Professional Documents
Culture Documents
7. ใบความรู้วิทยาศาสตร์ ม.1 แจกเพจ
7. ใบความรู้วิทยาศาสตร์ ม.1 แจกเพจ
หน่วยการเรียนรู้ สารบริสุทธิ์
บทเรื่อง การจําแนกและองค์ประกอบของสารบริสทุ ธิ์
เรื่องที่ 1 :การจําแนกสารบริสุทธิ์
สารบริสุทธิ์
ธาตุ สารประกอบ
เกิดจาก : องค์ประกอบชนิดเดียว เกิดจาก : องค์ประกอบย่อย
มากกว่า 1 ชนิด และสัดส่วนคงที่
1. ธาตุ (element) คือ สารบริสุทธิ์ที่ประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็ก เรียกว่า อะตอม (atom)
อะตอม คือ หน่วยที่เล็กที่สุดของธาตุ อะตอมของธาตุแต่ละชนิดมีสมบัติแตกต่างกัน ในธรรมชาติธาตุ
อาจอยู่เป็นอะตอม เดี่ยวหรือมีอะตอมของธาตุชนิดเดียวกันหลาย ๆ อะตอมอยู่รวมกัน เช่น แก๊สไฮโดรเจน
ประกอบด้วยอะตอมของ ไฮโดรเจน 2 อะตอม โอโซนประกอบด้วยอะตอมของออกซิเจน 3 อะตอม
❖ โลหะ มีคุณสมบัตินาไฟฟ้าและความร้อนได้ดี ผิวเป็นมันวาว มีความเหนียว และสามารถ เป็นแผ่นบางได้
ส่วนใหญ่อยู่ในสถานะของแข็ง เช่น ทองคา (Au) เงิน (Ag) เหล็ก (Fe)
❖ อโลหะ มีคุณสมบัติไม่นาไฟฟ้า มีความเปราะบางและแตกหักได้ง่าย เช่น แก๊สออกซิเจน (O2)
แก๊สไนโตรเจน (N2) ฟอสฟอรัส (P)
❖ กึ่งโลหะ มีคุณสมบัติระหว่างธาตุโลหะและอโลหะ นาไฟฟ้าได้ไม่ดี ณ อุณหภูมิห้อง แต่การนา ไฟฟ้า
เพิ่มขึ้นตามอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น มีความแข็งแรงแต่ก็มีความเปราะบางสูง เช่น ซิลิกอน (Si)
2) สารประกอบ (compound) คือ สารบริสุทธิ์ที่ประกอบด้วยอะตอมของธาตุต่างชนิดกันรวมตัวกันใน
อัตราส่วนจานวนอะตอมคงที่ เช่น น้า ประกอบด้วยอะตอมของไฮโดรเจน 2 อะตอม และอะตอมของ
ออกซิเจน 1 อะตอม คงที่ โดยมีอัตราส่วนมวลของออกซิเจนต่อไฮโดรเจนเป็น 1:8
❖ เกลือแกง (NaCl) ซึ่งประกอบด้วยธาตุโซเดียมกับคลอไรด์
❖ น้า (H2O) ประกอบด้วยไฮโดรเจนกับออกซิเจน
❖ น้าตาลทราย (C12H22O11) ประกอบด้วยคาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน
ตัวอย่างสารบริสุทธิ์ เช่น ตัวอย่างสารที่ไม่บริสุทธิ์ เช่น
- เกลือ (NaCl) - น้าปลา (น้า + น้าหมักของปลา + อื่นๆ)
- น้าตาลทราย (C12H22O11) - อากาศ (มีแก๊สหลายชนิด รวมทั้งฝุ่นและไอน้า)
- น้าเปล่า (H2O) - น้าเชื่อม (น้า + น้าตาล)
- แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) - น้าเกลือ (น้า + เกลือ)
- แก๊สออกซิเจน (O2)
- แก๊สไนโตรเจน (N2)
ธาตุ
- ธาตุทุกชนิดเป็นสารบริสุทธิ์
- ประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กเรียกว่า อะตอม (atom)
- อะตอม คือ หน่วยที่เล็กที่สุดของธาตุ
