริง
ยังคิดไปเองอย่างมั่นใจว่าภาพที่ลงุ หลูข่ ายให้สกุลนางเป็ นของปลอม
อวีถ้ งั อดตําหนิตวั เองไม่ได้
“อาถัง อาถัง!” อวีเ้ หวินเห็นนางราวกับรูส้ กึ ผิด รีบเข้าไปตบไหล่ลกู สาว ปลอบโยนเสียง
เบา “เรื่องนีไ้ ม่ใช่ความผิดของเจ้า ความคิดของเจ้านัน้ ดีทุกอย่าง พ่อยังไม่เคยเห็นคนที่ฉลาด
เหนือเจ้ามาก่อน หากไม่ใช่เจ้า ตอนนีพ้ ่อก็คงยังไม่รูอ้ ะไร เรื่องนีพ้ ่อจะหาวิธีเอง ไม่อาจเกิด
ปั ญหาอะไรหรอก”
373

ยิ่งบิดาพูดเช่นนี ้ ในใจอวีถ้ งั ก็ย่งิ รูส้ กึ ทนไม่ได้


นางสะอืน้ เสียงเบาเนิ่นนานก่อนจะเอ่ย “ท่านพ่อ ท่านถูกแล้ว ลุงหลูน่ นั้ เป็ นคนที่ไม่เลว
คนหนึ่ง แม้วา่ จะเคยหลอกท่าน กลับเคยช่วยเหลือท่านอย่างจริงใจเช่นกัน เมื่อก่อนเป็ นข้าที่ผิด
ไม่ใช่วา่ เขาใกล้จะครบยี่สิบเอ็ดวันแล้วหรอกรึ? ข้าอยากไปกราบไหว้เขาดีๆ”
นับว่าชดเชยให้เขา
อวีเ้ หวินหลุดยิม้ “นี่ เจ้าเป็ นอะไรไป? จู่ๆ ก็พูดถึงลุงหลู่ในทางที่ดีขึน้ มา หากเขาใน
ปรโลกรูย้ ่อมต้องดีใจ”
หลูซ่ ิ่นไม่ใช่คนโง่ คนอื่นๆ ของสกุลอวีด้ แู คลนเขา เขาย่อมรูแ้ ก่ใจดี
อวีถ้ งั ควักผ้าขึน้ มาเช็ดหน้า ทัง้ ผงกศีรษะ
อวีห้ ย่วนวิ่งเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ ทักทายไม่ก่ีคาํ กับอวีเ้ หวิน อวีถ้ งั ก่อนจะเรียก
ให้ป้าเฉินยกชาเข้ามาให้เขา เอ่ยกับอวีเ้ หวินและอวีถ้ งั “กระหายนํา้ ไม่ใช่นอ้ ย เผยหม่านผูน้ นั้
พูดมากเสียจริง ถามอันนีเ้ สร็จก็ถามอันนั้น แต่ว่าคนผูน้ ีก้ ็เก่งกาจไม่เบา กระทั่งยังเก่งกว่า
พ่อบ้านใหญ่คนก่อนมาก รูจ้ กั พูดอย่างแท้จริง แค่เพียงเวลาหนึ่งวัน แววตาที่ทกุ คนมองเขาล้วน
แตกต่างกันไป ตําแหน่งพ่อบ้านใหญ่ของเขานับว่ามั่นคงแล้ว”
อวีเ้ หวินรีบถาม “เกิดอะไรขึน้ ?”
อวีห้ ย่วนจึงเริ่มเล่า “พ่อบ้านใหญ่สกุลเผย เผยหม่าน ไปดูรา้ นค้าที่ถนนฉางซิ่งว่าสร้าง
ไปถึงไหนแล้ว ทัง้ ยังไล่เลียงถามทีละเรือนว่าพวกเราไม่ใช้วสั ดุท่ีรา้ นค้าสกุลเผยแล้วใช้สิ่งใด ได้
สร้างตามที่ตกลงไว้ก่อนหน้านีก้ บั สกุลเผยหรือไม่ เหลือพืน้ ที่ให้รางระบายนํา้ เท่าใด เผื่อพืน้ ที่
ระบายนํา้ ใต้ดินไว้หรือไม่…ท่านว่า เพลิงไหม้ครัง้ นี ้ ใครจะไม่กล้าเหลือทางระบายนํา้ ไว้บา้ ง?
ครัง้ นีน้ ายท่านสามสกุลเผยมีจิตใจเมตตา ยินดีให้พวกเรายืมเงินมาซ่อมแซมร้านค้าใหม่ หาก
ครัง้ หน้าพบเรื่องเช่นนีอ้ ีก สกุลเผยไม่สนใจ พวกเราหลายหลังคาเรือนนอกจากต้องขายที่ดิน
แล้ว ก็คงไม่มีทางเลือกอื่น”
374

อวีเ้ หวินกล่าวยิม้ ๆ “คนผูน้ นั้ จะถามก็ไม่แปลก! หากร้านค้าของพวกเราไฟไหม้อีกครัง้


ร้านค้าของสกุลเผยย่อมติดร่างแหไปด้วย!”
ทัง้ สองคนพูดเรื่องถนนฉางซิ่ง อวีถ้ งั กลับฟั งไม่เข้าหูแม้แต่ประโยคเดียว
นางนึกถึงความอูฟ้ อย่ ู่ างฉับพลันของสกุลหลี่
เป็ นเรื่องหลังจากที่สกุลหลี่ถกู โจรกรรม
ภายหลัง สกุลของพวกเขาก็อาศัยเส้นสายสกุลเดิมของฮูหยินหลี่ ทํากิจการเกี่ยวกับ
ขนส่งทางทะเลขึน้ มา
แผนที่ท่ีถกู ซ่อนในภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ นัน้ จะเป็ นแผนที่เดินเรือหรือเปล่า?
หลังจากนางแต่งเข้าสกุลหลี่ บางครัง้ ก็จะพบลูกหลานพวกนัน้ ของฮูหยินหลี่มาเยี่ยม
เยียนที่สกุลหลี่ นางยังจําได้ว่านางเคยได้ยินหลานชายคนหนึ่งของฮูหยินหลี่คยุ โวลําพองตนว่า
การขนส่งทางทะเลนัน้ ไม่ใช่ว่าสกุลใดก็ทาํ ได้ ไม่เพียงต้องมีเรือ มีคนคุมหางเสือ คนงานเรือที่
พึ่งพาได้ แต่ยงั ต้องรูว้ า่ ควรจะเดินทางอย่างไร…แล้วก็พดู ว่า ต้องมีแผนที่เดินเรือ
และแผนที่เดินเรือนี ้ ย่อมเป็ นของที่ไม่อาจประเมินค่าได้
อย่าเพิ่งพูดถึงอย่างอื่นเลย แต่คนที่วาดแผนที่นีข้ นึ ้ มา ไม่เพียงต้องขับเรือเป็ น แยกแยะ
ทิศทางออก ต้องรู ห้ ลักการนํา้ ขึน้ นํา้ ลง ทั้งยังต้องรู ห้ นังสือ เข้าใจภูมิศาสตร์ หลายสิบปี ถึง
กระทั่งร้อยปี ลว้ นแทบไม่มีผทู้ ่ีมีพรสวรรค์เช่นนี ้ ทัง้ แม้ว่าจะเกิดผูท้ ่ีมีความสามารถเช่นนีข้ ึน้ มา
จริงๆ ไฉนไม่ใช้เวลาหลายสิบปี นนั้ ไปสอบจวี่เหรินหรือจิน้ ซื่อเป็ นขุนนางใหญ่เสีย กลับทําเรื่องที่
เสี่ยงชีวิต ทัง้ ไร้ประโยชน์และชื่อเสียง ทิง้ เวลาทัง้ ชีวิตลอยเคว้งอยู่ในทะเล?
เวลานี ้ แม้วา่ จะเป็ นฮ่องเต้ ก็ทาํ ได้เพียงมองตาปริบๆ เท่านัน้
พวกคนที่รูว้ ่าจะเดินทางในทะเลอย่างไร ล้วนอาศัยเวลาหลายชั่วอายุคน ถึงกระทั่ง
บรรพบุรุษหลายสิบคนใช้ชีวิตและประสบการณ์ส่ งั สมขึน้ มาทีละเล็กทีละน้อย หากสกุลใดมี
375

ความสามารถเช่นนี ้ ก็คล้ายโอบกอดขุมทรัพย์ไว้ในมือ นอนรอเสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทอง


เท่านัน้
อวีถ้ งั ยังจําได้ หลังจากหลานชายคนนีข้ องฮูหยินหลี่พดู เช่นนีอ้ อกมา นางก็ไม่เคยเห็น
คนผูน้ ีใ้ นสกุลหลินอีกเลย
เมื่อก่อนนางคิดว่าเป็ นเพราะนางครองพรหมจรรย์ จึงไม่ค่อยพบคนภายนอก วันนีม้ า
คิดดู เห็นได้ชดั ว่าเป็ นอีกเรื่องที่นางไม่รู ้
แผนที่นนั้ ต้องเป็ นแผนที่เดินเรือเป็ นแน่
เบือ้ งหลังนีย้ ่อมเป็ นสกุลหลี่
อวีถ้ ังยิ่งคิดก็ย่ิงรู ส้ ึกว่าป่ าไม้ท่ีปกคลุมไปด้วยหมอกควันเบือ้ งหน้าถูกพายุพัดพาจน
กระจัดกระจาย เผยให้เห็นหลายด้านที่นางไม่เคยให้ความสนใจมาก่อน
นี่ก็สามารถอธิบายได้แล้วว่าเหตุใดหลี่จวิน้ ไม่รูจ้ กั นาง แต่ฮหู ยินหลี่กลับโกหก
ทัง้ อธิบายได้วา่ ไฉนสกุลหลี่จงึ ต้องมาขอนางแต่งงานโดยไม่สนใจเรื่องชื่อเสียงหน้าตา
แต่ในขณะเดียวกันอวีถ้ งั ก็เกิดความหวาดกลัวขึน้ มา เพราะสกุลหลี่ก็รูจ้ กั กับอาจารย์
เฉียนผูน้ ี ้ เช่นนัน้ แผนการของพวกเขาอาจจะถูกสกุลหลี่คน้ พบได้ทกุ เมื่อ
ความหวาดกลัวนี ้ นางยังไม่สามารถบอกบิดาและพี่ชายได้
อวีถ้ งั เดินไปเดินมาในห้องหนังสือ คล้ายกับสัตว์รา้ ยที่ติดอยู่ในกรงขัง
“อาถัง!” อวีเ้ หวินตระหนักถึงความผิดปกติของลูกสาวได้เป็ นคนแรก เขาเรียกอย่างเป็ น
กังวล “เจ้าเดินจนข้าเวียนหัวหมดแล้ว เจ้านั่งพักหน่อยเถิด! เมื่อครู ่ขา้ เพิ่งพูดกับอาหย่วนไป
พรุ ่งนีเ้ ช้าตรู ่อาหย่วนจะเดินทางไปหังโจว ทางด้านอาจารย์เฉียนเจ้าวางใจเถิด ในเมื่อเขาทํา
อาชีพนีแ้ ล้ว ย่อมต้องรูว้ า่ ความเสี่ยงของมัน เรื่องเช่นนี ้ เขาควรจะเตรียมการณ์เนิ่นๆ จึงจะถูก”
376

อวีถ้ งั หยุดฝี เท้า กลับไม่อาจหยุดความหวาดกลัวในใจ “ท่านพ่อ เพราะภาพนีจ้ ึงมีคน


ตายไปหนึ่งคนแล้ว แม้ว่าอาจารย์เฉียนจะเดินริมนํา้ บ่อยๆ แต่ก็ย่อมมียามที่รองเท้าเปี ยก เขา
เกิดเรื่องไม่คาดฝั นอันใด แม้ไม่เกี่ยวกับพวกเรา แต่ก็ไม่อาจให้เขาทิง้ ชีวิตเพราะเรื่องของพวก
เราเช่นกัน”
“ข้าเข้าใจ!” อวีห้ ย่วนฟั ง สีหน้าก็คอ่ ยๆ จริงจังขึน้ มา “ข้าจะบอกเรื่องนีก้ บั เขา ดูวา่ เขามี
วิธีปกป้องตัวเองอย่างไร หรือให้เขาหลบหน้าไม่ออกไปไหนชั่วคราว”
เวลานีอ้ วีถ้ งั ก็ไม่มีวิธีท่ีดีไปกว่านีเ้ ช่นกัน!
นางนวดขมับอย่างเมื่อยล้า
ยังมีเรื่องของสกุลหลี่ อย่างไรก็ตอ้ งคิดวิธีหลุดออกมาให้เร็วที่สดุ
อวีถ้ งั ในยามนีค้ ิดว่าตัวเองเข้าใจวิธีการของสกุลหลี่มาบ้างแล้ว
พวกเขาใช้ความคิดของคนต้อยตํ่าไปคาดเดาผูท้ ่ีมีคณ ุ ธรรมสูงส่ง คิดว่าแผนที่นีล้ า้ํ ค่า
ถึงขนาดนี ้ คนที่รูค้ ุณค่าของมัน ย่อมไม่ปล่อยมือ ดังนั้นจึงลงมือในที่ลับ ยอมก่อเรื่องขโมย
ออกมา ดีกว่าต้องไปซือ้ ภาพนีก้ บั สกุลพวกเขาตรงๆ
แต่วา่ ชาติก่อนกับชาตินีม้ ีสิ่งที่แตกต่างอย่างใหญ่หลวง
นางรูว้ า่ ผูท้ ่ีลงมือเบือ้ งหลังคือใคร
เพียงแต่สกุลหลี่จะมั่นใจได้อย่างไรว่าภาพนีจ้ ะกลายเป็ นสินเจ้าสาวติดตามนางเข้า
สกุลของพวกเขาเหมือนชาติท่ีแล้ว?
ชาติก่อน บิดาและมารดาของนางล่วงลับ ทรัพย์สินที่บิดาและมารดาเหลือไว้ย่อมติด
ตัวไป แต่วา่ ชาตินี…

นึกมาถึงตรงนี ้ อวีถ้ งั ก็แข็งทื่อไปทัง้ ร่าง
นางนึกถึงงานแต่งของนางและสกุลเว่ย
377

ไม่หรอกกระมัง?
สกุลหลี่เพียงอยากได้ภาพนี ้ หรือยังจะเข้าไปสอดเรื่องงานแต่งของนาง?
ในใจอวีถ้ งั คิดเช่นนี ้ แต่ในหัวกลับมีเสียงดังไม่หยุดหย่อน ตายไปคนหนึ่งแล้ว ฆ่าอีกคน
ยังมีอะไรให้กลัวรึ?
อวีถ้ งั หายใจลําบาก ไม่อาจอยู่น่ิงในห้องหนังสือเช่นนีต้ อ่ ไปได้แล้ว
นางอยากรูว้ า่ การตายของเว่ยเสี่ยวซานเกี่ยวข้องกับสกุลหลี่หรือไม่
นางอยากพบเว่ยเสี่ยวชวน สืบข่าวจากเขาว่าก่อนที่เว่ยเสี่ยวซานจะตายเกิดอะไรกัน
แน่
นางหวังให้ตวั เองเป็ นโรคขีร้ ะแวง คิดฟุ้งซ่านไปเอง
อวีถ้ งั รีบออกไปจากห้องหนังสือทันที
“อาถัง!” อวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนตะโกนเรียกอย่างกังวล ไล่ตามออกมา
ฤดูรอ้ นสิน้ สุดแล้ว ต้นดอกกุย้ ฮวาที่เขียวชอุ่มในเรือน ระหว่างใบมันวาวนัน้ มีกลีบดอก
สีเหลืองชูช่อ เมื่อลมราตรีโชยมา กลิ่นหอมฟุ้งก็ลอยล่องเป็ นครัง้ คราว
อวีถ้ งั สูดลมหายใจลึกเฮือกใหญ่ ยามที่หนั กลับไป ใบหน้าก็แต่งแต้มด้วยรอยยิม้ “ข้า
ไม่เป็ นไร ได้กลิ่นดอกไม้ในห้องหนังสือ จึงออกมาดู”
อวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนมีท่าทีผ่อนคลายลง
อวีห้ ย่วนกล่าวด้วยรอยยิม้ “ข้าไปหังโจวก็คงไม่อาจไปเดินเล่นอะไรได้นกั อยากให้ขา้
ซือ้ ของอะไรมาให้เจ้าหรือไม่?”
“ท่านพี่กลับมาอย่างปลอดภัยก็เพียงพอแล้วเจ้าค่ะ” เกิดเรื่องเช่นนี ้ อวีถ้ งั ก็ย่ิงรู ส้ ึกว่า
ครอบครัวอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาล้วนดีกว่าเรื่องใดทัง้ นัน้ นางกดเสียงเบา “ท่านพี่ เจ้าต้องโน้ม
378

น้าวให้อาจารย์เฉียนอย่าได้ประมาทไป แผนที่นี ้ หากข้าเดาไม่ผิด ไม่แน่ว่าอาจจะเป็ นแผนที่


เดินเรือ”
อวีห้ ย่วนตกตะลึงไป
อวีเ้ หวินร้อนรนยิ่งกว่า “เจ้าพบอะไรใช่หรือไม่?”
อวีถ้ งั ไร้ทางที่จะอธิบายการคาดเดาของตัวเอง ทําได้เพียงกล่าว “ยามที่ขา้ ไปซือ้ ของทํา
ปิ่ นดอกไม้ บังเอิญพบคนที่ขายสินค้าทางเรือ เหมือนจะได้ยินมาเช่นนัน้ เวลานัน้ ไม่ได้ใส่ใจ
ตอนนีจ้ ่ๆู ก็นกึ ขึน้ ได้ รูส้ กึ ว่าแผนที่นีข้ องพวกเราคล้ายกับแผนที่เดินเรือพวกนัน้ เป็ นอย่างมาก”
อวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนไม่รูว้ ่าแผนที่เดินเรือนัน้ ลํา้ ค่าเพียงใด กลับรู ว้ ่าการค้าขายทาง
ทะเลของฝูเจี ย้ นนั้นมี ก ารแข่ ง ขัน เป็ นอย่ า งมาก ฆ่า คนวางเพลิง แทบจะเกิ ดขึน้ ปี เว้นปี คดี
โหดเหีย้ มฆ่าล้างสกุลที่สง่ ให้เบือ้ งบนรับทราบก็มีไม่นอ้ ย
คนธรรมดาที่เข้าไปข้องเกี่ยวล้วนมีชีวิตรอดไม่ก่ีคนเท่านัน้
ทัง้ สองคนต่างก็ส่นั สะท้านในใจ
อวีเ้ หวินคว้ามืออวีถ้ งั ไว้ “เจ้า เจ้าคิดว่านี่เป็ นแผนที่เดินเรือจริงๆ หรือ?”
“ข้าก็ไม่ได้ม่นั ใจมาก” อวีถ้ งั ไม่กล้ามั่นใจเกินไป “ข้ายิ่งคิดก็ย่งิ รูส้ กึ คลับคล้ายคลับคลา
ท่านลองคิดดู เมื่อก่อนใต้เท้าจั่วทําอะไร? ในอดีตพ่อของลุงหลูท่ าํ อะไร? แม้วา่ จะเป็ นแผนที่ ทัง้
ไม่ใช่สิ่งที่ราชสํานักซักไซ้เอาความ หาไม่เจอก็ไม่ได้คน้ บ้านรือ้ ทรัพย์สิน เหตุใดจึงต้องการเอา
มาไว้ในมืออย่างไม่เลิกรา”
“เมื่อก่อนใต้เท้าจั่วขับไล่พวกโจรสลัดญี่ ปุ่น” อวีเ้ หวินพึมพํา “พ่อของพี่หลู่เคยเป็ นที่
ปรึกษาทางทหารของใต้เท้าจั่ว มีเพียงแผนที่ท่ีสามารถกําเนิดทรัพย์มหาศาล จึงจะเป็ นที่จดจํา
ของผูค้ น แผนที่ท่ วั ไปล้วนได้ใช้ในยามทําศึกสงคราม แม้จะเป็ นขุนนางของราชสํานัก ถือไว้ใน
มือก็ไม่มีประโยชน์อันใด! พี่หลู่คงจะไม่รูค้ วามลับของภาพนี ้ เพราะพ่อของพี่หลู่ก็ไม่รู?้ หรือ
379

แม้ว่าพ่อเขาจะรู ้ ก็เหมือนพวกเรา ไม่รูจ้ ะทําอย่างไร จึงให้มนั ซ่อนอยู่ในภาพอย่างรู แ้ ล้วรู ร้ อด


ไป?”
อวีห้ ย่วนฟั งก็หน้าถอดสี กล่าวอย่างร้อนใจ “ท่านอา เช่นนัน้ เช่นนัน้ พวกเราควรทํา
อย่างไร?”
เมื่อก่อนแค่รูส้ กึ ว่าเผือกร้อนชิน้ นีโ้ ยนออกไปก็เพียงพอแล้ว แต่ยามนีเ้ ผือกร้อนจะโยน
ออกไปได้หรือไม่ยงั เป็ นเรื่องที่พดู ยาก
อวีเ้ หวินก็อบั จนหนทาง
บิดาของหลู่ซิ่นอย่างไรก็ยังรู จ้ ักคนอย่างใต้เท้าจั่ว ส่วนเขาเป็ นแค่บัณฑิตซิ่วไฉบ้าน
นอกธรรมดาคนหนึ่ง จะมีวิธีเหนือกว่าบิดาของหลูซ่ ิ่นได้อย่างนัน้ รึ?
ครัง้ นีเ้ ปลี่ยนเป็ นอวีเ้ หวินเดินวนอยู่ในลานบ้าน
เฉินซื่อที่มาเรียกพวกเขากินข้าวก็อดแปลกใจไม่ได้ “พวกเจ้าปรึกษาอะไรกันอีกแล้ว? ดู
มีลบั ลมคมใน จะกินข้าวอยู่หรือไม่?”
380

บทที่ 47 ไม่ปล่อย
พวกอวีถ้ งั ล้วนไม่อยากให้เฉินซื่อเป็ นห่วงจึงพากันเปลี่ยนสีหน้าเป็ นยิม้ รับทันที กล่าว
กับเฉินซื่ออย่างผ่อนคลาย “จะไปเดี๋ยวนีเ้ จ้าค่ะ!”
อวีเ้ หวินกล่าว “วันนีท้ าํ อาหารอะไรบ้างรึ? อาหย่วนจะอยู่กินข้าวที่น่ี เจ้าได้ทาํ เผื่อไว้
เยอะหรือไม่?”
“วางใจเถิด!” เฉินซื่อกล่าวด้วยรอยยิม้ “ข้าให้อาเสาไปซือ้ กับข้าวพวกพะโล้มาเพิ่มแล้ว
ทัง้ ให้เขาเอาสุรามาด้วย พวกเจ้าอาหลานก็ด่มื สุราด้วยกันเถิด”
อวีเ้ หวินครุน่ คิดเล็กน้อย “ให้ซวงเถาไปเรียกท่านพี่มาด้วยเถิด! หลายวันมานีเ้ ขามัวแต่
ยุ่งกับเรื่องร้าน พวกเราสองพี่นอ้ งก็ไม่ได้ด่มื สุราร่วมกันมานานแล้ว”
โดยเฉพาะยามที่ในบ้านเกิดเรื่องเช่นนีข้ ึน้ ทัง้ ยังทําเขาติดร่างแหไปด้วย แค่ยงั ไม่อาจ
หาวิธีบอกกับพี่ชายอย่างชัดเจนได้ ในใจของอวีเ้ หวินก็กลัดกลุม้ มากพอแล้ว
เฉินซื่อไม่ได้คิดมาก
เดิมทีทงั้ สองบ้านก็พ่งึ พาอาศัยกันและกัน บ้านใครทําอะไรอร่อยๆ หากไม่เรียกอีกฝ่ าย
มากินก็จะส่งไปให้แทน
นางควักเงินให้อาเสาไปซือ้ สุรากลับมา ทัง้ กําชับซวงเถาไปเชิญอวีป้ ๋ อและพี่สะใภ้
ไม่นานทัง้ สองคนก็เข้ามา
สกุลอวีไ้ ม่ได้มีพิธีรตี องมากมาย ทุกคนนั่งล้อมโต๊ะกินข้าว ทัง้ พูดคุยไปพลาง
อวี ป้ ๋ อนั้น อยากไปเจี ย งซี “แม่ พิ ม พ์แ ละกระดานวาดภาพบางส่ ว นถูก ไฟไหม้ ทั้ง
บางส่วนยังเป็ นแบบที่สืบทอดต่อมาของสกุลพวกเรา ต้องหาของมาทดแทน ข้ารูส้ กึ ว่าร้านค้าที่
ขายเครื่องลงรักให้พวกเราครัง้ ที่แล้วก็ไม่เลวเช่นกัน ข้าจะดูว่าสามารถพูดกับเถ้าแก่ได้หรือไม่
ให้เขาแนะนําอาจารย์ให้กบั ร้านพวกเราหน่อย อีกอย่าง เจ้าเป็ นบัณฑิต คงรูจ้ กั พวกเดียวกันไม่
381

น้อย เจ้าสามารถหาคนวาดภาพให้ท่ีรา้ นสักคนได้หรือไม่ ต้องทําแม่พิมพ์และกระดานวาดภาพ


พวกนัน้ ออกมาใหม่อีกครัง้ ”
อวีเ้ หวินเองก็มีฝีมือวาดภาพไม่นอ้ ย ทัง้ มีเพื่อนสนิทในแวดวงนีห้ ลายคนเช่นกัน เขา
เอ่ยว่า “พรุง่ นีข้ า้ จะไปสืบถามดู” คล้อยหลังก็พดู เรื่องอวีห้ ย่วน “ข้าจะวานให้เขาไปหังโจว”
อวีป้ ๋ อไม่เพียงตอบรับ แต่ยงั กําชับให้อวีห้ ย่วนทําเรื่องของอวีเ้ หวินดีๆ
ด้านหวังซื่อก็ดึงเฉินซื่อมาพูดเรื่องของอวีถ้ งั “เด็กสกุลเว่ยผูน้ นั้ ก็ครบยี่สิบเอ็ดวันแล้ว
เรื่องงานแต่งของอาถังต้องเริ่มใหม่อีกครัง้ ใช่หรือไม่ แม้ว่าอาถังอายุยงั น้อย แต่หากชักช้าต่อไป
เกรงว่าจะดึงเวลาจนอายุจะมากเกินไป”
“ข้าเข้าใจแล้ว” เฉินซื่อกล่าวเสียงเบา “ข้านัดแม่ส่อื ไว้แล้ว รอทางสกุลเว่ยผ่านยี่สิบเอ็ด
วันไปแล้ว ก็จะเริม่ ช่วยอาถังดูตวั อีกฝ่ ายอย่างเป็ นทางการ”
อวีถ้ งั คล้ายนั่งอยู่บนกองไฟ
หากการตายของเว่ยเสี่ยวซานเกี่ยวข้องกับสกุลหลี่ เวลานีน้ างเอ่ยเรื่องแต่งงานกับสกุล
ใดล้วนเป็ นการทําร้ายคนอื่นทัง้ นัน้
อวีถ้ งั รูส้ กึ ว่าตัวเองควรไปหาเว่ยเสี่ยวชวนให้เร็วที่สดุ

เย็นวันนัน้ นางก็ให้อาเสาไปส่งจดหมายให้เว่ยเสี่ยวชวน
เดิมทีเว่ยเสี่ยวชวนไม่อยากพบอวีถ้ งั แต่อวีถ้ งั พูดว่าอยากจะถามเรื่องของเว่ยเสี่ยวซาน
เขานึกถึงยามที่พ่ีรองของเขายังมีชีวิตอยู่ ก็ให้ความสําคัญอวีถ้ งั มิใช่นอ้ ย ทัง้ ในช่วงเวลายี่สิบ
เอ็ดวันของพี่รอง สกุลอวีก้ ็ไม่ได้ไปดูตวั แต่อย่างใด นับว่าพยายามอย่างถึงที่สดุ เพื่อพี่รองเช่นกัน
เขาจึงตอบตกลง
382

เพราะเว่ยเสี่ยวชวนยังต้องเข้าเรียน ทัง้ สองคนจึงนัดพบกันในร้านอาหารเล็กๆ แห่ง


หนึ่งใกล้กบั สถานศึกษาในเวลากลางวัน ทัง้ ถือโอกาสกินข้าวกลางวันด้วยกัน
อวีถ้ งั ไปพบเว่ยเสี่ยวชวนโดยอาศัยชื่อของหม่าซิ่วเหนียง
เว่ยเสี่ยวชวนเป็ นคนจัดการเรื่องสถานที่และเวลา
อวีถ้ งั คาดไม่ถึงว่าเว่ยเสี่ยวชวนจะละเอียดถึงเพียงนี ้
แม้ว่าร้านอาหารจะเล็ก แต่กลับสะอาดสะอ้าน เว่ยเสี่ยวชวนกลับบอกกับเถ้าแก่ว่า
ต้องการห้องเล็กหลังโรงครัว ดูคล้ายกับเป็ นที่กินข้าวของเถ้าแก่ ด้านข้างห้องเล็กนัน้ เป็ นประตู
หลังของร้านอาหาร เดินออกไปจากประตูหลังเป็ นตรอกเส้นหนึ่งเล็กๆ ที่เงียบสงบ ตรงไปเป็ น
เรือนริมนํา้ ของแถบเสี่ยวเหมยซีท่ีผูค้ นสัญจรไปมา ออกจากเรือนริมนํา้ ของเสี่ยวเหมยซี คนก็
มากมายราวกับหยดนํา้ ในมหาสมุทร เมื่อปะปนไปกับฝูงชนก็แทบที่จะไม่เห็นเงา
แค่เห็นก็รูน้ ิสยั แล้ว ในหมู่ลกู หลานทัง้ หมดในสกุลเขา เว่ยเสี่ยวชวนเป็ นคนที่ดมู ีอนาคต
ที่สดุ
ยามที่อวีถ้ งั ไปถึง เว่ยเสี่ยวชวนก็น่ งั รอนางอยู่ท่ีโต๊ะแล้ว รอจนนางถอดหมวกเหวยเม่า
เขาก็พดู กับอวีถ้ งั ด้วยใบหน้าบึง้ ตึง “ข้าเป็ นบัณฑิตยากจน ทุกวันนีย้ งั อาศัยเงินที่บา้ นใช้ ทําได้
เพียงเชิญคุณหนูอวีม้ าที่รา้ นอาหารเล็กๆ เท่านัน้ อย่างไรขอคุณหนูอวีอ้ ย่าได้ถือสา” พูดจบก็
กวักมือเรียกบ่าวรับใช้ของร้านอาหาร “เอาหมูผดั พริกกับผัดผักกวางตุง้ อาหารขึน้ ชื่อของร้าน
พวกเจ้ามาอย่างละหนึ่ง” ทัง้ กล่าวอธิบายกับอวีถ้ งั “พวกเรามาพูดแบบรวบรัด อีกเดี๋ยวข้ายัง
ต้องกลับไปทบทวนตําราที่หอเรียน”
เห็นได้ชดั ว่ามีปัญหาเรื่องเงิน ยังจะแสร้งเป็ นสุภาพบุรุษเชิญนางกินข้าวนัน้ ไม่วา่ แต่ส่งั
กับข้าวเนือ้ หนึ่งอย่างผักหนึ่งอย่าง ทัง้ ยังเรียกว่าเป็ นอาหารขึน้ ชื่อของร้านนี ้
ช่างน่ารักจริงเชียว!
หากไม่ใช่วา่ อวีถ้ งั มีเรื่องหนักอกหนักใจ เกรงว่าคงจะหัวเราะออกมานานแล้ว
383

“เดิ มที ข้า ก็ อยากมาคุย กับเจ้าเท่า นั้น กิ น อะไรล้ว นไม่สาํ คัญ” อวีถ้ ัง กัง วลว่าจะไป
กระทบกับเรื่องหน้าตาของเขา กล่าวด้วยนํา้ เสียงอ่อนโยน “ภายหลังมีโอกาส ยามที่เจ้าไม่เข้า
เรียน ข้าจะเชิญเจ้าไปกินของอร่อยๆ”
เว่ยเสี่ยวชวนเบ้ปากอย่างไม่ได้คิดเช่นนั้น ฉวยโอกาสยามที่เด็กยกนํา้ ชาเข้ามาทั้ง
ด้านข้างไม่มีคนอยู่ ถามขึน้ มา “เจ้าอยากถามอะไรข้า?”
อวีถ้ งั ไม่อยากพูดเรื่องนีต้ ่อหน้าคนนอก รอจนเด็กยกนํา้ ชามาวางแล้วเดินออกไป นาง
จึงค่อยกล่าว “เจ้ากินข้าวก่อน กินเสร็จแล้วพวกเราค่อยพูดกัน”
นางกลัวว่าถามออกมาแล้วเว่ยเสี่ยวชวนจะกินข้าวไม่ลง ด้านเว่ยเสี่ยวชวนตัง้ แต่เด็ก
ครอบครัวก็ส่งั สอนเขาว่า ‘ยามกินข้าวไม่สนทนา ยามนอนอย่าได้พดู คุย’ ดังนัน้ ย่อมไม่พดู ยาม
ที่กินข้าว
คนหนึ่งไม่มีกะจิตกะใจ อีกคนก็รบี ร้อน ไม่นานทัง้ สองคนก็กินจนอิ่ม
เด็กในร้านเข้ามาเก็บจาน ยกนํา้ ชาเข้ามาสองถ้วย
อวีถ้ ังไม่ออ้ มค้อม ทัง้ ไม่เกรงใจ กล่าวอย่างตรงๆ “เมื่อก่อนข้าเคยได้ยินจากเจ้าว่าพี่
รองเจ้าว่ายนํา้ ได้ ทัง้ หาใช่คนประเภทที่ไม่รูจ้ กั ความเหมาะสมไม่ เช่นนัน้ เย็นวันก่อนที่พ่ีรองเจ้า
จะตาย ใครอยู่กบั พี่รองของเจ้า?”
“ข้าน่ะสิ!” เว่ยเสี่ยวชวนกล่าวอย่างไม่ย่ีหระ “ข้าเป็ นน้องคนสุดท้องของครอบครัว พี่
ใหญ่ตอ้ งช่วยท่านพ่อทํางาน ตัง้ แต่เล็กข้าก็เติบโตมากับพี่รองและพี่สาม”
ฉะนัน้ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาต้องดีเป็ นอย่างมาก!
อวีถ้ งั กล่าว “พี่รองเจ้าเป็ นคนอย่างไร?”
เว่ยเสี่ยวชวนฟั งจบ ก็ปรากฏสีหน้าระแวดระวังทันที “เจ้าถามไปทําไม?”
อวีถ้ งั กล่าว “ก็แค่ถามดู”
384

ก่อนวันที่เข้ามาทําความรู จ้ กั กัน สองพี่นอ้ งสกุลเว่ยก็ทะเลาะกันไปครัง้ หนึ่ง เว่ยเสี่ยว


ชวนมีความประทับใจที่ไม่ดีต่ออวีถ้ งั อยากไปดูว่าเป็ นหญิงสาวอย่างไรที่ทาํ ให้สกุลของเขาผิด
ใจกัน ปรากฏว่าเมื่อไปถึงที่น่ นั เว่ยเสี่ยวซานนัน้ หลงรัก แต่อวีถ้ งั กลับมีท่าทีเรียบนิ่ง เว่ยเสี่ยว
ชวนคิดว่าพี่ชายของตัวเองไม่เอาไหน จึงโมโหเป็ นอย่างยิ่ง
เว่ยเสี่ยวชวนใคร่ครวญ…หรือว่าในความเป็ นจริงคุณหนูสกุลอวีก้ ็ชอบพอกับพี่รอง?
เพียงแต่เวลานัน้ มองไม่ออก?
ในเมื่อเป็ นเช่นนี ้ เขาก็ทาํ เป็ นสงสารคุณหนูอวี ้ พูดเรื่องดีๆ ของพี่รองเขาให้นางฟั ง
เว่ยเสี่ยวชวนครุน่ คิด “พี่รองข้าเป็ นคนดีไม่นอ้ ย กตัญ�ูทงั้ เชื่อฟั ง ยามที่พวกเราพี่นอ้ ง
เล่นด้วยกัน หากพี่รองไม่ไปช่วยท่านแม่ทาํ กับข้าว ก็จะไปจับปลาในแม่นา้ํ หากับข้าวมาให้
ครอบครัว…”
“ครัง้ ที่แล้วเจ้าก็เคยพูดกับข้า พี่รองเจ้าว่ายนํา้ คล่อง เป็ นเพราะเขามักลงนํา้ ไปจับปลา
ใช่หรือไม่?” อวีถ้ งั ตัดบทสนทนาเขาขึน้ มากะทันหัน “เช่นนัน้ พี่รองเจ้าก็คงจะคุน้ เคยกับแม่นา้ํ
ลําธารแถวนีด้ ีใช่หรือไม่?”
เว่ยเสี่ยวชวนคิดว่าท่าทีของอวีถ้ งั แปลกไปอยู่บา้ ง แต่เขาก็ไม่ได้คิดมาก “ใช่แล้ว หลาย
ปี ก่อน ยามที่สกุลพวกเราแย่งแหล่งนํา้ กับบ้านอื่น พี่รองข้ายังพาพวกเราไปแอบขุดทางนํา้ สาย
หนึ่งจากในภูเขามาหาที่นาของพวกเรา ทัง้ เรื่องอาหารการกินพวกเราก็ไม่เคยขาดแคลนปลา
หรือกุง้ ฝี มือการจับกุง้ และจับปลาของพี่รองจึงเก่งกว่าท่านแม่ดว้ ยเหตุนี… ้ ”
อวีถ้ งั ใจเต้นระรัวอย่างควบคุมไม่อยู่ ราวกับจะเด้งออกมาจากอกของนางเดี๋ยวนัน้
นางอดทาบมือที่อกไม่ได้ “เจ้าบอกว่าพี่รองเจ้าว่านอนสอนง่าย เช่นนัน้ ยามที่เขาจะไป
ไหนมาไหนก็คงบอกกล่าวกับคนในครอบครัวก่อนกระมัง? หากแม่ของเจ้าไม่ให้เขาไปจับปลา
เขาจะฟั งหรือไม่?”
385

“ฟั งอย่างแน่นอน!” เว่ยเสี่ยวชวนกล่าวแทบไม่ตอ้ งคิด “สกุลของพวกเรา เมื่อออกจาก


บ้านล้วนจะบอกกล่าวกับผูอ้ าวุโสเสมอ นี่เป็ นมารยาทขัน้ พืน้ ฐาน หรือยามที่เจ้าออกไปข้าง
นอกไม่บอกกล่าวกับคนในบ้านอย่างนัน้ รึ?”
เขาคิดว่าอวีถ้ ังกําลังสงสัยเรื่องการอบรมสั่งสอนในสกุลพวกเขา พองลมที่แก้ม เผย
ท่าทีเคืองโกรธ
“ข้าก็แค่ถามไปเท่านัน้ ” อวีถ้ งั ฝื นยิม้ ออกมา “ข้ามักคิดว่าพวกเด็กผูช้ ายนัน้ ซุกซนกว่า
เด็กผูห้ ญิง ไม่แน่วา่ จะปฏิบตั ิตามกฎเกณฑ์ถึงขนาดนัน้ ”
เว่ยเสี่ยวชวนไม่คิดเช่นนัน้ “เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าเป็ นเพราะพี่รองสูช้ นะพี่สาม ดังนัน้
ท่านแม่จึงให้พ่ีรองแต่งงานกับเจ้า? นั่นเป็ นเพราะว่าพี่รองนัน้ เป็ นคนที่เคารพกฎเกณฑ์มาก
ที่สุดต่างหาก แม่ขา้ บอกว่า หากจิตใจสั่นคลอนเกินไป ก็ไม่อาจเป็ นลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ าย
หญิงได้ ถึงเวลานัน้ คนอื่นเขาพูดเรื่อยเปื่ อย ในใจเกิดโกรธแค้นขึน้ มา จะใช้ชีวิตแต่ละวันผ่านไป
โดยดีได้อย่างไร หากใช้ชีวิตได้ไม่ดี สกุลอีกฝ่ ายก็จะว่าพวกเราสอนลูกไม่เป็ น นั่นย่อมไม่ใช่การ
เชื่อมสัมพันธ์ แต่จะเป็ นการผูกพยาบาท”
อวีถ้ งั ตกตะลึง ในใจมีความขื่นขมเอ่อล้นขึน้ มาเป็ นพักๆ
หากไม่มีอบุ ตั ิเหตุเช่นนีก้ ็คงเป็ นเรื่องดีไม่นอ้ ย!
แม้จะกล่าวว่าเริ่มแรกนางสับสนงุนงงไปบ้าง แต่เมื่อใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เวลาผ่านไป
นานเข้า นางย่อมต้องชื่นชอบเว่ยเสี่ยวซานอย่างแน่นอน
ชั่วขณะนัน้ หัวตาของอวีถ้ งั ก็มีนา้ํ ตารืน้ ขึน้ มา
นางก้มหน้า เอ่ยเสียงเบาว่า “เช่นนัน้ พี่รองเจ้าออกไปจับปลากลางดึก เหตุใดพวกเจ้า
จึงไม่ตามไปด้วย?”
เว่ยเสี่ยวชวนฟั งก็โมโหขึน้ มา “ถึงได้มีคาํ กล่าวที่ว่า มีภรรยาก็ลืมแม่ ล้วนเป็ นเพราะ
เจ้า! ไม่อย่างนัน้ พี่รองข้าจะใจกล้าขนาดนัน้ ได้อย่างไร ไม่บอกกล่าวกับใครก็ว่งิ ออกไป”
386

อวีถ้ งั ใบหน้าซีดเผือด “เจ้าโยนความผิดมาให้ขา้ เช่นนีไ้ ด้อย่างไร ข้าไม่ได้ให้พ่ีรองของ


เจ้าไปจับลาเสียหน่อย อีกอย่าง ข้าแต่งงานกับจับปลาเกี่ยวข้องอะไรกัน? งานแต่งนัน้ ต้องใช้
ห่านป่ า เขาไม่ขนึ ้ เขาไปจับห่าน แต่กลับมาจับปลา!”
เว่ยเสี่ยวชวนพูดไม่ออก คล้อยหลังจึงทัง้ อายทัง้ โมโหขึน้ มา “เป็ นเพราะเจ้า เพราะเจ้า
นั่นแหละ หากไม่ใช่เจ้า พี่รองข้าจะแอบออกจากบ้านไปได้อย่างไร พี่สามข้าก็วา่ ยนํา้ เก่งเช่นกัน
หากเขาบอกกับพวกเราสักคํา พี่สามย่อมตามเขาไปแน่ แม้ว่าจะไม่ไปเป็ นเพื่อน แต่ดึกดื่น
ขนาดนัน้ เขาไม่กลับมา ท่านพ่อก็คงเรียกพวกเราไปหาเขาเช่นกัน…” ขณะที่เขาพูด ดวงตาก็
เปี ยกชืน้ “เป็ นเพราะพี่รองข้าพบเจ้าจึงเปลี่ยนไป ก่อนที่จะพบเจ้า เขาไม่ได้เป็ นเช่นนี…
้ ”
อวีถ้ ังแทบจะสั่นไปทัง้ ตัว “เจ้าพูดแบบนีไ้ ด้อย่างไร? ปกติท่ีนาของพวกเจ้าก็ควรจะมี
คนไปจับปลาเช่นกันกระมัง? หรือไม่มีคนเห็นพี่รองเจ้าเลยอย่างนัน้ รึ?”
เว่ยเสี่ยวชวนนิ่งอึง้ ไป กล่าวพึมพํา “ใช่! ไฉนจึงไม่มีใครเห็น? แม้วา่ จะเป็ นที่นาของพวก
เรา แต่สกุลของเราก็ไม่ได้ใจไม้ไส้ระกํากับคนอื่น พวกชาวไร่ชาวนาที่เช่าที่ทาํ มาหากินล้วนใช้
ชีวิตอย่างยากลําบาก กุง้ ปลาในนํา้ คูคลองก็ปล่อยให้พวกเขาจับได้ตามใจ กลับไปเป็ นอาหาร
หรือเฉลิมฉลอง พี่รองข้าออกไปเมื่อใด พวกเราไม่รู ้ หรือในที่นาคนจับปลาพวกนัน้ ก็ไม่เห็น
อย่างนัน้ รึ? แต่เวลานัน้ พี่รองข้าก็จมนํา้ ตายในลําธารเล็กๆ ที่เขาชอบไป?”
อวีถ้ งั ไม่อาจทนได้ หลับตาลง ปล่อยนํา้ ตาไหลพรั่งพรูออกมาตามความรูส้ กึ
เว่ยเสี่ยชวนตกใจ “เจ้าเป็ นอะไร? เจ้าร้องไห้ทาํ ไม?”
อวีถ้ งั ลืมตาขึน้ มาอย่างยากลําบาก แสร้งตีหน้าตายควักผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดที่หวั ตา
“หลายวันมานีข้ า้ เอาแต่ทาํ ปิ่ นดอกไม้อยู่ในบ้าน ปวดตาอยู่บา้ ง”
เว่ยเสี่ยวชวนมองนางอย่างสงสัย
อวีถ้ งั กลับไม่ได้ปั้นเรื่องต่อไปอีก
387

หากเว่ยเสี่ยวซานติดร่างแหเพราะนาง นางจะชดใช้ให้คนสกุลเว่ยอย่างไร? นางจะ


เผชิญหน้ากับความรูส้ กึ ผิดชอบชั่วดีของตัวเองได้อย่างไร?
คนที่ดีถึงขนาดนัน้ เพราะมาพบปะนาง เพราะโดดเด่นเกินไป จึงถูกทําร้ายจนถึงแก่
ชีวิต
นางจะมีหน้าใช้ชีวิตอยู่บนโลกนีไ้ ด้อย่างไร?
อวีถ้ ังนั่งอยู่ฝ่ ั งตรงข้ามเว่ยเสี่ยวชวน ไม่กล้าเงยหน้ามองเขาแม้แต่แวบเดียว นางถึง
กระทั่งไม่รูว้ า่ ตัวเองจะเดินกลับไปอย่างไรดี
“คุณหนู!” ป้าเฉินเดินเข้าประตูมาหานาง ตําหนิซวงเถาที่ตามเข้ามา “เจ้าดูแลคุณหนู
อย่างไรกัน? มีคนทําเรื่องแบบเจ้าด้วยรึ? ยังดีท่ีในร้านนีม้ ีคนไม่ก่ีคน หากคนมากกว่านี ้ เจ้าคง
แยกแยะทิศทางไม่ออกเสียแล้วกระมัง!”
อวีถ้ งั ได้ยินเสียงก่นด่าของป้าเฉิน ก็กลับเรือนไปอย่างไร้เรี่ยวแรง ให้ซวงเถาไปเรียกอา
เสามา
ป้าเฉินรีบถาม “มีเรื่องอะไร ให้ท่านพักสักหน่อยแล้วค่อยว่ากันเถิด ยามนีท้ ่านพักดีๆ
ก่อน ข้าเห็นว่ารังนกที่มีคนส่งมาให้นายหญิงครัง้ ที่แล้วยังเหลืออยู่หลายถ้วย ข้าจะไปอุ่นมาให้
ท่านถ้วยหนึ่ง ท่านกินแล้ว พักผ่อนเสียหน่อยก็ดขี นึ ้ แล้ว”
เพราะว่าเฉินซื่อมักป่ วยบ่อยๆ ป้าเฉินจึงตัง้ ใจทํายาบํารุ งเป็ นพิเศษ ทัง้ ยังจัดการดูแล
เรื่องอาหารเสริมพวกรังนกและหอยเป๋ าฮือ้
อวีถ้ งั ร้อนใจดั่งนั่งบนกองเพลิง กลัวว่าชักช้าจะเกิดเหตุไม่คาดฝั น ดึงดันให้ซวงเถาไป
เรียกอาเสาเข้ามา “ข้าจะให้เขาไปซือ้ ของให้ขา้ นิดหน่อยเท่านัน้ เสียแรงที่ไหนกัน? เจ้าให้ขา้ ทํา
ตามที่ใจต้องการแล้วรีบนอนพักผ่อนจะดีกว่า”
ป้าเฉินอับจนหนทาง ทําได้เพียงไปเรียกอาเสาเข้ามา
388

อวีถ้ ังไล่ป้าเฉินและซวงเถาออกไปอย่างยากลําบาก กําชับอาเสาไปสืบเรื่องของเว่ย


เสี่ยวซาน “ดูว่าใครที่พบเว่ยเสี่ยวซานป็ นคนแรก? เว่ยเสี่ยวซานจมนํา้ ตายในแม่นา้ํ ใด? ในที่นา
ใครเป็ นคนสุดท้ายที่เห็นเว่ยเสี่ยวซาน? มีคนเห็นเว่ยเสี่ยวซานออกไปจับปลากลางดึกหรือไม่?”
ทัง้ ให้อาเสาสาบาน “ไม่อาจบอกใครได้ทงั้ นัน้ หากมีคนถามขึน้ มา เจ้าก็บอกว่าข้าไม่สบาย จึง
ขอให้เจ้าไปช่วยจุดธูปไหว้พระขอพรในวัด เข้าใจหรือไม่?”
อาเสาพยักหน้าอย่างทันที แล้วรุดไปที่นาของสกุลเว่ย
ทางด้านอวีถ้ งั ก็นอนพลิกไปพลิกมา นอนไม่หลับทัง้ คืน ตื่นขึน้ มาส่องกระจกตอนเช้า ก็
เห็นขอบตาดําคลํา้ ของตัวเอง
เฉินซื่อถามนาง “พ่อของเจ้านี่มนั อะไรกัน? ทัง้ วันเอาแต่จอ้ งภาพที่หลูซ่ ิ่วไฉขายให้พวก
เราอยู่ในห้องหนังสือ นั่นไม่ใช่ภาพปลอมหรอกรึ?”
อวีถ้ งั กล่าว “เถ้าแก่ถงกล่าวแล้ว ภาพนีเ้ ลียนแบบได้เหมือนมาก ทัง้ ยังพอขายได้หลาย
ตําลึง ท่านพ่อชอบภาพวาดเพียงใดท่านก็รูด้ ี ไม่แน่ว่าที่ท่านพ่อเอาแต่มองก็เพราะอยากจะหา
จุดแตกต่างของภาพนี?้ ”
เฉินซื่อไม่เข้าใจเรื่องพวกนี ้ กล่าวให้พวกเขาดูแลสุขภาพอย่างโมโห “ใต้หล้านีม้ ีของดี
คณานับ อย่าเอาแต่มองดูโดยไม่ขยับเขยือ้ นไปไหนเลย”
อวีถ้ งั เผยยิม้ บางตอบรับ ทุบไหล่ให้เฉินซื่ออย่างเอาใจ

ตอนบ่ายอาเสาก็กลับมา
เขาก็ รูส้ ึกถึงความผิดปกติของเรื่องนี เ้ ช่นกัน ลอบกระซิบกับอวีถ้ ัง “ผู้ท่ี พ บร่างของ
คุณชายรองสกุลเว่ยคนแรกคือหญิงที่รบั ใช้นายหญิงเว่ยคนหนึ่งในสกุลเว่ย นางออกไปขับถ่าย
เช้าตรู ่ ก็พบคุณชายรองสกุลเว่ยลอยอยู่ในลํานํา้ เล็กๆ ไม่ไกลจากเรือนสกุลเว่ย ส่วนคุณชาย
รองสกุลเว่ยออกไปจับปลายามใด เรื่องเกิดขึน้ เวลาไหน ใครก็ลว้ นไม่รู ้ ทัง้ ไม่เห็นด้วยขอรับ”
389

เขาพูดคําว่า ‘ไม่รู’้ และ ‘ไม่เห็น’ ซํา้ ไปซํา้ มาอยู่สองครัง้


390

ตอนที่ 48 ไหวพริบ
ไม่มีใครเห็นว่าเย็นวันนัน้ เกิดเรื่องอะไรขึน้
ไม่รูว้ ่าออกไปตอนไหน ไม่รูว้ ่าตายเมื่อไร ไม่รูว้ ่าก่อนที่เขาตายได้พบเจอกับเรื่องอันใด
อาศัยจากที่เห็นศพของเขาลอยขึน้ มาในนํา้ ทัง้ ข้างลําธารที่ทงิ ้ อุปกรณ์จบั ปลาเอาไว้ ก็ตดั สินว่า
เขาไม่ทนั ระวังจึงจมนํา้ ตาย
อวีถ้ งั ฟั งจบ ผ่านไปค่อนวันก็ยงั ไม่อาจลุกขึน้ ยืนได้
อาเสาเห็นท่าทีของนาง คิดว่านางคงหวาดกลัวไม่นอ้ ย ถามอย่างระวัง “เช่นนัน้ คุณหนู
ข้า ข้ายังต้องไปสืบต่อหรือไม่ขอรับ?”
“ไม่ตอ้ ง!” ในใจของอวีถ้ งั ราวกับมีกองไฟสุมอยู่ขา้ งใน ทัง้ คล้ายถูกนํา้ เย็นแทรกซึมเข้า
มาเช่นกัน
ผูท้ ่ีอาศัยใกล้ๆ ที่นาของสกุลเว่ยล้วนเป็ นคนคุน้ เคยของสกุลเว่ย อาเสาเป็ นคนแปลก
หน้า หากมีคนสงสัย ไม่นานก็ย่อมสืบความได้วา่ อาเสาเป็ นใคร นางไม่อาจทําให้สกุลเว่ยตกใจ
ทําให้คนในสกุลเว่ยเจ็บปวดไปมากกว่านี ้ เรื่องนี ้ หยุดที่นางก็เพียงพอแล้ว
ก็ให้คนในสกุลเว่ยคิดว่าเขาจมนํา้ ตายไป
ความจริงเป็ นอย่างไร นางจะสืบหาให้กระจ่างเอง
หากเขาตายเพราะถูก วางแผนจริง ๆ ไม่ ว่ า จะเพราะอะไร ใครเป็ น คนทํา นางจะ
พยายามอย่างสุดชีวิต หาความเป็ นธรรม คืนความยุติธรรมให้เขา
อวีถ้ งั หยัดกายขึน้ จากโต๊ะอย่างช้าๆ ผลักหน้าต่างออก
ใกล้ถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว
ดอกกุย้ ฮวาก็บานสะพรั่งขึน้ มาตามลําดับ
391

กลิ่นหอมฟุ้งลอยแตะจมูก
นี่เป็ นเทศกาลหนึ่งที่ครอบครัวกลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ทุกคนควรจะมีความสุข
กันถึงจะถูก
อวีถ้ งั นั่งทําปิ่ นดอกไม้อยู่ใต้ตน้ กุย้ ฮวาตรงลานบ้าน
ครัง้ นีน้ างทําดอกซานฉา รูปแบบหลากหลาย วัสดุแต่ละประเภท ทัง้ สีท่ีแตกต่างกันไป
รอจนผ่านสองสามเดือน นางก็สามารถทําใส่ได้หลายกล่องแล้ว ถึงเวลานัน้ นอกจากมารดา ป้า
สะใภ้ใหญ่ และพวกหม่าซิ่วเหนียงแล้ว นางก็วางแผนจะให้พวกสตรีสกุลเว่ยด้วย
อวีถ้ งั ก้มหน้าก้มตา ค่อยนํากลีบดอกกํามะหยี่ท่ีตดั ไว้ดีแล้วเย็บร้อยเรียงเข้าด้วยกัน ไม่
นานก็ทาํ ออกมาเป็ นดอกหนึ่ง จากนัน้ แต่งเติมใบสีเขียวเข้าไป ไม่ก็ใช้ไข่มกุ ทําเป็ นนํา้ ค้าง หรือ
ใช้เศษผ้าทําเป็ นผึง้ เกาะอยู่ดา้ นบน ดูแล้วเหมือนของจริงเป็ นอย่างยิ่ง
ผ้ากํามะหยี่นนั้ ส่วนมากจะเป็ นสีแดงชํา้ มีขนอ่อนเล็กๆ ลูบแล้วก็คล้ายเป็ นกลีบดอก
ของดอกซานฉาจริงๆ นุ่มละเอียดทัง้ รับรูถ้ ึงเนือ้ สัมผัส
ไม่รูว้ า่ มีหยดนํา้ จากที่ใดตกลงมา ทําให้ผา้ ลูโ่ ฉว 1ที่นางตัดเป็ นใบไม้ในมือเปี ยกชืน้
93

อวีถ้ งั ขมวดคิว้
เมื่อเงยหน้ากลับพบว่าท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไร้เมฆบดบัง
หยดนํา้ มาจากที่ไหนกัน
นางแปลกใจ รูส้ กึ ถึงความเหนอะหนะบนใบหน้า เมื่อลองลูบดู ก็พบว่ามือเปี ยกไปด้วย
นํา้

1
ผ้าลูโ่ ฉว ผ้าไหมชนิดหนึ่งของซานซี เนือ้ ผ้าหนาและทนทาน
392

อวีถ้ งั งุนงงอยู่บา้ ง ข้างหูกลับปรากฏเสียงร้องอย่างตกใจของซวงเถา “คุณหนู เกิดเรื่อง


อะไรเจ้าคะ? ไฉนท่านจึงร้องไห้ขนาดนี?้ ข้า ข้าจะไปเรียกนายหญิงเดี๋ยวนี… ้ ”
นางรีบคว้าซวงเถาเอาไว้ “ข้าร้องไห้ร?ึ ”
ซวงเถามองนางอย่างเกรงกลัวอยู่บา้ ง ชีไ้ ปที่หน้าของนาง กล่าวเสียงเบา “ใบหน้าท่าน
มีแต่นา้ํ ตา”
“อย่าให้ท่านแม่รู”้ อวีถ้ งั กล่าว “เจ้าไปตักนํา้ มาให้ขา้ ล้างหน้าล้างตาหน่อยเถิด”
ซวงเถาก็กลัวว่าจะทําให้เฉินซื่อตกใจ จึงรีบไปตักนํา้
อวีถ้ งั จึงกลับเข้าไปในห้อง ส่องดูตวั เองในกระจก
เป็ นดั่งที่ซวงเถาว่าจริงๆ ดวงตานางแดงกํ่า นํา้ ตาเปรอะเปื ้อนไปทัง้ หน้า
อวีถ้ ังนั่งนิ่งอยู่หน้ากระจกพักใหญ่ ในหัวคิดว้าวุ่น นางไม่รูว้ ่าตัวเองกําลังคิดอะไรอยู่
รอจนซวงเถาตักนํา้ เข้ามา ล้างหน้าเปลี่ยนชุดใหม่อีกครัง้ จู่ๆ อาเสาก็เข้ามารายงาน กล่าว
ว่าเว่ยเสี่ยวชวนต้องการพบนาง “เขารออยู่ท่ีประตูหลังขอรับ”
“ข้าจะไปดู” นางหยัดกายขึน้ ก่อนจะไปด้านหลังเรือน
เว่ยเสี่ยวชวนถือตะกร้าใส่ตาํ รา พิงกําแพงด้านหลังเรือนของพวกเขาทัง้ เตะก้อนหิน
เล็กๆ ใต้เท้าอย่างเบื่อหน่าย
เมื่อเห็นอวีถ้ งั เขาก็ยืดตัวตรงขึน้ มาทันที “คุณหนูอวี ้ ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้าตามลําพัง”
อวีถ้ งั ผงกศีรษะ ให้เขาเข้ามา ก่อนจะไล่ซวงเถาและอาเสาออกไป
เว่ยเสี่ยวชวนถามนาง “เหตุใดอาเสาจึงมาสืบเรื่องพี่รองของข้า? สกุลพวกเจ้ามีเรื่อง
อะไรปิ ดบังพวกเราใช่หรือไม่? อีกอย่าง ครัง้ ที่แล้ว มาถามเรื่องพวกนัน้ ถึงสํานักศึกษาของข้าตก
ลงมันคืออะไรกันแน่?”
393

อวีถ้ ังคาดไม่ถึงว่าเว่ยเสี่ยวชวนจะฉลาดเกินวัย มีไหวพริบถึงขนาดนี ้ นางครุ ่นคิดหา


ข้ออ้าง ตัง้ ใจจะปกปิ ดเว่ยเสี่ยวชวน นึกไม่ถึงว่าเว่ยเสี่ยวชวนจะเอ่ยว่า “หากเจ้าพูดความจริง
กับข้า ไม่แน่วา่ ข้าอาจช่วยเจ้าได้ หากเจ้าโกหกข้า ข้าจะบอกเรื่องนีก้ บั ผูใ้ หญ่ทงั้ สองสกุล”
“หา!” อวีถ้ งั เบิกตาโต
เว่ยเสี่ยวชวนเผยสีหน้าลําพองใจ “เจ้าอย่าคิดว่าข้าอายุนอ้ ย ไม่รูเ้ รื่องอะไร เจ้าแอบมา
เจอข้าที่สาํ นักศึกษา ผูใ้ หญ่ท่ีเรือนของเจ้าย่อมไม่รูเ้ รื่อง อาเสาก็เป็ นไปได้ว่ามาตามคําสั่งของ
เจ้า ข้าเตือนให้เจ้ากล่าวตามตรงดีกว่า อย่าบังคับให้ขา้ ต้องใช้วิธีข่มขู่”
ต่อให้อวีถ้ งั จะรูส้ กึ โศกเศร้าเท่าใดก็แทบหายไปเพราะคําพูดนีข้ องเว่ยเสี่ยวชวน
นางกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “เจ้าอายุเท่านี ้ คาดไม่ถึงว่าจะมาข่มขู่ขา้ เจ้าไม่กลัวว่าข้า
จะไปรายงานกับสกุลเจ้ารึ?”
“ควรจะเป็ นเจ้าที่กลัวข้ารายงานมากกว่ากระมัง?” เว่ยเสี่ยวชวนแค่นเสียง “อย่าคิดว่า
ข้าไม่รู ้ หากเจ้าอยากให้ผอู้ าวุโสของสกุลข้ารู ้ ก็คงส่งคนไปถามตรงๆ ตัง้ นานแล้ว เห็นได้ชดั ว่า
เจ้าทําเรื่องมีลบั ลมคมใน” กล่าวต่อ “ข้าก็ไม่ได้จะข่มขู่เจ้า เป็ นเจ้าที่ทาํ เรื่องบกพร่องเกินไป
หลังจากข้ากลับไปก็ครุน่ คิดอย่างละเอียด เจ้าสอบถามเรื่องพวกนัน้ ของพี่รองข้า ล้วนวนเวียน
อยู่กบั คําถามที่ว่าพี่รองข้าตายอย่างไร” เขาพูดมาถึงตรงนี ้ ใบหน้าเล็กก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็ นเคร่ง
ขรึมขึน้ มา ในแววตาปรากฏความเศร้าโศก
“ข้าก็รูส้ กึ ว่าพี่รองข้าไม่ใช่คนสะเพร่าขนาดนัน้ ข้ายังคิดว่าเป็ นข้าเองที่คิดมากไป…เจ้า
ต้องรูอ้ ะไรมาแน่ๆ” เขามองอวีถ้ งั อย่างขอร้อง “เจ้า เจ้าบอกข้าเถิด! แม้ขา้ ต้องติดค้างนํา้ ใจเจ้า
แต่ภายหลังข้าย่อมจะตอบแทนเจ้าแน่นอน”
อวีถ้ งั ตกตะลึง
เว่ยเสี่ยวชวนกลับแน่ใจว่านางรูเ้ บือ้ งหลังอะไรบางอย่าง มองนางอย่างดือ้ รัน้ คล้ายกับ
ว่าหากนางไม่พดู เขาก็จะไม่ยอมง่ายๆ
394

อวีถ้ งั ถอนหายใจยาว
หากนี่เป็ นกรรม เช่นนัน้ เดิมทีกรรมนีน้ างก็เป็ นคนก่อ นางเป็ นคนนํามา หรือหากนางจะ
ปกปิ ดก็สามารถปกปิ ดไว้ได้แล้วรึ? ทําเป็ นเหมือนว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึน้ ?
เวลาไม่คอยนาง ยิ่งไปกว่านัน้ ยามนีน้ างต้องการให้คนช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
“ได้!” อวีถ้ งั แทบจะตัดสินใจในทันที นางกล่าวอย่างจริงจัง “ข้าบอกเจ้าได้ แต่เจ้าต้อง
สาบาน จะไม่มีคนที่สามรูเ้ ห็นกับเรื่องนี”้
ส่วนผลที่ตามมาจะเป็ นอย่างไร นางจะรับผิดชอบเอง
เว่ยเสี่ยวชวนลังเลเล็กน้อย ก่อนจะสาบาน
อวีถ้ งั เล่าความกังวลใจของตัวเองให้เว่ยเสี่ยวชวนฟั ง แต่ไม่ได้พดู ถึงเรื่องภาพวาด นาง
กลัวว่าเว่ยเสี่ยวชวนหรือสกุลเว่ยจะถูกติดร่างแหไปด้วย พูดแค่เพียงว่าสงสัยว่าจะมีคนก่อศึก
ชิงรักหักสวาท
“ข้าเดาไม่ผิด ข้าเดาไม่ผิดจริงๆ” เว่ยเสี่ยวชวนพึมพํา “ข้าว่าแล้ว พี่รองข้าเป็ นคนที่เชื่อ
ฟั งถึงขนาดนัน้ อีกวันจะไปเจรจาเรื่องงานแต่งแล้ว ไฉนกลับออกไปข้างนอกโดยไม่บอกไม่
กล่าว แม่นา้ํ ลําธารใกล้ๆ ที่นาของข้าก็เหมือนเรือนหลังของพี่รอง พี่รองข้าจะไปจับปลาแล้วตก
นํา้ ตกท่าได้อย่างไร เวลานัน้ เป็ นยามที่กงุ้ หอยปูปลาอุดมสมบูรณ์ เด็กๆ ในที่นา หากมีเวลาว่าง
ย่อมพากันออกมาจับกบจับปลา เหตุใดกลับไม่มีคนเห็นพี่รองข้าแม้แต่คนเดียว…”
เด็กยังไม่ทนั โตดี มีท่าทีขวัญหายก็ทาํ ให้คนเอ็นดูเป็ นพิเศษ
อวีถ้ ังอยากจะปลอบเขาสักคําสองคํา เขากลับเงยหน้าขึน้ มาอย่างกะทันหัน จ้องมา
ที่อวีถ้ งั อย่างแน่วแน่ “คุณหนูอวี ้ เป็ นสกุลหลี่ใช่หรือไม่!”
เด็กคนนี ้ ฉลาดเกินไปแล้ว!
อวีถ้ งั อ้าปากค้างกว่าค่อนวัน
395

เว่ยเสี่ยวชวนกล่าวอย่างเคืองโกรธ “ข้าเดาว่าเป็ นพวกเขา นอกจากสกุลพวกเขาแล้ว ก็


ไม่ได้มีสกุลอื่นอยากแต่งกับเจ้า”
อวีถ้ ังมีท่าทีลาํ บากใจ ขอโทษเสียงเบา “ขอโทษด้วย ข้ายังไม่มีหลักฐาน ไม่รูว้ ่าเป็ น
พวกเขาทําหรือไม่…”
“เจ้ามีอะไรให้ขอโทษกัน” เว่ยเสี่ยวชวนกล่าวอย่างไม่พอใจ “หากจะพูดว่าผิด ก็เป็ น
ความผิดของพวกเขา หรือเพราะว่าเจ้าหน้าตางดงาม พวกเขาต่างละโมบโลภมาก ก็ผลักภาระ
นีไ้ ว้ท่ีเจ้าได้อย่างนัน้ รึ? เจ้าไม่ตอ้ งขอโทษข้า ทัง้ ไม่ตอ้ งขอโทษกับใคร”
“เว่ยเสี่ยวชวน!” อวีถ้ งั กล่าวอูอ้ ี ้ จู่ๆ ภาพเบือ้ งหน้าก็เปลี่ยนเป็ นเลือนรางอยู่บา้ ง
ชาติก่อน หลี่จวิน้ ตายแล้วก็ดี หลี่ตวนอยากครอบครองนางก็ดี ฮูหยินหลี่มกั กล่าวว่า
เป็ นความผิดของนาง แมลงวันไม่ตอมไข่ท่ีไร้รอยแตก 2นางใช้เวลาไปมากมายจึงค่อยเข้าใจ
94

บางครัง้ เหตุผลก็ยืนอยู่ขา้ งคนส่วนน้อย


นางไม่ได้ผิด ผูท้ ่ีผิดคือคนจิตใจสกปรกพวกนัน้
ตัง้ แต่นางกลับชาติมาเกิดอีกครัง้ นี่นับเป็ นครัง้ แรกที่มีคนพูดกับนางอย่างแน่วแน่ว่า
นางไม่ใช่คนผิด
อวีถ้ งั นํา้ ตาพรั่งพรูออกมา
เว่ยเสี่ยวชวนกลับเผยใบหน้ารังเกียจ “หญิงสาวอย่างพวกเจ้าชอบร้องไห้เสียจริง! เรื่อง
ใหญ่รอ้ งไห้ เรื่องเล็กร้องไห้ ยามที่ดีใจร้องไห้ ยามที่เสียใจก็รอ้ งไห้ มีเรื่องหรือไม่มีเรื่องล้วน
ร้องไห้ เจ้าไม่รอ้ งไม่ได้รึ เจ้าทําเช่นนีน้ ่ารําคาญไม่นอ้ ย เจ้ารูห้ รือไม่?”
แม้ปากเขาจะก่นว่า ทว่าหูกลับแดงกํ่า

2
แมลงวันไม่ตอมไข่ท่ไี ร้รอยแตก เปรียบเปรยว่า เรื่องราวที่เกิดขึน้ ย่อมมีเหตุผล
396

อวีถ้ งั หัวเราะทัง้ นํา้ ตา ลองลูบศีรษะของเขา “ข้าทําไม่ถกู เอง ภายหลังจะไม่รอ้ งเช่นนี ้


แล้ว”
เว่ยเสี่ยวชวนบิดศีรษะหลบมือนาง “เช่นนัน้ ข้าไปแล้ว รอหากมีข่าวคราวจะมาบอกเจ้า
อีกที”
อวีถ้ งั กลัวว่าเขาจะทําซีซ้ วั้ รีบดึงเขาไว้ “เรื่องนีพ้ วกเราต้องสืบให้ชดั เจนก่อน ขอเพียง
แค่สืบกระจ่างแล้ว ไม่ว่าใครจะเป็ นคนทํา ข้าล้วนมีแผนที่จะจัดการกับพวกเขา เจ้าอย่าได้ทาํ
อะไรพลการ ทําเสียเรื่องของข้า”
“รูแ้ ล้ว รูแ้ ล้ว” เว่ยเสี่ยวชวนกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “แม้ว่าข้าจะอยากทําอะไร ก็ไร้หนทาง
จะลงมือในช่วงเวลาสัน้ ๆ ถึงจําเป็ นต้องหาผูช้ ่วยอย่างไรเล่า!”
ที่แท้นางคือคนที่ถกู เว่ยเสี่ยวชวนเลือกให้เป็ นผูช้ ่วย!
ในที่สดุ อวีถ้ งั ก็เข้าใจขึน้ มาบ้างว่า เหตุใดเว่ยเสี่ยวชวนจึงมาหานาง ทัง้ พูดเช่นนีอ้ อกมา
แต่วา่ นางก็ตอ้ งการผูช้ ่วย หากมีเว่ยเสี่ยวชวนคอยช่วย ย่อมมีประโยชน์กว่าอาเสา
อวีถ้ ังให้ซวงเถายัดกล่องขนมให้เว่ยเสี่ยวชวน “เจ้าอยู่ในวัยกําลังโต เอาไปกินในหอ
เรียนเสีย หากกินไม่หมด ก็ให้สหายร่วมห้องของเจ้ากินด้วย”
ชีวิตความเป็ นอยู่ของสกุลเว่ยไม่นบั ว่าแย่มากมาย แต่อย่างไรก็เป็ นคหบดีชนบท ลูก
ชายมาก ภาระหนัก วันปกติธรรมดา พวกเด็กๆ ย่อมไม่คนุ้ ชินที่จะกินขนมของว่าง นับประสา
อะไรกับการแบ่งปั นสหายร่วมห้อง ยามที่อยู่หอเรียนเขาเป็ นคนที่เก็บตัวอยู่บา้ ง ไม่ใช่ว่าเขาผูก
สัมพันธ์คนอื่นไม่เป็ น แต่ประเด็นหลักอยู่ท่ีการคบค้าสมาคมกับผูค้ นนัน้ ต้องใช้เงิน เขาสงสาร
พ่อแม่ ไม่อยากเสียเงินเพราะเรื่องนี ้
เขากลับไม่อยากได้ขนมของอวีถ้ งั กลอกตา คิดจะยัดกลับไป อวีถ้ งั กลับเอ่ยว่า “ถือเสีย
ว่าเป็ นค่าตอบแทนที่เจ้าช่วยข้าสืบข่าว”
397

เว่ยเสี่ยวชวนรับรูถ้ ึงความปรารถนาดีของนาง ลังเลอยู่พกั หนึ่ง ก่อนจะรับขนมไว้ คิดว่า


ภายหลังหากตัวเองเป็ นขุนนางใหญ่แล้ว ค่อยซือ้ คืนให้นางเป็ นแปดเท่าสิบเท่า ตอบแทนนํา้ ใจ
นางก็เพียงพอแล้ว
อวีถ้ งั ทอดมองแผ่นหลังของเว่ยเสี่ยวชวนที่เดินจากไปคนเดียว เผยยิม้ ทัง้ สั่นศีรษะ รูส้ กึ
ว่าเด็กผูน้ ีฉ้ ลาดเกินวัยจนทําให้คนรูส้ กึ เอ็นดู

ไม่ถึงสองวัน อวีห้ ย่วนก็กลับมา


อวีเ้ หวิน อวีถ้ งั และอวีห้ ย่วนก็หลบเฉินซื่อมาพูดคุยในห้องหนังสืออีกครัง้
“อาจารย์เฉี ยนซาบซึง้ เป็ นอย่างมากที่พวกเราตั้งใจไปบอกกล่าวกับเขา” อวีห้ ย่วน
กล่าวเสียงเบา “เขากล่าวว่า ยามที่เขาเพิ่งจะเห็นภาพนัน้ ก็สงสัยว่าเป็ นแผนที่เดินเรือ เพียงไม่
อยากข้องเกี่ยวไปด้วย ดังนัน้ จึงไม่ได้พูดอะไร เขาก็คิดว่าเรื่องนีเ้ ป็ นเรื่องใหญ่ วางแผนจะไป
หลบอยู่กบั ศิษย์พ่ีของเขาสักสองสามปี หากทําการค้าขายทางนัน้ ได้ดี เขาก็จะไม่กลับมา ให้
พวกเราไม่ตอ้ งกังวล เขายังพูดอีกว่า หากพวกเราตัดสินใจไปฝูเจีย้ น เขามีเพื่อนคนหนึ่งอยู่ทาง
นัน้ ตอนเยาว์วยั ชอบศึกษาเรื่องแผนที่เป็ นอย่างยิ่ง ไม่แน่วา่ อาจจะรูจ้ กั เขายังบอกที่อยู่คนผูน้ นั้
กับข้าทัง้ ให้พวกเราลองไปดู”
อวีเ้ หวินและอวีถ้ งั ฟั งจบก็โล่งใจในเวลาเดียวกัน อดดีใจขึน้ มาไม่ได้
“เช่นนัน้ ก็ดี!” อวีเ้ หวินกล่าว “จะเห็นได้ว่าคํากล่าวของบรรพบุรุษนัน้ มีเหตุผล ทําดีก็
ย่อมได้รบั สิ่งดีๆ ตอบ พวกเราเพียงช่วยตักเตือนอาจารย์เฉี ยน อาจารย์เฉี ยนกลับให้ความ
ช่วยเหลือเช่นนีแ้ ก่พวกเรา พอดีเชียว ข้าก็ไม่ตอ้ งไปสืบว่าสกุลใดมีคนทําการค้าอยู่ท่ีฝเู จีย้ นบ้าง
แค่ไปหาคนที่อาจารย์เฉียนแนะนํามาก็เพียงพอแล้ว”
อวีถ้ งั พยักหน้ารับ
398

เฉินซื่อเคาะประตูอยู่ดา้ นนอก บ่นว่า “ไฉนพวกเจ้าลงดาลประตูอีกแล้ว? ข้ามีเรื่องจะ


พูด พวกเจ้ารีบเปิ ดประตูหน่อย”
พวกอวีเ้ หวินสามคนต่างมองหน้ากัน อวีถ้ งั รีบไปเปิ ดประตู
เฉินซื่อเดินขมวดคิว้ เข้ามา “ฤดูใบไม้ผลิอากาศเย็นสบาย พวกเจ้ามีเรื่องอะไรไยไม่พดู
ในลานบ้าน กลับมาหลบกันในห้องหนังสือ?”
อวีเ้ หวินรีบเบี่ยงประเด็น “เจ้ามาหาพวกเรามีเรื่องด่วนอันใดรึ?”
เฉินซื่อกล่าว “มีแม่ส่อื มาหา…”
ในใจของอวีถ้ งั มีโล่กาํ บังตัง้ ขึน้ มาทันที
เรื่องของสกุลหลี่ยงั ไม่ทนั แก้ไข เวลานีน้ างพูดคุยเรื่องงานแต่งกับสกุลใดล้วนเป็ นการ
ทําร้ายทัง้ นัน้ !
“ท่านแม่ เรื่องงานแต่งของข้า ท่านพักไว้ช่ ัวคราวก่อนเถิด!” นางกล่าวอย่างร้อนรน
“ใกล้จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว หลังจากผ่านเทศกาลไหว้พระจันทร์ไปก็เป็ นเทศกาลฉง
หยาง 3 อย่างไรรอถึงเดือนสิบแล้วค่อยว่ากันเถิดเจ้าค่ะ!”
95

เฉินซื่อฟั งก็หวั เราะขึน้ มา “หากข้าดึงดันจะกําหนดงานแต่งให้เจ้าจนได้เล่า?”


อวีถ้ งั อ้าปากค้าง กลับมองเห็นความหยอกล้อในสายตาของมารดา
“ท่านแม่!” นางกล่าวอย่างไม่รูจ้ ะทําอย่างไร
เฉินซื่อหัวเราะก่อนจะเขกศีรษะนาง กล่าวด้วยรอยยิม้ “เจ้าคิดว่าเจ้าเป็ นที่หมายปอง
ของชายหนุ่มหรืออย่างไร? ผูท้ ่ีมาสกุลเราจะทาบทามเจ้าเพียงคนเดียวอย่างนัน้ รึ?”

3
เทศกาลฉงหยาง เป็ นเทศกาลที่ตรงกับวันที่เก้าเดือนเก้า ชาวจีนถือว่าเป็ นเลขมงคล เป็ นวันที่เหมาะกับการยินดีเฉลิม
ฉลอง ทัง้ ในวันนีจ้ ะเฉลิมฉลองโดยการชมดอกเบญจมาศ เที่ยวขึน้ เขาหรือที่สงู เพื่ออธิษฐานขอพร ทัดใบจูอวี๋ (สมุนไพรจีน
ชนิดหนึ่ง) ดื่มเหล้าเบญจมาศ กินขนมฉงหยาง (ขนมนึ่งที่ทาํ ด้วยแป้งข้าว แต่งหน้าด้วยธัญพืช) เป็ นต้น
399

อวีถ้ งั งงงัน “หรือว่าไม่ใช่ละ่ เจ้าคะ?”


เฉินซื่อเอามือทาบอกหัวเราะ “สกุลของพวกเราไม่ใช่ยงั มีพ่ีเจ้าอีกคนหรือไร?”
ทุกคนต่างตกใจ
อวีห้ ย่วนใบหน้าขึน้ สี
อวี เ้ หวินรีบถาม “นี่ ตกลงเป็ น เรื่องอะไรกันแน่? ทาบทามให้อาหย่ว น ไฉนไม่ไปหา
พี่สะใภ้ใหญ่กลับมาหาทางเจ้า?”
ใช่แล้ว!
อวีถ้ งั ทําหูตงั้
เฉินซื่อกล่าว “เป็ นสกุลเว่ย นายหญิงเว่ยฝากฝังมา กล่าวว่าเรื่องของอาถังและลูกชาย
คนรองของสกุลพวกเขานัน้ น่าเสียดาย อยากจะเชื่อมสัมพันธ์กบั สกุลพวกเราต่อ กลัวว่าพี่สะใภ้
ใหญ่จะติดขัดอันใด จึงให้แม่ส่อื มาหยั่งเชิงข้าก่อน ข้ามาหาเจ้าก็เพราะปรึกษาเรื่องนี”้
อวีห้ ย่วนใบหน้าแดงกํ่า อยากไปฟั งเช่นกัน แต่กลับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพียงยืนอยู่
ตรงนัน้
อวีเ้ หวินกล่าว “สกุลพวกเขาไม่ใช่ว่ามีเพียงลูกชายห้าคนหรอกรึ? ลูกสาวมาจากไหน
กัน? หรือสกุลเว่ยยังมีครอบครัวอื่นอยูอ่ ีก?”
เฉินซื่อป้องปากหัวเราะ “นายหญิงเว่ยอยากเป็ นแม่ส่ือให้หลานสาวผูท้ ่ีอยู่ในสกุลเว่ย
ตัง้ แต่เล็กจนโตคนนัน้ กับอาหย่วนของพวกเรา”
“แม่หนูคนนัน้ เอง!” เห็นได้ชัดว่าอวีเ้ หวินมีความประทับใจอยู่บา้ ง “ได้ ได้ ข้าคิดว่า
ใช้ได้ เช่นนัน้ เจ้าเข้าไปพูดกับพี่สะใภ้หน่อยเถิด สกุลเว่ยนัน้ ใจดีมีเมตตา ข้าก็เสียดายที่ไม่อาจ
แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กบั พวกเขา”
400

เฉินซื่อมองอวีห้ ย่วนด้วยรอยยิม้ ไปที “เช่นนัน้ ข้าไปล่ะ แม่ส่ือของเขายังรอคําตอบอยู่!”


แม้จะพูดเช่นนี ้ แต่คนกลับไม่ขยับไปไหน ทําเอาอวีห้ ย่วนเขินอายจนอยากจะขดตัวเป็ นวงกลม
สองสามีภรรยาอวีเ้ หวินหัวเราะ ถามอวีห้ ย่วน “เจ้าว่าอย่างไร? แม้จะกล่าวว่าเรื่องใหญ่
อย่างงานแต่งต้องฟั งพ่อแม่ แต่พวกเราก็คาดหวังให้พวกเจ้าสามารถใช้ชีวิตที่ดีดว้ ยกันได้ เจ้าก็
ลองคิดดูวา่ ยินยอมหรือไม่”
อวีห้ ย่วนหน้าแดงจนแทบจะไหลเป็ นหยดเลือดได้ ผงกศีรษะอย่างส่งๆ ไป
401

บทที่ 49 สืบเนื่อง
ท่าทีเช่นนีข้ องอวีห้ ย่วน ทําให้เฉินซื่อรู ส้ ึกขําขันไม่นอ้ ย นางกล่าวหยอกล้อ “เจ้าพยัก
หน้าส่งเดชเช่นนี ้ ตกลงเห็นด้วยกับท่านอาของเจ้าหรือไม่เห็นด้วยกันแน่?”
คาดไม่ถึงว่าอวีห้ ย่วนที่ปกติเป็ นคนโอนอ่อนผ่อนตาม ไม่คิดอะไรมาก เมื่อได้ยินกลับวิ่ง
หนีไปแทบไม่เห็นฝุ่ น
เฉิ นซื่อและอวีเ้ หวินหัวเราะลั่น จัดการตัวเองให้เรียบร้อย คล้อยหลังก็ไปหาอวีป้ ๋ อที่
เรือน
อวีถ้ งั ยืนนิ่งอยู่ใต้ตน้ ดอกกุย้ ฮวา เนิ่นนานก็ยงั รวบรวมสติกลับมาไม่ได้
ชาติก่อน ญาติผพู้ ่ีของนางไม่ได้พดู ถึงเรื่องงานแต่งเร็วถึงขนาดนี ้
เพราะว่าบิดาและมารดาของนางล่วงลับ ในบ้านของนางไม่มีบรุ ุษร่วมชายคา ญาติผพู้ ่ี
จึงเป็ นฝ่ ายรับผิดชอบดูแลทัง้ สองบ้าน ทัง้ ไว้ทกุ ข์ให้บิดามารดานางเป็ นเวลาสามปี
สามปี ให้หลัง ในสายตาของสกุลทั่วไป สกุลอวีน้ นั้ ได้ตกอับแล้ว งานแต่งของญาติผพู้ ่ี
จึงกลายเป็ นความกังวลของลุงใหญ่และป้าสะใภ้ใหญ่ แม้จะมีการศึกษาและการอบรมสั่งสอน
เพียบพร้อม แต่รงั เกียจสกุลพวกเขาที่ขดั สน สกุลที่ยอมส่งลูกสาวเข้ามาแต่ง ล้วนเห็นได้ชดั เจน
ว่าไม่ดีอย่างนัน้ ไม่ดีอย่างนี ้ แต่เพราะบิดามารดาของนางจากไป สมาชิกในครอบครัวจึงมีนอ้ ย
จริงๆ ลุงใหญ่และป้าสะใภ้ใหญ่ต่างก็รีบร้อนให้ญาติผพู้ ่ีเป็ นฝั่ งเป็ นฝา จึงไปเกี่ยวดองกับสกุล
เกา คหบดีบา้ นนอกในตําบลเหอเฉียว
ใครจะรู ว้ ่าเกาซื่อนัน้ หน้าตางดงาม แต่กลับมีนิสยั อารมณ์รอ้ น หลังจากแต่งเข้ามาก็
เกิดขัดแย้งอย่างร้ายแรงกับลุงใหญ่และป้าสะใภ้ใหญ่ ภายหลังรังเกียจที่อวีห้ ย่วนหาเงินไม่ได้
เอะอะก็ไม่ให้อวีห้ ย่วนเข้าใกล้ สุดท้ายจึงกลับไปอยู่ท่ีสกุลมารดาโดยไม่สนใจอะไร
แม้ว่าอวีห้ ย่วนจะมีภรรยากลับเหมือนว่าไม่มี ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึงป้าสะใภ้ใหญ่และลุง
ใหญ่ท่ีเอาแต่วาดหวังให้มีหลานอยู่เรื่อยมา
402

รอจนอวีห้ ย่วนหาเงินได้ เกาซื่อก็กลับมาสกุลอวี ้ กระนัน้ นางก็รูส้ ึกว่าอวีห้ ย่วนใจแคบ


กับนาง ไม่ยอมช่วยประคองสกุลมารดาของนาง
ไม่ว่าป้าสะใภ้ใหญ่และลุงใหญ่จะอดทนอย่างไร เรื่องเงินทองนางล้วนไม่ยอมเลิกรา
ต้องการให้อวีห้ ย่วนเอาทรัพย์สินของสกุลทัง้ หมดมาให้นางดูแล
ภายใต้การโน้มน้าวของป้าสะใภ้ใหญ่และลุงใหญ่ ญาติผพู้ ่ีจึงเอาทรัพย์สินในบ้านให้
เกาซื่อดูแล ทว่าความสัมพันธ์ของทัง้ สองกลับลดลงจนเยือกแข็ง
ญาติผพู้ ่ีออกไปค้าขายข้างนอก มักจะไม่อยู่บา้ น เกาซื่อก็เรียกหาเพื่อนฝูง ดื่มเหล้าเดิม
พันสุรา
บรรยากาศในบ้านโกลาหลวุน่ วาย
ท้ายที่สุดอวีห้ ย่วนเสียชีวิตอย่างไม่คาดฝั น เกาซื่อก็หอบทรัพย์สินในสกุลหนีไปกับ
พ่อค้าเร่คนหนึ่ง
นี่ก็เป็ นเหตุผลที่วา่ หลังจากลุงใหญ่และญาติผพู้ ่ีจากไป การใช้ชีวิตของป้าสะใภ้จงึ แทบ
ไม่มีท่ีพ่งึ พิง…
นึกถึงเรื่องในอดีตพวกนี ้ อวีถ้ งั ก็ถอนหายใจอย่างขื่นขม
ชาติก่อน นางไร้หนทางที่จะช่วยอวีห้ ย่วน แต่นางหวังมาตลอดว่าญาติผพู้ ่ีจะสามารถมี
ครอบครัว ที่ อ บอุ่น ได้ สามารถมี ค นที่ ดูแ ลเอาใจใส่อ ยู่ข้า งกาย ไม่ ต อ้ งข้อ งเกี่ ย วกับ เกาซื่อ
หลังจากเกิดใหม่ นางคิดว่านางยังต้องหาวิธีเปลี่ยนแปลงเรื่องนี ้ คาดไม่ถึงว่า งานแต่งของญาติ
ผูพ้ ่ีจะมีเค้าลางขึน้ มาอย่างไม่ทนั ตัง้ ตัว ทัง้ ไม่เกี่ยวข้องกับนางแล้ว
อวีถ้ ังเสียใจอยู่บา้ ง ตอนแรกที่บิดามารดาเอ่ยถึงคุณหนูหลานสาวของสกุลเว่ยผูน้ นั้
นางไม่ได้ไปสืบฟั งเรื่องนีอ้ ย่างละเอียด ดังนัน้ รอจนอวีเ้ หวินและเฉินซื่อกลับมาจากเรือนอวีป้ ๋ อ
อวีถ้ งั จึงไปหาบิดามารดาที่หอ้ งอย่างอดใจไม่ไหว
403

“ป้าสะใภ้ใหญ่ว่าอย่างไรหรือเจ้าคะ?” นางนั่งเก้าอีใ้ กล้หน้าต่างในห้อง มองซวงเถา


ช่วยบิดามารดาเปลี่ยนชุด “แม่ส่อื ไปแล้วรึ?”
เฉินซื่อพยักหน้าด้วยรอยยิม้ “ป้าสะใภ้ใหญ่ของเจ้าแน่นอนว่ายินดีเป็ นอย่างยิ่ง! ก่อน
หน้านีล้ งุ ใหญ่เจ้าเคยพบคุณหนูหลานสาวของสกุลเว่ยแล้วไม่ว่า แต่ยงั ได้ยินแม่ส่ือผูน้ นั้ พูดว่า
คุณหนูผนู้ นั้ ยังมีท่ีนาห้าสิบหมูเ่ ป็ นสินเดิม”
“หา!” อวีถ้ งั คาดไม่ถึงเป็ นอย่างมาก
สินเดิมเป็ นที่หา้ สิบหมู่ สําหรับเมืองเจียงหนานถือว่าไม่นอ้ ยเลย
ดูท่าฐานะของสกุลคุณหนูคนนัน้ จะดีกว่าสกุลอวี ้
เฉินซื่อเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว ก็น่ งั ลงด้านข้างอวีถ้ งั ด้วยใบหน้าเปื ้อนยิม้ “ยามที่แม่ส่ือผู้
นัน้ เอ่ยเรื่องนีข้ ึน้ มา ข้าและพวกป้าสะใภ้ใหญ่ของเจ้าต่างก็ตกใจเสียยกใหญ่ เวลานัน้ ป้าสะใภ้
เจ้ายังกลัวคนอื่นจะซุบซิบนินทา ลังเลอยู่บา้ งว่าจะตอบรับงานแต่งครัง้ นีด้ ีหรือไม่ ยังเป็ นลุง
ใหญ่ของเจ้าที่ตดั สินใจเฉียบขาด กล่าวว่ายืนตัวตรงไยต้องกลัวเงาเฉเฉียง 1 ยังพูดอีกว่า พี่ชาย96

เจ้าไม่ค่คู วรกับคุณหนูหลานสาวของสกุลเว่ยตรงไหน? เรื่องนีจ้ ึงจบไปเช่นนี”้ พูดมาถึงตรงนี ้


เฉินซื่อก็ลบู ศีรษะอวีถ้ ังเบาๆ “แต่ว่า อีกสองวันพวกเราสองสกุลจะทําความรู จ้ กั มักคุน้ กัน ถึง
เวลานัน้ เจ้าอยากไปดูดว้ ยกันหรือไม่?”
อวีถ้ งั รู ส้ ึกเหนือความคาดหมายอยู่บา้ ง “ก่อนหน้าเทศกาลไหว้พระจันทร์เลยหรือเจ้า
คะ?”
เฉินซื่อพยักหน้า กล่าวด้วยรอยยิม้ “เป็ นความต้องการของนายหญิงเว่ย อยากจะทํา
เรื่องนีใ้ ห้จบหลังเทศกาลไหว้พระจันทร์ไปเลย”
ไฉนจึงรีบร้อนถึงขนาดนี?้

1
ยืนตัวตรงไยต้องกลัวเงาเฉเฉียง หมายความว่า ขอเพียงทําเรื่องที่เหมาะสมถูกทํานองคลองธรรม ก็ไม่มีอะไรที่ตอ้ งกลัว
404

อวีถ้ งั นึกถึงงานแต่งของอวีห้ ย่วนในชาติก่อน เป็ นเพราะตัดสินใจอย่างรีบร้อนเกินไปจึง


เกิดปั ญหา นางอดกล่าวไม่ได้ “ท่านแม่ พวกเราต้องสืบข่าวคราวนางเสียหน่อยหรือไม่ แม้จะ
กล่าวว่าพวกท่านล้วนเห็นคุณหนูหลานสาวสกุลเว่ยมาก่อน แต่ยามนัน้ อย่างไร สถานะยังคง
แตกต่าง ความเข้าใจก็ไม่เหมือนกัน แต่งสะใภ้ อย่างไรก็ควรจะเลือกตามความต้องการนะเจ้า
คะ”
“เจ้าพูดมีเหตุผล” เฉินซื่อกล่าวยิม้ ๆ “ดึกมากแล้ว เจ้ารีบไปนอนพักผ่อนเถิด! พรุง่ นีข้ า้
และป้าสะใภ้ใหญ่เจ้าต้องยุ่งกับการพบปะสกุลเว่ย” นํา้ เสียงไม่จริงจังอยู่บา้ ง มองออกว่า นาง
ไม่ได้ใส่ใจในคําพูดอวีถ้ งั เท่าใด
อวีถ้ งั แอบร้อนใจ คาดหวังให้เว่ยเสี่ยวชวนมาหานางเร็วหน่อย นางจะได้สืบข่าวด้วย

แต่จนถึงวันที่สองสกุลกําหนดวันดูตวั แล้ว เว่ยเสี่ยวชวนก็ยงั ไม่มาหานาง


นางร้อนใจขึน้ มา เอ่ยถึงเรื่องนีก้ ับป้าเฉิ นเป็ นครัง้ คราว “ก็ไม่รูว้ ่าเหตุใดสกุลเว่ยจึง
กําหนดเรื่องงานแต่งเร็วถึงเพียงนี?้ ”
เห็นได้ชัดว่าป้าเฉินเข้าใจมากกว่านางเสียทีเดียว ฟั งจบก็หวั เราะ “สกุลเว่ยย่อมต้อง
ร้อนใจ! คุณหนูหลานสาวสกุลเว่ยอายุมากกว่าคุณชายของพวกเราตัง้ สามปี น่ะสิเจ้าคะ!”
อวีถ้ งั ตกตะลึง
ป้าเฉินกดเสียงเบาพูดกับนาง “คุณหนูหลานสาวสกุลเว่ยนัน้ สกุลเซียง บิดาเป็ นเจ้าของ
ที่ดินใหญ่ในฟู่ หยาง หลังจากมารดาผูใ้ ห้กาํ เนิดของนางป่ วยตาย นายท่านเซียงก็แต่งคุณหนูลกู
ภรรยาเอกสกุลเสิ่นของหังโจวเข้าบ้าน ว่ากันว่าคนสกุลเสิ่นอารมณ์รา้ ยมิใช่นอ้ ย ยอมรับคุณหนู
เซียงไม่ค่อยได้ บิดาของคุณหนูเซียงอับจนหนทาง จึงได้ฝากฝั งคุณหนูเซียงให้นายหญิงเว่ยอ
บรมสั่งสอน แม้จะกล่าวว่าคุณหนูเซียงเติบโตที่สกุลเว่ย แต่สกุลเซียงก็ไม่ได้ล่มสลาย งานแต่ง
ของคุณหนูเซียง นายหญิงเว่ยก็ไม่อาจตัดสินใจเพียงผูเ้ ดียวได้ ยืดเยือ้ ไปมาอยู่เช่นนี ้ จึงทําให้
405

งานแต่งของคุณหนูเซียงล่าช้า ข้าไตร่ตรองดูแล้ว งานแต่งของคุณหนูเซียงและคุณชายหย่วน


ของพวกเรา แปดถึงเก้าส่วนนายหญิงเว่ยคงตัดสินใจไปก่อนแล้วค่อยรายงานทีหลัง ดังนัน้ จึง
ได้รบี ร้อนเช่นนีเ้ จ้าค่ะ”
อวีถ้ งั กล่าว “เช่นนัน้ แม่ขา้ และป้าสะใภ้ใหญ่รูห้ รือไม่?”
“แม้แต่ขา้ ยังรู ้ นายหญิงและนายหญิงใหญ่จะไม่รูไ้ ด้อย่างไรล่ะเจ้าคะ?” ป้าเฉินปราด
มองไปที่อวีถ้ งั
ประจวบกับซวงเถาถือตะกร้าใบเล็กใส่ผกั คะน้าสดเตรียมจะมาทําผักดองเดินเข้ามาใน
ห้องครัว แทรกบทสนทนา “ในเมื่อเป็ นเช่นนี ้ เหตุใดนายหญิงเว่ยไม่ให้คณ
ุ หนูเซียงอยู่ในบ้าน
นางเสียเลยเจ้าคะ?”
“ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เด็กสาวอย่างพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจหรอกกระมัง?” ป้าเฉินสั่งการให้ซ
วงเถาเอาผักคะน้าไปล้างนํา้ ให้สะอาด ทัง้ กล่าวไปพลาง “นายหญิงเว่ยเป็ นคนที่มีความคิด
ความอ่าน ไฉนจึงไม่กล้าตัดสินชีข้ าดหาสกุลสามีให้คุณหนูเซียง นั่นเป็ นเพราะว่างานแต่ง
สําคัญครัง้ นี ้ ไม่เหมือนการซือ้ เสือ้ ผ้ารองเท้า เห็นแล้วชอบ เห็นว่าดีก็ตกลง อย่างอื่นยังไม่ตอ้ ง
พูดถึง คิดแค่ว่านายท่านอู๋เพื่อนบ้านของพวกเรา ปี นนั้ แต่งกับนายหญิงอู๋ท่ีมีฐานะใกล้เคียงกัน
เหมาะสมราวกับกิ่งทองใบหยก เป็ นคู่ท่ีพาให้คนอิจฉา แต่เจ้าดูหลายปี ท่ีผ่านมา การค้าขาย
ของนายท่านอู๋กลับยิ่งทํามาค้าขึน้ เรื่อยๆ แต่สมาชิกผูห้ ญิงในบ้านก็เพิ่มมากขึน้ เช่นกัน” ขณะที่
พูด นางก็กระซิบเสียงเบา “ข้าได้ยินหญิงรับใช้ของเรือนนายท่านอู๋กล่าวว่า หลายวันมานีน้ าย
ท่านอู๋อยู่ท่ีเมืองหังโจวมาโดยตลอด เลีย้ งดูนกั แสดงงิว้ ผูห้ นึ่ง นายหญิงอู๋กลัวว่านายท่านอู๋จะ
เผลอมีลกู ขึน้ มา เตรียมจะแกล้งล้มป่ วยอยู่ในบ้าน หลอกให้นายท่านอูก๋ ลับมา”
“มีเรื่องเช่นนีด้ ว้ ย!” ซวงเถาทําตาโต
หัวข้อสนทนาเบี่ยงไปอีกเรื่องโดยสิน้ เชิง
อวีถ้ งั เผยยิม้
406

ชาติ ก่ อ นนางรู ส้ ึก ว่า ป้า เฉิ น พูด มาก ไม่ ว่ า เรื่อ งใดก็ ช อบนํา มาเล่า สนุก ปาก พอได้
กลับมาเกิดใหม่ฟังนางพูดจูจ้ ีจ้ กุ จิกอีกครัง้ ก็รูส้ กึ สนิทสนมขึน้ มาอย่างบอกไม่ถกู
ทั้งในเรือนแห่งนีไ้ ม่ว่าจะเป็ นป้าเฉิ น ซวงเถา หรือว่าอาเสา ล้วนแต่เห็นสกุลอวีเ้ ป็ น
เหมือนบ้านตัวเองทัง้ นัน้ หลังจากป้าเฉินและซวงเถาตามนางเข้ามาในสกุลหลี่ อาเสาก็คอยรับ
ใช้ขา้ งกายอวีห้ ย่วนโดยตลอด หลังจากอาหย่วนจากไป เขาก็ไปเป็ นเถ้าแก่เล็กๆ ที่รา้ นค้าแห่ง
หนึ่ง แต่งภรรยา มีลกู แม้ว่าชีวิตจะไม่ได้ม่งั มีเท่าใดก็ยงั ไม่ลืมไปเยี่ยมเยือนป้าสะใภ้ใหญ่ ทัง้ ไป
กวาดสุสานให้อวีห้ ย่วน…
อวีถ้ งั นํา้ ตารืน้ ขึน้ มา
เสียงของเฉินซื่อดังขึน้ มาจากท้ายเรือน “นี่พวกเจ้าทําอะไรกัน? ไม่ใช่กล่าวว่าให้เจ้าไป
ซือ้ ไก่หมักนํา้ เชื่อมกุย้ ฮวากลับมาสองตัวหรอกรึ? อีกเดี๋ยวข้าจะนําไปต้อนรับแม่ส่อื ทางพี่สะใภ้”
ป้าเฉินผุดลุกขึน้ อย่างลนลาน ดึงผ้ากันเปื ้อนที่อยู่บนร่างมาเช็ดมือ รีบกล่าว “ข้าจะไป
เดี๋ยวนีเ้ จ้าค่ะ จะไปเดี๋ยวนีแ้ ล้ว!”
อวีถ้ งั หัวเราะเสียงดัง
เฉินซื่อมองทัง้ ขมวดคิว้ “เจ้าก็อย่าหัวเราะ ข้าให้เจ้าเย็บผ้าเช็ดหน้า เจ้าเย็บไปถึงไหน
แล้ว? หรือรอพี่สะใภ้เจ้าเข้าสกุลมา น้องสามีอย่างเจ้ากระทั่งจะเย็บผ้าเช็ดหน้าให้พ่ีสะใภ้สกั ผืน
ก็ไม่ได้เชียวรึ?”
อวีถ้ งั จึงวิ่งหนีไปอย่างลนลานเช่นกัน

นางได้พบเว่ยเสี่ยวชวนก่อนวันที่อวีห้ ย่วนและคุณหนูเซียงจะดูตวั กัน


เว่ยเสี่ยวชวนถือตะกร้าใส่ตาํ รา พิงกําแพงท้ายเรือนของนางอย่างหมดอาลัยตายอยาก
เมื่อเห็นนางออกมา ก็ทกั ทายอย่างซึมๆ “เจ้ามาแล้วรึ?”
407

อวีถ้ ังเห็นเขาเหมือนเป็ นน้องชายตัวเอง รีบกล่าว “เจ้าเป็ นอะไร? ถูกรังแกที่สาํ นัก


ศึกษามาอย่างนัน้ รึ?”
“ไม่ใช่เสียหน่อย!” เขาเม้มปากแน่น มองออกว่าอารมณ์ไม่ดีเป็ นอย่างยิ่ง “ในสํานัก
ศึกษามีอาจารย์เสิ่น ใครจะกล้ารังแกข้า”
“เช่นนัน้ เจ้าก็…”
“ข้าสืบความได้แล้ว” แววตาของเขามืดมนอยู่บา้ ง “เย็นวันนัน้ มีคนเห็นพี่รองข้าและ
ชายหนุ่มรู ปร่างสูงกํายําสองคนเดินบนคันนาของสกุลข้า ยังคิดว่านั่นเป็ นสหายของพี่รอง จึง
ไม่ได้ใส่ใจ แต่หมู่บา้ นที่ไม่ไกลจากสกุลพวกเรา มีขา้ รับใช้ผมู้ ีอิทธิพลหายไปสองคน จากที่พวก
เขากล่าว สองคนนีล้ ว้ นมีรูปร่างสูงและกํายํา วันถัดมาที่พ่ีรองข้าจากไปก็ไม่เห็นแล้ว ส่วนที่
เหลือ ข้าไม่กล้าสืบ…”
เป็ นเพราะไม่กล้าสืบจึงอัดอัน้ ตันใจกระมัง?
อวีถ้ งั กอดเขาไว้ในอ้อมอก ตบหลังเขาเบาๆ
เว่ยเสี่ยวชวนขืนตัวสักพักก็หยุดไป ร่างกายค่อยๆ เปลี่ยนเป็ นอ่อนยวบ
“เจ้าว่า คนพวกนัน้ ไฉนจึงเลวร้ายถึงเพียงนี?้ ” เขากล่าวอย่างสะอึกสะอืน้ อยู่บา้ ง “ถ้า
อยากจะทําลายงานแต่ง มีมากมายหลายวิธี เหตุใดจึงต้องเข่นฆ่าเอาชีวิตคน?”
อวีถ้ งั นึกถึงภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ กล่าวอย่างเสียใจ “คนบางคนใช้ความคิดของ
คนต้อยตํ่าไปคาดเดาผูท้ ่ีมีคุณธรรมสูงส่ง พวกเขาแสดงสีหน้าละโมบโลภมากต่อหน้าทรัพย์
มหาศาล ก็คิดว่าคนอื่นคงจะเป็ นอย่างนัน้ เช่นกัน”
เว่ยเสี่ยวชวนไม่ได้เอ่ยขัดอันใด กลับกอดนางแน่นขึน้
“พี่สาว” จู่ๆ เขาก็เปลี่ยนคําเรียกต่ออวีถ้ งั ขึน้ มา “พวกเราควรทําอย่างไร?”
จากกําลังของพวกเขา หากสืบต่อไปก็รงั้ แต่จะทําให้คนอื่นติดร่างแหไปด้วย
408

อวีถ้ งั เผยยิม้ เย็น “ใช้ความนิ่งเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง”


เว่ยเสี่ยวชวนไม่เข้าใจ เงยหน้ามองนาง
อวีถ้ งั กล่าวปลอบเขาเสียงเบา “พวกเขาย่อมไม่อาจรามือเช่นนี ้ แต่เพื่อไม่ให้คนสงสัย
แน่นอนว่าเขาจะไม่ทาํ เรื่องแบบเดียวกันเป็ นครัง้ ที่สอง ครัง้ นี ้ ข้าแค่รอพวกเขามาหาที่หน้า
ประตูก็พอแล้ว”
เกี่ยวกับเรื่องแผนที่ นางไม่อยากให้สกุลเว่ยเข้ามาข้องเกี่ยว ทัง้ ไม่คิดที่จะให้เว่ยเสี่ยว
ชวนรับรู ้
เว่ยเสี่ยวชวนกล่าว “พี่สาว ข้าสามารถช่วยอะไรเจ้าได้บา้ ง?”
นางไม่ตอ้ งการให้เว่ยเสี่ยวชวนช่วยอะไร แต่เว่ยเสี่ยวชวนฉลาดเกินวัยและมีไหวพริบ
หากนางไม่หาเรื่องให้เขาทําสักหน่อย นางกลัวว่าเขาจะพุ่งเข้ามาในแผนที่นางวางไว้โดยไม่
ตัง้ ใจ ทําให้คนสกุลเว่ยคลาแคลงการตายของเว่ยเสี่ยวซาน
“เจ้าช่วยข้าดูหลี่จวิน้ เสียหน่อย” อวีถ้ งั ตัดสินใจหาเรื่องให้เขาทําเล็กน้อย “เรื่องนีห้ าก
เกี่ยวข้องกับสกุลหลี่ ทางหลี่จวิน้ ย่อมมีความเคลื่อนไหว”
409

บทที่ 50 ป่ าเขา
เว่ยเสี่ยวชวนตื่นตัวขึน้ มา รีบกล่าว “พี่สาว เจ้าวางใจ แม้เขาจะอยู่สาํ นักศึกษาประจํา
จังหวัด ข้าอยู่สาํ นักศึกษาประจําอําเภอ แต่ขา้ มีคนที่คนุ้ เคยอยู่ แต่ละวันเขาทําอะไรบ้าง ข้า
รับรองว่าจะบอกเจ้าให้หมด”
อวีถ้ งั กล่าว “เช่นนัน้ เจ้าก็อย่าได้ทงิ ้ การเรียนเชียว”
สกุลหลี่ตอ้ งการภาพนัน้ หากไม่ติดกับนาง ไม่ว่าจะขโมยหรือแย่งชิง ‘ของต่างหน้า’
ของหลูซ่ ิ่นไปไว้ในมือ ก็คงจะทําเหมือนชาติก่อน ไล่ตอ้ นนางให้ออกเรือนกับหลี่จวิน้
หากสกุลหลี่ตกหลุมพรางของนาง สิบปี ลา้ งแค้นย่อมไม่สาย นางอาจจะเสียเวลาสิบปี
ยี่สิบปี ค่อยๆ สืบสาเหตุการตายที่แท้จริงของเว่ยเสี่ยวซาน แต่ชาตินีก้ บั ชาติก่อนไม่เหมือนกัน
แล้ว นางมีบิดามารดา มีพ่ีชาย หากสกุลหลี่คิดจะสอดมือยุ่งเรื่องงานแต่งของนาง ทําได้เพียง
ต้องใช้ไหวพริบ ไม่อาจบีบบังคับ ย่อมยังมีไม้เด็ดอยู่อีกแน่
นางแค่รอหน่อยก็เพียงพอแล้ว
ยามนีเ้ รื่องสําคัญที่ตอ้ งจัดการคือปลอบใจเว่ยเสี่ยวชวนให้ดี อย่าให้เรื่องนีก้ ระทบกับ
การเรียนหรืออนาคตของเขา
เว่ยเสี่ยวชวนเผยรอยยิม้ บาง “พี่สาววางใจ ข้ารูจ้ กั ความเหมาะสมอยู่แล้ว”
เขาเพิ่งจะพูดจบ อวีถ้ งั ก็ได้ยินเสียงของมารดา “เจ้ามาทําอะไรที่น่ีกนั ?”
ทัง้ สองคนหันไปตามเสียงอย่างพร้อมเพรียงกัน
เฉินซื่อตกใจ กล่าวอย่างลังเล “นี่คือเสี่ยวชวนกระมัง? คุณชายห้าของสกุลเว่ย?”
เว่ยเสี่ยวชวนรีบก้าวเข้ามาคารวะเฉินซื่อ
410

เฉินซื่อดึงเขาเข้ามากอดอย่างดีใจ “เด็กดี เจ้ามาที่เรือนพวกเราทําไมรึ? เหตุใดไม่เข้า


ไปคุยด้านใน? อยู่ตรงประตูหลังไม่ดีนกั ไป ไป ไป ตามข้าเข้าไปด้านใน” ก่อนจะเรียกซวงเถา
เสียงดัง “เอาขนมที่คณ ุ ชายหย่วนซือ้ กลับจากหังโจวไม่ก่ีวนั ก่อนมาให้เสี่ยวชวนชิมหน่อย”
เว่ยเสี่ยวชวนใบหน้าแดงกํ่า เขารีบกล่าว “ท่านป้า ไม่ตอ้ งหรอก! ข้ามาเยี่ยมท่านพี่
เท่านัน้ จะฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว สํานักศึกษาของพวกเราจึงหยุด ข้ายังต้องกลับช่วย
ที่บา้ นทําไร่ทาํ นา!”
“ไอหยา!” เฉินซื่อได้ฟังก็ย่งิ ชอบเข้าไปใหญ่ “เจ้าเรียนในสํานักศึกษาแล้ว ยังช่วยที่บา้ น
ทําไร่ทาํ นาอีก! ดีจริงๆ ไม่เหมือนบัณฑิตบางคน เรียนตําราไม่ก่ีเล่ม เรื่องอื่นๆ ก็คร้านที่จะทํา
แล้ว ในเมื่อเจ้ารีบกลับไปฉลองเทศกาล ข้าก็ไม่รงั้ เจ้าแล้ว แต่ขนมนัน้ เจ้าต้องเอาไปด้วย หาก
เจ้าไม่ชอบกิน ก็ให้พวกพี่นอ้ งชิมดูก็ได้”
เว่ยเสี่ยวชวนรับปาก ก่อนจะขอบคุณเฉินซื่อแล้วถือขนมกลับบ้านไป
เฉินซื่อปิ ดประตูถามอวีถ้ งั ทันที “เสี่ยวชวนเป็ นเพียงเด็กน้อยไม่รูป้ ระสา ทัง้ ยังเรียนอยู่
ที่สาํ นักศึกษา ไฉนจู่ๆ จึงวิ่งมาหาเจ้าเช่นนี?้ ”
อวีถ้ งั ทําได้เพียงกล่าว “ข้าสืบเรื่องคุณหนูเซียงจากเขาไม่ได้ร?ึ ”
เฉินซื่อตีนางไปหนึง่ ที “เรื่องนีย้ งั ไม่สาํ เร็จเสร็จสรรพ หากเกิดปั ญหาอะไรเพราะเจ้า ดูสิ
ว่าข้าจะขังเจ้าไว้ในโรงฟื นหรือไม่”
อวีถ้ งั รูว้ ่ามารดานัน้ ปากร้ายแต่ใจดีกบั นางมาตลอด ตัง้ แต่เด็กนางไม่รูว้ ่าก่อเรื่องไปตัง้
เท่าใด แต่ก็ไม่เคยถูกมารดาลงโทษแม้แต่ปลายนิว้ นางตัง้ ใจหยอกเย้ามารดา ร้องเรียกเสียงดัง
‘ท่านพ่อ’ ก่อนกล่าว “ท่านแม่จะตีขา้ !”
อวีเ้ หวินรีบออกมาจากห้องหนังสือ ยังไม่ทนั เห็นคนก็ส่งเสียงมาก่อน “มีอะไรค่อยพูด
ค่อยจา จะตีลกู ทําไมกัน!”
“อวีถ้ งั !” เฉินซื่อหัวเราะไม่ได้รอ้ งไห้ไม่ออก
411

อวีถ้ งั วิ่งมาหลบอยู่ดา้ นข้างอวีเ้ หวิน


อวีเ้ หวินมองแวบเดียวก็รูแ้ ล้วว่าอวีถ้ งั หยอกเล่น ยักไหล่อย่างจนใจไปทางเฉินซื่อ “เอา
เถิด เอาเถิด ข้าจะไปเขียนหนังสือต่อละ เรื่องของพวกเจ้าข้าไม่ย่งุ แล้ว”
อวีถ้ งั วิ่งกลับไปขอโทษมารดา ทัง้ ยังเบี่ยงประเด็นเอ่ยถึงเรื่องดูตวั ในวันพรุง่ นี ้ “ข้าสวม
ชุดอะไรดี หากข้ามหน้าข้ามตาคุณหนูเซียง นางยังไม่ทนั แต่งเข้าสกุลก็มาเกลียดน้องสามีอย่าง
ข้าก่อน จะทําอย่างไร?”
“เช่นนัน้ ก็แต่งเจ้าออกไป” เฉินซื่อบิดแก้มลูกสาว แต่ก็ยงั คงช่วยลูกเลือกเสือ้ ผ้า
อวีถ้ งั เลือกชุดสีม่วงอ่อนของดอกติงเซียงที่ใส่เป็ นเพื่อนหม่าซิ่วเหนียงในยามเจรจางาน
แต่ง แม้ว่าเฉินซื่อจะไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ไม่ได้พดู มาก เมื่อถึงเช้าตรูข่ องอีกวัน ก็น่ งั เกีย้ วกับพวก
หวังซื่อไปที่นาของสกุลอวีท้ ่ีตงั้ อยู่ในแถบชนบท รอหลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จ ก็แสร้งทําเป็ น
กลับบ้านโดยผ่านทางเรือนของสกุลเว่ย แล้วเข้าไปเยี่ยมเยียน
อวีถ้ งั มองทิวทัศน์ตลอดทาง ในใจรูส้ กึ เศร้าอยู่บา้ ง
ปกติการดูตวั เช่นนีม้ กั จะเลือกนัดหมายที่วดั ไม่ก็อารามแม่ชี
สกุลพวกเขาและสกุลเว่ยกลับจัดการอย่างอ้อมไปอ้อมมาให้อยู่ท่ีสกุลเว่ย เป็ นไปได้ว่า
กลัวจะกระทบความรูส้ กึ นางยามนึกถึงเรื่องงานแต่งของตัวเอง
บิดามารดารักนางอย่างสุดหัวใจ นางกลับไม่อาจทําอะไรเป็ นการตอบแทน
อวีถ้ งั สูดลมหายใจลึก เตือนตัวเองว่าอยู่ตอ่ หน้ามารดาต้องมีความสุขเข้าไว้
เรือนเก่าที่อยู่นอกเมืองของสกุลอวีย้ งั นับว่าใหญ่ไม่นอ้ ย เป็ นเรือนก่อด้วยอิฐสีเทา มี
พืน้ ที่หา้ ส่วน ในเรือนมีพ่อม่ายที่เป็ นญาติห่างๆ อยู่คนหนึ่งทัง้ รับลูกของญาติมาเลีย้ งดูเป็ นลูก
ชายอีกคนอยู่ท่ีน่ นั คอยดูแลเรือน จัดการเรื่องที่นาให้พวกเขา อวีถ้ งั ต้องเรียกเขาว่าปู่ ห้า เรียก
ลูกชายคนนัน้ ของเขาว่าอาเจ็ด
412

ปู่ หา้ คนนีอ้ ายุประมาณหกสิบปี ซื่อสัตย์จริงใจ ชาติก่อนก็ช่วยสกุลอวีด้ แู ลเรือนเก่าหลัง


นีม้ าโดยตลอด พอรู ว้ ่าพวกอวีเ้ หวินจะกลับมา เขาก็ปัดกวาดทําความสะอาดเรือนล่วงหน้า
จัดเตรียมโต๊ะอาหารต้อนรับอย่างเพียบพร้อม
อวีถ้ งั มารดา ป้าสะใภ้ใหญ่ พวกผูห้ ญิงนัน้ กินข้าวอยู่ในเรือน ส่วนอวีเ้ หวินและพวกปู่
ห้าไม่ก่ีคนนั่งดื่มสุราอยู่ดา้ นนอก
ปู่ ห้าถามอวีเ้ หวิน “ยังไม่ได้ถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ แม้ว่าจะเก็บผลิตผลจากที่นาแล้ว
แต่ก็ยงั ไม่ได้ลงในบัญชี เจ้าไปดูในโรงนาก่อนดีหรือไม่?”
อวีเ้ หวินกล่าวด้วยรอยยิม้ “วันนีพ้ วกเรากลับบ้านมาเที่ยวเล่นเท่านัน้ เรื่องในที่นา ก็ว่า
ตามปี ท่ีผ่านมาเถิด”
ปู่ ห้ามองท้องฟ้าที่มืดครึม้ อยู่บา้ ง ไม่เข้าใจว่าอากาศเช่นนีก้ ลับบ้านนอกมาเที่ยวเล่น
อะไร
แต่เขาเป็ นคนที่จริงใจคนหนึ่ง อวีเ้ หวินไม่พดู เขาก็ไม่อาจถาม เพราะว่าเรื่องของอวีห้ ย่
วน ตอนบ่ายยังต้องไปสกุลเว่ย อวีเ้ หวินจึงไม่ได้ด่ืมสุรา ทัง้ กว่าจะถึงเวลานัดกับสกุลเว่ยยังอีก
นาน กินข้าวเสร็จก็ไม่ได้แยกย้ายไปไหน ดื่มชาไปพลาง คุยเรื่องที่นากับปู่ หา้ ไปพลาง
อาเจ็ดเป็ นชายวัยสี่สิบต้นๆ สูงพอเหมาะพอควร ผิวพรรณดําคลํา้ รูปร่างกํายํา ไม่รูว้ ่า
เหตุใดจึงไม่แต่งภรรยาเสียที ตอนเด็กๆ ยามที่อวีถ้ งั ตามบิดามาที่นา เขาก็มกั จะพานางขี่คอไป
เที่ยวเล่นทุกหนทุกแห่ง ทัง้ ยังซือ้ ขนม ยางรัดผมให้นาง ชื่นชอบนางเป็ นอย่างยิ่ง
ภายหลังบิดาและมารดานางจากไป เขาก็ตงั้ ใจเดินทางไปเคารพศพ ทัง้ ยังแบกข้าวมา
ส่งนางบางครัง้ บางคราว
อาเจ็ดยืนกวักมือเรียกนางอยู่นอกประตู
เฉิ นซื่อและหวังซื่อยิม้ กล่าวกับอวีถ้ ัง “ไปเถิด! ให้อาเจ็ดเจ้าพาไปเดินดูหมู่บา้ นเสีย
หน่อย เจ้าจะได้ไม่เบื่อ”
413

หลังจากกลับชาติมาเกิดอีกครัง้ อวีถ้ งั ยังไม่เคยพบอาเจ็ดผูน้ ีเ้ ลย


นางเดินยิม้ ออกไป
อาเจ็ดคว้าบางอย่างที่เห็นก็รูแ้ ล้วว่าเป็ นกรงนกแบบง่ายๆ ที่เขาทําเองออกมาจาก
ด้านหลัง “ให้เจ้าเล่น”
อวีถ้ งั มองดู ในกรงนัน้ มีนกกระจอกหลายตัวถูกขังอยู่
คงเป็ นอาเจ็ดที่จบั มา
เมื่อก่อนยังเคยพานางย่างนกกระจอกด้วย
นางยิม้ มุมปาก ขอบคุณอาเจ็ด ก่อนจะรับกรงนกมา
อาเจ็ดถามนาง “อีกเดี๋ยวข้าจะไปเก็บดอกกุย้ ฮวา เจ้าอยากไปหรือไม่? ข้าจะทําดอกกุ้
ยฮวาลอยนํา้ เชื่อมให้เจ้ากิน”
อวีถ้ งั ไม่คอ่ ยอยากไป แต่นางอยากไปดูพืน้ ที่ป่าของสกุลลุงใหญ่
ชาติก่อน หลังจากขายพืน้ ที่ป่าเขานีใ้ ห้กับสกุลเผย สกุลเผยก็ปลูกผลไม้ชนิดหนึ่งใน
พืน้ ที่แห่งนี ้ จากนัน้ ก็แปรรู ปเป็ นผลไม้อบแห้งขาย ได้ยินว่าขายที่เมืองหังโจวได้ดีเป็ นอย่างยิ่ง
เพราะเรื่องนี ้ เกาซื่อจึงมักด่าอวีห้ ย่วนว่าเป็ นคนไร้ค่า เห็นแหล่งทําเงินเป็ นของไร้ราคา คาดไม่
ถึงว่าจะขายที่ดินดีขนาดนัน้ ไป
หลังจากอวีถ้ งั ได้ยินก็โมโหจนไม่กินข้าวไปหลายวัน แต่ในใจจําต้องยอมรับ การดูแล
จัดการของสกุลเผยทําได้ดีจริงๆ พืน้ ที่ป่าเขาเช่นนีพ้ อตกไปอยู่ในการดูแลของพวกเขาล้วน
สามารถหาสารพัดวิธีทาํ เงินได้
ชาตินี ้ นางก็คิดที่จะลองดู
อวีถ้ งั เอากรงนกเข้าไปให้เฉินซื่อและหวังซื่อ “ให้ท่านพี่เอาไปเล่นกับคุณหนูเซียง ข้าจะ
ไปเก็บดอกกุย้ ฮวากับอาเจ็ดนะเจ้าคะ”
414

เฉินซื่อรีบกําชับนาง “อย่าได้ไปเก็บเองเชียว ระวังนํา้ หวานดอกไม้เปื ้อนมือด้วย ต้อง


ล้างกันเป็ นค่อนวัน” ทว่ายังไม่วางใจจึงเรียกอาเจ็ดเข้ามาให้เขาช่วยดูแลอวีถ้ งั
อาเจ็ดรับปากเป็ นดิบดี
อวีถ้ งั และอาเจ็ดไปยังตีนเขาที่ปลูกดอกกุย้ ฮวาด้วยกัน
ท่ามกลางใบไม้เขียวที่มนั วาว เต็มไปด้วยดอกสีเหลืองอร่ามที่เบ่งบาน
อาเจ็ดยื่นกระเป๋ าผ้าให้นาง “เจ้ายืนรออยู่ใต้รม่ ไม้ ข้าจะไปเก็บดอก”
อวีถ้ งั ตอบรับด้วยรอยยิม้
ยามที่อาเจ็ดเก็บดอกไม้ นางก็เขย่งมองซ้ายมองขวา พูดคุยกับเขา “ข้าเห็นพืน้ ที่ป่าเขา
ของคนอื่นล้วนปลูกต้นเหอเถา 1 ต้นท้อบ้าง ลูกไหนบ้าง ไฉนที่ของพวกเราจึงไม่มีอะไรเลยเล่า?”
97

อาเจ็ดสาละวนกับการเก็บดอกไม้ “พืน้ ที่ภเู ขาของลุงใหญ่เจ้าทําไม่ได้ สภาพดินแย่เป็ น


อย่างมาก ยามที่ปเจ้ ู่ าอยู่ก็เคยปลูกต้นเหอเถา แต่ผลปรากฏว่าออกลูกมาทัง้ ขมทัง้ ฝาด ขายไม่
ออก ภายหลังก็ปลูกหน่อไม้ ป่ าไผ่นนั้ เติบโตเป็ นวงกว้าง แต่หน่อไม้ท่ีออกมากลับคล้ายดั่งฟื น
ต้นท้อเอย ลูกไหนเอย ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึง…จนมาถึงคราวลุงใหญ่ของเจ้า ก็ยึดตามนัน้ ไป ปลูก
ต้นไม้ท่ วั ไปขายเป็ นฟื นได้ก็เพียงพอแล้ว! เด็กสาวอย่างเจ้าไม่รูห้ รอกว่า เมื่อถึงฤดูหนาว ฟื นก็
ขายดีเช่นกัน แค่เมืองหลินอันของพวกเราก็ลว้ นไม่เพียงพอต่อความต้องการ…ข้าได้ยินคนอื่น
กล่าวว่า เมืองหังโจวขายได้ราคาดีกว่านีเ้ สียอีก แต่ปหู้่ าของเจ้าร่างกายไม่แข็งแรง ข้าไม่อาจ
เดินทางไกลเกินไปได้ ไม่อย่างนัน้ ข้าก็คงไปขายฟื นที่เมืองหังโจวแล้ว…”
อวีถ้ งั งุนงงอยู่บา้ ง
ไปขายฟื นที่หงั โจว? เงินที่ขายฟื นได้ยงั ไม่พอค่าขนส่งทางเรือเลยกระมัง?

1
ต้นเหอเถา ต้นวอลนัท
415

ชาติก่อนนางไม่เคยใส่ใจเรื่องพวกนี ้ เข้าหูซา้ ยก็ทะลุหขู วาออกไปแล้ว รูส้ กึ ว่าอาเจ็ดผูน้ ี ้


พูดอะไรล้วนน่าสนใจ ชาตินีก้ ลับ…
อวีถ้ งั สั่นศีรษะลอบยิม้ ขมขื่นกับตัวเอง
มีประสบการณ์จากชาติท่ีแล้ว นางจะแสร้งอย่างไร ก็ไม่มีทางกลับไปเป็ นเหมือนตอน
แรก
นางจัดเรียงดอกกุย้ ฮวาที่อาเจ็ดเก็บลงมา ก่อนจะมีเสียงดังกรอบแกรบลอยขึน้ มาข้าง
หู คล้ายว่ามีใครเดินฝ่ าพุม่ ไม้เข้ามาทางนี ้
อวีถ้ งั เงยหน้า เห็นพวกชายหนุ่มที่มีท่าทีเอ้อระเหยลอยชายเดินเข้ามา
เมื่อเห็นอวีถ้ งั คนพวกนัน้ ก็ตาเป็ นประกาย ทัง้ ยังใช้สายตาสื่อสารเป็ นนัยให้กนั ดูแล้ว
ไม่น่าจะมีเจตนาดี
อวีถ้ งั ส่งเสียงดังเรียกอาเจ็ด “คนพวกนีท้ ่านรูจ้ กั หรือไม่?”
อาเจ็ดหันกลับมา กล่าวยิม้ ๆ “อ๋อ เป็ นพวกเด็กหนุ่มเกเรในหมู่บา้ นพวกเรา เจ้าไม่ตอ้ ง
สนใจเขา พวกเขาไม่กล้าทําอะไรหรอก!”
แม้ว่าจะพูดเช่นนัน้ เขากลับดูต่ืนตัวเป็ นอย่างมาก เมื่อครู ่ดึงเบาๆ ก็เด็ดดอกลงมาได้
แล้ว ยามนีอ้ อกแรงอยู่พกั ใหญ่กลับเด็ดลงมาไม่ได้แต่อย่างใด
หรืออาเจ็ดเคยไปขัดแย้งอะไรกับพวกเขาหรือเปล่า?
อวีถ้ งั กล่าวอย่างร้อนใจ “อาเจ็ด อย่างไรพวกเรากลับไปก่อนเถิด! อีกเดี๋ยวข้ายังต้องไป
สกุลเว่ยเป็ นเพื่อนท่านแม่และป้าสะใภ้ใหญ่ ครัง้ หน้าเจ้าค่อยมาเก็บเถิด” พูดจบ ก็ดึงชายเสือ้
ของอาเจ็ด
มุมปากของอาเจ็ดกระตุกสั่น กลับกล่าว “ไม่ล่ะ เจ้าอย่าเพิ่งไป อีกเดี๋ยวข้าก็จะเก็บ
เสร็จแล้ว”
416

ผิดปกติ!
อวีถ้ งั หันไปมองพวกอันธพาล คนพวกนัน้ กําลังสาวเท้ามาหานาง
ท่าทางดุดนั ไม่นอ้ ย
อวีถ้ งั หันไปมองอาเจ็ดอีกครัง้
มือของเขาที่กาํ ลังเด็ดดอกไม้จบั ที่ก่ิงไม้แน่นจนข้อต่อขึน้ สีขาว
จู่ๆ อวีถ้ งั ก็นกึ ถึงสกุลหลี่ท่ีนางเตรียมรับมือมาโดยตลอด…
นางออกตัววิ่งทันที
“นังคนนี ้ หยุดเดี๋ยวนีน้ ะ!” คนพวกนัน้ วิ่งตามนาง ตะโกนเสียงดังขึน้ มา
คล้อยหลังคอเสือ้ ของนางก็ถกู คนดึงไว้
อวีถ้ งั หันกลับไป เห็นใบหน้าของอาเจ็ดที่เต็มไปด้วยความรูส้ กึ ผิด
417

บทที่ 51 ช่วยเหลือ
“คุณหนูใหญ่” อาเจ็ดกล่าวอย่างร้อนใจอยู่บา้ ง “เจ้าอย่ากลัวไป พวกเขาไม่อาจทํา
อะไรเจ้าหรอก เป็ นสกุลหลี่ พวกเขาอยากแต่งงานกับเจ้า แต่บิดามารดาเจ้าไม่ยอม สกุลหลี่อบั
จนหนทางจึงได้วางแผนเช่นนี”้ ขณะที่เขาพูด ก็รูส้ กึ ว่าตัวเองนัน้ พูดมีเหตุผลขึน้ เรื่อยๆ นํา้ เสียง
ค่อยๆ ดังขึน้ ตามอย่างมั่นใจ “คุณชายรองสกุลหลี่ช่ืนชอบเจ้าเป็ นอย่างมาก เจ้าวางใจ รอเจ้า
แต่งเข้าไปเป็ นสะใภ้ใหญ่ในสกุลหลี่ก็จะรูเ้ อง อาเจ็ดไม่ได้จะทําร้ายเจ้า ข้าได้คยุ กับพวกเขาแล้ว
ถึงเวลานัน้ ข้าจะตามพวกเขาไปด้วย จะปกป้องเจ้าเอง”
อวีถ้ งั ก่นด่าในใจหนึง่ ประโยค
นางวางแผนรับมือเสียดิบดี ระแวงซ้ายระวังขวา กลับคาดไม่ถึงว่าจะตกหลุมพรางคน
กันเองในช่วงเวลาสําคัญ ทัง้ แม้เจ้าจะพูดเรื่องเหตุผลกับเขาก็ยงั ไม่รูว้ า่ เขาจะเข้าใจหรือไม่
อวีถ้ งั เห็นอันธพาลพวกนัน้ ใกล้ตวั เองเข้ามาเรื่อยๆ หัวแล่นขึน้ มาฉับพลัน ถอดผ้าคาด
เอวอย่างว่องไว ปล่อยให้อาเจ็ดดึงคอเสือ้ นาง พอผละออกจากชุดคลุมตัวนอกได้ก็ว่ิงไปทาง
เรือนเก่าทันที
“เร็ว รีบไปจับนาง!” หัวหน้าของพวกอันธพาลเห็นก็รีบตะโกนเสียงดังใส่อาเจ็ด “หาก
นางวิ่งกลับไปเรือนเก่าสกุลอวีก้ ็จบเห่ ความพยายามที่พวกเราทุ่มเทล้วนจะเสียเปล่า!”
อาเจ็ดดึงสติกลับมา สาวเท้าไล่ตามอวีถ้ งั ไป
สายลมพาดผ่านข้างหูนางไป ป่ าหญ้ารกเกี่ยวพันเสือ้ ผ้า
นางวิ่งไปอย่างทุลกั ทุเล ไม่กล้าที่จะหยุด พยายามตะโกนคําว่า ‘ช่วยด้วย’ อย่างสุด
ชีวิต
พืน้ ที่ป่าเขาอยู่ดา้ นหลังเรือนเก่าสกุลอวี ้ แต่หากนางจะวิ่งกลับเรือนเก่าสกุลอวี ้ กลับ
ต้องวิ่งตามถนนสายเล็กของตีนเขาไปอีกทาง ไม่ก็ว่งิ ฝ่ าลําธารไปในหมู่บา้ น
ถนนสายเล็กตรงตีนเขาค่อนข้างขรุขระ น้อยคนนักที่จะใช้เส้นทางนี ้
418

อวีถ้ งั หันไปมองที่ตีนเขา เห็นชายวัยกลางคนสองคนเฝ้าตรงถนนราวกับไม่มีอะไรทํา


อวีถ้ งั กระโดดลงสะพานทางไปในหมู่บา้ น ตะโกนคําว่า ‘ช่วยด้วย’ เสียงดัง
ในหมู่บา้ นนัน้ เงียบสงัด มีเพียงวัวสองตัวที่ถูกผูกอยู่ใต้ตน้ ไม้ใหญ่ทางเข้าหมู่บา้ นส่ง
เสียงร้อง ‘มอๆ’ ตอบรับนาง
แย่แล้ว นางลืมไป เวลานีเ้ ป็ นช่วงเวลาอาหารกลางวัน คาดว่าคนในหมู่บา้ นคงจะกิน
ข้าวกันในบ้าน
อวีถ้ งั กรีดร้องอยู่ในใจ
นางคงไม่โชคร้ายขนาดนัน้ กระมัง?
อวีถ้ งั รีบหันกลับไปมองข้างหลัง
คนพวกนัน้ คาดว่ากลัวนางวิ่งเข้าไปในหมู่บา้ น ทําให้คนในหมู่บา้ นตกใจ สีหน้าจึงดุดนั
ขึน้ มาบ้าง กําลังจะตามนางทันในไม่ชา้
อวีถ้ งั หน้าถอดสี ก่อนจะเห็นถนนทางเข้าหมู่บา้ นมีรถม้าประดับม่านเขียวผ่านมาคัน
หนึ่ง
ด้านหน้ารถม้ามีคนขับรถรู ปร่างกํายําคนหนึ่งนั่งอยู่ ด้านข้างยังมีเด็กผูช้ ายช่วงวัยสิบ
ขวบคนหนึ่ง
เด็กคนนัน้ อายุประมาณสิบสองสิบสาม ใบหน้าอ้วนกลมนัน้ ปะแป้งขาว มัดผมจุกสอง
ข้าง สวมชุดต้าวผาวผ้าหังโฉวสีเขียว ในมือไม่รูว้ ่าถือขนมอะไรสีขาวๆ มุมปากเปรอะเปื ้อนไป
ด้วยเศษขนม กําลังกินอย่างเอร็ดอร่อย
คาดไม่ถึงว่าจะเป็ นเด็กคนที่นางพบที่นา้ํ ตกสีป่ี วัดเจาหมิง
อวีถ้ งั ตืน้ ตันจนนํา้ ตาแทบจะไหลออกมา
นางวิ่งไปทางรถม้า “ช่วยด้วย! ช่วยข้าด้วย!”
419

คนขับรถม้าและเด็กคนนัน้ หันมามองโดยพร้อมเพรียงกัน
ดวงตาของเด็กชายเบิกกว้างจนกลมเกลีย้ งเป็ นลูกลําไย คนขับรถม้ากลับสบถออกมา
กระโดดลงจากรถม้า ถือแส้ว่งิ เข้ามา
อวีถ้ งั ดีใจเป็ นอย่างยิ่ง ตะโกน “ช่วยด้วย!” อย่างไม่หยุดหย่อน
แส้มา้ วาดผ่านอากาศสะบัดไปยังด้านหลังนาง
เบือ้ งหลังนางปรากฏเสียงร้องโหยหวนและสาปแช่งตามมา
ชายหนุ่มร่างกํายําขมวดคิว้ ตะโกนเสียงดังอือ้ อึง “กลางวันแสกๆ รังแกผูห้ ญิงแล้วยัง
จะโวยวายส่งเดชอีก!”
เขาสาวเท้าผ่านไหล่อวีถ้ งั ไป แส้มา้ ในมือร่ายระบําขึน้ อีกครัง้
อวีถ้ งั หยุดฝี เท้าลง เวลานีพ้ บว่าตัวเองหอบหายใจอย่างหนัก เจ็บหน้าอกคล้ายถูกฉีก
อย่างไรอย่างนัน้
นางอดงอตัวพยุงมือไว้กบั เข่าไม่ได้
“พี่สาว พี่สาว” มือเล็กที่เนียนนุ่ม เปรอะเปื ้อนเศษขนม พยุงนางไว้ “เจ้าไม่ตอ้ งกลัว
นายท่านของเราและเหล่าเจ้าล้วนอยู่ท่ีน่ี พวกเขาย่อมไม่กล้ารังแกเจ้าอีกแล้ว เจ้าอย่าได้กงั วล
ข้าพยุงเจ้าไปนั่งตรงก้อนหินข้างๆ ดีหรือไม่?”
ทางเข้าหมู่บา้ นมีกอ้ นหินก้อนใหญ่อยู่ ทัง้ ยังมีววั ผูกไว้
อวีถ้ งั ไม่เคยวิ่งถึงขนาดนีม้ าก่อน นางหายใจเข้าลึก พูดไม่ออก ทําได้เพียงส่ายศีรษะ
“เช่นนัน้ เช่นนัน้ ข้าพยุงเจ้าไป…” นํา้ เสียงนุ่มเล็กคิดไม่ออกไปชั่วขณะ
คงหาสถานที่ท่ีพอจะนั่งไม่ได้กระมัง?
อวีถ้ งั อยากจะหัวเราะ กลับหัวเราะไม่ออก
420

นางเงยหน้า เห็นใบหน้าขาวเนียนของเด็กชายดูน่มุ นิ่มราวกับหมั่นโถว


“ขอบ ขอบคุณ เจ้า…” อวีถ้ งั กล่าว
เด็กชายส่ายศีรษะราวกับกลองไม้เขย่า “พี่สาวไม่ตอ้ งพูดแล้ว เจ้าพักอยู่ท่ีไหน พวกเรา
จะไปส่งเจ้า”
อวีถ้ งั สูดลมหายใจลึกหลายครัง้ รู ส้ ึกว่าดีขึน้ มากแล้วก็ยืดตัวตรง คิดจะขอบคุณนาย
ท่านของพวกเขาก่อนค่อยไปเรียกคนในหมู่บา้ น ใครจะรู ว้ ่าพอนางเงยหน้า ก็พบกับเผยเยี่ยน
เผยแววตาเรียบนิ่งนั่งอยู่หน้ารถม้า
“เหตุใดเจ้าจึงอยู่ท่ีน่ี?” อวีถ้ งั ถอยหลังไปสองก้าว
วัดเจาหมิง…เด็กชาย…รถม้าประดับม่านเขียว…ชายหนุ่มกํายํา…
อวีถ้ ังมองเด็กชายและชายหนุ่มที่จัดการพวกอันธพาลจนนอนกองกับพืน้ ทัง้ หันมา
มองเผยเยี่ยน พูดติดอ่างกับเด็กคนนัน้ “พวกเจ้า นายท่านของพวกเจ้า คงไม่ใช่นายท่านสาม
สกุลเผยหรอกกระมัง?”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว!” เด็กชายยิม้ อย่างสดใส เผยท่าทีราวกับภาคภูมิใจเช่นกัน “นายท่าน
ของพวกเราก็คือนายท่านสามสกุลเผย! เจ้ารูจ้ กั นายท่านสามสกุลพวกเราได้อย่างไรกัน? นาย
ท่านสามของพวกเราเป็ นคนดีอย่างยิ่ง ไม่เพียงงดเว้นค่าเช่าที่นา ยังบริจาคเงินให้วดั เจาหมิงทํา
พระโพธิสตั ว์หล่อทอง เจ้าไปพูดคุยกับนายท่านสามของพวกเราเถิด ให้นายท่านสามพวกเรา
ส่งอันธพาลพวกนีไ้ ปที่ศาลาว่าการ”
อวีถ้ งั ทําอะไรไม่ถกู ชั่วขณะนัน้ ล้วนไม่รูจ้ ะพูดอะไรดี
เผยเยี่ยนมองนาง มุมปากกระตุกเล็กน้อย
คุณหนูอวีค้ นนี ้ พวกเขาพบกันอีกแล้ว
421

สิ่งที่แตกต่างคือครัง้ แรกที่พบเป็ นความเจ้าเล่หก์ ลับกลอก ครัง้ ที่สองงดงามพราวเสน่ห ์


ครัง้ ที่สามทําตัวตามสบายไม่สนอะไร…ส่วนครัง้ นี ้ เผยเยี่ยนมองพินิจอวีถ้ งั
ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสือ้ ผ้าหลุดลุย่ เม็ดเหงื่อผุดพรายเต็มหน้าผาก รองเท้าข้างหนึ่งอยู่ท่เี ท้า
ส่วนอีกข้างไม่รูว้ า่ ทําร่วงที่ใด ทุลกั ทุเลราวกับหญิงสาวที่หนีตาย
อวีถ้ งั อดพินิจตัวเองตามสายตาเขาไม่ได้
กระโปรงสีม่วงไม่รูว้ ่าถูกเกี่ยวขาดตัง้ แต่เมื่อไร เผยให้เห็นรองเท้าปั กลายข้างซ้ายที่ขาด
เป็ นรูขนาดใหญ่ ทัง้ ถุงเท้าสีขาวข้างขวาก็สกปรกเปรอะเปื ้อนไปหมด
ชั่วขณะนัน้ อวีถ้ งั ก็ใบหน้าร้อนฉ่า
นางหันไปมองทางเผยเยี่ยนทันที
เผยเยี่ยนกลับบิดหน้าหนี คล้ายกับว่าไม่อยากมองเห็นนาง
อวีถ้ งั อึดอัดใจอยู่บา้ ง แต่ความอึดอัดใจนีเ้ กิดขึน้ เพียงไม่นานก็สลายหายไป
แต่ ไ หนแต่ ไ รเผยเยี่ ย นก็ ดูแ คลนนาง ยิ่ ง ไปกว่ า นั้น ครั้ง ที่ แ ล้ว ยามที่ น างอยู่หัง โจว
หลังจากถูกเขาเห็นนางใช้มือกัดขาหมูแล้ว ทัง้ ยังให้เขารู ว้ ่านางกินตะกละจนปวดท้อง…คํา
โบราณที่กล่าวว่า ‘เก่งแต่กิน คร้านทํางาน’ ล้วนเป็ นกันทุกบ้าน ก่อนหน้านีน้ างยังหลอกเถ้า
แก่ถงให้ช่วยตรวจดูภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ ใช้ช่ือเสียงของสกุลเผยข่มขู่หลู่ซิ่น…นางอยู่
ต่อหน้าเขายังจะพูดอะไรได้อีก? มีอะไรให้เชิดหน้าชูตาได้อีกหรือ?
แค่เสือ้ ผ้าไม่เรียบร้อยเท่านัน้ เทียบกับก่อนหน้านี ้ ก็ดีมากแล้ว
ชั่วขณะนัน้ อวีถ้ งั ก็ปลดปล่อยอารมณ์ในใจทิง้ ไป
ยามที่ซวยกว่านีก้ ็ผ่านมาได้แล้ว นางมีอะไรต้องกลัวอีก? มีอะไรให้เขินอายกัน?
อวีถ้ งั ที่ปล่อยวางเรื่องในใจ แปรเปลี่ยนเป็ นคุณหนูท่ีวางตัวอย่างเหมาะสม สง่าผ่าเผย
ทัง้ พูดจาอ่อนโยนต่อหน้าผูค้ น
422

นางกล่าว “นายท่านเผย ขอบคุณท่านที่ย่ืนมือช่วยเหลือ ท่านพ่อและท่านแม่ของข้า


ล้ว นอยู่ท่ี ห มู่บ ้า น หากท่ า นไม่ มี เ รื่ อ งด่ ว น มิ สู้ไ ปดื่ ม ชาที่ เ รื อ นเก่ า สกุล อวี ข้ องพวกเราเป็ น
อย่างไร? ให้ท่านพ่อและท่านแม่ขา้ ได้ขอบคุณท่านดีๆ”
เผยเยี่ยนขมวดคิว้ “เจ้าอยู่กบั พ่อและแม่เจ้ารึ?”
หรือเขาคิดว่านางวิ่งมาถึงที่น่ีคนเดียวอย่างนัน้ รึ?
อวีถ้ งั ผงกศีรษะ กําลังจะพูดเป็ นมารยาทกับเผยเยี่ยนเสียหน่อย ข้างหูพลันมีเสียงเกือก
ม้าดังขึน้ มา
นางและเผยเยี่ยนอดหันไปมองไม่ได้
เห็นเพียงหลี่จวิน้ และเสิ่นฟางขี่มา้ คนละตัวพุง่ มาทางนี ้
อวีถ้ งั เผยใบหน้าดําคลํา้
ม้าของหลี่จวิน้ และเสิ่นฟางมาถึงเบือ้ งหน้า
เสียงหอบหายใจดังขึน้ ก่อนทัง้ สองจะดึงบังเหียนหยุดม้า ม้ายกขาหน้าขึน้ มา คล้อย
หลังพวกเขาก็กระโดดลงพืน้
“คุณหนูอวี ้ เจ้าไม่เป็ นไรกระมัง?” หลี่จวิน้ ถามอย่างกังวล มองพินิจนางทัง้ ตัว
เสิ่นฟางเดินเข้ามา เขาเผยสีหน้าเคร่งขรึม “คุณหนูอวี ้ เจ้าเป็ นอะไรหรือไม่?”
อวีถ้ งั ยกคิว้ ขึน้
หลี่จวิน้ รีบกล่าว “ข้าและพวกเสี่ยวหวั่นดื่มชาอยู่ในโรงนํา้ ชา ได้ยินคนเอ่ยถึงคุณหนูอวี ้
กล่าวว่าคุณหนูอวีม้ ีทรัพย์สินของสกุลมากมาย มีคนอยากแต่งเป็ นเขยเข้าบ้านเจ้า ทราบมาว่า
วันนีเ้ จ้าจะกลับมาเรือนเก่านอกเมือง จึงขอพวกเขาให้มาฉุดคุณหนูอวี ้ แม้ว่าเขาจะไม่กล้ารับ
การจ้างวานนี ้ กลับมีคนยอมเสี่ยงอันตรายเพราะเข้าตาจน…ข้าได้ฟังก็รอ้ นใจเป็ นอย่างยิ่ง
423

บังเอิญพบกับพี่เสิ่นที่มาหาเสี่ยวหวั่นจึงไล่ตามมากับพี่เสิ่น…” พูดมาถึงตรงนี ้ เขาจึงค่อย


ทักทายกับเผยเยี่ยน “นายท่านเยี่ยน! ดูท่าแล้วท่านคงช่วยคุณหนูอวีไ้ ว้ ช่างโชคดีจริงๆ!”
เขาเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก จากนัน้ ก็ว่งิ ไปด้านข้างคนขับรถม้าอย่างแค้นเคือง ถีบอันธพาล
พวกนัน้ ไปหลายครัง้ อย่างแรง กล่าวกับอวีถ้ งั “คุณหนูอวี ้ ยังดีท่ีเจ้าไม่เป็ นอะไร ยามที่ขา้ มาได้
กําชับให้บา่ วถือป้ายชื่อพี่ใหญ่ไปแจ้งความที่ศาลาว่าการแล้ว อีกไม่นานเจ้าหน้าที่ก็คงตามมา”
ตัง้ แต่เขากระโดดลงจากม้า อวีถ้ ังก็มองเขาแทบไม่ละสายตา ในใจกลับขบคิดอย่าง
ว่องไว
นี่หลี่จวิน้ หมายความว่าอะไร?
ผูท้ ่ีคิดจะบังคับฝื นใจไม่ใช่สกุลหลี่ของพวกเขาหรอกรึ?
เขาไม่รูจ้ ริงๆ หรือแกล้งไม่รูก้ นั แน่?
แต่ดทู ่าทีนีข้ องเขา ก็ไม่เหมือนเสแสร้ง
โดยเฉพาะเสิ่นฟางก็มาด้วย
แม้นางและเสิ่นฟางจะเคยพบกันที่วดั เจาหมิงเพียงครัง้ เดียว แต่เขาสามารถทําให้ฟู่
เสี่ยวหวั่นเชื่อฟั งเขาได้ ก็คงไม่ใช่คนที่จะถูกใครวางแผนได้ง่ายๆ หากสกุลหลี่อยากให้เขาเป็ น
พยาน กลับไม่ใช่เรื่องง่ายดายถึงเพียงนัน้
อวีถ้ งั ขอบคุณหลี่จวิน้ กล่าวด้วยสีหน้าเช่นเคย “ยังดีท่ีคณ
ุ ชายเสิ่นไปหาคุณชายฟู่ พอดี
ทั้งรีบร้อนตามมา แต่ว่าพวกเจ้าทัง้ สองก็เสี่ยงอันตรายไปอยู่บา้ ง ภายหลังหากพบเจอเรื่อง
เช่นนีก้ ็ควรหาคนมาช่วยให้มากหน่อย”
เสิ่นฟางไม่ได้กล่าวอันใด มองอวีถ้ งั อย่างลุม่ ลึก
หลี่จวิน้ กลับรีบกล่าว “เวลานัน้ ข้าก็รีบจนหัวหมุนไปหมด หากไม่ใช่ว่าพี่เสิ่นเตือนสติ
คงจะลืมกระทั่งให้คนไปแจ้งทางการเช่นกัน”
424

อวีถ้ งั คารวะขอบคุณเสิ่นฟางอีกครัง้
เสิ่ น ฟางกลับ กล่ า วอย่ า งแฝงความนัย “วัน นี ้ข้า บัง เอิ ญ จริ ง ๆ มาอย่ า งกะทัน หัน
ไม่อย่างนัน้ อาจวิน้ จะพูดว่าโชคดีจริงๆ ได้อย่างไร!”
เสิ่นฟางผูน้ ีก้ ็เป็ นคนมีความคิดละเอียดรอบคอบไม่นอ้ ย
อวีถ้ งั พยักหน้าให้เขาทัง้ รอยยิม้
เสิ่นฟางเผยรอยยิม้ เข้าใจออกมา
อวีถ้ งั กระตุกในใจ ในหัวปรากฏความคิดบ้าบิ่นขึน้ มา
ชาติก่อน หลังจากหลี่จวิน้ และนางหมัน้ หมายกันได้ไม่นานเขาก็จากไปอย่างกะทันหัน
นางไม่รูเ้ รื่องของคนผูน้ ี ้
หากหลี่จวิน้ และสกุลหลี่ไม่ใช่พวกเดียวกันล่ะ?
เรื่องราวทัง้ หมดก็ลว้ นอธิบายได้
สกุลหลี่คิดใช้แผนสกปรกบีบให้นางแต่งเข้าสกุล ไม่ได้รบั การร่วมมือจากหลี่จวิน้ ย่อม
ไม่ได้ ดังนัน้ สกุลหลี่จงึ วางแผนเล่นงานทัง้ นางและหลี่จวิน้ ด้วยกันทัง้ คู่ เริ่มแรกให้อาเจ็ดเชื่อเขา
ว่าทําเช่นนีก้ ็เพื่อช่วยนาง ทัง้ ตัง้ ใจให้หลี่จวิน้ ทราบถึงสถานการณ์ของนาง วางแผนให้หลี่จวิน้
เข้ามาช่วยเหลือ
เพียงแค่สกุลหลี่ไม่ได้คาดคิดว่า จู่ๆ เผยเยี่ยนก็ผ่านมาทางนี ้ ทัง้ เสิ่นฟางจะพบกับหลี่
จวิน้ อย่างไม่คาดฝัน
425

บทที่ 52 ส่อพิรุธ
แต่วา่ สิ่งที่เหนือความคาดหมายของอวีถ้ งั มากที่สดุ ยังคงเป็ นการพบเจอกับเผยเยี่ยน
ยามที่อยู่หงั โจว เพราะเรื่องของแผนที่ อวีเ้ หวินจึงชักช้าอยู่หลายวัน รอจนยามที่จะไป
ขอบคุณเผยเยี่ยน เขาก็ไปไหวอันเสียแล้ว หลังจากกลับเมืองหลินอัน อวีเ้ หวินก็ไปจวนสกุลเผย
อยู่หลายครัง้ แต่พวกผูด้ แู ลของสกุลเผยล้วนกล่าวว่าเผยเยี่ยนยังไม่กลับมา
และครัง้ ล่าสุดที่อวีเ้ หวินไปจวนสกุลเผย ก็คือสองวันก่อน
เผยเยี่ยนนัน้ ยุ่งจริงๆ หรือว่าไม่อยากเจอบิดาของนางกันแน่?
อวีถ้ งั คิดว่าเป็ นอย่างหลัง
กระนัน้ ไม่ว่าอย่างแรกหรืออย่างหลัง เผยเยี่ยนไม่ได้เจตนาจะคบค้าสมาคมกับสกุล
พวกนางกลับเป็ นเรื่องจริง
อย่าพูดว่าเผยเยี่ยนช่วยนางเลย แม้ว่าจะเป็ นคนไม่รูจ้ ัก นางก็ไม่อาจฝื นใจคนอื่นได้
เช่นกัน
อวีถ้ ังขอบคุณเผยเยี่ยนอีกครัง้ ไม่ได้เอ่ยให้บิดาของนางไปขอบคุณด้วยตัวเองที่จวน
สกุลเผยแต่อย่างใด
ไม่รูเ้ พราะเผยเยี่ยนคิดว่าการกระทําของอวีถ้ งั ตรงกับที่เขาคิดพอดี หรือว่าเขาไม่ได้เก็บ
เรื่องที่ช่วยนางมาใส่ใจอยู่แล้ว เขาผงกศีรษะ ไม่ได้มากความ ส่งเสียงเรียกคนขับรถม้า ‘เจ้าเจิน้ ’
“เจ้าส่งคนให้คณ ุ หนูอวี ้ พวกเราล่วงหน้าไปก่อนเถิด!”
เจ้าเจิน้ ขานรับทันที กลับใช้มือสับอันธพาลพวกนัน้ ราวกับสับแตงหวานให้สลบกองอยู่
กับพืน้ เวลานีจ้ ึงค่อยวิ่งเข้ามายิม้ ให้อวีถ้ งั “คุณหนูอวี ้ ท่านวางใจเถิด ก่อนเจ้าหน้าที่ของศาลา
ว่าการจะมา คนพวกนีไ้ ม่อาจตื่นก่อนแน่นอน”
อวีถ้ งั แปลกใจอยู่บา้ ง
426

เผยเยี่ยนวางตัวเย็นชาทัง้ เย่อหยิ่งต่อผูค้ น นางคาดไม่ถึงว่าคนขับรถม้าที่ช่ือเจ้าเจิน้ ก็ดี


เด็กชายที่พยุงนางก็ดี ล้วนเป็ นคนใจดีและอบอุน่ ทัง้ สิน้
พวกเขาเป็ นเช่นนี ้ ย่อมเกี่ยวข้องกับท่าทีปกติของเผยเยี่ยนที่ปฏิบตั ิตอ่ พวกเขาโดยตรง
จะเห็นได้วา่ ความเข้าใจของนางที่มีตอ่ เผยเยี่ยนบิดเบีย้ วไปอยู่บา้ ง
ไม่พดู ถึงเรื่องอื่น แต่อย่างน้อยเขาก็ใจกว้างมีเมตตากับคนรอบกาย
เดิมทีก็เจอกันโดยบังเอิญ อวีถ้ งั ย่อมไม่อาจจะถ่วงเวลาเผยเยี่ยนอีก
นางกล่าวขอบคุณกับเจ้าเจิน้ “ครัง้ นีโ้ ชคดีท่ีได้เจ้าช่วยหยุดยัง้ อันธพาลพวกนี”้
เจ้าเจิน้ โบกมือ กล่าวด้วยยิม้ ขัดเขิน “ข้า ข้าก็เพียงทําตามคําสั่งเท่านัน้ หากท่านจะ
ขอบคุณ ก็ขอบคุณนายท่านของพวกเราเถิด!” พูดจบ ก็รีบวิ่งไปที่ขา้ งรถม้า ดึงบังเหียน ก่อนจะ
เรียกเด็กคนนัน้ “อาหมิง พวกเราไปเถิด”
เด็กที่ถกู เรียกว่า ‘อาหมิง’ ขานรับอย่างร่าเริง บอกลาอวีถ้ งั ก่อนจะหมุนกายปี นขึน้ รถ
ม้า นั่งอยู่ดา้ นหน้า
อวีถ้ งั อดยิม้ ไม่ได้ โบกมือให้อาหมิง
อาหมิงยิม้ อย่างขัดเขิน
รถม้าของเผยเยี่ยนเคลื่อนไปแล้ว
หลี่จวิน้ และเสิ่นฟางยืนส่งสายตามองเผยเยี่ยนจากไปอยู่หน้าทางเข้าหมู่บา้ น เมื่อรถ
ม้าไปไกลแล้ว ทั้งสองคนจึงค่อยชีไ้ ปยังพวกอันธพาลที่นอนระเกะระกะบนพืน้ “คุณหนูอวี ้
วางแผนจะทําอย่างไร?”
อวีถ้ งั ตัง้ ใจจะรัง้ หลี่จวิน้ ไว้ ได้ยินดังนัน้ ก็รีบคว้าโอกาส “คุณชายหลี่ คุณชายเสิ่น ครัง้ นี ้
ต้องขอบคุณพวกเจ้าทัง้ สอง แม้เจ้าเจิน้ จะกล่าวว่าเจ้าหน้าที่จะมาถึงก่อนที่คนพวกนีจ้ ะตื่น แต่
ยังคงต้องระมัดระวัง ข้าขอเสียมารยาทรัง้ ตัวคุณชายทัง้ สองอยู่ท่ีน่ีสกั ครู ่ เจ้าหน้าที่พวกนัน้ มา
427

ก็สามารถช่วยเป็ นพยานได้ เดี๋ยวข้าจะเรียกคนในหมู่บา้ นให้เรียกผูน้ าํ หมู่บา้ นและพ่อของข้า


เข้ามา เรื่องนีไ้ ม่อาจจะปล่อยไปเฉยๆ เช่นนีไ้ ด้”
หลี่จวิน้ และเสิ่นฟางล้วนคิดว่าสมควรเช่นกัน อวีถ้ งั รีบไปเคาะประตูของครอบครัวหนึ่ง
ที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขา นําเงินให้เขาจํานวนหนึ่ง ขอให้พวกเขาไปแจ้งข่าวที่เรือนเก่าสกุลอวี ้
ทัง้ ยังกล่าว “อย่าให้พ่อข้าบอกเรื่องนีก้ ับท่านแม่และป้าสะใภ้ใหญ่ หาอาเจ็ดพบก็พาเขามา
ด้วย”
เมื่อครูน่ างไม่เห็นอาเจ็ด ไม่รูว้ า่ เขาวิ่งหนีไปแล้วหรือว่าคอยดักนางอยูท่ างอื่น
คนผูน้ นั้ เห็นพวกอันธพาลนอนกองที่พืน้ ก็ตกใจเสียยกใหญ่ คิดจะเข้ามาดูเรื่องสนุก แต่
ก็จาํ ได้วา่ รับเงินมาแล้ว จึงรีบกวาดสายตาแวบหนึ่ง ก่อนจะสับขาวิ่งไปทางเรือนเก่าสกุลอวี ้
หลี่จวิน้ และเสิ่นฟางเอ่ยถึงเผยเยี่ยนขึน้ มา “นายท่านสามสกุลเผยดูภายนอกคล้ายเย็น
ชาและเย่อหยิ่ง คาดไม่ถึงว่ากลับเป็ นคนที่ใจดีมีความเอือ้ เฟื ้ อผูห้ นึ่ง ถึงกับยื่นมือช่วยเหลือ
คุณหนูอวี”้
เสิ่นฟางกลอกตาไปที “ใครพบเจอกับสถานการณ์เช่นนีก้ ็คงยื่นมือช่วยเหลือกันทัง้ นัน้
กระมัง? ข้าไม่เห็นมองออกถึงความใจดีมีเมตตาของเขา!”
“เจ้าคงไม่รู ้ ไม่ก่ีวนั ก่อนสกุลพวกเราเกิดเรื่อง” หลี่จวิน้ กล่าวแก้ต่าง “เรือส่งสินค้าลํา
หนึ่งของลูกพี่ลกู น้องข้าถูกหน่วยตรวจการไท่หูควบคุมเอาไว้ ลูกพี่ลกู น้องของข้าส่งคนมาขอ
ความช่วยเหลือจากท่านพ่อ พ่อของข้าก็ไม่รูจ้ กั คนของหน่วยตรวจการไท่หู แม้จะรู ว้ ่าเรื่องนีไ้ ร้
ทางแก้ไข ก็ทาํ ได้เพียงโอบกอดความหวังสุดท้าย ไปหาทางนายท่านสามสกุลเผย นายท่าน
สามไม่ได้ถามให้มากความ ก็นาํ ป้ายชื่อให้พ่ีใหญ่ขา้ ไปหาข้าหลวงของไท่หู เรื่องนีจ้ งึ ผ่านพ้นไป
ได้ นายท่านสามไม่เลวเลยจริงๆ”
เสิ่นฟางตกตะลึง “ลูกพี่ลกู น้องเจ้า? ลูกพี่ลกู น้องคนไหนของเจ้า?”
428

หลี่จวิน้ กล่าว “ลูกพี่ลกู น้องคนที่ทาํ การค้าอยู่ทางฝูเจีย้ น ลูกชายคนโตของลุงข้า เขาไม่


เลวเลย ครัง้ หน้าหากเขามาหลินอัน ข้าจะแนะนําให้เจ้ารูจ้ กั ”
เสิ่นฟางขานรับอย่างขอไปที ในสายตาของอวีถ้ งั เสิ่นฟางไม่ได้มีจดุ ประสงค์อยากจะ
รูจ้ กั ลูกพี่ลกู น้องของหลี่จวิน้ แต่เห็นได้ชดั ว่าหลี่จวิน้ มองไม่ทะลุปรุโปร่ง ยังคงกล่าวอยู่ตรงนัน้
“ลูกพี่ลกู น้องคนนีอ้ ายุเท่ากับพี่ใหญ่ขา้ กลับได้เป็ นผูช้ ่วยของลุงข้าแล้ว…”
อวีถ้ งั รูว้ า่ คนที่เขาพูดถึงคือใคร
หลานชายฝั่งมารดาของฮูหยินหลี่ ลูกชายภรรยาเอกคนโตของสกุลหลิน หลินเจวี๋ย
เขาเป็ นคนที่มีฝีมือทําการค้า สกุลหลินตกไปอยู่ในมือเขาไม่ก่ีปี ก็กลายเป็ นพ่อค้าราย
ใหญ่อนั ดับต้นๆ ของฝูเจีย้ น สกุลหลี่ก็พ่งึ พาเขา ริเริม่ ทําการค้าทางทะเล มั่งคั่งรํ่ารวยขึน้ มา
ชาติก่อน เขาไปเยือนสกุลหลี่บ่อยครัง้ หลี่ตวนและเขาสนิทสนมกันเป็ นอย่างมาก มี
ครัง้ หนึ่งหลี่ตวนคิดอกุศลกับนาง ก็เป็ นหลินเจวี๋ยที่ช่วยเหลือ…
อวีถ้ งั จมดิ่งลึกในความทรงจําของอดีต ข้างหูกลับปรากฏเสียงดังวุน่ วายขึน้ มา
นางเงยหน้าก็เห็นบิดาและลุงใหญ่ ญาติผพู้ ่ีพาชายหนุ่มอีกเจ็ดแปดคนวิ่งเข้ามาอย่าง
โกรธเกรีย้ ว
อวีถ้ งั รีบเดินไปหา
อวีเ้ หวินคว้าแขนของอวีถ้ งั ไว้ สํารวจนางด้วยใบหน้าที่ซีดขาว ทัง้ กล่าวถามอย่างร้อน
ใจไปพลาง “เจ้าไม่เป็ นไรใช่หรือไม่?”
“ข้าไม่เป็ นไร!” อวีถ้ งั รีบบอก “ท่านแม่ไม่รูเ้ รื่องนีก้ ระมัง?” ขณะที่นางพูด ก็ชะโงกดูพวก
คนที่มา
ไม่เห็นอาเจ็ด
429

อวีเ้ หวินกล่าว “ข้าได้ยินคนมาแจ้งก็ตกใจไม่นอ้ ย ไม่ทนั ได้หาอาเจ็ดเจ้าก็ไปพาคนมา


พร้อมลุงใหญ่เจ้าเสียก่อน อาเจ็ดเจ้าเกิดเรื่องอะไรขึน้ ? ไม่ใช่วา่ เขาอยู่กบั เจ้าหรอกรึ?”
อวีถ้ งั กล่าว “เรื่องนีอ้ ีกเดี๋ยวค่อยพูดเถิด คุณชายหลี่และคุณชายเสิ่นอยู่ท่ีน่ี คุณชายทัง้
สองมีคณ
ุ ธรรมสูงเทียมฟ้า ได้ยินว่าข้าเกิดเรื่องก็รบี ตามมาทันที!”
อวีเ้ หวินไม่รรี อเดินเข้าไปขอบคุณทัง้ สองคน
หลี่จวิน้ และเสิ่นฟางค้อมตัวหลบ ไม่ยอมรับการคารวะจากอวีเ้ หวิน ต่างก็กล่าวด้วย
หน้าแดงอยูบ่ า้ ง “พวกเรามาถึงทีหลัง ผูท้ ่ีช่วยคุณหนูอวีไ้ ว้คือนายท่านสามสกุลเผยต่างหาก!”
คนที่ ไปส่ง ข่า วก็ ไม่ รูเ้ รื่องว่า หลัก ๆ เกิ ดอะไรขึน้ เช่น กัน อวีเ้ หวิน จู่ๆ ได้ยิน ว่า เรื่องนี ้
เกี่ยวข้องกับเผยเยี่ยนก็ตกใจขึน้ มา “นายท่านสาม?”
อวีถ้ งั กล่าว “เขามีธุระกลับไปก่อนแล้ว”
“เช่นนัน้ รอพวกเรากลับเข้าเมืองแล้วก็ไปขอบคุณนายท่านสาม” ขณะที่อวีเ้ หวินกล่าว
ก็ยงั คงขอบคุณหลี่จวิน้ และเสิ่นฟางอย่างจริงใจ “แม้จะกล่าวว่าคุณชายทัง้ สองมาทีหลัง แต่
ความคิดที่จะช่วยเหลือคนล้วนมีเหมือนกัน ทัง้ สองคนอย่าได้ถ่อมตัวเลย อีกเดี๋ยวก็ไปดื่มนํา้ ดื่ม
สุราที่บา้ นข้า ให้ขา้ ได้แสดงนํา้ ใจหน่อยเถิด”
หลี่จวิน้ และเสิ่นฟางยังคงกล่าวถ่อมตัวอยู่ตรงนัน้ ก่อนเจ้าหน้าที่ของศาลาว่าการจะ
เข้ามา
อย่างไรอวีเ้ หวินก็เป็ นซิ่วไฉ มีช่ือเสียงด้านการเขียนบทประพันธ์ในเมืองหลินอันอยู่บา้ ง
เดิมทีก็เป็ นที่คุน้ เคยกับเจ้าหน้าที่ของศาลาว่าการ รวมกับมีหลี่จวิน้ และเสิ่นฟางเป็ นพยาน
เจ้าหน้าที่จึงจับพวกนัน้ มัดไว้อย่างรวดเร็ว อวีป้ ๋ อยังแอบติดสินบนจํานวนหนึ่ง ขอให้เจ้าหน้าที่
อย่าดึงเรื่องมาเกี่ยวข้องกับอวีถ้ งั รอกลับเข้าเมืองทุกคนไปร่วมดื่มสุรากัน เจ้าหน้าที่ก็นบั ว่าทํา
เรือ่ งอย่างคล่องแคล่ว พาอันธพาลพวกนัน้ กลับไปยังศาลาว่าการ
430

หลี่จวิน้ และเสิ่นฟางเห็นเช่น นั้นก็คิดจะกลับบ้า ง “ได้ยิน ว่า พวกเสี่ย วหวั่น ก็รอ้ นใจ


เช่นกัน หากไม่ใช่เพราะฝี มือขี่มา้ ไม่ชาํ นาญ ก็คงจะตามมาด้วยแล้ว พวกเราต้องกลับไปบอก
กล่าวกับพวกเขาเสียหน่อย”
อวีเ้ หวินนึกขึน้ มาได้ว่าอีกสักพักพวกเขายังต้องไปสกุลเว่ย จึงครุ ่นคิดว่าจะเปลี่ยนวัน
อื่นขอบคุณหลี่จวิน้ และเสิ่นฟางดีหรือไม่ ทว่าอวีถ้ ังกลับกล่าว “ที่น่ีก็ไม่มีคนอื่นแล้ว อย่างไร
เชิญทัง้ สองคนรัง้ ตัวอยู่ ไปดื่มชาบ้านพวกเราเถิด ข้ามีบางอย่างอยากจะพูดกับคุณชายหลี่”
หลี่จวิน้ และเสิ่นฟางมองหน้ากัน ใคร่ครวญเล็กน้อย ก่อนทัง้ สองจะตอบตกลง
คนทัง้ หมดจึงเดินทางไปเรือนเก่าของสกุลอวี ้
เฉินซื่อและหวังซื่อยังไม่รูว้ ่าเกิดเรื่องอะไรขึน้ รู เ้ พียงว่ามีคนมาหาที่หน้าเรือน จึงไม่ได้
สนใจเท่าใด
อวีถ้ งั เชิญหลี่จวิน้ และเสิ่นฟางเข้ามานั่งในโถงรับแขก ทัง้ เชิญปู่ ห้าเข้ามา ก่อนจะเล่า
เรื่องที่อาเจ็ดทําให้ทกุ คนฟั ง
ทุก คนต่ า งก็ ต กใจจนพูด ไม่ อ อก ปู่ ห้า กระโดดโผลงขึ น้ คนแรก กล่า วอย่ า งไม่ เ ชื่ อ
“เป็ นไปไม่ได้! จะเป็ นไปได้อย่างไร? เขาเป็ นคนซื่อตรงถึงขนาดนัน้ จะทําเรื่องเช่นนีไ้ ด้อย่างไร?
หลานสาว เจ้าฟั งผิดหรือไม่?”
คนที่เด้งตัวขึน้ คนที่สองคือหลี่จวิน้
ใบหน้าเขาแดงกํ่าไปหมด “ไม่ เป็ นไปไม่ได้! แม่ขา้ จะทําเรื่องที่ทาํ ลายชื่อเสียงคนเช่นนี ้
ได้อย่างไร? แม้ว่าเจ้าจะแต่งเข้าสกุลเรา พวกเราทัง้ สองก็จะกลายเป็ นศัตรู…แม่ของข้าไม่อาจ
ทําเช่นนัน้ กับข้าหรอก!”
แม้แ ต่ อ วี เ้ หวิ น ก็ คิ ด ว่า เรื่ อ งนี ไ้ ร้ส าระเกิ น ไป “หรื อ ว่ า จะมี ค นประสงค์ร า้ ย คิ ด โยน
ความผิดให้สกุลหลี่? เรื่องนีต้ อ้ งตรวจสอบอย่างชัดเจน”
431

อวีป้ ๋ อรวบรวมสติกลับคืนมา “ใช่แล้ว ใช่แล้ว! เรื่องเช่นนีไ้ ม่อาจพูดซีซ้ วั้ ได้ หากมีคน


ตัง้ ใจขัดแข้งขัดขาจริงๆ ไม่ใช่จะกลายเป็ นว่าพวกเราใส่รา้ ยสกุลหลี่หรอกรึ”
มีเพียงอวีห้ ย่วนและเสิ่นฟางที่ไม่ปริปากกล่าว
อวีห้ ย่วนคล้ายกําลังคิดอะไรอยู่ ด้านเสิ่นฟางมองหลี่จวิน้ ก่อนจะมองอวีถ้ ัง สุดท้าย
แววตาก็จมดิ่งเล็กน้อย หยุดสายตาไว้ท่ีอวีถ้ งั
“เป็ นการเข้าใจผิดหรือไม่ รอหาตัวอาเจ็ดพบ ทางศาลาว่าการจับกุมผูเ้ กี่ยวข้องได้
ทัง้ หมด เรื่องก็จะกระจ่างแล้ว” อวีถ้ งั กล่าวอย่างใจเย็น “เรื่องนีไ้ ม่อาจปล่อยให้จบไปเช่นนีไ้ ด้ มี
ครัง้ แรกก็ย่อมมีครัง้ ที่สอง ไม่ดึงตัวผูท้ ่ีอยู่เบือ้ งหลังออกมา จะป้องกันอย่างไรก็ลว้ นมีวนั พลาด
กลัวว่ากระทั่งแค่นอนหลับก็คงจะหลับได้ไม่สนิท”
หลี่จวิน้ ใบหน้าขึน้ สี ราวกับเลือดไหลก็มิปาน เขากล่าวอ้อมแอ้ม “คุณหนูอวี ้ เจ้า เจ้าไม่
เชื่อข้ารึ?”
อวีถ้ งั กล่าว “ข้าเชื่อหรือไม่เชื่อเจ้าไม่สาํ คัญ สิ่งที่สาํ คัญคือเรื่องนีใ้ ครเป็ นคนทํา วิธีการ
สกปรกตํ่าช้าเกินไป เปลี่ยนเป็ นคนอื่นก็คงยอมไม่ได้เช่นกัน”
หลี่จวิน้ ลุกขึน้ ยืนทันที โมโหอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่รูว้ ่านึกถึงเรื่องอะไรได้ ทํา
ปากอ้าๆ หุบๆ ไม่ได้กล่าวอะไร
เสิ่นฟางเห็นก็ยืนขึน้ เช่นกัน “เป็ นดั่งที่คณ
ุ หนูอวีว้ า่ เรื่องนีต้ อ้ งมีหลักฐาน ยามนีพ้ วกเรา
พูดอะไรล้วนไร้ประโยชน์ ตอนบ่ายนายท่านอวีย้ งั มีธุระ มิสพู้ วกเราแยกย้ายกันไปก่อน รอตาม
หาอาเจ็ดผูน้ นั้ ของพวกท่านพบ ทัง้ ทางศาลาว่าการมีข่าวคราว ค่อยมาคุยเรื่องนีก้ ็ไม่สาย”
อวีเ้ หวินรูส้ กึ ว่าหลี่จวิน้ และเสิ่นฟางมาช่วยอวีถ้ งั สุดท้ายยังถูกอวีถ้ งั สงสัย เสียมารยาท
เกินไป กล่าวอย่างละอายใจ “หากทําเช่นนัน้ …”
“ท่านอา!” จู่ๆ อวีห้ ย่วนก็ลกุ ขึน้ ตัดบทสนทนาของอวีเ้ หวิน “คุณชายหลี่และคุณชาย
เสิ่นก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล หาอาเจ็ดให้พบก่อนเป็ นเรื่องที่สาํ คัญกว่า”
432

หลี่จวิน้ ฟั งแล้วก็กล่าวคล้อยตามเสียงดัง “นายท่านอวี ้ คุณชายอวีก้ ล่าวมีเหตุผล ข้าว่า


อย่างไรหาอาเจ็ดของพวกท่านให้พบเร็วที่สดุ เป็ นเรื่องสําคัญกว่า”
433

บทที่ 53 ถูกใจ
“ใช่ ใช่” อวีป้ ๋ อละลํ่าละลักเอ่ย คิดว่าอย่างไรจัดการเรื่องในเรือนของตัวเองก่อนค่อยว่า
กันจะดีกว่า
เสิ่นฟางมองหลี่จวิน้ ที่กล่าวอย่างหนักแน่นแต่กลับส่ายศีรษะ
เขากลัวจริงๆ ว่าหลี่จวิน้ พูดอะไรที่ไม่อาจย้อนกลับมาแก้ไขได้
เขาคว้าแขนหลี่จวิน้ ไว้ เอ่ยกับอวีเ้ หวินด้วยท่าทีจริงจัง “นายท่านอวี ้ เรื่องเกี่ยวพันกับ
หลายสกุล ทัง้ เกิดอย่างกะทันหัน ข้าว่าอาจวิน้ คงอยากจะกลับไปครุน่ คิดดีๆ พวกเราคงต้องขอ
ตัวก่อน รอมีข่าวคราวอะไรแล้วค่อยว่ากันอีกที”
อวีเ้ หวินก็ไม่อาจรัง้ หลี่จวิน้ ไว้ ส่งทัง้ สองคนออกจากประตูดว้ ยตัวเอง
อวีห้ ย่วนดึงอวีถ้ งั มาคุยด้านข้างทันที “เรื่องนีจ้ ะเกี่ยวกับภาพนัน้ หรือไม่?”
อวีถ้ งั ตกใจในไหวพริบของอวีห้ ย่วน แต่ตอนบ่ายเขายังต้องไปดูตวั นางไม่อาจทําให้
งานแต่งของอวีห้ ย่วนล่าช้าได้
“ไม่รู!้ ” นางเอ่ย “เรื่องเกิดขึน้ แล้ว จะคาดเดามากไปกว่านีก้ ็ไม่มีประโยชน์ มิสรู้ อคอย
อย่างใจเย็น”
สิ่งที่สาํ คัญที่สดุ คือไม่รูว้ า่ อาเจ็ดไปอยู่ท่ีไหน?
อวีห้ ย่วนพยักหน้าอย่างใจลอยอยู่บา้ ง
อวีถ้ งั ทําได้เพียงให้กาํ ลังใจเขา “ไม่ว่าจะพูดอย่างไร คนพวกนัน้ ก็ทาํ ไม่สาํ เร็จ ทัง้ คนที่
ส่งมาจับตัวข้าก็ถกู ทรมานอยู่ในคุกแล้ว หลังจากพวกนัน้ ทราบข่าวย่อมต้องหงุดหงิดใจ อีกฝ่ าย
หงุดหงิด ก็นบั ว่าเป็ นความสุขของพวกเรา พวกเราควรดีใจจึงจะถูก”
เพราะเหตุผลไร้สาระของอวีถ้ งั อวีห้ ย่วนจึงหัวเราะขึน้ มา
434

อวีถ้ งั ค่อยโล่งใจ “ท่านพี่ คนดีย่อมได้รบั การคุม้ ครองจากสวรรค์ เจ้าดูสิ ข้าประสบกับ


เรื่องเช่นนีก้ ลับได้พบนายท่านสาม หลี่จวิน้ และเสิ่นฟางก็ตามเข้ามาช่วยเช่นกัน ท่านพี่ ลุงใหญ่
ทัง้ ท่านพ่อก็มาด้วยกันทัง้ หมด ข้ารูส้ กึ ว่าความโชคดีมกั จะตามหลังข้ามาเสมอ”
“หวังว่าจะเป็ นเช่นนัน้ ” ขณะที่อวีห้ ย่วนพูด ก็ครุน่ คิดอย่างละเอียด รูส้ กึ ว่าคําพูดของอวี ้
ถังมีเหตุผลอยู่บา้ งจริงๆ เขาอดยิม้ ขึน้ มาไม่ได้ อารมณ์ก็ผ่อนคลายลงมาก “ภายหลังเจ้าออกไป
วิ่งโร่ขา้ งนอกน้อยๆ หน่อยเถิด ข้างนอกนัน้ วุน่ วายเกินไปแล้ว”
อวีถ้ งั เอ่ยด้วยรอยยิม้ “เช่นนัน้ ท่านรีบแต่งพี่สะใภ้กลับมาให้ขา้ ข้ามีเพื่อน ย่อมไม่อาจ
ออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกบ่อยๆ แล้ว”
อวีห้ ย่วนหัวเราะ ดูเขินอายไม่นอ้ ย

แม้ว่าจะมีคลื่นลมเช่นนี ้ แต่เรื่องของสกุลเว่ยกลับไม่อาจเปลี่ยนวันได้ แม้จะยังหาอา


เจ็ดไม่พบ พวกเขาก็จาํ เป็ นต้องจากมา
อวีเ้ หวินกลัวว่าอวีถ้ ังจะได้รบั ความกระทบกระเทือนทางจิตใจ ถามนางว่าอยากจะ
กลับเข้าเมืองก่อนหรือไม่
อวีถ้ ังเอ่ย “สกุลเว่ยรู แ้ ล้วว่าข้าเดินทางมาด้วย ถึงเวลานัน้ หากข้าไม่ปรากฏตัว สกุล
เว่ยถามขึน้ มา ท่านจะกล่าวว่าอย่างไร?”
อวีเ้ หวินยังคิดจะพูดอะไรอีก อวีถ้ งั จึงดันเขาออกจากประตูไป “ท่านพ่อ ข้าไม่เป็ นไร นี่
ไม่ใช่ว่ามีพวกท่านปกป้องข้าอยู่ร?ึ ข้าไม่ใช่คนที่รบั มือกับเรื่องราวอะไรไม่ได้เสียหน่อย” ขณะที่
พูด นางก็เรียกเฉินซื่อ “ท่านแม่ พวกเราจะไปเมื่อใดกัน? สายมากแล้วนะเจ้าคะ”
เฉินซื่อและหวังซื่อกําลังพูดคุยเรื่องส่วนตัวกัน ได้ยินเสียงเรียก ทัง้ สองคนก็เดินยิม้ ร่า
ออกมา เห็นอวีถ้ งั อยู่ในสภาพทุลกั ทุเลจึงพากันตกใจ
435

อวี ถ้ ัง พูด เพี ย งว่ า ไปเก็ บ ดอกไม้กับ อาเจ็ ด พลาดหกล้ม เพราะเหตุนี อ้ าเจ็ ด ได้รับ
บาดเจ็บ จึงไปหาหมอในเมือง
เฉินซื่อไม่เชื่อว่าเป็ นอย่างนัน้ แต่อวีเ้ หวินคอยพูดช่วยอวีถ้ ังอยู่ดา้ นข้าง เฉินซื่อยังคิด
ว่าอวีถ้ งั ก่อเรื่องเหมือนตอนเด็ก และอวีเ้ หวินช่วยนางปกปิ ด ดึงนางมาอยู่ขา้ งๆ มองสํารวจทัง้
ตัวอย่างละเอียด พบว่านางไม่ได้บาดเจ็บ แต่ก่อนออกไปยังพกเสือ้ ผ้าไปเปลี่ยนด้วย จึงแสร้ง
ปิ ดตาข้างหนึ่งทําเป็ นไม่รูไ้ ม่เห็น คล้อยตามพวกเขาไป
อวีถ้ งั ไปล้างหน้าล้างตาแต่งตัวอีกครัง้ คนทัง้ หมดเดินทางไปยังสกุลเว่ย
ผูท้ ่ีออกมาต้อนรับพวกเขาคือสองสามีภรรยาสกุลเว่ย ลูกชายคนโตและภรรยา ได้ยิน
ว่าลูกคนอื่นๆ ล้วนเดินทางไปส่งของขวัญเทศกาลไหว้พระจันทร์ท่ีสกุลเดิมของนายหญิงเว่ย
อวีถ้ ังคิดว่านายหญิงเว่ยนัน้ กลัวในเรือนมีคนเยอะเกินไป เสียงดังเซ็งแซ่ อาจจะดูไม่
งาม
คนของสกุลอวี ้ นอกจากหวังซื่อแล้ว คนอื่นๆ ก็ลว้ นเคยคบค้าสมาคมกับคนของสกุล
เว่ยมาก่อน ทัง้ ยังมีความประทับใจที่ดีต่อกันไม่นอ้ ย พบเจอกัน หลังจากแนะนําให้รูจ้ กั กันแล้ว
ย่อมคุน้ เคยขึน้ มา พูดคุยสนุกสนานครึกครืน้ เป็ นอย่างยิ่ง มีเพียงอวีห้ ย่วน บางทีอาจเป็ นเพราะ
สถานะเปลี่ยนไป ก้มหน้าก้มตาอย่างขวยเขิน หดตัวอยู่หลังอวีป้ ๋ อ ไม่มีท่าทีหนักแน่นเป็ นกันเอง
เฉกเช่นวันปกติ คล้ายเปลี่ยนไปเป็ นคนละคนโดยสิน้ เชิง
หวังซื่อนัน้ ร้อนใจ ฉวยโอกาสยามที่คนของสกุลเว่ยไม่ได้สนใจ ฟาดมือที่หลังลูกชายไป
ที กระซิบกล่าว “เจ้ายืนตรงๆ หน่อย อย่ามาทําเสียเรื่องข้าในเวลาสําคัญเช่นนี”้
อวีห้ ย่วนยืดหลังตรง แต่ใบหน้านัน้ แดงกํ่าเป็ นอย่างมาก
ดีท่ีนายหญิงเว่ยรูส้ กึ ว่าเช่นนีจ้ งึ นับว่าปกติ มองอวีห้ ย่วนรื่นหูร่นื ตายิ่ง ต้อนรับให้ทกุ คน
นั่งลง ก่อนจะกําชับสาวใช้ “คุณหนูใหญ่สกุลอวีก้ ็มาเช่นกัน เจ้าให้คุณหนูเซียงเข้ามาพบปะ
หน่อยเถิด”
436

นี่จงึ จะนับเป็ นเหตุผลที่อวีถ้ งั อยู่ในยามนี ้


อวีถ้ งั อดทําตาโตทอดมองออกไปไม่ได้
ไม่นานนัก สาวใช้ผนู้ นั้ ก็พาหญิงสาวที่ดเู หมือนอายุสิบเจ็ดสิบแปดเข้ามา นางรู ปร่าง
สูงเพรียว ผมสีดาํ ขลับทัง้ ศีรษะม้วนเป็ นทรงก้นหอย ผิวสีนา้ํ ผึง้ คิว้ หนาตาโต สวมชุดต่วนหรูผา้
หังโฉวสีขาวบริสทุ ธิ์ ใส่ตา่ งหูไข่มกุ ขนาดประมาณเม็ดบัว ยามที่มองผูค้ นแววตาเผยความสดใส
จริงใจ รอยยิม้ ร่าเริง ดูใจกว้างเป็ นอย่างยิ่ง
แม้จะไม่ได้หน้าตางดงามมาก แต่อวีถ้ งั กลับมีความรูส้ กึ ดีกบั นางขึน้ มา
คุณหนูเซียงเดินมาข้างหน้าทัง้ รอยยิม้ คํานับให้สกุลอวีท้ กุ คน
อวีถ้ งั เห็นอวีห้ ย่วนชําเลืองมองคุณหนูเซียงแวบหนึ่งอย่างรวดเร็ว หลังจากนัน้ ก็ไม่กล้า
เงยหน้า ขึน้ อีก เลย ก่อนจะมองคุณหนูเ ซี ย งที่ เ ผยท่ า ที สุภาพเรีย บร้อยอีก ครัง้ จู่ๆ ก็ รูส้ ึก ว่า
น่าสนใจ
ในเรือนของลุงใหญ่ ลุงใหญ่นนั้ เคารพให้เกียรติปา้ สะใภ้ใหญ่เป็ นอย่างมาก ไม่ว่าเรื่อง
อัน ใดก็ บ อกกล่ า วป้ า สะใภ้ใ หญ่ ก่ อ น ทั้ง มัก จะฟั ง ความคิ ด เห็ น จากป้ า สะใภ้ใ หญ่ ดูแ ล้ว
เหมือนว่าลุงใหญ่จะดูแลจัดการเรื่องในเรือน แท้จริงแล้วกลับเป็ นป้าสะใภ้ใหญ่ท่ีท่ีตดั สินใจชี ้
ขาด
หากญาติผูพ้ ่ีและคุณหนูเซียงแต่งงานกัน ไม่แน่ว่าการอยู่ร่วมกันของทัง้ สองคนก็จะ
เหมือนกับลุงใหญ่และป้าสะใภ้ใหญ่?
นี่เข้ากับคําโบราณที่วา่ ‘คนที่นิสยั เหมือนกัน ถึงจะอยู่รว่ มกันได้’
ยามที่อวีถ้ งั คํานับตอบคุณหนูเซียง จึงพบว่าคุณหนูเซียงยังสูงกว่านางอยู่บา้ ง
ก็หมายความว่า คุณหนูเซียงและอวีห้ ย่วนสูงพอๆ กัน
ทัง้ สองคนพูดคุยกันเป็ นมารยาทไม่ก่ีคาํ คุณหนูเซียงก็ขอตัวออกไป
437

การดูตวั วันนีน้ บั ว่าสิน้ สุดลงอย่างเป็ นทางการ


เรื่องต่อจากนีก้ ็จะเป็ นแม่ส่อื ที่ออกหน้า คอยถ่ายทอดคําพูดระหว่างสองสกุล
อวีถ้ งั กังวลอยู่บา้ งว่าอวีห้ ย่วนจะไม่ชอบความสูงของคุณหนูเซียง ระหว่างทางกลับก็
แอบถามอวีห้ ย่วน “ท่านได้เห็นหน้าคุณหนูเซียงชัดเจนหรือไม่? ท่านคิดว่าเป็ นอย่างไร?”
อวีห้ ย่วนเอ่ยทันที “เจ้าเป็ นเพียงน้องสาวคนหนึ่ง จะรูเ้ รื่องราวมากไปทําไม?”
อวีถ้ ังเห็นอวีห้ ย่วนไม่คล้ายผิดหวังเสียใจ ก็อดเอ่ยไม่ได้ “นี่ไม่ใช่ว่าข้ากลัวป้าสะใภ้
ใหญ่และท่านแม่ขา้ จะยุ่งวุ่นวายเสียเปล่าหรอกรึ?” ทัง้ เอ่ยว่า “ท่านพี่ไม่อยากบอกข้าก็แล้วไป
อย่างไรรอยามที่ปา้ สะใภ้ใหญ่และลุงใหญ่ถามท่าน ข้าค่อยไปถามก็ได้แล้ว”
“เหตุใดเจ้าจึงพูดมากเช่นนี?้ ” อวีห้ ย่วนเอ่ยอย่างไม่ค่อยชอบใจ อดกลัน้ อยู่พกั ใหญ่
ก่อนจะกล่าว “งานแต่งของลูกสกุลไหนบ้างที่พ่อแม่ไม่ได้เป็ นคนตัดสินใจ ข้าเชื่อฟั งพ่อแม่ก็
เพียงพอแล้ว”
เชื่อฟั งลุงใหญ่และป้าสะใภ้ใหญ่ นั่นก็หมายความว่ายินยอม!
เขายังจะพูดอ้อมค้อมเช่นนีอ้ ีก
อวีถ้ งั ลอบยิม้ กลับไปถึงเรือนก็คล้ายกับเป็ นหางของเฉินซื่อมิปาน เฉินซื่อไปที่ใดนางก็
ไปที่น่นั
เฉินซื่อเอ่ยด้วยรอยยิม้ “นี่เจ้าจะทําอะไร?”
อวีถ้ งั หัวเราะ “ยามที่พวกท่านจะปรึกษาเรื่องงานแต่งของท่านพี่ ให้ขา้ อยู่ฟังข้างๆ ด้วย
นะเจ้าคะ!”
เฉินซื่อกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “เจ้าว่าลูกคุณหนูกุลสตรีอย่างเจ้า ไฉนจึงชอบฟั งเรื่อง
พวกนีก้ นั ?”
438

อวีถ้ งั กล่าวฉะฉานอย่างมีเหตุผล “นี่ไม่ใช่เรื่องคนอื่นเสียหน่อย พี่ชายข้า ข้าสนใจบ้าง


จะเป็ นไรไป?”
เฉินซื่อเอ่ยยิม้ ๆ “ได้ ได้ ได้ ข้าจะพาเจ้าไป หากข้าไม่พาเจ้าไป เจ้าก็คงหาวิธีแอบฟั ง
หรือสืบข่าวอยู่ดี”
อวีถ้ งั ยิม้ มุมปาก
อวีเ้ หวินเดินเข้ามา ส่งสายตาเป็ นนัยให้อวีถ้ งั เป็ นอันดับแรก คล้อยหลังก็เอ่ยกับเฉินซื่อ
“ข้ามีธุระ จะออกไปข้างนอกเสียหน่อย เรื่องของอาหย่วน ข้าคิดว่าสกุลเราและสกุลเว่ยเห็นพ้อง
ต้องกันก็เป็ นอันเสร็จสรรพแล้ว ตอนเย็นข้าอาจจะกลับมาช้าหน่อย เจ้าก็อย่ารอข้าเลย”
เฉินซื่อเอ่ยอย่างกังวล “การพบปะวันนีเ้ กี่ยวพันกับเรื่องสําคัญในชีวิตของอาหย่วน เจ้า
ไม่เข้าไปคงไม่คอ่ ยดีกระมัง? อีกเดี๋ยวท่านพี่ถามขึน้ มา ข้าจะตอบอย่างไร?”
อวีเ้ หวินกล่าว “เรื่องนีท้ ่านพี่รูแ้ ล้ว ข้าได้พดู กับเขาแล้ว พวกเจ้าแค่เข้าไปด้วยก็พอ ท่าน
พี่ไม่อาจถามอะไรหรอก”
อวีถ้ งั สงสัยว่าอวีเ้ หวินจะไปสืบข่าวที่ศาลาว่าการ
นางละลํ่าละลักเอ่ย “ท่านพ่อ ข้าจะไปส่งท่านที่ประตู”
ศาลาว่าการอยู่กลางเมือง จากตรอกชิงจู๋ไป ทําได้เพียงเดินไปทางตะวันออก
นางอยากรูว้ า่ อวีเ้ หวินไปทําอะไรในเวลาเย็นขนาดนี?้
อวีเ้ หวินก็ไม่ได้เตรียมจะปิ ดบังนาง ออกจากประตู ก็เอ่ยกับนาง “เจ้าอยู่ท่ีเรือนดีๆ รอ
ข้ากลับมา” จากนัน้ ก็เดินไปทางตะวันออก
อวีถ้ งั และเฉินซื่อไปเรือนของลุงใหญ่
ลุงใหญ่ก็ไม่อยู่ท่ีเรือนเช่นกัน กล่าวว่ามีธุระที่รา้ นค้า ป้าสะใภ้ใหญ่ยงั พรํ่าบ่น “เวลา
ไหนไม่ไป กลับมาไปในยามนี ้ นี่ก็เย็นแล้ว หรือแค่คืนนีค้ ืนเดียวจะรอไม่ได้เชียว เขาไม่สนใจ
439

เรื่องของอาหย่วนเกินไปแล้ว ข้าถามเขาว่าเป็ นเพราะเห็นหน้าค่าตาคุณหนูเซียงชัดๆ แล้วจึงไม่


ชอบใช่หรือไม่ เขาก็กล่าวว่าชอบ ยังพูดว่า คุณหนูเซียงรูปร่างสูงเพรียว ไม่แน่ว่าหลังจากคลอด
หลาน ก็จะสามารถสูงตามคุณหนูเซียงได้เช่นกัน”
อวีถ้ งั สงสัยว่าลุงใหญ่และพ่อของนางอาจจะไปศาลาว่าการด้วยกัน ปกติบิดาของนาง
ยังคงถือตัวในฐานะซิ่วไฉอยู่บา้ ง ยามที่คบค้าสมาคมกับผูค้ นก็วางท่าอยู่เล็กน้อย แต่ลงุ ใหญ่
กลับไม่เหมือนกัน ทําการค้าขาย หัวเราะก่อนคนอื่นพูด ทัง้ สามารถโยนเรื่องตําแหน่งหน้าตาทิง้
ไปได้ สถานที่เฉกเช่นศาลาว่าการ แต่ไหนแต่ไรก็เป็ นพวกนักเลงถ่อยที่ก่อปั ญหามากที่สดุ มีลงุ
ใหญ่ของนางออกหน้า เรื่องราวย่อมง่ายขึน้ มาก
เฉินซื่อกลับไม่ได้คิดมาก ดึงมือหวังซื่อ “ก่อนหน้านีข้ า้ เห็นว่าคุณหนูเซียงยอดเยี่ยมไม่
น้อย วันนีพ้ อได้เห็นก็ย่ิงรูส้ กึ พอใจ แค่ไม่รูว้ ่าอาหย่วนคิดอย่างไร ทัง้ คุณหนูเซียงชื่นชอบอาหย่
วนหรือไม่ อาหย่วนนัน้ สูงแทบพอๆ กับคุณหนูเซียง”
หวังซื่อเอ่ยด้วยรอยยิม้ “เจ้าไม่ตอ้ งกังวลหรอก ตัง้ แต่ขา้ กลับมาก็ถามอาหย่วนไปแล้ว
เขาบอกว่าล้วนให้พ่อแม่เป็ นคนตัดสินใจ พ่อของเขากล่าวว่าคุณหนูเซียงตัวสูง เขาก็ยงั ดูยินดี
ปรีดา ยามนีต้ อ้ งดูทางสกุลเว่ยแล้ว”
เฉินซื่อกล่าว “คําโบราณนัน้ กล่าวได้ดี แต่งลูกสาวเงยหน้า รับลูกสะใภ้กม้ หัว 1 ในเมื่อ 98

ทุกคนล้วนรู ส้ ึกดี สกุลของพวกเราก็ควรจะเป็ นฝ่ ายรุ กเสียหน่อย ไม่เพียงรีบเชิญแม่ส่ือมาพูด


เรื่องแต่งงาน ยังต้องพยายามทําเรื่องให้สาํ เร็จจึงจะดี…นายหญิงเว่ยยังมีอะไรไม่พอใจ พวกเรา
ทําเรื่องจนสกุลพวกเขาพอใจก็เพียงพอแล้วมิใช่ร?ึ ”
หวังซื่อเอ่ยด้วยรอยยิม้ “เจ้ากลับคิดเหมือนกับข้า หากงานแต่งครัง้ นีส้ าํ เร็จ คุณหนูอวี ้
อายุไม่นอ้ ยแล้ว อาหย่วนของพวกเราก็ปล่อยให้ยืดเยือ้ มานานอย่างนี ้ ข้าอยากให้พวกเขา

1
แต่งลูกสาวเงยหน้า รับลูกสะใภ้กม้ หัว อุปมาว่า ลูกสาวเมื่อแต่งงานออกไปก็เหมือนนํา้ ที่ถกู สาด แต่การรับสะใภ้เป็ นการ
รับสมาชิกครอบครัวเพิ่มเข้ามา ย่อมได้เปรียบ ดังนัน้ แม้ฝ่ายเจ้าสาวจะร้องขอความต้องการจากครอบครัวฝ่ ายชาย ฝ่ าย
ชายก็ควรทําตามคําขอของครอบครัวฝ่ ายหญิง
440

แต่งงานกันเร็วๆ ข้าว่าอาหย่วนอยู่ท่ีหอ้ งเซียงฝางนัน้ ไม่ได้แล้ว ต้องปรับปรุ งแต่งเติมเสียหน่อย


ยังมีสินสอดทองหมัน้ เสือ้ ผ้าเครื่องประดับอะไรอีก ลําพังแค่รา้ นค้ายังต้องเสียเงิน…นี่ไม่ใช่
เวลาเลยจริงๆ”
เฉินซื่อกล่าวทัง้ เผยยิม้ “เจ้ากังวลอะไร พวกเราสองสกุลอยู่ดว้ ยกันยังกลัวอาหย่วนจะ
แต่ ง สะใภ้เ ข้า เรื อ นไม่ ไ ด้อี ก รึ ? แม้จ ะกล่ า วว่ า อาถั ง ก็ ถึ ง อายุ ท่ี จ ะแต่ ง งานแล้ว แต่ ก็ ต ้อ ง
เรียงลําดับอาวุโสไป เรื่องของอาหย่วนมีเค้าลางมาแล้ว ย่อมต้องสนใจอาหย่วนก่อน เรื่องของ
อาถัง ถึงเวลานัน้ ค่อยพูดเถิด”
หวังซื่อรูส้ กึ ลําบากใจอย่างยิ่ง เอ่ยทันที “จะทําเช่นนัน้ ได้อย่างไร”
เฉินซื่อยากที่จะพูดอย่างเฉียบขาด “เรื่องนีก้ ็ตดั สินใจแบบนีแ้ หละ แม้ฮ่ยุ หลี่จะกลับมา
ก็ย่อมเห็นด้วยกับข้าเช่นกัน”
หวังซื่อยังอยากจะกล่าวอะไรอีก อวีถ้ ังรู ว้ ่าป้าสะใภ้ใหญ่กังวลเรื่องนาง นางจึงจงใจ
ทอดถอนหายใจกล่าวอยู่ดา้ นข้าง “นี่ขา้ ไปล่วงเกินใครมาถึงซวยอย่างนีก้ นั ? สินเดิมที่เตรียมไว้
ให้ขา้ กลับกลายเป็ นสินสอดทองหมัน้ ของท่านพี่ไปเช่นนีเ้ สียแล้ว!”
เฉินซื่อได้ฟังก็ยมิ ้ ขึน้ มา ก่นว่า “อะไร เจ้ายังกล้าออกความคิดเห็นอีกรึ?”
“ไม่ใช่เสียหน่อย” อวีถ้ งั รีบเอ่ย “ข้าเพียงมีคาํ ขอร้องอยู่นิดหน่อยเท่านัน้ …หลังจากท่าน
พี่แต่งงานแล้ว มีสะใภ้ก็อย่าลืมข้าที่เป็ นน้องสาวเชียว ต้องปฏิบตั ิกบั ข้าเหมือนเช่นเคย”
เฉินซื่อและหวังซื่อหัวเราะเสียงดัง หวังซื่อกอดนางไว้ “เจ้าวางใจ หากพี่เจ้าปฏิบตั ิต่อ
เจ้าไม่ดี ดูสิวา่ ข้าจะจัดการกับเขาอย่างไร”
อวีถ้ งั ก็หวั เราะตามขึน้ มาเช่นกัน
441

บทที่ 54 ทางเลือก
เรื่องที่หวังซื่อและเฉินซื่อกังวลไม่ได้เกิดขึน้ กลับเป็ นสกุลเว่ยที่กลัวว่าสกุลอวีจ้ ะไม่ชอบ
ใจที่คณ
ุ หนูเซียงรู ปร่างสูงเกินไป แม่ส่ือมาถ่ายทอดคําพูด หวังซื่อและเฉินซื่อจึงค่อยวางใจลง
ตั้งใจว่ารอหลังจากเทศกาลไหว้พระจันทร์ก็จะไปเจรจาเรื่องงานแต่งกับสกุลเว่ยอย่างเป็ น
ทางการ
อวีเ้ หวินกลับพูดเรื่องในใจกับอวีถ้ งั ที่หอ้ งหนังสือ “พบตัวอาเจ็ดเจ้าแล้ว คาดว่าเขาคง
จะรูว้ ่าตัวเองทําผิด เตรียมที่จะหลบหนี แต่คนผูน้ ี ้ แต่ไหนแต่ไรก็เป็ นคนเงอะงะ วิ่งหนีได้ไม่เกิน
สามลีก้ ็ถูกคนของลุงใหญ่หาตัวพบ ลุงใหญ่เจ้าไปถามด้วยตัวเอง ผูท้ ่ีให้เขาทําเรื่องนี ้ เป็ นคน
สกุลหลี่จริงๆ ส่วนเขาก็คิดว่าตัวเองกําลังช่วยเจ้าอยู”่
พูดถึงตรงนี ้ เขาก็เอ่ยต่อด้วยรอยยิม้ ขมขื่น “คนอย่างเขา เจ้าคงไม่เข้าใจเท่าใด แต่ว่า
ลุงใหญ่เจ้าพูดกับปู่ ห้าแล้ว เขาไม่อาจอยู่ในหมู่บา้ นได้อีก อย่างน้อยก็ไม่อาจรัง้ อยู่ท่ีสกุลพวก
เรา เขาเป็ นบุตรบุญธรรมของปู่ หา้ เขาออกจากสกุลอวีไ้ ป วัยชราของปู่ หา้ เจ้าย่อมไร้ท่ีพ่งึ พา แต่
ว่าปู่ ห้าเจ้าก็บอกแล้ว เดิมทีรบั อาเจ็ดมาเลีย้ งก็เพราะอยากใช้ชีวิตอย่างมีความสุขยามแก่เฒ่า
วันนีก้ ลับกลายเป็ นเช่นนี ้ ไม่อาจมีความสุขยามชราได้แล้ว ยังมาถูกอาเจ็ดเจ้าทําให้เดือดร้อน
เขาไม่ ต ้อ งการบุต รบุญ ธรรมคนนี แ้ ล้ว วัน นี ก้ ็ ไ ปหาปู่ เก้า คิ ด จะเปิ ด หอบรรพชนลบความ
เกี่ยวข้องกับลูกบุตรบุญธรรม ลุงใหญ่เจ้าคิดว่าเป็ นเช่นนีก้ ็ดี แอบให้เงินปู่ ห้ายี่สิบตําลึง สัญญา
ว่าภายหลังจะช่วยดูแลเขายามแก่เฒ่า เมื่อเป็ นเช่นนี ้ คนอื่นก็ไม่กล้ายุ่งเรื่องของเจ้าอย่างส่ง
เดชอีกแล้ว”
อวีถ้ งั คิดว่าจัดการเช่นนีก้ ็ดีมากแล้ว
นางเอ่ย “ลําบากลุงใหญ่เสียแล้ว ยามงานเลีย้ งเทศกาลไหว้พระจันทร์ตอ้ งขอบคุณเขา
ดีๆ สักหน่อยกระมัง!”
“สมควรอย่า งยิ่ง !” อวี เ้ หวิ น เอ่ย “ลุง ใหญ่ เ จ้า เที ย วไปเที ย วมาเพราะเจ้า เรื่องของ
อาหย่วน เจ้าก็ทาํ ได้ดีเช่นกัน เรื่องในเรือนควรเป็ นเช่นนีแ้ หละ พี่นอ้ งดูแลกัน”
442

อวีถ้ งั พยักหน้าระรัว
ไม่มีเกาซื่อ การใช้ชีวิตของญาติผพู้ ่ีก็คงราบรื่นแล้วกระมัง!
นางเอ่ยถึงเรื่องของศาลาว่าการ “ทางด้านอันธพาลพวกนัน้ ให้คาํ ตอบหรือยัง?”
“ให้คาํ ตอบแล้ว!” อวีเ้ หวินพูดถึงเรื่องนีก้ ็มีโทสะอยู่บา้ ง ขมวดคิว้ เอ่ย “คนพวกนัน้ แค่
เข้าประตูศาลาว่าการไป ทัง้ ยังไม่ทนั ได้ใช้ทณ ั ฑ์ทรมานก็ปริปากออกมาทันที กล่าวว่าสกุลหลี่
อยากแต่งเจ้าเข้าสกุล สกุลพวกเราไม่ตอบรับ สกุลหลี่จึงให้พวกเขาสร้างสถานการณ์ ไม่ได้
วางแผนจะทําอะไรเจ้า เพียงแค่อยากข่มขู่ให้เจ้ากลัว จากนัน้ ก็ให้คณ ุ ชายรองสกุลหลี่ หลี่จวิน้
ทําตัวเป็ นวีรบุรุษมาช่วยสาวงาม กลายเป็ นเรื่องราวหวานซึง้ ฉากหนึ่ง ยามที่ท่านข้าหลวงทัง
บอกเรื่องนีก้ บั ข้ายังแสดงเป็ นนัยว่าคดีเช่นนีเ้ ขาก็ไม่ง่ายที่จะตัดสินโทษสถานหนัก ทางสกุลหลี่
อย่างมากที่สุดก็ ปรับเงินจํานวนหนึ่งชดใช้ให้สกุลพวกเรา เรื่องนี เ้ ผยแพร่ออกไปยังอาจจะ
ทําลายชื่อเสียงของเจ้า เขานัน้ หว่านล้อมข้าและสกุลหลี่อย่างลับๆ”
อวีถ้ งั รีบเอ่ยว่า “เช่นนัน้ หลี่จวิน้ ไม่รูเ้ รื่องมาก่อนหรือเจ้าคะ?”
อวีเ้ หวินกล่าว “ฟั งจากท่านข้าหลวงทัง หลี่จวิน้ นัน้ ไม่รูม้ าก่อน” พูดถึงตรงนี ้ นํา้ เสียง
เขาก็ชะงักไปเล็กน้อย “ท่านข้าหลวงทังแนะนําให้ขา้ ยอมรับงานแต่งครัง้ นี… ้ ”
“นั่นเป็ นไปไม่ได้!” อวีถ้ งั กลัวบิดาจะเปลี่ยนความคิด ลนลานขึน้ มาทันที “แม้ว่าข้าต้อง
ครองตัวไปชั่วชีวิต ก็ไม่อาจจะแต่งเข้าสกุลหลี่ของพวกเขา!”
“ข้ารู ้ ข้ารู ”้ อวีเ้ หวินรีบยืนยันกับลูกสาว “ข้าไม่อาจกําหนดงานแต่งของเจ้าโดยที่ไม่
บอกเจ้าก่อนได้หรอก ข้ากลัวว่าพวกเราและสกุลหลี่เผชิญหน้าเช่นนีต้ ่อไป คนที่เสียเปรียบจะมี
เพียงพวกเรา ต้องคิดวิธีจบเรื่องนีจ้ งึ จะถูก”
อวีถ้ งั ยิม้ เย็น นางตัดสินใจจะให้หลี่จวิน้ รูเ้ รื่องนีใ้ ห้เร็วที่สดุ
443

หากหลี่จวิน้ เลือกร่วมมือกระทําความชั่วด้วยกัน นางจะหาวิธีให้สกุลหลี่ยงั้ มือ หากหลี่


จวิน้ เลือกสาบานไม่อยู่รว่ มกับอีกฝ่ าย นางก็จะใช้อีกวิธีหนึ่งจัดการกับสกุลหลี่ และหากหลี่จวิน้
เลือกที่จะอยู่คนเดียว ไม่สนใจผูอ้ ่นื วิธีของนางก็จะเปลี่ยนไปเช่นกัน
แต่นางคิดว่าแทบไม่มีความเป็ นไปได้ท่ีหลี่จวิน้ จะเลือกสาบานไม่อยู่รว่ มกับอีกฝ่ าย
ทัง้ ไม่วา่ จะอย่างไร นางล้วนตัดสินใจให้สกุลหลี่จ่ายค่าตอบแทนของเรื่องนีอ้ อกมา
อวีถ้ งั ลอบวางแผนอยู่ในใจ ให้อาเสาส่งจดหมายไปให้หลี่จวิน้ เล่าเรื่องของอาเจ็ดและ
อัน ธพาลพวกนั้น ให้เ ขาฟั ง ทั้ง ยัง ฝากไปบอกเขาว่ า “หากเจ้า ไม่ เ ชื่ อ สามารถไปถามท่า น
ข้าหลวงทังได้”
หลี่จวิน้ ไม่ได้ตอบกลับ
อวีถ้ งั ไม่รบี ร้อน
พรุ ่งนีก้ ็เป็ นเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว ไม่ว่าจะอย่างไรนางก็ตอ้ งให้คนอื่นเขาฉลอง
เทศกาลอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากระมัง?
แม้ว่าจะเป็ นอย่างนัน้ ในใจของนางยังคงหม่นหมอง ดีท่ีเฉินซื่อและหวังซื่อต่างก็จม
ปลักอยู่กับเรื่องงานแต่งของอวีห้ ย่วน จึงไม่ได้สงั เกตถึงความผิดปกติของนาง ทุกคนพากัน
ฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์อย่างคึกคักรื่นเริง
รอจนเทศกาลไหว้พระจันทร์ผ่านไป หวัง ซื่อที่อยากแสดงว่าตนให้ความสําคัญต่อ
คุณหนูเซียง ก็เสียเงินมากมายในการเชิญแม่ส่ือ ด้านเฉินซื่อก็ตรวจดูทรัพย์สินอยู่ในเรือน ดูว่า
มีอนั ไหนพอใช้ได้บา้ ง อวีถ้ งั กลับถูกหม่าซิ่วเหนียงเชิญไปเป็ นแขกที่เรือน
หม่าซิ่วเหนียงจะออกเรือนก่อนเทศกาลฉงหยาง มีของมากมายที่ตอ้ งตระเตรียม อยาก
ให้อวีถ้ งั ช่วยนางดู
อวีถ้ งั โยนเรื่องของตัวเองทิง้ ไว้อีกด้าน ตัง้ ใจช่วยหม่าซิ่วเหนียงจัดเตรียมข้าวของ
444

หลี่จวิน้ ส่งคนมาหาที่เรือนหม่าซิ่วเหนียง กล่าวว่าอยากพบนางสักหน่อย


อวีถ้ งั คาดว่าเขาคงจะมีความเคลื่อนไหวแล้วเช่นกัน แต่นางต้องการดูท่าทีของหลี่จวิน้
ที่มีตอ่ เรื่องนี ้ จึงเอ่ยกับคนที่มา “คุณชายหลี่มีเรื่องอะไร ให้คนมาส่งจดหมายก็เพียงพอแล้ว พบ
หน้ากันคงไม่จาํ เป็ น ข้ากลัวว่าข้าจะตกหลุมพรางอะไรอีก”
ผูท้ ่ีมาอายุประมาณสิบห้าสิบหก ชาติก่อนอวีถ้ งั เคยพบเขามาก่อน เป็ นผูด้ แู ลบัญชีท่ี
นาคนหนึ่งของสกุลหลี่ นางเคยได้ยินคนของสกุลหลี่กล่าวว่า เขาเป็ นบ่าวรับใช้ขา้ งกายหลี่จวิน้
มาก่อน หลังจากหลี่จวิน้ ตาย สกุลหลี่เห็นแก่เขาที่เคยรับใช้หลี่จวิน้ จึงให้ค่าตอบแทนเขาอย่าง
งาม
อวีถ้ งั ลืมไปนานแล้วว่าคนผูน้ ีช้ ่ืออะไร
มองเห็นคนผูน้ ี ้ อวีถ้ งั จึงนึกขึน้ มาได้ หลี่จวิน้ นัน้ ตกม้าวันที่สองเดือนสิบ
ชาติก่อนกับชาตินีม้ ีความแตกต่างเป็ นอย่างมาก ไม่รูว้ า่ ภายหลังหลี่จวิน้ จะมีชะตาเป็ น
อย่างไร?
บ่าวรับใช้ของหลี่จวิน้ ได้ยินก็มีท่าทีลาํ บากใจไม่นอ้ ย คํานับนางอย่างเร่งรีบ ก่อนจะวิ่ง
ออกไป
หม่าซิ่วเหนียงไม่รูเ้ รื่องราวภายใน มองแล้วก็ถอนหายใจ “เจ้าว่าเจ้าไม่ชอบคุณชายรอง
สกุลหลี่เลยรึ เขาปฏิบตั ิตอ่ เจ้าดีไม่นอ้ ย!”
อวีถ้ งั เผยยิม้ เปลี่ยนไปคุยประเด็นอื่น

ระหว่างทางกลับเรือน นางก็พบหลี่จวิน้
หลี่จวิน้ รอนางอยู่ท่ีทางเข้าตรอกชิงจู๋
445

เห็นเกีย้ วของนาง เขาก็รบี วิ่งเข้ามา “คุณหนูอวี ้ ข้ารูว้ า่ สกุลข้าทําผิดต่อเจ้า เจ้าไม่อยาก


พบข้าก็สมควรแล้ว เช่นนัน้ ข้าจึงมาพบเจ้าแทน”
อวีถ้ งั เลิกม่านเกีย้ ว “ข้าว่าคงไม่จาํ เป็ น ก่อนหน้านีข้ า้ และคุณชายก็ได้พดู อย่างชัดเจน
แล้ว”
“จําเป็ น!” หลี่จวิน้ เอ่ย ขอบตาแดงไปหมด
เวลานีอ้ วีถ้ งั จึงพบว่าหลี่จวิน้ สวมชุดต้าวผาวเนือ้ หยาบสีครามที่ยบั ยู่ย่ี ใส่ผา้ คาดเก็บ
ผมอย่างลวกๆ มีสิวขึน้ ที่หน้าผาก มุมปากมีคราบติดอยู่ ทั่วร่างไม่เพียงสกปรกซูบเซียวอย่าง
เห็นได้ชดั แต่ยงั ดูจิตใจล่องลอย คล้ายมะเขือม่วงที่ถกู ความหนาวเย็นจู่โจม ดูออ่ นล้าเหลือทน
อวีถ้ งั วูบไหวในใจ คิดว่าอย่างน้อยหลี่จวิน้ ก็หลงเหลือความดีอยู่บา้ ง ไม่เหมือนฮูหยินห
ลี่ผูเ้ ป็ นมารดาและหลี่ตวนพี่ชายที่ทาํ เรื่องเกินขอบเขตไปไกล ขอเพียงแค่ตัวเองมีความสุขก็
เพียงพอแล้ว
นางครุน่ คิดเล็กน้อย ก่อนจะลงจากเกีย้ ว
ท่าทีของหลี่จวิน้ ผ่อนคลายลง ค้อมกายตํ่าให้อวีถ้ งั กล่าวอย่างจริงใจ “ข้าต้องขอโทษ
เจ้าแทนคนในสกุลข้า เดิมทีขา้ ก็ไม่รูเ้ รื่องนี ้ แต่ไม่วา่ จะอย่างไร เรื่องก็เกิดขึน้ เพราะข้า ข้าควรมา
ขอโทษเจ้าด้วยตัวเอง ข้ารับประกันกับเจ้า ภายหลังจะไม่เกิดเรื่องเช่นนีข้ นึ ้ อีก”
เขาพูดจบ สีหน้าก็ย่งิ หม่นหมอง แผ่นหลังนัน้ ราวกับจะยืดตรงขึน้ มาไม่ได้แล้ว
อวีถ้ งั ไม่ได้เกลียดชังอะไรหลี่จวิน้ แต่ทนกับฮูหยินหลี่กบั หลี่ตวนที่สร้างบาปกรรมไม่ได้
ก็เหมือนกับสกุลอวีพ้ วกเขา ‘คนธรรมดาย่อมไร้ความผิด แต่จะผิดเมื่อครอบครองหยก’
แม้จะกล่าวว่าสกุลพวกเขาได้รบั ภาพนัน้ มาโดยไม่ตงั้ ใจ แต่สกุลพวกเขาก็ทาํ ได้เพียงหาวิธีปลีก
ตัวออกจากเรื่องนีเ้ ช่นกัน
หลี่จวิน้ ไม่ผิด หากจะโทษ ก็ทาํ ได้เพียงโทษเขาที่ถกู คนในครอบครัวทําให้ติดร่างแหไป
ด้วย
446

อวีถ้ งั เอ่ยกับเขาอย่างจริงใจ “ข้าและคุณชายหลี่ไม่มีความขุ่นข้องหมองใจอันใดต่อกัน


สามารถรู จ้ กั กันได้นบั เป็ นความบังเอิญของโชคชะตา เพียงแต่สกุลของพวกเจ้าทําเรื่องเกินไป
หน่อย ข้าไม่อยากข้องเกี่ยวอะไรกับเจ้าและสกุลพวกเจ้าแล้วจริงๆ อย่างไรหลังจากคุณชาย
กลับไปก็ขอให้บอกพ่อแม่เจ้าให้ชดั เจน ภายหลังอย่าได้สร้างปั ญหาให้สกุลอวีข้ องพวกเราอีก
คนธรรมดาอย่างพวกเรา ไม่อาจรับมือกับสกุลพวกเจ้าได้อยู่แล้ว”
ตัง้ แต่หลี่จวิน้ รูว้ ่าเรื่องลักพาตัวอวีถ้ งั เป็ นฝี มือของครอบครัวตัวเอง เขาก็รูแ้ ล้วว่าชีวิตนี ้
คงจะไร้วาสนาต่ออวีถ้ งั แล้ว เขาไปหาฮูหยินหลี่ผเู้ ป็ นมารดา ฮูหยินหลี่ตอบอย่างตรงไปตรงมา
ยังพูดอย่างฉะฉานว่านี่เป็ นเพราะกําลังช่วยเขาอยู่ เวลานัน้ เขาถึงกับนิ่งอึง้ ไป เจ็บปวดจนไม่รู ้
ว่าจะพูดอะไรดี
เทศกาลไหว้พระจันทร์ลว้ นผ่านไปอย่างสับสนมึนนงงเช่นนี ้
ลําพังแค่พ่ีชายเขายังโน้มน้าว กล่าวว่าเพราะหวังดีต่อเขา ให้เขาอย่าได้คิดมาก รอ
เพียงแต่งคุณหนูอวีเ้ ข้าสกุลก็เพียงพอแล้ว
ชั่วพริบตา เขาก็สมั ผัสถึงความโมโหของอวีถ้ งั ขึน้ มาได้เช่นกัน…เห็นได้ชดั ว่านางเป็ น
ผูเ้ คราะห์รา้ ย คนอื่นกลับไม่เห็นเป็ นเรื่องอันใด ไม่คิดว่าเรื่องนีเ้ ป็ นเรื่องที่ผิด
เวลานัน้ เขาร้อนใจเป็ นอย่างมาก แทบจะทนอยู่ในเรือนต่อไปไม่ไหว
แม้ว่าเขาไม่อาจให้ความกระจ่างแจ้งกับอวีถ้ งั ได้ แต่อย่างไรก็ควรไปขอโทษกับอวีถ้ ัง
เสียหน่อยไม่ใช่ร?ึ
หลี่จวิน้ ไม่ได้คิดมาก อาศัยยามที่เลือดร้อนพลุง่ พล่านมาหาอวีถ้ งั
อวีถ้ งั ไม่เหมารวมเขา ยอมรับความจริงอย่างมีเมตตา นี่ย่ิงทําให้ใจเขายากจะรับไว้
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสามารถมีความสัมพันธ์ท่ีดีต่อกันในภายหลังได้ กลับกลายเป็ น
ความผิดพลาด เปลี่ยนไปดั่งเช่นตอนนีเ้ สียแล้ว
หลี่จวิน้ เผยสีหน้าละอายใจ ยังคงเอ่ยว่า ‘ขอโทษ’ อย่างสุภาพ
447

อวีถ้ งั สั่นศีรษะ “ข้าไม่อาจให้อภัยสกุลของพวกเจ้า ภายหลังพวกเราก็ทาํ เป็ นไม่รูจ้ กั กัน


คุณชายหลี่รีบกลับเรือนเสียเถิด มารดาของเจ้าจะได้ไม่วางแผนอะไรออกมาอีก ครัง้ นีข้ า้ โชคดี
มีนายท่านสามยื่นมือช่วยเหลือ หากยังมีครัง้ ต่อไป ข้าก็ไม่กล้ารับประกันว่าข้าจะยังโชคดีเช่นนี ้
หรือไม่”
หลี่จวิน้ เดินก้มหน้าจากไปอย่างโศกเศร้า
อวีถ้ งั ทอดมองแผ่นหลังเขา รูส้ กึ สงสารอยู่บา้ ง
สกุลหลี่อาจมีเพียงหลี่จวิน้ ที่ยงั จิตใจดีเท่านัน้
นางหมุนกายเตรียมจะขึน้ เกีย้ ว ใครจะรูว้ ่าพอหันกลับไปจะพบกับเว่ยเสี่ยวชวนที่อยู่ใต้
ต้นไม้ปากทางเข้าตรอก
“เสี่ยวชวน!” อวีถ้ งั เดินเข้าไปอย่างประหลาดใจ “เจ้ามาตัง้ แต่เมื่อใด? ไฉนไม่เข้าไปนั่ง
ในเรือน?” ก่อนจะเห็นในมือเขาถือตะกร้าใส่ตาํ ราเรียน “วันหยุดของเทศกาลสิน้ สุดแล้ว เจ้าจึง
มาเรียนอย่างนัน้ รึ?”
เว่ยเสี่ยวชวนขานรับ ‘อืม’ ก่อนกล่าว “ข้าได้ยินว่าลูกพี่ลกู น้องของข้ากําลังจะคุยเรื่อง
แต่งงานกับญาติผพู้ ่ีของเจ้า?”
“ใช่แล้ว” อวีถ้ งั ไม่เห็นรอยยิม้ บนใบหน้าของเขา อดเอ่ยขึน้ มาอย่างระวังไม่ได้ “เจ้าไม่
พอใจรึ?”
“ไม่ใช่!” เว่ยเสี่ยวชวนเอ่ย “ลูกพี่ลกู น้องของข้านิสยั ดี สกุลพวกเจ้าก็ดีไม่นอ้ ย นางแต่ง
เข้าสกุลพวกเจ้าย่อมไม่ถกู ครอบครัวพวกเจ้ารังเกียจ”
อวีถ้ งั ชะงักไป
เว่ยเสี่ยวชวนเอ่ย “สกุลหลี่มีท่ีนาเล็กๆ แห่งหนึ่งไม่ไกลจากที่นาของตาข้ามาก ช่วง
เทศกาลไหว้พระจันทร์ ข้าไปส่งของขวัญให้ทางสกุลของท่านตา ข้าสืบเรื่องสกุลหลี่จากญาติผู้
พี่มา เขากล่าวว่า ที่นาเล็กๆ แห่งนัน้ ของสกุลหลี่ คนที่ถกู จ้างล้วนเป็ นผูล้ ีภ้ ยั หนีมาจากที่อ่ืน แต่
448

ละคนน่ากลัวดุรา้ ย เรือนข้างๆ ล้วนไม่กล้ายุ่งย่าม เขายังพูดว่า เมื่อก่อนยามที่สกุลหลี่แย่งคัน


นากับคนอื่น คนพวกนัน้ ก็ว่งิ เข้าไป…”
449

บทที่ 55 แหวกหญ้า
อวีถ้ งั ได้ฟัง ใจก็เต้นดั่งรัวกลอง “เจ้าต้องการจะพูดอะไร?”
เว่ยเสี่ยวชวนเอ่ย “สกุลพวกเขารับคนลีภ้ ยั อยู่ในความดูแล พวกเราสามารถร้องเรียน
พวกเขาได้หรือไม่?”
ราชสํานักมีขอ้ บังคับ ไม่อนุญาตให้รบั ผูล้ ีภ้ ยั อย่างส่งเดช
เพราะคนลีภ้ ยั พวกนีไ้ ม่มีทะเบียนบ้าน ไม่มีท่ีดิน เพื่อปากท้องของตัวเอง สามารถยอม
เสี่ยงตาจน ก่อเรื่องทําร้ายผูค้ นได้ง่าย เมื่อพบเรื่องเช่นนีบ้ ่อยๆ หากศาลาว่าการไม่ออกหน้า
ส่งกลับภูมิลาํ เนาเดิม ก็จดเข้าอยู่ในทะเบียนของท้องที่ ให้รางวัลพวกเขาได้ลงหลักปั กฐาน
เริม่ ต้นชีวิตใหม่
หากสิ่งที่เว่ยเสี่ยวชวนพูดเป็ นความจริง สกุลหลี่รบั คนลีภ้ ยั เช่นนีก้ ็นบั ว่าไม่สมควรอยู่
บ้าง
ชาติก่อน นางคล้ายได้ยินว่าสกุลหลี่มีท่ีนาอย่างนีเ้ ช่นกัน แต่เวลานัน้ นางไม่ได้สนใจ
ทัง้ เหตุผลที่นางจําที่นาแห่งนีไ้ ด้ เป็ นเพราะว่าภายหลังสกุลหลี่รูส้ ึกว่าคนลีภ้ ยั พวกนัน้ ควบคุม
ยาก จึงไล่คนลีภ้ ัยพวกนั้นออกไป มีคนไม่ยินยอม ก่อเรื่องฆ่าคนตาย สกุลหลี่แจ้งทางการ
ภายหลังศาลาว่าการออกหน้าจึงค่อยจัดการให้เรื่องนีส้ งบลงได้
เพราะเรื่องนีฮ้ หู ยินหลี่จึงอารมณ์เสียอยู่หลายวัน ทัง้ ยังมักระบายโทสะในเรือน กล่าว
ว่าเป็ นคนไม่อาจจะเมตตากรุณาเกินไป สกุลหลี่ทาํ เรื่องดีกลับกลายเป็ นเรื่องร้าย ภายหลังย่อม
ไม่อาจจะรับคนลีภ้ ยั พวกนัน้ อีก
เวลานัน้ นางก็คิดว่าคนลีภ้ ยั พวกนัน้ ไม่รูจ้ กั บุญคุณ…แต่มาดูวนั นี ้ เกรงว่าเรื่องราวจะไม่
เหมือนชาติก่อนที่นางเข้าใจเช่นนัน้ แล้ว
ไม่แน่วา่ เว่ยเสี่ยวชวนอาจจับพลัดจับพลู ค้นพบเบาะแสสําคัญเข้าอย่างไม่ตงั้ ใจก็ได้
450

อวีถ้ งั เอ่ย “หลังจากกลับมาจากสกุลพวกเจ้า ข้าครุน่ คิดอยู่นาน คิดว่าหากสกุลหลี่ทาํ


เรื่องเลวร้าย พวกเขาไปหาคนมาจากไหนกัน? อย่างไรก็เป็ นชีวิตคนๆ หนึ่ง หาหลักฐานไปแจ้ง
ทางการได้ สกุลพวกเขาก็ตอ้ งโทษแล้ว หากไม่อยากมีปัญหาในอนาคต อาจจะให้ผูด้ ูแลคน
สนิทในสกุลเป็ นผูล้ งมือ ไม่อย่างนั้นก็จา้ งคนภายนอก ผูด้ ูแลของสกุลหลี่ ข้าได้ไปสืบความ
มาแล้ว ล้วนอยู่อย่างปกติในเมือง เย็นวันนัน้ ก็ไม่มีใครว่าจ้างอะไรอยูข่ า้ งนอก ผูท้ ่ีกล้าทําเรื่องนี ้
หากเป็ นข้ารับใช้ผมู้ ีอิทธิพล ข้าก็ไปสืบมาแล้วเช่นกัน ข้ารับใช้ผมู้ ีอิทธิพลที่มีช่ือเสียงในหลินอัน
นัน้ หลายวันมานีล้ ว้ นแล้วแต่อยู่ในเมืองหลินอัน ไม่มีใครหลบหนี…”
เว่ยเสี่ยวชวนได้ยินพลันตากระจ่างขึน้ มา “ดังนัน้ ฆาตกรที่ทาํ ร้ายพี่รองข้า เป็ นไปได้ว่า
ก็คือคนลีภ้ ยั ในที่นาพวกนัน้ ?”
อวีถ้ งั ขานรับเสียงเบา
เว่ยเสี่ยวชวนรีบเอ่ย “เช่นนัน้ ข้าจะลาหยุด พรุง่ นีจ้ ะไปดูท่ีนาแห่งนัน้ สักหน่อย”
“ไม่ได้!” อวีถ้ งั เอ่ยทันที “หากเจ้าถูกคนสงสัย อาศัยแค่คนผอมแห้งอย่างเจ้า เกรงว่าวิ่ง
หนียงั จะไม่ไหว ยามนีพ้ วกเราไม่อาจทําเรื่องโดยใช้อารมณ์ได้”
“ก็ได้!” เว่ยเสี่ยวชวนเอ่ยอย่างท้อใจ “ข้าได้ยินญาติผพู้ ่ีกล่าวว่า คนในที่นานัน้ ล้วนอยู่ดี
กินดี ไม่ได้ถือเสียมถือจอบทําไร่ทาํ นาแต่อย่างใด เรื่องนีย้ ่อมมีอะไรแฝงอยู่ เจ้าก็ตอ้ งระวัง อย่า
ถูกคนจับได้ฆา่ ปิ ดปากเชียว เจ้าไม่ได้กล่าวหรือว่า พวกเราไม่อาจทําเรื่องโดยใช้อารมณ์ได้?”
สกุลหลี่จา้ งพวกอันธพาลมาฉุดนาง ทําลายชื่อเสียงนาง มีอะไรแตกต่างจากฆ่าคนปิ ด
ปากอย่างนัน้ รึ?
อวีถ้ งั เอ่ย “เจ้าไม่ตอ้ งกังวล ข้าไม่ไปเองหรอก ข้าจะให้คนช่วย”
เว่ยเสี่ยวชวนใคร่ครวญดูก็คิดว่าเช่นนีด้ ีแล้ว เขาเอ่ยว่า “เช่นนัน้ ข้าขอตัวก่อน เข้าเรียน
วันแรก พวกอาจารย์จะขานชื่อ ข้าไม่อาจไปสาย หากเจ้ามีข่าวคราวอะไร ก็อย่าลืมให้คนไปส่ง
จดหมายให้ขา้ ล่ะ”
451

อวีถ้ งั ย่อมไม่อาจรัง้ เขา รีบเอ่ยว่า “เจ้านั่งเกีย้ วข้าไปเถิด! ข้าจ่ายเงินเอง”


เว่ยเสี่ยวชวนปฏิเสธ “ข้าไปทางถนนเล็กๆ ใช้เวลาไม่นาน เจ้าไม่ตอ้ งสนใจข้าหรอก
เสียดายที่คนในที่นาสกุลพวกเราไม่เห็นหน้าของสองคนนัน้ ชัดเจน ไม่อย่างนัน้ ข้าคงจะสามารถ
พาคนไปยืนยันได้แล้ว”
อวีถ้ งั ถอนหายใจ “ยังดีท่ีคนในที่นาพวกเจ้าไม่เห็นหน้าของสองคนนัน้ ชัดเจน หากทํา
อย่างเจ้า พาคนไปตรงๆ เช่นนี ้ แม้ว่าจะยืนยันได้ พวกเขาก็ย่อมมีวิธีโยนความผิดไปให้คนอื่น
เรื่องนีไ้ ม่อาจทําอย่างส่งเดช ต้องใช้ไหวพริบ เจ้ารีบไปเข้าเรียนเถิด เรื่องนีข้ า้ จะจัดการอย่าง
เหมาะสมเอง”
เว่ยเสี่ยวชวนเพียงอยากบ่นสักหน่อยเท่านัน้ ฟั งจบก็กม้ หน้าเดินจากไป
อวีถ้ ังกลับมาถึงเรือน ตลอดทัง้ คืนก็เอาแต่คิดถึงเรื่องนี ้ รอจนยามที่ฟ้าใกล้สว่าง ใน
ที่สดุ นางก็ตดั สินใจไปหาอวีเ้ หวิน
อวีเ้ หวินและเฉินซื่อกําลังตรวจดูสิ่งของในเรือน คัดแยกออกมา เตรียมส่งไปให้อวีป้ ๋ อ
ตัง้ ใจจะจัดการงานแต่งของอวีห้ ย่วนให้เสร็จสมบูรณ์เป็ นอันดับแรก
อวีถ้ งั และบิดามารดาพูดคุยกันไม่ก่ีคาํ ก่อนจะขยิบตาเป็ นนัยให้บิดา
อวีเ้ หวินเข้าใจ เอ่ยกับเฉินซื่อ “ข้าเพิ่งนึกได้ปีก่อนมีสหายมาจากเหมยโจว มอบผ้าไหม
สูจ่ิน 1ให้พวกเราผืนหนึ่ง เจ้าค้นมันออกมาแล้วส่งไปให้พ่ีใหญ่ดว้ ยเถิด!”
99

ผ้าผืนนัน้ แข็งเกินไป ทําเป็ นเสือ้ สวมก็คงจะไม่สบายตัว ทว่าขอบเสือ้ กลับงดงามไม่


น้อย เดิมทีเฉินซื่อเตรียมจะเก็บไว้ให้อวีถ้ งั เวลานีไ้ ด้ยินอวีเ้ หวินพูด นางจึงอดลังเลไปครู ่หนึ่ง
ไม่ได้ คิดว่าแม้ผา้ ไหมสูจ่ินจะหายาก แต่ก็ใช่ว่าจะหาซือ้ ไม่ได้ เพียงแค่ราคาสูงไปหน่อยเท่านัน้

1
ผ้าไหมสูจ่ิน ผ้าไหมขึน้ ชื่อของเสฉวน สีสนั หลากหลาย มีความประณีตชดช้อย
452

อย่างไรลวดลายขอบเสือ้ น่าจะเยอะไปอยู่บา้ ง ให้อวีห้ ย่วนก็ให้อวีห้ ย่วน นางตอบรับ ก่อนจะไป


ยังห้องเก็บของ
อวีเ้ หวินให้งานเฉินซื่อทําแล้ว เวลานีจ้ งึ ค่อยวางใจ ไปห้องหนังสือกับอวีถ้ งั
อวีถ้ งั ยังคงไม่รูว้ า่ ผ้าไหมสูจ่นิ ที่เดิมทีควรเป็ นของนางกลับหายไปเช่นนีแ้ ล้ว
นางเอ่ยกับอวีเ้ หวิน “เมื่อวานยามที่กลับมาข้าพบกับคุณชายห้าสกุลเว่ย เขาบอกข้าว่า
ยามที่เขาไปส่งของขวัญให้ตาในเทศกาลไหว้พระจันทร์ก็พบว่า ห่างจากที่นาของตาเขาไม่ไกลมี
ที่นาของสกุลหลี่อยู่แห่งหนึ่ง รับคนลีภ้ ยั ไว้ไม่นอ้ ย…”
“มีเรื่องเช่นนีด้ ว้ ยรึ!” อวีเ้ หวินตกใจ เอ่ยอย่างมีโทสะ “หากคนลีภ้ ยั พวกนัน้ ก่อจลาจล
ขึน้ มา เมืองหลินอันย่อมมิพน้ มีคนตาย หรือสกุลหลี่จะไม่รูเ้ รื่องนีเ้ ชียว? ไม่ได้ เรื่องนีข้ า้ ต้องบอก
ให้ท่านข้าหลวงทังทราบ”
อวีถ้ งั ดึงบิดาไว้ “ท่านพ่อ ท่านไม่อาจไปหาท่านข้าหลวงทังแบบนีไ้ ด้”
อวีเ้ หวินไม่เข้าใจ
อวีถ้ งั เอ่ย “ท่านลองคิดดู สกุลหลี่นนั้ นับว่าเป็ นสกุลขุนนาง อันตรายของพวกลีภ้ ยั คน
อื่นอาจไม่รู ้ แต่สกุลพวกเขาจะไม่รูไ้ ด้อย่างนัน้ รึ? พวกเขาจ้างอันธพาลมาฉุดข้าได้ ก็สามารถส่ง
คนลีภ้ ัยพวกนัน้ มาก่อความวุ่นวายในเรือนได้เช่นกัน ความหมายของข้าคือ ท่านมิสปู้ รึกษา
เรื่องนีก้ บั ท่านข้าหลวงทังก่อน ให้เขาอาศัยชื่อของทางการตรวจสอบ กล่าวไปว่ามีคนรายงาน
ว่ามีการรับพวกญี่ปนมาอยู ุ่ ่ในที่นา หากสกุลหลี่ทาํ เรื่องดีรบั คนพวกนัน้ ไว้ก็แล้วไป หากผิดปกติ
ท่านข้าหลวงทังย่อมรูว้ า่ ควรจะจัดการอย่างไร”
อวีเ้ หวินตรึกตรอง รูส้ กึ ว่าความคิดนีด้ ีกว่าการที่ตวั เองเข้าไปหาข้าหลวงทังตรงๆ
พืน้ ที่ในการดูแลของตัวเองมีคนรับพวกลีภ้ ยั ไว้ เขากลับไม่รู ้ หากไม่เกิดเรื่องอะไรก็แล้ว
ไป แต่เมื่อเกิดปั ญหา ผลงานตลอดสามปี ของเขาที่ส่งั สมมาก็นบั ว่าเป็ นอันจบ ไม่ถกู ถอดยศก็
คงจะกระทบกับการเลื่อนตําแหน่ง ยิ่งไปกว่านัน้ สกุลอวีแ้ ละสกุลหลี่เป็ นดั่งนํา้ กับไฟที่อยู่รว่ มกัน
453

ไม่ได้แล้ว แม้ว่าสกุลหลี่จะรู ว้ ่าเขาเป็ นคนรายงานแล้วอย่างไร? หรือเขาไม่รายงานสกุลหลี่


สกุลหลี่ก็จะปล่อยสกุลอวีไ้ ปอย่างนัน้ รึ?
อวีเ้ หวินเอ่ย “ข้ารู ว้ ่าควรพูดอย่างไรแล้ว เจ้าไปอยู่เป็ นเพื่อนแม่เจ้าเถิด! ตอนนีอ้ ากาศ
เย็นลงเรื่อยๆ ข้าได้ยินว่าอีกไม่ก่ีวนั หมอหลวงหยางจะมาตรวจสุขภาพให้นายหญิงใหญ่สกุล
เผย อยากจะเชิญเขาเข้ามาดูแม่เจ้าเสียหน่อย เจ้าจับตาดูแม่เจ้าไว้ อย่าให้นางจับไข้เชียว…
หากจับไข้ ก็ตอ้ งรอให้หายป่ วยก่อนจึงจะจัดยาบํารุ งได้ ไม่แน่ว่าหมอหลวงหยางจะรออยู่ถึง
เวลานัน้ เสียทีเดียว”
ตัง้ แต่กินยาของหยางโต่วซิง เฉินซื่อก็ไม่ป่วยอีกเรื่อยมา ความเชื่อมั่นของอวีเ้ หวินที่มีห
ยางโต่วซิงจึงเพิ่มมากขึน้ คิดว่าขอเพียงสามารถเชิญหยางโต่วซิงมาทําการรักษา ร่างกายของ
เฉินซื่อก็จะไม่เจ็บป่ วยอะไรแล้ว
อวีถ้ งั รับปากอย่างดี
ก่อนอวีเ้ หวินจะเดินทางไปศาลาว่าการ
อวีถ้ งั จึงจัดเตรียมของที่จะส่งไปให้ลงุ ใหญ่เป็ นเพื่อนเฉินซื่อ รอจนอวีเ้ หวินกลับมาก็ไป
เรือนลุงใหญ่ดว้ ยกัน
ระหว่างทางอวีถ้ งั ถามบิดา “ท่านข้าหลวงทังว่าอย่างไร?”
อวีเ้ หวินเอ่ย “ท่านข้าหลวงทังคิดว่าสกุลพวกเราจะแก้แค้นสกุลหลี่ แม้จะรับปากไป
ตรวจสอบ แต่ขา้ เห็นว่าไม่กระตือรือร้นเท่าใด เวลานัน้ ข้าจึงคิดขึน้ มาอย่างว่องไว ยามที่จะจาก
มากล่าวว่าจะไปเชิญหมอหลวงหยางที่สกุลเผยมาตรวจดูอาการป่ วยเสียหน่อย ท่าทีเขาก็
เปลี่ยนไปทันที” พูดมาถึงตรงนี ้ เขาก็ถอนหายใจ “ติดหนีบ้ ญ ุ คุณสกุลเผยอีกแล้ว ก็ไม่รูว้ ่ายาม
ใดจะสามารถคืนได้หมด”
ประเด็นอยู่ท่ีวา่ ยังคงไม่รูจ้ ะคืนอย่างไร
อวีถ้ งั คิดว่าไม่ออกว่าเผยเยี่ยนยังขาดแคลนอะไร
454

โดยเฉพาะเผยเยี่ยนที่คิดว่านางมีใจคิดไม่ซ่อื อยู่เรื่อยมา ทําเรื่องอะไรล้วนมีจดุ ประสงค์


แอบแฝง มองนางขัดหูขดั ตาเป็ นอย่างยิ่ง
นึกมาถึงตรงนี ้ อวีถ้ งั จึงถอนหายใจอย่างหงุดหงิดอยู่บา้ ง
ช่างเถิด บุญคุณอันใหญ่หลวงของสกุลเผย นางทําได้เพียงค่อยคืนในชาติหน้าเท่านัน้
หากนางยังสามารถเกิดในชาติหน้าได้ละก็?
ระหว่างที่พูดกันไม่ก่ีประโยค พวกเขาก็มาถึงเรือนของอวีป้ ๋ อ เรื่องนีจ้ ึงหยุดชะงักไป
เช่นนี ้
อวีถ้ งั สั่งให้อาเสามอบเงินจํานวนหนึ่งให้อาลิ่วที่ขายสาลี่อยู่ตรงธารเสี่ยวเหมย ให้เขา
จับตาดูสกุลหลี่
ไม่ก่ีวนั ต่อมา ทั่วเมืองหลินอันก็มีคนเล่าลือกันว่า สกุลหลี่ปรารถนาดีรบั พวกลีภ้ ัยไว้
จํานวนมาก เมื่อข้าหลวงทังทราบ จึงส่งคนไปตรวจสอบถึงหน้าประตูวา่ คนลีภ้ ยั พวกนัน้ เคยทํา
เรื่องผิดกฎหมายหรือไม่ ใครจะรู ว้ ่าคนลีภ้ ยั พวกนัน้ จะร้อนตัว ยามที่คนของศาลาว่าการเข้าไป
สอบสวน ก็ได้เกิดการปะทะกับคนลีภ้ ยั พวกนัน้ ทําให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตไปสองคน
สกุลหลี่หน้าถอดสี เสียใจอย่างยิ่งที่ปรารถนาดีรบั คนพวกนัน้ ไว้ คุณชายใหญ่สกุลหลี่
ออกหน้าด้วยตัวเองจัดการกับเรื่องนี ้ ไม่เพียงปลอบใจครอบครัวชาวไร่ชาวนาที่อยู่รอบๆ ยัง
ควักเงินออกมาจัดงานศพอย่างยิ่งใหญ่ ให้สองเจ้าหน้าที่ จ่ายเงินค่าทําขวัญกองโตให้เสร็จ
สรรพ
อวีถ้ งั ยิม้ เยาะ
นางไม่เชื่อว่าแผนล่อเสือออกจากถํา้ นีข้ องนางจะล้มเหลว
เพียงแต่เมื่อสองคนนัน้ ปรากฏตัว นางจะนําคนมาไว้ในมืออย่างไรดี
อวีถ้ งั ครุน่ คิดอยู่อย่างนัน้ ว่าจะขอให้ใครช่วยเหลือ
455

หากนางมีพ่ีนอ้ งมากหน่อยก็คงจะดี!
นางถอนหายใจอยู่ตรงนัน้ จู่ๆ ท่านข้าหลวงทังก็มาเยี่ยมอวีเ้ หวินถึงหน้าประตู
อวีถ้ งั ให้ซวงเถาใช้โอกาสที่ยกชาให้ท่านข้าหลวงทังลอบฟั งเสียหน่อย
ซวงเถามาบอกนาง “ท่านข้าหลวงทังมาขอโทษนายท่านของพวกเรา กล่าวว่าเรื่องครัง้
ที่แล้ว คุณชายใหญ่สกุลหลี่มาไถ่ถามเขาด้วยตัวเอง เขาไม่อาจปิ ดบังจึงบอกเรื่องราวที่เกิดขึน้
ให้คณุ ชายใหญ่สกุลหลี่ฟัง ยังดีท่ีคณ ุ ชายใหญ่สกุลหลี่เป็ นคนมีเหตุผล พูดขอโทษนายท่านพวก
เราอย่างตรงๆ ยังกล่าวว่า รอเรื่องสงบแล้ว เขาจะมาขอโทษถึงเรือนด้วยตัวเอง ขอให้นายท่าน
อย่าได้เอ่ยถึงเรื่องนีย้ ามที่ไปสกุลเผย” พูดจบ นางก็เบิกตาโตถามอวีถ้ งั อย่างแปลกใจ “คุณหนู
ใหญ่ เกิดเรื่องอะไรขึน้ หรือเจ้าคะ? เหตุใดท่านข้าหลวงทังถึงกระทั่งมาขอโทษนายท่านพวกเรา
ด้วยตัวเอง?”
“เรื่องของเจ้านายเจ้าไม่ตอ้ งยุ่ง” อวีถ้ งั ไล่ซวงเถาออกไปอย่างไม่จริงจังนัก ในใจกลับดู
แคลนข้าหลวงทังเป็ นอย่างยิ่ง
เขามาขอโทษบิดาของนางที่ไหนกัน เห็นได้ชดั ว่ามาบอกบิดาของนาง สกุลหลี่นนั้ รูแ้ ล้ว
ว่าคนที่รายงานต่อทางการคือบิดาของนาง เขาเห็นแก่สกุลเผยจึงลอบมาส่งข่าวให้บิดานาง ยัง
บอกบิดานางว่า เรื่องนีห้ ลี่ตวนสอดมือยุ่งแล้ว หากสกุลอวีแ้ ละสกุลหลี่ทงั้ สองเกิดแตกหักอันใด
ก็ไม่เกี่ยวกับเขา
มิน่าเล่าข้าหลวงทังรับราชการที่หลินอันอยู่เก้าปี เต็มจึงย้ายไปที่อ่ืน ยอมไกล่เกลี่ยให้
สองฝ่ ายจบเรื่อง ประจบประแจงทัง้ คู่ ขีข้ ลาดตาขาวไม่กล้ารับผิดชอบในหน้าที่ สามารถเป็ นขุน
นางใหญ่ได้ก็แปลกแล้ว!
อวีเ้ หวินวางแผนฉีกหน้ากับสกุลหลี่ตงั้ นานแล้ว ย่อมไม่ใส่ใจในคําพูดของข้าหลวงทัง
เขาต้อนรับข้าหลวงทังอย่างกระตือรือร้น คุยเรื่องร่ายกาพย์กลอน ทั้งยังนัดขึน้ เขาชมดอก
เบญจมาศในยามเทศกาลฉงหยาง ไม่เอ่ยถึงความขัดแย้งกับสกุลหลี่แม้แต่คาํ เดียว
456

เดิมที ขา้ หลวงทังก็เห็นแก่สกุลเผยจึงได้มาบอกกล่าว หากสกุลเผยปกป้องสกุลอวี ้


ต่อไป แม้ว่าสกุลหลี่จะรูก้ ็ไม่อาจทําอะไร หากสกุลเผยไม่สนใจ สกุลอวีก้ ็เหมือนเอาไข่ไปทุบหิน
อย่างมากที่สดุ เขาทําได้เพียงถอนหายใจเท่านัน้
เขาดึงตัวเองออกมาก็เพียงพอแล้ว ส่วนอย่างอื่น เขาไม่อยากจะล่วงเกินใคร ทัง้ ไม่มี
ความสามารถจะจัดการด้วย
457

บทที่ 56 ผลกระทบ
ในส่วนของเมืองหลินอัน เรื่องให้ท่ีกบดานกับพวกลีภ้ ยั อย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก เศรษฐี
มั่งมีของหลินอันส่วนมากก็ลว้ นเคยรับพวกลีภ้ ยั มาก่อน ไม่จาํ เป็ นต้องจดเข้าทะเบียนบ้าน ขอ
เพียงแค่ไม่อดตาย อยากใช้อะไรก็ใช้ได้ทงั้ นัน้ หนําซํา้ ยังมีประโยชน์มากกว่าให้ชาวไร่ชาวสวน
คนอื่นเช่าที่เสียอีก เรื่องของสกุลหลี่เปรียบเหมือนโยนก้อนหินลงนํา้ แตกกระทบเป็ นวงกว้าง
บางคนกลัวว่าข้าหลวงทังจะตัดสินใจทําผลงานจากเรื่องนี ้ ไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ บางคนกลัว
คนลีภ้ ยั พวกนัน้ จะรูว้ ่าแท้จริงแล้วทางการสามารถช่วยจดทะเบียนลงในท้องที่ได้จะไม่ฟังคําสั่ง
อีกแล้ว อาจลุกฮือก่อเรื่องก่อราวขึน้ มา ทําร้ายผลประโยชน์ของสกุลตน หลังจากคหบดีชนบท
หลายสกุลที่พอมีทรัพย์สินอยู่บา้ งในเมืองหลินอันปรึกษาหารือกัน ก็ไปหาทางสกุลเผย
“นายท่านสาม” คหบดีชนบทคนนัน้ เช็ดทัง้ นํา้ มูกนํา้ ตา ไม่รูว้ ่ากล่าวด้วยความเสียใจ
เท่าใด คล้ายกับว่าตอนแรกผูท้ ่ีหลอกคนลีภ้ ยั พวกนัน้ โดยไม่ให้ผ่านทางการ ลอบเขียนสัญญา
ขายตัวด้วยความปรารถนาดีนนั้ ไม่ใช่เขา “พวกเราก็แค่เห็นว่าคนพวกนัน้ น่าสงสาร พวกที่รบั ไว้
ก็ลว้ นเป็ นคนแก่ชราเจ็บป่ วยพิการ ใครจะรู ว้ ่าสกุลหลี่จะใจกล้าถึงเพียงนัน้ แค่พวกแข็งแรง
กํายําก็มีตงั้ สามสิบสี่สิบคน เจ้าหน้าที่ของศาลาว่าการไปสืบความ ยังสังหารคนอีก นี่ไม่ใช่ว่า
ไม่เห็นแก่ความปลอดภัยของเมืองหลินอันและสกุลเผยอยู่ในสายตาเลยหรอกรึ? เรื่องนี ้ ไม่ว่า
อย่างไรท่านก็ควรจะออกหน้าพูดกับท่านข้าหลวงทังสักหน่อย ลงโทษอย่างเด็ดขาดกับคนลีภ้ ยั
พวกนัน้ มิเช่นนัน้ ชาวบ้านตาดําๆ อย่างพวกเราคงนอนหลับไม่ลงกัน!”
เผยเยี่ยนนั่งอย่างสง่าผ่าเผยอยู่บนเก้าอี ้ เป่ าใบชาปี ้หลัวชุน 1ที่ลอยอยู่ในถ้วยชาเบาๆ
100

แทบไม่ปราดสายตามองพวกคหบดีเบือ้ งหน้าที่อายุนอ้ ยสุดก็ปาเข้าไปสี่สิบปี แล้ว


เรื่องนีเ้ ขาได้ยินมานานแล้ว
สกุลหลี่ทาํ ตัวไม่เหมาะสม เขาก็รูม้ านานแล้วเช่นกัน

1
ชาปี ้หลัวชุน เป็ นชาเขียวที่มีถ่ินกําเนิดจากเจียงซู มีกลิน่ หอมของดอกไม้ รสชาติหอมหวาน
458

แต่ว่า ปี นนั้ สกุลเผยย้ายจากถิ่นเดิมมาอยู่ท่ีน่ี เพราะสร้างความโกรธเคืองให้ทกุ คนใน


ถิ่นเดิม มีอาํ นาจล้นฟ้า ล่วงเกินผลประโยชน์ของคนส่วนมาก ถึงกระทั่งทําให้ราชสํานักเกิด
ความไม่พอใจ จึงต้องเสียสละส่วนน้อยรักษาส่วนใหญ่ ทําได้เพียงพกทรัพย์สินส่วนหนึ่งวิ่งมาที่
เมืองหลินอัน ก่อร่างสร้างตัว ลงหลักปั กฐานที่น่ี นับแต่นนั้ มา สกุลเผยจึงเริม่ ปฏิบตั ิตวั เป็ นกลาง
กับสกุลอื่น ใช้อาํ นาจเพียงในเมืองหลินอัน ไม่สอดมือไปยุ่งเรื่องของใคร และก็เป็ นเพราะเช่นนี ้
สิ่งที่สกุลเผยยึดมั่นตลอดมาคือความใจกว้างมีเมตตากับเพื่อนบ้าน เหลือพืน้ ที่ให้คนอื่นได้ลืม
ตาอ้าปาก ถึงกระทั่งจงใจตัง้ สกุลหนึ่งขึน้ มาคานอํานาจกับสกุลเผยในที่แจ้ง เพื่อไม่ให้สกุลเผย
สูงเด่นเพียงลําพัง ถูกคนอิจฉาริษยา ก่อเรื่องเดือดร้อนมาให้
และสกุลหลี่ ก็คือเป้าที่เกิดขึน้ มาในช่วงเวลานีข้ องพวกเขา
แน่นอนว่าเผยเยี่ยนไม่อาจให้สกุลพวกเขาล้มลงได้
เขาจิบชาอยู่หลายคํา รอพวกคหบดีเหล่านัน้ ระบายความไม่พอใจออกมาจนหมดสิน้
เวลานี จ้ ึง ค่อ ยกล่า วขึน้ มาอย่ า งไม่ เ ร็ว ไม่ ช ้า “เรื่อ งที่ พ วกเจ้า พูด ข้า ได้ฟั ง มาบ้า งแล้ว ทาง
ข้าหลวงทัง ก่อนหน้านีข้ า้ ได้พดู พอเป็ นพิธีกบั เขาแล้ว เรื่องนีใ้ ห้จบลงที่สกุลหลี่ ไม่อาจซักไซ้ไล่
เลียงอีก ส่วนคนลีภ้ ยั พวกนัน้ ข้าจะพูดกับข้าหลวงทังตามความเห็นของทุกคนอีกที ให้คนหาวิธี
ขับไล่พวกนัน้ ออกจากหลินอัน แม้การจดทะเบียนลงท้องที่จะเป็ นเพราะราชสํานักเมตตาต่อคน
ลีภ้ ยั แต่น่ีก็ตอ้ งดูสถานการณ์ดว้ ยเช่นกัน มีชายหนุ่มเลือดร้อนมากมายขนาดนัน้ หากเกิดเรื่อง
ขึน้ มา พวกเราสกุลใหญ่ทงั้ หลายของหลินอันก็ไม่อาจผลักภาระได้ ทัง้ สกุลเผยของข้าก็ไม่อาจ
รับโทสะของสวรรค์ได้เช่นกัน”
แม้ใบหน้าของเผยเยี่ยนจะดูเรียบนิ่ง ทว่าคําพูดที่ออกมากลับกล่าวได้ถูกจุด พวก
คหบดีเหล่านัน้ อดเบิกบานใจไม่ได้ เอ่ยเซ็งแซ่ “นายท่านสามพูดเช่นนีพ้ วกเราก็วางใจแล้ว”
บางคนก็ประจบประแจงอยู่ตรงนัน้ เอ่ยประมาณว่า ‘หลินอันมีเรื่องอะไรก็ตอ้ งเป็ นนาย
ท่านสามสกุลเผยที่ออกหน้า’ ‘สกุลเผยมีนายท่านสามเป็ นผูด้ แู ล ย่อมเจริญเฟื่ องฟู ก้าวหน้าไป
อีกขัน้ ’ มีกระทั่งพูดว่า ‘ไม่มีสกุลเผย จะมีหลินอันดั่งเช่นวันนีไ้ ด้อย่างไร’
459

เผยเยี่ยนได้ฟังก็ราวกับกลืนเนือ้ ติดมันก้อนโตลงไป เลี่ยนจนทนไม่ไหว รีบหยัดกายขึน้


หาข้ออ้างว่าโจวจื่อจินมาเป็ นแขกอยู่ในบ้าน ส่งคหบดีชนบทพวกนัน้ ออกไป
หูซิ่ง พ่อบ้านสามที่พงุ ขาวย้วยราวกับคนท้องเดินยิม้ ตาหยีเข้ามา เอ่ยว่า “อวีซ้ ิ่วไฉของ
ตรอกชิงจู๋เพิ่งส่งป้ายชื่อมา กล่าวว่าอยากพบท่านขอรับ ข้าเห็นว่าหลายวันนีท้ ่านหงุดหงิดที่
ต้องคบค้าสมาคมกับคนภายนอกไม่นอ้ ย จึงตัดสินใจพลการ ถามเหตุผลที่มาของอวีซ้ ิ่วไฉ เขา
กล่าวว่าหลังจากหมอหลวงหยางจ่ายยาบํารุ งร่างกายให้นายหญิงของเขา อาการของนางก็ดี
อยู่เ รื่อยมา ได้ยิน ว่า หมอหลวงหยางมาตรวจสุขภาพให้น ายหญิ ง ใหญ่ จึง อยากเชิญหมอ
หลวงหยางไปตรวจดูนายหญิงเขาอีกครัง้ ดูวา่ ต้องเปลี่ยนสํารับยาหรือไม่”
สํารับยาบํารุงร่างกาย ฤดูหนาวและฤดูรอ้ นมีความแตกต่างเป็ นอย่างมาก
และยามนีอ้ ากาศก็หนาวเย็นลงเรือ่ ยๆ
เผยเยี่ยนฟั งแล้วก็ขมวดคิว้ ไม่ได้กล่าวอันใด
ใบหน้าของหูซิ่งยังคงประดับรอยยิม้ ทว่าแผ่นหลังกลับชุ่มไปด้วยเหงื่อ
นายท่านสามของพวกเขาคนนี ้ ตัง้ แต่เล็กก็ดือ้ รัน้ ไม่เหมือนใคร ยามที่ท่านผูเ้ ฒ่าเผยมี
ชีวิตอยู่ ก็ไม่สามารถจํา้ จีจ้ า้ํ ไชเขาได้แต่อย่างใด ยามนีท้ ่านผูเ้ ฒ่าไม่อยู่แล้ว นายท่านรองปิ ด
ประตูไม่รบั แขก ทุกวันไม่เพียงคัดลอกคัมภีรใ์ ห้ท่านผูเ้ ฒ่า ยังให้นายหญิงรอง คุณหนูใหญ่และ
นายน้อยสามคัดลอกคัมภีรด์ ว้ ยกัน คุณหนูใหญ่ยงั พอว่าเพราะเรียนรูม้ าตัง้ แต่สามขวบ อายุสิบ
สองปี แล้ว นายน้อยสามเพิ่งจะหกขวบ แทบจะไม่รูว้ ่าจับพู่กนั อย่างไรด้วยซํา้ …ยังมีนายหญิง
ใหญ่และนายน้อยอีกสองคน เอาแต่อยู่ในหอทิงหลันสุย่ อย่างสงบเสงี่ยมไม่ยอมออกมา กระทั่ง
เสียงก็ยงั ไม่ได้ยิน
หากกล่าวว่านายท่านสามไม่ได้ลอบทําอะไรบางอย่าง เขาคนหนึ่งแล้วที่ไม่เชื่อ
ปรนนิบัติรบั ใช้เจ้านายคนหนึ่งเช่นนี ้ ทั้งเขายังเป็ นคนที่รกั ษาตําแหน่งพ่อบ้านของ
ตัวเองได้จากเรื่องที่ ‘คนใหญ่คนโตขัดแย้งกัน’ ไหนเลยจะกล้าเล่นลูกไม้ตอ่ หน้าเผยเยี่ยน?
460

เผยเยี่ยนขมวดคิว้ นี่คือไม่พอใจที่เขาตัดสินใจโดยพลการกระมัง?
หูซิ่งไล่เลียงเรื่องที่ตวั เองทํามาหลายวันนีใ้ นใจ พบว่านอกจากเรื่องนีก้ ็ยงั ก็ไม่มีเรื่องใด
ที่ทาํ ผิดไปจริงๆ เวลานีเ้ ขาจึงเอ่ยทั้งใคร่ครวญ “นายท่านสาม เรื่องนีข้ า้ น้อยทําไม่ถูก ครัง้
ต่อไป…”
ใครจะรูว้ า่ เผยเยี่ยนกลับโบกมือ ตัดบทสนทนาของเขา เอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “รอเผยหม่าน
มาค่อยว่ากัน”
เผยหม่านไปส่งแขก พวกเขารออยู่พกั ใหญ่ เขาก็ยอ้ นกลับมา
เผยเยี่ยนถามเขา “เรื่องของสกุลหลี่นนั้ เป็ นอวีซ้ ิ่วไฉที่เปิ ดเผยออกไปอย่างนัน้ รึ?”
เผยหม่านเอ่ยอย่างนอบน้อม “ข้าไปพิสจู น์ดว้ ยตัวเองแล้ว อวีซ้ ิ่วไฉไปบอกเรื่องนีก้ ับ
ท่านข้าหลวงทังจริงๆ ขอรับ”
เผยเยี่ยนพยักหน้า มุมปากเผยรอยยิม้ ออกมาอย่างเลือนราง “คาดไม่ถึงว่าอวีซ้ ิ่วไฉจะ
ยึดมั่นในคุณธรรมเช่นนี ้ เขาไม่กลัวว่าจะถูกสกุลหลี่จะจัดการอย่างนัน้ รึ?”
เวลานีเ้ ผยหม่านจึงกล่าว “ก่อนหน้านีเ้ พราะเรื่องงานแต่งของบุตรสาว สกุลอวีจ้ ึงได้
หมางใจกับสกุลหลี่ แม้ว่าอวีซ้ ิ่วไฉจะไม่ไปร้องเรียนเรื่องครัง้ นีก้ บั ท่านข้าหลวงทัง คาดว่าสกุล
หลี่ก็จะไม่ปล่อยสกุลอวีไ้ ปอยู่ดีขอรับ”
ในหัวของเผยเยี่ยนพลันปรากฏใบหน้าของอวีถ้ งั ขึน้ มา
อวีถ้ ังควรรู ต้ วั เองว่าชั่วพริบตาที่ถูกช่วยไว้นนั้ ยามที่มองเข้ามาดวงตาเปล่งประกาย
คล้ายกับดวงดารา…แต่หลังจากรู ว้ ่าคนที่ช่วยเหลือเป็ นเขาแววตาก็ค่อยหม่นแสงลง…ยามที่
ขอบคุณเขาในดวงตาวาบวาวอย่างเจ้าเล่ห… ์ เขาไม่เคยเห็นดวงตาของใครเหมือนคุณหนู
สกุลอวีผ้ ทู้ ่ีไม่สงบเสงี่ยมคนนัน้ มาก่อน ราวกับสามารถบอกเล่าเรื่องราวได้ ยามที่มองดูอะไรก็
มักจะแฝงด้วยความสงสัยอยู่หลายส่วน ดูคล้าย ดูคล้ายกับเด็กน้อย…ยามที่พบเขาในโรงจํานํา
ก็ ม องพิ นิ จ อย่ า งเงี ย บเชี ย บ อยากรู อ้ ยากเห็ น เป็ น อย่ า งมาก พบเขาที่ ถ นนฉางซิ่ ง ในตอน
461

กลางคืน เอาแต่ลอบมอง สงสัยเป็ นอย่างยิ่ง เจอเขาที่ท่าเรือเสาซี ทําหูตงั้ ฟั งความเคลื่อนไหว


ของเขาแต่กลับแสร้งนิ่งเฉย ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึน้ ที่ตลาดกลางคืน อยากกินขาหมูทงั้ ทําหล่น
จากตะเกียบหลายครัง้ รีบมองดูเขา คิดว่าเขาไม่ได้สนใจ ก็เผยสีหน้ายินดีปรีดาทันที ค่อยๆ
คว้าขาหมูขนึ ้ มากัด…
เขาอดกล่าวไม่ได้ “เรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานแต่งของสกุลอวีแ้ ละสกุลหลี่เกิดอันใดขึน้
กัน?”
เผยหม่านกล่าว “ข้าน้อยไม่ได้สืบความมาอย่างละเอียด สิ่งที่ได้ยินมาล้วนเป็ นข่าว
ซุบซิบนินทา เรื่องราวเป็ นอย่างไรกันแน่ ข้าน้อยก็ไม่ชดั เจนเช่นกันขอรับ”
เผยหม่านผูน้ ี ้ เป็ นคนที่เผยเยี่ยนพากลับมาจากเมืองหลวง เมื่อก่อนทําอะไร เป็ นคนที่
ไหน เขียนสัญญาเป็ นข้ารับใช้ให้สกุลเผยได้อย่างไร ทัง้ ยังได้ใช้สกุล ‘เผย’ นี ้ พวกเขาล้วนไม่รู ้
อะไรเลย แต่จากการที่เขาดูแลจัดการหลายเรื่องก็มองออกแล้วว่า เป็ นคนที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง
ได้ยินเขาตอบเช่นนี ้ หูซิ่งก็ตกใจยกใหญ่
แม้จะพูดข่าวลือที่ได้ยินมา หากพวกเจ้านายอยากรู ้ เจ้าก็พดู ออกมาพอเป็ นพิธีหน่อยก็
ได้!
จากนิ สัย ของนายท่ านสามที่ ไม่ ว่าเรื่องอะไรก็ ช อบจับผิด เขาคงไม่ถูก ตํา หนิ หรอก
กระมัง?
คาดไม่ถึงว่านอกจากเผยเยี่ยนไม่ตาํ หนิเขาแล้ว ยังเอ่ยด้วยอารมณ์ดี “เมื่อครูห่ ซู ิ่งบอก
ข้าว่า สกุลอวีอ้ ยากเชิญหมอหลวงหยางไปตรวจดูอาการนายหญิงอวี ้ อีกเดี๋ยวเข้าไปบอกกับ
หมอหลวงหยาง ภายหลังหากเขามาตรวจสุขภาพให้นายหญิงใหญ่ก็ถือโอกาสผ่านทางไปที่
สกุลอวีด้ ว้ ย”
เห็นได้ชดั ว่าเผยหม่านเหนือความคาดหมายอยู่บา้ ง กล่าวยืนยันอีกครัง้ “ภายหลังทุก
ครัง้ ที่มาตรวจสุขภาพให้นายหญิงใหญ่ ให้ไปที่สกุลอวีด้ ว้ ยหรือขอรับ?”
462

หยางโต่วซิงเป็ นหมอที่ถกู เลือกให้ตรวจสุขภาพนายหญิงใหญ่ สกุลเผยก็ให้เกียรติและ


ความเคารพต่อเขา ทุกครัง้ ไม่เพียงให้ค่ารักษาก้อนโต ยังให้พ่อบ้านใหญ่รบั ผิดชอบไปรับส่ง
ด้วยตัวเอง และสกุลเผยกับสกุลอวีน้ ัน้ เรือนหนึ่งอยู่ทางตะวันออก อีกเรือนอยู่ทางตะวันตก
อย่างไรก็ไม่อาจผ่านทางได้หรอก!
เผยเยี่ยนคล้ายว่าไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนีเ้ ช่นกัน ได้ยินเผยหม่านพูดเช่นนี ้ กลับชะงัก
นิ่งไป ก้มศีรษะครุน่ คิดเล็กน้อย เวลานีจ้ ึงกล่าว “คนบ้านใกล้เรือนเคียง เช่นนัน้ ก็บอกกล่าวกับ
หมอหลวงหยาง ให้เขาเข้าไปที่น่ นั สักหน่อยก็เพียงพอแล้ว”
ค่าใช้จ่ายทัง้ หมดที่หยางโต่วซิงมาหลินอันล้วนอยู่ในความรับผิดชอบของสกุลเผย ไป
รักษาให้สกุลอวี ้ เรื่องเกีย้ วก็ย่อมเป็ นสกุลเผยที่จดั การ
เผยหม่านขานรับ โจวจื่อจินเปลี่ยนสวมรองเท้าเดินตึกตักเข้ามา กล่าวทัง้ เลิกคิว้ “เรื่อง
ในโลกียม์ ีอะไรให้คยุ สนุกกัน เจ้าก็อย่าหลบข้าเลย ข้ามาก็เพราะอยากพูดเรื่อง ‘คัมภีรช์ นุ ชิว 2’ 101

ที่เจ้าไปฟั งมาครัง้ ที่แล้ว…เหตุใดเจ้าจึงเลือก ‘คัมภีรก์ ู่เหลียง 3’ แต่ไม่เลือก ‘คัมภีรก์ งหยาง 4’


102 103

ศิษย์พ่ีรองเจ้าเป็ นบัณฑิตสายขงจื่อผลักดัน ‘คัมภีรก์ งหยาง’ ละทิง้ ‘คัมภีรก์ ่เู หลียง’ ข้าว่าศิษย์พ่ี


รองเจ้าคงนั่งหน้าเขียวอยู่ขา้ งล่างแล้ว เจ้าสามารถนั่งฟั งคําสอนต่อหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้ ล้วน
เป็ นเขาที่ ช่ ว ยเจ้า คว้า โอกาส เจ้า กลั บ เรื อ นไว้ทุ ก ข์ ข้า พบว่ า ศิ ษ ย์พ่ี ร องเจ้า ไม่ ไ ถ่ ถ าม
สารทุกข์สกุ ดิบเจ้าแม้แต่คาํ เดียว เจ้ากับศิษย์พ่ีรองก็ไม่ได้เขียนจดหมายให้กันบ่อยๆ เหมือน
เมื่อก่อนแล้ว เจ้าบอกกับข้ามาตามตรง เจ้าแตกหักกับศิษย์พ่ีรองรึ? ภายหลังไว้ทกุ ข์เสร็จแล้ว

2
คัมภีรช์ ุนชิว พงศาวดารที่บันทึกเรื่องราวแต่ละยุคสมัยของจีน ภายหลังสูญหายเหลือเพียงเรื่องราวที่ขงจือ้ รวบรวม
เกี่ยวกับแคว้นหลู่ ก่อนจะมีการเรียบเรียงใหม่ในราชวงศ์ฮ่ นั โดยมีการเรียกคัมภีรจ์ ่ วั ซื่อ คัมภีรก์ งหยาง และคัมภีรก์ ่เู หลียง
ทัง้ สามรวมกันว่า คัมภีรช์ นุ ชิว
3
คัมภีรก์ ู่เหลียง เป็ นคัมภีรอ์ รรถาธิ บาย ‘คัมภีรช์ ุนชิว’ เน้นให้ความสําคัญกับการเคารพอํานาจกษัตริย ์ ปลูกฝั งสั่งสอน
มารยาท การรักใคร่ในวงศ์สกุล เป็ นต้น
4
คัมภีรก์ งหยาง เป็ นคัมภีรอ์ รรถาธิบาย ‘คัมภีรช์ ุนชิว’ โดยเฉพาะ มีความข้องเกี่ยวกับการเมือง อธิบายการเปลี่ยนแปลง
ระบบปกครอง เน้นยํา้ การรวมเป็ นหนึ่ง กลับตัวกลับใจแก้ไขเดินในทางที่ถกู ต้อง เป็ นต้น
463

เจ้ายังคิดจะให้ศิษย์พ่ีรองช่วยเหลืออยู่หรือไม่? ในหมู่ศิษย์พ่ีศิษย์นอ้ งพวกเจ้า ศิษย์พ่ีรองนัน้ ดี


ที่สดุ แล้ว เจ้าอย่าได้ทาํ เรือ่ งโง่ๆ เชียว!”
เผยเยี่ยนได้ฟังก็อารมณ์เสียขึน้ มา ยืนขึน้ ด้วยใบหน้าบึง้ ตึง “ไม่ใช่ว่าเจ้าจะไปชิงซานหู
รึ? จะไปหรือไม่ไป?”
“ดูนิสยั เสียของเจ้านี่สิ!” โจวจื่อจินกล่าวอย่างโมโห “ข้าคุยอย่างจริงจังกับเจ้า เจ้าอย่า
มาพูดจาบ่ายเบี่ยงข้า หากวันนีเ้ จ้าไม่พดู ให้ชดั เจนกับข้า ข้าก็ไม่ไปที่ไหนทัง้ นัน้ ”
“เจ้าไม่ไปก็ดี” เผยเยี่ยนเอ่ยอย่างไม่เห็นด้วย “หลายวันมานีข้ า้ วิ่งโร่กบั เจ้าไปทั่วเหนื่อย
เหลือทน เจ้าไม่ไป เหมาะที่ขา้ จะพักหลายวันอยู่พอดี” พูดจบ เขาก็หยัดกายขึน้ เดินออกไป
โจวจื่อจินนัน้ อึง้ ไป ผ่านไปพักใหญ่จึงดึงสติกลับมา วิ่งไล่ตามเขาออกไป กล่าวอยู่ขา้ ง
หลังเขา “เจ้าหมายความว่าอย่างไร? หากไม่ใช่พ่ีรองเจ้าเชิญข้ามา ข้าก็ไม่เข้ามาหรอก”
เผยเยี่ยนไม่แม้แต่จะหันกลับไปพูด “เช่นนัน้ เจ้าก็ไปหาพี่รองข้า เขาเอาแต่ทาํ ตัวลึกลับ
ซับซ้อนอยู่ในเรือนทุกวัน เจ้าจะได้อยู่เป็ นเพื่อนเขาพอดี”
464

บทที่ 57 เรื่องมงคลคู่
เผยเยี่ยนและโจวจื่อจินก็จากไปเช่นนี ้ หูซิ่งมองอย่างตกตะลึง ขวางเผยหม่านที่เตรียม
จะออกไปสะสางธุระ “พ่อบ้านใหญ่ ปกติเจ้าก็พดู คุยกับนายท่านสามเช่นนีร้ ?ึ เจ้าไม่กลัวนาย
ท่านสามโกรธหรอกหรือ?”
เผยหม่านกล่าว “สิ่งที่นายท่านสามเกลียดที่สดุ คือคนอื่นไม่พดู ความจริง ไม่ใช่เรื่องที่
ไม่ยอมพูดแต่อย่างใด เจ้าปฏิสมั พันธ์กบั นายท่านสามนานเข้าก็จะรูเ้ อง”
หูซิ่งครุน่ คิด ตัวเองเข้าจวนตัง้ แต่อายุเจ็ดขวบ ทัง้ เป็ นคนแก่ในเรือนไปแล้ว แบบไหนจึง
จะเรียกว่าปฏิสมั พันธ์ยาวนานกับนายท่านสามอีก?
นี่ไม่ใช่คาํ กล่าวไร้สาระ
เหตุท่ีหซู ิ่งผูน้ ีส้ ามารถโดดเด่นท่ามกลางสกุลเผยที่บ่าวรับใช้เต็มจวนได้ นอกจากฉลาด
เฉลียว ทะเยอทะยาน ข้อได้เปรียบที่สดุ ก็คือรูจ้ กั ตรวจสอบความคิดการกระทําของตัวเอง
แม้ว่าเขาจะไม่พอใจ แต่ยงั คงครุน่ คิดถึงสีหน้าและท่าทางที่เผยเยี่ยนคุยกับเผยหม่าน
เมื่อครูอ่ ยู่หลายครัง้ จู่ๆ ก็เข้าใจความหมายของเผยหม่านขึน้ มาบ้าง
ด้านสกุลอวี ้ หลายวันนีส้ ามารถเรียกได้วา่ เรื่องมงคลคูม่ าเยือนถึงหน้าประตู
เริ่มจากเรื่องงานแต่งของอวีห้ ย่วนและคุณหนูเซียง แม้ว่าจะมีอุปสรรคอยู่บา้ ง แต่
สุดท้ายยังคงแลกเปลี่ยนวันเดือนปี เกิดของทัง้ คู่อย่างเป็ นทางการแล้ว ผ่านเทศกาลฉงหยางไป
ก็จะส่งมอบสินสอดแล้ว ยามที่หวังซื่อนึกถึงเรื่องนีล้ ว้ นคิดกังวลภายหลังอยู่บา้ ง ลอบกล่าว
กับเฉินซื่อ “คาดไม่ถึงว่าแม่เลีย้ งของคุณหนูเซียงจะร้ายกาจเพียงนี ้ กล่าวว่างานแต่งครัง้ นีไ้ ม่ได้
บอกผ่านนางก่อน นางไม่เห็นด้วย ยังดีท่ีนายหญิงเว่ยกล้าจัดการแทนคุณหนูเซียง ไม่กลัวว่าจะ
ล่วงเกินแม่เลีย้ งของคุณหนูเซียง ยกแม่ท่ีล่วงลับไปของคุณหนูเซียงออกมา ต้อนให้แม่เลีย้ ง
คุณหนูเซียงถอยหลบไป ข้ากลัวก็แต่วา่ ภายหลังคุณหนูเซียงคงไม่มีสกุลมารดาให้กลับแล้ว”
465

เฉินซื่อคิดว่าหวังซื่อตีตนไปก่อนไข้ “คุณหนูเซียงในตอนนี ้ มีสกุลมารดาก็เหมือนไม่มี


ยิ่งไปกว่านัน้ ตัง้ แต่เล็กก็เติบใหญ่มากับนายหญิงเว่ย สนิทสนมกับลูกพี่ลกู น้องยิ่งกว่าพี่นอ้ งของ
ตัวเองเสียอีก ภายหลังจะยกเอาสกุลเว่ยเป็ นสกุลมารดาอย่างเป็ นทางการก็คงไม่ต่างกัน ข้าว่า
นายหญิ งเว่ยกล้าแข็งข้อเช่นนีก้ ับแม่เลีย้ งของคุณหนูเ ซีย ง ก็ เ พราะว่าวางแผนจะทําเช่นนี ้
กระมัง? มิเช่นนนัน้ จะจัดการเรื่องอย่างเด็ดขาดเช่นนีต้ อ่ หน้าพวกเราไปทําไม”
หวังซื่อใคร่ครวญดูก็คิดว่ามีเหตุผล อดสงสารคุณหนูเซียงขึน้ มาไม่ได้ “คนอื่นพูดว่าลูก
สาวออกเรือนก็เหมือนนํา้ ที่สาดออกไป ข้าก็จะทําเหมือนว่าข้ามีลกู สาวเพิ่มอีกคน ปฏิบตั ิกับ
คุณหนูเซียงดีๆ ก็แล้วกัน”
ในขณะที่ทงั้ สองคนแสดงความเห็นอกเห็นใจคุณหนูเซียง นายท่านเซียงกลับแอบมา
พบอวีเ้ หวินอย่างเงียบๆ มอบกล่องไม้หอมใบเล็กให้อวีเ้ หวิน ให้เขาส่งต่อแก่คณ ุ หนูเซียง กล่าว
ว่า นายหญิ ง เว่ย ให้คุณ หนูเ ซี ย งแต่ ง งานในนามสกุล เว่ย แม่ เ ลี ย้ งคุณ หนูเ ซี ย งตอบรับ แล้ว
ภายหลังกลัวว่าคุณหนูเซียงคงยากที่จะได้กลับเรือนไปเยี่ยมเขาซึ่งเป็ นพ่อ นี่เป็ นความอาทร
เล็กๆ สุดท้ายที่พ่ออย่างเขาพอจะทําเพื่อคุณหนูเซียงได้ ให้คณ ุ หนูเซียงรับไว้ ภายหลังก็เก็บไว้
ให้ลกู หลานตัวเอง
อวีเ้ หวินรูส้ กึ ว่าแม้นายท่านเซียงจะแต่งนายหญิงที่มีฐานะเกินตัวเข้ามา แต่เล่นแง่แค่นี ้
นับว่ายังน้อยไป ไม่ได้ช่ืนชมนายท่านเซียงเท่าใด แต่ก็ไม่ได้คิดมาก นํากล่องนีส้ ่งให้อวีห้ ย่วน
อวีห้ ย่วนคิดว่าไม่วา่ จะอย่างไรสิ่งนีก้ ็เป็ นของแทนใจของนายท่านเซียง เพื่อไม่ให้คณ
ุ หนูเซียงคิด
ว่าตัวเองออกเรือน บิดากลับไม่สนใจอันใด เขาจึงส่งไปให้สกุลเว่ยในคืนนัน้
นายหญิงเว่ยเพราะปรึกษาเรื่องสินเดิมในการออกเรือนของคุณหนูเซียงกับสกุลเซีย
งจึงเกิดขัดแย้งกันขึน้ มา นางคิดว่ายามนีน้ ายท่านเซียงมีชีวิตอยู่ นายหญิงเซียงยังกล้ากดขี่ข่ม
เหงคุณหนูเซียงอย่างนี ้ ภายหลังหากนายท่านเซียงไม่อยู่แล้ว เกรงว่าสกุลเซียงจะทําเป็ นไม่มี
ลูก สาวคนนี ไ้ ป คิดที่ จะเรีย กร้องสินเดิมจากสกุลเซียงให้คุณหนูเ ซีย งมากหน่อย เวลานีจ้ ึง
ทะเลาะกับนายหญิงเซียงขึน้ มา เพียงแต่เรื่องนีท้ ุกคนล้วนห่วงเรื่องหน้าตา ไม่ว่าจะนายหญิง
เว่ยหรือนายหญิงเซียงต่างก็ไม่ได้เอาไปพูดข้างนอกตรงๆ
466

วันนีเ้ ห็นอวีห้ ย่วนส่งของเข้ามา นายหญิงเว่ยก็โมโหจนเขวีย้ งกล่องไม้นนั้ ลงพืน้ “ใคร


ต้องการของจอมปลอมของเขากัน กล่าวว่าอะไรนะ นอกจากสินเดิมของแม่อาอิงและเงินสาม
พันตําลึง ก็ไม่มีอะไรไปมากกว่านี… ้ ”
นางพูดยังไม่ทนั จบ ทุกคนต่างก็ตกตะลึง
กล่องไม้ท่ีรว่ งลงบนพืน้ ดัง ‘ตุบ้ ’ ถูกเปิ ดออก ตั๋วเงินกองใหญ่ถกู ลมเย็นของฤดูใบไม้รว่ ง
พัดปลิวราวกับผีเสือ้ ที่บินว่อน
“เร็ว เร็วเข้า” ยังคงเป็ นนายท่านเว่ยที่ส่นั เทิม้ ดึงสติกลับมาเป็ นคนแรก “อย่าให้ลมพัด
ไปเชี ย ว ตั๋ว เงิ น ของร้า นขายเครื่ อ งเงิน พวกนี เ้ ริ่ม ที่ สิ บ ตํา ลึง ข้า ดูข นาดแล้ว อย่ า งน้อยก็ คง
ประมาณหนึ่งร้อยตําลึง…”
นายหญิงเว่ยก็ตะลีตะลาน รีบเรียกอวีห้ ย่วน “ยังยืนนิ่งอยู่ท่ีน่นั ทําไม รีบเก็บตั๋วเงินพวก
นีข้ นึ ้ มาเร็วเข้า”
อวีห้ ย่วนใจฝ่ อเป็ นอย่างยิ่ง ล้วนไม่รูว้ ่าตัวเองถูกให้คา้ งคืนที่สกุลเว่ยได้อย่างไร ทัง้ รีบ
เดินทางกลับมาสกุลอวีต้ งั้ แต่ยามที่ประตูเพิ่งเปิ ดได้อย่างไร จําได้เพียงว่ายืนสั่นอยู่เบือ้ งหน้า
หวังซื่อเอ่ยกับบิดา “ตั๋วเงินเยอะมากจริงๆ นายหญิงเว่ยกล่าวว่า อย่างน้อยก็มีประมาณสี่หมื่น
ห้าหมื่นตําลึง สามารถซือ้ ร้านขายเครื่องเงินสกุลเผยในถนนฉางเซิ่งแห่งนัน้ จนหมดเกลีย้ งได้ ยัง
ถามข้าว่า เอาเงินไปไว้ในร้านขายเครื่องเงินก็ได้ไม่ก่ีบาท ถามข้าว่าอยากซือ้ ร้านค้าสักแห่งใน
หังโจว แล้วย้ายไปค้าขายที่น่ นั หรือไม่”
หวังซื่อและอวีป้ ๋ อต่างก็ตกใจ เรียกอวีเ้ หวินและเฉินซื่อตื่นจากฝั น ถามเรื่องนีก้ บั อวีเ้ ห
วินว่าควรทําอย่างไรดี “สกุลเว่ยหมายความว่าอยากให้อาหย่วนย้ายไปหังโจว? หรือว่าเพียง
อยากถามสกุลพวกเราว่าเงินมากมายขนาดนัน้ จะใช้อย่างไร?”
อวีถ้ งั สะดุง้ ตื่นจากเสียงดัง ยังคงสับสนมึนนงงอยู่บา้ ง ได้ยินคําพูดนีก้ ็ต่นื เต็มตาขึน้ มา
นางพยายามนึกเรื่องในชาติก่อน
467

ยังคงไม่เคยได้ยินเรื่องสกุลเว่ยกับคุณหนูเซียงจริงๆ
ทัง้ ไม่รูว้ า่ ชาติท่ีแล้วคุณหนูเซียงแต่งไปสกุลใด
งานแต่งของญาติผพู้ ่ีครัง้ นีน้ บั ว่าทุบถูกไข่ทองคําจริงๆ
อวีเ้ หวินกลับเผยท่าทีปกติ หาวหวอดอยู่เบือ้ งหน้าพี่ชายที่น่งั ไม่ติดที่ “ข้าเพียงได้ยินมา
บ้างว่าสกุลเซียงมีเงิน ตอนแรกที่สกุลเสิ่นและสกุลเซียงเกี่ยวดองกัน ถึงกระทั่งไม่รงั เกียจนาย
ท่านเซียงที่เคยแต่งงานมาแล้ว ล้วนเป็ นเพราะนายท่านเซียงผูน้ ีท้ าํ การค้าขายเก่งเป็ นอย่างมาก
คาดไม่ถึงว่าจะเป็ นอย่างนัน้ จริงๆ จากความเห็นข้า พวกเจ้าควรจะทําอย่างไรก็ทาํ อย่างนัน้ ไป
หรือไม่มีต๋ วั เงินสี่หมื่นห้าหมื่นตําลึงนี ้ พวกเจ้าก็จะไม่รบั คุณหนูเซียงเข้าสกุลแล้ว?”
อวีป้ ๋ อได้ยินน้องชายกล่าวเช่นนี ้ ก็ค่อยสงบลงมา ครุ ่นคิดเล็กน้อย “เจ้าพูดมีเหตุผล
เป็ นพวกเราที่เห็นเงินก็ เกิ ดความคิดชั่ววูบ สูญเสียความตั้งใจเดิมไป สินเดิมอย่างไรก็ เป็ น
ทรัพย์สินส่วนตัวของสะใภ้ นางจะใช้อย่างไร ย่อมขึน้ อยู่กบั การตัดสินใจของนาง ข้าเพียงกลัว
ว่าถึงเวลานัน้ อาหย่วนของพวกเราจะเสียเปรียบ”
อวี ้เ หวิ น บอกเป็ นนั ย ให้ ป้ า เฉิ น ไปชงชาเข้ ม ๆ ให้ เ ขา พอได้ จิ บ ชา เวลานี ้จึ ง
กระปรีก้ ระเปร่าขึน้ มา ก่อนจะให้ปา้ เฉินไปทําอาหารเช้า “เดิมทีสกุลเว่ยสนใจสกุลพวกเรา ไม่ใช่
เพราะพวกเราอบรมเลีย้ งดูพวกลูกๆ ได้ดีหรอกรึ? พวกเราไม่อาจตําหนิสกุลอื่นที่ร่าํ รวยเพียง
เพราะสกุลตัวเองไม่มีเงินเหมือนพวกเขาได้กระมัง?”
“มิผิด มิผิด” อวีป้ ๋ อกล่าว
“ดังนัน้ ทุกคนจึงต้องรักษาความตัง้ ใจเดิม” อวีเ้ หวินยากที่จะมีโอกาสอธิบายเหตุผลให้
พี่ชายตัวเองฟั ง วางท่าพูดอย่างนํา้ ไหลไฟดับอยู่บา้ ง “พวกเราต้องไม่นึกถึงเงินของคนอื่น เวลา
นีส้ สู้ กุลอื่นไม่ได้ หรือจะสูไ้ ม่ได้ทงั้ ชั่วชีวิตเชียว ภายหลังลูกสะใภ้แต่งเข้ามา ตรงไหนไม่ดีก็ตอ้ ง
พูด ตรงไหนที่ดีแล้วก็ยงั คงต้องพูดชม อย่าได้สญ ู เสียความเที่ยงธรรมก็เพียงพอแล้ว…”
ยามที่บิดาพูด อวีถ้ งั ก็เอาแต่มองญาติผพู้ ่ีอยู่ตลอด
468

นางเห็นหูของอวีห้ ย่วนแดงไปหมด หาโอกาสลอบย้ายไปนั่งข้างๆ เขา กระซิบข้างหู


“ท่านคงไม่ได้รูส้ กึ ว่าตัวเองก็แปลกๆ ไปเช่นกันกระมัง?”
อวีห้ ย่วนมองท่านอาที่กาํ ลังพูดคุยกับบิดามารดาเขาอยู่แวบหนึ่ง ก่อนจะกล่าวเสียง
เบา “มีบา้ ง แต่ขา้ คิดว่าท่านอาพูดถูก คนอื่นมีเงินก็เป็ นเรื่องของคนอื่น ขอเพียงแค่พวกเราไม่
โลภมาก ย่อมสามารถเดิน ทางที่ ซ่ื อตรง นั่ง อย่ า งผ่า เผยได้” พูดมาถึ ง ตรงนี ้ เขาก็ ชะงัก ไป
เล็กน้อย เอ่ยต่ออย่างสองจิตสองใจ “แต่ว่ายามที่นายหญิงเว่ยบอกให้ขา้ ซือ้ ร้านค้าแห่งหนึ่งใน
หังโจว ข้านัน้ หวั่นไหวอยู่จริงๆ หรือเวลานัน้ ที่ขา้ คิดฟุ้งซ่าน เป็ นเพราะเกิดละโมบขึน้ มา”
นี่ไม่อาจโทษอวีห้ ย่วนได้ อวีถ้ งั ครุ ่นคิด ตัง้ แต่ครัง้ ก่อนที่นาง บิดาและพี่ชายไปหังโจว
ด้วยกัน กระทั่งนางก็คิดว่าทําการค้าขายที่หงั โจวจะรุง่ เรืองกว่า ยิ่งไปกว่านัน้ ทัง้ สองชาติอวีห้ ย่
วนล้วนคิดจะทําการค้าใหญ่ ต้องการให้สกุลอวีม้ ีการพัฒนาก้านหน้าขึน้
ทุกคนในครอบครัวพูดคุยเรื่องนีเ้ กือบหนึ่งชั่วยาม เมื่อท้องฟ้าเริ่มสว่าง จึงล้อมวงกิน
ข้าวด้วยกัน
อวีเ้ หวินยังไม่ทนั แกะไข่เค็มเสร็จดี หูซิ่ง พ่อบ้านสามของสกุลเผยก็มาหาถึงหน้าประตู
อวีห้ ย่วนตกใจ พวกผูห้ ญิงในเรือนต่างรีบยกจานข้าว เข้าไปหลบในห้องครัว ด้านอวีเ้ หวินก็เชิญ
หูซิ่งกินข้าวเช้าด้วยกัน
“กินตัง้ แต่เช้าแล้ว” หูซิ่งยิม้ จนแก้มแทบปริ “ข้าตัง้ ใจมาบอกพวกเจ้าว่า อีกเดี๋ยวหมอ
หลวงหยางจะกลับซูโจว ก่อนไปจะเข้ามาตรวจอาการให้นายหญิงท่าน เรื่องกะทันหันอยู่บา้ ง
ข้าจึงล่วงหน้ามาบอกกล่าวก่อน อาหารเช้าไม่เป็ นไรหรอก สักพักยังต้องเข้ามาเป็ นเพื่อนหมอ
หลวงหยาง”
สกุลอวีย้ ่อมดีใจกับเรื่องที่คาดไม่ถึง
อวีเ้ หวินไปส่งหูซิ่งออกจากประตูดว้ ยตัวเอง กล่าวขอบคุณอย่างซาบซึง้
469

หูซิ่งยิม้ ขัด “นี่เป็ นความต้องการของนายท่านสาม ภายหลังขอเพียงหมอหลวงหยางมา


หลินอัน ก็เข้ามาตรวจสุขภาพให้นายหญิงของท่านด้วย หากพวกท่านอยากขอบคุณอะไร บอก
กล่าวกับนายท่านสามและหมอหลวงหยางก็เพียงพอแล้ว ข้าแค่เป็ นคนวิ่งเรื่องแทน ท่านทํา
เช่นนีข้ า้ รับไว้ไม่ได้หรอก”
เมื่อก่อนคนของสกุลเผยก็เกรงอกเกรงใจต่อสกุลอวี ้ กลับไม่เหมือนตอนนี ้ ในความ
เกรงใจแฝงด้วยความเคารพอยู่หลายส่วน พี่นอ้ งสกุลอวีย้ ่อมมองออกถึงความแตกต่างภายใน
ส่งหูซิ่งไปแล้ว อวีเ้ หวินก็อดเอ่ยกับอวีป้ ๋ อไม่ได้ “นี่มนั เกิดเรื่องอะไรกันแน่?”
อวีป้ ๋ อคิดวนไปเวียนมาก็ยงั ไม่เข้าใจ เอ่ยเพียงว่า “อาการป่ วยของน้องสะใภ้ มีหมอ
หลวงหยางดูแล ย่อมสามารถรักษาจนอาการดีขึน้ หายขาดจากโรคภัย นี่เป็ นเรื่องดี เรื่องของ
ภายหลังก็คอ่ ยพูดกันภายหลังเถิด”
อวีเ้ หวินเกาศีรษะ
อวีถ้ งั ก็ไม่รูว้ า่ เผยเยี่ยนหมายความว่าอย่างไร แต่คิดไปคิดมาอย่างไรเรื่องนีก้ ็เป็ นเรื่องดี
ติดหนีม้ าก กังวลไปก็ไร้ประโยชน์ หนีท้ ่ีพวกเขาติดค้างสกุลเผยไม่อาจจะทดแทนในเวลาสัน้ ๆ
ได้ แค่จาํ ไว้ก่อนก็เพียงพอแล้ว
หลังจากหมอหลวงหยางมาจับชีพจรให้เฉิ นซื่อ ปรับเปลี่ยนสํารับยาเล็กน้อย กําชับ
ให้อวีเ้ หวินอย่าให้เฉินซื่อเหน็ดเหนื่อยเกินไป ทัง้ ยามที่เฉินซื่อโมโหก็อย่าได้เดินจากไปเฉยๆ
สกุลอวีก้ ลับพากันดีอกดีใจ นึกถึงฤดูรอ้ น เฉิ นซื่อก็จะไม่ป่วยไข้อีกแล้ว ภายหลังขอ
เพียงหมอหลวงหยางให้ยารักษาเฉินซื่อต่อ ไม่ชา้ ก็เร็วอาการเฉินซื่อย่อมจะดีขนึ ้ ด้านอวีเ้ หวินก็
คิดจะส่งวัตถุโบราณให้เผยเยี่ยนสักชิน้ หนึ่ง
น่าเสียดายที่สกุลอวีม้ ีทรัพย์สินในบ้านเพียงน้อยนิด อวีเ้ หวินหาอยู่หลายวันก็ยงั คงหา
ของที่เหมาะสมไม่ได้
470

ด้านอวีถ้ ังก็ครุ ่นคิดว่าจะขอพี่นอ้ งสกุลชวีของตําบลป่ านเฉียวมาช่วยตัวเองทําเรื่อง


เหมือนชาติท่ีแล้วดีหรือไม่
ชาติก่อน เพื่อที่ฮูหยินหลี่จะขังนางอยู่ในสกุล ยามที่นางถือป้ายวิญญาณของหลี่จวิน้
เข้าสกุลก็ป่าวประกาศไปทั่วว่านางตัง้ ประณิธานครองพรหมจรรย์ให้หลี่จวิน้ ถึงขัน้ ที่คนของ
สกุลหลี่กล่าวว่า สกุลหลี่จะแย่งซุม้ เกียรติยศความซื่อสัตย์กลับมาหรือไม่ ก็ตอ้ งฝากความหวัง
ทัง้ หมดไว้ท่ีนางแล้ว
นี่เป็ นสาเหตุท่ีคน้ พบภายหลังว่าสกุลหลี่เป็ นเหมือนหนองบึงโคลนลึก คิดจะหลบหนี
จากสกุลหลี่กลับต้องเสียเวลาห้าหกปี
เวลานัน้ การตายของลุงใหญ่และญาติผพู้ ่ีทาํ ให้นางรูส้ กึ ว่าสิ่งที่สกุลของตัวเองได้เผชิญ
มีความเกี่ยวข้องกับสกุลหลี่ เพื่อหาหลักฐาน นางขอความช่วยเหลือจากข้ารับใช้ผมู้ ีอิทธิพลใน
เมืองหลินอันอยู่บ่อยครัง้ ทั้งถูกหลอกหลายคราเช่นกัน…เพราะอยู่ในนามหญิ งหม้ายของ
สกุลหลี่ นางไม่ก ล้าออกหน้าด้วยตัวเอง มัก จะยื ม มือคนอื่นสืบเรื่องสกุลหลี่ ด้ว ยเหตุนีค้ น
ส่วนมากเมื่อรับเงินนางไปแล้วกลับไม่ช่วยนางทําเรื่อง ทัง้ ทําให้นางไม่ค่อยมีเงินช่วยเหลือป้า
สะใภ้ใหญ่เช่นกัน
พี่นอ้ งสกุลชวี นับว่าเป็ นคนที่คอ่ นข้างน่าเชื่อถือในหมู่ขา้ รับใช้ผมู้ ีอิทธิพลพวกนีแ้ ล้ว
471

บทที่ 58 จับคน
เพียงแต่ไม่วา่ เรื่องอะไรล้วนมีขอ้ ดีและข้อเสียทัง้ นัน้
แม้พ่ีนอ้ งสกุลชวีจะน่าเชื่อถือ แต่ราคาที่ตอ้ งจ่ายก็ไม่นอ้ ยเช่นกัน
เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ล้วนต้องใช้แปดถึงสิบตําลึง หากยากหน่อย ก็ตอ้ งจ่ายถึงยี่สิบสามสิบ
ตําลึง
ยามนีอ้ วีถ้ งั ก็กาํ ลังเผชิญสถานการณ์ลาํ บากเหมือนชาติก่อน…คือไม่มีเงิน!
ไม่สิ ยามนีน้ างถึงขัน้ ยากจนกว่าชาติก่อนด้วยซํา้
ชาติก่อนอย่างไรนางก็มีสินเดิมคอยช่วยเหลืออยู่บา้ ง ยามนีม้ ารดาและบิดาอย่างมาก
ที่สดุ ก็ให้เงินค่าขนมนางสองสามตําลึงเท่านัน้ หากนางกล่าวว่าใช้หมดแล้ว ก็ยงั ถามต่ออีกว่า
เอาไปใช้อย่างไร เงินหายไปที่ไหนหมด
ไม่ก่ีวนั ก่อนเพราะเรื่องของเว่ยเสี่ยวซาน นางก็แอบให้ขา้ รับใช้ผมู้ ีอิทธิพลช่วยเป็ นธุระ
ล้วนเป็ นงานสืบข่าวเล็กๆ ไม่ได้จาํ กัดว่าใครต้องเป็ นคนทํา และแม้จะเป็ นเช่นนี ้ เงินเก็บของนาง
ก็ถกู ใช้ไปไม่นอ้ ยแล้ว ย่อมไม่อาจขอร้องสองพี่นอ้ งสกุลชวีได้แน่
หากนางสามารถหาเงินเหมือนคนอื่นได้ก็คงจะดี!
อวีถ้ งั หงุดหงิดใจเป็ นอย่างมาก
นางนั่งเท้าศอกกับโต๊ะหนังสือใกล้หน้าต่าง มองดอกเบญจมาศในลานที่ใกล้จะบาน
สะพรั่งไม่ขยับเขยือ้ นไปไหน ทว่าในหัวกลับแล่นอย่างว่องไว
ชาติก่อน ตัง้ แต่นางเริ่มสงสัยสกุลหลี่ นางก็ตรวจสอบเรื่องของสกุลหลี่เป็ นอันดับแรก
คอยจับตาดูคนของสกุลหลี่ เวลานัน้ นางจึงได้รูว้ ่า ที่แท้ผูห้ ญิ งก็สามารถทํากิจการได้เช่นกัน
โดยเฉพาะผูห้ ญิงทางซูโจวและหังโจว หลายคนที่นาํ เงินส่วนตัวลงทุนกับการค้าทางทะเล เรือ
472

เดินสมุทรกลับมาอย่างปลอดภัยก็สามารถหาเงินซือ้ เรือนได้เป็ นหลัง แต่หากเรือเดินสมุทรไม่


อาจกลับมา ความเสียหายก็เทียบเท่าแค่เงินซือ้ เครื่องแป้งผงชาดเท่านัน้
แต่วา่ ทํากิจการเช่นนีจ้ าํ เป็ นต้องมีลทู่ าง
หากไม่ได้อาศัยที่บิดาหรือพี่ชายทําการค้าขาย ก็ตอ้ งพึ่งพาเส้นสายจากญาติพ่ีนอ้ ง
ไม่อย่างนัน้ ก็ง่ายจะถูกหลอก
นําเงินไป เพียงกล่าวว่าจะลงทุนกับกลุ่มเรือใด รอสักครึ่งปี หรือหนึ่งปี กลับมาพูดว่า
กลุม่ เรือล่มแล้ว ขาดทุนย่อยยับ เงินที่จ่ายออกไปย่อมลงทุนโดยสูญเปล่า
แต่ไม่วา่ เรื่องอะไรล้วนมีขอ้ ยกเว้น
เจียงหลิง หญิงสาวสกุลเจียงเมืองซูโจว ยามอายุสิบหกปี ก็แต่งให้กับคุณชายใหญ่ท่ี
หมัน้ หมายกันตัง้ แต่ยงั เด็ก อายุสิบเจ็ดกลายเป็ นหม้าย
เริม่ พัฒนาจากจุดเล็กๆ ต่างจากหญิงสาวธรรมดาคนอื่น หลังจากครอบครัวตกอับ เพื่อ
เลีย้ งดูแม่สามีในยามชราและน้องสามีท่ียงั อยู่ในวัยเด็ก จึงขายสินเดิมของตนเอง นําทรัพย์สิน
จํานวนมากร่วมลงทุนกับกลุ่มเรือสินค้าของเจียงเฉาผูเ้ ป็ นพี่ชาย เริ่มทําการค้าขายทะเลขึน้ มา
เวลาสัน้ ๆ เพียงห้าหกปี ก็ทาํ ให้สกุลเจียงที่เป็ นพ่อค้าธรรมดากลายเป็ นสกุลที่ร่าํ รวยที่สดุ ใน
ซูโจว สกุลอวี๋ก็ม่งั คั่งชั่วข้ามคืนเพราะเรื่องนีเ้ ช่นกัน กลายเป็ นสกุลที่นบั ได้วา่ รํ่ารวยในเมืองซูโจว
ก่อนที่อวีถ้ งั จะตาย สกุลเจียงนัน้ กําลังคิดทะเยอทะยานจะทําการค้ากับราชวงศ์
สกุลหลี่อิจฉาตาร้อนเป็ นที่สดุ
เรื่องการค้าทางทะเล สกุลหลี่และสกุลหลินก็เคยเสียเงินไปไม่นอ้ ยเพราะกลุ่มเรือส่ง
สินค้าเกิดปั ญหาเช่นกัน
473

หลินเจวี๋ยถึงขัน้ คิดจะอาศัยลู่ทางของสกุลเจียง เสนอความคิดกับหลี่ตวน “ทําการค้า


กับราชวงศ์เป็ นเรื่องง่ายขนาดนัน้ ที่ไหนกัน ราชสํานักไม่มีคนเลยรึ แทบไม่ตอ้ งคิด เจ้ามิสพู้ บปะ
กับเจียงเฉาเสียหน่อย ดูวา่ สามารถร่วมลงทุนกันได้หรือไม่”
หลี่ตวนคิดว่าเรื่องนีไ้ ม่ค่อยเป็ นไปได้เท่าใด “กิจการของเจียงเฉามาถึงขัน้ นีแ้ ล้ว ไม่รูว้ ่า
มีคนมากน้อยเท่าใดยินดีจะเพิ่มลายดอกลงบนผ้าแพร 1! พวกเรารู จ้ กั เจียงเฉาช้าไปหน่อย ยิ่ง
104

ไปกว่านัน้ แถบซูโจวหังโจว มีสกุลขุนนางมากหน้าหลายตา มีสกุลที่ลกึ ลับซับซ้อนไม่รูต้ งั้ เท่าใด


สกุลของพวกเรายังนับว่าเทียบไม่ได้อยู่บา้ งจริงๆ”
หลินเจวี๋ยแนะนําให้หลี่ตวนดีกับกูซ้ ีให้มากหน่อย “อย่าได้ทิง้ แตงโมไปเก็บงา 2 ปี นี ้ 105

พี่ชายภรรยาของเจ้าไม่ทนั สามสิบปี ก็ได้เลื่อนตําแหน่งเป็ นขุนนางหลางจง 3กรมขุนนางแล้ว เจ้า


106

อย่าได้ทาํ อะไรเลอะเลือนเชียว จะเสียการใหญ่เพราะสิ่งเล็กๆ”


แตงโมคือกูซ้ ี งาที่วา่ ก็คืออวีถ้ งั
หลี่ตวนนัน้ รับฟั ง มีช่วงหนึ่งที่รกั ใคร่กซู้ ีปานจะกลืนกิน อวีถ้ งั โล่งใจไม่นอ้ ย คิดว่าหลี่ต
วนปล่อยนางไปแล้ว ใครจะรูว้ า่ ไม่ถึงครึง่ ปี หลี่ตวนก็เริม่ ออกลาย คิดวางแผนกับนางอีกครัง้
นางรูส้ กึ ไร้ค่าแทนกูซ้ ี ทัง้ อิจฉาเจียงหลิงที่มีพ่ีนอ้ งสกุลมารดาคอยสนับสนุน นางทุ่มเท
แรงกายแรงใจไปไม่นอ้ ยจึงค่อยใช้นามของอาเสา ลงเงินห้าสิบตําลึงร่วมลงทุนกับกลุ่มเรือ
สินค้าของเจียงเฉา
สองปี ให้หลัง กลุม่ เรือสินค้าก็กลับมาอย่างปลอดภัยอีกครัง้
อวีถ้ งั ทําเงินได้ส่รี อ้ ยตําลึง

1
เพิ่มลายดอกลงบนผ้าแพร หมายถึง ทําสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดีย่งิ ขึน้ ไปอีก
2
ทิง้ แตงโม ไปเก็บงา หมายถึงให้ความสนใจกับเรื่องไม่สลักสําคัญจนละเลยประเด็นหลักไป
3
หลางจง ขุนนางที่ดูแลคุม้ กันจักรพรรดิ ติดตาม คอยเสนอความเห็น ให้คาํ ปรึกษาเรื่องต่างๆ ทัง้ ปฏิบัติงานภายนอก
ตามที่ได้รบั มอบหมาย
474

เวลานัน้ นางดีใจกับเรื่องที่ไม่คาดฝัน พลิกไปพลิกมานอนไม่หลับ ไม่รูว้ า่ เงินนีจ้ ะเอาไป


ใช้อย่างไรดี
และก็ นับเป็ น โชคดี เพราะเงิ น พวกนี ้ นางจึง สามารถนํา ไปสั่งการพี่ นอ้ งสกุลชวีได้
ท้ายที่สดุ ก็ถกู ฮูหยินหลี่และหลี่ตวนจัดการ หลุดพ้นจากสกุลหลี่ไป
วันนีม้ าคิดดู ยามนีส้ กุลเจียงยังไม่ได้ร่าํ รวย หลายปี ท่ีผ่านมา เจียงเฉาก็เริม่ เกลีย้ กล่อม
ให้คนอื่นร่วมลงทุนเพื่อจัดตัง้ กลุม่ เรือส่งสินค้าจากทั่วสารทิศ กําลังอยู่ในสถานการณ์ลาํ บาก
หากนางสามารถคว้าโอกาสนีไ้ ด้ กลายเป็ นหนึ่งในพันธมิตรของสกุลเจียงได้เร็วที่สดุ
ไม่ใช่วา่ จะสามารถรํ่ารวยเหมือนสกุลอวี๋ได้หรอกรึ?
อวีถ้ งั ทอดถอนหายใจ
แต่จะอย่างไร ก็ติดเรื่องเงินอยู่ดี
นางในยามนีไ้ หนเลยจะนําเงินมาร่วมลงทุนกับสกุลเจียงได้…
ในขณะที่อวีถ้ งั กําลังกลัดกลุม้ ก็มีคนทิง้ ดอกไม้ใส่นาง
ดอกไม้หล่นถูกจมูกนาง ทําให้นางมึนงงไปเล็กน้อย
นางเงยหน้าดู กลับพบอวีห้ ย่วน
“นี่เจ้าเป็ นอะไรกัน?”
อวีห้ ย่วนถามด้วยยิม้ เริงร่า ระหว่างคิว้ นัน้ ปกปิ ดท่าทีสขุ ล้นและกระปรีก้ ระเปร่าไม่มิด
เลยสักนิด
ชั่วพริบตานัน้ อวีถ้ งั ก็รูส้ กึ ว่าเบือ้ งหน้าเปล่งประกายขึน้ มา
นางไม่มีเงินก้อนโต แต่เงินเล็กๆ น้อยๆ นางจะยืมมาไม่ได้เชียวหรือ?
นางยื่นมือยืมเงินจากอวีห้ ย่วน “ข้าอยากซือ้ ของ”
475

ยามนีอ้ วีห้ ย่วนกําลังอารมณ์ดี อย่าพูดเลยว่าตอนนีอ้ วีถ้ งั เพียงอยากยืมเงินเขา แต่หาก


ให้เขาแบกนางวิ่งรอบเมืองหลินอันสองครัง้ เขาก็เต็มใจลําบากเช่นกัน
อวีถ้ งั เอ่ยอย่างเจ้าเล่ห ์ “ข้าอยากได้หา้ สิบตําลึง!”
“หา!” อวีห้ ย่วนที่มือล้วงเข้าไปอยู่ในแขนเสือ้ แล้วถึงกับชะงัก “เจ้าต้องการเงินมากมาย
ขนาดนัน้ ไปทําอะไร?”
เขาไม่ได้มีเงินส่วนตัวมากถึงเพียงนัน้ เสียหน่อย!
อวีถ้ งั เอ่ยด้วยรอยยิม้ “เช่นนัน้ ก็สามสิบตําลึง? เดี๋ยวท่านก็แต่งงานแล้ว พอมีครอบครัว
ก็เป็ นสามีของคนอื่นแล้ว ไม่ใช่พ่ีชายเพียงคนเดียวของข้าอีกต่อไป ภายหลังข้าอยากได้อะไร
จากท่านก็ยากแล้ว ท่านพี่ก็ให้ขา้ สักครัง้ ไม่ได้ร?ึ ”
อวีห้ ย่วนหน้าแดงระเรื่อ เอ่ยอย่างเขินอาย “จะแต่งแล้วที่ไหนกัน ไม่ว่าอย่างไรก็ตอ้ งรอ
ต้นฤดูใบไม้ผลิปีหน้า นี่เป็ นความต้องการของนายหญิงเว่ย กลัวว่างานแต่งของพวกเราสอง
สกุลจะรีบร้อนเกินไป ทําให้คนอื่นซุบซิบนินทาคุณหนูเซียง”
ทั่วใบหน้าของอวีถ้ งั ล้วนเผยความตกใจ “ท่านพี่ ยังไม่ทนั แต่งภรรยาก็ลืมน้องเสียแล้ว
คาดไม่ถึงว่าท่านจะไม่โต้แย้งข้า พูดว่าท่านแต่งงานแล้วก็ยงั เป็ นพี่ชายคนเดียวของข้าอยู่ดี!”
สองสกุลกําหนดจัดพิธีแต่งงานของอวีห้ ย่วนและคุณหนูเซียงในต้นฤดูใบไม้ผลิ นางได้
ฟั งจากมารดาแล้ว เพียงแต่นางคาดไม่ถึงว่าอวีห้ ย่วนยังไม่ทนั แต่งงาน ใจดวงนีก้ ็เอนเอียงไป
ทางคุณหนูเซียงเสียแล้ว
“ไม่ ไม่ใช่ ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนัน้ ” อวีห้ ย่วนกล่าวอธิบายอย่างกระอึกกระอัก
“ข้า จะพูด ว่า ในเมื่ อ ข้า เป็ น พี่ ช ายของเจ้า ก็ จ ะเป็ น พี่ ช ายของเจ้า ตลอดไป แต่ห ากคุณหนู
เซียงแต่งเข้ามา อย่างไรก็แปลกหน้าสําหรับครอบครัวเราอยู่บา้ ง พวกเราควรจะดีต่อนางเสีย
หน่อยต่างหาก”
“คงเป็ นท่านพี่ท่ีอยากดีกบั นางมากกว่ากระมัง?” อวีถ้ งั ไล่ตอ้ น ในใจกลับรูส้ กึ ดีจริงๆ
476

ชาติก่อน อวีห้ ย่วนไม่เคยปกป้องเกาซื่อเช่นนีม้ าก่อน


จะเห็นได้วา่ คุณหนูเซียงเป็ นคนที่เขาชอบ และอยู่ในดวงใจจริงๆ
ชาตินี ้ ญาติผพู้ ่ีของนางย่อมมีความสุขได้แน่
อวีถ้ งั เย้าแหย่เขาต่อ “หากท่านไม่ให้เงินข้า ข้าจะไปบอกป้าสะใภ้ใหญ่เดี๋ยวนี ้ กล่าวว่า
ภายหลังท่านมีภรรยาแล้วก็ไม่สนใจความเป็ นความตายของน้องสาวอีก”
“ไม่ใช่เสียหน่อย!” อวีห้ ย่วนรีบร้อนกล่าว แม้เขาจะไม่รูว้ ่าระหว่างแม่สามีและลูกสะใภ้
มักจะไม่ชอบหน้ากัน ทัง้ ถึงกระทั่งกลายเป็ นศัตรูคอู่ าฆาตเพราะประโยคที่ไม่ตงั้ ใจเพียงประโยค
เดียว แต่อย่างไรก็กลัวว่ามารดาของเขาจะเข้าใจคุณหนูเซียงผิดไป กลายเป็ นไม่ชอบนางไป
“เจ้าอยากยืมเท่าใด? มากไป…มากไปไม่มีหรอกนะ”
แท้จริงที่เขาอยากพูดคือมากไปกว่านีเ้ ขาจะเอาไปซือ้ พวกที่คาดผมไข่มุกให้คุณหนู
เซียง ถือว่าเป็ นของขวัญที่เขาส่งให้กบั คุณหนูเซียงด้วยตัวเอง เห็นท่าทางอวีถ้ งั ไม่พอใจเท่าใด
กลัวว่าพูดคํานีอ้ อกมาจะทําให้อวีถ้ งั อิจฉา เขาจึงกลืนคําพูดลงไปอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนเป็ นอีก
ประโยค
อวีถ้ งั พอใจแล้ว เอ่ยเสียงเบาว่า “ไม่วา่ อย่างไรก็ตอ้ งได้สามสิบตําลึง!”
เวลานีพ้ ่ี นอ้ งสกุลชวีเพียงมีช่ือเสียงเล็กๆ เท่านั้น คงยังไม่ได้ค่าตัวแพงเหมือนชาติ
ก่อนที่นางไปหา แต่เห็นท่าทีของอวีห้ ย่วน นางคาดว่านี่ก็คงเป็ นครัง้ สุดท้ายที่จะขอเงินจากเขา
แล้ว ทัง้ ภายหลังนางย่อมไม่อาจขออะไรจากอวีห้ ย่วนได้ง่ายๆ แล้วเช่นกัน เขาแต่งงานแล้ว ของ
ทุกอย่างก็ควรให้ภรรยาของเขา แม้นางจะอยากยืมเงิน ก็ตอ้ งยืมจากคุณหนูเซียง ไม่ใช่ขอยืม
จากอวีห้ ย่วน ทัง้ ยืมแล้วก็ตอ้ งคืนด้วย
นี่เป็ นประสบการณ์ท่ีนางได้มาจากชาติก่อน
อวีห้ ย่วนเก็บเงินไว้สิบตําลึง “มากสุดยี่สิบตําลึง มากกว่านีข้ า้ ก็ไม่มีแล้ว!”
477

อวีถ้ งั ไม่กล้าบีบเค้นอวีห้ ย่วน กลัวเขาพลัง้ ปากบอกคนอื่นไป กระทั่งเงินยี่สิบตําลึงนีก้ ็


คงหายไปเช่นกัน
“ขอบคุณท่านพี่!” นางกล่าวทันที “ภายหลังข้าย่อมจะปฏิบตั ิกบั คุณหนูเซียงดีๆ”
“เจ้าพูดไร้สาระอะไรกัน!” อวีห้ ย่วนตําหนิอวีถ้ ัง แต่ก็ไม่กล้าสั่งสอนนางอย่างจริงจัง
กลัวนางจะพาลโกรธ ทําตัวไม่ดีกบั คุณหนูเซียง รีบกลับบ้านไปเอาตั๋วเงินมา “เจ้าใช้ประหยัดๆ
หน่อย”
อวีถ้ ังให้บิดาไปแจ้งทางการ คิดอยากแหวกหญ้าให้งูต่ืน ยามนีค้ นลีภ้ ัยในที่นาของ
สกุลหลี่สว่ นมากก็แยกย้ายหนีกนั ไปแล้ว หากสองคนนัน้ ที่สงั หารเว่ยเสี่ยวซานก็อยู่ในที่นา หนี
ไปแบบนี ้ ย่อมคิดว่าไม่คมุ้ ค่า แปดถึงเก้าส่วนต้องมาขอเงินจากสกุลหลี่สกั เล็กน้อยแล้วค่อยหนี
เป็ นแน่
อวีถ้ งั ผงกศีรษะติดต่อกัน ให้อาเสาไปหาพี่นอ้ งสกุลชวีก่อน ให้พ่ีนอ้ งสกุลชวีจบั ตาดูห
ลี่ตวน หากมีใครไปขอเงินจากหลี่ตวน ก็ให้หาวิธีจบั คนส่งไปยังท้ายตรอกชิงจู๋
ยามนีส้ องพี่นอ้ งสกุลชวีเพิ่งมีช่ือเสียงเล็กๆ ในละแวกนี ้ เป็ นเวลาที่กาํ ลังสร้างความ
เชื่อมั่นและเกรงขาม หลังจากรับปากก็เริม่ จับตาดูคนของสกุลหลี่ทกุ วันทุกคืนทันที
อวีถ้ งั นําเงินในมือที่เหลืออยู่สิบสองตําลึงขึน้ มาอย่างเจ็บปวด
พี่นอ้ งสกุลชวีเก็บค่าตัวแพงเสียจริง!
ยามนีน้ างกลายเป็ นยาจกอีกแล้ว
แต่พ่ีนอ้ งสกุลชวีทาํ เรื่องได้เป็ นที่น่าพอใจ ยังไม่ทนั ถึงเทศกาลฉงหยาง พี่นอ้ งสกุลชวีก็
ให้คนส่งจดหมายมาให้นาง กล่าวว่าจับคนลีภ้ ยั ที่ไปขอเงินจากหลี่ตวนได้แล้ว แต่วา่ สองคนนีก้ ็
เป็ นผูท้ ่ีคนอื่นก่อนหน้านีต้ อ้ งการตัวเช่นกัน พวกเขาคาดไม่ถึงว่าผูท้ ่ีสองสกุลต้องการตัวจะเป็ น
กลุ่มคนเดียวกัน แม้ว่าอีกฝ่ ายจะพูดก่อนหน้านาง กลับไม่ได้ให้เงินไว้ อวีถ้ ังที่มาทีหลัง แต่
วางเงินทัง้ หมดให้ พวกเขาจึงตัดสินใจส่งคนให้อวีถ้ งั แทน
478

อวีถ้ ังนึกกลัวในภายหลังอยู่พกั หนึ่ง ทัง้ รู ส้ ึกดีใจที่ชาติก่อนได้รูจ้ ักรู ปแบบการทํางาน


ของสองพี่นอ้ งสกุลชวี ไม่อย่างนัน้ แม้วา่ จะมีวิธีก็คงจับตัวสองคนนีไ้ ม่ได้อยู่ดี
นางส่งข่าวให้เว่ยเสี่ยวชวน มีอาเสาคอยอยู่เป็ นเพื่อน พวกเขาพบกันที่ทา้ ยตรอกชิงจู๋
ไม่ว่าจะอวีถ้ งั หรือเว่ยเสี่ยวชวน ล้วนไม่เคยพบเจอสองคนนี ้ เรื่องของเว่ยเสี่ยวซานก็
เป็ นเพียงความสงสัยและข้อสันนิษฐาน เว่ยเสี่ยวชวนและอวีถ้ งั คนหนึ่งอยู่ในที่แจ้งอีกคนอยู่ท่ี
ลับ เริม่ สอบสวนทัง้ สองคนที่ถกู พี่นอ้ งสกุลชวีทรมานจนร่างกายเขียวชํา้ ไปหมด
คาดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะราบรื่นจนพาให้อวีถ้ งั สงสัยว่ายามนีพ้ ระโพธิสตั ว์คงจะยืนอยู่
ข้างนางแล้ว
ยามที่เว่ยเสี่ยวชวนถามพวกเขา นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะรับสารภาพอย่างไม่ออ้ มค้อม
ได้รับ คํา สั่ง จากสกุ ล หลี่ ใ ห้สัง หารเว่ ย เสี่ ย วซาน จุ ด ประสงค์เ พื่ อ ทํา ลายงานแต่ ง เชื่ อ ม
ความสัมพันธ์ของสกุลเว่ยและสกุลอวี ้ ทัง้ ยังเอ่ยถึงเรื่องบุญคุณความแค้นของสกุลหลี่เป็ นนํา้
ไหลไฟดับ “ที่จริงทํางานช่วยเหลือเรื่องพวกนีใ้ ห้สกุลพวกเขา ยังคิดว่าสกุลพวกเขามีเบือ้ งลึก
เบือ้ งหลังใหญ่โต ใครจะรู ว้ ่าพอทางการเข้าไป สกุลพวกเขาจะไม่กล้าผายลมด้วยซํา้ สร้าง
ความหวาดกลัวให้พวกเราฆ่าเจ้าหน้าที่จงึ ค่อยหนีออกมา ยามนีก้ ลัวพวกเราดึงพวกเขาออกมา
ส่งคนหลายกลุม่ มาหาพวกเรา พวกเราก็ไม่ได้กินแต่พืชผัก ให้ต่อสูอ้ ย่างเอาเป็ นเอาตายไปข้าง
หนึ่งย่อมไม่ไหวหรอก!”
พูดมาจนถึงสุดท้าย คนลีภ้ ยั สองคนนีก้ ็ยงั เอะอะโวยวายอย่างกําเริบเสิบสาน กล่าว
ทํานองว่า “พวกเจ้ามีอะไรก็ไปหาสกุลหลี่ พวกเราเพียงแค่เป็ นคนลงมือ แต่สกุลหลี่ตา่ งหากที่มี
จิตเป็ นฆาตกร มาหาพวกเราทําไม” “สกุลเว่ยของพวกเจ้าดูแล้วพี่นอ้ งก็มากมาย คาดไม่ถึงว่า
จะเป็ นเพียงพวกไร้คา่ ลูกพลัมต้องเก็บลูกที่สกุ นิ่ม 4อยู่แล้ว” “พวกเจ้าจับพวกเราแล้วจะอย่างไร
107

4
ลูกพลัมต้องเก็บลูกที่สกุ นิ่ม อุปมาว่า เลือกรังแกคนที่อ่อนแอ
479

ต่อ หรือยังกล้าส่งพวกเราให้ทางการอย่างนัน้ รึ? สกุลหลี่อยากทําลายงานแต่งของคุณหนูอวี ้


พวกเจ้าส่งพวกเราให้ทางการ ก็ตรงกับที่สกุลหลี่ตอ้ งการพอดี”
480

บทที่ 59 ฉีกขาด
คําพูดของพวกคนลีภ้ ยั อย่าพูดถึงอวีถ้ งั และเว่ยเสี่ยวชวนเลย กระทั่งสองพี่นอ้ งสกุลชวี
ก็ยงั นิ่งอึง้ ไปหมด
เรื่องที่สกุลหลี่ลอบปล่อยข่าวลือต้องการตัวคนลีภ้ ยั สองคนที่ไม่เชื่อฟั งนัน้ พี่นอ้ งสกุลช
วีรูม้ าก่อนแล้ว แต่น่ีนบั ว่าเป็ นความลับของลูกค้า ไม่วา่ อย่างไรพวกเขาก็ไม่อาจบอกกับบุคคลที่
สาม คาดไม่ถึงว่าสองคนนีจ้ ะไม่มีความเกรงกลัวแม้แต่นอ้ ย กลับพูดออกมาหมดเปลือก ไม่มี
ปิ ดบังสักนิด ทัง้ ยังข่มขู่สกุลเว่ยอย่างตรงๆ
เห็นได้ว่าสองคนนีจ้ นตรอกไม่มีทางให้หนีแล้วจริงๆ ก่อนตายจึงขอกัดสกุลหลี่หนึ่งคํา
อย่างไม่สนใจอันใด
เว่ยเสี่ยวชวนโมโหจนเส้นเลือดขึน้ ที่ขมับ
เขายังไม่เคยพบคนหน้าไม่อายเช่นนีม้ าก่อน
คาดไม่ถึงว่า จะเป็ นเพราะความคิดเห็นแก่ตวั อยากดึงอวีถ้ งั เข้ามาข้องเกี่ยว
ที่จริงเขาและอวีถ้ ังปรึกษากันดีแล้ว หากสองคนนีฆ้ ่าเว่ยเสี่ยวซานเหมือนที่พวกเขา
คาดการณ์ไว้ ก็จะส่งพวกเขาให้ศาลาว่าการ ให้พวกเขาและสกุลหลี่กดั กันเอง
ยามนีก้ ลับไม่อาจทําเช่นนัน้ แล้ว
พี่รองเขาล่วงลับไปแล้ว เขาไม่อาจให้อวีถ้ งั ที่มีชีวิตอยู่ถกู ทําร้ายอะไรอีก
แต่อย่างไรเขาก็ยงั อายุนอ้ ย ไม่อาจใช้ความสุขุมจัดการกับเรื่องราวเท่าใด ทัง้ คิดวิธีท่ี
ดีกว่านีไ้ ม่ออกแล้ว
เขาเดินเข้าไปอย่างมีโทสะ ถีบคนลีภ้ ัยพวกนัน้ อย่างแรง กล่าวเสียงดัง “เช่นนัน้ ก็ดี!
พวกเราจะส่งพวกเจ้าให้สกุลหลี่ พี่ชายสกุลชวีทงั้ สองยังสามารถรับเงินจากสกุลหลี่ได้ ข้ากลับ
481

อยากเห็นว่า พวกเจ้าตกอยู่ในมือสกุลหลี่แล้วจะมีอะไรดี?” เขาพูดจบ ก็เอ่ยกับพี่นอ้ งสกุลชวี


“พี่ชายทัง้ สอง พวกเจ้าคงจะสามารถรับเงินจากสกุลหลี่ได้อีกกระมัง?”
เหตุผลที่สกุลหลี่ไม่ให้กระทั่งเงินมัดจํา เป็ นเพราะว่าสกุลหลี่เห็นข้ารับใช้ผมู้ ีอิทธิพลคน
อื่นดีกว่า ไม่ได้เชื่อใจพวกเขาขนาดนัน้ หากพวกเขาสามารถหาตัวคนลีภ้ ยั สองคนนีก้ ่อนข้ารับ
ใช้ผมู้ ีอิทธิพลคนอื่นได้ ชื่อเสียงพวกเขาในแวดวงข้ารับใช้ผมู้ ีอิทธิพลย่อมก้าวขึน้ ไปอีกขัน้ ไม่แน่
ว่ายังสามารถผูกสัมพันธ์กบั สกุลหลี่ได้เพราะเหตุนี ้ ทัง้ สามารถทําการค้ากับสกุลหลี่ได้
แต่วา่ ทัง้ สองล้วนรูส้ กึ ว่าความซื่อสัตย์เป็ นสิ่งที่สาํ คัญกว่า ฟั งจบก็อดหันไปมองอวีถ้ งั ที่
หลบอยู่หลังกําแพงดอกไม้แวบหนึ่งไม่ได้
คนที่ส่งั การพวกเขาสองพี่นอ้ ง เป็ นคุณหนูสกุลอวีค้ นนีต้ า่ งหาก
อวีถ้ งั ได้ฟังคําพูดของเว่ยเสี่ยวชวนกลับใจสั่นคลอน
ชาติท่ีแล้ว เพื่อจะหลุดพ้นจากสกุลหลี่ นางเคยสืบเสาะทําความเข้าใจสกุลหลี่อย่าง
ละเอียด ภายหลังออกจากสกุลหลี่ได้ ก็ใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์สลับซับซ้อนของญาติพ่ี
น้องสกุลหลี่
แม้บา้ นของหลี่ตวนจะเป็ นสายภรรยาเอกของสกุลหลี่ กลับไม่ใช่บา้ นสายตรงแต่อย่าง
ใด บ้านของพวกเขาเริ่มโดดเด่นขึน้ มาจากปู่ ของหลี่ตวน อาจจะเป็ นเพราะถูกสกุลเผยกดไว้
อย่างหนัก ปู่ ของหลี่ตวนจึงพยายามคิดเอาอย่างท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผย ไม่เพียงกลายเป็ นสกุล
ต้นๆ ของเมืองหลินอัน แต่ยงั คิดกลายเป็ นบ้านสายตรงของสกุลหลี่
ชาติท่ีแล้ว เพราะบ้านของหลี่ตวนประสบความสําเร็จในการค้าที่ฝูเจีย้ น ทําให้บา้ น
ของหลี่ตวนกลายเป็ นครอบครัวที่มีเงินและอํานาจที่สุดของสกุลหลี่ รอจนปู่ สิบสองของบ้าน
สายตรงสกุลหลี่ลว่ งลับ หลี่อซี ้ ง่ึ เป็ นบิดาของหลี่ตวน ก็กดขี่หลี่เหอ ลูกชายของปู่ สิบสองสกุลหลี่
กลายเป็ นบ้านสายตรงของสกุลหลี่
ปี นนั้ อวีถ้ งั ก็อาศัยหลี่เหอที่ไม่พอใจต่อหลี่อจี ้ งึ ออกจากสกุลหลี่มาได้
482

ครัง้ นี ้ พวกเขาก็สามารถใช้ประโยชน์จากเครือญาติพวกนีข้ องสกุลหลี่ได้เหมือนกันใช่


หรือไม่?
อวีถ้ งั เรียกเว่ยเสี่ยวชวนและพี่นอ้ งสกุลชวีมาพูดคุย “ท่านข้าหลวงทังไม่ใช่คนที่ชอบยุ่ง
เรื่องคนอื่นเท่าใด แม้ว่าพวกเราจะส่งพวกเขาสองคนไปที่ศาลาว่าการ สกุลหลี่ออกหน้าทักทาย
กับทางข้าหลวงทัง เรื่องทั้งหมดก็คงถูกผลักมาที่สองคนนี ้ สกุลหลี่ย่อมไร้รอยขีดข่วน ข้าว่า
ความคิดของเสี่ยวชวนไม่เลวเลย พวกเราก็ส่งพวกเขาให้สกุลหลี่ แต่ว่า ไม่ใช่บา้ นของหลี่อี ้ แต่
เป็ นบ้านของหลี่เหอ เพียงแต่พ่ีชายทัง้ สองต้องเสียเปรียบเล็กน้อย เกรงว่าจะไม่ได้เงินรางวัล
จากหลี่ตวน แต่ขา้ จะพยายามชดเชยค่าเสียหายให้ทงั้ สองคนเท่าที่ขา้ สามารถทําได้แล้วกัน”
เสี่ยวชวนไม่รูเ้ รื่องของสกุลหลี่ แต่พ่ีนอ้ งสกุลชวีท่ีทาํ งานเป็ นข้ารับใช้ผมู้ ีอิทธิพลย่อม
กระจ่างชัด
บ้านสายตรงของสกุลหลี่ ไม่พอใจบ้านของหลี่อมี ้ านานแล้ว แต่เพราะหลายปี มานีบ้ า้ น
สายตรงมีเพียงซิ่วไฉออกมาคนเดียว หลายเรื่องยังคงต้องพึ่งพาทางบ้านของหลี่อีจ้ ึงได้อดทน
อยู่เรื่อยมา
พี่นอ้ งสกุลชวีได้ยินอวีถ้ งั พูดเช่นนี ้ แววตาที่มองอวีถ้ งั ก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
พวกเขาเป็ นคนที่มักอาศัยการพินิจคําพูดและสังเกตสีหน้าคนอื่น พิจารณาประเมิน
สถานการณ์ตา่ งๆ คุณหนูคนนีข้ องสกุลอวีไ้ ม่เพียงขอให้พวกเขาช่วยจับคน แต่ยงั กล้าถอนเขีย้ ว
จากปากเสือ 1หาเรื่องให้สกุลหลี่ ไม่พูดถึงอย่างอื่น แต่อาศัยแค่ความกล้านี ้ ภายหลังย่อมไม่
108

อาจเป็ นเพียงคนธรรมดาแน่
พวกเขาชอบคบค้าสมาคมกับคนเช่นนีเ้ ป็ นที่สดุ …มีความกล้า ย่อมไม่มีชีวิตที่น่าเบื่อ
ไม่มีชีวิตที่ธรรมดาผาสุก ก็จะดิน้ รน ดิน้ รนแล้วก็จะต้องการคนอย่างพวกเขาช่วยทําเรื่องที่ไม่ถกู
ทํานองคลองธรรมเท่าใด

1
ถอนเขีย้ วจากปากเสือ หมายถึง ทําเรื่องเสี่ยงอันตราย
483

คุณหนูอวีค้ นนีอ้ ายุยังน้อย พวกเขาเคยได้ยินมาก่อนเช่นกันว่า สกุลอวีต้ อ้ งการหา


ลูกเขยแต่งเข้าสกุลให้นาง ภายหลังสามารถเป็ นผูด้ แู ลสกุลได้ ความสัมพันธ์ท่ีค่อยๆ สั่งสมไปที
ละนิด จึงจะนับได้วา่ เป็ นความสัมพันธ์ท่ียาวไกลที่สดุ
สองพี่นอ้ งแลกเปลี่ยนสายตากัน ตัดสินใจฝากตัวให้กบั ฝั่งอวีถ้ งั ทันที
“บ่าวคนเดียวไม่รบั ใช้สองนาย หญิ งสาวไม่แต่งสามีสองคน” เหล่าต้า ‘พี่ใหญ่’ ของ
สกุลชวีเอ่ยขึน้ “ในเมื่อพวกเราทําการค้าขายกับคุณหนูอวีแ้ ล้ว ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงทิศทาง
ค่าชดเชยไม่จาํ เป็ นหรอก คุณหนูอวีแ้ ค่พดู ว่าต้องทําอย่างไรก็เพียงพอแล้ว!”
อวีถ้ งั คาดไม่ถึงว่าพี่นอ้ งสกุลชวีจะพูดง่ายกว่าชาติท่ีแล้วเป็ นอย่างมาก
หรือเป็ นเพราะยามนีพ้ วกเขายังไม่มีช่ือเสียงเหมือนชาติก่อน ไม่คอ่ ยได้รบั งานเท่าใด?
นางไม่ได้คิดมาก ทัง้ ไม่ได้ใจกว้างแสร้งมีเงิน คุกเข่าลงขอบคุณพี่นอ้ งสกุลชวี “บุญคุณ
ของทัง้ สอง ข้าทําได้เพียงคืนให้ภายหลังเท่านัน้ ”
พี่นอ้ งสกุลชวีหมุนกาย หลบการคารวะจากอวีถ้ งั
เหล่าเอ้อร์ ‘เจ้ารอง’ ของสกุลชวีเห็นเบือ้ งหน้าเป็ นคุณหนูท่ีอยู่ติดห้องหับผูห้ นึ่ง อีกคนก็
เป็ นเพียงเด็กเท่านัน้ จึงใจอ่อนไปอย่างไม่รูต้ วั กล่าวเตือนอวีถ้ งั “คุณหนูอวีย้ งั คงต้องระวัง ยาม
นีไ้ ม่แน่วา่ หลี่เหอจะยอมล่วงเกินหลี่ตวนเพื่อผลประโยชน์เล็กๆ พวกนี”้
ไม่ มี ผ ลประโยชน์ท่ี เ พี ย งพอ สกุ ล หลี่ จ ะทํา ใจละทิ ้ง หลี่ ต วนที่ ก ํา ลั ง จะประสบ
ความสําเร็จ ทัง้ ใกล้จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้แล้วอย่างไร
อวีถ้ งั ขอบคุณพี่นอ้ งสกุลชวีอีกครัง้ พูดอ้อมค้อม “ข้าจะให้ผใู้ หญ่ของสกุลพวกเราเป็ น
คนออกหน้า”
เดิมทีสกุลอวีก้ ็ไม่ได้มีอาํ นาจมากกว่าสกุลหลี่ แม้วา่ ผูใ้ หญ่จะออกหน้าแล้วอย่างไร?
484

ผูท้ าํ หน้าที่เป็ นมันสมองของสองพี่นอ้ ง เหล่าเอ้อร์สกุลชวีคิดว่าอวีถ้ งั ยังคงไร้เดียงสาไป


อยู่บา้ ง แต่ว่ากลิ่นหอมของดอกเหมยเกิดจากความเหน็บหนาว หากไม่ได้รบั ความลําบาก คุณ
หนูอวีผ้ นู้ ีก้ ็คงไม่รูว้ ่าหนทางบนใต้หล้าแห่งนีย้ ากเย็นแสนเข็ญเพียงใด ให้นางได้เผชิญอุปสรรค
เสียหน่อยก็ไม่แย่อะไร
พี่นอ้ งสกุลชวีไม่พดู อะไรอีกแล้ว ทําตามคําสั่งของอวีถ้ งั พาคนลีภ้ ยั ทัง้ สองจากไป ทัง้
ให้ซอ่ นตัวไว้สองวันค่อยมอบให้หลี่เหอ
เว่ยเสี่ยวชวนไม่เข้าใจ แต่เขาก็เชื่อมั่นอวีถ้ งั เป็ นอย่างยิ่ง
หากไม่ใช่อวีถ้ ัง เดิมทีเขาก็คงไม่รูว้ ่าการตายของพี่รองมีเงื่อนงํา ทัง้ คงไม่อาจจับมือ
สังหารได้ดว้ ยเช่นกัน
ดังนัน้ เขารอจนพี่นอ้ งสกุลชวีจากไปจึงค่อยเอ่ยถามอวีถ้ งั “พี่สาว พวกเราต้องให้ลงุ อวี ้
เป็ นคนออกหน้าจริงๆ รึ?”
เขาเป็ นเพียงถงเซิง ทัง้ ยังเรียนหนังสือที่สาํ นักศึกษาประจําอําเภอ เรื่องระหว่างสกุล
บัณฑิตนัน้ เขารูด้ ีกว่าใคร
ซิ่วไฉพบจวี่เหรินต้องสละที่น่ งั ให้ก่อน ไม่วา่ เจ้าจะอายุมากกว่าเท่าใด อาวุโสแค่ไหน
เช่นเดียวกัน หากจวี่เหรินพบจิน้ ซื่อก็ตอ้ งก้มหัว
อวีเ้ หวินเป็ นเพียงซิ่วไฉคนหนึ่ง
สกุลหลี่นอกจากจวี่เหรินแล้วยังมีจนิ ้ ซื่ออีก
อวีถ้ ังเผยยิม้ ออกมา ดวงตาล้วนเป็ นรู ปพระจันทร์เสีย้ ว พูดไม่ถูกว่าเป็ นความงดงาม
อ่อนโยนอย่างไร แต่คาํ ที่พดู ออกมากลับไม่เข้ากันสักนิด “แน่นอน เรื่องดําเนินมาถึงขัน้ นีแ้ ล้ว
ไม่ใช่เรื่องของพวกเราเพียงแค่สกุลสองสกุล ขุนนางลําเอียงปกป้องกัน ทางการก็ย่อมทํางาน
อย่างขายผ้าเอาหน้ารอด พวกเราต้องหาคนที่สามารถเป็ นผูต้ ดั สินแทนพวกเราได้มาฟ้องร้อง
คดีความเรื่องนี”้
485

เว่ยเสี่ยวชวนยิ่งงุนงงกว่าเดิม
เขาเกาศีรษะ
อวีถ้ งั ยิม้ อย่างอ่อนโยนขึน้ ไปอีก “เมืองหลินอันของพวกเราสามารถอยู่อย่างสงบสุขทุก
วันนีไ้ ด้ ไม่ใช่อาศัยท่านข้าหลวงที่รบั ตําแหน่งมาสามปี แต่พ่ึงพาสกุลเผยที่ตรอกเสี่ยวเหมย
ต่างหาก”
“ใช่แล้ว!” เว่ยเสี่ยวชวนดีใจจนแทบจะกระโดดโลดเต้นขึน้ มา “ไฉนข้าจึงนึกไม่ถึงกัน!
ท่านข้าหลวงทังเข้าข้างสกุลหลี่ พวกเราควรไปเชิญสกุลเผยช่วยเป็ นคนกลางให้ก็เพียงพอแล้ว
สกุลเผยเป็ นสกุลที่ส่งั สมความดี กระทําเรื่องเที่ยงธรรมเป็ นที่สดุ แล้ว ท่านข้าหลวงไม่สนใจ สกุล
เผยย่อมสนใจ พวกเขาไม่อาจนั่งดูสกุลหลี่ฆา่ คนบริสทุ ธิ์เช่นนีไ้ ด้หรอก”
อวีถ้ งั พยักหน้า “เจ้าคงรูว้ ่าเหตุใดข้าจึงให้พ่ีนอ้ งสกุลชวีซ่อนตัวคนลีภ้ ยั พวกนัน้ ไว้ก่อน
สองวันแล้วกระมัง? รอผูใ้ หญ่ของสกุลพวกเราพูดคุยกันดีแล้ว ค่อยเอาหลักฐานออกมา ป้องกัน
พอถึงเวลานัน้ ก่อนคนลีภ้ ยั ทัง้ สองจะถูกหลี่ตวนฆ่าปิ ดปาก”
เว่ยเสี่ยวชวนพยักหน้า คล้อยหลังกลับคล้ายผักกวางตุง้ ที่ผ่านนํา้ จู่ๆ ก็ห่อเหี่ยว
อวีถ้ งั คิดว่าเขาคงนึกถึงเว่ยเสี่ยวซานขึน้ มา อดลอบถอนหายใจไม่ได้
ไม่วา่ อย่างไร เว่ยเสี่ยวซานก็ตายเพราะเกี่ยวข้องกับนาง
นางจะไม่รูส้ กึ เจ็บปวดได้อย่างไร!
อวีถ้ งั ลูบศีรษะเว่ยเสี่ยวชวนเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยน “วันนีเ้ จ้าหยุดไม่ใช่ร?ึ ไปดื่มชาที่
เรือนข้าเถิด! ยามนีพ้ วกเราสองสกุลเป็ นญาติกนั แล้ว เจ้ายังสามารถไปเล่นกับพี่ชายข้าได้ เขา
เป็ นคนดีทีเดียว เมื่อลูกพี่ลกู น้องเจ้าแต่งเข้ามา พี่ชายข้าย่อมจะปฏิบตั ิตวั ดีกบั นาง”
เว่ยเสี่ยวชวนกลับส่ายศีรษะ เอ่ยเสียงเบา “ข้าไม่อยากไปเที่ยว ข้าต้องกลับไปทบทวน
ตํารา”
486

อวีถ้ ังไม่อาจรัง้ เขา “เช่นนัน้ ก็ไปนั่งที่เรือนข้า เดี๋ยวข้าจะให้อาเสาจ้างเกีย้ ว ไปส่งเจ้า


กลับเรือน”
เว่ยเสี่ยวชวนขานรับเสียงเบา ไปพบอวีเ้ หวินและเฉินซื่อพร้อมอวีถ้ ัง เพียงเอ่ยว่าเว่ย
เสี่ยวชวนบังเอิญผ่านมา นางจึงเชิญเขากลับมานั่งเล่น
เดิมทีเฉินซื่อก็เอ็นดูเว่ยเสี่ยวชวนที่หน้าตาสะอ้านสะอาด ยิ่งไปกว่านัน้ ยามนีท้ งั้ สอง
สกุลจะเกี่ยวดองกันแล้ว เห็นเว่ยเสี่ยวชวนก็ย่ิงชื่นชอบ รีบเรียกให้ปา้ เฉินไปซือ้ ขนมผลไม้ให้เว่ย
เสี่ยวชวนกลับไปที่สกุลเว่ย “ให้แม่ พี่สะใภ้และลูกพี่ลกู น้องของเจ้าชิมเสีย” ยังกําชับเขา “หาก
ต้องการซักเสือ้ ผ้า ก็ให้คนส่งจดหมายมา ข้าจะให้ป้าเฉินไปเอามาช่วยซักให้เจ้า ยามวันหยุด
หากอากาศไม่ดีก็มาพักที่น่ีได้ มีบทเรียนอะไรไม่เข้าใจ ก็มาถามลุงอวีเ้ จ้า” พูดจบ ก็รูส้ กึ ว่าเขา
ยังเด็กเกินไป คงยังเหนียมอาย นางพูดมากกว่านี ้ เด็กคนนีก้ ็เพียงเห็นเป็ นคําพูดตามมารยาท
เท่านัน้ “ไอหยา ดูขา้ สิ พูดเรื่องพวกนีก้ บั เจ้าทําไม เดี๋ยวข้าจะให้อาหย่วน พี่เจ้าไปส่งกลับเรือน
ฝากบอกกล่าวกับแม่เจ้าแทน”
เว่ยเสี่ยวชวนรีบหยัดกายขึน้ ขอบคุณ
เฉินซื่อให้อาเสาเรียกอาหย่วนที่ย่งุ อยู่ท่ีถนนฉางซิ่งกลับมา รอจนเกีย้ วมาก็ให้เขาไปส่ง
เว่ยเสี่ยวชวนกลับสกุลเว่ยด้วยตัวเอง
ด้านอวีถ้ งั ดึงบิดาไปที่หอ้ งหนังสือ นําเรื่องที่ตรวจสอบเรื่องของสกุลหลี่กบั เว่ยเสี่ยวชวน
เล่าให้อวีเ้ หวินฟั งอย่างละเอียดถี่ถว้ น
อวีเ้ หวินตกใจจนหน้าซีดขาวไปหมด ยามที่อวีถ้ งั บรรยายก็อยากขัดบทสนทนาของอวี ้
ถังอยู่หลายครัง้ แต่กลัวว่าภายใต้ความใจร้อนของตัวเองจะพูดอะไรออกไปทําร้ายจิตใจลูกสาว
จึงข่มกลัน้ เอาไว้ รอคอยอวีถ้ ังเล่าเรื่องทั้งหมดออกมาอย่างชัดเจนแล้ว ชั่วขณะนั้นก็ระเบิด
อารมณ์ “เจ้ายังเห็นพ่อเจ้าอยู่ในสายตาหรือไม่!? เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี ้ คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะไม่
บอกใคร พาเสี่ยวชวนเด็กที่ยงั ไม่โตดีทาํ เรื่องเสี่ยงอันตรายเช่นนีอ้ อกมา ดูท่าปกติขา้ จะตามใจ
487

เจ้าเกินไป นับตัง้ แต่วันนีเ้ ป็ นต้นไป เจ้าต้องอยู่ในบ้านอย่างสงบเสงี่ยมดีๆ ให้ขา้ หากยังคัด


อักษรไม่จบห้าหมื่นครัง้ ก็ไม่อนุญาตให้ไปไหนทัง้ นัน้ !”
อวีถ้ งั รูว้ า่ ตัวเองทําไม่ถกู จึงเชื่อฟั งคําสั่งสอนแต่โดยดี
คนในสกุลไม่รูว้ า่ นางกลับมาเกิดใหม่ ทัง้ ไม่รูว้ า่ นางดิน้ รนด้วยตัวคนเดียวอยู่ในสกุลหลี่
มาเจ็ดแปดปี สิ่งลําบากที่ได้รบั เรื่องเสียเปรียบที่เคยเผชิญก็ หนักหนากว่าคนทั่วไปไม่รูต้ ัง้
เท่าใด การกระทําในชาตินีข้ องนางล้วนมาจากความทุกข์ทรมานในชาติก่อน ถึงกระทั่งใช้ชีวิต
แลกกลับมา หากทําร้ายถึงคนในสกุล นางก็ไม่กล้าทําหรอก
บิดาได้ฟังเรื่องเช่นนี ้ ย่อมต้องกังวลใจ
นางก้มหน้ารับผิด “ท่านพ่อ ต่อไปข้าจะไม่ทาํ เช่นนีอ้ ีก ข้าจะอยู่ในเรือนคัดอักษรดีๆ”
488

บทที่ 60 ขอความช่วยเหลือ
อวีเ้ หวินเห็นอวีถ้ งั สํานึกผิด มีท่าทีเปลี่ยนไปในทางที่ดี ท้ายที่สดุ ในใจก็รูส้ กึ ดีขนึ ้ มาบ้าง
แต่ความใจกล้าของบุตรสาว แค่เขาคิดก็ยงั คงรูส้ กึ อกสั่นขวัญแขวนไม่หาย
เขาอดตําหนิอวีถ้ งั ไปอีกทีไม่ได้ เวลานีจ้ งึ ถามถึงเบาะแสของคนลีภ้ ยั สองคนนัน้
อวีถ้ งั กล่าวว่าอยู่กบั พี่นอ้ งสกุลชวี
อวีเ้ หวินฉวยโอกาสในเวลากลางคืนไปเรือนของพี่นอ้ งสกุลชวี เมื่อรู ว้ ่าคําพูดของลูก
สาวเป็ นความจริงทุกประการ วันรุง่ ขึน้ ก็เดินทางไปยังสกุลเผย
เผยเยี่ยนคิดว่าอวีเ้ หวินมาเพื่อขอโทษ จึงไม่อยากพบ แต่อวีเ้ หวินกล่าวว่ามีเรื่องสําคัญ
เร่งด่วนอยากขอให้เขาทําหน้าที่เป็ นคนกลาง เขาเดาว่าอวีเ้ หวินอาจมาเพราะเรื่องขัดแย้งกับ
สกุลหลี่ นึกถึงครัง้ แรกที่อวีถ้ งั และหลี่จวิน้ พูดจาตีสนิทกันที่วดั เจาหมิง เขาก็ย่ิงไม่อยากสอดมือ
ยุ่ง กระทั่งในใจเกิดความดูแคลนขึน้ มาอย่างเลือนราง ตําหนิหซู ิ่งที่เข้ามารายงาน “เหตุใดพวก
เจ้าจึงไม่ตระหนักว่าข้ายังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ หากไม่ดึงข้าออกไปวิ่งวุ่น ก็พาเรื่องยิบย่อยไม่
สลักสําคัญมารบกวนข้า พวกเจ้าจะให้ขา้ คัดลอกคัมภีร ์ สวดมนต์ภาวนาให้ท่านพ่ออย่างเงียบๆ
ไม่ได้เลยหรือไร?”
หูซิ่งรูส้ กึ ว่าตัวเองคาดเดาความต้องการของเผยเยี่ยนผิดอีกครัง้ แล้ว
ชั่วขณะนัน้ เขาก็เหงื่อผุดพรายเต็มหน้าผาก ละลํ่าละลักเอ่ย “ข้าน้อยผิดเองขอรับ ข้า
เห็นว่านายท่านอวีผ้ นู้ นั้ มีท่าทีรบี ร้อน…”
เผยเยี่ยนถลึงตาใส่เขา
หูซิ่งเอ่ยทันที “ข้าจะให้เขาไปเดี๋ยวนีข้ อรับ”
เผยเยี่ยนไม่ได้ขดั อะไร ก้มหน้าคัดลอกคัมภีรข์ องเขาต่อไป
หูซิ่งไม่กล้ารัง้ ตัวนาน หมุนกายออกไปหาอวีเ้ หวิน
489

อวีเ้ หวินผิดหวังไม่นอ้ ย รูส้ กึ ได้อย่างเลือนรางว่าเผยเยี่ยนไม่อยากพบเขาเท่าไร แต่เหตุ


ใดเผยเยี่ยนจึงให้หมอหลวงหยางมารักษาอาการป่ วยของนายหญิงเขากัน?
เขาคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ จึงไปหาเถ้าแก่ใหญ่ถงอย่างรูแ้ ล้วรูร้ อดไป
เถ้าแก่ใหญ่ถงก็ไม่รูว้ ่าภายในมีสิ่งผิดปกติอนั ใด ทําได้เพียงปลอบใจอวีเ้ หวิน “ทุกคน
ล้วนรู ว้ ่านายท่านสามคือลูกหลงของท่านผูเ้ ฒ่า ยามที่ท่านผูเ้ ฒ่ามีชีวิตอยู่ อมไว้ในปากก็กลัว
ละลาย ประคองไว้ในมือก็กลัวบาดเจ็บ 1 ความสัมพันธ์ของสองพ่อลูกไม่รูว้ ่าดีถึงขนาดไหน!
109

ยามที่ท่านผูเ้ ฒ่าจากไป ท่าทีของนายท่านสาม เฮ้อ เจ้าคงไม่เห็นกระมัง นั่นแทบไม่ตา่ งอะไรกับ


ท้องฟ้าพังถล่มลงมา นายท่านรองก็เป็ นคนกตัญ�ู กลัวว่าท่านแม่เฒ่าจะเสียใจ ยังฝื นรวบรวม
สติมาจัดการงานศพของท่านผูเ้ ฒ่าได้ แต่นายท่านสามกลับคล้ายวิญญาณหลุดลอยออกไปก็มิ
ปาน คิดจะพูดอย่างไรก็พดู อย่างนัน้ หากใครกล้าโต้แย้งเขาในเรื่องของท่านผูเ้ ฒ่าออกมาคํา
เดียว เขาก็สามารถตอกกลับด้วยใบหน้าที่หลากหลายอารมณ์ได้ทนั ที ไว้ทุกข์เพื่อท่านผูเ้ ฒ่า
นั่นย่อมเป็ นความตัง้ ใจจริงไม่ใช่แสร้ง ท่านแม่เฒ่ารักและเอ็นดูลกู หลาน กลัวว่าร่างกายพวก
ลูกหลานจะรับไม่ไหว ลอบกําชับให้ นายท่านนายหญิงและพวกคุณชายคุณหนูนนั้ กินมังสวิรตั ิ
แต่นา้ํ แกงต้องเป็ นนํา้ แกงใส ไข่ไก่ผลไม้ไม่อาจขาด มีเพียงนายท่านสามที่ไม่แตะต้องอาหารที่มี
เนือ้ ติดแม้แต่นอ้ ย อย่าพูดถึงท่านแม่เฒ่าเลย แม้แต่นายท่านรองก็ไม่อาจเกลีย้ กล่อมได้ เวลานี ้
เจ้าไปหาเขา หากไม่ใช่เรื่องสําคัญอะไร เขาย่อมไม่อาจพบหรอก”
“อีกอย่าง หากเจ้าแค่อยากขอบคุณ ทําตามที่ขา้ บอกเถิด ไม่จาํ เป็ นต้องขอบคุณหรอก
นายท่านสามไม่ใช่คนที่หลงใหลในชื่อเสียงจอมปลอม เขาได้รบั ความไว้วางใจจากท่านผูเ้ ฒ่า
ให้เป็ นผูน้ าํ ของสกุลเผย สร้างความผาสุกให้กับบ้านเกิดเมืองนอน เรื่องที่สามารถทําได้ เขา
ย่อมไม่ผลักความรับผิดชอบ เพียงแค่นิสยั เย็นชาไปบ้างเท่านัน้ เริม่ แรกพวกเจ้าอาจจะไม่คนุ้ ชิน
สักหน่อย”
นายท่านสกุลเผยเป็ นคนที่มีนา้ํ ใจคนหนึ่ง

1
อมไว้ในปากก็กลัวละลาย ประคองไว้ในมือก็กลัวบาดเจ็บ อุปมาถึง ความรักใคร่ทะนุถนอมของพ่อแม่ท่ีมีตอ่ ลูก
490

เช้าตรู ่ออกจากเรือนไปเดินเล่น หากพบคนขายผักก็มักจะไถ่ถามว่าหลายวันนีเ้ ก็บ


เกี่ยวเป็ นอย่างไรบ้าง ปฏิบตั ิตวั สุภาพอ่อนโยนกับผูอ้ ่ืน ชาวบ้านในเมืองหลินอันต่างก็ให้ความ
เคารพเขาเป็ นอย่างมาก
อวีเ้ หวินคิดว่าในเมื่อเผยเยี่ยนมีนิสัยเช่นนี ้ เรื่องนีอ้ ย่างไรก็ไม่ควรปกปิ ดไว้ ต้องพูด
ออกไป
เขาครุ ่นคิดเล็กน้อย เรียบเรียงคําพูด ก่อนจะเล่าเรื่องที่สกุลหลี่ส่ งั ให้คนไปสังหารเว่ย
เสี่ยวซานให้เถ้าแก่ถงฟั ง สุดท้ายยังเอ่ยว่า “หากไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวพันกับผูค้ นหลายสกุล ข้าก็คง
ไม่อาจรบกวนขอพบนายท่านสามครัง้ แล้วครัง้ เล่าเช่นกัน เรื่องนี ้ อย่างไรขอพี่ชายช่วยเหลือ
ด้วย ดูวา่ พอจะสามารถให้พอ่ บ้านในจวนผ่อนปรนให้ขา้ พบนายท่านสามได้หรือไม่”
เถ้าแก่ใหญ่ถงฟั งจบก็ตกใจไม่นอ้ ย
งานแต่งครัง้ นีอ้ ย่างไรเขาก็ช่วยเป็ นพ่อสื่อ
เขาหน้าถอดสี รีบเอ่ย “เจ้ากล่าวว่าสกุลหลี่ส่ งั คนไปสังหารเว่ยเสี่ยวซานมีหลักฐาน
หรือไม่? สกุลพวกเจ้าค้นพบเรื่องนีไ้ ด้อย่างไร? สกุลเว่ยทราบเรื่องนีห้ รือไม่? เมื่อครูเ่ จ้าเพิ่งพูด
ว่า เรื่องเกี่ยวพันกับหลายสกุล พอถึงเวลานัน้ จะพูดว่าเป็ นการเข้าใจผิดไม่ได้เชียว”
อวีเ้ หวินไม่อยากดึงอวีถ้ งั เข้ามาพัวพัน เพียงกล่าวว่าตัวเองเป็ นคนค้นพบ ทัง้ เรื่องพวก
นัน้ ที่อวีถ้ งั ทําก็เล่าใหม่เป็ นตัวเองทํา
เถ้าแก่ใหญ่ถงพูดไม่ออกอยู่พกั ใหญ่
เขาคาดไม่ถึงเป็ นอย่างมากว่า ความปรารถนาดีของตัวเองกลับกลายเป็ นทําร้ายชีวิต
ของเว่ยเสี่ยวซาน
เถ้าแก่ใหญ่ถงทัง้ รูส้ กึ ผิดและละอายใจ
อวีเ้ หวินคิดว่าเถ้าแก่ใหญ่ ถงกําลังกังวลว่าจะทําให้เผยเยี่ ยนเสียเปรียบโดยใช่เหตุ
“สกุลเผยมีพระคุณกับข้า ไหนเลยข้าจะทําลายชื่อเสียงของนายท่านสามได้ เรื่องนีไ้ ม่เพียงมี
491

หลักฐาน แต่กระทั่งคนก็จบั ได้แล้ว แค่ไม่กล้าส่งให้ศาลาว่าการ กลัวว่าจะดึงเรื่องงานแต่งของ


ลูกสาวมาข้องเกี่ยว จึงอยากขอให้นายท่านสามเป็ นคนกลาง ตัดสินอย่างเป็ นธรรม”
เถ้าแก่ใหญ่ถงช่วยเป็ นพ่อสื่อให้สกุลอวีแ้ ละสกุลเว่ย ทัง้ ยังมีความสัมพันธ์ท่ีดีกบั สกุล
เว่ย
เรื่องราวมาถึงขัน้ นีแ้ ล้ว ก็ไม่มีทางเลือกให้เขาไม่เชื่อ
เขาเสียใจเป็ นอย่างยิ่ง “ข้าจะเข้าจวนไปขอพบนายท่านสามเดี๋ยวนี ้ หากเขาไม่รบั ปาก
ข้าก็จะคุกเข่าอยู่ตรงนัน้ ไม่ลกุ !”
เขาเป็ นคนเก่าแก่ของสกุลเผย เผยเยี่ยนนิสยั เป็ นอย่างไร เขาย่อมกระจ่างใจดี เขาทํา
ขนาดนี ้ ย่อมสามารถทําให้เผยเยี่ยนช่วยเหลือได้ แต่เขาทําเช่นนี ้ นับว่าบีบให้เผยเยี่ยนช่วยออก
หน้าแทนสกุลอวีเ้ ช่นกัน แน่นอนว่าจะกระทบตําแหน่งเขาที่อยู่ในใจของเผยเยี่ยน หรือถึงขัน้
กระทบกับตําแหน่งของสกุลถงที่อยู่ในใจของเผยเยี่ยน แต่เขาก็จาํ เป็ นต้องทําเช่นนีจ้ ริงๆ
มิเช่นนัน้ เขาจะขอการอภัยจากสกุลเว่ยได้อย่างไร
อวีเ้ หวินอยู่อย่างอิสระจนชินแล้ว ย่อมไม่รูถ้ ึงความซับซ้อนในใจคน เพียงคิดว่าตัวเอง
ไม่ได้มาหาคนผิด กล่าวขอบคุณเถ้าใหญ่ถงไม่หยุดหย่อน
เถ้าแก่ใหญ่ถงจิตใจสับสนวุ่นวาย ไม่มีอารมณ์จะเกรงใจอวีเ้ หวิน เขาโบกมือ เอ่ยว่า
“เจ้ารอข่าวจากข้าก็เพียงพอแล้ว” ก่อนจะหมุนกายไปจวนสกุลเผย
เผยเยี่ยนยังคงให้ความสําคัญกับเถ้าแก่ใหญ่ถงไม่นอ้ ย ได้ยินว่าเขาขอพบก็ให้คนนํา
เขาไปที่หอ้ งหนังสือของตนทันที
รอจนเถ้าแก่ใหญ่ถงพูดจุดประสงค์ท่ีมาอย่างกระจ่างชัด สีหน้าของเผยเยี่ยนก็เยือก
เย็นอยู่บา้ ง
เถ้าแก่ใหญ่ถงเพียงคิดว่าเผยเยี่ยนไม่พอใจที่เขาสอดมือยุ่งเรื่องนี ้ รีบกล่าวขอร้องกับ
เผยเยี่ยน “งานแต่งครัง้ นีข้ า้ เป็ นพ่อสื่อ ในใจข้ารับไม่ได้เหลือทน หากนายท่านสามมีเวลาว่าง
492

อย่างไรก็ขอให้มาร่วมด้วยเสียหน่อย ข้าขอขอบคุณท่านตรงนีล้ ่วงหน้า!” พูดจบ ก็จะคุกเข่าลง


จะคํานับให้กบั เผยเยี่ยน
เผยเยี่ยนรู ส้ ึกว่าเรื่องนีเ้ หนือความคาดหมายอยู่มาก เขาคาดไม่ถึงว่าเรื่องงานแต่ง
ของอวีถ้ งั จะมีเถ้าแก่ใหญ่ถงข้องเกี่ยวด้วย
เขาพยุงเถ้าแก่ใหญ่ถงขึน้ เอ่ยอย่างแปลกใจ “เรื่องนีค้ ณ
ุ หนูอวีท้ ราบหรือไม่?”
เถ้าแก่ใหญ่ถงยังไม่รูว้ ่าอวีถ้ งั ทราบหรือไม่ เขาเอ่ยอย่างไม่ม่ นั ใจ “คง…รู ก้ ระมัง? เกิด
เรื่องใหญ่ขนาดนี ้ ความต้องการของสกุลอวีค้ ืออยากออกหน้าให้สกุลเว่ย ดังนัน้ คุณหนูอวีย้ ่อม
ต้องรู …
้ แต่ว่า อาจไม่รูก้ ็ได้ นายท่านอวีม้ ีลกู สาวเพียงคนเดียว คนที่พบปะดูตวั ถูกคนที่เคยขอ
หมัน้ ทําร้าย ไม่ว่าใครรูใ้ นใจย่อมยากจะทนรับ ยิ่งไปกว่านัน้ คุณหนูอวีอ้ ายุยงั น้อย ยังต้องออก
เรือน หากมีรอยด่างพร้อยในใจก็คงไม่ดี…”
เผยเยี่ยนลูบคาง “เด็กสกุลเว่ยคนนัน้ พบปะดูตวั กับคุณหนูอวีเ้ มื่อใด?”
เถ้าแก่ใหญ่ถงเอ่ย “ฤดูรอ้ น หลังจากเคลื่อนศพท่านผูเ้ ฒ่าไม่นานเท่าใด วันอะไร ข้าก็
จําได้ไม่ชดั เจนแล้ว”
เผยเยี่ยนครุน่ คิด นั่นไม่ใช่ก่อนที่เขาจะช่วยคุณหนูอวีห้ รอกรึ
เห็ น สถานการณ์ใ นยามนั้น คุณ หนูอ วี แ้ ละหลี่ จ วิ น้ ลูก คนรองของสกุล หลี่ ผู้นั้น ยัง
เกรงอกเกรงใจกันอยู่ ไม่ทีท่าทีเหมือนจะแตกหักกันแต่อย่างใด
เขาเอ่ยว่า “เช่นนัน้ เจ้าไปถามให้ชดั เจน ตกลงคุณหนูสกุลอวีร้ ู เ้ รื่องนีห้ รือไม่ แล้วพวก
เราค่อยว่ากัน”
เถ้าแก่ใหญ่ถงชะงักไป
เรื่องนีไ้ ม่ใช่ควรทําให้กระจ่างว่าสกุลหลี่ได้ส่ ังให้คนฆ่าเว่ยเสี่ยวซานที่กาํ ลังดูตัวกับ
คุณหนูอวีเ้ หมือนดั่งที่สกุลอวีบ้ อกหรือไม่หรอกรึ? ไฉนสิ่งที่นายท่านสามกังวลที่สุดกลับเป็ น
เรื่องที่คณ
ุ หนูอวีท้ ราบเรื่องนีห้ รือไม่ละ่ ?
493

นายท่านสามคิดอย่างไรกัน?
นี่ไม่ใช่วา่ ให้ความสนใจผิดที่หรอกรึ?
เถ้าแก่ใหญ่ถงมึนงงอยู่บา้ ง แต่เขาเป็ นเถ้าแก่โรงจํานํามาทัง้ ชีวิต นอกจากต้องตาดีตา
ไวมองของที่มาจํานําให้ชัดเจนแล้ว ยังต้องรู จ้ ักสังเกตสีหน้าและคําพูด มองคนที่นาํ ของมา
จํานําให้ออก
เขาสามารถพูดได้วา่ สังเกตอย่างละเอียดรอบคอบมาทัง้ ชีวิต
ปฏิกิรยิ านายท่านสามไม่ถกู ต้อง!
หัวเขาแล่นอย่างว่องไว ใบหน้ากลับกล่าวอย่างนอบน้อม “เรื่องนีข้ า้ ยังทําได้ไม่ดี ข้าจะ
ไปถามเดี๋ยวนีว้ า่ คุณหนูสกุลอวีร้ ูเ้ รื่องนีห้ รือไม่”
เผยเยี่ยนผงกศีรษะ
เถ้าแก่ใหญ่ถงรีบไปสกุลอวี ้
เผยเยี่ยนคัดลอกคัมภีรข์ องเขาต่อ ในใจกลับไม่เหมือนยามปกติท่ีสามารถรวบรวม
สมาธิได้อย่างรวดเร็วอีกแล้ว ในหัวมักปรากฏภาพครัง้ แรกที่อวีถ้ งั เดินพราวเสน่หไ์ ปหาหลี่จวิน้
ที่วดั เจาหมิง
เขาไม่ รูส้ ึก ว่า คุณหนูอวีเ้ ป็ น หญิ ง สาวที่ อ่อนโยนราวกับสายนํา้ สุภาพกิ ริย างาม มิ
เช่นนัน้ นางก็คงไม่ว่งิ โร่ไปโรงจํานํา ทําตัวเป็ นนักต้มตุน๋ ทัง้ ดึงสกุลเผยมาข่มขู่คนอื่นหรอก
ยามที่อวีถ้ งั อยู่วดั เจาหมิงแปดถึงเก้าในสิบส่วนย่อมชอบพอกับหลี่จวิน้ จึงได้หลอกล่อ
ให้หลี่จวิน้ ลุม่ หลง
ส่วนหลี่จวิน้ กําลังอยู่ในช่วงเยาว์วยั คาดว่าคงไม่มีสมองเท่าใด ถูกคุณหนูสกุลอวีป้ ่ ั น
หัวจนหน้ามืดตามัว ไม่เพียงตกหลุมพรางของคุณหนูอวี ้ ยังเอาชื่อเสียงอนาคตไปไว้กับนาง
ร้องไห้โวยวายจะแต่งเข้าสกุลอวี ้
494

มองจากจุดนี ้ คุณหนูอวีก้ ็นบั ว่าเป็ นคนใจกล้าทัง้ รูจ้ กั วางแผน ใต้ตน้ สนตื่นรูม้ ีชายหนุ่ม
มากความสามารถขนาดนัน้ นางไม่ได้ถกู ใจเสิ่นฟางที่โดดเด่นที่สดุ กลับพบรักกับหลี่จวิน้ ที่ไม่มี
ความคิดอะไรในพริบตาเดียว สายตาเช่นนี ้ เกรงว่าในหมู่หญิงสาวคงมีเพียงคนเดียว
เผยเยี่ยนตระหนักถึงตรงนี ้ ก็หวนนึกภาพที่พบอวีถ้ งั ในสํานักศึกษาประจําอําเภอขึน้ มา
สายตาที่หลี่ตวนมองคุณหนูอวีก้ ระจ่างพร่างพราวราวกับเปลวไฟ แทบปกปิ ดไม่มิด
แม้แต่นอ้ ย
คุณหนูอวีก้ ็คงจะรูด้ ี ยังหลบเลี่ยงท่าทีของหลี่ตวนเล็กน้อย
เพียงไม่รูว้ ่าจุดประสงค์ของคุณหนูอวีค้ ือต้องการตกลูกเขยเข้าบ้าน? หรืออยากแต่ง
ออกไปสกุลหลี่กนั แน่?
หลี่ตวนเป็ นลูกชายคนโต สกุลหลี่แต่งภรรยาให้เขา คงให้ความสําคัญกับสกุลเป็ น
อัน ดับแรก แน่น อนว่า คุณหนูอวีย้ ่อมหมดหวัง แต่พูดตามตรง หลี่ ตวนนั้นมี ความสามารถ
มากกว่าหลี่จวิน้ ยากจะรับประกันว่าหลังจากคุณหนูอวีเ้ ห็นหลี่ตวนแล้วจะรังเกียจที่หลี่จวิน้ ไร้
ประโยชน์
ใครจะรูว้ า่ ภายในมีเรื่องราวอะไร?
ไม่แน่วา่ เด็กสกุลเว่ยตายก็อาจเป็ นแผนของคุณหนูสกุลอวีค้ นนัน้
หากเป็ นเช่นนี ้ นั่นก็น่าสนุกขึน้ มาบ้างแล้ว
จู่ๆ เผยเยี่ยนก็จิตใจฟุ้งซ่าน กระทั่งคัมภีรก์ ็ไม่อยากคัดแล้ว
เขาเรียกเผยหม่านมาถาม “หลี่ตวนหมัน้ หมายหรือยัง? เป็ นคุณหนูของสกุลใด?”
สกุลหลี่มีความหมายต่อสกุลเผยอย่างไร คนอื่นไม่รู ้ แต่เผยหม่านที่เป็ นพ่อบ้านใหญ่
กลับกระจ่างแจ้งดี
495

แม้เขาจะไม่อาจพูดได้ว่ารู เ้ กี่ยวกับสกุลหลี่อย่างทะลุปรุ โปร่ง แต่เรื่องธรรมดาก็ลว้ น


ทราบหมด
เผยหม่านตอบทันที “หมัน้ หมายแล้วขอรับ เป็ นลูกสาวภรรยาเอกบ้านรองของสกุลกูใ้ น
หังโจว น้องสาวของใต้เท้ากูฉ้ ่าง”
เขารูจ้ กั กูฉ้ ่าง
สอบเป็ นซูจ่ ๋ีซ่อื ก่อนเขาหนึง่ รุน่ ปั จจุบนั รับตําแหน่งจี่ซ่อื จง 2ในกรมพิธีการ เป็ นลูกหลาน
110

ที่สกุลกูเ้ ห็นว่ามีอนาคตที่สดุ
นี่ก็ถกู แล้ว!
ไม่วา่ คุณหนูอวีจ้ ะวางแผนอย่างไร เกรงว่าจะไม่ได้งา่ ยสมใจขนาดนัน้
ทางด้านเถ้าแก่ถงใหญ่ ถามขึน้ มาว่าอวีถ้ ังรู เ้ รื่องที่สกุลหลี่ส่ งั คนไปฆ่าเว่ยเสี่ยวซาน
หรือไม่ อวีเ้ หวินกลับยืนกรานปฏิเสธ เถ้าแก่ใหญ่ถงกลับกล่าวอย่างจริงจังว่า “เรื่องนีเ้ จ้าต้อง
บอกความจริงแก่ขา้ ข้าไปพบนายท่านสามมา นายท่านสามไม่ได้ถามอะไรทัง้ นัน้ ถามเพียงว่า
คุณหนูอวีท้ ราบเรื่องนีห้ รือไม่ จะเห็นได้วา่ เรื่องนีส้ าํ คัญเป็ นอย่างมาก เจ้าอย่าได้ปิดบังเรื่องราว
ถึงเวลานัน้ หากมีสกุลหลี่รว่ มด้วย กล่าวเรื่องไม่เหมือนที่นายท่านสามรูม้ า ก็จะเป็ นการทําร้าย
นายท่านสาม ยกก้อนหินขึน้ มาทับเท้าตัวเอง!”

