Download as docx, pdf, or txt
Download as docx, pdf, or txt
You are on page 1of 5

Carbohydrate

ประเภทของคาร์โบไฮเดรต แบ่งตามขนาดของโมเลกุล ได้เป็ น


....................................... กลุ่ม คือ

1. มอโนแซ็กคาไรด์ (Monosaccharide) หรือน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว


เป็ นคาร์โบไฮเดรตที่มีขนาดโมเลกุลเล็กที่สุด มีรสหวาน ละลายน้ำได้
และน้ำตาลที่พบมากในธรรมชาติจะมีอะตอมของธาตุคาร์บอน 5 และ 6
อะตอม
1.1 แบ่งตามหมู่ฟังก์ชัน (Function group)
โดยทั่วไปน้ำตาลจะมีหมู่ไฮดรอกซี (–OH group) เป็ นองค์ประกอบ
จำนวนมาก และมีหมู่ฟังก์ชันที่แสดงคุณสมบัติเฉพาะ แบ่งได้เป็ น 2 หมู่ฟัง
ก์ชั่น จึงเรียกน้ำตาลที่มีหมู่ฟังก์ชันอัลดีไฮด์ว่า
.................................................... และเรียกน้ำตาลที่มีหมู่ฟังก์ชันคีโตนว่า ……
………………………………………….
ตัวอย่างของน้ำตาลอัลโดส เช่น น้ำตาลกลีเซอรอลดีไฮด์ (C3)
น้ำตาลไรโบส (C5) น้ำตาลกลูโคส (C6)
ตัวอย่างของน้ำตาลคีโตส เช่น น้ำตาลไดไฮดรอกซีอะซีโตน (C3)
น้ำตาลไรบูโลส (C5) น้ำตาลฟรักโทส (C6)

1.2 แบ่งตามจำนวนอะตอมของธาตุคาร์บอน (Carbon atom)


โมเลกุลของน้ำตาลจะประกอบด้วยอะตอมของธาตุคาร์บอนตั้งแต่ 3-
7 อะตอม
คาร์บอน 3 อะตอม เรียกว่า …………………………………………….
เช่น
- น้ำตาลกลีเซอรอลดีไฮด์ (glyceraldehyde) จะพบใน
กระบวนการสลายกลูโคสเพื่อให้ได้พลังงาน
คาร์บอน 4 อะตอม เรียกว่า ………………………………………………
…………… เช่น
- น้ำตาลอิริโทรส (erythrose) เป็ นน้ำตาลที่พบในวัฏจักรคัลวิน
ของกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
คาร์บอน 5 อะตอม เรียกว่า ………………………………………………
…………….. เช่น
- น้ำตาลอะราบิโนส (arabinose) มักพบในพืช เมื่อเกิดเป็ นพอลิ
แซ็กคาไรด์จะให้เพคทิน บางครั้งอาจเรียกว่า น้ำตาลเพคทิน (pectin sugar)
จะเกิดในรูปของเจล มักเอาไปทำเป็ นเยลลี่
- น้ำตาลไซโลส (xylose) มักพบในพืช สามารถสกัดได้จาก
เยื่อไม้ (wood) บางครั้งจะเรียกว่า น้ำตาลเยื่อไม้
- น้ำตาลไรโบส (ribose) และน้ำตาลดิออกซีไรโบส
(deoxyribose) ทั้ง 2 ชนิด จะพบเป็ นองค์ประกอบของสาร
พันธุกรรม

คาร์บอน 6 อะตอม เรียกว่า ………………………………………


……………………….. เช่น
- น้ำตาลกลูโคส (glucose) มีบทบาทสำคัญทางโภชนาการ
ของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด รวมทั้งมนุษย์ด้วย จะพบมากในพืชสัตว์ บางครั้งอาจ
เรียกได้หลายชื่อขึ้นอยู่กับแหล่งที่พบ เช่น น้ำตาลองุ่น น้ำตาลข้าวโพด หรือ
น้ำตาลในเลือด นอกจากนี้อาจเรียก น้ำตาลกลูโคส ว่า น้ำตาลเด็กซ์โทรส
(dextrose)
- น้ำตาลกาแล็กโทส (galactose) และน้ำตาลแมนโนส
(mannose) โดยธรรมชาติพบในรูปของพอลิแซ็กคาไรด์ โดยพอลิเมอร์ของ
น้ำตาลแมนโนส จะเรียกว่า แมนแนน (mannan) ซึ่งพบในพืช
- น้ำตาลฟรักโทส (fructose) เป็ นน้ำตาลที่หวานที่สุด พบมาใน
ผลไม้และน้ำผึ้ง และยังเป็ นน้ำตาลเพียงชนิดเดียวที่พบในน้ำอสุจิของคน
คาร์บอน 7 อะตอม เรียกว่า
.................................................................................................... เช่น
- น้ำตาลซีโดเฮปทูโลส (sedoheptulose) เป็ นน้ำตาลที่พบใน
วัฏจักรคัลวินของกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง

น้ำตาลที่พบมากที่สุดในธรรมชาติ ได้แก่
.................................................................................................................

2. โอลิโกแซ็กคาไรด์ (Oligosaccharide)
2.1 ไดแซ็กคาไรด์ (disaccharide) หรือน้ำตาลโมเลกุลคู่ ประกอบ
ด้วย น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวจำนวน 2 โมเลกุล จับกัน
ด้วย.................................................................. ได้แก่ มอลโทส (maltose)
แล็กโทส (lactose) ซูโครส (sucrose) และเซลโลไบโอส (cellobiose)
เซลโลไบโอส ได้จากการสลายเซลลูโลสโดยใช้กรดที่เจือจาง ซึ่งประกอบ
ด้วย ...........................................................
....................................................... จับกันด้วยพันธะไกลโคซิดิก ชนิด b-1,4 เซลโลไบโอ
สจะไม่ถูกย่อยสลายด้วยเอนไซม์มอลเทส

2.2 ไตรแซ็กคาไรด์ (trisaccharide) ประกอบด้วยน้ำตาลโมเลกุล


เดี่ยวจำนวน .............. โมเลกุล ที่พบในธรรมชาติ เช่น น้ำตาลราฟฟิโนส
ราฟฟิโนส (raffinose) หรืออาจเรียกว่า melitose เป็ นคาร์โบไฮเดรต
ประเภท oligosaccharide ที่ประกอบด้วยน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว 3 โมเลกุล
(trisaccharide) คือ ............................................... ต่อ
กับ..................................................................... ซึ่งเป็ นน้ำตาลโมเลกุลคู่
Raffinose ไม่สามารถถูกย่อยได้ในระบบทางเดินอาหารของ
มนุษย์ แต่จะถูกย่อยโดยแบคทีเรีย ซึ่งสร้างแก๊สอยู่ในลำไส้ใหญ่ ทำให้เกิด
การหมักได้แก๊สออกมา หากบริโภคเข้าไปจะทำให้
เกิด....................................................................................................................
...........
น้ำตาล raffinose พบมากในถั่วเมล็ดแห้ง (legume) เช่น ถั่ว
ลิสง beans, peas, tree nut และในผักประเภท cruciferous ได้แก่ กะหล่ำปลี,
brussels sprout และบรอกโคลี (broccoli)
3. พอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide)

You might also like