- อะตอมของธาตุแต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน
- ธาตุอาจอยู่เป็นอะตอมเดี่ยว หรืออะตอมของธาตุชนิดเดียวกันหลายอะตอมก็ได้
อะตอมเดี่ยว อะตอมชนิดเดียวกันหลายอะตอม
เนื่องจากธาตุมีหลายชนิดนักวิทยาศาสตร์จึงกาหนด สัญลักษณ์ของธาตุ (chemical symbol) แทน
การเขียนชื่อธาตุเพื่อให้เกิดความสะดวกและเข้าใจตรงกันเป็นสากล การกาหนดสัญลักษณ์ของธาตุส่วนใหญ่มา
จากชื่อในภาษาอังกฤษ โดยใช้ตัวอักษรตัวแรกของชื่อธาตุ เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ ในกรณีที่ตัวอักษรตัวแรกของชื่อ
ธาตุซ้ากันให้ตามด้วยตัวอักษรตัวพิมพ์เล็กตัวอื่น นอกจากนี้ สัญลักษณ์ของธาตุบางชนิดกาหนดมาจากชื่อธาตุใน
ภาษาละติน ตารางสัญลักษณ์ของธาตุบางชนิดเป็นสารบริสุทธิ์ที่ประกอบด้วยอะตอมของธาตุตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้น
ไปมารวมกัน ไม่สามารถแยกได้ด้วยวิธีทางกายภาพ
สารประกอบ
- เป็นสารบริสุทธิ์
- ประกอบด้วยอะตอมของธาตุต่างชนิดกันมารวมกันในสัดส่วนคงที่
ใบความรู้ วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ สารบริสุทธิ์
บทเรื่อง การจําแนกและองค์ประกอบของสารบริสทุ ธิ์
เรื่องที่ 2 : โครงสร้างอะตอม
แบบจําลองอะตอมของดอลตัน
จอห์น ดอลตัน นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ พ.ศ. 2319-2387 (ค.ศ. 1776-1844) เป็นคนแรก ที่เสนอ
แบบจาลองอะตอม โดยใช้หลักฐานทางเคมีและฟิสิกส์เข้ามาประมวลแนวคิดเกี่ยวกับอะตอม จอห์น ดอลตัน ได้
เสนอทฤษฎีอะตอม ซึ่งมีสาระสาคัญดังนี้
1. ธาตุแต่ละชนิดประกอบด้วยอนุภาคเล็กที่สุด ซึ่งเรียกว่า อะตอม อะตอมไม่สามารถแยกออกไปได้อีก
และไม่สามารถถูกสร้างขึ้นหรือทาลายได้ในระหว่างเกิดปฏิกิริยาเคมี
2. อะตอมในธาตุเดียวกันจะมีมวลและสมบัติอื่น ๆ เหมือนกัน อะตอมในธาตุต่างชนิดกันจะมีสมบัติ
แตกต่างกัน
3. สารประกอบเคมีซึ่งเกิดจากอะตอมต่างชนิดมารวมกันนั้น การรวมกันของอะตอมจะเป็นอัตราส่วนที่
เป็นตัวเลขลงตัวต่า เช่น หนึ่งอะตอมของ A ต่อหนึ่งอะตอมของ B (AB) หนึ่งอะตอมของ A ต่อสองอะตอมของ B
(AB2) เป็นต้น
นักวิทยาศาสตร์ได้ทาการทดลอง และศึกษาค้นคว้าอะตอมเพิ่มมากขึ้น พบว่าการทดลองบางอย่าง
ให้ผลข้อมูลที่ไม่สามารถอธิบายตามทฤษฎีอะตอมของดอลตันได้ จึงมีการสร้างระบบจาลองอะตอมขึ้นมาอีก
หลายแบบจาลอง เพื่อให้สอดคล้องกับผลที่ได้จากการทดลอง
แบบจําลองอะตอม มี 5 แบบ ดังนี้
แบบจําลองอะตอมของทอมสัน
แบบจําลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอร์ด
แบบจําลองอะตอมของโบร์
