Professional Documents
Culture Documents
รวม การจัดการฝึก
รวม การจัดการฝึก
บทที 1
การฝึ กทหาร
1. ภารกิจการฝึ กของกองทัพบก
1.1 เพือทีจะได้ มาและดํารงไว้ ซึงความมีประสิทธิภาพในการปฏิบตั ิการมีขีดความสามารถทีเข้ า
ประชิดข้ าศึกพร้ อมกับการสังหารโดยฉับพลัน และทนทานต่อการปฏิบตั กิ ารรบทางบกรวมทังการเข้ ายึด
การป้องกัน หรื อยึดครองพืนที โดยการปฏิบตั ิการตามลําพังหรื อร่ วมกับเหล่าทัพอืน เช่น กองทัพเรื อ
กองทัพอากาศ และในการดําเนินการปราบปรามผู้ก่อการร้ ายอย่างมีประสิทธิผล รวมทังการสนับสนุน
กําลังฝ่ ายเรา หรื อฝ่ ายสัมพันธมิตรในการปราบปรามผู้ก่อการร้ าย
1.2 ภารกิจนีจะสําเร็จได้ ก็จําเป็ นต้ องอาศัยหลักปฏิบตั ิดงั นี.-
1.2.1 การฝึ กจะต้ องดําเนินการให้ บรรลุผลถึงการพร้ อมรบ และมีประสิทธิภาพเป็ นที
เชือถือได้ ว่า หน่วยทหารมีความรู้ความสามารถในการปฏิบตั กิ ารรบ ทังในสงครามนอกแบบและตามแบบ
1.2.2 ฝึ กร่วมกับเหล่าทัพอืน ๆ เช่น กองทัพเรื อ กองทัพอากาศ รวมทังกําลัง กองอาสา
รักษาดินแดน และตํารวจภูธรชายแดน ตามความเหมาะสม
1.2.3 ฝึ กกําลังสํารองซึงได้ แก่ทหารกองหนุนสมาชิกอาสารักษาดินแดนนักศึกษาวิชาทหาร
ในสถาบันต่าง ๆ ตลอดจนการช่วยเหลือ ฝึ กอาวุธให้ แก่พลเรื อนทีได้ รับมอบ หรื อร้ องขอ
1.2.4 ทําการฝึ กในความอํานวยการของกองทัพบก ทังในการฝึ กการประลองยุทธหรื อ
การฝึ กปัญหาทีบังคับการ หรื อทังสองอย่าง รวมทังการฝึ กร่วมกับกําลัง สปอ.
2. ความมุ่งหมายในการฝึ กทหาร
ภารกิจการฝึ กของกองทัพบก และการสนับสนุนในภารกิจเฉพาะ จะสําเร็จได้ ก็ต้อง
อาศัยความมุ่งหมายในการฝึ กทหาร 8 ประการ คือ.-
2.1 วินยั ทหาร วินยั ทหาร คือ ภาวการณ์ฝึกทหารหรื อกลุม่ ทหาร ในอันทีจะสร้ างสรรค์ ทัศนคติ
ในการแก้ ไขปฏิบตั ิ หรื อเชือฟั งต่อกฎข้ อบังคับทหาร การฝึ กวินยั จะต้ องกระทําอย่างต่อเนืองตลอดชีวิตรับ
ราชการทหาร และจะต้ องเริ มฝึ กตังแต่ขนการฝึ
ั กเป็ นบุคคลและเป็ นหน่วย วินยั ทหารสามารถทีจะนําไปใช้
กับการปฏิบตั กิ ารทางทหารได้ ทกุ อย่าง และเป็ นปั จจัยทีจะกระทบกระเทือนต่อการฝึ กทุกชนิด เครื องที
จะแสดงว่าทหารหรื อหน่วยทหารนันมีวินยั ก็คือ โดยการแสดงท่าทางสง่าผ่าเผย และการปฏิบตั โิ ดยการ
แต่งกายทีสะอาดและปราณีต อาวุธยุทโธปกรณ์สะอาด โดยการแสดงความเคารพ และโดยการเชือฟั ง
