Professional Documents
Culture Documents
FSSC22000 V.6.0
FSSC22000 V.6.0
Additional Requirements
1 APRIL 2023
Katika Boranin
เหตุผลของการเปลี่ยนจาก version 5.1 เป็น version 6
- เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกาหนด GFSI version2020.1
- รวมข้อกาหนดใน Board of Stakeholders Decision List
- เป็นการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
- เพื่อให้เป็นระบบที่มีความมั่นคงสมบูรณ์
Code of Practice
GMP
อ.กติกา โบราณินทร์
1.ข้อกำหนดสำหรับงำนบริกำรและกำรสั่งซื้อวัตถุดิบ
องค์กรที่อยู่ในห่วงโซ่อาหาร (All) ต้องมั่นใจว่างานบริการต่างๆ
(ซึ่งหมายรวมถึง สาธารณูปโภค การเก็บรักษา การขนส่ง การบารุงรักษา
การทาความสะอาด บริการภายนอก) ที่ซึ่งมีการจัดหาและมีโอกาสกระทบ
ต่อความปลอดภัยของอาหารนั้น องค์กรต้องมีการจัดทาข้อกาหนด
สาหรับงานบริการ ดังนี้ (สอดคล้องข้อกำหนด ISO22000 ข้อ 7.1.6)
มีการกาหนดข้อกาหนดมาตรฐานที่ต้องการสาหรับงานบริการ ซึ่งได้รับ
การตรวจสอบเป็นประจา
มีการจัดทาเป็นเอกสาร โดยรายละเอียดในเอกสารระบุขอบเขต เพื่อให้
ตรงกับความต้องการและใน การวิเคราะห์อันตราย (HACCP)
2.5.1
1.ข้อกำหนดสำหรับงำนบริกำรและกำรสั่งซื้อวัตถุดิบ
มีการดูแลและปฏิบัติให้สอดคล้องตามข้อกาหนดเฉพาะ PRPs
มีการการตรวจสอบและรับรองสถานะของการอนุมัติของผู้ให้บริการที่
ต่อเนื่อง
มีระบบที่จะประกันว่าได้รับผลวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการ ที่ยืนยันเรื่อง
ความปลอดภัยอาหารในสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ (Verification or Validation)
และการวิเคราะห์ของห้องปฏิบัติการต้องได้รับการรับรองมาตรฐานสากล
เช่น การดาเนินการภายใต้ระบบมาตรฐานห้องปฏิบัติการ ISO 17025 หรือ
เทียบเท่า ทั้งแลปภายใน และ แลปภายนอก รวมถึงกาหนดมาตรฐาน
ความรู้ความสามารถของห้องปฏิบัติการ ทั้งภายในและภายนอก (a)
1.ข้อกำหนดสำหรับงำนบริกำรและกำรสั่งซื้อวัตถุดิบ
FOOD DEFENSE
Katika Boranin
มาตรการในการป้องกันจึงเป็นหนทางในการลดความเสี่ยงจากภัยคุกคาม เพื่อให้
31
อาหารปลอดภัยจากการโจมตีโดยเจตนา เช่น
•
• คอยสารวจพฤติกรรมต้องสงสัย
32
• พื้นที่พิเศษต้องคุมพิเศษ พื้นที่เก็บวัตถุดิบขนาดใหญ่ ไซโล ห้องควบคุม ต้อง
มีการควบคุมที่เหมาะสม
• บุคคลอื่นๆและผู้เยี่ยมชมต้องมีกาหนดนัดหมาย ได้รับการดูแลตลอดเวลา
• ต้องมีระบบป้ายชื่อระบุตัวตนพนักงาน ตลอดเวลา
• จัดจ้างผู้รักษาความปลอดภัย
• การใช้วีดีโอวงจรปิด CCTV
• จัดหาแสงสว่างให้เพียงพอ รวมทั้งไฟสารอง
• จากัดให้ใช้สารเคมีทีมีพิษทีในสถานประกอบการ แค่สารเคมีทีจาเป็นต่อการ
ผลิตและบารุงรักษา
อ.กติกา โบราณินทร์
33 • เก็บสารเคมีทีมีพิษให้ไกลจากสถานทีเก็บอาหาร
• ติดฉลากของสารเคมีแต่ละชนิดให้ถูกต้อง
• สอบสวนกรณีทีสารเคมีทีขาดหายไป หรือมีการใช้สารเคมีทีไม่สม่าเสมอ
แน่นอน
• การควบคุมตรวจรับวัตถุดิบและการควบคุมผู้ส่งมอบ
• การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ต้องมี password
• มีการตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัยตามรอบเวลา เพื่อตรวจหาร่องรอย
ของการบุกรุก ทาลาย
• รถขนส่งที่อยู่ภายใต้การควบคุมต้องไม่มีการนาไปใช้ในทางที่ผิด
อ.กติกา โบราณินทร์
34 • ยานพาหนะ คอนเทนเนอร์ เทรลเลอร์ รถขนส่งที่ไม่ได้ระหว่างใช้ต้องทาการล็อค
• ผู้ขายทุกรายต้องผ่านการคัดเลือกอย่างเหมาะสม
• ผู้ขายต้องมีความน่าเชื่อถือได้ โดยมีเอกสารแสดงตัวตนที่ชัดเจน ตรวจสอบได้
• มีการตรวจสอบผลวิเคราะห์คุณภาพของวัตถุดิบประจาปี
• QC การทดสอบ สุ่มตรวจ สาหรับอันตรายที่อาจเกิดขึ้น หรือไม่คาด ในกรณีที่ไม่มี
การตรวจ inline 100%
