Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 3

ป ๗

ความร้อน และ แกส

อุ ณหพล
ศาสตร์ Cthermodynamics ) 2. ความ ความ
จุ ร้อน ( Heatcapacity C , ,
หน่ วย 51k)
แสดง ถึ ง ความ ร้อนที่ ทําให้วัตถุ เปลี่ ยนอุ ณหภู มิป 1k, C
°

พลังงาน ความร้อน "


ศึ กษา กระบวนการเปลี่ ยนแปลง ระหว่ าง ความ ร้อน และ พลังงานกล
ยู ้ห้ คื อ อัตราส่ วน ระหว่ าง ความร้อน (2) ที่ ให้กับวัตถุ
ต่ ออุ ณหภู มิ ที่ เพิ่ มขึ น
ร้อน =D
วุ ์ฑุ์
-
1T )

ความ
วัตถุมี อุ ณหภู มิสูงขึ ้น C 2 2 หน่ วย จู ล ( JI
ศึ กษา ความร้อน จาก อุ ณหภู มิ 5 s หน่ วย เคลวิ น ( k )

ให้ความร้อนทําให้ อุ ณหภู มิ
เปลี่ ยนแปลง
×
ไม่ใช่ ค่ าคง ตัว เพราะ เป็ น ค่ าที่ ได้จาก การทดลอง

สถานะของ สาร เปลี่ ยนแปลง C บิ นกับ มวล cm ) Cdm 4< C2

จุ ความ ร้อนได้มาก 1 แก้ว


ถ่ ายโอน ความ ร้อน
แก้ว
[ การนํา ความร้อน ร้อน การ แผ่ รงั สี ความร้อน]
2

การ
,
พา ความ
,
แก้ว G ,G
1 แก้ว Cz C
2
2 c cz
ให้ 2 500J
, =

ให้ 2 1,000J
,

วุ ้
= =

สาร คื อ น (สาร ชนิ ด เดี ยว กัน)

อุ ณหภู มิ ltemperatures
-

AT =
1 K 51 =
1 K

จําเพาะ
.
2
วัไ
ด ด้ ร้อน 1 เย็ น 3. ความร้อน CS pecific heat หน่ วย Jlkgk )
ประสาทสัมผัส มนุ ษย์ [ไม่ แม่ นยํา
c

หVมี อุ ณหภู มิเปลี่ ยนป


× , ,

วัดความร้อน จาก
แสดงถึ ง ร้อนที่ ทําให้ วัตถุ มวลUา 1K C
_

'
วัดได้
เบอร์ มอนิ เตอร์ [ แม่ นยํา ] × อุ ณหภู มิ
ความ
,

คื อ ความร้อน (C) ต่ อ หนึ่ ง หน่ วย มวล


ความ
จุ
การบอก ระดับความร้อน ที่ มี
อุ ณหภู มิ : มาต c =

Em = 2 • ความ ร้อน (2)


แสดงว่ า
มี ระดับความร้อน สู ง C mst
อุ ณหภู มิ สู ง ะ c =

-
~
=
mc.AT
m 2 cms
=

2 ม 51
แอร์มอ มิ เตอร์
-

เป็ นค่ าคงตัว วัตถุ รับ ม .

วัตถุ ดาย 2
อุ ปกรณ์วดั ความ ร้อน เป็ นสมบัติของ เฉพาะ ของสาร .
รับ ม + เค้า

ทํา งาน อาศัย สมองของ สารที่ เปลี่ ยนแปลง ตามอุ ณหภู มิ (ความร้อน) cไม่ บินกับ มวล cm)
๒"
"
การ ะ -

พิ่ ม
น + ลด ลง

| ปริ มาตร ( V ) ความ ความต้น ( R ) สื -

C บนกับ ชนิ ดของ สาร [ เปลี่ ยนชนิ ด สาร เปลี่ ยน] ของ → c

หน่ วย ของ อุ ณหภู มิ


, ,

C เปลี่ ยนแปลง เมื่ อ


*
] P เปลี่ ยนแปลง [ ปกติ เปลี่ ยนแปลง น้อย มาก ] c

1. องศา เซลเซี ยส [ C ] องศา เซนติ เกรด C 2 ]P


°

สเกล วัด เกิ ดจาก การวัด อุ ณหภู มิ 117 ของนUา ที่ ความดัน ( P ) 1 atm ความร้อน จํา เพราะ ของ
วัตถุ มี ค่ามาก CC มาก )