และปฏิบตั ิตามคําสังหรื อคําแนะนําการปฏิบตั งิ านเป็ นชุดของเจ้ าหน้ าทีทุกคนย่อมขึนอยู่กบั วินยั เป็ นสําคัญ
2.2 สุขภาพ ความแข็งแรง และความอดทน สุขภาพ ความแข็งแรงและความอดทนนี เป็ นสิง
จําเป็ นแก่ทหารอย่างมากในเมือทหารจะต้ องเผชิญกับความยากลําบากในการรบ กองทัพทีประกอบด้ วย
ทหารทีมีสขุ ภาพดี กําลังกายดี และมีความอดทนดียอ่ มจะมีโอกาสได้ รับชัยชนะมากทีสุด สิงเหล่านี
สามารถทีจะพัฒนาและรักษาไว้ โดยอาศัยหลักอนามัยโดยการฝึ กพลศึกษาและกรี ฑา และโดยการฝึ ก
การออกกําลังกาย
1-2
2.3 ขวัญและความรักหมูค่ ณะ ขวัญและความรักหมูคณะ เป็ นสภาพทางจิตของทหาร ซึงได้ แก่
ความเชือมัน ความกล้ าหาญ ความกระตือรื อร้ น ความภาคภูมใิ จต่อหน่วย ในเวลาปกติขวัญและความ
รักหมู่คณะ จะสามารถวัดได้ จากความพอใจ และความเป็ นอยู่ ในเวลาสงครามจะวัดได้ จากความกล้ า
หาญ และความตังใจทีจะปฏิบตั ภิ ารกิจทียากลําบาก ทีได้ รับมอบโดยปราศจากความลังเลใจ ขวัญและ
ความรักหมูค่ ณะของแต่ละบุคคลจะแสดงออกด้ วยการมองในแง่ดี และการมอบความไว้ วางใจ ซึงจะ
ก่อให้ เกิดพลังขึนทังทางร่างกายและจิตใจทังสองอย่าง แม้ กําลังและอาวุธยุทโธปกรณ์เป็ นจํานวนมาก ก็
ยังไม่สามารถทีจะนํามาชดเชยขวัญภายในหน่วยทีขาดไปได้ ทงหมด ั มีปัจจัยหลายอย่างทีจะสามารถจะ
สร้ างขวัญ และความรักหมูค่ ณะให้ เกิดขึนได้ แต่สิงแรกนันได้ แก่ ความเป็ นผู้นําทีดี การฝึ กทีกระทําอย่าง
กว้ างขวางและทัวถึง ความภาคภูมิใจ ความเชือมันในตัวเองและหน่วย
2.4 ความริเริ มและการปรับตัว พลังและความสามารถทีจะปฏิบตั ิด้วยความริ เริมทันทีทนั ใดทีพบ
เหตุการณ์ใด ๆ นัน เป็ นคุณสมบัติทีจําเป็ นสําหรับทหารทุกคน ภารกิจของหนวดใด ๆ ก็ตาม มักสําเร็ จลง
ด้ วยการปฏิบตั ทิ นั ทีทนั ใด และเมือจําเป็ นทหารหรื อกลุ่มทหารอาจต้ องปฏิบตั เิ ป็ นอิสระเพราะฉะนัน การ
พัฒนาความริ เริ มและการปรับตัว จึงเป็ นปั จจัยทีสําคัญทีสุดในการฝึ ก ความริ เริมและการปรับตัวนี
สามารถพัฒนาได้ โดยฝึ กให้ ทําหน้ าทีรับผิดชอบ และโดยการฝึ กให้ ทหารไว้ ใจในการช่วยเหลือตัวเองบ่อย ๆ
2.5 ความเป็ นผู้นํา ผู้นําจะต้ องเป็ นผู้ทีมีคณ
ุ วุฒิและคุณลักษณะ ซึงทําให้ ผ้ ใู ต้ บงั คับบัญชาเกิด
ความเชือมันและจงรักภักดี คุณลักษณะทีจําเป็ นบางประการของผู้นํา เช่น ความกล้ าหาญ ซึงเป็ นความ
กล้ าหาญทังทางกาย และทางใจ และวิจารณญาณ การพัฒนาความเป็ นผู้นําจะต้ องพิจารณาเป็ นอันดับ