2
จี่ซ่ือจง เป็ นขุนนางที่ช่วยเหลือฮ่องเต้จัดการข้อราชการของขุนนาง รับผิดชอบตรวจสอบการทํางานของหกกรม จด
ลงทะเบียนจัดเก็บราชโองการและสาสน์ตา่ งๆ ทัง้ ยังมีอาํ นาจในการเข้าร่วมประชุมเรื่องสําคัญในราชสํานัก
496

บทที่ 61 เข้าใจ
หากไม่ใช่เพราะไว้ใจเถ้าแก่ใหญ่ถง อวีเ้ หวินก็คงไม่เล่าเรื่องราวอย่างหมดเปลือกให้เขา
ฟั ง ยามที่ ไ ปหา ในสายตาของคนทั่ว ไปเรื่ อ งที่ อ วี ถ้ ัง สื บ เกี่ ย วกับ เว่ ย เสี่ ย วชวนนั้น นับ ว่ า มี
ความสามารถไม่นอ้ ย ในใจอวีเ้ หวินจริงๆ แล้วเขาภาคภูมิใจเป็ นอย่างมาก คิดว่าลูกสาวที่เหลือ
เพียงคนเดียวในสกุล หากไม่สามารถดูแลครอบครัว แม้ว่าจะรับลูกเขยเข้าสกุลมา ก็ เพียง
คลอดบุตรอบรมลูกสาว ขยายกิ่งก้าน สืบต่อสกุลอวีเ้ ท่านัน้ พอพวกเขาสองสามีภรรยาล่วงลับ
ไป อวีถ้ งั ไม่แน่ว่าจะสามารถดูแลลูกเขยและบุตรธิดาได้ ถึงเวลานัน้ คนที่ลาํ บากก็ยงั คงเป็ นอวี ้
ถัง
เถ้าแก่ใหญ่ถงถามเขาว่าอวีถ้ งั รู เ้ รื่องเว่ยเสี่ยวซานหรือไม่ เขาลังเลไปพักใหญ่ ก่อนจะ
บอกเถ้าแก่ใหญ่ถงอย่างตรงไปตรงมา “รู ส้ ิ คนที่พบว่าผิดปกติก็คือนาง ทัง้ คนที่หาวิธีสืบเรื่อง
ของเว่ยเสี่ยวซานก็เป็ นนางอีกเช่นกัน”
เถ้าแก่ถงตกใจอย่างยิ่ง แต่เมื่อครุ ่นคิดอย่างละเอียด คุณหนูผูน้ ีก้ ล้ามาหลอกเขาถึง
ร้านค้าของสกุลเผย ย่อมไม่ใช่คนที่ขีข้ ลาดตาขาว หลังจากตกใจ ก็แปรเปลี่ยนเป็ นยิม้ ออกมา
เอ่ยกับอวีเ้ หวิน “ลูกสาวผูน้ ีข้ องเจ้าแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ” คล้อยหลังก็นกึ ถึงการตายของเว่ย
เสี่ยวซาน อดเสียดายแทนเด็กคนนีข้ ึน้ มาไม่ได้ เพียงแต่เว่ยเสี่ยวซานไม่อยู่แล้ว พูดเรื่องพวกนี ้
ต่อไปก็พาให้คนยิ่งรูส้ กึ เสียใจเท่านัน้ คําพูดร้อยพันพวกนัน้ กลับกลายเป็ นเสียงถอนหายใจ “ก็
นับว่าเป็ นโชคดีของเสี่ยวซานที่ สามารถทําให้เขาตายอย่างได้รบั ความเป็ นธรรม”
แต่หากไม่ได้พบกับพวกอาถัง ก็คงจะไม่ประสบเคราะห์รา้ ยเช่นนีก้ ระมัง?
เวลานีจ้ ่ๆู อวีเ้ หวินก็เข้าใจความรูส้ กึ ของอวีถ้ งั ขึน้ มาบ้าง เข้าใจว่าเหตุใดอวีถ้ งั จึงยอม
เสี่ยงอันตรายสืบหาสาเหตุการตายของเว่ยเสี่ยวซานให้กระจ่างชัด
นึก ขึน้ มาได้ว่านี่เ ป็ นลูกสาวที่เ ขาอบรมสั่ง สอนมา เขาก็ อดยื ดหลังตรงขึน้ มาไม่ได้
ปรึกษากับเถ้าแก่ใหญ่ถง “ท่านรูจ้ กั มักคุน้ กับนางอยู่บา้ ง ย่อมชมนางเช่นนี ้ กลัวก็แต่วา่ …” นาย
ท่านสามจะไม่คิดอย่างนัน้ อวีเ้ หวินพะวงอยู่ในใจ ไม่กล้านินทาเผยเยี่ยนต่อหน้าเถ้าแก่ถง ทํา
497

เพียงกล่าวอ้อมๆ “ช่วงนีผ้ ูค้ นพูดกันว่าอะไรนะ ‘สตรีไร้ความสามารถจึงจะนับว่ามีจรรยา 1’ 111

ไม่ใช่หรอกรึ?”
เถ้าแก่ใหญ่ถงกลับไม่ทราบถึงความคิดเห็นของเผยเยี่ยนในเรื่องนี ้ เขาอํา้ อึง้ ไปเล็กน้อย
“เจ้าวางใจ ข้าพบนายท่านสามก็จะพินิจดูวา่ ควรจะพูดกับนายท่านสามอย่างไร”
อวีเ้ หวินค่อยโล่งใจขึน้ มา
เถ้าแก่ใหญ่ถงกลับไปรายงานเผยเยี่ยน “คุณหนูอวีร้ ู เ้ รื่องนี ้ สกุลอวีร้ ู ส้ กึ ผิดกับสกุลเว่ย
ดังนัน้ จึงลอบตรวจสอบเรื่องนีอ้ ยู่เรื่อยมา”
เผยเยี่ยนกําลังคัดอักษร
บนโต๊ะหนังสือไม้หนานมู่ 2ตัวยาวมีกระดาษซวนจื่อที่เริ่มเปลี่ยนเป็ นสีเหลืองอ่อนกอง
112

อยู่ ในแจกันประดับด้วยดอกซานฉาสีขาว พู่กนั หูป่ี 3ที่ทาํ ด้วยไผ่เซียงเฟยแขวนอยู่บนราวแขวน


113

พู่กันไม้จ่ือถานแกะสลักลายลํานํา้ ขุนเขาอย่างเป็ นระเบียบเรียบร้อย ท่ามกลางความโบราณ


เรียบง่ายเผยให้เห็นเสน่หค์ วามยาวนานของวันเวลา
“กล่าวเช่นนี ้ คุณหนูอวีก้ ็คงเห็นด้วยที่ให้ขา้ มาเป็ นคนกลาง?” เขาคัดตัวอักษรสุดท้าย
ด้วยท่าทีสบายๆ ก่อนจะวางพู่กนั ในมือที่แท่นวางลวดลายภูเขาบนโต๊ะหนังสือ รับผ้าร้อนจาก
อาหมิง เด็กรับใช้ในห้องหนังสือมาเช็ดมือ เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ
เถ้าแก่ใหญ่ถงกลับพูดไม่ออก ไม่รูว้ า่ ควรตอบอย่างไรอยู่พกั ใหญ่

1
สตรีไร้ความสามารถจึงจะนับว่ามีจรรยา เป็ นความเชื่อของสังคมจีนโบราณที่คิดว่า สตรีไม่จาํ เป็ นต้องมีความสามารถ
มากมาย แค่เชื่อฟั งสามีก็เพียงพอแล้ว
2
ไม้หนานมู่ ถือเป็ นของลํา้ ค่าและหายาก มักนํามาใช้สร้างเรือและพระราชวัง
3
พู่กนั หูป่ี เป็ นพู่กนั ขึน้ ชื่อของหูโจว มีลกั ษณะปลายแหลม หัวกลมมน ขนเรียบและแข็งแรง
498

เรื่องของสกุลอวีย้ ่อมมีอวีเ้ หวินเป็ นผูต้ ดั สินใจชีข้ าด ลูกสาวสกุลใดจะสามารถข้ามหน้า


ข้ามตาบิดากัน? แต่ฟังจากความหมายของนายท่านสาม ก็คือเรื่องนีย้ งั ต้องดูความต้องการ
ของคุณหนูอวี ้
แม้ว่า นายท่านสามเพิ่ งรับช่ วงต่อสกุลเผย แต่อย่า งไรก็ เ ป็ น ผู้สืบทอดของสกุลเผย
สามารถขอให้เขาออกหน้าเป็ นคนกลาง สกุลอวีจ้ ะร้องไห้อย่างซาบซึง้ ใจก็ไม่ทนั แล้ว คุณหนูอวี ้
เป็ นเด็กสาวคนหนึ่ง หรือยังกล้าคัดค้านอะไรอย่างนัน้ รึ? ทัง้ แม้วา่ คุณหนูอวีจ้ ะคัดค้าน หรือนาย
ท่านสามจะดูท่าทีของคุณหนูอวีแ้ ล้วค่อยลงมือทําเรื่องอย่างนัน้ รึ?
เถ้าแก่ใหญ่ถงไม่เข้าใจอยู่บา้ งว่านี่คือสถานการณ์แบบใด
เผยเยี่ยนกระตุกยิม้ มองเรื่องราวทะลุปรุโปร่ง
คาดว่าเดิมทีเถ้าแก่ใหญ่ถงคงไม่รูว้ ่าคุณหนูอวีเ้ ป็ นคนอย่างไร ก็ไม่แปลก นอกจากเขา
ยังจะมีอีกกี่คนที่บงั เอิญเจอคุณหนูอวีก้ ่อเรื่องอยู่หลายครัง้ หลายคราอย่างพอดี?
เขาไม่รอให้เถ้าแก่ใหญ่ถงเข้าใจ “คนของสกุลหลี่ขอหมัน้ ไม่สาํ เร็จ ทําร้ายคนที่ดตู วั กับ
นาง สกุลอวีไ้ ม่แจ้งทางการ กลับเชิญข้าให้เป็ นคนกลาง พวกเขาเคยคิดไหมว่าผลลัพธ์จะเป็ น
อย่างไร?”
อย่างอื่นยังไม่พูดถึง อย่างน้อยพวกเศรษฐี ชนบทในเมืองหลินอันก็จะทราบเรื่องนี ้
แม้ว่าเรื่องนีเ้ ป็ นความผิดของสกุลหลี่ แต่ผคู้ นส่วนมากมักนําความผิดพลาดโยนให้สตรี คิดว่า
หากหญิ ง สาวรู ้จัก สงบเสงี่ ย มเจี ย มตัว คงจะไม่ ท าํ ให้ช ายหนุ่ม เกิ ด ความแค้น มุ่ง ร้า ยกัน
ภายหลังคุณหนูสกุลอวีอ้ ยากแต่งกับสกุลใด หรือแต่งกับสกุลที่เกี่ยวพันกับพวกเขาย่อมเป็ น
เรื่องยากลําบากแล้ว
เวลานีเ้ ถ้าแก่ใหญ่ถงจึงเข้าใจขึน้ มา
เขาอดถอนหายใจไม่ได้
499

เขาหมายความว่า อย่างไรเขาก็เป็ นคนกลางให้สกุลอวีไ้ ด้ แต่ความต้องการของนายท่า


นอวีเ้ ป็ นอะไรไม่สาํ คัญ กลับต้องถามความประสงค์ของคุณหนูอวีก้ ่อน?
ที่แท้ก็กงั วลว่าคุณหนูอวีอ้ ายุยงั น้อย ไม่รูจ้ กั ความเหมาะสม
ขอเพียงนายท่านสามไม่เข้าใจผิดเรื่องทัง้ หมดที่คณ
ุ หนูอวีท้ าํ ต่อสกุลหลี่ก็เพียงพอแล้ว
เถ้าแก่ใหญ่ถงรีบกล่าว “ฟั งจากความต้องการของนายท่านอวี ้ เดิมทีเรื่องนีค้ วรรายงาน
ต่อทางการ แต่ท่านก็รูว้ ่าท่านข้าหลวงทังผูน้ ีไ้ ม่ชอบยุ่งเรื่องราวผูอ้ ่ืน พวกเขากลัวว่า…ฆาตกรที่
แท้จริงจะรอดตัวไร้รอยขีดข่วน ไม่ตอ้ งรับโทษตามกฎหมาย กระทั่งผูท้ ่ีรูค้ วามจริงก็ยงั ไม่มีสกั
คน”
ก็หมายความว่า สกุลอวีร้ ู ด้ ีแม้มีหลักฐานพิสจู น์ว่าสกุลหลี่เป็ นผูบ้ งการให้ฆ่าคน เชิญ
เขาออกหน้าเป็ นคนกลาง ก็ยงั คงยากที่ฆาตกรจะถูกตัดสินโทษตาย
อย่างไรสกุลหลี่ก็มีเพียงลูกชายสองคน เรื่องนีห้ ากหลี่จวิน้ เป็ นคนสั่งการยังพูดง่าย แต่
หากเป็ นฝี มือหลี่ตวน คาดว่าสกุลหลี่คงยอมให้หลี่จวิน้ เป็ นแพะรับบาปดีกว่าต้องให้หลี่ตวนถูก
ตัดสินโทษตาย
อาหมิงยกนํา้ ชาเข้ามา
เผยเยี่ยนเชิญเถ้าแก่ใหญ่ถงดื่มชา ตัวเองกลับนั่งบนเก้าอีห้ ลังโต๊ะหนังสือตัวใหญ่อย่าง
เอื่อยเฉื่อย หยิบพูก่ นั ขึน้ มาอีกครัง้ “เช่นนัน้ ข้าก็จะเป็ นคนกลางให้แล้วกัน”
เถ้าแก่ใหญ่ถงคาดไม่ถึงว่าเผยเยี่ยนจะตอบรับง่ายๆ เช่นนี ้ ดีใจเป็ นอย่างยิ่ง หยัดกาย
ขึน้ ขอบคุณเผยเยี่ยน
เผยเยี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิม้ “เจ้าก็อย่าขอบคุณข้าเร็วไป ถึงเวลานัน้ ขอสกุลอวีอ้ ย่าได้ไม่
พอใจต่อข้าก็เพียงพอแล้ว”
500

“จะเป็ นไปได้อย่างไร!” เถ้าแก่ใหญ่ถงละลํ่าละลักเอ่ย “ความร้ายแรงของเรื่องนีน้ าย


ท่านอวีล้ ว้ นรูด้ ี ไม่อย่างนัน้ ก็คงไม่ขอร้องท่านหรอก นายท่านอวีบ้ อกกับข้าแล้ว ไม่หวังให้เรื่องนี ้
มีผลลัพธ์สวยหรูอะไร ขอแค่ทาํ ให้ทกุ คนรูว้ า่ สกุลหลี่ทาํ เรื่องอะไรบ้างก็เพียงพอแล้ว”
เผยเยี่ยนผงกศีรษะ เอ่ยยิม้ ๆ “นี่ย่อมไม่ใช่ปัญหา”
เถ้าแก่ใหญ่ถงขอบคุณซํา้ ๆ ยามที่เดินไปก็ยงั อดถอนหายใจไม่ได้ “ยามนีย้ งั ไม่รูว้ า่ นาย
ท่านอวีจ้ ะลําบากใจเพียงใดกับทางสกุลเว่ย ก่อนที่ท่านจะทําหน้าที่เป็ นคนกลาง อย่างไรก็ควร
บอกกล่าวกันเสียหน่อย!”
เผยเยี่ยนได้ยินจู่ๆ ก็เกิดความสงสัยขึน้ มาหลายส่วน สั่งการเผยหม่าน “เจ้าจับตาดู
หน่อย ถึงเวลานัน้ ก็บอกกล่าวกับข้า”
เผยหม่านรับคําสั่ง ในใจกลับอดลังเลไม่ได้
เมื่อก่อนเขาเป็ นผูด้ แู ลของนายท่านสาม จัดการเพียงเรื่องสําคัญรอบกายนายท่านสาม
มาโดยตลอด พ่อบ้านใหญ่คนก่อนที่ตายไป ก็เพราะอํานาจของนายท่านสามจึงไม่อาจก้าวก่าย
เรื่องเขาได้ หลังจากนายท่านสามสืบทอดตําแหน่งผูน้ าํ สกุล ฉากหน้าเผยหม่านรับช่วงต่องาน
ของพ่ อ บ้า นใหญ่ ในความเป็ น จริง ยัง คงจัด การเรื่ อ งรอบกายของนายท่ า นสามเป็ น หลัก
เป้าหมายปลายทางของนายท่านสาม แต่ไหนแต่ไรก็ไม่ใช่เมืองหลินอันเล็กๆ แห่งนี ้
ตัง้ แต่เมื่อใดกันที่เรื่องเล็กๆ ของคนธรรมดาผูห้ นึ่งก็ตกอยู่ในมือของเขาเช่นนี?้
เผยหม่านสั่นศีรษะ แม้ว่าในใจจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ก็ยงั คงส่งคนไปจับตาดู
สกุลอวีอ้ ย่างแข็งขัน
ด้านอวีเ้ หวินก็ปวดหัวไม่รูจ้ ะบอกเรื่องนีก้ บั ทางสกุลเว่ยอย่างไร คาดไม่ถึงว่าผูท้ ่ีแก้ไข
สถานการณ์นีก้ ลับเป็ นเว่ย เสี่ ยวชวน…เขาเล่า ความจริงการตายของเว่ยเสี่ย วซานให้บิดา
มารดาฟั ง
501

นายท่านเว่ยและนายหญิงเว่ยเจ็บปวดรวดร้าว ชั่วขณะยามที่เพิ่งทราบข่าวนัน้ แม้ว่า


จะเกิดความรูส้ กึ เสียใจขึน้ มาอย่างไม่หยุดหย่อน คิดว่าหากตอนแรกไม่เจรจาแต่งงานกับอวีถ้ งั
ก็คงจะดี รอจนสติสมั ปชัญญะคืนมา ก็รูส้ กึ ละอายใจกับความคิดเสียใจเมื่อครูท่ ่ีเกิดขึน้
สกุลอวีก้ ็เป็ นผูเ้ คราะห์รา้ ยเช่นกัน
คนปกติใครจะฆ่าคนเพราะขอหมัน้ ไม่สาํ เร็จบ้างกัน?
เมื่อคิดเช่นนี ้ กลับกันยิ่งรู ส้ ึกว่าอวีถ้ ังและคนสกุลอวีเ้ ป็ นคนดี หลังจากเกิดเรื่องขึน้
นอกจากไม่ปกปิ ดเรื่องนีเ้ พราะกังวลถึงชื่ อเสียงของลูก สาว ตรงกัน ข้ามยังพยายามสืบหา
ฆาตกร หาทางให้ฆาตกรถูกลงโทษ
หลังจากสองสามีภรรยาก่นด่าสกุลหลี่อย่างรุนแรงไปพักใหญ่ก็ปรึกษากันด้วยดวงตา
แดงกํ่า คิดว่าเรื่องนีไ้ ม่อาจให้สกุลอวีอ้ อกหน้าแทนตัวเองเพียงผูเ้ ดียวเช่นนีไ้ ด้ ลูกชายของพวก
เขา หากไม่รูส้ าเหตุการตายก็แล้วไป เมื่อรู แ้ ล้ว ก็ควรร่วมกับสกุลอวีร้ อ้ งหาความเป็ นธรรมจาก
สกุลหลี่จงึ จะถูก
นายท่านเว่ยบอกเรื่องนีก้ บั เว่ยเสี่ยวหยวนซึง่ เป็ นลูกชายคนโต คล้อยหลังก็พาเว่ยเสี่ยว
ชวนไปสกุลอวี ้
อวีเ้ หวินเมื่อได้พบนายท่านเว่ยก็รูส้ ึกผิดจนไม่รูจ้ ะวางไม้วางมืออย่างไร ขอโทษนาย
ท่านเว่ยอย่างลําบากใจ
นายท่านเว่ยเพิ่งผ่านการร้องไห้มาแต่ยงั เอ่ยปลอบอวีเ้ หวินด้วยดวงตาแดงกํ่า “สกุล
พวกเจ้าก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่าจะพบกับสกุลบ้าบอเช่นนี ้ คุณหนูของพวกเจ้าสบายดีหรือไม่?
เกิดเรื่องเช่นนี ้ นางคงจะเป็ นคนที่เจ็บปวดที่สดุ เจ้าพูดกับนางนะว่า สกุลพวกเราล้วนเป็ นคนที่
มีเหตุผล ไม่อาจโทษนาง ให้นางไปเที่ยวเล่นที่สกุลเราได้อย่างสบายใจ”
อวีเ้ หวินยังมีอะไรจะพูดได้อีก
502

สองวันนีพ้ ดู ได้วา่ อวีถ้ งั เชื่อฟั ง ยอมรับการลงโทษของเขาอย่างสงบเสงี่ยม คัดอักษรแต่


โดยดี ทว่าท่าทีก็ยังคงหม่นหมองอยู่ตลอดเวลา คาดว่าในใจคงยากจะรับไหวเช่นกัน ยามนี ้
สกุลเว่ยยังข่มกลัน้ ความเจ็บปวดที่สญ ู เสียลูกชายมาปลอบใจอวีถ้ งั …เขาค้อมกายคํานับให้กบั
นายท่านเว่ย
นายท่ า นเว่ย รีบ พยุง อวี เ้ หวิ น ขึ น้ มา คิ ด ในใจว่า น่า สงสารความรัก ที่ พ่อ แม่มี ต่อลูก
ชั่ว ขณะก็ รู ้สึก สนิ ท ใจกับ อวี เ้ หวิ น ขึ น้ มาอย่ า งบอกไม่ ถู ก เขาจึ ง ตั้ง ใจทํา เรื่ อ งดี ใ ห้ถึ ง ที่ สุด
กําชับเว่ยเสี่ยวชวนว่า “เจ้าห้า ข้าว่าอย่างไรเจ้าไปพูดดีกว่า! เจ้าไปพูดกับพี่สาวสกุลอวีด้ ีๆ เถิด”
เว่ยเสี่ยวชวนเผยหน้าเรียบนิ่ง พยักหน้าอย่างจริงจังก่อนจะไปหาอวีถ้ งั

หลังจากอวีถ้ งั รูว้ า่ เผยเยี่ยนรับปากเป็ นคนกลางให้ ก็คอ่ ยถอนหายใจอย่างโล่งอก


ในเมื่อยืนยันแล้วว่าเรื่องนีเ้ ป็ นฝี มือของสกุลหลี่ นางก็ย่อมไม่อาจเลิกราง่ายๆ
จัดการสกุลหลี่อย่างโจ่งแจ้งไม่ไหว นางก็จะทําในที่มืด
เพียงแต่ยามนีไ้ ม่รูว้ ่าตกลงเป็ นใครในสกุลหลี่ท่ีวางแผนให้สงั หารเว่ยเสี่ยวซาน? ทัง้ ยัง
มีเรื่องแผนที่เดินเรือ สกุลหลี่ในชาติก่อนย่อมรู เ้ รื่องแผนที่อยู่แล้ว ไม่อย่างนัน้ พวกเขาก็คงไม่
อาจทําการค้าทางทะเลขึน้ มาอย่างกะทันหันได้หรอก
ชาตินีพ้ วกเขาอย่าได้คิดเพ้อเจ้อเลย!
อวีถ้ งั เริม่ หวนนึกเรื่องในชาติก่อนอย่างละเอียด
อย่างเช่นว่า ยามที่พวกหลานฝ่ ายมารดาของฮูหยินหลี่มาเป็ นแขกที่สกุลหลี่เคยพูด
อะไรไว้บา้ ง เกิดเรื่องอันใดขึน้ บ้าง ปกติสกุลหลี่มกั ให้นางไปส่งของขวัญในเทศกาลต่างๆ ให้คน
แปลกหน้าคนใดบ้าง ทัง้ ฮูหยินหลี่สนิทสนมกับนายหญิงหรือฮูหยินสกุลใดบ้าง
503

พวกนีด้ เู หมือนเป็ นเรื่องยิบย่อยไม่สลักสําคัญอะไร แต่กลับสามารถบอกความสัมพันธ์


ที่เชื่อมโยงกันของสกุลหลี่กบั นาง ทําให้นางคิดวิธีวิเคราะห์เรื่องราวได้อย่างละเอียด หาสาเหตุ
ที่สกุลหลี่ร่าํ รวยขึน้ มาในชาติก่อนได้
ยามนีเ้ รื่องแรกที่ตอ้ งจัดการก็คือแผนที่เดินเรือนั่น
อวีถ้ งั คัดตัวอักษรของวันนีเ้ สร็จ ก็นาํ แผนที่นนั้ มากางบนโต๊ะหนังสือ สํารวจตรวจตรา
อย่างละเอียด
เว่ยเสี่ยวชวนเคาะประตูหลายครัง้ นางก็ไม่ได้ยิน จวบจนเขาตะโกนเรียกนางจากข้าง
นอก นางจึงดึงสติกลับมา ลุกไปเปิ ดประตู
“พี่ ส าว เจ้า สบายดี ห รื อ ไม่ ?” เขากลัว ว่ า หากตัว เองเสี ย ใจจะทํา ให้บิ ด ามารดายิ่ ง
เจ็บปวดไปอีก จึงข่มกลัน้ นํา้ ตาไว้เรื่อยมา พออยู่เบือ้ งหน้าอวีถ้ งั ที่ร่วมกันวางแผนทัง้ เป็ นคนที่
เขารู ส้ ึกชื่นชม ท้ายที่สดุ นํา้ ตาก็ไหลทะลักออกมา กล่าวสะอึกสะอืน้ “ครอบครัวของข้ารู เ้ รื่อง
หมดแล้ว กล่าวว่าพอถึงเวลานัน้ จะไปที่เรือนสกุลเผยกับพวกเจ้าด้วย”
ยังคงเป็ นครัง้ แรกที่อวีถ้ งั เห็นเว่ยเสี่ยวชวนร้องไห้ราวกับเด็กน้อย นางอดไม่ได้ท่ีจะลูบ
ศีรษะของเขาด้วยความสงสาร ควักผ้าเช็ดนํา้ ตาให้เขา “พวกเราไปตัดสินความกัน ไม่ใช่ไป
ทะเลาะกันเสียหน่อย จะต้องการคนมากมายไปทําไม?”
นางคิดมาตลอดว่าเผยเยี่ยนเป็ นคนที่ไม่ชอบเรื่องวุน่ วาย
“ครัง้ นีน้ ายท่านสามสกุลเผยสามารถช่วยพวกเราได้ ข้ารู ส้ ึกเหนือความคาดหมายไม่
น้อย” นางกล่าวอย่างไม่สบายใจ “ถึงเวลานัน้ พวกเราฟั งเขาก็เพียงพอแล้ว”
ชาติท่ีแล้ว ดูเหมือนว่าเผยเยี่ยนเคยเป็ นคนกลางให้คนอื่นเพียงสองสามครัง้ เท่านัน้ แต่
ทุกครัง้ ล้วนได้รบั การชื่นชมจากผูค้ น เห็นได้วา่ คนผูน้ ีย้ งั คงมีความเที่ยงธรรมไม่นอ้ ย
504

บทที่ 62 พบกัน
เผยเยี่ยนเที่ยงธรรมหรือไม่ เว่ยเสี่ยวชวนไม่รู ้ แต่เขารู ว้ ่า หากเรื่องนีไ้ ม่ใช่ฝีมือของ
สกุลหลี่ทว่าเปลี่ยนเป็ นคนอื่น เดิมทีพวกเขาก็ไม่มีความจําเป็ นต้องขอความช่วยเหลือจากใคร
ไปแจ้งกับทางการตรงๆ ก็เพียงพอแล้ว ไม่เหมือนในยามนี ้ แม้ว่าจะเชิญเผยเยี่ยนมาเป็ นคน
กลาง สุดท้ายฆาตกรที่แท้จริงก็อาจหลุดรอดจากโทษทัณฑ์ได้
สําหรับเว่ยเสี่ยวชวนที่เป็ นเพียงคนตัวเล็กๆ เรื่องนีน้ บั ว่าผลกระทบใหญ่เกินตัวจริงๆ
เขาใช้ผา้ ของอวีถ้ ังเช็ดหน้าอย่างลวกๆ นับตัง้ แต่รูว้ ่าการตายของพี่รองเกี่ยวข้องกับ
สกุลหลี่แต่กลับไร้ทางเอาคืนได้ ความรู ส้ ึกที่ถูกกดไว้ในก้นบึง้ หัวใจทัง้ ตัง้ ใจและไม่ได้ตงั้ ใจก็
ปะทุออกมาราวกับภูเขาไฟในเวลานี ้
“พี่สาว” เขากําหมัดแน่น ดวงตาแดงกํ่า กล่าวเสียงจริงจังกับอวีถ้ งั “ข้าจะเป็ นจิน้ ซื่อให้
ได้ สอบซูจ่ ๋ีซ่อื เข้าสํานักฮั่นหลิน ข้าย่อมไม่อาจให้ใครมารังแกพวกเราอีก!”
อวีถ้ งั มองเว่ยเสี่ยวชวนที่จ่ๆู ก็เผยสีหน้ามืดมนขึน้ มา ตกใจเสียยกใหญ่
เด็กคนนีเ้ ข้าสูส่ ายมารแล้วกระมัง!
ก็ เ หมื อ นกับ นางในชาติ ก่ อ น ยามที่ เ พิ่ ง สงสัย ว่า เรื่อ งทั้ง หมดที่ ส กุล อวี พ้ บเจออาจ
เกี่ยวข้องกับสกุลหลี่ สิ่งที่เกลียดชังที่สดุ ไม่ใช่สกุลหลี่ แต่เป็ นตัวเองที่ตกหลุมพราง
หากไม่ใช่ว่านางพบคนจิตใจดีช่วยเหลือไว้ในภายหลัง นางก็อาจจะเป็ นเหมือนเว่ย
เสี่ยวชวน เกลียดชังโลกใบนี ้ เกลียดชังผูค้ นในใต้หล้านี ้
นางรีบรัง้ เว่ยเสี่ยวชวนไว้ในอ้อมอก เอ่ยเสียงเบา “ไม่เป็ นไร ไม่เป็ นไร พวกเราค่อยเป็ น
ค่อยไป คําโบราณกล่าวไว้ ลูกผูช้ ายแก้แค้นสิบปี ก็ไม่สาย เจ้าไม่ตอ้ งรีบร้อน เจ้านึกถึงพ่อแม่เจ้า
ไว้ ยังมีพ่ีชายเจ้า พวกพี่สะใภ้ พวกเราไม่อาจให้พวกไร้ค่ามาทําให้ตัวเองใช้ชีวิตอย่างไม่มี
ความสุขได้เชียว ไม่อย่างนัน้ แม้พวกเราจะแก้แค้น ก็รงั แต่จะทําให้พวกศัตรูขบขันเท่านัน้ ”
505

อวีถ้ งั รูด้ ี ยามนีน้ างเกลีย้ กล่อมเว่ยเสี่ยวชวนไม่ให้ลา้ งแค้น ก็มีแต่จะทําให้เว่ยเสี่ยวชวน


เกิดความไม่พอใจ ทัง้ ให้ผลเสียมากกว่าดี ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่ควรห้ามปรามอย่างส่งเดช ควร
จัดการอย่างค่อยเป็ นค่อยไป ยามนีแ้ ทนที่จะขัดเขา ยังมิสวู้ ่าตามเขาไปก่อน ถึงเวลานัน้ รอย
แผลเขาปิ ดสนิท ค่อยหาโอกาสโน้มน้าวเขาอีกครัง้
เว่ยเสี่ยวชวนฟั งแล้วกลับคลายโทสะลง เขาเอ่ยว่า “ข้ารู ้ พี่สาววางใจ ข้าไม่อาจปล่อย
ให้คนที่รกั เจ็บปวด ทําให้ศตั รูดีใจได้หรอก”
สามารถฟั งสิ่งที่นางเกลีย้ กล่อมได้ก็ดีแล้ว
อวีถ้ งั โล่งใจไปเปราะหนึ่ง กล่าวด้วยนํา้ เสียงอบอุ่น “ข้าให้คนไปตักนํา้ ให้เจ้าล้างหน้า
ล้างตาแล้ว จากนัน้ ค่อยไปพบพ่อเจ้าด้วยกัน เขาจะได้ไม่ตอ้ งกังวล”
นางก็จาํ เป็ นต้องขอโทษคนสกุลเว่ย ทัง้ ขอบคุณพวกเขาที่ให้อภัยตนเองเช่นกัน
แม้วา่ จนถึงยามนีน้ างจะยังไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้ แต่นางก็ไม่อยากให้พวกผูใ้ หญ่
กังวลใจเพราะเรื่องที่ตวั เองก่อขึน้
เว่ยเสี่ยวชวนพยักหน้า ล้างหน้าใหม่อีกครัง้ อารมณ์จึงค่อยสงบลง ทัง้ สองคนไปโถง
รับแขกราวกับไม่มีเรื่องใดเกิดขึน้
นายท่านเว่ยและอวีเ้ หวินปรึกษากันเรื่องไปพบเผยเยี่ ยน ยามที่ พวกเขาเข้าไปก็ได้
ยินอวีเ้ หวินพูดพอดี “เช้าตรูถ่ ดั จากวันที่นายท่านสามสกุลเผยรับปากว่าจะเป็ นคนกลางให้พวก
เรา ทางด้านสกุลหลี่ ก็ขอความช่วยเหลือจากนายท่านอู๋เพื่อนบ้านของพวกเรา เขาเป็ นคน
กว้างขวาง ทัง้ มีความสัมพันธ์อนั ดีกบั สกุลหลี่ ข้าส่งคนไปติดต่อนายท่านอู๋แล้ว คิดว่าสักพักก็
คงมีข่าวคราว ท่านพักผ่อนกับข้าที่น่ีก่อนสักครู ่ หรือจะรอทางด้านนายท่านอู๋ตอบกลับมาแล้ว
ค่อยวางแผนกัน?”
“น้องชายเป็ นธุระให้ ข้าจะยังไม่วางใจได้อย่างไร” นายท่านเว่ยกล่าวเสียงลุ่มลึก เห็น
ได้ชัดว่ามีท่าทีโศกเศร้าอยู่บา้ ง ทว่าแววตากลับเปี่ ยมด้วยพลัง คงโยนความทุกข์โศกไว้ท่ีอ่ืน
506

ชั่วคราว พุ่งเป้าไปเรื่องที่จะแก้แค้นให้กบั ลูกชายที่ตายไปอย่างไรดีแทน “พวกคหบดีชนบทนัน้


ท่านเชิญใครบ้าง?”
อวีเ้ หวินบอกทีละชื่อไล่เรียงไป
นายท่านเว่ยคิดว่าเหมาะสมแล้ว “ว่าตามนีแ้ หละ! ถึงเวลานัน้ ข้าไปกับท่านก็เพียงพอ
แล้ว”
อวี ถ้ ัง เห็ น ทั้ง สองคนพูด กัน พอเหมาะพอควรแล้ว เวลานี จ้ ึง ฉวยโอกาสเข้า ไปขอบ
คุณนายท่านเว่ย
ในที่สดุ ใบหน้าของนายท่านเว่ยก็ปรากฏความอ่อนโยนขึน้ มา พูดคุยกับอวีถ้ งั อย่างมี
เมตตาไม่ก่ีคาํ อวีถ้ งั ก็ขอตัวออกไป
อวีห้ ย่วนได้ยินว่านายท่านเว่ยมาก็รบี ตามเข้ามาคารวะทักทาย
นายท่านเว่ยพอใจกับงานแต่งครัง้ นีไ้ ม่นอ้ ย ยามที่พดู คุยกับอวีห้ ย่วนก็เผยรอยยิม้ มาก
ขึน้
อวีเ้ หวินรูส้ กึ ว่าในใจดีขึน้ มาบ้างแล้ว รัง้ ตัวนายท่านเว่ยให้กินข้าวในเรือน ทัง้ กล่าวกับ
นายท่านเว่ยอย่างแฝงความเสียดาย “พี่ใหญ่ไปหนานชัง อยากเชิญอาจารย์ทาํ เครื่องลงรัก
จํานวนหนึ่งจากที่น่ นั เข้ามา วันนีจ้ ึงไม่อาจดื่มเป็ นเพื่อนท่านได้ ข้าให้อาหย่วนดื่มอวยพรแทน
พ่อของเขาให้กบั ท่านแล้วกัน”
นายท่านเว่ยกล่าวอย่างแปลกใจ “อาจารย์คนเก่าไม่ทาํ แล้วรึ?”
โดยปกติหากช่างฝี มือและนายจ้างไม่เกิดขัดแย้งอะไรที่รุนแรงย่อมไม่อาจลาออกจาก
นายจ้างง่ายๆ เพราะยามที่ไปหานายจ้างใหม่อีกครัง้ คนอื่นมักจะสอบถามว่าเหตุใดจึงออก
จากนายจ้างเดิม เป็ นปั ญหาที่คนหรือว่าฝี มือ เป็ นต้น
บางครัง้ คําพูดของนายจ้างเดิมเพียงคําเดียว ก็สามารถทําให้ช่างฝี มือหางานใหม่ไม่ได้
อีกเลย
507

อวีเ้ หวินกล่าว “อาจารย์คนเก่าทําที่รา้ นของพวกเรามาชั่วชีวิตแล้ว เดิมทีก็ไม่อยากทํา


หลังจากร้านค้าไฟไหม้ เขาก็ฉวยโอกาสขอลาออกกลับบ้านเกิด ทัง้ อาจารย์อายุนอ้ ยไม่ก่ีคนก็
ไม่ค่อยอยากรัง้ ตัวอยู่ท่ีหลินอันเพราะเรื่องนี ้ อยู่ต่อก็ไม่สามารถรับผิดชอบงานเพียงคนเดียวได้
จึงทําได้เพียงหาอาจารย์ท่ีสามารถรับผิดชอบงานนีไ้ ด้เข้ามาใหม่เท่านัน้ ”
นายท่านเว่ยครุ ่นคิดเล็กน้อย “ไม่อย่างนัน้ หลังจากอาหย่วนแต่งงานเหตุใดไม่ไปเปิ ด
กิจการข้างนอก อย่างไรพ่อสามีก็ยงั อายุไม่มาก เรื่องในบ้านทัง้ หมดก็สามารถมอบให้พ่อสามี
ได้ เมื่ อ เป็ น เช่ น นี ้ อาหย่ ว นก็ ส ามารถพิ สูจ น์ค วามสามารถของตัว เองได้ พ่อ สามี ก็ ไ ม่ ต ้อ ง
รับภาระหนัก เชิญอาจารย์เข้ามาให้มากมายแล้ว”
อวีเ้ หวินเหนือความคาดหมายอยู่บา้ ง นึกไม่ถึงว่าสกุลเว่ยจะยินดีให้อวีห้ ย่วนใช้สินเดิม
ของคุณหนูเซียงหลังจากแต่งงาน
เขารูว้ ่านี่เป็ นความปรารถนาดีของสกุลเว่ย ทัง้ คุณหนูเซียงก็ใช้ชีวิตที่สกุลเว่ยตัง้ แต่เด็ก
จนโต นายท่านเว่ยเป็ นคนที่จัดการเรื่องราวอย่างเป็ นระบบระเบียบ กล้าพูดเช่นนี ้ คาดว่า
คุณหนูเซียงคงเห็นด้วยเช่นกัน
แต่น่ีเป็ นเรื่องของอวีห้ ย่วน เขาเป็ นเพียงอาคนหนึ่งไม่อาจสอดมือไปจัดการได้
“หลังจากแต่งงานก็ให้พวกเขาทัง้ สองปรึกษากันเอาเองเถิด” อวีเ้ หวินกล่าว
คอของอวีห้ ย่วนแดงเถือกไปหมด
ผูต้ ิดตามของนายท่านอู๋มาเข้าพบอวีเ้ หวิน “นายท่านพวกเรากล่าวว่า เรื่องที่ท่านให้ทาํ
เรียบร้อยหมดแล้วขอรับ เช้าตรู ่วนั มะรืนยามเหม่า 1ไปพบกันใต้ตน้ การบูรเก่าแก่ปากทางเข้า
114

ตรอกเสี่ยวเหมย ไปเข้าพบสกุลเผยด้วยกัน เรื่องนีเ้ ดิมทีนายท่านพวกเราควรมาคุยกับท่านด้วย


ตัว เอง แต่น ายท่ า นพวกเราถูก นายท่ า นตู้รั้ง ตัว ดื่ ม สุร าอยู่ท่ี บ ้า น กลัว ว่า ท่ า นจะร้อ นใจรอ

1
ยามเหม่า คือ 05.00 - 06.59 น.
508

จดหมายตอบกลับ จึงตัง้ ใจส่งข้าน้อยล่วงหน้ามาบอกกล่าวกับนายท่านอวีเ้ สียก่อน รอนาย


ท่านพวกเรากลับมา จะคุยกับท่านอย่างละเอียดอีกครัง้ ขอรับ”
นายท่านตู้ เป็ นคหบดีชนบทคนหนึ่งที่พวกเขาเชิญมาเป็ นพยานครัง้ นีเ้ ช่นกัน
อวีเ้ หวินขอบคุณผูต้ ิดตามคนนัน้ ควักเงินให้เป็ นรางวัลก่อนจะให้อาเสาไปดื่มชาเป็ น
เพื่อนเขา ด้านตัวเองก็พดู คุยกับนายท่านเว่ยต่อ “เวลานีท้ ่านก็สามารถวางใจได้ช่ วั คราวแล้ว
สกุลหลี่ตอบรับจะไปตัดสินความกับพวกเราที่สกุลเผยแล้ว”
หาคนกลางมาตัดสินความ สิ่งที่กลัวที่สดุ ก็คืออีกฝ่ ายไม่มา
ดังนัน้ ผูท้ ่ีเป็ นคนกลางย่อมต้องเป็ นคนที่มีนา้ํ หนัก ทําให้อีกฝ่ ายรูส้ กึ ว่าไม่อาจล่วงเกิน
ได้
นายท่านเว่ยถอนหายใจ “ครัง้ นีต้ อ้ งขอบคุณนายท่านสามสกุลเผยแล้วจริงๆ ในบ้าน
ของข้ายังมีโสมอายุรอ้ ยปี เก็บไว้อยู่ ถึงเวลานัน้ ก็นาํ ไปขอบคุณนายท่านสามเถิด!”
อวีเ้ หวินอยากพูดว่าบางทีนายท่านสามไม่แน่วา่ จะรับไว้หรอก แต่คิดดูแล้วนี่เป็ นความ
ตัง้ ใจของสกุลเว่ย จึงกลืนคําพูดกลับไป ทัง้ สองคนปรึกษากันอย่างละเอียดว่ายามที่ไปพบเผย
เยี่ยน พบคนของสกุลหลี่ควรจะพูดเรื่องอะไรบ้าง

ด้านอวีถ้ งั หลังจากรอพ่อลูกสกุลเว่ยกล่าวอําลา ก็ไปพบบิดา


“ท่านพ่อ” นางขอร้องอวีเ้ หวิน “ถึงเวลานัน้ ท่านก็พาข้าไปด้วยเถิดนะเจ้าคะ!”
นางอยากรูว้ า่ วันนัน้ สกุลหลี่จะพูดอย่างไรบ้าง
ชาตินี แ้ ละชาติก่อนมี ความแตกต่า งเป็ น อย่ า งมาก เวลานี ส้ กุลหลี่ก็ เ ปิ ดเผยด้า นที่
โหดร้ายออกมาแล้ว จะตกตํ่ากลางคันเช่นนีเ้ ลยหรือไม่?
นางอยากรูเ้ ป็ นอย่างมาก อยากเห็นด้วยตาของตัวเอง
509

อวี ้เ หวิ น คิ ด ว่ า สถานการณ์เ ช่ น นี ้ย ากที่ จ ะพบเจอ อวี ้ถั ง ตามไปเปิ ด หู เ ปิ ดตาก็ ดี


เหมือนกัน
เขากล่าวทัง้ ใคร่ครวญ “ไปได้ แต่เจ้าห้ามพูด ทัง้ ไม่อาจทําอะไรส่งเดชได้”
อวี ้ถั ง ยั ง คิ ด ว่ า ตั ว เองต้อ งร่ า ยยาวหว่ า นล้อ มบิ ด าเสี ย อี ก ฟั ง จบก็ อ ดดี ใ จไม่ ไ ด้
ละลํ่าละลักเอ่ย “ท่านวางใจเถิด ข้าจะตามหลังท่านพี่อย่างสงบเสงี่ยม ไม่ให้เป็ นที่สนใจของ
ใคร”
อวีเ้ หวินพยักหน้า
อวีถ้ งั ถามอวีเ้ หวิน “เช่นนัน้ คนลีภ้ ยั สองคนนัน้ จะทําอย่างไร? ถึงเวลานัน้ ให้พ่ีนอ้ งสกุลช
วีคมุ ตัวไปหรือเจ้าคะ?”
หากเป็ นเช่นนี ้ พี่นอ้ งสกุลชวีก็ตอ้ งเปิ ดเผยตัว พี่นอ้ งสกุลชวีไม่แน่ว่าจะยอมล่วงเกิน
สกุลหลี่
ต้องถามความต้องการของพวกเขา
อวีเ้ หวินเอ่ย “เรื่องนีเ้ จ้าไม่ตอ้ งสนใจ ข้าได้พดู กับเถ้าแก่ใหญ่ถงแล้ว ถึงเวลานัน้ เถ้าแก่
ใหญ่ถงจะส่งคนไปนําตัวคนลีภ้ ยั ทัง้ สองไปไว้ท่ีสกุลเผยล่วงหน้า ไม่อาจให้สกุลหลี่มีโอกาสเล่น
เล่หเ์ หลี่ยมอะไรได้”
อวีถ้ งั ค่อยวางใจ เมื่อถึงวันที่นดั กัน ก็แต่งตัวเป็ นบ่าวรับใช้ของอวีห้ ย่วน ก้มหน้าก้มตา
เดินตามหลังอวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนไปตรอกเสี่ยวเหมยพร้อมนายท่านอู๋
เพราะพวกเขาเป็ นคนเชิญคนอื่นจึงไปค่อนข้างเร็ว กระนัน้ นายท่านเว่ยและเว่ยเสี่ยว
หยวนกลับยังถึงเร็วกว่าพวกเขา
อวีเ้ หวินรีบแนะนํานายท่านเว่ยให้นายท่านอูร๋ ูจ้ กั
ด้านนายท่านเว่ยก็ขอบคุณนายท่านอูอ๋ ย่างซาบซึง้ ใจ
510

นายท่านอู๋เป็ นคนใจกว้าง รีบคว้าตัวนายท่านเว่ยที่จะค้อมคํานับให้เขา ตบไหล่นาย


ท่านเว่ยอย่างเป็ นกันเอง “ไม่ตอ้ งมากพิธีขนาดนัน้ นายท่านอวีแ้ ละข้าเป็ นเพื่อนบ้านมาหลายปี
แล้ว นิสยั ของข้าเขาก็รูด้ ี ชอบการคบหาสหายเป็ นที่สดุ พวกเราสามารถรูจ้ กั กันเช่นนีไ้ ด้ นับว่า
เป็ นวาสนาแล้ว ภายหลังก็ไปมาหาสูก่ นั ให้มากหน่อย”
นายท่านเว่ยย่อมตอบรับ เชิญนายท่านอูใ๋ ห้เป็ นไปแขกที่สกุลเว่ยในยามที่วา่ ง
นายท่านอูร๋ บั ปากอย่างมีไมตรี เอ่ยถามเรื่องผลผลิตในปี นีข้ องนายท่านเว่ย
พวกเขาไม่ก่ีคนพากันพูดคุยขึน้ มา ก่อนพวกคหบดีท่ีถกู เชิญมาจะทยอยกันมาอย่างไม่
ขาดสาย
ทุกคนต่างทักทายซึง่ กันและกัน
ไม่มีใครสนใจอวีถ้ งั
อวีถ้ ังที่รูส้ ึกวางใจ ก็ฉวยโอกาสเริ่มสํารวจผูค้ น…คนพวกนีล้ ว้ นเป็ นคนมีหน้ามีตาใน
เมืองหลินอัน ใครจะรูว้ า่ ภายหลังจะพบเจอเรื่องอะไรให้ช่วยเหลือหรือไม่
ยามที่ใกล้ถึงเวลานัดพบ คนของสกุลหลี่ก็มา
เพราะหลี่อรี ้ บั ราชการอยู่ขา้ งนอก ผูท้ ่ีมาจึงเป็ นหลี่ตวนและหลี่จวิน้
นายท่านอู๋เห็นก็ขมวดคิว้ เอ่ยถามอวีเ้ หวินเสียงเบา “เจ้าไม่ได้เชิญบ้านสายตรงของ
สกุลหลี่หรอกรึ?”
“เชิญแล้ว!” อวีเ้ หวินเห็นก็ไม่พอใจอยู่บา้ ง “ข้าเป็ นคนไปเชิญด้วยตัวเอง”
นายท่ า นอู๋เ ห็ น เช่ น นั้น ก็ ไ ม่ ส บอารมณ์เ ล็ ก น้อ ยเช่ น กัน “นี่ พ วกเขาหมายความว่ า
อย่างไร? ไม่อยากนับตัวเองเป็ นคนสกุลหลี่แล้ว?”
511

ตามหลักแล้ว เกิดเรื่องเช่นนี ้ ควรเป็ นบ้านสายตรงสกุลหลี่ท่ีออกหน้า แต่หลี่ตวนและ


หลี่จวิน้ มาเช่นนี ้ หากไม่ใช่ว่าบ้านสายตรงสกุลหลี่ไม่ให้ความสําคัญเรื่องนี ้ ก็คงเป็ นเพราะบ้าน
ของหลี่ตวนไม่ให้ความเคารพบ้านสายตรงสกุลหลี่
เพียงแต่ยงั ไม่ทนั ที่สองพี่นอ้ งจะเข้ามาใกล้ หลี่เหอก็พยุงบิดามา ซึ่งก็คือคนบ้านสาย
ตรงของสกุลหลี่ ปู่ สิบสองของบ้านสายตรงสกุลหลี่สาวเท้าเร็วปรากฏตัวอยู่ท่ีตรอกเสี่ยวเหมย
“หลี่ตวน เจ้าคอยพวกเราก่อน!” หลี่เหอตะโกนเสียงดังอย่างกระหืดกระหอบใส่สองพี่
น้องหลี่ตวน
หลี่ตวนหันกลับไป สีหน้าไม่คอ่ ยดีเท่าใด แต่ยงั คงหยุดฝี เท้าไว้
คนที่มาต่างก็เป็ นคนผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก แค่เห็นเช่นนีก้ ็รูแ้ ล้วว่าบ้านหลี่ตวน
ไม่ให้ความเคารพบ้านสายตรงแต่อย่างใด
เวลานัน้ คหบดีไม่ก่ีคนก็ซุบซิบกันขึน้ มา “มีเพียงขุนนางขัน้ สี่คนเดียวก็เริ่มวางตัวเหิมเก
ริมเสียแล้ว ดูคนสกุลเผยสิ บ้านไหนบ้างที่ไม่ได้เป็ นขุนนาง แต่มีบา้ นไหนบ้างกันที่กล้าไม่เคารพ
บ้านสายตรง!”
“ไม่อย่างนัน้ สกุลเผยจะยืนตระหง่านดั่งขุนเขาไม่ลม้ มาหลายรุน่ ได้อย่างไร!”
อวีถ้ งั รับฟั ง สายตากลับวางอยู่ท่ีรา่ งของหลี่จวิน้
เพียงเวลาไม่ก่ีสิบวัน หลี่จวิน้ กลับคล้ายเปลี่ยนไปราวคนละคน ใบหน้าซีดเซียว ท่าที
หม่นหมอง ราวกับต้นไม้ท่ีถกู ตัดนํา้ หล่อเลีย้ ง จู่ๆ ก็แก่ขนึ ้ มากว่าสิบปี อย่างไรก็ไม่อาจกลับมามี
ชีวิตชีวาเหมือนเมื่อก่อนได้แล้ว
512

บทที่ 63 ไม่ยอมรับ
อวีถ้ งั เห็น ก็อดลอบส่ายหน้าในใจไม่ได้
หลี่จวิน้ กลับไม่เห็นอวีถ้ งั
หลายวันมานี ้ เขารูส้ กึ ราวกับตัวเองฝันไป
เพราะสกุลอวีอ้ ยากเกี่ยวดองกับคุณชายรองสกุลเว่ย คนลีภ้ ยั ในที่นาของสกุลพวกเขา
จึงเข่นฆ่าเอาชีวิตของคุณชายรองสกุลเว่ย เพราะสกุลอวีไ้ ม่ยินดีจะผูกสัมพันธ์กบั สกุลเขา แม่
ของเขาจึงส่งคนไปลักพาตัวคุณหนูอวี ้ ทัง้ เพราะคนลีภ้ ยั พวกนัน้ มารีดไถ่เงินจากพี่ชาย พี่ชาย
เขาจึงเตรียมจะจัดการกับคนลีภ้ ยั พวกนัน้
ตัง้ แต่เมื่อใดกันที่สกุลพวกเขายึดติดกับงานแต่งของเขาและสกุลอวีถ้ ึงเพียงนี?้
ตัง้ แต่เมื่อใดกันที่มารดาของเขาถึงขัน้ ใช้ทุกวิถีทางโดยไม่สนใจอะไรเพื่อให้บรรลุผล
เช่นนี?้
ตั้ง แต่เมื่ อใดกัน ที่ พ่ี ช ายเขาเปลี่ ย นเป็ น ใจกล้า เหิม เกริม ไม่เคารพกฎบ้า นกฎเมื อง
เช่นนี?้
หรือเป็ นเพราะเขาโวยวายอาละวาดในบ้านเพื่อให้สามารถแต่งกับคุณหนูอวีไ้ ด้?
แต่ยามที่เขาอาละวาดในบ้านเพราะไม่อยากไปเรียนหนังสือ มารดาและพี่ชายเขาก็
ไม่ได้ยอมตามใจเขาถึงขนาดนี?้
แม้เขาจะเป็ นผูเ้ กี่ยวข้องในเรื่องคนหนึ่ง แต่เรื่องงานแต่งของสกุลอวีก้ ลับไม่ได้ยดึ มั่นดั่ง
มารดา
เขาไปโน้มน้าวมารดา มารดาไม่เพียงคิดว่าไม่ผิด แต่ยงั กล่าวว่าเพราะตําแหน่งของ
บิดาไม่ใหญ่พอ มิเช่นนัน้ ศาลาว่าการจะกล้าออกหน้ายุ่งเรื่องนีไ้ ด้อย่างไร
513

เขาเสียใจเป็ นอย่างมาก ไปหาพี่ชาย พี่ชายกลับพูดว่าเขาโตแล้ว อย่าได้ไร้เดียงสา


เช่นนีอ้ ีก บางเรื่องหากไม่ใช่ลมตะวันออกพัดกลบลมตะวันตก ก็เป็ นลมตะวันตกที่พดั กลบลม
ตะวันออก 2 แม้วา่ สกุลพวกเขาไม่รบั คนลีภ้ ยั พวกนัน้ ก็ย่อมมีคนอื่นรับอยู่ดี
115

เขาสับสนมึนงงไม่นอ้ ย
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ที่นานัน้ ก็เป็ นของสกุลหลี่พวกเขา เป็ นสกุลหลี่ของเขาที่รบั คนลีภ้ ยั
พวกนัน้ ไว้ ยามที่คนของศาลาว่าการไปตรวจสอบ ก็เกิดเรื่องในที่นาของสกุลหลี่ ไฉนพี่ชายของ
เขาจึงกล่าวคําพูดผลักภาระเช่นนีอ้ อกมาได้?
หูซิ่ง พ่อบ้านสามสกุลเผยมาเป็ นแขกถึงเรือน เอ่ยว่าสกุลอวีเ้ ชิญนายท่านสามของเขา
ให้เป็ นคนกลาง พูดเกลีย้ กล่อมความหมางใจของทัง้ สองสกุล เขารู ส้ ึกไม่มีหน้าจะไปพบคน
สกุลอวี ้ พี่ชายเขากลับบังคับให้เขาตามมาด้วยกัน ทัง้ ยังปรึกษากับชิงเค่อ 3 ที่บิดาทิง้ ไว้ให้ความ
116

ช่ ว ยเหลื ออยู่ค่อนวัน กล่า วว่า คนลี ภ้ ัย เหล่านั้นไม่เ กี่ ย วข้องกับสกุลพวกเขา เรื่องลัก พาตัว
คุณหนูอวี ้ ยิ่งเป็ นคําพูดไร้สาระ…ปฏิเสธเรื่องที่เคยทํามาทัง้ หมดอย่างสิน้ เชิง
หรือสกุลพวกเขาไม่ควรกระตือรือร้นให้ความร่วมมือกับสกุลเผย ให้คาํ ตอบแก่คนใน
เมืองหลินอันหรอกรึ?
มารดาที่ออ่ นน้อมถ่อมตนหายไปแล้ว พี่ชายที่ซ่อื ตรงใจกว้างก็หายไปด้วยเช่นกัน…
และพวกเขา ทําเพียงเพื่องานแต่งของเขาจริงๆ อย่างนัน้ รึ?
หลี่จวิน้ ไม่รูว้ า่ ตัวเองตามพี่ชายเข้ามาในประตูใหญ่จวนสกุลเผยได้อย่างไร ทัง้ ยังมานั่ง
ในห้องโถงของสกุลเผยได้อย่างไร เป็ นเสียงโต้เถียงอย่างรุ นแรงที่ดงั ข้างหูจึงทําให้เขาหวนสติ
กลับมา

2
หากไม่ใช่ลมตะวันออกพัดกลบลมตะวันตก ก็เป็ นลมตะวันตกที่พดั กลบลมตะวันออก อุปมาถึงการแข่งขันเอาชนะกัน
3
ชิงเค่อ คือแขกที่คอยให้คาํ ปรึกษา เสนอความคิดในบ้านผูม้ ีอิทธิพล
514

ยามที่เขายังสับสนมึนงง สกุลหลี่และสกุลอวีก้ ็ได้โต้แย้งกันมาค่อนวันแล้ว


นายท่านสามสกุลเผยที่น่ งั อยู่ตรงกลางกลับเห็นได้ชดั ว่ามีสีหน้าเรียบนิ่งอยู่บา้ ง คล้าย
ว่าการโต้แย้งเบือ้ งหน้าไม่เกี่ยวอะไรกับเขาอย่างสิน้ เชิง
ท่าทีของนายท่านสามคนนีห้ มายความว่าอย่างไรกันแน่?
หลี่จวิน้ อดหันหน้าไปมองหลี่ตวนไม่ได้
หลี่ตวนยังคงคล้ายให้ความสําคัญกับเรื่องครัง้ นี ้
เขาเปลี่ยนเป็ นชุดคลุมสีนา้ํ เงินปั กไหมทองลวดลายค้างคาวและดอกไม้ท่ีเพิ่งตัดใหม่
ไม่ก่ีวนั ก่อน ขับผิวของเขาให้ดขู าวสะอาด ใบหน้ากระจ่างใส ราวกับต้นอวีซ้ ทู่ ่ีลลู่ ม โดดเด่นสง่า
งามเหนือผูค้ น
ยามนีส้ ีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมราวกับสีของฤดูใบไม้รว่ ง กล่าวด้วยหน้านิ่งเรียบ “นาย
ท่านอวี ้ พวกเราพูดมากไปก็ไร้ประโยชน์ อย่างไรขอพวกเจ้านําหลักฐานออกมา มิเช่นนัน้ ข้าจะ
ไปแจ้งทางการว่าพวกเจ้าใส่รา้ ยผูอ้ ่นื !”
หลี่จวิน้ ได้ฟังก็ส่นั สะท้านในใจ
สกุลอวีก้ ็ไม่ใช่คนบ้าบิ่น ไหนเลยจะกล้าเชิญนายท่านสามสกุลเผยออกหน้าเป็ นคน
กลางโดยที่จบั มือใครดมไม่ได้ นายท่านสามก็ไม่ใช่คนโง่ หากไม่มีหลักฐาน จะเข้ามายุ่งเรื่องนี ้
ได้อย่างไร?
จู่ๆ หลี่จวิน้ ก็ฟื้นคืนสติกลับมา
เขาหันไปทางอวีเ้ หวิน
เห็นเพียงอวีเ้ หวินโมโหจนใบหน้าแดงกํ่า ได้ยินหลี่ตวนพูดเช่นนี ้ ก็ประสานมือคํานับไป
ทางนายท่านสามและพวกเศรษฐี ชนบท ก่อนจะกล่าวกําชับอวีห้ ย่วน “เจ้าไปพาพยานเข้ามา”
อวีห้ ย่วนรับคํา ก่อนจะถอยออกไป
515

ในห้องโถงยังคงโต้เถียงกันเสียงเบา
ในใจอวีถ้ งั เต็มไปด้วยโทสะ
สกุลหลี่เป็ นเช่นนีม้ าโดยตลอด
แม้จะต้อนพวกเขาจนหลังชนกําแพง พวกเขาก็สามารถมองผ่านหลักฐานเหล่านัน้ ราว
กับไม่มีอะไรได้ ให้ตายอย่างไรก็ไม่ยอมรับราวกับคนอื่นหูหนวกตาบอด หากถูกบีบเค้นอย่าง
หนัก ก็จะปั ดความรับผิดชอบไปให้คนอื่น กล่าวว่าตัวเองเป็ นผูบ้ ริสุทธิ์ ทัง้ เป็ นผูเ้ คราะห์รา้ ย
เช่นกัน
ชาติก่อน พวกเขาใช้วิธีเช่นนีไ้ ม่รูต้ งั้ มากมายเท่าใด
ชาตินี ้ ไม่วา่ อย่างไรนางก็ไม่อาจให้พวกเขาทําสําเร็จเช่นนีต้ อ่ ไป
นางมองไปที่เผยเยี่ยนแวบหนึ่งอย่างรวดเร็ว
เผยเยี่ยนที่ใช้หางตาสังเกตนางมาโดยตลอดอยากหัวเราะขึน้ มาอยู่บา้ ง
เขารูว้ า่ นางไม่อาจหลบอยู่ในเรือนอย่างสงบเสงี่ยมได้หรอก
ยามที่นางก้มศีรษะ แต่งตัวเป็ นบ่าวใช้เดินหลบอยู่หลังญาติผูพ้ ่ีของตัวเองเข้ามาใน
ห้อง เขามองพริบตาเดียวก็รูแ้ ล้ว…เข้ามาในห้องโถงใหญ่เช่นนี ้ ใครบ้างที่นาํ บ่าวรับใช้เข้ามา
แทนที่จะเป็ นคนสําคัญ ก็ตอ้ งชมสกุลอวีท้ ่ีใจกล้า ทัง้ โชคดีท่ีคนเหล่านัน้ ต่างให้ความสนใจกับ
เรื่องที่เขาเป็ นผูร้ บั ผิดชอบเรื่องนีเ้ ป็ นครัง้ แรก จึงไม่ได้ตระหนักถึงนาง มิเช่นนัน้ ยามที่นางเดิน
เข้ามาในห้องโถงใหญ่ก็คงถูกคนจับได้แล้ว
แต่ ข อเพี ย งเขาไม่ พู ด แม้ว่ า นางจะถู ก คนมองออกก็ ไ ม่ ส ํา คั ญ พวกเขาเห็ น ว่ า
เผยเยี่ยนไม่กล่าวคําใด แปดถึงเก้าส่วนก็ย่อมทําเป็ นไม่เห็นไปด้วย
แต่แม้วา่ จะเป็ นเช่นนี ้ คุณหนูใหญ่สกุลอวีผ้ นู้ ีก้ ็ยงั คงทําให้เขาประหลาดใจอยู่บา้ ง
516

ตัง้ แต่ตน้ จนถึงตอนนี ้ นางไม่ได้เหลือบมองบุตรชายคนรองของสกุลหลี่แม้แต่แวบเดียว


ทว่าแววตาที่มองหลี่ตวนกลับคล้ายดั่งสุมไปด้วยเปลวเพลิง อยากจะแผดเผาเขาอย่างไรอย่าง
นัน้
เวลานีเ้ ผยเยี่ยนลูบคางตัวเอง
หรือคนที่คณ
ุ หนูอวีผ้ นู้ ีต้ อ้ งการแก้แค้นก็คือหลี่ตวน?
เขาจิบชาไปหนึ่งคํา
ก่อนจะเห็นอวีถ้ งั กระซิบกล่าวข้างหูอวีห้ ย่วนไม่ก่ีประโยค อวีห้ ย่วนพยักหน้า เข้าไปพูด
กับอวีเ้ หวินเสียงเบา อวีเ้ หวินที่เมื่อครู ่ถูกหลี่ตวนย้อนจนพูดไม่ออก รับช่วงต่อจากคําพูดของ
นายท่านเว่ย เริม่ โต้แย้งหลี่ตวนขึน้ มาทันที
ผ่านไปพักใหญ่ อวีเ้ หวินตกเป็ นฝ่ ายเสียเปรียบอีกครัง้
ทางพวกเขาก็เปลี่ยนตัวเว่ยเสี่ยวหยวนมาโต้เถียงหลี่ตวนแทน
สมแล้วที่หลี่ตวนเป็ นลูกเขยที่สกุลกูถ้ กู ใจ ไม่เพียงแต่ฝีปากเป็ นเลิศ ยังมีความสามารถ
พลิกแพลงสถานการณ์ ไม่นานก็ทาํ ให้เว่ยเสี่ยวหยวนไปต่อไม่ถกู
หลี่ตวนประสานมือไพล่หลัง ยืดตัวตรงอยู่กลางห้องโถง มองดูเบือ้ งล่างอย่างดูแคลน
คล้ายทระนงในความสามารถโต้แย้งของตัวเอง
อวีถ้ งั กระซิบกับอวีห้ ย่วนไม่ก่ีคาํ อวีห้ ย่วนก็ขนึ ้ มาด้านหน้า โต้แย้งกับหลี่ตวนขึน้ มาอีก
ครัง้
เผยเยี่ยนเห็นแล้วร้อนใจแทนคนของสกุลอวีอ้ ยู่บา้ ง
ไฉนผูช้ ายหลายคนโต้เถียงกันยังสูผ้ หู้ ญิงคนเดียวไม่ได้
หรือหลายปี มานี ้ สกุลอวีก้ ็ทาํ ได้เพียงเกาะกินสมบัติเก่าของบรรพบุรุษไปวันๆ เท่านัน้ !
517

หากคุณหนูอวีผ้ ูน้ ีย้ ืนขึน้ มาเป็ นตัวแทนของฝั่ งสกุลอวี ้ เผชิญหน้ากับหลี่ตวนได้ คง


น่าสนใจไม่นอ้ ยแน่
จู่ๆ เผยเยี่ยนก็รูส้ กึ หมดอารมณ์ขนึ ้ มา
เขาวางถ้วยไว้ท่ีมมุ โต๊ะ ไม่เบาไม่แรงเกินไป
ในห้องโถงเงียบเป็ นเป่ าสากขึน้ มาชั่วขณะ สายตาของทุกคนมองมาที่เขาอย่างพร้อม
เพรียงกัน
เผยเยี่ยนเมินเฉยราวกับมองไม่เห็น กล่าวกับเผยหม่านที่ยืนอยู่ดา้ นหลังเขา “นํา้ ชาเย็น
หมดแล้ว ให้พวกสาวใช้เปลี่ยนชาให้ทกุ คนเสียหน่อย”
ทุกคนที่ตา่ งคิดว่าเขามีอะไรจะพูด
ท่าทีนีข้ องเผยเยี่ยนคล้ายเด็กน้อยที่เล่นสนุกเกินไปแล้ว!
พวกคนสกุลหลี่ต่ืนตัว ฝั่งอวีเ้ หวินใบหน้าดําคลํา้ พวกเศรษฐี ชนบทที่มาร่วมฟั งต่างมีสี
หน้าแตกต่างกันไป ครุน่ คิดตรึกตรองในใจว่าถึงเวลานัน้ ควรจะยืนฝั่งไหนอย่างไร
แววตาดั่งคมมีดของอวีถ้ งั มองไปยังเผยเยี่ยนอย่างตรงๆ
เหตุใดเขาจึงมีท่าทีเช่นนีไ้ ด้?
ไม่ตอบรับก็เป็ นอีกเรื่อง พอตอบรับแล้ว ก็ควรจัดการเรื่องนีอ้ ย่างจริงจังตัง้ ใจ เที่ยง
ธรรม ซื่อตรงจึงจะถูก ทําอย่างสุกเอาเผากินเช่นนีไ้ ด้อย่างไรกัน?
หรือนี่ก็เป็ นอีกคนที่นางเข้าใจผิดเพราะภาพจําของชาติท่ีแล้ว?
518

บทที่ 64 ถกเถียง
สายตาของอวีถ้ งั รุนแรงถึงขนาดนัน้ เผยเยี่ยนคิดจะเมินเฉยย่อมเป็ นเรื่องยาก
เพียงแต่เขาไม่เข้าใจอยู่บา้ ง ไม่รูว้ า่ คุณหนูอวีผ้ นู้ ีต้ อ้ งการจะทําอะไร จู่ๆ ก็ชีห้ วั หอกมาที่
เขา
เผยเยี่ยนขบคิดในใจ แววตาที่จดจ้องนัน้ ของอวีถ้ งั หายไปอย่างรวดเร็ว
เขาแค่นเสียง ‘เหอะ’ อยู่ในใจ เงยหน้ามองผูค้ ุม้ กันในบ้านคุมตัวชายหนุ่มที่ร่างกาย
กํายํา หน้าตาดุดนั สองคนเข้ามา
คงจะเป็ นผูล้ ีภ้ ยั สองคนนัน้
เผยเยี่ยนมองพินิจอย่างละเอียดอยู่พกั หนึ่ง
เสือ้ ผ้าสกปรกมอมแมม ท่าทีกระสับกระส่าย ผิวภายนอกยังเผยให้เห็นถึงร่องรอยเขียว
คลํา้
เผยเยี่ยนพยายามข่มใจจึงไม่ได้เผลอเบ้ปากออกมา
สรุ ป แล้ว ไม่ ไ ด้มี ป ระสบการณ์แ ต่ อ ย่ า งใด ในเมื่ อ นํา มาเป็ น พยาน อย่ า งไรก็ ค วร
ได้เปรียบกลับไป สภาพเช่นนี ้ ให้คนมองแวบเดียวก็รูแ้ ล้วว่าถูกทรมานมา รอสักพักก็คงไม่ใช่
เหลือจุดอ่อนให้คนอื่นจับได้หรอกกระมัง?
เผยเยี่ยนดื่มชาหนึ่งคําอย่างเงียบๆ รูส้ กึ ว่ารสชาติของชาในวันนีย้ งั คงไม่เลว
เขากล่าวถามเผยหม่านที่อยู่ดา้ นข้างเสียงเบา “วันนีใ้ ครเป็ นคนชงนํา้ ชา? เป็ นชาแดง
ของเขาถงซานรึ?”
“ขอรับ!” เผยหม่านล่าวเสียงเบา
519

เผยเยี่ ย นไม่ได้เจาะจงเรื่องชาอะไรเป็ น พิ เ ศษ วัน นี เ้ ลือกชาแดงของเขาถงซานมา


รับแขก เพียงเพราะว่าปี นีส้ กุลเผยได้รบั ชาชนิดนีม้ าเป็ นจํานวนมากก็เท่านัน้
“อากาศเย็นอยู่บา้ ง สาวใช้ในจวนท่านบอกว่าหลายวันนีท้ ่านท้องไส้ไม่ค่อยดี ให้พวก
เราเตรียมชาที่พอบรรเทาอาการเสียหน่อย” เผยหม่านกล่าวต่อ “หากนายท่านไม่ชอบ ข้าจะให้
คนเปลี่ยนให้เดี๋ยวนี”้
“ไม่ตอ้ ง!” เผยเยี่ยนกล่าว “ค่อยยังชั่วแล้ว!”
ขณะที่พดู เขาก็รูส้ กึ ถึงสายตาของอวีถ้ งั ที่มองมายังทางเขาอีกครัง้
นี่มนั อะไรกันอีก?
เขาเงยหน้าขึน้ อย่างเรียบนิ่ง ปราดมองไปที่อวีถ้ งั
ก่อนจะเห็นดวงตากลมโตของอวีถ้ งั ยามนีก้ ลับเบิกกว้างขึน้ มามองเขาราวกับลูกลําไย
เผยเยี่ยนตกใจเล็กน้อย
ปกติเขาก็ ไม่เคยเห็ น ดวงตาของใครเบิ ก กว้า งได้เท่า นี ม้ าก่อน…ก็ ไม่ เสีย ที เ ดี ย ว…
นอกเหนือจากแมวแล้วล่ะนะ
เขายิ่งคิดก็ย่งิ รูส้ กึ เหมือนเข้าไปอีก
ใบหน้านัน้ ก็เหมือนเช่นกัน
เหมือนแมวที่กาํ ลังโมโห
เผยเยี่ยนอดไม่ได้ จึงมองไปอีกครัง้
อวีถ้ งั โมโหจนไม่รูว้ า่ จะพูดอะไรดี
ห้องโถงเงียบสงัดเกินไปแล้ว
ทุกคนต่างรอฟั งคําพูดของเผยเยี่ยน
520

เผยเยี่ยนกลับพูดคุยเรื่องชากับเผยหม่าน
ชั่วขณะนัน้ ทุกคนล้วนไม่รูว้ า่ เผยเยี่ยนหมายความว่าอย่างไร
เศรษฐี ชนบทพวกนีม้ าเป็ นพยานให้สกุลอวี ้ หรือควรต้องพูดว่ามาเป็ นพยานให้ทั้ง
สกุลหลี่และสกุลอวี ้ ส่วนมากต่างก็เห็นแก่หน้าของสกุลเผย ให้ความสําคัญในฐานะที่เผยเยี่ยน
นั่งเป็ นผูต้ ดั สินความเป็ นธรรมให้กบั คนอื่นเป็ นครัง้ แรก หลังจากขึน้ เป็ นผูน้ าํ สกุล มีเพียงสอง
สามคนที่มาช่วยพูดคุย สนับสนุนสกุลอวี ้ ส่วนสกุลใดมีเหตุผลที่แท้จริง นั่นก็ตอ้ งดูว่าเผยเยี่ยน
จะพูดอย่างไร เผยเยี่ยนยืนอยู่ขา้ งสกุลไหน ท่าทีของเผยเยี่ยนย่อมเป็ นสิ่งที่สาํ คัญที่สดุ ในเวลา
นี ้
เขาทําเช่นนี ้ ทุกคนต่างจับต้นชนปลายไม่ถูก อีกเดี๋ยวทั้งสองสกุลโต้เถียงกันขึน้ มา
พวกเขาควรใช้ทา่ ทีอย่างไร ยืนอยู่ฝ่ ังไหนเล่า?
หลี่ตวนกลับแอบโล่งใจ
อย่างน้อย เผยเยี่ยนก็ไม่ได้ยืนอยู่ฝ่ ังสกุลอวีใ้ ห้เห็นอย่างชัดเจน
เขาไม่รอให้สกุลอวีไ้ ด้พดู ก็ชิงสร้างปั ญหาให้ก่อน กล่าวด้วยนํา้ เสียงอบอุ่น “คาดว่านี่
คงจะเป็ นพยานสองคนที่อวีซ้ ิ่วไฉพูดถึงเมื่อครู ่ เหนือความคาดหมายข้าจริงๆ สองคนนีเ้ คย
ได้รบั การดูแลจากสกุลข้า ภายหลังยามที่ทางการมาตรวจสอบ จึงพบว่าแท้จริงเป็ นโจรสลัดที่
หนีตายเข้ามาจากทางฝูเจีย้ น ภายหลังก็ปล่อยคนลีภ้ ยั ที่พกั อยู่ในที่นาออกไป สองคนนีย้ งั เคย
พยายามคิดรีดไถเงินจากข้า คาดไม่ถึงว่ากลับมาเป็ นพยานให้สกุลอวี”้
ความหมายของคําพูดคือ สองคนนีเ้ ดิมทีก็เป็ นพวกคนไร้คุณธรรม เพื่ อเงินแล้วถึง
กระทั่งสามารถเล่นแง่กบั ผูม้ ีพระคุณอย่างพวกเขา นํามาเป็ นพยานย่อมไม่น่าเชื่อถือ ทัง้ จงใจ
เอ่ยถึงตําแหน่งซิ่วไฉของอวีเ้ หวินออกมา ก็เพราะอยากใช้ฐานะของตัวเองข่มอวีเ้ หวิน ให้ทกุ คน
คล้อยตามตนเอง ให้ผคู้ นรูส้ กึ ว่าคําพูดของเขาน่าเชื่อถือมากกว่า
521

เมื่อครูท่ ่ีตอ่ กรกับหลี่ตวน อวีเ้ หวินก็ตระหนักถึงเล่หเ์ หลี่ยมของหลี่ตวนแล้ว ยามนีไ้ ด้ฟัง


เขาพูด ใบหน้ายิ่งดําคลํา้ ดีท่ีเขาก็ไม่ใช่คนไม่รูจ้ กั ความเหมาะสม หาได้หนุ หันพลันแล่นขึน้ มา
เพราะคําพูดเล็กน้อยของหลี่ตวนไม่ กลับกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม “คนลีภ้ ยั สองคนนีเ้ ป็ นโจร
พเนจรหรือไม่ ยังต้องให้ทางการตรวจสอบ ยามนีค้ ณ ุ ชายใหญ่สกุลหลี่ตดั สินชีข้ าดเช่นนี ้ เกรง
ว่าคงจะเร็วเกินไป”
หลี่ตวนเรียกเขาว่าซิ่วไฉ เขาก็เรียกหลี่ตวนว่าคุณชายใหญ่สกุลหลี่ ใช้อายุและความ
อาวุโสข่มหลี่ตวน นี่ก็เป็ นสิ่งที่อวีถ้ งั เตือนเขาเมื่อครู ่
“แต่เ วลานั้นมีคนสกุลเว่ยเห็นว่าคนที่ไปหาเว่ยเสี่ยวซานก็คือสองคนนี ้ สองคนนีก้ ็
ยอมรับว่าตัวเองได้รบั คําสั่งมาจากสกุลหลี่ อาศัยที่เว่ยเสี่ยวซานมีช่ือเสียงเล็กน้อยเรียกเขา
ออกมา จากนัน้ ก็หลอกไปที่ลาํ นํา้ เล็กๆ หลังสกุลเว่ย ทําให้จมนํา้ ตาย แล้วนําร่างไปทิง้ ในแม่นา้ํ
ที่เว่ยเสี่ยวซานมักไปจับปลาอยู่บ่อยๆ ข้าว่า คงไม่ถึงขัน้ ที่มีคนกล้ากล่าวให้รา้ ยตัวเองว่าลงมือ
ฆ่าคนหรอกกระมัง!”
“อวีซ้ ิ่วไฉพูดไม่ถกู !” ขณะที่หลี่ตวนกล่าว สายตาก็เหลือบไปเห็นใบหน้าบึง้ ตึง ทัง้ แฝง
มาด้วยความโกรธเกรีย้ วที่ปิดไม่มิด แต่กลับสดใสงดงามของอวีถ้ ังเข้า “เดิมทีก็เป็ นโจรที่หนี
ตาย จะมีคดีฆาตกรรมมากหรือน้อย เกี่ยวกันอย่างไร? ใครพอถึงยามเข้าตาจน ล้วนคิดปกป้อง
ชีวิตตัวเองก่อนทัง้ นัน้ คําพูดของสองคนนีจ้ ะเชื่อได้อย่างไร?”
เขานึกไม่ถึงว่าคุณหนูสกุลอวีก้ ็มาเช่นกัน
แต่งตัวเป็ นบ่าวรับใช้คนหนึ่ง แต่หน้าตาที่สะอาดหมดจด ทัง้ ดวงตาที่พร่างพราวราว
กับดวงดาวระยิบระยับ อย่างไรก็ไม่อาจปกปิ ดความโดดเด่นของนางได้
เขาไม่คิดอยากจะมาอยู่ในสถานการณ์เช่นนีก้ บั สกุลอวี ้
แต่บางเรื่องก็เป็ นเพราะชะตากรรมเลวร้าย
เวลานีไ้ ม่อาจจัดการอะไรได้ ก็ย่อมไม่สามารถควบคุมได้ตลอดไป
522

รูปลักษณ์งดงามเช่นนี ้ เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
ดวงตาที่เผยความซุกซน วิบวับพร่างพราว พาให้อยากค้นหาโดยไม่รูต้ ัวว่าเป็ นคน
อย่างไรกันแน่ ไฉนจึงได้มีสีหน้า แววตาเช่นนี ้
หลี่ตวนเหลือบมองเผยเยี่ยนอย่างว่องไว
เขากังวลเกี่ยวกับเผยเยี่ยนอยู่บา้ ง…กลัวว่าจะพบความงามของคุณหนูอวี ้ จะเข้าข้าง
สกุลอวีด้ ว้ ยเหตุนี ้ ถึงกระทั่งอาจจะเกิดความคิดไม่ดีอะไรขึน้ มา
คุณหนูสกุลอวีเ้ ป็ นเช่นนีก้ ็ดี
ปลอดภัย!
หัวเขาแล่นอย่างรวดเร็ว พุง่ ความสนใจไปยังอวีเ้ หวินแทน
อวีเ้ หวินใบหน้าดําราวกับก้นหม้อ “ความหมายของคุณชายใหญ่สกุลหลี่คือ เห็นกับตา
ได้ยินกับหูก็ไม่แน่วา่ จะเป็ นเรื่องจริงอย่างนัน้ รึ แล้วอย่างไรจึงจะนับว่าเป็ นความจริง?”
หลี่ตวนคาดไม่ถึงอยู่บา้ ง
เขาคิ ด ว่า อวี เ้ หวิ น จะโต้แ ย้ง กับ เขาเรื่ อ งพยานหลัก ฐานอย่ า งคนลี ภ้ ัย สองคนนี ต้ ่ อ
ทว่าอวีเ้ หวินกลับถีบลูกหนังนีม้ าฝั่งเขาแทน
หรือพวกเขายังมีพยานบุคคลหรือหลักฐานอะไรอีก?
หลี่ตวนระแวดระวังในใจขึน้ มาหลายส่วน กลับไม่เผยสีหน้าอันใด เอ่ยด้วยรอยยิม้ “ข้า
เพียงคิดไม่ออกว่าเหตุใดสกุลพวกเราจึงต้องเอาชีวิตคุณชายรองสกุลเว่ยให้ได้ดว้ ย?”
อวีเ้ หวินอึกอัก
หลี่ตวนกลับชิงเอ่ยปากก่อนเขา “ข้ารูด้ ี พวกเจ้าคิดว่าสกุลพวกเราอยากสูข่ อคุณหนูอวี ้
กลัวว่าคุณหนูอวีเ้ กี่ยวดองกับสกุลเว่ย ดังนัน้ จึงฆ่าคุณชายรองของสกุลเว่ย แต่อวีซ้ ิ่วไฉ เจ้าไม่
คิดว่าหลักการเช่นนีม้ นั ไร้สาระเกินไปหน่อยหรือ? คุณชายรองสกุลเว่ย นั่นเป็ นชีวิตคนๆ หนึ่ง
523

เชียว ไม่ใช่ลกู แมวลูกหมาที่ไหน สกุลข้าอยากสู่ขอคุณหนูอวี ้ ไม่ได้อยากจะผูกบัญชีแค้นเสีย


หน่อย! แม้ว่าสกุลพวกเราจะบีบบังคับ ก็คงจะคิดวิธีจา้ งพวกอันธพาลไประรานคุณหนูอวี ้
จากนัน้ ก็วางแผนให้นอ้ งชายข้าทําตัวเป็ นวีรบุรุษช่วยหญิงงาม นอกจากจะได้รบั ความซาบซึง้
ใจจากคุณหนูอวี ้ ยังสามารถเชื่อมงานแต่งครัง้ นีไ้ ด้ ใช่แล้ว ก่อนหน้านีท้ ่ีคุณหนูอวีถ้ ูกพวก
อันธพาลคุกคาม เป็ นสกุลพวกเราที่อบั จนหนทางจึงทําเรื่องเช่นนัน้ ออกมา เรื่องนีข้ า้ ยอมรับ แต่
เรื่องที่บงการพวกลีภ้ ยั ไปสังหารคุณชายรองสกุลเว่ย สกุลพวกเราไม่อาจเป็ นแพะรับบาปได้!”
ทุกคนยังไม่รูว้ า่ เกิดเรื่องเช่นนีม้ าก่อน
หลี่ตวนเพิ่งจะกล่าวจบ ทุกคนก็อดไม่ได้ เริม่ กระซิบกระซาบโต้เถียงกันขึน้ มา
“คาดไม่ถึงว่ามีเรื่องเช่นนีด้ ว้ ย”
“สกุลหลี่อยากแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์เกิน…เกินไปแล้ว”
“เห็นท่าแล้วคุณหนูอวีค้ งจะงดงามสมคํารํ่าลือที่ได้ยินมาเช่นนัน้ จริงๆ!”
เสียงที่ดังขึน้ อย่างไม่ขาดสาย ทําให้อวีเ้ หวินโกรธจนพูดไม่ออก ยิ่งไปกว่านัน้ ยังพา
ให้อวีห้ ย่วนผุดลุกขึน้ มา กําหมัดพุง่ ไปหาหลี่ตวน
ชาติก่อน อวีห้ ย่วนก็เคยปะทะกับหลี่ตวนเช่นกัน
หลี่ตวนเจ้าเล่หก์ ลับกลอก ต่อหน้าทุกคนกลับไม่ตอบโต้สกั นิด ผูค้ นต่างชมเขาว่ามี
จิตใจสูงส่ง แต่ลบั หลังหลี่ตวนกลับส่งคนไปลอบทําร้ายอวีห้ ย่วน ดีท่ียามนัน้ อาหลิ่วที่ขายสาลี่
แถวธารเสี่ยวเหมยบังเอิญทราบเรื่อง จึงส่งจดหมายมาบอกอวีห้ ย่วน ทําให้อวีห้ ย่วนรอดพ้นมา
ได้ อวีถ้ งั ก็เริม่ คลางแคลงสกุลหลี่ ทัง้ สงสัยหลี่ตวนในเวลานัน้ ขึน้ มาเช่นกัน
อวีถ้ งั ก้าวขึน้ มาด้านหน้า คว้าอวีห้ ย่วนเอาไว้ กดเสียงเบาในลําคอ “ท่านพี่ ความมุทะลุ
ไม่อาจแก้ไขปั ญหาใดได้ ในเมื่อพวกเรามาคุยเรื่องเหตุผลกับสกุลหลี่ ข้าก็ย่อมไม่อาจให้ตวั เอง
สะอาดบริสทุ ธิ์ต่อไปได้แล้ว นับแต่นีไ้ ปก็คงไม่มีช่ือเสียงดีงามอะไร เรื่องพวกนี ้ เทียบกับชีวิต
524

ของคุณชายรองสกุลเว่ยแล้ว เป็ น เรื่องน้อยนิด วัน นีพ้ วกเรามาก็เ พื่อหาความเป็ นธรรมให้


คุณชายรองเว่ย ท่านไม่ควรทําเสียการใหญ่เพราะเรื่องเล็กๆ ได้”
นายท่านเว่ยนั่งอยู่เบือ้ งหน้าพวกเขา คําพูดนีย้ ่อมได้ยินอย่างกระจ่างชัด ขณะนัน้ เขาก็
นํา้ ตาคลออย่างซาบซึง้ คิดว่าหากผ่านสองปี สามปี งานแต่งของอวีถ้ งั ยังไม่ถกู จัดการ ก็จะให้
เว่ยเสี่ยวชวนไปสูข่ ออวีถ้ งั
กล่าวโดยสรุ ปคือ ไม่อาจให้หญิ งสาวที่ดีขนาดนีอ้ ย่างอวีถ้ ังแต่งงานกับคนอื่นเรื่อย
เปื่ อยได้
เผยเยี่ยนที่ทาํ หูตัง้ นั่งไกลไปอยู่บา้ ง ได้ยินไม่ชัดว่าอวีถ้ ังพูดอะไร กลับคิดว่าคุณหนู
สกุลอวีย้ ่อมเสนอความคิดอะไรให้คนในบ้านเป็ นแน่
เห็นสีหน้าเรียบนิ่งของนาง แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคําพูดของหลี่ตวนไม่ได้กระทบ
ถึงนางแต่อย่างใด
หากไม่ใช่วา่ นางมีความอดทนอดกลัน้ อยู่แล้ว ก็คงคิดแผนรับมือไว้นานแล้วเป็ นแน่
แต่ไม่ว่าจะเป็ นอย่างหน้าหรืออย่างหลัง หญิงสาวสามารถก้าวมาถึงขัน้ นีไ้ ด้ ล้วนทําให้
คนนับถือแล้ว
จู่ๆ เขาก็อยากรูว้ า่ ตกลงคุณหนูสกุลอวีเ้ ป็ นสตรีเช่นไรกันแน่
นางเคยผ่านเรื่องอะไรมา ถึงเปลี่ยนจากตาปลากลายเป็ นไข่มกุ ที่ลา้ํ ค่า มีความเปล่ง
ประกายเป็ นของตัวเองได้
เผยเยี่ยนพลันอยากรูว้ า่ สกุลอวีจ้ ะพูดอะไรต่อไป ทัง้ จะทําสิ่งใดบ้าง
และสกุลอวี ้ หรือควรจะพูดว่าอวีถ้ งั ก็ไม่ได้ทาํ ให้เขาผิดหวัง
เขาเห็นอวีถ้ งั จัดแจงชุดเล็กน้อย หยัดกายตรงดั่งต้นสน เดินออกมาจากด้านหลังนาย
ท่านเว่ยด้วยท่าทีหนักแน่น ผ่อนคลาย หยุดอยู่เบือ้ งหน้าหลี่ตวน
525

หลี่ตวนตกใจอย่างคาดไม่ถึง
พวกเศรษฐี ชนบทที่กระซิบกระซาบกันยิ่งเงียบเสียงโดยพร้อมเพรียงกัน จากความ
ประหลาดใจ สูค่ วามกระจ่างใจและสนใจหลังจากที่คาดเดาตัวตนของอวีถ้ งั ออก จวบจนพากัน
เงียบกริบ มองนางด้วยดวงตาใสกระจ่าง รอนางเอ่ยปากพูด ก็เป็ นเพียงช่วงเวลาสัน้ ๆ เท่านัน้
นี่ดีกว่าที่อวีถ้ งั คาดไว้มาก
อย่างน้อยเศรษฐี ชนบทพวกนีก้ ็ไม่ได้ตะโกนออกมาถามว่านางเป็ นใคร คิดว่านางเป็ น
เพียงสตรีผหู้ นึ่งไม่ควรยืนพูดคุยอยู่ตรงนี ้
อวีถ้ งั มีความมั่นใจขึน้ มาหลายส่วน นัยน์ตาที่เดิมทีพร่างพราวราวดวงดาว ยิ่งส่องแสง
ระยิบระยับขึน้ ไปอีก กระจ่างวับวาวอย่างเห็นได้ชดั
“คุณชายใหญ่สกุลหลี่” นางเอ่ยด้วยนํา้ เสียงสุภาพ ท่าทีเยือกเย็น แววตาที่มองหลี่ตวน
นัน้ สนิทชิดเชือ้ ราวกับสหาย กล่าวแนะนําตัวเองอย่างใจกล้าไม่รบี ร้อนอันใด “ข้าคนสกุลอวี ้ อวี ้
ถัง ไม่ทราบว่าคุณชายใหญ่สกุลหลี่รูจ้ กั ข้าหรือไม่?”
ต่อให้เป็ นฝัน หลี่ตวนก็ยงั คาดไม่ถึงว่าอวีถ้ งั จะกล้าออกหน้าด้วยตัวเอง
เหตุใดจึงไม่มีคนในสกุลอวีข้ ดั ขวางนาง?
นางรูห้ รือไม่วา่ ตัวเองทําเช่นนีจ้ ะมีผลลัพธ์อย่างไรตามมา?
อย่างอื่นไม่พดู ถึง แต่ช่ือเสียงเรื่องห้าวหาญของหญิงสาวย่อมหนีไม่พน้ แล้ว
สมองของหลี่ตวนแล่นไม่ทนั อยู่บา้ ง กล่าวคําว่า ‘รูจ้ กั ’ อย่างเหม่อลอย
อวีถ้ ังแย้มยิม้ เล็กน้อย “หากข้าฟั งไม่ผิด ความหมายของเจ้าเมื่อสักครู ่ คือยอมรับว่า
พวกอันธพาลที่รงั ควานข้าในหมู่บา้ นชนบทนัน้ เป็ นการบงการของสกุลพวกเจ้าอย่างนัน้ รึ?”
นี่เป็ นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจโต้เถียง
526

หากใช้ประโยชน์ถูกทาง ก็จะเหมือนดั่งเรื่องเหวินจวินขายสุรา 1 กลายเป็ นเรื่องเล่า 117

หวานซึง้ ในพวกบัณฑิตสุภาพชน ไม่อาจกระทบถึงชื่อเสียงของสกุลหลี่และหลี่จวิน้


หลี่ตวนยอมรับแล้ว

1
เหวินจวินขายสุรา เป็ นเรื่องเล่าเกี่ยวกับความรักของชายหญิง บิดาของเหวินจวินไม่เห็นด้วยกับงานแต่ง เหวินจวินจึงหนี
ตามคนรักไปเปิ ดร้านขายสุรา ภายหลังบิดารับรูถ้ ึงความทุกข์ยากก็ใจอ่อน ทัง้ สองคนจึงกลับมาใช้ชีวิตอยู่รว่ มกันได้อย่าง
เป็ นสุข
527

บทที่ 65 ชิงไหวพริบ
หลี่ตวนมองไปยังอวีถ้ งั ด้วยแววตาแฝงรอยยิม้ “เรื่องนีม้ ารดาข้าทําไม่ถูก แต่อย่างไร
ขอให้คณ ุ หนูอวีอ้ ภัยด้วย ไม่ว่ามารดาคนใด ยามที่ปกป้องลูกของตัวเองก็มกั พลัง้ มือทําเรื่องโง่
งมลงไปบ้าง ดีท่ีเดิมทีมารดาก็ไม่ได้คิดทําร้ายคุณหนูอวี ้ เวลานัน้ น้องชายข้าได้ยินว่าคุณหนูอวี ้
อาจจะพบเรื่องลําบาก ยังเข้าไปช่วยเหลือคุณหนูอวีพ้ ร้อมสหาย จะว่าไปแล้ว น้องชายข้าก็เป็ น
ผูเ้ คราะห์รา้ ยเช่นกัน!”
เศรษฐี ชนบทพวกนัน้ ล้วนเป็ นคนมีประสบการณ์โชกโชน ฟั งจบก็รูถ้ ึงลับลมคมในเรื่อง
นีท้ นั ที อดยิม้ ขึน้ มาไม่ได้
เผยเยี่ยนคาดไม่ถึงว่าเรื่องนีจ้ ะเป็ นฝี มือของฮูหยินหลี่ มารดาของหลี่ตวนและหลี่จวิน้
เขาอดพินิจหลี่จวิน้ ไปทีไม่ได้
พบเพียงว่าหลี่จวิน้ กําลังเบิกตากว้างมองอวีถ้ งั มุมปากสั่นระริก คล้ายมีหลายอย่างที่
อยากจะกล่าวกับอวีถ้ งั แต่ไม่รูจ้ ะพูดอย่างไรดี ท้ายที่สดุ จึงกลายเป็ นความเสียใจหมองเศร้า
เขามองไปทางอวีถ้ งั
อวีถ้ ังเผยแววตาเรียบนิ่งมองหลี่ตวน ไม่โศกเศร้าไม่ยินดี ไม่ได้ชายตามองหลี่จวิน้
แม้แต่นอ้ ย
จะเห็นได้วา่ ไม่ได้ชมชอบหลี่จวิน้ แต่อย่างใด
เผยเยี่ยนลอบประหลาดใจ
เห็นเช่นนี ้ เขากล้ามั่นใจว่า หลี่จวิน้ นัน้ ชื่นชอบคุณหนูอวี ้ ทั้งตอนนีก้ ็ยังชอบอยู่ คุณ
หนูอวีเ้ ป็ นฝ่ ายเล่นหูเล่นตาหลี่จวิน้ ก่อน เหตุใดยามนีจ้ ึงดูถูกดูแคลนเสียแล้วเล่า? ทัง้ ดูท่าไม่
คล้ายมีใจให้หลี่ตวนด้วย ยามที่นางเผชิญหน้ากับหลี่ตวน เขาก็มองไม่เห็นความรู ส้ ึกอะไรที่
คุณหนูอวีม้ ีตอ่ หลี่ตวนทัง้ นัน้
528

หรือเขามองพลาดกัน?
แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่คอ่ ยเจนจัดเรื่องพวกนีม้ ากนัก
ตอนแรกที่โจวจื่อจินมีความสัมพันธ์สว่ นตัวกับนักพรตหญิง ผูด้ แู ลอารามอะไรนั่น เขา
ไปดื่มชาเป็ นเพื่อนอยู่หลายครัง้ หลายคราก็ยังมองไม่ออก ยังคงเป็ นฮูหยินโจวที่พาคนไปตี
กระบองแยกคูย่ วนยาง 1 เขาจึงได้ทราบเรื่อง
118

เผยเยี่ยนอดลูบจมูกตัวเองไม่ได้
ยังมีคุณชายรองสกุลเว่ยที่ช่ือว่าเว่ยเสี่ยวซานคนนัน้ สามารถมองออกได้ว่า คุณหนู
อวีอ้ อกหน้าเพื่อเขาด้วยใจจริง ถึงกระทั่งไม่สนใจชื่อเสียงของตัวเอง ยอมปรากฏตัวต่อหน้าผูค้ น
เพื่อจะเผชิญหน้ากับหลี่ตวน
คุณหนูอวีผ้ นู้ ี ้ น่าสนใจเสียจริง!
ผูค้ นมากหน้าหลายตา ล้อมหน้าล้อมหลัง คาดไม่ถึงว่านางจะยังมีจดุ ยืนของตัวเอง
เป็ นครัง้ แรกในชีวิตที่มีคนทําให้เผยเยี่ยนมองไม่ออก
แต่คุณหนูอวีจ้ ะทําเช่นนีไ้ ม่ได้เชียว แม้หลี่ตวนจะยอมรับว่าเรื่องที่ลกั พาตัวเป็ นฝี มือ
ของสกุลหลี่ กลับผลักเรื่องนีไ้ ปที่ฮหู ยินหลี่มารดาของเขา สตรีน่ะหรือ ไว้ผมยาวความรูก้ ลับตืน้
เขิน จู่ๆ ก็บุ่มบ่ามทําเรื่องที่น่าตกตะลึงขึน้ มา นับว่าเป็ นเรื่องปกติ จะจ้องสกุลหลี่ไม่ปล่อย
เพราะเรื่องนีย้ ่อมไม่ได้
หากเป็ นเขา ในเมื่อเปิ ดประเด็นเข้าสู่เรื่องนีแ้ ล้ว ก็จะใช้ประโยชน์จากมันอีกด้าน ไถ่
ถามสกุลหลี่ว่า เกิดเรื่องเช่นนีข้ ึน้ วางแผนจะจัดการปั ญหาแบบใด อย่างไรก็ตอ้ งตัดขาดเรื่อง
เชื่อมสัมพันธ์กับสองสกุลให้เด็ดขาด ไม่ให้สกุลหลี่ได้ใช้ประโยชน์จากเรื่องนีม้ าเกี่ยวดองกับ
สกุลอวีอ้ ีก

1
ตีกระบองแยกคูย่ วนยาง หมายถึง บีบบังคับให้ครู่ กั แยกจากกัน
529

เช่นนัน้ เขาจําเป็ นต้องเตือนคุณหนูอวีเ้ สียหน่อยหรือไม่?


ความคิดนีแ้ ล่นวาบเข้ามาในหัวเผยเยี่ยน ก่อนจะถูกเขาสลัดทิง้ ไปในพริบตา
ยามนีเ้ ขาก็ยงั ไม่รูว้ า่ คุณหนูอวีต้ อ้ งการจะทําสิ่งใด แม้ดเู หมือนนางจะออกหน้าเพื่อเว่ย
เสี่ยวซาน แต่ในความเป็ นจริงหากคิดจะแต่งให้สกุลหลี่ละ่ ?
เขาไม่ช่าํ ชองเรื่องระหว่างชายหญิงเช่นนีเ้ ป็ นที่สดุ อย่างไรอย่าทําเรื่องที่ลาํ บากใจทัง้
สองฝ่ ายดีกว่า
แต่ว่า หากคุณหนูอวีอ้ ยากแต่งให้หลี่ตวนจริงๆ เขากลับสามารถช่วยเหลือได้ ถึงเวลา
นัน้ สกุลหลี่และสกุลกูถ้ อนหมัน้ สีหน้าของกูฉ้ ่างคงจะดูไม่ได้เป็ นแน่
เผยเยี่ยนยกมุมปากขึน้ เล็กน้อย ก่อนจะได้ยินอวีถ้ งั เอ่ย “แม้จะกล่าวว่าฮูหยินหลี่หนุ หัน
พลันแล่นไปชั่วครู ่ แต่ยามนีเ้ ป็ นคุณชายใหญ่สกุลหลี่ท่ีดแู ลสกุล ฮูหยินหลี่ทาํ เรื่องเช่นนีอ้ อกมา
สกุลพวกเราย่อมไม่อาจผูกสัมพันธ์อนั ใดกับสกุลหลี่ได้อีก คาดว่าหากทุกท่านที่น่ งั ตรงนีแ้ ละ
คุณชายใหญ่สกุลหลี่ลองคิดเอาใจเขามาใส่ใจเรา ก็คงสามารถเข้าใจความคับข้องใจของสกุล
พวกเราได้”
เวลานีเ้ ผยเยี่ยนก็น่งั ตัวตรงขึน้ มา
คาดไม่ถึงว่า คุณหนูอวีค้ นนีจ้ ะตัดความสัมพันธ์กบั สกุลหลี่จริงๆ!
เขามองผิดอีกแล้ว!
เผยเยี่ยนก้มหน้าจิบชา ปกปิ ดความไม่เป็ นธรรมชาติของตัวเอง
พวกเศรษฐี ชนบทที่น่ งั อยู่ต่างพากันถกเถียงเซ็งแซ่ขึน้ มา และนายท่านอู๋ท่ีได้รบั การ
ไว้วางใจจากอวีเ้ หวินก็ถือโอกาสกล่าวต่อ “อืม คําพูดของคุณหนูอวีม้ ีเหตุผล หากบุตรีสกุลข้า
ประสบกับเรื่องเช่นนี ้ แม้จะเป็ นความปรารถนาดี แต่กลับทิง้ บาดแผลลึกในใจ ไม่ถูกทํานอง
คลองธรรม ไม่ว่าอย่างไรทัง้ สองสกุลก็ไม่อาจเกี่ยวดองกันได้” พูดจบ เขาก็หวั เราะออกมาสอง
ครัง้ “ดีท่ีสกุลอวีต้ อ้ งการให้คณ
ุ หนูอวีแ้ ต่งลูกเขยเข้าบ้าน คุณชายรองสกุลหลี่ก็เป็ นหนุ่มรูปงาม
530

มากความสามารถ ความรู โ้ ดดเด่น หากข้าเป็ นนายท่านหลี่ ก็คงทําใจส่งลูกชายที่เลีย้ งมาจน


เติบใหญ่เช่นนีใ้ ห้คนอื่นไม่ลงเช่นกัน เวรควรระงับด้วยการไม่จองเวร ข้าว่าเรื่องนีก้ ็จบแบบนี ้
แล้วกัน ทุกคนเผชิญกันด้วยรอยยิม้ ปล่อยความคับแค้นไปก็เพียงพอแล้ว ท่านล่ะว่าอย่างไร
นายท่านสาม?”
เผยเยี่ยนเงยหน้ามองอวีถ้ งั
อวีถ้ งั ก็กาํ ลังมองเขาอยู่พอดี
แววตาที่สกุ สกาวของนาง ยามนีเ้ ผยความตื่นเต้นออกมาอยู่บา้ ง พุ่งเป้ามาที่เขาอย่าง
ใจจดใจจ่อ แทบไม่กะพริบตา ราวกับกลัวว่าหากกะพริบตาแม้แต่นอ้ ย จะพลาดท่าทีของเขาไป
ทําให้นางไม่อาจรับมือได้ทนั จะพาให้เรื่องราวเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่เป็ นผลดีต่อนาง นาง
เอนตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย แฝงความขอร้องและคาดหวังอยู่บา้ ง คล้ายว่าการตัดสินใจของเขา
สําคัญกับนางเป็ นอย่างมาก สามารถส่งผลต่อความเป็ นความตาย ส่งผลต่ออนาคต ทัง้ ส่งผล
ต่อชั่วชีวิตของนาง
เหอะๆ คุณหนูอวีผ้ นู้ ีน้ บั ว่าเป็ นคนมีหลายหน้าจริงๆ ยามที่ขอร้อง ก็สามารถทําให้เขา
เห็นแล้วใจอ่อนได้ นับประสาอะไรกับหลี่จวิน้ เด็กผูน้ นั้
เผยเยี่ยนดื่มชาอีกคําอย่างไม่เป็ นตัวเอง มองไปยังหลี่ตวน
อย่างไรก็เป็ นเด็กหนุ่ม ย่อมไม่อาจซ่อนเร้นอารมณ์เฉกเช่นมนุษย์ท่ วั ไปได้หมด สีหน้า
ของหลี่ตวนดูไม่ได้อยู่บา้ ง เห็นได้ชดั ว่าไม่ชอบใจในคําพูดของนายท่านอูเ๋ ท่าใด
พูดมาเช่นนี ้ ไม่ใช่คณ
ุ หนูอวีอ้ ยากข้องเกี่ยวกับสกุลหลี่ แต่สกุลหลี่มาถึงยามนีแ้ ล้วก็ยงั
คิดจะวางแผนกับคุณหนูอวี!้
น่าสนใจ น่าสนใจ!
เผยเยี่ยนนึกถึงใบหน้าอ่อนโยนนัน้ ของกูฉ้ ่าง ในใจก็ย่ิงรูส้ กึ มีความสุขขึน้ มา
531

เขาเอ่ย “ในหมู่บณ ั ฑิตมักพูดคุยกันเรื่องการทําไม่ถูกทํานองคลองธรรม บังเอิญเกิด


เรื่องเช่นนีข้ ึน้ มา ทั้งสองคนยอมจบด้วยดีก็แล้วไป อย่างไรอย่าได้ให้คนอื่นเลียนเอาอย่างก็
เพียงพอแล้ว”
นี่หมายความว่าไม่เห็นด้วยที่สกุลหลี่ยงั เกาะแกะสกุลอวีเ้ รื่องแต่งงาน
อวีถ้ งั ถอนหายใจอย่างโล่งอก
นางตัดสินใจนานแล้วว่า จะพยายามเกลีย้ กล่อมเผยเยี่ยนให้ยืนอยู่ฝ่ ังตัวเอง คาดไม่ถึง
ว่าเผยเยี่ยนกลับไม่ให้นางต้องพูดมากความก็อาศัย ‘การทําไม่ถูกทํานองคลองธรรม’ มาช่วย
นางไว้
เห็นทีเผยเยี่ยนยังคงเป็ นดั่งที่นางเข้าใจเหมือนเมื่อก่อนจริงๆ แม้ไม่ค่อยสนใจเรื่องราว
เท่าใด แต่ในยามสําคัญ กลับสามารถช่วยเหลือคนอื่น เป็ นคนที่เต็มใจช่วยเหลือผูค้ น
อวีถ้ งั มองเผยเยี่ยนอย่างซาบซึง้ ใจ
แววตาเคลือบไปด้วยนํา้ แวววาว ภายใต้แสงสว่างในห้องโถง กลับคล้ายดั่งแสงอาทิตย์
ที่สะท้อนผิวนํา้ กระจ่างพร่างพราว วิบวับสดใส
เผยเยี่ยนชะงักไป
อวีถ้ งั คุกเข่าคํานับแก่เขาอย่างอ่อนน้อม เอ่ยด้วยนํา้ เสียงซาบซึง้ ใจไม่นอ้ ย “ขอบคุณ
นายท่านสามอย่างยิ่ง”
เสียงใสกังวานราวกับหยกกระทบกัน
ชั่วขณะนัน้ เผยเยี่ยนก็นึกถึงฉากที่ตน้ สนตื่นรู ข้ า้ งวัดเจาหมิง เหมือนว่าคุณหนูอวีก้ ็ใช้
ท่าทีสง่างามน่าหลงใหลเช่นนีข้ อบคุณหลี่จวิน้ เช่นกัน
ใบหน้าเขาดําคลํา้ เล็กน้อย
รูส้ กึ คล้ายว่าตัวเองตกลงไปอยู่ในสภาพเดียวกับหลี่จวิน้ …
532

อวีถ้ งั กลับลอบพึมพําในใจ
นายท่านสามสกุลเผยช่างเอาแน่เอานอนไม่ได้จริงๆ!
เมื่อครูย่ งั ช่วยเหลือนางด้วยสีหน้ายินดี ชั่วพริบตาก็เปลี่ยนสีหน้าเสียแล้ว
นางไม่อยากให้อารมณ์ท่ีไม่แน่นอนของเผยเยี่ยน ทําให้เกิดเรื่องไม่คาดฝัน ทัง้ ทําเรื่องที่
ไม่เป็ นประโยชน์อนั ใดต่อนางขึน้ มา
อวีถ้ งั แทบไม่สนใจอะไรแล้ว ไม่ง่ายที่เรื่องราวจะดําเนินมาถึงขัน้ นี ้ แม้ว่าจะเสี่ยง นางก็
ต้องฝื นหยิบลูกเกาลัดจากเตาไฟ 2 ทําให้เรื่องจบลงไปเช่นนี ้
119

“คุณชายรองสกุลหลี่” นางส่งยิม้ ให้หลี่จวิน้ เอ่ยอย่างอ่อนโยน “คาดว่าท่านก็คงเห็น


ด้วยกับความคิดของนายท่านสาม!”
นี่ ยัง คงเป็ น ครั้ง แรกที่ อ วี ถ้ ัง วางสายตาไว้ท่ี ร่า งเขา ทั้ง เป็ น ครั้ง แรกที่ พูด คุย กับ เขา
หลังจากวันนัน้ ที่หลี่จวิน้ รัง้ เกีย้ วของอวีถ้ งั ที่ปากทางตรอกชิงจู๋
หลี่จวิน้ มีท่าทีข่ืนขม สิ่งที่มากไปกว่านัน้ กลับเป็ นความรูส้ กึ ผิด
เขารูว้ า่ อวีถ้ งั กําลังจะตัดขาดความสัมพันธ์กบั เขา แต่เขาไม่เห็นด้วยได้หรือ?
เดิมทีเขาก็รูส้ กึ ผิดต่อนางแล้ว หรือยังต้องรัง้ นางไว้เช่นนีไ้ ม่ปล่อยไปอีก?
นี่เป็ นสิ่งที่เขาตระหนักได้ยามที่ออกจากตรอกชิงจู๋มา เวลานีก้ ็เป็ นการพูดให้เข้าใจและ
กระจ่างชัดเท่านัน้
หลี่ตวนเห็นกลับใจร้อนเหลือทน ไม่รอให้หลี่จวิน้ ได้พูดอะไร ก็กา้ วเข้าไปดึงแขนเสือ้
ของหลี่จวิน้
เด็กคนนี ้ เหตุใดจึงโง่งมเช่นนี ้

2
หยิบลูกเกาลัดจากเตาไฟ หมายถึง ถูกคนอื่นหลอกใช้ให้ทาํ เรื่องเสี่ยงอันตราย แต่กลับไม่ได้รบั ประโยชน์อนั ใดกลับมา
533

ไล่ตามหญิงสาว หากหน้าบาง ย่อมไม่อาจทําเรื่องสําเร็จ


แต่งคุณหนูอวีเ้ ข้าสกุล ไม่ใช่เรื่องของเขาเพียงคนเดียว เป็ นบิดาของเขาที่ตดั สินใจ
นี่เกี่ยวพันกับอนาคตภายหน้าของสกุลหลี่
สิ่งที่เหนือความคาดหมายพวกเขาเพียงอย่างเดียวคือ นึกไม่ถึงว่าหลี่จวิน้ จะชมชอบ
คุณหนูอวีด้ ว้ ยใจจริง
“นายท่านสาม…” หลี่ตวนเอ่ย เพียงพูดไม่ทนั จบ กลับถูกหลี่จวิน้ สะบัดมือ ปั ดมือหลี่ต
วนที่จบั แขนเสือ้ เขาไว้ ทัง้ ยังชิงพูดก่อนหลี่ตวน “คุณหนูอวี ้ เจ้าพูดมีเหตุผล เรื่องนีไ้ ม่ถกู ทํานอง
คลองธรรมจริงๆ เป็ นข้าที่เสียมารยาท” พูดจบ เขาก็คาํ นับขอโทษแก่อวีถ้ งั
“น้องชาย!” หลี่ตวนขมวดคิว้
อวีถ้ งั กลับรูส้ กึ เบาใจ
หลี่จวิน้ ชายหนุ่มที่ควบม้าด้วยอาภรณ์สง่างามนั้น ยังคงเป็ นคนที่มีขอบเขต ไม่ได้
เลวร้ายจนหมดหนทางรักษา
มอบลูกท้อให้ ย่อมต้องส่งคืนด้วยหยกงาม
นางจะหาวิธีช่วยชีวิตเขาให้ได้อย่างแน่นอน
อวีถ้ งั มองไปยังหลี่ตวน แววตาประกายความเยือกเย็นขึน้ มา
แม้เรื่องลักพาตัวจะเป็ นความคิดของฮูหยินหลี่ แต่หากไม่มีหลี่ตวน ฮูหยินหลี่จะทํา
สําเร็จได้อย่างไร?
ไม่วา่ ชาติก่อนหรือชาตินี ้ หลี่ตวนย่อมไม่มีทางที่จะยืนขึน้ ยืดอกยอมรับตรงๆ ได้หรอก
นางเอ่ย “คุณชายใหญ่สกุลหลี่ เจ้าดูเถิด ทุกคนต่างรูว้ ่าหลังจากสกุลเจ้าทําเรื่องเช่นนี ้
ออกมา พวกเราสองสกุลก็ไม่อาจข้องเกี่ยวกันได้แล้ว กระทั่งคุณชายรองสกุลหลี่ ก็คิดว่าเรื่องนี ้
534

ไม่เหมาะสมเช่นกัน ดังนัน้ แรกเริ่มที่สกุลพวกเราปฏิเสธการแต่งงาน พวกเจ้าก็อบั จนหนทาง


แล้วใช่หรือไม่?”
หลี่ตวนเห็นด้วยกับความคิดนีใ้ นใจ แต่เขาไม่ได้พดู ออกมา
ครัง้ ที่แล้ว ก็เพราะเขาตอบอย่างรีบร้อนเกินไป ทําให้คุณหนูอวีไ้ ด้ใช้ช่องโหว่ ตัดขาด
ความเป็ นไปได้ท่ีสองสกุลจะแต่งงานทิง้ ไปหมด จะเห็นได้ว่าเขาประเมินคุณหนูอวีต้ ่าํ เกินไป
เขาควรรู ว้ ่า สกุลอวีก้ ล้าให้คณ
ุ หนูอวีม้ าเผชิญหน้ากับเขา คุณหนูอวีก้ ็ย่อมมีจุดเด่นที่เหนือคน
อื่น
ภายหลัง คุณหนูอวีก้ ล่าวอะไร เขาต้องครุน่ คิดให้ดีก่อนแล้วค่อยตอบ
สิ่งที่ทาํ ให้เขาคาดไม่ถึงยังคงเป็ นท่าทีของเผยเยี่ยน
เขารู ว้ ่าสกุลอวีแ้ ละสกุลเผยนัน้ มีความสัมพันธ์ท่ีดีต่อกันไม่นอ้ ย ก่อนที่เขาจะมา เคย
คิดว่าควรล่วงหน้ามาเยี่ยมเยียนเผยเยี่ยนก่อนดีหรือไม่ แต่เขาก็กังวลว่าหากทําเช่นนัน้ เผย
เยี่ยนจะเข้าใจผิดคิดว่าสกุลพวกเขากระทํามิชอบในเรื่องนี ้ กระทบต่อภาพลักษณ์เขาที่มีตอ่ เผย
เยี่ ย น…อาจารย์และศิษย์ร่วมสํานัก ของเผยเยี่ยนเก่งกาจเกินไป ทั้ง ยังแต่ละคนต่างอยู่ใน
ตําแหน่งฐานะสําคัญ เขากลัวว่าวันหนึ่งจะมีเรื่องให้ขอร้องเผยเยี่ยน
แต่ยามนีเ้ กรงว่าเขาจะทําผิดพลาดเรื่องนีอ้ ีกแล้ว
สกุลอวีส้ ามารถเชิญเผยเยี่ยนเป็ นคนกลางได้ ย่อมเป็ นเพราะได้เกลีย้ กล่อมเผยเยี่ยน
แล้ว ให้เผยเยี่ยนมีอคติกบั สกุลหลี่ก่อน
หากจะทําลายสถานการณ์ท่ีชะงักงันนี ้ เขายิ่งต้องระวังมากขึน้ อีก
“คุณหนูอวี ้ ไม่อาจจะพูดเช่นนีไ้ ด้” หลี่ตวนยิม้ ด้วยรอยยิม้ ราวกับอาบลมในฤดูใบไม้ผลิ
มองไม่เห็นความร้อนใจแม้แต่นอ้ ย “จิตใจที่ตงั้ มั่น แม้แต่หินเหล็กก็ย่อมหลีกทางให้ ตัง้ แต่ตน้
สกุลพวกเราก็อยากเกี่ยวดองกับสกุลอวี ้ ไม่อาจทําเรื่องทําร้ายตัวเองเช่นนัน้ ออกมาได้หรอก”
535

อวีถ้ งั ก็ยิม้ เช่นกัน ยิม้ อย่างอ่อนโยนและอบอุ่น “แต่ความจริงคือ สกุลพวกเราตัง้ ใจจะ


รับเขยเข้าบ้านให้ขา้ สกุลพวกเจ้ามุ่งมั่นจะแต่งข้าเข้าสกุลหลี่ ทัง้ สองสกุลต่างไม่ยอมถอยให้กนั
มารดาเจ้าก็ทาํ เรื่องเลอะเลือน ข้าคงไม่ได้พดู ผิดกระมัง?”
536

บทที่ 66 ยืนหยัด
อวีถ้ งั ถูกลักพาตัว คนที่ช่วยนางก็คือเผยเยี่ยน ก่อนที่หลี่ตวนจะมา เขาได้ถกเรื่องนีก้ บั
ชิงเค่อที่บิดาทิง้ ไว้ให้ท่ีบา้ นอย่างละเอียดแล้ว เรื่องลักพาตัวย่อมลบไม่ออก ทัง้ จะก่อให้เกิด
ปั ญหาไม่รูจ้ บ สิ่งสําคัญที่ตอ้ งจัดการในตอนนีค้ ือไม่วา่ อย่างไรก็ตอ้ งปฏิเสธเรื่องสังหารเว่ยเสี่ยว
ซาน มิเช่นนัน้ สกุลหลี่ท่ีเป็ นสกุลขุนนาง ก็มีความเป็ นไปได้ท่ีตอ้ งถูกร้องขอให้ชดใช้ดว้ ยชีวิต ถึง
เวลานัน้ ใครจะไปเป็ นแพะรับบาปกัน?
หลี่ตวนครุ ่นคิดเล็กน้อย คิดว่าคําพูดนีข้ องอวีถ้ ังไม่มีปัญหาอะไร กล่าวด้วยใบหน้า
เปื ้อนยิม้ “คุณหนูอวี ้ เรื่องนีส้ กุลพวกเราทําไม่ถกู เพียงแต่ ‘บิดามารดาล้วนทําสิ่งที่ถกู ต้องเสมอ’
อย่างไรขอคุณหนูอวีอ้ ย่าได้คิดเล็กคิดน้อยกับมารดาข้า หากคุณหนูอวีย้ งั รูส้ กึ โมโหไม่อาจสงบ
จิตสงบใจได้ ข้าก็ยินดีจะชดใช้แทนมารดาให้กบั สกุลอวีแ้ ละคุณหนูอวี”้
พูดมาถึงตรงนี ้ อวีถ้ งั ก็เดาได้แล้วว่าเขาจะกล่าวอะไร
“ชดใช้ย่อมไม่จาํ เป็ น” นางเอ่ยเรียบนิ่ง “สกุลพวกเราแค่ไม่ได้ตอบรับการสู่ขอของพวก
เจ้า มารดาเจ้าก็ทาํ ลายชื่อเสียงข้าเสียแล้ว ทัง้ ก่อนหน้านัน้ มารดาของเจ้ายังเชิญนายหญิงของ
ทังซิ่วไฉมาเป็ นแม่ส่ือที่บา้ นข้าหลายต่อหลายครัง้ กลับถูกสกุลข้าปฏิเสธมาโดยตลอด คาดว่า
มารดาเจ้าคงมีโทสะไม่นอ้ ย เพียงแต่ไม่รูว้ ่ายามที่มารดาเจ้าทราบว่าสกุลของเราตัง้ ใจจะเจรจา
แต่งงานกับสกุลเว่ย นางคิดอย่างไรกัน? ทัง้ ทําอะไรลงไปบ้างกันแน่?”
ในที่สดุ ก็ลากประเด็นเข้ามาในเรื่องของเว่ยเสี่ยวซาน
ทุกคนที่น่งั อยู่ตา่ งมีใจคล้อยตาม พากันซุบซิบนินทาขึน้ มา
เดิมทีคิดว่าสกุลหลี่แทบไม่มีแรงจูงใจในการฆ่าเว่ยเสี่ยวซาน แต่ยามนีไ้ ด้ฟังอวีถ้ งั พูด ก็
มีความเป็ นไปได้วา่ เป็ นฝี มือของฮูหยินหลี่จริงๆ
อวีถ้ ังพูดไม่ทนั จบ ใจหลี่ตวนก็เต้นกระหนํ่า รู ว้ ่าครัง้ นีต้ วั เองถูกอวีถ้ ังจับจุดอ่อนแล้ว
เขามองพวกเศรษฐี ชนบทที่เผยสีหน้าเข้าใจขึน้ มาโดยพลัน รีบกล่าว “คําพูดนีข้ องคุณหนูอวีไ้ ม่
537

ถูกแล้ว แม้มารดาของข้าจะใจร้อนไปอยู่บา้ ง กลับไม่อาจกระทําเรื่องฆ่าคนออกมาได้ คุณ


หนูอวีจ้ ะพูดก็ควรมีหลักฐาน อย่าได้พดู จาส่งเดช”
พูดจบ เขาก็หนั ไปทางเผยเยี่ยน
ก่อนหน้านีเ้ ผยเยี่ยนยังนั่งหยัดกายตรง ไม่รูว้ ่าตัง้ แต่เมื่อใดที่ขอ้ ศอกซ้ายไปพิงที่เท้า
แขนของเก้าอี ้ นั่งเล่นผีซิว 1 ที่ทาํ จากหยกเหอเถียนด้วยสีหน้าสบายๆ อยู่ตรงนัน้ มองไม่ออกถึง
120

อารมณ์ใด
หลี่ตวนร้อนใจอยู่บา้ ง กลับไม่กล้าเผยพิรุธออกมาทางใบหน้ามากนัก
ด้านอวีถ้ งั เอ่ยขึน้ มาอย่างเรียบเย็น “เกรงว่าคุณชายใหญ่สกุลหลี่จะกังวลจนลืมคิดไป
ชื่ อ เสี ย งของสตรี นั้น สํา คัญ เพี ย งใด ฮูห ยิ น หลี่ จ ะไม่รู เ้ ชี ย วรึ? เพื่ อ ประโยชน์ส่ว นตัว กลับให้
อันธพาลพวกนัน้ มาลักพาตัวข้า นี่ต่างอะไรกับการฆ่าคนกัน? คุณชายใหญ่สกุลหลี่ไฉนจึงกล้า
รับประกันว่า ยามที่มารดาเจ้ารู ว้ ่าสกุลพวกเราเตรียมจะรับคุณชายรองสกุลเว่ยเป็ นลูกเขย
ไม่ได้โมโหโกรธเกรีย้ วจนทําเรื่องอย่างที่ลกั พาตัวข้าขึน้ มา?”
หลี่ตวนแก้ตา่ ง “ฆ่าคนกับลักพาตัวจะนํามาเปรียบเทียบกันได้อย่างไร?”
อวีถ้ งั ไล่ตอ้ นอย่างไม่ลดละ “มีอนั ใดแตกต่าง? ถูกบงการด้วยคนเหมือนกัน เพื่อบรรลุ
เป้าประสงค์ลว้ นไม่เลือกวิธีการเช่นเดียวกัน สําหรับหญิงแต่งงานที่น่ งั ในเรือนอย่างสงบเสงี่ยม
แล้ว ปกติอาจจะได้ยินคนอื่นพูดคุยเรื่องความบริสทุ ธิ์ของหญิงสาว กลับไม่แน่ว่าจะสามารถ
เห็นการฆ่าคนด้วยตาตัวเอง เกรงว่าสําหรับฮูหยินหลี่แล้ว การทําลายความบริสทุ ธิ์คนอื่นคง
สามารถสั่นสะเทือนจิตใจผูค้ นยิ่งกว่าการฆ่าคนกระมัง! หรือข้ากล่าวไม่ถกู ? ไม่ก็ฮหู ยินหลี่คิด
ว่าความบริสทุ ธิ์ของหญิงสาวไม่สาํ คัญ?”
คําพูดของนางราวกับนํา้ ที่หยดบนนํา้ มันร้อน พาให้นา้ํ มันแตกกระเซ็นไปทั่ว

1
ผีซิว เป็ นสัตว์ศกั ดิส์ ิทธิ์ของจีน รูปร่างคล้ายสิงห์หรือราชสีห ์ ใช้กาํ จัดสิ่งอัปมงคลชั่วร้ายต่างๆ
538

เศรษฐี ชนบทพวกนั้นพากันวิพากษ์วิจารณ์ขึน้ มา “ความบริสุทธิ์ของหญิ งสาวย่อม


สําคัญกว่าความเป็ นความตาย!”
“แม้วา่ ฮูหยินหลี่จะหุนหันพลันแล่นไปชั่วครู ่ ก็ไม่ควรทําถึงขนาดนี!้ ”
“มิผิด มิผิด เรื่องนีท้ าํ เกินไปแล้ว”
หลี่ ต วนเหงื่ อ ชื ้น เต็ ม หน้า ผาก เอ่ ย อย่ า งเร่ ง รี บ “คุ ณ หนู อ วี ้ มารดาข้า ย่ อ มไม่ ไ ด้
หมายความเช่นนี… ้ ”
“ไม่ได้หมายความเช่นนี?้ ” อวีถ้ งั ไม่ยอมเลิกราง่ายๆ สกุลหลี่กล้าทําถึงขนาดนี ้ วันนีน้ าง
ก็กล้าโยนความผิดให้ฮูหยินหลี่เช่นกัน ให้ทุกคนรู ท้ ่ ัวกันว่า ฮูหยินหลี่ไม่ใช่คนดีอะไร “ไม่ได้
หมายความเช่นนีก้ ลับกล้าลักพาตัวข้า หากตัง้ ใจขึน้ มาจริงๆ ไม่ใช่วา่ คงจะฆ่าคนแล้วกระมัง?”
หลี่ตวนถูกอวีถ้ งั ไล่ตอ้ นจนมุม อับจนหนทาง ทําได้เพียงขอร้องกับเผยเยี่ยน
“นายท่านสาม” เขาประสานมือไปทางเผยเยี่ยน “อย่างไรขอท่านช่วยพูดหน่อยเถิด
เรื่องลักพาตัวคุณหนูอวี ้ สกุลพวกเราทําไม่ถกู จริงๆ แต่วนั นีพ้ วกเรามาพูดเรื่องคุณชายรองสกุล
เว่ยถูกสังหาร หากคุณหนูอวีไ้ ม่พอใจ รอเรื่องนีจ้ บแล้ว ข้าจะไปขอโทษขอโพยกับคุณหนูอวีท้ ่ี
สกุลอวีอ้ ีกครัง้ ตามลําพัง”
“ขอโทษตามลําพังย่อมไม่จาํ เป็ น” อวีถ้ งั ไม่รอให้เผยเยี่ยนพูด ก็เอ่ยก่อน “คาดไม่ถึงว่า
คุณชายใหญ่สกุลหลี่จะมีฝีปากสําบัดสํานวนดีเช่นนี ้ พวกเราพูดเรื่องตะวันออก เจ้าก็พดู เรื่อง
ตะวันตก ก็ดี เรื่องลักพาตัวข้า พวกเราค่อยพูดภายหลัง ยามนี ้ พวกเรามาพูดเรื่องคุณชายรอง
สกุลเว่ยถูกทําร้าย”
ขณะที่พดู นางก็ชีไ้ ปยังคนลีภ้ ยั สองคนนัน้ “พวกเรานําตัวพยานบุคคลมา เจ้าบอกว่า
พวกเราใส่รา้ ยสกุลพวกเจ้า สกุลพวกเจ้าไม่มีแรงจูงใจในการสังหารคุณชายรองสกุลเว่ย ข้าก็
ชีใ้ ห้เห็นถึงสาเหตุท่ีสกุลพวกเจ้าสังหารคุณชายรองสกุลเว่ย เจ้าจะให้ขา้ นําหลักฐานออกมาอีก
เดี๋ยวก็วกมาพูดว่าสกุลพวกเจ้ามีเหตุผล ข้ากลับอยากถามเสียหน่อย ในสายตาสกุลหลี่ของ
539

พวกเจ้า พยานบุคคลอย่างไรที่สกุลหลี่พวกเจ้าจะยอมรับ? แล้วหลักฐานแบบใดที่สกุลหลี่พวก


เจ้าจะยอมเชื่อ? พวกเราจะได้คน้ หาตามความต้องการของคุณชายใหญ่สกุลหลี่ คุณชายใหญ่
สกุลหลี่จะได้ไม่เหยียบจมูกขึน้ หน้า 2 ไม่วา่ อย่างไรก็ไม่ยอมรับเช่นนี”้
121

เผยเยี่ยนลูบผีซิวที่เพิ่งแกะออกมาจากเอวเมื่อครู ่
เขารูว้ า่ คุณหนูสกุลอวีฝ้ ี ปากคมคาย แต่คาดไม่ถึงว่าจะพูดเก่ง ทัง้ กล้าพูดถึงขนาดนี ้
นางไม่กลัวว่าตัวเองจะแต่งไม่ออกหรอกรึ?
เผยเยี่ยนมองไปยังหลี่ตวน
หลี่ตวนลนลาน “คุณหนูอวี ้ สองคนนีข้ อเพียงได้เงิน ไม่ว่าเรื่องใดล้วนสามารถทําได้
ทัง้ นัน้ จะเอามาเป็ นพยานได้…”
อวีถ้ งั ตัดบทสนทนาของเขา “หรือคุณชายใหญ่สกุลหลี่เคยรู จ้ กั มักคุน้ กับสองคนนีม้ า
ก่อน? ไม่อย่างนัน้ จะรูไ้ ด้อย่างไรว่า ขอเพียงแค่ได้เงิน ไม่ว่าเรื่องใดพวกเขาก็ทาํ ออกมาได้? ทัง้
เมื่อครูเ่ หตุใดคุณชายใหญ่จึงพูดว่าหลังจากสองคนนีห้ นีออกมาจากที่นาก็ไม่ได้ขอ้ งเกี่ยวอันใด
กับสกุลพวกเจ้าแล้วล่ะ?”
หลี่ตวนเอ่ย “คุณหนูอวีอ้ ย่าได้ใส่รา้ ยป้ายสีคนอื่น สองคนนีด้ ูแล้วก็ไม่ใช่คนดีอะไร
คําพูดที่ออกมาย่อมไม่อาจเป็ นหลักฐานได้ อย่าได้พดู จาส่งเดช เพียงเพราะว่าอยากให้สกุลหลี่
พวกเรากลายเป็ นแพะรับบาปในครัง้ นี”้
อวีถ้ ังเอ่ย “จากสิ่งที่เจ้าพูด เรื่องทัง้ หมดนีล้ ว้ นเป็ นข้าที่ปั้นนํา้ เป็ นตัว? แปลกเสียจริง
เหตุใดข้าจึงไม่พดู ว่าเป็ นฝี มือสกุลหวัง ไม่กล่าวว่าเป็ นฝี มือสกุลซุน กลับเอาแต่พดู ว่าเป็ นฝี มือ
ของสกุลหลี่เล่า?”

2
เหยียบจมูกขึน้ หน้า อุปมาว่า ให้เกียรติอีกฝ่ ายหนึ่ง นอกจากอีกฝ่ ายไม่ยอมรับนํา้ ใจแล้ว ยังไม่ไว้หน้า
540

หลี่ตวนกล่าว “นั่นเพราะคุณหนูอวีเ้ ข้าใจผิดว่าสกุลหลี่พวกเรามีรอยร้าวกับสกุลอวีข้ อง


พวกเจ้า…”
“หรือไม่มีรอยร้าวอย่างนัน้ รึ?” อวีถ้ ังก้าวมาด้านหน้าหนึ่งก้าว ย้อนถามอย่างว่องไว
“สกุลพวกเจ้าเอาแต่พยายามยุ่งเกี่ยวกับงานแต่งของข้า สกุลเว่ยก็ไม่เคยมีศตั รู ท่ีไหนมาก่อน
หลายปี มานีส้ กุลพวกเราก็ใจกว้างกับผูค้ นในหลินอันมาโดยตลอด ใครเอ่ยถึงสกุลพวกเราล้วน
ต้องออกปากชมว่ามีเมตตากรุณา เหตุใดจึงเกิดเรื่องร้ายเช่นนีข้ นึ ้ มาได้? ไม่ใช่สกุลพวกเจ้า ยัง
มีสกุลใดอีก?”
หลี่ตวนถูกอวีถ้ งั ย้อนถาม แทบหลบเลี่ยงไม่ได้อยู่บา้ ง “คุณหนูอวีไ้ ม่อาจปั กใจว่าเรื่องนี ้
เป็ นฝี มือพวกเราสกุลหลี่ดว้ ยเหตุนีไ้ ด้”
อวีถ้ งั เอ่ยอย่างดูแคลน “ข้าปั กใจว่าเป็ นฝี มือของพวกเจ้า ในเมื่อคุณชายใหญ่สกุลหลี่
กล่าวว่าไม่ใช่ เช่นนัน้ ก็ขอเจ้าเอาหลักฐานออกมา คงไม่อาจเพียงเพราะประโยคเดียวของเจ้า ก็
จบเรื่องนีไ้ ปเช่นนีก้ ระมัง? ใต้หล้าแห่งนีม้ ีท่ีไหนกัน เอาแต่ขอร้องคนอื่น ไม่ออกตัวด้วยตัวเองสัก
นิด!”
ให้สกุลหลี่นาํ หลักฐานออกมายืนยันว่าตัวเองบริสทุ ธิ์อย่างนัน้ รึ?
หลี่ตวนหันไปมองเผยเยี่ยนอีกครัง้
ไม่รูว้ า่ เผยเยี่ยนนัน้ เปลี่ยนไปพิงที่เท้าแขนด้านขวาตัง้ แต่ยามใด
เขากล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม “ได้! ในเมื่อคุณชายหลี่กล่าวว่าเรื่องนีไ้ ม่เกี่ยวข้องกับสกุล
พวกเจ้า ก็นาํ หลักฐานออกมา”
นี่เผยเยี่ยนจะอยู่ฝ่ ังสกุลอวีอ้ ย่างนัน้ รึ?
หลี่ตวนใจสั่นสะท้าน ทําได้เพียงเอ่ยว่า “คุณหนูอวี ้ เย็นวันนัน้ ที่เว่ยเสี่ยวซานเกิดเรื่อง
ไม่มีใครในสกุลหลี่ออกไปข้างนอก ทัง้ ไม่เคยไปที่สวนที่นา โดยเฉพาะมารดาของข้า ร้านค้าที่
541

เป็ น สิ น เดิ มของนางก็ มีข้าเป็ นผูด้ ูแล ยิ่ง ไม่ ตอ้ งพูดถึง เรื่องภารกิ จทั่ว ไปในบ้าน ธรรมเนียม
ระหว่างชายหญิงเข้มงวด เดิมทีนางก็ไม่อาจรูจ้ กั คนลีภ้ ยั สองคนนีไ้ ด้อยู่แล้ว”
อวี ถ้ ัง ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว นางอดเหน็บแนมขึน้ มาไม่ได้ “คุณธรรมทั้ง ปวงมีความ
กตัญ�ูมาเป็ นอันดับแรก ข้ากลับไม่รูว้ ่า เรื่องใหญ่เช่นนี ้ คุณชายใหญ่สกุลหลี่จะดึงมารดาเข้า
มาเกี่ยวพัน หรือคุณชายใหญ่ไม่ใช่ผดู้ แู ลรับผิดชอบเรื่องราวในสกุลหลี่กนั ?”
หลี่ตวนใบหน้าซีดเผือด
เขาเป็ นลูกชาย อย่าพูดว่าเรื่องนีฮ้ หู ยินหลี่ไม่ได้ทาํ เลย แม้ว่าฮูหยินหลี่จะทํา เขาก็ควร
จะยอมรับก่อนจึงจะถูก
เมื่อครูเ่ ขาคิดแต่ว่าหลบให้สกุลหลี่พน้ จากเรื่องนี ้ กลับลืมเรื่องพืน้ ฐานที่สดุ อย่างความ
กตัญ�ูไป
หลี่ตวนนึกเสียใจภายหลังอย่างยิ่ง ปราดสายตามองไปรอบๆ อย่างว่องไว
เป็ นดังที่คาด แววตาที่ทกุ คนมองเขาเริม่ แปลกๆ ขึน้ มาแล้ว
หลี่ตวนลอบสบถอยู่ในใจ
วันนีค้ นมีหน้ามีตาของหลินอันส่วนมากล้วนอยู่ท่ีน่ี หากเขาแสดงออกได้ไม่ดี ชื่อเสียง
ย่อมป่ นปี ้ทงั้ หมด อย่าพูดว่าเป็ นขุนนางเลย แค่เป็ นคนเดินอย่างภาคภูมิในเมืองหลินอันก็ยงั
ยาก
“คุณหนูอวี”้ เขาเอ่ย ทั้ง ใคร่ครวญ “เจ้า อย่ า ได้โ ต้แย้ง อย่า งไร้เ หตุผล ข้า เพี ย งตอบ
คําถามเจ้าเท่านัน้ เจ้าเอาแต่พูดว่าเรื่องนีเ้ กี่ยวข้องกับมารดาข้า หากข้าเงียบไม่เอ่ยถึงเช่นนี ้
ไม่ใช่ว่าจะเป็ นการปล่อยให้เจ้าทําลายชื่อเสียงมารดาของข้าหรอกรึ พูดถึงหลักฐาน ในเมื่อ
คุณหนูอวีค้ ิดว่าคนลีภ้ ยั สองคนนีเ้ ป็ นพยานบุคคล ข้ากลับอยากถามว่า คนลีภ้ ยั พวกนีก้ ล่าวว่า
ได้รบั คําสั่งจากสกุลข้า เช่นนัน้ ก็ให้ทงั้ สองคนนีช้ ีต้ วั คนที่ส่งั การพวกเขาออกมา”
เรื่องเข่นฆ่าเอาชีวิตคน ใครจะสั่งการด้วยตัวเองกัน?
542

อวีถ้ งั ก็รูว้ า่ จะเป็ นเช่นนี ้ จึงไม่อยากไปแจ้งความกับทางการ


นางกวาดสายตามองพวกเศรษฐี ท่ีน่ งั อยู่รอบๆ
แม้ว่าทุกคนจะไม่ได้พดู อะไร แต่แววตาที่มองหลี่ตวนกลับแฝงไปด้วยความสังเกตพินิจ
ขึน้ หลายส่วน
เมล็ดพันธุแ์ ห่งความสงสัยได้หว่านติดขึน้ มาแล้ว
เท่านีก้ ็เพียงพอ
ส่วนเรื่องแก้แค้น หากปล่อยพวกสกุลหลี่ไปเช่นนี ้ ก็ง่ายต่อพวกเขาเกินไป
อวีถ้ งั ยิม้ เย็นในใจ
คนลีภ้ ยั สองคนล้วนนิสยั ดุดนั หลังจากถูกดึงออกมาก็คิดจะหาเรื่องใส่ตวั ชีต้ วั ยืนยันไป
ที่หลี่ตวนให้จบไป แต่เมื่อทัง้ สองเงยหน้าขึน้ มา เห็นสายตาที่เย็นยะเยือกของอวีถ้ ัง กลับสั่น
สะท้าน
ก่อนหน้านีอ้ วีถ้ ังเคยกําชับกับพวกเขาหลายครัง้ ไม่ว่าเรื่องอะไรให้พวกเขาพูดความ
จริงทัง้ หมด อย่าได้พูดปดเกินจริงทัง้ อย่าได้คิดเอาเอง หากคําให้การของพวกเขาถูกหลี่ตวน
ถามจุดที่ไม่เหมาะสมออกมา ยามที่สกุลหลี่ให้พวกเขาทัง้ สองเป็ นแพะรับบาป สกุลอวีย้ ่อมจะ
ยืนดูอยู่เฉยๆ ไม่ยุ่งเกี่ยว หากพวกเขาสามารถให้คาํ ตอบอย่างซื่อตรง สกุลอวีย้ ่อมช่วยชีวิตนี ้
ของพวกเขาไว้
ยามที่สองพี่นอ้ งยืนในห้องโถงยังไม่เชื่อแต่อย่างใด รอจนเห็นอวีถ้ งั โต้คารมกับหลี่ตวน
ผลักหลี่ตวนลงหลุมพราง ก็อดมั่นใจในตัวอวีถ้ งั ขึน้ มาไม่ได้ ตัดสินใจยืนอยู่ฝ่ ังของอวีถ้ งั
ทัง้ สองคนแลกเปลี่ยนสายตากัน รับสารภาพว่าคนที่ส่ งั การพวกเขาคือพ่อบ้านใหญ่
สกุลหลี่
หลี่ตวนลอบถอนหายใจ ทัง้ รูส้ กึ ผิดหวังอย่างเลือนรางอยู่บา้ ง
543

หากสองคนนีส้ ารภาพว่าเป็ นเขาบงการคงจะดี


เขาย่อมจะถามจนทัง้ สองคนพูดไม่ออก ทําให้ทุกคนสงสัยว่าสองคนนีถ้ ูกสกุลอวีจ้ า้ ง
มาเพื่อใส่รา้ ยสกุลหลี่เท่านัน้
น่าเสียดาย
ดูภายนอกทัง้ สองคนมีท่าทีโหดร้าย กลับคาดไม่ถึงว่าจะกระทําเรื่องอย่างโง่เขลาเช่นนี ้
“คุณหนูอวี”้ หลี่ตวนรอจนทัง้ สองคนพูดจบ ก็แสร้งทําท่าทีละอายใจออกมาทันที “เรื่อง
นีข้ า้ ยังเพิ่งได้ยินเป็ นครัง้ แรก ข้าจะไปเรียกพ่อบ้านใหญ่มาไถ่ถามให้กระจ่างเดี๋ยวนี”้
สกุลใหญ่ โ ตอย่า งสกุลหลี่ นี ้ โดยปกติ พ่อบ้า นใหญ่ มัก จะเป็ น ลูก บ่า วที่ เ กิ ดในเรื อ น
เจ้า นายไม่ ก็ ลูก หลานบ่า วที่ สื บ ทอดมาเป็ น เวลานาน อาศัย อยู่ท่ี ส กุล หลี่ ห ลายชั่ว อายุค น
ครอบครัวลูกหลานที่เกี่ยวดองกันล้วนอยู่ในเรือนดีๆ ย่อมไม่อาจตัดสินใจโดยพลการได้อยู่แล้ว
ทัง้ แม้จะเรียกตัวคนมา พ่อบ้านใหญ่สกุลหลี่ก็ไม่อาจเอ่ยชื่อคนบงการออกมาได้อยู่ดี
ทุกคนล้วนมีคาํ ตอบในใจตัวเอง
เป็ นสกุลหลี่ท่ีสงั หารเว่ยเสี่ยวซาน
แม้ยามนีจ้ ะไม่อาจลงโทษฆาตกรที่แท้จริงได้ แต่ขอ้ เท็จจริงของเรื่องราวก็ได้ถกู เปิ ดเผย
แล้ว
นายท่านเว่ยหลั่งนํา้ ตาราวกับสายฝน
พวกเศรษฐี ชนบทที่เห็น ต่างก็รูส้ กึ เศร้าใจไปด้วย
เลีย้ งลูกชายจนเติบใหญ่ถึงเพียงนี ้ กําลังจะได้ก่อร่างสร้างตัว ก็จากไปเช่นนีเ้ สียแล้ว
ทัง้ ไร้วิธีจะร้องทุกข์หาความเป็ นธรรม ไม่วา่ ใครก็ยากจะรับได้ทงั้ นัน้
นายท่านอูห๋ ยัดกายขึน้ ตบไหล่นายท่านเว่ย เอ่ยว่า “ข้าขอแสดงความเสียใจด้วย”
พวกเศรษฐี คนอื่นๆ ก็พากันเข้ามาปลอบใจนายท่านเว่ยเช่นกัน
544

นายท่านเว่ยขอบคุณทุกคนด้วยดวงตาแดงกํ่า “ขอบคุณพวกเจ้าที่มาได้ในวันนี!้ ”
นายท่านอูห๋ าโอกาสที่จะต่อบทสนทนากับเผยเยี่ยนมาโดยตลอด เอ่ยขึน้ มาทันที “พวก
เราอะไรกัน ยังต้องขอบคุณนายท่านสามสกุลเผย หากไม่ใช่ผมู้ ีพระคุณอย่างเขา พวกเราก็ไม่
อาจรวมตัวกันได้หรอก”
ผูม้ ีพระคุณ…
อวีถ้ งั อดเบะปากเล็กน้อยไม่ได้
เผยเยี่ยนชายตามองอวีถ้ งั ไปที
นี่นางหมายความว่าอย่างไร?
หรือเรื่องนีไ้ ม่ควรขอบคุณเขาอย่างนัน้ รึ?
หากเขาไม่ออกหน้า สกุลอวีข้ องพวกเขาจะสามารถพูดได้กระจ่างชัดถึงเช่นนีร้ ?ึ
นึกมาถึงตรงนี ้ เผยเยี่ยนก็เรียกชื่อปู่ สิบสองของบ้านสายตรงสกุลหลี่ท่ีไม่ปริปากกล่าว
อันใดมาโดยตลอดขึน้ มา “เรื่องมาถึงตรงนีแ้ ล้ว ท่านมีอะไรอยากจะพูดหรือไม่?”
545

บทที่ 67 (1)
ปู่ สิบสองของบ้านสายตรงสกุลหลี่อายุลว่ งหกสิบปี ไปแล้ว ไม่รูว้ ่าบํารุงรักษาสุขภาพได้
ไม่ดีหรือว่าแก่ชราตามอายุขยั เส้นผมขาวโพลนไปหมด ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น ดวงตา
ทัง้ สองข้างขมุกขมัว ราวกับไม้ผทุ ่อนหนึ่ง ไม่รูว้ า่ จะแตกหักยามใด
นับตั้งแต่ท่ีเขาก้าวเข้ามาในโถงของสกุลเผยก็หลับตาลงครึ่งหนึ่ง ไม่ได้กล่าวอะไร
คล้ายกับเรื่องที่เกิดในห้องโถงไม่เกี่ยวกับเขาโดยสิน้ เชิง
ยามนีถ้ กู เผยเยี่ยนเอ่ยถึง เขาจึงค่อยลืมตาขึน้ มา ค้อมตัวอย่างเชื่องช้า “นายท่านสาม
ข้านัน้ เป็ นคนหูตาไม่ค่อยดี ที่พอฟั งออกก็คิดว่าไม่เลวแล้ว ยังมีอะไรให้พูดอีก เรื่องนีค้ วรจะ
จัดการอย่างไร ก็ฟังที่หลี่ตวนว่าเถิด!”
ความหมายของคําพูดคือ เขาไม่อาจยุ่งได้ หลี่ตวนจะพูดอย่างไร เขาก็ทาํ อย่างนัน้
บ้านสายตรงถูกญาติสายรองสร้างความลําบากใจเช่นนี ้ ทุกคนต่างนึกไปถึงเรื่องเมื่อ
ครูท่ ่ีนอกจวนสกุลเผย พี่นอ้ งหลี่นาํ อยู่เบือ้ งหน้า บ้านสายตรงสกุลหลี่ไล่กระหืดหระหอบตามมา
ด้านหลัง ในใจอดที่จะรูส้ กึ อึดอัดอยู่บา้ งไม่ได้
ต้องรูว้ า่ เศรษฐี ท่ีน่งั อยู่ท่ีน่ี ส่วนมากต่างก็เป็ นบ้านสายตรงของแต่ละสกุล
หลี่ตวนทําเช่นนี ้ ย่อมล่วงเกินผลประโยชน์ของทุกคนอย่างไม่ตอ้ งสงสัย
พวกเศรษฐี ชนบทล้วนเผยสีหน้าไม่ดีอยู่บา้ ง
คิดว่าบ้านหลี่ตวนเพิกเฉยต่อบ้านสายตรงเกินไป
ด้านหลี่ตวนลอบด่าสองพ่อลูกหลี่เหออยู่ในใจ
เพราะว่าบ้านนีข้ องพวกเขารุง่ เรืองขึน้ มาอย่างฉับพลัน บ้านสายตรงจึงถูกบดบังมาโดย
ตลอด ครัง้ นี ม้ าจวนสกุลเผย เดิม ที พ วกเขาก็ ไม่ได้ส่ง ข่ า วบอกบ้านสายตรง เพราะกลัวว่า
นอกจากบ้านสายตรงจะไม่ช่วยพวกเขาแล้วยังอาจจะถ่วงแข้งถ่วงขา พวกเขาถึงกระทั่งป้องกัน
546

ไม่ให้คนไปส่งจดหมายให้บา้ นสายตรง ให้คนเฝ้าอยู่ทางบ้านสายตรง เตรียมว่าหากบ้านสาย


ตรงล่วงรู ้ ก็ให้พวกเขาหาวิธีขดั ขวาง ใครจะรูว้ า่ บ้านสายตรงกลับไล่ตามมาในช่วงเวลาสุดท้าย
ไม่รูว้ า่ เป็ นใครที่สง่ จดหมายรายงานพวกเขา?
บ้านสายตรงก็เป็ นดั่งที่เขาคาด ไม่ได้ทาํ เรื่องดีแต่อย่างใด
หลี่ตวนโมโหอยู่ในใจ ทว่าใบหน้าไม่ปรากฏท่าทีใดแม้แต่นอ้ ย กลับเอ่ยอย่างนอบน้อม
“ปู่ สิบสองพูดเช่นนี ้ ข้าไม่อาจรับไว้ได้หรอก บิดาไม่อยู่ ข้าอายุยงั น้อย หากมีจดุ ไหนที่ทาํ ผิดไป
ยังต้องขอให้ปสู่ ิบสองช่วยตักเตือน ข้าจะกล้าตัดสินใจเองได้อย่างไร? เรื่องนีย้ งั คงต้องฟั งท่าน”
เขาไม่เชื่อว่าปู่ สิบสองจะกล้าแตกหักกับบ้านของพวกเขาในเวลานี ้
หากสกุลหลี่ไม่มีบา้ นของพวกเขา เรื่องเสียภาษี อะไรนั่น ก็อย่าคิดที่จะได้ประโยชน์เลย
บ้านสายตรงสกุลหลี่ย่อมไม่กล้าแตกหักกับบ้านของหลี่ตวน แม้ในใจพวกเขาจะไม่
พอใจต่อบ้านของหลี่ตวน อย่างมากที่สดุ ก็พดู เหน็บแนมไม่ก่ีประโยคเท่านัน้ หากไม่สนใจบ้าน
ของหลี่ตวนจริงๆ ไม่เพียงจะเสียภาพลักษณ์ของบ้านสายตรง แต่ยงั จะกระทบกับผลประโยชน์
ของวงศ์ตระกูล
บ้านสายตรงจึงทําได้เพียงหยุดเท่านี ้
ได้ยินหลี่ตวนพูดอย่างนัน้ ปู่ สิบสองทําได้เพียงยืนขึน้ เอ่ย “แต่ไหนแต่ไรสกุลหลี่ของ
พวกเราก็เป็ นสกุลที่สจุ ริตเที่ยงธรรม หลายปี มานีห้ ลี่อวีก้ ็นบั ว่าอบรมสั่งสอนบุตรได้ดี สกุลอวี ้
และสกุลเว่ยไม่อาจว่าร้ายสกุลหลี่อย่างไร้เหตุผลได้ สกุลหลี่ก็ไม่มีทางสังหารคนเพราะงานแต่ง
ของพวกลูกๆ ได้หรอก จะเห็นได้ว่าประเด็นสําคัญอยู่ท่ีพ่อบ้านใหญ่ของหลี่ตวนผูน้ นั้ ต่างหาก
547

แม้จะกล่าวว่า ตัง้ แต่โบราณมีเรื่องเฉิงอิงช่วยเด็กกําพร้า 1 ทัง้ เรื่องที่หลี่วป์ ้สู งั หารพ่อบุญธรรม 2


122 123

จะเห็นได้ว่าเรื่องในใต้หล้าแห่งนีไ้ ม่อาจใช้มาตรฐานเดียวกันได้ ส่วนพ่อบ้านใหญ่สกุลหลี่ทาํ


เรื่องนีข้ ึน้ มาเพราะเหตุใด อย่างไรขอนายท่านสาม นายท่านอวีแ้ ละนายท่านเว่ยไว้หน้าพวกเรา
สกุลหลี่สกั ครัง้ ยามนีอ้ ย่าได้ซกั ไซ้ไล่เลี่ยต่อ รอข้าเขียนจดหมายให้หลี่อี ้ ให้เขามอบคําตอบแก่
ทัง้ สองสกุลก่อน ทุกท่านคิดว่าเป็ นอย่างไร?”
เขาพูดจบ ก็ยืนขึน้ ค้อมคํานับให้แก่ทุกคน เอ่ยหนักแน่น “จะชดใช้อย่างไร พวกเรา
สกุลหลี่ย่อมไม่คดั ค้าน”
อย่างไรก็ควรเป็ นหลี่อที ้ ่ีย่งุ ยากปวดหัว ไยเขาจะต้องยอมเป็ นคนเลวด้วยเล่า
สกุลอวีแ้ ละสกุลเว่ยย่อมไม่พอใจ แต่ไม่พอใจแล้วจะอย่างไรได้อีก?
เว้นเสียว่าพ่อบ้านใหญ่ของหลี่ตวนจะสามารถกัดเจ้านาย งับหลี่ตวนหนึ่งคําได้ท่ีน่ี
แต่น่นั เป็ นไปไม่ได้
พ่อบ้านของหลี่ตวนยอมรับเรื่องนี ้ อาจจะต้องชดใช้ดว้ ยชีวิต กลับสามารถปกป้อง
ครอบครัวของตัวเองให้ใช้ชีวิตอย่างมีสขุ ในเรือนสกุลหลี่ได้ หากเวลานีเ้ อ่ยว่าสกุลหลี่บงการอยู่
เบือ้ งหลัง ไม่เพียงเขาจะเอาชีวิตไปทิง้ แต่ชีวิตของทัง้ ครอบครัวก็คงรักษาไว้ไม่ได้เช่นกัน
บัญชีนีไ้ ม่วา่ ใครก็สามารถสรุปได้

1
เฉิงอิงช่วยเด็กกําพร้า เป็ นเรื่องราวของหมอหลวงที่ช่วยทายาทเพียงคนเดียวขององค์หญิ งเอาไว้ ให้รอดพ้นจากการ
สังหารล้างสกุลโดยถูอนั้ กู่(ขุนนางใหญ่ในแคว้นจิน้ ) ถึงกระทั่งยอมเสียสละชีวิตลูกตัวเองให้ศตั รูเข้าใจผิดคิดว่าเป็ นลูกองค์
หญิง นําลูกขององค์หญิงมาเลีย้ งตบตาแทน ทุกคนต่างรังเกียจเขา คิดว่าเขาอยู่ฝ่ายกบฏ ภายหลัง ถูอนั้ กู่นาํ ลูกองค์หญิง
เลีย้ งเป็ นลูกบุญธรรมเพราะคิดว่าเป็ นลูกของหมอหลวง เมื่อลูกขององค์หญิงเติบใหญ่ หมอหลวงก็เล่าเรื่องทัง้ หมดให้ฟัง
เขาจึงสังหารถูอนั้ กู่ ล้างแค้นให้กบั วงศ์สกุล
2
หลี่วป์ สู้ งั หารพ่อบุญธรรม เป็ นเรื่องราวที่หลี่วป์ ทู้ รยศติงหยวน สังหารพ่อบุตรธรรมตัวเอง แปรพักตร์ไปอยู่ฝ่ายต่งจั๋ว
548

นี่ก็เป็ นเหตุผลว่าเหตุใดอวีถ้ ังยอมขอเผยเยี่ยนมาตัดสินความ ดีกว่าต้องฟ้องร้องคดี


ความกับสกุลหลี่
แต่จะให้สกุลอวีแ้ ละสกุลเว่ยยอมจบไปเช่นนี ้ ก็เป็ นไปไม่ได้
อย่างน้อยก่อนจะมา อวีถ้ งั ก็ปรึกษาหารือกับบิดาและพี่ชายอยู่หลายครัง้ หากเรื่องนี ้
ล่วงเลยมาถึงจุดนี ้ พวกเขาควรจะทําอย่างไร เริ่มแรกอวีเ้ หวินยังลังเลกับความคิดของอวีถ้ งั อยู่
บ้าง ภายหลังปรึกษากับนายท่านเว่ยพ่อลูก พวกเขาล้วนคิดว่าความคิดนีข้ องอวีถ้ งั ไม่เลว เขา
จึงไม่มีอะไรให้กังวลแล้ว ได้ฟังปู่ สิบสองของบ้านสายตรงสกุลหลี่พูดเช่นนี ้ เขาก็แลกเปลี่ยน
สายตากับนายท่านเว่ย จากนัน้ ทัง้ สองคนก็ลกุ ขึน้ ยืนพร้อมกัน โดยมีอวีเ้ หวินเป็ นผูพ้ ดู แทนทัง้
สองสกุล “ในเมื่อเป็ นเช่นนี ้ สกุลอวีแ้ ละสกุลเว่ยของพวกเราก็ไม่ใช่คนที่ไร้เหตุผล นายถูกครหา
บ่าวสมควรตาย บ่าวทําผิด เจ้านายก็ควรมีความรับผิดชอบ พวกเราหวังว่าสกุลหลี่จะสามารถ
ขอโทษกับพวกเราสองสกุลอย่างจริงจังได้…คุณชายใหญ่สกุลหลี่ใส่ชดุ กระสอบไว้ทกุ ข์ ทําบุญ
อุทิศให้แก่เว่ยเสี่ยวซานที่วดั เจาหมิงเป็ นเวลาสามวัน ส่วนฮูหยินหลี่ให้มาถึงหน้าประตูใหญ่
สกุลอวี ้ โขกศีรษะสามครัง้ ให้สกุลอวีข้ องพวกเราด้วยตัวเอง”
อะไรนะ?
ทุกคนต่างตกตะลึงพรึงเพริด
หลี่ตวนใบหน้าเขียวคลํา้ ขึน้ มา ควบคุมความตกใจไว้ เอ่ยเสียงดัง “เจ้าว่าอะไรนะ?”
อวีเ้ หวินกลับคาดไว้นานแล้ว
ยามที่เขาเพิ่งได้ยินอวีถ้ งั พูดเช่นนี ้ ก็มีปฏิกิรยิ าเดียวกับทุกคนเช่นกัน คิดว่าเป็ นไปไม่ได้
แต่ทา้ ยที่สดุ เรื่องราวยังคงให้เปรียบแก่ทางพวกเขาสกุลอวีแ้ ละสกุลเว่ย
เขากล่าวคําขอของสกุลอวีแ้ ละสกุลเว่ยซํา้ อีกครัง้ อย่างใจเย็น “คุณชายใหญ่สกุลหลี่ใส่
ชุดกระสอบไว้ทกุ ข์ ทําบุญอุทิศให้แก่เว่ยเสี่ยวซานที่วดั เจาหมิงเป็ นเวลาสามวัน ด้านฮูหยินหลี่
ให้มาถึงหน้าประตูใหญ่สกุลอวี ้ โขกศีรษะสามครัง้ ให้สกุลอวีข้ องพวกเราด้วยตัวเอง”
549

“เป็ นไปไม่ได้!” หลี่ตวนกล่าวแทบไม่ตอ้ งคิด แววตาเผยความโกรธเกรีย้ วอย่างปิ ดไม่


มิด
พวกเขาคิดว่าสกุลหลี่อบั จนหนทางแล้วจริงๆ หรืออย่างไร?
มิเช่นนัน้ เหตุใดสกุลอวีแ้ ละสกุลเว่ยไม่ไปแจ้งทางการล่ะ!
เขาเพียงไม่อยากล่วงเกินสกุลเผยเท่านัน้
สกุลอวีแ้ ละสกุลเว่ยไม่รูจ้ กั ที่สงู ที่ต่าํ คาดไม่ถึงว่าคิดจะให้มารดาเขาไปโขกหัวสามครัง้
ที่หน้าประตูใหญ่สกุลอวีเ้ พื่อแสดงความขอโทษ!
มารดาเขาเป็ นใคร? ภรรยาของขุนนางขัน้ สี่ ฮูหยืนของสกุลหลี่ ให้โขกหัวแก่สกุลอวีต้ ่อ
หน้าคนทัง้ หลินอัน ภายหลังก็ไม่ตอ้ งเป็ นคนแล้ว
เผยเยี่ยนก็ยากจะควบคุมความคิดแปลกๆ ในใจ
เรื่องที่นบั ว่าทําให้คนอัปยศเช่นนี ้ เป็ นไปได้ว่าจะเป็ นหญิงสาวในห้องหับที่คิดออกมา
ได้
คงจะเป็ นความคิดของคุณหนูอวี ้
ก็ไม่รูว้ า่ นางคิดอย่างไร
ปฏิบตั ิธรรมสามวันยังพอว่า แต่ให้ฮหู ยินหลี่ขอโทษเช่นนี ้ เท่ากับโยนหน้าของสกุลหลี่
ให้คนเหยียบที่พืน้ คาดว่าสกุลหลี่ยอมจะไปแจ้งทางการ ดีกว่าต้องรับปากเรื่องนี ้ แทนที่จะ
พยายามเรื่องรักษาหน้าตา ยังมิสใู้ ห้สกุลหลี่จ่ายเงินชดใช้อะไรเสียหน่อยจะยังดีเสียกว่า
เผยเยี่ยนหันไปทางอวีถ้ งั
กลับเห็นอวีถ้ งั ยังเผยท่าทีเช่นเคย ราวกับทัง้ หมดล้วนอยู่ในความคาดการณ์ของนาง
เผยเยี่ยนอดลูบผีซิวในมือไม่ได้ ลวดลายผีซิวที่นูนเว้าถูกเขาถูไถจนมันเงาขึน้ มา ไม่
ถึงกับคมออกมา เพียงถูจนวับวาวเท่านัน้
550

ช่วงเวลานี ้ เขาสงสัยเป็ นอย่างยิ่ง อวีถ้ ังนั้นคิดอย่างไร? ทั้งนางวางแผนจะทําอะไร


ต่อไป?
อวีถ้ งั ไม่ได้ทาํ ให้เขาผิดหวัง
นางก้าวไปข้างหน้าไม่ก่ีกา้ ว เอ่ยกับหลี่ตวน “เป็ นไปไม่ได้? เรื่องใดที่เป็ นไปไม่ได้? เหตุ
ใดคุณชายใหญ่สกุลหลี่จงึ คิดว่าเป็ นไปไม่ได้?”
เมื่ อ ครู ่อ วี ถ้ ัง ดึง ดูด ความสนใจจากทุก คนแล้ว ไม้เ ด่ น เกิ น ไพร ลมพัด ย่ อ มหัก โค่น
อวีเ้ หวินไม่อยากให้อวีถ้ งั ออกหน้าอีกแล้ว เขากระแอมเบาๆ บอกเป็ นนัยให้อวีถ้ งั ไม่ตอ้ งพูด เขา
ออกหน้าเองก็เพียงพอแล้ว
อวีถ้ งั กลับคิดว่า เรื่องโต้เถียงเล็กน้อยราวกับซือ้ ผักผลไม้เช่นนี ้ นางออกหน้าจะดีกว่า
บิดาออกหน้า ทําให้ทุกคนเห็นว่าหลี่ตวนที่เป็ นบัณฑิตสูงส่งผูน้ ีค้ ิดเล็กคิดน้อยกับผูห้ ญิงตัว
เล็กๆ คนหนึ่งอย่างไร
นางยื่นแขนไปด้านหลัง โบกให้บิดา เอ่ยกับหลี่ตวนต่อ “ไม่ยินดีจะขอโทษพวกเราทัง้
สองสกุล? หรือคิดว่าเงื่อนไขที่พวกเราเอ่ยออกมารุนแรงเกินไป? พวกเราสองสกุล สกุลหนึ่งเสีย
ลูกชาย อีกสกุลสูญเสียความบริสทุ ธิ์ หรือนี่ไม่มีค่าพอให้สกุลหลี่ของพวกเจ้าชดใช้ให้กบั พวก
เรา?”
อวีเ้ หวินไม่อาจฉีกหน้าอวีถ้ งั ต่อหน้าผูค้ น แม้ว่าในใจจะร้อนรน ก็ทาํ ได้เพียงมองอวีถ้ งั
โต้เถียงกับหลี่ตวนเท่านัน้
นํา้ เสียงใสกังวานราวกับก้อนหยกกระทบนํา้ แข็งของอวีถ้ งั พาให้หลี่ตวนตื่นตัวในใจ ใน
ที่สดุ สติก็กลับคืนมา
เห็นได้ชดั ว่าสกุลอวีม้ ีการเตรียมตัวมาก่อน หากเขาไม่สามารถเผชิญหน้าอย่างใจเย็น
อาจจะทําให้ตวั เองตกลงไปในหลุมที่ใหญ่กว่านี ้
551

“คุณหนูอวี ้ ข้ามาด้วยใจจริง มาเพื่อแก้ไขปั ญหา ทัง้ มาเพื่อขอโทษสกุลพวกเจ้า” เขา


เอ่ยอย่างเคร่งขรึม “ไม่ได้มาเพื่อรับการเหยียดหยามจากเจ้า ให้มารดาข้าโขกหัวขอโทษสกุลอวี ้
ที่หน้าประตูใหญ่ต่อหน้าชาวบ้านชาวเมือง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตอ้ งเหลือความเหมาะสมไว้บา้ ง
พวกเจ้าทําเกินไปหรือไม่!”
อวีถ้ งั ยิม้ เย็น “พูดเช่นนี ้ คุณชายใหญ่สกุลหลี่ก็คงคิดว่าสวมชุดกระสอบไว้ทกุ ข์ ทําบุญ
อุทิศให้คณ
ุ ชายรองสกุลเว่ยที่วดั เจาหมิงเป็ นเวลาสามวัน ไม่นบั ว่าเหยียดหยามเจ้าใช่หรือไม่?”
แน่นอนว่าหลี่ตวนไม่ยินดี
แต่เทียบกับเรื่องที่ให้มารดาเขาไปโขกศีรษะแล้ว ทําบุญอุทิศส่วนกุศลนับว่าเขารับได้
ทัง้ หากเขาขอโทษแก่สกุลเว่ยอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี ้ คนอื่นก็จะคิดว่าเขาใจกว้างมีเมตตา
ยอมฟั งความคิดเห็นคนอื่น เกิดจากสกุลใหญ่จึงมีจิตใจที่สงู ส่ง นอกจากไม่มีเสียงนินทาครหา
เขา ยังจะมีผลดีตอ่ ชื่อเสียงเขาอีกด้วย
หรือนี่จะเป็ นเป้าหมายของสกุลอวีแ้ ละสกุลเว่ย
เสนอวิธีแก้ไขออกมาสองอย่าง เมื่อลองเทียบกันแล้ว ก็ให้เขาเลือกยอมรับวิธีท่ีง่ายกว่า
โดยไม่ทนั ตัง้ ตัว
สกุลอวีแ้ ละสกุลเว่ยเพียงอยากให้เขาสวมชุดกระสอบไว้ทกุ ข์ให้กบั เว่ยเสี่ยวซานเท่านัน้
รึ?
เพียงแต่ไม่รูว้ า่ นี่เป็ นความคิดของอวีเ้ หวินหรือว่าคุณหนูอวี?้
หลี่ตวนพินิจอวีถ้ งั อย่างละเอียด
ร่างไม่สงู ไม่ต่าํ สวมชุดสีเข้มเนือ้ หยาบ ไม่เก่ามาก ผมสีดาํ ขลับเรียบลื่น ถูกรวบขึน้ ไป
ด้านบน ม้วนเป็ นมวย แต่งตัวครึง่ ๆ กลางๆ ไม่ออกหญิงหรือชายเกินไป กระนัน้ กลับปกปิ ดผิวที่
ขาวดั่งหิมะไว้ไม่มิด ส่วนเว้าส่วนโค้ง สีหน้าเย็นชาก็ปิดความอ่อนโยนและพริม้ พรายไว้ไม่ได้
เช่นกัน
552

เรื่องนีค้ งไม่ใช่ความคิดของนางกระมัง!
หญิงสาวที่งดงามเช่นนางนี ้ จะมีความคิดพิเรนทร์มากมายขนาดนีไ้ ด้อย่างไร
คงจะเป็ นบิดาของนางตัง้ ใจให้นางออกหน้า เพื่อให้ทกุ คนสงสารพวกเขาเป็ นแน่
หลี่ตวนค่อยรู ส้ ึกสบายใจขึน้ มา เอ่ยอย่างรู แ้ ล้วรู ร้ อดไป “คุณหนูอวี ้ บ่าวสกุลข้าไร้
คุณธรรม ให้ขา้ สวมชุดกระสอบไว้ทกุ ข์ให้เว่ยเสี่ยวซานย่อมได้ แต่มารดาในบ้านของข้า ให้นาง
ไปโขกหัวให้พวกเจ้าที่หน้าประตูใหญ่ นี่ย่อมไม่ได้!”
เผยเยี่ยนหูตงั้ ขึน้ มา
เขาก็คิดว่าให้หลี่ตวนสวมชุดกระสอบไว้ทุกข์เป็ นเป้าหมายของสกุลอวีแ้ ละสกุลเว่ย
เช่นกัน
ยามนีเ้ ห็นท่า สกุลอวีจ้ ะบรรลุเป้าหมายแล้ว
แต่เขารูส้ กึ ว่า สกุลอวีไ้ ม่อาจร้องขอเงื่อนไขนีเ้ พียงอย่างเดียว
ต่อไปก็รอดูวา่ อวีถ้ งั จะเสนอเงื่อนไขแบบใดอีก ทัง้ สกุลหลี่จะจัดการรับมืออย่างไร
553

บทที่ 68 (2)
ใครจะรูว้ า่ ครัง้ นีอ้ วีถ้ งั กลับทําให้เผยเยี่ยนผิดหวัง
ชั่วพริบตานางก็คล้ายหัวแข็งดือ้ รัน้ เริ่มยึดเหตุผลของตัวเองขึน้ มา “เช่นนัน้ เรื่องที่พวก
เจ้าสั่งอันธพาลมาลักพาตัวข้าจะจัดการอย่างไรล่ะ? หรือเมื่อครู ่ท่ีคณ ุ ชายใหญ่สกุลหลี่พดู มา
ทัง้ หมดล้วนเป็ นเรื่องโกหก ในสายตาของฮูหยินหลี่ ทําลายความบริสทุ ธิ์ของคนไม่นบั ว่าเป็ น
เรื่องร้ายแรงอะไรอย่างนัน้ รึ?”
หลี่ตวนอดทนไม่ไหวอยู่บา้ ง
เอาแต่พดู เรื่องพวกนีม้ ีประโยชน์อนั ใด? แม้จะบอกว่าสตรีในสกุลทําเรื่องชั่ว คนปกติก็
ไม่อาจให้สตรีไปต่อสูค้ ดีในศาลอยู่แล้ว นับประสาอะไรกับการไปขอโทษที่สกุลอวีอ้ ย่างที่อวีถ้ งั
กล่าวมา สกุลอวีเ้ สนอคําขอเช่นนีอ้ อกมา เห็นได้ชัดว่าอยากจะสร้างความลําบากใจให้สกุล
พวกเขา
ไม่สิ บางทีอาจจะอยากพูดเงื่อนไขกับเรื่องถัดไปเสียมากกว่า
หลี่ตวนนึกถึงก่อนหน้านั้นยามที่อวีถ้ ังพูดเช่นนี ้ พวกเศรษฐี ก็พากันวิพากษ์วิจารณ์
ออกมา ไม่พอใจต่อมารดาของเขา เขาคิดว่าหากให้อวีถ้ งั พูดเช่นนีต้ ่อไป รังแต่จะทําให้ถกู นาง
จูงจมูก เขาต้องคิดหาวิธีเป็ นฝ่ ายคุมทิศทาง ชิงนําหน้าก่อนหนึ่งก้าวจึงจะถูก
“คุณหนูอวี”้ หลี่ตวนกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ให้มารดาข้าไปโขกศีรษะขอขมาที่หน้า
ประตูใหญ่พวกเจ้าย่อมเป็ นไปไม่ได้ พวกเราดึงดันต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรทัง้ นัน้ ” พูดมาถึง
ตรงนี ้ เขาก็มองไปทางอวีเ้ หวิน “นายท่านอวี ้ ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา หากผูท้ ่ีทาํ ผิดเป็ นนาย
หญิงของท่าน ท่านจะยอมให้พวกนางออกหน้ารับโทษหรือไม่? แทนที่พวกเราจะดันทุรงั ในเรื่อง
นีต้ ่อไป มิสใู้ ห้นายท่านสามเป็ นคนกลาง หารือวิธีชดใช้ท่ีทุกคนสามารถยอมรับได้ออกมา ผู้
อาวุโสทุกท่าน คิดว่าข้าพูดมีเหตุผลหรือไม่?”
พูดจบ เขาก็คาํ นับให้แก่พวกเศรษฐี ชนบทที่น่ งั อยู่ทกุ คน
554

ทุกคนพากันพยักหน้า
อวีเ้ หวินและนายท่านเว่ยแลกเปลี่ยนสายตากัน ทัง้ สองคนเผยท่าทีไม่เต็มใจ แต่กลับ
จนใจออกมา
อวีถ้ งั กลับไม่มีท่าทีเยือกเย็นสุขมุ ฉลาดว่องไวเมื่อก่อนหน้านีอ้ ีกแล้ว คล้ายว่าหลังจาก
อดทนมานาน ในที่สดุ ก็ควบคุมไม่ไหวอีกต่อไป เผยนิสยั ที่แท้จริงออกมา
นางเอ่ยเสียงดัง “ท่านพ่อ เรื่องไม่อาจให้จบไปเช่นนีไ้ ด้ หรือหน้าตาของสกุลหลี่นบั เป็ น
หน้าตา แต่หน้าตาของสกุลอวีพ้ วกเรากลับไม่ตอ้ งรักษาหรือ? หากวันนีท้ ่านไม่ตอบรับให้ฮู
หยินหลี่ไปขอขมาที่สกุลพวกเราด้วยตัวเอง ข้าจะโขกศีรษะตายอยู่ท่ีน่ี อย่างไรผ่านวันนีไ้ ปเรื่อง
นีก้ ็จะลุกลามใหญ่โตจนรูท้ ่วั กัน ข้ามีชีวิตอยู่ต่อมิสตู้ ายอย่างขาวสะอาด ภายหลังหลายกี่สิบปี
ผ่านไปจะได้ไม่ถกู ผูค้ นติฉินนินทา ไม่เพียงข้า แต่ยงั เป็ นพวกลูกหลานรุน่ หลังที่คงไม่มีหน้าเงย
ขึน้ มาเป็ นคนเหมือนข้า”
คําพูดนีก้ ล่าวคล้ายเอาแต่ใจไปบ้าง
เศรษฐี ไม่ก่ีคนพากันหันหน้ามองกัน กลับไม่มีใครออกหน้าขัดขวางแม้แต่คนเดียว
เพราะคําพูดของอวีถ้ งั หากตรึกตรองอย่างละเอียดแล้ว ก็มีเหตุผลไม่นอ้ ยเช่นกัน
นี่จะทําอย่างไรได้?
สายตาของทุกคนอดมองไปยังทางเผยเยี่ยนไม่ได้
เผยเยี่ยนเผยแววตาสงสัยมองวาบผ่านอวีถ้ งั ไป
คุณหนูอวีผ้ นู้ ีเ้ หตุใดจึงชอบทําเรื่องที่ทาํ ให้เขาไม่เข้าใจ ดูไม่ออกอยู่ร่าํ ไป!
เรื่องในอดีตไม่เอ่ยถึงชั่วคราว พูดแค่เรื่องในวันนีก้ ่อน เริ่มจากใช้ความเจ้าเล่หไ์ หวพริบ
ครุ ่นคิดทุกวิถีทาง รอบคอบทุกย่างก้าว โจมตีหลี่ตวนจนรับมือไม่ทัน พอความได้เปรียบอยู่
555

ตรงหน้า จู่ๆ นางก็ ค ล้า ยกับ ไม่ มี แ ผนอัน ใด พยายามแต่ใ ห้ตัว เองสะใจโดยไม่ ส นใจอะไร
อยากจะพูดอะไรก็พดู อย่างนัน้ เรื่องอื่นๆ ล้วนไม่ใส่ใจ
ไม่วา่ จะดูอย่างไรก็ไม่เข้ากันอย่างแปลกประหลาด!
ตกลงก่อนหน้านีเ้ ป็ นตัวนางจริงๆ? หรือนางในเวลานีถ้ ึงจะเป็ นนิสยั จริงของนางกัน?
เผยเยี่ยนรูส้ กึ ว่าตัวเองยังคงประมาทไป
นี่ก็คือความอึดอัดที่ไม่เข้าใจตัวตนของอีกฝ่ าย
หากรูว้ า่ จะเป็ นเช่นนี ้ ก่อนหน้านีเ้ ขาคงจะทําความเข้าใจกับคุณหนูอวีใ้ ห้มากขึน้ แล้ว
แต่ว่า คุณหนูอวีเ้ ปลี่ยนแปลงไปมาไม่สิน้ สุด แม้เขาจะทําความเข้าใจคุณหนูอวีเ้ พียง
ผิวเผิน คาดว่าก็คงไม่รูว้ า่ เมื่อพบกันครัง้ ต่อไปคุณหนูอวีจ้ ะเปลี่ยนแปลงเป็ นคนแบบใดอีก
กล่าวสรุ ปคือ ยังคงเป็ นเรื่องธรรมเนียมระหว่างชายหญิง เขาไม่อาจสืบเสาะเรื่องราว
คุณหนูอวีม้ ากไปได้
หลัง จากเผยเยี่ ย นนึก ถึ ง อวี ถ้ ัง ที่ พ บเจอกัน หลายครั้ง เขาก็ ค าดเดาถึ ง เรื่ อ งพวกนี ้
สัญชาตญาณบอกเขาว่า การตัดสินใจก่อนหน้านัน้ ของเขาดีท่ีสดุ อย่างไรสังเกตให้รอบคอบ
ก่อนค่อยว่ากันเถิด มิเช่นนัน้ ก็จะเป็ นดั่งเมื่อก่อน ทําให้เขาตกในหลุมพรางทันที
เขาดื่มชาหนึ่งคําอย่างไม่รีบร้อน พูดอย่างไม่กระจ่างชัดนัก “คุณหนูอวีพ้ ดู มีเหตุผล แต่
ให้ฮหู ยินหลี่ไปโขกศีรษะหน้าประตูสกุลอวี ้ นี่ก็ไม่เหมาะสมนัก” เขาปั ดลูกหนังไปทางบ้านสาย
ตรงสกุลหลี่แทน “ปู่ สิบสองสกุลหลี่ ท่านคิดว่าอย่างไร?”
ปู่ สิบสองทําตัวราวกับเทียนไข ไม่จดุ ก็ไม่สว่าง เมื่อได้ฟังก็เอ่ย “พวกเราสกุลหลี่ยดึ นาย
ท่านสามเป็ นหัวม้า ทัง้ หมดล้วนฟั งท่านเป็ นหลัก”
ลูกหนังถูกผลักกลับไป
556

เผยเยี่ยนเผยยิม้ เล็กน้อย “ข้าก็เป็ นเพียงคนกลางเท่านัน้ หากสกุลอวีแ้ ละสกุลหลี่ลว้ น


รู ส้ ึกว่าดีก็เพียงพอแล้ว ในเมื่อสกุลหลี่คิดว่าอย่างไรก็ได้ เช่นนั้นข้าคงทําได้เพียงถามความ
ต้องการของนายท่านอวีแ้ ล้ว”
ใครจะรู ว้ ่าอวีถ้ ังไม่รอให้บิดานางเปิ ดปาก ก็กล่าวอย่างไม่พอใจก่อน “ท่านพ่อ ข้าไม่
เห็นด้วย ฮูหยินหลี่ตอ้ งขอขมาให้กบั สกุลพวกเรา”
อวีเ้ หวินอยากจะพูดแต่ก็หยุดเอาไว้
คล้ายกับบิดาที่รกั ใคร่ตามใจลูกสาวเกินพอดี เห็นได้ชดั ว่าไม่ถกู กลับไม่อาจหักหน้าลูก
สาวต่อหน้าสาธารณชน
และหลี่ตวนก็รูส้ กึ ไม่พอใจอยู่ขา้ งใน
อะไรเรียกว่า ‘สกุลหลี่คิดว่าอย่างไรก็ได้กนั ’?
หลี่ตวนรูส้ กึ ว่าเผยเยี่ยนกําลังช่วยสกุลอวีอ้ ย่างเห็นได้ชดั
หรือก่อนหน้านีส้ กุลอวีพ้ ดู เป่ าหูอะไรให้เผยเยี่ยนฟั ง?
หลี่ตวนมองอวีถ้ งั อย่างโมโห “คุณหนูอวี ้ นี่มนั คนละเรื่องกัน ขอโทษย่อมได้ แต่ไม่อาจ
ให้มารดาข้าที่เป็ นผูห้ ญิงในเรือนออกหน้าต่อสาธารณชนได้”
อวีถ้ ังจ้องกลับไปอย่างไม่เผยความอ่อนแอแม้แต่นอ้ ย “ตามความคิดข้า นี่เป็ นเรื่อง
เดียวกัน ขอโทษ ก็ควรเอาความจริงใจมา”
ทัง้ สองคนต่างชักดาบเผชิญหน้ากัน ใครก็ไม่ยอมถอยให้ใคร แม้จะยืนประจันหน้ากัน
กลับทําให้คนรูส้ กึ ถึงเปลวไฟลุกช่วงที่สาดส่องไปทั่ว
ไม่ว่าในใจของเศรษฐี ท่ีน่ งั อยู่พวกนีจ้ ะเข้าข้างฝ่ ายใด ก่อนที่เผยเยี่ยนยังไม่ได้พดู ล้วน
ไม่อาจเปิ ดเผยจุดยืนอย่างง่ายๆ เมื่อเผยเยี่ยนไม่ปริปาก พวกเขาก็ทาํ ได้เพียงดูละคร ต่างพากัน
เงียบกริบทัง้ หมด
557

ชั่วขณะหนึ่ง ห้องโถงใหญ่ต่างตกอยู่ในความเงียบสงัดอย่างแปลกประหลาด สงบนิ่ง


ได้ยินเพียงเสียงสวบสาบของลมที่พดั ผ่านใบไม้นอกหน้าต่าง
นายท่านอูอ๋ ดร้อนใจไม่ได้
ในความคิดของเขา เรื่องนีอ้ วีถ้ งั ทําเกินไปอยู่บา้ ง แต่คนที่ทาํ เกินไปกว่าคืออวีเ้ หวิน
เด็กๆ ไม่เข้าใจเรื่องราว หรือผูใ้ หญ่ก็ไม่เข้าใจเช่นกัน?
เวลานี ้ ควรจะเป็ นผูใ้ หญ่ท่ีจดั การเรื่องราวจึงจะถูก
คงไม่อาจปล่อยให้ลกู สาวตัวเองและคุณชายใหญ่สกุลหลี่ปะทะคารมไม่ยอมถอยให้
กันต่อไปเช่นนีห้ รอกกระมัง?
แม้วา่ จะถอยหนึ่งก้าว ก็ควรต้องมีบนั ไดขัน้ หนึ่ง
นายท่านอู๋ครุน่ คิดว่าตัวเองควรจะออกหน้ารับหน้าที่เป็ นคนเลวดีหรือไม่ ปรากฏว่าข้าง
หูกลับปรากฏเสียงไร้เรี่ยวแรงขึน้ มาอย่างกะทันหัน “อวี ้ คุณหนูอวี ้ ข้าไปขอขมาที่บา้ นพวกเจ้า
แทนมารดาข้า เจ้า เจ้าคิดว่าได้หรือไม่?”
ผูพ้ ดู คือหลี่จวิน้ ที่แทบจะไร้ตวั ตนตลอดเวลาที่อยู่ท่ีน่ี
สายตาของทุกคนหันไปตามเสียง
หลี่จวิน้ อาจจะคาดไม่ถึงว่าจะเป็ นเช่นนี ้ ภายใต้สายตาที่จอ้ งมองมา ใบหน้าของเขาซีด
ขาวยิ่งกว่าเดิม ทัง้ ยังหดเกร็งเล็กน้อย แต่ไม่นานเขาก็ดงึ สติขนึ ้ มา หยัดกายตรงราวกับรวบรวม
ความกล้า เดินไปข้างหน้าสองก้าว เมื่อมาถึงเบือ้ งหน้าทุกคน ก็กล่าวเสียงเบาอีกครัง้ “คุณ
หนูอวีถ้ กู ลักพาตัว ทัง้ หมดล้วนเกิดจากข้า หากพิจารณาดูแล้ว ย่อมเป็ นความผิดของข้า มารดา
รัก ลูก สุดหัว ใจ ข้า ไม่ก ล้า ขอให้คุณหนูอวี อ้ ภัยนาง แต่ข้า ที่ เ ป็ น ลูก ชาย กลับไม่อาจทนเห็น
มารดาตัวเองได้รบั การเหยียดหยามโดยไม่ทาํ อะไรได้ คุณหนูอวี ้ ท่านได้โปรดให้ขา้ โขกศีรษะขอ
ขมาที่ประตูสกุลท่านแทนมารดาของข้าด้วยเถิด” พูดจบ เขาก็คอ้ มคํานับให้อวีถ้ งั
558

หากกล่าวว่าก่อนหน้านีค้ าํ พูดของเขายังเผยความลังเลและขลาดกลัวอย่างเห็นได้ชดั
แต่ยามนี ้ เขาไม่เพียงพูดดังชัดเจน ยังแสดงความกล้าอย่างหนึ่งออกมาอย่างไม่เคยมีมาก่อน
นายท่านอูอ๋ ดชื่นชมหลี่จวิน้ อยู่ในใจไม่ได้
แม้กล่าวว่าก่อนหน้านีห้ ลี่จวิน้ ไม่ปริปากมาโดยตลอด แต่ยามนี ้ เขาสามารถยื่นมือ
ออกมา ก็ แสดงให้เ ห็น ว่า เขาเป็ น ชายหนุ่ม ที่ มี ใจกตัญ�ู มี ความรับผิดชอบ และยอมแบก
รับภาระคนหนึ่ง
นายท่านอูผ๋ งกศีรษะไม่หยุด
เศรษฐี คนอื่นส่วนมากก็รูส้ ึกไม่ต่างจากนายท่านอู๋ เผยยิม้ เล็กน้อยมองหลี่จวิน้ พยัก
หน้าเบาๆ
อวีถ้ งั แค่นเสียงอย่างดูแคลน แทบไม่มองหลี่จวิน้ แม้แต่นอ้ ย กลับกันใช้สายตาคมกริบ
จ้องมองไปที่หลี่ตวน
นางเอ่ยประชดประชัน “หากข้าไม่ตอบรับเล่า?”
ยามที่หลี่จวิน้ ลุกออกมา หลี่ตวนก็เกิดใจคล้อยตาม พลันรู ส้ ึกว่านี่เป็ นความคิดที่ดี
หนึ่ ง คื อ แสดงความจริ ง ใจของสกุล หลี่ สองคื อ หลี่ จ วิ น้ รับ ผิ ด ชอบแทนมารดา แบกคํา ว่ า
‘กตัญ�ู’ เอาไว้ได้ ย่อมสามารถล้างมลทินให้กบั ชื่อเสียงสกุลหลี่อีกครัง้
การปฏิเสธของอวีถ้ งั ชักนําด้านโหดเหีย้ มที่เขาควบคุมไว้อยู่นาน ให้ปะทุออกมา
เขาเอ่ย อย่ า งมี โ ทสะ “คุณหนูอวี ้ ทุก เรื่องที่ ก ระทํา สวรรค์ลว้ นเฝ้า มอง เจ้า ก็ เ หลือ
คุณธรรมให้ตวั เองเสียหน่อยเถิด”
อวีถ้ งั ได้ยินเช่นนัน้ กลับเผยความดูแคลน หัวเราะอย่างเยือกเย็นขึน้ มาสองครัง้ “เมื่อครู ่
ข้าก็อยากพูดประโยคนี ้ ทุกเรื่องที่กระทํา สวรรค์ลว้ นเฝ้ามอง คุณชายใหญ่สกุลหลี่ ยามที่เจ้า
ตําหนิขา้ อย่าลืมนึกถึงความรูส้ กึ ผิดชอบชั่วดีของตัวเองบ้าง ข้ายังคิดว่าชายหนุ่มในสกุลพวก
เจ้าตายไปหมดแล้วเสียอีก แต่ละคนรูจ้ กั เพียงใช้ปาก…”
559

คําพูดของนางยังไม่ทนั จบ หลี่ตวนก็ราวกับถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ เสียงวิง้ ดังขึน้ ในหัว


ดึงสติกลับมาไม่ได้อยู่พกั ใหญ่
ไฉนเขาจึงนึกไม่ถึงกัน!
เหตุใดเขาจึงไม่ไปขอขมาสกุลอวีแ้ ทนมารดาตัวเองกัน!
ต้องรอให้นอ้ งชายเป็ นคนลุกออกมา เมื่อพูดเรื่องถึงความกตัญ�ูเช่นนี ้ เขาจึงเพิ่งมีสติ
กลับมา
โอรสสวรรค์หลายยุคหลายสมัยล้วนใช้ ‘ความกตัญ�ู’ ในการปกครองบ้านเมือง ก่อน
หน้านีเ้ ขาปฏิเสธไม่ให้มารดาไปขอโทษสกุลอวีย้ ่อมไม่เป็ นปั ญหาอันใด แต่ถกู หลี่จวิน้ กระโดด
ออกมาประสมโรงเช่นนี ้ การกระทําก่อนหน้านัน้ ของเขาจึงดูไม่ได้
จากที่ได้ยินมา ยามที่ท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผยล่วงลับ เผยเยี่ยนเศร้าโศกเสียใจ ไม่เพียง
ลาออกจากงานตรงๆ แต่อยู่ในเรือนก็ยงั ไม่มีสีหน้าดีอนั ใด เผยเยี่ยนจะมองเขาอย่างไรกัน?
พวกเศรษฐี ชนบทที่น่ งั อยู่ตรงนีจ้ ะมองเขาอย่างไร?
หลี่ตวนร้อนรนขึน้ มา
เขารีบกวาดสายตาสังเกตโดยรอบ
เผยเยี่ยนนั่งอยู่ตรงนัน้ ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง คล้ายว่ายังไม่ทนั รูต้ วั ว่าเกิดเรื่องอะไรขึน้
ด้านเศรษฐี พวกนัน้ กลับเผยสีหน้าแปลกประหลาด
หรือคนพวกนัน้ ล้วนคิดว่าเขาควรลุกออกมารับผิดชอบแทนมารดาเหมือนหลี่จวิน้ กัน?
หลี่ตวนกระวนกระวายอยู่ในใจ
เขายํา้ เตือนตัวเองซํา้ ๆ ใจเย็น ใจเย็นเข้าไว้ ยิ่งเวลานี ้ ก็ย่ิงไม่อาจเกิดความผิดพลาด
ทัง้ ไม่อาจพูดคุยทําเรื่องอย่างส่งเดช ถูกคนจับจุดอ่อนอะไรอีก
560

ด้า นเผยเยี่ ย น ชั่ว พริบตาที่ ห ลี่ จ วิน้ ออกมายื น นั้น ก็ ม องเห็นคมมี ดที่อวีถ้ ังเผยออก
มาแล้ว
ที่แท้นางต้องการให้รา้ ยว่าหลี่ตวนไม่รูค้ ณ
ุ !
กับดักของนางทําขึน้ เพื่อรอหลี่ตวน
คุณหนูอวีต้ อ้ งการจัดการหลี่ตวนให้หมดหนทาง!
ก็ไม่รูว้ ่าคุณหนูอวีแ้ ละหลี่ตวนผูน้ ีม้ ีเรื่องความแค้นเกี่ยวกับความเป็ นความตายอะไร
กัน
ยามนี ้ เขาไม่อยากรูว้ ่าเหตุใดหลี่ตวนจึงโง่เขลาถึงเพียงนี ้ ทัง้ ไม่อยากรูว้ ่าเศรษฐี ชนบท
พวกนัน้ คิดอย่างไร เขาเพียงอยากรูว้ ่า เรื่องที่วางแผนสกุลหลี่ คุณหนูอวีจ้ ะได้รบั ประโยชน์จาก
เรื่องนีม้ ากมายเท่าใด
ด้านอวีถ้ งั มือของนางกําหมัดแน่น
พวกเขาคิดว่านางเพียงอยากให้ฮหู ยินหลี่ได้รบั ความอับอายอย่างนัน้ รึ ไม่หรอก เดิมที
นางก็ไม่มีความคิดเช่นนัน้
เพราะนั่นยังห่างไกลอยู่มาก
ความเจ็บปวดทางกาย จะเทียบกับจิตใจที่สนิ ้ หวังได้อย่างไร
การแก้แค้นของนางเพิ่งจะเริม่ ต่างหาก!
561

บทที่ 69 (3)
อวีถ้ ังยืนนิ่งอยู่กับที่ สายตาเย็นเยียบมองหลี่ตวนที่เพิ่งได้สติกลับมา พยายามแก้ไข
ความผิดของตัวเองอย่างอุตลุด “น้องรอง ต่อให้ตอ้ งไปขอโทษสกุลอวีแ้ ทนท่านแม่ ก็สมควรเป็ น
พี่ชายคนนีท้ ่ีออกหน้า เรื่องนีเ้ จ้าไม่ตอ้ งยุ่ง ข้าจะจัดการให้เรียบร้อยเอง”
พูดจบ เขาก็หนั ไปประสานมือคารวะให้เผยเยี่ยน ปู่ สิบสอง อวีเ้ หวินและนายท่านเว่ย
คนละหนึ่งที เอ่ยปากด้วยท่าทางและนํา้ เสียงจริงใจว่า “แม่นางอวีพ้ ดู มีเหตุผล เป็ นข้าที่จดั การ
เรื่องราวอย่างไม่เป็ นกลาง คิดถึงแต่ความลําบากของสกุลตนเพียงฝ่ ายเดียว แต่ไม่เคยคํานึงถึง
มุมของแม่นางอวีม้ าก่อน พวกท่านคิดว่าเช่นนีไ้ ด้หรือไม่ ข้าจะทําบุญอุทิศให้คณ ุ ชายรองสกุล
เว่ยที่วดั เจาหมิงสามวัน จากนัน้ ก็ไปขอโทษสกุลอวีแ้ ทนท่านแม่ของข้า!”
เขามองพวกอวีเ้ หวินอย่างรอคอยคําตอบ
อวีถ้ งั ได้ฟังกลับแสยะยิม้ ในใจ
ตอนที่ ท ะเลาะกับ นางรู ้สึ ก ว่ า การขอโทษเป็ น เรื่ อ งน่ า อับ อาย รอจนหลี่ จ วิ ้น ออก
ความเห็นหลี่ตวนกลับฉวยโอกาสเอาความดีเข้าตัว ใต้หล้ามีเรื่องดีๆ เช่นนีท้ ่ีไหนกัน!
ทุก คนที่ อ ยู่ต รงนี ต้ ่า งกระจ่ า งแจ้ง แก่ ใ จดี ว่ า พวกนางสกุล อวี ต้ ้อ งลํา บากยากเย็ น
เพียงใดกว่าจะได้รบั คําขอโทษจากสกุลหลี่ แต่คนนอกที่รอดูความครึกครืน้ กลับไม่มีใครรับรู ้
เวลานัน้ คงเห็นเพียงหลี่ตวนคุกเข่าร้องขอการอภัยจากสกุลอวีอ้ ยู่ท่ีหน้าประตู คงคิดว่าเขามี
คุณธรรมสูงส่ง กตัญ�ูต่อมารดา รู ว้ ่าสกุลของตนทําเรื่องผิดๆ ก็ยังมาขอรับโทษด้วยความ
จริงใจ!
นางทําอะไรไปตัง้ มากมาย หรือว่าเพียงเพื่อให้หลี่ตวนมาเด็ดลูกท้อได้ช่ือเสียงดีงามไป
ในตอนจบอย่างนัน้ รึ?!
ต่อให้ตอ้ งไปคุกเข่าที่หน้าเรือนนาง ก็ตอ้ งให้หลี่จวิน้ เป็ นคนคุกเข่าถึงจะถูก
562

หลี่ตวนยังเป็ นสุนขั ที่ชอบกินอุจจาระเหมือนเดิม ชาติก่อนก็ทาํ เรื่องทํานองนีม้ านับไม่


ถ้วน
อวีถ้ งั ก้าวออกไปข้างหน้า คิดจะคัดค้าน แต่กลับถูกบิดาดึงเอาไว้เสียก่อน
ก่อนหน้านีท้ ่ีอวีเ้ หวินยินยอมให้อวีถ้ งั ออกหน้า เพราะเขาไม่มีความมั่นใจในสิ่งที่อวีถ้ งั
จะทํา อีกอย่าง อวีถ้ งั มีความแค้นในใจ เขาอยากให้นางได้ระบายมันออกมา ไม่ตอ้ งอัดอัน้ เก็บ
กดเอาไว้ ต่อไปมีแต่จะกลายเป็ นโรคทางใจเสียเปล่าๆ
บัดนี ้ เรื่องราวได้จบลงแล้ว เขาไม่อยากให้บตุ รสาวต้องออกหน้าออกตาอีก
หากว่า เพราะเหตุนี ต้ ้อ งทํา ให้ค หบดี ทุก คนที่ น่ ัง อยู่ท่ี น่ี ต ้องมี ค วามทรงจํา ที่ ไ ม่ดีต่อ
บุตรสาวของตน ต่อให้สกุลอวีข้ องพวกเขาจะทําให้สกุลหลี่ลาํ บากเพียงใด ลงโทษสกุลหลี่
อย่างไร ก็ไม่เพียงพอจะกูค้ ืนชื่อเสียงที่เสียหายไปของบุตรสาวกลับมาได้
อวีถ้ ึงนัน้ แม้จะพูดอยู่บ่อยๆ ว่าไม่ไยดี บอกว่าหากลงมือแล้วก็ตอ้ งทําอย่างเด็ดขาด
แต่เขาก็ปวดใจแทนบุตรสาว กลัวว่านางจะเป็ นอะไรไป เขาไม่กล้าเอานางไปเสี่ยงแน่
“อาถัง!” อวีเ้ หวินทําหน้าเคร่งขรึมแล้วเอ่ยเสียงเบากับนาง “เรื่องนีเ้ จ้าไม่ตอ้ งยื่นมือเข้า
มายุ่งแล้ว เจ้าต้องฟั งข้า มีเรื่องอันใด ข้าจะเป็ นคนคุยกับสกุลหลี่เอง นับแต่นี ้ เจ้าไปยืนนิ่งๆ
เป็ นเด็กดีอยู่หลังอาหย่วนเสีย เหมือนกับตอนที่เจ้าเพิ่งจะเข้ามา เจ้าฟั งเข้าใจแล้วหรือไม่?”
หายากนักที่บิดาจะใช้คาํ พูดนุ่มนวลเช่นนีก้ ับนาง อวีถ้ ังเข้าใจการตัดสินใจของบิดา
ทันที
แต่ในใจนางก็ยงั รูส้ กึ ไม่เป็ นธรรม
“ท่านพ่อเจ้าคะ” นางเรียกบิดาเสียงเบา “ต้องใช้เรื่องอกตัญ�ูเล่นงานเขาให้ได้ ไม่ควร
ปล่อยเขาไปเด็ดขาด”
“ข้ารู แ้ ล้ว” หากบอกว่าแต่ก่อนอวีเ้ หวินรู ส้ ึกชื่นชมหลี่ตวนมากเพียงใด ตอนนีก้ ็รูส้ ึก
ผิดหวังมากเพียงนัน้
563

หลี่อีไ้ ม่อยู่ท่ีจวน หลี่ตวนก็เป็ นบุตรชายคนโตที่ดแู ลสกุลได้ หากจะบอกว่าสิ่งเหล่านีท้ ่ี


สกุลหลี่กระทําไม่มีความเกี่ยวข้องกับเขาแม้แต่กระผีก ใครจะไปเชื่อลงกัน แต่หลี่ตวนทางหนึ่ง
ทําเรื่องเลวๆ ทางหนึ่งก็อยากล้างมลทินให้สะอาด ต่อให้เป็ นพวกแม่นางหอโคมเขียว ก็คงมี
ไม่ก่ีคนที่กล้าทําเช่นนี ้
หลี่ตวน ก็แค่วิญ�ูชนจอมปลอมผูห้ นึ่งเท่านัน้
อวี เ้ หวิ น ตบไหล่ อ วี ถ้ ัง ราวจะปลอบโยนนาง แล้ว ดัน นางไปอยู่เ บื อ้ งหล้ง ก่ อ นจะ
ประสานมือคารวะพวกของเผยเยี่ยนทีละคน “เรื่องเกิดย่อมมีเหตุ แต่ไม่จาํ เป็ นต้องเหมารวม
โดยไม่รูแ้ บ่งแยก การตายของคุณชายสกุลเว่ยคือประเด็นสําคัญ และเป็ นเหตุผลหลักที่พวกเรา
มาที่น่ีในวันนี ้ ส่วนเรื่องที่จะไปขอโทษขอโพยสกุลอวี ้ เป็ นแค่เรื่องรองเท่านัน้ ทว่า ใครเป็ นคนก่อ
เรื่องย่อมต้องเป็ นคนเก็บกวาด ในเมื่อเรื่องลักพาตัวมีคุณชายรองสกุลหลี่เป็ นผูใ้ จร้อนอยาก
ครอบครองหงส์จนก่อเรื่องขึน้ เช่นนัน้ ก็ให้คณ ุ ชายรองสกุลหลี่เป็ นผูแ้ ก้ปัญหาเถิด!”
ความหมายก็คือ ให้หลี่จวิน้ เป็ นคนไปขอขมาสกุลอวี ้
อวีเ้ หวินพูดเอาไว้อย่างชัดเจนเด็ดขาด ทุกคนที่น่ งั อยู่ท่ีน่ีลว้ นมีแต่คนเฉลียวฉลาด ได้
ฟั งแล้วก็ไม่ตอ้ งอธิบายคําใดอีก
ซึง่ ก็ตรงกับใจของเผยเยี่ยนพอดี
สกุลหลี่กล้าเลีย้ งผูล้ ีภ้ ยั เอาไว้มากมายในถิ่นของสกุลเผย ไม่เพียงไร้ความสามารถปิ ด
เรื่องให้มิดชิด ทัง้ ยังทําเหมือนพวกเขาเป็ นคนโง่เง่า จึงต้องให้บทเรียนกับสกุลหลี่เสียบ้าง
แล้วจะสั่งสอนสกุลหลี่อย่างไรดีเล่า?
เช่นนัน้ ก็เริม่ จากบุตรชายคนโตสกุลหลี่ท่ีมีชีวิตรุง่ เรืองดั่งใจเป็ นคนแรกก็แล้วกัน!
เผยเยี่ยนเอ่ยขึน้ หลังดื่มชาไปคําหนึ่ง “นายท่านอวีพ้ ดู จามีเหตุผล คนวัยหนุ่มสาว ใคร
บ้างไม่เคยทําผิด แต่เมื่อผิดแล้วยังรู จ้ ักแก้ รู จ้ ักรับผิดชอบ ย่อมเป็ นเรื่องที่ประเสริฐสุดแล้ว
564

คุณชายรองสกุลหลี่มีความกล้าหาญและตระหนักรู เ้ พียงนี ้ พวกเราที่เป็ นผูอ้ าวุโส ไม่เพียงต้อง


ปกป้องทัง้ ยังต้องส่งเสริมด้วย เช่นนัน้ ก็ตกลงตามนีแ้ ล้วกัน”
หลี่ตวนย่อมไม่พอใจแน่ เขากําลังจะเปิ ดปากพูด แต่ก็ไม่อาจห้ามน้องชายแสนโง่งม
ของตนได้
หลี่จวิน้ ซาบซึง้ จนตาแดงกํ่า เดินขึน้ ไปเบือ้ งหน้าอย่างนอบน้อมแล้วประสานมือก้มตัว
ตํ่าคารวะเผยเยี่ยน ตอนที่เงยหน้าขึน้ มาสายตาก็เต็มไปด้วยความแน่วแน่ “นายท่านสาม ปู่ สิบ
สอง ท่านอาเหอ ข้า ข้าต่อไปจะระวังกิริยาให้ดี ประพฤติตนให้ถูกต้อง จะไม่ก่อเรื่องเช่นนีใ้ ห้
เหล่าผูอ้ าวุโสต้องกังวลใจอีก”
ปู่ สิบสองซึง่ เป็ นบ้านสายตรงของสกุลหลี่ก็เป็ นคนปราดเปรื่อง มิเช่นนัน้ ตัง้ แต่เข้าประตู
มาก็คงไม่ทาํ ตัวเหมือนคนใบ้ เห็นหลี่จวิน้ ทําให้หลี่ตวนต้องหน้าม้านไปทีหนึ่ง ก็รูส้ กึ ว่ามองหลี่
จวิน้ แล้วสบายตาขึน้ เป็ นกอง นํา้ เสียงที่เอ่ยต่อเขาจึงนุ่มนวลมีเมตตากว่าปกติ “เจ้าก็ไม่ตอ้ ง
รู ส้ ึกกังวลไปหรอก นายท่านสามพูดถูกต้องแล้ว ตอนเป็ นหนุ่มสาวใครบ้างไม่เคยทําผิด รู จ้ ัก
แก้ไขให้ถูกเป็ นใช้ได้” จากนัน้ ก็หนั ไปพูดกับอวีเ้ หวินและนายท่านเว่ยเป็ นเชิงช่วยหลี่จวิน้ ว่า
“ท่านทัง้ สองว่าใช่หรือไม่เล่า?”
เรื่องนีเ้ ป็ นเรื่องของสกุลอวี ้ ในเมื่ออวีเ้ หวินออกปากแล้ว นายท่านเว่ยยังจะพูดอะไรได้
อีก?
เขาพยักหน้าหงึกหงัก แล้วถือโอกาสส่งเสริมอวีเ้ หวิน “เจตนารมณ์ของนายท่านอวีก้ ็
เป็ นเช่นนี ้ ในเมื่อทุกท่านคิดเห็นไปในทางเดียวกัน ก็เหมือนกับที่นายท่านสามพูด เรื่องนีก้ ็ให้ตก
ลงตามนีเ้ ถอะ”
นายท่านอูม๋ องแล้วกลับส่ายศีรษะในใจ
คุณชายรองสกุลหลี่ผนู้ ี ้ นับว่าเถรตรงซื่อสัตย์ เป็ นลูกไม้ท่ีหล่นไกลต้นทีเดียว
565

“สมควรยิ่งแล้ว สมควรยิ่งแล้ว!” เหล่าคหบดีชนบทที่น่ งั อยู่ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ ยิ่งมี


บางคนอยากประจบเผยเยี่ยน จึงหันไปกําชับหลี่จวิน้ ว่า “เรื่องนีเ้ จ้าต้องขอบคุณนายท่านสาม
ให้มากเชียวล่ะ นายท่านสามชมชอบผูม้ ีความสามารถ ถึงได้ยอมปกป้องเจ้าเช่นนี ้ ต่อไปเจ้า
ต้องอยู่ในกรอบที่ถกู ต้องดีงาม อย่าได้ทาํ ลายความหวังดีของนายท่านสามล่ะ”
หลี่จวิน้ เอ่ยรับคําไม่หยุดปาก
หน้าผากของหลี่ตวนกลับมีเส้นเลือดปูดขึน้ แทบทนไม่ไหว อยากจะจับน้องชายของ
ตนเองโยนออกไป
ตัง้ แต่เล็กเขาก็รูว้ า่ หลี่จวิน้ นัน้ โง่เง่า แต่ไม่คิดว่าจะโง่เง่าถึงขัน้ นี ้
ไม่ได้ กลับไปเขาต้องบอกเรื่องนีก้ บั บิดา ให้บิดาพาหลี่จวิน้ ติดตามไปด้วย อย่าทิง้ ไว้ท่ี
เรือนคอยสร้างความวุน่ วายให้เขา
หลี่ตวนคิดเอาไว้เป็ นมั่นเหมาะเป็ นเหมาะ ในใจจึงเริ่มรู ส้ ึกดีขึน้ เล็กน้อย จากนัน้ ก็ได้
ยินอวีเ้ หวินพูดว่า “เรื่องขอโทษจบไปแล้ว แต่คุณชายรองสกุลเว่ยไม่ควรจะตายจากไปเช่นนี ้
พวกเราควรจะหารือกันหน่อยหรือไม่วา่ จะลงโทษฆาตกรอย่างไร?”
ทุกคนพากันชะงัก ต่างสบตากันไปมา
เรื่องนีย้ งั ไม่จบอีกหรอกรึ?
แล้วพ่อบ้านใหญ่สกุลหลี่มิใช่ยอมเป็ นแกะดําให้สกุลหลี่แล้วหรือไร?
สกุลอวีย้ งั ต้องการสิ่งใดอีก?
นายท่านอู๋กบั สกุลอวีม้ ีความสัมพันธ์ท่ีดีต่อกัน ทัง้ เป็ นอวีเ้ หวินที่เชิญเขามา แม้เขาเอง
ก็ไม่รูว้ า่ อวีเ้ หวินคิดจะทําอะไร แต่น่ีก็ไม่เป็ นอุปสรรคที่เขาจะออกหน้าช่วยเหลือสกุลอวีอ้ ีกแรง
566

เขากล่าวว่า “หลี่ฮุ่ย เจ้ามีคาํ พูดอะไรก็พดู ออกมาต่อหน้านายท่านสามเสีย เรื่องใดๆ


ล้วนแต่หารือได้ทัง้ สิน้ ! เหมือนเรื่องขอขมาเมื่อครู ่นี ้ สุดท้ายพวกเราก็เห็นพ้องต้องกัน ว่าให้
คุณชายรองสกุลหลี่เป็ นคนขอโทษแทนฮูหยินหลี่มใิ ช่หรือ?”
หลี่ตวนได้ฟังก็อดจะลอบกัดฟั นไม่ได้
นี่พวกเขารวมหัวกันอย่างนัน้ หรือ?
คหบดีพวกนี ้ ทําเช่นนีเ้ พื่อที่จะสอพลอนายท่านสามช่างไร้ยางอายเสียเหลือเกิน
ทัง้ ๆ ที่ดจู ากอายุก็แทบจะเป็ นบิดาของเผยเยี่ยนได้แล้ว แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาก็ทาํ เป็ น
เรียกนายท่านสามอย่างโน้น นายท่านสามอย่างนี ้ คงอดใจแทบตายไม่ให้เผลอเรียกเผยเยี่ยน
ว่า ‘น้องชาย’ กระมัง
เมื่อคิดถึงตรงนี ้ หลี่ตวนก็เริม่ ไม่สบอารมณ์
เมื่อไรกันหนอ ที่เขาจะเป็ นอย่างเผยเยี่ยนได้ เดินไปทางใดก็มีแต่คนนับหน้าถือตาเป็ น
ผูอ้ าวุโส ยกย่องให้เป็ นผูน้ ่าเคารพ…
อวีเ้ หวินรอคํานีอ้ ยู่พอดี จึงเอ่ยอย่างไม่เกรงใจว่า “ผูล้ ีภ้ ยั สองคนกับพ่อบ้านใหญ่ของ
สกุลหลี่สง่ ตัวให้ทางการลงโทษตามระเบียบ นี่ก็เป็ นกฎหมายที่ประชาชนอย่างข้าสมควรยืดถือ
ปฏิบตั ิ แต่อย่างไรเรื่องนีก้ ็เป็ นเพราะสกุลหลี่บกพร่องเรื่องการคุมบริวาร จนทําให้พอ่ บ้านใหญ่
ทําตัวเป็ นจิง้ จอกแอบอ้างบารมีเสือ ไม่รูฟ้ ้าสูงแผ่นดินตํ่า หากไม่ลงโทษให้เข็ดหลาบ ยากจะ
รับประกันว่าจะไม่มีคนแบบพ่อบ้านใหญ่สกุลหลี่โผล่ขึน้ มาอีก ตามความคิดข้า นอกจากจะ
ลงโทษพ่อบ้านใหญ่แล้ว ครอบครัวของพ่อบ้านใหญ่กบั เหล่าสตรีทงั้ หมดก็สมควรถูกขับไล่ออก
จากเรือน เพื่อเป็ นการเชือดไก่ให้ลิงดูถึงจะถูก”
มุมปากของหลี่ตวนแทบจะบิดเบีย้ วด้วยความโมโห
567

ทุกคนต่างรู ก้ ันว่าพ่อบ้านใหญ่ สกุลหลี่เป็ นแพะรับบาปแทนเจ้านาย ยังไม่พูดถึงว่า


เจ้านายไม่เพียงรักษาชีวิตเขาไว้ไม่ได้ กระทั่งญาติพ่ีนอ้ งของเขาก็ปกป้องไม่ได้ดว้ ยซํา้ เช่นนี ้
ต่อไปใครจะกล้ารับใช้พวกเขาสกุลหลี่อีก!
นี่จะต่างอะไรกับการให้มารดาของเขาไปโขกศีรษะขอขมาสกุลอวีเ้ ล่า!
สกุลอวีจ้ ะรังแกผูอ้ ่นื มากเกินไปแล้ว
คิดจริงๆ หรือว่าสกุลหลี่ของพวกเขาจะเกรงกลัวสกุลอวี?้
คําว่า ‘ไม่ได้’ รออยู่ท่ีปากแล้ว ทว่าหูของหลี่ตวนกลับได้ยินเสียงเย็นชาชัดเจนของเผย
เยี่ยนดังขึน้ “ใช้ได้! หนึ่งคนทําผิด ทัง้ สกุลต้องถูกลงโทษ บ้านเมืองเราก็มีกฎ จะได้ตกั เตือนพวก
ไม่รูจ้ ักรักษาระเบียบไปในตัวด้วย ต่อให้รชั ทายาทกระทําผิด ก็ ตอ้ งรับโทษทัณฑ์เช่นเดีย ว
ชาวบ้าน ใครก็ไม่อาจได้รบั การยกเว้น”
“นายท่านสาม!” สีหน้าของหลี่ตวนดําทะมึนเหมือนก้นหม้อ “เรื่องนีค้ วรต้องพูดคุย…”
เพียงแต่ไม่รอให้เขาพูดจบ คนที่ยืนเป็ นเงาอยู่ขา้ งหลังหลี่เหอผูเ้ ป็ นบิดามาตัง้ แต่ตน้ ก็
เดินออกมากล่าวตําหนิหลี่ตวนว่า “ยังไม่หุบปากอีก! ที่นายท่านสามฟั งเจ้าพูด ก็เพราะเขามี
จิตใจกว้างขวาง เห็นแก่ท่ีเจ้าเป็ นผูน้ อ้ ย เจ้าอย่าได้ไม่รูห้ นักเบา ไม่เห็นหัวผูห้ ลักผูใ้ หญ่ เรื่องนีม้ ี
พวกเราบ้านสายตรงตกลงรับปากแทนเจ้าแล้ว เจ้าถอยออกไปเสีย ไม่ตอ้ งพูดจาเหลวไหลอีก”
“ท่านอาเหอ” หลี่ตวนย่อมไม่เห็นหลี่เหออยู่ในสายตา เขาพูดด้วยเสียงอันดังว่า “คน
พวกนัน้ เป็ นบ่าวรับใช้ท่ีจวนข้ามาตัง้ กี่รุ่นแล้ว เหตุใดไม่ถามดีช่ ัวก็ไล่คนออกไปจากจวนเสีย
เล่า…”
หลี่เหอรอโอกาสที่หลี่ตวนจะตกอยู่ในที่น่งั ลําบากเช่นนีม้ าตลอด เขาไม่ยอมให้หลี่ตวน
เอาตัวรอดไปได้ง่ายๆ
เขาเอ่ยเสียงก้องว่า “หลี่ตวน เจ้าคิดจะข้ามหน้าบ้านสายตรงแล้วทําตามใจตัวเอง
อย่างนัน้ รึ?”
568

หลี่ตวนอยากจะตอบออกไปทันทีวา่ ‘ก็ใช่น่ะสิ’
แต่เขาพูดไม่ได้
สายหลักสายรอง ผูใ้ หญ่ ผูน้ อ้ ย เป็ นกฎบ้านที่มีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ หากว่าสิ่งนีถ้ ูก
ทําลายลง ใต้หล้าคงต้องวุน่ วายแน่
ต่อให้ในใจเขาจะไม่แยแสบ้านสายตรงอะไรนั่น แต่ก็ไม่อาจพูดออกมาดังๆ ได้
หลี่ตวนได้แต่หบุ ปากอย่างอัดอัน้ ในใจก็คาํ นวณแล้วว่าสกุลเผยไม่มีทางถือรายชื่อไป
ตรวจนับบ่าวรับใช้ของจวนเขาทีละคนแน่ รอให้ออกไปจากตรงนีไ้ ด้แล้ว เขาต้องคิดหาทางช่วย
พ่อบ้านใหญ่ รวมถึงครอบครัวของพ่อบ้านใหญ่ดว้ ย ตอนนีย้ งั ไม่จาํ เป็ นต้องเปลืองแรงปะทะกับ
พวกเขา
ใจเขาถึงเริม่ สงบลงได้
เผยเยี่ยนถือถ้วยนํา้ ชาอยู่ในมือ เอ่ยเสียงราบเรียบและฟั งชัดว่า “ข้าได้รบั เกียรติจาก
เพื่อนบ้านสกุลอวีแ้ ละสกุลเว่ย สองสกุล เชิญให้มาเป็ นคนกลางตัดสิน ความเห็นของข้าได้
แสดงไว้ต รงนี ้แ ล้ว สกุ ล หลี่ จ ะทํา ตามหรื อ ไม่ … หนึ่ ง ข้า มิ ใ ช่ ขุ น นํ้า ขุ น นาง สองก็ มิ ไ ด้เ ป็ น
ผูต้ รวจการใดๆ สุดท้ายก็ตอ้ งอยู่ท่ีสกุลหลี่แล้ว เรื่องวันนีก้ ็ขอให้พอเท่านีเ้ ถอะ ข้ายังอยู่ในช่วงไว้
ทุกข์ ไม่สะดวกเชิญทุกท่านดื่มสุรา วันนีข้ อไม่รงั้ ตัวทุกท่านไว้ รอให้พน้ ช่วงนีไ้ ป ค่อยขอเป็ นเจ้า
มือ้ เลีย้ งสุรามือ้ ใหญ่ ถึงเวลานัน้ ขอพวกท่านอย่าได้รงั เกียจและสละเวลามาร่วมงานด้วย”
นี่คือวาจาส่งแขก
“นายท่านสามเกรงใจเกินไปแล้ว!”
“ต้องมาแน่ ต้องมาแน่!”
“เช่นนัน้ เชิญท่านไปพักผ่อนเถิด พวกข้าขอตัวลา!”
ทุกคนต่างทยอยลุกยืนขึน้
569

เผยเยี่ยนก็ไม่มีทีท่าเกรงใจใคร เขาลุกยืนขึน้ เพื่อเป็ นการส่งแขก


หากเป็ นเมื่อก่อนท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผยล้วนแต่ไปส่งทุกคนถึงหน้าประตูดว้ ยตนเอง
คหบดีชนบทเหล่านีไ้ ม่คอ่ ยจะคุน้ เคย แต่เห็นแก่ท่ีเผยเยี่ยนอายุยงั น้อย ทัง้ ยังเป็ นจิน้ ซื่อ
สองป้าย จึงคิดว่านี่ก็สมเหตุสมผลดี
หลังจากอวีเ้ หวินกับนายท่านเว่ยกล่าวขอบคุณเผยเยี่ยนอย่างเป็ นกิจลักษณะแล้ว ก็
เดินตามคนอื่นๆ ออกไป ทว่ากลับถูกเผยเยี่ยนเรียกเอาไว้กอ่ น “นายท่านอวี ้ โปรดอยู่ก่อน ข้ายัง
มีเรื่องเล็กน้อยอยากขอคําชีแ้ นะ!”
570

บทที่ 70 บานประตู
เหล่าคหบดีคิดได้วา่ เมื่อครูเ่ ผยเยี่ยนก็ออกตัวปกป้องสกุลอวีอ้ ย่างชัดเจน พอได้ยินเผย
เยี่ยนรัง้ ตัวอวีเ้ หวินไว้เพื่อพูดคุยเป็ นการส่วนตัว สายตาที่มองอวีเ้ หวินจึงเจือกระแสอิจฉาอยู่
หลายส่วน
เป็ น ดัง คํา ที่ ว่า ไว้ ฮ่ อ งเต้อ งค์ใ ดย่ อมใช้ขุน นางชุด นั้น 1 ทั้ง คนในสกุล และสถานที่ ก็
124

เช่นเดียวกัน ใครได้กมุ อํานาจ ย่อมจะเลือกใช้ไม่ก่ีคนที่ตนรูจ้ กั คุน้ เคยหรือว่าชื่นชม เผยเยี่ยน


เพิ่งจะมารับหน้าที่ผนู้ าํ สกุล ทัง้ ยังอยู่ในช่วงไว้ทกุ ข์ จึงไม่ได้มีงานเลีย้ งฉลองใหญ่โต บวกกับแต่
ก่อนเขาก็เป็ นคนเย่อหยิ่ง ซํา้ ไม่ใช่บตุ รคนแรก พี่ชายคนโตของเผยเยี่ยนยังเป็ นผูเ้ พียบพร้อมทัง้
คุณธรรมและความสามารถ ใครต่างก็คาดไม่ถึงว่าตําแหน่งผูน้ าํ สกุลจะมาตกที่เผยเยี่ยนได้ ผล
สุดท้ายจึงไม่มีใครสนิทสนมกับเผยเยี่ยน ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึงการไปมาหาสู่ บัดนีแ้ ต่ละคนต่าง
พยายามทุกทางเพื่อหาวิธีเข้าใกล้และพูดคุยกับเขา ทว่าจู่ๆ อวีเ้ หวินกลับได้รบั โอกาสนัน้ ไป
ใครบ้างจะไม่สะเทือนใจเล่า?
โดยเฉพาะนายท่านอู๋ เขาเป็ นเพื่อนบ้านของสกุลอวี ้ ครัง้ นีก้ ็เสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือ
สกุลอวีไ้ ว้ไม่นอ้ ย ทัง้ แต่ไรก็เป็ นคนมีไหวพริบเฉลียวฉลาด ได้ยินดังนัน้ ก็ผลักหลังอวีเ้ หวินทันที
แล้วกระซิบบอกเขาเสียงเบาว่า “ข้ากับนายท่านเว่ยจะพาพวกเด็กๆ ไปรอเจ้าด้านนอก เจ้ามี
เรื่องอะไรก็สง่ สัญญาณแล้วกัน”
อวีเ้ หวินกลับมีแต่หมอกปกคลุมเต็มหน้า
ก่อนหน้านีด้ ว้ ยเรื่องรักษาอาการป่ วยของภรรยาเขาพยายามเข้าหาเผยเยี่ยนเพื่อกล่าว
ขอบคุณครัง้ แล้วครัง้ เล่า แต่เห็นได้ชดั ว่าเผยเยี่ยนคร้านจะสนใจเขา บัดนีเ้ ขาคิดได้แล้วว่ามิตร

1
ฮ่องเต้องค์ใดย่อมใช้ขุนนางชุดนั้น เป็ นสํานวนหมายถึง ใครขึน้ มาครองความเป็ นใหญ่ ย่อมจะเปลี่ยนมาใช้ค นของ
ตนเอง
571

ไมตรีระหว่างวิญ�ูชนก็บางเบาดั่งสายนํา้ แต่เผยเยี่ยนกลับมารัง้ ตัวเขาไว้ต่อหน้าคนมากมาย


เสียนี่
เขาไม่ คิ ด ว่า เผยเยี่ ย นกํา ลัง แสดงไมตรีต่ อ เขา แต่ค งเพราะต้อ งการสอบถามเรื่อง
บางอย่างระหว่างสกุลอวีก้ บั สกุลหลี่มากกว่า?
เป็ นเพราะเรื่องนีน้ บั แต่สืบสวนจนถึงตามจับคน แม้แต่การเชิญให้เผยเยี่ยนมาเป็ นคน
กลางตัดสินล้วนเป็ นความคิดของอวีถ้ งั ทัง้ สิน้ เขาจึงอดจะหันไปมองอวีถ้ งั ทีหนึ่งไม่ได้
อวีถ้ ังก็ไม่รูว้ ่าเผยเยี่ยนจะมาไม้ไหนอีก แต่เขารัง้ ตัวบิดาของนางไว้พดู คุยต่อหน้าคน
มากมายเช่นนี ้ ตามหลักแล้วพวกนางย่อมไม่อาจหักหน้าเผยเยี่ยนได้
นางได้แต่กระซิบบอกบิดา “ขอเพียงไม่ขดั แย้งกับเรื่องเมื่อครู ่ ท่านก็ตอบรับไปเถิดเจ้า
ค่ะ นายท่านสามนับว่ามีบญ
ุ คุณใหญ่หลวงต่อสกุลเรา”
อย่างอื่นไม่พดู ถึง ทุกๆ เดือนก็ตอ้ งอาศัยท่านแม่เฒ่าสกุลเผยถึงจะได้ฟังคําว่ามารดา
ปลอดภัยจากปากหยางโต่วซิง!
อวีเ้ หวินขบคิด วิญ�ูชนนัน้ ไม่มีเรื่องใดที่พดู คุยอย่างเปิ ดเผยมิได้อยู่แล้ว หาได้มีสิ่งใด
ต้องกลัวไม่ เมื่อคิดได้เช่นนีใ้ จก็ผ่อนคลายลง หันไปกล่าวขอบคุณทุกคนที่มาร่วมเป็ นพยานด้วย
รอยยิม้ แล้วกําชับกับอวีถ้ งั และอวีห้ ย่วนว่า “อย่าวิ่งไปทั่ว” ก่อนจะหันไปกระซิบกับนายท่านเว่ย
และนายท่านอูเ๋ ป็ นทํานองว่า “รอข้าออกมาก่อน” จากนัน้ ก็รงั้ ตัวอยู่ท่ีเรือนรับรอง
เผยเยี่ยนคอยสังเกตท่าทีของพ่อลูกสกุลอวีอ้ ยู่ตลอด เห็นว่าแค่เขารัง้ ตัวอวีเ้ หวินไว้
พูดคุย อวีเ้ หวินยังต้องมองหน้าบุตรสาวทีหนึ่ง ในใจเขาเริ่มมีลางสังหรณ์แปลกๆ แต่นิสยั เขาก็
เป็ นเช่นนี ้ หากมีสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ ก็ตอ้ งซักถามให้กระจ่าง ไม่ว่าพ่อลูกสกุลอวีจ้ ะมีอะไรปิ ดบัง
อยู่ เขาไม่มีทางปล่อยผ่านไปง่ายๆ แน่
เขาสั่งต่อว่า “เชิญนายท่านอูก๋ บั นายท่านเว่ยไปดื่มชารอที่โถงบุปผาข้างๆ ก่อน พวกเรา
คุยกันไม่นานก็เสร็จแล้ว”
572

ประโยคสุดท้าย เผยเยี่ยนหันมาบอกกับพวกอวีถ้ งั
นายท่านอูก๋ าํ ลังกลัดกลุม้ ที่ไม่อาจหาโอกาสคุยกับเผยเยี่ยนได้ ได้ยินดังนัน้ ก็เหมือนกับ
คนที่สปั หงกง่วงนอนอยู่แล้วจู่ๆ ก็มีหมอนยื่นมาให้ ด้วยกลัวว่าพวกอวีถ้ งั กับนายท่านเว่ยจะไม่รู ้
หนักเบา โยนทิง้ โอกาสไปง่ายๆ ไม่รอให้นายท่านเว่ยเปิ ดปาก ก็รบี หันไปประสานมือคารวะเผย
เยี่ยน พร้อมเอ่ยด้วยรอยยิม้ ว่า “เช่นนัน้ ก็รบกวนนายท่านสามแล้ว”
เผยเยี่ยนพยักหน้ารับน้อยๆ
นายท่านอูล๋ ากแขนนายท่านเว่ยออกจากเรือนรับรองไป
แต่ว่านอกเรือนรับรองมีทงั้ สะพานข้ามธารนํา้ เล็กๆ ภูเขาจําลองซับซ้อนหลายลูก รอบ
ด้านโอบล้อมด้วยทิวทัศน์นานา พลันทําให้คนไม่อาจแยกเยอะเหนือใต้ออกตก ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึง
โถงบุปผาที่เผยเยี่ยนเอ่ยถึง
บ่าวรับใช้ท่ีนาํ ทางเม้มปากกลัน้ ยิม้ เอ่ยด้วยนํา้ เสียงไม่ขาดความเคารพว่า “นายท่าน
ทัง้ สองโปรดตามข้ามาทางนีข้ อรับ”
“อ้อ! อ้อ!” นายท่านเว่ยส่งเสียงตอบ พลางจัดแจงเสือ้ ผ้าให้เข้าที่ คิดว่าคงไม่มีใครเห็น
เรื่องน่าอายของตนเมื่อครู ่ ถึงได้เดินนําหน้าทุกคนออกไป บ่าวรับใช้พาพวกเขาเดินผ่านระเบียง
ยาวสีแดงที่แสนจะคดเคีย้ ว ผ่านกําแพงดอกไม้ จนมาถึงด้านหน้าโถงบุปผาที่บานประตูส่ีดา้ น
ฝังกระจกหลากสีเอาไว้
“สวรรค์!” นายท่านอู๋เห็นแล้วก็ตาโตทันที “นี่ นี่ตอ้ งใช้เงินเท่าใดกัน?” พูดจบ ก็รูต้ วั ว่า
ตนเสียมารยาทอีกครัง้ จึงเร่งร้อนอธิบายต่อนายท่านเว่ยว่า “กระจกหลากสีเช่นนีข้ า้ ก็เคยเห็น
อยู่ ตอนนัน้ ที่จวนขุนนางในเมืองหลวง ครัง้ ก่อนข้ามาจวนสกุลเผยตรงนีค้ ล้ายจะกรุดว้ ยผ้าแพร
อยู่เลย บัดนีเ้ ปลี่ยนเป็ นกระจกหลากสีเสียแล้วรึ พืน้ ที่แค่ตารางฉื่อเดียวก็ตอ้ งใช้เงินห้าสิบตําลึง
แล้ว ไม่ตอ้ งพูดถึงขนาดใหญ่โตเช่นนี ้ เกรงว่าแค่มีเงินอย่างเดียวคงจะหาซือ้ ไม่ได้ ดูใหญ่โต
หรูหรากว่าจวนขุนนางในเมืองหลวงอยู่อกั โขทีเดียว!”
573

นายท่านเว่ยไม่ได้สนใจวาจาพรํ่าเพรื่อของนายท่านอู๋ เขายังรู ส้ ึกเป็ นห่วงอวีเ้ หวินอยู่


แต่เพราะถูกบานประตูกระจกหลากสีตรงหน้าทําเอาตื่นตะลึง สายตาได้แต่จดจ้องบานประตู
ส่วนปากก็พมึ พําออกมาว่า “นี่ช่างงดงามเหลือเกิน! ทั่วทัง้ เมืองหลินอันคงมีแค่ท่ีเดียวกระมัง?
ดูภาพวาดด้านบนนั่นสิ ใช่ภาพสี่ช่ งั เหมยเซา 2หรือไม่? ทัง้ ยังปิ ดทองคําเปลวอีกด้วย แล้วปิ ดลง
125

ไปได้อย่างไรเล่านั่น? งานฝี มือเช่นนี ้ เป็ นของชาวนอกทะเลหรือไม่? ข้าเพิ่งเคยเห็นเป็ นครัง้ แรก


เลยเชียว”
อวีถ้ งั อวีห้ ย่วน รวมถึงเว่ยเสี่ยวหยวนต่างก็ถกู ประตูกระจกทําเอาตะลึงตะลานไปแล้ว
อวีห้ ย่วนกับเว่ยเสี่ยวหยวนก็เพิ่งเคยเห็นเป็ นครัง้ แรก อวีถ้ ังนัน้ อดคิดถึงเรื่องเมื่อชาติ
ก่อนขึน้ มาได้
หลังจากที่สกุลหลี่ทาํ การค้าทางทะเลจนรํ่ารวย ก็เคยเปลี่ยนบานประตูโถงบุปผามา
เป็ นกระจกหลากสีเช่นนี ้ ทว่าโถงบุปผาของสกุลหลี่ไม่เหมือนเช่นสกุลเผย โถงบุปผาของสกุลห
ลี่ฝังกระจกเพียงด้านหน้าแปดบาน แต่ของสกุลเผยนี ้ ไม่เพียงสี่ดา้ นที่เป็ นบานประตู ทัง้ ทิศ
ตะวันตกและทิศตะวันออกมีฝ่ ังละสิบสองบาน ทิศเหนือและทิศใต้มีฝ่ ังละยี่สิบแปดบาน…บาน
ประตูของสกุลหลี่มีภาพสี่สุภาพบุรุษเเห่งมวลบุปผาคือ ดอกเหมย ดอกกล้วยไม้ ต้นไผ่ และ
ดอกเบญจมาศ แต่บานประตูของสกุลเผยกลับซับซ้อนกว่านั้นมากนัก นอกจากมวลบุปผา
ส่วนมากก็จะเป็ นเหล่าสกุณา นกยูง และนกกระเรียนขาวเป็ นส่วนใหญ่ พวกขนนกนัน้ ล้วนวาด
ออกมาอย่างประณีต งดงามสูงค่า เมื่อแสงสาดมากระทบ ก็เกิดเป็ นประกายระยิบระยับ ราว
กับสมบัติลา้ํ ค่าเลยทีเดียว
บานประตูของสกุลหลี่นนั้ เห็นชัดว่าวาดเสือไม่เหมือน กลับคล้ายหมามากกว่า 3 126

2
ชั่งเหมยเซา เป็ นภาพวาดที่มีรูปดอกเหมยและนกสาลิกา แสดงถึงความยินดีปรีดา มักมอบให้เพื่อเป็ นคําอวยพรแก่ผรู้ บั
3
วาดเสือไม่เหมือน กลับคล้ายหมา เป็ นสํานวน เปรียบถึงการเลียนแบบในสิ่งที่ไกลเกินกว่าความสามารถของตน กลับดู
ไม่จืดแทน
574

แม้จะเป็ น เช่น นั้น แต่ฮูห ยิ น หลี่ก็ มัก จะพูดกับแขกที่ มาเยื อนอย่างภูมิ ใจนักหนาว่า
“นําเข้ามาจากนอกทะเลโน้น แพงกว่าทองคําเสียอีก ยังต้องหาช่างผูเ้ ชี่ยวชาญมาทําโดยเฉพาะ
ไม่ อ ย่ า งนั้น เจ้า คงจะได้เ ห็ น ภาพสตรี น อกทะเลที่ ผ มเหลื อ งตาเขี ย วแทน ช่ า งอัป ลัก ษณ์
เหลือเกิน”
บานประตูเหล่านีข้ องสกุลเผยก็คงสั่งทําเป็ นพิเศษเช่นเดียวกัน จากนั้นก็ขนส่งข้าม
ทะเลกลับมา!
เช่นนัน้ เวลานีส้ กุลเผยก็คงเริม่ มีการติดต่อและไปมาหาสูก่ บั พวกพ่อค้าทางทะเลแล้ว
อย่างน้อย สกุลเผยก็เป็ นลูกค้ารายใหญ่ของพวกพ่อค้าเหล่านัน้
อวีถ้ งั อดจะประหลาดใจไม่ได้
บ่าวรับใช้ท่ีนาํ ทางเพิ่งเคยเห็นแขกผูม้ าเยือนแสดงสีหน้าตื่นตกใจเช่นนีเ้ ป็ นครัง้ แรก
เขาปล่อยให้บรรดาแขกพิจารณาบานประตูตามใจชอบ ก่อนจะเอ่ยปากด้วยความ
ภาคภูมิใจว่า “สิ่งเหล่านีล้ ว้ นเป็ นนายท่านสามที่นาํ กลับมาแสดงความกตัญ�ูต่อท่านผูเ้ ฒ่า
ขอรับ หลังจากที่ท่านผูเ้ ฒ่าจากไป นายท่านสามคิดจะเปลี่ยนบานประตูเหล่านีเ้ ป็ นบานกระจก
ขาวล้วน แต่ท่านแม่เฒ่าพูดแล้วว่า ท่านผูเ้ ฒ่าตอนที่มีชีวิตก็ชอบมานั่งเล่นกับครอบครัวและ
สหายที่โถงนีเ้ ป็ นที่สดุ หากว่านายท่านสามอยากแสดงความกตัญ�ู ก็สมควรรักษาสิ่งที่ท่านผู้
เฒ่าชื่นชอบเอาไว้ ” พูดถึงตรงนี ้ บ่าวรับใช้ผนู้ นั้ ก็คล้ายนึกถึงเรื่องราวในตอนนัน้ ออก เขาหลุด
หัวเราะ ‘พรืด’ ออกมาแล้วเอ่ยต่อ “นายท่านสามยังบอกอีกว่า ในเมื่อท่านผูเ้ ฒ่าชมชอบเพียงนี ้
ก็ฝังไปเป็ นเพื่อนท่านผูเ้ ฒ่าเลยยิ่งดี ท่านแม่เฒ่าไม่เห็นด้วย บอกว่านายท่านสามกําลังท้าทาย
ท่านผูเ้ ฒ่าอยู่ ทัง้ ๆ ที่ท่านผูเ้ ฒ่าชอบโอ้อวดต่อญาติๆ และสหายว่าบานประตูเหล่านีเ้ ป็ นสิ่งที่
นายท่านสามนํามาแสดงความกตัญ�ูต่อเขา นายท่านสามก็ยงั จะฉีกหน้าท่านผูเ้ ฒ่าเสียให้ได้
ภายหลังเป็ นนายท่านรองที่ออกหน้าเป็ นคนตัดสิน แล้วให้เก็บบานประตูพวกนีไ้ ว้ตามเดิม”
575

นายท่านอู๋หวั เราะเหอะๆ แล้วชวนบ่าวรับใช้คยุ ไปเรื่อยเปื่ อยว่า “ถูกต้อง ถูกต้อง หาก


ข้ามีบุตรชายเช่นนีส้ กั คน แขกมาทีหนึ่งก็คงโอ้อวดไปทีหนึ่งเช่นกัน ทว่า นายท่านสามช่างมือ
เติบเหลือเกิน แค่โถงบุปผาห้องหนึ่ง คงต้องสิน้ เปลืองไม่นอ้ ยเลยทีเดียว?”
“ขอรับ!” บ่าวรับใช้ผนู้ ีห้ าใช่ตอ้ นรับแขกเหรื่อเช่นนีเ้ ป็ นครัง้ แรก เมื่อเชิญพวกเขาเข้าโถง
บุปผาแล้วก็รีบชีฝ้ า้ เพดานให้ดอู ย่างคล่องแคล่ว “พวกท่านดูสิขอรับ โคมไฟก็เป็ นกระจกสี พอ
ตกกลางคืนแล้วจุดเทียนไข ภาพนัน้ ยังงดงามยิ่งกว่าพลุดอกไม้ไฟเสียอีก แล้วพวกท่านลองดู
บนชัน้ วางของสิขอรับ งาช้างนัน้ ยาวกว่าสองลําแขนคน ยากจะได้เห็นบ่อยๆ นี่ก็คือสิ่งที่นาย
ท่านสามแสดงความกตัญ�ูต่อท่านผูเ้ ฒ่า ยังมีแปดสัญลักษณ์มงคลทางด้านโน้น มิใช่อย่างที่
เห็นในวัดนะขอรับ ล้วนนําเข้ามาจากนอกทะเลทัง้ สิน้ ”
นายท่านเว่ยยังไม่เท่าไร แต่นายท่านอู๋นนั้ เป็ นพ่อค้า พลันได้กลิ่นสิ่งของที่ต่างออกไป
ทันที
เขาแสร้งถามบ่าวรับใช้คนนัน้ อย่างไม่ใส่ใจว่า “ของหายากเช่นนี ้ นายท่านสามของเจ้า
ไปหามาจากไหนหรือ?”
บ่าวรับใช้ยืดอกอย่างภาคภูมิใจ “ย่อมขนมาจากเมืองหลวงขอรับ ศิษย์พ่ีรองของนาย
ท่านสามเป็ นเก๋อเหล่า 4คนปั จจุบนั นายท่านสามเองก็เป็ นศิษย์สายตรงของเจ้ากรมจาง ต่างมี
127

สัมพันธ์แน่นแฟ้นกับเหล่าศิษย์พ่ี นายท่านสามอยากจะหาของแปลกหายากสักชิน้ เพียงแค่


ขยับปากเล็กน้อยก็ได้แล้ว พวกคนในเมืองหลวงที่ทาํ การค้าทางทะเลคนไหนบ้างจะไม่รีบส่ง
ของมาให้นายท่านสามเล่าขอรับ!” พูดถึงตรงนี ้ เขาก็ถอนหายใจเฮือก “ก็ไม่แปลกที่นายท่าน
สามจะกลับมาอยู่ท่ีน่ีแล้วไม่คนุ้ ชิน ผูท้ ่ีเคยผ่านการใช้ชีวิตอย่างหรู หรามาก่อน พอกลับมาอยู่
เมืองอย่างเช่นหลินอันนีย้ ่อมปรับตัวไม่ทันเป็ นธรรมดา ดังนั้นท่านแม่เฒ่าจึงพูดติดปากอยู่
เสมอว่านายท่านสามเป็ นคนกตัญ�ู ก่อนที่ท่านผูเ้ ฒ่าจะสิน้ ก็ทิง้ ธุระกองโตไว้ให้นายท่านสาม

4
เก๋อเหล่า เป็ นชื่อที่ใช้เรียกมหาบัณฑิตของหอเน่ยเก๋อซึง่ เป็ นระบบราชการในสมัยนัน้ มีอาํ นาจเหนือหกกรม
576

จัดการ นายท่านสามแม้ปากบอกไม่เต็มใจ แต่ก็ลาออกจากราชการ แล้วกลับมาทําหน้าที่ผนู้ าํ


สกุลนะขอรับ”
มิใช่วา่ อยู่ในช่วงไว้ทกุ ข์หรือ? เหตุใดเปลี่ยนเป็ นลาออกจากราชการได้เล่า?
นายท่านอูอ๋ ดเอ่ยปากไม่ได้วา่ “นายท่านสามของเจ้าจะไม่กลับไปรับราชการแล้วรึ?”
บ่าวรับใช้กล่าวยิม้ ๆ ว่า “สกุลเผยมีกฎบ้านเขียนเอาไว้ ผูร้ บั ตําแหน่งผูน้ าํ สกุลต้องอยู่ท่ี
จวนคอยดูแลธุระต่างๆ ไม่อนุญาตให้ออกไปรับราชการข้างนอกขอรับ”
ทุกคนต่างตะลึงงัน แม้จะประหลาดใจแต่ก็เริม่ คล้อยตามไปด้วย
สกุลใหญ่ๆ หลายสกุลล้วนเป็ นเช่นนี ้ เมื่อนั่งตําแหน่งผูน้ าํ สกุลก็ตอ้ งรัง้ ตัวคอยดูแล
กิจการอยู่ท่ีจวน ไม่อาจรับราชการด้านนอกอีก แต่สิ่งที่ทาํ ให้ทกุ คนประหลาดใจ คือการให้นาย
ท่านสามที่แสนเก่งกาจและอายุยงั น้อยเป็ นผูม้ ารับช่วงต่อ นี่ออกจะน่าเสียดายไปหน่อยกระมัง
เมื่อคิดได้เช่นนี ้ เสียงซุบซิบนินทาด้านนอกนั่นก็ฟังดูไม่คอ่ ยเข้าทีแล้ว
ตํา แหน่ ง ผู้น าํ สกุล ย่ อ มสํา คัญ แต่ ห ากสามารถเดิ น บนเส้น ทางขุน นางได้อ ย่ า งไร้
ขีดจํากัด ทิง้ ชื่อไว้บนหน้าประวัติศาสตร์ นี่มิใช่เป็ นการพิสจู น์คุณค่าของตนได้ดีกว่าการเป็ น
ผูน้ าํ สกุลที่คอยเฝ้ากิจการหรอกหรือ?
เผยเยี่ยนได้เป็ นผูน้ าํ สกุลเผย แต่เขาก็ตอ้ งเสียสละบางสิ่ง นี่อาจไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
อวีถ้ ังคล้ายถูกบางอย่างพุ่งเข้าชนใส่ศีรษะ ความคิดหลายอย่างทะลักเข้ามาไม่หยุด
ชั่วขณะหนึ่งพลันจับไม่ได้เลยว่าตนเองกําลังคิดอะไรอยู่กนั แน่
ชาติก่อน เผยเยี่ยนไม่ได้กลับไปรับราชการอีก นางคิดว่าสมด้วยเหตุและผลแล้ว แต่
บัดนีม้ าลองคิดดู กลับเห็นว่ามีบางอย่างให้ความรูส้ กึ แปลกออกไป
แม้ท่านผูเ้ ฒ่าดูแล้วคล้ายจะลําเอียงไปหาเผยเยี่ยน แต่น่ีเป็ นการตัดอนาคตขุนนางของ
เขา ทัง้ บ้านใหญ่ทางนัน้ ที่ดเู หมือนต้องสูญเสียตําแหน่งผูน้ าํ สกุลไป ทว่าคุณชายทัง้ สองคนก็
577

ยังเข้าร่วมสอบเคอจวี่ได้อย่างอิสระ รับราชการเป็ นขุนนางได้สมดังใจ ส่วนนายท่านรอง ฟั งจาก


ข่าวลือว่าเขาเป็ นคนไร้ความสามารถที่สดุ ในบรรดาพี่นอ้ ง เหตุใดจึงไม่ให้เขารัง้ ตัวอยู่เพื่อคอย
ดูแลกิจการเสียเล่า?
บ้านใหญ่กบั บ้านรองดูเหมือนได้รบั การปฏิบตั ิอย่างไม่เป็ นธรรม แต่ผทู้ ่ีถกู ขังไว้กบั จวน
จริงๆ คือนายท่านสามเผยเยี่ยน อีกทัง้ มีความเป็ นไปได้สงู ว่า ลูกหลานรุ ่นหลังของเผยเยี่ยน
อาจจะถูกขังไว้ในเมืองหลินอันเท่านัน้
ในสมองของอวีถ้ ังพลันปรากฏดวงหน้าของเผยเยี่ยนที่มักจะเจือความเย็นชาถึงขั้น
อึมครึมเอาไว้อยู่เสมอ
หรือเพราะด้วยเหตุนี ้ เขาถึงไม่คอ่ ยมีความสุขนัก?
หัวใจของอวีถ้ งั เต้นไม่เป็ นจังหวะ เหมือนว่าตนเองได้แอบเห็นอะไรบางอย่างเข้าโดย
ไม่ได้ตงั้ ใจ
578

บทที่ 71 ฝากฝั ง
แน่นอนว่าอวีเ้ หวินที่อยู่ในโถงรับรองไม่มีทางรับรูถ้ ึงเรื่องที่เกิดขึน้ ในโถงบุปผา
เขากําลังเริ่มตอบคําถามของเผยเยี่ยนอย่างเป็ นทางการ “…ล้วนเป็ นความคิดของ
บุตรสาวข้าทั้งสิน้ เริ่มแรกข้าก็ไม่เห็นด้วย สาเหตุหลักเพราะกลัวนางจะถูกคนเอาไปซุบซิบ
นินทา แต่นางก็ยงั ดึงดัน บอกว่าต่อไปต้องแต่งเขยชายเข้าสกุล หากนางไม่ทาํ ตัวให้เก่งกาจ
ต่อไปคงคุมผูท้ ่ีแต่งเข้ามาไม่อยู่แน่ ข้ากับลุงของนางหารือกันอยูค่ รึง่ ค่อนวัน รูส้ กึ ว่าที่นางพูดก็มี
เหตุผล อีกอย่างพวกข้าสองพี่นอ้ งก็คิดหาวิธีท่ีดีกว่านางไม่ออก จึงตอบตกลงไปเช่นนัน้ ” พูดจบ
เขาก็กลัวเผยเยี่ยนจะคิดว่าบุตรสาวตนกล้าแกร่งเกินไป อาจมีภาพความทรงจําที่เป็ นลบต่อ
นาง ต่อไปหากบุตรสาวขึน้ เป็ นเจ้าบ้าน สกุลอวีเ้ จอปั ญหาใดเข้า เผยเยี่ย นอาจจะไม่ยินดี
คุม้ ครองนางอีก ถึงได้รีบแก้ต่างให้บตุ รสาวว่า “ท่านอย่าได้มองว่าวันนีน้ างเอาแต่ใจ ทําการใด
ไม่มีเหตุผล ปกติแล้วนางมิได้เป็ นเช่นนี ้ นิสยั นางเนือ้ แท้เป็ นคนสนุกสนานร่าเริง ทัง้ ยังเอาใจใส่
ผูอ้ ่ืน มิเช่นนัน้ พวกเราสองสามีภรรยาคงไม่คิดเก็บนางเอาไว้กบั เรือนเช่นนี ้ วันนีท้ ่ีนางทําลงไป
ทัง้ หมดเพราะต้องการให้หลี่ตวนติดกับ ถึงได้จงใจทําเช่นนัน้ ”
เผยเยี่ยนพยักหน้า ในใจกลับสับสนไปหมด คล้ายมีตน้ หญ้างอกออกมาพันกันจน
วุน่ วาย
ที่แท้ทงั้ หมดนีก้ ็เป็ นความคิดของแม่นางอวีจ้ ริงๆ
นางมิได้ผิดไปจากลางสังหรณ์ท่ีเขามีตอ่ นางเลย!
ทัง้ ใจกล้าและไร้ซง่ึ ความกลัว!
ต่อให้เป็ นบุรุษทั่วไป เกรงว่าคงกล้าหาญได้ไม่เท่านาง
ทว่า ทัง้ บิดาและญาติผูพ้ ่ีของนางก็ตามใจนางเกินไป เรื่องใหญ่เช่นนี ้ กลับปล่อยให้
นางก่อความวุน่ วายตามใจชอบ
579

หากว่าหลี่ตวนฉลาดกว่านีอ้ ีกหน่อย หรือหลี่จวิน้ เจ้าเล่หก์ ว่านีส้ กั นิด เรื่องวันนีส้ กุลอวี ้


ก็เลิกคิดที่จะจบอย่างสวยงามไปได้เลย
หรือว่าแม่นางอวีไ้ ม่เคยคิดถึงผลที่จะตามมาหากว่าแผนทุกอย่างล้มเหลว?
เผยเยี่ยนคิดถึงตรงนีก้ ็อดไม่ได้ท่ีจะมองอีเ้ หวินอย่างพิจารณาอีกครัง้ หนึ่ง
ลักษณะท่าทางเหมือนบัณฑิตเจียงหนานทั่วไป ดูแลตัวเองเป็ นอย่างดี ในความสง่า
งามแฝงท่าทีสบายๆ มองรู ท้ นั ทีว่าเป็ นคนไม่อาจอดทนกับเรื่องจุกจิกได้ วันๆ คงใช้ชีวิตอย่าง
เลื่อนลอย แต่กลับเชื่อมั่นและรักในตัวบุตรสาวอย่างเต็มเปี่ ยม ถึงได้ปล่อยปละตามใจนางเพียง
นี ้
บางทีอาจเพราะเหตุผลนี ้ ถึงได้เลีย้ งบุตรสาวให้เติบโตมาเป็ นคนไม่เกรงกลัวฟ้าดิน
อย่างแม่นางอวีไ้ ด้
หากเป็ นครอบครัวที่บิดามารดาอ่อนแอ บุตรีลว้ นแต่จะขลาดกลัวไปหมด
เผยเยี่ยนอดจะกล่าวไม่ได้ว่า “แม่นางอวีเ้ คยคิดบ้างหรือไม่ว่าหากสกุลหลี่ไม่หลงกล
พวกเจ้ามีแผนจะทําอย่างไรต่อ?”
อวีเ้ หวินย่อมไม่ปล่อยให้เผยเยี่ยนสงสัยในตัวบุตรสาว…สกุลอวีห้ ากยังต้องอยู่เมือง
หลินอันอีกหนึ่งวัน ไม่สิ ต่อให้ไม่อยู่ในเมืองหลินอัน พวกเขากับสกุลเผยก็นบั ว่ามีไมตรีระหว่าง
เพื่อนบ้าน จะต้องรักษาความสัมพันธ์อนั ดีกบั สกุลเผยไว้ ก็เหมือนตอนที่อยู่เมืองหังโจว ดึกดื่น
คํ่าคืนที่อวีถ้ ังท้องเสีย หากไม่ใช่ถือป้ายชื่อของนายท่านสามสกุลเผยไป มีหรือจะเชิญหมอ
หลวงให้มาตรวจอาการได้?
ไมตรีจิตเช่นนี ้ ไม่วา่ เมื่อไรก็ไม่อาจยอมให้หลุดมือไปได้เลย!
“ต้องคิดเอาไว้แล้วสิขอรับ” เขาพูดต่อไปอย่างไม่คิดมาก “แต่บุตรสาวข้าพูดไว้แล้ว
นิสยั ของหลี่ตวนก็เป็ นเช่นนัน้ เขาย่อมตกหลุมพรางแน่ นางยังบอกอีกว่า ทุกคนล้วนมีจดุ อ่อน
ล้วนมีสิ่งที่ตนต้องการ ขอเพียงหาให้เจอ จะต้องแม่นยําไม่มีพลาดแน่” พูดถึงตรงนี ้ เขาก็นึกถึง
580

คําบรรยายที่อวีถ้ งั เคยใช้กบั หลี่ตวน มุมปากยกโค้งขึน้ สีหน้าคล้ายเจือรอยยิม้ ขบขัน “บุตรสาว


ตัวดีของข้านี ้ ท่านคงไม่รูห้ รอก ตัง้ แต่เล็กก็ซุกซน ข้ามองนางเหมือนแม่นางน้อยที่ไม่รูค้ วาม แต่
คิดไม่ถึงว่า วันที่ในเรือนเจอปั ญหา คนที่ก้าวออกมาแบกรับและออกความเห็นจะเป็ นนาง
เห็นชัดว่าข้าใส่ใจนางไม่มากพอ ขณะที่ขา้ ยังไม่ทนั รูต้ วั นางก็ได้เติบโตขึน้ แล้ว เฮ้อ ถ้ารูแ้ ต่แรก
ว่าเป็ นแบบนี ้ ข้าคงให้นางเล่าเรียนเขียนอ่านให้มากหน่อย ไม่แน่นางอาจกลายเป็ นยอดคนผู้
หนึ่งเลยก็ได้!”
เผยเยี่ยนอดคิดถึงภาพที่อวีถ้ งั กัดขาหมูท่ีอยู่ในมือไม่ได้
คนเช่นนางนัน้ ต่อให้เล่าเรียนมากกว่านี ้ ก็คงเปลี่ยนไม่ได้สกั เท่าไรกระมัง?
เขาลอบกระตุกมุมปากยิม้ ในใจ ดวงหน้ากลับไม่แสดงออก “ข้า คิดว่าทั้งหมดเป็ น
เพราะเจ้าสอนนาง ตอนนีไ้ ด้มาฟั งที่เจ้าพูด ถึงได้รูว้ า่ นางเกิดมาก็เป็ นเช่นนี”้
“ไม่ผิด!” อวีเ้ หวินถอนหายใจ “หากนางเป็ นบุรุษได้ก็คงดี เช่นนัน้ ข้าก็คงไม่มีอะไรให้
ต้องเป็ นห่วงอีก”
เผยเยี่ยนเปลี่ยนไปถามเรื่องงานหมัน้ หมายของอวีถ้ งั ทันที “ข้ากลับคิดว่าหลี่จวิน้ ผูน้ นั้
ก็ไม่เลว สกุลเจ้าตอนแรกเหตุใดไม่พิจารณาเขาดูบา้ ง? แม้พดู ว่าแต่งเขยชายเข้าบ้านนัน้ ดี แต่
ข้าเห็นว่าหลานชายของเจ้าก็พ่งึ พาได้ไม่เลว น่าจะแบกรับทัง้ สองบ้านไหวกระมัง?”
ความนัยของวาจาก็คือ ในเมื่อสกุลอวีห้ ่วงบุตรสาวถึงเพียงนี ้ ก็ควรคํานึงถึงความสุขชั่ว
ชีวิตของบุตรสาวเป็ นที่ตงั้ และไม่ควรจะดึงดันหาเขยชายหรือต้องแต่งออกไปให้จงได้
อวีเ้ หวินใช่ว่าจะไม่เคยคิดเช่นนัน้ เมื่อพูดถึงหัวข้อนีข้ ึน้ มา เขาก็สาธยายความในใจ
ออกไปให้เผยเยี่ยนฟั ง
“ตอนแรกข้ากับมารดานางก็คิดเอาไว้แบบนัน้ ” เขาเล่า “บุตรสาวของเราไม่ใช่ว่าต้อง
อยู่ท่ี เ รือนตลอดไป จะว่า ไปแล้ว สกุลหลี่ก็ ส่ง คนมาขอหมั้นหมายก่อนสกุลเว่ยด้ว ยซํา้ แต่
บุตรสาวข้าก็พดู ไว้แล้ว ต่อให้หลี่จวิน้ ดีเพียงใด แต่ไม่มีสามีบา้ นไหนที่จะยอมทําให้มารดาต้อง
581

ลําบากใจเพราะภรรยา ฮูหยินหลี่ผนู้ นั้ คุณธรรมยํ่าแย่ ภรรยาบ้านข้าไปตามสืบมาแล้ว จึงรูส้ กึ


ว่ า วาจาที่ บุตรสาวพูด นั้น ก็ มี เ หตุผล พอดี กับ เถ้า แก่ ถ งเป็ น พ่อสื่ อ ให้กับสกุล เว่ย พวกเราก็
อยากจะไปเจอตัวสักครัง้ ใครจะคิดว่าเมื่อเจอกันทุกคนต่างก็พงึ ใจ ถึงได้ตกลงหมัน้ หมาย…ไม่
คิดว่าสุดท้ายเรื่องนีก้ ลับย้อนมาทําร้ายพ่อหนุ่มเสี่ยวซาน บุตรสาวข้ารู ส้ ึกไม่สบายใจ ยิ่งไป
บังเอิญเจอร่องรอยผิดปกติเข้า ถึงได้ตามสืบมาตลอด อย่างไรก็ไม่ยอมล้มเลิก นี่ก็เป็ นอีกหนึ่ง
สาเหตุ”
คนที่แม่นางอวีถ้ กู ใจกลับเป็ นเว่ยเสี่ยวซานที่ตายไปแล้วผูน้ นั้ มิใช่หลี่จวิน้ ?
เผยเยี่ยนนึกถึงท่าทีของอวีถ้ งั ในตอนแรกที่ย่วั ยวนหลี่จวิน้ ตอนอยู่วดั เจาหมิง…หรือเว่ย
เสี่ยวซานผูน้ นั้ จะหล่อเหลามากเป็ นพิเศษ?
เขาพยายามเค้นสมองนึกถึงหน้านายท่านเว่ยกับเว่ยเสี่ยวหยวน
มองไม่ออกเลย…
หรือว่านิสยั ของเขาจะประเสริฐกว่าใคร? ทําให้นางถูกใจมากยิ่งกว่าหลี่จวิน้ เสียอีก?
เผยเยี่ยนพลันอยากรูเ้ รื่องเว่ยเสี่ยวซานขึน้ มาทันที
เขาเอ่ยว่า “สรุปแม่นางอวีม้ ิได้ชอบพอคนสกุลหลี่ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องแต่งเขยชาย
เข้าเรือน?”
เพราะว่าฮูหยินหลี่ไม่ได้เป็ นเพียงมารดาของหลี่จวิน้ แต่ยงั เป็ นมารดาของหลี่ตวนด้วย
อวีเ้ หวินพยักหน้า เอ่ยอย่างไม่ปิดบังซ่อนเร้นอีก “หลักๆ ก็เพราะไม่ชอบคนสกุลหลี่”
เผยเยี่ยนนึกถึงสายตาร้อนแรงที่หลี่ตวนใช้มองอวีถ้ งั หน้าผากพลันมีเหงื่อซึมออกมา
ดูท่าแล้วคงเป็ นหลี่ตวนที่ชอบพอแม่นางอวีอ้ ยู่ฝ่ายเดียว
เขาเอ่ยว่า “งานแต่งของแม่นางอวี ้ เจ้าตัดสินใจให้นางเลือกเองอย่างนัน้ รึ?”
ต่อให้อวีเ้ หวินคิดเช่นนัน้ จริง แต่ก็ไม่กล้ายอมรับออกมาตรงๆ!
582

หากว่า ยอมรับออกมา ว่า งานแต่ง ของเด็ ก ๆ สกุลอวีล้ ว้ นแต่ตามใจเจ้า ตัว เช่ น นั้น
สกุลอวีข้ องเขาจะเป็ นเช่นไรในสายตาผูอ้ ่นื เล่า?
“เพราะสกุลอวีข้ องเรามีสมาชิกอยู่นอ้ ย” อวีเ้ หวินพูดกล้อมแกล้ม “ไม่ว่าจะเป็ นพี่ชาย
ข้าหรือตัวข้าเอง ล้วนหวังให้พวกเด็กๆ มีความสุข การแต่งงานเป็ นการเชื่อมไมตรีระหว่างสอง
สกุล ไม่อาจให้กลายเป็ นคู่เวรคู่กรรมไปได้ พวกเด็กๆ หากว่าชอบพอถูกใจใคร อย่างไรก็ดีกว่า
แตงที่ฝืนเด็ดจากต้น ท่านว่าถูกหรือไม่?”
เผยเยี่ยนไม่คิดเช่นนัน้
บิดาเขาตอนแรกก็มิใช่เพราะคิดเช่นนัน้ หรือ ดังนัน้ ไม่ว่าจะเป็ นงานแต่งของพี่ชายคน
โตหรือคนรอง ล้วนแต่ตอ้ งผ่านการดูตวั ก่อนทัง้ สิน้ ผลสุดท้ายพี่ใหญ่กบั พี่สะใภ้ใหญ่นนั้ รักใคร่
กลมกลืนกันดี แต่สกุลเขากับสกุลหยางจนบัดนีก้ ็ยงั เป็ นเหมือนคูแ่ ค้นกันอยู่
เห็นได้วา่ สิ่งเหล่านีล้ ว้ นเกิดจากคนเป็ นเหตุ
แล้วทําไมแม่นางอวีต้ อ้ งเพ่งเล็งไปที่หลี่ตวนด้วย?
ฟั งจากนํา้ เสียงของอวีเ้ หวิน แม่นางอวีด้ จู ะเข้าใจนิสยั ของหลี่ตวนเป็ นอย่างดี
หากเผยเยี่ยนไม่ถามให้กระจ่าง เขาจะรูส้ กึ ติดค้างในใจ
เขาเอ่ยขึน้ ว่า “หากว่าเว่ยเสี่ยวซานยังอยู่ งานแต่งของแม่นางอวีก้ ็คงไม่กลายเป็ นเรื่อง
น่าเศร้าเช่นนี”้
“ถูกต้องแล้ว” อวีเ้ หวินคิดว่าเรื่องงานแต่งของอวีถ้ งั คงไม่อาจเก็บเป็ นความลับต่อได้อีก
ถึงได้เล่าว่า “สกุลเว่ยช่างเป็ นสกุลที่เปี่ ยมคุณธรรมอย่างหาได้ยาก” เขาเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่
เกิดขึน้ หลังเว่ยเสี่ยวซานตายให้เผยเยี่ยนฟั ง ทัง้ ยังบอกว่า “นี่ก็เป็ นวาสนาของสองสกุลเรา แม้
บุตรสาวกับสกุลเว่ยไม่อาจลงเอยกันได้ แต่ญาติผพู้ ่ีของนางได้หมัน้ หมายกับบุตรสาวบุญธรรม
ของสกุลเว่ยแล้ว ฤดูใบไม้ผลิปีหน้าก็จะตบแต่งกัน ถึงเวลานัน้ ก็ขอเชิญนายท่านสามไปดื่มสุรา
มงคลด้วย”
583

เผยเยี่ยนชะงักไป
สกุลอวีน้ บั ว่ายินดีตอ้ นรับสกุลเว่ยนัก บุตรสาวบุตรชายตนเองแต่งไม่สาํ เร็จ แต่ก็ยงั ขอ
ผูกญาติกนั ด้วยหนทางอื่นอยู่ดี
ลิน้ กับฟั นยังต้องกระทบกระทั่งกันเลย มีเรื่องรักใคร่ปรองดองอย่างสมบูรณ์เสียที่ไหน
นี่ ก็ เ พราะเว่ ย เสี่ ย วซานไม่อ ยู่แ ล้ว ความทรงจํา ที่ ง ดงามที่ สุด จึง หยุด ลง ณ เวลาที่
สวยงามที่สดุ นี ้
หากว่าเว่ยเสี่ยวซานยังอยู่ สกุลอวีก้ บั สกุลเว่ยอาจจะผิดใจกันด้วยเรื่องจํานวนสินสอด
ทองหมัน้ ที่ใช้แต่งเขยชายเข้าสกุลก็เป็ นได้ จนเกิดเป็ นความร้าวฉานในที่สดุ
เผยเยี่ยนลอบดูถกู สกุลอวีอ้ ยูใ่ นใจ เอ่ยอย่างขอไปทีวา่ “ถึงเวลานัน้ ต้องไปร่วมยินดีแน่”
ตอนนัน้ เผยเยี่ยนคงยังไม่ออกจากการไว้ทกุ ข์ แล้วจะไปดื่มสุรามงคลได้อย่างไร
อวีเ้ หวินทั้งที่รูว้ ่าเผยเยี่ยนพูดไปตามมารยาท แต่เมื่ อเห็นเขารับปากอย่างเปิ ดเผย
เช่นนั้น ในใจก็ยังรู ส้ ึกปลาบปลืม้ อยู่ดี ความประทับใจที่มีต่อเผยเยี่ยนจึงเพิ่มพูนขึน้ ตอนที่
สนทนากันจึงไม่ได้ระวังตัวอีก ถึงขนาดเอ่ยถึงเรื่องงานแต่งงานอวีถ้ งั “หากว่านายท่านสามรูจ้ กั
ใครที่ไม่เลว ก็ชว่ ยแนะนําบุตรสาวของข้าบ้างนะขอรับ”
เขากลัวว่าพอเกิดเรื่องวันนีข้ นึ ้ งานแต่งของอวีถ้ งั ก็คงจะลําบากยากเข็ญขึน้ กว่าเดิม
เถ้าแก่ใหญ่ถงเป็ นเพียงเถ้าแก่ท่ีพอมีหน้ามีตาของสกุลเผย ยังรู จ้ กั สกุลที่ดีอย่างสกุล
เว่ยได้ อาศัยเส้นสายของนายท่านสามแล้ว ย่อมรูจ้ กั สกุลอื่นที่ดีย่งิ กว่าอีกมากมายแน่
“ขอเพียงเป็ นเด็กดี ก็ไม่จาํ กัดว่าต้องแต่งเข้าหรือแต่งออกแล้ว” เขายังจงใจกําชับเสริม
อีกประโยคหนึ่ง
เผยเยี่ยนพลันตะลึงพรึงเพริดไป
584

ชีวิตนีเ้ ขาถูกขอร้องด้วยเรื่องนานับประการ แต่การขอให้เป็ นพ่อสื่อพ่อชัก นี่นบั ว่าเป็ น


ครัง้ แรก
เผยเยี่ยนมองสํารวจอวีเ้ หวินซํา้ อีกครัง้
เขาคงไม่ได้คิดจะให้ตนเป็ นพ่อสื่อให้แม่นางอวีจ้ ริงๆ กระมัง
อวีเ้ หวินกลับคิดเป็ นจริงจังตามนัน้ ทัง้ ยังแจกแจงกําลังทรัพย์ในเรือนให้เผยเยี่ยนฟั ง
เสร็จสรรพ หวังว่าเขาจะเป็ นพ่อสื่อที่ดีหาสกุลที่เหมาะสมให้กบั อวีถ้ งั ได้
เขาเอ่ยอย่างทอดถอนใจว่า “เรือนข้านัน้ แต่เดิมก็พอจะมีทรัพย์สินอยู่บา้ ง เป็ นเพราะ
ข้า เลือกคบสหายไม่ระวังถึงได้ถกู หลอกเข้า จนต้องควักเงินเก็บออกมาใช้จนหมด”
อวีเ้ หวินเล่าเรื่องที่ตนซือ้ ภาพวาดคัดลอกผืนนัน้ ให้เผยเยี่ยนฟั งอย่างละเอียด
“เดี๋ยวก่อน!” เผยเยี่ยนได้ฟังก็เงียบไปพักใหญ่ พอได้สติถึงรีบเอ่ยแทรกวาจาเยิ่นเย้อขอ
งอวีเ้ หวิน “เจ้าบอกว่า เจ้าซือ้ ภาพวาดคัดลอกมา แล้วเป็ นแม่นางอวีท้ ่ีช่วยเจ้าเก็บกวาดเรื่องยุ่ง
เหยิงอย่างนัน้ รึ?!”
สิ่งใดเรียกว่าเรื่องยุ่งเหยิง!
อวีเ้ หวินไม่ค่อยพอใจคําพูดของเผยเยี่ยนนัก แต่ติดที่ว่าต้องเห็นแก่หน้าเขาหลายส่วน
ถึงไม่ได้แสดงท่าทีออกมา ได้แต่ตอบกลับอย่างอดทนว่า “มิใช่เรื่องยุ่งเหยิงหรอก เป็ นเพราะข้า
ไม่ทนั สังเกตดูให้ดี ถูกสหายหลอกเข้า…”
นั่นยังมิใช่เรื่องยุ่งเหยิงอีกรึ!
เผยเยี่ยนไม่ได้สนใจพฤติกรรมแปะทองที่หน้าตัวเองของอวีเ้ หวิน สายตาเขายากจะ
กลบความประหลาดใจได้ “ดังนัน้ แล้ว หากตอนนัน้ มิใช่แม่นางอวีท้ ่ีไล่ตามเงินกลับมา เงินที่เจ้า
ต้องใช้หาหมอและซือ้ ยาให้ภรรยาก็คงไม่มีแล้ว?”
585

เมื่ ออวีเ้ หวิน ได้ฟั ง วาจาเช่นนี ข้ องเผยเยี่ ยน ก็ ห วนนึก ไปถึงสถานการณ์ในตอนนั้น


ก่อนที่ดวงหน้าจะพลันเปลี่ยนเป็ นสีแดงกํ่า ตอบอย่างปากแข็งว่า “ก็คงไม่ถึงขัน้ นัน้ หรอก ก็แค่
ในเรือนอาจจะขัดสนนิดหน่อย…”
ตอนนัน้ เขาเข้าใจแม่นางอวีผ้ ิดไปจริงๆ ด้วย
เขาคิดว่านางอยากจะหาเงินสักสองสามตําลึงถึงได้ไปแกล้งหลอกที่โรงจํานํา
มิใช่ แก่นหลักของเรื่องนัน้ ถูกต้องแล้ว แม่นางอวีค้ ิดจะไปแกล้งหลอกจริง แต่การหลอก
เพื่อผลประโยชน์สว่ นตนกับหลอกเพื่อหาทางช่วยชีวิตมารดาของตนนัน้ เป็ นคนละเรื่องกัน
เผยเยี่ยนนึกถึงการพบกันของเขากับแม่นางอวีท้ ่ีถนนฉางซิ่ง
ทัง้ วาจาเหล่านัน้ ที่เขาใช้ตาํ หนิอวีถ้ งั อีก
สําหรับแม่นางน้อยผูห้ นึ่งแล้ว นับว่าค่อนข้างรุนแรงไปจริงๆ
เผยเยี่ยนอดจะกระสับกระส่ายไม่ได้
เขายืดหลังตรง ก่อนจะดื่มชาคําหนึ่ง ความกระวนกระวายในใจไม่อาจเลือนหาย กลับ
คล้ายจะรุนแรงขึน้ เรื่อยๆ
โดยเฉพาะเมื่อนึกได้ว่าตัง้ แต่ตน้ จนจบอวีถ้ งั ไม่เคยคิดจะอธิบายอะไรให้เขาฟั งเลยสัก
ครัง้ ซํา้ ไม่เคยกล่าวโทษเขาสักคําหนึ่ง
ทว่าเขากลับหลงลืมไป อวีถ้ งั มิใช่ไม่เคยคิดจะอธิบายให้เขาฟั ง และไม่ใช่ว่านางไม่เคย
กล่าวโทษเขามาก่อน เพียงแต่นางยังไม่ทนั ได้เปิ ดปาก เขาก็ดงึ หน้าตึงไปก่อนแล้ว อวีถ้ งั จึงไม่มี
โอกาสจะพูดเท่านัน้ เอง
586

บทที่ 72 กลับบ้าน
แน่นอนว่าอวีถ้ งั ไม่รูส้ ิ่งที่เกิดขึน้ ในเรือนรับรอง
เวลานีน้ างนั่งอยู่ท่ีโถงบุปผาของสกุลเผย ดวงตาจับจ้องไม่กะพริบอยู่ท่ีบานประตู
กระจกหลากสีปิดทองคําเปลวบานนัน้ ไม่รูว้ า่ กําลังคิดอะไรอยู่
อวีห้ ย่วนกระตุกชายเสือ้ อวีถ้ งั เบาๆ
อวีถ้ ังได้สติคืนมา พลันได้ยินเสียงนายท่านอู๋กาํ ลังตะล่อมถามบ่าวรับใช้ซ่ึงดูแลพวก
นางอยู่เกี่ยวกับเรื่องของเผยเยี่ยน “…หมายความว่า นายท่านสามก็ไม่มีงานอดิเรกใดเลยรึ?”
บ่าวรับใช้ผนู้ นั้ รูส้ กึ ว่าวาจานีพ้ ดู ได้ไม่ถกู ต้อง แต่ไม่แน่ใจว่าควรคัดค้านที่ตรงไหน จึงนิ่ง
คิดแล้วเอ่ยว่า “จะกล่าวเช่นนัน้ ก็ไม่ถูกขอรับ ข้าเป็ นแค่บ่าวรับใช้ท่ีรบั คําสั่งอยู่นอกจวน นาย
ท่านสามชมชอบสิ่งใด ข้าคงไม่อาจรูไ้ ด้แน่ชดั !”
นายท่านอู๋พลันรู ต้ ัวว่าคําถามของตนทําให้บ่าวรับใช้ตอ้ งเสียหน้าอยู่บา้ ง จึงรีบร้อน
กล่าวว่า “ไอหยา พวกข้าก็แค่ถามไปเรื่อยเปื่ อยเท่านัน้ เอง สําหรับข้าแล้ว เจ้าเป็ นคนที่เคยดูแล
ท่านผูเ้ ฒ่ามาก่อน ดูจากความกตัญ�ูของนายท่านสาม ย่อมจะเห็นความสําคัญของเจ้าอยู่
แล้ว เจ้า ขอเพี ย งอดทนรอสัก หน่ อ ย รอให้น ายท่ า นสามออกจากไว้ทุก ข์ ย่ อ มต้อ งมี ก าร
เคลื่อนย้ายปรับเปลี่ยนแน่”
ในใจของบ่าวผูน้ ั้นก็คิดเช่นเดียวกัน ได้ยินดังนั้นก็อารมณ์ดีจนหุบปากไม่ลง “ต้อง
อาศัยโชคจากวาจาท่านแล้ว”
ก็แค่บา่ วรับใช้เล็กๆ ผูห้ นึ่ง จําเป็ นต้องประจบประแจงถึงขัน้ นีเ้ ชียวรึ?
อวีถ้ งั กระซิบถามอวีห้ ย่วนว่า “มีอะไรหรือเจ้าคะ?”
อวีห้ ย่วนยิม้ ขื่น “นายท่านอู๋เก่งกาจไม่เบา พูดแค่สองสามคํา ก็แลกเปลี่ยนชื่อสกุลกับ
บ่าวผูน้ นั้ ได้แล้ว ทัง้ ยังเชิญเขากับสหายที่สนิทไปเที่ยวเรือนสกุลอู๋เก็บลูกเหอเถาป่ ายามว่างอีก
ต่างหาก”
587

รูจ้ กั ยืดได้หดเป็ น อวีถ้ งั รูส้ กึ นับถือยิ่ง


อวีห้ ย่วนถามนางเสียงเบาว่า “เมื่อครู ่เจ้าคิดอะไรน่ะ? ข้าเรียกตัง้ สองครัง้ เจ้าก็ไม่ได้
ยิน”
“เปล่าเจ้าค่ะ!” อวีถ้ งั มองไปทางสาวใช้สองคนที่ยืนอยู่ในโถงบุปผา คิดว่าสถานที่นีไ้ ม่
เหมาะจะใช้ในการสนทนา “กลับไปแล้วค่อยคุยเถิด” จากนัน้ ก็หนั ไปมองพ่อลูกสกุลเว่ย
นายท่านเว่ยกับเว่ยเสี่ยวหยวนนั่งจิบชาอยู่เงียบๆ ฟั งบทสนทนาระหว่างนายท่านอูก๋ บั
บ่าวรับใช้ สีหน้าราบเรียบ ดูท่าจะออกจากความเจ็บปวดเมื่อครูแ่ ละกลับคืนสูภ่ าวะปกติได้แล้ว
อวีถ้ งั ค่อยเบาใจขึน้ หน่อย
เผยหม่านเดินเป็ นเพื่อนอวีเ้ หวินเข้ามา
“ท่านพ่อ!” อวีถ้ งั ดีใจ รีบวิ่งเข้าไปรับหน้าทันที
“นายท่านอวี!้ ”
“ท่านลุงอวี!้ ”
“ท่านอา!”
เมื่อพวกนายท่านอูเ๋ ห็น ก็รบี พากันยืนขึน้
อวีเ้ หวินรีบประสานมือคารวะทุกคน “นายท่านสามเมื่อครู ่รงั้ ตัวข้าไปถามเรื่องความ
บาดหมางระหว่างพวกเราสองสกุลกับสกุลหลี่ ข้าก็ตอบไปตามความจริง บัดนีส้ ายมากแล้ว ข้า
คงต้องขอตัวก่อน”
นี่นบั ว่าให้คาํ อธิบายแก่ทกุ คนแล้ว
พวกนายท่านอูก๋ ็บอกลาเผยหม่านเช่นกัน
588

เผยหม่านประสานมือคารวะตอบทีละคน วางตัวไม่สนิทสนมหรือห่างเหินจนเกินงาม
อย่างที่เคยเป็ นทุกครัง้ หากคิดมองหาเจตนาของเผยเยี่ยนจากท่าทางของเขานั้น แทบจะ
เป็ นไปไม่ได้เลย
ทุกคนเอ่ยวาจาตามมารยาทสองสามคํา เผยหม่านก็เดินมาส่งพวกเขาถึงหน้าประตู
ความอยากรูข้ องอวีถ้ งั ได้พงุ่ ไต่จนถึงขีดสุดแล้ว
พอผ่านทางเชื่อมระหว่างโถงออกมา ก็ถึงประตูขา้ งของสกุลเผย
เมื่อผ่านประตูขา้ งแล้ว ก็นบั ว่าออกจากจวนสกุลเผยเสียที
นางเดินตามหลังบิดาและญาติผพู้ ่ี วินาทีท่ีเท้าก้าวพ้นทางเชื่อมระหว่างโถงก็หนั ขวับ
ไปมอง
ท่ามกลางเงาเขียวขจี มองเห็นเพียงชายคาที่เรียงด้วยกระเบือ้ งสีเทาเป็ นลอนยาวยก
สูงทัง้ สองฝั่ ง บดบังจนมองไม่เห็นเสาสีแดงของโถงทัง้ ห้า รวมถึงต้นการบูรขนาดสองคนโอบที่
อยู่ดา้ นหน้าโถงหลักด้วย
ไม่รูว้ า่ ลานเรือนที่วา่ ลึกจะลึกลับถึงเพียงไหน 1 128

ท่ามกลางความเขียวชะอุม่ นี ้ ไม่รูว้ า่ ซุกซ่อนสิ่งใดเอาไว้บา้ ง?


อวีถ้ งั หันกลับมา เดินตามบิดาและญาติผพู้ ่ีออกจากจวนสกุลเผยไป
เฉินซื่อกับหวังซื่อชะเง้อคอ มายืนคอยพวกเขาอยู่ท่ีหน้าประตูตงั้ นานแล้ว
อวีถ้ งั ได้รูเ้ นือ้ หาบทสนทนาของบิดาและเผยเยี่ยนระหว่างเดินทางกลับแล้ว พอลงจาก
เกีย้ วได้ก็ว่งิ ไปหามารดาและป้าสะใภ้ทนั ที

1
ลานเรือนที่ว่าลึกจะลึกลับถึงเพียงไหน เป็ นส่วนหนึ่งของบทกวี ‘ฤดูใบไม้ผลิ’ ที่เขียนโดยโอวหยางซิว บรรยายถึงความ
โศกเศร้าและคับข้องใจของสตรีท่ถี กู เก็บอยู่ในห้องหอ ไม่อาจสมปรารถนากับคนที่ตนรัก
589

“ท่านแม่ ท่านป้าสะใภ้” นางเข้าไปกอดแขนมารดา แล้วเอ่ยกับหวังซื่ออย่างรักใคร่ว่า


“ไม่เป็ นไรแล้วเจ้าค่ะ นายท่านสามมีความเป็ นธรรม โยนผูล้ ีภ้ ยั สองคนกับพ่อบ้านใหญ่สกุลหลี่
ที่เป็ นคนบงการเข้าคุกไปแล้ว ทัง้ ให้ขบั ไล่เหล่าเครือญาติและสมาชิกสตรีทงั้ หมดของพ่อบ้าน
ใหญ่ออกจากสกุลหลี่ดว้ ย ต่อไปคงไม่มีใครช่วยคนเลวทําเรื่องตํ่าช้าอีก”
นี่เป็ นผลลัพธ์ท่ีดีท่ีสดุ ซึง่ เคยหารือกันไว้ก่อนหน้านี ้
“อามิตตาพุทธ!” เฉินซื่อกับหวังซื่ออดจะพนมมือแล้วสวดภาวนาไม่ได้วา่ “พระโพธิสตั ว์
คุม้ ครอง!”
อวีถ้ งั เม้มปากกลัน้ หัวเราะ
อวีเ้ หวินกับอวีห้ ย่วนเดินตามเข้ามา เอ่ยทักเฉินซื่อกับหวังซื่อ
“รีบเข้าเรือนเถอะ รีบเข้าเรือนเถอะ!” เฉินซื่อเอ่ยปาก “ข้าเตรียมใบส้มโอ 2เอาไว้ให้เจ้า 129

ค่ะ”
อวีเ้ หวินพลันขมวดคิว้ จนเห็นรอยย่นบนหน้าผาก “ข้าไม่ใช่คนที่เกิดเรื่องเสียหน่อย จะ
เตรียมใบส้มโอไว้ทาํ ไมเล่า!”
“สกุลเรามิใช่ไปยุ่งเกี่ยวกับพวกเลวทรามหรือ?” เฉินซื่อเอ่ยอย่างจริงจัง “ต้องขับไล่
ความโชคร้ายออกไปให้หมด!”
อวีเ้ หวินหยุดคิดแล้วหัวเราะ “ถ้าเจ้าพูดแบบนี ้ เช่นนัน้ สกุลหลี่มิเต็มไปด้วยความโชค
ร้ายรึ? ต้องกําจัด ต้องกําจัด!”
หวังซื่อที่มองอยู่ก็หวั เราะออกมา แล้วหยิบก้านใบส้มโอมาปั ดไล่ให้พวกเขา ถือว่าขับ
ไล่ไอความโชคร้ายให้หมดไป

2
ใบส้มโอ ตามความเชื่อของชาวจีนสมัยก่อน ใบส้มโอเป็ นสัญลักษณ์ของโชคลาภ มักนํามาใช้ขอพร ไล่ผี ปั ดเป่ าสิ่ง
อัปมงคลต่างๆ
590

เฉินซื่อเก็บก้านใบส้มโอกลับคืน แล้วชะเง้อไปมองด้านหลังของทัง้ สองคน พลางถาม


ว่า “ทําไมไม่เห็นนายท่านอูล๋ ะ่ เจ้าคะ? ข้าเตรียมเอาไว้เผื่อเขาด้วย”
อวีเ้ หวินตอบว่า “เขามีธุระจึงไม่ได้กลับมาพร้อมกัน เจ้าให้คนนําก้านใบส้มโอไปส่งให้
เรือนเขาก็ใช้ได้แล้ว” พอนึกถึงว่าวันนีน้ ายท่านอู๋ช่วยเหลือตนไว้มาก จึงสั่งเสริมว่า “หยิบขนม
ผลไม้เคลือบนํา้ ตาลติดไปด้วย”
เฉิ น ซื่ อ ตอบรับ ติ ด ๆ กัน สั่ง ให้ค นไปส่ง ก้า นใบส้ม โอกับ ขนมผลไม้เ คลื อ บนํ้า ตาล
อวีเ้ หวิน อวีถ้ งั และอวีห้ ย่วนต่างกลับเข้าห้องของตนเพื่อไปล้างหน้าล้างตา ก่อนจะมารวมตัว
กันใหม่อีกครัง้ ตอนมือ้ เที่ยง
เฉินซื่อกับหวังซื่อเพิ่งรูว้ ่าเกิดเรื่องอะไรขึน้ บ้างที่จวนสกุลเผย คนทัง้ สองด่าทอสกุลหลี่
ไปหนึ่งยก แล้วชื่นชมนายท่านสามไปอีกหลายกระบุง ก่อนที่เฉินซื่อจะเอ่ยอย่างทอดถอนใจอีก
ครัง้ “เสียดายที่พวกเราช่วยเหลืออะไรสกุลเผยไม่ได้เลย! ภาวนาให้ชาตินีไ้ ม่ตอ้ งมีโอกาสให้
พวกเราได้ทดแทนบุญคุณเลยยิ่งดี”
ไม่มีโอกาสให้ทดแทนบุญคุณ ย่อมหมายถึง ขอให้สกุลเผยสงบสุขเรื่อยๆ ไป นี่นบั ว่า
เป็ นการอวยพรให้สกุลเผยทางหนึง่ แล้ว!
คนสองบ้านนั่งกินอาหารมือ้ เที่ยงร่วมกันอย่างรื่นรมย์ อวีเ้ หวินพูดขึน้ ว่า “วันนีท้ กุ คนก็
เหน็ดเหนื่อยแล้ว ต่างแยกย้ายไปพักเถอะ มีเรื่องอะไร พรุง่ นีค้ อ่ ยว่ากันใหม่”
อวีถ้ ังกับอวีห้ ย่วนตอบเห็นด้วยเป็ นเสียงเดียวกัน อวีห้ ย่วนกลับเรือนไปพร้อมมารดา
อวีถ้ งั หลังจากเข้าห้องตนเองแล้วก็นอนแผ่อยู่บนเตียง แต่นอนอย่างไรก็ไม่ยอมหลับเสียที
เป็ นเวลานานกว่านางจะค่อยๆ เคลิม้ ใกล้หลับได้ แต่กลับถูกเสียงพูดคุยจากด้านนอก
ปลุกให้ต่นื อย่างรวดเร็ว
นางตะโกนถามซวงเถาว่า “ใครมาคุยอยู่ดา้ นนอกรึ?”
591

ซวงเถาตอบอย่างยินดีไปว่า “เป็ นนายหญิงหม่าเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่สกุลหม่าใกล้จะ


ออกเรือนแล้ว นายหญิงหม่ามาเชิญนายหญิงกับคุณหนูไปร่วมดื่มสุรามงคลด้วยตนเอง ทัง้ ยัง
เชิญคุณหนูให้ไปช่วยรับรองแขกเหรื่อด้วยเจ้าค่ะ”
แต่เดิมก็เป็ นเรื่องที่ตกลงกับหม่าซิ่วเหนียงเอาไว้ก่อนแล้ว
ถ้าจะโทษก็ตอ้ งโทษที่หลายวันนีน้ างเอาแต่ว่นุ เรื่องของเว่ยเสี่ยวซาน ถึงได้ลืมเรื่องนี ้
เสียสนิท
นางตบหน้าผากไปหลายที แล้วลุกขึน้ เพื่อให้ซวงเถาช่วยแต่งตัว “นายหญิงหม่ามาคน
เดียวรึ? ข้าต้องไปกล่าวทักทายนางเสียหน่อย”
ซวงเถาช่วยนางเปลี่ยนเสือ้ ผ้า พลางตอบว่า “นายหญิงหม่ามากับแม่ส่อื เจ้าค่ะ บอกว่า
จะเชิญนายหญิงอูไ๋ ปเป็ นเฉวียนฝูเหริน 3 แต่พอมาถึงเพิ่งจะรูข้ ่าวว่านายหญิงอู๋กลับบ้านมารดา
130

ไปแล้ว ต้องรออีกสองวันถึงจะกลับมา นายหญิงหม่าจึงคิดว่ารอผ่านสองวันไปค่อยกลับมาเชิญ


นายหญิงอูใ๋ หม่เจ้าค่ะ”
นายหญิงอู๋นบั เป็ นสตรีผสู้ มบูรณ์พร้อมที่เลื่องชื่อในเมืองหลินอัน คนมากมายเชิญนาง
ไปเป็ นเฉวียนฝูเหริน แต่ก่อนนางไม่เคยกล่าวปฏิเสธใคร ภายหลังเมื่อชื่อเสียงกระจายออกไป
คนที่มาเชิญจึงมากขึน้ เรื่อยๆ นางจึงไม่อาจตอบตกลงได้ทกุ คน
อวีถ้ งั ไปที่เรือนรับรอง นายหญิงหม่ากับเฉินซื่อกําลังพูดคุยหัวเราะกันอยู่ ดูรกั ใคร่สนิท
สนมเป็ นอย่างยิ่ง
พอเห็นอวีถ้ งั ก็กวักมือเรียกนาง แล้วมอบซองแดงให้นางหนึ่งซองบอกว่าให้นางใช้ซือ้
ขนมกิน

3
เฉวียนฝูเหริน หมายถึง คนสําคัญในงานแต่ง สตรีท่ีบิดามารดายังมีชีวิตและแข็งแรงดี มีสามี และมีบุตรสาวบุตรชาย
ตามธรรมเนียมแต่งงานพืน้ บ้าน มีหลายขัน้ ตอนที่ตอ้ งให้นายหญิงผูน้ ีค้ อยชีแ้ นะ เพื่อให้สามีภรรยาโชคดีสมปรารถนาใน
อนาคต
592

นี่ก็คือการเชิญนางให้ไปช่วยดูแลรับรองแขกแล้ว
นางก็ตอบรับทันทีดว้ ยความเต็มอกเต็มใจ
เฉินซื่อคุยเรื่องสินเดิมของหม่าซิ่วเหนียงกับนายหญิงหม่า นายหญิงหม่ายังมีธุระอีก
หลายอย่างต้องจัดการ นั่งอยู่เพียงไม่นานก็กาํ ชับกับเฉินซื่ออีกหลายประโยคว่า “วันงานต้อง
มาให้ได้นะ” ก่อนจะขอตัวลาไปพร้อมกับแม่ส่อื
593

บทที่ 73 ผลลัพธ์
สกุ ล อวี ้เ ริ่ ม เตรี ย มของขวั ญ ให้ ห ม่ า ซิ่ ว เหนี ย งที่ จ ะออกเรื อ น อวี ้ถั ง ก็ ห ยิ บ เอา
เครื่องประดับศีรษะที่เคยสั่งทําที่รา้ นเครื่องเงินก่อนหน้านีอ้ อกมาด้วย
ป้าเฉินเห็นแล้วอดจะประหลาดใจไม่ได้ “คุณหนูเป็ นสตรียงั ไม่ออกเรือน เหตุใดจึงมอบ
ของสูงค่าเช่นนี ้ จะดูมากเกินไปหน่อยหรือไม่เจ้าคะ?”
อวีถ้ งั ไม่คิดเช่นนัน้ นางอยากจะตอบแทนไมตรีท่ีหม่าซิ่วเหนียงมีให้นางเมื่อชาติก่อน
เฉินซื่อแต่ไหนแต่ไรก็ตามใจอวีถ้ งั ตอนนีแ้ ม้จะรูส้ กึ ว่าสิ่งของที่อวีถ้ งั อยากมอบให้สงู ค่า
ไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ขดั ขวาง เพียงแก้ต่างแทนนางยิม้ ๆ “ผูอ้ ่ืนดีมาก็ตอ้ งดีตอบ อาถังยังไม่ออก
เรือน รอให้นางแต่งงาน ซิ่วเหนียงก็ตอ้ งมอบของขวัญที่ใกล้เคียงกัน ไม่นบั ว่าเป็ นอะไรหรอก”
ป้าเฉินพึมพําว่า “ท่านตามใจคุณหนูใหญ่มากเกินไปแล้วนะเจ้าคะ!”
เฉินซื่อลูบหัวอวีถ้ งั ยิม้ ๆ “นางโตแล้ว ต่อไปในเรือนมีเรื่องใดก็ให้นางจัดการ จะสนิทกับ
ใคร จะห่างเหินกับใคร ล้วนให้นางเป็ นคนตัดสิน หากนางมีสหายที่ดี ข้าเองก็ดีใจ จะพูดว่า
ตามใจนางมากเกินไปได้อย่างไรเล่า!”
ป้าเฉินยังรูส้ กึ ว่าเฉินซื่อปล่อยปละอวีถ้ งั มากเกินพอดี แต่ทาํ ได้เพียงยิม้ แล้วส่ายศีรษะ
ไปมา ก่อนจะไปที่หอ้ งเก็บของ หยิบเอาผ้าชัน้ ดีสองพับมาเป็ นของขวัญให้หม่าซิ่วเหนียงตาม
คําสั่งของเฉินซื่อ
อวีถ้ งั เห็นแล้วถึงได้รูส้ กึ ว่าสิ่งของที่ตนเตรียมไว้สงู ค่าเกินกว่าเหตุ แต่กลับเป็ นเฉินซื่อที่
ปลอบใจนางว่า “มิตรภาพของแต่ละคนไม่เท่ากัน เจ้ารูส้ กึ ว่าเหมาะสมก็พอแล้ว”
ตั้ง แต่ ท่ี เ ฉิ น ซื่ อ รู ว้ ่า เรื่ อ งของเว่ ย เสี่ ย วซานทั้ง หมดเป็ น ฝี มื อ ของอวี ถ้ ัง นางก็ เ ชื่ อ ว่า
บุตรสาวของตนเติบโตเป็ นผูใ้ หญ่ รู ค้ วามแล้ว จึงค่อยๆ มอบเรื่องในเรือนให้นางตัดสินใจเอง
การคบค้าสมาคมกับผูอ้ ่นื นี ้ ถือเป็ นก้าวแรกที่เฉินซื่อจะปล่อยให้อวีถ้ งั ได้เลือกเอง
อวีถ้ งั เดินทางไปเรือนสกุลหม่ากับมารดาด้วยความไม่สบายใจนัก
594

เพราะวันแต่งงานใกล้เข้ามา หม่าซิ่วเหนียงไม่ได้ออกจากเรือนมาพักใหญ่แล้ว ทุกวัน


หากมิใช่ทาํ งานเย็บปั ก ก็ตอ้ งคอยต้อนรับเหล่าสตรีท่ีเอาของขวัญมามอบให้ เมื่อได้เห็นอวีถ้ งั
นางก็ดีใจสุดขีด พอเอ่ยทักทายเฉินซื่อแล้วก็ลากอวีถ้ งั เข้าห้องของตนด้วยความเบิกบาน นาง
ชงชาให้อวีถ้ งั ดื่มด้วยตนเอง ก่อนจะถามความเป็ นไปของอวีถ้ งั ในช่วงนี ้
อวีถ้ งั ไม่ได้ปิดบังหม่าซิ่วเหนียง จึงเล่าเรื่องบุญคุณความแค้นระหว่างสกุลหลี่ให้หม่า
ซิ่วเหนียงฟั ง
หม่าซิ่วเหนียงได้ยินก็อา้ ปากค้าง เป็ นครึ่งวันกว่าจะดึงสติกลับมาได้ แต่มิใช่ตกใจกับ
ความไร้ยางอายของสกุลหลี่ ทว่ากลับถามไปถึงเผยเยี่ยนแทน “หล่อเหลาอย่างที่เขาพูดไว้จริง
หรือไม่? ปฏิบตั ิตอ่ ผูอ้ ่ืนอย่างเกรงใจหรือไม่? แล้วเจ้ามีโอกาสได้คยุ กับเขาหรือเปล่า?”
นี่นบั เป็ นสถานการณ์แบบใดได้?
อวีถ้ งั พลันมึนงงไปชั่วขณะ
หม่าซิ่วเหนียงปิ ดปากหัวเราะ แล้วกระซิบบอกนางว่า “ข้าได้ยินท่านพ่อพูดว่า สกุลกู้
กับสกุลเฉินแห่งหังโจวล้วนอยากยกบุตรสาวให้แต่งกับนายท่านสามสกุลเผย กําลังสั่งคนให้
ตามสืบเรื่องของนายท่านสามอยู่น่ะ!”
ในความคิดของอวีถ้ งั การมีอยู่ของเผยเยี่ยนก็เหมือนเป็ นผูอ้ าวุโสคนหนึ่ง นอกจากครัง้
แรกที่นางรู ส้ ึกว่าเขาหน้าตางดงามหล่อเหลาแล้ว ครัง้ อื่นๆ ต่างรู ส้ ึกอยู่ตลอดว่าเขาเป็ นคน
เข้าถึงยาก ไม่อาจล่วงเกินได้ จึงไม่เคยสนใจเกี่ยวกับงานมงคลของเขาเลยสักนิด เวลานีเ้ มื่อได้
ยินหม่าซิ่วเหนียงพูดถึง นางก็อดจะนึกย้อนถึงคูห่ มายของเผยเยี่ยนเมื่อชาติก่อนไม่ได้
แต่นางนึกอยู่พกั ใหญ่ ก็คิดไม่ออกเสียทีว่าเขาแต่งกับสตรีสกุลใดแน่ ถึงขนาดที่ว่า ใน
ความทรงจําของนาง ไร้ซง่ึ ร่องรอยเกี่ยวกับบุตรสตรีของเผยเยี่ยนด้วยซํา้
เขาเหมือนกับเงาสายหนึ่ง ปกติไม่มีใครรูส้ กึ ถึงการมีอยู่ของเขา แต่ทกุ ครัง้ ที่ทกุ คนนึก
ถึงเขา ล้วนแต่เป็ นยามที่เมืองหลินอันเกิดเรื่องใหญ่โตขึน้
595

เช่นนัน้ ชาติก่อนเขาแต่งใครเป็ นภรรยากันแน่นะ?


มีลกู กี่คน?
เป็ นชายหรือหญิง?
อวีถ้ งั ยิ่งคิดก็ย่งิ รูส้ กึ เลือนราง
นางเอ่ยขึน้ มาว่า “ตอนนีน้ ายท่านสามอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ เขาไม่น่าจะสนใจเรื่องหมัน้
หมายกระมัง!”
“ก็แน่นอน” หม่าซิ่วเหนียงบอกยิม้ ๆ “แต่ถา้ รอให้นายท่านสามออกจากช่วงไว้ทกุ ข์แล้ว
ค่อยเชิญให้คนไปคุยเรื่องหมัน้ หมาย เช่นนัน้ ย่อมสายเกินไปแล้ว…สกุลกูก้ บั สกุลเฉินล้วนอยาก
ให้บุตรสาวแต่งกับเขา ทัง้ ยังมีสกุลอื่นที่สนใจนายท่านสามเหมือนกับสกุลกูแ้ ละสกุลเฉินด้วย
พวกเขาย่อมต้องรีบลงมือให้เร็วหน่อย!”
อวีถ้ งั ได้ฟังก็อดจะหัวเราะออกมาไม่ได้ “ดูเจ้าพูดเข้าสิ อย่างกับนายท่านสามเป็ นเนือ้
ชิน้ หนึ่งเสียอย่างนัน้ ใครๆ ต่างคิดจะแย่งชิง”
หม่าซิ่วเหนียงตอบกลับอย่างไม่รกั ษากิรยิ าว่า “นายท่านสามเป็ นแค่เนือ้ ชิน้ หนึ่งที่ไหน
กัน เจ้าดูนะ นี่เป็ นถึงเนือ้ ถังเซิง 1เชียว ต้องรอดูว่าสกุลใดจะเก่งกาจชิงเขามาได้ พูดถึงตรงนี ้ ข้า
131

ก็อยากจะถามเจ้าหน่อย เรื่องงานแต่งของเจ้าวางแผนไปถึงไหนแล้ว? จะปล่อยให้เรื่องของ


สกุลหลี่มาทําให้ลา่ ช้ามิได้กระมัง? ฮูหยินหลี่ผนู้ นั้ คงต้องป่ วยเป็ นโรคอะไรแน่ๆ เพื่อจะขอหมัน้
หมายเจ้าถึงกับทําเรื่องมากมายเพียงนี ้ เจ้าคอยดูไปเถอะ รอให้ขา้ แต่งงานแล้ว ข้าจะช่วยเจ้า
โพนทะนาเรื่องนีอ้ อกไป ถึงเวลานัน้ ดูสิวา่ ใครจะกล้าแต่งให้สกุลนัน้ อีก!”
อวีถ้ งั ดึงมือหม่าซิ่วเหนียงมากุมไว้ดว้ ยความซาบซึง้

1
เนือ้ ถังเซิง หรือ เนือ้ พระถังซัมจั๋ง มีความเชื่อว่าหากได้กินเนือ้ พระถังซัมจั๋งเข้าไปจะอายุยืนยาวไม่แก่ เล่าว่าเหล่ามาร
ล้วนนํา้ ลายไหลเพราะอยากกิน
596

ไม่วา่ จะเป็ นชาติก่อนหรือชาตินี ้ หม่าซิ่วเหนียงก็ยงั จริงใจต่อนางไม่เคยเปลี่ยน


นางเอ่ยกําชับต่อว่า “เรื่องนีซ้ บั ซ้อนนัก บิดากับมารดาข้ายื่นมือเข้ามาจัดการแล้ว พวก
เราตอนนีก้ ็คอยดูไปก่อนว่าผูใ้ หญ่จะจัดการอย่างไร เจ้าน่ะ ทําตัวเป็ นเจ้าสาวที่เบิกบานใจก็
พอแล้ว”
อวีถ้ งั ไม่อยากดึงหม่าซิ่วเหนียงเข้ามาเกี่ยวพัน
นางสมควรจะมีชีวิตแต่งงานที่ราบรื่นไร้กังวล ไม่ควรต้องมาปวดหัวเพราะเรื่องวุ่นๆ
ของตนอีก ทัง้ นางก็ไม่ได้บอกหม่าซิ่วเหนียงถึงเจตนาแท้จริงที่สกุลหลี่ตอ้ งการจะมาสูข่ อนาง
หม่าซิ่วเหนียงนิ่งคิด รูส้ กึ ว่าอวีถ้ งั พูดมีเหตุผล แต่ก็ยงั ไม่วายพูดกับอวีถ้ งั อีกว่า “แต่ถา้
เจ้ามีเรื่องอะไรให้ขา้ ช่วยก็บอกได้เลยนะ อย่าได้เกรงใจเป็ นอันขาด”
อวีถ้ ังพยักหน้าหงึกหงัก “ข้าเห็นเจ้าเป็ นเหมือนพี่สาวแท้ๆ มีเรื่องใดย่อมไปขอให้เจ้า
ช่วยอยู่แล้ว”
“ต้องแบบนีส้ ิ!” หม่าซิ่วเหนียงหัวเราะอย่างพอใจ แล้วหยิบขนมเปี๊ ยะมงคลยื่นให้นาง
อวีถ้ งั หยิบเครื่องประดับศีรษะที่จะมอบเป็ นของขวัญให้นางออกมา
หม่าซิ่วเหนียงตื่นตะลึง เดิมนางไม่คิดจะรับไว้ แต่เห็นถึงความตัง้ ใจของอวีถ้ ัง คิดว่า
ภายหลังค่อยตอบแทนนางคืนด้วยของขวัญชิน้ ใหญ่ก็ใช้ได้แล้ว จึงไม่ได้เกรงอกเกรงใจ แล้วรับ
ของเอาไว้ดว้ ยรอยยิม้ กว้าง
สหายคนอื่นๆ ที่สนิทสนมกับหม่าซิ่วเหนียงได้ติดตามมารดาของตนมามอบของขวัญ
ให้หม่าซิ่วเหนียงเช่นเดียวกัน
หม่าซิ่วเหนียงแนะนําอวีถ้ งั ให้ทกุ คนรูจ้ กั
ในชาติก่อนอวีถ้ งั อยู่ในช่วงไว้ทกุ ข์ ไม่ได้มาส่งหม่าซิ่วเหนียงออกเรือนด้วยตนเอง วันนี ้
จึงได้รูจ้ กั กับสหายสนิทหลายคนของหม่าซิ่วเหนียง
597

ในเมื่อเป็ นเพื่อนเล่นกับหม่าซิ่วเหนียงได้ นิสยั ก็คงเข้ากันกับหม่าซิ่วเหนียงได้ดี หากไม่


เหนือความคาดหมาย ย่อมเข้ากันได้กบั อวีถ้ งั เช่นเดียวกัน ญาติผนู้ อ้ งของหม่าซิ่วเหนียงถึงกับ
ตําหนิหม่าซิ่วเหนียงว่าเหตุใดไม่แนะนําอวีถ้ ังมาให้พวกนางรู จ้ ักเร็วกว่านีห้ น่อย เช่นนัน้ งาน
ลอยประทีปตอนกลางเดือนเจ็ดจะได้มีสหายเพิ่มขึน้ มาอีกหนึ่งคน
ชาติก่อนนัน้ เพราะมารดาล้มป่ วย อวีถ้ ังจึงมักอยู่เป็ นเพื่อนมารดาที่เรือน ไม่ค่อยได้
ออกมาเที่ยวเล่นด้านนอกเท่าไรนัก วันนีเ้ หตุเพราะได้กลับมาเกิดอีกครัง้ และมีวาสนาได้อาศัย
ความสัมพันธ์ของสกุลเผย ทําให้อาการป่ วยของมารดาดีขึน้ อย่างก้าวกระโดด ทั้งส่งผลให้
ชะตาที่บิดามารดาของนางต้องตายในชาติก่อนต้องเปลี่ยนไป นางรู ส้ ึกเป็ นสุขยิ่ง จึงทําตัวร่า
เริงและรู ค้ วามกว่าชาติก่อนมาก ทันทีท่ีได้เจอเหล่าแม่นางน้อยก็เล่นด้วยกันได้อย่างกลมกลืน
นี่ย่อมไม่อาจโทษหม่าซิ่วเหนียงได้
หม่าซิ่วเหนียงเป็ นคนชอบปกป้องสหาย จึงไม่พูดถึงว่าแต่ก่อนอวีถ้ งั เป็ นเช่นไร เพียง
ตอบไปว่าตนไม่ทนั คิด แล้วจะหาทางชดเชยให้ญาติผนู้ อ้ ง ถึงได้จบเรื่องนีไ้ ปได้
อวีถ้ ังยิ่งรู ส้ ึกว่าหม่าซิ่วเหนียงเป็ นคนดีย่ิง ตอนที่หม่าซิ่วเหนียงจะออกเรือน นางจึง
ช่วยงานจนมือเท้าพันกันหมดวุน่ วายอยู่ส่หี า้ วันเต็มๆ
กระทั่งถึงวันแต่งงานของหม่าซิ่วเหนียง อวีถ้ ังก็ปล่อยโฮสุดเสียง ปวดใจยิ่งกว่านาย
หญิงหม่าเสียอีก ทําเอานายหญิงหม่าร้องไห้ต่อไม่ไหว หันไปกระเซ้าเฉินซื่อว่า “คนที่ไม่รูค้ งคิด
ว่าเป็ นบุตรสาวอีกคนของข้าแล้ว? ข้าว่าไม่ตอ้ งตามเจ้ากลับเรือนหรอก รัง้ ตัวอยู่ท่ีน่ีมาเป็ น
บุตรสาวของข้าเลย”
คนที่อยู่รอบๆ ต่างก็หวั เราะชอบใจ
อวีถ้ งั รูส้ กึ ว่าตนได้ระบายความคับข้องใจ เอ่ยด้วยเสียงสะอืน้ ว่า “พี่สาวหม่าออกเรือน
แล้ว ก็ตอ้ งเชื่อฟั งพ่อแม่สามี ดูแลอาน้าของสามี ท่าน ท่านไม่เป็ นห่วงเลยหรือเจ้าคะ?”
“ข้ามีอะไรให้ห่วงกันเล่า?” นายหญิงหม่าชีไ้ ปยังคุณชายจางที่ยืนอยู่ไม่ไกล “พี่เขยเจ้า
หากกล้าแตะต้องพี่สาวเจ้าแม้เพียงปลายเล็บ ข้าจะให้คนไปรับนางกลับมาเดี๋ยวนัน้ เลย”
598

เหล่าสตรีในเรือนพากันหัวเราะเฮฮาอีกครัง้
เฉิ น ซื่ อ หัว เราะไม่ ไ ด้ร ้อ งไห้ไ ม่ อ อก โอบบุ ต รสาวมากอดไว้กั บ อก ทางหนึ่ ง ก็ ดึ ง
ผ้าเช็ดหน้ามาซับหน้าให้นาง ทางหนึ่งก็บน่ ว่า “เจ้าเด็กคนนี ้ วันนีเ้ ป็ นงานมงคล เจ้าอย่ามองว่า
ป้าหม่านางร้องไห้เพราะเสียใจ ความจริงก็ทาํ ท่าไปอย่างนัน้ กลับเป็ นเจ้านี่สิ ที่ปล่อยโฮออกมา
จริงๆ เสียได้”
อวีถ้ งั ซุกตัวอยู่ในอกมารดาด้วยความอับอาย เป็ นเหตุให้ทกุ คนขบขันกันอีกรอบ
อาจเพราะมีเรื่องเฮฮามาแทรก งานแต่งของหม่าซิ่วเหนียงจึงเต็มไปด้วยบรรยากาศ
น่ายินดี เป็ นการส่งตัวออกเรือนพร้อมเสียงหัวเราะที่ยากจะได้พบเห็นในเมืองหลินอัน
ผ่านพ้นงานแต่งงานของหม่าซิ่วเหนียงไป ทางด้านสกุลหลี่ก็มีความเคลื่อนไหวทันที
เริ่มจากพ่อบ้านใหญ่สกุลหลี่กบั ผูล้ ีภ้ ยั สองคนถูกตัดสินให้เนรเทศไปไกลกว่าสามพันลี ้
ตามมาด้วยสิ่งที่สกุลหลี่เคยรับปากเอาไว้ก่อนหน้านัน้ ภรรยาและลูกๆ ของพ่อบ้านใหญ่รวมถึง
ญาติท่ีเกี่ยวดองผ่านการแต่งงานซึง่ อยู่ในสกุลหลี่ลว้ นต้องถูกขับไล่ออกไป
ทว่าตอนที่พอ่ บ้านใหญ่ถกู เนรเทศนัน้ สกุลหลี่ได้ฝากฝังให้คนของศาลาว่าการดูแลเขา
ระหว่างทางหรือไม่ บ่าวรับใช้ท่ีถูกขับไล่ออกมาจากสกุลหลี่มีก่ีคนแน่ท่ีเกี่ยวดองกับเขาจริงๆ
สกุลอวีก้ ็ไม่มีทางจะรูไ้ ด้เลย
นายท่านอู๋เอ่ยปลอบใจอวีเ้ หวินว่า “เรื่องนีส้ กุลหลี่ยอมอ่อนลงให้ก็นบั ว่าไม่เลวแล้ว ไม่
มีทางทําได้สะอาดหมดจดหรอก”
นอกจากสกุลหลี่ลม่ สลายเท่านัน้
อวีเ้ หวินก็เข้าใจดี จึงกล่าวขอบคุณนายท่านอู๋ไป บอกว่าไม่ได้คิดแค้นอะไรกับสกุลหลี่
แล้ว ก่อนจะนัดแนะเวลากับนายท่านอู๋ เพื่อไปดูหลี่ตวนใส่ชดุ กระสอบเพื่ออุทิศให้กบั เว่ยเสี่ยว
ซานที่วดั เจาหมิง
คนในเมืองหลินอันถึงได้รูว้ า่ ฮูหยินหลี่มีสว่ นเกี่ยวข้องกับการตายของเว่ยเสี่ยวซาน
599

ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา คิดกันว่าแม้ฮหู ยินหลี่จะเป็ นหญิงที่ออกเรือนแล้ว


แต่ใจคอกลับโหดเหีย้ มยิ่งนัก เด็กบ้านสกุลหลี่นบั เป็ นบุตรของพวกเขา แล้วเด็กบ้านผูอ้ ่ืนมิใช่มี
พ่อมีแม่เหมือนกันหรือ? ทัง้ ยังแอบพูดกันลับๆ ว่า โชคดีท่ีสกุลอวีไ้ ม่ได้ตอบตกลงเรื่องแต่งงาน
ไป ไม่อย่างนัน้ ต่อให้แม่นางอวีแ้ ต่งไปแล้ว น่ากลัวคงถูกแม่สามีข่มเหงทุกเมื่อเชื่อวัน ถูกทรมาน
อย่างสาหัสแน่
มีคนพูดเรื่องงานหมัน้ หมายของหลี่ตวนขึน้ มา “ไม่รูว้ ่าถ้าคุณหนูใหญ่สกุลกูแ้ ต่งเข้าไป
แล้ว นางจะกล้าสร้างความลําบากให้คณ ุ หนูสกุลกูห้ รือไม่?”
“นั่นก็ว่าไม่ได้หรอก!” บางคนบอกว่าฮูหยินหลี่มีชีวิตที่ราบรื่นจนเกินไป จึงไม่รูจ้ กั เห็น
อกเห็นใจผูอ้ ่ืน “คุณหนูกูม้ ีชาติกาํ เนิดดีแล้วมีประโยชน์อนั ใดเล่า? พอแต่งเข้าสกุลหลี่ ก็เป็ น
สะใภ้ของสกุลหลี่ อย่างไรก็ตอ้ งเชื่อฟั งสกุลหลี่อยู่ดี”
“กลัวแต่ว่าคุณหนูใหญ่สกุลกูก้ ็ไม่ใช่คนที่จะหาเรื่องได้ง่ายๆ น่ะสิ” บางคนที่อยู่ตรงนัน้
บ้างก็รูส้ กึ สาแก่ใจต่อความหายนะของผูอ้ ่นื รอดูเรื่องขายขีห้ น้าของสกุลหลี่
ตัง้ แต่ฮหู ยินหลี่รูว้ า่ หลี่ตวนต้องใส่ผา้ กระสอบเพื่ออุทศิ ให้กบั เว่ยเสี่ยวซาน ก็โมโหจนล้ม
ป่ วย
บนหน้าผากฮูหยินหลี่มีผา้ ขาวพันรอบ นั่งพิงหัวเตียงด้วยสีหน้าอิดโรย นางผลักถ้วยยา
ที่อยู่ในมือของหลี่จวิน้ ออก จนยาต้มแทบจะหกรดใส่ตวั หลี่จวิน้ ฮูหยินหลี่พลันตวาดใส่หลี่จวิน้
ว่า “เจ้าเป็ นคนตายอย่างนัน้ รึ? ข้าบอกเจ้าไว้อย่างไร? เจ้ากลับปล่อยให้พ่ีชายเจ้าไปวัดเจาห
มิง? ต่อไปเขาต้องเป็ นขุนนางใหญ่ โต ต้องเข้าร่วมสํานักเป็ นมหาบัณฑิต ทําไมถึงปล่อยให้
พี่ชายเจ้าไปสวมผ้ากระสอบให้กับไอ้ชาวนาบ้านนอกคนนัน้ ? ข้ากับบิดาเจ้ายังไม่ตายเลย!
ต่อไปเจ้าจะให้พ่ีชายเจ้าเอาหน้าไปไว้ท่ีไหน? เจ้ารอคอยให้ถึงวันนีม้ าตลอดใช่หรือไม่!”
หลี่จวิน้ ก็ขมขื่นจนพูดอะไรไม่ออก
600

เขาได้แต่ค่อยๆ เคลื่อนถ้วยยาไปเบือ้ งหน้ามารดาอย่างระมัดระวัง กล่อมนางเสียงเบา


ว่า “ท่านแม่ เรื่องนีท้ ่านพี่ ได้เขียนจดหมายถึงท่านพ่อแล้ว ท่านพ่อต้องมีทางออกแน่ ท่าน
อย่าได้กงั วลเลย สุขภาพของท่านสําคัญที่สดุ รีบดื่มยาถ้วยนีแ้ ล้วค่อยว่ากันนะขอรับ”
601

บทที่ 74 น่าอับอาย
เพียงแค่ฮหู ยินหลี่คิดว่าบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนที่แบกรับความหวังทัง้ หมดของนางไว้
ต้องไปใส่ชุดกระสอบเพื่ออุทิศให้แก่ผูอ้ ่ืน นางก็รูส้ ึกเหมือนถูกมีดปั กเข้าที่กลางอก ใครจะพูด
อย่างไรก็ฟังไม่เข้าหูทงั้ สิน้
นางตบมือลงข้างเตียง กรีดร้องใส่หลี่จวิน้ ราวกับหญิงร้ายกาจที่ถูกหลอกเอาเงินไป
“ข้าไม่ด่ืม เจ้าไปเรียกพี่ชายเจ้ากลับมาเดี๋ยวนี!้ บอกไปว่าข้าป่ วยใกล้ตายแล้ว ให้เขามาดูใจข้า
เดี๋ยวนี!้ ”
จะทําเช่นนัน้ ได้อย่างไรเล่า?
สกุลเผยเป็ นผูต้ ดั สิน บ้านสายตรงสกุลหลี่เป็ นผูร้ บั ปาก คนทั่วทัง้ เมืองหลินอันกําลังจับ
ตาดูอยู่ แล้วจะให้พ่ีชายของเขาต้องผิดคําพูดได้อย่างไร!
หลี่จวิน้ คับข้องใจแต่พดู ไม่ออก ได้แต่กล่อมมารดาเสียงอ่อนว่า “ท่านแม่ ท่านดื่มยาให้
หมดก่อน พอท่านดื่มยาแล้ว ข้าไปตามท่านพี่มาให้ขอรับ!”
“เจ้าต้องไปตอนนีเ้ ลย!” ฮูหยินหลี่เคยถูกหลอกมาก่อน นางไม่เชื่อใจหลี่จวิน้ อีก “เจ้าไป
ตามพี่ชายเจ้ากลับมาแล้วข้าค่อยดื่ม”
สองคนต่างยือ้ ยุดกันอยู่แบบนัน้
ฮูหยินหลี่ดา่ ทอว่าหลี่จวิน้ อกตัญ�ู สั่งให้หลี่จวิน้ ไปเปลี่ยนตัวกับหลี่ตวน
หลี่จวิน้ ก้มหน้าตํ่า ทําเหมือนว่าไม่ได้ยิน
ที่เรือนหลักของสกุลหลี่ จะได้ยินเสียงเกรีย้ วกราดของฮูหยินหลี่ดงั ลอยมาเป็ นระยะ

อวีถ้ งั ยืนอยู่หน้าโต๊ะใหญ่ในห้องหนังสือ พิจารณาภาพวาด ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ ที่


กางอยู่บนโต๊ะอย่างละเอียด
602

เดิมที นางคิดจะให้สกุลอวีแ้ ยกตัวออกจากเรื่องนี ้ ถึงได้เตรียมมอบภาพวาดให้สกุลหลี่


ไป
ทว่าตอนนี ้ นางไม่ยินยอมแล้ว
สกุลหลี่ฆ่าเว่ยเสี่ยวซาน แต่คิดจะรอดตัวไปง่ายๆ โดยไม่สูญเสียอะไร นั่นไม่มีทาง
เป็ นไปได้หรอก
อวีถ้ งั แสยะยิม้
ความแค้นทัง้ สองชาติลว้ นผูกโยงจนมาถึงวินาทีนีแ้ ล้ว
หากว่านางไม่อาจล้างแค้นคืนได้ ยังจะเป็ นคนต่อได้อีกหรือ!
สกุลหลี่พยายามสุดกําลัง จ่ายค่าตอบแทนด้วยราคาที่สงู ลิ่ว คิดหาหนทางไม่หยุดเพื่อ
เอาภาพผืนนีก้ ลับไปให้ได้ นางคิดจะแก้แค้นสกุลหลี่ แต่อย่างแรกต้องไม่ดึงสกุลอวีเ้ ข้า ไป
เกี่ยวข้องด้วย วิธีท่ีดีท่ีสดุ ก็เหมือนก่อนหน้านีค้ ือ ‘มอบ’ ภาพผืนนีใ้ ห้สกุลหลี่เสีย แต่เนือ้ หาด้าน
ในของภาพจะยังเหมือนเดิมหรือไม่ คงไม่มีใครกล้ารับประกัน
ทว่าตอนนีม้ ีจดุ ที่ยากเย็นอยู่
ตอนที่จะคืนภาพนีส้ สู่ ภาพเดิม นางยังไม่ทนั คิดเรื่องนี ้ ตอนนีห้ ากต้องการแก้ไขเนือ้ หา
ภายในภาพ ก็ตอ้ งนําภาพไปเข้าม้วนใหม่อีกครัง้ จิตรกรที่มีฝีมือด้านนีม้ ีไม่มาก อีกอย่างเรื่องนี ้
เกี่ยวพันถึงความลับบางอย่าง อาจทําให้ผอู้ ่ืนพลอยลําบากไปด้วย อาจารย์เฉียนก็ไปจากเมือง
หังโจวแล้ว วิธีท่ีง่ายดายที่สดุ กลับเปลี่ยนเป็ นยากเย็นที่สดุ ในทันที
นางต้องคิดหาทางอื่น!
อวีถ้ งั ขังตัวเองในห้องหนังสืออยู่หลายวัน กระทั่งนายหญิงเว่ยมาเป็ นแขกที่เรือนเพื่อ
กล่าวขอบคุณอวีถ้ งั เรื่องของเว่ยเสี่ยวซาน นางถึงได้วางเรื่องนีล้ งก่อนชั่วคราว แล้วไปสนทนา
เป็ นเพื่อนนายหญิงเว่ย
603

“เรื่องของเสี่ยวซาน ข้าได้ยินจากนายท่านเรือนข้าและเสี่ยวชวนแล้ว” นายหญิงเว่ยจับ


มืออวีถ้ งั ไว้ไม่ยอมปล่อย สีหน้าเปี่ ยมด้วยความซาบซึง้ “ถ้าไม่ได้เจ้า เสี่ยวซานของพวกเราคง
จากไปอย่างไม่กระจ่างเช่นนี ้ ข้าให้กาํ เนิดบุตรชายออกมาทัง้ หมด จึงอยากมีบตุ รสาวเป็ นที่สดุ
หากว่าเจ้าไม่รงั เกีจ ก็นับข้าเป็ นผูอ้ าวุโสในเรือนแวะเวียนไปเยี่ยมบ่อยๆ เวลาว่างก็ออกนอก
เมืองไปหาข้าได้” พูดถึงตรงนี ้ นํา้ ตาก็รว่ งลงมา
อวีถ้ งั เดิมก็รูส้ กึ ผิดต่อเว่ยเสี่ยวซานอยู่แล้ว ได้ยินคํานีก้ ็หนั ไปมองเฉินซื่อทันที
ทุกครัง้ ที่เฉินซื่อนึกถึงเรื่องนีก้ ็มกั คิดว่านี่เป็ นชะตาที่สวรรค์กาํ หนด สองครอบครัวเดิน
สวนกันไปมา สักวันก็คงร่วมทางกันได้ บุตรสาวเหมือนกับสมบัติลา้ํ ค่าในมือ นางไม่ยินดีให้
บุตรสาวเรียกใครว่า ‘พ่อบุญธรรม’ หรือ ‘แม่บุญธรรม’ ทัง้ นัน้ แต่นางกลับต้านทานนํา้ ตาของ
นายหญิงเว่ยไม่ไหว ดวงตาจึงรืน้ ชืน้ แล้วผงกศีรษะให้บุตรสาวเบาๆ “นายหญิงเว่ย คํานีข้ า้
อยากจะพูดกับท่านนานแล้ว เพียงแต่หลายวันนีง้ านล้นมือ จึงไม่มีเวลาได้สนใจ หากว่าท่านไม่
รังเกียจ พวกเราก็กราบไหว้กนั เป็ นพี่นอ้ งร่วมสาบาน ให้บตุ รสาวของข้ารับท่านเป็ นท่านน้า”
นายหญิงเว่ยเดิมก็ไม่คาดหวังจะให้อวีถ้ ังยอมรับตนเป็ นญาติ พอเฉินซื่อพูดออกมา
แบบนี ้ นางมีหรือจะไม่ตอบตกลง
ผูใ้ หญ่สองคนกราบไหว้กนั เป็ นพี่นอ้ งบุญธรรมในทันที อวีถ้ งั เปลี่ยนคําเรียกนายหญิง
เว่ยเป็ น ‘ท่านน้า’ สองสกุลจัดงานเลีย้ งนับญาติกนั อย่างเป็ นทางการ นายหญิงเว่ยให้เงินอวีถ้ งั
เป็ นค่าแก้ช่ือเรียกใหม่ เฉินซื่อก็มอบเงินให้เด็กๆ สกุลเว่ยเป็ นค่าแก้ช่ือเรียกใหม่เช่นกัน สอง
สกุลครึกครืน้ อยู่หนึ่งวันเต็มๆ
มีเพียงนายท่านเว่ยที่แอบบ่นกับนายหญิงเว่ยเป็ นส่วนตัวว่า “สาบานเป็ นพี่นอ้ งอะไร
กัน? รออีกไม่ก่ีปี ไม่แน่อาจให้อาถังแต่งเข้าเรือนเราก็เป็ นได้!”
นายหญิงเว่ยร้อง ‘เหอะ’ ใส่นายท่านเว่ยเสียงหนึ่ง “ท่านคิดอะไรอยู่นึกว่าข้าไม่รูอ้ ย่าง
นัน้ สิ? เสี่ยวชวนอายุยงั น้อย หากว่าสองคนไม่ชอบพอกันเล่า? เป็ นญาติกนั ดีๆ ไม่ชอบกลัวจะ
เปลี่ยนเป็ นคูแ่ ค้นเสีย เรื่องนีเ้ จ้าเชื่อข้าเถอะไม่มีผิดแน่”
604

นายท่านเว่ยไม่พดู ต่อ แต่ปรึกษานายหญิงเว่ยเรื่องที่หลี่จวิน้ ไปขอโทษสกุลอวีว้ า่ “บอก


ว่าพรุง่ นีจ้ ะไปถึงหน้าประตูใหญ่ พวกเราต้องไปเป็ นกําลังเสริมให้สกุลอวีห้ รือไม่”
สกุลเขามีบตุ รชายมากอยู่แล้ว
“ต้องไปแน่!” นายหญิงเว่ยตอบโดยไม่ตอ้ งคิด “เหตุใดตอนแรกข้าถึงอยากนับญาติกบั
สกุลอวี?้ ก็เพราะเห็นนายท่านอวีเ้ ป็ นคนซื่อตรง พวกเราไม่อาจเอาเปรียบพวกเขา หากสกุลหลี่
ไปขอโทษสกุลอวีท้ ่ีหน้าประตู แล้วเกิดพูดอะไรไม่น่าฟั งขึน้ มา พวกเราก็ไปยืนกันเอาไว้ ผูอ้ ยู่ใน
เหตุการณ์ย่อมเลี่ยงข่าวลือได้ อย่าให้อาถังต้องทําเรื่องดีๆ แต่กลายเป็ นว่าเอาตัวเองเข้ามา
พัวพันแทนเลย”
เพราะงานแต่งไม่สาํ เร็จจึงถูกลักพาตัว เรื่องนีไ้ ม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ไม่น่าฟั งทัง้ นัน้ นาย
หญิงเว่ยกลัวว่าถึงตอนนัน้ สกุลหลี่จะเล่นลูกไม้ มิใช่วา่ นางตีตนไปก่อนไข้คิดฟุ้งซ่านไปเอง
นายท่านเว่ยคิดว่านายหญิงเว่ยพูดจามีเหตุผล
วันถัดมานายท่านเว่ยก็พาเด็กๆ ทัง้ บ้านไปที่เรือนสกุลอวี ้
ตอนนี ห้ ลี่ตวนได้ทาํ กุศลให้เ ว่ยเสี่ ยวซานจบแล้ว ในเมื องหลินอันก็ เ ล่าลื อไปต่างๆ
นานา แต่ท่ีพดู กันมากที่สดุ ก็คือไม่เสียแรงที่หลี่ตวนเป็ นบุตรชายที่โดดเด่นของสกุลหลี่ ไม่เพียง
จิตใจกว้างขวาง ทัง้ ยังเรียบง่ายรู จ้ ักแบกรับ แสดงความเคารพต่อลูกหลานสกุลเว่ยแทนบ่าว
ไพร่ของสกุลตนที่ทาํ ความผิด เป็ นวิญ�ูชนที่ใจกว้าง เป็ นผูท้ ่ีจะทําการใหญ่ในอนาคต
ชื่อเสียงของเขาไม่เสื่อมเสีย ทัง้ กลับเพิ่มมากขึน้
อวีถ้ งั ได้ยินก็รูท้ นั ทีวา่ มีคนของสกุลหลี่ชกั นําข่าวลือนีอ้ ยู่เบือ้ งหลัง
ก็เหมือนกับอุบายที่สกุลหลี่เคยใช้เมื่อชาติก่อน
รอจนหลี่จวิน้ มาขอโทษที่เรือนสกุลอวี ้ อวีถ้ ังเตรียมการรับมือกับสกุลหลี่ โดยขอให้พ่ี
น้องสกุลชวีเชิญสหายมาวนเวียนอยู่รอบๆ หากว่ามีคนพูดจาที่เป็ นผลเสียต่อสกุลอวีอ้ อกมา จะ
ได้แก้ต่างได้ทนั ท่วงที คาดไม่ถึงว่าพี่นอ้ งสกุลเว่ยจะมาเยือนด้วยเช่นกัน แค่เด็กๆ ร่างสูงใหญ่
605

มายืนอออยู่หน้าประตูสกุลอวี ้ คนที่พดู จาพล่อยๆ ก็ลดน้อยลงทันตา มีเพียงหลี่จวิน้ ที่โขกศีรษะ


สามครัง้ อยู่ตรงหน้าประตูให้อวีถ้ งั ด้วยสีหน้าแดงกํ่า นับว่าเป็ นการขอขมาแล้ว
เดิมทีอวีเ้ หวินก็มีความรูส้ กึ ที่ดีต่อหลี่จวิน้ บวกกับเรื่องพวกนีค้ วามจริงก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง
กับเขา อวีเ้ หวินไม่อาจแข็งใจเมื่อต้องเห็นหลี่จวิน้ เป็ นแพะรับบาปให้สกุลหลี่ รอจนเขาโขกศีรษะ
ครบสามครัง้ แล้ว ถึงได้พยุงเขาให้ยืนขึน้ สั่งสอนไม่ก่ีประโยคไปว่า “ต่อไปกระทําการใดต้อง
ตรึกตรองให้หนัก” จากนัน้ ก็เชิญหลี่จวิน้ เข้าไปดื่มชาในเรือน ไม่เพียงไม่สร้างความลําบากให้
เขา ทัง้ ยังหาทางลงให้เขาด้วย
หลี่จวิน้ ตื่นตะลึงแต่ก็ดีใจมาก เดินตามอวีเ้ หวินผ่านประตูไปอย่างงงๆ
คนในเมืองหลินอันจึงเล่าลือถึงสกุลอวีใ้ นทํานองว่าจิตใจดี มีคณ
ุ ธรรม
อวีเ้ หวินไม่ได้รงั้ หลี่จวิน้ ไว้นาน พอดื่มชา กระทําตามมารยาทอย่างครบถ้วนแล้ว ก็มา
ส่งหลี่จวิน้ ที่หน้าประตู
หลี่จวิน้ บอกลาอย่างเชื่อฟั งว่าง่าย พอผ่านประตูไป กลับถูกอวีถ้ งั เรียกเอาไว้ก่อน
นางถามว่า “ช่วงนีเ้ จ้ายังขี่มา้ หรือไม่?”
หลี่จวิน้ มองดวงหน้าที่ยงั คงงดงามไม่เปลี่ยนของนาง ในใจรู ส้ ึกเจ็บแปลบ พลางตอบ
ด้วยรอยยิม้ ขื่นว่า “ช่วงนีย้ ่งุ ไม่มีเวลาไปขี่มา้ หรอก!”
เช่นนัน้ ก็ดี
เรือ่ งราวต้องแยกแยะออกจากกัน
อวีถ้ ังเอ่ยต่อว่า “เช่นนัน้ เจ้าก็ขดั เกลาจิตใจอยู่แต่ในจวน เกิดเรื่องพรรค์นีข้ ึน้ ในจวน
ต้องวุน่ วายไปอีกระยะหนึง่ แน่”
หลี่จวิน้ พยักหน้ารับ แต่ในใจนั้นคิดว่า แทนที่เจ้าจะมาเป็ นห่วงข้า สาดเกลือลงบน
บาดแผล มิสมู้ องข้าด้วยสายตาเคียดแค้นให้ขา้ ตัดใจได้เสียที
606

บทที่ 75 ของต่างหน้า
เพียงแต่หลี่จวิน้ รูว้ า่ คําพูดพวกนี ้ เขาไม่มีสิทธิ์จะพูดให้อวีถ้ งั ฟั งอีกแล้ว
“ข้าเข้าใจแล้ว!” เขาพยักหน้าอย่างเรียบนิ่ง ออกจากเรือนสกุลอวีไ้ ป
ด้านอวีถ้ งั ค่อยรูส้ กึ โล่งใจขึน้ มา
ชาติก่อน หลี่จวิน้ ก็ตกม้าในช่วงเวลานี ้ ยามนีเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย เขาคงไม่มี
ใจไปขี่มา้ เที่ยวเล่นกับเพื่อนฝูง ก็นบั ว่าช่วยชีวิตของเขาไปในตัวแล้วกัน
แต่วา่ อวีถ้ งั ยังคงกังวลว่าเรื่องของชาติก่อนจะเกิดขึน้ อยู่บา้ ง นางจ้างอาหลิ่วที่ขายสาลี่
ช่วยจับตาดูหลี่จวิน้ หากหลี่จวิน้ ขี่มา้ ออกจากประตู ก็ให้ขดั ขวางหลี่จวิน้ ทันที พูดว่านางอยาก
พบเขา
ส่วนเป็ นเรื่องอะไร อวีถ้ งั ยังหาข้ออ้างไม่ได้
ผลลัพธ์เมื่ อถึงวันที่เกิดเรื่อง หลี่จวิน้ ยังคงออกจากประตู…พวกฟู่ เสี่ยวหวั่นเห็นว่า
หลายวันมานีเ้ ขาพบเจอแต่เรื่องไม่ดีติดต่อกัน จึงชวนเขาไปขี่มา้ เที่ยวเล่นข้างนอกด้วยกัน
หลี่จวิน้ ไม่มีกะจิตกะใจ
เมื่อวาน มารดาของเขาได้รบั จดหมายตอบกลับจากบิดา ให้ฮูหยินหลี่เลือกวันส่งเขา
ไปรื่อเจ้า บิดาของเขาจะถ่ายทอดวิชาความรูใ้ ห้เขาด้วยตัวเอง
หากเป็ นเมื่อก่อนฟู่ เสี่ยวหวั่นชวนเขาออกจากบ้าน แม้จะอารมณ์ไม่ดีก็จะข่ม กลั้น
เอาไว้ ออกไปเที่ยวกับเขา แต่ยามนี ้ เขากลับอยากพูดคุยกับพวกฟู่ เสี่ยวหวั่นเสียหน่อยมากกว่า
เขาจะไปอย่างกะทันหันเช่นนี ้ ยังไม่รูว้ า่ เมื่อไรจะได้กลับมาหลินอันอีก
พวกเขาไม่ได้ข่ีมา้ เที่ยวเล่น แต่ไปบ้านของเสิ่นฟาง ดื่มชาฟั งดนตรีคยุ เล่นกัน จวบจน
ดวงจันทร์ทอแสงเหนือกิ่งหลิวจึงกลับจวน
607

ด้านอวีถ้ งั ทราบข่าวนี ้ ใจที่แขวนกลางอากาศจึงค่อยสงบลงมาได้


เมื่อเป็ นเช่นนี ้ เรื่องที่นางสามารถทําได้ก็ทาํ ไปหมดแล้ว นับว่าได้ปกป้องชีวิตของหลี่
จวิน้ เอาไว้ นับแต่นีต้ ่อไป นางและสกุลหลี่ก็ไม่ขอ้ งเกี่ยวอันใดกันแล้ว ภายภาคหน้าหากมีแค้น
ย่อมชําระด้วยแค้น เกลียดชังมาก็เกลียดชังตอบ ไม่ตอ้ งกังวลอะไรอีกแล้ว

วันที่ส่เี ดือนสิบ หลี่จวิน้ ก็เดินทางออกจากเมืองหลินอัน


อวีถ้ งั นัน้ ไม่รูเ้ รื่องนี ้
นางตามผูใ้ หญ่ในสกุลและพี่ชายไปเรือนเก่าเซ่นไหว้บรรพบุรุษ
เพียงเมื่อพวกเขาเพิ่งกลับมาถึงเรือนเก่าสกุลอวี ้ ปู่ ห้าก็เดินกะโผลกกะเผลกเข้ามา
กล่าวว่ามีคนต้องการพบพวกเขา ถามพวกเขาว่าอยากพบหรือไม่
หลังจากเกิดเรื่องอาเจ็ด ถึงแม้อวีเ้ หวินจะรับปากว่าจะเลีย้ งดูปู่ห้ายามบัน้ ปลายชีวิต
แต่ปหู้่ ากลับคล้ายถูกดึงเอ็นออกจากร่างชั่วข้ามคืน ทําเรื่องอะไรก็ลว้ นไม่มีเรี่ยวแรง ทุกวันเอา
แต่น่ งั อยู่หน้าประตูสบู ยาเส้นที่ตวั เองปลูก ไม่ก่ีวนั ก่อนยังเท้าเคล็ด อวีเ้ หวินเชิญหมอมารักษา
เขา เขาก็ไม่ยอมกินยาดีๆ ทําให้ยืดเยือ้ อยู่อย่างนีไ้ ม่จบไม่สนิ ้ ใครเตือนก็ไม่ยอมฟั ง
อวีเ้ หวินเห็นก็อดไม่ได้ท่ีจะถอนหายใจ เอ่ยกับปู่ ห้าด้วยนํา้ เสียงอ่อนโยน “เท้าท่านไม่ดี
อย่าวิ่งวุน่ ไปทั่วเลย เป็ นใครที่อยากพบข้า? ข้าไปดูดว้ ยตัวเองก็เพียงพอแล้ว”
ปู่ ห้านัน้ รู ส้ ึกผิดต่ออวีเ้ หวินและอวีถ้ งั ได้ฟังก็ยิม้ อย่างขมขื่นอยู่บา้ ง “เจ้าไม่ตอ้ งสนใจ
ข้าหรอก เท้าข้า ข้ารู ด้ ีท่ีสดุ ผูท้ ่ีอยากพบเจ้าคือคนบ้านสายตรงสกุลหลู่ คนสกุลหลู่ท่ีหลังจาก
เขาตาย เจ้าก็จัดงานศพอย่างยิ่งใหญ่ให้ผูน้ นั้ ” พูดมาถึงตรงนี ้ ปู่ ห้าก็อดพูดต่อไม่ได้ “ข้าเห็น
พวกเขายังพาเด็กคนหนึง่ มาด้วย ข้ามาใคร่ครวญดู หรือบ้านสายตรงสกุลหลูอ่ ยากจะให้เด็กคน
นีเ้ ป็ นลูกบุตรธรรมของหลูซ่ ิ่น ดังนัน้ จึงมาหาเจ้าเพื่อพูดเรื่องนี”้
608

นี่เดิมทีก็ไม่ขอ้ งเกี่ยวกับสกุลอวี ้ แต่สกุลอวีน้ นั้ ช่วยจัดการเรื่องงานศพของหลู่ซ่ิน หาก


บ้านสายตรงสกุลหลู่อยากมอบทายาทให้รบั ช่วงต่อหลู่ซิ่น ตามหลักแล้วควรจะมาทักทายกับ
สกุลอวี ้ ยอมรับนํา้ ใจนีข้ องสกุลอวีจ้ งึ จะถูก
อวีเ้ หวินไม่ได้นาํ มาใส่ใจ กําชับปู่ หา้ อย่างเป็ นห่วงไม่ก่ีคาํ จึงค่อยไปพบคนของสกุลหลู่
ยังคงเป็ นดังที่ปหู้่ าคาดไว้จริงๆ นี่ไม่ใช่วนั ที่หนึ่งเดือนสิบ ยามที่เซ่นไหว้บรรพบุรุษหนึ่ง
ปี หนึ่งครัง้ แล้วหรอกหรือ? บ้านสายตรงสกุลหลู่จึงปรึกษาหารือจะมอบทายาทให้หลู่ซิ่นเพื่อ
คอยจุดธูปเทียนให้เขา เอ่ยกับอวีเ้ หวินว่า “เมื่อก่อนโกรธเขาที่ไม่เห็นบ้านสายตรงพวกเราอยู่ใน
สายตา แต่คนตายก็เหมือนตะเกียงที่มอดดับ บางเรื่องปล่อยไปได้ก็ตอ้ งปล่อยไป ภายหน้า
ลูกหลานจะได้ไม่เอ่ยขึน้ มา คิดว่าข้านัน้ ใจแคบ เขาเป็ นลูกหลานของสกุลหลู่คนหนึ่ง ก็ไม่อาจ
ให้พวกเจ้าสกุลอวีช้ ่วยจุดธูปเซ่นไหว้ได้ ผูอ้ าวุโสของพวกเราไม่ก่ีคนได้ปรึกษากัน จะให้เด็กคน
นีเ้ ป็ นลูกของหลูซ่ ิ่น แต่ว่ายังคงให้เด็กใช้ชีวิตกับบิดามารดาผูใ้ ห้กาํ เนิดเหมือนเดิม ยามที่ฉลอง
เทศกาลหรือข้ามปี ก็ให้จดุ ธูปเซ่นไหว้หลูซ่ ิ่นก็เพียงพอแล้ว”
อวีเ้ หวินคิดว่าเป็ นเช่นนีก้ ็ดี
ความสัมพันธ์ของเขาและหลู่ซิ่นเป็ นเรื่องของรุน่ เขา ไม่อาจให้พวกลูกหลานรุน่ หลังไป
เซ่นไหว้หลูซ่ ิ่นทุกปี ได้หรอกกระมัง? ยิ่งไปกว่านัน้ อวีถ้ งั ก็ไม่ชอบหลูซ่ ิ่น
“รบกวนท่านแล้ว!” อวีเ้ หวินเอ่ยคําขอบคุณกับบ้านสายตรงสกุลหลูแ่ ทนหลูซ่ ิ่น
ยามนีบ้ า้ นสายตรงสกุลหลูจ่ งึ ค่อยเอ่ยถึงจุดประสงค์แท้จริงที่มา “เช่นนัน้ ท่านว่า หลูซ่ ิ่น
ก็ไม่ได้เหลือของอันใดไว้ เรือนเก่าผุพงั นัน้ เขาก็ขายให้คนอื่นแล้ว คงไม่อาจถึงกับไม่มีอะไรให้
เด็กคนนีไ้ ด้นึกถึงเลยกระมัง? ข้าได้ยินว่ายามที่ท่านกลับมาจากหังโจว ยังนําของที่หลู่ซิ่นใช้
ยามที่มีชีวิตกลับมาด้วย จะสามารถ สามารถให้เด็กคนนีไ้ ด้หรือไม่ พูดถึงแล้ว ก็นับว่าเป็ น
รับรองในการมอบเด็กคนนีเ้ ป็ นลูกของหลูซ่ ิ่น…”
อวีเ้ หวินชะงักไป
609

ก่อนหน้านีเ้ ขาและอวีถ้ งั เคยคาดเดามามากมาย


เคยนึกว่าสกุลหลี่จะส่งคนมาขโมยอีกครัง้ คิดว่าจะมีคนมาชกชิง รอหลังจากสกุลหลี่
และสกุลอวีท้ ะเลาะกันครัง้ ใหญ่ เขากระทั่งเคยคิดว่าสกุลหลี่จะหลบไปเพราะรูว้ ่าเรื่องนีไ้ ม่ง่าย
นับจากนัน้ ก็จะไม่วางแผนกับสกุลอวีข้ องพวกเขาอีก
สิ่งที่ทาํ ให้เขาคาดไม่ถึงคือ คนของสกุลหลูจ่ ะมาขอสิ่งที่เรียกว่าของต่างหน้าของหลูซ่ ิ่น
ถึงหน้าประตูในยามนี ้
อวีเ้ หวินลังเลไปชั่วขณะ
เดิมทีของต่างหน้านีเ้ ตรียมจะล่อให้สกุลหลี่ติดกับ หากมอบให้สกุลหลู่ สกุลหลู่จะถูก
ดึงติดร่างแหในเรือ่ งนีไ้ ปด้วยหรือเปล่า
แผนที่เดินเรือมีผลประโยชน์มหาศาล ใครก็ไม่รูว้ ่าเบือ้ งหลังสกุลหลี่ยงั มีคนอื่นหรือไม่?
ไม่รูว้ า่ ผูท้ ่ีอยู่เบือ้ งหลังตกลงมีความเป็ นมาอย่างไร? กระทําการในรูปแบบไหน?
คนบ้านสายตรงสกุลหลูป่ รากฏสีหน้าละโมบขึน้ มาแวบหนึ่ง
ของต่างหน้าของหลู่ซิ่น เดิมทีพวกเขาก็ไม่อยากได้ แต่ก่อนหน้านีไ้ ม่ก่ีวนั เขาบังเอิญ
ทราบมาว่าภาพวาดหนึ่งที่หลู่ซิ่นหลงเหลือไว้เป็ นผลงานแท้ของนักวาดในราชวงศ์ก่อน ใน
ท้องตลาดอย่างน้อยที่สดุ ก็สามารถขายได้สามร้อยถึงห้าร้อยตําลึง นี่ก็ทาํ ให้คนอิจฉาตาร้อนได้
แล้ว
เช่นนัน้ อวีเ้ หวินฝั งศพหลู่ซิ่น อย่างมากที่สดุ ก็เสียเงินยี่สิบกว่าตําลึงเท่านัน้ ถือสิทธิ์อนั
ใดเอาภาพวาดนีไ้ ปเปล่าๆ
ตามหลักแล้วภาพนีค้ วรตกอยู่ในมือของสกุลหลูพ่ วกเขาสิ
เมื่อคิดเช่นนี ้ บ้านสายตรงสกุลหลูจ่ ึงอดร้อนใจไม่ได้ “นายท่านอวี ้ ข้าก็รูว้ ่าท่านจัดงาน
ศพยิ่งใหญ่ให้หลูซ่ ิ่น ตามหลักแล้ว พวกเราไม่ควรเอาของกลับไปอีก แต่ขา้ เป็ นบ้านสายตรงของ
สกุลหลู่ ไม่อาจปล่อยปละละเลยทายาทของหลูซ่ ิ่นไปได้เช่นนี ้ ข้าก็มีช่ือเสียงฐานะเช่นกัน เป็ น
610

เรื่องที่อบั จนหนทาง อย่างไรขอนายท่านอวีโ้ ปรดทําเรื่องดีให้ถึงที่สดุ ด้วย คืนของต่างหน้าของ


หลูซ่ ิ่นให้กบั สกุลหลูพ่ วกเรา พวกเราจะซาบซึง้ ใจเป็ นอย่างมาก!”
พูดจบ ก็หยัดกายคํานับให้กบั อวีเ้ หวิน
อวีเ้ หวินกลับอยากคืนของให้สกุลหลู่ แต่เขาลังเลว่าจะทําอย่างไรดี จึงตัง้ ใจใช้คาํ พูด
ยืดเยือ้ บ้านสายตรงสกุลหลู่ “ของที่เขาทิง้ ไว้ก็มีไม่มาก ข้ายังไม่ทนั ได้จดั การดีๆ เอาอย่างนี ้ รอ
ผ่านวันเซ่นไหว้ไม่ก่ีวนั นีไ้ ป ท่านค่อยมาที่บา้ นอีกครัง้ พวกเรามาปรึกษากันว่าจะทําอย่างไรกับ
เรื่องนี!้ ”
บ้านสายตรงสกุลหลู่กลัวว่าอวีเ้ หวินจะเปลี่ยนใจภายหลัง แต่ก็ไม่อาจเร่งรัดเกินไปได้
กลัวว่าจะทําให้อวีเ้ หวินเกิดความสงสัย รีบเอ่ย “เช่นนัน้ ก็ได้! พวกท่านกลับเข้าเมืองหลินอัน
เมื่อใด? ถึงเวลานัน้ ข้าจะพาเด็กคนนีไ้ ปขอพบท่าน”
อวีเ้ หวินตอบ “วันมะรืนพวกเราจึงจะกลับไป ไม่อย่างนัน้ นัดเจอห้าวันให้หลังเถิด!”
บ้านสายตรงสกุลหลู่ยงั คงต่อรอง อวีเ้ หวินพูดอยู่ค่อนวัน จบที่นดั ไปเอาของที่สกุลอวี ้
อีกสามวัน
อวีเ้ หวินพยักหน้าอย่างจนใจ ส่งคนสกุลหลูจ่ ากไปก็แอบเฉินซื่อดึงอวีถ้ งั ไปพูดคุยใต้ตน้
เซียงจางหน้าเรือน
เขาเล่าเรื่องเมื่อครูใ่ ห้อวีถ้ งั ฟั งอย่างไม่ตกหล่น “เจ้าว่า พวกเราควรทําอย่างไรดี?”
โดยที่ไม่ทนั รูต้ วั เขาก็เห็นลูกสาวเป็ นคนที่พ่งึ พาได้ไปเสียแล้ว
เรื่องของต่างหน้าของหลู่ซิ่น พวกเขาแพร่ข่าวออกไปตัง้ นานแล้ว แต่ไม่ว่าคนสกุลหลู่
หรือคนสกุลหลี่ ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด กลับมายามที่เพิ่งสิน้ สุดการโต้แย้งกับ
สกุลหลี่ สกุลหลูก่ ็นกึ ถึงเรื่องมอบบุตรบุญธรรม ทัง้ ยังมาเอาของต่างหน้า หากกล่าวว่าเบือ้ งหลัง
เรื่องนีไ้ ม่มีเงื่อนงํา อวีถ้ งั คนหนึ่งแล้วที่ไม่เชื่อ
แต่วา่ ความคิดของนางได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแล้ว
611

เมื่อก่อน นางเพียงอยากทิง้ เผือกร้อนนีอ้ อกไปเท่านัน้ ยามนี ้ นางกลับต้องการพยายาม


สุดความสามารถเพื่อจะทําให้คนที่อยู่เบือ้ งหลังแตะของร้อนจนมือพอง จึงจะทําให้ความโกรธ
แค้นในใจนางสงบลงได้
“เช่นนัน้ ก็มอบให้พวกเขา” อวีถ้ งั เอ่ยอย่างเยือกเย็น “แต่ว่า พวกเราจัดงานศพให้ลงุ หลู่
ก็ใช้เงินไปไม่นอ้ ย สกุลพวกเขาคิดจะเอาของกลับไป ไม่ว่าอย่างไรก็ตอ้ งชดเชยค่าเสียหายให้
สกุลพวกเราหน่อยกระมัง?”
“นี่ไม่ค่อยดีกระมัง!” อวีเ้ หวินเอ่ยคัดค้านทันที “ไม่แน่ว่าพวกเขาก็ถูกคนใช้ประโยชน์
เช่นกัน”
“หากพวกเขาไม่คิดละโมบโลภมาก จะถูกคนหลอกใช้ได้ร?ึ ” อวีถ้ งั ไม่สะทกสะท้านแต่
อย่างใด เอ่ยอย่างดูแคลน “แม้ว่านี่จะเป็ นหลุมใหญ่ ก็เป็ นพวกเขาที่ตอ้ งการกระโดดเข้ามาเอง
หรือต้องโทษพวกเราที่ไม่ได้ทดั ทานพวกเขา? แม้จะเป็ นเด็กสามขวบก็ยงั รูว้ า่ ไม่มีของดีตกลงมา
จากฟ้าได้ เขาเป็ นเพียงบ้านสายตรง คาดไม่ถึงว่าจะเชื่อในเรื่องเช่นนี ้ หรือพวกเรายังต้องจับมือ
เขาสอนเรื่องไม่ควรโลภในทรัพย์สินที่ได้มาอย่างไม่ขาวสะอาด?”
อวี เ้ หวิ น ถูก ลูก สาวโน้ม น้า วสํา เร็จ “เช่ น นั้น ยามที่ พ วกเขามาหา พวกเราควรพูด
อย่างไร? บอกเขาว่าต้องการเงินไปตรงๆ? จํานวนเท่าไรจึงจะเหมาะสม?”
อวีถ้ งั เอ่ย “คนเฉกเช่นพวกเขา ยิ่งท่านต้องการเงินจากพวกเขาอย่างตรงไปตรงมา พวก
เขาก็ย่ิงไม่อาจสงสัย ตอนแรกไม่ใช่ว่าลุงหลูข่ ายภาพนัน้ ให้ท่านสองร้อยตําลึงหรอกรึ? พวกเรา
ก็ไม่ตอ้ งการมาก แค่สองร้อยตําลึงก็เพียงพอแล้ว”
“มากขนาดนีเ้ ชียว!” อวีเ้ หวินตกใจไม่นอ้ ย
อวีถ้ งั กลับมีแผนในใจแล้ว “ท่านฟั งข้า เรื่องนีย้ ่อมไม่ผิดแน่ เพื่อภาพวาดหนึง่ แล้ว พวก
เขาสามารถทําเรื่องฆ่าคน บีบให้แต่งงานได้ เรื่องที่สามารถใช้เงินแก้ไขปั ญหา นั่นก็ย่อมไม่ใช่
เรือ่ งยาก”
612

อวีเ้ หวินตอบรับอย่างไม่สบายใจอยู่บา้ ง

อวีถ้ งั ขอให้พ่ีนอ้ งสกุลชวีช่วยสืบเรื่อง


เป็ นดังคาด มีคนเป่ าหูบา้ นสายตรงสกุลหลู่ว่าของที่หลู่ซิ่นทิง้ ไว้มีภาพวาดที่พอขายได้
สี่ถึงห้าร้อยตําลึงอยู่
อวีถ้ งั ครุน่ คิดอยู่เนิ่นนาน
รอจนยามที่บา้ นสายตรงสกุลหลูพ่ าทายาทของหลูซ่ ิ่นเข้ามาเยี่ยมเยียน อวีเ้ หวินก็ไม่ได้
อ้อมค้อม เอ่ยถึงเงินสองร้อยตําลึง ทัง้ ยังว่าตามที่อวีถ้ งั บอกอย่างไม่รูส้ ึกกระดากอาย “เดิมที
ภาพวาดนีข้ ายให้ขา้ สองร้อยตําลึง ส่วนเรื่องค่าฝังศพเสียเท่าไรนัน้ ข้าและเขาเป็ นสหายกัน ถือ
เสียว่าข้าช่วยเขาแล้วกัน”
บ้านสายตรงสกุลหลูต่ กตะลึง “ไฉนจึงมากมายขนาดนี?้ ”
อวีเ้ หวินแสร้งดื่มดํ่าไปกับชาแทน
คนบ้านสายตรงสกุลหลูก่ ดั ฟั นแน่น
หากภาพนัน้ ขายได้หา้ ร้อยตําลึง ให้สกุลอวีส้ องร้อยตําลึง สกุลพวกเขาก็ยงั สามารถได้
กําไรมากกว่าครึง่
คนผูน้ นั้ ยังรอเอาภาพอยู่!
เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องราวยืดเยือ้ บ้านสายตรงสกุลหลู่ตอบรับอย่างหลั่งเลือดในใจ
กลับไปหาคนที่เป่ าหูพวกเขาให้ม าเอาของต่างหน้า ยื ม เงินสองร้อยตําลึงให้สกุลอวี ้ เขี ยน
หนังสือซือ้ ขายเรียบร้อย ก่อนจะนํา ‘ของต่างหน้า’ ของหลูซ่ ิ่นกลับไป
อวีเ้ หวินมองเงินสี่กอ้ นใหญ่ท่ีวาววับอยู่บนโต๊ะกลมห้องโถง รูส้ กึ ราวกับตัวเองฝันไป ถา
มอวีถ้ งั “พวกเราหาเงินสองร้อยตําลึงได้ง่ายขนาดนีเ้ ชียว”
613

อวีถ้ ังมองเงินสี่กอ้ นนัน้ ก็หัวเราะขึน้ มา “ประจวบเหมาะให้ท่านพี่ใช้แต่งงานพี่สะใภ้


พอดี ” ทั้ง ยัง หยอกล้อ กับ บิ ด า “สิ น เดิ ม ที่ ท่ า นแม่ เ ตรี ย มไว้ใ ห้ข้า พวกนั้น ก็ ค งเก็ บ ไว้ไ ด้แ ล้ว
กระมัง?”
614

บทที่ 76 แยกสายสกุล
“แน่นอน แน่นอน!” อวีเ้ หวินลูบหัวลูกสาวด้วยรอยยิม้ เอ่ยหยอกเย้า “เพื่อให้รางวัล
ก่อนหน้านีท้ ่ีเจ้าใจกว้าง เงินห้าสิบตําลึงก้อนนีก้ ็ให้เป็ นเงินส่วนตัวเจ้าแล้วกัน เจ้าอยากซือ้ อะไร
ก็ซือ้ ไป!”
ก่ อ นหน้า นี เ้ พราะงานหมั้น ของอวี ห้ ย่ ว น เฉิ น ซื่ อ จึ ง เอาพวกผ้า อาภรณ์ท่ี ส่ ัง สมไว้
เมื่อก่อนไปให้หวังซื่อใช้เป็ นสินสอดทองหมัน้ ให้อวีห้ ย่วน
นี่นบั เป็ นเงินที่ได้มาอย่างไม่คาดคิดจริงๆ!
อวีถ้ งั ยิม้ จนตาเป็ นรูปพระจันทร์เสีย้ ว รีบนําเงินก้อนนัน้ ซ่อนไว้ในอก จากนัน้ ก็กลับไป
หาเฉินซื่อกับอวีเ้ หวิน
มีบางเรื่องที่อวีเ้ หวินและอวีถ้ งั ตัง้ ใจปิ ดบังเฉินซื่อ เฉินซื่อย่อมไม่รูว้ ่าเงินนีเ้ ป็ นเงินที่พ่อ
ลูกสกุลอวีร้ ีดไถมาจากสกุลหลู่ ยังคิดไปว่าอวีเ้ หวินทําเรื่องดี จึงได้รบั สินนํา้ ใจจากคนสกุลหลู่
เห็นเงินแล้วย่อมดีใจกับเรื่องที่ไม่คาดฝัน แต่เมื่อรูว้ ่าอวีเ้ หวินให้เงินอวีถ้ งั ห้าสิบตําลึงก็ยงั คงอด
ตําหนิสามีไม่ได้ “นางอายุยงั น้อย จะใช้อะไรพวกเราจํากัดให้นางไม่ได้ร?ึ เหตุใดเจ้าจึงให้เงิน
นางมากมายขนาดนีใ้ นคราเดียว?”
อวีเ้ หวินเป็ นคนใจกว้างมาโดยตลอด ยิ่งไปกว่านัน้ ยามนีเ้ ขาไม่เห็นอวีถ้ งั เป็ นคุณหนูท่ี
ถูกเลีย้ งในห้องหับไม่ประสาเรื่องราวภายนอกอีกแล้ว ฟั งจบก็รีบเอ่ย “นางก็โตแล้ว ในมือมีเงิน
จะได้ไม่กงั วลอันใด เจ้าอย่าได้ใส่ใจเลย”
เฉินซื่อเห็นอวีถ้ งั ปกป้องเงินห้าสิบตําลึงไว้อย่างแน่นหนา คิดว่าแม้ตวั เองจะจูจ้ ีจ้ กุ จิกก็
คงนํากลับคืนมาไม่ได้ จึงหลับหูหลับตาอย่างรู แ้ ล้วรู ร้ อดไป แสร้งทําเป็ นไม่เห็นอะไรทัง้ นัน้ ไม่
เอ่ยถึงเรื่องเงินขึน้ มาอีก พูดเรื่องหม่าซิ่วเหนียงกับอวีถ้ งั “นางเพิ่งรับหน้าที่ดแู ลพิธีเซ่นไหว้ของ
สกุลสามี ฟั งจากนายหญิงหม่าแล้ว คนสกุลสามีพอใจนางไม่นอ้ ย นางก็อยากใช้โอกาสนีย้ ืน
หยัดอย่างมั่นคงในสกุล อยากเชิญพวกเจ้าไปเที่ยวเล่นที่เรือนนาง ยามที่เจ้าไปก็แต่งตัวทําผม
เผ้าดีๆ อย่าได้ขายหน้าขายตาหม่าซิ่วเหนียงเชียว”
615

อวีถ้ งั ตอบรับ เตรียมจะไปเที่ยวเล่นบ้านของหม่าซิ่วเหนียง


เมืองหลินอันกลับเกิดเรื่องใหญ่หนึ่งขึน้ เสียก่อน
บ้านสายตรงสกุลหลี่ตอ้ งการแยกสายสกุลกับบ้านของหลี่ตวน!
บ้านสายตรงสกุลหลี่ยังอยากเชิญเผยเยี่ ยน และท่านข้าหลวงทังเป็ นคนกลางดูแล
จัดการเรื่องแยกสายสกุลด้วยกัน
ทุกคนได้ยินข่าวนีต้ า่ งพากันตกใจจนแทบไม่อาจหุบปากไว้ได้
เรื่องแยกสายสกุลนี ้ เมืองหลินอันไม่เกิดขึน้ มาหลายปี แล้ว
อาศัยจากคําพูดของอวีเ้ หวินคือ “ยังคงเป็ นตอนที่ขา้ ยังเด็ก สมัยปู่ ทวดของเจ้าเคย
เกิดขึน้ ครัง้ หนึ่ง”
เฉินซื่อรีบถาม “เช่นนัน้ จะเกิดผลกระทบอะไรบ้าง?”
อวีเ้ หวินครุน่ คิดเล็กน้อย “ความจริงก็ไม่มีอะไร เพียงคนทัง้ สองสกุลไม่เซ่นไหว้ดว้ ยกัน
เท่านัน้ แต่สิ่งที่ขา้ คิดไม่ตกคือ บ้านสายหลี่ตวนนีก้ าํ ลังเจริญรุ ่งเรืองขึน้ เรื่อยๆ เหตุใดบ้านสาย
ตรงสกุลหลี่จงึ อยากแยกสายสกุลกับบ้านของหลี่ตวนกัน”
สิ่งที่อวีถ้ ังกังวลกลับเป็ นอีกเรื่องหนึ่ง นางเอ่ย “ท่านพ่อ เช่นนัน้ นายท่านสามรับปาก
เป็ นคนกลางหรือไม่?”
อวีเ้ หวินก็ไม่ทราบ ครุ น่ คิดก่อนเอ่ย “คงจะรับปากกระมัง! อย่างไรสกุลหลี่ก็เป็ นสกุลที่
มีหน้ามีตาในเมืองหลินอัน”
อวีถ้ งั ฟั งพลางจิบชาไปด้วย
เผยเยี่ยนในชาติก่อนลึกลับกว่าตอนนีม้ าก ไม่ออกหน้าทําเรื่องอะไรง่ายๆ ยามนีเ้ ขา
เพิ่งรับช่วงต่อเป็ นผูน้ าํ สกุลไม่ถึงหนึ่งปี ก็ออกหน้าคอยจัดการเรื่องความขัดแย้งถึงสองครัง้ แล้ว
616

ไม่รูว้ ่าเพราะชาตินี ้ เขาเข้าสู่วงสังคมมากขึน้ แล้ว? หรือเพราะชาตินีน้ างและเผยเยี่ยนมีโอกาส


พบเจอกันบ่อยๆ ดังนัน้ จึงเข้าใจเขามากขึน้ ?