แข็ ง นUา
จุ ด เยื อก ของ
=
0°C
จุ ด เดื อด ของ
นUา -100°C หมาย ความ ว่ า
"

วัตถุนืร้ กั ษา อุ ณหภู มิ เดิ มได้ดี


"

ฒํ่ื า ให้อุ ณหภู มิ เปลี่ ยน


นานา
, ไหน

ช่ วง เยื อก แข็ ง เดื อด แบ่ ง เป็ น ส่ วน ต้อ ให้ความร้อน (ม) มาก


" "
100 = 100 สเกล โดย
สเกล ละ 1 °C

2. เคลวิ น [ k 7 อุ ณหภู มิสมั บู รณ์ อุ ณหภู มิอุณหพลวัต 4. ความ ร้อนแฝง llatent heat L, หน่ วย J
1kg1
,
-

หน่ วย SI เป็ นกาให้ความร้อน เพื่ อ เปลี่ ยนสถานะของ สารโดยอุ ณหภู มิของสาไม่ เปลี่ ยนแปลง
-

สเกล วัด เกิ ดจาก การวัด อุ ณหภู มิ 117 ของนUา ที่ ความดัน ( P ) 1 atm พลังงาน ความร้อนไปสลาย พันธะ ระหว่ าง อนุ ภาค 2 2

แข็ ง ของ นUา นUา ทําให้สาร เปลี่ ยนสถานะ


า อนุ ภาค ง อนุ ภาค
จุ ด เยื อก 273.15°C
จุ ด เดื อด ของ
อนุ ภาค
-373.15 °C
- =

พันธะ พันธะ
,

ช่ วง เยื อก แข็ ง เดื อด แบ่ ง เป็ น 100 ส่ วน = 100 สเกล ความ ร้อน แฝง ( L) คื อ ความร้อนที่ ใช้ในการ เปลี่ ยน สถานะ สารมวล 1kg or 1 หน่ วย

สเกล ละ 1K โดย อุ ณหภูไม่ เปลี่ ยนแปลง


ศู นย์สมั บู รณ์ ที่ T =
ok

เป็ นอุ ณหภู มิ ที่ ต]า ที่ ใน 2 คื อ ความร้อนที่ ทําให้สาร มวล m เปลี่ ยน
ฐื ทฤษฎี
-

สถานะ พอดี
เคลื่ อนท
, m
อนุ ภาค หยุ ด
L ษึ ้ กับ ชนิ ด ของสาร [ เปลี่ ยนชนิ ด L เปลี่ ยน]
ช่ วงสเกลของ หน่ วย เคลวิ น
ของสาร →
-

=
ช่ วงสเกลของ องศา เซลเซี ยส

3. องศา ฟาเรนไฮต์ [ F] °
Lf -

หลอมเหลว = ของ แข็ ง ะ ของ เหลว

-
แข็ ง
จุ ด เยื อก ของ
นUา T=32°F , จุ ด เดื อด
T =
212°F Lv -

กลาย เป็ นไอ =


ของ เหลว ะ แก๊ส

สเกล ต่ างจาก K C
°
-
ควบ แน่ น = แก๊ส า ของ เหลว

-
แข็ งตัว = ของ เหลว × ของ แข็ ง

สัมพันธ์ ของหน่ วย เคลวิ น [ k] กับ องศา เซลเซี ยส [0C]



ระเหิ ด =
ของ แข็ ง ะ แก ส

ใหญ่ ใช้กบั การเปลี่ ยนสถานะ


ความ
-

ไ ส่ วน

สังเกต นUา แข็ ง นU →


ไ เปลี่ ยน ไ เปลี่ ยน
}
,

t
-

ทั้งไอ นํํ◌า
t คื อ อุ ณหภู มิ หน่ อย เคลวิ น [ k] อุ ณหภู มิ
สถานะ
-

+273.15 T

t คื อ อุ ณหภู มิ หน่ วย องศา เซลเซี ยส [ 2] เปลี่ ยนสถานใช้


เปลี่ ยน >
การ เวลานาน t
กว่ า การ เปลี่ ยนแปลง
t เปลี่ ยน
ช่ วงสเกลของ หน่ วย เคลวิ น อุ ณหภู มิ
ST =
At =
ช่ วงสเกลของ องศา เซลเซี ยส สถานะ
อุ ณหภู มิ
นUา ให้
ไอ นUา แก๊สอุ ดมคติ
กฎของ
สังเกต 3
ะ *
ง[ =
1m
2 2256J
105N /ท่
=