แรกในการฝึ กนายทหารชันสัญญาบัตร และนายทหารชันประทวน
2.6 การปฏิบตั งิ านเป็ นชุด คือ การปฏิบตั งิ านร่วมกันในบรรดากลุ่มทหาร เพือให้ บรรลุผลตาม
ความมุง่ หมาย การปฏิบตั ิงานเป็ นชุดนี จะเกิดขึนได้ โดยการฝึ กทหาร และหน่วยในบทบาทตามลําดับ
ด้ วยความระมัดระวัง และโดยการฝึ กให้ ปฏิบตั ริ ่วมกัน วินยั และขวัญ เป็ นปั จจัยทีจําเป็ นในการพัฒนาการ
ทํางานเป็ นชุด
2.7 สมรรถภาพทางเทคนิค สมรรถภาพทางเทคนิคในการใช้ อาวุธ อุปกรณ์และสิงต่าง ๆ เป็ น
สิงพึงประสงค์ของทหารและหน่วย เพือจะให้ การปฏิบตั กิ ารทางยุทธวิธีมีประสิทธิภาพ สมรรถภาพทาง
เทคนิคหมายความว่า ทหารทุกคนจะต้ องมีความรู้ และความสามารถทีจะปฏิบตั หิ น้ าทีได้ เหมาะสม และ
รักษายุทโธปกรณ์ให้ อยูใ่ นสภาพใช้ การได้
2.8 สมรรถภาพทางยุทธวิธี สมรรถภาพทางยุทธวิธี เป็ นจุดมุง่ หมายขันสุดท้ าย ของการฝึ กทหาร
สมรรถภาพทางยุทธวิธี จะเกิดขึนได้ ก็โดยการฝึ กให้ บงั เกิดผลตามความมุ่งหมาย ตังแต่ ข้ อ 2.1-2.7
ดังกล่าวแล้ วข้ างต้ น ในเวลาปกติสมรรถภาพทางยุทธวิธีของหน่วยสามารถประเมินค่าได้ จากความสามารถ
ในการทํางานตามหน้ าทีอย่างมีประสิทธิภาพ และการฝึ กในสนามทีกระทําเหมือนการรบจริง
1-3
3.แนวความคิดเบืองต้ นในการฝึ ก
เพือให้ เกิดคุณลักษณะตามข้ อ 3 การฝึ กทหารย่ อมต้ องดําเนินตามแนวคิดเบืองต้ น ดังนี.-
3.1 ไม่ เหยียดหยามเกียรติของทหาร
3.2 การฝึ กและการเป็ นผ้ ูนําทีเหมาะสมสามารถทีจะฝึ กให้ คนเป็ นทหารทีดีได้
3.3 ระบบการฝึ กทีดีทีสุด เป็ นสิงจําเป็ นทีจะต้ องนํามาใช้ ในการฝึ กทหาร
3.4 ฝึ กจากง่ ายไปหายาก และจากบุคคลไปยังการฝึ กเป็ นหน่ วย
3.5 ความชํานาญจะเกิดขึนได้ ก็โดยการปฏิบัติทมีี การกํากับดแล ู
3.6 หลักการและเทคนิค จะต้ องเป็ นมาตรฐานเดียวกันทังกองทัพบก
3.7 ผ้ ูบังคับบัญชาจะต้ องรั บผิดชอบในการฝึ กหน่ วยของตน
4.ความรับผิดชอบในการฝึ ก
4.1 ยก.ทบ. รับผิดชอบ
4.1.1 จัดทํานโยบายการฝึ กอย่างกว้ าง ๆ และออกคําสัง เพือให้ หน่วยทีเกียวข้ อง
ดําเนินการในรายระเอียด ให้ เป็ นไปตามนโยบาย
4.1.2 ประสานการปฏิบตั กิ ับส่วนราชการอืน ๆ ในทบ.เกียวกับการฝึ กในระดับ ทบ.
4.1.3 รับผิดชอบในการอํานวยการ และกํากับดูแลให้ เป็ นไปตามนโยบายทีกําหนดไว้
4.2 ยศ.ทบ. รับผิดชอบ
4.2.1 การเตรี ยมการ การอํานวยการ และกํากับดูแลอย่างใกล้ ชิดเกียวกับการฝึ กหน่วย
ใน ทบ.