ยามที่นายท่านอู๋และอวีเ้ หวินพูดคุยกันเรื่องนี ้ อวีเ้ หวินก็อดเอ่ยขึน้ มาไม่ได้ “ถึงเวลานัน้


นายท่านสามสกุลเผยจะเป็ นคนกลางหรือไม่?”
“เห็นบอกว่านายท่านสามไม่อยู่หลินอัน” นายท่านอู๋เอ่ยเสียงเบา “บ้านสายตรงสกุล
หลี่และหลี่ตวนไปเชิญอยู่หลายครัง้ ล้วนบอกว่าไม่อยู่จวน ก่อนหน้านีพ้ วกเรายังคิดว่านายท่าน
สามไม่อยากเกี่ยวข้องกับเรื่องนี ้ สองวันก่อนพอสืบข่าวค่อยรู ว้ ่า นายท่านสามไปเมืองหังโจว
จนถึงวันนีก้ ็ยงั ไม่กลับมา! ได้ยินอาจารย์เสิ่นของสํานักศึกษาประจําอําเภอพูดว่า ดูเหมือนมี
ผูต้ รวจการมาเมืองหังโจว ผูต้ รวจการคนนัน้ เป็ นสหายร่วมชัน้ ของนายท่านสาม ผูว้ า่ การมณฑล
เจ้อเจียงจึงเชิญนายท่านสามไปรับรองแขก”
อวีเ้ หวินฟั งแล้วก็สา่ ยศีรษะ “นายท่านสามสกุลเผยยังอยู่ในช่วงไว้ทกุ ข์ไม่ใช่ร!ึ ”
“กระนั้นก็ไม่อาจจมปลักกับอดีต ไม่สนใจปั จจุบนั ” นายท่านอู๋ไม่คิดเช่นนัน้ “รอจน
เสร็จสิน้ การไว้ทกุ ข์ นายท่านใหญ่สกุลเผยไม่อยู่แล้ว คุณชายน้อยทัง้ สองของบ้านใหญ่ก็อายุยงั
น้อย ไม่มีช่ือเสียงตําแหน่ง นายท่านสามสกุลเผยกลับบ้านมารับช่วงต่อกิจการของสกุล เช่นนัน้
เมื่อนายท่านรองสกุลเผยกลับไปรับตําแหน่งต่อก็ย่อมสําคัญแล้ว แม้ว่านายท่านสามสกุลเผย
จะไม่ทาํ เพื่อตัวเอง ก็ตอ้ งวางแผนเพื่อสกุลเผย!”
อวีถ้ งั พยายามหวนนึก ดูเหมือนว่าหลังจากนายท่านรองสกุลเผยกลับไปรับตําแหน่งอีก
ครัง้ ก็ได้เป็ นใหญ่เป็ นโตในสายขุนนาง นางนัน้ จําเรื่องหลักๆ ไม่ได้แล้ว แต่ยามที่สกุลหลี่เอ่ยถึง
เรื่องนีก้ ลับค่อนข้างระมัดระวัง
อวีเ้ หวินเอ่ย “เช่นนัน้ สกุลหลี่ตอ้ งรอนายท่านสามกลับมาแล้วค่อยแยกสายสกุลอย่าง
นัน้ รึ?”
617

นายท่านอู๋มองซ้ายแลขวา เห็นเพียงอวีถ้ งั นั่งจัดชาและของว่างอยู่ในห้อง ก็ไม่ได้ใส่ใจ


กดเสียงตํ่ากล่าว “เจ้ายังไม่รูก้ ระมัง? บ้านสายตรงสกุลหลี่และหลี่ตวนทะเลาะกันร้ายแรง
ขัดแย้งเรื่องอะไรกลับไม่มีขอ้ มูลแพร่งพรายออกมา แต่เป็ นไปได้ว่ามิพน้ เกี่ยวข้องกับเรื่องสกุล
พวกเจ้า”
อวีเ้ หวินไม่เข้าใจ “เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสกุลพวกเรา?”
“อืม!” นายท่านอู๋ผงกศีรษะ “เจ้าลองคิดดู เมื่อก่อนยามที่บา้ นของหลี่ตวนยังไม่โดด
เด่น บ้านสายตรงสกุลหลี่ก็ช่วยเหลือพวกเขาไม่นอ้ ย รอจนบ้านของหลี่ตวนเจริญรุง่ เรืองขึน้ มา
นอกจากบ้านสายตรงนัน้ ได้งดเว้นเรื่องภาษี แล้ว ยังได้ประโยชน์อันใดอีก? แต่เมื่อบ้านของ
หลี่ตวนเกิดเรื่อง กลับลากบ้านสายตรงของพวกเขาลงนํา้ ไปด้วย ยามนีบ้ า้ นสายตรงสกุลหลี่ก็มี
ซิ่วไฉคนหนึ่งไม่ใช่ร?ึ มีซิ่วไฉคนนี ้ ก็สามารถงดเว้นภาษี อากรได้ตลอดไปแล้ว เมื่อมาคิดดูอย่าง
ละเอี ย ด วิ ธี ก ารของบ้า นหลี่ ต วนใจดํา โหดร้า ยเช่ น นี ้ แทนที่ จ ะถูก บ้า นของหลี่ ต วนทํา ให้
เดือดร้อนไปด้วย ยังมิสฉู้ วยโอกาสนีแ้ ยกสายสกุล ตัดขาดกับบ้านของหลี่ตวน ต่างคนต่างใช้
ชีวิตของตัวเอง”
นี่เป็ นสิ่งที่อวีเ้ หวินและอวีถ้ งั คาดไม่ถึง
สกุลพวกเขาและสกุลหลี่ขดั แย้งกัน คาดไม่ถึงว่าจะเกิดเป็ นผลลัพธ์เช่นนีอ้ อกมา
อวี เ้ หวิ น ยัง คงคิ ด ว่า บ้า นสายตรงสกุล หลี่ ท าํ เช่ น นี เ้ สี่ ย งเกิ น ไป “แต่ ห ลี่ ซิ่ ว ไฉ ปี นี ก้ ็
ล่วงเลยสี่สิบปี เข้าไปแล้ว หากว่า…”
หากเขาตายไป สกุลหลี่ก็ตอ้ งจ่ายภาษี แล้ว นี่ไม่ใช่เงินน้อยๆ จะทําให้ทงั้ สกุลหลี่เหน็ด
เหนื่อยไปด้วยกันหมด ไม่แน่ว่า อาจจะทําให้เครือญาติสกุลหลี่เกิดความไม่พอใจ คิดเปลี่ยน
บ้านสายตรงขึน้ มา
นายท่า นอู๋เอ่ย อย่า งเจ้า เล่ห ์ “นี่ เ จ้า ยัง ดูไ ม่ ออกหรอกรึ? เบื อ้ งหลัง เรื่ องนี ย้ ่ อมมี คน
สนับสนุน บ้า นสายตรงสกุลหลี่ เ ป็ นแน่! มิ เ ช่ น นั้น บ้านสายตรงสกุลหลี่จ ะใจกล้าขนาดนีไ้ ด้
อย่างไร!”
618

อวีเ้ หวินยังไม่เข้าใจ
นายท่านอู๋สา่ ยศีรษะ เอ่ยด้วยรอยยิม้ “เจ้านี่เข้ากับประโยคที่วา่ คนโง่ก็มีวาสนาของคน
โง่จริงๆ มองไม่ออกก็แล้วไปเถิด วันนีข้ า้ มาเพราะมีอีกเรื่องอยากขอร้องเจ้า อยากให้เจ้าช่วยข้า
ตัดสินใจหน่อย”
อวีเ้ หวินก็ไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งวุ่นวาย คิดไม่ตกก็เอาเรื่องนีโ้ ยนทิง้ ไปข้างหลัง เอ่ยถาม
จุดประสงค์ท่ีมาของนายท่านอู๋
นายท่านอู๋เอ่ย “มีกิจการอย่างหนึ่ง อยากถามเจ้าว่าสนใจหรือไม่…ข้ามีหลานชายคน
หนึ่ง ทํากิจการอยู่ท่ีหนิงปั ว พวกเขามีกลุม่ เรือที่จะกําลังจะลงทะเล เขาอยากจะลงทุนกับเครื่อง
เคลือบลายคราม ไม่ก่ีวนั ก่อนข้าเพิ่งปรับปรุ งโรงกลั่นนํา้ มันพืชของสกุลไป ตัวข้าเองในมือไม่มี
เงินมากมายขนาดนัน้ เจ้าอยากร่วมหุน้ กับข้าหรือไม่?”
แต่ไหนแต่ไรอวีเ้ หวินก็คาดไม่ถึงมาก่อนว่าจะได้ทาํ กิจการกับเพื่อนบ้าน ยิ่งไปกว่านัน้
เขาแทบจะไม่เข้าใจเกี่ยวกับการค้าทางทะเลอย่างสิน้ เชิง
นายท่านอู๋ก็รูเ้ ช่นกัน “เจ้าไม่จาํ เป็ นต้องตอบข้าตอนนีก้ ็ได้ เจ้าไปปรึกษากับคนในบ้าน
ก่อน หากคิดว่ามีความเสี่ยง ทัง้ ในบ้านมีเงินอยู่ จะให้ขา้ ยืมก็ได้ ข้าจะให้ดอกเบีย้ เจ้าร้อยละ
ห้า”
อวีเ้ หวินไม่สามารถตัดสินใจในเวลาชั่วครู ่ได้จริงๆ พูดคุยเป็ นมารยาทกับนายท่านอู๋
ไม่ก่ีคาํ นายท่านอูก๋ ็หยัดกายบอกลา
อวีถ้ งั กําลังครุน่ คิดเรื่องนี ้
ชาติก่อน เพื่อจัดพิธีฝังศพให้บิดามารดา ท้ายที่สดุ ก็ขายเรือนหลังนีไ้ ป ออกเรือนที่บา้ น
ของลุงใหญ่แทน แม้ว่าจะไม่ได้เป็ นเพื่อนบ้านกับนายท่านอู๋ แต่เรื่องของสกุลนายท่านอู๋ นาง
ยังคงได้ยินมาอยู่บา้ ง…สกุลอู๋ไม่ได้ตกอับ ทัง้ นายท่านอู๋ก็ไม่ได้ร่วมลงทุนกับการค้าทางทะเล
เช่นกัน
619

ตกลงชาตินีม้ ีท่ีใดผิดพลาดกันแน่ เรื่องราวจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายเช่นนี?้


หรือเพราะเงินสองร้อยตําลึงที่ได้มาจากสกุลหลู?่
ไม่มีประสบการณ์ในชาติก่อน อวีถ้ งั ก็ยากจะตัดสินใจว่าเรื่องนีค้ วรทําหรือไม่
นี่ทาํ ให้นางท้อใจอยู่บา้ ง
ยามที่อวีเ้ หวินถามความเห็นของนาง นางเอ่ยว่า “ให้คนไปสืบข่าวก่อนได้หรือไม่วา่ นั่น
เป็ นกลุม่ เรืออะไร?”
หากนางมีภาพจําอยู่ ย่อมสามารถรูไ้ ด้วา่ กลุม่ เรือนีโ้ ชคดีหรือโชคร้าย
ขอเพียงกลุม่ เรือนีส้ ามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย ก็ลว้ นทําเงินก้อนใหญ่ได้ทงั้ นัน้
ชาติก่อนการออกทะเลเที่ยวหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย มีเรือไหนบ้างที่กลับมาอย่างปลอดภัย
นางไม่แน่วา่ จะรูห้ มด แต่หากเกิดเรื่อง ล้วนมีข่าวแพร่กระจายออกมาอยู่บา้ ง
อวี เ้ หวิ น มี ค วามคิ ด ของตัว เอง เขาเอ่ ย “ข้า ไม่ ช อบกิ จ การเช่ น นี เ้ อาเสี ย เลย ตาม
ความเห็นข้า ข้าไม่คิดถึงคนอื่น คนอื่นก็อย่าคิดถึงข้า หากนายท่านอู๋ตดั สินใจจะทํากิจการนี ้
จริงๆ สกุลพวกเราให้เงินเขายืมก็เพียงพอแล้ว หากคืนไม่ไหว ก็คิดเสียว่าสกุลพวกเราไม่ได้ใช้
เงินสองร้อยตําลึงนัน้ ของสกุลหลูเ่ สียเปล่า!”
อวีถ้ งั กระตุกยิม้
บิดานางก็นิสยั เช่นนีแ้ หละ
“มิ สูเ้ รีย กท่ า นพี่ ม าปรึก ษาหารือ” อวีถ้ ัง เชื่ อมั่น การตัดสิน ใจของอวีห้ ย่ ว นมากกว่า
“หลายวันมานีท้ ่านพี่ช่วยลุงใหญ่ดูแลจัดการเรื่องในร้านค้า สิ่งที่ได้ยินได้เห็นย่อมมีมากกว่า
พวกเรา”
อวีเ้ หวินคิดว่ามีเหตุผล เรียกอวีห้ ย่วนเข้ามาพูดคุย
อวีห้ ย่วนคัดค้านเรื่องนี ้
620

เขาเอ่ย “ตัง้ แต่ขา้ ไปหังโจวครัง้ ที่แล้ว ก็ให้ความสนใจกับกิจการที่เมืองหังโจวมาโดย


ตลอด ข้าได้ยินคนพูดว่า การค้าทางทะเลลึกลับซับซ้อน หากจะร่วมลงทุนจริงๆ พวกเราควรสืบ
เรื่องพวกนีใ้ ห้กระจ่างชัดก่อน ทุกอาชีพต่างมีความแตกต่าง มิใช่ว่าเห็นคนทําเงินได้ พวกเราก็
อิจฉาตาร้อน”
อวีถ้ งั เห็นด้วยกับความคิดของอวีห้ ย่วน
แต่อวีเ้ หวินเห็นแก่มติ รภาพ ยังคงให้นายท่านอูย๋ ืมเงินหนึ่งร้อยตําลึง
หลังจากอวีถ้ งั ทราบก็อดเหม่อลอยมองฟ้าไม่ได้
นางรูส้ กึ ว่า สกุลพวกนางคงไม่อาจกลายเป็ นคนมีเงินได้ตลอดทัง้ ชีวิต

ไม่นานนัก เรื่องแยกสายสกุลของบ้านสายตรงสกุลหลี่และบ้านหลี่ตวนก็มีผลลัพธ์
ออกมา
บ้านสายตรงสกุลหลี่ใจร้อนอย่างคอยไม่ได้ ไม่รอให้หลี่อีเ้ ขียนจดหมายกลับมาว่าเห็น
ด้วยหรือไม่ ก็พยายามดึงดันแย่งสายสกุลกับบ้านของหลี่ตวน
ทุกคนต่างคิดว่าบ้านสายตรงสกุลหลี่รีบร้อนเกินไป แต่บา้ นสายตรงสกุลหลี่ประกาศ
ออกมาแล้วว่า บ้านหลี่ตวนนีฝ้ ่ าฝื นคําสั่งสอนของบรรพบุรุษ ทัง้ ไม่ยินยอมอยู่ใต้อาํ นาจบ้าน
สายตรง แทนที่จะให้ทกุ คนไม่สบายใจอยู่อย่างนี ้ มิสแู้ ยกสายสกุล ต่างคนต่างไปตามทางของ
ตัวเอง
เรื่องที่ สกุลหลี่ทาํ การสู่ขอไม่สาํ เร็จจึง ลัก พาตัว อวีถ้ ัง ทั้ง บ่า วรับใช้ยังตัดสิ นใจโดย
พลการสั่งพวกลีภ้ ยั ไปสังหารคนจึงถูกคนในเมืองหลินอันวิพากษ์วิจารณ์ขนึ ้ มาอีกครัง้
เล่าลือกันไปร้อยแปดพันเก้า
621

แต่เรื่องที่มกั เอ่ยถึง ยังคงเป็ นเรื่องที่รูส้ กึ ว่าฮูหยินหลี่กระทําการโหดร้ายเกินไป ทัง้ การ


อบรมสั่งสอนของสกุลหลี่ไม่ถกู ต้องนัก
หลี่ตวนโมโหจนเลือดแทบขึน้ หน้า
ฮูหยินหลี่บนั ดาลโทสะอยู่ในเรือน “นี่ลว้ นเป็ นเรื่องที่คนพวกนัน้ พูดซีซ้ วั้ ? อาตวน เรื่องนี ้
ไม่อาจให้จบไปเช่นนีไ้ ด้! เดิมทีพวกเราก็คาํ นึงถึงบ้านสายตรงมาโดยตลอด ใครจะรู ว้ ่าพอพวก
เรายอมอ่อนข้อให้ พวกเขาจะไม่รบั นํา้ ใจ แยกสายสกุลก็ดี พวกเจ้าสองพี่นอ้ งก็ร่าํ เรียนตําราดีๆ
ไม่ก่ีปีย่อมมีอนาคตสว่างไสว ไม่แน่วา่ อาจจะกลายเป็ นสกุลที่สองของสกุลเผย”
มีเรื่องง่ายดายขนาดนัน้ ที่ไหนกัน?
หลี่ตวนไม่อาจระบายความทุกข์ตอ่ หน้ามารดา ยามที่กาํ ลังยิม้ รับปากอย่างขื่นขม ก็ได้
ยิ น เสี ย งชายหนุ่มเอ่ย อย่า งเย้า แหย่ ขึน้ มา “ท่ า นอากํา ลังโมโหเรื่องอะไรอยู่รึ? ดีท่ี น ้องชาย
กตัญ�ู ทุกเรื่องล้วนว่าตามท่าน หากเป็ นข้า คงโต้เถียงกับท่านแม่กลับไปแล้ว”
622

บทที่ 77 ความลับ
สองแม่ลกู หันกลับมา มองชายหนุ่มรู ปงาม สวมผ้าไหมสีม่วงอมแดงปั กด้ายเงินลาย
ดอกไม้เดินเข้ามาด้วยรอยยิม้ เริงร่า
“อาเจวี๋ย!” ฮูหยินหลี่รอ้ งอย่างดีใจ อาศัยการประคองจากสาวใช้ขา้ งกายเตรียมจะ
หยัดตัวขึน้ “เจ้ามาเมื่อใดกัน? ไฉนจึงไม่บอกกล่าวก่อน ข้าจะได้ให้นอ้ งชายเจ้าไปรับ”
ผูท้ ่ีมาคือหลินเจวี๋ย หลานชายฝั่งมารดาของฮูหยินหลี่
เขาเป็ นลูกชายคนโตของพี่ชายฮูหยินหลี่ ตัง้ แต่เล็กก็หน้าตาหล่อเหลาทัง้ ยังพูดเก่ง เป็ น
หลานชายที่ฮหู ยินหลี่รกั และเอ็นดูท่ีสดุ
หลินเจวี๋ยไม่รอให้นางยืนขึน้ มาก็ รีบสาวเท้าเข้าไป ฉวยโอกาสพยุงฮูหยินหลี่เอาไว้
ก่อนที่สาวใช้จะยื่นมือมา
“ท่านอา!” เขาเรียกฮูหยินหลี่อย่างสนิทสนม เอ่ยด้วยรอยยิม้ “บ้านของท่านก็ไม่ใช่ท่อี ่นื
ไกลอันใด ข้าแค่อยากสร้างความประหลาดใจให้ทา่ นเท่านัน้ คาดไม่ถึงว่าความประหลาดใจจะ
แปรเปลี่ยนเป็ นความตกใจไปเสียได้!” ขณะที่เขาพูด ก็เหลือบมองหลี่ตวนอย่างครุ ่นคิดอะไร
บางอย่าง เอ่ยกับฮูหยินหลี่ต่อ “ข้าไม่ได้ทาํ ให้ท่านตกใจกระมัง? หากรูว้ ่าจะเป็ นเช่นนี ้ ข้าคงให้
บ่าวรับใช้ลว่ งหน้ามารายงานก่อนแล้ว”
นํา้ เสียงของเขาแฝงความรู ส้ กึ เสียใจคณานับ ทําให้ฮหู ยินหลี่ท่ีได้ฟังเอ็นดูไม่นอ้ ย “อา
ของเจ้าเป็ นคนขีต้ กใจขนาดนัน้ เมื่อใดกัน? อีกอย่าง เรื่องอื่นข้าไม่กล้าโอ้อวด แต่ความสามารถ
ในการดูแลบ้านของอาเจ้าไม่เป็ นสองรองใคร ผูท้ ่ีว่ิงเข้ามาในห้องของข้าโดยไม่ให้สมุ้ ให้เสียง
ไม่ใช่พวกเจ้าที่มกั เข้าออกแล้วยังจะเป็ นใครไปได้อีก?”
จุดนีห้ ลินเจวี๋ยกลับไม่ปฏิเสธ
ทักทายกับหลี่ตวนเล็กน้อย ก่อนสองพี่นอ้ งจะพยุงฮูหยินหลี่ไปนั่งโต๊ะกลมด้านนอก
สาวใช้ยกของว่างและนํา้ ชาขึน้ โต๊ะ
623

ฮูหยินหลี่เอ่ยถามหลินเจวี๋ย “ครัง้ นีบ้ งั เอิญผ่านมาหรือวางแผนจะพักที่น่ีระยะหนึ่งล่ะ?


เรื่องทางไหวอันจัดการเป็ นอย่างไรบ้าง? กิจการในบ้านยังดีกระมัง? บิดาของเจ้าสุขภาพดี
หรือไม่?”
หลินเจวี๋ยเอ่ยด้วยรอยยิม้ “ท่านพ่อแข็งแรงดี หลายปี มานีก้ ิจการในบ้านได้รบั การ
ช่วยเหลือจากท่านอาหลี่อี ้ จึงราบรื่นมาโดยตลอด ครัง้ นีท้ ่ีขา้ มาก็เพราะกิจการทางไหวอัน
จัดการเรียบร้อยแล้ว หนึ่งคือมาบอกกล่าวกับท่านอา กลัวว่าท่านจะเป็ นห่วง สองคืออยาก
ขอบคุณท่าน หากไม่ใช่ท่านอาหลี่อชี ้ ว่ ยออกหน้า กลัวเพียงว่าครัง้ นีค้ งสิน้ เนือ้ ประดาตัวแล้ว จะ
ว่าไป ในบ้านก็ควรมีบณั ฑิตสักคนจริงๆ!”
ฮูหยินหลี่ผงกศีรษะไม่หยุด “ดังนัน้ ข้าจึงพยายามกระตุน้ ให้นอ้ งๆ ทัง้ สองคนของเจ้า
ตัง้ ใจรํ่าเรียนหนังสือ”
ยามนีห้ ลี่อีเ้ ป็ นเพียงข้าหลวงขัน้ สี่ก็ทาํ ให้กิจการของสกุลหลินก้าวขึน้ ไปหนึ่งก้าวแล้ว
หากเหมือนกับสกุลเผยเช่นนัน้ ไม่ใช่วา่ เงินทองจะไหลเข้าบ้านมาเป็ นกอบเป็ นกําเลยรึ?
ฮูห ยิ น หลี่นึก ถึ ง ลูก ชายคนโตที่ เ พิ่ง กํา เนิ ดของหลิน เจวี๋ ย “แม้ว่า ทางฝั่ งมารดาของ
ภรรยาเจ้าคนนัน้ จะมั่งคั่ง แต่เบือ้ งลึกเบือ้ งหลังของสกุลยังด้อยไปอยู่บา้ ง ภายหลังรอน้องๆ เจ้า
แต่งงานแล้ว ก็ให้รบั เด็กมาอบรมเลีย้ งดูท่ีน่ี ไม่พดู ถึงขัน้ เป็ นจิน้ ซื่อหรือจวี่เหริน แต่อย่างไรก็ควร
เป็ นซิ่วไฉให้ได้สกั คน เจ้าดูสกุลมีหน้ามีตาในเมืองหังโจวพวกนัน้ กิจการเจริญรุ ่งเรือง แปดถึง
เก้าในสิบล้วนมีฐานะเป็ นซิ่วไฉกันทัง้ นัน้ ขอแค่ทาํ เช่นนี ้ ก็สามารถเชื่อมสัมพันธ์กบั ขุนนางพวก
นัน้ ได้แล้ว เกิดเรื่องอะไรก็จะมีคนคอยช่วยเหลือ”
หลินเจวี๋ยคิดแบบนัน้ เช่นกัน พยักหน้าหงึกๆ พูดขอบคุณฮูหยินหลี่และหลี่ตวนล่วงหน้า
จากนัน้ ก็เอ่ยถึงจุดประสงค์ท่ีมา “ประจวบเหมาะที่ช่วงนีไ้ ม่ค่อยมีเรื่องอะไร จึงมาอยู่เล่นเป็ น
เพื่อนท่าน ทัง้ พูดคุยกับน้องๆ แต่หากสามารถพบนายท่านสามสกุลเผยได้ นั่นก็ย่ิงดีไปอีก”
ประโยคสุดท้ายนี่คงเป็ นประเด็นสําคัญกระมัง?
624

ฮูหยินหลี่ครุน่ คิด แต่หลานชายรูจ้ กั พูดจา ในใจของนางยังคงยินดีไม่นอ้ ย “ได้สิ! เจ้าจะ


พักที่น่ีก่ีวนั เมืองหลินอันอย่างอื่นไม่พดู ถึง แต่ทิวทัศน์กลับงามยิ่ง ทุกครัง้ ที่เจ้ามาล้วนเอาแต่รบี
ร้อน ครัง้ นีอ้ ยู่ท่ีน่ีหลายวัน ก็ให้นอ้ งชายของเจ้าพาไปเที่ยวชมรอบๆ คลายความเบื่อหน่าย นั่ง
เรือเล่นเสียหน่อย ถึงคราวที่ไปหังโจวก็สามารถไปกลับได้”
หลินเจวี๋ยหยัดกายขอบคุณ พูดคุยคลายเหงากับฮูหยินหลี่สกั พัก เมื่อเห็นฮูหยินหลี่มีสี
หน้าอ่อนเพลียขึน้ มา ยามนีจ้ งึ ค่อยขอตัวออกไปพร้อมหลี่ตวน มีหลี่ตวนคอยนําทางไปห้องพัก
แขก
แต่ว่า พอหลินเจวี๋ยเข้าประตูก็ไล่บ่าวรับใช้ท่ีจดั การสัมภาระข้างกายทัง้ บ่าวที่สกุลหลี่
ส่งมาทําความสะอาดห้องออกไป ปิ ดประตู ก่อนจะควักม้วนภาพหนึ่งออกจากกระเป๋ าสัมภาระ
ส่งให้หลี่ตวนทัง้ รอยยิม้ “เป็ นอย่างไร? ข้าบอกแล้วว่าวิธีของพวกเจ้าไม่สาํ เร็จหรอก? ท้ายที่สดุ
ยังต้องเป็ นข้า นี่ ‘ของต่างหน้า’ ของหลูซ่ ิ่น เจ้าดูวา่ ใช่ภาพวาดนัน้ ที่สกุลเจ้าตามหาอยู่หรือไม่”
หลี่ตวนยิม้ ทัง้ หน้าม้าน “ได้มาแล้วรึ?”
นับตัง้ แต่ท่ีได้ยินข่าวว่าหลู่ซิ่นยังมีของต่างหน้า พวกเขาก็เริ่มวางแผนกับของพวกนี ้
เพียงคาดไม่ถึงว่า ความคิดของหลินเจวี๋ยจะดําเนินไปอย่างราบรื่นเช่นนี ้
หลี่ตวนอดแก้ต่างให้ตวั เองไม่ได้ “ประเด็นหลักอยู่ท่ีอาจวิน้ ชมชอบคุณหนูสกุลอวี ้ ยิง
ปื นนัดเดียวได้นกสองตัว ข้าจึงตอบรับ ผลักเรือตามนํา้ ไป”
แม้ว่าเรื่องของหลู่ซิ่นจะราบรื่น แต่หากมีคนหัวไวอยากจะสืบหาก็สามารถหาได้ง่ายๆ
ว่าภาพนีต้ กไปอยู่ในมือใคร กําไรของการค้าทางทะเลนัน้ มหาศาล เทียบกับฆ่าคนล้างสกุลแล้ว
เดิมทีก็ไม่นบั เป็ นเรื่องใหญ่แต่อย่างใด แต่อาํ นาจของสกุลหลี่ในตอนนีย้ งั คงน้อยไปอยู่บา้ ง หาก
มีเรื่องราวเข้ามามากมายย่อมรับไม่ไหว นับประสาอะไรกับการมีสกุลเผยคอยกดอยู่ดา้ นบน
หากให้สกุลเผยมาแบ่งผลประโยชน์ สกุลพวกเขาก็ทาํ ได้เพียงต้องกระทําทุกเรื่องโดย
เกรงกลัวสกุลเผยอยู่ร่าํ ไป เช่นนัน้ สกุลหลี่ยงั จะมีอนาคตอะไร? เขาบากบั่นต่อสูท้ งั้ ชีวิตจะมี
ความหมายอันใด?
625

หลินเจวี๋ยรู ส้ ึกลําพองอยู่ในใจ แต่ก็ไม่อยากล่วงเกินหลี่ตวน ญาติผูน้ อ้ งที่อาจจะนํา


ผลประโยชน์นบั ไม่ถว้ นมาให้กบั สกุลหลินของพวกเขาในอนาคต เขาไม่เพียงปล่อยเรื่องถกเถียง
แพ้ชนะกับหลี่ตวนไป แต่ยงั คล้อยตามคําพูดของหลี่ตวน “หากเป็ นข้า ข้าก็ยินยอม เพียงแค่
คาดไม่ถึงว่าสกุลอวีจ้ ะหัวแข็งขนาดนี ้ แต่ว่า อย่างไรภาพนีก้ ็มาอยู่ในมือแล้ว พวกเราต้องรีบ
หน่อย รอจนสกุลเผยค้นพบ ภาพนีก้ ็คงตกไปอยู่ในมือสกุลเผิงแล้ว สกุลเผยของพวกเขาจะ
เก่งกาจเพียงใด ก็คงเก่งกาจเท่าสกุลเผิงไม่ได้กระมัง?”
สกุลเผิงแห่งฝูอนั สกุลอันดับหนึ่งของฝูเจีย้ น
ในบ้านไม่เพียงรับตําแหน่งเสนาบดีถึงสองคน แต่ยามนีน้ ายท่านเจ็ดสกุลเผิง เผิงอวี่ยงั
เป็ นขุนนางที่ใกล้ชิดกับจักรพรรดิ เจ้ากรมตรวจการฝ่ ายขวาของสํานักตรวจการ รับหน้าที่รกั ษา
ความเรียบร้อยให้กบั พวกขุนนาง แม้แต่ศิษย์พ่ีรองของเผยเยี่ยน เจียงฮวา เจ้ากรมโยธาธิการ
ควบตําแหน่งมหาบัณฑิตหอตงเก๋อ ก็ไม่กล้าเหิมเกริมต่อหน้าเผิงอวี่เช่นกัน
ผูท้ ่ีอยากได้ภาพนีก้ ็คือสกุลเผิง
และหลี่อวี ้ หลายปี มานีอ้ ยากจะโยกย้ายไปเมืองหลวงมาโดยตลอด สกุลเผยยึดติดกับ
ธรรมเนียมเกินไป เยือ้ งย่างไปอย่างช้าๆ กว่าเขาจะผูกสัมพันธ์กบั สกุลเผิงได้ก็ลาํ บากไม่นอ้ ย
สกุลเผิงยินดีช่วยเหลือเขาเช่นกัน สกุลพวกเขาย่อมต้องตอบแทนนํา้ ใจกลับไป ช่วยนําภาพนีไ้ ป
ให้สกุลเผิงเพื่อเป็ นใบผ่านทาง
เพียงแต่พืน้ เพสกุลหลี่อยู่ท่ีหลินอัน ก่อนที่จะกระชับความสัมพันธ์เรื่องผลประโยชน์กบั
สกุลเผิง สกุลหลี่ก็ไม่อยากที่จะล่วงเกินสกุลเผย ทัง้ ไม่สามารถล่วงเกินได้เช่นกัน มิเช่นนัน้ ยามที่
เผชิญหน้าย่อมไร้ทางต่อกร สกุลหลี่ในยามนีส้ ไู้ ม่ไหว ไยต้องทําเรื่องมากมายขนาดนัน้ ?
หลี่ตวนหัวเราะอย่างไร้เสียง
สกุลเผิงต้องการภาพนี ้ ไม่ใช่ว่าขาดสกุลหลี่ของพวกเขาไม่ได้ แต่สกุลหลี่พวกเขา กลับ
ขาดสกุลเผิงไม่ได้ ยามนีพ้ ดู อะไรล้วนไร้ประโยชน์ อย่างไรภาพวาดก็อยู่ในมือหลินเจวี๋ยแล้ว
626

ใต้หล้านีไ้ ม่มีเรื่องใดที่สามารถปิ ดบังได้ หลี่ตวนก็ไม่คิดว่าจะสามารถปิ ดบังสกุลเผยได้


ตลอดไปเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตอ้ งให้สกุลหลี่ยืนอย่างมั่นคงอยู่ขา้ งๆ สกุลเผิงก่อนถึงจะให้สกุล
เผยรูไ้ ด้
เขาถามหลินเจวี๋ย “เจ้าคงไม่ออกหน้าด้วยตัวเองกระมัง?”
“ข้าจะโง่ถึงเพียงนัน้ ได้อย่างไร?” หลินเจวี๋ยคิดว่าญาติผนู้ อ้ งของตนคนนีเ้ รียนหนังสือ
เสียเปล่า เหลือบมองหลี่ตวนไปที “แน่นอนว่าให้คนอื่นลงมือแทน! คนผูน้ ี ้ ก็เป็ นผูด้ แู ลคนสนิท
ของข้าไปเสาะหามา เพียงเอ่ยว่านี่เป็ นภาพเก่าแก่ ข้ามีล่ทู างสามารถขายให้คนที่ช่ืนชอบได้
นําไปขายโรงจํานําอย่างมากที่สดุ ก็ได้ส่ีถึงห้าร้อยตําลึง แต่หากผ่านมือข้า กลับขายได้สงู ถึง
หนึ่งพันตําลึง คนผูน้ นั้ หลงกล ใช้เงินสองร้อยตําลึงซือ้ ภาพมา ทัง้ ขายให้ขา้ ห้าร้อยตําลึง แม้ว่า
จะเยอะไปบ้าง แต่ก็คิดเสียว่าใช้เงินเพื่อจบปั ญหา ข้าก็ไม่ได้กดราคาเขามากมาย”
รูว้ ่าภาพนีส้ ามารถขายได้ถึงหนึ่งพันตําลึง กลับซือ้ มาสองร้อยตําลึง ขายห้าร้อยตําลึง
นี่ก็นบั เป็ นคนซื่อตรงคนหนึ่ง
หลี่ตวนแสร้งทําเป็ นตกใจ เอ่ยด้วยรอยยิม้ “คนผูน้ ีก้ ลับไม่ละโมบโลภมาก”
“ดังนัน้ จึงมีคาํ กล่าวว่า ทําการค้าขายต้องดูว่าเป็ นคนอย่างไร” หลินเจวี๋ยลําพองใจกับ
เรื่องนีอ้ ยู่บา้ ง “เจ้าดูขา้ ตามท่านพ่อขึน้ เหนือล่องใต้ แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยมีปัญหากับผูร้ ่วม
การค้ามาก่อน ดังนัน้ ข้าว่า สกุลเผิงย่อมทําการใหญ่ได้ เดินตามสกุลพวกเขาย่อมไม่ผิดแน่”
หลี่ตวนปิ ดปากไม่เอ่ยอันใด
ในจุดนี ้ ความเห็นของเขาและหลินเจวี๋ยแตกต่างกัน
เขาคิดว่าสกุลเผิงละโมบเป็ นอย่างมาก
กลุ่มเรือเก้าสาขาของฝูเจีย้ น กลุ่มเรือของสกุลเผิงนัน้ ใหญ่ท่ีสดุ ทัง้ ยังครอบครองเรือ
ส่วนใหญ่ในฝูเจีย้ น แต่ยามที่สกุลพวกเขาบังเอิญรูว้ า่ ภาพนีข้ องใต้เท้าจั่วมีแผนที่เดินเรือซ่อนไว้
กลัวจะตกอยู่ในมือคนอื่น ยังคงพยายามทุกวิถีทางให้ได้มนั มา?
627

แต่วา่ นี่ก็เป็ นเรื่องปกติของมนุษย์


ใครจะอยากให้เตียงนอนของตัวเองมีผอู้ ่ืนมาครอบครองด้วยเล่า?
หลี่ตวนและหลินเจวี๋ยพูดถึงเรื่องภาพนีข้ นึ ้ มา “พวกเราก็สง่ ไปสกุลเผิงเช่นนีเ้ ลยรึ? หรือ
จะดูก่อนว่าภาพนีถ้ กู ต้องหรือไม่?”
เขากลับไม่คิดว่าสกุลอวีจ้ ะสามารถพบความลับในภาพนีไ้ ด้ แต่กลัวว่าจะเป็ นเหมือนที่
หลูซ่ ิ่นบอก กระทั่งเขาก็ไม่รูค้ วามลับในภาพนี ้ ผลปรากฏว่าพวกเขานําของผิดไป
หลินเจวี๋ยเอ่ยอย่างหลักแหลม “ย่อมต้องหาวิธีดูแผนที่ในภาพวาดนี ้ หากสกุลเผิง
เปลี่ยนใจขึน้ มาจะทําอย่างไร?”
นอกจากตรวจสอบของแล้ว ทางที่ดีพวกเขาก็ควรจับจุดอ่อนของสกุลเผิงไว้เช่นกัน
ลอกแผนที่นีข้ นึ ้ มาอีกแผ่น ป้องกันเผื่อว่าสกุลเผิงจะแตกหักผิดสัญญา
อย่างไรพวกเขาและสกุลเผิงก็อยู่คนละระดับกัน สกุลเผิงจะจัดการพวกเขาย่อมง่ายดั่ง
พลิกฝ่ ามือ แต่หากพวกเขาคิดจะต่อต้านสกุลเผิงกลับไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะตรงกลางยัง
พ่วงมาด้วยสกุลเผย…หากไม่มีเรื่องนี ้ พวกเขายังสามารถขอความช่วยเหลือจากสกุลเผย เมื่อ
การแลกเปลี่ยนของพวกเขาและสกุลเผิงถูกเปิ ดเผย สกุลเผยไม่จดั การกับพวกเขาก็ดีมากแล้ว
อย่าได้คาดหวังว่าสกุลเผยจะสามารถช่วยเหลือพวกเขาอีก
สองพี่นอ้ งพูดมาถึงตรงนี ้ ก็แลกเปลี่ยนสายตาที่ตา่ งฝ่ ายต่างเข้าใจกัน
หลี่ตวนเอ่ย “เรื่องนีส้ ง่ ต่อให้ขา้ ก็เพียงพอแล้ว”
หลินเจวี๋ยวางแผนจะพักที่น่ีสกั ระยะหนึ่งก็เพราะเรื่องนี ้
เขาต้องเห็นแผนที่น่ นั ด้วยตาตัวเองจึงจะวางใจ!
ทัง้ จะเอาแผนที่นีก้ ลับฝูเจีย้ นด้วยตัวเอง ส่งไปให้สกุลเผิง
นี่เป็ นเรื่องที่สกุลพวกเขาปรึกษากับสกุลหลี่ตงั้ แต่ตอนแรกแล้ว
628

ตีเสือต้องใช้พ่ีนอ้ ง ยกทัพตีศตั รู ตอ้ งอาศัยคนในครอบครัว ไม่ว่าสกุลหลินหรือสกุลหลี่


ยามนีต้ า่ งก็ออ่ นแอเกินไป โอบกอดกันไว้ให้แน่น จึงจะสามารถก่อร่างสร้างตัวขึน้ มาได้
ทัง้ สองคนปรึกษาหารือว่าจะหาใครมาแกะภาพนี ้

อวีถ้ งั ที่รอข่าวคราวอยู่นาน ในที่สดุ ก็มีการตอบกลับ


คนที่อยู่เบือ้ งหลังสกุลหลูเ่ ป็ นหลินเจวี๋ยดังที่คาด
นางครุน่ คิดเกี่ยวกับภาพวาดนีไ้ ม่นอ้ ย คิดว่าหากสกุลหลี่ไม่มีสกุลหลินช่วยเหลือ ย่อม
ไม่อาจทําการค้าทางทะเลได้ เรื่องนีส้ กุลหลินต้องทราบอย่างแน่นอน และชาติก่อน ผูท้ ่ีไปมาหา
สูส่ นิทชิดเชือ้ สกุลหลี่มากที่สดุ ก็คือหลินเจวี๋ย
เขามาบ่อยยิ่งกว่าญาติท่ีอยู่ห่างออกไปพันลีเ้ สียอีก
อวีถ้ งั หาวิธีวาดภาพหลินเจวี๋ยออกมา นําไปให้อาลิ่วที่ขายสาลี่ในตรอกเสี่ยวเหมยดู ให้
เขาจับตาดูประตูใหญ่ของสกุลหลี่ไว้ หากคนผูน้ ีม้ าให้รายงานกับอาเสาทันที ทัง้ เอาภาพนีใ้ ห้
สองพี่นอ้ งสกุลชวีดู ให้พวกเขาจับตาดูคนที่เจรจาซือ้ ขายกับสกุลหลู่ ดูว่าภาพนัน้ ท้ายที่สดุ ตก
ไปอยู่ในมือหลินเจวี๋ยหรือไม่
ยังดีท่ีมีเรื่องพวกนัน้ ในชาติก่อน คนที่นางจับตาดู จึงตรงกับผลลัพธ์ท่ีนางต้องการพอดี
629

บทที่ 78 สอบถาม
หลังจากหลินเจวี๋ยได้รบั ภาพไป ย่อมหาวิธีนาํ แผนที่ออกมาแน่
ชาติก่อน คนที่พวกเขาไปหาคืออาจารย์เฉียน
ดังนัน้ ชาติก่อนบนภาพนัน้ จึงมีการลงนาม ‘ชุนสุย่ ถัง’ ของอาจารย์เฉียน ชาตินีอ้ วีถ้ งั ถึง
สามารถมองกลอุบายของสกุลหลี่อย่างทะลุปรุโปร่ง
ยามนีเ้ พราะมีนางสอดมือ อาจารย์เฉียนเร้นกายห่างจากเมืองหลวง สกุลหลี่ไม่แน่ว่า
จะหาเขาพบ
แม้วา่ จะสามารถหาเขาพบ ก็จาํ เป็ นต้องใช้เวลาและกําลังวังชา
เช่นนัน้ ชาตินีส้ กุลหลี่จะหาใครมาแกะภาพนีก้ นั ?
หรือจะเก็บไว้ในมือศึกษาตรวจดูนานเท่าใดกัน?
อวีถ้ งั พยายามลองสมมุติตวั เองไปอยู่ในสถานการณ์นนั้ ครุน่ คิดจากมุมมองของสกุลห
ลี่ อยากคาดเดาว่าก้าวต่อไป สกุลหลี่จะทําอย่างไร แต่ไม่ว่าสกุลหลี่จะจัดการอย่างไร ยามนีส้ ิ่ง
ที่นางอยากรูม้ ากที่สดุ กลับเป็ นเรื่องเบือ้ งหลังของสกุลหลี่ ตกลงยังมีคนอื่นอีกหรือไม่? แล้วคน
นัน้ คือใคร?
ต้องรูว้ า่ การค้าทางทะเลไม่ใช่เรือ่ งที่ทาํ ได้ง่ายขนาดนัน้
คนปกติก็ออกเงินร่วมหุน้ เท่านั้น นี่เป็ นการหาเงินได้นอ้ ยที่สุด การหาเงินก้อนโตที่
แท้จริงกลับมาจากกลุม่ เรือ แต่การรวมกลุม่ เรือหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายขนาดนัน้ นอกจากต้อง
มีเรือ มีคนเรือที่ชาํ นาญ มีคนขับเรือที่มากประสบการณ์แล้ว ยังต้องมีท่าเรือเป็ นของตัวเอง มี
คลังสินค้าเป็ นของตัวเอง ลงบันทึกกับสํานักตรวจสอบการค้าทางทะเล…อย่างอื่นยังพอว่า มี
เงินก็สามารถแก้ปัญหาได้ แต่มีสองสิ่งที่ยากที่สดุ ในนี ้ หนึ่งคือ การลงบันทึกกับสํานักตรวจสอบ
การค้าทางทะเล นี่จาํ เป็ นต้องมีเส้นสายของขุนนาง สองคือต้องมีคนขับเรือที่เชี่ยวชาญมาก
630

ประสบการณ์ อย่างแรก จะขาดขุนนางที่สืบทอดหลายยุคหลายสมัยไม่ได้ อย่างหลัง จะขาด


เบือ้ งลึกเบือ้ งหลังของสกุลไม่ได้
ขุนนางที่สืบต่อมาหลายสมัย สามารถรับประกันได้ ไม่ว่าใครจะเป็ นคนคุมอํานาจของ
สํานักตรวจสอบการค้าทางทะเล กลุ่มเรือล้วนสามารถเข้าถึงบันทึกได้ ผ่านไปโดยไร้อปุ สรรค
ส่ว นสกุลใหญ่ ท่ี มี เ บือ้ งลึก เบือ้ งหลัง ย่อมจะสามารถอบรมบ่ม เพาะหรือมี คนขับเรือที่ ม าก
ประสบการณ์ได้
ในเมื่ อ สกุล หลี่ ไ ม่ มี ขุน นางที่ สื บ ทอดมาหลายยุค สมัย ทั้ง ไม่ มี เ บื อ้ งลึก เบื อ้ งหลัง ที่
ใหญ่โต เมื่อได้ครอบครองแผนที่เดินเรือ พวกเขาจึงทําได้เพียงหาผูร้ ว่ มมือเท่านัน้ ผูท้ ่ีสามารถ
ร่วมมือกับสกุลพวกเขา ก็ตอ้ งเป็ นสกุลใหญ่ท่ีเข้ากับเงื่อนไขสองข้อข้างบนนัน้
ชาติก่อน สกุลหลี่และสกุลหลินร่วมมือกัน ทํากิจการที่ฝเู จีย้ น
ผูร้ ว่ มมือของพวกเขา แปดถึงเก้าในสิบ ย่อมเป็ นสกุลใหญ่ท่ีอยู่ทางฝูเจีย้ น
ยามนีอ้ วีถ้ งั เพียงโกรธตัวเองที่มีชาติกาํ เนิดธรรมดา สายตากว้างไกลไม่พอ ไร้ทางคาด
เดาว่าชาติก่อนสกุลหลี่นนั้ ร่วมมือกับสกุลใด
นางคิดย้อนกลับไปกลับมา ในหัวก็ยังคงว่างเปล่า ทําได้เพียงไปถามเถ้าแก่ใหญ่ถง
“ทางฝูเจีย้ นนัน้ มีสกุลเช่นนีบ้ า้ งหรือไม่?”
แม้ว่าเถ้าแก่ใหญ่ถงจะมีประสบการณ์ความรู ก้ ว้างขวาง แต่หากให้เจาะจงไปที่พวก
ชาวบ้านขุนนางและสกุลใหญ่ทงั้ หมด เขายังคงไม่มีความสามารถและความรูใ้ นด้านนีม้ ากพอ
เขาเอ่ยด้วยรอยยิม้ “เรื่องเช่นนีเ้ กรงว่าทัง้ เมืองหลินอัน หรือกระทั่งหังโจวก็คงไม่มีใคร
ตอบท่านได้สกั คน ทางที่ดีท่ีสดุ ไปถามนายท่านทัง้ สองของสกุลเผยเถิด!”
“นายท่านรองสกุลเผยและนายท่านสามสกุลเผยอย่างนั้นรึ?” อวีถ้ ังมีคาํ ตอบในใจ
อย่างเลือนรางนานแล้ว เพียงแต่ไม่ม่นั ใจอยู่บา้ ง จึงมาหาเถ้าแก่ใหญ่ถงด้วยหวังว่าจะโชคดี
631

เถ้า แก่ ใหญ่ ถงเอ่ย ด้วยรอยยิม้ “นอกจากนายท่านสองคนแล้ว หรือคุณหนูอวีย้ ังมี


ตัวเลือกอื่นอีกอย่างนัน้ รึ? พวกสกุลกู้ สกุลเสิ่นก็คงรูเ้ ช่นกัน เพียงแต่คณ
ุ หนูอวีไ้ ม่ใช่ญาติ ทัง้ ไม่
คุน้ เคยกับพวกเขา เรื่องเช่นนีไ้ ม่ใช่ว่าเจอใครก็สามารถรูไ้ ด้ แน่นอนว่านายท่านสกุลเผยทัง้ สอง
ย่อมเป็ นตัวเลือกที่ดีอนั ดับแรก”
อวีถ้ งั ยิม้ ขมขื่น
นายท่านรองสกุลเผย นางเพียงเคยเห็นไกลๆ ยามที่แห่ศพท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผยเท่านัน้
หากยืนอยู่ตรงหน้านางอีกครัง้ คาดว่านางก็คงไม่รูจ้ กั แล้ว ส่วนนายท่านสามสกุลเผย นางกลับ
อยากไปหาเขา แต่เขาไม่แน่วา่ จะยอมพบนางน่ะสิ!
ยามนีอ้ วีถ้ งั ตกอยู่ในสถานการณ์ลาํ บากใจ
เถ้าแก่ใหญ่ถงเสนอความคิดให้นาง “ไม่อย่างนัน้ ให้บิดาท่านไปถามอาจารย์เสิ่นที่
สํานักศึกษาประจําอําเภอ? ไม่แน่วา่ เขาอาจจะรูก้ ็ได้”
อวีถ้ ังเบือ้ งหน้าสว่างวาบขึน้ มา แต่ก็กลัวว่าตัวเองสืบข่าวไปทั่ว ไม่ได้ขอ้ มูลต้องการ
กลับจะพาให้คนอื่นล่วงรูแ้ ผนของตัวเองเสีย
“ข้าขอคิดดูก่อน” นางเอ่ย ก่อนจะบอกลาเถ้าแก่ใหญ่ถง เตรียมจะกลับบ้าน เถ้าแก่
น้อยถงก็เดินผ่านไหล่นางไปหาเถ้าแก่ใหญ่ถง “นายท่านสามกลับมาแล้ว เพิ่งถึงท่าเรือ ท่านจะ
ไปทักทายเสียหน่อยหรือไม่!”
“ต้องไปสิ ต้องไปสิ” เถ้าแก่ใหญ่ถงเอ่ยอย่างรีบร้อน
ช่างบังเอิญเสียจริง
อวีถ้ งั ตรึกตรองเล็กน้อย ก่อนจะตามเถ้าแก่ใหญ่ถงไปที่ท่าเรือด้วย “ข้าก็จะไปทักทาย
นายท่านสามเช่นกัน ไม่ก่ีวนั ก่อนหมอหลวงหยางเพิ่งเดินทางไปรักษาท่านแม่”
632

อาจเป็ นเพราะได้รบั การกําชับจากสกุลเผย นอกจากหมอหลวงหยางจะรักษาอย่างตัง้


อกตกใจกว่าปกติแล้ว ยังเปลี่ยนเทียบยาให้เฉินซื่อด้วย หลังจากเฉินซื่อกิน ก็ออกปากว่ารูส้ กึ ดี
ขึน้ มากอย่างเห็นได้ชดั
หากนึกถึงเรื่องนี ้ อวีถ้ ังก็คิดว่าตนเองควรจะเป็ นฝ่ ายออกตัวขอบคุณเผยเยี่ยนเสีย
หน่อยจึงจะถูก
เถ้าแก่ใหญ่ถงยิม้ จนตาหยี พาอวีถ้ งั ไปท่าเรือด้วยกัน
ท่าเรือยังคงคึกคักอย่างเช่นเคย ทุกคนเห็นนายท่านสามสกุลเผยก็คาํ นับให้เขาตัง้ แต่
ไกลๆ เขากลับเผยหน้าไร้อารมณ์ เย่อหยิ่งเป็ นอย่างมาก
อวีถ้ งั เบะปาก เดินเข้าไปหาพร้อมเถ้าแก่ใหญ่ถง
เผยเยี่ยนเงยหน้าขึน้ ก็เห็นอวีถ้ งั
ผมสีดาํ ขลับถูกเกล้าเหนือศีรษะ ม้วนเป็ นมวยผม สวมชุดบ่าวรับใช้สีนา้ํ ตาลกลางเก่า
กลาใหม่ กลับขับผิวขาวของนางให้เนียนละเอียดเกลีย้ งเกลา ใบหน้าพริม้ เพรา ชุดคลุมตัวใหญ่
ยิ่งทําให้ส่วนเว้าส่วนโค้งของนางดูเด่นชัดขึน้ ไปอีก เดิมทีก็ไม่อาจปกปิ ดเรื่องที่นางแต่งเป็ น
ผูช้ ายแล้ว นางยังเดินลอยหน้าลอยตาไปทั่ว ทําตัวปกติราวกับไม่กลัวว่าคนอื่นจะมองออก
ไฉนนางจึงแต่งกายซีซ้ วั้ ออกจากบ้านเช่นนี?้
ไม่วา่ อย่างไรอวีเ้ หวินก็ควรตักเตือนเสียหน่อย
เผยเยี่ยนขมวดคิว้ ไม่รอให้อวีถ้ ังเดินเข้ามาใกล้ก็แสดงสีหน้าดําทะมึนแล้ว จนอวีถ้ ัง
ก้าวเข้ามา เขาก็เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์นกั “คุณหนูอวี ้ ไฉนเจ้าจึงอยู่ท่ีน่ี? มีเรื่องอะไรให้เถ้าแก่
ใหญ่ถงช่วยอย่างนัน้ รึ?”
ครัง้ แรกที่เขาพบอวีถ้ งั อวีถ้ งั ก็ลอยหน้าลอยตาอยู่กบั เถ้าแก่ใหญ่ถง
คุณหนูผนู้ ี ้ หากไร้เรื่องร้อนใจก็คงไม่มา
633

นางย่อมไม่อาจมาหาเถ้าแก่ใหญ่ถงโดยไร้สาเหตุเป็ นแน่
อวีถ้ งั ฟั งจบก็รูส้ กึ ลิงโลดในใจ
นางกลัวว่าเผยเยี่ยนจะไม่สนใจนาง ขอเพียงแค่เขาทักทายนาง นางก็มีวิธีให้เผยเยี่ย
นช่วยเหลือนางแล้ว
“นายท่านสาม” นางก้าวมาข้างหน้าคํานับให้เผยเยี่ยนอย่างกระตือรือร้น “หมอหลวงห
ยางมาตรวจดูอาการมารดาข้าแล้ว ทัง้ ยังเปลี่ยนการจ่ายยา สกุลพวกเรายังไม่ได้ขอบคุณท่าน
ดีๆ เลย!”
ขอบคุณย่อมไม่จาํ เป็ น
อย่าได้แอบอ้างสกุลของพวกเขาทําอะไรให้เสื่อมเสียชื่อเสียงสกุลเผยก็เพียงพอแล้ว
หากเป็ นคนอื่น เผยเยี่ยนคงจะตักเตือนอีกฝ่ ายอย่างไม่ไว้หน้าแล้ว แต่ก่อนหน้านีเ้ ขา
เคยเข้าใจอวีถ้ งั ผิดไป เขาคิดว่าตัวเองควรผ่อนปรนให้อวีถ้ งั สักหน่อย ถือเสียว่าเป็ นการขอโทษ
ดังนัน้ แม้ว่าในใจเขาจะไม่พอใจ แต่ก็ยังคงไม่กล่าวอันใด กลับมองพินิจอวีถ้ ังอย่าง
ละเอียดขึน้ มา
ยามนีเ้ ผยเยี่ยนจึงค่อยพบว่า ดวงตาของอวีถ้ งั งดงามเป็ นอย่างมาก ไม่เพียงดําสนิท
และกระจ่างพร่างพราว ยังสดใสแวววาว ราวกับสามารถบอกเล่าเรื่องราวได้
ก็เหมือนในยามนี ้ แม้ใบหน้านางจะแต่งแต้มด้วยรอยยิม้ ดูสภุ าพเป็ นมิตร แต่ดวงตา
กลับเผยความเจ้าเล่หอ์ อกมาอยู่บา้ ง ทําให้เขานึกถึงนางจิง้ จอกที่ชอบล่อลวงคนในหนังสือพวก
นัน้ …ถึงแม้เขาจะไม่เคยพบนางจิง้ จอกมาก่อนว่าหน้าตาเป็ นอย่างไร แต่เขารู ส้ กึ ว่า หากมีนาง
จิง้ จอกอยู่จริง เวลานีก้ ็คงจะเป็ นลักษณะอย่างอวีถ้ งั ไม่ผิดแน่
ปั ญหาคือ แม้เขารู ว้ ่าอวีถ้ ังเป็ นเหมือนนางจิง้ จอกที่คิดจะวางแผนกับเขา แต่เขาก็ได้
ตัดสินใจจะผ่อนปรนให้นางแล้ว เขาคงไม่อาจเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจที่เพิ่งเกิดขึน้ อย่าง
กะทันหัน จัดการกับอวีถ้ งั ได้หรอกกระมัง?
634

เผยเยี่ยนถอยหลังไปเล็กน้อยอย่างเงียบเชียบ “คุณหนูอวี ้ เจ้าจะทําอะไร?”


เขาดูแล้วไม่มีอะไรแตกต่างจากยามปกติ แต่อวีถ้ ังกลับจับสังเกตยามที่เขาลังเลและ
ถอยหลีกในชั่วพริบตาได้อย่างกะทันหัน
อวีถ้ งั ไม่รูว้ ่าเหตุใดเผยเยี่ยนจึงเปลี่ยนไปเช่นนี ้ แต่นางกลับสัมผัสได้อย่างฉับไว ตัง้ แต่
ครัง้ ก่อนที่เผยเยี่ยนช่วยเป็ นคนกลางตัดสินความให้สกุลพวกนาง ครัง้ นีเ้ มื่อเผยเยี่ยนพบนางอีก
ครัง้ กลับแสดงท่าทีออ่ นโยนต่อนางอย่างเห็นได้ชดั
หรือเพราะรูว้ า่ ก่อนหน้านีต้ วั เองเข้าใจนางผิดไป?
คิดกลับไปกลับมา อวีถ้ งั กลับไม่อยากเชื่อในโชคดีของตัวเองที่เกิดขึน้ อย่างไม่คาดคิด
นางตัดสินใจคว้าโอกาสครัง้ นีท้ ันที หาวิธีหลอกล่อให้เผยเยี่ยนพูดสิ่งที่มีประโยชน์
ออกมา
“นายท่านสาม ท่านนี่เก่งกาจจริงๆ!” บางทีอาจเพราะก่อนหน้านีเ้ ผยเยี่ยนดูหยิ่งผยอง
เกินไป ไม่ก็ตาํ แหน่งของเผยเยี่ยนในเมืองหลินอันสูงเกินไป ทําให้อวีถ้ ังไร้ทางนําเขา หลี่จวิน้
และพวกเสิ่นฟางมาพูดเปรียบเทียบกัน นางประจบประแจงเผยเยี่ยนโดยไม่มีความกังวลอะไร
แม้แต่นอ้ ย อย่างไรสภาพที่เหลือทนที่สดุ ของนาง เขาก็ลว้ นเห็นมาหมดแล้ว นางยังมีอะไรให้
ต้องเสแสร้งอีก “หูตากว้างไกลของท่านนี ้ มองพริบตาเดียวก็รูแ้ ล้วว่าข้ามาหาท่านเพราะมีเรื่อง”
เผยเยี่ยนเห็นนางพูดตามตรงเช่นนี ้ กลับโล่งใจ รูส้ กึ สบายใจขึน้ มา
สิ่งที่เขากลัวที่สดุ คือคนอื่นมักจะอ้อมค้อมกับเรื่องเล็กน้อยพวกนีก้ บั เขา ไม่รูว้ ่าเพราะ
คิดว่าเขาโง่เขลา หรือคิดจะแสดงความฉลาดต่อหน้าเขา แค่เรื่องเล็กน้อยไม่สลักสําคัญก็ตอ้ ง
ให้เขาเสียแรงเสียเวลาไปคาดเดา อย่างไรพริบตาเดียวก็ถกู เขามองทะลุปรุโปร่งแล้ว
“เจ้าว่ามา!” เผยเยี่ยนเอ่ย
อวีถ้ งั ดีใจอย่างไม่คาดฝัน
635

นางนึกไม่ถึงว่าเผยเยี่ยนจะเป็ นกันเองเช่นนี ้
ไม่แน่วา่ เมื่อก่อนนางอาจจะใช้วิธีผิดไป
อวีถ้ งั ครุ น่ คิด กลับไม่พดู ยืดเยือ้ แม้แต่นอ้ ย “ข้าสามารถพูดกับท่านเพียงลําพังสักสอง
สามคําได้หรือไม่?”
เผยเยี่ยนเห็นคนเดินกันขวักไขว่ท่ีท่าเรือ ก็คิดว่าที่น่ีไม่เหมาะสมเช่นกัน แต่เขาเพียง
เดินไปด้านข้างไม่ก่ีกา้ ว ยืนหยุดอยู่ใต้ตน้ ไทรเก่าแก่ เอ่ยขึน้ “เจ้ามีเรื่องอะไรก็พูดมาตามตรง
เถิด!”
ท่าทางประหนึ่งเรื่องของนางไม่มีคา่ พอให้เขาหาสถานที่ใหม่เสียอย่างนัน้
จองหองลําพองตนเสียจริง!
อวีถ้ งั อดนินทาในใจไม่ได้ แต่อยู่ใต้ชายคาคนอื่น จําเป็ นต้องก้มหัว 1 132

นางมีเรื่องต้องขอร้องเขา เพราะนอกจากเขาแล้ว ก็ไม่มีตวั เลือกอื่นที่ดีกว่านี ้


“เป็ นเช่นนี”้ อวีถ้ งั ไม่กล้าบ่น นางกลัวว่าหากตัวเองบ่น โอกาสนีก้ ็จะมลายหายไป รีบ
ตามเขาไป เอ่ยด้วยนํา้ เสียงไม่ดงั มาก ระยะไม่ใกล้ไม่ไกล “นายท่านอู๋อยากชวนพ่อของข้าทํา
การค้าทางทะเล ครัง้ ที่แล้วข้าไปเรือนท่าน เห็นบานประตูกระจกหลากสีของโถงบุบผาเรือน
ท่านงดงามจริงๆ…”
นางสังเกตสีหน้าของเผยเยี่ยน
เผยเยี่ยนเพียงฟั งไปเฉยๆ ไม่มีท่าทีจะโอ้อวดแม้แต่นอ้ ย
จะเห็นได้วา่ ผูท้ ่ีคิดว่าบานประตูกระจกหลากสีเหล่านีง้ ดงามคงเป็ นท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผย

1
อยู่ใต้ชายคาคนอื่น จําเป็ นต้องก้มหัว อุปมาว่า ไร้ซง่ึ อํานาจ ทําได้เพียงปฏิบตั ิตาม
636

อวีถ้ งั ก็ไม่มากความ ข้ามประเด็นนีไ้ ป เอ่ยต่อ “ข้าจึงคิดว่า ท่านอาจจะคุน้ เคยกับพ่อ


ค้าขายสินค้าจากเรือพวกนั้น เลยอยากสอบถามกับท่านสักเรื่อง ทางฝูเจีย้ น มีสกุลขุนนาง
ใดบ้างที่มีกลุม่ เรือเป็ นของตัวเอง อยากรูว้ า่ กลุม่ เรือของสกุลใดมีฝีมือมากที่สดุ ทัง้ ดูวา่ สกุลพวก
เราควรจะทําการค้านีก้ บั นายท่านอูห๋ รือไม่”
นางพูดจาซีซ้ วั้ เผยเยี่ยนกลับไม่สงสัยแม้แต่นอ้ ย
อวี เ้ หวิน พึ่งพาไม่ได้ ยามที่ อวีเ้ หวินตกหลุมพราง กลับเป็ น ลูก สาวที่ไปเอาเงินขาย
ภาพวาดคืน เขาก็มีภาพจําตัง้ แต่ตอนนัน้ แล้ว ร่วมหุน้ การค้าทางทะเล เมืองหลินอันพบไม่มาก
แต่ในหังโจว กลับมีคุณหนูมากมายที่ชอบร่วมหุน้ กับกลุ่มเรือเพื่อหาเงินซือ้ เครื่องแป้งเครื่อง
ประทินโฉมให้กบั ตัวเอง คุณหนูใหญ่สกุลอวีผ้ นู้ ีเ้ ป็ นคนไม่สงบเสงี่ยม รู เ้ รื่องนี ้ ทัง้ เกิดความคิด
เช่นนีอ้ อกมา คงวางแผนเป็ นขัน้ เป็ นตอนแล้วแน่ๆ
ส่ว นที่ ว่ า เรื่ อ งนี เ้ ป็ น ความคิ ด ของนาง หรื อ นางอ้า งชื่ อ นายท่ า นอู๋แ ละอวี เ้ หวิ น มา
อย่างไรเขาก็ตดั สินใจจะขอโทษนางแล้ว ขอเพียงประโยชน์อยู่ในมือของนางก็เพียงพอ เรื่อง
เล็กน้อยพวกนีเ้ ขาไม่มีใจอยากจะรู ้
“ไฉนเจ้าไม่ร่วมหุน้ กับกลุ่มเรือทางหนิงปั ว? กลุ่มเรือทางหนิงปั วส่วนมากทําเกี่ยวกับ
เครื่องลายครามและผ้าไหม ฝูเจีย้ นและกว่างโจวส่วนมากกลับทําพวกเครื่องลายครามและ
เครื่องหอม ผ้าไหมและเครื่องลายครามทําง่ายกว่าเครื่องหอมมาก” เผยเยี่ยนเอ่ยออกไปอย่าง
ไม่ใส่ใจนัก จากนัน้ ก็บอกเรื่องที่อวีถ้ งั อยากรู ้ “ทางฝูเจีย้ น กลุ่มเรือที่ใหญ่ท่ีสดุ เป็ นของสกุลเผิง
แห่งฝูอนั สกุลพวกเขาคุมอํานาจอยู่ในสํานักตรวจสอบการค้าทางทะเลมาเป็ นเวลานานแล้ว มี
ประสบการณ์เดินเรือกว่ายี่สิบสามสิบปี จนถึงทุกวันนี ้ ยังคงเคยเกิดปั ญหาเพียงครัง้ เดียวเมื่อ
ห้าปี ก่อนเท่านัน้ แต่ปัญหาครัง้ นัน้ เกิดขึน้ กับกลุม่ เรือที่ออกทะเลเหมือนกันทัง้ หมด ไม่ได้มีเพียง
สกุลเผิง หากพวกเจ้าอยากจะร่วมลงทุนกับกลุม่ เรือทางฝูเจีย้ น สกุลเผิงย่อมเป็ นตัวเลือกอันดับ
แรก”
637

บทที่ 79 ตรงไปตรงมา
อวีถ้ งั แอบลิงโลดอยู่ในใจ
นางคาดไม่ถึงว่าเผยเยี่ยนจะพูดเก่งเช่นนี ้ นางปั้ นเรื่องถึงขนาดตัวเองยังไม่กล้าเชื่อ
ด้วยซํา้ นึกไม่ถึงว่าเผยเยี่ยนจะไม่เอ่ยถามอันใด กลับบอกสิ่งที่นางอยากรูอ้ ย่างหมดเปลือก
คาดว่าตอนแรก แม้เขาจะเข้าใจผิดคิดว่านางเป็ นนักต้มตุ๋นที่โรงรับจํานํา ทว่ายามที่
เขาพบว่านางอ้างนามของสกุลเผยมาข่มขู่หลู่ซิ่น ก็ทาํ เพียงตักเตือนนางอย่างไม่จริงจังเท่านัน้
ที่เรือนเก่าสกุลอวี ้ ยามที่นางถูกอันธพาลพวกนั้นไล่ตาม เขาช่วยเหลือนาง พอเห็นคนของ
สกุลอวีเ้ ข้ามา ก็จากไปโดยไม่กล่าวอันใด จะเห็นได้วา่ คนผูน้ ีเ้ ย็นชาแค่เพียงภายนอก ที่จริงแล้ว
ยังคงยินดีจะช่วยเหลือผูค้ น
แต่อวีถ้ งั รูส้ กึ ว่าตัวเองสามารถเข้าใจเผยเยี่ยนได้
เขาเป็ นตัวแทนของสกุลเผย มีตาํ แหน่งฐานะไม่ธรรมดา หากเป็ นมิตรกับคนไปทั่ว ไม่
สงวนท่าที ไม่ใช่ว่าทุกคนจะกรูกนั มาขอความช่วยเหลือจากเขาหรอกหรือ? เขาต้องช่วยหรือไม่
ช่วยเล่า? บางคนก็ รูจ้ ักสํานึกบุญคุณ ได้รบั ความช่วยเหลือจากสกุลเผยย่อมจดจําไว้ในใจ
เหมือนดั่งสกุลอวี ้ แต่คนส่วนมากเมื่อเห็นเขาตอบรับคําของ่ายๆ ก็คิดว่า คงไม่ได้เหลือบ่ากว่า
แรง หากสําเร็จก็สมใจ ไม่สาํ เร็จกลับจะกลายเป็ นความแค้นเคือง
ชาติก่อน นางพบเห็นเรื่องเช่นนีม้ ามาก
เผยเยี่ยนจึงจําเป็ นต้องมีวิธีปกป้องตัวเองอยู่บา้ ง
ก่อนหน้านีอ้ วีถ้ งั ยังคิดว่าเผยเยี่ยนปฏิบตั ิกบั ชาวบ้านที่นบั ถือเขาอย่างเย่อหยิ่งเกินไป
ยามนีไ้ ม่รูส้ กึ เช่นนัน้ อีกแล้ว
นางรูส้ กึ ซาบซึง้ ใจเป็ นอย่างยิ่ง เอ่ยละลํ่าละลัก “เข้าใจแล้ว ข้าจะจําไว้”
638

เผยเยี่ยนเห็นดวงตาที่สกุ สกาวของนางมองมายังตน ใบหน้านัน้ คล้ายกับจะเรืองแสง


ได้ เขารูส้ กึ ราวกับเห็นลูกหมาสีขาวตัวเล็กที่มารดาเลีย้ งไว้ขา้ งกาย ทุกครัง้ ที่มนั เห็นเขาก็มกั จะ
มองอย่างเชื่อใจและคาดหวังเช่นนี… ้ เผยเยี่ยนอดเบะปากไม่ได้
ได้ยินอวีเ้ หวินพูดเรื่องพวกนัน้ นางไม่ใช่คนหลักแหลมมากหรอกรึ? ไฉนเขาพูดอะไร
นางก็เชื่ออย่างนัน้ ? คาดว่าเป็ นเพราะแววตานีข้ องนาง อวีเ้ หวินจึงปฏิเสธไม่ลง ไม่แปลกใจที่
ปล่อยให้นางวิ่งวุน่ อยู่ขา้ งนอกไปทั่วเช่นนี ้
เผยเยี่ยนขมวดคิว้ คิดว่าตัวเองต้องช่วยอวีเ้ หวินดูแลควบคุมเด็กสาวผูน้ ีเ้ สียหน่อยแล้ว
เขาเอ่ย “สกุลพวกเจ้าวางแผนจะร่วมหุน้ กับกลุ่มเรือของนายท่านอู๋? ตัดสินใจว่าจะ
ลงทุนกับกลุม่ เรือไหนหรือยัง? คิดจะลงเงินเท่าใด? หรือคิดจะลงเงินเป็ นสินค้า?”
อวีถ้ งั ได้ฟัง แทบจะคุกเข่าคํานับให้เผยเยี่ยนแล้ว
นี่เป็ นข่าวที่นางพยายามสืบเสาะหลายวิธี แต่ก็ไม่ได้ขอ้ มูลใดกลับมา ฟั งจากคําพูด
ของเผยเยี่ยน ก็รูว้ า่ เขาย่อมคุน้ เคยกับเรื่องพวกนีเ้ ป็ นอย่างดี
โอกาสมีเพียงครัง้ เดียว ไม่อาจทิง้ ไปเฉยๆ ได้!
อวีถ้ งั คิดมากมายขนาดนัน้ ไม่ไหว เอ่ยออกไปทันที “ยังไม่ได้ตดั สินใจว่าจะร่วมหุน้ กับ
นายท่านอู๋ แค่รบั รู ว้ ่ามีกิจการเช่นนีอ้ ยู่ ท่านอาจจะไม่รู ้ สกุลพวกเราทํากิจการเครื่องลงรัก ไม่
เข้า ใจเกี่ ย วกับ การค้า ทางทะเลแม้แ ต่ น ้อ ย ท่ า นพี่ ข้า กล่ า วว่ า ต้อ งไปสื บ ข่ า วคราวให้ดี ๆ
เสียก่อน” จากนัน้ นางก็เอ่ยอย่างมีไหวพริบ “ไม่ทราบเช่นกันว่าท่านพี่ของข้าสืบข่าวอะไรได้
บ้าง? เมืองหังโจว นอกจากเถ้าแก่รองถง พวกเราก็ไม่รูจ้ กั ใครอีกแล้ว”
อยากถามเขาก็ถามมา ยังจะหาเหตุผลมากมายอีก!
เผยเยี่ยนชําเลืองมองอวีถ้ งั ไปที
สัมผัสได้ถึงท่าทีไม่สบอารมณ์อยู่รางๆ
639

อวีถ้ งั พลันกระจ่างในใจ นึกถึงบทสนทนาของทัง้ สองคนเมื่อครูท่ นั ที


หรือเผยเยี่ยนชอบคนตรงไปตรงมา?
นี่อาจเป็ นไปได้!
ทุกวันเขาต้องติดต่อกับคนมากมาย เวลาเป็ นเงินเป็ นทอง หากทุกคนเอาแต่ ‘อ้อมค้อม’
อยู่เบือ้ งหน้าเขา เขาคงจะคาดเดาใจคนพวกนัน้ จนผมร่วงหัวล้านเป็ นแน่
นึกมาถึงตรงนี ้ อวีถ้ งั ก็อดเงยหน้ามองบนศีรษะเผยเยี่ยนไม่ได้
เผยเยี่ยนผมดกหนาดําสนิท ทัง้ รากผมยังตัง้ โด่ราวกับไม่เชื่อฟั ง จะเห็นได้วา่ เส้นผมทัง้
หยาบทัง้ แข็ง ได้ยินพวกแม่บา้ นซุบซิบนินทา คนเช่นนีม้ กั จะอารมณ์ไม่คอ่ ยดี จากประสบการณ์
ของนาง คนที่อารมณ์ไม่คอ่ ยดี กลับใจกว้างมีเมตตามาก
ความคิ ด พวกนี ้แ ล่ น ผ่ า นเข้า มาในหัว อวี ถ้ ั ง เพี ย งชั่ว ครู ่ เ ท่ า นั้น นางเอ่ ย ปากตาม
สัญชาตญาณ “หากนายท่านสามไม่รีบกลับ ข้าอยากขอนายท่านสามช่วยเปิ ดหูเปิ ดตาเสีย
หน่อย ทางหังโจว ท่านมีกลุม่ เรือหรือสกุลพ่อค้าใดแนะนําบ้างหรือไม่?”
ร่ว มลงทุน การค้า ทางทะเล ก็ แบ่ง ได้ห ลากหลายวิธี บางคนก็ น าํ เงินไปหากลุ่ม เรือ
โดยตรง บางคนก็รว่ มหุน้ กับร้านค้าใหญ่ๆ ร้านค้าที่รว่ มลงทุนพวกนี ้ มักอาศัยวิธีใช้สินค้าในการ
แลกเปลี่ยน
สีหน้าบูดบึง้ ของเผยเยี่ยนเบาบางลง
แน่นอนว่าเขาไม่อยากเสียเวลาเพราะเรื่องเล็กน้อยพวกนี ้
อวีถ้ งั สามารถขอร้องอย่างตรงไปตรงมา ย่อมดีท่ีสดุ
เขาเอ่ย “ร้านค้าในเมืองหังโจวพวกนัน้ ลําพองว่าตนเองอยู่ในเมืองอันดับหนึ่งของเจียง
หนาน หยิ่งทะนงเป็ นที่สดุ ต่างก็อาศัยการได้เงินจากท้องพระคลังเป็ นดั่งเกียรติยศ การค้าทาง
ทะเลไม่ใช่สิ่งสลักสําคัญอันใด ทําได้อย่างอิสระ หากสกุลพวกเจ้าตัง้ ใจจะทํากินทางด้านนี ้ ต้อง
640

ไปเมืองซูโจว ที่น่ นั มีคนทําการค้าเช่นนีค้ ณานับ ร้านค้าที่ค่อนข้างใหญ่พวกนัน้ ไม่ว่าจะร้านผ้า


ไหมทั่วสารทิศ ร้านเครื่องเทศอันดับหนึ่ง ร้านเครื่องเคลือบลายครามจิ่งเต๋อล้วนมีการไปมาหาสู่
กับกลุ่มเรือของหนิงปั ว แต่เรื่องหลักๆ ข้าก็ไม่กระจ่างชัดนัก หากเจ้าอยากถามเรื่องกลุ่มเรือที่
ออกทะเลช่วงนี ้ อีกสักพักก็ให้พ่ีชายเจ้าไปถามเผยหม่านเอาเถิด”
นี่นบั ว่ามาไม่เสียเที่ยวโดยแท้!
หากไม่ใช่วา่ มิถกู กาลเทศะ นางก็คงโขกศีรษะให้เผยเยี่ยนไปแล้ว
“เข้าใจแล้ว!” อวีถ้ งั คิดว่าเผยเยี่ยนช่วยเหลือนางมากถึงเพียงนี ้ จึงพยักหน้ากระดิกหาง
ประหนึง่ ลูกหมา หวังอยากตอบแทนอะไรให้เผยเยี่ยนได้บา้ ง ตัวเองถึงจะรูส้ กึ สบายใจ
เผยเยี่ยนเห็นนางตัง้ ใจฟั ง ในใจก็รูส้ กึ ดีไม่นอ้ ย ยังกําชับนางไม่ก่ีคาํ “ข้าจะไปเกริ่นกับ
เผยหม่านไว้ ถึงเวลานัน้ พวกเจ้าเข้าไปหาเขาตรงๆ ก็เพียงพอแล้ว” จากนัน้ ก็ขนึ ้ เกีย้ วที่มารอรับ
กลับจวนไป
เถ้าแก่ใหญ่ถงตามเข้ามาอย่างเป็ นห่วง “เมื่อครู ่เจ้าคุยอะไรกับนายท่านสามไปบ้าง?
ข้าเห็นสีหน้าเขาดูไม่เลวเลย!”
อวีถ้ งั เอ่ยชมเผยเยี่ยนทันที เล่าข่าวคราวที่สืบถามจากเผยเยี่ยนให้เถ้าแก่ใหญ่ถงฟั ง
เถ้าแก่ใหญ่ถงเหนือความคาดหมายอย่างยิ่ง
เผยเยี่ยนไม่ใช่คนพูดเก่ง เขาปฏิบตั ิตวั เช่นนีก้ บั คุณหนูอวี ้ เห็นได้ว่านับถืออวีเ้ หวินอยู่
ไม่นอ้ ย ทัง้ ให้ความสําคัญกับสกุลอวีเ้ ช่นกัน
“เช่นนัน้ ก็ดี!” เถ้าแก่ใหญ่ถงกลัวว่าอวีถ้ งั จะไม่รูจ้ กั หนักเบา เอ่ยเตือนนาง “ยามที่นาย
ท่านสามยังเด็กก็ติดตามท่านผูเ้ ฒ่าไปทั่ว อายุนอ้ ยก็สอบได้ตาํ แหน่งซู่จ๋ีซ่ือ สายตาความรูย้ ่อม
ไม่ธรรมดา ในเมื่อเขาเอ่ยเช่นนี ้ เจ้าก็อย่าลืมบอกกล่าวพี่ชาย ให้เขารีบไปหาพ่อบ้านใหญ่ละ่ ”
“ข้าไม่ลืมแน่นอน!” อวีถ้ ังเอ่ยขอบคุณกับเถ้าแก่ใหญ่ถงอยู่พกั หนึ่ง ก่อนจะกลับบ้าน
ด้วยอารมณ์ดีย่งิ
641

อวีห้ ย่วนทราบว่าอวีถ้ งั พบเจอกับเผยเยี่ยน ขอให้เขาแนะนําเส้นทางทํากินให้สกุลตน


ภายใต้ความดีใจก็อดกังวลอยู่บา้ งไม่ได้ ปลุกใจตัวเองอยู่คอ่ นวัน เวลานีจ้ งึ ไปพบเผยหม่าน
เผยหม่านถูกเผยเยี่ยนกําชับมาแล้ว ย่อมบอกอย่างหมดเปลือก ไม่หวงแม้แต่นอ้ ย
ให้อวีห้ ย่วนเข้าใจแวดวงพ่อค้าทางซูโจวและหังโจวอย่างคร่าวๆ ครอบคลุมไปจนถึงกระทั่งกลุม่
เรือทางฝูเจีย้ นและกว่างโจว
หลังจากเขากลับบ้านก็อดถอนหายใจกับอวีถ้ งั ไม่ได้ “เมื่อก่อนข้ายังรูส้ กึ ไม่พอใจ คิดว่า
เหตุใดคนอื่นเขาทํากิจการรุ ง่ เรืองใหญ่โตได้ สกุลพวกเรากลับทําไม่ได้? ยามนีม้ องดู สกุลพวก
เราห่างชัน้ กับสกุลใหญ่พวกนัน้ ถึงหลายหมื่นลี ้ ข้าก็ไม่ตัง้ เป้าหมายไว้สูงอะไรมาก ชีวิตนีแ้ ค่
สามารถให้พวกลูกหลานเจ้าได้ร่าํ เรียนหนังสือ ขยับกิจการไปยังหังโจว ให้พวกหลานๆ เจ้ายืน
บนไหล่ขา้ ก้าวขึน้ ไปอีกขัน้ ชั่วชีวิตนีข้ องข้าก็นบั ว่าสมใจปรารถนาแล้ว”
ลูกวัวที่เพิ่งเกิดใหม่ไม่กลัวเสือ 1 133

อาจารย์ท่ีมากประสบการณ์ลว้ นขีข้ ลาดตาขาว


อวีถ้ งั กระตุกยิม้ เอ่ยถามอวีห้ ย่วน “ท่านพี่ เช่นนัน้ พวกเราควรจะร่วมหุน้ กับนายท่านอู๋
หรือไม่?”
อวีห้ ย่วนเอ่ย “นอกจากพวกเราไม่ร่วมหุน้ แล้ว ก็ยงั ต้องบอกกล่าวกับนายท่านอู๋ดว้ ย”
พูดมาถึงตรงนี ้ เขาก็กดเสียงเบา “ตามที่ได้ยินมา ครัง้ นีก้ ลุม่ เรือทางหนิงปั ว เพื่อแข่งขันกับร้าน
ผ้าไหมทั่วสารทิศของซูโจว จึงจัดตัง้ กลุ่มขึน้ มาอย่างกะทันหัน จากความหมายของพ่อบ้าน
ใหญ่คือต้องระมัดระวังให้ดี”
ร้านผ้าไหมทั่วสารทิศ? ชื่อนีย้ ามที่เผยเยี่ยนเอ่ยขึน้ มา อวีถ้ งั ก็รูส้ กึ คุน้ หู

1
ลูกวัวที่เพิ่งเกิดใหม่ไม่กลัวเสือ อุปมาว่า คนหนุ่มสาวไม่มีความกังวลมากมาย มักกล้าคิดกล้าทํา
642

นางครุ ่นคิดอย่างละเอียด “ร้านผ้าไหมทุกสารทิศไม่ใช่รา้ นที่คา้ ขายให้ราชวงศ์หรอก


หรือเจ้าคะ?”
สกุลพวกเขามีรา้ นสาขาย่อยมากมาย ร้านสาขาย่อยในเมืองหังโจวก็ตงั้ อยู่ดา้ นข้างโรง
จํานําสกุลเผย อวีถ้ งั คุน้ ตาอยู่บา้ ง
ชาติก่อน กลุ่มเรือของสกุลพวกเขาเป็ นกลุ่มเรือที่ดีท่ีสดุ ของเจียงหนานมาโดยตลอด
จวบจนสกุลเจียงโผล่ขนึ ้ มา สกุลพวกเขาจึงตกอับพ่ายแพ้ ก่อนหน้านี ้ ร้านรวงที่แข่งขันกับสกุล
พวกเขาล้วนไม่มีจดุ จบดีแต่อย่างใด
“สกุลนัน้ น่ะหรือ” อวีห้ ย่วนก็คลับคล้ายคลับคลาอยู่บา้ ง เขาเอ่ยทัง้ พยักหน้า “ร้านผ้า
ไหมทั่วสารทิศเป็ นหนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ท่ีสดุ ของซูโจว ร้านของเขาจัดตัง้ กลุ่มเรือมาหลายครัง้
แล้ว ล้วนแต่กลับมาอย่างปลอดภัย หาเงินได้เป็ นกอบเป็ นกํา ทําให้พ่อค้ารายเก่าพากันอิจฉา
ตาร้อน ยามนีจ้ งึ ได้รวมตัวกันก่อตัง้ กลุม่ เรือครัง้ นีข้ นึ ้ มา”
“เช่นนัน้ ก็ควรบอกกล่าวกับนายท่านอู๋เสียหน่อย” อวีถ้ งั เอ่ยอย่างตึงเครียด “นายท่านอู๋
มีนา้ํ ใจต่อสกุลพวกเราไม่นอ้ ย ออกหน้าช่วยเหลือหลายครัง้ หลายคราว พวกเราไม่อาจนิ่งดูดาย
มองเขาเสียเงินไปเปล่าๆ ได้”
อวีห้ ย่วนก็คิดเช่นนี ้ เขาออกจากสกุลอวีไ้ ปหานายท่านอู๋
นายท่านอูถ๋ กู หลานชายของเขาตะล่อมจนใจอ่อนแล้ว ไม่ใช่ว่าอวีห้ ย่วนพูดคําสองคําก็
สามารถเกลีย้ กล่อมได้ แต่ในนามของเผยเยี่ยน ยังคงทําให้เขาตัดสินใจระมัดระวัง เดิมตัง้ ใจจะ
ลงทุนห้าพันตําลึงก็เปลี่ยนเป็ นหนึง่ พันตําลึง
หลานชายของเขาหัว เสี ย ไม่ น ้อ ย แต่ ท ้า ยที่ สุด กลุ่ม เรื อ เดิ น ทางไปแต่ ไ ม่ ห วนกลับ
หลานชายคนนีข้ องเขาสิน้ เนือ้ ประดาตัว หลังจากนัน้ ก็ตกอับลืมตาอ้าปากไม่ได้ พาให้เขารูส้ กึ
เยียบเย็นอยู่ในใจ นับแต่นนั้ นายท่านอูก๋ ็เชื่อฟั งคําพูดปฏิบตั ิตามเผยเยี่ยน กลายเป็ นผูส้ นับสนุน
ที่ภกั ดีตอ่ เผยเยี่ยนมากที่สดุ ในเมืองหลินอัน นี่เป็ นเรื่องที่ทกุ คนต่างคาดไม่ถึง
643

ด้านอวีห้ ย่วน เดินทางไปเมืองซูโจวเพื่อสืบเสาะเรื่องการค้าทางทะเล ดูว่าสกุลอวีม้ ี


โอกาสจะร่วมหุน้ บ้างหรือไม่ ส่วนอวีถ้ งั ส่งคนไปสืบข่าวสกุลเผิงในฝูเจีย้ น นางปะติดปะต่อกับ
เรื่องราวที่นางรูจ้ ากชาติก่อนอีกครัง้ คิดว่าเบือ้ งหลังของสกุลหลี่ เป็ นไปได้วา่ จะเป็ นสกุลเผิง
นี่ทาํ ให้อวีถ้ งั นึกถึงเรือ่ งหนึ่งขึน้ มา
เพราะหลี่ตวนแต่งงานกับกูซ้ ี หลังจากให้กาํ เนิดลูกชาย ฮูหยินหลี่ก็คิดว่าหลานชายคน
นีข้ องตัวเองมีฐานะค่อนข้างโดดเด่น มีครัง้ หนึ่งถึงกระทั่งอยากให้ลกู ชายคนโตของหลี่ตวนเกี่ยว
ดองกับลูกสาวภรรยาเอกของสกุลเผิง กูซ้ ีคิดว่าเด็กอายุยงั น้อย มองไม่ออกว่าเก่งกาจหรือไร้
ความสามารถ ไม่ใช่โอกาสดีท่ีจะเชื่อมสัมพันธ์ ทัง้ ยังโน้มน้าวฮูหยินหลี่ “สกุลเผิงและสกุลเผย
ดื่มชากาเดียวกันไม่ได้ พวกเราทําเช่นนี ้ เกรงว่าสกุลเผยจะไม่ยินดี ไม่อย่างนัน้ ข้าหาโอกาสไป
เยี่ยมเยือนท่านแม่เฒ่าสกุลเผยเสียหน่อย ดูวา่ สกุลเผยมีท่าทีอย่างไรค่อยว่ากันดีหรือไม่?”
ภายหลังเรื่องที่เหมือนไม่จบนีก้ ็จบลงไป
ไม่รูว้ ่าเพราะกูซ้ ีใช้ขอ้ อ้างเรื่องนีม้ าทําลายความคิดของฮูหยินหลี่? หรือว่าสกุลเผยไม่
พึงพอใจต่อเรื่องนีจ้ ริงๆ?
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจผิดพลาด
สกุลเผิงและสกุลเผยไม่ลงรอยกัน
ไม่ถกู กันตัง้ แต่ยามนี?้ หรือภายหลังเกิดเรื่องอะไรแตกหักกัน อวีถ้ งั กลับไม่ทราบ
วิธีท่ีง่ายที่สดุ ก็คือไปถามเผยเยี่ยนตรงๆ
แต่เผยเยี่ยนจะบอกนางรึ?
อวีถ้ งั สองจิตสองใจอยู่บา้ ง
นึกถึงเรื่องพวกนัน้ ในชาติก่อนอีกครัง้
644

ชาติท่ีแล้ว ตัง้ แต่แรกนางก็คิดว่าภายหลังตัวเองคงต้องแก่ตายในสกุลหลี่มิใช่หรือ? แต่


นางไม่ยอมแพ้ ไม่เต็มใจ พยายามต่อสูช้ ่วงชิง คิดอุบายวางแผน ดังนัน้ นางจึงสามารถเดินออก
จากสกุลหลี่ได้อย่างสง่าผ่าเผย?
ไม่วา่ เรื่องอะไร หากเอาแต่คิดกลับไปกลับมาไม่ลองลงมือ ย่อมไม่สาํ เร็จทัง้ นัน้ !
ครัง้ นีอ้ วีถ้ งั ยังคงแปลงกายสวมชุดบ่าว ไปขอเข้าพบเผยเยี่ยนเช่นเคย
645

บทที่ 80 วางแผน
เผยเยี่ยนมองเสือ้ ผ้าของอวีถ้ งั แล้วรูส้ กึ ปวดหัว
เขาพูดว่า “เจ้าจะแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วค่อยมาพบข้าไม่ได้หรือ?”
นางแต่งตัวไม่เรียบร้อยรึ?
อวีถ้ ังก้มหน้าพิจารณาตนเอง มองเสือ้ คลุมเนือ้ หยาบที่อยู่บนตัวแล้วอดจะเม้มปาก
หัวเราะไม่ได้ “นายท่านสาม มิใช่เพราะข้าไม่มีทางเลือกหรือ? แม้จะรูท้ งั้ รูว้ ่ากลบเกลื่อนไม่มิด
แต่ก็ยงั ต้องดันทุรงั ทํา เพราะหากไม่ทาํ เช่นนี ้ คนอื่นก็จะเอาไปซุบซิบนินทาได้”
“เจ้าคิดว่าอยู่ในสภาพนีแ้ ล้วจะไม่ถูกนินทาหรือ?” เผยเยี่ยนไม่เข้าใจความคิดของอวี ้
ถัง “เจ้าทําเช่นนี ้ ใครๆ ก็มองออกทันทีวา่ หญิงแต่งเป็ นชาย”
“ถูกต้องแล้ว!” อวีถ้ ังหัวเราะพร้อมฉี กยิม้ หวาน “แต่ทุกคนรู ว้ ่าข้ามีใจปกปิ ด คนที่มี
จิตใจดีงาม ก็จะแสร้งทําเป็ นมองไม่เห็น คนที่ชอบพูดจาพล่อยๆ ไม่วา่ ข้าจะแต่งตัวอย่างไรก็เอา
ไปพูดเหลวไหลอยู่ดี เทียบกับให้คนที่จิตใจดีงามต้องมาเดือดร้อนเพราะข้า มิสปู้ ล่อยให้พวก
ปากพล่อยเอาไปซุบซิบนินทาได้ตามใจ”
นี่เป็ นตรรกะพิศดารอะไรอีกแล้ว!
เผยเยี่ยนรูส้ กึ ปวดหัวหนักกว่าเดิม
เขาเอ่ยว่า “ต่อไปถ้าจะมา แต่งกายให้ถกู ต้องเรียบร้อย แล้วนั่งเกีย้ วมาด้วย”
หมายความว่า หากว่านางมาขอพบเผยเยี่ยนอีก เผยเยี่ยนอนุญาตให้นางเข้าพบอย่าง
นัน้ สิ!
อวีถ้ งั ดีใจกับเรื่องไม่คาดฝั นนีม้ าก สายตาไม่อาจปิ ดบังความยินดีได้ “คราวหน้าข้าจะ
ทําตามที่นายท่านสามบอกอย่างแน่นอน”
นางมีเรื่องมาขอความช่วยเหลือผูอ้ ่นื ย่อมต้องทําตามกฎของผูอ้ ่นื อยู่แล้ว
646

เผยเยี่ยนถึงค่อยรูส้ กึ ดีขนึ ้ มาหน่อย “เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอะไร? แล้วบิดาเจ้ารูห้ รือไม่?”


อวี ถ้ ัง ส่ง ยิ ม้ สดใสตอบว่า “เป็ น ข้า ที่ มี เ รื่ อ งต้อ งการพบท่ า น ท่ า นพ่ อ ยัง ไม่ รู เ้ รื่อ ง!”
จากนั้นก็เสริมอีกว่า “สาเหตุก็เพราะเรื่องนีข้ า้ ไม่สะดวกพูดกับท่านพ่อ ถึงได้ตรงมาหาท่าน
แทน!”
เผยเยี่ยนฟั งแล้วค่อนข้างประหลาดใจ “เรื่องอันใดล่ะ?”
อวีถ้ งั ในเมื่อมาถึงประตูใหญ่แล้ว จึงไม่คิดอ้อมค้อมอีก ถามออกไปตรงๆ ทันทีวา่ “สกุล
เผยกับสกุลเผิงแห่งฝูอนั เคยมีบญุ คุณความแค้นต่อกันหรือไม่?”
“เหตุใดเจ้าถึงถามเช่นนี?้ ” เผยเยี่ยนชะงักไป “เพราะเรื่องการค้าทางทะเลรึ? พวกเรา
สองสกุลแม้พดู ไม่ได้วา่ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด แต่ก็ไม่ถึงกับบาดหมาง หากมีเรื่องใหญ่อนั ใด ก็
สามารถเกือ้ กูลกันได้”
หมายความว่า สกุลเผยจะแตกหักกับสกุลเผิงหลังจากนีร้ ?ึ
อวีถ้ งั ใคร่ครวญดูแล้ว จากนัน้ ก็เล่าเรื่องที่หลูซ่ ิ่นขายภาพปลอมให้เผยเยี่ยนฟั ง แน่นอน
ว่า นางไม่ได้พดู ถึงเรื่องในชาติก่อน บอกเพียงตอนนัน้ ใจเกิดระแวงสงสัย ถึงได้ตรวจสอบดูดว้ ย
ความอยากรู ้
เผยเยี่ยนได้ฟัง คิว้ ก็เริม่ ขมวดมุ่น ยิ่งฟั งต่อไปเรื่อยๆ คิว้ ก็เริม่ พันกันวุน่ วาย จนสุดท้ายสี
หน้าเปลี่ยนเป็ นไม่น่ามอง
เขาเอ่ยว่า “เจ้าจะบอกว่า เจ้าคิดว่าที่สกุลหลี่มุ่งมั่นจะสู่ขอเจ้าให้ได้ เป็ นสิ่งที่แปลก
พิกล จึงได้ออกไปสืบหาหลักฐาน?”
ตอนที่เผยเยี่ยนพูดประโยคนีอ้ อกมา ก็อดไม่ได้ท่ีจะเพ่งมองอวีถ้ งั อย่างละเอียด
ส่วนสูงปานกลางแต่ขายาวเรียว มองแล้วจึงดูตวั สูงกว่าความเป็ นจริง ผิวพรรณขาว
ผ่อง ในความเกลีย้ งเกลามีความชุ่มชืน้ ชมพูระเรื่อ มองแล้วดูมีชีวิตชีวา เปล่งประกายสะดุดตา
คน ดวงตาคู่นนั้ กลมโตกระจ่างใส เวลามองคนมักทอแสงเจิดจ้า เป็ นประกายวิบวับด้วยความ
647

อยากรูอ้ ยากเห็น ทําให้นางดูซุกซนขึน้ หลายส่วน แต่คิว้ นางดกดํา สันจมูกตัง้ ตรง ริมฝี ปากเอิบ
อิ่ม ไม่เหมือนกับเด็กสาวที่เพิ่งผ่านวัยปั กปิ่ นคนอื่นๆ ที่อย่างไรก็หลงเหลือความไม่ประสาของ
เด็กอยู่บา้ ง แต่นางกลับสง่างามเปิ ดเผย ในความอ่อนหวานมีเสน่หซ์ ุกซ่อน จิตใจกว้างขวาง ทัง้
ยังดูอยู่น่ิงๆ ไม่คอ่ ยเป็ น
เด็กสาวเช่นนี ้ ย่อมเป็ นที่ดงึ ดูดใจคนอย่างไม่ตอ้ งสงสัย
แล้วเหตุใดนางถึงคิดว่าที่สกุลหลี่ม่งุ มั่นสูข่ อนางเป็ นสิ่งแปลกพิกลเล่า?
แน่นอนว่า เด็กสาวหลายๆ คนอาจถูกเลีย้ งดูอยู่แต่ในห้องหอ จนไม่รูถ้ ึงความงดงาม
ของตนเอง แต่เห็นชัดว่าไม่ใช่กบั คุณหนูอวีผ้ นู้ ี ้
ตอนที่อยู่วดั เจาหมิง นางก็รูจ้ กั ใช้ประโยชน์จากข้อดีของตนเอง รูว้ ่าจะดึงดูดคนได้เช่น
ไร โดยเฉพาะความสนใจจากเหล่าชายหนุ่ม
อีกอย่าง เขาคิดว่านางหวีผมทรงมวยตกหลังม้า ประดับด้วยดอกไม้ต่างๆ เป็ นการ
แต่งตัวที่เหมาะสมกับนางมากกว่า กลับกันการหวีผมทรงขดหอยสองข้าง กลับเจือจางความ
กระด้างกระเดื่องที่ซอ่ นอยู่ลกึ ๆ ทําให้ความแปลกใหม่อนั เป็ นเอกลักษณ์ท่ีดงึ ดูดคนต้องหายไป
อวีถ้ ังมีหรือจะรู ว้ ่าบุรุษตรงหน้าจะคิดอะไรมากมาย นางตอบว่า “ถูกต้อง! ข้าไม่ใช่
โฉมงามอันดับหนึ่ง บ้านข้าก็ไม่ได้มีตาํ แหน่งฐานะ เหตุใดจะต้องแต่งกับข้าให้ได้เล่า? ฮูหยินหลี่
ยังบอกอีกว่าคุณชายรองสกุลหลี่เคยพบข้าครัง้ หนึ่งโดยไม่ได้ตงั้ ใจ ข้ายังคิดว่ามีเรื่องบังเอิญ
แบบนัน้ ที่ไหนกัน วันหนึ่งข้าได้ยินว่าพวกคุณชายรองสกุลหลี่จะไปแต่งกลอนกันที่วดั เจาหมิง
จึงได้ตงั้ ใจแสร้งไปพบเขา ผลกลายเป็ นว่าเขาไม่รูจ้ กั ข้าเสียด้วยซํา้ …”
เหอะ!
เป็ นเรื่องเข้าใจผิดอีกแล้ว
เผยเยี่ยนรูส้ กึ ไม่สบายแถวลําคอคล้ายถูกคนบีบเอาไว้
648

หรือเพราะดอกไม้ของฤดูใบไม้ร่ว งเบ่ง บานแล้ว ละอองเกสรเล็ก ๆ ถึ ง ปลิว ว่อนใน


อากาศ?
สกุลเผยหลายต่อหลายรุ ่นชื่ นชอบบุปผาต้น ไม้ ในลานบ้า นจึงปลูก ต้นไม้ต่างๆ ไว้
สารพัดสายพันธุ์ หากไม่ใช่เขาสั่งคนให้ถอนออกบางส่วน หนี่งปี ส่ีฤดูลว้ นมีดอกไม้เบ่งบานไม่
ขาดแน่ เดินไปทางใดก็ส่งกลิ่นหอมไปทั่ว ตัง้ แต่เช้าจรดคํ่าทําเอาไอจามไม่หยุด แทบจะทําให้
เขาเป็ นบ้าให้ได้เชียว
เขาสําลักไอสองที ในลําคอถึงรูส้ กึ ปลอดโปร่งขึน้ มาหน่อย “หมายความว่า วันนัน้ ที่เจ้า
ไปวัดเจาหมิง เพราะมีเป้าหมายอย่างนัน้ หรือ?”
อวีถ้ งั พอได้เจอเผยเยี่ยน ก็จะเปลี่ยนเป็ นคน ‘ตามองหกถนน หูฟังแปดด้าน 1’ ในทันที 134

เมื่อได้ยินประโยคนัน้ ของเผยเยี่ยน ก็กะพริบตาปริบๆ แล้วถามว่า “วันนัน้ ที่ขา้ ไปวัดเจาหมิง


ท่านก็รูเ้ รื่อง?”
เขาย่อมรูเ้ รื่องอยู่แล้ว
เผยเยี่ยนจ้องหน้าอวีถ้ งั
เห็นว่าดวงหน้านางมีแต่ความมึนงง สายตาเปล่งประกายออกมาเป็ นคําพูด ราวกับ
กําลังถามเขาว่า ‘หรือท่านก็อยู่ท่ีน่ นั ด้วย’
อยู่ดีๆ เขาพลันรูส้ กึ กระอักกระอ่วนขึน้ มาอย่างไร้เหตุผล
ทว่า เขาปรับอารมณ์กลับมาเป็ นปกติได้อย่างรวดเร็ว
เขาใช้ชีวิตอย่างจริงใจเปิ ดเผย ไม่มีเรื่องใดต้องแอบซ่อนปกปิ ด วันนัน้ ที่วดั เจาหมิง ทัง้ ๆ
ที่เห็นคุณหนูสกุลอวีแ้ ล้ว กลับแสร้งทํามองไม่เห็นนาง ทัง้ ยังยืนดูละครอยู่บนชัน้ สองของหอ
คัมภีรเ์ ป็ นนานสองนานอีก

1
ตามองหกถนน หูฟังแปดด้าน หมายถึง ฉลาดคล่องแคล่ว สามารถสังเกตและวิเคราะห์เหตุการณ์ได้รอบด้าน
649

ตอนแรกที่เขาทําเช่นนัน้ แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องผิด
ตอนนัน้ พวกเขาไม่ได้รูจ้ กั กันเสียหน่อย
แต่บัดนีจ้ ะให้เขายอมรับตรงๆ เขาก็รูส้ ึกไม่สะดวกใจ บางทีอาจเพราะเขาเริ่มสนิ ท
คุน้ เคยกับคุณหนูอวีม้ ากขึน้ หากยอมรับอย่างขอไปทีแบบนัน้ คงทําให้เขาดูเย็นชาไปหน่อย
กระมัง?
เผยเยี่ยนลอบครุน่ คิดในใจ ก่อนจะตอบคําถามออกไปอย่างคลุมเครือ “ตอนนีเ้ จ้ากําลัง
สงสัยว่าสกุลเผิงบงการสกุลหลี่ให้มาหลอกเอาแผนที่ทางทะเลจากมือหลู่ซิ่นรึ?” พูดถึงตรงนี ้
เขาก็หนั ไปยิม้ ให้อวีถ้ งั
มันเป็ นรอยยิม้ ที่แค่ฉีกริมฝี ปากออกจากกันเท่านัน้
คล้ายกับเนือ้ ยิม้ ตาไม่ยมิ ้ อะไรเทือกนัน้
ทว่าในสายตาของเขากลับมีแสงทอประกาย
เป็ นประกายของผูท้ ่ีมองเรื่องราวในใต้หล้าได้อย่างปรุโปร่ง
อวีถ้ งั ตอบไปตามความจริงว่า “หนึ่งคือพวกเราไม่รูว้ ่าพวกเขารูเ้ รื่องแผนที่หรือไม่ กลัว
จะถูกตามสืบจนรู เ้ รื่อง สองคือกลัวว่าสกุลข้าไร้ซ่งึ กําลังจะต้านทาน หากว่าพวกเขาเอาแผนที่
ไปรวมกลุ่มกองเรือกับผูอ้ ่ืน แล้วใช้แผนที่ปลอมออกทะเลไป เกรงจะทําให้คนมากมายต้อง
สังเวยชีวิต…สกุลข้าแม้จะมีความแค้นต่อสกุลหลี่ แต่ก็ไม่ควรปล่อยเรื่องผิดๆ ให้ดาํ เนินไป จะ
เป็ นภัยต่อชีวิตผูอ้ ่ืน ทางที่ดีควรกระจายข่าวเรื่องแผนที่ออกไปให้ท่ วั ทําให้มันไร้คุณค่าเสีย
เช่นนี ้ สกุลหลี่ก็ไม่อาจเกาะเรือลําใหญ่อย่างสกุลเผิงได้แล้ว”
ความฝันที่จะรํ่ารวยมั่งคั่งของสกุลหลี่ย่อมแตกสลาย
เช่นนีด้ ีกว่ามอบภาพปลอมให้พวกเขาเป็ นไหนๆ
650

แน่นอนว่า แม้นางอยากจะมอบภาพปลอมให้แก่สกุลหลี่ แต่ก่อนถึงเวลานัน้ ก็ตอ้ ง


ตามหาผูเ้ ชี่ยวชาญที่จะปลอมภาพให้ได้เสียก่อน
อย่างไรก็ไม่อาจลากอาจารย์เฉียนให้เข้ามาเสี่ยงด้วยได้!
อีกอย่างอาจารย์เฉียนคนก็ไม่อยู่ท่ีเมืองหังโจวแล้ว
เผยเยี่ยนได้ฟังก็ทาํ หน้าจริงจังทันที
คนทั่วไปย่อมจะทําแผนที่ซง่ึ เป็ นภาพปลอมออกมาเพื่อมอบให้สกุลหลี่ แต่สกุลอวีก้ ลับ
เลือกเดินเส้นทางตรงข้ามกับคนส่วนใหญ่
เป็ นเพราะสกุลอวีแ้ สนดีเกินไป? หรือโง่งมเกินไปกันแน่?
เผยเยี่ยนพลันหมดคําจะพูดไปชั่วขณะ
ในใจกลับรู ส้ ึก นับถื อความสุจริตเที่ ย งธรรมของสกุลอวี ้ ทํา ให้เ ขามองสกุลอวี ด้ ว้ ย
สายตาสูงขึน้ กว่าเดิม
อวีถ้ งั นัน้ รูส้ กึ เหมือนโยนภาระหนักอึง้ ที่อยู่บนบ่าทิง้ ไป
หากว่าสกุลเผยสามารถมีแผนที่เช่นเดียวกันนีไ้ ด้ ก็จะแย่งชิงความเป็ นใหญ่กบั สกุลเผิง
ได้แล้ว
ต่อให้สกุลเผยไม่อยากเข้าร่วมแย่งชิงความเป็ นใหญ่กบั สกุลเผิง ก็ยงั สามารถส่งมอบ
แผนที่ให้กบั ศัตรูคแู่ ข่งของสกุลเผิงได้
หากว่าสกุลเผยก็สนใจภาพผืนนีเ้ ช่นกัน เช่นนัน้ ย่อมจะประเสริฐยิ่งกว่า
นางก็จะยกภาพผืนนีใ้ ห้สกุลเผยเสีย ทัง้ เป็ นการตอบแทนบุญคุณของสกุลเผยได้อีก
ต่างหาก
สรุปก็คือ หากแผนที่ท่ีอยู่ในมือสกุลหลี่มิได้มีเพียงแผ่นเดียว สกุลของพวกเขาย่อมจะ
ไม่มีความสําคัญใดๆ ต่อสกุลเผิงอีก
651

ซํา้ สกุลหลี่ยงั กล้าร่วมมือกับคนนอกเมืองหลินอันลับหลังสกุลเผย แค่ความเกรีย้ วกราด


ของสกุลเผย ก็มากพอจะทําให้พวกเขาสําลักตายแล้ว
ทว่านี่ยงั ไม่ใช่ของขวัญชิน้ ใหญ่ท่ีอวีถ้ งั ตัง้ ใจจัดให้สกุลหลี่
นางยังมีของขวัญอีกชิน้ ที่จะมอบให้พวกเขา
แต่ตอ้ งจัดการเรื่องแผนที่ให้เรียบร้อยก่อน
อวีถ้ งั เอ่ยขึน้ ว่า “นายท่านสาม ข้าจะกลับเรือนไปหยิบแผนที่มาให้ท่านเดี๋ยวนีเ้ ลย”
เผยเยี่ยนกลับขวางนางไว้ก่อน “เรื่องนีไ้ ม่รบี ร้อน ข้าคิดออกอีกหนึ่งวิธี เจ้าอยากลองฟั ง
หรือไม่?”
652

บทที่ 81 เปิ ดเผย


เผยเยี่ยนจะช่วยนางคิดหาวิธี?!
นางสามารถพบเจอเรื่องประเสริฐเช่นนีไ้ ด้ดว้ ย!
อวีถ้ งั คอยฟั ง รูส้ กึ ตื่นเต้นจนไม่รูจ้ ะพูดอะไรออกมา
เผยเยี่ยนอดจะยกยิม้ มุมปากไม่ได้ เป็ นรอยยิม้ ที่ออกมาจากใจจริงๆ
ไม่มีสายตาที่เสียดแทง ไม่มีท่าทีไม่แยแส รอยยิม้ ของเขาเหมือนดวงอาทิตย์รอ้ นแรง
ตอนหน้าร้อน ค่อนข้างจะแยงตา แต่ไม่อาจปฏิเสธได้วา่ สว่างไสวเหลือเกิน
อวีถ้ งั จ้องมองด้วยสายตาโง่งม
นี่คือตัวตนที่แท้จริงของเผยเยี่ยนกระมัง?
แต่ไม่รูว้ ่าตนทําอะไรลงไป ถึงโชคดีขนาดได้เห็นสีหน้าและอารมณ์ท่ีแท้จริงของนาย
ท่านสามสกุลเผย?
อวีถ้ ังคิดไม่ออก รู ส้ ึกว่าหลังตนกลับถึงเรือนแล้วต้องใคร่ครวญบทสนทนาของคนทัง้
สองใหม่อีกรอบ หาเหตุผลที่เผยเยี่ยนยิม้ ออกมาให้ได้ ครัง้ ต่อไปเมื่อมาพบเขา จะได้ทิง้ ความ
ประทับใจอันดีเอาไว้ให้เผยเยี่ยนอีก
เรื่องล้างแค้นสกุลหลี่นนั้ นางยังคาดหวังให้สกุลเผยช่วยออกแรงอีกมาก!
“ท่านบอกมาเร็วเข้า” อวีถ้ งั รีบประจบสอพลอเผยเยี่ยนโดยที่หน้าไม่เปลี่ยนสี นํา้ เสียงที่
ใช้ก็ซ่ือตรงจริงใจยิ่งกว่าอะไร “ท่านมีความรูก้ ว้างขวาง ความคิดที่ออกมาย่อมจะสูงส่งกว่าของ
พวกข้าร้อยพันหมื่นเท่า ท่านว่ามาเถอะ ข้าจะทําตามทุกอย่างเลย”
ริมฝี ปากของเผยเยี่ยนกระตุกขึน้ อีกครัง้ แล้ว
653

เด็กคนนีใ้ ช่คิดว่าเขาเป็ นคนโง่งมหรือไม่? ตอนเยินยอคนกลับทําได้เหมือนสุนขั ตัวน้อย


ที่แกว่งหางไปมา คิดว่าตัวเองทําเรือ่ งยิ่งใหญ่ แต่ผอู้ ่นื นัน้ มองออกอย่างปรุโปร่ง
ทว่าเขากลับไม่ได้รูส้ กึ รังเกียจอะไร
อาจเพราะว่าผูท้ ่ีเกิดมางดงามมักจะได้รบั การอภัยอย่างง่ายดายกระมัง
เผยเยี่ยนพึมพํากับตนเองในใจ สีหน้าไม่ได้แสดงออก “เจ้าคัดลอกภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้
สนริมนํา้ ’ ไว้ก่ีแผ่น?”
อวีถ้ ัง ตอบโดยไม่ตอ้ งคิ ดว่า “ข้า ไม่ได้คัดลอกภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ เอาไว้
คัดลอกเฉพาะแผนที่เอาไว้แผ่นหนึ่ง แต่พวกเราไม่มีใครอ่านแผนที่นนั้ เข้าใจเลย”
ก่อนหน้านีน้ างไม่รูเ้ รื่องเว่ยเสี่ยวซานมาก่อน ถ้านางรู แ้ ต่แรกว่ามีคนอยากได้ภาพผืน
นัน้ นางก็คงให้ไปแล้ว สกุลนางจะได้ดึงตัวเองออกมาจากเรื่องนีเ้ สียที แต่นบั จากที่ยืนยันได้ว่า
การตายของเว่ยเสี่ยวซานเกี่ยวข้องกับงานแต่งของนาง นางก็เปลี่ยนใจ…ต่อให้นางต้องตาย
อย่างอนาถ ตายแล้วต้องตกนรกสิบแปดขุม นางก็ตอ้ งล้างแค้นแทนเว่ยเสี่ยวซานให้จงได้
ไม่เพียงเอาภาพวาดตัวจริงให้สกุลหลู่ นางยังคิดเล่นตุกติกกับภาพผืนนัน้ ให้สกุลหลี่
ต้องตกตํ่าจนไม่มีวนั ได้ลืมตาอ้าปาก
ภาพคัดลอกของภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ นั้น นางตัง้ ใจจะเก็บซ่อนเอาไว้ก่อน
ต่อไปค่อยเอาออกมาใช้
แต่เรื่องนีไ้ ม่เกี่ยวข้องอะไรกับสกุลเผยหรือว่าเผยเยี่ยน เผยเยี่ยนเองก็ไม่จาํ เป็ นต้องรู ้
เผยเยี่ยนเอ่ยยิม้ ๆ “เช่นนัน้ เจ้านําภาพแผนที่ท่ีให้คนคัดลอกมาให้ขา้ ดูก่อน ข้าดูแล้ว
ค่อยพิจารณาว่าคุม้ ค่าพอจะช่วยเจ้าออกความเห็นหรือไม่”
ย่อมต้องคุม้ ค่าอยู่แล้ว
ไม่เช่นนัน้ ชาติก่อนสกุลหลี่จะพลิกมารํ่ารวยชั่วข้ามคืนได้อย่างไร
654

แต่คาํ นีน้ างบอกเผยเยี่ยนไม่ได้ ได้แต่ส่งเสียง “อืม” ไปคําหนึ่ง เตรียมตัวกลับไปหยิบ


ภาพแผนที่มาให้
เผยเยี่ยนกลับเรียกนางเอาไว้ เอ่ยอย่างรังเกียจว่า “เจ้าไปเปลี่ยนชุดให้ถกู ต้องเรียบร้อย
แล้วค่อยกลับมา”
อวีถ้ งั ยิม้ ตอบอย่างสว่างไสว สายตาเผลอมองประเมินเผยเยี่ยนอย่างไม่รูต้ วั
วันนีเ้ ขาสวมชุดต้าวผาวเนือ้ ดีสีฟ้าอ่อน มองเผินๆ ดูเรียบง่าย ทว่าเนือ้ ผ้าทอละเอียด
สะอาดสะอ้านและเป็ นทรงสวย ทอประกายคล้ายกับหยกขาว และตัดจากผ้าซานซัวของดีแห่ง
ซงเจียง เป็ นสินค้าบรรณาการ ผ้าชั้นดีหนึ่งพับนี ้ มีค่าเท่ากับผ้าดิน้ เงินปั กทองหนึ่งพับเลย
ที เ ดี ย ว ทั่ว ร่า งของเขาไม่ มี เ ครื่อ งประดับ สัก ชิ น้ แต่ใ นมื อ ถื อ พวงลูก ประคํา สิ บ แปดเอาไว้
ลูกประคํานัน้ ไม่เป็ นสีออกม่วงแดงเหมือนไม้ประดู่ ไม่เป็ นสีออกเหลืองอย่างไม้พะยูงหอม แต่
กลับเป็ นสีตน้ ถงมู่ มองแล้วเรียบง่ายไม่สะดุดตา แต่กลับปล่อยกลิ่นหอมหวานออกมาจางๆ
หากคนสายตาหลักแหลมได้เห็นก็จะรู ว้ ่านี่คือลูกประคําไม้ศรีตรังที่ค่อนไปทางสีนา้ํ ตาลเขียว
เป็ นสินค้าจากนอกทะเล หาได้ยากยิ่งกว่ายาก ปี นนั้ สกุลหลี่ก็ได้มาเส้นหนึ่ง ฮูหยินหลี่เห็นว่าสูง
ค่ายิ่ง ไม่หยิบออกมาให้ผอู้ ่ืนเห็นง่ายๆ ซํา้ ยังเคยพูดว่าจะเก็บซ่อนเอาไว้เป็ นสมบัติประจําสกุล
เลยทีเดียว ส่วนรองเท้าผ้าสีดาํ ที่สวมเขาอยู่ ก็ใช้เส้นด้ายสีเดียวกันปั กเป็ นลายอักษร ‘ว่าน 1’ 135

ต่อเนื่ องไม่ สิน้ สุด…ความพิ ถี พิ ถัน ทั่ว ทั้ง ร่างนี ้ ถูก ซุ ก ซ่อนอยู่ภายใต้ความวางเฉยไม่แ ยแส
สอดแทรกอยู่ในรายละเอียดอันเล็กน้อย
อวีถ้ งั ก้มหน้าลง แล้วลอบมองเผยเยี่ยนด้วยสายตาดูแคลน
นายท่านสามสกุลเผยผูน้ ี ้ ช่างมีความคิดและการกระทําที่ขดั แย้งกันโดยแท้
มิน่าเขาถึงทําท่ารังเกียจนาง!
อวีถ้ งั กลัวเผยเยี่ยนจะมองออกว่าตนไม่ใส่ใจ จึงรีบรับคําว่า “ได้” ทันที

1
ว่าน เป็ นสัญลักษณ์คล้ายรูปสวัสติกะ เป็ นตัวแทนแห่งความเป็ นสิรมิ งคลของพระพุทธศาสนานิกายมหายาน
655

เผยเยี่ยนตอบกลับอย่างพอใจว่า “อืม” เสียงหนึ่ง ทัง้ เสริมอีกว่า “บอกกับนายท่านอวี ้


สักคําด้วย เชิญเขามาหารือร่วมกันเลย”
หากว่า แผนที่ ผืน นั้นไม่ มี ราคาค่า งวดอะไร คนอื่ น จะได้ไม่ เ ข้า ใจผิ ดหาว่า เขารัง แก
คุณหนูสกุลอื่น
“ก็ได้!” อวีถ้ ังรับคํา ตอนนัน้ เพิ่งรู ส้ ึกว่าเรื่องนีส้ มควรให้บิดานางมาหารือกับเผยเยี่ย
นถึงจะดี
นางรีบกลับไปที่เรือน
อวีเ้ หวินไปดูรา้ นค้าที่ถนนฉางซิ่งยังไม่กลับมา
ได้ยินจากเฉินซื่อว่า ท่านลุงใหญ่ของนางขนสินค้าจากเจียงซีเข้ามาจํานวนหนึ่ง ของ
มาถึงท่าเรือเสาซีวนั นี ้ ญาติผพู้ ่ีของนางต้องไปตรวจรับสินค้า ที่รา้ นจึงไม่มีคนดูแล อวีเ้ หวินถึง
ได้ไปช่วยงาน
อวีถ้ งั ส่งคนไปเชิญบิดากลับมา ส่วนตัวเองก็ไปห้องหนังสือรือ้ หาแผนที่ท่ีคดั ลอกเอาไว้
นางสั่งซวงเถาให้ยกนํา้ เข้าไป รับใช้นางหวีผมแต่งตัวใหม่ทงั้ หมด
ผมหวีเป็ นทรงมวยตกหลังม้า ประดับด้วยดอกซานฉาใหญ่เท่าปากชามสีชมพู ห้อย
ตุม้ หูไข่มกุ ขนาดเท่าเม็ดบัว สวมเสือ้ ตัวบนสีเขียวปั กด้ายทองรอบตัว กระโปรงจีบผ้าหังโจวสี
ชมพู คูก่ บั รองเท้าสีเดียวกับปั กลายเมฆ
อวีถ้ งั มองภาพหญิงงามที่สะท้อนอยู่ในกระจก นางฉีกยิม้ แล้วทําท่าให้กาํ ลังใจตัวเองที
หนึ่ง จากนัน้ ก็ออกไปรออวีเ้ หวินที่ประตูใหญ่
เฉินซื่อเห็นแล้วก็ตกอกตกใจ “เจ้าทําอะไรน่ะ? ตอนไปดื่มสุรามงคลบ้านหม่าซิ่วเหนียง
ก็ไม่เห็นเจ้าแต่งตัวอลังการเช่นนี ้ หรือเจ้าจะออกไปพบใครรึ?”
“ไปจวนสกุลเผยเจ้าค่ะ” อวีถ้ งั พูดด้วยนํา้ เสียงเศร้าหมอง “ข้ามีเรื่องต้องไปขอพบนาย
ท่านสามหน่อย”
656

เฉินซื่อไม่ได้สงสัยอะไร
ในสายตานาง เผยเยี่ยนกับอวีเ้ หวินเป็ นผูอ้ าวุโสรุ ่นเดียวกัน ยิ่งเผยเยี่ยนก็เป็ นคนดีมี
คุณธรรม ช่วยปกป้องดูแลชาวเมือง บุตรสาวไปพบเผยเยี่ยน ก็เหมือนไปเยี่ยมเยือนผูอ้ าวุโสคน
หนึ่ง แต่งตัวให้เต็มยศยิ่งถือเป็ นการให้เกียรติอีกฝ่ าย หากแต่งเรียบง่ายเกินไปก็จะดูสนิทสนม
ใกล้ชิด จะอย่างไรก็ไม่เกินงามแน่
“เจ้าจะไปหานายท่านสามทําไมรึ?” เฉินซื่อถามอยากรู ้ “เพราะเรื่องลดจ่ายภาษี หรือ?”
ปี ก่อน จินหวาถูกนํา้ ท่วม ท่านข้าหลวงคนก่อนของจินหวาเสนอให้ราชสํานักงดเว้นการ
จ่ายภาษี สองปี ทางราชสํานักก็เห็นสมควร ปี ท่ีแล้วหลินอันก็ถูกนํา้ ท่วม แต่ก็ท่วมเพียงสี่หา้
หมู่บา้ นเท่านัน้ มีคนเห็นว่าจินหวาได้รบั การงดเว้นภาษี จึงคิดจะเอาอย่างบ้าง หลายวันนีย้ งั มี
คนมายุยงให้อวีเ้ หวินลงชื่อเพื่อขอให้ท่านข้าหลวงทังช่วยออกหน้าอยู่เลย
อวีเ้ หวินนัน้ คิดว่าพืน้ ที่ท่ีถกู นํา้ ท่วมมีไม่มาก อีกอย่างหากชาวเมืองร่วมแรงเป็ นหนึ่ง ไม่
แน่อาจกูค้ วามเสียหายกลับคืนมาได้ จึงหาเหตุผลปฏิเสธไป แต่ก็ยังมีคนเสนอให้ไปหาเผย
เยี่ยนแทน
“มิ ใ ช่ ห รอกเจ้า ค่ะ ” อวี ถ้ ัง ยิ ม้ “เพราะเรื่ อ งภาพวาดผื น นั้น ของท่ า นลุง หลู่ต่า งหาก
สุดท้ายภาพนัน้ ไปตกอยู่ในมือสกุลหลี่ เรื่องนีอ้ ย่างไรก็ตอ้ งบอกนายท่านสามให้รบั ทราบไว้”
เสือสองตัวไม่อาจอยู่ถา้ํ เดียวกันได้
สกุลหลี่หลายวันนีก้ าํ ลังดิน้ รนเต็มแรง สกุลเผยสมควรจะให้บทเรียนแก่พวกเขาบ้าง
เฉินซื่อพยักหน้า ทางหนึ่งก็จดั ปอยผมให้นาง ทางหนึ่งก็กาํ ชับว่า “เจ้าไปแล้วก็ตอ้ งทํา
ตัวดีๆ อย่าทําตัวกระโดกกระเดกเหมือนว่าที่น่ นั เป็ นบ้านตัวเอง อยากกินอะไรก็กิน อยากดื่ม
อะไรก็ด่มื เป็ นสตรี อย่างไรก็ตอ้ งระวังภาพลักษณ์ไว้ก่อน”
หากมารดารู ว้ ่าตนเคยแทะขาหมูดว้ ยมือเปล่าต่อหน้าเผยเยี่ยนมาแล้ว ไม่รูว้ ่านางจะ
โมโหจนกระอักเลือดหรือไม่?
657

อวีถ้ งั เม้มปากยิม้ ๆ ไม่อยากส่งเสียงอะไรออกไปอีก


ดีท่ีรอไม่นานอวีเ้ หวินก็กลับมา สองพ่อลูกจึงแอบเข้าไปคุยกันในห้องหนังสือ
เมื่อรูเ้ หตุผลที่มาของเรื่องราว อวีเ้ หวินก็ตาํ หนินางทันที “เจ้าเด็กคนนี ้ ก่อนหน้านีไ้ ปทํา
อะไรมาอีก? หากว่านายท่านสามไม่เชื่อเจ้าเล่า?”
อย่างไรอวีถ้ งั ก็ไม่อาจตอบว่าเป็ นเพราะความรูส้ กึ บางอย่างกระมัง?
นางพูดว่า “ท่านเป็ นหัวหน้าครอบครัว ทัง้ ยังเป็ นผูเ้ ล่าเรียนเขียนอ่านไม่ก่ีคนในเมือง
หลินอันนี ้ อีกอย่างอารมณ์ของนายท่านสามใครก็ไม่อาจคาดเดาได้ ถ้าท่านไปหาแล้วเขาตอบ
ตกลงก็ดีไป แต่ถา้ ไม่สาํ เร็จเล่า? จะเอาความต้องการของเราฝ่ ายเดียวไปยัดเยียดให้เขาไม่ได้
กระมัง? ให้ขา้ ไปย่อมเหมาะสมกว่าเห็นๆ! ต่อให้ขา้ พูดอะไรผิดไปบ้าง คนอื่นก็คิดว่าข้าเป็ น
เพียงเด็กคนหนึ่ง ไม่มีทางเก็บไปใส่ใจแน่”
อวีเ้ หวินฟั งว่าบุตรสาวพูดมีเหตุผล จึงได้ลา้ งหน้าหวีผมใหม่ แล้วไปจวนสกุลเผยกับ
อวีถ้ งั

เผยเยี่ยนไม่ค่อยคุน้ ชินกับการต้องรอคน หลังจากส่งอวีถ้ ังกลับไปแล้ว เขาก็ไปห้อง


หนังสือของตนซึง่ ตัง้ อยู่นอกเรือน
ห้องหนังสือนี ้ ปกติมกั เอาไว้ใช้จดั การธุระจุกจิก จึงค่อนข้างทําให้คนรูส้ กึ ผ่อนคลาย
ตอนที่อวีถ้ ังกับอวีเ้ หวินเดินเข้าห้องหนังสือไป เขากําลังเอนตัวอย่างเกียจคร้านบน
เก้าอีห้ วายโยก จิบชาเหยียนฉา 2ที่เพิ่งวางขายในตลาด แสงอาทิตย์อบอุ่นยามบ่ายในฤดูใบไม้
136

ร่วงสาดเข้ามา ทําให้เขาเหมือนตะวันที่อนุ่ สบายในฤดูนี ้

2
ชาเหยียนฉา หรือ ชาหินผา เป็ นใบชาชนิดหนึง่ ที่ถกู ตัง้ ชื่อตามสถานที่ท่ีในการเพาะปลูก
658

“นายท่านอวีก้ บั คุณหนูอวีม้ าแล้วหรือ!” เขาไม่ได้วางตัวห่างเหิน เพียงลุกขึน้ มาทักทาย


คนทัง้ สอง สายตากลับตกอยู่บนร่างของอวีถ้ งั
ไม่เลว น่ารักอ่อนหวานเหมือนดอกไห่ถงั ยามใบไม้ผลิ นี่เป็ นภาพลักษณ์ท่ีเด็กสาวควร
จะมี
เขาผงกศีรษะน้อยๆ เผยอารมณ์พอใจออกมา
อวีถ้ งั ถอนหายใจเฮือก
ในใจกํา ลัง ขบคิ ด ว่ า ที่ แ ท้เ ผยเยี่ ย นก็ ช่ื น ชอบอะไรเช่ น นี ้ โชคดี ท่ี น างคิ ว้ เข้ม ตาโต
อ่อนหวานไม่มาก แต่งดงามจับใจ ไม่อย่างนัน้ คงแต่งตัวแบบนีอ้ อกมาไม่รอดแน่
ต่อไปหากมาพบเผยเยี่ยน ก็แต่งตัวมาแบบนีเ้ ป็ นใช้ได้
อย่างไรนางก็มาขอร้องผูอ้ ่นื เขา
อวีเ้ หวินกลับดีอกดีใจที่ได้รบั การต้อนรับ
ท่าทางของเผยเยี่ยนดูเป็ นกันเอง ปฏิบตั ิตอ่ พวกเขาราวกับเป็ นสหายเก่าแก่
อวีเ้ หวินไม่เคยเจอเผยเยี่ยนในลักษณะนีม้ าก่อน เขารีบประสานมือคารวะเผยเยี่ยน
ปากก็พดู ว่า “มารบกวนแล้ว!”
เผยเยี่ยนส่ายหน้า มองสาวใช้ยกขนมนํา้ ชาเข้ามาวางแล้วก็ปิดประตูลง จากนัน้ ก็เอ่ย
เข้าเรื่องกับอวีถ้ งั ทันที “ภาพแผนที่ผืนนัน้ พวกเจ้านํามาด้วยหรือไม่? พวกเราคงต้องเริ่มดูแผนที่
ก่อน ตอนนีก้ ารค้าทางทะเลรุง่ เรือง ใครๆ ต่างก็อยากจะมาแบ่งชิน้ เนือ้ กิน ต่างฝ่ ายต่างหาลูท่ าง
ต่างกลุม่ ต่างกองเรือ แต่ละสกุลก็มีแผนที่ทางทะเลเป็ นของตัวเอง…”
ทางหนึ่งเขาอธิบายไป อีกทางก็รบั แผนที่ตอ่ จากมืออวีถ้ งั เขากางมันลงบนโต๊ะ จากนัน้
ก็หมุนตัวไปหยิบแว่นขยายออกมา
659

อวีเ้ หวินพลันตื่นเต้นดีใจ “ในมือท่านใช่แว่นขยายหรือไม่? ทําออกมาได้ประณีตยิ่งนัก?


เป็ นสินค้าจากกองเรือเหมือนกันหรือ?”
เผยเยี่ยนมองแว่นขยายในมืออย่างงงๆ ภายหลังเมื่อเข้าใจจึงตอบไปว่า “เป็ นแว่น
ขยายนั่นแหละ หลายปี ก่อนตอนที่ขา้ ไปเที่ยวเมืองกว่างโจว ได้พบเข้าโดยบังเอิญถึงซือ้ เก็บ
เอาไว้ เจ้าอยากดูหน่อยไหมเล่า?” พูดจบ เขาก็ย่ืนแว่นขยายให้อวีเ้ หวินทันที
อวีเ้ หวินพลิกหน้าหลังดูอย่างสนอกสนใจเป็ นค่อนวันถึงยอมส่งคืนให้เผยเยี่ยน “ทําให้
ท่านขบขันแล้ว ข้ามักสนใจของเล่นพวกนีเ้ ป็ นพิเศษ”
เผยเยี่ยนนึกออกว่าก่อนหน้านีท้ ่ีเขาเข้าใจอวีถ้ งั ผิดก็ยงั ไม่ได้ขอโทษสกุลอวีอ้ ย่างจริงจัง
เลย จึงเอ่ยออกไปอย่างง่ายดายว่า “นายท่านอวีห้ ากว่าชอบใจ ข้ามอบมันให้เจ้าก็แล้วกัน ข้า
ยังมีอีกอันหนึ่ง เก็บไว้ท่ีเรือนเมืองหังโจว”
“ไอหยา ไม่ตอ้ งหรอก!” อวีเ้ หวินบอกปั ดด้วยสีหน้าแดงเรื่อ “ข้าก็แค่อยากดูสกั หน่อย
เท่านัน้ ”
“ไม่เป็ นไร” เผยเยี่ยนบอก แล้วหยิบแว่นขยายไปส่องดูแผนที่อย่างละเอียด
พ่อลูกสกุลอวีแ้ ทบหยุดหายใจ รอฟั งผลลัพธ์จากเผยเยี่ยน
660

บทที่ 82 แผนการ
ตอนที่เผยเยี่ยนเริ่มอ่านแผนที่ทางทะเลนัน้ เขาคล้ายไม่ค่อยใส่ใจเท่าใดนัก แต่พอยิ่ง
อ่านไปเรื่อยๆ สีหน้าเขาก็ครํ่าเคร่งขึน้
หรือว่าแผนที่นีม้ ีสิ่งใดไม่ถกู ต้อง?
แม้อวีถ้ งั จะบอกว่ามั่นใจกับสิ่งที่ตนคิด แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเผยเยี่ยนที่สอบเป็ นจิน้ ซื่อ
ได้ตั้ง แต่ อ ายุยัง น้อ ย ทั้ง ยัง เคยเป็ น เจิ ง้ กวนแห่ ง หกกรมอยู่ท่ี เ มื อ งหลวง ด้ว ยเขามี ค วามรู ้
กว้างขวาง ในใจจึงอดเกิดความสงสัยในตัวเองไม่ได้
ส่วนเผยเยี่ยนลอบสูดหายใจเย็นเยียบเข้าปอด
เขาเริม่ ตรวจสอบแผนที่อย่างละเอียดอีกครัง้
อวีถ้ งั สุดท้ายก็ทนไม่ไหว ถามออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ “นายท่านสาม แผนที่นี…
้ ”
เผยเยี่ยนโยนแว่นขยายไว้ดา้ นข้างภาพแผนที่ท่ีถูกคัดลอก ขมวดคิว้ แล้วเดินไปที่โต๊ะ
กลมเล็กข้างโต๊ะหนังสือด้วยสีหน้าหนักอึง้ แล้วชีน้ ิว้ ไปที่ต่ งั กลมข้างโต๊ะ “พวกเรามานั่งคุยกัน
เถอะ”
อวีถ้ งั กับอวีเ้ หวินแลกเปลี่ยนสายตามึนงงต่อกัน จากนัน้ ก็น่งั ลงอย่างระมัดระวัง
เผยเยี่ยนลงมือชงชาให้สองพ่อลูกด้วยตนเอง จากนัน้ ก็เอ่ยเสียงตํ่ากับคนทัง้ สอง “พวก
เจ้าพอจะเล่าเรื่องราวว่าไปเจอภาพแผนที่นีไ้ ด้อย่างไรให้ขา้ ฟั งโดยละเอียดอีกรอบได้หรือไม่”
อวีเ้ หวินมองท่าทีเคร่งเครียดของเผยเยี่ยน รูว้ ่าเรื่องนีค้ งสําคัญมากแน่ เขาไม่กล้าเสริม
แต่งเรื่องราว ทัง้ กลัวตนเองจะอธิบายไม่ชดั เจนจนกระทบการตัดสินใจของเผยเยี่ยน จึงได้แต่
พูดกับอวีถ้ งั ว่า “เรื่องนีเ้ จ้าเป็ นคนพบ เจ้าเล่าให้นายท่านสามฟั งก็แล้วกัน”
อวีถ้ งั รวบรวมคําพูดอยู่พกั หนึ่ง ก่อนบอกเล่ารายละเอียดที่ได้เจอออกไป
ระหว่างนัน้ เผยเยี่ยนก็น่งั ฟั งอย่างใจจดใจจ่อ
661

คําบอกเล่าของพ่อลูกตรงกันแทบทัง้ หมด เห็นได้ว่าสกุลอวีค้ งพบเรื่องนีเ้ ข้าด้วยความ


ไม่ตงั้ ใจจริงๆ
นั่นย่อมหมายความว่า สกุลหลี่รูอ้ ยู่แล้วว่าภาพผืนนีม้ ีปัญหา
ทัง้ ยังเกี่ยวพันไปถึงสกุลเผิงแห่งฝูอนั
เผยเยี่ยนรอจนอวีถ้ งั พูดจบ ก็หยุดคิดเล็กน้อยแล้วเอ่ยว่า “เดิมข้าคิดว่านี่เป็ นภาพแผน
ที่ธรรมดาทั่วไปผืนหนึ่ง สกุลเจ้าในเมื่อไม่อยากเข้าร่วมสนามแก่งแย่ง ข้าก็จะช่วยเจ้าคิดหาวิธี
สะบัดตัวให้หลุดออกมา…ส่วนภาพแผนที่ผืนนี ้ สกุลเผยจะเป็ นผูร้ บั มอบอํานาจ ช่วยพวกเจ้า
ประมูลขายออกไป ใครให้ราคาสูงสุดย่อมได้ครอบครอง สกุลของเจ้านอกจากจะได้เงินทอง
บางส่วนแล้ว ยังสามารถปลีกตัวออกจากเรื่องนีอ้ ย่างชอบด้วยเหตุผล นี่เป็ นผลตอบแทนในการ
ทําดีของนายท่านอวี”้
อวีถ้ งั ได้ฟังดวงตาก็สว่างวาบในทันที
วิธีนีข้ องนายท่านสามช่างประเสริฐโดยแท้
เทียบกับการหลบๆ ซ่อนๆ จนทําให้ผอู้ ่ืนสงสัยว่าสกุลนางรูเ้ รื่องเนือ้ หาภายในของแผน
ที่แล้ว ไม่สูป้ ระมูลขายอย่างเปิ ดเผย ให้คนที่มีกาํ ลัง อํานาจ และสามารถปกป้องตัวเองได้
ครอบครองไป หากผูใ้ ดมีปัญญาก็ไปหาเรื่องผูอ้ ่นื เสีย อย่าได้มาข่มเหงรังแกสกุลอวีอ้ ีก
สกุลอวีข้ องพวกนางเป็ นเพียงครอบครัวพ่อค้าแสนจะธรรมดาครอบครัวหนึ่งก็เท่านัน้
แต่ฟังจากนํา้ เสียงเผยเยี่ยนแล้ว คล้ายว่าบัดนีไ้ ม่อาจทําเช่นนัน้ ได้
อวีถ้ งั ร้อนใจ จึงพูดแทรกเผยเยี่ยนอย่างรีบร้อนว่า “แล้วเหตุใดตอนนีถ้ ึงทําไม่ได้เล่า?
นายท่านสามช่างปราดเปรื่องยิ่ง พริบตาเดียวก็คิดวิธีดีๆ เช่นนีอ้ อกมาได้”
เรื่องสอพลอนีน้ างเต็มใจกระทําอย่างที่สดุ แล้ว
662

หากว่าสกุลเผยยอมเป็ นคนกลางออกหน้าช่วยพวกเขาเปิ ดประมูลแผนที่ พวกเขาก็จะ


ปลีกตัวออกจากปั ญหาได้ในที่สดุ อีกอย่าง คนที่มีความสามารถประมูลภาพแผนที่ไปได้ ไม่มี
ทางเป็ นสกุลที่ไร้ภมู ิหลังตําแหน่ง ต่อให้ไม่โดดเด่นอย่างเช่นสกุลเผิงแห่งฝูอนั แต่เกรงว่าคงไม่
อาจไปตอแยได้ง่ายๆ
ถึงเวลานัน้ สกุลหลี่ย่อมตกที่น่ งั ลําบาก
อุตส่าห์เหน็ดเหนื่อยสิน้ เปลืองเรี่ยวแรงคว้าแผนที่ท่ีมิใช่มีเพียงแผ่นเดียวมาได้ เช่นนัน้
พวกเขายังคิดจะควักสิ่งใดออกมาต่อรองกับสกุลเผิงได้อีก?
นางมองเผยเยี่ยนด้วยสายตาแรงกล้า
อวีเ้ หวินก็มองเผยเยี่ยนด้วยสายตาเร่าร้อน “แผนที่มีปัญหาอะไรหรอกรึ? ภาพนีแ้ ม้จะ
ขอให้คนคัดลอกมาอีกที แต่ฝีมือผูว้ าดยอดเยี่ยมนัก ทัง้ ยังแอบประทับตราส่วนตัวไว้อีกด้วย”
หากเกิดปั ญหาอะไรขึน้ มา ไม่รูว้ า่ ตามหาตัวอาจารย์เฉียนจะมีประโยชน์อยู่หรือไม่?
เผยเยี่ยนเพิ่งรู ต้ วั ว่าทําให้ผอู้ ่ืนร้อนใจ เขาเอ่ยยิม้ ๆ ว่า “มิใช่ว่าภาพแผนที่มีปัญหา แต่
เพราะมัน ลํา้ ค่ า เกิ น ไป จะเปิ ด ประมูล หรื อใช้มัน ไปร่ว มหุ้น กับร้า นค้า สกุล ใด พวกเจ้า ต้อง
ตัดสินใจเอาเองแล้ว”
รอยยิม้ นี ้ ออกจะสดใสเกินไปหน่อยกระมัง?
วินาทีนนั้ เหมือนกับหิมะนํา้ แข็งละลายหาย ใต้หล้ากลับมาอบอุ่น ดวงหน้าเขาคล้าย
กําลังเปล่งแสง หล่อเหลาจนแทบไม่อาจมองตรงๆ ได้
อวีถ้ งั จ้องหน้าเผยเยี่ยนอยู่ เป็ นนานก็ไม่ได้สติเสียที
ครัง้ นีเ้ ขาก็คงจะยิม้ ออกมาจากใจจริง
ตนนั้นโชคดีเพียงใดหนอ ถึงกับได้เห็นรอยยิม้ จากใจของเผยเยี่ยนถึงสองครัง้ ในวัน
เดียว
663

อวีถ้ งั ลอบชื่นชมไม่หยุดปาก แต่ก็ไม่กล้าคิดเรื่อยเปื่ อย รีบหันไปมองทางบิดา


เห็นว่าบิดาสติลอ่ งลอย คล้ายถูกข่าวนีก้ ระแทกใส่ศีรษะ
นางรีบร้องเรียกเขา “ท่านพ่อ”
อวีเ้ หวินเป็ นคนฉลาด สมองของเขาเริม่ กลับมาทํางานอีกครัง้ อย่างรวดเร็ว
สกุลอวีไ้ ม่ได้มีทรัพย์สินอะไร ภาพแผนที่นีก้ ็สงู ค่าเกินตัว หากเก็บไว้ในมือ ก็เหมือนเด็ก
สามขวบถือดาบเล่มใหญ่ ไม่มีกาํ ลังจะยกขึน้ ได้ดว้ ยซํา้ หากไม่ใช่ไปทําผูอ้ ่ืนบาดเจ็บ ก็คงเป็ น
ตนเองที่บาดเจ็บแทน พิจารณาจากสถานการณ์ในตอนนี ้ โอกาสที่พวกเขาจะบาดเจ็บเองมี
สัดส่วนสูงกว่าผูอ้ ่นื บาดเจ็บอยู่มาก
อวีเ้ หวินตัดสินใจได้ในทันที เขาเอ่ยว่า “นายท่านสาม นี่เป็ นแผนที่อะไรหรือ? เหตุใด
ท่านถึงบอกว่าสูงค่าเพียงนัน้ ? หากว่าพวกเราทําตามที่ท่านบอก เชิญสกุลเผยเป็ นคนกลาง ก็
จะสามารถประมูลขายภาพนีไ้ ด้แล้วใช่หรือไม่?”
เผยเยี่ยนค่อนข้างประหลาดใจ สายตาจับจ้องอยู่ท่ีรา่ งของอวีถ้ งั
เขารู ด้ ี คุณหนูใหญ่สกุลอวีผ้ ูน้ ีม้ ีความคิดเป็ นของตนเอง อวีเ้ หวินไม่แน่ว่าจะควบคุม
นางได้
อวีถ้ งั สนับสนุนการตัดสินใจของบิดา
มีชามใหญ่เพียงใด ก็กินข้าวเพียงเท่านัน้
คนที่กินข้าวในชาม แต่ยงั ไม่หยุดมองผูอ้ ่ืนที่กินข้าวในหม้อ 1โดยทั่วไปแล้วมักไม่มีจุด
137

จบที่สวยงามเท่าไร

1
คนที่กินข้าวในชาม แต่ยงั ไม่หยุดมองผูอ้ ่นื ที่กินข้าวในหม้อ เปรียบถึงคนที่โลภมากไม่รูจ้ กั พอ
664

แม้นางจะอยากรูว้ ่าแผนที่นีส้ งู ค่าอย่างไร แต่การหาทางผลักสกุลอวีอ้ อกจากพายุหมุน


ลูกนี ้ ทําให้ทกุ คนอยู่รอดปลอดภัย นั่นต่างหากคือสิ่งที่สาํ คัญที่สดุ
อวีถ้ งั รีบหันไปพยักหน้าหงึกหงักให้เผยเยี่ยน แสดงออกถึงความเห็นของตน
เผยเยี่ยนหัวเราะกับตัวเอง
เขาเพิ่งจะเข้าใจว่าเหตุใดตนถึงยินดีช่วยเหลือสกุลอวี ้
ไม่ใช่เพราะคุณหนูอวีเ้ ป็ นหญิงงาม มิใช่เพราะอวีเ้ หวินเป็ นคนใจกว้าง แต่เพราะคนใน
สกุลอวีม้ กั มองเรื่องราวต่างๆ อย่างทะลุปรุโปร่ง
ถึงจะเป็ นความมั่งคั่งเทียมฟ้า แต่ก็ตอ้ งมีปัญญาแบกรับให้ไหวด้วย
เขาพบเจอผูค้ นมามากมาย ที่หลงทางอยู่กลางภาพมายาแห่งอํานาจ
รวมถึงตัวเขาเองในวัยเยาว์
นี่คือสิ่งลํา้ ค่าที่สดุ ของสกุลอวี ้
โดยเฉพาะแม่ น างอวี ้ผู้นี ้… อวี ้เ หวิ น คิ ด ได้เ ช่ น นั้ น เพราะเกี่ ย วพั น ถึ ง อายุ แ ละ
ประสบการณ์ท่ีเขาเคยผ่าน เห็นได้จากที่เขาไม่เข้าร่วมสอบจวี่เหรินต่อ นี่จึงไม่ใช่เรื่องแปลก
อะไร แต่คณ
ุ หนูอวีท้ ่ีอายุเพียงเท่านีก้ ลับมีปณิธานและจิตใจเช่นนีไ้ ด้ ทําให้เขาต้องมองนางใหม่
อีกที
เขามองอวีถ้ งั อย่างลึกซึง้ หนหนึ่ง ตัดสินใจช่วยเหลือสกุลอวีอ้ ีกครัง้
“แม้จะเป็ นการค้าทางทะเลเหมือนกัน แต่พวกเจ้ารู ห้ รือไม่ว่ากิจการทางทะเลก็แบ่ง
ออกเป็ นหลายประเภท?” เผยเยี่ยนรีบเก็บเรื่องล้อเล่นในใจทิง้ แล้วเอ่ยนํา้ เสียงเป็ นการเป็ นงาน
ว่า “สํานักตรวจสอบการค้าทางทะเลในราชวงศ์ปัจจุบนั มีอยู่สามแห่ง หนึ่งหนิงปั ว สองเฉวียน
โจว สามกว่างโจว และเส้นทางเดินเรือทางทะเลนัน้ หากมิใช่ไปซูลู ก็ไปสยามหรือไม่ก็ศรีลงั กา
แต่แผนที่ผืนนีข้ องพวกเจ้ากลับนําทางไปอาหรับ”
665

อวีเ้ หวินกับอวีถ้ งั ฟั งจนสมองมึนงง จ้องหน้ากันไปมา


ซูลอู ยู่ท่ีไหน? ศรีลงั กาอยู่ตรงใด? แล้วอาหรับสําคัญมากหรือ?
อวีถ้ งั ไม่อยากให้บิดาอับอายต่อหน้าเผยเยี่ยน จึงชิงถามก่อนที่บิดาจะเอ่ยขึน้ ว่า “นาย
ท่านสาม ที่ท่านพูดหมายความว่าอย่างไร? เพราะมีเรือไปอาหรับน้อยมาก? ฉะนัน้ ภาพผืนนีจ้ งึ
สูงค่าหรือ?”
“ไม่ใช่หรอก!” เผยเยี่ยนมองออกว่าสองพ่อลูกไม่เข้าใจเรื่องพวกนี ้ จึงอธิ บายให้ฟัง
อย่างละเอียดว่า “ราชสํานักของเรามีกองเรือ ไม่วา่ จะไปซูลกู ็ดีหรือสยามก็ดี เป้าหมายสูงสุดคือ
หวังจะนําสินค้าเหล่านีไ้ ปขายที่อาหรับ เพราะว่าอาหรับเป็ นแคว้นที่ร่าํ รวยมั่งคั่ง แต่ก่อนพวก
เราไม่มีใครรูเ้ ลยว่าจะไปอาหรับได้อย่างไร ดังนัน้ จึงได้แต่สง่ สินค้าไปขายที่ซูลแู ละสยามเป็ นต้น
แล้วให้พ่อค้าของพวกเขานําสินค้าไปขายต่อที่อาหรับเอง ภาพแผนที่ผืนนีข้ องเจ้า เป็ นเส้นทาง
เดินเรือสายใหม่ เป็ นเส้นทางที่พวกเราแต่ก่อนคิดจะไปแต่ก็หาทางไปไม่ได้ อีกอย่างเส้นทาง
เดินเรือนีก้ ็ออกเดินทางจากกว่างโจว มันจึงยิ่งสูงค่ายิ่งไปอีก”
พ่อลูกสกุลอวีก้ ็ยงั ฟั งไม่เข้าใจอยู่ดี
เผยเยี่ยนจึงบอกพวกเขาว่า “เพราะเรื่องของโจรสลัด หลายครัง้ ราชสํานักคิดอยากปิ ด
ทะเลไปเสีย โดยเฉพาะสํานักตรวจสอบการค้าทางทะเลที่หนิงปั วและเฉวียนโจว แต่ละแห่งล้วน
เคยถูกปิ ดไปแล้วครัง้ หนึ่ง ระยะนีย้ งั มีขุนนางเสนอให้ปิดสํานักตรวจสอบการค้าทางทะเลอีก
สองแห่ง หากว่าราชสํานักลงความเห็นให้ผ่าน สํานักทัง้ สองแห่งนีค้ งถูกสั่งปิ ดอีกรอบ กองเรือ
จึงออกเดินทางได้จากฝั่ งกว่างโจวเท่านัน้ พวกเจ้าคิดว่า ภาพแผนที่ของพวกเจ้าลํา้ ค่าหรือไม่
เล่า?”
อวีเ้ หวินกับอวีถ้ งั เบิกตาโต
หมายความว่า สกุลของพวกเขาจะเสี่ยงอันตรายยิ่งกว่าเก่าน่ะสิ
666

สองพ่อลูกตะโกนออกมาเป็ นเสียงเดียวกันว่า “ประมูล! นายท่านสาม แผนที่นีป้ ระมูล


ขายไปเสียเถอะ”
อวีเ้ หวินถึงขนาดคิดว่าการประมูลก็อาจจะไม่ปลอดภัยด้วยซํา้ จึงเอ่ยแก้ไขไปว่า “นาย
ท่านสาม ท่านคิดทําการค้าทางทะเลหรือไม่? เอาอย่างนีด้ ีไหม ข้าจะมอบแผนที่ให้ท่าน? พวก
เราไม่ตอ้ งการเงินทอง ถือเสียว่าเป็ นสิ่งตอบแทนที่ท่านช่วยหาหมอมารักษานายหญิงบ้านข้า”
สีหน้าของเผยเยี่ยนดําทะมึน
เขาตัง้ ใจทําความดี แต่กลับต้องเข้าร่วมการแย่งชิงเสียได้!
อวีถ้ ังคิดว่าวาจานีข้ องบิดาออกจะซื่อตรงเกินไปหน่อย คล้ายจะโยนหม้อให้เขาแบก
แทนอย่างนัน้ พอหันไปมองเผยเยี่ยนอีกรอบ ก็เห็นว่าเขาหน้าดําอึมครึมไปหมด นางเค้นสมอง
ด้วยความเร็วอย่างที่ไม่เคยทํามาก่อน รีบพูดออกมาว่า “ท่านพ่อ ท่านทําเช่นนีไ้ ม่ถกู หากนาย
ท่านสามต้องการแผนที่นี ้ คงแลกเปลี่ยนกับพวกเราตรงๆ แต่แรกแล้ว จะมาพูดเรื่องรับประกัน
ให้สกุลเรากับประมูลขายภาพเพื่ออะไร?”
“จริงด้วย จริงด้วย!” อวีเ้ หวินเพิ่งรูต้ วั ว่าตัวเองพูดผิดไป จึงหันไปฉีกยิม้ ส่งให้เผยเยี่ยน
อวีถ้ งั นัน้ กลัวว่าเผยเยี่ยนจะสะบัดมือหนีไม่สนใจพวกนางอีก
มีเพียงคนในสกุลเผยเท่านัน้ จึงจะเชิญสกุลใหญ่ท่ีมีอาํ นาจเทียบเคียงกับสกุลเผิงมา
ร่วมงานประมูลได้ ถึงจะรับประกันความปลอดภัยของสกุลนางได้
คําพูดของนางถูกส่งออกไปอย่างต่อเนื่องไม่ขาดตอน “นายท่านสามมิใช่คนเช่นนัน้ เสีย
หน่อย! ท่านไม่รูอ้ ะไร แต่ก่อนตอนที่ขา้ ไปโรงจํานําสกุลเผยก็เคยเจอนายท่านสามแล้ว…” นาง
พล่ามไปเรื่อยเพื่อเล่าเรื่องการบังเอิญเจอหลายต่อหลายครัง้ ให้อวีเ้ หวินฟั ง
อวีเ้ หวินเหงื่อตก แล้วกล่าวขอโทษเผยเยี่ยน “เป็ นข้าที่พดู จาไม่ผ่านหัวคิด…”
เผยเยี่ ย นมองปากแดงชุ่ ม ชื ้น ของอวี ้ถัง ที่ เ ดี๋ ย วอ้า เดี๋ ย วหุบ รู ้สึ ก เหมื อ นรอบตัว มี
นกกระจอกนับร้อยคอยส่งเสียงร้อง พลันรูส้ กึ ปวดหัวขึน้ มาทันที
667

เขาตัดบทอวีถ้ งั ว่า “เอาล่ะ เอาล่ะ เรื่องแต่ก่อนก็ไม่ตอ้ งยกมาพูดแล้ว”


อวีถ้ งั ไม่เอ่ยถึงเรื่องในอดีตอีก เปลี่ยนมาเยินยอเผยเยี่ยนแทน “แต่ขา้ คิดว่าท่านพูดมี
เหตุผลยิ่ง วิธีท่ีดีท่ีสดุ คือประมูลขาย ทว่า ในเมื่อแผนที่สงู ค่าเพียงนัน้ ท่านคิดว่าเราควรจะเชิญ
คนมาคัดลอกไว้อีกหรือไม่ ทํามาค้าขายมีขอ้ ห้ามคืออย่ากินอิ่มคนเดียว หากท่านอิ่มอยู่คน
เดียว ผูอ้ ่นื ย่อมอิจฉาตาร้อน อีกเดี๋ยวก็ไปรวมพวกมาหาเรื่องท่าน หากว่ามีหลายๆ สกุลแบ่งกัน
ทํามาค้าขาย เช่นนีพ้ วกเขาคงไม่ตามไปริษยาทุกสกุลหรอกกระมัง?”
เผยเยี่ยนไม่รูว้ า่ ต้องพูดอะไรต่อดี
เจ้าเด็กคนนี ้ ยังคิดจะมาเล่นลูกไม้กบั เขา
กลัวว่าสกุลอวีไ้ ม่อาจเอาตัวออกจากนอกวงได้ก็ควรพูดออกมาตรงๆ เดินอ้อมวกวนไป
เสียไกล คงมิใช่เพราะอยากให้สกุลเผยของเขา เผยเยี่ยนผูน้ ีเ้ ป็ นผูอ้ อกหน้าแบกหม้อแทนสินะ?
668

บทที่ 83 หารือ
ทว่า เผยเยี่ยนยังรู ส้ ึกว่าคุณหนูสกุลอวีผ้ ูน้ ีฉ้ ลาดเฉลียว มีไหวพริบไม่เลว เขาเพิ่งจะ
เกริน่ นําไป นางก็เชื่อมโยงเรื่องต่างๆ ได้ทนั ที คิดอุบายออกมาได้ไม่นอ้ ย
คัดลอกแผนที่นีอ้ อกมาหลายๆ ผืน คงมีแต่นางที่คิดออกมาได้…
เผยเยี่ยนลูบปลายคางไปมา พลันรูส้ กึ ว่าความคิดนีก้ ็ไม่เลว
การค้าขายจริงอยู่ท่ีว่าห้ามกิ นอิ่มคนเดียว แต่คนที่มีความคิดเช่นนีม้ ันยากประสบ
ความสําเร็จเป็ นพ่อค้าใหญ่ แผนที่ผืนนีส้ งู ค่าเพียงใด แม้เขาจะอธิบายให้สองพ่อลูกสกุลอวีฟ้ ั ง
ไปรอบหนึ่งแล้ว แต่สองพ่อลูกอาจจะไม่ได้สมั ผัสถึงมันจริงๆ คงมีเพียงสกุลใหญ่โตที่ทาํ การค้า
ทางทะเลเท่านัน้ ที่จะเข้าใจได้
เผยเยี่ยนหยุดคิด ส่วนเรื่องว่าจะเชิญใครมาร่วมประมูลแผนที่นนั้ เขาได้ร่างรายชื่อไว้
ในใจแล้ว ถามกับอวีเ้ หวินและอวีถ้ งั ว่า “พวกเจ้ามีแผนอย่างไร? แผนที่นีค้ ิดจะคัดลอกเก็บไว้
ผืนหนึ่งหรือไม่?”
หรือว่าจะโยนออกไปทัง้ หมด
หากมองจากเรื่องนี ้ เขาได้เห็นอย่างชัดเจน แม้สกุลอวีจ้ ะเป็ นคนเปิ ดเผย แต่กลับขีก้ ลัว
ไม่ชอบออกไปเสี่ยงอันตราย
อวีเ้ หวินกับอวีถ้ งั ส่งเสียงพร้อมกันอีกครัง้ อวีเ้ หวินตอบว่า “ไม่เก็บแน่นอน” แต่คาํ ตอบ
ของอวีถ้ งั คือ “ต้องเก็บแน่นอน”
สองพ่อลูกมีความคิดต่างกันเป็ นครัง้ แรก อดจะหันมามองหน้ากันไม่ได้
เผยเยี่ยนเองก็รูส้ กึ ประหลาดใจ
ปฏิกิริยาของอวีเ้ หวินอยู่ในความคาดหมายของเขา แต่ฝ่ ั งอวีถ้ ังกลับเหนือความคาด
เดาของเขาไป
669

เขาถามอวีถ้ งั ว่า “ความหมายของเจ้าคือ?”


อวีถ้ งั รู ด้ ีว่าการโยนหม้อร้อนออกไปให้พน้ ๆ คือวิธีท่ีดีท่ีสดุ แต่ว่าหลายวันนีน้ างอดทน
มามากเกินพอแล้ว ไม่ใช่สิ สมควรพูดว่าตัง้ แต่ชาติก่อนนัน้ นางก็อดทนมามากพอแล้ว
สกุลหลี่มีบณ
ั ฑิตในจวนแค่ไม่ก่ีคน ก็สามารถควบคุมชะตาชีวิตของพวกนางสกุลอวีไ้ ด้
แล้ว
บ้านแตกสาแหรกขาด นั่นคือเรื่องจริงที่นางต้องเผชิญ
เรื่องครัง้ นีส้ าํ หรับอวีถ้ งั แล้ว นับว่าเป็ นวิกฤต ขณะเดียวกันก็เป็ นโอกาส
หากมีแผนที่ผืนนี ้ สกุลนางย่อมมีโอกาสเข้าใกล้สกุลใหญ่ๆ ในราชวงศ์ปัจจุบนั
หากว่าจัดการให้ดี อาจถึงขัน้ ได้แบ่งเนือ้ จากพวกเขามากินเลยก็ได้
แต่นางก็รูด้ ี สกุลอวีม้ ีคณ
ุ สมบัติไม่มากพอ
นางไม่อยากถูกสกุลใหญ่ๆ กลืนกิน ทางที่ดีควรจะหาพันธมิตรเอาไว้
แม้เมื่อครู ่อวีถ้ งั จะห้ามบิดาไม่ให้โยนหม้อใส่มือเผยเยี่ยน ทว่าในใจนางกลับเห็นด้วย
กับบิดาเป็ นที่สดุ
เรื่องนี ้ สกุลของนางต้องผูกติดกับสกุลเผยเอาไว้ เช่นนีจ้ ึงจะสามารถถอนตัวออกมาได้
และสามารถพลิกสถานการณ์คืนกลับมา แม้สดุ ท้ายจะได้แค่อาํ นาจในการพูดจาไม่ก่ีคาํ แต่
อย่างน้อยก็ไม่ใช่สกุลอวีท้ ่ีใครๆ คิดจะมาข่มเหงรังแกได้อีก
เพราะฉะนัน้ สิ่งที่สาํ คัญในเวลานีค้ ืออวีถ้ งั ต้องเกลีย้ กล่อมเผยเยี่ยนให้ได้
ไม่เพียงโน้มน้าวให้เขาช่วยสกุลอวี ้ ยังต้องโน้มน้าวให้เขาพาสกุลอวีม้ ่งั คั่งรํ่ารวยตามไป
ด้วย
มีเพียงขึน้ เรือลํานีข้ องสกุลเผยเท่านัน้ สกุลนางถึงจะพัฒนาและเปลี่ยนเป็ นเข้มแข็งได้
ลูกหลานของนางจะได้เล่าเรียนวิชาเข้ารับราชการ สกุลนางจะได้มีขนุ นางสืบต่อไปทุกๆ รุน่
670

ไม่รูว้ า่ สกุลเผยตอนแรกอาศัยสิ่งใดก่อร่างสร้างตัวขึน้ มา?


อวีถ้ ังแม้จะคิดไปไกล แต่ก็เป็ นเวลาเพียงชั่วพริบตาเท่านัน้ ความจริงแล้ว เผยเยี่ยน
มองนางครุน่ คิดจริงจังอยู่พกั หนึง่ นางจึงพูดกับเขาว่า “วันนีเ้ ป็ นสกุลหลี่ พรุง่ นีก้ ็อาจจะเป็ นสกุล
หวัง สกุลเฉิน ข้าไม่อยากให้สกุลอวีเ้ ป็ นเหมือนเช่นวันนีไ้ ปตลอด เจอปั ญหาใดก็ไร้กาํ ลังจะแบก
รับ นายท่านสาม ข้า รู ว้ ่า ท่านผ่านเรื่องต่า งๆ มามาก ข้า มี ความคิดอยู่หนึ่งอย่า ง อยากฟั ง
ความเห็นของท่านก่อน”
หมายความว่านางอยากจะคว้าโอกาสนีไ้ ว้เพื่อให้สกุลตนตัง้ ตัวได้!
เผยเยี่ ย นแต่ไรก็ ช่ื น ชมคนไม่ ย อมแพ้และกระตือ รือ ร้น ในความก้า วหน้า เป็ น พิ เ ศษ
คําพูดของอวีถ้ งั ไม่ทาํ ให้เขารูส้ กึ ต่อต้าน ทัง้ รู ส้ กึ ว่าหญิงผูน้ ีช้ ่างทรหดนัก ไม่ว่าจะเจอปั ญหาใด
ขอเพียงมีความหวังแม้เพียงเส้นบางๆ นางก็จะคว้ามันเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ข้อด้อยของนาง
เพียงหนึ่งเดียวก็คือนางยังเด็กมากเหลือเกิน ทั้งถูกจํากัดให้อยู่แต่ในห้องหอ ไม่ได้มีความรู ้
มากมายนัก
หากว่าเขาสั่งสอนนางให้ดี แล้วค่อยปล่อยให้นางไปเล่นงานสกุลหลี่…แค่คิดเผยเยี่ยน
ก็รูส้ กึ น่าสนุกแล้ว
“ว่ามา!” นํา้ เสียงเขาเป็ นมิตร ในดวงตามีประกายตามใจนางโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู ้
อวีถ้ งั ถอนหายใจโล่งอก
ตอนนีน้ างค่อยๆ รับรู ถ้ ึงอารมณ์ของเผยเยี่ยนได้อย่างรางๆ จากกิริยาเล็กน้อยและ
นํา้ เสียงของเขา
เผยเยี่ยนในตอนนีก้ าํ ลังอารมณ์ดีมาก
ถึงแม้อวีถ้ งั จะไม่รูว้ า่ มีสิ่งใดให้น่าดีใจก็ตาม…
อวีถ้ งั รีบพูดว่า “ข้ารู ส้ กุลเผยไม่สนใจของพวกนี ้ แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร พวกเราก็เป็ น
คนหลินอันเหมือนกัน เมื่อก่อนได้รบั การดูแลจากท่านผูเ้ ฒ่าเป็ นอย่างดี มาตอนนีก้ ็ติดหนีบ้ ญุ
671

คุณท่านมากมาย พูดเช่นนีอ้ าจจะไม่น่าฟั งเท่าไร แต่มนั ก็ออกมาจากใจข้า ข้าต้องการแบ่งปั น


แผนที่ผืนนี ก้ ับสกุลเผย อยากให้สกุลเผยพาเราไปสู่ความมั่งคั่ง ทําให้สกุลเรามีเงินทองส่ง
ลูกหลานเล่าเรียน มีฐานะที่ดีย่งิ ๆ ขึน้ ไป”
จะบอกว่าสกุลเผยไม่หวั่นไหวกับแผนที่ผืนนัน้ เลยก็คงเป็ นไปไม่ได้ แต่เขาคิดว่าแม้
การค้าทางทะเลจะได้กาํ ไรงาม แต่ความเสี่ยงก็สงู สิ่งที่สาํ คัญคือความยุ่งยาก จําต้องใช้เส้น
สายมาก สิ่งที่ตอ้ งทําก็จกุ จิก เขาไม่อยากใช้เวลาที่มีอย่างจํากัด ไปสิน้ เปลืองกับเรื่องนี ้
เขาพูดขึน้ มาโดยไม่หยุดคิดว่า “สกุลข้ามือเท้าไม่เพียงพอ ไม่อาจจับกิจการทางนีไ้ ด้
หากว่าเจ้าสนใจ ข้าสามารถแนะนําผูร้ ว่ มหุน้ ให้เจ้าได้”
นี่คือการปฏิเสธอย่างนุ่มนวลแล้ว
อวีถ้ งั ประหลาดใจมาก รูส้ กึ ว่าเผยเยี่ยนมิใช่คนเช่นนี ้ แต่มองสีหน้าของเขาแล้ว กลับดู
จริงจังเต็มเปี่ ยม เห็นชัดว่าไม่อยากจับกิจการจําพวกนีจ้ ริงๆ
เพราะไม่รูว้ า่ กิจการนีท้ าํ กําไรได้มากมายมหาศาลเพียงใดรึ?
นางพูดต่อว่า “นายท่านสาม สกุลข้าเชื่อใจแค่ท่าน ท่านลองไปสืบความเรื่องการค้า
ทางทะเลดูแล้วค่อยตัดสินใจใหม่ดีหรือไม่?”
เผยเยี่ยนหัวเราะ “ข้ามีศิษย์พ่ีเป็ นคนกว่างโจว สกุลเขาก็ทาํ กิจการนี ้ ไม่อย่างนัน้ ข้าจะ
มองออกในทันทีได้เช่นไรว่านี่เป็ นแผนที่ทางทะเลซึง่ ต้องเดินทางออกจากกว่างโจว?”
อวีถ้ งั พลันหน้าแดง ยังคิดจะเกลีย้ กล่อยเผยเยี่ยนต่อ แต่เขากลับพูดขึน้ ว่า “สกุลเจ้าก็
รู ต้ วั ว่าสิ่งใดกระทําได้ สิ่งใดไม่สมควรกระทํา สกุลเผยของข้าก็มีคาํ สั่งสอนของบรรพบุรุษอยู่
คุณหนูอวีไ้ ม่จาํ เป็ นต้องพูดอีกแล้ว หากว่าเจ้าตกลง ข้าจะออกหน้าแนะนําผูร้ ว่ มหุน้ ให้ ตอนที่
ประมูลขายข้าจะเรียกคนมาด้วย ก่อนประมูลพวกเจ้าก็ลองเจอหน้ากันสักครัง้ หนึ่ง”
สกุลเผยแต่ก่อนก็เคยเดือดร้อนมามากเพราะว่าโดดเด่นเกินไป
คําสั่งสอนของบรรพบุรุษในสกุลคือมั่งคั่งอย่างถ่อมตน
672

นํา้ ขุ่นคลั่กเช่นนี ้ เขาไม่อยากไปยุ่งด้วยหรอก!


อวีถ้ งั ไม่ยอมตัดใจ อวีเ้ หวินกลับรู ส้ ึกว่าเผยเยี่ยนได้ช่วยพวกเขาจนถึงที่สดุ แล้ว จึงไม่
อยากรบกวนสกุลเผยอีก เขาหันไปโบกมือให้อวีถ้ งั บอกเป็ นนัยให้นางหยุดพูด จากนัน้ ก็เอ่ยกับ
เผยเยี่ยนว่า “เช่นนัน้ เงินที่ได้จากการประมูล ให้ท่านเจ็ดส่วน พวกเราสามส่วน”
เผยเยี่ยนหัวเราะฮ่าๆ “เจ้ารูห้ รือไม่วา่ ถึงเวลานัน้ จะประมูลได้เงินประมาณเท่าไร?”
นี่เป็ นครัง้ แรกที่อวีถ้ งั ได้เห็นเผยเยี่ยนหัวเราะเสียงดัง
ไม่เหมือนกับการยกยิม้ มุมปาก ตอนที่เขาหัวเราะสีหน้าอารมณ์ดผู ่อนคลายสบายใจ
ไม่ได้แสดงถึงความเหยาะแหยะเหลวไหล ตรงกันข้ามกลับให้ความรู ส้ ึกหนักแน่นสุขุมและ
พึ่งพาได้ แตกต่างกับการยกยิม้ มุมปากที่สว่างไสวจนทิ่มตาอย่างสิน้ เชิง
เหตุใดจึงมีคนเช่นนีไ้ ด้?
อวีถ้ งั กะพริบตาปริบๆ
หรือว่านี่เป็ นอีกด้านที่ไม่เคยมีใครเห็นของเขา?
อวีเ้ หวินทางนัน้ ก็กล่าวอย่างจริงใจว่า “นายท่านสาม ข้าแม้ไม่ค่อยรู เ้ รื่องงานจัดการ
แต่ถา้ ไม่มีท่าน สกุลใหญ่เหล่านัน้ คงไม่มีทางเข้าร่วมการประมูลอย่างใสสะอาดแน่ แผนที่ถกู ชิง
ไปเป็ นเรื่องเล็ก ชีวิตของคนในครอบครัวรักษาไว้ได้นบั ว่าโชคดีแล้ว ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึงว่าเงินทอง
จะน้อยหรือมาก เรื่องนี ้ ล้วนต้องพึ่งพาโชควาสนาของท่านแล้ว หากว่าท่านไม่ตกลง แผนที่ผืน
นีเ้ ราก็ไม่ประมูลแล้ว และขอยกมันให้ท่าน ท่านจะเผาก็ดี โยนทิง้ ก็ช่าง หรือจะมอบให้ผอู้ ่ืนก็ได้
ล้วนไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับเราอีก สกุลเราจะถือว่าไม่ได้ครอบครองภาพแผนที่แผ่นนีอ้ ีกต่อไป”
เผยเยี่ยนเริม่ ไม่ชอบใจ
อวีถ้ งั รีบเข้ามาคลี่คลายทันที “นายท่านสาม บิดาข้าพูดจาไม่น่าฟั ง ท่านอย่าได้โมโห
พวกเรารู ด้ ีว่าท่านทําเรื่องเหล่านีเ้ พราะต้องการปกป้องพวกเรา ที่ท่านพ่อข้าพูดไปแบบนัน้ ก็
673

เพราะอยากจะตอบแทนท่านคืนบ้าง อย่างอื่นยังไม่พดู ถึง แค่ท่านส่งหมอหลวงหยางมาตรวจ


อาการให้ท่านแม่ขา้ ทุกเดือน พวกเราก็แทบจะตัง้ แผ่นป้ายสรรเสริญท่านไว้บชู ากราบไหว้แล้ว”
แผ่นป้ายสรรเสริญ? เรื่องเหลวไหลอะไรอีก?
เผยเยี่ยนตัดบทนางว่า “เรื่องนัน้ ก็แค่ลาํ บากเพียงยกฝ่ ามือ พวกเจ้าไม่จาํ เป็ นต้องทํา
เช่นนี”้
อวีถ้ งั มองออกว่าเขาพูดจากใจจริง ไม่รูเ้ ป็ นเพราะเขาโง่งมเกินไปหรือถูกผูค้ นยกย่อง
สรรเสริญจนเคยชินกันแน่ นางจึงได้แต่แก้คาํ พูดว่า “ในเมื่อเป็ นเช่นนัน้ พวกเราก็จะทําตามที่
ท่านบอกทัง้ หมด”
สีหน้าของเผยเยี่ยนคล้ายมีหมอกปกคลุม เขาส่งนํา้ ชาให้แขกแล้วกล่าวว่า “ถ้าทางนีม้ ี
ความคืบหน้า ข้าจะให้เผยหม่านไปแจ้งข่าวพวกเจ้า”
อวีถ้ งั เห็นดังนัน้ ก็ลากบิดาให้ลกุ ขึน้ ขอตัวกลับทันที
อวีเ้ หวินเอาแต่ตาํ หนินางว่า “เมื่อครูเ่ จ้าพูดกับนายท่านสามเช่นนัน้ ได้อย่างไร? ถ้าเขา
บอกไม่รบั พวกเราก็จะไม่ให้จริงๆ รึ? ต่อไปใครจะกล้ามาช่วยสกุลเราเล่า?”
อวีถ้ ังอธิ บายว่า “เมื่อครู ่ท่านก็เห็นแล้ว นายท่านสามไม่ตอ้ งการประโยชน์อะไรจาก
สกุลเราเลย อีกอย่าง นายท่านสามยินดีจะช่วยเหลือพวกเรา หากว่ารับประโยชน์จากเราไป
เช่นนัน้ เรื่องนีก้ ็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว? ท่านต้องการตําแหน่งฐานะ แล้วนายท่านสามไม่ตอ้ งการ
หรืออย่างไร? ข้าคิดว่าถ้าท่านจะดันทุรงั จนทําให้นายท่านสามไม่พอใจ มิสหู้ าวิธีวา่ จะตอบแทน
เขาอย่างไรจะดีกว่า”
“แต่นายท่านสามไม่ขาดแคลนอะไรนี่?” อวีเ้ หวินกล่าวอย่างจนใจ “ก่อนหน้านีก้ ็เป็ น
เพราะพวกเราหาโอกาสตอบแทนเขาไม่ได้มิใช่หรือ?”
อวีถ้ งั ยิม้ แล้วเอ่ยว่า “เช่นนัน้ ก็ย่ิงดี ต่อไปพวกเราก็จะได้มีขอ้ อ้างมาส่งของขวัญปี ใหม่
ให้เขาทุกปี เรื่องเท่านีเ้ ขาคงไว้หน้าเราบ้างกระมัง อีกอย่าง ต่อให้เขาไม่รบั แล้วนายหญิงสาม
674

ในอนาคตจะไม่ยอมรับเลยหรือ? นายหญิ งสามไม่รบั ก็มิใช่ยังมีลกู หลานของเขาอีก? ไม่แน่


อาจเพราะเหตุผลนี ้ พวกเราก็สามารถไปมาหาสูก่ บั สกุลเผยได้แล้ว เรื่องเลวร้ายกลายเป็ นเรื่อง
น่ายินดี!”
เมื่อไปขอร้องผูอ้ ่นื ก็ตอ้ งทําหน้าให้หนาเอาไว้
“ก็คงทําได้เท่านัน้ แหละ!” อวีเ้ หวินถอนหายใจ

สองคนกลับมาถึงเรือน พบว่าในลานบ้านมีอวีห้ ย่วนรออยู่ก่อนแล้ว


“ท่านอา อาอวี”้ เขาก้าวไปประคองอวีเ้ หวินเข้าเรือน “ข้าเก็บกวาดเรื่องที่รา้ นเรียบร้อย
แล้วจึงมาที่น่ี ท่านกับอาอวีเ้ หตุใดจู่ๆ ไปที่จวนสกุลเผยอีก? เกิดเรื่องอะไรหรือไม่ขอรับ?”
อวีเ้ หวินกับอวีห้ ย่วนย้ายไปคุยกันที่หอ้ งหนังสือ
อวีห้ ย่วนได้ฟังเรื่องราวทัง้ หมด ก็แตกตื่นจนคางแทบไหลลงมา เขาใช้สายตาตื่นตะลึง
มองไปที่อวีถ้ งั เอ่ยอย่างทอดถอนใจว่า “เหตุใดเจ้าใจกล้าเช่นนี?้ หากว่านายท่านสามไม่ยอม
ช่วยเหลือหรืออยากครอบครองแผนที่ผืนนัน้ ขึน้ มาเองเล่า?”
คนผูน้ นั้ ออกจะสูงส่งมีคณ
ุ ธรรม จะคิดทําเรื่องเช่นนัน้ ได้อย่างไร?
แต่ น างไม่ อ ยากบอกอะไรกับ ญาติ ผู้พ่ี ม ากนัก เพี ย งเอ่ ย ยิ ม้ ๆ ว่ า “แต่ เ รื่ อ งก็ เ ป็ น ที่
ประจักษ์แล้ว ข้านับว่ามีโชคอยู่บา้ ง นายท่านสามไม่เพียงจะช่วยเรา แต่เขายังสูงส่งใจสะอาด
กล้าทําในสิ่งที่ชอบธรรม เป็ นคนที่ฝากฝังชีวิตเอาไว้ได้”
อวีเ้ หวินกับอวีห้ ย่วนต่างผงกศีรษะเห็นด้วย
อวีห้ ย่วนถึงกับถอนหายใจเฮือก “อาอวีช้ ่างเป็ นคนมีโชคโดยแท้”
อวีเ้ หวินไตร่ตรองดูแล้วรูส้ กึ ว่าเป็ นเช่นนัน้ จริง จึงเอ่ยสนับสนุนอีกแรง “น้องสาวของเจ้า
นับว่ามีโชค ไม่เลวจริงๆ”
675

อวีถ้ งั ยิม้ แห้งๆ


โชคของนาง ล้วนต้องแลกกับชีวิตที่เคยมีเมื่อชาติก่อน แลกกับความไม่ยอมแพ้ต่อ
โชคชะตาในชาตินี ้
ได้กลับมาเกิดใหม่อีกครัง้ ชะตาของนางนับว่าดีขนึ ้ แล้วจริงๆ
นางยิ่งไม่ควรใช้โชคชะตาดีๆ เช่นนีอ้ ย่างสิน้ เปลือง ไม่เพียงต้องเปลี่ยนแปลงชะตาของ
ตน ทัง้ ยังต้องเปลี่ยนชะตาของคนในสกุลด้วยถึงจะถูก
676

บทที่ 84 วิ่งวุ่น
นับแต่ได้ภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ มาอยู่ในมือสกุลอวีก้ ็นับเป็ นเวลาครึ่งปี แล้ว
ระหว่างนัน้ ก็เกิดเรื่องราวขึน้ มาไม่หยุดหย่อน ทุกคนในสกุลอวีต้ กอยู่ในความกระวนกระวาย
แต่ในที่สดุ ตอนนีก้ ็โยนหม้อทิง้ ไปได้แล้ว ทัง้ อวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนต่างก็รูส้ กึ เบาสบาย คิดว่าคืน
วันอันแสนสงบสุขจะกลับคืนมาสูช่ ีวิตของพวกเขาเสียที
“เรื่องแผนที่ พวกเราก็ทาํ ตามที่นายท่านสามบอกก็พอ” อวีเ้ หวินบอกกับอวีห้ ย่วนอย่าง
อารมณ์ดี “บ้านเราควรเตรียมตัวสําหรับงานปี ใหม่ได้แล้ว”
อวีห้ ย่วนพลันหน้าแดงๆ
เขากับแม่นางเซียงมอบของหมัน้ ให้กันแล้ว ตอนช่วงปี ใหม่ยังต้องส่งของขวัญไปให้
สกุลเซียงเพื่อหารือวันแต่งงานด้วย อีกอย่างร้านค้าที่ถนนฉางซิ่งก็จะเริม่ กลับมาเปิ ดกิจการแล้ว
อวีเ้ หวินกําชับเขาว่า “สถานการณ์ของแม่นางเซียงนัน้ ค่อนข้างพิเศษ อีกเดี๋ยวข้าจะให้
อาสะใภ้เจ้าไปลองถามสกุลเว่ยดู ว่าแม่นางเซียงจะอยู่ร่วมงานปี ใหม่ท่ีสกุลเว่ยหรือกลับไปที่
สกุลเซียง หากว่าแม่นางเซียงรัง้ อยู่ท่ีสกุลเว่ย เกรงว่าปี ใหม่นีเ้ จ้าคงต้องส่งของขวัญที่เหมือนกัน
สองชิน้ แล้ว”
ทางนีม้ ีบญ
ุ คุณด้วยเลีย้ งดู ทางนัน้ มีบญ
ุ คุณด้วยให้กาํ เนิด สองบ้านล้วนไม่อาจละเลย
ได้
อวีห้ ย่วนพยักหน้ารับติดๆ กัน
อวีเ้ หวินให้เฉินซื่อไปเยี่ยมสกุลเว่ย
เฉินซื่อแต่ไรก็ไม่ค่อยคบค้ากับใคร เรื่องในเรือนส่วนมากก็เป็ นอวีเ้ หวินตัดสินใจ แม้คิด
ว่านายหญิงเว่ยเป็ นคนดีเข้ากับนางได้ แต่นางกลับไม่ม่นั ใจนัก เห็นว่าช่วงนีอ้ วีถ้ งั จัดการเรื่องๆ
ต่างได้เรียบร้อย กระทั่งอวีเ้ หวินก็เริ่มฟั งความเห็นของนาง ในใจจึงค่อยๆ เริ่มพึ่งพาบุตรสาว
677

ของตัวเองมากขึน้ เมื่ออวีเ้ หวินพูดเช่นนัน้ นางจึงคิดลากอวีถ้ งั ไปด้วย “เจ้าไปเป็ นเพื่อนข้าแล้ว


กัน จะได้ไปทักทายท่านน้าเว่ยด้วย”
หลัง กลับมาจากสกุลเผย อวี ถ้ ัง ก็ ยุ่งแต่กับเรื่องแผนที่ ไม่ ได้เ จอคนของสกุลเว่ยมา
ช่วงหนึ่งแล้ว รูส้ กึ ว่าถึงเวลาสมควรที่ตนต้องไปกล่าวทักทายนายหญิงเว่ย จึงตกปากรับคําด้วย
ความยินดี
เฉินซื่อเห็นดังนัน้ ก็ลากนางไปที่รา้ นเครื่องเงินสกุลเผย ให้อวีถ้ งั สั่งทําเครื่องประดับเงิน
และทองที่เด็กสาวชอบใส่กนั หลายชิน้ ทัง้ บอกว่า “ประมาณวันที่สิบห้าช่วงเดือนแรกของปี ก็คง
กําหนดวันแต่งงานให้พ่ีชายเจ้ากับแม่นางเซียงได้แล้ว ช่วงปี ใหม่ท่ีเรือนคงมีแขกมามากมาย ถึง
ตอนนัน้ เจ้าต้องแต่งตัวให้งดงามหน่อยจึงจะถูก”
ถึงเวลาที่จะให้นายหญิงสกุลต่างๆ ได้รูจ้ กั กับอวีถ้ งั แล้ว และเป็ นโอกาสดีท่ีจะให้นาย
หญิงทุกท่านช่วยเรื่องคูห่ มายของอวีถ้ งั ด้วย
อวีถ้ งั กลับไม่เคยคิดถึงเรื่องนี ้ หลายวันมานีน้ างเอาแต่หมกมุ่นอยู่กบั เรื่องเผยเยี่ยน
คนผูน้ ัน้ ทัง้ เสือ้ ผ้าเครื่องประดับล้วนพิถีพิถันเป็ นที่สุด แต่กลับวางท่าเหมือนเป็ นคน
เรียบง่าย นี่เป็ นวิญ�ูชนจอมปลอมชัดๆ เขายังชมชอบให้สตรีแต่งตัวให้สวยงามพริม้ เพรา ดูไม่
เข้ากับภาพลักษณ์ของเขาเลยสักนิด
ในใจของคนผูน้ นั้ ต้องมีลกู เล่นซุกซ่อนไว้มากมายแน่
ใกล้จะถึงปี ใหม่แล้ว เรื่องงานประมูลยังไม่มีข่าวคราว ภายหลังจะได้รว่ มมือกับสกุลใด
ยังต้องให้เขาช่วยตัดสินใจและแนะนําผูร้ ว่ มหุน้ ให้ สกุลอวีอ้ ย่างไรก็ตอ้ งส่งขวัญที่ถกู ใจไปให้เขา
สักชิน้
หากว่าที่เมืองหลินอันหาซือ้ ไม่ได้ เช่นนัน้ ก็ตอ้ งให้ญาติผพู้ ่ีไปที่เมืองหังโจวสักเที่ยว
ไหนจะฝั่งสกุลกูอ้ ีก
678

กูซ้ ีสนิทสนมกับกูฉ้ ่างพี่ชายแท้ๆ บ้านของหลี่ตวนทะเลาะกับบ้านสายหลักคิดจะแยก


สกุล นางต้องลองไปสืบดูวา่ สกุลกูม้ ีท่าทีเช่นไรกับเรื่องนี ้
อีกอย่างคือเหตุใดบ้านสายตรงสกุลหลี่ถึงต้องการแยกสกุลกับบ้านของหลี่ตวนนัน้
นางก็ตอ้ งไปสืบหาให้ชดั เจน ไม่แน่ตอ่ ไปอาจจะได้ใช้ประโยชน์…
อวีถ้ งั นึกแล้วก็รูส้ กึ ว่ามีเรื่องมากมายให้ทาํ เป็ นพะเนิน
แต่บดั นีไ้ ม่มีเรื่องคอขาดบาดตายให้กงั วล ไม่เหมือนแต่ก่อนที่มีเรื่องให้ตอ้ งร้อนใจไม่
หยุด หย่ อ น คิ ด ว่า อย่ า งไรก็ ต ้อ งมี ค วามหวัง นางไม่ รู ส้ ึก ยุ่ง ยากเลยสัก นิ ด รอกระทั่ง สั่ง ทํา
เครื่องประดับเรียบร้อยแล้ว ก็ชวนมารดาไปดูท่ีรา้ นขายวัตถุโบราณ “ต้องเลือกของสักชิน้ มอบ
เป็ นของขวัญปี ใหม่ให้นายท่านสามเจ้าค่ะ”
เฉินซื่อคลํากระเป๋ าเงินไปมา “เจ้าค่อยมาเดินเลือกกับบิดาเจ้าดีหรือไม่?”
อวีถ้ งั หัวเราะ “นายท่านสามมีสิ่งใดขาดแคลนบ้าง? มอบของขวัญปี ใหม่ให้เขา ต้องใช้
ความคิดไปเสาะหา ของที่ใช้เงินซือ้ มาง่ายๆ ไม่แน่เขาอาจจะไม่ตอ้ งการ เป็ นถึงผูน้ าํ สกุลเผย
ของสูงค่าย่อมเรื่องรอง ที่สาํ คัญคือต้องน่าสนใจเจ้าค่ะ”
เฉินซื่อคิดตามแล้วก็เห็นด้วย “เช่นนัน้ เจ้าก็ลองปรึกษาพี่ชายเจ้าดู ตอนที่เขาอยู่นอก
เมือง อาจได้เจอสิ่งใดที่น่าสนใจบ้าง”
อวีถ้ งั พยักหน้ายิม้ แฉ่ง แล้วพาเฉินซื่อเดินเข้าร้านขายวัตถุโบราณที่ตงั้ อยู่ไม่ไกล
เฉินซื่อเห็นถ้วยล้างพู่กนั รูปสระบัว ก็นึกถึงเครื่องประดับที่ส่งั ทําไปเมื่อครู ่ “แต่ก่อนเจ้า
ชื่นชอบของที่เรียบง่ายกะทัดรัดไม่ใช่หรือ? เดี๋ยวนีท้ าํ ไมเลือกแต่ลายบุปผาเล่า?”
อวีถ้ งั หัวเราะเอ่ยว่า “ไม่สวยหรือเจ้าคะ?”
“สวยก็สวยอยู่” เฉินซื่อมองไปทางบุตรสาว ตอบอย่างจริงจังว่า “แก้วตาของข้างดงาม
เพียงนี ้ จะปั กบุปผาแบบใดก็น่ารักทัง้ นัน้ แต่เมื่อก่อนเจ้าดือ้ ซน มักบอกว่ารําคาญ หรือเพราะ
ตอนนีโ้ ตเป็ นสาวแล้ว?”
679

หาได้เป็ นแบบที่มารดาคิดไม่
นางกลัวว่ารอบหน้าเผยเยี่ยนจะให้นางแต่งกาย ‘ถูกต้องเรียบร้อย’ อีกน่ะสิ
ทว่านางไม่อาจบอกมารดาไปเช่นนัน้ ได้ จึงหัวเราะแล้วชีไ้ ปที่แจกันหรูเ่ หยา 1แล้วบอก 138

ว่า “ท่านแม่ ดูสิเจ้าคะ! สวยหรือไม่?”


เฉินซื่อบอกว่า “แน่นอนว่าสวยอยู่แล้ว แต่แจกันใบนี?้ ”
ต่อให้พวกเขาไม่เอาเงินไปจัดงานแต่งให้อวีห้ ย่วนก็ซอื ้ ไม่ไหวอยู่ดี
อวีถ้ ึงเม้มปากหัวเราะ “แค่ให้ท่านดูเท่านัน้ เจ้าค่ะ”
สักวันหนึ่ง นางคิดอยากซือ้ อะไรก็จะซือ้ ตามใจชอบให้ได้เลย
เฉินซื่อถอนหายใจเฮือกใหญ่
อวีถ้ งั เห็นว่าข้างๆ มีห่วงเคาะประตูสาํ ริดรู ปสัตว์ แต่มองไม่ออกว่าเป็ นสัตว์ประเภทใด
แต่คล้ายสัตว์ประหลาดโบราณที่บา้ คลั่ง ให้ความรูส้ กึ สูงค่าไม่นอ้ ย
นางหันไปยิม้ ให้เด็กในร้านที่เดินตามมา “ในร้านขายของเช่นนีด้ ว้ ยหรือ?”
เด็กในร้านรู จ้ กั สินค้าในร้านตนราวกับเป็ นสมบัติในบ้านตัวเอง ได้ยินดังนัน้ ก็หวั เราะ
“คุณหนูอาจจะไม่รู ้ ห่วงเคาะประตูชิน้ นีป้ ระณีตมาก ท่านดูออกหรือไม่ว่าเป็ นสัตว์ชนิดใด? นั่น
คือผีซิว 2ขอรับ ท่านคงคาดไม่ถึงใช่หรือไม่? นี่ยงั ไม่ใช่สิ่งที่ประหลาดที่สดุ ยังมีสิ่งน่าแปลกใจ
139

กว่านีอ้ ีกขอรับ” พูดจบ เด็กในร้านก็หยิบมือจับประตูขึน้ มา แล้วดึงห่วงวงกลมที่อยู่ในปาก

1
แจกันหรู ่เหยา เป็ นหนึ่งในห้าเตาเผาผลิตเครื่องเคลือบอันโด่งดังในยุคสมัยซ่งของเมืองจีน ก่อตัง้ ขึน้ เพื่อสนองต่อความ
ต้องการของพระราชวังราชวงศ์ซง่ มีการกล่าวขานกันว่าเป็ นสุดยอดแห่งเครื่องเคลือบของจีน
2
ผีซิว คือสัตว์ประหลาดตามความเชื่อของจีนมาแต่โบราณ โดยเชื่อว่าคือ เทพลก กวางสวรรค์ มี 1 เขา แต่ส่วนหน้า หัว
และขาคล้ายสิงห์ มีปีกคล้ายนก ส่วนหลังคล้ายปลา และมีหางเป็ นแมว มีปาก แต่ไม่มีทวาร ถือเป็ นสัตว์ศกั ดิ์สิทธิ์ท่ีช่วย
ป้องกันและปั ดเป่ าภูตผีปีศาจ ขับไล่สิ่งไม่ดีตา่ งๆ
680

จากนัน้ ปากของสัตว์ประหลาดก็เปิ ดออกแล้วคายสัตว์ประหลาดตัวเล็กที่หน้าตาเหมือนกับมัน


ออกมา
อวีถ้ งั กับเฉินซื่อต่างรูส้ กึ ว่าน่าสนใจไม่นอ้ ย
เด็กในร้านเห็นดังนัน้ ก็ดงึ ห่วงวงกลมที่อยู่ในปากสัตว์ประหลาดตัวน้อยอีกทีหนึ่ง
สัตว์ประหลาดตัวน้อยจึงคายสัตว์ประหลาดที่ตวั เล็กยิ่งกว่าออกมา
“น่าสนใจ น่าสนใจ!” อวีถ้ ังร้อง รอจนเด็กในร้านดันสัตว์ประหลาดตัวน้อยเข้าที่เดิม
แล้ว นางถึงได้ดงึ เล่นอีกรอบหนึ่ง
เด็กในร้านเห็นว่านางถูกใจ ก็รีบเล่าความเป็ นมาของห่วงเคาะประตูทนั ที “นี่เป็ นห่วง
เคาะประตูหอ้ งลับขององค์หญิงใหญ่ในจิน้ หยางราชวงศ์ก่อนขอรับ ในบัญชีของเถ้าแก่ เดิมลง
ไว้วา่ มีหนึ่งคู่ แต่ตอนนีอ้ กี ชิน้ หายไปแล้ว…”
สิ่งของประเภทที่ไม่สามารถตรวจสอบลําดับความเป็ นมาได้ มากกว่าครึ่งมีแต่คาํ โอ้
อวดทัง้ สิน้
อวีถ้ งั ตอบว่า “ไม่อย่างนัน้ ข้าถือไปให้เถ้าแก่ถงช่วยดูสกั หน่อย”
เด็กในร้านหุบปากฉับทันที
อวีถ้ งั ถามเขาว่า “ห่วงเคาะประตูนีร้ าคาเท่าไร”
เด็กในร้านลังเลเล็กน้อยแล้วตอบว่า “สิบตําลึงขอรับ”
อวีถ้ งั เริม่ ต่อราคากับเขา “เจ้าลองไปถามเถ้าแก่ดู สองตําลึงขายหรือไม่?”
เด็กในร้านข่มใจจนหน้าแดงเถือกแล้วไปตามเถ้าแก่รา้ นมา สุดท้ายตกลงราคาขายที่
สองตําลึง
เฉิ นซื่อไม่ได้ออกเสียงมาโดยตลอด รอกระทั่งเดินออกจากร้านขายวัตถุโบราณจึง
กระซิบถามเสียงตํ่าว่า “เจ้าคิดจะมอบสิ่งนีใ้ ห้นายท่านสามหรือ?”
681

“เจ้าค่ะ!” อวีถ้ งั หัวเราะ “ถือว่าโยนหินถามทาง ถ้าเขารับไว้ ต่อไปข้าก็รูแ้ ล้วว่าต้องซือ้


อะไรให้เขา”
เฉินซื่อไม่รูจ้ ะตอบรับหรือปฏิเสธอย่างไรดี ส่วนทางอวีเ้ หวินคิดว่าน่าสนใจไม่นอ้ ย ตอน
อยู่เรือนก็หยิบไปเล่นอยู่นานสองนาน ถึงได้หากล่องผ้าไหมมาใส่ให้ เตรียมส่งให้กบั สกุลเผย
พร้อมของขวัญปี ใหม่ชนิ ้ อื่นๆ
ส่วนทางสกุลเว่ย ต้นฤดูใบไม้ผลิปีหน้าแม่นางเซียงก็จะออกเรือนแล้ว แม้ทกุ ๆ ปี จะอยู่
ร่วมงานปี ใหม่กับสกุลเว่ย แต่ปีนีท้ ่านแม่เฒ่าสกุลเซียงส่งคนมารับด้วยตนเอง บอกว่าตอน
แต่งงานไม่ได้อยู่ท่ีสกุลเซียง ก็นบั ว่าไม่ถกู ธรรมเนียม หากว่าตอนนีไ้ ม่กลับมาร่วมปี ใหม่ท่ีบา้ น
อีก นางก็คงมีชีวิตต่อไม่ได้แล้ว
นายหญิ ง เว่ย ไม่ก ล้ารัง้ แม่นางเซีย งเอาไว้ จึง ส่ง ยิม้ ขื่ นๆ ให้เฉิ น ซื่อ “เด็ก คนนี ้ หาก
กลับไปแล้วไม่รูจ้ ะถูกทรมานอะไรบ้าง?”
เฉินซื่อปลอบใจนายหญิงเว่ยว่า “อย่างมากก็แค่ช่วงปี ใหม่เท่านัน้ อดทนหน่อย ถือว่า
พระโพธิสตั ว์ให้นางผ่านด่านเคราะห์ ต่อไปจะได้อยู่อย่างสงบสุขแล้ว”
นายหญิงเว่ยส่ายหน้า คล้ายไม่อยากจะพูดเรื่องพวกนีก้ บั นางอีก แล้วหันไปชวนอวีถ้ งั
คุยเรื่องงานปี ใหม่แทน “หลังปี ใหม่ส่ีวนั ก็มาที่น่ีกับมารดาเจ้า ถึงเวลานัน้ พี่สะใภ้เจ้าคงกลับ
มาแล้ว ข้าให้นางเล่นไพ่นกกระจอกเป็ นเพื่อนเจ้าดีหรือไม่?”
แม่ น างเซี ย งหัว เราะพลางเอ่ ย ว่า “ท่ า นน้า ชมดอกเหมย กิ น ผลไม้ ปาลูก ดอก มี
อย่างไหนไม่น่าสนุกบ้าง เหตุใดจะเล่นแต่ไพ่นกกระจอกล่ะเจ้าคะ?”
ทุกคนต่างพากันหัวเราะชอบใจ
อวีถ้ งั ชอบที่แม่นางเซียงเป็ นคนเปิ ดเผย พลันรูส้ กึ สนิทสนมกับนางขึน้ มาทันที
เมื่อกลับจากสกุลเว่ย นางก็เริ่มช่วยมารดาเตรียมของวันปี ใหม่ อวีป้ ๋ อตอนนีก้ ็กลับมา
จากเจียงซีพอดี เขามีท่าทีเหนื่อยล้า ไม่เพียงส่งสินค้ามาหนึ่งเรือ แต่ยงั พาช่างฝี มือทําเครื่องลง
682

รักมาจากเจียงซีดว้ ยสองคน เมื่อหาช่างฝี มือได้แล้ว โรงงานสร้างเสร็จแล้ว สินค้าจัดวางแล้ว


ร่างคร่าวๆ ไว้เสร็จสรรพว่าต้องเชิญใครมาร่วมงานวันเปิ ดร้านบ้าง ท่านลุงใหญ่ก็ว่ิงวุ่น หัวหมุน
จนไม่ได้เห็นหน้าเห็นตา เรื่องส่งของขวัญให้แม่นางเซียงกับสกุลเว่ยจึงตกเป็ นหน้าที่ของเฉินซื่อ
อวีถ้ งั ก็วนุ่ วายตามไปด้วย
เผยเยี่ยนก็เช่นเดียวกัน
แต่เรื่องวุน่ วายของเขายังดีกว่าอวีถ้ งั อยูห่ น่อย งานต่างๆ ในจวนล้วนเคยทําเป็ นกิจวัตร
อยู่แล้ว เขาก็แค่ตอ้ งคอยตัดสินใจเรื่องที่นอกเหนื อจากงานปกติเท่านั้น บวกกับทุกคนต้อง
ร่วมงานปี ใหม่ โจวจื่อจินก็กลับไปแล้ว เขาจึงค่อยมีเวลาว่างสามารถทําสิง่ ที่ตนอยากทําได้
เขาทุ่มความสนใจไปที่งานประมูลภาพแผนที่ผืนนัน้
ตอนที่พ่อลูกสกุลอวีจ้ ากไปได้ทิง้ แผนที่ไว้กบั เขา เขาคิดว่าอยากจะลองคัดลอกเองสัก
หนึ่งผืน ต่อมาพบความยุ่งยากไม่นอ้ ย ไม่เหมือนกับตอนที่ตนวาดภาพออกมาเองภาพหนึง่ เขา
จึงเขียนจดหมายถึงศิษย์พ่ีท่ีทาํ การค้าทางทะเลนามว่า ‘เถาอัน’ ให้เขาส่งคนมาที่น่ีเพื่อคัดลอก
ภาพแผนที่ ทัง้ ยังบอกกับเถาอันอีกว่า เป็ นแผนที่เดินเรือจากกว่างโจวไปยังอาหรับ
เถาอันไม่ได้ตอบจดหมายเขา กระทั่งเทศกาลล่าปา 3ผ่านพ้นไป พ่อบ้านใหญ่ของสกุล
140

เถากับที่ปรึกษาทางการทหารก็พาอาจารย์สองคนที่สามารถคัดลอกภาพแผนที่ได้มาถึงหลินอัน
สิ่งของที่มาพร้อมกันด้วยนัน้ ยังมีทองคําสองหีบใหญ่
“นายท่านข้าพูดไว้แล้ว สกุลเผยเป็ นสกุลใหญ่ท่ีมีวิชาความรู ้ นายท่านสามยังเป็ นคน
สูงส่ง ใจสะอาด เงินทองเหล่านี ้ เป็ นค่าชดเชยเล็กน้อยระหว่างที่พวกข้าพักอยู่จวนสกุลเผย ขอ
นายท่านสามอย่าได้ใส่ใจขอรับ” พ่อบ้านใหญ่สกุลเถาเอ่ยอย่างถ่อมเนือ้ ถ่อมตัว “นายท่ายใหญ่

3
เทศกาลล่าปา ตรงกับวันที่ 17 มกราคม หมายถึงการล่าสัตว์ เพราะช่วงท้ายปี พืชผลถูกเก็บเกี่ยวตากแห้งเสร็จเรียบร้อย
แล้ว ผูค้ นจึงเข้าป่ าล่าสัตว์สาํ หรับบูชาบรรพบุรุษและเทพเจ้า เพื่อขอให้มีโชคมีลาภ ชีวิตยืนยาว หลีกเลี่ยงภัยพิบตั ิและ
ได้รบั เป็ นสิรมิ งคล
683

ของข้ากลัวว่าจะทําให้งานของท่านล่าช้า ทันทีท่ีได้รบั จดหมายจากท่านก็ส่งั ให้พวกข้าเดินทาง


ออกจากกว่างโจวตรงมาที่น่ี หากท่านต้องการสิ่งใด สามารถสั่งการมาได้เลยขอรับ”
เผยเยี่ยนส่งเสียงร้อง ‘เหอะ’ ในใจทีหนึ่ง
ศิษย์พ่ีร่วมสํานักคนนีข้ องเขามีฉายาว่า ‘เมิ่งฉางจวิน 4’ ปกติก็ใจคอกว้างขวาง แต่ถา้
141

จะใจกว้างถึงขัน้ นี… ้ เขากระตุกริมฝี ปาก หากมิใช่เพราะช่วยเหลือสกุลอวี ้ เขาคงแสร้งหูหนวก


ตาบอดไม่รบั รูแ้ ล้ว
“นายท่านของเจ้ายังสั่งอะไรไว้อีกหรือไม่?” เขาเอ่ยถามตรงๆ “หากว่าไม่มี พวกเจ้าก็
กินข้าวกินนํา้ แล้วช่วยข้าคัดแผนที่ได้เลย!”
“มีขอรับ มีขอรับ” พ่อบ้านใหญ่สกุลเถาคิดถึงถ้อยคําในจดหมายที่นายท่านเขากําชับ
ว่า ให้พูด อะไรไปตามตรง จึง รี บ เอ่ย ไปทัน ที “นายท่ า นข้า ยัง พูด เอาไว้ว่า หากท่า นสะดวก
หลังจากจบงานแล้วสามารถให้ขา้ พาตัวอาจารย์ทงั้ สองกลับไปได้หรือไม่ขอรับ?”
อาจารย์ท่ีคดั ลอกภาพเป็ น ปกติมกั จะต้องเสี่ยงอันตรายมากกว่าคนอื่นๆ
ก็เหมือนกับอาจารย์ท่ีวางผังสุสาน มักประสบกับเรื่องที่เป็ นความลับ เป็ นไปได้มากว่า
อาจไม่ได้กลับออกไปอีก
สกุลเถาขอตัวอาจารย์ทงั้ สองคนกลับไป แน่นอนว่าไม่ใช่ตอ้ งการคุม้ ครองชีวิตของคน
ทัง้ คู่อย่างเดียวแน่ แต่กาํ ลังยืมเรื่องนีม้ าถามเผยเยี่ยนว่า สามารถแบ่งเนือ้ ชิน้ นีใ้ ห้สกุลเถาได้
หรือไม่!

4
เมิ่งฉางจวิน เป็ นขุนนางรัฐฉีสมัยรัฐสงคราม เขาเลีย้ งคนไว้มากมายเพื่อใช้งานในวันหน้า เล่ากันว่าคนดีมีปัญญาที่เขา
เลีย้ งไว้มีถึงสามพันคน เพื่อรอโอกาสใช้งาน ชื่อของเขาจึงมีความหมายเปรียบเปรยถึงคนที่ใจกว้างชอบรับแขกนั่นเอง
684

บทที่ 85 ของขวัญปี ใหม่


บรรพบุรุษสกุลเถาเป็ นพ่อค้าใหญ่ แม้จะค้าขายแต่ก็ร่าํ เรียนตํารา หลังจากรับราชการ
กิจการของสกุลพวกเขาก็ขยับขยายรุ ่งเรืองขึน้ ไปอีก จากกว่างโจวไปจนถึงทางใต้นับว่าเป็ น
หนึ่งในสกุลที่ม่งั คั่งที่สดุ การค้าทางทะเลเป็ นเพียงกิจการส่วนหนึ่งของสกุลพวกเขา กลุม่ เรือใน
สกุลก็มีเจ็ดถึงแปดสาขา คนมากพรสวรรค์ท่ีเข้าใจแผนที่เช่นนี ้ ทัง้ สามารถลอกภาพวาด แม้จะ
มี ไม่มาก แต่ก็ไม่ถึงกับหาไม่ได้ จากความหมายของพ่อบ้านใหญ่ เถา หากไม่ใช่ว่าแผนที่นี ้
สํา คัญ อย่ า งยิ่ง ต่ อ สกุลเถา เพื่ อ ต้อ งเก็ บ รัก ษาความลับแล้ว สกุล เถาส่ง คนออกมาก็ คงไม่
วางแผนจะพากลับไปอีก
เผยเยี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิม้ “ลอกแผนที่ให้เสร็จก่อนค่อยว่ากันเถิด”
ผูท้ ่ีสามารถลอกแผนที่ สําหรับสกุลอวีก้ ล่าวได้ว่ายากดั่งหาทองพันชั่ง แต่สาํ หรับเขา
แล้ว กลับง่ายดายอย่างยิ่ง
เขา ‘ขอความช่วยเหลือ’ เถาอัน เจตนาที่แท้จริงก็เพื่อล่อให้สกุลเถาเข้าร่วมการประมูล
คําพูดของพ่อบ้านใหญ่เถาตรงกับความต้องการในใจเขาพอดี เพียงแต่นอกจากเขาจะบอก
กล่าวสกุลเถาแล้ว ยังให้คนกระจายข่าวให้ศิษย์พ่ีรองของเขา ซึ่งก็คือ เจียงหวา เจ้ากรมโยธาธิ
การควบตําแหน่งมหาบัณฑิตหอตงเก๋อ
พี่สะใภ้คนโตของเจียงหวา เป็ นบุตรีของสกุลอูแ่ ห่งหูโจว
สกุลอูต่ งั้ หลักปั กฐานได้เพราะกิจการขนส่งทางนํา้
ในสกุลมีกลุม่ เรือห้าหกสาขา
อย่างไรก็ตอ้ งรอคนสกุลอู่มา เขาจึงจะสามารถดูสถานการณ์ว่าจะตอบรับสกุลเถา
หรือไม่
เผยเยี่ยนมีทีท่าไม่ชดั เจน พ่อบ้านใหญ่เถาย่อมคิดมาก
685

เขาครุ ่นคิด หรือเผยเยี่ยนคิดว่าเขาไม่มีค่าพอให้พูดคุยเรื่องนีด้ ว้ ย? เช่นนัน้ เรื่องนีย้ งั


ต้องเชิญเถาชิง ผูน้ าํ สกุลเถาในยามนี ้ ทัง้ เป็ นพี่ชายของเถาอันเดินทางมาหลินอันด้วยตัวเอง
แน่นอนว่าก่อนหน้านัน้ เขาต้องเห็นแผนที่ก่อน ยืนยันว่าแผนที่นนั้ เป็ นดั่งที่เผยเยี่ยนก
ล่าวจริงหรือไม่ เส้นทางเดินเรือใหม่ตงั้ แต่กว่างโจวไปยังอาหรับ
เขาส่งสายตาให้ผชู้ ่วยของเถาอันที่มาด้วยกัน ผูช้ ่วยของเถาอันเดินขึน้ มาแนะนําตัว ทํา
ความรู จ้ ักกับเผยเยี่ยน สัมผัสได้ว่าเผยเยี่ยนมีความจริงใจต่อพวกเขาไม่นอ้ ย เวลานีจ้ ึงทิง้
อาจารย์คดั ลอกภาพสองคนไว้ ก่อนขอตัวออกไปพัก
แผนที่ เ ป็ น ของจริ ง หรื อ ไม่ อาจารย์ทั้ง สองคนล้ว นมี ป ระสบการณ์เ ดิ น เรื อ มอง
พริบตาเดียวก็ตัดสินได้แล้วว่าเป็ นของจริงหรือปลอม สิ่งเดียวที่ไม่อาจยืนยันได้คือ เส้นทาง
เดินเรือที่ปรากฏบนแผนที่นีป้ ลอดภัยหรือไม่
จวบจนยามเย็น พ่อบ้านใหญ่เถาได้รบั ข่าวที่แม่นยํา เขาจึงจัดการส่งคนที่ตามมาอย่าง
ลับๆ ไปส่งจดหมายให้เถาชิง
เมืองหลินอันอยู่ในอิทธิพลของสกุลเผย ขอเพียงเผยเยี่ยนสังเกต มีคนไม่คนุ้ ตามา เขา
ย่อมรูไ้ ด้ทนั ที นับประสาอะไรกับเขาที่สง่ คนไปจับตามองคนของสกุลเถา
มิใช่เพียงเพื่อให้เถาชิงรู เ้ รื่องนี ้ ยามนีเ้ ขาแทบอยากให้พ่อบ้านใหญ่เถาแอบนําแผนที่
ส่วนหนึ่งส่งกลับไปด้วยซํา้ สกุลเถาจะได้สง่ กลุม่ เรือไปทดสอบเส้นทางเสียหน่อย
ห่านป่ าบินอพยพย่อมเหลือร่องรอย รอจนสกุลใหญ่พวกนัน้ รูว้ า่ แผนที่นีเ้ ป็ นของจริง ทัง้
ยังสามารถเดินเรืออย่างปลอดภัย นั่นถึงจะเป็ นโอกาสดีในการประมูลราคา
ด้วยเหตุนีเ้ ขาจึงกําชับกับเผยหม่าน “แผนที่ส่วนเล็กๆ ด้านหน้าสามารถให้พวกเขานํา
กลับไปสกุลเถาได้ แต่ดา้ นหลังอย่าให้พวกเขาเอาไปได้”
เผยหม่านผงกศีรษะระรัว ดวงตาประกายความสนใจขึน้ มา แตกต่างจากภาพลักษณ์
ในวันปกติของเขาอย่างสิน้ เชิง
686

เผยเยี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิม้ “นี่เจ้าเบื่ออย่างนัน้ รึ?”


เผยหม่านระบายยิม้ “ไม่ถึงกับเบื่อขอรับ เพียงแต่ในเมืองหลินอันไม่ค่อยมีเรื่องราว
อะไร รูส้ กึ ว่ามีดขึน้ สนิมหมดแล้ว”
นั่นยังไม่เรียกว่าเบื่ออีกรึ?
เผยเยี่ยนหัวเราะ “อีกไม่นานเจ้าย่อมจะยุ่งตัวเป็ นเกลียว”
เผยหม่านรู ว้ ่าเผยเยี่ยนต้องเชิญสกุลที่มีอาํ นาจจํานวนมากเข้าร่วมการประมูล เพียง
แค่เผยเยี่ยนยังไม่ได้กาํ หนดรายชื่อแขก ทัง้ เทียบเชิญก็ยงั ไม่ได้ส่งเท่านัน้ เขาคิดว่าตัวเองยัง
ต้องเตรียมตัวสักระยะหนึ่ง ใครจะรู ว้ ่าเขาเพิ่งออกมาจากห้องหนังสือของเผยเยี่ยน หูซิ่งก็เดิน
เข้ามาอย่างดีอกดีใจ
ทัง้ สองคนพบกันย่อมทักทายเป็ นพิธี
เผยหม่านถามเขา “เกิดอะไรขึน้ รึ?”
คล้ายกับฉลองปี ใหม่มิปาน ใบหน้าเปล่งความดีใจสว่างไสวไปหมด
หูซิ่งไม่คิดปิ ดบังเผยหม่าน หนึ่งคือเผยหม่านเป็ นพ่อบ้านใหญ่ ควบคุมบ่าวทัง้ นอกและ
ในจวนสกุลเผยทัง้ หมด สองคือฝี มือของเผยหม่านเยี่ยมยอด รับตําแหน่งไม่ก่ีเดือน ก็สามารถ
ทําให้บ่าวรับใช้นอ้ ยใหญ่ทงั้ ในและนอกเรือนเชื่อฟั งและให้ความเคารพ หากเขาไม่บอกเผย
หม่าน ย่อมมีคนอยากประจบประแจงบอกเขาอยู่ดี ไฉนเขาต้องทําตรงข้าม รนหาที่ตายด้วย
เล่า?
เขายังอยากจะนั่งในตําแหน่งนีไ้ ปนานๆ หากสามารถส่งต่อให้ลกู ชายเขาได้ นั่นก็ย่ิงดี
ไปอีก
“เป็ นคนสกุลอูข่ องหูโจว” หูซิ่งเอ่ยอย่างกระปรีก้ ระเปร่า “นายท่านใหญ่สกุลพวกเขามา
ส่งของขวัญให้สกุลพวกเราด้วยตัวเอง ฟั งจากคําพูดนัน้ ยังมีของที่ตอ้ งให้นายท่านสามของ
พวกเราเพียงลําพังด้วย”
687

นายท่านใหญ่สกุลอูแ่ ห่งหูโจว ผูน้ าํ สกุลอู่


นายท่านสามเป็ นผูน้ าํ สกุลเผยแทนบ้านใหญ่ บ้านอื่นของสกุลเผยดูเหมือนจะยอมรับ
ไม่มีบา้ นใดโวยวายอะไร แต่ในความคิดของหูซิ่ง บางทีบา้ นพวกนั้นอาจจะเพราะให้ความ
เคารพกับท่านผูเ้ ฒ่าเผย เวลานีจ้ ึงอดทนไว้ ในใจลึกๆ ยังไม่รูว้ ่าคิดอย่างไร? ไม่แน่ว่ารอจนไว้
ทุกข์ท่านผูเ้ ฒ่าเผยจนครบ ถอดชุดไว้ทกุ ข์แล้วจะแก่งแย่งชิงดีขึน้ มาหรือไม่ โดยเฉพาะไม่ก่ีวนั
มานีบ้ า้ นสายตรงสกุลหลี่แยกสายสกุลกับบ้านของหลี่ตวน ใครกล้าพูดว่าเรื่องราวภายในไม่
เกี่ ย วข้อ งกับ คนสกุล เผย? ทั้ง ใครกล้า พูด ว่า นี่ ไ ม่ ใ ช่ สิ่ง ที่ บ ้า นอื่ น ของสกุล เผยกํา ลัง หยั่ง เชิง
เผยเยี่ยนอยู่?
นี่เป็ นเทศกาลขึน้ ปี ใหม่ครัง้ แรกหลังจากเผยเยี่ยนรับช่วงต่อเป็ นผูน้ าํ สกุล เวลานีค้ นมา
ส่งของขวัญมากเท่าใดก็ย่ิงแสดงให้เห็นถึงความสามารถ มิตรภาพเส้นสายของนายท่านสาม
ชัดเจนมากขึน้ เท่านัน้ หากเป็ นสกุลอู่แห่งหูโจว สกุลรํ่ารวยมากบารมีท่ีเมื่อก่อนแทบไม่เคยไป
มาหาสู่กับสกุลเผยก็ย่ิงดีไปใหญ่…นี่เป็ นมิตรภาพของเผยเยี่ยนเอง ไม่เกี่ยวข้องกับสกุลเผย
หากไม่ใช่เผยเยี่ยน ผูน้ าํ สกุลอูจ่ ะออกหน้ามาส่งของขวัญให้สกุลเผยด้วยตัวเองได้อย่างไร?
เขาพึ่งใบบุญนายท่านสาม
ยามนีไ้ ด้มดั ตัวเองติดกับรถของนายท่านสามแล้ว
หนึ่งโรจน์ทกุ คนรุง่ หนึ่งร่วงทุกคนล้ม
สกุลเฉกเช่นสกุลอูแ่ ห่งหูโจว แน่นอนว่ายิ่งมาเข้าร่วมการประมูลมากก็ย่งิ ดี
เผยหม่านไม่ตอ้ งเดาก็ลว่ งรูค้ วามคิดนัน้ ของหูซิ่ง เขาเอ่ยด้วยรอยยิม้ “เช่นนัน้ เจ้ารีบไป
รายงานนายท่านสามเถิด นายท่านใหญ่สกุลอู่จะได้ไม่รอนาน” ก่อนจะเดินผ่านหูซิ่งไป จัดการ
สะสางธุระของตัวเอง
หูซิ่งอดเกาหัวไม่ได้
เผยหม่านทําเช่นนีเ้ ย็นชาไปหน่อยแล้ว!
688

หรือตัวเองทําเรื่องอะไรผิดต่อเผยหม่าน?
เพียงแต่เวลานีก้ ็ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิด หูซิ่งเดินเข้าไปในห้องหนังสือเผยเยี่ยนอย่าง
อารมณ์ดี

เผยหม่านหมุนกายกลับพบอาเสาที่มาส่งของขวัญของสกุลอวี ้
อาเสาสามารถพบเผยหม่าน ไม่ใช่เพราะเขาโชคดีบงั เอิญพบเผยหม่าน แต่เพราะเผย
เยี่ยนให้ความสําคัญกับสกุลอวี ้ เผยหม่านที่รบั ใช้ขา้ งกายเผยเยี่ยนย่อมใส่ใจสกุลอวีต้ ามความ
ประสงค์ของเขา
เผยหม่านพบอาเสาที่ระเบียงด้านหน้าห้องโถงเล็ก ไถ่ถามถึงของขวัญสกุลอวีอ้ ย่าง
เป็ นมิตร
พวกผูด้ ูแลสกุลอื่นที่รอลงทะเบียนส่งของขวัญให้กับสกุลเผยในห้องโถงเล็กพากัน
อิจฉาตาร้อน ซุบซิบนินทาสกุลอวี ้ ทัง้ มีบางคนที่ทนเห็นสกุลอวี ้ ‘โดดเด่น’ ขึน้ มาอย่างกะทันหัน
ไม่ได้ กลับไม่ว่าร้ายสกุลอวีต้ ่อหน้าคนของสกุลเผย ข่มความเกลียดไว้ในใจ พอออกจากจวน
สกุลเผยก็หา้ มปากตัวเองไม่อยู่ “ได้ยินว่าคุณหนูใหญ่สกุลอวีห้ น้าตางดงามอย่างยิ่ง ชายหนุ่ม
หลายคนล้วนหมายปองอยากแต่งเป็ นลูกเขยเข้าสกุลพวกเขา ก็ไม่รูว้ ่านายท่านอวีพ้ ิถีพิถัน
อะไร? หรือมีความคิดอื่นแฝงอยู่กนั แน่?”
เพราะต่างก็เป็ นผูด้ แู ลที่มีหน้ามีตาของแต่ละสกุล แม้ในใจจะขุ่นเคือง ก็ไม่อาจทําตัว
เหมือนหญิงปากร้ายบ้านนอก กล้าพูดนินทาออกไปเสียหมดได้
ย่อมมีคนที่คิดเหมือนกันรับบทสนทนาต่อ “ได้ยินว่าคุณหนูใหญ่สกุลอวีผ้ นู้ นั้ แต่งกาย
เป็ นบ่าวรับใช้ ทัง้ ยังยุ่มย่ามเรื่องในบ้าน หากข้ามีหลานชาย ย่อมไม่อาจให้แต่งผูห้ ญิงเช่นนี ้
แน่!”
689

“อย่างกับว่าหลานชายพวกเจ้าจะแต่งกับสกุลอวีไ้ ด้” มีคนหยอกล้อขึน้ มา “สกุลอวีเ้ อ่ย


วาจาแล้ว ลูกสาวนัน้ ต้องทิง้ ไว้รบั ลูกเขยให้สกุล ไม่เห็นรึ กระทั่งคุณชายรองสกุลหลี่ก็ไม่เป็ น
ผล”
“ใครจะรู ว้ ่าไม่อยากแต่งลูกสาวออกไป หรืออับจนหนทาง แต่งไม่ออกกันแน่! ข้าว่า
คุณหนูผนู้ นั้ ใจกล้าเกินงาม กระทําเรื่องเก่งกาจไม่นอ้ ย นั่นไม่ใช่คณ
ุ สมบัติท่ีคณ
ุ หนูท่วั ไปควรจะ
มี” พูดจาแฝงความนัย ก่อนจะพากันหัวเราะเกรียวกราวแยกย้ายไปทางใครทางมัน
สกุลอวีก้ ลับไม่รูว้ า่ อวีถ้ งั ถูกคนติฉินนินทาลับหลัง
อาเสาชีไ้ ปที่กล่องผ้าไหมที่อยู่ หนึ่งในกองพวกนัน้ เอ่ยอย่างตัง้ ใจ “นี่คือสิ่งที่นายท่าน
เราได้ม าจากร้านโบราณวัตถุ กล่า วว่าน่าสนใจเป็ นอย่างมาก มอบให้นายท่านสามเอาไว้
ประดับไม่ก็ใช้วางทับกระดาษ” ส่วนของอย่างอื่นก็เป็ นเพียงหมู เห็ด เป็ ด ไก่ ชา สุรา ผลไม้ ไม่
แตกต่างจากของที่เพื่อนบ้านส่งมาในยามปกตินกั
ตามปกติแล้ว สกุลดั่งเช่นสกุลอวี ้ สกุลเผยย่อมไม่มีเวลาไปส่งของขวัญคืน ลงทะเบียน
ไว้ ก็สง่ มอบของขวัญที่มลู ค่าไม่ต่างกันคืนไป ไม่ก็สง่ พวกของแห้งหรือบะหมี่นา้ํ มัน บางครัง้ ก็มี
ซองแดงอะไรอื่ น ๆ ติ ด ไปด้ว ย แต่ ส กุล อวี ใ้ นเวลานี ้ เผยหม่ า นคิ ด ว่า ยัง คงต้อ งให้ค นไปส่ง
ของขวัญดีๆ เสียหน่อย นํากล่องผ้าไหมไปลงบัญชีไว้ดว้ ยรอยยิม้ พอถึงพลบคํ่า ก็นาํ ไปส่งให้
เผยเยี่ยนถึงในห้องด้วยตัวเอง
เผยเยี่ยนอาบนํา้ สางผมเรียบร้อยแล้ว เปลี่ยนเป็ นชุดเฉกเช่นยามปกติ บนร่างพาดด้วย
ผ้าคลุมขนสัตว์ กําลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนตั่ง ฟั งอาหมิงร่ายรายการของขวัญแผ่นหนา
อาหมิงสวมชุดนวมผ้าต่วนสีแดงสด ใบหน้ากลมดิก ตัวอ้วนฉุ คล้ายดั่งลูกเศรษฐี อนั มี
จะกิน พาให้คนรูส้ กึ สบายหูสบายตาไม่นอ้ ย
เห็นเผยหม่านเข้ามา เผยเยี่ยนก็บอกเป็ นนัยให้อาหมิงพักก่อน “มีเรื่องอันใดรึ?”
เวลานีใ้ กล้ขนึ ้ ปี ใหม่แล้ว ทุกวันล้วนมีคนมาหาเผยเยี่ยนไม่หยุดหย่อน
690
1
เผยหม่านยืนตรงระเบียงที่มีตีห้ ลง กว่าค่อนวัน เข้าไปในห้องเผยเยี่ยนที่ไม่มีกะละมัง
142

ไฟ 2แม้แต่อนั เดียว ความอบอุ่นในร่างกายแทบจะสลายหายไปหมด หนาวเย็นที่ปลายนิว้ อยู่


143

บ้าง
“สกุลอวีส้ ง่ ให้ท่านขอรับ” เขาส่งกล่องผ้าไหมให้เผยเยี่ยน ก่อนจะซ่อนมือทัง้ สองข้างไว้
ในแขนเสือ้ เอ่ยกับอาหมิงอย่างเห็นใจอยู่บา้ ง “เจ้าออกไปเถิด! เดี๋ยวข้าดูแลที่น่ีให้ก่อน”
เผยเยี่ยนธาตุไฟสูง หากในห้องมีตีห้ ลง ก็จะเลือดกําเดาไหล ทัง้ ทนต่อกลิ่นเถ้าถ่านไม่
ค่อยได้ เมื่อถึงฤดูหนาวก็เพียงคลุมผ้าคลุมขนสัตว์ สวมเสือ้ กันหนาวเท่านัน้ คนที่รบั ใช้ขา้ งกาย
เขาจึงทําได้เพียงทนหนาวไปด้วย
อาหมิงคิดว่าเผยหม่านมีธุระอยากจะพูดกับเผยเยี่ยนตามลําพัง พยักหน้าระรัว คํานับ
ให้เผยเยี่ยน ก่อนจะส่งต่อรายการของขวัญให้เผยหม่าน วิ่งกลับไปรับความอบอุ่นจากตีห้ ลงใน
ห้องตัวเอง
เผยเยี่ยนชื่นชอบอากาศของสี่ฤดูท่ีแบ่งแยกอย่างชัดเจน กลับไม่คิดขัดขวางคนข้าง
กายที่ชอบอากาศดีอย่างฤดูใบไม้ผลิแต่อย่างใด รับกล่องผ้าไหมเอ่ยถาม ‘นี่คืออะไร’ พลางเปิ ด
กล่องออก ห่วงเคาะประตูสาํ ริดก็ปรากฏแก่ครรลองสายตา
“นี่คือของสิ่งใดกัน?” เผยเยี่ยนเลิกคิว้ นําออกมาส่องดูใต้แสงไฟ
เผยหม่านถ่ายทอดคําพูดของอาเสาอีกครัง้
ไม่นานเผยเยี่ยนก็พบความลับในห่วงประตูสิงโตนัน้
“น่าสนใจไม่นอ้ ย” เขาวางห่วงประตูท่ีลดขนาดลงเป็ นชิน้ เล็กชิน้ น้อยไว้ดา้ นข้าง “นี่คาด
ว่าจะเป็ นของเล่นในราชวงศ์ก่อน นับว่าสกุลอวีใ้ ส่ใจจริงๆ”

1
ตีห้ ลง คือวิธีสร้างความอบอุ่นในโบราณ มีการสร้างช่องไฟใต้พืน้ ห้อง โดยจุดไฟจากด้านนอก ถ่ายทอดความร้อนส่งผ่าน
ช่องไฟเข้าไปในห้อง เพื่อให้ความอบอุ่น
2
กะละมังไฟ คืออุปกรณ์ให้ความอบอุ่นในสมัยโบราณ
691

ตัง้ แต่เด็กเขาก็ช่ืนชอบของประดิษฐ์สลับซับซ้อน ในมือมีของเช่นนีไ้ ม่นอ้ ย ค่อนข้าง


ละเอียดประณีต น่าสนใจกว่านีม้ าก ห่วงประตูนีก้ ็นบั ว่าไม่ได้หายากมากมาย แต่ในเมื่อผูอ้ ่นื ส่ง
มา เขาก็ไม่ควรทิง้ ขว้างส่งเดช
ใช้เป็ นที่ทบั กระดาษ วางไว้ในห้องก็แล้วกัน
เผยเยี่ ย นเอ่ ย กับ เผยหม่ า น “คนของสกุล อู่ ข้า ให้หูซิ่ ง พาไปที่ ห ้อ งรับ รองแขกทาง
ตะวันออกแล้ว พรุง่ นีข้ า้ วางแผนจะจัดงานเลีย้ งต้อนรับพวกเขา เจ้าก็เตรียมตัวเสียหน่อย หาก
คนของสกุลเถามาสืบเรื่องราวอันใด ก็ไม่ตอ้ งขัดขวาง”
นอกจากอาจารย์คัดลอกภาพสองคน ก็มีคนจากสกุลเถาที่ อยู่หอ้ งรับรองแขกทาง
ตะวันออกเฉียงใต้ ห่างกับคนของสกุลอู่เพียงสวนดอกไม้กนั้ เท่านัน้ อยากจะสืบข่าวอันใด ย่อม
สะดวกอย่างยิ่ง
692

บทที่ 86 ก่อนขึน้ ปี ใหม่


นี่คือต้องการให้สองสกุลประชันกันฉากหนึ่งก่อน!
เผยหม่านเข้าใจความนัย ยิม้ รับ ก่อนจะพลิกกระดาษไปหน้าที่อาหมิงอ่านค้า งไว้
เตรียมจะอ่านให้เผยเยี่ยนฟั งต่อ
เผยเยี่ยนยกมือทําท่า ‘ไม่ตอ้ ง’ แล้วเอ่ยว่า “นี่เป็ นรายการของขวัญที่สกุลอู่ส่งมา เจ้า
เอาไปดูเถิด เตรียมของขวัญที่ทดั เทียมกันส่งคืนไป จากนัน้ ดูว่าของที่ส่งมามีสิ่งใดที่น่าสนใจ
บ้าง”
เผยหม่านรูด้ ีวา่ เขาโปรดปรานอันใด ตอบรับอย่างนอบน้อม ก่อนจะขอตัวออกไป
เผยเยี่ยนรู ส้ ึกเบื่อหน่ายอยู่บา้ ง คว้าห่วงประตูอันนัน้ ติดมือออกไปหาพี่รองคุยเรื่อง
เทศกาลปี ใหม่ ทัง้ แวะไปน้อมทักทายมารดาของเขา ครุ น่ คิดเล็กน้อย ก่อนจะหมุนกายไปห้อง
หนังสือด้านนอก
สถานที่ท่ีเคยใช้ตอ้ นรับสองพ่อลูกสกุลอวีม้ าก่อน เวลานี ้ นอกจากห้องหนังสือของเผย
เยี่ยนแล้ว ห้องอื่นๆ ล้วนจุดไฟสว่างจ้า ผูจ้ ดั การบัญชี ผูด้ แู ล เสมียน ทัง้ บ่าวรับใช้ต่างยุ่งพัลวัน
จนเท้าไม่ติดพืน้ แม้ทกุ คนจะพยายามพูดกันเสียงเบา กลับยังคงอึกทึกครึกโครม ความโกลาหล
ที่อยู่เบือ้ งหน้าพาให้เผยเยี่ยนขมวดคิว้ อย่างไม่ชอบใจ
“นายท่านสาม!” ทุกคนได้ยินเสียงเคลื่อนไหว พบว่าผูท้ ่ีมาคือเผยเยี่ยน จึงพากันเข้ามา
คํานับ
เผยเยี่ยนผงกศีรษะ ทอดสายตามองไปยังเผยหม่าน
เผยหม่านเอ่ยละลํ่าละลัก “รายการของขวัญของสกุลอู่ได้ลงบันทึกไว้เรียบร้อยแล้ว
พวกผูด้ แู ลของพวกเรากําลังปรึกษาตระเตรียมของขวัญส่งตอบ” พูดมาถึงตรงนี ้ เขาก็ชะงักไป
เล็กน้อย “แม้ยามนีท้ ่านไม่เข้ามา ข้าก็เตรียมจะไปพบท่านอยู่เช่นกัน…ของบางชิน้ ที่สกุลอู่ส่ง
693

มาลํา้ ค่าอยู่บา้ ง ข้าให้ผจู้ ดั การบัญชีคาํ นวณดู อย่างน้อยที่สดุ ก็มีค่าถึงหนึ่งหมื่นตําลึง ภายใน


นัน้ มีเจ็ดพันกว่าตําลึงที่ชีช้ ดั ว่ามอบให้นายท่าน”
สกุลอูม่ าเพราะมีเรื่องให้ช่วยเหลืออย่างเห็นได้ชดั
แต่คนอื่นในสกุลเผยไม่รูต้ น้ สายปลายเหตุ พากันมองเผยเยี่ยนอย่างเคารพนับถือ
คล้ายว่าเพิ่งรูจ้ กั กับคนผูน้ ีม้ ิปาน
เผยเยี่ยนเบะปาก ลูบห่วงประตูท่ีคาบอยู่ในปากสิงโต นึกถึงสกุลอวีท้ ่ีจะแบ่งกําไรให้
เขาเจ็ดส่วน
หากรู ว้ ่าเวลาเพียงแค่สองวันเขาก็ได้รบั ของขวัญมากมายเช่นนี ้ ไม่รูว้ ่าพ่อลูกคู่นีจ้ ะ
ตกใจถึงเพียงใด?
“เช่นนัน้ ก็รบั ไว้” หลังจากเผยเยี่ยนแตกคอกับศิษย์พ่ีรอง ก็ไม่คอ่ ยชอบใจคนข้างกายทัง้
เรื่องที่เกี่ยวกับศิษย์พ่ีรองเท่าใด “ข้าไม่รบั ไว้ คนอื่นจะไม่สบายใจเอาได้!”
เผยหม่านรับคําสั่งทั้งรอยยิม้ เวลานีม้ ีบ่าวรับใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามา เอ่ยอย่างกระหืด
กระหอบ “นายท่านสาม ใต้เท้าเติง้ เติง้ เสวียซง ผูต้ รวจการศึกษามาขอพบขอรับ”
เผยเยี่ยนคาดไม่ถึงอย่างยิ่ง
ยามนีเ้ ย็นมากแล้ว แม้เขาและเติง้ เสวียซงจะเป็ นศิษย์รว่ มสํานัก แต่เติง้ เสวียซงมีชาติ
กําเนิดตํ่าต้อย นิสยั หยิ่งทะนง ความสัมพันธ์ของทัง้ สองก็ผิวเผินเป็ นอย่างมาก ตามหลักแล้ว
เติง้ เสวียซงไม่ควรมาเข้าพบเขาในเวลานี ้
หรือจะเกี่ยวข้องกับเรื่องแผนที่?
เผยเยี่ยนลูบคาง ก่อนจะไปพบแขกที่หอ้ งอุน่ 1 144

1
ห้องอุ่น คือห้องเล็กๆ ที่กนั้ แยกออกมาจากห้องใหญ่ ติดตัง้ เตาผิงเพื่อให้ความอบอุ่น
694

เติง้ เสวียซงอายุประมาณสี่สิบปี รูปร่างผอมสูง ไว้เคราแพะ เปลือกตาปิ ดลงครึง่ หนึ่งนั่ง


อยู่บนเก้าอีไ้ ท่ซือ โดยมีหซู ิ่งคอยรับใช้อย่างเอาใจใส่ ใบหน้าเรียบนิ่ง
เมื่อเห็นเผยเยี่ยน เขาก็ผงกศีรษะให้เผยเยี่ยนอย่างวางมาด
เติง้ เสวียซงก็ไม่ได้ชอบเผยเยี่ยนเท่าใด คิดว่าเผยเยี่ยนมีสติปัญญาเลิศเลอ กลับถือดี
เอาแต่ใจตนเอง พรสวรรค์ท่ีผคู้ นมากมายล้วนถวิลหา แต่ตวั เขาเองหาได้ใส่ใจไม่ กระนัน้ ทัง้ สอง
คนเป็ นสหายร่วมสํานัก แม้เขาจะไม่ชอบเผยเยี่ยนอย่างไร ก็ไม่อาจบาดหมางกันได้ ดีท่ีในอดีต
เขาเคยช่วยเหลือเผยเยี่ยนครัง้ หนึ่ง ยามนีจ้ งึ ทําให้เขามีความมั่นใจอยู่บา้ ง
หลังจากทั้งสองคนถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ เติง้ เสวียซงก็บอกจุดประสงค์ท่ีมาอย่า ง
ตรงไปตรงมา “ข้าได้ยินว่านายท่านใหญ่สกุลอู่แห่งหูโจวอยู่ท่ีน่ี? เจ้าคงจะรู แ้ ล้วว่าสกุลอู่แห่ง
หูโจวเคยทําสิ่งใดมาก่อน?”
เผยเยี่ยนแค่นเสียงอยู่ในใจ ไม่ตอ้ งคิดก็ม่นั ใจได้แล้วว่า เติง้ เสวียซงมาเพราะแผนที่น่นั
แค่ไม่รูว้ ่าเขาอยากช่วยออกหน้าให้กับสกุลใดเท่านัน้ ? สามารถเอ่ยขัดขาสกุลญาติของเจียง
หวาออกมาตรงๆ เช่นนี ้ เห็นได้ชัดว่าผูท้ ่ีขอให้เขาออกหน้า ย่อมไม่ใช่สกุลธรรมดาสามัญ แต่
เหตุใดพวกเขาไม่ออกหน้า มาพบเขาตรงๆ กัน กลับต้องให้เติง้ เสวียซงมาเป็ นคนกลาง?
เผยเยี่ยนแสร้งทําหน้าซื่อ เอ่ยด้วยรอยยิม้ “อย่างไรสกุลอู่ก็เป็ นญาติกบั ศิษย์พ่ีรองข้า
ข้าจะไม่รูไ้ ด้อย่างไร?”
พอคําพูดออกจากปาก เผยเยี่ยนก็คิดคล้อยตาม
กระทั่งโจวจื่อจินยังได้ยินมาว่าเขาและศิษย์พ่ีรองแตกคอกัน คนพวกนีค้ งไม่คิดแบบ
เดียวกันหรอกกระมัง?
นี่ก็น่าสนุกขึน้ มาบ้างแล้ว!
เผยเยี่ยนครุน่ คิด พลางผลักจานผลไม้ของว่างไปทางเติง้ เสวียซง “ชิมดูสิ เถาจื่อหรันให้
คนส่งขนมเปี๊ ยะอวยพรมาให้ขา้ จากกว่างโจว ข้าชิมแล้ว นับว่าสมคําเล่าลือจริงๆ”
695

เถาอัน มีนามรองว่า จื่อหรัน ยามที่รบั ตําแหน่งอาลักษณ์ในกรมโยธาธิการ มีเติง้ เสวี


ยซงเป็ นผูใ้ ต้บงั คับบัญชา
เติง้ เสวียซงได้ฟังสีหน้าพลันแข็งทื่อ คงจะทราบแล้วว่าคนสกุลเถาทําเรื่องอะไรไปบ้าง
เผยเยี่ยนหัวเราะร่วน หยิบขนมเปี๊ ยะอวยพรชิน้ หนึ่งส่งให้เติง้ เสวียซง “กินขนมเสียสิ!”
เติง้ เสวียซงฝื นกินหนึ่งชิน้ เอ่ยชมอยู่สองสามคํา ครุน่ คิด รูส้ กึ ว่าตัวเองพูดเก่งสูเ้ ถาอัน
ไม่ได้ จึงเอ่ยอย่างรูแ้ ล้วรูร้ อดไป “เช่นนัน้ ข้าก็ไม่ออ้ มค้อมแล้ว สกุลอิน้ แห่งเฉวียนโจวมีบญ ุ คุณ
กับข้า จึงให้ขา้ มาเป็ นคนกลางแทนพวกเขา อย่างไรขอสยากวงพบพวกเขาเสียหน่อยเถิด”
สกุลอิน้ แห่งเฉวียนโจว สกุลเผิงแห่งฝูโจว และสกุลลี่แห่งหลงเหยียน ถูกขนานนามว่า
เป็ นสามสกุลใหญ่ในฝูเจีย้ น สกุลอิน้ แห่งเฉวียนโจวสร้างตัวโดยการทําชา ภายหลังถูกสกุลลี่
แห่ ง หลงเหยี ย นกดหัว จึง เปลี่ย นมาทํา การขนส่ง ทางทะเล เป็ น กลุ่ม เรือปั จจุบัน ในฝูเ จี ย้ น
นอกจากสกุลเผิง ส่วนใหญ่ท่ีเหลือก็เป็ นของสกุลอิน้ สกุลอิน้ ไม่มีความมุมานะเท่าสกุลลี่ ทัง้
อํานาจยังเทียบสกุลเผิงไม่ได้ แต่สกุลพวกเขาก็มีขอ้ ได้เปรียบของตัวเองเช่นกัน…หลายปี มานี ้
สกุลอิน้ ทุ่มเทกําลังกับชนชัน้ บัณฑิตมาโดยตลอด ช่วยเหลือบัณฑิตมากมาย ในสามสกุล กลับ
เป็ นสกุลพวกเขาที่ข่าวสารฉับไวที่สดุ ทําเรื่องคล่องแคล่ว ทัง้ มีไหวพริบที่สดุ
ก่อนหน้านีเ้ ผยเยี่ยนยังเคยลังเลว่าจะลากสกุลอิน้ เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่
มาถึงตอนนีก้ ็ดี ไม่ตอ้ งให้เขาออกหน้า สกุลอิน้ ก็กระโดดออกมาเอง
เผยเยี่ยนก็ไม่ออ้ มค้อมกับเติง้ เสวียซงแล้ว เอ่ยตรงๆ “พวกเราไม่ใช่คนอื่นคนไกล ข้าก็
จะพูดตรงๆ แล้วกัน หากมีสิ่งใดไม่ถูกต้อง ถึงเวลานัน้ ก็เตือนข้าเสียหน่อย ในช่วงเวลาสัน้ ๆ
แผนที่นนั้ ยังไม่อาจรูไ้ ด้ว่าเป็ นของจริงหรือของปลอม ข้าก็ไม่ได้ป่าวประกาศใหญ่โต แต่ว่า ข้ามี
เรื่องอยากรบกวนสกุลอิน้ อยู่พอดี หากเรื่องนีส้ าํ เร็จ ไม่ว่าแผนที่นนั้ จะเป็ นอย่างไร ข้าก็จะนับ
พวกเขาเป็ นหุน้ ส่วนไปด้วย”
เติง้ เสวียซงได้ยินก็ใจเต้นระรัว “นับเป็ นหุน้ ส่วน?”
696

เผยเยี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิม้ “ท่านคงไม่คิดว่าเรื่องใหญ่ ขนาดนี ้ แค่พวกเราไม่ก่ี สกุลก็


สามารถกลืนลงท้องได้หมดกระมัง?”
เติง้ เสวียซงก็เป็ นคนหนึ่งที่เอาแต่พากเพียรเรียนในตํารา ไม่ช่ืนชอบทัง้ ไม่ใส่ใจเกี่ยวกับ
การค้าขายลงทุน เมื่อได้ฟังใบหน้าก็ขึน้ สี “เจ้าก็กล่าวว่าพวกเราไม่ใช่คนอื่นคนไกล เจ้าพูดมา
เถิด อยากให้ขา้ ทําสิ่งใด?”
เผยเยี่ยนก็ไม่เกรงใจ “ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากให้สกุลอิน้ ช่วยเหลือ ท่านให้สกุลพวกเขาหา
คนที่พอพูดจาถูกคอมาเถิด”
สามารถทําให้เผยเยี่ยนเอ่ยปากขอร้อง ทัง้ ใช้การค้าทางทะเลเป็ นเหยื่อล่อ เติง้ เสวียซง
ก็รูแ้ ล้วว่าเรื่องนีไ้ ม่ธรรมดา
สิ่งที่เขาทําได้ก็ทาํ ไปหมดแล้ว ต่อไปก็ไม่คิดที่จะติดไปกับนํา้ โคลนนีแ้ ล้ว
“ได้! เช่นนั้นก็ว่ากันตามนี”้ เขายืนขึน้ อย่างว่องไว “ยามนีก้ ็เย็นมากแล้ว ข้ายังต้อง
เดินทางกลับหังโจวทัง้ คืน เจ้าก็อย่ารัง้ ข้าเลย ปลายปี ยงั มีการสอบประเมินอีก ข้าไม่อาจถ่วง
ภาระสําคัญให้ลา่ ช้า”
เผยเยี่ยนก็ไม่ฝืนรัง้ ไปส่งเติง้ เสวียซงออกจากประตูดว้ ยตนเอง ระหว่างทางยังเอ่ยถึง
เรื่องอวีเ้ หวิน “แม้จะเป็ นซิ่วไฉคนหนึ่ง การสอบประเมินประจําปี อาจไม่เกี่ยวกับท่านโดยตรง แต่
อย่างไรท่านก็ไถ่ถามทักทาย มีอะไรที่ช่วยเหลือได้ก็ช่วยเหลือหน่อยก็แล้วกัน”
ทุกปี ซิ่วไฉต้องเข้าสอบประเมินผล หากสอบไม่ผ่าน ก็อาจจะถูกริบตําแหน่งซิ่วไฉคืน
เติง้ เสวียซงไม่มากความ อย่างไรเผยเยี่ยนก็รบั นํา้ ใจครัง้ นีแ้ ล้ว เขาเอ่ย “เจ้าวางใจ เรื่อง
นีข้ า้ รูว้ า่ ควรทําอย่างไร ถึงเวลานัน้ จะให้คนส่งจดหมายให้เจ้า”
เผยเยี่ยนคิดว่านี่ก็นบั เป็ นการขอบคุณห่วงประตูสิงโตอันนัน้ แล้วกัน มองเกีย้ วของเติง้
เสวีย ซงฝ่ าลมหนาวออกจากตรอกเสี่ยวเหมยไป เผยเยี่ ยนก็ไปจัดการกิจธุระทั่วไปในห้อง
หนังสือข้างนอกอีกครัง้
697

ผูค้ นต่างยุ่งวุน่ วายไปทุกหนทุกแห่ง ผูด้ แู ลไม่ก่ีคนกลับล้อมหน้าโต๊ะหนังสือ ด้านบนนัน้


มีห่วงประตูสิงโตที่เขาทิง้ ไว้ทบั สมุดบัญชี พากันพูดคุยเรื่องห่วงประตูอนั นัน้ ขึน้ มา “คาดไม่ถึงว่า
นายท่านสามก็มีอนั หนึ่งเช่นกัน หากรู อ้ ย่างนี ้ ข้าคงนําออกมาจากร้านค้า ไม่ก็ส่งให้นายท่าน
สามแล้ว จะได้ครบคู่ นับว่าคุม้ ค่าหน่อย”
เผยเยี่ยนเอ่ยอย่างแปลกใจ “ที่ใดยังมีห่วงประตูสิงโตอีก?”
ผูด้ แู ลคนนัน้ เอ่ย “ในร้านโบราณวัตถุ มีห่วงประตูสิงโตแบบเดียวกับอันนีไ้ ม่ผิดเพีย้ น
แต่ไม่ก่ีวนั ก่อนก็ขายออกไป เสียใจก็คงไม่ทนั แล้วขอรับ”
เผยเยี่ยนได้ยินสีหน้าก็แปลกประหลาดไปอยู่บา้ ง “ขายไปนานหรือยัง? ขายเท่าใด?”
ผูด้ ูแลเอ่ยด้วยรอยยิม้ “เป็ นเรื่องไม่ก่ีวนั ก่อนขอรับ ท่านก็รู ้ ของสิ่งนีเ้ ดิมก็ไม่มีมลู ค่า
อะไร ทัง้ ยังเหลืออันเดียวยิ่งแล้วใหญ่ พวกเราขายไปสองตําลึง หากรูว้ ่าท่านมีท่ีน่ีอีกอัน อย่าง
น้อยที่สดุ ก็คงสามารถขายได้ถึงหนึ่งร้อยตําลึง”
“อ้อ!” เผยเยี่ยนเอ่ยรับด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง “เช่นนัน้ พวกเจ้าก็สะสางงานต่อเถิด ข้าจะ
กลับไปพักแล้ว!”
ผูด้ แู ลไม่ก่ีคนอย่างไรก็มกั ดูสีหน้าเขาในการกระทําเรื่อง ย่อมมีความสามารถสังเกตสี
หน้า ตระหนักได้ทนั ทีวา่ เขาอารมณ์ไม่ดี
ทุกคนต่างเหลียวหน้ามองกัน ไม่รูว้ า่ ไปทําอะไรให้เขาไม่พอใจเข้า
ส่งสายตาแลกเปลี่ยน ไม่ทราบว่าควรพูดอะไรดี
รอจนเผยเยี่ยนจากไป เผยหม่านอดไม่ได้ซดั ฝ่ ามือใส่คนผูห้ นึ่งไป “ยังไม่ทาํ งานดีๆ อีก?
หรือไม่อยากหลับอยากนอนข้ามคืนกัน?”
ผูด้ แู ลผูน้ นั้ จับศีรษะอย่างตกใจ รีบวางห่วงประตูนนั้ ลง ไปตรวจสอบบัญชีตอ่
698

เผยหม่านมองห่วงประตูท่ีแผ่รงั สีอมึ ครึม รูส้ กึ ราวกับว่ามันเป็ นเผือกร้อนชิน้ หนึ่ง ไม่รูว้ า่


ควรจะจัดการอย่างไร
แต่ก็ไม่อาจทิง้ ไว้ตรงนีโ้ ดยไม่สนใจได้กระมัง!
เขาใคร่ครวญแล้วใคร่ครวญอีก กวักมือเรียกอาหมิงเข้ามา กําชับเขาเสียงเบา “เจ้าหา
โอกาสแอบนํามันไปวางไว้บนชัน้ หนังสือนายท่านสามเสีย”
ยามใดที่นายท่านสามไปหยิบหนังสือแล้วพบเข้า นั่นย่อมเรียกว่าโชคชะตา หากไม่พบ
ก็ไม่หายไปไหนเช่นกัน
อาหมิงทําตามคําสั่ง นําห่วงประตูไปวาง

ยามอู่ 2ของวันที่สอง คนสกุลอิน้ ก็มาถึงหลินอัน


145

เขาเป็ นลูกชายภรรยาเอกของสกุลอิน้ ทัง้ เป็ นผูน้ าํ สกุลคนถัดไปของสกุลอิน้


ก่อนมา สกุลพวกเขาก็สืบข่าวเผยเยี่ยนมาอย่างละเอียด ทราบว่านี่เป็ นเทศกาลปี ใหม่
แรกหลังจากที่เผยเยี่ยนรับช่วงต่อเป็ นผูน้ าํ สกุล คิดไปทางเดียวกับสกุลอู่ เผยเยี่ยนย่อมต้องการ
สร้างอํานาจบารมี รถขนาดเล็กขนาดใหญ่ของพวกเขา จึงลากของมาเยี่ยมเยือนเผยเยี่ยนเกือบ
สิบคันรถม้า
วันนั้นอวีถ้ ังบังเอิญออกไปส่งของขวัญกับมารดาให้นายหญิ งหม่า นั่งในเกี ย้ วแง้ม
ผ้าม่านมองเห็นอย่างชัดเจน หลังจากกลับไปเฉินซื่อยังเอ่ยกับอวีเ้ หวิน “ไม่แปลกใจที่ท่านผูเ้ ฒ่า
มอบตําแหน่งผูน้ าํ สกุลให้นายท่านสาม การส่งของขวัญในปี นี ้ คึกคักยิ่งกว่าปี ท่ีผ่านมาเป็ นร้อย
เท่ า ภายหลัง สกุล เผยย่ อ มเจริ ญ รุ ่ ง เรื อ งขึ น้ ไปเรื่ อ ยๆ เจ้า ว่ า สกุล เผยจะย้า ยไปอยู่เ มื อ ง
หังโจวหรือไม่”

2
ยามอู่ เวลา 11:00-12:59น.
699

โยนหม้อออกไปแล้ว อาการป่ วยของภรรยาก็มีหมอเลื่องชื่อดูแล นับวันลูกสาวก็เชื่อฟั ง


มากยิ่งขึน้ เรื่องในบ้านล้วนราบรื่นไปหมด การใช้ชีวิตของอวีเ้ หวินสบายขึน้ มาไม่รูต้ งั้ เท่าใด ทัง้
เริ่มคิดจะขังตัวเองอยู่ในห้องแกะสลักตราประทับ อ่านหนังสือเล่น เขาครุน่ คิดว่ารอต้นฤดูใบไม้
ผลิอวีห้ ย่วนแต่งงาน งานมงคลของอวีถ้ งั ก็สามารถวางแผนได้แล้วเช่นกัน เขาควรจะแกะสลัก
ตราประทับให้ลูกสาวเสียหน่อย ภายหลังอวีถ้ ังดูแลบ้าน ก็สามารถใช้ตราประทับยืนยันการ
จ่ายเงินหรือใช้รบั รองการกูย้ ืม คิดแล้วก็ดดู ีไม่หยอก
“ไม่หรอก!” เขาพินิจตราประทับ พลางกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “หากสกุลเผยคิดจะย้ายคง
ย้ายไปนานแล้ว อีกอย่าง เมืองหังโจวก็ไม่ได้ตงั้ รกรากง่ายดายถึงเพียงนัน้ ”
สองสามีภรรยาคุยเล่นกันอย่างเอื่อยเฉื่อย ในใจอวีถ้ งั กลับร้อนรนอยู่บา้ ง
ดูท่าแล้ว เรื่องการประมูลคงยืดเยือ้ จนถึงหลังปี ใหม่
ไม่รูว้ า่ พวกคนที่มาส่งของขวัญเกี่ยวข้องกับการประมูลแผนที่หรือไม่?
อวีถ้ งั ถอนหายใจเบาๆ
700

บทที่ 87 เทียบเชิญ
ด้านหลี่ตวนกลับร้อนรนดั่งไฟสุม
เพราะเรื่องแผนที่ ช่วงนีเ้ ขาและฮูหยินหลี่แทบไม่ได้กา้ วเท้าออกจากเรือน ของขวัญปี
ใหม่ในบ้าน ก็เป็ นฮูหยินหลี่คอยจัดการ แต่มีบางสกุลกลับต้องให้เขาที่เป็ นลูกชายคนโตของ
ภรรยาเอกไปด้วยตัวเองจึงจะนับว่าเหมาะสม ซํา้ ร้ายเรื่องภาพก็ยงั มาติดขัดอีก
กว่าพวกเขาจะสืบข่าวได้ว่าที่หงั โจวมีคนอย่างอาจารย์เฉียนอยู่ก็ลาํ บากยากเย็น ใคร
จะรู ว้ ่าอาจารย์เฉียนกลับย้ายไปอยู่ท่ีใดก็ไม่ทราบ เขาจึงขอให้บิดาช่วยเหลือ เชิญอาจารย์มา
จากรื่อเจ้า ไม่รูว้ ่าอาจารย์ผูน้ ีฝ้ ี มือแย่หรือดวงพวกเขาไม่ดี ภาพไปอยู่ในมือเขาแล้ว แยกเป็ น
สามส่วน แต่ยามที่แยกกลับทําแผนที่ซง่ึ อยู่ตรงกลางเสียหายไปเล็กน้อย
หากเป็ นภาพอื่นยังพอว่า แต่น่ีคือแผนที่ แม้จะเป็ นส่วนเล็กๆ ทว่าความเป็ นจริงของ
การเดินเรือ หากพลาดไปเพียงเล็กน้อยก็จะอาจจะผิดไปเป็ นโยชน์ ไร้ทางที่จะรับประกันความ
ปลอดภัย
ใกล้ถึงเทศกาลปี ใหม่ สกุลเผิงจึงส่งคนมาส่งของขวัญปี ใหม่
แม้ค นที่ ม าจะเป็ น เพี ย งผู้ดูแ ลเล็ ก ๆ ของสกุล เผิ ง คนหนึ่ ง มาอย่ า งเงี ย บเชี ย บ ส่ ง
ของขวัญธรรมดาทั่วไป แต่เขายังสัมผัสได้ถึงความนัยเร่งเร้าจากคําพูดผูด้ แู ลคนนัน้ เมื่อครุน่ คิด
อย่างละเอียด ถึงกระทั่งรับรู ไ้ ด้ว่า ‘หากสกุลหลี่ของพวกเจ้าทําไม่ได้ ก็มีคนมากมายอยากจะ
ช่วยเหลือสกุลเผิงของเราอยู่’
ไม่แปลกที่สกุลเผิงจะทนรอไม่ได้
ตัง้ แต่สกุลพวกเขาอาสารับช่วงต่อเรื่องนีม้ าจนถึงยามนีก้ ็เป็ นเวลาเกือบครึง่ ปี แล้ว
หลังจากผ่านพ้นปี ใหม่ ไม่วา่ อย่างไรพวกเขาก็ตอ้ งนําภาพนีส้ ง่ ไปให้สกุลเผิง
หากพวกเขาไม่ ส ามารถส่ง แผนที่ ไ ปให้ส กุลเผิ ง ได้ก่อ นเวลานั้น พวกเขาก็ ย่อมถูก
คลางแคลงใจในความสามารถ
701

พวกเขาต้องหาอาจารย์คนอื่นที่มีฝีมือ ซ่อมแซมส่วนของแผนที่ท่ีได้รบั ความเสียหาย


แล้วยังต้องนําภาพนีค้ ืนสูส่ ภาพเดิมส่งไปให้สกุลเผิง
หาใครมาซ่อมแซม ยังคงเป็ นปั ญหาใหญ่
หลินเจวี๋ยรัง้ อยู่ท่ีน่ีมาโดยตลอด เห็นว่าจะข้ามปี แล้ว ยืดเยือ้ มากกว่านี ้ เขาย่อมไม่อาจ
กลับฝูเจีย้ นได้ทนั ก่อนเทศกาลปี ใหม่ ทัง้ เรื่องแผนที่ยงั ซับซ้อนเกินกว่าที่เขาจินตนาการไว้มาก
เขาอดกระวนกระวายใจขึน้ มาไม่ได้
“ไม่อย่างนัน้ ก็เอาภาพนีเ้ ป็ นของขวัญปี ใหม่ส่งไปให้สกุลเผิงก่อน?” เขาเสนอแนะวิธี
ให้หลี่ตวน “อย่างไรพวกเราก็ทาํ ตามความต้องการของพวกเขา นําภาพมาไว้ในมือแล้ว ส่วนจุด
เล็กๆ ที่ได้รบั ความเสียหายนัน้ …สกุลเผิงมีกลุ่มเรือ ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะมีวิธี รูว้ ่าควรจะไป
อย่างไร? หรือพวกเรายังต้องไปจัดตัง้ กลุ่มเรือขึน้ มาอย่างนัน้ รึ? ในเมื่อสกุลเผิงเป็ นหัวเรือใหญ่
แม้นจะขาดทุนอย่างไร ก็ตอ้ งเป็ นพวกเขาที่ขาดทุนมากที่สดุ อยู่ดี”
คําพูดนีก้ ล่าวได้ไร้หวั คิดเกินไปแล้ว
ทัง้ เมื่อเป็ นเช่นนี ้ ในสายตาสกุลเผิง สกุลหลี่ย่อมไม่มีความสลักสําคัญอันใดแล้ว
ร่วมมือกับพวกดิบเถื่อน ก็ตอ้ งโหดเหีย้ มยิ่งกว่าพวกเขา จึงจะสามารถตัง้ หลักได้อย่าง
มั่นคง ได้รบั ความนับถือจากคนพวกนัน้
หลี่ตวนขมวดคิว้ มุ่นจนเป็ น ‘ตัวอักษรชวน 1’ 146

หลินเจวี๋ยเอ่ย “ไม่อย่างนัน้ เจ้าไปส่งของขวัญปี ใหม่ก่อน? เอาแต่จดจ้องเฝ้ารอทุกวัน


เช่นนี ้ ก็ย่อมไม่เกิดดอกผลอันใด คิดเสียว่าออกไปปลดปล่อยคลายความทุกข์”
ก็ทาํ ได้เพียงเท่านีแ้ ล้ว

1
ตัวอักษรชวน川
702

เดิมทีหลี่ตวนคิดจะไปสกุลเผยก่อน แต่นึกถึงท่าทีเผยเยี่ยนที่มีต่อสกุลพวกเขา ก็รูส้ ึก


เย็นเยียบในใจขึน้ มา จึงตัดสินใจไปหาท่านข้าหลวงทังก่อน
อย่างไรข้าหลวงทังก็เป็ นขุนนางที่คอยคุม้ ครองดูแลในพืน้ ที่ แม้จะเป็ นแขกที่ห่างไกล
อยู่บา้ ง แต่เคารพคนนอกค่อยนอบน้อมคนใน ก็ไม่ผิดอย่างใด
หลี่ตวนขบคิดอยู่ในใจพักใหญ่ ก่อนจะไปหาข้าหลวงทัง
ข้าหลวงทังกําลังพูดคุยกับผูช้ ่วยคนสนิทในห้องหนังสือ “เจ้าดูดีแล้วใช่หรือไม่ เป็ นคน
สกุลอูแ่ ห่งหูโจวอย่างนัน้ รึ?”
“เป็ นคนสกุลอู่แห่งหูโจวจริงๆ ขอรับ” ผูช้ ่วยส่วนตัวเอ่ยถึงสกุลอู่ นํา้ เสียงก็เบาลงหลาย
ส่วน “ทัง้ ผูท้ ่ีมายังเป็ นนายท่านใหญ่ ผูน้ าํ สกุลอู”่
ข้าหลวงทังเกาหัวขึน้ มา
ข้าหลวงหูโจว สอบเคอจวี่รุ่นเดียวกับเขา ทัง้ สองคนรับราชการไม่ไกลกัน อยู่ในระดับ
เดียวกัน ย่อมคุยถูกคอกันกว่าคนอื่น ไปมาหาสู่บ่อยครัง้ คนอื่นอาจไม่รู ้ เขาเคยได้ยินจาก
ข้าหลวงหูโจวว่า บรรพบุรุษสกุลอู่ก่อร่างสร้างตัวจากกิจการขนส่งทางนํา้ จริงๆ แล้วนั่นเป็ น
คําพูดยกยอพวกเขาหลังจากคุณหนูสกุลอูแ่ ต่งไปสกุลเจียงแล้วต่างหาก เมื่อก่อนสกุลอูก่ ็คือโจร
สลัด นับตัง้ แต่ลา้ งมลทินมาจนถึงตอนนีก้ ็ผ่านมาเพียงสามรุน่ เท่านัน้ ยามนีเ้ ข่นฆ่าสังหารคนยัง
เป็ นเรื่องที่เกิดประจํา เป็ นข้าหลวงหูโจวที่ตามเก็บกวาดให้สกุลพวกเขาหลายต่อหลายครัง้
สกุลอู่ เป็ นดาวร้ายตัวใหญ่
เหตุใดพวกเขาจึงไปมาหาสูก่ บั เผยเยี่ยน?
เขาถามผูช้ ่วยส่วนตัว “เจ้าว่า ข้าควรล่วงหน้าไปสวัสดีปีใหม่เผยสยากวง ที่สกุลเผย
ก่อนหรือไม่?”
ข้าหลวงทังก็ไม่ชอบเผยเยี่ยนเท่าใดนัก คิดว่าเทียบกับท่านผูเ้ ฒ่าที่ล่วงลับไปแล้ว เผย
เยี่ยนแทบไม่เห็นเขาที่เป็ นข้าหลวงอยู่ในสายตาด้วยซํา้ ลับหลังข้าหลวงทังมักจะเรียกเขาว่า
703

‘เผยเยี่ยน’ หรือ ‘เจ้าสาม’ แต่ยามนีท้ ราบว่าเขาไปมาหาสูก่ บั สกุลอู่แห่งหูโจว กระทั่งคําว่า ‘เผย


เยี่ยน’ และ ‘เจ้าสาม’ ล้วนไม่กล้าเรียกทัง้ นัน้
เมื่อเป็ นคนสนิท ก็ย่อมเป็ นคนที่เข้าใจข้าหลวงทังมากที่สดุ ผูช้ ่วยเอ่ยละลํ่าละลัก “ท่าน
ย่อมต้องล่วงหน้าไปสวัสดีปีใหม่นายท่านสามสกุลเผย! เมื่อก่อนยามที่ใต้เท้าจั่วรับราชการที่
เจ้อเจียงก็เคยกล่าวว่า หากอยากจะเป็ นขุนนางที่ใกล้ชิดปวงประชา ก็ตอ้ งมีความสัมพันธ์ท่ีดี
กับสกุลคหบดีในท้องที่ ผูเ้ ก่งกาจอย่างใต้เท้าจั่วถึงขัน้ เอ่ยเช่นนี ้ พวกเราที่เป็ นขุนนางธรรมดา
ย่อมต้องเอาเป็ นแบบอย่าง”
ข้าหลวงทังได้ยินสิ่งที่ตวั เองอยากได้ยินแล้ว ก็ผงกศีรษะอย่างพอใจ “เช่นนัน้ ย่อมไม่
อาจชักช้าได้ ต้องรีบเข้าไป สยากวงจะได้ไม่คิดว่าข้าเป็ นคนเย่อหยิ่งจองหอง ความเป็ นจริงข้า
คือขุนนางที่ใกล้ชิดชาวบ้านมากที่สดุ ต่างหาก!”
เพียงเขาพูดไม่ทนั จบ ข้ารับใช้ก็มารายงานว่าหลี่ตวนมาส่งของขวัญปี ใหม่ให้เขา แม้
เขาจะหงุดหงิดที่หลี่ตวนทําเสียความตัง้ ใจอยู่บา้ ง แต่สกุลหลี่ไม่เคยส่งของขวัญไร้ราคามาสัก
ครัง้ เดียว เขายังคงดีใจที่ได้พบหลี่ตวน
ข้าหลวงทังไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบหลี่ตวนไม่ก่ีคาํ ก็ยกชาส่งแขกแล้ว หลี่ตวนรู ส้ ึกว่า
ข้าหลวงทังไม่ได้ปฏิบตั ิกบั เขาอย่างกระตือรือร้นเหมือนวันปกตินกั
เขาอดแปลกใจไม่ได้ รอจนออกจากศาลาว่าการ ก็ให้เกีย้ วหยุดตรงมุมโค้งของประตู
ศาลาว่าการ แง้มผ้าม่านรอสักพัก ก็เห็นข้าหลวงทังพาผูช้ ่วยส่วนตัวไปทางตรอกเสี่ยวเหมย
หลี่ตวนปวดแสบปวดร้อนในใจเหลือทน
เอ่ยถึงเผยเยี่ยน อายุมากกว่าเขาเพียงสามถึงสี่ปีเท่านัน้ แต่ระหว่างสองคนกลับห่าง
กันราวฟ้ากับดิน ปกติคนอื่นย่อมไม่เอ่ยถึงพวกเขาทัง้ สองในเวลาเดียวกัน กระทั่งมักจะเห็นเขา
เป็ นเด็กรุน่ หลังเผยเยี่ยนด้วยซํา้ สรุปแล้วยังคงเป็ นเพราะสกุลเผยมีอาํ นาจมากกว่าสกุลหลี่
ครัง้ นี ้ ไม่วา่ อย่างไรเขาก็ตอ้ งหาวิธีขนึ ้ เรือลํานีข้ องสกุลเผิงให้ได้
704

หลี่ตวนส่งคนไปจับตาดูขา้ หลวงทัง
หนึ่งชั่วยามให้หลัง เขาจึงทราบว่าข้าหลวงทังถูกสกุลเผยปฏิเสธไม่รบั แขก…เผยเยี่ยน
ไม่ได้พบข้าหลวงทัง แต่สง่ เผยหม่านมาดื่มชากับข้าหลวงทัง ก่อนจะส่งแขกกลับไป
หลี่ตวนทอดมองกอไผ่ท่ียงั เขียวขจีอยู่เบือ้ งหน้าห้องหนังสือของเขา เกิดความคิดมาย
มายขึน้ ในใจ บอกไม่ถกู ว่าเป็ นความรูส้ กึ อย่างไรกันแน่

เผยเยี่ยนไม่ได้ตั้งใจปฏิเสธข้าหลวงทัง เพียงแต่ขา้ หลวงทังมาผิดเวลาไปเล็ก น้อย


เท่านัน้
ร้า นค้า เครื่อ งลงรัก ของสกุล อวี จ้ ะเปิ ด กิ จ การอี ก ครั้ง ในวัน ที่ สิ บ แปดเดื อ นสิ บ สอง
สกุลอวีจ้ งึ มาส่งเทียบเชิญให้สกุลเผย
อวีป้ ๋ อและอวีห้ ย่วนย่อมไม่คาดคิดว่าเผยเยี่ยนจะสนใจเรื่องเช่นนี ้ ทั้งไม่กล้าคิดว่า
เทียบเชิญนีจ้ ะส่งไปถึงโต๊ะทํางานของเผยเยี่ยน พวกเขาเพียงหวังว่าถึงเวลานัน้ สกุลเผยจะส่ง
ข้ารับใช้มามอบของขวัญอวยพรให้เท่านัน้ ร้านค้าสกุลพวกเขาสามารถตัง้ อยู่ในจุดที่สะดุดตา
ที่สดุ คนค้าขายที่เทียวไปเทียวมารู ว้ ่าร้านค้านีไ้ ด้รบั การคุม้ ครองจากสกุลเผยก็เพียงพอแล้ว
ใครจะรู ว้ ่าอวีป้ ๋ อและอวีห้ ย่วนเพิ่งส่งเทียบเชิญถึงมือผูด้ แู ลที่รบั ผิดชอบเรื่องนี ้ ยามที่ออกจาก
ประตูก็พบเข้ากับหูซิ่งพอดี
หลายวันมานีห้ ซู ิ่งดูสขุ สมอุราไม่นอ้ ย
ผูท้ ่ีมาส่งของขวัญปี ใหม่ให้สกุลเผยต่างนับว่าเป็ นสกุลชัน้ สูงและมั่งมีของแถบเจียง
หนาน คนมาส่งของขวัญยังเป็ นผูน้ าํ สกุลไม่ก็ผมู้ ีอาํ นาจในสกุลพวกนัน้ ส่วนมากล้วนมาส่งให้
นายท่านสามเพียงลําพัง มีสว่ นน้อยที่มอบให้สกุลเผย
นี่ไม่ใช่ชีใ้ ห้เห็นชัดเจนหรือว่าคนพวกนีส้ ามารถมาส่งของขวัญให้สกุลเผย ก็เพราะเห็น
แก่หน้าของนายท่านสาม เป็ นเพราะความสัมพันธ์สว่ นตัวกับนายท่านสามทัง้ นัน้ !
705

ตอนแรกเขาไม่ได้ฟังคําพูดของพ่อบ้านคนก่อน ไม่สงสัยการตัดสินใจของท่านผูเ้ ฒ่า


นึกไม่ถึงว่าจะเป็ นทางเลือกที่ถกู ต้องอย่างแท้จริง
ด้วยเหตุนี ้ ยามที่เขาเห็นสองพ่อลูกอวีป้ ๋ อ อวีห้ ย่วน ก็นึกถึงพ่อลูกอวีเ้ หวิน อวีถ้ งั ขึน้ มา
ทันที ไหนจะวันนีย้ ามที่เขาไปเชิญนายท่านสามก็บงั เอิญเห็นห่วงเคาะประตูสาํ ริดนัน้ วางอยู่บน
ชัน้ หนังสือ
หู ซิ่ ง นึ ก ทบทวนการสัง เกตของตัว เองช่ ว งนี ้อ ย่ า งจริ ง จั ง คิ ด ว่ า นายท่ า นสามผู้นี ้
ประหลาดไปอยู่บา้ ง อย่างเช่น เสือ้ คลุมที่ส่งั ตัดมาใหม่ นายท่านสามชื่นชอบอย่างเห็นได้ชดั แต่
กลับวางไว้สิบวันถึงครึง่ เดือนจึงค่อยนํามาสวม บางตัวถึงกระทั่งวางไว้จนเปลี่ยนผลัดฤดู เทียบ
กับของที่สง่ มาไม่ก่ีวนั ก็ปรากฏอยู่ในห้องหนังสือเขา ทัง้ ยังสามารถหยิบไปวางที่ใดก็ได้เช่นนี ้ จะ
เห็นได้วา่ นายท่านสามย่อมพอใจกับของขวัญที่สกุลอวีส้ ง่ มาให้ไม่นอ้ ย
เขาเป็ นผูด้ แู ลรับใช้นายท่านสาม ในเมื่อสกุลอวีเ้ ป็ นที่โปรดปรานของนายท่านสาม เขา
ย่อมเคารพต่อสกุลอวี ้ เห็นความสําคัญของสกุลอวีเ้ ช่นกัน
“ไอหยา นี่ไม่ใช่นายท่านใหญ่สกุลอวีห้ รอกรึ?” เขาก้าวเข้าไปคํานับด้วยยิม้ เริงร่า เอ่ย
อย่างเป็ นมิตรสนิทสนม “นี่ท่านเข้ามามีเรื่องอันใดรึ? ไฉนไม่ให้บ่าวรับใช้ไปบอกกล่าวข้าเสีย
หน่อย? ท่านทําเช่นนี ้ ห่างเหินเกินไปแล้ว!”
อวีป้ ๋ อและอวีห้ ย่วนตะลึงไปอยู่บา้ ง
พ่อบ้านหูของสกุลเผยผูน้ มี ้ กั ตามหมอหลวงหยางมารักษาเฉินซื่อ หากจะพูดว่าพ่อบ้าน
หูมีความสัมพันธ์อันดีกับใครในสกุลอวี ้ นั่นก็ย่อมเป็ นอวีเ้ หวิน ตั้งแต่เมื่อใดกันที่พวกเขาก็
คุ้น เคยกับ หูซิ่ ง ถึ ง ขนาดนี ?้ โดยเฉพาะอวี ป้ ๋ อ เพิ่ ง กลับ มา ไม่ รู ว้ ่า เกิ ด เรื่องราวอะไรด้ว ยซํา้
เมื่อก่อนหากเขามีธุระที่สกุลเผย ก็ตอ้ งคิดวิธีบางอย่างถึงจะสามารถเข้าใกล้พวกผูด้ แู ลเหล่านัน้
ได้ นับประสาอะไรกับพ่อบ้านอย่างหูซิ่ง
เขามองอวีห้ ย่วนไปแวบหนึ่ง
706

อวีห้ ย่วนก็งงงวยเช่นกัน แต่เขายังคงรู ค้ วามกว่าบิดามาก คิดแวบเดียวก็เดาสาเหตุ


ออกแล้ว
เขากระซิบเตือนบิดาเบาๆ “เป็ นท่านอา” จากนัน้ ก็กา้ วเข้าไปคํานับตอบหูซิ่ง เอ่ยถึง
จุดประสงค์ท่ีมา ทัง้ ออกปากเอ่ยชวนหูซิ่งมาร่วมครืน้ เครงเป็ นมารยาทด้วยเช่นกัน
หูซิ่งตอบรับทันที สนทนากับสองพ่อลูกสกุลอวี ้ ก่อนจะบอกให้พวกเขารอสักพัก “ข้าจะ
ไปรายงานเรื่องพวกเจ้ากับนายท่านสามก่อน พวกเจ้าจะได้ไม่มาเสียเที่ยว”
อวีป้ ๋ อและอวีห้ ย่วนได้ยินก็เผยสีหน้าแปลกประหลาด
หูซิ่ง กลับไม่สนใจพวกเขา อมยิ ม้ กับตัว เองเดิ น ไปห้องพิธี ก าร หยิบเที ย บเชิญของ
สกุลอวี ้ ก่อนจะไปหาเผยเยี่ยน คํานับเผยเยี่ยนด้วยดวงตาที่ยมิ ้ แทบเป็ นเส้นเดียวกัน มอบเทียบ
เชิญให้กับเผยเยี่ยน เวลานีจ้ ึงค่อยเอ่ยอย่างนอบน้อม “ร้านค้าเครื่องลงรักของสกุลอวีจ้ ะเปิ ด
กิจการแล้วขอรับ นายท่านใหญ่สกุลอวีแ้ ละคุณชายใหญ่สกุลอวีม้ าส่งเทียบเชิญให้ท่าน ท่านดู
สิวา่ มีอะไรจะกําชับหรือไม่?”
สกุลอวีอ้ ย่างนัน้ รึ?
ในหัวของเผยเยี่ยนปรากฏภาพคุณหนูอวีท้ ่ีประพฤติตวั เรียบร้อยประหนึ่งผ้าพับไว้ ดึง
สกุลเผยมาข่มขู่หลูซ่ ิ่น คล้อยหลังก็นกึ ถึงห่วงประตูสาํ ริดที่มีราคาเพียงสองตําลึง
เขาแค่นเสียงเย็น “เรื่องเช่นนีย้ งั ต้องให้ขา้ บอกเจ้าว่าควรทําอย่างไรอยู่ร?ึ เคยทําเยี่ยง
ไรก็ทาํ เยี่ยงนัน้ สิ?”
ตามธรรมเนียมของสกุลเผย มอบหมายผูด้ ูแลเกี่ยวกับเรื่องนีห้ ่อเงินสองตําลึงใส่ซอง
แดงก็เพียงพอแล้ว
แต่ตามธรรมเนียมของท่านผูเ้ ฒ่าเผย ญาติห่างๆ เทียบไม่ได้กบั เพื่อนบ้านใกล้เคียง ใน
เมื่อสกุลเผยลงหลักปั กฐานในหลินอัน ก็ตอ้ งคบค้าสมาคมกับคหบดีชนบทและสกุลเพื่อนบ้าน
707

อย่างดีๆ นอกจากซองแดง ยามที่คนพวกนัน้ มาส่งเทียบเชิญให้เขาถึงประตู ก็ยงั ไถ่ถามแสดง


ความห่วงใย หากเป็ นคนที่ได้รบั ความสําคัญจากเขา ก็จะไปอวยพรถึงหน้าประตูดว้ ยตนเอง
ธรรมเนียมของสกุลอวีเ้ ห็นได้ชดั ว่าเป็ นธรรมเนียมของท่านผูเ้ ฒ่าเผย!
หากไม่ใช่ว่าเขาเรียกตัวพ่อลูกสกุลอวีไ้ ว้ สกุลอวีจ้ ะทราบการตัดสินใจของเผยเยี่ยน
ในช่วงสัน้ ๆ ได้ร?ึ
หูซิ่งลอบชื่นชมไหวพริบของตัวเองอยู่ในใจ
“เข้าใจแล้วขอรับ! ข้าจะไปบอกกล่าวนายท่านใหญ่สกุลอวีเ้ ดี๋ยวนี”้ เขาเดินส่ายก้นจาก
ไป
เผยเยี่ยนรูส้ กึ ว่าท่าทีของหูซิ่งผิดปกติอยู่บา้ ง แต่บ่าวรับใช้มารายงานว่าเถาชิงเดินทาง
มาจากกว่างโจว ชั่วครูน่ นั้ เขาจึงไม่ทนั ได้คิดอะไรมาก ไปพบเถาชิงทันที
708

บทที่ 88 เถาชิง
เถาชิงอายุส่ีสิบต้นๆ รูปร่างไม่สงู ไม่เตีย้ ร่างกายค่อนข้างผอม ผิวดําคลํา้ โหนกแก้มสูง
หน้าผากกว้าง คางยาว รู ปลักษณ์ธรรมดา จัดอยู่ในประเภทหลงเข้าไปในฝูงชนก็แยกไม่ออก
แล้ ว ว่ า เป็ นใคร แต่ ก็ เ ป็ นคนผู้ นี ้ หลั ง จากสู ญ เสี ย บิ ด าในยามอายุ สิ บ ห้ า ก็ ส ามารถ
ประคับประคองสกุลเพื่อน้องชายน้องสาวและแม่ท่ีตกเป็ นม่าย เป็ นคนที่โดดเด่นในบรรดา
ลูกหลานของสกุลเถา ทัง้ กลายเป็ นผูก้ มุ อํานาจในสกุลเถาที่เรียกได้ว่าเป็ นสกุลอันดับหนึ่งของ
กว่างโจว
ไม่เพียงเถาอันที่ให้ความเคารพพี่ชายของตนผูน้ ี ้ แต่เผยเยี่ยนก็เคารพเขาเช่นกัน
“พี่ใหญ่!” เขาเรียกขานเถาชิงตามเถาอัน
ใบหน้าที่เคร่งขรึมนิ่งเรียบของเถาชิงปรากฏรอยยิม้ บาง “สยากวง เจ้าสบายดีกระมัง?”
นับตัง้ แต่บิดาจากไป นับว่าเถาชิงเป็ นคนแรกที่ถามเผยเยี่ยนเช่นนี ้
เผยเยี่ยนนํา้ ตารืน้ เล็กน้อย “ข้าสบายดี! วันเวลาเช่นนีส้ ดุ ท้ายก็ตอ้ งผ่านพ้นไป”
เถาชิงพยักหน้า ไม่ได้ปลอบใจเผยเยี่ยนมากมาย เอ่ยขึน้ “เจ้าคิดอย่างนีไ้ ด้ก็ดีแล้ว รอ
เวลาผ่านไปหลายปี ย้อนกลับมามองอีกครัง้ เรื่องพวกนีก้ ็จะเป็ นเพียงหลุมใต้ฝ่าเท้าเจ้าหลุม
หนึ่งเท่านัน้ ข้ามผ่านมาแล้ว ก็จะได้รบั อะไรมากมายยิ่งขึน้ ”
“ขอบคุณพี่ใหญ่!” ขณะที่เผยเยี่ยนเอ่ย ก็เชิญเถาชิงนั่งลงหน้าโต๊ะกลม “ข้าจะจําคําพูด
ท่านไว้”
เถาชิงหัวเราะ “เจ้าและจื่อหรันต่างเป็ นคนฉลาด ไม่จาํ เป็ นต้องให้ขา้ มากความ พวก
เจ้าก็คิดได้อยู่แล้ว ข้าเชื่อมั่นในตัวพวกเจ้า” พูดจบ ก็เห็นบ่าวรับใช้ท่ียกนํา้ ชาของว่างมาให้พวก
เขาเดินออกไป ในห้องเหลือเพียงพวกเขาสองคน “เจ้าก็อย่าเล่นเรื่องหลอกเด็กพวกนั้นกับ
จื่อหรันเลย ข้าคงไม่ออ้ มค้อมกับเจ้า เจ้าพูดเถิด เจ้าวางแผนจะทําอย่างไร?”
709

เถาอันและเผยเยี่ยนเป็ นลูกคนสุดท้องของสกุลเหมือนกัน ตอนเด็กต่างก็มีช่วงที่หวั แข็ง


ดือ้ รัน้ หลังจากทัง้ สองรู จ้ ักกันที่เมืองหลวง พบเจอครัง้ แรกรู ส้ ึกดั่งเป็ นสหายมายาวนาน จึง
กลายเป็ นเพื่อนสนิทกันทันที ยามที่เถาชิงผ่านทางมาทําการค้าที่เมืองหลวง ถือโอกาสมาหา
เถาอันหลายต่อหลายครัง้ เถาอันก็มกั จะลากเผยเยี่ยนมาเป็ นเพื่อนด้วย เถาชิงเห็นเผยเยี่ยนก็ค
ล้ายเห็นเถาอันในวัยเด็ก ยิ่งไปกว่านัน้ เผยเยี่ยนยังหน้าตาหล่อเหลา ยามที่เขาคิดจะทําดีตอ่ ใคร
คนหนึ่ง ก็แทบเหมือนกับกุมารทองที่น่ ังอยู่ใต้พระโพธิ สัตว์กวนอิม เถาชิงเห็นก็ช่ืนชอบเป็ น
อย่างมาก จึงสนิทชิดเชือ้ กับเผยเยี่ยนไม่นอ้ ย
เผยเยี่ยนรับรูค้ วามปรารถนาดีของเถาชิงที่มีต่อตนเอง ย่อมมีความสนิทสนมกับพี่นอ้ ง
สกุลเถามากขึน้ เรื่อยๆ ได้ยินเถาชิงกล่าวเช่นนี ้ เขาก็ไม่ปิดบัง เอ่ยตามตรง “แผนที่นนั้ ข้าได้มา
อย่างบังเอิญ ยามนีม้ ีอยู่สองเรื่อง หนึ่งคือไม่รูว้ ่าแผนที่นนั้ เป็ นของจริงหรือของปลอม อยากให้
พี่ใหญ่ช่วยทดสอบทางเรือเสียหน่อย สองคือแผนที่นีเ้ ดิมก็เป็ นที่ตอ้ งตาของสกุลเผิงแห่งฝูโจว
เพื่อให้ได้แผนที่มา สกุลเผิงทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทัง้ ยังก่อเรื่องขึน้ ในเมืองหลินอัน ข้าอยากทราบ
ว่าสกุลเผิงรูถ้ ึงแผนที่นีไ้ ด้อย่างไร”
สกุลเถาที่ทาํ การค้าขายมาจนถึงขั้นนี ้ ย่อมไม่เ พี ยงรู เ้ รื่องค้าขายสินค้า แต่ยัง ต้อง
กระจ่างชัดทิศทางลมของราชสํานัก ไม่อย่างนัน้ หากราชสํานักตัดสินอะไรออกมา การค้าขายที่
ทํามาหลายชั่วอายุคนอาจจะทําต่อไปไม่ได้ ถึงกระทั่งถูกเปลี่ยนมือ นี่จึงเป็ นเหตุผลที่ว่าสกุล
เถาก็ดี สกุลเผิงก็ดี ทุกยุคสมัยล้วนต้องบากบั่นปั้ นบัณฑิตจํานวนหนึ่งออกมา
เถาชิงสามารถกุมอํานาจสกุลเถา ย่อมไม่ใช่คนที่ธรรมดา คํา ที่ เ ผยเยี่ยนไม่ได้เอ่ย
ออกมา เขาก็เข้าใจได้ทนั ที เขาอดเอ่ยเสียงเบาไม่ได้ “ทดสอบเส้นทางเรือเป็ นเรื่องเล็ก เดี๋ยวข้า
จะออกคําสั่งลงไป ให้พวกเขาทํางานต่อ ก่อนหน้าเทศกาลมังกรเชิดหัว 1จะส่งข่าวคราวให้เจ้า
147

แต่เรื่องของสกุลเผิง เกรงว่าเจ้ายังต้องหาวิธีเอง…สองปี มานี ้ สกุลเผิงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ

1
เทศกาลมังกรเชิดหัว ตรงกับวันขึน้ สองคํ่าเดือนสอง คนโบราณจะใช้วนั นีแ้ สดงความเคารพต่อเทพเจ้ามังกร ขอฝน ขับไล่
สิ่งชั่วร้าย ทัง้ เพื่อให้พืชผลอุดมสมบูรณ์
710

องค์ชายสามเป็ นอย่างยิ่ง กลัวก็แต่ว่าเขาจะเย็บชุดแต่งงานให้คนอื่น 2เช่นกัน เรื่องทางราช 148

สํานัก สกุลพวกเราสูส้ กุลพวกเจ้าไม่ได้ แต่ในเมื่อเจ้าเอ่ยปากกับข้าเช่นนี ้ ก็ย่อมมีสว่ นที่สกุลข้า


สามารถช่วยเหลือได้ เจ้าบอกข้ามาตามตรงก็พอแล้ว อาศัยจากไมตรีระหว่างพวกเราสองสกุล
ไม่วา่ อย่างไรก็ช่วยเจ้าได้อยู่แล้ว”
ฮ่องเต้ราชวงศ์นี ้ มีโอรสอยู่สามคน คนโตตายตัง้ แต่ยงั หนุ่ม คนรองแต่งงานมาหลายปี
กลับไม่มีบุตร ส่วนคนที่สามกลับมีลกู ชายสองคน แต่อยู่ในลําดับสาม ตามกฎของราชสํานัก
ต้องแต่งตัง้ ลูกภรรยาเอกที่มีอายุมากที่สดุ ฮ่องเต้นนั้ อายุมากแล้ว มักมีฝ่ายตรวจการรบเร้าให้
ฮ่องเต้แต่งตัง้ รัชทายาท แต่ฮ่องเต้เอาแต่ทาํ หูทวนลม ไม่แสดงความคิดเห็นมาโดยตลอด ไม่
เพียงขุนนางใหญ่ ในราชสํานักที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่คนที่มีจุดยืนเดียวกันเหล่านั้นก็
ลําบากใจเช่นกัน
เผยเยี่ยนเอ่ย “ข้าก็กงั วลว่าสกุลเผิงจะทําเรื่องแทนคนอื่นเช่นกัน ดังนัน้ ข้าจึงให้คนของ
สกุลอิน้ ช่วยสืบข่าว อย่าลืมว่าเวลานัน้ แผนที่นีต้ กอยู่ในมือจั่วกวงจง”
จั่วกวงจงตายอย่างไม่สมเกียรตินกั เพราะเวลานัน้ เขาได้ล่วงเกินต่อผลประโยชน์สกุล
รํ่ารวยชั้นสูงทางใต้เป็ นจํานวนมาก เขาจึงถูกฮ่องเต้องค์ก่อนประณาม กําแพงเริ่มพังผูค้ น
ร่ว มกันผลัก 3 ไม่เพี ย งไร้คนแก้ต่างแทนเขา หลัง จากเขาตาย ลูก ชายไม่ก่ี คนของเขาก็ตาย
149

ระหว่างถูกเนรเทศอย่างคลุมเครือ ยังคงเป็ นหลังจากฮ่องเต้องค์นีข้ นึ ้ ครองราชย์ ฟื ้ นคืนชื่อเสียง


ให้เขาใหม่อีกครัง้ และคนรุ น่ หลังสกุลจั่วในปั จจุบนั ก็เป็ นเพียงทายาทของลูกพี่ลกู น้องจั่วกวง
จงเท่านัน้
“หากตอนแรกแผนที่ นี ต้ กอยู่ใ นมื อ เขา เขาย่ อ มไม่อ าจเก็ บไว้เ ฉยๆ” เผยเยี่ ย นเอ่ย
“อย่างน้อยขุนนางที่ฝเู จีย้ นและกว่างโจวพวกนัน้ ต้องพยายามคิดหาวิธีรกั ษาชีวิตของเขา”

2
เย็บชุดแต่งงานให้คนอื่น อุปมาว่า ยอมลําบากทําเรื่องแทนคนอื่นโดยที่ตวั เองไม่ได้ประโยชน์
3
กําแพงเริ่มพังผูค้ นร่วมกันผลัก หมายถึง ยามที่ตกตํ่า ก็มีคนมากมายฉวยโอกาสโจมตีซาํ้
711

เถาชิงได้ฟังก็เอ่ยด้วยรอยยิม้ “สยากวง เจ้าเหมือนจื่อหรันไม่มีผิด ตัง้ แต่เด็กจนโตไม่


ค่อยพบเจออุปสรรคอันใด อยากได้อะไรก็ได้อย่างนัน้ บางครัง้ กระทําเรื่องข้าก็อดเห็นอกเห็นใจ
ขึน้ มาไม่ได้”
คําพูดนีไ้ ม่ได้มีเพียงเถาชิงที่กล่าวเป็ นคนแรก จางอิง อาจารย์ของเผยเยี่ยนก็เคยพูด
แบบนีเ้ ช่นกัน
เผยเยี่ยนไม่คิดอย่างนัน้
เพียงเพราะไม่เคยพบอุปสรรคมาตลอดก็เป็ นเรื่องผิดอย่างนัน้ รึ?
ไม่เคยพบอุปสรรคก็เป็ นความสามารถอย่างหนึ่งได้เช่นกัน
มีความสามารถเผชิญเรื่องไร้อปุ สรรค เหตุใดต้องไปรับความยากลําบากด้วยเล่า?
เถาชิงรู ว้ ่าเขาย่อมฟั งผ่านหูไป ก็ไม่มากความ “คลังสินค้าของสกุลพวกเราที่อยู่ตา้ ซา
เจ้าคงเคยไปกระมัง? หากข้าถามเจ้าว่า ใครเข้าใจเรื่องในคลังสินค้าที่สดุ เจ้าย่อมตอบว่าผูด้ แู ล
ฝ่ ายย่อย แต่ในความเป็ นจริง คนที่เข้าใจเรื่องในคลังสินค้าที่สดุ กลับเป็ นผูเ้ ฝ้าประตู คลังสินค้า
แต่ละแห่งวางสินค้าอะไรบ้าง? ย้ายเข้ามาเมื่อใด? ใครเป็ นคนย้ายเข้ามา? หัวหน้าของคนที่
ย้ายเข้าไปพวกนัน้ คือใคร? ใครแข็งแรงมากที่สดุ ? วันไหนมีสินค้าเข้ามาเยอะที่สดุ …”
เวลาชั่วพริบตาเผยเยี่ยนก็เข้าใจความหมายของเถาชิงทันที
“ท่านหมายความว่า เว้นเสียแต่ใต้เท้าจั่วจะจัดการวาดแผนที่นีข้ ึน้ มาเอง มิเช่นนัน้ ใต้
เท้าจั่วคงไม่รูว้ ่าแผนที่นีน้ าํ ทางจากที่ใดไปยังที่ใด” เขาพึมพําอย่างครุน่ คิด “บิดาหลู่ซิ่นผูท้ ่ีเคย
เป็ นผูช้ ่วยใต้เท้าจั่ว หากเขารู ้ เป็ นไปได้ว่าคนอื่นก็อาจจะรูเ้ ช่นกัน? หรือไม่ก็ เขาไม่รู ้ แต่เป็ นคน
อื่นที่รู…
้ ”
เขาเอ่ยอย่างคลุมเครือ ทว่าเถาชิงกลับเข้าใจอย่างชัดเจน เขาเอ่ยอย่างนุ่มนวล “เป็ น
หลักการนีแ้ หละ แทนที่ เจ้าจะไปสืบที่เมืองหลวง มิสูค้ น้ หาคนที่เกี่ ยวข้องพวกนั้น ไม่แน่ว่า
อาจจะพบอะไรใหม่ๆ”
712

หากเกี่ยวพันไปถึงองค์ชายทัง้ สอง แม้การค้านีจ้ ะคุม้ ค่ามากเท่าใด สกุลเถาและสกุล


เผยมีความสัมพันธ์ดีตอ่ กันขนาดไหน พวกเขาก็ไม่อาจแตะต้องได้
เผยเยี่ยนก็ทราบหลักการนีเ้ ช่นกัน
เขาเอ่ย “ก่อนหน้านีข้ า้ คิดว่า ผูท้ ่ีเข้าใจฝ่ ายตรงข้ามมากที่สดุ ย่อมเป็ นศัตรูของอีกฝ่ าย
มิใช่สหาย ข้าจึงให้สกุลอิน้ ไปสืบเรื่องสกุลเผิง แต่ก็กงั วลอยู่บา้ งว่าสกุลอิน้ จะปิ ดบังอะไรต่อข้า
ดังนัน้ จึงคิดยืมมือท่านพิสจู น์อีกครัง้ ว่าข้อมูลที่สกุลอิน้ ให้ขา้ ถูกต้องหรือไม่ ครบหรือไม่ครบ ดีท่ี
พวกเราคิดไปทางเดียวกัน มากกว่านีข้ า้ คงไม่พดู แล้ว แผนที่นีจ้ ะประมูลได้หรือไม่ ก็ตอ้ งดูว่า
สกุลเผิงทราบถึงแผนที่นีไ้ ด้อย่างไรแล้ว”
สกุลเถา สกุลอิน้ และสกุลเผิงล้วนมาด้วยการต่อรองค้าขาย แต่สกุลเถา เป็ นสิ่งที่เผย
เยี่ยนเรียกได้วา่ ‘สหาย’ หากเอ่ยถึงเรือ่ งสืบข่าว สกุลพวกเขานับว่าเหมาะสมไม่นอ้ ย
เถาชิงเอ่ยด้วยรอยยิม้ “เจ้าสามารถคิดเช่นนีไ้ ด้ก็ดีแล้ว ก่อนหน้านีข้ า้ ยังกังวลว่าเจ้าจะ
เอาพวกขุนนางไปปะปนกับพวกพ่อค้า”
ในแวดวงขุนนางโอ้อวดเกินจริง เอาแต่ใจเสียหน่อยล้วนไม่ใช่เรื่องใหญ่ อย่างไรเผย
เยี่ยนก็มีอาจารย์ท่ีเก่งกาจทัง้ มีศิษย์พ่ีมากความสามารถหลายคน แต่ในแวดวงการค้ากลับต้อง
พิถีพิถนั วาจาอ่อนโยนจึงจะสามารถนําพาความรํ่ารวยมาได้ บางครัง้ โป้ปดเกินจริงกลับจะถูก
วางหลุมพรางโดยไม่รูต้ วั
เผยเยี่ยนดูแลเรื่องทั่วไปในจวน จึงจําต้องรับผิดชอบกิจการในสกุล แต่สิ่งที่ทาํ ให้เขา
หงุดหงิดที่สดุ ยังคงเป็ นเรื่องคบค้าสมาคมกับผูค้ นไม่จบไม่สนิ ้
เขาครุน่ คิดก็รูส้ กึ ว่าชีวิตช่างน่าเบื่อ
จู่ๆ ใบหน้าเปื ้อนยิม้ ของอวีถ้ งั ก็ผดุ ขึน้ มาในหัวของเขา
เด็กสาวคนนัน้ เห็นคนก็พดู ภาษาคน เห็นผีก็คยุ ภาษาผี แม้จะพูดเหลวไหลถูกเขาจับได้
นางก็สามารถเอ่ยเรื่องไร้สาระต่อได้อย่างไม่สะทกสะท้าน ทัง้ ยังหน้าหนาเป็ นพิเศษ เพื่อให้ตน
713

บรรลุจดุ ประสงค์ ไม่วา่ ค้อมตัวคุกเข่าล้วนไม่อิดออด คนเช่นนี ้ จึงจะเหมาะสมกับทําการค้าขาย


เป็ นที่สดุ กระมัง?
เผยเยี่ยนถอนหายใจ
กลับเป็ นยามนีท้ ่ีขา้ หลวงทังมาขอพบ แน่นอนว่าเขาย่อมไม่มีกะจิตกะใจ ยังคงเอาแต่
ใจเช่นนัน้ เหมือนแต่ก่อน เอ่ยว่า ‘ไม่พบ’ อย่างตรงๆ
เถาชิ ง ไม่ เ ห็ น ด้ว ยอย่ า งยิ่ ง เรี ย ก ‘สยากวง’ ราวกั บ ตั ก เตื อ น “นั่ น เป็ น ขุ น นางที่
ควบคุมดูแลในพืน้ ที่เจ้า?”
เผยเยี่ยนโบกมือย่างไม่ใส่ใจ “นั่นก็ตอ้ งดูว่าเป็ นขุนนางอย่างไร ไม่ได้เรื่องได้ราว อ่อน
ปวกเปี ยกเพียงเพราะถูกข้าปฏิเสธไม่ให้เข้าพบอย่างนัน้ หรือ?”
หากเขากล้าทําเหมือนคุณหนูอวี ้ ต่อหน้าบอกว่าทุกเรื่องล้วนว่าตามเขา เห็นเขาพูดดี
หน่อย ลับหลังเขาคิดจะทําอะไรก็ทาํ
อย่างเช่นว่า นําห่วงประตูท่ีมีมลู ค่าเพียงสองตําลึง บรรจุในกล่องผ้าไหม นํามาเป็ นของ
โบราณส่งให้เขา
อย่างเช่นว่า สืบออกมาว่าเว่ยเสี่ยวซานผูน้ นั้ ตายด้วยนํา้ มือสกุลหลี่ ก็กล้าจับสกุลหลี่
ไม่ปล่อย
สามารถค้อมตัว ทัง้ สามารถยืดตัว
เขากลับนับถือคนสกุลทังผูน้ ีเ้ ป็ นชายชาตรี เห็นเขาเป็ นดั่งแขก
เผยเยี่ยนคิดเช่นนี ้ ก็ย่งิ ดูแคลนข้าหลวงทังมากขึน้ ไปอีก
“ท่านอย่าได้สนใจเรื่องเล็กน้อยพวกนี”้ เขาเอ่ย “ยากที่ท่านจะเทียวมา อย่างไรก็กลับ
กว่างโจวก่อนปี ใหม่ไม่ทนั อยู่แล้ว อยู่ฉลองปี ใหม่กบั ข้าที่น่ีแล้วกัน”
714

“นั่นจะได้อย่างไร?” เถาชิงไม่อยากทําลายนํา้ ใจเผยเยี่ยน เอ่ยคล้อยตามเขา “ในเมือง


หังโจวข้าก็ไม่ได้ไร้เรือนอาศัย ฉลองปี ใหม่ท่ีสกุลพวกเจ้าได้อย่างไร? เอาเถิด ข้ามาอย่างเงียบๆ
เจ้าก็ไม่ตอ้ งส่งข้าหรอก ข้าจะไปเงียบๆ เช่นกัน หากมีข่าวคราว ข้าจะให้คนมาแจ้งเจ้าทันที”
เขาพูดพลางลุกขึน้ ยืน
เผยเยี่ยนย่อมไม่อาจให้เขาไปเช่นนี ้ แต่เถาชิงยืนกราน ยังเอ่ย “เจ้าอย่าคิดว่าข้าไม่รูว้ า่
เจ้า วางแผนอะไรอยู่ หากเจ้าอยากสะบัดแผนที่นีอ้ อกจากมือจริงๆ ก็ ย่ิง ไม่ควรส่งข้าอย่าง
โจ่งแจ้ง ส่วนเรื่องทดสอบเส้นทางเรือ ข้าจะหาวิธีให้สกุลอิน้ รับรู ้ ใช่สิ นอกจากสกุลอิน้ เจ้าคิด
ว่ายังมีใครควรรูอ้ ีก? มิเช่นนัน้ หากข้าไม่ชดั เจน พลัง้ ทําลายการใหญ่ของเจ้า เจ้าก็อย่ามาโกรธ
เชียว”
“หากทําได้ ก็บอกกล่าวสกุลลี่เสียหน่อย” เผยเยี่ยนหัวเราะร่า “สกุลเผิงก็ตอ้ งบอก
เช่นกัน แต่ไม่อาจบอกสกุลพวกเขาในเวลานีไ้ ด้ รอจนพวกเราแบ่งแผนที่นีก้ ่อนค่อยบอกพวก
เขา”
เช่นนีก้ ็จะบรรลุจดุ ประสงค์ของคุณหนูอวี ้
“ได้!” เถาชิงรับปากอย่างสบายๆ
เผยเยี่ยนส่งเถาชิงออกจากประตูสกุลเผย
715

บทที่ 89 กิจการ
เผยเยี่ ย นดํา เนิ น เรื่ อ งทุก อย่ า งที่ ว างแผนไว้อ ย่ า งเป็ น ขั้น เป็ น ตอน ด้า นอวี ถ้ ัง กลับ
โกลาหลอลหม่านไปอยู่บา้ ง
อย่างแรกนางไม่แน่ใจว่าเรื่องทางด้านเผยเยี่ยนราบรื่นหรือไม่ อย่างที่สองร้านค้าของ
สกุลเปิ ดไม่ทนั ยามที่ตลาดคึกคักก่อนเทศกาลปี ใหม่…เนื่องด้วยลุงใหญ่รงั้ ตัวอยู่ท่ีเจียงซีนาน
เกินไป ยามที่กลับมาก็ปาเข้าไปเดือนสิบสอง พวกเขาเร่งทํางานอย่างไม่หยุดหย่อน เลือกวันที่
สิบแปดเดือนสิบสองเปิ ดกิจการ แต่โดยปกติแล้ว วันที่ย่ีสิบสองและยี่สิบสาม เดือนสิบสอง ช่วง
ไม่ก่ีวนั ก่อนปี ใหม่เล็ก 1นัน้ ร้านรวงก็เริ่มหยุดเทศกาลแล้ว จวบจนวันที่สิบสองของปี ใหม่จึงจะ
150

เปิ ดกิจการอีกครัง้ การค้าของปี นีจ้ ึงไม่มีกาํ ไรอันใด ทําได้เพียงรีบเปิ ดกิจการให้ทนั ก่อนปี ใหม่
เพื่อเป็ นฤกษ์งามยามดีเท่านัน้
ด้วยเหตุนี ้ อวีถ้ งั จึงถูกลุงใหญ่เรียกไปช่วยงานที่รา้ นสองวันแล้ว
จากคําพูดของลุงใหญ่ กล่าวว่านางไม่เข้าใจเกี่ยวกับการค้าขายย่อมไม่เป็ นไร แต่ท่ีมา
ที่ไปของเงินในครอบครัวกลับจําเป็ นต้องรู ้ “แม้ว่าจะรับลูกเขยเข้าสกุล ปี หนึ่งในเรือนใช้จ่ายไป
เท่าใด ขาดทุนหรือได้กาํ ไร เจ้าจําเป็ นต้องทราบเช่นกัน ไม่อย่างนัน้ จะถูกคนอื่นหลอกลวงได้
ง่าย”
อวี เ้ หวิ น และเฉิ น ซื่ อ คิ ด ว่า มี เ หตุผ ล ให้อ วี ถ้ ัง สวมชุด เนื อ้ หยาบคอยจดบัญ ชี อ ยู่ใ น
คลังสินค้าด้านหลัง ทัง้ ยังเอ่ยปากขอร้องอวีถ้ งั “จากนีท้ กุ ห้าวันก็มาที่รา้ นค้าครัง้ หนึ่ง เจ้าควร
จะรูว้ า่ ร้านค้าพวกเราขายของอะไรไปบ้าง ทัง้ ของแต่ละอย่างขายได้เท่าใด”

1
วันปี ใหม่เล็ก ตรงกับวันที่ย่ีสิบสามหรือยี่สิบสี่เดือนสิบสองตามปฏิทินจันทรคติจีน ตามความเชื่อของคนจีนตัง้ แต่สมัย
โบราณ เป็ นวันที่เทพเจ้าแห่งเตา เทพเจ้าที่คอยพิทกั ษ์เตาไฟในครัว ดูแลทุกคนในครอบครัว จะกลับสวรรค์ไปรายงาน
เรื่องราวของแต่ละครัวเรือนให้เง็กเซียนฮ่องเต้ทราบ ดังนัน้ คนจีนจึงบูชาเทพเจ้าแห่งเตา โดยจะบูชาด้วยของหวาน ของ
มงคล เพื่อให้เทพเจ้าแห่งเตารายงานแต่สิ่งดีๆ เง็กเซียนฮ่องเต้ฟังแล้วไพเราะ เสนาะหู
716

อวีถ้ งั ฟั งกลับลอบส่ายศีรษะในใจ
ไม่แปลกใจที่ทกุ คนไม่อยากแต่งเป็ นลูกเขยเข้าบ้านคนอื่น?
แม้สกุลพวกเขาจะใจกว้าง แต่ลกู เขยยังไม่ทนั ใด้แต่งเข้าสกุล ก็เริ่มเตรียมการป้องกัน
อย่างแน่นหนาเสียแล้ว ผูท้ ่ีเต็มใจเป็ นลูกเขยแต่งเข้าสกุลพวกเขา หากไม่ใช่คนโง่เขลา ถูก
ครอบครัวนางปฏิบตั ิเช่นนี ้ คาดว่าในใจคงไม่รูส้ กึ ดีเท่าใด นับประสาอะไรกับความเชื่อมั่นและ
ความไว้วางใจ
ระหว่างสามีภรรยา กระทั่งเรื่องพืน้ ฐานอย่างความเชื่อมั่นและวางใจยังไม่มี คงไม่ตอ้ ง
พูดถึงการรักใคร่ปรองดอง?
บางที ลูกเขยที่แต่งเข้ามาก็ใช่วา่ จะสามารถแก้ไขปั ญหาทัง้ หมดไปได้
อวีถ้ งั ปล่อยให้ความคิดพรั่งพรูขึน้ มาในหัวอย่างไม่ขาดสาย พลางถือสมุดบัญชียืนอยู่
หน้าคลังสินค้า คอยลงทะเบียนสินค้าเข้าออก
ยามที่ปของอวี
ู่ ถ้ งั ยังมีชีวิตอยู่ สกุลพวกเขามีโรงงานเล็กๆ เป็ นของตัวเอง ทัง้ สามารถ
ทําเครื่องลงรักแกะสลักสีแดง งานฝี มือที่มีความสลับซับซ้อนทัง้ ยังต้องการความเชี่ยวชาญ
จนกระทั่งปู่ ของนางล่วงลับ ยามนัน้ บิดาของนางยังไม่ได้สอบเป็ นซิ่วไฉ จู่ๆ อาจารย์ท่ีอยู่มาสอง
ถึงสามรุน่ ในสกุลกลับถูกร้านค้าเก่าแก่ทางซูโจวดึงตัวไป เหลือลุงใหญ่เพียงคนเดียวที่มีความรู ้
ในการทําเครื่องลงรักแกะสลัก หนําซํา้ ทายาทของสกุลพวกเขายังบางตา หลังจากลุงใหญ่นาง
ผ่านเรื่องราวเหล่านี ้ ก็เปลี่ยนนิสยั เป็ นคนรอบคอบระมัดระวังมากขึน้ ลูกศิษย์ไม่ก่ีคนที่รบั เข้า
มาในสกุล แม้จะทํางานกว่าสิบปี เขาก็ยงั คงซ่อนเร้นปิ ดบัง ไม่ยินยอมถ่ายทอดฝี มือทัง้ หมด
ให้กับลูกศิษย์พวกนัน้ ตัวเองเพียงคนเดียวก็ยุ่งมากแล้ว เครื่องลงรักแกะสลักสีแดงนับวันก็
น้อยลงเรื่อยๆ แทบจะไม่มีสินค้า กิจการในร้านก็กาํ ไรน้อยลงทุกปี
ลุงใหญ่ไม่คิดหาวิธีรบั ศิษย์ท่ีมีพรสวรรค์ กลับฝากความหวังไว้กบั อวีห้ ย่วน อวีห้ ย่วน
นัน้ เรียนรู ง้ านฝี มืออย่างเชื่อฟั งมาหลายปี แต่ไม่รูว้ ่าด้วยอวีห้ ย่วนไร้ซ่งึ พรสวรรค์หรือว่าลุงใหญ่
717

ไม่เชี่ยวชาญในการถ่ายทอดความรูแ้ ก่ผอู้ ่ืน ฝี มือของอวีห้ ย่วนจึงธรรมดา ยังสูซ้ ย่าผิงกุย้ ศิษย์


เอกของลุงใหญ่ไม่ได้ดว้ ยซํา้
ซย่าผิงกุย้ อายุหกปี ก็เรียนรูง้ านในสกุลอวีแ้ ล้ว อายุมากกว่าอวีห้ ย่วนสองสามปี เป็ นลูก
ชายของลูกศิษย์สมัยที่ปู่ของอวีถ้ ังยังมีชีวิตอยู่ ตอนเด็กอาศัยในสกุลอวี ้ ภายหลังอวีถ้ ังเติบ
ใหญ่ ตระหนักถึงธรรมเนียมระหว่างชายหญิง หวังซื่อจึงให้เขาย้ายไปอยู่ในร้านค้า ยามที่ไฟ
ไหม้ถนนฉางซิ่ง หวังซื่อก็ยอมจัดการให้เขาไปอยู่เรือนเก่าสกุลอวีต้ รงชานเมือง ดีกว่าต้องให้เขา
ย้ายกลับมาในสกุลอวีอ้ ีกครัง้
ครัง้ นีร้ า้ นค้าเสร็จเรียบร้อย ซย่าผิงกุย้ จึงพาลูกศิษย์ไม่ก่ีคนย้ายกลับมาในร้าน
แม้ซย่าผิงกุย้ และอวีถ้ งั จะพบเจอกันไม่บ่อย แต่อย่างไรก็เติบโตมาด้วยกัน บางครัง้ ไป
สกุลอวีก้ ็พบเจออวีถ้ งั เช่นกัน เห็นอวีถ้ งั ช่วยจดบัญชีอยู่หน้าคลังสินค้า เขาจึงให้หญิงรับใช้ใน
ร้านค้าไปนําโถนํา้ ร้อน 2เข้ามา ก่อนส่งให้อวีถ้ งั “คุณหนูใหญ่ อากาศเย็นแล้ว เจ้าถือไว้เถิด ระวัง
151

จะจับไข้”
ทัง้ ร้านค้าเครื่องลงรัก นอกจากคนสกุลอวีแ้ ล้ว อวีถ้ งั ก็รูจ้ กั เพียงซย่าผิงกุย้
นางส่งยิม้ เอ่ยขอบคุณแก่ซย่าผิงกุย้ รับโถนํา้ ร้อนมา
ใบหน้าซื่อสัตย์จริงใจของซย่าผิงกุย้ ปรากฏรอยยิม้ บางขึน้ มา เอ่ยว่า “ไม่ตอ้ งเกรงใจ”
ก่อนจะเร่งเร้าพวกเด็กในร้านขนสินค้าเข้าไปในคลังสินค้า
อวีถ้ งั เห็นในคลังสินค้ายังมีโต๊ะสี่เหลี่ยมสีดาํ อีกสองตัว จึงอดถามซย่าผิงกุย้ ไม่ได้ “สกุล
พวกเรายังขายเครื่องเรือนด้วยรึ?”
ตอนยังเด็ก ยามที่นางตามบิดามาเที่ยวเล่นในร้านค้าก็เคยเข้ามาในคลังสินค้า ในภาพ
จําของนาง ในคลังสินค้ามีแต่ชนั้ วางเป็ นช่องๆ บนชัน้ เต็มไปด้วยกล่องเครื่องลงรักและกล่องไม้

2
โถนํา้ ร้อน เป็ นอุปกรณ์ท่ีมีลกั ษณะคล้ายกานํา้ ชาเล็กๆ โดยสามารถเติมนํา้ ร้อนจากด้านบน ใช้เพื่อเพิ่มความอบอุ่นแก่
ร่างกาย
718

ขนาดเล็กใหญ่หลากหลาย ตัง้ แต่กล่องไม้เก้าช่องบรรจุขนมจนถึงกล่องไม้ใส่เครื่องประทินโฉม


ล้วนมีทงั้ หมด
ไฉนยามนีจ้ งึ ดูคล้ายร้านขายของชําเสียอย่างนัน้ ?
ซย่าผิงกุย้ ลังเลไปครูห่ นึ่ง เห็นอวีป้ ๋ อและพวกอวีเ้ หวินยืนปรึกษาเรื่องจัดวางข้าวของอยู่
หน้าร้าน เวลานีจ้ ึงกระซิบเสียงเบา “คลังสินค้าของพวกเราอยู่ใกล้กบั เมืองหังโจวมาก ยามนี ้
ผูค้ นเริ่มนิยมเครื่องลงรักประดับเปลือกหอย คนที่ตอ้ งการเครื่องลงรักแกะสลักก็พิถีพิถนั เลือก
ฝี มือช่างอย่างมาก หากไม่ขายโต๊ะตั่งเก้าอีพ้ วกนี ้ จะอยู่รอดด้วยการขายเครื่องลงรักแกะสลัก
อย่างเดียวก็เป็ นไปได้ยาก”
อวีถ้ งั ไม่เข้าใจ
ซย่าผิงกุย้ จึงอธิบายให้นาง “เมื่อก่อนแต่งลูกสาวรับลูกสะใภ้ มักจะซือ้ กล่องเครื่องลง
รักแกะสลักสีแดงบรรจุของสองสามใบ แต่เมื่อสามปี ก่อน คนของสกุลเซิ่งไปเปิ ดร้านค้าที่เมือง
หังโจว ทางหังโจวจึงนิยมซือ้ กล่องเครื่องลงรักประดับเปลือกหอยขึน้ มา”
อย่างไรสกุลอวีก้ ็เปิ ดร้านค้าเครื่องลงรัก เครื่องลงรักประดับเปลือกหอยนางก็ รูจ้ ัก
เช่นกัน ใช้เปลือกหอยหรือหอยทะเล ฝังเลี่ยมไปกับกล่องไม้ เปลือกหอยเมื่ออยู่ใต้แสงก็จะส่อง
สีรุง้ ระยิบระยับ มีความงดงามดั่งอัญมณี บางคนที่รกั หน้าตาทัง้ ซือ้ กล่องเก็บเครื่องประดับไม่
ไหวก็จะซือ้ ของประเภทนีแ้ ทนเช่นกัน
แต่ความชอบของคนล้วนแตกต่างกันไป ผูท้ ่ีอยู่ในสกุลชัน้ สูงบางคนก็ไม่ชอบสิ่งของที่
ระยิบระยับแวววาว นับประสาอะไรกับของที่ใช้เปลือกหอยมาแทนที่อญ ั มณีเช่นนี?้
อวีถ้ ังครุ ่นคิด “หรือสกุลเซิ่งมีงานฝี มือใหม่อะไร เครื่องลงรักประดับเปลือกหอยจึง
สามารถขายง่ายกว่าเครือ่ งลงรักแกะสลักสีแดงได้?”
719

ซย่าผิงกุย้ เผยสีหน้าชื่นชม เอ่ยอย่างนับถือ “คุณหนูใหญ่หลักแหลมจริงๆ เป็ นดั่งที่ท่าน


ว่า ยามนีส้ กุลพวกเขาทําสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า ‘เชิ่นเซ่อหลัวเตีย้ น 3’ สีธรรมชาตินัน้ ทําง่ายกว่าทํา
152

เครื่องลงรักประดับเปลือกหอยทั่วไปมาก หากต้องการสีอ่ืนก็ส่ งั ทําได้ แต่การสั่งทําย่อมแพง


กว่าสีท่วั ไป คิดชื่อสินค้า ทัง้ ผลิตออกมา ยามนีร้ ุง่ เรืองดุจอาทิตย์กลางท้องฟ้า ได้ยินว่า เทศกาล
ไหว้พระจันทร์ ฉากกัน้ ลมร้อยปั กษาล้อมพญาหงส์สิบสองช่องที่ผวู้ า่ การมณฑลเจ้อเจียงส่งเป็ น
ของขวัญก็เป็ นฝี มือของสกุลพวกเขา” พูดมาถึงตรงนี ้ เขาก็ลงั เลไปสักพัก “แต่ว่า ร้านค้าของ
พวกเรายังคงยึดกับแบบดัง้ เดิมเป็ นหลัก หลายปี ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง…”
แม้คาํ พูดนีจ้ ะเอ่ยอย่างอ้อมค้อม อวีถ้ งั กลับยังคงเข้าใจ
นางเอ่ย “เจ้าหมายความว่า เครื่องลงรักแกะสลักสีแดงของสกุลพวกเราหมดสิน้ ความ
นิยมแล้ว?”
ซย่าผิงกุย้ เอ่ยอย่างคลุมเครือด้วยใบหน้าขึน้ สี อวีถ้ ังก็ไม่ค่อยกระจ่างว่าเขาพูดอะไร
แต่กลับเข้าใจความหมายแล้ว
นางเงียบไปพักใหญ่
ชาติก่อน หลังจากร้านค้าสกุลอวีถ้ กู ไฟไหม้ก็ขายทิง้ ไป นางก็ไม่รูว้ า่ กิจการของสกุลเป็ น
อย่างไรกันแน่ ภายหลังอวีห้ ย่วนหาเงินได้ ลุงใหญ่ก็คิดจะฟื ้ นฟูกิจการสกุลอีกครัง้ แต่ยงั ไม่ทนั
ให้ลงุ ใหญ่ได้กกู้ ิจการขึน้ มา เขาก็ลว่ งลับไปก่อน
ยามนีส้ กุลพวกเขาทุ่มเทแรงกายมหาศาลซ่อมแซมร้านค้าขึน้ มาอีกครัง้ ทัง้ ยังเสียเงิน
ก้อนโตนําสินค้าเข้ามามากมาย คงไม่ถึงกับแค่พอประทังชีวิตไปวันๆ หรอกกระมัง?
นี่เป็ นสิ่งที่นางรับไม่ได้มากที่สดุ

3
เชิ่นเซ่อหลัวเตีย้ น คือเครื่องลงรักประดับเปลือกหอยที่เน้นขับสีให้เด่น โดยตัดเปลือกหอยโปร่งใสแผ่นบางเป็ นลวดลาย
หลังจากเติมสีสนั หลากหลายลงด้านล่างก็นาํ ไปเลี่ยมฝังบนเครื่องลงรัก
720

เสียเวลาไปเหมือนเดิม สิน้ เปลืองแรงกายเหมือนเดิม กลับไม่สามารถทําได้ดีเหมือนคน


อื่น
ต้องคิดสาเหตุและหาทางออกให้ได้
นางมองข้าวของที่กองพะเนินในคลังสินค้าพลางลอบถอนหายใจ สินค้าพวกนีก้ ระทั่ง
นางยังคร้านจะมองซํา้ สอง ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึงคนที่มาซือ้ ของเหล่านัน้ ?
ไม่รูว้ า่ สามารประวิงเวลาเปิ ดกิจการ หาวิธีปรับเปลี่ยนสินค้าใหม่ได้หรือไม่?
อวีถ้ งั ลากหวังซื่อมาด้านข้าง กระซิบถามนาง
หวังซื่อได้ฟังก็ยิม้ ขื่น กอดอวีถ้ ัง เอ่ยเสียงเบา “เด็กดี เจ้ากังวลแล้ว ลุงใหญ่ เจ้าทํา
การค้ามาทัง้ ชีวิต หลักการพวกนีจ้ ะไม่รูไ้ ด้เชียวรึ? พวกเขาซ่อมแซมร้านค้ายังติดเงินจากสกุล
เผย ไหนเลยยังมีเงินนําเข้าสินค้าอีก ทัง้ เครื่องใช้อย่างว่า ล้วนเป็ นสิ่งที่แต่ละร้านเก็บไว้เป็ นของ
ดีประจําร้าน ไฉนจะขายให้สกุลพวกเราอย่างง่ายดาย? แม้ว่าจะขายให้สกุลพวกเรา มีลกู ค้า
สนใจ สกุลพวกเราก็ไม่อาจทําได้ ทัง้ ยังง่ายจะเกิดเรื่องผิดพลาด สูไ้ ม่ทาํ เสียดีกว่า”
อวีถ้ งั นิ่งไปเล็กน้อย “เพราะไม่มีเงินอย่างนัน้ รึ?”
หวังซื่อชะงัก ก่อนเอ่ยเสียงเบา “ก็ไม่เกี่ยวกับเงินทัง้ หมด ยังเป็ นเพราะไม่มีกาํ ลังคนใน
สกุล…”
ก็คือในสกุลขาดคนมีฝีมือ
นี่กลับเป็ นอย่างที่ซย่าผิงกุย้ กล่าวไม่ผิดเพีย้ น
หลายปี มานีร้ า้ นค้ามีลงุ ใหญ่คอยจัดการ นางกลัวว่าถามลึกเกินไป จะเป็ นการหักหน้า
ป้าสะใภ้ใหญ่ พูดอ้อมๆ อีกไม่ก่ีคาํ ก็กลับเข้าไปในร้านกับป้าสะใภ้ใหญ่ หาโอกาสดึงอวีห้ ย่วน
มาคุยส่วนตัว “อาจารย์พวกนัน้ ที่เชิญมาจากเจียงซีฝีมือเป็ นอย่างไรบ้าง? ท่านคิดว่าพึ่งพาได้
หรือไม่?”
721

หลายวันมานีอ้ วีห้ ย่วนก็กลัดกลุม้ กับเรื่องนี ้


เขาเอ่ย “อาจารย์พวกนัน้ ฝี มือล้วนธรรมดา ในนัน้ มีคนหนึ่งที่ไม่เลวเลย แต่เขาชํานาญ
วาดลายทอง สกุลพวกเราทําเครื่องลงรักแกะสลักสีแดง จากความหมายของท่านพ่อ วาดลาย
ทองนัน้ ได้เปรียบ ข้ากลับรูส้ กึ ว่าวางลําดับความสําคัญสลับกันอยู่บา้ ง”
แต่ละร้านเครื่องลงรักล้วนมีจุดเด่นเป็ นของตัวเอง สกุลพวกเขาเสียกําลังคนไปหลาย
ยุคสมัยจึงทําเครื่องลงรักแกะสลักสีแดงให้มีช่ือเสียงได้ เวลานีเ้ ปลี่ยนเป็ นวาดลายทอง ทัง้ ยัง
เป็ นทักษะที่สกุลพวกเขาไม่คนุ้ เคย อวีถ้ งั เห็นด้วยกับความคิดอวีห้ ย่วน
ช่วงนีอ้ วีห้ ย่วนจึงโต้แย้งเรื่องนีก้ บั อวีป้ ๋ อหลายต่อหลายครัง้ หวังซื่อยืนอยู่ฝ่ ั งอวีป้ ๋ อ ยัง
เอ่ยในทํานองว่า “ยิ่งใจร้อนก็ย่ิงล้มเหลวง่าย ใช้การวาดลายทองหาเงินก่อน จากนัน้ ค่อยคิดวิธี
หาพวกสหายซิ่วไฉของอาเจ้ามาช่วยวาดแบบเครื่องลงรักแกะสลักสีแดงเพิ่มเติม ทําการค้าต้อง
ค่อยเป็ นค่อยไปจึงจะมั่นคง” เวลานีจ้ ่ๆู ก็พบคนที่มีความเห็นไปทิศทางเดียวกับเขา ความขุ่น
ข้องที่เขาฝื นกดไว้ในยามปกติจึงพรั่งพรู ออกมา อดเอ่ยไม่ได้ “ข้าก็ไม่รูว้ ่าท่านพ่อคิดอย่างไร?
ต่อให้วาดลายทองจะดีเท่าใด นั่นก็ไม่ใช่งานฝี มือของสกุลพวกเรา ทําเช่นนีจ้ ะสูญเสียความเป็ น
ตัวเรา สกุลอวีจ้ ะยึดหลักกับอะไรกัน?”
ชาติก่อนสองพ่อลูกก็เคยทะเลาะกันเรื่องนี ้
อวีถ้ งั เอ่ยด้วยรอยยิม้ “ท่านไม่ได้กล่าวว่าจะไปเปิ ดร้านที่หงั โจวหรอกรึ?”
อวีห้ ย่วนใบหน้าขึน้ สี “หากท่านพ่อดึงดันทําตามใจตนอยู่ฝ่ายเดียว ข้าจะไปเปิ ดร้าน
ใหม่ท่ีหงั โจวให้รูแ้ ล้วรู ร้ อดไป” พูดจบ ก็กลัวอวีถ้ งั เข้าใจผิด เอ่ยละลํ่าละลัก “นี่ไม่ใช่ความคิด
ของพี่สะใภ้เจ้า เป็ นความต้องการของข้า นางยังไม่อาจยุ่งเรื่องในเรือนข้าได้”
อวีถ้ งั เห็นท่าทีมีพิรุธของเขา ก็หวั เราะเสียงดังขึน้ มา
อวีห้ ย่วนตระหนักได้วา่ ตนเองพูดผิดไป ก็หวั เราะอย่างเขินอายขึน้ มาเช่นกัน
อวีถ้ งั คิดว่าเป็ นเช่นนีไ้ ม่ใช่วา่ จะแย่เสมอไป
722

ชาติก่อนอวีห้ ย่วนพิสจู น์ความสามารถของตนเองแล้วว่าไม่อาจเกลีย้ กล่อมลุงใหญ่ได้


ชาตินีย้ งั ติดตามรํ่าเรียนงานฝี มือจากบิดาอยู่ตอ้ ยๆ ยิ่งไม่อาจโน้มน้าวลุงใหญ่ได้
แทนที่สองพ่อลูกจะทะเลาะกันไม่สบายใจ ยังมิสแู้ ยกย้ายกันไปชั่วคราว ต่างคนต่างทํา
กิจการของตัวเอง อย่างไรกิจการของสกุล ท้ายที่สดุ ก็ตอ้ งทิง้ ให้อวีห้ ย่วนอยู่แล้ว
แน่นอนว่า อวีถ้ งั ก็มีความคิดเล็กๆ เป็ นของตัวเองเช่นกัน
นางอยากเป็ นเหมือนเจียงหลิงในชาติก่อน เป็ นสตรีเก่งกาจที่สามารถหาเงินใช้ชีวิต
ด้วยตัวเอง ทัง้ ยังสามารถเลีย้ งดูคนในครอบครัว
723

บทที่ 90 เปิ ดร้าน


ไม่วา่ จะพูดอย่างไร เวลานีจ้ ะทําการเปลี่ยนแปลงสิ่งใดล้วนแต่สายไปเสียแล้ว
เทียบเชิญถูกส่งออกไป วันเปิ ดร้านใหม่ก็กาํ หนดไว้แน่นอนแล้ว หากมีความคิดอื่นอีก
คงได้แต่คอ่ ยๆ หารือกับท่านลุงใหญ่และญาติผพู้ ่ีในภายหลัง
อวีถ้ ังตรวจสอบสินค้าที่เข้าออกคลังสินค้าอย่างละเอียดอีกรอบ แล้วเอาสมุดบัญชี
มอบให้ท่านลุงใหญ่
อวีป้ ๋ อสุ่มตรวจดูหลายจุด เห็นว่าส่วนใหญ่ เป็ นระเบียบเรียบร้อยดี บัญชีกับสินค้า
ตรงกัน จึงเอ่ยชมอวีถ้ งั ว่า “ไม่เลว ไม่เลว เริม่ จากทําความคุน้ เคยกับสินค้าในร้านเราก่อน ต่อไป
ก็คอ่ ยเรียนการอ่านสมุดบัญชี เรียนจดบัญชี แค่นีก้ ็ไม่มีใครมาตบตาเจ้าได้แล้ว”
อวี เ้ หวิ น ได้ฟั ง ก็ หัว เราะ คิ ด ว่ า บุต รสาวของตนช่ า งฉลาดหลัก แหลม ไม่ แ น่ อ าจมี
พรสวรรค์ดา้ นทํามาค้าขายก็เป็ นได้ เพียงแต่มีสถานะสตรีเป็ นอุปสรรค
เขาครุ ่นคิดแล้วเอ่ยกับพี่ชายว่า “ท่านพี่ พรุ ่งนีเ้ ปิ ดร้านแล้ว ให้อาถังมาช่วยงานที่รา้ น
ด้วยดีหรือไม่?”
แม้พดู ว่าช่วยงาน แต่ไม่ได้ให้นางมาตะโกนขายของ อย่างมากก็ให้อยู่โกดังหลังร้าน
คอยตรวจนับสินค้า เพราะกลัวเด็กในร้านมือเท้าวุน่ วายจนหยิบของผิดก็เท่านัน้
อวีป้ ๋ อเมื่อคิดจะฝึ กปรืออวีถ้ งั แล้ว ย่อมหวังว่านางจะมาช่วยงานที่รา้ นบ่อยๆ ตอนที่หวัง
ซื่ออยู่กบั บ้านฝั่งมารดา นางก็ติดตามบิดาและพี่ชายทํามาค้าขายเช่นนี ้ ที่ท่านปู่ ของอวีถ้ งั ถูกใจ
หวังซื่อ ก็เพราะเห็นว่านางมีความสามารถอ่านสมุดบัญชีได้
“ก็ดีสิ!” เขารีบตอบรับในทันที ทัง้ ยังเอ่ยกับอวีถ้ งั ว่า “พรุ ่งนีป้ ้าสะใภ้เจ้าก็จะมา เจ้าก็
ติดตามป้าสะใภ้ทาํ ความรูจ้ กั คนอื่นๆ ไปก่อน”
ร้านค้าเปิ ดกิจการใหม่ วันแรกเหล่าสหายคุน้ เคยที่ทาํ การค้าด้วยกันย่อมต้องมาแสดง
ความยินดี
724

อวีถ้ งั รีบตอบตกลง
หวังซื่อจับมืออวีถ้ ังไว้อย่างรักใคร่ พลางกําชับกับนางด้วยรอยยิม้ ว่า “แต่งตัวด้ว ย
เสือ้ ผ้าธรรมดาก็พอแล้ว เด็กสาวช่วยดูแลร้านค้าของสกุล มีขอ้ ห้ามว่าอย่าแต่งกายฉูดฉาด
เกินไป คนอื่นจะคิดได้ว่าเจ้ามีจุดประสงค์อ่ืนแอบแฝง ต้องให้ผูอ้ ่ืนเชื่อว่าเจ้ามาช่วย มิใช่เดิน
เล่นเพราะว่างงาน เจ้าเข้าใจแล้วใช่หรือไม่?”
“เข้าใจเจ้าค่ะ!” อวีถ้ งั ตอบรับด้วยรอยยิม้
เสือ้ ผ้าเครื่องประดับนับเป็ นอีกหนึ่งภาษา ในวาระโอกาสที่มีสตรีมารวมตัวกันมากๆ
หากว่าแต่งลวดลายฉูดฉาด ผูอ้ ่ืนย่อมคิดว่าโอ้อวดคิดชิงดีชิงเด่น แต่ก็หาได้มีสิ่งใดร้ายแรงนัก
ทว่าหากเป็ นวาระโอกาสที่บรุ ุษอยู่เยอะ ทัง้ มีการค้าขายไปมาหาสู่ ผูอ้ ่ืนย่อมคิดว่าตนมีแผนอื่น
แอบแฝง คิดใช้อบุ ายหญิงงาม มักจะเกิดเป็ นความเข้าใจผิดไปต่างๆ นานาได้
เฉินซื่อกลับกังวลใจ “หรือไม่ รอให้งานเปิ ดร้านผ่านไปแล้วค่อยให้นางไปช่วยที่รา้ นดี?”
อวีถ้ งั รีบเสนอตัวกล่อมมารดาว่า “ช่วยงานที่รา้ นจะไปวันไหนก็ได้ สําคัญคือพรุง่ นีต้ อ้ ง
ทําความรูจ้ กั กับผูอ้ ่นื ต่อไปหากเจออุปสรรค อย่างน้อยก็รูว้ า่ ต้องไปหาใครเจ้าค่ะ”
คนพวกใดคบได้ คนพวกใดต้องหลีกหนี นางไม่มีทงั้ เวลาและโอกาสที่จะไปทําความ
เข้าใจ ได้แต่หวังพึ่งคําชีแ้ นะจากผูอ้ าวุโสแล้ว
นางยังคิดว่าหลังจากที่ประมูลขายแผนที่ผืนนัน้ ไปแล้ว นางอยากมีกิจการเล็กๆ อื่นมา
จุนเจือครอบครัวด้วย หากรูจ้ กั คนน้อย หูตาไม่กว้างไกล แล้วจะหาผูร้ ว่ มหุน้ ได้อย่างไร ชาติก่อน
สตรีท่ีช่ือเจียงหลิงออกจะเก่งกาจ ยังต้องหยิบยืมความช่วยเหลือจากกําลังของพี่ชาย นางมิได้
อวดดีถึงเพียงนัน้ จึงคิดว่าตนต้องหลักแหลมและทุ่มเทมากกว่าเจียงหลิงผูน้ นั้ ถึงจะดี
อวีป้ ๋ อพยักหน้าอย่างชื่นชม แล้วเอ่ยกับอวีเ้ หวินว่า “อาถังรูค้ วามแล้วจริงๆ ต่อไปเจ้าก็
รอเสวยสุขได้เลย!”
“แน่ละ่ แน่ละ่ !” อวีเ้ หวินวางท่าภาคภูมิใจอย่างไม่ปิดบัง
725

พวกเฉินซื่อได้แต่เม้มปากหัวเราะ
พอกลับถึงเรือน เฉินซื่อก็รอื ้ ลัง ควํ่ากล่อง เป็ นนานกว่าจะตัดสินใจได้ว่าต้องใส่ชดุ ไหน
ในวันเปิ ดร้าน ทัง้ กําชับกับอวีถ้ งั อีกนานสองนานทํานองว่า “ตามติดป้าสะใภ้เจ้าเอาไว้ อย่าเดิน
เล่นไปทั่ว” จากนัน้ ถึงยอมปล่อยอวีถ้ งั กลับไปพักผ่อน
อวีถ้ งั นอนไม่คอ่ ยหลับ
นางคิดถึงชาติก่อนปี ท่ีแต่งเข้าสกุลหลี่ เพื่อแสดงอํานาจข่มนาง ฮูหยินหลี่บอกให้นาง
ทําตัวเป็ นแม่ม่ายที่ดี นางเคยขอให้ตนกลับมาส่งของขวัญปี ใหม่ท่ีเรือนอยู่หลายครัง้ ฮูหยินหลี่
ล้วนทําเป็ นหูหนวกตาบอดเลี่ยงพูดเรื่องอื่นไปเรื่อย เพราะนางอายุยงั น้อยจึงหน้าบาง ทัง้ ที่รูว้ ่า
ฮูหยินหลี่กลั่นแกล้งนางแต่ก็ไม่อาจต่อกรได้ กระทั่ง วันที่ย่ีสิบสาม เดือนสิบสอง อีกเพียงสอง
วันก็จะเป็ นวันปี ใหม่เล็กแล้ว ฮูหยินหลี่ถึงให้หญิงรับใช้ขา้ งกายมามอบรายการของขวัญของ
สกุลอวีใ้ ห้นางอย่างไม่เดือดเนือ้ ร้อนใจ บอกให้นางไปส่งของขวัญเสีย
นางไม่มีเวลาสนใจความคับแค้น จึงพาซวงเถากลับบ้านมารดาไป
ในเรือนเย็นเยียบว่างโล่ง มีเพียงเนือ้ ปลาที่ใช้เซ่นไหว้ ครอบครัวท่านลุงใหญ่ทงั้ สามคน
นั่งล้อมอยู่หน้าโต๊ะ มีแค่ผกั กับโจ๊กเท่านัน้ …
จนถึงตอนนี ้ นางยังจําได้ชดั เจน ภาพตอนที่ปา้ สะใภ้เห็นนางเดินเข้าไปแล้วเอาร่างของ
ตนบังจานอาหารเหล่านัน้ ไว้เบือ้ งหลัง
ชาตินี ้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว
แต่นางก็อยากจะเดินไปสูจ่ ดุ ที่ดีกว่านี ้
อวีถ้ งั คิดไปร้อยแปดพันเรื่อง ไม่รูว้ า่ ตัวเองเผลอหลับไปเมื่อไร
วันต่อมา นางถูกเสียงประทัดไม้ไผ่ทาํ ให้ตกใจตื่น
726

นางกระเด้งตัวลุกนั่งบนเตียง อวีถ้ งั ยังมึนงงอยู่บา้ ง คิดว่าตนเองยังอยู่ในอารามที่เคย


ไปขอพักพิง ผ่านไปพักใหญ่ถึงเรียกสติกลับมาได้
นางร้องเรียงซวงเถา “เกิดอะไรขึน้ ? ยังไม่ถึงวันปี ใหม่เล็กเลย เรือนไหนจุดประทัดไม้ไผ่
เสียแล้ว?”
ซวงเถายิม้ ตาหยีตอบว่า “สกุลเซียงเจ้าค่ะ ส่งคนมามอบของขวัญให้สกุลเรา นายท่าน
ถึงได้ให้จดุ ประทัด”
อวีถ้ งั คิดไม่ถึงว่าสกุลเซียงจะส่งของขวัญปี ใหม่มาให้สกุลนางด้วย ทางหนึ่งก็เลิกผ้าห่ม
ขึน้ ลุกจากเตียง ทางหนึ่งก็ถามว่า “สกุลเซียงให้ใครเป็ นคนมาส่งของขวัญปี ใหม่?”
เซียงซื่อเป็ นว่าที่สะใภ้ใหญ่ของสกุลอวี ้ จึงให้คนมาส่งของขวัญปี ใหม่ สกุลของฝ่ ายชาย
หากว่าให้ความสําคัญกับงานหมัน้ หมาย ระหว่างนีก้ ็จะจัดงานเลีย้ งเพื่อรับรองแขก อีกทัง้ ยัง
ต้องให้ลงุ ป้าน้าอาออกมาต้อนรับ แน่นอนว่าถ้าหากคนที่มาเป็ นแค่ผดู้ แู ล เช่นนัน้ ก็ตอ้ งว่ากันไป
อีกแบบหนึ่ง
ซวงเถาเอ่ยยิม้ ๆ “เป็ นพี่ชายของแม่นางเซียงเจ้าค่ะ”
อวีถ้ งั ถามต่อ “แล้วที่รา้ นทําอย่างไร?”
ซวงเถาตอบว่า “นายท่านใหญ่ส่งั ไว้ ให้นายท่านบ้านเรากับคุณชายใหญ่อยู่เป็ นเพื่อน
แขกที่น่ี ส่วนคุณหนูกบั นายท่านใหญ่ไปที่รา้ นค้า รอให้ทางนีส้ ่งคุณชายเซียงกลับแล้วค่อยรีบ
ตามไป ไม่อาจล่าช้าผิดเวลามงคลเด็ดขาด”
คงต้องเป็ นเช่นนีแ้ ล้ว
อวีถ้ งั อวีป้ ๋ อ แลัวหวังซื่อเดินทางไปร้านค้าพร้อมกัน
ท้องฟ้ายังไม่สว่างดี อากาศค่อนข้างเย็น มีคนสองสามคนบนถนนฉางซิ่ง หากไม่ใช่
เตรียมตัวเปิ ดร้าน ก็กาํ ลังกวาดถนนอยู่
727

อวีถ้ งั ลงมาจากเกีย้ ว อ้าปากหาวหวอดเอ่ยถามท่านลุงใหญ่วา่ “สิงโตเชิดทางนัน้ ตกลง


กันไว้ดีแล้วหรือไม่เจ้าคะ?”
เรื่องเชิดสิงโตมีอวีห้ ย่วนเป็ นผูร้ บั ผิดชอบ วันนีเ้ ขาต้องอยู่เรือนเป็ นเพื่อนแขกเหรื่อ นาง
กลัวอาจมีเรื่องตกหล่นได้
อวีป้ ๋ อตอบว่า “อาหย่วนกลัวจะเกิดเหตุไม่คาดฝั น ตอนไปเชิญสิงโตเชิดจึงได้พาผิงกุย้
ไปด้วยกัน เขาไม่อยู่ท่ีน่ี แต่ยงั มีผิงกุย้ เจ้าไม่ตอ้ งเป็ นห่วงหรอก”
ญาติผพู้ ่ีของนางจัดการเรื่องราวได้ละเอียดรอบคอบขึน้ ทุกทีแล้ว
อวีถ้ งั ยิม้ แล้วเอ่ยรับคํา “เจ้าค่ะ” จากนัน้ ก็เดินเข้าร้านไปกับอวีป้ ๋ อจากทางด้านหลัง
เถ้าแก่ใหญ่ของร้านคือท่านลุงใหญ่ หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ก็เหลือเด็กในร้านอยู่สอง
สามคน มีบางส่วนที่เพิ่งรับเข้ามาใหม่ คนที่อยู่ในโรงงานกับคลังสินค้าหลังร้าน นอกจากคน
ที่มาจากเจียงซีแล้ว ยังมีลกู ศิษย์ของท่านลุงใหญ่ดว้ ย ตอนที่นางเดินเข้าไปก็ตงั้ ใจสังเกตดูเป็ น
พิเศษ
ตอนนีช้ ่างฝี มือจากเจียงซีกาํ ลังทํางานอยู่ฝ่ ั งหนึ่ง ลูกศิษย์ของท่านลุงนางก็ทาํ งานอยู่
อีกฝั่งหนึง่ แบ่งแยกฝ่ ายอย่างชัดเจน
นางอดจะขมวดคิว้ มองไม่ได้
นี่ไม่ใช่ลางบอกเหตุท่ีดีเลย!
อวีถ้ งั กําลังคิดว่าตนควรจะมาดูท่ีรา้ นค้าให้บ่อยหรือไม่ ซย่าผิงกุย้ พลันเดินเข้ามา พอ
เห็นท่านลุงใหญ่ของนางก็เอ่ยว่า “อาจารย์ เรื่องด้านนอกจัดการตามที่คุณชายใหญ่ส่ งั เอาไว้
หมดแล้ว เพียงรอฤกษ์มงคลก็เริม่ ได้เลยขอรับ”
อวีป้ ๋ อหันไปมองนาฬิกาทราย คิดว่าใกล้ได้เวลาเต็มทีแล้ว จึงถามซย่าผิงกุย้ ว่า “นาย
ท่ามสามสกุลเผยมาถึงหรือยัง?”
728

ซย่าผิงกุย้ ตะลึงไป ยกขาได้ก็ว่ิงไปด้านนอก ปากก็ตะโกนบอกว่า “ข้าจะไปดูเดี๋ยวนี ้


ขอรับ”
อวีป้ ๋ อไม่ค่อยชอบซย่าผิงกุย้ เหตุผลหลักเพราะทัง้ ๆ ที่เรียนวิชาจากเขาไปเหมือนกัน
แต่ฝีมือซย่าผิงกุย้ กลับดีกว่าอวีห้ ย่วน แน่นอนว่าอวีห้ ย่วนเป็ นลูกเถ้าแก่ จะไปเปรียบเทียบฝี มือ
กับซย่าผิงกุย้ ก็ไม่มีความหมายอะไร แต่อีกไม่เท่าไรฝี มือของซย่าผิงกุย้ ก็จะเหนือกว่าอาจารย์
แล้ว อวีห้ ย่วนผูเ้ ป็ นลูกเถ้าแก่ก็คงต้องพึ่งพาเขาหลายส่วน อวีป้ ๋ อกลัวว่าซย่าผิงกุย้ จะเหมือน
ช่างฝี มือคนอื่นก่อนหน้านีท้ ่ีออกไปตัง้ ร้านของตัวเอง จึงค่อนข้างจะเข้มงวดกับเขามาก
อวีถ้ งั เอ่ยถามอย่างแปลกใจว่า “นายท่านสามจะมาหรือเจ้าคะ?”
อวีป้ ๋ อพอพูดถึงเรื่องนีก้ ็ทาํ ท่าลําพองใจ “เดิมก็ไม่มาหรอก แต่ตอนที่พวกเราไปส่งเทียบ
เชิญเผอิญเจอกับพ่อบ้านหูเข้า พ่อบ้านหูจึงไปแจ้งข่าวให้เราเป็ นพิเศษ บอกว่าถึงเวลาจะมา
ร่วมงานด้วย”
คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเผยเยี่ยนจะมาร่วมงานเช่นนี ้
อวีถ้ งั กะพริบตา จินตนาการภาพพลุไม้ไผ่ดงั ก้องทั่วทิศพร้อมกับควันพุง่ โขมง ควันหนา
ที่แทบทําให้สาํ ลัก กับดวงหน้าไร้อารมณ์ของเผยเยี่ยน สายตาที่รงั เกียจเดียดฉันท์…ไม่รูว้ ่า
เพราะเหตุใด นางคิดว่าคงน่าสนุกไม่นอ้ ย
น่าเสียดายที่รา้ นค้าบนตรอกฉางซิ่งล้วนเป็ นร้านเก่าแก่ เผยเยี่ยนจึงไม่มีโอกาสได้
ร่วมงานเช่นนีม้ ากนัก!
ซย่าผิงกุย้ วิ่งกลับมาอีกครัง้ เขาตอบอวีป้ ๋ อพลางหอบแฮกๆ “ไม่มีขอรับ ข้ามองหาแถว
นัน้ จนละเอียดแล้ว ก็ไม่เห็นนายท่านสามเลย ทัง้ ไม่มีเกีย้ วหรือรถม้าของสกุลเผยด้วยขอรับ”
เขาพูดจบ ก่อนจะถามเสียงเบาหลังจากลังเลเล็กน้อย “ไม่เห็นคนจากสกุลเผยมาส่งของขวัญ
แสดงความยินดีดว้ ยขอรับ”
729

“หรือว่าเกิดเรื่องอะไรทําให้ล่าช้า?” อวีเ้ หวินพึมพํา มองนาฬิกาทรายแล้วก็รอ้ นใจ…


อย่างมากยังมีเวลาอีกหนึ่งเค่อก็จะถึงเวลามงคลเปิ ดร้านแล้ว ด้านนอกได้ยินเสียงจอแจของ
ผูค้ นดังขึน้ ทุกที
ซย่าผิงกุย้ ก็ลนลานไม่ตา่ งกัน
เมืองหลินอันมีสกุลอวีท้ าํ กิจการเครื่องลงรักอยู่สกุลเดียว จะพูดว่าสกุลอื่นไม่มีฝีมือ
ทางนีก้ ็ยงั ได้ ทว่าสิ่งสําคัญคือสกุลอวีม้ ีนายใหญ่เป็ นซิ่วไฉ ร้านค้าอื่นๆ ไม่อยากชิงดีชิงเด่นกับ
สกุลอวี ้ จะได้เลี่ยงว่าหากต้องไปศาลาว่าการฟ้องร้องกันขึน้ มา ทางสกุลอวีย้ งั มีคนยืนให้การ
กลางโถงได้ แต่ผอู้ ่นื กลับต้องคุกเข่าอยู่บนพืน้ แทน
หากวันนีน้ ายท่านสามสามารถมาแสดงความยินดีได้จริงๆ ต่อไปพวกคนที่ลาดตระเวน
แถบนีย้ ่อมมองร้านค้าของสกุลอวีส้ งู ขึน้ ยิ่งไม่ตอ้ งกลัวใครจะมาหาเรื่องระรานด้วย
“หรือว่า ให้ขา้ ออกไปดูอีกทีไหมขอรับ?” ซย่าผิงกุย้ ถาม
อวีถ้ งั ห้ามซย่าผิงกุย้ ไว้เสียก่อน “นายท่านสามเป็ นผูน้ าํ สกุลเผย ทําสิ่งใดล้วนเชื่อถือได้
หากว่าไม่มา เขาต้องส่งคนมาบอกล่วงหน้าแล้ว พวกเราเริม่ จัดการตามฤกษ์เดิมไปก็พอ”
อวีป้ ๋ อกับซย่าผิงกุย้ ทําหน้าเหมือนไม่เชื่อถือนางนัก
อวีถ้ งั คิดว่าตนได้เสวนากับนายท่านสามหลายหน รูส้ กึ เชื่อใจนายท่านสามเป็ นที่สดุ จึง
ได้เอ่ยว่า “ข้าเคยพูดคุยกับเขา รู น้ ิสยั เขาอยู่บา้ ง ท่านวางใจได้เจ้าค่ะ เขาเป็ นคนพูดคนไหนคํา
นัน้ แน่นอน!”
ถ้าเป็ นคนไม่รกั ษาคําพูดคงไม่อาจยืนอยู่เบือ้ งหน้าผูค้ นมากมายเช่นนีไ้ ด้
อวีป้ ๋ อเชื่อนางในที่สดุ จึงไม่ได้พดู อะไรต่ออีก เพียงถามซย่าผิงกุย้ ถึงเรื่องราวด้านนอก
เขาทิง้ ให้อวีถ้ งั อยู่ในร้าน ตนเองออกไปทางด้านหลังพร้อมกับซย่าผิงกุย้ เตรียมตัวไปเปิ ดงาน
พิธีดา้ นหน้า
730

อวีถ้ ังลองไตร่ตรองดู แล้วย่องขึน้ ชัน้ สองไป ผลักหน้าต่างเปิ ดออกเล็กน้อยแล้วส่อง


ผ่านช่องมองลงไปด้านล่าง
ที่หน้าประตูรา้ นเต็มไปด้วยฝูงชน บางคนมาดูความครึกครืน้ บางคนมาร่วมแสดง
ความยินดี ยังมีบางส่วนที่ถือโอกาสมาหาซือ้ สินค้าลดราคาในวันเปิ ดร้านใหม่ อวีเ้ หวินพาซย่า
ผิงกุย้ ติดตามข้างกาย เอ่ยทักทายแขกเหรื่อด้วยสีหน้าอิ่มเอมเปี่ ยมสุข อวีถ้ ังยังมองเห็นนาย
ท่านอูก๋ บั นายท่านเว่ย แต่กลับหาเผยเยี่ยนหรือคนจากสกุลเผยไม่พบสักคน
หรือว่ามีเรื่องผิดพลาดขึน้ ตรงไหน?
อวีถ้ งั บิดผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในมือเป็ นเกลียวแน่น
เรื่องที่เผยเยี่ยนจะมาร่วมงานเปิ ดร้านของสกุลนาง สําหรับท่านลุงใหญ่แล้ว นี่เป็ นเรื่อง
ที่ได้หน้าได้ตายิ่ง เขาคงปล่อยข่าวออกไปตัง้ แต่แรก ถ้าคราวนีน้ ายท่านสามไม่มา ไม่พดู ถึงว่า
พวกนางสกุลอวีจ้ ะเพียงถูกซุบซิบนินทาอย่างไร ชื่อเสียงของเผยเยี่ยนก็จะได้รบั ผลกระทบไป
ด้วย
เผยเยี่ยนคงไม่คิดกลับคํากะทันหันกระมัง?
731

บทที่ 91 ห้องนํา้ ชา
ดูจากความเย่อหยิ่งและเอาแต่ใจของเผยเยี่ยนแล้ว เขาสามารถกระทําเรื่องเช่นนี ้
ออกมาได้แน่ แต่จากความทะนงและปราดเปรื่องของเผยเยี่ยนแล้ว เขาไม่สมควรทําเช่นนี ้
อวีถ้ งั คิดถึงเรื่องบังเอิญต่างๆ ระหว่างนางกับเผยเยี่ยน
ไม่ใช่เพราะเกิดเรื่องอะไรที่นางไม่รูอ้ ีกแล้วรึ?
อวีถ้ งั ในใจเริ่มลนลาน ยิ่งเห็นว่าท่านลุงใหญ่ย่าํ เท้าไปมา เบือนหน้าไปมองทางตรอก
เสี่ยวเหมยอยู่หลายครัง้
มองว่าเหตุใดเผยเยี่ยนยังมาไม่ถึง?
ถ้าเผยเยี่ยนไม่มาจริงๆ จะทําอย่างไรต่อเล่า?
ต้องหาทางรับมือล่วงหน้าหรือไม่?
อวีถ้ งั ไตร่ตรองในใจ ทันใดนัน้ ก็เห็นเถ้าแก่ใหญ่ถงพาเด็กรับใช้สองคนมาส่งของขวัญ
แสดงความยินดีให้
นางถึงถอนหายใจเฮือก
เถ้าแก่ใหญ่ถงดีช่ วั อย่างไรก็นบั เป็ นคนสกุลเผย หากว่าวันนีเ้ ผยเยี่ยนไม่โผล่มาจริงๆ ก็
ยังพอพูดกลบเกลื่อนไปได้
ทว่า เหตุใดเผยเยี่ยนจึงยังไม่มาอีกเล่า?
เป็ นหูซิ่งถ่ายทอดคําพูดคลาดเคลื่อน? หรือว่าเขาเกิดเรื่องจนทําให้ลา่ ช้า?
อวีถ้ ังมองท่านลุงใหญ่ ยิม้ หน้าบานเข้าไปต้อนรับประสานมือทักทายเถ้าแก่ใหญ่ถง
สนทนากันอย่างสนิทสนมยิ่ง
พวกนายท่านอูเ๋ ห็นดังนัน้ ก็ลอ้ มวงกันเข้าไป
732

ซย่าผิงกุย้ เบียดตัวเองเข้าไปแล้วกระซิบข้างหูท่านลุงใหญ่หลายคํา ท่านลุงใหญ่ขมวด


คิว้ แล้วหันหน้ามามองที่หน้าร้าน ก่อนจะสั่งการกับซย่าผิงกุย้ อย่างจนปั ญญา หว่างคิว้ ของซย่า
ผิงกุย้ ก็ปรากฏความจนใจไม่ต่างกัน จากนัน้ อวีถ้ ังก็เห็นเขาหมุนตัวขึน้ ไปยืนบนเวทียกพืน้ ที่
ตัง้ อยู่ขา้ งประตูรา้ น แล้วตะโกนเสียงดังก้องว่า “ได้ฤกษ์แล้ว”
ประทัดที่เตรียมตัวรออยู่ดา้ นข้างเนิ่นนานส่งเสียง ‘เปรีย้ งปร้าง’ ทันที
เขม่าควันลอยทั่วทิศ เด็กเล็กๆ ปิ ดหูว่งิ หนี พวกผูใ้ หญ่ก็หลบไปยืนด้านข้าง
อวีถ้ งั ถูกเขม่าควันรมจนต้องปิ ดหน้าต่าง
ไม่นานก็ได้ยินเสียงตีกลองเคาะฆ้องดังขึน้
สิงโตเริม่ กระโดดไปมา
อวีถ้ งั หันไปสั่งซวงเถาว่า “เจ้าลงไปดูเร็วเข้า นายท่านสามมาแล้วหรือยัง?”
ซวงเถารับคํา แล้ววิ่งตึงๆ ลงบันได้ไป
อวีถ้ ังยืนเงียบๆ ตรงนัน้ พักหนึ่ง ซวงเถาก็ว่ิงตึงๆ ขึน้ บันไดมาอีกครัง้ สีหน้าค่อนข้าง
เศร้าหมอง “ยังเจ้าค่ะ! นายท่านสามยังไม่มา”
“สกุลเผยคนอื่นๆ เล่า?” อวีถ้ งั ถามต่อ
ซวงเถาตอบว่า “ไม่มาเจ้าค่ะ ยังไม่เห็นคนของสกุลเผยเลย”
อวีถ้ งั เริม่ เย็นวาบในใจ
ไม่ว่าหูซิ่งจะถ่ายทอดคําพูดอย่างไร แต่เทียบเชิญจากสกุลอวีไ้ ด้สง่ ถึงจวนสกุลเผยแล้ว
งานเปิ ดร้านของสกุลอวีอ้ ย่างไรเผยเยี่ยนต้องรับรู ้ ต่อให้ตวั เขาเองมาไม่ได้ หรือไม่อยากมา ก็
สมควรส่งคนมาแทนถึงจะถูก
เขาทําเช่นนี ้ หรือเพราะมีเรื่องอะไรที่นางยังไม่รูแ้ ล้วทําให้เผยเยี่ยนเกลียดชังสกุลอวี?้
733

แล้วเรื่องแผนที่จะทําอย่างไร?
อวีถ้ งั เริม่ กระวนกระวาย รีบร้อนวิ่งลงไปด้านล่าง
การแสดงเชิดสิงโตด้านนอกจบลงแล้ว ท่านลุงใหญ่กบั พวกเถ้าแก่ใหญ่ถงกําลังเตรียม
ตัวตัดผ้าสีเปิ ดงาน
อวีถ้ งั คิดจะหนีไปหาเผยเยี่ยนทางด้านหลังร้าน
แต่ดา้ นนอกพลันมีเสียงเซ็งแซ่ดงั ขึน้ มีเสียงคนตะโกนว่า “นายท่านสามมาแล้ว!”
อวีถ้ งั ตื่นเต้นดีใจ ไม่ทนั สนใจถึงความเหมาะสม ยกกระโปรงแล้ววิ่งออกไปทันที
พวกท่านลุงใหญ่ปลาบปลืม้ กันถ้วนหน้า ผ้าสีเปิ ดงานก็ไม่ตัดแล้ว กรู เข้าไปหาเกีย้ ว
ของเผยเยี่ยนทันที ไม่มีใครสังเกตเห็นอวีถ้ งั ที่ปรากฏตัวออกมาอย่างไม่ถกู กาลเทศะ
“นายท่านสาม!” อวีป้ ๋ อไม่คิดว่าสถานการณ์จะพลิกผัน ตอนที่เขาผิดหวังและกําลัง
ยอมแพ้นนั้ เอง เผยเยี่ยนก็ปรากฏตัวขึน้ ด้วยความตื่นเต้น เขาจึงยื่นมือออกไปจะเปิ ดม่านเกีย้ ว
ให้เผยเยี่ยน ยังดีท่ีเผยหม่านซึง่ อยู่ขา้ งๆ ตาไว จึงชิงเข้าไปเปิ ดม่านให้เขาเสียก่อน
เผยเยี่ยนสวมชุดคลุมแขนกว้างคอกลมเนือ้ ละเอียดสีฟ้าอ่อน ด้านนอกคลุมด้วยผ้า
คลุมขนเตียวสีเข้ม ขับให้ดวงหน้าเขาซีดขาวราวกับเครื่องลายครามสีออ่ น มองแล้วเยือกเย็นยิ่ง
กว่าลมเหนือที่พดั มาเสียอีก คนที่ไม่รูค้ งคิดว่าเขามาร่วมงานศพเป็ นแน่
อวีป้ ๋ อสะท้านสั่นไปทัง้ ตัว คิดว่าที่ตนเองยื่นมือออกไปช่างเสียมารยาทนัก จึงพูดจา
ติดขัดขึน้ มาทันที “นาย นายท่านสาม…”
“นายท่านอวี!้ ” เผยเยี่ยนไม่รอให้อวีป้ ๋ อพูดจบก็ตัดบทเขาทันที “ขออภัยด้วยที่มาช้า
ท่านก็รูว้ า่ ข้ายังอยู่ในช่วงไว้ทกุ ข์ บางโอกาสไม่สะดวกมาปรากฏตัวในทันทีได้”
สีหน้าของเผยเยี่ยนยังเยียบเย็นดังเก่า ทว่านํา้ เสียงที่ใช้ค่อนข้างราบเรียบ อีกอย่าง
คําอธิบายยังสมด้วยเหตุและผล อวีป้ ๋ อจึงถอนหายใจอย่างโล่งอกทันที “สมควรแล้ว สมควร
734

แล้ว” พูดจบ เขาถึงตกใจว่าตอบไปเช่นนีไ้ ม่เหมาะสม…ในเมื่อรู ว้ ่านายท่านสามอยู่ในช่วงไว้


ทุกข์ ต่อให้นายท่านสามตอบรับมาร่วมงานเปิ ดร้านตามมารยาท เขาก็ควรหาทางลงให้นาย
ท่านสาม แล้วปฏิเสธทางอ้อมถึงจะถูก
เรื่องนี ้ เป็ นเขาที่ทาํ ไม่ถกู
เพื่อจะสานสัมพันธ์กบั สกุลเผยแล้ว พวกเขาออกจะกระตือรือร้นเกินไปหน่อย
“นายท่านสาม เชิญดื่มชาด้านในโถงเถอะ!” อวีป้ ๋ อแม้ไม่ใช่คนหัวไว แต่มีประสบการณ์
ค้าขายมานับสิบปี เขาจึงหาทางรับมือได้ทนั การ รีบหลีกทางแล้วทําท่าเชิญเผยเยี่ยนเข้าไปใน
ร้าน
เผยเยี่ยนไม่ได้เกรงใจ เชิดหน้ายืดไหล่เดินตรงเข้าด้านในทันที
เผยหม่านที่ติดตามอยู่ดา้ นหลังก็ส่งยิม้ น้อยๆ ให้คหบดีในเมืองที่รูจ้ กั ไม่ก็ทกั ทายเหล่า
เถ้าแก่ หูซิ่งที่ตามหลังเผยหม่านอีกทีกลับก้มหน้าชิดอกเหมือนกับนกกระทา คล้ายกลัวจะได้
สบสายตากับใคร
แต่อย่างไรเขาก็เป็ นคนที่รบั ใช้ตอนที่ท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผยยังมีชีวิตอยู่ คนที่อยู่ตรงนัน้ ต่อ
ให้เขาไม่รูจ้ กั แต่ผอู้ ่นื ก็รูจ้ กั เขาอยู่ดี ต่างก็เข้ามาเอ่ยทักทายเขาอยู่เนืองๆ
เขาได้แต่ฝืนยิม้ ก้มหน้าก้มตาทักทายกลับ หาได้รูเ้ ลยว่า รอยยิม้ ของเขาน่าเกลียดกว่า
หน้าร้องไห้เสียอีก
ทุกคนต่างสนใจอยากรู ้ แต่เพราะเผยเยี่ยนก็อยู่ตรงนี ้ จึงไม่มีเวลาสนใจเขา ทัง้ ไม่มีใคร
เข้าไปถามว่าเกิดเรื่องอันใดขึน้ กันแน่
เผยเยี่ยนทางนัน้ ลงจากเกีย้ วเดินไปได้ไม่ก่ีกา้ วก็หนั ไปเห็นอวีถ้ งั ที่ยืนอยู่ตรงมุมประตู
ใหญ่ พอดี นางสวมเสือ้ คลุมผ้าเนือ้ ละเอียดสีคราม ผมดําขลับมวยเป็ นทรงก้นหอยสองข้าง
ประดับด้วยดอกบัวผ้าสีเหลืองห่าน หากมิใช่บนดอกไม้ผา้ ยังมีหยดนํา้ ค้างที่ไม่รูท้ าํ จากสิ่งใด
735

ประดับไว้ขบั ให้คนดูแปลกตาอยู่บา้ ง มองผาดๆ คงไม่ต่างอะไรกับสาวใช้ท่ีรดนํา้ และชงชาคน


หนึ่ง
ในใจของเผยเยี่ยนพลันมีโทสะพุง่ ขึน้ มาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
เหตุใดเห็นคําพูดเขาเป็ นเพียงลมพัดผ่านหู
ทําไมจึงไม่รูจ้ กั หยุดหย่อนเสียที
เขาเบิกตากว้างแล้วถลึงตาใส่นางทีหนึ่ง
อวีถ้ งั กําลังจมอยู่ในความยินดีท่ีเผยเยี่ยนปรากฏตัวอย่างกะทันหัน พอถูกเผยเยี่ยนขึง
ตาใส่ นางพลันโง่งมไปชั่วขณะ
นางไปกวนอารมณ์อะไรเขาอีกหรือ?
อวีถ้ งั พลันพิจารณาตนเอง…นางก้มหน้ามองชุดคลุมสีเรียบๆ บนตัว…ก็นึกถึงคําที่เขา
บอกว่า ‘แต่งตัวให้ถกู ต้องเรียบร้อย’ เวลาไปพบเขา…
นางวิ่งหายวับเข้าไปที่โถงด้านหลัง คิดว่าหากตนกลับไปเปลี่ยนเสือ้ ผ้าที่เรือนตอนนีจ้ ะ
ทันการหรือไม่ ทันใดนัน้ เผยเยี่ยนก็เดินตรงดิ่งมาที่หอ้ งโถงแล้วเช่นกัน
ท่านลุงใหญ่คิดจะรับรองแขกตัง้ นํา้ ชาให้เขาดื่มที่โถงด้านหลังรึ?
ฐานะอย่างเช่นเผยเยี่ยนนี ้ เมื่อมาแล้วย่อมต้องนั่งเป็ นประธาน ถ้าไม่มานั่งดื่มชาอยู่
โถงด้านหลัง แล้วจะให้เขาไปยืนให้ผอู้ ่ืนชื่นชมอยู่หน้าร้านหรืออย่างไร?
อวีถ้ งั อยากจะร้องไห้กบั ความโง่งมของตนเองนัก
แต่ตอนนีไ้ ม่มีสถานที่อ่นื ให้หลบแล้ว
หากต้องหลบๆ ซ่อนๆ ราวกับเป็ นโจร มิสอู้ อกไปทักทายอย่างเปิ ดเผย อธิบายเรื่องราว
สองสามคํา ไม่แน่อาจจะทวงภาพลักษณ์กลับคืนมาได้
736

อวีถ้ งั คิดได้ดงั นัน้ ก็กระแอมเสียงเบาทีหนึ่ง แล้วเดินเข้าไปคารวะเผยเยี่ยนทันที “นาย


ท่านสาม!”
เผยเยี่ยนใช้หางตากวาดผ่านนางทีหนึ่ง ส่งเสียง “อืม” อย่างเย่อหยิ่ง แล้วเดินผ่านนาง
ไปนั่งที่เก้าอีไ้ ท่ซือในโถงหลัก
อวีป้ ๋ อตกตะลึง รู ส้ ึกว่าเผยเยี่ยนคล้ายไม่ค่อยสบอารมณ์อยู่ แต่ก็บอกไม่ถูกว่าโกรธ
เคืองเรื่องใด เหตุใดต้องโกรธเคือง ได้แต่ส่ งั อวีถ้ งั เสียงเบาว่า “ให้คนไปเตรียมนํา้ ชามาเร็วเข้า”
จากนัน้ ก็กระหืดกระหอบไปดูแลเผยเยี่ยน
ต่อให้ท่านลุงใหญ่ไม่ส่งั อวีถ้ งั ก็ตอ้ งเลือกใช้ชาที่ดีท่ีสดุ เพื่อต้อนรับเขาอยู่แล้ว
นางรีบลากซวงเถาหลบไปที่หอ้ งนํา้ ชาด้านข้างทันที
พวกนายท่านอู๋และเถ้าแก่ใหญ่ถงต่างกรู เข้ามาที่โถงด้านหลัง หูซิ่งก้มหน้าเบี่ยงตัวไป
ห้องนํา้ ชาอย่างเศร้าสร้อย
เขารู จ้ ักอวีถ้ ัง พอเห็นว่าอวีถ้ ังกําลังชงชาอยู่ จึงเอ่ยทักทายนาง “คุณหนูอวี ้ ข้าขอยืม
ห้องนํา้ ชาของท่านพักหายใจสักหน่อยนะขอรับ”
หูซิ่งเป็ นพ่อบ้านของสกุลเผย ต่อให้มีลาํ ดับเป็ นที่สาม แต่ก็เป็ นตัวแทนหน้าตาของสกุล
เผย อวีถ้ งั ย่อมหวังให้เขากับสกุลอวีส้ นิทสนมกันมากขึน้
“ท่านพักหายใจไปเถิด!” อวีถ้ งั ตอบอย่างกระตือรือร้น “ซวงเถา ไปหยิบขนมที่ใส่จาน
ให้นายท่านสามเมื่อครูม่ าจัดให้พ่อบ้านหูชิมอีกจานหนึ่ง สิ่งนีบ้ ิดาข้าซือ้ กลับมาจากหังโจวเมื่อ
หลายวันก่อน”
อวีถ้ งั เล่าไป มือก็รนิ นํา้ ชาให้หซู ิ่งตามไปด้วย
“มิกล้า มิกล้า!” หูซิ่งรีบลุกขึน้ ทันที ค้อมตัวถือถ้วยนํา้ ชาไว้ แล้วพูดกับซวงเถาที่ไปหยิบ
ขนมให้เขาว่า “แม่นางไม่ตอ้ งวุ่นวายแล้ว ข้าจะกินขนมเหมือนกับนายท่านสามได้อย่างไร เจ้า
ยกไปให้นายท่านสามก็พอแล้ว”
737

อวีถ้ ังตัง้ ใจจะตีสนิทเขา จึงเอ่ยพร้อมรอยยิม้ “แม้บอกว่าให้นายท่านสาม แต่เถ้าแก่


ใหญ่ถงก็มิใช่ชิมเหมือนกันรึ? สกุลเรามิได้มีของดิบดีอะไร ท่านเดินทางไปทั่วทิศ คนที่กินของ
หนานเป่ ย มิรูท้ ่านจะเห็นว่าเข้าตาหรือไม่? หากไม่ถกู ปาก ก็ตอ้ งขออภัยด้วย!”
“ไอหยา ฟั งคุณหนูอวีพ้ ูดเข้าสิ” หูซิ่งได้ฟัง สายตาก็หมุนไปรอบๆ นึกได้ว่าหลายครัง้
ที่อวีเ้ หวินไปจวนสกุลเผยก็มกั พาอวีถ้ งั ไปด้วย ในใจเขาพลันเกิดความคิดหนึ่งขึน้ มา
“คุณหนูอวี ้ อีกสักเดี๋ยวท่านว่างหรือไม่ขอรับ” เขาถามหยั่งเชิงอวีถ้ งั
หากเปลี่ยนเป็ นอวีถ้ งั เมื่อชาติก่อนคงฟั งไม่ออกถึงความนัยที่หซู ิ่งต้องการพูด แต่อวีถ้ งั
ในชาตินีเ้ ข้าใจความเป็ นไปของโลกแล้ว
“โถงหลังยังมีซวงเถาอีกคนแน่ะ!” นางเอ่ยพลางยิม้ “ข้าแค่มาช่วยดูอะไรนิดๆ หน่อยๆ
เท่านัน้ มีอะไรให้วนุ่ วายกันเล่า?”
“เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี!” หูซิ่งแสร้งทําท่าถอนหายใจ ราวกับว่าจะพูดเรื่องความลับ
บางอย่าง “ท่านรูห้ รือไม่ขอรับ! เพื่อสกุลอวีข้ องท่าน ข้าได้ล่วงเกินท่านนายสามเสียแล้ว รอจบ
เรื่องตรงนีแ้ ล้วกลับสกุลเผยไป พ่อบ้านสามของสกุลเผยจะยังเป็ นข้าอยู่หรือไม่ก็ยงั ไม่รูเ้ ลย?”
อวีถ้ งั ฟั งแล้วใจสะท้านทันที
ในสมองพลันมีความคิดหนึ่งผุดขึน้ มา หรือหูซิ่งผูน้ ีค้ ิดไถเงินจากสกุลอวี?้
“หมายความว่าอย่างไรหรือ?” นางรีบปั้ นหน้ามึนงงออกไปทันที ถามไถ่ดว้ ยความเป็ น
ห่วง
หู ซิ่ ง ยั ง แสร้ง ถอนหายใจอย่ า งหนั ก อก “ข้า เห็ น ว่ า บิ ด าท่ า นกั บ นายท่ า นสามมี
ความสัมพันธ์ไม่เลว แต่ก่อนก็มีตวั อย่างให้เห็นอยู่ ดังนัน้ ตอนที่บา้ นท่านมาส่งเทียบเชิญ ข้าถึง
ตอบรับแทนไปเองว่านายท่านสามจะมาร่วมงานแสดงความยินดี ใครจะคิดว่านายท่านสาม…”
เขายังจําได้อยู่เลยว่า ตอนที่ไปเตือนนายท่านสามว่าเวลาสายแล้วควรออกเดินทางเสีย
ที นายท่านสามก็ตีหน้าดําทะมึน…เขาอดจะตัวสั่นไม่ได้
738

“ท่านว่า ข้าใช่เจตนาดีแต่ทาํ เรื่องเลวร้ายหรือไม่?” เขาพรํ่าบ่นกับอวีถ้ ังต่อไป “นาย


ท่านสามแม้จะยอมมา แต่ใครจะรูว้ า่ นายท่านสามคิดอะไรอยู่กนั แน่?”
ครัง้ นีท้ ่ีนายท่านสามมาร่วมงาน เป็ นเพราะเขาทํางานผิดพลาด เดิมก็ไม่ใช่เพราะ
หน้าตาของสกุลอวี ้ เขาถือสิทธิใดทําความดีไม่เปิ ดเผยชื่อ กระทั่งความซาบซึง้ ยังไม่ได้รบั
เรื่องนีอ้ ย่างไรก็ตอ้ งบอกให้คนสกุลอวีร้ บั รู ้
ทัง้ ยังต้องพูดให้ไร้ท่ีติอีกด้วย
อวีถ้ งั เบิกตาโตอ้าปากค้าง
ดังนัน้ ทัง้ หมดนี่คือเรื่องเข้าใจผิดหรือ?
เผยเยี่ยนถูกบีบบังคับให้มาร่วมงานเปิ ดร้านของสกุลอวี!้
อวีถ้ งั นึกถึงดวงหน้าเมื่อครู ข่ องเผยเยี่ยนที่เย็นเยียบเหมือนวันที่หนาวที่สดุ ของปี ก็เริ่ม
สั่นสะท้านขึน้ บ้าง
“เหตุใดท่านไม่สง่ คนมาบอกให้เร็วหน่อยเล่า พวกเราจะได้แก้ต่างกับทุกคนได้!” อวีถ้ งั
คิดว่าสกุลตนไม่ควรเป็ นฝ่ ายแบกรับหม้อใบนี ้ จึงรีบร้อนเอ่ยออกไป “นายท่านสามมาหรือไม่
มิใช่เรื่องใหญ่อะไร ส่งท่านหรือพ่อบ้านสกุลเผยคนไหนมาล้วนแต่ไม่ตา่ งกัน”
วาจานางยังไม่ทนั พูดจบ ก็รูส้ กึ ถึงความเยือกเย็นที่ดา้ นหลังทันที
อวีถ้ งั หันกลับไปมอง
ก็เห็นเผยเยี่ยนยืนอยู่หน้าประตูหอ้ งนํา้ ชาด้วยสีหน้าดําเมี่ยมเหมือนก้นหม้อ
739

บทที่ 92 ขอโทษ
เผยเยี่ยนมาอยู่ตรงนีไ้ ด้อย่างไร?
เขาไม่ควรดื่มชาแล้วนั่งเป็ นประธานให้ผคู้ นรุมล้อมอยู่ท่ีโถงด้านหลังหรือ?
สีหน้าของเขาไม่น่ามอง คงมิใช่เพราะได้ยินคําที่นางพูดไปเมื่อครูก่ ระมัง?
แต่เมื่อครูน่ างไม่ได้พดู อะไรสักหน่อยนี่!
อวีถ้ ังหวนนึกสิ่งที่ตนพูดออกไปก่อนหน้านี ้ หูซิ่งที่อยู่ดา้ นข้างกลับทําท่าเกินจริง เขา
กระเด้งตัวยืนขึน้ ทันควัน พูดจาอึกอักด้วยความหวาดกลัวว่า “นาย นายท่านสาม ท่าน ท่านมา
ที่น่ีได้อย่างไรขอรับ? ท่านต้องการสิ่งใดหรือมีอะไรจะสั่งหรือขอรับ?”
อวีถ้ งั ได้สติกลับคืนมา
จริงด้วย บางทีเผยเยี่ยนอาจมีเรื่องอื่นถึงเดินมาที่น่ีก็เป็ นได้?
นางรีบยิม้ เอ่ยว่า “นายท่านสาม ท่านมีเรือ่ งอันใดจะสั่งหรือ?”
ต้องทําให้เผยเยี่ยนรูส้ กึ ถึงความกระตือรือร้นในการต้อนรับแขกของนางให้ได้
ต้องรูไ้ ว้อย่างหนึ่งว่า ตามคําบอกเล่าของหูซิ่งนัน้ เขาถูกลากให้มาลําบากเพราะความ
เข้าใจผิดของหูซิ่งเอง และเพื่อรักษาหน้าตาของสกุลอวีจ้ ึงจําเป็ นต้องมา ไม่ตอ้ งพูดถึงคนที่
เย่อหยิ่งอย่างเผยเยี่ยน หากเปลี่ยนเป็ นคนอื่น ย่อมจะเดือดดาลหนัก จึงไม่แปลกที่สีหน้าเขาจะ
ดูไม่ได้เช่นนี ้
อวีถ้ งั คิดแล้วก็รูส้ กึ เห็นใจเผยเยี่ยน ท่าทีท่ีแสดงต่อเขาจึงนุ่มนวลยิ่งกว่าเดิม
“นายท่านสาม ท่านมีเรื่องใดก็ส่งั ข้ามาตามตรงได้เลย” นางเอ่ยด้วยนํา้ เสียงอ่อนหวาน
เผยเยี่ยนแม้สกั ประโยคก็ไม่อยากเปิ ดปาก
740

หูซิ่งคนบัดซบผูน้ ีต้ ดั สินใจตารางงานของเขาโดยพลการไม่เท่าไร เขาคิดว่าอย่างไรต้อง


ไว้หน้าสกุลอวีส้ กั หลายส่วนถึงได้ข่มกลัน้ ความไม่พอใจแล้วเดินทางมา ผลสุดท้ายคุณหนูอวีไ้ ม่
เพียงไม่รบั ยอมรับนํา้ ใจ ยังพูดอีกว่า ‘ส่งพ่อบ้านสกุลเผยคนไหนมาล้วนไม่ตา่ งกัน’
ถ้ารูแ้ ต่แรกว่าเป็ นเช่นนี ้ แม้แต่พ่อบ้านสักคนเขาคงไม่สง่ มาแน่ ให้ใครก็ได้ถือของขวัญ
มาส่งก็สนิ ้ เรื่องแล้ว
ไม่เ ห็น ต้องสนใจว่าหน้าตาของสกุลอวีจ้ ะอยู่ดีหรือไม่ ถึง ขนาดต้องมาด้วยตนเอง
เช่นนี…

เขาคร้านจะสนใจอวีถ้ งั จึงเดินออกจากประตูหอ้ งนํา้ ชาไปโดยสายตาไม่เหลียวแล
ด้านหลังที่ตามมาคือเผยหม่านที่ทาํ หน้ารูส้ กึ ผิด
เขาเอ่ยขอโทษอวีถ้ งั เสียงเบาว่า “นายท่านสามเมื่อวานแทบไม่ได้นอนทัง้ คืน ใกล้รุง่ เช้า
ไม่ง่ายที่คิดจะนอนสักงีบ แล้วต้องมาถูกพ่อบ้านหูรบกวนจนตื่น คนจึงไม่ค่อยสบอารมณ์ขอรับ
ขอคุณหนูอวีอ้ ย่าได้ถือสา”
ไม่ได้นอนทัง้ คืน?
เพราะเรื่องแผนที่ร?ึ
อวีถ้ งั ค่อนข้างแปลกใจ จากนัน้ ก็กลายเป็ นความรูส้ กึ ซาบซึง้ นางรีบฉีกยิม้ เอ่ยว่า “ขอบ
คุญพ่อบ้านใหญ่ ท่ีบอกกล่าว เมื่อครู ่พ่อบ้านหูเล่าเรื่องให้ขา้ ฟั งส่วนหนึ่งแล้ว จะว่าไป เป็ น
สกุลอวีข้ องข้าเองที่จดั การเรื่องราวยังขาดประสบการณ์ ในเมื่อรู ว้ ่านายท่านสามจะมา ก่อน
หน้านีก้ ็ควรจะส่งคนไปขอคําชีแ้ นะจากพ่อบ้านใหญ่สกั หน่อยว่านายท่านสามชอบดื่มชาชนิด
ใด ชอบกินอะไรบ้าง พวกเราจะได้เตรียมตัวล่วงหน้า ตอนนีล้ ุกลีล้ ุกลน ก็มิแปลกที่นายท่าน
สามจะขุ่นเคือง”
วาจาที่พดู ออกมาช่างชวนให้คล้อยตาม ทัง้ ไม่ถ่อมตนเกินงามหรือเย่อหยิ่งเกินเหตุ เผย
หม่านคิดว่าเขาต้องมองอวีถ้ งั ใหม่เสียแล้ว
741

มิน่านายท่านอวีม้ ีเรื่องอะไรก็ชอบพาบุตรสาวผูน้ ีต้ ิดตามไปด้วย


เผยหม่านจึงตัดสินใจชีท้ างสว่างให้แก่อวีถ้ งั
“คุณหนูอวีเ้ กรงใจเกินไปแล้ว” เขายิม้ “นายท่านสามแต่ไหนแต่ไรเป็ นคนรักษาสัจจะ
ครัง้ นีน้ ายท่านสามมาถึงช้า อย่างไรต้องขอให้คุณหนูอวีช้ ่วยอธิ บายต่อเถ้าแก่ใหญ่อวีฟ้ ั งสัก
หลายคํา ตามหลักแล้ว นายท่านสามของข้าไม่จาํ เป็ นต้องมาที่น่ีดว้ ยตนเอง แต่นายท่านสาม
รูส้ กึ ว่า แม้พวกท่านจะไม่ได้สง่ คนไปสอบถามล่วงหน้า แต่น่ นั ก็เพราะพ่อบ้านหูได้ตอบตกลงไป
แล้ว นี่ย่อมเป็ นความผิดของพ่อบ้านหู เป็ นความผิดของจวนสกุลเรา นายท่านสามลังเลว่าแค่
ส่งพ่อบ้านสักคนมาร่วมแสดงความยินดีก็ใช้ได้แล้ว แต่กลัวว่าพวกท่านจะจดจ่อตัง้ ใจรอให้เขา
มาร่วมงาน เกรงจะทําให้พวกท่านผิดหวัง และผูอ้ ่ืนเห็นเป็ นเรื่องขําขันไป ถึงได้ตดั สินใจมาด้วย
ตนเอง เพียงไม่คิดว่าจะมาถึงช้าไปสักหน่อย”
หมายความว่าที่เผยเยี่ยนรีบร้อนเดินทางมา ก็ตอ้ งข่มความยากลําบากเอาไว้ และที่มา
ด้วยตนเองก็เพราะไม่อยากให้สกุลอวีต้ อ้ งเสียหน้า
อวีถ้ งั ถึงค่อยได้คิดเชื่อมโยงสิ่งที่นางเพิ่งพูดออกไป
จริงแท้วา่ สกุลนางออกจะไม่รูด้ ีช่ วั อยู่บา้ งจริงๆ
ใครทําเรื่องดีๆ ล้วนอยากทิง้ ชื่อเสียงเอาไว้ โดยเฉพาะนายท่านสามที่เป็ นคนทําสิ่งใด
ล้วนแยกรักชังออกจากกันอย่างชัดเจน
อวีถ้ ังเหงื่อตก รีบพูดขึน้ ว่า “พ่อบ้านใหญ่ ทัง้ หมดเป็ นความผิดของข้าเอง ข้าไม่รูว้ ่า
นายท่านออกมาเพื่ออะไร แต่ขา้ จะไปขอโทษเขาเดี๋ยวนี!้ ”
เผยหม่านเห็นว่านางเข้าใจแล้วก็ดีใจมาก นับว่าตัวเองไม่ได้เปลืองแรงเปล่า ก็ชีไ้ ปที่
ห้องบัญชีแล้วกระซิบยิม้ ๆ ว่า “นายท่านสามของข้ายังอยู่ในช่วงไว้ทกุ ข์ จึงไม่เข้าร่วมพิธีตดั ผ้าสี
เปิ ดร้าน ข้าจะไปนั่งเป็ นเพื่อนนายท่านสามที่หอ้ งบัญชีของท่านสักครู ่ รอให้ตดั ผ้าสีเสร็จ ก็คง
ไปเจอมือปราบจางที่ดแู ลถนนฉางซิ่งสักหน่อยแล้วค่อยกลับขอรับ”
742

อวีถ้ งั ลังเล ไม่รูว้ า่ ตอนนีค้ วรไปกล่าวทักทายเผยเยี่ยนสักหน่อยหรือไม่


หูซิ่งซึ่งแกล้งตายอยู่ขา้ งๆ พอได้ยินคําว่า ‘ย่อมเป็ นความผิดของพ่อบ้านหู’ ก็คิดว่าตน
คงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแล้ว แต่ใครจะนั่งรอความตายอยู่เฉยๆ เล่า?
เวลานีเ้ ขาต้องใช้โอกาสที่เหลืออยู่ทงั้ หมดให้เป็ นประโยชน์ เขาเดินก้มหน้าไปยืนข้าง
เผยหม่านกับอวีถ้ งั ประสานมือแล้วก้มตัวลงตํ่าพลางเอ่ยว่า “ขอทัง้ สองท่านโปรดชีแ้ นะ มอบ
ทางรอดให้ขา้ สักสาย ช่วยไว้ชีวิตคนในครอบครัวนับสิบของข้าด้วยขอรับ”
เผยหม่านรูส้ กึ ว่าหูซิ่งชอบแสดงละครมากเกินไป ตอนที่เผยเยี่ยนได้ขึน้ เป็ นผูน้ าํ สกุลก็
ไล่สองพ่อบ้านที่ท่านผูเ้ ฒ่าเคยใช้งานตอนยังมีชีวิตออกไปหมด โดยเฉพาะพ่อบ้านใหญ่คนเก่า
ที่ถูกไล่ออกไปอย่างน่าอับอาย ถ้าต้องไล่หูซิ่งออกอีกคน อาจทําให้คนในจวนอกสั่นขวัญหาย
ถึงได้ยอมเก็บเขาเอาไว้ก่อน
ครัง้ นีเ้ ขาทําพลาดอย่างใหญ่หลวง คิดว่าต่อให้เผยเยี่ยนไม่ลงโทษเขา ต่อไปก็คงไม่มี
ทางให้เขาได้รบั ผิดชอบงานสําคัญในจวนสกุลเผยอีก
เผยหม่านคํานึงว่าอวีถ้ งั อยู่ตรงนีด้ ว้ ย ไม่อยากเปิ ดเผยความขัดแย้งในจวนต่อหน้าคน
นอก จึงตอบอย่างขอไปทีวา่ “มีอะไรกลับไปคุยที่จวน!”
รอให้กลับไป เช่นนัน้ คงไม่เหลือหนทางให้แก้ไขอะไรแล้ว
หูซิ่งแทบร้องไห้ออกมาเต็มแก่
เขาไม่สนใจอะไรอีกต่อไป หันไปขอร้องอวีถ้ งั ราวกับคนป่ วยหนักที่ไม่เลือกหมอ “คุณ
หนูอวี ้ ข้าไม่ได้ตงั้ ใจจริงๆ นายท่านสามของพวกเราเบือ้ งหน้าเย็นชาแต่ในใจกลับอบอุ่น นับแต่
ที่นายท่ามสามเข้ามาดูแลสกุล ทั่วทัง้ เมืองหลินอันก็มีแต่นายท่านอวีท้ ่ีพอมีหน้ามีตาได้พบนาย
ท่านสามของข้าบ่อยๆ ข้าถึงได้เข้าใจผิด…”
คําพูดของเขายังพูดไม่ทนั จบ เผยหม่านก็ขมวดคิว้ แน่น
หูซิ่งผูน้ ี ้ เหตุใดพูดจาเช่นนีเ้ ล่า?
743

แม้เขาจะรู ส้ ึกว่าเผยเยี่ยนปฏิบตั ิต่ออวีเ้ หวินอย่างปกติท่ วั ไป แต่เมื่อหูซิ่งพูดจาเช่นนี ้


ออกมาต่อหน้าคุณหนูอวี ้ มิใช่ทาํ ให้สกุลอวีเ้ ข้าใจว่าสกุลเผยไม่เคยเห็นสกุลอวีอ้ ยู่ในสายตา
หรือ? เช่นนัน้ ที่นายท่ามสามรีบร้อนเดินทางมาจะมีความหมายอันใดเล่า?
เผยหม่านตัดบทหูซิ่งอย่างไม่พอใจ “ข้าบอกว่ามีเรื่องอะไรค่อยกลับไปคุย? ไม่อย่างนัน้
เจ้าก็กลับไปก่อนเถิด ในจวนยังมีเรื่องมากมายให้ตอ้ งจัดการ”
จะเชิญใครเข้าร่วมงานประมูลแผนที่บา้ งนัน้ หลายวันนีเ้ ผยเยี่ยนได้กาํ หนดรายชื่อออก
มาแล้ว ขอเพียงรอสกุลเถาลองเดินเรือว่าไม่มีปัญหา ถึงค่อยกระจายข่าวออกไป เวลานัน้ สกุล
เผยค่อยส่งเทียบเชิญอย่างเป็ นทางการ ก่อนหน้านั้นพวกเขายังต้องเตรียมสถานที่ท่ีจะใช้
ประมูลให้พรักพร้อม จัดการเรื่องที่พกั ของแขก เพื่อป้องกันไม่ให้สองสกุลที่เป็ นศัตรู เกิดปะทะ
กันขึน้ เป็ นต้น ยังมีธุระอีกนับไม่ถว้ นที่ตอ้ งวุ่นวาย เขาหาได้มีเวลามาต่อล้อต่อเถียงกับหูซิ่งอยู่
ตรงนี ้
เขาใช้สายตาคมกริบจ้องหูซิ่ง บังคับให้หซู ิ่งรีบปิ ดปาก
อวีถ้ งั เข้าใจชัดเจนถึงต้นสายปลายเหตุแล้ว นางส่งยิม้ ให้เผยหม่านด้วยความรู ส้ กึ ผิด
แล้วหยั่งเชิงไปว่า “พ่อบ้านใหญ่ ท่านว่าข้าสมควรไปขอโทษนายท่านสามเป็ นการส่วนตัว
หรือไม่? เรื่องราวกลายเป็ นเช่นนี ้ สกุลข้าก็มีสว่ นต้องรับผิดชอบ”
แม้น างจะรู ส้ ึก ว่า ความผิ ด ของสกุล เผยจะมากกว่า หน่ อ ย แต่ อ ยู่ใ ต้ช ายคาคนอื่ น
จําเป็ นต้องก้มหัว นางได้แต่แบกหม้อใบนีไ้ ว้ แล้วยอมรับผิดก็เท่านัน้ !
เผยหม่านนับว่าเข้าใจนิสยั ของเผยเยี่ยนดี เขาพูดอะไรออกมาตัง้ มากมาย ก็เพราะหวัง
ให้อวีถ้ งั แสดงท่าที ทําให้เผยเยี่ยนอารมณ์เบิกบานขึน้ มาหน่อย เช่นนีก้ ารร่วมมือของสองสกุลก็
จะยิ่งมีความสุขมากขึน้
“สมควรขอรับ” เขาเอ่ยอย่างชีเ้ ป็ นนัยๆ “นายท่านสามชอบความสงบเงียบ เถ้าแก่
ใหญ่อวีจ้ งึ ไม่ได้ให้คนอยู่เป็ นเพื่อนขอรับ”
744

ก็หมายความว่า เผยเยี่ยนในเวลานีอ้ ยู่เพียงลําพังน่ะสิ!