• การตรวจสอบ สี กลิ่น สภาพผิว รสชาติ
• จากัดการเข้าถึงระบบควบคุมอากาศ น้า ไฟฟ้า การแช่เย็น
• การรักษาความปลอดภัยของบ่อน้า หัวจ่าย และทีจัดเก็บ มีระบบล็อค
อ.กติกา โบราณินทร์
พื้นที/่ กิจกรรม ภัยคุกคำม ประเมินควำมเสี่ยง O x S มำตรกำร
การเข้าออกบุคคลภายนอก มีโอกาสก่อภัยคุกคามจาก Low x low = Mi 1.มีรปภ.อยู่ตลอดเวลำ และ
เข้าบริเวณป้อม รปภ. บุคคลภายนอกเข้ามาก่อเหตุร้าย ปิดประตูทุกครั้งหลังกำรเข้ำ-
แต่ทาได้ยากเนื่องจากมีรปภ. ออก
ตลอดเวลา 2.มีกำรแลกบัตร
บุคคลภำยนอกทุกคน พร้อม
ติดบัตร Visitor
SERVERITY
Mi Ma Cr High
RISK
Mi Ma Ma Medium
Mi Mi Mi Low
35
ความเสี่ยง (Risk) หมายถึง โอกาสที่จะเกิดอันตรายกับผลิตภัณฑ์ แบ่งเป็น 3
ลาดับ คือ
High โอกาสเข้าถึงได้ง่ายโดยไม่มีใครรู้/เห็น หรือ ไม่มีเจ้าหน้าที่บริษัทอยู่ที่จุดๆ
นั้น หรือ มีเจ้าหน้าที่บริษัทแต่ไม่ได้ประจาอยู่ตลอดเวลา
Medium มีโอกาสเข้าถึงได้โดยมีจานวนเจ้าหน้าที่จากัดไม่สมดุลกับปริมาณ
บุคคลภายนอก หรือเจ้าหน้าที่เห็นพื้นที่จุดนั้นแต่อยู่ไกลเกินกว่าจะจัดการระงับ
เหตุการณ์จากบุคคลภายนอกได้ทัน
Low โอกาสเข้าถึงได้ยากมีเจ้าหน้าที่บริษัทอยู่บริเวณนั้นตลอดเวลา
ความรุนแรง (Severity) หมายถึง ความรุนแรงหรือผลที่เกิดขึ้นจากอันตราย
แบ่งเป็น 3 ลาดับ คือ
High มีอันตรายต่อบริษัทในระดับที่ทาให้บริษัทไม่สามารถดาเนินกิจการต่อได้
Medium มีอันตรายต่อบริษัทในระดับที่ทาให้บริษัทหยุดการผลิต ตั้งแต่ 1 วัน
เป็นต้นไป
37
ปัญหาของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ :
• ไม่รู้ว่ามาตรการป้องกันที่มีเพียงพอและเหมาะสม แล้วหรือไม่
• บริษัทขนาดใหญ่ แต่ไม่มีผู้รับผิดชอบเฉพาะ
• ไม่มีการอบรมพนักงานเรื่องความเสี่ยงและประเด็นที่จาเป็น
• การตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น
อ.กติกา โบราณินทร์
4.การป้องกันอาหารปลอม
- องค์กรต้องดาเนินการจัดทาเอกสารแสดงถึงวิธีการปฏิบัติงานในการประเมินความเสี่ยง
ที่อาจเกิดขึ้นกับการฉ้อโกงหรือปลอมปนอาหาร พร้อมทั้งจัดทามาตรการควบคุมเพื่อลด
หรือขจัดความเสี่ยงที่ระบุไว้ และมีแผนรองรับโดยระบบการจัดการความปลอดภัยด้าน
อาหารและด้านกฎหมายที่บังคับใช้
- มีกระบวนการทวนสอบแผนการดาเนินงาน
- แผนต้องถูกนาไปปฏิบัติใช้และได้รับการสนับสนุนจากองค์กร
- แผนต้องสอดคล้องกับกฎหมาย ครอบคลุมกิจกรรมและผลิตภัณฑ์ภายใต้การรับรอง
ขององค์กร
- สาหรับ Cat. FII (Food Brokering, trading and e-commerce) องค์กรต้องมั่นใจว่า ผู้ขาย
มีแผนการดาเนินงานด้านการฉ้อโกงหรือปลอมปนอาหารที่สถานประกอบการของ
ผู้ขาย
การประเมินความเสี่ยง >> จัดทาแผน >> ทบทวนแผน
4.กำรป้องกันอำหำรปลอม
องค์กรต้องจัดทำ Document procedure
4.1 การประเมินความเสี่ยง
- ชี้บ่งควำมอ่อนไหวต่อกำรปลอมปน
- ประเมินควำมอ่อนไหว
- จัดทำมำตรกำรบรรเทำผลกระทบของควำมอ่อนไหวต่อกำรเป็นของแท้ที่มีนัยสำคัญ
3.2 จัดทาแผน
- จัดทำแผนจัดกำรต่อควำมอ่อนไหวอำหำรเฉพำะ ตำมมำตกำรบรรเทำผลกระทบ ครอบคลุมทั้ง
กระบวนกำรและผลิตภัณฑ์ภำยในสถำนประกอบกำรด้ำนอำหำร
- แผนงำนต้องได้รับกำรสนับสนุนโดยระบบควำมปลอดภัยด้ำนอำหำรขององค์กร
- แผนงำนต้องสอดคล้องกับกฎหมำยที่บังคับใช้ และมีควำมทันสมัยอยู่เสมอ
GUIDANCE DOCUMENT: FOOD FRAUD MITIGATION Version 5 May 2019
4.กำรป้องกันอำหำรปลอม
ควำมเสี่ยงด้ำนกำรปลอมปนมักเกิดจำกควำมประมำทเลินเล่อหรือขำดควำมรู้ และโดยพวก
หลอกลวง สำหรับควำมเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับกำรฉ้อโกงอำหำร แบ่งเป็น
1.ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของอาหารโดยตรง:
ผู้บริโภคตกอยู่ในควำมเสี่ยงทันที เช่น กำรเติมเมลำมีนไปจนถึงนมผงที่ทำให้เกิดพิษเฉียบพลัน