4.2.2 ออกคําสัง คําชีแจงเกียวกับรายละเอียดในการฝึ ก ให้ หน่วยทีเกียวข้ องทราบเพือให้
การฝึ กดําเนินไปอย่างได้ ผล
4.2.3 กําหนดความต้ องการ และทําแผนสนับสนุนการฝึ กประจําปี ให้ ครบทุกหน่วยทุกรายการ
4.2.4 ตรวจการฝึ ก ปรับปรุงแก้ ไขข้ อบกพร่ อง ประเมินค่าขีดความสามารถและความ
พร้ อมรบของหน่วยทหารตามภารกิจทีได้ รับมอบ แล้ วรายงานให้ ทบ. ทราบตามระยะเวลา
4.3 กรม ฝ่ ายอํานวยการอืน ๆ เหล่ า หรื อสายวิทยาการ
4.3.1 เสนอแนะในด้ านการพัฒนาเกียวกับการฝึ กในเหล่า หรื อสายวิทยาการ
4.3.2 ประสานงาน อํานวยการ และกํากับดูแลเกียวกับการฝึ ก
4.3.3 กํากับดูแลและสนับสนุนการฝึ กให้ เป็ นไปตามแผนการฝึ กประจําปี ทีได้ รับอนุมตั ิไว้ แล้ ว
4.3.4 ดําเนินการฝึ กเรื องอืน ๆ ตามทีได้ รับมอบหมาย
1-4
5.นโยบายการฝึ ก
5.1 การดําเนินการฝึ กจะต้ องพิจารณากระทําในลักษณะประหยัดทังทางวัสดุและงบประมาณ
5.2 การฝึ กอืนใดทีนอกเหนือไปจากแผนการฝึ กประจําปี เว้ นการเปลียนแปลงแผน ควรให้ มี
เฉพาะทีจําเป็ นอย่างแท้ จริ ง โดยให้ มีการตรวจสอบความต้ องการจากหน่วยทีเกียวข้ องก่อน และควรได้
จัดสรรงบประมาณให้ ใหม่
5.3 การฝึ กเกียวกับการสงครามพิเศษ ได้ แก่ การฝึ กรบแบบกองโจร การต่อต้ านกองโจร การ
ปราบปรามจลาจล การปฏิบตั ิทางจิตวิทยา และการช่วยเหลือประชาชน จะต้ องถือเป็ นการฝึ กทีจําเป็ น
ตามสถานการณ์ปัจจุบนั ทุกระดับหน่วย จะต้ องสอดแทรกการฝึ กประเภทนีไว้ ในการฝึ กปกติประจําปี ของ
หน่วยให้ มากทีสุดเท่าทีจะมากได้ โดยเฉพาะเมือมีการฝึ กในสนาม
5.4 การฝึ กระดับหน่วยเล็ก หมู่ ตอน หมวด จะต้ องฝึ กให้ สามารถปฏิบตั ิการเป็ นอิสระ ตาม
สถานการณ์ได้
5.5 ผบ. หน่วยทีเกียวข้ อง จะพัฒนาประสานการปฏิบตั ิ และทําแผนการสนับสนุนทางด้ านการ
ส่งกําลังบํารุงล่วงหน้ า เพือดําเนินการจัดหา และจัดสรรงบประมาณ เพือสนับสนุนการฝึ กได้ ทนั ที
5.6 ในการฝึ กผสมระหว่าง ร.ถ.ป. ปละหน่วยทหารชาติภาคี รวมทังกําลังทางอากาศ ให้
พิจารณาจัดส่วนอํานวยการ ส่วนส่งกําลังบํารุง และบริ การเทคนิค อันได้ แก่สาย สพ. พบ. พธ. ฯลฯ
เข้ าร่วมการฝึ กปั ญหาทางยุทธวิธีด้วย
5.7 การฝึ กเวลากลางคืน โดยเฉพาะการฝึ กทางยุทธวิธีในสนามต้ องกระทําอย่างน้ อย 1ใน3 ของ
เวลาฝึ กทังหมด
5.8 ให้ มีการฝึ กพร้ อมรบตามแผน รวมทังการฝึ กแก้ ปัญหาบนแผนที การจําลองยุทธบนแผนที