อวีถ้ งั รับนํา้ ใจจากเผยหม่าน ขอบคุณเขาซํา้ ไปมา แล้วพุง่ ไปที่หอ้ งบัญชี
เผยเยี่ยนนั่งดื่มชาอยู่บนเก้าอีไ้ ท่ซือในห้องบัญชี มีเพียงเด็กรับใช้หนึ่งคนคอยดูแลอยู่
ข้างๆ
อวีถ้ งั รีบเดินเข้าไปคารวะเบือ้ งหน้าเผยเยี่ยน แล้วเอ่ยด้วยรอยยิม้ ว่า “นายท่านสาม คิด
ไม่ถึงว่าท่านจะมาร่วมงานเปิ ดร้านของสกุลข้า ตระเตรียมสิ่งใดไม่รอบด้าน ขอท่านอย่าได้ถือ
สา เมื่อครู ่ขา้ เพิ่งถามจากพ่อบ้านใหญ่ และพ่อบ้านสามมาว่าท่านไม่ชอบกินสิ่งใดบ้าง แต่
พ่อบ้านใหญ่บอกข้าว่าอีกสักครู ่ท่านก็จะกลับแล้ว คงไม่อยู่กินข้าวที่น่ีดว้ ย ข้าให้คนเตรียม
อาหารมังสวิรตั ิสง่ ไปที่จวนท่านหนึ่งโต๊ะ หากท่านไม่วา่ อย่างไรก็ขอให้รบั เอาไว้ดว้ ย”
เผยเยี่ยนยกคางเหลือบมองอวีถ้ งั แวบหนึ่ง เอ่ยเสียงเรียบว่า “คุณหนูอวีไ้ ม่ตอ้ งเกรงใจ
ข้าดื่มชาสักถ้วยก็จะกลับแล้ว อาหารมังสวิรตั ิอะไรนั่น ไม่จาํ เป็ นต้องวุน่ วายหรอก” พูดจบ ก็หนั
ไปมองเผยหม่านทีหนึ่ง
เผยหม่านรีบส่ายหน้าเบาๆ แสดงชัดว่าตนไม่ได้เป็ นคนพูด
เผยเยี่ยนรูส้ กึ ว่าความหงุดหงิดในใจค่อยๆ หายไปเล็กน้อยแล้ว
อวีถ้ ังลองชวนเผยเยี่ยนคุยเรื่องสัพเพเหระ “ของที่ดีท่ีสุดในเรือนก็คือใบชาซิ่นหยาง
เหมาเจียน 1แล้ว ไม่รูว้ ่าท่านดื่มได้คนุ้ เคยหรือไม่? ดีท่ีรา้ นชาที่ใหญ่และดีท่ีสดุ ของเมืองหลินอัน
153

อยู่ไม่ไกลจากเรือนข้า หากว่าท่านไม่ชอบชาซิ่นหยางเหมาเจียน ข้าจะให้คนไปซือ้ ชาที่ท่านชอบ


ดื่มมาให้”
พูดถึงตรงนี ้ เผยเยี่ยนก็รูส้ กึ ถึงกองไฟที่ลกุ ไหม้อยู่กลางอก

1
ชาซิ่นหยางเหมาเจียน เป็ นชาคุณภาพสูง เป็ นชาเขียวปลูกบนภูเขาสูง มีรสชาติและกลิ่นหอมชัน้ เลิศ นํา้ ชาที่ได้จะมีสี
เขียวนวลสดใส กลิ่นหอมสดชื่นละมุนละไม รสเข้ม
745

เขาอดจะแสยะยิม้ เอ่ยเสียงเย็นไม่ได้ “ซือ้ ใบชาที่ขา้ ชอบจากร้านค้าสกุลข้า?”


อวีถ้ งั อึง้ ไป ก่อนจะยิม้ แป้นส่งให้เขา
นางลืมไปว่าร้านค้าใบชาที่ใหญ่และดีท่ีสดุ ของเมืองหลินอันเป็ นของสกุลเผย
แต่ถา้ นางไม่ไปซือ้ ที่รา้ นค้าใบชาของสกุลเผย แล้วจะให้นางไปหาซือ้ จากที่ใดเล่า?
อวีถ้ งั ค่อยเอ่ยเอาตัวรอดไปก่อนว่า “เช่นนัน้ รอวันไหนญาติผพู้ ่ีขา้ ไปเมืองหังโจวจะให้
เขาซือ้ กลับมาหน่อยก็แล้วกัน”
สกุลอวีก้ ับสกุลเซียงกําหนดวันแต่งงานไว้แล้วคือวันที่สิบหก เดือนสาม ก่อนวันงาน
หวังซื่อคิดจะไปหังโจวเพื่อเตรียมของใช้วนั แต่งงานให้อวีห้ ย่วน เฉินซื่อนับแต่เข้าหน้าหนาวก็ไม่
เคยล้มป่ วยอีก สุขภาพแข็งแรงกว่าเมื่อก่อนมาก จึงคิดว่าถึงเวลานัน้ จะพาอวีถ้ งั ติดตามหวังซื่อ
ไปเดินเล่นซือ้ ของที่เมืองหังโจวด้วย
เผยเยี่ยนรูส้ กึ ว่าคุณหนูอวีผ้ นู้ ีช้ ่างหัวรัน้ ไม่รูม้ ารยาท จึงแสยะยิม้ ใส่ทีหนึ่ง แล้วไม่แยแส
นางอีก
อวีถ้ งั งุนงงไปหมด
เป็ นอะไรไปอีกล่ะ?
หรือว่าพูดจาเช่นนีก้ ็ไม่ได้?
นายท่านสามสกุลเผย ช่างอารมณ์แปรปรวนเสียจริง!
อวีถ้ งั ก็คร้านจะเอาใจเขาแล้ว อย่างไรต่อให้พดู ดีไปเขาก็ไม่คิดยอมรับ ไม่สมู้ ีงานอะไร
ก็ออกไปจัดการเสีย
อีกอย่าง ดูจากเรื่องที่เผยเยี่ยนยอมมาร่วมงานแสดงความยินดีวันเปิ ดร้านสกุลนาง
ด้วยตนเองเช่นนี ้ นางยิ่งเชื่อว่าเผยเยี่ยนไม่เพียงเป็ นคนพูดจาคําไหนคํานัน้ ทัง้ ยังเป็ นคนรักษา
746

สัจจะยิ่งชีพ ขอเพียงเป็ นเรื่องที่เขารับปาก ไม่ว่าจะด้วยตนเองก็ดีหรือผ่านผูอ้ ่ืนก็ช่าง แม้เขาจะ


ไม่ยินยอมพร้อมใจ แต่ก็จะทําตามนัน้
ดังนัน้ เรื่องแผนที่ ไม่ว่าเผยเยี่ยนจะมองสกุลอวีด้ ว้ ยสายตาเช่นไร เขาก็ย่อมจะจัดการ
เรื่องราวได้อย่างเรียบร้อยเหมาะสมเป็ นแน่
อวีถ้ งั พลันมีความมั่นใจเพิ่มขึน้ หลายส่วน
นางเลิกสนใจแล้วว่าเผยเยี่ยนจะอารมณ์ดีหรือไม่ สั่งการซวงเถาทันทีว่า “ไปบอกซย่า
ผิงกุย้ ที ให้เขาไปซือ้ ใบชาชัน้ เลิศสักหลายชนิดจากร้านชาข้างๆ แล้วสั่งอาหารมังสวิรตั ิชนั้ เยี่ยม
หนึ่งโต๊ะจากหอสุราไปส่งที่จวนสกุลเผย”
เผยเยี่ยนจะรับหรือไม่เป็ นเรื่องของเขา ส่วนจะมอบหรือไม่มอบให้นนั้ เป็ นมารยาทของ
พวกนางสกุลอวี ้
747

บทที่ 93 สั่งสอน
เผยเยี่ยนเห็นอวีถ้ งั ทําเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด ก็โมโหสุดขีด
เดิมเขาคิดว่า คนที่ไม่รูจ้ กั ดีช่ วั เช่นนี ้ เขาแค่ไม่ตอ้ งไปใส่ใจ ปล่อยนางไปตามยถากรรม
ก็พอ แต่เมื่ออวีถ้ งั สั่งคํากับซวงเถาจบแล้ว ยังจะมายืนเบือ้ งหน้าเขา แล้วเอ่ยเสียงหวานหน้ายิม้
แฉ่งว่า “นายท่านสาม ข้ารู ว้ ่าท่านไม่เห็นค่าสิ่งเหล่านี ้ และรู ว้ ่าเรื่องวันนีเ้ ป็ นสกุลข้าที่ทาํ ไม่
สมควร ท่านก็ให้ขา้ ไปซือ้ ชาดีมารับรองท่านหน่อยเถอะ มิเช่นนัน้ ใจของข้าคงไม่อาจสงบได้แน่
อาหารมังสวิรตั ิก็เช่นกัน ท่านยังอยู่ในช่วงไว้ทกุ ข์ ไม่สะดวกจะรัง้ ท่านให้น่งั กับพวกเราตรงนี ้ แต่
อย่างน้อยพวกเราก็ดูแลท่านให้เต็มที่ หากท่านคิดว่ามันไม่อร่อย ก็ตกเป็ นรางวัลให้คนรับใช้
อย่างน้อยก็ถือเป็ นนํา้ ใจของสกุลข้า”
สิ่งที่สาํ คัญเหนืออื่นใด ต้องให้ผูอ้ ่ืนรับรู ว้ ่าสกุลอวีซ้ าบซึง้ ใจต่อสกุลเผยเพียงใด และ
เติมแต่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อีกหน่อยว่าเขาต้องลําบากเพียงใดเพื่อมาร่วมงานเปิ ดร้านของ
สกุลอวี ้
เพียงแต่คาํ พูดนีน้ างไม่อาจพูดออกไปได้
อาศัยความรู ส้ ึกของนาง หากว่านางสารภาพออกไปตามตรง เผยเยี่ยนต้องพลิกหน้า
ใส่นางเป็ นแน่
เผยเยี่ยนมองรอยยิม้ ที่เจิดจ้าดั่งดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิตรงหน้าตน บวกกับสีหน้าเอาอก
เอาใจหน่อยๆ ความขุ่นข้องในใจคล้ายจะเลือนหายไปอีกแล้ว
ช่างเถอะ!
เขาเป็ นบุรุษ ไม่จาํ เป็ นต้องมาคิดแค้นกับแม่นางน้อยคนหนึ่ง
อีกอย่าง ตอนเป็ นหนุ่มสาวใครบ้างไม่เคยทําผิด?
สิ่งสําคัญคือต้องแก้ไขความผิดนัน้ ต่างหาก
748

มิสเู้ ขาสั่งสอนนางเสียหน่อยจะดีกว่า
เมฆหมอกเริ่มจางหายจากสีหน้าของเผยเยี่ยน เขาจิบชาช้าๆ หนึ่งคํา เอ่ยด้วยนํา้ เสียง
เอื่อยเฉื่อยว่า “ให้สาวใช้เจ้ากลับมาเถอะ ข้าไม่ขาดแคลนใบชา กลัวแต่เด็กในร้านจะตัดสินใจ
แทนเจ้าเสียก่อน เห็นว่าใบชาหนึง่ จิน 1ห้าตําลึงหน้าตาไม่ตา่ งอะไรกับใบชาหนึง่ จินห้าร้อยตําลึง
154

ถึงได้ซอื ้ ใบชาห้าตําลึงกลับมา หากถูกลือออกไป เดี๋ยวผูอ้ ่นื เข้าใจผิดคิดว่าข้าชอบดื่มชาหยาบๆ


ต่อไปเดินไปทางใดคงได้ด่ืมแต่ชาที่รสชาติเหมือนนํา้ ล้างหม้อ ข้าทุกข์ใจ ผูอ้ ่ืนย่อมทุกข์ใจตาม
ด้วย”
หมายความว่าอย่างไร?
อวีถ้ งั ค่อนข้างมึนงง
นางสั่งซวงเถาบอกให้คนไปซือ้ ใบชาชัน้ ดีมาแล้ว ใบชาจินละห้าร้อยตําลึงสกุลนางคง
ไม่มีปัญญาซือ้ ต่อให้ซือ้ มารับแขกเพียงครึ่งเหลี่ยง 2ก็คงไม่หน้าใหญ่ปานนัน้ แต่ก็ไม่ถึงขนาด
155

ซือ้ ใบชาจินละห้าตําลึงมารับรองเขาหรอกกระมัง?
อีกอย่าง อะไรคือเดินไปทางใดคงได้ต่ืมแต่ชาที่รสชาติเหมือนนํา้ ล้างหม้อ ข้าทุกข์ใจ
ผูอ้ ่นื ย่อมทุกข์ใจตามด้วย?
เขาทุกข์ใจนัน้ เข้าใจได้ เหตุใดผูอ้ ่นื ต้องทุกข์ใจตามเขาด้วยเล่า?
อวีถ้ งั มองตาที่คมกริบของเผยเยี่ยน พลันเข้าใจทุกอย่างในทันที
คนผูน้ ี ้ กําลังเหน็บแนมนางอย่างนัน้ รึ?
นางเริม่ จะฟั งออกแล้ว

1
จิน เป็ นหน่วยชั่งนํา้ หนักของจีน หนึ่งจินเท่ากับห้าร้อยกรัม
2
เหลี่ยง เป็ นหน่วยชั่งนํา้ หนักที่เล็กกว่าจิน โดยสิบเหลี่ยงเท่ากับหนึ่งจิน
749

นี่โทษนางได้หรือ? ใครพูดเหน็บแนมผูอ้ ่นื เหมือนอย่างเขาบ้าง สีหน้าไม่เพียงไร้อารมณ์


นํา้ เสียงราบเรียบ ไม่ทกุ ข์ไม่รอ้ น เอื่อยเฉื่อยอย่างกับนํา้ ไหล
หรือว่าการพูดจาไม่ตอ้ งแสดงออกถึงอารมณ์หรอกรึ?
อวีถ้ งั บ่นในใจ ด่าเผยเยี่ยนจนฟั งไม่ได้ไปยกหนึ่ง
คนผูน้ ี ้ เป็ นคนคิดเล็กคิดน้อย อารมณ์แปรปรวน หากว่าสมองหมุนช้ากว่านี อ้ ีกสัก
หน่อย ไม่รูว้ า่ เขาจะเอานางไปคิดไร้สาระอะไรในสมองนั่นอีก
สมองของอวีถ้ งั พยายามแล่นเร็วจี๋
ใบชา…ราคาถูก…คิดไปว่าเขาชอบดื่มชาหยาบๆ…
แต่ก็เหมาะสมกับนิสยั รักชื่อเสียง ชอบวางท่าของเขาดีเหมือนกัน
ส่วนว่าผูอ้ ่ืนเป็ นทุกข์ตามนัน้ หมายถึงแต่ไรเขาก็เกิดมาในสกุลที่ไม่ขดั สน คนสกุลอื่น
หากคิดใช้ใบชาหยาบๆ มาต้อนรับเขาก็ตอ้ งไปหาซือ้ โดยเฉพาะอีกอย่างนัน้ รึ?
เวลาผ่านไปพักใหญ่แล้ว อวีถ้ งั ยังคิดไม่ตกว่าตัวเองผิดตรงไหนกันแน่ แต่หอ้ งบัญชีนนั้
เงียบกริบ เด็กในร้านที่รบั ใช้เขาตอนแรกก็ไม่รูไ้ ปหลบตรงไหนตัง้ แต่ตอนที่นางเข้ามาแล้ว เผย
หม่านกับหูซิ่งก้มหน้างุดราวกับท่อนไม้ คล้ายกลัวมีคนรู ก้ ารมีอยู่ของพวกเขา ซวงเถาที่แค่เห็น
เผยเยี่ยนก็ตวั สั่นงันงก พอถูกนางใช้งาน ก็รีบวิ่งหายไปอย่างกับควัน หากว่านางไม่พดู อะไรต่อ
ในห้องนีก้ ็คงไม่มีเสียงอื่นอีกแล้ว ผ่านไปอีกพักหนึ่ง บรรยากาศที่นางเพิ่งจะทําให้ดีขึน้ หน่อยก็
เปลี่ยนเป็ นหนักอึง้ อีกครัง้
สนทนากับเผยเยี่ยนช่างเหน็ดเหนื่อยเสียจริง
อวีถ้ งั ได้แต่ทอดถอนใจในอก สีหน้าไม่กล้าแสดงออกแม้แต่นอ้ ย ได้แต่พดู ไปเรื่อยเปื่ อย
ว่า “ฟั งท่านพูดเข้าสิ ของขวัญแม้จะด้อยค่าแต่มากไปด้วยนํา้ ใจ! ไม่วา่ ใบชาหนึ่งจินจะห้าตําลึง
หรือห้าร้อยตําลึง จุดประสงค์ก็คืออยากรับรองท่านให้ดีท่ีสดุ ล้วนเป็ นความจริงใจทัง้ สิน้ …”
750

เพียงแต่นางพูดไม่ทนั จบดี ก็ได้ยินเสียงเย็นของเผยเยี่ยนแทรกขึน้ มาว่า “เช่นนัน้ แล้ว


ห่วงเคาะประตูสองตําลึงอันหนึ่งก็คือของขวัญด้อยค่าแต่มากด้วยนํา้ ใจอย่างนัน้ สินะ?”
อวีถ้ งั ถูกเผยเยี่ยนเสียดสีอย่างไม่ทนั ตัง้ ตัว ตกใจจนแทบซวนเซสะดุดล้ม
ในสมองมีความคิดแรกผุดขึน้ มาทันทีว่า เขารู ไ้ ด้อย่างไรว่าห่วงเคาะประตูอนั ละสอง
ตําลึง?
ความคิดที่สองคือหรือตอนนีเ้ ผยเยี่ยนกําลังคิดบัญชีแค้นเรื่องนีก้ บั นาง?
ความคิดที่สามคือแย่แล้ว แย่แล้ว จากนิสยั เย่อหยิ่งของเผยเยี่ยน จะต้องคิดว่าสกุลอวี ้
ตัง้ ใจหลอกลวงเขาแน่ๆ!
อวีถ้ งั ไม่ทนั คิดให้ละเอียด ก็รอ้ งว่าไม่เป็ นธรรมทันที “นายท่านสาม ท่านเข้าใจผิดแล้ว
ห่วงเคาะประตูท่ีให้ท่านนัน้ เป็ นความคิดของข้าเอง ตอนนัน้ ข้ากับท่านพ่อไปเดินดูของที่รา้ น
วัตถุโบราณ ข้าเห็นว่าห่วงเคาะประตูชนิ ้ นัน้ น่าสนใจ เลยอยากให้ท่านได้เล่นสนุกดูบา้ ง…”
เผยเยี่ยนเลิกคิว้ สูง ตัดบทนางอย่างไม่เหลือความเกรงใจว่า “ห่ออย่างดีถึงเพียงนัน้ ซํา้
บอกว่าได้มาจากร้านวัตถุโบราณ เห็นได้ชดั ว่ามีเจตนาทําเหมือนมันเป็ นของขวัญลํา้ ค่า เช่นนัน้
ก็อย่าให้คนที่รบั ของขวัญรูส้ ิวา่ นั่นเป็ นของราคาสองตําลึง? ซือ้ ของในร้านค้าข้ามาเป็ นของขวัญ
ให้ขา้ คงมีแต่เจ้าที่คิดอะไรเช่นนีอ้ อกมาได้ ทําไมเล่า ตอนนีย้ ังคิดจะซือ้ ใบชาจากร้านข้ามา
ต้อนรับข้า? สั่งอาหารมังสวิรตั ิจากหอสุราของข้ามาให้ขา้ กิน? ในสมองของเจ้านอกจากความ
สะดวกสบายแล้ว สามารถคิดอย่างอื่นได้อีกหรือไม่? ของขวัญแม้จะด้อยค่าแต่มากไปด้วย
นํา้ ใจ? ข้าได้รบั ของเช่นนี ้ เจ้าลองมาช่วยข้าดูทีสิ? ข้าจะหาความจริงใจของสกุลเจ้าจากที่
ตรงไหนได้อีก?”
สีหน้าของอวีถ้ งั พลันเปลี่ยนเป็ นสีแดงกํ่า
เรื่องนีโ้ ทษนางได้ร?ึ
ทั่วทัง้ เมืองหลินอันยังมีรา้ นค้าใดบ้างที่ไม่ใช่ของเขาคนสกุลเผยอีก
751

นางแค่อยากซือ้ ของดีๆ ให้เขา แต่นอกจากร้านของสกุลเผยแล้ว นางจะไปซือ้ ที่ใดได้?


แม้ในใจจะแอบเถียง แต่สมองของนางชัดเจนดี เรื่องนีน้ บั ว่านางทําไม่ถกู
อย่างน้อย ก็ไม่มีความจริงใจ
แต่ใครจะคิดว่าคนที่แสนจะยุ่งอย่างเขา ถึงกลับรูว้ า่ ท่ามกลางร้านค้ามากมายของตนมี
ขายห่วงเคาะประตูเช่นนีอ้ ยู่หนึ่งอัน!
อวีถ้ ัง อดจะอัศจรรย์ใจไม่ได้ เขาคงไม่ รูห้ รอกใช่ไหมว่า สิน ค้า ทุก ชิน้ ของสกุลเผยมี
อะไรบ้าง?
นี่ นี่เป็ นไปไม่ได้กระมัง?
เผยเยี่ยนเพิ่งค้นพบว่า คุณหนูอวีไ้ ม่เพียงมีดวงหน้าที่งดงาม แต่ดวงตาคู่นนั้ ยังพูดจา
อยู่ตลอดเวลาได้อีกด้วย มันไม่เคยสงบนิ่งเหมือนนํา้ เลย
มองดวงตาที่นางใช้จอ้ งเขา เขาไม่ตอ้ งใช้สมองก็รูแ้ ล้วว่านางกําลังคิดอะไรอยู่
เผยเยี่ยนอดจะยิม้ เย็นไม่ได้ เอ่ยสั่งสอนนางว่า “ใต้หล้าไม่มีกระดาษที่ห่อไฟได้ ในเมื่อ
เจ้ากล้าทําเรื่องเช่นนี ้ ก็ตอ้ งคิดแล้วว่าต้องถูกเปิ ดโปงสักวันหนึ่ง หากจะใช้คาํ พูดที่ว่าของขวัญ
แม้จะด้อยค่าแต่มากไปด้วยนํา้ ใจมายัดเยียดให้ผูอ้ ่ืน มิสไู้ ปคิดให้ดีว่าสมควรพูดจาเช่นไรใน
ตอนที่มอบของขวัญให้?”
อวีถ้ งั พยักหน้าคล้อยตาม
แต่เผยเยี่ยนเห็นท่าทางของนาง รูท้ นั ทีวา่ นางไม่เข้าใจสักนิดว่าตนกําลังพูดอะไร
เขาหยุดคิดเล็กน้อย แล้วเอ่ยเข้าประเด็นทันที “สิ่งใดล้วนมีคา่ ที่ความจริงใจทัง้ นัน้ หาก
เจ้าคิดว่าห่วงเคาะประตูน่าสนใจ ตอนที่มอบของขวัญให้ก็บอกผูอ้ ่นื เสียว่าสิ่งของนีห้ าได้มีราคา
ค่างวด แค่ดนู ่าสนุกเท่านัน้ แล้วใส่กล่องไม้ธรรมดามาก็พอ หากคิดว่าห่วงเคาะประตูนนั้ เป็ น
วัตถุโบราณ ตอนมอบของขวัญก็ตอ้ งเล่าประวัติความเป็ นมาออกมาด้วย แต่การทําอย่างขอไป
752

ทีเช่นเจ้าคือเอาของราคาสองตําลึงใส่ในกล่องผ้าไหมสิบตําลึง ทัง้ ยังซือ้ จากร้านของเจ้าตัวอีก


เจ้าคิดว่าใครจะชอบของขวัญเช่นนีก้ นั ?”
นี่กาํ ลังสอนนางว่าสมควรทําตัวเป็ นคนเช่นไรรึ?
อวีถ้ งั ตะลึงตะลาน ผ่านไปครึง่ วันถึงได้สติ
จริงๆ ด้วย นายท่านสามกําลังบอกนางว่าสมควรกระทําตัวเช่นไรอยู่!
อวีถ้ งั พลันตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ออก
มีคนอยู่หนึ่งประเภท เขามักจะสั่งสอนคนเมื่อคิดว่าคนผูน้ นั้ เป็ นคนกันเอง
ก็เหมือนครัง้ แรกที่นางเจอเผยเยี่ยน กระทั่งคําอธิบายจากนางเขายังไม่ยินดีจะฟั ง แต่
ตอนนี ้ เขากลับชีแ้ จงให้นางฟั งว่านางทําผิดไปตรงจุดใด
นี่นบั ว่าก้าวเดียวเหยียบถึงฟ้าจริงๆ!
ดูท่าความพยายามของนางจะเห็นผลเสียแล้ว
ใต้หล้านีย้ งั มีสิ่งใดทําให้คนรูส้ กึ ว่าการทุ่มเทมีความหมายมากกว่านีอ้ ีก?
อวีถ้ งั รูส้ กึ ว่ากรอบตาของตนรืน้ ชืน้ รีบเอ่ยความในใจออกไป “นายท่านสามสั่งสอนได้
ถูกต้อง ข้าจําใส่ใจไว้แล้ว ต่อไปจะไม่ทาํ ผิดซํา้ สองอีก” นางนึกไปถึงนิสยั ชอบเล่นแง่ของเขา จึง
รีบเอ่ยเสริมว่า “ข้าจะให้คนไปเรียกซวงเถากลับมาเดี๋ยวนี ้ ในร้านมีชาอะไรก็จะใช้ชานัน้ รับแขก
ท่านเองก็ไม่ใช่คนเรื่องมากอยู่แล้ว ส่วนเรื่องอาหารมังสวิรตั ิ อย่างไรก็คงต้องให้คนส่งไปที่จวน
ท่าน แต่จะสั่งอาหารชัน้ ยอดของหอสุราให้อย่างแน่นอน”
นับว่าเขาไม่เปลืองนํา้ ลายไปเปล่าๆ
สีหน้าของเผยเยี่ยนเริม่ ดีขนึ ้ มาหน่อย
อวีถ้ งั ถอนหายใจ แล้วเริม่ ปวดใจกับเงินที่ตอ้ งจ่ายค่าอาหารมังสวิรตั ิ
753

คงสักประมาณห้าถึงหกสิบตําลึงถึงจะซือ้ ได้กระมัง
อีกอย่างอาหารมังสวิรตั ิยงั แพงกว่าอาหารจัดเลีย้ งเสียอีก
หรือว่าเงินทองไม่อาจประหยัดได้สกั หน่อยหรือ?
เขามิใช่ตอ้ งรักษาหน้าตา? ทัง้ ยังต้องรักษาภาพลักษณ์สง่างามอีกด้วย?
อวีถ้ ังพลันคิดออกหนึ่งวิธี เพื่อเงินทองในบ้าน นางจึงตัดสินใจเอ่ยไปทันที “นายท่าน
สาม ท่านว่าข้าเปลี่ยนอาหารมังสวิรตั ิจากหอสุราข้างๆ เป็ นอาหารมังสวิรตั ิจากวัดเจาหมิงหรือ
อารามอื่นๆ ดีหรือไม่?”
เช่นนีภ้ าพลักษณ์สงู พอแล้วหรือไม่?
อีกอย่างหากพ่อครัวในวัดรูว้ า่ นี่เป็ นอาหารที่จะส่งให้สกุลเผย ย่อมจะทําสุดฝี มือโดยไม่
สนใจเงินทอง…เพราะหากเก็บเงินมากเกินไป แล้วจะขอบิณฑบาตค่าธูปเทียนกับสกุลเผยได้
เช่นไรเล่า? อย่างไรวัดก็ตอ้ งรักษาภาพของความเรียบง่ายสมถะเอาไว้อยู่
เผยเยี่ ย นมองดวงตาของอวี ถ้ ัง ที่ ก ระจ่ า งดั่ง นํา้ ใสและมี ป ระกายเจ้า เล่ห แ์ วบผ่ า น
อารมณ์คอ่ ยเบิกบานขึน้
เด็กน้อยนับว่ายังสอนสั่งได้อยู่!
คุณหนูผนู้ ี ้ จะว่าฉลาดก็ฉลาดอยู่หรอก เสียดายที่เกิดในครอบครัวธรรมดาสามัญอย่าง
สกุลอวี ้ บิดามารดาไม่ได้มีวิชาความรู ้ สอนสั่งอะไรนางไม่ได้ คล้ายเป็ นไข่มกุ ที่ฝนุ่ จับ
“เอาสิ!” เผยเยี่ยนรูส้ กึ ว่าตัวเองแต่ไรก็เป็ นคนอยู่กบั ความเป็ นจริง ดีก็คือดี เลวก็คือเลว
ในเมื่อคุณหนูอวีค้ ิดวิธีท่ีทงั้ มัธยัสถ์และสง่างามออกมาได้ เขาย่อมจะเห็นด้วยอยู่แล้ว
นางบอกแล้วอย่างไรว่าเผยเยี่ยนผูน้ ี ้ มักวางท่าว่าเป็ นคนเรียบง่ายสามัญ แต่ตัวตน
กลับชื่นชอบความหรูหราฟุ้งเฟ้อ แต่ไม่วา่ จะหรูหราฟุ้งเฟ้อเพียงใด ภายนอกต้องดูเรียบง่ายและ
สามัญเท่านัน้
754

อวีถ้ งั รูส้ กึ ว่านางได้ทาํ ความรูจ้ กั กับเผยเยี่ยนมากขึน้ อีกขัน้ ในใจของนางเริ่มมีเขาขยับ


เข้ามาใกล้ขนึ ้ ทุกที
นางรีบตามหาเด็กในร้านที่เคยรับใช้อยู่ในห้องบัญชี บอกให้เขาไปตามซวงเถากลับมา
แล้วไปหาป้าสะใภ้ท่ีคอยดูแลโรงงานและโกดังอยู่ดา้ นหลัง ขอให้นางส่งคนไปจัดการเรื่อง
อาหารมังสวิรตั ิท่ีวดั เจาหมิง ทัง้ กระซิบบอกกับป้าสะใภ้ว่า “ต้องให้ผอู้ ่ืนรับรู ด้ ว้ ยว่านี่เป็ นสิ่งที่
สกุลอวีแ้ สดงความเคารพต่อสกุลเผยนะเจ้าคะ”
นี่มิใช่เป็ นการประกาศให้ใต้หล้ารับรูว้ า่ สกุลเผยให้ทา้ ยสกุลนางอยู่หรือ?
นับเป็ นผลดีรอ้ ยประการต่อสกุลอวีโ้ ดยแท้
ป้าสะใภ้มีหรือจะไม่ตอบตกลง
“ข้ารู แ้ ล้ว” หวังซื่อรับปาก “เจ้าวางใจได้ เรื่องนีข้ า้ รูว้ ่าควรทําอย่างไร จะต้องออกมาดี
แน่”
ทว่าอวีถ้ งั ยังเป็ นห่วงอยู่บา้ ง รีบเอ่ยว่า “มากหรือน้อยเกินไปล้วนไม่งามนะเจ้าคะ”
“รูแ้ ล้ว รู แ้ ล้ว” ท่านป้าสะใภ้หนั มาหัวเราะให้นาง “จะไม่ให้คนนินทาว่าสกุลอวีข้ องเรา
ประจบสอพลอสกุลเผยเด็ดขาด”
อวีถ้ งั เม้มปากหัวเราะ
755

บทที่ 94 พอใจ
รอจนอวีห้ ย่วนกับอวีเ้ หวินที่รอส่งคนของสกุลเซียงตามมาถึง เผยเยี่ยนก็กลับไปแล้ว
อวีป้ ๋ อกําลังชักชวนพวกนายท่านอู๋ เหล่าคหบดีและพวกเถ้าแก่ไปดื่มฉลองวันเปิ ดร้านที่หอสุรา
พอเห็นอวีเ้ หวินกับอวีห้ ย่วนในสายตา อวีป้ ๋ อพลันหุบยิม้ ไม่อยู่แล้วลากน้องชายที่กาํ ลังจะเข้าไป
ทักทายนายท่านอู๋ออกมาอีกทาง แล้วเอ่ยเสียงเบาว่า “อาถังของเจ้ายอดเยี่ยมเป็ นที่สดุ วันนีท้ ่ี
นายท่ามสามมาร่วมงาน หากไม่ได้นางคงต้องเกิดเรื่องแน่ๆ”
พอได้ฟังก็คล้ายว่าอวีถ้ งั สร้างคุณงามความดีบางอย่างเอาไว้
อวีเ้ หวินหัวเราะขึน้ มาทันที ถามด้วยความสนใจว่า “ท่านเล่ามาเร็วเข้า เกิดเรื่องอะไร
ขึน้ บ้าง?”
อวีป้ ๋ อเล่าเรื่องที่อวีถ้ ังเป็ นคนดูแลรับรองเผยเยี่ยน เรื่องที่นางสั่งอาหารมังสวิรตั ิหนึ่ง
โต๊ะไปส่งที่จวนสกุลเผยอย่างใส่ใจให้อวีเ้ หวินฟั ง สุดท้ายยังเอ่ยอย่างทอดถอนใจว่า “เหตุใด
ตอนนัน้ ข้าจึงคิดไม่ถึงนะ สิ่งที่อวีถ้ งั ส่งไปนัน้ ยังเป็ นอาหารมังสวิรตั ิจากวัดเจาหมิงอีกต่างหาก!”
จากวัดเจาหมิงถึงเมืองหลินอันต้องใช้เวลาประมาณครึง่ วันได้ หากเป็ นคนทั่วๆ ไปพวก
เขาคงไม่ยอมมาส่งแน่ แต่ครัง้ นีไ้ ด้รบั ใบสั่งอาหารจากสกุลอวี ้ และเพราะสกุลอวีต้ อ้ งการส่ง
อาหารมังสวิรตั ิให้สกุลเผย เรื่องต้อนรับขับสูท้ ่ีครึกโครมเช่นนี ้ ไม่ตอ้ งรอถึงวันรุง่ ขึน้ ทุกคนก็จะรู ้
กันทั่วแล้วว่า เผยเยี่ยนมาแสดงความยินดีกบั การเปิ ดร้านใหม่ของสกุลอวีด้ ว้ ยตนเอง เพื่อที่จะ
ขอบคุณเผยเยี่ยน สกุลอวีถ้ ึงกับสั่งอาหารมังสวิรตั ิไปส่งให้จวนสกุลเผยเป็ นพิเศษ
อวีเ้ หวินสีหน้าแช่มชื่น รู ส้ ึกเสียดายที่บุตรสาวของตนเองเป็ นสตรี ไม่เช่นนั้นต้องมี
อนาคตไกลกว่าอวีห้ ย่วนเป็ นแน่ แต่ความคิดนีเ้ ขาพูดออกไปไม่ได้ ไม่เช่นนัน้ เหมือนจะบอกว่า
พี่ชายของเขาไม่ได้ส่งั สอนบุตรชายให้ดี เขาจึงได้แต่ลาํ พองใจเงียบๆ ปากก็เอ่ยถ่อมตัวว่า “หา
มิได้ หามิได้ ล้วนเป็ นท่านพี่กบั อาหย่วนที่ส่ งั สอนนาง ไม่อย่างนัน้ แม่นางน้อยเช่นนาง ใครจะ
เชื่อคํานางกันเล่า!”
756

อวีป้ ๋ อกลับไม่ได้คิดมากเพียงนั้น เมื่อน้องชายถ่อมตัว เขาก็ตอ้ งกล่าววาจาเกรงใจ


หลายประโยค สองพี่นอ้ งต่างผลัดคํานับให้กนั สลับกันคุยโว พอเห็นว่าแขกเหรื่อที่มาร่วมแสดง
ความยินดีเดินตามซย่าผิงกุย้ ไปที่หอสุราหมดแล้ว ถึงได้พกั บทสนทนาไว้เท่านัน้ ก่อนพากันไป
ต้อนรับแขกต่อ
อวีห้ ย่วนนัน้ เดินตามหลังบิดากับท่านอาอยู่เงียบๆ นึกถึงคําที่คนสกุลเซียงทิง้ เอาไว้
วันแต่งงานของเขากับแม่นางเซียงถูกกําหนดไว้แล้ว ฟั งจากที่สกุลเซียงพูด บัดนีค้ น
ฟู่ หยางต่างลือกันว่านายหญิงเซียงข่มเหงลูกเลีย้ ง นายหญิงเซียงจึงบันดาลโทสะ แต่ท่านแม่
เฒ่าเซียงทางนัน้ คิดว่างานแต่งจะต้องจัดให้ใหญ่โต ให้ทกุ คนเห็นว่าสกุลเซียงให้ความสําคัญ
กับแม่นางเซียงผูน้ ี ้ สกุลอวีเ้ ป็ นเพียงสกุลเล็กๆ พวกเนือ้ เป็ ดไก่ปลาต่างๆ ที่งานแต่งต้องใช้ ล้วน
มีพวกเขาสกุลเซียงเป็ นคนรับผิดชอบ สกุลอวีแ้ ค่อยู่เฉยๆ รอถึงวันแต่งงานก็พอ
ตอนที่คยุ กันเรือ่ งนีห้ วังซื่อไม่อยู่ดว้ ย อวีเ้ หวินกับเฉินซื่อก็ตดั สินใจลําบาก อวีห้ ย่วนเป็ น
เด็กรุ น่ หลัง ไม่กล้าสอดปากพูดเรื่อยเปื่ อย ทุกคนจึงส่งคนสกุลเซียงกลับไปอย่างคลุมเครือ แต่
คนสกุลเซียงก็พดู ความต้องการไว้ชดั เจนแล้ว รอให้ว่นุ วายเรื่องร้านค้าจบก่อน พอกลับถึงเรือน
บิดากับท่านอาคงต้องหารือว่าจะทําอย่างไรกับเรื่องนี ้
เกี่ยวกับแม่นางเซียงนัน้ เขารูส้ กึ เห็นใจนางมาก
เกิดมาในครอบครัวเช่นนัน้ ไม่ยินยอมแต่ก็ไม่อาจขัด ดังนัน้ แม้ความต้องการที่สกุลเซีย
งยกมาพูดจะดูหมิ่นคน แต่อวีห้ ย่วนก็ไม่อยากทําให้แม่นางเซียงต้องลําบากใจ
เขามีความกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับสกุลของฝ่ ายหญิง กลัวว่าต่อไปจะมีเรื่องให้ผิดใจกัน
อีก
ทว่า เขาไม่คิดจะทําตามความต้องการของสกุลเซียงทัง้ หมด เพื่อไม่ให้สกุลเซียงคิดว่า
สกุลอวีส้ ามารถรังแกได้ง่ายๆ มีเรื่องใดก็ขอให้ทาํ อย่างโน้นทําอย่างนี ้ แต่มีวิธีไหนบ้างที่จะไม่
ทํา ให้แม่น างเซีย งต้องตกอยู่ในที่น่ ังลํา บากทั้งสามารถรัก ษาหน้าตาของสกุลอวี ไ้ ว้ได้ดว้ ย
อวีห้ ย่วนยังคิดแผนรับมือที่จะได้ประโยชน์ทงั้ สองทางไม่ออกเลย
757

เมื่อครูไ่ ด้ยินคําของบิดา เขาพลันอยากไปหาอวีถ้ งั เพื่อขอความเห็นดูสกั หน่อย


ไม่ว่าจะพูดอย่างไร อวีถ้ ังก็เป็ นเด็กสาวที่ดี เด็กสาวที่ดีมกั เชี่ยวชาญเรื่องการจัดการ
ภายในเรือน ขนาดนายท่านสามนางยังรับมือได้ ย่อมสะสางเรื่องของสกุลเซียงได้เช่นกัน
อวีห้ ย่วนคิดได้ดงั นัน้ พลันมีกาํ ลังใจฮึดสูท้ นั ที
กระทั่งงานเลีย้ งที่หอสุราเลิกราแล้ว เขาจึงไปจ่ายเงินค่าอาหาร จากนัน้ ก็หาข้ออ้างหนี
กลับไปที่รา้ นค้า
อวีถ้ งั ยังไม่กลับเรือน เฉินซื่อตามมาสมทบ รวมทัง้ หวังซื่อ ทัง้ สามนั่งล้อมวงสนทนากัน
ตรงโต๊ะหนังสือเล็กๆ ในห้องบัญชี พอเห็นอวีห้ ย่วนเข้ามา พวกนางก็ชะงักอย่างพร้อมเพรียงกัน
หวัง ซื่อถึงกับเผยรอยยิม้ แข็งทื่อออกมาขณะพูดกับเขา “เจ้า กลับมาแล้วรึ! หอสุราทางนั้น
เรียบร้อยดีหรือไม่? บิดาเจ้าดื่มมากเกินไปหรือเปล่า? แล้วทําไมเจ้าไม่กลับมาพร้อมกับบิดา
และท่านอาของเจ้าล่ะ?”
อวีห้ ย่วนไตร่ตรองดู จากนัน้ ก็ไม่คิดอ้อมค้อม เอ่ยถามตรงไปตรงมาว่า “ท่านแม่ ท่าน
น้าสะใภ้ พวกท่านกําลังคุยเรื่องข้ากับสกุลเซียงกันกระมัง?”
หวั ง ซื่ อ กั บ เฉิ น ซื่ อ แลกเปลี่ ย นสายตากั น ลองตรึก ตรองดู แ ล้ว รู ้สึ ก ว่ า ไม่ มี ค วาม
จําเป็ นต้องปิ ดบังอวีห้ ย่วน หวังซื่อถึงได้พดู ว่า “ใช่ ข้ากับน้าสะใภ้เจ้ากําลังคุยเรื่องงานแต่งของ
เจ้ากับแม่นางเซียงอยู่ สกุลเซียงนีช้ ่างมากเรื่องเหลือเกิน ทําเอาข้ารับปากก็ไม่ได้ ปฏิเสธก็ไม่ดี
เมื่อครูน่ า้ สะใภ้เจ้าเพิ่งพูดว่า นี่เป็ นงานแต่งของเจ้า ขอเพียงเจ้ายินยอม เรื่องอื่นล้วนเป็ นเรื่อง
รองทัง้ สิน้ สกุลเซียงต้องการอย่างไร พวกเราก็แค่ทาํ ตามนัน้ ก็พอแล้ว”
พูดกันไปพูดกันมา ปั ญหาทัง้ หมดเกิดจากเงินทองนี่เอง
758

หากมิใช่ไม่มีเงิน บุตรสาวออกเรือนต้องเงยหน้า บุตรชายแต่งสะใภ้ตอ้ งก้มหัว 1 ไม่ว่า 156

สกุลเซียงจะเรียกร้องสิ่งใด สกุลอวีแ้ ค่รบั ปากตกลงไปก็พอ


อวีถ้ ังนั่งก้มหน้าอยู่ขา้ งๆ ฟั งพวกผูใ้ หญ่คุยกัน ในใจกําลังสงสัยว่าไม่รูน้ ายท่านสาม
วางแผนจะจัดงานประมูลประมาณช่วงไหน จะหาเงินได้ก่อนที่ญาติผูพ้ ่ีของนางจะแต่งงาน
หรือไม่? หากว่าไม่มีเงิน สามารถเอาของเก่าโบราณในบ้านไปจํานําก่อนได้หรือเปล่า?
ใครจะคิดว่าพออวีห้ ย่วนได้ฟังก็หนั ไปหาอวีถ้ งั “เจ้าคิดอย่างไร? สกุลเราควรทําเช่นไร
ดี?”
เฉินซื่อกับหวังซื่อได้แต่อา้ ปากค้าง
อวีถ้ งั ก็ตกใจตัง้ ตัวไม่ติด
อวีห้ ย่วนจึงได้แต่เสริมว่า “ข้าได้ยินมาจากท่านพ่อ บอกว่าตอนที่นายท่านสามมาถึง
โชคดีท่ีเจ้ามีไหวพริบปรับตัวไว เรื่องของสกุลเซียง เจ้าก็ช่วยข้าออกความเห็นหน่อยเป็ นไร?”
ฟั งจากนํา้ เสียง อวีห้ ย่วนยังคิดจะปกป้องแม่นางเซียงเอาไว้ เพียงแค่ไม่พอใจคนสกุล
เซียงก็เท่านัน้
อวีถ้ งั ถอนหายใจเฮือก
เช่นนีก้ ็ดีแล้ว
นางกลัวมากว่าญาติผพู้ ่ีกบั แม่นางเซียงจะเกิดผิดใจกันก่อนวันแต่งงาน ส่งผลกระทบ
ต่อความสัมพันธ์ของคูส่ ามีภรรยา
เรื่องนีไ้ ม่วา่ อย่างไรนางต้องช่วยอยู่แล้ว!

1
บุตรสาวออกเรือนต้องเงยหน้า บุตรชายแต่งสะใภ้ตอ้ งก้มหัว เป็ นคําโบราณ หมายถึงบุตรสาวเวลาแต่งออกต้องเลือก
สกุลของผูช้ ายที่คณ
ุ สมบัติหรือฐานะสูงกว่า ส่วนเวลาผูช้ ายจะแต่งภรรยาเข้าบ้านนัน้ ก็ตอ้ งเลือกหญิงที่มีคณ
ุ สมบัติและ
ฐานะตํ่าว่าเช่นกัน
759

สมองของอวีถ้ งั หมุนแล่นอย่างว่องไว นางเอ่ยว่า “สกุลเซียงพูดเพียงว่างานแต่งต้อง


ใหญ่ โ ต แต่ ง านแต่ ง ใหญ่ โ ตไม่ ไ ด้ห มายความว่ า ต้อ งใช้เ งิ น มากเสี ย หน่ อ ย! อาจหมายถึ ง
มาตรฐานที่สงู ส่ง อย่างเช่นว่า เชิญคนที่มีหน้ามีตาในเมืองหลินอันมาดื่มสุรามงคลด้วย…”
เช่นนีแ้ ล้ว งานเลีย้ งก็ไม่จาํ เป็ นต้องเชิญคนมาก ผูอ้ ่ืนที่เอาไปพูดก็ฟังดูมีหน้ามีตาอีก
ด้วย
สิ่งที่สกุลเซียงต้องการมิใช่หน้าตานีห้ รอกรึ?
สายตาของอวีห้ ย่วนและคนอื่นๆ ต่างเปล่งแสงวิบวับ ร้องออกมาเสียงเดียวกันว่า “เป็ น
ความคิดที่ดี”
หวังซื่อพูดขึน้ ว่า “หากเชิญนายท่านสามมาได้ย่อมจะดีท่ีสดุ แล้ว”
อวีถ้ งั เหงื่อตก “นายท่านสามยังไว้ทกุ ข์อยู่เลยเจ้าค่ะ งานเปิ ดร้านของเราเขาก็มาครัง้
หนึ่งแล้ว ข้าว่างานแต่งของญาติผพู้ ่ีก็อย่ารบกวนเขาเลย!”
ตํ่าต้อยเกินไปจึงไม่กล้าอาจเอือ้ ม หลักเหตุผลเดียวกัน ฐานะของสกุลนางกับสกุลเผย
ต่างกันลิบลับ ถึงแม้เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานไปขอความช่วยเหลือจากเขาก็เถอะ แต่ให้ไปมาหาสู่
ออกงานเลีย้ งร่วมกันคิดว่าคงไม่ตอ้ งกระมัง
หวังซื่อพยักหน้าเห็นด้วย คิดว่าอวีถ้ งั พูดมีเหตุผล จากนัน้ ก็หนั ไปปรึกษาเรื่องรายชื่อ
แขกกับอวีห้ ย่วน
เพราะสกุลอวีม้ ีคนน้อย ที่ไปมาหาสู่กันบ่อยหน่อยก็คงเป็ นเพื่อนบ้านในตรอกชิงจู๋
อย่างมากก็น่ งั กันสักเจ็ดแปดโต๊ะได้ บวกกับพวกเล่าเรียนวิชาในเมืองหลินอัน ก็คงไม่เกินยี่สิบ
โต๊ะแน่ หากทําเช่นนีป้ ั ญหาต่างๆ นับว่าแก้ไขได้หมดแล้ว
เพื่อนบ้านคุยกันง่าย แต่พวกคหบดีกบั ผูเ้ ล่าเรียนวิชา อาจต้องให้อวีเ้ หวินออกหน้าเชิญ
เอง
760

อวีถ้ งั ไม่ได้ไปฝนหมึกรอตัง้ แต่แรก กลับปรึกษาหวังซื่อและเฉินซื่อว่า “ฐานะของญาติผู้


พี่ จําเป็ นต้องเลื่อนให้สงู ขึน้ หรือไม่เจ้าคะ?”
หากยกให้อวีห้ ย่วนเป็ นผูส้ ืบทอดเพียงคนเดียวของสกุลอวี ้ แบกรับทัง้ สองบ้านไว้บนบ่า
เมื่ออวีห้ ย่วนแต่งงาน อวีเ้ หวินก็นบั เป็ นหนึ่งในพ่อสามีเช่นกัน สหายของอวีเ้ หวินย่อมต้องมา
ร่วมงานแน่ แต่หากทําเช่นนี ้ อนาคตของอวีถ้ งั ก็จะเป็ นแต่งออกมิใช่เขยชายแต่งเข้าแล้ว วิธีนีม้ ี
ทัง้ ข้อดีและข้อเสีย
หวังซื่อไม่รอให้เฉินซื่อเปิ ดปากก็เปล่งเสียงว่า “เรื่องนีไ้ ม่ตอ้ งปรึกษาท่านลุงใหญ่และ
บิดาเจ้าหรอก ก็แค่บอกว่าหลานชายแต่งงาน ไม่อาจพูดให้มดั ตัวเกินไป อย่าให้งานแต่งของอา
ถังต้องมีการเปลี่ยนแปลงอีกเลย”
ในสายตาของหวังซื่อ งานแต่งของอวีถ้ งั พูดเอาไว้แล้วว่าจะแต่งเขยชายเข้าสกุล ซึ่งก็
เป็ นเรื่องที่ดี…หากสามารถหาเขยชายดีๆ แต่งเข้าสกุลได้ ย่อมไม่มีอะไรให้พดู มากอีก แต่ถา้
สองสามปี ผ่านไปแล้วยังไม่ได้เรื่อง ตอนนัน้ ค่อยให้อวีถ้ ังแต่งออกไปก็ยังไม่สาย ยังสามารถ
เลือกหาสกุลดีๆ ได้อยู่
เฉิ นซื่อย่อมคิดตรงกัน เกี่ยวกับเรื่องนีน้ างไม่ได้พูดออกมาตรงๆ ว่าเห็นด้วย อย่างไร
เรื่องราวเกี่ยวพันถึงความสุขชั่วชีวิตของบุตรสาว แม้นางจะรักอวีห้ ย่วนผูเ้ ป็ นหลาน แต่เทียบกับ
บุตรสาวในอุทรแล้ว นางย่อมจะรักบุตรสาวแท้ๆ มากกว่าหน่อย
หวังซื่อคิดแทนอวีถ้ งั เช่นนี ้ เฉินซื่อก็รบั นํา้ ใจของนางไว้
นางเอ่ยขึน้ ว่า “ทุกคนอย่างเพิ่งใจร้อน รอให้ฮ่ยุ หลี่กบั ท่านลุงใหญ่กลับมา พวกเราค่อย
หารือกันดีๆ ย่อมจะคิดหาทางออกได้แน่”
หวังซื่อพยักหน้ารับ คนสี่คนล้อมวงหารือกันอยู่ค่อนวัน ไม่ง่าย กว่าที่อวีป้ ๋ อและอวีเ้ หวิ
นจะกลับมาที่รา้ นค้าพร้อมพวกนายท่านอู๋ สองพี่นอ้ งดื่มเหล้าจนหน้าแดงเถือก พูดจาลิน้ แข็ง
อยู่บา้ ง เรื่องนีจ้ ึงไม่สะดวกจะคุยกันต่อ รอกระทั่งวันต่อมาที่สองพี่นอ้ งสกุลอวีส้ ร่างจากฤทธิ์
สุราแล้ว สองคนถึงได้เริม่ ต้นนั่งลงแล้วหารือเรื่องความต้องการของสกุลเซียงใหม่อีกครัง้
761

แน่นอนว่าอวีป้ ๋ อไม่เห็นด้วย
เขาโมโหไม่ เ บา “สกุล อวี ข้ องพวกเรามี ข้า วเท่ า ไรก็ กิ น แค่ เ ท่ า นั้น สกุล เซี ย งที่ ช อบ
ชื่อเสียงปลอมๆ เช่นนี ้ พวกเราคงไม่อาจเอือ้ ม”
อวีห้ ย่วนพลันหน้าซีดไปทันที
ญาติผพู้ ่ีคงกลัวว่างานแต่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือ?
อวีถ้ งั สัมผัสได้อีกครัง้ ถึงความใส่ใจที่อวีห้ ย่วนมีตอ่ งานแต่งในครัง้ นี ้
ในชาติก่อนนัน้ สกุลเกาก็เอ่ยข้อเรียกร้องที่ไม่ค่อยสูงนัก แต่อวีห้ ย่วนตอบกลับด้วย
ความเย็นชา สกุลเกายังไม่ทนั ได้แต่งเข้าสองบ้านก็เริ่มทะเลาะกันแล้ว อวีห้ ย่วนยังไม่เคยพูด
แทนสกุลเกาสักคํา มีแต่กม้ หน้านิ่งเท่านัน้
นี่เป็ นเพราะวาสนาของญาติผพู้ ่ีมาถึงแล้วหรือ?
อวีถ้ งั ยิม้ จนตาหยี แล้วยกจานส้มเข้าไปให้ท่านลุงใหญ่ นางส่งสายตาให้กบั อวีห้ ย่วน
แล้ว ทิ ง้ ให้พ วกผู้ใหญ่ ป รึก ษาหารือ กัน ไป ส่ว นตนก็ ไ ปยื น รับลมหนาวคุย กับ ญาติผู้พ่ี อยู่ใต้
ชายคา
“ท่านพี่ยังร้อนใจถึงเพียงนี ้ พี่สะใภ้คงไม่อาจสงบใจได้แน่” นางกําลังยุยงอวีห้ ย่วน
“ตอนนีน้ างยังต้องกลับไปอยู่ท่สี กุลเซียง ติดต่อกันลําบาก ท่านควรหาวิธีปลอบใจพี่สะใภ้หน่อย
ดีหรือไม่?”
อวีห้ ย่วนตอนแรกยังปากแข็งเล็กน้อย แต่พอเจอสายตายั่วเย้าของอวีถ้ งั ถึงได้ยอมแพ้
กระซิบเสียงเบาว่า “อย่างไร จะปลอบนางอย่างไรดี?”
อวีถ้ งั หัวเราะตอบว่า “ข้าจะทําดอกไม้ผา้ ให้พ่ีสะใภ้สกั หลายดอก ท่านก็ให้คนเอาไปส่ง
เถอะ”
อวีห้ ย่วนถามต่อว่า “แบบนีจ้ ะดีร?ึ ”
762

“ดีแน่นอน!” อวีถ้ งั ตอบ “น้องสามีมอบดอกไม้ผา้ ให้พ่ีสะใภ้ ใครยังจะพูดอะไรได้อีก?


แต่ถา้ จะให้ขา้ ทําดอกไม้ผา้ ให้พ่ีสะใภ้ ข้ามีขอ้ แลกเปลี่ยนนะเจ้าคะ”
อวีห้ ย่วนได้ยินก็แจกมะเหงกอวีถ้ งั ไปทีหนึ่ง “เจ้าเด็กคนนี ้ ทําดอกไม้ผา้ ให้พ่ีสะใภ้ยงั จะ
ต่อรองราคาอีก?”
อวีถ้ งั กุมศีรษะแล้วร้องโอดโอยว่าอวีห้ ย่วนมีพ่สี ะใภ้ก็ไม่ตอ้ งการน้องสาวแล้ว ทําเอาอวี ้
หย่ ว นเขินอายจนหน้าแดง ขอร้องให้น างเบาเสีย งลง ทั้ง ยัง ต้องตกลงรับปากว่าตอนที่เขา
แต่งงานจะสั่งทํากําไลเงินห้าตําลึงมอบให้อวีถ้ งั นางถึงได้ยอมจบเรื่องสักที
หลังจากเรื่องล้อเล่นผ่านไปแล้ว อวีถ้ ังก็เข้าเรื่องสําคัญด้วยสีหน้าจริงจังเคร่งเครียด
“ข้าต้องการไปหังโจวสักครัง้ ท่านพี่ไปเป็ นเพื่อนข้าหน่อยเถอะ”
763

บทที่ 95 บอกกล่าว
ไปหังโจว!
อวีห้ ย่วนตกตะลึง
อวีถ้ งั มองเข้าไปภายในห้อง
ภายใต้แสงไฟที่รบิ หรี่ พวกผูใ้ หญ่ไม่ก่ีคนกําลังพูดคุยกันอย่างคึกคัก
เวลานีน้ างจึงลดเสียงลงหลายส่วน “ก่อนหน้านีข้ า้ เคยพูดไปแล้วไม่ใช่ร?ึ ไม่อาจปล่อย
สกุลหลี่ไปง่ายๆ เช่นนีไ้ ด้ ข้าอยากไปหังโจว ทําความรู จ้ ักกับคุณหนูใหญ่บา้ นรองสกุลกูผ้ นู้ นั้
เสียหน่อย”
“เจ้าหมายถึงคูห่ มัน้ ของหลี่ตวน?” อวีห้ ย่วนหน้าเปลี่ยนสี
อวีถ้ งั พยักหน้า
“ไม่ ได้!” อวีห้ ย่ว นเอ่ย ทัน ที “ลูก ผู้ช ายล้า งแค้น สิบปี ก็ ไม่สาย เรื่องของสกุลหลี่ ข้า
ย่อมจะจัดการให้เจ้า แต่เจ้าไม่อาจเข้าไปเกี่ยวข้องอีกแล้ว”
น้องสาวของเขา ดีถึงเพียงนี ้
เหตุใดต้องมาแบกรับเรื่องการตายของเว่ยเสี่ยวซานไปตลอดชีวิตเพราะหลี่ตวนคน
ระยําผูน้ นั้ ด้วย
เรื่องร้ายเช่นนี ้ หากมีใครต้องแบกรับ ก็ควรเป็ นเขาที่เป็ นพี่ชาย
อาถังต้องแต่งงานมีลกู หลาน ใช้ชีวิตด้วยความสงบสุข
“ท่านพี่ ข้ารู ว้ ่าท่านเป็ นห่วงข้า” อวีถ้ ังคิดเอาใจเขามาใส่ใจเรา ชาติก่อน นางก็หวัง
ให้อวีห้ ย่วนสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเช่นกัน ดังนัน้ จึงได้แต่งเข้าสกุลหลี่ไป “แต่บางเรื่อง
764

หากข้าไม่ทาํ ด้วยตัวเอง ก็ย่อมไม่อาจสงบสุขได้ช่ วั ชีวิต ยิ่งไปกว่านัน้ บางเรื่องกลับไม่ได้เป็ น


อย่างที่ท่านคิด”
อวีห้ ย่วนเอ่ยอย่างงุนงง “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
อวีถ้ งั นิ่งเงียบ
กูซ้ ี เป็ นหญิงสาวที่งดงามคนหนึ่ง ไม่เพียงรูปลักษณ์ท่ีไม่เป็ นรองใคร กิรยิ ายังงามสูงส่ง
เป็ นประเภทที่ยืนอยู่ท่ามกลางผูค้ นก็สามารถดึงดูดสายตาได้ทนั ที
ยามที่นางเพิ่งแต่งเข้ามา กูซ้ ีก็ไม่ได้ช่ืนชมนางเท่าใดนัก
เหตุเพราะกูซ้ ีคิดว่าสกุลที่ให้ลกู สาวตัวเองแต่งกับคนตาย หากไม่ละโมบโลภมากในเงิน
ก็ ย่ อมกระหายในชื่ อเสีย งลาภยศของสกุลหลี่ คิดว่า การสั่ง สอนของสกุลอวี ไ้ ม่ ถูก ต้อง แต่
ภายหลัง การวางตัวและกระทําเรื่องของอวีถ้ งั ก็คอ่ ยน่านับถือขึน้ เรื่อยๆ นางจึงมีสีหน้าที่ดีกบั อวี ้
ถัง บางครัง้ ที่ฮหู ยินหลี่สร้างความลําบากให้นาง กูซ้ ียงั เคยลอบช่วยเหลือนาง ทัง้ สองคนจึงเห็น
อกเห็นใจซึง่ กันและกัน
ภายหลังกูซ้ ีทราบเรื่องที่หลี่ตวนปรารถนาในตัวนาง กูซ้ ีเกลียดชังนางเป็ นอย่างยิ่ง หาก
ไม่ใช่ว่าทัง้ สองล้วนเป็ นสะใภ้ของสกุลหลี่ อวีถ้ งั ยังแบกชื่อหญิงครองพรหมจรรย์ ทัง้ สกุลหลี่ก็
คาดหวังให้นางได้ซุม้ เกียรติยศความซื่อสัตย์กลับมา มิเช่นนัน้ กูซ้ ีคงฆ่านางด้วยมือตัวเองไป
แล้ว
ต่อมา รู ว้ ่าหลี่ตวนไม่อาจปล่อยนางไปได้ ขอเพียงอวีถ้ ังยังอยู่ในสกุลหลี่ หลี่ตวนก็
สามารถทําเรื่องฉาวโฉ่น่าตกใจออกมา กระทบถึงอนาคตการเป็ นขุนนางไม่ว่า ยังอาจกระทบ
ถึงชื่อเสียงลูกชายทัง้ สองของกูซ้ ี กูซ้ ีจึงเริ่มเป่ าหูหลี่ตวนให้ไล่อวีถ้ ังออกจากสกุลหลี่ เมื่อเป็ น
เช่นนี ้ สกุลมารดาของอวีถ้ งั ย่อมไร้ทางช่วยเหลือ หลี่ตวนก็สามารถรับอวีถ้ งั เป็ นภรรยาลับได้
ด้วยเหตุนีห้ ลี่ตวนจึงเปลี่ยนแปลงมุมมองต่อกูซ้ ีใหม่ ความสัมพันธ์ของสามีภรรยาพลัน
ใกล้ชิดสนิทสนมขึน้ มาอย่างไม่เคยเป็ นมาก่อน
765

กูซ้ ีไร้ทางจะจัดการกับอวีถ้ งั ที่มีฐานะเป็ นน้องสะใภ้ ทว่ากลับสามารถจัดการอวีถ้ งั ที่อยู่


ในตําแหน่งภรรยาลับของหลี่ตวนได้
อวีถ้ งั ในชาติก่อน หลังจากทราบถึงแผนการของกูซ้ ี ความซาบซึง้ ใจที่เกิดจากเรื่องที่กซู้ ี
เคยลอบช่วยเหลือนาง ทัง้ ความอึดอัดใจที่เกิดจากหลี่ตวนปรารถนาต่อนางล้วนมลายหายไป
หมด
นางถึงกระทั่งสงสัยว่า การตายของลุงใหญ่และญาติผพู้ ่ีอาจจะเกี่ยวข้องกับแผนการนี ้
ของกูซ้ ีดว้ ยหรือไม่
ยามที่นางอยากออกจากสกุลหลี่ไปสืบสาเหตุการตายของลุงใหญ่และญาติผพู้ ่ี นางจึง
หลอกใช้กซู้ ีให้ช่วยเหลือนางอย่างไม่ลงั เลสักนิด
กล่าวได้วา่ ใต้หล้าแห่งนีอ้ วีถ้ งั เป็ นคนหนึ่งที่เข้าใจกูซ้ มี ากที่สดุ แล้ว
รักก็รกั จนลึกลงไปในเถ้าธุลี
เกลียดก็เกลียดจนฝังลึกในกระดูก
ชาติท่ีแล้ว กูซ้ ีเป็ นฝ่ ายลงมือจัดการนางก่อน ชาตินี ้ นางตัดสินใจจะเป็ นฝ่ ายเริม่ บ้าง
แน่นอนว่า เรื่องทุกอย่างล้วนมีดา้ นที่ดีและไม่ดีทงั้ นัน้ ก็ตอ้ งดูวา่ นางจะเลือกอย่างไร
บางทีนางชิงลงมือก่อน อาจจะนับว่ามอบโอกาสให้กซู้ ีครัง้ หนึ่งก็ได้
อวีถ้ งั ลอบยิม้ อย่างเยียบเย็น
อวีห้ ย่วนเห็นแล้วรูส้ กึ หวาดหวั่นในใจ
ไฉนเขาจึงรูส้ กึ ว่าน้องสาวตัวเองยิม้ คล้ายจะไปทําเรื่องไม่ดี มีความคิดชั่วร้ายแฝงอยู่ใน
ใจเสียอย่างนัน้ ?
“เจ้า เจ้าจะทําอะไร?” เขาเอ่ยละลํ่าละลัก “เจ้าห้ามทําอะไรส่งเดชเชียว! มิเช่นนั้น
นอกจากข้าจะไม่พาเจ้าไปหังโจวแล้ว ยังจะรายงานเรื่องนีก้ บั ท่านอาด้วย”
766

อวีห้ ย่วนข่มขู่อวีถ้ งั ได้ไม่นา่ กลัวสักนิด


อวีถ้ งั หัวเราะร่า
พี่ชายซื่อบือ้ ของนางผูน้ ี ้ มักจะปกป้องเข้าข้างนางอยู่ตลอด
“ข้าเข้าใจแล้ว” อวีถ้ งั ยิม้ จนแทบไม่เห็นดวงตา “ข้าไม่อาจทําเรื่องโง่ๆ อยู่แล้ว ข้าเพียง
อยากบอกเรื่องที่สกุลหลี่ทาํ ให้คนสกุลกูร้ บั รู ้ ให้คณ
ุ หนูกทู้ ราบว่าหลี่ตวนเป็ นคนเช่นไร”
อวีห้ ย่วนได้ยินเช่นนัน้ ชั่วพริบตาก็คล้ายยกภูเขาออกจากอก “ใช่แล้ว! หลี่ตวนผูน้ นั้
ไม่ใช่คนดิบดีอะไร หากสกุลกูท้ ราบเรื่องที่สกุลหลี่ทาํ ย่อมถอนหมัน้ เป็ นแน่ เจ้าทําเช่นนีก้ ็นบั ว่า
ช่วยเหลือคุณหนูกไู้ ปด้วย” เขาพูดจบก็เอ่ยอย่างลังเล “หรือจะรอผ่านฉลองปี ใหม่ก่อนแล้วค่อย
ไป?”
อวีถ้ ังชะงักไป คล้อยหลังก็เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ยามที่สกุลหลี่ลกั พาตัวข้า ยังไม่
สนใจว่าสกุลพวกเรากําลังเซ่นไหว้บรรพบุรุษ? ไฉนพวกเราต้องใส่ใจด้วยว่าสกุลพวกเขาจะ
ฉลองปี ใหม่หรือไม่?”
“ก็ได้!” อวีห้ ย่วนเอ่ย
อวีถ้ งั แค่นเสียงในลําคอ
หากสกุลกูแ้ ละสกุลหลี่สามารถถอนหมัน้ เช่นนีไ้ ด้ ย่อมเป็ นโชคดีของกูซ้ ี กลัวก็แต่ว่า
สกุลกูจ้ ะไม่คิดว่าเรื่องนีเ้ ป็ นเรื่องใหญ่แต่อย่างใด
แต่อาศัยจากความเข้าใจที่นางมีตอ่ กูซ้ ี หลังจากกูซ้ ีทราบว่าหลี่ตวนทําเรื่องอะไรไปบ้าง
ย่อมจะดูแคลนสกุลหลี่ ดูแคลนหลี่ตวน
โดยเฉพาะเรื่องที่สกุลหลี่สรรหากลอุบายมาใช้มากมาย สุดท้ายกลับประสบกับความ
ล้มเหลว
767

เช่นนัน้ หากกูซ้ ีแต่งเข้ามา ยังจะสามารถโอนอ่อนผ่อนปรนให้สามีท่ีนับถือตัวเอง ทัง้


สกุลหลินที่ปฏิบตั ิตวั ดีกบั นางหรือไม่?
อวีถ้ งั อยากรูเ้ ป็ นอย่างมาก
“เช่นนัน้ ท่านจะไปเมืองหังโจวเป็ นเพื่อนข้าได้หรือไม่?” นางดึงแขนเสือ้ อวีห้ ย่วน “หาก
ท่านไปหังโจวเป็ นเพื่อนข้า ข้าจะทําดอกบัวแฝดสีชมพูประดับผมให้พ่ีสะใภ้ รับรองว่านางสวม
ออกไปไหนย่อมงามไม่มีใครเทียบได้”
อวีห้ ย่วนใจคล้อยตามทันที
เขาครุน่ คิดเล็กน้อย “ทําผีเสือ้ คูห่ นึ่งอยู่บนดอกบัวแฝดด้วยได้หรือไม่”
อวีห้ ย่วนเคยเห็นดอกไม้ผา้ ที่อวีถ้ ังทํา พวกแมลงนกนัน้ ทําได้ประณีตงดงามอย่างยิ่ง
เป็ นสิ่งที่คนอื่นไม่อาจทําได้
อวีถ้ ังชื่นชอบอวีห้ ย่วนที่เป็ นเช่นนีอ้ ย่างยิ่ง รู จ้ ักไล่ตาม รู จ้ ักความรัก แต่นางยังคงอด
หยอกล้อพี่ชายไม่ได้ “พี่สะใภ้ยังไม่ทันได้แต่งเข้ามา ท่านก็เริ่มรังแกน้องสาวเสียแล้ว ท่านรู ้
หรือไม่ แมลงเอยนกพวกนัน้ เอย ล้วนใช้เวลาในการทํามากกว่าดอกไม้ผา้ ทั่วไปอย่างมากวัน
สองวันก็ทาํ เสร็จแล้ว แต่หากเติมพวกแมลงดอกไม้ก็ตอ้ งใช้ถงึ สี่หา้ วัน ท่านไม่กลัวว่าข้าจะหน้า
มืดตาลายหรือไร?”
“ข้า ข้าไม่ได้หมายความเช่นนัน้ !” อวีห้ ย่วนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ก็ยงั อยากให้อวี ้
ถังช่วยทําดอกไม้ผา้ ประดับผีเสือ้ ให้คุณหนูเซียงที่สดุ ทําได้เพียงเอ่ย “น้องสาวคนดี รอยามที่
เจ้าแต่งงาน ข้าจะให้พ่ีสะใภ้เจ้าช่วยทํารองเท้าให้เจ้าดีหรือไม่”
“ยามที่ขา้ แต่งงานไม่ทาํ รองเท้าเองหรอก!” อวีถ้ งั เอ่ยอย่างเย่อหยิ่ง “ข้าจะให้ท่านพ่อสั่ง
ทําจากร้านตัดผ้าโดยตรง”
อวีห้ ย่วนอับจนหนทาง ลุกลีล้ กุ ลนขึน้ มา
อวีถ้ งั หัวเราะลั่น “เช่นนัน้ ท่านจะไปหังโจวเป็ นเพื่อนข้าหรือไม่?”
768

“ไปๆ” อวีห้ ย่วนตอบทันควัน


“เช่นนัน้ ท่านก็หาข้ออ้างให้พวกเราไปหังโจวด้วย” อวีถ้ งั ยังคงกดขี่เขาต่อ
เห็นท่าทีของอวีห้ ย่วน รอจนเขาแต่งงานแล้ว เขาย่อมใกล้ชิดสนิทสนมกับภรรยาและ
ลูกๆ เป็ นที่สดุ แน่ นางคงไม่อาจบงการได้อีกแล้ว ฉวยที่ยามนีย้ งั มีโอกาส จึงไม่คิดปล่อยเขาไป
ง่ายๆ
อวีห้ ย่วนรับปากทันที
เวลานีอ้ วีถ้ งั กับเขาจึงค่อยกลับเข้าไปในห้องโถงที่มีกะละมังไฟให้ความอบอุน่ อยู่
ไม่รูว้ ่าเพื่อแก้แค้นสกุลหลี่ หรือกังวลเรื่องเอาใจคุณหนูเซียงด้วยดอกไม้ผา้ อวีห้ ย่วนจึง
หาข้ออ้างพาอวีถ้ งั ไปหังโจวได้อย่างรวดเร็ว…ร้านค้าเครื่องลงรักของสกุลอวีเ้ ปิ ดกิจการอีกครัง้
รู เ้ ขารู เ้ รา รบร้อยครัง้ ชนะร้อยครัง้ เขาต้องไปเมืองหังโจว ดูว่าร้านค้าเครื่องลงรักคนอื่นขาย
สิ น ค้า แบบใดบ้า ง สาเหตุท่ี พ าอวี ถ้ ัง ไป ก็ เ พราะอยากให้น างช่ ว ยดูว่า เครื่อ งลงรัก พวกนั้น
แกะสลักแบบใด ทางที่ดีท่ีสดุ คือร่างภาพกลับมาให้พวกอาจารย์ดไู ด้ ต้นฤดูใบไม้ผลิปีหน้าก็จะ
ย่อมรูว้ า่ ควรวางขายเครื่องลงรักแบบใดในร้านค้าบ้าง
“อาถังจะไหวรึ?” อวีเ้ หวินเอ่ยอย่างสงสัย “แค่นางวาดคิว้ ยังจะออกมาเป็ นนก เจ้าไม่
กลัวว่านางจะวาดแบบจนผิดเพีย้ นไปหมดรึ?”
อวีถ้ งั โมโหจนไม่อยากพูด
อวีห้ ย่วนกลับหัวเราะ “แต่อาถังฉลาดนี่นา! หากแค่อยากหาคนวาดแบบ มิสูข้ า้ พา
อาจารย์ในร้านไปดีกว่า!”
“นั่นก็ถกู ” อวีเ้ หวินฟั งก็ภมู ิใจขึน้ มา กําชับอวีถ้ งั “เจ้าต้องดูให้ละเอียดล่ะ อย่าให้พ่ีชาย
เจ้ากลับมามือเปล่า ไม่มีอะไรส่งมอบให้ลงุ ใหญ่เจ้าได้เชียว!”
“ท่านวางใจเถิดเจ้าค่ะ” อวีถ้ ังคุยโม้อย่างไม่กระดากอาย “รอข้าและท่านพี่กลับมา
รับรองว่าสินค้าที่วางขายในร้านปี หน้าจะเปลี่ยนไปอย่างมากแน่”
769

อวีเ้ หวิน และอวีป้ ๋ อไม่ เชื่ อสักนิ ด มองเพี ย งว่า อวีถ้ ังกํา ลังคุย โว แต่ก ลับเห็น ด้วยให้
อวีห้ ย่วนพาอวีถ้ งั ไปเปิ ดหูเปิ ดตาที่หงั โจว เฉินซื่อก็แอบให้เงินอวีถ้ งั อีกสองตําลึง นางอยากได้
อะไรก็ให้ซือ้ กลับมา “หากไม่เจอของถูกใจก็ไม่ตอ้ งซือ้ รอจนต้นฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ข้าและป้า
สะใภ้ใหญ่เจ้าจะไปหังโจว ถึงเวลานัน้ ค่อยซือ้ เสือ้ ผ้าของใช้ให้เจ้าก็ไม่สาย”
อวีถ้ งั ตอบรับอย่างเบิกบานใจ
วันออกเดินทาง อวีถ้ งั สวมชุดคลุมเนือ้ หยาบสีเขียว มวยผมจุกสองข้าง สะพายห่อผ้าสี
ดํา ทัง้ โพกศีรษะด้วยผ้าสีเดียวกัน นั่งเรือไปหังโจวกับอวีห้ ย่วน
ระหว่างทางอวีห้ ย่วนกลัวว่านางจะตากลม จึงหาที่น่ งั มุมหนึ่ง ก่อนจะไปขอนํา้ ร้อนจาก
คนเรือมาใส่โถนํา้ ร้อนให้อวีถ้ งั อังไว้ในอก เอ่ยถามนางเสียงเบา “เจ้าวางแผนจะส่งข่าวให้สกุลกู้
อย่างไร?”
เรื่องคนอื่นอวีถ้ งั อาจจะไม่กระจ่างชัด แต่เรื่องของกูซ้ ี นางเข้าใจเป็ นอย่างยิ่ง
เพื่อให้อวีห้ ย่วนสบายใจ อวีถ้ งั จึงกระซิบบอก “ข้าสืบได้ตงั้ นานแล้ว คุณหนูกผู้ นู้ นั้ มีแม่
นมคนหนึ่ง เมื่อก่อนเป็ นสาวใช้สินเดิมของนายหญิงกู้ จงรักภักดีตอ่ คุณหนูกเู้ ป็ นอย่างมาก นาง
มีลกู ชายคนหนึ่ง ทํางานเป็ นเด็กในร้านขายผ้าไหมแห่งหนึ่งของสกุลกูต้ รงประตูอ่หู ลิน ทุกครึง่
เดือน แม่นมของคุณหนูกจู้ ะหาวิธีออกจากจวนไปเยี่ยมเยือนลูกชายคนนี ้ ถึงเวลานัน้ พวกเราไป
พบแม่นม แสร้งเล่าเรื่องสกุลหลี่ออกไปอย่างไม่ตงั้ ใจ แม่นมได้ฟังข่าวลือ ย่อมไปสืบเรื่องราว ข้า
คิดว่าอีกไม่ก่ีวนั เรื่องทางเมืองหลินอันก็คงแพร่กระจายมาถึงหังโจวแล้ว”
อวีห้ ย่วนเอ่ยคําว่าดีออกมาอย่างไม่ขาดปาก “หากสกุลกูถ้ อนหมัน้ กับสกุลหลี่เพราะ
เรื่องนีย้ ่อมดีเป็ นที่สดุ ”
อวีถ้ ังไม่ได้ตอบกลับ เปลี่ยนไปประเด็นอื่นแทน “ครัง้ นีพ้ วกเรายังพักโรงเตี๊ยมหรู อี ้
เหมือนเดิมหรือไม่?”
770

โรงเตีย๊ มหรูอไี ้ กลจากประตูอหู่ ลินอยู่บา้ ง ทว่าพวกเขากลับคุน้ เคยกับเถ้าแก่และเถ้าแก่


เนี ย้ ด้า นหน้า ยัง มี โ รงรับ จํา นํา ของสกุล เผย น้อ งชายของเถ้า แก่ ใ หญ่ ถ งก็ เ ป็ น เถ้า แก่ท่ี น่ ัน
ครุน่ คิดดูก็รูส้ กึ ว่าสนิทใจมากกว่า
คาดว่าอวีห้ ย่วนก็คิดเช่นนีเ้ หมือนกัน “เจ้าบอกว่าอยากซือ้ อุปรณ์ทาํ ปิ่ นดอกไม้เสีย
หน่อยไม่ใช่ร?ึ ทางนัน้ จะใกล้กว่าหน่อย”
อวีถ้ ังเอ่ยตําหนิ “ท่านพี่ ภายหลังเจ้าต้องรู จ้ ักมีไหวพริบเสียบ้าง ดอกบัวคู่ของใครมี
ผีเสือ้ อยู่กัน ผีเสือ้ กระพือปี กเริงระบํา อยู่กันเป็ นคู่ แต่กลับตายไวด่วนจาก หากจะเพิ่มก็ตอ้ ง
เพิ่มแมลงปอ ภายหลังหากเจ้าไม่เข้าใจเรื่องพวกนีก้ ็ถามพี่สะใภ้ อย่าตัดสินใจเอาเอง ครัง้ นี ้
พวกเรามาเมืองหังโจว ข้าจะช่วยท่านหาดูแล้วกัน เพิ่มไข่มกุ ทําเป็ นเม็ดนํา้ ค้าง นั่นถึงจะดูดี!”
อวีห้ ย่วนหัวเราะร่อ
ไม่ น านเรือ ก็ เ ที ย บท่ า พวกเขาซื อ้ ของกิ น ก่ อ นจะเดิ น ทางไปโรงเตี๊ย มหรู อีท้ ่ี ตั้ง บน
ถนนอวีเ้ หอ
771

บทที่ 96 น้อยเนือ้ ตํ่าใจ


เถ้าแก่และเถ้าแก่เนีย้ ยังจําอวีถ้ งั ได้
พวกเขาไม่เพียงต้อนรับสองพี่นอ้ งสกุลอวีอ้ ย่างกระตือรือร้น เถ้าแก่เนีย้ ยังตัง้ ใจเลือก
ห้องพักที่เงียบสงบให้กับอวีถ้ ังเป็ นพิเศษด้วย ไปตักนํา้ ร้อนมาให้อวีถ้ ังล้างหน้าผลัดผ้าด้วย
ตัวเอง
อวีถ้ งั รูส้ กึ ขอบคุณเป็ นอย่างมาก
เถ้าแก่เนีย้ ก้มศีรษะให้นางดูป่ิ นดอกไม้ของตัวเอง “ครัง้ ที่แล้วเจ้ามอบให้ขา้ ทุกคนต่าง
เอ่ยเป็ นเสียงเดียวกันว่างดงาม สวมครัง้ หนึ่งก็ชมครัง้ หนึ่ง”
อวีถ้ ังเผยรอยยิม้ อ่อนหวาน ก่อนจะขอเถ้าแก่เนีย้ ไปช่วยซือ้ อุปกรณ์ทาํ ปิ่ นดอกไม้ใน
ตรอกเล็กด้วยกัน
นางวางแผนว่าครัง้ นีจ้ ะทําปิ่ นดอกไม้หลายอันหน่อย รอในยามที่พ่ีชายและคุณหนูเซีย
งกลับบ้านฝั่งมารดา ก็จะนําไปอวดที่สกุลเซียงได้
หลังจากอวีห้ ย่วนทราบก็สบายใจ
เขากําลังจะไปสืบข่าวทางประตูอหู่ ลิน ทัง้ กลุม้ ใจไม่รูว้ า่ จะจัดการเรื่องอวีถ้ งั อย่างไรดี
“เช่นนัน้ เจ้าก็ระวังตัวหน่อย” เขากําชับน้องสาว “ซือ้ ของเสร็จแล้วก็รบี กลับมา ตอนเย็น
ข้าไม่อยู่กินข้าวที่โรงเตีย๊ ม บอกกล่าวกับเถ้าแก่เรียบร้อยแล้ว ถึงเวลานัน้ เถ้าแก่เนีย้ จะนําอาหาร
เย็นไปส่งเจ้าในห้อง หากเจ้ากินข้าวเย็นเสร็จแล้วข้ายังไม่กลับมา ก็ปิดห้องหับหน้าต่างประตูให้
แน่น รีบเข้านอน มีเรื่องอะไร ข้าจะพูดกับเจ้าพรุง่ นีแ้ ทน”
นับเป็ นครัง้ แรกที่อวีถ้ งั ไหว้วานญาติผพู้ ่ีให้ทาํ เรื่องเช่นนี ้ กังวลอยู่บา้ งว่าเขาจะเผยพิรุธ
จนถูกคนสกุลกูจ้ บั ตามอง หรืออาจจะพบกับอันตรายอะไร ดึงแขนเสือ้ เขาเอ่ยอย่างเป็ นห่วง
“ท่านต้องระวังให้มาก สืบข่าวได้ไม่ได้ค่อยว่ากัน ความปลอดภัยต้องมาเป็ นอันดับแรก ท่านก็
772

พูดแล้ว ลูกผูช้ ายแก้แค้นสิบปี ไม่สาย ตราบใดที่มีชีวิต ย่อมมีความหวัง ครัง้ นีพ้ วกเราไม่สาํ เร็จ
ครัง้ หน้าค่อยหาวิธีอ่นื ก็เพียงพอแล้ว หากเกิดอะไรขึน้ กับท่าน ข้าคงไม่อยากมีชีวิตอยู่เช่นกัน”
“เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอันใดกัน?” อวีห้ ย่วนได้ฟังก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก “บอกเจ้าแล้ว
ว่านิยายประโลมโลก ละครงิว้ อะไรพวกนัน้ อย่าไปดูให้มาก เจ้ากลับทําหูทวนลม เรื่องคอขาด
บาดตายคิดให้นอ้ ยๆ หน่อยเถิด เจ้าคิดว่าข้าไปทําอะไรกัน? ไปสืบข่าวเรื่องแม่นมของคุณหนูกู้
ย่อมสําคัญ แต่สิ่งที่สาํ คัญที่สดุ คือกิจการในร้านค้าของพวกเรา ไปประตูอ่หู ลินก็เพื่อไปหาเหยา
ซานเอ๋อร์ จากนัน้ ค่อยถือโอกาสไปสืบข่าวให้เจ้าด้วย”
นับตัง้ แต่ครัง้ ก่อนที่เขามาหังโจว มีโอกาสติดต่อกับเหยาซานเอ๋อร์ อวีห้ ย่วนกับเขาก็
เริ่มไปมาหาสูก่ นั หลายวันก่อนหน้านีเ้ ขาก็ขอคนไปส่งของขวัญปี ใหม่ให้เหยาซานเอ๋อร์ ร้านค้า
สกุลพวกเขาเปิ ดกิจการ เหยาซานเอ๋อร์ก็ให้คนส่งของขวัญมาอวยพรถึงหลินอันเช่นกัน
แบบนีก้ ็ดี!
อวีถ้ ังหัวเราะกระซิก “เช่นนัน้ ท่านพี่ก็รีบไปรีบกลับ อย่าลืมนําหัวหมูของร้านเจิน้ เป่ ย
เฉิงมาฝากข้าด้วย”
“เจ้าเป็ นคุณหนูกลุ สตรี มากินหัวมงหัวหมูอะไรกัน?” อวีห้ ย่วนเอ่ยอย่างไม่ปรานี “หาก
เจ้าอยากกิน ข้าก็จะซือ้ ขนมกุย้ ฮวา เชี่ยนสือเฝิ่ น 1ไม่ก็ วอซือถัง 2ให้แทน” พูดจบ กลัวว่าอวีถ้ งั
157 158

ยังจะตอแยเขาให้ซอื ้ นั่นซือ้ นี่ไม่เลิก หากตัวเองใจอ่อนขึน้ มา ก็จะเป็ นเมื่อเหมือนก่อนรับปากทุก


อย่าง เขาจึงโบกมือตัดบทอวีถ้ งั เอ่ยว่า “ข้าไปล่ะ เจ้าดูแลตัวเองด้วย” ก่อนจะออกจากโรงเตีย๊ ม
ไปโดยไม่เหลียวหลังมามองสักนิด
อวีถ้ ังพองลมที่แก้มอย่างโมโห กลับไม่อาจทําอะไรได้ นางจึงไปตรอกเล็กข้างๆ ซือ้
อุปกรณ์ทาํ ปิ่ นดอกไม้กบั เถ้าแก่เนีย้ แทน จากนัน้ เห็นมีขนมเกาลัดวางขาย ก็ซือ้ กลับมาจํานวน

1
เชี่ยนสือเฝิ่ น คือผงที่ได้จากการบดแปรรูปของเชี่ยนสือ(สมุนไพรจีน) มีรสหวาน
2
วอซือถัง ขนมที่ทาํ จากนํา้ ตาล มีลกั ษณะคล้ายขนมลา
773

หนึ่ง ฝากเด็กของโรงเตีย๊ มนําไปส่งให้เถ้าแก่รองถง ทัง้ ถ่ายทอดคําพูดไปว่า “ครัง้ ก่อนมาหังโจว


ต้องขอบคุณเถ้าแก่รองถงที่ให้ความดูแลอย่างดี เดิมตัง้ ใจจะนําของฝากจากหลินอันมาให้
ปรากฏว่า ล้ว นอร่อยสูท้ ่ีหัง โจวไม่ ได้ จึง ซื อ้ ขนมหวานจากตรอกข้า งๆ มาฝากแทน ของนั้น
ธรรมดา ไม่อาจตอบแทนนํา้ ใจได้หมด อย่างไรขอเถ้าแก่รองถงอย่าได้ถือสา รอพี่ชายกลับมา
จะเข้าไปเยี่ยมเยือนอีกครัง้ ”
หลังจากนางถูกเผยเยี่ ยนอบรมสั่งสอน เมื่อกลับไปจึงตัง้ ใจเรียนรู เ้ รื่องมารยาทกับ
อวีเ้ หวินมากขึน้ รู ว้ ่ายามนีอ้ ยากไปเยี่ยมเยือนใคร ไม่อาจไปตรงๆ ได้ แต่ตอ้ งส่งป้ายชื่อไป
ล่วงหน้าไม่ก็สง่ คนไปมอบขนมของหวาน ควรทักทายเสียก่อน นัดหมายเวลาแล้วค่อยเข้าไป นี่
จึงจะเรียกว่ารูก้ าลเทศะ ทัง้ ยังได้รบั บทเรียนจากเรื่องที่สง่ ของขวัญให้เผยเยี่ยน ควรแสดงความ
จริงใจ พูดด้วยความซื่อตรง
เถ้าแก่รองถงได้รบั ขนมก็ดีใจเป็ นอย่างยิ่ง เพราะอวีถ้ งั ส่งขนมในนามของอวีห้ ย่วน เถ้า
แก่รองถงจึงให้เด็กในร้านมาถ่ายทอดคําพูดแก่อวีห้ ย่วน กล่าวว่าพรุง่ นีเ้ ย็นจะจัดงานเลีย้ งหลัง
ร้านค้า เชิญอวีห้ ย่วนเข้ามาดื่มฉลองด้วยกัน
อวีถ้ งั ตัดสินใจรับปากแทนอวีห้ ย่วนไป ทัง้ ให้เด็กคนนัน้ ช่วยไปซือ้ สุราจินหวาสักไหมา
เตรียมไว้ รออวีห้ ย่วนกลับมา
อวีห้ ย่วนรีบเร่งกลับมาก่อนเวลาห้ามออกจากเคหะสถาน
เขาดื่มสุรา ใบหน้าแดงกํ่า ดวงตาทัง้ สองแข็งค้างอยู่บา้ ง พูดจามั่วซั่วไม่รูเ้ รื่อง
อวีถ้ งั นัน้ อับจนหนทาง คิดว่ารอได้เงินจากการประมูลแผนที่ จะซือ้ บ่าวรับใช้ขา้ งกาย
ให้อ วี ห้ ย่ ว นสัก คน สกุล พวกเขาไม่ ใ ช่ ส กุล รํ่า รวยล้น ฟ้า อะไร แม้จ ะกล่า วว่า บ่า วที่ ติ ดตาม
อวีห้ ย่วนเมื่อก่อนนัน้ รับใช้อวีห้ ย่วน ในความเป็ นจริง กลับรับใช้ลงุ ใหญ่ของนางเสียส่วนมาก
ทัง้ อวีห้ ย่วนจะแต่งงานแล้ว แม้จะพูดว่าคุณหนูเซียงเติบโตในชนบท แต่ก็มีเงินใช้ไม่ขาดมือ ถึง
เวลานัน้ เกรงว่าจะมีขา้ รับใช้อยู่ขา้ งกายหลายคนแล้ว นางไม่อาจให้ญาติผพู้ ่ีดยู ากจนข้นแค้น
เกินไปได้
774

เมื่อความคิดแล่นขึน้ มา ก็หกั ห้ามไม่ไหวอยู่บา้ ง


นางยัดเงินให้เด็กโรงเตี๊ยมช่วยดูแลผลัดเปลี่ยนผ้าผ่อนให้อวีห้ ย่วน ส่วนตัวเองไปหา
เถ้าแก่เนีย้ อยากขอให้นางช่วยแนะนํานายหน้าที่คยุ้ เคยและไว้ใจได้ เพื่อวางแผนจะซือ้ บ่าวรับ
ใช้ขา้ งกายให้อวีห้ ย่วน
เถ้าแก่เนีย้ คาดไม่ถึงเป็ นอย่างยิ่ง เอ่ยด้วยรอยยิม้ “ไอหยา ช่วงนีส้ กุลพวกเจ้าคงรุง่ เรือง
ขึน้ ไม่นอ้ ย”
สกุลดั่งเช่นสกุลอวีน้ ี ้ โดยปกติบ่าวรับใช้ขา้ งกายย่อมไม่ได้แบ่งแยกอะไรชัดเจนขนาด
นัน้ ครัง้ นีต้ อ้ งการซือ้ บ่าวให้อวีห้ ย่วนโดยเฉพาะ หากไม่ใช่ว่าสกุลรํ่ารวยขึน้ มา ย่อมไม่อาจใจ
ใหญ่เช่นนี ้
อวีถ้ งั ไม่ตงั้ ใจจะมากความ เอ่ยด้วยรอยยิม้ “พี่ชายข้าใกล้จะแต่งงานแล้ว อย่างไรก็ไม่
อาจให้เขาไปไหนมาไหนโดยไม่มีคนคอยช่วยเหลือได้เลยกระมัง”
“นั่นก็มิผดิ ” เถ้าแก่เนีย้ เอ่ยรับด้วยรอยยิม้ ช่วยเป็ นธุระตามหาคนให้อวีถ้ งั
อวีห้ ย่วนตื่นขึน้ มาเช้าตรู ่ของอีกวัน ปวดศีรษะจนแทบจะระเบิด อวีถ้ งั ที่ยกอาหารเช้า
เข้ามาล้วนไม่มีสีหน้าดีให้เขา
“สมนํา้ หน้า!” อวีถ้ งั เอ่ย “ใครใช้ให้ท่านดื่มมากเพียงนัน้ ข้างกายก็ไม่มีใครสักคน หาก
หกล้มหัวทิ่มไปจะทําอย่างไร? ท่านรับปากข้าแล้วว่าจะระวังตัวดีๆ!”
อวีห้ ย่วนหัวเราะอย่างกระดากอาย เอ่ยประจบนาง “อาถัง เมื่อวานข้าช่วยเจ้าสืบอย่าง
ละเอียดแล้ว หากทางสกุลกูไ้ ม่มีเรื่องสําคัญเร่งด่วนอันใด แม่นมของคุณหนูกูค้ งจะไปเยี่ยม
เยื อ นลูก ชายที่ ร า้ นค้า พรุ ่ง นี ้ ว่ า ไปแล้ว เรื่อ งนี ก้ ็ ช่ า งบัง เอิ ญ ร้า นค้า ของเหยาซานเอ๋ อ ร์อ ยู่
ด้านหลังร้านค้าสกุลกู้ เหยาซานเอ๋อร์ไม่เพียงรู จ้ กั กับลูกชายของแม่นมคุณหนูกู้ แต่ยงั รูจ้ กั เถ้า
แก่ไม่ก่ีคนของร้านค้าสกุลพวกเขาด้วย อ้างจากที่เขากล่าว เถ้าแก่สามของสกุลพวกเขาเป็ นคน
ที่ปากมาก ชอบพูดซีซ้ วั้ เป็ นที่สดุ ด้วยเหตุนี ้ เถ้าแก่ใหญ่ของพวกเขาจึงไม่ชอบใจเขาเท่าใด ตัว
775

เขาเองก็รูด้ ีแก่ใจ คิดฉวยโอกาสจากความสัมพันธ์เล็กน้อยของสกุลกู้ หาร้านเล็กๆ เป็ นเถ้าแก่


ใหญ่ ได้ยินว่าข้ามาจากเมืองหลินอัน อยากเปิ ดร้านที่หงั โจว เขาก็ตอ้ นรับข้าอย่างอบอุ่นเป็ น
พิเศษ เมื่อวานข้าดื่มมากไป ก็เพราะในงานเลีย้ งเขาเอาแต่ชวนข้าดื่มสุรา”
มีเถ้าแก่นอ้ ยคนนักที่คิดจะเปลี่ยนนายจ้าง หากเปลี่ยนนายจ้าง ไม่มีคาํ แนะนําจาก
นายจ้างคนเก่า นายจ้างคนใหม่ย่อมไม่กล้ารับคนผูน้ ีไ้ ว้เช่นกัน
อวีถ้ งั ได้ยินว่าเถ้าแก่สามผูน้ ีป้ ากมากก็ไม่ช่ืนชอบเท่าใด “หากท่านมาเปิ ดร้านที่หงั โจว
ท่านจะใช้ประโยชน์คนผูน้ ีห้ รือไม่?”
“ไม่เด็ดขาด!” อวีห้ ย่วนก็ไม่ชอบคนปากมากเช่นกัน
อวีถ้ งั นึกถึงคําพูดที่เผยเยี่ยนสอนนาง “พวกเราใช้ประโยชน์เขาก็คือใช้ประโยชน์ แต่ไม่
อาจทําให้เขาคิดว่าภายหลังพวกเราจะเชิญเขาไปเป็ นเถ้าแก่ในร้านได้เชียว สองเรื่องนีต้ อ้ ง
แบ่งแยกให้ชดั เจน”
หากเกิดเรื่องราวแค้นเคืองอะไรขึน้ มาก็ไม่ดีแล้ว
อวีห้ ย่วนคลึงศีรษะที่เริ่มปวดขึน้ มาอีกครัง้ พึมพํา “ข้ารู ้ เป็ นเหยาซานเอ๋อร์ กลัวว่าข้า
จะถูกพวกเขาดูแคลน จึงบอกว่าข้าอยากมาเปิ ดร้านที่หงั โจว ยามนั้นข้าก็เอ่ยไปเช่นกัน ข้า
อยากมา แต่พ่อข้าไม่ยอม เรื่องนีแ้ ปดถึงเก้าในสิบคงไม่อาจสําเร็จ อย่างมากที่สดุ ข้าก็เข้ามาดู
มาเที่ยวชมเท่านัน้ ”
อวีถ้ งั ผงกศีรษะ
อวีห้ ย่วนเอ่ยเรื่องร้านค้าเครื่องลงรักของสกุลเซิ่งขึน้ มา “เพียงแค่เดินเข้าไปก็พาให้คน
รู ส้ ึกว่าของในร้านค้าของพวกเขาไม่ธรรมดา เมื่อสังเกตอย่างละเอียดก็พบว่า ไม่ได้ขายแพง
เกินไป จริงที่ว่าของบางอย่างแพงอยู่บา้ ง แต่ขา้ รู ส้ ึกว่าของพวกนัน้ ก็มีเหตุผลที่ตอ้ งขายแพง
ส่วนเรื่องแบบเครื่องลงรักของร้านพวกเขา นับว่าแปลกใหม่จริงๆ ไม่พดู ถึงอย่างอื่น กล่องเครื่อง
ลงรักแกะสลักอักษรมงคลแบบเดียวกัน การแกะสลักของพวกเขา กลับประณีตเสมือนจริง ร้าน
776

ของพวกเราเทียบไม่ได้จริงๆ ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึงเรื่องที่รา้ นพวกเขายังมีเครื่องลงรักแบบ ‘เชิ่นเซ่อ


หลัวเตีย้ น’…”
ขณะที่เขาพูด สีหน้าก็เปลี่ยนเป็ นหมองเศร้า
“ข้า ไม่ ก ล้า ดูน านนัก พอดี กับ ใกล้ถึง เวลาที่ นัดเหยาซานเอ๋อ ร์ จึง รีบ กุลีกุจ อไป ข้า
กลับมาใคร่ครวญดู คิดว่าทําเช่นนีค้ งไม่ได้ วันนีต้ อ้ งไปดูอีกครัง้ ”
อวีถ้ งั รับรูไ้ ด้ถงึ ความเจ็บปวดในใจเขา
แม้อวีห้ ย่ว นจะเป็ น ลูก ชายเจ้า ของร้า น ทั้ง ติ ดตามไปที่ ต่า งๆ กับอวีป้ ๋ อไม่น ้อย แต่
อย่างไรเขาก็เป็ นเด็กหนุ่มที่ยงั ไม่ได้ผ่านพิธีสวมกวาน เพิ่งมาไม่นาน หนําซํา้ ยังเป็ นหังโจว เมือง
อัน ดับหนึ่งของแถบเจี ยงหนานที่รวบรวมสกุลเลื่องนาม ร้า นค้า มี ช่ือ ทั้ง สิน ค้ายอดนิ ยมไว้
ด้วยกัน ย่อมรูส้ กึ อึดอัดเหมือนมีเพชรเม็ดงามอยู่ขา้ งๆ
ชาติก่อน ยามที่นางเพิ่งแต่งเข้าสกุลหลี่ เผชิญหน้ากับกูซ้ ีท่ีงดงามและใจกว้าง นางก็
เคยรูส้ กึ น้อยเนือ้ ตํ่าใจตัวเองเช่นนี ้
“ข้าจะไปกับท่าน” อวีถ้ ังเอ่ย “ข้าก็ใกล้ถึงเวลาออกเรือนแล้วเช่นกัน หากเครื่องลงรัก
แบบ ‘เชิ่นเซ่อหลัวเตีย้ น’ ดีอย่างที่ล่าํ ลือขนาดนัน้ จริงๆ ต้นฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ยามที่มากับท่าน
แม่และป้าสะใภ้ใหญ่ ก็ซอื ้ กลับไปสักอันสองอัน”
ประเด็ น หลัก ที่ น างจะไปเที่ ย วชมร้า นค้า ของสกุล เซิ่ ง ทั้ง ให้เ หตุผ ลที่ เ พี ย งพอกับ
อวีห้ ย่วน ก็เพื่อให้อวีห้ ย่วนมีความมั่นใจ ยามที่ทาํ เรื่องราวอันใดก็จะใจกล้าขึน้ มา คาดว่าเถ้า
แก่และเด็กในร้านค้าพวกนัน้ คงตาดีมีไหวพริบกันทัง้ นัน้ ยามที่เห็นพวกเขาสวมชุดไร้ราคาแต่
กลับใจกล้ามาเทียวดูสินค้าในร้านพวกเขา ย่อมคิดว่าพวกเขาเป็ นลูกหลานสกุลใหญ่ โ ตที่
ออกมาหาประสบการณ์ แน่นอนว่าคงไม่กล้าเพิกเฉยต่อพวกเขา
ญาติผพู้ ่ีก็สามารถอาศัยเรื่องนีเ้ รียนรูว้ ิธีรบั มือกับผูค้ นได้
777

อวีถ้ ังลอบพยักหน้าให้กับความคิดตัวเองในใจ ทัง้ นึกไปถึงเผยเยี่ยนที่สวมชุดเรียบๆ


ธรรมดากลับถือของหายากอยู่ในมือ
สามารถทําให้คนที่ชอบดูถกู คนอื่นพวกนัน้ หกล้มหัวคะเมนได้ง่ายๆ
อวีถ้ งั พลันสัมผัสได้ถึงนิสยั เสียของเผยเยี่ยน
นางอดไม่ได้ท่ีจะยกมือเช็ดหน้าผากที่ไร้เหงื่อ เวลานีจ้ ึงค่อยพูดเรื่องที่เถ้าแก่รองถง
เชิญอวีห้ ย่วนไปงานเลีย้ ง “วันนีพ้ วกเราออกไปเที่ยวเล่น ตอนเย็นก็กลับมาเร็วหน่อย ใช้โอกาส
นีข้ อคําแนะนําเรื่องเคล็ดลับการค้าในหังโจวจากเถ้าแก่รองถง”
อวีห้ ย่วนตื่นเต้นอยูบ่ า้ ง
ยังคงเป็ นครัง้ แรกที่เขารับมือกับเถ้าแก่รองถงที่มีฐานะเป็ นผูอ้ าวุโสเพียงลําพังโดยไร้
การชีน้ าํ จากอาและบิดา ถึงอย่างนัน้ เขาก็ไม่ใช่คนขีข้ ลาดตาขาว ในเมื่ออวีถ้ งั ช่วยเขาวางแผน
แล้ว เขาก็ตอ้ งพยายามทําให้ดีท่ีสดุ
ช่วงสายวันนีเ้ ขาตัดสินใจจะไปเที่ยวชมร้านค้าเครื่องลงรักของสกุลเซิ่งในหังโจว ยาม
บ่ายไปพบเถ้าแก่สามของสกุลกู้ พูดคุยเรื่องสกุลหลี่ น่าจะเป็ นช่วงเวลาที่แม่นมของกูซ้ ีแวะผ่าน
มาพอดี
เมื่อตัดสินใจได้ สองพี่นอ้ งก็กินข้าวเช้า ผลัดเปลี่ยนเป็ นเสือ้ ผ้าสะอาดสะอ้าน เดินทาง
ไปยังประตูอหู่ ลิน
778

บทที่ 97 ท้อใจ
ประตูอหู่ ลินนัน้ รายล้อมด้วยร้านผ้าต่วนผ้าไหมเป็ นส่วนใหญ่
หรืออาจจะเป็ นเพราะใกล้ขา้ มปี ใหม่แล้ว ร้านค้าแต่ละแห่งเปิ ดไม่ก่ีวนั ก็จะหยุดกิจการ
ผูค้ นบนท้องถนนจึงมากเป็ นพิเศษ เดินเบียดเสียดไหล่ชนกัน ทอดมองไปที่ไหน ก็มีแต่ศีรษะคน
ทัง้ นัน้
อวีถ้ งั ตามติดอยู่หลังอวีห้ ย่วนไม่ห่าง เหลียวซ้ายแลขวา สังเกตร้านรวงต่างๆ โดยรอบ
ไม่นานก็พบร้านค้าเครื่องลงรักของสกุลเซิ่ง
ประตูหน้าแปดช่อง ป้ายร้านสีแดงสูงเท่าคน ดูไม่แตกต่างจากร้านค้าด้านข้างมากมาย
บานประตูท่ีเคลือบสีดาํ ขลับฝั งด้วยกระจกสีโปร่งใส ฤดูหนาวเย็นจนตัวสั่น ร้านค้าอื่นล้วน
แขวนม่านผ้าฝ้ายหนาชัน้ มีเพียงร้านพวกเขาที่สามารถเห็นเงาผูค้ นด้านในอย่างเลือนราง เมื่อ
ทอดมองก็พบความโดดเด่นได้ทนั ที
รอจนเดินเข้าไปใกล้ นางจึงพบว่านอกจากเด็กในร้านที่คอยต้อนรับส่งแขกล้วนหน้าตา
หมดจดสบายตาแล้ว ยังสวมชุดคลุมผ้าลู่โฉวตัวยาวสีเขียวนกแก้ว หลังหยัดตรงสง่า ใบหน้า
ประดับรอยยิม้ อบอุ่นเป็ นมิตร ครัน้ เห็ นอวีถ้ ัง ถูกคนเบี ยด เด็ ก ในร้า นคนหนึ่งยังก้าวเข้ามา
ช่วยกันนางจากฝูงชน เอ่ยกับนางอย่างใส่ใจ “คุณหนู ท่านระวังหน่อย คงไม่บาดเจ็บตรงไหน
กระมัง?”
อวีถ้ งั ยิม้ สรวลขอบคุณเด็กในร้านคนนัน้
ไม่ รู ้ว่ า เด็ ก ร้า นค้า ยุ่ ง มาทั้ ง วั น จนร้อ น หรื อ เขิ น อาย ใบหน้า แดงระเรื่ อ ไปหมด
ละลํ่าละลักเชิญนางและอวีห้ ย่วนเข้าไปในร้าน ไม่มีฉากดูถูกดูแคลนที่นางคาดการณ์มาก่อน
หน้านีใ้ ห้เห็นแม้แต่นอ้ ย
อวีถ้ ังนึกถึงเด็กในร้านค้าสกุลของตัวเองที่เอาแต่มองคนอย่างระแวดระวัง ก็อดถอน
หายใจไม่ได้
779

เมื่อเข้าไปในร้าน นางจึงพบว่า ร้านค้ามีผคู้ นล้นหลามเช่นกัน ร้านค้าเครื่องลงรักแห่ง


อื่นที่นางเคยเห็นมักใช้ชนั้ วางแบบเปิ ดโล่งอย่างอิสระ ทุกคนสามารถถือมาลูบคลําในมือตาม
ประสงค์ ร้านค้าของสกุลเซิ่งกลับมีโต๊ะกัน้ อยู่ ของทัง้ หมดถูกจัดไว้ในตูก้ ระจกโปร่งใส ต้องการดู
สิ่งไหน เด็กในร้านที่อยู่หลังโต๊ะก็จะหยิบสิ่งนัน้ มาให้ลกู ค้าชม มีเพียงเครื่องลงรักขนาดใหญ่
หรือสินค้าพวกฉากกัน้ ลมจึงจะวางตรงจุดโล่งกว้างด้านข้างตูว้ างของ สามารถไปเลือกดู เชย
ชมได้ ด้วยเหตุนีไ้ ม่วา่ คนในร้านจะเยอะเพียงใด กลับไม่ตอ้ งกังวลเรื่องของหาย
เมื่อวานอวีห้ ย่วนก็มาดูครัง้ หนึง่ แล้ว ยามนีอ้ ดกล่าวเสียงเบากับอวีถ้ งั ไม่ได้ “ดูสิ กิจการ
ของพวกเขาดีถึงเพียงใด!”
อวีถ้ งั พยักหน้าอย่างเงียบเชียบ
เด็ ก ในร้า นคนนั้น เอ่ย ด้ว ยไมตรีจิต “คุณชาย คุณหนู พวกท่า นต้องการซื อ้ สิ่งใดรึ?
ต้องการให้แนะนําหรือไม่? ใกล้จะถึงปี ใหม่แล้ว หรือคุณหนูคณ ุ ชายจะซือ้ ของส่งให้ผใู้ หญ่กนั ?
เข้ามาดูขา้ งในก่อนเถิด หากส่งให้ผใู้ หญ่ ก็มาเลือกชมทางนี ้ ดูว่าเหมาะสมหรือไม่ หากเข้ามา
เชยชมเฉยๆ พวกเราก็ จ ะแนะนํา ให้สิ น ค้า ของร้า นให้พ วกท่ า นฟั ง ว่า มี อ ะไรบ้า ง ภายหลัง
ต้องการสิ่งใด ค่อยกลับมาเลือกซือ้ ที่รา้ นของพวกเราดีๆ อีกที”
เด็กในร้านพวกนีต้ า่ งผ่านการฝึ กฝนอบรมเป็ นพิเศษแล้วทัง้ นัน้
อวีถ้ งั ครุน่ คิดในใจ
ชาติก่อน นางเคยพบเด็กร้านค้าเช่นนี ้
เพียงแต่เด็กในร้านพวกนัน้ ไม่ได้แต่งกายน่ามองเหมือนเด็กในร้านเครื่องลงรักของสกุล
เซิ่ง แน่นอนว่าบุคลิกท่าทีก็แตกต่างจากเด็กร้านพวกเขาเช่นกัน
ลู่โฉว เป็ นผ้าที่นายท่านคหบดีชนบทสวมใส่กนั คาดไม่ถึงว่าสกุลเซิ่งจะให้เด็กในร้าน
แต่งกายอย่างนี ้ เงินหนาอิทธิพลมากไม่ใช่เล่น ไม่แปลกใจที่พ่ีชายนางจะท้อแท้หมดสิน้ กําลังใจ
780

ยิ่งไปกว่านัน้ เด็กในร้านที่ฝึกฝนมาเป็ นอย่างดีเฉกเช่นสกุลเซิ่ง คาดว่าคงมีเพียงหนึ่งเดียวใน


เมืองหังโจวเช่นกัน
เพียงแค่ไม่รูว้ า่ สกุลพวกเขาเป็ นผูร้ เิ ริม่ หรือไม่
ไม่ก่ีปีต่อจากนีท้ ุกคนต่างพากันเลียนแบบเอาอย่าง ทัง้ ในเมืองหลินอัน ก็มีบางร้านที่
เริม่ ฝึ กฝนเด็กในร้านแบบนีเ้ ช่นกัน
เมื่อเป็ นอย่างนี ้ ไม่เพียงสกุลพวกเขาจะขายสินค้าได้ดี เรื่องของคนและการจัดการใน
ร้านยังมีกลยุทธ์เป็ นของตัวเอง…
อวีถ้ งั ลอบตรวจสอบในใจ
อวีห้ ย่วนเอ่ยออกไป “พวกเราแค่เข้ามาเลือกชม หากมีสินค้าดี ก็จะซือ้ กลับไปสองสาม
ชิน้ ”
เด็กในร้านมองอวีถ้ งั แวบหนึ่ง คิดไปเองว่าเข้าใจจุดประสงค์ท่ีมาของพวกเขา แย้มยิม้
พาพวกเขาไปยังหน้าโต๊ะที่ขายกล่องไม้เล็กๆ และกล่องเครื่องแป้ง เด็กของร้านค้าเบียดตัวเอง
เข้าไปก่อน ชีไ้ ปยังสองพี่นอ้ งอวีถ้ ังที่ยืนอยู่ดา้ นข้าง เอ่ยกับเด็กร้านค้าที่กาํ ลังขายของอีกคน
“ลูกค้าทัง้ สองท่านอยากดูสินค้าเล็กๆ ที่น่าสนใจ”
เด็กในร้านคนหนึ่งเพิ่งหยิบของให้ลูกค้าท่านหนึ่งไป มองทัง้ สองคนแวบหนึ่ง ก็หมุน
กายไปหยิบถาดรอง นําของเล็กๆ ไม่ก่ีอย่างวางบนนัน้ ก่อนจะส่งให้เด็กในร้านที่เบียดเข้ามา
“ของพวกนีล้ ว้ นเป็ นสินค้าใหม่ท่ีผลิตออกมาก่อนปี ใหม่ เจ้า ดูว่ามีของที่ถูก ใจคุณชายและ
คุณหนูหรือไม่? หากไม่มี ข้าจะช่วยหยิบให้ใหม่อีกที”
เด็กร้านคนนัน้ เอ่ยขอบคุณ รับถาดรองเบียดตัวออกมาจากโต๊ะหน้าร้าน เอ่ยกับทัง้ สอง
อย่างเกรงใจ “คุณชายคุณหนูเลือกดูก่อนเถิด มีของที่ช่ืนชอบหรือไม่? ของพวกนีย้ งั มีกล่องใส่
ขนม กล่องใส่หมึกพูก่ นั จีนที่มาเป็ นชุด…”
781

อวีห้ ย่วนทอดมองอย่างตัง้ ใจ เห็นของบนถาดรองไม่ก่ีอย่างเช่น ตลับแป้ง ตลับใส่ชาด


ทาปาก มีการใช้ฝีมือแบบ ‘เชิ่นเซ่อหลัวเตีย้ น’ ล้วนเป็ นของเล็กๆ ที่ประณี ตชดช้อย งดงาม
หรูหรา เหมาะสําหรับหญิงสาวที่อยู่ในห้องหับอย่างยิ่ง
เขานําขึน้ มาพินิจดูอย่างละเอียด
อวีถ้ งั เพียงมองไปครัง้ หนึ่งก็ไม่มองต่อแล้ว
ชาติก่อน ยามที่พ่ึงใบบุญสกุลหลี่ นางเคยเห็นกล่อง ‘ร้อยอัญมณี’ ของราชสํานักมา
ก่อน เครื่องประดับลงรักแบบเชิ่นเซ่อหลัวเตีย้ นไม่ได้ทาํ ให้นางตื่นตาตื่นใจถึงเพียงนัน้
นางลอบสังเกตลูกค้าและเด็กในร้าน
เด็กในร้านมีจาํ นวนมาก ลูกค้าแทบทุกคนได้รบั การดูแลอย่างทั่วถึง หากคนไหนไม่มี
เด็กในร้านคอยประกบ แค่เอ่ยถามขึน้ มาก็มีคนตอบกลับแล้ว แม้ว่าลูกค้าในร้านจะมาก ทัง้ ยุ่ง
วุน่ วายอย่างยิ่ง กลับไม่มีลกู ค้าไม่พอใจแต่อย่างใด
สินค้าในร้านมีหลากหลายประเภท กล่องไม้เล็กๆ ที่ใส่จินซานซื่อ ไปจนถึงฉากกัน้ ลม
สิบสองช่อง รูปแบบก็มีให้เลือกมากมาย นอกจากของอวยพรวันเกิดผูส้ งู อายุแบบดัง้ เดิมอย่าง
ลายเทพธิ ด าหมากู ก็ ยัง มี แ บบใหม่ อ ย่ า งสี่ ร าชามวลบุป ผา ดอกเหมย กล้ว ยไม้ ไผ่ แ ละ
เบญจมาศ ดูคล้ายกับภาพวาด เหลือพืน้ ที่สีขาวไว้กว้างขวาง แต่ก็ดสู ลับซับซ้อนจนมองไม่ออก
อยู่วา่ แฝงความนัยอะไรไว้ในแบบ อย่างกล่องไม้ทาํ เลียนแบบกล่องร้อยอัญมณีท่ีอยู่ในมือญาติ
ผูพ้ ่ีนางอันนี ้ เลี่ยมฝังด้วยไข่มกุ หลากสีสนั ภายใต้แสงสว่างก็จะสะท้อนแสงสีรุง้ วาบวาว
นี่ไม่ใช่รา้ นค้าที่คิดจะเลียนแบบในช่วงเวลาสัน้ ๆ ได้จริงๆ
อวีถ้ งั และอวีห้ ย่วนเบียดออกมาจากร้านค้า ไม่ได้ของติดมือมาสักชิน้ แต่เด็กในร้านก็
ยังคงส่งพวกเขาออกไปประหนึ่งยามมาต้อนรับ ทัง้ ยังแนะนําชื่อของตัวเอง ยามที่พวกเขามา
ครัง้ ต่อไปให้มาหาเขาได้ หากรู ส้ ึกว่าไม่พอใจกับสินค้าในร้านเลย ก็สามารถสั่งทําตามความ
ต้องการของพวกเขาได้
782

อวีห้ ย่วนขอบคุณเด็กร้านค้าด้วยใบหน้าแย้มยิม้ เดินไปทางร้านค้าสกุลกูก้ บั อวีถ้ งั จวบ


จนเดินพ้นร้านของสกุลเซิ่งมาไกลแล้ว จึงค่อยเอ่ยด้วยยิม้ เจื่อนกับอวีถ้ งั “เจ้าคงรูว้ า่ เหตุใดข้าจึง
ท้อแท้แล้วกระมัง? เฮ้อ หากกิจการร้านค้าสกุลพวกเราได้สกั หนึง่ ในห้าส่วน ไม่สิ หนึ่งในสิบส่วน
ของพวกเขา ข้าก็คงพอใจแล้ว”
อวีถ้ ังส่งยิม้ ให้กาํ ลังใจอวีห้ ย่วน “พวกเราค่อยเป็ นค่อยไป หรือในเมืองหังโจวมีเพียง
ร้านค้าเครื่องลงรักของพวกเขาแห่งเดียว? ชางเซิ่งเป็ นร้านค้าผ้าไหมที่ใหญ่ท่ีสดุ ในเมืองหังโจว
หรือนอกจากชางเซิ่งแล้ว ร้านขายผ้าไหมของคนอื่นล้วนประกอบกิจการไม่ได้อย่างนัน้ รึ?”
อวีห้ ย่วนทอดถอนหายใจ “มักจะมีคนกดอยู่บนศีรษะเจ้า เจ้าเสียแรงกายแรงใจไป
เท่าใดก็ไม่อาจตามทัน ทําได้เพียงตามอยู่ดา้ นหลังคนอื่น ยังจะมีความสุขรื่นเริงอะไรได้อยู่ร?ึ ”
อวีถ้ งั หัวเราะเสียงดังขึน้ มา ปลุกใจญาติผพู้ ่ี “พวกเราก็ลองเสียหน่อยดีหรือไม่ ดูว่าจะ
สามารถทําร้านค้าเครื่องลงรักที่ดีกว่าสกุลเซิ่งขึน้ มาในเวลาอันสัน้ ได้หรือเปล่า”
อวีห้ ย่วนลังเลไปพักใหญ่
อวีถ้ งั กระปรีก้ ระเปร่าขึน้ มา ทําท่าตื่นเต้นฮึกเหิม เอ่ยด้วยเสียงดัง “ไป พวกเราไปดูว่า
ร้านค้าเครื่องลงรักของร้านอื่นขายอะไรกันบ้าง?”
อวีห้ ย่วนเห็นรอยยิม้ ที่สดใดราวบุปผาสะพรั่งในฤดูรอ้ นของอวีถ้ งั ก็รูส้ ึกดีขึน้ มาก เอ่ย
ด้วยรอยยิม้ “พวกเราไปร้านค้าสกุลกูก้ ่อนเถิดดีกว่า? ข้าได้ยินลูกชายของแม่นมคุณหนูกกู้ ล่าว
ว่า ตอนขึน้ ปี ใหม่สกุลกูต้ อ้ งจัดการรับมือกับเรื่องมากมาย ช่วงปี ใหม่มารดาของเขาจึงไม่ออก
จากจวน หากพวกเราอยากจะพบแม่นมของคุณหนูกู้ ก็ตอ้ งรีบคว้าโอกาส หากวันนีไ้ ม่พบก็ทาํ
ได้เพียงรอพ้นปี ใหม่ไปเท่านัน้ ”
อวีถ้ งั รีบทําเวลาก่อนตรุ ษจีนเล็ก วิ่งโร่มาพูดเรื่องสกุลหลี่ต่อหน้าคนสกุลกูก้ ็เพราะว่า
อยากให้สองสกุลฉลองปี ใหม่ดว้ ยความเดือดเนือ้ ร้อนใจมิใช่ร?ึ หากรอจนผ่านปี ใหม่แล้ว ยังจะ
มีความหมายอันใด?
783

“ไม่จาํ เป็ นต้องพูดมาก แค่ใช้การได้ก็เพียงพอแล้ว” อวีถ้ ังโบกมืออย่างไม่คิดเช่นนัน้


“พวกเรายังมีเวลาช่วงบ่ายอยู่? ไปเที่ยวชมร้านค้าเครื่องลงรักในเมืองหังโจวก่อน ดูว่าร้านค้า
พวกนัน้ ขายอะไรบ้าง? แบบใดที่ขายดีท่ีสดุ ”
นี่จะสิน้ เปลืองเวลาเกินไปแล้ว
ทัง้ เมื่อครูร่ า้ นค้าเครื่องลงรักที่รุง่ เรืองคึกคักของสกุลเซิ่งก็ทาํ ให้อวีห้ ย่วนท้อแท้ใจไปไม่
น้อย
“ทําอย่างกับว่าร้านเครื่องลงรักพวกนัน้ ไม่ตอ้ งการเงินอย่างนัน้ แหละ” เขายังคงพึมพํา
อย่างพะว้าพะวง
อวีถ้ งั หัวเราะ ดึงพี่ชายเข้าไปในร้านเครื่องลงรักแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากร้านสกุลเซิ่งมาก
ในร้า นมี เ พี ย งลูก ค้า ห้า หกคนกระจัด กระจายกัน ไป เด็ ก ในร้า นก็ ดูเ อื อ้ ยเฉื่ อ ยไม่
กระตือรือร้นอันใด
อวีถ้ ังสํารวจอย่างละเอียด ในร้านแห่งนีข้ ายงานฝี มือเครื่องลงรักรู ปแบบแปลกใหม่
เพียงเล็กน้อย ส่วนมากจะขายแบบดัง้ เดิม
สองพี่นอ้ งอวีถ้ งั ยังเดินดูรา้ นเครื่องลงรักอีกหลายแห่ง ในใจอวีถ้ งั ค่อยปรากฏภาพจํา
ขึน้ มาอย่างคร่าวๆ ได้แล้ว ยามนีถ้ ึงเวลาอาหารกลางวัน หากพวกอวีห้ ย่วนไปร้านค้าของเหยา
ซานเอ๋อร์ เหยาซานเอ๋อร์ย่อมเชิญพวกเขากินข้าวด้วยกัน แม้ว่ากิจการของเหยาซานเอ๋อร์จะ
ค้า ขายดีไม่น อ้ ย แต่ก็ พ อเลีย้ งปากเลี ย้ งท้องครอบครัว เท่ า นั้น อวีห้ ย่ว นไม่ก ล้า รบกวนเขา
ตระหนักว่ายากที่อวีถ้ งั จะออกมาเที่ยวกับเขา มิสพู้ านางไปกินที่รา้ นอาหารดีกว่า
เขาครุน่ คิดเล็กน้อย ก่อนจะพาอวีถ้ งั ไปตรอกเล็กๆ หาร้านบะหมี่แห่งหนึ่งที่มีโต๊ะเพียง
เจ็ดแปดตัว ด้านนอกกลับคราครํ่าไปด้วยผูค้ น เอ่ยกับอวีถ้ งั “เจ้าอย่ามองว่าร้านบะหมี่นีเ้ ล็ก ที่
จริงกลับเลื่องชื่ออย่างยิ่ง ที่น่ีเปิ ดมาหลายชั่วอายุคนแล้ว เป็ นร้านที่เหยาซานเอ๋อร์พาข้ามากิน
784

ครัง้ ที่แล้วยามมาเยือนหังโจว บะหมี่หน่อไม้ของร้านพวกเขามีช่ือเสียงที่สุด เจ้าลองชิมดูว่า


รสชาติถกู ปากหรือไม่”
ตัง้ แต่เด็กอวีถ้ งั ก็ชอบออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก เหมือนกับเด็กเล็กทั่วไป มักคิดว่าของ
ข้างนอกอร่อยกว่าของในเรือน ยามนีแ้ ม้จะโตแล้ว แต่ชาติก่อนถูกขังในสกุลหลี่ถึงหกเจ็ดปี
นอกจากนิสยั จะไม่เปลี่ยนแปลงตามอายุแล้ว นับวันกลับยังชอบออกจากเรือนขึน้ เรื่อยๆ
นางหัวเราะอย่างเริงร่า รอที่น่ งั กับอวีห้ ย่วนอยู่พกั ใหญ่ ก่อนจะมีโต๊ะว่างให้ทงั้ สองคน
อวีห้ ย่วนสั่งบะหมี่หน่อไม้สองชามอย่างชํานาญ ก่อนจะเอ่ยถึงเรื่องร้านเครื่องลงรัก
กับอวีถ้ งั เสียงเบา “ข้าขบคิดแล้ว รอจนผ่านปี ใหม่ มาพักในเมืองหังโจว ก็จะวนเวียนแถวร้านค้า
พวกเขา ดูวา่ แต่ละวันร้านของพวกเขาขายอะไรบ้าง…”
แม้วิธีนีจ้ ะดูโง่เขลา แต่ใช้ประโยชน์ได้ชะงัดนัก
ทว่าเดือนสามปี หน้า พี่ชายนางก็จะแต่งงานแล้ว หรือเขาจะถ่อมาเมืองหังโจว ทอดทิง้
เจ้าสาวที่แต่งมาหมาดๆ ให้อยู่เพียงคนเดียว
อวีถ้ งั รูส้ กึ ว่าเป็ นไปไม่ได้อยู่บา้ ง ยามที่คิดจะเกลีย้ กล่อมอวีห้ ย่วน พลันได้ยินเสียงคุน้ หู
ดังขึน้ “เถ้าแก่ ยังต้องรออีกนานหรือไม่”
ครัน้ นางเงยหน้าขึน้ ก็เห็นเด็กหนุ่มอายุสิบเจ็ดสิบแปดที่แต่งกายชุดเด็กของร้านค้า
พยุงหญิงที่อายุเพียงสามสิบต้นๆ หน้ากลมตาโต ดูใจดีมีเมตตาไม่นอ้ ย ยืนอยู่หน้าร้านบะหมี่
นี่นบั ว่าจู่ๆ ก็หาพบโดยไม่ตอ้ งเสียแรง
นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะพบเจอกับแม่นมของกูซ้ ีและลูกชายของนางในร้านบะหมี่เล็กๆ
แห่งนี ้
สิ่งที่บงั เอิญไปกว่านัน้ สามีภรรยาคู่หนึ่งที่น่ งั ตรงข้ามพวกเขากินเสร็จพอดี กําลังหยัด
กายเตรียมจ่ายเงิน
785

อวีถ้ งั ดึงแขนเสือ้ อวีห้ ย่วนทันที


อวีห้ ย่วนยังคิดว่าอวีถ้ งั ใคร่จะพูดอะไรกับเขา ผลปรากฏว่าเงยหน้ากลับเห็นลูกชายแม่
นมของกูซ้ ี สมองเขาแล่นวาบทันที โบกมือไปทางเขา “น้องกู้ ทางนี!้ ”
คล้ายกับว่าพวกเขาทัง้ สองและพวกแม่นมของกูซ้ ีมาด้วยกัน แต่ท่ีจริงพวกเขากลับ
ครองโต๊ะก่อนแล้วต่างหาก
786

บทที่ 98 โต้กลับ
ลูกชายของแม่นมมองลูกค้าที่เข้าแถวรอกินบะหมี่ขา้ งนอกอยู่ยาวเหยียด ก่อนจะหัน
มามองอวีห้ ย่วนที่ยมิ ้ ให้เขาอย่างเป็ นมิตร ลังเลเพียงชั่วครูก่ ็ปรากฏรอยยิม้ เดินไปหาอวีห้ ย่วนที่
โบกมือ “ข้ากําลังคิดจะไปหาพวกเจ้า คาดไม่ถึงว่าพวกเจ้าจะมีท่ีน่ ังแล้ว” พูดจบ เขาก็หัน
กลับมาเอ่ยกับแม่นมของกูซ้ ี “ท่านแม่ พวกเราเข้าไปนั่งเถิด!”
แม่นมของกูซ้ ีสองจิตสองใจอยู่บา้ ง
ลูกชายของนางเอ่ยเสียงเบา “อีกเดี๋ยวข้ายังต้องกลับไปจัดการบัญชีท่ีรา้ น!”
แม่นมของกูซ้ ีได้ยินเช่นนัน้ ก็เดินมาทางโต๊ะที่อวีห้ ย่วนและอวีถ้ งั นั่งอยู่
“ขอบคุณจริงๆ พ่อหนุ่ม!” เมื่อเดินมาด้านหน้าโต๊ะ นางก็เอ่ยอย่างเกรงใจและอ่อนโยน
“ครัง้ หน้าจะให้กซู้ านเอ๋อร์เชิญพวกเจ้าไปดื่มชา”
แม่นมกูแ้ ต่งงานกับบ่าวคนหนึ่งของสกุลกูซ้ ่ึงได้รบั การแต่งตัง้ สกุลมาตัง้ นานนมแล้ว
แต่แม่นมของกูซ้ ีดวงอาภัพยิ่ง ให้กาํ เนิดบุตรชายสามคน กลับมีกซู้ านเหลือรอดเพียงคนเดียว
ยามที่กูซ้ านอายุครบสองเดือน สามีก็ป่วยตายกะทันหัน ภายหลังกูซ้ ีแต่งเข้าสกุลหลี่ กูซ้ านก็
ตามมารดาเข้ามาหลินอันด้วยกัน ช่วยกูซ้ ีดแู ลเรือกสวนไร่นา แต่งงานกับสาวใช้สินเดิมของกูซ้ ี
ทัง้ เป็ นผูช้ ่วยมากความสามารถของกูซ้ ี
ดังนัน้ อวีถ้ ึงจึงจํากูซ้ านได้เช่นกัน
แต่ว่ากูซ้ านในยามนีย้ งั เป็ นเพียงเด็กหนุ่มผูห้ นึ่งเท่านัน้ แม้ว่าไม่ก่ีปีให้หลัง เขาจะฉาย
แววความหลักแหลม มากความสามารถขึน้ มาอย่างเงียบเชียบก็ตาม
เขาไถ่ถามสารทุกข์สกุ ดิบกับอวีห้ ย่วน จัดแจงให้มารดานั่งลงตรงข้ามอวีถ้ งั ตัวเองกลับ
ไม่น่ งั เอ่ยถามอวีห้ ย่วนแทน “พี่อวี ้ พวกเจ้าสั่งบะหมี่หรือยัง?”
อวีห้ ย่วนผงกศีรษะ เอ่ยด้วยรอยยิม้ “พวกเราสั่งบะหมี่หน่อไม้ อาหารแนะนําของทาง
ร้าน”
787

กูซ้ านพยักหน้า “เช่นนัน้ ก็ดี พวกเราก็ส่ งั บะหมี่หน่อไม้ดว้ ยแล้วกัน” กล่าวจบ เขาก็ว่ิง


ไปสั่งบะหมี่ทางเถ้าแก่ ให้ช่วยเร่งรัดเด็กในร้าน ดูคล่องแคล่วอย่างยิ่ง
สมแล้วที่เป็ นคนสนิทของกูซ้ ีในภายหลัง
อวีถ้ งั ลอบสังเกต ในใจก็ปรากฏความคิดขึน้ มา
แม่นมกู้ท่ียอบกายนั่ง ซึ่งก็คือมารดาของกู้ซานเริ่มสนทนากับอวีห้ ย่วนขึน้ มา “เจ้า
ทํางานที่รา้ นค้าสกุลใดรึ? ไฉนข้าจึงไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเจ้ามาก่อน? เจ้ารูจ้ กั อาสามของพวก
เราได้อย่างไรกัน?”
ฟั งแล้วคล้ายมารดาที่เป็ นห่วงเรื่องเพื่อนของลูกชายทั่วไป ทว่าแววตากลับปรากฏ
ความระแวดระวังอยูห่ ลายส่วน
อวีถ้ งั ก้มหน้าดื่มชาที่รา้ นนํามาให้คาํ หนึ่ง
สกุลกูน้ นั้ โดดเด่นในเมืองหังโจว ไม่รูว้ ่ามีคนเท่าใดอยากจะผูกสัมพันธ์กบั สกุลพวกเขา
คาดว่ากูซ้ านที่เป็ นลูกแม่นมของกูซ้ ี ก็คงพบเจอคนที่ตงั้ ใจผูกมิตรแอบแฝงจุดประสงค์ไม่นอ้ ย
อวีห้ ย่วนไม่มีความคิดจะผูกมิตรกูซ้ านเป็ นสหาย จึงพูดออกไปตามตรง “เพิ่งรู จ้ กั เมื่อ
วาน ข้าเป็ นคนหลินอัน มาหาเพื่อนที่น่ี บังเอิญว่าเพื่อนคนนัน้ ของข้าและน้องกูร้ ู จ้ กั กัน ทุกคน
ไปกินข้าวมาด้วยกันครัง้ หนึ่ง เห็นพวกเจ้าเข้าแถวอยู่ตรงนัน้ จึงเรียกพวกเจ้ามาโดยไม่คิดอะไร”
คําพูดนีไ้ ฉนฟั งดูแล้ว คล้ายเป็ นวิธีท่ีใช้ผกู มิตรกับกูซ้ าน
แม่นมกูเ้ ผยท่าทีระแวดระวังยิ่งขึน้ ไปอีก นางเอ่ย “พ่อหนุ่มอวีเ้ ป็ นคนหลินอันรึ? เจ้ามา
หังโจวเพื่อเที่ยวเล่นหรือเพราะธุระอันใด? นี่ก็ใกล้ขา้ มปี แล้ว เหตุใดผูใ้ หญ่ในสกุลพวกเจ้าจึง
ปล่อยให้พวกเจ้าออกจากบ้านในเวลานีก้ นั ?” พูดจบ นางก็มองไปที่อวีถ้ งั ทีหนึ่ง
อวีห้ ย่วนเอ่ยด้วยรอยยิม้ “สกุลพวกเราก็คือพวกเราสองพี่นอ้ งนี่แหละ เรื่องในบ้านมี
ผูใ้ หญ่คอยดูแลควบคุมอยู่ พวกเราที่เป็ นผูน้ อ้ ยจึงว่างเป็ นอย่างยิ่ง มาหังโจวก็เพื่อเที่ยวเล่น ดู
ว่ามีของดีอนั ใดน่าซือ้ หรือไม่”
788

คิว้ ของแม่นมกูข้ มวดแน่น ยังคิดจะกล่าวอะไร แต่กซู้ านกลับยกถาดรองที่มีชามใหญ่


สองชามวางอยู่เข้ามาก่อน
อวีห้ ย่วนรีบกุลีกจุ อลุกไปช่วยรับถาดรอง
กูซ้ านเอ่ย “นี่เป็ นของพวกเจ้า ของพวกเรายังต้องรอสักพัก พวกเจ้ากินก่อนเถิด อีก
เดี๋ยวก็ถึงคราวของพวกเราแล้ว”
อวีห้ ย่วนเอาชามหนึ่งให้แม่นมกู้ อีกชามให้อวีถ้ ัง “อย่างไรพวกเราก็ไม่มีเรื่องเร่งรีบ
อะไรอยู่แล้ว ให้มารดาเจ้ากับน้องข้ากินก่อนเถิด ข้าและเจ้ารอสักประเดี๋ยว จะได้มีเวลาคุยเล่น
กันด้วย”
กูซ้ านปราดมองมารดาแวบหนึ่ง
แม่นมกูผ้ งกศีรษะเล็กน้อย
กูซ้ านจึงยิม้ รับยอบกายนั่ง ดึงตะเกียบสองคู่ให้อวีถ้ งั และมารดา เวลานีจ้ ึงค่อยดื่มชา
อึกใหญ่ เอ่ยด้วยรอยยิม้ “ย่อมได้! คาดไม่ถึงว่าจะบังเอิญขนาดนี ้ มาพบพี่อวีท้ ่ีน่ีได้ นี่พวกเจ้า
จะไปไหนกันรึ? วางแผนจะกลับเมื่อใด? หากมีเวลาว่างข้าจะเลีย้ งสุราท่าน”
อวีห้ ย่วนเผยยิม้ อย่างไม่ย่ีหระ “ข้าและน้องสาวจะกลับพรุ ่งนีแ้ ล้ว หลังจากกลับไป
ร้านค้าของสกุลก็คงเริ่มยุ่ง ช่วงนัน้ คงไม่มีโอกาสมาหังโจวหรอก หากน้องกูม้ ีโอกาสไปหลินอัน
มิสแู้ วะมาหาข้าที่รา้ นค้าเครื่องลงรักสกุลอวีต้ รงถนนฉางซิ่ง ข้าจะเป็ นเจ้าบ้าน พาเจ้าเที่ยวเมือง
หลินอัน”
กูซ้ านมองมารดาอย่างว่องไว ยิม้ เป็ นพิธี “เช่นนัน้ ข้าคงต้องหาเวลาว่างไปหลินอันสัก
คราแล้ว”
อวีถ้ งั แค่นหัวเราะในใจ
สองแม่ลกู ผูน้ ี ้ คงจะคิดว่าอวีห้ ย่วนและอวีถ้ งั อยากอาศัยความสัมพันธ์พวกเขาไปผูก
มิตรกับสกุลกูไ้ ม่ก็สกุลหลี่กระมัง!
789

อวีถ้ งั อึดอัดในใจ ตัดสินใจเป็ นฝ่ ายลงมือก่อน


นางดึงแขนเสือ้ ของอวีห้ ย่วน ใช้เสียงกระซิบที่สองแม่ลกู สามารถได้ยินเช่นกัน “สกุลกู้
คงไม่ใช่เกี่ยวข้องอะไรกับสกุลกูแ้ ห่งหังโจวหรอกกระมัง?”
ชั่วขณะนัน้ อวีห้ ย่วนยังไม่เข้าใจว่าอวีถ้ งั จะมาไม้ไหน จึงชะงักไปเล็กน้อย
สองแม่ลกู กูซ้ านแลกเปลี่ยนสายตากัน แม่นมกูจ้ ึงเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “คุณหนูอวี ้
รูจ้ กั สกุลกูข้ องพวกเรารึ?”
อวีถ้ งั ใบหน้าดําคลํา้ “พวกเจ้าเป็ นคนของสกุลกูแ้ ห่งหังโจวจริงๆ รึ?”
ยามที่นางกําลังทําหน้ามืดหม่น คิว้ นัน้ ไม่ได้เหยียดตรงทัง้ หมด แต่ดวงตากลมโต จมูก
ที่ เ ชิ ด รั้น งดงามเป็ น อย่ า งยิ่ ง ไม่ ว่า ยามที่ น างก้ม หน้า ไม่ พูดไม่ จา ก็ พ าให้ค นรู ส้ ึก ถึง ความ
อ่อนหวานพริม้ เพรา แต่เมื่อนางพูดขึน้ มา โดยเฉพาะสีหน้าเคร่งขรึมเช่นนี ้ ชั่วพริบตาใบหน้าก็
เปลี่ยนเป็ นคมเด่นขึน้ มา เป็ นความสง่างามที่ไล่ตอ้ นผูค้ นได้
แม่นมกูก้ ็พบหญิงงามมาไม่นอ้ ย คาดไม่ถึงว่าถูกอวีถ้ งั ทําหน้าแข็งทื่อใส่เช่นนี ้ กลับไม่
อาจตอบกลับได้ในทันที เป็ นกูซ้ านที่ระแวดสองพี่นอ้ งอวีห้ ย่วนมาโดยตลอด ฟั งจบ เห็นมารดา
ไม่กล่าวอะไร เขาก็เอ่ยทันที “พวกเรานับเป็ นคนสกุลกูแ้ ห่งหังโจวไม่ได้หรอก เพียงแต่บิดาข้า
เป็ นบ่าวที่ตกทอดหลายชั่วอายุคนของสกุลกู้ ได้รบั ความเมตตาจากสกุลกู้ สมัยพ่อของปู่ ทวด
ข้าก็ได้ใช้สกุลกูต้ าม พวกเราแม่ลกู จึงได้ทาํ งานรับใช้ในสกุลกู”้
หากสองพี่นอ้ งสกุลอวีเ้ ตรียมการณ์มา ย่อมรูว้ ่าเขาเป็ นใคร เขาไม่จาํ เป็ นต้องปากมาก
แต่หากไม่รูจ้ กั อาศัยจากความสัมพันธ์ของพวกเขา เพียงแค่ผกู มิตรกันตอนนีก้ ็เพียงพอแล้ว
ใครจะรูว้ ่าเขาเพิ่งเอ่ยจบ อวีถ้ งั ก็เด้งตัวลุกขึน้ มา กล่าวกับอวีห้ ย่วน “ท่านพี่ พวกเราไป
เถิด! ข้าไม่อยากนั่งกับคนอย่างพวกเขา”
พืน้ ที่รา้ นค้าค่อนข้างเล็ก อวีถ้ ังยืนเช่นนี ้ ล้วนดึงดูดสายตาผูค้ นให้จอ้ งมองมา คําพูด
ของนางยิ่งแพร่กระจายเข้าหูของทุกคน อย่าพูดถึงคนในร้านเลย แต่คนที่เข้าแถวใกล้ๆ ร้านก็ได้
790

ยินทั่วกัน พากันหูตงั้ ขึน้ มา ชั่วพริบตาร้านค้าทัง้ นอกทัง้ ในเงียบเชียบเป็ นเป่ าสาก ได้ยินเพียง


เสียงนํา้ แกงร้อนที่เดือด ‘ปุดๆ’ เท่านัน้
นับตัง้ แต่แม่นมกูเ้ ป็ นสาวใช้ใหญ่ของมารดากูซ้ ีก็ไม่เคยพบเจอสถานการณ์ลาํ บากใจ
เช่นนีม้ าก่อน นางกระวีกระวาดยืนขึน้ เอ่ยกับอวีถ้ งั เสียงเบา “แม่หนู ไม่ว่ามีเรื่องอันใด เจ้าทํา
เช่นนีร้ งั แต่จะทําให้ทกุ คนอับอายไปด้วยกัน เจ้านั่งลงก่อนเถิด พวกเรามาคุยกันดีๆ ไม่ว่าเรื่อง
อะไรล้วนมีทางออกทัง้ นัน้ หากข้าไม่อาจคลี่คลายได้ ก็ไปหานายท่านใหญ่สกุลกูข้ องพวกเรา
เรื่องที่คนอื่นแก้ไขไม่ได้ เขาย่อมมีวิธีแก้ไข” ประโยคสุดท้าย แฝงความหมายข่มขู่อยู่เลือนราง
อวีถ้ งั กลัวว่าเรื่องจะไม่ใหญ่พอ ยิ่งไปกว่านัน้ ยามที่มาก็ได้เตรียมโยนทิง้ เรื่องหน้าตาไป
ไว้อีกฝั่งแล้ว
นางแค่นหัวเราะยอบนั่งลง เอ่ยอย่างกําปั้ นทุบดิน “ท่านก็อย่าได้ใช้นายท่านใหญ่สกุล
กูม้ าข่มข้า ในเมื่อข้ากล้าทํา ย่อมกล้ารับ เจ้าจะเรียกนายท่านใหญ่พวกเจ้ามา ข้าก็กล้าพูดไม่
กลัวอันใดทัง้ นัน้ ”
แม่นมกูท้ งั้ โมโห ร้อนใจ และรําคาญ
แม้ว่าพวกนางจะนั่งลง แต่ทกุ คนมองแวบเดียวก็รูแ้ ล้วว่าระหว่างพวกเขามีเรื่องสนุกให้
ดู แม้คนในร้านค้าจะกินบะหมี่ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึน้ แต่ในความเป็ นจริงกลับลอบมองพวก
เขาอยู่ ใคร่ฟังข่าวลํ่าลือนินทา จะได้เอาไปพูดคุยซุบซิบกับผูอ้ ่ืนได้ ความสนใจของทุกคนจึงพุ่ง
ไปอยู่ท่ีพวกเขาอย่างไม่ลดละ
แม่นมกูก้ ดเสียงลดอย่างไม่เป็ นตัวเองอยู่หลายส่วน ฝื นยิม้ ออกมา “อย่างไรคุณหนูอวี ้
กินบะหมี่กอ่ นเถิด รอกินบะหมี่เสร็จแล้ว พวกเราค่อยหาที่คยุ กันดีๆ”
นี่หากเป็ นในจวนสกุลกู้ อย่าว่าแต่กินบะหมี่อะไรเลย นางคงจะลากแม่หนูผนู้ ีไ้ ปคุยกัน
ด้านข้างแล้ว หากยังพูดไม่กระจ่าง ก็อย่าได้คิดจะกินอะไรทัง้ นัน้
791

แม่นมกูฝ้ ื นกดโทสะที่สมุ อยู่ในอก อวีถ้ งั ไม่ได้วางแผนที่จะมาเอาใจนาง แค่นยิม้ หยัน


พูดด้วยเสียงเฉกเช่นปกติ “ท่านไม่ตอ้ งไว้หน้าข้าหรอก ข้าไม่ใช่คนที่เกี่ยวข้องอันใดกับสกุลกู้
หากจะเอ่ยขึน้ มา สกุลพวกเรายังมีความแค้นกับสกุลกู… ้ หลี่ตวน บุตรเขยของสกุลกูพ้ วกเจ้า ไม่
สิ ควรพูดว่าฮูหยินหลี่ มารดาของเขยบ้านรองสกุลกูข้ องพวกเจ้า ช่างไร้ยางอายจริงๆ ดูสิว่าทํา
เรื่องงามหน้าอะไรออกมา? บุตรเขยสกุลพวกเจ้ายังสวมชุดกระสอบไว้ทกุ ข์ขอขมาให้คนอื่นอยู่
เลย คนเมืองหลินอันแห่มาดูมหรสพจนแออัดเต็มถนนไปหมด ใครบ้างไม่รู ้ ใครบ้างไม่เห็น อย่า
มาทํา ท่า ทางประหนึ่งกลัว ว่าพวกเราสองพี่นอ้ งอยากจะประจบประแจงพวกเจ้า ข้า ไม่ฟัง
คําอธิบายจากพวกเจ้าหรอก แต่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่เจ้าพูดถูก ไม่ว่าเรื่องอะไรล้วนมีวิธีแก้ไข หากเจ้า
คิดว่าได้รบั การเหยียดหยามจากข้าที่น่ี ก็เรียกนายท่านใหญ่สกุลพวกเจ้ามา ให้นายท่านใหญ่
สกุลพวกเจ้าให้ความชัดเจนแก่พวกเรา ดูสิว่าเป็ นเจ้าที่มีตาหามีแววไม่ หรือเป็ นพวกเราที่ไร้
เหตุผล”
นางคารมคมคาย ทํา เอาแม่น มกู้โ มโหจนหน้า ดํา เป็ น ก้น หม้อ ลํา พัง แค่กัง วลเรื่อง
ชื่อเสียงของสกุลกูใ้ นเมืองหังโจวก็ไม่กล้ากล่าวเสียงดังอันใดกับอวีถ้ งั แล้ว
ก่อนหน้านีอ้ วีห้ ย่วนยังกังวลว่าอวีถ้ งั กระทําเรื่องบ้าบิ่นเกินไป ยามนีเ้ ห็นแม่นมของกูซ้ ี
ข่มกลัน้ ไม่ปริปากพูด จึงเชื่อดั่งที่อวีถ้ งั กล่าวว่า ‘สกุลรํ่ารวยมากบารมีนนั้ รักหน้าตาตัวเองเป็ น
ที่สดุ ต่อหน้าเจ้าไม่กล้าทําอะไร กลับลอบใช้แผนการลับหลังเท่านัน้ ’ เขารูส้ กึ โล่งใจ ทัง้ ใจแขวน
อยู่กลางอากาศในเวลาเดียวกัน
สกุลกูค้ งไม่ลอบลักพาตัวพวกเขาสองพี่นอ้ งไปหรอกกระมัง?
อีกเดี๋ยวเขาจะเจอเถ้าแก่รองถง ควรเอ่ยเรื่องนีก้ บั เขาดีหรือไม่?
หรือว่า พวกเขาจ้างเรือกลับหลินอันคืนนีเ้ ลย? อย่างไรพวกเขาก็ทาํ เรื่องบรรลุเป้าหมาย
แล้ว ไม่มีประโยชน์ท่ีจะรัง้ อยู่ท่ีหงั โจว
ด้านอวีห้ ย่วนยังคงคิดว้าวุน่ ไปร้อยแปดพันเก้า กูซ้ านดึงสติกลับมา เขาประกายสายตา
เยียบเย็น เอ่ยอย่างจริงจัง “ทัง้ สองคนมาหาเรื่องอย่างนัน้ รึ?”
792

อวีถ้ ังไม่ได้ใจเย็นสงวนกิริยาเหมือนชาติก่อน ทัง้ ไม่คิดจะก้มศีรษะยอมให้คนอื่นทํา


อะไรหยาบคายกับนางก็ได้ ได้ยินเขากล่าวเช่นนี ้ จึงตอบกลับทันที “เจ้าคิดว่าพวกเจ้านับเป็ น
ของสิ่งใดกัน? หากข้าอยากหาเรื่อง ย่อมไม่มีความจําเป็ นต้องทํากับพวกเจ้า! ข้าว่าเจ้าคงอยู่ใน
เมืองหังโจวนานเกินไป กลายเป็ นกบในกะลา คิดว่านอกจากสกุลกูข้ องพวกเจ้าแล้วก็ไม่มีสกุล
ใดอีก เพียงแค่พดู กับพวกเจ้าเพียงไม่ก่ีคาํ ก็คิดว่าคนอื่นอยากจะหาผลประโยชน์จากพวกเจ้า
เจ้าไม่ลองไปสืบข่าวดูเสียบ้าง สกุลอวีข้ องพวกเราก็เป็ นสกุลบัณฑิตที่มีหน้ามีตาในหลินอัน
จะต้องใช้แผนการอะไรกับพวกเจ้าที่เป็ นบ่าวรับใช้?” พูดจบ นางก็ตะโกนเรียกเถ้าแก่เสียงดัง
“พวกเราไม่รูจ้ กั สองคนนี ้ รบกวนท่านเปลี่ยนโต๊ะให้ดว้ ย!”
แม่นมของกู้ซีโมโหจนหน้าเทา เถ้าแก่เผยรอยยิม้ อบอุ่นใสซื่อ จะเปลี่ยนก็ ไม่ได้ ไม่
เปลี่ยนก็ไม่ได้อีก
793

บทที่ 99 แคลงใจ
อวีห้ ย่วนกลัวว่าอวีถ้ งั จะแสดงเกินงาม ยั่วโทสะแม่นมกูจ้ นแผนพังไม่เป็ นท่า จึงดึงแขน
เสือ้ ของอวีถ้ งั แสร้งกล่าวตําหนิ “เจ้าดูนิสยั ของเจ้าสิ แค่จดุ ไฟก็ติดเสียแล้ว ภายกลังข้าจะกล้า
พาเจ้าออกมาได้อย่างไรอีก? มีเรื่องอะไรก็น่ งั ลงพูดจากันดีๆ ทุกคนจ้องมองพวกเราอยู่! เจ้าไม่
กลัวคนอื่นรูเ้ ห็น แต่ขา้ อายเป็ นอย่างยิ่ง!”
เขาคิดจะพยายามถ่วงเวลาอีกเล็กน้อย พูดเรื่องของสกุลหลี่ต่อหน้าแม่ลกู กูซ้ านอีกสัก
สองสามประโยค
อวีถ้ งั ยังคงค่อนข้างเข้าใจสองแม่ลกู กูซ้ าน คิดว่าคําพูดนีข้ องตัวเองเพียงพอให้สองแม่
ลูกเกิดความแคลงใจ ออกไปสืบเรื่องของสกุลหลี่แล้ว ในเมื่อบรรลุเป้าหมาย นางก็ไม่คิดจะ
ตอแยอะไรกับสองแม่ลกู สกุลกูอ้ ีก บะหมี่สองชามจ่ายเงินไปแล้ว ไม่อาจสิน้ เปลืองได้ รีบกินรีบ
ไปก็เพียงพอแล้ว
นางค้อมตัวนั่งลง
ใบหน้าของอวีห้ ย่วนผ่อนคลายลง เอ่ยละลํ่าละลัก “นี่ก็ถูกแล้ว บะหมี่จวนจะอืดแล้ว
รีบกินก่อนเถิด!” พูดจบ เขาก็เอ่ยด้วยท่าทีละอายใจกับแม่นมกู้ “ท่านอย่าได้โมโหเลย น้องสาว
ข้าคนนี ้ อะไรก็ดีไปเสียหมด เพียงแต่หนุ หันพลันแล่นอยู่บา้ งเท่านัน้ แต่ก็ไม่อาจโทษนางทัง้ หมด
ได้” พูดมาถึงตรงนี ้ เขาก็เริ่มกล่าวโทษกูซ้ าน “เจ้าก็ไม่บอกข้าเสียหน่อยว่าเจ้าเป็ นคนของสกุล
กู?้ หากรูเ้ ช่นนี ้ ข้าคงไม่อาจทักทายลากพวกเจ้ามากินบะหมี่ดว้ ยกัน”
ตัง้ แต่ท่ีอวีถ้ งั ยืนขึน้ กูซ้ านก็หวั หมุนนับครัง้ ไม่ถว้ น ช่วงเวลาสัน้ ๆ นีย้ งั แยกไม่ออกว่าพี่
น้องอวีห้ ย่วนพบเขาโดยบังเอิญหรือตัง้ ใจคอยเขาที่น่ีกนั แน่ แต่ไม่วา่ จะอย่างหน้าหรืออย่างหลัง
เรื่องเกี่ยวกับสกุลหลี่ท่ีพวกเขาเอ่ยถึงล้วนทําให้เขาสั่นไหวในใจ
มารดาของเขาเป็ นแม่นมของคุณหนูใหญ่ ตัง้ แต่แรกชะตากรรมของครอบครัวพวกเขา
ก็ ผูกไว้กับคุณหนูใหญ่ แล้ว หนึ่งโรจน์ทุกคนรุ ่ง หนึ่งร่วงทุกคนล้ม งานแต่งของคุณหนูใหญ่
คุณชายใหญ่ไม่ได้ตอบรับ แต่หา้ มนายท่านสองที่หเู บาไม่ได้ ถูกนายหญิงใหม่พดู เกลีย้ กล่อมใน
794

เวลาอันสัน้ อยากแข่งขันให้รูผ้ ลแพ้ชนะกับบ้านใหญ่ ใคร่หาผูช้ ่วยเหลือให้กบั คุณชายสามใน


สกุล ต้องตาคุณชายจวี่เหรินสกุลหลี่ผนู้ นั้ จึงได้พยายามกําหนดงานแต่งครัง้ นีข้ องคุณหนูใหญ่
หากสิ่งที่พ่ีนอ้ งสกุลอวีก้ ล่าวเป็ นความจริง เช่นนัน้ บุตรเขยของคุณหนูใหญ่ของพวกเขา
ก็อาจจะเป็ นดั่งที่คณุ ชายใหญ่กล่าวไว้ตอนแรก พืน้ เพสกุลตืน้ เขิน ไม่ค่อยมีเส้นสนกลใน เกรง
ว่าจะไม่เป็ นโล้เป็ นพายเท่าใด
ถอนหมัน้ นัน้ ไม่อาจทําได้ แต่ช่ วั ชีวิตนีข้ องคุณหนูใหญ่คงจบเห่แล้ว!
กูซ้ านใจร้อนดั่งไฟสุม ไหนเลยยังจะกินบะหมี่ลง เขาเพียงอยากขอให้คนไปสืบข่าวของ
สกุลหลี่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึน้ มาโดยเร็วที่สุด กลับไปรายงานต่อคุณชายใหญ่ ให้คุณชายใหญ่
พวกเขาดูวา่ งานหมัน้ ของคุณหนูใหญ่ควรจะทําอย่างไร
“ท่านแม่!” กูซ้ านที่ไม่ได้เอ่ยอันใดมาพักใหญ่ ส่งสายตาให้มารดา บอกเป็ นนัยไม่ให้
มารดาต่อปากต่อคํากับอวีถ้ งั อีก จากนัน้ ก็สง่ ยิม้ ขอโทษขอโพยให้กบั อวีห้ ย่วน “พี่อวี ้ ข้าเห็นเจ้า
และเหยาซานเอ๋อร์เป็ นสหายกันตัง้ แต่เด็ก คิดว่าเขาคงบอกฐานะข้ากับเจ้าแล้ว ทําให้เจ้าเข้าใจ
ผิดไป ข้าทําไม่ถูกเอง ฟั งจากคําพูดของเจ้าแล้ว ดูเหมือนว่าสกุลอวีข้ องพวกเจ้าและสกุลเขย
ของพวกเราจะมีความแค้นอะไรกัน? แต่วา่ ก็เป็ นดั่งที่คณ ุ หนูอวีก้ ล่าว อย่างไรข้าและมารดาเป็ น
เพียงข้ารับใช้ เรื่องของเจ้านาย พวกเราก็ไม่อาจเอ่ยอะไรได้ ขอทัง้ สองคนอภัยด้วย ส่วนเรื่องนั่ง
โต๊ะเดียวกัน คุณหนูอวี ้ ข้ากินข้าวกลางวันเสร็จแล้วก็จะรีบไปช่วยที่รา้ นค้า เจ้าก็เห็นข้าเป็ น
เพียงคนแปลกหน้าร่วมโต๊ะกับเจ้าเถิด พวกเรากินเสร็จก็จะไปทันที”
สมแล้วที่เป็ นผูช้ ่วยคนสนิทของกูซ้ ี เอ่ยวาจาไร้ช่องโหว่ รอบคอบไม่ขาดตกบกพร่อง
อวีถ้ งั ไม่คิดจะดึงดันต่อ
นางผงกศีรษะ นั่งลงกินบะหมี่
795

บะหมี่ของร้านนีส้ มคํารํ่าลือจริงๆ แม้วา่ จะอารมณ์ไม่ดี ซดนํา้ แกงเข้าไปหนึ่งคํา รสชาติ


ที่อร่อยก็ทาํ ให้นางเกิดความอยากอาหารทันที เส้นบะหมี่ก็ทาํ ได้เหนียวนุ่ม พาให้อวีถ้ งั จดจ่อไป
กับการกินบะหมี่โดยไม่รูต้ วั
หากแต่ในใจของแม่นมกูก้ ลับยุ่งเหยิงมากกว่า
สกุลกูเ้ ป็ นสกุลที่โดดเด่นอันดับต้นๆ ของเมืองหังโจว แต่มีหลายบ้านหลายครอบครัว
ความขัดแย้งย่อมมากตาม แม้ว่าพี่นอ้ งสกุลอวีจ้ ะมีความแค้นกับสกุลหลี่ คิดจะทําลายงาน
มงคลของคุณหนูใหญ่พวกเขาและสกุลหลี่ ก็ไม่อาจจะสร้างข่าวลือโป้ปดมดเท็จออกมาได้
ทัง้ หมด แม้ผคู้ นที่มากินร้านบะหมี่เล็กๆ นีจ้ ะมีไม่มาก แต่ผทู้ ่ีมาใช้บริการแปดถึงเก้าในสิบส่วน
ย่อมเป็ นคนพืน้ เพของหังโจว ไม่นานคําพูดของพี่นอ้ งสกุลอวีค้ งจะแพร่กระจายไปทั่ว หาก
สกุลหลี่เป็ นอย่างที่พ่ีนอ้ งสกุลอวีเ้ อ่ยถึงจริงๆ เช่นนั้นงานแต่งของคุณหนูใหญ่พวกเขาจะไม่
กลายเป็ นเรื่องขบขันในเมืองหังโจวหรอกรึ? ทัง้ คุณชายใหญ่ยงั ต้องถูกคนหัวเราะเยาะเช่นนีไ้ ป
อีกสิบยี่สิบปี ?
ยังมีนายหญิงใหม่ของสกุล เดิมทีก็เพราะคุณชายใหญ่มีความสามารถจึงเห็นคุณชาย
ใหญ่ขดั หูขดั ตาไปหมด ไร้ทางจะจัดการกับคุณชายใหญ่จึงไปหาคุณหนูใหญ่แทน สกุลกูม้ ีใคร
ไม่รูบ้ า้ ง? หากสกุลหลี่ไม่เหมาะสมจริงๆ จะให้คณ
ุ ชายใหญ่ของพวกเขาเอาหน้าไปไว้ท่ีไหนกัน!
นางไหนเลยจะนั่งติดที่ กินลวกๆ สองสามคําก็กินต่อไปไม่ไหวแล้ว รอจนบะหมี่ของลูก
ชายมา นางก็สง่ สายตาให้ลกู ชายบ่อยครัง้ บอกเป็ นนัยให้เขารีบกินรีบไป
กูซ้ านกลับใจเย็นกว่ามาก
เรื่องมาถึงขัน้ นี ้ แทนที่จะหนีกระเจิดกระเจิงเป็ นที่ขาํ ขันของคนหังโจว ยังมิสสู้ ืบข่าว
คราวเล็กน้อยจากสองพี่นอ้ งสกุลอวีเ้ พิ่มเติม
เขากินติดต่อกันหลายคํา รู ส้ ึกว่าอิ่มประมาณครึ่งท้องแล้ว อวีห้ ย่วนก็กินไปไม่นอ้ ย
เช่นกัน เวลานีจ้ ึงเอ่ยปาก “พี่อวี ้ ตกลงสกุลหลี่เกิดเรื่องอะไรขึน้ รึ เจ้าเล่าให้ขา้ ฟั งได้หรือไม่ ข้ารู ้
ว่าเจ้าไม่ใช่คนที่ชอบพูดจาเรื่อยเปื่ อย แต่เจ้าก็รูค้ วามสัมพันธ์ของสกุลพวกเรากับสกุลหลี่แล้ว
796

ข้ากังวลว่าคุณหนูใหญ่ ของพวกเรา…มารดาของข้าเป็ นแม่นมของคุณหนูใหญ่ สกุลกู้ หาก


คุณหนูใหญ่ออกเรือน มารดาของข้าย่อมกลายเป็ นสินเดิมไปเมืองหลินอันด้วย ข้าก็ตอ้ งตามไป
รับใช้เช่นกัน ด้วยเหตุนี ้ คุณชายใหญ่จึงจัดการให้ขา้ ไปเรียนรูฝ้ ึ กฝนในร้านค้าแต่ละแห่ง แม้ว่า
จะเพื่อตัวเอง ข้าก็จาํ เป็ นต้องถาม อย่างไรขอพี่อวีอ้ ย่าได้ปิดบัง ข้าขอบคุณพี่อวีล้ ่วงหน้าตรงนี ้
แล้วกัน” พูดจบ เขาก็หยัดกายเตรียมจะคํานับให้อวีห้ ย่วน
เมื่อครู ่ละครฉากใหญ่ ของอวีถ้ ังเพิ่งจะสงบลงไป กู้ซานก็เป็ นฝ่ ายถามเรื่องสกุลหลี่
ขึน้ มาอีก อวีห้ ย่วนไม่อยากมีปัญหาสอดแทรกเพิ่มเข้ามา รีบดึงเขาให้น่ งั ลง เอ่ยเสียงเบา “น้อง
กูอ้ ย่าได้ทาํ เช่นนี ้ มีอะไรพวกเราคุยกันดีๆ เถิด” พูดจบก็ยงั มองไปรอบๆ คล้ายกลัวเรื่องกลัวราว
กูซ้ านย่อมไม่อยากให้เรื่องลุกลามใหญ่โต
เขายอมนั่งแต่โดยดี ประสานมือไปทางอวีห้ ย่วน “พี่อวี!้ ”
อวีห้ ย่วนถอนหายใจ ปิ ดบังเรื่องแผนที่ไว้ เล่าวีรกรรมที่ฮหู ยินหลี่ทาํ เพราะสูข่ ออวีถ้ งั ไม่
สําเร็จออกมา รวมถึงเรื่องเว่ยเสี่ยวซานให้กบั สองแม่ลกู สกุลกูฟ้ ั ง
ทัง้ สองคนยิ่งฟั งสีหน้าก็ย่งิ บิดเบีย้ วขึน้ เรื่อยๆ รอจนฟั งถึงยามที่เชิญเผยเยี่ยนมาเป็ นคน
กลาง พวกเขาก็ย่ิงพากันสะท้านในใจ แม่นมกูเ้ อ่ยอย่างตกใจ “เช่นนัน้ แล้ว นายท่านสามสกุล
เผยก็ทราบเรื่องนีอ้ ย่างนัน้ รึ?”
ดูท่าแล้ว คงเกรงกลัวเผยเยี่ยนอยู่บา้ ง
อวีห้ ย่วนคิดคล้อยตาม ชําเลืองตามองอวีถ้ งั อย่างว่องไว “ทราบแล้ว! ไม่เพียงนายท่าน
สามสกุลเผย แต่ผคู้ นมีหน้ามีตาในเมืองหลินอันของพวกเราก็รูโ้ ดยทั่วกัน”
สีหน้าของแม่นมกูเ้ ปลี่ยนเป็ นน่าเกลียดโดยพลัน
อวีถ้ งั กลอกตา ตัง้ ใจแค่นเสียง “ยามนีค้ งรูว้ า่ พวกเราไม่ได้พดู จาเรื่อยเปื่ อยแล้วกระมัง?
หากพวกเจ้ายังไม่เชื่อ ก็ไปถามนายท่านสามสกุลเผยได้”
แม่นมกูไ้ ม่ปริปากกล่าวอันใด
797

รอยยิม้ ของกูซ้ านดูฝืนขึน้ มาอย่างเห็นได้ชดั หยัดกายขึน้ พยุงมารดา “พี่อวี ้ ถึงเวลาที่ขา้


จะไปเข้างานแล้ว คงต้องขอตัวก่อน ภายหลังหากมีเวลาข้าจะเชิญเจ้าไปดื่มชา”
อวีห้ ย่วนลุกขึน้ ส่งเขา แสร้งเอ่ยออกมา “พี่อวี ้ น้องสาวข้าเป็ นคนมุทะลุอยู่บา้ ง หากพูด
ล่วงเกินที่ใดไป ขอเจ้าอย่าได้เก็บมาใส่ใจ”
“จะทําเช่นนัน้ ได้อย่างไร!” กูซ้ านเอ่ยอย่างถ่อมตัว
ทัง้ สองคนกล่าวเป็ นมารยาทกันสักพัก ก็แยกย้ายทางใครทางมัน
อวีห้ ย่วนทอดมองแผ่นหลังของสองแม่ลูกกูซ้ าน ถอนหายใจยาว เอ่ยกับอวีถ้ ังอย่าง
อารมณ์ดี “ไอหยา วันนีโ้ ชคดีจริงๆ ในที่สดุ เรื่องนีก้ ็เสร็จสรรพไป ไม่อย่างนัน้ หากเจ้าให้ขา้ พูดใส่
ร้ายสกุลหลี่ตอ่ หน้าผูอ้ ่ืน ข้าคงพูดไม่ออกอยู่บา้ งจริงๆ”
อวีถ้ งั ยิม้ อย่างเข้าใจ “หากพูดเรื่องโชค นั่นก็เป็ นโชคของท่านพี่ หากไม่ใช่ท่านสงสารข้า
พาข้ามากินบะหมี่ พวกเราจะพบสองแม่ลกู กูซ้ านได้อย่างไร? ทัง้ คงไม่พดู คุยกับพวกเขาอย่าง
ราบรื่นเช่นนี?้ เรื่องครัง้ นีต้ อ้ งขอบคุณท่านพี่แล้ว!”
อวีห้ ย่วนหน้าแดงเถือก เขินอายกว่าจะพูดอะไรอีก จึงเปลี่ยนประเด็น “เช่นนัน้ อีกเดี๋ยว
พวกเราจะทําอะไรดี? หรือล่วงหน้ากลับหลินอันเลย?”
ตามแผนเดิมพวกเขาจะพักที่น่ีสองวันสองคืน พรุง่ นีค้ อ่ ยเดินทางกลับ
อวีถ้ ังครุ ่นคิด “พรุ ่งนีเ้ ช้าตรู ่พวกเราค่อยกลับก็ได้กระมัง! เวลาที่เหลือก็เที่ยวเล่นใน
เมืองหังโจว ดูว่าร้านค้าคนอื่นตกแต่งวางของอย่างไร? เด็กในร้านต้อนรับลูกค้าอย่างไรบ้าง?
การค้าแบบใดที่รายได้ดีท่ีสุด? ทัง้ พวกร้านค้าเครื่องลงรัก เครื่องเงินนัน้ ขายของใช้แบบไหน
บ้าง…ท่านคิดว่าเป็ นอย่างไร?”
“ได้สิ!” อวีห้ ย่วนยิม้ เผล่ “พวกเราทําเรื่องสําคัญที่สดุ สําเร็จแล้ว เรื่องอื่นล้วนพูดกันได้
ทัง้ นัน้ ”
อวีถ้ งั พยักหน้า
798

สองพี่นอ้ งเดินเที่ยวเล่นอย่างชื่นอุรา

ด้านแม่ลูกสกุลกูพ้ ูดคุยกันเงียบๆ หลังร้านผ้าไหมสกุลกูอ้ ยู่ค่อนวันจึงแยกย้ายกัน กู้


ซานตบแก้มตัวเอง ทําให้ตวั เองดูกระปรีก้ ระเปร่าขึน้ มาจึงค่อยเข้าร้าน ส่วนแม่นมของกูซ้ ีเดิน
กลับจวนด้วยใบหน้ามืดมนตลอดทาง
วันถัดมาฟ้าไม่ทนั สว่าง ก็มีคนออกจากประตูหลังสกุลกู้ ขึน้ เรือไปเมืองหลินอัน
สองพี่นอ้ งอวีถ้ งั ก็อยู่บนเรือเที่ยวนีเ้ ช่นกัน
ทัง้ สองคนทําเหมือนยามที่มา หามุมหนึ่งนั่งลง พูดถึงสิ่งที่ได้พบได้เห็นตลอดสองวันนี ้
ที่หงั โจว อวีถ้ งั ก็ฉวยโอกาสยุยงอวีห้ ย่วนยึดอํานาจในการตัดสินใจของร้านค้าสกุลอวี ้ “ข้าไม่ได้
อยากให้ท่านอกกตัญ�ูต่อลุงใหญ่ ข้าคิดว่าหากไม่ทาํ ลายสิ่งเก่า ย่อมไม่อาจสร้างสิ่งใหม่
แทนที่จะให้รา้ นค้าสกุลพวกเราถึงทางตันจนตรอกอยู่เช่นนี ้ มิสตู้ ดั สินใจเด็ดขาดให้เหลือทาง
รอดเดียว หากลุงใหญ่ยินยอมมอบร้านค้าให้ท่านดูแล ก็ให้ลงุ ใหญ่ไปควบคุมดูแลเรือกสวนไร่
นาและพืน้ ที่ป่าเขาของสกุลพวกเรา หากลุงใหญ่ยงั ดึงดันจะจัดการร้านค้าเอง มิสทู้ ่านไปดูแล
ทางสวนไร่ แ ละพื ้น ที่ ป่ าเขาของสกุ ล รอจนทางนั้ น มี ผ ลผลิ ต กํา ไร ลุ ง ใหญ่ รู ้ว่ า ท่ า นมี
ความสามารถ คํา พู ด ของท่ า นก็ ย่ อ มมี น ้ํา หนั ก ในสกุ ล พวกเรา ยามที่ ท่ า นและลุง ใหญ่
ปรึกษาหารือเรื่องร้านค้าว่าจะทําอย่างไร ลุงใหญ่ยอมให้ความสําคัญและคํานึงถึงความคิดเห็น
ของท่าน”
เมื่อเป็ นเช่นนี ้ ลุงใหญ่และญาติผพู้ ่ีก็ไม่ตอ้ งทะเลาะกัน ทัง้ สามารถให้ลงุ ใหญ่คอ่ ยๆ ส่ง
มอบร้านค้าให้เขาได้
อวีห้ ย่วนดูเหมือนจะครุน่ คิดอะไรอยู่
อวีถ้ งั เอ่ยต่อ “ก่อนหน้านีข้ า้ ก็คิดไม่ต่างจากท่านเช่นกัน ร้านค้าในบ้านให้ลงุ ใหญ่เป็ น
คนดูแล ส่วนท่านไปทํากิจการที่หงั โจว แต่สองวันนีห้ ลังจากที่ขา้ เดินเที่ยวเล่นในหังโจวกับท่าน
799

ก็พบว่าแต่ละร้านที่ลงหลักปั กฐานที่น่ี ล้วนมีกลเม็ดเคล็ดลับเป็ นของตัวเอง นี่ไม่ใช่เรื่องที่เงิน


สามารถแก้ปัญหาได้ ในหนังสือก็บอกไม่ใช่ร?ึ การปกครองประเทศก็เหมือนการทอดปลาตัว
น้อย 1? พวกเรายิ่งไม่อาจรีบร้อนได้ ควรค่อยเป็ นค่อยไป”
159

อวีห้ ย่วนเอ่ย “เหมือนกับเจ้าใช่หรือไม่?”


เมื่อก่อนอวีเ้ หวินกระทําอันใดไม่เคยเอ่ยถามอวีถ้ งั เลย วันนีห้ ากประสบพบเจอเรื่องราว
ย่อมมิวายถามความเห็นอวีถ้ งั หากอวีถ้ งั คัดค้าน ก็มีความเป็ นไปได้สงู ที่เขาจะละทิง้ แม้ว่าจะ
เป็ นบิดาของเขา ยามนีห้ ากมีเรื่องใดที่มีความคิดของอวีถ้ งั เข้ามาข้องเกี่ยว ก็จะครุ ่นคิดอย่าง
ละเอียดเช่นกัน

1
การปกครองประเทศก็เหมือนการทอดปลาตัวน้อย อุปมาว่า การปกครองประเทศก็เหมือนทอดปลาในกระทะ ไฟแรง
ปลาก็ไหม้ ไฟอ่อนเกินเวลาพลิกก็ติดกระทะ ดังนัน้ ต้องคอยปรับไฟอย่างรอบคอบ เหมือนกับการปกครองประเทศ ต้อง
ระมัดระวัง สุขมุ รอบคอบ จึงจะปกครองประเทศให้ดีได้
800

บทที่ 100 เหนือกว่า


อวีถ้ งั ยังทําได้เลย เช่นนัน้ เขาก็ควรจะลองสักตัง้ ใช่หรือไม่?
อวีห้ ย่วนกําลังตรึกตรอง พลันรูส้ กึ ถึงความไม่สบอารมณ์ท่ีปะทุอยู่หลายส่วน
เขาเอ่ยขึน้ มาว่า “เพียงแต่ขา้ ไม่เคยดูแลเรื่องไร่นาและสวนป่ ามาก่อน อย่างไรจะนับว่า
ดูแลได้ดี? แล้วจะทําเช่นไรให้ท่านพ่อเชื่อว่าข้ามีความสามารถจัดการเรื่องในสกุลได้จริง?”
อวีถ้ งั กลัวว่าอวีห้ ย่วนจะไม่เชื่อนาง บัดนีเ้ ห็นว่าอวีห้ ย่วนเปิ ดใจรับฟั งความคิดเห็นของ
นางอย่างจริงจัง นางย่อมบอกออกไปอย่างหมดเปลือกไม่ปิดบัง
“ก่อนหน้านีต้ อนที่มาไหว้บรรพบุรุษ พวกเรามิใช่เคยกลับไปที่บา้ นเก่าหรือ?” นางเอ่ย
“ไร่นาทางนัน้ ข้าไม่ทนั ได้สนใจ แต่ว่าสวนป่ าของเรา ที่ขึน้ อยู่ก็มีแต่ไม้อะไรก็ไม่รูป้ ะปนกันไป
หมด ข้าได้ยินคนพูดว่า สวนป่ าของเราสามารถปลูกต้นไม้ชนิดหนึ่งซึ่งผลของมันเอามาทํา
ผลไม้เชื่อมได้ หากว่าพวกเราปลูกต้นไม้ชนิดนี ้ ถึงเวลาที่มนั ออกผล เราก็เอามันมาทําผลไม้
เชื่อมขาย”
ตอนแรกที่สองพี่นอ้ งสกุลอวีแ้ ยกบ้านกัน อวีป้ ๋ อด้วยคํานึงว่าอวีเ้ หวินเก่งแต่เล่าเรียน
เขียนอ่าน ถึงได้ทิง้ ที่นาไว้ให้เขาเก็บสวนป่ าที่ไม่อาจทําประโยชน์ใดๆ ได้เอาไว้เอง ดังนัน้ สวน
ป่ าที่อวีถ้ งั พูดถึง ความจริงเป็ นของครอบครัวอวีห้ ย่วน อีกทัง้ สวนป่ าผืนนัน้ ของอวีห้ ย่วน ตลอด
หลายปี มานี ้ นอกจากเผาเป็ นฟื นขายได้นิดหน่อยในช่วงหน้าหนาว ก็ไม่เคยสร้างรายได้อ่ืนๆ
จากมันได้อีก
อวีห้ ย่วนได้ยินดวงตาก็สว่างวาบ “เจ้าคิดให้ละเอียดหน่อยว่าได้ยินเรื่องนีม้ าจากใคร?
มีใครเคยทําผลไม้เชื่อมนีบ้ า้ งหรือไม่? กินเข้าไปแล้วรสชาติเป็ นเช่นไรบ้าง?” เขาพูดไป แต่จ่ๆู ก็
รูส้ กึ กลัดกลุม้ ขึน้ มา “ต่อให้ทาํ ผลไม้เชื่อมได้ แต่เราจะไปหาคนที่ทาํ ผลไม้เชื่อมเป็ นจากที่ไหน?”
นํา้ ตาลที่อยู่ในเมืองหลินอันส่วนใหญ่ มาจากกว่างซี ราคาจึงค่อนข้างสูง บ้านใดที่
ฐานะการเงินยํ่าแย่บางครัง้ ที่กินโจ๊กหรืออยู่ไฟ ก็ตอ้ งใส่ผลไม้เชื่อมไปแทนนํา้ ตาล ดังนัน้ ผลไม้
801

เชื่อมจึงเป็ นที่นิยมอย่างมาก ทว่าผลไม้เชื่อมที่ทาํ เสร็จแล้วมักมาจากทางหูหนาน พวกเขาทาง


นีต้ ่อให้มีคนทําเป็ น แต่น่ นั ก็เป็ นวิชาลับๆ ของสกุล พวกเขาไม่แน่วา่ จะหาคนที่มีฝีมือทางด้านนี ้
ได้
อวีถ้ งั ตบลงที่อกตัวเอง หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห ์ “มาถามข้าสิ?”
อวีห้ ย่วนเห็นท่าทางเหลี่ยมจัดของนางแล้ว นึกได้วา่ นางประสบเรื่องราวมาตัง้ มากแต่ก็
ยังร่าเริงสดใสไม่เปลี่ยน รูส้ กึ ภาคภูมิใจในตัวน้องสาวผูน้ ีน้ กั
เขายิม้ ออกมาอย่างง่ายดาย ประสานมือคารวะไปทางอวีถ้ ังคล้ายว่าจริงจังเจือแหย่
เล่น “ขอน้องสาวชีแ้ นะด้วย!”
อาจเพราะไม่มีเรื่องหนักใจ เสียงหัวเราะของอวีห้ ย่วนจึงดังมาก ทําเอาคนเกือบครึง่ เรือ
หันมามอง
คนที่สกุลกูส้ ง่ ออกมาก็เช่นเดียวกัน
เพียงแต่พวกเขาทัง้ สองฝ่ ายไม่รูว้ า่ ใครเป็ นใคร
คนของสกุลกูค้ ิดว่าตัวเองเป็ นคนเห็นอะไรมามาก กลับคาดไม่ถึงว่าบนเรือที่ม่งุ หน้าไป
หมู่บา้ นเล็กๆ จะเจอพี่นอ้ งที่รูปโฉมท่าทางไม่สามัญ คนได้แต่ลอบทอดถอนใจ และอดจะคิดต่อ
ไม่ได้วา่ หลินอันนับว่าเป็ นเมืองที่ดินนํา้ สมบูรณ์ไม่เลว ถึงได้มีบคุ คลที่โดดเด่นเช่นนี ้ ไม่รูว้ า่ บุตร
เขยที่ ‘รู ปงามเป็ นเลิศ’ จนถูกนายหญิ งชื่นชมหนักหนาท่านนั้น จะเหมือนดั่งสองพี่นอ้ งคู่นี ้
หรือไม่…
อวีห้ ย่วนรู ส้ ึกตัวว่าพวกตนรบกวนคนอื่นเข้า ดวงหน้าจึงขึน้ สี เขาก้มหน้าลงไม่พดู จา
อีก ทุกคนถึงได้ดงึ สายตากลับไป ต่างหันไปพูดคุยเรื่องของตนเองอีกครัง้
“เจ้ามีความคิดเช่นไรรึ?” อวีห้ ย่วนเปิ ดปากอีกรอบ กดเสียงให้เบาลงมากกว่าครึง่ “อย่า
แกล้งให้ขา้ อยากรูอ้ ีกเลย”
802

อวีถ้ งั ลอบหัวเราะอยู่พกั หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับไปด้วยนํา้ เสียงที่เบาลงคล้ายอวีห้ ย่วน


“ข้าทําผลไม้เชื่อมเป็ นเจ้าค่ะ แต่เคยทําเล่นๆ จํานวนน้อยเท่านั้น หากว่าคิดจะขายให้พวก
พ่อค้า คงต้องลองดูว่าทําเช่นไรผลไม้เชื่อมจึงจะขายได้ราคาดี ส่วนสวนป่ าผืนนัน้ สามารถปลูก
ผลไม้ชนิดใดได้บา้ ง ท่านพี่คงต้องไปลองถามดูเองแล้ว แต่ขา้ ได้ยินมาว่าต้นไม้นีส้ งู เท่าหลังคา
ผลที่ออกมาเป็ นสีเหลืองส้ม ลูกขนาดเท่าหัวแม่มือ มีรสเปรีย้ วหวาน ด้านในมีเมล็ด ตอนที่ทาํ ก็
ต้องคว้านเมล็ดออกมาก่อน พอเป็ นผลไม้เชื่อมแล้วจะมีรสหวานอมเปรีย้ ว ทําให้เจริญอาหาร
และใช้กินเล่นได้ บ้านใดที่เด็กน้อยหรือคนแก่ไม่อยากอาหาร มักจะชอบซือ้ กลับไปด้วย กินสัก
สองสามเม็ดเป็ นใช้ได้ พวกเขา…ฮึ่ม พอทําเป็ นผลไม้เชื่อมแล้วพวกเราก็พดู ไปแบบนี ้ ย่อมต้อง
ขายได้อย่างแน่นอน”
ชาติก่อน เพราะเรื่องสวนป่ าผืนนัน้ เกาซื่อถึงด่าทออวีห้ ย่วนบ่อยๆ กระทั่งอวีถ้ ังที่ไม่
ค่อยได้กลับบ้านยังเคยเห็นตัง้ หลายหน นางเคยสงสัยว่าสวนป่ าของตนที่ตกไปอยู่ในมือของ
สกุลเผยผืนนัน้ เปลี่ยนไปเป็ นสวนป่ าที่อดุ มสมบูรณ์ได้อย่างไร นางเคยถือโอกาสตอนที่ไปไหว้
สุสานของบิดามารดาลอบสังเกตดู สกุลเผยแม้จะดูแลทรัพย์สมบัติของตนอย่างเข้มงวด แต่เมื่อ
ได้ยินว่านางคือคุณหนูสกุลอวีท้ ่ีแต่งเข้าเป็ นสะใภ้สกุลหลี่ หลังจากรายงานให้นายท่านสาม
ทราบแล้ว ก็เชิญนางเข้าไปชมด้วยความเคารพนบนอบ ทัง้ มอบผลไม้เชื่อมชัน้ ดีอีกสองตะกร้า
ให้นางนํากลับมาด้วย
ตอนนีม้ าคิดดู นางก็เคยได้รบั นํา้ ใจจากเผยเยี่ยนมาก่อน
ไม่เพียงเท่านัน้ ผูด้ ูแลสวนป่ ายังเคยบอกกับนางด้วยความปลืม้ ปริ่มว่า “ผลไม้ท่ีมีสี
เหลืองส้มเรียกว่าซาจี๋ขอรับ นายท่านสามเป็ นคนไปพบเข้าตอนที่ไปเที่ยวหาสหายซึง่ รับราชการ
อยู่ท่ีซีเป่ ย”
คิดถึงตรงนี ้ อวีถ้ งั พลันรูส้ กึ ว่าหน้าเห่อร้อน และรูส้ กึ ผิดในใจ
นางเอ่ยว่า “หากบ้านเราปลูกผลไม้ชนิดนีอ้ อกมาได้ ทําเป็ นผลไม้เชื่อม แล้วเอาไปขาย
ที่รา้ นค้าสกุลเผยก็คงดี”
803

การค้าขายพวกผลไม้เชื่อมนี ้ คนที่ได้กาํ ไรมากที่สดุ คือพวกพ่อค้า แต่คนที่ลงมือทํานัน้


จะได้เพียงเงินค่าฝี มือและความลําบาก ก็เหมือนกับคนปลูกฝ้ายแต่ไม่มีเสือ้ ผ้าฝ้ายสวม คน
ปลูกข้าวเจ้าแต่ไม่มีขา้ วสวยกิน คนที่กอบโกยเงินล้วนเป็ นเหล่าพ่อค้าทัง้ สิน้
อวีห้ ย่วนไม่เคยทํามาค้าขายของพวกนีม้ าก่อน ทัง้ ไม่รูว้ ่าของประเภทนีท้ าํ เงินได้มาก
น้อยเพียงใด สิ่งสําคัญคืออย่างไรเขาก็ยงั อยากสร้างร้านเครื่องลงรักของสกุลอวีข้ ึน้ มาให้ได้
ส่วนผลไม้เชื่อมนัน้ สําหรับเขาเหมือนเป็ นการพิสจู น์ความสามารถของตนเสียมากกว่า เพื่อจะ
ใช้มนั ให้ได้มาซึ่งสิทธิ์และเสียงในการพูดจาในสกุล ดังนัน้ จากความรูส้ กึ ของอวีห้ ย่วน เขามอง
มันเป็ นเพียงการค้าขายเล็กๆ น้อยๆ หาได้อยู่ในสายตาของเขาจริงๆ
เขาพูดว่า “นายท่านสามทํากิจการใหญ่โต ไม่แน่จะสนใจการค้าเล็กๆ เช่นนี ้ หากว่าทํา
สําเร็จ ให้เหยาซานเอ๋อร์ขายก็เหมือนๆ กัน แต่ตอนนีต้ อ้ งคิดวิธีหาต้นไม้ท่ีเจ้าพูดถึงให้เจอ
เสียก่อน”
มันต่างกันโดยสิน้ เชิง
หากว่าการค้านีท้ าํ ได้สาํ เร็จ พวกเขาก็จะเป็ นผูร้ ว่ มหุน้ คนแรกๆ ที่เหมางานยากลําบาก
ของสกุลเผยไว้ทงั้ หมด ยังคงเหมือนกับชาติก่อน มอบกําไรที่ควรจะเป็ นของสกุลเผยคืนให้แก่
เขา
แม้บอกว่าอินทรียย์ งั เหินอยู่บนฟ้า พวกเขาไม่สมควรรีบร้อนไปคํานวณถึงกําไรขาดทุน
ทว่าเรื่องนีเ้ กี่ยวพันถึงคุณธรรมและขอบข่ายเส้นตายในใจของอวีถ้ ัง นางคิดว่าสมควรจะพูด
กับอวีห้ ย่วนให้ชดั เจนถึงจะถูก
“ท่านพี่ สกุลเผยมีบญ
ุ คุณต่อพวกเรา” นางเอ่ยอย่างยืนกราน “พวกเราสกุลอวีม้ ีวนั นีไ้ ด้
ต้องขอบคุณสกุลเผยที่คมุ้ ครอง พวกเราไม่อาจหลงลืมตัวตนไป การค้าผลไม้เชื่อมนัน้ ขอเพียง
สกุลเราทําออกมาได้ อย่างไรก็ตอ้ งขายให้สกุลเผย ถ้าเป็ นการค้าอื่น หากเป็ นของๆ เราก็นบั ว่า
เป็ นของสกุลเราไม่ผิด”
804

แม้นางจะเอาเปรียบโดยการมาเกิดใหม่ แต่ไม่อาจปล่อยให้การกลับมาของนางทําให้
ผูอ้ ่นื ต้องเสียผลประโยชน์ แล้วชิงเอาสิ่งที่เป็ นของผูอ้ ่นื ไปได้
อวีห้ ย่วนขบคิดอย่างละเอียด รู ส้ ึกว่าคําของอวีถ้ ังมีเหตุผล เขาไม่ได้แสดงความเห็น
เป็ นอื่นอีก “เช่นนัน้ ก็ตกลงตามนี ้ รอให้กลับไปข้าจะพูดกับท่านพ่อ ดูว่าท่านพ่อมีความเห็น
อย่างไรบ้าง” พูดจบ เขาก็หนั มาส่งยิม้ ให้อวีถ้ งั “ถ้าท่านพ่อตกลงให้ขา้ ดูแลร้านค้า เช่นนัน้ เจ้าก็
ไปปลูกต้นไม้ท่ีสวนป่ าเสีย สวนป่ าของสกุลเรากว้างใหญ่ปานนัน้ ตอนที่ไม่มีทางเลือกก็คงได้
แต่ปล่อยทิง้ ร้างเอาไว้ บัดนีน้ บั ว่ามองเห็นทางแล้ว ย่อมไม่อาจปล่อยทิง้ ให้สนิ ้ เปลืองได้อีก”
อวีถ้ งั ตกตะลึง
อวีห้ ย่วนหัวเราะหึหึ
ทําเอานางหัวเราะไม่ได้รอ้ งไห้ไม่ออก
นี่นบั ว่าเป็ นการย้ายก้อนหินทับเท้าตัวเองหรือไม่?
พวกเขาเดินทางกลับมาถึงเมืองหลินอันอย่างราบรื่นตลอดเส้นทาง
ทุกสกุลในเมืองหลินอันเริม่ เตรียมตัวทําความสะอาดเรือนเพื่อฉลองวันปี ใหม่เล็กแล้ว
อวีถ้ งั เพิ่งจะชําระกายเสร็จก็ถกู บิดาลากไปเรือนของท่านลุงใหญ่
อวีป้ ๋ อนัน้ ไม่รูว้ ่าเพิ่งกลับมาจากร้านค้าหรือว่าไม่ได้ไปที่รา้ นแต่แรก คาดไม่ถึงว่าเขาจะ
อยู่รอนางที่เรือน กระทั่งนางกล่าวทักทายท่านลุงเรียบร้อย อวีป้ ๋ อถึงได้เรียกอวีห้ ย่วนที่เพิ่ง
อาบนํา้ เสร็จออกไป เอ่ยถามทัง้ สองคนว่า “เป็ นอย่างไร? ไปเมืองหังโจวครัง้ นีเ้ ก็บเกี่ยวสิ่งใดมา
ได้บา้ งล่ะ?”
นํา้ เสียงนัน้ เจือด้วยความร้อนรนแทบทนไม่ไหว
อวีห้ ย่วนอดจะหันมาแลกเปลี่ยนสายตากับอวีถ้ งั ไม่ได้ เขาเป็ นตัวแทนของสองพี่นอ้ ง
เปิ ดปากตอบไปว่า “ใช้ได้เลยขอรับ! พวกเราแวะไปหาเหยาซานเอ๋อร์พกั หนึ่ง แล้วก็ไปกินข้าว
805

กับ เถ้า แก่ ร องถง พาอาถัง ไปเดิ น เล่น ดูข อง พบว่ า ร้า นค้า ในเมื อ งหัง โจวแต่ ล ะร้า นล้ว นมี
เอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ต่างกันไป บ้างก็ขายของถูกกว่าเจ้าอื่นๆ บ้างก็เด็กในร้านฉลาดเฉลียวมี
ไหวพริบ บ้างก็มีฝืมือเฉพาะของวงศ์สกุล”
เขาไม่ลนลานรีบร้อน เล่าทุกอย่างที่ได้ยินได้เห็นจากเมืองหังโจวตลอดสองวันออกมา
เป็ นลําดับ นี่คือเรี่ยวแรงที่ลงไปสองวันเต็ม อวีถ้ งั พลันรูส้ กึ ว่าจู่ๆ ญาติผพู้ ่ีของนางสุขมุ กว่าเดิม
มาก ค่อยจะมองเห็นเงาของคนที่ทงั้ ประสบความสําเร็จและเชื่อมั่นในตัวเองอย่างชาติก่อน
หรือเพราะเขามีจดุ มุ่งหมายที่ตอ้ งฝ่ าฝัน?
อวีถ้ งั ใช้ความคิด ไม่รูว้ า่ ใจลอยไปถึงเรื่องต้นซาจี๋ตงั้ แต่เมื่อไร
นางไม่อาจเล่าเรื่องที่ตนกลับมาเกิดใหม่อีกครัง้ ให้ญาติผูพ้ ่ีฟังได้ และไม่อาจบอกให้
ญาติผูพ้ ่ีไปหาต้นซาจี๋มาอย่างทื่อๆ ได้แต่ให้เขาตามหามันจากคําบรรยายของนางเท่านัน้ ไม่
ต้องพูดถึงญาติผูพ้ ่ีของนาง ไม่ว่ากับใครล้วนเหมื อนกับงมเข็มในมหาสมุทรทั้งสิน้ เขาอาจ
เสียเวลาไปหลายปี โดยไม่ได้อะไรกลับมา แถมเรื่องที่อยากให้ท่านลุงใหญ่เห็นความสําคัญของ
ญาติผพู้ ่ีนนั้ ก็จะยิ่งช้าขึน้ ไปอีก วิธีท่ีดีท่ีสดุ คืออาศัยความทรงจําของนางในชาติก่อนตามหาต้น
ซาจี๋แล้วรีบปลูกมันให้สาํ เร็จโดยไว
เช่นนัน้ นอกจากเผยเยี่ยนและสกุลเผยแล้ว ยังมีใครพอรูเ้ รื่องต้นไม้ชนิดนีอ้ ีก?
อวีถ้ งั เค้นสมองจนศีรษะแทบแตก
อวีห้ ย่วนทางนัน้ ก็เหมือนกับที่นางคิดเอาไว้ แม้กิจการของร้านค้าจะยํ่าแย่ นอกจากวัน
เปิ ดร้านที่คกึ คักช่วงหนึ่ง หลายวันนีก้ ็แทบขายอะไรไม่ออกเลย ทว่าอวีป้ ๋ อก็ยงั ปฏิเสธข้อเสนอที่
จะมอบร้านให้อวีห้ ย่วนดูแลโดยไม่หยุดคิดสักนิด
จากคําพูดของท่านลุงใหญ่ เขาบอกว่าญาติผูพ้ ่ียังไม่ได้ก่อร่างสร้างตัวเลย แล้วจะ
เข้าใจการทํามาค้าขายได้อย่างไร?
806

ส่วนเรื่องที่อวีห้ ย่วนบอกว่าจะขอเข้าไปดูแลไร่นาและสวนป่ านัน้ ก็ถกู เขาแค่นเสียงใส่


“รายได้จากที่นาและสวนป่ าไม่ก่ีหมู่จะทําอะไรได้? เจ้าเลิกคิดเรื่อยเปื่ อยได้แล้ว ติดตามข้า
เรียนรูว้ ิชาทํามาหากินให้ดีก็พอแล้ว รอให้เจ้าแต่งกับคุณหนูเซียง คลอดหลานอวบอ้วนให้ขา้ สัก
หลายคน ข้าก็คงกลายเป็ นตาแก่ท่ีมีความสุขกับการเลีย้ งหลานแล้ว ถึงเวลานัน้ ค่อยยกกิจการ
ร้านค้าให้เจ้ากับอาถัง ข้ากับท่านอาเจ้าจะคอยช่วยพวกเจ้าเลีย้ งดูเด็กๆ เอง อย่างไรก็ตอ้ งปั้ น
ซิ่วไฉไม่ก็จวี่เหรินออกมาสักคนให้ได้”
อวีห้ ย่วนหงุดหงิดแทบทนไม่ไหว
ตัง้ แต่เมื่อไรที่เขาไม่อาจเทียบได้แม้กระทั่งอวีถ้ งั !
ร้านค้าของสกุลมิใช่จะยกให้เขา เพื่อให้เขาดูแลอวีถ้ ังให้ดี แต่กลายเป็ นว่าจะยกให้
พวกเขาทัง้ สองคน
แล้วเขาที่เป็ นพี่ชายจะมีไว้ทาํ ไมกัน?
นอกจากให้กาํ เนิดหลานตัวอวบอ้วนก็ไม่มีประโยชน์อ่ืนอีกแล้วหรือ?
เขานั่งโมโหงุ่มง่ามเพียงลําพังอยู่ในห้อง
แต่พอหายโกรธแล้วกลับมาย้อนคิดดู มันก็เป็ นเช่นนัน้ จริงๆ
อวีถ้ งั อาศัยความสามารถของตนจนครองตําแหน่งหลักในหัวใจของบิดาเขาแล้ว ไม่รู ้
ตัง้ แต่เมื่อใดที่นางสามารถมายืนเคียงบ่าเคียงไหล่กบั เขาได้ และดูจากเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึน้
อวีถ้ งั ก็นบั ว่ามีกาํ ลังที่จะยืนเคียงข้างเขาจริงๆ ไม่สิ ถึงขนาดพูดได้ว่า อวีถ้ งั เป็ นคนมีความคิด
ยิ่งกว่าเขา เก่งกาจเหนือกว่าเขาเสียอีก
เขาผูเ้ ป็ นพี่ชายนีไ้ ม่อาจสูน้ อ้ งสาวได้เลย
อวีห้ ย่วนเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องหลายรอบ ก่อนจะวิ่งไปที่เรือนของอวีถ้ งั
807

บทที่ 101 ซาจี๋


เฉินซื่อกับป้าเฉินกําลังเคี่ยวนํา้ ตาลข้าว 1อยู่ในลานบ้าน กลิ่นของข้าวสาลีหอมอบอวล
160

ไปทั่ว
“น้าสะใภ้!” อวีห้ ย่วนเดินเข้าไปทักทายเฉินซื่อ
เฉินซื่อใช้มือเช็ดกับผ้ากันเปื ้อนที่มดั อยู่ตรงเอว ร้องถามด้วยรอยยิม้ ตาหยีวา่ “อาหย่วน
เจ้ามาหาท่านอาหรือ? เขาไปส่งเหนียนเกา 2ให้เถ้าแก่ใหญ่ถงน่ะ วันนีก้ ่อนเที่ยงคงไม่กลับมาแน่
161

เจ้ามีเรื่องอะไรหรือ? ถ้าบอกกับข้าไม่ได้ก็ไปเขียนกระดาษทิง้ ไว้ให้ท่านอาที่หอ้ งหนังสือเถอะ”


พรุง่ นีเ้ ป็ นวันปี ใหม่เล็ก ข้าวของที่ตอ้ งใช้ตอนวันปี ใหม่เตรียมเสร็จแล้ว เหนียนเกาเป็ น
ของกินที่ทกุ บ้านทุกครอบครัวต้องมี อีกอย่างการทําเหนียนเกาก็เป็ นงานถนัดของเฉินซื่อ เพียง
เพราะปี ก่อนๆ เฉินซื่อสุขภาพไม่ดี จึงไม่เคยลงมือทําเอง ปี นีแ้ ม้รา่ งกายของเฉินซื่อจะสูค้ นปกติ
มิได้ แต่ก็ดีขนึ ้ กว่าทุกๆ ปี มากแล้ว ไม่เพียงคนในสกุลอวีท้ ่ีดีอกดีใจ เฉินซื่อเองก็เบิกบานขึน้ มาก
ลงมือทําเหนียนเกาหนักสิบกว่าจิน ทัง้ ญาติพ่ีนอ้ งมิตรสหาย เพื่อนบ้านในตรอกซอย ต่างได้
การแบ่งสรรไปคนละเล็กคนละน้อยอย่างถ้วนหน้า
“ข้ามาหาอาถังขอรับ!” อวีห้ ย่วนทางหนึ่งก็ตอบคํา อีกทางก็ช่วยเฉินซื่อยกนํา้ ตาลข้าว
ที่เคี่ยวเสร็จแล้วเข้าไปในห้องครัว “อาถังอยู่หรือไม่ขอรับ? พวกเราตอนไปหังโจวครัง้ ก่อนก็ได้
เห็นแบบลวดลายใหม่ ข้าอยากจะหารือกับนางสักหน่อย”

1
นํา้ ตาลข้าว มีวตั ถุดิบหลักคือข้าวสาลี เพาะจนขึน้ เป็ นข้าวสาลีงอกใช้ขา้ วเหนียวนึ่งมาผสม คัน้ นํา้ ออกมาเคี่ยวให้เหนียว
ใช้เป็ นตัวเชื่อมขนมให้เป็ นแผ่นหรือก้อน มีรสชาติหวาน
2
เหนียนเกา หรือขนมเข่ง เป็ นขนมไหว้วนั ปี ใหม่หรือวันตรุษจีน มีลกั ษณะแตกต่างกันไปตามท้องถิ่น แต่มีช่ือเรียกร่วมกัน
ว่า เหนียนเกา เหนียนเกาของทุกถิ่นมีลกั ษณะสําคัญร่วมกันคือ ทําด้วยแป้งที่ได้จากข้าวชนิดใดชนิดหนึ่ง ภาคใต้สว่ นมาก
ใช้ขา้ วเหนียว ภาคเหนือนิยมใช้ขา้ วฟ่ างเหนียว สาเหตุท่ีนิยมใช้เหนียนเกาเป็ นขนมไหว้ตรุ ษจีน เพราะชื่อขนมชนิดนีม้ ี
ความหมายว่า สูงส่งทุกๆ ปี
808

เฉินซื่อไม่ได้เอะใจ เอ่ยด้วยรอยยิม้ ว่า “นางอยู่ในห้องหนังสือน่ะ!” พูดจบ ก็ใช้มีดหั่น


ขนมนํา้ ตาลข้าวออกเป็ นชิน้ ใส่ชามแล้วส่งให้อวีห้ ย่วน “รับไปสิ พวกเจ้าสองพี่นอ้ งลองชิมดูว่า
อร่อยหรือไม่”
อวีห้ ย่วนรับของมาอย่างดีใจ แล้วถือชามไปที่หอ้ งหนังสือ
อวีถ้ งั มือถือพูก่ นั อยู่ ตัวค่อมอยู่เหนือโต๊ะหนังสือขีดเขียนอะไรบางอย่าง
ตะวันอบอุ่นในหน้าหนาวลอดผ่านหน้าต่างที่ติดกระดาษเกาลี่ 3เอาไว้ แสงทาบทับจน
162

เงาของนางเกิดเป็ นประกายทองหนึ่งชัน้ ดูอบอุน่ และอ่อนโยนยิ่งนัก


อวีห้ ย่วนตะลึงงัน ก่อนจะส่งเสียงเรียก “อาถัง”
อวีถ้ งั เงยหน้าขึน้ แล้วส่งยิม้ ให้ทนั ที
รอยยิม้ แผ่ซา่ นไปทั่วเริม่ จากดวงตาของนาง ทําให้สีหน้านัน้ เปลี่ยนเป็ นมีชีวิตชีวาทันที
“ท่านพี่มาได้อย่างไร?” นางวางพู่กนั ลง หยัดตัวตรงยืนอยู่หลังโต๊ะหนังสือ แล้วพาอวี ้
หย่วนไปนั่งที่เก้าอีไ้ ท่ซือริมหน้าต่าง “ท่านไม่ได้ว่นุ วายอยู่กบั การเตรียมของขวัญปี ใหม่ให้สกุล
เซียงหรอกหรือ?”
เมื่อกําหนดวันแต่งงานได้แล้ว ลงลายมือในหนังสือหมัน้ หมายเสร็จสิน้ แม้จะยังไม่ได้
จัดงานอย่างเป็ นทางการ ทว่าอวีห้ ย่วนก็นบั เป็ นลูกเขยของสกุลเซียงแล้ว ตามธรมเนียม วันที่
สองนับจากวันปี ใหม่อวีห้ ย่วนต้องไปคารวะสกุลเซียง หวังซื่อกําลังกลุม้ ใจเรื่องของขวัญอยูพ่ อดี
โทษว่าอวีห้ ย่วนไม่นาํ พาเรื่องนี ้ ตอนที่ไปหังโจวถึงไม่ซอื ้ อะไรกลับมาซักชิน้
อวีห้ ย่วนหัวเราะเหอะๆ เขาลืมเรื่องนีไ้ ปเสียสนิท “มิใช่มีท่านแม่กบั น้าสะใภ้อยู่หรือ?
เรื่องนีข้ า้ ก็ไม่คอ่ ยจะเข้าใจ หากว่าต้องซือ้ ของมาผิดๆ มิสอู้ ย่าซือ้ แต่แรกเลยดีกว่า!”

3
กระดาษเกาลี่ เป็ นชื่อเรียกสมัยก่อนของกระดาษจากเกาหลี เนือ้ สัมผัสมีความเหนียว เรียบ หมึกซึมเล็กน้อย เหมาะ
สําหรับการประดิษฐ์ตวั อักษรและการวาดภาพ
809

หนก่อนที่สกุลเซียงมาเยือนก็ทิง้ ความทรงจําที่ไม่ค่อยอภิรมย์ให้เขานัก เขาจึงไม่อยาก


ไปเรือนสกุลเซียงสักเท่าไร แต่เพื่อหน้าตาของคุณหนูเซียง เขาถึงได้ตดั สินใจโยนเรื่องนีอ้ อกจาก
สมอง จากนัน้ เดินทางไปคารวะคนสกุลเซียงด้วยท่าทีสภุ าพถ่อมตัว แต่ไม่ได้หมายความว่าเขา
จะอยากยกเรื่องนีม้ าพูดอีก
เขาวางนํา้ ตาลข้าวลงบนโต๊ะตัวเล็ก เอ่ยกับอวีถ้ ังว่า “น้าสะใภ้ให้มา ชิมดูสิว่าอร่อย
หรือไม่”
มารดานัน้ ตื่นมาเคี่ยวนํา้ ตาลตัง้ แต่ฟ้ายังไม่สาง
ตอนที่นางยังเด็กเวลาเช่นนีจ้ ะคอยอยู่ขา้ งเตาไม่ห่างอย่างทนรอไม่ไหว ทุกครัง้ ล้วนถูก
มารดาอุม้ หนี สุดท้ายก็จะร้องไห้งอแงก่อนจะยอมหยุดเมื่อถูกยัดขนมนํา้ ตาลข้าวให้ชนิ ้ หนึ่ง
กระทั่งปี ท่ีนางอายุได้สิบขวบ เพราะขโมยกินนํา้ ตาลข้าวจนลวกปาก ต้องไปเชิญหมอ
มาดูอาการและกินยาติดกันไปเป็ นเดือน ของกินอร่อยๆ ทัง้ หลายในวันปี ใหม่จึงมีไว้แค่มอง
เท่านัน้ นางไม่เคยตะกละกินไม่เลือกอีกเลย
สําหรับเฉินซื่อ เรื่องนีเ้ พิ่งเกิดขึน้ เมื่อห้าหกปี ก่อนเท่านัน้ แต่สาํ หรับนาง นี่เป็ นเรื่องที่
ผ่านมาเป็ นสิบปี แล้ว
นางได้แต่ถอนหายใจเงียบๆ ส่งยิม้ ให้พลางชงนํา้ ตาลข้าวให้กับตนเองและอวีห้ ย่วน
“ท่านพี่ก็ลองชิมดูเจ้าค่ะ” อวีถ้ งั หย่อนตัวนั่งตรงหน้าอวีห้ ย่วนอีกครัง้
อวีห้ ย่วนลองชิมนํา้ ตาลข้าวชง ได้กลิ่นหอมกรุ น่ อบอวล หวานแต่ไม่แสบคอ จึงอดเอ่ย
ชมไม่ได้ว่า “ไม่คิดว่าท่านน้าสะใภ้จะทํานํา้ ตาลข้าวได้อร่อยถึงเพียงนี ้ ปี นีน้ บั ว่าเป็ นลาภปาก
พวกเราแล้ว”
นํา้ ตาลข้าวนีน้ อกจากใช้บูชาเทพเจ้าเตา ใช้ตอ้ นรับญาติมิตรที่มากล่าวสวัสดีปีใหม่
แล้ว มากกว่าครึง่ หนึ่งก็เตรียมเอาไว้ใช้ตอนอวีห้ ย่วนแต่งงาน
อวีถ้ งั แอบหัวเราะ
810

อวีห้ ย่วนพลันเขินอาย ไม่กล้าพูดเรื่องนํา้ ตาลข้าวขึน้ มาอีก แล้วจงใจเลี่ยงประเด็นว่า


“ข้ามาคิดดูอย่างละเอียดแล้ว ก็เหมือนอย่างที่เจ้าพูด ข้าจะไปช่วยดูแลไร่นาและสวนป่ าของ
สกุล พวกเราก็ปลูกต้นไม้ท่ีเจ้าพูดถึง แล้วทําผลไม้เชื่อมกัน”
อวีถ้ งั เดาไว้แล้วเหมือนกันว่าคงเป็ นเช่นนี ้
ชาติก่อนอวีห้ ย่วนดูแลกิจการได้เป็ นอย่างดี ทว่าท่านลุงใหญ่ของนางก็ไม่เคยวางใจ ยัง
คอยช่วยชีแ้ นะอวีห้ ย่วนอยู่เรื่อยๆ ชาตินีอ้ วีห้ ย่วนแค่ติดตามอยู่หลังท่านลุงใหญ่เพื่อช่วยงาน
เล็กๆ น้อยๆ ท่านลุงใหญ่ย่ิงไม่มีทางปล่อยมือมอบร้านค้าให้เขาไปดูแลแน่
“ข้าก็คิดจะพูดเรื่องนีก้ บั ท่านพี่อยู่พอดี!” อวีถ้ งั เอ่ยพลางเดินไปที่โต๊ะหนังสือ “ท่านพี่มา
ดูน่ีสิเจ้าคะ นี่เป็ นภาพต้นไม้ชนิดนัน้ ที่ขา้ พูดถึง พอพ้นปี ใหม่ไปแล้ว พวกพ่อค้าที่อยู่ดา้ นนอกคง
กลับมากันเยอะ ท่านว่าจะขอให้พวกเขาเหล่านัน้ ช่วยดูหน่อยได้หรือไม่ เผื่อว่าจะมีพ่อค้าคน
ไหนพอรูจ้ กั ต้นไม้ชนิดนี?้ ”
อวี ้ห ย่ ว นเดิ น เข้า ดู อ ย่ า งละเอี ย ด แล้ว ม้ว นภาพผื น นั้น เก็ บ ไปทัน ที “ได้สิ เรื่ อ งนี ้
มอบหมายให้ขา้ ก่อนวันที่สิบห้าจะส่งข่าวมาบอกเจ้าแน่”
อวีถ้ งั ถอนหายใจโล่งอก แต่ก็ยงั รูส้ กึ เป็ นห่วงอยู่บา้ ง รอให้อวีห้ ย่วนเดินออกไปแล้ว นาง
จึงวาดรูปต้นซาจี๋ขนึ ้ มาใหม่ แล้วให้อวีเ้ หวินที่เพิ่งกลับมาจากการส่งขนมเหนียนเกาช่วยดู “ท่าน
พ่อรูห้ รือไม่วา่ เป็ นต้นไม้ชนิดใด? จะตามหาคนที่รูจ้ กั ต้นไม้ชนิดนีไ้ ด้หรือไม่เจ้าคะ?”
ส่วนใหญ่พวกบัญฑิตจะชมชอบต้นไม้บปุ ผา ไม่แน่อาจจะมีคนรูจ้ กั ก็ได้
อวีเ้ หวินหัวเราะแล้วบอกว่า “เจ้าหาโจทย์ยากอะไรมาให้ขา้ อีกแล้วล่ะ?”
เพราะอวีถ้ ังเสนอให้เชิญคหบดีท่ีมีช่ือเสียงและบัณฑิตที่สอบเป็ นซิ่วไฉจวี่เหรินของ
เมืองหลินอันมาร่วมดื่มสุรามงคลที่เรือนในงานแต่งของอวีห้ ย่วน ช่วงนีอ้ วีเ้ หวินจึงต้องวิ่งวุ่นขา
แทบเรียวเล็กไปหมดแล้ว ไม่ง่ายกว่าจะจัดการเรื่องราวให้เข้าที่เข้าทางได้บางส่วน ไม่ทนั ไรอวี ้
ถังก็ถือภาพต้นไม้อะไรไม่รูม้ าถามความจากเขาอีก…
811

อวีถ้ งั ยิม้ อย่างละอาย กอดแขนบิดาแล้วเอ่ยออดอ้อนว่า “ต้นนีเ้ รียกว่าซาจี๋เจ้าค่ะ ข้า


กับท่านพี่วางแผนจะปลูกต้นนีท้ ่ีสวนป่ าของสกุลเรา ท่านพ่อช่วยข้าถามหน่อยสิเจ้าคะ! อย่างไร
ท่านก็ตอ้ งช่วยท่านพี่ไปเชิญแขกคนอื่นๆ อยูแ่ ล้ว!”
คนเมื่อเจอเรื่องยินดีย่อมจะสําราญใจ บุตรสาวเข้ามาคลอเคลียเขา เขาก็ย่ิงเบิกบาน
ใจยิ่งนัก หลังจากแกล้งหยอกนางไปสองสามคํา ตอนที่เขาออกไปส่งเทียบเชิญก็พกภาพผืนนัน้
ติดตัวไปด้วย
ผลลัพธ์กลับเหนือความคาดการณ์ของอวีถ้ งั คนที่รูจ้ กั ต้นไม้ชนิดนีก้ ลับเป็ นเสิ่นซ่านเห
ยียนอาจารย์แห่งสํานักศึกษาประจําอําเภอ
เขาหัวเราะแล้วถามอวีเ้ หวินว่า “เจ้าถามไปทําอะไรรึ? ต้นไม้ชนิดนีแ้ ม้จะเนือ้ หยาบ แต่
พวกเราทางนีป้ ลูกไม่ขึน้ หรอก หากเจ้าไม่เชื่อ จะไปดูท่ีจวนของสยากวงก็ได้ จวนเขาทางนีก้ ็มี
อยู่ห ลายต้น เป็ น โจวจื่ อจิน นํา กลับมาให้ตอนที่ เ ขาได้ไปกานซู ตอนอยู่ท่ี โ น่น ยัง งอกเมล็ด
ออกมาอยู่เลย แต่พอนํามาปลูกกลับไม่ออกผล เพราะเรื่องนี ้ จื่อจินยังกระเซ้าสยากวงว่าจวน
เขาดินนํา้ ไม่ได้เรื่อง”
อวีเ้ หวินนึกไม่ถึงว่าผลจะออกมาเป็ นเช่นนี ้ เขาเหม่อลอยพักใหญ่แล้วเอ่ยว่า “เป็ น
บุตรสาวข้าเอง ไม่รูว้ ่าไปได้ยินมาจากไหน บอกอยากปลูกต้นไม้ชนิดนีท้ ่ีสวนป่ าของสกุล ถึงให้
ข้าลองมาสอบถามดู!”
เสิ่นซ่านเหยียนแม้จะปลีกตัวออกจากสังคมภายนอกมาอยู่ท่ีแห่งนี ้ แต่ก็พอได้ยินถึง
นิสยั ใจคอของอวีเ้ หวินมาบ้าง ภายหลังได้เจอกันหลายครัง้ ก็พบว่าเข้ากันได้ไม่เลว บางครัง้ ยัง
ไปชื่มชมดอกไม้และออกไปเดินเที่ยวนอกเมืองกับเขาอีกด้วย เมื่อได้ยินดังนัน้ จึงตอบไปว่า
“บุตรสาวเจ้าคนนี ้ ช่างน่าเสียดายโดยแท้ หากว่าเป็ นบุรุษ ต่อให้ไม่ร่าํ เรียนวิชาแต่ก็คงทําการ
ใหญ่ออกมาได้”
เสิ่นซ่านเหยียนเป็ นใครกัน เขาเป็ นถึงคุณชายสกุลเสิ่น อัจริยะในแถบเจียงหนาน เหล่า
บัณฑิตได้รบั คําชมจากเขาสักหนึ่งคํานับว่าประเสริฐยิ่งแล้ว ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึงผูเ้ ป็ นสตรีเลย
812

อวีเ้ หวินปลืม้ ปริ่มจนหน้าบาน แต่ปากก็ถ่อมตนไปว่า “มิได้ มิได้ นางชอบซุกซนไปทั่ว


เช่นนัน้ เอง”
เสิ่นซ่านเหยียนเอ่ยอย่างจริงจังว่า “แค่ซุกซน ยังซุกซนได้ประสบความสําเร็จเพียงนี ้
นับว่าสุดยอดนัก” จากนัน้ เขาก็นึกเรื่องงานแต่งของคุณหนูอวีข้ ึน้ มาได้ จึงถามออกไปว่า “งาน
มงคลของบุตรสาวเจ้า เจ้าต้องคิดให้รอบคอบ อย่าได้ยกให้ผอู้ ่นื อย่างฉาบฉวยเป็ นเด็ดขาด”
“แน่นอน แน่นอน” อวีเ้ หวินพยักหน้ารับติดๆ กัน
ต่อให้เสิ่นซ่านเหยียนไม่พดู คํานีอ้ อกมา เขาก็ไม่อาจตัดใจยกนางให้ผอู้ ่ืนอย่างสุม่ สี่ส่มุ
ห้าอยู่แล้ว ตอนนีม้ าได้ยินเสิ่นซ่านเหยียนพูดอีก เขาก็ย่ิงมุ่งมั่นที่จะหาบุตรเขยแสนประเสริฐมา
ให้จงได้
813

บทที่ 102 หนึ่งปี


เสิ่นซ่านเหยียนก็แค่พดู ไปอย่างนัน้ เอง แต่อวีเ้ หวินกลับคิดเป็ นจริงเป็ นจัง เขาอดรู ส้ ึก
ไม่ได้วา่ ตนต้องช่วยรับผิดชอบเรื่องนีส้ กั หน่อย หลังจากใคร่ครวญอยู่ครูห่ นึ่งก็เอ่ยกับอวีเ้ หวินว่า
“เจ้าให้ขา้ ดูภาพนัน้ อีกที ข้าจะลองนึกดูวา่ มีสถานที่อ่นื อีกหรือไม่ท่ีปลูกต้นไม้ชนิดนี”้
ญาติสนิทมิตรสหายของเขานับว่ามีฐานะสูงกว่าอวีเ้ หวินอยู่ขนั้ หนึ่ง ผูท้ ่ีชมชอบปลูก
ต้นไม้บุปผาจึงมีมาก อีกอย่างคนบางกลุ่มยังชอบสรรหาต้นไม้ใบหญ้าแปลกๆ มาปลูกเพื่อ
แสดงถึงความแตกต่างไม่เหมือนใคร
“ต้นซาจี๋ไม่ก่ีตน้ ที่จวนสยากวงนัน้ จริงๆ ก็แค่จ่ือจินอยากแกล้งสยากวงเล่น สยากวง
คร้านจะชายตามองมันด้วยซํา้ พวกบ่าวรับใช้ท่ีดแู ลรดนํา้ ยิ่งไม่มีทางเอาใจใส่ โตมาเหมือนต้น
อะไรก็ไม่รู”้ เสิ่นซ่านเหยียนเล่าต่อ “ตอนข้าอยู่แถบซีเป่ ยเคยเห็นต้นไม้แบบนีส้ ูงเท่าหลังคา
เรือน ต้นซาจี๋ท่ีจวนสยากวงนั่นยังสูงไม่เกินเข่าเสียด้วยซํา้ ต่อให้ขอสักต้นจากจวนพวกเขาไป
คาดว่าคงปลูกไม่รอดอยู่ดี มิสลู้ องหาที่อ่นื ๆ ดูวา่ มีเรือนใดปลูกต้นไม้ชนิดนีอ้ ีก”
เห็นว่าเขาใส่ใจถึงเพียงนี ้ อวีเ้ หวินจึงกล่าวขอบคุณซํา้ แล้วซํา้ เล่า
สองคนตรึกตรองอยู่ในห้องหนังสือครึ่งค่อนวัน แต่ก็ยงั นึกไม่ออกว่ามีผูใ้ ดปลูกต้นไม้
ชนิดนีอ้ ีกบ้าง เสิ่นซ่านเหยียนจึงเก็บภาพไว้เสีย พร้อมบอกว่า “ข้าจะฉลองวันปี ใหม่เล็กกับส
ยากวงที่น่ีจากนัน้ ก็จะเดินทางกลับบ้านเกิด สามารถถือโอกาสนีช้ ่วยสืบความให้บุตรสาวเจ้า
ได้”
ช่วงวันปี ใหม่ จวนสกุลเสิ่นทางนัน้ ย่อมมีสหายเก่าและญาติมิตรมาเยี่ยนเยียนจํานวน
มาก
814

“เช่นนั้นก็ประเสริฐยิ่ง!” อวีเ้ หวินดีใจด้วยความคาดไม่ถึง รอตอนที่เสิ่นซ่านเหยียน


กลับไปหังโจว เขาจะห่อกระดาษเฉิ งซิน 1ครึ่งพับซึ่งเป็ นสมบัติลา้ํ ค่าของสกุลใส่กล่องไม้แล้ว
163

มอบให้เสิ่นซ่านเหยียนเป็ นค่าเดินทาง
เสิ่นซ่านเหยียนก็ช่ืนชอบจากใจจริง จึงไม่ได้บ่ายเบี่ยง บอกให้อวีเ้ หวินรอฟั งข่าวจาก
เขา แล้วเดินทางกลับหังโจวเพื่อร่วมฉลองวันปี ใหม่
สกุลอวีท้ างนีก้ ็คกึ คักเป็ นที่สดุ
พอถึงปี ใหม่เล็กก็เริ่มเปลี่ยนยันต์ไม้ทอ้ 2ติดกลอนตุย้ เหลียน 3 ห้อยโคมไฟแดง เตรียม
164 165

ของเซ่นไหว้บรรพบุรุษ รวมถึงอาหารที่จะกินในคืนวันปี ใหม่ดว้ ย


อวีถ้ งั นัน้ ช่วยบิดาดูแลดอกสุ่ยเซียน 4 ต้นส้มจี๊ด ทัง้ คอยสั่งพวกซวงเถาให้กวาดพืน้ ให้
166

สะอาด
นางยังปลีกตัวไปหาหม่าซิ่วเหนียง ขนเอาขนมเหนียนเกากับนํา้ ตาลข้าวที่คนสกุนเฉิน
ทํา รวมถึงเครื่องประดับผมทรงดอกไม้ฝีมือนางไปให้หม่าซิ่วเหนียงอีกด้วย
หม่าซิ่วเหนียงดีอกดีใจเป็ นอย่างยิ่ง วางงานที่อยู่ในมือลง แล้วพานางเข้าไปให้หอ้ ง
ตนเองทันที ทัง้ ยังหยิบลูกพลับแห้งจากในตูอ้ อกมาต้อนรับนาง “มาจากฝูเจีย้ นน่ะ หวานอร่อย
นัก อีกเดี๋ยวเจ้าก็เอากลับไปให้ท่านป้าชิมด้วย”

1
กระดาษเฉิงซิน เป็ นหนึ่งในกระดาษวาดภาพที่สงู ค่าและมีช่ือเสียงที่สดุ ของจีน ทัง้ ยังเป็ นหนึ่งในกระดาษที่จิตรกรโด่งดัง
นิยมใช้
2
ยันต์ไม้ทอ้ เป็ นความเชื่อในศาสนาเต๋าสมัยโบราณ มีจดุ ประสงค์เพื่อขอให้เทพเจ้าแห่งประตูช่วยปกป้องครอบครัว ขับไล่
ภูติผีปีศาจไม่ให้มาทําลายบ้านเรือน
3
กลอนตุย้ เหลียน เป็ นกลอนคูแ่ ปด ใช้กระดาษสีแดงในการเขียนบทกลอนหรือคําอวยพรปี ใหม่ โดยจะติดไว้ขา้ งประตูเป็ น
คูๆ่
4
ดอกสุย่ เซียน คือดอกแดฟโฟดิล มีอีกชื่อหนึ่งที่เรียกกันคือ ดอกนาซิสซัส
815

อวีถ้ งั ยิม้ รับพร้อมเอ่ยขอบคุณ กวาดสายตาไปทั่วร่างของหม่าซิ่วเหนียงคล้ายสํารวจ


คนก็กลัน้ ยิม้ เอาไว้
หม่าซิ่วเหนียงพลันหน้าเห่อแดง ผลักอวีถ้ งั อย่างเขินอาย “เจ้ามองอะไรน่ะ? คุณหนูท่ี
ยังไม่ออกเรือน ไม่อนุญาตให้คิดเหลวไหล”
อวีถ้ งั หัวเราะฮ่าๆ เสียงดัง
นางเพิ่งรูจ้ ากเฉินซื่อว่าหม่าซิ่วเหนียงตัง้ ครรภ์แล้ว ถึงได้ตงั้ ใจมาเยี่ยมนาง
หม่าซิ่วเหนียงก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ แต่พอหัวเราะจบ สีหน้าพลันเจือด้วยความ
กลัดกลุม้ หลายส่วน นางเอ่ยความในใจให้อวีถ้ ังฟั งเสียงแผ่วว่า “ก่อนข้าแต่งเข้ามาก็รูพ้ อว่า
สกุลจางมีฐานะการเงินธรรมดา แต่นึกไม่ถึงว่าจะยํ่าแย่เพียงนี ้ สามีกลัวทําให้ขา้ ต้องลําบาก
เขาเอาแต่คดั หนังสือทัง้ วันทัง้ คืน ข้าเกรงว่าร่างกายเขารับไม่ไหว แต่กล่อมอย่างไรเขาก็ไม่ยอม
ฟั ง บอกว่าหากเด็กคลอดออกมาแล้วต้องใช้จ่ายอีกมาก ถ้าเตรียมไว้ก่อนแต่เนิ่นๆ ได้ก็ตอ้ ง
เตรียม” พูดถึงตรงนี ้ นางก็เอือ้ มไปดึงมืออวีถ้ งั มาจับไว้ “ถ้าเจ้าไม่มาเยี่ยมข้า ข้าก็คิดจะไปหา
เจ้าอยู่แล้ว… ข้าอยากนํากําไลเงินหนึ่งคู่ไปจํานําเงียบๆ เจ้าช่วยไปทําธุระให้ขา้ ที่โรงจํานําได้
หรือไม่?”
เรื่องจุกจิกในเรือนล้วนเป็ นนางที่ดแู ล ใช้จ่ายเงินไปเท่าไรมีเพียงนางที่รู ้ ต่อให้คา่ ใช้จ่าย
ในเรือนมากกว่าเงินที่หามาได้ แต่จางฮุ่ยไม่มีทางใช้สินเดิมของนางแน่ เมืองหลินอันจะว่าเล็กก็
เล็ก จะว่าใหญ่ก็ใหญ่ นางในฐานะคุณหนูใหญ่ของเรือนหม่าซิ่วไฉ มีคนรูจ้ กั คุน้ หน้านางไม่นอ้ ย
นางไม่กล้าเอาของไปจํานําที่โรงจํานําสกุลเผย กลัวจะถูกคนจําได้ขึน้ มา แล้วจะทําให้จางฮุ่
ยต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง
อวีถ้ งั แต่ก่อนนัน้ ก็ไม่ได้เจอเรื่องแบบนีเ้ พียงครัง้ เดียว เงินหนึ่งอัฐสร้างความลําบากให้
วีรบุรุษ 5ได้จริงๆ
167

5
เงินหนึ่งอัฐสร้างความลําบากให้วีรบุรุษ อุปมาว่า ความลําบากเล็กน้อยแต่กลับทําให้เรื่องสําคัญไม่อาจดําเนินต่อไปได้
816

นางรีบบีบมือหม่าซิ่วเหนียงกลับ “เจ้าวางใจได้ ข้าจะช่วยเจ้าวิ่งไปสักครัง้ เจ้าจํานํา


เป็ นไว้ก็พอ รอให้พ่ีเขยหาเงินได้แล้ว ก็คอ่ ยไถ่ของออกมา”
จํานําเป็ นได้เงินห้าในสิบส่วนนับว่าดีมากแล้ว ทว่าจํานําตายกลับได้เงินเจ็ดในสิบส่วน
หรืออาจมากถึงแปดในสิบส่วนเลยทีเดียว
หม่าซิ่วเหนียงกัดฟั นแล้วเอ่ยว่า “เจ้าช่วยข้าจํานําตายไปเถอะ ต่อไปหากพี่เขยเจ้ามี
เงินแล้ว ข้าค่อยไปสั่งทําใหม่อีกคูก่ ็ได้”
อวีถ้ งั คิดตามก็รูส้ กึ เห็นด้วย
ชาติก่อนตอนที่นางแต่งงาน หม่าซิ่วเหนียงเคยมอบกําไลเงินหนักห้าตําลึงหนึ่งคูใ่ ห้นาง
เป็ นของขวัญ เห็นได้ชัดว่าชีวิตไม่ได้ลาํ บากอะไร ความขัดสนนีค้ งอยู่แค่ช่ ัวคราวเท่านัน้ ขอ
เพียงอดทนผ่านไปให้ได้ก็พอ
“เจ้าหยิบของมาให้ขา้ เถอะ!” นางเอ่ย “ช่วงปี ใหม่ตอ้ งใช้จ่ายมากเหลือเกิน ข้าจะแอบ
ไปเงียบๆ แล้วก็กลับมาเงียบๆ เช่นกัน”
หม่าซิ่วเหนียงพยักหน้า นํา้ ตาแทบจะร่วงลงมาอยู่รอมร่อ นางจับมืออวีถ้ งั ไว้แล้วบอก
ว่า “อาถัง ขอบใจเจ้ามาก”
วาจาอื่นๆ นางละอายเกินกว่าจะพูดออกมา ทว่าความซาบซึง้ ในใจไม่ขาดลดไปสักนิด
เดียว
อวีถ้ งั นัน้ กลับรูส้ กึ ผิด
ชาติก่อน นางต้องพลาดจากสหายที่ดีเช่นนีไ้ ป
คิดถึงตรงนี ้ นางก็นึกไปถึงสกุลหลี่ นึกถึงเรื่องที่ไปเมืองหังโจวแล้วส่งข่าวให้สกุลกูก้ ่อน
หน้านี ้
ไม่รูว้ า่ สกุลกูท้ างนัน้ มีปฏิกิรยิ าอย่างไรบ้าง?
817

กูซ้ ีบดั นีเ้ กรีย้ วกราดแทบทนไม่ไหว


นางรูว้ ่ามีคนวางแผนอยู่เบือ้ งหลัง แต่ปัญหาอยู่ท่ีวา่ สิ่งที่ผอู้ ่ืนพูดมาล้วนเป็ นความจริง
หาได้มีสกั กระผีกที่ใส่ความว่าร้ายสกุลหลี่เลย
ทว่าเหตุใดสกุลหลี่ตอ้ งทําเรื่องเช่นนีอ้ อกมาด้วยเล่า?
เพียงต้องการกูศ้ กั ดิศ์ รีกลับคืนมาเพราะการสูข่ อล้มเหลวเท่านัน้ หรือ?
จิตใจของคนสกุลหลี่มิเพียงคับแคบ แต่ยงั ผูกบัญชีแค้นกับทุกคนอีกด้วย
นางต้องแต่งเข้าสกุลเช่นนีจ้ ริงๆ น่ะรึ?
ชีวิตของสตรีผูกติดกับเรือนหลัง ต่อไปนางต้องกินข้าวหม้อเดียวกับฮูหยินหลี่ ใช้ชีวิต
ร่วมกันในจวน ริมฝี ปากบนยังมีกระทบกระทั่งกับริมฝี ปากล่างเป็ นบางครัง้ ถ้าฮูหยินหลี่ไม่ชอบ
หน้านางขึน้ มา คิดจะสร้างความลําบากให้นางย่อมเป็ นเรื่องง่ายดายยิ่ง แล้วชีวิตที่เหลืออยู่ของ
นางต้องคอยทะเลาะตบตีกบั หญิงประเภทนีห้ รือ?
ยัง มี ห ลี่ ตวนอีก มารดาเลี ย้ งชมเขาจนลอยขึน้ ฟ้า ความจริง ก็ เป็ น เพี ย งสิ่ง ของที่ไร้
ประโยชน์ เป็ นถึงหลานชายคนโตสกุลหลี่ แต่กลับไปสวมผ้ากระสอบไว้ทกุ ข์ให้ผอู้ ่ืน เรื่องแค่นี ้
ยังจัดการไม่ได้เรื่อง หากเข้าไปเป็ นขุนนาง แปดในสิบส่วนคงดิน้ รนได้ถึงแค่ขนุ นางขัน้ สี่เท่านัน้
มิเช่นนัน้ จะมีคาํ พูดที่ว่า สามรุ ่นให้ดอู าหาร ห้ารุ ่นให้ดอู าภรณ์ 6หรือ? คนจากสกุลสามัญย่อม
168

เป็ นคนสามัญวันยังคํ่า ต่อให้ห่อด้วยผ้าแพรอย่างไรก็ไม่มีวนั กลายเป็ นคนใหญ่คนโตแน่!


ดวงหน้างดงามของกูซ้ ีฉาบด้วยไอหมอกชัน้ หนึ่ง
ไม่ได้ นางไม่อาจยอมรับชะตาชีวิตเช่นนี ้

6
สามรุน่ ให้ดอู าหาร ห้ารุน่ ให้ดอู าภรณ์ เปรียบเปรยว่าความรูแ้ ละการอบรมทางด้านจิตใจย่อมมีความเกี่ยวพันถึงภูมิหลัง
ของครอบครัวอย่างลึกซึง้ ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ในระยะเวลาอันสัน้
818

นางต้องบอกเรื่องนีก้ บั พี่ชายและบิดาของนาง…ยังมีมารดาเลีย้ งคนนัน้ ก็อย่าคิดจะได้


ความดีความชอบไป
กูซ้ ีกระชับเสือ้ คลุมขนเพียงพอนสีเทาที่คลุมอยู่ เอ่ยกับหรูเ่ หนียงเสียงเย็นว่า “ไปเถอะ
พวกเราไปพบท่านลุงใหญ่ท่ีบา้ นหลักเสียหน่อย!”
แม่นมรู ว้ ่าภายนอกที่ดูนุ่มนวลของนางนั้นภายในแข็งกร้าวเพียงใด ได้ยินเช่นนั้นก็
ตกใจยกใหญ่ รีบร้อนคว้ามือนางไว้ทนั ที “คุณหนู ท่านไปไม่ได้นะเจ้าคะ! อย่างไรเสียนี่ก็เป็ น
เรื่องของบ้านรอง โวยวายใหญ่โตไป เพื่อรักษาหน้าแล้ว นายท่านย่อมไม่เข้าข้างท่านแน่ ท่าน
รอให้คณ ุ ชายใหญ่กลับมาก่อนแล้วค่อยไปคุยเถอะเจ้าค่ะ!”
คุณ ชายใหญ่ ส่ง จดหมายมาตั้ง แต่สองเดื อ นก่ อ นบอกว่า หลัง ปี ใ หม่เ ขาจะติ ดตาม
ผูต้ รวจการแถบเจ้อเจียงกลับมาเยี่ยมบ้าน
แม่นมเกลีย้ กล่อมกูซ้ ีอย่างยากลําบาก “อย่างมากก็รอแค่หนึ่งเดือน ขอเพียงคุณชาย
ใหญ่กลับมา ทุกอยย่างก็จะคลี่คลายอย่างราบรื่นแล้วเจ้าค่ะ”
กูซ้ ีแสยะยิม้ “แน่นอนว่าต้องรอพี่ชายกลับมา แต่ขา้ ก็ไม่อาจนั่งรอความตายอยู่เฉยๆ
ได้ พวกเขาทําให้ขา้ ไม่พอใจ ข้าก็จะทําให้พวกเขาอยู่ไม่เป็ นสุขเหมือนกัน”
แม่นมเอ่ยต่ออีกว่า “คุณหนูตอ้ งคิดให้ดีก่อนทําอะไรลงไป เห็นชัดว่าพี่นอ้ งสกุลอวี ้
ต้องการยั่วท่านให้โมโห อยากให้ทา่ นไม่อาจฉลองปี ใหม่อย่างเป็ นสุข”
“ต่อให้เป็ นเช่นนัน้ ข้าก็ไม่มีทางยอมจบง่ายๆ แน่” กูซ้ ีเลิกคิว้ เรียวยาวดั่งใบหลิวทว่าคม
กริบเหมื อนใบมีด เอ่ยเสียงเรียบเย็นว่า “อย่างไรทุกคนก็อย่าหวังจะเอาตัวรอดจากเรื่องนี ้
เช่นนัน้ ก็เริม่ จากมารดาผูแ้ สนดีท่านนัน้ ก็แล้วกัน อย่าคิดว่าข้าไม่รูเ้ รื่องสกปรกทัง้ หลายที่นางทํา
แต่ก่อนข้าไม่เคยพูด เพราะคิดว่าพูดออกไปมีแต่ทาํ ให้คนหัวเราะเยาะ บ้านรองมีแต่จะถูก
ซุบซิบนินทา ข้าเองก็เสียหน้าไปด้วย ไม่คิดว่าการถอยหลังอ่อนข้อให้ กลับต้องมาเจอกับพวก
ไม่รูค้ ณ
ุ คน สอดมือมายุ่งเรื่องงานแต่งข้าไม่วา่ ยังคิดเล่นลูกไม้กบั ข้าอีก”
819

นางสะบัดมือแม่นมทิง้ แล้วสาวเท้ามุง่ หน้าไปยังทิศที่เรือนของบ้านใหญ่ตงั้ อยู่


แม่นมร้อนใจจนแทบเต้น
ตอนแรกที่คยุ เรื่องงานหมัน้ หมาย คุณหนูใหญ่กบั นางนัน้ ไปเจอคนด้วยตนเอง เห็นว่า
ท่านลูกเขยหล่อเหลา มีความสามารถโดดเด่น แม้คณ ุ ชายใหญ่ไม่ใคร่จะพอใจ แต่ผรู้ ่าํ เรียนวิชา
น้อยนักจะโตออกมาในลักษณะนี ้ ถึงได้ยอมรับอย่างเงียบๆ
ใต้หล้านี ้ มีเรื่องครบพร้อมสมบูรณ์แบบที่ใดกัน
ทัง้ หน้าตาหล่อเหลา ทัง้ มีวิชาความรู ้ และลักษณะท่าทางก็ดดู ี…
แม่นมเห็นเงาของกูซ้ ีหายวับไปตรงมุมกําแพง จึงรีบก้าวขาตามไป
เพราะเรื่องนีท้ าํ ให้สกุลกูไ้ ม่อาจฉลองวันปี ใหม่ได้อย่างเบิกบานใจ ทว่าสกุลอวีท้ ่ีเมือง
หลินอันทางนีก้ ลับสนุกสนานชื่นมื่นยิ่ง เช้าตรูว่ นั ที่สามสิบเอ็ดครอบครัวอวีเ้ หวินก็ยกโขยงไปที่
เรือนท่านลุงใหญ่ เหล่าสตรีช่วยกันผัดกับข้าว เหล่าบุรุษก็น่งั สนทนากันในโถงรับแขก
มือ้ เที่ยงกินข้าวกันอย่างง่ายๆ ไปหนึ่งมือ้ อาหารช่วงคํ่าในวันสิน้ ปี จึงดูย่งิ ใหญ่อลังการ
มาก
อาหารเย็น อาหารร้อน อาหารทะเล ผักต่างๆ ของหวานและอาหารว่างวางแน่นเต็ม
โต๊ะ อวีป้ ๋ อเปิ ดเหล้าจินหวาหนึ่งไห สตรีในเรือนไม่เพียงรินให้เต็มแก้ว ยังดื่มคารวะท่านลุงใหญ่
เป็ นพิเศษอีก ขอบคุณที่เขาประคับประคองร้านค้าหลังจากที่ถูกไฟไหม้อย่างยากลําบาก ป้า
สะใภ้ลกุ ขึน้ ยืนด้วยดวงหน้าแดงกํ่า ไม่รูต้ อ้ งทําตัวอย่างไร จะดื่มก็ไม่ได้ จะไม่ด่ืมก็ไม่ดี ทว่าจู่ๆ
อวีถ้ ังก็ตะโกนขึน้ มา “ท่านพ่อ ท่านดูสิเจ้าคะว่าท่านลุงใหญ่ดีขนาดไหน! มิน่าป้าสะใภ้เหน็ด
เหนื่อยสายตัวแทบขาดก็ไม่เคยบ่นสักคํา ท่านก็ควรคารวะท่านแม่สกั จอกเช่นกัน เหนียนเกา
เป็ นฝี มือท่านแม่ นํา้ ตาลข้าวก็ฝีมือท่านแม่ ผ้าห่มที่ท่านพี่ใช้ตอนออกเรือน ก็เป็ นท่านแม่ท่ีมา
ช่วยปั กนะเจ้าคะ!”
820

“ใช่แล้วๆ!” หวังซื่อได้ยินก็เหมือนตามหาเสียงของตัวเองพบในที่สดุ หมุนตัวไปดึงเฉิน


ซื่อมาทันที แล้วพูดกับอวีเ้ หวินว่า “ไม่เพียงดื่มให้นอ้ งสะใภ้หนึ่งจอก พวกเราสองสามีภรรยา
ต่างต้องคารวะสุราพวกเจ้าทัง้ สิน้ หากมิใช่พวกเจ้า งานแต่งของอาหย่วนคงไม่ราบรื่นถึงเพียง
นี”้
เฉินซื่อเขินอายหน้าแดงตัง้ แต่ท่ีอวีถ้ งั กล่าวชมนางแล้ว เวลานีถ้ กู หวังซื่อลากออกมาอีก
คนจนพูดจาไม่เป็ นประโยค “มิได้ มิได้ ไม่ใช่อย่างนัน้ ไม่ใช่อย่างนัน้ …” ทัง้ ยังแสร้งตําหนิอวีถ้ งั
อีกว่า “เป็ นเจ้าที่ปากมาก เหตุใดไม่รูเ้ รื่องรูร้ าวเพียงนี!้ ”
ยังดีท่ีอวีเ้ หวินเป็ นคนหน้าหนา เขาหัวเราะเฮฮาแล้วยืนขึน้ “เหตุใดไม่เริ่มจากพี่ชาย
ก่อนเล่า! ข้าจะเรียนรู จ้ ากพี่ชายเป็ นอย่างดีเลย มารดาอาหย่วนกับบุตรสาวข้ากล่าวได้ถกู ต้อง
แล้ว ข้าคารวะเจ้าหนึ่งจอก หนึ่งปี มานีต้ อ้ งลําบากเจ้าแล้วจริงๆ”
เฉินซื่อทัง้ เขินอายทัง้ เป็ นสุข ไม่รูว้ ่าควรทําอย่างไรต่อดี นางตีหวั โจกอย่างอวีถ้ งั เบาๆ
แล้วถลึงตาใส่ทีหนึ่ง ก่อนจะยกจอกขึน้ ดื่มอย่างกระดากอาย
อวีห้ ย่วนก็หวั เราะอย่างชอบใจ
พวกซวงเถา อาเสาและป้าเฉินต่างก็มีรอยยิม้ เกลื่อนหน้า
อวี ถ้ ัง นึ ก ถึ ง ความยากแค้น ในวัน นี เ้ มื่ อ ชาติ ก่ อ น แล้ว หัน กลับ มามองความรื่ น เริง
ตรงหน้า กรอบตาพลันรืน้ ชืน้
821

บทที่ 103 ฉลองปี ใหม่


วันส่งท้ายปี เก่าต้องเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ส่วนวันที่หนึ่งอวีเ้ หวินกับอวีป้ ๋ อพาอวีห้ ย่วนไป
คารวะสกุลเผย
คนมากกว่าครึง่ ในเมืองหลินอันล้วนต้องไปคารวะสกุลเผยในวันปี ใหม่ หากว่าคนของ
สกุลเผยต้องพบหน้าทุกคน เกรงว่าคงเหนื่อยจนนํา้ ลายฟูมปากแล้ว ดังนั้น สิ่งที่เรียกว่าไป
คารวะสกุลเผย ก็แค่เขียนชื่อลงกระดาษแล้วหย่อนใส่ตะกร้าสานสีแดงที่ตงั้ อยู่หน้าประตูจวนก็
ใช้ได้แล้ว ภายหลังจะมีผดู้ แู ลมาจดบันทึกลงสมุด แล้วไปรายงานให้ผนู้ าํ สกุลเผยฟั ง
อวีเ้ หวิน อวีป้ ๋ อและอวีห้ ย่วนออกจากวงล้อมผูค้ นที่เบียดเสียดอยู่หน้าจวนสกุลเผยได้
อย่างรวดเร็ว จากนัน้ ก็ไปคารวะวันปี ใหม่ท่ีเรือนคหบดีคนอื่นๆ ต่อ
สกุลอวีก้ ็วางตะกร้าสานไว้หน้าประตูเช่นเดียวกัน คนที่พอมีไมตรีกบั สกุลอวีก้ บั พวกผู้
เล่าเรียนวิชาต่างก็มาคารวะแต่ไม่ล่วงเข้าสูเ่ รือนใน เพียงหย่อนซองชื่อสกุลไว้ในตะกร้าเท่านัน้
ซํา้ บางคนยังไม่ตอ้ งมาเยือนด้วยตนเอง เพียงส่งบ่าวรับใช้หรือว่าผูด้ แู ลมาจัดการเป็ นใช้ได้
อวีถ้ งั เฉินซื่อและหวังซื่ออยู่ท่ีเรือนตระเตรียมของขวัญต่างๆ เพื่อจะไปคารวะวันปี ใหม่
สกุลเซียงในวันพรุง่ นี ้
เพราะว่าเป็ นช่วงปี ใหม่ เรือโดยสารทัง้ หมดจึงหยุดวิ่ง อวีห้ ย่วนไม่อาจเดินทางกลับใน
วันเดียวกันได้ จึงต้องพักค้างแรมที่เรือนสกุลเซียงหนึ่งวัน
อวีถ้ ังเอาเครื่องประดับผมรู ปดอกไม้ท่ีตนตัง้ อกตัง้ ใจทําใส่ลงในกล่องแกะสลักสีแดง
ของสกุล จากนัน้ ก็หย่อนใส่ในถุงผ้าของอวีห้ ย่วนไว้ ทัง้ กําชับหวังซื่อด้วยว่า “ท่านป้า ท่านอย่า
ลืมบอกท่านพี่ดว้ ยนะเจ้าคะ เดี๋ยวเขาจะคิดว่าเครื่องประดับผมนีเ้ ป็ นของขวัญมอบให้คนสกุล
เซียง”
หวังซื่อเดิมก็รกั ใคร่อวีถ้ งั อยู่แล้ว วันนีอ้ วีถ้ งั ยังช่วยวางแผนทุกอย่างให้อวีห้ ย่วนอย่าง
รอบคอบ นางจึงเอ็นดูอวีถ้ งั มากกว่าเดิม
822

“ข้ารูแ้ ล้ว” นางอดจะบีบแก้มนุ่มตึงของอวีถ้ งั สักหลายทีมิได้ จากนัน้ ก็หวั เราะแล้วเอ่ย


ว่า “เจ้าวางใจเถอะ รอพี่สะใภ้เจ้าแต่งเข้ามาแล้ว ข้าจะให้นางปั กรองเท้าให้เจ้าใส่”
อวีถ้ งั หัวเราะชอบใจ บอกกับหวังซื่อเป็ นเชิงล้อเลียนว่า “ท่านวางใจเถอะ รอให้พ่ีสะใภ้
คลอดหลานตัวอ้วนท้วมให้ขา้ ข้าก็จะตัดเสือ้ ผ้าให้เขาสวม”
“เจ้าเด็กคนนี!้ ” หวังซื่อหัวเราะแล้วตบลงที่หลังมืออวีถ้ งั เบาๆ แล้วเอีย้ วตัวไปพูดกับเฉิน
ซื่อที่ว่นุ วายกับการบรรจุนา้ํ ตาลข้าวให้อวีห้ ย่วนว่า “ไม่รูน้ างมีคารมคมคายเช่นนีต้ งั้ แต่เมื่อไร
ต่อไปหากบ้านเราเกิดเรื่องก็ไม่ตอ้ งกลัวใครมาว่าร้ายเสียๆ หายๆ แล้ว”
เฉินซื่อถลึงตาใส่อวีถ้ งั ทีหนึ่งแต่ก็ปล่อยนางไป “พี่สะใภ้ย่ิงตามใจนางจนเคยตัวเช่นนี ้
นางนับวันก็ย่งิ ไม่รูจ้ กั ละอายแล้ว”
“เก่งกาจสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน!” หวังซื่อปล่อยตัวอวีถ้ งั แล้วช่วยกันกับเฉินซื่อจัดข้าว
ของที่เตรียมไว้ลงใส่ตะกร้าสาน แล้วสั่งให้ซานมู่ไปเรียกซย่าผิงกุย้ เข้ามา
ซานมู่เป็ นบ่าวรับใช้ท่ีอวีป้ ๋ อซือ้ ให้อวีห้ ย่วนเมื่อปี ก่อน เพราะว่าบ่าวรับใช้เพิ่งมาถึง
สกุลอวี ้ ยังไม่ทนั ได้อบรมระเบียบให้เขา หนนีท้ ่ีอวีห้ ย่วนไปเรือนสกุลเซียง อวีป้ ๋ อจึงให้ซย่าผิงกุ้
ยติดตามไปด้วย หากเกิดขัดข้องสิ่งใดก็ยงั พอมีคนช่วยเหลือได้
ซานมู่เป็ นเด็กซื่อตรงเกินไปแต่ขาดไหวพริบ พ้นปี ใหม่นีก้ ็เพิ่งอายุได้สิบสองเท่านัน้ ได้
ยินดังนัน้ ก็รบั คําอย่างรีบร้อนวิ่งหายไป
เฉินซื่อเกิดเป็ นกังวลขึน้ มา “ให้เด็กคนนีไ้ ปด้วยจะไม่เป็ นไรหรือ? อาหย่วนไปเยือนบ้าน
ฝ่ ายหญิงครัง้ แรก กลัวเพราะเด็กรับใช้ซ่ือบือ้ แล้วไปก่อเรื่องอะไรเข้า”
หวังซื่อถอนหายใจ “เลือกแล้วเลือกอีก ก็มีคนนีแ้ หละใช้ได้กว่าเพื่อน ถึงเวลานัน้ ก็ได้แต่
ให้อาเสาคอยสอนงานเขาหน่อย”
823

ท่านแม่เฒ่ากับท่านพ่อเฒ่าสกุลเซียงไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับงานแต่งงานครัง้ นี ้ ทว่า
เหล่าป้าๆ น้าๆ ในสกุลเซียงต่างรู ส้ ึกว่าคุณหนูเซียงแต่งให้กับสกุลที่ต่าํ กว่า จึงค่อนข้างดูถูก
สกุลอวีอ้ ยู่ไม่นอ้ ย
สกุลอวีจ้ ะไม่สนใจญาติท่ีได้มาจากการเกี่ยวดองครัง้ นีก้ ็ได้ แต่เพราะกลัวทําให้คณ
ุ หนู
เซียงต้องลําบากใจ เกรงว่าตอนที่อวีห้ ย่วนไปถึงจะไม่มีแม้แต่คนรับใช้ขา้ งกาย อวีเ้ หวินจึง
ตัดสินใจ บอกให้อาเสาติดตามไปฟู่ หยางด้วยกัน
สะใภ้ทงั้ สองยังสนทนากันต่ออีกหลายประโยค ให้ผรู้ ูห้ นังสืออย่างอวีถ้ งั ช่วยตรวจดูใบ
รายการของขวัญว่ามีเขียนผิดหรือตกหล่นไปหรือไม่ ซานมู่พลันย้อนกลับมา แล้วเอ่ยติดอ่างว่า
“นายหญิงใหญ่ นายหญิงรองขอรับ สกุลเผย พ่อบ้านสามสกุลเผยมาส่งซองชื่อสกุลให้ขอรับ”
หวังซื่อกับเฉินซื่อได้แต่มองหน้ากันไปมา แล้วรีบร้อนพาอวีถ้ งั ออกไปรับหน้า
หนึ่งเพราะหลายวันนีห้ ซู ิ่งมักเป็ นคนพาหมอหลวงหยางมาตรวจชีพจรให้เฉินซื่อ พอได้
เห็นหน้าค่าตากันหลายครัง้ จึงมีความสนิทสนมกับหูซิ่งไม่นอ้ ย สองเพราะหูซิ่งเป็ นถึงพ่อบ้าน
สามแห่ง จวนสกุลเผย เป็ น ตัว แทนและหน้าตาของสกุลเผย เมื่ อเขามาคารวะวันปี ใหม่ต่อ
สกุลอวี ้ อย่างไรก็ตอ้ งเชิญให้เขาเข้ามาดื่มชาด้านใน ปฏิบตั ิดว้ ยความเกรงอกเกรงใจถึงจะถูก
เพียงแต่ไม่รูว้ า่ หูซิ่งนัน้ มาในนามของสกุลเผยหรือว่าตัวเขาเองกันแน่?
อวีถ้ งั ใคร่ครวญอยู่ในใจ เดินตามมารดากับป้าสะใภ้ไปที่ประตูใหญ่ดว้ ย
หูซิ่งอยู่ในชุดคลุมผ้าไหมหลู่โฉวสีแดงเข้ม ปกคอปั กขนเพียงพอนสีเทา หน้าตามื่นชื่น
สดใส พอเห็นพวกหวังซื่อก็กา้ วขึน้ มาคารวะทันที “เป็ นนายท่านสามส่งข้ามาขอรับ นายหญิง
ใหญ่ นายหญิงรอง สวัสดีปีใหม่นะขอรับ!” พูดจบ ก็เงยหน้าขึน้ มองเห็นอวีถ้ งั ที่ยืนอยู่ขา้ งหลัง
หวังซื่อกับเฉินซื่อพอดี จึงคารวะให้อวีถ้ งั อีกครัง้ หนึ่ง
ถึงกับส่งคนที่มีหน้ามีตาอย่างพ่อบ้านสามมาคารวะสกุลอวี ้ นี่นบั ว่าเป็ นการให้เกียรติ
อย่างมาก
824

หวังซื่อพาเฉินซื่อกับอวีถ้ งั ไปตระเตรียมของขวัญตอบแทนให้หซู ิ่งเสียวุน่ วาย


หูซิ่งเอ่ยว่า “ข้าทางนีย้ งั ต้องแวะไปคารวะอีกหลายบ้าน ขอไม่สนทนากับพวกท่านแล้ว
รอมีเวลาว่าง จะมาเยี่ยมนายท่านอวีใ้ หม่ขอรับ”
เฉินซื่อได้แต่รอ้ งว่า “เกรงใจแล้ว” จากนัน้ ก็สง่ หูซิ่งออกจากตรองชิงจู๋ไป
หูซิ่งเอ่ยขึน้ มาพร้อมรอยยิม้ “ทุกคนต่างเป็ นเพื่อนบ้านกัน ท่านอย่างได้เกรงใจกับข้าอีก
เลย วันนีอ้ ากาศหนาว ท่านรีบกลับเข้าเรือนไปพักเถอะขอรับ! หากว่าโดนไอเย็นเล่นงานจน
ป่ วยไป ข้าจะมีหน้ามาเจอนายท่านอวีไ้ ด้อย่างไร”
เขาดึงดันไม่ให้เฉินซื่อออกไปส่ง เฉินซื่อเห็นว่าเขาพูดจากใจจริง จึงไม่ได้เกรงใจเขาอีก
นางไปหยิบขนมนํา้ ตาลข้าวที่ตนทําเอง แล้วไปส่งเขาที่หน้าประตูใหญ่ รอจนหูซิ่งจากไปแล้ว
หวัง ซื่ อ จึ ง เอ่ ย กับ เฉิ น ซื่ อ ว่า “ครั้ง ก่ อ นตอนงานวัน เปิ ด ร้า นข้า เห็ น พ่อ บ้า นหูก้ม หน้า ก้ม ตา
โศกเศร้า เวลานีเ้ หตุใดกลายเป็ นกระปรีก้ ระเปร่าเสียแล้ว?”
“คงไปเจอเรื่องดีๆ เข้ากระมัง?” เฉินซื่อเดาพร้อมรอยยิม้ “พ่อบ้านหูผนู้ ีค้ นนับว่าไม่เลว
ตอนนัน้ คงแค่ไม่สบายใจชั่วครูช่ ่ วั คราวกระมัง?”
แม้ว่าจะคุน้ เคยกับหูซิ่งแล้ว ทว่าเรื่องเหล่านัน้ เป็ นปั ญหาส่วนตัวของเขา สองคนถกกัน
ไม่ก่ีคาํ ก็ลืมเรื่องนีเ้ สียสนิท กลับไปกังวลเรื่องที่อวีห้ ย่วนจะไปเยือนสกุลเซียงอีกรอบ
ทันทีท่ีหซู ิ่งเดินออกจากตรองชิงจู๋สีหน้านัน้ ก็ทะลายหายไปทันที
หลัง จากหนก่ อ นที่ เ ขาทํา อะไรโดยพลการ คนสกุ ล เผยก็ โ ดยเขาทิ ้ง ไม่ ส นใจ ทํา
เหมือนกับพ่อบ้านสามอย่างเขาคนนีไ้ ร้ตวั ตน เหล่าผูด้ แู ลในจวนล้วนเป็ นคนฉลาด ไม่ทนั ไรก็ทงิ ้
เขาให้โดดเดี่ยวในทันที หากมิใช่เพราะหมอหลวงหยางไม่รูค้ วามเป็ นไปของสกุลเผย คิดไว้ว่า
หลังจากไปตรวจชีพจรให้นายหญิ งใหญ่กับนายหญิ งสกุลอวีแ้ ล้ว กว่าจะกลับมาหลินอัน คง
825

ต้องรอถึงวันที่สองเดือนสองช่วงเทศกาลมังกรเชิดเศียร 1โน่น จึงได้ส่งบ่าวรับใช้ขา้ งกายมาหา


169

เขา ให้เขาส่งข่าวบอกนายหญิงใหญ่กบั นายหญิงรองสักคํา หากมิใช่เขารวบรวมความกล้าไป


รายงานเผยเยี่ยน ทัง้ เห็นว่าหลายวันนีเ้ ผยหม่านกําลังวุน่ วายกับเรื่องบางอย่างอยู่ จึงคิดหาทุก
วิธีท่ีจะทําได้เพื่อคว้างานนีเ้ อาไว้ มิเช่นนัน้ เขาคงถูกเผยเยี่ยนโยนเข้าตําหนักเย็น ได้แต่รอวันถูก
เขี่ยทิง้ จากจวนสกุลเผย กลับไปทําไร่ไถนาเลีย้ งตนยามแก่อยู่ท่ีมมุ ไหนสักแห่งแล้ว
ทว่า นายท่านสามกับสกุลอวีม้ ีความสัมพันธ์อย่างไรต่อกันแน่?
หากว่าเป็ นแค่เพื่อนบ้านดาษดื่นทั่วไป คุณหนูอวีม้ ีหรือจะขอพบนายท่ามสามได้โดย
ไม่เลือกเวลา หากบอกว่ามีจดุ ใดที่ผิดปกติ นั่นก็คือนายท่านสามคล้ายว่าไม่ค่อยจะนําพาเรื่อง
ของสกุลอวีม้ ากนัก หากมีคนพูดถึงเขาจึงค่อยนึกขึน้ มาได้ หากไม่มีใครเอ่ยถามก็หลงลืมไปเสีย
อย่างนัน้
ก็เหมือนกับการคารวะวันปี ใหม่ครานี ้ หากมิใช่หมอหลวงหยางมีเรื่องจําเป็ นต้องบอก
กล่าวนายหญิงอวีล้ ว่ งหน้า บวกกับเผยหม่านมีงานรัดตัว ธุระส่งซองชื่อให้สกุลอวีน้ ีค้ งไม่มีทาง
ส่งมาถึงมือเขาแน่
สรุปแล้วเขาต้องคอยประจบสกุลอวีไ้ ว้หรือไม่หนอ?
ผูซ้ ่งึ เป็ นคนกลิง้ กลอกเข้าได้กบั ทุกฝ่ ายอย่างหูซิ่ง เป็ นครัง้ แรกที่รูส้ กึ ละล้าละลังไม่อาจ
ตัดสินใจได้
อวีถ้ งั ทางนี ้ ย่อมไม่อาจล่วงรูไ้ ด้เลยว่าซองชื่อสกุลใบเดียวจะทําให้หซู ิ่งต้องใช้ความคิด
มากมายเพียงนัน้ วันที่สองนับจากปี ใหม่อวีห้ ย่วนก็เดินทางไปฟู่ หยาง วันที่ส่ถี ึงเดินทางกลับมา
พวกเขาสองครอบครัวนั่งล้อมวงบนโต๊ะอย่างตึงเครียด ไต่ถามถึงสถานการณ์ท่ีอวีห้ ย่วนไปบ้าน
สกุลเซียงในครัง้ นี ้ อวีห้ ย่วนกลับหันไปกระพริบตาส่งให้อวีถ้ งั ก่อน แล้วค่อยเอ่ยปากว่า “นาย

1
เทศกาลมังกรเชิดเศียร เป็ นเทศกาลขอฝนของคนจีน จะตรงกับช่วงต้นเดือนมีนาคมพอดี พืน้ ดินเริ่มคลายความหนาว
อากาศค่อยๆ อบอุ่นขึน้ ชาวนาชาวไร่อาํ ลาช่วงพักหลังเก็บเกี่ยว กลับมาเริ่มต้นทํางานอีกครัง้ ดังนัน้ ช่วงนีจ้ ึงเป็ นช่วงที่
พวกเขาต้องการนํา้ ฝนเป็ นอย่างมากเพื่อให้เมล็ดพืชที่หว่านไปเจริญงอกงาม
826

หญิงเซียงแม้ไม่ชอบหน้าคุณหนูเซียง แต่ไม่ยินยอมให้ผอู้ ่ืนมาหัวเราะเยาะตนลับหลังเป็ นอัน


ขาด ข้าไปเยี่ยมสกุลเซียงในครานี ้ มีนายหญิงเซียงดูแลเป็ นพิเศษ ทัง้ ไม่ได้เอ่ยถึงข้อเรียกร้องที่
มากเกินเหตุแต่อย่างไร ไม่มีใครกล้าละเลยข้าแม้แต่นอ้ ย”
พวกอวีเ้ หวินต่างก็ถอนหายใจโล่งอก
อวีถ้ ังรู ว้ ่าอวีห้ ย่วนมีเรื่องจะคุยกับนาง จึงหาโอกาสไปพบกับอวีห้ ย่วนเพียงลําพังที่
ห้องนํา้ ชา
อวีห้ ย่วนให้ซานมู่เฝ้าหน้าห้องนํา้ ชาเอาไว้ แล้วกระซิบบอกอวีถ้ ังว่า “ที่แท้นายหญิง
เซียงกับมารดาเลีย้ งของคุณหนูกนู้ นั้ เป็ นสหายสนิทกัน ข้าบังเอิญไปได้ยินคนข้างกายของนาย
หญิ งเซียงพูดว่า ตอนวันปี ใหม่แม่นางกูอ้ าละวาดใหญ่โต ทําเอานายท่านใหญ่กูโ้ มโหจนล้ม
ป่ วยไปแล้ว วันที่หนึ่งถึงกลับปิ ดประตูไม่รบั แขก งานเลีย้ งต่างๆ ในเรือนล้วนมีนายท่านบ้าน
ใหญ่เป็ นคนออกหน้าต้อนรับ เจ้าคิดว่า งานแต่งของสกุลหลี่จะล้มครืนเพราะเหตุนีห้ รือไม่?”
อวีถ้ งั หัวเราะเสียงดัง “ไม่เห็นต้องใส่ใจว่างานจะล้มหรือไม่ สกุลกูไ้ ม่อาจสงบ สกุลหลี่ก็
อย่าหวังจะได้ใช้ชีวิตเป็ นสุขเลย” พูดถึงตรงนี ้ นางก็ถามอวีห้ ย่วนอย่างยินดีกบั หายนะของผูอ้ ่นื
ว่า “ท่านพี่ ท่านว่าเราควรส่งคนไปจับตาดูสกุลหลี่หรือไม่? หากว่าช่วงปี ใหม่เกิดเรื่องอะไร
ขึน้ มาคงน่าสนุกขึน้ ไปอีก!”
อวีห้ ย่วนผงกศีรษะรัวเร็ว “ข้าให้ซานมูไ่ ปจับตาดูไว้ ถือโอกาสให้เขาฝึ กปรือไปด้วย”
“ให้อาลิ่วไปเถอะ!” อวีถ้ งั บอก “พวกเราไม่อาจทําให้โจ่งแจ้งเกินไปนัก!”
สองพี่นอ้ งมองหน้ากันแล้วหัวเราะชอบใจ จากนัน้ อวีห้ ย่วนก็ไปจัดการเรื่องนีต้ อ่
รอถึงวันที่หกนับจากปี ใหม่ พวกเขาทัง้ บ้านก็ไปคารวะสกุลเว่ย วันที่สิบสี่เดือนแรกอวี ้
ถังก็ตงั้ ใจไปหาหม่าซิ่วเหนียง ทัง้ นัดแนะว่าวันรุ ่งขึน้ จะไปชมโคมลอยด้วยกัน คิดไม่ถึงว่าพอ
กลับบ้านไปจะเจอประตูใหญ่ท่ีปิดสนิท ไร้ซง่ึ ความรื่นเริงของปี ใหม่โดยสิน้ เชิง
นางตกใจแทบทรุด รีบให้ซวงเถาไปเคาะประตู
827

ด้านในมีเสียงกล้าๆ กลัวๆ ของซานมู่ลอยข้ามมาว่า “ใคร ใครน่ะ?”


“คุณหนูกลับมาแล้ว” ซวงเถาตะโกนตอบเสียงดัง
ประตูส่งเสียง ‘แอ้ด’ แล้วเปิ ดออก ซานมู่เรียกนาง “คุณหนูใหญ่” เสียงหนึ่งด้วยสีหน้า
เศร้าสร้อย ก่อนเบี่ยงตัวหลบให้นางเดินเข้ามา
ซวงเถาถามว่า “เกิดเรือ่ งอะไรรึ?”
ซานมู่หนั ไปมองรอบด้าน เห็นว่าไม่มีคนนอก ก็ลากซวงเถาเข้าไปใกล้ๆ แล้วเอ่ยกับอวี ้
ถังด้วยความหวาดกลัวว่า “คุณหนู นายท่านรองไปหาเถ้าแก่ใหญ่ถง ไม่อยู่ท่ีเรือนขอรับ เมื่อครู ่
ฮูหยินหลี่มาโวยวานที่น่ี นายหญิงรองกลับปิ ดประตูไม่ให้เข้า นางอยู่ดา้ นนอกเอาแต่พดู จาไม่
น่าฟั ง พอนายหญิงรองโมโห บอกว่าจะไปทวงถามเหตุผลกับสกุลหลี่บา้ นสายหลัก นางถึงได้
ยอมจากไปขอรับ”
อวีถ้ งั ทําหน้าเครียดทันที ทางหนึ่งก็สาวเท้าฉับๆ ไปยังห้องเฉินซื่อ ทางหนึ่งก็หนั ไปถาม
ซานมู่วา่ “ส่งข่าวไปบอกท่านพ่อข้าแล้วหรือยัง?”
“ไปแล้วขอรับ!” ซานมู่กา้ วขาตามหลังอวีถ้ งั ไปติดๆ “อาเสาออกไปตามหานายท่านรอง
แล้ว”
“แล้วมารดาข้าเล่า?” อวีถ้ งั ถามต่อ
“ป้าเฉินไปตามนายหญิงใหญ่มาแล้วขอรับ” ซานมู่ตอบ “ตอนนีน้ ายหญิงใหญ่กาํ ลังคุย
เป็ นเพื่อนอยู่กบั นายหญิงรอง!”
อวีถ้ งั ค่อยเบาใจลงได้ เลิกม่านหน้าห้องเฉินซื่อให้เปิ ดออกแล้วเดินตรงเข้าไปด้านใน
“ท่านแม่!” นางร้องเรียก เห็นว่าเฉินซื่อกับหวังซื่อนั่งอยู่ดว้ ยกัน สีหน้ามีรอยยิม้ ประดับ
อยู่ จึงอดจะมึนงงอยู่ตรงนัน้ มิได้
828

“อาถังกลับมาแล้วรึ?” หวังซื่อหันมากวักมือเรียกอวีถ้ งั “มานั่งนี่เร็วเข้า!” ทัง้ ยังถามนาง


อย่างใส่ใจว่า “หิวแล้วหรือยัง? ให้ซวงเถาไปเคี่ยวโจ๊กงาดําสักถ้วยดีหรือไม่?”
อวีถ้ งั หันไปมองเฉินซื่อ จากนัน้ เปลี่ยนไปมองหวังซื่อ แล้วถามอย่างไม่เข้าใจว่า “มิใช่
ว่าฮูหยินหลี่มาก่อเรื่องที่เรือนหรือเจ้าคะ?”
เหตุใดมารดากับป้าสะใภ้ของนางถึงได้ยมิ ้ หน้าระรื่นเช่นนีไ้ ด้?
เกิดเรื่องอะไรที่นางไม่รูอ้ ีกแล้วรึ?
829

บทที่ 104 ทะเลาะ


เฉินซื่อเกิดในครอบครัวชาวนาทว่ามีความรู ้ แต่เล็กก็ได้เล่าเรียนจารีตธรรมเนียมอยู่ใน
ห้องหับ นิสัยจึงนุ่มนวลอ่อนโยน ไม่เหมือนกับหวังซื่อ ไม่เพียงเกิดในครอบครัวพ่อค้า ทั้งมี
ความคิดอ่านเป็ นของตนเองแต่เด็ก เรื่องบัญชีเอ่ยคําเดียวก็กระจ่างแจ้ง ปี นนั้ ท่านปู่ ของอวีถ้ งั
ชื่นชอบนางในจุดนีถ้ ึงได้ให้อวีป้ ๋ อไปสู่ขอนาง และเพราะหวังซื่อเป็ นคนค่อนข้างเปิ ดเผย ตอนที่
พูดคุยกันก็มกั จะเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา
สะใภ้ทัง้ สองเห็นท่าทางงงงวยของอวีถ้ ัง ก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างกัน้ ไม่อยู่
หวังซื่อชิงตัดหน้าเฉินซื่อเอ่ยขึน้ มาอย่างรวดเร็วว่า “เจ้ารูแ้ ล้วใช่หรือไม่ว่าฮูหยินหลี่มาก่อเรื่องที่
เรือนเรา? น่าเสียดายที่เจ้ากลับมาช้า ไม่อย่างนัน้ คงได้เห็นสภาพน่าเวทนาของงฮูหยินหลี่แล้ว!
หึ! คิดจะมารังแกครอบครัวเรา ฝันไปเถอะ!”
ป้าสะใภ้ท่ีดเุ ดือดเช่นนี ้ นางเคยเห็นเมื่อครัง้ ยังเป็ นเด็ก ภายหลังป้าสะใภ้ก็พดู น้อยลง
เรื่อยๆ คนก็ย่ิงไม่ค่อยแจ่มใส เจอปั ญหาหรือพบใครมักจะยอมถอยให้เสียมาก น้อยครัง้ จะเอ่ย
ความคิดในใจออกไปตรงๆ
นั่นเป็ นเพราะสถานการณ์บงั คับหรือ?
ชาติก่อน คนในครอบครัวนางที่ตายไปก็มี ที่แยกจากกันไปก็มี บุตรชายและหลานๆ
ล้วนมีชีวิตอย่างข้นแค้น กระทั่งญาติมิตรที่คอยช่วยเหลือยังมองหาไม่เห็น นางย่อมกลัวจะ
สร้างปั ญหาให้บตุ รชายและหลานๆ อีก ไม่วา่ สิ่งใดล้วนยอมอดกลัน้ เอาไว้ทงั้ สิน้
ชาตินี ้ เรื่องราวใดๆ ล้วนราบรื่น ชีวิตของคนในครอบครัวเหมือนดอกงาที่ผลิบา้ น แต่ละ
ฤดูกาลมีแต่จะเติบโตชูยอดสูง อีกไม่นานชีวิตก็จะรุ ง่ เรืองสดใสแล้ว ป้าสะใภ้ใหญ่จึงยืนยืดเอว
ตรง อย่าว่าแต่ฮูหยินหลี่เลย ต่อให้ฮูหยินจวนท่านข้าหลวงมาเอง หากมิใช่เรื่องที่ถูกต้องด้วย
เหตุและผล เกรงว่าป้าสะใภ้ก็คงตีฝีปากกลับไปหลายคํา
ผู้อ าวุ โ สเช่ น นี ้ ไม่ เ พี ย งทํา ให้รู ้สึ ก ชื่ น ใจปลอดโปร่ ง ทั้ง ยัง มี ค วามเคารพและน่ า
ภาคภูมิใจอีกด้วย
830

สักวันหนึ่ง นางก็จะเป็ นที่พ่ึงพาและเป็ นความมั่นใจให้กบั บิดามารดารวมถึงผูอ้ าวุโส


ทุกคน จะไม่ทาํ ให้คนที่คอยกําบังลมฝนให้นางตัง้ แต่เล็กต้องผิดหวัง ขอให้นางได้มีโอกาสตอบ
แทนบุญคุณนี ้
ภาพเบือ้ งหน้าของอวีถ้ งั คล้ายจะเลือนลาง นางเกี่ยวแขนของป้าสะใภ้เอาไว้ เอ่ยเสียง
เบาด้วยรอยยิม้ ว่า “คําพูดนีข้ องป้าสะใภ้หมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ? ข้าแค่ออกไปข้างนอก
ครู เ่ ดียว เหตุใดกลับมาถึงรูส้ กึ ว่าแผ่นดินพลิกกลับเป็ นแผ่นฟ้าเสียแล้ว ท่านรีบเล่าที่มาที่ไปให้
ข้าฟั งหน่อยเถอะเจ้าค่ะ!”
เฉินซื่อแสร้งไม่พอใจแล้วตบไหล่นางเบาๆ ตําหนินางไปหนึ่งคําว่า “พูดจากับป้าสะใภ้
เช่นนีไ้ ด้อย่างไรหึ?” จากนัน้ ก็หนั ไปรินนํา้ ชาให้นาง บุย้ ใบ้ให้ทกุ คนนั่งลงสนทนากัน
อวีถ้ งั นั่งลงข้างๆ หวังซื่อ
หวังซื่อยิม้ ออกมาแล้วเล่าเหตุการณ์ท่ีเกิดขึน้ ก่อนหน้านีใ้ ห้นางฟั งอย่างไม่ตกหล่น
ที่แท้ วันที่สองหลังปี ใหม่ หลี่ตวนไปคารวะสกุลกูท้ ่ีหงั โจว ไม่คิดฝั นว่านายท่านใหญ่กู้
จะล้มป่ วย กูซ้ ีกบั บิดาและมารดาเลีย้ งต่างก็ไปเยี่ยมคนป่ วยที่เรือนหลักทางนัน้ หลังจากที่เขา
ไปถึง นายท่านสกุลกูเ้ พียงโผล่หน้ามาแวบเดียวก่อนมอบเขาให้ผดู้ แู ลบ้านสายรองไปจัดการต่อ
ผูด้ ูแลคนนั้นก็ไม่รูว้ ่าคิดอย่างไร จัดเตรียมเหล้ายาอาหารให้เต็มโต๊ะแล้วก็ทิง้ เขาไว้ในห้อง
รับรองคนเดียว ไม่ได้ส่ ังการให้ใครมาต้อนรับต่อ หรือส่งใครมาคอยอํานวยความสะดวกให้
หลี่ตวนจึงลอบไม่พอใจอยู่เงียบๆ สุดท้ายเขาจึงหาข้ออ้างแล้วเดินทางกลับเมืองหลินอันในคืน
นัน้ รอจนถึงวันที่แปดนับจากปี ใหม่ คนของสกุลกูส้ ายรองพลันปรากฎตัวขึน้ แจ้งว่านายท่าน
บ้านรองเชิญหลี่ตวนไปพูดคุยที่จวน หลี่ตวนไม่กล้าชักช้า ผลัดเปลี่ยนเสือ้ ผ้าแล้วคว้าของขวัญ
สูงค่ามุ่งหน้าไปหังโจวทันที
ใครจะคิดว่านายท่านบ้านรองสกุลกูด้ ่ืมชากับหลี่ตวนอยู่ค่อนวัน พูดอ้อมค้อมวกไปวน
มา บอกว่าคุณหนูกูอ้ ายุยงั น้อย งานแต่งเดิมที่กาํ หนดเอาไว้ตอ้ งเลื่อนออกไปสักหลายปี ก่อน
ถึงเวลานัน้ ค่อยมาหารือกันใหม่
831

หลี่ตวนได้ฟังก็เลือดขึน้ หน้าทันที
สกุลกูแ้ ม้จะไม่ได้เอ่ยชัดเจนว่าต้องการถอนหมัน้ แต่ความหมายคือยืดเวลาออกไปไม่
ยอมให้ตบแต่ง
เขาไต่ถามถึงเหตุผล
สกุลกูเ้ พียงบอกว่าไปดูดวงชะตาให้คุณหนูกูม้ า เห็นว่าช่วงสองสามปี นีไ้ ม่เหมาะจะ
แต่งงาน มิเช่นนัน้ อาจมีภยั ถึงชีวิต คนสกุลกูไ้ ด้ยินเช่นนัน้ ก็ขวัญเสีย คิดว่าอย่างไรก็สมควรระวัง
ไว้ก่อน จึงตัดสินใจรอสักสองปี แล้วค่อยยกเรื่องนีม้ าว่ากันใหม่
เหตุผลนีฟ้ ั งแล้วสมบูรณ์หนักแน่น หลี่ตวนนั้นให้ความสําคัญกับงานแต่งนีม้ าก ไม่
อยากจะผิดใจต่อสกุลกู้ จึงได้แต่คล้อยตามความต้องการของสกุลกูแ้ ล้วซ้อมมวยไท่จ๋ีเป็ นเพื่อ
นายท่านรองอยู่ครึง่ วัน ก่อนที่จะจบเรื่องราวลงเช่นนัน้
แต่เขามิใช่คนไร้ความคิด
ทันทีท่ีกา้ วออกจากสกุลกูก้ ็หว่านเงินแล้วจ้างคนให้แยกย้ายไปตามสืบเรื่องนี ้
ไม่นาน เรื่องที่สกุลกูร้ บั รูถ้ ึงบุญคุณความแค้นระหว่างสกุลอวีแ้ ละสกุลหลี่แล้วก็ลอยมา
เข้าหูเขา
เรื่องที่เกิดขึน้ เป็ นความจริง เขาไม่อาจปฏิเสธ แต่จะบิดพลิกภาพลักษณ์ท่ีสกุลกูม้ ีต่อ
เขาได้อย่างไรนัน้ จําต้องวางในแผนระยะยาว
เขาเลือกเดินทางกลับเมืองหลินอันไปก่อน
ผลคือทันทีท่ีถึงท่าเรือก็พบว่าซานมู่ลอบติดตามเขาอย่างลับๆ ล่อๆ
เดิมเขาก็เกิดเพลิงโทสะในอก จึงจับตัวซานมู่ไว้แล้วไต่สวนเขาอย่างโหดร้ายไปหนึ่ง
รอบ
832

ซานมู่ไม่พดู อะไรสักคํา หลี่ตวนไม่ได้ขอ้ มูลจากเขาไป ทว่าสายตาเคลือบแคลงสงสัย


กับพุง่ มาที่สกุลอวี ้
เมื่อกลับมาถึงจวน ฮูหยินหลี่ก็รูเ้ รื่องราวจากปากข้ารับใช้ขา้ งกายของบุตรชายในทันที
นางมั่นใจว่าคนสกุลอวีอ้ ยู่เบือ้ งหลัง คิดถึงว่าสองปี นีบ้ ุตรชายต้องลงสนามสอบแล้ว
ยังวาดฝันจะได้ความสนับสนุนจากกูฉ้ ่างพี่ชายของกูซ้ ี หากว่างานมงคลของสกุลกูก้ บั สกุลหลี่มี
การเปลี่ยนแปลง แล้วหลี่ตวนจะทําเช่นไร? พวกนางสกุลหลี่จะทําอย่างไร?
ต้องรู ไ้ ว้ก่อนว่า พวกนางกับสกุลหลี่แบ่งแยกบรรพบุรุษกันแล้ว ไม่รูค้ นมากมายเท่าไร
คอยจับจ้อง คนไม่นอ้ ยรอหัวเราะเยาะพวกเขา คนที่คิดจะฉวยโอกาสนีห้ าผลประโยชน์จาก
สกุลเขาก็มีมากขึน้ ไปอีก
นางทั้งร้อนใจทัง้ เดือดดาล จึงพาหญิงรับใช้ท่ีตัวใหญ่มีพละกําลังบุกไปที่เรือนผูอ้ ่ืน
ทันที
เฉินซื่อตอนนัน้ อยู่เรือนเพียงลําพัง เดิมก็ไม่กล้าเปิ ดประตูให้ ป้าเฉินเห็นท่าไม่ดี จึงลอบ
ออกทางประตูหลังไปตามหวังซื่อมา
หวังซื่อหาใช่ตะเกียงนํา้ มันหมดไฟ นางวิ่งมาด้วยท่าทีดดุ นั แล้วเข้าปะทะกับฮูหยินหลี่
ในทันใด
ฮูหยินหลี่อย่างไรก็ถูกเลีย้ งมาอย่างเอาอกเอาใจ หลายปี มานีก้ ็ใช้ชีวิตอย่างราบรื่น
สําราญ ไม่เคยเห็นแก่หน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหน เมื่อใดเกิดเหตุเบาะแว้งล้วนเป็ นผูอ้ ่ืนที่ยอม
ถอยให้ นางเคยเจอชาวบ้านธรรมดาที่ทาํ มาค้าขายอย่างหวังซื่อเสียที่ไหน ต่อเถียงกันไม่ก่ีคาํ ก็
โมโหจนเป็ นลมเป็ นแล้ง ก่อนถูกบ่าวรับใช้ของสกุลหลี่แบกกลับไป
หวังซื่อเล่าจบก็ยงั ไม่หายโมโห “หากไม่คิดว่าปี นีเ้ จ้าต้องหารือเรื่องตบแต่ง มีหรือที่ขา้
จะปล่อยนางกลับไปง่ายๆ แบบนี ้ อย่างไรก็จะตามไปให้ถึงถนนใหญ่เลย ให้ชาวบ้านทุกคน
833

ช่วยกันถกเถียงดู อย่าคิดว่าสกุลนัน้ แค่มีผรู้ ู ห้ นังสือไม่ก่ีคนแล้วจะยิ่งใหญ่คบั ฟ้า หรือว่าต่อไป


หากพวกนัน้ เจอเรื่องเลวๆ อะไรมาก็จะโยนว่าเกี่ยวข้องกับพวกเราหมดอย่างนัน้ สิ?”
อาจเพราะพูดถึงเหตุการณ์กอ่ นหน้านี ้ นํา้ เสียงของนางจึงเจือด้วยกระแสโทสะ
เฉิ น ซื่ อ รีบ ริน นํา้ ชาให้ห วัง ซื่ อ เอ่ ย ปลอบใจนางว่า “อย่ า โมโหไปเลย พวกเขามิ ใ ช่
ต้องการให้ครอบครัวเราเลือดร้อนไปด้วยรึ? หากว่าพวกเราเดือดดาล ก็คงแพ้แล้วแน่ๆ”
หวังซื่อสูดหายใจลึกหลายที แต่ปากก็ยังบ่นกระปอดกระแปดว่า “ไม่โกรธหรอก ไม่
โกรธหรอก”
อวีถ้ งั พลันเหงื่อตก ในใจกล่าวโทษญาติผพู้ ่ีท่ีไม่เชื่อนาง ไม่ยอมส่งอาลิ่วที่ขายสาลี่ไป
จับตาดูหลี่ตวนแทน แต่พอคิดๆ ดู เรื่องอย่างนีห้ ากไม่ยอมให้หลี่ตวนรับรู ้ แล้วจะต่างจากการ
สวมเสือ้ งดงามเดินยามวิกาล 1ที่ตรงไหน?
170

สมควรให้สกุลหลี่รบั รูด้ ว้ ยสิ


ต้องให้พวกเขาเดินด้วยรอยเท้าที่วนุ่ วายสับสน
อวีถ้ งั ร้องเหอะในใจเงียบๆ แล้วเอ่ยกับป้าสะใภ้ว่า “ฮูหยินหลี่ไม่ได้มาผิดที่หรอกเจ้าค่ะ
บุญคุณความแค้นระหว่างสกุลเรากับพวกเขา เป็ นข้าที่ไปบอกกับสกุลกูเ้ อง”
หวังซื่อกับเฉินซื่อต่างอ้าปากค้างเบิกตาโต
ในเมื่อนางกลับมาจากเมืองหังโจวอย่างปลอดภัย ผูใ้ หญ่ในเรือนย่อมไม่กงั วลว่านาง
จะเป็ นอันตรายอีก นางเองก็ไม่คิดจะปิ ดบังอะไร ถึงได้เล่าเหตุการณ์ท่ีเกิดขึน้ อย่างละเอียดให้
เฉินซื่อและหวังซื่อฟั ง “นี่เป็ นความคิดของข้าเองเจ้าค่ะ! สกุลหลี่ถือสิทธิ์อะไรมากลั่นแกล้งให้

1
สวมเสือ้ งดงามเดินยามวิกาล เป็ นสํานวนหมายถึง การสวมใส่เสือ้ ผ้าที่งดงามในเวลากลางคืน เหมือนกับการเพลิดเพลิน
กับความรุง่ โรจน์และความมั่งคั่งโดยไม่แสดงให้คนอื่นเห็น
834

ครอบครัวเราต้องเจอเรื่องยุ่งยากวุ่นวาย จากนัน้ แค่ขอขมาคําเดียวก็นบั ว่าได้รบั การอภัยแล้ว


พวกเราจะสร้างปั ญหาให้สกุลนัน้ หน่อยไม่ได้เลยหรือ?”
ชาติก่อน สกุลอวีข้ องนางมิใช่ถกู สกุลหลี่ทาํ ร้ายจนต้องบ้านแตกสาแหรงขาดรึ?
หากว่านางไม่ได้กลับมาเกิดใหม่ ไม่ได้มีความรงจําของชาติก่อน สกุลอวีก้ ็คงจะถูก
สกุลหลี่เหยียบยํ่าทําร้ายไม่ตา่ งกับชาติก่อน!
อวีถ้ งั เอ่ยเสียงเย็นว่า “ข้าเคยคิดว่าให้แล้วเรื่องจบกันไป แต่คนโฉดพวกนัน้ กลับไม่ยอม
รามื อ พวกเรายิ่ งหลบเลี่ย งถอยหนี พวกเขามี แต่ได้คืบจะเอาศอก ใช้อุบายที่ เลวทรามขึน้
เรื่อยๆ”
เฉินซื่อได้ฟังก็รอ้ นใจจนแทบเต้น “เจ้าเด็กคนนี ้ ช่างไม่รูค้ วามเกินไปแล้ว! จองเวรจอง
กรรมกันไปไม่รูจ้ กั จับสิน้ มีเรื่องน้อยยิ่งจะทุกข์นอ้ ย พวกเราล้วนมีความสุขกันดี เจ้าอย่าได้ไป
ก่อเรื่องอีกล่ะ”
หวังซื่อกลับคิดตรงข้ามกับเฉินซื่อ นางรูส้ กึ ว่าสิ่งที่อวีถ้ งั พูดช่างตรงใจนางยิ่งนัก
“อาถัง พูด ถูก ถื อ สิ ท ธิ์ อ ะไรว่ า คนใจอ่ อ นอย่ า งพวกเราต้อ งถูก เอาเปรีย บ พวกเขา
วางแผนทําร้ายผูอ้ ่ืนแค่พดู ขอโทษพวกเราก็ตอ้ งให้อภัยหรือ ถ้ารูแ้ ต่แรกว่าเป็ นฝี มืออาถัง เมื่อครู ่
ตอนที่ทะเลาะกับสกุลหลี่ขา้ คงยอมรับไปแล้ว ยิ่งสมควรลากนางไปกลางถนนให้คนที่ผ่านไป
มาได้ถกเถียงกันดู…เรื่องราวใหญ่โตมาถึงขัน้ นีแ้ ล้ว พวกเราสกุลอวีแ้ ม้ตอ้ งอับอาย แต่สกุลหลี่
ย่อมขายขีห้ น้ามากกว่า เพราะสกุลกูถ้ ึงกับเลื่อนงานแต่งออกไปเลยนี่!”
บัดนีท้ ่ีผูอ้ ่ืนมองหลี่ตวนด้วยสายตาที่สูงส่งขึน้ มาหน่อย ก็เพราะเขาเกาะเกี่ยวต้นไม้
ใหญ่อย่างสกุลกูไ้ ด้มิใช่หรือ?
หากว่าสกุลหลี่ไม่ได้เกี่ยวดองกับสกุลกูแ้ ล้ว ในครอบครัวเขาก็มีแค่ขนุ นางขัน้ สี่หนึ่งคน
เท่านัน้ มีอะไรน่าเกรงขามกัน?
835

“นี่…” เฉินซื่อคิดว่าเรื่องนีไ้ ม่ถกู ต้อง แต่กลับฟั งหวังซื่อพูดจนเริ่มเอนเอียง เวลานีพ้ ลัน


ไม่รูจ้ ะเอ่ยอะไรออกมา
อวีถ้ งั จึงเอ่ยขึน้ มาว่า “ท่านแม่ เดินสวนกันในทางแคบไม่มีท่ีให้ถอย ผูก้ ล้าหาญบุกบั่น
ย่อมชนะ แต่กอ่ นพวกเราหวาดกลัวเกินไป ทําอะไรก็ไตร่ตรองถึงค่อยลงมือทํา ทัง้ ยังกระทําการ
อย่างระวังรอบคอบ แล้วผลลัพธ์เป็ นอย่างไรล่ะเจ้าคะ?”
ผลคือท่านลุงใหญ่กบั ญาติผพู้ ่ีของนางต้องประสบเคราะห์รา้ ย
หากว่าชาติก่อนนางเอาตัวออกมาจากสกุลหลี่ให้เร็วกว่านี ้ เป็ นไปได้ไหมว่าเรื่องราว
ทัง้ หมดจะเปลี่ยนไปจากเดิม?
อวีถ้ งั พลันมีนา้ํ ตารืน้ ขึน้ มา
“ภรรยาข้า อาถังกล่าวได้ถกู ต้องแล้ว!” ทันใดนัน้ ในห้องพลันมีเสียงอวีเ้ หวินดังขึน้
ทุกคนต่างหันศีรษะไปมอง
ไม่รูว้ ่าอวีเ้ หวินกลับมาตัง้ แต่เมื่อไร เขากําลังยืนฟั งพวกนางคุยกับอยู่หน้าประตูหอ้ ง
ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“สามี!”
“น้องสามี!”
“ท่านพ่อ!”
สามคนต่างทักทายอวีเ้ หวินพร้อมกัน
ดวงหน้าอวีเ้ หวินมีประกายรอยยิม้ เขาวางมือลงบนบ่าของอวีถ้ งั แล้วเอ่ยกับหวังซื่อว่า
“ยังเป็ นพี่สะใภ้ท่ีหลักแหลม เมื่อเจอความโหดร้ายดุดัน พวกเราก็ตอ้ งป่ าเถื่อนยิ่งกว่าถึงจะ
กลายเป็ นผู้ล่าที่ดีได้” พูดจบ เขาก็ หันไปประสานมือและก้ม ตัวคารวะหวังซื่อจนตํ่า “วันนี ้
836

ลําบากพี่สะใภ้ท่ีย่ืนมือช่วยเหลือ วาจาเกรงใจข้าคงไม่พดู แล้ว อีกเดี๋ยวให้มารดาอวีถ้ งั ลงมือผัด


กับข้าวสักหลายอย่าง เชิญท่านกับพี่ใหญ่ไปดื่มสุราที่เรือนข้าเถอะ”
น้องสามีของตนกล่าวขอบคุณอย่างหนักแน่นเช่นนี ้ หวังซื่อพลันหน้าแดงเรื่อ โบกมือ
ปั ดพลางตอบว่า “น้องสามีเกรงใจเกินไปแล้ว”
อวีเ้ หวินหมุนตัวไปบอกกับเฉินซื่อว่า “ต่อไปเจ้าเจอเรื่องอันใด ต้องไปหารือกับพี่สะใภ้
ก่อนเท่านัน้ ให้ฟังคําของพี่สะใภ้เป็ นใช้ได้”
เมื่อครู ่ตอนที่หวังซื่อปะทะกับฮูหยินหลี่ นางก็รูส้ ึกนับถือนางจากใจจริงแล้ว พอมาได้
ยินอวีเ้ หวินพูดเช่นนีอ้ ีก ก็ย่งิ เคารพหวังซื่อกว่าเก่า รีบร้อนเอ่ยขอบคุณนาง
สองสะใภ้ต่างสลับกันกล่าววาจาเกรงใจ อวีเ้ หวินกลับตีหน้ายักษ์หนั ไปไต่สวนอวีถ้ งั ว่า
“เหตุใดเจ้าใจกล้าเช่นนี ้ ถึงขัน้ อาจหาญไปเมืองหังโจว? เห็นบิดากับลุงเจ้าเป็ นเพียงของตกแต่ง
อย่างนัน้ รึ? เหตุใดเจ้าถึงไม่เคยบอกกับข้าล่วงหน้าเลยสักคํา?”
นางมิใช่ลากญาติผพู้ ่ีไปด้วยแล้วหรอกรึ?
อวีถ้ ังเห็นว่าบิดาโมโห กล้าเพียงต่อปากเถียงอยู่ในใจ ศีรษะนัน้ กดลงจนตํ่า วางท่า
คล้ายคนที่กระทําความผิดมา
ทว่าวาจาที่ออกจากปากอวีเ้ หวินต่อจากนัน้ กลับทําให้อวีถ้ งั แทบหลุดหัวเราะ
“ถ้ารูแ้ ต่แรกว่าเจ้ามีความคิดพิเรนทร์ๆ เช่นนี ้ ข้าก็คงไปพร้อมกับเจ้าด้วยแล้ว”
837

บทที่ 105 ต้นไม้


ทุกคนหันมามองอวีถ้ งั ที่หลุดขํา
อวีถ้ ังละลํ่าละลักข่มกลัน้ รอยยิม้ เอ่ยกับบิดา “ท่านจะไปทําอะไรเจ้าคะ? หรือใคร่จะ
เล่าเรื่องบุญคุณความแค้นของพวกเราสองสกุลให้สกุลกูท้ ราบด้วยตัวเอง?”
อวีเ้ หวินเลิกคิว้ “ไยจะทําไม่ได้?”
เฉินซื่อได้ฟังก็ใจเต้นระรัว กลัวว่าพ่อลูกคู่นีจ้ ะบุ่มบ่ามก่อเรื่องโดยไม่สนใจอะไร รีบทํา
ท่าทีโมโหขึน้ มา “เหตุใดยิ่งพูดก็ย่ิงไร้เหตุผลขึน้ เรื่อยๆ! พูดให้รา้ ยผูอ้ ่ืนลับหลังนับเป็ นเรื่องอะไร
กัน เป็ นเรื่องดีอย่างนัน้ รึ?”
สองพ่อลูกไม่อยากให้เฉินซื่อวิตกกังวล พากันปิ ดปากเงียบ
หวังซื่อเห็นเช่นนัน้ ก็เอ่ยเกลีย้ กล่อมอยู่ดา้ นข้าง “เอาเถิดๆ อย่างไรสกุลพวกเราก็ไม่ได้
เสียเปรียบ ส่วนคนอื่นจะทุกข์จะสุข ก็หาใช่ญาติสนิทพวกเราไม่ เกี่ยวอันใดกับสกุลพวกเรากัน?
ได้ยินว่าสกุลเผยเป็ นผูอ้ อกเงิน พรุง่ นีท้ างการจะจัดงานเทศกาลโคมไฟที่ถนนฉางซิ่ง วันนีท้ กุ คน
ก็เข้านอนพักผ่อนกันเร็วหน่อยเถิด พรุง่ นีไ้ ปชมเทศกาลโคมไฟที่ถนนฉางซิ่งด้วยกันดีกว่า?”
เฉินซื่อก็ไม่ได้โมโหสองพ่อลูกอย่างจริงจัง เฉินซื่อส่งบันไดให้กา้ วลงแล้ว นางย่อมตาม
นํา้ ไป เอ่ยกับหวังซื่อด้วยรอยยิม้ “กําลังคิดจะชวนพี่สะใภ้และพี่ใหญ่พอดี นึกไม่ถึงว่าพี่สะใภ้จะ
ออกปากชวนก่อน พรุง่ นีพ้ วกเราจะไปเวลาใด? นัดเจอที่ไหนกันดี?”
สองพี่สะใภ้นอ้ งสะใภ้ปรึกษาเรื่องงานเทศกาลโคมไฟของพรุ ่งนีด้ ิบดีแล้ว เฉินซื่อก็ส่ง
หวังซื่อออกจากประตูดว้ ยตัวเอง
อวีเ้ หวินเผยสีหน้าจริงจังขึน้ มา เอ่ยกับอวีถ้ งั “เจ้าตามข้ามา”
อวีถ้ งั ไม่กล้าพูดมาก ตามบิดาไปที่หอ้ งหนังสือแต่โดยดี
838

อวีเ้ หวินยอบกายนั่งบนเก้าอีไ้ ท่ซืออย่างหมดแรง ตําหนิลกู สาว “เจ้ายังทําอะไรไปอีก


บ้าง? ยามนีบ้ อกกับข้ามาทีละเรื่อง ข้าจะไม่ซกั ไซ้เอาความ มิเช่นนัน้ ก็คดั ลอก ‘คัมภีรก์ ตัญ�ู’
มาให้ขา้ หนึ่งหมื่นครัง้ ”
นั่นไม่ใช่จะคัดจนมือบวมมือพองหรอกรึ!
อวีถ้ งั เผยสีหน้าเจื่อน “ไม่ได้ตงั้ ใจปิ ดบังท่านจริงๆ เจ้าค่ะ แค่ไม่อยากลากท่านเข้ามา
เกี่ยวข้องด้วย จึงไม่ได้บอกกล่าวอะไรกับท่าน”
อวีเ้ หวินเอ่ยอย่างร้อนใจ “เจ้าไม่บอกข้า ฮูหยินหลี่กลับมาหาถึงในบ้าน ยังดีท่ีวนั นีป้ ้า
สะใภ้ใหญ่ของเจ้าตามมาทัน หากกระทบกระเทือนถึงมารดาเจ้า เจ้าจะทําอย่างไร?”
อวีถ้ งั ก้มหน้ายอมรับผิด
อวีเ้ หวินสั่งสอนนางไปอีกครัง้ อย่างอดไม่ได้ “ในเมื่อนําเรื่องนีบ้ อกกับสกุลกูแ้ ล้ว ไม่ว่า
สกุลกูจ้ ะมีท่าทีกบั หลี่ตวนอย่างไร นั่นก็เป็ นเรื่องของพวกเขาแล้ว คาดไม่ถึงว่าพวกเจ้ายังส่งคน
ไปจับตาดูหลี่ตวน อยากเห็นเรื่องขายหน้าของเขา ผลลัพธ์เป็ นอย่างไร อยากพาตัวเองติด
ร่างแหไปด้วยหรือ?”

ทางด้านสกุลหลี่ ฮูหยินหลี่ระเบิดโทสะทําลายถ้วยชามเครื่องชาแตกไปหลายใบ “ล้วน
ต้องโทษสกุลอวี ้ หากไม่ใช่พวกเขา ลูกชายของข้าจะได้รบั การดูถกู เหยียดหยามเช่นนีไ้ ด้อย่างไร
รู ท้ งั้ รู ว้ ่าวันที่สองลูกข้าจะเข้าไปอวยพรปี ใหม่ พ่อตาแม่ยายไม่มาพบก็แล้วไป คาดไม่ถึงว่าถึง
ขัน้ ให้ขา้ รับใช้คนหนึ่งมาต้อนรับลูกชายข้า พวกเขาหมายความว่าอย่างไรกัน? คิดว่าสกุลพวก
เราอยู่ต่าํ กว่าพวกเขา? ข้ากลับอยากเห็นว่า สกุลกูว้ างแผนจะทําอย่างไรกับงานแต่งครัง้ นี?้ ”
หลี่ตวนเพียงรูส้ กึ เหนื่อยล้าเหลือทนเท่านัน้
839

นับ ตั้ง แต่ ส าเหตุก ารตายของเว่ย เสี่ ย วซานถูก เปิ ด เผย เรื่อ งราวก็ ค ล้า ยกับรถม้า ที่
สูญเสียการควบคุม จะวิ่งเตลิดไปทิศทางใดเขาก็ไร้ทางคาดเดา เขารูส้ กึ เหมือนว่าข้างหลังมีมือ
คูห่ นึ่งที่มองไม่เห็น คอยผลักเขาไปตามทาง
แต่วา่ หากเรื่องเป็ นดั่งที่มารดาเขาพูด จะเกี่ยวข้องกับสกุลอวีไ้ ด้ร?ึ
สกุลอวีไ้ ม่ใช่สกุลบัณฑิตหรอกรึ?
อวีเ้ หวินผูน้ นั้ ก็เป็ นสุภาพชน จะกล้าทําเรื่องลับหลังสกุลพวกเขาได้อย่างไรกัน?
หลี่ตวนมองมารดาที่โมโหจนริมฝี ปากสั่นระริก คิดว่าจะเอ่ยปลอบนางอย่างไรดี เงย
หน้าขึน้ กลับเห็นญาติผพู้ ่ี หลินเจวี๋ย ส่งสายตาให้เขานอกหน้าต่าง
เพราะภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ นอกจากหลินเจวี๋ยจะไม่ได้กลับฝูเจีย้ นไปฉลองปี
ใหม่แล้ว ยังต้องคิดวิธีหาอาจารย์ท่ีสามารถเข้าม้วนภาพวาดได้มาซ่อมแซมแผนที่น่ นั ให้เหมือน
ใหม่อีกครัง้ รอจนวันที่สิบห้าเดือนหนึ่ง พวกเขาก็จะสามารถส่งคนไปส่งจดหมายให้สกุลเผิง
นับว่าความพยายามในช่วงนีข้ องเขาไม่สญ
ู เปล่า
เขาผงกศีรษะให้หลินเจวี๋ยอย่างไร้สมุ้ เสียง หลินเจวี๋ยเข้าใจความนัย กลับไปรอในห้อง
รับรองแขกของตัวเอง หลี่ตวนเอ่ยปลอบมารดาไม่ก่ีคาํ เมื่อสบโอกาสก็ปลีกตัวออกมา ไปพบ
กับหลินเจวี๋ย
“เกิดเรื่องอันใดขึน้ ?” หลี่ตวนพบหน้าเขาก็เอ่ยทันที “กระทั่งมารดาข้ายังต้องปิ ดบัง!”
“สตรีนนั้ ผมยาว แต่ความรูก้ ลับตืน้ เขิน” หลินเจวี๋ยเอ่ยอย่างไม่เห็นด้วย
อาหญิงของเขาก็ไม่มีขอ้ ยกเว้น
แทนที่ยามนีจ้ ะกังวลเรื่องหลี่ตวนได้รบั การเหยียดหยามจากสกุลกู้ ยังมิสสู้ นใจเรื่อง
แผนที่น่ นั ว่าเป็ นของจริงหรือของปลอม
840

ขอเพียงสกุลหลี่รุง่ เรืองเฟื่ องอํานาจ สกุลกูจ้ ะทําใจละทิง้ บุตรเขยเต่าทองคํา 1อย่างหลี่ต


171

วนได้ร?ึ
อย่างไรผูห้ ญิงก็มิอาจแยกเรื่องสําคัญได้วนั ยังคํ่า
“ข้าคิดว่าก่อนจะส่งแผนที่ให้สกุลเผิง พวกเราควรลอกภาพไว้เสียหน่อย” หลินเจวี๋ยเอ่ย
ถึงความคิดที่ผ่านการใคร่ครวญของตัวเองซํา้ แล้วซํา้ เล่า “พวกเราต้องป้องกันเผื่อสกุลเผิงคิด
เล่นแง่ผิดสัญญา”
ถึงเวลานัน้ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝั น พวกเขาย่อมสามารถนําแผนที่เลียนแบบไป
หาผูม้ ีอิทธิพลคนอื่นที่ไว้ใจได้
หลี่ตวนมองทะลุปรุ โปร่งทันที เขาเอ่ย “เช่นนัน้ พวกเราส่งจดหมายไปหาสกุลเผิงก่อน
กล่า วว่ า ได้ภ าพมาอยู่ใ นมื อ แล้ว ถามพวกเขาว่ า จะให้ส่ง ภาพไปอย่ า งไร ถ่ ว งเวลาไว้อี ก
เล็กน้อย?”
การส่งจดหมายกลับไปกลับมาเช่นนี ้ ก็สามารถยืดเยือ้ เวลาได้กว่าสิบวันถึงครึ่งเดือน
แล้ว
หลินเจวี๋ยเห็นว่าหลี่ตวนเข้าใจความหมายของตน แววตาก็ปรากฏท่าทีโล่งใจผ่านไป
อย่างรวดเร็ว เขากดเสียงเบา “แล้วแผนที่นี?้ ”
หลี่ตวนก็เข้าใจความหมายของเขาขึน้ มาโดยพลัน เอ่ยอย่างเด็ดขาด “พวกเราสองสกุล
คนละแผ่น”
หลินเจวี๋ยพอใจแล้ว “ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี ้ ถึงเวลานัน้ พวกเราสองคนไปพบคนสกุล
เผิงด้วยกัน”
สรุปแล้ว ก็ยงั คงกลัวสกุลหลี่จะกลืนผลประโยชน์ของสกุลเผิงเพียงผูเ้ ดียว

1
บุตรเขยเต่าทองคํา หมายถึงลูกเขยที่มีฐานะสูงส่งรํ่ารวย
841

หลี่ตวนไม่ปรากฏสีหน้าใดออกมา พยักหน้าด้วยรอยยิม้ “ตามหลักก็ย่อมเป็ นเช่นนัน้ !”