กำรซ่อนสำรที่ส่งผลให้สำรก่อภูมิแพ้ที่ไม่ได้ประกำศ
2.ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของอาหารทางอ้อม:
ผู้บริโภคมีควำมเสี่ยงจำกกำรได้รับสำรในระยะยำว เช่น ระดับของโลหะหนักมีค่ำสูงในผลิตภัณฑ์
เสริมอำหำรซึ่งก่อให้เกิดอันตรำย หรือ กำรขำดประโยชน์ด้ำนสำรอำหำร
3.ความเสี่ยงทางเทคนิคในการฉ้อโกงอาหาร:
ไม่มีควำมเสี่ยงด้ำนควำมปลอดภัยของอำหำรโดยตรงหรือโดยอ้อม เช่น บิดเบือนข้อมูลประเทศต้น
ทำง ซึ่งบริษัทไม่สำมำรถรับประกันควำมปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อำหำรของตนเองได้
41
อ.กติกา โบราณินทร์
ทั้งหมดหรือ
บำงส่วน และจำหน่ำยเป็นอำหำรแท้ หรือใช้ชื่ออำหำรแท้ เช่น กำรเติมเมลำมีนในนม
2. การแทนที่ : กำรแทนที่ด้วยสำรอื่นที่มีคุณภำพด้อยกว่ำ หรือและรำคำถูกกว่ำในสินค้ำ โดยไม่
เปลี่ยนแปลง
ต่อลักษณะภำพรวมของสินค้ำ เช่น กำรผสมน้ำตำลในน้ำผึ้ง และจำหน่ำยเป็นน้ำผึ้งแท้
3. การปลอม : วัตถุหรืออำหำรที่ผลิตขึ้นเทียม และจำหน่ำยเป็นอำหำรแท้ แต่ด้อยคุณภำพกำรผลิต
เช่น กำร
ทำไข่ปลอม
4. การปกปิด : อำหำรที่ได้ผสมหรือปรุงแต่งด้วยวิธีใดๆ โดยประสงค์จะปกปิดซ่อนเร้นควำมชำรุด
บกพร่อง
หรือควำมด้อยคุณภำพของอำหำร หรืออำหำรที่ผลิตไม่ถูกต้องตำมคุณภำพหรือมำตรฐำน ซึ่งอำจทำ
ให้เกิด
โทษหรืออันตรำย
5. การกล่าวอ้างผิดบนฉลาก : อำหำรที่มีฉลำกเพื่อลวง หรือพยำยำมลวงผู้ซื้อให้เข้ำใจผิดในเรื่อง
คุณภำพ
ปริมำณ ประโยชน์ หรือลักษณะพิเศษอย่ำงอื่น หรือในเรื่องสถำนที่และประเทศที่ผลิต
4.กำรป้องกันอำหำรปลอม
องค์กรต้อง
1. จัดตั้ง Food Fraud team
2. ดาเนินการประเมินความอ่อนไหวต่อการปลอมปน (Food Fraud Vulnerability
Assessment /FFVA) และระบุความอ่อนไหวที่อาจเกิดขึ้น
3. กำหนดควำมอ่อนไหวที่เป็นนัยสำคัญ
4. ระบุและเลือกมำตรกำรควบคุมตำมสัดส่วนสำหรับจุดอ่อนที่สำคัญ
5. จัดทาเอกสารการประเมินจุดอ่อน มาตรการควบคุม การทวนสอบ และเหตุการณ์ของการ
ปลอมปน ขั้นตอนการจัดการในแผนป้องกันการปลอมปนอาหารต้องได้รับการสนับสนุนจากระบบ
การจัดการความปลอดภัยด้านอาหาร
6. พัฒนาให้มีการอบรมที่มีประสิทธิภาพ และกลยุทธ์ในการสื่อสาร และดาเนินการแผนป้องกัน
การปลอมปนในอาหาร
กุญแจสำคัญในกำรประเมินช่องโหว่คือ: "คิดอย่ำงอำชญำกร“
“think like a criminal”
- กำหนดกลยุทธ์กำรป้องกันควำมเสี่ยงที่สำคัญจะต้องจัดทำและจัดทำเป็นเอกสำร
- มีกระบวนกำรฝึกอบรมที่มีประสิทธิภำพ
- มีมำตรกำรควบคุมกำรปฏิบัติงำน
- มีกิจกรรมกำรทวนสอบ เช่น ตรวจสอบซัพพลำยเออร์ , ตรวจสอบฉลำก , ผลทดสอบ เป็นต้น
- มีกำรแก้ไขและกำรดำเนินกำรแก้ไข
- มีกำหนดควำมรับผิดชอบ
- มีกำรเก็บบันทึก
- กิจกรรมกำรตรวจสอบพัฒนำอย่ำงต่อเนื่อง
ปัจจัยที่ต้องคานึงถึงในการประเมินความเสี่ยง
45 Occurence
- ประวัติผู้ขาย เคยมีการปลอมปนหรือไม่ รวมถึงความสัมพันธ์กับผู้ขาย
ว่าทาซื้อขายกันมายาวนานหรือไม่
- วัตถุดิบ เคยมีหลักฐานการปลอมปนหรือไม่
- ตัวแปรด้านเศรษฐกิจ
- ความยากง่ายในการเข้าถึงวัตถุดิบ short/long supply chain
- ธรรมชาติแหล่งที่มาของวัตถุดิบ ในประเทศหรือต่างประเทศ หรือสถานที่
ที่มีกระบวนการเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์หลายอย่าง
- ใบรับรองมาตรฐานการจัดการ Food fraud ของ Supplier (forward and
backward)
Detection
- ความยากง่ายในการตรวจสอบ >>>
อ.กติกา โบราณินทร์
OxD
Likelihood of Occurrence
ความยากง่ายในการ
เข ้าถึงวัตถุดบิ ธรรมชาติและแหล่งทีม่ าของวัตถุดบิ
หลักฐานการปลอมปน ตัวแปรทางด ้านเศรษฐกิจ
ระด ับคะแนน (How possible is the (Nature of raw material / Physical
(Fraud Historial evidence) (Economic Factor)
access to RM in the form?
supply chain?