แบบจําลองอะตอมแบบกลุ่มหมอก
นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศส ชื่อ ลุย วิกตอร์ เดอ เบรย ในปี พ.ศ. 2467 (ค.ศ. 1924) และนักฟิสิกส์ ชาว
ออสเตรีย ชื่อ แคร์วิน ชเรอดิงเงอร์ ในปี พ.ศ. 2469 (ค.ศ. 1926) โดยสร้างมโนภาพว่าอะตอมประกอบด้วย
กลุ่มหมอกของอิเล็กตรอนรอบนิวเคลียส ด้วยเหตุผลที่ว่าอิเล็กตรอนมีขนาดเล็กมาก และเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว
ตลอดเวลาไปทั่วอะตอม รายละเอียดของแต่ละแบบจาลองอะตอม นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมในระดับชั้น
มัธยมศึกษาตอนปลาย
โปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน มีประจุไฟฟ้าแตกต่างกัน โดยโปรตอนมีประจุไฟฟ้าบวก นิวตรอน
เป็นกลางทางไฟฟ้า และอิเล็กตรอนมีประจุไฟฟ้าลบ อะตอมมีจานวนโปรตอนเท่ากับจานวนอิเล็กตรอน ดังนั้น
อะตอมจึงมีจานวนอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าบวกจะเท่ากับจานวนอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าลบ ทาให้อะตอมเป็น
กลางทางไฟฟ้า
ใบความรู้ วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ สารบริสุทธิ์
บทเรื่อง การจําแนกและองค์ประกอบของสารบริสทุ ธิ์
เรื่องที่ 3 : การจําแนกธาตุและการใช้ประโยชน์
ธาตุโลหะ ธาตุอโลหะ
❖ คุณสมบัติ ❖ คุณสมบัติ :
- ผิวมันวาว - ผิวไม่มันวาว
- นาไฟฟ้า และนาความร้อนได้ดี - ไม่นาไฟฟ้า และไม่นาความร้อน
- จุดเดือด และจุดหลอมเหลวสูง - จุดเดือด และจุดหลอมเหลวต่า
- เหนียว และตีแผ่เป็นแผ่น หรือรีดเป็นเส้นได้ - เปราะบาง และ ตีแผ่เป็นแผ่นหรือรีดเป็นเส้นไม่ได้
- ส่วนใหญ่มีสถานะเป็นของแข็ง - ส่วนใหญ่มีสถานะเป็นแก๊ส
❖ ตัวอย่างของโลหะที่ข้อสอบออกบ่อย ๆ ❖ ตัวอย่างอโลหะที่ข้อสอบออกบ่อย ๆ
โลหะ ทองคา เงิน เหล็ก โซเดียม ไฮโดรเจน ไนโตรเจน ออกซิเจน คลอรีน อาร์กอน
แมกนีเซียม (สถานะ ของแข็ง) (สถานะแก๊ส) โบรมีน (สถานะของเหลว) ไอโอดีน
ปรอท (สถานะ ของเหลว) กามะถัน คาร์บอน แกรไฟต์ (สถานะของแข็ง)
❖ ประโยชน์ : ใช้ในเครื่องจักร อาคาร ภาชนะหุง ❖ ประโยชน์ : คาร์บอน ออกซิเจน ไนโตรเจน
ต้ม เครื่องใช้ไฟฟ้า อาจใช้เป็นโลหะผสม เช่น ฟอสฟอรัส เป็นส่วนประกอบสาคัญของสิ่งมีชีวิต และ
เหล็กกล้าไร้สนิม หรือสเตนเลสสตีลล์ สาริด เป็นส่วนประกอบของปุ๋ย
ทองเหลือง สายไฟภายในอาคาร
ธาตุกึ่งโลหะ
ธาตุโลหะ
ธาตุอโลหะ
ธาตุกัมมันตรังสี
1) ด้านการแพทย์
• ใช้ไอโอดีน-131 (1-131) ในการติดตามเพื่อศึกษาความผิดปกติของต่อมไทรอยด์
• ใช้โคบอลต์-60 (Co-60) และเรเดียม-226 (Ra-226) ในการรักษามะเร็ง