หลินเจวี๋ยหัวเราะร่อ

ด้านสกุลอวี ้ พลบคํ่าอวีป้ ๋ อกลับมาจากร้านค้า ได้ยินว่ามีคนจากสกุลหลี่มาก่อเรื่องที่


สกุลอวี ้ จึงตัง้ ใจเข้ามาดูอาการเฉินซื่อพร้อมหวังซื่อ อวีห้ ย่วนกลับไม่ได้มาด้วย
อวี ป้ ๋ อเอ่ยอย่างไม่พอใจ “เด็ก คนนั้น หลายวันมานีก้ ็ไม่รูว้ ่า กําลังทําอะไร? ออกไป
เช้าตรูก่ ลับบ้านมืดคํ่า ช่วงปี ใหม่จะพบหน้ายังยากเย็น หากไม่ใช่ขา้ เห็นแก่เขากําลังจะแต่งงาน
มิเช่นนัน้ คงจะจับเขามาตีลงโทษไปนานแล้ว”
ช่วงปี ใหม่ มีเด็กหนุ่มสกุลใดบ้างไม่เตร็ดเตร่เที่ยวเล่นไปทั่ว?
อวีเ้ หวินกลับไม่คิดว่าอวีห้ ย่วนไม่เข้ามาเป็ นเรื่องผิดอันใด ยังคงเกลีย้ กล่อมอวีป้ ๋ อ “เจ้า
ก็พดู เองว่าเขาจะแต่งงานแล้ว ภายหลังก็อย่าได้บ่นเขานักเลย หากลูกสะใภ้แต่งเข้ามา เจ้าไม่
ไว้หน้าเขาเช่นนี ้ เขาจะยังยืดตัวตรงอยู่เบือ้ งหน้าภรรยาได้อย่างไร”
อวีป้ ๋ อบ่นพึมพําอีกไม่ก่ีคาํ ก็ปล่อยเรื่องอวีห้ ย่วนไป
วันถัดมาเป็ นวันที่สิบห้าเดือนอ้าย อวีห้ ย่วนยังคงไม่เห็นเงาเช่นเคย ด้านอวีถ้ งั ไปบ้าน
หม่าซิ่วเหนียง มีเพียงสองพี่นอ้ งอวีป้ ๋ อ อวีเ้ หวิน เฉิ นซื่อและหวังซื่อไปเที่ยวเทศกาลโคมไฟ
ด้วยกัน
อวีห้ ย่วนเป็ นดั่งที่อวีป้ ๋ อว่าจริงๆ ไม่รูว้ า่ ยุ่งวุน่ วายกับอะไร
จวบจนวันที่สิบเจ็ดเดือนอ้ายโคมไฟถูกรือ้ เก็บ ปี ใหม่ได้ผ่านไปอย่างเป็ นทางการ ร้าน
รวงทุกแห่งหนจึงเริ่มเปิ ดกิจการ เวลานีอ้ วีห้ ย่วนจึงโผล่ขึน้ มาจากที่ใดไม่รู ้ เอ่ยกับอวีถ้ ังอย่าง
842

ตื่นเต้น “ข้าหาต้นไม้พนั ธุท์ ่ีเจ้าว่าพบแล้ว เรียกว่าต้นซาจี๋ 2 เป็ นเหมือนที่เจ้าพูดไม่ผิด ยิ่งปลูกใน


172

ดินที่ไม่ดีก็ย่งิ เติบโตได้ง่าย”
อวีถ้ งั ได้ฟังก็ต่นื เต้นขึน้ มา รีบดึงอวีห้ ย่วนไปคุยในห้องหนังสือ
อวีห้ ย่วนเล่าให้นางฟั ง หลายวันมานีเ้ ขาตามเหยาซานเอ๋อร์ไปเจอคนทําการค้าหลาย
กลุ่มด้านนอก หนึ่งในนัน้ มีคนชื่อว่า เกาฉี เดินทางติดตามพ่อค้าเกลือคนหนึ่ง เคยพบต้นไม้
ชนิดนีแ้ ถวตะวันตกเฉี ยงเหนือ “เขายังพูดอีกว่า หากพวกเราอยากได้จริงๆ เขาสามารถช่วย
ติดต่อคนส่งกล้าไม้เข้ามาให้ได้ แต่หนึ่งตําลึงต่อหนึ่งกล้า ต้องจ่ายมัดจําก่อน”
“แพงขนาดนีเ้ ชียว!” อวีถ้ งั ตกตะลึง
เดิมนางคิดว่าต้นไม้นีด้ แู ลง่าย ราคาไม่แพง สกุลเผยจึงได้ปลูกต้นไม้ชนิดนีท้ ่ีพืน้ ที่ภเู ขา
จากนัน้ ก็ทาํ เป็ นผลไม้เชื่อมขาย
หากต้นกล้าต้นหนึ่งต้องใช้หนึ่งตําลึง พวกเขาจะต้องเสียเงินเท่าใดกันล่ะ?
หรือเรื่องภายในนีย้ งั มีอะไรที่นางไม่รูอ้ ีก?
อวีห้ ย่วนได้ยินนางเอ่ยเช่นนี ้ ชั่วขณะนัน้ ก็คล้ายถูกสาดด้วยนํา้ เย็น ความตื่นเต้นและดี
ใจที่หาต้นไม้ชนิดนัน้ เจอชะงักไปหมด เขาเหมือนมะเขือที่ถูกแช่แข็ง ห่อเหี่ยวโดยพลัน “เช่น
เช่นนัน้ พวกเรายังจะปลูกต่อหรือไม่?”
อวีถ้ งั ก็ตดั สินใจไม่ถกู
นางเอ่ย “ท่านรอก่อน ให้เวลาข้าครุน่ คิดอย่างละเอียดเสียหน่อย”
อวีถ้ งั ขบคิดว่าจะไปขอให้เผยเยี่ยนช่วยเปิ ดหูเปิ ดตาดีหรือไม่ จะได้กระจ่างชัดว่าเวลา
นัน้ เหตุใดเผยเยี่ยนจึงคิดจะปลูกต้นซาจี๋ท่ีพืน้ ที่บริเวณภูเขาของสกุลพวกเขา…

2
ต้นซาจี๋ คือ ซีบคั ธอร์น ผลไม้ชนิดหนึ่ง ผลสีเลืองส้มเล็กๆ รสชาติอมเปรีย้ วอมหวาน
843

เสิ่นฟางกลับเมืองหลินอันมาพร้อมกับเสิ่นซ่านเหยียน
เสิ่นซ่านเหยียนตัง้ ใจเชิญอวีเ้ หวินเข้าไปพูดคุย “ต้นไม้ชนิดนัน้ ที่เจ้าเอ่ยถึง พี่ใหญ่ขา้ มี
ลูกศิษย์รบั ราชการอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ สามารถช่วยนํากลับมาได้ เพียงแต่ค่าขนส่งนัน้
ไม่ใช่นอ้ ยเลย เกรงว่าเจ้ายังต้องคํานวณให้ละเอียดถี่ถว้ น”
อวีเ้ หวินได้ฟัง ใจก็เต้นตึกตัก “ต้นหนึ่งเท่าใด?”
เสิ่นซ่านเหยียนเอ่ย “คํานวณแล้วค่าขนส่งรอบหนึ่งก็ประมาณสามสิบเหรียญอีแปะต่อ
ต้น”
แพงอยู่ไม่นอ้ ยจริงๆ
แต่น่ีเป็ นความต้องการของอวีถ้ งั
เขากัดฟั นเอ่ย “เช่นนัน้ ส่งกลับมาให้พวกเราลองปลูกสักสิบต้นยี่สิบต้นก่อนได้หรือไม่”
“นี่ไม่ใช่ปัญหา” เสิ่นซ่านเหยียนเอ่ยด้วยรอยยิม้ “ข้าให้เขาหาอาจารย์ท่ีเชี่ยวชาญการ
ปลูกต้นซาจี๋กลับมาสักคนก็เพียงพอแล้ว หากปลูกได้ เขาก็สามารถหาเงินใช้ชีวิตทํากินอยู่ท่ีน่ี
ได้เช่นกัน”
หากจะปลูกต้นไม้จริงๆ อวีห้ ย่วนก็ดี อวีถ้ งั ก็ช่าง ล้วนไม่อาจพํานักในป่ าเขาได้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตอ้ งหาคนคอยช่วยเหลือ
“ได้!” อวีเ้ หวินตอบรับอย่างสบายใจ กลับไปบอกเรื่องนีก้ บั อวีถ้ งั
อวีถ้ งั อ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก
ไฉนราคาจึงห่างไกลกันลิบลับ!
หรือเพราะลูท่ างที่แตกต่างกัน?
844

อวีถ้ ังไม่ได้คิดมากมาย ให้อวีห้ ย่วนไปปฏิเสธคนที่ช่ือว่าเกาฉีผูน้ นั้ กล่าวว่าผูใ้ หญ่ใน


สกุลได้ไหว้วานให้คนไปซือ้ กล้าไม้ให้แล้ว
นี่เป็ นธรรมชาติของมนุษย์
อวีห้ ย่วนไม่ได้ใส่ใจนัก ทักทายพูดคุยกับเกาฉีเป็ นมารยาทก็จบเรื่องนีไ้ ป เริ่มวิ่งโร่ไปยัง
เรือนเก่าของสกุลทุกวัน วัดขนาดพืน้ ที่ เตรียมจัดการเพาะปลูกในฤดูใบไม้ผลิ ผ่านไปไม่ก่ีสิบวัน
ก็ถกู แดดเผาจนคลํา้ แล้ว
หวังซื่อไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปในป่ าแล้ว “นี่เป็ นแดดต้นฤดูใบไม้ผลิ ดูแล้วเหมือนจะ
อบอุน่ ความจริงกลับร้อนแรงเป็ นที่สดุ ไม่นานเจ้าก็จะแต่งงานแล้ว หากช่วงนีถ้ กู แดดเผาจนดํา
เป็ นถ่านเช่นนี ้ คุณหนูเซียงยังจะคิดว่าคนที่ตนเห็นยามดูตวั กับคนที่จะแต่งงานกันเป็ นคนละคน
กันน่ะสิ!”
อวีห้ ย่วนหัวเราะแหย ไม่เข้าไปในป่ าอีก ตัง้ อกตัง้ ใจเตรียมเรื่องงานแต่งขึน้ มา
อวีถ้ งั ก็คิดว่าเรื่องนีไ้ ม่จาํ เป็ นต้องเร่งรีบ ช่วยญาติผพู้ ่ีแต่งพี่สะใภ้เข้ามาก่อนจึงจะเป็ น
เรื่องสําคัญกว่า
จ้างพ่อครัว คนเล่นกลองฆ้องเป่ าแตร ขบวนแห่เกีย้ ว…เรื่องยิบย่อยอีกใหญ่โต
หม่าซิ่วเหนียงมาส่งของขวัญอวยพร
อวีถ้ งั เชิญนางเข้าไปพูดคุยในห้องตนเอง
หม่าซิ่วเหนียงเอ่ยอย่างลําบากใจอยู่บา้ ง “เดิมทีตงั้ ใจจะนําผ้าอาภรณ์ใหม่มาให้พ่ีชาย
และพี่สะใภ้เจ้า แต่เรื่องราวในบ้านเยอะเกินไปจริงๆ ข้าก็ปลีกตัวไม่ได้ สามีจึงตัดสินใจโดย
พลการวาดภาพติดผนังในห้องโถงให้พ่ีชายเจ้าหลายแผ่น อวยพรให้สองสามีภรรยารักใคร่สขุ
สมหวัง ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง”
อวีถ้ ังทราบว่าช่วงนีห้ ม่าซิ่วเหนียงงานล้นมืออยู่บา้ ง ดึงมือนางปลอบใจไม่ก่ีประโยค
ก่อนจะรัง้ ตัวนางกินข้าวด้วยกัน เวลานีจ้ งึ ส่งนางออกไป
845

หวังซื่อได้ฟังก็นาํ ของขวัญอวยพรของหม่าซิ่วเหนียงมาเปิ ดดูอย่างแปลกใจ


จางฮุ่ยวาดภาพทับทิม นกสี่เชวี่ย 3 ผูเถา 4 และลูกไหน ล้วนเป็ นภาพที่แฝงความหมาย
173 174

การอวยพรทัง้ สิน้ สิ่งที่ทาํ ให้เฉินซื่อและอวีถ้ งั คาดไม่ถึงคือ ภาพพวกนีว้ าดได้ดีย่ิง กระทั่งหวังซื่อ


ที่ไม่ค่อยเข้าใจภาพวาดยังชื่นชอบจนวางไม่ลง “นึกไม่ถึงว่าคุณชายจางจะมีฝีมือการวาดภาพ
เช่นนี ้ ภายหลังแม้คณุ ชายจางจะสอบจวี่เหรินไม่ได้ ก็ไม่ตอ้ งกลัดกลุม้ เรื่องปากท้องแล้ว”
คําพูดที่หวังซื่อเอ่ยออกมาโดยไม่ตงั้ ใจกลับพาให้อวีถ้ งั คิดคล้อยตาม ลอบครุน่ คิดว่าจะ
เชิญจางฮุ่ยช่วยวาดแบบเครื่องลงรักให้สกุลตัวเองดีหรือไม่
เมื่อเป็ นเช่นนี ้ นอกจากสามารถแก้ไขการขาดแคลนอาจารย์วาดแบบในร้านค้า ยัง
สามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมให้จางฮุ่ยด้วย

3
นกสี่เชวี่ย เป็ นนกมงคลของจีน ลักษณะคล้ายนกกางเขน เป็ นสัญลักษณ์แทนความสุขและโชคดี
4
ผูเถา คือ องุ่น
846

บทที่ 106 ของจริงของปลอม


เมื่อความคิดแล่นวาบ ก็คล้ายกับหญ้าป่ าที่ผดุ ขึน้ เป็ นวงกว้าง
แต่ยามนีไ้ ม่ใช่เวลาที่จะพูดเรื่องพวกนี ้
อวีถ้ ังเก็บเรื่องนีไ้ ว้ในใจ หันไปคว้าภาพนัน้ เอ่ยถามกับหวังซื่อ “เก็บไว้หรือจะเอามา
แขวนดีเจ้าคะ?”
นํา้ ใจของคนในครอบครัวมักวนไปเวียนมาเช่นนี ้ ของดีบางอย่างก็ จะเก็ บไว้ รอใน
โอกาสพิเศษจึงจะส่งเป็ นของขวัญให้ผอู้ ่ืน โดยเฉพาะสิ่งของอย่างภาพที่จางฮุ่ยวาด นอกจาก
จะเป็ นทางการแล้ว ยังนับเป็ นของดีมีค่า ส่งเป็ นของขวัญให้สกุลบัณฑิตที่มีความรู ย้ ่อมเป็ น
ของขวัญที่มีเกียรติอย่างถึงที่สดุ
อาจจะเพราะคํานึงถึงจุดนี ้ จางฮุ่ยจึงเขียนคําอวยพรลงบนภาพผูเถาเพียงภาพเดียว
สามภาพที่เหลือเพียงประทับตราของตัวเองเท่านัน้
หวังซื่อกลับชื่นชอบอย่างยิ่ง “เชิญอาจารย์มาเข้าม้วนภาพ นําไปแขวนในห้องหนังสือ
พี่ชายเจ้า ได้ยินนายหญิงเว่ยกล่าวว่า คุณหนูเซียงเคยรํ่าเรียนตํารากับอาจารย์ส่วนตัวมาสิบ
กว่าปี เช่นกัน”
แขวนภาพนีไ้ ว้ ก็จะเชิดหน้าชูตาแก่สกุลอวีไ้ ม่นอ้ ย
อวีถ้ งั แย้มยิม้ ก่อนจะออกคําสั่งลงไป
รอจนผ่านเทศกาลมังกรเชิดหัว วันที่สอง เดือนสอง ทางสกุลเซียงก็สง่ คนมาดูเรือนหอ
เครื่องเรือนของฝ่ ายหญิงนัน้ ตกแต่งเสร็จนานแล้ว ครัง้ นีม้ าดูเรือนหอ กล่าวว่ามาดูเผื่อ
ยังมีอะไรขาดเหลือ ในความเป็ นจริงกลับมีเจตนาเร่งรัดอยู่เล็กน้อย ดูว่าสกุลอวีไ้ ด้จดั การเรือน
หอให้คแู่ ต่งงานเสร็จเรียบร้อยเหมือนดั่งที่รบั ปากผ่านแม่ส่อื ก่อนหน้านีแ้ ล้วหรือยัง
847

อวีป้ ๋ อมีเพียงลูกชายเพียงคนเดียว สองสามีภรรยาก็ให้ความสําคัญต่อทายาทลูกหลาน


ไม่เพียงทาสีกาํ แพงเรือนตะวันออกทัง้ สามห้องตามคําสัญญาที่ให้ไว้กบั สกุลเซียง ยังทํากําแพง
ดอกไม้ท่ีเรือนตะวันออก เรือนหลัก และเรือนตะวันตก ปลูกดอกไม้ประเภทดอกเถิงหลัว ทําให้
เรือนตะวันออกกลายเป็ นลานนั่งเล่นขนาดย่อม ด้านหลังเรือนตะวันออกก็สร้างเรือนพักผ่อน
ขึน้ มาอีกสองห้อง เพื่อใช้เป็ นห้องเก็บของเซียงซื่อ ทัง้ สามารถเป็ นห้องพักผ่อนหลับนอนของ
พวกสาวใช้
เพื่อให้คนสกุลเซียงพอใจ หวังซื่อยังตัง้ ใจพาคนสกุลเซียงไปดูหอ้ งปี กทางเหนือที่ทาํ
เป็ นห้องหนังสือของเรือนตะวันออก
ห้องปี กทางเหนือที่ฝังกระจกโปร่งใสสองบาน เสาสูงทาสีดาํ ดูหรูหรา บนกําแพงแขวน
ภาพวิจิตรตระการตา
หญิงวัยกลางคนของสกุลเซียงที่เข้ามา ว่ากันว่าเป็ นหญิงรับใช้ขา้ งกายนายหญิงเซียง
เป็ นคนที่นายหญิงเซียงพามาจากสกุลเสิ่น คาดว่าคงหูตากว้างไกลไม่นอ้ ย กําแพงดอกไม้ไม่ได้
ทําให้นางแสดงความชอบออกมาอย่างชัดเจนนัก ยามที่เห็นภาพวาดพวกนัน้ ของจางฮุ่ยกลับ
เผยสีหน้าประทับใจ ยืนดูอย่างนัน้ อยู่พกั ใหญ่ เวลานีจ้ ึงค่อยเอ่ยกับหวังซื่อด้วยรอยยิม้ “นาย
หญิงลําบากเสียแล้ว มิน่าเล่ายามที่นายหญิงเว่ยเอ่ยถึงนายหญิงจึงชมไม่ขาดปาก งานแต่งครัง้
นี ้ ตระเตรียมได้รอบคอบจริงๆ”
เหตุผลล้วนเชื่อมโยงกัน
ในเมื่อคนสกุลเซียงพอใจในภาพพวกนี ้ ก็ย่อมพอใจกับความคิดของอวีถ้ งั ก่อนหน้านีท้ ่ี
จะเชิญบัณฑิตในเมืองหลินอันมาเป็ นแขกที่เรือนเช่นกัน
หวังซื่อถอนหายใจโล่งอก ทัง้ เริ่มชมอวีถ้ งั ขึน้ มาในเวลาเดียวกัน “หลานสาวของพวก
เราเป็ นคนวางแผนจัดการทัง้ นัน้ ท่านก็รู ้ น้องสามีขา้ เป็ นบัณฑิตคนหนึ่ง หลานสาวผูน้ ีต้ งั้ แต่
เด็กก็ร่าํ เรียนตําราตามบิดา มีสายตาความรู เ้ หนือกว่าหญิงสาวในห้องหับทั่วไป งานแต่งของ
พี่ชายนาง ข้าก็พง่ึ พานางไม่นอ้ ย”
848

ยามที่นายหญิงเว่ยเป็ นแม่ส่ือให้คณ
ุ หนูเซียง สกุลเซียงก็สืบที่ไปที่มาของสกุลอวีแ้ ทบ
ทุกซอกทุกมุม
หากไม่ใช่ว่าสมาชิกในสกุลอวีไ้ ม่มีความสลับซับซ้อน ไร้ช่ือเสียงฉ่าวโฉ่ แม้นายท่าน
เซียงจะไม่สนใจลูกสาวอย่างไร ก็ไม่อาจตอบรับงานแต่งครัง้ นีไ้ ด้หรอก
ผูท้ ่ีสกุลเซียงส่งมาย่อมเอ่ยชมอวีถ้ งั ตามหวังซื่ออย่างไม่หยุดปาก
หวังซื่อเผยยิม้ อย่างเบิกบานใจ รูส้ กึ ว่าคนสกุลเซียงก็ไม่ได้คบค้าสมาคมยากเหมือนที่
นางคิดไว้เมื่อก่อนเช่นนั้น จึงหยิบยื่นความจริงใจออกมา รัง้ คนของสกุลเซียงให้อยู่กินข้าว
ด้วยกัน
ความปรารถนาดีย่อมส่งต่อกันและกัน
คนของสกุลเซียงเห็นความจริงใจของหวังซื่อ ใจที่แขวนไว้ก็ผ่อนคลายลง ให้ความ
จริงใจหวังซื่อตอบเช่นกัน คนทัง้ สองสกุลกินข้าวร่วมกันอย่างชื่นมื่น
หญิ งผูน้ ั้นเมื่อกลับสกุลเซียง ก็อดชมสกุลอวีต้ ่อหน้านายหญิ งเซียงไม่ได้ นายหญิง
เซียงยิม้ หยอกล้อหญิงรับใช้ผนู้ นั้ “ก็ไม่รูว้ ่าสกุลอวีใ้ ห้ประโยชน์อนั ใดแก่เจ้า เพิ่งเข้าไปก็ซือ้ ใจ
เจ้าได้เสียแล้ว หากไปเทียวไปเทียวมาหลายครัง้ ข้าว่าใจของเจ้าคงเอียงไปอยู่ท่ีสกุลอวีแ้ ล้ว
กระมัง”
หญิงรับใช้ผนู้ นั้ ใบหน้าขึน้ สี
นายหญิงเซียงกลับไม่ใส่นกั โบกมือ “เอาเถิด เจ้าไม่ตอ้ งพูดมากแล้ว นางสามารถเจอ
สกุลที่ดี ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้ ภายหลังไม่สร้างความวุ่นวายให้พ่ีนอ้ งนาง ข้าจะไปก่อเรื่อง
อาละวาดได้อย่างไร ท่านแม่เฒ่าจะได้ไม่หนักใจเช่นกัน”
หญิงรับใช้ไม่กล้ารับบทสนทนาต่ออีก
849

ด้านสกุลอวีก้ ลับคล้ายเสร็จสิน้ ภารกิจใหญ่หลวง ยามเย็นจึงร่วมตัวกันกินอาหารเย็น


หวังซื่อยังเล่าเรื่องของตัวแทนสกุลเซียงที่มาวันนีอ้ ย่างละเอียดยิบ
อวีป้ ๋ อคิดว่าครัง้ นีต้ วั เองก้มหน้ารับลูกสะใภ้จริงๆ หากไม่ใช่เห็นว่านายหญิงเว่ยอบรม
สั่งสอนคุณหนูได้อย่างชาญฉลาด ทัง้ ไม่ขาดตกบกพร่องตรงไหน ลูกชายก็ชอบด้วยใจจริง มิ
เช่นนัน้ เขาคงไม่ยอมเป็ นที่รองรับอารมณ์เช่นนี ้ เขาทนฟั งหวังซื่อชมสกุลเซียงไม่ได้ จึงผลักจาน
ถั่วปากอ้า ของโปรดของหวังซื่อไปเบือ้ งหน้านาง เอ่ยว่า “เจ้าก็พดู ให้นอ้ ยหน่อยเถิด รีบกินข้าว
อากาศเย็นเช่นนี ้ อาหารหายร้อนหมดแล้ว”
หวังซื่อจึงหยุดบทสนทนาทัง้ รอยยิม้
อวีเ้ หวินที่ไม่ได้กล่าวอันใดมาโดยตลอดกลับเอ่ยกับอวีถ้ งั และอวีห้ ย่วน “พรุง่ นีพ้ วกเจ้า
สองคนตามข้าไปที่สกุลเผย ตอนบ่ายพ่อบ้านใหญ่เผยให้คนส่งจดหมายมา กล่าวว่านายท่าน
สามสกุลเผยมีเรื่องอยากพูดคุยกับพวกเรา”
คงจะเป็ นเรื่องแผนที่กระมัง?
อวีถ้ งั ครุ น่ คิด พยักหน้าระรัวเช่นเดียวกับอวีห้ ย่วน เช้าตรูว่ นั ถัดมาก็ตามอวีเ้ หวินไปยัง
สกุลเผย
จวนสกุลเผยคล้ายกับวิมานทวยเทพที่รว่ งลงมาบนโลกมนุษย์ ฤดูหนาวเพิ่งผ่านพ้นไป
ต้นไม้ใบหญ้าของสกุลพวกเขากลับยังคงงดงามบานสะพรั่งเช่นเดิม พวกเขาเดินตามทางเดิน
หินที่เข้ามาครัง้ ก่อน ยังคงรูส้ กึ เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ก่อนหน้านีอ้ วีถ้ งั ไม่เข้าใจ กลับมาเกิดใหม่อีกครัง้ กลับทะลุปรุโปร่ง การคงสภาพหนึ่งปี
สี่ฤดูไม่เปลี่ยนแปลง ต้องสิน้ เปลืองกําลังคนและทรัพย์สินไปเท่าใดกัน
นางหวนนึกถึงร้านค้าที่หงั โจวของสกุลเผย
สกุลเผยคงจะรํ่ารวยมั่งคั่งกว่าที่พวกเขาคาดไว้อีกกระมัง?
850

อวีถ้ งั ครุน่ คิด ตามบิดาและพี่ชายเข้ามาในห้องหนังสือที่เผยเยี่ยนใช้ตอ้ นรับพวกเขาใน


ครัง้ ที่แล้ว
ในห้องหนังสือมีเพียงเด็กชายคนหนึ่งเฝ้าอยู่ นอกจากนัน้ ก็ไม่มีใครอีก
เด็กคนนัน้ เห็นคนเข้ามา ก็กา้ วขึน้ มาคํานับ
อวีถ้ งั จําได้ว่าเด็กคนนีค้ ือคนที่นางเคยพบที่วดั เจาหมิงและเรือนเก่าสกุลอวีม้ าก่อน ชั่ว
ขณะนัน้ ก็ดีใจราวพบสหายเก่าในต่างถิ่น เด็กคนนัน้ เผยสีหน้าเคร่งขรึม ยามที่เขายกชามาให้
พวกเขาก็ดเู ป็ นการเป็ นงาน นางอดเอ่ยกับเด็กคนนัน้ ไม่ได้ “เจ้าจําข้าได้หรือไม่? ข้าจําได้ว่าเจ้า
ชื่ออาหมิง เจ้าคงชื่อนีก้ ระมัง?”
เด็กคนนัน้ พยักหน้าจริงจังราวกับเป็ นผูใ้ หญ่ อาศัยยามที่ผูด้ ูแลซึ่งพาพวกเขาเข้ามา
กําลังพูดคุยกับอวีเ้ หวินส่งรอยยิม้ ดีใจให้กับอวีถ้ งั ชีไ้ ปที่ของว่างข้างมือนาง กระซิบเสียงเบา
“ถั่วต้มยี่หร่า หอมเสียจริง!”
เด็กคนนีฉ้ ลาดเป็ นกรด!
อวีถ้ งั ถูกความน่ารักของเขาจู่โจมเสียแล้ว เห็นบิดายังคงพูดกับผูด้ แู ลคนนัน้ ก็เอ่ยถาม
เขาเสียงเบา “นายท่านสามทําอะไรอยู่?”
เด็กที่ช่ืออาหมิงเม้มปากจนเป็ นเส้นตรง ส่ายศีรษะเป็ นพัลวัน
หากผูด้ แู ลของสกุลเผยไม่อยู่ท่ีน่ี อวีถ้ งั คงจะหัวเราะออกมาแล้ว
นางย่อมไม่สร้างความลําบากใจให้อาหมิง ลูบศีรษะของเขา ไม่ถามอะไรอีก
ไม่นานนัก เผยเยี่ยนก็สาวเท้าเข้ามา
เขามาพร้อมไอหนาวจากข้างนอก ทําให้อวีถ้ งั ที่น่ งั อยู่ดา้ นหน้าประตูตวั สั่นงันงกขึน้ มา
อย่างห้ามไม่อยู่ ลอบนินทาเผยเยี่ยนในใจ ‘วันที่อากาศเย็นเช่นนี ้ กลับไม่จุดตีห้ ลงให้ความ
อบอุน่ ก็ไม่รูว้ า่ เป็ นโรคแปลกประหลาดอันใด!’
851

วั น นี ้เ ผยเยี่ ย นสวมชุ ด ผ้า ไหมเนื ้อ หยาบสี ฟ้ า อ่ อ น สวมสายรัด สี เ ขี ย วไผ่ ท่ี เ อว


นอกจากนัน้ แล้วก็ไม่มีเครื่องประดับอะไรอีก ครัง้ นีน้ บั ว่าเรียบง่ายอย่างแท้จริง
อวีถ้ งั เห็นแล้วรูส้ กึ ไม่สบายใจ มักรูส้ กึ ว่าเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง
เผยเยี่ยนดูเหมือนยุ่งมาก เมื่อยอบกายนั่งลงก็โบกมือไล่บ่าวรับใช้ให้ออกไปนอกห้อง
เอ่ยกับพวกเขาอย่างตรงไปตรงมาทันที “ข้าหาคนไปทดสอบเส้นทางเรือแล้ว แผนที่น่ นั เป็ นของ
จริง ข้าวางแผนจะกําหนดการประมูลในวันที่สิบหกเดือนสาม พวกเจ้าคิดว่าเป็ นอย่างไร?”
แม้เขาจะกล่าวเหมือนปรึกษาหารือ แต่นา้ํ เสียงกลับหนักแน่นอย่างยิ่ง เน้นยํา้ ให้เห็นว่า
วางแผนจัดการมาอย่างดี สกุลอวีย้ ่อมไม่ปฏิเสธ
คนสกุลอวีก้ ลับหน้าเปลี่ยนสีโดยพร้อมเพรียงกัน
วันที่สิบหกเดือนสามคือวันแต่งงานของอวีห้ ย่วน
ไฉนเผยเยี่ยนไม่เลือกวันที่เร็วกว่านี ้ หรือนานกว่านีห้ น่อย กลับมาเลือกเอาในวันนี?้
นอกจากนีค้ รัง้ แรกที่สกุลพวกเขาเอ่ยเรื่องแบ่งเงินประมูลกับสกุลเผย เผยเยี่ยนก็ไม่ได้
ตอบรับ
อวีห้ ย่วนเห็นแววตาของเผยเยี่ยนที่เผยความฉงนขึน้ มาหลายส่วน
เขาส่งสายตาให้อวีถ้ งั
อวีถ้ งั มองเห็น กลับคิดว่าอวีห้ ย่วนกังวลเรื่องนีม้ ากเกินไป
อํานาจของสกุลอวีแ้ ละสกุลเผยห่างกันลิบลับ เดิมทีเผยเยี่ยนก็ไม่มีความจําเป็ นต้องใช้
ลูกไม้เช่นนี ้
อวีเ้ หวินกลับคิดว่าเผยเยี่ยนกําหนดวันนี ้ ย่อมมีเหตุผล เช่นนัน้ สองเรื่องนีค้ วรจะเทียบ
ความสําคัญอย่างไรดี?
เขาคิดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ เผยความลังเลออกมาอย่างเห็นได้ชดั
852

กลับเป็ นเผยเยี่ยนที่สบั สนมึนงง เอ่ยอย่างแปลกใจ “ทําไมรึ? หรือพวกเจ้าคิดว่าวันนีไ้ ม่


ดี? ข้าขอให้สกุลเถาแห่งกว่างโจวช่วยทดสอบเส้นทางเรือ ไม่รูว้ ่าเหตุใด ข่าวนีก้ ลับแพร่กระจาย
ออกไป ยามนีก้ ็ไม่ทราบว่ามีสกุลใดที่รูข้ ่าวนีแ้ ล้ว ข้าใคร่ครวญดู ไม่จาํ เป็ นต้องปกปิ ดอําพราง
อันใดแล้ว เลื่อนเวลาออกไปเสียหน่อย ให้คนที่ใคร่อยากประมูลพวกนัน้ มาเข้าร่วมกันให้หมด
ราคาประมูลอาจจะไม่ได้สงู อย่างที่พวกเราคาดไว้ แต่กลับมีคนจํานวนมาก ไม่แน่วา่ เงินที่ตกใน
กระเป๋ าอาจจะมากขึน้ ก็ได้”
เห็นได้ชดั ว่าเผยเยี่ยนไม่รูเ้ รื่องงานแต่งของอวีห้ ย่วนแม้แต่นอ้ ย
คาดว่าช่วงนีเ้ ขาจะยุ่งย่ามเกี่ยวกับเรื่องแผนที่ ไม่มีเวลาสนใจข่าวสารเรื่องราวในเมือง
หลินอัน
อวีถ้ งั เอ่ยอย่างสุภาพ “วันที่สิบหกเดือนสาม พี่ชายข้าแต่งงาน…”
เผยเยี่ยนตกตะลึง มองพินิจอวีห้ ย่วนอยู่หลายครัง้ “พี่ชายเจ้าอายุเท่าใดกัน? ไฉนจึง
แต่งงานเร็วขนาดนี?้ ”
ส่วนมากชายหนุ่มหญิงสาวในเมืองหลินอันล้วนแต่งงานอายุสิบเจ็ดสิบแปด ญาติผพู้ ่ี
ของนางไม่นบั ว่าสาย แต่ก็ไม่นบั ว่าเร็วเช่นกัน
อวีถ้ งั เอ่ย “สกุลพวกเรามีพ่ีขา้ เป็ นทายาทชายเพียงคนเดียว!”
เผยเยี่ยนเอ่ยโดยพลัน “เช่นนัน้ กําหนดวันที่สิบเดือนสามก็ได้ พวกเจ้าคิดว่าอย่างไร?
ก่อนหน้าที่คณ
ุ ชายอวีจ้ ะแต่งงานก็คงจะได้รบั เงินประมูลกลับมาด้วย”
งานแต่งของญาติผพู้ ่ีก็สามารถจัดได้อย่างสมบูรณ์เพียบพร้อมแล้ว
เขาหมายความว่าเช่นนีก้ ระมัง?
อวีถ้ งั อดมองเผยเยี่ยนแวบหนึ่งไม่ได้
คาดไม่ถึงว่าคนผูน้ ีย้ งั มีความคิดละเอียดอ่อนเช่นนี ้
853

“ได้!” อวีเ้ หวินคิดว่ายิ่งโยนเรื่องแผนที่ออกไปเร็วเท่าไร สกุลพวกเขาก็สามารถสงบสุข


ได้เร็วเท่านัน้ ย่อมอยากให้จบโดยเร็ว “พวกเราว่าตามนายท่านสาม”
เผยเยี่ยนได้ยินก็เผยยิม้ พอใจ ตะโกนเผยหม่านเข้ามา “กําหนดเวลาประมูลไว้ในวันที่
สิบเดือนสาม เจ้ารีบส่งม้าเร็วไป นําเทียบเชิญที่พวกเราเตรียมไว้ไปส่งให้สกุลพวกนัน้ ”
เผยหม่านรับคําสั่ง ออกจากห้องไป
เผยเยี่ยนนํารายชื่อสกุลที่เตรียมส่งเทียบเชิญมาร่วมเข้าร่วมประมูลให้อวีเ้ หวิน จากนัน้
ก็แนะนําแต่ละสกุลว่ามีท่ีมาอย่างไรบ้าง
สกุลเถาแห่งกว่างโจว สกุลอู่แห่งหูโจว สกุลอิน้ แห่งเฉวียนโจว สกุลลี่แห่งหลงเหยียน…
ไม่วา่ จะสุม่ เลือกสกุลไหน ก็ลว้ นแล้วแต่ข่มสกุลอวีไ้ ด้ทงั้ นัน้
หากไม่ขอสกุลเผยออกหน้า แม้พวกเขาจะมีแผนที่ขาย ก็คงต้องใช้ชีวิตแลกเงินมา!
อวีเ้ หวินยิ่งฟั งเหงื่อก็ย่งิ ชุ่ม ทัง้ ยิ่งฟั งก็ย่งิ ดีใจลึกๆ ที่ตอนแรกฟั งคําแนะนําของอวีถ้ งั
854

บทที่ 107 พูดคุย


อวี ้ห ย่ ว นและอวี เ้ หวิ น ฟั ง จนขลาดกลัว ขึ น้ มา ความสงสัย เล็ ก ๆ ในใจนั้น หายไป
หมดแล้ว กลับเป็ นอวีถ้ งั ที่ถอนหายใจยาวเหยียด
ชาติก่อนนางก็นบั ว่าประสบพบเจอกับเรื่องราวต่างๆ มาไม่นอ้ ย ยิ่งเป็ นเช่นนีก้ ็ย่ิงรูว้ ่า
ตัวเองกระจ้อยร่อย ทัง้ ยิ่งสามารถประเมินตัวเองได้ รูว้ า่ อะไรควรทํา อะไรไม่ควรทํา
เหมือนอย่างเช่นการประมูล แม้นางจะกลับมาเกิดอีกครัง้ ก็ย่อมไม่กล้าทําอยู่ดี
แต่ว่า ฟั งจากคําพูดของเผยเยี่ยน ยามที่ทดสอบเส้นทางเรือข่าวสารหลุดลอยออกไป
ไม่รูว้ า่ ทางสกุลเผิงจะมีความเคลื่อนไหวหรือไม่!
รอจนเผยเยี่ยนส่งมอบทุกเรื่องเสร็จสรรพ ยามที่ถามอวีเ้ หวินว่า ‘มีคาํ ถามอะไรอีก
หรือไม่’ อวีเ้ หวินทําเพียงส่ายศีรษะ อวีถ้ งั จึงอดเอ่ยขึน้ มาไม่ได้ “แล้วทางสกุลเผิงล่ะ?”
เผยเยี่ยนเอ่ย “ข้าอยากจะปรึกษาเรื่องนีก้ บั พวกเจ้าอยู่พอดี”
ในความคิดของเขา สามารถให้สกุลเผิงเข้าร่วมประมูลได้อย่างสิน้ เชิง อย่างไรเข้าประตู
มาก็ตอ้ งวางเงินประกัน ไม่วา่ สุดท้ายจะประมูลได้หรือไม่ได้ เงินประกันล้วนไม่อาจถอนคืน
สามารถทําแบบนีไ้ ด้ดว้ ยรึ!
สกุลอวีท้ งั้ สามคนสบสายตากัน
“อีกอย่าง บางเรื่องก็ไม่ง่ายดายเหมือนที่พวกเจ้าคิดไว้ขนาดนั้น” เผยเยี่ ยนเอ่ยต่อ
“หากมีคนบุกเบิกเส้นทางเดินเรือใหม่อีกสาย ย่อมมีความเสี่ยงที่ตอ้ งเผชิญทัง้ ความต้องการใน
ทรัพยากรและกําลังคนที่มหาศาล เพื่อลดความเสี่ยงลง สกุลที่เข้าร่วมการประมูลพวกนีย้ ่อม
คิดจะร่วมมือกันจัดตัง้ กลุม่ เรือ ผูท้ ่ีมีความสามารถ ทัง้ มีความคิดนี ้ เมื่อตรึกตรองแล้ว ก็มาจาก
สกุลพวกนีท้ งั้ นัน้ แม้ว่ายามนีพ้ วกเราจะปิ ดบังสกุลเผิง รอจนคนพวกนัน้ ได้ครอบครองแผนที่
เดินเรือ ข้าก็ไม่กล้ารับประกันว่าในหมู่คนพวกนีจ้ ะมีสกุลใดร่วมมือกับสกุลเผิงหรือไม่ ดังนัน้ ข้า
คิดว่า พวกเรามิสเู้ ชิญสกุลเผิงมาเข้าร่วมอย่างเปิ ดเผย ดึงเงินสักก้อนมาจากพวกเขาก่อนค่อย
855

ว่ากัน ส่วนเรื่องบุญคุณความแค้นของสกุลพวกเจ้านัน้ ลูกผูช้ ายแก้แค้นสิบปี ก็ไม่สาย ภายหลัง


หากพวกเจ้ามีโอกาสก็คอ่ ยลองดู”
อวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนมองไปยังอวีถ้ งั ราวกับจะให้นางเป็ นผูต้ ดั สินใจ
อวีถ้ งั คิดว่าเผยเยี่ยนพูดมีเหตุผล
แทนที่จะปล่อยให้คนอื่นได้เงินจากสกุลเผิง มิสสู้ กุลพวกเขาเป็ นฝ่ ายหลอกเอาเงินก่อน
นางพยักหน้า เอ่ยกับเผยเยี่ยนอย่างจริงใจ “เช่นนัน้ ก็รบกวนนายท่านสามแล้ว”
เผยเยี่ยนผงกศีรษะ คิดว่าอวีถ้ งั สามารถปรับตัวเข้ากับทุกสถานการณ์ กระทําเรื่องเป็ น
ระบบระเบียบมากขึน้
เขาอดกล่าวไม่ได้ “ได้ยินว่ายามนีส้ กุลพวกเจ้าซือ้ ต้นซาจี๋? ไฉนจึงไม่มาไถ่ถามข้า?”
อวีถ้ งั ตะลึงพรึงเพริด
หากนางไปถามเผยเยี่ยนย่อมเป็ นผลดีไม่นอ้ ย แต่เรื่องพวกนีล้ ว้ นไม่มีประโยชน์อนั ใด
กับเผยเยี่ยน นางไม่กล้าเอาเปรียบสกุลเผย เทียวไปเทียวมารบกวนเผยเยี่ยนเช่นนี ้
“ข้าและท่านพี่อยากจะใช้พืน้ ที่บริเวณภูเขาของสกุลปลูกผลไม้ แปรรูปเป็ นผลไม้เชื่อม”
นางตอบกลับเผยเยี่ยนอย่างตรงไปตรงมา “ต้นซาจี๋เป็ นเพียงหนึ่งในพวกนัน้ ยังไม่รูว้ ่าจะปลูก
ติดหรือไม่ จึงไม่กล้ารบกวนท่าน”
“ต้นซาจี๋ไม่คอ่ ยเหมาะจริงๆ” เผยเยี่ยนเอ่ย “ต้นทุนค่อนข้างสูง เกินความจําเป็ น”
อวีเ้ หวินได้ฟังก็รอ้ นใจ
เขาให้อาจารย์เสิ่นช่วยจัดการเรื่องต้นกล้าแล้ว หากต้นไม้ชนิดนีไ้ ม่เหมาะสม ไม่ใช่จะ
ลําบากเสิ่นซ่านเหยียนทัง้ ทําลายนํา้ ใจผูอ้ ่นื หรอกรึ
“นี่ลว้ นเป็ นสิ่งที่พวกเขาสองพี่นอ้ งคิดเล่นๆ ขึน้ มา” เขารีบละลํ่าละลักเอ่ย “คาดไม่ถึง
ว่าจะไม่เหมาะสม”
856

เขาขบคิดว่า จะไปดูตน้ ซาจี๋พวกนัน้ ของเผยเยี่ยนดีหรือไม่


ใครจะรู ว้ ่าเผยเยี่ยนกลับเอ่ยด้วยรอยยิม้ “มีความคิดได้ก็เป็ นเรื่องที่ดีแล้ว” จากนัน้ ก็
ถามถึงพืน้ ที่ภเู ขาของสกุลพวกเขาว่าอยู่ท่ีใด
อวีห้ ย่วนบอกตําแหน่ง
เผยเยี่ยนครุน่ คิดเล็กน้อย “พวกเจ้าไปหาพ่อบ้านหู ให้เขาไปดูกบั พวกเจ้า เมื่อก่อนบิดา
ของเขาเป็ นสินเดิมของย่าข้า ติดตามย่าเข้ามาในสกุล สกุลย่าข้าปลูกผลหมากรากไม้ ในหมู่
พ่อบ้าน คงจะมีเขาคนเดียวที่เข้าใจอยู่บา้ ง เจ้าลองดูเถิดว่าพอจะสามารถช่วยเหลือได้หรือไม่”
นี่เป็ นความปรารถนาดีของเผยเยี่ยน คนสกุลอวีพ้ ากันเอ่ยขอบคุณ
ตั้งแต่เด็กเผยเยี่ยนก็ถูกคนล้อมหน้าล้อมหลัง ครัน้ เมื่อเติบใหญ่ ชีวิตล้วนราบรื่นไร้
อุปสรรค การสอบขุนนางไม่เคยติดขัด เรื่องขอบคุณเช่นนีเ้ ขาพบเจอมาไม่รูต้ งั้ เท่าใด เรื่องของ
สกุลอวี ้ เขาช่วยเหลือมากไปอยู่บา้ ง แต่คุณหนูอวีเ้ ป็ นเพียงหญิ งสาวคนหนึ่ง เรื่องเล็กน้อย
ช่วยเหลือกันก็ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรง เขารับความขอบคุณคนสกุลอวีอ้ ย่างไม่ใส่ใจมาก ดึง
หัวข้อเข้าเรื่องการประมูลอีกครัง้ “เพื่อหลีกเลี่ยงปั ญหา สกุลพวกเจ้าไม่โผล่หน้าออกมาจะดี
ที่สดุ ถึงเวลานัน้ นายท่านอวีแ้ ละคุณชายอวีม้ าก็เพียงพอแล้ว ยืนหลบอยู่ดา้ นข้าง ฟั งแต่ละสกุล
ตกลงซือ้ ขายในรอบสุดท้าย หลังจากนัน้ ข้าจะให้เผยหม่านนําเงินประมูลไปส่งที่สกุลพวกเจ้า”
นี่คือกลัวว่าจะมีคนเพ่งเล็งสกุลอวี ้ ผูท้ ่ีแพ้การประมูลอาจคิดเล่นงานกับสกุลอวี ้ ทัง้ กลัว
ว่าคนสกุลอวีจ้ ะพะว้าพะวง กังวลว่าสกุลเผยจะอมเงินประมูล
ชั่วขณะนัน้ อวีเ้ หวินก็เหงื่อผุดพรายเต็มหน้าผาก “นายท่านสามไม่จาํ เป็ นต้องจัดการ
เช่นนี ้ สกุลพวกเราเป็ นสกุลธรรมดาไร้เสียงไร้นาม เรื่องพวกนีย้ ่อมไม่เข้าใจ ข้าว่า เรื่องประมูล
ให้ท่า นจัดการคนเดียวก็เ พียงพอแล้ว สกุลพวกเราคงไม่เ ข้ามา ส่ว นเรื่องเงิน เก็ บไว้ท่ีรา้ น
เครื่องเงินของสกุลเผยก่อน พวกเราไปเอายามที่ตอ้ งการก็เพียงพอแล้ว”
857

หากเป็ นก่อนหน้านีเ้ ขายังคงอยากให้ตวั เองเข้าร่วมทําการซือ้ ขายนีก้ ับคนอื่นเช่นกัน


แต่หลังจากได้ยินเผยเยี่ยนแนะนําตําแหน่งฐานะสกุลที่เข้าร่วมประมูล เขาก็ไม่กล้ายุ่งเกี่ยวอีก
แล้ว หากไม่ใช่ว่ากลัวเผยเยี่ยนคิดมาก เขาถึงกระทั่งอยากเอ่ยว่า ให้เงินสกุลพวกเขาไม่ก่ีรอ้ ย
ตําลึงก็พอ ส่วนแผนที่นีถ้ ือว่าขายให้สกุลเผยไปเสีย
เผยเยี่ยนเห็นอวีเ้ หวินเอ่ยอย่างจริงใจ รู ว้ ่าเขาทราบถึงความร้ายแรงของเรื่องนี ้ จึงไม่
คิดบังคับฝื นใจ รับปากอวีเ้ หวินว่าจะนําเงินประมูลไปเก็บไว้ในร้านขายเครื่องเงินสกุลเผย ทัง้ ให้
คําปรึกษาเรื่องนําเงินออกไปจากร้านขายเครื่องเงินของสกุลเผยด้วย
อวีถ้ งั ใจลอยอยู่บา้ ง
ในเมื่อเผยเยี่ยนคิดว่าพืน้ ที่ภเู ขาของสกุลไม่เหมาะกับการปลูกต้นซาจี๋ เหตุใดชาติก่อน
เขาถึงปลูกมันที่น่ ันเล่า? ตกลงภายในนีม้ ีเรื่องอะไรผิดพลาดกันแน่ เรื่องของชาติก่อนจึงได้
คลาดเคลื่อนไปจากชาตินี?้
นางคิดว่าตัวเองต้องหาโอกาสไถ่ถามเสียหน่อย
ด้านเผยเยี่ยนกล่าวจบ ก็ยกนํา้ ชาส่งแขก
พวกอวีเ้ หวินหยัดกายขึน้ บอกลา กลับพบเผยหม่านสาวเท้ารีบเร่งเข้ามาทางนี ้
ทัง้ สองฝ่ ายทักทายกันและกัน เผยหม่านไม่รอให้อวีเ้ หวินออกปากก็เอ่ยขึน้ ก่อน “นาย
ท่านอวี ้ ผูด้ แู ลสกุลซ่งแห่งซูโจวมาเยือน กําลังอยู่ในโถงบุปผา ข้าคงไม่อาจส่งท่านแล้ว”
หังโจวและซูโจวอยู่ใกล้กนั มาก สกุลใหญ่มีช่ือเสียงเรืองอํานาจทางซูโจว ผูค้ นที่อยู่ใกล้
อย่างเมืองหลินอันล้วนเคยได้ยินมาเช่นกัน สกุลซ่งแห่งซูโจว ก็ไม่ต่างไปจากสกุลเถาแห่งกว่าง
โจวที่เผยเยี่ยนเอ่ยถึงเมื่อครู ่ เป็ นสกุลมั่งคั่งที่มีทายาทเป็ นบัณฑิตทัง้ ทํากิจการค้าขาย นับเป็ น
สกุลที่มีอาํ นาจในเมืองซูโจว
คนสกุลอวีส้ งสัยอยู่บา้ งว่าคนสกุลซ่งมาทําอะไร แต่น่ีเป็ นเรื่องของสกุลเผย ไม่อาจถาม
ให้เสียมารยาท พวกเขาจะใคร่รูเ้ พียงใดก็ทาํ ได้เพียงเก็บไว้ในใจ
858

แยกจากเผยหม่าน อวีถ้ งั ก็เอ่ย “พวกเราใช้โอกาสนีไ้ ปหาพ่อบ้านหูดีหรือไม่?”


หนึ่งคือพวกเขาและหูซิ่งนับว่าคุน้ เคยกันไม่นอ้ ย พูดคุยสื่อสารกันง่าย สองคือประตู
ใหญ่ของสกุลเผยไม่ใช่สถานที่เข้าออกได้ง่ายๆ เข้ามาได้หนึ่งครัง้ ก็ควรพยายามทําเรื่องทัง้ หมด
ให้เสร็จสิน้ จะดีท่ีสดุ
อวีเ้ หวินก็มีความคิดอย่างนีเ้ ช่นกัน
ทัง้ สามคนขอเด็กรับใช้ท่ีพาพวกเขาออกมา นําทางไปหาหูซิ่ง
เด็กรับใช้ผนู้ นั้ เห็นพวกเขาเป็ นแขกที่เผยเยี่ยนเชิญมา ก็ไม่ได้มากความ พาพวกเขาไป
พบหูซิ่ง
เวลานีอ้ วีถ้ ังจึงพบว่า แท้จริงแล้วพวกพ่อบ้านผูด้ ูแลทัง้ หลายของสกุลเผยล้วนอยู่ใน
เรือนแห่งหนึ่งทางตะวันออกสกุลเผย ห่างจากประตูใหญ่เพียงระยะยิงธนู 1เท่านัน้ ทัง้ อาศัยจาก
175

ตําแหน่งพ่อบ้านและผูด้ แู ลพวกเขายังขนาบด้วยห้องเล็กๆ ของข้ารับใช้ทงั้ ห้องเซียงฝางขนาด


น้อยใหญ่แตกต่างกันไป
อวีห้ ย่วนเห็นก็ลอบชื่นชมในใจ กระซิบกับอวีถ้ งั “ไม่แปลกใจที่คนอื่นกล่าวว่าสกุลเผย
รํ่ารวยเงินทอง ข้ายังคิดไปว่าพวกเขาไม่เคยพบเห็นสกุลใหญ่ม่ งั มีของเมืองหังโจว แท้จริงเป็ น
ข้าที่ความรูต้ นื ้ เขิน สายตาคับแคบ”
สิ่งที่อวีถ้ ังคิดคือ ไม่แปลกใจที่สกุลหลี่อยากจะแทนที่สกุลเผยอย่างใจจดใจจ่อ ไม่ว่า
ใครที่เห็นภาพบ่าวใช้มากมายดุจมวลเมฆนี ้ ก็คงคิดใฝ่ ฝันกันทัง้ นัน้ !
หูซิ่งไม่อยู่หอ้ งของตัวเอง เด็กรับใช้ของหูซิ่งนําชาและของว่างมาต้อนรับพวกเขาอย่าง
ไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่นาน หูซิ่งที่ทราบข่าวก็เร่งตามเข้ามา เอ่ยขอโทษขอโพยอวีเ้ หวิน “ท่าน

1
ระยะยิงธนู คือระยะประมาณหนึ่งร้อยยี่สิบถึงหนึ่งร้อยห้าสิบก้าว
859

แม่เฒ่าไหว้วานให้ขา้ ไปทําธุระนิดหน่อย นึกไม่ถงึ ว่านายท่านอวีจ้ ะเข้ามา เสียมารยาทแล้ว เสีย


มารยาทแล้ว”
อวี เ้ หวิ น และเขาเอ่ ย เป็ น พิ ธี ไ ม่ ก่ี ค าํ อวี ห้ ย่ ว นและอวี ถ้ ัง ก็ ห ยัด กายขึ น้ ประสานมื อ
ทักทายเขา ทุกคนลงนั่งกันอีกครัง้ อวีเ้ หวินจึงค่อยเอ่ยถึงจุดประสงค์ท่ีมา
หูซิ่งพอได้ยินว่าเป็ นความต้องการของเผยเยี่ยน ก็น่ ังไม่ติดที่ “ท่านให้ขา้ ไปเปลี่ยน
ผ้าผ่อนเสียหน่อย ข้าจะไปดูกบั พวกท่านเดี๋ยวนี”้
กระตือรือร้นจนพาให้แปลกใจอยู่บา้ ง
อวีเ้ หวินรีบละลํ่าละลักเอ่ย “พวกเราไม่ได้รีบร้อนเพียงนัน้ เจ้าหาเวลาว่างไปช่วยพวก
เราดูก็เพียงพอแล้ว”
ได้ยินว่า กว่ากล้าไม้พวกนัน้ จะมาถึงก็ตงั้ กลางเดือนสี่
หลายวันมานีห้ ูซิ่งกําลังคิดวิธีจะปรากฏตัวต่อเบือ้ งหน้าเผยเยี่ยน ใคร่ให้เผยเยี่ยนสั่ง
เขาไปทําธุระเป็ นอย่างยิ่ง เขาจะได้สามารถไปรายงานให้เผยเยี่ยนฟั งทุกวัน ไหนเลยยังจะฟั ง
คําพูดอวีเ้ หวิน
เขาเอ่ย “คําสั่งของนายท่านสามย่อมไม่อาจฝ่ าฝื น เมื่อเอ่ยปากออกมาพวกเราไหนเลย
จะชักช้าได้?”
อวีเ้ หวินอับจนหนทาง ทําได้เพียงนัดหูซิ่งเช้าตรู ่ของพรุ ง่ นี ้ เข้าไปช่วยดูท่ีบริเวณภูเขา
ของเรือนเก่าสกุลอวี ้
เมื่อหูซิ่งได้รบั การมอบหมายเป็ นมั่นเป็ นเหมาะ ก็ส่งคนสกุลอวีท้ งั้ สามออกจากประตู
อย่างสุขอุรา
เพียงแต่พวกเขายังไม่ทนั ก้าวออกจากลานกว้าง เด็กรับใช้คนหนึ่งก็ว่ิงเข้ามาด้วยเหงื่อ
แตกพลั่ก “เห็นนายท่านอวี ้ คุณชายสกุลอวีห้ รือไม่ขอรับ? นายท่านสามขอให้นายท่านอวีร้ งั้ ตัว
อยู่ก่อน!” ขณะที่พูดก็เหลือบเห็นอวีเ้ หวินซึ่งอยู่ขา้ งหูซิ่ง ดีใจจนแทบจะร้องไห้โฮออกมา วิ่ง
860

ขึน้ มาคํานับแก่อวีเ้ หวิน “นายท่านอวีร้ ีบตามข้าไปนั่งพักที่โถงบุปผาก่อนเถิดขอรับ นายท่าน


สามเอ่ยว่ามีเรื่องจะหารือกับท่าน”
คนสกุลอวีท้ งั้ สามมองกันไปมองกันมา ก่อนจะเดินตามหูซิ่งและเด็กรับใช้คนนัน้ เหลียว
อ้อมไปอ้อมมา จนถึงโถงบุปฝาที่ไม่คนุ้ ตา
เด็กรับใช้ยกชามาอย่างเอาใจใส่ “นายท่านสามขอให้ท่านรออยู่ตรงนีส้ กั ครู ่ หากเรื่อง
ทางนัน้ เสร็จสรรพแล้ว พี่อาหมิงจะเข้ามาเชิญพวกท่าน พวกท่านนั่งพักกันก่อนเถิดขอรับ”
อวีถ้ งั ลอบขําในใจ
อาหมิงอยู่ในจวนกลับถูกเรียกว่า ‘พี่’ จะเห็นได้ว่าการทํางานข้างกายเผยเยี่ยนมีเกียรติ
ไม่นอ้ ย
อวีเ้ หวินตอบรับด้วยรอยยิม้ ยอบกายนั่งลง
ด้านหูซิ่งขันอาสาพูดคุยเป็ นเพื่อนคนของสกุลอวี ้
อวีถ้ งั รูส้ กึ เบื่อหน่าย จึงชื่นชมบรรยากาศโดยรอบ
เมื่อทอดสายตามอง ก็ทาํ ให้นางประหลาดใจอยู่บา้ ง
ใกล้จ ะเริ่ม ต้น ฤดูใ บไม้ผ ลิ แ ล้ว ฤดูท่ี ต ้น หลิ ว แตกยอด ดอกท้อ ดอกหลี่ บ านสะพรั่ง
ด้านข้างโถงบุปผาของสกุลเผยมีตน้ ไม้รม่ ครึม้ พุม่ หญ้าเขียมชอุม่ เมื่อมองไป ก็ปรากฏเขียวเข้ม
เขียวอ่อน รื่นหูร่นื ตายิ่ง ไม่มีสีอ่นื เจือปนแม้แต่นอ้ ย
หรือต้นท้อต้นหลี่ของสกุลพวกเขาไม่ออกดอกกัน?
หรือว่าข้างโถงบุปผาไม่ได้ปลูกต้นท้อและต้นหลี่?
แม้วา่ จะไม่ปลูกต้นท้อต้นหลี่ ดอกไม้ป่าก็ไม่มีสกั ต้นอย่างนัน้ รึ?
อวีถ้ งั มองหาอยู่คอ่ นวัน ก็ไม่พบจริงๆ
861

พวกเขารอประมาณครึง่ ชั่วยาม อาหมิงก็ว่งิ เหยาะๆ เข้ามา


“นายท่านอวี ้ คุณชาย คุณหนูให้คอยนานเสียแล้ว!” เขาหอบแฮ่กๆ “นายท่านสามพวก
เรากําลังส่งแขก ประเดี๋ยวจะเข้ามาแล้วขอรับ”
ไม่ใช่กล่าวว่าจะให้พวกเขาเข้าไปหรอกรึ?
คนของสกุลอวีเ้ หลียวมองกันสลับไปมา
แต่ยงั ไม่รอให้อวีเ้ หวินเอ่ยอันใด เผยเยี่ยนก็กา้ วเท้ายาวเข้ามา
อวีเ้ หวินพาอวีห้ ย่วนและอวีถ้ งั เดินเข้าไปหา
เผยเยี่ยนคํานับให้แก่อวีเ้ หวิน เอ่ยกับหูซิ่ง “พวกเจ้าออกไปให้หมดเถิด! ข้ามีเรื่องอยาก
พูดกับพวกนายท่านอวีเ้ พียงลําพัง”
862

บทที่ 108 ความปรารถนาดี


พวกหูซิ่งได้ยินก็รบี พากันออกไป
เผยเยี่ยนผายมือ บอกเป็ นนัยให้พวกอวีเ้ หวินนั่งลงพูดคุย
อวีเ้ หวินนั่งลงอย่างร้อนเนือ้ ร้อนใจอยู่บา้ ง อาหมิงปิ ดประตูให้พวกเขา ก่อนเดินออกไป
“นายท่านสามรัง้ พวกเราไว้มีเรื่องอันใดรึ?” อวีเ้ หวินถามอย่างงุนงง
เผยเยี่ยนนิ่งไปครูห่ นึ่งราวกําลังจัดการกับความคิด “เมื่อครูน่ ายท่านสี่สกุลซ่งมาหาข้า
อ้อ เขาก็คือผูน้ าํ ของสกุลซ่ง ผูน้ าํ สกุลพวกเขาคือนายท่านสี่บา้ นสาม ไม่รูว้ ่าเขาทราบเรื่องแผน
ที่จากที่ใด จึงคิดจะแบ่งนํา้ แกงไปถ้วยหนึ่งเช่นกัน ยังเสนอความคิดร่วมมือกับสกุลเผยของพวก
เรา พวกเจ้าก็รู ้ บิดาข้าเพิ่งจากไป พี่นอ้ งของพวกเราล้วนไม่สนใจการค้าขายแลกเปลี่ยนครัง้ นี ้
แต่นายท่านสี่สกุลซ่งและสกุลพวกเรามีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดเล็กน้อย…มารดาเขาและ
มารดาของข้าเป็ นลูกพี่ลกู น้องกันมารดาของเขาเป็ นพี่ อายุมากกว่ามารดาข้าเกือบยี่สิบปี แม้
จะกล่าวว่าท่านผูเ้ ฒ่าของนางล่วงลับไปแล้ว แต่สกุลของพวกเราทัง้ สองก็ยงั ไปมาหาสู่กนั ไม่
ขาด ข้าจึงคิดว่า หากสกุลพวกเจ้าอยากใช้โอกาสนีเ้ ข้ามาร่วมในเรื่องการประมูล มิสรู้ ว่ มมือกับ
สกุลซ่ง แค่อยากถามความต้องการของพวกเจ้า ข้าจะได้จดั การถูก”
เมื่ออวีเ้ หวินได้ฟัง ก็ดีใจอย่างคาดไม่ถึง
เผยเยี่ยนไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนีม้ าก่อน จะเห็นได้ว่าเขาไม่เห็นดีเห็นงามให้สกุลพวกเขา
เข้าร่วมในการค้าขายเช่นนี ้ ภายหลังยังชีแ้ จงแถลงไขเบือ้ งหลังอํานาจของสกุลที่เข้าร่วมการ
ประมูลอย่างละเอียดยิบ แฝงการตักเตือนพวกเขาอย่างเลือนรางว่า ผลประโยชน์การค้าทาง
ทะเลนัน้ มหาศาล แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงไม่นอ้ ยเช่นกัน ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสอดมือ
ยุ่งได้ แต่ยามนี ้ กลับเป็ นคนกลางดึงสกุลพวกเขาและสกุลซ่งเข้าด้วยกัน คงคิดว่าพวกเขาสอง
สกุ ล มี ค วามเป็ นไปได้ท่ี จ ะร่ ว มมื อ กั น เรื่ อ งภายในนี ้ห ากไม่ ใ ช่ ว่ า สกุ ล เผยมี เ กี ย รติ แ ละ
ความสามารถปกป้องผลประโยชน์ของสกุลอวีพ้ วกเขาต่อหน้าคนสกุลซ่งได้ ก็ย่อมเป็ นเพราะว่า
สกุลซ่งกระทําเรื่องด้วยความซื่อสัตย์เที่ยงธรรม คุม้ ค่าที่จะเชื่อถือ
863

ไม่ว่าจะอย่างแรกหรืออย่างหลัง สกุลพวกเขาต่างก็อาศัยการคุม้ ครองจากสกุลเผย


ทัง้ นัน้
อวีเ้ หวินรูส้ กึ ซาบซึง้ ใจกับเรื่องนีอ้ ย่างยิ่ง
เช่นนัน้ ควรคว้าโอกาสครัง้ นีด้ ีหรือไม่?
อวีเ้ หวินหันไปทางอวีถ้ งั ด้วยความคุน้ ชิน
อวีถ้ งั คิดวุน่ วายอยู่ในใจ
นางย่อมมีความคิดนีเ้ ช่นกัน อยากเหลือแผนที่แผ่นหนึ่งไว้ ภายหลังหากสกุลพวกเขามี
โอกาส สามารถร่วมหุน้ ทําการค้าทางทะเลได้ แต่นางนึกไม่ถึงมาก่อนว่าจะได้รว่ มมือกับสกุลที่
คล้ายสกุลเถาแห่งกว่างโจวเช่นนี ้
สองสกุลอํานาจห่างชั้นกันมาก ฝ่ ายที่อ่อนแอกว่าย่อมสูญเสียสิทธิ์ในการพูด การ
ร่วมมือไร้ความเท่าเทียม ทัง้ ยังอาจถูกคนอื่นกลืนกินได้ง่าย
ผูท้ ่ีนางเลือกเป็ นอันดับแรกคือสกุลเจียง
เจียงหลิงของสกุลเจียงผูน้ นั้
ตามความทรงจําชาติก่อนของนาง ยามนีส้ กุลพวกเขายังไม่ได้รุง่ เรืองเฟื่ องฟู แต่ดจู าก
เรื่องราวเหล่านัน้ ที่เกิดชาติก่อน สกุลพวกเขาย่อมมีความสามารถนีอ้ ยู่แล้ว
รูจ้ กั กันในยามที่ฐานะตํ่าต้อย ย่อมเป็ นผูร้ ว่ มมือที่ดีท่ีสดุ
แต่ยามนี ้ อวีถ้ งั จําต้องยอมรับ ข้อเสนอของเผยเยี่ยนก็เหมือนหมูสามชัน้ ถ้วยหนึ่งที่วาง
อยู่เบือ้ งหน้าพวกเขา ทําให้พวกเขาอยากได้จนนํา้ ลายสอ
ดีท่ีตอ่ หน้าบิดา นางสามารถสงบใจเย็นลงได้อย่างรวดเร็ว
ถูกหลอกล่อ ชักจูงให้ลงั เลใจล้วนไม่เกิดผลลัพธ์ท่ีดีแต่อย่างใด
864

อวีถ้ งั อดกระแอมไอออกมาไม่ได้ เอ่ยอย่างอ่อนโยน “นายท่านสาม ขอบคุณอย่างยิ่งที่


ท่านสนับสนุนสกุลพวกเรา แต่อย่างไรสกุลพวกเราก็เป็ นเพียงสกุลธรรมดาทั่วไป การค้าเช่นนี ้
ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราสามารถควบคุมได้ ทัง้ ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราคิดวาดฝันได้ ข้าว่า เรื่องนีป้ ล่อยผ่าน
ไปดีกว่า”
ความปรารถนาดีอนั แรงกล้าของเผยเยี่ยนคล้ายถูกนํา้ เย็นของฤดูหนาวแช่จนเยือกแข็ง
ไปหมด ชั่วพริบตาใบหน้าก็ดาํ คลํา้ อยู่บา้ ง
ไม่ใช่วา่ นางอยากรํ่ารวยประสบความสําเร็จเร็วๆ หรอกรึ?
โอกาสดีถึงเพียงนี ้ เขายากที่จะใจอ่อน คาดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะกลายเป็ นเช่นนี ้
“แล้วแต่พวกเจ้า!” รอบกายเผยเยี่ยนเผยไอเย็นขึน้ มา กระทั่งบรรยากาศก็เปลี่ยนเป็ น
เหน็บหนาวเช่นกัน “ข้าเพียงคิดว่าหากพวกเจ้าร่วมมือกับสกุลซ่ง เห็นแก่หน้าพวกเราสกุลเผย
พวกเขาย่อมไม่กล้าเล่นสกปรกอะไรลับหลังเท่านัน้ ในเมื่อเจ้าไม่ปรารถนา ก็คิดเสียว่าข้าไม่เคย
เอ่ยถึงแล้วกัน” พูดจบ เขาก็ยกถ้วยชา
นี่คงหมายความว่าเผยเยี่ยนส่งแขกแล้วกระมัง
อวีเ้ หวินรูส้ กึ ลําบากใจไม่นอ้ ย
ความปรารถนาดีของเผยเยี่ยน ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถรับได้ง่ายๆ นึกไม่ถึงว่าอวีถ้ งั จะ
ปฏิเสธ
แน่นอนว่า การตัดสินใจนี ้ พวกเขาปรึกษากันไว้นานแล้ว แต่ไม่ว่าเรื่องอันใดก็สามารถ
เปลี่ยนแปลงได้ตลอด
อวีถ้ งั ก็ไม่ไว้หน้าเผยเยี่ยนเกินไปแล้ว
อวีเ้ หวินถลึงตาใส่ลกู สาวไปที มุมปากเรียบตึง คิดจะล้มการตัดสินใจของอวีถ้ งั ไม่ว่า
อย่างไรก็จะกูห้ น้าของเผยเยี่ยนกลับมา ยิ่งไปกว่านัน้ เผยเยี่ยนยังทําเพราะปรารถนาดีต่อสกุล
พวกเขา
865

ก่อนที่อวีถ้ ังจะเอ่ยคําพูดพวกนีอ้ อกมาก็คาดการณ์ไว้แล้วว่าเผยเยี่ยนอาจจะกระอัก


กระอ่วนใจอยู่บา้ ง แต่นึกไม่ถึงว่าเผยเยี่ยนจะโมโหอย่างง่ายดาย บิดาของนางยิ่งไม่มีความคิด
เป็ นของตัวเอง เห็นเผยเยี่ยนไม่พอใจ ก็คิดจะซือ้ นํา้ ใจเผยเยี่ยนทันที ไม่ครุ ่นคิดเสียหน่อยว่า
นํา้ ใจครัง้ นีจ้ ะทําให้สกุลอวีพ้ วกเขาตกอยู่ในสถานการณ์แบบใด
“นายท่านสาม!” นางรีบละลํ่าละลักเอ่ยก่อนที่อวีเ้ หวินจะเปิ ดปาก “ช่วงครึง่ ปี มานีส้ กุล
พวกเราเกิดเรื่องมากมาย หากไม่ได้รบั การช่วยเหลือจากท่าน ลําพังอาการป่ วยของมารดา ก็
สามารถทําให้พวกเราตกทุกข์ได้ยากแล้ว สกุลอวีพ้ วกเราสามารถมีวนั นีไ้ ด้ ทัง้ หมดล้วนมาจาก
คุณงามความดีของท่าน เรื่องเมื่อครู ่ท่ีท่านเอ่ยถึง ก็เพราะปรารถนาดีต่อสกุลพวกเราเช่นกัน
เพียงแต่ไหนแต่ไรคําสั่งสอนบรรพบุรุษสกุลเราก็เป็ นเช่นนี ้ พึ่งฟ้าพึ่งดินมิสพู้ ่งึ ตัวเอง สกุลซ่งเป็ น
สกุลรํ่ารวยมีอาํ นาจอันดับต้นๆ ของซูโจว สกุลพวกเรานอกจากร้านค้าเครื่องลงรักแล้วก็ไม่เคย
ทํากิจการอย่างอื่น แม้สกุลซ่งจะนับว่าร่วมมือกับสกุลพวกเรา นั่นก็เพราะว่าเห็นแก่หน้าท่าน
เห็นแก่หน้าสกุลเผย คนอื่นไม่เข้าใจ พวกเราเองกลับกระจ่างใจ ตัวเองจะกินข้าวได้ก่ีถว้ ยกัน ทํา
การค้าร่วมกับสกุลซ่งนั้นพูดง่าย แต่พวกเราคงไม่อาจเป็ นผูร้ ่วมหุน้ ที่มีเพียงแผนที่ได้ห รอก
กระมัง? แม้ว่าจะมีเพียงแผนที่แผ่นเดียวร่วมหุน้ แล้วจะร่วมอย่างไร? ได้ก่ีสว่ น? รวมกลุม่ เรือได้
หรือไม่? ทุกครัง้ ที่ออกทะเลควรจะใช้เรือกี่ลาํ ? เรือทุกลําต้องมีคนร่วมเดินทางจํานวนเท่าใด?
ขนสินค้าแบบไหนบ้าง? จอดเรือได้ท่ีใด? เรื่องพวกนีส้ กุลพวกเราล้วนไม่เข้าใจ หรือยังต้องมา
ถามท่านทุกเรื่องอย่างนัน้ รึ? เช่นนัน้ พวกเราช่วยอะไรสกุลซ่งได้บา้ งกัน? สกุลซ่งร่วมมือกับพวก
เรามีผลประโยชน์อะไรให้เก็บเกี่ยวได้? ก็เหมือนผลประโยชน์ระยะยาวไม่ทดั เทียมกัน พวกเรา
ถือสิทธิ์อนั ใดไปร่วมมือกับคนอื่น? นั่นแตกต่างจากการพึง่ พิงท่านอย่างไร?”
ยามนีส้ กุลพวกเขานําแผนที่ออกมาขายแล้ว สกุลซ่งไม่ได้วางเงินประมูลไม่ไหว แล้ว
เหตุใดต้องร่วมมือกับสกุลอวี ้ ทัง้ ที่สามารถใช้เงินแก้ไขปั ญหาเรื่องแผนที่ได้?
พูดโดยสรุปแล้ว ยังคงเป็ นการเห็นแก่หน้าเผยเยี่ยน
นํา้ ใจนีไ้ ม่ใช่วา่ เผยเยี่ยนต้องเป็ นคนคืนหรอกรึ
866

แม้วา่ เผยเยี่ยนจะคิดว่าไม่เป็ นไร สกุลพวกเราก็ไม่อาจยอมรับเช่นนีไ้ ด้


อวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนได้ฟังก็พยักหน้าระรัว ความคิดสั่นคลอนเล็กน้อยเมื่อครูล่ ว้ นจาง
หายราวกับหมอกควัน
ด้านเผยเยี่ยนนัน้ ยังคงรูส้ กึ ไม่สบอารมณ์
สรุปแล้ว ฟั งมีเหตุผล แต่ทา้ ยที่สดุ ก็ยงั คงปฏิเสธเขา
“เอาที่พวกเจ้าสบายใจ!” เผยเยี่ยนยกถ้วยชาในมืออีกครัง้
อวีถ้ งั คาดไม่ถึงว่าเผยเยี่ยนจะเป็ นคนเจ้าอารมณ์ขนาดนี ้ นางพูดจนปากเปี ยกปากแฉะ
กลับไม่อาจทําให้เขาคลายโทสะได้
หากเผยเยี่ยนมีเจตนาที่คาดเดาไม่ออกก็แล้วไป แต่น่ีกลับเป็ นความหวังดี แม้อวีถ้ งั จะรู ้
ดีว่าการตัดสินใจของตัวเองเป็ นตัวเลือกที่ถกู ต้องที่สดุ มีผลดีท่ีสดุ กับสกุลอวี ้ แต่ในใจยังคงรูส้ กึ
ผิดต่อเผยเยี่ยน
เผยเยี่ยนมีนิสยั ถือตัวทัง้ ไม่ใส่ใจกิจธุระทั่วไปแต่อย่างใด เขายากที่จะยุ่งเรื่องชาวบ้าน
กลับถูกนางปฏิเสธ นับว่านางไม่ทาํ เหมือนไม่ไว้หน้าเขา
อวีถ้ งั ใคร่ให้เขารู ส้ ึกสบายใจขึน้ มาบ้าง แสร้งทําเป็ นไม่เห็นเขายกนํา้ ชาส่งแขกอย่างรู ้
แล้วรูร้ อดไป ก้าวไปข้างหน้า เอ่ยอย่างเอาใจ “นายท่านสาม หลังจากพวกเรากลับไปย่อมจะทํา
การค้าดีๆ เพื่อวันหนึ่งจะสามารถรับความปราถนาดีเช่นนีข้ องท่านไว้ได้”
เผยเยี่ยนเห็นนางก้มหน้า หน้าผากที่เกลีย้ งเกลาสง่าดั่งหยกลํ่าค่า ขนตางามงอนแทบ
ไม่กระดิก ราวกับปี กหงส์ท่ีแผ่บนเปลือกตา ดูเชื่องซื่อและนอบน้อม พลันใจอ่อนขึน้ มา รูส้ กึ ว่า
โทสะที่เกิดอย่างไร้เหตุผลค่อยๆ เลือนหายไป
ยังตระหนักได้ว่ารางวัลของเขา ไม่ใช่ใครที่ไหนก็สามารถรับไว้ได้ นับว่ารูจ้ กั ประมาณ
ตนเอง!
867

“ช่างเถิด!” เขาได้ยินนํา้ เสียงของตัวเองที่ไร้อารมณ์ขุ่นมัว “เป็ นข้าที่คิดไม่รอบคอบ


เช่นกัน เรื่องนีป้ ล่อยไปเช่นนีแ้ ล้วกัน”
อวีถ้ งั ลอบหายใจอย่างโล่งอก
ในที่สดุ ก็เกลีย้ กล่อมผูม้ ีพระคุณคนนีไ้ ด้เสียที
หรือจะเกลีย้ กล่อมอีกเสียหน่อยดี?
นางยังอยากทราบว่าเหตุใดชาติก่อนเผยเยี่ยนจึงปลูกต้นซาจี๋ในพืน้ ที่ของสกุลพวก
เขา?
อวีถ้ งั ปากไวกว่าสมอง
นางเอ่ยอย่างนอบน้อม “ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ยังคงต้องขอบคุณนายท่านสาม ไม่ก่ีวนั
ก่อนมารดาข้าทําขนมชิงถวน 1ไว้อยู่บา้ งหากนายท่านสามไม่รงั เกียจ ข้าจะให้พ่อบ้านหูนาํ มา
176

ให้นายท่านสามลองชิม สกุลพวกเราก็ไม่มีฝีมือใดที่เชิดหน้าชูตาได้ เพียงอาหารขนมคาวหวาน


ทั่วไปกลับทําเร็วกว่าบ้านอื่นอยู่บา้ ง สามารถนํามาให้นายท่านสามลิม้ รสก่อนได้”
ว่าตามหลักแล้ว แต่ละครอบครัวมักรอผ่านเดือนสองเดือนก่อนถึงจะเริ่มทําขนมชิงถ
วน แต่ปีนีร้ า่ งกายของมารดาแข็งแรงขึน้ มาก มีความกระตือรือร้นเป็ นพิเศษ จึงทําขนมชิงถวน
ล่วงหน้าจํานวนหนึ่ง แต่ฝีมือกลับไม่เป็ นรองใคร ทัง้ กินเร็วกว่าคนอื่นเป็ นเดือน จึงนับว่าเป็ น
ขนมที่นาํ มาเชิดหน้าชูตาได้อยู่บา้ ง
เผยเยี่ยนได้ฟัง ความขุ่นข้องในใจก็เบาบางลงเล็กน้อย

1
ขนมชิงถวน คือ ขนมที่ทาํ จากแป้งข้าวเหนียว ลูกกลมสีเขียว ด้านในมักใส่ไส้ถ่ ัวแดงหรือเม็ดบัว กินกันแพร่หลายใน
เทศกาลเช็งเม้ง
868

เขาไม่ได้ชอบกินขนมชิงถวนถึงขนาดนัน้ แต่เขาอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ ย่อมเหมาะที่จะกิน


ของเช่นนี ้ ทว่าคนส่วนมากกลับไม่รูว้ ่าเป็ นเพราะอะไร มักจะลืมว่าเขาอยู่ในช่วงไว้ทกุ ข์ ไม่เชิญ
เขาไปดื่มสุราก็ชวนไปชมดอกไม้บปุ ผา มีเพียงสกุลอวีท้ ่ีนบั ว่าส่งของเหมาะสมมาให้
คนเหล่านัน้ คล้ายลืมว่าบิดาเขาเพิ่งจะจากไปไม่นาน
สิ่งที่ทาํ ให้เขาอึดอัดใจเป็ นที่สดุ คือ ในหมู่คนพวกนีล้ ว้ นแต่ได้รบั ความช่วยเหลือจาก
บิดาของเขาทัง้ นัน้
จะเห็นได้ว่า คําโบราณที่กล่าว ‘คนโฉดฆ่าคนปล้นทรัพย์ได้สายสะพายทอง คนดีซ่อม
สะพานกลับไม่เหลือแม้แต่ซากศพ’ นัน้ มีเหตุผล
เผยเยี่ยนลอบแค่นเสียงในใจ นํา้ เสียงที่พูดกลับอ่อนลงหลายส่วน “ไม่จาํ เป็ นต้อง
เกรงใจขนาดนัน้ ! เช่นนัน้ ก็ฝากขอบคุณนายหญิงอวีแ้ ทนข้าด้วยแล้วกัน!”
ความหมายนีค้ ือเขาจะรับไว้กระมัง
อวีถ้ งั ดีใจอย่างยิ่ง รีบละลํ่าละลักเอ่ย “ท่านชอบก็ดีแล้ว” ทัง้ ตระหนักได้ว่าเขามาอย่าง
รีบเร่ง ไม่รูว้ ่าการพบปะกับสกุลซ่งเป็ นอย่างไรบ้าง ไม่อาจรบกวนเวลาสําคัญของเขาได้ จึงย่อ
ตัวคํานับ “เช่นนัน้ พวกเราก็ตอ้ งขอตัวก่อน หลังจากการประมูลสิน้ สุดจะมารบกวนนายท่าน
สามอีกครัง้ ”
ทางนายท่านสี่สกุลซ่งถูกเขาจัดให้น่งั ที่หอ้ งรับรองแขกจริงๆ อีกเดี๋ยวเขายังต้องกลับไป
ต้อนรับ เผยเยี่ยนไม่อาจรัง้ ตัวอยู่นานได้ เขารูส้ กึ พอใจที่อวีถ้ งั รูจ้ กั กาลเทศะไม่นอ้ ย จึงกําชับอีก
สองสามประโยค “หลายวันนีผ้ ูด้ ูแลของสกุลต่างๆ ล้วนมาเยือนหลินอัน หากพวกเจ้าไม่มี
เรื่องราวอันใด ทางที่ดีก็อย่าออกจากเรือนดีกว่า จะได้ไม่ถูกคนอื่นจับผิดอะไร ก่อเรื่องก่อราว
ขึน้ มา”
กลัวคนรู ว้ ่าแผนที่เป็ นของสกุลพวกเขา อาจจะมีคนมาช่วงชิงไปก่อนการประมูลอย่าง
นัน้ รึ?
869

นั่นล้วนแต่เป็ นสกุลที่พวกเขาไม่อาจต่อกรได้ทงั้ นัน้


อวีห้ ย่วนใบหน้าซีดเผือด
เผยเยี่ยนมองเขาไปแวบหนึ่ง “พวกเจ้าก็อย่าได้กงั วลเกินไป ข้าได้ออกคําสั่งลงไปแล้ว
ก่อนการประมูลสกุลใดที่มาเยือนหลินอันล้วนจะถูกจํากัดการเดินทาง ทางสกุลพวกเจ้าก็สง่ คน
ไปลอบเฝ้าระวังเช่นกัน ข้าพูดว่า เผื่อ…”
อวีถ้ งั เอ่ยทันที “ใช่แล้ว ใช่แล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตอ้ งเผื่อไว้ ก่อนการประมูลสกุลพวก
เราย่อมไม่ว่ิงวุน่ ไปทั่ว ท่านวางใจเถิด”
ยามนีส้ ีหน้าของเผยเยี่ยนจึงค่อยฟื ้ นฟูเป็ นเย็นชาดั่งปกติ
ใจที่แขวนกลางอากาศของอวีถ้ งั ก็คลายลงสูพ่ ืน้ เสียที
870

บทที่ 109 ขนมชิงถวน


การทําขนมชิงถวน ต้องใช้หญ้าอ้ายเฉ่า 1แต่ยามนีอ้ ยู่ในต้นเดือนสอง หญ้าอ้ายเฉ่าเพิ่ง
177

จะแตกหน่อ กล้าอ่อนยังไม่หอม
เฉิ นซื่อกลัดกลุม้ เหลือทน เขกหน้าผากอวีถ้ ังไปที “เจ้าพูดอะไรไม่พูด ดันมาพูดขนม
ชิงถวน ยามนีท้ าํ ขนมชิงถวนออกมาจะอร่อยได้อย่างไรกัน!”
อวีถ้ งั ยิม้ แห้ง
ก็เพราะนางตระหนักได้ว่าอยู่ในช่วงไว้ทกุ ข์ของท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผย จึงเผลอเอ่ยชื่อขนม
ชิงถวนออกไปไม่ใช่ร?ึ คาดไม่ถึงว่าการทําขนมชิงถวนยังต้องพิถีพิถนั ถึงขนาดนัน้ เฉินซื่อคิดว่า
ก่อนหน้านีท้ าํ อย่างสุกเอาเผากินเกินไป ตัดสินใจทําใหม่อีกหลายเข่ง
แต่เรื่องมาถึงตอนนี ้ จะเปลี่ยนอย่างไรก็ไม่ทนั แล้ว
อวีถ้ งั กอดแขนมารดาอย่างออดอ้อน “ท่านแม่ ข้าช่วยท่านเองเจ้าคะ”
“เจ้ายืนอยู่เฉยๆ ให้ขา้ ดีกว่า!” เฉินซื่อเหลือบมองป้าเฉินที่เพิ่งขอเม็ดบัวชัน้ ยอดมาจาก
สกุลอูข๋ า้ งบ้าน ทัง้ ระเบิดโทสะไปพลาง “เรื่องในครัวข้าไม่คาดหวังอะไรเจ้า แต่อย่างไรเจ้าก็ตอ้ ง
สนใจเสียบ้าง หรือฤดูหนาวจะกินผักขม ฤดูรอ้ นจะกินหน่อไม้หลงฤดูอย่างนัน้ รึ?”
อวีถ้ งั ไม่กล้าอ้าปากพูด นั่งบนเก้าอีไ้ ม้ไผ่ดา้ นข้าง ดูมารดาและป้าเฉินเด็ดเม็ดบัว
“นายท่านอู๋ช่างมีนา้ํ ใจจริงๆ” ป้าเฉินมองเม็ดบัวขนาดน้อยใหญ่ในมือ เอ่ยว่า “พวกเรา
จะห่อไส้ถ่วั เขียวเสียหน่อยหรือไม่เจ้าคะ?”
ขนมชิงถวนมักจะใส่ไส้เม็ดบัวไม่ก็ไส้ถ่ วั แดง

1
หญ้าอ้ายเฉ่า คือโกฐจุฬาลัมพา
871

นวดแป้งข้าวเหนียวสีเขียวเป็ นวงกลม กัดออกมาเป็ นไส้สีแดงของถั่วแดงหรือสีขาวของ


เม็ดบัว แค่เห็นก็นา้ํ ลายสอแล้ว
น้อยคนนักที่จะห่อไส้ถ่ วั เขียว
เฉินซื่อครุ ่นคิดเล็กน้อย พุ่งเป้าไปที่อวีถ้ งั แทน “เจ้าไม่ใช่มีความสามารถมากหรอกรึ?
ไปสืบมาเสียหน่อย นายท่านสามสกุลเผยชอบกินไส้อะไร? หากเขาชอบกินไส้ถ่วั เขียว พวกเราก็
จะห่อไปเสียหน่อย”
อวีถ้ งั รับปาก หยัดกายขึน้ ออกจากห้องครัว
ป้าเฉินเอ่ย “นายหญิง จะไม่สร้างความลําบากให้คณ
ุ หนูเกินไปหรือเจ้าคะ? ไม่ว่านาย
ท่านสามสกุลเผยจะชอบกินไส้อะไร พวกเราห่อคละกันไปเล็กน้อยก็…”
ครัง้ นีเ้ ฉินซื่อตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ตัดบทสนทนาป้าเฉินอย่างไม่ออ้ มค้อม “นางเป็ น
เช่นนี ้ ล้วนเป็ นเพราะพวกเจ้าตามใจจนเหลิง นายท่านสามมีบุญคุณกับสกุลพวกเรา อย่าพูด
เลยว่าทําขนมชิงถวนล่วงหน้า แม้จะให้ขา้ ทําเป็ ดแปดสมบัติ 2ด้วยตัวเอง ข้าก็เต็มใจอย่างยิ่ง
178

แต่พดู อย่างนางนัน้ ใช่ได้ร?ึ อาศัยเพียงปากไว หากอาหารไม่ถกู ฤดูกาล ทําออกมาไม่ได้จะเกิด


อันใดขึน้ ?” พูดถึงตรงนี ้ ก็กลัดกลุม้ ขึน้ มาอีกครัง้ “หญ้าอ้ายเฉ่าไม่หอม ย่อมไม่ให้รสชาติกลิ่น
อายเหมือนช่วงเช็งเม้ง นายท่านสามสกุลเผยเคยกินแต่อาหารเลิศรสชัน้ ดี หากไม่ชอบใจขึน้ มา
จะทําอย่างไร? ยังมิสสู้ ง่ ของอย่างอื่นไปให้?”
ป้าเฉินทําได้เพียงปลอบใจนาง “นี่ไม่ใช่ว่าคุณหนูอวีช้ อบกินขนมชิงถวนของท่านหรอก
หรือเจ้าคะ? คิดว่าขนมชิงถวนของท่านอร่อยไม่มีใครสูไ้ ด้ จึงผลัง้ ปากเอ่ยชื่อชิงถวนออกมา
นายหญิ ง ก็ อ ย่า ตํา หนิ คุณ หนูอี ก เลยเจ้า ค่ ะ วัน นี ท้ ่ า นก่ น ว่ า นางตั้ง แต่เ ช้า ตรู ่ ยัง ดี ท่ี คุณหนู

2
เป็ ดแปดสมบัติ อาหารท้องถิ่นที่เลื่องชื่อของแถบซั่งไห่และซูโจว โดยจะผ่าหลังเป็ ดยัดส่วนผสมต่างๆ อย่างเช่น ข้าว
เหนียว กุง้ แห้ง เห็ด เกาลัด จากนัน้ ก็นาํ ไปตุน๋
872

กตัญ�ูว่าง่าย ฟั งอย่างไม่ปริปากอันใด หากเปลี่ยนเป็ นคนอื่น คงจะโมโหวิ่งออกไปนานแล้ว


เจ้าค่ะ อีกอย่าง นางก็ไม่ได้ทาํ เพื่อตนเองนะเจ้าคะ”
เฉินซื่อไม่กล่าวอันใดอีกแล้ว
ชาติก่อน กระทั่งเผยเยี่ยนชอบใส่เสือ้ ผ้าสีอะไร นั่งรถม้าแบบไหน ดื่มชาอันใด ทุกคนก็
ยังไม่มีใครรู ้ ให้สืบข่าวว่าเขาชอบกินอะไร…นี่ให้นางไปทะเลาะกับฮูหยินหลี่ยงั ง่ายกว่าเสียอีก!
แต่นางก็เข้าใจเจตนาของมารดาดี
หากของที่สง่ ไปสกุลเผย ไม่เป็ นที่ช่ืนชอบของเผยเยี่ยน ประจบไม่ถกู ที่ถกู ทาง อยากโอ้
อวดความฉลาดสุดท้ายจะกลายเป็ นแสดงความโง่เขลาก็ย่งิ จะเป็ นปั ญหามากกว่า
เฮ้อ!
นางก็ไม่รูว้ า่ เหตุใดตัวเองจึงเอ่ยถึงขนมชิงถวนออกไปโดยไม่รูต้ วั
แต่วา่ เขายังอยูใ่ นช่วงไว้ทกุ ข์ พวกไส้ถ่ วั เขียว ก็คงพอได้กระมัง?
อวีถ้ งั เดินเป็ นหนูติดจั่นอยู่ในเรือน ยืดคอมองชะเง้ออยู่ดา้ นนอกห้องครัว เห็นว่าโทสะ
ของมารดาคงคลายลงแล้ว เวลานีจ้ ึงเดินเข้าไปในครัวด้วยใบหน้าเปื ้อนยิม้ “ท่านแม่ สีสนั ยิ่ง
มากก็ย่งิ แสดงให้เห็นว่าขนมชิงถวนของสกุลเรามีฝีมือ ท่านดูวา่ ยังมีไส้อะไรอีก ทําเพิ่มเข้าไปได้
ทัง้ นัน้ ส่งขนมหวานไม่ใช่พิถีพิถนั เรื่องความหลากหลายหรอกรึ? พวกเราก็ใส่ไปสี่ไส้ไม่ก็แปด
ไส้!”
เฉินซื่อคร้านที่จะพูดกับนาง กําชับกับป้าเฉิน “ตัง้ แต่พรุง่ นีเ้ ป็ นต้นไป ให้คณ
ุ หนูเข้ามา
ช่วยในครัวด้วย”
อวีถ้ ัง ตกใจจนสติลอยล่อง วิ่ ง ออกไปพลางเอ่ย “ท่ า นแม่ ท่า นพ่อทํา โทษข้า ให้คัด
ตัวอักษรหมื่นตัว ข้ายังคัดไม่เสร็จเลย! รอข้าคัดอักษรเสร็จก่อนค่อยลงโทษเถิดเจ้าค่ะ”
873

เฉินซื่อมองตามแผ่นหลังของลูกสาว นึกถึงที่นางชอบก่อเรื่องยุ่งตัง้ แต่เด็ก ก็อดยิม้ มุม


ปากขึน้ มาไม่ได้ ยังคงทําเหมือนที่อวีถ้ ังว่าจริงๆ ทําขนมชิงถวนไส้งา เม็ดบัว ถั่วแดง และถั่ว
เขียว คละกันไป ก่อนจะให้อวีป้ ๋ อช่วยนําไปส่งที่จวนสกุลเผย

สองวันนี ้ เผยเยี่ยนยุ่งจนเท้าแทบไม่ติดพืน้ หากไม่พบคนนัน้ ก็ตอ้ นรับคนนี ้ ลําพังแค่


นายท่านสี่สกุลซ่งยังพยายามตามตัวเขาอยู่ทุกเวลา “สกุลอื่นใดจะรู ใ้ จดีเท่าพวกเราสองสกุล
หากจะร่วมมือ แน่นอนว่าพวกเราสองสกุลเหมาะสมที่สดุ หากเจ้าไม่อยากยุ่งจริงๆ หาอีกสัก
สกุลก็เพียงพอแล้ว พวกเราสองสกุลคอยจัดการเรื่องราว เจ้านั่งแบ่งผลประโยชน์ คิดว่าเป็ น
อย่างไร?”
กล่าวโดยสรุปแล้ว ยังคงอยากให้เขาเป็ นหลักประกัน
ยามนีเ้ ขาอดนึกถึงสกุลอวีข้ นึ ้ มาไม่ได้
โดยเฉพาะคุณหนูอวี ้
ยามที่เขาใจสั่นคลอนแทนสกุลพวกเขา นางกลับยังคงรักษาความสงบเช่นเดิม รูต้ วั เอง
ว่าสามารถกินข้าวได้ก่ีชาม ทําเรื่องอะไรได้บา้ ง
ให้เวลาสกุลอวีอ้ ีกสักหน่อย สกุลพวกเขาย่อมรุง่ เรืองเฟื่ องฟูขนึ ้ มาอย่างแน่นอน
เผยเยี่ยนบอกปั ดนายท่านสี่สกุลซ่ง “หลายวันมานีผ้ ูเ้ ข้าร่วมประมูลล้วนทยอยเข้ามา
พักอย่างไม่ขาดสาย ท่านก็รูจ้ กั อยู่ไม่นอ้ ย เข้าไปพูดคุยทีละคนเถิด! ให้ขา้ เข้าไปพัวพันเป็ นคน
กลางได้อย่างไร? คนอื่นยังจะคิดว่าข้ามีเจตนาแฝงน่ะสิ!”
นายท่านสี่สกุลซ่งทราบตัง้ นานแล้วว่าญาติผนู้ อ้ งคนนีข้ องตนมีความสามารถ คิดจะ
ทําเรื่องอะไรล้วนประสบความสําเร็จ ไม่ยอมให้เขาปฏิเสธโดยง่าย “รูจ้ กั ก็สว่ นรูจ้ กั แต่ไม่เคยทํา
การค้าด้วยกันมาก่อน สุดท้ายแล้วก็ยงั คงไม่สบายใจ เห็นแก่ฐานะญาติสกั ครัง้ อย่างไรเจ้าก็
ช่วยข้าออกความคิดหน่อยเถิด”
874

ขณะที่ทงั้ สองยืดเยือ้ กันอยู่อย่างนัน้ ขนมชิงถวนของสกุลอวีก้ ็ถกู ส่งเข้ามา


เผยเยี่ยนฉวยโอกาสกลับห้องหนังสือของตัวเอง รูส้ กึ ตื่นเต้นกับขนมชิงถวนที่ส่งมาไม่
น้อย รอจนเปิ ดดู คาดไม่ถึงว่ายังมีไส้ถ่วั เขียว เขาพลันรูส้ กึ อบอุน่ ในใจขึน้ มา
ผูท้ ่ีจาํ ได้ว่าเขายังอยู่ช่วงไว้ทกุ ข์ ก็คงมีเพียงสกุลอวี ้ มีเพียงคุณหนูของสกุลอวีค้ นเดียว
เท่านัน้
แม้จะกล่าวว่าหญิงสาวผูน้ ีเ้ ที่ยวไปทําเรื่องนูน้ เรื่องนีเ้ พราะอยากตอบแทน กลับเป็ น
การตอบแทนที่ทาํ ให้คนรูส้ กึ ดี นี่ก็นบั เป็ นความสามารถหนึ่งเช่นกัน
เขากินขนมชิงถวนไปลูกหนึ่ง
รสชาติธรรมดาอย่างยิ่ง
แต่เขายังคงเรียกเผยหม่านเข้ามาถาม “ช่วงนีค้ ณ
ุ หนูอวีท้ าํ อะไรบ้าง?”
เผยหม่านตกตะลึงอยู่บา้ ง
เขาเป็ นพ่อบ้านใหญ่ ของสกุลเผย ทุกวันล้วนต้องสนใจภาระเรื่องราวไม่รูม้ ากมาย
เท่าใด ยิ่งไปกว่านัน้ คุณหนูอวีย้ งั เป็ นเพียงสตรีคนหนึ่ง แม้เขาอยากจะจับตาดูสกุลอวี ้ ก็ควรจับ
ตาดูนายท่านอวีม้ ากกว่า!
แต่เขาตอบคําถามเจ้านายไม่ได้ ก็นบั ว่าเป็ นเขาที่บกพร่อง
“ข้าจะให้คนไปสืบถามเดี๋ยวนีข้ อรับ!” เผยหม่านเอ่ยทันที
เผยเยี่ยนก็ไม่ได้จริงจังนัก ผงกศีรษะ ก่อนจะกินไปอีกลูก ถามเผยหม่าน “สกุลอวีส้ ่ง
ขนมชิงถวนมากี่กล่อง? ส่วนที่เหลือนําไปให้ท่านแม่เฒ่า” เขาครุน่ คิดเล็กน้อย ก่อนจะเสริมอีก
ประโยค “ทางบ้านใหญ่และบ้านรองก็สง่ ไปให้ชิมด้วย”
เผยหม่านรับคําสั่ง ก่อนขอตัวออกไป
ทิง้ เผยเยี่ยนให้นอนอ่านหนังสือเล่นอยู่บนเก้าอีโ้ ยก
875

ด้านหูซิ่ง อวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนเดินทางเข้าเมืองอย่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า


“รบกวนท่า นมาสองวัน แล้ว ” อวี เ้ หวิ น เอ่ย เชิ ญหูซิ่ง ด้ว ยความจริง ใจ “ข้า ให้อาเสา
ล่วงหน้าส่งจดหมายให้ท่ีเรือนแล้ว ในเรือนคงเตรียมอาหารสุราไว้เรียบร้อยหมดแล้ว ข้าอยาก
ชวนท่านดื่มสุราเสียหน่อย”

สองวันมานีห้ ซู ิ่ง อวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนไปดูพืน้ ที่ภเู ขาผืนนัน้ เดินจนขาปวดไปหมด เขา


จึงไม่คิดปฏิเสธ “ได้สิ! เช่นนัน้ ก็รบกวนแล้ว!”
“ดูท่านสิ พูดอะไรกัน!” ทัง้ สามคนกล่าวเกรงใจเป็ นพิธี ก่อนจะกลับตรอกชิงจู๋
เฉินซื่อเตรียมสุราอาหารไว้นานแล้วดังคาด หูซิ่งและอาหลานสกุลอวีน้ ่ งั ล้อมอยู่หน้า
โต๊ะสี่เหลี่ยม ดื่มสุรา ทัง้ พูดคุยเรื่องพืน้ ที่ผืนนัน้ ของสกุลอวีไ้ ปพลาง “ก็ไม่รูว้ ่าใครเป็ นคนเสนอ
ความคิดนีใ้ ห้คุณหนูอวีข้ องพวกเจ้า ไม่ใช่ว่าต้นซาจี๋ปลูกไม่ได้ เพียงต้นทุนกลับสูงเกินไป แต่
หากปลูกพวกต้นเถาต้นท้อ ดินทรายมาก กลัวแค่วา่ ผลออกมาจะไม่อร่อยเท่าใด หรือจะปลูกถั่ว
ลิสงก็ได้ แต่ถ่ วั ลิสงขายไม่ค่อยได้ราคา เรื่องนีข้ า้ ก็ตดั สินใจยาก ท้ายที่สดุ ยังต้องเป็ นสกุลพวก
เจ้าที่ตดั สินใจเองว่าจะทําอย่างไร?”
อวีเ้ หวินหัวเราะร่อ คิดว่าใครเป็ นคนผูก คนนัน้ ก็ตอ้ งแก้ เอ่ยกับอวีห้ ย่วน “เจ้าเอาเรื่องนี ้
ไปบอกน้องสาวเจ้าสิ ดูวา่ น้องเจ้าจะพูดอย่างไร”
อวีถ้ งั จึงปลีกตัวออกไปพบอวีถ้ งั
อวีถ้ งั กําลังรอข่าวคราว ฟั งจบก็กลืนไม่เข้า คายไม่ออกอยู่บา้ ง
ชาติก่อนกับชาตินีไ้ ม่เหมือนกันจริงๆ
ช่วงนีน้ างก็ไม่ย่งุ อะไร จึงส่งคนไปสืบข่าวการซือ้ ขายผลไม้เชื่อม
876

แม้จะกําไรสูงกว่าพืชในไร่สวน แต่ก็ไม่ได้เงินมากนัก
นางเอ่ยกับอวีห้ ย่วน “ท่านบอกท่านพ่อก่อนว่า เรื่องนีข้ อเวลาให้ขา้ คิดเสียหน่อย”
อวีห้ ย่วนก็เข้ามาอย่างกะทันหันอยู่บา้ ง เวลานีค้ ิดว่าควรใจเย็นเสียหน่อย
เขากลับไปบอกอวีเ้ หวิน อวีเ้ หวินก็ไม่เร่งรัดจะเอาคําตอบ กลับดื่มสุรากับหูซิ่งอย่างเปิ ด
อก รินสุราให้หซู ิ่งไม่ขาด จนสุดท้ายเอาแต่เรียกอวีเ้ หวินว่า นายท่านอวีอ้ ยู่คาํ เดียว ดูนอบน้อม
นับถือเป็ นอย่างยิ่ง
อวีเ้ หวินก็ด่มื เยอะอยู่บา้ ง ยืนแทบไม่ม่นั คง
อวีห้ ย่วนทําได้เพียงส่งหูซิ่งกลับไป
ผลปรากฏว่า ยามที่ไปกลับพบเจอเผยหม่าน
เผยหม่ า นรู ว้ ่า หูซ่ิง ไปทํา อะไร นึก ถึ ง ก่ อ นหน้า นี ท้ ่ี เ ผยเยี่ ย นถามเขา เขาจึง อดถาม
อวีห้ ย่วนไม่ได้ “เรื่องทางภูเขานัน้ ยังราบรื่นหรือไม่?”
“ไม่ราบรื่นเท่าใด” ก่อนหน้านีอ้ วีห้ ย่วนยังมีความรู ส้ ึกบ้าบิ่นฮึกเหิมอยู่บา้ ง ยามนีย้ ่ิงรู ้
เรื่องในแวดวงค้าขายมากเท่าใด ก็ย่ิงระวังรอบคอบมากขึน้ เท่านัน้ เขาเอ่ยด้วยรอยยิม้ “หาก
ทางพ่อบ้านใหญ่มีความคิดน่าสนใจอะไร ก็บอกข้าโดยตรงได้”
“ได้สิ!” เผยเยี่ยนตอบรับอย่างตรงไปตรงมา

อวีถ้ งั ปรึกษาหารือกับอวีห้ ย่วน “หรือพวกเราจะปลูกถั่วลิสง? ข้ารู จ้ กั ขนมถั่วประเภท


หนึ่ง อร่อยอย่างยิ่ง อย่างไรช่วงนีข้ า้ ก็ไม่มีอะไรทํา ให้ปา้ เฉินช่วยข้าทําออกมาให้พวกท่านชิมดู
เสียหน่อยแล้วกัน!”
อย่างไรตอนนีก้ ็ไม่มีความคิดอะไรดีไปกว่านีแ้ ล้ว
อวีห้ ย่วนเห็นด้วย
877

อวีถ้ งั จึงดึงป้าเฉินและซวงเถาไปช่วยกันทําขนมถั่วตัดกรอบ
เฉินซื่อมองอยู่ดา้ นข้าง “นี่ตอ้ งใช้ถ่ วั ลิสงกี่กิโลกัน?”
จริงด้วย!
อวีถ้ งั ท้อใจอยู่บา้ ง อยากกระจ่างใจว่า เหตุใดชาติก่อนเผยเยี่ยนจึงทําผลไม้เชื่อม เพียง
ยามนีเ้ ผยเยี่ยนกําลังยุ่งเรื่องการประมูล นางไม่อาจไปหาถึงประตูได้
เช่นนัน้ พืน้ ที่ภเู ขาของสกุลพวกนางควรปลูกอะไรดีนะ?
อวีถ้ งั คิดว่า ขนมถั่วตัดกรอบที่ทาํ ออกมาไม่อาจสิน้ เปลืองได้ จึงบรรจุใส่กล่อง นําไปส่ง
ที่จวนสกุลเผย ส่วนที่เหลือก็มอบให้เพื่อนบ้านและสหาย ทัง้ ยังเตรียมไว้ใช้ในงานแต่งสะใภ้ขอ
งอวีห้ ย่วนด้วย
ชั่วพริบตาก็ล่วงเข้าสู่เดือนสาม แม้อวีถ้ ังจะไม่ออกจากเรือน ก็ได้ยินป้าเฉินที่ออกไป
จับจ่ายซือ้ ของเอ่ยว่า นับวันเมืองหลินอันก็มีคนแปลกหน้ามากขึน้ เรื่อยๆ “ทัง้ ดูเหมือนเป็ นสกุล
มั่งคั่งรํ่ารวย ได้ยินว่าเรือนหลังเล็กทางตะวันออกของท่านอูก๋ ็ถกู เช่าไปหมด ไม่รูว้ า่ เมืองหลินอัน
เกิดเรื่องอันใดขึน้ ?”
อวีถ้ งั ก็ดี เฉินซื่อก็ช่าง ล้วนทําเป็ นว่าไม่ได้ยิน

หลี่ตวนกลับรูส้ กึ ว้าวุน่ ใจอย่างยิ่ง


ไม่รอเก็บโคมวันที่สิบเจ็ด เดือนอ้าย หลินเจวี๋ยก็นาํ ภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมนํา้ ’ กลับฝู
เจีย้ น
ก่อนหน้านีเ้ ขายังคิดว่าอาจารย์ท่ีหลินเจวี๋ยหามาซ่อมแซมส่วนเสียหายเล็กๆ กลาง
ภาพนัน้ เรียบร้อยแล้ว ไม่ก่ีวันก่อนจึงเพิ่งทราบว่า ที่แท้เพื่อเร่งให้ทนั เวลา หลินเจวี๋ยเพียงให้
อาจารย์ประเมินการส่วนที่เสียหาย วาดเติมแต่งไม่ก่ีครัง้ เข้าไปแทน
878

ก็ไม่รูว้ า่ ส่วนที่วาดเพิ่มเข้าไปนี ้ จะเป็ นปั ญหาหรือไม่?


สกุลเผยดูเ หมื อนจะมี เ รื่องอัน ใดเกิ ดขึน้ แต่เ หล่า คหบดี ของเมื องหลิน อัน กลับไม่ รู ้
เรื่องราวสักคน
เขารูส้ กึ สังหรณ์ใจไม่ดีอย่างหนึ่งอยู่เลือนราง
ดูเหมือนว่ามีเรื่องใหญ่อะไรที่สาํ คัญเกิดขึน้ ทว่าสกุลพวกเขากลับถูกสกุลเผยผลักไส
ให้อยู่ดา้ นนอก
879

บทที่ 110 ลมตะวันออก


หลี่ตวนกําลังตรึกตรอง เรื่องนีไ้ ม่อาจปล่อยไปโดยไม่สนใจได้ ต้องหาคนออกไปสืบดู
หน่อย แต่วา่ จะส่งใครไปนัน้ เวลานีเ้ ขายังไม่มีตวั เลือกที่เหมาะสม
ครัง้ ก่อนเพราะเรื่องเว่ยเสี่ยวซาน คนพวกนัน้ ที่สกุลเขาเคยเลีย้ งเอาไว้ก็ถกู ท่านข้าหลวง
ทังขับไล่ไปแล้ว คนที่เลีย้ งไว้หนีหายไปหมดไม่เท่าไร สกุลเขายังต้องมาถูกพวกคหบดีของเมือง
หลินอันกับสกุลเผยจับตามองอีก เขาจึงไม่อาจรับคนเข้ามาใหม่ได้ งานลับๆ ในเรือนจึงไม่มีใคร
ทํา ข่าวสารที่หาได้ก็ไม่รวดเร็วเหมือนแต่ก่อน ทัง้ หลายๆ เรื่องก็ตอ้ งชะงักติดขัดไปด้วย
หรือว่า ควรสมัครพรรคพวกที่เป็ นคุณชายเสเพลดี?
หลี่ตวนกําลังขบคิดอย่างละเอียดว่าในเมืองหลินอันนีม้ ีใครเป็ นนักเลงที่พอมีหน้ามีตา
บ้าง พลันหลินเจวี๋ยก็มาถึงพอดี
เขาลุกยืนขึน้ ทางหนึ่งก็เดินออกไปรับหลินเจวี๋ย อีกทางก็ถามบ่าวรับใช้ท่ีมาแจ้งข่าวว่า
“คุณชายมาคนเดียวหรือว่ามาพร้อมกับผูอ้ ่นื ด้วย?”
หลินเจวี๋ยกลับฝูเจีย้ นครานีเ้ พื่อไปติดต่อคนของสกุลเผิง ไม่รูว้ ่าจัดการเรื่องราวเป็ น
อย่างไรแล้วบ้าง?
เพียงแต่ไม่รอให้บ่าวรับใช้อา้ ปากตอบ เขาก็เจอกับหลินเจวี๋ยที่ถูกล้อมหน้าล้อมหลัง
ด้วยบ่าวรับใช้เข้าพอดี
หลินเจวี๋ยสีหน้าอึมครึม เห็นหน้าหลี่ตวนไม่เพียงทักทายตามมารยาทซํา้ ยังเอ่ยเข้า
ประเด็นทันทีวา่ “อาตวน พวกเราไปคุยที่หอ้ งหนังสือเถอะ!”
หลี่ตวนหัวใจกระตุกวูบ ลางสังหรณ์บอกว่าเกิดเรื่องแล้ว
สีหน้าของเขาเคร่งเครียดขึน้ ทันควัน แล้วโบกมือไล่บา่ วรับใช้ท่ีอยู่ขา้ งกาย
พวกบ่าวรับใช้พากันถอยออกไป
880

หลินเจวี๋ยกับหลี่ตวนเดินเข้าไปในห้องหนังสือ
หลี่ตวนไม่ได้เรียกสาวใช้ เขาชงชาให้หลินเจวี๋ยด้วยตนเอง
หลินเจวี๋ยแกะผ้าคลุมไหล่ออกคล้ายจะรําคาญ ก่อนจะโยนมันทิง้ ไว้บนตั่งเอนไม้ เอ่ย
ปากถามหลี่ตวนในทันที “อาตวน แย่แล้วล่ะ! ครัง้ นีน้ ายท่านใหญ่สกุลเผิงก็มาพร้อมกับข้าด้วย
บอกว่าสกุลเผยได้แผนที่เดินเรือมาหนึ่งแผ่นอย่างไม่ตงั้ ใจ สามารถเดินทางจากกว่างโจวไปถึง
อาหรับได้ สกุลเถาแห่งกว่างโจวได้ลองเดินเรือไปแล้ว เส้นทางนัน้ ใช้ได้จริงๆ…”
“เจ้าว่าอะไรนะ?” เหมือนกับสายฟ้าฟาดกลางวันแสกๆ หลี่ตวนมือสั่นระริก โถใส่ใบชา
ร่วงลงพืน้ ดัง ‘เพล้ง’ ชาปี ้หลัวชุน 1ชัน้ ยอดกระจายทั่วพืน้ เขาหมุนตัวกลับมา มองหน้าหลินเจวี๋ย
179

ด้วยสีหน้าทะมึนเหมือนหมึกดํา “สกุลเผยได้แผนที่เดินเรือมาแผ่นหนึ่ง?”
ก่อนหน้านีเ้ ขาก็วิตกอยู่ตลอดกลัวว่าแผนที่จะมีปัญหา แต่คิดไม่ถึงว่า เรื่องของแผนที่
ยังไม่ทนั อธิบายให้ชดั เจน ตอนนีก้ ลับมาเกิดปั ญหาเช่นนีข้ นึ ้ ได้!
หลินเจวี๋ยมองไปทางหลี่ตวน สูดหายใจลึกๆ ทีหนึ่ง รู ส้ ึกว่าความสับสนในใจค่อยๆ
สงบลงบ้าง ความคิดก็แจ่มชัดขึน้ หลายส่วน “ข้าบึ่งม้าเร็วไปที่ฝูเจีย้ น นําภาพผืนนัน้ ไปส่งให้
สกุลเผิง สกุลเผิงตรวจสอบรูปภาพและแผนที่ก็พงึ พอใจอย่างมาก จากนัน้ ข้าก็ยึดตามสิ่งที่เรา
หารือ ไว้ก่ อ นหน้า บอกว่ า ไม่ ต ้อ งการรางวัล ตอบแทน ต่อ ไปหากสกุล เผิ ง ทํา การค้า โดยใช้
เส้นทางเรือสายนี ้ พวกเราจะขอลงหุน้ ด้วย คนที่มาพบข้าคือนายท่านสิบเอ็ดแห่งสกุลเผิง อีก
อย่าง ครัง้ นีเ้ ขาก็ติดตามนายท่านใหญ่สกุลเผิงมาด้วย ตอนนัน้ เขาตกปากรับคําแล้ว ข้าคิดว่า
เพียงลมปากไร้หลักประกัน จึงอยากให้เขียนลายลักษณ์อักษรไว้เป็ นหลักฐาน อยากจะร่าง
หนังสือกับสกุลเขาไว้สกั ฉบับ นายท่านสิบเอ็ดก็รบั ปากแล้วเช่นกัน”

1
ชาปี ้หลัวชุน เป็ นชาที่ถกู ปลูกร่วมกับต้นไม้ผลชนิดต่างๆ ได้แก่ตน้ สาลี่ ท้อ บ๊วย พลับ ส้มจีน ไป๋ กว๋อและทับทิม ดังนัน้ ชา
ปี ้หลัวชุน จึงมีกลิ่นหอมหวนของดอกไม้ผลเหล่านัน้ ติดมากับใบชาด้วย นับว่าเป็ นความโดดเด่นของชาปี ้หลัวชุน
881

“เพียงแต่ว่าการร่างหนังสือต้องใช้เวลา อีกอย่างข้าก็พยายามบอกเป็ นนัยๆ ว่าบน


หนังสือต้องประทับตราของสกุลเผิงด้วย ข้าจึงต้องค้างแรมอยู่ท่ีจวนสกุลเผิงคืนหนึ่ง เช้าวันที่
สอง นายท่านสิบเอ็ดก็ถือหนังสือฉบับร่างมาหารือรายละเอียดกับข้าด้วยตนเอง ใครจะคิดว่า
พอกินข้าวเที่ยงเสร็จ สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปเสียแล้ว”
“นายท่านใหญ่สกุลเผิงมาพบข้า ถามถึงวิธีท่ีขา้ ได้แผนที่ผืนนีม้ า แน่นอนว่าข้าไม่อาจ
เอ่ยถึงสกุลอวีก้ บั สกุลเว่ยได้ เพียงบอกว่าอาศัยเบาะแสที่พวกเขาให้มากระทั่งตามหาหลูซ่ ิ่นจน
พบ คิดไม่ถึงว่าหลูซ่ ิ่นที่ตอนแรกรับปากจะขายภาพให้พวกเรา จะดื่มเหล้าเกินขนาดจนตายไป
สิ่งของของหลู่ซิ่นถึงได้ไปตกอยู่ในมือสกุลอวี ้ ด้วยกลัวจะแหวกหญ้าให้งูต่ืนแล้วไปกระตุน้
ความสนใจของสกุลเผยเข้า พวกเราจึงยุให้คนในสกุลหลู่ไปชิงสมบัติท่ีเหลือของหลูซ่ ิ่นกลับมา
จากนัน้ ก็จ่ายเงินห้าร้อยตําลึงเพื่อซือ้ ภาพนัน้ จากคนในสกุลหลูอ่ ีกที”
เล่าถึงตรงนี ้ หลินเจวี๋ยรูส้ กึ ว่าเหงื่อผุดไปทั่วหน้า นํา้ เสียงก็กดตํ่าลงหลายส่วน เขาเอ่ย
ต่อไปว่า “นายท่านใหญ่ตงั้ ใจฟั งอย่างละเอียด ตอนนัน้ ไม่ได้พดู อะไรเลยสักคํา เพียงให้ขา้ เก็บ
สัมภาระให้เรียบร้อย แล้วติดตามเขาไปเมืองหลินอันสักหน ข้าได้ฟังก็มึนงงทันที จึงถามนาย
ท่านใหญ่วา่ เกิดเรื่องอันใดขึน้ นายท่านใหญ่กลับยิม้ จนตาหยี แล้วบอกว่าเขาไม่คนุ้ เคยกับเมือง
หลินอัน จึงอยากให้ขา้ ช่วยนําทางไป”
“ข้าเป็ นใครกันเล่า? ยังไม่ทนั เดินเป็ นก็ติดตามท่านพ่อตระเวนไปทั่วแดนเหนือใต้แล้ว
คนประเภทไหนล้วนพบเจอมาจนหมด มีเรื่องใดบ้างไม่เคยได้เห็นได้ฟัง พอข้าได้ยินเช่นนีก้ ็รูส้ กึ
เอะใจ แต่ตอนนัน้ ข้าอาศัยอยู่ในเรือนของสกุลเผิง กินก็กินอาหารของสกุลเผิง กลัวว่าพวกเขา
จะฆ่าข้าให้ตายอย่างเงียบเชียบขึน้ มาจริงๆ จึงแสร้งทําเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึน้ แล้วเก็บข้าว
ของติดตามนายท่านใหญ่เร่งเดินทางทัง้ วันคืนจนพ้นประตูเมือง”
“ระหว่างทางข้าเพิ่งจะสืบรู อ้ ย่างชัดเจน ที่แท้สกุลเผยไม่รูว้ ่าได้แผนที่ผืนหนึ่งมาจาก
ไหน ซึ่งมันก็คือแผนที่ท่ีสกุลเผิงต้องการ สกุลเผยยังส่งเทียบเชิญอย่างเปิ ดเผยยิ่งใหญ่ เชิญ
สกุลใหญ่แต่ละพืน้ ที่มายังเมืองหลินอันเพื่อร่วมประมูล บอกว่าใครให้เงินมากที่สดุ ก็จะมอบ
แผนที่ให้กบั คนผูน้ นั้ ? เงินประกันเข้างานคือสองพันตําลึง…”
882

ดังนั้น หลายวันนีท้ ่ีเมืองหลินอันมีคนแปลกหน้าโผล่ขึน้ มาก็คือสกุลใหญ่จากแต่ละ


พืน้ ที่เช่นนัน้ หรือ?
หลี่ตวนไม่มีเวลามาสนใจใบชาที่กระจายอยู่เต็มพืน้ สีหน้าเขาอึมครึมเหมือนฝนตัง้ เค้า
เขาเอือ้ มมือไปรินนํา้ เปล่าส่งให้หลินเจวี๋ยแทน “สกุลเผิงต้องการอะไร? สงสัยว่าพวกเรามอบ
ภาพผืนนัน้ ให้สกุลเผยหรือ?”
หลินเจวี๋ยสามารถพูดออกมาได้เลยว่าตลอดหลายคืนที่ผ่านมาเขาแทบจะปิ ดตานอน
หลับไม่สนิท ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึงเรื่องกินดื่มเลย
เขารับถ้วยนํา้ แล้วกรอก ‘อึกๆๆ’ ลงคอรวดเดียวหมด จากนัน้ จึงเอ่ยปากว่า “คนสกุล
เผิงไม่ได้พดู อะไร แต่มนั ก็ชดั เจนอยู่แล้วมิใช่หรือ? ทันทีท่ีเข้าเมืองหลินอัน นายท่านใหญ่สกุล
เผิงก็ให้ขา้ มาหาเจ้า ส่วนเขาพานายท่านสิบเอ็ดไปยังที่พกั ซึง่ สกุลเผยเตรียมเอาไว้รบั รองแขกที่
มาร่วมประมูล แถมยังบอกข้าอีกว่า วันนีช้ ่วงคํ่านายท่านสิบเอ็ดจะแวะมาเยี่ยมพวกเรา ข้าตรึก
ตรองดู ในเมื่ อ สกุล เผยต้อ งการขายภาพผื น นั้น ทั้ง ยัง บอกว่า ผู้ใ ห้ร าคาสูง สุด จะได้มัน ไป
ครอบครอง นายท่านใหญ่สกุลเผิงจึงอาศัยฐานะผูเ้ ข้าร่วมประมูลเข้าไปพักที่สกุลเผย มากกว่า
ครึ่ง คงเพราะอยากเห็ น ว่ า แผนที่ ผื น นั้น กับ แผนที่ ท่ี อ ยู่ใ นภาพ ‘ตกปลาใต้ต ้น สนริม นํา้ ’ จะ
เหมือนกันหรือไม่”
เหตุใดเรื่องราวจึงพลิกผันเป็ นเช่นนีไ้ ด้?
ในใจของหลี่ตวนกระวนกระวายอย่างหนัก
แต่เขากับหลิน เจวี๋ย เป็ น ทั้ง ญาติ ท างสายเลื อด ทั้ง เป็ น คนที่ ร่ว มงานกัน คํา บางคํา
สามารถพูดกับญาติตนเองได้ แต่กับผูร้ ่วมงานนัน้ พูดออกไปไม่ได้เด็ดขาด เขาไม่อาจแสดง
อารมณ์ต่อหน้าหลินเจวี๋ยได้ มิฉะนัน้ อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ของสกุลหลี่กบั สกุลหลิน หลิน
เจวี๋ยจะต้องคิดว่าเขาอ่อนแอ ย่อมไม่อาจเชื่อฟั งสกุลเขาอย่างเมื่อก่อนอีก
“มีอะไรให้ตอ้ งกลัวเล่า?” เขาอดจะวางสีหน้าเย็นเยียบและสงบนิ่งออกมาไม่ได้ พลาง
เอ่ยด้วยเสียงเฉยเมยว่า “เบาะแสของภาพนัน้ สกุลเผิงเป็ นคนให้มา พวกเราแค่ทาํ ตามความ
883

ต้องการของเขา หาภาพส่งให้สกุลเผิง สกุลเขาตรวจสอบแล้วยืนยันว่าภาพนัน้ เป็ นของจริง


ตอนนีพ้ อเกิดข้อผิดพลาด แล้วเกี่ยวอะไรกับพวกเราด้วย? ตอนกลางคืนยังคิดจะแวะมาเยี่ยม
อีก!” หลี่ตวนร้องเหอะเสียงหนึ่ง “เช่นนัน้ ก็ให้พวกเขามาเถอะ ข้ายังอยากถามพวกเขาสกุลเผิง
ว่าเรื่องนีส้ มควรจัดการอย่างไร? ก่อนหน้านีม้ ิใช่บอกว่าภาพมีเพียงผืนเดียวหรือ? เช่นนัน้ แผนที่
ในมือสกุลเผยโผล่ออกมาจากไหน? สิ่งของยิ่งมีนอ้ ยยิ่งสูงค่า ต่อให้พวกเราโง่เง่าปานใด ก็ไม่มี
ทางเหยียบเรือสองแคม นําหยกชัน้ ดีไปขายต่อเป็ นหัวผักกาดขาวแน่”
ก่อนหน้านีห้ ลินเจวี๋ยรู ส้ ึกลนลาน แต่พอเห็นท่าทางที่เตรียมพร้อมอย่างดีของหลี่ตวน
แล้ว เขาพลันสงบลงทันที
เขาอดจะเอ่ยออกมาอย่างกระดากมิได้ “ข้ากลัวสกุลเผิงจะสงสัยว่าพวกเราทําข่าว
รั่วไหลน่ะสิ?”
“หากบอกว่าข่าวรั่วไหล หรือว่าพวกเขาสกุลเผิงไม่น่าสงสัยเช่นกันรึ?” หลี่ตวนเอ่ยต่อ
กระทั่งตนเองยังรู ส้ ึกถึงความมั่นใจที่เพิ่มพูนขึน้ “ก่อนที่พวกเขาจะมาหาเรา จะไม่เคยไปหา
สกุลอื่นเลยรึ? สกุลเผิงนับว่าเป็ นสกุลใหญ่ อันดับหนึ่งสองในฝูเจีย้ น แต่แผ่นดินกว้างใหญ่
ไพศาล ยังมีกว่างตง เจ้อเจียงและเจียงซู สกุลของผูอ้ ่ืนก็อาจรู ข้ ่าวของภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สน
ริมนํา้ ’ เช่นเดียวกัน หรือว่าผูอ้ ่ืนจะไม่เคยได้ยินเสียงลมพัดเลยหรือไร? เรื่องนี ้ มีโอกาสมากกว่า
ที่จะหลุดออกมาจากสกุลใหญ่ๆ กระมัง?”
หลินเจวี๋ยยิม้ เจื่อน
วาจาจะพูดเช่นนัน้ ก็ย่อมได้ แต่ก็ตอ้ งให้สกุลเผิงยอมรับเสียก่อนว่าปั ญหาเกิดจากพวก
เขาทางนัน้ เอง!
ผูอ้ ่นื มีพลังทรัพย์และอํานาจ หากว่าพาลโกรธมาที่พวกเขา แล้วพวกเขาจะทําอะไรได้?
“รอตอนคํ่าพบนายท่านสิบเอ็ดแล้วก็ค่อยว่ากันเถอะ!” หลินเจวี๋ยเอ่ยขึน้ อย่างหมดแรง
“หวังว่าแผนที่ท่ีอยู่ในมือสกุลเผยจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับเราก็แล้วกัน!”
884

เรื่องราวมาถึงขัน้ นี ้ คงได้แต่รอให้ถึงตอนคํ่า เมื่อเจอหน้าคนสกุลเผิงแล้วค่อยว่ากัน


ใหม่

ส่วนทางสกุลเผย เผยเยี่ยนกลับมามีเวลาว่างแล้ว
เรื่องดําเนินมาเกือบถึงตอนจบ สิ่งที่ควรจัดการก็จดั การแล้ว ข้อที่ควรระวังก็ระวังแล้ว
เช่นกัน ตอนนีน้ บั ว่าไม่มีเรื่องให้ทาํ อีก
อาหมิงยกกล่องขนมเล็กๆ ที่แบ่งเป็ นสี่ช่องเข้ามา ยิม้ จนตาหยีแล้วเอ่ยว่า “นายท่าน
สาม สกุลอวีส้ ง่ ขนมถั่วตัดกรอบมาให้ ท่านจะลองชิมหน่อยไหมขอรับ?”
เผยเยี่ ย นเปิ ด ฝากล่อ งขึน้ นอกจากขนมสามอย่ า งที่ เ ขาชอบกิ น ยัง มี ก้อ นนํา้ ตาล
หน้าตาแปลกประหลาดอยู่อีกอย่าง
นํา้ ตาลข้าวเกาะอยู่กบั ถั่วลิสงเม็ดอวบ นอกจากดูสดใหม่แล้ว ยังทําให้คนอยากอาหาร
อีกด้วย
เผยเยี่ยนลองชิมไปหนึ่งชิน้
มันมีทงั้ ความหอมหวานของนํา้ ตาลข้าว และความกรุบกรอบของถั่วลิสง
เผยเยี่ยนร้องเหอะทีหนึ่ง
ปกติสิ่งของที่ถูกเคลือบอยู่ดา้ นในนํา้ ตาลที่เคี่ยวออกมามักจะสุกไปด้วย แต่ว่าถั่วตัด
กรอบนีต้ งั้ ชื่อได้สมตัว กรอบร่วนเป็ นที่สดุ
ทว่า หากเพิ่มถั่วลิสงให้มากกว่านีอ้ ีกนิดก็คงดี
เขามีความรูส้ กึ ว่านี่คงเป็ นของเล่นชิน้ ใหม่ท่ีคณ
ุ หนูอวีท้ าํ ออกมาแน่
“เช่นนัน้ คุณหนูอวีก้ าํ ลังซุกซนกับสิ่งใดอยู่เล่า?” เผยเยี่ยนถาม
885

หูซิ่งหลังจากกลับมาจากบ้านเก่าสกุลอวีค้ รานัน้ ก็เสนอหน้ามารับความดีความชอบ


ทันที แน่นอนว่าเขาก็รูม้ าด้วยว่าสวนป่ าผืนนัน้ ของสกุลอวีเ้ หมาะจะเอาไว้เพาะปลูกถั่วลิสงเป็ น
ที่สดุ
เขาเอ่ยต่อว่า “พวกเขาคงไม่ได้เตรียมตัวปลูกถั่วลิสงอยู่กระมัง? ข้ามองแล้วนํา้ ตาลนี ้
ทําออกมาคงไม่ใช่ถกู ๆ ทว่า ในนํา้ ตาลยังเคลือบถั่วลิสงเอาไว้ อย่างไรก็คงถูกกว่านํา้ ตาลล้วน
ทัง้ ก้อน น่าจะขายออกอยู่หรอก กลัวแต่ว่าถั่วลิสงของฤดูกาลหนึ่งทําออกมาเป็ นถั่วตัดกรอบคง
ต้องรอถึงสามปี จึงจะขายได้ ถึงเวลานัน้ ถั่วลิสงด้านในคงไม่อร่อยแล้ว นํา้ ตาลก็คงหาซือ้ ไม่ได้
ง่ายๆ เช่นกันกระมัง?”
วาจานีแ้ ม้จะทําร้ายจิตใจเกินไปหน่อย แต่ใช่ว่าเป็ นการพูดจาสะเปะสะปะขาดความ
จริง
อาหมิงมีความประทับใจต่ออวีถ้ ัง เมื่อเผยเยี่ยนพูดเช่นนี ้ เขาจึงอดกังวลแทนอวีถ้ ัง
ไม่ได้
“ได้ยินว่าขนมถั่วตัดกรอบนีเ้ ป็ นคุณหนูถงั ที่ทาํ ออกมาขอรับ” เขามองเผยเยี่ยนอย่าง
วิตก “แต่ไม่เคยได้ยินว่าคุณหนูอวีจ้ ะทําขายนะขอรับ! บางทีอาจแค่ทาํ ขนมจากนํา้ ตาลอร่อยๆ
ออกมาเพื่อกินเล่น จึงอยากให้ท่านได้ลองชิมด้วย? ท่านช่วยเหลือพวกเขามากมายเพียงนี ้ พวก
เขาย่อมรูส้ กึ ซาบซึง้ มากแน่ขอรับ!”
วาจานีน้ บั ว่ามีเหตุผล
เผยเยี่ยนส่งเสียง “อืม” ทีหนึ่ง แล้วบอกว่า “ช่วงนีค้ ณ
ุ หนูอวีก้ าํ ลังทําขนมถั่วตัดกรอบ
อยู่หรือ?”
นับแต่ครัง้ ก่อนที่เผยเยี่ยนถามถึงอวีถ้ งั แล้วเผยหม่านตอบไม่ได้ คนในสกุลเผยจึงใส่ใจ
กับความเคลื่อนไหวของอวีถ้ งั เป็ นพิเศษ
886

อาหมิงอ้าปากก็ตอบได้ทนั ที “คุณหนูอวีท้ าํ ตามคําแนะนําของท่าน หลายวันนีล้ ว้ นไม่


ออกไปด้านนอกขอรับ คนน่าจะทําขนมถั่วตัดกรอบอยู่ท่ีเรือน ทว่าคุณหนูอวีเ้ คยส่งคนไปสืบ
เรื่องการค้าขายผลไม้เชื่อม ทัง้ ยังเคยสืบเรื่องร้านค้าจิปาถะและร้าเผาถ่านอีกด้วยขอรับ”
มุมปากของเผยเยี่ยนอดจะกระตุกขึน้ ไม่ได้
เหตุใดฟั งแล้วเหมือนกับแมลงวันไร้หวั ตัวหนึ่งที่บินชนไปทั่วเลยเล่า!
นางไม่คิดจะอยู่น่ิงๆ บ้างหรือ? แค่คอยอยู่ในเรือนเฉยๆ เท่านัน้ เอง?
887

บทที่ 111 ผลประโยชน์


ในสมองของเผยเยี่ยนมีภาพดวงตากลมโตและกระจ่างดั่งนํา้ ใสของอวีถ้ งั ลอยขึน้ มา
ไม่ว่าดวงตาคู่นนั้ มองไปทางไหนล้วนแต่เป็ นประกายระยิบระยับ เต็มเปี่ ยมด้วยความ
อยากรูอ้ ยากเห็น
หญิ ง สาวเช่ น นาง ต่อ ให้ต ้อ งติ ด แหง็ก อยู่แ ต่ใ นเรือ น นางก็ ค งหาทางทํา เรื่อ งอะไร
ออกมาได้อยู่ดีกระมัง?
เผยเยี่ยนโยนขนมถั่วตัดกรอบเข้าปาก
นี่อย่างไร ไม่ให้ออกไปข้างนอก นางอยู่ในเรือนยังทําขนมถั่วตัดกรอบออกมาได้เลย
หากขังนางให้อยู่ในเรือนต่ออีกสักหลายวัน ไม่รูว้ า่ จะมีอะไรส่งมาให้เขาอีกบ้าง?
“อาหมิง ” เขากล่า ว “ไปเชิ ญคุณหนูอวีม้ าดื่มชา” ยัง ไม่ทันจบเสีย งดี เขาก็ นึกว่ามี
แขกเหรื่ออยู่เต็มจวน จึงเปลี่ยนแผนในทันทีว่า “เป็ นข้าไปพบคุณหนูอวีจ้ ะดีกว่า เจ้าบอกให้
พวกเขาเตรี ย มเกี ้ย วแบบสามัญ ไว้ห ลัง หนึ่ ง พวกเราจะไปเงี ย บๆ แล้ว กลับ มาอย่ า งไม่
กระโตกกระตากเช่นกัน”
ช่วงพลบคํ่า ยังมีงานเลีย้ งต้อนรับมิตรสหายและแขกเหรื่ออีก
อาหมิงรับคําแล้วหายวับไป
ผ่านไปสองเค่อ เกีย้ วเล็กผ้าม่านสีเขียวหลังหนึ่งก็เคลื่อนออกจากจวนสกุลเผยไปอย่าง
ไร้เสียง
สกุลเผยเลือกหอตงไหลเป็ นสถานที่รบั รองแขก แม้ช่ือจะเรียกว่าหอ แต่ความจริงเป็ น
เรือนประสานที่คดเคีย้ วเลีย้ วลดแห่งหนึ่ง ถ้าเงยหน้ามองขึน้ ไป จะเจอกับผนังดอกไม้ทกุ หนแห่ง
ทุกพืน้ ที่เต็มไปด้วยทางเดินสายเล็กๆ หากคนเข้าไปอยู่ตรงกลาง มักทําให้สบั สนทิศและหลง
ทางได้ง่ายๆ
888

นายท่ า นใหญ่ ส กุล เผิ ง ยื น อยู่ห ลัง หน้า ต่า งบานใหญ่ ท่ี เ ปิ ด กว้า ง ทางซ้า ยคือป่ าไผ่
ทางขวาคือภูเขาจําลองและหินไท่หู 1 มองดูทิวทัศน์ท่ีเทียบเคียงได้กบั ภาพวาดก็ไม่ปาน
180

“สกุลเผยน่าสนใจไม่เลว” เขาร้องเหอะทีหนึ่งแล้วเอ่ยเสียงเบาว่า “หากพวกเราคิดจะ


บุกไปทักทายเสียหน่อย เกรงว่าคงหลงทางก่อนกระมัง?”
เขาเป็ นบุรุษอายุหา้ สิบปี ตัวสูงชะลูด หน้าขาวเคราเฟิ ้ ม คิว้ เข้มตาโต ท่าทางสง่าผ่าเผย
คล้ายบัณฑิตที่อา่ นตํารามามาก
ด้านหลังเขามีชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบห้ายี่สิบหก ดวงหน้าหยกมีรอยบากสีม่วง
พาดยาวตัง้ แต่หางตาจนถึงมุมปาก ไม่เพียงทําให้เขามีรูปโฉมดุดนั แต่ยงั ให้ความรูส้ กึ น่ากลัว
จนคนไม่กล้ามองหน้าตรงๆ
“ท่านลุงใหญ่” เขาเอ่ยเสียงเบา “เช่นนัน้ พวกเรายังจะไปเยี่ยมสกุลอู่แห่งหูโจวอยู่ไหม
ขอรับ?”
นํา้ เสียงของเขาเจือความโอนอ่อนผ่อนตามอยู่หลายส่วน ทว่าตรงหว่างคิว้ กลับเห็นถึง
ความหงุดหงิดที่บอกชัดว่าเขาเป็ นคนความอดทนตํ่าเพียงใด
สกุลเผิงกับสกุลอูเ่ คยทํากิจการบางอย่างที่ไม่อาจพูดกับคนนอกได้ จึงน่าจะพูดคุยกันรู ้
เรื่องมากกว่าสกุลอื่น
“ต้องไปสิ” นายท่านใหญ่สกุลเผิงหมุนกายกลับมา เอ่ยกับชายหนุ่มที่เด็กกว่าว่า “เผย
เยี่ยนจัดงานประมูลอะไรนี่ขนึ ้ มา มิใช่เพราะต้องการให้พวกเราไม่ก่ีสกุลฆ่าฟั นกันเองรึ ข้าได้ยิน
ว่าสกุลอูม่ าถึงก่อนใครเพื่อน ดูจากคุณธรรมของสกุลนัน้ ก่อนงานประมูลคงต้องหาวิธีลากผูอ้ ่ืน
ไปเป็ นพวกแน่ อย่างน้อยก็หา้ มให้เผยเยี่ยนควบคุมราคาได้เด็ดขาด ถึงเวลานัน้ พวกเราก็ตอ้ ง
เข้าร่วมด้วย”

1
หินไท่หู เป็ นหินปูนขาว มักมีรูหรือช่องโหว่ท่เี กิดจากการกัดเซาะของนํา้ ทะเลเป็ นเวลานาน นิยมนํามาใช้ประดับสวน
889

ชายหนุ่มผูน้ นั้ พลันงะชักคําที่อยากจะเอ่ย


นายท่านใหญ่สกุลเผิงกล่าวว่า “สืออี เจ้าจําไว้ให้ม่ นั ราชสํานักต้องการรือ้ ถอนสํานัก
ตรวจสอบการค้าทางทะเล มีเพียงผลึกกําลังกันไว้เท่านัน้ ถึงจะข้ามผ่านความเสี่ยงนีไ้ ปได้ อีก
สองวันจะเริ่มงานประมูลแล้ว เจ้าก็เก็บตัวเสียบ้าง กลางคืนออกไปข้างนอกต้องระวัง สกุลเผย
มิใช่สามัญ หากว่าถูกพบเข้า เจ้าคิดคําแก้ตา่ งเอาไว้ให้ดี ถึงเวลานัน้ ผูอ้ ่นื จะได้ไม่เข้าใจผิด”
จวนหลังนีไ้ ม่ใหญ่มาก ไม่ทนั ไรก็มีสกุลใหญ่เจ็ดแปดสกุลเข้ามาพัก ความสัมพันธ์ของ
แต่ละฝ่ ายก็ซบั ซ้อน อีกทัง้ แต่ละคนต่างก็มาเพราะแผนที่สงู ค่าเทียมเมืองผืนนัน้ หากมืดคํ่ายัง
ตระเวนไปทั่วลานไม่หลับนอน ผูอ้ ่นื อาจเข้าใจผิดได้ง่ายๆ ว่ามีเจตนาอื่นแอบแฝง
ชายหนุ่มที่ถกู เรียกว่า ‘สืออี’ นัน้ ก็คือ ‘ท่านสืออี’ ตามคําบอกเล่าของหลินเจวี๋ย
เขารับคําอย่างนอบน้อมว่า “ขอรับ” ก่อนจะเงยหน้าถามอย่างข้องใจ “สกุลเผยต่อให้
เก่งกาจเพียงใดก็มีแค่เผยโย่วเท่านัน้ ตอนนีเ้ ขาก็ตายไปแล้ว ที่เหลืออยู่ก็แค่เผยเซวียนที่ออ่ นแอ
ไร้ความสามารถ กับเผยเยี่ยนที่โอหังอวดดี ทัง้ เผยเยี่ยนยังจิตใจคับแคบ สกุลเผยเปลี่ยนมาอยู่
ในมือเขา กลับไม่หาทางทําให้รุง่ เรืองก้าวหน้า เอาแต่กดข่มบ้านหลักไปวันๆ ข้าว่า ต่อให้สกุล
เผยยังพอมีอาํ นาจอยู่ แต่ก็เป็ นแค่เรือผุพงั ลําหนึ่ง ท่านลุงไม่จาํ เป็ นต้องใส่ใจ”
นายท่านใหญ่เผิงพลันย่นคิว้
หลานชายคนนีม้ ีช่ือเสียงแต่เล็ก อายุยังน้อยก็สอบเป็ นจวี่เหรินได้แล้ว สกุลเผิงทุ่ม
กําลังเพื่อสนับสนุนเขา ปี นนั้ ทัง้ เขาและกูฉ้ ่างสกุลกูแ้ ห่งหังโจวถูกผูค้ นยกให้เป็ น ‘สองบุรุษที่กิน
กันไม่ลง’ น่าเสียดายที่ภายหลังเขาถูกคนทําให้เสียโฉมโดยไม่ตงั้ ใจ ต้องจบอนาคตเส้นทางขุน
นาง ทําได้แค่ช่วยเหลือกิจการของสกุลเท่านัน้ ทว่ากูฉ้ ่างกลับก้าวเดินบนเส้นทางนีอ้ ย่างราบรื่น
ก้าวหน้าขึน้ ทุกวัน ในใจของหลานเขาคนนีไ้ ม่อาจเป็ นสุข ถึงขนาดเคียดแค้นต่อความไม่เป็ น
ธรรม จนบางครัง้ เรื่องที่สามารถแก้ไขอย่างสันติได้ กลับถูกเขาจัดการเสียจนเลือดนองพืน้ ทํา
ให้คนรูส้ กึ สะอิดสะเอียนเป็ นที่สดุ
ทว่าหลานชายคนนีข้ องเขาก็หนักแน่นและเฉลียวฉลาด
890

หลายอย่างที่ผอู้ ่ืนไม่อาจทําสําเร็จ แต่เขาก็จบงานได้เรียบร้อย จะสละทิง้ ก็น่าเสียดาย


จะเก็บไว้ใช้ก็น่าเป็ นห่วง
ยังดีท่ีเขานับว่ากตัญ�ู งานในสกุลก็ท่มุ เทเต็มกําลังเสมอ ทัง้ เชื่อฟั งคําสั่งของผูอ้ าวุโส
ต่อให้เขาจะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของสกุล แต่หากมีคาํ ตัดสินออกมา เขาก็ปฏิบตั ิตาม
อย่างเคร่งครัด
นี่เป็ นเหตุผลว่าเหตุใดผูอ้ าวุโสหลายคนในสกุลยังคิดว่าควรจะอบรมสั่งสอนเขาให้ดี
แต่เขาก็ช่างสูงส่งเปี่ ยมคุณธรรมเสียเหลือเกิน
ยอดคนใต้หล้าต่างวิจารณ์ได้ตามใจ ใครก็ไม่อยู่ในสายตาทัง้ สิน้
แต่สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ ไม่ว่าเผยเยี่ยนและเผยเซวียนจะเป็ นคนเช่นไร แต่พวกเขา
ก็เป็ นจิน้ ซื่อสองป้ายอย่างชอบธรรม เจ้าสืออีต่อให้มีปัญญาไหวพริบ บู๊บ๋นุ ไม่เป็ นรองใคร แต่ก็
ไม่อาจทํางานรับใช้ราชสํานัก ทําได้เพียงมองผูอ้ ่ืนชีน้ ิว้ สั่งคนในแผ่นดิน ทิง้ ชื่อเสียงบนหน้า
ประวัติศาสตร์ ส่วนเขาต้องยอมรับความพ่ายแพ้ดว้ ยความอับจนต่อชะตากรรม
แต่น่ีไม่ใช่เวลาจะมาสั่งสอนเขา รอให้กลับไปฝูเจีย้ นแล้วค่อยพูดให้เขาฟั งอีกที
ไม่เช่นนัน้ เดี๋ยวเขาจะคิดเพ้อไปว่าตนสามารถแตะต้องคนพวกนัน้ ได้จริงๆ ช่างไม่รูฟ้ ้า
สูงแผ่นดินตํ่า
“ที่น่ีเป็ นถิ่นของสกุลเผย ต่อให้สกุลเผยเป็ นแค่เรือผุพงั เจ้าก็อย่าได้ประมาทเชียว” นาย
ท่านใหญ่เผิงกําชับกับเขา “อย่าลืมว่า ตอนแรกพวกเราก็คิดว่าภาพผืนนัน้ คงมาอยู่ในกํามือเรา
ได้ง่ายๆ แล้วผลสุดท้ายล่ะ?”
นัยน์ตาของเผิงสืออีพลันมีประกายโหดเหีย้ มวาบผ่าน
ตอนแรกนั้น สกุลเผิงกลัวจะทําให้สกุลเผยรู ต้ ัว เป็ นเหตุให้ชักนําสกุลอื่นที่ตอ้ งการ
ครอบครองแผนที่เข้ามาร่วมวงด้วย ถึงตัดสินใจใช้งานคนที่ไม่สะดุดตาหาวิธีนาํ ภาพวาดมาให้
ได้ เขาก็เป็ นหนี่งในคนที่เห็นด้วยเช่นเดียวกัน
891

“ท่านลุงใหญ่ ข้ารูแ้ ล้ว” เผิงสืออีคอ้ มศีรษะตํ่า “ครัง้ นีไ้ ม่มีทางพลาดอีกแน่”


นายท่านใหญ่เผิงผงกหน้ารับ
ให้หลานชายคนนีข้ องเขาจัดการ เขาค่อนข้างที่จะวางใจได้อยู่
“อีกสักพักข้าจะแวะไปหาคนของสกุลอู่ ดูว่าสกุลอู่มีท่าทีต่อเรื่องนีอ้ ย่างไร” เขาเอ่ย
เสียงเบา “ไม่แน่เราอาจร่วมมือกับสกุลอูไ่ ด้”
แผนที่ส่วนหนึ่งที่สกุลเผยนําออกมาให้พวกเขาชมนัน้ เหมือนกันกับแผนที่ท่ีอยู่ในมือ
ของพวกเขาราวกับแกะ
ตอนนีเ้ ขาไม่อาจตัดสินได้เลยว่าปั ญหาเกิดจากจุดไหน ถึงขนาดไม่อาจรูไ้ ด้เลยว่าแผน
ที่ท่ีอยู่ในมือเขาเป็ นของจริง หรือว่าแผนที่ท่ีอยู่กบั สกุลเผยที่เป็ นของจริงกันแน่ นี่คือสิ่งที่บีบให้
สกุลเขาต้องมาร่วมงานประมูลอย่างไม่มีทางเลือก
ท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผยเป็ นคนมีคณ ุ ธรรม ความหยิ่งผยองของเผยเยี่ยนนัน้ เขาก็เคยได้ยิน
มาก่อน นี่เป็ นครัง้ แรกที่เขาจะได้พบหน้าเผยเยี่ยน ไม่รูต้ ืน้ ลึกหนาบางของเขามาก่อน หากว่า
เผยเยี่ยนคิดใช้แผนที่ผืนนัน้ เป็ นตัวทําเงิน สกุลเขาคงต้องเสียเลือดครัง้ ใหญ่แน่
แต่น่ีไม่นบั ว่าเป็ นกระไร
มีเสียก็ย่อมมีได้
กลัวแต่ว่าแผนที่ท่ีเขาประมูลมาได้นีจ้ ะเหมือนกับฉบับที่อยู่ในมือเขาราวจับวาง หรือ
บางทีสิ่งที่อยู่ในมือสกุลเผยอาจเป็ นของปลอม…เช่นนัน้ ก็ทาํ ให้คนกระอักเลือดอยู่ดี
เผยเยี่ ย นแม้รู ้ว่ า สกุ ล เผิ ง ไม่ ไ ด้ม าดี แต่ เ ขามี นิ สัย ชอบหยอกสุนั ข แกล้ง แมว ยิ่ ง
เหมือนกับสกุลเผิงเช่นนี ้ เขายิ่งต้องกระตุกหนวดดูหน่อย ไม่ว่าคนสกุลเผิงจะคิดทําสิ่งใดเขา
ล้วนไม่ตงั้ ตนเป็ นปฏิปักษ์คอยขัดขวาง ทัง้ คร้านจะส่งคนให้ไปจับตาดูคนสกุลเผิงด้วย
892

อย่างไรเสียพวกเขาก็เข้ามาอาศัยในจวนสกุลเผยแล้ว ย่อมไม่มีเรื่องที่เขาอยากรู แ้ ล้ว


ไม่อาจรูไ้ ด้แน่
เขาสั่งคนให้หยุดเกีย้ วที่หลังประตูเรือนสกุลอวีใ้ นตรอกเล็กๆ
ปกติแล้วแถวนีไ้ ม่คอ่ ยมีคนสัญจรไปมา
โดยเฉพาะตอนบ่าย เหล่าบุรุษในตรอกชิงจู๋ส่วนใหญ่มกั อยู่ท่ีรา้ นค้า เหล่าสตรีหากไม่
พักผ่อนอยู่ในเรือนก็กาํ ลังทํางานเย็บปั กถักร้อย ตอนนีจ้ งึ เงียบเชียบเป็ นที่สดุ
เขาสั่งอาหมิงว่า “ระวังอย่าให้นายหญิ งอวีร้ ู ต้ ัว ข้าไม่อยากเข้าไปทักทายอย่างเป็ น
ทางการ”
อาหมิงรู ว้ ่านายท่านสามของเขาไม่ชอบออกหน้า จึงรับคํารัวเร็ว ก่อนไปเคาะประตูท่ี
ด้านหน้า
คนที่ ม าเปิ ด ประตูคื อ ป้า เฉิ น ได้ยิ น อาหมิ ง บอกว่า เป็ น บ่า วรับ ใช้ข องสกุล เผยและ
ต้องการพบอวีถ้ ัง ทัง้ เห็นว่าเขาขาวอวบน่าชัง ในใจเกิดความชอบพอยิ่ง นางไม่ได้ถามมาก
ความก็รบี พาเขาไปหาอวีถ้ งั ทันที
อวีถ้ ังเห็นอาหมิงก็ประหลาดใจมาก ยิ่งพอรู ถ้ ึงเจตนาการมาของเขาก็ย่ิงร้อนรน เป็ น
นานกว่าจะลําดับเรื่องราวได้
นางไล่ซวงเถาให้ไปหยิบขนมถั่วตัดกรอบมาให้อาหมิงกิน จากนัน้ ก็กดเสียงตํ่าถามเขา
ว่า “เจ้าบอกว่านายท่านสามต้องการพบข้า เกีย้ วก็จอดอยู่ท่ีประตูหลังแล้ว?”
อาหมิงพยักหน้าหงึกหงัก เห็นว่าอวีถ้ งั สวมเสือ้ คลุมตัวยาวผ้าหังโจวสีแดงเข้ม ขับให้
ดวงหน้าขาวผ่อง ยิ่งแต่งแต้มด้วยรอยยิม้ ก็ย่ิงอ่อนหวานน่าชม จึงแอบกระซิบบอกอวีถ้ ังว่า
“นายท่านสามคงมาเพราะเรื่องสวนป่ าของสกุลท่าน ก่อนมายังถามถึงอยู่ขอรับ”
อวีถ้ งั คิดอยากเจอเผยเยี่ยนตัง้ นานแล้ว เช่นนีก้ ็ประเสริฐนัก คนที่สปั หงกง่วงนอนพลัน
มีคนยื่นหมอนมาให้ ล้วนดีตอ่ ทุกฝ่ ายยิ่งแล้ว
893

“เจ้ารอเดี๋ยว!” อวีถ้ งั เองก็กลัวเผยเยี่ยนมาที่เรือน นิสยั อย่างเขา ใครที่อยู่ดว้ ยล้วนรูส้ กึ


อึดอัดทัง้ นัน้ อีกอย่างมารดานางเพิ่งจะกินยานอนพักไป หากรูว้ ่าเผยเยี่ยนมา อย่างไรก็ตอ้ งลุก
ขึน้ มาต้องรับอีก “ข้าบอกคนในเรือนไว้สกั คํา แล้วจะตามไปพบนายท่านสามทันที”
อาหมิงมือถือขนมถั่วตัดกรอบที่ซวงเถามอบให้แล้วเดินจากไปอย่างเริงร่า อวีถ้ งั ให้ซวง
เถาช่วยดูทางให้ ส่วนตนแอบออกไปพบเผยเยี่ยนทางประตูหลัง
อากาศเริ่มอุ่นขึน้ ทุกวัน เผยเยี่ยนอยู่ในชุดคลุมตัวหลวมเนือ้ ละเอียดสีขาว ระหว่างเอว
ห้อยตราประทับเล็กๆ สีเขียว ยืนด้วยท่วงท่างามสง่าอยู่ตรงนัน้ บุคลิกโดดเด่นไม่เป็ นรองใคร
อวีถ้ งั ลอบมองเขาด้วยความชื่นชมอยู่หลายที
ไม่คิดว่าพอเจอคนตัวเป็ นๆ ความคิดมากมายกลับสลายหายไปหมด
“เหตุใดเจ้าชักช้าเช่นนี?้ ” เผยเยี่ยนเอ่ยอย่างไม่พอใจ “ข้าถามเจ้าสองสามคําก็จะไป
แล้ว”
ช่างไร้ทีท่าของวิญ�ูชนโดยสิน้ เชิง
อวีถ้ งั ค่อนขอดเขาอยู่ในใจ
หากมิใช่ว่าวันนีน้ างแต่งตัว ‘ถูกต้องเรียบร้อย’ อยู่ก่อนแล้ว นางคงไม่ออกมาเร็วขนาด
นีห้ รอก!
แต่ได้ยินจากอาหมิงว่าเผยเยี่ยนมาเพราะเรื่องสวนป่ าของสกุลตน นางคิดว่าตนเองไม่
ควรใจแคบและคิดเล็กคิดน้อยกับเขาเพราะสิ่งเหล่านี ้
“นายท่านสาม ท่านหาข้ามีเรือ่ งใดหรือ?” นางเข้าประเด็นทันที
เผยเยี่ยนไม่รูส้ กึ ว่านํา้ เสียงของตนมีปัญหาที่ตรงไหน ความตรงไปตรงมาของอวีถ้ งั ก็ทาํ
ให้เขาไม่ตอ้ งอ้อมค้อม อารมณ์จงึ ค่อยๆ ดีขนึ ้
894

“สวนป่ าของสกุลเจ้า ตัดสินใจได้แล้วหรือยัง?” นํา้ เสียงเขารวบรัด “ผ่านวันเพาะปลูก


มาแล้ว หากเจ้าไม่ตดั สินใจเสียที เช่นนัน้ ก็จะล่าช้าไปอีกหนึ่งฤดู”
อวีถ้ ังคิดจะหยั่งเชิงเขาอยู่พอดี วาจานีข้ องเขาตรงใจนางอย่างยิ่ง นางจึงเอ่ยว่า “แต่
ก่อนข้าคิดว่าต้นซาจี๋ไม่เลวเลย แต่ทุกคนเอาแต่หา้ มข้าไม่ให้ปลูก ข้าเลยอยากสอบถามท่าน
ถ้าข้าขายสวนป่ าผืนนัน้ ให้ทา่ น ท่านจะปลูกอะไรรึ?”
นางหมายความว่าอย่างไร?
เพราะว่าไม่ก่อประโยชน์ ดังนัน้ จึงคิดขายสวนป่ าให้สกุลเขา?
เขาเหมือนคนที่จะถูกหลอกได้ง่ายๆ อย่างนัน้ รึ?
สีหน้าของเผยเยี่ยนดําทะมึน เขาเอ่ยว่า “เจ้าอยากขายสวนป่ าผืนนัน้ ให้ขา้ หรือ?”
“มิใช่ๆ” อวีถ้ งั พบว่าเผยเยี่ยนเข้าใจนางผิด จึงรีบอธิบายว่า “ข้าพูดว่า ‘ถ้า’ ต่างหาก ถ้า
เป็ นท่าน ท่านจะทําอย่างไรต่อ?”
การสมมติเช่นนีไ้ ม่มีความหมายใดๆ ทัง้ สิน้
เผยเยี่ยนตอบอย่างไม่ชอบใจว่า “ไม่เคยคิด ไม่รู”้ พูดจบ ก็ทาํ คล้ายว่าชิงชังนางหนัก
หนา แล้วเอ่ยต่อว่า “นอกจากสกุลเจ้าข้นแค้นจนไม่มีอะไรจะกิน ถ้าไม่ขายนาขายที่ตอ้ งอดตาย
ข้าก็จะเห็นแก่ความเป็ นเพื่อนบ้านร่วมเมืองช่วยเหลือเจ้าสักครัง้ เมื่อสวนป่ าผืนนัน้ ตกเป็ นของ
ข้าแล้ว เพื่อเป็ นการรับผิดชอบต่อสกุล ข้าคงได้แต่กุมขมับคิดหาทางออก แล้วลองพิจารณา
อย่างละเอียดดู”
895

บทที่ 112 ประมูล


วาจาของเผยเยี่ยนทําให้หวั ใจอวีถ้ งั รัวเต้นเหมือนกลอง
เขาพูดเช่นนีห้ มายความว่าอย่างไร?
หากว่าสกุลอวีป้ ระสบความลําบาก เห็นแก่เพื่อนบ้านเมืองเดียวกัน ไม่ว่าสวนป่ าจะอยู่
ในสภาพเช่นใด เขาก็จะออกหน้าซือ้ มันไว้ ช่วยเหลือสกุลอวีใ้ ห้พน้ จากความยากแค้น
นางเข้าใจถูกแล้วใช่หรือไม่?
นางนึกถึงเรื่องเมื่อชาติก่อน หัวใจยิ่งกระหนํ่าเต้นแรงกว่าเดิม
ชาติท่ีแล้ว สกุลอวีข้ ายทัง้ ที่นาและสวนป่ าให้สกุลเผย ไม่เพียงแค่ว่าสกุลเผยเป็ นสกุลที่
มั่งคั่งที่สดุ ในเมืองหลินอัน แต่เพราะสกุลเผยรับซือ้ ในราคาสูงที่สดุ ด้วย
ตอนนัน้ นางก็ไม่เข้าใจสกุลเผย
คิดว่าเพราะสกุลเผยมีเงินทองกองเป็ นภูเขา จึงไม่ใส่ใจกับเงินเล็กน้อยแค่นี ้
แต่ดจู ากเมื่อครู ่ แม้สกุลเผยจะมีเงินมากมาย แต่เขาจะจ่ายแต่สิ่งที่ควรจ่ายเท่านัน้ สิ่ง
ที่ไม่ควรจ่ายก็จะไม่จ่ายอย่างเด็ดขาด
เห็นได้อย่างชัดเจน ที่สกุลเผยซือ้ ทรัพย์สินต่อจากสกุลอวีน้ นั้ ก็เพราะความใจบุญสุน
ทาน อีกทัง้ เงินนั่นก็ช่วยสกุลอวีไ้ ว้ได้จริงๆ…หากไม่ได้เงินของสกุลเผย นางก็จะไม่มีเงินไปจ้าง
คนงมศพบิดามารดา ไม่มีแม้เงินจะซือ้ สุสานฝังศพให้พวกเขาได้พกั กายอย่างเป็ นสุขด้วยซํา้
ที่แท้ ตัง้ แต่ตอนที่นางไม่รูอ้ ะไรสักอย่าง เผยเยี่ยนก็มีบญ
ุ คุณใหญ่หลวงต่อนางแล้ว
อวีถ้ งั ระลึกความเดียวดายไม่รูจ้ ะหันหน้าไปทางไหนเมื่อชาติก่อน แต่พอคิดว่ามีคนเคย
มอบความช่วยเหลือและความอบอุน่ ให้แก่นาง ดวงตาพลันรืน้ เอ่อทันที
896

เผยเยี่ยนเห็นนางเหม่อลอย เป็ นนานสองนานก็ไม่ได้สติ ในใจจึงอดจะสงสัยไม่ได้ เขา


ยื่นมือโบกไปมาตรงหน้านาง “นี่ เจ้าคิดเสร็จแล้วหรือยัง? ต้องการให้ขา้ ช่วยหรือไม่? หากว่าไม่
ต้องการหรือยังคิดไม่เสร็จ เช่นนัน้ รอให้ผ่านวันที่สิบไปแล้วค่อยว่ากัน”
สมองของอวีถ้ งั หมุนแล่น คิดหาคําตอบอย่างรวดเร็ว
นางเอ่ยว่า “ข้ายังต้องการปลูกต้นซาจี๋ จากนัน้ ก็นาํ ผลซาจี๋ไปทําผลไม้แช่อ่ิมขาย ท่าน
คิดว่าทําได้หรือไม่?”
เผยเยี่ยนไม่นกึ ว่าอวีถ้ งั จะหัวรัน้ เพียงนี ้
แต่มนั คือสิ่งที่นางเลือก ต่อให้เป็ นกําแพงเมือง ก็ตอ้ งให้นางเอาศีรษะพุ่งชนเองจึงจะ
เรียนรูท้ ่ีจะถอยกลับ
เขาเอ่ยเตือนนางว่า “ต้นซาจี๋จะออกผลอย่างตํ่าต้องรอสามปี เจ้าคิดดีแล้วใช่ไหม?”
“คิดดีแล้วเจ้าค่ะ!” อวีถ้ งั สูดหายใจลึกเข้าปอด
ชาติก่อนไม่ว่าเผยเยี่ยนจะปลูกต้นซาจี๋ดว้ ยเหตุผลใดก็ตาม นางคิดว่าขอแค่เดินตาม
เส้นทางของเขาไป อย่างไรย่อมสําเร็จลุลว่ ง
เผยเยี่ยนไม่โน้มน้าวนางอีก “ถ้าเจ้าตัดสินใจดีแล้ว เช่นนัน้ ก็ตงั้ ใจลงมือทํา ข้าเกลียด
พวกที่ละทิง้ กลางทางที่สดุ ”
“ท่านวางใจได้เลย!” อวีถ้ งั ให้ความมั่นใจต่อเขา “ข้าจะตัง้ ใจทําอย่างแน่นอน”
เผยเยี่ยนครุน่ คิด นับว่าได้จ่ายค่าครูแล้ว
ใครไปเรียนวิชาแล้วไม่ตอ้ งจ่ายเงินสักเล็กน้อยบ้าง!
“จวนข้ายังมีตน้ ซาจี๋หลายต้น” เขาบอก “รอผ่านวันที่สิบไป เจ้าก็ส่งคนไปขุดแล้วลอง
ไปปลูกที่สวนของเจ้าก่อน หากว่าปลูกรอด ฤดูใบไม้รว่ งปี นีก้ ็คงออกผล ถึงเวลานัน้ เจ้าลองชิม
รสชาติของมันดูก็รูแ้ ล้วว่าเป็ นอย่างไร”
897

จืดชืดไร้รส หากไม่ทาํ เป็ นผลไม้แช่อ่มิ ก็ไม่มีประโยชน์อย่างอื่นแล้วจริงๆ


อวีถ้ งั คิดไม่ถึงว่าจะได้กาํ ไรอย่างเหนือความคาดหมายเช่นนี ้
ชาติก่อน นางได้ยินว่าต้นไม้ชนิดนีเ้ ป็ นสหายขุนนางซึ่งอยู่แถบซีเป่ ยแนะนํามาให้เขา
ส่วนชาตินี ้ กลับเป็ นโจวจื่อจินที่ขุดมันกลับมาจากแถบซีเป่ ย ไม่รูว้ ่าข้อมูลเมื่อชาติก่อนหรือว่า
ชาตินีก้ นั แน่ท่ีถกู ต้อง แต่ไม่ว่าอย่างไร นางก็ตดั สินใจว่าเมื่อมันออกผลแล้ว ก็จะทําผลไม้แช่อ่มิ
ให้เผยเยี่ยนกับนายท่านเสิ่นที่ช่วยหาเมล็ดพันธุล์ องชิมดูก่อนสักรอบ
สองคนนีช้ ่วยนางไว้มากมายเลยทีเดียว
อวีถ้ งั ส่งเผยเยี่ยนกลับไปด้วยความเคารพนับถือ
เผยเยี่ยนกลับไปถึงจวนยังไม่ทนั นั่งได้ม่นั คง เผยหม่านก็เข้ามาหา พร้อมรายงานข่าวที่
ทําให้เขาค่อนข้างประหลาดใจ “สกุลอู่เที่ยวโพนทะนาไปทั่วว่าสกุลเถา สกุลอิน้ สกุลลี่และสกุล
เซิ่งต่างตัดสินใจจะกดราคาประมูลให้อยู่ท่ีประมาณห้าพันตําลึง ไม่วา่ สกุลใดจะได้แผนที่ผืนนัน้
ไป พวกเขาก็จะนํามาแบ่งปั นกันขอรับ”
ไม่มีมิตรแท้ตลอดกาล มีเพียงผลประโยชน์ท่ีย่งั ยืน
เผยเยี่ยนรินนํา้ ชาให้ตนเองอย่างไม่แยแส เขาจิบชาอย่างไม่อนาทรร้อนใจ ก่อนจะตอบ
ว่า “เจ้าไม่ตอ้ งกังวลไป ข้าไม่คาดหวังให้สกุลใดชนะประมูลอยู่แล้ว หากว่าพวกเขาหารือกัน
เสร็จสรรพ เช่นนัน้ ก็ขายแผนที่ให้พวกเขาในราคาห้าพันตําลึงไปเถอะ บวกกับเงินประกันสอง
พันตําลึงที่แต่ละสกุลจ่ายมา อย่างไรสกุลอวีก้ ็ได้ถึงสองหมื่นตําลึงแล้ว เมื่อมีเงินสองหมื่นตําลึง
นี ้ แม้ไม่นบั ว่ามากมาย แต่ก็พอให้สกุลเขาใช้ได้ไปอีกหลายรุน่ อีกอย่าง เงินทองมีมากมายแล้ว
ได้อะไรเล่า? หากลูกหลานไม่เป็ นโล้เป็ นพาย มีมากเท่าไรก็หมดได้เหมือนกัน”
เผยหม่านเอ่ยอย่างประหลาดใจว่า “มิใช่ผใู้ ห้ราคาสูงสุดเป็ นผูไ้ ด้ครองหรือขอรับ?”
เผยเยี่ยนพ่นลมออกมาเป็ นเสียงหัวเราะ มองเขาราวกับเป็ นคนปั ญญาอ่อนคนหนึ่ง
“ผูใ้ ห้ราคาสูงสุดเป็ นผูไ้ ด้ครอง เจ้าคิดว่าเป็ นไปได้หรือ? แล้วเท่าไรนับว่าสูงเล่า? แต่แรกข้าก็ไม่
898

คิดว่ามันจะได้ผล เพียงแต่ไม่ตอ้ งการให้พวกเขาได้มนั ไปง่ายๆ ก็เท่านัน้ มิฉะนัน้ พวกเขาจะคิด


ว่าสกุลเผยซ่อนแผนร้ายไว้ในใจ สงสัยว่าแผนที่น่ นั เป็ นของปลอม”
เห็นชัดว่ามีคนประเภทใช้หวั ใจของคนถ่อยไปวัดความคิดวิญ�ูชนอยู่จริงๆ
เผยหม่านพูดต่อว่า “เช่นนัน้ พวกเราจะไม่เก็บแผนที่ไว้จริงๆ หรือขอรับ?”
สกุลอวีเ้ คยพูดไว้ว่าจะมอบภาพผืนหนึ่งให้เผยเยี่ยน หากพวกเขาจะเก็บไว้สกั ผืนก็ไม่
นับว่าผิดสัญญากระมัง?
เผยเยี่ยนส่ายหน้า “ข้ารู จ้ ักศิษย์พ่ีรองคนนีด้ ี เพื่อเส้นทางขุนนางในวันข้างหน้าแล้ว
เรื่องใดๆ ล้วนกล้าทําทัง้ สิน้ บัดนีน้ ายท่านเสิ่นผูเ้ ป็ นโซ่วฟู่ ก็อายุมากแล้ว อย่างมากอีกสองปี คง
ลาออกจากราชการ เขากับหลี่ซวิ่นแย่งชิงตําแหน่งโซ่วฝู่ ของเน่ยเก๋อ จากนิสยั ของเขา ย่อมลง
มือกับสํานักตรวจสอบการค้าทางทะเลเป็ นที่แรกแน่ ล้างบางสกุลใหญ่ๆ ในแถบเจียงหนานเสีย
ใหม่ คนที่ไม่หนุนหลังเขาก็จะถูกเหยียบให้จมโคลน ข้ากับเขาเดิมก็ไม่ถกู กัน หากมิใช่อาจารย์
ยังมีชีวิตอยู่ ทัง้ ต้องขอคําแนะนําจากศิษย์พ่ีเฟ่ ย เกรงว่าเขาคงไม่นบั ข้าคนนีเ้ ป็ นศิษย์นอ้ งตัง้
นานแล้ว พวกเราอย่าไปเกี่ยวพันกับเรื่องนีเ้ ป็ นดีท่ีสดุ ”
สีหน้าเผยหม่านเปลี่ยนเหมือนพลิกฝ่ ามือ เขาพยักหน้ารับหงึกหงัก
เผยเยี่ยนลุกยืนขึน้ แล้วบิดตัวอย่างเกียจคร้าน เขาเอ่ยพลางเปิ ดปากหาวว่า “เมื่อคืน
นอนดึกไปหน่อย วันนีข้ า้ จะนอนกลางวัน ช่วงบ่ายยังต้องไปต้อนรับคนของสกุลเผิงอีก เจ้าไป
บอกอาหมิงสักคํา ถึงเวลานัน้ มาปลุกข้าด้วย”
เผยหม่านรับคํา แล้วสั่งการสาวใช้ให้ปทู ่ีนอนแก่เผยเยี่ยน
อวีถ้ ังที่กลับเข้าเรือนไปค่อนข้างกระสับกระส่าย นางเอาแต่คิดถึงรายละเอียดเล็กๆ
น้อยๆ ตอนชาติก่อน พอถึงวันที่สิบซึ่งมีการเปิ ดประมูล อวีห้ ย่วนก็มาถึงเรือนอวีถ้ ังแต่ไก่โห่
จากนัน้ ก็น่งั รอฟั งข่าวกับอวีห้ ย่วนด้วยความตึงเครียด
อวีถ้ งั แม้ตวั จะอยู่ในห้องหนังสือ แต่ใจกลับลอยไปที่อ่นื แล้ว
899

นางกําลังนึกย้อนไปยังชาติก่อน นึกถึงข่าวลือต่างๆ เกี่ยวกับเผยเยี่ยน


ทุกคนรู เ้ รื่องของเขาน้อยมาก ถึงขนาดไม่รูด้ ว้ ยซํา้ ว่าเขาแต่งกับสตรีสกุลใด ไม่เคยได้
ยินว่าเขามีลกู ไม่รูเ้ พราะเขาไม่ตอ้ งการให้ผอู้ ่นื ล่วงรูห้ รือว่าไม่ได้ตบแต่งกันแน่?
ชาติก่อนนางก็โง่เหลือทน เหตุใดถึงไม่สงสัยเลยว่าทําไมสกุลเผยเสนอราคาซือ้ สวนป่ า
ของสกุลตนด้วยเงินที่สงู กว่าผูอ้ ่ืืน? แต่ต่อให้นางรู ้ จากนิสยั และความขีข้ ลาดของนางแต่ก่อน
คาดว่าคงไม่กล้าไปขอบคุณสกุลเผยอยู่ดี ยังมีสกุลหลี่ ชาติก่อน เมื่อได้แผนที่ไปครอง พวกเขา
ก็รว่ มมือกับสกุลเผิง ไม่นานก็ขนึ ้ แท่นสกุลใหญ่ในเมืองหลินอันซึ่งเป็ นรองเพียงสกุลเผยเท่านัน้
ไม่รูว้ า่ เรื่องนีส้ ิ่งผลกระทบต่อสกุลเผยมากน้อยแค่ไหน? ไม่เพียงเท่านี ้ เผยเยี่ยนพูดว่าราชสํานัก
อาจยกเลิกสํานักตรวจสอบการค้าทางทะเลที่หนิงปั วและเฉวียนโจว แต่จากความทรงจําของ
นาง จนถึงกระทั่งตอนที่นางตายไป สํานักตรวจสอบทัง้ ที่หนังปั วและเฉวียนโจวก็ยงั อยู่ดี…
คิดถึงตรงนี ้ อวีถ้ งั แทบจะกระเด้งตัวขึน้ มา
จริงด้วย เหตุใดนางถึงไม่ใช้ขอ้ มูลที่นางมีเมื่อชาติก่อนมาตอบแทนสกุลเผยเล่า?
ชาติก่อน สํานักตรวจสอบที่หนิงปั วและเฉวียนโจวจะถูกรือ้ ถอนหรือไม่นนั้ หาได้เกี่ยว
อะไรกับนาง แต่ว่าสกุลเผยนัน้ ไม่เหมือนกัน สกุลเขาทํากิจการใหญ่โต ต่อให้ไม่คิดทําการค้า
ทางทะเล แต่ย่อมมีคนที่รูจ้ กั เป็ นแน่ บางทีอาจมีญาติพ่ีนอ้ งที่ทาํ กิจการนี ้ นางสามารถเล็ดลอด
ข้อมูลให้แก่เผยเยี่ยน จากนัน้ เผยเยี่ยนก็ใช้มนั ไปทําการแลกเปลี่ยนกับผูอ้ ่ืนต่อ บางทีน่ีอาจทํา
ให้สหายของเขาลดความสูญเสียลงก็เป็ นได้
อวีถ้ งั ยิ่งคิดก็ย่งิ รูส้ กึ ว่าเข้าท่าเข้าที
นางเดินไปเดินมาอยู่ในห้อง ความปรารถนาที่จะพบเผยเยี่ยนเหมือนเปลวไฟที่พวยพุง่
โหมแรงขึน้ ทุกที
อวีเ้ หวินเห็นแล้วก็กระซิบกับอวีห้ ย่วนว่า “เจ้าดูอาถังสิ ไหนบอกว่าโตแล้ว มีความคิด
เป็ นของตัวเอง แต่อายุนางก็แสดงชัดอยู่น่ นั อย่างไร พอเจอเรื่องเข้าหน่อยก็สะกดใจไม่คอ่ ยอยู่”
900

ทุ่มเทเรี่ยวแรงมาเนิ่นนาน ในที่สดุ ก็จะสลัดแผนที่น่นั พ้น อวีห้ ย่วนจึงรูส้ กึ ยินดีจากเบือ้ ง


ลึกของหัวใจ
เขาอดจะเอ่ยอย่างยิม้ ๆ ไม่ได้วา่ “นี่มิใช่วา่ มีแต่คนในครอบครัวหรอกหรือ? หากว่ามีคน
นอกอยู่ดว้ ย นางย่อมข่มกลัน้ ไว้เป็ นแน่ ท่านเห็นแล้วยังต้องชมนางสักเปาะว่าสุขมุ นุ่มลึก ท่าน
อาอย่าได้คอยจับผิดนางเลยขอรับ!”
อวีเ้ หวินหัวเราะไม่มีเสียงแล้วพูดกับอวีถ้ งั ว่า “เจ้าเลิกเดินเสียทีเถอะ นี่เดินจนข้าเวียน
หัวไปหมดแล้ว สกุลเผยมีอาํ นาจบารมี ย่อมส่งเงินที่ได้จากการประมูลมาให้พวกเราอย่าง
ครบถ้วนสมบูรณ์แน่ เจ้าเดินวนไปวนมาเช่นนี ้ เล่นเอาใจข้าพะวงตามไปด้วย”
อวีถ้ งั ได้ฟังก็หวั เราะชอบใจ ไม่ได้อธิบายว่าทําไมนางถึงได้เดินวนกลับไปกลับมา นาง
พยายามข่มใจให้น่ิง หย่อนตัวลงนั่งแล้วจิบชาไปสองอึก จากนัน้ ก็กลับห้องไปทําดอกไม้ผา้ อีก
สองดอก ในที่สดุ ก็มีคนจากสกุลเผยมาส่งข่าว
“เงินประกันรวมกับเงินที่ได้จากงานประมูล รวมทัง้ สิน้ สองหมื่นเจ็ดพันตําลึงขอรับ” คน
ที่ ม าคื อ บุรุ ษ คะเนอายุไ ด้ป ระมาณสามสิ บ รู ป โฉมสามัญ สวมเสื อ้ ผ้า เนื อ้ หยาบสี น ้าํ เงิ น
ธรรมดาๆ แต่พูดจาเป็ นลําดับขั้นตอนยิ่ง เขามีช่ือว่าเฉิ นฉี เป็ นนายห้องบัญชีของสกุลเผย
“ตามที่ตกลงกันไว้ ทัง้ หมดล้วนฝากไว้ท่ีรา้ นเครื่องเงินสกุลเผย นี่คือตั๋วเงินทัง้ หมด ขอนายท่า
นอวีต้ รวจนับก่อนหนึ่งรอบ ข้าจะได้กลับไปสรุ ปบัญชีขอรับ” เขาพูดจบ ก็หยิบกล่องใบหนึ่ง
ออกมา “ด้า นในล้ว นเป็ น ตั๋ว เงิ น ใบละหนึ่ง พัน ตํา ลึง และเป็ น ตั๋ว เงิ น ที่ มูล ค่ า สูง สุด ในร้า น
เครื่องเงินของสกุลเผยแล้วขอรับ”
สองหมื่นเจ็ดพันตําลึง?!
สีหน้าของคนในสกุลอวีพ้ ลันนิ่งค้างอยู่เช่นนัน้
อวีห้ ย่วนไม่อาจเก็บซ่อนความดีใจและตื่นเต้นเอาไว้ได้ เขามองไปทางอวีถ้ งั แล้วลอบ
กําหมัดอยู่หลายที
901

อวีเ้ หวินก็ปลืม้ ปริ่มไม่ต่างกัน เขากระแอมเสียงเบาๆ รับกล่องใบนัน้ มาแล้วส่งต่อให้อวี ้


หย่วนโดยไม่ชายตามอง เขายืดตัวแล้วคารวะให้เฉิ นฉีทีหนึ่ง “ลําบากท่านเฉินแล้ว ในเรือน
เตรียมสุราอาหารไว้ ขอท่านเฉินอย่าได้รงั เกียจ กินดื่มสักเล็กน้อยแล้วค่อยเดินทางกลับเถอะ”
ใครจะคิดว่าเฉินฉีกลับครํ่าเคร่งไม่ผ่อนปรน “นายท่านอวี ้ ตั๋วเงินนีน้ ายท่านสามมอบให้
มากับมือ คนทัง้ หลายในห้องบัญชีต่างก็เป็ นพยานตอนใส่ลงในกล่อง ทัง้ ข้าถือกล่องนีม้ าเพียง
ผูเ้ ดียว ขอให้ท่านตรวจนับเสียสักรอบ หากว่าไม่มีอนั ใดผิดพลาด พวกเราค่อยว่ากันเรื่องอื่น
ต่อ”
อวีเ้ หวินหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ “ท่านเฉินเป็ นถึงนายบัญชีของสกุลเผย ยังมีอะไรเชื่อถือ
ไม่ได้อีก? ไม่มีทางผิดพลาดแน่…”
“ขอนายท่านอวีต้ รวจนับก่อนหนึ่งรอบ” เฉินฉีไม่เกรงใจอวีเ้ หวินเลยสักนิด ยืนกรานจะ
ตรวจสอบเงินทองต่อหน้าทุกคนให้ครบถ้วน
อวีเ้ หวินเริม่ ไม่ชอบใจ คิดว่าเฉินฉีไม่เชื่อถือนํา้ ใจคนอย่างเขา
อวีถ้ ังลอบถอนหายใจเฮือก ได้แต่พูดกล่อมบิดาว่า “ท่านพ่อเชื่อใจสกุลเผย นั่นคือ
ความไว้วางใจที่ท่านมีต่อสกุลเผย แต่ท่านเฉินเป็ นนายบัญชี ย่อมมีขนั้ ตอนที่หอ้ งบัญชีตอ้ ง
ปฏิบตั ิตาม เงินก้อนใหญ่ขนาดนี ้ ท่านไม่ยอมตรวจนับต่อหน้า แล้วเขาจะกลับไปลงบัญชีได้
อย่างไร ท่านยังคงเชื่อท่านเฉินจะดีกว่า ตรวจนับตั๋วเงินตรงนีใ้ ห้เรียบร้อยเถอะเจ้าค่ะ!”
เช่นนีแ้ ล้วอวีเ้ หวินกับอวีห้ ย่วนจึงได้เริม่ ตรวจนับตั๋วเงินไปพร้อมๆ กับเฉินฉี
สิ่งที่สกุลเผยส่งมา ทั้งยังเป็ นเผยเยี่ยนที่ส่งต่อให้เฉิ นฉี ดว้ ยมือตนเอง ย่อมไม่มีทาง
ผิดพลาดได้
อวีเ้ หวินคิด ครานีเ้ ฉินฉีสามารถไปดื่มกินกับเขาได้อย่างสบายใจแล้วกระมัง?
902

เฉิ น ฉี ยัง คงบอกปฏิ เ สธ “ข้า นั่ง รถม้า ของนายท่า นสามมาขอรับ ยัง ต้องรีบกลับ ไป
รายงานผลอีก ท่านหากว่าต้องการขอบคุณ ก็ตอ้ งขอบคุณนายท่านสามแล้ว! ข้าก็แค่ทาํ ตาม
หน้าที่เท่านัน้ ”
เขาไม่ไว้หน้าอวีเ้ หวินสักนิด ทําเอาอวีเ้ หวินโมโหจนแทบสําลัก ทัง้ ไม่ยอมเดินไปส่งเฉิน
ฉีท่ีหน้าประตูดว้ ย กลับสั่งให้อวีห้ ย่วนไปส่งแขกแทนตน
เฉินฉีก็ไม่รูส้ ึกว่าตนได้รบั ความไม่สะดวก เขาประสานมือคารวะอวีเ้ หวิน ก่อนจะเดิน
ตามอวีห้ ย่วนออกจากห้องหนังสือไป
903

บทที่ 113 งานมงคล


อวีเ้ หวินถูกทําให้อารมณ์เสียอีกแล้ว เขาชีน้ ิว้ ตามแผ่นหลังที่เคลื่อนออกไปไกลของเฉิน
ฉีแล้วพูดกับอวีถ้ งั ว่า “เจ้าดูสิน่ นั ไม่รูเ้ หตุใดสกุลเผยต้องให้เขามาส่งข่าวด้วย? หนึ่ง ไม่บอกว่า
สกุลใดประมูลได้แผนที่ไป สอง ไม่…” วาจาพูดถึงตรงนี ้ สีหน้าเขาก็ชะงักไปเล็กน้อย
เขาเองก็เหมือนกัน เหตุใดไม่ถามเรื่องประมูลออกไปเล่า?
อวีถ้ งั ก้มหน้าแอบหัวเราะพักหนึ่ง พอคิดว่าตนเองควบคุมสีหน้าได้แล้ว ถึงค่อยเงยหน้า
แล้วส่งเสียงเรียก “ท่านพ่อ” ก่อนเอ่ยต่อไปว่า “เวลานีก้ ารประมูลคงเพิ่งจะสิน้ สุด เหล่าสกุล
ใหญ่พวกนัน้ คงยังไม่กลับ ตอนที่ประมูลเกิดเรื่องอะไรขึน้ บ้าง? เป็ นสกุลใดที่ได้แผนที่ไป? เหตุ
ใดเงินทองที่ได้มาจึงมากมายปานนี?้ ตอนที่ขา้ เจอท่านเฉินก็อยากถามออกไปแล้ว แต่คิดว่า
ตอนนีน้ ายท่านสามคงวุ่นวายอยู่กบั เรื่องจะส่งแขกที่มาร่วมงานประมูลออกจากเมืองหลินอัน
อย่างสันติและราบรื่นได้อย่างไร ตอนนีจ้ ะหาเวลากับเรี่ยวแรงที่ไหนมาเล่าเรื่องพวกนีใ้ ห้เราฟั ง
ล่ะเจ้าคะ? ข้าคิดว่าพวกเราควรรออย่างสงบสักหลายวันก่อน ให้นายท่านเผยเสร็จธุระแล้ว
ค่อยเตรียมของขวัญชิน้ ใหญ่ไปคารวะ เพื่อเป็ นการขอบคุณเขาอย่างดีท่ีสดุ !”
พวกเขาไม่ได้เข้าร่วมงานประมูลด้วยซํา้ ไป กลัวว่าจะมีคนเจตนาร้ายเชื่อมโยงเรื่อง
แผนที่กบั สกุลอวีเ้ ข้าด้วยกัน อีกอย่างนี่ก็คือความหมายที่เผยเยี่ยนต้องการบอก แล้วพวกเขาจะ
ทรยศกับความหวังดีของเผยเยี่ยนได้อย่างไร หลายวันนีไ้ ม่เพียงรอคอยสกุลเผยอย่างสงบ
เสงี่ยม ยิ่งกว่านัน้ ก็ควรทําปฏิบตั ิตวั เช่นเมื่อก่อน ออกจากเรือนให้นอ้ ย พูดจาให้นอ้ ย สืบข่าวให้
น้อย รอให้คนที่เข้าร่วมงานประมูลจากไปแล้ว พวกเขาค่อยหาเหตุผลไปเยี่ยมคารวะเผยเยี่ยนอ
ย่างเปิ ดเผย
อวีเ้ หวินได้ฟังดังนัน้ ก็ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเฉินฉีอีก
เขาถามอวีห้ ย่วนว่า “งานแต่งเจ้า เจ้าส่งเทียบเชิญให้สกุลเผยแล้วหรือไม่?”
เรื่องใหญ่เช่นนี ้ ย่อมต้องส่งเทียบเชิญให้สกุลเผยอยู่แล้ว
904

อวีห้ ย่วนตอบว่า “ส่งแล้วขอรับ แต่เป็ นอาหมิงที่สง่ ต่อให้ผดู้ แู ลประตูขอรับ”


ปี ๆ หนี่งไม่รูว้ ่าสกุลเผยได้รบั เทียบเชิญเช่นนีม้ ากน้อยเท่าไร ปกติมกั จะมอบให้ผดู้ แู ล
ประตู ผูด้ แู ลประตูจะส่งต่อให้ผทู้ ่ีดแู ลเกี่ยวกับเรื่องนีโ้ ดยเฉพาะ ผูด้ แู ลจะจัดการตามความห่าง
เหินหรือใกล้ชิดระหว่างสกุลผูส้ ่งเทียบเชิญกับสกุลเผย คนส่วนมากทําเช่นนีเ้ พื่อแสดงความ
เคารพต่อสกุลเผย จึงได้ตงั้ ใจมาเรียนแจ้งให้ทราบสักคํา สกุลเผยก็จะเตรียมของขวัญอวยพร
เล็กๆ น้อยๆ ไว้ให้ สกุลใดที่พอรู จ้ ักมักคุน้ กับสกุลเผยอยู่บา้ ง ก็จะได้ซองแดงสองตําลึงเป็ น
ของขวัญ แต่หากมีความสัมพันธ์ดีขึน้ ไปอีก ผูด้ ูแลก็จะไปรายงานต่อเผยเยี่ยน โดยจะให้เผย
เยี่ยนเป็ นคนตัดสินใจว่าเขาจะไปแสดงความยินดีดว้ ยตนเองหรือจะส่งผูด้ แู ลถือของขวัญอวย
พรที่เหมาะสมไปมอบให้
สกุล อวี ไ้ ม่ ต ้อ งการเชิ ญ เผยเยี่ ย นอย่ า งเอิ ก เกริ ก ดัง นั้น จึ ง ปฏิ บัติ ต ามธรรมเนี ย ม
เหมือนกับชาวเมืองคนอื่นๆ ที่ส่งเทียบเชิญไปให้ ส่วนว่าสกุลเผยจะจัดการอย่างไร ก็ให้เป็ น
เรื่องของสกุลเผยแล้ว
แต่อวีเ้ หวินคิดว่าเผยเยี่ยนไม่น่าจะมาร่วมงาน
งานประมูลกับงานแต่งของอวีห้ ย่วนห่างกันไม่ก่ีวนั หากเขามาแสดงความยินดีดว้ ย
ตนเอง กลัวแต่วา่ คนประสงค์รา้ ยอาจสังเกตเห็นได้
เผยเยี่ยนคงจะยุ่งมากจริงๆ หลังจากนัน้ ก็ไม่ได้ติดต่อกับสกุลของพวกเขาอีกเลย

พวกเขาเองก็เริม่ เตรียมข้าวของสําหรับงานแต่งของอวีห้ ย่วนอย่างสงบใจ


แต่สิ่งที่สกุลอวีค้ าดไม่ถึงก็คือ ก่อนหน้างานแต่งของอวีห้ ย่วนหนึ่งวัน แม้เผยเยี่ยนจะไม่
ได้มาด้วยตนเอง แต่ก็สง่ พ่อบ้านใหญ่เผยหม่านมาแทน
สีหน้าของเผยหม่านเต็มไปด้วยความละอายใจ “นายท่านสามยังอยู่ในช่วงไว้ทกุ ข์ ไม่
สะดวกมาร่วมงานด้วยตนเอง ขอนายท่านอวีโ้ ปรดเข้าใจด้วยขอรับ!”
905

จริงอยู่ว่าเผยเยี่ยนกําลังไว้ทกุ ข์ แต่ในสายตาของชาวเมืองหลินอัน สกุลอวีย้ งั ไม่หน้า


ใหญ่พอจะเชิญเผยเยี่ยนมาร่วมดื่มสุรามงคลได้ ดังนัน้ คําพูดนีข้ องเผยหม่านจึงฟั งรื่นหูและไว้
หน้าสกุลอวีอ้ ย่างมากแล้ว พวกนายท่านอู่ท่ีมาช่วยงานมีผูใ้ ดบ้างที่ไม่ฉลาดหัวไว พลันตอบ
กลับไปทันทีว่า “พ่อบ้านใหญ่พดู อะไรเช่นนัน้ นายท่านสามจดจําวันมงคลของคุณชายอวีไ้ ด้ก็
นับว่ายากยิ่งแล้ว ยังจะให้นายท่านสามมาร่วมงานอีกได้อย่างไร พ่อบ้านใหญ่ในเมื่อมาเป็ น
ตัวแทนของสกุลเผย เช่นนัน้ ก็เชิญดื่มสุรามงคลแล้วค่อยกลับไปรายงานผลเถอะ”
เผยหม่านบอกปั ดอย่างนิ่มนวล “เหล่าเจ้านายยังเก็บตัวอยู่ในจวน ข้าผูเ้ ป็ นเพียงบ่าว
ไพร่จะกล้าฝื นธรรมเนียมได้อย่างไร ข้าขออวยพรให้คณ ุ ชายอวีส้ ามีภรรยารักใคร่ปรองดอง มี
ลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง รอให้ผ่านช่วงนีไ้ ปแล้ว จะมาเยี่ยมเยือนแสดงความยินดีกบั นาย
ท่านอวีอ้ ีกครัง้ ”
นายท่านอู่เป็ นผูช้ ่วยรับรองแขกในวันนี ้ พอได้ฟังเขาเอ่ยเช่นนัน้ ย่อมไม่ฝืนใจเขาต่ออีก
เพียงไปส่งเผยหม่านถึงหน้าประตูดว้ ยรอยยิม้
คนของสกุลเซียงที่มาส่งสินเดิมและช่วยปูเตียงหันไปเห็นเข้า อดจะพยักหน้าติดๆ กัน
ไม่ได้ แล้วแอบกระซิบกระซาบกันว่า “มิน่าผูอ้ ่ืนล้วนบอกว่าท่านป้านัน้ เก่งกาจ ไม่พดู ถึงอย่าง
อื่น แค่รบั คุณหนูใหญ่มาเลีย้ งดู ทัง้ หาสกุลที่มีหน้ามีตาให้คณ
ุ หนูใหญ่ตบแต่งได้ นี่ใช่ว่าใครที่
ไหนจะทําได้นะ”
คนที่พวกเขาเรียกว่า ‘ท่านป้า’ นัน้ หมายถึงนายหญิงเว่ยนั่นเอง
“นี่นบั เป็ นวาสนาของคุณหนูใหญ่!”
“ได้ยินว่าเหล่าบัณฑิตในเมืองหลินอันล้วนมาร่วมงานกันหมด งานแต่งนีน้ บั ว่ายิ่งใหญ่
ไม่เลวเลย”
“ต่อไปหากคุณหนูใหญ่คลอดคุณชายน้อยออกมา อย่างน้อยต่อไปเรื่องเล่าเรียนวิชาก็
ไม่ตอ้ งกังวลใจ ตอนนัน้ นายท่านถึงยืนกรานจะแต่งกับนายหญิงให้ได้ ก็มิใช่เพราะสกุลเสิ่นเป็ น
สกุลบัณฑิตหรอกหรือ ต่อไปเหล่าคุณชายจะได้เล่าเรียนตามท่านลุงท่านอาอย่างไรเล่า”
906

คนของสกุลเซียงยังวิพากษ์วิจารณ์ตอ่ ไม่หยุด
อวีถ้ งั กลับไปช่วยมารดาเตรียมความพร้อมของงานแต่งในวันพรุง่ นี ้
ชากับสุราเพียงพอหรือไม่? ของขวัญตอบแทนที่ ตอ้ งมอบให้สกุลเซียงตกหล่นหรือ
เปล่า? คนที่จะไปรับเจ้าสาววันนีเ้ ดินทางออกไปอย่างราบรื่นแล้วหรือยัง?
แม้จ ะเต็ ม ไปด้ว ยเรื่ อ งจุ ก จิ ก แต่ ห ากขาดสิ่ ง ใดไปก็ อ าจส่ ง ผลให้ง านมงคลเกิ ด
ข้อผิดพลาดได้ทงั้ สิน้
อลหม่านวุ่นวายอยู่เช่นนัน้ ไม่ทนั ไรฟ้าก็มืดลงแล้ว เพราะฟู่ หยางห่างออกไปเป็ นระยะ
เดินทางหนึ่งวัน เกีย้ วรับเจ้าสาวของสกุลอวีจ้ ึงต้องออกเดินทางล่วงหน้าหนึ่งวันเพื่อรับประกัน
ว่าจะรับเจ้าสาวมาส่งเข้าประตูได้ทนั ฤกษ์ยามมงคล อวีถ้ งั กับมารดาออกมาส่งเกีย้ วรับเจ้าสาว
ด้วยกัน จากนัน้ ก็ไปตรวจสอบที่หอ้ งครัวและห้องหอ เห็นว่าทุกขัน้ ตอนจัดเตรียมไว้เรียบร้อย
แล้ว ถึงได้กลับเรือนไปแล้วทิง้ ตัวนอนหลับสนิท
ผ่านไปเช่นนีจ้ ึงถึงเช้าวันที่สอง ฟ้ายังไม่ทนั สว่างนางก็ถูกป้าเฉินปลุกให้ต่ืน “คุณหนู
ป้าหวังบ้านนายท่านใหญ่มาถามว่า ท่านเอาป้ายคําอวยพรที่ใช้ตอนพิธีกราบไหว้ฟ้าดินไปวาง
ไว้ไหนเจ้าคะ ทางโน้นกําลังจะจัดห้องโถงพิธีแล้ว”
ตอนแรกผูม้ าช่วยงานได้ร่ายรายการของใช้ออกมา สิ่งของจําเป็ นที่ใช้ในพิธีลว้ นซือ้
กลับมาในคราวเดียว ป้าสะใภ้ใหญ่ตอนนัน้ กําลังชั่งตวงปลาและเนือ้ สําหรับงานเลีย้ งอยู่ในครัว
นางจึงช่วยป้าสะใภ้เก็บของไว้ให้ก่อน
อวีถ้ งั นั่งกอดผ้าห่มอยู่ครู ห่ นึ่ง ก่อนจะเอ่ยพลางเปิ ดปากหาววอดๆ “จัดเร็วเกินไปหรือ
เปล่า? ระวังเด็กๆ ที่มาร่วมงานจะทําป้ายคําอวยพรเลอะเทอะเสียก่อน ข้าว่ารอเก็บกวาดงาน
เลีย้ งช่วงเที่ยงให้เสร็จแล้วค่อยติดป้ายคําอวยพรก็ได้น่ีนา”
ป้าเฉินทางหนึ่งก็ส่งั ซวงเถาที่กาํ ลังสัปหงกไม่ต่างกันให้มาช่วยอวีถ้ งั แต่งตัวหวีผม ทาง
หนึ่งก็คว้าชุดที่อวีถ้ งั เตรียมเอาไว้ตงั้ แต่หลายวันก่อนลงมาจากราวไม้ท่ีใช้แขวนชุด
907

อวีถ้ งั บ้วนปากล้างหน้าเสร็จ คนก็เริ่มตื่นเต็มตาบ้างแล้ว จึงเอ่ยกับป้าเฉินว่า “เจ้าไป


บอกป้าหวังสักคําเถอะ ป้ายคําอวยพรเก็บอยู่ในกล่องไม้สีดาํ ที่วาดลายดอกเหมยในห้องเก็บ
ของของป้าสะใภ้ ข้าหวีผมเสร็จแล้วจะตามไปช่วยงาน”
ป้าเฉินรับคําแล้วจึงเดินออกไป
ซวงเถาช่วยนางหวีผมเป็ นทรงมวยก้นหอยคู่ ปั กเครื่องประดับผมไข่มุกสีชมพูอย่าง
เรียบง่ายหนึ่งชิน้ แล้วเปลี่ยนมาสวมเสือ้ คลุมหังโจวตัวยาวสีฟ้าอ่อนลายผีเสือ้ ดอมดมบุปผาที่
รีดเตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี ้
ชุดนีค้ ่อนข้างมีอายุ หากมิใช่ว่าอวีถ้ งั เป็ นคนสวยจริงๆ จะใส่ชุดไหนก็ไม่อาจข่มความ
งามของนางได้ ไม่อย่างนัน้ ถ้าหลงหายไปกลางผูค้ นก็คงหาตัวไม่เจอแล้ว
ทว่า วันนีเ้ ป็ นวันมงคลของคุณหนูเซียง งานแต่งสามวันไม่นบั เด็กแก่ 1 พอคุณหนูเซียง 181

ผ่านเข้าประตูมา ตอนที่เปิ ดผ้าปิ ดหน้า พวกนางเหล่าญาติๆ ก็กรูเข้าไปชมความคึกคักในห้อง


หอ นางจึงกลายเป็ นจุดสนใจของผูค้ นไปโดยปริยาย ซึ่งการแต่งตัวเช่นนีก้ ็เป็ นไปตรงตามความ
ต้องการของนางพอดี
ซวงเถาอดจะบ่มงึมงําไม่ได้ “คุณหนูควรจะเชื่อนายหญิงแต่แรก ใส่ชดุ คลุมสีชมพูลาย
ดอกชางผูงามกว่ากันตัง้ เยอะ ทัง้ ยังเป็ นผ้าลายใหม่ของปี นีท้ ่ีเมืองหังโจวทําออกมาด้วย…”
แม้ระหว่างกลางจะมีงานประมูลเกิดขึน้ แต่หวังซื่อกับเฉินซื่อก็พาอวีถ้ ังไปหังโจวมา
รอบหนึ่ง ไม่เพียงซือ้ ผ้าและเครื่องประดับที่ออกใหม่ ซํา้ ยังซือ้ ถ้วยชามช้อนตะเกียบชุดใหม่ให้ท่ี
เรือนเพิ่มอีกด้วย

1
งานแต่งสามวันไม่นบั เด็กแก่ คือประเพณีของงานแต่งงาน หลังจากแต่งงานได้สามวัน แขกเหรื่อ เพื่อนบ้าน มิตรสหาย
ล้วนไม่แบ่งแยกอาวุโส ชายหญิงเด็กผูใ้ หญ่สามารถมาร่วมหยอกล้อสร้างความครืน้ เครงแก่คบู่ า่ วสาวได้ทงั้ สิน้ โดยมีความ
เชื่อว่าการทําเช่นนีเ้ ป็ นการเสริมบรรยากาศมงคล ขับไล่ความชั่วร้ายและหลีกเลี่ยงสิ่งอัปมงคลต่างๆ ถือเป็ นการอวยพรให้
บ่าวสาวสมปรารถนา เจริญรุง่ เรืองยิ่งๆ ขึน้ ไป
908

ชุดที่ซวงเถาพูดถึงนัน้ ก็คือชุดที่เฉินซื่อซือ้ มาเพื่อให้นางใส่ตอนวันแต่งงานของอวีห้ ย่


วน
อวีถ้ งั ก็คิดว่างดงามดี
ทัง้ เนือ้ ผ้า และสีชมพูน่ นั เหมือนดั่งดอกเหมยที่เบ่งบานตอนเดือนสาม ช่วยขับเน้นผิว
กายผูส้ วมใส่ แต่มนั ทําให้นางโดดเด่นเกินไป…ตอนนางไม่ยิม้ ก็ค่อนไปทางเคร่งขรึม ลดทอน
ความใสซื่อไร้เดียงสาของเด็กสาวไป ตรงข้ามกับสีแดงเข้มอีกชุดที่เข้ากับนางมากกว่า
ทว่า นางไม่คิดจะบอกเรื่องพวกนีก้ บั ซวงเถา นางตัดบทซวงเถาที่กาํ ลังร่ายยาวไม่หยุด
ว่า “เหตุใดเจ้าพูดมากเช่นนี?้ เมื่อวานไม่ได้ใช้งานเจ้ามากพอใช่หรือไม่!”
ซวงเถานึกถึงความทุกข์ระทมของเมื่อวานที่เท้าแทบไม่ได้แตะพืน้ จึงรีบหุบปากทันที
ความจริงนางแค่อยากจะพูดว่า วันนีจ้ ะมีเหล่าสตรีมาร่วมงานมากมาย หากว่าอวีถ้ งั
บรรจงแต่งตัวให้สะสวย ผูค้ นก็ย่ิงจะจดจํานางได้มากขึน้ ไม่แน่อาจมีนายหญิงสกุลใดเห็นนาง
เข้าตา แล้วมาสูข่ ออวีถ้ งั ก็เป็ นได้
นายหญิงใหญ่กบั นายหญิงรองยังพูดแล้วเลยว่า รอให้คุณชายตบแต่งเรียบร้อยก่อน
ค่อยทุ่มความสนใจทัง้ หมดไปที่การหาเขยชายให้คณ
ุ หนู
สองคนมาถึงเรือนของอวีป้ ๋ อ หวังซื่อกับนายหญิงอีกหลายคนกําลังสนทนากันอยู่กลาง
ลาน โถงใหญ่ยงั มีสภาพเหมือนเมื่อวาน ไม่ได้ตกแต่งสิ่งใดเพิ่มเติม
หรือป้าสะใภ้เปลี่ยนใจแล้ว?
อวีถ้ งั เดินเข้าไปทักทายป้าสะใภ้อย่างงุนงง
ป้าสะใภ้ลากอวีถ้ งั เข้าไปแนะนําให้เหล่านายหญิงทัง้ หลายได้รูจ้ กั ด้วยรอยยิม้ ที่เกลื่อน
หน้า
ทุกคนล้วนเป็ นนายหญิงคุมเรือนที่มีหน้ามีตาของเมืองหลินอันทัง้ สิน้
909

บางคนอวีถ้ ังเคยพบหน้าแล้วเมื่อครัง้ อยู่สกุลหลี่ตอนชาติก่อน บางคนนางเคยได้ยิน


ชื่อเสียงของผูเ้ ป็ นสามีมาบ้าง หวังซื่อแนะนําเพียงรอบเดียว อวีถ้ งั ก็จาํ ชื่อทุกคนได้ขนึ ้ ใจ ตอนที่
สนทนากันก็เรียกชื่อได้ไม่ตกหล่น บวกกับนางมีประสบการณ์ท่ีส่ งั สมจากชาติก่อน ระหว่าง
พูดจาก็วางตัวอย่างเป็ นธรรมชาติ ไม่ว่าพวกนางจะถามสิ่งใดนางล้วนตอบได้อย่างรื่นไหลไม่
ติดขัด นายหญิงทัง้ หลายต่างมองนางด้วยสายตาที่สงู ขึน้ กว่าเดิม ความชื่นชมแสดงออกผ่าน
นํา้ เสียง ทัง้ ให้ความเป็ นมิตรกับนางอย่างมาก
มีนายหญิงของซิ่วไฉสกุลเจิงผูห้ นึ่งถึงขนาดถามไถ่อายุของนางโดยไม่สนใจกาลเทศะ
ซักไซ้วา่ ปกตินางทําอะไรเป็ นงานอดิเรก อ่านสมุดบัญชีเป็ นหรือไม่
ป้าสะใภ้กลับไม่ได้กีดกัน นายหญิงคนอื่นต่างก็มองนางยิม้ ๆ ทําหน้าคล้ายว่าอยากรู ้
ด้วยเช่นเดียวกัน
อวีถ้ งั เพิ่งจะรูต้ วั ตอนนัน้ เอง
ป้าสะใภ้กาํ ลังฝากฝังให้ผอู้ ่ืนเป็ นแม่ส่อื ให้นางอยู่!
อวีถ้ งั พลันดวงหน้าแดงกํ่า แต่ยงั คงตอบคําถามของนายหญิงเจิงอย่างกระชับคําอยู่ดี
นายหญิงเมิ่งเห็นดังนัน้ มีเจตนาจะช่วยอวีถ้ งั ขัดตาทัพ นางหันไปเอ่ยกับหวังซื่อพร้อม
รอยยิม้ ว่า “ได้ยินมานานว่าหลานสาวบ้านนีง้ ดงามนัก วันนีไ้ ด้มาเห็น ไม่เพียงสะสวยสมคํา
วาจากิรยิ าก็เข้าที นายหญิงเฉินช่างอบรมมาดีเหลือเกิน!”
นายหญิงคนอื่นๆ จึงเอ่ยเยินยอตามไปด้วย
หวังซื่อเห็นว่าพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็ให้อวีถ้ ังไปเตรียมของที่จะใช้ตกแต่งโถงพิธี
เอาไว้ ทัง้ ยังเอ่ยว่า “ที่เจ้าพูดมีเหตุผล พวกเราเก็บกวาดงานเลีย้ งมือ้ เที่ยงแล้วค่อยตกแต่งโถง
พิธีจะดีกว่า”
910

ในเมื่อเป็ นงานมงคล ธุระเรื่องตกแต่งโถงพิธีและห้องหอล้วนเป็ นหน้าที่ของบิดามารดา


ทัง้ สองฝ่ าย หรือไม่ก็นายหญิงที่มีทงั้ บุตรธิดาครบพร้อม เหล่านายหญิงหลายคนนีค้ ะเนว่าคง
มาช่วยงานเป็ นแน่
อวีถ้ งั รับคําแล้วมุ่งหน้าไปที่หอ้ งนํา้ ชา พลันได้ยินเสียงนายหญิงเมิ่งอย่างเลือนลางว่า
“พวกท่านได้ยินเรื่องสกุลหลี่แล้วหรือไม่?”
มีคนเอ่ยต่อทันทีวา่ “สกุลหลี่ท่ีอยู่ตอนใต้ของเมือง ที่มีคณ
ุ ชายเป็ นจวี่เหรินน่ะรึ?”
“ถูกต้องแล้ว” นายหญิงเมิ่งตอบเสียงเบา แต่อวีถ้ งั ก็ยงั ได้ยินประโยคถัดไปว่า “ได้ยิน
ว่าถูกถอนหมัน้ …หลายวันก่อนไปเมืองหังโจวยังไม่กลับมาเลย…ใต้เท้าหลี่รอ้ นใจแทบแย่ ส่ง
กุนซือข้างกายมาเอง ให้เดินทางไปสกุลกูพ้ ร้อมกับฮูหยินหลี่…”
911

บทที่ 114 บุญคุณ


มีเรื่องเช่นนัน้ ด้วยรึ?!
อวีถ้ งั หูผ่งึ ทันที นางอยากจะฟั งต่อ น่าเสียดายที่ลานเรือนกับห้องนํา้ ชาห่างกันเพียงแค่
สองจัง้ เท่านัน้ ต่อให้นางพยายามเดินให้ชา้ อย่างไร ทว่าเพียงไม่ก่ีกา้ วก็เดินถึงแล้ว นางจึงเลือก
ที่จะหลบอยู่หลังเสาเพื่อแอบฟั งว่าพวกนางคุยอะไรกันต่อ
น่าเสียดายที่พวกนางคุยกันเสียงเบาไป ระยะกัน้ กลางก็มิใช่ใกล้ๆ นางจึงไม่ได้ยินอะไร
ทัง้ นัน้
อวีถ้ ังผิดหวังอย่างรุ นแรง ตอนที่ตกแต่งโถงพิธีจึงใจลอยไปเรื่อย จนมือเกือบปั ดถาด
ผลไม้ท่ีอยู่บนโต๊ะยาวร่วงตก นางรวบรวมสติใหม่อีกครัง้ แล้วทุ่มความสนใจไปที่งานมงคลขอ
งอวีห้ ย่วน
พิธีรบั ตัวเจ้าสาวเป็ นไปอย่างราบรื่น
เจ้า สาวลงจากเกี ย้ ว ไหว้ฟ้าดิน ส่ง ตัว เข้าห้องหอ อวีถ้ ัง คล้องแขนเฉิ นซื่อ ตามไปดู
เจ้าสาวด้วย
คุณหนูเซีย งอยู่ในชุดเจ้า สาวสี แดง บนศี รษะเต็ม ไปด้ว ยสร้อยไข่มุก แต่ง ตัว อย่า ง
งดงามเฉิดฉาย เหล่าสตรีท่ีมาร่วมงานต่างเอ่ยชมไม่ขาดปาก คิดกันว่าสกุลอวีห้ าคู่ครองได้ไม่
เลวเลยทีเดียว
อวีถ้ ังในฐานะญาติผูน้ อ้ งของเจ้าบ่าว ย่อมต้องแสดงความใส่ใจต่อพี่สะใภ้ท่ีเพิ่งแต่ง
เข้ามาให้มากหน่อย
นางกระซิบถามเซียงซื่อว่า “พี่สะใภ้ทอ้ งหิวหรือไม่?” ทัง้ เอ่ยต่อเพราะคิดช่วยอวีห้ ย่วน
เอาใจเซียงซื่อ “ตอนที่ท่านพี่ไปรับท่านก็กาํ ชับข้าซํา้ แล้วซํา้ อีก ให้ขา้ ดูแลพี่สะใภ้เป็ นอย่างดี ข้า
แอบหยิบขนมเอาไว้นิดหน่อย หรือถ้าพี่สะใภ้อยากไปห้องนํา้ ก็บอกข้าได้ ข้าเตรียมการเอาไว้
หมดแล้ว”
912

เจ้าสาวไม่อาจออกจากห้องหอได้ หากว่าสกุลฝ่ ายชายไม่เตรียมพร้อมเอาไว้ล่วงหน้า


จะท้องหิวหรือกระหายก็ไม่มีแม้กระทั่งนํา้ ให้ด่มื ด้วยซํา้
เซียงซื่อรูแ้ ต่ตน้ ว่าแม้อวีถ้ งั เป็ นญาติผนู้ อ้ งของอวีห้ ย่วน แต่สกุลอวีส้ องบ้านมีเพียงพวก
เขาสองพี่นอ้ งเท่านัน้ พวกเขาจึงเหมือนกับพี่นอ้ งแท้ๆ จากมารดาท้องเดียวกัน และอวีถ้ งั ก็เป็ น
น้องสามีเพียงคนเดียวของนาง นางย่อมประจบเอาใจให้มากหน่อย จึงรีบตอบไปว่า “แม่นมข้า
ก็ติดตามมาด้วยกัน นางมีทงั้ ถุงนํา้ และของกิน เจ้าไม่ตอ้ งเป็ นห่วงเลย” พูดจบ นางก็ดงึ ถุงผ้าที่
ซ่อนเอาไว้ในแขนเสือ้ ออกมาแล้วยัดใส่มืออวีถ้ ัง กระซิบบอกนางด้วยรอยยิม้ ว่า “นี่เป็ นสิ่งที่
ตัง้ ใจเตรียมไว้ให้เจ้า เมื่อครูค่ นเยอะ ไม่สะดวกหยิบออกมา เจ้าก็นาํ ไปซือ้ ดอกไม้ติดผมเถอะ”
พี่สะใภ้ช่างใจดีนกั อวีถ้ งั ย่อมรับเอาไว้อย่างเปิ ดเผยยินดี
เพียงแต่ถงุ ผ้าที่อยู่ในมือช่างหนักอึง้ อวีถ้ งั นึกสงสัยว่าที่เก็บอยูด่ า้ นในเป็ นเงินก้อนหรือ
ว่าเงินเม็ดแตง 1กันแน่
182

แต่นบั เป็ นของขวัญพบว่าที่มีนา้ํ หนักพอดูเลย


อวีถ้ ังรู ส้ ึกตืน้ ตัน กล่าวขอบคุณเซียงซื่อด้วยรอยยิม้ ร่า จากนัน้ ก็คอยดูแลเซียงซื่ออยู่
ข้างกายตลอด กระทั่งอวีห้ ย่วนคารวะสุราจากด้านนอกเรียบร้อยจนกลับเข้าห้อง นางถึงได้จาก
ไป
วันที่สองคือวันรับญาติ เซียงซื่อเตรียมของขวัญเอาไว้ให้อวีถ้ งั เป็ นรองเท้าถุงเท้าปั กคู่
หนึ่งกับเสือ้ คลุมตัวยาวสองชุดซึ่งถูกต้องตามธรรมเนียม ถุงเท้าทําจากผ้าชั้นดีแห่งซงเจียง
รองเท้าก็ปักด้วยไข่มกุ ขนาดเท่าเมล็ดข้าว เสือ้ คลุมตัวยาวทัง้ สองชุด ชุดหนึ่งเป็ นสีแดงสดเดิน
ดิน้ ทอง อีกชุดเป็ นสีเหลืองเขียวจับคู่กนั งดงามแปลกตายิ่งนัก ตอนเฉินซื่อมาเห็นยังหลุดกิรยิ า
ของผูอ้ าวุโสแล้วอุทานออกมาว่า “ช่างสูงค่าเหลือเกิน”

1
เงินเม็ดแตง เป็ นคําเรียกเงินย่อยของสมัยโบราณ มีลกั ษณะเหมือนเม็ดฟั กทอง นิยมใช้เพื่อแลกเปลี่ยนสินค้าในช่วงแรก
ในประวัติศาสตร์จีน ‘เงินเม็ดแตง’ มักเป็ นรางวัลที่ฮ่องเต้พระราชทานให้
913

อาจเพราะพออกพอใจในงานแต่งนี ้ เซียงซื่อจึงยิม้ กว้าง ความยินดีแผ่ซา่ นไปทั่วดวงตา


นางเอ่ยเสียงนุ่มว่า “น้องสาวหน้าตาพริม้ เพรา ควรแต่งตัวให้สะสวยถึงจะถูก ท่านน้า
พูดเช่นนี ้ กลับทําให้ขา้ ละอายใจแล้ว”
เฉิ นซื่อคิดว่างานมงคลของอวีถ้ ังยังไม่กาํ หนดเป็ นเรื่องเป็ นราว เสือ้ คลุมสองตัวนัน้
นับว่างดงามไม่สามัญ นางเห็นแล้วก็ถูกใจยิ่งนัก จึงไม่เอ่ยวาจาอ้อมค้อม บอกให้อวีถ้ งั กล่าว
ขอบคุณเซียงซื่ออีกครัง้
อวีถ้ งั เข้าไปคล้องแขนเซียงซื่ออย่างสนิทสนม เรียกนางเสียงหวานว่า “พี่สะใภ้” ทําเอา
เซียงซื่อที่เติบโตขึน้ มาท่ามกลางเด็กผูช้ ายสกุลเว่ยยิม้ รับหน้าบาน หากมิกลัวผิดธรรมเนียม
นางคงถอดกําไลหยกที่เพิ่งสวมใส่แขนมอบให้อวีถ้ งั ไปแล้ว
อวีถ้ งั ตัง้ ใจแน่วแน่ท่ีจะสานสัมพันธ์กบั เซียงซื่อ…เมื่อวานตอนที่กลับเรือน นางเปิ ดถุง
ผ้าที่เซียงซื่อมอบให้ออกดู เห็นว่าด้านในล้วนเป็ นเงินเม็ดแตงทัง้ สิน้
เห็นได้ชดั ว่าเซียงซื่อให้ความสําคัญกับนางมากเพียงใด
วันที่สามหลังแต่งงานต้องกลับไปเยือนสกุลเก่า เซียงซื่อกับอวีห้ ย่วนเดินทางไปที่เรือน
สกุลเว่ยด้วยกัน
พวกเขาต้องกลับไปเยือนสกุลเก่าถึงสองรอบ
รอบแรกคือเรือนสกุลเว่ย รอบสองอีกเก้าวันให้หลังต้องไปเรือนสกุลเซียง
โชคดีท่ีการกลับไปเยือนสกุลเก่าทัง้ สองครัง้ ล้วนราบรื่นตลอดทาง
หลัง จากจบงานแต่ง สองสามี ภรรยาก็ เ ริ่ม ตรวจนับคลัง เงิ น น้อยๆ ของตน เจ้า สาว
วุน่ วายกับการทําความรูจ้ กั ญาติพ่ีนอ้ งของฝ่ ายชายและเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียง
พริบตาเดียวก็ผ่านไปสามเดือนแล้ว
914

ช่วงนีอ้ วีถ้ งั ให้คนไปตามสืบเรื่องงานมงคลของหลี่ตวน พบว่าประตูใหญ่ของสกุลหลี่


ปิ ดแน่น ปฏิเสธการรับแขกโดยสิน้ เชิง
ได้ยินว่าฮูหยินหลี่ลม้ ป่ วย ไปหาหมอรักษาตัวที่เมืองหังโจว หลี่ตวนก็ติดตามไปเพื่อ
ดูแลนางด้วย
ชาวเมืองพากันซุบซิบ บอกว่าหลี่ตวนกตัญ�ูนัก กระทั่งตําราวิชาก็ไม่เล่าเรียนแล้ว
ตามไปอยู่เป็ นเพื่อนมารดาถึงหังโจว ไม่รูจ้ ะทําให้การสอบในปี หน้าต้องล่าช้าไปหรือไม่?
ทัง้ ยังซุบซิบต่อว่าฮูหยินหลี่ป่วยเป็ นโรคอะไร ร้ายแรงหรือไม่ พลางทอดถอนใจบอก
หากฮูหยินหลี่ไม่อาจพ้นเคราะห์ไปได้ จากอายุของใต้เท้าหลี่ คงต้องรับภรรยาใหม่เป็ นแน่ ถึง
เวลานัน้ คุณชายทัง้ สองของสกุลหลี่คงไม่อาจอยู่อย่างเป็ นสุขแล้ว
อวีถ้ งั ได้ฟังก็เบะปาก แอบเสียดายเล็กน้อยที่ไม่มีข่าวที่นางสนใจอยากรู ้
เวลานีเ้ หล่าสกุลเผิง สกุลเถาต่างก็แยกย้ายกลับจวนไปหมดแล้ว เผยเยี่ยนคะเนว่า
สกุลอวีค้ งสะสางธุระได้พอตัว จึงนัดอวีเ้ หวินไปดื่มชาที่จวนของตน
อวีเ้ หวินรูท้ นั ทีวา่ ต้องคุยเรื่องการประมูลเป็ นแน่
เขาเห็นว่าเซียงซื่อฉลาดเฉลียวมีความสามารถ จึงถามอวีห้ ย่วนว่า “พาเซียงซื่อไป
ด้วยดีหรือไม่?”
อวีห้ ย่วนรีบตอบทันที “ให้นางอยู่ท่ีเรือนเถอะขอรับ! เรื่องแผนที่ย่ิงคนรู น้ อ้ ยเท่าไรก็ย่ิง
ดี!”
เหมือนกับหวังซื่อผูเ้ ป็ นมารดาและท่านน้าสกุลเฉินที่ตอนนีก้ ็ยงั ไม่รูเ้ รื่อง ไม่อาจเพราะ
เซียงซื่อแต่งให้เขาแล้ว สามารถจัดการเรื่องราวได้ดี แล้วจะปฏิบตั ิต่อนางต่างออกไปจากผูอ้ ่ืน
ได้
ในเมื่อหลานชายไม่วา่ กระไร อวีเ้ หวินย่อมไม่อยาก่อเรื่องอีก
915

เขาประคองของขวัญที่เตรียมเอาไว้ให้เผยเยี่ยนใส่มืออวีห้ ย่วน “เจ้าถือดีๆ ล่ะ ระวังทํา


แตก!”
นี่เป็ นแจกันหรูเ่ หยาทรงคอยาวสีทอ้ งฟ้าคูห่ นึ่ง
เขาฝากให้นายท่านอูห่ าซือ้ มาให้
นายท่านอู่ทุ่มเทความคิดกว้านหาของให้สกุลเขา แจกันสองใบนีต้ อ้ งจ่ายเงินไปถึงสี่
พันสี่รอ้ ยตําลึง นี่เพราะเห็นแก่หน้านายท่านอู่ ตอนนัน้ นายท่านอู่ยงั กลัวว่าพวกเขาจะไม่มีเงิน
มากมายปานนี ้ ยังเอ่ยอ้อมค้อมว่า “ยังมีประการังอีกคูห่ นึ่ง สีแดง สูงสามฉื่อ จะมอบให้คนหรือ
เก็บเป็ นไว้เป็ นสินเดิมของบุตรสาวเจ้าก็ไม่น่าเกลียด ราคาแค่หนึ่งพันสองร้อยตําลึงเท่านัน้ ”
อวีเ้ หวินเลือกแจกันคูน่ นั้ อย่างไม่ลงั เล
ตั๋วเงินที่ได้จากประมูลขายแผนที่ยงั ไม่ทนั กอดให้หายร้อน อวีเ้ หวินก็จ่ายมันออกไปให้
นายท่านอูถ่ ึงสี่พนั สี่รอ้ ยตําลึงแล้ว
นายท่ายอู่ถือเงินพร้อมรอยยิม้ พิมพ์ใจ บอกกับอวีเ้ หวินว่า “ข้าอยู่เรือนติดเจ้ามาตัง้
นมนาน ไม่คิดว่าเจ้าจะเก็บซ่อนได้มิดชิดเพียงนี ้ เงินทองในเรือนนับว่าแน่นหนาจริงๆ”
อวีเ้ หวินพลันหน้าแดงทันที เอ่ยว่า “นี่ตอ้ งมอบเป็ นของขวัญให้ผูอ้ ่ืน ย่อมต้องแสดง
ความจริงใจมากหน่อย”
นายท่านอูไ่ ม่ถามเรื่องผูอ้ ่นื สุม่ สี่สมุ่ ห้า ได้ยินแล้วก็ไม่ซกั ไซ้ตอ่ เพียงรับเงินแล้วจากไป
อวีห้ ย่วนประคองแจกันสองใบวางลงกล่องผ้าไหมอย่างระมัดระวัง จากนัน้ ก็เดินทาง
พร้อมกับอวีเ้ หวินและอวีถ้ งั ไปยังจวนสกุลเผย
เผยเยี่ยนอยู่ท่ีหอ้ งหนังสือซึง่ พวกเขาเคยพบกันครัง้ แรก
วันนีท้ อ้ งฟ้าสดใส พวกเขานั่งสนทนากันใต้ตน้ การบูรในลานกว้างหน้าห้องหนังสือ
916

“ตอนงานประมูลเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึน้ ” เผยเยี่ยนอยู่ในชุดคลุมตัวหลวมสีหม่น ผมดํา


ขลับถูกมวยด้วยปิ่ นไม้ไผ่ง่ายๆ ดูอารมณ์ดีไม่เลว เขานั่งปล่อยตัวตามสบายบนเก้าอีไ้ ท่ซือ “เดิม
พวกนัน้ วางแผนเอาไว้แล้ว แผนที่ผืนนัน้ กลัวแต่วา่ ไม่อาจประมูลได้ในราคาสูง ใครจะคิดว่าสกุล
เถา สกุลเซิ่งและสกุลอิน้ จะร่วมมือกัน ส่วนสกุลอู่ สกุลซ่งและสกุลเผิงก็รวมเป็ นอีกกลุม่ ช่วยกัน
ประมูลแผนที่ผืนนัน้ ไป สกุลลี่นนั้ ก็เหมือนคําเล่าลือที่ได้ยินมา พวกเขาไม่คิดสอดมือมายุ่งเรื่อง
นี ้ แม้จะผิดจากแผนที่วางไว้แต่แรก แต่อย่างน้อยก็ไม่เกิดความอลหม่าน นับว่าสําเร็จลงด้วยดี”
อวีเ้ หวินไม่คิดปกปิ ดความซาบซึง้ ของตนเลยสักนิด “ใช่แค่สาํ เร็จด้วยดีท่ีไหนกัน เช่นนี ้
นับว่าประเสริฐอย่างมิอาจหาใดเปรียบแล้ว ทัง้ ไม่มีสกุลใดสกุลหนึ่งโดดเด่นขึน้ มาเป็ นเป้าโจมตี
ทัง้ ไม่มีใครเหยียบยํ่าทําลายคุณค่าของมัน หากว่าไม่ได้นายท่านสาม เรื่องนีจ้ ะราบรื่นได้หรือ
พูดขึน้ มาแล้ว ก็รูส้ กึ ขอบคุณท่านยิ่งนัก!”
เผยเยี่ยนตอบกลับด้วยวาจาเกรงใจไปหลายคํา
อวีถ้ งั คล้ายมีเรื่องจะพูดแต่ก็ชะงักไป
เผยเยี่ยนเห็นแล้วก็หวั เราะ “คุณหนูอวีต้ อ้ งการพูดสิ่งใดก็กล่าวออกมาตรงๆ เถอะ หาก
ข้ารูย้ ่อมจะบอกอย่างไม่ปิดบังซ่อนเร้นแน่”
คล้ายว่าจะอารมณ์เบิกบานไม่นอ้ ยเลย
อวีถ้ งั จึงไม่เกรงอกเกรงใจอีก “สกุลเผิงกับสกุลซ่ง…”
ถ้านางจําไม่ผิด สกุลซ่งกับสกุลเผยเป็ นญาติกนั นี่นา
เผยเยี่ยนตอบอย่างไม่แยแสว่า “อํานาจในแผ่นดินบางครัง้ แตกแยกบางครัง้ รวมกลุ่ม
ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึงญาติมิตร เจ้าไม่ตอ้ งกังวลเรื่องสกุลซ่ง เขาต้องการร่วมมือกับใคร เป็ นการ
ตัดสินใจของเขาเอง ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึน้ พวกเขาย่อมแบกรับผลที่ตามมา พวกเราเป็ น
เพียงผูย้ ืนดูอยู่ขา้ งๆ ทําได้แค่ตกั เตือนเท่านัน้ ไม่อาจบังคับให้เขาทําสิ่งใดได้”
ฟั งจากนํา้ เสียง กลับไม่คล้ายว่าไยดีตอ่ สกุลอู่ สกุลซ่งและสกุลเผิงเท่าไรนัก
917

อวีถ้ งั คิดถึงชาติก่อน ตอนที่เมืองซูโจวมีสกุลเจียงผงาดขึน้ มา


เห็นชัดว่าต่อให้ไม่มีงานประมูลในครัง้ นี ้ อีกไม่ก่ีปีสกุลซ่งก็คงค่อยๆ เสื่อมความเจริญ
ลงทุกวันอยู่ดี
บางทีน่ีอาจเป็ นความสามารถและกําลังของแต่ละคนกระมัง
นางแค่กลัวว่าหากสกุลเผิงกับสกุลซ่งอยู่ฝ่ ังเดียวกัน ความแค้นระหว่างนางกับสกุลหลี่
ย่อมไปพัวพันกับสกุลเผิง แล้วเผยเยี่ยนก็ตอ้ งไปยืนข้างสกุลเผิงทางนัน้ ตอนนีไ้ ด้ฟังคําตอบของ
เขา ใจที่ลอยเคว้งถึงค่อยสงบลงได้
ภายหลัง เผยเยี่ ย นก็ ถ ามถึ ง ต้น ซาจี๋ “เป็ น อย่ า งไร? พวกมัน ไม่ ก่ี ต ้น ปลูก รอดแล้ว
หรือไม่?”
ก่อนหน้านีเ้ ผยเยี่ยนพูดเอาไว้ก่อนแล้ว เพียงแต่ไม่รอให้อวีถ้ งั ส่งคนไปขุดต้นไม้ท่ีสกุล
เผย หูซิ่งก็พาคนนําต้นไม้มาส่งถึงสกุลอวีแ้ ล้ว อวีเ้ หวินไหว้วานท่านปู่ ห้าให้ปลูกมันไว้แถบตีน
เขา หลายวันนีอ้ วีถ้ งั ก็ยงั ไม่มีเวลาแวะไปดู
“ข้าคิดว่าสองวันนีจ้ ะไปดูมนั เสียหน่อย” อวีถ้ งั ตอบ “ท่านพ่อยกเรื่องที่นาให้ขา้ จัดการ
เช่นกัน ข้าได้ยินมาจากท่านป้าที่เรือน บอกว่าหลายวันนีก้ าํ ลังแตกยอดอ่อนพอดี จะได้ถือ
โอกาสไปดูดว้ ยเลย”
พวกเขาปลูก ข้า วนานํ้า พอหว่ า นเมล็ ด สัก หลายวัน ถึ ง จะรู ้ว่ า มัน ปลูก ขึ น้ หรื อ ไม่
หลังจากที่มนั งอกขึน้ มาแล้ว ก็ตอ้ งรออีกหลายเดือนถึงจะรูว้ า่ มันให้ผลผลิตมากน้อยเพียงใด
อวี ป้ ๋ อยกธุ ร ะเรื่อ งสวนป่ าให้อ วี ห้ ย่ ว นดูแ ล อวี เ้ หวิ น ครุ ่น คิ ด ว่า อวี ห้ ย่ ว นก็ ส ามารถ
ช่วยเหลืออวีถ้ งั ได้ จึงยกที่นาหนึ่งร้อยหมู่ให้อวีถ้ งั ดูแลจัดการ
อวีถ้ งั อีกสองสามวันก็วางแผนจะไปที่บา้ นเก่าพร้อมกับอวีห้ ย่วน ทัง้ ถือโอกาสไปดูตน้
ซาจี๋ท่ียา้ ยไปปลูกทางโน้นด้วย
918

เผยเยี่ยนเอ่ยว่า “หากเจ้ามีสิ่งใดไม่เข้าใจ ก็สง่ คนมาถามหูซิ่งได้ ถ้าเกิดเขาไม่ว่าง ก็จะ


สั่งให้คนเบือ้ งล่างที่รูค้ วามไปช่วยเหลือเจ้าเอง”
อวีถ้ งั กล่าวขอบคุณเขาซํา้ ไปซํา้ มา
เผยเยี่ ย นพูด ถึ ง เรื่ อ งสกุ ล เผิ ง ขึ น้ มาว่ า “พวกเขาน่ า จะรู ้แ ล้ว ว่ า แผนที่ ส องผื น นั้น
เหมือนกัน คงไม่มีทางปล่อยสกุลหลี่ไว้แน่ สกุลหลี่ทางนัน้ เป็ นไปได้สงู ว่าจะโบ้ยความผิดมาให้
สกุลเจ้า ข้าไม่รูว้ ่าพวกเจ้าทางนัน้ มีคนมากน้อยเท่าไรที่รูเ้ รื่องแผนที่ แต่ควรจะตอบกลับไปให้
เหมือนกัน หากว่ามีคนมาถาม ก็ตอ้ งกัดฟั นตอบไปอย่างเดียวว่าไม่รูเ้ รื่อง สิ่งของที่เหลืออยู่ของ
หลูซ่ ิ่น ทัง้ หมดทัง้ มวลล้วนคืนให้สกุลหลูไ่ ปแล้ว พวกเขาหากว่าไม่เชื่อ สามารถเชิญคนสกุลหลู่
มาสอบถามได้”
หัวใจของอวีถ้ งั เริม่ บีบรัดกันแน่น
อวีเ้ หวินกล่าวอย่างกังวลว่า “เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว สกุลเรามีแค่พวกข้าสามคนที่รูเ้ รื่อง
ไม่มีทางพูดเรื่อยเปื่ อยออกไปแน่ ท่านวางใจได้เลย”
เผยเยี่ยนค่อนข้างประหลาดใจ แต่ก็พอใจกับความระมัดระวังของอวีเ้ หวิน เขาเอ่ยต่อ
ว่า “หากว่าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ส่งคนมาแจ้งต่อข้า” ทัง้ เสริมว่า “ข้าช่วยพวกเจ้าแก้ปัญหาเฉพาะ
หน้าได้ แต่ไม่ใช่กบั ปั ญหาที่ยืดเยือ้ ยาวนาน หากกําจัดความเคลือบแคลงสงสัยของคนพวกนัน้
ได้อย่างเงียบเชียบย่อมจะดีท่ีสดุ ”
อวีเ้ หวินพยักหน้ารัวเร็ว
อาหมิงพลันวิ่งเข้ามารายงานว่า “คุณชายบ้านรองสกุลกูแ้ ห่งเมืองหังโจวให้คนมาส่ง
เทียบเชิญขอรับ บอกว่าพรุง่ นีจ้ ะขอเข้ามาเยี่ยมเยียนท่าน”
คุณชายใหญ่บา้ นรองสกุลกู้ กูฉ้ ่าง?
อวีถ้ งั ตกตะลึงเป็ นที่สดุ
919

บทที่ 115 ถอนหมั้น


กูฉ้ ่างเป็ นพี่ชายของกูซ้ ี
สกุลหลี่พยายามทุกวิถีทางที่จะสูข่ อกูซ้ ีให้หลี่ตวนก็เพราะกูฉ้ ่าง
เขาเพียบพร้อมด้วยสติปัญญา มีช่ือเสียงตัง้ แต่อายุนอ้ ย มารดาด่วนจาก จึงดูแลเอาใจ
ใส่นอ้ งสาวเพียงคนเดียวของตนเป็ นอย่างยิ่ง ชาติก่อนสกุลหลี่ก็ได้รบั การปกป้องจากเขาด้วย
เหตุนี ้ กอบโกยผลประโยชน์ได้มิใช่นอ้ ย
อวีถ้ งั เคยเห็นเขาจากที่ไกลๆ ครัง้ หนึ่ง
พบในยามพิธีเสี่ยงทายอนาคต 1ที่ลกู ชายคนโตของกูซ้ ีครบรอบหนึ่งปี
183

กูฉ้ ่างเหมือนจะไปทําเรื่องอะไรบางอย่างที่ไหวอัน จึงแวะมาเยี่ยมเยียนกูซ้ ีท่ีหลินอัน


อย่างเงียบๆ
เขารู ปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลา รอยยิม้ เคร่งขรึม ดูอบอุ่นและเป็ นกันเอง แต่แวว
ตาที่ปราศรอยยิม้ กลับซ่อนความเยือกเย็นและห่างเหินไว้ ไม่เหมือนท่าทีเป็ นมิตรหรือเข้าคน
ง่ายที่เขาเผยออกมาจากใบหน้าแม้แต่นอ้ ย
ได้ยินว่านั่นเป็ นครัง้ แรกที่เขามาเยือนหลินอัน
คาดไม่ถึงว่า ชาตินีก้ ฉู้ ่างจะก้าวเข้ามาในหลินอันรวดเร็วขนาดนี ้
แต่วา่ เหตุใดเขาจึงมาเยี่ยมเยือนเผยเยี่ยนกัน?
ชาติก่อน เขามาอย่างเงียบๆ ทั้งจากไปอย่างเงียบๆ แวะที่สกุลหลี่เพียงสองชั่วยาม
เท่านัน้ นอกจากสนทนากับคนของสกุลหลี่ไม่ก่ีคาํ ก็ทาํ เพียงอุม้ ลูกชายคนโตของกูซ้ ีไปคุยเล่น
อยู่ตลอด

1
พิธีเสี่ยงทายอนาคต คือ พิธีท่ใี ห้เด็กอายุครบหนึ่งปี ลองจับสิ่งของเพื่อทํานายอาชีพการงานในอนาคต
920

อวีถ้ งั มองเผยเยี่ยนแวบหนึ่ง
เผยเยี่ยนเป็ นคนที่มีไหวพริบ
เขาออกคําสั่งกับอาหมิง “เอาเทียบเชิญมาให้ขา้ ดู”
อาหมิงรีบนําเทียบเชิญในมือส่งให้เผยเยี่ยน
เผยเยี่ยนมองเทียบเชิญ พลางเอ่ย “ว่ามาเถิด เจ้าอยากพูดอะไร?”
อวีถ้ งั กระพริบตาปริบ ผ่านไปพักใหญ่คอ่ ยรูว้ า่ เผยเยี่ยนกําลังคุยกับนางอยู่
นางเหลือบมองบิดาและญาติผพู้ ่ีไปที
อวีเ้ หวินกําลังมองนางตาปริบๆ ด้านอวีห้ ย่วนกลับขยิบตาให้นาง
อวีถ้ งั คิดยุ่งเหยิงอยู่ในใจ ในช่วงเวลาสัน้ ๆ กลับไม่รูว้ า่ ควรจะพูดอะไรกับเผยเยียน
เผยเยี่ยนก็ไม่ได้เร่งรัดนาง ปิ ดเทียบเชิญส่งคืนอาหมิง “ไปบอกกล่าวกับเผยหม่าน ให้
เขาเตรียมตัวเสียหน่อย”
อาหมิงรับคําสั่งก่อนออกไป
แววตาของเผยเยี่ยนหยุดลงที่รา่ งอวีถ้ งั
อวีถ้ ังยิม้ เจื่อน เอ่ยเสียงเบาอย่างไม่เป็ นตัวเองอยู่บา้ ง “ท่าน ท่านรู จ้ กั คุณชายใหญ่กู้
ด้วยรึ?”
“คุณชายใหญ่ก?ู้ ” เผยเยี่ยนปรากกฎสีหน้างงงวย
อวีถ้ งั ไม่เข้าใจ
เผยเยี่ยนเอ่ย “กูเ้ จาหยางเป็ นลูกชายคนโตภรรยาเอกของบ้านรอง ตามอายุจดั อยู่ใน
ลําดับที่หก ทัง้ เขายังอายุนอ้ ยกว่าลูกคนสุดท้องของบ้านใหญ่ถึงเจ็ดแปดปี เขามีช่ือเสียงตัง้ แต่
เด็ก นายท่านใหญ่สกุลกูจ้ งึ เรียกหยอกเขาว่าเป็ นคุณชายใหญ่สกุลกู้ แต่เมื่ออยู่ภายนอก คนอื่น
921

กลับเรียกเขาว่าคุณชายหกกูอ้ ย่างนอบน้อมเท่านัน้ ” พูดถึงตรงนี ้ เขาก็ ‘อ่อ’ ออกมา เอ่ยว่า “กู้


ฉ่างมีนามรองว่าเจาหยาง เจ้าก็คงเคยได้ยินมาก่อนกระมัง?”
นางไม่เคยได้ยินมาก่อน
ก็หมายความว่า คําเรียกคุณชายใหญ่นี ้ คงมีแค่ท่ีสกุลกู้
อวีถ้ งั พลันกระดากอาย ไม่รูค้ วรจะเอ่ยอย่างไรดี
เผยเยี่ยนแค่นเสียงในลําคออย่างไม่พอใจ
อวีห้ ย่วนผุดลุกยืนขึน้ มาทันที ท่าทางราวกับไม่กลัวความตาย อวีถ้ งั มองแวบเดียวก็รู ้
แล้วว่าไม่ดีแน่
ญาติผพู้ ่ีของนางคนนี ้ บางครัง้ ก็ใสซื่อเกินไป อาจจะเสียเปรียบได้ง่ายๆ
นางละลํ่าละลักดึงแขนเสือ้ ญาติผูพ้ ่ีไว้ ชิงเอ่ยก่อนที่อวีห้ ย่วนจะเปิ ดปาก “นายท่าน
สาม เรื่องนีข้ า้ ทําผิดเอง ข้า ข้าโมโหที่สกุลหลี่ทาํ เรื่องโหดร้ายเกินไป จึงเล่าเรื่องที่สกุลหลี่ก่อไว้
ให้สกุลกู…
้ ”
เผยเยี่ยนนิ่งค้างอย่างตกตะลึง
เขาอดพินิจอวีถ้ งั อย่างละเอียดอีกครัง้ ไม่ได้
ดวงตากลมโตอ่อนหวาน แววตากระจ่างชัดจนแทบเห็นเงาของเขา ดูใสซื่อจริงใจเป็ น
อย่างยิ่ง
ลับหลังกลับแอบนําเรื่องฉาวไปป่ าวประกาศ!
ทําเรื่องเช่นนีล้ งไป ควรจะร้อนตัวไม่ก็ต่นื ตระหนกลนลานมิใช่ร?ึ
ทว่านางกลับโผงผางตรงไปตรงมา ราวกับกลัวคนจะไม่รูเ้ สียอย่างนัน้
เช่นนัน้ เมื่อครูค่ ือยอมรับผิดแล้ว?
922

เผยเยี่ยนอดแค่นเสียงเย็นไม่ได้ “เจ้าคิดว่าตัวเองทําไม่ถกู จริงๆ รึ?”


อวีถ้ งั ไม่ปริปากอันใด
นางไม่รูส้ กึ ว่าตัวเองทําผิดตรงไหน
การขอโทษ ตัง้ แต่ชาติก่อนสกุลหลี่ก็จะสร้างนิสยั นีใ้ ห้นางเสียแล้ว ไม่ว่าจะถูกหรือผิด
ก็ตอ้ งขอโทษไว้ก่อน ให้อีกฝ่ ายคลายโทสะลง จากนัน้ ก็ดสู ถานการณ์ว่าจะยอมจบเรื่องอย่าง
สงบหรือโต้แย้งด้วยเหตุผลกับอีกฝ่ าย
ไม่มีใครพูดอันใด บริเวณรอบๆ จึงเปลี่ยนเป็ นเงียบสงัดโดยพลัน บรรยากาศก็หนักอึง้
ขึน้ เรื่อยๆ
อวี ้เ หวิ น มองเผยเยี่ ย น ก่ อ นมองอวี ้ถัง อี ก ครั้ง ยามที่ ก ํา ลัง จะเปิ ด ปากคลี่ ค ลาย
สถานการณ์ให้ลกู สาว ก็ได้ยินเสียงของอวีห้ ย่วนเอ่ยขึน้ มาอย่าขุ่นเคืองก่อน “สิ่งที่สกุลพวกเขา
ทํา ยังต้องกลัวคนอื่นจะซุบซิบนินทาอยู่อย่างนัน้ รึ? อีกอย่าง พวกเราก็ไม่ได้แต่งเรื่องปั้นนํา้ เป็ น
ตัว สร้างข่าวลืออะไรขึน้ มา ล้วนแต่เป็ นความจริงทัง้ นัน้ ”
เผยเยี่ยนมองไปยังอวีห้ ย่วน
พูดตามตรง เด็กหนุ่มที่เอาแต่เดินตามบิดาต้อยๆ อย่างอวีห้ ย่วน เผยเยี่ยนนัน้ พบเห็น
มามาก หลายครัง้ ที่พบเขาก็ไม่เคยเห็นเขาอยู่สายตา เผยเยี่ยนคาดไม่ถึงว่าอวีห้ ย่วนจะชิงเอ่ย
ปากก่ อนอวี เ้ หวิน จะเห็น ได้ว่า อวีห้ ย่วนที่เ ป็ นพี่ชายยังคงปกป้องและเอาใจใส่อวี ถ้ ังที่เป็ น
น้องสาวอยู่ไม่นอ้ ย
อย่างน้อยก็ใจกล้าลุกขึน้ มาต่อปากต่อคํากับเขา
หรือที่คณ
ุ หนูอวีใ้ จกล้าดีเดือด ล้วนเป็ นเพราะคนในบ้านตามอกตามใจเช่นนี ้
เขาถามอวีถ้ งั อีกครัง้ “เจ้าไม่คิดว่าตัวเองทําผิด?”
อวีถ้ งั นับว่ามองออก เผยเยี่ยนนัน้ ต้องการสร้างปั ญหาให้นาง
923

จะสนใจว่านางทําถูกไม่ถูกไปทําไม นางได้ขอโทษแล้ว ไฉนเขาจึงยังยืดเยือ้ ไม่ยอม


ปล่อยเช่นนี?้
อวีถ้ งั เอ่ย “ข้าคิดว่าพี่ชายข้ากล่าวได้ถูกต้อง สกุลพวกเขากล้าทําก็ย่อมไม่กลัวคนอื่น
จะพูดอะไรอยู่แล้ว ข้าไม่ได้ทาํ ผิด!”
เผยเยี่ยนเอ่ย “เช่นนัน้ เจ้าขอโทษอะไร?”
อวีถ้ ังอยากลอกตาอย่างยิ่ง แต่กลัวว่าบิดาจะคิดว่ามารดาสั่งสอนนางได้ไม่ดี จึงไม่
กล้า
“ข้าขอโทษก็เพราะกลัวท่านโกรธมิใช่หรอกรึ?” ดีท่ีนางสมองไว ชั่วพริบตาก็หาเหตุ
ผลได้ทนั ที “ท่านช่วยเหลือข้ามากมายขนาดนี ้ ข้ายังไม่ได้ตอบแทนอะไรเป็ นชิน้ เป็ นอัน กลับวิ่ง
โร่ไปสร้างปั ญหาให้สกุลหลี่…”
ปกตินางก็มกั จะเกลีย้ กล่อมเอาใจบิดามารดาเช่นนี ้ ไม่รูส้ กึ ว่ามีอนั ใดไม่เหมาะสม ส่วน
เผยเยี่ยน ยามปกติท่ีคนอื่นพูดคุยกับเขาล้วนแต่สรรเสริญเยินยอเกินจริง แม้จะเป็ นคําพูดเอ่ย
ขัด ก็กล่าวได้อย่างไพเราะรื่นหู เขาจึงไม่รูส้ กึ ว่าคําพูดนีผ้ ิดที่ตรงไหน
ด้วยเหตุนีเ้ ขาจึงพยักหน้าอย่างพอใจ คิดว่าคุณหนูอวีย้ งั นับว่าจิตใจดี รู จ้ กั ซาบซึง้ ใน
บุญคุณ ก็ไม่ถือสาอะไรนางอีก เอ่ยสั่งสอน “ในเมื่อคิดว่าตัวเองไม่ผิด ก็อย่าได้ขอโทษคนอื่นส่ง
เดช เจ้าไม่ใช่เด็กรับใช้หรือบ่าวของสกุลใด ไฉนจึงต้องพูดขอโทษให้ติดปาก!”
คาดไม่ถึงว่าจะพูดด้วยนํา้ เสียงราวกับผิดหวังเช่นนัน้
อวีถ้ ัง ชะงัก งัน อดลอบนิ น ทาในใจไม่ได้ ไม่อยู่ในสถานการณ์เ ดี ย วกันจะเข้าใจได้
อย่างไร คิดว่าตัวเองไม่ผิดก็ไม่ขอโทษ นั่นก็ตอ้ งดูว่าเป็ นใคร หากเป็ นเผยเยี่ยนเอง ย่อมทําได้
แต่เมื่อเป็ นนาง กลับไม่ได้ ชาติก่อน นางก็เสียเปรียบด้วยเรื่องเช่นนีไ้ ม่นอ้ ย
แต่เมื่อความคิดนีแ้ ล่นผ่านเข้ามา นางกลับปวดใจจนพูดไม่ออกอยู่พกั ใหญ่
แท้จริงแล้วชาติก่อนนางก็เคยไม่ได้รบั ความเป็ นธรรมเช่นนี ้
924

ถึงกระทั่งเปลี่ยนแปลงนิสยั ของนางไปจากเดิม
เปลี่ยนให้นางเป็ นคนถ่อมตัวคิดเล็กคิดน้อย เอาแต่โอนอ่อนผ่อนตาม
ชั่วขณะนัน้ ขอบตาอวีถ้ งั ก็รนื ้ ชืน้ ขึน้ มา
นางก้มศีรษะลง ไม่อยากให้คนอื่นเห็นความอ่อนแอของตัวเอง
อวีเ้ หวินกลับเอาแต่ปรบมือเอ่ยว่าดี กล่าวกับอวีถ้ งั “ลูกสาว นายท่านสามพูดมิผิด เจ้า
ควรจะยืดตัวตรงอย่างสง่าผ่าเผย มีอะไรก็พดู ไปตามนัน้ ” พูดจบ ก็ทอดถอนหายใจเอ่ยกับเผย
เยี่ยน “ลูกสาวข้าคนนี ้ ล้วนดีทกุ อย่าง เพียงขีข้ ลาดตาขาวไปบ้างเท่านัน้ ยากที่นางและท่านจะ
ถูกชะตากัน ภายหลังมีเรื่องอันใด ยังคงต้องรบกวนท่านเป็ นที่พ่งึ พิงให้กบั นาง”
จุดนีเ้ ผยเยี่ยนไม่ได้ขดั อันใด แต่ก็หาได้รบั ปากอะไรไม่
เขาคาดเดาจุดประสงค์ท่ีกูฉ้ ่างมา “ยามที่ขา้ อยู่เมืองหลวงเคยพบเขาอยู่หลายครัง้
หลายครา ปกติก็ไม่ได้ไปมาหาสูก่ นั เขาก็ไม่ใช่คนที่ชอบเทียวไปเทียวมาอย่างส่งเดช ยิ่งไปกว่า
นัน้ ครัง้ นีเ้ ขาได้รบั คําสั่งจากเบือ้ งบนให้ออกจากเมืองหลวง เจ้านายและเขาก็ไม่ใช่อาจารย์ศิษย์
สํานักเดียวกัน ยามนีเ้ ขากําลังทํางาน จู่ๆ ก็มาหลินอัน…ข้าคิดดูแล้ว น่าจะมีตน้ สายปลายเหตุ
มาจากสกุลหลี่ นอกจากพวกเจ้าเล่าเรื่องของสกุลหลี่ให้สกุลกูฟ้ ั ง ยังทําอะไรอย่างอื่นหรือไม่?”
อวีถ้ งั ส่ายศีรษะราวกับกลองไม้เขย่า
เผยเยี่ยนกลับไม่เชื่อเท่าใด
คุณหนูอวีผ้ นู้ ี ้ มีเล่หเ์ หลี่ยมไหวพริบมิใช่นอ้ ย หากไม่ถกู ต้อนจนมุมย่อมไม่อาจยอมรับ
ง่ายๆ ไม่สิ บางทีถกู ต้อนจนมุมแล้วก็อาจคิดวิธีปฏิเสธได้เสียด้วยซํา้
เผยเยี่ยนเอ่ย “คงไม่ถึงกับมาสืบถามนิสยั ใจคอของหลี่ตวนจากข้าหรอกกระมัง?”
เขาพูดเพิ่งจะจบ คนสกุลอวีท้ งั้ สามคนก็สบสายตากัน เงียบเป็ นเป่ าสากขึน้ มาทันที
อาจเป็ นไปได้อย่างนัน้ รึ!
925

เผยเยี่ยนโมโหจนอยากหัวร่อออกมา จ้องมองอวีถ้ งั ที่เอ่ยรับว่า ‘อืม’ อย่างไม่ละสายตา


“คุณหนูอวี ้ เจ้าเป็ นห่วงสกุลหลี่ถึงเพียงนี ้ สกุลพวกเขามีความเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย อย่างไร
เจ้าก็คงได้ยินข่าวคราวมาบ้างกระมัง?”
แม้อวีถ้ งั จะคิดว่าคู่หมัน้ เฉกเช่นหลี่ตวนนัน้ ทิง้ ไปก็ไม่เป็ นไร แต่ก็ไม่อาจห้ามความเชื่อ
ของทุกคนที่วา่ ‘ยอมทุบสิบวัดวาดีกว่าต้องทําลายงานแต่งของคนอื่น 2!’ 184

หากกูฉ้ ่างมาสืบถามนิสยั ใจคอของหลี่ตวนจากเผยเยี่ยยนจริงๆ นางก็ไม่อาจปิ ดบังทํา


ให้เผยเยี่ยนเสียเปรียบได้กระมัง!
อวีถ้ งั มองเผยเยี่ยนอย่างระแวดระวัง เอ่ยเสียงแผ่ว “ยามที่พ่ีชายข้าแต่งงาน ข้าได้ยิน
พวกซิ่วไฉคุณหญิงคุณนายเหล่านัน้ พูดว่า สกุลกูอ้ ยากจะถอนหมัน้ ฮูหยินหลี่ไปขอร้องวิงวอนที่
สกุลกูด้ ว้ ยตนเอง ภายหลังข้าส่งคนไปสืบข่าวคราว สกุลหลี่นนั้ ปิ ดประตูไม่รบั แขก ยังมีคนพูด
ว่าฮูหยินหลี่เจ็บไข้ได้ป่วย ไปหาหมอที่เมืองหังโจว!”
เผยเยี่ยนโทสะตีรวนอยู่ในอก ผ่านไปสักพักจึงค่อยทําให้ตวั เองสงบลงได้
อวีเ้ หวินได้ฟัง ก็รูว้ า่ เรื่องร้ายแรงขึน้ มาแล้ว
เขากดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ เอ่ยไกล่เกลี่ยอย่างสะเปะสะปะ “นี่ก็นับเป็ นเรื่องที่
เหนือความคาดหมาย? เรื่องเล็กน้อยขนาดนี ้ ไฉนสกุลกูบ้ อกจะถอนหมัน้ ก็ถอนหมัน้ กันอย่าง
ง่ายๆ?”
เผยเยี่ยนพอจะเดาได้แล้วว่าเหตุใดคุณหนูอวีจ้ งึ กล้าทําเรื่องมุทะลุเช่นนี ้
มองอวีห้ ย่วนไปอีกครัง้ ร่างครึง่ หนึ่งของเขาขวางอยู่เบือ้ งหน้าอวีถ้ งั ราวกับกลัวว่านาง
จะเสียเปรียบอะไรอย่างนัน้

2
ยอมทุบสิบวัดวาดีกว่าต้องทําลายงานแต่งของคนอื่น อุปมาว่า การทําลายงานแต่งของคนอื่น เป็ นเรื่องที่ไร้ศีลธรรมยิ่ง
กว่าการทําลายวัดวาเสียอีก
926

เผยเยี่ยนอยากหัวเราะนัก “หากกูฉ้ ่างต้องการซักไซ้ไล่เลียงเรื่องนี ้ พวกเจ้าวางแผนจะ


ทําอย่างไร?”
คงไม่หรอกกระมัง?
นางเพียงอยากให้สกุลกูล้ ว่ งรูโ้ ฉมหน้าที่แท้จริงของหลี่ตวน!
แต่ก็ไม่แน่เช่นกัน
บางคนเพื่อเรื่องหน้าตาแล้ว ก็ไม่ตอ้ งการอะไรทัง้ นัน้
อวีถ้ งั เอ่ยอย่างลังเล “ไม่ใช่กล่าวว่าคุณชายใหญ่สกุลกูเ้ อาใจใส่นอ้ งสาวของเขาผูน้ ีเ้ ป็ น
ที่สดุ หรอกรึ?”
นี่คือเอาคําพูดของเขามาโจมตีเขา?
เผยเยี่ยนเส้นเลือดปูดขึน้ ขมับ “อย่าลืมว่าบิดาของคุณหนูเซียงก็ยงั มีชีวิตอยู่?”
นั่นแล้วอย่างไร?
อวีถ้ งั เอ่ย “หากความสามารถเล็กน้อยแค่นีเ้ ขายังไม่มี ถือสิทธิ์อนั ใดพูดว่าจะปกป้อง
ดูแลคุณหนูก?ู้ ”
ชาติก่อน กูฉ้ ่างเคยแสดงความสามารถของตัวเองเป็ นที่ประจักษ์มาแล้ว
แต่เผยเยี่ยนไม่รูว้ ่าอวีถ้ งั มีประสบการณ์ของชาติก่อน เขาเพียงคิดว่าความสามารถใน
การก่อเรื่องของคุณหนูอวีเ้ ป็ นที่หนึ่ง แต่ความสามารถในการจัดการเรื่องราวกลับเป็ นศูนย์
เขามองอวีถ้ ังที่เผยใบหน้าไม่รูส้ ึกรู ส้ า เม้มริมฝี ปากอย่างดือ้ รัน้ ไม่คิดเกรงกลัวอันใด
คิดว่าแม้ตวั เองจะสั่งสอนนางในยามนีว้ า่ ‘หากไม่มีความสามารถแก้ปัญหาก็อย่าได้เที่ยวไปก่อ
เรื่อง’ คาดว่านางก็คงไม่ฟัง บิดาของนางก็คงตระหนักไม่ได้เช่นกัน แล้วเขาสั่งสอนนางยังจะมี
ประโยชน์อนั ใด?
เผยเยี่ยนโบกมืออย่างเมื่อยล้า “รอพรุง่ นีข้ า้ พบเจาหยางแล้วค่อยว่ากันเถิด”
927

อวีเ้ หวินย่อมกระดากอายไม่นอ้ ย เห็นเช่นนัน้ ก็ลกุ ยืนทันที “เช่นนัน้ พวกเรากลับไปก่อน


พรุง่ นีจ้ ะมาเข้าพบท่านอีกครัง้ ”
เผยเยี่ยนไม่อยากให้พวกเขามาอย่างยิ่ง แต่ไม่ม่ นั ใจจริงๆ ว่ากูฉ้ ่างมาทําอะไร บางที
อาจจําเป็ นต้องไถ่ถามอวีถ้ งั เขาพยายามสงบความหงุดหงิดใจเล็กๆ นัน้ ลง เอ่ยอย่างอ่อนแรง
“พรุง่ นีค้ อ่ ยว่าเถิด”
อวีเ้ หวินได้ยิน ก็ดงึ ลูกสาวและหลานชายวิ่งไปแทบไม่เห็นฝุ่ น
รอจนออกจากประตูใหญ่ของจวนสกุลเผย เขาก็อดเช็ดเหงื่อไม่ได้ “ดูพวกเจ้าสิ เมื่อครู ่
ข้าเกือบจะตอบคําถามต่อหน้านายท่านสามไม่ได้เสียแล้ว!”
928

บทที่ 116 สืบข่าว


อวีถ้ งั และอวีห้ ย่วนค้อมศีรษะไม่พดู จา
พวกเขาไหนเลยจะรูว้ า่ มีคนโยนเรื่องมาทางเผยเยี่ยนเช่นนี!้
อวีเ้ หวินโมโหเหลือทน แต่ยามนีพ้ วกเขายังยืนอยู่หน้าประตูใหญ่จวนสกุลเผย คนเฝ้า
ประตูและผูค้ นที่ผ่านไปมาต่างมองมาทางพวกเขาด้วยความอยากรูอ้ ยากเห็น พวกเขาก็ไม่อาจ
ยืนอยู่ท่ีน่ีนานนัก อวีเ้ หวินทําได้เพียงสั่นศีรษะ เอ่ยอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ยังยืนอยู่ท่ีน่ี
ทําไมอีก ตามข้ากลับไปเดี๋ยวนี!้ ”
ทัง้ สองคนราวยกภูเขาออกจากอก อวีถ้ ังเข้าไปบีบนวดแขนให้บิดาทันที เขย่าอย่าง
ออดอ้อน ด้านอวีห้ ย่วนก็รีบไปเรียกคนแบกเกีย้ วที่หยุดไม่ไกลจากประตูจวน “รีบเข้ามา พวก
เราจะกลับกันแล้ว!”
คนแบกเกีย้ วกุลีกจุ อยกเกีย้ วเข้ามา
อวีเ้ หวินเห็นก็ยมิ ้ อย่างจนใจ ขึน้ เกีย้ วโดยมีอวีถ้ งั และอวีห้ ย่วนขึน้ ติดตามมา
อวีห้ ย่วนเพิ่งจะแต่งงาน กําลังอยู่ในช่วงที่หวานชื่นกับเซียงซื่อ เมื่อก่อนหากเป็ นยามนี ้
เขาจะนั่งพักที่เรือนของอาเขาอยู่พกั ใหญ่ ถึงกระทั่งกินข้าวแล้วค่อยกลับเรือนไป แต่ครัง้ นี ้ เขา
ส่งอวีเ้ หวินและอวีถ้ งั ถึงเรือนแล้วก็รีบเอ่ยกับอวีเ้ หวินทันที “เช่นนัน้ ข้าขอตัวกลับก่อน หากท่าน
อามีเรื่องอะไรก็เรียกข้าได้”
อวีเ้ หวินเห็นก็ขาํ พรืด แต่พวกเด็กๆ สามารถใช้ชีวิตอย่างมีสขุ ได้ เขาที่เป็ นผูอ้ าวุโสก็
ย่อมดีใจ “รีบกลับไปเถิด! หลานสะใภ้จะได้ไม่รอนาน”
สุดท้ายเขาก็อดหยอกล้อหลานชายไม่ได้
อวีห้ ย่วนใบหน้าขึน้ สี คํานับแก่อวีเ้ หวิน ก่อนจะเดินตัวปลิวออกไป ผลปรากฏว่าเฉินซื่อ
ที่ออกมาหลังจากได้ยินว่าพวกเขามาถึงเรือน กลับไม่เห็นกระทั่งเงาอวีห้ ย่วน นางอดหัวเราะ
ไม่ได้ “เด็กคนนี ้ ก็ไม่รูจ้ กั สงวนท่าทีเสียบ้าง”
929

ส่วนมากความขัดแย้งของแม่ยายลูกสะใภ้ก็เกิดจากเหตุท่ีลูกชายชื่นชอบลูกสะใภ้
เกินไป
อวีเ้ หวินเอ่ยปลอบด้วยรอยยิม้ “พี่สะใภ้ใหญ่หาใช่คนเช่นนัน้ ไม่ แต่ว่าเจ้าตักเตือนอวี ้
หย่วนหน่อยก็ดี จะได้ตดั ไฟตัง้ แต่ตน้ ลม!”
สองสามี ภรรยาพูดคุย กัน ไม่ก่ี คาํ เฉิ น ซื่ อก็ ถ ามเรื่องที่ พ วกเขาไปสกุลเผย อวีเ้ หวิน
และอวีถ้ งั เลือกเล่าเรื่องไม่สลักสําคัญเท่าใดให้นางฟั ง
เช้าตรู ่วนั ต่อมา อวีห้ ย่วนก็ว่ิงเข้ามาหา “ท่านอา อาสะใภ้ น้องสาว กู่ไท่ไท่ 1พาญาติผู้
185

น้องมาเยี่ยมเยือน ท่านแม่ให้ขา้ เชิญอาสะใภ้และน้องสาวไปนั่งคุยเป็ นเพื่อนแขก ยังเอ่ยว่า รอ


ยามเย็นท่านพ่อข้ากลับมา ให้ท่านอาเข้าไปกินข้าวด้วยกัน”
กู่ไท่ไท่?
ชั่วชีวิตนีข้ องอวีเ้ หวินไม่มีพ่ีนอ้ งผูห้ ญิง
ผ่านไปพักใหญ่ ครอบครัวของอวีถ้ งั จึงค่อยตระหนักได้ว่ากู่ไท่ไท่ท่ีอวีห้ ย่วนพูดถึงนัน้ ก็
คือนายหญิงเว่ย ป้าของเซียงซื่อ
ก็หมายความว่า นายหญิงเว่ยพาเว่ยเสี่ยวชวนมาเป็ นแขกในเรือน
อวีถ้ ังยังได้พบเว่ยเสี่ยวชวนยามที่ไปสวัสดีปีใหม่สกุลเว่ย ต่อมาสํานักศึกษาประจํา
อําเภอเปิ ดเรียน เฉินซื่อก็ให้ป้าเฉินนําขนมของว่างที่นางทําฝากไปให้เว่ยเสี่ยวชวน ทัง้ ให้ชวน
เขามากินข้าวในยามที่ว่าง เว่ยเสี่ยวชวนกล่าวว่า เขาเรียนยุ่งมาก ไม่มีเวลาว่าง เฉินซื่อจึงได้
ปล่อยไปเช่นนี ้
นี่เป็ นวันปกติ ไฉนนายหญิงเว่ยจึงพาเว่ยเสี่ยวชวนมาเป็ นแขกของเรือนลุงใหญ่?

1
กู่ไท่ไท่ เป็ นคําเรียกสตรีในครอบครัวที่ออกเรือนแล้ว
930

อวีถ้ งั และเฉินซื่อเร่งผลัดเปลี่ยนเสือ้ ผ้า ไปเรือนของอวีป้ ๋ อ


นายหญิงเว่ยกําลังคุยกับหวังซื่ออย่างร่าเริงแจ่มใสในโถงรับแขก เว่ยเสี่ยวชวนนั่งก้ม
หน้าอยู่คนเดียวอยู่ดา้ นข้างนายหญิงเว่ย เผยท่าทางเบื่อหน่ายอยู่ไม่นอ้ ย ก็ไม่รูว้ า่ คิดอันใดอยู่
อวีถ้ งั เห็นแล้วก็รูส้ กึ อบอุน่ ในใจ หัวเราะเบาๆ ก่อนตะโกนเรียก “เสี่ยวชวน”
คนในห้องโถงได้ยินก็หนั มองตามเสียง
นายหญิงเว่ยหยัดกายขึน้ เป็ นคนแรก เอ่ยด้วยรอยยิม้ “ไอหยา ไฉนข้าจึงรู ส้ ึกว่าไม่ได้
เจออวีถ้ ังมาเดือนกว่า ดูคล้ายว่าอวีถ้ ังจะสูงขึน้ ไม่นอ้ ย งามขึน้ เสียด้วย” พูดจบ ก็เข้ามาดึง
มืออวีถ้ งั ยิม้ ทักทายกับเฉินซื่อ
เฉินซื่อรีบคํานับให้นายหญิงเว่ย ก่อนทุกคนจะพากันนั่งลงอีกครัง้ ยามนีเ้ ซียงซื่อก็พา
สาวใช้ยกของว่างและนํา้ ชาเข้ามา เว่ยเสี่ยวชวนกลับนั่งอย่างเอือ้ ยเฉื่อยอยู่ขา้ งอวีถ้ งั ยังมอง
สตรีในเรือนไปทีหนึ่งอย่างร้อนตัวอยู่บา้ ง เห็นเฉินซื่อและเซียงซื่อพูดคุยกัน หวังซื่อและมารดา
เขานั่งฟั งยิม้ รับอยู่ดา้ นข้าง ไม่มีใครสนใจเขา เวลานีจ้ งึ ค่อยถอนหายใจยาวเหยียด ลอบดึงแขน
เสือ้ อวีถ้ งั กระซิบเอ่ย “พี่สาว พี่สามของข้าจะแต่งงานแล้ว มาเชิญพวกเจ้าเข้าไปดื่มสุรามงคล”
แต่เดิมสกุลเว่ยวางแผนจะให้ลกู ชายคนที่สามแต่งเข้าไปเป็ นลูกเขยสกุลอื่น ผลปรากฏ
ว่าเว่ยเสี่ยวซานมาด่วนจาก ทําให้สองสามีภรรยาสกุลเว่ยยิ่งคิดว่าโลกนีไ้ ม่มีอะไรแน่นอน
ครอบครัวอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาจะดีท่ีสดุ จึงตัดสินใจให้ลกู ชายคนที่สามแต่งงานรับสะใภ้เข้า
มา
ตอนปี ใหม่ อวีถ้ งั ก็ได้ยินเรื่องนีม้ าก่อนแล้ว คาดไม่ถึงว่างานแต่งของคุณชายสามสกุล
เว่ยจะถูกกําหนดรวดเร็วถึงเพียงนี ้
ยามนีเ้ ห็นเว่ยเสี่ยวชวนทําปากยื่น นางจึงผลักจานของว่างไปทางเว่ยเสี่ยวชวน เอ่ย
แผ่วเบาด้วยรอยยิม้ “เดี๋ยวเจ้าก็จะมีพ่ีสะใภ้คนใหม่แล้ว ดีใจหน่อยสิ!”
931

เว่ยเสี่ยวชวนหยิบขนมขึน้ มากัดชิน้ หนึ่ง เอ่ยด้วยเสียงอูอ้ ี ้ “ทางสํานักศึกษา ข้ายุ่งจน


แทบไม่มีเวลา มารดาข้ากลับดึงดันจะพาข้ามาด้วยให้จงได้”
ความนัยของวาจานีค้ ือ เขาไม่อยากไปมาหาสูก่ บั ญาติสนิทมิตรสหาย
อวีถ้ งั กระตุกยิม้ เอ่ยปลอบใจเขา “เจ้ามีชีวิตชีวาหน่อยเถิด อีกเดี๋ยวกินข้าวแล้ว ข้าจะ
หาวิธีสง่ เจ้ากลับไปสํานักศึกษา”
เว่ยเสี่ยวชวนพลันตาเป็ นประกาย
ยามนีย้ ังไม่ทนั ข้ามบ่าย อาศัยจากความสัมพันธ์ของสกุลเขาและสกุลอวี ้ นายหญิง
ใหญ่อวีย้ ่อมจะรัง้ ตัวพวกเขาให้อยู่กินข้าวเย็นจึงจะปล่อยให้พวกเขากลับบ้าน เช่นนัน้ วันนีท้ งั้
วันของเขาก็นบั ว่าสูญหายอย่างเปล่าประโยชน์ หากสามารถกลับไปหลังกินข้าวเที่ยงได้ ช่วง
บ่ายเขาย่อมสามารถเรียนตํารากับอาจารย์ได้อีกครึง่ วัน
“พี่สาว เจ้าพูดแล้วห้ามคืนคําเป็ นอันขาด” เขากําชับอวีถ้ งั ซํา้ ไปซํา้ มา
อวีถ้ งั ผงกศีรษะ เอ่ยด้วยรอยยิม้ “เจ้าวางใจ ข้าพูดแล้วไม่คืนคําแน่นอน”
เว่ยเสี่ยวชวนค่อยสบายใจ จิบนํา้ ชากินขนมอย่างอารมณ์ดีขนึ ้ มา
อวีถ้ งั พุง่ ความสนใจไปยังนายหญิงเว่ย
เวลานีน้ างจึงเพิ่งรูว้ ่า ที่แท้ผทู้ ่ีหมัน้ หมายกับคุณชายสามของสกุลเว่ยก็คือคุณหนูสกุล
เกาของป่ านเฉียว!
คงไม่ใช่สกุลเกาแห่งป่ านเฉียวที่นางรูจ้ กั หรอกกระมัง?
อวีถ้ งั เบิกตากว้าง
ฟั งนายหญิงเว่ยเอ่ย “ความจริงข้าก็ไม่ได้พอใจเท่าใด สกุลพวกเขามีนอ้ งชายของบิดา
ทํากิจการอยู่ในหมู่บา้ น ทําการค้าขายซื่อสัตย์สจุ ริต แต่กลับคิดเล็กคิดน้อยกับคนในครอบครัว
อย่างยิ่ง ข้าจึงให้คนไปสืบดูอย่างละเอียด จึงรูว้ ่าสกุลพวกเขาไม่ได้ไปมาหาสู่กบั น้องชายบิดา
932

คนนัน้ เท่าใดนัก รวมกับเจ้าสามเองก็ถกู ชะตาต้องใจ ทัง้ ไม่ใช่ลกู คนโต พวกเราคอยช่วยเหลือ


สามปี หา้ ปี ก็แยกไปอยู่คนเดียวได้แล้ว หลังจากข้าและบิดาของเขาปรึกษาหารือกัน จึงตอบตก
ลง”
ก็หมายความว่า ผูท้ ่ีคุณชายสามสกุลเว่ยจะแต่งงานด้วยคือลูกพี่ลูกน้องของเกาซื่อ
พี่สะใภ้ชาติก่อนของนาง
อวีถ้ งั ถอนหายใจอย่างโล่งอก
น่าเสียดายที่ชาติก่อนนางไม่รูจ้ กั สกุลเว่ย ทัง้ รูจ้ กั เครือญาติฝ่ ังสกุลมารดาของเกาซื่อไม่
มาก ไม่ทราบว่าชาติก่อนสกุลเกาได้เกี่ยวดองกับสกุลเว่ยหรือไม่
เมื่อมาคิดดู เมืองหลินอันยังคงเล็กจริงๆ ขุนเขาไม่เปลี่ยนแปลง สายนํา้ รินไหล ย่อม
ประสบพบเจอกันอยู่เช่นนี ้
ครัน้ กินข้าวเที่ยงเสร็จ อวีถ้ ังก็เสนอตัวออกไปส่งเว่ยเสี่ยวชวนที่สาํ นักศึกษาประจํา
อําเภอ “เขามีความพยายามก้าวหน้าย่อมเป็ นเรื่องดี ท่านป้าเว่ยไม่ควรทําให้เสี่ยวชวนเสียการ
เรียน!”
นายหญิ งเว่ยย่อมคาดหวังให้ลูกชายมีความก้าวหน้า แต่ครัง้ ก่อน ยามที่อวีห้ ย่วน
แต่งงาน เว่ยเสี่ยวชวนก็ไม่มา ครัง้ นีม้ าเพื่อแจ้งข่าวดีแก่สกุลอวี ้ หากเว่ยเสี่ยวชวนอยู่ในเมือง
กลับยังไม่มา นางกังวลว่าสกุลอวีจ้ ะคิดว่าสกุลพวกเขาเสียมารยาทน่ะสิ
ยามนีอ้ วีถ้ งั เอ่ยปากออกมา นางก็ยินดีตามนํา้ ไปด้วยเช่นกัน
“ไฉนจะให้เจ้าไปส่งเขาได้!” นายหญิงเว่ยเอ่ยอย่างเกรงใจ “เขาก็ไม่ใช่เด็กน้อยสอง
ขวบสามขวบเสียเมื่อไร ให้เขากลับไปเองก็เพียงพอแล้ว”
แต่อวีถ้ งั กลับคิดในใจ เด็กน้อยสองขวบสามขวบยังน่ารักไม่เท่าเว่ยเสี่ยวชวนเลย ไฉน
นางจะวางใจให้เว่ยเสี่ยวชวนไปสํานักศึกษาคนเดียวได้?
933

นางดึงดันจะไปส่งเว่ยเสี่ยวชวน เว่ยเสี่ยวชวนก็มีเรื่องอยากจะพูดกับนางเพียงลําพัง
จึงอยากให้นางไปส่ง
นายหญิงเว่ยอับจนหนทาง ทําได้เพียงกําชับทํานองว่าให้เว่ยเสี่ยวชวน ‘เชื่อฟั ง’ นางอยู่
สองสามประโยค ก่อนจะปล่อยให้อวีถ้ งั ไปส่งเขาเข้าเรียน
เว่ยเสี่ยวชวนกลับคล้ายดั่งนกตัวน้อยที่ถูกปล่อยออกจากกรง เอาแต่พดู เจือ้ ยแจ้วถึง
เรือ่ งที่เกิดในสํานักศึกษากับอวีถ้ งั
อวีถ้ งั ฟั งเขาพูด พลางมุง่ หน้าไปยังสํานักศึกษา
ซวงเถาถือของว่างให้เว่ยเสี่ยวชวน เดินตามเบือ้ งหลังพวกเขา
เดินจนถึงปากประตูสาํ นักศึกษา พวกเขาก็พบเสิ่นซ่านเหยียนกําลังพูดคุยกับลูกศิษย์
มากหน้าหลายตา
อวีถ้ งั ไม่อาจเข้าไปส่งใกล้กว่านีแ้ ล้ว ช่วยเว่ยเสี่ยวชวนจัดแจงเสือ้ ผ้า ก่อนส่งตะกร้าที่
ซวงเถาถือมาให้เว่ยเสี่ยวชวน กําชับเขาอย่างใส่ใจ “เรียนหนังสือย่อมจําเป็ นต้องใช้ความเพียร
แต่เจ้าอายุยงั น้อย ยังอีกหลายปี กว่าจะสอบรวมวัดระดับ ต้องรู จ้ ักแบ่งใช้กาํ ลังให้เหมาะสม
ไม่อย่างนั้นรอสักสองสามปี ยามที่ใกล้จบแล้วไม่มีแรงกําลังจะทําอย่างไร? ยังมีของว่างใน
ตะกร้านี ้ อย่าลืมแบ่งให้เพื่อนร่วมหอเรียนด้วย ให้คนอื่นได้ชิมดู”
เว่ยเสี่ยวชวนผงกศีรษะระรัว
อวีถ้ งั โบกมือส่งเว่ยเสี่ยวชวนเข้าประตูใหญ่ของสํานักศึกษา หมุนกายกลับพบหลี่จวิน้
จูงม้าตัวหนึ่งเพียงคนเดียว มองมาที่นางจากถนนอีกฝั่งด้วยท่าทีไม่ชดั เจนนัก
คาดไม่ถึงว่าหลี่จวิน้ จะกลับมาแล้ว?
ไม่รูว้ า่ ตัง้ แต่เมื่อใด?
934

อวีถ้ งั ไม่จาํ เป็ นต้องถามมากความ พยักหน้าให้เขา ถือว่าเป็ นการทักทาย ก่อนจะหัน


หลังเดินออกจากสํานักศึกษาไปพร้อมซวงเถา
ซวงเถาก็เห็นหลี่จวิน้ เช่นกัน นางดึงอวีถ้ งั อย่างเคร่งเครียด กระซิบเอ่ย “คุณหนู พวกเรา
จ้างเกีย้ วกลับกันดีกว่ากระมังเจ้าคะ?”
อวีถ้ งั ก็คิดว่าดี ผงกศีรษะรับ
ซวงเถาถอนหายใจโล่งอก ยามที่กาํ ลังจะไปที่จา้ งเกีย้ ว กลับพบเจอกับซานมู่
ซานมู่เห็นอวีถ้ งั และซวงเถาก็ดีใจจนแทบกระโดดโลดเต้น เขาวิ่งเข้ามา เอ่ยว่า “คุณหนู
พี่ซวงเถา นายท่านรองให้พวกท่านรีบกลับไปขอรับ กล่าวว่าสกุลเผยส่งคนมาเชิญคุณหนูไป
ซักถามเรื่องราวที่สกุลเผย”
คงจะเป็ นเรื่องกูฉ้ ่าง
อวีถ้ งั พยักหน้า รีบมุ่งหน้าไปทางตรอกชิงจู๋อย่างรีบเร่ง
พลันเบือ้ งหลังพวกนางก็บงั เกิดเสียงอึกทึกครึกโครมขึน้
อวีถ้ งั อดหันกลับไปมองไม่ได้ จึงพบกูฉ้ ่างที่รอบล้อมด้วยผูต้ ิดตามหลายคน กําลังเดิน
ไปยังสํานักศึกษา
ดูคล้ายวันเวลาหมุนเวียนผลัดเปลี่ยน
ชาติก่อน ลูกชายคนโตของกูซ้ ีครบปี เดิมทีนอ้ งสะใภ้ท่ีครองพรหมจรรย์อย่างนางควร
จะเร้นกายหลบหลีก แต่ยามที่กฉู้ ่างมา ฮูหยินหลี่กลับอดกลัน้ ความดีใจไม่อยู่ คิดจะโอ้อวด จึง
ให้คนเรียกนางเข้าไปต้อนรับพี่ชายภรรยาของสกุลกูด้ ว้ ย
แน่นอนว่า สิ่งที่เรียกว่าต้อนรับก็คือการให้นางยืนอยู่ท่ามกลางสตรีในเรือนมองเห็น
จากที่ไกลๆ เท่านัน้
ฉากในยามนัน้ แทบไม่แตกต่างอะไรกับตอนนี ้
935

อากาศสดใส ลมพัดโชยอ่อนๆ ดอกไม้ใบหญ้าบานสะพรั่ง กูฉ้ ่างสวมชุดผ้าไหมสีเข้ม


เดินผ่านรัว้ ของสกุลหลี่โดยมีผตู้ ิดตามล้อมรอบ ยามที่นางไปถึง ก็เห็นเพียงเสีย้ วหน้าด้านข้างที่
เยือกเย็นของเขา เดินผ่านฮูหยินหลี่ท่ีมาต้อนรับเขาอย่างนอบน้อมเท่านัน้
เพียงแต่ครัง้ นีผ้ ทู้ ่ีมาต้อนรับเขากลับเป็ นเสิ่นซ่านเหยียน
นางหยุดฝี เท้า ชะงักอยู่พกั ใหญ่
ด้านกูฉ้ ่างก็หยุดเดิน คารวะแก่เสิ่นซ่านเหยียนที่รายล้อมไปด้วยลูกศิษย์
อวีถ้ งั หันศีรษะกลับมา เร่งฝี เท้าออกห่างจากที่น่ี
ครัง้ นีอ้ วีเ้ หวินมาพบเผยเยี่ยนเป็ นเพื่อนอวีถ้ งั
เขาเพิ่งจะหย่อนก้นนั่งก็ละลํ่าละลักถามเผยเยี่ยน “คุณชายใหญ่กวู้ ่าอย่างไรบ้าง? คง
ไม่ได้มาถามบุคลิกนิสยั ของหลี่ตวนจริงๆ กระมัง?”
ลูกเขยที่หมัน้ หมายแล้ว กลับมาสืบข่าวนิสยั ใจคอเขาอีกครัง้ จะเห็นได้ว่าไม่พอใจกับ
งานแต่งครัง้ นีเ้ ท่าใด ทัง้ งานแต่งครัง้ นีพ้ าให้คนคิดจินตนาการไปไกลขนาดไหน
เผยเยี่ยนมองอวีถ้ งั อย่างเรียบนิ่งไปที
อวีถ้ งั กําลังนั่งค้อมศีรษะอย่างละอายใจอยู่ตรงนัน้ ดูสงบเสงี่ยมว่าง่ายขึน้ มาไม่นอ้ ย
เผยเยี่ยนหลุดขํา
แต่ก็จาํ เป็ นต้องข่มอารมณ์ไว้!
กระนัน้ ท่าทีไร้สมุ้ เสียงยอมรับผิดเช่นนีก้ ็ดีไม่นอ้ ย
ชั่วพริบตาเขาก็อารมณ์ดีขึน้ มา เวลานีค้ ่อยมองไปยังอวีเ้ หวิน “เจ้าทายได้แม่นทีเดียว
ครัง้ นีก้ เู้ จาหยางมาหลินอันก็เพราะตัง้ ใจมาสืบเรื่องสกุลหลี่โดยเฉพาะ”
936

บทที่ 117 หยุดยัง้


นอกจากเรื่องนี ้ อวีถ้ งั ก็นกึ ไม่ออกอีกแล้วว่ากูฉ้ ่างมาหลินอันเพราะเหตุใด
แต่วา่ ไฉนกูฉ้ ่างถึงมาไถ่ถามเรื่องหลี่ตวนจากเผยเยี่ยนได้ละ่ ?
ชาติก่อนก็ไม่เคยได้ยินว่าสกุลเผยและสกุลกูจ้ ะมีความสัมพันธ์อะไรมาก่อน
บางทีอาจเป็ นเพราะชาติก่อนสกุลหลี่และสกุลกูเ้ กี่ยวดองกัน เทียบกับสกุลเผยแล้ว
สกุลกูจ้ งึ สนิมสนมกับสกุลหลี่มากกว่า?
อวีถ้ งั มองไปยังเผยเยี่ยน
แววตาที่อยากรู อ้ ยากเห็น ระยับวับวาวอยู่ตรงหน้า ทําให้เผยเยี่ยนไม่อาจมองข้ามได้
จริงๆ
เขาทั้งขบขันทั้งโมโห “เขามาถามข้ามีอันใดไม่ถูกกัน? หรือข้าดูน่าเชื่อถื อน้อยกว่า
หลี่ตวนอย่างนัน้ รึ?”
ประเด็นหลักอยู่ท่ีวา่ พวกเจ้าทัง้ สองต่างก็เป็ นจิน้ ซื่อสองป้ายน่ะสิ?
คนในแวดวงบัณฑิตล้วนรูเ้ รื่องนีด้ ี
อวีถ้ งั ไม่ได้เอ่ยอันใด
อวีเ้ หวินละลํ่าละลักเอ่ย “คุณชายใหญ่กมู้ าไถ่ถามอะไรบ้างรึ?”
ผูท้ ่ีเป็ นบัณฑิตมีฐานะสูงส่ง หากกูซ้ ีเผยความไม่พอใจต่ออวีถ้ งั ถึงกระทั่งแสร้งตําหนิ
นางต่อหน้าผูอ้ ่นื โดยไม่ตงั้ ใจ เกรงว่าชื่อเสียงของอวีถ้ งั ก็คงมลายหายสิน้ แล้ว
ความกังวลของเขาไม่ได้ไร้เหตุผลเสียทีเดียว
เผยเยี่ยนทอดสายตามองอวีถ้ งั
อวีถ้ งั คิดว่าไม่น่าเป็ นไปได้
937

ชาติก่อน สาวใช้สินเดิมของกูซ้ ีพวกนัน้ สรรเสริญเยินยอคุณชายใหญ่ของสกุลกูต้ อ่ หน้า


นางไม่นอ้ ย นางก็ทาํ เพียงรับฟั งเท่านัน้ ชาตินี ้ นางมีความคิดเป็ นของตัวเอง แม้คิดว่าคําพูด
ของสาวใช้สินเดิมกูซ้ ีย่อมเกินจริงไปบ้าง แต่ดจู ากการกระทําในชาติท่ีแล้วของกูฉ้ ่าง เขาเป็ นคน
ที่ มี ความทะเยอทะยาน อยากจะทิง้ ชื่อเสียงจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ เช่น นั้นเขาย่อมเห็น
ความสําคัญของชื่อเสียง ไม่อาจทําเรื่องเล็กๆ ให้เสียการใหญ่ เพื่อทําลายนางกลับหลงเหลือ
ชื่อเสียงด้านฝี ปากคมคายเป็ นภาพจําให้แก่ผคู้ นได้หรอก
นึกไม่ถงึ ว่า คุณหนูอวีจ้ ะมั่นใจในตัวเจาหยางไม่นอ้ ย
นางไม่รูจ้ กั กูเ้ จาหยางเสียหน่อย!
หรือนางเคยสืบเรื่องกูเ้ จาหยางมาก่อน?
นางไม่รูเ้ สียแล้วว่าใต้หล้าแห่งนีม้ ีผทู้ ่ีเสแสร้งอยู่ในคราบนักบุญมากกว่าวีรบุรุษ?
เมื่อคิดเช่นนัน้ ในใจของเขาก็รูส้ กึ แปลกประหลาด ทัง้ ไม่สบอารมณ์ขนึ ้ มาในชั่วพริบตา
จึงเล่าเรื่องกูเ้ จาหยางให้อวีถ้ ังฟั งอย่างรู แ้ ล้วรู ร้ อดไป “กูเ้ จาหยางซาบซึง้ ใจไม่นอ้ ยที่คนของ
สกุลอวีเ้ ล่าเรื่องหลี่ตวนให้สกุลกูท้ ราบ แต่เขาคิดว่าวิธีของคุณหนูอวีไ้ ม่เหมาะสมอยู่บา้ ง...แม้
หลี่ตวนจะมีขอ้ ผิดพลาด แต่สภุ าพบุรุษไม่พูดลับหลังผูอ้ ่ืน พวกเจ้าเล่าเรื่องให้สกุลกูอ้ ย่างไม่
ปิ ดบังเช่นนี ้ ทําให้นายท่านสองสกุลกูป้ ะทุโทสะจนล้มหมอนนอนเสื่ออยู่หลายวัน”
อวีถ้ งั เบิกตากว้างอย่างตกตะลึง
บิดาของกูซ้ ีใส่ใจนางถึงขนาดนีต้ งั้ แต่เมื่อไร?
ชาติก่อน กูฉ้ ่างเดินเส้นทางข้าราชการอย่างราบรื่น ได้เป็ นขุนนางใหญ่ นายท่านสอง
สกุลกูเ้ ป็ นห่วงกูซ้ ีก็เพราะกังวลเรื่องหน้าตาเท่านัน้ ชาตินีก้ ซู้ ียงั ไม่มีอาํ นาจ เหตุใดนายท่านสอง
สกุลกูจ้ งึ โมโหจนล้มหมอนนอนเสื่อเพราะเรื่องงานแต่งของกูซ้ ีได้?
938

กูฉ้ ่างพูดเช่นนี ้ เพื่อแก้ต่างการกระทําของตัวเอง? หรือคิดว่านางทําเกินไปอยู่จริงๆ


อยากทําลายภาพลักษณ์นางในสายตาเผยเยี่ยน? หรือคิดจะเผยแพร่เรื่องนีผ้ ่านเผยเยี่ยนออก
ไปอย่างนัน้ รึ?
ไม่วา่ จะเป็ นสถานการณ์แบบใด อวีถ้ งั ล้วนผิดหวังกับกูฉ้ ่างเล็กน้อย
กลับเป็ นอวีเ้ หวิน ได้ฟังแล้วก็เคร่งเครียดไม่นอ้ ย เร่งเอ่ยถามเผยเยี่ยน “คุณชายใหญ่
สกุลกูพ้ ดู เช่นนีจ้ ริงๆ รึ?”
เผยเยี่ยนมองอวีเ้ หวินอย่างเยือกเย็นไปที
อวีเ้ หวินลูบจมูกอย่างขุ่นเคือง
เผยเยี่ยนไม่ได้ปั้นคําพูดกูฉ้ ่างเกินจริงแม้แต่นอ้ ย และที่กูฉ้ ่างพูดเช่นนี ้ ก็เพราะอยาก
บ่นต่อหน้าเขาเสียหน่อยเท่านัน้ ยามที่กฉู้ ่างพูดเรื่องคุณหนูอวี ้ เขาก็กล่าวแก้ต่างให้สกุลอวีไ้ ม่
น้อยเช่นกัน
เขาครุน่ คิดเล็กน้อย ก่อนจะนําเรื่องราวทัง้ หมดบอกกล่าวกับอวีเ้ หวินและอวีถ้ งั “ยามนี ้
คุณหนูกไู้ ม่พอใจกับงานแต่งครัง้ นีอ้ ย่างยิ่ง นายท่านสองสกุลกูก้ ลับคิดว่ากําหนดตัวหมัน้ หมาย
กันแล้ว ยามนีถ้ อนหมัน้ ไม่เพียงจะเป็ นการทําลายชื่อเสียงสกุลกู้ แต่อาจจะทําให้การแต่งงาน
ของคุณหนูกใู้ นอนาคตเป็ นเรื่องยากด้วย กระนัน้ ปล่อยสกุลหลี่ไปเช่นนีก้ ็ง่ายเกินไป นายท่าน
สองสกุลกู้จึงเรียกฮูหยินหลี่ไปตําหนิ ฮูหยินหลี่ก็เป็ นคนมีตาํ แหน่งฐานะ ต่อหน้าคนสกุลกู้
มากมาย ก็คกุ เข่าลงเสียงดังให้กบั นายท่านสองสกุลกู้ ทัง้ ยังโขกศีรษะระรัวแก่เขาจนหน้าผาก
แตกเลือดไหล พาให้นายท่านสองสกุลกู้ จะพยุงก็ไม่ได้ ไม่พยุงก็ลาํ บากใจ จึงไม่อาจยกเรื่องสั่ง
สอนมาพูดอีก ใครจะรูว้ า่ หลังจากคุณหนูกทู้ ราบจะยิ่งดูแคลนสกุลหลี่ ครัง้ นีก้ ฉู้ ่างกลับมา นางก็
เอ่ยว่าจะถอนหมัน้ อย่างชัดเจน กูฉ้ ่างกลัวว่าคุณหนูกจู้ ะแต่งงานกับคนไม่เป็ นโล้เป็ นพาย ทัง้
กลัวว่านางจะทําเรื่องบุม่ บ่าม นึกขึน้ ได้วา่ ข้าเป็ นคนหลินอัน จึงตัง้ ใจมาไถ่ถามข้าโดยเฉพาะ”
ส่วนเรื่องอื่น เขากลับไม่ได้พดู อะไร
939

ฮูหยินหลี่หลบอยู่ในหังโจว ย่อมกลัวว่าหากถูกคนพบบาดแผลที่หน้าผากยังไม่รูจ้ ะ
ตอบกลับอย่างไร
อวีถ้ งั พยายามข่มกลัน้ จึงไม่ได้หวั เราะออกมา กลับเผยแววตาที่แฝงไปด้วยความพร่าง
พราว กระจ่างใส ดุจเงาผืนป่ าภูเขาที่สะท้อนผิวนํา้ ดูงดงามสว่างไสว
เผยเยี่ยนตะลึงไปเล็กน้อย
อวีถ้ งั กลับเอ่ยขอบคุณเสียงแผ่ว “ขอบคุณท่านมาก หากไม่ได้ท่านช่วยปกป้อง เกรงว่า
คุณชายใหญ่สกุลกูค้ งจะไม่ทาํ เพียงตําหนิขา้ ว่าทําไม่ถกู อย่างนีห้ รอก”
อวีเ้ หวินเพียงรูส้ กึ ประหลาดใจ ผ่านไปพักใหญ่จงึ ค่อยหวนสติคืนมา
เมื่อคิดดูแล้ว ก็ไม่แปลกใจที่อวีถ้ งั เอ่ยขอบคุณเผยเหยี่ยน
หากเผยเยี่ยนไม่เข้าข้างสกุลอวี ้ อาศัยจากตําแหน่งฐานะของกูฉ้ ่าง ไหนเลยจะเอาแต่
พูดว่าสกุลอวีท้ าํ ไม่ถกู !
เขาคาดไม่ถึง แต่อวีถ้ งั ของพวกเขากลับนึกถึงจุดนีไ้ ด้ทนั ที
อวีเ้ หวินรูส้ กึ ภาคภูมิใจไม่นอ้ ย
ด้านเผยเยี่ยนมองอวีถ้ งั อย่างลึกลํา้
เขามองคุณหนูอวีท้ ่ีเก่งในการก่อเรื่องก่อราว คาดไม่ถึงว่านางยังมีความคิดที่ละเอียด
ลึกซึง้ เช่นนี ้ กลับเดาได้ถึงคําพูดที่ยงั ไม่ทนั ออกจากปากเขา
เพียงแต่ไม่รูว้ ่าครัง้ นีค้ ณ
ุ หนูอวีบ้ งั เอิญ? หรือว่าตัง้ แต่แรกเขาก็ประเมินคุณหนูอวีต้ ่าํ ไป
จึงไม่รูว้ า่ นางยังฉลาดมีไหวพริบถึงเพียงนี?้
ชั่วขณะนัน้ เผยเยี่ยนก็รูส้ กึ พอใจอย่างมาก
คิดว่าคุณหนูอวีย้ งั คงหลักแหลมไม่นอ้ ย
940

คุยกับนางนับว่ารูส้ กึ สบายใจ
เขาเอ่ยออกไป “แต่วา่ เรื่องนี ้ พวกเจ้าก็ไม่จาํ เป็ นต้องกังวล แม้กเู้ จาหยางผูน้ ีจ้ ะเย่อหยิ่ง
ไม่ชอบผูกมัดกับใคร แต่กลับห่วงเรื่องหน้าตา เพราะอยู่ตรงหน้าข้า จึงกล้าเอ่ยกําเริบเสิบสาน
ขึน้ มา แต่เขาย่อมไม่อาจเปิ ดปากต่อผูค้ นภายนอกได้อยู่แล้ว เขาพูดเรื่องพวกนี ้ ย่อมจบลงที่ขา้
ตรงนี ้ ข้าเรียกพวกเจ้ามา ก็เพียงอยากตักเตือนเสียหน่อยเท่านัน้ อย่างไรสกุลกูก้ ็เป็ นคนต่างถิ่น
มีเรื่องอะไรข้าจะรับผิดชอบเอง พวกเจ้าไม่จาํ เป็ นต้องใส่ใจเขา”
ที่แท้ในสายตาของเผยเยี่ยน กูฉ้ ่างกลับเป็ นคนเช่นนี ้
อวีถ้ งั เหนือความคาดหมายอยู่บา้ ง
ทัง้ ในสายตาของนาง เผยเยี่ยนก็ไม่ใช่คนที่เป็ นมิตรเข้าหาผูค้ น แต่ครัง้ นี ้ เขากลับเป็ น
ฝ่ ายให้ความช่วยเหลือแก่พวกเขา
จะเห็นได้ว่าผูค้ นยังจําเป็ นต้องไปมาหาสู่กนั บ่อยๆ เช่นนีจ้ ึงจะมีความสัมพันธ์ เมื่อมี
ความสัมพันธ์แล้ว ก็จะค่อยให้ความช่วยเหลือซึง่ กันและกัน
อวีถ้ งั ครุน่ คิดว่าจะตอบแทนเผยเยี่ยนอย่างไรดี
หัวใจของอวีเ้ หวินที่แขวนอยู่กลางอากาศค่อยล่วงลงสูพ่ ืน้
เขาถามเผยเยี่ยน “เช่นนัน้ เรื่องนีก้ ็จบไปอย่างนีแ้ ล้วใช่หรือไม่?”
อวีถ้ งั มองไปยังเผยเยี่ยน เงี่ยหูฟังอย่างตัง้ ใจ
เผยเยี่ยนมักรูส้ กึ ว่าดวงตาของอวีถ้ งั ราวกับสามารถบอกเล่าเรื่องราวได้ ยิ่งยามที่แอบ
มองเขาอย่างเงียบๆ เขาก็ย่งิ สัมผัสได้ถึงความรูส้ กึ ของนาง คล้ายกับเด็กน้อยอยู่บา้ ง
เขาอดเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนไม่ได้ “วางใจเถิด ข้าพูดเรื่องนีก้ บั กูฉ้ ่างแล้ว แม้ว่าเขาจะมี
ความคิดอะไร ย่อมเห็นแก่หน้าข้า ไม่อาจหาเรื่องคุณหนูอวีไ้ ด้หรอก ยิ่งไปกว่านัน้ ประเด็นหลัก
941

ที่เขามาหลินอันครัง้ นีก้ ็เพราะเรื่องงานแต่งของคุณหนูกู้ ไม่คมุ้ ที่จะหาเรื่องใส่ตวั ซํา้ ซ้อน นั่นไม่


เป็ นผลดีกบั เขา เขาคิดได้อยู่แล้ว”
ในนํา้ เสียงแฝงความหมายหยุดยัง้ กูฉ้ ่างอย่างเลือนราง
อวีเ้ หวินพยักหน้าระรัว ไม่รูว้ า่ ควรจะขอบคุณเผยเยี่ยนอย่างไรดี
อวีถ้ งั กลับลอบยิม้ เจื่อน รูว้ า่ ครัง้ นีต้ วั เองติดหนีบ้ ญ
ุ คุณก้อนโตเผยเยี่ยนอีกแล้ว
นึกมาถึงตรงนี ้ นางก็รีบเล่าเรื่องที่พบกูฉ้ ่างตรงประตูสาํ นักศึกษาประจําอําเภอให้เผย
เยี่ยนฟั ง
เผยเยี่ยนคาดไม่ถึงอยู่บา้ ง นิ่งเงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะขอบคุณอวีถ้ งั “สกุลกูแ้ ละสกุล
เสิ่นล้วนเป็ นสกุลใหญ่ของเมืองหังโจว เขามาเมืองหลินอัน ไปเยี่ยมเยือนอาจารย์เสิ่นย่อมเป็ น
เรื่องที่สมควรแล้ว”
942

บทที่ 118 ข่าวลือ


คําพูดนีฟ้ ั งดูเหมือนไม่มีอะไร แต่เผยเยี่ยนเป็ นคนนิสยั อย่างไร? มีหรือจะลังเลยามที่
ตอบกลับนางได้?
อวีถ้ งั เกิดความฉงนในใจ คิดว่าคําพูดนีข้ องเขาคล้ายจะตอบอย่างขอไปทีให้นางและ
บิดานางทราบเท่านัน้
ไม่ให้นางขบคิดนานนัก เผยเยี่ยนก็เอ่ยออกมา “เจ้าไปทําอะไรที่สาํ นักศึกษาประจํา
อําเภอ?”
อวีถ้ งั ยิ่งเกิดความแคลงใจขึน้ ไปอีก
เผยเยี่ยนไม่ใช่คนที่สนใจเรื่องยิบย่อยพวกนี ้
เขาถามออกมาเช่นนี ้ กลับคล้ายพยายามเบี่ยงประเด็น
เช่นนัน้ กูฉ้ ่างไปเยี่ยมเยือนเสิ่นซ่านเหยียนมีอนั ใดผิดปกติกนั ?
อวีถ้ งั ใคร่รูอ้ ย่างยิ่ง แต่คาดว่าเป็ นไปไม่ได้ท่ีเผยเยี่ยนจะคลายความสงสัยให้นาง อวีถ้ งั
จึงไม่ได้ถาม พูดถึงจุดประสงค์ท่ีตวั เองไปสํานักศึกษาประจําอําเภอ ทัง้ ยังตัง้ ใจเอ่ยถึงหลี่จวิน้
“คาดไม่ถึงว่าเขาก็กลับเมืองหลินอันเช่นกัน”
รื่อเจ้าห่างจากหลินอันไม่นอ้ ย เดินทางไปกลับอย่างน้อยก็ตอ้ งใช้เวลาสามเดือน น้อย
คนนักที่จะกลับมาเร็วอย่างหลี่จวิน้ ยิ่งไปกว่านัน้ เขายังอ้างต่อคนภายนอกว่าตัวเองไปเรียน
หนังสือ
เผยเยี่ยนนิ่งงันไปครูห่ นึ่งอย่างเห็นได้ชดั
พาให้อวีถ้ งั ยิ่งเกิดความสงสัย
943

สกุลกูเ้ รียกหลี่ตวนไปสั่งสอน กูฉ้ ่างและหลี่จวิน้ ปรากฏตัวที่เมืองหลินอันตามกันติดๆ


หากพูดว่าไม่มีเรื่องข้องเกี่ยวอะไรกัน อวีถ้ ังย่อมไม่เชื่อ ทัง้ มองจากปฏิกิริยาของเผยเยี่ยน ยิ่ง
เห็นได้ชดั ว่าภายในนีม้ ีความผิดปกติอะไรบางอย่าง
นางนึกขึน้ ได้ว่าเผยเยี่ยนชอบคนพูดตรงไปตรงมา ขณะที่ขบคิดว่าจะถามเผยเยี่ยนใน
ยามนีห้ รือลอบถามลับหลังบิดา ก็เห็นอาหมิงวิ่งเข้ามาเสียก่อน “นายท่านสาม ใต้เท้ากูแ้ ละ
อาจารย์เสิ่นมาเยี่ยมเยือนท่านพร้อมกันขอรับ!”
พวกเขามาเร็วขนาดนีเ้ ชียว!
ไม่เพียงอวีถ้ งั แต่กระทั่งอวีเ้ หวิน ก็สบั สนงุนงงอยู่บา้ ง
กลับเป็ นเผยเยี่ยนที่คล้ายคาดการณ์มาก่อนแล้ว ผงกศีรษะอย่างเงียบเชียบ ก่อนจะ
เอ่ยกับสองพ่อลูกอย่างขออภัย “ขออภัยด้วย ข้าไปพบพวกเขาแล้วจะเข้ามาใหม่”
อวีเ้ หวินและอวีถ้ งั รีบหยัดกายขึน้ อําลา “ใต้เท้ากูย้ ากจะมาเยือนหลินอันครัง้ หนึ่ง พวก
เราก็ไม่ได้มีเรื่องเร่งด่วนอันใด รอท่านเสร็จธุระแล้วค่อยมาเข้าพบท่านอีกครัง้ ดีกว่า”
เผยเยี่ยนก็ไม่ฝืนรัง้ เรียกเผยหม่านเข้ามาส่งพวกเขาออกจากประตู ส่วนตัวเองก็ไปพบ
กูฉ้ ่างและเสิ่นซ่านเหยียน
ระหว่างทางกลับ อวีเ้ หวินก็ถกเรื่องนีก้ บั อวีถ้ งั เสียงเบา “ไฉนข้าจึงรูส้ กึ ว่านายท่านสาม
สกุลเผยและคุณชายใหญ่สกุลกูผ้ นู้ นั้ ดูไม่เหมือนคนที่รูจ้ กั กันธรรมดาทั่วไป เจ้าคิดว่าอย่างไร?
หรือข้าคิดมากไป?”
อวีถ้ งั อดไม่ได้ท่ีจะยกนิว้ โป้งให้บิดาของตนในใจ
นางไม่เพียงมีความคิดเช่นนี ้ แต่ยงั รูส้ กึ ว่าเผยเยี่ยนคล้ายมีเรื่องอะไรในใจ
เพียงแต่นางนึกไปถึงฐานะสกุลเผย ปั ญหาและความยากลําบากของเผยเยี่ยนล้วน
ไม่ใช่สิ่งที่คนระดับพวกเขาจะแบกรับได้ แทนที่จะลอบมองอยู่ดา้ นข้างทําให้เกิดปั ญหาโดยใช่
เหตุขนึ ้ มา ยังมิสไู้ ม่ตอ้ งรูอ้ ะไรเลย
944

“ข้า ไม่เห็น รู ส้ ึก เช่น นั้น” อวีถ้ ัง เผยยิ ม้ เอ่ย ปลอบบิดา “อาจจะเป็ น เพราะทั้งสองคน
ประสบความสําเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย มีเรื่องอะไรจึงมักถูกคนเปรียบเทียบ ดังนั้นแม้จะไม่
คุน้ เคยหรือไม่มีไมตรีอะไรต่อกัน แต่ก็คงรูจ้ กั ซึง่ กันและกันอยู่กระมัง?”
นางคาดเดาอย่างส่งเดช คาดไม่ถงึ ว่าจะเกลีย้ กล่อมบิดาได้
อวีเ้ หวินผงกศีรษะเอ่ย “เจ้าพูดมีเหตุผล” จากนัน้ ก็โยนเรื่องนีไ้ ว้ดา้ นหลัง เอ่ยถามว่า
อวีถ้ งั และอวีห้ ย่วนวางแผนจะกลับเรือนเก่าสกุลอวีย้ ามใด “นับวันอากาศก็ย่ิงร้อนขึน้ มาแล้ว มิ
สูพ้ วกเจ้าอยู่เรือนเก่าหลายวันหน่อย เรื่องเรือกสวนไร่นา ข้าไม่หวังให้เจ้ารู ท้ งั้ หมด อย่างน้อย
ทราบว่ามีเรื่องอะไรสามารถสร้างผลกระทบกับกําไรในไร่สวนได้ก็เพียงพอแล้ว ภายหลังส่ง
มอบให้เจ้า จะได้ไม่มีคนเอาเปรียบอะไรเจ้าได้!”
อวีถ้ งั แย้มยิม้ “อีกวันสองวันก็จะเข้าไปแล้ว”
ส่วนอยู่ท่ีเรือนเก่ากี่วนั ก็ตอ้ งดูวา่ พี่ชายนางยินยอมหรือไม่!
อวีห้ ย่วนเพิ่งจะแต่งงาน ย่อมไม่อยากทิง้ เซียงซื่อไว้ในเรือนโดยที่ตวั เองวิ่งโร่ไปเรือนเก่า
อยู่หลายวัน อวีถ้ งั จึงโน้มน้าวให้เขาพาเซียงซื่อไปด้วยกัน “พี่สะใภ้นนั้ เติบใหญ่จากไร่นา ไม่แน่
ว่าเรื่องพวกนีน้ างจะคุน้ เคยกว่าพวกเรา ถึงเวลานัน้ พวกเราก็สามารถขอคําแนะนําได้”
อวีห้ ย่วนได้ฟังพลันตาสว่างวาบ รีบใช้ขอ้ อ้างนี ้ ฉวยโอกาสพาเซียงซื่อกลับไปเรือนเก่า
ด้วยกัน
แม้หวังซื่อจะหัวแหลมเพียงไหน แต่ความหัวแหลมนีม้ กั ใช้กับคนอื่น ส่วนคนในบ้าน
กลับอ่อนโอนผ่อนปรน ข้ออ้างของอวีห้ ย่วนมีช่องโหว่นบั ร้อยพัน คาดไม่ถึงว่าหวังซื่อจะยินยอม
โดยไม่มีขอ้ สงสัยอันใด ไม่เพียงเท่านี ้ นางยังกําชับกับเซียงซื่อให้ดแู ลอวีถ้ งั ดีๆ “อย่าลืมว่าเจ้า
เป็ นพี่สะใภ้เชียว!”
945

เซียงซื่อย่อมรู ว้ ่าเหตุใดตัวเองถึงสามารถติดตามอวีห้ ย่วนออกจากบ้านได้ แม้จะกลืน


ไม่เข้าคายไม่ออก แต่ก็รูส้ กึ หวานชื่นในใจ ไม่เพียงรับปากแม่สามีอย่างนอบน้อม ยังตระเตรียม
เสบียงอาหารมากมายตัง้ แต่เช้าตรู ่ ระหว่างเดินทางก็เรียกอวีถ้ งั มากินอย่างไม่หยุดหย่อน
อวีถ้ งั ยิม้ อย่างเริงร่า บีบนวดแขนเซียงซื่อ ทัง้ ขอคําแนะนําเรื่องในไร่สวนจากนางอย่าง
จริงจัง
เซียงซื่อก็ไม่ปิดบัง บอกกับนางทีละเรื่อง ยังเอ่ยว่า “เจ้าก็ไม่ตอ้ งกังวลเกินไป ภายหลัง
หากพบเรื่องอะไร เจ้าก็มาถามข้าตรงๆ ได้”
อวีถ้ ังพยักหน้าระรัว เมื่อถึงเรือนเก่าสกุลอวีจ้ ัดแจงให้เซียงซื่อพักผ่อนแล้ว ก็ออกไป
บริเวณภูเขากับอวีห้ ย่วน ไปดูตน้ ซาจี๋ท่ีเคลื่อนย้ายมาจากสกุลเผย
ต้นไม้งอกงามเขียวชอุ่ม ดูแล้วน่าจะอยู่รอดปลอดภัย แต่กลับไม่ออกดอกออกผล
แม้แต่นอ้ ย ชายแก่ท่ีคอยดูแลที่น่ ันเอ่ยพึมพํา “นี่เหมือนต้นไม้ท่ีออกผลได้ตรงไหนกัน ข้าว่า
คุณชายใหญ่และคุณหนูคงถูกคนหลอกเสียแล้ว!”
แม้จะกล่าวว่าอวีถ้ งั ก็ไม่ม่นั ใจ เพราะนางตัดสินใจทําเช่นนี ้ ล้วนเป็ นเพราะความสําเร็จ
ของเผยเยี่ยนในชาติก่อน ดังนัน้ แม้ยามนีจ้ ะได้ยินคนพรํ่าบ่น ก็ไม่คิดย่อท้อ เดินดูพืน้ ที่ภูเขา
โดยรอบกับอวีห้ ย่วนครัง้ หนึ่ง จากนัน้ ไปดูท่ีนา ปรึกษาหารือกับชาวนาที่มีประสบการณ์พวกนัน้
ก่อนพวกเขาจะกลับเรือนเก่าไป
เซียงซื่อนัน้ สั่งให้หญิงรับใช้ทาํ อาหารเที่ยงรอนานแล้ว เมื่อกินข้าวเสร็จ อวีห้ ย่วนก็พา
พวกนางไปตกปลาในคลองเล็กๆ ...พวกเขาพักอยู่ท่ีเรือนเก่าสกุลอวีห้ ลายวัน ไม่เหมือนกับมา
ทําธุระ แต่เหมือนมาเที่ยวเล่นเสียมากกว่า ยามที่กลับเข้าเมืองก็ขนอิงเถาป่ า เป็ ดป่ า เจียวไป๋ 1 186

และของอื่นๆ ไปเกือบครึง่ ลํารถ

1
เจียวไป๋ หรือก็คือต้นข้าวป่ า ชาวจีนมักจะนําแกนอ่อนสีขาวมาปรุงอาหาร
946

เซียงซื่อตําหนิพวกเขาทัง้ รอยยิม้ ว่า ‘ซุกซน’ พลางให้ปา้ เฉินช่วยพวกเขาขนของลงจาก


รถ
อวีถ้ งั ชีไ้ ปที่ตะกร้าใบหนึ่ง “นี่เป็ นของที่จะส่งให้สกุลเผย ท่านอย่าเผลอเอาไปทิง้ ปนกัน
ไว้ในครัวล่ะ”
เฉินซื่อเปิ ดดูตะกร้าที่คลุมด้วยผ้าหยาบลายดอกสีฟ้า เอ่ยว่า “นี่เป็ นไข่เป็ ดป่ ากระมัง?
ส่งไปเช่นนีเ้ สียของไม่นอ้ ย มิสทู้ าํ เป็ นไข่เค็มก่อนแล้วค่อยส่งไป…ไข่เป็ ดป่ าเช่นนี ้ เมื่อนําไปดอง
ไข่แดงย่อมออกมาสีสดสวย”
อวีถ้ งั ไม่คอ่ ยเข้าใจเรื่องพวกนี ้ ย่อมปล่อยให้เฉินซื่อจัดการไป
เซียงซื่อยังแต่งเข้ามาไม่ถึงสามเดือน เป็ นยามที่ควรจะแสดงฝี มือต่อหน้าพ่อแม่สามี
แล้ว จึงเผยยิม้ บอกเป็ นนัยว่าจะรัง้ ตัวอยู่ช่วยเหลือเฉินซื่อ “ที่บา้ นท่านป้าก็เลีย้ งเป็ ดอยู่ไม่นอ้ ย
พวกเราดองไข่เค็มอยู่บอ่ ยครัง้ เช่นกัน”
เฉินซื่อยอมยินดีให้หน้าแก่สะใภ้ใหม่ ตอบรับทัง้ รอยยิม้ ไม่วา่ ยังชมเซียงซื่อไม่ขาดปาก
“ยากที่ เ จ้า จะกระตื อ รือ ร้น เช่ น นี ้ ข้า จะให้ป้า เฉิ น ไปบอกกล่า วแม่ ส ามี เ จ้า เสี ย หน่ อ ย ตอน
กลางวันพวกเจ้าก็กินข้าวที่เรือนข้าแล้วค่อยกลับเถิด”
อวีห้ ย่วนสงสารภรรยา อยากให้เซียงซื่อกลับไปพักเร็วหน่อย อวีถ้ ังกลับส่งสายตาให้
เขา เขาจึงทําได้เพียงดึงมือเซียงซื่อราวกับปลอบประโลม ก่อนตามอวีถ้ งั ไปห้องหนังสือ พอเท้า
ก้าวข้ามประตูก็ถามอวีถ้ งั ทันที “เจ้าอยากพูดอันใด? ก่อนหน้านีท้ าํ ไมไม่พดู ระหว่างทาง?”
มีภรรยาก็ลืมน้องสาวแล้วจริงๆ!
อวีถ้ งั ทําหน้าทะเล้นใส่อวีห้ ย่วน เอ่ยเสียงเบา “ท่านพี่ พวกเราหาโอกาสไปซูโจวสักครัง้
เถิด! ข้าอยากไปสืบเรื่องการค้าทางทะเล”
ไม่รูว้ า่ เพราะเหตุใด คนที่ทาํ การค้าทางทะเลในซูโจวจึงมีมากกว่าหังโจว
947

อวีห้ ย่วนใจเต้นไม่เป็ นจังหวะ คิดว่าน้องสาวผูน้ ีข้ องตนจะก่อเรื่องอีกแล้ว นํา้ เสียงยัง


แฝงความตึงเครียดออกมาอย่างเห็นได้ชดั “เจ้า เจ้าจะสืบเรื่องนีไ้ ปทําอะไร? ก่อนหน้านีไ้ ม่ใช่
พูดกันแล้วว่า สกุลพวกเราจะไม่ทาํ การค้านีแ้ ล้วหรอกรึ? เวลานัน้ นายท่านสามเขายังแนะนํา
สกุลซ่งให้พวกเรา? เจ้าก็ปฏิเสธไปนี่?”
อวีถ้ งั อยากฉวยเวลานีห้ าลูท่ างร่วมหุน้ กับสกุลเจียง
นางเอ่ยเสียงแผ่ว “ข้าไม่ได้อยากทําการค้าทางทะเล ข้าเพียงอยากร่วมหุน้ เล็กๆ หาเงิน
เสียหน่อย แค่ใช้เงินส่วนตัวของพวกเรา ข้าคิดว่าหากจะปรับปรุ งพืน้ ที่ทางภูเขาของสกุลพวก
เราให้สมบูรณ์เรียบร้อย เกรงว่าคงจะเสียเงินไม่นอ้ ย”
หากไปขอเงินจากมืออวีป้ ๋ อตรงๆ นั่นจะนับว่าพึ่งพาตัวเองได้อย่างไร?
ประเด็นหลักก็คือ อวีเ้ หวินไม่เลือกที่รกั มักที่ชงั หลังจากประมูลแผนที่ ก็มอบเงินให้นาง
และอวีห้ ย่วนคนละสองพันตําลึงเป็ นเงินส่วนตัว
คําพูดนีส้ ่นั คลอนจิตใจอวีห้ ย่วน
เขาครุน่ คิดเล็กน้อย “ข้ากลับไปจะปรึกษากับพี่สะใภ้เจ้าก่อนค่อยว่ากัน”
นี่ก็ตอ้ งปรึกษากับเซียงซื่ออยู่ร?ึ
อวีถ้ งั ตกตะลึง
อวีห้ ย่วนเอ่ยอย่างกระดากอาย “พวกเรายากจะไปเยือนซูโจว ให้พ่ีสะใภ้เจ้าไปเปิ ดหู
เปิ ดตาด้วยกันเสียหน่อย”
ก็ได้!
ในสายตาของพี่ชาย พี่สะใภ้นางย่อมใหญ่ท่ีสดุ
อวีถ้ งั ถลึงตาใส่อวีห้ ย่วนไปที ในใจกลับปรากฏความอิจฉาวาบผ่านไปเล็กน้อย
ช่วงบ่าย เซียงซื่อช่วยเฉินซื่อดองไข่เค็ม หวังซื่อไม่มีธุระจึงเข้ามาร่วมด้วย
948

ทุกคนช่วยกันผสมขีเ้ ถ้าอยู่ตรงลานบ้าน
เฉิ นซื่อและหวังซื่อพูดคุยกัน “เจ้าว่า ครัง้ นีน้ ายท่านหลี่จะได้โยกย้ายหรือเลื่อนขัน้ ?
บ้านสายตรงสกุลหลี่แยกสกุลกับบ้านหลี่ตวนก็ไม่รูว้ า่ จะเสียใจภายหลังหรือไม่?”
เวลานีอ้ วีถ้ งั จึงตระหนักได้วา่ ที่แท้บิดาของหลี่ตวน หลี่อไี ้ ด้รบั ตําแหน่งครบสามปี กลับ
กรมขุน นางที่ เ มื อ งหลวงไปรายงานภารกิ จ ต่ อ เบื อ้ งบนแล้ว ข้า หลวงรื่ อ เจ้า คนใหม่ ไ ด้เ ข้า
ประจําการแล้ว หลี่อีจ้ ะรัง้ อยู่ในเมืองหลวงหรือจะถูกส่งไปรับตําแหน่งนอกเมืองอีก? จะเลื่อน
ขัน้ หรือได้โยกย้าย หลายวันมานีผ้ คู้ นในเมืองหลินอันต่างพากันซุบซิบนินทา จับจ้องจวนสกุล
หลี่ ทัง้ เหตุท่ีหลี่จวิน้ กลับมาก็เพราะว่าเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของบิดาที่ก่อนหน้านีร้ บั ตําแหน่ง
ในรื่อเจ้า
ทุกคนล้วนพูดเป็ นเสียงเดียวกันว่า “จะทรัพย์สินอันใดอีก เกรงว่าจะเป็ นเงินใต้โต๊ะตอน
รับตําแหน่ง? ไม่ใช่กล่าวกันว่าขุนนางรับตําแหน่งสามปี มีเงินใช้เป็ นกอบเป็ นกําหรอกรึ? นาย
ท่านหลี่เป็ นข้าหลวง ทัง้ ยังรับตําแหน่งมาหลายที่แล้ว!”
เฉินซื่อไม่คอ่ ยสนใจเรื่องพวกนี ้ แต่หากสกุลหลี่ยงั อยู่ในสถานการณ์เช่นนีไ้ ด้สืบไป ก็จะ
เป็ นผลดีกบั สกุลอวี ้
นางผสมขี เ้ ถ้า อย่า งไม่ ใ ส่ใ จนัก เอ่ย ด้ว ยรอยยิม้ “ข้า กลับ คิ ด ว่า สกุล หลี่ ท าํ เรื่องไม่
เหมาะสมอยู่บา้ ง เจ้าดูเมืองหลินอัน ใช่ว่าไม่เคยมีคนเป็ นข้าราชการ แต่มีสกุลใดบ้างที่ทาํ
เหมือนพวกเขา ขนเงินกลับมาเช่นนี?้ ”
ด้านหลี่ตวนกําลังบันดาลโทสะเพราะข่าวลือพวกนี ้
เขาโมโหใส่หลี่จวิน้ “ให้เจ้าเคลื่อนย้ายของกลับมา เจ้าก็ขนของกลับมา ไฉนจึงเอาไป
ลํ่า ลื อ กัน ว่า สกุล พวกเราขนเงิ น หนึ่ง แสนตํา ลึง กลับ มาจากรื่อ เจ้า ได้? คํา พูด นี ใ้ ครเป็ น คน
เผยแพร่? คนรับใช้ขา้ งกายเจ้าเป็ นพวกคนแบบไหนกันแน่?”
หลี่จวิน้ ค้อมศีรษะ ไม่เอ่ยอันใด
949

เขาอายุ น ้อ ยกว่ า หลี่ ต วนสามปี ยามนี ้เ ผยท่ า ที ก ลั บ เรี ย บนิ่ ง จึ ง ดู ร าวกั บ ผ่ า น


ประสบการณ์มาอย่างโชกโชนมากกว่าหลี่ตวนถึงสองสามปี คนที่ไม่รูย้ งั จะคิดว่าหลี่จวิน้ เป็ นพี่
หลี่ตวนเป็ นน้อง
หลี่ตวนเห็นก็อดก่นด่าในใจไม่ได้
ตัง้ แต่เกิดเรื่องเว่ยเสี่ยวซาน หลี่จวิน้ ก็คล้ายถูกโจมตีอย่างรุนแรง ไม่อาจฟื ้ นคืนเหมือน
เก่า ดูไร้ชีวิตชีวา
เขาเดินวนเวียนอยู่ในห้องอย่างร้อนใจ รู ส้ ึกว่าโทสะของตัวเองถูกกดไว้เบือ้ งลึกในใจ
แล้ว จึงหยุดฝี เท้า ยามที่กาํ ลังคิดจะพูดดีๆ กับหลี่จวิน้ หลินเจวี๋ยก็บกุ เข้ามาก่อน
หลี่ตวนไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง
นี่คือสกุลหลี่ ไม่ใช่สกุลหลิน แต่หลินเจวี๋ยกลับเข้าเรือนในสกุลพวกเขาราวกับเดินบน
ถนน คล้ายกับไม่เคยมีคนขัดขวางเขามาก่อน
เพียงเขายังไม่ทนั เผยสีหน้าหงุดหงิดใจ หลินเจวี๋ยก็เอ่ยอย่างเคร่งขรึมเสียก่อน “อาตวน
ข้าสืบเรื่องอย่างชัดเจนแล้ว เป็ นเผิงสืออีท่ีปล่อยข่าวลือ”
950

บทที่ 119 เรื่องนอกประเด็น


หลี่ตวนฟั งจบพลันหน้าเปลี่ยนสี
เขาตบโต๊ะดัง ‘ปั ง’ กัดฟั นคํารามด้วยดวงตาแดงกํ่า “เขาต้องการทําอะไรกันแน่?”
สีหน้าของหลินเจวี๋ยก็ดไู ม่ได้เช่นกัน
มีเพียงหลี่จวิน้ ที่ไม่รูว้ ่าเกิดเรื่องอันใด มองหลี่ตวนก่อนจะสลับมองหลินเจวี๋ย คิดว่า
ตัวเองอย่าเข้าไปยุ่งกับพวกเขาจะดีท่ีสดุ นิ่งเงียบไปพักใหญ่ ก่อนเอ่ยว่า “ท่านพี่ ญาติผพู้ ่ี ข้าจะ
ไปดูท่านแม่ พวกเจ้ามีเรื่องอะไร ให้เด็กรับใช้ไปบอกกล่าวข้าก็เพียงพอแล้ว”
เรื่องของเว่ยเสี่ยวซานคล้ายกับหินก้อนใหญ่ท่ีทาํ ลายความสงบสุขในสกุลหลี่ ทัง้ ทํา
ให้หลี่จวิน้ มองเห็นหินประหลาดในโคลนตมที่ซ่อนอยู่ใต้ผืนนํา้ เขาไม่อาจทําเป็ นไม่รูไ้ ม่เห็น ทัง้
ไม่อาจผดุงความยุติธรรมจัดการญาติพ่ีนอ้ งของตัวเองได้เช่นกัน ทําได้เพียงเป็ นนกกระทาที่
ซ่อนสมองไว้ใต้ปีก คล้อยไปตามคนอื่น ไม่สนใจสรรพสิ่งใดใด
ข่าวร้ายของหลินเจวี๋ยทําให้หลี่ตวนหงุดหงิดใจมากพอแล้ว ไหนเลยยังจะมีใจคิดยุ่ง
หลี่จวิน้ อีก ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น ก็ทาํ อะไรไม่ได้ โบกมือทันที เอ่ยกับหลี่จวิน้ “บาดแผลบน
หน้าผากของท่านแม่ยงั ไม่หายดี เมื่อก่อนนางก็รกั เอ็นดูเจ้าที่สดุ หากเจ้าไม่อยู่บา้ นข้าก็คงไม่
พูดมาก แต่เมื่อยามนีเ้ จ้าอยู่บา้ นแล้ว ก็คอยดูแลเอาใจใส่นางดีๆ อย่าทําให้นางเสียใจอีก”
หลินจวิน้ พยักหน้า บอกลาหลินเจวี๋ย ก่อนจะออกจากห้องหนังสือไป
หลินเจวี๋ยเห็นญาติผูน้ อ้ งคนนีซ้ ึมกะทือไร้ชีวิตชีวาราวกับคนชรา รอจนหลี่จวิน้ เดิน
ออกไป เขาก็อดเอ่ยไม่ได้ “อาจวิน้ เป็ นอะไรไป? ทางท่านอาหลี่อีว้ ่าอย่างไรบ้าง? ไฉนข้าจึงได้
ยินว่าท่านอาอาจจะถูกย้ายไปที่อวิ๋นกุย้ ? คงไม่ใช่เรื่องจริงหรอกกระมัง?”
หากเป็ นเรื่องจริง เกรงว่าสกุลหลี่จะอันตรายแล้ว...ทางอวิ๋นกุย้ เป็ นที่รกร้างว่างเปล่า
สภาพอากาศเลวร้ายทัง้ เกิดโรคระบาดบ่อยครัง้ ผูท้ ่ีรอดชีวิตกลับมาได้ มี่ไม่ก่ีคนเท่านัน้
แน่นอนว่า หากสกุลหลี่จบเห่ สกุลหลินย่อมไม่อาจใช้ชีวิตอย่างสุขสบายได้เช่นกัน
951

หลี่ตวนได้ฟังใบหน้าก็เขียวคลํา้ ย้อนถาม “เจ้าได้ยินมาจากผูใ้ ด?”


หลินเจวี๋ยลอบเบะปาก กลับไม่แสดงออกทางใบหน้า “ได้ยินมาจากคนสกุลซ่ง”
นับตัง้ แต่สกุลเผิงมั่นใจว่าแผนที่ท่ีสกุลเผยประมูลและแผนที่ในภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สน
ริมนํา้ ’ เป็ นอันเดียวกัน ก็แตกหักกันทันที แม้จะไม่ได้กล่าวโทษว่าพวกเขาไร้ความสามารถอย่าง
ชัดเจน แต่เงื่อนไขที่รบั ปากในอดีตกลับไม่เอ่ยถึง กระทั่งยังขอให้พวกเขาสืบว่าสกุลเผยได้แผน
ที่ไปอย่างไร
ความนัยของวาจาคือ สงสัยว่าพวกเขาจะเหยียบเรือสองแคม ลอบกัดสกุลเผิง
แต่พวกเขาไหนเลยจะสามารถสืบว่าสกุลเผยเอาแผนที่มาจากไหนได้?
หากพวกเขามี ค วามสามารถนี ้ ก็ ค งแทนที่ ส กุ ล เผยไปนานแล้ ว ยั ง จะต้ อ ง
ประจบประแจงคนสกุลเผิงอย่างพวกเขาไปทําไม?
นี่ไม่ใช่ตอ้ งการสร้างความลําบากให้พวกเขาหรอกรึ?
หลี่ตวนรับปากไป แต่กลับชักช้าไม่ลงมือดําเนินการมาโดยตลอด
บางทีสกุลเผิงอาจจะส่งคนมาจับตามองพวกเขา สองวันก่อนยังส่งผูด้ ูแลคนหนึ่งมา
ข่มขู่เขา เอ่ยว่าหากเขาจัดการได้ไม่ดี พวกเขาก็จะหาคนฝี มือดีมาแทน
เขาโตจนถึงขนาดนีแ้ ล้ว ยังไม่เคยได้รบั การเหยียดหยามเช่นนีม้ าก่อน จึงตอกกลับไป
ทันที
คาดไม่ถึงว่าผ่านไปไม่ก่ีวนั ก็ปล่อยข่าวลือว่าบิดาให้นอ้ งชายขนเงินที่ทจุ ริตกลับมา
เมืองหลินอันเป็ นรากเหง้าของสกุลหลี่ สกุลพวกเขาปั กหลักที่น่ี เติบโตที่น่ี ภายหลัง
ลูกหลานทายาทยังต้องอาศัยอยู่ท่ีน่ี หากชื่อเสียงเสื่อมเสีย ถูกคนติฉินนินทา หรือพวกเขาจะยัง
สามารถจากบ้านไกลเมืองไปได้อย่างนัน้ รึ?
952

สิ่งที่ทาํ ให้เขานึกไม่ถึงยิ่งกว่าก็คอื ยามนีย้ งั โหมกระพือข่าวลือว่าบิดาของเขาต้องไปรับ


ตําแหน่งที่อวิ๋นกุย้
หากได้เลื่อนตําแหน่ง แม้ถกู ส่งไปประจําที่อวิ๋นกุย้ ก็จะอันตราย แต่เพื่อหนทางอนาคต
ข้างหน้า ก็คมุ้ ค่าที่จะบากบั่นพยายาม กลัวก็แต่ว่าสกุลเผิงจะปล่อยข่าวนีอ้ อกมาตักเตือนสกุล
พวกเขา...หากสุดท้ายยังทําเสียเรื่อง ก็อาจจะกลายเป็ นเรื่องจริง
หลี่ตวนอดขมวดคิว้ ไม่ได้ ถามหลินเจวี๋ย “เจ้าและคนของสกุลซ่งได้พดู คุยกันแล้วรึ?”
ยามนีส้ กุลซ่งทําการค้าร่วมกับสกุลเผิง ทัง้ สกุลซ่งก็เป็ นญาติเกี่ยวดองทางการแต่งงาน
ของสกุลเผย หากอยากจะไกล่เกลี่ยความสัมพันธ์ของสกุลเผิงและสกุลเผย ให้สกุลซ่งเป็ นคน
กลางย่อมเป็ นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สดุ
ญาติผพู้ ่ีของเขาคนนี ้ หัวไวมิใช่นอ้ ย ทัง้ ทําเรื่องได้อย่างน่าไว้ใจ
เมื่อคิดเช่นนี ้ แววตาที่เขามองหลินเจวี๋ยก็ปรากฏความสนิทสนมขึน้ มาหลายส่วน
หลินเจวี๋ยคิดมาตลอดว่าญาติผูน้ อ้ งคนนีข้ องตัวเองอะไรก็ดีเสียหมด ติดเพียงชอบ
วางท่า ถือยศถืออย่าง วางไม่ได้เท่านัน้ เดิมทีก็มีความสัมพันธ์มากมายที่ใช้ประโยชน์ได้ กลับ
ถูกเขาทําเสียเรื่องไปเสียหมด
นี่ก็คงเป็ นความถือตัวของบัณฑิตที่ร่าํ เรียนวิชามากระมัง
เขาทัง้ ดูแคลนและอิจฉาอยู่เล็กน้อย เอ่ยว่า “ข้าก็ทาํ เพราะอับจนหนทางมิใช่ร?ึ ยามนี ้
สกุลเผิงปั กใจว่าพวกเราทรยศ พวกเรามีอาํ นาจน้อยกว่า พูดอะไรย่อมไร้ประโยชน์ ข้าสงสัยว่า
พวกเขาคงไม่รูจ้ ะให้คาํ ตอบกับพวกผูอ้ าวุโสของสกุลเผิงอย่างไร จึงโยนความผิดนีม้ าที่พวกเรา
ในความคิดข้า ทางสกุลเผิงย่อมต้องเกิดปั ญหาอะไร ยังมีสกุลเผยอีก เจ้าว่า เผยเยี่ยนทราบถึง
เรื่องที่พวกเราทําแล้วหรือไม่! ตัง้ นานเขาไม่ประมูล ช้ากว่านีก้ ็ไม่ประมูล กลับมาประมูลยามที่
พวกเราหาภาพนัน้ พบพอดี นี่ย่อมพุง่ เป้ามาที่พวกเราแน่”
953

“เจ้าอย่ามองว่าหลายวันนีข้ า้ ออกไปเตร็ดเตร่อยู่ขา้ งนอก ความจริงข้ากําลังสืบเรื่อง


ของเผยเยี่ยนอยู่ เขาและท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผยไม่เหมือนกัน ข้าดูท่าแล้ว เขาคงเป็ นหมาป่ าที่กิน
คน กลืนเจ้าลงท้องไปแล้ว ยังรังเกียจที่กระดูกเจ้าแข็งเกินไป ทําให้เขาย่อยไม่ได้…”
หลี่ตวนยิ่งฟั งก็ย่ิงร้อนใจ เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “คงไม่ใช่ว่าสกุลอวีแ้ อบวางแผนอะไร
ลับหลังหรอกกระมัง?”
หลินเจวี๋ยชะงักเล็กน้อย “เป็ นไปไม่ได้กระมัง! สกุลอวีค้ นน้อยทายาทลูกหลานแทบไม่
มี นอกจากอวีเ้ หวินที่ร่าํ เรียนตําราไปวันๆ ก็ไม่มีใครที่สายตากว้างไกลอีก หากสกุลพวกเขาพบ
ความลับของภาพ ‘ตกปลาตกใต้ตน้ สนริมแม่นา้ํ ’ ก็คงจะคิดวิธีขายมันออกไปมากกว่า!”
ขณะที่ทงั้ สองคนพูดคุย ก็อดประสานสายตากันไม่ได้
หากสกุลอวีต้ อ้ งการขายภาพ จะขายให้สกุลใดกัน?
แน่นอนว่าต้องเป็ นสกุลเผย!
ทัง้ สองคนวูบไหวในใจ คล้ายมีมือที่ไร้รูปร่าง ปั ดกลุม่ เมฆดําครึม้ บดบังแสงพระอาทิตย์
ให้ลอยออกไป กระจ่างใจขึน้ มาโดยพลัน
พวกเขาคิดใคร่ครวญวางแผนอย่างแยบยล เหตุใดจึงมองข้ามสกุลอวีไ้ ปได้!
โดยเฉพาะตัง้ แต่ท่ีเผยเยี่ยนรับตําแหน่งผูน้ าํ ของสกุลเผย จู่ๆ สกุลอวีก้ ็สนิทสนมกับ
สกุลเผยขึน้ มา ทัง้ ยังเริม่ ไปมาหาสูก่ บั สกุลเผยอยู่บอ่ ยครัง้
หากพูดว่าเรื่องนีไ้ ม่เกี่ยวข้องกับสกุลอวี ้ ให้ตายอย่างไรพวกเขาก็ไม่เชื่อ
หลิ น เจวี๋ ย กระโดดโผลงขึ ้น มาทั น ที เอ่ ย อย่ า งดี ใ จ “พวกเรานํา สกุ ล อวี ้อ อกไป
แลกเปลี่ยนก็เพียงพอแล้ว!”
เมื่อเป็ นเช่นนี ้ พวกเขาก็จะสามารถดึงตัวเองออกมาได้
954

ตอนแรกหลี่ตวนก็ดีใจตามไปด้วย ต่อมากลับส่ายศีรษะ เอ่ยเคร่งขรึม “ไม่เหมาะ! หาก


สกุลเผิงถามพวกเราว่าสกุลอวีร้ ูค้ วามลับของภาพ ได้อย่างไร พวกเราจะตอบเช่นไร?”
หลินเจวี๋ยเอ่ย “ก็บอกว่าพวกเขาพบโดยบังเอิญ?”
“เช่นนัน้ พวกเรารูว้ า่ สกุลอวีค้ น้ พบเรื่องนีไ้ ด้อย่างไร?”
“หลังจากเกิดเรื่องพวกเราสืบหาด้วยตัวเองอีกครัง้ จากนัน้ ก็เลยทราบเรื่อง?”
“เหตุใดพวกเราจึงสืบหาด้วยตัวเอง?”
หลินเจวี๋ยเงียบกริบ
หลี่ตวนเอ่ย “เป็ นเพราะทางพวกเราเองที่ทาํ ผิดพลาด? นั่นไม่เท่ากับว่ายอมรับว่าทาง
ฝั่งพวกเรามีปัญหาหรอกรึ?”
ย่อมไม่อาจยอมรับได้
เมื่อยอมรับ เรื่องนีพ้ วกเขาก็ตอ้ งเป็ นผูร้ บั ผิดชอบ
หลินเจวี๋ยเดินวนเวียนในห้องอย่างกระวนกระวายใจ “นี่ก็ไม่ได้ นั่นก็ไม่ได้ พวกเราไม่
อาจเอาแต่น่ งั รอความตายอย่างนีไ้ ด้กระมัง? ทัง้ ข้ากล้ามั่นใจว่า เรื่องนีย้ ่อมมีส่วนเกี่ยวข้องกับ
สกุลอวี ้ พวกเราคงไม่อาจปล่อยให้สกุลอวีว้ างแผนล่อพวกเราอยู่เรื่อยไปเช่นนีไ้ ด้? ข้ารูว้ ่าหาก
ไม่อดทนต่อเรื่องเล็กๆ ย่อมทําเสียการใหญ่ แต่ให้ขา้ อดทนกับเรื่องนี ้ ข้าย่อมไม่อาจกลํา้ กลืน
ฝื นทนความไม่ธรรมนีไ้ ด้...”
หลี่ตวนไม่ได้สนใจหลินเจวี๋ย กําลังครุน่ คิดเรื่องอื่น
เหตุใดสกุลอวีต้ อ้ งทําเช่นนี?้ แปดในสิบส่วนย่อมเกี่ยวกับการตายของเว่ยเสี่ยวซาน
เรื่องนีต้ งั้ แต่แรกพวกเขาก็ทาํ พลาดแล้ว
หากหลังจากพวกเขาสังหารหลูซ่ ิ่น แล้วเป่ าหูให้คนของสกุลหลูไ่ ปเอาของต่างหน้าจาก
สกุลอวี ้ บางทีอาจจะไม่เกิดเรื่องวุน่ วายมากมายขนาดนี ้
955

แต่เวลานัน้ พวกเขาก็คาดไม่ถึงว่าหลูซ่ ิ่นจะขายภาพให้กบั อวีเ้ หวิน ทัง้ ยิ่งนึกไม่ถึงว่าอวี ้


เหวินจะใจกว้างมอบภาพนัน้ คืนเป็ นของต่างหน้าให้สกุลหลู่
ก้าวผิดซํา้ แล้วซํา้ เล่า
ยามนีม้ าพูดก็สายไปแล้ว
เรื่องสําคัญที่สดุ ในตอนนีค้ ือบิดาของเขาจะถูกโยกย้ายหรือเลื่อนตําแหน่ง
เขาถามหลินเจวี๋ย “ข่าวของสกุลซ่งน่าเชื่อถือหรือไม่? คงไม่ใช่ฟังมาจากสกุลเผิงหรอก
กระมัง? สองปี มานีแ้ ม้สกุลซ่งจะดูยอดเยี่ยม แต่พวกลูกหลานที่เป็ นบัณฑิตกลับไม่มีใครอยู่ใน
ตําแหน่งสําคัญ หากท่านพ่อถูกย้ายไปอวิ๋นกุย้ จริงๆ เหตุใดสกุลพวกเราจึงไม่ได้รบั ข่าวคราว?”
บิดาของเขาไม่ใช่คนสะเพร่า หากมีเหตุไม่คาดฝั นเช่นนีเ้ กิดขึน้ ย่อมส่งม้าเร็วมาแจ้ง
ข่าวที่เรือน ให้พวกเขาสามารถวางแผนรับมือล่วงหน้า
หลินเจวี๋ยพลันกระจ่างใจขึน้ มา เขาครุน่ คิดเล็กน้อย “คงไม่กระมัง? แต่ว่าสถานการณ์
ในยามนัน้ ข้าก็ไม่อาจถามสกุลซ่งได้วา่ ทราบข่าวมาจากที่ใด”
หลี่ตวนถอนหายใจ “เจ้ายังมองไม่ออกหรือไร สกุลเผิงต้องการบีบให้พวกเรายอมแต่
โดยดี!”
แต่หลังจากพวกเขายอมแล้วล่ะ?
สกุลเผิงคิดจะทําอะไรกันแน่?
ทัง้ สองคนล้วนไม่เข้าใจ

ยามที่คนของสกุลเผิงได้รบั ข่าวก็ไม่เข้าใจเช่นกัน
956

ผูด้ แู ลรายงานกับเผิงสืออี “ก็ไม่รูว้ ่าใครเผยแพร่เรื่องพวกนี ้ เกรงว่าคนของสกุลหลี่จะ


สงสัยว่าเป็ นพวกเรา ถึงเวลานัน้ อาจต้องต่อสูก้ นั ตายตกทัง้ สองฝ่ าย พวกเรายังคงต้องหาคนอื่น
ช่วยทําเรื่องนีอ้ ีกขอรับ”
เผิ ง สื อ อี โ กรธจนเส้น เลื อ ดปูด ขึ น้ หน้า ผาก เอ่ ย อย่ า งไม่ ส บอารมณ์ “สื บ สื บ อย่ า ง
ละเอียดให้ขา้ เสีย ข้ากลับอยากเห็นว่า เป็ นผูใ้ ดที่กล้าวางแผนลับหลังสกุลเผิงของพวกเรา!”
ผูด้ แู ลเอ่ยอย่างลังเล “จะเป็ นสกุลเผยหรือไม่ขอรับ?”
“เป็ นไปไม่ได้” เผิงสืออีเอ่ยแทบไม่ตอ้ งคิด “ยามนัน้ ข้าเคยพบเขาที่สกุลอาเจ็ด คาดว่า
เขาคงจําข้าไม่ได้แล้ว ข้ากลับจําเขาได้ดี” พูดมาถึงตรงนี ้ สีหน้าเขาก็ดดุ นั ขึน้ มา เวลานัน้ เขายัง
คิดว่าตัวเองจะเป็ นเพื่อนร่วมงานที่ดีกบั เผยเยี่ยนได้ ใครจะรู ว้ ่ายามนีค้ นหนึ่งอยู่บนฟ้าอีกคน
หนึ่งอยู่ในคูคลอง “เขาเป็ นคนทระนงตนอย่างยิ่ง หากคิดจะจัดการสกุลหลี่ เดิมทีก็ไม่อาจใช้วิธี
เช่นนี”้
ผูด้ ูแลครุ ่นคิดก็รูส้ ึกว่าเป็ นเช่นนัน้ ครัง้ นีน้ ับว่าสกุลหลี่ทา้ ทายสกุลเผยที่มีอาํ นาจใน
เมืองหลินอัน หากสกุลเผยจะจัดการสกุลหลี่ ก็ย่อมเพราะว่าเชือดไก่ให้ลิงดู ทําหลบๆ ซ่อนๆ
เช่นนี ้ ยังจะมีความหมายอะไร?
“เช่นนัน้ ยังมีสกุลใดอีกกัน?” ผูด้ แู ลขยับปากพึมพํา
เผิ ง สื อ อี ก ลับ ไม่ ส นใจเรื่ อ งพวกนี ้ เอ่ ย ว่ า “เจ้า สื บ ชัด เจนแล้ว หรื อ ว่ า เรื่ อ งแผนที่ ไ ม่
เกี่ยวข้องกับสกุลหลี่?”
ผูด้ แู ลละลํ่าละลักเอ่ย “สืบกระจ่างแล้วขอรับ เรื่องนีไ้ ม่เกี่ยวกับสกุลหลี่จริงๆ พวกเขา
ได้ของแล้วก็หาอาจารย์วาดภาพมาตรวจสอบว่าเป็ นของจริงหรือของปลอม ร่างของอาจารย์
วาดภาพนัน้ ยังจมลึกอยู่ใต้แม่นา้ํ ซูโจวจนถึงทุกวันนี ้ อาจไม่ใช่ปัญหาของสกุลหลี่ขอรับ”
เช่นนัน้ ก็เป็ นปั ญหาของสกุลเผิง
957

หลายปี มานี ้ สกุลเผิงมีการต่อสูท้ งั้ นอกและในอย่างไม่หยุดหย่อน กระทั่งเผิงอวี่ อาเจ็ด


ที่รบั ราชการห่างไกลในเมืองหลวงยังทนไม่ได้ เขียนจดหมายกลับมาให้นายท่านใหญ่สกุลเผิง
ควบคุมทายาทลูกหลานในสกุล ไม่แน่วา่ หนอนบ่อนไส้อาจจะเป็ นคนในสกุลของพวกเขาเอง!
“เรื่องนีพ้ กั ไว้ช่วั คราว” เผิงสืออีเอ่ย “เจ้าจับตาดูหลี่ตวนให้ดี...หากเขาถอนหมัน้ กับสกุล
กู้ คนผูน้ ีก้ ็ไม่มีความจําเป็ นต้องเก็บไว้ในมืออีกแล้ว”
ผูด้ แู ลได้ฟังก็ส่นั สะท้านในใจ เอ่ยรับคําสั่งอย่างนอบน้อม
เผิงสืออีด่มื ชาด้วยท่าทีเยือกเย็น นึกถึงกูฉ้ ่างที่รงั้ ตัวอยู่ในหลินอันไม่ไปไหน
ก็ไม่รูว้ า่ ชายหนุ่มผูน้ ีต้ งั้ ใจจะทําอะไรกันแน่?
958

บทที่ 120 รังควาญ


กูฉ้ ่างที่ถกู เผิงสืออีเดียดฉันท์นนั้ ขณะนีเ้ ขากําลังนั่งอยู่กบั เผยเยี่ยนในศาลาริมนํา้ กลาง
สวนดอกไม้จวนสกุลเผย จิบชาซีหหู ลงจิ่งที่เก็บเกี่ยวก่อนวันเช็งเม้ง ซึ่งเพิ่งจะถูกส่งมาจากเมือง
หังโจว ทอดสายตาชมปลาจิ๋นหลี่ ถกเถียงเรื่องกระดาษคําตอบในการสอบระดับหัวเมืองของ
เจียงซูเมื่อฤดูใบไม้ผลิปีท่ีแล้ว “...แม้วิถีของผูป้ กครองจะขึน้ อยู่กับการรักษากฎเมืองและกฎ
ของบรรพบุรุษ และการรักษากฎเมืองจําต้องเป็ นไปอย่างเคร่งครัดไม่ตกหย่อน ผูท้ ่ีได้เป็ นเจี่ย
หยวน 1นามว่าหวังชุนเหอผูน้ นั้ หยิบยกตํารา ‘ฮั่นในภายหลัง ฉบับหลี่ก’ู้ ตอนหนึ่งที่วา่ นั่งเล่นอยู่
187

ก็เห็นเงาเหยาบนกําแพง กินข้าวอยู่ก็เห็นเงาเหยาในชามข้าว 2ขึน้ มาพูด เห็นได้วา่ ผูส้ อบผ่านใน


188

การจัดสอบระดับหัวเมืองปี นนั้ มิใช่จะดูแคลนได้เลย”


เผยเยี่ยนไม่อยากสนทนากับกูฉ้ ่างเลยสักนิด ยิ่งไม่ตอ้ งการมาวิจารณ์เรื่องใต้หล้า
ร่วมกับเขา แต่เพราะเสิ่นซ่านเหยียนนั่งอยู่ขา้ งๆ หลายวันนีเ้ ขาก็เอาแต่แนะนําบัณฑิตในเมือง
หลินอันให้กฉู้ ่างได้รูจ้ กั อย่างกระตือรือร้น ทัง้ ยังมาเป็ นเพื่อนกูฉ้ ่างแวะเวียนมาหาเขาอยู่บ่อยๆ
อย่างผิดวิสยั เขาไม่รูว้ า่ เสิ่นซ่านเหยียนกับกูฉ้ ่างมีความสัมพันธ์กนั อย่างไร แต่เห็นแก่ท่ีเสิ่นซ่าน
เหยียนเคยมีบญ ุ คุณต่อศิษย์พ่ีเฟ่ ยของเขา เขาถึงยังแสร้งต้อนรับกูฉ้ ่างอย่างมีนา้ํ อดนํา้ ทน
บัดนีไ้ ด้ยินเขายกเรื่องการสอบระดับหัวเมืองที่เจียงซูขนึ ้ มาถกเถียง จึงอดจะตอบกลับ
อย่างเบื่อหน่ายมิได้ว่า “ข้าเคยเห็นกระดาษคําตอบของหวังชุนเหอ คิดว่าเขาไม่เลวเลยทีเดียว
เขาเชื่อว่า ‘ความทะเยอทะยานของผูป้ กครองอยู่บนฐานของความว่างเปล่า ความว่างเปล่า
เป็ นแก่นรากของกฎหมาย ความเห็นแก่ได้ลน้ เหลือเหนือทุกสิ่ง ผูป้ กครองทรงคุณธรรมยิ่งต้อง
เคารพกฎ ปวงประชาแซ่ซอ้ งสรรเสริญ เป็ นครรลองแห่งแคว้นที่ย่ งั ยืน’ ไม่พดู ถึงสิ่งอื่น แค่เขา

1
เจี่ยหย่วน ชื่อเรียกของผูท้ ่ีสอบได้เป็ นอันดับหนึ่งในสนามสอบระดับหัวเมืองซึ่งจัดขึน้ ทุกๆ 3 ปี
2
นั่งเล่นอยู่ก็เห็นเงาเหยาบนกําแพง กินข้าวอยู่ก็เห็นเงาเหยาในชามข้าว เป็ นส่วนหนึ่งของตํารา ‘ฮั่นในภายหลัง ฉบับหลี่ก’ู้
อุปมาถึง การชื่นชมและระลึกถึงคุณธรรมอันสูงส่งของบรรพบุรุษอยู่ทกุ ขณะจิต
959

กล้าเขียนประโยคนีอ้ อกมา ข้าคิดว่าที่ใต้เท้าหยางเลือกหวังชุนเหอให้เป็ นเจี่ยหยวน ก็ถือว่าไม่


ผิดต่อเส้นทางวิญ�ูชนที่เขายึดมั่นแล้ว”
กูฉ้ ่างเลิกคิว้ สูง
สนามสอบระดับหัวเมืองที่เจียงซูเมื่อปี ก่อน มีหวั หน้าผูค้ มุ สอบเป็ นมหาบัณฑิตสํานัก
ฮั่นหลินนามว่าหยางโซ่วเต้า
และหยางโซ่วเต้าก็คือบุตรเขยของจางอิงผูเ้ ป็ นอาจารย์ของเผยเยี่ยน
“จะว่าไปแล้ว สยากวงเจ้าเห็นด้วยกับแนวคิดของใต้เท้าเฝิ งอย่างนัน้ สิ!” เขาหันไปมอง
เผยเยี่ยนยิม้ ๆ แล้วก็ยกชาขึน้ จิบ
ฮ่องเต้ในราชวงศ์ปัจจุบนั อายุมากแล้ว ทัง้ โปรดปราณสุรานํา้ จัณฑ์ ทุกครัง้ ที่ด่ืมต้อง
เมามาย ทุกคราที่เมาเมาต้องอาละวาด ไล่สงั หารคนไม่เลือกหน้า ทัง้ ขันทีและนางในต่างก็กลํา้
กลืนไม่กล้าร้องทุกข์ เทศกาลโคมไฟเมื่อปี ก่อน พระองค์ถึงกลับพลัง้ มือฆ่าขุนนางตายไปคน
หนึ่ง เรื่องนีแ้ ม้จะถูกเก็บเงียบ แต่พอเวลาผ่านไป เสียงเล่าลือก็คอ่ ยๆ แผ่ออกมา
บทความที่ ท าํ ให้ห วัง ชุน เหอถูก เลื อ กเป็ น เจี่ ย หยวนนั้น ช่ า งเหมาะเจาะในการใช้
เตือนสติโอรสสวรรค์ว่าสมควรผดุงคุณธรรมของผูป้ กครอง นับว่าเป็ นบทความที่เขียนได้อาจ
หาญและเฉียบคมเป็ นที่สดุ ทัง้ หยางโซ่วเต้าที่เป็ นคนเลือกหวังชุนเหอให้เป็ นเจี่ยหยวนนัน้ ยิ่ง
นับว่ากระดูกเที่ยงตรงไม่คดงอ เป็ นวิญ�ูชนที่มีใจห่วงใยปวงประชาอย่างแท้จริง
ส่วนเฝิ งจือที่กฉู้ ่างพูดถึงนัน้ ก็คือศิษย์พ่ีของกูฉ้ ่าง รับตําแหน่งเจ้ากรมอยู่ท่ีสาํ นักตรวจ
การ หลังจากฮ่องเต้สงั หารขุนนางตายหนึ่งคน เขาก็ย่ืนฎีการ้องเรียนฮ่องเต้เป็ นคนแรก
ปั จจุบนั เขาถูกขังอยู่ท่ีคกุ หลวง
ทว่าเขาชนะใจเหล่าบัณฑิตในใต้หล้า โดยเฉพาะเหล่าบัณฑิตในแถบเจียงหนาน
ส่วนอาจารย์ของกูฉ้ ่างมีนามว่าซุนเกา เป็ นเจ้ากรมสํานักตรวจการฝ่ ายซ้าย กุมอํานาจ
สํานักตรวจการร่วมกันกับนายท่านเจ็ดสกุลเผิงนามว่าเผิงอวี่
960

เผยเยี่ ย นได้ยิ น คํา ของกู้ฉ่ า ง ก็ แ ค่ น ยิ ม้ เย็ น ในใจ สี ห น้า กลับ ราบเรี ย บไร้อ ารมณ์
“เจาหยางอยากช่วยใต้เท้าเฝิ งหรือ? น่าเสียดายที่ขา้ และพี่ชายต่างอยู่ในช่วงไว้ทกุ ข์ ทัง้ ข้าต้อง
สืบทอดกิจการของสกุล ต่อไปไม่อาจเป็ นขุนนางได้อีกแล้ว เกรงว่าไม่อาจช่วยเหลืออะไรเจาห
ยางได้หรอก”
กูฉ้ ่างยอมรับว่าเขามีความคิดนัน้ อยู่จริงๆ
สมควรพูดว่า มิใช่เขาที่มีแผนการ แต่เป็ นอาจารย์ของเขาซุนเกาต่างหาก นี่เป็ นสาเหตุ
ให้เขาต้องออกเดินทางมายังแดนเจียงหนานแห่งนี ้
การรูจ้ กั เผยเยี่ยน เป็ นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านัน้
เดิมเขาคิดว่าสกุลเผยเป็ นงูเจ้าถิ่นของเมืองหลินอัน เรื่องของสกุลหลี่นั้น เผยเยี่ยน
นับว่าเป็ นคนกลาง แทนที่จะไปตามสืบเหตุการณ์จากคนโน้นทีคนนีท้ ี มิสูถ้ ามกับเผยเยี่ยน
ตรงๆ ดีกว่า แต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงคือ คนที่ถูกอาจารย์เขาปรามาสว่า ‘สูงส่งอวดดี ไม่เห็นใต้
หล้า’ อย่างเผยเยี่ยนนัน้ กลับทําให้อาจารย์ของเขากลายเป็ นผูท้ ่ีประเมินคนผิด
เขาใช่ว่าสูงส่งยโสที่ใดกัน นี่คือดวงตากระจ่างใสไร้เศษฝุ่ น และดวงตากระจ่างใสไร้
เศษฝุ่ นนี่เองที่ทาํ ให้เขาเห็นความยิ่งใหญ่และเชื่อมั่นในเรื่องต่างๆ อย่างถ่องแท้ ตรงกันข้ามกับ
‘ไม่เห็นใต้หล้า’ ตามที่อาจารย์เขาบอกโดยสิน้ เชิง เขาถึงได้อาศัยวาสนาที่เคยเป็ นศิษย์ได้รบั
การสั่งสอนวิชาพิณจากเสิ่นซ่านเหยียน ขอให้เขาช่วยแนะนําและพาตนมาที่จวนสกุลเผย
ส่ว นเผยเยี่ ย น แค่เ ขาเอ่ย ถึ ง หัว ข้อ ก็ คาดเดาจุดประสงค์ท่ี เ ขามายัง เจี ย งหนานได้
ในทันที
กระทั่งผูท้ ่ีเคยโลดโผนบนเส้นทางขุนนางอย่างเสิ่นซ่านเหยียนยังมองไม่ออก ทว่า
เผยเยี่ยกลับพูดมันออกมาอย่างเปิ ดเผยได้โดยไร้ซง่ึ ความยําเกรง
เห็นได้ชดั ว่าเผยเยี่ยนผูน้ ีม้ ีความเชื่อมั่นในตัวเองมากเพียงใด
961

ผูท้ ่ีมีความสามารถยืนอยู่เหนือคนอื่น มักจะชื่นชอบคนที่สามารถยืนเคียงบ่าเคียงไหล่


หรือไม่ก็คนที่ยืนอยู่จดุ ที่สงู กว่าตนเอง
กูฉ่างเอ่ยเป็ นนัยว่า “ใต้เท้าเฝิ งห่วงใยบ้านเมืองรักใคร่ปวงประชา เหล่าบัณฑิตเคารพ
ยกย่องเขา อย่างไรก็ไม่อาจปล่อยให้คนถ่อยกําเริบเสิบสาน วิญ�ูชนต้องจนตรอกน่าสังเวช!”
คุกหลวงในตอนนี ้ ถูกกุมอยู่ในมือขุนนางคนสนิทซึง่ มีตาํ แหน่งเป็ นซือหลี่เจีย้ น 3 189

ทุกๆ ปี ไม่รูม้ ีคนมากมายเท่าไรที่ตายไปอย่างไม่ได้รบั ความเป็ นธรรม


เผยเยี่ยนกลับไม่แยแส กระทั่งมารยาทในการชงชาให้แขกก็คร้านจะแสร้งทําต่อแล้ว
เขาเอนหลังพิงหมอนอิงใบใหญ่อย่างเกียจคร้าน แล้วรินนํา้ ชาให้ตวั เองแทน “เจาหยางอาจจะ
ยังไม่รู ้ พี่ชายของสะใภ้ใหญ่บา้ นพี่ชายคนโตของข้า ก็เป็ นขุนนางอยู่ท่ีไท่ฉางซือหลายปี แล้ว”
ไท่ฉางซือเป็ นหน่วยงานที่กาํ กับดูแลเรื่องจารีตและดนตรีในพิธีการ งานเซ่นไหว้เทพ
เจ้ารวมทัง้ ศาลบรรพชน ทว่าใต้หล้านี ้ ล้วนเป็ นแผ่นดินของโอรสสวรรค์ เรื่องของราชวงศ์จะขีด
เส้นแบ่งระหว่างครอบครัวหรือบ้านเมืองให้ชดั เจนได้อย่างไร เหล่าขันทีในสํานักยี่สิบสี่ 4บางครัง้ 190

ไม่อาจรายงานบัญชีคลังออกมาได้ ก็จะโยนไปทางไท่ฉางซือ ส่วนบางครัง้ ที่ไท่ฉางซือไม่อาจ


บอกที่มาที่ไปของบัญชีได้ ก็จะเชิญให้ขนั ทีในสํานักยี่สิบสี่ช่วยพูดแก้ต่าง ความสัมพันธ์ของคน
สองกลุม่ จึงแน่นแฟ้นยิ่ง
ความหมายของเผยเยี่ยนก็คือ เรื่องของเหล่าขันที เขาไม่คิดเข้าแทรก
ซึง่ นี่เป็ นท่าทีท่ีตา่ งจากเหล่าบัณฑิตทัง้ หลายไปคนละโยชน์
เสิ่นซ่านเหยียนกลัวว่าสองคนจะไหลตามนํา้ ไปไกล ชายหนุ่มมากด้วยพรสวรรค์ท่ี
ครอบครองตําแหน่งต้นๆ ของสองสกุลต่างไม่มีใครยอมถอย เกรงว่าจะเกิดปากเสียงแล้วผิดใจ

3
ซือหลี่เจีย้ น เป็ นตําแหน่งที่ถกู ตัง้ ขึน้ ในสมัยฮ่องเต้หมิงเซวียนจง มีหน้าที่เป็ นผูต้ รวจและอ่านฎีกาถวายแก่ฮ่องเต้
4
สํานักยี่สิบสี่ เป็ นเพียงโครงสร้างที่แต่งตัง้ คนให้คอยรับใช้ฮ่องเต้และเชือ้ พระวงศ์อ่ืนๆ ไม่ใช่ระบบของขันทีในราชสํานัก
962

กัน ต่อไปยิ่งไม่ตอ้ งถามถึงการร่วมมืออย่างจริงใจแล้ว แค่ได้ยินชื่อของอีกฝ่ ายก็คงไม่ยอมจะนั่ง


ร่วมโต๊ะด้วย นี่นบั เป็ นความสูญเสียครัง้ ใหญ่ของเหล่าบัณฑิตเลยทีเดียว
เขารีบพูดแทรกว่า “วันนีท้ อ้ งฟ้าแจ่มใส พวกเจ้าดีช่ วั อย่างไรก็เป็ นผูเ้ ล่าเรียนวิชา เหตุ
ใดเอาแต่คุยเรื่องราชสํานักจนละเลยต่ออากาศที่สดชื่นเช่นนี?้ เจาหยาง วันนีเ้ จ้าเป็ นคนเริ่ม
เรื่อง ให้ด่ืมนํา้ ชาสามจอกเป็ นการรับโทษ” พูดจบ เขาก็รีบชงชาแล้วแบ่งไปให้กูฉ้ ่าง พลาง
หัวเราะแล้วเอ่ยเร่งว่า “ดื่มเร็วเข้าสิ”
กูฉ้ ่างเพียงแค่ทนไม่ไหว อยากลองหยั่งเชิงความรู ค้ วามสามารถของเผยเยี่ยนดู สอง
คนเดิมก็ไม่มีบญ ั ชีความแค้นต่อกัน แล้วเขาจะล่วงเกินเผยเยี่ยนได้อย่างไร?
เสิ่นซ่านเหยียนหาบันไดให้เขาปี นลง เขายิม้ อย่างปลอดโปร่งทีหนึ่ง แล้วยกถ้วยชาขึน้
กล่าววาจาตามมารยาทสองสามคํา แล้วเอ่ยอย่างจริงใจว่า “สยากวง ข้าอาศัยอยู่เมืองหลวง
มานาน กลายเป็ นคนหยาบคายไปแล้ว พอเห็นใครก็ชวนคุยไปหมดทุกเรื่อง สยากวงได้รบั การ
อบรมสั่งสอนมาดี จึงไม่ไล่ตะเพิดข้าออกไปเสียก่อน ข้าขอคารวะเจ้าจอกหนึง่ ”
เผยเยี่ยนหน่ายใจกับท่าทางจอมปลอมของเขาเต็มแก่ ตัดสินใจจะไว้หน้าเขาเป็ นครัง้
สุดท้าย
หากว่ากูฉ้ ่างยังวางตัวเช่นนีไ้ ม่เลิก เขาก็จะตะเพิดคนออกไปทันที
ยังดีท่ีภายหลังกูฉ้ ่างเอาแต่ชวนเขาคุยเรื่องความเป็ นมาของขาตัง้ สําริดเล็กๆ ใบหนึ่งซึง่
พบในเมืองหลวง พวกเขาสนทนาต่ออย่างไร้ขอ้ พิพาท มองแล้วคล้ายคุยกันอย่างออกรสจนถึง
ช่วงสุดท้าย
เสิ่นซ่านเหยียนเห็นแล้วก็ช่ืนใจ
ใต้หล้านีค้ งไม่มีใครจะโชคดีเท่าเผยเยี่ยนอีกแล้ว
963

จางอิงเจ้าจิง้ จอกเฒ่าก่อนจะเกษี ยนราชการกลับบ้านเดิมก็รบั เขาเอาไว้เป็ นศิษย์ใน


สํานัก ทําให้เขากลายเป็ นผูท้ ่ีมีเส้นสายและต้นทุนในแวดวงการปกครองจนผูอ้ ่ืนได้แต่อิจฉาตา
ร้อนในชั่วข้ามคืน
ท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผยไม่เพียงเรียกตัวเผยเยี่ยนกลับไปทัง้ ยังให้เขาเป็ นผูส้ ืบสกุล...เสิ่น
ซ่านเหยียนคิดว่าท่านผูเ้ ฒ่าก่อนตายคงสติเลอะเลือน แต่ตอนที่เขารู เ้ รื่องมันก็สายเกินไปเสีย
แล้ว ต่อให้เกลีย้ กล่อมท่านผูเ้ ฒ่าอย่างไรก็ไม่ทนั การ เขาคาดหวังอย่างยิ่งที่จะเห็นเผยเยี่ยนเก็บ
ซ่อนตัวเองอย่างโลกภายนอก เป็ นเก๋อเหล่าในชุดขาว ทุ่มเทความคิดเรี่ยวแรงให้กบั บัณฑิตใน
เจียงหนาน
สิบกว่าปี มานี ้ พวกเขาถูกบัณฑิตทางเหนือกดข่มไว้อยู่กลายๆ หากว่าไม่พ่งุ ชนสักครัง้
บัณฑิตเจียงหนานคงจะได้รบั ผลกระทับครัง้ ใหญ่
นี่มิใช่เรื่องของหนึ่งหรือสองสกุลเท่านัน้
แต่เกี่ยวพันกับทุกสกุลที่เป็ นบัณฑิตในเจียงหนานเลยทีเดียว
เผยเยี่ยนยอมถอยให้กา้ วหนึ่ง กูฉ้ ่างก็เข้าใจความเป็ นไปตามครรลอง ทําให้เขาพอ
มองเห็นความหวังของบัณฑิตในเจียงหนานขึน้ มาบ้างแล้ว
เสิ่นซ่านเหยียนกับกูฉ้ ่างรัง้ ตัวเองอยู่กินมือ้ เย็นที่จวนสกุลเผย ภายหลังถึงยอมกลับ
สํานักศึกษาประจําอําเภอไป
กูฉ้ ่างอาศัยค้างแรมอยู่กบั เสิ่นซ่านเหยียน
บ่าวรับใช้ขา้ งกายเสิ่นซ่านเหยียนเห็นดวงตาเขาแจ่มใส ก็อดจะถามอย่างงุนงงมิได้ว่า
“นายท่านวันนีไ้ ม่ด่มื สุราหรือขอรับ?”
“พวกเราไปจวนสกุลเผยมา!” เสิ่นซ่านเหยียนตอบกลับ หยุดลํ่าลากับกูฉ้ ่างไม่ก่ีคาํ
จากนัน้ ก็นดั แนะว่าพรุง่ นีจ้ ะหาวิธีลากเผยเยี่ยนไปเที่ยวที่วดั เจาหมิง แล้วแยกย้ายกันไป
964

บ่าวรับใช้ขา้ งกายกูฉ้ ่างเป็ นชายหนุ่มอายุสามสิบกว่าชื่อว่าเกาเซิง เป็ นท่านตาส่งมาให้


ดูแลพวกเขาสองพี่นอ้ งด้วยกลัวจะถูกคนรังแกหลังจากที่มารดาเสียไป หากจะบอกว่าเกาเซิง
เป็ นบ่าวรับใช้ ไม่สพู้ ดู ว่าเขาเป็ นทัง้ องครักษ์ บ่าวผูซ้ ่อื สัตย์ และสหายรูใ้ จจะถูกต้องกว่า
เห็นว่ากูฉ้ ่างกลับมา เขาก็รบั ใช้ผลัดเปลี่ยนเสือ้ ผ้าให้
กูฉ้ ่างเห็นว่าในห้องไม่มีคน จึงเอ่ยเสียงเบาว่า “เรื่องที่ขา้ ให้เจ้าไปทําเป็ นอย่างไรบ้าง?”
เกาเซิงเป็ นคนร่างสูงใหญ่ หน้าตาสามัญ ทว่ากิริยาท่าทางของเขากลับทําให้คนรู ส้ ึก
อุน่ ใจน่าพึ่งพา
“ทําตามที่ท่านสั่งเรียบร้อยแล้วขอรับ” เขาตอบ นัยน์ตาวาบแสงดูแคลน เอ่ยต่อหลัง
หยุดคิดไปครู ่หนึ่งว่า “สกุลหลี่เหมือนแมลงวันไร้หัว ตอนนีก้ ็ยังตามสืบไม่ได้ว่าเป็ นฝี มือของ
ใคร”
“พวกสวะ!” กูฉ้ ่างได้ยินดวงหน้าก็เปลี่ยนเป็ นสีดาํ คลํา้ ตอบกลับไปอย่างดุดนั ว่า “มิใช่
บอกว่าเป็ นคุณชายผูม้ ากพรสวรรค์ร?ึ กระทั่งครอบครัวพ่อค้าธรรมดาๆ ยังจัดการไม่ได้ วิชาที่
รํ่าเรียนมาคืนใส่ทอ้ งสุนขั ไปแล้วรึ? ตอนนัน้ ทิง้ เบาะแสเอาไว้ให้มากมาย เขากลับสืบอะไรไม่
เจอสักอย่าง ก็ไม่แปลกที่นอ้ งสาวข้าจะดูถูกเขา! ข้าว่าเขาคงเป็ นพวกท่าดีทีเหลวแน่แล้ว อีก
เดี๋ยวเจ้าให้คนไปส่งจดหมายถึงคุณหนูหน่อย เล่าเรื่องนีใ้ ห้นางฟั ง บอกว่าข้าเห็นด้วยให้นาง
ถอนหมัน้ เสีย”
“ขอรับ” เกาเซิงรับคําอย่างนอบน้อม
กูฉ้ ่างเอ่ยถึงเผยเยี่ยนว่า “มิน่าตอนที่เขาอยู่เมืองหลวงถึงไม่เคยเข้าร่วมชุมนุมแต่ง
กลอน แต่ช่ือเสียงก็ยงั กะฉ่อนไปทั่ว ที่แท้ก็เก่งกาจไม่เบา น่าเสียดายที่เขาต้องคอยเฝ้าจวนไว้
ทุกข์ ไม่เช่นนัน้ คงเป็ นตัวเลือกที่ดีมากแน่ๆ”
เกาเซิงไม่ได้สง่ เสียง
965

กูฉ้ ่างเปลี่ยนเสือ้ ผ้า ล้างหน้าหวีผมใหม่ไปรอบหนึ่ง จากนัน้ ก็เอ่ยถึงเผยเยี่ยนอีกครัง้


“แต่ก่อนข้าคิดว่าที่เขาเก็บตัวอยู่หลินอัน คงเพราะสกุลเขามีรากฐานไม่ม่ นั คงพอ ตอนนีด้ ทู ่า
แล้ว ข้า คงประเมิน สกุล เผยและเผยเยี่ ย นตํ่า ไปหน่อย พวกเรามี ญ าติ ท่ี เ กี่ ย วดองผ่า นการ
แต่งงานสายใดที่พอจะสนิทสนมกับสกุลเผยและหาเรื่องคุยกับท่านแม่เฒ่าได้หรือไม่? หากว่ามี
ก็ให้นอ้ งสาวข้าไปโผล่หน้าให้ท่านแม่เฒ่าเห็นสักครัง้ ไม่แน่อาจจับคู่สาํ เร็จก็เป็ นได้ แต่อย่างไร
ก็ตอ้ งถอนหมัน้ ให้เรียบร้อยก่อน อย่าได้พวั พันไม่ชดั เจน เผยสยากวงเป็ นคนมีเกียรติ ไม่อาจทํา
ให้เขาเสียหน้าได้”
คุณชายใหญ่ถกู ใจเผยเยี่ยนอย่างนัน้ รึ?
เกาเซิงละล้าละลังอยู่ครู ห่ นึ่ง ก่อนเอ่ยว่า “เช่นนีด้ ีหรือไม่ขอรับ ข้าไปสืบเรื่องของสกุล
เผยให้กระจ่างสักหน่อยก่อน ตามหลักแล้ว คนอย่างนายท่านสาม ใครๆ ต่างก็จบั จ้องอยากได้
เขามาเป็ นเขยทัง้ นัน้ หากว่าเขามีคหู่ มายอยู่แล้วจะทําอย่างไร?”
คุณหนูใหญ่หากว่าถอนหมัน้ กับคนของสกุลหลี่ แล้วต่อไปนางจะแต่งให้ใครเล่า? อีก
อย่างคุณหนูใหญ่อายุก็ไม่นอ้ ย หลี่ตวนแม้ไม่อาจใช้งานได้ แต่ดีช่ ัวพูดออกไปก็ยังเป็ นผูเ้ ล่า
เรียนวิชาคนหนึ่ง หน้าตาหล่อเหลา รูปร่างสูงใหญ่ อาศัยฝี มือของคุณหนูและคุณชายใหญ่แล้ว
คาดว่าน่าจะคุมเขาได้อยู่หมัด คิดเสียว่าเป็ นข้อดีอย่างหนึ่ง
กลัวแต่วา่ เรือทัง้ สองลําจะคว้าเอาไว้ไม่ได้ สุดท้ายกลายเป็ นเรื่องวุน่ วายขึน้ มาแทน
คําพูดของเกาเซิงเตือนสติกฉู้ ่าง
“เจ้าพูดถูก” เขาสั่งเสียงขรึมว่า “คุณหนูใหญ่ แต่เดิมนางก็ไม่พอใจกับคู่ครองในครัง้ นี ้
โดยเฉพาะฮูหยินหลี่ท่ีคกุ เข่าให้ท่านพ่อต่อหน้าผูค้ นมากมาย ทําให้นางต้องแบกชื่อว่าอกตัญ�ู
ทัง้ ที่ยงั ไม่ทนั ได้แต่งเข้าสกุลนัน้ เสียด้วยซํา้ อย่างไรข้าก็อยู่ท่ีน่ีต่ออีกหลายวัน เจ้าก็จดั การเรื่อง
งานแต่งของคุณหนูใหญ่ให้เรียบร้อยแล้วค่อยเดินทางกลับเถอะ”
966

บทที่ 121 เดินทาง


นี่ไม่ใช่เรื่องที่เกาเซิงจะแสดงความคิดเห็นได้ เขาเพียงพยักหน้าเงียบๆ แล้วถามกูฉ้ ่าง
ว่า “สกุลหลี่ทางนัน้ ?”
กูฉ้ ่างตอบเสียงเย็นเยียบ “พวกเราทําอะไรไปตัง้ มาก หากว่าสกุลหลี่ไม่รบั รู ้ มิใช่สวม
เสือ้ งดงามเดินยามวิกาลรึ?”
เกาเซิงรับคํา หลังจากดูแลให้กฉู้ ่างพักผ่อนแล้ว เขาก็ออกไปสืบเรื่องของเผยเยี่ยน
รอจนหลี่ตวนสืบเจอว่าสกุลเผิงเป็ นคนปล่อยข่าวลือว่าหลี่อีเ้ ป็ นคนละโมบในทรัพย์
และเรื่องที่หลี่อีเ้ กือบจะถูกย้ายให้ไปรับตําแหน่งที่อวิ๋นกุย้ เป็ นฝี มือของกูฉ้ ่าง นั่นก็ผ่านเทศกาล
อูต่ วน 1ไปแล้ว
191

เขาเหม่อลอยจ้องเพดานที่วาดลวดลายต้นหลัวเถิงสีเขียว พลังทั่วร่างคล้ายถูกดูด
ออกไปจนหมด แม้แรงจะกระดิกนิว้ ก้อยก็ยงั ไม่มี
เผิงสืออีคิดว่าเขาไม่ค่อยเชื่อฟั งเท่าไร ด้วยคิดจะข่มขู่เขา จึงให้คนปล่อยข่าวลือว่าหลี่
จวิน้ กลับมาเพราะต้องช่วยขนเงินทองให้บิดา และที่กซู้ ีตอ้ งการถอนหมัน้ ก็เพราะไม่ตอ้ งการให้
ผูอ้ ่ืนคิดว่าเป็ นความผิดของนาง อยากให้สกุลหลี่เป็ นคนออกหน้ามาขอถอนหมัน้ แทน ดังนัน้ กู้
ฉ่างจึงลงมือ ข่มขู่พวกเขาว่าหากไม่ยอมมาถอนหมัน้ ดีๆ ก็จะโยกย้ายบิดาเขาไปอยู่ท่ีอวิ๋นกุย้
เสีย
หลินเจวี๋ยเหมือนกับสัตว์ตวั หนึ่งที่ถกู ขังให้เดินวนไปวนมาอยู่ในห้อง “พวกเราบัดนีต้ อ้ ง
เผชิญศึกสองด้าน! อาตวน พวกเราจะประมาทไม่ได้! เผิงสืออีทางนัน้ ยังพอคุยง่าย เขาก็แค่
ต้องการให้พวกเราก้มหัวให้มิใช่หรือ? พวกเราก็ยอมเขาเสียสิ! เขาให้ทาํ อย่างไรก็ทาํ ตามนัน้

1
เทศกาลอู่ตวน คือวันที่ 5 เดือน 5 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน ตามตํานานเล่ากันว่าเพื่อรําลึกถึงชวูหยวน กวีผรู้ กั ชาติใน
สมัยโบราณของจีน
967

สถานการณ์คับ ขัน แบบนี ้จ ะให้พ วกเขารู ้ไ ม่ ไ ด้ว่ า สกุล กู้ก็ เ ล่น งานเราอยู่ ไม่ อ ย่ า งเราต้อ ง
กลายเป็ นเนือ้ บนเขียงให้สกุลเผิงเชือดคอได้ตามใจชอบแน่”
“ส่วนเรื่องสกุลกู้ หากว่าทําอะไรไม่ได้จริงๆ เช่นนีก้ ็ถอนหมัน้ ไปก่อน”
“ก่อนหน้านีท้ ่านแม่หาวิธีผูกสัมพันกับสกุลกูอ้ ยู่ ข้าคิดว่าไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไร อย่าได้
คิดเพ้อฝันอีกเลย! อีกอย่างบ้านรองสกุลกูก้ ็ยากจนจะตายไป ข้าลองไปสืบมาแล้ว ตอนที่ท่านผู้
เฒ่าสกุลกูแ้ บ่งสมบัติ บ้านรองสกุลกูไ้ ด้ไปไม่ถึงสองหมื่นตําลึงด้วยซํา้ ทัง้ นายท่านรองก็มิใช่คน
เป็ นการเป็ นงาน คุณหนูสกุลกูค้ นนีจ้ ะมีสินเดิมสักเท่าไรเชียว!”
“แล้วอีกอย่าง เจ้าลองคิดดูนะ นางไร้ท่ีพ่งึ พาตัง้ แต่เล็ก แต่ก็ยงั ทําให้มารดาเลีย้ งริษยา
ชิงขังอยู่สามส่วน เห็นชัดว่ามิใช่ค่คู รองที่ดีสกั เท่าไร! จะว่าไปแล้ว สกุลกูน้ บั เป็ นสกุลบัณฑิตได้
สักเท่าไร สกุลใหญ่ทงั้ สี่แถบเจียงหนาน หังโจวยังมีอีกตัง้ สามสกุล ถ้าไม่ใช่สกุลกูข้ องพวกเขา ก็
ยังมีสกุลเสิ่น สกุลลู่และสกุลเฉียน หากไร้ทางเลือกแล้วจริงๆ ก็ยงั มีสกุลจาง สกุลหยางอยู่อีก
นี่!”
พูดถึงตรงนี ้ เขาก็หย่อนก้นนั่งลงข้างเก้าอีข้ องหลี่ตวน ยกขาไขว่หา้ งแล้วพูดต่ออีกว่า
“หากเป็ นข้านะ ข้าจะหาสกุลที่ฐานะใกล้เคียงกับตัวเอง ไม่ก็ฝ่ายหญิงมีพ่ีนอ้ งเป็ นบัณฑิต ไม่ก็
ฝ่ ายหญิงมีสินเดิมเป็ นทรัพย์มหาศาล สุดท้ายคนที่ตอ้ งใช้ชีวิตคู่กบั นางก็คือเจ้า หากต้องอยู่กบั
ภรรยาที่ข่มเจ้าอยู่บนศีรษะแทบทุกวัน แล้วชีวิตที่เหลือจะมีความหมายใดอีกเล่า?”
หลี่ตวนแค่นยิม้
มิใช่วา่ เขาไม่คิด
แต่ถา้ เขาไม่ทาํ เช่นนี ้ พอตนเดินเข้าสู่เส้นทางขุนนางแล้ว อาศัยรากฐานของสกุลหลี่
เดิมก็ไม่อาจหนุนหลังเขาได้
ก็เหมือนบิดาของเขา นั่นเป็ นตัวอย่างที่ชดั เจนที่สดุ
968

หากมิใช่เพราะสกุลหลินมีแต่เงินทว่าไร้ภูมิหลัง บิดาที่อายุปนู นีข้ องเขาคงไม่ตอ้ งติด


แหง็กอยู่ท่ีขนุ นางขัน้ สี่จะขยับไปทางไหนก็ไม่ได้อยู่เช่นนี?้
คําพูดนีไ้ ม่อาจพูดต่อหน้าหลินเจวี๋ยได้
เขานวดขมับเพราะรูส้ กึ ปวดศีรษะ “งานแต่งของสกุลกู้ หากว่าทําได้ ก็ตอ้ งยือ้ ต่อไปจะ
ดีท่ีสดุ ข้าได้ยินคนสกุลอู่พดู ว่า ซุนเกาผูเ้ ป็ นอาจารย์ของกูฉ้ ่าง อาจจะถูกโยกให้ไปรับตําแหน่ง
เจ้ากรมขุนนาง”
กรมขุนนางมีหน้าที่พิจารณาแต่งตัง้ ถอดถอน ตบรางวัลและลงโทษขุนนางในราชสํานัก
หลินเจวี๋ยได้ยินก็ตาสว่างวาบ “จริงรึ?”
“เป็ นความจริง!” หลี่ตวนตอบด้วยท่าทีเหน็ดเหนื่อย “ลูกหลานสกุลอู่เรียนห้องเดียวกับ
ข้า สองวันก่อนเขาส่งคนมาแจ้งเป็ นพิเศษ”
หลินเจวี๋ยหลุบตาตํ่าแล้วเงียบเสียงไป
เขากระจ่างแก่ใจดี ที่ศิษย์สกุลอู่ส่งข่าวมาบอก ก็เพราะไม่รูเ้ รื่องที่สกุลกูต้ อ้ งการถอน
หมัน้ จึงคิดจะประจบเอาใจหลี่ตวน
หากว่าข่าวที่สองสกุลจะถอนหมัน้ หลุดออกไป ยังไม่พดู ถึงหลี่ตวนที่ตอ้ งถูกคนหัวเราะ
เยาะ สกุลหลี่ก็ตอ้ งถูกคนละทิง้ เช่นเดียวกัน
เป็ นนานกว่าเขาจะถามขึน้ ว่า “แล้วเจ้ามีแผนอย่างไร?”
หลี่ ต วนตอบ “ท่ า นแม่ ยัง ไม่ รู เ้ รื่ อ งนี ้ เจ้า ก็ ช่ ว ยข้า ดูแ ลมารดาไปก่ อ น สองวัน นี ข้ ้า
วางแผนจะไปหังโจว ไปพบคุณหนูกสู้ กั ครัง้ !”
จะแก้ปมเชือกย่อมต้องใช้คนที่ผกู ปมไปแก้
เขาอยากรูเ้ หลือเกินว่าเหตุใดคุณหนูกถู้ ึงดึงดันจะถอนหมัน้ ให้ได้
หรือเพราะเรื่องของสกุลอวีร้ า้ ยแรงเพียงนัน้ ? แต่ท่ีเขาทําลงไปก็ดว้ ยเพราะมีเหตุผลอื่น
969

หลินเจวี๋ยหัวเราะออกมา “ยังคงเป็ นเจ้าที่ร่าํ เรียนมามาก มีปัญญาคิดได้ สตรีย่อม


ชมชอบบุรุษรูปงาม หากต้องไปหากูฉ้ ่าง มิสไู้ ปหาคุณหนูกใู้ ห้รูแ้ ล้วรูร้ อด”
อย่างไรรูปลักษณ์ภายนอกของหลี่ตวนก็โดดเด่น มีหญิงคนใดไม่ชมชอบบุรุษหล่อเหลา
บ้าง เรื่องถอนหมัน้ เดิมก็มีกซู้ ีเป็ นตัวหลัก หากว่ากูซ้ ีเปลี่ยนใจมาแต่งให้สกุลหลี่อย่างเก่า คิดว่า
คนในสกุลกูก้ ็คงไม่ขดั ขวางนาง
หลี่ตวนรูส้ กึ ว่าหลินเจวี๋ยพูดจาเสียมารยาท คิว้ จึงขมวดแน่น
หลินเจวี๋ยนึกว่าหลี่ตวนกําลังกลัดกลุม้ เรื่องที่จะเดินทางไปสกุลกู้ จึงเอ่ยพร้อมเสียง
หัวเราะว่า “ข้าคิดว่าเจ้าทําถูกต้องแล้ว จะไปก็ตอ้ งรีบไป ไม่จาํ เป็ นต้องเลือกวันดีอะไรหรอก
พรุง่ นีเ้ จ้าออกเดินทางไปสกุลกูไ้ ด้เลย หาวิธีพบหน้าคุณหนูกใู้ ห้ได้ รอเจ้ากล่อมคุณหนูกมู้ าอยู่
ในกํามือสําเร็จ คอยดูวา่ สกุลกูค้ นอื่นยังจะกล้าพูดอะไรอีก!”
ความคิดนีแ้ ม้จะไม่ถกู ต้อง แต่ก็มีความเป็ นไปได้ท่ีสงู มาก
หลี่ตวนตัง้ ใจเป็ นมั่นเป็ นเหมาะว่าจะหาทางพบหน้ากูซ้ ีให้ได้ แต่ปากกลับบอกว่า “ข้ามี
วิธีของข้าอยู่”
หลินเจวี๋ยกลัวนิสยั ดือ้ รัน้ ของเขาจะกําเริบอีกรอบ จึงกล่อมเขาว่า “หานซิ่นยังทนรับ
ความอับอาย จนบรรลุผลอันยิ่งใหญ่ได้ในภายหลัง เจ้าก็สมควรเรียนรูจ้ ากเขาเป็ นแบบอย่าง!”
นั่นก็ตอ้ งดูวา่ เรียนรูส้ ิ่งใดด้วย!
หลี่ตวนลอบเสียดสีในใจ รูส้ กึ ว่าหลินเจวี๋ยเป็ นเนือ้ สุนขั ที่ไม่อาจตัง้ โต๊ะได้จริงๆ
เขากําหนดวันที่จะเดินทางไปหังโจว ด้านอวีถ้ งั กับอวีห้ ย่วนนัน้ ไม่ง่ายกว่าจะหาโอกาส
เหมาะได้ พาเซียงซื่อเดินทางไปซูโจวเช่นเดียวกัน
ตัง้ แต่เกิดมาเซียงซื่อก็ไม่เคยเดินทางไกลเช่นนีม้ าก่อน
970

นางคิดว่าที่ตนสามารถเดินทางจากฟู่ หยางมาถึงหลินอันได้ นับว่าได้เปิ ดหูเปิ ดตา ถือ


เป็ นสตรีท่ีโชคดีผหู้ นึ่งแล้ว ไม่เคยคิดว่าตนเองจะมีโอกาสได้ไปเยือนเมืองซูโจวด้วย
ตอนที่น่งั อยู่ในเรือสําปั้นที่เช่ามา นางยังคิดว่าตัวเองฝันไป
นางเปิ ดถุงขนมวอซือถังออก ยัดใส่มืออวีถ้ งั หนึ่งชิน้ แล้วกระซิบเสียงเบาว่า “เจ้าลอง
ชิมดู ตอนงานแต่งข้า บิดาข้านํากลับมาให้จากเมืองหลวง”
เรือสําปั้ นลําน้อยใช้ผา้ ม่านสีนา้ํ เงินแบ่งพืน้ ที่ออกเป็ นสองฝั่ ง ฝั่ งหนึ่งมีอวีห้ ย่วน ซย่า
ผิงกุย้ ซานมู่และเด็กในร้านสองคนนั่งอยู่ ส่วนอีกฝั่ งก็มีอวีถ้ งั เซียงซื่อ ซวงเถาและสาวใช้ของ
เซียงซื่อนามว่าซย่าเหลียน
ร้า นค้า ของสกุลอวี ต้ อ้ งการซื อ้ สีน า้ํ เพิ่ม อวีห้ ย่ ว นเสนอให้พ าอวีถ้ ัง และเซีย งซื่อมา
ด้วยกัน เพื่อให้พวกนางได้ทาํ ความคุน้ เคยกับกิจการของสกุล
อวีป้ ๋ อไม่อนุญาต คิดว่าให้สตรีติดตามไปมีแต่เรื่องยุ่งยาก ยังคงเป็ นอวีถ้ งั ที่โน้มน้าวอวี ้
เหวินสําเร็จ แล้วให้อวีเ้ หวินออกหน้าไปพูดกับอวีป้ ๋ ออีกที ในที่สดุ อวีถ้ ังกับเซียงซื่อจึงได้ร่วม
เดินทางไปซูโจวด้วย
อวีถ้ งั ตื่นเต้นดีใจจนสองวันนีน้ อนไม่ค่อยหลับ พอขึน้ เรือและเรือแล่นออกไปไม่ถึงครึ่ง
ชั่วยาม ความรูส้ กึ แปลกใหม่ในตอนต้นก็หายวับ นางเริม่ นั่งสัปหงกทันที
อวีถ้ งั ยัดนํา้ ตาลเข้าไปในปากระหว่างที่หาววอด รู ส้ ึกว่ามันไม่ทาํ ให้ต่ืนเลยสักนิด แต่
กลับยิ่งง่วงเข้าไปใหญ่ ตนจึงเอนพิงไหล่เซียงซื่ออย่างไร้แรงต้านทาน เปลือกตาที่หนักอึง้ เหมือน
ทองพันชั่งแทบจะปิ ดสนิท ปากก็งมึ งําบอกว่า “พี่สะใภ้ ข้าของีบสักครู”่
เซียงซื่อมองนางที่แอบอิงอยู่บนไหล่ตนราวกับเด็กน้อยคนหนึ่ง จึงอดเม้มปากยิม้ ไม่ได้
เมื่อวานนางก็หลับไม่ค่อยดี กลัวว่าหากตามไปด้วยจะทําให้อวีห้ ย่วนยุ่งยากกว่าเดิม
ทัง้ กังวลว่าจะดูแลอวีถ้ ังไม่ครบถ้วนจนนางไม่พอใจ...แม้นางจะแต่งเข้าสกุลอวีไ้ ด้ไม่ถึงสาม
เดือนดี แต่นางก็เห็นได้อย่างโจ่งแจ้ง ว่าบุตรสาวตัวน้อยของบ้านท่านอานัน้ ไม่เพียงบ้านรอง
971

