Professional Documents
Culture Documents
4684 28+15558 55 (ลูกค้าเป็นผสห.ยักยอกค่าน้ำส่วนเกิน,
4684 28+15558 55 (ลูกค้าเป็นผสห.ยักยอกค่าน้ำส่วนเกิน,
ฎีกาตัดสินเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย
___________________________
deka.supremecourt.or.th/printing/deka# 1/2
4/3/67 01:57 4684/2528
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
แผนก
หมายเลขคดีแดงศาลชั้นต้น
หมายเหตุ
deka.supremecourt.or.th/printing/deka# 2/2
4/3/67 01:54 15558/2555
ฎีกาตัดสินเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย
___________________________
deka.supremecourt.or.th/printing/deka# 1/3
4/3/67 01:54 15558/2555
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่โจทก์จำเลยไม่ได้โต้เถียงกันในชั้นนี้รับฟังเป็นยุติว่า จำเลยเป็นลูกจ้างประจำของเทศบาล
นครหาดใหญ่ มีหน้าที่เก็บเงินค่าธรรมเนียมตั้งแผงลอยขายอาหาร ทำสัญญาเช่าโต๊ะวางขายของและเก็บเงินค่าเช่าโต๊ะประจำ
เดือน ทั้งจัดทำใบนำส่งเงินให้เจ้าหน้าที่รับเงินเป็นประจำทุกวัน ตามคำสั่งเทศบาลเมืองหาดใหญ่ที่ 676/2536 ลงวันที่ 23
พฤศจิกายน 2536 ต่อมาเทศบาลนครหาดใหญ่ตรวจสอบพบว่าจำเลยเรียกเก็บเงินค่าวางแผงหรือโต๊ะขายของจากพ่อค้า แม่ค้าผู้
เช่าแผงขายสินค้าจากเทศบาลนครหาดใหญ่เกินกว่าจำนวนแผงขายสินค้าที่ผู้เช่าได้เช่าจากเทศบาลนครหาดใหญ่ โดยพ่อค้า
แม่ค้าวางแผงขายสินค้าเพิ่มเติมในพื้นที่ของเทศบาลนครหาดใหญ่โดยพลการ เมื่อจำเลยเก็บเงินค่าวางแผงจากพ่อค้า แม่ค้าตาม
จำนวนแผงที่วางขายสินค้าในพื้นที่ของเทศบาลนครหาดใหญ่ตามความเป็นจริงแล้ว จำเลยนำส่งเงินให้แก่เทศบาลนครหาดใหญ่
เป็นจำนวนตามแผงที่พ่อค้าแม่ค้าเช่าจากเทศบาลนครหาดใหญ่ แต่ไม่นำส่งเงินที่เรียกเก็บเกินจากพ่อค้าแม่ค้าให้แก่เทศบาลนคร
หาดใหญ่ รวมเป็นเงินจำนวน 136,755 บาท ต่อมาจำเลยนำเงินจำนวนดังกล่าวไปชำระแก่เทศบาลนครหาดใหญ่ สำหรับความผิด
ฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ฐานปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารปลอมศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์ไม่อุทธรณ์
จึงยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า เทศบาลนครหาดใหญ่เป็นผู้เสียหายหรือไม่ เห็นว่า จำเลยเป็นลูกจ้างประจำ
ของเทศบาลนครหาดใหญ่ มีหน้าที่เก็บเงินค่าธรรมเนียมตั้งแผงลอยขายอาหาร ทำสัญญาเช่าโต๊ะวางขายของและเก็บเงินค่าเช่า
โต๊ะประจำเดือน ทั้งจัดทำใบนำส่งเงินให้เจ้าหน้าที่รับเงินเป็นประจำทุกวัน การที่จำเลยเรียกเก็บเงินค่าวางแผงขายของจากพ่อค้า
แม่ค้าผู้เช่าแผงขายสินค้าจากเทศบาลนครหาดใหญ่เกินกว่าจำนวนแผงขายสินค้าที่ได้เช่าจากเทศบาลนครหาดใหญ่ โดยพ่อค้า
แม่ค้าวางแผงขายสินค้าเพิ่มเติมในพื้นที่ของเทศบาลนครหาดใหญ่โดยพลการ เมื่อจำเลยเก็บเงินค่าวางแผงจากพ่อค้าแม่ค้าตาม
จำนวนแผงที่วางขายสินค้าในพื้นที่ของเทศบาลนครหาดใหญ่ทั้งที่เช่าจากเทศบาลนครหาดใหญ่และไม่ได้เช่าจากเทศบาลนคร