และการฝึ กการเคลือนย้ ายจริงในสนาม ตามความเหมาะสมเพือให้ เป็ นทีมันใจว่า หน่วยสามารถ
ปฏิบตั ิการได้ ทนั ทีทีได้ รับคําสัง
5.9 การฝึ กร่วมกับชาติภาคี สปอ. จะได้ พิจารณาจัดขึนตามความเหมาะสม และกําลัง
งบประมาณทีมีอยู่ และถือว่าเป็ นการฝึ กในความอํานวยการของ ทบ. โดยมีกําลังภาคีร่วมด้ วยเท่านัน
5.10 ทบ. ไม่มีนโยบายทีจะให้ งดฝึ ก และตรวจสอบตามขันตอนต่าง ๆ รวมทังการฝึ กเบืองต้ น
ทัวไป และการฝึ กเบืองต้ นเฉพาะเหล่า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ผบ. หน่วยจะต้ องพิจารณา และดําเนินการแก้ ไข
ข้ อขัดข้ องและดําเนินการฝึ ก เพือให้ ทหารได้ รับความรู้ตามลําดับขันตอนให้ มากทีสุด
5.11 ให้ ปรับปรุ งระเบียบการตรวจสอบการฝึ กให้ เหมาะสมกับความจําเป็ นและสถานการณ์ ทัง
ต้ องเป็ นไปในลักษณะประหยัดด้ วย
5.12 ในกรณีพิเศษ ให้ ยศ. ทบ. พิจารณาดําเนินการฝึ ก โดยจัดตังหน่วยฝึ ก เพือการนี
โดยเฉพาะได้
1-5
5.13 สําหรับหน่วยทหารชายแดน ทีมีภารกิจทางยุทธการ ให้ ดําเนินการ ดังนี.-
5.13.1 การฝึ กและการแสดงออกซึงมีสมรรถภาพของทหาร เป็ นภาระกิจหลักของหน่วยซึง
จะต้ องปฏิบตั ใิ ห้ สอดคล้ องกับภารกิจทางยุทธการทีได้ รับมอบ รวมทังการปฏิบตั ทิ างจิตวิทยา และการ
ช่วยเหลือประชาชน
5.13.2 เมือหมดภารกิจทางยุทธการ หน่วยจะต้ องใช้ เวลาทําการฝึ กในเรื องทีไม่ได้ ฝึก
ตามทีได้ กําหนดไว้ ให้ มากทีสุด
5.13.3 จัดให้ มีการผลัดเปลียนกําลังตามระยะเวลา เพือหมุนเวียนให้ หน่วยได้ มีเวลาฝึ ก
เต็มตามทีได้ กําหนดไว้
6.วงรอบการฝึ กของกองทัพบก
6.1 กองทัพบก มีภารกิจในการฝึ กทหารใหม่ทีเรี ยกเข้ ามารับราชการ หรื อฝึ กกําลังทดแทน การ
ฝึ กเจ้ าหน้ าทีเพือบรรจุเป็ นเจ้ าหน้ าทีในหน่วยใหม่และการฝึ กเพือพัฒนาหน่วยจะสําเร็ จได้ ด้วยการฝึ ก 2 ขัน
คือ .-
6.1.1 ฝึ กให้ มีประสิทธิภาพในการรบ โดยใช้ เวลาน้ อยทีสุด และผ่านการฝึ กตามลําดับขัน
วงรอบการฝึ กปกติ
6.1.2 ดํารงความพร้ อมรบอย่างสูงสุด โดยให้ มีการฝึ กทบทวน
6.2 วงรอบการฝึ กตามลําดับขันปกติของ ทบ. มีดงั นี.-
6.2.1 การฝึ กบุคคลเบืองต้ น การฝึ กในขันนีเป็ นการฝึ กพลเรื อนทีเพิงเข้ ารับราชการทหาร
ให้ มีพืนฐานในการเป็ นทหารโดยฝึ กและสอนวิชาทหาร เกียวกับการปฐมพยาบาล พลแม่นปื น การรักษา