กระบวนการ ระดับ atom 1 atm =


1,0 ๅ ✗
นUแ ไอนUา สัมพันธ์ ของ ความ ดัน (D)
คาย
ไม่ มี การสู ญเสี ย พลังงาน
2 2 256]
ความ
,
ปริ มาตร (V ) และ
อุ ณหภู มิ (T)
พิ จารณา แก๊ส ใน ภาชนะ ปิ ด
=

2 รับ เท่ าไหร่ 2 คาย เท่ า นั้น ใช้หน่ วย เคลวิ น (Kl


รู
=

" # จํานวนโม
ท =
ล (ทาง 1)
ร้อน
ถ่ ายโอน
Tตํํ◌า
5. การถ่ ายใน ความ PV ทRT N kฏ๋
"
สู ง T > = =
N จําในโมเลกุ ล โมเลกุ ล)
ความ ร้อน
=

ส่ ง ผ่ าน ความ ร้อนจาก
วัตถุ อุ ณหภู มิ สูง วตั ถุ อุ ณหภู มิ ต]า
ไปสู่ ทํา R ค่ า คง ตัว แก๊ส
=
<

เกิ ด เมื่ อ วัตถุ ทั้ง 2 มี


อุ ณหภู มิ แตกต่ างกัน ความ สัมพันธ์ของโม ล (ก) มวล1m) อนุ ภาค (N) R =
8.31 Jlmolk
ค่ า คง ๓โพล ตน มันน์
,

ได้
เกิ ดพร้อม กัน
N
KB =


นําความ ร้อน ผ่ านตอนําโลหะ)
M
วk J / K
=


=

[ของ แข็ ง] 1.38 ✗ 1


=

การ
NA
-

มวล อะตอม

โมเลกุ ลไม่ เคลื่ อนที่


t
↳ "
glmol 6.02×10 อนุ ภาค 1m01
การพาความ ร้อน อาศัย การ เคลื่ อนที่ ของ อนุ ภาค
[ ของ เหลว] มี 3 ข้อ

แผ่ รังสี ความร้อนไม่ อาศัย ตอ กลาง ล็
-

( P) T ตัว
'

กฎ
การ
1. ของ บอย คง
,
ม1
ความ ดัน (D) แปร ผกผันกับ ปริ มาตร (V ) า ค่ าคงตัว
สมดุ ลความร้อน lthermalequilibrium)
=

กฎของ ชาร์ล
ทู ้
คื อ การ ดําโอน ความร้อนจนอุ ณหภู มิ เท่ า กัน ตัว K2
2. ( V ,T) P คง =

กฎ อนุ รกั ษ์
เป็ นไป ตาม พลังงาน y
อุ ณหภู มิ "
ปริ มาตร (V ) แปรผัน ตรงกับ "T
ค่ าคง ตัว

ได้ ไ เพิ ม
่ 3.
กฎของ
เกย์ -

ลู สแซก ( P TI ,
Vคง ตัว ง
= K
]ม 3
T
ความ ร้อนที่ ให้ เท่ า กับ ความ ร้อนที่ วัตถุ หนึ่ งได้ร ับ
ความ ดัน ( P ) แปรผัน ตรงกับ
อุ ณหภู มิ (7)

(ความร้อน ที่ ลด ลง 2ลด) =


( ความ ร้อนที่ เพิ่ มขึ ้น =
2 ฬ] ม่ Kg ค่ า คง ตอ

แ คลอ มิ เตอร์ ccabrimeter) จะ ได้ PV =


ka 14 ค่ า คง ตัว
วัด ร้อน (C) ร้อนแฝง ( L)
ร้อนจําเพาะ (C)
จุ
-
ความ ความ ความ ความ
, ,

ปฏิ กิริยา เคมี จากไฟฟ้ า จาก กลศาสตร์


สัมพันธ์ของ แก ในสภาวะ ที่ 1 เท่ ากบ สภาวะ ที่ 2
ความร้ อ น จาก

-

สู่
ภายนอก มี ฉนวน กัน ความร้อน ออก สิ่ ง แวดล้อม
Ky แสดง ว่ า ความ
-
ภายใน มี ของ เหลว ที่ รู ้ ค่ า ความร้อนจําเพาะ (C) ความ ร้อนแฝง ( L)

Pหุ่
,

Ex นUา ทํา หน้าที่ รับ /คาย ร้อน( ม) จาก ที่ นํา มาศึ กษา /1 =P2 V2 /3 V3
ความ
วัตถุ =
วัด การ เปลี่ ยนแปลง อุ ณหภู มิ CDT ) ของ ของ เหลว (นUา 1
I T3
-