สกุลอวีท้ ่ีดูแลนางราวไข่มกุ ในมือ แม้กระทั่งพ่อสามี แม่สามี รวมถึงสามีของนางเองก็รกั ใคร่


นางเป็ นที่สดุ นางไม่ตอ้ งการผิดใจกับอวีถ้ งั แม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ด้วยกลัวจะกระทบไปถึง
ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่สามีดว้ ย อีกอย่างอวีถ้ งั ก็นิสยั ไม่เลว สามีเองก็ย่ิงรักใคร่นางกว่า
เก่า ไม่วา่ ไปที่ใดล้วนพานางไปด้วย ทําให้คนที่รษิ ยามารดาเลีย้ งตัง้ แต่เล็กอย่างนางตัดสินใจได้
ว่า จะต้องคว้าหัวใจของสามีเอาไว้ให้ได้ แล้วใช้ชีวิตเป็ นสุขเช่นนีก้ บั เขาไปตลอดกาล
นางจึงยอมตามใจอวีถ้ งั หนักกว่าเก่า
เพียงแต่เมื่อเห็นอวีถ้ งั งีบหลับไป นางก็อดจะง่วงตามไปด้วยไม่ได้
“ซย่าเหลียน” เซียงซื่อสั่งกับสาวใช้ของตนเสียงเบาว่า “ข้าก็จะงีบสักหน่อย ถ้าคุณชาย
ใหญ่ทางนัน้ ต้องการสิ่งใด เจ้าก็ปลุกข้าด้วย”
ซย่ า เหลี ย นติ ด ตามเซี ย งซื่ อ ตั้ง แต่ เ ล็ก จนโต ความคิ ด ของเซีย งซื่อ นางรู ด้ ีเ ป็ น ที่ สุด
เมื่อก่อนนางยังกลัวว่าเซียงซื่อจะแต่งภรรยาให้สกุลที่ร่าํ รวย แล้วนางจะถูกรับตัวเป็ นอนุ ตอนที่
เซียงซื่อแต่งเข้าสกุลอวี ้ นางเป็ นคนที่ดีใจกว่าใครเพื่อน...อย่างเช่นสกุลอวีน้ ี ้ ไม่มีทางเลีย้ งอนุให้
เปลืองข้าวสารเล่นแน่ ปกติสาวใช้ขา้ งกายของนายหญิ งหากไม่แต่งกับเด็กในร้านที่ฉลาด
เฉลียวหน่อย ก็แต่งกับเถ้าแก่ผดู้ แู ลร้าน ไม่ว่าจะเป็ นอย่างแรกหรืออย่างหลัง แต่ถา้ วันนัน้ มาถึง
จริงๆ นางจึงนับว่าลืมตาอ้าปากได้ ไม่เสียแรงที่ได้เกิดมาสักครัง้
หากเซียงซื่อต้องการครองหัวใจของอวีห้ ย่วน นางก็ตอ้ งทุ่มเทจิตใจมากกว่าใครอื่น
นางพยักหน้ารับ ไม่เพียงหยิบหมอนอิงที่คา้ํ ไหล่ตวั เองอยู่สง่ ให้เซียงซื่ออย่างระมัดระวัง
ทัง้ ส่งผ้าห่มผืนบางให้ซวงเถา บุย้ ใบ้ให้ซวงเถาช่วยห่มให้เซียงซื่อและอวีถ้ งั ด้วย
ซวงเถาพลันรูส้ กึ ว่าหน้าที่บา่ วรับใช้ท่ีทาํ มาหลายปี ช่างเสียเปล่าเหลือเกิน
นางไม่เคยละเอียดใส่ใจหรือเสนอตัวเข้าไปดูแลอวีถ้ งั มาก่อน
โดยทั่วไป ไม่ว่าเฉินซื่อหรืออวีถ้ งั จะเอ่ยสั่งอะไร นางก็จะทําตามแค่นนั้ บางครัง้ ยังชอบ
ไปแอบอูอ้ ยู่ท่ีหอ้ งครัว
972

ไม่มีขอ้ เปรียบเทียบก็คงไม่เห็นถึงความแตกต่าง ต่อไปคุณหนูจะเริ่มรู ส้ ึกว่านางไร้


ประโยชน์หรือไม่หนอ?
ซวงเถาค่อยๆ ห่มผ้าผืนบางบนร่างของอวีถ้ งั กับเซียงซื่อ ในใจกลับไม่คอ่ ยสงบนัก
เมืองหังโจวกับเมืองซูโจวมีเส้นทางนํา้ ที่เชื่อมถึงกันโดยตรง สะดวกสบายเป็ นอย่างยิ่ง
ทัง้ เป็ นการล่องเรือตามกระแสนํา้ ใช้เวลาเพียงเจ็ดแปดชั่วยามก็ถึงแล้ว ดังนัน้ คนจํานวนมากจึง
เลือกเดินทางโดยการนั่งเรือ ขึน้ เรือตอนช่วงคํ่า นอนหลับไปหนึ่งคืน เช้าวันที่สองก็มาถึงแล้ว
พอจัดการธุระที่เมืองซูโจวเสร็จ ก็สามารถนั่งเรือรอบคํ่ากลับหังโจวได้พอดี ไม่ตอ้ งเสียเวลาทัง้
ยังช่วยประหยัดค่าพักแรมไปได้อีกหนึ่งคืนด้วย
พวกอวีถ้ งั ก็ไม่ใช่ขอ้ ยกเว้น เริม่ จากนั่งเรือไปหังโจวก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเรือที่หงั โจว ใช้
เวลาแค่คืนเดียวก็มาถึงซูโจวแล้ว
ทว่า พวกเขาจะค้างแรมที่ซูโจวสองคืนแล้วค่อยกลับ
ตามคําที่่อวีห้ ย่วนเล่า เขาจะต้องไปดูรา้ นค้าขายสีท่ีเมืองซูโจวทางนีส้ กั หน่อย
‘ซูย่างเอ๋อร์’ ก็คือพวกคนชัน้ สูงในวังที่พยายามหาข้าวของจากเมืองซูโจวไปใช้ บางที
อาจเป็ นเพราะทัง้ ๆ ที่หงั โจวใกล้กบั หนิงปั วมากกว่า แต่คนที่ทาํ การค้าทางทะเลส่วนใหญ่มกั อยู่
ที่ซูโจวทางนี ้
นั่งเรือมาหนึ่งวันหนึ่งคืน อวีถ้ งั และเซียงซื่อเหมือนถั่วฝักยาวลวก ตัวอ่อนปวกเปี ยกไป
หมด
พี่ชายที่มีภรรยาแล้วลืมน้องสาวอย่างอวีห้ ย่วนนัน้ ถลาเข้าไปพยุงเซียงซื่อก่อน เห็นว่า
ดวงหน้าของเซียงซื่อล่องลอย ก็ถามอย่างเป็ นห่วงว่า “เจ้ายังดีอยู่หรือไม่! ข้าจะไปเช่าเกีย้ ว
เดี๋ยวนี ้ แล้วส่งเจ้ากับอาถังไปพักที่โรงเตีย้ มก่อน รอให้ขา้ กับผิงกุย้ ซือ้ ของเสร็จก็จะออกไปเดิน
เที่ยวเป็ นเพื่อนพวกเจ้า”
973

เซียงซื่อไม่รูจ้ ะรับมือกับสามีจอมซื่อตรงอย่างไร กลัวว่าถ้าสะบัดมือออกก็จะทําร้าย


นํา้ ใจเขา แต่ก็กลัวว่าหากตัวเองยังอี๋อ๋อกับสามีผอู้ ยู่ขา้ งกายนีต้ ่อไปอาจทําให้นอ้ งสาวกระอัก
กระอ่วนได้ จึงได้แต่ส่งสายตาให้อวีห้ ย่วน เอ่ยว่า “ข้าไม่เหนื่อยหรอก ท่านไปประคองน้องสาว
เถอะ ข้ายังไหว!”
อวีห้ ย่วนพึ่งนึกถึงอวีถ้ งั ขึน้ มาได้ ส่งเสียง ‘อ้อ’ อย่างไม่ใส่ใจทีหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ปล่อยมือ
จากเซียงซื่อ เขาเอีย้ วหน้ากลับมาถามอวีถ้ งั ที่เดินอยู่ดา้ นหลังเซียงซื่อว่า “เจ้าไม่เป็ นไรกระมัง!
ต้องการให้ขา้ พยุงหรือไม่?”
974

บทที่ 122 โรงนํา้ ชา


อวีถ้ งั เม้มปากแล้วยืนมองอยู่ขา้ งๆ
นางมองเห็นสีหน้าร้องทุกข์ของเซียงซื่อได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
มิแปลกที่ชาติก่อนอวีห้ ย่วนกับเกาซื่อใช้ชีวิตอย่างเลอะเลือนไปวันๆ
คนในสกุลนางอยู่กนั อย่างเรียบง่าย ญาติผพู้ ่ีของนางคนนีจ้ ึงไม่เคยคิดมากเรื่องคนใน
ครอบครัวเลย
ทว่า ที่เซียงซื่อมีความกังวลเกี่ยวกับตน นั่นเป็ นเพราะนางให้ความสําคัญกับอวีห้ ย่วน
พี่สะใภ้เช่นนี ้ ถึงจะอยู่รว่ มกับญาติผพู้ ่ีของนางอย่างเป็ นสุขได้
นางก็ไม่ใช่คนประเภทชอบหาเรื่องทัง้ ที่ไม่มีประเด็นเสียหน่อย
รอให้นางแต่งงาน มีสามีของตนเองที่รกั ใคร่ภรรยา ก็จะได้ไม่ตอ้ งแย่งชิงตําแหน่งไข่มกุ
บนฝ่ ามือของญาติผพู้ ่ีแล้ว หากต้องแย่งชิง สมควรเป็ นบรรดาลูกๆ ของญาติผพู้ ่ีและพี่สะใภ้เสีย
มากกว่า
อวีถ้ งั ปี นขึน้ ฝั่งแล้วยืนนิ่งๆ เพื่อปรับตัวอยู่ครูห่ นึ่ง จากนัน้ ถึงเอ่ยว่า “ท่านพี่ ท่านไม่ตอ้ ง
ห่วงข้า ท่านไปดูแลพี่สะใภ้เถอะ หากข้าไม่สบายตรงไหน ไว้จะบอกกับท่านเอง”
อวีห้ ย่วนถึงเพิ่งจะเข้าใจสถานการณ์
สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็ นแดงกํ่า ก่อนจะกระแอมเสียงเบาๆ แสร้งเอ่ยด้วยนํา้ เสียงนิ่งเฉยว่า
“ข้ารู แ้ ล้ว เจ้าก็เดินให้ดี โรงเตี๊ยมที่พวกเราพักอยู่ไม่ห่างจากท่าเรือเท่าไร เจ้าต้องตามพี่สะใภ้
เจ้าไว้ ห้ามวิ่งเล่นไปทั่ว เข้าใจหรือไม่?”
“ข้ารูแ้ ล้ว!” อวีถ้ งั รับคําพร้อมส่งยิม้ หน้าบานให้ ส่วนเซียงซื่อก็หน้าแดงเรื่อเช่นกัน
975

ไม่เหมือนกับเมืองหังโจว พวกเขาไม่มีคนรูจ้ กั อยู่ท่ีเมืองซูโจวเลย จึงเลือกพักโรงเตีย๊ มที่


ค่อนข้างใหญ่ แม้ราคาจะสูงกว่าหน่อย แต่เพราะมีสตรีมาด้วย จึงพักได้อย่างปลอดภัยกว่า
อวีห้ ย่วนพาอวีถ้ งั กับเซียงซื่อมาส่งที่โรงเตีย๊ ม กําชับอวีถ้ งั และเซียงซื่อด้วยคําเดิมๆ อยู่
เป็ นนานสองนาน พร้อมข่มขู่ซวงเถากับซย่าเหลียนก่อนไปว่า “ถ้านายหญิงกับคุณหนูใหญ่มีผม
ขาดไปสักเส้นเดียว พวกเจ้าก็อย่าหวังจะตามข้ากลับไปด้วยเลย”
ซย่าเหลียนเพิ่งเข้ามาอยู่สกุลอวีไ้ ม่นาน ทัง้ ไม่เคยได้พดู คุยสนทนากับอวีห้ ย่วน พอได้
ยินดังนัน้ ก็ตวั สั่นระริก ซวงเถานัน้ อยู่กบั สกุลอวีต้ งั้ แต่เล็กจนโต รู ว้ ่าอวีห้ ย่วนแค่เป็ นห่วงอวีถ้ งั
กับเซียงซื่อ จึงพยักหน้ารัวเร็ว แล้วเอ่ยออกไปก่อนว่า “ท่านวางใจได้ หากว่านายหญิ งกับ
คุณหนูใหญ่อยากจะออกไปข้างนอก ข้าก็จะห้ามเอาไว้เจ้าค่ะ”
อวีห้ ย่วนถึงค่อยวางใจลงได้ เขากลับเข้าห้องพักไปเก็บของพร้อมกับซย่าผิงกุย้ จากนัน้
ก็ออกไปยังร้านค้าขายสี
อวีถ้ งั กับเซียงซื่อศีรษะแตะหมอนก็หลับปุ๋ ยไปทันที กระทั่งอวีห้ ย่วนกลับมา ซวงเถาเข้า
มาปลุกสองคนให้ต่นื พวกนางถึงค่อยลุกมาเปลี่ยนเสือ้ ด้วยความสะลึมสะลือ ไม่ตอ้ งพูดถึงเดิน
เที่ยวนอกห้อง กระทั่งคนยังไม่ยอมลงจากเตียงด้วยซํา้
อวีห้ ย่วนพออกพอใจมาก หันไปปรึกษาเซียงซื่อว่า “เจ้าอยากกินข้าวในห้องหรืออยาก
ไปกินร้านอาหารเล็กๆ ข้างโรงเตีย๊ มล่ะ?”
เซียงซื่อมองอวีถ้ ังที่งดงามเหมือนดอกไม้ คิดว่ากินในห้องน่าจะปลอดภัยกว่า ทัง้ ยัง
เอ่ยว่า “คืนนีพ้ วกเราก็อย่าออกไปไหนอีกเลย แค่เดินเที่ยวตอนกลางวันก็พอแล้ว”
อวีถ้ งั มาครัง้ นีเ้ พราะอยากจะเจอเจียงหลิง
ชาติก่อน นางได้ยินคนพูดว่าเจียงหลิงอาศัยอยูข่ า้ งท่าเรืออวิน้ เหอเมืองซูโจว นางอยาก
หาโอกาสสนทนากับเจียงหลิงสักครัง้ จากนัน้ ค่อยร่วมหุน้ ค้าขายทะเลกับเจียงหลินสักหลาย
ครัง้ หากว่าทุกคนร่วมมือกันได้ราบรื่น ก็คอ่ ยคิดเรื่องแผนที่ตอ่
976

นางเรียนรู จ้ นเริ่มฉลาดขึน้ แล้ว สิ่งที่ได้ยินได้ฟังจากชาติก่อนเป็ นเพียงเรื่องผิวเผิน ทุก


คนต้องผ่านการพูดคุยพบหน้าจริงๆ จังๆ ถึงจะรูว้ า่ คนผูห้ นึ่งมีนิสยั ใจคออย่างไร
อวีถ้ งั ย่อมพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเต็มร้อย
เซียงซื่อเห็นว่านางไม่คัดค้าน ก็ถอนหายใจโล่งอก นางสั่งอาหารที่คิดว่าอวีถ้ ังน่าจะ
ชอบกินด้วยรอยยิม้ สั่งให้ซวงเถาพาอวีถ้ งั กลับไปรอที่หอ้ งของพวกนางก่อน ส่วนตนเองคอย
ช่วยอวีห้ ย่วนแต่งตัวหวีผม
แม้ช่วงกลางวันจะยาวนาน แต่เมื่อกินมือ้ เย็นเสร็จ ท้องฟ้าด้านนอกก็ค่อยๆ มืดลง
อวีห้ ย่วนถามอวีถ้ งั ว่ามีแผนการอย่างไรต่อ
อวีถ้ งั ไม่คิดจะปิ ดบังอวีห้ ย่วนกับเซียงซื่อ เพียงแต่ชาติก่อนนางไม่เคยพบเจียงหลิง ทัง้
ไม่รูว้ ่าเจียงหลิงเป็ นคนเช่นไร ถ้าพาญาติผพู้ ่ีและพี่สะใภ้บ่มุ บ่ามเข้าไปหาเจียงหลิงเช่นนี ้ หาก
เกิดความเข้าใจผิดอะไรขึน้ มาคงต้องยุ่งยากมากแน่ๆ
นางเพียงบอกว่า “ข้าคิดว่าจะไปลองสืบแถวท่าเรือดูก่อน ทําการค้าทางทะเล อย่างไรก็
หนีท่าเรือไม่พน้ ...พวกเขานําของจากนอกด่านกลับมา ย่อมต้องหาที่ทางขายของออก! พวกเรา
ลองไปสอบถามดู ไม่มีทางผิดไปจากนีแ้ น่”
เซียงซื่อพอจะรูแ้ ผนการของพวกเขาแต่แรกแล้ว
นางคิดว่าออกจะเสี่ยงเกินไป แต่สองพี่นอ้ งสกุลอวีต้ อ้ งการทํากิจการนี ้ นางรูส้ กึ ว่าลอง
ดูก็ไม่เสียหาย อย่างแย่ๆ ก็แค่เสียเงินมากหน่อยเท่านัน้ ตอนที่นางแต่งงานบิดาให้สินเดิมมาไม่
น้อย สามารถให้สองพี่นอ้ งใช้จ่ายได้อย่างไม่ลาํ บากอะไร
เซียงซื่อก็ส่งั คนให้ไปสืบข่าวดูเช่นเดียวกัน
ตอนนีพ้ อได้ยินอวีถ้ ังพูดขึน้ มา นางจึงเอ่ยว่า “ข้าก็ได้ยินมาเหมือนกัน มีเพียงพวกที่
รูจ้ กั กับคนเดินเรือเท่านัน้ จึงจะรูแ้ น่ชดั ว่าสกุลใดที่เก่งกาจหรือผูน้ าํ ของกลุม่ เรือใดที่เข้าท่าที่สดุ
ข้าว่าแผนนีข้ องน้องสาวไม่เลวเลย”
977

อวีห้ ย่วนไม่คิดว่าเซียงซื่อจะเป็ นฝ่ ายทําความเข้าใจเรื่องพวกนีด้ ว้ ยตนเอง


แน่ น อนว่า เขาย่อมดี ใจหากเซี ย งซื่อไม่ ขัดขวางสิ่ ง ที่ เ ขาทํา แต่ท่ี เ ซีย งซื่อลุก ขึน้ มา
สนับสนุนเขาด้วยตนเองเช่นนี ้ เขากลับรูส้ กึ เป็ นครอบครัวที่รว่ มสุขทุกข์ดว้ ยกัน มีแต่จะปลืม้ ปิ ติ
ยิ่งกว่าเดิม
เขาหัวเราะจนแทบหุบปากไม่ลง “เช่นนัน้ พรุง่ นีก้ ็ทาํ ตามที่อวีถั้้ งบอก พวกข้าไปสืบข่าว
ที่ท่าเรือก่อน ส่วนพวกเจ้าก็เดินเที่ยวเล่นไปพลางๆ”
หรือพูดอีกอย่างว่า อวีห้ ย่วนไม่คิดจะพาพวกนางไปสืบเรื่องเหล่านีด้ ว้ ยแต่แรก
อวีถ้ งั คาดเดาได้ตงั้ นานแล้ว
นางหัวเราะแล้วเอ่ยว่า “ท่านให้ขา้ กับพี่สะใภ้ไปด้วยเถอะนะเจ้าคะ! พวกเราจะได้ไปดู
ด้วยว่าท่าเรือของซูโจวมีหน้าตาเช่นไร? ถ้าไม่อย่างนัน้ ตอนที่ท่านไปสืบข่าว พวกข้าก็จะนั่งดื่ม
ชารออยู่ท่ีโรงนํา้ ชา จะได้ฟังเสียงซุบซิบนินทาของผูอ้ ่นื ไปด้วย”
โรงนํา้ ชาในพืน้ ที่เหมาะแก่การหาข่าวที่สดุ แล้ว พวกเขาไปตามสืบไล่ถาม อย่างไรก็
ต้องไปโรงนํา้ ชาที่อยู่ขา้ งกับท่าเรือซูโจวเป็ นสถานที่แรกอยู่ดี
หากให้ทุกคนแยกย้ายคนละทาง มิสูใ้ ห้ภรรยากับน้องสาวอยู่ในสายตาของเขาจะ
ดีกว่า
อวีห้ ย่วนพิจารณาดู จากนัน้ ก็ตอบตกลง
อวีถ้ งั ตื่นเต้นดีใจเป็ นอย่างมาก
พวกเขาสองสามคนพูดคุยกันต่ออีกหน่อย ทราบว่าอวีห้ ย่วนหาซือ้ สีนา้ํ กลับมาได้อย่าง
ราบรื่น และด้วยกลัวว่าพวกนางจะทนกลิ่นสีไม่ไหว จึงบอกให้พอ่ ค้าสีจดั คนไปส่งสินค้าถึงเมือง
หลินอัน ทุกคนถึงค่อยแยกย้ายกันไป
978

เซียงซื่อออกเดินทางไกลกับสามีเป็ นครัง้ แรก นางตื่นเต้นจนนอนไม่ค่อยหลับ กระซิบ


คุยกับอวีห้ ย่วนเป็ นครึง่ ค่อนคืน เช้าวันที่สองจึงนอนตื่นสาย ตอนที่ลา้ งหน้าหวีผมออกจากห้อง
พระอาทิตย์ก็ลอยเต้งกลางฟ้าแล้ว เซียงซื่อหน้าแดงจนแทบหยดออกมาเป็ นเลือด พูดขอโทษ
ขอโพยอวีถ้ งั ไม่หยุดปาก
อวีถ้ ังเม้มปากแอบหัวเราะ ทําราวกับว่าไม่รูไ้ ม่เห็น นางคล้องแขนเซียงซื่ออย่างสนิท
สนม แล้วเอ่ยว่า “พี่สะใภ้ ท่านเคยไปดื่มชาที่โรงนํา้ ชาหรือไม่? ได้ยินว่าด้านในโรงนํา้ ชามีดนตรี
ขับร้องด้วย? ถ้าพวกเราเข้าไปจะทําให้ผอู้ ่นื ประหลาดหรือไม่เจ้าคะ?”
คุณชายสกุลเว่ยหลายคนต่างก็เป็ นคนเรียบร้อย กระทั่งเมืองหังโจวยังเคยไปไม่ก่ีหน
ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึงโรงนํา้ ชา
เซียงซื่อไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซํา้ แต่ว่าคําพูดของอวีถ้ งั ก็ดงึ ดูดความอยากรูข้ องนาง
จึงมองข้ามความขวยเขิน ถามอวีห้ ย่วนออกไปว่า “เป็ นอย่างที่นอ้ งสาวพูดเช่นนัน้ หรือ?”
อวีห้ ย่วนอย่างน้อยก็เคยติดตามอวีป้ ๋ อมายังสถานที่เหล่านี ้ เขารีบตอบว่า “โรงนํา้ ชา
บางแห่งมีดนตรีขบั ร้อง แต่บางแห่งก็ไม่มี บางที่มีหอ้ งส่วนตัวให้กบั เหล่าสตรีโดยเฉพาะ แม้พดู
ได้วา่ มีไม่มาก แต่ขา้ คิดว่าในเมื่อมาแล้ว พวกเราลองไปดูก็ไม่เสียหาย”
บางทีน่ีอาจเป็ นโอกาสเพียงครัง้ เดียวในชีวิตของอวีถ้ งั และเซียงซื่อที่จะได้เข้าไปในโรง
นํา้ ชา
เพราะมีอวีห้ ย่วนและซย่าผิงกุย้ ติดตามไปด้วย พวกนางจึงร้อนใจอยากจะเข้าไปด้าน
ในเสียเต็มประดา
เมื่ อถึ ง ท่า เรือซูโ จว อวีห้ ย่ว นก็ ม องหาโรงนํา้ ชาที่ มี ดนตรีขับ ร้อง พร้อมทั้ง จองห้อ ง
ส่วนตัว
ซย่าผิงกุย้ มองเงินสามตําลึงที่อวีห้ ย่วนจ่ายออกไป ก็รูส้ กึ ปวดร้าวตามร่างกายไปหมด
ซย่าเหลียนก็เช่นเดียวกัน
979

นางอดจะนินทาในใจไม่ได้ โชคดีท่ีสินเดิมของคุณหนูมีมาก ไม่เช่นนัน้ จากนิสยั ใจคอ


ของท่านเขย กลัวว่าไม่ก่ีวนั คงต้องหอบสมบัติมาขายกินเป็ นแน่
สองคนเงยหน้าขึน้ ดวงตาสบประสานกันพอดี ทัง้ ยังมองเห็นความปวดใจและเสียดาย
ในดวงตาของอีกฝ่ าย
ซย่าเหลียนกับซย่าผิงกุย้ ชะงักกึก คิดว่าต่างฝ่ ายก็เป็ นคนที่ใช้ชีวิตอย่างสุขมุ รอบคอบ
พลันเกิดความรูส้ กึ ดีๆ ต่ออีกฝ่ าย
ความสนใจของทุกคนกระจุกอยู่ท่ีเสียงทอดถอนใจอย่างชื่นชมเมื่อเห็นโรงนํา้ ชาสาม
ชัน้ ที่ทงั้ หรู หราและมีเอกลักษณ์แห่งนี ้ ไม่มีใครทันมองซย่าเหลียนกับซย่าผิงกุย้ ยิ่งไม่มีคนเห็น
ท่าทางไม่เป็ นธรรมชาติของพวกเขา
“โรงนํา้ ชานีส้ ามารถสร้างได้สงู ตัง้ สามชัน้ ข้าเพิ่งเคยเห็นเป็ นครัง้ แรกเลยเจ้าค่ะ” ซวง
เถากระซิบพูดกับอวีถ้ งั สายตาตวัดมองไปทั่ว ไม่อาจกลบความอยากรูอ้ ยากเห็นได้
อวีถ้ งั คลี่ยมิ ้ คิดว่าเช่นนีช้ ่างดีเหลือเกิน
รอให้คนในสกุลได้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เมื่อเห็นโลกที่กว้างขึน้ ย่อมเข้าใจว่า
เหนือตนมียอดคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า เช่นนีย้ ่อมถ่อมตนระวังกิริยา นับเป็ นฐานในการสร้างวงศ์
สกุล
ทุกคนเข้าไปที่หอ้ งส่วนตัวชัน้ สอง รอจนอวีห้ ย่วนสั่งของว่างเสร็จแล้ว ฉาป๋ อซื่อ 1ที่ขบั
192

ร้องเพลงตามรายการสั่งก็ลา่ ถอยไป ทุกคนถึงค่อยส่ายสายตาสํารวจไปรอบด้าน


ซวงเถาเอ่ยว่า “คุณหนู ท่านดูโคมนั่นสิเจ้าคะ ถึงกลับมีตงั้ ห้าชัน้ ข้าเคยเห็นแต่ในวัด
ไม่คิดว่าห้องส่วนตัวในโรงนํา้ ชาจะมีดว้ ย”

1
ฉาป๋ อซื่อ เป็ นชื่อที่ใช้เรียกคนขายใบชา
980

ซย่ า เหยี ย นก็ พูด ขึ น้ ว่า “นายหญิ ง ท่ า นดูสิ เ จ้า คะ นั่ง อยู่ต รงนี ย้ ัง สามารถมองเห็น
เหตุการณ์ในโถงใหญ่ ได้ ตอนที่รอ้ งเพลงก็เห็นได้ชัดเจน ไม่รูว้ ่าพวกขับร้องในหลีหยวนจะ
เหมือนกับที่น่ีหรือไม่”
เด็กในร้านที่ติดตามมาผลักหน้าต่างเปิ ดออกทันที เห็นผูค้ นที่เนืองแน่นอยู่เต็มถนนก็
เอ่ยกับอวีห้ ย่วนว่า “คุณชาย ท่านดูสิขอรับ ทางนัน้ มีรา้ นค้าของเบ็ดเตล็ดเต็มไปหมด”
ด้านข้างของท่าเรือก็ตอ้ งมีรา้ นค้าเบ็ดเตล็ดมากอยู่แล้วมิใช่ร?ึ
กิจการค้าขายทางทะเลนี ้ ส่วนมากใช้ของแลกของ หนนีแ้ ลกของสิ่งนีม้ าได้ ครัง้ ต่อไป
อาจแลกได้แค่สิ่งนัน้ กลับคืนมา ขอเพียงเป็ นสินค้าที่น่าสนใจ หากคิดว่ามันทํากําไรได้ พวกเขา
ก็จะขายให้ทนั ที
ซย่าผิงกุย้ ก็เบียดตัวไปดูเช่นกัน
ฉาป๋ อซื่อส่งของว่างขึน้ มาให้ จากนั้นก็ดึงบัญชีช่ือเพลงออกมา ถามอวีห้ ย่วนอย่าง
กระตือรือร้นว่า “ท่านลองดูสิขอรับ นายหญิงกับคุณหนูชอบฟั งเพลงใดก็สามารถเลือกได้ สอง
ตําลึงหนึ่งเพลง หากเป็ นบทร้องชื่อดัง ก็ส่ตี าํ ลึงเท่านัน้ เจ้าค่ะ”
อวีห้ ย่วนคิดว่าค่อนข้างแพง ทว่า เซียงซื่อกับอวีถ้ ังไม่ได้ออกจากเรือนบ่อยๆ ต่อให้
ราคาจะสูง แต่ก็ตอ้ งให้พวกนางเที่ยวเล่นอย่างสนุก จะได้ไม่มานั่งเสียดายทีหลัง
เขาส่งบัญชีเพลงให้เซียงซื่อ “เจ้าลองดูสิวา่ ชอบบทเพลงใด?”
เซียงซื่อแม้จะมีเงิน แต่ไม่คิดละลายทรัพย์ไปเช่นนี ้ คิดว่าตนเองฟั งเพลงตามที่อวีถ้ งั
ชอบก็พอแล้ว จึงส่งบัญชีเพลงต่อให้อวีถ้ งั “เจ้าชอบเพลงไหนล่ะ? ข้าไม่คอ่ ยรูเ้ รื่องพวกนี ้ เจ้าให้
ข้าเลือก ข้าเองก็ไม่รูต้ อ้ งเลือกอะไร”
ฉาป๋ อซื่อได้ยนิ ดังนัน้ ก็พงุ่ ตัวเข้าไปแนะนะบทเพลงที่อยู่ในรายการให้พวกเขาฟั งทันที
อวีถ้ งั ฟั งไปอย่างใจลอย สมองกําลังหมุนแล่นอย่างรวดเร็ว
981

ชาติก่อนในตอนนี ้ สกุลเจียงเริ่มระดมทรัพย์เพื่อทํากิจการทางทะเลแล้ว พวกเขาย่อ


มหาวิธีกระพือข่าวนีอ้ อกไป เพื่อให้คนจํานวนมากรับรูแ้ ละเข้ามาเป็ นหุน้ ส่วน
ต้องหาโอกาสสอบถามกับฉาป๋ อซื่อเสียแล้ว
อวีถ้ งั เลือกเพลง ‘ชวนอิงอิงไหว้พระจันทร์’ ซํา้ ยังเป็ นบทเพลงที่มีช่ือเสียงอีกด้วย
อวีห้ ย่วนควักเงินจ่ายไปสี่ตาํ ลึง
ฉาป๋ อซื่อผูน้ นั้ ดูประหลาดใจมาก
เขาเห็นว่าอวีห้ ย่วนมีลกั ษณะเหมือนคุณชายน้อย คิดว่าเขาคงเป็ นหัวหน้าครอบครัว
คาดไม่ถึงว่าผูท้ ่ีมือเติบและจ่ายเงินอย่างเบิกบานจะเป็ นคุณหนูนอ้ ยผูห้ นึ่ง
เขามองนางอย่างพินิจ อวีถ้ งั ไม่เพียงมีรูปโฉมที่งดงาม ทัง้ ยังเป็ นคนเปิ ดเผย ท่ามกลาง
สกุลที่ร่าํ รวยมั่งคั่งกลับวางท่าได้อย่างสง่าไม่สะทกสะท้าน หัวใจเขาเต้นเสียง ‘ตึกตัก’ เพิ่งรูว้ ่า
ตนเองมองคนพลาดไป จึงรีบก้มหน้าตํ่า แล้วกล่าวขอบคุณเซียงซื่อกับอวีถ้ ัง ก่อนจะขอตัว
ออกไปเตรียมการ
อวีห้ ย่วนถอนหายใจยาวเหยียด ในใจก็คิดว่า สถานที่เช่นนีต้ ่อไปเขาคงต้องมาให้นอ้ ย
หน่อย แค่ฟังเพลงก็จ่ายสองสามตําลึงแล้ว เขารับการเสพสุขเช่นนีไ้ ม่ค่อยไหว แต่เพราะเซีย
งซื่อกับอวีถ้ งั ดูจะชอบอกชอบใจ ก็นบั ว่าไม่ได้จ่ายเงินไปเปล่าๆ ปลีๆ้ แล้ว
982

บทที่ 123 ข่าวคราว


เงินของอวีห้ ย่วนไม่ได้จ่ายไปอย่างสูญเปล่าจริงๆ รอจนฉาป๋ อซื่อนํารายการเพลงที่
เลือกมาให้นนั้ ก็เอ่ยกับพวกเขาด้วยนํา้ เสียงที่กระตือรือร้นมากกว่าปกติ “จัดการเรียบร้อยแล้ว
ขอรับ เพลงนีจ้ บก็ต่อด้วยเพลงที่ท่านเลือกเลย” พูดจบ ก็ประคองจานผลไม้สดเข้ามาจากนอก
ห้อง “นี่เป็ นสิ่งที่ขา้ น้อยแสดงความเคารพต่อท่าน ท่านค่อยๆ ดื่มกิน ข้าจะยืนอยู่ดา้ นนอกห้อง
หากต้องการสิ่งใด ก็เรียกข้าได้โดยตรงเลยขอรับ”
คงเพราะฉาป๋ อซื่อได้รางวัลมาเป็ นแน่
อวีถ้ งั คาดเดาในใจ ซํา้ รูส้ กึ มั่นใจกับสิ่งที่ตนเองกําลังจะทํามากขึน้ ไปอีก
นางเลือกลูกลี่จ่ือผลใหญ่สดุ ให้ซวงเถาส่งต่อไปยังฉาป๋ อซื่อ ทัง้ เอ่ยกับเขาด้วยรอยยิม้
แฉ่งว่า “เจ้าอย่าเพิ่งไป ข้ามีเรื่องอยากถามหน่อย”
ฉาป๋ อซื่อผูน้ นั้ สาวเท้าเดินเข้ามาทันที แต่ก็หยุดลงที่ระยะเจ็ดแปดเก้าอย่างมีมารยาท
เอ่ยคําพลางก้มหน้าลงอย่างนอบน้อมว่า “ท่านอยากถามสิ่งใดขอรับ? ขอเพียงเป็ นเรื่องที่ขา้ รู ้
ท่านถามอะไรมาข้าก็ตอบอะไรไป หากว่าเป็ นเรื่องที่ขา้ ไม่รู ้ เช่นนัน้ จะรีบให้คนไปสืบมาทันที
ขอรับ” มีไหวพริบไม่เลวทีเดียว
นี่อาจเป็ นเหตุผลที่ทาํ ให้โรงนํา้ ชาแห่งนีก้ ลายเป็ นหนึ่งในโรงนํา้ ชาที่ใหญ่ท่ีสดุ ในเมืองนี ้
ก็เป็ นได้
อวีถ้ งั ขบคิดอยู่ในใจ แล้วเผยยิม้ ถามเขาว่า “ตอนที่ขา้ มาถึงเห็นว่าบนแม่นา้ํ ของซูโจวมี
แต่เรือใหญ่ๆ เต็มไปหมด ได้ยินคนพูดกันว่า เรือเหล่านีม้ าจากหนิงปั ว ด้านบนล้วนเป็ นสินค้าที่
นําเข้าทางเรือ แล้วเจ้ารูห้ รือไม่วา่ ที่ใดมีขายสินค้าที่นาํ เข้าทางเรือบ้าง?”
ฉาป๋ อซื่อฟั งแล้วก็ฮึกเหิมเป็ นอย่างยิ่ง รีบร้อนเอ่ยว่า “คุณหนูถามเรื่องนีน้ บั ว่าถามถูก
คนแล้ว เมืองซูโจวแห่งนี ้ ไม่มีรา้ นค้าใดที่ขา้ ไม่รูจ้ กั ตอนที่ท่านมาคงได้เห็นถนนเส้นที่อยู่หน้า
โรงนํา้ ชาของพวกเราแล้วกระมัง? มันมีช่ือว่าถนนซูเหอ ถนนเส้นนีจ้ ะเปิ ดโรงนํา้ ชา โรงสุราและ
983

ร้านอาหารมากที่สดุ ท่านออกจากประตูโรงนํา้ ชาไปก็ให้เลีย้ วซ้าย จะเจอกับตรอกสายหนึ่ง ใน


ตรอกนัน้ ล้วนขายแต่ขนมของว่างและพวกผลไม้ต่างๆ ถ้าท่านเดินตรงไปเรื่อยๆ จนสุดตรอก ก็
จะเจอกับถนนอีกเส้น บนถนนสายนัน้ จะขายสินค้าที่นาํ เข้าทางเรือทัง้ หมด…”
เขาตอบอย่างฉะฉานชัดคํา มองออกได้ทนั ทีวา่ คุน้ เคยกับเมืองซูโจวเป็ นอย่างดีจริงๆ
อวีถ้ ังก็ตะล่อมถามประโยคแล้วประโยคเล่า ไม่นานก็รูว้ ่าพวกคนที่ทาํ กิจการค้าขาย
ทางทะเลมักจะชอบไปรวมตัวอยู่ท่ีไหน เวลาที่กองเรือออกทะเลจะประกาศแจ้งข่าวโดยวิธี
ใดบ้าง
เซียงซื่อนั่งฟั งอยู่ขา้ งๆ อดจะลอบพยักหน้ากับตัวเองมิได้
ก่อนหน้านีอ้ วีห้ ย่วนชมอวีถ้ งั ว่าเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ นางยังไม่ค่อยจะเชื่อ
เพราะจากประสบการณ์ของนาง ได้พบเจอสตรีท่ีมากความสามารถเยอะเหลือเกิน อย่างเช่น
นายหญิงเว่ย อย่างเช่นมารดาเลีย้ งของนาง ยังมีเหล่าญาติท่ีเกี่ยวดองผ่านการแต่งงานของ
มารดาเลีย้ งอีก แต่คนที่เก่งกาจขนาดอวีถ้ งั แบบนี ้ นับว่ามีนอ้ ยยิ่งกว่าน้อยจริงๆ
อวีถ้ งั ในตอนนีไ้ ม่เพียงดูแลเรื่องเรือกสวนไร่นาและอ่านสมุดบัญชีเป็ นเท่านัน้ แต่นาง
เหมือนบุรุษคนหนึ่ง ที่รูว้ ่าควรจะพบปะรับมือกับคนภายนอกอย่างไร รู ว้ ่าจะถามในสิ่งที่ตน
อยากรูอ้ อกมาได้อย่างไรโดยไม่แสดงสีหน้าเลยสักนิด
อย่าว่าแต่เซียงซื่อเลย กระทั่งซย่าผิงกุย้ และซย่าเหลียนเอง ก็รูส้ กึ ตกตะลึงอย่างมาก
ซย่าผิงกุย้ คิดว่า มิน่านายท่านรองถึงคิดหาเขยชายให้คณ ุ หนูใหญ่ เพราะคุณหนูใหญ่
สามารคุมกิจการของสกุลได้น่ีเอง ส่วนทางซย่าเหลียนกลับปลืม้ ปิ ติท่ีเซียงซื่อมีนอ้ งสามีเช่นนี ้
วันข้างหน้าคุณหนูอวีย้ ่อมไม่มีทางเป็ นตัวถ่วงให้เซียงซื่อแน่ ทัง้ ตอนที่เจอปั ญหานางยังสามารถ
ช่วยออกความคิดให้อีก ถือว่าเป็ นการช่วยเซียงซื่ออีกแรงหนึ่ง
ภายหลังทัง้ สองคนก็รูส้ ึกเคารพอวีถ้ ังยิ่งกว่าเดิม แน่นอน ว่านี่คือคําพูดที่เกิดขึน้ ใน
ภายหลัง
984

อวีถ้ งั ได้ข่าวที่ตนเองต้องการแล้ว จึงตบรางวัลเป็ นเงินเหรียญให้ฉาป๋ อซื่อจํานวนหนึ่ง


พอฉาป๋ อซื่อเดินออกไป ถึงได้หนั ไปยิม้ แหยๆ ให้อวีห้ ย่วน “เห็นทีพวกเราจะมาผิดที่เสียแล้ว”
จากคําบอกเล่าของฉาป๋ อซื่อ พวกที่ทาํ การค้าทางทะลเหรือเดินเรือไปรับสินค้ามา
จากหนิงปั วมักจะไปดื่มเหล้ากันที่โรงสุราอีกแห่งแถวท่าเรือที่ช่ือว่าร้านผิงอัน
อวีห้ ย่วนไม่ได้ถือสา เอ่ยยิม้ ๆ ว่า “ถ้าพวกเราไม่มาที่โรงนํา้ ชา ก็คงไม่อาจสืบข่าวนี ้
ออกมาได้ อีกอย่าง โรงสุราผิงอันอะไรนั่น แค่ฟังชื่อก็ รูแ้ ล้วว่าเป็ นสถานที่ท่ีพวกกรรมกรใช้
แรงงานไปดื่มเหล้า ข้าจะให้สตรีเช่นพวกเจ้าทัง้ สองคนไปกินข้าวที่โรงสุรานั่นได้อย่างไร?”
สตรีท่ีเข้าออกสถานที่เช่นนัน้ มากกว่าครึ่งเป็ นพวกท่องยุทธภพไม่ก็เป็ นสตรีหอโคม
เขียว คนอื่นเห็นเข้าย่อมจะไม่เคารพให้เกียรติ
เซียงซื่อพยักหน้า เอ่ยยิม้ ๆ ว่า “พี่ชายเจ้าพูดถูก แม้พวกเราจะมาผิดที่ แต่นบั ว่าได้รู ้
อะไรมากขึน้ อีกหนึ่งเรื่อง หลังจากกลับไป ก็เล่าให้แม่สามีและท่านอาฟั ง หากมีโอกาส ก็ให้
พวกนางได้มาเที่ยวชมบ้าง”
อวีถ้ งั คิดว่าเวลาที่พวกเขาพักแรมอยู่ท่ีน่ีนอ้ ยเกินไป กลัวจะหาโอกาสพูดคุยกับเจียงห
ลิงไม่ได้
แต่ใจที่รอ้ นรนไม่อาจกินนํา้ แกงร้อนได้ เรื่องใดๆ ล้วนต้องก้าวไปทีละขัน้ ในเมื่อมาฟั ง
เพลง เช่นนัน้ ก็สาํ ราญกับการฟั งเพลงก็พอ
อวีถ้ งั เซียงซื่อและอวีห้ ย่วนใช้เวลาตลอดช่วงเช้าที่โรงนํา้ ชา ทัง้ สอบถามข่าวเกี่ยวกับ
สกุลซ่งจากฉาป๋ อซื่อมาได้อีกเล็กน้อย
เดิมทีสกุลซ่งกลับมาที่เมืองซูโจวก็เริ่มต่อเรือที่ทะเลสาบไท่หู ด้วยเหตุนีพ้ วกเขาถึงได้
ขายสวนหม่อนสองแห่งที่หโู จวทิง้ ไป
985

สกุลซ่งก่อร่างสร้างตัวมาจากการค้าขายผ้าไหม ฤดูนีย้ ่ิงเป็ นเวลาเหมาะในการปลูก


หม่อนเลีย้ งไหม การที่สกุลซ่งทําเช่นนีเ้ รียกได้ว่าสั่นคลอนรากฐานของตัวเอง และต้องจ่าย
ค่าตอบแทนด้วยเงินก้อนใหญ่
อวีห้ ย่วนตกตะลึง ถามฉาป๋ อซื่อว่า “เช่นนัน้ พวกผูอ้ าวุโสสกุลเขาก็เห็นด้วยหรือ?”
ฉาป๋ อซื่อถอนหายใจเฮือก “ไม่เห็นด้วยแล้วจะทําอย่างไร? ข้าเห็นว่าพวกท่านมาต่าง
ถิ่นถึงเล่าให้ท่านฟั ง สกุลซ่งนัน้ ไม่ใช่สกุลซ่งเดิมที่เคยเป็ นมาตัง้ นานแล้ว เมื่อปี ก่อน ผ้าไหมขาว
ที่สกุลเขาส่งเข้าวังเกือบจะไม่ถกู เลือก ต้องหาลูท่ างจากญาติๆ ให้ช่วยเหลือจนพอรอดตัวไปได้
พวกท่านคงไม่รู ้ ทําการค้ากับราชสํานักมิใช่เรื่องง่ายเลย ทุกๆ สามปี จะต้องมีการคัดเลือกใหม่
หนนีพ้ วกเขาพึ่งถูกคน จึงพ้นเคราะห์ไปได้ แล้วหนหน้าเล่า? ผูอ้ ่ืนยังจะยินดีช่วยเหลือหรือไม่?
คนที่ช่วยจะยังมีอาํ นาจในการเจรจาอยู่ไหม? เหล่านีล้ ว้ นไม่อาจมั่นใจได้เลย!”
ขอให้ญาติช่วยเหลือ?
เป็ นสกุลเผยรึ?
อวีถ้ ึงครุน่ คิด แล้วได้ยินฉาป๋ อซื่อเล่าต่อว่า “สกุลซ่งนัน้ ไม่เคยมองหาสาเหตุจากตนเอง
บอกแต่ว่ามีคนพยายามสร้างความลําบากให้สกุลเขา ตัง้ ใจแน่วแน่วา่ หากทําการค้านีค้ รบสาม
ปี ก็จะเลิกทํา แล้วเปลี่ยนไปจับการค้าทางทะเลแทน ข้าว่า หากสกุลซ่งยังเป็ นแบบนีต้ ่อไป เกรง
ว่าต้องดับสิน้ แน่!”
คิดไม่ถึงว่าฉาป๋ อซื่อจะมีข่าวคราวที่รอบด้านเพียงนี ้
อวีถ้ งั พลันรูส้ กึ นับถือขึน้ มาไม่นอ้ ย
สกุลซ่งคล้ายว่าจะค่อยๆ ตกตํ่าลงไปเช่นนี ้
อวีห้ ย่วนไม่รูเ้ รื่อง คิดว่าฉาป๋ อซื่อเจตนาพูดเกินจริงให้ผอู้ ่นื ตื่นตกใจ “เหตุใดจึงพูดเช่นนี ้
เล่า?”
986

ฉาป๋ อซื่อขมวดคิว้ ตอบว่า “ในเมืองซูโจวของเรามีคนที่ทาํ การค้ากับราชสํานักอยู่ไม่


น้อย แต่มีสกุลไหนบ้างที่ทาํ แล้วได้กาํ ไรบ้าง? ต้องส่งส่วยให้พวกขันทีแห่งสํานักยี่สิบสี่ยงั ไม่พอ
ยังมีกรมขนส่งทางทะเล กรมพระคลัง กรมโยธาและอีกสารพัดกรม แต่การค้าขายกับราชสํานัก
นัน้ มีช่ือ ได้หน้าได้ตา ใครๆ ต่างก็คิดว่าเจ้าคงรูจ้ กั มักคุน้ กับคนในวังดี เดินออกไปไหนคนทั่วไป
ต้องเกรงใจเจ้าสามส่วน นี่เป็ นสิ่งที่ใช้เงินทองซือ้ ได้หรือไม่เล่า? อีกอย่างสิ่งของที่เจ้าถวายให้
เบือ้ งบนได้ นั่นย่อมเป็ นของดีอนั ดับหนึ่งแน่ ใครๆ ก็ตอ้ งมาหาซือ้ ของที่เจ้าอยู่แล้ว หากว่าทิง้
กิจการตรงนีไ้ ป มิใช่เป็ นการประกาศแก่ทกุ คนหรือว่าสกุลเจ้าประคองไม่ไหวแล้ว ราชสํานักทาง
นัน้ ไม่มีคนหนุนหลัง หมดยุครุง่ เรื่องของสกุลเจ้าแล้ว กําแพงจะล้มยังต้องให้คนผลักเลย ขอแค่
สองสามทีเท่านัน้ ถ้ากิจการของสกุลยังไปต่อได้ก็ปาฏิหารย์แล้ว!”
กระทั่งฉาป๋ อซื่อยังเข้าใจในความจริงข้อนี ้ ไม่มีทางที่สกุลซ่งจะคิดไม่ได้
เช่นนัน้ ที่สกุลซ่งเลือกทางเดินเส้นนี ้ ใช่หรือไม่วา่ มีเหตุผลอื่นแอบแฝง
หรือเพราะเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสกุลเผย?
แต่ว่า ก่อนหน้าที่พ่ีนอ้ งสกุลเผยจะออกจากราชการ สกุลซ่งก็เริ่มทําการค้ากับราช
สํานักไปแล้วนี่ พวกเขาน่าจะมีเส้นสายของตัวเองมากกว่า?
อวีถ้ งั คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก นางจึงเลิกคิดดือ้ ๆ แล้วไปหยั่งเชิงฉาป๋ อซื่อว่า “ข้าได้ยิน
ว่าเมืองซูโจวมีสกุลหนึ่งเรียกว่าสกุลเจียง พวกเขาต้องการทําการค้าทางทะเล ตอนนีเ้ ที่ยวหา
คนร่วมหุม้ ไปทั่ว คนสกุลนีเ้ ชื่อถือได้หรือไม่?”
ฉาป๋ อซื่อเบะปาก เอ่ยว่า “ที่แท้พวกท่านก็รูเ้ รื่องนีด้ ว้ ยรึ! สกุลเขาเดิมเป็ นคนขับเรือ ก็
คือเรือที่นาํ เข้าสินค้าจากหนิงปั วมาซูโจวนี่แหละ หลายปี นีค้ งทําเงินได้มากพอตัว จึงคิดอยาก
ได้กาํ ไรก้อนโตโดยที่ไม่รูฟ้ ้าสูงแผ่นดินตํ่า พวกเราชาวซูโจวต่างก็คอยหัวเราะเยาะเขาอยู่!”
อวีถ้ งั งุนงงไปทันที
987

ชาติก่อนนางเคยได้ยินมาจากฮูหยินหลี่วา่ ขอเพียงสกุลเจียงต้องการออกเรือ แต่ละคน


ต่างเบียดเสียดเข้าไปเพื่อขอร่วมหุม้ ด้วย
เห็นชัดว่านี่เป็ นอีกเรื่องหนึ่งที่ถกู โอ้อวดเกินจริงภายหลังจากที่ผอู้ ่ืนประสบความสําเร็จ
แล้ว
ถึงเวลานัน้ ที่พวกเขาเข้าไปร่วมหุน้ ด้วย มันก็แค่เรื่องง่ายดายเรื่องหนึ่งเท่านัน้
หัวใจของอวีถ้ งั พลันลิงโลดขึน้ มา
นางถามฉาป๋ อซื่อว่า “ท่านรูห้ รือไม่วา่ สกุลเจียงตัง้ อยู่ท่ีใด”
ฉาป๋ อซื่อเหลือบไปมองทางอวีถ้ งั อย่างรวดเร็วทีหนึ่ง แต่เอ่ยกับอวีห้ ย่วนว่า “เรือนของ
พวกเขาอยู่ในตรอกตงเจียงห่างจากที่น่ีไม่เท่าไร แต่วา่ คนผูน้ ีไ้ ม่เข้าท่าจริงๆ นิสยั หยาบคายและ
ขีง้ ก คนที่เคยคบหากับเขาล้วนเรียกเขาว่า ‘พ่อไก่เหล็ก’ 1 หากว่าท่านต้องการจะร่วมค้าขายกับ
193

เขาจริงๆ จะต้องเบิกตาเอาไว้ให้กว้าง ระวังจะถูกหลอกเอาได้นะขอรับ”


แม้อวีห้ ย่วนจะไม่รูว้ ่าอวีถ้ ังไปรู จ้ ักสกุลเจียงตัง้ แต่ตอนไหน แต่เวลานี ้ ไม่ว่าอย่างไรก็
ต้องช่วยนางพูดจาสักหน่อย เขาหัวเราะแล้วเสริมคําของอวีถ้ ังว่า “พวกเราได้ยินมาระหว่าง
ทางน่ะ จึงเกิดสนใจชั่วครู ่ เลยลองสอบถามดู”
ฉาป๋ อซื่อถอนหายใจโล่งอก “ชื่อเสียงของสกุลเจียงไม่ค่อยจะดีเท่าไรขอรับ พวกท่าน
ระมัดระวังเอาไว้ย่อมจะดี”
อวีห้ ย่วนเอ่ยขอบคุณเขา ประจวบกับเพลงที่เลือกเอาไว้ขบั ร้องจบพอดี ฉาป๋ อซื่อตัง้ ใจ
จะพาผูข้ บั ร้องมารับรางวัลกับพวกเขาสักหน่อย หัวข้อสนทนาจึงจบลงเพียงเท่านี ้ ไม่มีใครเอ่ย
ถึงอีก

1
พ่อไก่เหล็ก อุปมาว่าเป็ นคนที่ตระหนี่ถ่ีเหนียว
988

เมื่อออกจากโรงนํา้ ชา อวีห้ ย่วนก็หาโรงเตีย๊ มเพื่อพักกินข้าวกลางวัน อวีถ้ งั ตัดสินใจว่า


จะไปดูเรือนสกุลเจียงสักหน่อย
นางบอกอวีห้ ย่วนว่า “เมื่อวานข้าได้ยินเสี่ยวเอ้อร์ของโรงเตี๊ยมพูด อีกอย่าง เรื่องใดๆ
ล้วน ‘หูฟังเป็ นเท็จ ตาเห็นเป็ นจริง’ อย่างไรพวกเราก็ตงั้ ใจมาสืบเรื่องนีอ้ ยู่แล้ว ไม่ว่าคนอื่นจะ
พูดเช่นไร เราลองไปดูเสียก่อน ไม่มีเรื่องอันใดจะสําเร็จลุลว่ งตัง้ แต่ครัง้ แรกหรอกเจ้าค่ะ”
อวีห้ ย่วนและเซียงซื่อต่างเห็นด้วย อวีห้ ย่วนยังพูดอีกว่า “เป็ นเจ้าที่มีโชค ทั้งๆ ที่อยู่
โรงเตีย๊ มเดียวกัน พวกเรากลับไม่ได้สงั เกตเห็นสิ่งเหล่านีเ้ ลย”
อวีถ้ ังเหงื่อตก ลากอวีห้ ย่วนเปลี่ยนหัวข้อสนทนาด้วยความร้อนตัว “พวกเราต้องสืบ
เรื่องที่สกุลเจียงประกาศหาผูร้ ่วมหุน้ ต่อหรือไม่? เงินเท่าไรนับว่าเป็ นหนึ่งหุน้ ? รับเพี ยงเงิน
เท่านัน้ หรือรับสินค้าชนิดอื่นเป็ นหุน้ ด้วยได้? พวกเขาวางแผนจะออกทะเลกันเมื่อไร? ธุระบนเรือ
เชิญใครไปจัดการ?”
“ต้องสืบสิ ต้องสืบ!” อวีห้ ย่วนละลํ่าละลักตอบ
เซียงซื่อที่ฟังอยู่ขา้ งๆ พยายามซ่อนยิม้ ที่มมุ ปาก “อาอวี ้ สตรีเช่นเจ้าช่างไม่แพ้บรุ ุษอก
สามศอก ทัง้ ๆ ที่เป็ นเรื่องเดียวกัน พี่ชายเจ้าไม่รูอ้ ะไรสักอย่าง แต่เจ้ากลับไปสืบถามจนแจ่มแจ้ง
แล้ว ก่อนจะเดินทางมาข้ายังคิดอยู่ ในเมื่อพวกเจ้าต้องการทํามาค้าขาย ข้าก็จะออกมาดูโลก
ภายนอกเป็ นเพื่อนพวกเจ้าด้วย วันนีด้ ทู ่าแล้ว สิ่งที่พวกเจ้าคิดอาจเป็ นจริงขึน้ มาก็ได้ หากว่า
น้องสาวไม่มองข้าเป็ นคนนอก ก็นบั ข้าเป็ นผูร้ ว่ มหุน้ อีกคนเถอะ”
สามารถทําให้แม่นางเซียงพูดจาขอร่วมเป็ นหนึ่งหุน้ ได้ มากกว่าครึง่ ย่อมเป็ นเงินสะสม
ของนางเอง!
อวีถ้ ังประหลาดใจมาก ทัง้ รู ส้ ึกตืน้ ตันที่เซียงซื่อเชื่อใจนาง ทัง้ กังวลว่าหากครัง้ นีส้ กุล
เจียงไม่สาํ เร็จแล้วจะพลอยพาคนสกุลลําบากไปด้วย
อย่างไรสิ่งที่นางได้ยินมาเมื่อชาติก่อน บัดนีม้ องแล้วมิใช่วา่ ถูกต้องแม่นยําทัง้ หมด
989

บทที่ 124 ชนคน


อวีห้ ย่วนจะให้อวีถ้ งั และเซียงซื่อไปพักที่โรงเตี๊ยม ส่วนเขาพาซย่าผิงกุย้ ไปสืบข่าวที่โรง
สุราผิงอันต่อ อวีถ้ งั ก็ไม่ได้น่งั ว่าง นางสั่งซานมู่ให้ออกไปข้างนอกทันที “เจ้าไปสืบเรื่องสกุลเจียง
ต่อ ยิ่งละเอียดเท่าไรก็ย่ิงดี” ทัง้ ยังมอบเงินเหรียญไปให้เขาสิบกว่าเหรียญ “ไม่ตอ้ งเสียดายเงิน
ซือ้ เม็ดทานตะวันหรือถั่วลันเตาหวานให้เขาก็ได้”
ซานมู่เคยได้ยนิ อาเสาคุยโวว่า ทํางานให้คณ
ุ หนูใหญ่ไม่เคยไปมือเปล่าเลยสักครัง้ ตอน
นัน้ เขาอิจฉามาก แน่นอนว่าไม่ได้อิจฉาที่อาเสาได้เงินรางวัล แต่นึกอิจฉาที่อาเสาได้รบั ความ
ไว้วางใจจากเจ้านาย วันนีเ้ ขาได้รบั โอกาสนัน้ ย่อมจะประหลาดใจเหลือประมาณ ทัง้ รับคํา
อย่างดีอกดีใจ เขาบรรจงเก็บเงินเข้าถุงผ้าแล้ววิ่งหายไปทันที
เซียงซื่อเห็นแล้วก็หวั เราะ “อายุอาจจะน้อยไปนิด ทําอะไรไม่ค่อยรอบคอบ ต้องฝึ กกัน
อีกหลายปี ”
อวีถ้ งั หัวเราะพลางเอ่ยเอาใจเซียงซื่อว่า “มีพ่ีสะใภ้อยู่ ยังจะกลัวเขาไม่ได้เรื่องอีกรึเจ้า
คะ?”
“ข้าเก่งกาจอย่างที่เจ้าว่าเสียที่ไหน?” เซียงซื่อหน้าแดงเรื่อ
สองคนพูดจาหยอกล้อกันอีกหลายประโยค
เซียงซื่อเสนอว่าให้ออกไปเดินเที่ยวเล่น “ไม่ตอ้ งไปไกล แค่ดขู า้ วของแถวๆ นี”้
โรงเตีย๊ มที่นางพักตัง้ อยู่บนถนนอวิ๋นเหอซึง่ คึกคักเฟื่ องฟูเป็ นอย่างมาก
อวีถ้ งั ย่อมต้องไปเป็ นเพื่อนนาง
สองคนปลดปิ่ นปั กผมและต่างหูออก เปลี่ยนไปใส่เสือ้ ผ้าเนือ้ หยาบ มวยผมจุก แล้ว
พาซวงเถากับซย่าเหลียนออกจากโรงเตีย๊ มไป
990

ด้านข้างเป็ นร้านขายผ้า สองคนเดินเข้าไปดูอยู่ค่อนวัน ตัดสินใจซือ้ ผ้าไหมสีขาวสอง


พับ ผ้า แพรบางสี ข าวสองพับ ผ้า ไหมหัง โจวลายบุป ผาอี ก สี่ พับ แล้ว ให้เ ด็ ก ในร้า นไปส่ง ที่
โรงเตีย๊ ม สําหรับเตรียมตัดชุดฤดูใบไม้รว่ ง ผลปรากฎว่าพอออกจากร้านผ้าไหม ก็เหลือบไปเจอ
ร้านค้าที่ขายชาดทาปากและแป้งผัดหน้าอยู่เยือ้ งออกไปอีกฝั่งหนึ่ง เซียงซื่อสนอกสนใจนัก ลา
กอวีถ้ งั ไปซือ้ นํา้ ยาทาผมและขีผ้ งึ ้ ทาหน้า ทัง้ ซือ้ กลับไปฝากหวังซื่อกับเฉินซื่อด้วยจํานวนหนึ่ง
ชาติก่อนอวีถ้ ังครองตัวเป็ นม่าย จะแต่งตัวแต่งหน้าต้องระวังให้เรียบง่ายเข้าไว้ บัดนี ้
นางอยู่ในช่วงวัยบุปผาเบ่งบาน เสือ้ ผ้ายังพอแต่งไหว แต่เครื่องทาหน้าทัง้ หลายนางกลับใช้ไม่
เป็ น อย่างมากนางก็แค่ใช้ชาดทาปากเท่านัน้ ซึ่งก็นับว่าเป็ นทางการมากแล้ว แต่มีหญิงสาว
บ้านใดบ้างไม่ชอบแต่งเนือ้ แต่งตัว? อวีถ้ งั ที่ดวงหน้าเปล่าเปลือย ก็เพราะกลัวว่าตัวเองจะแต่ง
ออกมาไม่ดี ให้ผอู้ ่ืนหัวเราะเยาะว่าเป็ น ‘คนอัปลักษณ์ทาํ เรื่องประหลาด’ พอมาได้ยินเซียงซื่อ
พูด ทั้ง มองดูดวงหน้าที่ แต่งเติมอย่ างสะอาดเกลีย้ งเกลาดูมี ชีวิตชี ว าของพี่ สะใภ้ จึง อดจะ
กระซิบบอกเซียงซื่อไม่ได้ว่า “พี่สะใภ้ ท่านสอนข้าแต่งหน้าได้หรือไม่? ข้า ข้าทําเรื่องพวกนีไ้ ม่
เป็ น”
เซียงซื่อได้ฟังก็หนั ไปสํารวจอวีถ้ งั อย่างแปลกใจทีหนึ่ง เม้มปากหัวเราะพลางบีบแก้ม
นางไปมา “เช่นนีแ้ ล้วยังจะแต่งเติมอีก ยังจะให้ผอู้ ่ืนมีชีวิตอยู่ต่อหรือไม่ เจ้าน่ะ ไม่ตอ้ งหาเรื่อง
เหน็ดเหนื่อยตัวเองหรอก อย่างเจ้าแค่ถชู าดทาปากก็นบั ว่าใช้ได้แล้ว หากจะแต่งหน้า ยังมิสไู้ ม่
แต่งไม่ได้เลย”
สองคนพูดคุยกระหนุงกระหนิง จนไม่ได้สงั เกตผูอ้ ่ืนที่อยู่รอบข้าง เซียงซื่อพลันชนกับ
คนผูห้ นึ่งเข้า อีกฝ่ ายร้อง ‘ไอหยา’ เสียงอ่อนหวาน เซียงซื่อกับอวีถ้ งั ยังไม่ทนั มองให้ชดั ว่าเป็ น
ผูใ้ ดก็เอ่ยขอโทษขอโพยไม่หยุดปาก พอเงยหน้าขึน้ จึงรู ว้ ่าผูท้ ่ีเซียงซื่อเดินชนเป็ นเด็กสาวอายุ
ประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปี สวมเสือ้ คลุมปั กดิน้ ทองกลางเก่ากลางใหม่ ในมือถือกล่องชาดทา
ปาก ยืนชะมดชะม้อยอยู่ตรงนัน้ ในความงามมีท่าทีไม่เรียบร้อยหลายส่วน ไม่คล้ายสตรีท่ีถูก
เลีย้ งในห้องหอ
อวีถ้ งั ตะลึงค้างเป็ นท่อนไม้
991

เกาซื่อ!
นางถึงกลับเจอเกาซื่อที่น่ี
นี่ช่างเป็ น...เวรกรรมโดยแท้!
ว่าแต่ ทําไมนางถึงมาอยู่ท่ีน่ีได้ละ่ ?
คนปกติหากไปเดินเที่ยวซือ้ ของมักไปเมืองหังโจว
อวีถ้ งั ครุน่ คิด เซียงซื่อทางนัน้ เอ่ยขึน้ มาอย่างร้อนใจว่า “คุณหนู ขอโทษด้วย ชนเจ้าเข้า
ตรงไหนหรือไม่? เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?” จากนัน้ ก็เงยหน้าหันไปมองรอบด้านทีหนึ่ง ก่อนสั่งซ
ย่าเหลียนว่า “เจ้ารีบไปถามดู แถวนีม้ ีรา้ นหมอบ้างหรือไม่ พวกเราจะคุณหนูท่านนีไ้ ปตรวจ
อาการ!”
เพียงแต่ไม่รอให้ซย่าเหลียนรับคํา ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาปรี่ไปประคองเกา
ซื่อทันที แล้วถามอย่างร้อนใจว่า “เกิดเรื่องอะไรขึน้ ?”
ดวงตากลมโตของเกาซื่อคลอเอ่อด้วยนํา้ ตา มองชายหนุ่มร่างสูงและหน้าตาหล่อเหลา
ด้วยท่าทางน่าสงสาร ทัง้ เอ่ยเสียงเครือสะอืน้ ว่า “ท่านพี่ ข้าถูกชนเข้าน่ะ เจ็บเจ้าค่ะ!”
พี่ชาย?!
อวีถ้ งั พิจารณาชายหนุ่มที่เกาซื่อเรียกว่าพี่ชายอย่างละเอียด แต่นึกอย่างไรก็นกึ ไม่ออก
ว่าตนเคยเจอคนผูน้ ีต้ อนไหน
ชายหนุ่มผูน้ นั้ ได้ฟังก็รีบดึงเกาซื่อไปหลบไว้ดา้ นหลัง พูดขึน้ มาอย่างไม่พอใจว่า “พวก
เจ้าคิดจะทําอะไร?”
น้องสาวของตนถูกชน ไม่ควรถามก่อนหรือว่าชนเข้าที่ตรงไหน บาดเจ็บบ้างหรือไม่?
เหตุใดถึงทําหน้าเหมือนจะหาเรื่องกันเช่นนี ้
992

อวีถ้ ังกับเซียงซื่อมึนงง เกาซื่อก็มองอยู่ นางรีบลากชายแขนเสือ้ ของชายผูน้ นั้ ไว้ แล้ว


กระซิบเสียงแผ่วว่า “ข้าไม่เป็ นไร ไม่เป็ นไรเลยเจ้าค่ะ พวกเราควรจะรีบกลับแล้ว! ไม่อยากนัน้
เถ้าแก่คงตามหาท่านแน่”
ชายหนุ่ม ได้ยิ น ดัง นั้น โทสะพลัน มลายหายทัน ที เขาหัน หน้า ไปพูด กับ เกาซื่ อ ด้ว ย
นํา้ เสียงอ่อนโยนว่า “ได้สิ เช่นนัน้ พวกเราก็กลับกันเถอะ” พูดจบ ก็ถลึงตาใส่อวีถ้ งั กับเซียงซื่อ
อย่างดุดนั แล้วโอบเกาซื่อสาวเท้าจากไป
ซย่าเหลียนเดือดปุดๆ จนแทบกระทืบเท้า “คนอะไรเช่นนี!้ ข้าเห็นอยู่ตาํ ตา ทัง้ ๆ ที่นาง
เดินไม่มองทางจนชนนายหญิงกับคุณหนู ยังจะถลาล้มไปอีก ทําราวกับพวกเราเป็ นคนชนนาง
เสียอย่างนัน้ นายหญิงและคุณหนูก็ใจดีเกินไป…”
“ช่างเถอะ!” เซียงซื่อห้ามนางไว้ “ไม่เป็ นไรก็ดีแล้ว ขี่มา้ ลงเรือล้วนอันตราย พวกเราอยู่
ด้านนอก ต้องถ่อมตัวระมัดระวังเอาไว้ หากไม่ก่อเรื่องได้ก็อย่าก่อเรื่อง ในเมื่อทุกคนไม่มีใคร
บาดเจ็บ ก็ถือว่าเป็ นเรื่องเข้าใจผิดฉากหนึ่งเท่านัน้ เจ้าก็ไม่ตอ้ งเอ่ยถึงอีก”
ซย่าเหลียนไม่กล้าพูดต่อ ส่วนเซียงซื่อก็ลากอวีถ้ งั เข้าไปในร้านขายชาดทาปาก
อวีถ้ งั เอาแต่คิดถึงชายหนุ่มคนนัน้ กับชาดทาปากในมือของเกาซื่อ
ชาติก่อน เหมือนว่าเกาซื่อก็ใช้แต่ชาดทาปากชนิดนี ้
อวีถ้ งั ลองสังเกตสินค้าที่ขายในร้านอย่างละเอียด จนเห็นชาดทาปากแบบเดียวกับที่อยู่
ในมือเกาซื่อ นางถามเด็กดูแลร้านว่า “ชาดทาปากนีข้ ายอย่างไร?”
เด็กหนุ่มยิม้ แป้นพลางตอบว่า “นี่เป็ นสินค้าดังของร้านเราขอรับ เรียกว่าดอกท้อเดือน
สาม พอถูชาดทาปากนีแ้ ล้ว ริมฝี ปากจะมีสีเหมือนดอกท้อ…”
อวีถ้ งั ตัดบทเด็กในร้านทันที “กล่องหนึ่งราคาเท่าไร?”
เด็กในร้านไม่กล้าพรรณาข้อดีตอ่ รีบตอบว่า “กล่องละห้าตําลึงขอรับ”
993

อวีถ้ งั สูดลมหายใจเย็นเยือกเข้าปอด
เด็กในร้านฉีกยิม้ พลางเอ่ยว่า “ท่านอย่ามองว่ามันแพง แท้จริงมันมีเหตุผลที่แพง..”
ความคิดของอวีถ้ งั ล่องลอยไปยังชาติท่ีแล้ว
เกาซื่อมีสินเดิม ทว่าสินเดิมของนางไม่ได้มาก อวีห้ ย่วนตอนช่วงปี แรกๆ ก็ยังหาเงิน
ไม่ได้ อย่างน้อยในสายตานาง เกาซื่อไม่มีกาํ ลังจะซือ้ ชาดทาปากชนิดนีต้ ลอดหนึ่งปี ส่ฤี ดูแน่
ความคิดในสมองอวีถ้ ังตีกนั วุ่น นางรวบรวมสติแล้วเลือกซือ้ ของกับเซียงซื่อต่อ เสร็จ
แล้วก็พากันกลับโรงเตีย๊ ม
อวี ห้ ย่ ว นให้ค นมาส่ง ข่ า ว บอกว่า มื อ้ เย็ น จะไม่ ก ลับ มากิ น ข้า วด้ว ย พอถึ ง เวลาจุด
ตะเกียง ซานมู่ท่ีออกไปสืบเรื่องสกุลเจียงก็ว่งิ หน้าตัง้ กลับมา
อวีถ้ งั กับเซียงซื่อกินมือ้ เย็นเรียบร้อยแล้ว สองคนไปคุยกับซานมู่ในห้องของอวีห้ ย่วน
เขาหอบแฮกๆ แล้วกระดกนํา้ ชาไปครึง่ กา ก่อนจะเล่าเรื่องสกุลเจียงให้สองคนฟั งด้วยสี
หน้าหลากอารมณ์ “ข้าไปสืบมาแน่ชดั แล้วขอรับ พวกเขาอาศัยอยู่ในตรอกซูเหมยไม่ห่างจาก
ที่น่ี ผูน้ าํ ของสกุลเจียงคนปั จจุบนั ชื่อว่า เจียงเฉา อายุเพียงยี่สิบสองยี่สิบสามเท่านัน้ ตอนเขา
อายุได้สิบหก บิดาก็มาด่วนจากไป เขาขายเรือของบิดาทิง้ แล้วติดตามไปขับเรือกับท่านลุง
เวลาผ่านไปเพียงสองปี เขาก็ซือ้ เรือลําใหม่มาเริ่มการค้าเพียงของตนเองเพียงลําพัง เรือลํานัน้
ใหญ่กว่าลําที่บิดาทิง้ เอาไว้ให้เขาเสียอีก แต่สองเดือนก่อนหน้านีเ้ อง จู่ๆ เขาก็บอกว่าจะเช่าเรือ
ไปซูลู ทัง้ ยังประกาศระดมหาผูร้ ว่ มหุน้ ด้วย ทุกคนต่างคิดว่าเขาละเมอเพ้อพก คนที่รว่ มหุน้ มีไม่
มาก แต่คนที่รอหัวเราะเยาะกลับมีไม่นอ้ ย”
อวีถ้ งั หัวเราะไม่ได้รอ้ งไห้ไม่ออก “ข้าให้เจ้าไปสืบเรื่องของสกุลเจียง เจ้าพูดเรื่องที่เขา
ระดมทุนเพื่ออะไร?”
ซานมู่หลงประเด็น เขาลูบท้ายทอยแล้วหัวเราะอย่างแก้เขิน “เรื่องในสกุลพวกเขาข้าก็
สืบมาแล้วเช่นเดียวกัน เจียงเฉาไม่มีทงั้ ญาติสนิทหรือว่าคู่หมัน้ เขามีนอ้ งสาวแท้ๆ คนหนึ่ง แต่
994

เล็กก็หมัน้ หมายกับสกุลอู๋ ก่อนจะแต่งไปเมื่อปี ก่อน ตอนนีเ้ ขากับมารดาม่ายสองคนอาศัยอยู่ท่ี


จวนสามชัน้ มีคนคอยรับใช้อยู่อีกเจ็ดแปดคน…”
เจียงหลิง นางแต่งงานแล้วรึ?
อวีถ้ งั ตกตะลึง ถามว่า “เช่นนัน้ เจ้าได้ยินผูอ้ ่นื พูดถึงคนสกุลเจียงบ้างหรือไม่?”
ซานมู่พยักหน้าขึน้ ลง “ได้ยินอยู่ขอรับ บอกว่าคุณหนูสกุลนัน้ เป็ นคนไม่มีโชค เดิมก็
แต่งงานเพราะแก้เคล็ด ใครจะคิดว่าอาการป่ วยของท่านเขยยิ่งเลวร้ายกว่าเก่า บางครัง้ แม่สามี
นางก็เอาไปพูดกับเพื่อนบ้านในตรอก บอกว่าเสียใจที่ตอนแรกให้คนสกุลเจียงแต่งงานเพื่อ
แก้เคล็ดให้”
ไม่ตอ้ งพูดถึงอวีถ้ งั กระทั่งเซียงซื่อได้ฟังยังมุ่นคิว้
อวีถ้ งั ได้แต่ถอนหายใจ
นางเอ่ยว่า “แล้วเจ้าสืบได้หรือไม่ว่าเวลาปกติคนสกุลเจียงผูน้ ัน้ มักไปยังสถานที่แห่ง
ใด?”
ซานมู่ตอบว่า “สืบมาแล้วขอรับ ได้ยินว่าช่วงนีท้ ่านแม่เฒ่าสกุลเจียงสุขภาพค่อนข้าง
แย่ ทุกเช้าคนสกุลเจียงจะกลับไปเยี่ยมสกุลฝั่ งมารดา ส่วนเวลาที่เหลือ ก็จะอยู่ในเรือนคอยรับ
ใช้สามีขอรับ”
อวีถ้ งั รูส้ กึ ว่าซานมู่ทาํ งานได้คล่องแคล่วไม่เลว จึงเอ่ยชมเขา ตบรางวัลเป็ นเงินสิบกว่า
เหรียญไม่พอ ยังบอกให้ซวงเถาไปยกหมูผัดนํา้ แดง ปลาเปรีย้ วหวาน และผัดผักโขมให้เขา
อย่างละหนึ่งจานเพื่อเป็ นอาหารเย็น
ซานมู่ปลืม้ ปริม่ ยินดี เอ่ยขอบคุณซํา้ ๆ หลายรอบ แล้วขอลาไปกินข้าว
เซียงซื่อถามอวีถ้ งั อย่างเป็ นกังวลว่า “เจ้าคิดจะทําอะไรอย่างนัน้ หรือ?”
995

อวีถ้ งั ตอบยิม้ ๆ “ถ้าพี่ชายกลับมาแล้วตอบว่าสามารถค้าขายกับสกุลเจียงได้ ข้าก็จะไป


หาแม่นางสกุลเจียงเสียหน่อย พวกเราอย่างไรก็เป็ นสตรีเหมือนกัน คงไม่อาจตรงเข้าไปหาเจียง
เฉาได้ทนั ที!”
เซียงซื่อถามอย่างวิตกว่า “คนสกุลเจียงไม่ออกมาข้างนอกด้วยซํา้ เจ้าจะไปเจอนางได้
อย่างไร?”
อวีถ้ งั หัวเราะฮ่าๆ เสียงดัง “พวกเราคิดทําการค้าอย่างเปิ ดเผย ต้องการพบเจียงหลิง ก็
แค่เดินเข้าไปขอพบอย่างตรงไปตรงมาก็พอแล้ว เหตุใดจึงจะพบนางไม่ได้เล่า? ต่อให้นางไม่
ยินดีจะพบข้า ข้าไปสักหลายครัง้ หน่อยก็คงสําเร็จเอง คิดว่าไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรแน่”
เซียงซื่ออยากจะบอกว่าเรื่องราวมิได้ราบรื่นและง่ายดายอย่างที่นางพูด แต่พอคําพูด
มาถึงริมฝี ปาก แล้วพิจารณาวาจาของอวีถ้ งั อย่างละเอียด ก็นบั ว่ามีเหตุผลอยู่จริงๆ
นางจึงได้แต่รออวีห้ ย่วนกลับมาด้วยความอดทน
อวีห้ ย่วนกลับมาได้ฟังแล้วก็หวั เราะยกใหญ่ เอ่ยกับเซียงซื่อว่า “น้องสาวข้าคนนี ้ หาก
ลงแรงเพียงห้าส่วนได้ นางจะไม่ใช้แรงสิบส่วนเด็ดขาด แต่เจ้าอย่าว่าไปนะ วิธีการเกียจคร้าน
ของนางนับว่าใช้ได้ไม่เลวเลย” พูดจบ เขาก็ประคองหน้าเซียงซื่อไว้แล้ว ‘จุ๊บ’ ที่ริมฝี ปากนางที
หนึ่ง เขาจูบนางเสียจนมึนงง ดวงหน้าแดงเห่อเหมือนเลือดออก
“ท่านอย่าทําเช่นนี ้ ตรงนีย้ ังมีคนอื่นอีก?” นางบ่นเสียงอ่อน จากนัน้ ถามอวีห้ ย่วนว่า
“ตอนนีจ้ ะเรียกอาอวีม้ าเลยหรือไม่?”
“เรียกมาเถอะ!” อวีห้ ย่วนหัวเราะ “พรุง่ นีข้ า้ ก็ตอ้ งไปทําธุระต่อ”
เซียงซื่อเดินไปตามอวีถ้ งั ด้วยตนเอง
ซานมู่น่ งั ปั กหลักอยู่ท่ีโต๊ะกลมด้านข้าง อวีห้ ย่วนชงชาให้พวกนางด้วยตนเอง จากนัน้ ก็
เล่าเรื่องที่ได้ยินมาวันนีใ้ ห้อวีถ้ งั ฟั ง
996

บทที่ 125 เจียงหลิง


โรงสุราผิงอันมีประตูดา้ นหน้าแยกเป็ นสองฝั่ งอยู่ติดถนน ฝั่ งหนึ่งเป็ นโต๊ะบริการแขก
อีกฝั่ งหนึ่งวางโต๊ะห้าหกตัว นั่งได้เพียงไม่ก่ีคน แต่เมื่อเดินเข้าไปกลับยังมีสถานที่สวยงามซ่อน
อยู่อีก
“ด้านหลังยังมีลานกว้างอีกแห่งหนึ่ง” อวีห้ ย่วนเอ่ยอย่างตื่นเต้น “ปลูกต้นไผ่เป็ นกกกอ
ให้ร่มเงา จัดวางโต๊ะอีกหลายสิบตัว ยามที่ไร้ลมฝนหิมะ ทุกคนล้วนชอบนั่งด้านนอกกันทัง้ นัน้
หากอากาศไม่ดี ก็น่ งั ในห้องแทน…ด้านในแบ่งเป็ นโถงโล่งสามช่อง ข้าสังเกตดูอย่างละเอียด
แล้ว แต่ละโถงสามารถวางโต๊ะได้สิบกว่าตัว ยังมีชนั้ สอง แต่ชนั้ สองล้วนเป็ นห้องส่วนตัว นับว่า
เป็ นครัง้ แรกที่ขา้ ได้เห็นโรงสุราเช่นนี ้ มิน่าเล่าคนจึงมักเดินทางมาที่ซูโจว นับว่าซูโจวดูคึกคัก
กว่าหังโจวจริงๆ” พูดมาถึงตรงนี ้ เขาก็หวั เราะร่า “แต่ก็อาจเป็ นเพราะข้าไม่คอ่ ยได้ไปไหนเช่นกัน
ความรูต้ นื ้ เขิน จึงไม่มีโอกาสเห็นว่าหังโจวดีกว่าที่น่ีตรงไหน”
อวีถ้ งั และเซียงซื่อต่างก็เม้มริมฝี ปากแย้มยิม้
อวีห้ ย่วนยังคงเอ่ยต่อ “ข้าให้เงินเด็กรับใช้ในร้านไปเล็กน้อย เพื่อสืบข่าวของสกุลเจียง”
นี่คอ่ ยนับว่าเข้าสูป่ ระเด็นแล้ว
อวีถ้ งั และเซียงซื่อหยัดกายตรงขึน้ มา
ท่าทีของอวีห้ ย่วนก็เปลี่ยนเป็ นเคร่งขรึมขึน้ “เจียงเฉา ผูด้ แู ลของสกุลเจียง ก่อนหน้านี ้
ไม่เคยทําการค้าทางทะเลมาก่อน ทุกคนจึงไม่ค่อยเชื่อมั่นเขาเท่าใด หลายวันมานีเ้ ขากําลัง
ตระเวนหาผูร้ ่วมหุน้ ไปทุกหนทุกแห่ง จะเป็ นเงินก็ดี ร่วมหุน้ ด้วยสินค้าก็ได้ แต่ครัง้ นีต้ อ้ งการผู้
ร่วมหุน้ ใบชาและเครื่องเคลือบลายครามเท่านัน้ สินค้าอื่นๆ ได้เตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว ข้า
รูส้ กึ ไม่วางใจ เมื่อสบโอกาส ข้าและผิงกุย้ จึงเชิญเด็กในร้านคนนัน้ ไปกินข้าวข้างนอกเพียงลําพัง
ฟั งจากคําพูดของเขา เจียงเฉาอาจจะไม่ใช่หวั หน้า เป็ นไปได้วา่ การค้าทางทะเลครัง้ นีเ้ ขาจะเป็ น
หุน้ ส่วนคนหนึ่งเท่านัน้ ซึ่งการลงทุนครัง้ นี ้ เขารับคนเดียวไม่ไหว ดังนัน้ จึงมาหาหุน้ ส่วนในเมือง
ซูโจว ข้าว่าเรื่องนีเ้ สี่ยงอยู่บา้ ง วางแผนว่าจะไปสืบข่าวพรุง่ นีอ้ ีกครัง้ ”
997

อวี ถ้ ัง พยัก หน้า ระรัว “เช่ น นั้น พวกเราก็ ด าํ เนิ น การไปพร้อ มกัน ข้า ไปสื บ ข่ า วทาง
น้องสาวเจียงเฉา พรุง่ นีจ้ ะเข้าไปหานาง ส่วนท่านก็ไปพบเจียงเฉา”
อวีห้ ย่วนครุน่ คิดเล็กน้อย “ไม่เช่นนัน้ ข้าและพี่สะใภ้เจ้าเข้าไปพบเจียงเฉาด้วยกันดีกว่า
กระมัง? ข้าไม่คอ่ ยมีความมั่นใจเท่าใด”
เซียงซื่อได้ฟังก็ช่ืนชมไม่นอ้ ย
นอกจากสามีจะรู ปงาม ให้ความเคารพรักแก่นางแล้ว ยังสามารถทําเรื่องต่างๆ อย่าง
เป็ นขัน้ เป็ นตอน
ขาดเพียงประสบการณ์อยู่บา้ งเท่านัน้
แม้วา่ จะขาดทุนไปบ้าง ก็นบั ว่าซือ้ ประสบการณ์ ซือ้ บทเรียนก็แล้วกัน
ใครที่ทาํ กิจการไม่เคยพบเรื่องเช่นนีบ้ า้ งเล่า!
อวีถ้ งั ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึง นางมีความสามารถมากกว่าอวีห้ ย่วนเสียอีก
สองพี่นอ้ งร่วมใจกัน ย่อมเกิดพลังที่ย่งิ ใหญ่
ในอนาคตพวกเขาย่อมก้าวหน้าขึน้ เรื่อยๆ
“น้องสาว เจ้าคิดว่าอย่างไร?” เซียงซื่อถามอวีถ้ งั
อวีถ้ งั ก็คิดอยากไปพบเจียงหลิงเพียงลําพังอยู่พอดี อยากจะพินิจพิเคราะห์นิสยั ใจคอ
ของเจียงหลิง นางไปคนเดียว จะพูดคุยสะดวกกว่า
“เช่นนัน้ พี่สะใภ้ก็ไปกับท่านพี่เถิด!” นางเอ่ยด้วยรอยยิม้ “คุณหนูสกุลเจียงนัน้ เป็ นสตรี
พวกเราพูดคุยย่อมไม่มีอะไรให้กงั วล เจียงเฉากลับเป็ นคนห้าวหาญ หากท่านพี่และเขาคุยไม่
ถูกคอ พี่สะใภ้ยงั สามารถเอ่ยประนีประนอมได้”
เซียงซื่อพยักหน้า
998

อวีห้ ย่วนกลับเอ่ยว่า “เจ้ากล่าวว่าเจียงเฉาเป็ นคนห้าวหาญ เจ้าไปได้ยินมาจากไหน


กัน?”
ยามนีอ้ วีถ้ งั จึงเพิ่งรูต้ วั ว่าตัวเองพลัง้ ปากไป ละลํ่าละลักกล่าวเสริม “เขาขายเรือที่บิดา
ทิง้ ไว้ ไปเดินเรือกับลุงของตัวเอง ทัง้ ยังเริ่มเดินสายการค้าทางทะเลในเวลาสัน้ ๆ เพียงสองปี จะ
เห็นได้ว่าคนผูน้ ีไ้ ม่ธรรมดา ไม่เรียกว่าห้าวหาญแล้วจะเรียกว่าอย่างไร?” คล้อยหลังก็ยังเอ่ย
เตือนอวีห้ ย่วน “คนเช่นนี ้ แม้วา่ จะไม่สามารถร่วมมือ แต่ก็ไม่อาจล่วงเกินได้”
“เจ้าวางใจ ข้าจะพิจารณาเองว่าควรทําอย่างไร” อวีห้ ย่วนรับปาก
พี่ชายของตน ภายหลังก็จะเป็ นผูป้ ระคับประคองกิจการของสกุล
อวีถ้ งั ไม่มีอะไรให้ตอ้ งกังวล
เช้าตรู ว่ นั ถัดมา นาง พี่ชายและพี่สะใภ้ก็กินอาหารเช้าด้วยความรวดเร็ว กลับเข้าห้อง
ไปผลัดผ้า แต่งกายใหม่ ก่อนจะเดินทางไปสกุลอวี๋
สกุลอวี๋ห่างจากสกุลเจียงเพียงระยะยิงธนูเท่านัน้ กําแพงสีขาวหลังคาสีเทา ประตูหรูอี ้
1
194 สีดาํ ด้านซ้ายและขวาวางแท่นหินรองประตูทรงสี่เหลี่ยมขนาดครึง่ ลําตัวคน
ดูท่า เมื่อก่อนสกุลอวี๋คงมีคนเคยรับราชการ ทัง้ ยังอยู่ในระดับที่ไม่ธรรมดา อย่างน้อย
ที่สดุ ก็คงเป็ นขุนนางระดับสี่
คนเฝ้าประตูสกุลอวี๋ได้ยินว่ามีคนมาขอเข้าพบสะใภ้ใหญ่ของสกุล ทัง้ ยังมาจากหลิน
อัน จึงตกใจไม่นอ้ ย รีบเร่งเข้าไปรายงานกับเจียงหลิง
เจียงหลิงกําลังปรนนิบตั ิปอ้ นยาสามี เมื่อไถ่ถามอย่างละเอียด กลับไม่ได้ขอ้ มูลสําคัญ
อะไร จึงทําได้เพียงเชิญคนไปยังโถงรับแขก นางส่งมอบธุระในห้องเสร็จสรรพแล้ว ก็เปลี่ยน
เสือ้ ผ้าก่อนไปพบแขก

1
ประตูหรูอี ้ คือประตูเข้าเรือนด้านหน้าในสมัยโบราณประเภทหนึ่ง มีเสาคานและหลังคาปกคลุม
999

จากที่ไกลๆ นางก็เห็นสตรีผหู้ นึ่งสวมเสือ้ คลุมผ้าหังโฉวสีเขียวอมนํา้ เงิน มวยผมทรงก้น


หอย หยัดกายตรงยืนชื่นชมรูปห้าสตรีอวยพรญาติผใู้ หญ่ท่ีแขวนอยู่กลางห้องโถง
แสงอบอุ่นของรุ ่งอรุ ณสาดส่องบนร่างของนาง คล้ายไผ่เขียวชอุ่มที่กาํ ลังแตกใบงอก
งาม เป็ นภาพที่ทาํ ให้คนมองประทับใจอย่างลึกลํา้
นางใบหน้าร้อนผ่าว เข้าประตูก็กล่าวอธิบาย “ไม่ก่ีวนั ก่อนแม่สามีขา้ เพิ่งฉลองวันเกิด
จึงไม่ทนั ได้ปลดลงมา”
ภาพวาดที่แขวนอยู่กลางห้องโถงมักจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลต่างๆ เวลานี ้ ควร
จะแขวนรูปจําพวกนกบุปผาหรือผลไม้ แต่รา่ งกายคุณชายใหญ่อวี๋แย่ลงทุกวัน คนในเรือนล้วน
ไม่มีใจจะให้ความสําคัญเรื่องพวกนี ้
อวีถ้ ังไม่ทราบเวลาที่คุณชายใหญ่อวี๋จากไปอย่างแน่ชัด แต่เมื่อครุ ่นคิดดูก็เหมือนจะ
เป็ นยามนี ้ ฟั งจบก็อดสลดใจไม่ได้
“นายหญิ งน้อยกล่าวเกินไปแล้ว” นางเผยยิม้ อย่างเกรงใจ หมุนกายเอ่ย “ไม่มีใคร
กําหนดว่าควรจะแขวนภาพอะไรเสียหน่อย ตัวเองชื่นชอบสิ่งใดย่อมเป็ นเรื่องสําคัญที่สดุ ”
เมื่อเจียงหลิงเห็นใบหน้าของอวีถ้ งั อย่างชัดเจน ชั่วขณะนัน้ ก็รูส้ กึ ว่าเบือ้ งหน้าสว่างไสว
ขึน้ มา
นางพบเห็นสาวงามมามาก แต่สตรีอย่างอวีถ้ ังที่นอกจากใบหน้าสะสวย บุคลิกงาม
สง่าดุจหยก ทัง้ ยังพร่างพราวสดใสดั่งบุปผานับว่าพบเห็นน้อยยิ่ง
นางอดเอ่ยไม่ได้ “คุณหนูคือ?”
เจียงหลิงกลัวว่าอวีถ้ งั จะเป็ นสหายเก่าของสกุลอวี๋
อวีถ้ งั พบเจียงหลิงกลับตกใจเสียกว่า
1000

ในความคิดของนาง สตรีท่ีทาํ เรื่องไม่ดอ้ ยไปกว่าผูช้ ายอย่างเช่นเจียงหลิง แม้ว่าจะไม่


เป็ นคนคิว้ หนาตาโต หลังตรงสูงเพรียว ก็ควรเป็ นผูห้ ญิงที่ใบหน้าเคร่งขรึม ท่าทีรอบคอบจริงจัง
แต่มองเจียงหลิง นางกลับรู ปร่างพอๆ กับตนเอง ค่อนข้างผอมบาง ใบหน้าที่ขนาดเท่าฝ่ ามือ
เห็ น เพี ยงดวงตากลมโตกระจ่ างใส ขนตายาวราวกับพัดเล็ก ๆ ที่ เ รีย งตัว ใบหน้า อ่อนเยาว์
รอยยิม้ ฝื ดเฝื่ อน ไหนเลยจะเหมือนนายหญิงน้อยที่รบั ผิดชอบดูแลเรื่องในเรือน กลับจะเหมือน
คุณหนูท่ียงั ไม่รูป้ ระสาเสียมากกว่า
ชั่วพริบตานัน้ อวีถ้ งั ถึงกระทั่งสงสัยว่าตัวเองมาหาคนผิดหรือไม่
“ท่าน ท่านก็คือนายหญิงน้อยของสกุลเจียง” นางเอ่ยอย่างลังเล “เป็ นน้องสาวของนาย
ท่านเจียงเฉาใช่หรือไม่?”
เจียงหลิงถอนหายใจอย่างโล่งอก
ในเมื่อเอ่ยถึงพี่ชายของนาง จะเห็นได้ว่าคงจะเป็ นญาติไม่ก็สหายเก่าทางสกุลเจียง
นางไม่รูจ้ กั พี่ชายนางก็คงรูจ้ กั
“เช่นนัน้ ท่านคือ?” นางถามอวีถ้ งั อย่างระมัดระวัง
อวีถ้ งั แย้มยิม้ เอ่ยถึงจุดประสงค์ท่ีมา “ข้าสกุลอวี ้ มาจากหลินอัน ท่านอาจจะไม่เคยได้
ยินมาก่อน สกุลของพวกเราทํากิจการเครื่องลงรัก หลายวันนีข้ า้ และพี่ชายมาซือ้ สีแถวนี ้ ได้ยิน
ว่านายท่านเจียงอยากทําการค้าทางทะเล กําลังหาผูร้ ว่ มหุน้ ชายหญิงมีธรรมเนียมที่เคร่งครัด
ข้า ไม่ อ าจไปหานายท่ า นเจี ย งตรงๆ จึ ง ทํา ได้เ พี ย งมาหยั่ง เชิ ง จากท่ า น ดูว่า พวกเราพอจะ
สามารถเป็ นหุน้ ส่วนกันได้หรือไม่”
แม้เจียงหลิงจะไม่รูจ้ กั นาง แต่ก็เกิดความรูส้ กึ ดีกบั นางไม่นอ้ ย ไม่สนิทชิดเชือ้ กับตัวเอง
กลับกล้าเข้ามาหา นี่ทาํ ให้เจียงหลิงนับถืออย่างยิ่ง
นางเชิ ญ อวี ถ้ ัง ดื่ ม ชาอย่ า งเป็ น มิ ต ร เอ่ ย ถึ ง การค้า ของพี่ ช ายนางขึ น้ มา “ขอบคุณ
คุณหนูอวีใ้ ห้ความสนใจ เพียงแต่ขา้ ไม่เคยยุ่งกับการค้าของพี่ชายมาก่อน แต่ขา้ ทราบเรื่องที่เขา
1001

หาผูร้ ว่ มหุน้ ดี พี่ชายข้าเป็ นคนซื่อตรง หากพวกเจ้าสามารถร่วมหุน้ ได้ ย่อมมิอาจทําให้พวกเจ้า


เสียเปรียบ ทั้งแต่ไหนแต่ไรพี่ชายข้าก็ทาํ เรื่องเหมาะสมมาโดยตลอด สตรีร่วมลงทุน ย่อมมี
ผูด้ แู ลหญิงคอยจัดการโดยเฉพาะ ข้าจะให้คนเรียกผูด้ แู ลหญิงของสกุลพวกเรามาเดี๋ยวนี ้ ท่าน
มีเรื่องอะไรก็ถามนางได้ หรือจะฝากคําพูดให้นางไปบอกพี่ขา้ ก็ได้เช่นกัน”
มีผูด้ แู ลหญิงจัดการโดยเฉพาะ หรือยังมีสตรีอีกมากมายที่ร่วมหุน้ กับการค้าของเจียง
เฉา?
อวีถ้ ังขบคิดอยู่ในใจ ภายนอกกลับไม่ปรากฏท่าทีใด เอ่ยยิม้ กับเจียงหลิง “เช่นนัน้ ก็
รบกวนนายหญิงน้อยแล้ว”
“รบกวนที่ใดกัน!” เจียงหลิงเกรงใจอย่างยิ่ง ให้คนไปเรียกผูด้ แู ลหญิงของสกุลเจียงมา
ทันที ไม่ถามมากความว่าอวีถ้ ังทราบเรื่องที่สกุลพวกเขากําลังหาผูร้ ่วมหุน้ ได้อย่างไร ทั้งไม่
สงสัยว่าอวีถ้ งั หาที่อยู่ของนางพบได้อย่างไรเช่นกัน
อวีถ้ งั ลอบขมวดคิว้ ในใจ
เดิมทีเจียงหลิงผูน้ ีก้ ็ไม่ได้หลักแหลมเหมือนที่ล่าํ ลือขนาดนัน้ !
นางรู ส้ ึกขัดแย้งอยู่ในใจ ยามที่กาํ ลังรอผูด้ แู ลหญิงของสกุลเจียงก็คยุ กับเจียงหลิงต่อ
“ไม่ทราบว่านายหญิงน้อยร่วมหุน้ กับการค้าครัง้ นีข้ องนายท่านเจียงไปเท่าใด?”
เจียงหลิงได้ยินพลันเผยสีหน้าลําบากใจขึน้ มา พูดอึกอักอยู่พกั ใหญ่ กระนัน้ อวีถ้ งั ก็ฟัง
ไม่ออกแม้แต่นอ้ ย
หรือไม่ได้รว่ มหุน้ ?
อวีถ้ งั ตกใจจนหน้าถอดสี
เวลานีเ้ จียงหลิงจึงค้นพบว่าตัวเองทําเรื่องพลาดไป
1002

คนในเมืองซูโจวล้วนไม่เชื่อมั่นว่าพี่ชายของนางจะทําการค้าทางทะเลได้ นางที่เป็ น
น้องสาวควรจะเป็ นคนแรกที่ยืนหยัดสนับสนุนพี่ชายตัวเอง หากให้คนอื่นรูว้ ่ากระทั่งนางก็ไม่ได้
ร่วมหุน้ กับพี่ชาย คนอื่นก็คงไม่เชื่อมั่นในตัวพี่ชายนางมากขึน้ อีก
นางละลํ่าละลักอธิบาย “ข้าย่อมอยากร่วมหุน้ แต่ท่านก็เห็น ยามนีข้ า้ เป็ นสะใภ้ของ
สกุลอวี๋ เรื่องทําการค้า จําต้องถามสามีของข้าก่อน ลําพังแค่หลายวันมานีส้ ามีขา้ ก็ยงั ป่ วยหนัก
จึงไม่ได้หาโอกาสเอ่ยถึงเรื่องนีม้ าโดยตลอด…”
อวีถ้ งั รูส้ กึ เหนื่อยใจ นางฝื นยิม้ เอ่ยรับว่า “ไม่เป็ นไร”
เจียงหลิงยังต้องการอธิบายอีก แต่ผดู้ แู ลหญิงของสกุลเจียงกลับมาถึงก่อน
ผูด้ แู ลหญิงคนนัน้ รู ปลักษณ์ธรรมดา อายุประมาณสามสิบปี ผิวขาวผ่อง ยังมีไฝเล็กๆ
ที่มมุ ปาก
เมื่อเห็นอวีถ้ งั นางก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะคํานับให้เจียงหลิง ยังไม่ทนั ที่เจียงหลิงจะ
เอ่ ย ก็ ก ล่ า วขึ น้ ก่ อ น “นายหญิ ง น้อ ย ท่ า นมี เ รื่ อ งอัน ใดเจ้า คะ?” พูด จบ ก็ ม องอวี ถ้ ัง อย่ า ง
ระแวดระวังไปที
เจียงหลิงเล่าจุดประสงค์ท่ีอวีถ้ ังมาให้ผูด้ ูแลหญิ งฟั งด้วยรอยยิม้ ทัง้ ยังแนะนําผูด้ แู ล
หญิงให้อวีถ้ งั ว่า นางสกุลเจียงเช่นกัน ให้อวีถ้ งั เรียกนางว่า ‘แม่นางเจียง’ ก็เพียงพอแล้ว
อวีถ้ ังทักทายแม่นางเจียง แม่นางเจียงคํานับตอบ ก่อนจะไถ่ถามเบือ้ งลึกเบือ้ งหลัง
ของอวีถ้ ัง “คุณหนูอวีม้ าจากหลินอันรึ? ไม่ทราบว่ายังมี ใครมาด้วยหรือไม่? ไฉนจึงมาซือ้ สี
นํา้ มัน ที่ ซูโ จวเพีย งลํา พัง ได้? แล้ว เหตุใดจึง อยากร่ว มหุ้น กับการค้า ของสกุลเจี ย งพวกเรา?
วางแผนจะร่วมหุน้ คนเดียว หรือจะร่วมหุน้ กับคนในครอบครัวด้วย?”
หญิงสาวบางคนย่อมใช้โอกาสเช่นนีห้ าเงินส่วนตัวเข้ากระเป๋ าตัวเอง
นี่เป็ นคําตอบที่อวีถ้ งั เตรียมมาตอบคําถามของเจียงหลิง ทว่าเจียงหลิงกลับไม่ถามสัก
คํา เป็ นแม่นางเจียงที่ถามแทน
1003

“ข้าเป็ นสตรีในสกุลเพียงคนเดียว มีญาติผพู้ ่ีอีกหนึ่งคน ครัง้ นีอ้ อกจากเรือน มาพร้อม


กับญาติผพู้ ่ีและพี่สะใภ้...” ยามนีอ้ วีถ้ งั ผิดหวังกับเจียงหลิงอยู่บา้ ง เอ่ยถึงจุดประสงค์ท่ีมาของ
ตัวเองกับแม่นางเจียงอย่างเรียบนิ่ง
แม่นางเจียงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึง่ แต่ยงั คงแสดงความต้อนรับ เอ่ยว่า “นี่เป็ นเรื่องสําคัญ
อย่างไรคุณหนูกลับไปปรึกษากับญาติผพู้ ่ีแล้วค่อยวางแผนอีกทีเถิด!”
1004

บทที่ 126 เจียงเฉา


นี่ก็เป็ นความคิดของคนทั่วไป
เจียงหลิงยังคอยเสริมอยู่ดา้ นข้าง “ใช่แล้วคุณหนูอวี!้ เรื่องร่วมหุน้ ทางพวกเรายังว่าง่าย
ประเด็ น อยู่ท่ี เ จ้า ต้อ งหารื อ กับ คนในครอบครัว ก่ อ น ครอบครัว เจ้า จะได้ไ ม่ โ ทษว่า พวกเรา
หลอกลวงเจ้า”
อวีถ้ ังกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เอ่ยเป็ นมารยาทกับเจียงหลิงและแม่นางเจียงไม่ก่ีคาํ ก็
บอกลาจากมา
แม่นางเจียงอดตําหนิเจียงหลิงไม่ได้ “นายหญิงน้อยไม่ควรยุ่งเรื่องพวกนีน้ ะเจ้าคะ หาก
มีคนมาหาอีก ท่านบอกไปว่าไม่รูก้ ็เพียงพอแล้ว”
แม่นางเจียงเป็ นข้ารับใช้สินเดิมของมารดาเจียงหลิง เป็ นคนที่เห็นเจียงหลิงตัง้ แต่เล็ก
จนเติบใหญ่ หลังจากบิดาของเจียงหลิงป่ วยตาย มารดาก็ป่วยตาม โชคดีท่ีเรื่องน้อยใหญ่ใน
เรือนสกุลเจียงมีแม่นางเจียงคอยจัดการ เจียงหลิงจึงให้ความเคารพนางไม่นอ้ ย ด้วยเหตุนีน้ าง
จึงไม่คิดว่าแม่นางเจียงพูดผิดแต่อย่างใด กลับเอ่ยปลอบแทน “ข้าก็ทาํ เพราะเป็ นห่วงการค้า
ของท่านพี่มิใช่ร?ึ ภายหลังหากพบเจอเรื่องเช่นนีอ้ ีก ย่อมจะให้เจ้าเข้ามาดูก่อน”
แม่นางเจียงได้ฟังก็สงสารทัง้ จนใจ ทําได้เพียงดึงมือของเจียงหลิง “นายหญิงน้อย ที่
ไม่ให้ท่านยุ่งเรื่องพวกนีก้ ็เป็ นความต้องการของนายท่านเช่นกัน อย่างไรท่านก็ฟังคําขอของข้า
หน่อยเถิด! คนอย่างเช่นคุณหนูอวี ้ ใครจะรู ว้ ่าวางแผนอันใดอยู่ หากสกุลพวกเขาอยากจะทํา
การค้ากับสกุลพวกเราจริงๆ เหตุใดไม่ไปหานายท่าน กลับอ้อมค้อมมาหาท่านเช่นนี?้ ”
บางทีอวีถ้ งั อาจจะคิดว่านางพูดง่ายกว่ากระมัง?
เจี ย งหลิ ง ลอบพึม พํา อยู่ใ นใจ ใบหน้า กลับ ไม่ ปรากฏท่า ที ใ ด ยัง คงส่ง แม่น างเจี ย ง
ออกไปด้วยรอยยิม้
1005

ด้านอวีถ้ งั กลับคิดว่าท่าทีเมื่อครูข่ องตัวเองไม่ถกู ต้องนัก


บางทีเจียงหลิงอาจจะเป็ นเหมือนนางก็ได้ ต้องผ่านเรื่องราวอะไรบางอย่างจึงจะค่อยๆ
เก่งกาจขึน้ มาได้
เดิมทีนางก็อยากพบหน้าเจียงหลิงเท่านัน้ ดูว่าเจียงหลิงเป็ นคนอย่างไร ยามนีไ้ ด้พบ
เป้าหมายก็บรรลุแล้ว ควรนับว่าเสร็จสมดั่งใจปรารถนา
อวีถ้ งั กลับมาขบคิดที่โรงเตีย๊ ม
อวีห้ ย่วนและเซียงซื่อยังไม่กลับมา
อวีถ้ งั จึงกินข้าวกลางวันเพียงคนเดียว คิดว่าพรุ ง่ นีเ้ ช้าตรูก่ ็จะกลับหลินอันแล้ว นางจึง
จัดเก็บข้าวของที่ซอื ้ มาให้เป็ นระเบียบเรียบร้อย
ในยามนีอ้ วีห้ ย่วนและภรรยาจึงค่อยกลับมา
แต่ทงั้ สองคนล้วนกลับมาด้วยใบหน้าแย้มยิม้ ดูท่าคงจะทําเรื่องได้ดีไม่นอ้ ย
อวีถ้ งั รีบถามพวกเขาทัง้ สองว่าได้กินข้าวมาหรือยัง
“กินแล้ว กินแล้ว” เซียงซื่อดื่มชาที่ซวงเถารินให้ไปหนึ่งคํา ก่อนเอ่ยกับอวีถ้ งั อย่างดีใจ
“วันนีพ้ วกเราโชคดีไม่นอ้ ย เพราะพี่ชายเจ้าให้ค่าเหนื่อยเด็กรับใช้ท่ีโรงสุราคนนัน้ เขาจึงเอาใจ
ใส่พวกเราอย่างยิ่ง เมื่อเย็นวานนีก้ ็ไปพบผูด้ แู ลคนหนึง่ ของลุงเจียงเฉา จึงได้สืบเรื่องการค้าของ
เจียงเฉามาอย่างละเอียด”
อวีถ้ งั ได้ยิน ก็ปรี่เข้าไปนั่งข้างเซียงซื่อทันที ยังผลักจานของว่างให้เซียงซื่ออย่างว่องไว
เซียงซื่อหยิบขนมหนึ่งชิน้ ด้วยรอยยิม้ เอ่ยต่อ “ยังคงเป็ นเหมือนที่พ่ีชายเจ้าสืบมาเมื่อ
วานจริงๆ ครัง้ นีเ้ ขาเดินเรือกับครอบครัวสกุลหวังทางหนิงปั ว สกุลนั้นก็เหมือนกับเขา ช่วย
เจ้าของเดินเรือมาหลายสิบปี ยามนีเ้ จ้าของไม่อยู่แล้ว ลูกชายทัง้ สองของเจ้าของทะเลาะแยก
สกุลกัน เขาจึงวางแผนออกมาทําคนเดียว เรียกกันว่ากลุม่ เรือ แต่ในความเป็ นจริงเป็ นกลุ่มเรือ
1006

ที่รว่ มกันจัดตัง้ กับหลายสกุล สกุลหวังมีเรือเพียงลําเดียว ส่วนสกุลเจียงก็เป็ นหุน้ ส่วนในเรือลํานี ้


เท่านัน้ คล้อยหลังข้าและพี่เจ้าก็ไปพบเจียงเฉา”
พูดถึงตรงนี ้ นางก็ลอบชื่นชม เอ่ยว่า “คาดไม่ถึงจริงๆ ว่าเจียงเฉาคนเดินเรือผูน้ นั้ จะมี
ท่าทีสภุ าพเรียบร้อย คล้ายบัณฑิตคนหนึ่ง แต่วาจาการกระทํากลับโผงผางตรงไปตรงมา เห็น
พวกเรา ก็ไม่พดู โม้โอ้อวดเกินจริง เล่าสถานการณ์คร่าวๆ ให้พวกเราฟั ง ยังบอกอีกว่ายามนีเ้ ขา
มี ทุ น ไม่ พ อ ติ ด ขั ด อยู่ บ ้า ง แต่ เ ขาก็ ล งทุ น ทรัพ ย์สิ น ทั้ ง หมดของสกุ ล ไปเช่ น กั น ย่ อ มให้
ความสําคัญกับเงินของพวกเราเหมือนเป็ นเงินของเขา”
พูดมาถึงตรงนี ้ อวีถ้ งั ก็เห็นท่าไม่ดีอยู่รางๆ
นี่พ่ีสะใภ้นางเห็นเจียงเฉาเป็ นคนที่น่าเชื่อถือไปแล้ว!
อวีถ้ งั อดเงยหน้าขึน้ ไปมองอวีห้ ย่วนไม่ได้
อวีห้ ย่วนนั่งอยู่ตรงข้ามพวกนาง ฟั งเซียงซื่อพูดด้วยรอยยิม้ เมื่อเห็นอวีถ้ งั มองมาทาง
เขา เขาก็ผงกศีรษะส่งยิม้ ให้นาง ก่อนจะรับบทสนทนาของเซียงซื่อ “อาถัง น่าเสียดายที่วนั นีเ้ จ้า
ไม่ได้ไปพบเจียงเฉากับพวกเรา ข้าคิดว่าเจ้าพูดมีเหตุผล เขาเป็ นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง
จริงๆ หลังจากข้าและพี่สะใภ้เจ้าปรึกษากัน ก็ตกลงร่วมหุน้ สี่พนั ตําลึง สองพันตําลึงเป็ นของข้า
เงินส่วนตัวพี่สะใภ้เจ้าอีกหนึ่งพันตําลึง ส่วนอีกหนึ่งพันตําลึง ข้าช่วยรับปากแทนเจ้า”
อวีถ้ งั นิ่งอึง้
เรื่องราวสับสนปนเป แทบจะจะสูญเสียการควบคุมอย่างสิน้ เชิง
“ไม่ใช่” นางเอ่ยอย่างกระอึกกระอัก “ข้าไม่ได้กล่าวว่าให้หยั่งเชิงสถานการณ์ของเขา
ก่อนหรอกรึ? เรื่องร่วมหุน้ ต้องระวัง...”
ใครจะรูว้ ่าอวีห้ ย่วนกลับโบกไม้โบกมือ “บางครัง้ ก็ตอ้ งทําเรื่องเด็ดขาดเช่นนี ้ คิดไปคิด
มา ก็ย่อมรู ส้ ึกว่ามีความเสี่ยง แต่เมื่อทําจริงๆ แล้ว เจ้าจึงค่อยพบว่าแม้บางทีความเสี่ยงใน
1007

จินตนาการของเจ้าจะร้ายแรง ไร้หนทางแก้ไข แต่เมื่อทําแล้วกลับเป็ นเรื่องง่ายราวกับปอก


กล้วยเข้าปากเท่านัน้ ”
“ใช่แล้ว!” เซียงซื่อเอ่ยรับ “อาถัง ข้าคิดว่าเจียงเฉาพูดมีหลักการไม่นอ้ ย ทัง้ พี่เจ้าก็เอ่ย
ไปแล้ว แม้เรื่องนีพ้ วกเราจะตัดสินใจแล้ว แต่หลังจากกลับไปยังต้องปรึกษากับท่านอา เรื่องเงิน
สี่พนั ตําลึง หากท่านอาคิดว่านี่เป็ นการค้าที่ดี พวกเราสองครอบครัวก็ออกกันคนละครึ่ง หาก
ท่านอารู ส้ ึกว่าเสี่ยงเกินไป ก็ทาํ เหมือนที่พวกเราพูดกันก่อนหน้า พวกเราลงทุนมาก ส่วนพวก
เจ้าลงทุนแค่ส่วนเดียว แต่เจียงเฉาก็บอกแล้ว ไม่ว่าการค้าอะไรล้วนมีความเสี่ยงทัง้ นัน้ ความ
เสี่ยงมาก กําไรก็ย่งิ มาก การค้าครัง้ นี ้ ความเสี่ยงก็สงู เช่นกัน ข้าจึงคิดว่า หากเรือไม่อาจกลับมา
อย่า งที่เจี ย งเฉาว่า เงิน หนึ่งพันตําลึงนั้นของเจ้า ข้า จะจ่ายคืนให้เ จ้าก็เพีย งพอแล้ว เจ้าไม่
จําเป็ นต้องกังวล”
อวีถ้ งั นัน้ พูดไม่ออกโดยสิน้ เชิง
เจียงเฉาผูน้ ี ้ พี่ชายและพี่สะใภ้นางเพียงเคยพบครัง้ แรก ก็คล้ายถูกมนต์สะกดมิปาน
เอาแต่คิดจะทําการค้ากับเขา
เขาเก่งกาจขนาดนัน้ ไฉนยังต้องตามหาผูร้ ว่ มหุน้ อย่างเอิกเกริกใหญ่โตเช่นนีล้ ะ่ ?
อวีถ้ งั คิดว่าหากนางคัดค้านในยามนี ้ มีแต่จะทําให้พ่ีชายและพี่สะใภ้ผิดหวัง มิสรู้ อให้
พวกเขาเป็ นฝ่ ายล่าถอยเอง “ตกลงกันหรือยังว่าจะส่งมอบเงินยามใด?”
เงินสี่พนั ตําลึงไม่ใช่จาํ นวนน้อยๆ เลย
ทัง้ ไม่มีใครจะพกเงินติดกายมากมายขนาดนัน้
ขอเพียงแค่ยงั ไม่สง่ เงินให้เจียงเฉา อํานาจก็ย่อมอยู่ในมือของพวกนาง
อวีห้ ย่วนเอ่ยทัง้ รอยยิม้ “เจ้าก็รูว้ ่าพวกเราไม่ได้พกเงินมามากมายเพียงนัน้ ? ข้าวางเงิน
มัดจําไปสามร้อยตําลึง ตกลงกันว่าสิบวันให้หลังจะนําเงินส่วนที่เหลือมาให้”
1008

อวี ถ้ ัง รู ส้ ึก ว่า ไม่ ค วรรั้ง อยู่ใ นสถานที่ แ ห่ ง นี ต้ ่ อ แม้เ สี ย้ ววิ น าที เ ดี ย ว นางเร่ง เร้า ทัน ที
“เช่นนัน้ ก็ดี พรุง่ นีเ้ ช้าตรู ่ พวกเรากลับหังโจวก่อน ถึงหลินอันแล้วค่อยวางแผนกันใหม่”
อวีห้ ย่วนและเซียงซื่อพยักหน้าระรัว ทัง้ ยังชวนอวีถ้ ังไปเดินเล่นซือ้ ของข้างนอกอย่าง
เบิกบานใจ “พรุง่ นีก้ ็ตอ้ งกลับแล้ว พวกเรายังไม่ได้ดรู า้ นค้าเครื่องลงรักของซูโจวดีๆ เลย!”
อวีถ้ ังก็กลัวว่ากลับไปจะไม่มีอะไรส่ง มอบเป็ นชิน้ เป็ นอัน แยกกับเซียงซื่อไปหวี ผม
เปลี่ยนเสือ้ ผ้า ก่อนจะไปเดินเล่นกับพวกอวีห้ ย่วน
ก็ไม่รูว้ ่าอวีห้ ย่วนและเซียงซื่อมีเรื่องอะไรให้ตอ้ งคุยมากมายเพียงนัน้ เดินไหล่กระทบ
กันไปมา กระทั่งคนขายลูกกวาดก็ยงั มองรื่นหูร่นื ตาไปหมด
อวี ถ้ ัง เบะปาก เมื่ อสบโอกาสก็ดึงซย่าผิงกุ้ยมาถาม “เจ้า ได้พ บนายท่านเจียงผูน้ ั้น
หรือไม่?”
“ได้พบขอรับ” ซย่าผิงกุย้ กระตือรือร้นขึน้ มา “นายท่านเจียงผูน้ นั้ ยอดเยี่ยมไม่นอ้ ย แทบ
จะประคองสกุลด้วยมือเปล่า ข้าก็คิดว่าครัง้ นีค้ ณุ ชายใหญ่ควรร่วมหุน้ ด้วย ท่านล่ะคิดอย่างไร
คนอย่างนายท่านเจียง ภายหลังย่อมต้องเจริญรุง่ เรือง รูจ้ กั กันในยามตํ่าต้อย ภายหลังคุณชาย
ใหญ่คงสามารถเฟื่ องฟูตามไปด้วยแน่”
นางฟั งแล้วก็คิดว่านายท่านเจียงผูน้ ีม้ ีความสามารถเช่นกัน
กระทั่งซย่าผิงกุ้ยที่มีหลักการกระทําเรื่องเหมาะสมที่สุดในสกุลพวกเขาก็ยังเกิดใจ
สั่นคลอนได้
อวีถ้ งั เสียใจอยู่บา้ งที่ไม่ได้ตามพี่ชายและพี่สะใภ้ไปรูจ้ กั กับเจียงเฉา
แต่วา่ หลังจากนีอ้ ีกสิบวันที่สง่ มอบเงิน ยังคงมีโอกาสอยู่
อวีถ้ งั ครุน่ คิดในใจ
1009

มี บ างคํา ที่ ซ ย่ า ผิ ง กุ้ย พู ด ถู ก รู ้จั ก กั น ในยามต้อ ยตํ่า ความสัม พัน ธ์ไ มตรี ย่ อ มไม่
เหมือนกับคนทั่วไป ในเมื่อเป็ นเช่นนี ้ ไม่ว่าการค้าครัง้ นีจ้ ะขาดทุนหรือได้กาํ ไร สกุลพวกเขาก็
ควรร่วมลงทุน แต่ส่พี นั ตําลึง ก็มากเกินไป อยากหาวิธีเกลีย้ กล่อมให้พ่ีชายร่วมลงทุนน้อยกว่านี ้
หน่อย แค่ให้ถือว่าเป็ นใบผ่านทางก็เพียงพอแล้ว
นางมีเรื่องหนักอึง้ อยู่ในใจ ยากที่จะไม่คิดฟุ้งซ่าน
ยามบ่ายเข้าร้านอะไรบ้าง พบสิ่งของแปลกใหม่อนั ใด แทบจําไม่ได้โดยสิน้ เชิง กลับเป็ น
ยามที่จะกลับบ้าน ยิ่งเข้าใกล้บา้ น เห็นฉากทิวทัศน์ท่ีคนุ้ ตา ในใจค่อยรูส้ กึ ผ่อนคลายลงไม่นอ้ ย
ไม่แปลกใจที่ทกุ คนล้วนไม่ชอบห่างจากบ้านเกิดเมืองนอน
ลุงใหญ่และป้าสะใภ้ใหญ่รอพวกนางอยู่ในเรือนนานแล้ว
เซียงซื่อและอวีถ้ งั นําของฝากที่ซอื ้ มาแจกจ่ายให้กบั ทุกคน แม้อวีป้ ๋ อจะเผยใบหน้าเรียบ
นิ่ง แต่นา้ํ เสียงก็กระฉับกระเฉงกว่ายามปกติ เผยความชื่นชอบออกมา “สีนา้ํ มันที่พวกเจ้าซือ้
มาถึงตัง้ แต่เช้าตรู ่แล้ว ข้าตรวจดูแล้ว ยังพอใช้ได้ ภายหลังเรื่องพวกนีก้ ็มอบให้อาหย่วนและ
ผิงกุย้ แล้วกัน ส่วนเรื่องทางภูเขา เจ้าก็พกั ไว้ก่อนเถิด ปี นนั้ ก็เพราะคนอื่นติดหนีจ้ งึ มอบที่ให้สกุล
เรา นี่ก็หลายชั่วอายุคนแล้ว นอกจากสามารถเก็บฟื นเก็บไม้ ก็ไม่อาจทําอะไรได้อีก พวกเจ้าก็
อย่าได้ทรมานตัวเองเลย เสียเงินเสียแรงไปเปล่าๆ”
อวีห้ ย่วนไม่ใช่คนที่ยอมละทิง้ อะไรง่ายๆ ยิ่งไปกว่านัน้ ต้นซาจี๋พวกนีเ้ พิ่งจะปลูกติด ทํา
ได้หรือไม่ได้ พูดตอนนีย้ งั เร็วเกินไป แต่เขาก็เป็ นคนที่ไม่ชอบต่อปากต่อคํากับผูใ้ หญ่ อวีป้ ๋ อพูด
อะไร เขาก็นอ้ มรับอย่างเคารพ ส่วนต่อไปจะทําอย่างไรนัน้ เขาจะตัดสินใจเอง
ด้วยเหตุนีห้ ลังจากทุกคนกิ นข้าวเสร็จแล้ว ซย่าผิงกุย้ กับเด็กในร้านอีกสองคนกลับ
ร้านค้าไป อวีห้ ย่วนจึงหยิบยืมโอกาสที่ส่งครอบครัวของอวีเ้ หวินกลับเรือน พูดเรื่องเจียงเฉา
กับอวีเ้ หวินขึน้ มา แต่ยงั ไม่ได้พดู ว่าจะร่วมหุน้ เท่าใด
1010

อวีเ้ หวินได้ยินก็หวั เราะเสียงดัง เอ่ยกับเฉินซื่อ “ข้าว่าแล้ว สองคนนีอ้ อกไปย่อมก่อเรื่อง


อะไรแน่ๆ! ครัง้ ที่แล้วไปรายงานกับสกุลกู้ ส่วนครัง้ นี ้ จับตาดูการค้าทางทะเลของคนอื่น ทัง้ ยัง
ตัดสินใจร่วมหุน้ กับสกุลอื่นโดยพลการ!” ขณะที่พดู เขาก็ส่ นั ศีรษะ “ช่างเป็ นดั่งที่ว่าลูกชายโต
แล้วไม่ฟังพ่อ ลูกสาวโตแล้วรัน้ แม่จริงๆ!”
ตัง้ แต่เฉินซื่อแต่งงานกับอวีเ้ หวิน หากในเรือนไม่เกิดเรื่องนัน้ ก็เกิดเรื่องนีอ้ ย่างไม่หยุด
หย่อน ยามนีเ้ ห็นเขาเอ่ยถึงหลานชายและลูกสาว ก็อดตําหนิขนึ ้ มาไม่ได้ “นี่ไปเรียนมาจากใคร
กันล่ะ? ไม่ใช่ผใู้ หญ่อย่างเจ้าที่เป็ นแบบอย่างไม่ดีหรอกรึ ยามที่อาหย่วนและอาถังยังเล็กก็สอน
พวกเขาว่ามีโอกาสต้องรีบคว้าไว้ ไม่ใช่วา่ พวกเขาเชื่อฟั งเจ้า จึงได้เปลี่ยนเป็ นเช่นนีก้ นั หรอกรึ?”
คําพูดของนางพาให้อวีเ้ หวินอ้าปากค้างอํา้ อึง้ ไม่รูว้ า่ ควรเอ่ยอะไรดี
อวีห้ ย่วนและอวีถ้ งั ก็หวั เราะอยู่ดา้ นข้างเช่นกัน
แม้ว่าจะพูดเช่นนัน้ อวีเ้ หวินยังคงรัง้ ฝี เท้า แยกจากเฉินซื่อและอวีถ้ งั มาคุยกับอวีห้ ย่วน
เพียงลําพัง
รูว้ า่ พวกเขาอยากร่วมหุน้ การค้าทางทะเลกับเจียงเฉา อวีเ้ หวินก็ขมวดคิว้ เป็ นปม “คนผู้
นีเ้ จ้ารูจ้ กั เขาดีแล้วรึ?”
1011

บทที่ 127 พบกันอีกครั้ง


อวีห้ ย่วนชะงักไป
อวีเ้ หวินมองสองแม่ลกู ที่กาํ ลังคล้องแขน พูดคุยอะไรกันบางอย่างด้วยความดีอกดีใจ
ก่อนเอ่ยเสียงเบา “พรุง่ นีต้ อนเช้า เจ้าเข้ามาพบข้าก็แล้วกัน”
อวีห้ ย่วนผงกศีรษะ วันถัดมาก็ไปหาอวีเ้ หวินที่เรือนโดยไม่ได้แตะข้าวเช้าสักคํา
อวีเ้ หวินนัดคุยกับอวีห้ ย่วนในห้องหนังสือ
หลังจากอวีถ้ งั รูเ้ รื่องนีก้ ็ตามไปห้องหนังสือเช่นกัน
อวีห้ ย่วนเอ่ยอย่างจนใจ “นี่เจ้ากลัวข้าพูดไม่ชดั เจนอย่างนัน้ รึ?”
“ไม่ ใช่น ะเจ้า คะ!” อวี ถ้ ัง เอ่ย “เรื่องนี ก้ ็ เ กี่ ย วกับข้า เช่น กัน ข้า อยากจะฟั ง ด้ว ยเพียง
เท่านัน้ ”
อวีเ้ หวินรู ส้ กึ ปวดหัว จึงเอ่ยกับอวีห้ ย่วน “เจ้าไม่ตอ้ งสนใจนางหรอก นางจะฟั งก็ปล่อย
ให้นางฟั งไป แม้พวกเราจะไม่ให้นางฟั ง แต่จากนิสยั นางแล้วก็คงจะแอบฟั งอยู่ดี”
อวีห้ ย่วนหัวเราะลั่น
อวีถ้ งั ใบหน้าขึน้ สี แสร้งทําเป็ นไม่รูไ้ ม่ชีน้ ่งั อยู่ขา้ งอวีห้ ย่วน
อวีเ้ หวินส่ายศีรษะทัง้ รอยยิม้ เอ่ยกับอวีห้ ย่วน “เจ้าบอกว่าเจียงเฉาดีอย่างนัน้ ดีอย่างนี ้
เจ้าเคยเห็นเรือของเขาแล้วรึ? รูว้ า่ ยังมีใครที่รว่ มหุน้ กับเขาอีกหรือไม่? ทัง้ หุน้ ส่วนพวกนีท้ าํ อาชีพ
อะไร? เจ้าทราบเรื่องพวกนีท้ ะลุปรุโปร่งแล้วหรือยัง?”
อวีห้ ย่วนไม่อาจตอบคําถามได้
ด้านอวีถ้ งั กลับโล่งใจ
คาดไม่ถึงว่าบิดาของนางก็มียามที่พ่งึ พาได้เช่นกัน
1012

แต่ความคิดนีก้ ็วาบขึน้ มาในสมองเพียงชั่วครูเ่ ท่านัน้ ก่อนจะได้ยินบิดาของนางเอ่ยต่อ


“ใช่ว่าข้าอยากจะห้ามอะไรพวกเจ้า อย่างไรเงินที่ได้จากการประมูลแผนที่ก็เป็ นทรัพย์ท่ีได้มา
โดยไม่คาดฝัน หมดแล้วก็ไม่เป็ นไร สิ่งที่สาํ คัญคือ พวกเจ้าอย่าได้ตกหลุมพรางของผูอ้ ่นื จะเป็ น
คนโง่ท่ีปล่อยให้คนอื่นหลอกลวงไม่ได้เชียว”
อวีถ้ งั รูส้ กึ ว่าเท้าลื่นขึน้ มากะทันหัน
ที่แท้บิดาของนางก็ยงั คงเป็ นบิดาที่...
อวีห้ ย่วนได้ฟังก็เอ่ยเสริมทันที “ไม่อย่างนัน้ ข้าไปซูโจวอีกสักครัง้ สืบเรื่องพวกนัน้ ที่ทา่ น
ว่ามาอย่างละเอียด?”
อวี เ้ หวิ น ครุ ่น คิ ด เล็ ก น้อ ย “ช่ า งเถิ ด ข้า จะไปกับ เจ้า แล้ว กัน ! พวกเจ้า อายุยัง น้อ ย
ประสบการณ์มีไม่มาก”
ความนัยของวาจานีค้ ือพวกเขาทําเรื่องไม่น่าเชื่อถือพอ
อวีห้ ย่วนได้ฟังก็ราวกับยกภูเขาออกจากอก
อวีถ้ งั กลับหนักใจขึน้ มาอีกครัง้ “ท่านพ่อ พวกเราจะไปเมื่อใดกัน?”
นางเตรียมของฝากให้หม่าซิ่วเหนียงเช่นกัน เมื่อวานยังพูดเป็ นมั่นเป็ นเหมาะกับมารดา
แล้วว่าอีกเดี๋ยวจะเข้าไปหาหม่าซิ่วเหนียง
ใครก็คาดไม่ถึงว่าอวีเ้ หวินจะเอ่ย “ครัง้ นีข้ า้ จะไม่พาเจ้าไปด้วย เจ้าเป็ นสตรี ออกไปข้าง
นอกไม่ค่อยงามนัก หากเจ้ามีเวลาว่าง ก็ไปดูทางร้านค้า ช่วยเหลือลุงใหญ่เจ้าให้มากๆ หน่อย
เถิด”
อวีถ้ งั ยู่ปาก
อวีเ้ หวินเอ่ย “นี่ก็เป็ นความต้องการของแม่เจ้าเช่นกัน นางกลัวว่ายิ่งเจ้าออกไปข้างนอก
ก็จะยิ่งคิดทะเยอทะยาน”
1013

ภายหลังยามที่รบั ลูกเขยเข้าสกุลจะเลือกมาก มองไม่เห็นหัวใคร กลายเป็ นหญิงเฒ่าที่


แต่งไม่ออก
อวีถ้ งั ลองขบคิด ชายหญิงมีธรรมเนียมที่เข้มงวด นางไม่เหมาะจะไปหยั่งเชิงเจียงเฉา
จริงๆ ให้บิดานางเข้าไปก็เพียงพอแล้ว แต่ว่า จากคําพูดของอวีห้ ย่วน เจียงเฉาผูน้ ีค้ งวาทศิลป์
เป็ นเลิศ จําต้องเตือนบิดาล่วงหน้า ไม่อาจทําให้บิดาเป็ นเหมือนญาติผพู้ ่ีได้ ถูกเขาล่อลวงจนจับ
ทิศทางไม่ถกู
“ท่านพ่อ” นางเอ่ยเตือนบิดาด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านไปซูโจวกับท่านพี่ก็ดี พูดมากไปก็
ไร้ป ระโยชน์ สิ บ ปากว่า ไม่ เ ท่ า ตาเห็ น ข้า ไม่ เ คยพบเจี ย งเฉา แต่ ไ ด้ยิ น จากท่ า นพี่ ว่า เขามี
ความสามารถพอตัว ทัง้ ท่านพี่เพิ่งจะพบกับเขาครัง้ เดียว ก็ตดั สินใจร่วมหุน้ แล้ว ว่ากันตามหลัก
เมืองซูโจวมีสกุลมั่งคั่งมากมาย ไฉนเจียงเฉายังต้องตระเวนเสาะหาผูร้ ว่ มหุน้ ไปทุกหนทุกแห่ง?
เรื่องนีค้ วรจะเป็ นประโยชน์กับเขามากกว่า? เหตุใดกลับปล่อยให้พวกเราที่เป็ นคนต่างถิ่นมา
แบ่งผลประโยชน์เล่า?”
อวีห้ ย่วนและอวีเ้ หวินสติลอ่ งลอยอยู่พกั ใหญ่
อวีถ้ ังจึงเอ่ยต่อ “ยังดีท่ีหนิงปั วอยู่ไม่ไกลจากพวกเรามาก หากมีความจําเป็ น ท่านก็
ไปหนิงปั วได้ ดูว่าสกุลหวังเป็ นสกุลแบบไหนค่อยกลับมาก็ไม่นบั ว่าสาย แม้จะกล่าวว่าเงินพวก
นัน้ ได้มาจากการประมูล เป็ นทรัพย์ท่ีได้มาโดยไม่คาดฝัน แต่อย่างไรก็เป็ นเงินก้อนหนึ่ง ทัง้ นาย
ท่านสามยังให้ความช่วยเหลือ จะทําให้สกุลรุง่ เรืองเฟื่ องฟูหรือสูญค่าไปมหาศาล ก็ลว้ นขึน้ อยู่
กับพวกเราว่าใช้อย่างไร ท่านพ่ออย่าได้คิดตืน้ เขินเกินไป นึกถึงตอนแรก หากพวกเรามีเงินก้อน
นี ้ การรักษาอาการป่ วยของท่านแม่ก็คงไม่ยากลําบากขนาดนัน้ ”
นางทําได้เพียงใช้เรื่องนีม้ าโน้มน้าวบิดา
ชาตินีเ้ พราะการเปลี่ยนแปลงของนาง เรื่องในสกุลส่วนมากจึงเกิดความเปลี่ยนแปลง
ไปหมด สิ่งที่ทาํ ให้บิดารูส้ กึ ลําบากใจก็มีเพียงอาการป่ วยของมารดาเท่านัน้
1014

อวีเ้ หวินพยักหน้าระรัว “ข้าเข้าใจแล้ว อีกเดี๋ยวข้าจะไปบอกกล่าวกับลุงใหญ่เจ้าสัก


หน่อย ช่วงนีเ้ จ้าอยู่ท่ีเรือน ก็ดแู ลปรนนิบตั ิป้าสะใภ้ใหญ่แทนพี่ชายเจ้าดีๆ อย่าให้ขา้ เป็ นกังวล
แล้วกัน”
อวีถ้ งั กระตุกรอยยิม้ นึกถึงเรื่องนีข้ ึน้ มา “ข้าอาจจะกลับไปที่เรือนเก่าเสียหน่อยเจ้าค่ะ
ดูวา่ ต้นซาจี๋พวกนัน้ เติบโตเป็ นอย่างไรบ้าง”
อวี เ้ หวิน ได้ฟั ง ก็ ช่ื น ใจไม่ นอ้ ย “ยัง นับว่า เจ้า มี ความตั้ง ใจ หากเจ้า ทํา อะไรก็ เลิกล้ม
กลางคัน ภายหลังข้าย่อมจะไม่ช่วยเจ้าอีก”
อวีถ้ ังตระหนักได้ว่าก่อนหน้านีอ้ วีเ้ หวินตระเวนสืบข่าวเรื่องปลูกต้นไม้ให้นางไปทั่ว
สารทิศ ก็เผยยิม้ ละลํ่าละลัก รินชาส่งให้อวีเ้ หวิน เอ่ยอย่างอ่อนหวาน “ทราบแล้วเจ้าค่ะ! ท่าน
พ่อวางใจ ข้าจะเชื่อฟั ง ปลูกต้นไม้ให้โตเป็ นอย่างดีเลยเจ้าค่ะ”
อวีเ้ หวินขานรับ ‘อืม’ อย่างพอใจ กําชับอวีถ้ งั อีกไม่ก่ีคาํ ก่อนจะไปหาอวีป้ ๋ อพร้อมอวีห้ ย่
วน

อวีถ้ งั นําเสือ้ ผ้าเด็ก ทัง้ ของเล่นพวกกลองไม้ท่ีเตรียมไว้ให้หม่าซิ่วเหนียงมาห่อดีๆ ก่อน


จะเดินทางไปหานาง
หม่าซิ่วเหนียงเหลือเวลาอีกเดือนกว่าก็จะให้กาํ เนิดแล้ว ท้องใหญ่โต เท้าก็บวมจนสวม
รองเท้าไม่ได้ ทําเอาอวีถ้ งั ตกใจยกใหญ่
นางรีบเข้าไปประคองหม่าซิ่วเหนียงที่มาต้อนรับตน เอ็ดว่า “เจ้าก็จริงๆ เลย สภาพ
เช่นนีย้ งั จะมาต้อนรับข้าอีก? แค่ส่เี ชวี่ยก็เพียงพอแล้ว”
สาวใช้ของหม่าซิ่วเหนียงที่ช่ือสี่เชวี่ยก็เอ่ยเช่นกัน “ใช่เจ้าค่ะ! คุณหนูอวี ้ ท่านก็ช่วยข้า
กล่อมนายหญิงน้อยด้วยเถิดเจ้าค่ะ! หากนางมีเรื่องอะไรให้กาํ ชับข้าก็พอแล้ว อย่าได้ขยับกาย
ส่งเดชเลยเจ้าค่ะ”
1015

หม่าซิ่วเหนียงอ้วนท้วมขึน้ ไม่นอ้ ย ใบหน้ากลมราวกับจานเงิน นางเอ่ยด้วยรอยยิม้


“ไม่ได้มีอะไรร้ายแรงอย่างที่พวกเจ้าว่าเสียหน่อย แต่หากครัง้ นีข้ า้ สามารถคลอดได้อย่างราบรื่น
ก็ตอ้ งขอบคุณอาถังแล้ว”
“ข้ารึ?” อวีถ้ งั เบิกตากว้างอย่างไม่เข้าใจ
หม่าซิ่วเหนียงดึงอวีถ้ งั ไปในห้อง พลางเอ่ย “ไม่ใช่ว่าหมอหลวงหยางมาตรวจสุขภาพ
มารดาเจ้าทุกเดือนหรอกรึ? ไม่ก่ีวนั ก่อนยามที่ขา้ กับไปหาเจ้าที่เรือน ได้ยินว่าเจ้าไปเมืองซูโจว
กลับพบเข้ากับหมอหลวงหยางพอดี เขาเห็นข้า จึงถือโอกาสจับชีพจรให้ กล่าวว่าเด็กแข็งแรงดี
แต่ให้ขา้ กินมากๆ ขยับเขยือ้ นกายบ่อยๆ มิเช่นนัน้ อาจจะคลอดยาก นี่ไม่ใช่วา่ ข้าฟั งหมอหลวงห
ยางจึงหมั่นขยับเคลื่อนไหวหรอกรึ พวกเจ้าจะห้ามข้าไม่ได้เชียว”
สี่เชวี่ยยิม้ ขื่น “ให้ท่านหมั่นขยับเขยือ้ น ก็ไมได้หมายความว่าให้ท่านทําอย่างนัน้ ทํา
อย่างนีไ้ ด้ทกุ อย่างนะเจ้าคะ! บอกท่าน ท่านก็ไม่ฟัง”
หม่าซิ่วเหนียงหัวเราะ ก่อนจะนั่งลงบนตั่งไม้ขา้ งอวีถ้ งั ไม่รอให้ส่เี ชวี่ยยกชาขึน้ โต๊ะ นาง
ก็เอ่ยถามอวีถ้ งั ด้วยรอยยิม้ ก่อน “ซูโจวสนุกหรือไม่?”
“สนุก !” อวี ถ้ ัง เล่ า เรื่ อ งที่ ป ระสบพบเจอในซู โ จวให้ห ม่ า ซิ่ ว เหนี ย งฟั ง อย่ า งออกรส
ช่วงเวลานัน้ ก็ถือโอกาสนําของฝากเล็กน้อยออกมาให้หม่าซิ่วเหนียง “ข้าเห็นว่าน่าสนใจก็ซอื ้ มา
ก็ไม่รูว้ ่าซือ้ มาถูกหรือไม่...ข้าและพี่สะใภ้ลว้ นไม่เคยซือ้ พวกของเล่นเด็กมาก่อน แต่เถ้าแก่
เจ้าของร้านบอกว่าควรซือ้ ประมาณนี”้
หม่าซิ่วเหนียงขอบคุณ ก่อนจะส่งให้ส่ีเชวี่ย เอ่ยอย่างอิจฉา “พี่สะใภ้คนนีข้ องเจ้าเลือก
ได้ดีไม่นอ้ ย ภายหลังหากน้องสะใภ้ขา้ ดีเหมือนพี่สะใภ้เจ้าก็คงดีไม่นอ้ ยเช่นกัน”
อวีถ้ งั หัวเราะ นึกถึงเรื่องในอดีตที่หม่าซิ่วเหนียงให้อวีถ้ งั เลือกน้องชายนางมาเป็ นเขย
จึงเอ่ยหยอกเย้า “ไม่อย่างนัน้ ตอนนีเ้ จ้าก็หาคู่ให้นอ้ งชายเจ้าเสียเลย รีบแต่งเข้ามา ก็จะได้
อบรมสั่งสอนดีๆ ย่อมสามารถเป็ นเหมือนพี่ชายพี่สะใภ้และข้า ต่างก็มีความสัมพันธ์ท่ีดีตอ่ กัน”
1016

หม่าซิ่วเหนียงก็นกึ ถึงเรื่องนีข้ นึ ้ มาเช่นกัน


ทัง้ สองคนคุยเล่นเรื่องนีอ้ ยู่พกั ใหญ่
อวีถ้ งั อยู่ท่ีสกุลจางจนฟ้ามืดจึงค่อยกลับเรือน เมื่อกลับไปก็ได้ยินว่าบิดาและญาติผพู้ ่ี
จะนั่งเรือไปซูโจวพรุ ่งนีเ้ ช้า วันรุ ่งขึน้ จึงไปส่งอวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วน หลังจากนัน้ ก็เชื่อฟั งคําสั่ง
ของอวีเ้ หวิน ไปตรวจดูรา้ นค้าอยู่สองวัน ยามนีจ้ ึงค่อยบอกกล่าวกับผูใ้ หญ่ ก่อนจะพาอาเสา
และซวงเถากลับไปเรือนเก่าด้วยกัน
ไม่รูว้ ่าเพราะปู่ ห้าปล่อยวางเรื่องลูกหลานไม่ได้หรือนับวันอากาศยิ่งร้อนระอุขึน้ เรื่อยๆ
จึงทําให้การกลับมาครัง้ นี ้ ปู่ ห้าดูแก่ชราลงไม่นอ้ ย ได้ยินว่าอวีถ้ งั จะไปดูพืน้ ที่แถวภูเขาก็ไม่คิด
จะไปด้วย กลับเรียกเด็กของสกุลอวีค้ นหนึ่งมานําทาง ทัง้ เรียกภรรยาของลูกพี่ลกู น้องที่เป็ น
ญาติห่างๆ มาช่วยทําอาหารต้อนรับอวีถ้ งั
อวีถ้ งั นั่งพูดคุยเป็ นเพื่อนปู่ หา้ อยู่พกั หนึ่งก่อนจะขึน้ เขาไป
ผูท้ ่ีเชิญมาช่วยดูแลต้นไม้ก็พกั อยู่บนเขา ได้รบั จดหมายว่าอวีถ้ งั จะเข้ามา จึงมาคอย
อยู่ท่ีตีนเขาตัง้ นานแล้ว
อวีถ้ งั และผูด้ แู ลขึน้ เขาไปพร้อมกัน
ต้นไม้ในพืน้ ที่ภเู ขานีไ้ ม่ค่อยเจริญเติบโตได้ดีเท่าใดจริงๆ ฤดูกาลนี ้ บนเขาของคนอื่นดู
เขียวชอุ่ม ต้นไม้ซอ้ นกันหนาทึบ ดูรม่ รื่นเย็นสบาย แม้ว่าบนเขาของพวกเขาจะเขียวขจี แต่กลับ
มีเพียงไม้ดอกและต้นไม้เล็กๆ สลับซ้อนกันไป หากคิดจะหลบแสงแดดยังต้องหาร่มไม้ ดีท่ีตน้
ซาจี๋พวกนัน้ ปลูกไว้ท่ีตีนเขา เดินขึน้ ไม่ก่ีกา้ วก็ถึงแล้ว นางจึงไม่ถึงกับต้องตากแดดไปตลอดทาง
คาดไม่ถึงว่าต้นซาจี๋ท่ียา้ ยมาจากสวนดอกไม้หลังจวนสกุลเผยจะขึน้ เป็ นพุ่มเขียวชอุ่ม
แม้วา่ จะไม่ออกดอก แต่ก็แตกกิ่งก้านใหม่
1017

ผูด้ แู ลต้นไม้ฉวยโอกาสกล่าวชมตัวเอง “ทุกวันข้าล้วนดูแลรดนํา้ ต้นไม้พวกนี ้ เช้าตรูต่ ่ืน


มาดูหนึ่งครัง้ ยามเย็นก่อนจะนอนก็ดอู ีกครัง้ ทะนุถนอมใส่ใจยิ่งกว่าเลีย้ งเด็กในบ้านเสียอีก ไม่
กล้าประมาทแม้แต่นอ้ ยขอรับ”
อวีถ้ ังเป็ นคนใจกว้าง ไม่ว่าเขาจะพูดจริงหรือโกหก แต่เรื่องที่ตน้ ไม้เจริญเติบโตได้ดี
กลับเป็ นความจริง
นางให้เงินเป็ นรางวัลกับเขาเล็กน้อย
ผูด้ แู ลคาดไม่ถึงอย่างยิ่ง เอ่ยขอบคุณซํา้ ๆ ก่อนกล่าว “คุณหนู ยามที่ถึงฤดูใบไม้ร่วง
อยากให้ขา้ ช่วยตัดฟื นตากแห้งหรือไม่ขอรับ?”
อวีถ้ ังมาไม่บ่อยนัก เขากลัวว่าครัง้ ถัดไปที่อวีถ้ ังมาจะล่วงเลยเวลาตัดฟื นแล้ว...การ
ขายฟื นในฤดูหนาว ต้องฉวยโอกาสในช่วงฤดูใบไม้รว่ งที่อากาศตอนกลางวันร้อนจัด นําฟื นมา
ตากแห้งจึงจะสามารถขายได้ราคาดี
อวีถ้ งั คิดว่าต้นซาจี๋ในปี นีค้ งไม่มีหวังแล้ว คนผูน้ ีก้ ็นบั ว่ายินดีทาํ การทํางาน สามารถตัด
ฟื นขาย อย่างไรก็ถือว่าเป็ นรายได้
“เช่นนัน้ ก็รบกวนเจ้าแล้ว” นางเอ่ยอย่างเกรงใจ
ผูด้ แู ลต้นไม้รูส้ กึ ตกใจที่ได้รบั ความเมตตาอย่างคาดไม่ถึง ยิ่งคิดว่านางเป็ นเจ้านายที่ดี
คนหนึ่ง จึงเอ่ยประจบประแจง “ตรงนัน้ ก็ปลูกถั่วลิสงจํานวนหนึ่งตามที่ท่านกําชับไว้เช่นกัน จะ
ไปดูเสียหน่อยหรือไม่ขอรับ?”
ในเมื่อมาแล้ว ย่อมต้องเข้าไปดู
ทัง้ สองคนเดินไปดูถ่ วั ลิสงอีกด้านหนึ่งของภูเขา
ผูด้ แู ลต้นไม้เดินอยู่ขา้ งหน้า ยังคงเอาแต่บน่ พึมพํา “รออีกไม่ก่ีวนั ก็คงได้กินถั่วลิสงแล้ว
ถึงเวลานัน้ ข้าจะบอกกล่าวกับปู่ ห้า ให้เขาหาคนส่งไปให้ท่านในเมืองหลินอัน จะได้กินอย่างสด
ใหม่...”
1018

อวีถ้ งั เอาแต่ระวังฝี เท้า พยักหน้าส่งเดชไป พลันหางตากลับเหลือบเห็นคนเดินผ่านไป


จากทางเล็กๆ ฝั่งตรงข้ามของป่ า
นางหยุดฝี เท้าลง
ทําให้ซวงเถาที่เดินตามหลังเกือบเดินชนนาง
“เกิดอะไรหรือเจ้าคะคุณหนู?” ซวงเถาเอ่ย
อวีถ้ งั ชีไ้ ปที่ชายหนุ่มตรงข้ามที่มีท่าทีรีบเร่ง “เจ้าลองมองดีๆ ชายผูน้ นั้ คือคนที่พวกเรา
พบที่รา้ นขายเครื่องประทินโฉมในซูโจวใช่หรือไม่?”
ซวงเถาเขย่งเท้าเพ่งมองอย่างละเอียด “คล้ายอยู่เจ้าค่ะ แต่มองจากตรงนีอ้ อกจะไกล
อยู่บา้ ง ยามที่อยู่รา้ นค้าก็ไม่ได้สนใจ ไม่รูว้ า่ ใช่หรือ...”
อวีถ้ งั กลับเห็นว่าคล้ายอย่างยิ่ง
นางออกคําสั่งกับอาเสา “เจ้าตามไปดู สืบว่าคนผูน้ นั้ เป็ นใคร?”
1019

บทที่ 128 ปิ ดทอง


หลังจากนัน้ อวีถ้ งั ก็ใจลอยอยู่ตลอด จวบจนบ่าย อาเสาก็ยงั ไม่กลับมา แต่นางต้องกลับ
เข้าไปในเมืองแล้ว จึงทําได้เพียงถ่ายทอดคําพูดกับปู่ ห้า “หากอาเสากลับมาก็บอกว่าพวกเรา
กลับเรือนก่อนแล้ว ให้เขาอยู่พกั ที่น่ีสกั คืนแล้วค่อยกลับไป” ก่อนจะกําชับญาติห่างๆ ผูน้ นั้ ให้
ทําอาหารเผื่ออาเสาไว้ดว้ ย
หลังจากญาติผนู้ นั้ รับปาก เช็ดมือกับกระโปรงอย่างเอื่อยเฉื่อยแล้ว อวีถ้ งั จึงกลับเข้าไป
ในเมือง
วันถัดมาอาเสาก็กลับมาในช่วงกลางวัน
เขาร้อนจนเหงื่อไหลชุ่มหน้า ใช้แขนเสือ้ เช็ดเหงื่อ พลางเอ่ยกับอวีถ้ งั “คุณหนูใหญ่ ข้า
สืบอย่างละเอียดแล้ว คนผูน้ นั้ ชื่อเกาฉี เป็ นคนป่ านเฉียว สกุลเปิ ดร้านขายของชํา มีนอ้ งชาย
และน้องสาวหนึ่งคน” พูดมาถึงตรงนี ้ เขาก็หวั เราะขึน้ มา “จะว่าไปแล้ว คนผูน้ ีก้ ็มีความข้อง
เกี่ยวกับสกุลพวกเราเช่นกัน คุณชายสามสกุลเว่ยแต่งงานกับลูกพี่ลกู น้องของสกุลพวกเขา แต่
ว่า คนผูน้ ีช้ ่ือเสียงไม่ค่อยดีเท่าใด ได้ยินว่าตัง้ แต่เล็กก็เร่คา้ ขายขึน้ เหนือล่องใต้ ปลิน้ ปล้อนกลับ
กลอกอยู่บา้ ง คนรอบกายจึงไม่คอ่ ยชอบเขาเท่าใด”
อวีถ้ งั ตกตะลึง
คาดไม่ถึงว่าชายผูน้ นั้ จะเป็ นพี่ชายของเกาซื่อ ภรรยาในชาติก่อนของอวีห้ ย่วน
ชาติก่อน นางเคยได้ยินว่าเกาซื่อมีพ่ีชายที่มีความสามารถคนหนึ่ง เพียงแต่ไม่รูเ้ พราะ
เหตุใดพี่ชายที่ว่านีจ้ ึงแตกคอกับบิดา หลังจากออกไปเตร็ดเตร่กบั คนอื่นด้านนอกก็ไม่กลับมา
อีกเลย ทุกครัง้ ที่เกาซื่อเอ่ยถึงพี่ชายคนนี ้ ดวงตาก็จะเปล่งประกาย เห็นอวีห้ ย่วนก็ย่ิงรู ส้ กึ ขัดหู
ขัดตา คิดว่าอวีห้ ย่วนไร้ความสามารถ ด้วยเหตุนีอ้ วีห้ ย่วนจึงเจ็บชํา้ นํา้ ใจมิใช่นอ้ ย ครัง้ หนึ่งยัง
เคยรํ่าสุราเมามายจนพลัดตกคลอง หากไม่ใช่วา่ ถูกคนช่วยไว้ทนั เวลา ก็คงจะจมนํา้ ตายไปแล้ว
อวีถ้ งั ละอายใจอยู่บา้ ง คิดว่าตัวเองไม่ใส่ใจพี่ชายเกินไป
1020

นางเอ่ยกับอาเสา “คาดไม่ถึงว่าคนที่พวกเราพบจะเป็ นลูกพี่ลกู น้องของนายหญิงน้อย


สามสกุลเว่ย ข้าก็ว่าไฉนจึงคุน้ หน้าคุน้ ตา? อาจจะเป็ นเพราะพวกเขาหน้าตาละหม้ายคล้ายกัน
กระมัง!”
อาเสาหัวเราะแหะๆ
เรื่องนีจ้ งึ ปล่อยผ่านไปเช่นนี ้
วันนีอ้ วีถ้ งั กลับมาจากร้านค้า เห็นผูเถาตรงหลังเรือนบางส่วนสุกแล้ว จึงถือกรรไกรกับ
ตะกร้าใบหนึ่งไปเก็บกับซวงเถา คาดไม่ถึงว่าหม่าซิ่วเหนียงกลับมาเรือนของนางด้วยท้องที่โต
โย้เย้
อวีถ้ ังตกใจอย่างยิ่ง รีบพยุงหม่าซิ่วเหนียงไปนั่งในโถงรับแขก ให้ซวงเถาไปยกต้มถั่ว
เขียวที่ซาวล้างด้วยนํา้ บ่อเข้ามา
ใครจะรู ว้ ่าหม่าซิ่วเหนียงไม่ทนั ได้ย่ืนมือมารับชาม ก็ถูกเฉินซื่อที่เร่งตามเข้ามาขัดไว้
ก่อน “พวกเจ้าสองคนสะเพร่าเกินไปจริงๆ หม่าซิ่วเหนียงใกล้คลอดแล้ว ถั่วเขียวมีฤทธิ์เย็น เป็ น
ของที่นางสามารถกินได้ร?ึ ซวงเถา เอาถั่วเขียวต้มให้อาถัง เข้าไปยกนํา้ แกงเม็ดบัวเข้ามา”
ซวงเถาตกใจยกใหญ่ แทบจะทําชามตกแตก รีบส่งชามถั่วเขียวต้มให้อวีถ้ งั ก่อนจะวิ่ง
ไปห้องครัว
“อาสะใภ้!” หม่าซิ่วเหนียงประคองเอวจะหยัดขึน้ มา
เฉินซื่อกลับเดินอย่างรวดเร็วไปอยู่ขา้ งหม่าซิ่วเหนียง พยุงนางไว้ “เจ้าก็ทอ้ งแก่ขนาดนี ้
แล้ว ยังจะมาอ่อนน้อมถ่อมตัวอะไรกับอาสะใภ้อีก? รีบนั่งลงเข้า ระวังเอวเคล็ดด้วย” ก่อนจะ
กําชับอวีถ้ งั “เจ้าไปเอาผลไม้แห้งในห้องข้ามาเป็ นของว่างให้พ่ีซิ่วเหนียงของเจ้าเสียหน่อยเถิด”
อวีถ้ งั รีบไปนําผลไม้แห้งเข้ามา
1021

เฉินซื่อและหม่าซิ่วเหนียงหยัดกายนั่งลงกันแล้ว เอ่ยถึงเรื่องเด็กในครรภ์ดว้ ยนํา้ เสียง


นุ่มนวล “ผ้าห่มและพวกเสือ้ ผ้านําไปซักผึ่งแดดแล้วหรือยัง? อาบนํา้ ต้องใช้ดอกสายนํา้ ผึง้ 1 195

แป้งทาก้นเตรียมไว้ดีแล้วกระมัง?”
หม่าซิ่วเหนียงแย้มยิม้ ค่อยๆ ตอบทีละคําถาม
อวีถ้ งั วางจานผลไม้แห้งลงเบือ้ งหน้าหม่าซิ่วเหนียง ซวงเถาก็ยกนํา้ แกงเม็ดบัวตามเข้า
มาเช่นกัน
เฉินซื่อเอ่ยด้วยรอยยิม้ “รีบดื่มเสียหน่อยเถิด จะได้มีแรงเดิน”
หม่าซิ่วเหนียงเอ่ยขอบคุณ
เฉิ นซื่อเอ่ยถามจุดประสงค์ท่ีนางมา “อากาศร้อนเช่นนี ้ เจ้าเดินเหินก็ไม่ค่อยสะดวก
หากเบื่อหน่าย ให้คนส่งจดหมายมาเรียกอวีถ้ งั เข้าไปหาก็เพียงพอแล้ว รอเจ้ากําเนิดบุตรแล้ว
อุม้ ลูกเข้ามาเที่ยวเล่นที่น่ี อวีถ้ งั จะได้คลายเหงา อุม้ ลูกให้เจ้าด้วย”
หม่าซิ่วเหนียงหัวเราะ “อาสะใภ้ ข้าได้ยินข่าวดีมาจึงอดใจไม่ไหวต่างหาก!”
“ข่าวดีอะไรกัน?” อวีถ้ งั และเฉินซื่อพูดพร้อมเพรียงกัน
หม่าซิ่วเหนียงเลิกคิว้ ใบหน้าเปี่ ยมไปด้วยความสุข “อาสะใภ้ อาถัง ข้าได้ยินคนพูดกัน
ว่า สกุลกูแ้ ละสกุลหลี่ถอนหมัน้ แล้ว!”
สกุลกูแ้ ละสกุลหลี่?
กูซ้ ีและหลี่ตวน?
อวีถ้ งั และเฉินซื่อต่างปกปิ ดความตกใจไว้ไม่ได้

1
ดอกสายนํา้ ผึง้ เป็ นสมุนไพรจีน มีฤทธิ์ลดไข้ ขับพิษ แก้อกั เสบ
1022

หม่าซิ่วเหนียงหัวเราะร่าอยู่พักใหญ่ “อาสะใภ้และอาถังยังไม่รูก้ ระมัง? เรื่องนีแ้ พร่


สะพัดไปทั่วแล้ว ดูท่าจะยังมาไม่ถึงหูของอาสะใภ้และอาถัง แต่นบั ว่าสกุลหลี่ยงั ทําบุญมาดี แม้
จะถูกสกุลกูถ้ อนหมัน้ แต่เส้นทางขุนนางของนายท่านหลี่กลับราบรื่น ได้ยินว่ารัง้ ตัวอยู่ท่ีเมือง
หลวง แม้จะไม่ได้เลื่อนขัน้ แต่ก็ได้รบั ตําแหน่งรองหัวหน้าสํานักทงเจิง้ ยามนีส้ กุลพวกเขาดีอกดี
ใจ ทําให้พวกคนที่อยากใช้เรื่องสกุลกูถ้ อนหมัน้ มาล้อเลียนพวกเขา ไม่อาจหาเหตุผลมาโจมตี
สกุลพวกเขาได้อีกต่อไป ไม่อย่างนัน้ พวกเจ้าคงล่วงรูข้ ่าวนีต้ งั้ นานแล้ว”
ชาติก่อน หลัง จากหลี่อีร้ ับตําแหน่ง ที่ร่ือเจ้าครบกําหนดก็รงั้ ตัวอยู่ท่ี เมื องหลวง แต่
ในช่วงเวลาอันสัน้ กลับไม่ได้ถูกจัดตําแหน่งอันใด จวบจนหลี่ตวนแต่งงานกับกูซ้ ี เขาจึงได้รบั
แต่งตัง้ เป็ นรองหัวหน้าสํานักไท่ฉาง 2หลังจากกูซ้ ีให้กาํ เนิดบุตรคนโต เขาก็ได้เลื่อนขัน้ เป็ นขุน
196

นางระดับสูงสํานักไท่พู 3กลายเป็ นหนึง่ ในขุนนางเสียวจิ่วชิง 4ยามประชุมราชสํานักก็มีอาํ นาจใน


197 198

การพูด สกุลหลี่จงึ กลายเป็ นสกุลขุนนางอย่างแท้จริง


ชาตินี ้ สกุลหลี่และสกุลกูถ้ อนหมัน้ หลี่อกี ้ ลับได้รบั ตําแหน่งรองหัวหน้าสํานักทงเจิง้ แล้ว
อวีถ้ งั สงสัยว่าเรือ่ งภายในนีอ้ าจมีสว่ นเกี่ยวข้องกับสกุลกู้
มิเช่นนัน้ เหตุใดสกุลหลี่จงึ ยอมเห็นด้วยกับการถอนหมัน้ ง่ายๆ?
นางดึงมือหม่าซิ่วเหนียง “สกุลกูถ้ อนหมัน้ สกุลหลี่ สกุลหลี่ไม่ได้วา่ อะไรรึ?”
หม่าซิ่วเหนียงเบ้ปาก เอ่ยอย่างดูแคลน “สกุลหลี่จะพูดอะไรได้? จะพูดว่าลูกชายของ
ตนถูกสกุลกูล้ ะทิง้ หรือเอ่ยว่าคุณหนูใหญ่สกุลกูม้ ีปัญหาอะไรอย่างนัน้ รึ? ในเมื่อทัง้ สองฝ่ ายต่าง
พูดไม่ได้ เช่นนัน้ ก็ทาํ ได้เพียงยอมจนใจ บอกกับคนภายนอกว่าดวงชะตาคนทัง้ สองไม่สมพงศ์
กัน เชิญพระอาจารย์จากวัดเจาหมิงมาแก้หลายต่อหลายครัง้ ก็แก้ไม่เป็ นผล ใกล้จะถึงงานแต่ง
แล้ว คุณชายใหญ่ล่ืนล้มบาดเจ็บ อีกวันออกไปข้างนอกก็ทาํ ม้าตกใจ แต่ละวันผ่านไปอย่าง

2
สํานักไท่ฉาง คือหน่วยงานที่กาํ กับดูแลเรื่องพิธีการและจารีตประเพณี
3
สํานักไท่พู คือหน่วยงานที่รบั ผิดชอบดูแลโรงม้าและรถม้าของฮ่องเต้
4
จิ่วชิง คือเก้าตําแหน่งขุนนางสําคัญในสมัยโบราณ แบ่งเป็ นต้าจิ่วชิงและเสียวจิ่วชิง
1023

อันตราย ด้านคุณหนูกู้ จู่ๆ ก็เป็ นผื่นขึน้ ตัง้ แต่แขนลามไปถึงหน้า ภายหลังคุณชายหกกูห้ า


พระอาจารย์ในเมืองหลวงมาทํานายดวงชะตา กล่าวว่าชะตาของทัง้ สองไม่เหมาะสมกัน ฝื นรัง้
กันอยู่ ยามนีไ้ ม่ถอนหมัน้ ภายหลังย่อมประสบความยากลําบาก ทัง้ สองสกุลได้ฟัง จึงถอนหมัน้
อย่างรูแ้ ล้วรูร้ อดไป”
พูดมาถึงตรงนี ้ หม่าซิ่วเหนียงก็แค่นหัวเราะ “ฮูหยินหลี่ผนู้ นั้ ยังปิ ดทองบนหน้าตัวเอง
กล่าวว่าแม้งานแต่งจะไม่สาํ เร็จผล แต่สกุลหลี่และสกุลกูก้ ็ยงั ไปมาหาสูด่ ่งั ญาติสนิทได้ คุณชาย
หกกูแ้ ละคุณชายใหญ่หลี่สาบานเป็ นพี่นอ้ งกัน ภายหลังสกุลหลี่มีเรื่องอันใด ก็ไปหาคุณชายหก
กูโ้ ดยตรงได้!”
สายตาของเฉินซื่อก็จาํ กัดอยู่เพียงในเรือนแห่งนี ้ จากความคิดของนาง การแตกระแหง
ของสกุลอวีแ้ ละสกุลหลี่ มีเผยเยี่ยนออกหน้าเป็ นคนกลางไกล่เกลี่ยแล้ว สกุลหลี่ถอนหมัน้ ก็ดี
เลื่อนตําแหน่งก็ช่าง ล้วนไม่เกี่ยวกับสกุลอวี ้ นางจึงไม่ได้เก็บมาใส่ใจ เพียงหัวเราะไม่กล่าวอัน
ใด
อวีถ้ ังกลับคันยุบยิบในใจ อยากรู ว้ ่าเป็ นเพราะตัวเองก่อเรื่องครัง้ นัน้ หรือไม่ จึงทําให้
สกุลกูถ้ อนหมัน้ ทัง้ ยังช่วยหลี่อีใ้ ห้มีตาํ แหน่งที่ดีเป็ นการแลกเปลี่ยน สกุลหลี่จึงจําต้องยอมถอย
ปิ ดปากเงียบสนิทเกี่ยวกับเรื่องถอนหมัน้
น่าเสียดายที่บิดานางไม่อยู่เรือน
ไม่สิ แม้ว่าบิดาของนางอยู่ก็ไม่อาจคุยเรื่องพวกนีก้ ับนาง ไม่แน่ว่ายังจะคิดว่านาง
ทําลายงานแต่งของคนอื่น กําชับนางว่าอย่าได้เอ่ยเรื่องนีข้ นึ ้ มาอีก
ผูท้ ่ีนางสามารถพูดคุยเปิ ดอกได้เต็มที่...คิดไปคิดมา...ดูเหมือนจะมีเพียงนายท่านสาม
เท่านัน้
เช่นนัน้ นางไปหาเผยเยี่ยนดีหรือไม่?
1024

อวีถ้ งั สองจิตสองใจ ท้ายที่สดุ ยังคงควบคุมอารมณ์ดีใจที่เห็นคนอื่นประสบทุกข์ไม่ได้


จึงถือใบชาสองกล่องที่ซอื ้ มาจากซูโจว ให้คนไปส่งจดหมายให้เผยเยี่ยน กล่าวว่าอยากพบเขา
เผยเยี่ยนกําลังพักผ่อนหลบร้อนอยู่ในเรือน ได้ยินเช่นนัน้ ก็ไม่คิดมาก ให้อวีถ้ งั มาพบใน
สวนของเขา
เพราะมาพบเผยเยี่ยน อวีถ้ งั จึงแต่งกายค่อนข้างเป็ นทางการ เสือ้ คลุมหังโฉวสีเงินปั ก
ลวดลาย กระโปรงสีขาว มวยผมทรงก้นหอย ปั กปิ่ นดอกไม้ลกู ปั ด ทัง้ ยังเติมแต่งเครื่องประทิน
โฉมที่ซือ้ มาจากซูโจว เมื่อเห็นว่าแต่งได้อย่างไร้ท่ีติแล้วจึงออกจากเรือน แต่ปัญหากลับอยู่ท่ี
อากาศร้อน เริม่ จากอุดอูอ้ ยู่ในเกีย้ วพักใหญ่ ทัง้ ยังต้องตามเด็กรับใช้สกุลเผยมาตลอดทาง ยาม
ที่มาถึงหน้าประตูเข้าสวน นางก็รูส้ กึ ว่าแผ่นหลังเปี ยกชุ่มไปหมด
ดีท่ีในสวนโอบล้อมด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม ยอดไม้เป็ นดั่งร่ม บดบังแสงแดดจนหมด มีลาํ
ธารเล็กๆ ไหลเอื่อยเฉื่อยด้านข้างทางเดินที่ปดู ว้ ยหินอ่อน เมื่อลมเย็นตีปะทะขึน้ มา ก็พาให้นาง
รูส้ กึ สดชื่นเย็นสบายทันที
นางถอนหายใจยาวเหยียด ครุน่ คิดว่าก่อนที่จะเข้าพบเผยเยี่ยนควรหลบหาที่เช็ดเหงื่อ
เสียหน่อยหรือไม่ ผลปรากฏว่าเมื่อหมุนตัว ก็เห็นเผยเยี่ยนที่สวมชุดต้าวผาวผ้าหยาบ กําลังเอน
กายอ่านหนังสือด้วยท่าทีสบายบนเก้าอีโ้ ยกในศาลาข้างลําธาร มีสาวใช้หน้าตาสะอาดสะอ้าน
คอยโบกพัดอยู่ทงั้ สองด้าน ด้านข้างยังมีโต๊ะนํา้ ชาที่วางผลหมากรากไม้อยู่หลายอย่างบนจาน
แก้ว มองจากไกลๆ ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายสุขยิ่งของเขาแล้ว
ช่างน่าโมโหเสียจริง!
เจ้าคนนีเ้ หตุใดจึงเสวยสุขได้ถึงขนาดนี?้
อวีถ้ ังลอบนินทาอยู่ในใจ คิดว่าอย่างไรตัวเองและเผยเยี่ ยนก็ ควรเว้นระยะห่างกัน
คําพูดบางคําเอ่ยให้เขาได้ยินก็อาจจะไม่เหมาะสม
1025

ชั่วพริบตานัน้ นางก็รูส้ กึ ว่าความตื่นเต้นที่อยากจะพูดคุยกลับเบาบางลง ใบหน้าเผยสี


หน้าลังเลอยู่หลายส่วน ฝี เท้าก็ยา่ งช้าตามเช่นกัน
อาหมิงที่พานางเข้ามาไหนเลยจะล่วงรูค้ วามคิดนาง เห็นเช่นนัน้ ก็อดกระซิบอย่างเป็ น
ห่วงไม่ได้ “คุณหนูอวี ้ ท่านเป็ นอะไรไป? เพราะเดินจนเหนื่อยกระมัง? อีกเดี๋ยวพวกเราก็จะถึง
แล้ว สวนอยู่ทางใต้ของจวน ไม่ไกลจากประตูรวั้ เตีย้ มาก”
อวีถ้ งั ได้ฟังก็ทาํ ตัวกระปรีก้ ระเปร่าขึน้ มา
มาก็มาแล้ว ยามนีม้ าบอกลาก็คงไม่เหมาะสมเกินไป
“ไม่ใช่” นางเอ่ยกับอาหมิงด้วยรอยยิม้ “ข้าเห็นทิวทัศน์ท่ีน่ีงดงาม จึงเอาแต่มองซ้ายแล
ขวา”
อาหมิงได้ฟังก็โบกมืออย่างไม่คิดเช่นนัน้ “ที่น่ีมีอะไรงามขนาดนัน้ กัน? มีแต่ตน้ ไม้เต็ม
ไปหมด ทัง้ เป็ นสิ่งที่นายท่านสามชื่นชอบผูเ้ ดียว ที่พาํ นักของท่านแม่เฒ่าสกุลพวกเราต่างหาก
จึงจะนับว่างาม ดอกไม้สีสนั สดใสละลานตา หนึ่งปี ส่ฤี ดูลว้ นมีผลไม้สีแดงให้เชยชม”
ในสายตาคนอื่นทิวทัศน์เช่นนีน้ บั ว่าแปลกใหม่ แต่อาจเป็ นเพราะคนของสกุลเผยที่พบ
เห็นมาจนเบื่อจึงไม่รูส้ กึ ตื่นตามากกว่ากระมัง!
อวีถ้ ังแย้มยิม้ ยามที่กาํ ลังจะพูดเล่นกับอาหมิง เขากลับหยุดฝี เท้าลงเสียก่อน คํานับ
อย่างนอบน้อม เอ่ยว่า “นายท่านสาม”
นางจึงหันมองตามอาหมิง
ไม่รูว้ ่าตัง้ แต่เมื่อใดที่เผยเยี่ยนลุกขึน้ จากเก้าอีโ้ ยก ใช้สองมือจับราวกัน้ ศาลาทอดมอง
พวกเขา
“นายท่านสาม!” อวีถ้ งั ก็ทกั ทายเขาเช่นกัน
เผยเยี่ยนพยักหน้า
1026

อาหมิงพาอวีถ้ งั เข้ามาในศาลา
เผยเยี่ยนพิงราวกัน้ ชีน้ ิว้ ส่งๆ “นั่งสิ”
อวีถ้ งั กวาดสายตาพินิจ
ในศาลานี ้ นอกจากเก้าอีโ้ ยกที่เผยเยี่ยนเอนตัวนอนเมื่อครู ่ ก็มีเพียงโต๊ะนํา้ ชาอีกหนึ่ง
ตัว ให้นางนั่ง นางจะไปนั่งที่ไหนได้ละ่ ?
นางคงไม่อาจนั่งเก้าอีโ้ ยกที่เขานอนเมื่อครูไ่ ด้หรอกกระมัง?
อวีถ้ งั ปวดขมับ ขบคิดว่าตัวเองควรจะกล่าวเกรงใจว่า ‘ไม่เป็ นไร’ ดีหรือไม่ กลับมีชาย
คนหนึ่งไม่รูว้ า่ โผล่มาจากที่ใด ยกเก้าอีพ้ บั มาวางด้านหลังนาง
อวีถ้ ังใบหน้าขึน้ สี รีบสลัดความคิดที่อยู่ในศีรษะพวกนัน้ ทิง้ ไป แสร้งทําเป็ นนั่งลงบน
เก้าอีอ้ ย่างสง่าผ่าเผย
1027

บทที่ 129 นินทา


พืน้ เก้าอีต้ วั นัน้ สีนา้ํ ตาลแดง ไม่รูว้ า่ ทําจากวัสดุอะไร เมื่อนั่งลงไปกลับนุ่มยวบดูสบาย
อวีถ้ งั ใคร่รูอ้ ย่างยิ่ง กลับไม่กล้าถามออกไป
เผยเยี่ยนโบกมือส่งๆ สาวใช้หน้าตาหมดจดทัง้ สองคนจึงพากันถอยออกไป
อาหมิงนําของว่างนํา้ ชามาให้อวีถ้ งั
ยามนีเ้ ผยเยี่ยนจึงเอ่ยขึน้ “เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอันใดกัน?”
อวีถ้ งั รีบละลํ่าละลักส่งใบชาในมือให้อาหมิง “หลายวันก่อนข้าไปซูโจวมา ซือ้ ใบชามา
หลายกล่อง ดื่มดูแล้วรสชาติดีไม่นอ้ ย จึงนํามาให้ท่านชิมสองกล่องเช่นกัน”
สกุลเผยมีไร่ชากว้างใหญ่คณานับ
นอกจากทางหลินอัน ในสวนดอกเหมยก็มีเช่นกัน
มุมปากเผยเยี่ยนกระตุกขึน้
อวีถ้ ังรู ว้ ่านางกําลังแกว่งขวานหน้าช่างมีฝีมือ ก็ไม่คิดจะพูดดีใส่ตัว เอ่ยออกไปตาม
สัตย์จริง “ข้ารูว้ ่าสําหรับท่านของพวกนีไ้ ม่ได้หายาก แต่ขา้ มาพบท่านถึงเรือน อย่างไรก็ไม่อาจ
มามือเปล่าได้ ท่านก็คิดเสียว่าเป็ นของฝากจากข้า ให้ขา้ สบายใจหน่อยเถิด!”
หลักการอะไรกัน!
เผยเยี่ยนชําเลืองมองนางไปทีหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ถือสาหาความอะไรกับเรื่องใบชาอีก ให้
อาหมิงรับไว้ นําไปวางในห้องหนังสือเขาเพื่อใช้รบั รองแขก
อวีถ้ งั ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก คิดว่าเผยเยี่ยนผูน้ ีภ้ ายนอกเย็นชาภายในอ่อนโยน
ดูเหมือนเอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่ความจริงก็เป็ นคนที่อบอุน่ ใจกว้าง
ชั่วขณะนัน้ นางก็เปลี่ยนเป็ นกระฉับกระเฉงขึน้ มา
1028

เผยเยี่ยนยังชีไ้ ปที่จานผลไม้บนโต๊ะชา “กินแตงโมหรือสาลี่? ล้วนเป็ นผลไม้ท่ีสง่ มาจาก


สวนของเช้าตรูว่ นั นี”้
คําพูดเอ่ยถึงเรื่องธรรมดาทั่วไป
ในใจของอวีถ้ งั ยิ่งผ่อนคลายลงมา นางเอ่ยขอบคุณเผยเยี่ยนด้วยรอยยิม้ จิม้ สาลี่ขนึ ้ มา
ชิน้ หนึ่ง เอ่ยไปพลาง “ได้กินสาลี่เร็วถึงขนาดนี ้ เป็ นสวนที่อยู่ในหลินอันตรงนัน้ รึ?”
“อืม!” เผยเยี่ยนพยักหน้า “ข้าให้คนลองปลูกสาลี่เร็วขึน้ หน่อย คาดไม่ถึงว่าผลลัพธ์จะ
ใช้ได้ ปี หน้าก็คงขายให้พอ่ ค้าเร่ได้แล้ว”
อวีถ้ งั จิตใจห่อเหี่ยวไม่นอ้ ย
ไฉนเผยเยี่ยนจึงปลูกพืชปลูกไม้เก่งขนาดนี?้
นางเอ่ย “เช่นนัน้ ในสวนท่านยังปลูกอะไรอีกบ้าง?”
เผยเยี่ยนเอ่ยอย่างเอื่อยเฉื่อย “มากมายนับไม่ถว้ น ไม่อาจนึกได้ในเวลาสัน้ ๆ พวกเขา
มาถามบางครัง้ บางคราว ข้าก็พดู ไป หากปลูกติดก็ให้รางวัล ปลูกไม่ได้ ก็ไม่เป็ นไร คิดเสียว่า
เป็ นประสบการณ์”
นี่ก็คือการหว่านแหจับปลาทีละมากๆ แล้วค่อยเลือกเก็บตัวดีๆ เอาไว้สินะ
อวีถ้ งั ถาม “เช่นนัน้ สกุลพวกท่านมีสวนมากมายเท่าใดกัน?”
“นึกไม่ออกในช่วงสัน้ ๆ เช่นกัน” เผยเยี่ยนเอ่ย “ต้องดูสมุดบัญชี”
คาดว่าไม่อาจบอกกับนางที่เป็ นคนนอกเสียมากกว่า
อวีถ้ งั ไม่ได้ซกั ไซ้ต่อ ชีไ้ ปที่สาลี่ในจานแก้วด้วยรอยยิม้ “สาลี่นีห้ วานอย่างยิ่ง นึกไม่ถึง
ว่าจะยังหวานติดลิน้ ”
เผยเยี่ยนผงกศีรษะ “น่าเสียดายที่เนือ้ ร่วนไปหน่อย คาดว่าคงขายไม่ได้ราคาเท่าไร ยัง
ต้องให้พวกเขาหาวิธีตอ่ ไป”
1029

ยามนีอ้ วีถ้ งั จึงอดไม่ไหว “เหตุใดท่านจึงรูเ้ รื่องพวกนีก้ นั ?”


เผยเยี่ยนมองนางแวบหนึ่งอย่างไม่เข้าใจ “อ่านตําราสิ ไม่วา่ อะไรก็มีในตําราทัง้ นัน้ ”
ความคิดชั่วร้ายในใจอวีถ้ งั ทํางานทันที คิดว่าหากตํารามีทกุ อย่าง ไฉนมีเพียงเผยเยี่ยน
ที่ปลูกเป็ นคนเดียวเล่า?
นางเอ่ย “เช่นนัน้ ตําราที่ท่านอ่านคงไม่เหมือนกับคนอื่นกระมัง?”
เผยเยี่ยนกลับเลิกคิว้ อย่างดูแคลน “คงเป็ นเพราะบัณฑิตพวกนัน้ ลําพองตนว่าเป็ นผู้
สูงส่ง ไม่ยินดีจะเรียนรูเ้ รื่องเรือกสวนไร่นาเช่นนีม้ ากกว่า”
บิดาของนางกลับเต็มใจเรียนรู ้ แต่ไม่ว่าจะเรียนอย่างไรก็ไม่เข้าใจ ปลูกต้นไม้ใบหญ้า
ล้วนตายสิน้ ไม่เหมือนกับมารดานางที่ยงั พอใช้ได้
อวีถ้ งั ไม่เชื่อ “ตําราปลูกพืชผลไม้ไม่ได้มีมลู ค่าราคา ให้คนอื่นยืมดูได้หรือไม่?”
เผยเยี่ยนเอ่ยถามด้วยรอยยิม้ “เจ้าอยากอ่านรึ?”
อวีถ้ งั พยักหน้าระรัว เอ่ยอย่างกระดากอาย “สกุลข้าก็ไม่ใช่วา่ มีท่ีทางภูเขาหรอกรึ?”
เผยเยี่ยนไม่ได้ใส่ใจนัก เอ่ยว่า “เจ้ากําลังปรับปรุงพืน้ ที่ผืนนัน้ อยู่ร?ึ แต่เจ้าก็นบั ว่าเป็ น
คนหัวรัน้ อยู่บา้ ง ปกติคนเช่นนีก้ ็มกั ประสบความสําเร็จ เจ้าค่อยๆ ปรับปรุงไปแล้วกัน ข้าจะให้
คนเก็บตํารามาให้เจ้า เจ้าเอาไปอ่านดูก่อน มีตรงไหนไม่เข้าใจก็ถามพ่อของเจ้าไม่ก็ถามพวก
ชาวไร่ชาวนาที่เช่าสวนพวกเจ้า”
“ถามท่านพ่อของข้า?” อวีถ้ งั คาดว่าบิดาของนางก็คงไม่รูเ้ รื่องเช่นกัน
เผยเยี่ ย นมองแวบเดียวก็ รูท้ ัน ทีว่า นางกําลังคิ ดอะไร เอ่ย ด้ว ยรอยยิม้ “พ่อของเจ้า
อาจจะไม่รูเ้ รื่องเกี่ยวกับทําไร่ทาํ นา แต่เขารูห้ นังสือ! หากพบส่วนที่อ่านไม่เข้าใจ เจ้าก็ถามพ่อ
เจ้าว่าหมายความว่าอย่างไร จากนัน้ ก็ค่อยไปถามพวกชาวไร่ชาวสวนที่ปลูกพืชผลให้พวกเจ้า
ปกติคนพวกนัน้ ก็ชาํ นาญเรื่องเพาะปลูกอยู่แล้ว”
1030

หรือเผยเยี่ยนก็จดั การกับไร่สวนอย่างนีเ้ ช่นกัน?


แค่จากในตําราก็รูแ้ ล้วว่าต้องเพาะปลูกอย่างไร? ช่างแปลกประหลาดเสียจริง! ไม่ใช่วา่
ทุกคนเรียนรูจ้ ากคนสวนในเรือนจึงปลูกต้นไม้เป็ นอย่างนัน้ หรอกรึ? หรือเพราะเขาเป็ นประเภท
ที่ไม่เหมือนคนอื่น ดังนัน้ จึงมีความสามารถในการเพาะปลูกเป็ นพิเศษ?
อวีถ้ งั ขบคิดอยู่ในใจ ก่อนจะได้ยินเผยเยี่ยนเรียกอาหมิงเข้ามา ให้อาหมิงไปหยิบพวก
ตํารา บันทึกทําสวน สารานุกรมกสิกรรม อุปกรณ์เพาะปลูก ร้อยเรื่องห้องหนังสือ...พูดชื่อตํารา
ประมาณเจ็ดแปดชื่อ “นําไปห่อให้คณ ุ หนูอวีด้ ว้ ย”
อาหมิงมองอวีถ้ งั อย่างสงสัย อาจจะคิดไม่ตกว่าเหตุใดอวีถ้ งั จึงยืมตําราจากเผยเยี่ยน
อวีถ้ งั ใบหน้าร้อนผ่าวอยู่บา้ ง แต่นางอยากกระจ่างใจจริงๆ ว่าเหตุใดชาติก่อนเผยเยี่ย
นจึงปลูกต้นซาจี๋ท่ีพืน้ ที่ของสกุลพวกเขาได้ ท้ายที่สดุ ยังทําเป็ นผลไม้เชื่อม ได้กาํ ไรเป็ นกอบเป็ น
กํา นางจึงทําเป็ นไม่เห็นไป ทัง้ เห็นว่ายามนีเ้ ผยเยี่ยนเป็ นกันเองกับนาง บรรยากาศกําลังดี นาง
จึงบอกถึงจุดประสงค์ท่ีมาอย่างใจกล้า “ท่านได้ยินข่าวหรือไม่? สกุลหลี่ท่ีอยู่ทางใต้ หมายถึง
นายท่านหลี่ท่ีเป็ นข้าหลวงในรื่อเจ้า ได้ยินว่านายท่านหลี่รงั้ ตัวอยู่ในเมืองหลวง รับตําแหน่งเป็ น
รองหัวหน้าสํานักทงจิง้ ?”
เผยเยี่ยนมองนาง “เจ้ามาก็เพราะเรื่องนี?้ ”
อวีถ้ งั กระแอมไอสองครัง้ แก้ต่างอย่างไม่เป็ นตัวเอง “ไฉนท่านจึงพูดเช่นนี?้ ข้าก็เพียง
สงสัยเท่านัน้ หรอก? อีกอย่าง เมืองหลินอันแห่งนี ้ ยังมีใครที่สนั ทัดเรื่องข่าวสารกว่าท่านอีก?
สกุลหลี่และสกุลกูถ้ อนหมัน้ กัน ทัง้ ยังเลื่อนตําแหน่ง ข้าไม่คิดมากได้หรือ?”
เผยเยี่ยนมองพินิจอวีถ้ งั ตัง้ แต่หวั จรดเท้า
เดิมทีเขาอยากบอกให้นางรูว้ ่าเขาดูแคลนท่าทีดีใจที่คนอื่นเป็ นเดือดร้อนเช่นนีข้ องนาง
แต่เมื่อกวาดสายตามองดูแล้ว เห็นดวงตากลมโตของนางวาบวาวด้วยความดีใจ แก้มที่ขนึ ้ สีลกู
1031

ท้อเพราะความตื่นเต้น ทัง้ สีหน้าเจ้าเล่หท์ ่ีเผยออกมา จู่ๆ เขาก็รูส้ ึกคล้ายใจเต้นตึกตักขึน้ มา


หายใจติดขัดอยู่บา้ ง
เหตุใดจึงเป็ นเช่นนี ้
เผยเยี่ยนคิดจะยกมือสัมผัสหน้าอกของตัวเอง แต่ยามที่มือเพิ่งขยับ กฎระเบียบและ
คําสั่งสอนที่ฝังลึกอยู่ในกระดูกตัง้ แต่เด็กก็ยบั ยัง้ ไม่ให้เขากระทําการไม่เหมาะสมเช่นนี ้ เขาหัก
นิว้ ตัวเอง กําเป็ นหมัดอย่างรูแ้ ล้วรูร้ อดไป ความเคลือบแคลงในใจกลับเพิ่มมากขึน้
เหตุใดคนอย่างคุณหนูอวีจ้ งึ ทําให้เขาใจสั่นขึน้ มาอย่างกะทันหันได้?
เพราะเขาไม่คอยมีโอกาสคลุกคลีกบั เด็กสาว? เพราะแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยมีเด็กผูห้ ญิง
ไม่ ส งวนกิ ริ ย าต่ อ หน้า เขาเช่ น นี ?้ หรื อ เพราะวัน นี เ้ ขาว่ า งงาน จึ ง มี ใ จ มี เ วลาพาลหาเรื่ อ ง
คุณหนูอวี?้ หรือเพราะว่าคุณหนูอวีท้ ่ีเผยท่าทีเช่นนีง้ ดงามขึน้ มาอย่างเห็นได้ชดั ?
เผยเยี่ยนมองพินิจนางอีกครัง้
อวีถ้ งั ลอบเบะปากในใจ
เผยสยากวงผูน้ ี ้ เป็ นเหมือนบัณฑิตคนอื่นไม่ผิดเพีย้ น ปฏิบตั ิตามหลักคําสอน ‘สิ่งที่ไม่
งามก็อย่ามอง สิ่งที่ผิดจริยาอย่าได้พดู ’ แม้ในใจจะอยากรูอ้ ยากเห็นเท่าใด ก็ไม่อาจติฉินนินทา
ผูอ้ ่นื ส่งเดชได้ ทัง้ ยังต้องห้ามปรามผูอ้ ่นื เช่นกัน
ในสายตาผูอ้ ่ืน นี่คงเป็ นลักษณะของสุภาพบุรุษ ประพฤติชอบทั้งกิริยาวาจา แต่ใน
ความคิดของนาง กลับจําเจน่าเบื่อหน่าย ดูเหมือนแสร้งทําเป็ นซื่อ
ก็ไม่รูว้ า่ ภรรยาของคนพวกนีท้ นใช้ชีวิตแบบนัน้ ได้อย่างไรกัน
ยังดีท่ีบิดาของนางไม่ใช่คนอย่างนัน้ รูจ้ กั ช่วยมารดานางปลูกดอกไม้ใบหญ้า ทัง้ ยังพูด
เรื่องสนุกยิบย่อยในเรือนกับมารดาอย่างสบายๆ
1032

แต่เ ผยเยี่ ย นมองพินิจแล้ว กลับจํา ต้องยอมรับว่า ท่ า ที เ ช่ น นี ข้ องคุณหนูอวีม้ ีเสน่ห ์


เหลือล้น
แต่ปกติคณ
ุ หนูอวีก้ ็งดงามอยู่แล้ว เหตุใดวันนีเ้ ขาจึงรูส้ กึ ว่าพิเศษกว่าวันอื่นเล่า?
เผยเยี่ยนครุ ่นคิด ก่อนจะเห็นคุณหนูอวีท้ ่ีแสร้งทําเป็ นมองไม่เห็นเขา ค่อยๆ เม้มริม
ฝี ปากแย้มยิม้ ขึน้ มา
น่ารักสดใสเป็ นอย่างยิ่ง
แตกต่างจากท่าทีเคร่งขรึมจริงจังที่ชอบเผยยามที่อยู่เบือ้ งหน้าเขาโดยสิน้ เชิง
คล้ายกับว่า ก่อนหน้านีน้ างต้องพยายามทําตัวเป็ นคุณหนูในห้องหับ จู่ๆ ก็ถอดเปลือก
นอกของกุลสตรี จึงเผยท่าทีความรูส้ กึ ที่แท้จริงของตัวเอง เผลอเป็ นตัวของตัวเองอยู่ครูห่ นึ่ง
เหมือนกับกระดาษแผ่นหนึ่ง เมื่อมีความรู ส้ ึกเป็ นของตัวเอง ก็จะมีความพิเศษของ
ตัวเอง เปลี่ยนเป็ นโดดเด่นแตกต่างจากคนอื่นขึน้ มา
คนเช่นนีจ้ ะไม่ทาํ ให้คนอื่นประทับใจได้อย่างไร?
เผยเยี่ยนพลันกระจ่างใจ
กลับไม่ได้ตระหนักถึงว่า คุณหนูอวีผ้ นู้ ีไ้ ด้เปลี่ยนแปลงเป็ นคนที่มีชีวิตชีวาสดใสในภาพ
จําของเขา ไม่ได้เป็ นเพียงคุณหนูท่ีมีความกล้าและรอบรูใ้ นสกุลบัณฑิตอีกต่อไปแล้ว
ความผ่อนปรนที่เขามีตอ่ นางก็เพิ่มมากยิ่งขึน้
“เจ้าไม่ได้อยากรู ห้ รือว่าการฟ้องร้องครัง้ นัน้ ของเจ้ามีผลอย่างไร?” เผยเยี่ยนมองผ่าน
ความใคร่นินทาของอวีถ้ งั ไปทันที เอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “เจ้าทําสําเร็จแล้ว!”
“จิรงรึ?” ความดีใจของอวีถ้ ังพรั่งพรู ขึน้ มา นางแทบจะกระโดดโผลง แต่นางก็รูว้ ่ายัง
ไม่ใช่เวลา แววตาที่ระยิบระยับพร่างพราวนัน้ มองมาที่เผยเยี่ยน “เกี่ยวข้องกับฟ้องร้องของข้า
จริงๆ อย่างนัน้ รึ? คาดไม่ถึงว่าสกุลกูจ้ ะให้ความสําคัญกับคุณหนูกเู้ พียงนี ้ รูว้ ่าหลี่ตวนไม่ใช่คน
1033

ดีอะไร ก็ช่วยให้คุณหนูกถู้ อนหมัน้ ไป ถึงกระทั่งเพื่อชื่อเสียงของคุณหนูกู้ ยังเสียแรงมากมาย


ช่วยหาตําแหน่งดีๆ ให้นายท่านหลี่ เช่นนีข้ า้ ก็นบั ว่าทําเรื่องดีกระมัง...”
นางนัน้ มองสกุลหลี่อย่างทะลุปรุโปร่ง
สกุลกูถ้ อนหมัน้ สําหรับหลี่ตวนเป็ นเรื่องที่อปั ยศอดสู
แม้ว่าสกุลหลี่จะสานสัมพันธ์กบั สกุลกูต้ ่อ แต่ในใจก็มีรอยร้าว ย่อมไร้ทางที่จะจริงใจ
เหมือนในชาติก่อน ส่วนสกุลกู้ ในเมื่อถอนหมัน้ แล้ว ย่อมมองไม่เห็นหัวของสกุลหลี่อีก ครัง้ นีใ้ ห้
ตําแหน่งสกุลหลี่เป็ นการแลกเปลี่ยน คงมิอาจมีครัง้ หน้าได้อีกแล้ว
ภายหลังนางอยากจัดการกับสกุลหลี่ ก็ย่งิ เป็ นเรื่องง่ายแล้ว!
เผยเยี่ยนเห็นนางเผยท่าทีดีอกดีใจ ยังคิดไปว่านางคงรูส้ กึ ว่าเรื่องที่ตนเองทํานัน้ ถูกต้อง
เขากระตุกมุมปาก เอ่ยอย่างเชื่องช้า “เจ้ามีอะไรให้ดีใจขนาดนัน้ เชียว? สกุลกูเ้ พียงดู
แคลนที่หลี่ตวนไร้ความสามารถเท่านัน้ เกี่ยวข้องอะไรที่หลี่ตวนจะนิสยั ดีไม่ดี?”
อวีถ้ งั เบิกตาโต
หรือไม่ใช่เพราะว่าหลี่ตวนทําเรื่องผิด?
ดวงตาของนางเผยความรูส้ กึ ตกใจ ไม่เข้าใจ สับสน และสงสัยอย่างชัดเจน
อารมณ์รอ้ ยแปดพันเก้าปรากฏอยู่บนใบหน้า ก็ไม่รูจ้ กั ปิ ดบังผูอ้ ่นื เสียบ้าง!
มิน่าเล่าจึงเอาแต่เผยพิรุธต่อเบือ้ งหน้าเขา
เผยเยี่ยนนินทาในใจ
สนใจต่อความสงสัยเล็กๆ นัน้ เป็ นอย่างยิ่ง
เขารูว้ า่ เขาควรให้นางกลืนความสงสัยเล็กๆ นัน้ กลับลงไป ทัง้ ยังต้องขอโทษแก่เขาด้วย
1034

ด้วยเหตุนีเ้ ผยเยี่ยนจึงเอ่ยอย่างไม่ไว้หน้าแม้แต่นอ้ ย “เชื่อมสัมพันธ์ทัง้ สองสกุลเป็ น


เรื่องดี เดิมทีก็เพื่อเอือ้ เฟื ้ อผลประโยชน์แก่กนั สกุลกูต้ อ้ งการคนในแวดวงขุนนางคอยให้ความ
ช่วยเหลือกูเ้ จาหยางคนหนึ่ง สกุลหลี่ก็ตอ้ งการเส้นสายข้าราชการของสกุลกู้ แต่ก่อนหน้านัน้
หลี่ตวนต้องเป็ นคนที่พ่งึ พาได้ แต่เจ้าดูหลี่ตวนทําเรื่องพวกนัน้ ? กระทั่งผูห้ ญิงตัวเล็กๆ อย่างเจ้า
ยังสูไ้ ม่ได้ ลูกเขยไร้ประโยชน์ แรงหักคอไก่ยงั ไม่มีเช่นนี ้ จะเอามาทําอะไร? งานมงคลครัง้ นีย้ ่อม
ล้มเลิกไป ไม่เกี่ยวข้องกับสกุลกูร้ กั ใคร่เอ็นดูลกู สาวแม้แต่นอ้ ย ประเด็นอยู่ท่ีวา่ หลี่ตวนไม่เป็ นโล้
เป็ นพาย ไม่มีความสามารถเอง”
เป็ นอย่างนัน้ จริงๆ รึ?
แต่ชาติก่อน กูฉ้ ่างดีตอ่ กูซ้ ีจริงๆ
นางไม่คอ่ ยเชื่อว่าระหว่างกูฉ้ ่างและกูซ้ ี ผลประโยชน์จะสําคัญกว่าความเป็ นพี่นอ้ งได้
อวีถ้ ังเอ่ยอย่างอ่อนแรง “เช่นนั้น เรื่องถอนหมั้น คงจะเป็ นคุณชายใหญ่ กู้ออกหน้า
กระมัง?”
1035

บทที่ 130 ขู่ขวัญ


ในสายตาของอวีถ้ งั กูฉ้ ่างช่วยเหลือกูซ้ ีเพราะผลประโยชน์หรือความสัมพันธ์ นับเป็ น
เรือ่ งที่แตกต่างกันอย่างมาก
ชาติก่อน กูฉ้ ่างเป็ นที่พ่งึ พิงของกูซ้ ี
กูซ้ ีกล้าจัดการอวีถ้ งั เช่นนัน้ ก็เพราะไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึน้ กูฉ้ ่างก็ยงั คงยืนอยู่ขา้ ง
นาง!
เผยเยี่ยนปราดมองอวีถ้ งั แวบหนึ่ง “เจ้าไปฟ้องเรื่องกับสกุลกู้ ไม่ได้สืบสถานการณ์มา
อย่างชัดเจนหรอกรึ? หากบ้านรองสกุลกูไ้ ม่มีกเู้ จาหยาง เกรงว่าในการประชุมของสกุลคงจะไม่
มีตาํ แหน่งของพวกเขาบ้านรองไปตัง้ นานแล้ว”
ความนัยของวาจานีค้ ือ ในสกุลกู้ มีเพียงกูฉ้ ่างที่มีอาํ นาจนี ้
อวีถ้ งั ย่อมรูด้ ี ดังนัน้ จึงได้ไปฟ้องเรื่องกับสกุลกู้
นางละลํ่าละลักเอ่ย “ข้าทราบ ดังนัน้ จึงคิดว่าคงเป็ นคุณชายใหญ่กอู้ อกหน้า สกุลกูจ้ ึง
สามารถถอนหมัน้ กับสกุลหลี่ได้!”
เดิมทีอวีถ้ งั อยากอาศัยกูฉ้ ่างในการจัดการหลี่ตวน
วันนีส้ กุลกูแ้ ละสกุลหลี่ถอนหมัน้ เป้าหมายนางไม่เพียงสําเร็จผล แต่ยงั เกินกว่าที่นาง
คาดไปไกลมาก
นางยิม้ หวานดุจบุปผาแย้มบาน
ไม่มีสกุลกู้ ก็จดั การหลี่ตวนได้ง่ายขึน้ แล้ว
เผยเยี่ยนไม่รูว้ า่ อวีถ้ งั วางแผนอะไรในใจ เห็นนางยิม้ อย่างเริงร่า รูส้ กึ เป็ นกังวลในใจ อด
เอ่ยตักเตือนนางไม่ได้ “เจ้าก็อย่าได้คิดว่ากูเ้ จาหยางเป็ นคนที่คบค้าสมาคมง่าย ช่วงเวลานีก้ ู้
เจาหยางยังมีเรื่องอื่นที่ตอ้ งทํา แม้ว่าสกุลกูจ้ ะเป็ นฝ่ ายเอ่ยเรื่องงานแต่ง แต่ในใจของคุณหนูกู้
1036

คิดอย่างไร กลับไม่มีใครล่วงรู ้ เจ้าเพียงแค่ฉวยโอกาสถูกจังหวะเท่านัน้ ภายหลังหากยังทําเรื่อง


มุทะลุเช่นนีอ้ ีก เกรงว่าจะไม่ได้จบง่ายดายขนาดนัน้ แล้ว”
อวีถ้ ังพยักหน้าหงึกๆ รู ว้ ่าเรื่องนีส้ าํ เร็จได้ นอกจากโอกาสประจวบเหมาะแล้ว ก็เป็ น
เพราะประสบการณ์ในชาติก่อนของนาง ไม่อาจนํามาโอ้อวดได้
เช่นนัน้ นางควรจะเฝ้าระวังกูซ้ ีเสียหน่อยดีหรือไม่?
จากความเข้าใจที่นางมีตอ่ กูซ้ ี คนผูน้ ีแ้ ข็งแกร่งอย่างยิ่ง
แววตาของอวีถ้ งั ปรากฏความลังเลวาบผ่านขึน้ มา
เผยเยี่ยนเห็นก็อดึ อัดใจ คิดว่าอวีถ้ งั ไม่เชื่อคําพูดของเขา พยักหน้าส่งให้เขาอย่างขอไป
ทีเท่านัน้ จึงเอ่ยต่อ “ขอแค่หลี่ตวนมีความสามารถหรือแผนการอยู่เล็กน้อย กูเ้ จาหยางก็คงไม่
อาจออกหน้าช่วยน้องสาวถอนหมั้นหรอก หากเจ้าไม่เชื่อก็รอดูเถิด ต่อไปเขาย่อมหาสกุลที่
สามารถช่วยเหลือเขา มาแต่งกับน้องสาวตนเองแน่”
อวีถ้ งั เชื่ออย่างนัน้
นางเอ่ยว่า “ในเมื่อการเกี่ยวดองเชื่อมสัมพันธ์เป็ นเรื่องดี ก็ย่อมคาดหวังให้สามารถเพิ่ม
ลายดอกลงบนผ้า แพร! คุณ ชายใหญ่ กู้จ ะหาสกุล ที่ มี ค วามสามารถช่ ว ยเหลื อ เขาแต่ง กับ
น้องสาวก็เป็ นเรื่องปกติ อีกอย่าง ใครก็อยากให้สามีและน้องเขยของตัวเองเป็ นคนโดดเด่น
ทัง้ นัน้ แต่เมื่อเป็ นสามีภรรยา ความรูส้ กึ ชอบพอของทัง้ สองคนย่อมสําคัญกว่า กลัวเพียงว่างาน
แต่งของคุณหนูกจู้ ะไม่ได้เกิดขึน้ ง่ายดายขนาดนัน้ ”
เผยเยี่ยนแค่นเสียงในลําคอ
บิดาของเขาก็ใส่ใจเรื่องความรูส้ กึ ชอบพอ จึงให้พ่ีใหญ่ของเขาแต่งกับคนสกุลหยาง
ผลเป็ นอย่างไรล่ะ?
1037

เขาอดเอ่ยอย่างเยือกเย็นไม่ได้ “ทั้งสองคนรู ส้ ึกชอบพอกันแล้วอย่างไร? เช่นนั้นยัง


จะต้อ งพิ ถี พิ ถั น เรื่ อ งเหมาะสมคู่ ค วรไปทํา ไม? จะเห็ น ได้ว่ า ความรู ้ การอบรมบ่ ม นิ สัย
ความสามารถและสายตามองโลกของคนต่างหากที่สาํ คัญที่สดุ ข้ากลับไม่เคยเห็นสามีภรรยาคู่
ไหนที่รกั ใคร่ให้เกียรติกนั ทัง้ ชีวิตเพราะต่างมีความรูส้ กึ ชอบพอให้กนั ”
คําพูดนีท้ าํ ให้อวีถ้ งั รูส้ กึ ระคายหู
แม้น างจะกระจ่ า งใจดี ว่ า อารมณ์ข องเผยเยี่ ย นเอาแน่ เ อานอนไม่ ไ ด้ หากอยาก
ประจบประแจง ก็ตอ้ งปล่อยไปตามนํา้ แต่เมื่อนางคิดแล้วคิดอีก อดทนซํา้ แล้วซํา้ เล่า สุดท้ายก็
ยังทนไม่ไหว “รักใคร่ให้เกียรติย่อมเป็ นเรื่องดี แต่สองสามีภรรยาใช้ชีวิตร่วมกัน พูดคุยรูใ้ จกันคง
สํา คั ญ กว่ า กระมั ง ? หากการเลื อ กสามี ภ รรยา จะให้ค วามสนใจแต่ เ รื่ อ งวงศ์ส กุ ล และ
ความสามารถ เช่นนัน้ ยังต้องพบปะดูตวั กันไปทําไม? ก็เลือกจากใครมีความสามารถ สกุลใคร
สูงส่งรํ่ารวยไปเลยไม่ดีกว่ารึ!”
แม่หนูคนนี ้ คาดไม่ถึงว่าจะกล้าต่อปากต่อคํากับเขา!
เผยเยี่ยนหงุดหงิดในใจ ใบหน้าดําคลํา้ ขึน้ มา “นี่เจ้ากําลังบอกข้าว่าควรเลือกคู่แบบ
ไหนอย่างนัน้ รึ?”
อวีถ้ งั แผ่นหลังเย็นวาบ หวนสติคืนมา แต่จะให้นางยอมรับว่าตัวเองผิดก็คงไม่อาจทํา
ได้
นางรีบใช้สมอง เอ่ย ประจบประแจง “ไม่ ใช่ ไม่ ใช่ นี่ พ วกเราก็แค่พูดคุย กัน ไม่ใช่รึ?
พูดคุยก็เป็ นเช่นนี ้ มีอะไรก็คยุ กันไป? อยากพูดอันใดก็พดู ไม่ใช่ร?ึ ”
นี่คือจะไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดสินะ!
ทัง้ ยังใช้คาํ ตอบซื่อบือ้ เช่นนีห้ ลบหลีกคําถามของเขา
เผยเยี่ยนโมโหจนอยากหัวเราะ เมื่อเงยหน้ากลับพบอวีถ้ งั เผยยิม้ อย่างประจบประแจง
จู่ๆ เขาก็พดู ไม่ออกเสียอย่างนัน้
1038

คุณหนูอวีก้ ็เป็ นเพียงผูห้ ญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ทัง้ ยังเป็ นผูห้ ญิงที่มีความคิดความอ่าน


เขาคงไม่ได้ทาํ เรื่องเล็กให้เป็ นเรื่องใหญ่เกินไปกระมัง
ทัง้ ก็เหมือนดั่งที่คณ
ุ หนูอวีก้ ล่าว การพูดคุย ก็เพียงพูดจาโต้ตอบตามใจนึกเท่านัน้ หาก
เรื่องแค่นีย้ งั ต้องตัดสินถูกผิด แพ้ชนะออกมา แล้วใครยังจะกล้าคุยเล่นกันอีก!
ยิ่งไปกว่านัน้ ปกติเขาก็ไม่ใช่คนเช่นนัน้
แม้จะในยามที่เป็ นซู่จ๋ีซ่ือ ทุกคนถกเถียงเรื่องการเมืองกัน มีคนไม่เห็นด้วย มีคนโต้แย้ง
ก็เป็ นเรื่องปกติเช่นกัน ปกติเขาก็มกั เผยยิม้ จบเรื่องจบราวไป ไฉนมาอยู่กับคุณหนูอวีท้ ่ีน่ี เขา
กลับเป็ นเช่นนีเ้ สียล่ะ?
เผยเยี่ยนคิดทบทวนตัวเอง
อวีถ้ งั เห็นเผยเยี่ยนไม่เอ่ยอะไร ใบหน้าก็ไม่เผยท่าทียินดีหรือโมโห ชั่วขณะนัน้ ก็ไม่รูว้ ่า
ควรจะพูดอะไรดี
ระหว่างทัง้ สองพลันเงียบสงัด บรรยากาศกระอักกระอ่วนขึน้ มาอยู่บา้ ง
อวีถ้ ังทําได้เพียงหาเรื่องมาพูด นึกถึงอีกหนึ่งจุดประสงค์ท่ีตวั เองมา เอ่ยด้วยรอยยิม้
“นายท่านสาม นายท่านหลี่คนนัน้ รับตําแหน่งที่สาํ นักทงเจิง้ ไม่ใช่วา่ คนในสกุลมารดานายหญิง
ใหญ่ของท่านก็อยู่ในสํานักนัน้ หรอกรึ? เช่นนัน้ สํานักทงเจิง้ ทําอะไร? เป็ นสํานักที่เก่งกาจมากใช่
หรือไม่?”
นางเอ่ยด้วยนํา้ เสียงนุ่มนวล แฝงความระมัดระวัง คล้ายกับปี ศาจตัวน้อยที่กาํ ลังหยั่ง
เชิงอย่างรอบคอบ
เผยเยี่ยนได้ฟังก็รูส้ กึ ดีขนึ ้ มาอย่างแปลกประหลาด
หรือเพราะเมื่อครูเ่ ขาย้อนมองตัวเองจึงได้ผ่อนปรนให้คณ
ุ หนูอวีม้ ากขึน้ ไปอีก?
1039

เขาขบคิดอยู่ในใจ เอ่ย รับว่า ‘อื ม ’ แผ่ ว เบา พลัน ตระหนักขึน้ มาได้ว่าคุณหนูอวีก้ ็รู ้
เกี่ยวกับเรื่องสกุลของเขาไม่นอ้ ยเช่นกัน เขาพลันสงสัยว่าอวีถ้ งั ทราบเรื่องราวสกุลพวกเขามาก
น้อยแค่ไหน จึงจงใจละทิง้ คําถาม ‘สํานักทงเจิง้ ทําอะไร’ ไปตรงๆ กลับเอ่ยว่า “เจ้ารู ว้ ่าสกุล
มารดาของนายหญิงใหญ่มีพ่ีนอ้ งทํางานในสํานักทงเจิง้ อย่างนัน้ รึ?”
จากนํา้ เสียงของเผยเยี่ยนทําให้อวีถ้ ังรู ส้ ึกว่าตัวเองคล้ายกําลังสอดแนมเรื่องส่วนตัว
ของสกุลเผยอยู่
แท้จริงแล้ว ยามที่หาเรื่องมาพูดก็ไม่ควรจะเอ่ยหัวข้ออ่อนไหวเช่นนี ้
นางรู ส้ ึกเสียใจภายหลังไม่นอ้ ย ละลํ่าละลักเอ่ย “ก็ไม่ใช่รึ! ยามที่ท่านผูเ้ ฒ่าล่วงลับ
สกุลพวกเราก็มาเคารพศพท่านผูเ้ ฒ่าเช่นกัน ข้าได้ยินมาจากแขกที่มาร่วมงาน” พูดถึงตรงนี ้
นางก็อดมองเผยเยี่ยนอย่างกังวลไม่ได้
ก่อนหน้านีเ้ ผยเยี่ยนให้ความคุม้ ครองช่วยเหลือสกุลพวกนางไม่นอ้ ย ทัง้ เผยเยี่ยนก็มี
ความสัมพันธ์ท่ีไม่ดีกบั บ้านใหญ่ นางกลัวว่าหลังจากหลี่อีไ้ ปอยู่ในสํานักทงเจิง้ จะเกาะแกะกับ
สกุลหยาง ไม่เป็ นผลดีกบั เผยเยี่ยน
เผยเยี่ยนมองอย่างทะลุปรุโปร่ง
นางได้ยินข่าวลือพวกนัน้ จึงรูว้ า่ เขาและบ้านใหญ่ขดั แย้งกันกระมัง!
แต่วา่ เมืองหลินอันในยามนีย้ งั มีคนที่ไม่รูว้ า่ เขาขัดแย้งกับบ้านใหญ่อยู่ร?ึ
เกรงว่าคงจะไม่มีกระมัง?
เด็กสาวผูน้ ีก้ าํ ลังกังวลว่าสกุลหลี่อาจจะสร้างปั ญหาให้เขา
ยังนับว่ามีจิตใจที่ดี
ไม่เสียแรงที่เขาช่วยนางไว้หลายครัง้ หลายคราว
1040

เผยเยี่ยนแค่นยิม้ กับตัวเอง ใบหน้ากลับไม่เผยท่าทีอนั ใด ผงกศีรษะให้กับอวีถ้ ังทัง้ สี


หน้าไร้อารมณ์ กลับลอบชื่นใจไม่นอ้ ย เอ่ยอธิบายอย่างละเอียด “ขุนนางระดับสูงสํานักทงเจิง้
เจ้ากรมของหกกรม เจ้ากรมฝ่ ายตรวจการ ขุนนางระดับสูงศาลต้าหลี่ถูกเรียกว่าต้าจิ่วชิง ขุน
นางระดับสูงสํานักไท่ชาง ขุนนางระดับสูงสํานักไท่พู ขุนนางระดับสูงสํานักกวงลู่ 1 ขุนนาง 199

ระดับสูงสํานักจันซื่อฝู่ 2 ขุนนางระดับสูงสํานักราชบัณฑิตหลวง ขุนนางระดับสูงสํานักหงหลู่ 3


200 201

หัวหน้าสํานักกั๋วจื่อเจีย้ น ขุนนางระดับสูงสํานักพิทกั ษ์อาชา ขุนนางระดับสูงสํานักซั่งเป่ า 4ถูก 202

เรียกว่าเสียวจิ่วชิง คนพวกนีล้ ว้ นมีคณ


ุ สมบัติเข้าเฝ้าในท้องพระโรง ว่ากิจธุระของราชสํานักใน
การประชุมขุนนาง หากเจ้าอยากเข้าใจมากกว่านี ้ ก็ไปถามนายท่านอวีไ้ ด้ นายท่านอวีย้ ่อมรู ้
เช่นกัน”
อวีถ้ งั ลอบตกตะลึง
นางทราบอยู่ว่าต้าจิ่วชิงและเสียวจิ่วชิงยอดเยี่ยมเพียงใด แต่นางกลับไม่รูว้ ่าหัวหน้า
สํานักศึกษากั๋วจื่อเจีย้ นก็จดั รวมอยู่ในเสียวจิ่วชิงเช่นกัน
เช่นนัน้ สกุลหยางก็มีความสามารถมิใช่เล่น
ลูกชายเป็ นต้าจิ่วชิง บิดาเป็ นเสียวจิ่วชิง ยังมีลกู ชายอีกคนอยู่ในสํานักไท่ฉาง
เพียงแต่ไม่รูว้ า่ คุณชายใหญ่สกุลเผยมีมีลงุ น้ากี่คนกัน? ล้วนแต่เก่งกาจทัง้ หมดหรือไม่
ไม่รูว้ ่าเหตุใดเผยเยี่ยนจึงไม่ยอบรับเรื่องงานแต่งของสกุลมารดานายหญิงใหญ่? เป็ น
เพราะเมื่อก่อนก็ไม่ลงรอยกับนายท่านใหญ่อยู่แล้วหรือเพียงไม่อยากสานสัมพันธ์กบั สกุลหยาง
เท่านัน้ ?

1
สํานักกวงลู่ คือหน่วยงานที่ดแู ลพิธีเซ่นไหว้ และงานเลีย้ งในวังหลวง
2
สํานักจันซื่อฝู่ คือหน่วยงานที่ดแู ลจัดการกิจธุระต่างๆ ของวังบูรพา ที่พาํ นักของรัชทายาท
3
สํานักหงหลู่ คือหน่วยงานที่รบั ผิดชอบดูแลระเบียบในการเข้าเฝ้าในท้องพระโรง
4
สํานักซั่งเป่ า คือหน่วยงานที่ดแู ลเรื่องตราประทับลัญจกรของฮ่องเต้
1041

เช่นนัน้ เจ้ากรมพิธีการและมหาบัณฑิตหอเหวินหยวนสกุลหลีท่ีทาํ ให้เผยเยี่ยนชื่นชมได้


จะไม่ย่งิ เยี่ยมยอดกว่าหรอกรึ?
กระทั่งนางยังคิดว่าหลี่อีเ้ ข้าสํานักทงเจิง้ ไปอาจไม่เป็ นผลดีกับเผยเยี่ยน เช่นนัน้ เผย
เยี่ยนก็คงจะตระหนักได้มากกว่านางเช่นกัน
เขาคงวางแผนรับมือตัง้ นานแล้วกระมัง?
อวีถ้ งั พยักหน้า คิดว่าตัวเองไม่ควรเป็ นห่วงเผยเยี่ยน แต่ก็ไม่อาจหยุดคิดได้ ไม่ว่าเรื่อง
อะไรก็เกิดเหตุไม่คาดฝันได้ทงั้ นัน้ หากเผยเยี่ยนเกิดปั ญหาอะไรเพราะเรื่องนีจ้ ริงๆ ล่ะ?
สมองนางแล่นอย่างว่องไว ใจล่องลอยอยู่บา้ ง
หญิงสาวหลายคนมักฉลาดกับเรื่องอื่นๆ แต่เมื่อเป็ นเรื่องของราชสํานักกลับสับสนมึน
งง ต้องพูดกันค่อนวันจึงจะสามารถเข้าใจ
เผยเยี่ยนคิดว่าอวีถ้ งั ก็อาจเป็ นอย่างนัน้ เช่นกัน เดิมทีก็ไม่รูว้ ่าเขาพูดอะไรกันแน่ ยามที่
กําลังลังเลว่าจะอธิบายให้นางฟั งอย่างละเอียดอีกครัง้ ดีหรือไม่ เผยชี ผูร้ บั ใช้ติดตามของเขา
กลับก้าวฝี เท้าเร็วเข้ามาก่อน หลังจากคํานับเขาแล้ว ก็คอ้ มศีรษะกล่าว “นายท่านสาม นาย
ท่านหกกูข้ องสกุลกูแ้ ห่งหังโจวให้คนส่งเทียบเชิญมาขอรับ กล่าวว่าจะกลับเมืองหลวงแล้ว
พรุง่ นีจ้ ะมาบอกลาท่าน”
กู้ฉ่างกลับเมืองหลวง ยังต้องมาบอกลาเผยเยี่ยนด้วยตัวเอง? พวกเขาสนิทชิดเชือ้
ขนาดนีต้ งั้ แต่เมื่อใดกัน? ทัง้ เผยเยี่ยนยังเคยพูดว่ากูฉ้ ่างไม่ใช่คนดีอะไรอีก?
อวีถ้ งั มองไปทางเผยเยี่ยน ดวงตากลมโตนัน้ เต็มไปด้วยความสงสัย
เผยเยี่ยนกลับขมวดคิว้
เขาได้พูดออกไปอย่างชัดเจนแล้ว เขาไม่อาจกลับมารับราชการ ทั้งไม่อาจเข้าร่วม
แก่งแย่งผลประโยชน์แบ่งพรรคแบ่งฝ่ ายภายในนัน้ อีก กูฉ้ ่างกลับทําเหมือนไม่เข้าใจ เสิ่นซ่านเห
ยียนไม่อยากมาพบเขาเป็ นเพื่อนกูฉ้ ่างอีก กูฉ้ ่างก็มาคนเดียว หลังจากกลับไหวอัน กูฉ้ ่างก็เขียน
1042

จดหมาย ทัง้ ส่งของให้เขาหลายต่อหลายครัง้ ครัง้ นีอ้ อกตรวจราชการเสร็จแล้วต้องกลับเมือง


หลวง ยังจะมาบอกลาเขาด้วยตัวเองอีก
กูฉ้ ่างกําลังวางแผนอะไรอยู่กนั แน่?
เผยเยี่ยนถือเทียบเชิญอย่างนิ่งเงียบอยู่พกั ใหญ่
อวีถ้ งั ก็ไม่อาจรบกวน จึงกลอกสายตามองไปทั่ว
นางพบว่าคนที่มาส่งจดหมายให้เผยเยี่ยนกับคนที่ยกเก้าอีม้ าให้นางเป็ นคนละคนกัน
ผูท้ ่ียกเก้าอีม้ าให้นางเป็ นชายหนุ่มอายุประมาณสามสิบปี รู ปร่างสมส่วน ผอมแห้งอยู่
บ้าง ดูเงียบขรึม ว่าง่ายเชื่อฟั ง พาให้คนรูส้ กึ ว่าเขาเป็ นคนที่ ‘ทํามากกว่าพูด’
แต่ผทู้ ่ีอยู่เบือ้ งหน้ากลับเป็ นชายวัยยี่สิบต้นๆ รู ปร่างผอมสูง หน้าตามีสง่าราศี มองไม่
เห็นความอ่อนน้อมถ่อมตัวเหมือนบ่าวทั่วไป กลับเผยความเปล่งประกายของเด็กหนุ่มออกมา
อวีถ้ งั ลอบชื่นชมในใจ
พ่อบ้านใหญ่เผยก็เช่นกัน ไม่เหมือนกับบ่าวทั่วไป
ยังมีเจ้าเจิน้ คนขับรถของเผยเยี่ยนอีกคน
ก็ไม่รูว้ า่ เผยเยี่ยนมีผตู้ ิดตามเช่นนีไ้ ด้อย่างไร
อวีถ้ งั ขบคิด เห็นเพียงเผยเยี่ยนส่งเทียบเชิญคืนไปให้ผรู้ บั ใช้ติดตามที่อยู่เบือ้ งหน้า “ข้า
ไม่พบ!”
ตรงๆ เช่นนี!้
อวีถ้ งั และเผยชีพากันเบิกตาโต
เผยชี รู ส้ ึก ว่ า นับ ว่ า นายท่ า นสามของพวกเขาก็ นิ สัย แย่ ล งเรื่ อ ยๆ เขาเอ่ ย โน้ม น้า ว
“ไม่อย่างนัน้ พูดไปว่าท่านไม่อยู่เรือนดีหรือไม่ขอรับ?”
1043

อย่างไรก็ดกี ว่าการปฏิเสธไปตรงๆ
ไม่วา่ จะพูดอย่างไร กูฉ้ ่างก็ไม่ใช่คนที่ใครจะคิดล่วงเกินดูหมิ่นได้ง่ายๆ
ทัง้ ไม่มีความขัดแย้งอะไร ไฉนจะต้องผูกบัญชีแค้นกับกูฉ้ ่างด้วยเล่า!
เผยเยี่ยนกลับเอ่ย “เจ้าก็พดู เช่นนัน้ แหละ!”
เผยชีจงึ ถอนตัวกลับออกไปด้วยใบหน้าเจื่อน
1044

บทที่ 131 ร่วมหุน้


ดวงตาของอวีถ้ งั ยิ่งเบิกกว้างขึน้ ไปอีก
คาดไม่ถึงว่าบ่าวรับใช้ของเผยเยี่ยนจะกล้าย้อนถามการตัดสินใจของเขา!
ไม่ใช่วา่ บ่าวรับใช้ท่วั ไป เจ้านายพูดว่าอย่างไรก็ตอ้ งทําอย่างนัน้ หรอกรึ?
บ่าวคนนีม้ ีท่ีมาที่ไปอย่างไรกันแน่?
เผยเยี่ยนมองแวบเดียวก็รูแ้ ล้วว่าอวีถ้ งั คิดอันใดอยู่
เขาชําเลืองมองอวีถ้ งั เอ่ยเสียงเรียบนิ่ง “เผยชีมีแม่นมคนเดียวกับข้า”
“อ้อ” อวีถ้ งั รีบก้มหน้าสํานึกผิด “เป็ นข้าที่คิดเลยเถิดไปชั่วครู”่
เผยเยี่ยนเอ่ยอย่างเยือกเย็น “ข้าว่าเจ้าไม่ได้คิดเลยเถิดชั่วครู ่ แต่คิดเลยเถิดอยู่ตลอด
มากกว่า”
เด็กสาวน่ารักสดใสเช่นนี ้ ไฉนจึงชอบซุบซิบนินทาผูอ้ ่ืนกัน ต้องเปลี่ยนนิสยั นีเ้ สียหน่อย
แล้ว
ปากมากติฉินนินทาผูอ้ ่นื ถือเป็ นหนึ่งในกฎเจ็บขับ 1 203

เผยเยี่ยนกําลังคิดว่าจะสั่งสอนอวีถ้ งั อย่างไรดี ทว่าเผยชีกลับถลาเข้ามาอีกครัง้ “นาย


ท่านสาม ผูต้ ิดตามของใต้เท้ากูไ้ ม่ยอมกลับไป รัง้ จะพบท่านให้ได้ ยังกล่าวอีกว่า ใต้เท้าสกุล
พวกเขามีเรื่องสําคัญที่ตอ้ งการพูดคุยกับท่าน...”
เขาพูดถึงตรงนีก้ ็หยุดลง มองอวีถ้ งั ไปแวบหนึ่ง

1
กฎเจ็บขับ คือกฎเจ็ดข้อที่สามีควรขับภรรยาออกจากบ้าน หนึ่งคือไม่เคารพบิดามารดา สองไม่มีบตุ ร สามคบชู้ สี่ขีอ้ ิจฉา
ริษยา ห้าเป็ นโรคร้ายแรง หกปากมากติฉินนินทาผูอ้ ่นื เจ็ดลักเล็กขโมยน้อย
1045

อวี ถ้ ัง ยื นขึน้ อย่า งว่องไวทัน ที “ข้า มาส่ง ชาให้ท่า นลองชิม เท่า นั้น ในเมื่ อท่านมีธุระ
เช่นนัน้ ข้าก็ขอตัวก่อน”
เผยเยี่ยนกลับไม่สนใจอวีถ้ งั เอ่ยกับเผยชี “กูเ้ จาหยางคิดจะเล่นลูกไม้อนั ใด?”
เผยชีเห็นเขาไม่หลบเลี่ยงอวีถ้ งั จึงไม่ได้กงั วลอะไรอีก เอ่ยตรงๆ “กล่าวว่าเรื่องเกี่ยวกับ
ผูบ้ งั คับการขนส่งเกลือแห่งเหลี่ยงไหว 2” 204

อวีถ้ งั ได้ฟังก็ตกอกตกใจ
กูฉ้ ่างต้องการพบเผยเยี่ยนเพราะเรื่องนี ้ จะเห็นได้วา่ หากเผยเยี่ยนไม่ทาํ กิจการเกี่ยวกับ
ใบอนุญาตขนส่งเกลือ ก็คงทําเกี่ยวข้องกับการลอบขายเกลือ
นางอยู่ท่ีน่ีตอ่ ย่อมไม่เหมาะสม
“ข้าไปล่ะ!” นางไม่รอให้เผยเยี่ยนเอ่ยปาก ถือหนังสือที่อาหมิงห่อให้นางก่อนหน้านี ้
ก่อนจะคํานับให้เผยเยี่ยน เอ่ยว่า “ตํารามากมายขนาดนี ้ ข้าต้องรีบอ่านดูเสียหน่อย พืน้ ที่ทาง
ภูเขาของข้ายังไม่รูว้ ่าควรทําอย่างไรดี? แต่ขา้ จะลองปลูกถั่วลิสงก่อน รอจนเก็บถั่ว ข้าจะส่งมา
ให้ท่านชิมอีกครัง้ ไม่รูว้ ่าท่านชอบกินขนมถั่วกรอบหรือชอบกินถั่วต้ม? ถึงเวลานัน้ ก็จะทําให้
ท่านชิมอย่างละเล็กละน้อย”
คําพูดนีก้ ล่าวอย่างสะเปะสะปะอยู่บา้ ง
เผยเยี่ยนเห็นก็รูส้ กึ ขบขัน
ปกติเห็นคุณหนูอวีผ้ นู้ ีใ้ จกล้าอย่างยิ่ง ยามนีก้ ลับดูคล้ายตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ
ก็ไม้รูว้ า่ สมองเล็กๆ ของนางกําลังคิดอะไรอยู่
คงไม่คิดว่าเขากําลังลอบขายเกลือกระมัง?

2
เหลี่ยงไหว คือพืน้ ที่บริเวณแม่นาํ้ แยงซีเกียงจนถึงทางตอนเหนือและตอนใต้ของแม่นาํ้ ไหว
1046

หรือรูส้ กึ ว่าพลัง้ ล่วงรูก้ ิจการของสกุลเขาเข้า จึงเกิดหวาดกลัวในใจ?


ในเมื่อเป็ นเช่นนี ้ ข่มขวัญนางเสียหน่อยก็ดีเหมือนกัน
วันหลังนางจะได้ไม่ทาํ ตัวไม่รูจ้ กั ที่สงู ที่ต่าํ กล้าเดินทางไปทุกที่ กล้าพูดทุกอย่าง กระทั่ง
ยังมาประชันหน้ากับหลี่ตวนในจวนเขา หากไม่ได้ถ่ายทอดคําสั่งออกไปให้คนอื่นคิดว่าเขา
ปกป้องนาง เกรงว่าคงจะถูกคนถ่วงหินโยนนํา้ ไปนานแล้ว
ให้นางได้รบั บทเรียน ทําตัวสงบเสงี่ยมเสียบ้างก็ดี
นี่เขากําลังปรารถนาดีตอ่ นางอยู่!
เผยเยี่ยนยิ่งคิดก็ย่งิ รูส้ กึ ว่าตัวเองทําถูก
เขาเผยสีหน้าเคร่งขรึม กําชับอาหมิง “ส่งคุณหนูอวีก้ ลับเรือนเสีย”
อวีถ้ งั เร่งตามอาหมิงออกจากสวนทันที
เพียงแต่ระหว่างทางนางก็อดคิดไม่ได้ ก่อนหน้านีเ้ ผยเยี่ยนเคยไปไหวอันครัง้ หนึง่ กล่าว
ว่าช่วยเหลือใครสักคน ทัง้ ไปกับโจวจ้วงหยวน...ครัง้ นีก้ ฉู้ ่างออกจากเมืองหลวงมาตรวจราชการ
ทัง้ ยังไปไหวอัน...สีหน้าของเผยเยี่ยนบูดบึง้ เพียงนัน้ หรือเรื่องพวกนีม้ ีอะไรเกี่ยวพันกัน?
นางหวนคิดเรื่องพวกนัน้ ในชาติก่อนอย่างละเอียด
เหมือนจะไม่เคยได้ยินว่าสกุลเผยทํากิจการเกี่ยวกับใบอนุญาตขนส่งเกลือ...
อวีถ้ ังยิ่งคิดก็ย่ิงปวดหัว รู ส้ ึกว่าตัวเองเหมือนคนตาบอดที่คลําช้าง แม้จะคิดไม่เข้าใจ
ยังมิสไู้ ม่ตอ้ งคิดเสีย จากความสามารถของเผยเยี่ยน หากเขายังอับจนหนทาง นางก็คงไม่อาจ
สามารถจัดการอะไรได้เช่นกัน
เพียงหวังว่าครัง้ นีเ้ ขาจะผ่านไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย อย่าได้เกิดเรื่องอะไรก็พอแล้ว
นางมองตําราที่หอบไว้ในอ้อมอก ลอบอธิษฐานในใจ คิดว่ากลับเรือนไปจะพยายาม
อ่านตําราพวกนีใ้ ห้จบเร็วๆ ไม่อาจทําลายความหวังดีของเผยเยี่ยนได้
1047

แต่สิ่งที่นางคาดไม่ถึงคือ เพิ่งกลับไปถึงเรือน ก็พบกับบิดาและญาติผพู้ ่ีกลับมาจากข้าง


นอกพอดี
อวีถ้ ังร้องเสียงหลง วางหนังสือตําราไว้ดา้ นข้าง ก่อนจะกอดแขนบิดา เอ่ยอย่างดีใจ
“ท่านพ่อ ท่านพี่ พวกท่านกลับมาเมื่อใดกัน? ไฉนไม่ส่งข่าวล่วงหน้ามาบอกเสียหน่อย พวกเรา
จะได้ไปรับพวกท่าน”
เวลาเพียงไม่ก่ีวนั อวีเ้ หวินกลับดูผิวคลํา้ กว่าก่อนยามที่ออกเดินทางอยู่บา้ ง แต่ท่าที
กระฉับกระเฉงไม่นอ้ ย ดวงตานัน้ ระยิบระยับราวกับดวงดาว
เขาหัวเราะ ก่อนจะลูบศีรษะบุตรสาว “ข้าซือ้ ไข่มกุ ใหม่ของปี นีจ้ ากซูโจวมาให้เจ้ากล่อง
หนึ่ง รอแม่เจ้าว่าง พวกเจ้าก็เอาไปทําเครื่องประดับที่รา้ นเครื่องเงินเสีย” ประโยคสุดท้ายกลับ
เอ่ยกับเฉินซื่อ
เฉินซื่อบ่นพึมพํา “คนกลับมาก็ดีแล้ว ยังซือ้ อะไรมาอีก? ไข่มกุ ใหม่ของปี นี ้ คงราคาแพง
ไม่นอ้ ยกระมัง? ก็ไม่จาํ เป็ นต้องซือ้ ไข่มกุ ใหม่ของปี นีเ้ สียหน่อย ปี ท่ีแล้วก็ใช้ได้เหมือนกัน”
อวีห้ ย่วนเอ่ยด้วยรอยยิม้ “คนชราผูค้ นย่อมไม่สนใจ ก็เหมือนกับไข่มกุ ที่เก็บไว้นาน ไม่
มีคา่ ราคาอีกแล้ว ในเมื่อจะซือ้ ก็ควรซือ้ ไข่มกุ ใหม่ในปี นี”้
เฉินซื่อได้ฟังก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ยากที่จะเอ่ยหยอกเย้าอวีห้ ย่วน “นี่เจ้ากําลังพูด
ว่าแม่เจ้าและอาสะใภ้ลว้ นแก่ชราหมดแล้วรึ?”
อวีห้ ย่วนตกตะลึง คล้ายหลังใบหน้าก็ขนึ ้ สี เกาศีรษะอย่างขัดเขิน “ไม่ใช่ ไม่ใช่ อาสะใภ้
อย่าได้ตาํ หนิท่ีขา้ พูดไม่คอ่ ย...”
เฉินซื่อตัดบทเขาด้วยรอยยิม้ “ข้าแค่หยอกเจ้าเล่นเท่านัน้ เพียงแต่เจ้าเป็ นฝั่ งเป็ นฝา
แล้ว ภายหลังยามที่เอ่ยคําพูดพวกนีต้ อ้ งระวังให้ดี หลานสะใภ้จะได้ไม่อดึ อัดใจ”
อวีถ้ งั ก้มหน้าตอบรับว่า “มิผิด” อย่างรีบเร่ง
1048

คนสกุลอวีจ้ ึงหันไปพูดกับอวีถ้ งั “อากาศร้อนเช่นนี ้ อย่าได้เกาะแกะพ่อเจ้านักเลย พ่อ


เจ้าและพี่เจ้าเพิ่งจะมาถึงก่อนหน้าเจ้าไม่นาน หากมีอะไรจะพูด เจ้าให้พวกเขาไปล้างหน้า
ผลัดผ้าก่อนเถิด”
อวีถ้ ังหัวเราะแหยๆ หันไปเอ่ยกับบิดาและญาติผูพ้ ่ีว่า “ลําบากแล้ว” ก่อนจะผละตัว
ออกมา
อวีเ้ หวินเอ่ยกับอวีห้ ย่วน “เจ้าก็กลับไปพักก่อนเถิด! ตอนเย็นก็ชวนพ่อแม่และสะใภ้เจ้า
เข้ามากินข้าวด้วยกัน ยังมีเรื่องที่ตอ้ งบอกให้พอ่ เจ้าทราบเช่นกัน”
อวีห้ ย่วนคํานับอย่างนอบน้อม บอกลาเฉิ นซื่อและอวีถ้ ัง ก่อนจะพาซานมู่กลับเรือน
ตัวเองไป
ด้านเฉินซื่อก็ไปช่วยอวีเ้ หวินผลัดเปลี่ยนเสือ้ ผ้า อวีถ้ ังไปจัดโต๊ะอาหารด้วยตัวเอง รอ
จนอวีเ้ หวินเปลี่ยนสวมชุดสะอาดสะอ้านออกมาแล้ว ยังเป็ นฝ่ ายตักแกงเห็ดมาให้บิดา เรียกเขา
มากินข้าว
อวีเ้ หวินถอนหายใจอย่างสบายอกสบายใจ กินข้าวเย็นร่วมกับภรรยาและลูกสาวแล้ว
ก็ ย ้า ยไปนั่งใต้ระแนงองุ่นหลังเรือน ซวงเถายกนํา้ ชาและของว่างขึน้ โต๊ะ ยามนี เ้ ขาจึงค่อย
ถามอวีถ้ ังด้วยรอยยิม้ “ได้ยินแม่เจ้าบอกว่า เจ้าไปสกุลเผยตัง้ แต่เช้าตรู ่ มีเรื่องเร่งด่วนอะไร
อย่างนัน้ รึ?”
อวีถ้ งั ไปหอบหนังสือที่เผยเยี่ยนให้นางยืมมา เอ่ยอย่างโอ้อวดอยู่บา้ ง “ท่านดูสิ! นาย
ท่านสามให้ขา้ ยืม!” จากนัน้ ก็พดู เรื่องที่เกิดขึน้ ในสกุลเผยเป็ นนํา้ ไหลไฟดับ “ท่านคงไม่รู ้ คาดไม่
ถึงว่าข้าจะได้กินสาลี่ในสกุลเผย! เป็ นของที่ส่งมาจากสวนสกุลพวกเขา! ยามนีก้ ็จะนํามาขึน้
ตลาดแล้ว! นายท่านสามยังเอ่ยว่า หากรสชาติดี ก็จะขายให้พวกพ่อค้าเร่...นายท่านสามรูเ้ รื่อง
เพาะปลูกด้วย...ไม่แปลกใจที่ทุกคนควรรํ่าเรียนหนังสือ...ทัง้ ยังมีตาํ ราที่บรรยายว่าเพาะปลูก
อย่างไร...”
ยามนีก้ ระทั่งเฉินซื่อยังตกใจ
1049

นางพลิกตําราที่อวีถ้ ังยืมมา เอ่ยอย่างประหลาดใจ “ในตําราก็มีสอนว่าเพาะปลูก


อย่างไรรึ? ข้าเกิดมากลับเพิ่งเคยได้ยินเป็ นครัง้ แรก?”
อวีเ้ หวินรีบร้อนพลิกตําราขึน้ มา
อวีถ้ งั เห็นก็เผยรอยยิม้
นางเอ่ยกับบิดา “นายท่านสามบอกว่า หากข้าอ่านไม่เข้าใจ ก็ให้ขา้ ถามท่าน!”
อวีเ้ หวินที่ฝังหน้ากับตํารา พลันร่างแข็งทื่อขึน้ มาทันที หัวเราะเสียงดัง “ข้าขอดูก่อน ข้า
ขอดูก่อน”
อวีถ้ งั กะพริบตาปริบ
ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะแตกต่างจากที่นางคาดไว้!
บิดาของนางควรจะรู ว้ ่าปลูกต้นไม้อย่างไรหลังจากอ่านตําราไม่ใช่หรือ? ไฉนฟั งจาก
นํา้ เสียงแล้ว กลับดูคล้ายไม่มีความมั่นใจ! เผยเยี่ยนฉลาดเกินไป หรือบิดาของนาง...ไม่อาจทํา
ความเข้าใจได้กนั แน่?
อวีถ้ งั กําลังครุน่ คิดว่าจะถามบิดาอย่างอ้อมๆ อย่างไรดี กลับได้ยินเสียงอวีป้ ๋ อดังขึน้ มา
ก่อน “ฮุ่ยหลี่ อาหย่วนบอกว่าเจ้ามีเรื่องสําคัญอยากคุยกับข้าอย่างนัน้ รึ?”
ครอบครัวของอวีถ้ งั รีบลุกขึน้ ต้อนรับ
“ท่านพี่มาแล้วรึ!” อวีเ้ หวินทักทายอวีป้ ๋ อ อวีถ้ ังและเฉินซื่อก็ทกั ทายอวีห้ ย่วน หวังซื่อ
และเซียงซื่อที่เดินตามหลังอวีป้ ๋ อมาเช่นกัน
ป้าเฉินและซวงเถาย้ายตั่งเข้ามาเพิ่มอย่างรีบเร่ง
ทุกคนต่างแยกนั่งตามความอาวุโส ซวงเถาและป้าเฉินเปลี่ยนนํา้ ชาใหม่อีกครัง้ ก่อน
ยกผลหมากรากไม้ขนึ ้ โต๊ะ
1050

ยามนีอ้ วีเ้ หวินจึงค่อยมองอวีห้ ย่วนอย่างภูมิใจ เอ่ยกับอวีป้ ๋ อ “ท่านพี่ ให้อาหย่วนพูด


กับท่านดีกว่า! เรื่องนีก้ ็นบั เป็ นความดีความชอบของอาหย่วนเช่นกัน”
ดูท่าบิดาและญาติผพู้ ่ีไปซูโจวคงจะได้อะไรกลับมาไม่นอ้ ย
ก่อนหน้านีบ้ ิดาไม่เอ่ยอันใด คงคิดจะชื่นชมญาติผพู้ ่ีตอ่ หน้าทุกคนกระมัง
อวีถ้ งั ขบคิดอยู่ในใจ เบนสายตาตามทุกคนไปยังร่างอวีห้ ย่วน
น้อยครัง้ ที่อวีห้ ย่วนจะถูกผูใ้ หญ่ยอมรับเช่นนี ้
ใบหน้าเขาขึน้ สีราวกับหยดเลือด เผยท่าทีต่ืนเต้น เอ่ยอย่างถ่อมตัวก่อนว่า “ล้วนเป็ น
ท่านอาที่คอยช่วยตรวจสอบความผิดพลาด” จากนัน้ ก็เล่าเรื่องที่เขาและอวีถ้ ังไปซูโจวอย่าง
คร่าวๆ ยามนีจ้ งึ กล่าว “หลังจากพวกเรากลับมาก็ปรึกษากับท่านอา ท่านอาไม่วางใจอยู่บา้ ง จึง
ตัง้ ใจเดินทางไปซูโจวกับข้าอีกครัง้ เพื่อพบนายท่านเจียง นายท่านเจียงคนนีป้ ระสบความสําเร็จ
ตัง้ แต่อายุนอ้ ย มีความคิดความกล้า ทําเรื่องได้อย่างมั่นใจทัง้ รูจ้ กั ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์
ได้พบกับท่านอาก็เหมือนเจอสหายเก่า” เขายิ่งพูดก็ย่งิ กระตือรือร้นขึน้ มา “แต่ท่านอาเพิ่งจะพบ
เจอกับเขาครัง้ แรก ยามนั้น ยังไม่ ให้สัญญากับนายท่านเจี ยงสักประโยค หมุน หายก็ พาข้า
เดินทางไปหนิงปั วทันที!”
“หา!” ทุกคนล้วนตกตะลึง
อวีเ้ หวินเห็นเช่นนัน้ ก็หวั เราะอย่างลําพองใจ เผยท่าทีเบิกบาน ยกถ้วยชาด้านข้างจิบ
ไปหนึ่งคํา
อวี ห้ ย่ว นฉี กยิม้ อย่า งไร้สุม้ เสี ยง เอ่ย ต่อ “ท่ า นอาไม่เพีย งพาข้า ไปทําความรู จ้ ักกับ
เจ้าของเรือสกุลหวังผูน้ นั้ อย่างชัดเจน แต่ยงั พาข้าไปดูเรือของสกุลหวัง สืบข่าวการค้าทางทะเล
ที่ผ่านมาหลายปี นี ้ เมื่อคิดว่าคําพูดของนายท่านเจียงไม่ได้เป็ นเรื่องโกหก พวกเราก็เร่งกลับซู
โจวทันที ยามนัน้ จึงหารือและตกลงเขียนสัญญาร่วมหุน้ กับนายท่านเจียง”
ก็หมายความว่า สกุลพวกเขาตัดสินใจร่วมหุน้ การค้าทางทะเลกับเจียงเฉาแล้ว
1051

อวีถ้ งั อดกล่าวไม่ได้ “เช่นนัน้ สกุลพวกเราลงเงินเท่าไร?”


อวีเ้ หวินเงยหน้าขึน้ แฝงท่าทีหยิ่งทะนงอยู่บา้ ง “หกพันตําลึง!”
เพิ่มอีกสองพันตําลึง
อวีถ้ งั ร้องเสียงหลง “มากขนาดนีเ้ ชียว?”
ด้านอวีป้ ๋ อกลับเอ่ยว่า “สกุลพวกเรามีเงินมากมายขนาดนัน้ ได้อย่างไรกัน?”
หวังซื่อและเฉินซื่อสบสายตากัน
เซียงซื่อเหมือนจะรูอ้ ะไรอยู่บา้ ง ก้มศีรษะลง ทว่าหางตากลับมองที่อวีห้ ย่วนไม่หยุด
ชั่วขณะนัน้ บรรยากาศพลันเงียบเป็ นเป่ าสาก
อวีเ้ หวินสะบัดพัดออกมา เอ่ยอย่างมั่นใจ “พวกเจ้าวางใจเถิด การซือ้ ขายนีข้ า้ มองด้วย
ตาตัวเองแล้ว มั่นใจเป็ นอย่างยิ่ง ย่อมไม่เกิดความผิดพลาด ส่วนเรื่องเงินในสกุลมาจากไหน
นั้น ” เขามองอวี ป้ ๋ อไปแวบหนึ่ ง “ช่ ว งนี ้ข้า ได้เ งิ น จากการเขี ย นหนัง สื อ ดัง นั้น พวกเจ้า ไม่
จําเป็ นต้องออกเงิน แต่หากทําเงินได้ พวกเราทัง้ สองครอบครัวก็แบ่งกันคนละครึง่ !”
1052

บทที่ 132 ประชาพิจารณ์


แต่วา่ หกพันตําลึงออกจะมากไปหน่อย!
อวีถ้ งั เอ่ยว่า “ท่านพ่อ ท่านลองคิดดูอีกหน่อยไหมเจ้าคะ นายท่านเจียงเป็ นคนทํามา
ค้าขาย อย่างไรก็ไม่ออกเรือแค่ครัง้ นีค้ รัง้ เดียวแน่ พวกเราเองก็เพิ่งรูจ้ กั กับเขา ค่อยๆ ขยับไปที
ละขัน้ ไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะ?”
อวีเ้ หวินไม่ใช่หวั หน้าครอบครัวที่ครํ่าครึหวั โบราณ ตรงกันข้าม เขาชมชอบวิธีการที่ทกุ
คนปรึกษาหารือและช่วยกันลงมือทํา อีกทัง้ เขาก็รูว้ ่า ความคิดเห็นของอวีถ้ งั เท่ากับความคิด
เห็นของคนอื่นในสกุล ถ้าเขาต้องการการสนับสนุนจากผูอ้ ่นื ก็ตอ้ งพูดกล่อมอวีถ้ งั ให้ได้เสียก่อน
ผูอ้ ่ืนถึงจะคล้อยตามไปด้วย
“อาถัง คํา พูด ของเจ้า มี เ หตุผ ลไม่ น ้อ ย” อวี เ้ หวิ น เค้น ความคิ ด ก่ อ นจะเอ่ ย ต่ อ ว่ า
“บางครัง้ พวกเราร่วมหุน้ กันทําการค้า ทว่าสิ่งที่ทาํ จริงๆ มิใช่การค้า แต่คือการเป็ นคน ต้องรู ้
เอาไว้ว่า การค้าเป็ นของตาย แต่คนนัน้ มีชีวิต ขอเพียงคนซื่อตรงมีสจั จะ มีความสามารถและ
พรสวรรค์มากพอให้เชื่อถือ ต่อให้การค้าขายครัง้ นีเ้ ขาจะไม่ทาํ กําไร แต่ครัง้ ต่อๆ ไปย่อมสําเร็จ
แน่ พวกเราแค่ตอ้ งเดินตามเขาไปก็พอแล้ว รอวันที่เขาสยายปี กโบยบิน ก็คือวันที่เราจะได้เงิน
เป็ นลํ่าเป็ นสัน สายตาของเจ้าต้องมองออกไปให้ไกลกว่านี ้ อย่าเอาแต่จดจ้องกําไรขีป้ ะติ๋วตรง
หน้า” พูดจบ เขาก็หนั ไปพูดกับอวีป้ ๋ อว่า “ก็เหมือนนายท่านอู๋ขา้ งบ้านเรา พวกเขารํ่ารวยขึน้ มา
ได้ก็เพราะได้พ่ีเขยดี แต่ท่ีพ่ีเขยเขามีทกุ วันนีไ้ ด้ มิใช่เพราะตอนผูเ้ ฒ่าสกุลอูย๋ งั อยู่ก็คอยส่งเขารํ่า
เรียนหรือ การค้าขายนัน้ บางครัง้ ก็ใช้หลักการเช่นเดียวกัน”
อวีถ้ งั พลันหัวเราะไม่ได้รอ้ งไห้ไม่ออก
เมื่อครัง้ ที่ท่านผูเ้ ฒ่ายังมีชีวิต ในบ้านก็เหลือทรัพย์สินไม่เท่าไรแล้ว ทัง้ ภาษี และเงินที่
ต้องจ่ายทางการทุกๆ ปี ก็กดทับเสียจนหายใจไม่ออก เขาถึงได้ตัดสินใจเลือกผูท้ ่ีมีพรสวรรค์
ด้านการเล่าเรียนทว่ายากจนอย่างพี่เขยของนายท่านอู๋ และส่งเสียเขาถึงสิบปี พี่เขยของนาย
ท่านอู๋ก็มมุ านะบากบั่น สอบได้เป็ นจิน้ ซื่อ รับตําแหน่งผูด้ แู ลสํานักศึกษาอยู่ท่ีเจียงซี นับแต่นนั้
1053

สกุลของนายท่านอู๋ก็ได้ลืมตาอ้าปากจริงๆ เสียที ไม่ตอ้ งคอยกลัวว่าคนของทางการจะมาหา


เรื่อง ทัง้ ยังสามารถไปมาหาสูก่ บั สกุลขุนนางได้อีกด้วย
เพราะมีตวั อย่างให้เห็นก่อนหน้า ตอนที่นายท่านอู๋เลือกลูกเขยทัง้ สองคนจึงล้วนเป็ น
บัณฑิตทัง้ สิน้ หนึ่งในนัน้ คือซิ่วไฉ ส่วนอีกคนเป็ นจวี่เหริน
ในเมืองหลินอันแห่งนี ้ นับว่าเป็ นสกุลที่มีประวัติความเป็ นมาอยู่บา้ ง
การมีเงินเก็บออมไม่สนู้ าํ ไปส่งเสียให้คนเล่าเรียนเขียนอ่านหรือไม่ก็ทาํ การค้า หลักการ
นี น้ างเข้า ใจดี ไม่ เ ช่ น นั้น นางก็ ค งไม่ ห าข้อ อ้า งไปที่ เ มื อ งซู โ จวหรอก แต่น างไม่ ไ ด้กัง วลถึง
หลักการพวกนัน้ เรื่องบางเรื่องเมื่อชาติก่อนนางก็เพียงแค่ได้ยินได้ฟังมา ส่วนความจริงเป็ นเช่น
ไรยังต้องไปดูให้รูด้ ว้ ยตนเอง เงินที่ได้จากการประมูลแผนที่แม้เป็ นลาภลอยซึ่งได้มาอย่างไม่
คาดฝัน แต่อย่างไรล้วนนับเป็ นเงินทอง ไม่อาจสิน้ เปลืองตามใจชอบได้
นางอดจะพูดต่อไม่ได้ว่า “ท่านพ่อ ท่านพูดถูกต้องแล้วเจ้าค่ะ ดังนัน้ ข้าถึงบอกว่าจะลง
เงินให้นอ้ ยลงหน่อยได้หรือไม่ ถึงอย่างไรบ้านเราก็ไม่มีเงินเป็ นถุงเป็ นถัง สวนป่ าทางนัน้ ต้องใช้
เงิน ร้านเครื่องลงรักต้องใช้เงิน เงินทองมีมาก แต่มากพอจะใช้ทงั้ ชีวิตอันยาวนานหรือ มิสเู้ ป็ น
ลําธารสายน้อยที่คอ่ ยๆ ไหลจะดีกว่า”
อวีป้ ๋ อพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย
เงินหกพันตําลึง สําหรับเขาแล้ว เป็ นเรื่องที่ก่อนหน้านีไ้ ม่กล้าจะวาดฝันถึงด้วยซํา้
ลุงทนมาก กําไรมาก ความสูงก็มากเช่นเดียวกัน
เขายอมที่จะค่อยเป็ นค่อยไป ต่อให้ตอ้ งเข้าเนือ้ แต่ก็คงไม่ปวดใจนัก
1054

อวีเ้ หวินเห็นพี่ชายผงกศีรษะคล้อยตามวาจาของอวีถ้ งั จึงโพล่งไปว่า “ท่านพี่ เติมดอก


ลายบนดิน้ ไหม 1กับส่งถ่านกลางหิมะ 2นัน้ ต่างกัน ข้าเห็นว่านายท่านเจียงเป็ นคนดี ดังนัน้ ถึง
205 206

อยากจะร่วมลงหุน้ กับเขา บัดนีเ้ ขาเพิ่งเดินก้าวแรก นับว่าเป็ นช่วงที่ยากที่สดุ พวกเราหากต้อง


รอให้เขาประสบความสําเร็จแล้วค่อยไปขอร่วมหุน้ มิสอู้ าศัยช่วงเวลานีท้ ่มุ สุดตัว ผูกพันธมิตร
กับเขาไว้เสีย ต่อไปถ้ามีการค้าขายที่ดีกว่านี ้ พวกเราจะได้มีสิทธิ์ไปต่อรองกับเขาได้ และเขาก็
อาจจะช่วยเหลือดูแลเรา! นํา้ ใจเล็กน้อยเมื่อแรกเริม่ ต่างหากถึงจะนับว่าเป็ นนํา้ ใจอันแท้จริง!”
สิ่งสําคัญก็คือ พวกเขาสกุลอวีไ้ ม่มีใครเด็ดเดี่ยวอาจหาญ กล้าทําการค้าด้วยเงินก้อน
ใหญ่เพียงนัน้
ในเมื่อเป็ นเช่นนี ้ ไม่สหู้ าผูร้ ่วมหุน้ ที่พ่ึงพาได้ ผูร้ ่วมหุน้ ได้กินเนือ้ พวกเขาก็ยงั ได้ด่ืมนํา้
แกงตามไปด้วย
อวีป้ ๋ อถูกคําพูดของอวีเ้ หวินทําให้หวั่นไหว ดวงหน้าขยับขึน้ ลงไม่หยุด
อวีเ้ หวินเห็นแล้วก็ยินดี ยิม้ ตาหยีสง่ ให้อวีถ้ งั “ก็ตรงกับที่อวีถ้ งั พูดไว้ เงินทองมีมาก แต่
มากพอจะใช้ทงั้ ชีวิตอันยาวนานหรือ ในเมื่อเป็ นลาภลอย นั่นก็คือได้มาอย่างไม่คาดฝัน และมัน
คงไม่มีครัง้ ที่สองอีก หากต้องกํามันไว้แล้วค่อยๆ ใช้จ่าย มิสลู้ องเสี่ยงสักตัง้ ต่อให้ตอ้ งขาดทุน
พวกเราก็จะได้สงบใจ คิดเสียว่าเงินนีไ้ ม่เคยได้มาแต่แรก”
คราวนีห้ วังซื่อกับสกุลเฉินก็เริม่ พยักหน้าเออออแล้ว
อวีถ้ งั เอ่ยอย่างจนใจว่า “สิ่งที่ท่านพ่อพูดมาข้าไม่คดั ค้าน ข้ากลัวแต่วา่ นายท่านเจียงจะ
เข้าใจผิด คิดว่าพวกเรามีเงินเป็ นถุงเป็ นถัง ต่อไปหากมีการค้าอะไรก็จะมาขอเงินลงทุนจากเรา
หากว่าเราควักเงินให้ไม่ได้ กลับจะทําให้นายท่านเจียงขุ่นเคืองใจ สองสกุลเกิดหมองใจกัน
ขึน้ มา จากเรื่องน่ายินดีจะกลายเป็ นน่าขําขันเอาได้”

1
เติมดอกลายบนดิน้ ไหม หมายถึง เสริมสิง่ ที่งดงามอยู่แล้วให้สวยงามยิ่งขึน้ ไปอีก
2
ส่งถ่านกลางหิมะ หมายถึง การช่วยเหลือทางด้านวัตถุในยามที่กาํ ลังขาดแคลนพอดี
1055

“ไม่หรอก!” อวีห้ ย่วนพูดแทรก “ท่านอาคํานึงถึงปั ญหานีแ้ ต่แรก ดังนัน้ จึงพูดกับนาย


ท่านเจียงไว้แล้ว บอกว่านี่คือเงินทัง้ หมดของสกุล ไม่เช่นนัน้ เหตุใดจู่ๆ จึงเพิ่มอีกสองพันตําลึง
เล่า?”
อวีเ้ หวินฟั งแล้วก็หวั เราะได้ใจพร้อมโบกพัดไปมา “อาถัง เจ้าคิดว่าบิดาเจ้าเป็ นคนที่รู ้
แต่ในตําราหรืออย่างไร? ข้าแค่ช่ืนชมนายท่านเจียงผูน้ ีม้ าก คิดช่วยเขาอีกสักครัง้ ข้าวหนึ่งถุง
รําลึกเป็ นบุญคุณ ข้าวหนึ่งกระสอบกลับนํามาซึง่ ความแค้น 3 ข้าก็ไม่อยากให้เรื่องดีๆ กลายเป็ น
207

เรื่องเลวร้าย ถึงได้เพิ่มเงินสองพันตําลึงเข้าไปอีก ด้วยต้องการบอกกับนายท่านเจียง นี่คือเงิน


ออมของพวกเราสองครอบครัว เป็ นเงินทัง้ หมดที่พวกเราจะควักออกมาใช้ได้แล้ว ข้าเชื่อว่า
หากครัง้ นีไ้ ม่อาจทํากําไร ต่อไปหากนายท่านเจียงมีกิจการอะไรอีก ย่อมไม่สะดวกใจให้เราต้อง
ออกเงินมากมาย อีกอย่างข้าก็ไปสืบมาด้วยว่า เพื่อทําการค้าทางทะเลครัง้ นี ้ นายท่านเจียงก็
ขายที่นาซึง่ ได้รบั ตกทอดมาออกไปห้าสิบหมู่ เรือของสกุลก็เอาไปจํานําที่โรงจํานําแล้ว เขาเองก็
ทุ่มตัวสุดกําลัง ย่อมต้องเห็นความสําคัญของการค้าครัง้ นีย้ ่ิงกว่าพวกเราแน่ ติดตามเขาไม่มี
ทางผิดพลาดเป็ นอันขาด
อวีถ้ งั คิดถึงเรื่องเหล่านีเ้ มื่อชาติก่อนอย่างละเอียด
นายท่านเจียงไม่เคยล้มละลายหมดตัว
ไม่อย่างนัน้ ถ้าเจียงเฉาเคยหมดตัวแล้วลุกขึน้ ยืนใหม่อีกครัง้ ได้ ย่อมถูกผูอ้ ่นื คุยโวจนดัง
กระฉ่อนแล้ว ชื่อเสียงของเจียงเฉาไม่เพียงไม่เสียหาย มีแต่จะเพิ่มบารมีรอบตัวให้เขา นางก็
ต้องจะเคยได้ยินมาบ้าง
อย่างมากเจียงเฉาอาจจะไม่ได้คา้ ขายจนรํ่ารวยเป็ นกอบเป็ นกํา

3
ข้าวหนึ่งถุงรําลึกเป็ นบุญคุณ ข้าวหนึ่งกระสอบกลับนํามาซึ่งความแค้น หมายถึง เมื่อผูอ้ ่ืนตกอยู่ในสถานการณ์ลาํ บาก
การให้ความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ จะทําให้เขารู ส้ ึกซาบซึง้ แต่การให้ความช่วยเหลือที่มากจนเกินไป จะเปลี่ยนเป็ นการ
พึ่งพาอาศัย หากวันใดที่หยุดให้ความช่วยเหลือ กลับจะทําให้เขาเกิดความโกรธแค้นเกลียดชัง
1056

“ในเมื่อท่านพ่อคิดดีแล้ว ข้าก็สนับสนุนท่านพ่อสุดกําลังเจ้าค่ะ!” อวีถ้ งั ตอบกลับอย่าง


ตรงไปตรงมา แต่นิสยั ระแวดระวังของนางก็ทาํ ให้อดจะเอ่ยตักเตือนบิดาไม่ได้ “เพียงแต่ตอนที่
ส่งมอบเงินออกไป ต้องนับดูตามขัน้ ตอนให้ชดั เจน หลีกเลี่ยงการถกเถียงในภายภาคหน้า”
“เรื่องนีพ้ วกเจ้าวางใจได้” อวีเ้ หวินเล่าให้ทงั้ ครอบครัวฟั ง “ข้าค้าขายไม่เป็ น แต่ขา้ อ่าน
คนเป็ น! ถึงเวลาที่ตอ้ งส่งมอบเงินข้าจะไปพร้อมกับนายท่านอู”๋
“ว่าไงนะ?!” อวีถ้ งั กระเด้งตัวลุกขึน้ ทันที
อวีเ้ หวินหัวเราะเหอะๆ “ระหว่างทางที่พวกเรากลับจากหังโจวก็เจอนายท่านอู๋เข้า เขา
เคยได้ยินเรื่องนายท่านเจียงมาก่อน ตัดสินใจจะเข้าร่วมหุน้ ครัง้ นีด้ ว้ ย”
“ท่านพ่อ!” อวีถ้ งั กรีดร้องเสียงดัง “การค้าทางทะเลมีความเสี่ยงสูง พวกเราจะลงหุน้ ก็
เป็ นเรื่องของสกุลเรา แต่จะเกลีย้ กล่อมผูอ้ ่ืนให้ลงหุน้ ตามไม่ได้ หากว่าขาดทุนขึน้ มา แม้เพื่อน
บ้านก็คงไม่อาจเป็ นได้แล้ว”
“ข้ารู น้ ่า ข้ารู ”้ อวีเ้ หวินยังเอ่ยต่อด้วยเสียงหัวเราะ “ข้าก็บอกเขาไปเช่นนัน้ แต่เขาเชื่อ
สายตาของข้า เพียงแต่ช่ ัวขณะเดียวไม่อาจหาเงินได้มากเพียงนัน้ จึงคิดลงหุน้ เพียงหนึ่งพัน
ตําลึง อีกอย่างด้วยฐานะการเงินของสกุลอู๋ หนึ่งพันตําลึงเป็ นจํานวนน้อยนิด ต่อให้ขาดทุน
ขึน้ มา ข้าชดเชยให้เขายังได้เลย”
อวีถ้ งั กุมหน้าผาก
ทันใดก็รูส้ กึ ว่าต่อให้นางกลับมาเกิดใหม่ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงนิสยั การใช้จ่ายของบิดา
ได้ ตอนแรกที่ไม่อาจห้ามให้บิดาซือ้ ภาพ ‘ตกปลาใต้ตน้ สนริมแม่นา้ํ ’ ของหลู่ซิ่นได้ นับว่ามิใช่
ความผิดของนางจริงๆ…
อวีห้ ย่วนเองก็รูเ้ รื่องนี ้ ตอนแรกเขาไม่เห็นด้วย เพียงแต่อวีเ้ หวินเป็ นท่านอาของเขา อวี ้
เหวินกับนายท่านอู๋สนทนากัน เขาจะสอดปากก็ใช่เรื่อง ตอนนีถ้ ึงได้เข้าข้างอวีถ้ งั ในทันที “ท่าน
อา ข้าคิดว่าอาถังพูดจามีเหตุผล พวกเราจะลงหุน้ ก็ลงของพวกเราไป นายท่านอูท๋ างนัน้ …”
1057

เพียงแต่ไม่รอให้เขาพูดจบ อาเสาก็ว่ิงหน้าเชิดเข้ามา “นายท่านอู๋มาขอรับ บอกว่ามา


ส่งเงิน”
อวีเ้ หวินดีใจจนออกหน้า รีบสั่งทันทีวา่ “รีบไปเชิญเข้ามาเร็วสิ!”
อวีถ้ งั กับอวีห้ ย่วนแลกเปลี่ยนสายตากัน รับรู ว้ ่าต่อให้พวกเขาคิดจะหยุดยัง้ แต่ก็คงไม่
ทันการแล้ว
เซียงซื่อเห็นดังนัน้ ก็ตบหลังมืออวีห้ ย่วนคล้ายจะปลอบใจ นางสาวเท้าไปยืนข้างอวีถ้ งั
พลางกระซิบว่า “เจ้าอย่ากังวลไปเลย หากว่าขาดทุนจริงๆ เงินที่ชดเชยนายท่านอูห๋ นึ่งพันตําลึง
ข้าจะออกให้เอง เรื่องนีข้ า้ เองก็เป็ นคนสนับสนุนแต่แรก”
แต่จะใช้จ่ายเงินเช่นนีไ้ ม่ได้!
ทว่าเมื่ออวีถ้ งั มองเห็นดวงตาสุกใสของเซียงซื่อ วาจานีน้ างก็พดู ไม่ออก
ทุกคนล้วนปรารถนาดี ต่างคิดทําเพื่อสกุลทัง้ นัน้ หากนางยังยืนกรานไม่เห็นด้วย มีแต่
จะทําให้ทกุ คนหมางใจกัน
อวีถ้ งั ลอบถอนหายใจเฮือก
จู่ๆ ก็นกึ ถึงคําว่า ‘ไม่พบ’ ที่ตรงไปตรงมาของเผยเยี่ยน
นางควรจะเรียนรูจ้ ากเผยเยี่ยนไว้บา้ ง
หากว่านางทําเช่นนัน้ จริงๆ พี่สะใภ้จะปวดใจหรือไม่หนอ?
ก็เหมือนตอนที่นางได้ยินเผยเยี่ยนปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย นางได้ฟังแล้วก็มิใช่รูส้ ึกแย่
มากหรอกหรือ?
อวีถ้ งั ยิม้ ขื่น ได้แต่รบั มือกับสถานการณ์ตรงหน้าให้ดี นางคล้องแขนเซียงซื่อเอาไว้แล้ว
เอ่ยว่า “จะไปยุ่งเงินของพี่สะใภ้ได้อย่างไรเจ้าคะ? เงินของพี่สะใภ้ตอ้ งเก็บเอาไว้ให้หลานๆ ข้า
รํ่าเรียนซือ้ หมึกซือ้ กระดาษ พอสอบได้เป็ นจวี่เหรินจิน้ ซื่อยังต้องซือ้ ของขวัญเพื่อแจ้งข่าวดีกบั
1058

คนของทางการอีก จะหยิบออกมาใช้ง่ายๆ ไม่ได้นะเจ้าคะ! ต่อให้พ่ีสะใภ้มีความคิดเช่นนี ้ แต่ขา้


ที่เป็ นท่านอาจะยอมตกลงได้อย่างไร”
เซียงซื่อหัวเราะจนหน้าแดง
อวีถ้ งั กลัวว่านางยังมีความคิดจะใช้สินเดิมมาชดเชยเงินที่สกุลอวีต้ อ้ งขาดทุนไป จึงรีบ
เปลี่ยนเรื่องกระซิบว่า “พี่สะใภ้ สองวันก่อนข้ากลับไปบ้านเก่า เห็นว่าถั่วลิสงที่ปลูกเอาไว้ใกล้
เก็บเกี่ยวเต็มที ข้าบอกกับปู่ ห้าเอาไว้ ถึงเวลานัน้ ก็ส่งไปให้สกุลเว่ยได้กินอย่างสดใหม่ ท่านว่า
จะไปส่งด้วยตัวเองดี หรือว่าส่งผูอ้ ่นื ไปดีเจ้าคะ?”
หากว่าเซียงซื่อนําไปส่งด้วยตนเอง นางก็จะมีขอ้ อ้างกลับบ้านเก่าแล้ว
เซียงซื่อดีใจตามที่คาด เอ่ยว่า “ถึงตอนนัน้ ข้านําไปส่งเองก็ได้ ข้าเองก็ไม่ได้เจอท่านป้า
นานแล้ว คิดถึงนางอยู่บา้ ง” จากนัน้ ก็เล่าถึงเว่ยเสี่ยวชวนกับเกาซื่อที่เพิ่งแต่งเข้าสกุลไป
อวีถ้ งั ถอนหายใจโล่งอก
พอหมุนตัวกลับมา พลันไม่อยากจะพูดอะไรกับบิดาสักคํา
นางถือโอกาสเดินหนีออกมาตอนที่อวีเ้ หวินกับนายท่านอู๋กาํ ลังปรึกษากันอย่างตื่นเต้น
ว่าจะต้องไปที่ซูโจวอีกรอบหรือไม่ ปิ ดประตูไม่ยอมออกไปไหน แล้วพลิกอ่านหนังสือหลายเล่ม
ที่เผยเยี่ยนให้มาอย่างละเอียด
อวีถ้ ังในตอนนีเ้ ข้าใจแล้วว่าเหตุใดเผยเยี่ยนจึงบอกให้ตนไปหาบิดาหรือหรือไม่ก็คน
ดูแลสวนนาที่บา้ นหากว่ามีขอ้ สงสัยหรือต้องการซักถาม
นางรู ว้ ่าคันไถคืออะไร แต่ว่าเหล่ยซื่อ 4นัน้ เล่า? ถันไถกับเหล่ยซื่อมีอะไรเกี่ยวข้องกัน?
208

แล้วการไถแบบพลิกกับการไถแบบวนต่างกันอย่างไร?

4
เหล่ยซื่อ คือเครื่องมือการเกษตรชนิดหนึ่ง ถูกประดิษฐ์ขนึ ้ ในสมัยโบราณ คล้ายกับคันไถ ใช้เพื่อไถดินและหว่านพืชผล
1059

อวีถ้ งั อ่านไปแล้วเหมือนศีรษะปกคลุมด้วยหมอกหนาทึบ
สิ่งที่ทาํ ให้นางสับสนอย่างมากก็คือ นางแค่อยากรู ว้ ่าจะเพาะปลูกอย่างไร แต่เหตุใด
ตรงนีย้ งั มีตาํ ราปกิณกะอยู่อีกเล่มเล่า?
ตําราปกิณกะเล่มนีเ้ กี่ยวอะไรกับการเพาะปลูกอย่างนัน้ รึ?
อวีถ้ งั พลันเข้าใจขึน้ มาว่าทําไมอวีเ้ หวินถึงตัวแข็งไปเล็กน้อยในตอนแรกที่อ่านหนังสือ
พวกนี ้
1060

บทที่ 133 ลงแรง


แต่เข้าใจแล้วจะมีประโยชน์อะไรเล่า อ่านไม่เข้าใจก็คืออ่านไม่เข้าใจอยู่ดี อวีถ้ งั นึกถึง
คําของเผยเยี่ยน หากในตําราอ่านไม่เข้าใจให้ถามบิดา ไม่หรอก นางตัดสินใจจะศึกษาด้วยด้วย
ตนเอง อ่านไม่เข้าใจก็ไปเปิ ดตํารา ‘แจกแจงอักษร’ ในเรือนเล่มนัน้ นางจะรวบรวมคําถามเขียน
ลงบนกระดาษไว้ รอวันไหนอากาศไม่รอ้ นอบอ้าว นางค่อยกลับไปบ้านเก่าเพื่อถามพวกผูเ้ ฒ่าที่
ทําไร่ไถนาเป็ น
เมื่อไม่มีการคัดค้านของอวีถ้ ัง เรื่องที่อวีเ้ หวินจะลงหุน้ กับนายท่านเจียงจึงดําเนินไป
อย่างราบรื่นไร้ขอ้ ติดขัด
เขาไม่เพียงพานายท่านอู๋ไปพบนายท่านเจียง ทัง้ ยังเดินทางไปเมืองหนิงปั วกับนาย
ท่านอูอ๋ ีกรอบ นายท่านอูห๋ ลังจากกลับมาก็เหมือนกับอวีเ้ หวิน เตรียมจะเพิ่มเงินลงหุน้ อีกห้าร้อย
ตําลึง แต่ดีช่วั ก็ถกู อวีห้ ย่วนกล่อมแล้วกล่อมอีกจนห้ามเอาไว้ได้
หลังจบเรื่อง ตอนอวีห้ ย่วนมากินข้าวที่เรือนอวีถ้ ังก็อดจะพูดเรื่องนีข้ ึน้ มาไม่ได้ “นาย
ท่านเจียงเก่งกาจไม่เบา ขอเพียงมีคนได้พดู คุยกับเขา ก็ได้รบั อิทธิพลจากเขามาด้วย จุดนีข้ า้
ต้องเรียนรูจ้ ากเขาแล้ว”
อวีถ้ งั ก็คิดแบบเดียวกัน
นางหยิบดอกจําปี เหลืองที่เพิ่งเด็ดมาใส่ลงกล่องน้อยแล้วส่งให้อวีห้ ย่วน “ให้ป้าสะใภ้
กับพี่สะใภ้เจ้าค่ะ ข้าคงไม่ไปแล้ว ท่านพี่ช่วยมอบให้พวกนางด้วย”
เรือนของอวีถ้ งั ไม่มีได้ปลูกต้นจําปี เหลืองเสียหน่อย
อวีห้ ย่วนถามอย่างแปลกใจว่า “ดอกไม้มาจากไหน? หลายวันนีเ้ จ้าทําอะไรบ้างเนี่ย?
ข้าไม่เห็นเจ้าไปเล่นที่เรือนข้าเลย?”
ช่วงนีเ้ ขามักเฝ้าร้านค้าอยู่ตลอด
1061

หน้าร้อนเป็ นช่วงที่รา้ นเครื่องลงรักมีงานต้องทํามาก งานแกะสลักลงรักสีแดงมีกรรมวิธี


ที่ตอ้ งลงสีทบั ซํา้ จํานวนครัง้ ที่ลงสีมีผลต่อจํานวนปี ท่ีใช้งานกับรู ปลักษณ์ของสินค้า จึงไม่อาจ
สะเพร่าแม้แต่นอ้ ย ปกติช่วงเวลานีค้ นในสกุลอวีม้ กั จะไปขลุกอยู่ท่ีรา้ นเพื่อคุมงานด้วยตนเอง
อวีถ้ ังเอ่ยว่า “จําปี เหลืองเป็ นนายหญิ งน้อยจางให้มาน่ะ สองสามวันนีน้ างใกล้จะ
คลอดเต็มแก่แล้ว ข้ากับท่านแม่จงึ ตัง้ ใจไปเยี่ยมนาง”
ส่วนว่าหลายวันนีน้ างมัวแต่ทาํ อะไรอยู่ในเรือน นางละอายเกินกว่าจะบอกให้อวีห้ ย่วน
ฟั ง
หลักๆ ก็คือนางพบว่าแม้จะมีตาํ รา ‘แจกแจงอักษร’ เล่มนัน้ นางก็ยงั อ่านตําราที่เผย
เยี่ยนให้มาอย่างยากลําบากอยู่ดี
นี่คงเป็ นเพราะนางไม่ได้มีสติปัญญามากเท่ากับเผยเยี่ยนกระมัง
อวีห้ ย่วนได้ฟังอวีถ้ งั พูดเช่นนัน้ ดวงหน้าก็ขนึ ้ สี ทําท่าอึกอัก
อวีถ้ งั เห็นก็ประหลาดใจ แต่เฉินซื่อตะโกนเรียกนางให้ไปช่วยป้าเฉินยกไหเหล้าไปให้อวี ้
เหวินกับนายท่านอู๋ท่ีด่ืมกินอยู่ดา้ นหน้าเสียก่อน นางจึงไม่ทนั ได้ถามอย่างละเอียด รอจนคิด
ออกอีกครัง้ อวีห้ ย่วนก็ประคองนายท่านอูท๋ ่ีมนึ เมากลับไปแล้ว
นางยังติดใจเรื่องนีอ้ ยู่ คิดหาโอกาสไปถามอวีห้ ย่วน แต่เช้าวันถัดมา สกุลจางก็สง่ ข่าว
ดีมาบอก แจ้งว่าหม่าซิ่วเหนียงคลอดบุตรสาวคนหนึ่งเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
ความยินดีกระจายทั่วหน้าเฉิ นซื่อ ทางหนึ่งก็รวบรวมเสือ้ ผ้าและผ้าห่มที่ทาํ เตรียม
เอาไว้ให้ลกู ของหม่าซิ่วเหนียง ทางหนึ่งก็มิวายรํ่าไรกับอวีถ้ งั ว่า “ซิ่วเหนียงช่างวาสนาดีนกั ได้
คนแรกเป็ นบุตรสาว แล้วค่อยคลอดบุตรชายออกมาสักคน รวมเป็ นคําว่า ‘ประเสริฐ 1’ พอดี ไม่รู ้ 209

1
ประเสริฐ หรือคําว่า ห่าว ในภาษาจีน มีความหมายว่าดีหรือประเสริฐ เป็ นคําที่ประกอบขึน้ ด้วยอักษรสองตัว คือ อักษรที่
แปลว่าว่า หญิงและชาย
1062

ว่างานแต่งของเจ้าเมื่อไรจะกําหนดเรียบร้อย ข้าเองก็ไม่สบายใจ บิดาเจ้าก็เอาแต่พดู ว่าไม่รีบๆ


ปี นีเ้ จ้าอายุสิบเจ็ด ผ่านอีกปี ก็จะสิบแปดอยู่รอมร่อแล้ว”
อวีถ้ งั ไม่กล้าออกเสียง
ช่วงปลายปี มีหลายสกุลมาสูข่ อนาง ไม่ว่าเฉินซื่อหรือว่าอวีเ้ หวินต่างไม่พอใจทัง้ สิน้ อวี ้
เหวินเอาแต่ยึดติดกับวาจาของเสิ่นซ่านเหยียน คิดว่าอวีถ้ งั มีทงั้ ความสามารถและมีความคิด
เป็ นของตัวเอง จะยกนางให้แต่งกับผูอ้ ่ืนอย่างลวกๆ เป็ นเรื่องน่าเสียดาย จึงตัดบทไปว่า “สกุล
เรานัน้ แต่งลูกเขยเข้าบ้าน ไม่ได้แต่งลูกสาวออกไปเสียหน่อย ยังต้องห่วงว่าอายุมากเกินไปอีก
รึ? อีกอย่างเช่นอาถังของเรานี ้ ยิ่งอายุมากกว่านีห้ น่อย ยิ่งจะหนักแน่นมั่นคงกว่าเก่า หากไม่มี
คนที่ดีก็ค่อยๆ เลือกไป ไม่ตอ้ งรีบร้อน มิใช่มีคาํ พูดหรือว่า แก่กว่าหุม้ ทองสามก้อน 2รึ? หากไม่ 210

ไหวจริงๆ ก็หาที่เด็กกว่าสิ”
ทําเอาเฉินซื่อร้อนรนยิ่งกว่าเดิมอีก
นางคิดว่าตอนไปเยี่ยมหม่าซิ่วเหนียงก็จะคุยกับนายหญิ งหม่าสักหน่อย ขอให้นาย
หญิงหม่าช่วยเมียงมองว่ามีผใู้ ดเหมาะสมหรือไม่ เพื่อหาคูค่ รองให้กบั อวีถ้ งั
อวีถ้ งั กลับคิดว่าคําพูดของบิดานัน้ สมเหตุสมผล
ตอนนีน้ างไม่อยากจะสร้างครอบครัวเลยสักนิด หากเพราะต้องแต่งงานจึงต้องมองหา
ใครสักคน มิสรู้ อให้เจอคนที่เหมาะสมจะดีกว่า
แต่นางก็เข้าใจความรู ส้ ึกของเฉินซื่อ ทุกครัง้ ที่เฉินซื่อพูดเรื่องนีข้ ึน้ มา นางถึงได้ตีหน้า
ยิม้ อยู่ขา้ งๆ เสมอ ด้วยกลัวมารดาจะปวดใจ
สองคนจ้างเกีย้ วสองหลังเดินทางไปที่เรือนสกุลจาง

2
แก่กว่าหุม้ ทองสามก้อน หมายถึง คู่สามีภรรยาที่ฝ่ายหญิ งมีอายุมากกว่าฝ่ ายชาย เชื่อกันว่ามีขอ้ ดีสามประการ หนึ่ง
ดูแลสามีประดุจสามีเป็ นลูกชาย สอง ให้คาํ ปรึกษาประดุจสามีเป็ นน้องชาย สาม ต่อหน้าสังคม เคารพเชื่อฟั งสามีเหมือน
ภรรยาทั่วไป
1063

นายหญิงหม่ากับนายหญิงสกุลอื่นล้วนมาถึงตัง้ นานแล้ว ตอนนีก้ าํ ลังรุ มล้อมอยู่รอบ


กายหม่าซิ่วเหนียงซึ่งคาดผ้าไว้บนศีรษะ สอบถามไล่เลียงด้วยความเป็ นห่วงเป็ นใย พอเห็นว่า
เฉิ นซื่อสองแม่ลูกมาถึง นายหญิ งหม่าก็ลุกขึน้ แล้วสั่งสี่เชวี่ยไปยกไข่หวานต้มนํา้ ตาลเข้ามา
นายหญิงหม่ากับนายหญิงท่านอื่นต่างขยับเว้นพืน้ ที่ให้เฉินซื่อแม่ลกู เข้ามานั่ง
เฉินซื่อลากมืออวีถ้ งั เข้าไป แล้วเอ่ยปากถามเหตุการณ์เมื่อคืนตอนที่คลอด
อวี ถ้ ัง เห็นหม่าซิ่วเหนีย งหน้าซับสีแดงเรื่อ ดูมี ชีวิตชี วา คิดว่า แม้ตอนคลอดจะต้อง
อดทนอย่างทุกข์ทรมาน แต่สามารถฟื ้ นร่างกายได้ขนาดนีเ้ พียงข้ามคืน สุขภาพคงไม่มีอะไรน่า
เป็ นห่วง ผูอ้ ่ืนจึงไม่ให้ความใส่ใจนางเท่าไรนัก ทว่าความสนใจทัง้ หมดกลับพุ่งไปอยู่ท่ีเด็กน้อย
ข้างกายซึง่ เพิ่งคลอดออกมา
ผ้าอ้อมสีเขียวอ่อนห่อหุม้ ทารกตัวน้อยความยาวประมาณหนึ่งแขนเอาไว้ ดวงหน้า
จุ๋มจิ๋มสีแดงกํ่า ดวงตาสองข้างปิ ดสนิท ริมฝี ปากที่เล็กกว่าผลอิงเถาเผยอเปิ ดน้อยๆ ท่าทาง
น่ารักน่าชัง จนเกิดเป็ นกระแสอุน่ วาบไหลผ่านอกของอวีถ้ งั
ชาติก่อน นางข่มกลัน้ สุดแรงประคองป้ายชื่อของหลี่จวิน้ แต่งเข้าไปเป็ นม่ายในสกุลหลี่
หลังจากนัน้ ก็มีเพียงความเงียบเหงาโดดเดี่ยวอันยาวนาน ได้สมั ผัสอย่างจริงแท้ว่าการอยู่เป็ น
ม่ายนัน้ ไม่ใช่เรื่องง่าย พออายุย่างเข้าวัยยี่สิบสี่ นางก็เฝ้ามองกูซ้ ีท่ีมีเด็กตัวเล็กๆ วิ่งอยู่รายล้อม
คิดว่าชีวิตนีต้ นคงไม่อาจมีลกู เป็ นของตัวเองได้แล้ว ในใจนางทัง้ เปรีย้ วฝาดและขมขื่น มองดู
เด็กคนอื่นหัวเราะออกมาอย่างเป็ นธรรมชาติ โดยเฉพาะลูกๆ ทัง้ สองคนของกูซ้ ี แม้ตอนที่นาง
ทะเลาะกับกูซ้ ีจนถึงขัน้ แตกหัก บางครัง้ ที่ได้เจอเด็กสองคนนัน้ นางก็มกั จะหยิบของอร่อยๆ ให้
พวกเขาเสมอ
ตอนนีไ้ ด้เห็นบุตรสาวตัวน้อยของหม่าซิ่วเหนียง ทัง้ ยังเป็ นเพื่อนสนิทของนาง ไม่ทนั ไร
หัวใจนางก็ออ่ นยวบเป็ นนํา้ ก้มลงไปคิดจะอุม้ เด็กขึน้ มาโดยไม่รูต้ วั
1064

“อย่าก่อเรื่องเชียวนะ!” เฉินซื่อรัง้ ตัวนางไว้ แล้วหัวเราะพลางกระซิบว่า “เด็กยังตัวเล็ก


อยู่ ให้เจ้าเล่นด้วยตามใจไม่ได้ เจ้าแค่มองด้วยตาก็พอแล้ว จะเข้าไปอุม้ ไม่ได้เด็ดขาด ระวังจะ
ทําให้เอวน้อยๆ แขนน้อยๆ นั่นเคล็ดเข้า”
นายหญิงหม่าฉีกยิม้ กว้าง “ไม่เป็ นไรๆ นางอยากอุม้ ก็ให้นางอุม้ เถอะ สอนนางหน่อยว่า
อุม้ อย่างไรก็ใช้ได้แล้ว” พูดจบ ยังเอ่ยล้อเลียนต่อว่า “ไม่แน่ตอ่ ไปซิ่วเหนียงของข้าอาจต้องให้อา
ถังมาช่วยอุม้ ลูกด้วยเช่นกัน!”
เฉินซื่อตอบอย่างเกรงใจว่า “ไม่มีทางข้ามขัน้ ไปถึงนางแน่!”
อวีถ้ งั กลับร้อนใจอยากลอง แต่ถกู เฉินซื่อฟาดมือเข้าใส่
ทุกคนต่างพากันหัวเราะเสียงดัง
ทันใดนัน้ สี่เชวี่ยก็เดินเข้ามาแล้วเชิญทุกคนไปกินไข่หวานต้มนํา้ ตาลที่โถงรับรอง
แต่ละคนลุกขึน้ ยืนแล้วเคลื่อนตัวไปยังห้องโถง
อวีถ้ งั ออกตัวแข็งขันว่าจะอยู่เป็ นเพื่อนหม่าซิ่วเหนียง ทัง้ ยังตัง้ ใจเรียนรู อ้ ยู่ครู ่หนึ่ง จน
สามารถอุม้ เด็กตัวเล็กๆ ได้
เพียงแต่พอเด็กเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน นางก็อมุ้ แล้วโยกกล่อมเด็กน้อยไปมา
หม่าซิ่วเหนียงได้เป็ นมารดาครัง้ แรก คิดว่าตอนเล็กๆ ก็เห็นมารดาอุม้ น้องชายเช่นนัน้
จึงไม่ได้สนใจ ปล่อยให้อวีถ้ งั อุม้ ไปตามสบาย แล้วคุยเล่นกับอวีถ้ งั ว่า “…ตอนแรกตัง้ ชื่อเล่นไว้
หลายชื่อ ทั้งอาฝูเอย อาเป่ าเอย อาจูเอย แต่ก็ดูเชยสิน้ ดี เจ้าว่า พี่เขยเจ้าอย่างไรก็เป็ นถึง
บัณฑิต เหตุใดการตัง้ ชื่อจึงยากเย็นเพียงนัน้ เล่า? ความคิดข้า เด็กคนนีค้ ลอดตอนดึก สมควร
เรียกว่าหว่านเสียหรือไม่ก็หว่านฉิงจะเพราะกว่า!”
อวีถ้ งั อิจฉาแทบกระอัก นางเม้มปากยิม้ พลางฟั งเสียงของหม่าซิ่วเหนียงไป กระทั่งตก
เย็นกลับถึงเรือน นางเพิ่งพบว่าแขนของตนยกไม่ขนึ ้ แล้ว
1065

เฉินซื่อหัวเราะเอ่ยว่า “สมควร! ห้ามให้เจ้าไม่ให้อมุ้ เจ้าก็ไม่ฟัง ตอนนีร้ ูฤ้ ทธิ์แล้วหรือยัง


เล่า”
อวีถ้ ังหัวเราะเหอะๆ วันถัดมาก็อดใจไม่ได้ตอ้ งวิ่งไปดูเด็กน้อยที่เรือนสกุลจางอีกครัง้
แม้แต่หนังสือเหล่านัน้ ที่เผยเยี่ยนให้มาก็ไม่มีกะใจจะอ่าน ตอนพิธีสรงสาม 3นางยิ่งยุให้มารดา
211

ต้องเสีย เงินไปหนึ่งก้อนเล็ก…ส่วนหญิ งสาวที่ยังไม่ได้ออกเรือนเมื่อเข้าร่วมพิธีสรงสามไม่


จําเป็ นต้องมอบของขวัญให้
นายหญิงหม่ารู เ้ รื่องก็เข้ามากอดอวีถ้ งั อย่างรักใคร่ แล้วหัวเราะพลางบอกเหล่าสตรีท่ี
มาร่ว มพิธี ว่า “ดูสิ่ง ที่ ท่ า นอาน้อยอย่ า งอาถัง ทํา เข้า สิ ต่อไปถ้า ฉิ ง เอ๋อร์โ ตขึน้ จะต้องไม่ลื ม
กตัญ�ูตอ่ ท่านอาน้อยแน่!”
บุตรสาวของหม่าซิ่วเหนียงมีช่ือว่าจางฉิ ง มี ช่ือเล่นว่าฉิ งเอ๋อร์ เพราะเรื่องนีห้ ม่าซิ่ว
เหนียงยังบ่นให้อวีถ้ งั ฟั งว่า “พี่เขยเจ้าบอกว่ากลัวเรียกหลายคําแล้วเด็กจะจําสับสน จึงให้ขา้
เรียกไปแบบนี”้
อวีถ้ งั หัวเราะขําใหญ่
จางฉิงหนึ่งวันก็เปลี่ยนไปหนึ่งแบบ ทําให้นางตื่นเต้นและประหลาดใจได้ไม่หยุด
นางวิ่งไปเรือนสกุลจางอยู่หา้ วัน ผลร้ายก็เริม่ ปรากฏแล้ว
จางฉิงหากไม่มีคนอุม้ โยกกล่อมจะไม่ยอมหลับ แม่นมของจางฉิง สี่เชวี่ย รวมถึงหม่า
ซิ่วเหนียงสองสามีภรรยาต่างสลับเวลากันอุม้ นางเข้านอน เพราะจางฮุ่ยแบกดวงตาดําคลํา้ สอง
ข้างเข้าร่วมงานเลีย้ งครบเดือนของบุตรสาว ทําเอาหม่าซิ่วเหนี ยงโมโหกัดฟั นกรอดๆ แล้ว
เรียกอวีถ้ งั ไปบอกว่า “นับจากวันนีเ้ จ้าก็นอนที่เรือนข้าเลย ทุกวันต้องอุม้ กล่อมนางหนึ่งชั่วยาม
ให้พวกเราได้ไปพักบ้าง”

3
พิธีสรงสาม จัดขึน้ ในวันที่สามหลังจากทารกคลอดออกมา เชื่อว่าเป็ นการชําระล้างสิ่งสกปรกต่างๆ เพื่อเริ่มต้นเผชิญกับ
โลกความจริงอย่างสะอาดบริสทุ ธิ์ ทัง้ มีความเชื่อว่าเป็ นการเสริมความกล้าหาญและสุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วย
1066

อวีถ้ งั ยิม้ อย่างยินดี หาจังหวะว่างวิ่งกลับไปถามเฉินซื่อที่เรือนตนว่า “นี่เป็ นเรื่องที่ขา้ ก่อ


ขึน้ อย่างนัน้ รึ?”
“ไม่ ใ ช่ เ จ้า แล้ว จะเป็ นใคร?” เฉิ น ซื่ อ รู ้เ รื่ อ งเข้า ก็ หั ว เราะไม่ ไ ด้ร ้อ งไห้ไ ม่ อ อก ดี ด
หน้าผากอวีถ้ งั ไปหลายที จากนัน้ ก็เอ่ยอย่างทอดถอนใจว่า “คุณชายจางนับว่าไม่เลว ยังช่วย
หม่าซิ่วเหนียงเลีย้ งลูก หากลูกเขยในอนาคตดีได้สกั ครึง่ ของคุณชายจาง ข้าก็พอใจแล้ว”
อวีถ้ งั บุย้ ปาก เอ่ยว่า “ท่านวางใจได้ ลูกเขยในอนาคตจะต้องดีกว่าคุณชายจางเป็ นร้อย
เท่าเลยเจ้าค่ะ”
“เจ้าก็คยุ โวไปเถอะ!” เฉินซื่อแค่นเสียง “เพราะบิดาเจ้าตามใจจนเคยตัว”
อวีถ้ งั ยิม้ หน้าแป้นแล้วเข้าไปนวดไหล่ให้เฉินซื่อ
ด้านนอกพลันมีเสียงอวีเ้ หวินดังลอดเข้ามา “อาถัง ออกมาเร็วเข้า ต้นอ่อนของต้นซาจี๋
ที่ขา้ ฝากให้ท่านเสิ่นหาให้เจ้ามาส่งแล้ว”
อวีถ้ งั ประหลาดใจเกินคาด ยกขาได้ก็ว่งิ ไปด้านนอกทันที
เฉินซื่อตามมาด้านหลัง “เจ้าช้าๆ หน่อย ระวังสะดุดล่ะ”
“ข้ารูแ้ ล้วๆ!” อวีถ้ งั หัวเราะพลางหันไปรับคํา วิ่งยํ่าเท้าไปยังเรือนด้านหน้า
เสียงหัวเราะราวกับกระดิ่งเงินดังลอยตามลมไปทั่วลาน เป็ นเหตุให้เฉินซื่อที่ยืนมอง
บุตรสาวอยู่เบือ้ งหลังใต้ชายคาต้องกระตุกริมฝี ปากยิม้ ตามไปด้วย
อวีถ้ งั เห็นแต่ไกลว่ามีเกวียนต้นอ่อนหนึ่งคันจอดอยู่หน้าประตูใหญ่ของเรือน ข้างๆ นัน้
นอกจากอวีเ้ หวิน ยังมีชายหนุ่มอายุย่ีสิบกว่าๆ ผิวถูกแดดเลียจนคลํา้ ตัวสูงชะลูด และหน้าตา
ใจดียืนอยู่ขา้ งๆ ด้วย
นางร้อง “เอ๊ะ” ออกมาเสียงหนึ่ง
1067

อวีเ้ หวินกวักมือเรียกนาง “นี่เป็ นคนปลูกต้นไม้ท่ีนายท่านเสิ่นช่วยหามาให้ ชื่อว่าหวัง


ซื่อ ข้าบอกกับอาเสาไว้แล้ว ให้เขาพาหวังซื่อไปหาท่านปู่ ห้า แล้วปลูกต้นอ่อนล่วงหน้าไปก่อน
เลย พรุง่ นีเ้ ช้าเจ้ากับข้าค่อยเดินทางตามไป”
อวีถ้ งั ตอบรับ “อืม” ไปหนึ่งคํา แล้วมองไปที่เกวียนต้นอ่อนอย่างสํารวจตรวจตรา
ต้นอ่อนพวกนัน้ สูงประมาณสามฉื่อ มีดินหนาแน่นหุม้ อยู่รอบๆ ราก ทัง้ ใช้ผา้ พันเอาไว้
กองจนเป็ นชัน้ สูง คล้ายจะนับได้อยู่สิบกว่าต้น
มิน่าถึงแพงหูฉ่ี
หากส่งมาจากซีเป่ ยด้วยสภาพนี ้ ไม่ตอ้ งพูดถึงอย่างอื่น แค่คนกับลาลากเกวียนก็หมด
เงินไปไม่นอ้ ยแล้ว
นางถามหวังซื่อว่า “เจ้ามาจากที่ไหนเล่า?”
หวังซื่อพ่นวาจาที่ทาํ ให้คนเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างออกมา อวีถ้ งั ฟั งอยู่หลายรอบกว่าจะ
เข้าใจว่ามาจาก ‘ซีอนั ’
อวีถ้ งั ถามต่อไปว่า “มิใช่บอกว่ามาจากกานซูร?ึ ”
หวังซื่อหัวเราะใส่แต่ไม่ได้ตอบอะไรอีก
อวีเ้ หวินกระแอมเบาๆ สองเสียง แล้วเริ่มอธิบาย “ก่อนหน้านีต้ น้ อ่อนหนึ่งชุดตายไป
ระหว่างทาง ท่านเสิ่นจึงได้ไปขอให้คนของกรมคลังช่วยเหลือ บังเอิญผูว้ ่าการมณฑลซ่านซีไป
ทําธุระที่กรมคลังพอดี เมื่อได้ยินเรื่องนีเ้ ข้า จึงออกหน้าจัดการให้…”
นี่ไม่ใช่เรื่องต้นไม้เพียงไม่ก่ีตน้ อีกต่อไปแล้ว
เพราะต้นไม้พวกนี ้ ทําให้ตอ้ งติดหนีน้ า้ํ ใจคนใหญ่คนโต
หากว่าผลไม้เชื่อมทําออกมาไม่สาํ เร็จ นางจะตอบคําถามพวกเขาอย่างไรได้เล่า!
1068

บทที่ 134 หวังซือ่


อวีถ้ งั หันไปมองบิดา
อวีเ้ หวินเองเห็นชัดว่าก็ตระหนักได้ถึงปั ญหานีแ้ ล้วเช่นกัน
เขาหันมายิม้ เจื่อนให้บตุ รสาว “ท่านเสิ่นช่างเป็ นคนรักษาสัจจะโดยแท้!”
หากเป็ นผูอ้ ่นื เจอปั ญหาเช่นนีค้ งล้มเลิกไปแล้ว แต่เสิ่นซ่านเหยียนกลับคิดหาทุกวิถีทาง
เพื่อจะช่วยพวกเขานําต้นอ่อนต้นซาจี๋กลับมาให้ได้
บุญคุณเหล่านีท้ าํ ได้เพียงจดจําไว้ในใจ แล้วค่อยทดแทนให้อย่างช้าๆ
อวีถ้ งั ครุน่ คิดแล้วเอ่ยกับบิดาว่า “ท่านพ่อ เช่นนัน้ ก็รบี ให้อาเสาพาหวังซื่อกลับไปที่บา้ น
เก่าเถอะเจ้าค่ะ! ต้นไม้พวกนีเ้ ดินทางรอนแรมมาเกือบสองเดือน ตอนนีย้ ่ิงไม่ใช่ฤดูท่ีเหมาะใน
การเคลื่อนย้ายต้นไม้ ถ้าเกิด…” ตายขึน้ มา มิใช่วา่ ทําลายความพยายามของทุกคนหมดหรือ
อวีเ้ หวินก็คิดไม่ตา่ งกัน รีบตะโกนเรียกอาเสาเข้ามา แล้วสั่งการลงไปทันที
อวีถ้ งั บอกป้าเฉินให้เตรียมของกินจํานวนหนึ่งไว้อย่างใส่ใจ บอกหวังซื่อกินให้อ่ิมหนํา
แล้วค่อยออกเดินทาง
ตลอดทางหวังซื่อได้กินแต่อาหารแห้ง บางช่วงที่ตอ้ งประหยัด วันๆ หนึ่งกัดแป้งทอดไป
ไม่ก่ีคาํ เพื่อประทังท้องหิว บัดนีต้ น้ อ่อนมาส่งถึงจุดหมายแล้ว ทัง้ ยังได้กินอาหารพร้อมนํา้ แกง
ในใจไม่รูว้ ่าซาบซึง้ เพียงใด คนไม่ทนั หย่อนก้นบนเก้าอีด้ ว้ ยซํา้ ก็ยองๆ นั่งอยู่ขา้ งเตาก่อไฟแล้ว
สวาปามอาหารลงท้องอย่างตะกละตะกลาม ทําเอาซวงเถาที่เข้าไปตักนํา้ ให้เฉินซื่อที่หอ้ งครัว
เหลือกตามองพร้อมอ้าปากค้าง
หวังซื่อเห็นหญิ งสาวงดงามจดจ้องมาที่เขา ดวงหน้าพลันร้อนแดงจนแทบไหม้ รีบ
อธิบายเป็ นพัลวันว่า “ข้า ข้าเดินทางมาที่น่ี นายจ้างให้เงินมาเพียงสองตําลึงเท่านัน้ ข้าต้องใช้
อย่างกระเหม็ดกระเเหม่ ไม่รูด้ ว้ ยซํา้ ว่านายท่านทางนีจ้ ะยังรับข้าไว้อยู่หรือไม่”
1069

หากว่าต้นไม้ตายเกลีย้ ง นายท่านทางนีจ้ ะยังต้องการเขาไว้ทาํ อะไรอีก?


ได้ยินว่า พืน้ ดินแถบเจียงหนานมีนอ้ ย พวกเขาส่วนใหญ่มกั จะเล่าเรียนเขียนอ่าน หรือ
ว่าออกไปทํามาค้าขาย ไม่ก็ไปเป็ นศิษย์ตามร้านค้า แล้วหาทางไต่เต้าเป็ นเถ้าแก่ แต่อย่างเขาที่
ไม่รูห้ นังสือ ได้แต่ขายแรงแลกเงิน ไม่เพียงทําให้ผคู้ นมองอย่างดูถกู อีกทัง้ ยังยากจะหางานทํา
อีกด้วย
ซวงเถาเห็นว่าเขามองสกุลอวีเ้ ช่นนี ้ ก็ไม่ค่อยจะพอใจนัก จึงรีบแก้ต่างแทนสกุลอวีว้ ่า
“เจ้านายข้ามิใช่คนเช่นนัน้ หากเจ้าไม่ตอ้ งการรัง้ ตัวอยู่ต่อ เงินค่าเดินทางกลับนัน้ เจ้านายข้า
ย่อมให้เจ้าอย่างไม่ขาดตกแน่”
หวังซื่อมองแล้วคล้ายคนซื่อสัตย์พดู ไม่เป็ น แต่ความจริงมีไหวพริบนัก ไม่เช่นนัน้ เขาคง
ไม่ตอบรับงานนี ้ ได้ยินซวงเถาพูดเช่นนัน้ เขารูท้ นั ทีวา่ ตนพูดจาผิดไป จึงกุลีกจุ อตอบว่า “ข้ารูว้ า่
นายท่านเป็ นคนดี ข้าเพียงนึกกลัวว่าข้าไม่อาจทํางานให้นายท่านพอใจได้ก็เท่านัน้ ”
นี่นบั ว่ารูจ้ กั พูดจาขึน้ มาหน่อยแล้ว
ซวงเถาพยักหน้าอย่างพึงใจ “เจ้าแค่ตงั้ ใจทํางานก็พอ นายท่านแต่ไรก็ไม่เคยเอาเปรียบ
ผูอ้ ่นื อยู่แล้ว!”
หวังซื่อคล้ายจะยิม้ อย่างตืน้ ตัน ในใจกลับคิดว่า เอาเปรียบหรือไม่นนั้ ต้องลองทําสัก
ระยะถึงจะตอบได้ ทว่าสาวใช้ผนู้ ีช้ ่วยพูดจาแทนนายท่านของตน เห็นได้ว่าต่อให้สกุลนีย้ ่าํ แย่
จริงๆ แต่ก็คงไม่ถึงขัน้ เลวร้าย ต้องดูวา่ เขาจะอาศัยอยู่ท่ีน่ีอย่างมั่นคงได้หรือไม่แล้ว
เขาไม่กล้าชักช้า พอกินข้าวเสร็จอย่างลวกๆ ก็ม่งุ หน้าไปยังบ้านเก่าสกุลอวีพ้ ร้อมกับอา
เสาทันที
อวีถ้ งั ทางนีเ้ มื่อส่งต้นอ่อนจากไปแล้ว ก็คล้องแขนบิดาเดินกลับเข้าเรือน “การค้าที่ซูโจ
วทางนัน้ เป็ นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?”
1070

อวีเ้ หวินหน้าบานเป็ นกระด้ง “ข้ากับท่านลุงอู๋ของเจ้าตกลงกันแล้วว่า พรุง่ นีเ้ ช้าจะออก


เดินทาง” พูดถึงตรงนี ้ เขาก็รอ้ ง “ไอหยา” ออกมาเสียงหนึ่ง แล้วเอ่ยว่า “ข้าลืมเรื่องนีไ้ ปเสียสนิท
ได้อย่างไร พรุง่ นีข้ า้ ต้องไปเมืองซูโจว บ้านเก่าทางนัน้ …”
ก็แค่ปลูกต้นไม้มิใช่หรือ ไม่จาํ เป็ นต้องให้บิดานางไปดูดว้ ยตนเองกระมัง
อวีถ้ งั เอ่ยยิม้ ๆ “ท่านพี่ก็ตามท่านพ่อไปเมืองซูโจวด้วยใช่ไหมเจ้าคะ? เรื่องทางนัน้ ของ
ท่านสําคัญกว่า พรุง่ นีข้ า้ กลับไปคนเดียวก็พอแล้ว พอปลูกต้นไม้เสร็จ ข้าจะคุยกับหวังซื่อผูน้ นั้
ดูวา่ เขาเป็ นคนอย่างไร หากว่าจะรัง้ ตัวเอาไว้ ก็ตอ้ งดูวา่ เขาทําอะไรอย่างอื่นได้บา้ ง”
ก่อนหน้านีพ้ วกเขาได้จา้ งคนมาเฝ้าสวนแล้ว หากว่าสองคนต้องทํางานอย่างเดียวกัน
วัดจากกําไรสวนป่ าของพวกเขา คงเก็บคนไว้ได้เพียงคนเดียวเท่านัน้
อวีเ้ หวินนึกถึงร่างบึกบึนกํายําของหวังซื่อแล้วก็เอ่ยขึน้ ว่า “ข้าว่า สวนป่ าทางนัน้ ไม่
จําเป็ นต้องใช้ถึงสองคน ให้หวังซื่อมาวิ่งงานจิปาถะที่เรือนเราเถอะ ข้าฟั งมาว่า ชีวิตทางแถบ
ตะวันตกไม่ง่ายดาย เขารอนแรมมาเป็ นพันลี ้ หากให้เขาอยู่ท่ีน่ีต่อได้ก็รงั้ เขาไว้เสีย บ้านเรา
ไม่ได้ขาดแคลนข้าวปลาสําหรับคนอีกหนึ่งท้อง พอเวลานานเข้า ไม่แน่อาจหางานอื่นในเมือง
หลินอันให้เขาทําก็ได้ พวกเราถือว่าทําบุญทําทานไปเสีย”
อวีถ้ งั รูอ้ ยู่แล้วว่าต้องจบเช่นนี ้
บิดาและมารดาของนางล้วนมีจิตใจดีงามทัง้ คู่
ทว่า พวกเขาได้ลาภลอยมาจากการขายแผนที่ หากว่าสามารถใช้มนั ช่วยเหลือผูต้ ก
ยากได้ บางทีอาจเป็ นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่ง
“ข้ารูแ้ ล้วเจ้าค่ะ” อวีถ้ งั ยิม้ แฉ่งตอบรับเขา
อวีเ้ หวินพึงใจต่อท่าทางของบุตรสาวมาก “ญาติผพู้ ่ีเจ้าพรุง่ นีก้ ็จะไปเมืองซูโจวกับพวก
ข้าด้วย อาเสาอยู่ท่ีเรือน เจ้ามีเรื่องอะไรก็ส่งั เขาแล้วกัน”
1071

หากว่ารัง้ ตัวหวังซื่อไว้ หากบิดาเดินทางไปที่ใด ในเรือนก็ยงั มีคนวิ่งงานและแบกหาม


อะไรได้
อวีถ้ งั พยักหน้าหงึกหงัก คิดว่าขอเพียงหวังซื่อเป็ นคนซื่อสัตย์ยินดีทาํ งาน นางย่อมรัง้
คนไว้อย่างแน่นอน
วันถัดมา หลังจากที่ไปส่งอวีเ้ หวินและอวีห้ ย่วนแล้ว นางก็กลับไปที่บา้ นเก่า
หวังซื่อเอาต้นไม้ปลูกลงดินตลอดทัง้ คืน อีกอย่างช่วงกลางคืนก็อยู่ดว้ ยกันกับคนดูแล
สวนที่สกุลอวีจ้ า้ งมา ทว่าสีหน้าผูด้ แู ลสวนไม่ใคร่จะสูด้ ีนกั เห็นชัดว่าการมาเยือนของหวังซื่อทํา
ให้เขารับรูถ้ ึงบรรยากาศที่ลอ่ แหลม
อวีถ้ งั ไม่ชอบคิดอุบายซับซ้อน นางเอ่ยกับผูด้ แู ลสวนไปตรงๆ ว่า “ข้าจ้างหวังซื่อให้มา
ปลูกต้นซาจี๋เป็ นพิเศษ เรื่องอื่นๆ ในสวน ยังคงเป็ นหน้าที่เจ้าต้องรับผิดชอบ เจ้าเองก็ตอ้ งช่วย
หวังซื่อคิดหาวิธีให้ตน้ ซาจี๋อยู่รอด ไม่อย่างนัน้ สวนป่ าแห่งนีก้ ็ไม่จาํ เป็ นต้องจ้างคนมาคอยดูแล
แล้ว”
ก่อนหน้านีน้ นั้ ผูด้ แู ลสวนไม่ทนั คิดถึงความเชื่อมโยงของเรื่องราว พอได้ยินอวีถ้ งั พูดก็
รีบเปลี่ยนความคิดในทันใด แล้วรับปากกับอวีถ้ งั ว่า “ข้าจะต้องช่วยหวังซื่อปลูกต้นไม้ให้รอดแน่
ขอรับ”
หากว่าต้นซาจี๋เติบโตต่อไปได้ สวนป่ าแห่งนีก้ ็จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็ นสวนซาจี๋ทงั้ หมด
สวนป่ ามีพืน้ ที่ส่ีหา้ สิบหมู่ หากเป็ นเช่นนัน้ ภายในสามปี หา้ ปี พวกเขาคงไม่มีเวลาอยู่ว่างๆ แน่
รอกระทั่ ง ต้น ซาจี๋ อ อกผล สกุ ล อวี ้ยั ง ต้อ งมี ค นช่ ว ยเก็ บ ผลมั น อี ก นั บ ว่ า มี ง านให้ท ํา ต่ อ
เช่นเดียวกัน แต่พวกเขาเพียงสองคนคงทําไม่ไหว ไม่แน่อาจต้องจ้างคนมาเพิ่ม ทว่าหากต้นไม้นี ้
ตายจนหมด เขากับหวังซื่อก็ไม่ตอ้ งหวังจะได้ทาํ งานแล้ว
อวีถ้ ังเห็นว่าเขาคิดจนกระจ่างแล้วก็ไม่พูดมากอีก นางหันไปถามเรื่องปลูกต้นไม้กับ
หวัง ซื่ อ หวัง ซื่ อ ตอบทุก คํา ถามได้ค รบถ้ว น ฟั ง แล้ว นับ ว่า เข้า ท่ า มี เ หตุผ ล อี ก อย่ า งฟั ง จาก
ความหมายของหวังซื่อ เขายังปลูกพืชผลและผลไม้อ่ืนๆ เป็ นอีกด้วย แต่ทางนัน้ ที่ปลูกมีเพียง
1072

ข้าวบาเล่ยก์ บั ข้าวสาลี เมืองหลินอันทางนีก้ ็ปลูกข้าวนานํา้ เป็ นส่วนใหญ่ อวีถ้ งั กลับคิดว่า ขอ


เพียงแยกแยะให้ออกว่าอย่างไหนคือข้าวเจ้าอย่างไหนคือข้าวสาลี หากมีใจแน่วแน่ ไม่ว่าปลูก
อะไรล้วนแต่เรียนรูไ้ ด้สาํ เร็จทัง้ สิน้
นางจึ ง เอ่ย กับหวัง ซื่ อ ไปว่า “เจ้า เห็ น นานํา้ ผื น ใหญ่ ท างโน้น หรือ ไม่ ? นั่น ก็ เ ป็ น ของ
สกุลอวีเ้ ช่นกัน หากว่างานในสวนไม่มีอะไร เจ้าก็ลองไปดูท่ีนาทางนัน้ บ้าง เรียนรู ว้ ิธีการปลูก
ข้าวนานํา้ กับพวกเขาไว้ก็ดี”
หวังซื่อรับคําอย่างนอบน้อม
อวีถ้ งั ไปบอกกับปู่ หา้ เอาไว้ดว้ ยเช่นกัน
ไม่ว่าเรือนเก่าของบรรพบุรุษก็ดี หรือว่าเรื่องในเรือกสวนไร่นาก็ดี ปู่ ห้าเพียงช่วยเฝ้าไว้
เท่านัน้ แต่ไม่ได้จดั การดูแลอะไร หวังซื่อจะเรียนรู ว้ ิธีปลูกข้าวนานํา้ หรือไม่นนั้ สําหรับเขาแล้ว
นับว่าไม่ส่งผลกระทบใดๆ นัก ทว่าหากคนในหมู่บา้ นถามถึง เขาจะได้ช่วยตอบไปสักคํา บอก
ว่าเป็ นความต้องการของสกุลอวีก้ ็พอแล้ว ซึง่ เขาเองก็มิได้ปฏิเสธว่ากระไร
อวีถ้ งั กําชับหวังซื่อว่า “ท่านปู่ ห้าอยู่ท่ีน่ีเพียงลําพัง ตอนเจ้าว่างก็แวะมาดูเขาบ้าง ช่วย
เขาเก็บฟื นไม่ก็หาบนํา้ ต่อไปเจ้าอยู่ในหมู่บา้ นพบปั ญหาอะไรเข้า ก็ยงั พอมีคนช่วยเหลือ”
หวังซื่อคาดไม่ถึงอย่างมาก เขาไม่คิดว่าอวีถ้ งั จะเป็ นคนเอือ้ อารีย ์ สิ่งที่บอกกับเขาก็คือ
การสร้างเนือ้ สร้างตัวทัง้ สิน้ เขาจึงบอกขอบคุณนางไม่หยุด ความหวังที่จะฝากตัวไว้กบั สกุลอวี ้
จึงเพิ่มขึน้ หลายส่วน
อวีถ้ งั เดินทางกลับเรือนในวันเดียวกัน
หวังซื่อไม่รูม้ าถึงเมื่อไร กําลังวุน่ วายงานในโกดังสินค้าอยู่กบั เฉินซื่อ
อวีถ้ ังเหงื่อชุ่มไปทัง้ ตัว ตอนที่ชาํ ระกายอยู่ยงั ถามป้าเฉิ นว่า “ท่านแม่กับป้าสะใภ้ทาํ
อะไรกันหรือ? อากาศร้อนขนาดนี”้
1073

แม้จะเรียกว่าโกดังสินค้า แต่ความจริงเป็ นห้องเล็กๆ ที่อยู่ดา้ นในเรือนในของเฉินซื่อ


กระทั่งหน้าต่างสักบานยังไม่มี อากาศที่รอ้ นอ้าวเพียงนี ้ มีแต่จะทําให้คนเป็ นไข้แดดเอาได้
ป้าเฉินเปิ ดปากหัวเราะ “ข้าก็ไม่รูเ้ จ้าค่ะ รอให้นายหญิงออกมาท่านลองถามนายหญิง
ดูสิเจ้าคะ”
อวีถ้ ังคิดว่านางตัง้ ใจแอบทําอะไรบางอย่าง จึงไม่ได้ถามซอกแซก นางเปลี่ยนไปใส่
เสือ้ ผ้าตัวใหม่ แล้วดื่มนํา้ ต้มถั่วเขียวไปสองชามติดๆ กัน คนพลันรูส้ กึ สบายไปทั่วร่าง จากนัน้ ก็
เข้าไปเอ่ยทักทายป้าสะใภ้
หวังซื่อกับเฉินซื่อออกมาจากโกดังสินค้าแล้ว ตอนนีก้ าํ ลังยืนสนทนาอยู่ใต้ชายคาเรือน
เห็นว่าอวีถ้ งั เดินมาหา ไม่เพียงยิม้ ตาหยีเดินเข้ามาทักอวีถ้ งั ก่อน ซํา้ ยังถามถึงเรื่องสวนป่ าอีก
ด้วย
อวีถ้ ังทางหนึ่งก็ตอบคําถามของป้าสะใภ้ ทางหนึ่งก็พิจารณาห่อผ้าที่อยู่ในอ้อมแขน
ของหวังซื่อด้วยความใคร่รู ้
เฉินซื่ออธิบายขึน้ มาว่า “ป้าสะใภ้เจ้ามาเอาผ้านิดหน่อยน่ะ”
มีผา้ ชนิดใดที่ตอ้ งมายืมที่เรือนพวกนางรึ?
อวีถ้ งั คิดจะถาม แต่ปา้ สะใภ้ก็เอ่ยบอกลาเสียก่อน
นางไม่สะดวกซักไซ้ เดินไปส่งป้าสะใภ้เป็ นเพื่อนมารดา จากนัน้ ก็เอ่ยขึน้ ว่า “ท่านแม่
ป้าสะใภ้ตอ้ งการผ้าชนิดใดหรือเจ้าคะ?”
เฉินซื่อตอบอย่างคลุมเครือว่า “ไม่มีอะไรหรอก ก็คือผ้าฝ้ายเนือ้ ละเอียดไม่ก่ีฉ่ือเท่านัน้ ”
ฤดูกาลเช่นนี ้ สวมผ้าฝ้ายเนือ้ ละเอียดเป็ นเสือ้ ป้ายตัวในทัง้ ซักทําความสะอาดง่ายและ
เย็นสบายอีกด้วย
หรือป้าสะใภ้คิดจะทําเสือ้ ป้ายตัวในรึ?
1074

อวีถ้ งั ไม่ได้ถามต่อ แล้วเอ่ยถึงเรื่องที่บิดาเดินทางไปข้างนอก โยนบทแทรกเมื่อครูท่ งิ ้ ไป


ในทันที
อวีเ้ หวินกับอวีห้ ย่วนกลับมาหลังจากผ่านไปห้าวัน
สองคนหน้าตาชื่นมื่น แสดงว่าเรื่องราวเดินหน้าไปอย่างราบรื่น
เพราะเรื่องนีเ้ อง นายท่านอู๋จึงสนิทสนมกับสกุลอวีม้ าก ช่วงเทศกาลสารทจีน นาย
หญิงอู๋ยงั มาเยือนถึงหน้าประตูเพื่อชวนเฉินซื่อกับอวีถ้ งั ไปปล่อยโคมดอกบัวที่แม่นา้ํ ด้วยกัน ทัง้
กระตือรือร้นจะช่วยหาคู่ครองที่ดีสกั คนให้อวีถ้ งั แต่ก็เหมือนที่อวีเ้ หวินคาดการณ์เอาไว้แต่แรก
คนที่ยินดีจะแต่งเข้าเป็ นเขยสกุลอื่น หากมิใช่ว่าขาดตกบกพร่องสิ่งนัน้ สิ่งนี ้ ก็คงรู ปโฉมขีร้ วิ ้ ไม่
งดงาม เฉินซื่อยังไปดูดว้ ยตนเองถึงสองรอบ ทว่าก็ยงั ไม่สาํ เร็จ
ยังดีท่ีอวีถ้ งั เองไม่รบี ร้อน ทําให้เฉินซื่อไม่ตอ้ งรูส้ กึ กระวนกระวายใจตามไปด้วย
กระทั่งผ่านวันงานเลีย้ งครบเดือนของจางฉิง หลังจากที่อวีถ้ งั ส่งถั่วลิสงไปให้เผยเยี่ยน
รอบหนึ่งแล้ว ดอกกุย้ ฮวาก็เริ่มเบ่งบาน ทุกบ้านทุกครัวเรือนต่างก็เริ่มเตรียมตัวสําหรับเทศกาล
ไหว้พระจันทร์แล้ว
อวีถ้ ังปรึกษากับเฉินซื่อไว้วว่า จะส่งขนมไหว้พระจันทร์ไปให้จวนสกุลเผย “นอกจาก
ขนมไหว้พระจันทร์เปลือกบางแล้ว ยังทําขนมไหว้พระจันทร์แบบอื่นได้หรือไม่เจ้าคะ?”
ชาติก่อน ตอนอยู่สกุลหลี่นางเคยได้กินขนมไหว้พระจันทร์ท่ีมาจากเมืองหลวง เปลือก
ด้านนอกคล้ายขนมแป้งทอด ด้านในห่อด้วยไส้ถ่ วั ชนิดต่างๆ
ไม่รูว้ า่ มารดาของนางจะทําเป็ นหรือไม่?
เฉินซื่อเอ่ยยิม้ ๆ “ขนมไหว้พระจันทร์หากไม่กินแบบเปลือกบางแล้วจะกินแบบใดเล่า
หรือยังมีขนมแบบอื่นด้วยรึ?”
อวี ้ถั ง ไม่ ส ะดวกจะเล่ า ให้ฟั ง ยัง คิ ด ว่ า จะไปเมื อ งหัง โจวสัก ครั้ง แล้ว ซื ้อ ขนมไหว้
พระจันทร์แบบเมืองหลวงกลับมาให้มารดาลองชิมดีหรือไม่? จากนัน้ ก็คอ่ ยๆ หัดทํา
1075

ขณะใช้ความคิดนัน้ เอง อวีห้ ย่วนก็มาส่งขนมไหว้พระจันทร์พอดี เขาบอกว่าเซียงซื่อให้


คนส่งมาจากฟู่ หยางมอบเป็ นของขวัญในเทศกาลไหว้พระจันทร์ หนึ่งส่วนในนัน้ ได้ฝากให้อวีเ้ ห
วินด้วย
อวีถ้ ังเปิ ดกล่องออกดู คิดว่าต้องการสิ่งใดสิ่งนั้นก็โผล่มาได้จังหวะจริงเชียว นี่ก็คือ
กล่องขนมไหว้พระจันทร์จากเมืองกว่างโจว
ขนมไหว้พระจันทร์ของกว่างโจวกับเมืองหลวงทางนัน้ คล้ายคลึงกัน เปลือกทําด้วยแป้ง
นุ่ม แต่จะต่างกันที่ไส้ดา้ นใน หากเป็ นขนมไหว้พระจันทร์ของกว่างโจวมักนิยมทําเป็ นไส้เม็ดบัว
หรือไม่ก็ไข่แดง
นางพูดกับเฉินซื่อว่า “ท่านดูน่ีสิ มิใช่มีขนมไหว้พระจันทร์แบบอื่นนอกจากแบบเปลือง
บางอยู่หรือ?”
เฉิ น ซื่ อ กลับ ไม่ เ ห็ น พ้อ ง “ไม่ ใ ช่ แ บบเปลื อ กบางแล้ว จะเป็ น ขนมไหว้พ ระจัน ทร์ไ ด้
อย่างไร? กินขนมไหว้พระจันทร์ ก็ตอ้ งกินแบบเปลือกบางสิ!”
1076

บทที่ 135 ขายที่


อวีถ้ งั ได้แต่กมุ ขมับ รอจนบิดากลับมาก็ลากเขามาแบ่งขนมไหว้พระจันทร์ท่ีอวีห้ ย่วนส่ง
มาให้
เมื อ งหลิ น อัน กิ น ขนมไหว้พ ระจั น ทร์แ บบเปลื อ กบาง ไม่ ค่ อ ยจะได้เ ห็ น ขนมไหว้
พระจันทร์แบบกว่างโจวสักเท่าไร นับว่าเป็ นของแปลกใหม่หายาก เช่นครอบครัวอย่างพวกนาง
นี ้ ปกติมักจะไม่เก็บไว้กินเอง แต่จะมอบเป็ นของขวัญให้ผูอ้ ่ืนต่อ ทว่าอวีเ้ หวินรักใคร่ตามใจ
เด็กๆ คิดว่าเมื่อเป็ นของดีหายาก พวกเด็กๆ อยากจะลองชิม เช่นนัน้ ก็ตอ้ งให้เด็กๆ ได้กินก่อน
เขาได้ยินดังนัน้ ก็ส่งั อาเสาให้ไปหยิบมีดมา ทัง้ เอ่ยว่า “เรียกพวกป้าเฉินไม่ก่ีคนมาด้วย
ทุกคนล้วนลองชิมกัน ดูวา่ รสชาติจะต่างกับขนมไหว้พระจันทร์ท่ีพวกเรากินปกติหรือไม่”
ถึงกับมีสว่ นแบ่งของพวกเขาด้วยหรือนี่!
อาเสาพบเรื่องยินดีอย่างคาดไม่ถึง รีบวิ่งไปเรียกพวกป้าเฉินทันที
พอป้าเฉินรูเ้ รื่องก็ยิม้ ตาหยีเฉกคนดีอกดีใจ นางถือมีดไปด้วยตนเอง ขนมไหว้พระจันทร์
สี่ชนิ ้ ถูกหั่นแบ่งเป็ นสิบหกส่วน ทุกคนต่างได้ลมิ ้ ลองรสชาติ
“อร่อยนัก!” คนแรกที่สง่ เสียงชื่นชมคือป้าเฉิน นางอายุมากแล้ว ชอบกินของที่อ่อนนุ่ม
“ขนมไหว้พระจันทร์ของพวกเขาทําอย่างไรรึ ทัง้ หวานทัง้ นุ่ม วันนีน้ บั ว่าอาศัยบารมีของคุณหนู
กับนายหญิงแล้ว ข้าถึงได้มีโอกาสกินขนมไหว้พระจันทร์ท่ีเลิศรสเช่นนี”้
ซวงเถา อาเสาต่างก็พยักหน้าตามๆ กัน
เฉินซื่อก็รูส้ กึ ว่ารสชาติไม่เลวเลย แต่นางคิดว่าด้านในที่เป็ นไส้งาดํากับนํา้ ตาลกรวด จะ
ยิ่งเลิศรสมากขึน้ หากกัดเต็มๆ คําจากขนมไหว้พระจันทร์แบบเปลือกบาง ทว่านางมักจะเอาใจ
เด็กๆ เสมอ ในเมื่ออวีถ้ งั คิดว่าขนมไหว้พระจันทร์แบบกว่างโจวอร่อยกว่า นางก็จะลองทําขนม
ไหว้พระจันทร์แบบนัน้ ดู
1077

“เช่นนั้นขนมไหว้พระจันทร์ปีนีข้ า้ จะทําเป็ นไส้เม็ดบัวและไข่แดงให้เจ้าเป็ นพิเศษดี


หรือไม่?” นางถามอวีถ้ งั
เอ๊ะ?
คําพูดของมารดาสะกิดใจนางพอดี
เผยเยี่ยนก็เติบโตที่เมืองหลินอัน ไม่แน่เขาอาจจะเหมือนมารดาของนาง ที่ปักใจต่อ
ขนมไหว้พระจันทร์แบบเปลือกบางก็เป็ นได้ หากต้องทําขนมไหว้พระจันทร์ท่ีแป้งต่างกันสี่แบบ
มิสทู้ าํ ขนมไว้พระจันทร์เปลือกบางที่มีหลากหลายไส้จะดีกว่า
อวีถ้ งั หัวเราะแล้วพยักหน้า บอกกับมารดาว่า “ดีเลยเจ้าค่ะ พวกเรายังสามารถทําขนม
ไหว้พระจันทร์ไส้ถ่วั ธัญพืช ไส้พทุ ราจีน แล้วยังมีไส้ถ่วั แดง…”
เฉินซื่อลูบศีรษะบุตรสาวแล้วเอ่ยว่า “ทําให้เจ้าทัง้ หมดนั่นแหละ ขอเพียงเจ้าคิดออกมา
ได้ มารดาก็จะทําให้เจ้ากิน”
ดวงตากลมโตเฉกเมล็ดซิ่งของอวีถ้ งั ยิม้ โค้งจนกลายเป็ นพระจันทร์เสีย้ ว
เฉินซื่อกับป้าเฉินจึงวุน่ วายขึน้ มาทันที ไหนจะต้มถั่วแดง ซือ้ ไข่เค็ม นึ่งพุทราจีน ในเรือน
มีกลิ่นหอมหวานลอยอบอวลไม่ซาํ้ กันแต่ละวัน
เพียงแต่ไม่รอให้พวกนางส่งขนมไหว้พระจันทร์ให้สกุลเผย ของขวัญวันไหว้พระจันทร์
ของสกุลเผยก็สง่ มาถึงแล้ว
ผ้า สีเ ขี ย วปั ก ดิน้ ทองหนึ่ง ผื น สํา หรับอวีถ้ ัง ลูก ประคํา สิ บแปดไม้ประดู่แดงหนึ่งเส้น
สําหรับเฉินซื่อ และกระดาษเฉิงซินหนึ่งพับพร้อมพูก่ นั หูโจวหนึ่งชุดสําหรับอวีเ้ หวิน
ทัง้ ยังให้พอ่ บ้านสามหูซิ่งมาส่งด้วยตนเอง
มอบของขวัญให้แก่ลงุ ป้าน้าอาก็คงไม่พน้ ของขวัญประมาณนี ้
อวีเ้ หวินรับรายการของขวัญมาแล้วรูส้ กึ ว่ามีหน้ามีตาขึน้ หลายเท่า
1078

เฉินซื่อกลับรู ส้ ึกกดดันหนัก คิดว่าขนมไหว้พระจันทร์ท่ีส่งไปสกุลเผยอย่างไรก็ตอ้ งให้


เผยเยี่ยนเหลือบตามองสักครัง้ หากว่าเขากินลงไปสักสองชิน้ ยิ่งจะดีท่ีสดุ
นางมาปรึกษากับอวีเ้ หวินว่า “หรือไม่ท่านไปซือ้ ขนมไหว้พระจันทร์แบบเมืองหลวงกับ
กว่างโจวจากด้านนอกมาเถอะ แป้งแบบนัน้ แม้ขา้ ทําไม่เป็ น แต่พวกเราสามารถลองใช้เปลือก
แบบบางห่อแทนได้ ไม่แน่อาจจะถูกปากนายท่านสาม”
อวีเ้ หวินเห็นใจภรรยา คิดว่าเช่นนัน้ ยุ่งยากเกินไป จึงรีบบอกไปว่า “สุขภาพของเจ้าเพิ่ง
จะกระเตือ้ งขึน้ มาไม่ทนั ไร เจ้าก็ไม่ตอ้ งทรมานตัวเองนักหรอก ข้าว่า มิสมู้ อบของสะสมโบราณ
อะไรไปให้เขาจะดีกว่า”
เฉิ นซื่อไม่เห็นด้วย “วันไหว้พระจันทร์มอบของโบราณให้ แล้วตอนปี ใหม่ก็มอบของ
สะสมโบราณให้อีกรึ? สกุลเรามิใช่ครอบครัวรํ่ารวยสูงศักดิ์ มิจาํ เป็ นต้องทําหน้าใหญ่ปานนัน้
ลงมือทําของเล็กน้อยด้วยตนเองกลับแสดงความจริงใจออกมาได้มากกว่า”
อวีเ้ หวินเกาศีรษะแกรกๆ
ไม่รูว้ ่าคนมากน้อยเท่าไรได้รบั ความเมตตาของสกุลเผย ทุกช่วงสิน้ ปี ลว้ นเค้นสมอง
มองหาสิ่งของที่แสดงถึงความจริงใจไปมอบให้สกุลเผย สกุลเขานัน้ ต่อให้มอบของขวัญดิบดี
เพียงใดก็คงไม่อาจทําให้สกุลเผยรู ส้ ึกหวงแหนได้ แต่ความตัง้ ใจแน่วแน่ของภรรยานี ้ เขาก็ไม่
อาจสาดนํา้ เย็นเข้าใส่เช่นกัน จึงเอ่ยเพียงว่า “เช่นนัน้ ก็ดี ข้าจะให้คนไปซือ้ ขนมไหว้พระจันทร์
จากด้านนอกกลับมา”
เฉินซื่อพยักหน้าอย่างพอใจ แล้วไปคิดค้นวิธีกบั ป้าเฉินว่าจะทําอย่างไรให้ไส้ถ่ วั แดงใน
ขนมไหว้พระจันทร์ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไปนัก ซํา้ ยังพูดอีกว่า “นายท่านสามมีปลามีเนือ้ กินทุก
วัน แน่นอนว่าคงไม่ชอบอาหารมันเยิม้ หรือหวานมากจนเกินไปแน่ พวกเราควรทํารสชาติให้
อ่อนลงมาหน่อย”
อวีถ้ ังได้ยินก็เม้มปาก “ท่านแม่ นายท่านสามยังไว้ทุกข์อยู่ ครัง้ ก่อนตอนที่ขา้ เจอเขา
เขายังใส่ชดุ ผ้าสีเรียบอยู่เลยเจ้าค่ะ”
1079

เฉินซื่อได้ยินก็ตะลึงไป “คนที่รกั ษาจารีตเช่นเขานีน้ บั วันยิ่งเห็นน้อยลงทุกทีแล้ว”


แม้จะบอกว่าออกจากไว้ทกุ ข์เมื่อครบยี่สิบเจ็ดเดือน แต่คนที่จะสวมเสือ้ ผ้าสีหม่นกิน
อาหารเรียบง่ายระหว่างช่วงที่ไว้ทกุ ข์อย่างจริงจังมีนอ้ ยยิ่งกว่าน้อย พอครบปี แต่ละคนก็เริม่ จะ
คลายความเข้มงวดลงไม่มากก็นอ้ ยแล้ว
อวีถ้ งั ได้ยินก็ใจลอย ไม่รูว้ า่ หลังจากออกไว้ทกุ ข์แล้วเผยเยี่ยนจะแต่งกายเช่นไร
เฉินซื่อกับป้าเฉินลองลงมือทําไปแล้วหลายวิธี กระทั่งข้าวปลาอาหารของสกุลอวีใ้ น
หลายวันนีก้ ็เรียบง่ายขึน้ ไปด้วย
อวีเ้ หวินกินข้าวไปก็รูส้ กึ คับข้องหมองใจ พยายามเตือนเฉินซื่ออย่างอ้อมๆ ว่า “ใกล้จะ
มีปมู าขายที่ตลาดแล้ว พวกเรารีบสั่งมากินก่อนดีหรือไม่?”
แต่ก่อนสุขภาพของเฉินซื่อไม่คอ่ ยแข็งแรง ในเรือนน้อยครัง้ มากที่จะได้กินเนือ้ ปูกนั
เฉินซื่อได้ฟังก็รูส้ กึ ผิด เอ่ยกับอวีเ้ หวินคล้ายขอโทษว่า “ต้องสั่งล่วงหน้าไว้ก่อนสิ ข้าจํา
ได้วา่ ตอนเด็กๆ อวีถ้ งั ชอบกินปูมาก หลายปี มานีก้ ็ไม่เคยได้ซอื ้ เลยสักครัง้ ”
อวีเ้ หวินอ้าปากพะงาบๆ หลายครัง้
เขาก็อดทนอย่างยากลําบากเช่นกันมิใช่หรือ ทว่าภรรยาเอาแต่คิดถึงอวีถ้ งั อยู่คนเดียว
งานเลีย้ งวันไหว้พระจันทร์ท่ีเรือนปี นีอ้ ย่างไรเขาก็ตอ้ งจัดปูให้เต็มโต๊ะเพื่อดับความอยากให้จง
ได้
สองคนกําลังสนทนากันอยู่ นายท่านอูก๋ ็หวิ ้ ตะกร้าปูเข้ามาเยี่ยมอวีเ้ หวินพอดี
อวี เ้ หวิน ทั้งประหลาดใจทั้ง ตื่ นเต้น ยิน ดี เขาออกไปรับนายท่า นอู๋เข้ามาดื่ม ชาด้วย
ตนเอง ทัง้ ยังให้เฉินซื่อกับอวีถ้ งั มาทักทายนายท่านอูด๋ ว้ ย
นี่นบั เป็ นการไปมาหาสูอ่ ย่างคนในครอบครัวเดียวกันแล้ว
1080

อวีถ้ งั กับเฉินซื่อต่างเข้าไปผลัดเปลี่ยนเสือ้ ผ้าชุดใหม่ แล้วนั่งคุยเป็ นเพื่อนนายท่านอู๋ท่ี


โถงรับรอง
หัวข้อสนทนาเริ่มจากดอกกุย้ ฮวา จากนัน้ ก็ไม่รูเ้ ปลี่ยนเป็ นเรื่องเรือกสวนไร่นาของสกุล
ได้อย่างไร
นายท่านอู๋กดเสียงตํ่าพูดกับอวีเ้ หวินว่า “เจ้าได้ยินบ้างแล้วหรือไม่ สกุลหลี่ ครอบครัว
ของหลี่ตวนนั่นน่ะ ต้องการจะขายที่หา้ สิบหมู่”
อวีถ้ งั พลันหูตงั้ ตะแคงรอฟั งทันที
ที่นาเป็ นสมบัติของสกุลที่ตกทอดจากรุ น่ สู่รุน่ ครอบครอบของคนธรรมดาทั่วๆ หากไม่
เข้า ตาจนจริ ง ๆ ย่ อ มไม่ มี ท างขายออกไปง่ า ยๆ แน่ สกุ ล ใดหากว่ า ต้อ งการขายที่ นั่ น ก็
หมายความว่าต้องล่มสลายอย่างแท้จริงแล้ว
ชาติก่อน สกุลหลี่มีแต่จะซือ้ ที่นาเท่านัน้ ไม่เคยมีเหตุการณ์ท่ีตอ้ งขายที่มาก่อน!
เฉินซื่อได้ฟังก็ตกใจจนตัวโยน มือบิดผ้าเช็ดหน้าอย่างตึงเครียดทันที
อวีเ้ หวินกลับไม่ปิดบังความแตกตื่นของตนเองสักนิด “นายท่านอู๋ไปได้ยินมาจากไหน?
ใต้เท้าหลี่มิใช่เพิ่งรับราชการที่เมืองหลวงรึ? เหตุใดจะขายที่นาเสียเล่า?”
นายท่านอู๋เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เจ้าก็รูอ้ ยู่ สกุลข้าพอมีเงินสํารองอยู่บา้ ง หลายวัน
ก่อนมีคนกลางแอบมาหาข้าเงียบๆ ถามว่าข้าจะซือ้ ไว้ไหม ยังบอกไม่ให้ขา้ ส่งเสียงเอะอะอีก
เจ้าเองก็คงรู ้ หลายปี นีส้ กุลหลี่ทาํ แต่เรื่องงามหน้า ต่อให้สกุลของหลี่ตวนกับบ้านสายหลักตัด
ขาดกัน แต่สดุ ท้ายก็ไม่อาจเขียนอักษร ‘หลี่’ ให้แยกเป็ นสองตัวได้ พวกเขาต้องการขายที่นา
สกุลหลี่สายหลักย่อมเป็ นฝ่ ายที่ตอ้ งการซือ้ เก็บไว้มากที่สดุ เหตุใดข้าต้องเอาตัวไปยุ่งกับนํา้ ขุ่น
คลั่กนีด้ ว้ ยเล่า แต่ท่ีนาผืนนัน้ ของพวกเขานับว่าประเสริฐจริงๆ เป็ นผืนที่ปลูกข้าวปี ้จิง 1อย่างไร 212

1
ข้าวปี ้จิง เป็ นข้าวคุณภาพสูงสายพันธุห์ นึ่ง มีถ่ินกําเนิดแถบมณฑลเหอเป่ ย นับเป็ นสินค้าบรรณาการในราชวงศ์ชิง ข้าวมี
ลักษณะเป็ นเมล็ดยาวเรียว มีสีเขียวเล็กน้อย ลักษณะเด่นของข้าวปี ้จิงคือจะมีกลิ่นหอมกรุน่ เมื่อปรุงสุกแล้ว
1081

เล่า ข้านั่งคิดอยู่ท่ีเรือนหลายวัน ในใจก็ยงั ปล่อยวางไม่ได้ เห็นว่าน้องชายเจ้ามิใช่คนอื่นคนไกล


เจ้ามีเรื่องดีๆ ยังคิดถึงข้า เมื่อข้าเจอเรื่องดีๆ จะลืมเจ้าได้เช่นไร วันนีถ้ ึงตัง้ ใจมาถามเจ้าเป็ น
พิเศษ หากว่าเจ้าต้องการ พวกเราสองสกุลก็แบ่งที่ผืนนัน้ เสีย เจ้าคิดอ่านเป็ นอย่างไร?”
อวีถ้ งั ฟั งแล้วก็เข้าใจทุกอย่างในทันที
เพราะว่า ร่ว มลงหุ้น กับ เรื อ ของเจี ย งเฉาด้ว ยกัน นายท่ า นอู๋กับ บิ ด านางยิ่ ง กระชับ
ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกว่าเก่า สองคนที่เดิมสนิทกันอยู่แล้วบัดนีก้ ลายมาเป็ นเพื่อนที่รูใ้ จ สกุลหลี่
มี ท่ี น าชั้น ดีสองร้อยหมู่ ทั้ง หมดใช้เ พาะปลูก ข้า วปี ้ จิง และข้า วปี ้ จิ ง มี รสชาติ ดีก ว่า ของข้า ว
บรรณาการเดือนหกด้วยซํา้ สกุลหลี่แค่อาศัยที่นาสองร้อยหมู่นีก้ ็สามารถใช้ชีวิตอย่างคนชน
ชั้นสูงระดับกลางได้แล้ว เพียงแต่ท่ีนาสองร้อยหมู่นั้น เมื่อร้อยกว่าปี ก่อนก็อยู่ในมือคนของ
สกุล หลี่ แ ล้ว ภายหลัง เมื่ อ แยกสกุลก็ ต กมาอยู่ใ นมื อ ของครอบครัว หลี่ ต วน จากฐานะของ
ครอบครัวหลี่ตวน ไม่ว่าอย่างไรคงไม่มีวันขายที่นาสองร้อยหมู่ออกไปแน่ ทั้งจึงไม่มีใครคิด
หมายจะครอบครอง
บัดนีส้ กุลหลี่กลับคิดจะขายที่อย่างนัน้ รึ!
ทัง้ ยังเป็ นที่นาชัน้ ยอดที่สามารถปลูกข้าวปี ้จิงได้อีกด้วย!
หากว่าผูอ้ ่นื รูเ้ ข้า ราคาย่อมพุง่ พรวด คิดหาทางคว้าที่นาห้าสิบหมู่มาอยู่ในมือให้จงได้
เทียบกับเรื่องขายที่นาแล้ว อวีถ้ งั อยากรู ม้ ากกว่าว่าเหตุใดสกุลหลี่ตอ้ งขายที่นาห้าสิบ
หมู่ผืนนี?้
อวีเ้ หวินใจสั่นทันใด เขาถามว่า “ราคาเปิ ดเท่าไรล่ะ?”
นายท่านอูช๋ นู ิว้ มือขึน้ มาสี่นิว้ อย่างปวดใจ
อวีเ้ หวินชะงักกึก ถามหยั่งเชิงว่า “สี่สิบตําลึงหนึ่งหมู่?”
นายท่านอูผ๋ งกศีรษะ ถอนหายใจเอ่ยต่อว่า “ราคาเปิ ดสูงเทียมฟ้าจริงๆ”
1082

อวีเ้ หวินขมวดคิว้ มุ่น


ราคาที่ดินในเมืองหลินอัน ที่นาชั้นดีอย่างมากก็หมู่ละแปดตําลึง บางครัง้ หากเป็ น
สถานการณ์พิเศษหน่อย ก็อาจขายได้ถึงหมู่ละสิบหรือสิบสองตําลึง ขนาดหมู่ละสิบห้าตําลึงยัง
แทบไม่มีเลยด้วยซํา้
สี่สิบตําลึงหนึ่งหมู่ คงมีแต่พวกเศรษฐี ใหม่จ่ายเงินซือ้ ที่นาส่วนตัวปลอดภาษีแล้ว
มิน่าถึงส่งคนมาหานายท่านอู๋
คนสามัญธรรมดาใช่วา่ จะมีเงินซือ้ ไหว
แน่นอนว่า เขาในตอนนีก้ ็มีเงินพอให้ควักจ่าย แต่จ่ายเงินก้อนโตเพียงนัน้ กลับซือ้ ที่นา
ได้เพียงห้าสิบหมู่ สิ่งที่ตอ้ งคิดให้มากก็คือ ที่นาสองร้อยหมู่ของสกุลหลี่เชื่อมเป็ นผืนเดียวกัน ที่
นาห้าสิบหมู่ท่ีขายออกก็จะอยู่ติดกับที่นาของสกุลหลี่ หากว่ามีปัญหาเรื่องนํา้ หรือแมลงจน
ทะเลาะกันขึน้ มา คงอธิบายให้กระจ่างไม่ได้ง่ายๆ เช่นนีอ้ อกจะจัดการยากอยู่บา้ ง
อวีเ้ หวินถามนายท่านอูว๋ า่ “ความเห็นของท่านคือ?”
นายท่านอู๋ตอบว่า “ข้าคิดว่าสี่สิบตําลึงหนึ่งหมู่สงู เกินไป คงลองไปเจรจาดูก่อนว่าลด
เป็ นสามสิบตําลึงหนึ่งหมู่ได้หรือไม่ ข้าถือไว้ส่ีสิบหมู่ เจ้าถือไว้สิบหมู่ เจ้ากับข้าก็ไม่ตอ้ งลําบาก
ลําบนมากนัก ถึงเวลานัน้ ก็ชว่ ยดูแลกันและกันได้”
ประเด็นหลักอยู่ท่ีช่วยดูแลกันและกันได้กระมัง?
อวีถ้ งั ลอบคิด หัวใจก็เต้นแรงเพราะอยากจะลองดูสกั ตัง้
ใจหนึ่งอยากได้ท่ีนาด้วยต้องการแก้แค้น แต่ใจหนึ่งรู ส้ ึกว่าหากครอบครองมันแล้วคง
ต้องเข้าไปพัวพันกับสกุลหลี่ไม่หยุดหย่อน มีแต่จะวุน่ วายใจกว่าเดิม
สิ่งสําคัญก็คือ ไม่ว่าจะบิดานางก็ดีหรือนายท่านอู๋ก็ดี ที่กล้าซือ้ ที่นาผืนนัน้ เพราะพวก
เขาคิดว่าเงินทุนที่ลงไปกับเจียงเฉาจะคืนกําไรก้อนโต ถึงเวลานัน้ ย่อมมีทงั้ ทรัพย์สินและหน้าตา
1083

นายท่านอู๋มีพ่ีเขยรับราชการ อวีเ้ หวินตัวเขาเองก็เป็ นถึงซิ่วไฉ ต่อให้บา้ นสายหลักสกุลหลี่คิด


สร้างความลําบากให้พวกเขา หรือว่าหากสกุลหลี่ตวนมานึกเสียใจภายหลัง พวกเขาก็ยงั มีกาํ ลัง
ทรัพย์พอต่อกรกับสกุลหลี่ได้
อวีเ้ หวินกับนายท่านอูค๋ ิดเช่นนัน้ อยู่จริงๆ แต่อวีเ้ หวินเป็ นคนขีข้ ลาด เขาเอ่ยอย่างละล้า
ละลังว่า “ราคาระดับนี ้ คนธรรมดาไม่มีทางเอือ้ มถึงแน่ พวกเราควรรอสักหน่อยหรือไม่? สืบ
ถามให้ชดั เจนเสียก่อนจะดีกว่าว่าเหตุใดสกุลหลี่ถึงต้องการจะขายที่นาผืนนัน้ ?”
เขาประเมินอย่างมั่นใจแล้วว่าเพื่อศักดิ์ศรีของสกุลหลี่ พวกเขาไม่มีทางไปขอร้องสกุล
เผยแน่
นายท่านอู๋ตอบอย่างจนใจ “เหตุใดข้าจะไม่เข้าใจเหตุผลข้อนี ้ แต่ขา้ สืบถามจากคนที่
พอจะถามได้จนทั่วแล้ว ต่างไม่มีใครรูส้ กั นิดว่าเหตุใดสกุลหลี่ตอ้ งขายที่นาห้าสิบหมู่น่นั ”
อวีเ้ หวินอย่างไรก็มีตาํ แหน่งชื่อเสียง ข่าวบางอย่าง โดยเฉพาะเรื่องในสกุลของเหล่า
บัณฑิตเอง หากว่าต้องการสืบรู ้ ย่อมง่ายดายกว่านายท่านอูเ๋ สียอีก
บางทีน่ีอาจเป็ นอีกหนึ่งเหตุผลว่าทําไมนายท่านอู๋ตอ้ งยุยงให้อวีเ้ หวินซือ้ ที่นาผืนนัน้
ด้วย
อวีเ้ หวินพยักหน้าหงึกๆ
สองคนมองหน้ากันแล้วหัวเราะ
ในเสียงหัวเราะคล้ายมีความนัยว่าต่างฝ่ ายต่างรูแ้ ละเข้าใจกันดี
ทว่าในสายตาของอวีถ้ งั นี่เป็ นการสมคบคิดของพวกคนชั่วโดยแท้
แต่การสมคบคิดของพวกคนชั่วนัน้ นางเองก็ช่ืนชอบเป็ นชีวิตจิตใจ
อวีถ้ งั ลุกยืนขึน้ แล้วสั่งการซวงเถาเป็ นพิเศษว่า “อากาศอบอ้าวเช่นนี ้ รีบไปยกนํา้ ต้มถั่ว
เขียวที่แช่นา้ํ แข็งไว้เข้ามาเร็วเข้า”
1084

ซวงเถารับคําแล้วจากไป
นายท่านอู๋ยิม้ สรวลแล้วหันไปพูดกับอวีเ้ หวินว่า “บุตรสาวบ้านเจ้าก้าวหน้าขึน้ ทุกวัน
น่าเสียดายที่เจ้าหนุ่มบ้านข้ากับลูกสาวเจ้าอายุไม่ไล่เลี่ยกันเลย”
อวีเ้ หวินยิม้ แล้วปั ดมือไปมา กําลังจะเอ่ยคําถ่อมตัวสักหลายประโยค พลันเห็นพ่อบ้าน
ของนายท่านอูว๋ ่งิ พรวดพราดเข้ามาด้วยสีหน้าขาวเผือด แล้วตะโกนเสียงหลงว่า “นายท่าน นาย
ท่านอวี ้ แย่แล้วขอรับ นายท่านเจียงทางนัน้ เกิดเรื่องแล้ว!”
1085

บทที่ 136 ล้มเหลว


นายท่านอู๋เป็ นคนปราดเปรื่อง หากมิเช่นนัน้ เขาคงไม่ฝ่าฟั นจนมีกิจการใหญ่โตเช่นนี ้
แม้เขาจะเชื่อมั่นในอวีเ้ หวิน เชื่อมั่นในสายตาของตน แต่อย่างไรนี่ก็เป็ นครัง้ แรกที่ได้รูจ้ ักกับ
เจียงเฉา เจียงเฉาต่อให้พดู จาเสนาะเพราะหูเพียงใด เขาก็ย่อมจะระวังตัวไว้อยู่แล้ว พ่อบ้าน
ใหญ่ของสกุลคือคนที่เขาส่งออกไปให้จบั ตาดูสกุลเจียงเอาไว้ หากสกุลเจียงมีความเคลื่อนไหว
แม้เพียงใบไม้ปลิว เขาก็จะรูเ้ รื่องในทันที
ด้วยเหตุนีเ้ มื่อได้ฟังวาจาของพ่อบ้านใหญ่ เขาก็กระเด้งตัว ‘ตึง’ ลุกยืนขึน้ ทันที สีหน้า
ยังยํ่าแย่กว่าพ่อบ้านใหญ่ของตนเสียอีก “นายท่านเจียงทางนัน้ เกิดเรื่องรึ? เกิดอะไรขึน้ ? เจ้า
อย่าพูดครึง่ ๆ กลางๆ! เล่าออกมาให้ชดั เจนเดี๋ยวนี”้
อวีเ้ หวินก็พลันกระสับกระส่ายตามไปด้วย
เขากับนายท่านอูส๋ นิทกัน แน่นอนว่าไม่ใช่ครัง้ แรกที่ได้เจอหน้าพ่อบ้านใหญ่ผนู้ ี ้ พ่อบ้าน
ใหญ่ผนู้ ีไ้ ม่เพียงซื่อสัตย์หนักแน่นและจัดการเรื่องราวได้น่าเชื่อถือ ท่าทางตื่นตูมเอิกเกริกเช่นนี ้
เขาเองเพิ่งเคยพบเห็นเป็ นครัง้ แรก อีกทัง้ คําพูดของพ่อบ้านใหญ่ยงั เกี่ยวพันถึงเจียงเฉาผูท้ ่ีพวก
เขาร่วมลงหุน้ ทํากิจการอีกด้วย
หลังจากที่นายท่านอูล๋ กุ ยืน เขาก็ดนั ตัวขึน้ ตามด้วยท่าทีตงึ เครียด เอ่ยว่า “พ่อบ้านใหญ่
นายท่านเจียงทางนัน้ เกิดเรือ่ งอะไรขึน้ รึ?”
พ่อบ้านใหญ่สกุลอู่สดู ลมหายใจลึกทีหนึ่ง แล้วกลืนนํา้ ลายลงคอ หลังจากปรับอารมณ์
ให้สงบลงได้บางส่วนแล้ว ถึงได้เริ่มเปล่งเสียงเล่าว่า “ข้ามิใช่เฝ้าอยู่ท่ีซูโจวตลอดหรือขอรับ แต่
เริ่มจากหลายวันก่อน ข้าก็ไม่เห็นตัวนายท่านเจียงแล้ว ก่อนหน้าข้ายังคิดว่านายท่านเจียง
เดินทางไปหนิงปั ว ทว่าใจข้าอย่างไรก็รูส้ กึ ตะหงิดๆ ถึงได้พยายามไปสืบเรื่องสักรอบ จึงพบว่า
นายท่านเจียงเดินทางไปหนิงปั วจริงๆ แต่วา่ ก่อนไปที่นาซึง่ วางประกันไว้กบั สกุลซ่ง สกุลซ่งกลับ
เอาออกมาขาย ข้าเลยคิดว่าเพราะสกุลซ่งไม่พอใจสกุลเจียงหรือไม่ ถึงตัง้ ใจทําให้สกุลเจียง
กลายเป็ นตัวตลก ข้าจึงแอบไปโรงจํานําที่นายท่านเจียงจํานําเรือเอาไว้ ปรากฏว่า…”
1086

เขาทําหน้าคล้ายจะร้องไห้ ราวกับเปล่งเสียงพูดไม่ออก
สีหน้าของนายท่านอู๋กับอวีเ้ หวินยิ่งไม่น่ามองขึน้ ไปอีก เวลาเดียวกันก็เอ่ยถามอย่าง
ร้อนใจว่า “ปรากฎว่าอะไรล่ะ?”
ดวงตาของพ่อบ้านใหญ่มืดมน เอ่ยปากด้วยความยากลําบากออกมาว่า “ปรากฎว่า
ตัง้ แต่ส่วี นั ก่อน นายท่านเจียงได้เปลี่ยนจากจํานําเป็ นเป็ นจํานําตายแล้วขอรับ!”
จํา นํา เป็ น สามารถกํา หนดเวลาเพื่อมาไถ่ของคืนได้ จํา นํา ตาย ก็ คือการลงชื่ อบน
หนังสือสัญญา ว่าต่อให้ภายหลังหาเงินมาได้ ก็ไม่อาจกลับมาไถ่ของคืนได้แล้ว อีกอย่าง ราคา
ของของที่จาํ นําตายสูงกว่าจํานําเป็ นไม่เพียงหนึ่งในสามเท่านัน้
ภาพเบือ้ งหน้าของอวีเ้ หวินดํามืด ในพริบตาคนก็รว่ งตุบลงบนเก้าอีไ้ ท่ซือ
นายท่านอูร๋ า่ งกายโอนเอน แต่ก็ยงั แข็งใจได้กว่าอวีเ้ หวิน เขาใช้มือพยุงมุมโต๊ะเพื่อทรง
ตัวให้ม่ นั ถามพ่อบ้านใหญ่ดว้ ยเสียงรัวเร็วว่า “แล้วนายท่านเจียงล่ะ? มารดาและน้องสาวของ
เขายังอยู่ท่ีซูโจวหรือไม่?”
“อยู่ขอรับ!” พ่อบ้านใหญ่ตอบเสียงขื่น “แต่ดทู ่าทาง พวกนางคงยังไม่รูว้ า่ นายท่านเจียง
ไม่อยู่ท่ีซูโจวแล้ว ข้าไม่อยากรบกวนท่านแม่เฒ่า จึงไม่ได้พดู อะไรออกไป เพียงแจ้งชื่อท่านกับ
นายท่านอวีเ้ อาไว้ อ้างว่าแวะมาเยี่ยมนายท่านเจียงขอรับ…”
นายท่านอู๋เวลานีร้ ูส้ กึ ว่าในใจมีสารพัดอารมณ์ตีกนั วุน่ พลันไม่รูว้ ่าต้องพูดอะไรออกมา
ดี ได้แต่พยักหน้าตามสัญชาตญาณ “ไม่ตอ้ งบอกก็ดี คนในครอบครัวจะได้ไม่เป็ นห่วง ไม่ว่าเรา
จะมีความแค้นกับสกุลเจียงหรือไม่ ก็ไม่อาจรังแกแม่เฒ่าที่เป็ นม่ายอย่างเด็ดขาด เรื่องใดๆ ล้วน
ต้องแยกแยะ สิ่งนีน้ บั ว่าเจ้าทําถูกต้องแล้ว”
พ่อบ้านใหญ่กม้ หน้างุด เอ่ยเสียงเบาว่า “ต่อมาข้าไปที่รา้ นค้าของนายท่านเจียง ยังมี
สถานที่ท่ีเขามักไปบ่อยๆ ล้วนแต่ไม่เจอเขาทัง้ สิน้ เด็กในร้านค้ารวมถึงเสี่ยวเอ้อร์ในโรงสุราและ
โรงนํา้ ชาต่างบอกว่าไม่เห็นหน้านายท่านเจียงหลายวันแล้ว ข้าจึงแอบไปสืบอย่างลับๆ อีกรอบ
1087

สกุลอื่นที่ลงหุน้ ทําการค้าทางทะเลกับนายท่านเจียง ล้วนแต่นาํ เงินมอบให้นายท่านเจียงแล้ว…


ข้าคิดว่า พวกเราควรจะเดินทางไปเมืองหนิงปั วสักครัง้ หรือไม่…”
“ไป!” นายท่านอู๋ได้ฟัง ก็คล้ายว่าดึงสติกลับมาอีกครัง้ แล้วเอ่ยเสียงเหีย้ มว่า “เมืองห
นิงปั วไกลจากที่น่ไี ม่มาก พวกเราก็ไม่ได้ขดั สนค่าเดินทาง อย่างไรก็ตอ้ งทําเรื่องนีใ้ ห้กระจ่าง เขา
จะอยู่ท่ีหนิงปั วจริงหรือไม่? แล้วไปทําอะไรที่หนิงปั ว? หากว่าเข้าใจผิด ข้าค่อยไปขอโทษเขา”
แต่ถา้ ไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิดเล่า?
นั่นก็หมายความว่าเจียงเฉาหอบเงินที่พวกเขาลงหุน้ หนีไปแล้วน่ะสิ?!
กลางอกของอวีถ้ งั คล้ายมีหินก้อนใหญ่กดทับไว้ เป็ นนานที่พดู อะไรไม่ออก
ชาติก่อน เจียงเฉาเป็ นพ่อค้าที่ประสบความสําเร็จและรักษาสัจจะ เหตุใดพอมาถึงนาง
ตอนนีก้ ลับเปลี่ยนราวพลิกฝ่ ามือเช่นนีเ้ ล่า?
ที่แท้เป็ นเพราะนางมองคนผิด หรือเพราะการเข้าร่วมของนางกันแน่ เรื่องราวถึงได้
เปลี่ยนไปจากชาติก่อนมากขนาดนี?้
ปากของอวีถ้ งั เดี๋ยวอ้าเดี๋ยวหุบ นางอยากถามนายท่านอู๋ แต่ไม่รูจ้ ะเริม่ จากตรงไหน
ตอนที่นางเรียบเรียงความคิดจะเปิ ดปากถามออกไป ก็ได้ยินเสียงร้องตกใจของซวงเถา
“นายหญิง ท่านเป็ นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?”
สายตาของทุกคนพุง่ ไปที่รา่ งของเฉินซื่อทันที
ไม่รูว้ า่ เฉินซื่อเป็ นลมไปตัง้ แต่ตอนไหน ร่างของนางกําลังร่วงลงพืน้
“ท่านแม่!” อวีถ้ งั กระโจนเข้าไปหา ประคองร่างของเฉินซื่อไว้ทนั เวลา
1088

อวีเ้ หวินก็ตกใจจนหน้าไร้เลือด ทางหนึ่งช่วยอวีถ้ งั ประคองเฉินซื่อ ทางหนึ่งก็กดเข้าที่


จุดเหรินจง 1พลางพึมพําเฉกคนขวัญเสียว่า “เจ้าอย่าทําให้ขา้ ตกใจแบบนี ้ เจ้าเพิ่งจะฟื ้ นสุขภาพ
213

ให้ดีขนึ ้ มาได้ หากเจ้าเป็ นอะไรไป ข้าจะทําอย่างไรเล่า!”