2) ด้านการถนอมอาหาร
• ใช้รังสีแกมมาของโคบอลต์-60 (Co-60) ในการทาลายแบคทีเรียในอาหารจึงช่วยให้เก็บอาหารได้นานขึ้น
3) ด้านอุตสาหกรรม
• ใช้ธาตุกัมมันตรังสีตรวจหารอยตาหนิ
• ใช้ตรวจและควบคุมความหนาของวัตถุ
• ใช้รังสีฉายบนอัญมณีเพื่อให้มีสีสันสวยงาม
4) ด้านพลังงาน
• ใช้ยูเรเนียม-238 (U-238) ต้มน้าให้กลายเป็นไอแล้วผ่านไอน้าไปหมุนกังหันเพื่อผลิตไฟฟ้า
5) ด้านเกษตรกรรม
• ใช้ฟอสฟอรัส-32 (P-32) ศึกษาความต้องการปุ๋ยของพืช
• ใช้โพแทสเซียม-32 (K-32) ในการหาอัตราการดูดซึมของต้นไม้
6) ด้านธรณีวิทยา
• ใช้คาร์บอน-14 (C-14) คานวณหาอายุของวัตถุโบราณ
โทษของธาตุกัมมันตรังสี
1. ถ้าร่างกายได้รับจะทาให้โมเลกุลภายในเซลล์เกิดการเปลี่ยนแปลงไม่สามารถทางานตามปกติได้
ถ้าเป็นเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดลักษณะพันธุกรรมก็จะเกิดการผ่าเหล่า
2. ส่วนผลที่ทาให้เกิดความป่วยไข้จากรังสี เมื่ออวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายได้รับรังสี โมเลกุล
ของธาตุต่าง ๆ ที่ประกอบเป็นเซลล์จะแตกตัว ทาให้เกิดอาการป่วยไข้และเกิดมะเร็งได้
หลักในการป้องกันอันตรายจากกัมมันตภาพรังสี สรุปได้ดังนี้
1. เนื่องจากปริมาณกัมมันตภาพรังสีที่เราได้รับขึ้นกับเวลา ดังนั้นถ้าจาเป็นต้องเข้าใกล้บริเวณที่มีธาตุ
กัมมันตรังสี ควรใช้เวลาสั้นที่สุดเท่าที่จะทาได้
2. เนื่องจากปริมาณกัมมันตภาพรังสีจะลดลง ถ้าบริเวณนั้นอยู่ห่างจากแหล่งกาเนิดกัมมันตรังสีมาก
ขึ้น ดังนั้นจึงควรพยายามอยู่ห่างบริเวณที่มีธาตุกัมมันตรังสีให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
3. เนื่องจากกัมมันตภาพรังสีชนิดต่าง ๆ มีอานาจในการทะลุผ่านวัตถุได้ต่างกัน ดังนั้นจึงควรใช้
กัมมันตภาพรังสีทะลุผ่านได้ยากมาเป็นเครื่องกาบัง เช่น ใช้ตะกั่วหรือคอนกรีตเป็นเครื่องกาบังรังสีแกมมา
และอนุภาคบีตา ส่วนนิวตรอนนิยมใช้น้าเป็นเครื่องกาบัง เป็นต้น
การวัดปริมาณรังสีมีหน่วยเป็น มิลลิซีเวิร์ต (millisievert: mSv)
การป้องกันอันตรายจากกัมมันตภาพรังสี อันตรายจากกัมมันตภาพรังสีขึ้นกับปริมาณพลังงาน
ของกัมมันตรังสีต่อมวลที่ถูกรังสี และความสาคัญของส่วนที่ถูกกัมมันตภาพรังสีต่อการดารงชีวิต ผู้ที่จะนา
กัมมันตภาพรังสีไปใช้ประโยชน์ ไม่ว่าในทางการแพทย์ ทางการเกษตร ทางอุตสาหกรรม ตลอดจนการ
ค้นคว้า ทางวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ จะต้องมีความรู้ทางด้านกัมมันตรังสีเป็นอย่างดี รู้จักวิธีใช้ที่ปลอดภัย และ
วิธีป้องกัน อันตรายจากกัมมันตภาพรังสีเหล่านั้นด้วย