เข ้าถึงได ้ง่ายต่อการ
มีผลต่อการปลอมแปลงสูง อุปทาน วัตถุดบิ มีองค์ประกอบสว่ นผสมหลายชนิด/
H 4 เคยมีประวัต ิ
สูง ราคาสูง
ปลอมปนมาก
หรือ Long supply chain
แหล่งทีม่ มี ปี ระวัตกิ ารปลอมปน
1 ตรวจสอบได ้ด ้วยสายตา
2 ทาการทดสอบภายในโรงงานได ้
3 ต ้องสง่ ห ้องปฎิบัตก
ิ ารภายนอกทดสอบ
4 ห ้องปฏิบัตก
ิ ารภายในมีประเทศมีจากัด
5 ต ้องสง่ ห ้องปฎิบัตก
ิ ารต่างประเทศทดสอบ
Risk Ocuurrence
Points 4 8 12 16 20
Visual Check 1 4 8 0 16 20
Internal
Testing
2 8 16 12 32 40
Various
Detection
External Lab 3 12 24 36 48 60
in Country
Limit
External Lab 4 16 32 48 64 80
in Country
Exteranl
Country Lab
5 20 40 60 80 100
ประเมินความเสี่ยงผู้ส่งมอบ RPN = O x S
48 โอกาสการเกิด
1.สถานะผู้ขาย : ผู้ผลิต ผู้จัดจาหน่าย ผู้รับเหมาช่วง ผู้บริการ เป็นต้น
2.ปริมาณที่ส่งมอบ
3.ลักษณะการใช้งาน (เฉพาะบรรจุภัณฑ์) : food contract หรือไม่
4.ประวัติการ rejected ในปีที่ผ่านมา
5.ประวัติการร้องเรียน
6.มาตรฐานโรงงาน (มีระบบอะไรบ้าง)
7.สถานที่ผลิต : ในประเทศ ต่างประเทศ
ความเสี่ยง
ความเสี่ยงวัตถุดิบ : นาจากการประเมิน HACCP + Vulnerability (Food Fraud
Assessment)
อ.กติกา โบราณินทร์
จะต้องมุ่งเป้าไปที่การลดความเสี่ยงของการฉ้อโกงอาหาร
49
โดยลดโอกาสสาหรับนักต้มตุ๋น
การจัดการผู้ขาย
1.ส่งแบบสอบถาม
2.ตรวจประเมินผู้ขาย
3.ผลวิเคราะห์ประจาปี
4.COA
5.ทดสอบวัตถุดิบโดยบริษัท
6.ประเมินตามเกณฑ์คัดเลือกผู้ขาย ผู้บริการ (คุณภาพ ราคา การส่งมอบ)
7.สอบย้อนกลับผลิตภัณฑ์
อ.กติกา โบราณินทร์
โอกาสการเกิด การตรวจพบ
Likelihood of Occurrence (O) Likelihood of
Detection (D)
Level Score Level Score Level Score Level Score Level Sco
re
Yes M 3 VL 1 VL 1 L 2 7 H 4
รายละเอียด
(Detail) ห้องปฏิบัติ - คัดเลือกผู้ขาย
ฟิล์มพิมพ์ เค.ฟิล์ม ของแข็ง การมีจากัด 28 Medium - ตรวจประเมินผู้ขาย
yes มีข่าวปลอมปนใน ซื้อจากผู้ผลิต
ไม่มีผล องค์ประกอบไม่ ส่งศูนย์ - ซื้อจากแหล่งกาเนิด
จีน โดยตรง
ซับซ้อน ทดสอบ ที่น่าเชื่อถือ
พลาสติก - ผลวิเคราะห์ประจาปี
- COA
เกณฑ์กำรประเมิน /
ลำดับ
คะแนนควำมเสี่ยง L=1 M=2 H=3
1 ปริมำณที่ส่งมอบ ปีละ < 15 ครั้ง หรือ ปีละ < 10 ตัน ปีละ 15-30 ครั้ง หรือ ปีละ 10-30 ตัน
ปีละ > 30 ครั้ง หรือ ปีละ > 30 ตัน
Food contract และ ไม่มี
2 ลักษณะกำรใช้งำน (เฉพำะบรรจุภัณฑ์) non-contract Food contract และ มีใบรับรอง ใบรับรอง
• เมื่อมีกำรระบุจุดอ่อนที่สำคัญ มีแผนป้องกันเป็นลำยลักษณ์อักษรหรือไม่?
• ประสิทธิภำพของกระบวนกำรป้องกันกำรฉ้อโกงอำหำรได้รับกำรประเมินตำม
ISO22000:2018 ข้อ 9 (กำรประเมินประสิทธิภำพ) หรือไม่?
• กำรวิเครำะห์ได้รับกำรตรวจสอบอย่ำงสม่ำเสมอและมีควำมถี่เพียงพอหรือไม่?
• ทีมรับมือเหตุฉุกเฉินเตรียมพร้อม (ISO 22000:2018 ข้อ 8.4) หรือไม่?
• รวมทั้งหมดข้ำงต้นอย่ำงมีประสิทธิภำพและดำเนินกำรผ่ำน FSMS ขององค์กร เช่น
บันทึก, ควำมตระหนักของพนักงำนและบุคคลที่เกี่ยวข้อง, ควำมปลอดภัยของสถำน
ประกอบกำร, กำรตรวจสอบภำยใน, กำรทบทวนโดยฝ่ำยบริหำร เป็นต้น?