อาวุธยุทโธปกรณ์ และหลักยุทธวิธีเบืองต้ น ระยะเวลาในการฝึ กขันนีใช้ เวลา 8 สัปดาห์
6.2.2 การฝึ กบุคคลเบืองสูง การฝึ กบุคคลเบืองสูง เป็ นการฝึ กให้ ทหารมีความรู้ วิชาทหาร
เฉพาะเหล่า และเรี ยนรู้ ความชํานาญทีจะปฏิบตั หิ น้ าทีตามตําแหน่งของตน เช่น หน้ าทีพลขับ พลปื นเล็ก
พนักงานวิทยุ เป็ นต้ น ระยะเวลาในการฝึ กขันนี ใช้ เวลา 8 สัปดาห์
6.2.3 การฝึ กหน่วย การฝึ กหน่วยเป็ นการฝึ กทหารทีมีความชํานาญ ในการฝึ กบุคคลเบือง
สูงมาแล้ ว เพือร่วมกันปฏิบตั ใิ ห้ สําเร็จภารกิจของหน่วย และเป็ นการฝึ กทหารให้ เรี ยนรู้ถึงคุณค่าของการ
ทํางานเป็ นชุด และนําเอาความชํานาญทีได้ รับในการฝึ กบุคคลเบืองสูง มาใช้ ในการปฏิบตั ิ การฝึ กหน่วย
มีลําดับขันการฝึ ก ดังนี.-
6.2.3.1 การฝึ กโดดร่ม (เฉพาะหน่วยส่งทางอากาศ) 2 สัปดาห์
6.2.3.2 การฝึ กหน่วยเบืองต้ น (หมู่ ตอน หมวด และกองร้ อย) ใช้ เวลา 2 สัปดาห์
6.2.3.3 การฝึ กหน่วยเบืองสูง (กองพัน และกรม) ใช้ เวลา 6 สัปดาห์
(1) ฝึ กกองพัน 3 สัปดาห์
(2) ฝึ กกรม 3 สัปดาห์
1-6
6.2.4 การฝึ กแก้ ปัญหาในสนาม และการประลองยุทธ การฝึ กในขันนีเป็ นการฝึ กหน่วย
ขนาดใหญ่ ภายใต้ สภาพการรบทีคล้ ายการรบจริง
6.2.5 การฝึ กผสมเหล่า เป็ นการฝึ กรวมของเหล่าต่างๆ ให้ มีความสามารถในการรบด้ วย
ด้ วยวิธีรุก
6.2.6 การฝึ กผสมทัพ เป็ นขันตอนการฝึ กปฏิบตั กิ ารยุทธร่วมกับกองทัพอากาศ และ
ทัพเรื อ เพือให้ เกิดความสมดุลย์ในทางอํานาจเท่าทีจําเป็ น สําหรับความมีชยั ในสงคราม
6.3 ถึงแม้ การฝึ กจะได้ แบ่งขันการฝึ กไว้ แน่นอนแล้ วก็ตาม แต่มิได้ หมายความว่าการฝึ กจะต้ อง
แยกกันอย่างเด็ดขาด การฝึ กแต่ละขันอาจจะลําเข้ าหากันซึงกันอย่างเด็ดขาด การฝึ กบุคคลเบืองต้ นอาจจ
ฝึ กบุคคลเบืองสูง หรื ออาจฝึ กหน่วยเบืองต้ นร่วมไปด้ วย กองพันทาหารราบอาจฝึ กร่ วมกับทาหารปื นใหญ่
หรื อหน่วยยานเกราะ ก่อนทีจะฝึ กเป็ นกรมก็ได้
7. การฝึ กทบทวน
การฝึ กทบทวน เป็ นขันตอนการฝึ กทีกระทําหลังจากหน่วยได้ ฝึกตามลําดับขันวงรอบการฝึ กของ
ทบ. มาแล้ ว แต่ยงั มีข้อบกพร่ องอยู่ ดังนัน ความมุ่งหมายในการฝึ กนี จึงเป็ นการฝึ กเพือแก้ ไขข้ อบกพร่อง
ทีเกิดขึนในการฝึ กปกติพฒ ั นาและรักษาประสิทธิภาพการรบของหน่วยให้ อยูใ่ นระดับสูง พัฒนา
ประสิทธิภาพของหน่วยในการฝึ กพิเศษ การฝึ กทบทวนนีไม่มีขนการฝึ ั กเหมือนการฝึ กปกติ แต่อย่างไร