อวีถ้ งั ยิ่งขุ่นเคืองไม่หาย
นางลืมไปได้อย่างไรว่ามารดาก็อยู่ตรงนีด้ ว้ ย มัวแต่ไปคิดเรื่องกําไรขาดทุนอยู่น่นั กลับ
ละเลยความรูส้ กึ ของมารดาไป
สกุลนางลงเงินไปหกพันตําลึง นับเป็ นเงินก้อนมโหฬาร
คนมากมายทัง้ ชีวิตยังไม่เคยมีเงินถึงหกร้อยตําลึงด้วยซํา้
นางรีบพูดกับบิดาว่า “ท่านแม่น่ากลัวจะได้รบั ความตกใจ ท่านรีบพาท่านแม่กลับห้อง
ไปก่อน ซวงเถา เจ้าไปเชิญท่านหมอมา”
นายท่ า นอู๋เ พิ่ ง ได้ส ติ เ ช่ น กัน เอ่ ย เร่ง ร้อ นว่า “ฮุ่ย หลี่ บุต รสาวเจ้า พูด ถูก เจ้า รี บ พา
น้องสะใภ้ไปพักผ่อนก่อน คนนัน้ มีชีวิต ค้าขายเป็ นของตาย ไม่อาจเพราะเรื่องเงินทองทําให้
น้องสะใภ้ตอ้ งลําบากไปด้วย พวกเราร้อนใจหาเงิน มิใช่ตอ้ งการให้คนในครอบครัวใช้ชีวิตสุข
สบายอย่างนัน้ หรือ?”
อวีเ้ หวินรูส้ กึ ตืน้ ตัน เขาอุม้ เฉินซื่อเข้าห้อง รินชาร้อนส่งให้อวีถ้ งั แล้วให้นางป้อนเฉินซื่อ
เสร็จแล้วจึงออกไปรอท่านหมอที่ดา้ นนอก
นายท่ า นอู๋ก็ ร ออวี เ้ หวิ น อยู่ด ้า นนอกด้ว ยความร้อ นใจ เห็ น ว่า เขาเดิ น ออกมา ก็ รีบ
สาวเท้าเข้าไปหา “กิจการแม้จะสําคัญ แต่สขุ ภาพของน้องสะใภ้เป็ นเรื่องใหญ่กว่า ซูโจวทางนัน้

1
เหรินจง เป็ นจุดที่อยู่ระหว่างริมฝี ปากบนกับรู จมูก การกดจุดนีจ้ ะช่วยเพิ่มการทํางานของสมอง อัตราการเต้นของหัวใจ
การหายใจให้กลับมาเป็ นปกติ ใช้กบั อาการช๊อก หมดสติ โคม่า ลมแดด ชักแบบเฉียบพลัน
1089

ตอนนีเ้ จ้าอย่าเพิ่งยุ่งเลย ข้าจะไปด้วยตนเองสักครัง้ นี่ก็ใกล้วนั ไหว้พระจันทร์แล้ว อย่างไรก็คง


ต้องรอให้ผ่านวันไหว้พระจันทร์ไปก่อนแล้วค่อยมาหารือกัน”
อวีเ้ หวินทั้งรู ส้ ึกผิดทัง้ ซาบซึง้ ใจ ประสานมือคารวะนายท่านอู๋ไปครัง้ หนึ่ง เอ่ยอย่าง
ละอายว่า “ท่านพี่อู๋ เป็ นเพราะข้าทําให้ท่านต้องลําบากไปด้วย”
“เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร?” นายท่านอู๋แสร้งตีหน้าขึงขัง “ข้ายินยอมลงหุน้ ด้วยตัวเอง
อีกอย่างทํามาค้าขายมีกาํ ไรก็ตอ้ งมีขาดทุนเป็ นธรรมดา เจ้าก็อยู่เรือนดูแลน้องสะใภ้ให้ดี หาก
ว่ามีข่าวอะไรข้าจะรีบมาบอกเจ้าก็แล้วกัน”
อวีเ้ หวินไปส่งนายท่านอูท๋ ่ีหน้าประตูดว้ ยความละอาย
หลังจากที่ท่านหมอมาถึง ก็ซือ้ ยาและต้มยากันจนวุ่นวายไปตลอดทัง้ บ่าย กระทั่งเฉิน
ซื่อดื่มยาลงไปแล้ว ทัง้ มีอวีถ้ งั คอยปลุกปลอบอยู่เคียงข้างอาการจึงค่อยๆ ดีขึน้ ซึ่งก็เป็ นเวลาที่
ต้องจุดตะเกียงพอดี
เฉินซื่อแต่ไรก็เคารพให้เกียรติสามี แม้จะเกิดเรื่องใหญ่โตเช่นนี ้ แต่คิดว่าอย่างน้อยทุก
คนในครอบครัวยังอยู่กบั พร้อมหน้าเป็ นสุข ในใจจึงไม่ได้โศกเศร้ามากนัก นางเรียกให้ปา้ เฉินไป
หยิบเครื่องประดับซึง่ เป็ นสินเดิมของนางออกมาแล้วส่งให้กบั อวีเ้ หวิน เอ่ยเสียงอ่อนว่า “ท่านไม่
ต้องร้อนรนไป ข้ายังมีเครื่องประดับผมพวกนี ้ ตั๋วเงินสองร้อยตําลึง ล้วนเป็ นสิ่งที่ท่านเคยให้ขา้
ไว้ ท่านก็เอาไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อน”
อวีเ้ หวินจะกล้ารับสิ่งของของภรรยาได้อย่างไร เขาเอ่ยเป็ นพัลวันว่า “คํานีต้ อ้ งเป็ นข้าที่
พูดกับเจ้ามากกว่า เงินก้อนนัน้ แม้จะมาก แต่ก่อนหน้านีข้ า้ พูดไว้แล้ว เมื่อเป็ นลาภลอย ก็คิด
เสียว่าไม่เคยได้มนั มาก็แล้วกัน ไม่จาํ เป็ นต้องใช้เงินทองของเจ้ามาชดเชยให้ขา้ หรอก รีบเก็บไป
เดี๋ยวนี ้ ครอบครัวเรายังไม่ขดั สนจนให้เจ้าต้องควักเงินเอง”
วูบหนึ่งเขารูส้ กึ เสียใจที่ไม่ได้บอกเรื่องแผนที่กบั ภรรยา ไม่อย่างนัน้ ภรรยาของเขาคงไม่
ต้องเป็ นทุกข์เช่นนี ้
1090

ขณะที่อวีเ้ หวินลังเล ครอบครัวของอวีป้ ๋ อก็มาถึงกันแล้ว


จริงดังคําเขาว่า เรื่องดีไม่ออกนอกบ้าน เรื่องร้ายได้ยินไกลพันลี ้ อวีเ้ หวินทางนีเ้ พิ่งจะ
เกิดปั ญหา อวีป้ ๋ อทางนัน้ ก็รูเ้ รื่องทุกอย่างแล้ว
หวังซื่อกับเซียงซื่อเข้าไปด้านในห้องเพื่อปลอบใจเฉินซื่อ อวีป้ ๋ อตีหน้าตึงนั่งลงบนเก้าอี ้
ตรงข้ามกับอวีเ้ หวิน “เจ้ามีปัญญากว่าข้า เรื่องของเจ้าแต่ไรข้าไม่เคยยุ่ง แต่ครัง้ นีเ้ จ้าต้องเล่า
ความจริงให้ขา้ ฟั งแล้ว เจ้าได้ติดหนีข้ า้ งนอกไว้หรือไม่?” ทัง้ ถามต่อว่า “ร้านค้าของสกุลเราแม้
ทํากําไรได้ไม่มาก แต่อย่างไรก็หาได้มากกว่าเรือกสวนไร่นาของเจ้า เงินของนายท่านอู๋ ข้าจะหา
วิธีช่วยเจ้าใช้คืน เจ้าทางนี ้ ก็ร่ายลําดับก่อนหลังออกมา หากว่าหาเงินใช้คืนไม่ได้ ข้าค่อย
หาทางช่วยเจ้าอีกแรง!”
นี่เพราะมั่นใจว่าอวีเ้ หวินไปติดหนีค้ นข้างนอกรึ?
ไม่ได้เชื่อในสิ่งที่เขาพูดเลยสักนิดว่าเป็ นเงินที่ได้เพราะลาภลอย
ยิ่งในเวลาเช่นนี ้ อวีเ้ หวินยิ่งไม่อาจพูดกับพี่ชายให้ชดั เจนได้
เขาเอ่ยอย่างละอายว่า “ท่านพี่ ข้าเองก็อายุมากแล้ว จะทําสิ่งใดลงไปก็รูจ้ กั แยกแยะ
หนักเบาอยู่ เงินก้อนนัน้ ได้มาเพราะลาภลอยจริงๆ ส่วนเรื่องเงินของนายท่านอู๋ ข้ากับนายท่านอู๋
ได้คยุ กันไว้เรียบร้อยแล้ว ท่านไม่ตอ้ งกังวลไป ตัง้ ใจทํามาค้าขายต่อไปก็พอ”
“ครอบครัวเดียวกันไม่ตอ้ งพูดเหมือนเป็ นคนนอก” ไม่รูว้ ่าหวังซื่อเดินออกมาจากห้อง
ด้านในตัง้ แต่เมื่อไร นางยืนพิงประตูหอ้ งด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า “ก่อนหน้านีเ้ จ้าได้เงินมาก็แบ่งให้
พวกเราครึง่ หนึ่ง วันนีก้ ิจการต้องขาดทุน ย่อมคิดส่วนของพวกเราไปกึ่งหนึ่งด้วย พวกเราแม้จะ
หาเงินมาให้ทันทีไม่ได้ แต่ว่าเก็บเล็กผสมน้อย ก็ยังพอช่วยเจ้าหาเงินคืนได้บา้ ง เจ้าอย่าได้
เกรงใจพวกเราเลย หากเจ้าใช้ชีวิตอย่างยากลําบาก พี่ชายเจ้ากับข้าก็ไม่อาจกินเนือ้ ดื่มนํา้ แกง
อย่างสงบได้ จะนับเป็ นพี่นอ้ งกันได้อย่างไร?”
1091

อวีเ้ หวินซึง้ ใจหนักหนา แต่เขาไม่ตอ้ งการเงินของพี่ชายจริงๆ เขาได้แต่มองไปทางอวี ้


หย่วนอย่างขอความช่วยเหลือ หวังว่าอวีห้ ย่วนจะช่วยเขาพูดอะไรสักสองสามคํา
อวีห้ ย่วนทําหน้าหัวเราะไม่ได้รอ้ งไห้ไม่ออก
เรื่องหลอกลวงหนึ่งเรื่องต้องใช้คาํ โกหกเท่าใดเพื่อจะปิ ดบังมัน
เดิมเพื่อความปลอดภัยของคนในสกุลถึงได้ปิดบังเรื่องแผนที่เอาไว้ บัดนีก้ ลายเป็ น
ความลับที่ไม่อาจบอกใครได้แล้ว
ระหว่างที่เดินมาท่านพ่อก็อบรมเขาไปยกหยึ่งแล้ว เขายังหวังให้ท่านอาช่วยเขาพูดอยู่
เลย มีหรือที่เขาจะกล่อมบิดาของตนได้
ผ่านไปสามวัน นายท่านอู๋ก็กลับมาจากหนิงปั วเหมือนพายุพดั เขาผ่านประตูแต่ไม่ได้
เข้าเรือน ตรงดิ่งมาที่เรือนสกุลอวีท้ นั ที
“เป็ นนายท่านหวังทางนัน้ เกิดเรื่องขึน้ ” เขาไม่ทนั ได้จิบนํา้ ชาด้วยซํา้ ก็ยืนเล่าเรื่องราวที่
สืบมาได้ให้อวีเ้ หวินฟั งที่ลานด้านหน้า “เถ้าแก่หวังมิใช่คิดจะแยกตัวจากนายจ้างเก่าออกมา
สร้างตัวด้วยตนเองหรือ? ลูกชายสองคนของนายจ้างเก่าคงกลัวว่าเถ้าแก่หวังจะแย่งกิจการของ
พวกเขาไป จึงร่วมมือกันใส่รา้ ยเถ้าแก่หวัง จนลูกชายทัง้ สามคนของเถ้าแก่หวังต้องติดคุก เถ้า
แก่หวังจึงหักใจ หลังเอาเงินก้อนโตไปประกันตัวลูกชายออกมา ก็ขายเรือทิง้ แล้วพาคนใน
ครอบครัวหนี เงินลงหุน้ ก่อนหน้านีก้ ็หอบหนีไปด้วยหมด นายท่านเจียงรู ส้ ึกไม่ชอบกลแต่แรก
แล้ว จึงรีบตามไปหนิงปั ว แต่ก็ชา้ ไปก้าวหนึ่ง ตอนนีแ้ ม้ตัวจะยับเยินแต่ก็ยังเฝ้าอยู่ท่ีหนิงปั ว
ลองดูวา่ จะหาของอย่างอื่นมาใช้หนีไ้ ด้หรือไม่”
อวีเ้ หวินฟั งแล้วหัวหมุนติว้ ๆ เขาถามว่า “นี่ก็เป็ นเรื่องที่จนปั ญญาอีกเช่นกัน!”
ความเคียดแค้น กังวล และหวาดกลัวก่อนหน้านีส้ ลายหายในชั่วพริบตา
เขาไม่ได้มองคนผิด ไม่ได้เชื่อใจคนผิดก็ดีแล้ว
1092

นายท่านอู๋ก็คิดเช่นเดียวกัน “ตอนนัน้ พวกเราเห็นว่านายท่านเจียงเป็ นคนดีถึงตัดสินใจ


ลงหุน้ ด้วย บัดนีม้ าเกิดเรื่องขึน้ ย่อมไม่อาจกล่าวโทษนายท่านเจียงเพียงผูเ้ ดียว ข้าว่าพวกเราก็
ไม่ตอ้ งร้อนใจไป รอดูวา่ ภายหลังนายท่านเจียงมีแผนการอย่างไรก็คอ่ ยว่ากัน”
1093

บทที่ 137 รู้เรื่อง


สองคนเมื่อได้หารือกันก็เลิกร้อนใจ กลับยกเรื่องของนายท่านเจียงมาคุยต่อ
นายท่านอู๋เอ่ยว่า “นายท่านเจียงอาจจะมีประสบการณ์นอ้ ยไปหน่อย รู แ้ ต่ว่าเถ้าแก่
หวังคิดจะแยกตัวออกมาตัง้ ร้านเอง แต่กลับไม่ได้ระวังลูกชายสองคนของนายจ้างเก่า นี่นบั ว่า
ล้มหนึ่งทีฉลาดขึน้ หนึ่งครัง้ ยังดีท่ีนายท่านเจียงอายุยงั น้อย ต่อไปมีโอกาสอีกมาก สําหรับเขา
อาจจะไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป”
อวีเ้ หวินพยักหน้าเห็นด้วย “สกุลเจียงมีบตุ รชายคนเดียวมารดาเป็ นม่าย ชีวิตย่อมมิใช่
สุขสบาย จะว่าไปพวกเรากับเขาก็นบั ว่ามีวาสนาต่อกัน ข้ายังคิดอยู่ว่าตอนวันไหว้พระจันทร์
ต้องส่งขนมไหว้พระจันทร์ไปให้หน่อยดีหรือไม่”
“ความคิดนีด้ ีย่ิงนัก!” นายท่านอู๋หลังชื่นชมแล้วก็เอ่ยอย่างทอดถอนใจว่า “ใครๆ ต่างก็
ชมว่าสหายอวีซ้ ่ือสัตย์จริงใจ ก่อนหน้านีข้ า้ ไม่เคยได้ใส่ใจ ตอนนีด้ ทู ่าคงเป็ นข้าที่มีตาหามีแวว
ไม่ มองข้ามสหายอวีไ้ ปเสียแล้ว!”
“สหายอู๋เอาคําพูดนีม้ าจากไหน!” อวีเ้ หวินเอ่ยพลางหน้าแดงเรื่อ รอจนนายท่านอู๋
กลับไปแล้ว เขาก็ส่ งั ให้อาเสาเตรียมเงินสิบตําลึงใส่ซอง ชุดสี่สิ่งสําคัญในห้องหนังสือหนึ่งชุด
ผ้าหังโจวสีม่วงออกใหม่สองพับเพื่อส่งไปให้นายท่านอู๋ นําไปรวมกับของขวัญของเขา จากนัน้ ก็
ให้พอ่ บ้านใหญ่นาํ ไปส่งที่เรือนสกุลเจียงแห่งซูโจว
ตัง้ แต่อวีถ้ งั ได้ยินว่ากิจการของเจียงเฉามีการพลิกผันก็คล้ายจะโง่เขลาไปทันที
เจียงเฉาจะถูกหลอกได้อย่างไร?
ชาติก่อน เขาขึน้ ชื่อว่าปราดเปรื่องอย่างกับอะไรดี
หรือว่านี่เป็ นความทุกข์ยากที่ได้รบั ก่อนหน้าการประสบความสําเร็จ?
ในใจของอวีถ้ งั ไม่อาจสงบลงได้ง่ายๆ
1094

เพราะว่าการเกิดใหม่ของนาง ทําให้ชาตินีก้ บั ชาติก่อนเกิดการเปลี่ยนแปลงครัง้ ใหญ่


อย่างเช่นการตายของเว่ยเสี่ยวซาน…เขาต้องพลอยรับกรรมไปด้วยก็เพราะนาง นายท่านเจียง
แม้ชาติก่อนจะเป็ นพ่อค้าที่ประสบความสําเร็จ แต่ใครจะรับประกันได้ว่าเจียงเฉาในชาตินีจ้ ะ
ไม่ได้รบั ผลกระทบจากการที่นางกลับชาติมาเกิดใหม่?
อวีถ้ ังไม่อาจวางใจให้เป็ นสุขได้ นางลอบดีใจที่เจียงเฉาเป็ นคนเข้มแข็ง มิใช่พวกเจอ
ปั ญหาแล้วสะบัดก้นหนี มิเช่นนัน้ นางจะมีหน้าไปพูดกับบิดาและญาติผพู้ ่ีได้อย่างไร
เห็นได้ชดั ว่าเรื่องบางอย่างไม่อาจอาศัยแค่ประสบการณ์จากชาติก่อนได้
อวีถ้ ังถอนหายใจ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ามารดากลับไม่แสดงอารมณ์ให้เห็นแม้เพียงเศษ
เสีย้ ว เอาแต่คอยเฝ้าอาการของนางอย่างใกล้ชิดด้วยความตัง้ อกตัง้ ใจ พวกป้าเฉินกลายเป็ น
คนหวาดผวา กลัวแต่ว่าเฉินซื่อจะเป็ นเหมือนเมื่อก่อน ในสิบวันล้มหมอนนอนเสื่อไปแล้วแปด
วัน คนในเรือนแค่พดู จาเสียงดังก็กลัวจะทําให้เฉินซื่อตกใจแล้ว ต่างห้อมล้อมอยู่ขา้ งๆ เพื่อดูแล
นาง ไม่มีใครสนใจจะไปทําขนมไหว้พระจันทร์ตอ่
กระทั่งเด็กในร้านขายปูนาํ ปูท่ีส่ งั เอาไว้ก่อนหน้านีม้ าส่ง อวีถ้ งั กับอวีเ้ หวินถึงกับสะดุง้
ตกใจเพราะเพิ่งนึกออกว่าพวกเขาลืมเรื่องที่จะส่งของขวัญวันไหว้พระจันทร์ไปให้สกุลเผยเสีย
สนิท
“ดูความจําข้าสิ!” อวีเ้ หวินยกมือตบศีรษะตนเอง แล้วถามอวีถ้ ังว่า “เจ้าทําขนมไหว้
พระจันทร์เป็ นหรือไม่? ถ้าไม่ไหวข้าจะรีบให้คนไปซือ้ ขนมไหว้พระจันทร์แบบใหม่ท่เี มืองหังโจวก
ลับมา”
ของขวัญที่ส่งให้สกุลเผยแน่นอนว่าจะมีเพียงขนมไหว้พระจันทร์อย่างเดียวไม่ได้ แต่
อย่างไรก็ไม่อาจขาดขนมไหว้พระจันทร์โดยเด็ดขาด
หลายวันก่อนเฉินซื่อถูกทําให้ตกใจ อวีเ้ หวินกลัวจับใจว่านางจะเป็ นอะไรขึน้ มา วันๆ
เอาแต่จบั ตาคอยดูให้นางพักผ่อน มีหรือจะยอมให้นางลงมือทําขนมไหว้พระจันทร์ตอ่ อีก?
1095

อวีถ้ งั ยิม้ แหย “ข้าทําของพวกนีเ้ ป็ นที่ไหนล่ะเจ้าคะ?”


อวี เ้ หวิ น จึง เอ่ย อย่ า งไม่ ลัง เลว่ า “ข้า จะไปถามดูว่ า สองวัน นี ม้ ี ใ ครเดิ น ทางไปเมื อง
หังโจวหรือไม่ ขอให้เขาช่วยซือ้ ขนมไหว้พระจันทร์ของร้านอูฟ่ างไจกลับมาสักหลายกล่อง”
อวีถ้ งั ส่งเสียงเห็นด้วย จากนัน้ ก็ไปส่งบิดาที่หน้าประตู
เพียงแต่ไม่รอให้พวกนางนําของขวัญไปส่งที่จวนสกุลเผย เผยเยี่ยนก็มาเยือนเสียก่อน
ทว่า เผยเยี่ยนยังคงไม่ผ่านเข้าประตูมาเช่นเดิม เขาให้เกีย้ วไปจอดอยู่ท่ีประตูดา้ นหลัง
ในตรอกน้อย แล้วส่งอาหมิงให้มาหาอวีถ้ ังเป็ นการส่วนตัว “นายท่านของข้ารออยู่ดา้ นนอก
ขอรับ มีสองสามคําต้องการจะสอบถามคุณหนูอวี”้
บังเอิญว่าหลายวันนีอ้ วีเ้ หวินไม่ค่อยอยู่เรือนเพราะเทียวไปเทียวมากับเรือนสกุลอู๋ เฉิน
ซื่อก็ด่ืมยานอนหลับไปแล้ว อวีถ้ งั ใช้ความคิดครู ห่ นึ่ง จากนัน้ ก็กลับห้องเพื่อเปลี่ยนเสือ้ ผ้าแล้ว
ออกไปพบเผยเยี่ยน
เผยเยี่ยนนั่งอยู่ดา้ นในเกีย้ ว พอเห็นอวีถ้ งั ถึงค่อยก้าวลงมา
พอเขาลงจากเกีย้ ว ก็สาํ รวจตรวจตราอวีถ้ งั อย่างตัง้ ใจ
อวีถ้ งั อยู่ในชุดเสือ้ คลุมหังโจวสีเขียวทะเลสาบตัวใหม่เอี่ยม ผมดําขลับมวยทรงก้นหอย
คู่เป็ นระเบียบดี ผมสองฝั่ งเสียบด้วยปิ่ นดอกมะลิ มองแล้วเรียบง่ายไม่หรู หรา แต่เพราะดวง
หน้าผาดผ่องหมดจรด ทําให้ท่วั ร่างดูสะอาดเรียบร้อย สดใสเป็ นธรรมชาติเฉกยอดใบอ่อนที่เพิ่ง
แทงยอดใหม่
เขาลอบพยักหน้าในใจ รอให้อวีถ้ งั ย่อกายคารวะเสร็จถึงค่อยเอ่ยขึน้ ว่า “หลายวันนีเ้ จ้า
อยู่แต่ในเรือนรึ?”
อวีถ้ งั เป็ นนานกว่าจะดึงสติกลับมาได้
เผยเยี่ยนคิดจะทําอะไร?
1096

เหตุใดเขาเริม่ บทสนทนาด้วยเรื่องธรรมดาทั่วไปกับนางแบบนี?้
การเปิ ดฉากเช่นนี ้ ไม่รูว้ า่ ภายหลังจะมีอะไรตามมาอีก?
จู่ๆ นางก็รูส้ กึ กระสับกระส่าย ถึงขนาดลืมตอบคําถาม
เผยเยี่ยนมองเห็นความกังวลของนาง อดจะรูส้ กึ มึนงงไม่ได้ว่าเหตุใดนางต้องวิตกด้วย
เขามองอวีถ้ ังอย่างใคร่รูท้ ีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยต่ออีกว่า “เรื่องที่สกุลหลี่ตอ้ งการขายที่เจ้ารู แ้ ล้ว
หรือไม่?”
อวีถ้ งั ผงกศีรษะ “ทราบแล้วเจ้าค่ะ!”
นางไม่เพียงรูเ้ รื่อง ทัง้ ยังเค้นสมองแล้วด้วยว่าจะช่วยซํา้ เติมคนสกุลหลี่อย่างไรดี!
กลายเป็ นว่าเกิดเรื่องกับเจียงเฉาทางนัน้ เสียก่อน นางจึงไม่มีกะจิตกะใจไปยุ่งเรื่องของ
สกุลหลี่แล้ว
พอเผยเยี่ยนพูดขึน้ มา นางก็อดจะรู ส้ ึกเสียใจไม่ได้ “เสียดายที่ บา้ นข้าเกิ ดเรื่องนิ ด
หน่อย ไม่อย่างนัน้ คงเตรียมเล่นเรื่องนีใ้ ห้ใหญ่โตจนคนรู ท้ ่ วั ทัง้ บางแล้ว ให้พวกเขาไม่อาจเดิน
เงยหน้าในเมืองหลินอันได้อีก!”
ถึงขัน้ ขายทอดสมบัติของบรรพบุรุษ เห็นทีวา่ สกุลหลี่คงขาดเงินไม่นอ้ ยเลย
ต่อให้สกุลนางไม่ซอื ้ แต่บีบสกุลหลี่ให้ขายที่นาแก่สกุลเผยก็ได้น่ี
สกุลหลี่จะได้เลิกคิดว่าตัวเองสูงส่งกว่าผูอ้ ่นื เสียที เอาแต่คอยก่อคลื่นใต้นา้ํ ลับหลังสกุล
เผย คิดจะขึน้ ไปยืนแทนที่สกุลเผยเสียให้ได้
เผยเยี่ยนจ้องอวีถ้ ังอย่างไม่ละสายตา คล้ายว่าหน้านางมีดอกไม้งอกขึน้ มาอย่างไร
อย่างนัน้ ทําเอาอวีถ้ ังกระอักกระอ่วนอยู่กลายๆ นางยกมือเช็ดข้างแก้มอย่างจนใจ แล้วถาม
ออกไปอย่างระมัดระวังว่า “นายท่านสาม บนหน้าข้ามีอะไรสกปรกติดอยู่อย่างนัน้ หรือ?”
“ไม่มีหรอก!” เขาตอบ แต่ก็ไม่วายเหลือบมองอวีถ้ งั อีกทีหนึ่ง
1097

ดวงหน้าของนางไม่เพียงไร้สิ่งสกปรกติดอยู่ มันทัง้ ผุดผ่องดั่งไข่ปอก ในความขาวผ่องมี


สีแดงระเรื่อ มองแล้วทําให้คนชื่นชอบเป็ นที่สดุ
แล้วเขาจะจ้องหน้านางเพื่ออะไร?
อวีถ้ งั มองเผยเยี่ยนอย่างสับสน
เผยเยี่ยนเห็นก็เข้าใจทันที เขาเลิกคิว้ แล้วพูดกับอวีถ้ ังว่า “เจ้าอยากให้สกุลหลี่เจอ
ความหายนะมิใช่ร?ึ บัดนีโ้ ชคร้ายมาเยือนสกุลหลี่แล้ว เจ้ากลับไร้ความเคลื่อนไหวโดยสิน้ เชิง?”
อวีถ้ งั พลันขุ่นเคืองขึน้ มา
ที่แท้ภาพลักษณ์ของนางในใจเผยเยี่ยนเป็ นแบบนีเ้ องหรอกรึ?
อวีถ้ งั ถลึงตาใส่เผยเยี่ยนทีหนึง่
เผยเยี่ยนไม่เก็บเป็ นอารมณ์ คิดว่าอวีถ้ งั แค่ตอ้ งการรักษาหน้าตัวเองเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
เท่านัน้ ลองนึกๆ ดู เขารูส้ กึ ว่าท่าทีท่ีกระตือรือร้นเปี่ ยมพลังของอวีถ้ งั ตอนที่เล่าเรื่องซุบซิบของ
สกุลหลี่ให้เขาฟั ง และอาการโมโหเดือดดาลนั่น ดูแล้วเจริญตาไม่นอ้ ยเลยทีเดียว
เขาอดจะเอ่ยอย่างยิม้ ๆ ไม่ได้ “ในเมื่อเจ้าไม่อยากรู ้ เช่นนัน้ ข้าไปล่ะ”
จะไปก็ไปสิ พูดราวกับว่าหากนางไม่ประจบเขาไว้จะไม่มีทางรู ว้ ่าเกิดเรื่องอะไรกับ
สกุลหลี่อย่างนัน้ แหละ!
อวีถ้ งั ค่อนแคะในใจ
คิดไม่ถึงว่าเผยเยี่ยนจะจากไปตามที่พดู จริงๆ
เขาเลิกผ้าม่านเกีย้ วขึน้ เตรียมจะมุดตัวเข้าไป
อวีถ้ งั มองดูดว้ ยความโง่งม
หรือที่เขามาก็เพราะต้องการพูดแค่นี?้
1098

อวีถ้ งั ก้าวขาตามขึน้ ไปอย่างไม่รูต้ วั แล้วส่งเสียงเรียกเขาว่า “นี่” ทีหนึ่ง


เผยเยี่ยนที่หันหลังให้อวีถ้ ังอยู่นั้น กระทั่งตัวเขาเองยังไม่รูต้ ัวเลยว่ามุมปากของตน
กระตุกขึน้ เล็กน้อย เขาชะงักค้างไปครูห่ นึ่ง เมื่อปรับอารมณ์บนสีหน้าเรียบร้อยแล้วจึงค่อยหมุน
กายกลับมา จดจ้องอวีถ้ งั อย่างไม่สง่ เสียงสักคํา
สมองของอวีถ้ งั เพิ่งจะได้สติ
เผยเยี่ยนกล้าพูดเช่นนี ้ แสดงว่าเรื่องของสกุลหลี่มีเพียงเขาที่รูจ้ ริงๆ อย่างน้อยในเมือง
หลินอันแห่งนี ้ ก็มีแค่เขาคนเดียวเท่านัน้
อวีถ้ งั คิดว่าการไปงัดข้อกับเผยเยี่ยนเช่นนีเ้ ป็ นเรื่องเหลวไหลอย่างที่สดุ บวกกับนางเคย
ได้บทเรียนเกี่ยวกับความยโสของเผยเยี่ยนมาก่อนแล้ว จึงไม่พดู อ้อมค้อมอีก “นายท่านสาม
เกิดอะไรขึน้ กับสกุลหลี่หรือเจ้าคะ? เหตุใดสกุลเขาต้องคิดขายที่ดว้ ย?”
นางมิใช่คนงอแงไร้เหตุผล ในเมื่อต้องขอร้องเผยเยี่ยน ก็ตอ้ งขอร้องอย่างจริงจังและ
จริงใจ วางท่าทีนอบน้อมเป็ นที่สดุ
เผยเยี่ยนรู ส้ ึกว่า ที่ตนยินดีจะพูดคุยกับคุณหนูอวี ้ สาเหตุหลักๆ อาจเพราะคุณหนูอวี ้
เป็ นคนอ่านสถานการณ์ออก นางไม่เคยวางมาดต่อหน้าเขา เขาจึงไม่คิดแกล้งแหย่อวีถ้ ังต่อ
“หลังจากใต้เท้าหลี่ได้เลื่อนเป็ นทงเจิง้ ฝ่ ายซ้ายในสํานักทงเจิง้ แล้ว เขาต้องร่วมงานเลีย้ งรื่นเริง
ของพวกขุนนางต่างๆ มากกว่าเก่า สกุลเผิงไม่พอใจสกุลหลินด้วยเรื่องแผนที่ จึงใช้การค้าขาย
กดข่มพวกเขาไว้ เวลานีจ้ ึงไม่เงินมากพอจะสนับสนุนสกุลหลี่ ปี แล้วที่เจ้าก่อเรื่องก่อราวไว้ ยัง
ทําคนเร่รอ่ นที่สกุลหลี่เลีย้ งเอาไว้กระเด็นหายไปหมด สกุลหลี่ไม่มีเงินทองมากพอจะขนไปเมือง
หลวง จะขายสมบัติชนิ ้ อื่นก็ได้เงินไม่มากเท่านี ้ ทัง้ จะยิ่งทําให้สกุลหลี่สายหลักกับเพื่อนบ้านเกิด
สงสัย ถึงได้แอบขายนาข้าวปี ้จิงชัน้ ดีหา้ สิบหมู่อย่างเงียบเชียบ”
หรือพูดอีกอย่างก็คือ หลังจากสกุลหลี่ทะเลาะกับสกุลกูแ้ ล้ว ก็ไปแตกหักกับสกุลเผิงต่อ
อวีถ้ งั กระดีก๊ ระด๊าเริงใจ ดวงตาพราวระยับกว่าเวลาปกติอีกหลายส่วน
1099

เผยเยี่ยนลอบหัวเราะคนเดียว
เขารูอ้ ยู่แล้ว หากคุณหนูอวีร้ ูเ้ รื่องเข้าต้องสําราญใจจนออกนอกหน้าแน่
“ทว่า อย่างมากสกุลหลี่ก็คงขายที่แค่หา้ สิบหมู่เท่านัน้ ” เผยเยี่ยนเอ่ยเตือนสติอวีถ้ งั “รอ
กระทั่งใต้เท้าหลี่ปักหลักที่เมืองหลวงได้แล้ว ย่อมมีคนมากมายหอบเงินไปกองหน้าประตูเขา
สกุลหลี่ก็จะฟื ้ นคืนสภาวะปกติได้”
เผยเยี่ยนพูดเช่นนีห้ มายความว่าอย่างไร?
หรืออยากให้นางฉวยโอกาสลงมือตอนนีเ้ ลย?
แล้วนางควรจะเริม่ ต้นจากตรงไหนล่ะ?
อวีถ้ งั ไม่มีแผนการในใจเลยสักนิด
เผยเยี่ยนแค่เตือนสตินางเท่านัน้ ส่วนอวีถ้ งั จะทําเช่นไร นั่นมิใช่กงการอะไรของเขาแล้ว
เขาถามขึน้ ว่า “ข้าได้ยินว่าท่านเสิ่นช่วยพวกเจ้าหาต้นอ่อนซาจี๋มาจนได้ ล้วนปลูกรอด
แล้วหรือไม่?”
อวีถ้ งั รีบตอบกลับ “ปลูกรอดแล้วเจ้าค่ะ คนสวนที่เชิญมาปลูกต้นไม้ฝีมือไม่เลว คนก็
ซื่อสัตย์ดว้ ย”
เผยเยี่ยนพยักหน้าแล้วเอ่ยว่า “แล้วเกิดเรื่องอะไรในสกุลเจ้าล่ะ?”
ในเมื่อปั ญหาไม่ได้มาจากการปลูกต้นไม้ แล้วยังมีเรื่องอะไรที่ทาํ ให้คุณหนูอวีถ้ ึงขัน้
ยอมพลาดความสนุกของสกุลหลี่ไปได้?
อวีถ้ งั กําลังใคร่ครวญว่าจะบอกเรื่องนีก้ บั เผยเยี่ยนดีหรือไม่…ถ้าบอก ก็กลัวเผยเยี่ยน
จะยื่นมือช่วยเหลือ เช่นนัน้ บุญคุณที่สกุลเผยมีต่อพวกนางคงชดใช้ไม่หมดไม่สิน้ แต่ถา้ ไม่บอก
อย่างไรกระดาษก็ห่อไฟได้ไม่มิด กลัวว่าเผยเยี่ยนจะรู จ้ ากปากคนอื่น คิดว่าตนเองถูกละเลย
มองข้าม แล้วจะเกิดความไม่พอใจ คิดว่าอวีถ้ งั ไม่รูจ้ กั ดีช่ วั อีก
1100

ความคิดเหล่า นี ไ้ หลผ่ า นสมองนางไม่ ห ยุด เพราะความละล้า ละลัง ของนาง บัดนี ้


ดวงตาของเผยเยี่ยนเริม่ เปลี่ยนเป็ นสีข่นุ แล้ว
ช่างเถอะ บอกกับเผยเยี่ยนไปจะดีกว่า นางยอมติดหนีน้ า้ํ ใจเขา แต่นางไม่ตอ้ งการให้
เขาโกรธเคือง
เวลาที่เผยเยี่ยนโกรธ ใช่วา่ จะง้อง่ายๆ ด้วย
อวีถ้ งั รีบเอ่ยปากทันที “เป็ นท่านพ่อข้า…”
นางเล่าเรื่องที่ลงหุน้ การค้าทางทะเลกับเจียงเฉาให้เผยเยี่ยนฟั งอย่างละเอียดยิบ
เผยเยี่ยนมองอวีถ้ งั อย่างตื่นตะลึง เป็ นนานที่ไม่สง่ เสียงพูดสักคํา
เหตุใดคุณหนูอวีจ้ ึงคล้ายกับประทัดเช่นนี ้ เขาไม่ทนั ใส่ใจนางครู ่เดียวก็ไม่รูว้ ่านางจะ
ระเบิดเมื่อไรแล้ว
ก่อนหน้านีท้ ่ีนางไม่ยอมใช้แผนที่รว่ มหุน้ กับสกุลใหญ่อ่ืนๆ เขายังคิดว่าเพราะนางรูด้ ีวา่
การทํากิจการทางทะเลมิใช่เรื่องง่ายๆ จึงรู จ้ ักหลบลีห้ นีห่าง ใครจะคิดว่าเรื่องราวเช่นนีจ้ ะมา
กองอยู่ตรงหน้าเขาเสียแล้ว
คราวนี จ้ ะทํา อย่า งไร เงิน ทั้ง หมดก็ มีแค่สองหมื่ นตํา ลึงแล้ว มื อยัง ไม่ทัน กุม ให้รอ้ น
พริบตาเดียวก็หายวับไปหกพันตําลึง ผิดแล้ว ยังมีส่วนของนายท่านอู๋อีกหนึ่งพันตําลึง ทัง้ หมด
รวมเป็ นเจ็ดพันตําลึงสินะ
เผยเยี่ยนไม่รูจ้ ะพูดอะไรออกมาดี
อวีถ้ งั ก็รูส้ กึ ขายขีห้ น้าอยู่บา้ ง
เหตุเพราะเรื่องนีน้ างก็มีเอี่ยวด้วย
1101

นางก้มหน้างุดอย่างอับอาย เอ่ยเสียงเบาหวิวว่า “เจียงเฉาผูน้ ีน้ บั ว่าเป็ นคนไม่เลว พวก


เราสองสกุลก็นบั ว่าฝี มือไล่เลี่ยกัน ต่างไม่คิดร้ายต่อกันอยู่แล้ว เพียงแต่ครัง้ นีป้ ระมาทเกินไป
หน่อย ข้าคิดว่าหากมีโอกาส เจียงเฉาน่าจะกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครัง้ ”
1102

บทที่ 138 ผู้มาเยือน


เผยเยี่ยนไม่เคยเห็นอวีถ้ งั ที่เป็ นเช่นนีม้ าก่อน
ท่าทีเซื่องซึม คล้ายดอกไม้ท่ีถกู พายุฝนโหมกระหนํ่า บอบชํา้ ไร้ชีวิตชีวา
เผยเยี่ยนเห็นก็รูส้ กึ ไม่สบายใจอยู่บา้ ง
เขาชอบนางที่สดใสเต็มเปี่ ยมด้วยพลังมากกว่า โดยเฉพาะยามที่นางซุบซิบนินทาคน
อื่นด้วยแววตาระยิบระยับพร่างพราว แก้มสองข้างน่ารักราวกับลูกท้อ กระทั่งในดวงตายังเอ่อ
ล้นด้วยความดีใจ กระจ่างใสเป็ นประกายราวกับแสงอาทิตย์ท่ีสาดส่องในฤดูหนาว พาให้คน
รับรูถ้ ึงความอบอุน่ สุขล้น
บางทีน่ีก็เป็ นเหตุผลที่วา่ เหตุใดยามที่เขาดูรายชื่อส่งของขวัญ จึงย้ายชื่อของสกุลอวีไ้ ป
ไว้ในบัญชีอีกเล่ม กระทั่งยามที่ได้ยินว่าเกิดเรื่องกับสกุลหลี่ ยังคาดเดาว่า หากคุณหนูอวีไ้ ด้ยิน
ข่าว จะดีใจที่เห็นคนอื่นเดือดร้อน วิ่งโร่มาหาเขาเหมือนก่อนหน้านัน้ หรือไม่
แน่นอน เขารูว้ า่ ตัวเองคิดเช่นนีไ้ ม่ถกู นัก
แต่คณ ุ หนูอวีเ้ ป็ นเพียงเด็กสาวคนหนึ่ง ทัง้ ยังถูกเลีย้ งเป็ นกุลสตรีอยู่ในห้องหับ อาจจะ
เป็ นผูห้ ญิงที่เคยอ่านเพียงคัมภีรก์ ตัญ�ูเล่มเดียวเสียด้วยซํา้ ย่อมไม่จาํ เป็ นต้องหวังให้นางเป็ น
เหมือนบัณฑิตที่มีความรูก้ ว้างไกลเหล่านัน้
ใครจะรู ว้ ่าเรื่องของสกุลหลี่เริ่มแพร่สะพัดออกมา แต่ทางคุณหนูอวีก้ ลับไม่มีความ
เคลื่อนไหวแม้แต่นอ้ ย
เวลานัน้ ยังให้อาหมิงตรวจสอบดูว่าสกุลอวีส้ ่งของขวัญเทศกาลไหว้พระจันทร์มาแล้ว
หรือยัง ครุ ่นคิดว่าคุณหนูอวีอ้ าจจะฉวยโอกาสที่มาส่งของขวัญให้สกุลเขา หาเรื่องมาซุบซิบ
นินทากับเขา คาดไม่ถึงว่าสกุลเขาจัดสกุลอวีไ้ ว้ในรายชื่อที่สง่ ของขวัญอันดับต้นๆ ส่งของขวัญ
ไปให้ตงั้ นานแล้ว แต่จนถึงวันนีแ้ ล้วสกุลอวีก้ ็ยงั ไม่สง่ ของขวัญตอบกลับให้
1103

เผยเยี่ยนคิดว่าบางทีแต่ละสกุลอาจมีธรรมเนียมที่ไม่เหมือนกัน สกุลส่วนมากมักชอบ
ส่งของขวัญยามที่ใกล้ฉลองเทศกาล เพื่อแสดงความจริงใจ
เขาจึงโยนเรื่องนีไ้ ว้ขา้ งหลังชั่วคราว
จวบจนวันนีเ้ ขาไปเยี่ยมเยือนเสิน่ ซ่านเหยียน ยามที่ออกจากสํานักศึกษาประจําอําเภอ
บังเอิญพบเว่ยเสี่ยวชวน นึกครึม้ อกครึม้ ใจขึน้ มา ตัง้ ใจไปเยือนสกุลอวีโ้ ดยเฉพาะ จึงได้ทราบว่า
เกิดเรื่องใหญ่เช่นนีก้ บั สกุลอวี ้
ใครจะยังมีใจมาส่งของขวัญอีกกัน!
มิน่าเล่าเขาจึงไม่ได้ของขวัญตอบกลับจากสกุลอวี ้
เผยเยี่ยนครุน่ คิด ทัง้ โมโหทัง้ ขบขัน โมโหก็เพราะว่าล้วนถึงยามนีแ้ ล้ว อวีถ้ งั ยังช่วยพูด
แก้ต่างให้คนที่ช่ือเจียงเฉาอะไรนั่นอีก ขบขันก็เพราะว่านางยืนก้มศีรษะอยู่ท่ีน่ี ไม่มีความร่าเริง
เหมือนดั่งวันปกติแม้แต่นอ้ ย เกรงว่าคงจะเป็ นครัง้ แรกที่นางค้อมศีรษะเช่นนี?้
“เอาเถิด เรื่องนีข้ า้ จะไปถามดูให้” เขาเอ่ย “เดี๋ยวก็จะฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว
เจ้าฉลองเทศกาลกับครอบครัวอย่างสบายใจก็พอ ทางหนิงปั ว สกุลพวกข้าก็มีกิจการเล็กๆ
เช่นกัน ถึงเวลานัน้ ข้าจะให้คนไปสืบข่าว ดูว่าสกุลหวังยังเหลืออะไรอยู่บา้ ง ถึงเวลานัน้ จะให้
พวกเขาชดใช้ให้สกุลพวกเจ้าก่อน”
เผยเยี่ยนมีกิจการที่หนิงปั วเช่นกัน?
อวีถ้ งั เงยหน้ามองเผยเยี่ยน กะพริบตาปริบๆ
เหตุใดสกุลพวกเขาจึงมีกิจการอยู่ทกุ หนทุกแห่งได้กนั ?
มีท่ีไหนที่ไม่มีกิจการของสกุลพวกเขาบ้าง?
เผยเยี่ยนกลับลอบคิดในใจ ความเสี่ยงสูง กําไรจึงจะสูงตาม ยิ่งไปกว่านัน้ สกุลอู๋ร่วม
หุน้ ก็เป็ นความยินยอมของนายท่านอู๋เอง เดิมทีสกุลอวีก้ ็ไม่มีความจําเป็ นต้องสนใจเขา แต่เขา
1104

เข้าใจคนอย่างนายท่านอวีด้ ี ยอมให้ตวั เองเสียเปรียบดีกว่าต้องให้คนได้รบั ความเสียหาย รวม


กับเงินจากการประมูลแผนที่ท่ีได้มาอย่างไม่คาดฝัน แม้จะเสียไปก็ไม่ปวดใจ จึงใจกว้างมือเติบ
ไม่คิดอะไร
แต่เขาก็ไม่คิดเสียบ้าง เดิมทีสกุลก็ไม่ได้มีทรัพย์สินมากมายอะไร ยังคิดจะรัง้ ลูกสาวให้
แต่งลูกเขยเข้าเรือน ไม่เก็บเงินเผื่อไว้บา้ ง จะรับลูกเขยดีๆ เข้ามาได้อย่างไร
อวีเ้ หวินก็เป็ นคนพึ่งพาไม่คอ่ ยได้เสียด้วย
เผยเยี่ยนถอนหายใจยาวเหยียด กังวลใจแทนเด็กสาวตรงหน้าอยู่บา้ ง หากถูกบิดาและ
พี่ชายถ่วงรัง้ เอาไว้ ย่อมน่าเสียดาย
อวีถ้ งั เพียงอยากอธิบายกับเผยเยี่ยนเท่านัน้ ดีท่ีเขาให้อภัยเรื่องที่สกุลพวกนางไม่ได้สง่
ของขวัญกลับคืนสกุลเผย อย่างไรก็คาดไม่ถึงว่าเรื่องนีย้ งั ดึงเผยเยี่ยนมาเกี่ยวข้อง
นางละลํ่าละลักเอ่ย “นี่ก็ไม่ใช่เรื่องดีอะไร ท่านอย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวเลยดีกว่า ในเมื่อนาย
ท่านเจียงรับปากว่าจะตามเงินกลับมาก็ย่อมคืนให้สกุลพวกเราเป็ นอันดับแรก ต้องคืนให้พวก
เราอย่างแน่นอน อีกเดี๋ยวพวกเราค่อยหารือเรื่องนีก้ นั ใหม่”
เชื่อมั่นเจียงเฉาขนาดนีเ้ ชียว?
เผยเยี่ยนปิ ดปากเงียบไม่เอ่ยอันใด
หากเจียงเฉาสามารถคืนเงินส่วนหนึ่งมาให้สกุลอวีไ้ ด้ย่อมดีท่ีสดุ แต่หากแค่ตอบส่งๆ
ให้สกุลอวี ้ ก็ให้คณ
ุ หนูอวีเ้ สียเงินเป็ นบทเรียนแล้วกัน
เขาเอ่ย “ในเมื่อเป็ นเช่นนี ้ ข้าก็ตอ้ งขอตัวก่อน รอนายท่านอวีก้ ลับมา ข้ามีเวลาว่างจะ
มาเยี่ยมเขาอีกที”
อวีถ้ งั รับรูถ้ ึงความปรารถนาดีของเผยเยี่ยน
แม้วา่ ส่วนมากเขาจะพูดไม่น่าฟั ง แต่กลับมีจิตใจที่ดี
1105

นางย่อมขอบคุณแล้วขอบคุณอีก ส่งเผยเยี่ยนขึน้ เกี ย้ ว จนเกี ย้ วออกจากท้ายตรอก


มองไม่เห็นเงาอีกแล้ว นางจึงค่อยกลับเข้าเรือน เพียงเมื่อกลับเข้ามา นางก็รีบเร่งวิ่งไปหาป้า
เฉินทันที “สกุลพวกเราเตรียมของขวัญให้สกุลเผยแล้วหรือยัง? ท่านพ่อบอกให้ส่งเข้าไปยาม
ใด?”
หากเฉินซื่อร่างกายไม่แข็งแรง เรื่องธรรมเนียมในเรือนพวกนีย้ ่อมส่งมอบให้ปา้ เฉินโดย
ปริยาย
ป้าเฉินกําลังหั่นโสม เตรียมตุ๋นไก่บาํ รุ งร่างกายเฉินซื่อ ฟั งจบก็เผยยิม้ นําโสมที่ห่ นั ดี
แล้ว ใส่เข้าไปในถ้วยเครื่องเคลือบเล็กๆ ด้านข้าง ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิม้ “นายท่านบอกว่า กระ
ดาษเฉิงซิน 1หายากเกินไป จะส่งของขวัญอะไรก็ลว้ นไม่อาจตอบแทนนํา้ ใจนีข้ องสกุลเผยได้ จึง
214

ส่งของธรรมดาทั่วไปอย่างขนมไหว้พระจันทร์ ผ้าอาภรณ์ตา่ งๆ ให้เสียเลย ครัง้ นีก้ ะทันหันเกินไป


แม้ว่าจะตัง้ ใจครุ ่นคิด ก็ไม่อาจนึกได้ในช่วงเวลาสัน้ ๆ ว่าควรส่งอะไรดี ทําได้เพียงต้องเตรียม
ของดีๆ ให้ในยามเทศกาลปี ใหม่แล้วเจ้าค่ะ”
ก็ใช่ มารดาของนางก็ยงั ป่ วยอยู่
อวีถ้ งั พยักหน้าระรัว มองบิดานําขนมไหว้พระจันทร์ส่ีกล่องและผ้าไหมทอสองผืนบรรจุ
ในกล่องของขวัญ ให้อวีห้ ย่วนนําไปส่งที่จวนสกุลเผย
ผ้าไหมทอไม่ใช่ของหายาก แต่มีราคายิ่งกว่าทอง แม้กล่าวว่าส่งของขวัญเช่นนีจ้ ะดู
ธรรมดา แต่ก็นบั ว่ามีความจริงใจ
เฉินซื่อพักฟื ้ นหลายวัน รวมทัง้ ไม่ใช่คนที่ให้ค่าทรัพย์สินเงินทองเท่าใด ไม่นานก็ลกุ ขึน้
จากเตียงได้ เริม่ ลุกขึน้ มาเตรียมจัดการกับเทศกาลไหว้พระจันทร์
อวีเ้ หวินปรึกษากับเฉินซื่อว่า ปี นีจ้ ะเชิญนายท่านอู๋มาฉลองเทศกาลในเรือนด้วยกันดี
หรือไม่ ยังเอ่ยว่า “ปกติขา้ เห็นเขาใจกว้างเปิ ดเผย ชอบคบค้าสมาคมสหาย ช่วยเหลือเพื่อนบ้าน

1
กระดาษเฉิงซิน เป็ นกระดาษที่ขนึ ้ ชื่อว่ามีคณ
ุ ภาพยอดเยี่ยมที่สดุ
1106

รู ส้ ึกว่าเขาเรียนตําราน้อยไปหน่อยเท่านัน้ นิสยั นับว่าไม่แย่เลย คาดไม่ถึงว่าเขาจะเป็ นคนที่


ไม่ให้ค่าเงินทองมากมาย ครัง้ นีท้ าํ การค้าร่วมกัน ข้าจึงค่อยพบว่าที่แท้ขา้ งกายยังมีคนที่คมุ้ ค่า
พอจะนับเป็ นสหาย แต่ยามปกติขา้ กลับดูแคลนเขาเสียได้”
เฉินซื่อเผยยิม้ “ไม่อย่างนัน้ จะมีคาํ พูดที่ว่าระยะทางพิสจู น์มา้ กาลเวลาพิสจู น์คนได้
อย่างไร!”
ขณะที่ทงั้ สองกําลังพูดคุย นายท่านอู๋ก็มาหาอวีเ้ หวินด้วยใบหน้าปลดปลง “ยังดีท่ีเจ้า
แนะนําให้ไปส่งของขวัญเทศกาลไหว้พระจันทร์ให้สกุลเจียง เจ้าลองทายดูวา่ เกิดอะไรขึน้ ? ยาม
ที่พ่อบ้านใหญ่สกุลพวกเราไปส่งของขวัญ พบเข้ากับพวกอันธพาลที่ฉวยโอกาสตอนนายท่าน
เจียงไม่อยู่เรือน รังแกมารดาที่เหลือเพียงคนเดียวในสกุลพวกเขา พาลเอะอะโวยวายในสกุล
เจียง!”
อวีเ้ หวินได้ฟังก็เอ่ยอย่างโมโห “ไฉนยังมีคนเช่นนีด้ ว้ ย? มีเรื่องอะไรก็ควรไปพูดคุยกับ
นายท่านเจียง นี่อะไรเห็นลูกชายเขาไม่อยู่เรือนกลับวิ่งไปรังแกท่านผูเ้ ฒ่าที่เป็ นม่าย? เช่นนัน้
ภายหลัง เป็ น อย่ า งไร? ได้แ จ้ง ทางการหรื อ ขอญาติ พ่ี น ้อ งเพื่ อ นฝูง สกุล เจี ย งมาช่ ว ยเหลื อ
หรือไม่?”
นายท่านอู๋ถอนหายใจ “แจ้งทางการไปก็ไม่มีประโยชน์ ฟั งจากที่พ่อบ้านใหญ่ของข้า
กลับมาพูด อันธพาลพวกนัน้ ถูกญาติพ่ีนอ้ งฝั่งมารดาของอนุภรรยาข้าหลวงบงการ ข้าครุน่ คิดดู
อนุภรรยาของข้าหลวงคงจะร่วมหุน้ ด้วยเช่นกัน ยังดีท่ีสะใภ้ใหญ่สกุลเจียงแต่งไม่ไกลบ้าน ยาม
ที่พ่อบ้านใหญ่ของข้ากําลังตกอยู่ในสถานการณ์ลาํ บาก สะใภ้ใหญ่สกุลเจียงก็เร่งตามมา รับ
ท่านแม่เฒ่าสกุลเจียงกลับเรือนตน”
อวีเ้ หวินได้ฟังก็อดทอดถอนหายใจไม่ได้ “ยิ่งเป็ นช่วงเวลานีพ้ วกเราก็ย่งิ ไม่อาจรบเร้าให้
นายท่านเจียงคืนเงินได้”
นายท่านอูผ๋ งกศีรษะ
1107

ทั้งสองคนพูดคุยกันพักหนึ่ง ก่อนอวีเ้ หวินจะเชิญครอบครัวนายท่านอู๋เข้ามาฉลอง


เทศกาลไหว้พระจันทร์ดว้ ยกัน ทัง้ ยังชีไ้ ปที่ปซู ่งึ เลีย้ งไว้ในเรือน “ปี นีพ้ วกเราก็จดั งานเลีย้ งด้วยปู
แล้วกัน”
คาดไม่ถึงว่านายท่านอูจ๋ ะเป็ นคนที่ชอบกินปู แทบจะตอบรับอย่างดีใจทันที “ชาสุราเจ้า
ไม่ตอ้ งเป็ นห่วง ถึงเวลานัน้ ข้าจะนํามาเอง สุรานารีแดง 2ห้าสิบปี นนั้ ถูกบ่มฝั งตัง้ แต่ตอนที่ท่าน
215

ป้าข้าเกิดแล้ว”
อวีเ้ หวินยิม้ อย่างยินดีจนดวงตากลายเป็ นเส้นเดียว เมื่อกลับไปในห้องก็หารือกับเฉิน
ซื่อ “ข้าคิดว่าเงินที่สกุลพวกเราลงทุนไปก็ให้มนั แล้วไปเถิด คนอื่นเขาเป็ นลูกชายที่เหลือแม่คน
เดียว พวกเราก็ใช่วา่ จะขาดเงินนัน้ ไม่ได้เสียหน่อย ทุกคนต่างก็ลาํ บากกันทัง้ นัน้ ”
เฉินซื่อเอ่ย “เรื่องของสกุลพวกเราเจ้าตัดสินใจก็เพียงพอแล้ว” ก่อนจะเอ่ยอย่างแปลก
ใจ “เมื่อครูย่ ามที่นายท่านอูอ๋ ยู่ ไฉนเจ้าไม่ปรึกษากับนายท่านอูล๋ ะ่ ?”
อวีเ้ หวินเอ่ย “เงินในสกุลพวกเราย่อมเป็ นเรื่องของสกุลพวกเรา เงินของนายท่านอู๋ก็
เป็ นเรื่องของนายท่านอู๋ หากเมื่อครู ข่ า้ พูดกับนายท่านอู๋ ไม่ว่าในใจนายท่านอู๋จะคิดอย่างไร ก็
ทําได้เพียงคล้อยตามข้าเท่านัน้ จะไม่กลายเป็ นว่าข้าสร้างความลําบากใจให้เขาหรอกรึ? นี่ย่อม
ไม่ใช่สิ่งที่เพื่อนควรกระทํา”
เฉินซื่อเอ่ยชมอย่างเห็นด้วย
หลังจากอวีถ้ งั ทราบเรื่อง ในใจก็สบั สนวุน่ วาย แต่เรื่องปิ ติยินดีกลับตีตนื ้ ขึน้ มาก่อน
นางหาเวลาว่างไปเรือนเก่า ดูตน้ กล้าบนเขา พบว่าต้นกล้าเติบโตได้ดี จึงให้รางวัลหวัง
ซื่อและผูด้ แู ลต้นไม้คนละสองตําลึงฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ ก่อนจะขนถั่วลิสงกลับมาครึง่
ลํารถ

2
สุรานารีแดง คือสุราที่ขนึ ้ ชื่อของแถบเจ้อเจียง มีทงั้ รสหวาน เปรีย้ ว ขม เผ็ดร้อน กลมกล่อมและฝาด
1108

เทศกาลไหว้พ ระจัน ทร์ใ นวัน นี ้ เฉิ น ซื่ อ ปลุก อวี ถ้ ัง ให้ต่ื น นอนตั้ง แต่ เ ช้า ทั้ง สองคน
ตระเตรียมงานเลีย้ งฉลองตอนเย็นด้วยกัน หน้าประตูสกุลอวีก้ ลับปรากฏชายหนุม่ ผูห้ นึง่ พาบ่าว
รับใช้มาขอพบอวีเ้ หวิน
เขาอายุประมาณยี่สิบสามยี่สิบสี่ปี รู ปร่างสูงโปร่ง สวมชุดคลุมสีแดงพุทราปั กลาย
ค้างคาวดูภูมิฐาน ใบหน้าสะอาดเกลีย้ งเกลา หน้าตาหล่อเหลา หยัดกายตรง มีเพียงดวงตาที่
ปรากฏเส้นเลือดฝอยแดงประปราย ดูคล้ายอ่อนเพลียอย่างยิ่ง
เขาเข้ามาเคาะประตูดว้ ยตัวเอง เรียกตัวเองว่า เจียงเฉาจากซูโจว
อาเสาเป็ นผูเ้ ปิ ดประตู แม้ว่าจะไม่มีใครกําชับกับเขา เขาก็รูเ้ ห็นมาบ้างว่าในสกุลเกิด
เรื่องอันใดขึน้ ฟั งจบ ใบหน้าพลันเปลี่ยนสี ทิง้ คนไว้ดา้ นนอกประตูอย่างเสียมารยาท วิ่งเข้าไป
ในเรือน พลางตะโกนเสียงดัง “นายท่าน นายท่านขอรับ นายท่านเจียงจากซูโจวมาขอรับ”
อวีเ้ หวินกําลังปรึกษากับเฉินซื่อว่างานเลีย้ งเฉลิมฉลองจะใช้เครื่องชามแบบไหน ได้ยิน
ก็ตกตะลึง ผ่านไปครูห่ นึ่งจึงหวนสติกลับมาได้
อวีถ้ ังที่ได้ยินความเคลื่อนไหวกลับวิ่งออกมาก่อน เอ่ยว่า “นายท่านเจียง? นายท่าน
เจียงที่ทาํ การค้ากับท่านพ่อคนนัน้ รึ?”
อาเสาพยักหน้าอย่างตื่นเต้นอยู่บา้ ง “เขาบอกว่าเขาสกุลเจียงขอรับ”
อวีเ้ หวินละลํ่าละลักเอ่ย “รีบเชิญเข้ามา! รีบเชิญเข้ามา!” ก่อนจะออกคําสั่งกับซวงเถา
“เจ้าไปบอกกล่าวกับนายท่านอูข๋ า้ งบ้านเสียหน่อย บอกว่านายท่านเจียงจากซูโจวมา”
ซวงเถารับคําสั่งก่อนจากไป
อวีเ้ หวินต้อนรับเจียงเฉาเข้ามาด้วยตัวเอง
อวีถ้ งั และเฉินซื่อหลบสอดส่องดูจากฉากกัน้ ลมในห้องโถง
1109

เจียงเฉาเข้ามาก็คารวะกับอวีเ้ หวินอย่างนอบน้อม เอ่ยด้วยดวงตาแดงกํ่า “หลังจากข้า


กลับไปได้ฟังจากท่านแม่แล้ว หากไม่ใช่เพราะท่านและนายท่านอู๋ เกรงว่าแม่ของข้าคงจะถูก
รังแก บุญคุณยิ่งใหญ่ไม่อาจเอ่ยขอบคุณ ได้โปรดรับการคํานับจากข้าเถิด”
พูดจบก็เตรียมจะคํานับแก่อวีเ้ หวิน อวีเ้ หวินกลับคว้าเขาไว้ก่อน ละลํ่าละลักกล่าว “เจ้า
ไม่จาํ เป็ นต้องเกรงใจเช่นนี ้ ไม่วา่ ใครพบเรื่องอย่างนีล้ ว้ นยื่นมือเข้าช่วยเหลือกันทัง้ นัน้ ยิ่งไปกว่า
นัน้ ผูท้ ่ีช่วยเหลือคือพ่อบ้านใหญ่ของนายท่านอู๋ ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับข้า”
เจียงเฉาสั่นศีรษะ ดูเหมือนมีคาํ พูดนับร้อยพันที่ไม่รูจ้ ะเอ่ยออกมาอย่างไรดี
อวีเ้ หวินจึงข้ามบทสนทนาอย่างใจกว้าง เอ่ยอย่างเอาใจใส่ “ท่านแม่เฒ่าได้รบั ความ
ตกใจหรือไม่? ยามนีเ้ ป็ นอย่างไรบ้าง? ไฉนเจ้าจึงมาหลินอันอย่างกะทันหันเช่นนี?้ ”
เพราะวันนีเ้ ป็ นเทศกาลไหว้พระจันทร์น่ะสิ!
1110

บทที่ 139 เป็ นแขก


ใบหน้าขาวใสของเจียงเฉาแดงระเรื่อขึน้ มา เอ่ยเสียงแผ่ว “นี่ ก็ใกล้จะเทศกาลไหว้
พระจันทร์แล้ว ข้าครุน่ คิดว่าอย่างไรก็ตอ้ งมาขอบคุณท่านและนายท่านอู๋เสียหน่อย ใครจะรูว้ ่า
นั่งเรือผิด มาถึงหลินอันก็ลว่ งเข้าวันที่สิบห้าเดือนแปดแล้ว”
อวีเ้ หวินไม่สงสัยอันใดอีก ดึงเขาอย่างเป็ นมิตร “เช่นนัน้ ก็พกั อยู่กบั ข้าที่น่ีก่อน วันนีย้ งั
เชิญนายท่านอู๋กินปูดว้ ยกัน ทางเขายังมีสรุ านารีแดงบ่มห้าสิบปี ส่วนพวกเรา วันนีก้ ็คยุ เล่นชม
จันทร์กนั ไม่เอ่ยถึงเรื่องการค้า เรื่องอะไรไม่ดีหรือลําบากใจ รอผ่านพ้นเทศกาลไหว้พระจันทร์
ไปค่อยพูดกันเถิด”
ดวงตาของเจียงเฉาแดงไปหมด
อวีเ้ หวินตะโกนบอกอาเสาให้ช่วยจัดเตรียมห้องรับรองสําหรับเจียงเฉา
เจียงเฉาเอ่ยขอบคุณไม่หยุดหย่อน
อาเสาพาบ่าวรับใช้ของเจียงเฉาออกไป
ด้านอวีเ้ หวินก็เอ่ยถามสถานการณ์เถ้าแก่หวังที่หนิงปั ว
เจียงเฉาเผยสีหน้าหม่นหมอง “เถ้าแก่หวังก็ถกู บีบจนอับหนทาง จู่ๆ ลูกชายคนเล็กของ
เจ้านายเขาก็อาศัยเส้นสายน้องภรรยาที่อยู่ในสกุลผูต้ รวจการเจ้อเจียง ทางการจึงทําเป็ นไม่รูไ้ ม่
เห็นเรื่องนี ้ เมื่อก่อนข้าคิดว่าขอเพียงข้าพยายาม อย่างไรก็สามารถรวบรวมทรัพย์สินกลับมาได้
วันนีจ้ งึ ค่อยรูว้ า่ มันไม่ได้ง่ายดายขนาดนัน้ ”
ใต้หล้าสงบสุขมาเนิ่นนาน สกุลมั่งคั่งรํ่ารวยยืนหยัดมานับร้อยปี ถึงกระทั่งเรืองอํานาจ
บารมีมาตัง้ แต่ราชวงศ์ก่อน คนหน้าใหม่อยากจะโดดเด่นเฉิดฉาย ย่อมต้องแย่งชิงผลประโยชน์
กับคนเหล่านี ้ หากอยากจะชนะ ก็ไม่อาจขาดสามปั จจัยแห่งความสําเร็จ 1ได้แม้แต่ขอ้ เดียว 216

1
สามปั จจัยแห่งความสําเร็จ ได้แก่ จังหวะและโอกาส พืน้ ที่ภมู ิศาสตร์ และความสามัคคีของพรรคพวก
1111

อวีเ้ หวินกระจ่างใจคําพูดที่เหลือของเขาทันที ถอนหายใจเอ่ยปลอบเขา “เจ้าก็อย่าได้


สูญเสียกําลังใจ สามสิบปี ก่อนแม่นา้ํ ไหลทางตะวันออก สามสิบปี ให้หลังก็ไหลทางตะวันตกได้
สกุลสูงส่งมั่นคั่งพ่ายแพ้ก็มีไม่นอ้ ย”
เจี ยงเฉาพยักหน้าเอ่ย “ไม่อย่างนั้น ข้าก็ คงไม่กล้าบากบั่นพยายามคิดทําการค้านี ้
หรอก”
ไม่ว่าใครต่างก็รูว้ ่าการค้าทางทะเลไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากสามารถบุกฝ่ าเปิ ดทางได้
ภายหลังย่อมมีกาํ ไรมหาศาล แต่หากไม่ก่ีปีสามารถถีบตัวเองขึน้ ไปอยู่ในระดับสกุลที่ร่าํ รวยได้
เรื่องภายหลังก็ทาํ ง่ายขึน้ แล้ว
ทัง้ สองคนพูดคุยกัน ก่อนอาเสาจะย่องเข้ามากระซิบกับอวีถ้ งั และเฉินซื่อที่อยู่หลังฉาก
กัน้ ลม “นายหญิง คุณหนู นายท่านเจียงผูน้ นั้ ไม่มีกระทั่งสัมภาระเดินทาง”
เฉินซื่อตกใจจนหน้าถอดสี หันไปทางอวีถ้ งั “นี่ นี่จะทําอย่างไรดี?”
อวีถ้ ังคาดการณ์ว่า เจียงเฉาอาจจะถูกคนทวงหนี จ้ นไม่อาจหาที่หลบภัยได้ อับจน
หนทาง จึงลองมาหยั่งเชิงที่หลินอัน
แต่วา่ บางเรื่องบิดาของนางก็ไม่สนใจ นางก็ไม่อาจคิดเล็กคิดน้อยอะไรเช่นกัน
นางดึงเฉินซื่อออกมาจากห้องโถง ยืนอยู่ตรงชานเรือน เอ่ยเสียงเบากับมารดา “ในเมื่อ
ท่านพ่อตัดสินใจจะช่วยนายท่านเจียงแล้ว พวกเราก็อย่าทําให้ท่านพ่อลําบากใจเลย มิสทู้ าํ เป็ น
ไม่รู ้ นําเงินไม่ก่ีบาทจัดการเรื่องเสือ้ ผ้าให้นายท่านเจียง ส่งเขาออกไปอย่างเงียบเชียบก็เพียงพอ
แล้ว”
อวีถ้ ังไม่รูว้ ่าชาติก่อนเจียงเฉาได้พบกับเรื่องเช่นนีห้ รือไม่ แต่ดูจากการกระทําในวัน
ปกติธรรมดาของเจียงเฉา เจียงเฉากลับไม่มีช่ือเสียงเสื่อมเสียในชาติก่อน เช่นนัน้ เขาย่อมไม่
อาจหลบอยู่ในเมืองหลินอัน เขายังต้องหาทางดึงตัวเองขึน้ มาอีกครัง้ แน่ แล้วพวกนางจะทําตัว
เป็ นคนขีเ้ หนียวไปไย
1112

ชาติก่อน ยามที่นางตกทุกข์ได้ยาก ก็มีคนมากมายช่วยเหลือนาง เช่นนัน้ นางก็ควรทํา


ความดีสง่ ต่อให้คนอื่น ช่วยเหลือคนอื่นเท่าที่สามารถทําได้
เฉินซื่อคิดว่าอวีถ้ งั พูดมีเหตุผล จึงเปิ ดหีบใส่เครื่องประดับนําเงินให้อาเสา
อวีเ้ หวินไม่รูเ้ รื่องนีแ้ ม้แต่นอ้ ย
แต่ยามที่เจียงเฉาเข้ามาในห้องโถงด้วยใจที่บีบรัดกลับมองเห็นอย่างชัดเจน
ด้านหลังฉากกัน้ ลมมีคนอยู่ หากไม่ใช่ผหู้ ญิงในเรือนของสกุลอวีก้ ็คงเป็ นสหายที่นาย
ท่านอวีเ้ พิ่งจะพูดด้วยเมื่อครู ่นี ้ บ่าวรับใช้ท่ีพาเขาเข้ามาไปจัดการห้องรับรองแขกให้เขาแล้ว
ยามนีก้ ลับไปด้านหลังฉากกัน้ ลม แปดถึงเก้าในสิบย่อมพบว่าเขาไม่มีสมั ภาระเดินทางจึงไป
บอกกับคนที่อยู่หลังฉาก เช่นนัน้ คนที่อยู่หลังฉากกัน้ ลมคงจะเป็ นนายหญิงอวี ้
เพียงไม่รูว้ ่านายหญิ งอวีผ้ ูน้ นั้ สวมกระโปรงสีเขียวเข้มแปดจีบหรือสวมกระโปรงทรง
แคบสีขาวกันแน่?
ผูท้ ่ีสวมกระโปรงทรงแคบสีขาว เป็ นไปได้วา่ อาจจะเป็ นสาวใช้
สกุลอวีค้ งพบว่าสภาพเขาทุลกั ทุเล
นายท่านอวีจ้ ะหาข้ออ้างไล่เขาออกไป? หรือจะรัง้ เขาไว้สกั พักอย่างที่เขาคาดหวังกัน?
เจียงเฉาคิดสับสนวุน่ วายในใจ ทว่ากลับจิบชาด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง
นายท่านอู๋ได้รบั ข่าวก็รีบตามมา เพราะมีเจียงเฉา แผนเดิมที่พวกเขาสองสกุลจะจัด
งานเลีย้ งกินปูชมจันทร์ในลานบ้านด้วยกันจึงกลับตาลปั ตรไปหมด กลายเป็ นนายท่านอู๋ อวีเ้ ห
วิน อวีป้ ๋ อ อวีห้ ย่วน เจียงเฉาและลูกชายทัง้ สองของนายท่านอู๋ด่ืมสุราชมจันทร์อยู่ลานกว้าง
ด้านหน้า สตรีของสกุลอวีแ้ ละสกุลอูน๋ ่งั อยู่ท่ีโต๊ะเรือนด้านหลังอีกตัว
นายหญิงอู๋ก็ทราบเรื่องการลงทุนที่ลม้ เหลว ก่อนหน้านีไ้ ม่มีโอกาสพูดคุยกับเฉิ นซื่อ
ยามนีจ้ ึงอดไม่ได้ท่ีจะดึงมือเฉินซื่อเอ่ยขึน้ มา “ยอมสละก็สละ ไม่ยอมสละ จะได้กลับคืนมาได้
1113

อย่างไร ยิ่งไปกว่านัน้ เรื่องทรัพย์สินในสกุล เดิมทีก็เป็ นพวกผูช้ ายที่รบั ผิดชอบหาเงิน ยามที่หา


เงิน พวกเราหัวเราะยิม้ รับตามก็เพียงพอแล้ว เงินที่เสียหาย ในใจพวกเขาก็คงทุกข์ทนเช่นกัน
ยิ่งไม่อาจพูดบั่นทอนกําลังใจกันอีก ข้าคิดว่ามีเพียงข้าที่เป็ นเช่นนี ้ คาดไม่ถึงว่าน้องสะใภ้ยงั ใจ
กว้างยิ่งกว่าข้า เชิญสกุลพวกเรามากินปูดว้ ยกัน ข้าขอดื่มให้นอ้ งสะใภ้แล้วกัน” พูดจบก็ยกสุรา
จินหวาด้านหน้าขึน้ มา
อวีถ้ งั อดเปลี่ยนแปลงมุมมองใหม่ตอ่ นายหญิงอูไ๋ ม่ได้
คําพูดนีข้ องนางต้องการโน้มน้าวเฉินซื่ออย่างเห็นได้ชดั
เมื่อก่อนอวีถ้ งั เพียงรูส้ กึ ว่านางเป็ นคนที่ตีสนิทได้กบั ทุกฝ่ าย รูจ้ กั วางแผนหาประโยชน์
คาดไม่ถึงว่านางยังมีความคิดจิตใจเช่นนี ้ มิน่าเล่าคนอื่นจึงชอบเชิญนางไปเพิ่มบรรยากาศใน
งานเลีย้ งต่างๆ
นางชนแก้วกับนายหญิงอูอ๋ ย่างนับถือ
นายหญิงอูก๋ ลับคล้ายคว้าจับนางไว้ เริม่ พูดเรื่องงานแต่งขึน้ มา
อวีถ้ งั แทบนั่งไม่ติดที่
หวังซื่อหัวเราะลั่น กูส้ ถานการณ์ให้หลานสาว “เรื่องของนางไม่รบี หรอก หาคูท่ ่ีเห็นพ้อง
ต้องใจกันย่อมสําคัญที่สดุ ”
นายหญิงอู๋พยักหน้าด้วยรอยยิม้ เห็นเซียงซื่อเอาแต่น่ งั ดื่มชากินขนมไหว้พระจันทร์อยู่
ตรงนัน้ ก็คีบปูวางในถ้วยเซียงซื่ออย่างเอาใจใส่ “เจ้าก็ชิมดู ปูนีย้ ่อมขายได้ราคาดี เนือ้ แน่นสวย
หาได้ยากยิ่ง”
เซียงซื่อฟั งจบ กลับหันไปขอความช่วยเหลือจากหวังซื่อ
หางตาปลายคิว้ ของหวังซื่อล้วนเต็มไปความปลืม้ ปริ่ม “ขอบคุณนายหญิงอู๋อย่างยิ่ง
เพียงแต่ลกู สะใภ้ของข้า หลายวันนีต้ อ้ งระวังเรื่องอาหาร ปูมีฤทธิ์เย็น ไม่กล้ากิน รอยามนีใ้ นปี
หน้า ข้าจะเชิญทุกคนมาร่วมงานเลีย้ งกินปูกนั อีกครัง้ ”
1114

นายหญิงอูต๋ กตะลึง ไม่นานก็เผยความปลืม้ ปี ติยินดีเหมือนหวังซื่อเมื่อครู ่ เอ่ยติดต่อกัน


“ยินดีดว้ ยๆ” ทัง้ กล่าวต่อ “ปี หน้าท่านอย่างได้ลืมเชียว”
“ไม่ลืม! ไม่ลืม!” หวังซื่อหน้าบานเป็ นกระด้ง เซียงซื่อกลับค้อมศีรษะอย่างเขินอายอยู่
บ้าง
อวีถ้ งั จับต้นชนปลายไม่ถกู
ยามนีเ้ ฉินซื่อจึงหัวเราะลูบศีรษะลูกสาว “เด็กโง่ เจ้ากําลังจะได้เป็ นอาแล้ว”
อวีถ้ งั พลันกระจ่างใจทันที
มิน่าเล่าอวีห้ ย่วนคล้ายอยากพูดอะไรกลับลังเลไม่พดู ไม่แปลกใจที่ปา้ สะใภ้มายืมผ้าที่
เรือน...
อวีถ้ งั ร้อง ‘ไอหยา’ ขึน้ มา ตําหนิเซียงซื่อ “พี่สะใภ้ก็ไม่บอกข้าสักคํา”
ตนสกุลเซียงหน้าแดงกํ่าเป็ นอย่างยิ่ง เอ่ยขัดเขิน “ก็เพิ่งจะสามเดือน...”
ชาติก่อน อวีห้ ย่วนไม่มีบตุ รอยู่เรื่อยมา
ชาตินี ้ นางและอวีห้ ย่วนต่างก็สามารถเป็ นพ่อคนแม่คนได้
อวีถ้ งั นํา้ ตารืน้ ขึน้ มา ยกแก้วสุราดื่มให้กบั เซียงซื่อ
เซียงซื่อหัวเราะ แย่งแก้วสุราจากอวีถ้ งั “เด็กคนนี ้ เลอะเลือนเสียแล้ว ยามนีพ้ ่ีสะใภ้เจ้า
ดื่มสุราได้ท่ีไหน หากรูเ้ ช่นนีค้ งจะบอกเจ้าก่อนหน้านีแ้ ล้ว”
พวกนายหญิงอูพ๋ ากันหัวเราะ
อวีถ้ งั กลับดื่มอยู่หลายแก้วอย่างไม่เคยเป็ นมาก่อน ยามที่กลับห้อง ฝี เท้าจึงไม่ม่ นั คง
อยู่บา้ ง
1115

ด้านเจียงเฉา แม้จะเมากลับมีสติ กลับถึงห้องก็ด่ืมนํา้ ชาเข้มสองแก้ว ในที่สดุ จึงสร่าง


เมาขึน้ มาบ้าง ถามเด็กรับใช้ท่ียงั สาละวนรินชาให้เขาทันที “คนสกุลอวีพ้ ดู อะไรบ้าง?”
เด็กรับใช้ละลํ่าละลักตอบ “ไม่ได้พดู อะไรขอรับ ยังรับคําสั่งจากนายหญิงพวกเขา ซือ้
เสือผ้าจํานวนหนึ่งทัง้ นําเงินยี่สิบตําลึงมาให้ กล่าวว่าให้นายท่านใช้อย่างประหยัด ข้าก็ได้รบั มา
สองตําลึงเช่นกัน”
เป็ นสกุลที่ใจกว้างดังที่คาด
เจียงเฉาถอนหายใจยาวเหยียด
หลายวันมานีถ้ ูกคนทวงหนี ้ กลัวว่าจะทําให้มารดาเดือดร้อน จึงไม่กล้าแม้แต่จะกลับ
เรือน กระทั่งยังไม่มีเงินซือ้ ของขวัญให้สกุลอวีแ้ ละสกุลอู๋
บุญคุณครัง้ นี ้ ทําได้เพียงคืนภายหลังเท่านัน้
เขานึกถึงกระโปรงสีเขียวเข้มและสีขาวหลังฉากกัน้ ลม
ล้วนเป็ นคนที่จิตใจดี
เขาครุ ่นคิดอย่างสะเปะสะปะ ก็ไม่รูว้ ่าตัวเองหลับไปยามไหน เมื่อตื่นมาวันที่สอง ไม่
เพียงฟ้าสว่างจ้า แต่ยังล่วงสู่ยามซื่อ 2แล้ว เด็กรับใช้กาํ ลังนั่งนิ่งเงียบหน้าเตียงเขาอย่างเบื่อ
217

หน่าย
“อาโจว” เขาเรียกเด็กรับใช้ไปครัง้ หนึ่ง
อาโจวตกใจยกใหญ่ ลุกขึน้ ยืนทันที “นายท่าน ท่านค่อยยังชั่วแล้วกระมัง! นายท่านอวี ้
มาตัง้ แต่เช้าตรู ่ เห็นท่านยังพักอยู่ จึงไม่ได้ปลุกท่าน เอ่ยเพียงว่าหากท่านตื่นกินข้าวเช้าเสร็จ
สรรพแล้วให้ไปห้องหนังสือ เขาและนายท่านอูร๋ อท่านอยู่ท่ีน่นั ขอรับ”

2
ยามซื่อ เวลาประมาณ 09:00 - 10:59 น.
1116

เจียงเฉานวดขมับ ยามนีจ้ ึงนึกขึน้ มาได้ว่าเมื่อวานยามที่อยู่ในงานเลีย้ งอวีเ้ หวินชวน


เขาไปเที่ยวเล่นในหลินอัน
ดูท่าเขาจะตื่นสายเกินไป
อาการเมาค้างนัน้ ยากจะรับได้จริงๆ เจียงเฉาล้างหน้า กินข้าวเช้า จวบจนระหว่างเดิน
ไปหาอวีเ้ หวินที่หอ้ งหนังสือจึงค่อยรูส้ กึ ดีขนึ ้ มาอย่างช้าๆ
อวีเ้ หวินและนายท่านอูต๋ ดั สินใจพาเจียงเฉาไปวัดเจาหมิง แล้วค่อยไปเขาเทียนมู่
ไหนเลยเจียงเฉาจะมีใจเที่ยวสนุก แต่ไมตรีย่อมยากจะปฏิเสธ ท้ายที่สดุ ยังคงนั่งรถม้า
สกุลอูไ๋ ปยังวัดเจาหมิง
ระหว่างทาง นายท่านอูก๋ ็ไล่เลียงโบราณสถานอันเลื่องชื่อลือนามทัง้ เรื่องที่น่าสนใจของ
เมืองหลินอันให้เขาฟั ง ในนัน้ ยังเอ่ยถึงต้นเหมยเก่าแก่ของสกุลเผย “...คนเฒ่าคนแก่พดู ว่ามา
พร้อมกับต้นสนตื่นรู น้ นั้ ของวัดเจาหมิง เพียงแต่ตน้ หนึ่งอยู่ตะวันออก อีกต้นอยู่ตะวันตก เป็ น
ต้นไม้สองต้นที่เก่าแก่มากที่สดุ ในเมืองหลินอันของพวกเรา แต่ก็ไม่ชัดเจนนักว่าเป็ นเรื่องจริง
หรือไม่จริง”
อวีเ้ หวินเอ่ยด้วยรอยยิม้ “น่าจะปั ญญาชนพวกนัน้ ปั้ นเรื่องขึน้ มามากกว่า คําพูดนีข้ า้
ยังคงเคยได้ยนิ เป็ นครัง้ แรก”
เจียงเฉากลับใจเต้นอย่างบ้าคลั่ง กระทั่งนํา้ เสียงยังแหลมสูงอยู่บา้ ง “พวกเจ้าคงไม่ได้
หมายถึงสกุลเผยหรอกกระมัง? สกุลเผยของตรอกเสี่ยวเหมย? สกุลเผยที่มีจิน้ ซื่ออยู่ในเรือน
สามคนนั่น! ฟั งจากนํา้ เสียงของพี่ชายทัง้ สอง ดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์กบั สกุลพวกเขาอยู่
บ้าง?”
นายท่านอู๋งงงัน “ข้ากําลังพูดถึงสกุลเผยตรอกเสี่ยวเหมยพอดี พวกเราและสกุลเผย
เป็ นคนบ้านเดียวกัน ย่อมรูจ้ กั กัน แต่หากจะพูดถึงความคุน้ เคย นายท่านอวีย้ ่อมคุน้ เคยกว่าข้า
1117

มาก พวกเขาล้วนเป็ นบัณฑิตเหมือนกัน ร้านค้าของนายท่านอวีเ้ ปิ ดกิจการ นายท่านสามก็ยงั


มาอวยพรด้วยตนเอง”
นี่ช่างเรียกว่าจู่ๆ ก็มีแสงสว่างปรากฏที่ปลายอุโมงค์!
เจียงเฉากดความตื่นเต้นไว้ในใจไม่ไหว เอ่ยว่า “พี่ชายทัง้ สองนับว่าช่วยชีวิตข้าไว้ครัง้
หนึ่งแล้ว”
นายท่านอู๋และอวีเ้ หวินหันหน้ามองกัน เจียงเฉาเอ่ยอย่างตืน้ ตัน “ก่อนหน้านีไ้ ม่ใช่ว่า
ลูกชายคนเล็กของเจ้านายเถ้าแก่หวังอาศัยเส้นสายผูต้ รวจการเจ้อเจียงจึงทําให้เถ้าแก่หวังทิง้
เรือนสละทรัพย์สินหนีวนุ่ หรอกรึ? ข้าขบคิดมาตลอดว่าสามารถอาศัยข้าหลวงหนิงปั วได้หรือไม่
เมื่ อ ครู ่ค าํ พูด ของพี่ ช ายทั้ง สองกลับ เตื อ นสติ ข้า แทนที่ ข้า จะมองข้า มสิ่ ง ใกล้ตัว ไปขอร้อ ง
ข้าหลวงหนิงปั ว ยังมิสเู้ ชิญนายท่านสามออกหน้า”
นายท่านอูแ๋ ละอวีเ้ หวินฟั งเข้าใจเพียงครึง่ เดียวเท่านัน้
ทัง้ สองคนแลกเปลี่ยนสายตากันอีกครัง้
นายท่านอูเ๋ อ่ยอย่างใคร่ครวญ “เจ้าหมายความว่า ให้พวกข้าขอร้องนายท่านสามสกุล
เผยออกหน้าช่วยตัดสินความ? หรือสกุลเผยและข้าหลวงหนิงปั วมีความสัมพันธ์อะไรกันอย่าง
นัน้ รึ?”
นี่ลว้ นเป็ นเรื่องเล็ก สิ่งที่พวกเขากลัวก็คือ ครัง้ นีเ้ จียงเฉามาหลินอันอย่างกะทันหัน
อาจจะตัง้ ใจมาขอร้องเผยเยี่ยนอยู่แล้วก็ได้
พวกเขาเป็ นคนกระทําเรื่องอย่างใจกว้าง แต่กลับไม่ใช่คนโง่ ไม่อาจยอมให้คนหลอกใช้
ประโยชน์!
1118

บทที่ 140 แสงสว่าง


ช่วงนีเ้ พราะมีเรื่องกลุม้ ใจ เจียงเฉาจึงนอนไม่หลับโดยสิน้ เชิง ท่าทีอ่อนเปลีย้ เพลียแรง
ย่อมไม่มีแรงพินิจวิเคราะห์เหมือนแต่ก่อนแล้ว ยิ่งไปกว่านัน้ เขาเพิ่งค้นพบวิธีท่ีอาจจะช่วยชีวิต
เขาได้ จึงไม่อาจปิ ดบังความตื่นเต้น ทัง้ ไม่ได้สงั เกตถึงความระมัดระวังและหยั่งเชิงที่นายท่านอู๋
เผยออกมาอย่างเลือนรางยามที่เขาถามขึน้ มา
“ไม่ๆ” เขาเอ่ยอย่างตื่นเต้น “เถ้าแก่หวังเกิดเรื่อง ก็ไม่ใช่เพราะว่าขุนนางอาศัยพรรค
พวกกันหรือไร? บางครัง้ ทําการค้าก็เป็ นเช่นนี ้ ผูท้ ่ีไร้การปกป้องคุม้ ครองจากขุนนางย่อมเกิด
ปั ญหาได้มากกว่า ก่อนหน้านีข้ า้ รู จ้ ักสกุลเผยตรอกเสี่ยวเหมยในหลินอัน แต่ก็รูเ้ พียงว่าสกุล
พวกเขามีจนิ ้ ซื่อสี่คน เรื่องอื่นกลับไม่ทราบเท่าใด จวบจนปี ก่อน เรือของสกุลซ่งติดด่านที่ไหวอัน
พวกเจ้าคงรูจ้ กั สกุลซ่งแห่งซูโจวกระมัง? สกุลพวกเขาก็เป็ นขุนนางมาหลายชั่วอายุคน เป็ นสกุล
ที่ร่าํ รวยโดดเด่นที่สดุ ในเมืองซูโจวของพวกเรา พวกเจ้าคิดดู สกุลเช่นนีเ้ รือของพวกเขาก็ยงั ติด
ด่านที่หลินอันได้ ย่อมเป็ นเพราะทําเรื่องฝ่ าฝื นกฎหมาย ไม่แน่ว่าอาจจะข้องเกี่ยวกับเบือ้ งสูง ผู้
ที่พวกเขาขอความช่วยเหลือก็คือสกุลเผยเมืองหลินอันของพวกเจ้า ยามนัน้ ข้าได้ยินล้วนตื่น
ตะลึงอยู่นาน ข้ารู จ้ กั สี่สกุลใหญ่ของเจียงหนาน เมืองหังโจวนัน้ มีสามสกุล แต่ส่ีสกุลใหญ่กลับ
ไม่มีสกุลเผย ปกติขา้ ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ภายหลังเรื่องของสกุลซ่งได้คลี่คลาย ข้าจึงสืบเรื่องของ
สกุลเผยอย่างละเอียด คาดไม่ถึงว่าสกุลเผยแทบจะมีคนเดินสายขุนนางอยู่ทกุ รุ ่นทุกสมัย แต่
ชื่อเสียงกลับไม่กระจ่างชัด นี่ก็นบั ว่าเก่งกาจแล้ว”
มีคนเดินสายขุนนางทุกรุน่ ทุกสมัย?
อวีเ้ หวินและนายท่านอูต๋ า่ งไม่ได้ตระหนักถึงจุดนี ้
1119

เมื่อมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าสกุลเผยจะมีคนรับราชการทุกรุน่ จริงๆ เพียงแต่คน


สกุลเผยรับราชการก็ดีสอบเข้าจิน้ ซื่อได้ก็ช่าง น้อยครัง้ ที่จะเฉลิมฉลองอย่างเอริกเกริก กลับกัน
หากบ้านไหนให้กาํ เนิดบุตร ก็จะจัดงานเลีย้ งแบบหลิวสุย่ สี 1 218

มีจนิ ้ ซื่อสี่คนในสกุล?
ในความทรงจําของพวกเขา สามพี่นอ้ งสกุลเผยล้วนสอบจิน้ ซื่อได้ ท่านผูเ้ ฒ่าเป็ นจวี่เห
ริน สกุลเผยก็ควรมีจิน้ ซื่อสามคนสิ...ในความเป็ นจริง สกุลเผยรุ ่นนีย้ งั มีจิน้ ซื่ออีกหนึ่งคน เป็ น
ญาติสายรองของสกุลเผย ลูกชายเผยอีญ ้ าติผพู้ ่ีของท่านผูเ้ ฒ่าเผยที่นามว่าเผยวั่ง แต่เผยอีเ้ ป็ น
คนไม่สนใจการงาน คล้ายว่าอาศัยแต่เงินของสกุลเผยใช้ชีวิตไปวันๆ หลังจากเผยวั่งสอบจิน้ ซื่อ
ไม่นานก็ไปรับราชการทางเหอหนาน เพราะครอบครัวแบ่งแยกกัน ยามที่ท่านผูเ้ ฒ่าเผยล่วงลับ
เผยวั่งก็ไม่ได้กลับมา งานศพของท่านผูเ้ ฒ่าเผย หลี่อีก้ ็ไม่ได้ปริปากพูดอะไรสักคํา ยามที่เผย
เยี่ยนรับช่วงต่อสกุล เขายิ่งทําเหมือนไม่มีตัวตน ทําให้คนในเมืองหลินอันไม่มีภาพจําอะไร
เกี่ยวกับบ้านนีข้ องพวกเขาแม้แต่นอ้ ย
นายท่านอูแ๋ ละอวีเ้ หวินกระดากอายอยู่บา้ ง
พวกเขาเป็ นคนหลินอันแท้ๆ กลับต้องให้คนซูโจวเป็ นฝ่ ายเตือนขึน้ มา
แต่อย่างไรพวกเขาก็เป็ นคนในพืน้ ที่
อวีเ้ หวินอดกล่าวไม่ได้ “ข้าจําได้ว่าเผยวั่งอายุมากกว่านายท่านใหญ่สกุลเผยไม่ก่ีปี ทัง้
ยังสอบจิน้ ซื่อได้เร็วกว่านายท่านใหญ่หลายปี หลังจากนัน้ ก็รบั ราชการอยู่ขา้ งนอกตลอด ก็ไม่รู ้
ว่ายามนีเ้ ป็ นขุนนางขัน้ ไหนแล้ว? รับราชการที่ใด? แต่ขา้ จําได้อย่างแม่นยําว่าเขามีลกู ชายคน
หนึ่ง อายุมากกว่าลูกสาวข้าอยู่ครึง่ ปี ยามที่ลกู ชายเขาให้กาํ เนิด ยังโปรยเงินอยู่หน้าตรอกเสี่ยว
เหมย เวลานัน้ ข้าไปซือ้ อุปกรณ์เย็บปั กถักร้อยที่รา้ นค้าริมธารเสี่ยวเหมยเป็ นเพื่อนภรรยาพอดี

1
หลิวสุ่ยสี คืองานฉลองที่เลีย้ งสุราอาหารอย่างไม่ขาดสาย แขกเหรื่อสามารถทยอยกันมา เมื่อกินเสร็จแล้วก็ทยอยกัน
กลับไป
1120

ภรรยายังทอดถอนหายใจ กล่าวว่าเด็กคนนีม้ าเกิดถูกที่จริงๆ ยังลูบท้องตัวเองเอ่ยว่าผูท้ ่ีตงั้ ท้อง


อยู่นีไ้ ม่รูว้ า่ จะเป็ นผูห้ ญิงหรือผูช้ าย”
เจียงเฉากระจ่างใจดี “นายท่านเผยคนนีป้ ั จจุบนั เป็ นข้าหลวงอยู่ท่ีเมืองเป่ าติง้ ”
นายท่านอูแ๋ ละอวีเ้ หวินตกใจไม่นอ้ ย
แม้วา่ ข้าหลวงเป่ าติง้ จะเป็ นเพียงข้าหลวงขัน้ สี่ แต่เมืองเป่ าติง้ เป็ นตําแหน่งภูมิศาสตร์ท่ี
สําคัญ เป็ นเส้นทางที่สายใต้และเหนือต้องใช้ผ่านเข้าไปในเมืองหลวง ในขุนนางน้อยใหญ่ท่ีถกู
ส่งออกไปรับตําแหน่ง ข้าหลวงเป่ าติง้ นับว่าอยู่ใกล้กบั เมืองหลวงมากที่สดุ ทัง้ ยังเป็ นข้าหลวงที่
มักจะถูกเลื่อนขัน้ ให้รบั ตําแหน่งในเมืองหลวงมากที่สดุ
แม้ในราชสํานักมีคาํ พูดที่วา่ ผูท้ ่ีไม่ใช่ซจู่ ๋ีซ่อื ย่อมไม่อาจเป็ นขุนนางใหญ่ แต่หากจะมีใคร
ทําลายคําพูดนีไ้ ด้ ก็ย่อมเป็ นคนที่สามารถเป็ นข้าหลวงของเมืองเป่ าติง้
เมืองหลินอันไม่เพียงไร้ข่าวคราวของนายท่านเผยผูน้ ี ้ ตรงกันข้ามล้วนเอาแต่ยกยอปอ
ปั้นหลี่อี ้ ผูท้ ่ีเคยรับตําแหน่งเป็ นข้าหลวงรื่อเจ้าทุกหนทุกแห่ง
อวีเ้ หวินเผยสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย “หากข้าจํามิผิด นายท่านเผยอีเ้ มื่อก่อนก็เหมือน
จะเคยรับตําแหน่งข้าหลวง ภายหลังได้ยินว่าปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศในพืน้ ที่ท่ีควบคุมไม่ได้
เจ็บไข้ได้ป่วย เกือบเอาชีวิตไม่รอด จึงลาออกกลับบ้านเกิดไปพักรักษาตัว นับตัง้ แต่นัน้ ก็ไม่
ออกไปเตร็ดเตร่ดา้ นนอกอีกเลย สํานักศึกษาเฉียนถังเชิญเขาไปบรรยายสอนหนังสือ เขาก็ยงั
ปฏิเสธ ยามนัน้ ข้ายังเด็ก เพิ่งจะสอบผ่านระดับอําเภอ ยังไม่มีตาํ แหน่งซิ่วไฉ ยังเคยพูดคุยกับ
สหายที่เรียนด้วยกันว่า หากเผยอีเ้ ป็ นอาจารย์สอนหนังสือที่สาํ นักศึกษาเฉียนถังได้ บัณฑิต
เมืองหลินอันอย่างพวกเรา อยากเข้าสํานักศึกษาย่อมได้เปรียบกว่าคนอื่นมิใช่ร?ึ หลังจากเขา
ปฏิเสธตําแหน่งอาจารย์ ทุกคนต่างยังเคยคาดเดาว่าเขาอาจจะล้มหมอนนอนเสื่อ อายุคงไม่ยืน
ยาวนัก”
คาดไม่ถึงว่าเขาจะอายุยืนกว่าท่านผูเ้ ฒ่าเผยเสียอีก!
1121

ไม่สิ ท่านผูเ้ ฒ่าอีผ้ นู้ ีม้ ีชีวิตอยู่หรือล่วงลับไปแล้ว พวกเขาก็ยงั ไม่รูแ้ น่ชดั


อวีเ้ หวินมองนายท่านอูแ๋ วบหนึง่
นายท่านอูแ๋ ละอวีเ้ หวินคิดไปทางเดียวกันอย่างเห็นได้ชดั เขาละลํ่าละลักเอ่ย “ยังมีชีวติ
อยู่! ยามที่ท่านผูเ้ ฒ่าเผยจากไป ข้ายังเห็นเขาในงานศพด้วยตาของตนเอง ผมนัน้ ขาวโพลนไป
หมด แต่ยงั คงมีสง่าราศี ไม่ใช้ไม้เท้า ยามที่เดินก็ดมู ีเรี่ยวมีแรง”
เจียงเฉาเอ่ย “สกุลพวกเขาก็อ่อนน้อมถ่อมตนเกินไป ข้าจึงพลัง้ มองข้ามสกุลพวกเขา
ไป”
นายท่านอูแ๋ ละอวีเ้ หวินมาคิดในยามนี ้ พลันนับถือสกุลเผยขึน้ มาอยู่หลายส่วน
สกุลเผยจึงจะนับว่าเป็ นสกุลสูงส่งอย่างแท้จริง ไม่เพียงเป็ นห่วงอาทรต่อเพื่อนบ้าน ยัง
โอนอ่อนถ่อมตัวมีการศึกษา เทียบกับสกุลธรรมดาทั่วไปไม่ได้จริงๆ
เช่นนัน้ พวกเขาไปรบกวนคนอื่นเช่นนีก้ ็ไม่คอ่ ยดีกระมัง?
นายท่านอูแ๋ ละอวีเ้ หวินแลกเปลี่ยนสายตากันอีกครัง้
ครัง้ นีอ้ วีเ้ หวินเป็ นฝ่ ายเปิ ดปากก่อน “นายท่านของสกุลเผยกําลังอยู่ในช่วงไว้ทกุ ข์ หาก
พวกเราขอความช่วยเหลือเรื่องพวกนีก้ บั สกุลเผย...”
เจียงเฉาคล้ายถูกนํา้ เย็นจัดสาดกระทบร่าง ห่อเหี่ยวลงในชั่วพริบตา “ข้าก็ทราบว่าสกุล
พวกเขายังเป็ นญาติทางการแต่งงานกับสกุลซ่ง ยามที่ขา้ หาคนร่วมหุน้ ในซูโจว สกุลซ่งก็ไม่
พอใจมาโดยตลอด คิดว่าข้าจะแย่งผลประโยชน์ทางการค้าของพวกเขา แล้วสกุลเผยจะช่วย
พวกเราได้อย่างไรกัน?”
สกุลเผยและสกุลซ่งเป็ นญาติเกี่ยวดองทางการแต่งงาน?
ในความทรงจําของนายท่านอู๋ ทัง้ สองสกุลไม่คอ่ ยไปมาหาสูเ่ หมือนสนิทสนมกันนัก
เขาเอ่ยอย่างสงสัย “สกุลเผยและสกุลซ่งเป็ นญาติทางการแต่งงานอย่างไร?”
1122

อวีเ้ หวินเอ่ย “ท่านแม่เฒ่าสกุลเผยและท่านแม่เฒ่าสกุลซ่งเป็ นลูกพี่ลกู น้องกัน”


นายท่านอูแ๋ ละเจียงเฉาเผยแววตาสว่างวาบมองมาทางเขา
ยามนี อ้ วี เ้ หวิ น จึง นึก ขึน้ ได้ คนในเมื องหลิน อัน ที่ รูว้ ่า สกุลเผยและสกุลซ่ง เป็ น ญาติ
ทางการแต่งงานนัน้ มีไม่มาก
เขาก็นบั ว่าทราบเพราะบังเอิญเกิดเรื่องกระมัง?
อวีเ้ หวินยิม้ เจื่อนในใจ ละลํ่าละลักเอ่ย “ข้าก็ได้ยินคนพูดมาเช่นกัน ไม่รูว้ ่าจริงหรือไม่
จริง”
เจียงเฉาเอ่ย “เป็ นเรื่องจริง! ข้าสนิทกับผูด้ แู ลสกุลของสกุลซ่งคนหนึ่ง เขาบอกเรื่องนี ้
กับข้า”
เขายังรู ว้ ่า แม้ท่านแม่เฒ่าสกุลซ่งและท่านแม่เฒ่าสกุลเผยจะเป็ นลูกพี่ลกู น้องกัน แต่
ทัง้ สองคนอายุห่างกันกว่ายี่สิบปี ยามที่ท่านแม่เฒ่าสกุลซ่งออกเรือน ท่านแม่เฒ่าสกุลเผยยังไม่
เกิดเสียด้วยซํา้ ความสัมพันธ์ระหว่างทัง้ สองไม่สนิทชิดเชือ้ เท่าใด ภายหลังเหมือนจะเกิดเรื่อง
อะไรขึน้ ทัง้ สองสกุลมีรอยร้าว หลายปี ก่อนจึงไปมาหาสู่ตามมารยาท ภายหลังลูกชายทัง้ สาม
ของท่านแม่เฒ่าสกุลเผยทยอยสอบจิน้ ซื่อ ทางสกุลซ่งกลับมีลกู หลานรับราชการข้างนอกคน
เดียว สกุลซ่งยอมค้อมศีรษะประจบสอพลอ ทัง้ สองสกุลจึงค่อยไปมาหาสูก่ นั อีกครัง้
แม้จะเป็ นเช่นนี ้ เมื่อสกุลซ่งเกิดเรื่อง สกุลเผยก็ช่วยออกหน้า กอบกูท้ งั้ คนทัง้ เรือออกมา
“มีคนอยู่ในราชสํานักย่อมจัดการเรื่องราวได้ง่าย!” เขาถอนหายใจยาวเหยียด
นายท่านอูแ๋ ละอวีเ้ หวินล้วนไม่รบั บทสนทนาต่อ
ยามนีเ้ จียงเฉาจึงค่อยสัมผัสได้วา่ ทัง้ สองเผยท่าทีไม่อยากยุ่งเกี่ยวอยู่บา้ ง
เขาลอบยิม้ ขื่น
1123

ติดหนีท้ งั้ สองคนมากมายขนาดนัน้ ไม่เพียงทัง้ สองจะไม่ทวงหนีเ้ ขา แต่ยงั ช่วยมารดา


เขาไว้ วันนีย้ งั ให้ท่ีพกั กับเขาที่ไร้ทางไป เขาติดหนีบ้ ญ
ุ คุณทัง้ สองอย่างใหญ่หลวงแล้ว หากยัง
บีบให้พวกเขาขอความช่วยเหลือจากสกุลเผย เขาก็ทาํ ไม่ถกู แล้ว
เขาค่อยหาวิธีอ่นื ภายหลังน่าจะดีกว่า
เจียงเฉาขบคิด ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เอ่ยถามประวัติวดั เจาหมิงขึน้ มา
นาย่ทานอูแ๋ ละอวีเ้ หวินเผยรอยยิม้ ขึน้ มาโดยพลัน
ไม่วา่ ในใจทัง้ สามคนจะคิดอย่างไร ตลอดทางก็เที่ยวเล่นพูดคุยที่วดั เจาหมิงทัง้ วัน ยาม
ที่ลงเขา ทัง้ สามคนก็เริม่ เรียกกันเป็ นพี่เป็ นน้องขึน้ มา
รอจนกลับมาถึงสกุลอวี ้ เจียงเฉาก็ขอกลับไปพักด้วยความอ่อนล้า นายท่านอูก๋ ลับฉวย
โอกาสยามที่อวีเ้ หวินออกมาส่งเขา รัง้ เขาพูดคุยอยู่หน้าประตู “น้องอวี ้ เจ้าพูดกับข้าตามตรง
เจ้ารูไ้ ด้อย่างไรว่าสกุลเผยและสกุลซ่งเป็ นญาติทางการแต่งงานกัน? ข้าก็นบั ว่ารูจ้ กั คนมากหน้า
หลายตาในเมืองหลินอัน แต่กลับไม่เคยได้ยินเรื่องเช่นนีม้ าก่อน”
ใบหน้าอวีเ้ หวินปรากฏความลังเล
นายท่านอูเ๋ อ่ยทันที “เจ้าอย่าได้ใช้ลกู ไม้ท่ีป่ ั นหัวน้องเจียงมาใช้กบั ข้า ข้าไม่ใช่เด็กหนุ่ม
ที่ไม่ประสาความอย่างเขา”
อวีเ้ หวินเกาศีรษะ ไม่รูว้ า่ ควรพูดอย่างไรดี
นายท่านอู๋เอ่ยอย่างรู แ้ ล้วรอดไป “ข้าก็ไม่ได้จะบังคับอะไรเจ้า เจ้าแค่บอกข้าก็พอว่า
ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าและสกุลเผยเป็ นอย่างไร? หากขอนายท่านสามให้ช่วยเรื่องสกุลหวัง
เขาจะยอมพบพวกเราหรือไม่?”
อวีเ้ หวินคล้ายยกภูเขาออกจากอก พูดออกไปตามตรง “ข้าไม่รูจ้ ริงๆ! นายท่านสามรึ ดู
ยัง หนุ่มยังแน่น ในความเป็ น จริงกลับเอาแน่เอานอนไม่ได้อยู่บา้ ง แต่ไหนแต่ไรข้า ก็ไม่เคย
รบกวนเขาเช่นนี”้
1124

การประมูลแผนที่ เขาคิดว่าสกุลเผยสามารถดึงผลประโยชน์ให้ตวั เองได้เช่นกัน ดังนัน้


จึงกล้าไปขอความช่วยเหลือถึงหน้าประตู
แต่เรื่องนี ้ หากสกุลเผยสอดมือยุ่ง ก็ย่อมเป็ นการช่วยเหลืออย่างบริสทุ ธิ์ใจแล้ว
เขาก็ไม่รูว้ า่ ตัวเองจะมีความกล้าหรือไม่
“หรื อ เจ้า คิ ด จะช่ ว ยผู ก เส้น สายนี ้ใ ห้น ้อ งเจี ย ง” อวี ้เ หวิ น เอ่ ย “คนค้า ขายเห็ น แก่
ผลประโยชน์ไม่สนใจมิตรภาพ...”
นายท่านอู๋สา่ ยศีรษะ เอ่ยเสียงเคร่งขรึม “นี่ก็เป็ นเรื่องที่ได้ประโยชน์ทงั้ คู่! ข้าคิดว่าแปด
ถึงเก้าในสิบ เงินของพวกเราคงไม่ได้กลับมา แต่นอ้ งเจียงผูน้ ีเ้ จ้าก็รูด้ ี ฝี ปากคมคาย พูดจาโน้ม
น้าวผูอ้ ่ืนได้ง่าย หากแนะนําเขาให้นายท่านสาม ไม่แน่ว่าจะเป็ นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์จริงๆ
เขาสามารถอาศัยบารมีของสกุลเผยยืนขึน้ มาอีกครัง้ ได้!”
พูดโดยสรุปแล้ว ยังคงอยากได้เงินที่ลงทุนกับเจียงเฉากลับคืนมา
หากเรื่องนีเ้ กี่ยวข้องกับเขาเพียงคนเดียว อวีเ้ หวินย่อมไม่รบั ปาก แต่เขาทําให้นาย
ท่านอู๋สญ
ู เสียเงินก้อนใหญ่ไปด้วย ทัง้ นายท่านอู๋ขอร้องเขาเช่นนี ้ เขาจึงจําต้องใคร่ครวญเรื่องนี ้
ว่าทําได้หรือไม่
“ไม่อย่างนัน้ ข้าลองดูดีหรือไม่?” อวีเ้ หวินเอ่ยอย่างลังเล “ข้าก็ไม่รูว้ ่านายท่านสามจะ
รับปากหรือไม่?”
แค่ลองดูก็มีโอกาสแล้ว
นายท่านอู๋ดีใจอย่างยิ่ง “นายท่านสามสามารถรับช่วงต่อสกุลเผย ทัง้ ยังทําให้คนใน
สกุลเผยไม่กล้ามีปากมีเสียง ย่อมไม่ใช่คนที่ดีเพียงภายนอกแล้ว! แม้จะภายนอกจะดูดี นั่นก็คง
เป็ นรอยยิม้ ซ่อนคมดาบ เจ้าอย่าคิดว่าข้าทําเพื่อเงินทอง ประเด็นหลักข้าอยากไปมาหาสู่นาย
ท่านสามให้มากหน่อยเท่านัน้ ”
ไม่มีเรื่องก็หาเรื่องเสียหน่อย นับประสาอะไรกับยามนีม้ ีเรื่องจริงๆ
1125

อวีเ้ หวินเข้าใจความรูส้ กึ ของเขา พยักหน้าระรัว


นายท่านอู๋กาํ ชับเขา “เรื่องนีเ้ จ้าอย่าเพิ่งบอกกับน้องเจียง หากนายท่านสามยอมพบ
พวกเรา ค่อยพูดกับเขาเวลานัน้ เถิด” พูดจบ ยังส่งสายตาเป็ นนัยให้อวีเ้ หวิน
อวีเ้ หวินคิดว่าเขากลัวเสียหน้า ความเป็ นจริงนายท่านอู๋อยากหลอกให้เจียงเฉาเข้าใจ
ผิดว่า พวกเขามีความสัมพันธ์อนั ดีกบั เผยเยี่ยน ภายหลังเจียงเฉาจะได้พยายามทุกวิถีทางนํา
เงินที่พวกเขาลงทุนกลับมาให้ได้
1126

บทที่ 141 ปลายอุโมงค์


ยามที่เทียบเชิญของสกุลอวีส้ ่งมาถึงมือเผยเยี่ยน เผยเยี่ยนกําลังคัดอักษรอยู่ในศาลา
ริมนํา้
ลมฤดูใบไม้รว่ งพัดโชย ใบหลิวลู่ลงผิวนํา้ ปลาจิ๋นหลี่พากันแหวกว่ายโผล่หวั ขึน้ มา ไล่
งับต้นหลิวที่ลอ่ งลอยเหนือนํา้
เขาเปิ ดเทียบเชิญดูแวบหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามเด็กรับใช้ท่ีมาส่งเทียบเชิญ “สกุลอวีย้ งั
ฝากคําพูดอะไรไว้หรือไม่?”
เด็กรับใช้คอ้ มศีรษะ เอ่ยอย่างนอบน้อม “ไม่ได้พดู อันใดขอรับ กล่าวเพียงว่าอยากเข้า
มาพบท่านในวันพรุง่ นี”้
เผยเยี่ยนพยักหน้า ถือพูก่ นั ที่ทาํ จากไผ่เซียงเฟยขึน้ มาอีกครัง้ “ไปบอกกล่าวกับพ่อบ้าน
ใหญ่ให้เขาเตรียมพร้อมเสียหน่อย”
เด็กรับใช้รบั คําสั่งก่อนจะจากไป
อาหมิงที่ฝนหมึกให้เผยเยี่ยนลังเลอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว “นายท่านสาม
พรุง่ นีท้ ่านไม่ไปตรวจสอบบัญชีหรือขอรับ? ต้องการให้ขา้ บอกกล่าวกับท่านเฉินหรือไม่?”
ท่านเฉินมีนามว่าเฉินฉี เป็ นนายบัญชีท่ีรบั เข้ามาจากข้างนอกหลังเผยเยี่ยนรับช่วงต่อ
สกุลเผยอย่างเป็ นทางการ ยามนีค้ อยดูแลรายการบัญชีในจวนสกุลเผย
เผยเยี่ยนไม่แม้แต่จะเงยศีรษะขึน้ “ไม่ตอ้ ง อาหม่านรูด้ ีวา่ ควรจะทําอย่างไร”
อาหมิงขานว่า ‘อ้อ’ ก่อนจะก้มศีรษะจดจ่อกับการฝนหมึกอีกครัง้
1127

ทุก วัน นายท่ า นสามต้อ งเขี ย นตัว อัก ษรเสี่ ย วข่ า ย 1สองพัน ตัว ยามที่ เ ริ่ม ใหม่ ๆ คัด
219

ตัวอักษรทัง้ วันจนแทบยกมือไม่ขนึ ้ จนถึงวันนีค้ อ่ ยๆ คุน้ ชิน จึงรูส้ กึ ผ่อนคลายลงมากแล้ว

ทางด้านตรอกชิงจู๋ อวีเ้ หวินได้รบั จดหมายตอบกลับจึงไปเชิญนายท่านอู๋เข้ามา “พรุง่ นี ้


พวกเราจะเข้าไปด้วยกันหรือไม่?”
นายท่านอูล๋ อบตกตะลึงในใจ เมื่อเย็นวานเขายังดื่มสุรากับคหบดีชนบทสกุลหวงผูห้ นึ่ง
นายท่านหวงต้องการพบเผยเยี่ยนด้วยเรื่องผลผลิตฤดูใบไม้ร่วง เผยเยี่ยนกลับเอ่ยว่าติดธุระ
ตรวจสอบบัญชี หากเรื่องไม่เร่งด่วนมาก ให้นายท่านหวงไปพบพ่อบ้านใหญ่ก่อน
วันนีอ้ วีเ้ หวินกลับได้รบั เทียบเชิญ ให้มาเข้าจวนพรุง่ นีไ้ ด้
เห็นได้ชดั ว่าความสัมพันธ์ของอวีเ้ หวินและสกุลเผยแน่นแฟ้นกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก
เขานึกถึงฉากยามที่สกุลอวีเ้ ปิ ดกิจการร้านค้าขึน้ มาอีกครัง้
เผยเยี่ยนมาแสดงความยินดีดว้ ยตัวเองถึงที่
นายท่านอูล๋ อบพินิจอวีเ้ หวินอย่างเงียบเชียบ
ยังคงเผยท่าทีสภุ าพเรียบร้อยของบัณฑิตอย่างเช่นเคย
หรือก่อนหน้านีเ้ ขาจะประเมินอวีเ้ หวินและสกุลอวีต้ ่าํ ไป?
นายท่านอู๋เกาศีรษะ เอ่ยว่า “พรุ ่งนีข้ า้ คงไม่ตอ้ งเข้าไปกับเจ้าหรอก ไม่มีคนนอก พวก
เจ้าจะคุยกันง่ายกว่า”
อวีเ้ หวินลําบากใจที่จะพบเผยเยี่ยนอยู่บา้ ง

1
ตัวอักษรเสี่ยวข่าย เป็ นตัวอักษรบรรจงขนาดเล็ก มีตน้ กําเนิดสมัยซานกั๋ว
1128

เผยเยี่ยนช่วยเหลือเขามากมายขนาดนัน้ ผลปรากฏว่าไม่ทนั ได้กาํ เงินมั่นก็สญ ู ไปแล้ว


ถึงหกพันตําลึง พรุง่ นีน้ ายท่านอูไ๋ ม่อยู่ดว้ ยก็ดีเหมือนกัน หากเขาเอ่ยขอโทษต่อหน้าเผยเยี่ยนจะ
ได้ไม่รูส้ กึ ลําบากใจอะไร
วันรุง่ ขึน้ อวีเ้ หวินก็จา้ งเกีย้ วไปจวนสกุลเผย
หลังจากอวีถ้ งั รู ก้ ็อดโอดครวญไม่ได้ “ท่านพ่อไปจวนสกุลเผยก็ไม่บอกกล่าวกันสักคํา
เมื่อวานพวกเราทําขนมถั่วกรอบอร่อยกว่าครัง้ ที่แล้วเสียอีก”
เฉินซื่อขําพรืด “เช่นนัน้ พรุง่ นีเ้ จ้าก็ให้อาเสาเข้าไปส่งที่จวนสกุลเผยอีกครัง้ สิ”
อวีถ้ งั พยักหน้า
เผยเยี่ยนคิดว่าอวีเ้ หวินมาเพราะเรื่องเงินหกพันตําลึง ยังครุ ่นคิดว่าจะเกลีย้ กล่อมเขา
อย่างไรดี ให้เขาอย่าได้ตงั้ ความหวังเรื่องที่จะนําเงินคืนกลับมาไว้มาก ใครจะรูว้ ่าอวีเ้ หวินกลับ
พูดเรื่องเจียงเฉาขึน้ มา “เขานับว่าเป็ นคนไม่แย่เลยทีเดียว มีใจทะเยอทะยาน ทัง้ ยังซื่อสัตย์
รักษาสัญญา อยากให้ขา้ ช่วยเป็ นธุระให้เข้าพบท่านเสียหน่อย ข้าก็ไม่อาจตัดสินใจแทนท่านได้
ยามนีจ้ ึงได้มาบอกกล่าวก่อน” ก่อนจะเอ่ยเรื่องเงินหกพันตําลึงขึน้ มา กล่าวเพียงว่าทําลาย
ความปรารถนาดีของเขา ตัวเองไม่มีหวั ทางการค้า คาดว่าคงไม่มีโชคลาภทางด้านนี ้ ยังเอ่ยว่า
“ท่านดูสิ กระทั่งเงินประมูลแผนที่ท่ีได้มาอย่างไม่คาดฝัน แค่พริบตาเดียวก็สญ ู หายไปเสียแล้ว”
จากคําพูดนัน้ เผยให้เห็นความใจกว้างอย่างยิ่ง
เผยเยี่ยนเปลี่ยนแปลงมุมมองต่อเขาใหม่ เอ่ยว่า “เหตุใดเจียงเฉาถึงอยากเจอข้า?”
อวีเ้ หวินก็ตอบไปตามตรง “กล่าวว่าอยากให้ท่านช่วยไปทักทายทางข้าหลวงหนิงปั ว
แต่ขา้ คิดว่า เขาอาจจะอยากรูจ้ กั ท่านมากกว่า ยังเอ่ยว่าในสกุลท่านมีจิน้ ซื่อถึงสี่คน กระทั่งพวก
เราที่เป็ นคนในพืน้ ที่ยงั ลืมนายท่านวั่งไปเสียแล้ว”
เผยเยี่ยนมุมปากกระตุก
ไม่ใช่วา่ คนนอกลืมเผยวั่ง แต่สกุลเผยตัง้ ใจลบตัวตนของเขาต่างหาก
1129

“ข้าเข้าใจแล้ว” เขาเอ่ย “ในเมื่อเขาขอมาทางเจ้า คนบ้านใกล้เรือนเคียง จะไม่ให้พบก็


คงไม่ดีเท่าไร เจ้าไปบอกว่าอีกสี่หา้ วันค่อยมาพบข้า อีกไม่ก่ี วันข้าต้องไปตรวจสอบบัญชีท่ี
หังโจว” จากนัน้ ก็เอ่ยถึงเรื่องครัง้ ก่อนที่พบอวีถ้ งั “นางได้ว่งิ ไปดูมหรสพที่สกุลหลี่หรือไม่?”
อวีเ้ หวินกระดากอายอยูบ่ า้ ง
เขาและนายท่านอู๋ยงั คิดว่าจะลอบซือ้ ที่นาสกุลหลี่ลบั หลังสกุลเผยได้เสียอีก คาดไม่ถึง
ว่านายท่านสามจะทราบนานแล้ว
“ดูมหรสพ?” อวีเ้ หวินร้อนตัว ชั่วขณะนัน้ ก็ไม่รูว้ า่ ควรจะตอบเผยเยี่ยนอย่างไร เพียงยิม้
แห้งๆ “ดูมหรสพอย่างไร? ที่นาของพวกเขานัน้ ขายเป็ นการส่วนตัว นางคงไม่อาจวิ่งไปดูท่ีหน้า
ประตูสกุลหลี่ได้หรอกกระมัง? ทัง้ แม้นางจะไป ประตูใหญ่สกุลหลี่ก็ปิดอยู่ดี ไม่มีอะไรสนุกๆ ให้
ดูเสียหน่อย”
เผยเยี่ยนมองอวีเ้ หวินอย่างแปลกประหลาด
สกุลหลี่จะเล่นมหรสพหน้าประตูใหญ่จริงๆ ได้อย่างไร?
ไม่แปลกใจที่เรื่องในสกุลอวีก้ ลับมีคณ
ุ หนูอวีค้ อยออกหน้า แม้ว่าอวีเ้ หวินจะเป็ นซิ่วไฉ
แต่ดทู ่าแล้ว คาดว่าคงจะเรียนติดอยู่ในตําราจนตามใครไม่ทนั
คิดว่าพูดอะไรกับเขาไปก็คงสิน้ เปลืองเวลา
เผยเยี่ยนคร้านที่จะสนทนากับเขาต่อไป จึงยกนํา้ ชาส่งแขก
อวีเ้ หวินก็ไม่อาจรัง้ ตัวอยู่นาน หยัดกายขึน้ บอกลาทันที
เผยเยี่ยนเดินทางไปหังโจวภายในบ่ายวันนัน้
เจียงเฉาทําได้เพียงคอยเผยเยี่ยนอยู่ท่ีสกุลอวีเ้ ท่านัน้
1130

อวีเ้ หวินและนายท่านอูเ๋ ป็ นเจ้าบ้าน พาเขาออกไปเที่ยวเล่นทุกหนทุกแห่ง น่าเสียดายที่


เมืองหลินอันไม่ได้กว้างใหญ่เพียงนัน้ สถานที่ไกลหน่อยก็ไม่กล้าไป ช่วงเวลาเพียงสองสามวันก็
ไม่มีสถานที่แปลกใหม่ให้เที่ยวชมแล้ว
ปกติเจียงเฉาก็ว่ิงเต้นอยู่ในซูโจวและเจ้อเจียงแค่สองแห่ง นับว่าไม่ค่อยได้เปิ ดหูเปิ ดตา
แม้ว่ า ทิ ว ทัศ น์ข องหลิ น อัน จะงดงาม ก็ ไ ม่ ถึ ง ขั้น ที่ เ รี ย กได้ว่ า ไร้ท่ี ใ ดเที ย บเคี ย ง เขาเอาแต่
พะว้าพะวังจะพบเผยเยี่ยนอีกไม่ก่ีวนั จึงไม่มีใจอยากเที่ยวต่อ “แค่ขนึ ้ เขาไม่ก่ีวนั ขาของข้าก็เริม่
สั่นเสียแล้ว เทียบพละกําลังของพี่ชายทัง้ สองไม่ได้สกั นิด น่าละอายนัก!”
นายท่านอู๋ได้ฟังก็คาดเดาความนัยออก เอ่ยทัง้ หัวเราะ “พวกเราก็หมดแรงแล้วเช่นกัน
หลายวันนีก้ ็เอาแต่เที่ยวตามใจเจ้า ในเมื่อน้องเจียงพูดเช่นนี ้ พวกเราก็พกั สักวันสองวัน รอนาย
ท่านสามกลับมาเถิด”
เจียงเฉาพักอยู่ในสกุลอวี ้ ในใจก็ขบคิดว่ายามที่พบเผยเยี่ยนจะพูดเรื่องอะไรบ้าง ต้อง
ทําอย่างไรถึงจะสั่นคลอนเผยเยี่ยน ทําให้เผยเยี่ยนรูว้ า่ เขาเป็ นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง
โอกาสเช่นนี ้ อาจจะมีเพียงครัง้ เดียวในชีวิตเท่านัน้
ครุ ่นคิดตรึกตรองในใจเกือบค่อนวัน เมื่อถึงยามบ่ายจึงหน้ามืดตาลายอยู่บา้ ง คิดจะ
กินข้าวเย็นเสียเดี๋ยวนัน้ เขาพาเด็กรับใช้ไปทางห้องโถง
เมื่อผ่านชานเรือน เขาก็เห็นคุณหนูอายุประมาณสิบหกสิบเจ็ดปี สวมเสือ้ คลุมผ้าไหม
หังโฉวสีแดง กระโปรงทรงแคบสีขาว ผมดําขลับ ผิวขาวราวหิมะ กําลังสั่งการหญิงวัยกลางคน
และสาวใช้ของสกุลอวีบ้ รรจุสิ่งของบางอย่างลงในกล่องไม้ “ระวังหน่อย! ตามขอบตามมุมจะ
บิดเบีย้ วไม่ได้เชียว เขาเป็ นคนที่พิถีพิถนั อย่างยิ่ง หากเห็นตรงไหนบิดเบีย้ ว ก็คงจะคิดว่าทําทิง้
ไว้หลายวัน ไม่หยิบขึน้ มาชิมสักคําเป็ นแน่”
สายตาของเจียงเฉาหยุดอยู่ท่ีกล่องไม้เหล่านัน้
เมื่อมองดูก็พบว่าเป็ นกล่องที่บรรจุขนม สีขาวสะอาด ไม่มีกระทั่งตัวอักษรและลวดลาย
1131

ส่งของขวัญก็ควรใช้กล่องสีแดงไม่ใช่ร?ึ
กล่องไม้เช่นนี ้ คล้ายกับ...ใช้ในยามที่เซ่นไหว้บชู า
เขาอดมองอยู่หลายครัง้ ไม่ได้
คุณหนูผนู้ นั้ หมุนกายมา
ก่อนเขาจะเห็นใบหน้างดงามปรากฏในครรลองสายตา
ดวงตาพร่างพราวราวหยดนํา้ สีขาวดําแยกกระจ่าง งดงามสว่างไสว มุมปากยกยิม้ ขึน้
ดูสขุ อุราคล้ายผึง้ ที่รุมตอมเกสรดอกไม้
“ผูน้ ีค้ ือ...คุณหนูอวี?้ ” เขาเอ่ยถามอาโจวเสียงเบา
อาโจวเขย่งเท้ามองแวบหนึ่งก็หวั เราะขึน้ มา “ขอรับ เป็ นคุณหนูใหญ่ของสกุลอวี ้ นางมี
ฝี มือทําขนมของว่าง ทําขนมถั่วกรอบอร่อยอย่างยิ่ง สองวันก่อนอาเสาเอามาให้ขา้ น้อยชิมหนึ่ง
ชิน้ ขอรับ”
คุณหนูอวีห้ น้าตางดงามยิ่ง
เจียงเฉาขบคิด เขายืนตรงนีค้ งไม่เหมาะเท่าไร ยามที่กาํ ลังหมุนกายหันหลัง อวีถ้ งั กลับ
บังเอิญกวาดสายตาเข้ามาก่อน
คนผูน้ ีก้ ็คือเจียงเฉาหรอกรึ!
อวีถ้ งั ลอบมองพินิจเขา
หน้าตาหล่อเหลา ไม่ค่อยเหมือนเจียงหลิงเท่าใด คนหนึ่งอ่อนแอผ่ายผอม อีกคนกลับ
สูงใหญ่องอาจ
บางทีอาจเป็ นความแตกต่างของชายหญิงกระมัง?
อวีถ้ งั ครุน่ คิด ก่อนจะพยักหน้าเป็ นมารยาทให้เจียงเฉา
1132

เจียงเฉาละลํ่าละลักคารวะแก่อวีถ้ งั ก่อนจะออกจากชานเรือน สาวเท้าเร็วไปยังห้อง


โถง
อวีเ้ หวินไม่อยู่
เจียงเฉากระซิบถามอาโจว “เจ้าทราบหรือไม่ว่าคุณหนูอวีก้ าํ ลังทําอะไร? ขนมพวกนัน้
จะส่งไปที่ไหน?”
อาโจวเอ่ยด้วยรอยยิม้ “เป็ นขนมถั่วกรอบที่คณ
ุ หนูอวีท้ าํ ขอรับ ส่งไปที่จวนสกุลเผย ได้
ยินว่านายท่านสามของสกุลเผยโปรดปรานอย่างยิ่ง ครัง้ ก่อนยามที่พ่อบ้านสกุลเผยมาส่ง
ของขวัญเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ยังตัง้ ใจเอ่ยออกมา สกุลอวีเ้ ก็บเกี่ยวถั่วลิสงใหม่ คุณหนูอวี ้
จึงตัง้ ใจทําขนมถั่วกรอบส่งให้ขอรับ”
เจียงเฉาขานรับว่า ‘อ้อ’ ออกมา
สกุลอวีแ้ ละสกุลเผยสนิทสนมกันเพียงนีเ้ ชียว!
ยามที่เขาพบอวีเ้ หวินอีกครัง้ ก็กระตือรือร้นขึน้ มาหลายส่วน หยั่งเชิงถามนิสยั ของเผย
เยี่ยนจากอวีเ้ หวิน “ข้าสืบข่าวมาอยู่บา้ ง แต่ทกุ คนก็พดู ไม่ชดั เจนเท่าใด เหมือนว่าแต่ไหนแต่ไร
นายท่านสามก็ไม่ค่อยอยู่ในหลินอัน แต่ยามที่ท่านผูเ้ ฒ่าเผยจากไป จึงได้รบั ช่วงต่อสกุลเผย
ปั กหลักอยู่ท่ีหลินอันเรื่อยมา ได้ยินว่าเขาเป็ นคนเอาแน่เอานอนไม่ได้อยู่บา้ ง เป็ นเรื่องจริง
หรือไม่?”
อวีเ้ หวินได้ฟังก็ขมวดคิว้ แน่น เอ่ยอย่างไม่พอใจเท่าใด “เจ้าไปได้ยินมาจากไหนว่านาย
ท่านสามเอาแน่เอานอนไม่ได้? นี่เป็ นเรื่องเหลวไหลทัง้ นัน้ ! นายท่านสามเที่ยงตรงใจกว้าง ชอบ
ช่วยเหลือผูค้ นเหมือนท่านผูเ้ ฒ่าเผย เพียงแค่เขาอายุยังน้อย มีความกระด้างกระเดื่องบ้าง
เท่านัน้ ...”
เจียงเฉาฟั งเขาเอ่ยชื่นชมเผยเยี่ยนอย่างใจลอย ไม่เชื่อเท่าไรนัก
1133

หากเผยเยี่ยนเป็ นคนเช่นนีจ้ ริงๆ ไฉนคุณหนูอวีต้ อ้ งบรรจุขนมลงกล่องอย่างละเอียดยิบ


ย่อยขนาดนัน้ ด้วยล่ะ?
หากไม่ใช่วา่ นายท่านอวีพ้ ดู จาให้เกียรติเผยเยี่ยน ก็คงเป็ นเพราะว่าเดิมทีเขาก็ไม่เข้าใจ
เกี่ยวกับเผยเยี่ยนโดยสิน้ เชิง
ฉับพลันในศีรษะของเขาก็ปรากฏภาพดวงตากลมโตแฝงด้วยรอยยิม้ ของอวีถ้ งั ขึน้ มา
บางทีคณ
ุ หนูอวีอ้ าจจะรูอ้ ะไรมากกว่า?
เขาคิดคล้อยตาม “พี่อวี ้ ข้าเห็นคุณหนูอวีก้ าํ ลังเตรียมขนมส่งไปให้จวนสกุลเผย ท่านรู ้
ไหมว่านายท่านสามชอบกินของคาวหรือของหวาน? ยามที่ขา้ ไปจวนสกุลเผย จะได้สง่ ของที่ไม่
เสียมารยาทและสร้างความประทับใจต่อนายท่านสามได้”
อวีเ้ หวินกระแอมไอสองครัง้ ยังคงไม่อาจช่วยเขาตัดสินใจได้จริงๆ
“ข้าจะไปถามคนในเรือนให้” เขาเอ่ย “ปกติขา้ ก็ไม่คอ่ ยสนใจเรื่องพวกนี!้ ”
เจียงเฉาขอบคุณทัง้ รอยยิม้ ก่อนส่งสายตาให้อาโจว
รอจนกินข้าวเย็นเสร็จกลับไปที่หอ้ ง อาโจวก็มากระซิบบอกเจียงเฉา “รายการที่นายท่า
นอวีเ้ ขียนให้ท่านเมื่อครูน่ ี ้ เขาไปถามมาจากคุณหนูอวีข้ อรับ”
เป็ นดังที่คาดคิดไว้จริงๆ ด้วย
เช่นนัน้ เขาควรหาโอกาสพูดคุยกับคุณหนูอวีเ้ สียหน่อยหรือไม่?
เจียงเฉานอนกลับไปกลับมาอยูใ่ นห้องค่อนคืน ท้ายที่สดุ ยังคงไหว้วานอวีเ้ หวินให้อวีถ้ งั
ช่วยตรวจสอบดูรายการของขวัญที่เตรียมส่งให้เผยเยี่ยน
อวีเ้ หวินก็ไม่คิดมาก นํารายการส่งให้อวีถ้ งั
1134

กระดาษเสวี่ยเทา สองร้อยแผ่น จานฝนหมึกฮุยมัว 3ของสกุลหลี่สองตลับ พู่กนั หูป่ี ของ


220
2
221

สกุลอู๋สองกล่อง แท่งฝนหมึกกลิ่นหอมของสกุลหูสองชุด ที่ทบั กระดาษไม้หวงหยาง 4ของหลิ่ว 222

ฟางไจหนึ่งคู.่ ..ล้วนแต่เป็ นของหายากในสี่สิ่งลํา้ ค่าในห้องหนังสือ 5 223

อวีถ้ งั เอ่ยด้วยรอยยิม้ “ไม่ใช่กล่าวว่านายท่านเจียงไม่มีกระทั่งชุดเปลี่ยนหรอกรึ? ไฉน


จึงมีเงินก้อนโตมาซือ้ ของให้สกุลเผยได้?”
“เห็นได้ชดั ว่าแม้ตอ้ งยอมอดอยาก ก็ยงั เหลือวิธีให้ตวั เองได้พลิกสถานการณ์ลืมตาอ้า
ปากได้!” อวีเ้ หวินเอ่ยทัง้ ถอนหายใจ “ดังนัน้ พ่อจึงคิดอยากช่วยเขา!” ยังเอ่ยต่อว่า “ข้าเห็นว่า
ทุกครัง้ ที่เจ้าส่งของ นายท่านสามก็ช่ืนชอบมาโดยตลอด เจ้าก็ช่วยเขาดูรายการของขวัญหน่อย
เถิด เมื่อครูอ่ าเสากลับมาบอกว่า ผูด้ แู ลสกุลเผยพอได้รบั ขนมถั่วกรอบของพวกเรา ก็สง่ ไปเรือน
ในทันที”

2
กระดาษเสวี่ยเทา กระดาษซึง่ เป็ นที่นิยมในสมัยโบราณ
3
หมึกฮุยมัว หมึกที่ผลิตในเมืองเฮยโจวซึง่ ขึน้ ชื่อว่าเป็ นหมึกที่มีคณ
ุ ภาพดีท่ีสดุ ในสมัยราชวงศ์ซง่
4
ไม้หวงหยาง เป็ นไม้ชนิดหนึ่งของจีน เนือ้ ไม้แน่นละเอียด มักจะนํามาเป็ นวัสดุแกะสลัก
5
สี่สิ่งลํา้ ค่าในห้องหนังสือ ได้แก่พ่กู นั หมึก กระดาษ และจานฝนหมึก
1135

บทที่ 142 พูดเกลีย้ กล่อม


“หา!” อวีถ้ ังเผยสีหน้าดีใจ “จริงหรือเจ้าคะ? ขนมถั่วกรอบของพวกเราถูกส่งไปเรือน
หลังด้วย?”
เช่นนัน้ ก็หมายความว่า เผยเยี่ยนรู ส้ ึกว่าขนมอร่อย ดังนัน้ จึงส่งให้คนในครอบครัวชิม
ด้วย
อวีเ้ หวินพยักหน้า เผยความยินดีปรีดา “อาเสาก็มีไหวพริบมิใช่นอ้ ย ยังไปสืบข่าวคราว
มา กล่าวว่าตัง้ แต่นายท่านสามรับช่วงต่อสกุลเผย นี่นบั เป็ นครัง้ แรกที่เขาส่งอาหารไปยังเรือน
หลัง”
อวีถ้ งั เอ่ย “เช่นนัน้ ภายหลังพวกเราส่งของไปให้สกุลเผยก็สามารถส่งขนมถั่วกรอบไป
ด้วยได้สินะเจ้าคะ?”
เช่นนีก้ ็สามารถปวดหัวน้อยลงแล้ว
ของขวัญที่ส่งให้สกุลเผย ต้องเป็ นของที่มีความแปลกใหม่ทงั้ แฝงไปด้วยความจริงใจ
นับว่าเป็ นเรื่องยากอย่างแท้จริง
“อืม!” อวีเ้ หวินก็ดีใจไม่นอ้ ย “นี่ช่างเรียกว่าสีเขียวมีตน้ กําเนิดจากสีฟ้าแต่กลับเด่นกว่า
สีฟ้า 1จริงๆ ข้ารูว้ า่ แม่เจ้าทําขนมอร่อย แต่คาดไม่ถึงว่า เจ้าก็ทาํ ขนมอร่อยเหมือนแม่เจ้าเช่นกัน”
224

อวีถ้ งั เม้มปากแย้มยิม้ ไม่คิดจะอธิบายที่มาที่ไปของขนมถั่วกรอบนีใ้ ห้บิดาฟั งแต่อย่าง


ใด
ให้เขาเข้าใจผิดว่ามารดานางเป็ นคนสอนก็ดีแล้ว

1
สีเขียวมีตน้ กําเนิดจากสีฟ้าแต่กลับเด่นกว่าสีฟ้า อุปมาถึงศิษย์ท่เี ก่งกว่าอาจารย์
1136

อวีเ้ หวินทอดถอนหายใจ “ร่างกายของแม่เจ้านับวันก็ดีขนึ ้ เรื่อยๆ สกุลของพวกเราก็เริม่


เข้าที่เข้าทางแล้วเช่นกัน”
อวีถ้ งั ขานรับทัง้ รอยยิม้ ก่อนจะนํารายการของขวัญของเจียงเฉาขึน้ มาอีกครัง้ “พวกเรา
สองสกุลไม่เหมือนกัน ผูห้ ญิงในสกุลพวกเราได้รบั ความกรุ ณาจากสกุลเผย ไปมาหาสู่กนั ด้วย
สัมพันธไมตรีเหมือนคนในครอบครัว แต่นายท่านเจียงต้องการความช่วยเหลือจากสกุลเผย
จําต้องแสดงความสามารถให้เป็ นที่ประจักษ์ การส่งของขวัญย่อมต่างกันออกไป ท่านให้ขา้
ตัดสินใจแทนนายท่านเจียง ไม่แน่ว่าเรื่องดีอาจกลับกลายเป็ นเรื่องร้าย! ข้าว่า จะส่งของขวัญ
อะไร ให้นายท่านเจียงพิจารณาเองดีกว่า แต่ขา้ ดูรายการของขวัญนีอ้ ย่างละเอียดแล้ว แม้วา่ ให้
ข้าช่วยคิด ก็คงคิดของขวัญที่ดีกว่านีไ้ ม่ออกอีกแล้ว”
ในความคิดของอวีเ้ หวิน ของขวัญนีก้ ็ไม่อาจสร้างปั ญหาอะไร แต่เจียงเฉาไหว้วานเขา
เขาจึงกลัวว่าจะมีจดุ อะไรที่พลาดไป ดังนัน้ จึงนํามาให้อวีถ้ งั ช่วยตรวจสอบ
“เช่นนัน้ ข้าก็จะบอกเขาว่าแบบนีด้ ีแล้ว” อวีเ้ หวินนํารายการของขวัญไปหาเจียงเฉา
เจียงเฉาได้ฟังก็ขอบคุณอวีเ้ หวินด้วยรอยยิม้ ทว่ากลับขบคิดในใจ ที่แท้สกุลอวีก้ ็ไปมา
หาสูส่ กุลเผยด้วยสัมพันธไมตรีเหมือนคนในครอบครัว ไม่แปลกใจที่สง่ พวกขนมของว่าง จะเห็น
ได้ว่าความสัมพันธ์ของสกุลอวีแ้ ละสกุลเผยนัน้ ไม่ธรรมดา ไม่อย่างนัน้ ก็คงไม่ไปมาหาสูก่ นั ด้วย
สัมพันธไมตรีเช่นนีห้ รอก
เขาอดดีใจไม่ได้ แรกเริ่มคิดว่าอวีเ้ หวินเป็ นบัณฑิต ย่อมไม่เห็นแก่เงินเหมือนนายท่านอู๋
ขนาดนัน้ จึงได้เลือกสกุลอวีเ้ ป็ นที่พกั พิงแทนสกุลอู.๋ ..

ยามที่เขาได้เข้าพบเผยเยี่ยน กลับเป็ นปลายเดือนแปด


เขารอเผยเยี่ยนกว่าครึง่ เดือนเต็มๆ
1137

ยามที่เผยเยี่ยนพบเขา สีหน้ายังแฝงความอ่อนเพลียอยู่บา้ ง มองออกได้อย่างชัดเจน


เผยเยี่ยนกล่าวว่าพอกลับมาจะให้เขาเข้าพบ คาดไม่ถึงว่าจะเป็ นดังที่เผยเยี่ยนพูดจริงๆ พอ
กลับมาเขาก็ได้พบเผยเยี่ยนเป็ นคนแรก
ยามนีเ้ จียงเฉาจึงประเมินสกุลอวีไ้ ว้สงู อยู่บา้ ง
เผยเยี่ยนชอบคนพูดตรงไปตรงมา ยิ่งไปกว่านัน้ เจียงเฉาก็ไม่ได้อยู่ในจุดที่จะอ้อมค้อม
อะไรกับเขาได้
หลังจากเจียงเฉาคํานับเผยเยี่ยน ทัง้ สองคนก็แยกกันนั่งที่ของเจ้าบ้านและแขก เผย
เยี่ยนเอ่ยขึน้ ทันที “ได้ยินว่าเจ้าอยากพบข้า เพราะคดีสกุลหวังแห่งหนิงปั วรึ? คดีนีข้ า้ ได้ส่งคน
ไปสื บข่า วแล้ว ลูก ชายของสกุลหวังทํา ผิดจริง ๆ ไม่ได้ถูก ใส่รา้ ยแต่อย่า งใด แม้จะกล่าวว่า
ชาวบ้านไม่รอ้ งเรียน ทางการก็ไม่คิดสืบความ แต่คดีนีไ้ ด้ส่งให้ศาลต้าหลี่แล้ว จะรือ้ คดีขึน้ มา
ใหม่อีกครัง้ เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้ามาหาข้า ข้าก็ไม่คอ่ ยมีวิธีสกั เท่าใด”
เจียงเฉาได้ฟังกลับยิม้ ขื่นในใจ
เกรงว่าจะไม่ใช่เพราะไร้วิธี แต่เขาไม่คมุ้ ค่าพอให้สกุลเผยสิน้ เปลืองแรงกําลังเพื่อช่วย
รือ้ คดีใหม่เสียมากกว่า?
แต่ช่ วั ชีวิตนีข้ องเขาถูกเหยียดหยามเกินกว่าที่คนอื่นจะจินตนาการได้เสียอีก นับประสา
อะไรกับเผยเยี่ยนเมินเฉย ทําให้เขารูส้ กึ ว่าไม่มีคา่ ให้พดู คุยเช่นนี ้
เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม “คดีนนั้ ของเถ้าแก่หวัง ข้าก็สืบอย่างละเอียดแล้ว รูว้ ่าสกุลหวัง
เป็ นคนผิด ไม่กล้าให้นายท่านเผยช่วยกลับดําให้เป็ นขาว ข้ามาพบนายท่านเผย เพราะมีเรื่อง
อื่นอยากให้ช่วยเหลือ”
เผยเยี่ยนเลิกคิว้ มองเจียงเฉาด้วยแววตาที่จริงจังขึน้ มาหลายส่วน
1138

พูดตามตรง เขาไปสืบข่าวสกุลหวังจากหนิงปั วมาจริงๆ ข้าหลวงหนิงปั วรูว้ ่าเรื่องนีข้ อ้ ง


เกี่ยวกับสกุลเผย เวลานัน้ ก็ลาํ บากใจ กล่าวว่าคดีไปถึงศาลต้าหลี่แล้ว เขาย่อมไร้ทางที่จะรือ้ คดี
ใหม่ แต่หากเผยเยี่ยนสามารถตีคดีกลับมาให้วินิจฉัยใหม่ได้ เขาก็ยินดีท่ีจะพิจารณาคดีใหม่
เผยเยี่ยนคิดว่าตีคดีกลับมาวินิจฉัยใหม่ไม่ได้เป็ นเรื่องยากอะไร ประเด็นอยู่ท่ีสกลุหวังก็
ทําผิดเช่นกัน
ให้เขาไปช่วยรือ้ คดีใหม่ เขาย่อมไม่เต็มใจ
เขาถึงกระทั่งคิดว่า เงินหกพันตําลึงนัน้ เขาลอบชดเชยให้สกุลอวีก้ ็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่
อะไร
เพียงแต่เรื่องทางหังโจวถ่วงแข้งถ่วงขาเขาไว้ ทําให้เขาไม่อาจจัดการเรื่องนีไ้ ด้ทนั ท่วงที
ไม่คิดว่าเจียงเฉาผูน้ ีจ้ ะมีความสามารถอยู่บา้ งจริงๆ
ไม่วา่ ต่อไปเจียงเฉาคิดจะทําอย่างไร อย่างน้อยที่สดุ คําพูดเช่นนีส้ ามารถดึงความสนใจ
จากเขาได้ ก็นบั ว่าเป็ นคนที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง
ยามนีใ้ นมือเขาก็ขาดแคลนคน
เจียงเฉาเห็นว่าเกริ่นเรื่องไม่มีปัญหาอันใด จึงค่อยมั่นใจ เอ่ยต่อด้วยรอยยิม้ “คาดว่า
นายท่านสามคงทราบเรื่องที่ขา้ ทําการค้าทางทะเลแล้ว สาเหตุท่ีขา้ กล้าทําการค้าประเภทนี ้
ประการแรกสกุลของข้าเดินเรือมาหลายชั่วอายุคน ประการที่สองหลายปี มานีข้ า้ ทําการค้า
ทางหนิงปั ว เข้าใจเกี่ยวกับการค้าทางทะเลค่อนข้างมาก ถึงกระทั่งเคยเดินเรือไปซูลดู ว้ ยตัวเอง
ครัง้ หนึ่ง รูเ้ กี่ยวกับเส้นทาง ท่าเรือ จะเผชิญกับลมทะเลในยามใด ทัง้ เมื่อพบลมทะเลควรหลบ
หลีกที่ใดเป็ นอย่างดี”
เผยเยี่ยนคาดเดาได้แล้วว่าเขาจะพูดอะไร
เขาอดหยัดกายนั่งหลังตรงไม่ได้
1139

น่าสนใจไม่นอ้ ย
เจียงเฉาผูน้ ีส้ ิน้ เนือ้ ประดาตัว ยังสามารถวิ่งโร่มาเกลีย้ กล่อมเขาที่น่ีอย่างไม่เผยท่าที
ต้อยตํ่า ทัง้ ไม่เย่อหยิ่งจนเกินไป
นี่จงึ จะเรียกว่าคนมีความสามารถ!
ไม่แปลกใจที่อวีเ้ หวินและนายท่านอูพ๋ บเขาครัง้ แรก ก็ถกู เขาชักจูงทันที ไม่เพียงร่วมเงิน
ลงทุน แต่ยามที่เขาสูญสิน้ ทุกอย่างยังเต็มใจยื่นมือช่วยเหลือเขาโดยไม่ลงั เล
เผยเยี่ยนหยัดกายขึน้ มาเล็กน้อย แววตาปรากฏรอยยิม้ วาบผ่านอย่างรวดเร็ว “เจ้า
อยากพูดอะไร?”
เจียงเฉากัดฟั นเอ่ย “ข้าอยากให้นายท่านสามช่วยสนับสนุนข้าทําการค้าทางทะเล
ฤดูกาลนีเ้ ป็ นยามที่คลื่นลมทะเลสงบมากที่สดุ หากยังชักช้าต่อไป ก็ทาํ ได้เพียงรอปี หน้า ในเมื่อ
ท่านทราบเรื่องทางหนิงปั ว ย่อมรู ว้ ่าเถ้าแก่หวังไม่ได้เต็มใจทําการค้านี ้ เป็ นเพราะต้นทุนของ
พวกเรามี น ้อ ยเกิ น ไป ย่ อ มสู้กับ เรื่ อ งที่ พ ลิ ก ไปพลิ ก มาเช่ น นี ไ้ ม่ ไ หว แต่ ท่ า นไม่ เ หมื อ นกัน !
นอกจากท่านจะควบคุมสกุลเผยแล้ว ยังมีทรัพย์สินส่วนตัวในนามของตัวเองจํานวนมหาศาล
แม้จะไม่อาศัยชื่อสกุลเผย ตัวท่านเองก็สามารถทําการค้าขายทางทะเลได้เช่นกัน”
กระทั่งเขามีทรัพย์สินส่วนตัวในนามของเขาเองก็สืบมาอย่างกระจ่างชัด
เผยเยี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิม้ “เช่นนั้นเจ้ารู เ้ รื่องที่สกุลเผยและสกุลซ่งเป็ นญาติทางการ
แต่งงานหรือไม่ เจ้าถือสิทธิ์อนั ใดให้ขา้ ช่วยกัน?”

อวีเ้ หวินก็อยากรูอ้ ย่างยิ่ง เขารินนํา้ ชาให้เจียงเฉา ทัง้ ถามไปพลาง “ยามนัน้ เจ้าตอบว่า


อะไร? เจ้าทราบได้อย่างไรว่าสกุลซ่งและสกุลเผยไม่ถกู กัน?”
ยามนีเ้ จียงเฉากลับมาจากสกุลเผยแล้ว
1140

แผ่นหลังเขาชุ่มด้วยเหงื่อ เสือ้ ผ้าเปี ยกชืน้ ไม่สบายตัวเป็ นที่สดุ


เมื่อเขาเข้าประตูมา ไม่ทนั ได้ผลัดเปลี่ยนเสือ้ ผ้าก็ถกู อวีเ้ หวินที่รออยู่ตรงชานเรือนดึงตัว
เข้าไปไถ่ถามในห้องหนังสือเสียก่อน จึงทําได้เพียงอดทนไว้ “พี่อวีท้ ราบว่าสกุลเผยและสกุลซ่ง
เป็ นญาติทางการแต่งงานกลับไม่รูว้ า่ ทัง้ สองสกุลมีอะไรบาดหมางกันอย่างนัน้ รึ?”
อวีเ้ หวินไม่รูจ้ ริงๆ
เขากระอึกกระอักอยู่พกั ใหญ่ แต่ก็บอกต้นสายปลายเหตุของเรื่องไม่ได้อยู่ดี
เจี ย งเฉาอดสงสัย ในความสัม พัน ธ์ข องสกุล อวี แ้ ละสกุล เผยไม่ ไ ด้ ยามที่ เ ขากํา ลัง
ครุ ่นคิดว่าจะบอกอวีเ้ หวินดีหรือไม่ ก็เห็นซวงเถายกชาเข้ามาก่อน เขาสมองแล่นอย่างว่องไว
ลอบสํารวจความเคลื่อนไหวของซวงเถา
หลังจากซวงเถายกชาเข้ามา ก็เก็บถาดรองชา กลับไปยืนอยู่ฉากกัน้ ห้องด้านหลังมุง้
อย่างเงียบเชียบ คนที่ไม่ละเอียดรอบคอบ ย่อมไม่ทนั สังเกตว่านางก็อยู่ในห้องเช่นกัน
เจียงเฉารูว้ า่ คุณหนูอวีใ้ ห้ซวงเถาเข้ามาสืบข่าว
เขาคิดอย่างว่องไว “พี่อวีเ้ ป็ นคนหลินอัน ข้าคิดว่าพวกเจ้ารูก้ นั แล้วเสียอีก คาดไม่ถึงว่า
เรื่องที่สกุลซ่งและสกุลเผยแตกหัก ข้ากลับต้องเป็ นคนเล่าให้พวกเจ้าฟั ง”
อวีเ้ หวินยิม้ อย่างฝื ดเฝื่ อน
เจียงเฉากลับพูดอย่างนํา้ ไหลไฟดับ “ท่านแม่เฒ่าสกุลซ่งและท่านแม่เฒ่าสกุลเผย เป็ น
คุณหนูท่ีนบั ว่ามีสกุลสามีท่ียอดเยี่ยมที่สดุ ในสกุลเฉียนของพวกนาง ยามที่ท่านแม่เฒ่าสกุลเผย
แต่งออกไปที่หลินอัน ทัง้ สองสกุลก็ยงั ค่อนข้างสนิทสนม แต่ว่าเวลานัน้ สกุลซ่งมีลกู หลานสี่หา้
คนที่รบั ราชการอยู่ดา้ นนอก สกุลเผยมีนายท่านวั่งที่เป็ นจิน้ ซื่อคนเดียว เทียบกันแล้วสกุลเผย
ย่อมไม่โดดเด่นเท่าสกุลซ่ง รวมกับสกุลซ่งอยู่ในซูโจว สกุลเผยอยู่ท่ีหลินอัน เมื่อนานวันเข้า สกุล
ซ่งจึงละเลยเพิกเฉยกับสกุลเผยไปบ้าง”
“ว่ากันว่าทัง้ สองสกุลไม่ถกู กันนัน้ เริม่ ในยามที่นายท่านใหญ่สกุลซ่งแต่งงาน”
1141

“ท่านแม่เฒ่าสกุลเผยพานายท่านทัง้ สามของสกุลเผยไปดื่มสุรามงคลที่ซูโจว นายท่าน


ใหญ่เผยทะเลาะเบาะแว้งกับสหายร่วมเรียนไม่ก่ีคนของนายท่านสกุลซ่งเพราะบทประพันธ์
เรื่องหนึ่ง ภายหลังไม่รูเ้ พราะเหตุใด จึงลงไม้ลงมือกันขึน้ มา ภายในนัน้ มีคนหนึ่งที่ถกู นายท่าน
สองเผยต่อยตี”
อวีเ้ หวินเบิกตาค้างอย่างตกตะลึง
เจียงเฉาเอ่ย “เดิมทีก็แค่เรื่องไม่เป็ นเรื่อง ทุกคนอายุเพียงสิบเจ็ดสิบแปด กล่าวว่าตีกนั
ก็เพียงถูกชกไม่ก่ีหมัดเท่านัน้ พวกผูใ้ หญ่ตาํ หนิแต่ละฝ่ ายก็แล้วเสร็จกันไป ใครจะคิดว่านาย
ท่านใหญ่สกุลซ่งเป็ นพวกชอบถือหาง ทัง้ หยิ่งผยองลําพองตน พาผูต้ ิดตามไม่ก่ีคนไปดักทําร้าย
นายท่านสองในตรอกแคบ นายท่านสองเป็ นฝ่ ายเสียเปรียบ นายท่านสามจึงนําผูค้ มุ สกุลเผย
เข้าไปทําลายเรือนหอของนายท่านใหญ่สกุลซ่ง”
“เรื่องราวจึงยุง่ ยากขึน้ มาแล้ว”
“ผลปรากฏว่าท่านแม่เฒ่าสกุลเผยก็ไม่ใช่คนถือศีลกินเจ เข้าข้างลูกหลานยิ่งกว่าสกุล
ซ่ง ทิง้ ตั๋วเงินให้สกุลซ่งสองพันตําลึง ไม่ด่มื กระทั่งสุรามงคล วันนัน้ ก็พาลูกชายทัง้ สามกลับหลิน
อัน ทัน ที สกุล ซ่ ง ส่ง คนมาต่ อ ว่ า ท่ า นแม่ เ ฒ่ า เผยก็ ถื อ หางปกป้อ งลูก ชายทั้ง สามอย่ า งยิ่ ง
นอกจากไม่ขอโทษ ยังลั่นวาจา หากสกุลซ่งไม่ส่งผูต้ ิดตามที่รุมทําร้ายลูกชายออกมา สกุลซ่ง
และสกุลเผยก็อย่าได้ไปมาหาสูก่ นั อีกเลย”
อวีถ้ ังเบิกตากว้างเท่าไข่ห่าน ถามซวงเถา “คนที่ต่อยคนเป็ นนายท่านรองไม่ใช่นาย
ท่านสามอย่างนัน้ รึ?”
ซวงเถาเอ่ย “ข้าฟั งมาอย่างชัดเจน ผูท้ ่ีต่อยคือนายท่านสอง คนที่ทาํ ลายเรือนหอคือ
นายท่านสามเจ้าค่ะ”
เช่นนัน้ เหตุใดทุกคนล้วนพูดว่านายท่านรองเป็ นคนซื่อสัตย์มีเมตตา เคารพกฎเกณฑ์
กัน?
1142

ซวงเถาเอ่ยต่อ “สกุลซ่งและสกุลเผยจึงไม่ได้ไปมาหาสูก่ นั ด้วยเหตุนี ้ ภายหลังนายท่าน


ทั้ง สามของสกุลเผยสอบเป็ น จิ น้ ซื่ อ สกุล ซ่ง กลับถดถอยลงเรื่ อยๆ ยามที่ น ายท่า นรองเผย
แต่งงาน ท่านแม่เฒ่าสกุลซ่งก็มาอวยพรที่หลินอันด้วยตัวเอง เรื่องนีจ้ งึ จบกันไปเช่นนี”้
“ดังนัน้ เจียงเฉาจึงใช้ประโยชน์จากจุดนี ้ ขอร้องเบือ้ งหน้านายท่านสาม?” อวีถ้ ึงพึมพํา
“ถึงกระทั่งรับปากเจียงเฉา ให้เงินเจียงเฉาลงทุนซือ้ เรือลําใหม่ วิ่งเรือทําการค้าทางทะเลจากห
นิงปั วไปยังซูล?ู ”
ซวงเถาเอ่ย “นายท่านสามยังไม่ได้รบั ปาก เอ่ยเพียงว่าจะลองคิดดูเจ้าค่ะ”
แม้ว่าจะลองคิดดู ก็นบั ว่าเจียงเฉาเก่งกาจไม่นอ้ ย เมื่อก่อนเผยเยี่ยนเคยพูดว่า จะไม่
ทําการค้าทางทะเล เป็ นสาเหตุใดกันที่ทาํ ให้เขาเปลี่ยนแปลงความคิด?
จากความเข้าใจของนางที่มีตอ่ เผยเยี่ยน เขาไม่ใช่คนที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดง่ายๆ
อวีถ้ งั นึกถึงก่อนหน้านีท้ ่ีกฉู้ ่างมาขอเข้าพบเผยเยี่ยน ทัง้ เผยเยี่ยนที่กลับเรือนช้า...หรือ
สกุลเผยเกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรขึน้ ?
อวีถ้ งั กังวลอยู่บา้ ง ขบคิดว่าจะไปพบเผยเยี่ยนดีหรือไม่
อย่างไรเผยเยี่ยนก็ช่วยเหลือนางมากมาย ทัง้ นางยังมีประสบการณ์จากชาติก่อน หาก
สามารถช่วยเหลือเผยเยี่ยนได้ นั่นย่อมดีท่ีสดุ
1143

บทที่ 143 เข้าจวน


ยังไม่ทนั ที่อวีถ้ งั จะเข้าพบเผยเยี่ยน คนของสกุลเผยก็เป็ นฝ่ ายมาหาสกุลอวีเ้ สียก่อน
ผูท้ ่ีมาเยือนคือพ่อบ้านสามหูซิ่ง
เขาสุภาพนอบน้อมอย่างยิ่ง นั่งในห้องโถงสกุลอวีเ้ อ่ยกับอวีเ้ หวินและเฉินซื่ออย่างหน้า
บานเป็ นกระด้ง “...ท่านแม่เฒ่าของพวกเรา ไม่ได้เป็ นสตรีท่ีอยู่ในห้องหับทั่วไป ปี นนั้ ท่านผูเ้ ฒ่า
ล้มป่ วย เรื่องทัง้ หมดในสกุลล้วนมีท่านแม่เฒ่าคอยช่วยจัดการ ทัง้ นับตัง้ แต่ท่านผูเ้ ฒ่าจากไป
ท่านแม่เฒ่าของพวกเราก็ปิดประตูไม่รบั แขกอยู่เรื่อยมา แม้แต่พ่ีนอ้ งของสกุลมารดานายหญิง
ใหญ่เข้ามา ท่านแม่เฒ่าก็ออกมาพบเพียงครัง้ เดียวเท่านัน้ วันนีก้ ลับเอ่ยว่าอยากเชิญคุณหนู
ของสกุลเจ้าเข้าจวนไปนั่งเล่นพูดคุย นี่นบั เป็ นความกรุ ณาที่ใครหลายคนต่างก็ใฝ่ หา พวกเจ้า
ต้องกําชับคุณหนูอวีใ้ ห้แต่งตัวสวมเสือ้ ผ้าดีๆ ท่านแม่เฒ่าของพวกเราชื่นชอบคุณหนูหน้าตา
น่ารักเป็ นที่สดุ ”
อวีเ้ หวินคาดไม่ถงึ อย่างยิ่ง
เฉินซื่อกลับดีใจจนพูดอะไรไม่ถกู
งานแต่งของอวีถ้ ังจนถึงยามนีก้ ็ยงั ไม่มีทีท่าอะไร สกุลเผยเป็ นสกุลที่โดดเด่นที่สุดใน
เมืองหลินอัน หากอวีถ้ งั ได้รบั ความโปรดปรานจากท่านแม่เฒ่า ชื่อเสียงย่อมเป็ นที่เลื่องลือไป
ทั่ว มีผลดีตอ่ งานแต่งของนางไม่นอ้ ย
“ขอบคุณพ่อบ้านหูอย่างยิ่ง” เพราะหูซิ่งมักจะพาหมอหลวงหยางเข้ามาตรวจสุขภาพ
นาง เฉินซื่อและเขาจึงคุน้ เคยกัน ยามที่พดู คุยจึงไม่จาํ เป็ นต้องระมัดระวังเหมือนคนอื่น “พวก
เราย่อมไม่อาจทําลายความปรารถนาดีของพ่อบ้านหู ท่านนั่งพักสักครูเ่ ถิด ข้าจะให้คนเตรียม
งานเลีย้ งสุรา ให้นายท่านเราได้ด่มื สุรากับท่านสักกาสองกา”
เฉินซื่อบอกเป็ นนัยให้ปา้ เฉินไปเตรียมพวกของขวัญส่งให้หซู ิ่ง
1144

หูซิ่งโบกไม้โบกมือ “พวกเราก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล นายหญิงอวีไ้ ม่จาํ เป็ นต้องเกรงใจข้า


เช่นนี ้ ข้าได้รบั คําสั่งจากท่านแม่เฒ่า เตรียมจะไปหาทางเถ้าแก่ใหญ่ถง แต่บงั เอิญพบผูด้ แู ลมา
ส่งจดหมายให้พวกเจ้าที่หน้าประตูเสียก่อน ข้าจึงเป็ นฝ่ ายอาสารับหน้าเข้ามา ข้ายังมีธุระ
ทางด้านนัน้ รอสะสางเรื่องพวกนีเ้ สร็จแล้ว จะหาโอกาสมาเยี่ยมเยือนนายท่านอวีอ้ ีกครัง้ ”
เขาขบคิด หากครัง้ นีท้ ่านแม่เฒ่าถูกชะตากับคุณหนูอวี ้ สกุลอวีแ้ ละสกุลเผยคงจะเริ่ม
ไปมาหาสู่กนั แน่ ถึงเวลานัน้ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ตอ้ งมาประจบประแจง สานสัมพันธ์กบั สกุลอวี ้
ให้สนิทสนมขึน้ ไปอีกขัน้
อวีเ้ หวินได้ฟังก็เอ่ยด้วยรอยยิม้ “ฟั งจากพ่อบ้านหูแล้ว หรือยามนีท้ ่านอยู่คอยรับใช้
เบือ้ งหน้าท่านแม่เฒ่าแล้ว?”
หูซิ่งยิม้ จนตากลายเป็ นพระจันทร์เสีย้ ว “ท่านช่างหูตาว่องไวจริงๆ ไม่ก่ีวนั ก่อนมีโอกาส
ช่ ว ยท่ า นแม่ เ ฒ่า สะสางงาน ท่ า นแม่ เ ฒ่า เห็ น ว่า ใช้ก ารได้ จึง ให้ข้า รับ ใช้อ ยู่เ บื อ้ งหน้า นาง
โดยเฉพาะ ไม่ใช่ว่าเถ้าแก่ใหญ่ถงดูแลโรงจํานําในเมืองหลินอันหรอกรึ? อีกไม่ก่ีวนั จะเป็ นวัน
เกิดของนายหญิงใหญ่ซง่ ท่านแม่เฒ่าให้ขา้ ไปดูวา่ ทางเขามีของหายากอะไรหรือไม่ จะเลือกไป
เป็ นของขวัญสักสองสามชิน้ ”
อวีเ้ หวินไม่อาจรัง้ เขา จึงไปส่งเขาออกจากประตูดว้ ยตนเอง
ด้านเฉินซื่อกลับรีบเตรียมตัว วิ่งไปหาอวีถ้ งั บอกถึงจุดประสงค์ท่ีหซู ิ่งมา เตรียมจะดึง
นางให้ไปร้านขายเครื่องเงินด้วยกัน “ต้องไปดูเสียหน่อยว่ามีเครื่องประดับแบบใหม่บา้ งหรือไม่
ยังต้องซือ้ เสือ้ ผ้าสักสองสามตัว ข้าได้ยินมาว่า สกุลเฉียนเป็ นสกุลขุนนางมาหลายยุคสมัย เป็ น
หนึ่งในสี่สกุลใหญ่ของเจียงหนาน หากไม่ใช่ว่าท่านผูเ้ ฒ่าเผยรูปลักษณ์สง่างามจริงๆ ผูอ้ าวุโส
ของสกุลเฉียนก็คงไม่ถกู ใจท่านผูเ้ ฒ่าเผยหรอก เวลานัน้ นับว่าท่านแม่เฒ่าแต่งให้กบั สกุลที่ดอ้ ย
กว่า”
อวีถ้ งั กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
1145

ชาติก่อน ยามที่นางเพิ่งเริ่มคลุกคลีกบั พวกสตรีญาติพ่ีนอ้ งในสกุลหลี่ก็กดดันไม่นอ้ ย


ภายหลังพบว่า บางครัง้ ยิ่งเจ้าทําตัวตามปกติมากเท่าใด ก็ย่ิงจะปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม
ได้ง่ายเท่านัน้
แต่ว่าเผยเยี่ยนเห็นความสําคัญของรู ปลักษณ์ถึงเพียงนัน้ ทัง้ นับเป็ นครัง้ แรกที่นางจะ
เข้าพบสตรีของสกุลเผยอย่างเป็ นทางการ ย่อมต้องแต่งตัวให้เหมาะสมที่สุด ถือเป็ นการให้
ความเคารพท่านแม่เฒ่าเผยเช่นกัน เพียงแต่เช้าตรู ว่ นั ที่นางไปสกุลเผย ฝนกลับตกลงมาอย่าง
ไม่มีป่ี ไม่มีขลุ่ย ท้องฟ้ามืดครึม้ อยู่บา้ ง นางตัง้ ใจเลือกเสือ้ คลุมสีแดงขอบสีเหลืองอ่อนลูกพลับ
เสือ้ ตัวในคอตัง้ สีขาว เย็บไข่มกุ ขนาดเท่าเม็ดบัวเป็ นกระดุม เข้ากับต่างหูไข่มกุ คู่ท่ีสวมประดับ
ศีรษะนัน้ ปั กปิ่ นดอกบัวคู่สีเหลืองอ่อน อวีถ้ งั ที่แต่งกายเสร็จแล้วจึงสะโอดสะองสง่างามอย่าง
เห็นได้ชดั ผิวขาวกระจ่างราวหิมะ พาให้หอ้ งโถงที่มืดครึม้ เปลี่ยนเป็ นสว่างไสวขึน้ มาทันที
ป้าเฉินเอ่ยชมอย่างไม่ขาดปาก “คุณหนูของพวกเราควรแต่งตัวดีๆ เช่นนีส้ ิเจ้าคะ พวก
ท่านดูเถิด พอแต่งตัวแล้ว ราวกับเทพธิดามาจุติเมืองมนุษย์ก็มิปาน”
เฉินซื่อเม้มปากแย้มยิม้ เห็นได้ชดั ว่าคิดพ้องตรงกับคําพูดป้าเฉิน
อวีถ้ งั มองตัวเองที่ทาแป้งในกระจก ตกตะลึงไปชั่วครู ่
ชาติก่อน แต่ไหนแต่ไรนางก็ไม่เคยแต่งตัวอย่างนี ้ ทัง้ ไม่มีโอกาสได้ส่องกระจกอย่าง
ละเอียดดั่งยามนีม้ าก่อน คาดไม่ถึงว่าหน้าตานางยังงดงามไม่นอ้ ยจริงๆ ไม่แปลกใจที่ชาติก่อน
หลังจากกูซ้ ีรูว้ ่าหลี่ตวนปรารถนาในตัวนาง ทุกครัง้ ที่มองนาง แววตาจึงเผยความเกลียดชังทัง้
แฝงด้วยความอิจฉาอยู่หลายส่วน
แต่หญิงสาวย่อมมีนิสยั รักสวยรักงาม
นางแต่งตัวงดงามน่ามอง ตัวเองเห็นแล้วยังชื่นชอบ นับประสาอะไรกับคนอื่น
อวีถ้ งั นั่งหวีผมเติมแป้งอยู่หน้ากระจก มองมารดาแต้มชาดสีชมพูให้นาง ยิ่งขับให้หน้า
ตัวเองกระจ่างใสขึน้ มาอีก
1146

นางเงยหน้าส่งยิม้ ให้มารดา
เฉินซื่อลูบศีรษะนางอย่างมีเมตตา เอ่ยด้วยนํา้ เสียงอบอุน่ “เกีย้ วเตรียมพร้อมแล้ว ยาม
ที่เข้าไปจําไว้วา่ ต้องระวังคําพูดสงวนกิรยิ าให้ดี หากท่านแม่เฒ่าให้รางวัลอะไร เจ้าก็รบั ไว้อย่าง
ใจกว้าง อย่างไรภายหลังพวกเราค่อยส่งของขวัญตอบแทน ยามที่ถามเจ้า ถามอะไรก็ตอบไป
ตามนั้น ยอมให้ค นอื่ น รู ส้ ึก ว่ า หัว อ่ อ นรัง แกง่ า ย ดี ก ว่ า เห็ น ว่า ปลิ น้ ปล้อ นตลบตะแลง ไม่ มี
มารยาท เข้าใจหรือไม่?”
อวีถ้ งั ผงกศีรษะระรัว ขอบตารืน้ ชืน้ ขึน้ มา
ชาติก่อน มารดาไม่ได้มีชีวิตอยู่อบรบสั่งสอนนางจนถึงยามนี ้
ชาตินีน้ างมีทงั้ มารดาและบิดาคอยปกป้อง ย่อมสามารถใช้ชีวิตอย่างราบรื่น
นางกอดเอวมารดา กลัวว่าแป้งจะเปื ้อนเสือ้ มารดา จึงไม่ได้ฝังหน้าลงไปในอ้อมอก
เพียงโอบมารดาไว้หลวมๆ เท่านัน้
เฉินซื่อกําชับซวงเถา “ในห่อผ้าเป็ นเสือ้ ผ้าเครื่องประดับให้คณ
ุ หนูผลัดเปลี่ยน เจ้าต้อง
ดูดีๆ ไม่ใช่พอถึงยามเปลี่ยนเสือ้ ผ้ากลับไม่มีการเตรียมตัว สร้างความขบขันให้แก่คนสกุลเผย
พูดให้นอ้ ย ฟั งและมองให้มาก ในเมื่อเจ้าเข้าจวนไปกับคุณหนู ก็นบั ว่าเป็ นหน้าตาของคุณหนู
ทัง้ เป็ นหน้าตาของสกุลอวีพ้ วกเราเช่นกัน หากทําเรื่องผิดพลาด ทุกคนจะไม่ตาํ หนิเพียงเจ้า แต่
จะตําหนิสกุลอวีท้ งั้ หมด”
“ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ!” ซวงเถาแทบจะกล่าวสาบาน เอ่ยด้วยด้วยสีหน้าขึงขัง “ข้าย่อม
ไม่อาจให้คนสกุลเผยดูแคลนได้เจ้าค่ะ”
อวีถ้ งั เอ่ย “เจ้าอย่าตึงเครียดเพียงนัน้ ปกติไปสกุลเผยทําตัวอย่างไรก็ทาํ เช่นนัน้ แหละ
ปฏิบตั ิตอ่ ผูอ้ ่นื ด้วยความจริงใจย่อมดีท่ีสดุ ”
ซวงเถารับปาก แต่ยงั คงไม่ผ่อนคลายแต่อย่างใด กลับจริงจังยิ่งกว่าเมื่อครูเ่ สียอีก
อวีถ้ งั หลุดขํา ก่อนจะพาซวงเถาไปสกุลเผย โดยมีอาเสาคอยดูแลคุม้ ครอง
1147

เพราะไปเข้าพบท่านแม่เฒ่าเผย เกีย้ วจึงหยุดลงที่ประตูฉยุ ฮวา 1 225

คาดไม่ถึงว่าผูท้ ่ีมาต้อนรับจะเป็ นคนคุน้ เคย...จีต้ า้ เหนียง ผูท้ ่ีเคยมาต้อนรับนางในยาม


ที่มาเคารพศพท่านผูเ้ ฒ่าเผย
จีต้ า้ เหนียงและเถ้าแก่ถงใหญ่ยงั เป็ นสกุลที่เกี่ยวดองกันทางการแต่งงาน
อวีถ้ งั จึงรูส้ กึ สนิทสนมคุน้ เคยขึน้ ไปอีก
นางเรียก ‘จีต้ า้ เหนียง’ อย่างอ่อนหวาน
เดิมทีจีต้ า้ เหนียงยืนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ยามที่เห็นนางมุมปากก็ยกขึน้ เล็กน้อย จนเมื่อ
ได้ยินเสียงอวีถ้ งั ตะโกนเรียก ก็อดเผยรอยยิม้ ออกมาไม่ได้ เอ่ยเสียงเบา “คุณหนูอวี ้ ตามข้ามา
เถิดเจ้าคะ”
“อืม!” อวีถ้ งั ขานรับ อดเอ่ยเสียงแผ่วเบาไม่ได้ “จีต้ า้ เหนียง ยามนีท้ ่านคอยรับใช้ในห้อง
ท่านแม่เฒ่ารึ?”
จีต้ า้ เหนียงผงกศีรษะ “หลังจากท่านผูเ้ ฒ่าจากไป ท่านแม่เฒ่าก็ปลดคนจํานวนหนึ่ง
ออกไป สกุลข้าดูแลรับใช้สกุลเผยมาหลายยุคสมัย ย่อมต้องรัง้ อยู่ในจวน ท่านแม่เฒ่าจึงให้ขา้
เป็ นผูด้ แู ลจัดการในห้องของนาง”
ก็หมายความว่า เพราะปรนนิบตั ิรบั ใช้ท่านแม่เฒ่า พวกนายท่านคุณชายของสกุลเผย
เห็นนางล้วนต้องให้ความเคารพนับถือไปด้วย
“ไอหยา! ยินดีกบั ท่านด้วย!” อวีถ้ งั ดีใจแทนนาง

1
ประตูฉยุ ฮวา เป็ นประตูท่มี กั พบในเรือนแบบสี่ประสาน จะกัน้ แบ่งระหว่างลานด้านหน้าและเรือนด้านใน
1148

จีต้ า้ เหนียงส่งยิม้ ให้นาง คิดว่าคุณหนูสกุลอวีผ้ ูน้ ีน้ ิสยั ดีจริงๆ นอกจากพูดคุยกระทํา


เรื่องด้วยความอ่อนโยนแล้ว ยังมักยิม้ แย้มแจ่มใส พาให้คนชื่นชอบ นิสยั ดีกว่าพวกคุณหนูบาง
คนของสกุลเผยเสียอีก
ไม่แปลกใจที่นายท่านสามมักจะเอ่ยถึงคุณหนูอวีต้ ่อหน้าท่านแม่เฒ่าทัง้ ยามตัง้ ใจและ
ไม่ตงั้ ใจ ยังให้พวกนางที่รบั ใช้ขา้ งกายท่านแม่เฒ่าคอยโน้มน้าวให้นางรับคุณหนูอวีเ้ ข้ามาเที่ยว
เล่นในจวน
ท่านแม่เฒ่าเห็นแล้วคงจะเอ็นดูเป็ นแน่
เพราะมีคนคุน้ เคย ทัง้ พูดคุยกันไปตลอดทาง อวีถ้ ังจึงรู ส้ ึกว่าเวลาผ่านไปเร็วราวชั่ว
พริบตา
พวกนางหยุดลงหน้าเรือนใหญ่ท่ีกว้างประมาณห้าห้อง ยืนคอยอยู่ดา้ นหน้าหน้าต่าง
ลายฉลุสีดาํ ที่คลุมด้วยผ้าขาวบาง ก่อนจะมีสาวรับใช้ท่ีสวมชุดผ้าต่วนสีขาว เลิกม่านไม้เข้าไป
รายงาน
ไม่นานหญิงรับใช้วยั กลางคนสวมเสือ้ กั๊กยาวปี๋ เจี่ยผ้ากํามะหยี่ รูปร่างท้วมผิวขาวก็ยิม้
ตาหยีออกมาต้อนรับนาง “คงเป็ นคุณหนูอวีก้ ระมัง? ข้าคือเฉินต้าเหนียงที่คอยรับใช้ในห้องท่าน
แม่เฒ่า ท่านแม่เฒ่ากําลังรอท่านอยู่ รีบตามข้าเข้ามาเถิดเจ้าค่ะ”
อวีถ้ งั เห็นข้อมือของหญิงรับใช้สวมกําไลทองขนาดก้านบัว คาดว่านางคงเป็ นหญิงรับ
ใช้ท่ีมีหน้ามีตาของท่านแม่เฒ่า จึงขอบคุณนางด้วยรอยยิม้ ก่อนจะตามนางเข้าไปในห้อง
ยามนีย้ งั ไม่ถึงฤดูหนาว ในห้องของท่านแม่เฒ่าก็จุดเตาให้ความร้อนใต้เตียงเสียแล้ว
ไอร้อนวูบหนึ่งปะทะเข้ามา พาให้หน้าผากอวีถ้ งั ชืน้ เหงื่อทันที
จีต้ า้ เหนียงเอ่ยเตือนนาง “ถอดเสือ้ คลุมให้ขา้ ยามที่ทา่ นกลับค่อยมารับที่ขา้ ”
1149

อวี ถ้ ัง รีบ ถอดเสื อ้ คลุม ออก ก่ อ นจะตามเฉิ น ต้า เหนี ย งเข้า ไปในห้อ งชื่ อ เจี ย น 2ทาง
226

ตะวันออก
ห้องชื่อเจียนนัน้ ทะลุกับห้องเซาเจียน 3เป็ นโถงใหญ่ทงั้ สองห้อง ตูว้ างติดกําแพงรอบ
227

ห้องเต็มไปด้วยหนังสือตํารา ตรงกลางมีต่งั นอนตัวหนึ่ง ปูดว้ ยฟูกรองนั่งสีแดงสด ด้านซ้ายของ


ตั่งตัง้ โอ่งเครื่องเคลือบลายครามไว้หนึ่งใบ เลีย้ งบัวสายและปลาจิ๋นหลี่ ด้านหน้าโอ่งมีผหู้ ญิง
สวมเสือ้ คลุมผ้าหังโฉวเนือ้ หยาบสีอ่อน รู ปร่างสูงเพรียว เส้นผมดําขลับ มือที่ขาวซีดถือถ้วยสี
ขาวเล็กๆ กําลังให้อาหารปลาในโอ่ง
สาวใช้พวกนัน้ ค้อมศีรษะ ยืนอยู่ตรงมุมห้องอย่างเงียบเชียบ ยามที่อวีถ้ ังเดินเข้ามา
กลับมองไม่เห็นแต่อย่างใด
“คุณหนูอวีเ้ ข้ามาแล้วรึ!” หญิงคนนัน้ ได้ยินความเคลื่อนไหวก็หมุนกายกลับมา
อวีถ้ งั ตกใจอย่างยิ่ง
หญิงผูน้ นั้ หน้าตาคล้ายเผยเยี่ยนถึงห้าหกส่วน ตาคมสว่างไสว ดูเฉียบแหลมอยู่บา้ ง
ยามที่มองอวีถ้ ังก็ราวกับสามารถมองทะลุตบั ไตไส้พุง พาให้คนที่อยู่เบือ้ งหน้านางรู ส้ ึกตัวสั่น
งันงกอย่างไม่อาจหลบหลีกได้
นี่ก็คือท่านแม่เฒ่าเผยอย่างนัน้ รึ?
อวีถ้ งั ยกมุมปากขึน้ เล็กน้อย เผยสีหน้ามึนงงอยูบ่ า้ ง
แม้วา่ หางตาและหน้าผากจะมีรอยย่น แต่ดแู ล้วอย่างมากสุดก็อายุประมาณสี่สิบกว่าปี
เท่านัน้ ไม่คล้ายกับคนที่มีลกู ชายคนโตอย่างนายท่านใหญ่เผยสักนิด ยิ่งมองไม่ออกว่าเป็ นนาย
หญิงผูเ้ ฒ่าที่ครองตัวเป็ นม่ายคนหนึ่ง

2
ห้องชื่อเจียน เป็ นห้องที่อยู่ดา้ นข้างห้องหลัก
3
ห้องเซาเจียน ห้องที่อยู่ถดั จากห้องชื่อเจียน
1150

นางทําได้อย่างไรกัน!
อวีถ้ ังรู ส้ ึกว่าชาติก่อนที่ตวั เองเป็ นม่าย ยังไม่อาจมีสง่าราศีด่ งั เช่นท่านแม่เฒ่าเผยได้
เลย
ท่านแม่เฒ่าเผยเห็นก็หวั เราะ
น่าสนใจดังที่คาด
ไม่แปลกใจที่ลกู ชายนางจะวางแผนทัง้ ที่ลบั ที่แจ้งให้เรียกคุณหนูผนู้ ีเ้ ข้าจวนมาพูดคุย
เป็ นเพื่อนเล่นนาง
สาวใช้ขา้ งกายนางกลับดูปีติยินดี แต่ความปี ติยินดีนัน้ ก็ไม่รูว้ ่าจริงหรือเสแสร้ง เด็ก
สาวไม่ก่ีคนในจวนล้วนรูปลักษณ์งดงาม วาจาคมคาย แต่มกั ระมัดระวังตัวเกินไป อยากจะเอา
ใจนางกลับคิดถือเนือ้ ถือตัว ยังมิสสู้ าวใช้ขา้ งกายที่ทาํ ให้คนรูส้ กึ สบายใจกว่า
ท่านแม่เฒ่าส่งถ้วยเล็กในมือให้สาวใช้ดา้ นข้าง รับผ้าร้อนที่เฉินต้าเหนียงยื่นมาเช็ดมือ
ก่อนเอ่ยว่า “นั่งลงคุยกันเถิด!”
1151

บทที่ 144 ท่านแม่เฒ่า


นั่งลงสนทนากัน?
มีเก้าอีใ้ ห้น่งั เสียที่ไหน?
นั่งบนตั่งนอนไม้ร?ึ
ไม่คอ่ ยเหมาะสมกระมัง?
ขณะที่อวีถ้ งั ยึกยักลังเล สาวใช้ก็ยกตั่งไม้เตีย้ คล้ายกลองแกะสลักสีแดงพุทราเข้มเข้า
มาแล้ว
นางหน้าแดงเล็กน้อย ท่านแม่เฒ่า...ไม่ใช่สิ ท่าทางเช่นนีข้ องมารดาเผยเยี่ยน ไม่อาจ
ทําให้นางเชื่อมโยงกับคําว่า ‘ท่านแม่เฒ่า’ ได้เลย แต่จะให้เรียกว่านายหญิงเผยก็ไม่ถกู ต้อง จะ
เรียกว่าฮูหยินเผย ท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผยมีตาํ แหน่งเป็ นแค่จวี่เหรินเท่านัน้ ไม่อาจเรียกว่าฮูหยินได้
...ทว่านายท่านใหญ่ตายไปตอนเป็ นผูช้ ่วยเจ้ากรมโยธา ผูช้ ่วยเจ้ากรมโยธาเป็ นขุนนางขัน้ สาม
หรือเขาไม่เ คยประดับยศให้ม ารดาของตนหรือ? อย่ า งน้อยๆ ก็ คงเป็ น หรู ่เ หริน 1ลํา ดับสี่ได้
228

กระมัง?
อวีถ้ ังไม่รูว้ ่าสีหน้าของตนเองต่อสูด้ ิน้ รนเพียงใด นางค่อยงอเข่าลงเล็กน้อย ย่อกาย
คารวะทีหนึ่ง ก่อนจะนั่งหมิ่นๆ บนตั่งไม้เตีย้
ท่านแม่เฒ่าเห็นแล้วก็รูส้ กึ น่าสนใจไม่เลว
คุณ หนูอ วี ผ้ ู้นี ้ แม้อ ารมณ์ทั้ง หมดจะไม่ ไ ด้แ ขวนอยู่บ นหน้า แต่ ค นที่ ม องออกก็ ยัง
สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน

1
หรูเ่ หริน หมายถึง ภรรยาของขุนนางที่อยู่ต่าํ กว่าขัน้ เจ็ดลงไป
1152

มิ น่ า สยากวงจึง คิ ด ว่า นางน่ า สนใจ เห็ น ว่ า ตนอยู่ค นเดี ย วก็ ห ม่น หมอง จึง เรีย กให้
คุณหนูนอ้ ยผูน้ ีเ้ ข้าจวนมาช่วยนางคลายเหงา
ท่านแม่เฒ่านั่งลงบนตั่งไม้นอน เฉินต้าเหนียงยกนํา้ ชาและขนมมาให้ดว้ ยตนเอง
นางยกมือที่ถือถ้วยนํา้ ชาขึน้ เล็กน้อย เอ่ยว่า “เจ้าลองชิมดู นี่เป็ นชาฤดูใบไม้รว่ งที่ซิ่นห
ยางทางนัน้ ส่งมาให้เมื่อหลายวันก่อน ชิมดูวา่ ชอบหรือไม่?”
อวีถ้ งั จิบไปอึกหนึ่ง คิดว่ารสชาติเหมือนใบชาทั่วๆ ไป นางนึกไม่ออกว่าเป็ นชาชนิดไหน
แต่มีรสหวานติดลิน้ กลิ่นหอมสดชื่น น่าจะเป็ นชาชัน้ ดี
อากาศในห้องค่อนข้างร้อน นางจึงดื่มต่ออีกหนึ่งคํา
ท่านแม่เฒ่าเห็นก็หวั เราะ “เป็ นอย่างไร? อร่อยหรือไม่?”
แน่นอนว่าต้องอร่อยอยู่แล้ว!
คําพูดของอวีถ้ ังติดอยู่ตรงริมฝี ปาก พลันนึกถึงตอนที่มารดากําชับหนักหนาขึน้ มาได้
ก่อนจะมองราศีท่ีจับอยู่ท่ ัวร่างของท่านแม่เฒ่า คิดว่ายังมีสิ่งที่นางไม่รูอ้ ีกมาก หากคิดอวด
ฉลาดต่อหน้าท่านแม่เฒ่า ก็ตอ้ งพูดออกมาสักหลายประโยค แต่ไม่แน่ว่าจะต่อบทสนทนา
หลังจากนัน้ ได้ ต่อให้โชคดีตอบคําถามได้ แล้วประโยคต่อๆ ไปอีกเล่า?
นางตัดสินใจตอบสิ่งที่คิดไปตามจริง
“อร่อยเจ้าค่ะ” อวีถ้ งั ตอบอย่างเรียบร้อย “มีรสหวานติดปลายลิน้ ไม่รูว้ ่าเป็ นชาชนิด
ไหน? ข้าไม่คอ่ ยเข้าใจเรื่องใบชาเจ้าค่ะ”
ท่านแม่เฒ่าค่อนข้างประหลาดใจ แต่เห็นท่าทีเถรตรงของนางแล้ว ก็ลอบพยักหน้าใน
ใจอยู่ ก่อนจะเอ่ยยิม้ ๆ ว่า “ส่งมาจากซิ่นหยาง ก็ย่อมเป็ นชาเหมาเจียนแห่งซิ่นหยาง นี่เป็ นชาที่
เพิ่งเด็ดตอนฤดูใบไม้รว่ ง เรียกกันทั่วไปว่าชาชิวลู”่
อวีถ้ งั ไม่คอ่ ยรูเ้ รื่องพวกนีส้ กั เท่าไร
1153

ชาที่ใช้รบั แขกในเรือนก็มีแต่พวกหลงจิ่ง ปี ้หลัวชุน หลูซานอวิ๋นอูเ้ ทือกๆ นัน้ ชาประเภท


อื่นนางไม่คนุ้ เคย สกุลเผยมั่งคั่ง ลูกหลานรับราชการนับรุน่ สูร่ ุน่ ย่อมต้องรูจ้ กั ไปทั่วว่าพืน้ ที่ใดมี
สิ น ค้า ชนิ ดไหนขึน้ ชื่ อ อีก ทั้ง ท่า นแม่เ ฒ่าก็ เกิ ดในสกุลสูงศัก ดิ์ ย่อมมี ความรู ก้ ว้า งขวางเป็ น
ธรรมดา
ชั่วขณะหนึ่งนางมีใจอยากถามด้วยใฝ่ รู ้ จึงเอ่ยอย่างนอบน้อมว่า “ซิ่นหยางมีเพียงชา
เหมาเจียนหรือเจ้าคะ?”
ท่านแม่เฒ่าถูกคําถามทําเอาชะงักไป
ซิ่นหยางผลิตได้เพียงชาเหมาเจียนหรือไม่นัน้ นางเองก็ไม่รู ้ แต่ชาที่ส่งมาที่สกุลนาง
น่าจะมีเพียงเหมาเจียนชนิดเดียวกระมัง?
คุณหนูผนู้ ีเ้ จตนาท้าทายนาง? หรือถามเพราะไม่รูจ้ ริงๆ กันแน่?
ท่านแม่เฒ่าจดจ้องอวีถ้ งั อยู่ครูห่ นึ่ง
ดวงตาโตดั่งเมล็ดผลซิ่งสีดาํ ขาว ส่องประกายเฉกดวงดาว วิบวับจับตาไปด้วยความ
อยากรูอ้ ยากเห็น
ท่านแม่เฒ่ากระแอมเสียงอย่างรู ส้ กึ ไม่เป็ นธรรมชาติ “เรื่องนีต้ อ้ งไปถามพวกหูซิ่ง ที่ขา้
ดื่มมาตลอดหลายปี นี ้ มีเพียงเหมาเจียนเท่านัน้ ”
นั่นเป็ นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว
หากจะส่งมาให้ก็ตอ้ งส่งของที่ดีท่ีสดุ มาอยู่แล้ว
อวีถ้ งั พยักหน้ารับอย่างตรงไปตรงมา
ท่านแม่เฒ่าคิดว่าหัวข้อสนทนาไม่ควรวนเวียนอยู่กบั เรื่องในสกุลตน ไม่เช่นนัน้ จะถูก
ซักไซ้มากเกินไป จึงค่อยเอ่ยขึน้ ว่า “ได้ฟังมาว่าเจ้าทําขนมเก่ง เจ้าเชี่ยวชาญทําขนมประเภท
ไหนรึ?”
1154

อวีถ้ ังหน้าขึน้ สีแดงระเรื่อ “ท่านแม่ขา้ ทําขนมเก่งเจ้าค่ะ ข้าแค่ช่วยหยิบจับอยู่ขา้ งๆ


เท่านัน้ ไม่กล้ารับคําชมของท่านแม่เฒ่าหรอก”
ท่านแม่เฒ่าชะงักไป “ถั่วตัดกรอบที่ส่งมาคราวก่อนมิใช่ฝีมือเจ้าหรอกรึ? ข้าลองชิม
แล้วคิดว่าใช้ได้เลย”
อวีถ้ งั เริม่ ร้อนตัวนิดหน่อย
ถั่วตัดกรอบนางเป็ นคนทําก็จริง แต่นางมิใช่คนคิดค้น ก็แค่ชาติท่ีแล้วนางเคยกินมา
ก่อน ทัง้ ได้ฟังวิธีการทํามาจากผูอ้ ่นื ลองผิดลองถูกอยู่นานกว่าจะได้รสมือเช่นตอนนี ้
“ถั่วตัดกรอบนั่นข้าเป็ นคนทําเองเจ้าค่ะ” ดวงหน้านางซับสีเลือด “แต่ตอนคุมไฟ เป็ น
มารดาคอยช่วยดูอยู่ขา้ งๆ เจ้าค่ะ”
ท่านแม่เฒ่าค่อนข้างผิดหวังไม่นอ้ ย
นางเรี ย กคนมามิ ใช่ เ พราะต้อ งการกิ น ขนมถั่ว ตัด กรอบไม่ ก่ี ชิ น้ ต้อ งรู ไ้ ว้ว่า นางไม่
จําเป็ นต้องเอ่ยปากด้วยซํา้ ขอเพียงเปรยเป็ นนัยว่าต้องการกินถั่วตัดกรอบ ย่อมมีคนมากมาย
คิดประจบประแจง ส่งขนมมาให้พร้อมขอนางให้ลองชิม ที่นางตัง้ ใจอยากเจออวีถ้ งั หนึ่งเพราะ
บุตรชายยุยงหว่านล้อม นางไม่อยากหักหน้าบุตรชายและต้องการให้เขาสงบใจเสียที สอง
เพราะนับแต่นางลงจากตําแหน่งภรรยาใหญ่ของสกุลหลัก นางก็อยู่เพียงลําพังที่เรือนเหอหมิง
แม้วนั เวลาจะผ่านไปอย่างเงียบสงบ แต่นางก็ยงั ไม่คนุ้ ชินเท่าไรนัก อยากจะหาใครสักคนมาคุย
เล่นด้วย แต่วนั นีพ้ อได้เจอคุณหนูอวี ้ กลับพบว่านอกจากดวงหน้าที่เลอโฉมของคุณหนูอวีแ้ ล้ว
ไม่วา่ วาจาหรือกิรยิ าล้วนแต่ไม่มีอะไรโดดเด่นให้คนตื่นตาตื่นใจได้เลย
เช่นนัน้ ก็ด่มื ชาสักถ้วย ให้รางวัลเล็กน้อย แล้วสั่งคนส่งกลับก็พอแล้ว
ท่านแม่เฒ่าใคร่ครวญ ก่อนจะชวนคุยด้วยคําถามทั่วๆ ไปทํานองว่าอวีถ้ งั ชอบทําอะไร
ในเวลาว่าง อ่านตําราไปถึงไหนแล้ว สุขภาพของบิดามารดายังแข็งแรงดีหรือไม่
อวีถ้ งั ตอบแต่ละข้อกลับไปด้วยรอยยิม้
1155

รอยยิม้ นัน้ แผ่กระจายไปทั่วหน้า ช่างอ่อนหวานเพริศพริง้ เหนือใคร


ยิ่งพิศก็ย่งิ น่ามอง
แม่นางน้อยหลายๆ คนในจวนต่างก็เทียบชัน้ ไม่ติดเลยจริงๆ
ในบรรดาญาติท่ีเกี่ยวดองกัน ก็นบั ว่าเป็ นอันดับหนึ่งได้
แต่โฉมงามหาได้ท่วั ไป หญิงสาวที่มีสติปัญญากลับมิใช่จะพบเจอได้ง่ายๆ
ท่านแม่เฒ่าคลี่ยิม้ บางๆ คิดว่าอย่างไรก็เป็ นคนที่บุตรชายแนะนํามาให้ ย่อมมองหา
จุดเด่นสักข้อมาเยินยอนาง ให้คณ ุ หนูอวีม้ ีหน้ามีตาต่อหน้าสาวรับใช้สกั หน่อย ภายภาคหน้า
เมื่อมาเยือนสกุลเผยคนจะได้มองนางด้วยสายตาที่สงู ขึน้
นางเห็นแวบเดียวก็สะดุดตากับดอกไม้ผา้ จางหรง 2รูปดอกบัวแฝดบนผมอวีถ้ งั ทันที
229

“ดอกไม้น่ นั ประณีตไม่เลว” ท่านแม่เฒ่าเอ่ยยิม้ ๆ “ซือ้ มาจากซูโจวกระมัง? หรือว่าเมือง


หลินอันตอนนีก้ ็ขายดอกไม้ผา้ แบบซูโจวแล้ว?”
อวีถ้ ังยกมือลูบดอกไม้ผา้ ที่ติดอยู่ขา้ งศีรษะด้วยรอยยิม้ “ข้าทําเองเจ้าค่ะ ทว่าเลียบ
แบบรูปทรงของซูโจว ท่านแม่เฒ่าสายตาแหลมคมยิ่งนัก”
“อ้อ!” ท่านแม่เฒ่าพลันเกิดความสนใจทันที “คิดไม่ถึงว่าฝี มือจะประณีตเพียงนี”้
นางเองแค่ปักผ้าเช็ดหน้ายังปั กให้ดีไม่ได้ จึงค่อนข้างชมชอบหญิงสาวที่ฝีมือทางด้านนี ้
เป็ นพิเศษ
อวีถ้ งั เอ่ยอย่างกระดากว่า “ไม่นบั ว่ามีฝีมือหรอกเจ้าค่ะ แค่หาอะไรทําเล่นๆ ตอนช่วง
ว่างก็เท่านัน้ ” พูดจบก็ลองหยั่งเชิงว่า “ถ้าท่านคิดว่าสวยดี ข้าจะกลับไปทําให้สกั หลายดอก ไม่รู ้
ว่าท่านชอบสีแบบไหน? รู ปทรงเช่นไร? ข้ายังทําพวกผึง้ หรือไม่ก็ผีเสือ้ ได้ดว้ ย แล้วติดมันไว้บน

2
จางหรง เป็ นผ้าไหมพืน้ เมืองของเจียงซู นิยมนํามาตัดเย็บเสือ้ ผ้า ทําเป็ นหมวก หรือใช้ประดับตกแต่ง
1156

ดอกไม้ เอาอย่างนีด้ ีกว่า ข้าจะทําแยกมาให้ท่านสักหลายชิน้ สามารถใช้ติดบนเสือ้ ก็ยงั ได้ ข้า


คิดว่าน่าสนใจไม่เลวเลย”
“เจ้าทําของพวกนีเ้ ป็ นอย่างนัน้ รึ?” ท่านแม่เฒ่าเอ่ยอย่างแปลกใจ “ติดไว้บนเสือ้ ? ติด
อย่างไร?”
อวีถ้ งั อธิบายให้นางฟั งอย่างละเอียด “อย่างเช่นแมลงปอ สามารถทําขนาดให้เท่าตัว
จริงของมันได้ จากนัน้ ก็ใช้ลูกแก้วทําเป็ นดวงตา ผ้าโปร่งทําเป็ นปี ก เย็บติดกับพู่ แล้วใช้เป็ น
เครื่องประดับเสือ้ ได้เจ้าค่ะ”
ท่านแม่เฒ่าได้ฟังก็รูส้ กึ สนใจเป็ นอย่างยิ่ง “นอกจากของพวกนีแ้ ล้ว เจ้ายังทําอะไรเป็ น
อีก?”
อวีถ้ งั ยิม้ พร้อมเอ่ยว่า “เครื่องประดับผมข้าทําเป็ นเกือบหมด ข้ายังเคยทําผ้าคาดผมที่
สลักรูปกุหลาบหินให้มารดาด้วยเจ้าค่ะ”
ผูเ้ ป็ นม่ายไม่อาจแต่งตัวเพริศพริง้ จนเกินไป แต่ขอเพียงเป็ นคนที่รกั สวยรักงาม ไม่มี
ทางที่จะไม่แต่งตัวสักหน่อยได้หรอก
ท่านแม่เฒ่าเอ่ยว่า “เช่นนัน้ เจ้าก็ทาํ ดอกไม้ผา้ สีเรียบให้ขา้ สักหลายดอกเถอะ อีกสอง
สามวันก็จะถึงเทศกาลฉงหยาง 3แล้ว พวกหลานๆ ในสกุลจะมาเยี่ยมคารวะข้า” พูดจบ นาง
230

พลันนึกได้ว่าวันนีเ้ ป็ นวันที่หา้ เดือนเก้าแล้ว กลัวจะไม่ทนั การ จึงหัวเราะแล้วบอกว่า “ส่งให้ขา้


ก่อนวันที่หนึ่งเดือนสิบก็แล้วกัน ถึงเวลานัน้ ข้ากับสองพี่นอ้ งฉี่หมิงและสยากวงค่อยไปทําพิธีให้
บิดาพวกเขาที่วดั เจาหมิงเสียหน่อย”
สิน้ เสียง ดวงตาของนางพลันหม่นแสง แล้วถอนหายใจออกมาเสียงแผ่วเบา
กรอบตาของอวีถ้ งั เห่อร้อน

3
เทศกาลฉงหยาง หรือวันผูส้ งู อายุ ตรงกับวันที่ 9 เดือน 9 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน
1157

คิดถึงตอนนัน้ นางกับหลี่จวิน้ ไม่ได้มีความรู ส้ ึกต่อกัน ตอนที่นางต้องอยู่เป็ นม่ายใน


สกุลหลี่แล้วคิดถึงหลี่จวิน้ ซึ่งมาด่วนจากไป นางเองก็ทอดถอนใจแทนบิดามารดาของหลี่จวิน้
ทุกครัง้ ท่านแม่เฒ่าครองคู่กบั ท่านผูเ้ ฒ่ามาสามสิบกว่าปี มีบุตรชายด้วยกันอีกสามคน บัดนี ้
พอระลึกถึงสามีท่ีตายจากไป ไม่รูใ้ นใจจะปวดร้าวสักเพียงไหน!
นางรีบโพล่งขึน้ ว่า “ตอนข้าว่างก็จะชอบทําดอกไม้ผา้ เจ้าค่ะ ที่เรือนยังมีอีกหลายดอกที่
ใกล้เสร็จแล้ว ข้าจะสั่งคนถือมาให้ท่านดูก่อน รอผ่านเทศกาลฉงหยางไป ข้าค่อยทําแบบสวยๆ
ให้ทา่ นอีกสักหลายๆ ดอก”
เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับโอกาสต่างๆ ก่อนหน้านีอ้ วีถ้ งั ได้ทาํ ดอกเบญจมาศสีเขียวเข้ม
กับสีชมพูเอาไว้ สีชมพูไม่เหมาะกับกาลเทศะ แต่ท่านแม่เฒ่าน่าจะใช้สีเขียวเข้มได้กระมัง?
นางเอาแต่ใคร่ครวญอยู่เงียบๆ
้้ า “ถ้าเจ้าไม่มีเวลา ก็ให้บ่าวถือมาก็พอแล้ว แต่ถา้ เจ้าว่างอยู่ ก็ถือ
ท่านแม่เฒ่าเอ่ยขึนว่
ดอกไม้ผา้ มานั่งเล่นกับข้าที่น่ี จะได้คยุ เล่นเป็ นเพื่อนข้าด้วย”
อวีถ้ งั รับคําอย่างนอบน้อม พลางคิดว่าสยากวงเป็ นชื่อรองของเผยเยี่ยน เช่นนัน้ ฉี่หมิง
น่าจะเป็ นชื่อรองของนายท่านรองเผยเซวียนกระมัง ไม่รูว้ ่าวันที่หนึ่งเดือนสิบพวกเขาจะไปจุด
ธูปไหว้ท่านผูเ้ ฒ่าสกุลเผยด้วยหรือไม่?
นางคุยเป็ นเพื่อนท่านแม่เฒ่าอยู่ท่ีจวนสกุลเผยอีกพักหนึง่ เห็นว่าหญิงรับใช้เข้ามาแจ้ง
ความเป็ นนัยๆ กับท่านแม่เฒ่า จึงรีบลุกขอตัวกลับ
ท่านแม่เฒ่าไม่ได้รงั้ นางไว้ บอกนางว่าถ้าทําดอกไม้ผา้ เสร็จแล้วให้สง่ มาที่จวน ทัง้ ชีไ้ ป
ทางจีต้ า้ เหนียงแล้วพูดว่า “ต่อไปมีเรื่องอะไรก็ไปหานางได้”
อวีถ้ งั รับคําด้วยความเคารพ ก่อนจะเดินตามจีต้ า้ เหนียงออกจากลานเรือนของท่านแม่
เฒ่า
1158

จีต้ า้ เหนียงเพิ่งจะแสดงสีหน้ายินดีแล้วเอ่ยกับนางว่า “คุณหนูอวีช้ ่างโชคดีนกั ท่านแม่


เฒ่าของพวกเราไม่ได้เชิญคุณหนูสกุลใดมาเยือนถึงจวนหลายปี แล้ว ท่านกลับไป อย่าลืมบอก
กับมารดาไว้สกั คํานะเจ้าคะ”
ต่อไปไม่วา่ อวีถ้ งั จะทําอะไรล้วนจะมีคนคอยช่วยเหลือแล้ว
เพราะอวีถ้ งั อาศัยเส้นสายของเผยเยี่ยนจนเคยตัวเสียแล้ว ได้ยินดังนัน้ ก็ไม่ได้คิดเป็ น
อื่น นึกว่าจีต้ า้ เหนียงเพียงดีใจกับนางที่ทาํ ให้ท่านแม่เฒ่าชื่นชอบได้ก็เท่านัน้ จึงส่งยิม้ ให้แล้ว
กล่าวขอบคุณจีต้ า้ เหนียง ก่อนจะกลับไปเล่าให้มารดาของตนฟั ง
เฉินซื่อปลืม้ ปริ่มจนพูดไม่ออก สั่งนางเสียงให้ไปหยิบดอกไม้ผา้ ที่ทาํ เสร็จแล้วออกมา
พยายามเลือกสีเรียบง่ายไปส่งที่จวนสกุลเผย ทัง้ เชิญคนตัดเสือ้ มาถึงเรือน เพื่อเย็บชุดที่สภุ าพ
ให้อวีถ้ งั อีกหลายตัว “ไปเยือนเรือนผูอ้ ่ืนครัง้ แรก แต่งตัวเป็ นทางการหน่อยนับว่าให้เกียรติเขา
หากว่าไปมาหาสู่กนั อยู่แล้ว ก็ตอ้ งหลิ่วตาตาม ไปพบท่านแม่เฒ่าไม่ควรสวมเสือ้ ผ้าสีฉูดฉาด
เกินไป”
อวีถ้ งั รูส้ กึ ว่าท่านแม่เฒ่าก็เหมือนกับเผยเยี่ยน มิใช่คนที่จะใกล้ชิดกับใครง่ายๆ ตนเอง
นัน้ จู่ๆ ก็ได้รบั ความสนใจเพราะดอกไม้ผา้ ไม่แน่ว่าสักวันอาจถูกเขี่ยทิง้ คิดว่าไม่จาํ เป็ นต้องตัด
เสือ้ ผ้าชุดใหม่เพื่อเรื่องนีโ้ ดยเฉพาะ แต่เฉินซื่อไม่ฟังนาง บอกว่าต่อให้ผ่านช่วงนีไ้ ปแล้วท่านแม่
เฒ่าหมดความสนใจต่อนาง อย่างน้อยก็มีเสือ้ เพิ่มมาอีกหลายตัวให้เปลี่ยนใส่ นับว่าเป็ นเรื่องดี
วันยังคํ่า
นางไม่เถียงกับมารดาต่อ ขอเพียงมารดาสุขใจก็ใช้ได้แล้ว
อวีถ้ งั เลือกดอกไม้ผา้ ที่รูปทรงสวยออกมาจากกล่องหลายดอก แล้วนํามันเปลี่ยนมาใส่
ในกล่องกลมแกะสลักลงรักสีแดง จากนัน้ ก็เดินทางไปจวนสกุลเผย
1159

บทที่ 145 ดอกไม้ผ้า


จีต้ า้ เหนียงยังรอรับอวีถ้ งั ที่ประตูชนั้ สองเหมือนกับครัง้ ก่อน แล้วเดินเป็ นเพื่อนนางมุ่ง
หน้าไปยังเรือนของท่านแม่เฒ่า
ระหว่างทาง นางก็เอ่ยเสียงเบากับอวีถ้ งั ว่า “นายหญิงใหญ่กบั นายหญิงรองมาคารวะ
ท่านแม่เฒ่าเจ้าค่ะ ต้องลําบากคุณหนูอวีไ้ ปรอที่หออุน่ ก่อน”
ผูอ้ าวุโสท่านอื่นมาแสดงความกตัญ�ู นางไม่สมควรเข้าไปเสนอหน้า เป็ นจีต้ า้ เหนียง
เกรงใจกันมากไป ถึงเอ่ยวาจาน่าฟั งเช่นนี ้
อวีถ้ ังนึกถึงครัง้ ที่นางมาจวนสกุลเผยแล้วเจอนายหญิงใหญ่เข้า คิดถึงข่าวลือตอนที่
เผยเยี่ยนเพิ่งจะมารับช่วงต่อสกุลเผย นางยิม้ แฉ่งตอบรับ พลางเลี่ยงไปพูดเรื่องอื่นว่า “จีต้ า้
เหนียง พรุง่ นีก้ ็เข้าเทศกาลฉงหยางแล้ว เหตุใดในจวนยังไม่ประดับดอกเบญจมาศเล่า?”
เทศกาลฉงหยางเป็ นช่วงที่ดอกเบญจมาศเบ่งบานได้งามที่สดุ พอดี คนแถบเจียงหนาน
ชมชอบดอกไม้ ต่อให้เป็ นบ้านที่ไม่มีอะไรจะกิน ก็ตอ้ งปลูกดอกเบญจมาศไว้สกั สองกอเพื่อ
เตรียมไว้ใช้กบั เทศกาลเช่นนี ้ อีกอย่าง สกุลใหญ่โตเช่นสกุลเผย หากไม่ประดับดอกเบญจมาศ
ม่วงสักหลายต้นหรือจัดกองภูเขาเบญมาศสักลูกออกมา คงต้องอับอายเกินกว่าจะบอกใครว่า
เป็ นการฉลองเทศกาลฉงหยางกระมัง
ใครจะคิดว่าวาจานีพ้ ดู ออกไปอย่างไม่สมควร
สีหน้าของจีต้ า้ เหนียงเปลี่ยนเป็ นกระอักกระอ่วน “เพราะนายท่านสามไม่ชอบดอกไม้
เจ้าค่ะ ตัง้ แต่ท่ีท่านผูเ้ ฒ่าจากไป ท่านแม่เฒ่าก็ไม่ร่าเริงนัก ไม่มีกะใจจะชื่มชมดอกไม้ใบหญ้า
อีก พวกเราที่เป็ นเพียงบ่าวรับใช้ ก็ไม่อาจคิดเองทําเองได้เจ้าค่ะ”
มารร้ายตัวน้อยในใจของอวีถ้ ังค่อยปาดเหงื่อ เอ่ยเป็ นพัลวัลว่า “ก็เป็ นเช่นนัน้ จริงๆ
แหละ สองปี ก่อนตอนที่มารดาข้าร่างกายไม่แข็งแรง พวกเราก็ไม่มีอารมณ์มาฉลองเทศกาล
หรอก พวกขนมต่างๆ ทัง้ ขนมแห้วเอย ขนมตังเมเกล็ดหิมะเอย ล้วนแต่ซือ้ มาจากตลาดทัง้ สิน้ ”
1160

ไม่รูว้ ่าคําไหนในประโยคนีเ้ อ่ยได้ตรงใจจีต้ า้ เหนียงเข้า นางจึงเอ่ยอย่างทอดถอนใจว่า


“นั่นสิเจ้าคะ นับจากที่ท่านผูเ้ ฒ่ามาจากไป ท่านแม่เฒ่าก็เหมือนฟ้าถล่มลงมา คนที่แต่ก่อนรัก
สวยรั ก งามถึ ง เพี ย งนั้ น ช่ า งที่ ร ้า นเครื่ อ งทองแทบจะมาที่ จ วนทุ ก ฤดู ใ นหนึ่ ง ปี เพื่ อ ทํา
เครื่องประดับให้ท่านแม่เฒ่า แต่ปีนีแ้ ม้เสือ้ สักตัวก็ยงั ไม่ได้ตดั ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึงเครื่องประดับเลย
หลายวันก่อนหน้านีก้ ็เพิ่งครบรอบวันตายหนึ่งปี ของท่านผูเ้ ฒ่าไป นายท่านรองกล่อมท่านแม่
เฒ่าอยู่หนึ่งวันเต็มๆ อารมณ์ของท่านแม่เฒ่าจึงค่อยกระเตือ้ งขึน้ มาบ้าง” พูดถึงตรงนี ้ นางก็หนั
ไปมองสาวใช้ท่ีนาํ ทางอยู่เบือ้ งหน้า แล้วกดเสียงตํ่าเพื่อเตือนอวีถ้ งั ว่า “อีกเดี๋ยวตอนท่านไปพบ
ท่ า นแม่ เ ฒ่ า ขอเพี ย งทํา ให้ น างอารมณ์ ดี ใ ห้ไ ด้ก็ พ อ หากทํา ให้ น างคิ ด ตั ด ชุ ด หรื อ ทํา
เครื่องประดับได้ คนทัง้ จวนไม่มีใครหน้าไหนจะไม่สาํ นึกบุณคุญท่านเลยเจ้าค่ะ”
อวีถ้ งั กระพริบตาปริบๆ
รูส้ กึ ว่าผูอ้ ่นื ไม่ได้ช่ืนชอบถั่วตัดกรอบของนางจริงๆ เสียแล้ว แต่เพราะต้องการหาคนมา
หยอกล้อพูดคุยกับท่านแม่เฒ่ามากกว่า!
แต่ฟังๆ แล้วนายท่านรองก็เหมือนกับข่าวลือที่แพร่ไปทั่ว ว่าเป็ นลูกกตัญ�ูคนหนึง่ แล้ว
เผยเยี่ยนไปอยู่ไหนเสียเล่า? เหตุใดเขาไม่มากล่อมท่านแม่เฒ่าบ้าง?
คนทัง้ จวนล้วนสํานึกบุญคุณนาง แล้วนายหญิงใหญ่ผนู้ นั้ จะซาบซึง้ ด้วยหรือไม่?
อวีถ้ งั นั่งอยู่ในหออุน่ พลันได้พบกันคนคุน้ เคยอีกครัง้ ...เล่ยจือ
นางลุกขึน้ ยืนด้วยความดีใจ “เจ้าจําข้าได้หรือไม่?”
เล่ยจือส่งยิม้ ให้นาง เอ่ยว่า “ตอนที่ท่านมาคราวก่อนข้าก็เห็นท่านแล้วเจ้าค่ะ แต่วนั นัน้
ข้าต้องเฝ้าเวรอยู่ท่ีหอ้ งนํา้ ชา จึงไม่ได้เข้าไปทักทายท่าน”
อวีถ้ ังเห็นว่านางอยู่ในชุดเสือ้ กั๊กยาวปี๋ เจี่ยผ้าไหมหังโจวสีฟ้า มือประคองถาดวาด
ลวดลายสีแดงรูปทรงดอกไห่ถงั คนดูกระปรีก้ ระเปร่ายิ่ง นางเอ่ยพร้อมรอยยิม้ ว่า “ไม่คิดว่าเจ้า
จะมาอยู่ขา้ งกายท่านแม่เฒ่าเช่นกัน”
1161

เล่ยจือหัวเราะ “ข้ามาอยู่ได้เกือบปี แล้ว แต่ก็ยงั ต้องเรียนรูก้ ฎระเบียบอยู่ นี่อย่างไรเจ้า


คะ พอเห็นท่านมา ข้าก็หาข้ออ้างแวบออกมาเลย”
สองคุยสนทนากันอย่างออกรส อวีถ้ งั ได้ฟังเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับสกุลเผย
อย่างเช่นว่า ท่านแม่เฒ่าไม่ใช่คนที่ชอบวางกฎระเบียบมากมายให้เหล่าสะใภ้ แต่ก่อน
ตอนที่ท่านผูเ้ ฒ่าอยู่ นายหญิงทัง้ สองก็จะติดตามสามีออกไปรับตําแหน่งด้วย หลังจากที่ท่านผู้
เฒ่าเสียไป ท่านแม่เฒ่าก็ส่งั งดตารางปรนนิบตั ิพอ่ แม่สามีของนายหญิงใหญ่ ส่วนนายหญิงรอง
ให้มาคารวะทุกวันที่หนึ่งและสิบห้าของเดือนเท่านัน้ วันนีท้ งั้ นายหญิงใหญ่และนายหญิงรอง
ต่างก็มาหา เพราะใกล้จะถึงเทศกาลฉงหยางแล้ว แต่ท่านแม่เฒ่ากลับเพิ่งบอกว่าจะไม่จดั งาน
เพราะต้องไปค้างแรมที่วดั สองวัน นายท่านรองโน้มน้าวอย่างไรนางก็ไม่ฟัง จะให้นายหญิงรอง
ติดตามไปรับใช้ท่านแม่เฒ่าด้วย ท่านแม่เฒ่าก็ไม่ยอมรับปาก นายหญิงใหญ่กบั นายหญิงรอง
จึงได้แต่พาลูกหลานมาคารวะท่านแม่เฒ่าล่วงหน้า
แล้วท่านแม่เฒ่าจะให้นางเข้าพบหรือไม่?
อวีถ้ งั พลันสะดุง้ ตกใจ โพล่งถามไปว่า “ท่านแม่เฒ่าจะเดินทางวันไหนน่ะ?”
เล่ยจือตอบว่า “พรุง่ นีเ้ ช้าก็ออกเดินทางแล้วเจ้าค่ะ ไปที่วดั เจาหมิง” พูดจบ ก็เม้มปาก
แล้วหัวเราะเบาๆ “ไม่อย่างนัน้ หน้าที่ชงชาจะตกมาถึงข้าได้อย่างไรเล่า? พวกพี่สาวในเรือนท่าน
แม่เฒ่าต่างก็วนุ่ วายกับการเก็บสัมภาระอยู่น่ะเจ้าค่ะ!”
อวีถ้ งั รูส้ กึ ว่านางเลือกมาไม่ถกู จังหวะเท่าไรนัก
ใครจะรู ว้ ่าความคิดนีเ้ พิ่งจะโผล่ขึน้ ทันใดก็มีสาวใช้ดวงหน้ากลมมน ท่าทางว่านอน
สอนง่ายเลิกม่านโผล่เข้ามา แล้วส่งยิม้ ให้นางพลางย่อกายคารวะ “คุณหนูอวี ้ ท่านแม่เฒ่ารูว้ ่า
ท่านมาหา ให้ขา้ มาเชิญท่านเข้าไปเจ้าค่ะ!”
เล่ยจือแนะนําให้อวีถ้ งั รูท้ นั ทีวา่ “นี่คือพี่เจินจูท่ีอยู่ในเรือนท่านแม่เฒ่าเจ้าค่ะ”
1162

สาวใช้นางนีด้ จู ะเด็กกว่าเล่ยจือด้วยซํา้ หากมิใช่เกิดมาพร้อมดวงหน้าอ่อนวัย ก็ตอ้ ง


เป็ นสาวใช้ขา้ งกายชัน้ หนึ่งของท่านแม่เฒ่า จึงเรียกว่าพี่สาวด้วยต้องการให้เกียรติ
ทว่า ชื่อว่าเจินจูนีช้ ่างตัง้ ได้สมกับเจ้าของตัวเสียจริง หน้าตาของนางกลมอิ่มทัง้ ไม่ขาด
ความอ่อนโยนแม้แต่นอ้ ย
อวีถ้ งั ก็เรียกตามเสียงหนึ่งว่า “พี่เจินจู”
เจินจูตกใจจนถอยหลังไปครึง่ ก้าว เอาแต่พดู ว่าไม่กล้ารับๆ แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าซับเลือด
ว่า “เป็ นสิ่งที่ทุกคนล้อเล่นกันเท่านั้น คุณหนูอวีอ้ ย่าคิดเป็ นจริงเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเฉิ นต้า
เหนียงต้องลงโทษข้าแน่เจ้าค่ะ”
อวีถ้ งั ไม่รูต้ ืน้ ลึกหนาบางในเรือนท่านแม่เฒ่า จึงไม่ถามซอกแซกมากความ เพียงยิม้ ให้
แล้วบ่ายเบี่ยงไปเรื่องอื่น จากนัน้ ค่อยเดินตามเจินจูไปที่หอ้ งของท่านแม่เฒ่า
ท่านแม่เฒ่าท่าทางสดชื่นไม่เลว นางกวักมือเรียกอวีถ้ งั ขณะนั่งอยู่บนตั่งไม้ยาว “ถือมา
ให้ขา้ ดูสิ เจ้านําดอกไม้ผา้ แบบไหนมาบ้าง”
นายหญิ งใหญ่ กับนายหญิ งรองกลับไปหมดแล้ว ถ้วยชาและจานผลไม้ต่างๆ ก็ยก
ออกไปเช่นกัน แต่ต่ งั ไม้เตีย้ หลายตัวยังวางอยู่ขา้ งๆ ตั่งไม้ยาว ไม่รูเ้ ก็บเข้าที่ไม่ทนั หรือเพราะ
ต้องการจะวางทิง้ ไว้กนั แน่
อวีถ้ งั เดินเข้าไปคารวะท่านแม่เฒ่าพร้อมรอยยิม้ แล้วนั่งลงบนตั่งไม้เตีย้ ที่อยู่ใกล้ท่าน
แม่เฒ่ามากที่สดุ ตามการบุย้ ใบ้ของสาวใช้ ก่อนจะยื่นกล่องที่อยู่ในมือให้เจินจู
เจินจูเปิ ดกล่องออก แล้วหยิบดอกไม้ผา้ ที่อยู่ดา้ นในส่งให้ท่านแม่เฒ่า
ท่านแม่เฒ่าได้เห็นดวงตาพลันสว่างวาบทันที
บนผ้าสักหลาดแดงเข้มมีดอกซานฉาสองดอก เบญจมาศสองดอก อวีจ้ านสองดอก
อวีห้ ลันสองดอก ขนาดประมาณปากถ้วยชา ทําจากผ้าจางหรงซึ่งคนเห็นแล้วรูส้ กึ อบอุ่นยิ่งนัก
1163

ในฤดูกาลเช่นนี ้ กลีบดอกซ้อนทับหลายชัน้ คล้ายของจริง หากไม่ได้รูก้ ่อนแต่แรกคงเข้าใจผิดว่า


เป็ นดอกไม้จริงได้ง่ายๆ
“นี่มันช่าง…” ท่านแม่เฒ่าหยิบดอกซานฉาขึน้ มาพิจารณาอย่างละเอียด “ครัง้ ก่อน
ดอกบัว แฝดที่ ติ ด บนผมเจ้า คิ ด ว่า สวยมากแล้ว ไม่ นึ ก ว่า พวกนี จ้ ะงดงามยิ่ง กว่า เจ้า ทํา ได้
อย่างไร?”
อวีถ้ ังตอบยิม้ ๆ “ความจริงที่ขายอยู่ดา้ นนอกไม่ดอ้ ยไปว่าของข้าเลยเจ้าค่ะ เพียงแต่
ข้างนอกตัง้ ใจทําสิ่งนีข้ นึ ้ มาโดยเฉพาะ ต่างจากข้าที่ทาํ มันเพื่อฆ่าเวลาให้ผ่านไป จึงสามารถทํา
ให้สวยเหมือนของคนอื่นได้ ท่านแม่เฒ่าคงคิดว่าข้าฝี มือยอดเยี่ยม แต่ความจริงต่างก็ฝีมือ
ไล่เลี่ยกันเจ้าค่ะ”
ท่านแม่เฒ่าพยักหน้า ทันใดก็รอ้ ง “เอ๊ะ” แล้วลูบที่กลีบดอกซานฉาในมือนานสองนาน
จากนัน้ ก็หนั ไปทางอวีถ้ งั
ครัง้ นี ้ สายตาที่มองอวีถ้ งั มีความจริงจังเพิ่มขึน้ หลายส่วน ทําเอาอวีถ้ งั ตื่นตกใจ รีบพูด
ประจบว่า “มี มีอะไรหรือเจ้าคะ?”
ท่านแม่เฒ่าได้ยินก็ฉีกยิม้ กว้าง
รอยยิม้ นั้น คล้ายกับหิมะที่หลอมละลาย บรรยากาศรอบตัวนางพลันเปลี่ยนอบอุ่น
สบายตัวขึน้ มาทันที
“ดอกไม้ผา้ ของเจ้าทําได้ประณีตมาก” นางกล่าว รอยยิม้ บนหน้ากระจายไปทั่วจนถึง
ดวงตา มิเหมือนกับตอนที่นางมาครัง้ ก่อน ที่เป็ นรอยยิม้ บางเบาประดับบนริมฝี ปากเท่านัน้
“ก่อนหน้าข้าคิดว่ามันแค่เหมือนของจริง เมื่อครูเ่ พิ่งจะสังเหตเห็น ผ้าจางหรงที่เจ้าใช้ทาํ ดอกไม้
จะมีขนสัน้ กว่าผ้าจางหรงทั่วๆ ไป ทําให้ดอกดูชิดติดแน่น กลีบดอกสมจริงเพราะมีทงั้ ความหนา
และราบเรียบมันวาว เจ้าทําออกมาได้อย่างไร? ใช้กรรไกรตัดแต่งใหม่อีกครัง้ ? หรือว่าใช้วิธีอ่ืน
นอกจากนี?้ ”
1164

นางถามขึน้ มาอย่างสนอกสนใจ
อวีถ้ งั ใจเต้นแรงขึน้ มาทันที ชั่วขณะพลันรูส้ กึ ถึงความยินดีท่ีมอบของขวัญให้ถกู คน
“ท่านเห็นแล้วหรือเจ้าคะ!” นางหัวเราะ “แต่ก่อนตอนที่ทาํ ดอกไม้ผา้ ข้าก็เอาแต่คิดว่า
จะทําอย่างไรให้แตกต่างจากผูอ้ ่นื หากไม่เพิ่มนํา้ ค้างที่กลีบดอกก็จะเพิ่มแมลงปออะไรพรรค์นนั้
บางทีก็จะใช้ลกู แก้วมาทําเป็ นลูกตาด้วย แต่ภายหลัง ยิ่งรูส้ กึ ว่าการทําให้ ‘สมจริง’ ต่างหากเป็ น
สิ่งที่ยากที่สดุ บุปผาตอนเที่ยงวันบานเช่นไร บุปผาตอนช่วงเช้าบานแบบไหน บุปผาตอนช่วงคํ่า
จะเปลี่ยนเป็ นอย่างไร…ตอนที่ขา้ ทําดอกซานฉาไม่เพียงซือ้ ผ้าจางหรงชัน้ เยี่ยม ซํา้ ยังคิดหาวิธี
ตัดขนของผ้าให้สนั้ ขึน้ …แต่หากตัดสัน้ เกินไป ก็อาจจะเห็นพืน้ ผ้าด้านในได้…ครัง้ หนึ่งข้าไป
เมืองซูโจว จึงได้ขอคําชีแ้ นะจากเด็กในร้านแพรไหม…แล้วสั่งจองผ้าไว้พบั หนึ่ง…ราคาออกจะ
สูงอยู่หน่อย แต่วา่ ใช้ทาํ ดอกไม้แล้วทุกคนพูดเป็ นเสียงเดียวกันว่าเหมือนจริงยิ่ง…สองดอกที่อยู่
ในมื อท่ า นคื อดอกซานฉาที่ บานตอนเที่ย งวัน หากว่า เป็ นดอกไม้ยามคํ่า กลีบดอกจะม้วน
มากกว่านี… ้ ข้ายังคิดอยู่วา่ จะทําออกมาทัง้ แบบเช้าเที่ยงเย็นเพื่อสลับกันติดดีหรือไม่”
“เจ้าพูดได้ไม่เลว การทําดอกไม้ผา้ ต้องประดิษฐ์ของปลอมให้คล้ายกับของจริงจึงจะ
นับว่ามีฝีมือ!” ท่านแม่เฒ่าเอ่ยชื่นชม “เช่นนัน้ ดอกอวีจ้ านของเจ้าเป็ นแบบบานยามเย็น ส่วน
ดอกเบญจมาศเป็ นแบบบานยามเช้าใช่หรือไม่?”
“ถูกต้องเจ้าค่ะ” อวีถ้ ังยิม้ จนดวงตาโค้งเป็ นรู ปจันทร์เสีย้ ว “ข้าคิดว่าหากท่านแม่เฒ่า
ต้องรับแขกช่วงเย็น ก็สามารถสลับกันติดได้”
ท่านแม่เฒ่าเคยเป็ นภรรยาบ้านหลักมาก่อน เหล่าฮูหยินในสกุลมีเรื่องอะไรก็มกั จะมา
พบนาง หาได้แบ่งเวลาเช้าสายบ่ายคํ่าไม่
“คุณหนูท่านนี ้ เจ้านับว่ามีฝีมือพอตัวเลย” ท่านแม่เฒ่าชมไม่หยุด แล้วหันหน้าไปสั่งให้
เจินจูนาํ ดอกไม้ผา้ ไปเก็บ ก่อนเอ่ยกับอวีถ้ งั ว่า “พรุ ง่ นีข้ า้ จะไปพักแรมที่วดั เจาหมิงสักหลายวัน
รอให้ขา้ กลับมา ก็ตอ้ งเตรียมตัดเสือ้ ผ้าหน้าหนาวแล้ว ถึงเวลานัน้ เจ้าก็มาช่วยข้าดูดว้ ย”
นี่หมายความว่านางผ่านการประเมินแล้วใช่หรือไม่?
1165

อวีถ้ งั ก็รูส้ กึ สนใจเช่นกัน “แต่ขา้ ไม่รูเ้ รื่องการตัดเย็บเสือ้ ผ้าเลยเจ้าค่ะ”


ท่านแม่เฒ่าหัวเราะหึๆ “เจ้าสามารถทําดอกไม้ผา้ ออกมาได้ขนาดนี ้ ถือว่าคมในฝั ก
แล้ว เจ้าแค่คอยดูวา่ ชิน้ ไหนสวยก็เลือกชิน้ นัน้ ถึงเวลาข้าจะส่งเทียบเชิญไปที่สกุลเจ้าเอง”
หากว่าเรื่องนีส้ ามารถทําให้ท่านแม่เฒ่าสําราญใจได้ นางย่อมยินดีอยู่แล้ว
อวีถ้ งั ตอบคําถามเกี่ยวกับเคล็ดลับการทําดอกไม้ผา้ ต่ออีกพักหนึ่ง จากนัน้ ก็ยกข้ออ้าง
ว่าต้องกลับเรือนไปเตรียมงานวันฉงหยางเพื่อปฏิเสธคําชักชวนให้ร่วมโต๊ะอาหารอย่างละมุน
ละม่อม แล้วขอตัวลุกจากไป
ยังคงเป็ นจีต้ า้ เหนียงที่เดินมาส่งนางหน้าประตู ทว่าเดินไปได้เพียงครึ่งทางพวกนางก็
พบกับอาหมิงเข้าเสียก่อน
“คุณหนูอวี ้ ข้ารอท่านนานแล้วขอรับ” เขาวิ่งมาหยุดตรงหน้าอวีถ้ งั พร้อมรอยยิม้ “นาย
ท่านสามของข้าเชิญท่านไปดื่มชาที่ศาลาขอรับ”
ตอนนีแ้ ค่ลมพัดผ่านร่างก็ค่อนข้างจะเย็นกายแล้ว ไม่สมควรไปดื่มชาที่หออุ่นหรอก
หรือ?
อวีถ้ ัง ลอบค่อนแคะในใจ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพี ย งเดิ น ตามอาเสาไปที่ ศาลา
เงียบๆ
ศาลาที่ไปครานีเ้ ป็ นคนละหลังกับศาลาหลังที่อยู่รมิ นํา้ ซึง่ นางเคยไปเมื่อครัง้ ก่อน หลังนี ้
เป็ นศาลาที่สร้างขึน้ ตรงแอ่งลาดเนินเขาเล็กๆ มีช่ือเรียกว่า ‘ถีฉา’
อวีถ้ งั กระซิบถามอาหมิงว่า “จวนเจ้ามีศาลากี่หลังรึ?”
อาหมิงยกนิว้ ขึน้ มางึมงํานับไปรอบหนึ่ง “ประมาณสิบเจ็ดหลังขอรับ แต่ก็ไม่แน่ใจ
เท่าไร ข้านับเฉพาะที่จาํ ได้ อาจจะมีตกหล่นไปบ้าง”
ช่างเถอะ เรือนนางไม่มีสกั กะหลังด้วยซํา้ ไป
1166

บทที่ 146 แลกเปลี่ยน


อวีถ้ ังเดินตามอาหมิงเข้าไปศาลา ถึงเพิ่งเข้าใจว่าเหตุใดเผยเยี่ยนถึงต้องการพบนาง
ที่น่ี
ศาลาลมเย็นทรงแปดเหลี่ยม ชายคาสูงยกโค้ง เพราะสร้างตรงเนินลาด ด้านหนึ่งอิง
ภูเขา อีกสามด้านหันหน้าเข้าทะเลสาบ ลมจึงพัดมาไม่ถึงศาลาด้านใน บนเขาที่อยู่ดา้ นหลัง
ศาลาแดงเพลิงด้วยใบของต้นเฟิ ง 1เบือ้ งล่างของศาลาเป็ นนํา้ ใสแจ๋วราวกับกระจกเงา นางนั่ง
231

บนเก้าอีก้ ยุ้ เฟยในศาลา ประกายวิบวับของทะเลสาบและสีสนั บนภูเขาล้วนตกอยู่ในสายตา ทํา


ให้คนรูส้ กึ ผ่อนคลายสบายใจขึน้ มาทันที
ช่างสรรหาวิธีเสพสุขเสียจริงๆ!
อวีถ้ งั ค่อนขอดในใจ มองไปยังสาลี่สีเหลืองทอง องุ่นสีม่วง และผิงกั่ว 2สีแดงสดใสที่จดั
232

อยู่ในถาดสุย่ จิง 3บนโต๊ะนํา้ ชาข้างมือนาง ในใจก็คิดว่าเผยเยี่ยนจะมาถึงตอนไหน นางพอจะมี


233

เวลากินสาลี่จนหมดลูกหรือไม่…ทันใดนัน้ เผยเยี่ยนก็ปรากฏตัวที่กลางศาลาพอดี
“เจอท่านแม่ขา้ แล้ว?” เขาเดินขมวดคิว้ เข้ามา กระทั่งคําทักทายยังไม่มี นํา้ เสียงที่ถาม
เจือกระแสเบื่อหน่าย ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอีฐ้ านกว้างตัวหนึ่งซึ่งวางอยู่ตรงข้ามเก้าอีก้ ุย้ เฟยอ
ย่างไม่เกรงอกเกรงใจ
พวกเราสนิทกันถึงเพียงนี?้
แม้นางจะใช้ชีวิตมาสองชาติ และอวีถ้ ังก็เป็ นคนใจกล้ามากกว่าชาติก่อน แต่บุรุษที่
สัมพันธ์ใกล้ชิดก็ มีเพียงบิดากับญาติผูพ้ ่ีเท่านั้น แม้อิริยาบถของเผยเยี่ยนจะปล่อยตัวตาม

1
ต้นเฟิ ง คือ ต้นเมเปิ ้ล
2
ผิงกั่ว คือ แอปเปิ ้ล
3
สุย่ จิง คือ คริสตัล
1167

สบาย แต่ความระแวดระวังที่หญิงสาวมักมีต่อชายหนุ่มทําให้อวีถ้ งั ยืดตัวนั่งตรงทันที สายตา


จ้องไปที่เผยเยี่ยน ในใจพลันอิหลักอิเหลื่อ
หากว่าเขาถอดรองเท้าถุงเท้าแล้วยกขาขึน้ มานั่งขัดสมาธิบนเก้าอี ้ นางต้องทําเป็ นมอง
ไม่เห็น? หรือว่าต้องตําหนิเขาสักหลายคําดี?
แล้วนางก็ตอ้ งถอนหายใจโล่งอก
แม้เก้าอีฐ้ านกว้างตัวนัน้ จะสามารถนั่งขัดสมาธิได้ แต่เผยเยี่ยนไม่มีท่าทีจะทําเช่นนัน้
เขานั่งยืดหลังตรงเฉกเดียวกับที่น่ งั เก้าอีไ้ ท่ซือ จากนัน้ ก็ปฏิเสธจานผลแตงที่อาหมิงยกเข้ามา
แล้วสั่งเขาว่า “ไปต้มชาเข้มๆ มาให้ขา้ กาหนึ่ง”
แค่นีก้ ็เหนื่อยแล้ว?
อวีถ้ งั ลอบประเมินเขาอย่างละเอียด
ถึงค้นพบว่าดวงตาเขาปรากฎเส้นเลือดสีแดงกํ่า
อวีถ้ งั อดจะเป็ นห่วงไม่ได้ “ท่านมีเรื่องอะไรฝากอาหมิงมาบอกข้าก็ได้เจ้าค่ะ”
ไม่จาํ เป็ นต้องมาพบนางด้วยตนเอง
เขาช่วยนางมากแล้ว นางมองเขาเป็ นผูม้ ีพระคุณคนหนึ่ง หากมีเรื่องใดที่สามารถช่วย
เขาได้ นางก็ยินดีจะทําทัง้ สิน้
เผยเยี่ยนส่ายหน้าแล้วพูดว่า “หลายวันนีเ้ อาแต่ตรวจบัญชี ล้วนแต่ผิดมั่วไปหมด” พูด
เท่านี ้ นํา้ เสียงเขาก็ชะงักไป
อาจเพราะรูส้ กึ ว่าพูดเรื่องนีก้ บั นางไม่คอ่ ยจะเหมาะสม
อวีถ้ งั ลอบครุน่ คิดอยู่ในใจ
เผยเยี่ยนเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างรวดเร็ว “ช่วงนีข้ า้ ยุ่งจนเท้าไม่ติดพืน้ แล้วท่านแม่
ข้าก็มา…อารมณ์ไม่ค่อยจะดีนกั ข้าเองก็ไม่รูจ้ ะทําอย่างไรให้คนแก่สบายใจ คิดถึงแต่ก่อนตอน
1168

ที่ญาติผูพ้ ่ีขา้ ยังไม่ออกเรือน นางเคยมาพักที่น่ีบ่อยๆ ออกไปซือ้ โน่นซือ้ นี่เป็ นเพื่อนท่านแม่ขา้


บางครัง้ ยังพากันไปค้างแรมที่วดั ป่ าอยู่หลายวัน จึงได้นึกถึงคุณหนูอวีข้ ึน้ มา ระยะนีจ้ ึงอยาก
เชิญเจ้ามาเป็ นแขกที่จวนบ่อยๆ…” เขาพูดไป ปากก็เม้มแน่น เห็นชัดถึงความจริงจัง ทว่าเจือ
ความกลัดกลุม้ หลายส่ว น “ถื อว่า ช่ ว ยเหลื อข้า สัก ครัง้ ทํา ให้ม ารดาข้า มี ความสุขที ข้า รู ว้ ่า
คุณหนูอวีค้ อ่ นข้างยุ่ง หากมีสิ่งใดต้องการให้ขา้ ช่วยเหลือ พูดออกมาได้เต็มที่ ถือเสียว่าพวกเรา
แลกเปลี่ยนหน้าที่กนั ”
พูดเช่นนีก้ ็ได้ดว้ ยรึ?
อวีถ้ งั เบิกตาโตมองเขา
นางอยากรู ว้ ่าญาติผพู้ ่ีของเผยเยี่ยนที่ออกเรือนไปแล้วเป็ นใคร? วันๆ สามารถเอาแต่
ซือ้ ของ และเดินเล่นเป็ นเพื่อนท่านแม่เฒ่าได้ ช่างน่าอิจฉาเสียจริง
ทว่า ในเมื่อเป็ นถึงญาติผพู้ ่ีของเผยเยี่ยน ย่อมต้องมาจากสกุลใหญ่อยู่แล้ว แต่ละวัน
อาจจะผ่านไปโดยการซือ้ ของและเดินเล่นก็เป็ นได้ ไม่ใช่จะเหมือนกับนาง
ทว่า นางก็พอมองออก เผยเยี่ยนคงคิดกตัญ�ูต่อมารดา แต่เขาไม่มีเวลาทัง้ ไม่อาจอยู่
เป็ นเพื่อนมารดาได้ จึงคิดแผนนีอ้ อกมา
ไม่ถึงขนาดว่าแลกเปลี่ยนหน้าที่ สามารถช่วยเหลือเผยเยี่ยนได้ นางกลับรูส้ กึ ดีใจมาก
อีกอย่างเผยเยี่ยนก็ช่วยเหลือนางมานับครัง้ ไม่ถว้ น ไม่ว่านางจะยุ่งหรือไม่ ก็ตอ้ งหาเวลามาให้
ได้แน่นอน รอจนท่านแม่เฒ่าสามารถก้าวออกจากความเจ็บปวดอย่างช้าๆ ตอนนั้นก็คงไม่
ต้องการให้นางคอยอยู่เป็ นเพื่อนอีก
“นายท่านสามไม่จาํ เป็ นต้องพูดเช่นนี”้ อวีถ้ งั เอ่ยอย่างจริงใจ “ข้าอยู่ท่ีเรือนก็กินดื่มไป
วันๆ ไม่มีเรื่องสลักสําคัญอะไร ท่านแม่เฒ่าทางนี ้ ขอเพียงนางต้องการข้า ข้าไม่มีทางบ่ายเบี่ยง
แน่”
เผยเยี่ยนได้ยนิ ดังนัน้ ก็รอ้ งเหอะทีหนึ่ง “ตําราที่ขา้ ให้เจ้ายืมไป อ่านเข้าใจแล้วหรือยัง?”
1169

ดวงหน้าของอวีถ้ งั แดงกํ่า นํา้ เสียงเบาลงไปหลายส่วน “ยัง ยังอ่านไม่จบเลยเจ้าค่ะ”


ที่อ่านไม่จบก็เพราะอ่านไม่เข้าใจ อ่านไปอย่างทุลกั ทุเล แม้จะเรียกหวังซื่อมาหลาย
รอบ หวังซื่อก็เล่าแต่ความรูผ้ ิวเผินเกี่ยวกับการเพาะปลูกให้นางฟั งบางส่วน ทว่าฤดูใบไม้รว่ งมา
เยื อ นแล้ว ต้น ซาจี๋ พ วกนั้น จะสามารถมี ชี วิ ต รอดผ่ า นฤดูห นาวไปได้ห รื อ ไม่ ก็ สุด รู ้ หวัง ซื่ อ
จําเป็ นต้องทุ่มเทความสนใจไปที่ตน้ อ่อนเหล่านัน้ นางจะเอาแต่เรียกหวังซื่อให้เข้ามาในเมือง
ทุกสองสามวันก็คงไม่ได้
เผยเยี่ยนหยิบผิงกั่วส่งให้นางลูกหนึ่ง
อวีถ้ งั ยื่นมือไปรับด้วยความไม่เข้าใจ
เผยเยี่ยนเลิกคิว้ พูดว่า “ชิมดูสิ!”
อวีถ้ งั กัดลงไปหนึ่งคําด้วยความมึนงง
แล้วดวงหน้างงงวยก็กม้ มองผลผิงกั๋วในมือตนเอง
จากนัน้ นางก็ได้ยินเผยเยี่ยนล้อเลียนว่า “ใช้ได้น่ี แม้ไม่รูว้ ่าชารสชาติเช่นไร ดีช่ วั ก็ยงั
ลิม้ รสของผลไม้ออก”
นี่มิใช่สร้างความอับอายให้ผอู้ ่นื รึ?
อวีถ้ งั จ้องเขม็งไปที่อีกฝ่ าย
เผยเยี่ยนไม่รูส้ กึ รูส้ า “นี่คือผลซากั่ว เป็ นพันธุท์ ่ีปลูกในสวนสกุลข้า”
นางรูจ้ กั ผลซากั่ว
แต่มนั เป็ นผลเล็กนิดเดียวเอง
เมื่อไรกันที่มนั เติบใหญ่จนเท่าลูกผิงกั่วแบบนี ้
อวีถ้ งั หันไปมองเผยเยี่ยน
1170

หรือว่าต้นที่สกุลเขาปลูกเป็ นอีกสายพันธุห์ นึ่ง?


เผยเยี่ยนพยักหน้ารับอย่างยากจะได้เห็นสักครัง้ “ไม่เลว นี่เป็ นสายพันธุใ์ หม่ท่ีสกุลข้า
ปลูกออกมา ผลใหญ่เท่าลูกผิงกั่ว แต่ออกผลดกกว่า สุกเร็ว ขายได้ในราคาถูก ออกสูท่ อ้ งตลาด
ได้เร็ว”
สกุลเผยจะต้องมีผเู้ ชี่ยวชาญที่มีความรูใ้ นการปลูกผลไม้แน่ๆ
อวีถ้ งั รูส้ กึ ริษยาจนเลือดตาแทบพุง่
เผยเยี่ยนกลับเอนตัวไปหานาง กระซิบเสียงเบาว่า “ต้องการจะแลกเปลี่ยนหน้าที่แล้ว
หรือไม่? หืม?”
อวีถ้ งั สะดุง้ สุดตัว
นํา้ เสียงของเผยเยี่ยนเวลาพูดเสียงตํ่าเป็ นเช่นนีเ้ องหรือ?
มันทุม้ หนัก ใกล้ชิด รื่นหู ฟั งเสนาะเฉกเสียงหูฉิน 4 ทว่าก็คล้ายขนนกก้านหนึ่งที่ปัดผ่าน
234

กลางอกนางไปอย่างแผ่วเบา ทําให้หัวใจนางกระหนํ่ารัวเต้น เป็ นเสียงตึกตักๆ สนั่นไหว จน


ไม่ได้ยินเสียงอื่นที่อยู่รอบกายโดยสิน้ เชิง
รอจนนางได้ส ติ คื น มา ข้า งหูก็ ไ ด้ยิ น เสี ย งที่ เ จื อ ความเปรมปรี ดิ์ข องเผยเยี่ ย นแล้ว
“เช่นนัน้ ก็ตกลงตามนี ้ ข้าจะให้หซู ิ่งพาคนไปช่วยดูสวนป่ าของเจ้า ไม่เพียงทําให้ตน้ ซาจี๋พวกนัน้
ข้ามผ่านฤดูหนาวไปอย่างปลอดภัย ทัง้ จะช่วยเจ้าปลูกต้นซากั่วสักหลายต้น ช่วยเจ้าเปิ ดร้าน
ผลไม้เชื่อมขึน้ มาด้วย ตอนที่เจ้าพอมีเวลา ก็แวะมาที่จวนข้าบ่อยๆ หน่อย แล้วก็ไม่ตอ้ งจํากัดว่า
จะทําแค่ดอกไม้ผา้ หรืออาภรณ์ต่างๆ เป็ นเพื่อนนางอย่างเดียว มีของอร่อยอะไร มีของเล่นไหน

4
หูฉิน หมายถึงเครื่องดนตรีประเภทซอทัง้ หมดของดนตรีจีน อย่างเช่นจิงหู ป่ านหู เกาหู เอ้อร์หู จงหู เก่อหู ซีหู จุย้ หู และ
รวมไปถึงซอของกลุม่ ชนเผ่าต่างๆ ในจีนด้วย
1171

น่าสนุก ก็ขนเข้าจวนมาได้เลย ท่านแม่ขา้ นัน้ ขอเพียงเป็ นสิ่งที่ไม่เคยพบเคยเห็น ล้วนแต่ชอบ


พิจารณาศึกษาทัง้ สิน้ เจ้าเข้าใจตรงนีไ้ ว้ก็พอแล้ว”
“หะ?” อวีถ้ งั มองหน้าเผยเยี่ยนอย่างเหม่อลอย
นางไปตกลงรับปากเขาตอนไหน?
เผยเยี่ยนได้ลกุ ยืนขึน้ อย่างเบิกบานไปแล้ว “หลายวันนีว้ นุ่ วายเหลือเกิน นับว่ามีเรื่องได้
ดั่งใจเสียที! ข้าทางนัน้ ยังมีงาน ขอตัวไปก่อนล่ะ หากว่าเจ้าไม่มีธุระอะไร ก็น่ งั กินผลไม้ท่ีน่ีไป
ก่อน พักผ่อนเสียครูห่ นึ่ง ตอนจะกลับก็มาบอกอาหมิงสักคํา เขาจะช่วยจัดเกีย้ วมาให้”
“ไม่ ใช่ น ะ!” อวีถ้ ัง รีบกระเด้งตัว ลุก ขึน้ ละลํ่า ละลักเอ่ย ว่า “ข้า ไปรับปากท่านตั้งแต่
เมื่อไร?”
เผยเยี่ยนเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เมื่อครู ่เจ้าไม่ได้พยักหน้าอยู่ตลอดหรือ? ทําไม?
พยักหน้ายังไม่นบั อีกหรือ?”
นางพยักหน้าแล้วหรอ?
เหตุใดนางถึงไม่มีความทรงจํานัน้ เลยเล่า?
สีหน้าของอวีถ้ งั คล้ายคนเลื่อนลอย
เผยเยี่ยนอดจะพูดต่อไม่ได้ว่า “เป็ นคนจะพูดจาไร้สจั จะได้อย่างไร?! เรื่องนีใ้ ห้ตกลง
ตามนี ้ ข้าต้องกลับห้องบัญชีแล้ว อาหมิง เจ้าคอยเฝ้าอยู่ท่ีน่ีแล้วกัน” พูดจบ ไม่สนใจว่าอวีถ้ งั จะ
อยู่ในอารมณ์ไหน เขาก็ยกขาก้าวยาวๆ ออกจากศาลาไปทันที
อวีถ้ งั มองดูอย่างโง่งม จ้องตามแผ่นหลังของเผยเยี่ยนที่หายไปจากทางเดินน้อยอย่าง
รวดเร็ว พลันพูดอะไรไม่ออก
เผยเยี่ยนที่เดินพ้นจากระยะสายตาที่จะมองเห็นศาลาได้แล้วก็ฝืนตัวเองไม่อยู่ มุมปาก
กระตุกยกสูงขึน้
1172

แต่ก่อนเขาคิดว่าอวีถ้ ังฉลาดมีไหวพริบ พูดจาฉะฉานและวิเคราะห์สถานการณ์เก่ง


คาดไม่ถึงจริงๆ หลังจากหลอกนางให้หลงกลแล้ว นางกลับมีท่าทางโง่งมอยู่บา้ ง เขาพูดอะไร
นางก็เอาแต่พยักหน้ารับหมด
คุณหนูอวีท้ ่ีเป็ นเช่นนี…
้ น่ารักไม่เบาเลย
หนึ่งพันคนมีหนึ่งพันหน้า คุณหนูอวีก้ ็ไม่ได้จะแข็งแกร่งอยู่ตลอดเวลาเสียหน่อย
เผยเยี่ ย นกลับห้องบัญชี ดว้ ยอารมณ์พึง ใจ เขาเรีย กหูซิ่ง มาหา แล้ว สั่ง การว่า “พา
อาจารย์ติง้ ไปด้วย ไปทําความเข้าใจสวนป่ าของคุณหนูอวีใ้ ห้หมด อย่าปล่อยให้ไร้ผลผลิตอยู่
แบบนี”้
หูซิ่งตอบรับอย่างนบนอบ ตอนที่ออกจากห้องบัญชีพลันรูส้ กึ ว่าปวดกระพุง้ แก้มขึน้ มา
สวนป่ าผืนนัน้ ใช่วา่ เขาไม่เคยไป แล้วอย่างไรจะนับว่าทําความเข้าใจทัง้ หมดเล่า? ‘อย่า
ปล่อยให้ไร้ผลผลิตอยู่แบบนี’้ แต่ต่อให้ปลูกไม้จนเติบโต แล้วมันจะออกผลสักเท่าไรกัน? ในเมื่อ
เป็ นห่วงหนักหนาว่าสวนป่ าจะไม่ทาํ กําไร มิสแู้ บ่งผลผลผลิตของร้านค้าสักแห่งให้สกุลอวีก้ ็สิน้
เรื่องแล้ว
คิดถึงตรงนี ้ หัวใจของหูซิ่งก็กระตุก แล้วยกมือลูบคางไปมา
นายท่านสามมิใช่ตอ้ งการจะบอกความหมายนีก้ บั เขากระมัง?
มิฉะนัน้ แค่สวนป่ าผืนน้อยนั่น จะต้องให้เขาผูเ้ ป็ นถึงพ่อบ้านสามแห่งสกุลเผยไปดูดว้ ย
หรือ?
เขานึกถึงหลายวันก่อนที่คณ
ุ หนูอวีเ้ ข้าจวนมาแล้วได้รบั ความโปรดปรานจากท่านแม่
เฒ่า
นายท่านสาม คงมิใช่ถกู ใจคุณหนูอวีเ้ ข้ากระมัง?
พอความคิดนีผ้ ดุ ขึน้ หูซิ่งก็เริม่ ยืนไม่ติดทันที
1173

หากว่าเป็ นเช่นนัน้ จริง จากความยิ่งใหญ่ของสกุลเผยและฐานะของนายท่านสาม คุณ


หนูอวีไ้ ม่มีทางได้แต่งเป็ นนายหญิงใหญ่แน่
แต่หากเป็ นอนุ เขาก็ตอ้ งรีบประจบเสียตอนนี ้ หากรอให้นายหญิงใหญ่แต่งเข้ามา เขา
มิพน้ คงกระอักกระอ่วนแย่?
เช่นนัน้ เขาต้องทําอย่างไรต่อ?
พ่อบ้านหูท่ีแต่ไรก็หัวไวมีไหวพริบพลันตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ทันที
อวีถ้ ังเป็ นคนติดครอบครัว เมื่อไม่มีเรื่องอื่นแล้ว นางหาได้มีกะใจนั่งชมทะเลสาบกิน
ขนมผลไม้ในจวนสกุลเผยไปเรื่อยๆ?
คล้อยหลังเผยเยี่ยนที่กา้ วขาออกจากศาลา นางก็ลกุ กลับบ้านไปติดๆ
เฉินซื่อชะเง้อคอรอนางอยู่ในเรือนนานแล้ว
อวีถ้ ังกลับไปถึงก็ถูกนางลากเข้าไปคุยในห้องทันที “เป็ นอย่างไรบ้าง? ท่านแม่เฒ่า
พอใจหรือไม่? บอกหรือไม่วา่ ให้เจ้าไปเป็ นแขกที่จวนอีก?”
“พอใจเจ้าค่ะ” อวีถ้ ังเปลี่ยนเสือ้ ผ้าไป ทางหนึ่งก็เล่าเรื่องที่ท่านแม่เฒ่าสกุลเผยให้
มารดาฟั ง แต่ตอนที่เล่าถึงเผยเยี่ยน นางแค่บอกคร่าวๆ ถึงจุดประสงค์ของเผยเยี่ยนที่ให้นางไป
เจอท่านแม่เฒ่าบ่อยๆ เท่านัน้
เฉิ นซื่อได้ฟังก็ปลืม้ ใจมาก “ทุกคนต่างพูดว่านายท่านรองเป็ นคนกตัญ�ู ข้าว่านาย
ท่านสามก็กตัญ�ูไม่แพ้กัน ไม่อย่างนัน้ คงไม่ให้เจ้าไปอยู่เป็ นเพื่อนท่านแม่เฒ่าที่จวนบ่อยๆ
สกุลเผยมีบญ ุ คุณใหญ่หลวงต่อสกุลเรา พวกเราหากเป็ นเรื่องอื่นก็ช่วยอะไรสกุลเผยไม่ค่อยได้
ในเมื่อท่านแม่เฒ่าถูกใจเจ้า เจ้าก็ฟังคําของนายท่านสาม แวะไปที่จวนสกุลเผยให้มาก รอต่อไป
ออกจากไว้ทกุ ข์ท่านผูเ้ ฒ่าแล้ว นายท่านสามตบแต่งเป็ นฝั่งเป็ นฝาก็คงดีขนึ ้ เอง”
1174

พอเผยเยี่ยนแต่งงาน หน้าที่ดแู ลรับใช้ผอู้ าวุโสก็จะตกเป็ นหน้าที่ของภรรยาเผยเยี่ยนไป


โดยปริยาย
อวีถ้ งั จะได้ถอนตัวออกมาเสียที
อวีถ้ งั พยักหน้าหงึกหงัก ในใจอดคิดไม่ได้ว่าเผยเยี่ยนจะแต่งงานกับหญิงสาวแบบใด?
จะนิสยั อ่อนโยนนุ่มนวลน่าเข้าใกล้ หรือว่าเฉลียดฉลาดเก่งกาจ งดงามน่าพิศ…ไม่ว่าจะเป็ นข้อ
แรกหรือข้อหลัง นางกลับจินตนาการถึงภาพที่มีคนมายืนเคียงข้างเผยเยี่ยนไม่ออกเลย
น่าเสียดาย ชาติกอ่ นนางไม่รูว้ า่ เผยเยี่ยนได้แต่งงานหรือไม่ หากว่านางรูล้ ว่ งหน้า ไม่แน่
อาจจะไปแอบดูสกั หน่อยว่านายหญิงของเผยเยี่ยนเป็ นคนเช่นไรแน่
1175

บทที่ 147 แขก


อวีถ้ งั คิดเพ้อล่องลอยอยู่คนเดียวเป็ นครึง่ ค่อนวัน กระทั่งถูกเฉินซื่อเรียกให้ไปเรียนทํา
ขนมฉงหยาง 1 235

เริม่ จากแช่ขา้ วเหนียวกับข้าวเม็ดสัน้ ทิง้ ไว้หนึ่งคืนแล้วโม่เอานํา้ ผลไม้เชื่อมเขียวแดงหั่น


เป็ นเส้นฝอย นํา้ ตาลทราย ผงเกาลัด นํา้ มันหมูกอ้ น แล้ววางเป็ นชัน้ ๆ บนเข่งนึ่ง ขนมฉงหยางที่
มารดาทําไม่เหมือนกับของบ้านอื่น บ้านอื่นจะใช้นา้ํ ตาลแดง ถั่วแดงและนํา้ มันหมูกอ้ น แต่ขนม
ฉงหยางของบ้านนางจะใช้นา้ํ ตาลทรายกับผงเกาลัดแทน แบบนีข้ นมฉงหยางจะออกมาสีขาว
เหมือนหิมะ ทัง้ ได้กลิ่นหอมของผงเกาลัด รสชาติจะไม่มนั เยิม้ ซึ่งเป็ นที่โปรดปรานของสหายอวี ้
เหวินเป็ นหนักหนา และเทศกาลฉงหยางของทุกปี บ้านนางก็จะทําขนมออกมาเพื่อมอบให้ผอู้ ่ืน
เป็ นจํานวนมาก
ปี นีย้ งั มีสกุลของหม่าซิ่วเหนียงรวมเข้ามาด้วย
เฉินซื่อสั่งอวีถ้ งั ว่า “เจ้ารีบไปรีบกลับ อีกเดี๋ยวพวกเราต้องไปกินข้าวเย็นที่เรือนของท่าน
ลุงอูอ๋ ีก”
ตอนวันไหว้พระจันทร์ สกุลอวีเ้ ชิญครอบครัวนายท่านอูม๋ ากินงานเลีย้ งสารพัดปูไปแล้ว
พอถึงวันฉงหยาง นายท่านอูจ๋ งึ เชิญสกุลอวีไ้ ปกินงานเลีย้ งสารพัดปูเช่นกัน
รวมถึงครอบครัวของอวีป้ ๋ อ ก็ได้รบั เชิญไปด้วย
“เจ้าค่ะ” อวีถ้ งั ร้องตอบเสียงดัง แล้วเข้าไปเปลี่ยนเสือ้ ผ้า มือถือห่อขนมฉงหยางที่รอ้ น
กรุน่ ออกจากเตาใหม่ๆ ไปยังเรือนสกุลจาง

1
ขนมฉงหยาง เป็ นขนมที่ทานเพื่อความเป็ นสิริมงคล มีความนัยหมายถึงการได้รบั สิ่งที่กา้ วหน้ายิ่งๆ ขึน้ ไป ขนมฉงหยาง
ไม่เพียงแต่ทาํ ขึน้ กินกันเองภายในครอบครัว แต่ยงั สามารถมอบเป็ นของขวัญได้ดว้ ย ขนมฉงหยางอาจจะมีสองหรือสาม
ชัน้ โดยระหว่างชัน้ แป้งจะมีผลไม้เชื่อม พุทราจีน ถั่วหรือธัญพืชต่างๆ เป็ นต้น
1176

รูปร่างของหม่าซิ่วเหนียงยังไม่คืนสภาพอรชรเหมือนดั่งเก่า ฉิงเอ๋อร์นนั้ นับวันก็ย่ิงอวบ


อ้วน คล้ายกับก้อนข้าวเหนียวก้อนหนึ่ง เด็กน้อยยังคอไม่แข็ง แต่กลับไม่ยอมนอนราบในอ้อม
แขนผูอ้ ่ืนแล้ว จะให้คนคอยประคองศีรษะน้อยๆ ให้ตงั้ ไว้เพียงอย่างเดียว ทัง้ ยังชอบให้อมุ้ เดิน
รอบทิศ พานางชมโน่นชมนี่ ไม่อย่างนัน้ ก็จะร้องไห้โยเยเสียงดัง
“ต้องเป็ นเจ้าแน่ๆ ตอนช่วงยังไม่ครบเดือนก็ตามใจนางจนเสียนิสยั !” หม่าซิ่วเหนียง
ทางหนึ่งก็อุม้ ลูกเดินวนไปทั่วห้อง ทางหนึ่งก็แสร้งบ่นอวีถ้ ังอย่างไม่พอใจ “เจ้าติดหนีข้ า้ นะ
เตรียมตัวรอไว้ให้ดีเลย”
อวีถ้ งั ยิม้ แฉ่งให้หม่าซิ่วเหนียงอย่างละอายใจ
หม่าซิ่วเหนียงไม่ง่ายกว่าจะกล่อมบุตรสาวให้หลับได้ นางส่งเด็กน้อยให้แม่นมอุม้
ออกไป ถึงค่อยมีเวลานั่งคุยเปิ ดใจกับอวีถ้ งั
“งานมงคลเจ้ายังกําหนดไม่เรียบร้อยอีกรึ?” นางเอาแต่เป็ นห่วงเรื่องนี ้ “ไม่อย่างนัน้ ก็
แต่งออกเสียเลยสิ ข้ามองแล้วว่าญาติผพู้ ่ีของเจ้าใช้ได้เลยทีเดียว มีเขาแบกรับเรื่องในสกุล เจ้า
ก็คอยสนับสนุนอยู่ขา้ งๆ นิดหน่อย บิดากับมารดาของเจ้าอย่างไรก็มีคนคอยดูแลอยู่แล้ว”
ตอนนีอ้ วีถ้ งั ไม่อยากแต่งงานเลยสักนิด นางเออออตามไปอย่างไม่ใคร่จะแยแสนัก แล้ว
เปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปที่สกุลจางแทน “ข้าได้ยินว่าคุณชายจางออกไปรับงานข้างนอกแล้ว
เช่นนัน้ ต่อไปเขาจะยังลงสนามสอบบัณฑิตหรือไม่?”
หม่าซิ่วเหนียงกําลังกลุม้ ใจเรื่องนีอ้ ยู่พอดี นางเอ่ยว่า “บิดาฉิ งเอ๋อร์เป็ นเมล็ดพัน ธุ์
สํา หรับ เล่า เรี ย นเขี ย นอ่ า น หากไม่ เ ข้า สอบ นี่ มิ นับ ว่ า สิ น้ เปลื อ งหรื อ แต่ เ ขาเป็ น คนดื อ้ รั้น
หลังจากที่ฉิงเอ๋อร์คลอดออกมาในเรือนก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึน้ มาก ข้าคิดจะเอาสินเดิมมาช่วยสบ
ทบ เป็ นตายเขาก็ไม่ยอม ท่านอาน้อยสกุลข้าก็ใกล้จะออกเรือนแล้ว…”
นางถอนหายใจเฮือก
1177

อวี ถ้ ัง ถึ ง ได้เ ล่ า ความคิ ด และแผนการที่ คิ ด ไว้อ อกมา “…ให้คุณ ชายจางช่ ว ยวาด


ลวดลายสักหลายแบบลงบนเครื่องลงรักของสกุลข้าได้หรือไม่? แต่ไม่ตอ้ งเขียนชื่อเขาลงไป
หากว่ามีคนถามถึง ก็บอกว่าญาติผพู้ ่ีของข้าเป็ นคนวาด เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”
บัณฑิตหลายคนมักละอายที่ตอ้ งค้อมตัวก้มหน้าให้เงินทอง คุณชายจางตอนนีเ้ ป็ น
เพี ย งบัณฑิตธรรมดาคนหนึ่ง ต่อไปหากต้องรับราชการ การช่ ว ยร้า นหนังสือคัดลอกตํารา
นับเป็ นเรื่องสง่างาม แต่ช่วยร้านค้าวาดแบบเพื่อแลกเงินกลับเป็ นการแย่งชิงรายได้ของจิตรกร
นับเป็ นการหมิ่นเกียรติบณั ฑิต ต้องกระทบถึงชื่อเสียงของคุณชายจางแน่
หากว่าผูอ้ ่ืนเป็ นคนเอ่ยขึน้ มา หม่าซิ่วเหนียงคงไล่ตะเพิดคนผูน้ นั้ ออกประตูไปโดยไม่
หยุดคิด แต่คนที่พดู เรื่องนีค้ ืออวีถ้ งั อวีถ้ งั เป็ นคนเช่นไรนางกระจ่างแก่ใจดี ปากเก็บความลับได้
ทัง้ เป็ นคนเจ้าความคิด นางเชื่อใจอวีถ้ ัง แต่คุณชายจางจะยินยอมหรือไม่นั้น นางก็ไม่กล้า
รับปาก
“ข้าจะช่วยถามให้แล้วกัน!” หม่าซิ่วเหนียงไม่อยากพูดให้ผกู มัดจนเกินไป “หากว่าเขา
ยินยอม ข้าก็ไม่มีอะไรให้กงั วลหรอก”
อวีถ้ งั ถอนหายใจโล่งอก
ร้านค้าเครื่องลงรักของสกุลแม้จะสร้างขึน้ มาใหม่ แต่กิจการไม่ได้ดีเหมื อนแต่ก่อน
สาเหตุหลักเพราะช่วงที่ถนนฉางซิ่งถูกไฟไหม้ ชาวเมืองหลินอันจํานวนมากที่ตอ้ งการเครื่องลง
รักจําเป็ นต้องไปหาซือ้ ของที่หงั โจว พอไปแล้วจึงค้นพบว่าร้านค้าเครื่องลงรักที่หงั โจวไม่เพียงมี
สินค้าครบพร้อมยิ่งกว่าร้านค้าของสกุลอวี ้ รู ปแบบก็แปลกใหม่ คนมีเงินบางส่วนในเมืองหลิน
อันจึงเปลี่ยนไปซือ้ เครื่องลงรักจากเมืองหังโจวแทน ซึ่งกําไรที่รา้ นค้าจะได้ส่วนหนึ่งก็ลว้ นมา
จากพวกคนมีเงินอยู่แล้ว ร้านค้าของสกุลนางจึงไม่เหมือนกับเมื่อก่อนอีกต่อไป
พอผ่านเทศกาลฉงหยางไป เผยเยี่ยนก็ส่งคนให้มารับอวีถ้ งั ไปเป็ นแขกที่จวน ครัง้ นีอ้ วี ้
ถังเตรียมตัวล่วงหน้า ไม่เพียงนําดอกไม้ผา้ หลายดอกที่ตนเองลงมือทําช่วงสองสามวันนีต้ ิดตัว
ไปด้วย ยังมีขนมกุย้ ฮวาที่เฉินซื่อทําอีกด้วย
1178

นํา้ ตาลดอกกุย้ ฮวาเพิ่งทําขึน้ ในปี นีเ้ อง หอมสดชื่นด้วยกลิ่นสดใหม่ เมื่อทําเป็ นขนมกุ้


ยฮวา จะเหมือนโปรยหิมะสีขาวที่ลงบนทองคําเปลว จนคนมองต้องนํา้ ลายสอกันเป็ นแถว
ท่านแม่เฒ่ากินไปถึงสองชิน้ เฉิ นต้าเหนียงไม่กล้าให้ท่านแม่เฒ่ากินมากกว่านีแ้ ล้ว
“อย่างไรท่านก็เหลือไว้ให้พวกข้าที่ได้แต่ลมิ ้ รสทางสายตาบ้างสิเจ้าคะ”
ท่านแม่เฒ่าหัวเราะเสียงดัง แล้วเอาขนมที่เหลือตบรางวัลแก่บา่ วรับใช้ไป
อวีถ้ งั ดีใจมาก “ถ้าท่านชอบ ครัง้ หน้าข้าจะนํามาให้อกี เจ้าค่ะ”
“เป็ นเพราะนํา้ ตาลดอกกุย้ ฮวาทําออกมาได้ดี” ท่านแม่เฒ่าชมเปราะ “นี่เป็ นฝี มือของ
มารดาเจ้ารึ? ดูแล้วนางทําขนมได้ไม่เลวเลย”
อวีถ้ งั เม้มปากซ่อนยิม้
จีต้ า้ เหนียงเห็นเช่นนัน้ จึงสั่งคนไปเรียกช่างตัดเสือ้ ซึ่งรออยู่ตรงระเบียงนานแล้วให้เข้า
มา
ช่างตัดเสือ้ เป็ นท่านป้าอายุราวๆ สี่สิบปี พาแม่นางอายุย่ีสิบห้ายี่สิบหกติดตามมาด้วย
สองคน ผูเ้ ป็ นช่างมีรูปร่างอ้วนฉุ เหมือนกับหมั่นโถวนุ่มนิ่ม ตอนที่ยิม้ ดวงตาสองข้างแทบจะ
หายไป ส่วนแม่นางอีกสองคนนัน้ คนหนึ่งผอมแห้งไม่คอ่ ยพูด อีกคนหุ่นอ้อนแอ้นมีไหวพริบ
คนทัง้ สามเดินเข้ามาแล้วทําความเคารพท่านแม่เฒ่าและอวีถ้ งั อย่างเต็มพิธี
ท่านแม่เฒ่าบอกจีต้ า้ เหนียงพยุงช่างตัดเสือ้ ให้ลกุ ขึน้ รับคารวะจากแม่นางทัง้ สอง แล้ว
ชีไ้ ปทางอวีถ้ งั พลางเอ่ยกับช่างตัดเสือ้ ว่า “ผูน้ ีค้ ือหลานสาวของข้า มาจากสกุลอวี”้ จากนัน้ ก็ชี ้
นิว้ ไปที่ช่างตัดเสือ้ แล้วหันมาพูดกับอวีถ้ งั ว่า “ผูน้ ีค้ ือเถ้าแก่เนีย้ หอจินหลี่วแ์ ห่งหังโจว สกุลสามี
คือสกุลหวัง เรียกนางว่าหวังต้าเหนียงก็ได้” ส่วนแม่นางอีกสองคน ท่านแม่เฒ่าชีไ้ ปส่งๆ ไม่ได้
บอกชื่อเสียงเรียงนาม เห็นชัดว่าลืมชื่อสกุลของคนทัง้ สองไปแล้ว
หวังต้าเหนียงรีบเอ่ยอย่างกระตือรือร้นว่า “นี่เป็ นศิษย์ทงั้ สองของข้า คนหนึ่งสกุลสามี
เรียกว่าหลี่ คนหนึ่งสกุลสามีเรียกว่าโจวเจ้าค่ะ”
1179

อวีถ้ งั เดินเข้าไปหาเพื่อทักทาย
หวังต้าเหนียงเอ่ยรัวเร็วว่ามิกล้าๆ แม่นางทัง้ สองต่างเบี่ยงตัวหนี ไม่กล้ารับคารวะจาก
นาง
ท่านแม่เฒ่าไม่ได้ใส่ใจ หันไปถามหวังต้าเหนียงว่า “ได้ยินว่ารอบนีเ้ จ้านําผ้าแบบใหม่
จากซูโจวมาด้วย เอาออกมาให้ขา้ ดูสิ”
หวังต้าเหนียงรับคํา จากนัน้ ก็พาลูกศิษย์ทงั้ สองไปยกผ้าเข้ามาหกเจ็ดพับ แล้วกางออก
ทีละผืนให้ท่านแม่เฒ่าและอวีถ้ งั ได้ชม “ท่านลองดูผา้ ไหมหังโจวกลุม่ ลายดอกไม้สีฟ้าอ่อนผืนนี ้
สิ เ จ้า คะ ปี ก่ อ นๆ หากไม่ ท อเป็ น กิ่ ง ดอกก็ จ ะเป็ น ลายนํา้ ปี นี ท้ าํ เป็ น ลายแปดมงคลเจ้า ค่ะ
เพราะว่าใช้เส้นด้ายสีเงิน มองไกลๆ จะเหมือนผ้าไหมหังโจวเรียบง่ายผืนหนึ่ง แต่ถา้ มองใกล้ๆ
จะเห็นเป็ นกลุม่ ลายดอกไม้แบบนี.้ ..ยังมีอีกผืน เป็ นผ้าไหมหังโจวสีเขียวเข้มปั กลายดอกกระดุม
ขาว ทัง้ สุภาพและสง่า หากทําเป็ นเสือ้ คลุมตัวนอกยิ่งจะเหมาะนัก ยังมีผืนนี ้ เป็ นผ้าสีกรมปั ก
ลายกระเรียนและหลินจือ หน้าหนาวมาถึงแล้ว ใช้ทาํ เป็ นเสือ้ คลุมได้พอดี ข้ายังนําพวกขนสัตว์
ติดมาด้วย แม้ขนประเภทนีจ้ ะดี แต่ไม่อาจเทียบรัศมีกบั ของท่านแม่เฒ่าในสกุลที่นาํ มาทําเป็ น
ผ้าคลุมได้ ของข้าชิน้ นี ้ อย่างมากก็เป็ นได้แค่ผา้ คาดผมเท่านัน้ ยังดีท่ีเป็ นสีขาว จะเล็กใหญ่ลว้ น
ใช้ได้ทงั้ สิน้ ...”
นางสาธยายยาวเหยียดไปเรื่อย รูปแบบของผ้าจะใหม่หรือเก่าอวีถ้ งั ก็ไม่รู ้ แต่สีของผ้า
หากไม่ใช่ขาวดําก็เป็ นเขียวเข้มๆ ล้วนเป็ นแบบที่คนไว้ทกุ ข์สวมใส่กนั เห็นได้ว่ามีการใส่ใจเป็ น
อย่างมาก
ท่านแม่เฒ่ากลับเอ่ยอย่างจุกจิกว่า “ข้ามิใช่กาํ ชับว่าทางนีย้ งั มีหลานสาวอีกคนรึ? เหตุ
ใดจึงมีแต่ผา้ สีสภุ าพเรียบๆ เช่นนี?้ ”
หวังต้าเหนียงกับอวีถ้ งั ต่างตะลึงไปทัง้ คู่
1180

ท่านแม่เฒ่าดึงผ้าสีกรมปั กลายกระเรียนและหลินจือมาดูอย่างไม่ชอบใจ “สีดอกไม้ดมู ี


อายุไปหน่อย ไม่มีแบบปั กลายสี่บรุ ุษแห่งบุปผาหรือไม่ก็ลายอิงเถาหรือผลซิ่งผลหลี่ 2บ้างรึ?”
236

หวังต้าเหนียงตอบโต้ได้ทนั เวลา “มีเจ้าค่ะ! ข้าไม่แน่ใจว่าคุณหนูอวีจ้ ะชอบแบบไหน จึง


ไม่กล้านํามาหลายแบบนัก ข้าจะให้คนกลับไปนํามาเดี๋ยวนี ้ พรุง่ นีเ้ ช้าก็สง่ มาถึงแล้วเจ้าค่ะ”
ท่านแม่เฒ่าเบะปาก “ขืนรอเจ้า ดอกกะหลํ่าก็รว่ งโรยหมดแล้ว เฉินซื่อ เจ้าหยิบกุญแจ
ข้าไปเปิ ดห้องคลังที เลือกผ้าที่เหมาะกับแม่นางอย่างคุณหนูอวีม้ าสักหลายพับ”
เฉินต้าเหนียงรับคําด้วยรอยยิม้ แล้วเดินหายไป
อวีถ้ งั นัน้ กลับสูดลมหายใจเย็นเยียบเข้าปอด
นี่มิใช่การให้รางวัลแบบสามัญทั่วไปแล้ว
นางคิดจะปฏิเสธ แต่ท่านแม่เฒ่าก็เอ่ยดักว่า “ข้าชอบเห็นเด็กสาวๆ ที่แต่งตัวสะสวย
คนสกุลจี ้ เจ้าไปเชิญคุณหนูใหญ่กับคุณหนูคนอื่นๆ มาด้วย หนึ่งคนก็ตัดเสือ้ ผ้าสักหลายชุด
หน่อย”
อวีถ้ งั ไม่สะดวกจะบอกปั ด จึงกล่าวขอบคุณท่านแม่เฒ่าด้วยรอยยิม้ ก่อนจะเย้าท่าน
แม่เฒ่าให้อารมณ์ดีวา่ “อาศัยวาสนาของท่านแล้ว ได้สวมเสือ้ ฝี มือช่างตัดเย็บจากหังโจว ปี ใหม่
ปี นี ้ ข้าต้องใส่ออกไปโอ้อวดให้มากหน่อย”
ท่านแม่เฒ่าหัวเราะขําใหญ่ พลางโบกมือไปมาคล้ายระอาใจ จากนัน้ ก็เรียกอวีถ้ งั เข้า
ไปหา ถกเถียงกันเรื่องรู ปแบบของอาภรณ์ว่า “ข้าจําได้ว่าปี ก่อนนิยมกระโปรงหน้าม้าสิบสอง
พับมิใช่หรือ? ปี นีย้ งั เป็ นแบบสิบสองพับอยู่หรือไม่?”
หวัง ต้า เหนี ย งหัว เราะพลางพูด ว่ า “ปี นี น้ ิ ย มกระโปรงจัน ทร์ท รงกลดเจ้า ค่ะ คล้า ย
กระโปรงพับที่ทาํ เป็ นกระโปรงร้อยจีบ ทว่าจะเหมือนกระโปรงบานเพราะปล่อยชาย หน้าร้อนปี

2
ผลซิ่ง คือลูกพลัม ส่วนผลหลี่คือแอปพริคอต
1181

นี ้ เหล่าฮูหยินเมืองหังโจวแทบจะมีกันคนละชุด ท่านแม่เฒ่าเป็ นคนรู ปร่างผอมบาง ใส่แล้ว


จะต้องงดงามมากแน่เจ้าค่ะ”
นางพู ด ไป ก็ ค ว้า กระโปรงตัว หนึ่ ง มาให้ท่ า นแม่ เ ฒ่ า ดู ทว่ า หางตานั้น กลับ ลอบ
ประเมินอวีถ้ งั อยู่ในที
ไม่รูว้ ่าคุณหนูอวีผ้ ูน้ ีเ้ ป็ นญาติฝ่ายไหนของท่านแม่เฒ่า นางตัดเสือ้ ให้ท่านแม่เฒ่ามา
เจ็ดแปดปี แล้ว เพิ่งจะเคยเห็นคุณหนูท่านนีเ้ ป็ นครัง้ แรก ทว่า หน้าตาช่างพริม้ เพราเสียจริง! ถ้า
เป็ นญาติฝ่ ั งมารดาของท่านแม่เฒ่าก็จะดูตวั สูง แต่คุณหนูท่านนีไ้ ม่สงู ไม่เตีย้ ไม่ใคร่จะคล้าย
ญาติฝ่ ั งนัน้ ของท่านแม่เฒ่าเท่าไร ทว่าสามารถทําให้ท่านแม่เฒ่าช่วยเลือกเสือ้ ผ้าได้ ชัดเจนว่า
คงเป็ นที่โปรดปรานไม่เบา
คิ ดถึง ตรงนี ้ นางก็หันไปส่งสายตาให้โ จวเหนียงจื่อผูเ้ ป็ นศิษย์ บุย้ ใบให้นางสังเกต
ความชอบของอวีถ้ งั ให้ดี ครัง้ หน้าถ้ามาอีก จะได้แนะนําเนือ้ ผ้าและรูปแบบตามที่อวีถ้ งั ชมชอบ
ได้
โจวเหนียงจื่อพยักหน้า ทิง้ สายตาไว้ท่ีรา่ งของอวีถ้ งั อยูต่ ลอด
อวี ้ ถั ง ไม่ ไ ด้ ใ ส่ ใ จ คิ ด ว่ า ในเมื่ อ เป็ นรางวั ล จากท่ า นแม่ เ ฒ่ า ก็ ไ ม่ จ ํ า เป็ นต้ อ ง
กระมิดกระเมีย้ น รอให้เฉินต้าเหนียงเปิ ดห้องคลังของท่านแม่เฒ่า หยิบเอาผ้าลายดอกไม้ใบ
หญ้าออกมากองโต นางก็เลือกผ้าไหมหังโจวไร้ลวดลายสีเขียวอ่อนออกขาวมาผืนหนึ่ง ก่อนจะ
เอ่ยด้วยรอยยิม้ ว่า “ผืนนีส้ วยดีเจ้าค่ะ”
เฉิ นต้าเหนียงมองอวีถ้ ังด้วยดวงหน้าไม่เปลี่ยนสี ในใจก็คิดว่า มิน่านายท่านสามจึง
มองคุณหนูท่ า นนี ด้ ว้ ยสายตาสูง ส่ง นัก แม้ท่ า นแม่เ ฒ่า จะสั่ง ให้น างหาผ้า สีสัน สดใดมาให้
คุณหนูทงั้ หลายเลือก แต่อย่างไรก็ยงั อยู่ในช่วงไว้ทุกข์ให้ท่านผูเ้ ฒ่า ต่อให้เลือกได้ก็ไม่สมควร
เลือกสีท่ีฉูดฉาดเกินไป ด้วยเหตุนีน้ างจึงเลือกสีเขียวอ่อน สีฟ้าอ่อนและสีหม่นๆ มาหลายพับ
คาดไม่ถึงว่าคุณหนูท่านนีจ้ ะมีความคิด นางไม่ได้เลือกแบบที่ปักไหมสีเงินทอง แต่กลับเลือกผ้า
ไหวหังโจวอีกผืนที่ช่ือว่าปี ้สยุ่ ชิงแทน
1182

ท่านแม่เฒ่าก็สงั เกตเห็นเช่นกัน นางเอ่ยยิม้ ๆ ว่า “ผ้าพับนีจ้ ืดชืดเกินไป ไม่เหมาะไว้ใส่


ตอนปี ใหม่หรอก ข้าว่าผืนสีฟ้าอ่อนจะสวยกว่า”
1183

บทที่ 148 คุณหนู


อวีถ้ งั หัวเราะ “แม้ผา้ พับนีจ้ ะเรียบไปหน่อย แต่เป็ นสีท่ีไม่ค่อยจะพบเห็น กล่าวตามจริง
ข้าโตขนาดนีแ้ ล้ว เป็ นครัง้ แรกที่ได้เห็นผ้าสีเขียวที่เฉดอ่อนขนาดนี ้ สารภาพเลยว่า เมื่อครู ่ขา้
ลังเลอยู่ครูห่ นึ่ง สีท่ีหายากเช่นนีร้ าคาคงแพงมากแน่ หากข้าเลือกผ้าผืนนีก้ ็คงละอายแก่ใจ แต่
ถ้าเลือกผ้าผืนอื่น ข้าก็คงกลับบ้านไปแล้วเสียใจจนนอนไม่หลับอยู่ดี ข้าคิดแล้วคิดอีก สุดท้ายก็
ตัดสินใจทําหน้าหนาเลือกผ้าผืนนี ้ แล้ววันข้างหน้าข้าค่อยทําดอกไม้ผา้ มาให้ท่านหลายๆ ดอก
นะเจ้าคะ”
ท่านแม่เฒ่าฟั งแล้วก็หวั เราะชอบใจยกใหญ่
คนรับใช้ในห้องต่างพากันขําตามไปด้วย
ห้องด้านในพลันเต็มไปด้วยเสียงสรวลเสเฮฮา
เฉินต้าเหนียงแอบเอีย้ วตัวหันไปเช็ดนํา้ ตาเงียบๆ
นานเท่าไรแล้วหนอ
ตัง้ แต่ท่ีท่านผูเ้ ฒ่าจากไป ท่านแม่เฒ่าก็เอาแต่ทกุ ข์ตรม พวกนางที่คอยรับใช้ขา้ งกายก็
ได้แ ต่ ร ะวั ง ตัว เต็ ม ที่ กลัว ว่ า อาจเผลอไผลพูด อะไรออกไปจนท่ า นแม่ เ ฒ่ า ต้อ งนํ้า ตาตก
บรรยากาศของเรือนเหอหมิงจึงตกอยู่ใต้ความเศร้าหมองและตึงเครียด
วันนี ้ ในที่สดุ นางก็ได้เห็นรอยยิม้ ของท่านแม่เฒ่า รอบกายท่านแม่เฒ่ากลับมามีเสียง
หัวเราะอีกครัง้
ยังคงเป็ นนายท่านสามที่เก่งกาจ!
สามารถทําให้ท่านแม่เฒ่าลุกขึน้ มามองไปยังเบือ้ งหน้าได้
นางหลบไปล้างหน้าล้างตาที่หอ้ งนํา้ ชา ส่องกระจกมองตนเองนิดหน่อย เมื่อเห็นว่าไม่
มีรอ่ งรอยการร้องไห้ทงิ ้ ไว้ ก็เดินออกจากห้องนํา้ ชาด้วยรอยยิม้
1184

ใครจะคิดว่าเมื่อก้าวขาออกจากห้องนํา้ ชาก็เจอกับเหล่าคุณหนูท่ีมาคารวะท่านแม่เฒ่า
พอดี
นางถลาเข้าไปทําความเคารพ
ผูท้ ่ีอยู่หน้าสุดเป็ นบุตรสาวคนโตบ้านสามของนายท่านใหญ่ ฤดูใบไม้ผลิปีนีเ้ พิ่งถึงวัย
ปั กปิ่ น นางสวมชุดคลุมผ้าไหมหังโจวสีชาเรียบง่าย แต่ก็ไม่อาจบดบังความงามของผูส้ วมใส่ได้
เลย นางเอ่ยทักเฉินต้าเหนียงเสียงเบาว่า “ได้ยินว่าผูม้ าเยือนคือคุณหนูอวีแ้ ห่งตรอกชิงจู๋?”
เฉินต้าเหนียงพยักหน้าพร้อมรอยยิม้ แต่ไม่คิดจะปากมากกับคุณหนูซ่ึงอยู่ลาํ ดับสอง
ของสกุลเผยผูน้ ี ้ เพียงตีหน้ายิม้ แล้วเกี่ยวม่านเปิ ดออก พลางบอกว่า “ข้างนอกอากาศหนาว
คุณหนูทกุ ท่านระวังจะถูกไอเย็น รีบเข้าไปคุยกันด้านในเถอะเจ้าค่ะ ท่านแม่เฒ่านางรออยู่แล้ว”
คุณหนูทงั้ หลายจึงให้หนึ่งในพวกตนซึ่งสวมเสือ้ คลุมสีขาวปั กลายหญ้าเซียนเฉ่า อายุ
ประมาณแปดเก้าปี เดินนําเข้าไปก่อน
ทว่าคุณหนูผนู้ นั้ กลับหลบไปยืนด้านข้าง หลีกทางให้คณ
ุ หนูคนอื่นที่เหลือ
คุณหนูคนอื่นมิได้เกรงใจ เดินเรียงตามลําดับอายุมากน้อยเข้าไปทีละคน
พอเข้าห้องไปไออุ่นก็ปะทะโดนหน้า คุณหนูทงั้ หลายชอบมาที่น่ีบ่อยๆ ก็เพราะเหตุนี ้
พวกนางถอดผ้าคลุมกันลมออก เห็นเป็ นเสือ้ อีกชัน้ ที่สวมทับอยู่ดา้ นใน แต่กลับไม่มีใครรู ส้ ึก
ร้อน มีเพียงคุณหนูรองที่เอ่ยว่า “ท่านแม่เฒ่าช่างรูจ้ กั เสพความสําราญเหลือเกิน” จากนัน้ ทุกคน
ก็เดินไปที่โถงรับรองฝั่งตะวันออก
“ท่านแม่เฒ่า!” เหล่าคุณหนูทงั้ หลายนี ้ ที่อายุมากสุดก็ไม่เกินสิบสี่สิบห้า ที่อายุนอ้ ยสุด
ก็ประมาณแปดเก้าขวบ แม้ทกุ คนจะอยู่ในชุดสุภาพสีหม่น ทว่าแต่ละคนเป็ นเฉกบุปผาน้อย ทํา
ให้ดวงตาคนวาววิบวับ งดงามน่ามองไปเสียสิน้
อวีถ้ งั ตะลึงตะลานไป
1185

หวังต้าเหนียงยิ่งเอ่ยชมเสียงเปาะว่า “ทุกครัง้ ที่มาที่จวน มักรูส้ กึ ว่าตนเองหล่นลงไปใน


กองบุปผา พอหันไปมองคุณหนูบา้ นอื่น ล้วนไม่มีคนใดเข้าตา ผูท้ ่ีเป็ นเยี่ยมลํา้ เลิศนัน้ กลับมา
รวมตัวที่จวนหลังนีแ้ ล้ว”
ท่านแม่เฒ่าหัวเราะเบาๆ แต่ไม่ตอบคํา นางหันไปเรียกให้เหล่าคุณหนูมาทําความรูจ้ กั
กับอวีถ้ งั “นี่คือคุณหนูอวี ้ อายุมากกว่าพวกเจ้าทัง้ หมด จะเรียกนางว่า ‘พี่สาว’ ก็ได้” จากนัน้ ก็
เปลี่ยนมาแนะนําเหล่าคุณหนูอีกที “นี่คือเจ้ารอง เจ้าสาม เจ้าสี่ แล้วก็เจ้าห้า”
คุณหนูแต่ละคนต่างเอ่ยทักทายอวีถ้ งั อย่างมีมารยาท
อวีถ้ งั คารวะตอบกลับไปทีละคน ในสมองก็หมุนแล่นเร็วจี๋ พยายามจับคู่ข่าวลือที่เคย
ได้ยินกับบุคคลที่อยู่เบือ้ งหน้า
สกุลเผยปั จจุบนั แบ่งเป็ นเจ็ดบ้าน แยกเรือนออกไปแต่ไม่แยกสกุล ล้วนแต่อาศัยอยู่ท่ี
ตรอกเสี่ ย วเหมยทั้ง สิ น้ ในสกุล มี บุรุ ษ มากกว่า หญิ ง สาว หนึ่ง ในนั้น คื อ คุณ หนูใ หญ่ ซ่ึง เป็ น
บุตรสาวคนโตบ้านรองของนายท่านใหญ่ บัดนีอ้ อกเรือนไปแล้ว คุณหนูรองเป็ นบุตรสาวคนโต
บ้านสามของนายท่านใหญ่ คุณหนูสามเป็ นบุตรสาวคนโตบ้านสามของนายท่านรอง คุณหนูส่ี
เป็ นเป็ นบุตรสาวคนโตบ้านห้าของนายท่านใหญ่ คุณหนูใหญ่บา้ นหลัก ซึ่งก็คือบุตรสาวของ
นายท่านรองเผยเซวียนที่ช่ือว่าเผยตันกลับอายุนอ้ ยที่สดุ นับเป็ นลําดับห้า เรียกว่าคุณหนูหา้
หลานสาวแท้ๆ ของเผยเยี่ยน…อวีถ้ งั อดจะลอบประเมินสักหลายทีมิได้
แม่นางผูน้ ีน้ ่าจะมีรูปโฉมเหมือนมารดา เพราะไม่คอ่ ยจะคล้ายท่านแม่เฒ่ากับเผยเยี่ยน
สักเท่าไร คิว้ เรียวเล็กดวงตาผลซิ่ง เปล่งประกายงดงามให้เห็นตัง้ แต่อายุยงั น้อย
นางรับรูไ้ ด้ถึงสายตาของอวีถ้ งั จึงส่งยิม้ ขวยเขินกลับมาให้
อวีถ้ งั ถอนหายใจเฮือก
นางกลัวว่าคุณหนูหา้ จะคบหาด้วยลําบากน่ะสิ
1186

อย่างไรก็เป็ นหลานสาวแท้ๆ ของท่านแม่เฒ่า หากว่าการที่นางได้รบั ความโปรดปราน


กลับทําให้หลานสาวแท้ๆ ในสกุลไม่พอใจ นี่มิใช่ก่อเรื่องวุน่ วายให้สกุลเผยหรือ?
บัดนีด้ แู ล้ว คุณหนูหา้ น่าจะนิสยั อ่อนโยน ไม่ใช่ประเภทชอบหาเรื่องหรือว่าเอาชนะผูอ้ ่นื
พวกนางน่าจะเข้ากันได้ไม่เลว แต่คณ ุ หนูรองผูน้ นั้ รู ปโฉมงดงามไม่พดู ถึง ทว่าท่าทางเย่อหยิ่ง
กลับแขวนชัดเต็มหน้า มองแล้วรู ท้ นั ทีว่าคบหาด้วยยาก หากนางต้องปฏิสมั พันธ์ดว้ ยคงต้อง
ระวังตัวให้มากหน่อย
คุณหนูสามกับคุณหนูรองมาจากบ้านเดียวกัน แต่หน้าตาไม่เหมือนกันสักนิด นางมีควิ ้
ใบหลิวดวงตาหงส์ อายุไล่เลี่ยกับคุณหนูรอง ดวงตาขึงหน้านิ่ง วางตัวถูกต้องตามระเบียบจารีต
มีมาดของคุณหนูสกุลใหญ่อยู่เต็มเปี่ ยม
คุณหนูส่ีน่าจะอ่อนกว่าคุณหนูสามสองสามปี ดวงตากระจ่างใสกับฟั นขาวผ่อง ตอนที่
มองคนก็จอ้ งตอบอย่างตรงไปตรงมา เห็นชัดว่าซุกซนมีไหวพริบ น่าจะเป็ นคนร่าเริงและดือ้ รัน้
ที่สดุ ในบรรดาคุณหนูทงั้ หมด
ท่านแม่เฒ่าให้พวกนางเลือกผ้าที่ตนเองชอบหนึ่งผืน ทัง้ บอกว่า “ไว้ตดั เสือ้ ผ้าฤดูหนาว
สักหลายตัวพร้อมกับพี่อวีข้ องพวกเจ้าไปเลย”
คุณหนูหา้ และคุณหนูสามต่างรับคําว่า “เจ้าค่ะ” อย่างนอบน้อม คุณหนูรองมองอวีถ้ งั
ด้วยสายตาดูแคลน มีเพียงคุณหนูส่ีท่ีฉวยโอกาสตอนคุณหนูคนอื่นเลือกผ้าและท่านแม่เฒ่า
กําลังสนทนากับหวังต้าเหนียงอยู่ หันมากระซิบถามอวีถ้ ังว่า “พี่สาวเลือกผ้าสีอะไรหรือเจ้า
คะ?”
แม่นางน้อยที่รา่ เริงสดใสคงไม่มีใครที่รกั ไม่ลง
อวีถ้ งั ก็ไม่ใช่ขอ้ ยกเว้น
นางเอ่ยเสียงแผ่วว่า “ข้าเลือกผ้าสีเขียวอ่อนที่วางอยู่ขา้ งๆ นั่น”
1187

คุณหนูส่ีหนั ขวับมามองทีหนึ่ง “พี่สาวตาคมยิ่ง สีเขียวอ่อนผืนนัน้ เป็ นของบรรณาการ


เมื่อหลายปี ก่อน ท่านแม่เฒ่าได้รบั มาหลายผืน มอบให้ท่านย่าข้าไปผืนหนึ่ง ต่อมาพี่สาวคนโต
ออกเรือน ก็ถกู ท่านแม่เฒ่าบ้านรองขอไปให้พ่ีใหญ่ตดั ชุดอีกผืนหนึ่ง”
อวีถ้ งั รูว้ า่ ผ้านีค้ งมิใช่ของถูก แต่คาดไม่ถึงว่าจะสูงค่าเพียงนี ้
คุณหนูส่ีคล้ายอ่านความในใจของอวีถ้ ังออก จึงกระซิบบอกนางเสียงรัวเร็วว่า “แต่
พี่สาวก็ไม่ตอ้ งเก็บไปใส่ใจ ท่านแม่เฒ่าใจดีมากเจ้าค่ะ ตอนที่พวกเรามาหา ก็จะทําขนมไข่ให้
กินทุกครัง้ ทัง้ ยังสั่งห้องครัวใช้นา้ํ แกงไก่ทาํ ต้มจืดเต้าหูใ้ ห้อีกต่างหาก”
อวีถ้ งั เม้มปากยิม้
ช่วงไว้ทกุ ข์จะกินได้เพียงอาหารมังสวิรตั ิเท่านัน้
พวกผูใ้ หญ่ยงั พอไหว แต่พวกเด็กๆ ยังอายุนอ้ ย นับเป็ นช่วงร่างกายกําลังเติบโต บาง
สกุลก็ครํ่าเคร่งมากเกินไป หากว่าต้องมีช่วงไว้ทกุ ข์ติดๆ กัน เด็กๆ ก็ตอ้ งทรมานร่างกายตามไป
ด้วย
คิดไม่ถึงว่าท่านแม่เฒ่าจะเป็ นคนที่มีเมตตาเพียงนี ้
ต้องรูไ้ ว้ดว้ ยว่า ผูท้ ่ีเดินทางสูแ่ ดนสุขาวดีไปนัน้ คือท่านผูเ้ ฒ่า
นางหวนคิดถึงเผยเยี่ยน
บางที นี่อาจเป็ นจุดที่ทาํ ให้ท่านแม่เฒ่าได้รบั ความเคารพจากผูอ้ ่ืนกระมัง?
เมื่อออกจากจวนสกุลเผย อวีถ้ งั ไม่เพียงมีผา้ หังโจวสีเขียวอ่อนเพิ่มขึน้ มา ยังมีกระโปรง
หน้าม้าสิบพับสีเขียวเข้มปั กลายดอกเหมยกล้วยไม้และใบไผ่มาหนึ่งชิน้ เสือ้ กั๊กยาวปี๋ เจี่ยสีฟ้า
ม่วงประดับขนเพียงพอนหนึ่งชิน้ และหมอนซุกมือที่ทาํ จากขนสัตว์สีขาวอีกหนึ่งชิน้ ...
เฉิ น ซื่ อ เอ่ ย อย่ า งทุก ข์ใ จว่า “อาภรณ์ท่ี ดี เ พี ย งนี ้ จะเก็ บ เอาไว้เ ป็ น สิ น เดิ ม เจ้า ตอน
แต่งงานได้หรือไม่?”
1188

นี่ย่อมเป็ นการพูดล้อเล่น
หากว่ารูเ้ ข้าใจธรรมเนียม ก็ควรจะสวมชุดนีไ้ ปคารวะท่านแม่เฒ่าที่จวนสกุลเผยในวัน
แรกของปี ใหม่
แต่ว่าประตูใหญ่ของสกุลเผยไม่ได้ผ่านเข้าไปง่ายๆ เช่นนั้น อวีถ้ ังอยากจะไปกล่าว
สวัสดีปีใหม่แก่ท่านแม่เฒ่า อย่างไนก็ตอ้ งดูดว้ ยว่าท่านแม่เฒ่าจะมีเวลาว่างให้นางพบหรือ
เปล่า!
เฉินซื่อคิดแล้วคิดอีกก็ยงั คิดไม่ตกว่าจะตอบแทนท่านแม่เฒ่าอย่างไร จึงกัดฟั นเอ่ยว่า
“ไม่ได้สิ! อวีถ้ งั เจ้าจะต้องฝึ กงานเย็บปั กให้ดี งานตัดเย็บเจ้าไม่ได้ความ แต่พอทําถุงเท้าสักคูใ่ ห้
ท่านแม่เฒ่าได้กระมัง?”
“ท่านปล่อยข้าไปเถอะเจ้าค่ะ!” อวีถ้ งั กุมศีรษะ “ถุงเท้าของท่านแม่เฒ่าก็มีหอจินหลี่ห ์
ของหวังต้าเหนียงทําให้อยู่แล้ว ทัง้ ยังปั กลวดลายแสนจะซับซ้อน ฝี มือยังเหนือชัน้ กว่าท่านเสีย
อีก! ท่านให้ขา้ ทําถุงเท้าให้ท่านแม่เฒ่า มิใช่เป็ นการสร้างความลําบากใจให้นางหรือ…ถ้าใส่
ตนเองก็ตอ้ งกลํา้ กลืนอัดอัน้ ตันใจ ถ้าไม่ใส่ นายท่านสามก็ตอ้ งรับความไม่เป็ นธรรมแทน”
อย่างไรนายท่านสามก็เป็ นคนพานางเข้าจวน นางนับว่ามองอะไรๆ ออกแล้ว ข้างกาย
ท่านแม่เฒ่าหาได้ขาดแม่นางน้อยมาสร้างความสําราญให้ แต่ท่ีนางสามารถอยู่ขา้ งกายท่านแม่
เฒ่าได้ แปดในสิบส่วนเป็ นเพราะท่านแม่เฒ่าไม่อยากทําร้ายความกตัญ�ูของบุตรชาย แสร้ง
หลับตาข้างหนึ่งเพื่อให้นางมาอยู่เป็ นเพื่อน
เฉินซื่อหัวเราะ ‘พรืด’ ออกมาแล้วบอกว่า “เช่นนัน้ จะทําอย่างไรเล่า?”
อวีถ้ งั ลูบจมูกไปมา “ข้าจะลองดูว่าสามารถช่วยท่านแม่เฒ่าคัดลอกหนังสือสวดมนต์
ได้หรือไม่”
ชาติ ก่ อ น นางถูก ฮูห ยิ น หลี่ บัง คับ ให้คัด หนัง สื อ สวดมนต์ไ ม่ ห ยุด หย่ อ น จนฝึ ก เป็ น
ลายมือตัวบรรจงอ่อนช้อยออกมาได้
1189

ในเมื่ อ ท่ า นแม่ เ ฒ่า ต้อ งการไปทํา พิ ธี กุศ ลให้ท่ า นผู้เ ฒ่า ที่ วัด เจาหมิ ง นางก็ จ ะช่ ว ย
คัดลอกหนังสือสวดมนต์ให้ท่านผูเ้ ฒ่าสักหลายม้วน ท่านแม่เฒ่าคงยินดีรบั ไว้กระมัง?
เฉินซื่อได้ฟังก็คิดว่าเข้าท่าไม่เลว แทบอยากจะให้อวีถ้ ังคัดตําราออกมาหลายๆ เล่ม
เสียเดี๋ยวนี ้ นางรีบร้องเรียกซวงเถาให้มาหา “เร็วเข้า ไปหยิบกระดาษที่ดีท่ีสดุ ในห้องนายท่าน
มาให้คุณหนู หลายวันต่อจากนีเ้ จ้าไม่ตอ้ งทําอะไรทัง้ นัน้ นั่งคัดหนังสือสวดมนต์อยู่ในเรือนก็
พอแล้ว”
อวีถ้ งั หัวเราะไม่ได้ ร้องไห้ไม่ออก
กระดาษชัน้ เยี่ยมในห้องหนังสือของบิดาตอนนีก้ ็คือกระดาษเฉิงซินที่จวนสกุลเผยส่ง
มาให้คราวก่อน บิดานางยังไม่กล้าตัดใจใช้ ทว่า ก่อนหน้านีน้ างเอาแต่ว่นุ วายกับเรื่องของสกุล
เผย จึงไม่คอ่ ยได้เห็นหน้าบิดาเท่าไรนัก
“ท่านแม่” นางเรียก “ท่านพ่อล่ะเจ้าคะ?”
เฉินซื่อตอบว่า “ออกไปกับนายท่านอูแ๋ ล้ว บอกว่าจะไปซือ้ ที่”
หัวใจของอวีถ้ งั พลันกระตุก
หรือว่าเป็ นที่นาปลอดภาษี หา้ สิบหมู่ของสกุลหลี่ซง่ึ สามารถปลูกข้าวปี ้จิงได้?
นางตัง้ ใจว่าจะรอบิดากลับมา เฉินซื่อก็ถามเรื่องของเหล่าคุณหนูสกุลเผยขึน้ มาอย่าง
สนใจว่า “แม้อายุจะน้อยกว่าเจ้า แต่อย่างไรก็เติบโตมาในสกุลใหญ่ เจ้าคบหากับพวกนางเป็ น
อย่างไรบ้าง? หากว่าเข้ากันไม่ได้ ก็บอกกับจีต้ า้ เหนียงไว้ ต่อไปหาจังหวะที่พวกนางไม่อยู่แล้ว
ค่อยไปพบท่านแม่เฒ่า”
“น่าจะยากอยู่เจ้าค่ะ” อวีถ้ งั นึกถึงสถานการณ์วนั นีต้ อนที่เข้าไปพบท่านแม่เฒ่า “เพราะ
กลัวท่านแม่เฒ่าจะเหงาอยู่คนเดียว พวกคุณหนูคงได้รบั คําสั่งจากผูใ้ หญ่มาเหมือนกัน ว่าให้ไป
เยี่ยมเยียนท่านแม่เฒ่าทางนัน้ บ่อยๆ แต่ว่าท่านก็ไม่ตอ้ งกังวลไป แม้คณ ุ หนูสกุลเผยแต่ละคน
1190

จะนิสัยไม่เหมือนกัน แต่มีการอบรมสั่งสอนของสกุลอยู่ คงมิใช่คนประเภทชอบสร้างความ


ลําบากให้ผอู้ ่นื แน่ น่าจะพอคบหากันได้เจ้าค่ะ”
ที่นางพูดเป็ นความจริง
ต่อให้เป็ นคุณหนูรองสกุลเผย นางยังรู ส้ กึ ได้ชดั เจนว่าคุณหนูรองไม่ค่อยจะชื่นชอบตน
นัก อาจเพราะยังแคลงใจว่านางใช้ลกู ไม้แบบใดจึงสามารถประจบเอาใจท่านแม่เฒ่าได้ ทว่าก็
เพียงวางท่าเย็นชาใส่เท่านัน้ มิได้มีวาจาไม่น่าฟั งหรือจงใจกลั่นแกล้ง คุณหนูส่ีย่ิงไม่ตอ้ งพูดถึง
ทําอะไรก็อยากรู อ้ ยากเห็นไปหมด หากมิได้มีกฎระเบียบของสกุลอยู่ นางคงตามสืบเรื่องของ
ตนไปแล้ว
เฉินซื่อแม้จะได้ยินแบบนัน้ แต่ก็ยงั ไม่วางใจ “โบราณมีคาํ กล่าวเอาไว้ รับของของผูอ้ ่ืน
มาแล้ว เมื่อเกิดปั ญหาก็ไม่กล้าไปเอาเรื่องกับเขา ครัง้ หน้าเจ้าไปสกุลเผย ข้าจะทําขนมอร่อยๆ
ไปให้พวกคุณหนูทงั้ หลายได้ลองชิมกัน”
อวีถ้ งั ตอบรับด้วยรอยยิม้
การได้กินของเลิศรสด้วยกันสามารถทําให้คนสนิทสนมกันมากกว่าเก่าจริงๆ
1191

บทที่ 149 เรื่องเก่าๆ


อวีเ้ หวินกลับมาตอนดึกมากแล้ว ดื่มเหล้ามาจนเมามาย
อวีถ้ งั ที่คอยบิดากลับมาพลันได้ยินเสียงความเคลื่อไหว ด้านหนึ่งก็ช่วยอาเสาพยุงอวีเ้ ห
วินที่แทบยืนไม่ไหว ด้านหนึ่งก็เอ่ยว่า “ท่านพ่อ ท่านมิได้ไปซือ้ ที่ของสกุลหลี่หรือเจ้าคะ?”
ตอนแรกนางไม่ยินยอมให้บิดาซือ้ ที่นาของสกุลหลี่ เพราะคิดว่าเส้นทางใช้นา้ํ ไม่อาจ
ข้ามจากคลองของสกุลหลี่กบั บ้านสายตรงของพวกเขาได้ หากว่าถูกสกุลหลี่สกัดนํา้ ไว้ นาผืน
นัน้ ก็เป็ นแค่ท่ีดินไร้ประโยชน์ ต่อไปยังต้องพัวพันลึกซึง้ กับสกุลหลี่ เช่นนัน้ วุน่ วายเกินไป
อวีเ้ หวินหัวเราะหึๆ ท่าทีลาํ พองใจหนักหนา แล้วชูสามนิว้ ขึน้ มาให้อวีถ้ งั ดู พูดด้วยเสียง
อ้อแอ้ว่า “สามสิบหมู่ ข้าซือ้ แล้วสามสิบหมู่” จากนัน้ ก็ยกมือลูบผมอวีถ้ งั อย่างแรง “เป็ นของเจ้า
ทัง้ สิน้ เก็บเอาไว้ให้เจ้า”
อวี ถ้ ัง พลัน รู ส้ ึก อุ่น วาบที่ ก ลางอก แต่ความอุ่น วาบถูก แทนที่ ดว้ ยความสงสัย อย่าง
รวดเร็ว
นางประคองบิดาเข้าไปเรือนไปอย่างทุลกั ทุเล “ท่านพ่อ มิใช่ตกลงกันว่านายท่านอูแ๋ บ่ง
ส่ ว นเยอะเราแบ่ ง ส่ ว นน้อ ยหรื อ เจ้า คะ? จู่ ๆ ทํา ไมท่ า นถึ ง ซื อ้ ตั้ง สามสิ บ หมู่ไ ด้? แล้ว เรื่ อ ง
ชลประทานของห้าสิบหมู่นีจ้ ดั การอย่างไร? ท่านได้พดู คุยให้ชดั เจนก่อนทําสัญญากับสกุลหลี่
แล้วหรือยัง?”
“เจ้าสบายใจได้!” อวีเ้ หวินผลักอาเสากับอวีถ้ ังออก พยายามเดินโซเซเข้าเรือนด้วย
ตนเอง “นายท่านสามช่วยข้าจัดการเรียบร้อยแล้ว สกุลหลี่สายหลักก็ตอบตกลง นายท่านอู๋ขอ
เพียงที่นายี่สิบหมู่…”
เรื่องนีไ้ ปเกี่ยวอะไรกับเผยเยี่ยนเล่า?
อวีถ้ งั อ้าปากค้าง เป็ นนานกว่าจะได้สติ คิดจะถามที่มาที่ไปของเรื่องราวอย่างละเอียด
อวีเ้ หวินก็เดินโขยกเขยกเข้าห้องไปแล้ว พลางตะโกนเรียกชื่อเฉินซื่อเสียงดังลั่น “ข้าเมาแล้ว
1192

ทําไมเจ้ายังไม่ออกมาพยุงข้าอีก” ทําเอาเฉิ นซื่อหน้าแดงถึงหู แอบอยู่ในห้องด้านในไม่ยอม


ออกมา
นางได้แต่กมุ ขมับเดินกลับห้องอย่างจนใจ คิดว่าพรุง่ นีเ้ ช้าค่อยไปที่เรือนใหญ่สอบถาม
จากบิดา
ไม่คิดว่าอวีเ้ หวินจะออกจากเรือนไปตัง้ แต่ฟ้าไม่สาง
อวีถ้ งั มองขอบฟ้าที่แต้มด้วยสีขาวพุงปลา ร้องถามอย่างประหลาดใจว่า “เช้าขนาดนัน้
เลยรึเจ้าคะ?”
เฉิ นซื่อทําหน้าเหนื่อยหน่าย แล้วเอ่ยยิม้ ๆ คล้ายอับจนว่า “บอกว่านัดกับนายท่านอู๋
เอาไว้ จะไปดูท่ีนาของสกุลหลี่”
พูดแบบนี ้ ท่านแม่คงรูเ้ รื่องที่บิดาซือ้ ที่นาสามสิบหมู่ของสกุลหลี่แล้ว
อวีถ้ งั เอ่ยว่า “ท่านพ่อยังบอกอะไรอีกไหมเจ้าคะ?”
“ไม่มีแล้ว” เฉินซื่อตอบ “เมื่อคืนก็อาละวาดเพราะเมานั่นแหละ ยังจะพูดอะไรรู เ้ รื่อง
อีก” กล่าวจบ ใบหูนางก็แดงแจ๋ทนั ที
อวีถ้ งั ไม่ทนั สังเกตเห็น นางอยู่กินข้าวเช้าเป็ นเพื่อนมารดา
อวีเ้ หวินกลับมาพร้อมหน้าที่บานเป็ นกระด้ง
เขาผ่ า นประตูเ ข้า มาแล้ว พูด กับ อวี ถ้ ัง และเฉิ น ซื่ อ ว่า “ประเสริฐ ยิ่ ง แล้ว ! บัด นี ท้ ่ี น า
สามสิบหมู่ซ่ึงใช้ปลูกข้าวปี ้จิงได้ตกเป็ นของสกุลเรา นายท่านสามไม่ได้ออกหน้าเอง แต่ให้
พ่อบ้านใหญ่มาช่วยเหลือ สกุลเผยจะเป็ นคนชักคลองนํา้ เข้ามาให้ ทัง้ สกุลเผยจะคอยช่วยดูแล
เป็ นหูเป็ นตา ข้าเห็นพ่อบ้านของสกุลหลี่แล้ว หน้าตานี่ดไู ม่ได้เลย” พูดจบ เขาก็ลบู ศีรษะอวีถ้ งั
อย่างอ่อนโยน “ไม่คิดว่าข้าจะได้อาศัยวาสนาของอาถังรวดเร็วปานนี!้ ”
นี่พดู ถึงเรื่องอะไรไปถึงไหนกันแล้วนี่!
1193

อวีถ้ งั ถลึงตามองบิดาตัวเอง
อวีเ้ หวินไม่ถือสา เขาขําชอบใจแล้วนั่งลงข้างๆ เฉินซื่อ ฉวยโอกาสตอนที่ป้าเฉินไปยก
โจ๊กให้เขาอธิ บายว่า “ข้าไม่รูม้ าก่อนว่าที่นาด้านข้างของสกุลหลี่เป็ นของสกุลเผย ยังเคยไป
ขอให้นายท่านสามมาช่วยเป็ นคนกลางเจรจาให้ นายท่านสามเพียงตอบข้าว่าให้ซือ้ ที่นาผืนนัน้
อย่างสบายใจเถอะ มีปัญหาอะไรก็ไปหาเขาได้ ตอนแรกข้าคิดว่านายท่านสามคงวางแผนจะ
เข้าไปโน้มน้าวสกุลหลี่สายตรงว่าเลิกสร้างความลําบากให้พวกเราเสียที ใครจะคิดว่าเขากลับ
ขุดคลองอีกสายแยกออกมาจากคลองสกุลเผย เช่นนีป้ ระเสริฐยิ่งกว่าไปลงชื่อบนสัญญาอะไร
นั่นกับสกุลหลี่อีก…ต่อไปหากว่าสกุลหลี่เกิดกลับคําขึน้ มา ข้ามิตอ้ งถือสัญญาวิ่งโร่ไปหาสกุลห
ลี่ทุกครัง้ หรืออย่างไร? ทว่า ข้าก็นึกเสียใจอยู่ ที่นาชัน้ ดีสองร้อยหมู่ของเมืองหลินอันอยู่ในมือ
สกุลหลี่ สกุลเผยก็มีท่ีนาติดอยู่ขา้ งๆ กัน สกุลหลี่ตอ้ งการขายที่ ไม่แน่สกุลเผยอาจจะอยากซือ้
แต่เมื่อเรื่องมาถึงจุดนี ้ พูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”
กล่าวจบ อวีเ้ หวินก็ถอนหายใจเฮือก “สกุลเผยช่างเป็ นคนดีมีเมตตาเสียจริงๆ”
อวีถ้ งั กลับแทรกว่า “เป็ นเพราะแบบนีใ้ ช่หรือไม่ นายท่านอู๋จึงซือ้ ที่นาเพียงยี่สิบหมู่ อีก
ทัง้ ยี่สิบหมู่นนั้ ยังอยู่ตรงกลางระหว่างที่ของสกุลเรากับสกุลเผยด้วย”
“เจ้ารูไ้ ด้อย่างไรน่ะ?” อวีเ้ หวินสงสัย
มารร้ายในตัวอวีถ้ งั ลอบกลอกตาใส่อวีเ้ หวินหลายตลบ แต่ก็ถกู ต้องตามที่บิดาของนาง
กล่าวไว้ เรื่องมาถึงขัน้ นีแ้ ล้ว พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์
อวีเ้ หวินยังนําข่าวหนึ่งที่แตกต่างจากเรื่องราวเมื่อชาติก่อนกลับมาด้วย “ข้าได้ยินมา
จากนายท่านอู๋ ผ่านเดือนสิบไปสกุลหลี่ก็อาจจะย้ายไปอยู่เมืองหังโจวแล้ว”
อวีถ้ งั กับเฉินซื่อต่างก็แตกตื่นยกใหญ่
1194
1
จากบ้านเก่า คนดูแคลน 237

คนธรรมดาทั่วไปไม่มีใครย้ายจากบ้านเก่ากันง่ายๆ หรอก
เฉินซื่อถามอย่างร้อนใจว่า “เรื่องนีใ้ ครเป็ นคนพูด? สกุลหลี่ทาํ ไมต้องย้ายไปอยู่เมือง
หังโจวด้วยล่ะเจ้าคะ?”
อวีเ้ หวินตอบว่า “นายท่านอู๋ได้ยินมาจากผูด้ แู ลของสกุลหลี่ ผูด้ แู ลคนนัน้ ยังบอกอีกว่า
ก่อนหน้านีส้ กุลหลี่ได้ซือ้ เรือนที่เมืองหังโจวเอาไว้ เริ่มทยอยขนสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ไปที่เมือง
หัง โจวแล้ว รอพิ ธี ไ หว้บ รรพบุรุ ษ ตอนวัน ที่ ห นึ่ง เดือ นสิ บผ่ า นไป ก็ จ ะเคลื่ อนย้า ยทัน ที ส่ว น
หลี่ตวนก็จะติดตามใต้เท้าหลี่ไปเล่าเรียนที่เมืองหลวง เขามิใช่เป็ นจวี่เหรินรึ? ปี หน้าก็ครบสามปี
ที่จะจัดสอบแล้ว เขาล่วงหน้าไปเมืองหลวงก่อนนับว่าเหมาะสม เรื่องนีไ้ ม่น่าใช่แค่ข่าวลือแน่”
จิน้ ซื่อสามปี จดั สอบหนึ่งครัง้ ลองนับวันดู ก็ถึงปี ท่ีครบกําหนดจัดสอบแล้ว
เฉินซื่อพยักหน้า แล้วสนทนากับอวีเ้ หวินว่าจะจัดการที่นาสามสิบหมู่ซ่ึงเพิ่งซือ้ มาใหม่
อย่างไรบ้าง?
แต่ความคิดของอวีถ้ งั ไม่รูล้ อยไปไกลถึงไหนแล้ว
ชาติก่อน หลี่ตวนไม่ได้เข้าร่วมสนามสอบถึงสองครัง้ ติดๆ กัน แต่พอลงสนามก็สอบ
ผ่านเป็ นจิน้ ซื่อได้ทนั ที คุณชายใหญ่สกุลเผย เผยถงกับเผยฉานที่มาจากสกุลสาขาก็สอบเป็ นจิ ้
นซื่อได้พร้อมกับหลี่ตวนเช่นเดียวกัน
เมืองหลินอันจู่ๆ ก็มีจิน้ ซื่อโผล่ขึน้ มาสามคน สะเทือนเลือนลั่นไปทั่วแถบเจียงซูและเจ้
อเจียง

1
จากบ้านเก่า คนดูแคลน หมายถึง คนที่ยา้ ยออกจากบ้านเกิดไป ไม่มีพ่ีนอ้ งญาติมิตร ไม่มีท่ีพ่ึงพาอาศัย มักประสบกับ
การดูถกู ดูแคลนจากผูอ้ ่นื
1195

ตอนนีส้ ถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว หากว่าหลี่ตวนลงสนามสอบล่วงหน้า ไม่รูว้ ่าเขาจะ


สอบผ่านเป็ นจิน้ ซื่อได้ในครัง้ เดียวเลยหรือไม่? หากว่าเขาไปเล่าเรียนที่เมืองหลวง นางก็คงยาก
จะได้พบเจอเขาอีก ยิ่งไม่ตอ้ งพูดถึงการเอาคืนแก้แค้น หรือว่านางต้องมองดูหลี่ตวนลอยนวล
ออกจากเมืองหลินอันไปเช่นนีห้ รือ?
การตายของเว่ยเสี่ยวซานต้องแล้วกันไปแบบนีร้ ?ึ
อวีถ้ งั รูส้ กึ ไม่ยินยอม
นางคิดว่า คนเช่นหลี่ตวนนี ้ เดิมก็ไม่ค่คู วรจะเป็ นขุนนาง ไม่สมควรจะสอบผ่านหรือได้
ก้าวหน้าด้วยซํา้ ไป
ก่อนหน้านีน้ างคิดว่าตัวเองยังพอมีเวลา ตอนนีม้ านึกดู ไม่ว่าเรื่องใดก็ควรจะรีบจัดการ
ให้จบโดยไวจะดีกว่า
อวีถ้ งั ขมวดคิว้ พันกันวุน่
วงการบัณฑิตสายนี ้ ไม่ตอ้ งพูดถึงนาง ต่อให้บิดานางเป็ นคนออกหน้า ก็ไม่มีทางแตะ
ต้องหลี่ตวนได้
ตอนนี ้ การเกี่ยวดองของสกุลหลี่กบั สกุลกูไ้ ด้จบลงแล้ว แม้สกุลหลี่จะต้องขายที่ แต่ก็
ไม่เกี่ยวอันใดกับนางเลย อีกอย่างสกุลหลี่ก็แค่เงินขาดมือชั่วขณะ ขอเพียงหลี่อยี ้ งั รับราชการอยู่
สกุลหลี่ตอ้ งก้าวผ่านวิกฤติไปได้โดยเร็วแน่
นอกเสียจากสกุลหลี่จะไม่มีคนรับราชการแล้ว
ความคิดหนึ่งวาบผ่าน อวีถ้ งั นึกบางสิ่งออกทันใด
ชาติก่อน ห้าปี ถดั จากนี ้ ซึ่งก็คือปี ท่ีสองที่หลี่ตวนสอบติดเป็ นจิน้ ซื่อและซู่จ๋ีซ่ือแล้ว ได้
เกิดเรื่องขึน้ กับหลี่อี ้
1196

ตอนที่เขาเป็ นท่านข้าหลวงที่ร่ือเจ้า ได้ทาํ คดีคบชูข้ องแม่ม่ายกับน้องชายสามีคดีหนึ่ง


หลี่อีต้ ดั สินโทษตายให้แม่ม่ายผูน้ นั้ ส่วนน้องชายสามีก็เนรเทศออกไปสามพันลี ้ น้องชายสามี
ร่างกายไม่แข็งแรง สิน้ ใจอยู่กลางทาง สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไปห้าปี ลูกชายคนโตของแม่ม่ายก็
มาตีกลองร้องทุกข์หน้าศาลต้าหลี่ ยอมโดนโบยห้าสิบไม้แต่อย่างไรก็จะร้องเรียนหลี่อีใ้ ห้จงได้
เขาบอกว่าแม่ม่ายไม่ได้เป็ นชูก้ ับน้องชายสามี ทว่าเป็ นนายท่านสกุลหลี่ซ่ึงเป็ นสกุลใหญ่โต
ในรื่อเจ้าคิดจะขืนใจแม่ม่าย แต่ทาํ ไม่สาํ เร็จเพราะถูกน้องชายสามีทบุ ตีเข้า ด้วยความเจ็บแค้น
จึงใส่ความว่าแม่ม่ายกับน้องชายสามีลกั ลอบเป็ นชูก้ นั คดีนีต้ ดั สินอย่างไม่เป็ นธรรมโดยสิน้ เชิง
เมื่อข่าวแพร่ออกไป ชื่อเสียงของหลี่อกี ้ ็มวั หมอง
สกุลกูอ้ อกหน้าพยายามกูส้ ถานการณ์ สุดท้ายหลี่อีก้ ็ลอยตัวถูกลงโทษตัดเบีย้ หวัด
เพียงสามเดือนเท่านัน้
คนข้างนอกต่างด่าทอนายท่านสกุลหลี่ผนู้ นั้ ว่าจิตใจตํ่าทราม สาปแช่งให้เขาไม่ตายดี
สกุลหลี่ไม่อนุญาตให้ใครพูดเรื่องนีข้ นึ ้ มาอีก
อวีถ้ ังบังเอิญไปได้ยินหญิ งรับใช้กับแม่นมที่ ติดตามกูซ้ ีมาแอบนินทาฮูหยินหลี่ท่ีมัก
โหดร้ายกับกูซ้ ีอยู่เสมอ นางเลียนเสียงกูซ้ ีทาํ เป็ นเสียดสีหลี่อีว้ ่า “พวกไม่เอาไหน ได้ยินคนอื่น
เยินยอไม่ก่ีคาํ ก็เชื่อว่าตนเองกลายเป็ นผูอ้ าวุโสของผูอ้ ่ืนแล้ว เห็นเงินเข้าหน่อยก็ลืมแยกแยะดี
ชั่วไปหมด”
ตอนนั้น นางคิดว่า หญิ ง รับใช้เ พี ย งระบายความไม่เป็ น ธรรมแทนกู้ซีเท่า นั้น แต่พ อ
ย้อนกลับไปคิดอย่างละเอียด วาจาพวกนีน้ บั ว่ามีท่ีมาที่ไป
นายหญิ ง ทัง ยัง เป็ น ถึ ง ภรรยาของซิ่ ว ไฉ เพื่ อ ประจบข้า หลวงทัง นางแทบจะตีสนิ ท
นับเป็ นญาติดว้ ยอยู่แล้ว นายท่านหลี่แห่งรื่อเจ้ากับหลี่อีก้ ็มีนามสกุลเหมือนกัน ไม่แน่อาจจะ
เป็ นเหมือนนายหญิ งทังผูน้ ัน้ ก็ได้ คงอยากนับหลี่อีเ้ ป็ นพ่อบุญธรรมเสียเต็มแก่ นายท่านหลี่
ต้องการใส่รา้ ยแม่ม่ายกับน้องชายสามี หากไม่มีการช่วยเหลือจากหลี่อีค้ งทําไม่ได้ ‘เห็นเงินเข้า
หน่อยก็ลืมแยกแยะดีช่วั ’ ไม่แน่อาจหมายถึงหลี่อที ้ ่ีรบั เงินจากนายท่านหลี่มาก็เป็ นได้
1197

น่าเสียดายที่ตอนนัน้ นางกังวลกับความรักหรือชังของฮูหยินหลี่มากเกินไป ฮูหยินหลี่ไม่


อนุญาตให้ใครพูดถึงเรื่องนี ้ นางก็ไม่เคยไปตามสืบอย่างจริงจัง
คํานวณเวลาดู คดีแม่ม่ายกับน้องชายสามีน่าจะตัดสินช่วงที่หลี่อีใ้ กล้จะไปจากรื่อเจ้า
แล้ว
ชาวเมืองหลินอันลือกันให้ท่วั ว่ารอยรถลากที่หลี่อีใ้ ห้หลี่จวิน้ คุมกลับมาจมลึกลงพืน้ ดิน
ถึงสามส่วน…ไม่แน่อาจจะมีสว่ นเกี่ยวข้องกันอยู่จริงๆ?
คิดถึงตรงนี ้ อวีถ้ งั พลันยกมือตบศีรษะตนเอง
นางกําลังคิดเหลวไหลอะไรอยู่
หากในมือหลี่อีม้ ีเงินก้อนใหญ่ขนาดนัน้ ทําไมเขายังต้องขายที่นาปลอดภาษี ซ่งึ ใช้ปลูก
ข้าวปี ้จิงจํานวนห้าสิบหมู่นนั้ ด้วยเล่า?
ไม่ถกู !
หัวใจของอวีถ้ งั พลันเต้นรัว
หากสกุลหลี่ตอ้ งการฟอกเงินก้อนนัน้ ให้ขาวสะอาด ก็สามารถทําผ่านการขายที่นา
ปลอดภาษีหา้ สิบหมู่นีไ้ ด้
หัวใจของนางกระหนํ่าเต้นตึกตักๆ
ชาติก่อน สกุลหลี่ไม่ได้ขายที่นาปลอดภาษี หา้ สิบหมู่
แต่ตอนที่กซู้ ีแต่งเข้ามา ฮูหยินหลี่โอ้อวดไปทั่วว่าสินเดิมของกูซ้ ีมากมายเพียงใด นับว่า
เป็ นเรื่องดีตอ่ สกุลหลี่ไม่นอ้ ย
ตอนนัน้ กูซ้ ีมีสินเดิมติดตัวมามากมายเพียงนัน้ จริงๆ หรือ?
อวีถ้ งั พยายามเค้นสมองนึกภาพรายละเอียดการใช้ชีวิตของกูซ้ ี
1198

กูซ้ ีเป็ นคนมาตรฐานสูง เสือ้ ผ้าอาภรณ์ตอ้ งเรียบง่าย สง่าและสมกาลเทศะ แม้ว่านาง


จะมีเสือ้ ผ้าและเครื่องประดับเพิ่มขึน้ มาทุกปี แต่ของเหล่านัน้ มักจะสวมใส่ตอนเข้าร่วมงานเลีย้ ง
เท่านัน้ ปกติเวลาอยู่ในเรือนก็จะใส่ชดุ เก่ากลางใหม่กบั เครื่องประดับชิน้ โปรดเท่านัน้ ในสายตา
คนนอก เสื อ้ ผ้า เครื่อ งประดับ ของนางทุก ชิ น้ ล้ว นไม่ เ คยซํา้ แบบ แต่ล ะครั้ง ที่ อ อกงานก็ จ ะ
เปล่งแสงวิบวับเสมอ สิ่งนีไ้ ม่เพียงทําให้ผูอ้ ่ืนชื่นชม ยังมีอีกหลายคนที่เลียนแบบตามนาง ใน
สายตาของบ่า วรับใช้สกุลหลี่ กู้ซีเ รีย บง่า ยและใจกว้าง จัดการเรื่องในเรือนได้อย่างถี่ ถ้วน
เหมาะสม จุดใดควรจ่ายเงินก็จ่ายเงิน จุดใดไม่ควรจ่ายก็จะไม่จ่ายสักอีแปะ หากพูดตามที่กซู้ ี
เคยบอกไว้ สิ่งนีก้ ็คือหลักการและขอบเขตนั่นเอง
อวีถ้ งั แค่นยิม้
แต่ก่อนนางไม่เคยรู ้ คิดว่าคนรวยสูงศักดิก์ ็คงใช้ชีวิตแบบนี ้
ทว่าบัดนีเ้ มื่อได้เห็นท่านแม่เฒ่าสกุลเผย
นางอยู่ในช่วงไว้ทกุ ข์ไม่อาจสวมอาภรณ์ฉดู ฉาดมากลายได้ แต่ก็ท่มุ เงินเพื่อให้หลานๆ
ในจวนได้แต่งตัวสวย ขนาดคนอย่างอวีถ้ งั ที่คอยให้ความสําราญอยู่ขา้ งๆ ยังพลอยได้รบั ส่วน
แบ่งไปด้วยเลย…อย่างกูซ้ ียงั นับเป็ นคนมีเงินอะไรได้อีก! เห็นชัดๆ ว่าเงินทองมีจาํ กัดแต่แสร้ง
วางท่าเป็ นรํ่ารวยสูงส่ง เจตนาสร้างภาพให้ตวั เองดูดีก็เท่านัน้
เมื่อคิดถึงตรงนี ้ อวีถ้ งั พลันนึกออกอีกหนึ่งสิ่ง
ชาติก่อน ฮูหยินหลี่ไม่เคยพูดจาดีๆ กับกู้ซีดว้ ยซํา้ แต่เรื่องเงินกลับหน้าใหญ่ ใจปํ้ า
โดยเฉพาะหลังจากที่สกุลหลี่กบั สกุลหลินได้กาํ ไรจากกิจการทางทะเล และหลังจากที่พบว่ากูซ้ ี
รู เ้ รื่องที่หลี่ตวนมีความคิดสกปรกกับนาง นางไม่เพียงเรียกช่างฝี มือจากร้านเครื่องทองมาทํา
เครื่องประดับให้กซู้ ีบ่อยๆ ทัง้ ยังซือ้ ร้านค้าหลายแห่งทัง้ ที่หงั โจวกับเมืองหลวงภายใต้ช่ือของกูซ้ ี
ให้อีกด้วย
นางนึกว่าฮูหยินหลี่แค่ตอ้ งการชดเชยให้กซู้ ีแทนบุตรชายของตน ตอนนีม้ าใคร่ครวญดู
อาจจะมิใช่เช่นนัน้ แล้ว
1199

บทที่ 150 แบบภาพวาด


อวีถ้ งั ยิ่งคิดก็ย่งิ รูส้ กึ เข้าใกล้ความจริง
แต่น่าเสียดายที่ร่อื เจ้าห่างจากที่น่ีมาก ต่อให้นางเคลือบแคลงสงสัย แต่ก็ยากจะสืบหา
ความจริง อีกอย่างหากคํานวณเวลาดู เรื่องนีไ้ ด้กลายเป็ นคดีท่ีตดั สินอย่างไม่เป็ นธรรมไปแล้ว
นางก็ไม่รูว้ า่ ตัวเองยังสามารถทําอะไรได้อีก
แต่นางมั่นใจแปดในสิบเชียวว่า ที่นาปลอดภาษี หา้ สิบหมู่น่ ัน มีจุดประสงค์เพื่อฟอก
เงินทุจริตซึง่ ได้มาจากการเป็ นข้าหลวงที่ร่อื เจ้าให้กลายเป็ นเงินสะอาดอีกที
นางแทบจะนั่งไม่ติดอยู่แล้ว
หลี่อีร้ บั ตําแหน่งข้าหลวงที่ร่ือเจ้าถึงเจ็ดแปดปี หากมีใจคิดคด ย่อมมิได้มีเพียงคดีท่ี
ตัดสินผิดแน่ ที่แท้เขาก็ไม่ใช่คนดีอะไร บัดนีไ้ ด้รบั ราชการในเมืองหลวง อํานาจยิ่งเพิ่มกว่าเก่า
ได้เกี่ยวพันกับคนและปั ญหามากกว่าเดิม ใครจะรูว้ ่าเขายังจะทําเรื่องไร้คณ ุ ธรรมอะไรออกมา
ได้อีก
จะว่าไปแล้ว สกุลนางก็นบั เป็ นผูเ้ สียหายเช่นกัน!
หากมิใช่หลี่อมี ้ ีตาํ แหน่งเป็ นขุนนาง สกุลหลี่จะใจกล้าถึงขนาดคิดฆ่าคนรึ?
อวีถ้ งั พลันชิงชังเคียดแค้นราวกับมีศตั รูคนเดียวกัน คิดว่าตอนที่ยงั ไม่รูเ้ รื่องก็ช่างเถอะ
หากว่ารู แ้ ล้วแต่กลับไม่คิดทําอะไรสักอย่างเพื่อทําลายสกุลหลี่ เช่นนีจ้ ะคืนความเป็ นธรรมให้
เว่ยเสี่ยวซานที่ตายไปได้อย่างไร?
นางพลันกระเด้งตัวลุกจากเตียง ร้องเรียกให้อาเสาเข้าไปหา “เจ้าช่วยไปถามพ่อบ้านหู
ให้ขา้ ที ว่านายท่านสามมีเวลาว่างเมื่อใดบ้าง ข้ามีเรื่องอยากขอพบนายท่านสามสักหน่อย”
ในบรรดาคนที่อวีถ้ งั รู จ้ กั มีเพียงเผยเยี่ยนที่มีกาํ ลังพอจะตามสืบได้ว่าหลี่อีเ้ คยทําเรื่อง
อะไรไว้บา้ ง
1200

นางต้องการความช่วยเหลือจากเผยเยี่ยน
อาเสารับคําสั่งแล้วจากไป ครึง่ ชั่วยามถัดมาเขาก็กลับมาบอกนางว่า “สวนส้มของสกุล
เผยที่จ๋ีอนั สุกแล้ว นายท่านสามไปขายส้มที่จ๋ีอนั ขอรับ พรุง่ นีค้ ่าํ จึงจะกลับ ถามว่าเป็ นเรื่องด่วน
หรือไม่? ถ้าด่วน ขอให้ท่านเขียนจดหมายถึงนายท่านสาม ถ้าไม่ด่วน ก็รอนายท่านสามกลับ
มาแล้วค่อยนัดเวลาขอรับ”
ด่วน แต่ก็ไม่ดว่ นถึงขัน้ รอข้ามวันไม่ได้
ทว่า เผยเยี่ยนไปขายส้ม…คืออะไรน่ะ?
ส้มมีวางขายที่ตลาดในฤดูนีด้ ว้ ยรึ?
เทียบกับเรื่องของหลี่อแี ้ ล้ว อวีถ้ งั กลับอยากรูเ้ รื่องที่เผยเยี่ยนไปขายส้มมากกว่า
นางเอ่ยว่า “เจ้าไปบอกพ่อบ้านหูไว้สกั คํา รอนายท่านสามกลับมาแล้วค่อยนัดเวลา
ใหม่”
อาเสาวิ่งตึงๆ ออกไปอีกรอบ
หม่าซิ่วเหนียงให้ส่เี ชวี่ยมาส่งข่าว เชิญนางไปกินอาหารกลางวันที่เรือน
อวีถ้ งั แจ้งต่อมารดาไว้ หยิบดอกไม้ผา้ ที่ทาํ เองติดไปด้วยสองดอก แล้วไปที่เรือนสกุล
จางกับซวงเถา
หม่าซิ่วเหนียงกําลังสั่งการหญิงรับใช้ในครัวให้ผัดหัวหมูอยู่ พอเห็นนางมาถึงแล้ว ก็
เช็ดมือกับผ้ากันเปื ้อนก่อนจะเดินออกมาจากห้องครัว
อวีถ้ งั เดินผ่านประตูชนั้ สองก็ได้กลิ่นหอมโชยมาแต่ไกล รีบสาวเท้าเข้าไปทักทายทันที
“ทําของอร่อยอะไรรึ? ข้ามาหาแบบนี ้ คงไม่รบกวนเจ้ากระมัง?”
“พูดอะไรของเจ้าน่ะ!” หม่าซิ่วเหนียงเห็นนางฉี กยิม้ แฉ่ง ดวงหน้าน้อยเหมือนบุปผา
หน้าร้อนที่สดใส งดงามจนทําให้คนตาพร่าลายไปหมด จึงอดจะหยิกแก้มเล็กๆ นั่นไม่ได้ “ใน
1201

เมื่อเรียกเจ้ามา ย่อมไม่มีสิ่งใดไม่เหมาะสม พี่เขยเจ้าออกไปทํางาน กลางวันไม่กลับมากินข้าว


ยัยตัวน้อยฉิงเอ๋อร์น่นั ก็เอาแต่นอนทัง้ วัน เหมือนกับลูกหมูเหลือเกิน เจ้าไม่ตอ้ งสนใจนางหรอก”
สองคนสนทนากัน แล้วจูงมือกันเดินเข้าห้องไป
สี่เชวี่ยประคองขนมและนํา้ ชาเข้ามาให้
สองคนหนึ่งนั่งเก้าอีป้ ระธานหนึ่งนั่งเก้าอีท้ ่ีถัดลงมา ถามสารทุกข์สกุ ดิบสองสามคํา
จากนัน้ หม่าซิ่วเหนียงก็บอกว่าเชิญนางมาเพราะมีจดุ ประสงค์ “ที่จริงข้าควรไปพบเจ้าเอง แต่ฉิง
เอ๋อร์ยงั เล็ก ตัง้ แต่คลอดออกมาก็ไม่เคยห่างข้าเลยสักครัง้ ข้าไม่วางใจทิง้ นางไว้ท่ีเรือนคนเดียว
ถึงต้องเรียกเจ้ามาแบบนี ้ ข้าอยากจะถามเจ้าหน่อย คราวก่อนที่บอกให้พ่ีเขยเจ้าช่วยวาดแบบ
ภาพให้รา้ นค้าของสกุลเจ้านัน้ ยังต้องการคนช่วยอยู่หรือไม่?” พูดถึงตรงนี ้ นางก็เริม่ หน้าแดง
อวีถ้ งั ดีใจมาก รีบตอบว่า “ต้องการสิๆ ก็ยงั ขาดแบบภาพอยู่น่ีแหละ หากว่าพี่เขยยอม
ช่วยก็ประเสริฐนัก ต้องถามว่าพี่สาวอยากให้ขา้ ขายหนึ่งชิน้ จ่ายหนึ่งชิน้ ดี? หรือว่าอยากจะให้
เหมาจ่ายทัง้ หมดเพียงครัง้ เดียว?”
หม่าซิ่วเหนียงไม่รูค้ วามแตกต่างระหว่างสองสิ่ง จึงไม่ได้ซกั ถามอะไรต่อ
อวีถ้ งั ชาติก่อนเพราะเรื่องของอวีห้ ย่วน จึงค่อนข้างใส่ใจเรื่องการค้าขาย เคยพูดคุยกับ
พวกเถ้าแก่ท่ีรา้ นอยู่บา้ ง รู ว้ ่ามีเพียงการพูดคุยภาษาพ่อค้าถึงจะทํามาค้าขายได้ยาวไกล หม่า
ซิ่วเหนียงไม่ถาม นางจึงเลือกเปิ ดปากก่อน “ขายหนึ่งชิน้ จ่ายหนึ่งชิน้ ก็คือพวกเราตกลงเรื่อง
ส่วนแบ่งกันให้เรียบร้อยก่อน อย่างเช่นว่า แบบภาพวาดที่อยู่บนกล่องกระจกพับ กล่องกระจก
พับราคาหนึ่งตําลึง ทุกชิน้ ที่ขายออกไป ต้องแบ่งให้เจ้าสิบอีแปะ แต่ถา้ จ่ายเหมาครัง้ เดียว ก็คือ
จ่ายค่าภาพตามราคาจริง แล้วพวกเราสามารถเอาภาพไปใช้ได้ตามใจ ตอนนีส้ กุลข้าจ้างจิตร
กรมาจากข้างนอก ภาพหนึ่งแผ่นขายประมาณหนึ่งตําลึง แต่ของพี่เขยไม่เหมือนกัน ภาพของ
พี่เขยวาดได้งดงาม หากยินดีจะขายให้สกุลข้า พวกเราต้องเสนอราคาเพิ่มเป็ นสองเท่าแน่
พี่สาว เจ้าก็ดวู า่ สะดวกแบบไหน สกุลข้านัน้ สามารถทําได้ทงั้ สิน้ ”
1202

หม่าซิ่วเหนียงหากมิใช่รอเอาเงินไปใช้จ่ายก็คงไม่ยจุ างฮุ่ยวาดแบบภาพให้สกุลอวี ้ ทัง้


จางฮุ่ยยังตกลงกับหม่าซิ่วเหนียงว่าจะวาดให้เพียงยี่สิบภาพเท่านัน้ อีกอย่างนางก็ไม่รูว้ ่าแบบ
ภาพที่จางฮุ่ยวาดจะทําเงินให้สกุลอวีไ้ ด้มากน้อยเท่าไร?
ดวงหน้านางยิ่งแดงมากกว่าเก่า นางเอ่ยเสียงค่อยว่า “สถานการณ์ของเรือนข้าเจ้าก็
รูอ้ ยู่…”
อวีถ้ งั ได้ยินก็เข้าใจทันที รีบบอกว่า “เช่นนีก้ ็ได้ ขายทัง้ หมดให้สกุลข้าก็แล้วกัน ที่ขา้ พูด
แบบนัน้ เพราะจิตรกรบางคนก็ชอบให้ขายหนึ่งชิน้ จ่ายหนึ่งชิน้ พี่สาวไม่เคยสัมผัสเรื่องพวกนีม้ า
ก่อน ข้าก็เลยอธิบายให้เจ้าเข้าใจเท่านัน้ เอง เจ้าก็สงบใจแล้วให้พ่ีเขยวาดแบบภาพออกมาก็พอ
ส่วนเรื่องอื่น ยกให้เป็ นหน้าที่ขา้ !”
เมื่อนางพูดแบบนี ้ หม่าซิ่วเหนียงก็ย่ิงละอายใจ “พี่เขยเจ้า คิดจะวาดเพียงยี่สิบภาพ
เท่านัน้ ”
อวีถ้ งั คิดอยู่แล้วว่าจางซิ่วไฉคงไม่วาดรูปให้ไปตลอด นางจึงไม่ได้ผิดหวัง แต่กลับดีใจที่
จางฮุ่ยสามารถวาดภาพให้นางได้มากกว่า “ยี่สิบก็ย่ีสิบสิ อย่างไรก็ดีกว่าไม่ได้เลยสักภาพ
พี่สาว เจ้าจะให้ขา้ มารับภาพสักเมื่อไรดี?”
หม่าซิ่วเหนียงหลุดขํา “พี่เขยเจ้าเพิ่งจะถูกข้ากล่อมสําเร็จเอง คงไม่รวดเร็วถึงปานนัน้
แต่สกุลเจ้าต้องการภาพวาดแบบไหนก็บอกกับข้าได้ ข้าจะไปเร่งพี่เขยเจ้าให้รบี วาดออกมา”
อวีถ้ งั ตอบว่า “ภาพสิ่งของสวยงามในห้องหนังสือก็ได้”
สกุลนางไม่ขาดแคลนภาพวาดท่านเซียนเผิงจู่หรือเทพธิดาหมากู่เทือกๆ นัน้ อยู่แล้ว
อยากจะได้ของสวยงามที่ทาํ ให้บณ
ั ฑิตชื่นชอบเสียมากกว่า
หม่าซิ่วเหนียงเอ่ยพร้อมรอยยิม้ ว่า “เอาล่ะ! ข้ารูแ้ ล้ว เจ้ากลับไปรอฟั งข่าวอย่างสงบใจ
เถอะ”
อวีถ้ งั เอ่ยขอบคุณหม่าซิ่วเหนียงไม่ขาดปาก
1203

หม่าซิ่วเหนียงดึงมืออวีถ้ งั ไว้ เอ่ยอย่างทอดถอนใจว่า “เป็ นข้าที่ควรขอบคุณเจ้า”


ทัง้ ๆ ที่เป็ นเรื่องที่สองฝ่ ายต่างได้ประโยชน์ อวีถ้ งั กลับทําเหมือนว่าสกุลอวีไ้ ด้กาํ ไรจาก
พวกนางอยูฝ่ ่ ายเดียว
หม่าซิ่วเหนียงพลันรูส้ กึ โชคดีมากที่ตนเองมีอวีถ้ งั เป็ นสหาย นางกลับไม่รูเ้ ลยว่า อวีถ้ งั ดี
ใจเพียงใดที่ชาตินีไ้ ม่ได้คลาดแคล้วกับนาง และมีนางเป็ นเพื่อนรัก
พอออกจากเรือนสกุลจาง อวีถ้ งั ก็ไปร้านค้าสกุลอวีท้ ่ีถนนฉางซิ่งต่อ
จากที่ไกลๆ อวีถ้ งั เห็นซย่าผิงกุย้ กับซย่าเหลียนสาวใช้เซียงซื่อยืนคุยกันอยู่หน้าร้าน ใน
มือของซย่าเหลียนถือข้าวกล่องไว้อยู่
นางเดาว่าซย่าเหลียนคงรับคําสั่งจากพี่สะใภ้ให้มาส่งอาหารกลางวันแก่ญาติผพู้ ่ี
อวีถ้ งั เม้มปากยิม้ ๆ
ในร้านพวกลูกศิษย์จะเป็ นคนทําอาหาร แน่นอนว่าคงสูท้ ่ีเรือนไม่ได้อยู่แล้ว พี่สะใภ้คง
ปวดใจที่ญาติผพู้ ่ีไม่ได้กินอาหารดีๆ กระมัง
แต่พอนางเดินเข้าไปใกล้ๆ จึงค้นพบว่า รอยยิม้ ของซย่าผิงกุย้ กับซย่าเหลียนนัน้ ออกจะ
เปล่งประกายมากเกินไปหน่อย
ในใจของอวีถ้ งั พลันเกิดความฉงนแวบผ่าน
พอเห็นนาง ซย่าผิงกุย้ กับซย่าเหลียนต่างกระโดดหนีไปคนละทิศราวกับเป็ นแมวที่โดน
เหยียบหาง ซย่าผิงกุย้ ยังเอ่ยทักทายนางด้วยนํา้ เสียงที่กระตือรือร้นมากกว่าปกติถึงหนึ่งร้อย
เท่า “คุณ คุณหนู ท่านมาที่น่ี ท่านมาหาเถ้าแก่หรือว่าเถ้าแก่นอ้ ยขอรับ? เถ้าแก่ออกไปหา
อาจารย์เซี่ยงยังไม่กลับ เถ้าแก่นอ้ ยเฝ้าร้านอยู่ดา้ นใน ข้าพาท่านเข้าไปดีกว่า!” พูดจบก็หลุบตา
ลงตํ่า คล้ายแมลงวันไร้หวั ที่พงุ่ ไปมาอย่างไม่รูท้ ิศ
1204

ซย่าเหลียนก็เปิ ดปากด้วยเสียงอึกๆ อักๆ “คุณหนู ข้ากลับก่อนนะเจ้าคะ ข้าออกมาส่ง


อาหารให้เถ้าแก่นอ้ ย นายหญิงน้อยยังรอข้าอยู่เจ้าค่ะ” จากนัน้ นางก็เผ่นหายวับไป
นางน่ากลัวขนาดนัน้ เชียว?
อวีถ้ งั งึมงําในใจ พลันเข้าใจอะไรๆ ขึน้ มาทันที
ซย่าผิงกุย้ คงไม่ได้คิดกับซย่าเหลียน…
สีหน้านางไม่แสดงออก ทว่ามารร้ายในใจกําลังหัวเราะหึๆ อยู่
ชาติก่อน ตอนที่นางอยู่เรือนสกุลหลี่ก็เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนีข้ นึ ้
สาวใช้ขา้ งกายนางกับเด็กรับใช้ชายชอบพอกัน ทว่า ฮูหยินหลี่ไม่อนุญาตให้เกิดเรื่อง
เช่นนีภ้ ายใต้ชายคาบ้านนาง ดังนัน้ จึงขายสาวรับใช้กบั เด็กรับใช้ชายออกไป ทัง้ บอกว่าเรื่องนี ้
ไม่อาจให้มีตวั อย่าง ไม่เช่นนีน้ อกในจะสมคบคิด แอบลักเล็กขโมยน้อยกันได้
ทว่าซย่าผิงกุย้ กับซย่าเหลียนออกจะเหมาะสมกัน ถึงเวลานัน้ ค่อยกระซิบบอกพี่สะใภ้
นางสักหน่อย หากว่าสองคนรักใคร่ชอบพอกันจริงๆ มิสรู้ บี ส่งเสริมพวกเขาเสีย จะได้ไม่ตอ้ งเกิด
เรื่องน่าอายตามมาทีหลังให้ทกุ คนกระดากกันเปล่าๆ
อวีถ้ งั เข้าไปที่หอ้ งบัญชีซง่ึ อวีห้ ย่วนพักผ่อนอยู่ แล้วคุยเรื่องจางฮุ่ยกับเขา
อวีห้ ย่วนประหลาดใจมาก เอ่ยว่า “เจ้ารูใ้ ช่ไหมว่าท่านพ่อไปหาอาจารย์เซี่ยงทําไม? วัน
ก่อนท่านพ่อเพิ่งไปรับงานมา มีคนสั่งทําหีบไม้หา้ สิบชิน้ แต่ผอู้ ่ืนต้องการให้วาดลายคล้ายๆ สี่
ฤดูสมปรารถนาแบบนัน้ ท่านพ่อไปหาอาจารย์เซี่ยงเพื่อให้เขาวาดแบบภาพให้ เจ้ารูจ้ กั อาจารย์
เซี่ยงใช่ไหม แบบภาพผืนหนึ่งต้องจ่ายอย่างน้อยถึงห้าตําลึงเลย”
อวี ถ้ ัง ได้ยิ น ก็ ร อ้ นใจ “เช่ น นั้น ท่ า นรี บ ไปแจ้ง แก่ ท่ า นลุง สัก คํา ถ้า ท่ า นลุง ตกลงกับ
อาจารย์เซี่ยงไปแล้วก็คงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้อีก อีกอย่าง ข้ารู จ้ กั อาจารย์เซี่ยง เขาเป็ นจิตร
กรที่มีช่ือเสียงที่สุดในเมืองหลินอัน หากว่าภาพวาดของอาจารย์เซี่ยงรู ปละห้าตําลึง เช่นนัน้
ภาพวาดของคุณชายจางก็ตอ้ งสี่ตาํ ลึงเป็ นอย่างตํ่า?”
1205

จิตรกรที่นางรู จ้ กั แต่ก่อนจ่ายเพียงแค่หนึ่งภาพสองตําลึงเท่านัน้ ใครจะคิดว่าภาพของ


อาจารย์เซี่ยงจะแพงเพียงนี ้
อวีห้ ย่วนรีบสั่งซย่าผิงกุย้ รัวเร็ว บอกแค่ว่าที่เรือนมีแขกคนสําคัญ ให้อวีป้ ๋ อรีบกลับมา
ทันที รอจนซย่าผิงกุย้ ไปแล้ว ก็คุยเรื่องนีก้ ับอวีถ้ ังต่อ “ก่อนหน้านีข้ า้ บอกกับท่านพ่อไป แบบ
ภาพที่มีในร้านค่อนข้างเก่า ท่านพ่อก็รูอ้ ยู่ แต่ว่าเพราะเสียดายเงิน คิดว่าหากยังใช้ได้ก็ให้ถูไถ
ไปก่อน ถ้าครัง้ นีม้ ิใช่ผอู้ ่ืนระบุว่าต้องการภาพสี่ฤดูสมปรารถนาแนวนัน้ หากทําไม่ได้ก็คงเจรจา
ค้าขายไม่สาํ เร็จ ท่านพ่อลองคํานวณดู กําไรที่ได้จากการค้าครัง้ นีน้ ่าจะพอจ่ายเงินค่าแบบภาพ
ของอาจารย์เซี่ยงพอดี จึงกัดฟั นไปตามหาเขา ไม่อย่างนัน้ ก็คงไม่ดงึ เวลามาจนป่ านนีห้ รอก!”
อวีถ้ งั หัวเราะอย่างจนใจ
สองพี่นอ้ งดื่มชาไปค่อนวัน อวีป้ ๋ อถึงวิ่งกระหืดกระหอบกลับมา
“ได้ยินว่าพวกเจ้าหาอาจารย์วาดแบบภาพที่ดีกว่าได้แล้ว?” เขาเข้าประตูมาก็ถามขึน้
ทันที กระทั่งนํา้ ชาก็ไม่ด่มื สักอึก
“มิใช่อาจารย์วาดภาพหรอกเจ้าค่ะ” อวีถ้ งั เล่าเรื่องของจางฮุ่ยให้อวีป้ ๋ อฟั ง
อวีป้ ๋ อเริม่ ลังเล “ภาพวาดของคุณชายจางย่อมสวยอยู่แล้ว แต่จะขายได้หรือไม่ก็สดุ รู”้
ราคาสี่ตาํ ลึงยิ่งเป็ นไปไม่ได้ใหญ่เลย
อวีถ้ งั หัวเราะ “ในเมื่อการค้าครัง้ นีไ้ ด้กาํ ไรมากพอจะจ่ายเงินให้อาจารย์เซี่ยง แล้วทุก
คนก็เอาแค่พดู ว่าแบบภาพของร้านเราไม่มีความแปลกใหม่ ข้าคิดว่าให้คณ ุ ชายจางรับงานวาด
ตามแบบที่ลกู ค้าต้องการออกมาสักหลายรูปก่อน หากว่าลูกค้าพอใจ ก็ขอให้คณ ุ ชายจางลงมือ
วาดให้ ท่านยังได้กาํ ไรอีกนิดหน่อยด้วยนะเจ้าคะ!”
อวีป้ ๋ อคิดว่าสกุลตนไม่ได้ขาดทุนอะไร จึงตกปากรับคํา
1206

บทที่ 151 ขอความช่วยเหลือ


อวีถ้ งั กลับเรือนก็เขียนจดหมายฉบับหนึ่งให้อาเสาวิ่งไปส่งที่สกุลจาง
หม่าซิ่วเหนียงได้รบั จดหมายของอวีถ้ งั ก็กระตุน้ จางฮุ่ยให้วาดภาพทันที ด้านอวีถ้ งั กลับ
ปวดศีรษะเป็ นวันที่สองเพราะต้องเข้าพบเผยเยี่ยน
คดีของรื่อเจ้าย่อมไม่อาจเอ่ยถึงแล้ว ไม่อย่างนัน้ นางก็ไร้ทางจะให้คาํ ตอบว่าตัวเอง
ทราบได้อย่างไร ก็คงทําได้เพียงเสียเวลากับที่นาห้าสิบหมู่น่นั
ดีท่ีสกุลหลี่เหลือช่องโหว่ไว้ไม่นอ้ ย
วัน นี อ้ วีถ้ ัง เปลี่ ย นสวมเสือ้ คลุม หัง โฉวสี เ ขี ย วเข้ม ปั ก ลายดอกไม้ม งคล ปั ก ปิ่ น ดอก
อวีห้ ลันสีเหลืองที่เพิ่งทําไม่ก่ีวนั ก่อนเข้าจวนสกุลเผย
เผยเยี่ยนมีท่าทีออ่ นเพลีย ไม่กระปรีก้ ระเปร่าเท่าใด ทว่ากลับไม่ลดทอนความสง่างาม
แม้แต่นอ้ ย ทัง้ เนื่องด้วยไม่มีท่าทีหยิ่งทะนงดั่งเช่นวันปกติจึงพาให้คนรู ส้ กึ อยากเข้าใกล้ ดูใจดี
และอบอุน่ ขึน้ มา
“เจ้ารีบร้อนมาหาข้าทําไมกัน?” เขานั่งบนตั่งในห้องอุ่น ชีไ้ ปยังจานที่สาวใช้ยกเข้ามา
เอ่ยว่า “ชิมดูสิ ขนมฝูป่ิ งจากฝูเจีย้ น ทุกคนต่างพูดเป็ นเสียงเดียวกันว่าอร่อย”
ขนมฝูป่ิ งของฝูเจีย้ นทํามาจากลูกพลับแห้ง จึงมีสีแดงสดสวย น่าลิม้ ลอง กินเข้าไปก็จะ
ได้รสหอมหวานไม่เลี่ยนแต่อย่างใด ยังมีสรรพคุณดับร้อนแก้ไอ นํามาเป็ นของว่างหรือมาชงกับ
นํา้ ร้อนก็ให้ผลดี จึงเป็ นได้ช่ือว่าฝูป่ิ ง (ขนมมงคล)
แต่วา่ ปกติขนมฝูป่ิ งมักจะวางขายในเดือนสิบสอง ยามนี.้ ..คงเร็วเกินไปกระมัง
ไม่รูว้ า่ ไปได้มาจากที่ใด?
อวีถ้ งั อดเอ่ยไม่ได้ “ได้ยินว่าท่านไปขายส้ม? ขายเป็ นอย่างไรบ้าง? รสชาติดีหรือไม่?”
1207

เผยเยี่ยนได้ฟังก็เลิกคิว้ มองอวีถ้ งั ด้วยแววตาไม่สบอารมณ์นกั “ขายส้ม? เจ้าได้ยินมา


จากใครว่าข้าไปขายส้ม?”
อวีถ้ งั ได้ฟังก็คิดว่าซวยแล้ว แต่นางก็ไม่รูว้ ่าไฉนเล่าต่อกันมาหานางจึงกลายเป็ น ‘ขาย
ส้ม’ ไปเสียได้ ไม่ว่าจะเป็ นใครที่ถ่ายทอดคําพูดนีผ้ ิด จากนิสยั ของเผยเยี่ยนแล้ว หากไม่พอใจ
บางทีอาจจะไปสืบเรื่องนีก้ ็ได้ ถึงเวลานัน้ ไม่ใช่ทกุ คนจะเดือดร้อนกันหมดรึ?
นางยังคงใช้ท่าทีประนีประนอม ละลํ่าละลักเอ่ย “ข้าพูดผิดเอง! ข้าหมายความว่า ได้
ยินว่าส้มที่ปลูกในสวนทางจี๋อนั วางขายแล้ว ท่านไม่ใช่วา่ เข้าไปตรวจดูหรอกรึ ก็ย่อมเป็ นดั่งที่ขา้
คิด...ในเมื่อเริ่มเก็บส้มได้เร็วขนาดนี ้ คงจะหาช่องทางการขายแล้วเป็ นแน่ เมื่อครูพ่ ดู เร็วไป จึง
กลายเป็ น ‘ขายส้ม’ ไม่ใช่หรอกรึ?”
อวีถ้ ังคิดว่าคําพูดนีข้ องตัวเองเพียงพอให้เผยเยี่ยนคลายความสงสัยแล้ว ใครจะรู ว้ ่า
เผยเยี่ยนกลับคล้ายจงใจตอกกลับนาง เลิกคิว้ ขึน้ มาอีกครัง้ “แล้วใครบอกเจ้าว่าข้าไม่ได้ไปขาย
ส้มล่ะ? ส้มห้าพันจิน 1ขายให้อทุ ยานหลวงซั่งหลินทัง้ หมด ทัง้ ยังขายต้นกล้าไปอีกห้าพันต้น”
238

หากไม่ ใ ช่ เ ขา คนของอุท ยานหลวงซั่ง หลิ น จะยอมซื อ้ ขายแลกเปลี่ ย นแต่โ ดยดี ไ ด้


อย่างไร?
ส้มของพวกเขาสามารถขายไปยังเมืองหลวง?
อวีถ้ งั ตกใจจนอ้าปากค้าง “อุทยานหลวงซั่งหลินรับซือ้ ส้มด้วยรึ?”
นางอิจฉายิ่งนัก
เหตุใดสกุลพวกนางจึงไม่มีความสามารถเช่นนีบ้ า้ ง?
กระนัน้ แม้จะจัดซือ้ ให้คนในวัง นั่นก็เป็ นเรื่องของขันทีแห่งยี่สิบสี่สาํ นัก ตัง้ แต่เมื่อใดกัน
อุทยานหลวงซั่งหลินที่ปลูกต้นไม้ดอกไม้ให้ราชวงศ์กลับมายุ่งเกี่ยวในเรื่องนี?้

1
จิน หน่วยชั่งของจีน หนึ่งจินเท่ากับครึง่ กิโลกรัม
1208

“นี่เจ้าคงไม่เข้าใจกระมัง?” เผยเยี่ยนเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “หากอุทยานหลวงซั่งหลินมี


รายได้ ฮ่องเต้จะสุขฤทัยตามไปด้วยรึ? ยิ่งไปกว่านัน้ ยังมีผลส้มให้กินเร็วถึงเพียงนี”้
ก็หมายความว่า อุทยานหลวงซั่งหลินกําลังปิ ดหูปิดตาฮ่องเต้!
อวีถ้ งั เอ่ยกระอึกกระอัก “พวกเขา พวกเขาไม่กลัวว่าจะถูกล่วงรูร้ ?ึ หากฮ่องเต้อยากไป
ดูตน้ ส้มล่ะ?”
“ฮ่องเต้กาํ ลังยุ่งกับการปรุ งยาอายุวฒ ั นะ ไหนเลยจะมีเวลาใส่ใจว่าอุทยานหลวงซั่ง
หลิ น ปลูก ต้น ส้ม กี่ ต ้น !” เผยเยี่ ย นเอ่ ย อย่ า งไม่ คิ ด เช่ น นั้น “หากเขาจะไปจริ ง ๆ แค่ ห าวิ ธี
เคลื่อนย้า ยต้น ส้ม ในสวนผลไม้ทางทงโจวของข้าเข้า ไปก็ เพี ยงพอแล้ว ไม่อย่า งนั้น คนของ
อุทยานหลวงซั่งหลินจะมาซือ้ ส้มจากสกุลพวกเราได้อย่างไร? ก็เพราะว่าสวนทางทงโจวของ
สกุลพวกเราก็ปลูกต้นส้มเช่นกัน เพียงแต่สม้ อร่อยสูท้ ่ีน่ีไม่ได้เท่านัน้ ”
อวีถ้ ังมึนงงกับเรื่องเช่นนีไ้ ปหมด ในความคิดของนาง นี่แทบจะเป็ นการลําบากและ
สิน้ เปลืองเงินทองประชาชน แต่ทางการก็ทาํ เรื่องเช่นนีม้ าไม่นอ้ ย นางไม่ได้เจตนาจะโจมตีหรือ
ถามให้มากความแต่อย่างใด
เพียงคาดไม่ถึงว่าสกุลเผยจะมีสวนในทงโจวอีก!
ยังมีเมืองใดอีกบ้างที่ไม่มีสวนของสกุลเผย?
อวีถ้ งั ลอบนินทาในใจ เปลี่ยนไปอีกประเด็น “ขนมฝูป่ิ งนีค้ งไม่ได้ตากแห้งมาจากสวน
ของท่านอีกกระมัง?”
ยามที่อวีถ้ งั เข้าประตูมา เผยเยี่ยนก็ตระหนักถึงใบหน้าแดงฝาดของนางแล้ว นึกถึงที่
เผยหม่านพูดกับเขา นอกจากนางจะได้รบั ความโปรดปรานจากมารดาเขา ยังเข้ากับพวก
หลานสาวได้ดีเสียด้วย พบกันครัง้ แรกก็พดู คุยเจี๊ยวจ๊าวกับนางกว่าค่อนวันว่าทําเสือ้ คลุมแบบ
ไหนดี ทัง้ ยังได้รบั รางวัลจากมารดาเขา
1209

มารดาเขาไม่ใช่สตรีท่ีอยู่ติดห้องหับทั่วไป ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ได้รบั ความโปรดปรานจาก


นางง่ายๆ
เดิมทีเขาคิดเพียงว่าอยากให้นางเข้าจวนมาคุยเล่นสร้างความสนุกสนานให้มารดา
เท่านัน้ คาดไม่ถึงว่านางจะปรับตัวเข้ากับทุกคนได้ดีถึงเพียงนี ้
เช่นนัน้ แล้ว ยามที่เขายุ่งที่จ๋ีอนั จนเท้าแทบไม่ติดพืน้ นางก็คงอยู่อย่างสุขสบายที่เรือน
ของเขาสินะ
เผยเยี่ยนพลันเกิดความรู ส้ ึกอยากเย้าแหย่อวีถ้ ังให้รอ้ งไห้อย่างแปลกประหลาด ไม่
อยากให้นางเอาแต่สขุ สมหวังอยู่ตรงหน้าเขา
เขาฟั งจบก็อดเบะปากไม่ได้ “สกุลพวกเราไม่ได้มือยาวดั่งที่เจ้าคิดขนาดนัน้ ฝูเจีย้ นเป็ น
ที่ ข องสกุล เผิ ง สกุล อิ น้ และสกุล ลี่ ข้า ไม่ ไ ด้เ ตรีย มพร้อ มจะเป็ น ศัต รู กับ สกุล พวกนี ใ้ นเวลา
เดียวกัน ขนมฝูป่ิ งนี ้ สกุลลี่ส่งมาให้ กล่าวว่าทําให้ญาติสนิทมิตรสหาย ไม่เหมือนกับที่ขายใน
ท้องตลาด เจ้าลองชิมดูสิวา่ แตกต่างกันตรงไหน”
อวีถ้ งั ฟั งคําพูดนีข้ องเขา ดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบกินพวกขนมหวานสักเท่าใด เช่นนัน้
ขนมถั่วกรอบที่นางทําเอาไปไว้ท่ีไหนกันล่ะ?
หรือก่อนหน้านีก้ ็รบั ส่งๆ ไว้เท่านัน้ ?
นางอดเอ่ยไม่ได้ “เช่นนัน้ ท่านชอบกินอะไร? หากแม่ขา้ ทําได้ ครัง้ หน้าจะทําส่งมาให้
ท่านชิม”
เผยเยี่ยนเอ่ยอย่างไม่ย่ีหระ “ข้าก็ไม่มีของกินอะไรที่ชอบหรือไม่ชอบเป็ นพิเศษ ของ
แปลกใหม่ย่อมพอลองชิมได้ แต่ไม่ชอบกินขนมฝูป่ิ ง ประเด็นอยู่ท่ีท่านแม่ไม่รูว้ ่าฟั งมาจากไหน
กินขนมฝูป่ิ งมากๆ จะช่วยบรรเทาอาการไอ ตัง้ แต่เด็กก็ตม้ ขนมฝูป่ิ งกับนํา้ ร้อนให้ขา้ ดื่มทุกวัน
ข้าได้กลิ่นของมันก็รูส้ กึ พะอืดพะอมแล้ว”
1210

ชั่วพริบตานัน้ อวีถ้ งั ก็คล้ายนึกเรื่องของตัวเองขึน้ มาได้ ละลํ่าละลักเอ่ย “ข้าเหมือนกับ


ท่านไม่มีผิด ท่านแม่มักคิดว่าเด็กเล็กท้องไส้ไม่ดี ควรจะกินข้าวต้ม ท่านแม่จึงมักให้ขา้ กิน
ข้าวต้มตัง้ แต่เด็ก ภายหลังเมื่อเติบโตขึน้ ข้าเห็นข้าวต้มก็แทบไม่อยากยกถ้วยแล้ว”
เติบโตแล้ว?
นี่เพิ่งจะกี่ปี ต่อให้เติบโตอย่างไร ก็อายุเพียงสิบกว่าปี เท่านัน้
เผยเยี่ยนฟั งนางพูดอย่างสนุกสนาน สุขอุราไม่นอ้ ย รับบทสนทนานางเรื่องแล้วเรื่อง
เล่า จวบจนเฉินฉีสง่ บัญชีเข้ามาให้เผยเยี่ยนดู เขาจึงค่อยนึกขึน้ มาได้ เอ่ยถามอวีถ้ งั ด้วยใบหน้า
จริงจัง “เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอันใดกัน?”
เฉินฉีท่ีอยู่ดา้ นข้างเหลือบมองอวีถ้ งั อยู่หลายครัง้
นายท่านสามเกลียดการคุยเล่นเป็ นที่สดุ ไฉนวันนีจ้ ึงพูดคุยกับคุณหนูคนหนึ่งอย่างรื่น
เริงเช่นนี ้
แต่คณ
ุ หนูผนู้ ีอ้ ายุยงั น้อย กลับพูดคุยกระทําเรื่องได้อย่างเหมาะสม หรือนายท่านสาม
ต้องตาคุณหนูผนู้ ีก้ นั ?
เขาออกจากห้องหนังสือก็ไปสืบที่ไปที่มาของอวีถ้ งั
เรื่องที่อวีถ้ ังอยู่เป็ นเพื่อนเล่นพูดคุยกับท่านแม่เฒ่าก็ไม่ใช่ความลับอะไร แม้จะไม่ได้
ป่ าวประกาศให้รูอ้ ย่างครึกโครม แต่ก็ไม่มีใครจงใจปิ ดบังอะไร ไม่นานเฉินฉีก็สืบสาวราวเรื่องที่
นางเข้าจวนมาได้อย่างละเอียด
อะไรล้วนดีทกุ อย่าง เพียงแต่สกุลด้อยไปอยู่บา้ ง
เฉินฉีขบคิดอยู่ภายในใจ
1211