5.กำรใช้โลโก้
กรณีที่องค์กร ได้รับกำรรับรองระบบมำตรฐำนงำนด้ำนควำมปลอดภัย
อำหำร
FSSC 22000 สำมำรถใช้โลโก้ FSSC 22000 ได้ ดังนี้
a. สำมำรถใช้ในสิ่งพิมพ์ เว็บไซด์ และเนื้อหำส่งเสริมกำรขำยอื่นๆ ของ
บริษัทฯ
b. องค์กรต้องร้องขอ LOGO FSSC จำก CB ที่ให้กำรรับรอง โดยสีต้อง
เป็นไปตำมข้อกำหนด ดังนี้
5.กำรใช้โลโก้
สามารถใช้โลโก้รูปขาว-ดาได้ เมื่อข้อความและภาพทั้งหมดเป็นสีดาและสีขาว
c. ไม่อนุญาตให้ใช้ กำรรับรองเครื่องหมำยโลโก้ FSSC 22000 ดังนี้
- บนผลิตภัณฑ์
- บนฉลำก
- บรรจุภัณฑ์ (ทั้ง Primary , Secondary และ บรรจุภัณฑ์อื่นๆ)
- COA , COC
- ในลักษณะอื่นใดที่มีนัยว่ำ FSSC 22000 ได้อนุมัติรับรองผลิตภัณฑ์
กระบวนกำร หรือบริกำร
- และกรณีที่ทาการขอยกเว้น scope การรับรอง
2.5.5
6.กำรบริหำรสำรก่อภูมิแพ้
(Categories. C,E,FI,G,I,K) >> ALL FOOD CHAIN CATEGORIES
องค์กรต้องจัดทำเอกสำรแผนกำรจัดกำรด้ำนสำรก่อภูมิแพ้ รวมถึง
a. จัดทำ list สำรก่อภูมิแพ้ ทั้งวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์
b. ประเมินควำมเสี่ยงของกำรปนเปื้อนข้ำมสำรก่อภูมิแพ้
c. ชี้บ่งและนำมำตรกำรควบคุมไปปฏิบัติ เพื่อลดหรือขจัดควำมเสี่ยงของกำร
ปนเปื้อนข้ำม
d. พิสูจน์ยืนยัน (validation) และทวนสอบ (verification) มำตรกำรในกำร
ควบคุมว่ำได้นำไปปฏิบัติและจัดเก็บเอกสำรกำรพิสูจน์ยืนยันและกำรทวนสอบ
ไว้
2.5.6
6.กำรบริหำรสำรก่อภูมิแพ้
(Categories. C,E,FI,G,I,K) >> ALL FOOD CHAIN CATEGORIES
กรณีมีกำรผลิตผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปที่มีสำรก่อภูมิแพ้แตกต่ำงกัน
ในพื้นที่กำรผลิตเดียวกัน จะต้องมีกำรทวนสอบโดยทดสอบควำมถี่ตำมกำร
ประเมินควำมเสี่ยง ได้แก่ กำร swab พื้นผิว, กำรทดสอบอำกำศ และ/หรือ กำร
ทดสอบผลิตภัณฑ์
e. กำรประกำศแจ้งเตือนบนฉลำกสำหรับผลิตภัณฑ์ เพื่อแจ้งเตือนควำม
เสี่ยงต่อผู้บริโภคตำมกฎหมำยกำรติดฉลำกสำรก่อภูมิแพ้ในประเทศที่ผลิตและ
ประเทศปลำยทำง ถึงแม้ว่ำมำตรกำรในกำรจัดกำรด้ำนสำรก่อภูมิแพ้จะถูก
นำมำปฏิบัติใช้หรือรวมทั้งมีกำรทดสอบยืนยันผลแล้ว ก็ไม่มีข้อยกเว้นในเรื่อง
กำรแจ้งเตือนบนฉลำก
6.กำรบริหำรสำรก่อภูมิแพ้
f. พนักงำนทุกคนต้องได้รับกำรอบรมควำมตระหนักด้ำนสำรก่อภูมิแพ้ และอบรม
กรณีพิเศษเพิ่มเติม ในกำรควบคุมสำรก่อภูมิแพ้ในพื้นที่กำรปฏิบัติงำนที่รับผิดชอบและ
เกี่ยวข้อง
g. แผนกำรจัดกำรด้ำนสำรก่อภูมิแพ้ จะต้องได้รับกำรทบทวน (review) อย่ำงน้อย
ปีละ 1 ครั้ง และทุกครั้งที่มีกำรเปลี่ยนแปลงสำคัญที่มีผลกระทบต่อควำมปลอดภัยอำหำร,
กำรเรียกคืนสินค้ำ หรือ กำรถอนคืนสินค้ำโดยองค์กรซึ่งเป็นผลมำจำกด้ำนสำรก่อภูมิแพ้
หรือเมื่อมีแนวโน้มของอุตสำหกรรมที่เกี่ยวข้องมีข้อมูลด้ำนกำรปนเปื้อนหรือมี
ควำมสัมพันธ์ด้ำนสำรก่อภูมิแพ้
กำรทบทวนจะต้องรวมถึงกำรประเมินประสิทธิผลของกำรควบคุมที่มีอยู่ และ
ควำมต้องกำรในกำรควบคุมเพิ่มเติม
กำรทวนสอบข้อมูล (data verification) จะต้องถูกวิเครำะห์แนวโน้มและใช้เป็น
6.กำรบริหำรสำรก่อภูมิแพ้
h. For food chain Cat.D
สำหรับประเทศที่ไม่มีกฎหมำยที่เกี่ยวข้องด้ำนสำรก่อภูมิแพ้อำหำรสัตว์
(รวมถึงประเทศที่นำอำหำรสัตว์ไปขำย) ในหมวดนี้ของข้อกำหนดอำจทำกำรขอไม่นำ
ข้อกำหนดมำปฏิบัติได้ (not applicable) เว้นแต่จะมีกำรเรียกร้องเกี่ยวกับสถำนะของสำร
ก่อภูมิแพ้ในอำหำรสัตว์
ดาเนินการอย่างไร ?
