ผู้นําในสายตาของข้าพเจ้าเป็นอย่างไร

เรียนท่านคณะกรรมการที่เคารพทุกท่าน ดิฉัน นางสาวกชกร ยาวิลาศ จากโรงเรียนสตรีสมุทรปราการ

วันนี้จะมานําเสนอสุนทรพจน์ในหัวข้อ ผู้นําในสายตาของข้าพเจ้าเป็นอย่างไร
น้ําย่อมพึ่งเรือ เสือย่อมพึ่งป่า
องค์กรจะพัฒนา ย่อมต้องมีหัวหน้าคอยชี้นํา
ผู้นํา ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ได้ให้ความหมายไว้ว่า ผู้นํา เป็นคํานามหมายถึงหัวหน้า พันตรีกวี วงศ์
พุฒ ได้ให้ความหมายคําว่าผู้นําไว้ว่า ผู้นํา หมายถึง บุคคลผู้ซึ่งสามารถนํากลุ่มไปในทิศทางที่ต้องการ เป็นบุคคลที่มีส่วนร่วมและ
เกี่ยวข้องโดยตรงต่อการแสดงบทบาทหรือพฤติกรรมความเป็นผู้นํา ศาสตราจารย์ ดร.บุญทัน ดอกไธสง ได้ให้ความหมายของคํา
ว่าผู้นําไว้ว่า ผู้นํา หมายถึง ผู้ที่มีศิลปะ มีอิทธิพลต่อกลุ่มชน เพื่อให้พวกเขามีความตั้งใจที่จะปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมายตาม
ต้องการ ดังนั้น จึงสามารถสรุปได้ว่า ผู้นํา หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยงานหรือองค์กร มีอํานาจหน้าที่เหนือคนอื่นๆ
ภายในองค์กรนั้นๆ มีหน้าที่ในการสั่งการ วางแผน แนะนํา ชี้แนะหรือปฏิบัติ และมีความสามารถในการนําพากลุ่มหรือองค์กร
ไปสู่วัตถุประสงค์หรือสู่จุดหมายที่วางไว้
ตามความหมายที่ได้กล่าวไปข้างต้น นําไปสู่หัวข้อที่ว่า ผู้นําในสายตาของข้าพเจ้าเป็นอย่างไร ในสายตาของข้าพเจ้าแล้ว
ผู้นําควรเป็นผู้ที่มีความสามารถในการมองภาพรวม ดุจเหยี่ยวมองหาเหยื่อบนท้องนภา เนื่องจากหากผู้นําไม่สามารถมองเห็น
ภาพรวมของงาน ผู้นําจะไม่สามารถรับรู้ถึงปัญหาของงาน และไม่สามารถแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทําให้ไม่สามารถบรรลุ
จุดประสงค์หรือเสร็จสิ้นภาระงานได้ ผู้นําควรมีความเข้าใจในงานหรือสิ่งที่ต้องทํา ดังคํากลอนที่ว่า
รู้อะไรให้รู้เป็นครูเขา จะได้เบาแรงตนเร่งขวนขวาย
มีค่าไทใช้สอยค่อยสบาย ตัวเป็นนายโง่เง่าบ่าวไม่เกรง
เนื่องจากหากผู้นําเป็นผู้ที่ไม่มีความเข้าใจในงาน จะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทํางานถดถอยลงเพราะผู้นําไม่สามารถอธิบาย
งานให้ผู้ตามได้ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ หรือวิธีแก้ปัญหาไม่มีประสิทธิภาพมากนัก ทําให้งานเกิดความ
เสียหาย เสร็จสิ้นล่าช้า คุณภาพต่ํากว่าที่ควรจะเป็น ผู้นําควรมีทัศนะที่เปิดกว้างดุจดังท้องนภาอันไพศาล ทั้งในความคิด ทัศนคติ
การยอมรับความแตกต่างและมีความคิดที่ก้าวไกล พัฒนาความคิด วิธีการดําเนินงานให้เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน รวมถึงผู้นํา
ควรรับฟังความเห็นของผู้อื่นและมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เนื่องจากหากผู้นําไม่รับฟังความเห็นของผู้อื่น ก็
อาจก่อให้เกิดปัญหาระหว่างทํางานเนื่องจากความคิดเห็นที่ไม่ลงรอยกัน การยึดมั่นในความคิดของตนเองมากเกินไป จนเกิดเป็น
ปัญหาการกระทบกระทั่งกันภายใน ยิ่งหากมีผู้ตามที่มีอุปนิสัยคล้ายกันแล้ว อาจก่อให้เกิดเหตุการณ์ขิงก็รา ข่าก็แรง ขึ้นได้ และ
ส่ งผลให้ ง านไม่ สํ า เร็ จ หรื อ สํ า เร็ จ ล่ า ช้ า และมี คุ ณ ภาพที่ ไ ม่ ส มบู ร ณ์ หากผู้ นํ า ขาดการแก้ ไ ขปั ญ หาเฉพาะหน้ า ที่ ดี เมื่ อ เกิ ด
สถานการณ์คับขัดขึ้น ผู้นําจะไม่สามารถจัดการความวุ่นวายที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่องานนั้นๆ แน่นอนว่ามิใช่
ผู้นํา ทุกคนที่จะมีคุณสมบัติเ หล่านี้ได้ครบถ้วน และไม่ใช่ว่า ผู้ที่ขาดคุณสมบัติเหล่านี้จ ะไม่สามารถเป็นผู้นําได้ เนื่องจากเรา
สามารถฝึกฝน เรียนรู้ทักษะเหล่านี้ได้ หรือเราสามารถอาสาเป็นผู้นํากลุ่มในกิจกรรมต่างๆ เพื่อเก็บเป็นประสบการณ์ นําสิ่งที่
เกิดขึ้นมาทบทวนหาจุดผิดพลาด และพัฒนาให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปได้
จากสิ่งที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไปข้างต้น ทําให้สามารถสรุปได้ว่า ผู้นําในสายตาของข้าพเจ้าควรเป็นผู้ที่มีความสามารถในการ
มองภาพรวม มีความเข้าใจในสิ่งที่ทํา มีทัศนะที่เปิดกว้าง รับฟังความเห็นของผู้อื่น และมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาเฉพาะ
หน้า จึงจะเป็นผู้นําที่ดีได้ แต่แน่นอนว่ามนุษย์ทุกคนย่อมสามารถพัฒนาตนเองได้เสมอ เพราะฉะนั้นแม้ว่าจะไม่มีความสามารถ
เหล่านี้ ก็สามารถเป็นผู้นําได้เช่นกัน ดังเช่นว่าแม้พฤกษาแคระแกรนก็ย่อมเป็นพฤกษา แต่พฤกษาที่ดีควรเป็นพฤกษาที่สามารถ
ให้ร่มเงาได้ฉันท์ใด ผู้นําที่ดีก็ควรมีคุณสมบัติเหล่านี้ครบถ้วนฉันท์นั้น ดังที่ Peter Drucker ที่ปรึกษาด้านการจัดการระดับโลก
ได้กล่าวไว้ว่า ผู้นําจํานวนมากก้าวขึ้นมาจากการพัฒนา และส่วนใหญ่มาจากการพัฒนาตนเอง
ดิฉัน นางสาว กชกร ยาวิลาศ จากโรงเรียนสตรีสมุทรปราการ ขอขอบคุณค่ะ