หาดใหญ่ตามความเป็นจริงแล้ว จำเลยนำส่งเงินให้แก่เทศบาลนครหาดใหญ่เป็นจำนวนตามแผงที่พ่อค้าแม่ค้าเช่าจากเทศบาล
นครหาดใหญ่ แต่ไม่นำส่งเงินที่เรียกเก็บเกินจากพ่อค้าแม่ค้าให้แก่เทศบาลนครหาดใหญ่ โดยจำเลยระบุจำนวนเงินลงในต้นฉบับ
ใบเสร็จรับเงินตามจำนวนแผงวางขายสินค้าที่พ่อค้าแม่ค้าวางแผงขายสินค้า แต่ระบุจำนวนเงินลงในสำเนาใบเสร็จรับเงินตาม
จำนวนแผงที่พ่อค้าแม่ค้าเช่าจากเทศบาลนครหาดใหญ่ ถือว่าพ่อค้าแม่ค้าที่วางแผงเกินประสงค์จะจ่ายเงินตามจำนวนที่วางแผง
เกินให้แก่เทศบาลนครหาดใหญ่แล้ว เมื่อจำเลยรับเงินไว้ต้องถือว่ารับแทนเทศบาลนครหาดใหญ่ การที่จำเลยเบียดบังเงินดังกล่าว
แล้วไม่นำเงินส่งแก่เทศบาลนครหาดใหญ่ ย่อมเป็นการยักยอกเงินของเทศบาลนครหาดใหญ่ เทศบาลนครหาดใหญ่จึงเป็นผู้เสีย
หายและมีอำนาจร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยในความผิดฐานยักยอกได้ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง นอกจากนี้ จำเลยนำเงินดังกล่าว
ไปใช้เป็นส่วนตัว จำเลยจึงมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษา ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษามานั้น ศาลฎีกา
ไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
เนื่องจากจำเลยอุทธรณ์ปัญหาเรื่องอายุความด้วย ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 9 ยังไม่ได้วินิจฉัยปัญหานี้ ศาลฎีกาเห็นสมควร
วินิจฉัยปัญหานี้ไปเสียทีเดียว โดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 9 วินิจฉัยอีก ที่จำเลยอุทธรณ์ว่า นางสุปรียารู้เรื่อง
การกระทำความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดก่อนวันที่ 2 เมษายน 2542 แต่ผู้เสียหายไปร้องทุกข์วันที่ 5 กรกฎาคม 2542 คดีจึง
ขาดอายุความนั้น เห็นว่า ผู้เสียหายมีนายกเทศมนตรีเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่บริหารราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย การที่นางสุ
ปรียา ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้อันเป็นเจ้าหน้าที่ระดับล่างของผู้เสียหายรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดจะถือว่า
ผู้เสียหายรู้ด้วยหาได้ไม่ เมื่อนายกเทศบาลนครหาดใหญ่มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2542 และ
คณะกรรมการสอบสวนได้ทำการตรวจสอบและทำบันทึกสรุปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำความผิดของจำเลยเมื่อวันที่ 28
พฤษภาคม 2542 และผู้เสียหายร้องทุกข์เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2542 ยังไม่เกิน 3 เดือน คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
deka.supremecourt.or.th/printing/deka# 2/3
4/3/67 01:54 15558/2555
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
แผนก
หมายเลขคดีแดงศาลชั้นต้น อ604/2550
หมายเหตุ
deka.supremecourt.or.th/printing/deka# 3/3