องค์กรต้องดำเนินกำรจัดทำระบบควำมปลอดภัยในอำหำร
- มีนโยบำยระบุเรื่อง Food Allergens ที่เป็นมำตรกำรป้องกันอำหำรให้มี
ควำมปลอดภัยจำกกำรปนเปื้อน จำกอำหำรที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ Food
Allergens
- โดยควบคุมและคัดแยกวัตถุดิบ ควบคุมกระบวนกำรเพื่อป้องกันกำร
ปนเปื้อน จำกอำหำร และผลิตภัณฑ์ ต่ำงๆ ที่ระบุไว้ข้ำงต้น
การประเมินความเสี่ยง >> จัดทามาตรการควบคุม
CODE OF PRACTICE ON FOOD ALLERGEN MANAGEMENT FOR FOOD BUSINESS OPERATORS CXC 80-2020 Adopted
in 2020.
ดาเนินการอย่างไร ?
อ.กติกา โบราณินทร์ 71
อ.กติกา โบราณินทร์
อ.กติกา โบราณินทร์
Allergens
กำรจัดกำรกับอันตรำยของอำหำรก่อภูมิแพ้ในอุตสำหกรรมอำหำร
กำรจัดกำรหรือควบคุมอำหำรก่อภูมิแพ้ในอุตสำหกรรมอำหำรได้ เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคเกิดอันตรำย หรือมี
กำรปนเปื้อนอย่ำงไม่ตั้งใจเกิดขึ้น สำมำรถทำได้หลำยวิธี ดังนี้
การปนเปื้อนข้ามในระหว่างกระบวนการและการทาความสะอาด
การทบทวนและวิเคราะห์อันตรายใน หรือการจัดการในระหว่างการเปลี่ยนสูตรผลิต ต้องมีระบบการ
ระบบ HACCP ของวัตถุดิบรับเข้า เปลี่ยนหรือการทาความสะอาดที่จะมั่นใจว่าสารก่อภูมิแพ้ไม่ตกค้าง
ก่อนที่จะผลิตและสามารถประเมิน ก่อนที่จะเปลี่ยนสูตรใหม่ และต้องการมีการทวนสอบด้วยวิธีทาง
ความเสี่ยงและการจัดการกับ ห้องปฏิบัติการ เช่น Bioluminescence testing หรือ Enzyme-Linked
วัตถุดิบที่มีสารก่อภูมิแพ้ได้อย่าง
ImmunoSorbent Assay (ELISA)
ถูกต้อง
เพื่อให้มั่นใจมากขึน ส่วนเครื่องมือสาหรับการทาความสะอาด ควร
บ่งชีและแยกกันอย่างชัดเจน
กำรจัดกำรกับอันตรำยของอำหำรก่อภูมิแพ้ในอุตสำหกรรมอำหำร
กำรจัดกำรหรือควบคุมอำหำรก่อภูมิแพ้ในอุตสำหกรรมอำหำรได้ เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคเกิด
อันตรำย หรือมีกำรปนเปื้อนอย่ำงไม่ตั้งใจเกิดขึ้น สำมำรถทำได้หลำยวิธี ดังนี้
•ความตระหนักในเรื่องอาหารก่อภูมิแพ้ ควรมี
การฝึกอบรมให้พนักงานรู้จัก และตระหนักถึง
อาหารก่อภูมิแพ้ การจัดการและรู้ถึงอันตราย ฉลาก ต้องมีการระบุสารก่อภูมิแพ้ที่ใช้ในสูตรการ
ของอาหารก่อภูมิแพ้ที่จะส่งผลต่อผู้บริโภค ผลิตให้ผู้บริโภคทราบ เพื่อที่จะได้เกิดความ
ระมัดระวังในการเลือกซื้อและบริโภค
อีกทั้งยังเป็นกฎหมายในหลายๆ ประเทศ
กำรแสดงฉลำก
ชี้บ่งชื่อวัตถุดิบก่อภูมิแพ้ลงในฉลำก
หรือ
ชี้บ่งว่ำผลิตภัณฑ์นี้
มีส่วนประกอบของสำรก่อภูมิแพ้
กรณีที่เกิดกำรปนเปื้อน
➢แยกวัตถุดิบนั้นไว้เพื่อใช้ในการผลิตในสูตรที่มีสารก่อภูมิแพ้
ชนิดเดียวกัน เช่นเดียวกันกับหลักการ reprocess
➢หาสาเหตุและแนวทางในการดาเนินการแก้ไขและป้องกัน
7.กำรเฝ้ำระวังสภำพแวดล้อม
(Categories. BIII,C,I,K)
- องค์กรต้องจัดให้มีกระบวนกำรติดตำมและตรวจสอบด้ำนสภำวะแวดล้อม ตำมพื้นฐำน
ควำมเสี่ยงด้ำนเชื้อจุลินทรีย์
- จัดทำ Document procedure ด้ำนกำรประเมินประสิทธิผลของกระบวนกำรควบคุมกำร
ป้องกันกำรปนเปื้อนข้ำมของสภำวะแวดล้อมภำยในโรงงำน และต้องสอดคล้องกับ
ข้อกำหนดกฎหมำยและข้อกำหนดลูกค้ำ
- โดยอย่ำงน้อยต้องมีกำรประเมินกำรควบคุมด้ำนเชื้อจุลินทรีย์และสำรก่อภูมิแพ้ที่เป็น
ปัจจุบัน เช่น กำร swab test , air test , allergen test
- รวมถึงประสิทธิภำพของกำรทำควำมสะอำดและโปรแกรมสุขำภิบำล โดยเป็นไปตำม
กระบวนกำรตรวจสอบที่อธิบำยไว้ใน ISO 22000 และ TS22002
7.กำรเฝ้ำระวังสภำพแวดล้อม
(Categories. BIII,C,I,K)
- จัดเก็บข้อมูลกิจกรรมกำรตรวจติดตำม และกำรวิเครำะห์แนวโน้ม
- โปรแกรมกำรตรวจติดตำมสภำพแวดล้อมจะต้องถูกทบทวน (Review) ประสิทธิผลอย่ำง
