Professional Documents
Culture Documents
Part of Speech
Part of Speech
PART OF SPEECH
1) Preposition of Time เช่น in,on,at,since,for,until,during 4) หลัง object
2) Preposition of Place เช่น in,on,at,above,under,over 5) หน้า adjective
3) Preposition of Movement เช่น to,onto,into,toward 6) หลัง be หน้า adjective
4) คำบุพบทแบบซับซ้อน เช่น apart from,as well as,instead of 7) หน้า adverb
ตัวอย่าง The cat is on the table. 8) หลังกริยา passive
9) หลัง to หน้า V.inf
ตัวอย่าง He ran quickly.
CONJUNCTION (คำสันธาน)
คำที่ใช้เชื่อมคำ วลี หรือประโยคย่อยเข้าด้วยกัน เพื่อเกิดความสละสลวย อ่านเข้าใจง่าย For (เพราะ) เชื่อมประโยคที่เป็นเหตุเป็นผลระหว่างกัน โดยแสดงเหตุ INTERJECTION (คำอุทาน)
1. Coordinating Conjunction ใช้เชื่อมคำ วลี หรือประโยคประเภทเดียวกัน หรือมีความสำคัญเท่าเทียม And (และ) เชื่อมประโยคที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือส่งเสริมกัน
กัน โครงสร้างการใช้ S + V, CC S + V Nor (ไม่ทั้งสองอย่าง) เชื่อมประโยคที่เป็นเชิงปฏิเสธทั้งคู่ คือคำพูดที่พูดออกไปด้วยอารมณ์ต่างๆ เพื่อแสดงออก
2. Subordinating Conjunction ใช้เชื่อมประโยคหลัก (Main Clause) กับประโยคย่อย But (แต่) เชื่อมประโยคที่มีความขัดแย้งกัน ถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นขณะนั้น มักปิดท้ายด้วย
(Subordinate Clause) ที่มีระดับความสำคัญไม่เท่ากัน โครงสร้างการใช้ Or (หรือ) เชื่อมประโยคที่แสดงทางเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เครื่องหมายอัศเจรีย์ (Exclamation Mark) !
S + V + SC + S + V Yet (แต่) เชื่อมประโยคที่มีความขัดแย้งกัน ตัวอย่าง Good! now we can move on.
SC + S + V, S + V So (ดังนั้น) เชื่อมประโยคที่เป็นเหตุผลเป็นผลระหว่างกัน โดยแสดงผล
3. Correlative Conjunction ต้องใช้คู่กันเสมอเพื่อเชื่อมประโยค Independent clause ที่มีความหมาย ตัวอย่าง I love you and you love me too.
สอดคล้องและเท่าเทียมกัน