้ ที่ ต้องการทราบ ของ


นํามา คํานวณ ปริทณ ที่
วัตถุ นํา ศึ กษา
มา

ค่ าคงตัวของ แก๊ส (B) ค่ าคงโบลต์ซ มัน น์ lkn


แก๊สอดม คติ
9
ว3 ั้ J / K
R =
8.31
นµ
-

0.0831 a-mmolk
KB = 1.38×1
แก๊สจริง
1.
โมเลกุ ล เคลื่ อนที่ อิสระ ที่ มา ของ "
ค่ า คง ตัวของ แก๊ส 1 R ) " ที่ มา ของ kB
ปริ มาตร แก๊สจริ ง 1) เปลี่ ยนแปลง ตาม ปริ มาณ ภาชนะ " "

มาตรฐาน
2.
หา จาก สภาวะ จาก ท=

อุ ดมคติ

แก ส ( STP standardtemperatureand Pressure Nt
,

โมเลกุ ล
1. มี เล็ ก
ขนาด 2 / รึ มา ตโมเลกุ ล =
0 เที ยบ กับปริมาตรภาชนะ T =
0°C =
273.15K D= า atm =
เงา 3 × ทk N / ท้ Nกั๋ เลขอโอน ดร
แก๊ส mol มี V dm3 ^
6.02 XD 23m01
=
1 22.4 =

แก๊ส มื dm 3
nmo
=
n 22.4
V =
๐ เที ยบ กับ Vภาชนะ PV RT
โมเลกุ ล จาก [ขุ = K4 และ =
n

PV NRT
ไม่ มี แรงยึ ดเหนี่ ยว ระหว่ างโมเลกุ ล แต่ มี แรง เนื่ องจากการ ชน (1.013 ✗ 105N /ทาง) (ท 22.4 1 วkM 3)
=

=
K4
2.

273.15k NA
โมเลกุ ลโมเลกุ ล ( 8.3 Jlmok K4
KB ทฺ
ขา
=

โมเลกุ ล -

ผนัง nR
=
K4
NA
3.
โมเลกุ ล เคลื่ อนที่ แบบ สุ่ ม คื อ ทิ ศ และขนาด ของ ความเร็ว เข้าไม่ แน่ นอน ได้
จ n R -


4. ความน่ า จะเป็ น เท่ ากัน โมเลกุ ล ทั้ง ทิ ศ และขนาด ของ ความ เร็ ว เข้า
ทุ PV =
NkpT
5. มี การชน แบบยื ดหยุ่ น คื อไม่ สู ญเสี ย พลังงาน จัดรู ป PV =
ทRT
แก๊ส
แก๊ส อุ ดมคติ
" "

กฎของ
อุ ดมคติ
" "

กฎของ
ทฤษฎี จลน์ ของ แก๊ส Ckinetictheoryofgases) 2. ความ สัมพันธ์ระหว่ าง พลังงานจลน์ ( Eri กับ อุ ณหภู มิ (T )

ศึ กษา แก๊ส ระดั โมเลกุ ล อุ ณหภู มิ ของ แก๊ส (


T)
แสดงถึ ง พลังงาน จลน์ ( En )
ศึ กษา ความ เร็ เขา พลังงาน จลน์ ( Ek)
-

ขอ
โมเลกุ ล -

ที่ มา จาก P =

± พู vm

วุ ↳
เพื่ อ อธิ บาย สมบัติ ทางกายภาพ -

ความ ดัน (D) E


k
= T Pv =

} Nmims
ปริ มาตร (V) N =

nmirms
อุ ณหภู มิ (7) N
÷ NEK
โมเลกุ ล แก๊ส เคลื่ อนที่ ตลอด เวลา
1. ความ สัมพันธ์ ระหว่ าง ความดัน (D) กับ
Nkmt
-

En
÷
ความ เร็ ว rmslvrm g) มี ความ เร็ ว เขา
ทําให้
สุ ๋ พลังงานจน ล์ ( Eri E. วู kต๋
=

จํานวนอะตอม ( อะตอม) มวล Ckg)

ดัน (D) ของ แก๊ส สัมพันธ์ ระหว่ าง อัตรา เร็ ว rms (Vrms) กับอุ ณหภู มิ 1T)
,

r ความ 3. ความ
P =
1 Nm V2rms ใน
มุ ม
การ เคลื่ อนที่ ขอโมเลกุ ล
อธิ บาย พฤติ กรรม ของ แก๊ส ตาม ด์ ได้
อุ ณหภู มิ LT) สาม รถหา
3 V กฎ
ของบอย
-