ต่อเนื่อง อย่ำงน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือทบทวนตำมควำมต้องกำร สิ่งที่ต้องทำกำรทบทวน
ได้แก่
- กำรเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญต่อผลิตภัณฑ์, กระบวนกำร, กฎหมำย
- ไม่มีผลกำรทดสอบด้ำนบวก หลังจำกมีกำรขยำยเวลำกำรทดสอบติดตำม
- แนวโน้มเชื้อจุลินทรีย์ออกนอกสเปคที่กำหนด โดยสภำพแวดล้อมมีส่วนสัมพันธ์ทั้งกับ
ผลิตภัณฑ์เริ่มต้นและผลิตภัณฑ์สุดท้ำย
- มีกำรตรวจซ้ำด้ำนเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคในกำรตรวจติดตำม
8. วัฒนธรรมควำมคุณภำพและควำมปลอดภัยอำหำร
c) ทรัพยำกรและควำมต้องกำรด้ำนกำรอบรม
d) เครื่องมืออุปรณ์และข้อกำหนดกำรบำรุงรักษำ
e) กำรทดลองอำยุผลิตภัณฑ์ บนพื้นฐำนของสูตรกำรผลิตและกระบวนกำรผลิตจริง เพื่อยืนยัน
ว่ำสำมำรถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีควำมปลอดภัยต่อผู้บริโภค มีกระบวนกำรทวนสอบกำรศึกษำอำยุ
ผลิตภัณฑ์ต่อไปอย่ำงต่อเนื่อง ตำมควำมถี่ที่เหมำะสมกับควำมเสี่ยง และจัดเก็บไว้ที่สถำนที่ผลิต
14. สุขภำพ
(Category. D)
องค์กรต้องมีระเบียบปฏิบัติ (Procedure) เพื่อให้แน่ใจว่ำสุขภำพของคน ไม่มีผล
ด้ำนลบต่อกระบวนกำรผลิตอำหำรสัตว์ ภำยใต้ข้อจำกัดทำงกฎหมำยของประเทศที่ทำ
กำรผลิต
พนักงำนที่สัมผัสกับอำหำรสัตว์ต้องทำกำรตรวจสุขภำพก่อนกำรว่ำจ้ำงงำน
เว้นเสียแต่ว่ำเอกสำรด้ำนอันตรำยหรือกำรประเมินด้ำนสุขภำพได้ระบุไว้เป็นอย่ำงอื่น
กำรทดสอบด้ำนสุขภำพเพิ่มเติม ได้รับอนุญำตให้ดำเนินกำรได้ตำมที่กำหนดโดย
องค์กรเป็นระยะ
(ข้อกำหนด 4.10.1 ; ISO/TS22002-6)
15. กำรจัดกำรอุปกรณ์
(Category. All food chains excluding FII )
ข้อกำหนดเพิ่มเติมตำม ข้อ 8.24 ISO22000:2018 องค์กรต้อง
- มีเอกสำรสเปคกำรจัดซื้อ มีกำรออกแบบถูกสุขลักษณะ สอดคล้องกฎหมำย
และข้อกำหนดลูกค้ำและกำรนำอุปกรณ์ไปใช้งำน รวมถึงกำรจัดกำรอุปกรณ์
โดยผู้ขำยจะต้องให้หลักฐำนตรงตำมข้อกำหนดกำรซื้อก่อนกำรติดตั้ง
อุปกรณ์
>> เพื่อใช้เป็นเกณฑ์พิจารณาในขั้นตอนการจัดซื้อ
- จัดทำและนำไปปฏิบัติ กระบวนกำรจัดกำรกำรเปลี่ยนแปลงบนพื้นฐำน
ควำมเสี่ยง สำหรับอุปกรณ์ใหม่และ/หรือกำรเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ที่มีอยู่
จะต้องจัดทำเป็นเอกสำรไว้อย่ำงเพียงพอ รวมทั้งหลักฐำนกำรว่ำจ้ำง
15. กำรจัดกำรอุปกรณ์
(Category. All food chains excluding FII )
- ผลกระทบที่เป็นไปได้ต่อระบบที่มีอยู่ จะต้องถูกประเมินและมำตรกำรควบคุม
ที่เพียงพอ จะต้องถูกกำหนดและนำไปปฏิบัติ
16. การสูญเสียของอาหารและขยะ
(Category. All food chains excluding I )
ข้อกำหนดเพิ่มเติมในข้อที่ 8 ของ ISO22000:2018
- ต้องมีเอกสำรด้ำนนโยบำยและรำยละเอียดวัตถุประสงค์ด้ำนกลยุทธ์ของ
องค์กร เพื่อที่จะลดกำรสูญเสียและลดขยะอำหำรภำยในองค์กรและซัพพลำย
เชนที่เกี่ยวข้อง
- มีกำรควบคุมในสถำนประกอบกำรเพื่อจัดกำรผลิตภัณฑ์ที่บริจำคให้กับ
องค์กรไม่แสวงผลกำไร, ลูกจ้ำง และองค์กรอื่นๆ และต้องแน่ใจว่ำสินค้ำนี้มี
ควำมปลอดภัยต่อกำรบริโภค
16. การสูญเสียของอาหารและขยะ
(Category. All food chains excluding I )
- จัดกำรสินค้ำส่วนเกิน หรือผลพลอยได้จำกกำรผลิต สำหรับเป็นอำหำรสัตว์
เพื่อป้องกันกำรปนเปื้อนผลิตภัณฑ์เหล่ำนี้
- กระบวนกำรดำเนินกำรเรื่องนี้ต้องสอดคล้องกับกฎหมำย ได้รับกำรปรับปรุง
ให้ทันสมัยอยู่เสมอ และไม่มีผลกระทบด้ำนลบต่อควำมปลอดภัยด้ำนอำหำร
17. ข้อกาหนดการสื่อสาร
(Category. All food chains)
ข้อกำหนดเพิ่มเติมในข้อที่ 8.4.2 ของ ISO22000:2018
องค์กรต้องรำยงำนให้ CB รับทรำบภำยใน 3 วันทำกำรของ กำรเริ่มต้นของเหตุกำรณ์