อวีถ้ ังและเผยเยี่ยนกลับไม่ได้คิดมากถึงขนาดนั้น อวีถ้ ังเอ่ยจุดประสงค์ท่ีมาหาเผย


เยี่ยน “ก่อนหน้านีท้ ่านบอกข้าว่าสกุลหลี่ตอ้ งการใช้เงินในเมืองหลวงอย่างเร่งด่วน ยามนัน้ ข้าก็
คิดว่าสกุลหลี่ใจร้อนเกินไป ในช่วงเวลาสัน้ ๆ อาศัยจากชื่อเสียงของสกุลหลี่ แม้จะถือกล่อง
เปล่าติดจดหมายไปจํานําในโรงจํานํา ก็คงมีโรงจํานํายินดีช่วยเหลือสกุลหลี่อยู่ดี เหตุใดจะต้อง
ขายที่นาส่วนตัวห้าสิบหมู่ดว้ ยเล่า? แต่ไม่ก่ีวันก่อนข้าได้ยินข่าวหนึ่งมา กล่าวว่าหลี่ตวนรับ
คําสั่งของบิดาขนของกลับมาจากรื่อเจ้า รอยลากรถนัน้ จมดินกว่าสามส่วน หลายวันมานีข้ า้ อยู่
เรือนว่างๆ ก็นึกถึงเรื่องนี ้ ท่านว่า นี่จะเป็ นการอําพรางอะไรหรือไม่? สกุลหลี่มีทรัพย์สินมาก
น้อยเพียงใด คนอื่นไม่รู ้ แต่คนในหลินอันกลับเห็นสกุลพวกเขารํ่ารวยขึน้ มาอย่างเต็มสองตา
หากหลี่อรี ้ บั เงินติดสินบนที่ร่อื เจ้าจริงๆ ก็คงจะหาวิธีลา้ งมลทินให้เงินพวกนีก้ ระมัง?”
เผยเยี่ยนฟั งแล้ว ใบหน้าก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็ นเคร่งขรึมขึน้ มา รอจนอวีถ้ งั กล่าวจบ เผย
เยี่ยนก็หยัดกายนั่งหลังตรงมองอวีถ้ งั ด้วยสีหน้าจริงจัง “คําพูดของเจ้าหมายความว่าอย่างไร?
อยากจะกลบฝังหลี่ตวนไว้ในโคลนแล้วทรมานซํา้ ไปซํา้ มา?”
อวีถ้ งั ได้ยินก็ใบหน้าแดงกํ่า
นางหมายความว่าเช่นนีจ้ ริงๆ
แต่เผยเยี่ยนก็พดู ตรงเกินไปหน่อยแล้ว
คนอื่นได้ยินยังจะคิดว่าพวกเขาทัง้ สองปรึกษาเรื่องชิงทรัพย์ปล้นฆ่าใครเสียอีก!
นางกะพริบตาปริบ “ข้าได้ยินว่าสกุลหลี่กาํ ลังจะย้ายไปอยู่ท่ีหงั โจว หลี่ตวนยังวางแผน
จะตามบิดาไปเรียนหนังสือที่เมืองหลวง หากพวกเขาออกจากหลินอันไปจริงๆ ก็คงล้างแค้นให้
คุณชายรองสกุลเว่ยไม่ได้แล้ว”
เผยเยี่ยนไม่ค่อยเข้าใจเท่าใด “หลี่ตวนสวมชุดกระสอบไว้ทกุ ข์ให้คณ ุ ชายรองสกุลเว่ย
แล้ว งานแต่งของหลี่ตวนและสกุลกูก้ ็ลม้ เหลวไม่เป็ นท่า เจ้าคิดว่านี่ยงั ไม่พออย่างนัน้ รึ?”
เขาคิดว่าอวีถ้ งั ดึงดันเกินไปอยู่บา้ ง
1212

นางและคุณชายรองเว่ยก็เพียงเป็ นคู่ดตู วั กันเท่านัน้ งานแต่งยังไม่ทนั กําหนดเสียด้วย


ซํา้
หรือคุณหนูอวีจ้ ะชอบพอกับคุณชายรองเว่ยจริงๆ?
เผยเยี่ยนลูบคางเล็กน้อย
อวีถ้ ังกลับเอ่ยว่า “ใช้คุณธรรมตอบโต้ความเลว แล้วคนผิดจะได้รบั อะไร? แม้ขา้ จะ
เกลียดใครคนหนึ่ง อย่างมากที่สดุ ก็ลอบสาปแช่งให้เขาไม่ให้ตายดีเท่านัน้ เพื่อผลประโยชน์แล้ว
สกุลหลี่กลับทําร้ายคุณชายรองเว่ยอย่างไม่ลงั เล เห็นได้ชดั ว่าพวกเขาไม่ใช่คนดีอะไร! และสกุล
พวกเรา หากครัง้ นีไ้ ม่ได้รบั การช่วยเหลือจากท่าน ไม่แน่ว่าอาจจะมีจุดจบเหมือนคุณชายรอง
เว่ย หรือถึงกระทั่งบ้านแตกสาแหรกขาด! คนเช่นนี ้ เหตุใดข้าต้องยอมปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ?”
เผยเยี่ยนเห็นใบหน้าเล็กที่โกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟของนาง พลันนึกถึงตัวเองตอนเด็กที่ถกู
สหายร่วมเรียนรังแกเพราะอิจฉา นอกจากเขาจะโจมตีกลับ ยังต่อยตีพวกนัน้ จนเป็ นสภาพ
สะบักสะบอม ไม่เพียงทําให้คนที่รงั แกเขาไม่กล้ายุ่งกับเขา ยังทําให้คนที่ยืนดูความสนุกอยู่
ด้านข้างไม่กล้าหาเรื่องเขาเช่นกัน ลําพังบิดาเขายังคิดว่าเขาใจไม่กว้างพอ ตําหนิเขาเพราะ
เรื่องนีอ้ ยู่ยกใหญ่...เมื่อคิดดูแล้ว เขารูส้ กึ ว่าอวีถ้ งั ทําเช่นนีก้ ็ไม่อาจกล่าวโทษได้ทงั้ หมด
อย่างไรอวีเ้ หวินก็เป็ นเพียงซิ่วไฉคนหนึง่ หากสามารถลากสกุลหลี่ท่ีเป็ นสกุลขุนนางลง
จากหลังม้า ภายหลังคนอื่นย่อมไม่กล้ารังแกสกุลพวกเขาได้อย่างเรื่อยเปื่ อยอีกแล้ว
“พูดมาเถิด! เจ้าต้องการให้ขา้ ช่วยอย่างไร?” เผยเยี่ยนเอ่ยอย่างสบายๆ “อีกเดี๋ยวข้ายัง
ต้องสะสางธุระกับนายบัญชี”
ความนัยของวาจานีค้ ือ อวีถ้ งั อย่าได้สนิ ้ เปลืองเวลาเขานัก
อวีถ้ งั เผยยิม้ อย่างเก้อเขิน “ท่านช่วยข้าตรวจสอบได้หรือไม่ ยามที่หลี่อีร้ บั ราชการอยู่
ที่ร่ือเจ้าทําเรื่องอะไรไว้บา้ ง คนปกติท่ีเป็ นข้าหลวงคงไม่สามารถขนย้ายสิ่งของมากมายเพียงนี ้
กลับมาได้หรอกกระมัง?”
1213

ความจริงนางยังคิดถามว่า ผืนแผ่นดินเดียวกัน เหตุใดมีเพียงที่นาส่วนตัวสองร้อยหมู่


ของสกุลหลี่ท่ีสามารถปลูกข้าวปี ้จิงได้? หากเขาคิดสนใจ นางสามารถนําที่นาสามสิบหมู่ท่ีสกุล
ตัว เองได้รับออกมาให้คนสกุลเผยวิ เ คราะห์ต รวจสอบได้ ไม่ แน่ว่า ที่ ดิน ของสกุลเผยก็ อ าจ
สามารถปลูกข้าวปี ้จิงได้เช่นกัน
แต่เมื่อครู ่เผยเยี่ยนเพิ่งพูดเช่นนัน้ ออกมา หากนางมาพูดเรื่องนี ้ ก็อาจทําให้คนเข้าใจ
ผิ ด ได้ง่ า ยว่ า นางอยากทํา เงื่ อ นไขแลกเปลี่ ย นกับ สกุ ล เผย กลับ จะเป็ น การทํา ลายความ
ปรารถนาดีของเผยเยี่ยนแทน
1214

บทที่ 152 พบปะอีกครั้ง


เผยเยี่ยนกลับไม่ได้คิดมาก ตอบรับอย่างไม่อิดออด
อวีถ้ งั ค่อยโล่งอก หยัดกายขึน้ บอกลา เตรียมจะไปน้อมทักทายท่านแม่เฒ่าก่อนกลับ
เรือน
เผยเยี่ยนดูคล้ายมีงานให้ทาํ จนล้นมือ เขากําชับอาหมิงให้พาอวีถ้ งั ไปยังเรือนใน
ท่านแม่เฒ่ากําลังดื่มชากับสะใภ้รอง ได้ยินว่าอาหมิงพาอวีถ้ ังเข้ามา ก็หนั ไปเอ่ยกับ
นายหญิ งรองด้วยรอยยิม้ “ช่างประจวบเหมาะ เจ้าก็พบนางเสียหน่อย เด็กคนนีน้ ิสัยร่าเริง
แจ่มใสทัง้ ไม่ประพฤตินอกลูน่ อกทาง เหมาะเป็ นเพื่อนอาตันทีเดียว”
นายหญิงรองให้ความเคารพแม่สามีมาโดยตลอด ได้ยินก็ขานรับ “เจ้าค่ะ” ด้วยรอยยิม้
ทันที เอ่ยอย่างอบอุ่น “ข้าก็ ได้ยินอาตันพูดเช่นกัน กล่าวว่าครัง้ ก่อนยามที่มาทําเสือ้ พบกับ
คุณหนูอวีท้ ่ีน่ี คุณหนูอวีเ้ ลือกผ้าสีฟ้าครามทําเสือ้ กันหนาวให้นาง ได้ฟังแล้วก็รูส้ กึ ว่าเป็ นคุณหนู
ที่สขุ มุ หนักแน่นคนหนึ่ง”
ท่านแม่เฒ่ามักเอ็นดูผูเ้ ยาว์ คอยตุ๋นไข่ให้พวกลูกหลานกิน นั่นถือเป็ นความรักและ
เมตตาของท่านแม่เฒ่า พวกนางที่เป็ นผูน้ อ้ ยกลับไม่อาจดีใจจนลืมตัว ไม่เคารพกฎเกณฑ์ กิน
เนือ้ ดื่มแกงสวมเสือ้ ผ้าสีสนั สดใสอย่างจริงจังได้
อาตันของพวกเขานัน้ อายุนอ้ ยที่สดุ ตัง้ แต่เล็กก็เติบโตมากับพวกเขา ความคิดบริสทุ ธิ์
ไร้เดียงสา ทุกครัง้ ที่อาตันและพี่สาวพวกนัน้ ออกจากเรือน นางก็มกั กังวลใจ กลัวว่าอาตันจะทํา
เรื่องอะไรไม่เหมาะสมออกมา ทุกครัง้ ล้วนต้องกําชับสาวใช้ขา้ งกายเผยตันให้จบั ตามองนางดีๆ
หากข้างกายของเผยตันมีคนอย่างคุณหนูอวีอ้ ยู่ โอกาสที่จะเกิดเรื่องวุ่นวาย ย่อมมี
น้อยลง
ขณะที่ทงั้ สองพูดคุยกัน อวีถ้ งั ก็เดินเข้ามาโดยมีเฉินต้าเหนียงคอยนําทาง
ในห้องมีคนแปลกหน้าคนหนึ่ง
1215

อวีถ้ งั อดมองพินิจนายหญิงรองเผยด้วยความสงสัยไม่ได้
อายุประมาณยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปด ใบหน้าทรงลูกท้อ คิว้ เรียงดั่งใบหลิว สวมชุดผ้าหังโจ
วสีขาวปั กลายนํา้ และดอกไม้ นั่งอย่างงามสง่าอยู่ตรงนัน้ ไม่ทนั พูดอะไรก็เผยรอยยิม้ ออกมา
ก่อน ใบหน้าที่เคร่งขรึมแฝงด้วยความอ่อนโยน คล้ายกับพี่สาวข้างบ้านที่พาให้คนรูส้ กึ อยากเข้า
ใกล้
“นี่คือนายหญิงรอง มารดาของคุณหนูหา้ ” ท่านแม่เฒ่าแนะนํานายหญิงรองให้อวีถ้ ัง
รูจ้ กั
อวีถ้ งั รีบก้าวเข้ามาคํานับ
นายหญิ งรองยื่นมือมาพยุงอวีถ้ ัง เอ่ยด้วยรอยยิม้ “ไม่รูว้ ่าวันนีค้ ุณหนูอวีจ้ ะเข้ามา
ไม่ได้ตระเตรียมของขวัญอะไร...” ขณะที่พูด นางก็ครุ ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะดึงปิ่ นดอกชงโค
ประดับเปลือกหอยออกมาจากศีรษะ ยื่นให้อวีถ้ ัง “ถื อเสียว่าเป็ นของขวัญที่พบหน้ากัน ขอ
คุณหนูอวีอ้ ย่าได้ถือสา”
ปิ่ นดอกชงโคนัน้ ทําได้อย่างประณีต กระทั่งเกสรยังฝั งอัญมณีสีขาวขนาดเท่าเม็ดงา
มองพริบตาเดียวก็รูแ้ ล้วว่าไม่ใช่ของธรรมดา
อวีถ้ งั ลอบโอดครวญในใจ
นายหญิ งคุณหนูของสกุลเผยพวกนีน้ ิสัยไม่แย่ ทว่าของขวัญนํา้ ใจกลับมากเกินไป
หน่อยแล้ว
ก็ไม่รูว้ า่ ยามใดนางจะรํา่ รวยได้เสียที
“ขอบคุณนายหญิงรองอย่างยิ่ง” อวีถ้ ังรับไว้ดว้ ยรอยยิม้ นั่งลงบนเก้าอีท้ รงกลมตาม
การเชือ้ เชิญของท่านแม่เฒ่า ก่อนจะเป็ นฝ่ ายเอ่ยเรื่องของจวนสกุลเผยขึน้ มา “ข้าได้ยินว่าก่อน
หน้านีส้ กุลหลี่ขนย้ายเงินกลับมาหลายคันรถ คิดว่าหากเรื่องนีแ้ พร่ออกไป อาจจะกระทบกับ
ชื่อเสียงของเมืองหลินอัน จึงเข้ามาพูดคุยเรื่องนีก้ บั นายท่านสามเสียหน่อย”
1216

ไม่ว่าจะพูดอย่างไรหลี่อีก้ ็เป็ นขุนนางที่มาจากหลินอัน หากเขาชื่อเสียงเสื่อมเสีย ย่อม


กระทบมาถึ ง คนเมื อ งหลิ น อัน ด้ว ย แต่ ว่ า นี่ ก็ ไ ม่ ใ ช่ เ รื่ อ งที่ อ วี ถ้ ัง ควรกัง วลใจ ทั้ง วิ่ ง มาบอก
เผยเยี่ยนยิ่งไม่สมควรไปใหญ่
ท่านแม่เฒ่าไม่ยินดีนกั แต่ก็ไม่ได้มองอวีถ้ งั ในแง่ลบเพราะเรื่องนี ้ อย่างไรนางและอวีถ้ งั
ก็เพิ่งรูจ้ กั กันไม่นาน บางทีคณุ หนูผนู้ ีอ้ าจจะพลัง้ เผลอทําเรื่องผิดพลาดไปบ้างเท่านัน้ ?
“นายท่านสามว่าอย่างไรบ้าง” นางเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง
อวีถ้ งั กลับอยากบอกเรื่องที่แม่เฒ่าสงสัยใคร่รูจ้ นหมด แต่เห็นได้ชดั ว่าท่านแม่เฒ่าไม่ใช่
สตรีท่ีอยู่ในห้องหับทั่วไป หากพูดออกมาตามตรง ท่านแม่เฒ่าย่อมคิดว่านางยุ่งไม่เข้าเรื่องหรือ
อาจจะหาข้ออ้างมาพบนายท่านสาม ยังมิสถู้ ามอะไรก็ตอบอย่างนัน้ เมื่อเวลาผ่านไป ท่านแม่
เฒ่าก็จะรูเ้ องว่านางเป็ นคนอย่างไร เช่นนีจ้ ะสามารถทําให้ท่านแม่เฒ่าสบายใจกว่า
“นายท่านสามบอกว่าเขาทราบแล้ว” อวีถ้ ังเอ่ยด้วยรอยยิม้ “ข้าคิดว่าไม่ได้พบท่าน
หลายวันแล้ว จึงเข้ามาน้อมทักทายเสียหน่อย”
ท่ า นแม่ เ ฒ่ า หัว เราะ คิ ด ว่ า นางก็ ยัง คงเป็ น เด็ ก สาวคนหนึ่ ง แม้จ ะวางตัว ทํา เรื่ อ ง
เหมาะสมเพียงใดก็ย่อมมีจดุ ที่พลาดพลัง้ บ้างอยู่ดี นางเห็นอวีถ้ งั เผยท่าทีน่ารักไร้เดียงสา พลัน
รู ส้ ึกเสียดายอยู่บา้ ง อดสั่งสอนนางไม่ได้ “ภายหลังพบเรื่องเช่นนี ้ ก็ให้บิดาของเจ้ามาพบท่าน
สาม เขาเป็ นคนพูดจะเหมาะสมกว่า”
อวีถ้ งั คิดว่าโอกาสของนางมาถึงแล้ว ละลํ่าละลักเอ่ย “ก่อนหน้านีข้ า้ ก็อยากให้ท่านพ่อ
มาพูดกับนายท่านสาม แต่หลายวันมานีท้ ่านพ่อยุ่งตัวเป็ นเกลียว...ไม่ก่ีวนั ก่อนมิใช่ว่าหลี่ตวน
ต้องการขายที่นาปลูกข้าวปี ้จิงของพวกเขาส่วนหนึ่งหรอกรึ? ท่านพ่อและนายท่านอู๋เพื่อนบ้าน
พวกเราจึงร่วมลงเงินซือ้ ด้วยกัน สัญญาขายที่เพิ่งมาถึงมือ หลายวันมานีท้ ่านพ่อและนายท่านอู๋
แทบอยู่ไม่ติดเรือน มัวแต่ย่งุ วุ่นวายกับเรื่องนี!้ ข้าไม่อาจรบกวนพวกเขา ยามนีจ้ ึงได้มาหานาย
ท่านสาม” พูดจบ นางก็ยอมรับผิดแต่โดยดี “หลังจากท่านแม่เฒ่าพูด ข้าก็รูแ้ ล้วว่ากระทําเรื่อง
ไม่สมควรเกินไป ภายหลังข้าจะไม่ทาํ เช่นนีแ้ ล้วเจ้าค่ะ”
1217

พูดจบก็ทาํ ท่าทางราวกับสาบาน
นายหญิงรองเม้มริมฝี ปากแย้มยิม้
ท่านผูเ้ ฒ่ากลับชะงักไปเล็กน้อย “เจ้าว่าอะไรนะ? สกุลหลี่ขายที่นาส่วนตัวห้าสิบหมู่!
เจ้ารูไ้ หมว่าขายหมู่ละเท่าใด?”
อวีถ้ งั เอ่ยด้วยรอยยิม้ “เห็นว่าหนึ่งหมู่ส่ีสิบตําลึง สองวันก่อนท่านพ่อและนายท่านอู๋ไป
เขียนสัญญา ยังกลัวว่าสกุลหลี่จะสร้างความลําบากให้ จึงเชิญนายท่านสามออกหน้าช่วยแก้ไข
เรื่องชลประทาน ท่านพ่อและนายท่านอู๋ซาบซึง้ ใจนายท่านสามอย่างยิ่ง ยังกล่าวว่าอีกไม่ก่ีวนั
จะไปวัดจุดธูปทําบุญแทนนายท่านสาม ขอพระโพธิสตั ว์อวยพรให้นายท่านสามสุขกายสบาย
ใจ อายุยืนยาวนับร้อยปี !”
ยามนี ้ ท่านแม่เฒ่าและนายหญิงรองต่างพากันหัวเราะลั่นขึน้ มา ท่านแม่เฒ่าหัวเราะ
จนนํา้ หูนา้ํ ตาไหล รับผ้าเช็ดหน้าจากมือสาวใช้มาเช็ดนํา้ ตา เอ่ยขึน้ ไปพลาง “เขาอายุยงั น้อย
จุดธูปขอพรอะไรกัน? ระวังอย่าทําเรื่องเกินงามจนขัดโชคขัดลาภเขาเสียล่ะ”
อวีถ้ งั เผยสีหน้าละอายใจ
เผยเยี่ยนผูน้ ี ้ ครัง้ แรกที่พบเขามักจะถูกรูปลักษณ์ทาํ ให้สบั สนมึนงง เมื่อคลุกคลีนานวัน
เข้า ก็จะถูกท่าทีองอาจน่ายําเกรงของเขาข่มไว้ ไม่ว่าจะเป็ นอย่างหน้าหรืออย่างหลัง ล้วนทําให้
ผูค้ นพลัง้ มองข้ามอายุของเขาไปได้ง่าย
“เช่นนัน้ เช่นนัน้ ข้ากลับไปจะบอกกับท่านพ่อ” นางเอ่ยต่อ “ให้ท่านพ่อหาของอย่างอื่น
มาขอบคุณนายท่านสาม”
“ไม่ตอ้ งเอาอะไรมาทัง้ นัน้ ” ใบหน้าของท่านแม่เฒ่ายังเผยรอยยิม้ หลังจากหัวเราะเมื่อ
ครู ่ “เขาก็ไม่ได้ขาดเหลืออะไร อีกอย่าง ในเมื่อเขาเป็ นผูน้ าํ สกุล ก็ควรดูแลปกป้องเพื่อนบ้าน มี
อะไรให้ต ้อ งขอบคุณ มากมายกัน ” ขณะที่ พูด นางก็ เ ริ่ม เอ่ ย ถึ ง เรื่ อ งปี นั้น ที่ ท่ า นผู้เ ฒ่ า เผย
ช่วยเหลือคนบ้านใกล้เรือนเคียง
1218

นี่เกรงว่าจะเป็ นความทรงจําที่ยากจะลบเลือนของท่านแม่เฒ่าที่มีตอ่ สามี


อวี ถ้ ัง ฟั งอย่างเคารพนอบน้อม หางตากลับเหลือบเห็นสาวใช้คนหนึ่งชะโงกศีรษะ
ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ดา้ นนอก
ประเด็นแรกนางไม่อยากขัดความทรงจําอันสวยงามของท่านแม่เฒ่า ประเด็นที่สอง
นางเป็ นเพียงแขกคนหนึ่ง ไม่จาํ เป็ นต้องตื่นตระหนกตกใจอะไร
อวีถ้ งั นั่งอย่างสงบเสงี่ยมอยู่ตรงนัน้
สาวใช้ผนู้ นั้ กลับยื่นศีรษะเข้ามาอย่างร้อนรนอีกครัง้ ท้ายที่สดุ ก็ถกู นายหญิงรองพบเข้า
นายหญิงรองส่งสายตาให้สาวใช้ขา้ งกาย สาวใช้ผนู้ นั้ จึงเดินออกไปอย่างเงียบเชียบ ไม่
นานนัก ก็ยอ้ นกลับมาด้วยฝี เท้าแผ่วเบา กระซิบข้างหูนายหญิงรอง นายหญิงรองมองไปทาง
ท่านแม่เฒ่า รอจนท่านแม่เฒ่ากล่าวจบ ยกถ้วยชาขึน้ ดื่ม จึงค่อยเอ่ยด้วยรอยยิม้ “ท่านแม่ นาย
หญิงเสิ่นมาขอเข้าพบท่าน”
“นายหญิงเสิ่น?” ท่านแม่เฒ่าถามอย่างฉงน “นายหญิงเสิ่นคนไหน?”
นายหญิงรองเอ่ยด้วยรอยยิม้ “นายหญิงที่อยู่เรือนของเสิ่นซ่านเหยียน อาจารย์เสิ่นที่
สอนอยู่สาํ นักศึกษาประจําอําเภอของพวกเราอย่างไรเจ้าคะ”
ท่านแม่เฒ่าฟั งแล้วกลับขมวดคิว้ “นางมาทําอะไร? ไฉนไม่สง่ เทียบเชิญมาก่อน”
ทําท่าราวกับไม่อยากพบนายหญิงเสิ่น
อวีถ้ งั อดทําหูตงั้ ไม่ได้
อาจารย์เสิ่นอยู่ท่ีหลินอันคนเดียวมาหลายปี ไม่รูว้ ่านายหญิงของเขาเป็ นคนอย่างไร?
ทัง้ ไม่รูว้ า่ นายหญิงเสิ่นผูน้ นั้ และท่านแม่เฒ่ามีอะไรเกี่ยวข้องกัน?
นายหญิงรองกลับเอ่ยอย่างอารมณ์ดี “ครัง้ ก่อนไม่ใช่ท่านป้ากล่าวว่ามีของจะให้ท่าน
หรอกรึ? คงจะฝากนายหญิงเสิ่นมากระมัง ข้าคิดว่านายหญิงเสิ่นอาจจะมาส่งของ นึกว่าท่าน
1219

ทราบแล้ว จึงไม่ได้สง่ เทียบเชิญเข้ามาก่อน” ทัง้ ยังเอ่ยต่อ “จะว่าไปแล้วนายหญิงเสิ่นก็ไม่ใช่คน


อื่นคนไกล จึงไม่ได้เห็นท่านเป็ นคนนอก”
ท่านผูเ้ ฒ่าแค่นเสียงอย่างดูแคลนอยู่บา้ ง “ให้นางเข้ามาเถิด!”
นายหญิงรองหยัดกายขึน้ ไปต้อนรับด้วยตัวเอง
อวีถ้ งั รีบลุกขึน้ บอกลา
ท่านแม่เฒ่ากลับรัง้ นางไว้ “นางพูดไม่ก่ีคาํ ก็จะไปแล้ว ข้ายังมีเรื่องอยากถามเจ้า”
อวีถ้ งั จึงไม่อาจบอกลาได้อีก หยัดกายขึน้ ช่วยรับถ้วยชาจากท่านแม่เฒ่า
ก่อนนายหญิงรองจะพาทัง้ สองคนเดินเข้ามา
อวีถ้ งั เงยศีรษะมอง แทบจะเผลอทํากาชาหลุดจากมือ
คิว้ เรียวงาม ดวงตาสุกสกาวนัน้ ไม่ใช่กซู้ ียงั จะเป็ นใครได้อีก?
ชั่วขณะนัน้ ใจของนางก็เต้นระรัวขึน้ มา
ชาติก่อน นางกลับไม่เคยได้ยินว่ากูซ้ ีและสกุลเผยมีความเกี่ยวข้องอะไรกัน ทัง้ ไม่เคย
เห็นกูซ้ ีมาเยี่ยมเยือนท่านแม่เฒ่าที่สกุลเผยมาก่อน เหตุใดนางมีชีวิตในชาตินี ้ เรื่องราวทัง้ หมด
กลับตาลปั ตรเช่นนีล้ ะ่ ?
พักเรื่องการเปลี่ยนแปลงของเจียงหลิงไว้ก่อน แต่ไฉนกูฉ้ ่าง กูซ้ ีสองพี่นอ้ งก็เข้ามาอยู่ใน
เรื่องราวเช่นนีด้ ว้ ยเล่า!
ดีท่ีสายตาของคนในห้องล้วนพุง่ เป้าไปที่กซู้ ีและนายหญิงเสิ่นที่เข้ามาพร้อมกับนาง ไม่
มีใครพบความผิดปกติของอวีถ้ งั แม้จะเป็ นกูซ้ ี ก็เพียงเหลือบมองอวีถ้ งั แวบเดียวเท่านัน้ ใบหน้า
ปรากฏท่าทีตกตะลึงวาบผ่านไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะก้มหน้าก้มตา คุกเข่าคํานับน้อมทักทาย
ท่านแม่เฒ่าพร้อมกับนายหญิงเสิ่น
1220

ท่านแม่เฒ่าเผยรอยยิม้ บาง มองไม่เห็นท่าทีตาํ หนิเมื่อครู ่แม้แต่นอ้ ย รอจนทัง้ สองคน


หยัดกายขึน้ นั่ง ก็ฉวยโอกาสยามที่พวกสาวใช้ยกของว่างนํา้ ชา เอ่ยถามกูซ้ ี “เจ้าคือลูกสาวคน
โตบ้านรองสกุลกู้ น้องสาวของกูเ้ จาหยางกระมัง?”
เห็นได้ชดั ว่าท่านแม่เฒ่าเคยได้ยินเรื่องของกูซ้ ีผนู้ ีม้ าก่อน
กูซ้ ีละลํ่าละลักหยัดกายขึน้ ตอบคําถาม กลับถูกท่านแม่เฒ่ารัง้ ไว้เสียก่อน “นั่งลงพูดคุย
เถิด ข้าและสกุลเดิมของแม่เจ้าเป็ นญาติทางการแต่งงาน เจ้าไม่จาํ เป็ นต้องมากพิธีกบั ข้าที่น่ี”
กูซ้ ีแย้มยิม้ นั่งลงอย่างเชื่อฟั ง
แต่อวีถ้ งั ที่รูน้ ิสยั นาง กลับรูส้ กึ ว่านางลอบโล่งอกอยู่ในใจ
มาเข้าพบผูใ้ หญ่เท่านัน้ นางมีอะไรให้ต่นื เต้นกัน
อวีถ้ งั ลอบสํารวจกูซ้ ีอย่างเงียบเชียบ
ท่ า นแม่เฒ่า ไถ่ถ ามกู้ซี อยู่เ นิ่ น นาน แม้กู้ซี จ ะตอบได้อย่า งเหมาะสม กลับแฝงท่า ที
ระแวดระวัง นี่ทาํ ให้อวีถ้ งั ยิ่งรูส้ กึ ว่ากูซ้ ีมาด้วยจุดประสงค์อะไรบางอย่าง
ท่านแม่เฒ่าถามเสร็จ ก็แนะนําอวีถ้ ังให้กับนายหญิงเสิ่นและกูซ้ ี ยังเอ่ยอย่างถือหาง
ว่าอวีถ้ งั เป็ นลูกหลานคนหนึ่งของนาง กลับไม่ได้บอกอย่างละเอียดว่าอวีถ้ งั เป็ นคุณหนูของสกุล
ใด
กูซ้ ีและนายหญิงเสิ่นต่างก็ทกั ทายเป็ นพิธี
นายหญิ งเสิ่นดูแล้วเหมือนอายุประมาณสี่สิบกว่าปี รู ปร่างซูบเซียว สวมเสือ้ คลุมสี
ครามลายดอกไม้ธรรมดา ปั กปิ่ นทองสองด้ามเหนือศีรษะ สวมกําไลทองคู่หนึ่งในมือ จาก
ตําแหน่งฐานะของนางแล้ว นับว่าแต่งตัวเรียบง่ายอยู่ไม่นอ้ ย บางทีอาจเป็ นเพราะท่าทีเคร่งขรึม
ของนาง หรือเพราะได้รบั ความนัยจากท่านแม่เฒ่าเมื่อครู ่ แม้ว่านางจะต้อนรับอวีถ้ งั ด้วยความ
เกรงใจ แต่อวีถ้ งั ยังคงรูส้ กึ ว่าใบหน้านางกระด้างกระเดื่องอยู่บา้ ง ไม่ใช่คนที่คบค้าสมาคมง่าย
เท่าใด
1221

กูซ้ ีกลับพาให้นางรูส้ กึ คาดไม่ถึงอยู่บา้ ง


ชาติก่อน กูซ้ ีเป็ นคุณหนูท่ีมีช่ือเสียงเรื่องกิรยิ างดงามเรียบร้อย แต่ชาตินีพ้ วกนางพบกัน
ครัง้ แรก กูซ้ ีก็เอ่ยถามนางด้วยรอยยิม้ ซุกซนเสียแล้ว “ปี นีเ้ จ้าอายุเท่าใดแล้ว? ข้าต้องเรียกเจ้าว่า
น้องหรือพี่กนั ?”
เป็ นมิตรจนแทบไม่เหมือนกับนางในชาติก่อนอย่างสิน้ เชิง
1222

บทที่ 153 พบหน้า


ไม่จาํ เป็ นต้องลําดับอายุ อวีถ้ งั ก็รูแ้ ล้วว่ากูซ้ อี ายุมากกว่านางหนึ่งปี
แต่นางยังคงเผยรอยยิม้ แผ่วบาง บอกปี เกิดของตัวเองออกไป
กูซ้ ีแย้มยิม้ หันไปเอ่ยกับท่านแม่เฒ่าและนายหญิงเสิ่น “เป็ นน้องข้านี่เอง!”
อวีถ้ งั นึกถึงบุญคุณความแค้นของทัง้ สองคนในชาติก่อน ทัง้ มองสีหน้าของกูซ้ ีท่ีเผยให้
นาง นางไม่อยากสร้างความอึดอัดใจให้ตวั เอง เรียกกูซ้ ีเป็ นพี่เป็ นน้องเช่นนี ้
“คุณหนูก!ู้ ” นางยิม้ หวานเรียกชื่อกูซ้ ีออกมา เผยท่าทีห่างเหินอย่างเห็นได้ชดั
ใบหน้าของกูซ้ ีไม่ปรากฏอันใด ทว่าม่านตากลับหดลงเล็กน้อย ยังคงเอ่ยด้วยรอยยิม้
สดใส “น้องสาวอย่าโกรธเคืองกันเลย ปกติขา้ หาได้เป็ นเช่นนีไ้ ม่ วันนีเ้ พียงเห็นน้องสาวหน้าตา
งดงาม รูส้ กึ ถูกชะตา จึงพลัง้ เสียมารยาทไปอยู่บา้ ง พี่สาวขอโทษเจ้าก็แล้วกัน” พูดจบ ก็ย่ืนมือ
มาจับแขนของอวีถ้ งั
อวีถ้ งั ได้ฟังก็แค่นหัวเราะในใจ
นี่กาํ ลังตําหนิวา่ นางนิสยั ไม่ดีกระมัง?
ชาติก่อนกูซ้ ีไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยเช่นนี?้
หรือเป็ นเพราะอวีถ้ งั ไม่ได้ตกอับเหมือนยามที่พวกนางพบเจอกันในชาติก่อน?
เห็นได้ชดั ว่าความใจกว้าง มีเมตตาของกูซ้ ีในชาติก่อนล้วนเป็ นเรื่องเสแสร้งทัง้ สิน้ !
แต่วา่ ใครฟ้องไม่เป็ นบ้างเล่า?
นางหันไปทางท่านแม่เฒ่า
ท่านแม่เฒ่าลอบพยักหน้า ในใจคิดว่าคุณหนูอวีผ้ นู้ ี ้ แม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
อยู่บา้ ง แต่นิสยั แท้จริงกลับไม่ได้แย่แต่อย่างใด ถึงแม้นางจะแนะนําว่าอวีถ้ งั เป็ นลูกหลานของ
1223

นาง แต่ความเป็ นจริงกลับไม่ใช่ กูซ้ ีปฏิบตั ิกับอวีถ้ ังเช่นนัน้ เห็นได้ชัดว่าต้องการเอาหน้านาง


เป็ นพี่สาวน้องสาว ดูเหมือนเรียบง่าย แต่หากไปมาหาสู่กนั จริงๆ กลับเป็ นเรื่องที่ลกึ ซึง้ กว่านัน้
อวีถ้ ังขอความคิดเห็นนางในช่วงเวลาสําคัญเช่นนี ้ เห็นได้ชัดว่าในใจยังคงรู จ้ ักพินิจพิเคราะห์
นับว่าวางตัวได้อย่างเหมาะสม
“นางเป็ นคนขีข้ ลาดตาขาว” ท่านแม่เฒ่ากล่าวด้วยรอยยิม้ เอ่ยปกป้องอวีถ้ งั ขึน้ มา “ใน
เมื่อเจ้าเป็ นพี่ ก็อย่าได้ถือสาหาความนางเลย” พูดจบ ก็หันหน้าไปคุยกับนายหญิ งเสิ่นถึง
จุดประสงค์ท่ีมา “ข้าจําได้ว่าเจ้าต้องคอยดูแลหลานตัวน้อยในเรือน อาจารย์เสิ่นมาหลินอันห้า
หกปี ก็ไม่เห็นเจ้าเข้ามา ครัง้ นีเ้ กิดอะไรขึน้ รึ? มาเยี่ยมอาจารย์เสิ่น? หรือว่าในเรือนมีเรื่องอะไร?
หากเป็ นเรื่องที่ขา้ สามารถช่วยได้ เจ้าก็พดู มาเถิด อย่าเพิ่งพูดคุยความสัมพันธ์ของอาจารย์เสิ่น
และเจ้ารองของสกุลพวกเราเลย แต่ในยามที่ท่านผูเ้ ฒ่ามีชีวิตอยู่ ก็ช่ืนชมอาจารย์เสิ่นเป็ นที่สดุ
ทัง้ สองคนมักออกไปเที่ยวเล่นดื่มสุราด้วยกัน ในเมื่อเจ้ามาหลินอัน ก็อย่าได้เห็นข้าเป็ นคนนอก
เลย”
ไม่เอ่ยเรื่องลําดับอาวุโสของอวีถ้ งั และกูซ้ ีออกมาสักคํา
ความนัยของวาจาก็คือไม่เห็นด้วยที่กซู้ แี ละอวีถ้ งั จะเรียกเป็ นพี่นอ้ งอะไรกัน
กูซ้ ีขบริมฝี ปาก ชําเลืองมองอวีถ้ งั อย่างรวดเร็ว
รู ปลักษณ์โดดเด่น ท่วงท่าอากัปกิริยาสง่าผ่าเผย แค่เห็นก็รูแ้ ล้วว่าไม่ได้มาจากสกุล
ต้อยตํ่าธรรมดา เช่นนัน้ ตกลงแล้วนางมีความสัมพันธ์อย่างไรกับท่านแม่เฒ่ากัน?
เหตุใดท่านแม่เฒ่าไม่ให้นางใช้ลาํ ดับอาวุโสกับคุณหนูอวีผ้ นู้ ี?้
หรือนางเรียกคุณหนูอวีว้ า่ ‘น้องสาว’ เป็ นเรื่องไม่เหมาะสมกัน?
เมื่อร้อยเรียงความคิดเข้าด้วยกัน กูซ้ ีก็ตกใจยกใหญ่ คล้อยหลังใจก็เต้นกระหนํ่าขึน้ มา
1224

นายหญิ ง เสิ่ น อายุน ้อ ยกว่า ท่า นแม่ เ ฒ่า รุ ่น หนึ่ง ทั้ง นางเข้า มาพร้อ มนายหญิ ง เสิ่น
เหมือนอ่อนกว่านายหญิ งเสิ่นอีกรุ ่น ก็หมายความว่าเป็ นรุ ่นหลานของท่านแม่เฒ่า...หรือว่า
คุณหนูอวีผ้ นู้ ีค้ ือคนที่ท่านแม่เฒ่าเตรียมไว้เพื่อเป็ น...คูห่ มัน้ ของนายท่านสาม!
กูซ้ ีอดมองอวีถ้ งั อีกครัง้ ไม่ได้
อวีถ้ งั กําลังฟั งท่านแม่เฒ่าพูดคุยอย่างเงียบเชียบ ทัง้ ไม่ได้ตระหนักถึงสายตาที่กซู้ ีมอง
มา และแม้นางจะสังเกตเห็น ก็ไม่อาจนํามาใส่ใจเช่นกัน
ชาติก่อนพวกนางเป็ นพี่สะใภ้นอ้ งสะใภ้ ใช้ชีวิตร่วมชายคาเดียวกัน นางไม่มีท่ีใดให้ไป
นั่นเพราะว่าอับจนหนทาง ชาตินี ้ บิดาและมารดานางล้วนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ยังมีพ่ีชาย
พี่สะใภ้คอยดูแล แม้วา่ กูซ้ ีจะเห็นนางขัดหูขดั ตาอย่างไร ก็ไม่อาจทําอะไรนางได้อยู่ดี!
ผูท้ ่ีอวีถ้ งั คิดว่าคนที่น่าสนใจอยู่บา้ งกลับเป็ นนายหญิงเสิ่น
จากคําพูดของนายหญิงเสิ่น นางมาหลินอันเพราะได้รบั การไหว้วานจากกูฉ้ ่างให้เข้า
มาเป็ นเพื่อนกูซ้ ี ป้าของเผยเยี่ยนทราบ จึงฝากของมาทางนาง ทั้งของพวกนี ้ นอกจากเป็ น
อาหารหยูกยา ยังมีบทประพันธ์ท่ีนิยมแพร่หลายในเจียงหนานตลอดหลายปี มานี ้
กูซ้ ีเคยเป็ นคูห่ มัน้ ของหลี่ตวน นางมาหลินอันเช่นนีเ้ ป็ นเรื่องที่เหมาะสมรึ?
กูฉ้ ่างมีเรื่องอะไรถึงไม่สามารถส่งผูต้ ิดตามหรือผูช้ ่วยมากับนางได้ กลับเป็ นนายหญิง
เสิ่นที่มาหลินอันเป็ นเพื่อนกูซ้ ี นายหญิงเสิ่นมาเยี่ยมสกุลเผย ไฉนยังพากูซ้ ีติดตามมาด้วย?
ไม่วา่ อวีถ้ งั จะคิดอย่างไรก็รูส้ กึ ว่าเรื่องนีม้ ีลบั ลมคมในบางอย่าง
แต่ขอแค่เพียงการมาเยือนของกูซ้ ี ไม่กระทบอันใดกับสกุลอวี ้ นางก็ย่อมไม่ยุ่งเกี่ยว
อะไร
อวีถ้ ังไม่มีความจําเป็ นต้องถามมากความ ยังคงนั่งฟั งท่านแม่เฒ่าและนายหญิงเสิ่น
พูดคุยกันอยู่ดา้ นข้างเงียบๆ
1225

กูซ้ ีกลับกระวนกระวายใจ
นางมาเยี่ยมเสิ่นซ่านเหยียนที่หลินอัน เดิมทีก็เป็ นเพียงข้ออ้าง ความเป็ นจริง นางตัง้ ใจ
มาพบท่านแม่เฒ่า ทัง้ คาดหวังให้ท่านแม่เฒ่าเกิดความรูส้ กึ ดีตอ่ นาง
นึกถึงเรื่องพวกนี ้ ใบหน้านางก็รอ้ นฉ่าขึน้ มาเล็กน้อย
จากคําพูดของพี่ชายนาง สกุลหลี่ไม่มีประโยชน์อนั ใดแล้ว หากสามารถเกี่ยวดองกับ
สกุล เผยได้ย่ อ มดี ท่ี สุด ก่ อ นหน้า นี น้ างคิ ด ว่า ในเมื่ อ ถอนหมั้น กับ สกุล หลี่ ทางที่ ดี ก็ อ ย่ า ได้
แต่งงานเชื่อมไมตรีกบั สกุลในหลินอันเลย ผลปรากฏว่ากูฉ้ ่างร่ายชื่อลูกหลานสกุลแถบเจ้อเจียง
ออกมาให้นางฟั งครัง้ หนึ่ง กลับไม่มีตวั เลือกใดที่เหมาะสมไปกว่าเผยเยี่ยนแล้วจริงๆ
กูฉ้ ่างก็สืบข่าวมาเช่นกัน ก่อนหน้านีส้ กุลเผยคาดหวังกับเผยเยี่ยนไว้สงู ต้องแต่งงาน
กับบุตรีของสกุลที่เป็ นขุนนางขั้นสามขึน้ ไป ถึงกระทั่งก่อนหน้านีท้ ่ีสกุลเผยและสกุลหลีของ
หลีซวิ่นเจ้ากรมพิธีการควบตําแหน่งมหาบัณฑิตหอเหวินหยวนจับคู่หมัน้ หมายกันก็เป็ นเรื่อง
จริง แต่งานแต่งของทัง้ สองสกุลยังไม่ทนั ได้กาํ หนด ท่านผูเ้ ฒ่าก็จากไปก่อน งานแต่งของเผย
เยี่ยนและสกุลหลีจงึ รัง้ อยู่เช่นนี ้
เดิมทีพวกเขาก็ไม่กล้าแก่งแย่งกับสกุลหลี อย่างไรสกุลหลีและสกุลเผยได้จับคู่หมัน้
หมายกันมาก่อน แต่เมื่อเดือนก่อนได้ยินว่าบุตรสาวที่รอแต่งงานเพียงคนเดียวของสกุลหลี
คุณหนูสามผูน้ นั้ ได้หมัน้ หมายกับลูกชายของสกุลมหาบัณฑิตสํานักฮั่นหลิน หยางโซ่วเต้า เห็น
ได้ชดั ว่าเกิดเหตุไม่คาดฝันกับการหมัน้ หมายของสกุลหลีและสกุลเผย
ลําพังบุตรเขยดีๆ ก็หายากอยู่แล้ว ทัง้ คนอย่างเผยเยี่ยน ก่อนหน้านีท้ กุ คนต่างคิดว่าเขา
มีพนั ธะสัญญาทางวาจากับสกุลหลี จึงไม่อาจเกาะแกะกับเขาได้ ยามนีเ้ ขาเป็ นอิสระแล้ว หาก
ข่าวแพร่สะพัดออกไป ยังไม่รูว้ ่าจะมีสกุลมากมายเท่าใดที่จบั จ้อง ถึงเวลานัน้ อย่ากล่าวว่าสกุล
กูข้ องพวกเขาเลย แต่เกรงว่าแค่คุณหนูสตรีของสกุลจางอิง อาจารย์เขาก็คงจะรีบร้อนมาตก
บุตรเขยเต่าทองคําอย่างเผยเยี่ยนกลับไปสกุลพวกเขาเช่นกัน
กูซ้ ีครุน่ คิดก็ลอบถอนหายใจไปพลาง
1226

เทียบกันแล้ว สกุลกูข้ องพวกนางยังคงเหนือกว่าสกุลเฉียนอยู่บา้ ง แต่จะด้อยตรงที่สกุล


กูข้ องพวกนางไม่ค่อยมีความสัมพันธ์อนั ใดกับสกุลเผย โดยเฉพาะระหว่างผูห้ ญิงในสกุล เดิมที
ก็ไม่มีคนที่สามารถคุยถูกคอกับสตรีของสกุลเผย หากไหว้วานแม่เลีย้ งพวกเขา นางไม่ฉกเผย
เยี่ยนไปเป็ นบุตรเขยให้ลกู หลานฝ่ ายมารดาของตนเองก็คงจะพังเรื่องนีล้ งอย่างไม่เป็ นท่า ส่วน
คนอื่น ก็ย่ิงไม่มีใครเชื่อถือได้
กูฉ้ ่างใคร่ครวญซํา้ แล้วซํา้ แล้ว จึงฝากความหวังไว้กบั นายหญิงเสิ่น
แน่นอนว่าจากนิสยั ของนายหญิงเสิ่น นางนัน้ ไม่ใช่ตวั เลือกที่ดีท่ีสดุ ในการทําเรื่องนี ้ แต่
นายหญิงเสิ่นสามารถพากูซ้ ีเข้าไปในสกุลเผยได้ หากทําให้กซู้ ีสร้างความประทับใจต่อท่านแม่
เฒ่า เทียบกับข่าวที่ได้ยินมาจากคุณหนูคนอื่น กูซ้ ีย่อมมีโอกาสสําเร็จมากกว่า
กูซ้ ีนนั้ คิดเรียบง่ายกว่ากูฉ้ ่าง
หากเผยเยี่ยนไม่ได้ดีเหมือนที่พ่ีชายตนว่า แม้ว่าพี่ชายนางจะตัดสินใจ นางก็ไม่อาจ
ยอมรับงานแต่งครัง้ นี ้
แทนที่จะแต่งกับสกุลไร้ประโยชน์ หลังจากเข้าสกุลจัดการกับเรื่องในเรือนหลังแล้วยัง
ต้องมารับมือกับเรือนหน้า นางมิสรู้ งั้ กายอยู่ในเรือนตัวเอง เป็ นนายหญิงที่สงู ส่งทะนงตน ใช้
ชีวิตอย่างอิสระไร้ขอ้ ผูกมัดอยู่ในเรือนจนชั่วชีวิต
แต่นางนับเป็ นคนที่มีความสามารถ แม้จะไม่รูว้ ่านางมีวาสนาต่อเผยเยี่ยนหรือไม่ แต่
เมื่อปรากฏตัวต่อหน้าท่านแม่เฒ่าและคนของสกุลเผยแล้ว นางจึงทําได้เพียงทําออกมาอย่างดี
ที่สดุ แสดงความสามารถให้เต็มที่ ให้คนอื่นได้เอ่ยชมนางอย่างไม่ขาดปาก
ด้วยเหตุนีก้ ารสร้างความประทับใจให้ท่านแม่เฒ่า และนายหญิงรองเผยย่อมเป็ นเรื่อง
ที่สาํ คัญที่สดุ
กูซ้ ีด่มื ชาด้วยกิรยิ างดงาม ลอบขบคิดว่าจะสืบที่ไปที่มาของอวีถ้ งั อย่างไรดี
อวีถ้ งั ได้ฟังนายหญิงเสิ่นพูดก็ย่งิ รูส้ กึ แปลกๆ ในใจ
1227

นายหญิงเสิ่นอยากจะพํานักในสกุลเผยช่วงหนึ่ง เป็ นเพราะว่าเสิ่นซ่านเหยียนไม่ได้เช่า


เรือนในหลินอัน แต่พักอาศัยในสํานักศึกษาประจําอําเภอ ในสํานักศึกษานัน้ มีลูกศิษย์มาก
เกินไป เสิ่นซ่านเหยียนไม่มีเรือนอยู่นอกสํานักศึกษา ชายหญิงมีธรรมเนียมที่เข้มงวด นางและกู้
ซีพกั อยู่ในนัน้ ย่อมไม่เหมาะสมนัก
อวีถ้ งั ถึงกับทนไม่ไหว มองนายหญิงเสิ่นด้วยความตกตะลึงยิ่ง
ไม่ได้พบสามีตัวเองนานถึงขนาดนี ้ ไม่ใช่ว่าควรยินดีปรีดา แม้จะไม่มีโอกาสแต่ย่อม
ต้องหาโอกาสอยู่กบั สามีเสียหน่อยไม่ใช่ร?ึ เหตุใดนายหญิงเสิ่นกลับทําตัวเหินห่างเช่นนีแ้ ทน
ล่ะ?
แม้อวีถ้ งั จะหัวทึบอย่างไร ก็มองออกว่าอาจารย์เสิ่นและนายหญิงเสิ่นคงไม่ลงรอยกัน
เท่าใด
หรือนี่ก็เป็ นหนึ่งในเหตุผลที่อาจารย์เสิ่นมาหลินอันโดยไม่พาภรรยามาด้วย?
นางไม่รูค้ าํ ตอบ แต่นางกลับมองออกอย่างชัดเจนว่าท่านแม่เฒ่าไม่ชอบนายหญิงเสิ่น
“เจ้าเป็ นภรรยาของอาจารย์เสิ่น มีอะไรไม่เหมาะสมกัน?” ยามที่ท่านแม่เฒ่าเอ่ยคํานี ้
ยังคงแฝงความดุดันอยู่บา้ ง “ข้าว่าบางทีเจ้านัน้ เข้มงวดกับกฎระเบียบเกินไป อายุปูนนีแ้ ล้ว
อะไรที่ปล่อยวางได้ก็ปล่อยวางบ้างเถิด”
เห็นได้ชัดว่านายหญิงเสิ่นไม่ชอบคํากล่าวนีข้ องท่านแม่เฒ่าเท่าใด นางเอ่ยว่า “หาก
ท่านแม่เฒ่าไม่สะดวก ข้าไปพักที่โรงเตีย๊ มสักสองวันก็ได้ แต่หากให้คณ
ุ หนูกตู้ ามไปกับข้า ข้าคง
ไม่วางใจ อย่างไรขอท่านแม่เฒ่าช่วยรับนางไว้หน่อยเถิด”
นี่กลับสมเหตุสมผลอยู่บา้ ง
แม้โรงเตีย๊ มจะดีเพียงไหนก็อาจประสบพบเจอกับพวกอันธพาลได้
ท่านแม่เฒ่าขมวดคิว้ เล็กน้อย ท้ายที่สดุ ยังคงถอยให้หนึ่งก้าว “ข้ากลัวว่าพวกเจ้าจะ
เดินทางไปมาสํานักศึกษาไม่สะดวก ในเมื่อเจ้าคิดว่าไม่เป็ นอะไร ก็พดู กันง่ายแล้ว พวกเจ้าเข้า
1228

มาพักเลยแล้วกัน ข้าไม่ได้ติดขัดอันใด ห้องรับรองแขกมีมากมาย เจ้าอยากพักห้องไหนก็เลือก


เอาเถิด”
นายหญิงเสิ่นและกูซ้ ีจงึ เข้ามาพักอยู่ในสกุลเผยเช่นนี ้
ยามที่ออกจากประตู อวีถ้ ังก็ถามจีต้ า้ เหนียงที่ออกมาส่งนาง “เรือนสกุณาพรํ่ามีหอ้ ง
มากมายเพียงนัน้ เชียวรึ?”
นางเห็นว่าเรือนสกุณาพรํ่าเป็ นเพียงเรือนห้าห้องที่อยู่ในพืน้ ที่สามส่วน
หลายวันมานีจ้ ีต้ า้ เหนียงรูจ้ กั มักคุน้ กับนางขึน้ เรือ่ ยๆ จึงพูดอย่างไม่คิดอะไรมาก
“พืน้ ที่หา้ ส่วนด้านข้างก็เป็ นส่วนของเรือนสกุณาพรํ่าเช่นกัน” นางเอ่ยแผ่วเบากับอวีถ้ งั
“เมื่อก่อนเรือนสกุณาพรํ่าเป็ นสถานที่ครองพรหมจรรย์ของพวกท่านแม่เฒ่าและฮูหยินเฒ่าของ
สกุลเผย ย่อมมี ห ้องมากมาย แต่ห ลายปี ม านี ส้ กุลเผยมี แต่ความผาสุก อายุขัย ยื น ยาว คน
อย่างเช่นท่านผูเ้ ฒ่าที่ดว่ นจากไปนับว่ามีนอ้ ย ทัง้ ไม่มีอนุภรรยาบ้านเล็ก ห้องจึงโล่งว่างไม่นอ้ ย”
อวีถ้ งั สั่นสะท้านในใจ
รูส้ กึ ว่าบรรยากาศเรือนสกุณาพรํ่าดูอมึ ครึมขึน้ มาอย่างแปลกประหลาด
จีต้ า้ เหนียงเห็นกลับหัวเราะลั่น “ครัง้ ก่อนเจ้าก็มาเคารพศพท่านผูเ้ ฒ่า สกุลเผยเป็ น
สกุลใหญ่ มีความพิถีพิถนั หากคนในเรือนไม่พอใจ ก็สร้างเรือนเป็ นของตัวเอง เรือนสกุณาพรํ่า
มีอะไรให้น่ากลัวกัน?”
อวีถ้ งั หัวเราะเก้อเขิน
จีต้ า้ เหนียงเอ่ยว่า “ยิ่งไปกว่านัน้ ปกติไม่ทาํ เรื่องชั่วช้า ย่อมไม่จาํ เป็ นต้องกลัวภูตผีมา
เคาะประตูตอนดึก ไม่มีอะไรต้องกลัว!”
ก็ไม่ใช่เพราะว่านางพบเรื่องมหัศจรรย์เหลือเชื่อมา จึงได้เชื่อเรื่องพวกนีอ้ ย่างไร้ขอ้
สงสัยหรอกรึ?
1229

อวีถ้ งั พึมพําอยู่ในใจ ก่อนจะขึน้ เกีย้ วกลับเรือนของตัวเอง


1230

บทที่ 154 ไม่ลงรอย


อวีถ้ งั นั่งเกีย้ วของสกุลเผยกลับมา
ไม่รูว้ ่าเพราะนางเป็ นแขกของเรือนสกุณาพรํ่าหรือไม่ เกีย้ วจึงเคลื่อนไหวอย่างมั่นคง
เรียบนิ่ง แทบไม่โคลงสั่นจนมาถึงตรอกชิงจู๋
เมื่อเข้าประตู นางก็เห็นหวังซื่อกําลังขนฟื นเข้าไปในเรือน
นางอดเอ่ยไม่ได้ “เจ้ามาได้อย่างไร?”
หวังซื่อส่งยิม้ ใสซื่อให้นาง ยังไม่ทนั ได้ตอบ ซวงเถาที่ออกมาจากครัวก็ชิงเอ่ยขึน้ ก่อน
“เขาว่างจึงเก็บฟื นมามากมาย คิดว่าสกุลพวกเรายังต้องซือ้ ฟื นจุดไฟ จึงขึน้ รถเข้าเมืองมา
คุณหนูรบี มาดูสิเจ้าคะ โรงฟื นในเรือนมีแต่ฟืนเต็มไปหมดเลยเจ้าค่ะ”
อวีถ้ งั เผยสีหน้าแย้มยิม้ เดินเข้าไปดู ก่อนจะกลับห้องไปผลัดผ้าและทักทายเฉินซื่อ
เฉินซื่อและป้าเฉินกําลังปรึกษาเรื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษในวันที่หนึ่งเดือนสิบ เห็นอวีถ้ งั
เข้ามา ก็พกั บทสนทนาไว้ช่วั คราว ให้ปา้ เฉินไปชงนํา้ หวานดอกกุย้ ฮวาเข้ามาให้อวีถ้ งั
ป้าเฉินยิม้ รับคําสั่งออกไป
ด้านเฉินซื่อดึงมืออวีถ้ งั ให้นางนั่งลงข้างตัวเอง เอ่ยถามอย่างอ่อนโยน “ไม่ใช่บอกว่าจะ
ไปครูเ่ ดียวก็กลับหรอกรึ? ไฉนจึงเพิ่งกลับมาเช่นนี?้ ท่านแม่เฒ่ารัง้ ตัวให้กินข้าวหรืออย่างไร?”
อวีถ้ งั ผงกศีรษะทัง้ รอยยิม้ เอ่ยถึงเรื่องที่พบกูซ้ ีและนายหญิงเสิ่นขึน้ มา
เฉิ น ซื่อคาดไม่ถึงเป็ นอย่างมาก “นายหญิ งเสิ่นมารึ พ่อของเจ้าถูกนายท่านอู๋เรียก
ออกไป รอเขากลับมาข้าจะลองถามเขาว่าควรไปทักทายนายหญิงเสิ่นเสียหน่อยดีหรือไม่” นาง
ยังสงสัยเรื่องกูซ้ ีเช่นกัน เอ่ยถามว่า “คุณหนูผนู้ นั้ หน้าตางดงามหรือไม่?”
“งดงามไม่นอ้ ย” อวีถ้ งั ตอบตามความเป็ นจริง
1231

“เช่นนัน้ พวกเจ้าจึงได้กินข้าวกลางวันด้วยกันมารึ?”
อวีถ้ งั สั่นศีรษะ “ไม่ใช่เจ้าค่ะ นายหญิงเสิ่นกล่าวว่าจะกลับไปเก็บของ ท่านแม่เฒ่าจึง
ไม่ได้รงั้ พวกนางไว้”
ไม่เหมือนนาง หลังจากเสร็จเรื่องเอ่ยว่าจะกลับแล้ว ท่านแม่เฒ่าไม่เพียงรัง้ แล้วรัง้ อีก
ยังชวนนายหญิงรองกินข้าวกลางวัน ทัง้ ให้คนไปรับคุณหนูหา้ เข้ามา
ท่านแม่เฒ่าคล้ายว่าปฏิบตั ิตอ่ นายหญิงเสิ่นเป็ นมารยาทเท่านัน้
เฉินซื่อย่อมไม่รูถ้ ึงเรื่องราวภายใน คิดว่านายหญิงเสิ่นยืนกรานไปเอง จึงไม่ถามมาก
ความ เอ่ยถามอวีถ้ งั อย่างกังวล “เจ้าอยู่ท่ีสกุลเผยรูส้ กึ อึดอัดหรือไม่? หากอึดอัด ภายหลังก็หา
ข้ออ้างไม่ตอ้ งไปบ่อยๆ”
แม้น างจะตั้ง ใจตอบแทนสกุล เผย แต่ ห ากลูก สาวได้รับ ความลํา บากใจ นางย่ อ ม
ยินยอมที่จะใช้วิธีอ่นื ตอบแทนสกุลเผยมากกว่า
อวีถ้ งั สัมผัสได้ถึงความอบอุน่ ของมารดา อดกอดแขนนางไม่ได้ “ท่านอย่ากังวลเลยเจ้า
ค่ะ ท่านแม่เฒ่าเป็ นคนนิสยั ดี ข้าอยู่กบั นางไม่มีอะไรให้อดึ อัดใจทัง้ นัน้ ”
หลังจากนายหญิ งเสิ่นและกูซ้ ีออกไป ท่านแม่เฒ่าก็ถามเรื่องที่สกุลหลี่ขายที่อย่าง
ละเอียด
คาดเดาจากท่าทีของท่านแม่เฒ่า เรื่องที่เผยเยี่ยนไม่สงสัย ท่านแม่เฒ่ากลับเ กิดความ
แคลงใจ
ยามที่นางจากมา ท่านแม่เฒ่าก็เรียกหาหูซิ่ง คาดว่าคงต้องการถามเรื่องสกุลหลี่
พิจารณาจากเหตุการณ์นี ้ ภายหลังนางมีเรื่องอะไร แทนที่จะพบเผยเยี่ยนยังมิสไู้ ปพบ
ท่านแม่เฒ่า
1232

อวีถ้ ังออดอ้อนอยู่ขา้ งกายมารดา ดื่มนํา้ หวานกุย้ ฮวา ทั้งฟั งมารดาคุยเรื่องเซ่นไหว้


บรรพบุรุษไปพลาง
ทางด้านหวังซื่อขนฟื นเสร็จแล้ว ก็เข้ามาน้อมทักทายเฉินซื่อ เตรียมที่จะกลับชานเมือง
เฉินซื่อให้เงินรางวัลเขาจํานวนหนึ่ง ยังถามเขาว่า ช่วงฉลองปี ใหม่จะกลับไปเยี่ยมบ้าน
เกิดหรือไม่
หวังซื่อคิดว่าต้องเสียค่าเดินทางจํานวนไม่นอ้ ย จึงไม่วางแผนกลับไป
เฉินซื่อจึงให้เขามาฉลองปี ใหม่ท่ีน่ี
หวังซื่อดีใจอย่างยิ่ง เอ่ยขอบคุณครัง้ แล้วครัง้ เล่า ยามนีจ้ งึ ขึน้ รถกลับไป
เฉินซื่อเอ่ยกับป้าเฉิน “เป็ นคนที่ซ่ือตรงไม่นอ้ ย เอาการเอางาน ครัง้ ก่อนนายท่านกลับ
เรือนเก่า ก็เป็ นเขาที่คอยช่วยตรวจสอบบัญชี”
หลังจากผ่านเทศกาลไหว้พระจันทร์ สกุลอวีก้ ็เริม่ เก็บค่าเช่าที่แล้ว
เมื่อก่อนมักจะเชิญญาติพ่ีนอ้ งมาช่วยเหลือ แต่ทกุ คนต่างมีธุระในเรือนมากมาย กล่าว
ว่าช่วยเหลือก็ทาํ ได้เพียงช่วยเหลือเรื่องเล็กน้อย ไม่ค่อยทําอะไรได้ ใช้ตาชั่ง คํานวณบัญชี จด
บัญชี หากไม่ใช่อวีเ้ หวินก็เป็ นอวีป้ ๋ อที่ทาํ เอง ครัง้ นีอ้ วีเ้ หวินกลับเรือนเก่าไปเก็บค่าเช่า หวังซื่อ
กลับคอยจัดการอย่างขะมักเขม้น ตัง้ แต่ตน้ จนจบแทบไม่ปล่อยให้อวีเ้ หวินออกโรงด้วยตัวเอง
อวีเ้ หวินเพียงรับผิดชอบจดบัญชีเท่านัน้ ยามที่กลับมายังเอ่ยชื่นชมกับคนในเรือน “เจ้าว่าหวัง
ซื่อเป็ นคนที่ไม่รูห้ นังสือผูห้ นึ่ง กลับคาดไม่ถึงว่าจะคํานวณบัญชีเร็วกว่าข้าเสียอีก ไม่ผิดพลาด
แม้แต่นิดเดียว”
อวีถ้ งั ก็ได้ยินเรื่องนีม้ าเช่นกัน
นางเอ่ยด้วยรอยยิม้ “ป้าเฉินก็ไม่รูห้ นังสือสักตัว แต่ท่านดูสิ มีแต่นางที่เอาเปรียบผูอ้ ่ืน
ผูอ้ ่ืนเอาเปรียบนางได้ท่ีไหนกัน?”
1233

ทุกคนหัวเราะเสียงดัง
ด้านป้าเฉินกลับลําพองใจไม่นอ้ ย
เฉินซื่อพูดมาถึงตรงนี ้ ป้าเฉินก็สง่ สายตาให้เฉินซื่อ
เฉินซื่อเห็นพลันกระแอมไอสองครัง้ ส่งอวีถ้ งั ออกไป “เจ้ากลับไปพักผ่อนในห้องเถิด อีก
เดี๋ยวข้าจะพาเจ้าไปหาป้าสะใภ้ใหญ่ ถือโอกาสคุยเรื่องเซ่นไหว้ดว้ ย”
ตัง้ แต่ท่ีเซียงซื่อตัง้ ท้อง หวังซื่อก็หวั เราะหุบปากไม่ลงทัง้ วัน เอาแต่ปรนนิบตั ิเซียงซื่อให้
กินนั่นดื่มนี่ ไม่ไปกระทั่งร้านค้า มาหาพวกนางที่สกุลนับครัง้ ได้
อวีถ้ งั จึงรูว้ า่ ป้าเฉินกําลังจะพูดเรื่องส่วนตัวกับมารดา
ครัง้ ก่อนที่นางลอบฟั งคือตอนยังเด็ก มารดามักจะป่ วยกระเสาะกระแสะ ป้าเฉินกลัว
ว่าอวีเ้ หวินจะมีใจอื่น จึงกล่อมมารดาให้ซอื ้ สาวใช้คนหนึง่ กลับมาเป็ นเมียบ่าวให้อวีเ้ หวิน
ครัง้ นีน้ างทําทีออกจากประตู แต่กลับมาหลบฟั งที่หน้าต่างห้องมารดา
ครัง้ นีป้ ้าเฉินกลับโน้มน้าวให้มารดาจัดการตบแต่งซวงเถาให้กบั หวังซื่อ “อย่างไรสกุล
พวกเราก็ตอ้ งการรับลูกเขยเข้าเรือน ซวงเถาก็ถึงเวลาออกเรือนแล้วเช่นกัน เดิมทีจับคู่อาเสา
ย่อมดีท่ีสดุ แต่อาเสาอายุนอ้ ยเกินไป ปกติซวงเถาก็พดู จาไม่ค่อยลงรอยกับเขา ข้าว่ามิสรู้ งั้ ตัว
หวังซื่อเอาไว้”
เฉินซื่อคล้ายกับครุน่ คิดอะไรบางอย่าง
อวีถ้ งั นัน้ กลับวิ่งไปแทบไม่เห็นฝุ่ น หาโอกาสไปไถ่ถามซวงเถา “เจ้าคิดว่าหวังซื่อผูน้ นั้
เป็ นอย่างไร?”
บางทีซวงเถาอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าอวีถ้ งั กําลังสืบถามนิสยั ใจคอของหวังซื่อ ครุน่ คิดว่า
จะรัง้ ตัวหวังซื่อไว้ดีหรือไม่ จึงช่วยพูดคําดีๆ แทนหวังซื่อ แต่แม้จะเป็ นเช่นนี ้ ก็มองออกอยู่วา่ ซวง
1234

เถามีความประทับใจที่ดีต่อหวังซื่อไม่นอ้ ย เพียงแต่ไม่รูว้ ่าหวังซื่อจะสามารถรัง้ ตัวอยู่อย่าง


สบายใจได้หรือไม่?
อวีถ้ งั เม้มปากแย้มยิม้ คล้อยหลังก็ไปเรือนลุงใหญ่กบั เฉินซื่อ
เซียงซื่อท้องโตอย่างชัดเจนขึน้ มาแล้ว กําลังดื่มนํา้ แกงไก่ดว้ ยสีหน้าขื่นขม เมื่อเห็นอวี ้
ถังเข้ามาก็คล้ายดั่งเห็นฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้าย รีบกําชับซย่าเหลียนทันที “เร็วเข้า ไปตักนํา้
แกงไก่เข้ามาให้คณุ หนูหนึ่งถ้วย”
ซย่าเหลียนปรากฏใบหน้าสับสนขึน้ มา
อวีถ้ งั ละลํ่าละลักเอ่ย “ข้าไม่ด่มื นํา้ แกงไก่ เจ้าชงชาให้ขา้ ก็พอแล้ว”
เซียงซื่อโน้มน้าวนาง “อากาศเย็นแล้ว ดื่มนํา้ แกงไก่สกั ถ้วยกําลังดี”
อวีถ้ งั เอ่ย “อย่างไรข้าก็ไม่กิน! หากพี่สะใภ้กินไม่ลง ก็ให้ท่านพี่ช่วยกิน ข้าไม่อยากถูก
ป้าสะใภ้ใหญ่ตาํ หนิเสียหน่อย”
“ไม่หรอก ไม่หรอก” เซียงซื่อยิม้ เจื่อน
อวีถ้ งั หัวเราะร่า กระซิบคุยเรื่องซย่าเหลียนกับซย่าผิงกุย้ ขึน้ มา
เซียงซื่อคาดไม่ถึงอย่างยิ่ง ยามที่ซย่าเหลียนยกชาและของว่างเข้ามา เซียงซื่อก็จอ้ ง
มองนางบ่อยครัง้ จวบจนพาให้ซย่าเหลียนสงสัยว่าหน้าตัวเองมีอะไรติดอยู่ เซียงซื่อจึงค่อย
ปล่อ ยซย่ า เหลี ย นไป จากนั้น ก็ แ อบกระซิ บ กระซาบกับ อวี ถ้ ัง “ข้า ว่ า ดี ไ ม่ น ้อ ย พอดี ท่ี พ่ี เ จ้า
อยากจะขยับขยายร้านค้า มีซย่าผิงกุย้ คอยนั่งดูแลควบคุม พี่เจ้าและลุงใหญ่ย่อมวางใจที่สดุ ”
อวีถ้ ังก็คิดว่าพวกเขาเหมาะสมกัน ขบคิดในใจ หากสามารถจับคู่สาํ เร็จ ปี หน้าสกุล
พวกนางก็จะมีเรื่องมงคลตัง้ สองครัง้ !
รอจนนางและมารดากลับเรือน ก็พบกับอวีเ้ หวินที่หน้าประตู
อากาศหนาวยะเยือก เขาตัวสั่นจนต้องยํ่าเท้า
1235

เฉินซื่อเอ่ยอย่างสงสาร “นี่เจ้าไปไหนมา? ไม่ได้จา้ งเกีย้ วกลับมาหรอกรึ?”


อวีเ้ หวินทอดถอนหายใจ “นี่ไม่ใช่ใกล้จะเซ่นไหว้บรรพบุรุษแล้วรึ? นายท่านอู๋ชวนข้าไป
จองหัวหมู ผลปรากฏว่ากลับพบอาจารย์เสิ่นระหว่างทาง เขาดื่มสุราอยู่รา้ นสุราข้างทางเล็กๆ
ข้าเห็นว่าท่าทีเขาผิดปกติ แต่นายท่านอู๋ดึงดันจะเข้าไปทักทายเขาให้ได้ พวกเราทัง้ สองจึงถูก
เขารัง้ ตัวดื่มสุราที่น่ นั เจ้าก็รูว้ ่าข้าดื่มสุราไม่เก่ง ไหนเลยจะกล้าดื่มหนัก นายท่านอู๋ด่ืมเป็ นพัน
แก้วก็ไม่เมา ทัง้ สองคนกลับนับว่าสมนํา้ สมเนือ้ ข้าจึงคอยรินสุราอยู่ดา้ นข้าง รอจนทัง้ สองคน
ดื่มพอสมควรแล้ว ผูต้ ิดตามนายท่านอู๋ก็แบกเขากลับเรือนไป ข้ายังต้องส่งอาจารย์เสิ่นกลับ
สํานักศึกษาประจําอําเภอ แต่ว่า ข้าพบเสี่ยวชวนที่สาํ นักศึกษาด้วย ได้ยินอาจารย์ท่ีน่ นั พูดว่า
เสี่ยวชวนบากบั่นตัง้ ใจเรียนหนังสือไม่นอ้ ย สอบเป็ นซิ่วไฉย่อมไม่ใช่ปัญหา หากเป็ นเช่นนัน้ ได้
จริงๆ สกุลเว่ยก็นบั ว่าสามารถลืมตาอ้าปากได้แล้ว”
สกุลเว่ยมีลกู ชายมากมาย ทัง้ ยังมีท่ีดินจํานวนไม่นอ้ ย ใช้ชีวิตอย่างลําบากแสนเข็ญ
สาเหตุสาํ คัญคือต้องจ่ายภาษี เยอะเกินไป หากเว่ยเสี่ยวชวนสามารถสอบซิ่วไฉได้ ก็จะสามารถ
ละเว้นภาษี ของสกุลเว่ยส่วนหนึ่ง นี่นบั ว่าเป็ นเงินก้อนโตสําหรับสกุลเว่ย
เฉินซื่อพยักหน้า “อาจารย์เสิ่นดื่มสุราอยู่คนเดียวอย่างนัน้ รึ?” ขณะที่พดู ก็เหลือบมอ
งอวีถ้ งั ไปที คล้ายถามอวีถ้ งั ว่า “นายหญิงเสิ่นมาไม่ใช่ร”ึ
อวีถ้ งั หูตงั้ ขึน้ มาทันที
เห็นได้ชดั ว่าอวีเ้ หวินไม่รูเ้ รื่องนี ้ “เห็นกล่าวว่าอารมณ์ไม่ดี วันนีไ้ ม่ได้เข้าสอนสักวิชา แต่
เชิญอาจารย์คนอื่นมาสอนแทน จะว่าไปแล้ว อาจารย์เสิ่นนัน้ น่าสงสาร ยามที่ขา้ ส่งเขากลับไป
ในห้องก็เย็นชืด มีเพียงเด็กท่าทางงุ่มง่ามคนหนึ่งนอนอยู่ท่ีน่ นั ให้เขาช่วยชงชาสร่างเมาก็ยัง
หยิบจับอะไรไม่ถกู อาจารย์เสิ่นรํ่าเรียนมีความรูข้ นาดนัน้ นับว่าน่าสงสารจริงๆ!
นี่เหมือนจะไม่เกี่ยวกับการรํ่าเรียนอะไรกระมัง?
อวีถ้ งั ขบคิดในใจ
1236

เห็นได้ชัดว่าเฉินซื่อก็คิดได้เช่นกัน นางขมวดคิว้ เอ่ย “ข้าได้ยินจากอาถังว่านายหญิง


เสิ่นมา นายหญิงเสิ่นไม่ได้ทงิ ้ บ่าวรับใช้ให้อาจารย์เสิ่นสักคนเลยรึ?”
อวีเ้ หวินตกใจ “นายหญิงเสิ่นมารึ? มาตัง้ แต่เมื่อใด? ไฉนอาจารย์เสิ่นไม่เอ่ยขึน้ มาสัก
คํา?”
เฉินซื่อเอ่ยอย่างลังเล “ก่อนหน้านีข้ า้ ยังคิดจะปรึกษากับเจ้าว่าควรไปเยี่ยมนายหญิง
เสิ่นหรือไม่ พอได้ยินเจ้าพูดเช่นนี ้ ข้ากลับไม่รูว้ า่ ควรทําอย่างไรดี?”
อวีเ้ หวินเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “ข้าจะไปสืบข่าวแล้วค่อยว่ากัน”
เฉินซื่อพยักหน้า
ผ่านไปสองวัน อวีเ้ หวินก็ปรึกษาเรื่องนายหญิงเสิ่นกับเฉินซื่อ อวีถ้ งั นั่งฟั งอยู่ดา้ นข้าง
“ว่าตามหลักแล้ว ยากที่นายหญิงเสิ่นจะเทียวมาครัง้ หนึ่ง พวกเราก็เคยได้รบั นํา้ ใจจาก
อาจารย์เสิ่ น แม้จะไม่อาจเชิ ญนายหญิ ง เสิ่ นมาเป็ นแขกที่เรือนได้ ก็ ควรไปเยี่ ย มเยื อนเสีย
หน่อย” เขาเอ่ยอย่างลําบากใจ “แต่ได้ยินเสิ่นฟางกล่าวว่า อาจารย์เสิ่นและนายหญิงเสิ่นไม่ลง
รอยกันตัง้ แต่แต่งงานแล้ว ด้วยเหตุนีท้ งั้ สองคนจึงมีลกู เพียงคนเดียว นายหญิงเสิ่นมาหลินอัน ก็
พักอยู่กบั ท่านแม่เฒ่าเผย ส่วนอาจารย์เสิ่นก็ไม่ได้เปิ ดเผยเรื่องนีแ้ ก่คนรอบข้างแม้แต่นอ้ ย”
จะไปพบนายหญิงเสิ่นหรือไม่จงึ เป็ นเรื่องลําบากใจขึน้ มา
ชาติก่อนอวีถ้ งั ไม่เคยได้ยินเรื่องของอาจารย์เสิ่น จึงไม่อาจตัดสินใจอะไรได้ แต่นางคิด
อยู่พกั ใหญ่ ก็เสนอความคิดให้บิดาและมารดา “ไม่อย่างนัน้ พวกเราก็ทาํ เป็ นไม่รบั รูเ้ สีย เวลา
นัน้ ท่านแม่เฒ่าก็ไม่ได้แนะนําว่าข้าเป็ นคุณหนูสกุลใด อาจารย์เสิ่นก็ไม่ได้ปริปากเรื่องนีก้ บั ท่าน
สักคํา อย่างไรอย่าได้หาเรื่องยุง่ เข้ามาดีกว่า”
อวีเ้ หวินตรึกตรองเล็กน้อย คิดว่าวิธีของอวีถ้ งั นัน้ ใช้ได้ “อย่างไรสตรีสกุลพวกเราและ
สกุลเสิ่นก็ไม่ได้ไปมาหาสูก่ นั ไม่ทราบว่านายหญิงเสิ่นมาก็มีความเป็ นได้”
1237

อวีเ้ หวินจึงจบเรื่องไปเช่นนี ้ แต่เพราะความกังวลของเฉินซื่อ นางจึงลอบไปเยือนเรือน


นายท่านอู๋ ไถ่ถามนายหญิงอูว๋ า่ นางทราบเรื่องที่นายหญิงเสิ่นมาหลินอันหรือไม่
1238

บทที่ 155 ไม่ยอม


นายหญิงอู๋กาํ ลังอัดอัน้ ตันใจ ได้ยินเฉินซื่อถามเช่นนี ้ ก็คิดขึน้ มาได้ว่าเฉินซื่อไม่ใช่คน
ปากโป้ง จึงไม่กงั วลอะไร ไล่สาวใช้ออกไป ก่อนจะนินทาสกุลเสิ่นขึน้ มา “...ได้ยินว่าอาจารย์เสิน่
มาหลิ น อัน ก็ เ พราะว่า ไม่ อ ยากอยู่ใ ต้ช ายคาเดี ย วกับ นายหญิ ง เสิ่น เจ้า ว่า ผู้ห ญิ ง ทํา เช่น นี ้
หมายความว่าอย่างไรกัน แต่ขา้ ว่านายหญิงเสิ่นที่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย คงไม่คิดว่าตัวเองทํา
ผิดสักนิด อย่าพูดเลยว่ายามปกติเป็ นห่วงเรื่องที่พกั ของอาจารย์เสิ่น กระทั่งคําพูดดีๆ ก็ยงั ไม่มี
ให้กนั เลยกระมัง”
เฉินซื่อตกตะลึง “เช่นนัน้ นายหญิงเสิ่นมาหลินอันทําไมกัน? นี่ก็ใกล้ถึงวันเซ่นไหว้บรรพ
บุรุษแล้วมิใช่ร!ึ ”
นายหญิงอู๋ไม่ทราบเช่นกัน แต่น่ีก็ไม่ได้ขดั ขวางความอยากรู อ้ ยากเห็นของนางได้แต่
อย่างใด
หลายวันต่อมา นายหญิงอู๋ก็มาเที่ยวเล่นที่สกุลอวี ้ นางดึงเฉินซื่อมากระซิบ “ข้าสืบมา
อย่างละเอียดแล้ว นายหญิงเสิ่นกับอาจารย์เสิ่นมีความสัมพันธ์ไม่คอ่ ยดีจริงๆ”
แม้วา่ เฉินซื่อจะไม่ได้เป็ นคนที่ชอบสืบเสาะเรื่องส่วนตัวของคนอื่นก่อน แต่หากสามารถ
ฟั งข่าวลือซุบซิบที่นางสนใจ ก็ย่อมไม่ติดขัดอันใด
“กระทั่งเรื่องนีท้ ่านก็สืบได้ร!ึ ” นางมองนายหญิงอู๋ดว้ ยความนับถือ แกะเปลือกส้มลูก
หนึ่งให้นายหญิงอูอ๋ ย่างเอาใจ
“ข้าก็แค่บงั เอิญเท่านัน้ ” นายหญิงอู๋ไม่มีเวลาจะมากินส้ม ถือไว้ในมือก่อนจะเอ่ยเสียง
เบากับเฉินซื่อ “วันนัน้ หลังจากเจ้ากลับเรือน ข้ามาคิดก็ย่ิงรู ส้ ึกว่าเจ้ากล่าวถูกต้อง เจ้าบอกว่า
ใกล้จะเซ่นไหว้บรรพบุรุษแล้ว นายหญิงสกุลไหนบ้างที่จะไม่ย่งุ หัวหมุน แต่นายหญิงเสิ่นกลับมี
เวลามาเที่ยวเล่นไปทั่ว? ข้าจึงเอ่ยเรื่องนีก้ บั นายท่านของเรา แสร้งทําเป็ นไม่รูเ้ รื่องอะไร ส่งหญิง
รับใช้คนสนิทไปส่งขนมที่สาํ นักศึกษา กล่าวว่าได้ยินว่านายหญิงเสิ่นมา จึงตัง้ ใจส่งขนมมาให้
1239

นายหญิงเสิ่นโดยเฉพาะ แต่เรื่องก็ช่างประจวบเหมาะ ยามที่หญิงรับใช้ของพวกเราไปส่งขนมก็


เห็นนายหญิงเสิ่นกําลังทะเลาะกับอาจารย์เสิ่นพอดี”
“หา!” เฉินซื่อตกใจอย่างยิ่ง
นายหญิงอู๋ถอนหายใจ “หญิงรับใช้ของพวกเราก็คาดไม่ถึงเช่นกัน ยามนัน้ ไม่รูจ้ ะทํา
อย่างไร ดีท่ีอาจารย์ในสํานักศึกษาล้วนไปเข้าสอนกันหมด บ่าวรับใช้คนอื่นๆ ก็ไม่ทราบว่า
หายไปไหนกัน ไม่มีคนอยู่ท่ีน่ นั สักคน หญิงรับใช้ของพวกเรากลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ก็ได้ยิน
อย่างชัดเจน เหมือนว่านายหญิ งเสิ่นผูน้ ัน้ จะได้รบั การไหว้วานจากคนอื่นให้มาหลินอันเป็ น
เพื่อนคุณหนูคนหนึ่งโดยเฉพาะ”
เรื่องนีเ้ ฉินซื่อทราบดี
นางได้ยินมาจากอวีถ้ งั
นางยังรูอ้ ีกว่าด้วยเหตุนีน้ ายหญิงเสิ่นจึงพักอยู่ในสกุลเผย
“นายหญิงเสิ่นทําเกินไปอยู่บา้ ง” เฉิ นซื่อไม่เห็นด้วยกับการกระทําของนายหญิงเสิ่น
“แต่ทงั้ สองคนก็คงไม่ถึงกับทะเลาะกันเรื่องนีจ้ นทําให้พวกบ่าวรับใช้ขบขันหรอกกระมัง?”
นายหญิงอูส๋ ง่ ยิม้ อย่างมีลบั ลมคมในให้เฉินซื่อ
เฉินซื่อเอ่ย “หรือว่าเรื่องภายในยังมีอะไรที่ขา้ ไม่รูอ้ ีก?”
นายหญิงอูเ๋ อ่ยด้วยรอยยิม้ “เจ้าฟั งข้าพูดจบแล้วก็จะรูเ้ อง”
เฉินซื่อตัง้ อกตัง้ ใจฟั ง
นายหญิ ง อู๋เ อ่ย ต่อ “เดิ ม ที ก็ ไ ม่ ใ ช่ เ รื่ อ งอะไร สกุล ใดไม่ มี เ พื่ อ นฝูง บ้า งเล่า จะโทษก็
ต้องโทษที่ตวั เอง อาจารย์เสิ่นได้ฟัง ก็บนั ดาลโทสะ ชีห้ น้าด่านายหญิงเสิ่นว่าเสแสร้งเป็ นคนดี
ยังพูดว่าสําหรับเขา นายหญิงเสิ่นก็เป็ นแค่เศษฝุ่ นเท่านัน้ ยามนีค้ งก้มหัวลดตัวเพราะอํานาจ
1240

ทําตัวประหนึ่งเป็ นแม่ส่ือ พูดทํานองว่าหากนายหญิงเสิ่นยังมียางอายอยู่บา้ ง ก็ให้รีบขนของ


ออกมาจากสกุลเผยเสีย”
เป็ นผูห้ ญิง หากถูกสามีตาํ หนิเช่นนีก้ ็คงปวดใจไม่นอ้ ย
เฉินซื่อร้อง “หา!” ออกมา ขมวดคิว้ ราวกับไม่เห็นด้วยในการกระทําของอาจารย์เสิ่น
นายหญิงอู๋ทอดถอนหายใจ “ยามที่ขา้ ได้ยินหญิงรับใช้พูด ก็รอ้ นรนใจ ยังคิดว่าหาก
นายหญิงเสิ่นทําเรื่องอันใดไม่คาดฝั นเพราะโมโหชั่ววูบ หวังเพียงว่าหญิงรับใช้ของพวกเราจะ
หัวไวขัดขวางนายหญิงเสิ่นเอาไว้”
“แต่ใครจะรูว้ า่ นายหญิงเสิ่นกลับไม่ใช่คนที่ชอบสร้างปั ญหา”
“ได้ยินอาจารย์เสิ่นพูดเช่นนัน้ นอกจากจะไม่เดินหนีหรือโต้แย้งด้วยความเจ็บปวดรวด
ร้าว กลับยังเริม่ ตําหนิอย่างใจเย็น กล่าวว่าอาจารย์เสิ่นไม่มีความสามารถเป็ นของตัวเอง ตัวเอง
ไม่กา้ วหน้า ก็คิดว่าคนอื่นควรเหมือนตัวเอง เห็นสกุลที่มีอาํ นาจบารมีกลับเดินหลบ คนอื่นเห็น
ย่อมคิดว่าเขาจงเกลียดจงชังสังคมที่เน่าเฟะ อิจฉาพวกคนที่มีความสามารถกว่าเขา แต่ตวั เอง
กลับคิดเองเออเอง รู ส้ ึกว่าตัวเองสูงสง่า ไม่แปดเปื ้อนทางโลก...สรุ ปแล้ว เอ่ยวาจาเชือดเฉือน
ทุกคํา หญิงรับใช้แทบจะจํามาได้ไม่หมดเสียด้วยซํา้ ”
“ยามนัน้ อาจารย์เสิ่นอาจจะโมโหเพราะคําพูดของนายหญิงเสิ่น คว้าถ้วยชาเขวีย้ งไป
ทางนายหญิงเสิ่นทันที ยังตะโกนเสียงดังว่า หากภายในสองวันนายหญิงเสิ่นไม่ยา้ ยเข้ามาใน
สํานักศึกษาหรือกลับเมืองหังโจว เขาก็จะไปเชิญนายหญิงเสิ่นที่สกุลเผยด้วยตัวเอง ทําเอานาย
หญิงเสิ่นมีโทสะขึน้ มา ก่นว่าเหน็บแนมอาจารย์เสิ่นอีกครัง้ กล่าวว่าอาจารย์เสิ่นวางเพลิงได้ แต่
กลับไม่ยอมให้คนอื่นจุดไฟ เขาประจบสกุลกูด้ ว้ ยตนเองกลับไม่เป็ นไร นางช่วยเป็ นธุระสกุลกู้
นิดหน่อย กลับมาด่ากันเหมือนหมูเหมือนหมา ไม่ใช่ว่าปกปิ ดเรื่องที่ตัวเองไร้ความสามารถ
ปกปิ ด เรื่ อ งที่ ตัว เองคิ ด จะประจบสกุลกู้แ ต่ ท าํ ไม่ สาํ เร็จ หรอกรึ นางไม่ ใ ช่ อ าจารย์เ สิ่ น นาง
ต้องการช่วงชิงอนาคตข้างหน้าให้ลกู ชายตัวเอง หากอาจารย์เสิ่นจะไปที่สกุลเผยก็ได้ แต่นางจะ
1241

ไปพูดกับกูเ้ จาหยางตามตรงว่า เรื่องนีอ้ าจารย์เสิ่นเป็ นคนสร้างปั ญหา ดูว่าอาจารย์เสิ่นจะให้


คําตอบกับสกุลกูอ้ ย่างไร ทัง้ ยังจะวางท่าเป็ นอาจารย์ตอ่ หน้ากูเ้ จาหยางได้อย่างไร!”
“กูเ้ จาหยาง?” เฉินซื่อเอ่ยอย่างคาดเดา “หรือเป็ นพี่นอ้ งของคุณหนูก?ู้ ”
นายหญิงอู๋ได้ยินก็รอ้ งเสียงหลงออกมา ตําหนิเฉินซื่ออย่างไม่พอใจ “ที่แท้เจ้าก็รูห้ มดนี่
นา! คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะแสร้งไม่รูอ้ ะไรต่อหน้าข้า! เสียแรงที่ขา้ เห็นเจ้าเป็ นพี่นอ้ งตัวเองจริงๆ มี
เรื่องอะไรก็พดู ให้เจ้าฟั งก่อน...”
“ไม่ใช่ ไม่ใช่” เฉินซื่อลนลานขึน้ มา
เมื่อก่อนที่นางป่ วยกระเสาะกระแสะติดเตียง ก็สนิทสนมแค่หวังซื่อมากที่สดุ นางไม่
เคยมีเพื่อนดั่งเช่นนายหญิงอูม๋ าก่อน จึงหวนแหนความสัมพันธ์ของนายหญิงอูไ๋ ม่นอ้ ย
“ก่อนหน้านีข้ า้ เคยได้ยินอาถังของพวกเราพูดขึน้ มาครัง้ หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้นาํ มาใส่ใจ” นาง
ละลํ่าละลักแก้ตา่ ง “ได้ยินเจ้าพูดเช่นนี ้ จึงเดาออกมาได้”
นายหญิ งอู๋ครุ ่นคิดดูก็รูส้ ึกว่าเฉิ นซื่อไม่มีความจําเป็ นต้องปิ ดบังนาง หากจะโทษก็
ต้องโทษที่ก่อนหน้านีต้ วั เองไม่ถามเฉินซื่อดีๆ เอง
นางให้อภัยเฉินซื่อทันที โยนความรูส้ กึ ไม่ดีเล็กๆ ในใจนัน้ ทิง้ ไปข้างหลัง “พูดเช่นนี ้ เจ้า
ก็คงรูแ้ ล้วกระมัง!”
“รูอ้ ะไร?” เฉินซื่อถามอย่างไม่เข้าใจ
“ไอหยา เจ้าอย่ามาถือกฎสิ่งไม่งามอย่ามอง สิ่งผิดกริยาอย่าได้พดู อะไรนั่นต่อหน้าข้า
เลย” นายหญิงอู๋กล่าวอย่างไม่พอใจอยู่บา้ ง “ข้าก็ไม่ใช่คนปากมาก เจ้าพูดให้ขา้ ฟั ง อย่างมาก
ข้าก็พูดคุยกับเจ้าเท่านัน้ ย่อมไม่เอ่ยกับคนนอกแม้แต่ประโยคเดียว ข้าจะอุบเรื่องนีไ้ ว้ในท้อง
เป็ นอย่างดี”
เฉินซื่อดึงสติไม่ทนั จริงๆ
1242

นายหญิงอูเ๋ อ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ไม่ใช่ว่านายหญิงเสิ่นผูน้ นั้ ได้รบั ประโยชน์จากสกุล


กู้ จึงตัง้ ใจมาเป็ นแม่ส่ือให้คณ
ุ หนูกโู้ ดยเฉพาะหรอกรึ?”
เฉินซื่อเบิกตาโต
นายหญิ ง อู๋เ อ่ ย อย่ า งภาคภูมิ “ข้า ทายถูก แล้ว กระมัง ? ข้า ก็ บ อกแล้ว ข้า ไม่ ใ ช่ ค น
ปากมาก หากไม่ใช่เจ้า ข้าย่อมไม่พดู แน่นอน”
เฉินซื่อละลํ่าละลักเอ่ย “ไม่ใช่ ท่านไปได้ยินจากไหนมาว่านายหญิงเสิ่นตัง้ ใจมาเป็ นแม่
สื่อให้คณ
ุ หนูก?ู้ คุณหนูกกู้ ็เข้าพักในจวนสกุลเผย พวกเราล้วนเป็ นคนที่มีลกู มีหลานแล้ว แม้ว่า
จะเป็ นแม่ส่ือให้ลกู สาวของตัวเอง ก็ไม่อาจยอมให้ลกู สาวตัวเองไปค้างแรมในเรือนของผูอ้ ่ืนได้
หรอกกระมัง!”
นายหญิงอู๋มองพินิจเฉินซื่ออย่างละเอียด เห็นเฉินซื่อไม่คล้ายกับโยนเรื่องมาให้นาง ก็
เอ่ยอย่างลังเล “เจ้ามองไม่ออกจริงๆ รึ?”
เฉินซื่อส่ายศีรษะระรัว
นายหญิงอู๋ถอนหายใจ แค่นหัวเราะอย่างขบขันกับตัวเอง “ดูเจ้าสิ ข้าว่าข้ายังมองคน
แม่นยําไม่นอ้ ย ก่อนหน้านีค้ ิดว่าเจ้าเป็ นคนพึ่งพาได้ ยามนีก้ ลับมาเป็ นเช่นนีเ้ สียแล้ว”
เฉินซื่อกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
นายหญิงอูก๋ ็ไม่ออ้ มค้อม “เจ้าลองคิดดูดีๆ ว่าอาจารย์เสิ่นเป็ นคนแบบไหน ทัง้ นึกถึงคํา
ที่อาจารย์เสิ่นเคยพูดไว้ แม้จะกล่าวว่าผูห้ ญิงอย่างเราไม่ควรเข้าข้างผูช้ าย แต่เรื่องนีเ้ ป็ นนาย
หญิ ง เสิ่ น ที่ ท าํ ไม่ เ หมาะสมจริง ๆ แม้ว่ า จะช่ ว งชิ ง อนาคตให้ลูก ชายตัว เอง ก็ ไ ม่ อ าจลดตัว
ประจบประแจง ทําให้อาจารย์เสิ่นไม่รูจ้ ะเอาหน้าไปไว้ท่ีไหนได้! ก็ไม่รูว้ ่าลูกชายของอาจารย์
เสิ่นทราบเรื่องนีห้ รือไม่ หากเขาทราบกลับไม่ขัดขวางมารดาตัวเอง ข้าว่า ลูกชายคนนีข้ อง
อาจารย์เสิ่นก็คง...”
1243

เฉินซื่อฟั งนายหญิงอู๋บ่นพรํ่าเข้าหูซา้ ย ก็ทะลุออกหูขวาไปทันที ในใจนัน้ ขบคิดเรื่องนี ้


อย่างวุ่นวาย แยกคุณหนูกทู้ ่ีเกี่ยวข้องกับเรื่องราวทิง้ ไว้ดา้ นหลัง หากเป็ นดั่งที่นายหญิงอู๋พดู ยิ่ง
คิดก็ย่งิ รูส้ กึ ว่าเรื่องจะเป็ นเช่นนัน้ จริงๆ
นางอดเอ่ยไม่ได้ “แม้จะเป็ นเช่นนี ้ หรือไม่มีใครอบรมสั่งสอนคุณหนูกูก้ ัน? ยังมีนาย
หญิงเสิ่น ในเมื่อได้รบั การไหว้วานจากคนอื่น ไฉนไม่ตกั เตือนคนสกุลกูเ้ สียหน่อย?”
นายหญิงอู๋เห็นเฉินซื่อก็ส่ นั ศีรษะ “กล่าวว่าเจ้าเป็ นคนซื่อตรง ก็เป็ นคนซื่อตรงเช่นนัน้
จริงๆ”
เฉินซื่อไม่เข้าใจ
นายหญิงอู๋เอ่ยอย่างละเอียดเนิบช้า “เจ้าลองคิดดู คุณหนูกเู้ ป็ นคนแบบไหน? นางเคย
เป็ นคู่หมัน้ ของสกุลหลี่มาก่อน! แม้นายหญิงเสิ่นจะถูกไหว้วาน แต่จ่ๆู เอ่ยขึน้ มา เจ้าว่าท่านแม่
เฒ่าจะเห็นด้วยรึ?”
เฉินซื่อสั่นศีรษะ
หากนางเป็ นท่านแม่เฒ่าสกุลเผย ย่อมไม่ยอมให้สะใภ้เช่นนีแ้ ต่งเข้าสกุล
ไม่ใช่กล่าวว่าคุณหนูกูไ้ ม่ดี แต่สกุลกูถ้ อนหมัน้ สกุลหลี่ เห็นได้ชัดว่าสกุลกูเ้ ป็ นฝ่ ายมี
อํานาจกว่า สกุลเผยและสกุลหลี่เป็ นคนบ้านใกล้เรือนเคียง ก้มหน้าไม่เจอเงยหน้าเจอ 1 นาย 239

ท่ า นสามก็ ไ ม่ ไ ด้ข าดแคลนสะใภ้แ ต่ อ ย่ า งใด ไฉนจะต้อ งสร้า งความไม่ พ อใจกับ สกุ ล หลี่
บาดหมางกันเพราะเรื่องนี!้
นายหญิงอู๋เอ่ยว่า “ดังนัน้ นายหญิงเสิ่นจึงได้พาคุณหนูกูม้ าพักในจวนสกุลเผย! เมื่อ
นานวันเข้าก็จะได้สร้างความประทับใจต่อกัน!”
เฉินซื่อเบิกตาโตเป็ นไข่ห่าน

1
ก้มหน้าไม่เจอ เงยหน้าเจอ อุปมาว่าโอกาสที่พบเจอกันมีมาก ทัง้ ไม่อาจหลบเลี่ยง
1244

แม้คาํ พูดของนายหญิงอู๋จะไม่ได้กระจ่างชัดมากมาย แต่เฉินซื่อก็สามารถเข้าใจ นาง


เอ่ยว่า “เช่นนัน้ เช่นนัน้ ไม่ใช่วา่ นายท่านสามต้องหมัน้ หมายกันคุณหนูใหญ่สกุลกูห้ รอกรึ?”
“ได้ยินว่าคุณหนูกผู้ นู้ ี ้ นอกจากจะกิริยามารยาทงดงาม หน้าตาก็สะสวยไม่นอ้ ย” นาย
หญิงอู๋เอ่ยอย่างแผ่วเบา “นายหญิงเสิ่นเองไม่ใช่คนโง่ ในเมื่อนางกล้าออกหน้า ก็ย่อมมีความ
มั่นใจ ดังนัน้ จึงเดินทางมาหลินอัน” พูดจบ ชั่วขณะนัน้ นางกลับเอ่ยด้วยความรู ส้ ึกไม่ยุติธรรม
อยู่บา้ ง “แม้จะกล่าวว่าสกุลพวกเราไม่มีคุณหนูท่ีอายุเหมาะสม แต่ถึงจะมี สกุลพวกเราก็ไม่
อาจเกี่ยวดองเชื่อมสัมพันธ์กับสกุลเผยได้อยู่ดี แต่ขา้ ยิ่งคิดก็ย่ิงไม่สบายใจ คุณหนูกูผ้ ูน้ ัน้ จะ
เหมาะสมกับนายท่านสามได้อย่างไร! นายหญิงเสิ่นทําเช่นนัน้ ไม่เหมาะไม่ควรอยู่บา้ งจริงๆ”
เฉินซื่อได้ฟังกลับเอ่ยอย่างลังเล “ไม่อาจพูดเช่นนีไ้ ด้ สกุลหลี่เป็ นคนเช่นไร พวกเราล้วน
กระจ่างใจดี คุณหนูกกู้ ็เป็ นผูเ้ คราะห์รา้ ยคนหนึ่ง!”
นายหญิ งอู๋เอ่ยแย้ง “หรือก่อนหน้านั้นสกุลกู้ไม่ได้สืบเรื่องของสกุลหลี่อย่างชัดเจน
หรอกรึ ทั้งไม่ใช่คู่หมั้นหมายตั้งแต่ยังเด็ก แต่สกุลกู้กลับมาถอนหมั้นยามที่สกุลหลี่พ บเจอ
เรื่องราว เห็นได้ชดั ว่าสกุลกูเ้ ห็นแก่ผลประโยชน์ ในความคิดของข้าสกุลดั่งเช่นสกุลกู้ ไหนเลย
จะเหมาะสมกับนายท่านสามได้!”
1245

บทที่ 156 ทรมานใจ


นับแต่ท่ีนายท่านสามมอบเงินก้อนใหญ่ ให้เจียงเฉาไปสร้างกิจการขึน้ มาใหม่ นาย
ท่านอู๋ก็ลอบสรรเสริญสกุลเผยจนแทบลอยขึน้ สวรรค์ชนั้ ฟ้า ทัง้ ยังเปลี่ยนสายตาที่นายหญิงอู๋
มองเผยเยี่ยนอีกด้วย เมื่อนางพูดเช่นนี ้ เฉิ นซื่อที่เอาแต่ซาบซึง้ ในบุญคุณของเผยเยี่ยนอยู่มิ
คลายก็รูส้ กึ ว่าคุณหนูกชู้ ่างไม่คคู่ วรกับเขาเสียเลย
นายหญิงอู๋ถึงขนาดเอ่ยกับเฉินซื่อว่า “อาถังบุตรสาวเจ้ามิใช่ไปคารวะท่านแม่เฒ่าที่
จวนสกุลเผยบ่อยๆ รึ? นายหญิงเสิ่นไปที่จวนสกุลเผยเพราะต้องการทําตัวเป็ นแม่ส่ือจริงหรือไม่
ตอนที่ไปจวนสกุลเผยเจ้าก็ให้อาถังลองสังเกตดูมากหน่อย! นายหญิงเสิ่นกับคุณหนูกยู้ งั อยู่ท่ี
จวนสกุลเผยอยู่เลย”
เฉินซื่อไม่อยากให้อวีถ้ งั เข้าไปยุ่งกับเรื่องนี ้ จึงบอกปั ดอย่างน่าฟั งว่า “เด็กสาวที่ยงั ไม่
ออกเรือนอย่างนางจะไปรูอ้ ะไร! หากไปก่อเรื่องจนท่านแม่เฒ่าไม่พอใจคงจะไม่งามนัก!”
แม้นายหญิ งอู๋จะพูดไปอย่างนั้นเอง แต่เมื่อได้ฟังคําตอบของเฉิ นซื่อกลับเอ่ยขึน้ มา
อย่างรู ส้ ึกไม่เป็ นธรรมว่า “ถ้านายท่านสามแต่งกับคุณหนูกูจ้ ริงๆ ต่อไปถ้าข้าเจอคุณหนูกูค้ ง
ต้องเดินอ้อมไปอีกทางแล้ว”
ใครว่าไม่ใช่ละ่ !
เฉินซื่อลอบถอนหายใจยาวเหยียด
เดิมนางไม่สนใจด้วยซํา้ ว่าเผยเยี่ยนจะแต่งกับใคร ทว่าเมื่อได้ยินนายหญิงอู๋พดู ขึน้ พอ
นางคิดว่าเผยเยี่ยนอาจต้องกลายเป็ นบุตรเขยของสกุลกูก้ ็รูส้ ึกทรมานใจ รอจนส่งนายหญิงอู๋
จากไปแล้ว อวีถ้ งั ก็ช่วยนางหยิบชุดใหม่สาํ หรับเซ่นไหว้เข้ามาให้ นางอดจะพูดเรื่องนีก้ บั อวีถ้ งั
ไม่ได้ พยายามเลียบๆ เคียงๆ ถามอวีถ้ งั ว่า “วันนัน้ ที่เจ้าเจอท่านหญิงเสิ่น นายหญิงเสิ่นกับท่าน
แม่เฒ่าคุยเรื่องอะไรกันรึ? คุณหนูกูใ้ ช่หรือไม่ว่าพยายามแสดงตัวให้โดดเด่นต่อหน้าท่านแม่
เฒ่า?”
1246

อวีถ้ งั ได้ยินดังนัน้ ก็เหมือนถูกฟ้าผ่า เป็ นนานกว่าจะดึงสติกลับมาได้


เผยเยี่ยนกับกูซ้ ี…ใครเป็ นคนปล่อยข่าวลือเรื่องนี?้ ! ช่างมั่วซั่วเหลือเกิน! เผยเยี่ยนกับกู้
ซีมีอาวุโสห่างกันหนึ่งขัน้ เชียวนะ?!
ไม่ถกู สิ นางคิดผิดแล้ว
เผยเยี่ยนกับกูฉ้ ่างอายุไล่เลี่ยกัน และรับราชการในราชสํานักเดียวกันด้วย
หากมิใช่มีความทรงจําของชาติก่อน มักทําให้รูส้ กึ ว่านางกับกูซ้ ีนนั้ เหมือนกัน นางก็คง
ไม่คิดว่ากูซ้ ีกบั เผยเยี่ยนห่างวัยกันด้วยอาวุโส
เช่นนีแ้ ล้ว กูซ้ ีก็อาจจะแต่งกับเผยเยี่ยนจริงๆ น่ะสิ!
กูซ้ ีแต่งกับเผยเยี่ยน…อวีถ้ งั คิดถึงฉากภาพเช่นนัน้ ไม่คอ่ ยจะออกเลย
แต่ถา้ กูซ้ ีแต่งกับเผยเยี่ยนจริงๆ ขึน้ มา?
จู่ๆ อวีถ้ งั ก็รูส้ กึ เหมือนกลืนแมลงวันลงท้องไป
ไม่เพียงทรมานใจน่าขยะแขยง ทัง้ ไม่อาจยอมรับได้อีกด้วย
เผยเยี่ยนกับกูซ้ ี…เป็ นไปไม่ได้หรอก!
กูซ้ ีคคู่ วรกับเผยเยี่ยนรึ?
นางมีสิทธิ์อะไรแต่งให้เผยเยี่ยน?!
อวีถ้ งั กระเด้งตัวลุกขึน้ เดินเป็ นวงกลมรอบห้องเหมือนสัตว์ท่ีติดอยู่ในกรง
ไม่ได้ นางไม่ยอมให้กซู้ ีแต่งกับเผยเยี่ยนแน่!
กูซ้ ีเป็ นพวกจอมปลอม แสร้งว่าใจกว้าง และมีนิสยั ใจคอตํ่าช้า!
เผยเยี่ยนจะแต่งกับใครก็ได้ แต่ไม่ใช่กซู้ ี
1247

นางจะต้องไปคุยกับเผยเยี่ยนแล้ว
อวีถ้ งั คิดได้เช่นนัน้ เท้าก็ขยับตามความคิดอย่างว่องไว พุง่ ตัวไปที่ประตูทนั ที
“เจ้าจะทําอะไรน่ะ?” จนนางเดินถึงประตูแล้ว แต่กลับถูกเฉินซื่อดึงตัวเอาไว้
เฉินซื่อเอ่ยด้วยสีหน้าจนใจ “ข้าพูดกับเจ้าเรื่องนายท่านสาม เหตุใดเจ้ากลับหมุนตัว
เดินหนี ปากก็เอาแต่ขมุบขมิบไม่รูว้ า่ พูดอะไร…”
เจ้าเด็กคนนี ้ มิใช่สาปแช่งใครอยู่หรอกนะ?
เฉินซื่อมองสํารวจไปทั่วร่างบุตรสาวด้วยความกังวล
เพราะถูกเฉินซื่อบีบแขนจนรูส้ กึ เจ็บ อวีถ้ งั จึงได้สติกลับมา
นาง…นางเป็ นอะไรไป? เหตุใดจู่ๆ ก็จะวิ่งไปเตือนเผยเยี่ยนอย่างมุทะลุเช่นนัน้ ?
ยังไม่พูดถึงว่าเรื่องของเผยเยี่ยนกับกูซ้ ีเป็ นเพียงสิ่งที่มารดาของตนไปได้ยินมาจากที่
อื่น แต่ตอ่ ให้เผยเยี่ยนจะแต่งกับกูซ้ ีจริงๆ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนางเล่า?
อีกอย่าง บุญคุณความแค้นก็เป็ นเรื่องระหว่างพวกนางสองคน เผยเยี่ยนฉลาดเจ้า
แผนการ ท่านแม่เฒ่าก็เฉียบแหลมแข็งแกร่ง มีตรงไหนด้อยกว่านางบ้าง? นางเอาความคิดมา
จากไหนว่ากูซ้ ีกบั เผยเยี่ยนไม่เหมาะสมกัน?
กูซ้ ีกบั เผยเยี่ยนจะเหมาะสมกันหรือไม่นนั้ ก็สมควรมีสกุลเผยเป็ นคนตัดสิน มิใช่เพราะ
นางไม่ถูกกับกูซ้ ีจากนัน้ ก็คิดเองเออเองแล้วตัดสินใจแทนคนของสกุลเผย บอกว่ากูซ้ ีกับเผย
เยี่ยนไม่คคู่ วรกัน
อวีถ้ งั สูดหายใจลึกทีหนึ่ง ข่มอารมณ์ท่ีตีกนั วุ่นวายให้สงบ แล้วเอ่ยกับมารดาว่า “ข้าได้
ยินมาว่าสกุลกูต้ อ้ งการดองกับสกุลเผย เพราะตกใจมากไป จึงเสียกิรยิ า…”
เฉินซื่อไม่ได้ติดใจคิดมาก นางกระซิบว่า “อย่าว่าแต่เจ้าเลย ตอนที่ขา้ ได้ฟังก็แตกตื่น
แทบแย่ แต่พอมาคิดๆ ดูอย่างละเอียดแล้ว สกุลกูค้ ิดจะเกี่ยวดองกับสกุลเผยก็ฟังเข้าทีอยู่…
1248

ลองมองไปทั่วเจียงซูและเจ้อเจียง ชายหนุ่มที่ยงั ไร้ค่หู มายมีสกั กี่คนที่เทียบเคียงกับนายท่าน


สามได้บา้ ง หากว่าข้าเป็ นมารดาของคุณหนูกู้ ก็คงมีความตัง้ ใจแบบนีเ้ ช่นกัน ข้าเพียงคิดว่า
เมื่อก่อนยังเคยได้ยิน บอกว่าท่านผูเ้ ฒ่าลั่นวาจาเอาไว้ตอนมีชีวิตอยู่ คู่หมายของนายท่านสาม
จะต้องเป็ นสตรีสกุลใหญ่ตงั้ แต่ขนั้ สามขึน้ ไปเท่านัน้ บัดนีท้ ่านผูเ้ ฒ่าจากไปแล้ว งานมงคลของ
นายท่านสามถึงได้ลา่ ช้าออกไป…”
อาศัยสกุลกู้ เดิมก็ไม่ผ่านมาตรฐานที่ท่านผูเ้ ฒ่าวางเอาไว้สกั นิด
มิน่าใจนางจึงรูส้ กึ ทรมานใจแปลกๆ
เฉิ นซื่อกับอวีถ้ ังคิดเหมือนกันอย่างไม่ได้นัดหมาย เมื่อต่างฝ่ ายหาเหตุผลที่อธิ บาย
ความหนักใจของตนเองได้แล้ว อารมณ์จงึ ค่อยสงบขึน้
อวีถ้ งั พยายามเค้นความทรงจําในวันที่นางเจอนายหญิงเสิ่นกับกูซ้ ี “ถ้าท่านไม่พดู ข้าก็
คงไม่คิดไปในทางนัน้ ท่านแม่เฒ่าเห็นชัดว่าไม่ตอ้ นรับนายหญิงเสิ่นเลย ส่วนคุณหนูกนู้ นั้ เมื่อ
อยู่ตอ่ หน้าท่านแม่เฒ่าก็ออกจะร่าเริงเกินไปหน่อย คิดว่านางมีเจตนาให้เป็ นเช่นนัน้ คงอยากให้
ท่านแม่เฒ่าโปรดปรานนาง ตอนนีด้ ทู ่าแล้ว ที่พวกนางดึงดันจะค้างแรมในจวนสกุลเผยให้ได้ ก็
คล้ายมีจดุ ประสงค์แอบแฝงอยู่จริงๆ”
ความจริง กูซ้ ีก็วางตัวเป็ นปกติเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านแม่เฒ่า เพียงแต่อวีถ้ ังเคยใช้ชีวิต
ร่วมกับกูซ้ ีมาเมื่อชาติก่อน กูซ้ ีแต่งเข้าสกุลหลี่นนั้ ถือว่าแต่งกับสกุลที่ต่าํ กว่าตน นับแต่ตน้ จนจบ
จึงมักวางท่าเย่อหยิ่งอยูห่ ลายส่วน ทว่าชาตินีต้ า่ งออกไป อวีถ้ งั ก็แค่สมั ผัสได้ในทันทีเท่านัน้ เอง
เฉิ น ซื่อเลีย ริมฝี ปาก “หากว่า เรื่องนีส้ าํ เร็จ เห็ น ว่า คําสอนเรื่อง ‘ผู้ท่ี ก ล้า เสี่ยงมักได้
ประโยชน์มากกว่า ผูท้ ่ีขีข้ ลาดหวาดกลัวมักไม่ได้อะไร’ คงมีเหตุผลไม่นอ้ ย เช่นนัน้ ข้าก็จะใจกล้า
มากหน่อย ขอให้นายหญิงเสิ่นช่วยเจ้าเลือกลูกหลานสกุลเสิ่นที่มีความประพฤติดีงามมาเป็ น
บุตรเขยสักคน เรื่องบางเรื่องหากไม่ลองทํา คงไม่มีวนั รูว้ า่ จะสําเร็จหรือไม่”
นับว่ากูซ้ ีได้มาเปิ ดหูเปิ ดตาให้กบั เฉินซื่อแล้ว
1249

อวีถ้ งั เม้มปากหัวเราะ ในใจไม่รูต้ อ้ งทําเช่นไรดี ความอึดอัดเบาบางที่กระจายไปทั่ว ทํา


ให้นางรูส้ กึ ฉงนสงสัย
วันที่หนึ่งเดือนสิบหลังเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ทุกบ้านทุกสกุลต่างก็เริ่มเตรียมงานวันปี ใหม่
แล้ว
หูซิ่งมาเยี่ยมคารวะเฉินซื่อที่เรือนสกุลอวีเ้ ป็ นเพื่อนจีต้ า้ เหนียงอย่างกะทันหัน บอกว่า
ท่านแม่เฒ่าจะไปพักที่คฤหาสน์นอกเมืองบนเขาเทียนมู่เหนือสักหลายวัน คิดจะเชิญอวีถ้ งั ให้
ร่วมทางไปกับท่านแม่เฒ่าด้วย สอบถามว่าเฉินซื่ออนุญาตหรือไม่
เฉินซื่อไม่อยากให้อวีถ้ งั ไปค้างที่คฤหาสน์นอกเมืองสักเท่าไร แต่เห็นว่าจีต้ า้ เหนียงมา
เชิญด้วยตนเอง ทัง้ ยังพูดหลายครัง้ เป็ นทํานองว่า “ท่านแม่เฒ่าชื่นชมคุณหนูอวีม้ าก นายหญิง
รองกับคุณหนูหา้ ก็จะไปพักที่คฤหาสน์บนเขาด้วยเช่นกัน อย่างมากสิบวันครึ่งเดือนก็กลับ
มาแล้ว ท่านก็คิดเสียว่าคุณหนูอวีไ้ ปเยี่ยมญาติสิเจ้าคะ” ทําให้เฉินซื่อไม่อาจปฏิเสธได้ สุดท้าย
จึงให้ไปถามความเห็นของอวีถ้ งั แทน
แม้ในเรือนจะจุดกระถางไฟ แต่ถา้ ออกห่างจากกระถางไปก็ยงั หนาวยะเยือกอยู่ดี
อวีถ้ งั คิดถึงห้องที่ดงึ ความร้อนจากพืน้ ไฟของท่านแม่เฒ่า ใจนางจึงคิดอยากจะไปด้วย
เฉินซื่อหัวเราะไม่ได้รอ้ งไห้ไม่ออก ดีดหน้าผากอวีถ้ งั ไปหลายครัง้ “พวกตะกละมักจะ
ลําบาก ถ้าถึงตอนนัน้ เจ้าเกิดร้อนใจขึน้ มา อย่ากลับมางอแงให้ขา้ ต้มชาเก๊กฮวยให้ด่ืมก็แล้ว
กัน”
อวีถ้ งั หัวเราะเหอะๆ ทว่าในใจกลับคิดว่ากูซ้ ีกบั นายหญิงเสิ่นจะกลับเมืองหัวโจวไปหรือ
ยัง? ที่ตนได้ไปพักแรมที่คฤหาสน์นอกเมืองด้วยเป็ นเพราะท่านแม่เฒ่าคะนึงถึงนางจริงๆ หรือ?
หากว่ากูซ้ ีกบั คนสกุลเสิ่นยังไม่กลับ นางควรวางตัวเช่นไรเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสองคนนัน้ ?
ทางหนึ่งนางก็เอาแต่ครุ ่นคิด ทางหนึ่งก็กาํ กับให้ซวงเถาเก็บสัมภาระ เมื่อถึงวันที่นดั
แนะกับคนสกุลเผย นางก็พาซวงเถาออกเดินทางโดยมีจีต้ า้ เหนียงร่วมทางไปด้วย
1250

คฤหาสน์นอกเมืองของสกุลเผยสร้างอยู่บนไหล่เขาครึง่ ลูก ณ เขาเทียนมู่เหนือ เดินทาง


จากเมืองหลินอันใช้เวลาไม่ถึงครึง่ วัน
ตลอดเส้น ทาง อวี ถ้ ัง ได้เ ห็ น แต่ ต ้น ไม้สูง ตระหง่ า นใบเขี ย วครึม้ แผ่ น หิ น ปูล าดเป็ น
ทางเดินอันเงียบสงบ หากมิใช่วา่ ตอนเปิ ดม่านเกีย้ วออกไปมีลมหนาวเสียดกระดูกพัดเข้ามา คง
ทําให้เข้าใจผิดว่านี่เป็ นกลางฤดูรอ้ นแล้ว ตัวคฤหาสน์ของสกุลเผยเร้นกายอยู่ระหว่างต้นไม้ดก
ทึบ กลุ่มหนึ่ง กํา แพงเรือนสี ขาว กระเบื อ้ งหัว เสาสี เ ทา มี เพี ย งประตูห รู อีส้ ีดาํ บานหนึ่งโผล่
ออกมาให้เห็น ซึ่งสามารถผ่านเข้าออกได้เฉพาะเกีย้ วเท่านัน้ แต่เมื่อเข้าไปด้านในแล้ว เดินอ้อม
กําแพงที่ใช้อิฐสีเทาตัดเป็ นอักษร ‘ฝู’ ก็เหมือนจะได้เจอโลกใหม่อีกใบหนึ่ง
ภูเขาจําลองสูงตํ่าทับซ้อน โอ่อ่าตระการตา เส้นทางคดเคีย้ วเลีย้ วลด ศาลาเหมันต์อนั
วิจิตร...นับว่าเป็ นคฤหาสน์นอกเมืองที่ไม่ดอ้ ยไปกว่าจวนสกุลเผยเลย
จีต้ า้ เหนียงเดินนําทางอยู่ดา้ นหน้า บางครัง้ ก็หนั มาพูดคุยกับอวีถ้ ังเป็ นระยะ “นับแต่
แรกเริ่มคนสกุลเผยอาศัยอยู่ท่ีน่ีเจ้าค่ะ ภายหลังต้องขึน้ เขาลงเขาลําบากมาก จึงได้สร้างจวน
สกุลเผยหลังที่อยู่ปัจจุบนั ที่ตรอกเสี่ยวเหมยขึน้ จวนสกุลเผยทางนัน้ ตัง้ อยู่ในเมือง เหล่านาย
ท่านทํากิจการค้าขายได้ คุณชายทัง้ หลายก็เรียนหนังสือได้สะดวกกว่า อย่างช้าๆ ที่น่ีก็มีเพียง
คนที่อยากสงบใจมาอยู่เท่านัน้ และเพราะเป็ นสมบัติของบรรพบุรุษ คฤหาสน์หลังนีจ้ ึงถือเป็ น
ทรัพย์สินของสกุลสายตรง คนที่มาพักจึงมีนอ้ ยยิ่งกว่าน้อย แต่ตอนที่ท่านผูเ้ ฒ่ายังมีชีวิตอยู่ ก็
ชอบมาอาศัยอยู่ท่ีน่ี ทัง้ ยังพาให้ท่านแม่เฒ่าหลงรักที่น่ีไปด้วย ครัน้ ท่านผูเ้ ฒ่าเสียไป ท่านแม่
เฒ่าคิดจะย้ายมาอยู่ท่ีน่ีถาวร แต่นายท่านสามก็ยงั ไม่ตบแต่งเป็ นฝั่งฝา ธุระของบ้านอื่นในสกุล
ยังจําเป็ นต้องให้ท่านแม่เฒ่าช่วยจัดการชั่วคราว ถ้าท่านแม่เฒ่าย้ายมาอยู่ท่ีน่ีก็คงไม่สะดวก จึง
ได้ยือ้ เวลามาถึงตอนนีเ้ จ้าค่ะ”
อวีถ้ งั เห็นว่าห้องหับทางนัน้ กําแพงต้นเสาล้วนสะอาดเอี่ยม ไม่มีรอ่ งรอยถูกทิง้ ร้างเลย
สักนิด ไม่รูว้ ่าปี ๆ หนึ่งต้องใช้เงินบํารุ งรักษาสักเท่าไร อดจะเอ่ยขึน้ ไม่ได้ว่า “เช่นนัน้ ถ้าท่านแม่
เฒ่าย้ายมาอยู่ท่ีน่ีจริงๆ พวกเจ้ามิใช่วา่ ต้องย้ายตามมาด้วยหรือ”
1251

จีต้ า้ เหนียงพยักหน้า เอ่ยพลางหัวเราะว่า “ฉะนัน้ หลังจากที่ทา่ นผูเ้ ฒ่าสิน้ ไป พวกที่อายุ


น้อยกับไม่ได้ความก็ถกู ปล่อยตัวออกไปหมด ที่รบั ใช้ขา้ งกายท่านแม่เฒ่าอยู่ตอนนี ้ ส่วนใหญ่ก็
เป็ นบ่าวรับใช้ท่ีอยู่กบั สกุลเผยมาแต่บรรพบุรุษแบบตัวข้า อีกอย่างก็จะเหมือนเจินจูกบั หู่พ่ วั ที่
เติบโตอยู่ขา้ งกายท่านแม่เฒ่าตัง้ แต่เล็กๆ”
สองคนเดิ น คุ ย กั น ไป ไม่ น านก็ ม าถึ ง โถงหลัก ที่ ท่ า นแม่ เ ฒ่ า ใช้พัก ผ่ อ นซึ่ ง อยู่ ฝ่ ั ง
ตะวันออกของเรือน
อวีถ้ งั นําข้าวของที่ตนเตรียมมาไปเก็บยังห้องข้างฝั่งตะวันออกซึง่ เป็ นที่พกั ของนาง
พอเปิ ดประตูเข้าไป ไออุน่ ก็ปะทะเข้าหน้าทันที
กระทั่งห้องพักของแขกก็ใช้ไอร้อนจากพืน้ ไฟด้วยรึ?
อวีถ้ งั ประหลาดใจมาก แต่ขอ้ ต่อกระดูกทั่วร่างที่คล้ายฟื ้ นคืนชีพอีกครัง้ ทําให้นางรู ส้ ึก
พอใจยิ่งกว่าเก่า มันสบายตัวจนแทบอยากพุง่ ขึน้ เตียงทันที
นางหวีผมล้างหน้าและเปลี่ยนชุดใหม่ ถึงได้ตามจีต้ า้ เหนียงไปคารวะท่านแม่เฒ่า
สีหน้าของท่านแม่เฒ่าเผยให้เห็นความอ่อนล้า สาวใช้กับหญิงรับใช้เจ็ดแปดคนคอย
ดูแลอยู่ขา้ งกาย นางกําลังใช้กา้ นฟางแห้งแหย่นกขมิน้ เหลืองอยู่พอดี
อวีถ้ งั รีบเดินเข้าไปแล้วย่อกายคารวะ
ท่านแม่เฒ่าวางก้านฟางแห้งในมือลง สาวรับใช้เดินเข้ามายกกรงนกออกไปที่อ่ืน ก่อน
จะยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ท่านแม่เฒ่าเช็ดมือ
“เจ้ามาแล้วรึ” ท่านแม่เฒ่าเอ่ยด้วยสีหน้านุ่มนวล นางเช็ดมือพลางบอกให้อวีถ้ งั นั่งลงที่
ตั่งไม้เตีย้ ด้านข้าง “มารดาเจ้าสุขภาพยังดีอยู่หรือไม่? ข้าเรียกเจ้ามา นางย่อมไม่อาจตัดใจ
ปล่อยมาแน่ ข้าต้องขออภัยไว้ตรงนีก้ ่อนด้วย”
1252

“ท่านกล่าวหนักเกินไปแล้วเจ้าค่ะ” อวีถ้ งั ลุกขึน้ อีกครัง้ แล้วกล่าวอย่างเคารพนบนอบว่า


“ท่านแม่ไม่อาจตัดใจปล่อยให้ขา้ มา แต่มิใช่เพราะไม่อยากให้ขา้ มาอยู่เป็ นเพื่อนท่าน เป็ น
เพราะว่าอากาศหนาวเหลือเกิน ไปทางใดล้วนต้องใช้ถ่านเผาไฟ กลัวว่าจะรบกวนท่านเจ้าค่ะ”
1253

บทที่ 157 พบเจออีกครั้ง


ท่านแม่เฒ่าได้ยินแล้วก็หวั เราะ
สกุลคนธรรมดาทั่วไปมักจะคิดเช่นนี ้
สกุลอวีน้ บั ว่าเถรตรงเหลือเกิน
“เป็ นข้าคิดไม่รอบคอบ” ท่านแม่เฒ่าเอ่ย “บนเขาอากาศหนาว รอให้ผ่านไปสักหลาย
วัน ข้าก็จะกลับจวนแล้ว”
เป็ นดังนัน้ จริงๆ ท่านแม่เฒ่าไม่ได้ขนึ ้ เขามาอย่างไร้จดุ ประสงค์แน่
เพียงแต่น่ีไม่เกี่ยวข้องกับนาง นางเองก็ไม่อาจถามซักไซ้
ท่านแม่เฒ่าเอ่ยถึงเรื่องสกุลหลี่ขายที่นากับอวีถ้ งั “เหตุใดเจ้าถึงคิดว่าสกุลหลี่มีเจตนา
อื่นเล่า?”
อวีถ้ งั ไม่อาจตอบไปว่าเป็ นเพราะนางมีประสบการณ์จากชาติก่อน ดังนัน้ เลยรูเ้ บือ้ งลึก
เบือ้ งหลังของสกุลหลี่ จึงได้แต่เอ่ยว่า “ข้ารูม้ าว่าสกุลฝั่งมารดาของฮูหยินหลี่เป็ นพ่อค้าใหญ่ท่ีฝู
เจีย้ น ทัง้ ไม่เคยได้ยินว่าสกุลหลินตกตํ่านี่เจ้าคะ!”
ความนัยก็คือ จากความสัมพันธ์ของสกุลหลี่กบั สกุลหลิน หากว่าสกุลหลี่เงินขาดมือ มี
หรือที่สกุลหลี่จะนิ่งเฉย!
ท่านแม่เฒ่าพยักหน้ารับ คล้ายจะพูดอะไรบางอย่าง ทว่ามีสาวใช้เดินเข้ามาพอดี บอก
ว่านายหญิงรองพาคุณหนูหา้ มาขอเข้าพบ
“รีบเชิญพวกนางเข้ามา” ท่านแม่เฒ่าได้ยิน นัยน์ตาก็ทอแสงวิบวับ เห็นชัดว่าชอบพอ
นายหญิงรองกับคุณหนูหา้ ไม่นอ้ ย
ไม่รูว้ า่ ความสัมพันธ์ของนายหญิงใหญ่กบั ท่านแม่เฒ่าเป็ นอย่างไรบ้าง?
1254

อวีถ้ งั ยังไม่เคยเจอนายหญิงใหญ่ตอ่ หน้าท่านแม่เฒ่ามาก่อน


นายหญิงรองกับคุณหนูหา้ เห็นว่าอวีถ้ งั ก็อยู่ดว้ ย นายหญิงรองนัน้ ยังดีหน่อย พยักหน้า
ให้อวีถ้ งั พร้อมเผยรอยยิม้ สํารวม ส่วนคุณหนูหา้ กลับวิ่งพุง่ เข้ามาทันที ตะโกนเรียก “พี่อวี”้ เสียง
ดัง แล้วถามนางอย่างดีอกดีใจว่า “ท่านจะอยู่ฉลองคืนวันปี ใหม่ท่ีจวนข้าเช่นกันหรือ? อีกเดี๋ยว
ท่านจะไปปล่อยโคมลอยด้วยกันหรือไม่? พวกหู่พ่วั จะสอนข้าทําโคมลอยด้วยเจ้าค่ะ”
เช่นกัน?!
ยังมีใครอีกรึ
อวีถ้ งั รูส้ กึ ประหลาดใจ
คนในสกุลเผยไม่ได้ตงั้ ใจจะปกปิ ดนาง นายหญิงรองเอ่ยขึน้ มา “คุณหนูกทู้ างบ้านเกิด
เรื่องนิดหน่อย ปี นีจ้ ะมาฉลองปี ใหม่กบั พวกเราด้วย”
ที่บา้ นนางจะมีปัญหาอะไรได้?
อวีถ้ งั ยิม้ เย้ยในใจ
เพราะมารดาเลีย้ งของกูซ้ ี เป็ นเหตุให้นางกับบิดาและเหล่าพี่นอ้ งต่างมารดาคนอื่นๆ มี
ความสัม พัน ธ์ท่ี ไม่ค่อยจะราบรื่น นัก ถึ ง ขั้น ใช้คาํ ว่า ไม่ สนใจความเป็ น ตายของพวกเขามา
อธิบายได้ อีกอย่าง เมื่อชาติก่อนตนก็ไม่เคยได้ยินว่าสกุลนางเกิดเรื่องอะไรขึน้ …
หรือว่าสกุลกูก้ บั สกุลเผยมีแผนจะเกี่ยวดองกันจริงๆ ดังนัน้ กูซ้ ีถึงได้หาข้ออ้าง ทัง้ ท่าน
แม่เฒ่าก็ยอมไหลตามนํา้ รับตัวกูซ้ ีไว้?!
นางอยากจะรูน้ กั ว่าเกิดเรื่องอะไรขึน้ กับสกุลกู้
หากว่าเป็ นชาติก่อน นางคงแอบสืบข่าวไปแล้ว แต่กลับมาเกิดในชาตินี ้ นางตระหนัก
ตัวดีว่าตนมีกาํ ลังแค่ไหน หากต้องแสร้งออกอุบายกับคนเช่นท่านแม่เฒ่าแล้ว ไม่สถู้ ามออกไป
ตรงๆ จะดีกว่า หากผูอ้ ่ืนยอมบอก นางก็จะฟั งเอาไว้ หากผูอ้ ่ืนไม่ยอมบอก นางก็จะหยุดความ
1255

อยากรูอ้ ยากเห็นนีเ้ สีย ดังนัน้ นางจึงไม่ลงั เลแล้วโพล่งไปทันทีวา่ “ทางบ้านของคุณหนูกเู้ กิดเรือ่ ง


อะไรขึน้ หรือเจ้าคะ? ถึงขนาดไม่อาจกลับไปฉลองปี ใหม่ได้?”
ท่ า นแม่ เ ฒ่ า กั บ นายหญิ ง รองเผยสี ห น้า ประหลาดใจให้เ ห็ น จากนั้ น สองคนก็
แลกเปลี่ยนสายตากัน
สิ่งที่ผิดจริยธรรมอย่ามอง สิ่งที่ผิดจริยธรรมอย่าพูด เรื่องส่วนตัวที่เกี่ยวพันถึงสกุลผูอ้ ่นื
คนทั่วไปย่อมไม่ซกั ไซ้ไต่ถาม คุณหนูอวีน้ บั ว่าได้รบั การเล่าเรียนสั่งสอน ตามหลักแล้วควรแสร้ง
ไม่รบั รูจ้ งึ จะถูก คิดไม่ถึงว่านางจะเอ่ยปากถามอย่างเปิ ดเผยเช่นนี ้
คุณหนูอวีผ้ นู้ ีน้ บั ว่ารูค้ วามหรือไม่รูค้ วามกันแน่เล่า?
ท่านแม่เฒ่ากดข่มความฉงนในใจ แล้วบอกปั ดอย่างไม่ออ้ มค้อมว่า “เรื่องของสกุลกู้
พวกเราก็ไม่สะดวกพูดมาก เพียงแต่ได้รบั จดหมายจากพี่ชายนาง ขอร้องพวกเราให้รบั นางไว้
ร่วมฉลองวันปี ใหม่ดว้ ย อีกเดี๋ยวพอเจอคุณหนูกู้ พวกเจ้าอายุรุน่ ราวคราวเดียวกัน ต้องเข้ากัน
ได้ดีแน่”
อวีถ้ งั รับคําอย่างนอบน้อม ทว่าในใจก็คาดเดาว่าการมาของนางจะเกี่ยวกับเรื่องที่กซู้ ี
ต้องมาฉลองปี ใหม่ท่ีจวนสกุลเผยหรือไม่
นางสนทนาเป็ นเพื่อนท่านแม่เฒ่าและนายหญิงรองอยู่ครูห่ นึง่ จากนัน้ ก็ถกู ท่านแม่เฒ่า
ไล่ให้ไปพัก “วันนีเ้ จ้าเพิ่งมาถึง นั่งเกีย้ วมาครึ่งวันแล้ว ช่วงบ่ายก็พักผ่อนอยู่ในห้องให้เต็มที่
ตอนเย็นค่อยมากินอาหารร่วมกัน”
อวีถ้ งั รับคําด้วยรอยยิม้
คุณหนูหา้ ดึงมือของอวีถ้ งั แล้วเอ่ยขอท่านแม่เฒ่าว่า “ข้าไปช่วยพี่อวีเ้ ก็บของนะเจ้าคะ”
นายหญิงรองเอ่ยเชิงตําหนิคณ
ุ หนูหา้ ว่า “ไม่อนุญาตให้ซุกซน ปล่อยคุณหนูอวีไ้ ปพัก
ก่อนเถอะ”
1256

อวีถ้ ังชอบคุณหนูหา้ มาก อีกอย่างนางเพิ่งมาถึงสถานที่แปลกใหม่ คิดว่าการมีคน


คุน้ เคยมาก่อกวนอยู่ขา้ งๆ ย่อมจะอุ่นใจกว่า นางจึงส่งยิม้ แล้วเอ่ยกับนายหญิงรองว่า “ท่านให้
นางกลับห้องไปกับข้าเถอะเจ้าค่ะ! มีนางอยูด่ ว้ ย ข้าก็จะได้มีเพื่อน”
คุณหนูหา้ รีบกอดแขนอวีถ้ งั แน่น หันไปบอกนายหญิงรองว่า “ท่านแม่ ดูสิเจ้าคะ พี่อวีอ้
ยากเป็ นเพื่อนกับข้า”
นายหญิงรองยังคิดห้ามปราม แต่ท่านแม่เฒ่าก็ดกั ขึน้ มา “เช่นนัน้ เจ้าก็ไปอยู่เป็ นเพื่อน
คุณหนูอวีเ้ ถอะ แต่ไม่อนุญาตให้ซุกซนเด็ดขาด หากว่าไม่เชื่อฟั ง ต่อไปก็อย่าหวังว่าพวกข้าจะ
ยอมให้เจ้าวิ่งซนไปทั่วอีก”
รอยยิม้ ยินดีกระจายไปทั่วหน้าคุณหนูหา้ นางเอาแต่พยักหน้าหงึกหงัก
อวีถ้ ังเองก็ดีใจ นางยิม้ พลางจูงมือคุณหนูหา้ เอาไว้ แล้วบอกลาท่านแม่เฒ่ากับนาย
หญิงรอง
นายหญิงรองอดจะตัดพ้อไม่ได้ นางเอ่ยกับท่านแม่เฒ่าว่า “ท่านแม่ ท่านอย่าได้ตามใจ
นางเช่นนีอ้ ีก ท่านดูเจ้าสามของบ้านสามสิเจ้าคะ อายุยงั น้อยแต่รูจ้ กั มารยาท กิรยิ าท่าทางค่อย
เหมือนคุณหนูจากสกุลใหญ่…”
ท่านแม่เฒ่าเอ่ยแทรกคําของนายหญิงรอง “เจ้าก็ลองดูเจ้าสี่เสียบ้างสิ!”
นายหญิงรองจึงไม่สง่ เสียงอีก
ท่านแม่เฒ่าเอ่ยต่อว่า “เจ้าห้าแต่ก่อนสดใสร่าเริงเช่นนีร้ ?ึ เดิมไว้ทกุ ข์ก็ลาํ บากพอแล้ว
นางไม่ง่ายกว่าจะเจอคนพูดคุยถูกคอเข้า เจ้าที่เป็ นมารดา หรือว่าไม่อยากเห็นนางมีความสุข?
เด็กผูห้ ญิงน่ะ จะได้อยู่กบั เรือนสักกี่ปีกนั ! รอให้แต่งออกไป ยังไม่รูว้ ่าต้องเจอกับอะไรบ้าง ผูอ้ ่ืน
ข้าไม่สนใจหรอก แต่ไข่มกุ ในมือของสกุลเรา ข้าตัดใจให้พวกนางลําบากไม่ลง”
นายหญิงรองได้ฟังก็รีบเอ่ยเป็ นพัลวันว่า “มีท่ีไหนเล่าเจ้าคะ! ท่านแม่เฒ่าอยู่ตรงนีท้ งั้
คน ต่อให้พวกเราละเลยไปบ้าง แต่นางจะลําบากได้อย่างไร!”
1257

ท่านแม่เฒ่าร้อง “หึ” เสียงเบา ไม่ได้ตอ่ ความอีก


อวีถ้ งั พักอยู่หอ้ งข้างฝั่งตะวันออก นางกับคุณหนูหา้ นั่งอยู่บนตั่งไม้ยาวในห้อง ทางหนึง่
ก็จิบชาดูซวงเถาสั่งการสาวใช้และหญิงรับใช้ของสกุลเผยให้จดั การเก็บข้าวของในห้อง
คนพวกนีเ้ ดิมถูกส่งมารับใช้อวีถ้ งั ก็ตงั้ ใจเต็มเปี่ ยมอยู่แล้ว บัดนีเ้ มื่ออยู่ต่อหน้าคุณหนู
ห้า จะเคลื่อนไหวทางใดก็ย่งิ คล่องแคล่วและระมัดระวังเป็ นพิเศษ
คุณหนูหา้ สนใจดอกไม้ผา้ ที่ทาํ เสร็จไปได้ครึ่งเดียวซึ่งอยู่ในตะกร้าสานที่อวีถ้ ังพกมา
ด้วยอย่างมาก
นางถามอวีถ้ งั ว่า “ข้าเรียนบ้างได้หรือไม่?”
อวีถ้ งั หัวเราะ “ข้าเพียงเจ้ามีใจอยากเรียนเท่านัน้ ”
คุณหนูหา้ ตื่นเต้นยกใหญ่ กระซิบกระซาบเล่าเรื่องให้นางฟั งอย่างกระตือรือร้น “ใกล้ถึง
วันเกิดท่านยายข้าแล้ว ข้าอยากมอบของอย่างอื่นให้นางบ้าง พี่อวีส้ อนข้าทําดอกผ้าให้ท่าน
ยายสักดอกเถอะ…ข้าจะไปขอผ้าจางหรงสีแดงพุทราจากเฉินต้าเหนียง ไม่รูว้ ่าจะพอใช้หรือไม่
รอให้พ่ีอวีพ้ กั เสร็จแล้ว ข้าจะให้สาวใช้ถือมาให้ท่านดู…อีกเดี๋ยวพี่สาวอีกสามคนก็จะมาแล้ว…
นายหญิงเสิ่นกับคุณหนูกกู้ ็ขึน้ เขามาพร้อมกับพวกเรา…พวกนางพักอยู่ท่ีเรือนข้างๆ ท่านนี่เอง
เรือนทางนัน้ จะใหญ่กว่านีเ้ ล็กน้อย เฉินต้าเหนียงบอกว่า อย่างไรนายหญิงเสิ่นก็เป็ นภรรยาของ
ท่านเสิ่น ไม่อาจลบหลู่เกียรติได้ จึงจัดการให้พวกเขาพักในเรือนที่ดีหน่อย…แต่พ่ีสาวอีกสาม
คนก็พกั อยู่ฝ่ ังนีเ้ หมือนกับพวกเราเจ้าค่ะ…”
อวีถ้ งั ฟั งแล้วก็หวั เราะ ไม่ได้ถามถึงเรื่องของคนสกุลกูอ้ ีก
จากที่นางเห็น ในเมื่อท่านแม่เฒ่าไม่ยินยอมบอกนาง เช่นนัน้ นางย่อมไม่สมควรซักถาม
เรือ่ งนีอ้ ีกไม่วา่ จะอยู่ในสถานการณ์เช่นใด แม้นางจะอยากรูจ้ นอกแทบแตกก็เถอะ
แต่การที่คณ
ุ หนูคนอื่นๆ ของสกุลเผยจะมาที่น่ีดว้ ยนัน้ กลับทําให้นางประหลาดใจไม่
น้อย
1258

นางถามว่า “คุณหนูทงั้ สามมาได้อย่างไรรึ?”


จิตใจของคุณหนูหา้ วนเวียนอยู่กับดอกไม้ผา้ ในตะกร้าสาน ทางหนึ่งก็ยกเครื่องมือ
ประเภทต่างๆ ที่อยู่ในตะกร้าสานขึน้ มาพลิกดูอย่างละเอียด ทางหนึ่งก็ตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า “พี่
รองใกล้จะกําหนดงานหมัน้ หมายแล้ว ท่านย่าของลุงสามต้องการพบคนก่อน จึงถือโอกาสที่มา
เยี่ยมท่านแม่เฒ่าให้พ่ีรองมาดูตวั ด้วยตนเอง ใกล้จะปี ใหม่แล้ว ที่จวนสกุลเผยมีคนแวะเวียนมา
มาก ท่านย่าของลุงสามจึงตัง้ ใจมาหารือกับท่านแม่เฒ่า ท่านแม่เฒ่าก็ตอบตกลงแล้ว”
นี่นบั ว่าฟั งขึน้ อยู่บา้ ง
แต่ทาํ ไมต้องเชิญนางมาด้วยเล่า?
นางมิใช่คนของสกุลเผยเสียหน่อย!
อวีย้ งั คิดไม่ตกเสียที
เพียงแต่ไม่รอให้นางใคร่ครวญอย่างละเอียด กูซ้ ีพลันปรากฏตัวขึน้ อย่างกะทันหัน
ข้างกายนางมีสาวใช้คนเดิมกับชาติก่อนชื่อว่าเหอเซียงติดตามมาด้วย ในมือเหอเซียง
ถือตะกร้าใบหนึง่ ไม่รูว้ า่ ด้านในมีอะไร
“ไม่ คิ ด ว่า จะได้เ จอคุณ หนูอ วี ท้ ่ี น่ี ด ้ว ย” กู้ซี เ ผยยิ ม้ บางๆ ปลายคางเชิ ด ขึ น้ เล็ก น้อย
นํา้ เสียงอบอุ่นทว่าสีหน้าเย่อหยิ่ง เหมือนกับชาติก่อนตอนที่เจอกันครัง้ แรกอย่างไรก็อย่างนัน้
ทําให้อวีถ้ งั พลันเลอะเลือนชั่วขณะ เกือบแยกชีวิตทัง้ สองชาติไม่ออกเลยทีเดียว
นางคิดว่า หรือเพราะกูซ้ ีรูฐ้ านะของนาง ถึงได้วางท่าทางเช่นนีใ้ ส่?
แต่ท่าทีท่ีกซู้ ีปฏิบตั ิตอ่ คุณหนูหา้ กลับจริงใจอยู่มาก นางเอ่ยกับคุณหนูหา้ ว่า “ธูปหอมที่
ข้าทําเมื่อหลายวันนีก้ ่อนเสร็จแล้ว เตรียมจะมอบหนึ่งกล่องให้เจ้าไปลองใช้ ใครจะคิดว่าพอไป
ถึงห้องเจ้าถึงรู ว้ ่าเจ้ามาหาคุณหนูอวีท้ างนี ้ นายหญิงเสิ่นโดนลมหนาวเข้าอีก ข้าต้องคอยเฝ้า
อาการ ไม่อาจรออยู่ท่ีหอ้ งเจ้าได้ จึงได้เดินมาถึงที่น่ี”
1259

นางพูดไป เหอเซียงก็หยิบกล่องไม้สีดาํ ประดับมุกออกมา


สาวใช้ขา้ งกายคุณหนูหา้ นามว่าอาซันรีบไปรับกล่องมาทันที
“ขอบคุณ พี่ กู้เ จ้า ค่ะ ” คุณ หนูห ้า กล่า ว ดวงหน้า ยิ ม้ แย้ม สว่า งไสว เห็ น ชัด ถึ ง ความ
เยาว์วยั ทัง้ ไม่ได้พดู อะไรมาก ไร้กิรยิ ากระโดกกระเดกอย่างเมื่อครู ่
หัวใจของอวีถ้ งั สะท้านเล็กน้อย ทัง้ มีความคิดบางอย่างผุดขึน้
กูซ้ ีกลับคุน้ เคยกับคุณหนูหา้ ในรูปแบบนี ้ นางเอ่ยกับอวีถ้ งั ด้วยรอยยิม้ ลุแก่โทษว่า “ต้อง
ขออภัยด้วย ก่อนหน้านีไ้ ม่รูว้ ่าคุณหนูอวีจ้ ะมา ข้าจึงหยิบมาแค่กล่องกลิ่นร้อยบุปผา เหมาะจะ
ใช้เวลาอ่านหนังสือหรือคัดอักษรเป็ นที่สดุ ”
ชาติก่อนกูซ้ ีชอบทําเครื่องหอม อีกทัง้ เครื่องหอมที่นางทําก็มีช่ือเสียงในเมืองหลินอัน
มาก คหบดีหรือเหล่าแม่นางในสกุลซิ่วไฉเมืองหลินอันต่างคิดว่าการไขว่คว้าเครื่องหอมของกูซ้ ี
มาได้นบั เป็ นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่ง กลิ่นร้อยบุปผานีช้ าติก่อนนางก็เคยได้รบั มา ตอนได้ดม
กลิ่นก็ชวนน่าหลงใหล กระจายซ่านไปทั่วหัวใจคน หอมหวนเหนือใดเปรียบ น่าเสียดายที่นางได้
รับมาเพียงกล่องเดียว ยังไม่ทันใช้หมด ฮูหยินหลี่มองว่านางเป็ นเพียงแม่ม่าย ไม่ควรใช้ของ
หรูหราฟุ่ มเฟื อยพวกนี ้ จึงยึดเครื่องหอมที่เหลือของนางไป
ต่อมา นางค่อยๆ คุน้ เคยกับกลิ่นหอมสดชื่นของอากาศบริสทุ ธิ์ จึงไม่ค่อยจะชอบจุด
เครื่องหอมเท่าไรแล้ว
แต่นางก็ยังรับไว้ดว้ ยรอยยิม้ …ต่อไปสามารถใช้เป็ นของขวัญมอบแก่คนที่ ช่ื นชอบ
เครื่องหอมได้ก็นบั ว่าไม่เลวนัก
กูซ้ ีมองสํารวจรอบๆ เรือนที่อวีถ้ งั เข้าพัก
เครื่องเรือน ผ้าม่านเป็ นต้นนีล้ ว้ นเป็ นของสกุลเผย แต่ฉากกัน้ แจกัน ชุดนํา้ ชาสมควร
เป็ นของแต่ละสกุลที่ใช้เป็ นประจําอยู่แล้ว
1260

แผงกัน้ สี่พบั เป็ นสีดาํ เขียนลายทองรู ปสี่บรุ ุ ษแห่งบุปผา ไม่ว่าจะเป็ นกรรมวิธี วัสดุท่ีใช้
หรือลวดลายต่างสุดแสนจะธรรมดา แจกันทองแดงเขียนลายก็สามารถพบเห็นได้ทกุ หนทุกแห่ง
ส่วนชุดนํา้ ชายิ่งไม่ตอ้ งพูดถึง เป็ นเครื่องเคลือบขาวเขียนสีเขียวที่ไร้ซ่งึ ลวดลายโดยสิน้ เชิง ตอน
ที่นางเดินเข้าห้องมา บนโต๊ะกลมก็มีชดุ นํา้ ชาเช่นนีว้ างไว้ชดุ หนึ่ง ตอนนัน้ สาวใช้สกุลเผยที่ถกู
ส่งมารับใช้นางก็บอกว่า นี่เป็ นชุดที่จดั ไว้เพื่อความสวยงามเท่านัน้ รอให้คนที่เข้าพักเปลี่ยนเป็ น
ชุดถ้วยชาที่ตนนํามาเอง พวกนางย่อมจะเก็บของพวกนีใ้ นภายหลัง
สถานที่ท่ีอวีถ้ ังเข้าพักชัดเจนว่าจัดข้าวของเสร็จแล้ว แต่ชุดนํา้ ชากลับไม่มีวางอยู่บน
โต๊ะ หากมิใช่เพราะไม่รูร้ ะเบียบของสกุลเผย ก็คงเพราะนางไม่ได้ตระเตรียมสิ่งของที่ตนใช้
ประจําขึน้ เขามาเสียด้วยซํา้ ไป
คุณหนูสงู ศักดิ์คนหนึ่ง ไปพักแรมที่สกุลผูอ้ ่ืน กลับไม่นาํ สิ่งของที่ตนใช้ประจําติดตัวมา
ด้วย เช่นนัน้ ยังเป็ นคุณหนูผสู้ งู ศักดิอ์ ีกหรือ?
1261

บทที่ 158 ยินดี


กูซ้ ีคิดถึงข้อมูลที่ตนให้คนไปตามสืบเรื่องอวีถ้ งั
ชาวหลินอัน บุตรสาวสกุลซิ่วไฉ สกุลมีเพียงร้านค้ากับที่นาหนึ่งร้อยหมู่ บ่าวรับใช้อีก
สามสี่คน
ก่อนหน้านีน้ างคิดว่าสกุลอวีอ้ ยู่อย่างสมถะไม่ชอบโดดเด่น ตอนนีด้ ูท่า เกรงว่าจะข้น
แค้นเหลือคณา
นิว้ เรียวขาวผ่องของกูซ้ ีไล้ผ่านหน้าโต๊ะสีดาํ ที่แวววาวไร้ฝุ่นเกาะ นางหัวเราะไร้เสียงที
หนึ่ง จากนัน้ ก็หมุนตัวกลับมา เอ่ยกับอวีถ้ งั เสียงนุ่มว่า “คุณหนูอวี ้ เช่นนัน้ ข้าขอตัวก่อน รอให้
นายหญิงเสิ่นดีขนึ ้ อีกนิด ข้าค่อยมาเยี่ยมใหม่”
อวีถ้ งั พยักหน้ายิม้ ๆ ไม่ถามไถ่ดว้ ยซํา้ ว่าอาการของนายหญิงเสิ่นเป็ นอย่างไรบ้าง เพียง
มองตามซวงเถาที่พากูซ้ ีนายบ่าวออกไปส่ง
จากนัน้ อวีถ้ งั ก็ได้ยนิ เสียงถอนหายใจเบาหวิวของคุณหนูหา้ ที่ยืนอยู่ขา้ งๆ
ตอนที่คณ
ุ หนูหา้ อยู่เบือ้ งหน้ากูซ้ ีตอ้ งตึงเครียดขนาดนีเ้ ชียว?
อวีถ้ งั มองคุณหนูหา้ อย่างไม่เข้าใจ
ดวงหน้าของคุณหนูหา้ ขึน้ สีแดงกํ่าโดยพลัน นางงึมงําตอบว่า “พี่กนู้ างเก่งกาจมาก สิ่ง
ใดล้วนเชี่ยวชาญไปหมด ข้าขีข้ ลาด…”
จนทําให้นางรูส้ กึ ถึงแรงกดดันรึ?
อวีถ้ งั พยายามข่มกลัน้ สุดตัวไม่ให้หวั เราะออกมา
ชาติก่อนกูซ้ ีก็เป็ นเช่นนี ้ เพียงแค่ปรากฏตัวก็กลายเป็ นจุดสนใจของทุกคน ชาตินีต้ ่อให้
นางจะพยายามสํารวมเมื่ออยู่ต่อหน้าคนสกุลเผย แต่บางสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในกระดูกหาใช่สิ่งที่จะ
เปลี่ยนกันได้ง่ายๆ หากว่านางมาที่น่ีเพราะมีจดุ ประสงค์แอบแฝง เกรงว่าแม้นอนหลับฝันนางก็
1262

คงคิดไม่ถึง ว่าสิ่งที่นางภาคภูมิใจหนักหนาจะกลายมาเป็ นอุปสรรคในการเข้ามาเป็ นส่วนหนึ่ง


ของสกุลเผย
อวีถ้ งั อยากจะเงยหน้าหัวเราะสุดเสียง
นางปลอบใจคุณหนูหา้ ด้วยอารมณ์ท่ีเบิกบาน “ไม่เป็ นไรๆ คนที่เก่งกาจอย่างคุณหนูกู้
มีอยู่ไม่ก่ีคนหรอก พวกเราเป็ นคนธรรมดา แค่มองนางจากที่ไกลๆ ก็พอแล้ว”
คุณหนูหา้ พยักหน้ารัวเร็ว สายตาที่ใช้มองอวีถ้ ังยิ่งสนิทชิดเชือ้ กว่าเก่า “พี่กูก้ ับพี่รอง
แล้วก็นอ้ งสี่ชอบเล่นด้วยกัน ส่วนพี่สามจะชอบมาเล่นกับข้า”
อวีถ้ งั นึกถึงท่าทางหยิ่งผยองของคุณหนูรองกับสายตาวิบวับมีชีวิตชีวาของคุณหนูส่ี
หรือพูดได้วา่ บัดนีก้ ซู้ ีลากคุณหนูรองกับคุณหนูส่มี าเป็ นพวกได้แล้ว
นางค่อนข้างจะประหลาดใจ
นางคิดว่าคุณหนูสามที่เคร่งครัดในกฎระเบียบจะชื่นชอบกูซ้ ีมากกว่า แล้วคุณหนูรอง
ที่สดุ จะเย่อหยิ่งน่าจะชิงดีชิงเด่นกับกูซ้ ี
เห็นทีนางคงมีตอนที่มองคนพลาดอยู่เหมือนกัน
อวีถ้ งั เม้มปากหัวเราะ พวกนางกลับไปที่หอ้ งด้านใน เห็นว่าสาวใช้ปเู ตียงเรียบร้อยแล้ว
นางเองก็รูส้ กึ เมื่อยล้า จึงถามคุณหนูหา้ ว่า “เจ้าอยากจะนอนพักกับข้าหรือไม่? อีกเดี๋ยวพวกเรา
ค่อยไปหาท่านแม่เฒ่ากัน”
คุณหนูหา้ หยุดคิดเล็กน้อย จากนัน้ ก็ตอบรับอย่างยินดี
สาวใช้ขา้ งกายของคุณหนูหา้ จึงเข้ามาปลดเครื่องประดับต่างๆ และอุ่นผ้าห่มเตรียมไว้
ให้
หลังจากวุน่ วายอยู่พกั หนึ่ง สองคนก็ลม้ ตัวลงนอน
สาวใช้พลันปลดผ้าม่านโปร่งให้ทงิ ้ ตัวลงมา
1263

คุณหนูหา้ นอนมองม่านโปร่งสีขาวซึ่งเป็ นผืนเดิมที่เคยแขวนไว้ก่อนหน้านี ้ อดจะถาม


ขึน้ มาไม่ได้ว่า “พี่อวี ้ ท่านชอบสีอะไรรึ? ข้าจะให้อาซันหยิบมาให้ ข้าทางนัน้ มีผา้ โปร่งหลายผืน
ลายดอกไม้ก็มี ข้ามอบให้ท่านผืนหนึ่ง”
“ไม่ตอ้ งหรอก” อวีถ้ งั เข้าใจความหมายของนาง
ชาติก่อน ตอนที่คุณหนูสกุลหลินมาเยี่ยมสกุลหลี่ ไม่ตอ้ งพูดถึงผ้าม่านผ้าห่ม กระทั่ง
เก้าอีก้ ระโถนยังต้องใช้ของที่เตรียมมาเองเท่านัน้
นางมิได้เป็ นคนเรื่องมากปานนัน้
แน่นอนว่า เป็ นเพราะนางไม่อาจเรื่องมากได้น่ะสิ
อี ก อย่า ง ไม่ว่า จะชาติก่อนหรือชาตินี ้ นางก็ ไม่มี นิสัย ทําเรื่องเหนือกําลังเพื่อรักษา
หน้าตาของตนด้วย
“ข้าแค่มาพักที่น่ีไม่ก่ีวนั เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ยุ่งยากเกินไป” นางหัวเราะพลางพลิกตัว
นอนตะแคงมองหน้าคุณหนูหา้ “อีกอย่าง ข้าคิดว่าต่อให้เป็ นสิ่งของที่ขา้ นํามาจากเรือนเอง ก็คง
ไม่ต่างจากสิ่งของที่สกุลเจ้าใช้ตกแต่งห้องรับแขกสักเท่าไร จึงไม่อยากทรมานบ่าวรับใช้ของข้า
อีก”
คุณหนูหา้ เห็นว่านางสารภาพอย่างสัตย์ตรง ก็หวั เราะเบาๆ แล้วเอ่ยว่า “พี่อวี ้ เช่นนัน้
ข้ามอบเตาอุ่นให้ท่านดีหรือไม่? ป้าสะใภ้ขา้ ส่งมาให้จากจินหลิง บอกว่าเป็ นลายใหม่ลา่ สุดของ
จินหลิงเลย ข้าคิดว่าสวยงามยิ่งนัก”
อวีถ้ งั นึกขึน้ มาได้วา่ พี่นอ้ งฝั่งมารดาของนายหญิงรองรับราชการอยู่ท่ีจินหลิง
นางเห็นว่าคุณหนูหา้ เอ่ยด้วยความจริงใจ จึงไม่อยากปฏิเสธให้นางเสียความรูส้ ึก รีบ
ขอบคุณนางด้วยรอยยิม้ “ประเสริฐยิ่ง! สกุลเจ้าดึงความร้อนจากพืน้ ไฟยังดีหน่อย เรือนข้านัน้
ขนาดคัดอักษรตัวใหญ่ๆ ยังทําไม่ได้เลย มือยื่นออกมาไม่ทนั ไรก็แข็งทื่อแล้ว”
1264

เห็นชัดว่าคุณหนูหา้ ไม่เคยอยู่ในห้องที่ไม่มีการดึงความร้อนจากพืน้ ไฟมาก่อน ได้ยิน


นางพูดเช่นนัน้ ก็ไม่สงสัยเลยสักนิด ทัง้ ลอบดีใจที่ตนเลือกของที่ถกู ต้องมอบให้กบั ผูอ้ ่นื
สองคนหัวเราะคิกคักกันครึ่งค่อนวัน จากนัน้ ความง่วงก็เข้าจู่โจม แล้วค่อยๆ ผล็อย
หลับไป
ตอนที่ทงั้ สองคนถูกปลุกให้ต่ืน ก็ใกล้จะถึงยามเซิน 1แล้ว คุณหนูหา้ กระเด้งตัวขึน้ มา
240

อย่างตกใจ แล้วร้องบอกว่า “แย่แล้วๆ สายแล้วๆ!”


อาซันเป็ นแม่นางน้อยที่อายุประมาณสิบห้าสิบหกปี ได้ยินว่าตัง้ แต่คณ ุ หนูหา้ เกิดก็อยู่
รับใช้คุณหนูห ้า มาตั้งแต่ตน้ อย่ า งไรนางก็ อายุมากกว่าคุณหนูหา้ จึง เอ่ย ยิ ม้ ๆ อย่า งไม่ต่ืน
ตระหนกว่า “คุณหนูหา้ ไม่ตอ้ งรีบร้อน เวลานีต้ ่นื ขึน้ มาล้างหน้าหวีผมนับว่าทันการพอดีเจ้าค่ะ”
คุณหนูหา้ มองไปข้างๆ ทีหนึ่ง เห็นสีหน้านิ่งเฉยของอวีถ้ งั นางถึงค่อยผ่อนคลายลง ยก
มือทาบอกแล้วหันไปยิม้ สดใสให้อวีถ้ งั เอ่ยอธิบายว่า “ข้า ข้ามักเอาแต่ละล้าละลัง จนไปสาย
ตัง้ หลายครัง้ แล้ว…”
อวีถ้ ังอย่างไรก็ไม่ใช่คุณหนูอายุสิบเจ็ดจริงๆ หากว่าเป็ นตอนนีเ้ มื่อชาติก่อน นางเห็น
คุณหนูหา้ คงจะรูส้ กึ ขบขัน แต่มาบัดนี ้ นางกลับคิดว่าออกจะน่ารักดี
“ใจเย็นๆ” อวีถ้ งั ปลอบใจคุณหนูหา้ “หากว่าไปสาย ก็มิใช่มีขา้ สายเป็ นเพื่อนเจ้ารึ?”
คุณหนูหา้ หัวเราะอย่างอายๆ ทางหนึ่งก็ปล่อยให้อาซันพยุงนางให้ลกุ ขึน้ ทางหนึ่งก็
ถามอาซันว่า “พี่สาวคนอื่นมาถึงแล้วหรือยัง?”
อาซันตอบยิม้ ๆ “เพิ่งจะขึน้ เขามา ตอนนีน้ ่าจะยังเก็บของไม่เรียบร้อย รอให้คุณหนู
แต่งตัวเสร็จ ก็คงไปคารวะท่านแม่เฒ่าได้พร้อมกันพอดีเจ้าค่ะ”
สีหน้าของคุณหนูหา้ ยิ่งคลายกังวลกว่าเก่า

1
ยามเซิน คือเวลาประมาณ 15.00 – 16.59 น.
1265

อวีถ้ งั ลอบแปลกใจ
ท่าทางนายหญิงรองน่าจะเป็ นคนคุยง่าย เหตุใดพอมาเป็ นคุณหนูหา้ กลับคล้ายถูก
ควบคุมอย่างเข้มงวดแบบนี?้
พวกนางแต่งตัวเสร็จกําลังออกจากประตู ก็เหมือนกับที่อาซันบอกไว้ ที่ประตูของโถง
หลัก ได้เจอกับคุณหนูสกุลเผยอีกสามคนที่จะไปคารวะท่านแม่เฒ่าพอดี
คุณหนูรองยังเย่อหยิ่งอย่างที่เคยเป็ น นางสวมเสือ้ กั๊กตัวยาวสีนา้ํ ผึง้ ขลิบขอบแดง ใน
มือประคองเตาอุน่ เคลือบทองลายดอกเหมย เวลาที่มองคนก็มกั จะเชิดหน้าขึน้ สูง
คุณหนูสามสวมเสือ้ กั๊กตัวยาวสีฟ้าอ่อนปั กขนเพียงพอนสีเทา ซ่อนมือใต้หมอนซุกมือ
ขนกระต่ายสีขาว ดูปกุ ปุยน่ารัก มองแล้วทําให้คนอบอุน่ ไปถึงหัวใจ
นางมองอวีถ้ งั กับคุณหนูหา้ จากนัน้ ก็เอ่ยปากเรียก “พี่อวี”้ กับ “น้องห้า” อย่างถูกต้อง
ตามธรรมเนียม
คุณหนูส่ีกลับวิ่งหน้าตัง้ เข้ามาดึงมือของคุณหนูหา้ เอาไว้ หลังจากทักทายอวีถ้ งั เสร็จก็
เริ่ม พูด ไม่ ห ยุด เกี่ ย วกับ สิ่ ง ของปี ใ หม่ท่ี สกุล ได้ต ระเตรี ย มเอาไว้ เสื อ้ คลุม สี เ ขี ย วอ่อ นยิ่ง ดูมี
ชีวิตชีวาเป็ นพิเศษเมื่ออยู่กลางฤดูหนาวเช่นนี ้
อาจเพราะคนในห้องได้ยินเสียงเอะอะ หรืออาจเพราะก่อนหน้ามีสาวใช้เข้าไปรายงาน
แล้ว เฉินต้าเหนียงเดินหน้ายิม้ แย้มออกมาเลิกผ้าม่านเปิ ดให้ แล้วเอ่ยกับพวกนางว่า “ท่านแม่
เฒ่าคาดไว้แล้วว่าคุณหนูทงั้ หลายคงใกล้มาถึงแล้ว เพิ่งจะสั่งให้พวกข้าไปต้มนํา้ หวานดอกกุ้
ยฮวาเข้ามาเจ้าค่ะ พวกคุณหนูก็มาถึงพอดีเลย”
ทุกคนหัวเราะชอบใจแล้วพากันเดินเข้าด้านในห้อง
คุณหนูส่ีปล่อยให้สาวใช้ของตนช่วยถอดเสือ้ คลุมตัวนอกออกให้ แล้วเอ่ยเสียงดังด้วย
รอยยิม้ ว่า “ท่านย่าใจดีท่ีสดุ แล้ว รูว้ า่ พวกเราอยากดื่มนํา้ หวานดอกกุย้ ฮวา ทัง้ ยังเก่งกาจยิ่งนัก!
แค่ยกนิว้ ขึน้ นับก็รูแ้ ล้วว่าพวกเราจะมาถึงตอนไหน”
1266

ท่านแม่เฒ่าถูกกระเซ้าจนหัวเราะออกมา
คุณหนูส่ลี ากมือคุณหนูหา้ วิ่งเข้าไปหาแล้วคารวะท่านแม่เฒ่าเป็ นคนแรก
ท่านแม่เฒ่ารับคารวะจากนาง แล้วมอบหยกนวดมือให้นางลูกหนึ่ง
คุณหนูส่ชี อบใจจนดวงตาโค้งเป็ นรูปพระจันทร์เสีย้ ว
อวีถ้ งั นึกว่าคุณหนูรองกับคุณหนูส่ีจะแก่งแย่งความโปรดปรานกัน นึกไม่ถึงว่าคุณหนู
รองไม่เอ่ยออะไรสักคํา เพียงเดินขึน้ ไปคารวะท่านแม่เฒ่าพร้อมกับนางและคุณหนูสาม
ท่านแม่เฒ่ามองกลุม่ แม่นางน้อยที่งดงามชวนพิศเบือ้ งหน้า สีหน้าจึงผ่อนคลายตามไป
ด้วย “ใกล้วนั ปี ใหม่แล้ว ให้พวกเจ้าขึน้ เขามาเที่ยวผ่อนคลายเสียบ้าง ไม่อนุญาตให้ว่ิงเล่นไปทั่ว
ไม่เช่นนัน้ ครัง้ หน้าข้าจะไม่พาพวกเจ้าออกนอกจวนอีก!”
ทุกคนตอบเสียงขอบคุณพร้อมเพรียงกัน ก่อนจะนั่งล้อมวงท่านแม่เฒ่าเอาไว้
ท่านแม่เฒ่าถามขึน้ ว่าหลายวันนีแ้ ต่ละคนทําอะไรกันบ้าง ถามว่าอักษรที่ฝึกคัดได้ผล
เป็ นอย่างไร บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุน่
หางตาของอวีถ้ งั อดจะสํารวจคุณหนูรองที่น่งั เงียบๆ อยู่ดา้ นข้างสักหลายครัง้ ไม่ได้
คุณหนูส่ีไม่รูว้ ่าเข้ามากระซิบที่หูนางตัง้ แต่เมื่อไร นางเอ่ยเสียงเบาว่า “พี่อวีไ้ ม่ตอ้ ง
แปลกใจหรอกเจ้าค่ะ พี่ีรองใกล้จะออกเรือนแล้ว นางคงไม่อยากเล่นกับพวกเราอีก”
อวีถ้ งั ตกตะลึง แต่กลับถูกคุณหนูรองที่ได้ยินเสียงคุณหนูส่พี ดู ถลึงตาใส่อย่างดุดนั
นางถึงได้แต่ฉีกยิม้ แห้งส่งให้คณ
ุ หนูรองอย่างลุแก่โทษ
คุณหนูรองสะบัดหน้าหนี ไม่สนใจนางอีก
อวีถ้ งั พลันหัวเราะไม่ได้รอ้ งไห้ไม่ออก
จีต้ า้ เหนียงเดินเข้ามาถามท่านแม่เฒ่าว่าจะให้ตงั้ อาหารเย็นเลยหรือไม่
1267

ท่านแม่เฒ่าโบกมือแล้วเอ่ยว่า “ตัง้ โต๊ะเลย! พวกคุณหนูคงหิวแย่แล้ว” ทัง้ บอกกับพวก


นางเสียงอ่อนโยนว่า “วันนีห้ อ้ งครัวทําข้าวแปดสมบัติดว้ ย”
มีเด็กสาวคนใดบ้างที่จะไม่ชอบกินข้าวแปดสมบัติ?
หลายคนพากันส่งเสียงร้องดีใจยกใหญ่
คุณหนูส่ียังเอ่ยทวงท่านแม่เฒ่าอย่างร่าเริงว่า “ท่านย่า พรุ ่งนีพ้ วกข้าจะได้กินขนม
หนวดมังกรกับขนมแห้วไหมเจ้าคะ?”
ท่านแม่เฒ่ายิม้ จนตาแทบปิ ด “ได้สิ อีกเดี๋ยวจะสั่งห้องครัวทําให้พวกเจ้ากิน”
พวกคุณหนูพลันส่งเสียงเฮฮาขึน้ มาอีก
ขณะที่ทุกคนกําลังสนุกสนาน สาวใช้ก็เข้ามารายงานว่า “นายหญิงเสิ่นกับคุณหนูกู้
มาแล้วเจ้าค่ะ”
ทุกคนพากันนิ่งอึง้
รอยยิม้ บนใบหน้าของท่านแม่เฒ่ายังเหือดจางไปหลายส่วน
“เชิญพวกนางเข้ามา!” ท่านแม่เฒ่าสั่ง
เฉินต้าเหนียงพาคนทัง้ สองเข้ามาด้วยมือเท้าที่คล่องแคล่ว
นายหญิ งเสิ่นมีท่าทางคล้ายคนป่ วยหนักเพิ่งฟื ้ นไข้ กู้ซีกลับดวงหน้าเปล่งปลั่งเป็ น
ประกาย อยู่ในชุดคลุมตัวยาวผ้าไหมหังโจวสีเขียวอ่อน ขับให้คนงดงามจนน่าตื่นตะลึง
อวีถ้ งั รูส้ กึ หนักอึง้ ในใจ นางรีบชําเลืองไปมองท่านแม่เฒ่าทีหนึ่ง
ดวงหน้าของท่านแม่เฒ่าไม่แสดงอารมณ์รกั หรือเกลียด นางถามนายหญิงเสิ่นด้วยสี
หน้าราบเรียบว่า “มิใช่ให้เจ้าพักผ่อนอยู่บนเตียงรึ? แล้วลุกขึน้ มาทําไม? ดึขนึ ้ แล้วหรือไม่ละ่ ?”
1268

“ขอบคุณท่า นแม่เฒ่าเจ้าค่ะ” นายหญิ งเสิ่นยิม้ อย่างอ่อนแรง “แค่ท ้องไส้ไม่สบาย


เท่านัน้ หาใช่โรคร้ายแรงอะไร กินยาไม่ก่ีเทียบก็หายแล้ว”
ท่านแม่เฒ่าเอ่ยว่า “อย่างไรก็ตอ้ งพักผ่อนให้มาก อายุไม่ละเว้นคน เจ้าเองก็โตเป็ น
ผูใ้ หญ่รูค้ วามแล้ว มิเหมือนกับเมื่อก่อน จะทําอะไรเหลวไหวตามใจตัวเองไม่ได้”
สีหน้าของนายหญิงเสิ่นเปลี่ยนไปเล็กน้อย
กูซ้ ีรบี เอ่ยแทรกว่า “ท่านป้าเสิ่น ข้าพยุงท่านไปนั่งนะเจ้าคะ!”
เฉินต้าเหนียงพยายามกูส้ ถานการณ์ รีบยกตั่งไม้เตีย้ ออกมาวางใกล้ๆ นายหญิงเสิ่น
ด้วยสีหน้ายิม้ แย้ม “เชิญนั่งเจ้าค่ะ!”
นายหญิงเสิ่นนั่งลงด้วยสีหน้าซีดเผือด หันไปมองเหล่าคุณหนูทงั้ หลายทีหนึ่ง “ข้าได้ยิน
ว่าคุณหนูตา่ งขึน้ เขามาหมดแล้ว ถึงได้ตงั้ ใจมาทักทายเป็ นพิเศษ”
ท่านแม่เฒ่าเอ่ยด้วยนํา้ เสียงปกติว่า “เจ้าเป็ นผูอ้ าวุโส ต่อให้ตอ้ งเข้าไปทักทาย ก็ตอ้ ง
เป็ นพวกนางที่ไปคารวะเจ้า มีท่ีไหนให้เจ้าต้องวิ่งมาหาด้วยตนเอง”
นายหญิงเสิ่นเอ่ยว่า “พวกเราสองสกุลมิใช่คนอื่นคนไกล ไม่จาํ เป็ นต้องถือธรรมเนียม
พวกนัน้ หรอกเจ้าค่ะ”
ท่านแม่เฒ่าเลิกคิว้ ขึน้ ไม่ได้สง่ เสียง
คุณหนูหลายคนอายุยงั น้อย ทัง้ อวีถ้ งั ยังเป็ นคนนอก จึงไม่ได้กระไร แต่คณ
ุ หนูรองทาง
นัน้ กลับร้องเหอะเสียงเย็นชาเสียงหนึ่ง
1269

บทที่ 159 เฉียบแหลม


หากเป็ นเวลาอื่นก็คงจะไม่เป็ นไร แต่ตอนนัน้ นายหญิงเสิ่นเพิ่งจะพูดจบ ท่านแม่เฒ่ายัง
ไม่ได้พดู ต่อ ทุกคนจึงได้ยินเสียงเย้ยหยันของคุณหนูรองได้อย่างชัดเจน
สีหน้าของนายหญิงเสิ่นเปลี่ยนไปโดยสิน้ เชิง สายตาที่มองคุณหนูรองมีความชิงชังแฝง
อยู่
ในเมื่อกล้าทําก็ตอ้ งกล้ารับ
อวีถ้ งั แสร้งทําเป็ นมองไม่เห็น
เฉินต้าเหนียงที่อยู่ดา้ นข้างไม่อาจปล่อยให้บรรยากาศแย่ลงไปกว่านี ้ นางรีบโพล่งขึน้
ว่า “นายหญิงเสิ่นเพิ่งจะหายป่ วย ไม่รูว้ ่าท่านหมอสั่งห้ามสิ่งใดไว้บา้ งหรือไม่? ข้าจะสั่งสาวใช้
กับหญิงรับใช้ให้ระวังเป็ นพิเศษเจ้าค่ะ”
แค่ทอ้ งไส้ไม่ดีมิใช่เป็ นโรคพิสดารอะไร หญิงรับใช้ในสกุลสูงศักดิ์มากกว่าครึ่งล้วนมี
ความรู ท้ ่ วั ไปทางด้านนีอ้ ยู่แล้ว เฉิ นต้าเหนียงถามเช่นนี ้ เห็นชัดว่าต้องการกูค้ ืนสถานการณ์
เท่านัน้
ท่านแม่เฒ่าไม่รูว้ ่าลําเอียงหรือไม่ชอบนายหญิงเสิ่น นางไม่ได้เอ่ยปราม คนอื่นล้วนยึด
ท่านแม่เฒ่าเป็ นจ่าฝูง แต่ละคนเอาแค่กม้ หน้างุดๆ เหมือนนกกระทา
สีหน้าของนายหญิงเสิ่นยํ่าแย่กว่าเก่า ปากอ้าพะงาบๆ คล้ายจะพูดบางอย่าง
กูซ้ ีเหลือบมองอวีถ้ งั อย่างรวดเร็วทีหนึ่ง
นางคิดไม่ถึงว่าคุณหนูอวีจ้ ะเป็ นเหมือนเต่าที่หดหัวอยู่ในกระดอง พอเกิดเรื่องก็วางตัว
อยู่นอกวง คอยมองความครึกครืน้ อยู่ดา้ นข้างอย่างไม่เดือดเนือ้ ร้อนใจ เช่นนัน้ ท่านแม่เฒ่าให้
นางมาทําอะไรที่น่ีกนั ?
หรือเพราะนางเป็ นเด็กว่านอนสอนง่าย?
1270

แต่เหล่าคุณหนูของสกุลเผยมีคนใดที่ไม่วา่ นอนสอนง่ายบ้าง?
ท่านแม่เฒ่าจําเป็ นต้องหาเด็กว่านอนสอนง่ายสักคนถึงขนาดรับคุณหนูจากสกุลอื่นมา
อยู่ขา้ งกายเลยรึ?
กูซ้ ีลอบดูแคลนอวีถ้ งั ในใจรู ส้ ึกหงุดหงิดไม่นอ้ ย ทว่ามุมปากกลับยกขึน้ แล้วเอ่ยด้วย
รอยยิม้ ว่า “ทําให้เฉินต้าเหนียงต้องเป็ นห่วงแล้ว ท่านหมอไม่ได้ส่ งั อะไรไว้เป็ นพิเศษ บอกแค่
สองสามวันนีอ้ ย่าเพิ่งกินเผ็ดก็พอ”
นางต้องหาทางรูแ้ น่ชดั ให้ได้วา่ ท่านแม่เฒ่าเรียกอวีถ้ งั ให้มาพักที่น่ีดว้ ยจุดประสงค์ใด!
เฉินต้าเหนียงเห็นว่ากูซ้ ีตอบความ ก็ถอนหายใจโล่งอก
นางรับใช้ท่านแม่เฒ่ามาตัง้ กี่ปีแล้ว นิสยั ของท่านแม่เฒ่านางรูจ้ กั ดี โดยเฉพาะหลังจาก
ที่ท่านผูเ้ ฒ่าเสียไป ท่านแม่เฒ่าก็ย่ิงทําอะไรตามใจไม่คาํ นึงถึงข้อเว้นห้าม ไม่ตอ้ งพูดถึงอย่าง
นายหญิงเสิ่นผูน้ นั้ ขนาดนายหญิงใหญ่สกุลซ่ง ท่านแม่เฒ่าของนางอยากจะปะทะก็ปะทะทันที
ไม่มีไว้หน้ากันเลยสักนิด
บัดนี ค้ ุณหนูกู้ได้ย่ื น บัน ไดลงให้แล้ว นางย่อมคว้า ไว้ในมื อ พลัน เอ่ย ยิม้ ๆ ขึน้ มาว่า
“หลีกเลี่ยงการกินเผ็ดข้าเคยได้ยินมาบ้างเหมือนกัน แม้ปกติท่ีเรือนจะกินอาหารรสอ่อนอยูแ่ ล้ว
แต่เพื่อไม่ให้ผิดพลาด ข้าจะกําชับกับสาวใช้อีกสักคําเจ้าค่ะ” พูดจบ ก็รบี เรียกสาวรับใช้มาทันที
“นอกจากห้องครัวทางนัน้ ที่ตอ้ งไปแจ้งแล้ว คนที่รบั ใช้ขา้ งกายนายหญิงเสิ่นก็ตอ้ งสั่งให้ชดั เจน
หากว่ามีสิ่งใดบกพร่อง ก็ระวังผิวหนังของเจ้าไว้ให้ดี!”
เด็กรับใช้รบั คําเป็ นมั่นเป็ นเหมาะ ก่อนจะสาวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว
เฉินต้าเหนียงถามนายหญิงเสิ่นว่า “ท่านรับอาหารเย็นแล้วหรือยังเจ้าคะ? รับเพิ่มอีก
หน่อยดีหรือไม่?”
วาจานีน้ บั ว่าถามได้ไม่คอ่ ยจะเกรงใจเท่าไรแล้ว
1271

ปกติหากจะชวนผูอ้ ่ืนให้ร่วมกินอาหารด้วยกัน ก็ตอ้ งเอ่ยรัง้ ตัวไว้อย่างตรงไปตรงมา


ไม่ใช่ถามกับผูอ้ ่นื ว่าต้องการจะอยู่กินอาหารหรือไม่
อีกอย่างที่พวกนายหญิงเสิ่นเลือกมาในเวลานีม้ ิใช่เพราะมากินอาหารเย็นด้วยหรือ?
นายหญิงเสิ่นได้ยินหัวคิว้ ก็เลิกขึน้
กูซ้ ีออกมาแก้สถานการณ์อีกครัง้
ตอนที่นายหญิงเสิ่นไม่ทนั ได้เปิ ดปาก นางก็ชิงเอ่ยขึน้ มาพร้อมรอยยิม้ ว่า “กลัวแต่วา่ ใน
ครัวไม่ได้เตรียมเผื่อไว้ ข้าให้เหอเซียงไปบอกกับหญิงรับใช้ท่ีเรือนพักสักคํา ให้ยกอาหารเย็น
ของทางโน้นที่เตรียมไว้มาที่น่ีดีหรือไม่เจ้าคะ?”
หมายความว่าจะอยูก่ ินข้าวที่น่ีให้ได้อย่างนัน้ สินะ
ท่านแม่เฒ่าเหลือบมองนายหญิงเสิ่นทีหนึ่ง
หน้าผากของนายหญิงเสิ่นผุดเส้นเลือดจนเห็นชัดเจน แต่กลับไม่ได้ปฏิเสธคําของกูซ้ ี
ท่านแม่เฒ่าหัวเราะ “เอาสิ! นายหญิงเสิ่นกินอาหารเผ็ดไม่ได้ แต่ขา้ นัน้ ถ้าไม่เผ็ดกินไม่
ลง นายหญิงเสิ่นเพิ่งจะหายดี หากว่าอาการกําเริบขึน้ มาอีกคงเป็ นความผิดของข้ากระมัง”
ท่านแม่เฒ่าชอบกินเผ็ด?
อวีถ้ งั เพิ่งเคยได้ยินเป็ นครัง้ แรก
กูซ้ ีกลับยิม้ ให้แล้วตอบว่า “แต่ก่อนได้ยินจากป้าสะใภ้ของน้าหญิงบอกว่าท่านแม่เฒ่า
เคยติดตามไปอยู่ท่ีเมืองฉางซาตอนท่านผูเ้ ฒ่าเฉียนไปรับราชการที่โน่น ไม่คิดว่ารสปากของ
ท่านแม่เฒ่าจะเปลี่ยนมาเหมือนกับคนหูหนานเสียแล้ว”
เรื่องนีอ้ วีถ้ งั เพิ่งเคยได้ยิน นางมองท่านแม่เฒ่าต้องความประหลาดใจ
ท่านแม่เฒ่าที่เมื่อครู ่ทาํ หน้าบึง้ ตึง พอได้ยินเช่นนัน้ ก็หวั เราะทันที นางใช้นา้ํ เสียงหวน
ระลึกถึงวันเก่าๆ แล้วถอนหายใจตอบว่า“นั่นเป็ นเรื่องตัง้ แต่หา้ สิบกว่าปี ก่อนแล้ว!”
1272

กูซ้ ียิม้ “ไม่ว่าผ่านไปนานเท่าไรแต่ทกุ คนก็ยงั จําได้เจ้าค่ะ หลายวันก่อนได้ยินท่านพี่พดู


ว่า ศิ ษ ย์พ่ี ข องเขาไปที่ เ มื อ งฉางซายัง ตั้ง ใจแวะไปเดิ น เล่น แถวคลองขุด ที่ ท่า นผู้เ ฒ่า เฉี ย น
ซ่อมแซมเอาไว้เมื่อปี นนั้ ทัง้ พูดว่าแม้จะผ่านไปห้าสิบปี แล้ว แต่ระบบชลประทานของหนิงเซียง
ยังคงยึดตามแนวคลองนํา้ ไม่ก่ีสายที่ท่านผูเ้ ฒ่าเคยทําไว้ตอนที่รบั ตําแหน่งอยู่เลย! ทุกคนยัง
รําลึกถึงบุญคุณของท่านผูเ้ ฒ่าเฉียนอยู่เสมอ ทัง้ ยังมีคนตัง้ ป้ายเพื่อบูชาท่านผูเ้ ฒ่าเฉียนด้วยนะ
เจ้าคะ!”
“จริงรึ?” ท่านแม่เฒ่าทัง้ แตกตื่นทัง้ ยินดี สายตาที่มองกูซ้ ีไม่ได้เย็นชาเฉกเช่นก่อนหน้านี ้
แต่เปลี่ยนมาเป็ นความเร่าร้อนทันที “ยังมีคนจดจําบิดาของข้าได้?”
“จริงเจ้าค่ะ!” กูซ้ ีพยักหน้า ท่าทางเถรตรงอย่างที่สดุ “พี่ชายข้าเขียนจดหมายกลับมา
เล่าให้ฟัง ไม่อย่างนัน้ ข้าจะรู ไ้ ด้อย่างไรเล่าเจ้าคะ? อีกอย่างจดหมายของพี่ชายก็มิได้ส่งถึงข้า
แต่เขียนถึงท่านลุงใหญ่เจ้าค่ะ บอกว่าเป็ นขุนนางก็ควรจะเป็ นให้ได้อย่างท่านผูเ้ ฒ่าเฉียน บอก
ให้ท่านลุงใหญ่ส่งั สอนลูกหลานในสกุลให้ยดึ ท่านผูเ้ ฒ่าเฉียนเป็ นแบบอย่าง”
“ไอหยา พี่ชายเจ้าช่างใส่ใจเหลือเกิน” ท่านแม่เฒ่าเอ่ยอย่างเกรงใจ ดวงหน้าบานแฉ่ง
เฉกดอกไม้ดอกหนึ่ง จากนัน้ ก็เล่าเรื่องตอนเด็กซึง่ ติดตามบิดาไปรับราชการให้ฟัง
กูซ้ ีก็คอยพูดเสริมอยู่ขา้ งๆ ไม่ขาด บรรยากาศพลันครืน้ เครงขึน้ มาทันที
อวีถ้ งั รูส้ กึ นับถืออย่างสุดใจ
ชาติก่อน นางนับว่าดูถกู กูซ้ ีเกินไปแล้ว
ที่นางได้รบั ความรักใคร่จากทุกคน อย่างไรก็ตอ้ งมีเหตุผลอยู่แล้ว
บทสนทนาของทัง้ สองต้องชะงักลงเพราะการมาถึงของนายหญิงรอง เช่นนี ้ ความเบิก
บานของท่านแม่เฒ่าก็มิได้ลดลง นางลากนายหญิงรองคุยเรื่องนีต้ อ่ อีกเป็ นนาน
1273

เห็นชัดว่านายหญิงรองไม่ใช่เคยฟั งเรื่องนีเ้ ป็ นครัง้ แรก นางไม่เพียงรับคําด้วยรอยยิม้ ตา


หยี ทัง้ ยังเอ่ยว่า “ท่านแม่ วันเซ่นไหว้ของท่านตาก็ใกล้เข้ามาแล้ว ท่านอยากไปบอกเจ้าอาวาส
วัดเจาหมิงไว้สกั คําไหมเจ้าคะ จัดงานบุญอุทิศกุศลให้ท่านตาสักหน่อย”
“ไม่ตอ้ งหรอก” ท่านแม่เฒ่าถอนหายใจเฮือก “เจ้าไม่เคยเจอท่านตาของเจ้า นิสยั เขา
ดือ้ รัน้ จะตายไป ปี นนั้ ก่อนเขาจะจากไป ยังสั่งเสียเอาไว้ว่า ให้เผาศพของเขาเสีย แล้วเอาเถ้า
กระดูกไปโปรยที่ทะเลสาบซีหู พวกน้าชายของเจ้าตกใจจนทําอะไรไม่ถูก ถึงกับต้องเชิญผูน้ าํ
สกุลออกหน้า ถึงฝั งศพของท่านตาเจ้าไว้ในสุสานบรรพบุรุษได้ บางครัง้ ที่ขา้ สงสัย ว่านิสยั ของ
สยากวงได้ใครมากันแน่ ข้ารู ส้ กึ ว่าคงได้มาจากท่านตาของพวกเจ้านี่แหละ แต่ท่านตากับท่าน
ยายของพวกเจ้าไม่คิดเช่นนัน้ ทัง้ ถูกใจนิสยั ของเขาเป็ นพิเศษ ไม่อย่างนัน้ ตอนที่ท่านยายของ
พวกเจ้าเสียคงไม่ทิง้ สินเดิมของตนทัง้ หมดให้กบั สยากวง ตอนนัน้ พวกเจ้าเพิ่งจะแต่งงานเองนี่
นะ!”
ท่านลุงของเผยเยี่ยนคือพี่ชายของท่านแม่เฒ่า?
ไม่ใช่เพราะว่าเผยเยี่ยนเป็ นหลานชายแท้ๆ ของตนเองหรือ?
อวีถ้ งั คิดว่าไม่คอ่ ยจะถูกต้องเท่าไรนัก
ทว่า ได้ยินท่านแม่เฒ่าพูดเช่นนี ้ เผยเยี่ยนก็เหมือนกับท่านตาของเขามากอยู่จริงๆ
ถึงกับให้เผาร่างของตนเอง กระทั่งเถ้ากระดูกก็โปรยทิง้ ได้…แค่คิดนางก็สะท้านสั่นไป
ทัง้ ตัวแล้ว
อาจเพราะนายหญิ งรองมิได้ไม่พอใจเรื่องที่เผยเยี่ยนได้รบั มรดกจากสกุลฝั่ งมารดา
และเป็ นเรื่องจริงที่วา่ นางพูดจาน่าฟั งเสียเหลือเกิน
“ท่านตาได้ทาํ ตามที่ใจปรารถนามาทัง้ ชีวิต ท่านอาสามนิสยั เหมือนกับท่านตา ท่านตา
ก็คงรักใคร่ท่านอาสามมาก จึงคิดจะทิง้ สิ่งที่เป็ นของตนเองไว้ให้ท่านอาสาม อีกอย่างข้าวของ
1274

ของท่านตาไปอยู่ในมือท่านอาสามก็ยงั ดีกว่ามาอยู่ในมือของพวกเรา ถือว่ามอบได้ถกู คนแล้ว


เจ้าค่ะ” นางยิม้ อย่างอ่อนช้อย “เล่าลือกันออกไป ก็มีแต่เรื่องที่ดีน่าฟั งทัง้ สิน้ ”
ท่านแม่เฒ่าทัง้ ยินดีและปลาบปลืม้ จับมือนายหญิงรองเอาไว้พลางผงกศีรษะ
เจินจูเดินเข้ามารายงานเสียงเบาว่าตัง้ โต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว
นายหญิงรองจึงประคองท่านแม่เฒ่าให้ลกุ ยืนขึน้
คนทัง้ กลุม่ ยกขบวนตามท่านแม่เฒ่าไปที่หอ้ งอาหารด้านในสุดฝั่งทิศตะวันตก
นายหญิงเสิ่นกับนายหญิงรองแยกกับนั่งประกบสองข้างของท่านแม่เฒ่า
กูซ้ ีน่ ังเก้าอีท้ ่ีถัดลงมาจากนายหญิ งเสิ่น อวีถ้ ังนั่งเก้าอีท้ ่ีถัดลงมาจากนายหญิ งรอง
คุณหนูสกุลเผยทัง้ หลายก็น่งั เรียงกันตามลําดับอายุ
อาหารมือ้ นีน้ บั ว่ากินได้อย่างสงบราบรื่น ไม่เกิดความวุน่ วายใดๆ
หลัง จากกิ น อาหารเสร็จ ท่ า นแม่ เ ฒ่ า ก็ อ ารมณ์ดี ไ ม่ เ ลว ทุก คนจึง กลับ ไปที่ ห ้อ งฝั่ ง
ตะวันออกอีกครัง้ เพื่อดื่มชาและสนทนากันต่อ
หัวข้อเรื่องเริ่มจากท่านผูเ้ ฒ่าเฉียนตัง้ แต่ก่อนกินข้าว ไปจนถึงทิวทัศน์ยามหิมะโปรยที่
เขาเฟิ่ งหวง
เขาเฟิ่ งหวงตัง้ อยู่แถบชานเมืองของหังโจว พูดถึงฉากหิมะตกที่เขาเฟิ่ งหวงแล้ว แน่นอน
ว่ากูซ้ ีย่อมมีเรื่องให้เล่ากว่าใครๆ
นางบรรยายอย่างเห็นภาพถึงตอนเล็กที่นางติดตามกูเ้ จาหยางไปจับนกกระจอกที่เขา
เฟิ่ งหวง
เหล่าคุณหนูรวมทัง้ ท่านแม่เฒ่า นายหญิงรองและนายหญิงเสิ่น ต่างก็น่ งั ฟั งอย่างออก
รส มีเพียงอวีถ้ งั เท่านัน้ ที่ลอบยิม้ เยาะอยู่ในใจ
ชาติก่อน นางก็เคยฟั งเรื่องที่กซู้ ีไปจับนกกระจอกมาก่อน
1275

แต่มิใช่ท่ีเขาเฟิ่ งหวง ทว่าเป็ นวัดหย่งฝูซง่ึ ตัง้ อยู่ชานเมืองตะวันตกของหังโจว


ตามเรื่องเล่าของกูซ้ ีเมื่อชาติก่อน นั่นเป็ นวันครบรอบวันตายปี ท่สี ิบของมารดานาง นาง
ติดตามพี่ชายกูเ้ จาหยางไปทําบุญให้มารดาเป็ นครัง้ แรก
นางยังเชื่อคําพูดของกูซ้ ีเมื่อชาติก่อนมากกว่า
แต่ท่ีกซู้ ีสามารถพัฒนาฝี มือจนถึงขัน้ นีไ้ ด้ อวีถ้ งั ก็รูส้ กึ นับถือนางอยู่ดี
ในห้องกําลังครึกครืน้ จีต้ า้ เหนียงก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าระมัดระวัง ก่อนจะกระซิบ
หลายคําที่ขา้ งหูท่านแม่เฒ่า
รอยยิม้ บนใบหน้าของท่านแม่เฒ่าหายวับในทันใด
คุณหนูหา้ ตกใจจนกระชากกระโปรงของอาซันที่อยู่ขา้ งกายเอาไว้
บรรยากาศในห้องคล้ายถูกทําให้แข็งค้างอยู่กบั ที่
กูซ้ ีเผยสีหน้าลังเลให้เห็น
อวีถ้ งั รูว้ ่า สมควรแก่เวลาที่นางจะขอตัวกลับแล้ว แต่นางไม่อยากเสียโอกาสในการเข้า
ใกล้ท่านแม่เฒ่าไป
โอกาสบางอย่างเพียงกะพริบตาก็คลาดกันแล้ว
กูซ้ ียงั ไม่ทนั ได้เปิ ดปาก ท่านแม่เฒ่าก็เอ่ยเสียงเบาว่า “ในเมื่อนางมีใจ ก็เรียกให้นางเข้า
มาเถอะ!” พูดจบ ก็หนั ไปมองนายหญิงเสิ่นทีหนึ่ง
นายหญิงเสิ่นงงงวย ทว่าใจของกูซ้ ีกลับมีลางสังหรณ์แปลกๆ
อวีถ้ งั กับคุณหนูคนอื่นๆ แทบจะกลัน้ หายใจรอ
ไม่นาน จีต้ า้ เหนียงก็พาหญิงสาวที่อยู่ในชุดผ้าไหมสีขาวเดินเข้ามา
อวีถ้ งั ตกใจจนแทบจะส่งเสียงร้องออกมา
1276

คนที่มาก็คือนายหญิงใหญ่สกุลเผยนั่นเอง
อวีถ้ ังเพ่งตามอง เพียงเวลาไม่ถึงปี ท่ีไม่พบหน้า เทียบกับครัง้ แรกที่อวีถ้ ังได้เจอนาย
หญิงใหญ่สกุลเผยแล้ว คล้ายนางจะแก่ขึน้ เป็ นสิบปี ไม่เพียงจอนผมที่เริ่มขาว ริว้ รอยก็เห็นชัด
สีหน้าซีดเซียว คล้ายถูกถอนกระดูกออกไป ทั่วร่างไร้จิตวิญญาณโดยสิน้ เชิง
“ท่านแม่!” นายหญิงใหญ่คารวะท่านแม่เฒ่าอย่างนบนอบ วางท่าอ่อนน้อมถ่อมตน หา
ได้มีท่าทีเย่อหยิ่งสูงส่งเหมือนเมื่อก่อนไม่
อวีถ้ งั ตกอยู่ในความสับสนชั่วขณะ
เกื อ บหนี่ ง ปี ท่ี ผ่ า นมานายหญิ ง ใหญ่ ไ ปเจอเรื่ อ งอะไรเข้า ? เหตุใ ดนางจึ ง มาอยู่ท่ี
คฤหาสน์นอกเมืองแห่งนี?้ ตัง้ แต่งานศพของนายท่านใหญ่ก็ยา้ ยมาอยู่ท่ีน่ี? หรือเพราะท่านแม่
เฒ่าขึน้ เขามาจึงได้พานางมาด้วย?
ในใจอวีถ้ งั คล้ายมีคลื่นยักษ์โถมซัด นางกลัวผูอ้ ่ืนจะมองความแตกตื่นของนางออก จึง
แสร้งก้มหน้าจิบชาเพื่อซ่อนเร้น
เพียงแต่ตอนที่นางวางถ้วยชาลงนัน้ เอง หางตาก็เหลือบไปทางกูซ้ ีอย่างไม่ได้ตงั้ ใจ เห็น
ว่ากูซ้ กี ็กาํ ลังก้มหน้าดื่มชาเช่นเดียวกัน
อวีถ้ งั ยิม้ เยาะ
ท่านแม่เฒ่าเอ่ยกับนายหญิ งใหญ่ว่า “ตอนนีเ้ จ้าร่างกายไม่แข็งแรง ทุกเดือนยังต้อง
เชิญหมอหลวงหยางมาคอยจับชีพจรให้ ควรจะพักผ่อนให้มากๆ ข้าทางนีม้ ีสะใภ้รองคอยอยู่
เป็ นเพื่อนแล้ว ทัง้ มีเด็กๆ พวกนีอ้ ีก ไม่มีเรื่องใดต้องลําบากเจ้าหรอก เจ้าดูแลตนเองให้ดีก็ใช้ได้
แล้ว”
1277

บทที่ 160 สะใภ้ใหญ่


นายหญิงใหญ่ตอบกลับด้วยความเคารพว่า “เจ้าค่ะ” จากนัน้ หันไปเอ่ยกับนายหญิง
รองด้วยรอยยิม้ “ต้องโทษข้าที่สขุ ภาพไม่ได้ความ จึงต้องลําบากสะใภ้รองเช่นนี”้
นายหญิงรองวางท่าไม่รูส้ กึ รูส้ า ยังคงยิม้ อย่างสุภาพอ่อนโยนดังเก่า “คนบ้านเดียวกัน
ไม่ตอ้ งพูดจาห่างเหิน พี่สะใภ้เกรงใจเกินไปแล้วเจ้าค่ะ” จากนัน้ ก็ไปยกตั่งไม้เตีย้ มาให้นายหญิง
ใหญ่ดว้ ยตนเอง “พี่สะใภ้น่งั สนทนากันก่อนเจ้าค่ะ”
นายหญิ งใหญ่หันไปส่งยิม้ ให้นายหญิ งรอง รอยยิม้ นั้นอบอุ่นทว่าไร้เรี่ยวแรง ทําให้
สายตาของผูอ้ ่ืนอดจะลอบมองร่างผ่ายผอมของนางมิได้
อวีถ้ งั ประหลาดใจมาก
นายท่านใหญ่เสียก่อนท่านผูเ้ ฒ่า หากจะบอกว่านายหญิงใหญ่ตรอมใจเพราะสามีท่ี
เสียไป แต่ตอนนัน้ ที่นางเห็นแม้จะมีท่าทางเศร้าโศกอยู่บา้ ง แต่ไม่คล้ายกับตอนนี…
้ ราวกับคน
หมดอาลัยตายอยาก…
นางลอบขมวดคิว้ มุ่น
นายหญิงเสิ่นก็เกิดความงุนงงเช่นกัน แต่ท่ีนางงุนงงนัน้ มิใช่ว่าเหตุใดนายหญิงใหญ่
เปลี่ยนไปมากในเวลากระทันหันเช่นนี ้ อย่างไรนางก็เป็ นถึงภรรยาของขุนนางขัน้ สาม นายหญิง
ผูน้ าํ สกุลในอนาคตกลับเปลี่ยนมาเป็ นหญิงม่ายผูต้ อ้ งรักษาความบริสทุ ธิ์เอาไว้ ไม่ว่าใครก็ตอ้ ง
มีช่วงที่ทาํ ใจยอมรับไม่ได้ทงั้ นัน้ แต่สิ่งที่นางสงสัยก็คือสายตาที่ท่านแม่เฒ่าใช้มองนางต่างหาก
การปรากฏตัวของนายหญิงใหญ่เกี่ยวอะไรกับนางด้วย?
นางกับสกุลเสิ่นไม่ได้สนิทสนมกัน งานเลีย้ งระหว่างเครือญาติก็ไม่จาํ เป็ นให้นางต้อง
ออกหน้า นายหญิงใหญ่กบั สกุลเสิ่นมีความเกี่ยวดองทางการแต่งงานหรือไม่นางไม่รู ้ แต่นาย
หญิ งใหญ่ไม่มีความเกี่ยวดองกับสกุลฝั่ งมารดาของนางแน่ หรือว่าที่นายหญิ งใหญ่มีสภาพ
อย่างทุกวันนี ้ มีสว่ นเกี่ยวข้องกับนางรึ?
1278

ความคิดเหล่านีแ้ วบผ่านสมองของนางไปอย่างรวดเร็ว นางยังคงเอ่ยทักทายนายหญิง


ใหญ่ดว้ ยมารยาทและท่าทีเกรงอกเกรงใจ
การตอบคําถามของนายหญิงใหญ่ทงั้ ถูกต้องตามจารีตและไม่ทาํ ให้ผคู้ นรูส้ กึ ห่างเหิน
หรือสนิทสนมเกินไปนัก สามารถรักษาระยะได้พอดิบพอดี
นายหญิงเสิ่นแอบชื่นชมในใจ ทัง้ ยังลอบสังเกตนายหญิงใหญ่มากขึน้ กว่าเดิม
และเมื่อสังเกตดู นางก็พบว่าชุดเรียบง่ายที่นายหญิงใหญ่สวมอยู่ เมื่อพิจารณาอย่าง
ละเอียดแล้วออกจะดูอตั คัดเกินไปหน่อย
รองเท้าถูกซักจนสีเริ่มซีด เสือ้ คลุมด้านนอกเป็ นผ้าไหมหังโจวสีขาว แต่เสือ้ ด้านในเป็ น
เพียงผ้าเนือ้ ละเอียดเท่านัน้
หัวใจของนายหญิงเสิ่นหนักอึง้
นางรู ว้ ่าตัวเองมีนิสยั ตรงไปตรงมา วาจาสัตย์จริงที่กล่าวออกไปบางครัง้ ก็ทาํ ให้หลาย
คนไม่สบายใจ แต่นางกลับคิดว่า นี่คือลักษณะซึง่ ผูเ้ ป็ นคนควรจะกระทํา
หรือว่าหลังจากที่นายท่านใหญ่ตายไป สกุลเผยก็รงั แกนายหญิงใหญ่ นายแม่เฒ่ากลัว
นางจะดูออกแล้วเอาไปโพนทะนาอย่างนัน้ รึ?
นี่ก็ใช่วา่ จะเป็ นไปไม่ได้เสียทีเดียว
โดยเฉพาะเมื่อท้ายที่สดุ แล้วตําแหน่งผูน้ าํ สกุลได้ขา้ มหน้าข้ามตาหลานชายคนโตและ
บุตรชายคนรอง ไปตกอยูท่ ่ีนายท่านสาม
ต้องรู ด้ ว้ ยว่า นายท่านสามสกุลเผยผูน้ ีเ้ ป็ นสุดรักสุดดวงใจของท่านผูเ้ ฒ่าและท่านแม่
เฒ่าเลยทีเดียว
นึกถึงตอนแรก เขาเผาเรือนหลังใหม่ของนายท่านสกุลซ่ง ท่านแม่เฒ่ากลับไม่อาจตัด
ใจให้บตุ รชายคนเล็กต้องเอ่ยวาจาขอโทษสักคําด้วยซํา้
1279

เรือ่ งนีถ้ กู เล่าลือไปทั่วทัง้ ในวงศาคณาญาติและชาวเมืองทั่วไป


นายหญิงเสิ่นก้มหน้าจิบนํา้ ชาต่อ
ส่วนทางกูซ้ ี นางรู ส้ ึกสนใจนายหญิงใหญ่ผนู้ ีเ้ ป็ นพิเศษ นางไม่เพียงทักทายนายหญิง
ใหญ่อย่างกระตือรือร้น ทัง้ เอ่ยถามเรื่องจิปาถะประจําวันกับนายหญิงใหญ่อีกด้วย อีกอย่าง
คําถามพวกนีก้ ็มิใช่คาํ ถามที่ใช้พบปะเข้าสังคมทั่วๆ ไป เพราะบทสนทนาของนางเริ่มจากการ
คัดหนังสือสวดมนต์ไปจนถึงการเขียนอักษรอย่างรวดเร็ว นางบอกว่าตอนแรกตนตัง้ ใจจะเลียบ
แบบลายมือของเหยียนเจินชิง ทว่าสุดท้ายกลับกลายเป็ นเลียนแบบลายมือของเว่ยฮูหยินเสียอ
ย่างนัน้ ทําให้ดวงตาของนายหญิงใหญ่เป็ นประกายวับ พูดจาเริม่ มีชีวิตชีวาขึน้ บ้าง
อวีถ้ งั เดาว่าลายมือของนายหญิงใหญ่จะต้องงดงามมากเป็ นแน่
ในใจนางพลันเกิดความเศร้าสร้อยขึน้ กระทันหัน
ดูท่าแล้วกูซ้ ีคงมาที่น่ีเพราะมีสกุลเผยเป็ นเป้าหมายจริงๆ ไม่เช่นนัน้ นางคงไม่รูเ้ รื่องคน
ในสกุลเผยมากขนาดนี ้
บรรยากาศเริ่มกลับมาอบอุ่นอีกครัง้ เพราะกูซ้ ี ทั้งนายหญิ งรองก็ค่อยๆ เข้าร่วมบท
สนทนาระหว่างกูซ้ ีและนายหญิงใหญ่ดว้ ย สายตาที่นายหญิงเสิ่นใช้มองนายหญิงใหญ่จึงไม่
เหมือนเดิมอีกต่อไป นางถึงขนาดเอ่ยชื่นชมทัง้ ทางตรงทางนัย ว่านายหญิงใหญ่สกุลหยางเป็ น
หญิงมากความสามารถอย่างแท้จริง
นายหญิงใหญ่ถ่อมตัวว่า “มิได้ แค่เพราะสกุลข้าชอบเขียนหนังสือเท่านัน้ พวกข้าที่เป็ น
รุน่ หลานจึงพลอยได้อานิสงส์ไปด้วย”
นายหญิงเสิ่นนึกได้ว่าบิดาของนายหญิงใหญ่เป็ นถึงผูท้ าํ พิธีบวงสรวงของสํานักกั๋วจื่อ
เจีย้ น 1 ทัง้ นึกถึงตอนที่เสิ่นซ่านเหยียนปฏิเสธการไปสอนหนังสือที่ก๋ วั จื่อเจีย้ นแล้วเลือกมาหมก
241

1
สํานักกั๋วจื่อเจีย้ น เป็ นสํานักที่ช่วยสนับสนุนการสอบไล่ของขุนนางในราชสํานัก มีภารกิจหลักสําคัญคือจัดการเรียนการ
สอนเพื่อผลิตสุดยอดบัณฑิตของแผ่นดิน ควบคุมดูแลความประพฤติของบัณฑิตให้มีคณ ุ ธรรม อยู่ในกรอบศีลธรรมจรรยา
1280

ตัวอยู่ท่ีเมืองหลินอันแทน ในใจพลันไม่สบอารมณ์อย่างมาก จึงระบายความอัดอัน้ ออกไปอย่าง


ไม่คิดปิ ดบัง
นายหญิงใหญ่รบี สะกัดบทสนทนาเอาไว้ทนั ที แล้วเบี่ยงประเด็นไปถามถึงการเล่าเรียน
ของคุณหนูทงั้ หลาย และถามว่าอวีถ้ งั นัน้ เป็ นใคร
คุณหนูสกุลเผยค่อยๆ ตอบคําถามของนายหญิงใหญ่ทีละคน ทัง้ คุณหนูส่ียงั มีนา้ํ ใจ
แนะนําว่าอวีถ้ งั เป็ นใครอีกด้วย
อวีถ้ งั จึงลุกขึน้ ยืนแล้วย่อกายคารวะนายหญิงใหญ่อีกรอบหนึ่ง
นายหญิงใหญ่ลว้ งมือไปใต้แขนเสือ้ แล้วเอ่ยอย่างละอายว่า “ไม่คิดว่าที่เรือนจะมีแขก
มากเพียงนี ้ จึงไม่ได้พกสิ่งของติดตัวมา ครัง้ หน้าจะชดเชยให้พวกเจ้าแน่ๆ”
อวีถ้ งั กล่าวขอบคุณอย่างนอบน้อม
นายหญิงใหญ่พลันรือ้ ฟื ้ นเรื่องคณาญาติกับกูซ้ ี “ในเมื่อเจ้าเป็ นคนสกุลกูแ้ ห่งหังโจว
เช่นนัน้ รูจ้ กั ท่านป้าที่มีช่ือก่อนแต่งงานว่า ‘หลิวเฉิน’ หรือไม่ นางแต่งเข้าสกุลข้ามา ข้าต้องเรียก
นางว่า ‘ป้าสะใภ้’ น่ะ”
กูซ้ ีฉีกยิม้ ตอบว่า “ใช่ท่านป้าจากบ้านสี่สกุลข้าหรือไม่เจ้าคะ? นางออกเรือนไปก่อนที่
ข้าจะเกิด ทว่าจนถึงตอนนีก้ ็ยงั มีคนพูดอยู่เลย ว่านางเป็ นหญิงที่งามที่สดุ ในสกุลกูข้ องเรา น่า
เสียดายที่ขา้ ไร้วาสนาได้พบ ไม่รูว้ า่ เป็ นเรื่องจริงหรือไม่?”
นายหญิงใหญ่เม้มปากหัวเราะ ดวงหน้าพลันสว่างไสว น่าพิศน่าใคร่เป็ นที่สดุ
อวีถ้ งั เข้าใจในทันทีว่าเหตุใดนายท่านใหญ่กบั นายหญิงใหญ่จึงครองรักกันอย่างแนบ
แน่น
หากใครมีภรรยาเช่นนีส้ กั คน ต่างก็ตอ้ งทะนุถนอมเป็ นอย่างดีกระมัง?
สองคนพลันหันไปสนทนาเรื่องท่านป้าผูน้ นั้ ยิ่งคุยก็ย่งิ สนิทชิดเชือ้
1281

นายหญิงเสิ่นมุ่นคิว้ แน่น
นางรูส้ กึ ว่านายหญิงใหญ่จงใจเปลี่ยนหัวเรื่องสนทนาเพราะนาง เดิมนางคิดจะอธิบาย
สักหน่อย แต่เสียงคุยเล่นของเหล่าคุณหนูดงั จ้อกแจ้กจอแจ ไม่มีช่องให้นางแทรกได้เลย แม้ยงั
อยากจะแก้ตา่ ง แต่ก็ไม่อาจหาโอกาสที่เหมาะสมได้
นางเอาแต่หมกมุ่นว่าจะหาจังหวะพูดกับนายหญิ งใหญ่ได้อย่างไร ด้วยกลัวว่านาย
หญิงใหญ่จะเข้าใจผิดคิดว่าตนชักสีหน้าใส่นาง เช่นนัน้ ตนเองมิกลายเป็ นคนข่มเหงรังแกนาย
หญิงใหญ่ผเู้ ป็ นม่ายแล้วรึ!
อวีถ้ งั กําลังลอบสังเกตท่านแม่เฒ่ากับนายหญิงรองอย่างเงียบเงียบ
น่ า เสีย ดายที่ท่านแม่เฒ่ากับนายหญิ งรองเป็ นผู้ผ่า นร้อนหนาวมาโชกโชน หากไม่
ต้องการให้ผอู้ ่ืนมองออกย่อมไม่มีทางแสดงออกให้เห็น คนหนึ่งนั่งดื่มชาดวงหน้าไร้ซ่งึ อารมณ์
รักเกลียด คนหนึ่งมองนายหญิงใหญ่กับกูซ้ ีสนทนากันด้วยรอยยิม้ วางท่าราวกับล้างหูรอฟั ง
อย่างตัง้ อกตัง้ ใจ
นายหญิงใหญ่ผนู้ นั้ มาทําอะไรกันแน่นะ?
เพียงต้องการมาคารวะท่านแม่เฒ่าจริงๆ รึ?
แล้วเหตุใดนางจึงมาอยู่ท่ีคฤหาสน์นอกเมืองได้เล่า?
อวีถ้ งั คิดว่าสมองของนางไม่เพียงพอต่อการใช้งาน เช่นนัน้ ก็คงได้แต่ทาํ ตัวให้เรียบร้อย
ไว้ อย่าได้คิดอะไรเกินกําลังอีก ไม่เช่นนัน้ กระทั่งตนเองตายอย่างไรก็คงยังไม่รูเ้ ลย
นางได้แต่ถอนหายใจในอก
บรรยากาศในห้องนับว่าไม่เลวนัก แต่ก็ไม่ได้สนุกสนานอย่างแท้จริงเหมือนก่อนหน้า
อย่างไรก็ทาํ ให้คนรูส้ กึ เหนื่อยหน่ายอยู่ดี
1282

ยังดีท่ีนายหญิงใหญ่ไม่น่ งั อยู่นาน บอกว่าเพื่อความสงบของตน ตัง้ แต่เข้าฤดูใบไม้รว่ ง


นางก็พกั อยู่แต่บนเขา ซึ่งก็คือเรือนชิวซ่วงที่อยู่ถดั ออกไปทางทิศตะวันตก ทัง้ บอกให้พวกนาง
โดยเฉพาะนายหญิงเสิ่นกับกูซ้ ี หากมีเวลาว่างก็สามารถไปนั่งเล่นได้ นางอยู่คนเดียวมักจะคัด
หนังสือสวดมนต์ไปเรื่อยๆ ค่อนข้างจะผ่อนคลายมีอิสระ จากนัน้ ก็ลกุ ยืนขึน้ เพื่อบอกลา
นายหญิงเสิ่นกับกูซ้ ีก็ตอบรับด้วยรอยยิม้
นายหญิงใหญ่คล้ายเพิ่งนึกออกว่ามีอวีถ้ งั อยู่ตรงนีอ้ ีกคน จึงหมุนตัวมากําชับกับอวีถ้ งั
เป็ นพิเศษอีกครัง้ “ตอนที่หิมะตก ทิวทัศน์ทางนัน้ งดงามไม่แพ้ใคร ถึงเวลานัน้ เจ้ากับพวกน้องๆ
จะมาเที่ยวเล่นก็ย่อมได้”
อวีถ้ งั ก็รบั คําอย่างยิม้ ๆ เช่นกัน
นอกจากท่านแม่เฒ่า ทุกคนต่างลุกขึน้ แล้วเดินไปส่งนายหญิงใหญ่ท่ีประตู
นายหญิงใหญ่ไปถึงหน้าประตูก็บอกไม่ให้ทกุ คนออกมาส่ง “ด้านนอกหนาว มีเฉินต้า
เหนียงคนเดียวก็พอแล้ว”
นายหญิงรองช่วยนายหญิงใหญ่ไล่คนอื่นๆ ที่เหลือกลับไปเช่นกัน แต่วา่ ตนเองกลับเดิน
ไปส่งนายหญิงใหญ่ถึงหน้าประตูเรือนท่านแม่เฒ่า แล้วค่อยเดินกลับมา
เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนีเ้ ข้าแทรก บรรยากาศย่อมไม่อาจย้อนกลับไปเหมือนตอนแรก
ได้อีก ทุกคนต่างนั่งกันอีกครูห่ นึ่ง ก่อนจะทยอยลุกขอตัวไป
ท่านแม่เฒ่าพยักหน้าอนุญาต ไม่ได้รงั้ พวกนางไว้ ให้ทกุ คนแยกย้ายกลับห้องตน
ซวงเถาเดินตามอวีถ้ งั เข้ามาในห้อง จากนัน้ ก็กางแผงกัน้ ออกทันที
อวีถ้ งั คิดว่านางจะผลัดเปลี่ยนเสือ้ ผ้าให้ตน ใครจะคิดว่านางกลับฉีกยิม้ กว้างแล้วล้วง
ห่อกระดาษนํา้ มันออกมาจากในอก ก่อนจะเปิ ดออกแล้วยื่นมาตรงหน้าอวีถ้ งั “คุณหนู ท่านจะ
กินสักหน่อยไหมเจ้าคะ?”
1283

กลิ่นมันม่วงเผาหอมกรุน่ ไปทั่วทัง้ ห้อง ทําให้อวีถ้ งั ต้องกลืนนํา้ ลายดังอึก “เจ้าไปเอามา


จากไหนน่ะ?”
เพราะว่าอวีถ้ งั พาสาวใช้อย่างซวงเถาขึน้ เขามาคนเดียว ท่านแม่เฒ่าจึงยกสาวใช้ท่ีช่ือ
ว่าหลิ่วซวี่มาคอยดูแลอาหารที่พกั ให้ อวีถ้ งั กลัวว่าซวงเถาจะเสียกิรยิ า จึงให้ซวงเถาติดตามและ
คอยเรียนรู จ้ ากหลิ่วซวี่ ตอนที่กินอาหารเย็นและดื่มชา ข้างกายนางมีเพียงหลิ่วซวี่คอยรับใช้
ซวงเถานัน้ ให้รออยู่ท่ีหอ้ งนํา้ ชาด้านนอกพร้อมกับสาวรับใช้ขนั้ สองของเหล่าคุณหนูสกุลเผย
เพื่อถือโอกาสทําความรูจ้ กั ผูอ้ ่นื เอาไว้
ซวงเถารู ว้ ่าอวีถ้ งั ชอบกินมันม่วงเผากับเกาลัดคั่วในหน้าหนาว จึงหัวเราะพลางเอ่ยว่า
“สาวใช้ขา้ งกายคุณหนูรองเป็ นคนเผาเจ้าค่ะ พวกเราแบ่งกันคนละหัว” จากนัน้ ก็เล่าต่อว่า “ข้า
รู ส้ ึกว่าเหล่าคุณหนูสกุลเผยไม่เสียแรงที่เกิดในสกุลใหญ่จริงๆ ไม่เพียงปฏิบตั ิตวั กับผูอ้ ่ืนอย่าง
เป็ นมิตร กระทั่งสาวใช้และหญิงรับใช้ขา้ งกายก็ดูแลได้ไม่เลว สาวใช้ของคุณหนูสามสอนข้า
เกี่ยวกับกฎระเบียบมากมายของสกุลเผย ซํา้ บอกว่าหากไม่เข้าใจก็ให้ไปถามนางได้เลย”
เช่นนีก้ ็ดีสิ!
อวีถ้ งั ผงกศีรษะพร้อมรอยยิม้ แล้วชีไ้ ปที่มนั ม่วงในมือนาง “มิใช่บอกว่าหนึ่งคนหนึ่งหัว
หรือ? เจ้าเก็บไว้กินเองเถอะ ตอนอยู่กบั ท่านแม่เฒ่า ยังจะขาดแคลนของให้ขา้ กินหรืออย่างไร?
ต่อไปหากว่าเจอเรื่องแบบนีอ้ ีก เจ้าห่วงแค่ดแู ลตนเองก็พอแล้ว”
ซวงเถารับคําอย่างดีใจ แต่ก็ยงั เก็บมันม่วงอีกครึ่งไว้ให้อวีถ้ งั บอกว่าเผื่ออวีถ้ งั เกิดหิว
ขึน้ มาก็คอ่ ยกิน
อวีถ้ งั ไม่ได้พดู อะไร แต่ในใจกลับซาบซึง้ มาก
นางรู ว้ ่าซวงเถาคงกังวล เพราะตนเพิ่งจะเข้ามาอยู่ในเรือน เมื่ออยู่เบือ้ งหน้าท่านแม่
เฒ่าอาจไม่คอ่ ยได้กินอะไร จึงตัง้ ใจแบ่งเอาไว้ให้
1284

เช้าตรูว่ นั ถัดมา ตอนที่พวกนางตื่นนอนก็เห็นร่องรอยเปี ยกนํา้ บนผมของสาวรับใช้ท่ียก


นํา้ ร้อนเข้ามาให้ ถึงได้รูว้ า่ ที่แท้กลางดึกมีหิมะตกลงมาระลอกใหญ่
นี่เป็ นหิมะแรกของปี แห่งเมืองหลินอัน
อวีถ้ งั กับซวงเถารีบผลักหน้าต่างให้เปิ ดออกด้วยความตื่นเต้น
ด้านนอกเป็ นสีขาวโพลน เกล็ดหิมะแผ่นใหญ่กาํ ลังโปรยตัวลงมาราวกับปุยนุ่น บน
ใบไม้ถกู หิมะเกาะทับจนมิด บางครัง้ กิ่งไม้บางกิ่งก็รบั นํา้ หนักของหิมะไว้ไม่ไหว ทําให้หิมะที่ทบั
ถมอยู่บนใบไม้ไถลร่วงลงพืน้ เสียงดัง ‘ตุบ’
อวีถ้ งั กับซวงเถาไม่คิดว่าหิมะจะตกหนักถึงเพียงนี ้
ซวงเถาเอ่ยด้วยเสียงหัวเราะว่า “สามารถปั้ นตุ๊กตาหิมะได้เลยเจ้าค่ะ!”
ยังไม่ทันสิน้ เสียง ลมหนาวละรอกหนึ่งก็พัดผ่านมา ทําเอาคนทัง้ สองสั่นสะท้าน แต่
เพราะพวกนางต่างเก็บตัวอยู่ในห้องที่ดงึ ความร้อนจากพืน้ ไฟตัง้ แต่เมื่อคืน บนร่างยังพอมีไออุน่
จึงไม่ได้รูส้ กึ ถึงความหนาวยะเยือก ทว่าพวกนางก็ยงั รีบงับหน้าต่างปิ ดทันที
ซวงเถาถามอวีถ้ งั ว่า “วันนีท้ ่านอยากปั้นตุ๊กตาหิมะหรือไม่เจ้าคะ?”
หากว่าอยู่เรือนสกุลอวี ้ ได้เจอหิมะห่าใหญ่เช่นนี ้ ย่อมออกไปปั้นตุ๊กตาหิมะแล้ว
อวีถ้ งั ลังเลอยู่พกั ใหญ่ เอ่ยว่า “รอดูสถานการณ์แล้วค่อยว่ากันเถอะ!”
หากว่าคนในสกุลเผยไม่มีธรรมเนียมเช่นนี ้ นางก็ไม่ปั้นจะดีกว่า
ความจริงชาติก่อนตัง้ แต่ตอนที่นางแต่งเข้าสกุลหลี่ นางก็ไม่เคยได้ปั้นตุ๊กตาหิมะอีก
เลย
1285

บทที่ 161 ตุ๊กตาหิมะ


ซวงเถาไม่ได้คิดมากขนาดนัน้
อย่างไรก็มาเป็ นแขกในจวนผูอ้ ่นื รูส้ กึ เป็ นอิสระกว่าอยู่เรือนสกุลตนเป็ นไหนๆ
อวีถ้ ังล้างหน้าหวีผมเรียบร้อยแล้ว หญิงรับใช้สกุลเผยนําอาหารเช้ามาส่งให้ ทัง้ ถาม
ความจากอวีถ้ งั ว่า “หิมะในลานจะให้เก็บกวาดไหมเจ้าคะ?”
คฤหาสน์นอกเมืองสกุลเผยหลังนีม้ ิใช่สถาปั ตยกรรมที่นิยมทั่วไปในแถบเจียงหนาน แต่
คล้ายกับสถาปั ตยกรรมทางเหนือเสียมากกว่า เพราะมีระเบียงทางเดินเชื่อมโยงกัน ด้วยเหตุนี ้
แม้จะไม่กวาดหิมะแต่ก็ไม่เป็ นอุปสรรคต่อการเดินเหินของผูอ้ ่นื
“ปกติหิมะในลานเรือนพวกเจ้ากวาดหรือไม่?” อวีถ้ งั ย้อนถามหญิงรับใช้ผนู้ นั้ แทน
หญิ งรับใช้อายุประมาณสี่สิบกว่าปี แล้ว มือไม้คล่องแคล่วว่องไว ได้ยินดังนั้นก็ ยิม้
ออกมาอย่างใจดี “ปกติถา้ ไม่มีคนอยู่ก็ตอ้ งกวาดเจ้าค่ะ”
“เช่นนัน้ ก็กวาดเถิด!” อวีถ้ งั ไม่ตอ้ งการให้แตกต่างจากที่เคยเป็ น
ซวงเถาอดจะเสียดายไม่ได้ “หิมะออกจะสวยปานนัน้ !”
อวีถ้ งั ตวัดสายตามองซวงเถาทีหนึ่ง
ซวงเถาก็รบี หุบปากฉับทันที
สีหน้าของหญิงรับใช้ทอประกายฉงนวูบหนึ่ง พอประสานสายตากับอวีถ้ งั ก็รบั คําอย่าง
นอบน้อมแล้วล่าถอยไป
นางกับซวงเถากินอาหารเช้าเสร็จแล้ว กําลังสวมผ้าคลุมเตรียมออกไปคารวะท่านแม่
เฒ่า คุณหนูส่กี บั คุณหนูหา้ ก็ว่งิ จูงมือกันเข้ามาเสียก่อน
1286

“พี่อวีๆ้ !” เด็กสาวทัง้ สองตะโกนเรียกอวีถ้ งั ด้วยรอยยิม้ พอเงยหน้าก็เห็นว่าบ่าวรับใช้


หลายคนกําลังกวาดหิมะในลานเรือนอยู่ พลันตีหน้าเศร้าสร้อย “พี่อวี ้ พวกเรามาชวนท่านไป
คารวะท่านแม่เฒ่าด้วยกัน คิดว่าพอกลับจากเรือนท่านแม่เฒ่าจะมาปั้ นตุ๊กตาหิมะเล่นที่ลาน
เรือนท่าน เหตุใดท่านถึงให้คนมากวาดทิง้ เสียแล้ว”
อวีถ้ งั รีบไปรับคุณหนูนอ้ ยสองคนเข้ามาพร้อมเสียงหัวเราะ
คุณหนูทงั้ สองหยุดยืนที่หน้าประตูไม่ยอมผ่านเข้ามา คุณหนูส่เี อ่ยเร่งว่า “พวกเราไม่ถือ
มารยาทไร้สาระพวกนีห้ รอก พี่อวีร้ ีบเก็บของเร็วเข้า ท่านแม่เฒ่าทางนัน้ คงกินอาหารเช้าเสร็จ
พอดี”
อวีถ้ ังไม่ได้เกรงใจพวกนางเช่นกัน พอสวมผ้าคลุมทับ ก็พาซวงเถาออกไปพร้อมกับ
พวกนาง
คุณหนูหา้ ยังถอนหายใจอดเสียดายหิมะที่ลานเรือนไม่เลิก
ซวงเถาจึงหันไปกระซิบถามอาซันสาวใช้ของคุณหนูหา้ ว่า “ลานเรือนเจ้าไม่มีหิมะรึ?”
อาซันเหลือบมองคุณหนูหา้ ที่ถูกอวีถ้ ังเปลี่ยนบทสนทนาให้ไกลจากเรื่องหิมะ แล้ว
ตอบซวงเถาเสียงเบาว่า “คุณหนูหา้ เลือดลมพร่อง ไม่อาจเล่นหิมะได้ แต่นางกลับชื่นชอบหิมะ
เป็ นชีวิตจิตใจ นายหญิงรองกําชับไม่รูต้ งั้ กี่รอบแล้ว ยังดีท่ีหิมะในลานเรือนเจ้าถูกกวาดไปจน
เกลีย้ ง”
หัวใจของซวงเถาพลันเย็นเยียบ
นางมองไปทางคุณหนูส่ีท่ีสง่ เสียงร่าเริงอยู่ ข่มใจแล้วข่มใจอีก ทว่าสุดท้ายก็อดกลัน้ ไม่
ไหว กระซิบถามอาซันอีกว่า “แล้วคุณหนูส่ที างนัน้ …”
“หญิงรับใช้ท่ีดูแลคุณหนูส่ีหา้ มไว้ ไม่กล้าให้คุณหนูหา้ ไปเล่นหิมะที่เรือนนาง” อาซัน
เล่าไป สายตาก็มองไปยังสาวใช้ขา้ งกายคุณหนูส่นี ามว่าป๋ ายหลันซึง่ เดินนําหน้าพวกนางอยู่
ซวงเถาที่รา่ งกายอบอุน่ อยู่แต่เดิมอดจะสะท้านสั่นไปทัง้ ตัวไม่ได้
1287

มิน่าคุณหนูถึงไม่ยอมให้นางติดตามรับใช้ อาศัยสายตาอย่างนาง ไม่แน่อาจก่อเรื่อง


วุน่ วายมาให้คณุ หนูเมื่อไรก็เป็ นได้
ทว่า คุณหนูเปลี่ยนเป็ นคนเฉียบแหลมขนาดนีต้ งั้ แต่เมื่อไรกัน…
ซวงเถาเดินตามพวกอวีถ้ งั ไปอย่างมึนงงกระทั่งถึงโถงหลักของเรือนท่านแม่เฒ่า
คุณ หนูร องกับ คุณ หนูส ามมาถึ ง ก่ อ นแล้ว สองคนสวมผ้า คลุม สี ฟ้ า เรีย บบุด ้ว ยขน
พังพอนสีเทายืนอยู่ใต้ชายคามองสาวใช้หลายคนกําลังปั้นตุ๊กตาหิมะอยู่
คุณหนูหา้ กับคุณหนูส่สี ง่ เสียงร้องดีใจ พวกนางทิง้ อวีถ้ งั ไว้แล้วพากันวิ่งเข้าหาทันที
จีต้ า้ เหนียงที่ยืนเฝ้าตุ๊กตาหิมะอยู่ขา้ งๆ ร้องสั่งว่า “คุณหนูทงั้ สองระวังฝี เท้าด้วยเจ้าค่ะ
ท่านแม่เฒ่าได้ส่ งั เอาไว้ หากเพียงมองอยู่ขา้ งๆ อีกเดี๋ยวจะให้หญิงรับใช้พาคุณหนูไปดูละคร
ร้องบนหิมะ หากว่าเข้าไปเล่นจนตัวเปรอะหิมะ หลายวันต่อจากนีก้ ็จะถูกกักตัวให้คดั อักษรอยู่
ในเรือนเจ้าค่ะ”
คุณหนูหา้ หัวเราะสดใสเหมือนทานตะวันดอกหนึ่ง นางพยักหน้ารัวเร็ว เอ่ยเป็ นมั่นเป็ น
เหมาะว่า “ข้าจะดูอย่างเดียว!”
จากนัน้ ก็ลากคุณหนูส่ไี ปเดินวนรอบๆ ตุ๊กตาหิมะที่ยงั ปั้นไม่เสร็จ
คุณหนูรองกับคุณหนูสามต่างก็พยายามซ่อนยิม้ ที่มมุ ปาก
พวกจีต้ า้ เหนียงพอห้ามปรามคุณหนูหา้ ได้แล้วก็ถอนหายใจโล่งอก
มี เ พี ย งอวี ้ถั ง ที่ ล อบทอดถอนใจ ท่ า นแม่ เ ฒ่ า ช่ า งรัก ใคร่ ท ะนุ ถ นอมหลานๆ เสี ย
เหลือเกิน!
ทุกคนยืนเป็ นเพื่อนคุณหนูหา้ อยู่แถวลานเรือนพักหนึ่ง จากนัน้ ก็เข้าไปคารวะท่านแม่
เฒ่าที่ดา้ นใน
ไม่นาน กูซ้ ีกบั นายหญิงเสิ่น นายหญิงรองก็ตามเข้ามา
1288

ทุกคนตัดสินใจว่าจะออกไปดูเหล่าสาวใช้และหญิงรับใช้ปั้นตุ๊กตาหิมะที่ลานด้านนอก
ท่านแม่เฒ่ากับนายหญิงรองยืนอยูค่ รูเ่ ดียวก็รูส้ กึ ว่าหนาว คนจึงกลับเข้าห้องไปก่อน
นายหญิงเสิ่นถือโอกาสนีบ้ อกลา แล้วกลับไปยังเรือนพักของตน
กูซ้ ีกลับรัง้ ตัวอยู่ตอ่ เพื่อเล่นหิมะกับคุณหนูคนอื่นของสกุลเผย
เสียงสรวลเสเฮฮาดังก้องไปทั่วลาน คึกคักเป็ นที่สดุ
ท่านแม่เฒ่ามีนายหญิงรองประคองเอาไว้ ยืนดูอยู่ดา้ นหลังหน้าต่างที่แง้มเอาไว้เพียง
ครึ่งเดียว เห็นว่ากูซ้ ีพาคุณหนูทงั้ หลายเล่นหิมะอย่างสนุกสนาน นางใช้หวั แคร์รอตมาทําเป็ น
จมูก หักกิ่งไม้มาทําเป็ นแขน ส่วนอวีถ้ งั กลับยืนอยู่ตรงนัน้ คอยดูแลคุณหนูหา้ ที่ว่งิ ผ่านไปผ่านมา
เป็ นครัง้ คราว หรือไม่ก็หนั ไปยิม้ พลางพูดคุยกับคุณหนูสามที่ไม่ค่อยชอบพูดซึ่งยืนอยู่ขา้ งๆ กัน
นางถามนายหญิงรองว่า “หลังจากคุณหนูอวีก้ ลับห้องไป ได้ตามสืบเรื่องสกุลกูอ้ ีกหรือไม่?”
“ไม่มีเจ้าค่ะ!” นายหญิงรองตอบยิม้ ๆ “คุณหนูผนู้ ีน้ บั ว่ารูจ้ กั รุกถอย ไม่สมควรถามก็ไม่
ปริปากถามซักคํา”
ท่านแม่เฒ่าพยักหน้า เอ่ยอย่างไม่อนาทรว่า “ชีวิตคนผูห้ นึ่งนัน้ สิ่งที่ยากที่สดุ ก็คือการรู ้
ว่าเมื่อใดควรจะทําสิ่งใด”
นายหญิงรองเอ่ยเสริมด้วยรอยยิม้ จริงใจว่า “ท่านกล่าวได้ถกู แล้ว”
สายตาของท่านแม่เฒ่าตกอยู่บนร่างของอวีถ้ งั อีกครัง้ “นี่จึงเป็ นกิรยิ าที่ผเู้ ป็ นพี่สาวควร
จะมี”
นางหญิงรองรับคําว่า “เจ้าค่ะ” พร้อมรอยยิม้ นางละล้าละลังครู ่หนึ่ง ก่อนจะกระซิบ
ถามว่า “ท่านแม่ เกิดเรื่องอะไรกับสกุลกูห้ รือเจ้าคะ?”
ท่านแม่เฒ่าร้อง “เหอะ” ออกมา แล้วตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า “เรือนนอกจวนใน ยังจะมี
เรื่องอะไรได้? ที่เห็นได้บอ่ ยๆ ก็คงมีอยู่ไม่ก่ีเรื่อง”
1289

นายหญิงรองตื่นตระหนก สายตาจับจ้องไปที่รา่ งของกูซ้ ี “เช่นนัน้ คุณหนูก…


ู้ ”
“มองให้ขาดแต่อย่าพูดให้ชัด!” ท่านแม่เฒ่าหัวเราะ “ก็แค่ขอ้ อ้างเท่านัน้ ในเมื่อนาง
ต้องการมาเป็ นแขกจวนข้า เช่นนัน้ พวกเราก็ตอ้ งต้อนรับให้ดี ไม่มีเหตุผลใดจะให้ผอู้ ่ืนมาตําหนิ
พวกเราว่ารังแกเด็กรุน่ หลาน”
นายหญิงรองเม้มปากยิม้
ท่านแม่เฒ่าเลิกสนใจสถานการณ์ท่ีลานด้านนอก แล้วให้นายหญิงรองประคองตัวเดิน
กลับ เข้า ห้อ งด้า นใน ทางหนึ่ ง ก็ เ อ่ ย ว่ า “สะใภ้ใ หญ่ ท างนั้น ล่ ะ ? นายหญิ ง เสิ่ น เมื่ อ คื น ได้
เคลื่อนไหวหรือไม่?”
นายหญิงรองเผยสีหน้าลําบากใจออกมา
ท่านแม่เฒ่าร้องเหอะทีหนึ่งแล้วเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ข้าว่าเจ้าสูค้ ณ ุ หนูอวีไ้ ม่ได้
ด้วยซํา้ ! นางมีอะไรก็ถามออกไปตรงๆ เจ้าก็ดีแต่อา้ํ อึง้ บอกให้พดู เจ้าก็ไม่กล้าพูด ราชสํานักใช้
คนยัง ‘ยกย่องเท่าเทียมไม่สนว่าเป็ นศัตรูหรือญาติ’ หรือเจ้าคิดว่าเรื่องแค่นีข้ า้ ก็แยกแยะมิได้ร?ึ ”
นายหญิงรองหน้าแดงลามไปถึงหู นางเอ่ยขออภัยพลางเล่าว่า “เมื่อคืนนายหญิงเสิ่น
ให้หญิงรับใช้ขา้ งกายนําของกินไปให้พ่ีสะใภ้เจ้าค่ะ พี่สะใภ้รบั เอาไว้ ทัง้ ให้หอ้ งครัวเล็กทางนัน้
ทําขนมมังสวิรตั ิมอบให้เป็ นการตอบแทน วันนีต้ อนเช้าตรูก่ ็สง่ ไปให้นายหญิงเสิ่นแล้ว”
ท่านแม่เฒ่ายิม้ เย็น “ข้าบอกแล้ว นายหญิงเสิ่นชอบก่อเรื่องนัก วันนีเ้ ห็นพวกคุณหนู
เล่นกันสนุกสนานกลับไม่ส่ งั สอนสักคํา เอาแต่จะรีบร้อนกลับเรือน เรื่องนีต้ อ้ งมีแผนต่ออีกแน่
เจ้าให้คนจับตาดูนายหญิ งเสิ่นกับสะใภ้ใหญ่เอาไว้ สะใภ้ใหญ่นางคิดว่าที่ตนเองต้องอยู่ใน
สภาพนีเ้ พราะถูกสกุลเราข่มเหง คิดหาคนที่ไม่เกี่ยวพันส่งจดหมายไปให้พ่ีนอ้ งฝั่ งมารดาของ
นาง เช่นนัน้ ก็ให้นางส่งไปเถอะ ข้าก็อยากจะรูน้ กั พี่นอ้ งฝั่งมารดาของนางจะยินดีช่วยเหลือนาง
ถึงขัน้ ไหน อีกอย่าง นายท่านทัง้ สองคนนัน้ ก็สง่ คนไปดูไว้หน่อย เรื่องด้านนอกสยากวงก็วนุ่ วาย
จนล้นมือแล้ว เรื่องหลังบ้านพวกนี ้ พวกเราช่วยได้ก็ตอ้ งช่วยเขาอีกแรง ให้เขาคลายความกังวล
1290

ได้สกั หน่อยก็ยงั ดี” พูดจบ นางก็ถอนหายใจยาวเหยียด “ไม่รูเ้ มื่อไรจะหาสะใภ้ท่ีเก่งกาจให้เขา


ได้เสียที ภาระบนบ่าข้าจะได้ปลดลงเสีย”
นายหญิงรองหันไปมองนอกหน้าต่างทีหนึ่ง คิดว่าเบือ้ งหน้ามิได้มีคณ ุ หนูกอู้ ยู่คนหนึ่ง
หรือ? แต่นางเข้าใจแม่สามีของนางดี มิใช่เพียงรู จ้ ักดูแลเสือ้ ผ้าอาหารแล้วจะขึน้ มาเป็ นนาย
หญิงของจวนได้ ตอนที่่ท่านผูเ้ ฒ่ายังอยู่ ต่อหน้าท่านแม่เฒ่า นางไม่กล้าจะพูดจาเสียงดังด้วย
ซํา้ นางคาดเดาความคิดของแม่สามีไม่ออก ได้แต่คอยทําตามสิ่งที่ท่านแม่เฒ่าสั่งให้ทาํ ไม่กล้า
คิดจะมีความดีความชอบ ขอเพียงไม่กระทําเรื่องที่ผิดพลาดก็พอแล้ว
นางปลอบใจท่านแม่เฒ่าว่า “เรื่องดีๆ ไม่กลัวว่าจะมาช้า วาสนาของอาสามไม่แน่
อาจจะมาถึงเร็วๆ นีก้ ็ได้เจ้าค่ะ”
ท่านแม่เฒ่าถอนหายใจอย่างอับจน ภายหลังก็เอ่ยถามนายหญิงรองคล้ายเพิ่งนึกขึน้
ได้ “คุณหนูอวีม้ ีนามว่าอะไรรึ?”
“อวีถ้ ังเจ้าค่ะ!” นายหญิงรองตอบ “อักษร ‘ถัง’ ที่มาจากกลอน ‘ช่อดอกกันถังอย่าได้
เด็ดดึง’ อย่างไรล่ะเจ้าคะ”
“เป็ นชื่อที่ดี” พอท่านแม่เฒ่าเอ่ยชมแล้ว ก็พูดถึงเรื่องการจัดงานวันปี ใหม่ต่อ “เหล่า
คณาญาติท่ีไปมาหาสูบ่ ่อยๆ จัดการไม่ยาก ให้อา้ งอิงตามรายการของขวัญที่สง่ ให้เมื่อปี ก่อนก็
ใช้ได้ เรื่องนอกจวนมีผูด้ ูแลของสกุลกังวลใจอยู่แล้ว ไม่ตอ้ งให้พวกเราไปวุ่นวาย ส่วนสกุลซ่ง
ทางนัน้ ก็กลับมามีสานสัมพันธ์กับสกุลเราใหม่ กระทั่งวันฉงหยางยังส่งของขวัญลํา้ ค่ามาให้
กลัวแต่ว่าจะมีเรื่องอะไรอยากขอให้เราช่วยเหลือ เจ้าอย่าลืมเตือนให้ขา้ ถามสยากวงหน่อย ว่า
ของขวัญของสองสกุลจะทําอย่างไรดี ยังมีสกุลอวี ้ ในเมื่อคิดจะผูกสมัครรักใคร่ ตอนงานเลีย้ ง
ช่วงปี ใหม่ก็อย่าลืมเชิญนายหญิงอวีก้ บั คุณหนูอวีม้ าดื่มสุราด้วย…”
เรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ก็ฝากฝั งกําชับไปเกือบสิบเรื่อง เล่นเอานายหญิงรองฟั งจนเริ่มปวด
ศีรษะ
1291

ตอนเด็กๆ นางเคยอ่านสี่ตาํ ราห้าคัมภีรก์ บั บิดา ต่อให้ตอ้ งเขียนบทความด้วย ก็ยงั ไม่


รูส้ กึ เหน็ดเหนื่อยเท่านี ้
ในลานเรือน กูซ้ ีช่วยคุณหนูทงั้ หลายปั้ นตุ๊กตาหิมะน้อยใหญ่ได้หา้ หกตัวก็เริ่มหมดแรง
นางกับคุณหนูรองยืนพิงระเบียงไม้สีแดงที่อยู่ขา้ งๆ เพื่อพักหายใจ ส่วนอวีถ้ ังกับคุณหนูสาม
คุณหนูส่แี ละคุณหนูหา้ ไปเล่นหิมะด้วยกันต่อ
กูซ้ ีถามคุณหนูรองว่า “จะมีแขกมาเยือนที่คฤหาสน์นอกเมืองตอนไหนรึ?”
คุณหนูรองได้ยินก็หน้าแดงกํ่าจนเลือดแทบหยดลงมา นางตอบอย่างเหนียมอายว่า
“ข้าจะไปรูไ้ ด้อย่างไร?”
กูซ้ ีหวั เราะ อารมณ์พลันตกดิ่งลง “เจ้าไม่ตอ้ งเขินหรอก! แต่ก่อนข้าก็คิดเหมือนเจ้า แต่
เจ้ามองดูขา้ ตอนนีส้ ิ…”นางพูดจบ จากนัน้ ก็เงยหน้ามองท้องฟ้าที่ไร้สีราวกับเพิ่งซักสะอาดมา
ใหม่ๆ แล้วหัวเราะเสียงขื่น “บางครัง้ ความเขินอายก็ไม่ช่วยแก้ปัญหา ตอนที่เจ้ายังมีโอกาส
ตัดสินใจก็รบี คว้ามันไว้ จะได้ไม่เสียใจภายหลัง”
คุณหนูรองตะลึงไป หันไปมองคุณหนูหา้ ที่กาํ ลังเล่นสนุกกับพี่ๆ คนอื่น แล้วกระซิบตอบ
เสียงเบาว่า “ข้า ข้าเองก็ไม่รู ้ ใครจะขัดคําสั่งของสกุลได้ละ่ ?”
กูซ้ ีสง่ ยิม้ ให้ จู่ๆ พลันเกิดความกระตือรือร้นบางอย่าง นางชีน้ ิว้ ไปทางโถงหลักของท่าน
แม่เฒ่า “ทางนัน้ มิใช่มีคนที่ตดั สินใจแทนเจ้าได้หรอกรึ?”
งานแต่งของบุตรสาว ส่วนใหญ่ตอ้ งเชื่อฟั งบิดามารดาอยู่แล้ว นับประสาอะไรกับท่าน
แม่เฒ่าซึง่ เป็ นท่านย่าที่อยู่ห่างออกไปอีกสายหนึ่ง?
คุณหนูรองไม่เคยคิดเรื่องนีม้ าก่อน
กูซ้ ีถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “เจ้าดูสิว่าท่านแม่เฒ่าเฝ้าถนอมเหล่าหลานๆ อย่างพวกเจ้า
มากเพียงใด หากว่าเจ้าไปขอร้องท่านแม่เฒ่า นางจะต้องช่วยเจ้าตัดสินใจแน่”
1292

คุณหนูรองไม่ได้สง่ เสียง ผ่านไปพักใหญ่ จนกูซ้ ีคิดว่านางคงไม่ตอบคําถามของตนแล้ว


นางถึงผงกศีรษะลงเบาๆ
กูซ้ ีแย้มยิม้ สดใสส่งให้นาง แล้วเอ่ยชวนคุณหนูรองว่า “พวกเราก็ไปเล่นหิมะกันเถอะ?
เจ้าดูพวกคุณหนูอวีส้ ิ เล่นกันสนุกจะตายไป!”
คุณหนูรองเหลือบมองกูซ้ ีทีหนึ่ง สายตาคล้ายจะไว้ใจนางมากกว่าเก่า แล้วตอบเสียง
แผ่วพร้อมรอยยิม้ บางๆ ว่า “เอาสิ”
1293

บทที่ 162 ให้ความสนใจ


อวีถ้ งั รูว้ า่ คุณหนูหา้ ไม่คอ่ ยถูกกับหิมะ ย่อมจับตาดูนางเป็ นพิเศษ เมื่อเป็ นเช่นนี ้ นางจึง
ไม่มีเวลาได้เล่นคนเดียวเท่าใด เวลาครึง่ เช้าหมดไปกับการเล่นสนุกกับพวกคุณหนูไม่ก่ีคน ยาม
ที่หยุดพัก เสือ้ นางก็ช่มุ เหงื่อไปหมด
สภาพแวดล้อมและอากาศเช่นนีเ้ ป็ นหวัดได้ง่าย
อวีถ้ งั ตัดสินใจกลับไปเปลี่ยนเสือ้ ผ้าในห้องตัวเองก่อน
นายหญิงรองกลับกําชับนางว่า “ไม่เป็ นไร ไม่ตอ้ งรีบร้อน กลับไปอาบนํา้ เช็ดผมให้แห้ง
แล้วค่อยเข้ามาเถิด พวกเราจะรอกินข้าวกลางวันกับพวกเจ้า”
ร่างกายเหนียวเหนอะหนะ หากอาบนํา้ ได้ย่อมดีท่ีสดุ
อวีถ้ งั เอ่ยขอตัวกับนายหญิงรอง เมื่อเดินได้ครึง่ ทางกลับพบจีต้ า้ เหนียง
“คุณหนูอวี!้ ” จีต้ า้ เหนียงเข้ามาคํานับนางด้วยใบหน้ายิม้ แย้ม “คนดูแลประตูกล่าวว่า
สกุลของท่านส่งจดหมายมา เมื่อครู ่ขา้ จึงออกไปรับจดหมาย กําลังเตรียมส่งไปให้ท่านอยู่
พอดี!”
อวีถ้ งั ตกใจไม่นอ้ ย
คงไม่ใช่วา่ ในเรือนเกิดเรื่องอะไรหรอกกระมัง?
นางขอบคุณจีต้ า้ เหนียง ในใจกลับคิดฟุ้งซ่านไปต่างๆ นานา
มารดาของนางไม่ได้ขาดยา นับวันร่างกายก็ดีขึน้ เรื่อยๆ ปี ก่อนโรคไม่ได้กาํ เริบ ปี นีก้ ็
ดูแลเอาใจใส่เหมือนปี ก่อน ย่อมไม่อาจเกิดเรื่องอันใด? ทางพี่สะใภ้ ป้าสะใภ้ใหญ่และญาติผพู้ ่ี
ก็ประคบประหงมนางดั่งหยกในมือ พากันรุ มล้อมดูแลนาง ร่างกายของพี่สะใภ้ก็แข็งแรงดี คง
ไม่เกิดเรื่องอะไรเช่นกัน...แล้วเหตุใดในเรือนจึงส่งจดหมายให้นางกันแน่?
1294

นางรีบบอกลาจีต้ า้ เหนียง สาวเท้าอย่างรวดเร็วกลับที่พกั ของตัวเอง ร้อนใจอยากจะ


เปิ ดจดหมายจนแทบไม่ไหว
แต่เมื่อกวาดสายตามอง นางก็คอ่ ยโล่งใจขึน้ มา
ที่แท้คุณชายจางวาดภาพสิบภาพส่งเข้ามาแล้ว ญาติผูพ้ ่ีก็ไม่อาจตัดสินใจได้ จึงส่ง
ภาพมาทางนาง ให้นางช่วยออกความเห็น
อวีถ้ งั มองภาพของคุณชายจางอย่างละเอียด ไม่แปลกใจที่เป็ นผูม้ ีสนุ ทรียภาพ แม้ว่า
ภาพรวมจะดูนอ้ ย กลับงดงามเปี่ ยมไปด้วยจิตวิญญาณ ดูเรียบหรูน่าสนใจ
นางเขียนจดหมายตอบกลับญาติผพู้ ่ีทนั ที ให้จ่ายเงินตามราคาที่นางพูดคุยไว้กอ่ นหน้า
ทัง้ ยังกล่าวว่า “แม้สินค้าที่ส่ งั ซือ้ ก่อนหน้านีจ้ ะไม่ถูกใจพ่อค้าต่างถิ่น ก็สามารถเก็บเอาไว้ทาํ
อย่างอื่นได้”
ซวงเถาทําตามคําสั่งนาง ขอให้เด็กรับใช้หน้าประตูช่วยส่งจดหมายให้ ด้านอวีถ้ ังก็
อาบนํา้ โดยมีหลิ่วซวี่คอยช่วยเหลือ
ไม่นานนักซวงเถาก็กลับมา
รองเท้านัน้ ปกคลุมไปด้วยหิมะ
ดูท่าแล้วหิมะคงจะตกหนักขึน้ เรื่อยๆ
อวีถ้ งั เอ่ยว่า “ส่งจดหมายออกไปแล้วรึ?”
ซวงเถาถอดรองเท้า ทัง้ เอ่ยด้วยรอยยิม้ ไปพลาง “ส่งไปแล้วเจ้าค่ะ ข้ายังให้เงินเด็กรับ
ใช้ผนู้ นั้ ไปยี่สิบเหรียญอีแปะ”
อวีถ้ งั พยักหน้าด้วยรอยยิม้ ก่อนจะเปิ ดกล่องไม้เลือกเครื่องประดับที่เหมาะสมมาสวม
ซวงเถาเข้ามาช่วยเหลือ พลางคุยเล่นกับนาง “ยามที่ขา้ กลับมา พบกับหญิงรับใช้ขา้ ง
กายของนายหญิงเสิ่นพอดี นางก็มาส่งจดหมายเช่นกันเจ้าค่ะ แต่ให้เงินเด็กรับใช้คนนัน้ แค่สิบ
1295

เหรียญอีแปะ เดิมทีขา้ ยังคิดจะรอกลับเข้ามาพร้อมนาง พอเห็นนางทําเช่นนี ้ กลับไม่อยากจะ


สุงสิงอะไรกับนางแล้ว”
อวี ถ้ ัง ชะงัก มื อ ที่ ก าํ ลัง เลือ กเครื่ อ งประดับไปเล็ก น้อ ย “นายหญิ ง เสิ่ น ก็ ใ ห้ค นไปส่ง
จดหมายเช่นกันรึ? รูห้ รือไม่วา่ ส่งให้ใคร?”
ซวงเถาช่วยนางเลือกดอกไม้ผา้ เสียบลงไปที่ผม ทัง้ เอ่ยไปพลาง “เหมือนว่าจะส่งไป
หังโจวเจ้าค่ะ ข้าได้ยินเด็กรับใช้คนนัน้ ถามหญิงรับใช้ขา้ งกายของนายหญิงเสิ่น หากส่งผ่าน
สกุลเผย ก็ทาํ ได้เพียงนําจดหมายไปฝากทางเถ้าแก่ใหญ่ถง จากนัน้ เถ้าแก่ใหญ่ถงจะเป็ นคนเอา
ไปส่งยามที่ไปเมืองหังโจว หากส่งจดหมายผ่านทางการ พวกเขาก็จะช่วยนางเอาไปส่งที่ศาลา
พักม้า 1แล้วนําใบหลักฐานมาให้นาง คาดว่านายหญิงเสิ่นคงจะเร่งรีบ จึงให้พวกเขาช่วยนําไป
242

ส่งที่ศาลาพักม้าเจ้าค่ะ” พูดจบ นางก็เอ่ยอย่างตําหนิอยู่บา้ ง “หิมะตกหนักขนาดนี ้ ศาลาพักม้า


ก็ไกลมิใช่นอ้ ย แต่หญิงรับใช้ของนายหญิงเสิ่นกลับให้เงินเด็กรับใช้คนนัน้ เพียงสิบเหรียญอีแปะ
...”
อวีถ้ งั ได้ฟังก็เอ่ยอย่างไม่พอใจนัก “แต่ละสกุลล้วนมีสถานการณ์เงื่อนไขที่ต่างกัน ไม่
แน่ว่าเงินยี่สิบเหรียญอีแปะที่เรามอบให้เด็กรับใช้พวกนัน้ ในสายตาของพวกเขาอาจจะน้อยก็
ได้ อีกอย่าง ยามนีพ้ วกเราอยู่ในสกุลเผย เจ้าต้องระมัดระวังคําพูดให้มาก!”
ซวงเถาตอบรับด้วยใบหน้าแดงกํ่า รอจนนางแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็ไปหาทางท่านแม่
เฒ่า
คุณหนูสาม คุณหนูส่ี และคุณหนูห ้า ล้ว นถึง กัน แล้ว พวกนางก็ อาบนํา้ ผลัดเปลี่ย น
เสือ้ ผ้าเช่นกัน กําลังนั่งล้อมพูดคุยอยู่ขา้ งกายท่านแม่เฒ่า
เมื่อเห็นอวีถ้ งั เข้ามา ทุกคนก็หยัดกายขึน้ ทักทายกัน
กูซ้ ีและคุณหนูรองก็เข้ามาพร้อมกัน

1
ศาลาพักม้า เป็ นที่พกั ม้าทัง้ ยังเป็ นสถานที่สง่ สารในสมัยโบราณ
1296

ทัง้ สองคนก็อาบนํา้ สางผมอีกครัง้ เช่นกัน


ทุกคนเริม่ คุยเล่นกันขึน้ มา
ท่านแม่เฒ่าเห็นแล้วก็ออกคําสั่งกับเฉินต้าเหนียงด้วยรอยยิม้ “ในเมื่อคนมาครบแล้ว ก็
ยกอาหารขึน้ โต๊ะเลยเถิด!”
เฉินต้าเหนียงรับคําสั่ง
กูซ้ ีเดินเข้าไปประคองท่านแม่เฒ่า
ท่านแม่เฒ่าลูบมือนางด้วยรอยยิม้ ปล่อยให้นางพยุง ด้านพวกอวีถ้ งั ก็เดินเบียดเสียด
กันไปห้องโถง
บางทีอาจเป็ นเพราะว่าอากาศเย็น อาหารวันนีจ้ งึ เพิ่มนํา้ แกงเนือ้ แพะเข้ามา
ไม่เพียงเนือ้ แพะนัน้ จะอร่อยผิดหูผิดตา นํา้ แกงยังรสชาติกลมกล่อมอย่างยิ่ง
อวีถ้ งั ดื่มไปสองชามติด ร่างกายอบอุน่ สบายขึน้ มา ยามนีจ้ งึ ค่อยวางตะเกียบลง
ด้านคุณหนูส่กี ็เสนอความคิดให้ทกุ คนไปศาลาเหมันต์
ท่านแม่เฒ่าหัวเราะอย่างยินดีปรีดา กําชับจีต้ า้ เหนียง “ไปบอกกล่าวนายหญิ งรอง
ยามบ่ายให้นางทําตัวว่างเสีย ไปเป็ นเพื่อนพวกนางก็เพียงพอแล้ว”
จีต้ า้ เหนียงรับคําสั่งทัง้ รอยยิม้
ทุกคนต่างก็ดีอกดีใจ แย่งกันพูดเชิญท่านแม่เฒ่าให้ไปด้วยกัน
ท่านแม่เฒ่ายิม้ อย่างอ่อนโยน “แข้งขาข้าไม่มีเรี่ยวมีแรงแล้ว ทนการทรมานจากพวก
เจ้าไม่ไหวหรอก พวกเจ้าก็ปล่อยข้าไปเสียเถิด ให้ขา้ ได้พกั ผ่อนอยู่ในเรือนดีๆ”
พวกลูกหลานต่างก็รูส้ กึ ผิดหวังอยู่บา้ ง
1297

ท่านแม่เฒ่าเห็นก็อดไม่ได้ เอ่ยว่า “เอาเถิด ทุกคนกลับไปนอนกลางวันสักงีบ อย่างไร


ยามบ่ายข้าจะเข้าไปหาพวกเจ้าก็แล้วกัน”
ทุกคนต่างดีใจขึน้ มาอีกครัง้ กลัวว่าจะรบกวนเวลานอนกลางวันของท่านแม่เฒ่า พา
กันทยอยบอกลา
ท่านแม่เฒ่าให้เฉินต้าเหนียงส่งพวกนางออกจากประตู
อวีถ้ งั และกูซ้ ีต่างก็พกั อยู่ดา้ นหลังห้องหลักของท่านแม่เฒ่าซึ่งต้องเดินผ่านตรอกแคบ
เส้นหนึ่งออกไป แต่พวกคุณหนูของสกุลเผยต่างก็พักอยู่ทางตะวันออกของห้องหลักท่านแม่
เฒ่า คนสองกลุ่มออกจากห้องหลักท่านแม่เฒ่า ไป อวีถ้ ังและกู้ซีอยู่ทางเดียวกัน ส่วนพวก
คุณหนูสกุลเผยก็อยู่อีกทาง ทว่ายามที่ออกจากห้องหลักของท่านแม่เฒ่า คุณหนูรองกลับเอ่ย
เชือ้ เชิญกูซ้ ี “พี่สาว ไปนั่งเล่นที่เรือนของข้าดีหรือไม่?”
กูซ้ ีเผยสีหน้ารูส้ กึ ผิด เอ่ยว่า “ข้ายังต้องกลับไปดูนายหญิงเสิ่น ไม่อย่างนัน้ คุณหนูรอง
ไปนั่งเล่นที่หอ้ งข้า ก่อนหน้านีข้ า้ ได้ยินสาวใช้ของจวนเจ้ากล่าวว่า หลังเขามีป่าเหมยกว้างใหญ่
ละลานตา ข้ายังขบคิดว่ารอยามที่หิมะตก จะไปเก็บดอกเหมยมาทําเครื่องหอมเสียหน่อย คาด
ไม่ถึงว่าเมื่อเย็นวานก็หิมะตกแล้ว ข้ายังวางแผนจะชวนพวกน้องๆ และคุณหนูอวีไ้ ปชมดอก
เหมยด้วยกัน!”
พวกคุณหนูสกุลเผยได้ยินพลันตาเป็ นประกาย คุณหนูส่ีเอ่ยด้วยความสนใจอย่างยิ่ง
“พี่กู้ ข้าอยากไปด้วย เจ้าไปเก็บดอกเหมยยามใด อย่าลืมเรียกข้าเชียว”
คุณหนูหา้ ก็ตะโกนเสียงดังตาม “ข้าก็อยากไปด้วย!”
กูซ้ ีแย้มยิม้ เอ่ยว่า “ยังไม่รูว้ ่าดอกเหมยในจวนเก็บได้หรือไม่? หากเก็บได้ ถึงเวลานัน้ ก็
จะพาพวกเจ้าไปด้วยกันทัง้ หมด”
ยากที่คุณหนูสามก็ สนใจเช่นกัน นางเอ่ยว่า “น่าจะเก็บได้ อีกเดี๋ยวพวกเราถามอา
สะใภ้รองก็เพียงพอแล้ว”
1298

คุณหนูส่พี ยักหน้าระรัว ส่วนคุณหนูหา้ ก็ขนั อาสาจะเป็ นฝ่ ายถามมารดา


ทุกคนพากันหัวเราะก่อนจะจบเรื่องไป ยามนีจ้ งึ ค่อยแยกย้ายกันออกไป
อวีถ้ ังเห็นคุณหนูรองและกูซ้ ีเดินเคียงไหล่คุยกันไป รู ว้ ่ากูซ้ ีกาํ ลังคิดจะเอาชนะใจคน
สกุลเผย ให้คนสกุลเผยเกิดความรู ส้ ึกดีกบั นาง นางไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว จึงจงใจรัง้ ฝี เท้า
ให้ชา้ ลง ค่อยๆ ทิง้ ระยะห่างจากเบือ้ งหลังของพวกนาง
ใครจะรู ว้ ่าเพิ่งออกจากตรอกแคบ กลับพบเข้ากับเด็กรับใช้ท่ีเพิ่งจะไว้ผมยาวคนหนึ่ง
เมื่อพบอวีถ้ งั ก็คาํ นับแก่นาง ยังเอ่ยถามว่า “ท่านคือคุณหนูอวีใ้ ช่หรือไม่ขอรับ?”
อวีถ้ งั ขานรับว่า “ใช่” อย่างแปลกใจ
เด็กรับใช้คนนัน้ จึงหัวเราะ เอ่ยว่า “นายท่านสามขึน้ เขามาขอรับ ทราบว่าคุณหนูอวี ้
ต้องการส่งจดหมาย จึงให้คนดูแลประตูนาํ จดหมายไปให้พ่อบ้านหู ให้เขาเอาไปส่งที่เรือนท่าน
ด้วยตัวเอง พ่อบ้านหูกลัวว่าท่านจะกังวล จึงตัง้ ใจให้ขา้ มาบอกกล่าวกับท่านขอรับ”
อวีถ้ งั ทัง้ ตกใจทัง้ ดีใจขึน้ มาอย่างแปลกประหลาด “นายท่านสามเข้ามารึ?”
“ขอรับ” เด็กรับใช้ผนู้ นั้ ตอบ “เพิ่งจะขึน้ เขามา พักอยู่ท่ีสวนซีหยวนทางตะวักตก สักพัก
ก็คงจะเข้ามาน้อมทักทายท่านแม่เฒ่าขอรับ”
ตามกฎของสกุลเผย เขาไม่ควรเปิ ดเผยแผนการเดินทางของนายท่านสาม แต่นายท่าน
สามเพิ่งขึน้ เขามา นอกจากจะให้พ่อบ้านหูช่วยส่งจดหมายให้อวีถ้ ังแล้ว พ่อบ้านหูยังให้เขา
ตัง้ ใจเข้ามาบอกกล่าวกับคุณหนูอวี ้ ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็พาให้เขารู ส้ ึกว่าอวีถ้ ังเป็ นแขกผูม้ ี
เกี ยรติของสกุลเผย เขาคิดว่าตัวเองก็ควรเอาอย่างพ่อบ้านหู ประจบประแจงอยู่เบือ้ งหน้า
คุณหนูอวีเ้ สียหน่อย
อวีถ้ งั ให้เงินรางวัลเขาเล็กน้อย ยามนีจ้ ึงค่อยเดินไปกับซวงเถาต่อ ผลปรากฏว่ายามที่
นางเงยหน้าขึน้ ก็พบกับกูซ้ ีและคุณหนูรองยืนนิ่งอยู่เบือ้ งหน้า มองนางอย่างตาไม่กะพริบ
1299

นางยกมือลูบหน้า ตัวเองอย่า งมึน งง เอ่ย อย่ า งแปลกใจ “เป็ น อะไรรึ? มี เรื่องอัน ใด


หรือไม่?”
คุณหนูรองขมวดคิว้ เตรียมจะพูดอะไรบางอย่าง กลับถูกกูซ้ ีขดั ขวางไว้ก่อน
“ไม่มีอนั ใด!” กูซ้ ีเอ่ยด้วยรอยยิม้ “แค่เดินไปเดินมา พลันพบว่าไม่เห็นเจ้าเสียแล้ว พวก
เราจึงรอเจ้าอยู่ท่ีน่ี”
คุณหนูรองฟั งจบก็รอ้ งว่า ‘พี่ก’ู้ อย่างแปลกใจ
กูซ้ ีกลับดึงคุณหนูรองไว้ เอ่ยกับอวีถ้ งั ด้วยรอยยิม้ “อีกเดี๋ยวเจ้าวางแผนจะออกไปยาม
ใด? ถึงเวลานัน้ ให้พวกเราเรียกเจ้าดีหรือไม่? พวกเราจะได้ไปศาลาเหมันต์ดว้ ยกัน” นางเอ่ย
เบี่ยงประเด็นอื่นแทน
อวีถ้ งั นัน้ เข้าใจกูซ้ ีอย่างยิ่ง
คิดมาก ทัง้ กังวลมาก เอือ้ นเอ่ยวาจายังต้องอ้อมค้อมวกไปวนมา ให้คนที่ฟังคิดแล้วคิด
อีกจึงจะสามารถเข้าใจความหมายที่แท้จริงของนางได้
ชาติ ก่ อ นพวกนางเป็ น พี่ ส ะใภ้น ้อ งสะใภ้ จึ ง พบหน้า กัน อย่ า งไม่ อ าจหลบเลี่ ย งอยู่
บ่อยครัง้ ยามนีท้ งั้ สองคนต่างก็มีทางเป็ นของตัวเอง นางคร้านที่จะคาดเดาจุดประสงค์ของกูซ้ ี
ขอเพียงแค่กซู้ ีไม่ถามเจาะจงมาทางนาง นางก็จะทําเป็ นไม่รูไ้ ม่ชี ้ ให้กซู้ ีได้ขบคิดว้าวุน่ ไปเอง
นึกมาถึงตรงนี ้ ในสมองอวีถ้ งั พลันปรากฏภาพกูซ้ ีเดินเป็ นหนูติดจั่นในห้องอย่างกระวน
กระวายใจ มุมปากนางก็กระตุกยกยิม้ ขึน้ มา
“ได้สิ!” นางมองไปทางกูซ้ ี “ถึงเวลานัน้ ข้าจะรอพวกเจ้ามาเรียกข้า พวกเราก็ไปศาลา
เหมันต์ดว้ ยกัน”
“เช่นนัน้ ก็ตกลงกันตามนี!้ ” ขณะที่กซู้ ีกล่าว ก็ดงึ คุณหนูรองให้เดินไปด้วยกัน
อวีถ้ งั ยิม้ ระรื่น ก่อนจะพาซวงเถากลับห้องไป
1300

คุณหนูรองกลับไม่ได้หนักแน่นเหมือนกูซ้ ี
เมื่อร่างของอวีถ้ งั หายไปจากครรลองสายตาของพวกนาง คุณหนูรองก็เอ่ยกับกูซ้ ีอย่าง
ทนไม่ไหว “เหตุใดพี่กูไ้ ม่ให้ขา้ ถามนาง? ไฉนนางจึงได้รบั การเอาใจใส่จากพ่อบ้านหู? แม้ว่า
อวีซ้ ิ่วไฉจะมีความสัมพันธ์อันดีกับพ่อบ้านหู แต่ยามนีน้ างพักอยู่เรือนใน มีเรื่องอะไรต้องให้
พ่อบ้านหูชว่ ยออกหน้ากัน? ตกลงนางคิดจะทําอะไรกันแน่?”
เด็กรับใช้คนนัน้ พูดอะไร พวกนางฟั งได้ไม่ชดั เจนนัก ยามนีย้ ่งิ ไม่เข้าใจขึน้ ไปอีก
กูซ้ ีหลับตา นึกถึงสกุลของอวีถ้ ัง เอ่ยเสียแผ่วเบา “ก็ไม่รูว้ ่าเหตุใดคุณหนูอวีจ้ ึงได้รบั
ความโปรดปรานจากท่านแม่เฒ่า? ตามหลักแล้ว สกุลอวีแ้ ละสกุลเจ้าก็ไม่มีความเกี่ยวข้อง
อะไรกัน เหตุใดนางจึงสามารถเดินไปมาอยู่เบือ้ งหน้าท่านแม่เฒ่าได้อย่างง่ายดาย?”
คุณ หนูร องชะงัก ไปเล็ก น้อ ย ครุ ่น คิ ด อย่ า งละเอี ย ด กลับ ยิ่ ง รู ส้ ึก ว่า คํา พูด ของกู้ซีมี
เหตุผล
นางเอ่ยอย่างลังเล “คล้ายจะได้ยินว่านางทําดอกไม้ผา้ ได้อย่างยอดเยี่ยม...แต่แม้ฝีมือ
นางจะดีเพียงใด จะสูห้ ญิงที่ชาํ นาญเรื่องเย็บปั กถักร้อยในเรือนได้เชียวรึ?” พูดมาถึงตรงนี ้ นาง
ก็ตกตะลึง “พี่กู้ ถ้าเจ้าไม่พูด ข้าก็คงคิดไม่ออก อวี ้ คุณหนูอวีด้ ูเหมือนจู่ๆ ก็ปรากฏขึน้ มาเสีย
อย่างนัน้ !”
1301

บทที่ 163 ชมดอกเหมย


กูซ้ ีเผยรอยยิม้ บาง ไม่ได้กล่าวขัดอันใด...สิ่งที่นางควรพูดก็พูดไปหมดแล้ว ที่เหลือก็
เป็ นตาของคนอื่น
คุณหนูรองผูน้ ี ้ ภายนอกดูเย่อหยิ่งจองหองอย่างยิ่ง ความจริงก็เป็ นเพียงคุณหนูท่ีถูก
คนในเรือนตามใจจนเสียคนเท่านัน้ อารมณ์ความรู ส้ ึกล้วนแสดงบนสีหน้า มองแค่แวบเดียวก็
เข้าใจกระจ่างแจ้งแล้ว ยังมิสคู้ ณ
ุ หนูส่ผี นู้ นั้ ที่ดฉู ลาดหลักแหลม
แต่วา่ คุณหนูสกุลเผยล้วนใสซื่อบริสทุ ธิ์เช่นนี ้ กลับทําให้นางคาดไม่ถึงอยู่บา้ ง
บางทีอาจเป็ นสาเหตุท่ีวา่ หลินอันเป็ นเพียงเมืองเล็กๆ กระมัง?
กูซ้ ีและคุณหนูรองเดินไปที่พกั ของนางอย่างเอื่อยเฉื่อย
คุณหนูรองกลับขบริมฝี ปาก ขมวดคิว้ แน่น
ไม่ได้ นางควรหาวิธีทาํ ให้กระจ่างใจว่าเหตุใดคุณหนูอวีจ้ งึ เข้าออกจวนสกุลเผยได้
ในเมืองหลินอันมีคนที่อยากประจบประแจงสกุลเผยมากมาย นางไม่ชอบให้คนแอบ
อ้างชื่อสกุลเผยเพื่อใช้เป็ นแผ่นรองเหยียบ หาผลประโยชน์ให้ตวั เอง
เพียงแต่กซู้ ีเป็ นแขก ทัง้ เพิ่งจะรูจ้ กั กัน นางจึงไม่อาจพูดอะไรมากต่อหน้ากูซ้ ีได้ ยามที่กู้
ซีกาํ ลังผลัดเปลี่ยนเสือ้ ผ้าในห้อง นางก็อดไม่ไหว ออกคําสั่งกับหญิงรับใช้ท่ีดแู ลนางตัง้ แต่เล็ก
ให้ไปสืบเรื่องของอวีถ้ งั
หญิงรับใช้ผนู้ นั้ อดขมวดคิว้ ไม่ได้ “คุณหนูรอง นั่นเป็ นเรื่องของบ้านหลักนะเจ้าคะ หาก
ท่านไม่ชอบคนผูน้ ี ้ ก็เอ่ยรับหน้าเป็ นมารยาทไม่ก่ีคาํ ก็เพียงพอแล้ว เหตุใดยังต้องไปแปดเปื ้อน
นํา้ สกปรกนี?้ อีก อย่า งไม่นานท่านก็ตอ้ งออกเรือนแล้ว เมื่ อไปสกุลสามี ยัง ต้องพึ่งพาสกุล
มารดา หากในสกุลมารดามีเรื่องเสียหายอะไรเผยแพร่ออกไป ท่านก็ย่อมไม่มีหน้าตาในสกุล
สามี ข้าว่า เรื่องเช่นนีท้ ่านอย่ายุ่งดีกว่าเจ้าค่ะ!”
1302

คุณหนูรองยังคงไม่ยอมปล่อย “ข้าไม่อยากให้ใครใช้สกุลเผยของพวกเราเป็ นเครื่องมือ!


ข้าเพียงอยากรู ต้ น้ สายปลายเหตุของเรื่องราว ท่านย่าก็เคยสั่งสอนพวกเรา อย่าได้เป็ นสตรีท่ี
ปากมากแต่ก็ไม่อาจโง่เขลาเบาปั ญญาได้เช่นเดียวกัน คุณหนูอวีผ้ ูน้ ั้นไม่ธรรมดา สามารถ
ประจบประแจงท่านย่าได้แทบทุกทาง นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนปกติคนใดก็สามารถทําได้”
หญิงรับใช้คนนัน้ ก็อบั จนหนทาง จึงรับปากไป แต่ยงั คงกําชับนางซํา้ แล้วซํา้ เล่า “ไม่ว่า
ข้าจะสืบเจออะไร ท่านก็จะต้องกดไว้ในใจเท่านัน้ นะเจ้าคะ”
คุณหนูรองโบกมืออย่างหงุดหงิดใจ ยามนีห้ ญิงรับใช้ผนู้ นั้ จึงถอนตัวออกไป
ด้า นกู้ซีจัดแจงเสือ้ ผ้าอยู่เ บือ้ งหน้าโต๊ะ กระจก ทั้ง สั่ง ให้เ หอเซียงไปจับตาดูคนของ
คุณหนูรองไปพลาง เอ่ยกับนางเสียงเบา “อย่างไรก็ไม่ใช่สกุลพวกเรา เจ้าก็ทาํ เรื่องระมัดระวัง
หน่อย”
ไม่ใช่ครัง้ แรกที่เหอเซียงทําเรื่องเช่นนี ้ นางเอ่ยด้วยรอยยิม้ “ท่านวางใจเถิดเจ้าค่ะ ข้ารู ้
ว่าควรทําอย่างไร อย่าพูดถึงทางคุณหนูรองเลย แต่ดา้ นคุณหนูส่ี ข้าก็ส่งคนไปจับตาดูเช่นกัน
ไม่อาจให้คนสกุลเผยจับผิดอะไรได้แน่เจ้าค่ะ”
กูซ้ ีผงกศีรษะอย่างพอใจ เอ่ยถามนาง “เงินยังพอใช้หรือไม่?”
ครัง้ นีน้ างพาคนรับใช้ติดตามมาเพียงสองสามคนเท่านัน้ หากอยากรู ว้ ่าโดยรอบเกิด
เรื่องอะไรขึน้ บ้าง ก็ทาํ ได้เพียงหยิบยืมแรง ซือ้ ตัวข้ารับใช้ของจวนสกุลเผย แต่หลายวันมานี ้
หลังจากพวกนางเข้าพักในสกุลเผยก็พบว่า เพราะท่านแม่เฒ่าอยู่เป็ นม่ายคนเดียว บ้านหลักก็
ยังเสียตําแหน่งประมุขไป แม้ดคู ล้ายไม่มีคนคอยควบคุมสตรีในเรือน แต่ความเป็ นจริงสกุลเผย
กลับไม่มีความวุน่ วายแม้แต่นอ้ ย เดิมทีพวกนางก็ไม่กล้าเป็ นฝ่ ายเข้าหาหญิงรับใช้หรือสาวใช้ท่ี
มี ห น้ามี ตาในสกุลเผยพวกนั้น ทํา ได้เ พีย งซือ้ ตัวหญิ งรับใช้และสาวใช้ท่ีไร้ตาํ แหน่งบางคน
จากนัน้ ก็คาดเดาจากการสังเกตว่าคนผูน้ ีค้ วรทําหน้าที่อะไร
เหอเซียงเอ่ยด้วยรอยยิม้ “พอเจ้าค่ะ พวกเรายังเหลือกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบตําลึง!”
1303

กูซ้ ีปวดเนือ้ ปวดตัวขึน้ มาพักหนึ่ง


ยามที่พ่ีชายนางออกจากหังโจวก็ทิง้ ตั๋วเงินไว้ให้นางหนึ่งพันตําลึง ครัง้ นีม้ าหลินอัน
นางขบคิดว่าจําเป็ นต้องใช้เงิน จึงให้คนไปแลกเงินมาสามร้อยตําลึง นี่เพิ่งจะไม่ก่ีวนั ก็เสียเงิน
ไปหนึ่งร้อยห้าสิบตําลึงแล้ว ยังไม่ทนั ได้ถึงมือเจ้านายเสียด้วยซํา้
แต่น่ีก็เป็ นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้พวกนางขาดคนในมือกัน!
กูซ้ ีถามอีกครัง้ “รูห้ รือไม่ว่าเหตุใดนายหญิงใหญ่จึงขอให้นายหญิงเสิ่นช่วยส่งจดหมาย
ให้นาง?”
เหอเซียงออกประตูไปมองซ้ายแลขวา เมื่อเห็นว่าทุกคนต่างยุ่งวุ่นวาย จึงค่อยกระซิบ
ข้างหูกูซ้ ี “กล่าวว่ามีเรื่องอยากขอร้องพี่สะใภ้สกุลมารดา กลัวว่าท่านแม่เฒ่าจะไม่พอใจ จึง
ขอให้นายหญิงเสิ่นช่วยส่งจดหมายเจ้าค่ะ”
กูซ้ ีเลิกคิว้ ขึน้
หรือจะเล่าเรื่องไม่ดีของแม่สามี?
ไม่สิ หากจะพูดเรื่องไม่ดี ก็คงพูดเรื่องเผยเยี่ยนที่เป็ นน้องชายสามีมากกว่า
แต่สรุ ปแล้ว เผยเยี่ยนเป็ นฝ่ ายแย่งชิงตําแหน่งผูน้ าํ สกุลหรือท่านผูเ้ ฒ่าที่ล่วงลับไป
ลําเอียงกันแน่? เรื่องนีต้ อ้ งสืบให้กระจ่างชัดเสียหน่อย
นางไม่อยากแต่งให้คนที่ถกู ผูอ้ ่นื ซุบซิบนินทา กระทั่งตําแหน่งยังไม่ม่นั คง!
กูซ้ ีเอ่ยกับเหอเซียง “เจ้านําของว่างมาเสียหน่อย ข้าจะไปทักทายนายหญิงเสิ่น แล้ว
ค่อยไปพูดคุยเป็ นเพื่อนคุณหนูรอง”
ไม่รูว้ ่าเหตุใดพี่ชายนางจึงนึกถึงนายหญิงเสิ่นได้ นายหญิงเสิ่นผูน้ ี ้ ก็เป็ นคนแปลก ไม่
หลงใหลในเงินทอง ทัง้ ไม่ชอบการคบค้าสมาคม พอใจแต่ช่ือเสียงลาภยศ ขอเพียงแค่บอกเป็ น
1304

นัยว่าเรื่องนีเ้ กี่ยวข้องกับชื่อเสียงของนาง นางก็พร้อมลงมาพัวพันทันที พาให้คนที่เห็นรู ส้ ึก


สมเพชและขบขันไม่นอ้ ย
เพียงแค่ไม่รูว้ า่ นายหญิงใหญ่ใช้วิธีอนั ใดสั่นคลอนนายหญิงเสิ่นกัน?
เสิ่นซ่านเหยียนก็น่าสงสาร แต่งภรรยาเช่นนี ้ ยังดีท่ีเขาไม่ได้ดิน้ รนต่อสูใ้ นเส้นทางขุน
นาง ไม่อย่างนัน้ นายหญิงเสิ่นผูน้ ีจ้ ะก่อเรือ่ งราวอะไรออกมาหรือไม่ ก็พดู ยากเช่นกัน!
เหอเซียงรับคําสั่งก่อนออกไป
กู้ซี ม องหญิ ง สาวในกระจกที่ แ ต่ ง ชุด ธรรมดา แต่ เ พราะสวมเครื่ อ งประดับ ที่ วิ จิ ต ร
ประณีตจึงเผยความสง่างามเรียบหรูออกมา ก่อนจะเผยรอยยิม้
คนในกระจกก็ยมิ ้ ตามเช่นกัน
ยามนีน้ างจึงค่อยออกจากห้องอย่างพอใจ
อาจเพื่อให้สะดวกต่อการชมดอกเหมย ศาลาเหมันต์ของสกุลเผยจึงสร้างอยู่ท่ามกลาง
ป่ าเหมยหลังภูเขา
นั่งอยู่ในศาลาที่มีตีห้ ลงให้ความอบอุ่น ดื่มชาขาวรสอ่อนให้ร่างกายสดชื่น ชมดอก
เหมยแดงที่เบ่งบานละลานตา สูดกลิ่นหอมแผ่วบางของมันไปพลาง กระทั่งเทพเซียนก็ไม่เคย
ได้ใช้ชีวิตดีเช่นนี ้
คุณหนูสามเอ่ยออกมาเป็ นคนแรก “ย่างเนือ้ ที่น่ี ก็คงทําลายบรรยากาศเกินไป กลิ่น
หอมของดอกเหมยย่อมกลายเป็ นกลิ่นนํา้ มันหมู วันนีแ้ ทนที่จะย่างเนือ้ มิสชู้ มดอกเหมยดีกว่า?
ดีท่ีคณ
ุ หนูกแู้ ละคุณหนูอวีต้ ่างก็อยู่ท่ีน่ี พวกเรายังสามารถเล่นท้าพนันกันไม่ก็แต่งกลอน ท่าน
พ่อกล่าวว่า ปี นีห้ ลังจากเทศกาลโคมไฟก็ตอ้ งเริม่ เข้าเรียน ข้ายังมีกลอนหกสามบทที่ยงั ไม่ได้ทาํ
เลย!”
นางบ่นพรํ่า อวีถ้ งั ลอบตกใจ “ในจวนสอนหนังสือสตรีดว้ ยรึ?”
1305

คุณหนูสามพยักหน้า “พวกเราต่างก็เรียนหนังสือด้วยกัน”
ด้านกูซ้ ีเหลือบมองท่านแม่เฒ่าที่น่งั ยิม้ อยู่ดา้ นบนอย่างรวดเร็ว เอ่ยออกไปทันที “ข้าได้
ทัง้ นัน้ ! แม้จะกินเก่ง แต่เรื่องตําราก็ไม่ดอ้ ยไปกว่ากัน”
คุณหนูส่ีหวั เราะชอบใจ
คุณหนูหา้ มองมารดาและท่านแม่เฒ่าอย่างลังเล เอ่ยพึมพํา “ไม่ ไม่ใช่ว่ายังเหลืออีก
เดือนกว่าจึงจะข้ามปี หรอกรึ? ไม่ตอ้ งรีบร้อนขนาดนัน้ กระมังเจ้าคะ!” พูดจบ ก็มองอวีถ้ งั อย่าง
ขอความช่วยเหลือ
อวีถ้ งั รู ด้ ีว่า แต่งกวีวาดภาพต่อสัมผัสกาพย์กลอนล้วนเป็ นสิ่งที่กซู้ ีถนัด จะเล่นท้าพนัน
หรือแต่งกลอน กูซ้ ีย่อมโดดเด่นทัง้ นัน้ แต่นางก็ไม่อยากทําลายบรรยากาศที่งดงามนีด้ ว้ ยการ
ย่างเนือ้ เช่นกัน
นางเอ่ยด้วยรอยยิม้ “ไม่อย่างนัน้ พวกเรามายกมือลงความเห็นกันเถิด!”
คุณหนูสามยกมือทันที “ข้าเห็นด้วยกับการชมดอกเหมย!”
คุณหนูส่สี องจิตสองใจ ผ่านไปพักใหญ่ก็ไม่ยกมือ
ด้านคุณหนูหา้ มองไปยังคุณหนูส่ี
กูซ้ ีปอ้ งปากขําอยู่ดา้ นข้าง คล้ายว่าอย่างไรก็ได้ทงั้ นัน้
อวีถ้ งั ลอบถอนหายใจ ยกมือขึน้ “ข้าเห็นด้วยกับการแต่งกลอน”
กาพย์กลอนชัน้ ยอดย่อมไม่มีในใจ แต่หากเป็ นโคลงตลกขบขันก็ไม่ใช่ปัญหาสําหรับ
นาง
ความคิดแล่นอย่างว่องไว นางถึงกระทั่งมีความคิดชั่วร้ายว่า ไม่อย่างนัน้ ก็นาํ ผลงาน
โคลงว่าด้วยความงามของดอกเหมยที่กูซ้ ีในชาติก่อนภูมิใจนักหนามาโกง ย่อมทําให้กูซ้ ีตก
ตะลึงพรึงเพริดทัง้ ยังอาจรูส้ กึ น้อยเนือ้ ตํ่าใจ คงต้องสนุกอย่างแน่นอน
1306

แต่นางก็ทาํ ได้เพียงคิดเท่านัน้
เรื่องอื่นอาจสามารถนํามาสร้างความลําบากให้กซู้ ีได้ แต่ความสามารถเรื่องวาดภาพ
กาพย์กลอน นางย่อมไม่ถึงกับคัดลอกผลงานคนอื่นมาเป็ นของตัวเองได้หรอก
ทว่านางเพิ่งจะพูดจบ คุณหนูหา้ ก็มองนางอย่างโมโหเสียแล้ว คล้ายว่านางไปทําเรื่อง
เลวร้ายอันใดมาก็มิปาน
อวีถ้ งั งงงวย
อวีถ้ งั พยายามอดกลัน้ จึงไม่ได้หวั เราะออกมา
พวกคุ ณ หนู ต่ า งก็ น่ า ขบขั น เช่ น นี ้ ไม่ ว่ า จะพบเรื่ อ งดี ห รื อ ร้า ย ก็ เ ผยท่ า ที อ ย่ า ง
ตรงไปตรงมา น่ารักอย่างยิ่ง
แต่นางยังคงรูส้ กึ ว่าหากย่างเนือ้ ที่น่ีก็เหมือนเผาพิณต้มกระเรียน 1 มิสเู้ ปลี่ยนเป็ นที่อ่ืน
243

ดีกว่า
คุณหนูส่ีกลับกระโดดออกมาในเวลานี ้ ยกมือขึน้ เอ่ยว่า “ข้าอยากย่างเนือ้ !” พูดจบ ก็
เหลือบมองกูซ้ ีแวบหนึ่ง
กูซ้ ีบีบรัดในใจ
รูส้ กึ ว่าอาจจะเสียแผน
หากรูว้ า่ เป็ นเช่นนี ้ นางก็คงทําเหมือนคนหนูอวีแ้ ล้ว ออกความเห็นให้เร็วหน่อย
ยามนี ้ นางควรแสดงว่าเห็นด้วยหรือคัดค้านดีละ่ ?
กูซ้ ีปวดหัวไม่นอ้ ย

1
เผาพิณต้มกระเรียน หมายถึงการทําลายสิ่งมีคา่ ให้เสียของ
1307

คุณหนูหา้ กลับไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องพวกนี ้ นางดีใจอย่างยิ่ง เอ่ยตามเช่นกัน “ข้าก็


อยากย่างเนือ้ !” คล้อยหลังก็มองคุณหนูรองตาปริบๆ
สองต่อสองแล้ว ท่าทีของคุณหนูรองและคุณหนูกยู้ ่อมสําคัญ แต่นางคิดว่าคุณหนูกคู้ ง
จะตามเสียงส่วนใหญ่เป็ นแน่ เช่นนัน้ ท่าทีของคุณหนูรองย่อมสําคัญยิ่งกว่า
คุณหนูรองแค่นเสียงหัวเราะ เอ่ยว่า “ข้าเห็นด้วยกับการชมดอกเหมย! หากจะย่างเนือ้
เปลี่ยนสถานที่น่าจะดีกว่า”
กูซ้ ีถอนหายใจ ทําได้เพียงเอ่ยว่า “ข้าก็เห็นด้วยกับการชมดอกเหมย!”
คุณหนูหา้ ยู่ปาก ดึงมือคุณหนูส่ี
คุณหนูส่ีหวั เราะขึน้ มา เผยท่าทีราวกับไม่ยอมแพ้ “ที่น่ียงั มีท่านย่า นายหญิงเสิ่นและ
อาสะใภ้รอง พวกเรายังไม่นบั ว่าแพ้!”
นายหญิงเสิ่นมองคุณหนูส่ีแวบหนึ่งอย่างไม่ชอบใจอยู่บา้ ง ไม่ปริปากอันใด ท่าทีราว
กับไม่อยากเทียบความรูต้ วั เองให้เท่าพวกนาง
นางหญิ ง รองเห็ น ก็ ไ ม่ พ อใจเท่ า ใด เดิ น แย้ม ยิ ม้ เข้า ไปลูบ ศี ร ษะลูก สาว เอ่ ย อย่ า ง
อ่อนโยน “ข้าออกเสียงให้พ่ีสามของเจ้า”
ยามนีน้ บั ว่าเสียความได้เปรียบไปแล้ว
คุณหนูหา้ ยํ่าเท้าอย่างแง่งอนร้องว่า “ท่านแม่”
นายหญิงรองและท่านแม่เฒ่าต่างก็หวั เราะขึน้ มา
ท้ายที่สดุ ทุกคนจึงตัดสินใจชมดอกเหมยในยามบ่าย ย่างเนือ้ ในยามเย็นแทน
คุณหนูหา้ ยังหงุดหงิดอยู่บา้ ง คุณหนูส่ีจึงดึงนางไปปั ดหิมะออกจากกลีบดอกเหมย ทัง้
ยังกระซิบข้างหูดว้ ยเสียงที่ทกุ คนได้ยิน “ท่านแม่ขา้ กล่าวว่า สามารถเก็บไว้ในโถนําไปฝังดิน ฤดู
ร้อนก็นาํ ออกมาต้มชา”
1308

“แต่น่นั ต้องเก็บตอนเช้ากระมัง!” คุณหนูหา้ สับสนงงงวยอยู่บา้ ง


“ไอหยา!” คุณหนูส่ีไม่คิดเช่นนัน้ “ยามเช้าหรือยามบ่ายคงไม่มีความแตกต่างมากมาย
กระมัง? อย่างไรข้าก็ไม่อยากแต่งกลอน”
คุณหนูหา้ หัวเราะร่า “พวกเราไปเก็บดอกเหมยได้! นํากลับไปเสียบแจกันไหว้พระให้
ท่านย่า ทั่วห้องก็จะเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกเหมย”
คุณหนูส่ีเอ่ยว่า “ใส่แจกันไหว้พระควรต้องใส่ตอนเช้ากระมัง?”
คุณหนูหา้ ชะงักไป
ทุกคนต่างหัวเราะเสียงดังขึน้ มา
ท่านแม่เฒ่ากวักมือเรียกทัง้ สองคน “เจ้าลิงสองตัวนี ้ มาแต่งกลอนสองบทให้ขา้ ฟั งที่น่ี
ดีกว่า นอกจากจะเหมาะกับบรรยากาศแล้ว ยังได้แสดงความสามารถให้ขา้ เห็นด้วย ไม่ใช่ว่ามี
แต่ได้กบั ได้หรอกรึ?”
ทัง้ สองคนตอบรับอย่างเศร้าสร้อย พาให้ทกุ คนหัวเราะขึน้ มาอีกครัง้
พวกจีต้ า้ เหนียงนําพู่กนั หมึกกระดาษแท่นฝนหมึกที่เตรียมไว้เข้ามา หลังจากจัดวางสี่
สิ่ ง ลํา้ ค่ า ของห้อ งหนัง สื อ แล้ว ก็ ร ายงานกับ ท่ า นแม่ เ ฒ่ า “มี เ ด็ ก รับ ใช้ใ นเรื อ นคุณ หนูอ วี ส้ ่ง
จดหมายเข้ามาเจ้าค่ะ”
ทุกคนต่างพากันประหลาดใจ
ท่านแม่เฒ่าเอ่ยกับอวีถ้ งั อย่างมีเมตตา “รีบไปดูเถิดว่าเกิดเรื่องอะไร ข้าจะได้สบายใจ
ด้วย”
อวีถ้ งั ก็สงสัยเช่นกัน คุกเข่าคํานับ ก่อนจะตามจีต้ า้ เหนียงออกจากศาลาเหมันต์ไป
กูซ้ ีกลับทํามือบอกเป็ นนัยให้เหอเซียงอย่างเงียบเชียบ
ไม่นานนัก เหอเซียงก็หายไปไม่เห็นเงาเช่นกัน
1309

บทที่ 164 ตืน่ ตะลึง


ผูท้ ่ีมาส่งจดหมายให้อวีถ้ งั คืออาเสา
เมื่ อ เห็ น อวี ถ้ ัง เขาก็ รี บ สาวเท้า เข้า มาคํา นับ ให้น าง “คุณ หนู คุณ ชายให้ข้า มาส่ ง
จดหมาย เขากล่าวว่า ได้รบั จดหมายของท่านแล้ว ย่อมจะทําตามประสงค์ของท่าน ยังพูดอีก
ว่า ทุกอย่างในเรือนเรียบร้อยดี ท่านไม่ตอ้ งกังวล การค้าขายนั้นก็พูดคุยสําเร็จแล้ว รอท่าน
กลับไป ค่อยเฉลิมฉลองด้วยกันขอรับ” พูดจบ ก็ควักจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากกระเป๋ าเสือ้
อวีถ้ งั พยักหน้าด้วยรอยยิม้ เปิ ดจดหมายออก ก่อนจะอ่านจดหมายทันที
นอกจากคําพูดพวกนัน้ ของอาเสา ในจดหมายอวีห้ ย่วนยังชื่นชมภาพวาดสิบภาพนัน้
ของคุณชายจาง กล่าวว่าพ่อค้าต่างถิ่นพอใจอย่างยิ่ง ยังเสนอซือ้ ภาพทุกภาพ ภาพละสิบตําลึง
อวีห้ ย่วนเขียนจดหมายให้นางแฝงความนัยอยู่สองอย่าง ประการแรกอยากทําการค้าขายนี.้ ..
ในสกุลพ่อค้าต่างถิ่นนัน้ ทําเกี่ยวกับสินค้าเย็บปั ก มาซือ้ หีบสัมภาระจากสกุลพวกเขาเพื่อให้
สินค้าในร้านพวกเขามีของครบครัน ทําให้กิจการเย็บปั กค้าขายดีย่ิงขึน้ ดังนัน้ นอกจากกิจการ
ของสองสกุลจะไม่มีจดุ ที่ขดั แย้งกันแล้ว ยังสามารถพัฒนาช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ ประการที่
สองคืออยากปรึกษากับนางว่า หากขายภาพให้สกุลพ่อค้านัน้ จะต้องให้เงินสกุลจางหรือไม่?
ต้องให้เงินคุณชายจางเท่าใดถึงจะเหมาะสม?
เพราะพ่อค้าต่างถิ่นผูน้ นั้ อีกไม่ก่ีวนั ก็จะออกจากหลินอันกลับบ้านเกิด หีบสัมภาระที่ทาํ
เสร็จแล้ว สกุลพวกเขาเป็ นผูร้ บั ผิดชอบจัดส่ง เรื่องนีต้ อ้ งตัดสินใจก่อนพ่อค้าต่างถิ่นจะออกจาก
หลินอัน ยามนีเ้ ขาเพิ่งได้รบั จดหมายจากอวีถ้ งั ก็สง่ อาเสามาตอบกลับจดหมายทันที
อวีถ้ งั ลูบจดหมายครุน่ คิดอยู่พกั ใหญ่ ก่อนจะตอบกลับจดหมายอวีห้ ย่วน
ขายภาพนัน้ ทําได้ เงินที่ได้จากการขายภาพสามารถแบ่งคนละครึง่ กับสกุลจาง แต่ตอ้ ง
ให้พ่อค้าต่างถิ่นคนนัน้ เขียนสัญญาภาพวาดสิบภาพนีเ้ ป็ นกรรมสิทธิ์ของสกุลอวี ้ พ่อค้าต่างถิ่น
เอาไป ก็จาํ กัดใช้เพียงร้านค้าสกุลพวกเขาเท่านัน้ ไม่อาจนําไปขายต่อได้ หากจะขายต่อจริงๆ
1310

ต้องร่างหนังสือรายงานกับสกุลอวี ้ ทัง้ ได้รบั ความยินยอมจากสกุลอวี ้ เพื่อจ่ายเงินกันใหม่อีก


ครัง้
ยามนีก้ ็เย็นมากแล้ว กลับเมืองหลินอันอย่างน้อยที่สดุ ต้องใช้เวลาครึง่ ชั่วยาม อาเสารับ
จดหมายมาก็หยัดกายบอกลา กลับสกุลอวีท้ นั ที
ด้านเผยเยี่ยนทราบว่านอกจากอวีถ้ งั จะพักอยู่ท่ีเรือนนอกชั่วคราวแล้ว ยังมีนายหญิง
เสิ่นและกูซ้ ีพักอยู่ท่ีน่ีดว้ ย มีคนนอกอยู่ เขาไม่อาจไปน้อมทักทายท่านแม่เฒ่าโดยตรงได้ จึง
กลับไปเรือนที่ตวั เองพักอาศัย หลังจากอาบนํา้ ผลัดผ้า ก็สง่ คนไปถามท่านแม่เฒ่าว่าสะดวกจะ
พบเขายามใด
แต่ส่ง คนออกไปยัง ไม่ทัน ได้รับข้อความตอบกลับ เขาก็ ได้ยิ น เสี ย ก่ อนว่า มี คนจาก
สกุลอวีม้ าส่งจดหมายให้อวีถ้ งั
เขาอดแปลกใจไม่ได้
จดหมายของอวีถ้ ังเพิ่ง จะส่ง กลับไป คนในเรือนก็ ส่ง จดหมายกลับมาหานางทันที
กระทั่งหนึ่งวันยังรอไม่ได้ คงไม่ใช่วา่ ในเรือนเกิดเรื่องอะไรขึน้ กระมัง?
เผยเยี่ยนนึกถึงอาการป่ วยของนายหญิงอวี ้ ทัง้ นึกถึงที่นาสามสิบหมู่ท่ีสกุลอวีซ้ ือ้ จาก
สกุลหลี่...
เขาเรียกหูซิ่งที่อยู่ปรนนิบตั ิรบั ใช้ท่านแม่เฒ่าที่น่ีเข้ามา “ทางคุณหนูอวีเ้ กิดเรื่องอันใด?”
หลายวั น มานี ้ หู ซิ่ ง อยู่ ช่ ว ยท่ า นแม่ เ ฒ่ า จั ด การเรื่ อ งราวที่ เ รื อ นนอกอย่ า งสุ ด
ความสามารถ พวกคุณหนูและแขกเหรื่อกินอาหารชนิดใดมาก ชนิดใดน้อย เขาล้วนทราบ
ทัง้ นัน้ กลับไม่ได้ยินว่าทางคุณหนูอวีเ้ กิดเรื่องอะไรแม้แต่นอ้ ย!
เขานิ่งงันไปทันที
เดิ ม ที เ ผยเยี่ ย นก็ ไ ม่ พ อใจในความสามารถเขาเท่ า ใด ภายหลั ง เห็ น ว่ า เขา
ประจบประแจงท่านแม่เฒ่า รวมกับทางท่านแม่เฒ่าก็ตอ้ งการคนที่มือเท้าไวใช้งาน เผยเยี่ยนจึง
1311

หลับตาข้างหนึ่งทําเป็ นมองไม่เห็น ให้เขาได้ครองตําแหน่งพ่อบ้านต่อไป ยามนีเ้ ห็นเขาเป็ น


เช่นนี ้ เผยเยี่ยนยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่ ความไม่พอใจนีถ้ ึงกระทั่งปรากฏอยู่บนหน้าของเขา
อย่างตรงไปตรงมา
เขาเอ่ยอย่างดุดนั “ว่าอย่างไร? เจ้าไม่รูอ้ ย่างนัน้ รึ?”
ไม่ก่ีวันนีน้ ายท่านสามจัดการบ่าวชายที่ปรนนิบตั ิรบั ใช้ครอบครัวของนายท่านใหญ่
พวกที่รบั ใช้เกินห้าปี ลว้ นถูกตีจนตาย ผูห้ ญิงและเด็กๆ ก็ขายออกไปหมด คนทัง้ จวนพากันอก
สั่นขวัญแขวน ลอบซุบซิบนินทานายท่านสามว่า นอกจากไม่มีเมตตาเปี่ ยมคุณธรรมเหมือน
ท่านผูเ้ ฒ่า ยังไม่ออ่ นโยนใจกว้างเหมือนท่านแม่เฒ่า แทบไม่เหมือนคนสกุลเผยโดยสิน้ เชิง ยังมี
บางคนอิจฉาหูซิ่งที่ได้รบั ความโชคดีภายใต้ความโชคร้าย ล่วงหน้าไปรับใช้ทางท่านแม่เฒ่า
เสียก่อน
หูซิ่งได้ฟังก็อดลอบดีใจไม่ได้ แต่ก็ยังคงหวาดกลัวไม่นอ้ ยเช่นกัน ยามนีถ้ ูกเผยเยี่ยน
ถามเช่นนี ้ จึงสั่นงันงก สองขาอ่อนยวบ แทบจะคุกเข่าลงไป ผ่านไปพักใหญ่จึงค่อยเปล่งเสียง
ออกมาได้ เอ่ยอย่างประจบประแจง “คุณหนูอวีแ้ ละพวกคุณหนูลว้ นเที่ยวเล่นอย่างสุขสบาย
ตื่นเช้าเข้านอนเร็ว บางครัง้ ยังเดินเที่ยวเล่นตามทะเลสาบหมิงซาน เมื่อครู ่เพิ่งจะไปชมดอก
เหมยทางป่ าเหมยกับพวกคุณหนู...” เขาแทบที่จะร้องไห้ออกมารอมร่อ “ไม่ ไม่เห็นว่านางมี
ความผิดปกติตรงไหนจริงๆ ขอรับ!” คล้อยหลัง สัญชาตญาณก็ส่ งั ให้เขาใจกล้าขึน้ มา เอ่ยว่า
“อีกอย่าง คุณหนูอวีเ้ ป็ นสตรีในห้องหับ แม้ว่าข้าอยากจะรู อ้ ะไร คุณหนูอวีย้ ่อมไม่อาจบอกกับ
ข้าหรอกขอรับ!”
โทสะของเผยเยี่ยนเบาบางลง
หูซิ่งลอบเช็ดเหงื่อเย็น มีความรูส้ กึ ราวกับเพิ่งกระโดดหนีจากความตาย
แต่ตอ่ จากนัน้ ไม่นาน เขาก็เริม่ ทบทวนกับตัวเองว่า เหตุใดเขาจึงพูดว่าตัวเองไม่อาจเข้า
ใกล้คณ
ุ หนูอวีอ้ อกมา ทัง้ ครุน่ คิดว่าเหตุใดเผยเยี่ยนจึงคลายโทสะเพราะคําพูดนัน้ ของเขา...
ชั่วขณะหนึ่ง เขาก็รูส้ กึ เหมือนว่าตัวเองไปรูเ้ รื่องสําคัญอะไรเข้า
1312

แววตาที่หซู ิ่งมองเผยเยี่ยนแปลกไปจากเดิมโดยสิน้ เชิง


เผยเยี่ยนไม่เห็นหูซิ่งอยู่ในสายตา ย่อมไม่ให้ความสําคัญกับท่าทีท่ีเปลี่ยนแปลงไป
เล็กน้อยของเขา
เขาครุน่ คิดเล็กน้อย เอ่ยว่า “พวกคุณหนูอวีย้ งั อยู่ท่ีป่าเหมยอย่างนัน้ รึ?”
หูซิ่งละลํ่าละลักตอบ “ขอรับ ยังแต่งกลอนกันด้วย”
ยังนับว่าตอบได้หลายคําถาม พอมีประโยชน์อยู่บา้ ง!
เผยเยี่ยนมองหูซิ่งด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “เจ้าไปส่งจดหมายให้คณ
ุ หนูอวีอ้ ย่างเงียบๆ
ให้นางรอข้าที่ขา้ งป่ าเหมยสักครู ่ ข้ามีเรื่องจะคุยกับนาง”
คงไม่ใช่เรื่องไม่เหมาะสมกระมัง?
ไฉนต้องให้เขาเป็ นคนไปส่งจดหมาย?
หูซิ่งรูส้ กึ ขมขื่นอยู่ในใจ กลับไม่กล้าปรากฏทางสีหน้าแม้แต่นอ้ ย ไม่เพียงค้อมศีรษะรับ
คําสั่งอย่างนอบน้อม ยังทําท่าทีประหนึ่งดีอกดีใจที่ทาํ คุณไถ่โทษ เอ่ยเสียงดัง “ข้าจะไปเดี๋ยวนี ้
ขอรับ!”
เผยเยี่ยนแค่นรับเสียงเย็น
อวีถ้ งั ได้รบั จดหมายก็ไม่คิดมาก กระซิบบอกท่านแม่เฒ่าไม่ก่ีคาํ ก่อนจะหาข้ออ้างออก
จากศาลาเหมันต์
คุณหนูหา้ เพิ่งแต่งกลอนหกบทหนึ่งเสร็จ เห็นเช่นนัน้ ก็อดเอ่ยไม่ได้ “พี่อวี ้ เจ้าจะไปไหน
รึ?”
ทุกคนแต่งกลอนด้วยกัน กูซ้ ีแต่งเสร็จเป็ นคนแรก คุณหนูสามมาเป็ นอันดับสอง อวีถ้ งั
อันดับสาม คุณหนูรองและคุณหนูหา้ ตามมาติดๆ ส่วนคุณหนูส่ียงั ก้มศีรษะเขียนกลอนอยู่ตรง
นัน้
1313

ทุกคนเตรียมนํากลอนที่เขียนเสร็จแล้วไปให้ท่านแม่เฒ่า นายหญิงเสิ่นและนายหญิง
รองช่วยตัดสิน
ท่านแม่เฒ่าก็ไม่คิดอะไรมาก
ในเมื่ออวีถ้ งั รูเ้ รื่องความผิดปกติท่ีสกุลหลี่ขายที่นา เผยเยี่ยนก็ย่อมทราบเช่นกัน
นางคาดเดาว่าเผยเยี่ยนคงจะมาหาอวีถ้ งั เพราะเรื่องนี ้
แต่เรื่องนีไ้ ม่อาจให้พวกเด็กๆ ทราบได้ ท่านแม่เฒ่าจึงทําเป็ นไม่รูไ้ ม่ชี ้ เอ่ยทัง้ รอยยิม้
“ใครไม่มีธุระของตัวเองบ้างเล่า เจ้าเด็กคนนี ้ ยามที่ควรแสร้งโง่ก็ควรทําเป็ นไม่รู ้ ยามที่ควรถาม
ก็ควรพูดออกไปตามตรง เจ้ายังต้องฝึ กฝนอีกมากถึงจะปล่อยให้ออกจากเรือนได้” พูดจบ ยัง
มองนายหญิงรองไปแวบหนึ่ง
นายหญิงรองหัวเราะร่า เอ่ยรับ “ท่านวางใจเถิดเจ้าค่ะ ข้าจะอบรมสั่งสอนนางอย่างดี”
ท่านแม่เฒ่าขานรับว่า ‘อืม’ เรื่องนีจ้ งึ จบไปเช่นนี ้
ด้านกูซ้ ีกลับคิดวกไปวนมา
เด็กรับใช้ของสกุลอวีม้ าหาอวีถ้ งั เห็นได้ชดั ว่ามีเรื่อง อวีถ้ งั กลับมาก็บอกเพียงว่าคนใน
เรือนมาถามเรื่องเกี่ยวกับร้านค้า กระทั่งท่านแม่เฒ่าอยากรูย้ งั หยุดรออยู่ดา้ นนอก ยามนีม้ าเดิน
เฉิดฉายออกไปกลางคันเช่นนี ้ ไม่วา่ อย่างไรก็พาให้นางคิดว่าเรื่องนีย้ ่อมไม่ธรรมดา
แต่เหอเซียงคิดซับซ้อนกว่ากูซ้ ีอยู่บา้ ง
นางหาโอกาสไปกระซิบข้างหูกซู้ ี “คุณหนู นายท่านสามขึน้ เขามาเจ้าค่ะ”
กูซ้ ีเลิกคิว้ ขึน้
เหอเซียงรูว้ ่านางอยากฟั งละเอียดกว่านี ้ จึงเอ่ยอย่างรวดเร็ว “ข้าเพิ่งทราบตอนที่ไปสืบ
เรื่องของคุณหนูอวีเ้ มื่อครู ่ นายท่านสามยังไม่ได้มาน้อมทักทายท่านแม่เฒ่า ได้ยินว่าหลังจาก
กินข้าวเย็นจะเข้ามาเจ้าค่ะ”
1314

เช่นนัน้ อวีถ้ งั จะไปทําอะไรกัน?


กูซ้ ีรูส้ กึ กระวนกระวายใจอยู่เลือนราง
คุณหนูรองยังไม่ได้สืบว่าเหตุใดจู่ๆ อวีถ้ งั ก็ปรากฏตัวขึน้ มา
นางส่งสายตาเป็ นนัยให้เหอเซียง
เหอเซียงเข้าใจ ออกไปจากศาลาเหมันต์อย่างเงียบเชียบทันที
ไม่นาน กลอนของคุณหนูส่ีก็เสร็จสมบูรณ์
คุณหนูรองเอ่ยเย้าแหย่คณ
ุ หนูส่ี “พวกเราทัง้ หมดล้วนรอเจ้าอยู่คนเดียว!”
คุณหนูส่ียู่ปากอย่างไม่พอใจ “ข้ากล่าวว่าอยากย่างเนือ้ เป็ นพวกเจ้าที่อยากจะแต่ง
กลอน ข้าไม่มีเวลาเตรียมตัวเสียด้วยซํา้ ”
“เจ้าจะเตรียมตัวอย่างไร?” ยากที่คุณหนูสามจะหยอกล้อคุณหนูส่ี “จะเอากวีของไป๋
และหลี่มาอย่างนัน้ รึ?”
ไป๋ หมายถึงไป๋ จวีอี ้ 1 หลี่คือหลี่ไป๋ 2
244 245

คุณหนูส่เี อ่ยโต้แย้งอย่างร้อนตัว “หรือไม่ได้เล่า?”


ทุกคนต่างหัวเราะกันขึน้ มา
ท่านแม่เฒ่าเอ่ย “เช่นนัน้ ก็ดกู ลอนของคุณหนูส่เี ป็ นคนแรก”
คุ ณ หนู ส่ี ใ ห้ ส าวใช้ ข้ า งกายนํ า บทกลอนที่ น างแต่ ง ไปให้ ท่ า นผู้ เ ฒ่ า อย่ า ง
กระมิดกระเมีย้ น

1
ไป๋ จวีอี ้ คือนักกวีในสมัยราชวงศ์ถงั
2
หลี่ไป๋ คือกวีท่มี ีช่ือเสียงสมัยราชวงศ์ถงั
1315

กูซ้ ีกลับเอ่ยว่า “พวกเราไม่ตอ้ งรอคุณหนูอวีห้ รือเจ้าคะ?”


ท่านแม่เฒ่าเอ่ยด้วยรอยยิม้ “ยามนีก้ ็เย็นมากแล้ว อีกเดี๋ยวพวกเรายังต้องกินเนือ้ ย่าง
ไม่ใช่ร?ึ ไม่ตอ้ งรอนางแล้ว”
กู้ซีเม้มริมฝี ปากแย้มยิม้ เข้า ไปชมบทกลอนของคุณหนูส่ี ในใจกลับพะว้าพะวังว่า
เหอเซียงจะกลับมายามใด
แต่ไม่ถึงเวลาหนึ่งก้านธูป 3 เหอเซียงก็ปรากฏตัวที่ศาลาเหมันต์อย่างเงียบเชียบ
246

ครัง้ นีไ้ ม่จาํ เป็ นต้องให้เหอเซียงหาโอกาส กูซ้ ีก็กล่าวตามตรงว่านางอยากไปทําธุระเบา


ก่อนจะพาเหอเซียงเดินเข้ามาในป่ าเหมยที่ไร้ผคู้ น
เหอเซียงเผยสีหน้าจริงจังอยู่บา้ ง
นางเอ่ยว่า “คุณหนู คุณหนูอวีผ้ ูน้ ั้นมีเรื่องที่ไหนกันเจ้าคะ นางไปพบนายท่านสาม
ต่างหาก!”
กูซ้ ีตกตะลึง ในใจกลับรูส้ กึ ผ่อนคลายที่เรื่องเริม่ กระจ่างขึน้ มาอย่างแปลกประหลาด
นางเอ่ยเสียงเคร่งขรึม “ตกลงเป็ นเรื่องอะไรกันแน่?”
“ประเด็นหลักคือเรื่องอะไร ข้าก็ไม่ชัดเจนเช่นกันเจ้าค่ะ” เหอเซียงเอ่ยเสียงเบา “ข้า
ออกมาจากศาลาเหมันต์ก็เดินไปตามทางที่คุณหนูอวีเ้ ดินผ่านไปอย่างช้าๆ ผลปรากฏว่าทาง
สายนัน้ มุ่งไปยังศาลาที่อยู่ขา้ งทะเลสาบหมิงซาน ที่ศาลานอกจากคุณหนูอวีย้ งั มีชายหนุ่มที่
สวมเสือ้ คลุมสีขาว ข้าอยากเข้าไปดูใกล้ๆ ปรากฏว่าบริเวณรอบๆ ศาลากลับมีผคู้ มุ้ กันเจ็ดแปด
คนลอบยืนซุ่มอยู่ ข้าตกใจเสียยกใหญ่ กล่าวไปว่าข้าเป็ นสาวใช้คนสนิทของท่าน ท่านให้ขา้
กลับเรือนไปเอาของ แต่กลับหลงทาง ข้าจึงค่อยปลีกตัวออกมาได้ ภายหลังข้าพบกับพ่อบ้านหู
จึงเอ่ยหยั่งเชิงไม่ก่ีประโยค จึงได้ทราบว่าชายหนุ่มผูน้ นั้ ก็คือนายท่านสามของสกุลเผยเจ้าค่ะ”

3
เวลาหนึ่งก้านธูป เวลาประมาณครึง่ ชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง
1316

กูซ้ ีเงียบไปพักใหญ่ เอ่ยว่า “นายท่านสามหน้าตาเป็ นอย่างไร?”


เหอเซียงใบหน้าแดงระเรื่อ เอ่ยอ้อมแอ้ม “หน้าตาหล่อเหลา บุคลิกสง่างาม...ในผูค้ นที่
ข้าเคยเห็นมา คนที่พอจะเทียบเขาได้ก็มีเพียงคุณชายใหญ่เจ้าค่ะ”
กูฉ้ ่างเป็ นชายหนุ่มรูปงามที่เลื่องชื่อของเมืองหังโจว
ใบหน้าของกูซ้ ีก็รอ้ นฉ่าขึน้ มาเช่นกัน
แต่เมื่อนึกถึงอวีถ้ งั นางก็อดขมวดคิว้ ไม่ได้
เผยเยี่ยนจะทําอะไร?
เขาลอบพบเจอกับคุณหนูอวี ้ ท่านผูเ้ ฒ่าไม่รูร้ ?ึ หรือว่ารูแ้ ต่กลับช่วยทัง้ สองคนปิ ดบัง?
เช่นนัน้ คุณหนูอวีใ้ ช้ฐานะอันใดไปปรากฏต่อหน้าเผยเยี่ยน?
จะว่าไปแล้ว นางและพี่ชายยังคงพลาดไม่นอ้ ย คาดไม่ถึงว่าเมืองหลินอันยังมีหญิงสาว
อย่างเช่นคุณหนูอวี ้
นางควรปล่อยคุณหนูอวีไ้ ปเลยตามเลย? หรือควรหาวิธีทาํ ให้คุณหนูอวีห้ ายไปจาก
จวนสกุลเผย?
กูซ้ ีไม่อาจตัดสินใจในช่วงเวลาสัน้ ๆ ได้อยู่บา้ ง
นางเอ่ยกับเหอเซียง “เจ้าดูสิวา่ มีวิธีสืบหาความสัมพันธ์ระหว่างคุณหนูอวีแ้ ละนายท่าน
สามบ้างหรือไม่ โดยเฉพาะท่านผูเ้ ฒ่าทราบหรือไม่ทราบเรื่องนี.้ ..”
หากท่านผูเ้ ฒ่าทราบ เช่นนัน้ สกุลเผยมีความคิดจะทําอย่างไร?
นี่เป็ นสิ่งที่ควรใส่ใจและให้ความสําคัญที่สดุ
กูซ้ ีถอนหายใจยาวเหยียด
1317

บทที่ 165 สนทนา


ศาลาข้างทะเลสาบหมิงซาน ลมฤดูหนาวนัน้ พัดโชยจนเย็นยะเยือกบาดกระดูก
อวีถ้ ังกระชับเสือ้ คลุม ถามเผยเยี่ยนด้วยตัวสั่นเทา “เหตุใดจึงต้องมาพูดคุยที่น่ี? หา
ห้องอุน่ สักแห่งไม่ได้หรืออย่างไร?”
เผยเยี่ยนไม่ตอบคําถาม กลับมองเสือ้ คลุมของอวีถ้ งั ไปแวบหนึ่ง
ด้านในเป็ นขนกระรอก ด้านนอกเป็ นผ้าหยาบหังโฉว ไม่แปลกใจที่จะรูส้ กึ หนาวสั่น
ฤดูกาลนี ้ ผ้าด้านในควรใช้ขนจิง้ จอกไม่ก็เตียวเหมา 1 ส่วนผ้าด้านนอกก็ควรเป็ นผ้าไหม
247

ทอไม่ก็สซู่ ิ่ว 2
248

ยามนีส้ กุลอวีก้ ็นบั ว่ารํ่ารวย เหตุใดจึงทําใจตัดเย็บเสือ้ คลุมดีๆ ให้คณ


ุ หนูอวีไ้ ม่ได้กนั
เผยเยี่ยนขมวดคิว้
อวีถ้ งั กลับงงงัน
มองตามสายตาของเขาจนหยุดที่เสือ้ คลุมของตัวเอง
ชั่วขณะนัน้ นางก็เผยสีหน้าโกรธเคือง
เผยเยี่ยนผูน้ ี ้ เหตุใดทุกครัง้ จึงชอบจ้องมองเสือ้ ผ้าเครื่องแต่งกายของนางเช่นนี ้
นางไม่ใช่คณุ หนูของสกุลเผยที่ตอ้ งคบค้าสมาคมกับคนมากมาย ทุกครัง้ ที่ปฏิสมั พันธ์
กับใครก็สวมชุดคลุมแทบไม่ซาํ้ เสียหน่อย เสือ้ คลุมนีเ้ ป็ นสินเดิมของมารดา ขนสัตว์เก็บรักษาไว้
เป็ นอย่างดี เสือ้ คลุมสีราบเรียบ ปั กเย็บดอกหลันฮวาไว้ท่ีมมุ หนึ่ง เย็บตะเข็บละเอียดประณีต
จับคูส่ ีได้อย่างเรียบหรู ไม่วา่ จะมองอย่างไรก็เป็ นเสือ้ คลุมที่นาํ ออกมาเชิดหน้าชูตาได้

1
เตียวเหมา คือขนมิงค์
2
สูซ่ ิ่ว ผ้าขึน้ ชื่อของมณฑลเสฉวน
1318

เขาถือสิทธิ์อนั ใดจึงมองอย่างไม่ชอบใจเช่นนี?้
อวีถ้ งั แค่นยิม้ ในใจ ตัดสินใจไม่ให้เผยเยี่ยนได้สขุ สบายใจเช่นกัน
พอดีกับลมหนาวระลอกใหม่พัดเข้ามา พาให้อากาศด้านในหนาวเย็นไปหมด นาง
กระชับเสือ้ คลุมแน่น เอ่ยประชดว่า “ไม่อย่างนัน้ เปลี่ยนเป็ นศาลาริมนํา้ ก็ได้! ยืนอยู่ท่ีน่ี คนแทบ
จะกลายเป็ นนํา้ แข็งอยู่แล้ว”
เขาเลือกสถานที่ได้ไม่ดีอย่างนัน้ รึ?
เผยเยี่ยนเอ่ยอธิบาย “ที่น่ีใกล้กบั ป่ าเหมยมากที่สดุ ”
เอาเถิด!
ตระหนักว่าท่านแม่เฒ่ายังชมดอกเหมยอยู่ในป่ าเหมย อวีถ้ งั ตัดสินใจว่าแม้จะมีคาํ พูด
ยาวเหยียดเพียงไหนก็จะพูดสัน้ ๆ แทน
นางเอ่ยว่า “ท่านอยากพบข้าทําไมรึ?”
เดิมทีเผยเยี่ยนอยากถามตรงไปตรงมาว่าที่สกุลนางเกิดเรื่องอะไรขึน้ แต่คาํ พรํ่าบ่น
ของอวีถ้ งั เมื่อครูท่ าํ ให้เผยเยี่ยนรูส้ กึ ว่าตัวเองจัดการเรื่องราวได้ไม่ดีเท่าใด จึงไม่สบายใจอยู่บา้ ง
เอ่ยเรื่องหลี่ตวนขึน้ มาแทน...ในความคิดของเขา เขารูส้ กึ ว่าหากอวีถ้ งั ทราบเรื่องร้ายที่หลี่ตวน
ประสบพบเจอ นางย่อมต้องดีใจ
“เจ้าพูดเรื่องสกุลหลี่กับข้า ข้าจึงตัง้ ใจไปตรวจสอบ” เผยเยี่ยนเอ่ยอย่างจริงจัง “เป็ น
ดังที่เจ้าว่าจริงๆ ยามที่หลี่อีเ้ ป็ นข้าหลวงในรื่อเจ้า มีการกระทําที่ไม่ใสสะอาดอยู่บา้ ง” พูดมาถึง
ตรงนี ้ เขาก็เม้มริมฝี ปาก
ออกไปรับราชการไกลก็เพราะเรื่องเงินทอง
นี่เป็ นเหตุผลที่คนส่วนมากเข้าสูเ่ ส้นทางข้าราชการ
เผยเยี่ยนสามารถเข้าใจได้ แต่เขากลับไม่เห็นด้วย
1319

ด้วยเหตุนีย้ ามที่เขารูว้ า่ หลี่อที ้ าํ เรื่องอะไรบ้างที่ร่อื เจ้า เขาก็มีโทสะไม่นอ้ ย


ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ลว้ นมีขอบเขต เมื่อผ่านเส้นทางนีไ้ ปแล้ว ย่อมทําให้คนรู ส้ ึกรังเกียจดู
แคลน
เขานําเรื่องของหลี่อีเ้ ขียนใส่จดหมายบอกกับสหายร่วมเรียนปี เดียวกันที่เป็ นขุนนาง
ฝ่ ายตรวจการ และสหายผูน้ ีแ้ ต่ไหนแต่ไรก็เป็ นคนทะเยอทะยาน คิดจะหลงเหลือชื่อเสียงอันดี
งามของขุนนางเอาไว้
เขาย่อมจะบอกหลี่ออี ้ ย่างดีๆ ว่าควรประพฤติตนอย่างไรแน่นอน
อวีถ้ งั ลอบดีใจ
ก็หมายความว่า ครอบครัวนัน้ จะสามารถลบล้างข้อกล่าวหาได้เร็วขึน้
นางอดเอ่ยไม่ได้ “เช่นนัน้ ท่านวางแผนจะทําอย่างไร?”
เผยเยี่ยนเห็นแววตาของนางปรากฏแสงแวววับดุจพระอาทิตย์ในฤดูรอ้ นที่เขาคุน้ เคย ก็
ลอบพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ทว่าใบหน้ากลับไม่เผยท่าทีอันใด เอ่ยว่า “สกุลพวกเขาไม่ใช่
อยากจะย้ายไปหังโจวหรอกรึ? เช่นนัน้ ก็ให้ยา้ ยไปเสีย”
อวีถ้ งั ตกตะลึง
ปกติสกุลที่ยา้ ยออกไป ไม่กลับมาอีกเช่นนี ้ ย่อมไม่เหลือทรัพย์สินอะไรไว้ในถิ่นฐานเดิม
ก็หมายความว่า เผยเยี่ยนคิดจะบีบบังคับให้สกุลหลี่ขายทรัพย์สินบรรพบุรุษ แม้ว่าจะ
ไม่ทงั้ หมด นั่นก็คงเป็ นส่วนใหญ่
นางนึก ถึ ง ชาติ ก่ อ นที่ ส กุล อวีข้ ายทรัพ ย์สิ น เหล่า นั้น ของบรรพบุรุ ษ พลัน รู ส้ ึก ได้ว่า
เคราะห์กรรมของสกุลหลี่กลับถูกเผยเยี่ยนเป็ นคนกําหนดอย่างบังเอิญในชาตินี ้
“ขอบคุณนายท่านสาม!” นางเอ่ยอูอ้ ี ้ หางตายังมีหยาดนํา้ วาววับ
เผยเยี่ยนปรากฏท่าทีสงสัย
1320

เขาก็ไม่ได้พดู อะไร เหตุใดยามนีค้ ณ


ุ หนูอวีจ้ ึงตืน้ ตันใจและซาบซึง้ เช่นนี ้ หรือคุณหนูอวี ้
จงเกลียดจงชังสกุลหลี่จนถึงขัน้ ที่ขอเพียงสกุลหลี่ประสบเคราะห์รา้ ย นางก็จะสามารถดีใจได้
อย่างนัน้ รึ?
เผยเยี่ยนไม่อาจเข้าใจได้
อวีถ้ งั ย่อมไม่อยากอธิบายเรื่องนีก้ บั เขา แสร้งกล่าวปิ ดบัง “ไอหยา ไม่ใช่ว่าข้านึกถึงที่
นาที่สกุลหลี่เหลือไว้หนึ่งร้อยห้าสิบหมู่น่ นั หรอกรึ? ที่นาของสกุลพวกเขา นับเป็ นพืน้ ที่ท่ีดีท่ีสดุ
ในหลินอันของพวกเราเชียว มีเงินก็ซอื ้ ไม่ได้ ไม่ง่ายที่สกลุหลี่จะประสบเคราะห์รา้ ยเช่นนี ้ ข้าไหน
เลยจะข่มใจตัวเองไหว?”
นางพูดประหนึ่งหยอกล้อ แววตามี ความรู ส้ ึกยิน ดีปรีดาโดยไม่มีความแค้นเข้ามา
เกี่ยวข้อง
เป็ นความยินดีจากใจจริง
เผยเยี่ยนชะงักไป นํา้ เสียงก็อดผ่อนคลายขึน้ มาหลายส่วนไม่ได้ “หากสกุลพวกเราก็
อยากได้ท่ีนาร้อยห้าสิบหมู่นนั้ ล่ะ?”
อวีถ้ งั คาดไม่ถึงเป็ นอย่างมาก
ในความคิดของนาง เผยเยี่ยนไม่ใช่คนที่เอ่ยปากพูดอย่างส่งเดช
ยามนีเ้ ขาจะขอที่นาร้อยห้าสิบหมู่ของสกุลหลี่จากนาง
เห็นได้ชดั ว่าคําพูดนีอ้ าจจะหยอกเล่นเท่านัน้ อวีถ้ งั กลับปกปิ ดความรูส้ กึ ยินดีไม่มิด
นางเอ่ยว่า “แน่นอนว่าต้องให้สกุลพวกท่าน! อยู่ใต้ตน้ ไม้ใหญ่ย่อมได้ลมเย็น 3! ติดตาม 249

สกุลท่าน อย่างน้อยภายหลังก็ไม่ตอ้ งกลัดกลุม้ เรื่องนํา้ ในที่นา”

3
อยู่ใต้ตน้ ไม้ใหญ่ย่อมได้ลมเย็น อุปมาว่า มีท่พี ่งึ พาย่อมทําเรื่องได้ง่ายดาย
1321

เมื่อครุน่ คิดตาม ก็มีเหตุผลอยู่บา้ งจริงๆ!


ยากที่เผยเยี่ยนจะหัวเราะขึน้ มา “ไม่อย่างนัน้ พวกเราพูดคุยที่ศาลาริมนํา้ ด้านข้างดี
หรือไม่?”
ฝั่งตรงข้ามของศาลาที่กนั้ ด้วยทะเลสาบ มีศาลาริมนํา้ ที่ตงั้ อย่างมั่นคงมาเป็ นเวลานาน
อวีถ้ งั คิดว่าเผยเยี่ยนมาเพราะบอกเรื่องนีก้ บั นาง จึงส่ายศีรษะระรัว เอ่ยว่า “ไม่เป็ นไร
ที่น่ีก็ดี ท่านแม่เฒ่ายังคอยให้ขา้ กลับไปอีก!”
เผยเยี่ยนเห็นนางฟื ้ นคืนท่าทีเป็ นปกติ ก็ค่อยๆ สงบจิตใจลง พูดถึงจุดประสงค์ของ
ตัวเอง “ยามเช้าเจ้าเพิ่งส่งจดหมายกลับไปที่สกุล ยามบ่ายก็มีคนมาส่งจดหมายตอบกลับเจ้า
หรือในเรือนเจ้าเกิดเรื่องอันใดกัน?”
อวี ถ้ ัง คิ ด ว่า เรื่อ งที่ น่ า อายที่ สุด เรื่อ งที่ จ นตรอกที่ สุด ของนางล้ว นถูก เผยเยี่ ย นเห็ น
หมดแล้ว ไม่มีอะไรที่ตอ้ งปิ ดบัง
นางจึงเล่าเรื่องที่เชิญคุณชายจางมาวาดแบบให้เผยเยี่ยนฟั ง
เผยเยี่ยนคาดไม่ถึงอย่างยิ่ง มองพินิจอวีถ้ งั ขึน้ ๆ ลงๆ
อวีถ้ งั เอ่ยอย่างตื่นเต้น “ทําไมรึ?”
ทว่าในใจกลับกระวนกระวาย หรือตัวเองทําผิดที่ใดไป นึกทบทวนเรื่องที่ตวั เองทําซํา้
แล้วซํา้ เล่า
ใครจะรูว้ ่าเผยเยี่ยนกลับเอ่ยอย่างจริงจังว่า “คาดไม่ถึงว่าเจ้ายังมีกิจการเช่นนี ้ เจ้าเคย
คิดทําเครื่องลงรักประดับเปลือกหอยหรือไม่?”
ยามนีเ้ ครื่องเรือนที่แพงที่สุดก็คือเครื่องเรือนที่เลี่ยมฝั งพวกเปลือกหอย เครื่องลงรัก
แกะสลักสีแดงของสกุลพวกเขา ปกติลว้ นเป็ นชิน้ เล็กๆ ทัง้ ยังสามารถใช้ได้ตลอดชีวิต บางสกุล
แม้วา่ จะเป็ นยามแต่งงานก็ใช่วา่ จะซือ้ เครื่องลงรักสีแดงเช่นนีเ้ สมอไป
1322

เครื่องเรือนก็แตกต่างแล้ว
ในเรือนของทุกคนล้วนจําเป็ นต้องมี
แต่เครื่องเรือนสีดาํ ยังมีมากกว่าอยู่บา้ ง
เห็นได้ชดั ว่าเผยเยี่ยนก็ไม่ใช่จะถูกเสมอไป
อวีถ้ ังปฏิเสธอย่างอ้อมค้อม เอ่ยด้วยรอยยิม้ “ศิลปะที่บรรพบุรุษของสกุลพวกเราสืบ
ทอดกันมาก็คือเครื่องลงรักแกะสลักสีแดง หากทําเครื่องลงรักประดับเปลือกหอย ย่อมเท่ากับ
ว่าทิง้ ประโยชน์กบั สิ่งที่อยู่ใกล้ ไขว่คว้าสิ่งที่อยู่ไกล ทอดทิง้ ฝี มือศิลปะของบรรพบุรุษ ครุ ่นคิด
แล้วจึงไม่ตดั สินใจทํา”
กิจการของสกุลเผยมีคณานับ แต่สว่ นมากอยู่ในการควบคุมดูแลของพวกเถ้าแก่ อย่าง
มากที่สดุ เขาก็เพียงเสนอความต้องการออกไป ตรวจดูบญ ั ชี ส่วนเรื่องพวกนีย้ งั ไม่ค่อยเข้าใจ
จริงๆ
“ข้าก็พดู ไปเท่านัน้ ” เขาเอ่ย “ช่วงนีม้ ีคนขอให้ขา้ ช่วยรับโรงงานทําเครื่องลงรักประดับ
เปลือกหอยไว้ ข้ากําลังครุ ่นคิดอยู่ จึงอยากมาถามสกุลพวกเจ้าก่อนว่าพอจะใช้ประโยชน์ได้
หรือไม่”
อวีถ้ งั ตกตะลึง
หากเป็ น โรงงานทํา เครื่ อ งลงรัก ประดับ เปลื อ กหอย นั่น ก็ ย่ อ มมี จุด ให้ใ ช้ป ระโยชน์
มากมาย
ขอเพียงแค่ควบคุมไม่ให้วนุ่ วาย ก็ย่อมเป็ นการค้าขายที่ทาํ เงินให้อย่างยิ่ง
นี่ช่างเข้ากับคําโบราณที่วา่ ‘เงินวิ่งไล่ตาม’ โดยแท้
แต่วา่ นางก็แปลกใจอยู่เล็กน้อยว่าใครกันที่ขายโรงงานเช่นนี ้
1323

เผยเยี่ยนก็ไม่คิดปิ ดบังนาง เอ่ยว่า “เป็ นสกุลซ่ง” ยังอธิบายว่า “สกุลพวกเขาไม่ได้รว่ ม


หุน้ สร้างเรือกับสกุลเผิงและสกุลอู่หรอกรึ? สกุลเผิงคงไม่ตอ้ งพูดถึง เดิมทีสกุลอู่ก็เป็ นสกุลที่
รํ่ารวยขึน้ มาฉับพลันกลายเป็ นคหบดีชนบท แต่การสร้างเรือมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง สกุลพวก
เขาไหนเลยจะมีเงินสูท้ งั้ สองสกุล? ข้าเดาว่าสกุลเผิงและสกุลอูอ่ าจจะคิดร่วมมือกันบีบให้สกุล
ซ่งออกมา ดังนัน้ จึงวางหลุมพรางอะไรบางอย่าง ยามนีส้ กุลซ่งขึน้ หลังเสือย่อมลงยาก ทําได้
เพียงลอบขายทรัพย์สินเพื่อแก้ไขสถานการณ์” พูดมาถึงตรงนี ้ เขาก็คล้ายกับคิดอะไรออก ร้อง
‘เอ๊ะ’ ออกมา เอ่ยว่า “เครื่องลงรักสีแดงต้องทาสีหลายชั้นใช่หรือไม่ เหมือนว่าสกุลซ่งยังมี
โรงงานสีอีกแห่ง...”
แต่สกุลพวกนางก็ไม่ตอ้ งการโรงงานสีเพื่อจัดหาสีให้ตวั เองเสียหน่อย!
สิ่งที่สาํ คัญที่สดุ คือ สกุลพวกนางขาดแคลนคนที่จะมาควบคุมกิจการเช่นนี ้
พึ่งพาคนอื่นให้ช่วยเหลือกิจการ ท้ายที่สดุ ก็ไม่อาจหาเงินได้มากมายแต่อย่างใด
นี่เป็ นประสบการณ์จากชาติก่อนของอวีถ้ งั
นางปฏิเสธอย่างอ้อมค้อมอีกครัง้ คิดว่าหากพูดคุยเช่นนีก้ ับเผยเยี่ยนต่อไป ไม่แน่ว่า
เผยเยี่ยนอาจจะพูดอะไรที่น่าตกใจออกมาอีก จึงรีบเบี่ยงไปประเด็นอื่น “ท่านอยากรับช่วงต่อ
กิจการของสกุลซ่งอย่างนัน้ รึ? สิ่งที่ทาํ เงินให้พวกเขามากที่สดุ คืออะไร?”
“โรงงานสิ่งทอ” เผยเยี่ยนกล่าว ไม่ได้ตอบคําถามว่าเขาอยากรับช่วงต่อกิจการสกุลซ่ง
หรือไม่ “แต่ว่าสิ่งทอก็ย่งุ ยากไม่นอ้ ย หากไม่ทอพวกเครื่องบรรณาการก็ยากที่คนอื่นจะให้ความ
สนใจ ทําเครื่องบรรณาการยังต้องมีคนรูจ้ กั อยู่ในยี่สิบสี่สาํ นักด้วย...” พูดมาถึงตรงนี ้ เขาก็พลัน
หยุดลง นิ่งงันขึน้ มา
อวีถ้ งั ไม่รูส้ าเหตุ
เผยเยี่ยนเอ่ยถามนาง “เจ้ารูจ้ กั เจียงเฉาหรือไม่?”
1324

เจี ย งเฉาพัก อยู่ท่ี ส กุล พวกนางช่ ว งหนึ่ง นางย่ อ มรู จ้ ัก แต่ ท่ า ที ข องเผยเยี่ ย น กลับ
หมายความว่านางเข้าใจเกี่ยวกับตัวเจียงเฉาผูน้ ีห้ รือไม่
อวีถ้ ังเอ่ยทั้งครุ ่นคิด “ก็พอใช้ได้กระมัง? ปกติขา้ ก็ได้ยินท่านพ่อพูดถึงเขาหลายต่อ
หลายครัง้ ”
เผยเยี่ยนพยักหน้า จู่ๆ ก็เปลี่ยนไปพูดอีกเรื่องเสียอย่างนัน้ “ร้านค้าของพวกเจ้ามีแบบ
ภาพที่ดีก็คงราบรื่นแล้วกระมัง?”
“ยามนีเ้ หมือนว่าจะเป็ นเช่นนัน้ ” อวีถ้ ังเอ่ยอย่างแน่วแน่ “เรื่องการค้า ต้องค่อยๆ จับ
ทางไปทีละเล็กทีละน้อย”
เผยเยี่ยนเอ่ยว่า “คุณชายจางวาดภาพได้ดขี นาดนัน้ เชียวรึ?”
อวีถ้ งั เอ่ยด้วยรอยยิม้ “ข้าความรู ต้ ืน้ เขิน แต่จากที่ขา้ เคยเห็นมา ภาพของคุณชายจาง
นัน้ วาดได้ดีท่ีสดุ แล้ว”
เผยเยี่ยนผงกศีรษะ “อืม! ในเรือนเจ้าไม่มีเรื่องอะไรก็ดีแล้ว ข้าขอให้เจ้ามาอยู่เป็ นเพื่อน
ท่านแม่ ย่อมไม่อยากให้เจ้าต้องกังวลหลายเรื่อง หากในเรือนเจ้ามีอนั ใด เจ้าก็เรียกสาวใช้หรือ
บ่าวรับใช้มารายงานข้าได้ ข้าจะพยายามช่วยเจ้าแก้ไขปั ญหา”
อวีถ้ งั เอ่ยขอบคุณ
ก่อนทัง้ สองจะแยกย้ายกันไป
แน่นอนว่าอวีถ้ งั ต้องย้อนกลับไปในป่ าเหมย แต่ยามนีก้ ารแต่งกลอนจบลงแล้ว ทุกคน
กําลังเตรียมไปหาทางท่านแม่เฒ่า
กูซ้ ีเห็นนางก็เอ่ยด้วยรอยยิม้ ทันที “ช่างเป็ นดังที่ว่ามาเร็วยังมิสมู้ าประจวบเหมาะ พวก
เราเพิ่งตัดสินใจจะต้มเนือ้ แพะกินกัน เจ้าก็กลับมาพอดี เห็นได้ชดั ว่าคุณหนูอวีม้ ีลาภปากจริงๆ”
“ไม่ใช่กล่าวว่าจะกินเนือ้ ย่างเย็นนีห้ รอกรึ?” อวีถ้ งั เอ่ยอย่างคาดไม่ถงึ
1325

ไฉนจึงเปลี่ยนแปลงความคิด?
คุณหนูส่ีหน้าขึน้ สี เอ่ยอย่างกระอึกกระอัก “กลอนของคุณหนูกถู้ กู ตัดสินให้เป็ นอันดับ
หนึ่ง พี่สามได้ลาํ ดับที่สอง คุณหนูกูก้ ล่าวว่าตัวเองอายุมากที่สดุ จึงให้พ่ีสามเป็ นคนเลือก พี่
สามบอกว่ายามเย็นกินเนือ้ ย่างไม่ดีตอ่ สุขภาพนัก จึงเปลี่ยนเป็ นต้มแทน”
กลอนของกูซ้ ีถกู ตัดสินให้อยู่ในลําดับแรก อวีถ้ งั ไม่แปลกใจแม้แต่นอ้ ย
เห็นได้ชดั ว่าหลังจากนางออกไปก็มีการเดิมพันกันเกิดขึน้
นางกินอะไรล้วนได้ทงั้ นัน้ เอ่ยด้วยรอยยิม้ “เช่นนัน้ ก็ดี หากพรุ ่งนีห้ ิมะยังตก พวกเรา
ค่อยย่างเนือ้ ก็ได้”
คําพูดของอวีถ้ งั พูดได้ตรงใจคุณหนูส่ีและคุณหนูหา้
ทัง้ สองคนพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน ก่อนคนกลุ่มนีจ้ ะเดินคุยเล่นเบียดเสียดมุ่ง
หน้าไปยังเรือนหลักของท่านผูเ้ ฒ่า
ระหว่างทาง กูซ้ ีกลับอยากถามอวีถ้ งั หลายต่อหลายครัง้ ว่า ‘เจ้าไม่อยากรูห้ รือว่าตัวเอง
ได้อนั ดับที่เท่าใด’ แต่ก็ยงั คงข่มกลัน้ ไม่พดู ออกมา
1326

บทที่ 166 เสือ้ คลุม


ด้านเผยเยี่ยนกลับมาเรือนโอ่วเหอที่ตวั เองพํานักด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์เท่าใด
จวนสกุลเผยยัง มี อีก หลายเรื่องให้เ ขารับผิ ดชอบ แต่เ ขากลับผลัก ภาระทั้ง หมดให้
เผยหม่าน ขึน้ เขามาเช่นนี ้ ประการแรกเขาเป็ นห่วงมารดา อยากเห็นว่านางอยู่ท่ีน่ีเป็ นอย่างไร
บ้าง ประการที่สองอยากหลบพวกคนที่แอบอ้างการอวยพรปี ใหม่หาเรื่องมาเข้าพบเขา
มีขนุ นางยื่นฎีกาให้ฮ่องเต้แต่งตัง้ ตําแหน่งรัชทายาทอีกครัง้ ราชสํานักและปวงประชา
ได้ยินเสียงลมก็เคลื่อนไหวขึน้ มาทันที สกุลขุนนางใหญ่ของเจียงหนานฉากหน้านิ่งเฉย ลับหลัง
กลับโหมซัดคลื่นเป็ นวงกว้าง แรกเริ่มสกุลเผยเลือกปั กหลักที่หลินอัน ก็ไม่ใช่เพราะชอบความ
เงียบสงบและไร้ความวุน่ วายของหลินอันหรอกรึ แล้วเหตุใดต้องยอมให้ผอู้ ่ืนลากสกุลเผยเข้าไป
ข้องเกี่ยวด้วยเล่า?
เรื่องเช่นนีส้ ามสี่ปีจงึ จะเกิดขึน้ ครัง้ หนึ่ง
เมื่ อ ก่ อ นเขาก็ เ ป็ น คนที่ ตี น ้าํ โหมคลื่ น อยู่ภ ายในคนหนึ่ ง เช่ น กัน ทั้ง ยัง สัม ผัส ได้ถึ ง
ความสุขที่ไร้สิ่งใดเทียมเทียบจากเรื่องนี ้
แต่นบั ตัง้ แต่บิดาเขาจากไป ชั่วพริบตาเขาก็รูส้ กึ ว่าการเปลี่ยนแปลงครัง้ ใหญ่พวกนีไ้ ม่
น่าสนใจอีกต่อไป
เผยเยี่ยนมองเด็กรับใช้ท่ีกวาดหิมะอยู่ท่ีชานเรือน ทอดถอนหายใจแผ่วเบา
ภายหลังเขาอาจเร้นกายอยู่ในหุบเขาจริงๆ ก็ได้
ยามนีย้ งั ดี แต่พอผ่านสักสิบปี คาดว่าคงไม่มีใครจําเขาได้อีกแล้ว
แต่ก่ อ นที่ เ ขาจะเร้น กายหายไป จํา ต้อ งจัด การเรื่อ งกลับเข้า รับ ตํา แหน่ง ของพี่ รอง
หลังจากการไว้ทกุ ข์เสียก่อน ความสัมพันธ์ในเมืองหลวงไม่อาจปล่อยปละละเลยไปในยามนีไ้ ด้
เขาเรียกเผยชีเข้ามาไถ่ถาม “ในเรือนยังมีเงินให้ใช้สอยอีกเท่าใด?”
1327
1
“เฉียนจวง ทางเทียนจิน นับตัง้ แต่ท่านผูเ้ ฒ่าจากไปก็ไม่ได้เคลื่อนย้ายไปไหนขอรับ”
250

เผยชีเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “มีเงินทัง้ หมดหนึ่งแสนตําลึงขอรับ”


เผยเยี่ยนตรึกตรองเล็กน้อย หมุนกายกลับไปห้องหนังสือร่างรายการส่งให้เผยชี “เจ้า
นําใบรายการนีใ้ ห้ชชู ิง จากนัน้ ก็ทาํ ตามการจัดการของเขา”
ชูชิงเป็ นคนที่ตามกลับหลินอันมาพร้อมกับเขา ยามนีน้ บั เป็ นผูช้ ่วยส่วนตัวของเขา
เผยหม่านรับคําสั่งอย่างนอบน้อม ก่อนจะจากไป
ยามนีเ้ ผยเยี่ยนจึงเอนกายบนเก้าอีโ้ ยก
อาหมิงนําพรมขนสัตว์มาปูรองเท้าเขาอย่างคล่องแคล่ว
เผยเยี่ยนไม่ได้สนใจอาหมิง หลับตาลง ทว่าสมองกลับแล่นอย่างว่องไว
เงินทางเทียนจินเคลื่อนย้ายไปส่งของขวัญในเมืองหลวง เงินในหลินอันย่อมไม่พอใช้
จ่ายเท่าใด ปี นีเ้ ขาเสียเงินไปกับเรือกสวนไร่นามากเกินไป กําไรกลับได้นอ้ ย มองไม่ออกเช่นกัน
ว่าต้องใช้เวลาอีกกี่ปีจึงจะเก็บเงินลงทุนคืนกลับมาได้ วิธีท่ีดีท่ีสดุ คือโยกย้ายของจํานําตายใน
โรงรับจํานํามาช่วยเหลือก่อน เรื่องนีย้ งั ต้องปรึกษากับเถ้าแก่ใหญ่ถง เถ้าแก่ใหญ่ถงเป็ นคนที่
บิดาหลงเหลือไว้ให้เขา เผยเยี่ยนเคยพูดคุยกับเขาเพียงครัง้ เดียวยามที่เพิ่งรับช่วงต่อสกุลเผย
เท่านัน้ นับว่าประมาณปี กว่าแล้ว ต้องหาโอกาสพูดดีๆ กับเถ้าแก่ถงใหญ่เสียหน่อย
ขณะที่เผยเยี่ยนครุน่ คิด ก็นกึ ถึงเรื่องเสือ้ คลุมของอวีถ้ งั ขึน้ มา
เขาจําได้วา่ ตอนเด็ก ปกติในโรงรับจํานํามักจะมีขนสัตว์ดีๆ อยูบ่ า้ ง สามารถถามกับเถ้า
แก่ถงใหญ่ได้ นํามาให้คณุ หนูอวีใ้ ส่กนั หนาวสักตัว
นึกมาถึงตรงนี ้ ในหัวเขาพลันปรากฏใบหน้าขาวกระจ่างราวหิมะต้นฤดูของอวีถ้ งั

1
เฉียนจวง คือร้านค้าที่ดาํ เนินกิจการการเงินในสมัยโบราณ คล้ายกับธนาคารในยุคปั จจุบนั
1328

ขนสัตว์เก่า...ดูเหมือนไม่คอ่ ยดีกระมัง...
อย่างไรหาขนสัตว์ใหม่ให้นางจะดีกว่า
ในคลังสินค้าของเขาคงมีอยู.่ ..
เผยเยี่ยนเป็ นคนที่คิดแล้วย่อมลงมือทํา เขาให้อาหมิงส่งคนกลับเมืองไปเปิ ดคลังสินค้า
ของตัวเองทันที “ดูว่ามีตวั ไหนที่เหมาะสมทําเสือ้ คลุมให้คุณหนูอวีบ้ า้ ง ก่อนหน้านีข้ า้ ละเลย
เรื่องนีไ้ ป คิดเพียงขอให้นางเข้ามาอยู่เล่นเป็ นเพื่อนท่านแม่เฒ่ากลับลืมไปว่า...”
อย่างไรสกุลอวีก้ ็เป็ นสกุลที่คอ่ นข้างเรียบง่ายธรรมดา แม้จะได้รบั เงินก้อนใหญ่อย่างไม่
คาดฝั น ก็ไม่อาจเหมือนสกุลที่ร่าํ รวยขึน้ มาชั่วข้ามคืนอย่างสกุลพวกนัน้ เริ่มตัดเย็บเสือ้ ผ้าซือ้
เครื่องประดับใหม่ๆ ใช้เงินราวกับกระดาษไปวันๆ
แต่คณ
ุ หนูอวีม้ ีคาํ พูดที่กล่าวได้ยอดเยี่ยม
หากมอบที่นาชัน้ ดีหา้ สิบหมู่ท่ีสกุลหลี่เหลือไว้ให้สกุลอวีเ้ ป็ นผูด้ แู ล นับจากนีไ้ ปสกุลอวี ้
ย่อมสามารถใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย คาดว่าคุณหนูอวีค้ งจะดีใจไม่นอ้ ย
เผยเยี่ยนเอ่ยขึน้ มาอีกครัง้ “ข้าจะเขียนจดหมาย เรียกคนเข้ามาฝนหมึกหน่อย”
เรื่องของรื่อเจ้า ฝากให้กบั คนสํานักตรวจการนับว่ายังช้าเกินไป พวกเขามีคดีใหญ่กอง
โตให้ตอ้ งจัดการทุกวัน อย่างไรเขาเขียนจดหมายให้ผวู้ ่าการมณฑลซานตงดีกว่า ทางพวกเขา
เกิดคดีใหญ่เช่นนี ้ หากพวกเขาเป็ นคนรายงานไปเอง ยังสามารถอาศัยอํานาจให้เร่งตรวจสอบ
หากถูกฝ่ ายตรวจการยื่นกระทูก้ ล่าวโทษ ย่อมไม่เหลือหน้าตาเท่าใด
อาหมิงเร่งรีบไปจัดการตามคําสั่ง
เผยเยี่ยนร่างเรื่องที่จะเขียนไว้ในใจแล้ว รอจนฝนหมึกเรียบร้อย ก็เริม่ เขียนจดหมาย
1329

อวีถ้ งั ย่อมอยากรูว้ ่ากลอนของตัวเองได้ท่ีเท่าใด เพียงแต่นางไม่อยากเปิ ดโอกาสให้กซู้ ี


สนทนาเรื่องกวีกาพย์กลอนกับนาง กูซ้ ีจะได้ไม่พดู เป็ นนํา้ ไหลไฟดับต่อหน้านางเหมือนในชาติ
ก่อน ทําท่าประหนึ่งเป็ นผูห้ ญิงมากความสามารถคนหนึ่ง แต่วา่ นี่ก็ทาํ ให้นางเข้าใจว่าเรื่องราว
อะไรที่นบั ว่ามีความเกี่ยวพันที่สาํ คัญที่สดุ ในชาตินี ้
ดังนัน้ ระหว่างทางกลับ ยามที่กซู้ ีเอาแต่ลอ้ มหน้าล้อมหลังท่านแม่เฒ่า ไม่มีเวลามาใส่
ใจนาง นางจึงค่อยกระซิบถามคุณหนูหา้ “ลําดับที่สามและที่ส่ีคือใครรึ?”
คุณหนูหา้ เม้มปากแย้มยิม้ “คุณหนูอวีแ้ ละข้าได้ท่ีสาม” ยังบอกนางต่อว่า “คุณหนูรอง
ได้อนั ดับที่หา้ ส่วนคุณหนูส่ีได้อนั ดับท้ายสุด”
อวีถ้ งั คาดไม่ถึงอยู่บา้ ง
นางคิดว่าคุณหนูรองจะได้อนั ดับสูงกว่านางเสียอีก
คุณหนูหา้ เอ่ยด้วยรอยยิม้ “บทกลอนของคุณหนูกทู้ าํ ได้ดีท่ีสดุ รวดเร็วทัง้ มีท่วงทํานอง
ของศิลปะ ทุกคนต่างลงคะแนนให้นางเป็ นอันดับหนึ่ง พี่สามแพ้คณ ุ หนูกเู้ พราะไม่มีความลึกซึง้
เท่านาง กลอนของคุณหนูอวีก้ ็แต่งได้ดี แต่สมั ผัสระหว่างบทไม่ละเอียดรัดกุมเหมือนคุณหนูกู้
และพี่สาม ดังนัน้ จึงจัดอยู่ในอันดับสามเหมือนข้า กลอนของพี่รอง ท่านแม่คิดว่าแข็งทื่อเกินไป
ไม่มีจิตวิญญาณ ด้านพี่ส่กี ลับเป็ นเพราะเสร็จคนสุดท้าย”
อวีถ้ งั ใบหน้าขึน้ สี
กูซ้ ีรูค้ วามตอนอายุสามขวบ ตัง้ แต่เล็กก็เข้าเรียนพร้อมพี่นอ้ งในเรือน แม้นางจะมีชีวิต
อยู่ทงั้ สองชาติก็ไม่อาจตามนางทันเช่นกัน แต่คณ ุ หนูสามแต่งกลอนได้ดีกว่านาง คุณหนูหา้ อายุ
น้อยที่สดุ กลับได้อนั ดับเดียวกับนาง เห็นได้ชดั ว่าคุณหนูทงั้ สองฉลาดหลักแหลมไม่นอ้ ย
นางเอ่ยชมด้วยใจจริง “เจ้าและคุณหนูสามเก่งกาจทีเดียว!”
คุณหนูหา้ ใบหน้าแดงกํ่า เอ่ยถ่อมตัว “ไม่ใช่เสียหน่อย แค่หัวข้อบังเอิญออกตรงกับ
เรื่องที่ขา้ ถนัดเท่านัน้ ”
1330

อวีถ้ งั ก็ไม่โต้แย้งอะไรกับคุณหนูหา้ เพียงแค่ลบู ศีรษะนางด้วยใบหน้าเปื ้อนยิม้


คุณหนูหา้ ค้อมศีรษะอย่างขวยเขิน
ด้วยเหตุนีท้ งั้ สองคนจึงไม่ทนั สังเกตเห็นคุณหนูสามที่ใบหูขนึ ้ สีอยู่เบือ้ งหน้าพวกนาง
ยามเย็นหลังจากท่านแม่เฒ่ากินข้าว อวีถ้ ังคิดว่าท่านแม่เฒ่าจะรัง้ ตัวพวกนางให้อยู่
พูดคุย ใครจะรูว้ า่ พวกหญิงรับใช้เพิ่งเก็บโต๊ะ ท่านแม่เฒ่าก็ยกนํา้ ชาส่งแขกเสียแล้ว
พวกอวีถ้ งั ต่างก็ปกปิ ดความตกใจไว้ไม่มิด
ท่านแม่เฒ่าเอ่ยอย่างอารมณ์ดี “อีกเดี๋ยวอาสามของพวกเจ้าจะเข้ามาน้อมทักทายข้า
ข้าคงไม่รงั้ พวกเจ้าแล้ว”
พวกผูน้ อ้ ยต่างก็หยัดกายบอกลาอย่างเชื่อฟั ง พวกอวีถ้ งั ไม่อาจรัง้ ตัวอยู่เช่นกัน ทุกคน
ต่างแยกย้ายกันกลับที่พกั
เช้าวันรุง่ ขึน้ ท่านแม่เฒ่าก็บอกให้พวกนางค่อยเข้ามาน้อมทักทายในยามเฉิน 2 251

อวีถ้ งั ถามถึงเหตุผล
ผูท้ ่ีมารายงานคือหลิ่วซวี่ นางเอ่ยด้วยรอยยิม้ ว่า “นายท่านสามต้องการเข้ามาน้อม
ทักทายท่านแม่เฒ่าในยามเช้าเจ้าค่ะ”
อวีถ้ งั กระจ่างขึน้ มาโดยพลัน
เมื่อกินข้าวเช้าแล้ว อาหมิงก็หอบห่อสัมภาระเข้ามา
อวีถ้ งั ประหลาดใจไม่นอ้ ย เร่งเอ่ยถามเขาว่ามีเรื่องสําคัญอันใด

2
ยามเฉิน เวลาประมาณ 07.00 – 08.59
1331

อาหมิงหัวเราะ ยัดสัมภาระในมือให้กบั ซวงเถา เอ่ยว่า “นายท่านสามให้ขา้ เอาของสิง่ นี ้


มาส่งขอรับ เขายังรอข้ากลับไปรายงาน!” พูดจบ ไม่รอให้อวีถ้ งั ได้พดู อะไร ก็ว่ิงไปแทบไม่เห็น
ฝุ่ น
“นี่คืออะไรกัน?” ซวงเถาพึมพํา หอบห่อสัมภาระเข้าไปในห้อง
เมื่อเปิ ดออกดู คาดไม่ถึงว่าจะเป็ นเสือ้ คลุมผ้าไหมทอสีเขียวครามปั กดอกเฟิ่ งเหว่ย
ด้านในเป็ นเตียวเหมาสีขาว
“นี่...” อวีถ้ งั ยกเสือ้ คลุมขึน้ มาอย่างตกตะลึง
ผ้าไหมทอมีเนือ้ ผ้าโดดเด่นเฉพาะตัว เปล่งประกายความสง่างามภายใต้แสงริบหรี่ใน
ห้อง
“งามจริงๆ เจ้าค่ะ!” ซวงเถาอดตะลึงไม่ได้
อวีถ้ งั ว้าวุน่ อยู่ในใจ
เหตุใดเผยเยี่ยนจึงส่งเสือ้ คลุมให้นาง?
นางกําชับซวงเถา “เจ้าไปดูสิว่าอาหมิงกําลังทําอะไร? เหตุใดนายท่านสามต้องส่งเสือ้
คลุมให้ขา้ ?”
ทัง้ ยังเป็ นเสือ้ คลุมแบบหญิงสาว
คงไม่ใช่เพิ่งทําหรอกกระมัง
ซวงเถาก็รูส้ กึ ว่าไม่เหมาะสมเช่นกัน
หากนายท่านสามตัง้ ใจให้นาง ก็สามารถมอบให้ท่านแม่เฒ่าเป็ นคนส่งให้คุณหนูได้
ยามนีก้ ลับลอบส่งเข้ามาเป็ นการส่วนตัว...
นางรีบออกไปตามหาอาหมิง
1332

อวีถ้ งั แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ก็พิงหัวเตียงอ่านหนังสือ ยามนีซ้ วงเถาจึงค่อยฝ่ าหิมะกลับ


เข้ามา
“คุณหนูเจ้าคะ!” นางแทบไม่สนใจเรื่องผลัดเปลี่ยนเสือ้ ผ้าแม้แต่นอ้ ย พาร่างกายที่แฝง
ด้วยไอเย็นเข้ามาในห้อง “อาหมิงติดตามนายท่านสามอยู่ท่ีเรือนท่านแม่เฒ่าเจ้าค่ะ ข้าหา
โอกาสคุยกับเขาอยู่นาน เขากล่าวว่า นายท่านสามเห็นเสือ้ คลุมของคุณหนูบางไป ตัง้ ใจส่งคน
กลับไปเอาที่สกุลเผย ยังเอ่ยว่าหากท่านไม่ชอบ ก็ใช้ตัวนีไ้ ปก่อน เขาจะให้คนช่วยทําอีกตัว
ยังให้ขา้ มาถามท่านว่าชอบสีอะไรเจ้าค่ะ?”
ถึงกับรีบออกมาอย่างนัน้ รึ?
อวีถ้ งั ใจลอยอยู่บา้ ง
เห็นว่านางสวมเสือ้ คลุมบางไปอย่างนัน้ รึ?
เช่นนัน้ นางควรรับเสือ้ คลุมนีไ้ ว้หรือไม่?
หากไม่รบั ก็ทาํ ลายความปรารถนาดีของนายท่านสาม แต่ถา้ รับ ก็เป็ นของลํา้ ค่าเกินไป
นางรูส้ กึ กังวลใจ
แต่วา่ เสือ้ คลุมตัวนีง้ ดงามจริงๆ นางชื่นชอบไม่นอ้ ย
อวีถ้ งั ตัดสินใจไม่ได้
คิดว่าหากมารดานางอยูท่ ่ีน่ีก็คงจะดี
นางจะได้ถามมารดาของนาง
อวีถ้ งั ไล้ปลายนิว้ สัมผัสลวดลายที่นูนขึน้ ของผ้าไหมทอ ขมวดคิว้ ขึน้ อย่างรู ส้ ึกขัดแย้ง
ในใจ
1333

ด้านกูซ้ ีก็แต่งกายเรียบร้อยแล้วเช่นกัน นั่งอ่านตําราที่หน้าโต๊ะหนังสืออย่างไม่มีอะไร


ทํา แต่ยามที่เหอเซียงเข้ามารายงานนาง นิว้ ของนางกลับดึงหน้ากระดาษแน่น แทบที่จะทํา
หนังสือฉีกอยู่รอมร่อ
“สาวใช้ข้า งกายผู้นั้น ของคุณหนูอวีว้ ่ิงโร่ไปหาเด็กห้องหนังสือของนายท่านสาม?”
ใบหน้าของนางมืดครึม้ ราวกับท้องฟ้ายามฝนกระหนํ่า บิดเบีย้ วอยู่ท่ามกลางแสงไฟที่วบู ไหว
คลุมเครือในห้อง
“เจ้าค่ะ!” เหอเซียงเอ่ยเสียงเบา “ทัง้ สองคนหลบคุยกันหลังต้นไม้อยู่ค่อนวัน ซวงเถาผู้
นัน้ จึงค่อยจากไป อาหมิงก็คอ่ ยวิ่งไปหานายท่านสามเจ้าค่ะ”
กูซ้ ีเอ่ยถาม “เวลานัน้ นายท่านสามอยู่ท่ีไหน?”
“ยังอยู่ในห้องท่านผูเ้ ฒ่าเจ้าค่ะ” เหอเซียงตอบ
คิว้ ของกูซ้ ีขมวดแน่นขึน้ มา เอ่ยด้วยนํา้ เสียงเยือกเย็นอย่างยิ่ง “จากนัน้ ล่ะ?”
เหอเซียงพูดอย่างกระอึกกระอัก “จากนัน้ อาหมิงก็เข้าไปในห้องประมาณเวลาหนึ่งถ้วย
ชา 3 ก่อนอาหมิงจะตามนายท่านสามออกมาจากห้องท่านแม่เฒ่า กลับไปเรือนโอ่วเหอที่เขาพัก
252

อยู่เจ้าค่ะ”
กูซ้ ีตะลึงงัน เอ่ยว่า “หลังจากกลับไปเรือนโอ่วเหอก็ไม่ได้ไปหาทางคุณหนูอวีอ้ ย่างนัน้
รึ?”
เหอเซียงชะงัก ไปเล็กน้อย “ข้า ยื นอยู่ตรงนั้นพัก ใหญ่ จึงค่อยกลับเข้ามา ไม่รูว้ ่า...”
หลังจากนัน้ มีคนไปทางนัน้ หรือไม่ ทัง้ นางไม่อยากจับตาดูต่อไป วันที่อากาศหนาวเย็นเช่นนี ้
หากไม่ระวังก็อาจจะแข็งตายได้ดว้ ยซํา้
ดีท่ีกซู้ ีไม่ได้พดู อะไรอีก โบกมือให้นางออกไป

3
เวลาหนึ่งถ้วยชา เวลาประมาณห้าถึงสิบนาที
1334

คืนนัน้ กูซ้ ีนอนหลับไม่สนิท เอาแต่คิดว่าเหตุใดซวงเถาจึงไปหาอาหมิง

You might also like