ทราบ มวล 1m ) Vrms


ะ ,

ปริ มาตร ( µ3) P ม 1 โดย T คง ตัว -


ที่ มา จาก E. ± mvtms
=

V
KBT
ผิ ๋ Vrms = 3
ปริ มาตร (V)น นะ ทิให้ พื นที่ ผิว ภาชนะ 1 AF
" Ek =

วู kถื ้
> M
ได้
2
ลด ลง
Imvfms ยู ้ต๋
'

ลด ลง
จะ =

t ทําให้ t ทําให้ t ทําให้

KBที ๋
ความกว้าง
จํานวนโมเลกุ ล ที่ ชน พื ้นที่ ผิ ว 1h1 ของ ภาชนะ
ความดัน (D) Vrms
=

ณิ่ พื ้น
เพิ่ มบิ น ลดลง

ให้ t ษู ้
เมื่ อ ปริมาณ (V ) คง ตัว
a
ทําให้ จาก St =

ใน เคลื่ อนใน ระยะ 2L ( ถี่ (f)


'

ให้ แล การ
กุ ๋ ) ความ

ลด ลง
คาบ
เพิ่ มขึ ้น

อุ ณหภู มิ 1T)
-
พิ จารณา 1
โมเลกุ ล สู งขึ ้น
จาก Vrms = 3k BT
En =

วู
k BT

ใน ลู กบาศก์
,
3 m
=
x Lx =L
ทําให้
- มี มวล 1m) ความ เร็ ว ขี ขู +๋ ขี y + ขี z
=
v
,

พลังงาน จลน์ (Ek)


-

ชน ผนัง แบบ
ยื ดหยุ่ น t ,
ความ เร็ ว ( V)

st ชั่ลึ๊
เปลี่ ยนแปลง
การ ม เมน ต้ม lbp)
สู ง ขึ ้น
AP =
+ mv emn mv =

ทําให้
At คื อ ช่ วงเวลาตั้งแต่ เริ่มชนครัง้ ที่ 1 ถึ ง
-

เริ่ ม ชน ครัง้ ที่

} Nทุ __นู ๋m g
2
โมเมนต้ม เปลี่ ยนแปลง lsp)
v
F =

ผุ ๋
แรง (F)
เนื่ อง จาก แรง ดมที่ ผนังกระทํา (F)
า P =

มาก ขึ ้น
พิ จารณา แกน × ชน ผนัง A 2

งุ่ # หิ น
ธี =
SI =
+ MV
×
-

GMV ) × -2m vx t = At ทําให้ P =



It st st
s =
2L v

ช่ วง เวลาในการ เคลื่ อนที่ ldt) ความ ดัน (D)


L

มากขึ ้น
¥ ¥
v =
=

T
L
สัญลักษณ์ เวก ร์

ที่ 1 ของอุ ณหพล ศาสตร์


เ ตอ
n

ธู ๊
กฎข้อ
=
2mV ✗ =
2mV × =
MVI
st "
Vx
t
พิ จารณา อนุ ภาค N ตัว
-

< • >

เร็ ว เฉลี่ ย ขา +ฃู ้ +


ปู๋ =
Fmt Fxi . . .
+
Fw >
หา VI ความ พู ้ =
. . . พู ๋
Fx หุ ้

เดี ๋ ย ว
=

#
l + V2
× ว๋ .
. .
ขุ น ) N

ไม่ เสร็ จ
E เฉลี่ ย Fx )
NI หุ ้ + นู ้ว๋ ขูข้า
# Mmg มา
l ( แรง
Nmv ะ
=

ยั
. .
.

=
× =

" "

ศั่
เพิ ่ ม
ดันของ แกน ( Px) เนื่ อง จาก แรง l Fx ) Vrms =

ความ V2

Px Fx
µ ทุ ทุ ๋ # Nmi

วันห
=

นาน
=

v2
=

ลด
=
-

A. V

ความ ดัน ที่ ผนัง ด้านมี ค่ า เท่ า กัน เพราะ ภาชนะ เดี ยว กัน
ทุ ก
P =P
Py Pz v2 นู ้ vj V22 กู V2 2
พู + µ
2

×
= =
= = = _ = +
V22
t V2 =3 นู ๋

P =P
ญู mvว้ พู ฐุ ฐ
๋ พู ๊ Vims พู หื ๊
= =
=
×

You might also like