หรือสถำนกำรณ์ และใช้มำตรกำรที่เหมำะสมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนกำร
เตรียมพร้อมและตอบสนองเหตุฉุกเฉิน ตำมเหตุกำรณ์ดังต่อไปนี้
a) เหตุกำรณ์ร้ำยแรงที่ส่งผลกระทบต่อระบบควำมปลอดภัยด้ำนอำหำร, กระทบต่อ
กฎหมำย และ/หรือ ควำมสมบูรณ์ของกำรรับรอง รวมถึงสถำนกำรณ์ที่เป็นภัยคุกคำม
ต่อควำมปลอดภัยอำหำร, หรือควำมสมบูรณ์ของกำรรับรองอันเป็นผลมำจำกเหตุ
สุดวิสัย ภัยธรรมชำติ หรือภัยที่มนุษย์สร้ำงขึ้น (เช่น สงครำม, สไตรค์, ก่อกำรร้ำย,
อำชญำกรรม, น้ำท่วม, แผ่นดินไหว, กำรจู่โจมคอมพิวเตอร์ เป็นต้น)
17. ข้อกาหนดการสื่อสาร
(Category. All food chains)
b) สถำนกำรณ์ร้ำยแรงที่ซึ่งควำมสมบูรณ์ของกำรรับรองมีควำมเสี่ยง และ/หรือ อำจ
ทำให้องค์กร/ระบบให้กำรรับรองเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ โดยรวมถึง
- เหตุกำรณ์ควำมปลอดภัยด้ำนอำหำรต่อสำธำรณะ (เช่น กำรเรียกคืน, กำรถอน
คืน, ภัยพิบัติ, กำรระบำดด้ำนควำมปลอดภัยของอำหำร เป็นต้น)
- กำรดำเนินกำรที่ถูกกำหนดโดยหน่วยงำนทำงด้ำนกฎหมำย ที่เป็นผลของควำม
ปลอดภัยทำงด้ำนอำหำร ให้มีกำรตรวจสอบเพิ่มเติมหรือบังคับให้หยุดกระบวนกำร
ผลิต
- กำรดำเนินกำรทำงกฎหมำย กำรฟ้องร้อง กำรทุจริตต่อหน้ำที่ และควำม
ประมำทเลินเล่อ
- กิจกรรมฉ้อฉลและกำรทุจริตคอรัปชั่น
18. ข้อกำหนดสำหรับองค์กรที่มีหลำยโรงงำน (Multi-Site)
(Categories. E , F , G)
ข้อกำหนดเพิ่มเติมจำกข้อ 9.2 ของ ISO22000:2018
- ข้อกำหนดด้ำนกำร Internal audit ส่วนกลำงเป็นผู้จัดทำและมอบหมำยทั้งกำรจัดตั้ง
ผู้ตรวจประเมิน และกระบวนกำรทบทวนกำรตรวจประเมินภำยใน
- Internal audit อย่ำงน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือควำมถี่ตำมกำรประเมินควำมเสี่ยง และผลของ
กำรแก้ไขใบ CAR ต้องดำเนินกำรเรียบร้อยและมีประสิทธิภำพก่อนกำรตรวจประเมิน
- คุณสมบัติของ auditor (ซึ่งจะถูกประเมินโดย CB ทุกปี) อย่ำงน้อยต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1) ประสบกำรณ์ทำงำนเต็มเวลำ ด้ำนอุตสำหกรรมอำหำรอย่ำงน้อย 2 ปี และ ต้องทำงำน
กับองค์กรมำแล้วไม่น้อยกว่ำ 1 ปี
18. ข้อกำหนดสำหรับองค์กรที่มีหลำยโรงงำน (Multi-Site)
(Categories. E , F , G)
2) สำเร็จกำรศึกษำในระดับอุดมศึกษำ (ปริญญำตรี) หรือ(กรณีไม่จบอุมศึกษำ) มี
ประสบกำรณ์ทำงำนในด้ำนกระบวนกำรผลิตอำหำร อุตสำหกรรมอำหำร กำรขนส่ง
คลังสินค้ำ กำรจัดจำหน่ำย กำรตรวจสอบ หรือพื้นที่ที่บังคับใช้(ด้ำนอำหำร) อย่ำงน้อย 5 ปี
3) Lead auditor ต้องได้รับกำรอบรมคอร์ส Lead auditor of FSMS , QMS or
FSSC22000 อย่ำงน้อย 40 ชั่วโมง
4) Auditor team จะต้องได้รับกำรอบรมหลักสูตร Internal audit 16 ชั่วโมง จำก Lead
auditor หรือ จำกหน่วยงำนภำยนอก
5) ได้รับกำรอบรมข้อกำหนด ISO22000:2018 , PRPs ที่เกี่ยวข้อง (เช่น ISO/TS22002-x
หรือ PAS-xyz) และข้อกำหนดเพิ่มเติมของ FSSC22000 อย่ำงน้อย 8 ชั่วโมง
18. ข้อกำหนดสำหรับองค์กรที่มีหลำยโรงงำน (Multi-Site)
(Categories. E , F , G)
6) รำยงำนกำรตรวจติดตำมภำยใน จะต้องถูกทบทวนทำงเทคนิคจำกส่วนกลำง รวมถึงผล
ของควำมไม่สอดคล้อง NC ที่พบระหว่ำงกำรตรวจประเมิน ผู้ทบทวนทำงเทคนิคต้องมี
ควำมเป็นกลำง มีควำมสำมำรถในกำรตีควำมตำมบรรทัดฐำนของข้อกำหนด FSSC
(รวมทั้ง ISO22000, ISO/TS22002-x, PAS-xyz) และมีควำมรู้เกี่ยวกับกระบวนกำรและ
ระบบขององค์กร
7) ผู้ตรวจประเมินภำยในและผู้ตรวจสอบทำงเทคนิค จะต้องได้รับกำรติดตำมสมรรถนะ
ด้ำนกำรตรวจและเปรียบเทียบกับมำตรฐำนกำรตรวจ กำรติดตำมผลจะต้องทำในช่วงเวลำ
ที่กำหนดโดยส่วนกลำง