ก็ตามโดยธรรมดาแล้ ว ผู้บงั คับบัญชามักจะให้ หน่วยรองฝึ ก เช่นเดียวกับการฝึ กปกติ แต่อาจจะมาก
หรื อลดเวลาในการฝึ กให้ มากขึน หรื อน้ อยลง ส่วนเรื องทีจะฝึ กนัน บก.หน่วยเหนือจะเป็ นผู้กําหนดตาม
ความเหมาะสม
8. การฝึ กเป็ นบุคคล
8.1 การฝึ กทหารใหม่
8.1.1 การฝึ กทหารใหม่ มีความประสงค์ให้ เกิดความคุ้นเคยกับสิงแวดล้ อมๆ และให้ ร้ ูจกั
ความรับผิดชอบในฐานะทีเป็ นทหาร ผู้บงั คับบัญชาต้ องหมันชีแจงง่าย ๆ และสัน ๆ ว่า ทหารใหม่จะต้ อง
กระทําอะไรบ้ าง และได้ รีบความช่วยเหลือจากทางราชการในเรื องใดบ้ าง ต้ องพยายามทุกวิถีทางทีจะทํา
ให้ ทหารใหม่คลายความวืตกกังวลต่อชีวิตใหม่นี
8.1.2 ในขันต้ นทหารใหม่ จะได้ รับการอบรมกฎระเบียบข้ อบังคับ คําสังภายในกรมกอง
การเคารพและขนบธรรมเนียมประเพณีของทหาร ข้ อบังคับว่าด้ วยการแต่งกาย และระเบียบสุขาภิบาลใน
โรงทหาร ผู้บงั คับบัญชาควรจะได้ ใช้ หนังสือทีเกียวกับเรื องนีและภาพยนตร์ ฝึกเป็ นเครื องช่วยได้ ตลอดทัง
อนุศาสนาจารย์ นายทหารฝ่ ายกิจการพิเศษและนายทหารการข่าว และการศึกษาของหน่วย หน่วยกาชาด
เข้ าช่วยเหลือเพือทหารใหม่ปรับตัวเองเข้ ากับชีวิตทหารได้
1-7
8. 2 การหัด
การหัดนับว่าเป็ นการฝึ กชนิดหนึง ซึงมีทงการสอนและให้
ั ทํา เป็ นการฝึ กให้ ร้ ูจกั การ
ควบคุมวินยั การร่วมงาน และเกิดความสะดวกในการทํางาน ความประสงค์ขนต้ ั นของการหัดทหาร คือ
หัดนิสยั ให้ ทํางานเด็ดขาดแน่นอนและเป็ นระเบียบ กับทังช่วยให้ มีวินยั นอกจากนีการหัดยังทําให้ เกิด
ความชํานาญ และการประสานงาน ทําให้ สขุ ภาพร่ างกายดีขึน และเกิดความร่วมมือร่วมใจในการทํางาน
เป็ นธรรมเนียมของทหารทีจําต้ องรวมพวกกัน เพือสะดวกในการบังคับบัญชา รวมพวกเพือความร่วมมือ
ร่วมแรง และรวมพวกเพือให้ สําเร็จประโยชน์ในวัตถุประสงค์อย่างเดียวกัน ทหารทุกคนต้ องทราบและ
เข้ าใจวัตถุประสงค์ของการหัดถ้ ามิฉะนันแล้ วค่าของการหัดก็จะสูญเสียไป การหัดนีเกียวโยงไปถึงความ
ละเอียดถีถ้ วน ในการทํางาน การหัดทีสมบูรณ์เท่านันจึงจะเป็ นมาตรฐานทีใช้ ได้ เพือให้ ได้ ผลสมบูรณ์
ระยะของการหัดจึงกําหนดไว้ แน่นอน มีการหัดบ่อย ๆ ใช้ เวลาสันๆการหัดเป็ นวิธีการอันหนึงทีมีจบ แต่การ
หัดย่อมไม่มีจบในตัวเอง
8.3 การฝึ กพลศึกษา
8.3.1 เพือความสมบูรณ์ในการทํางานย่อมต้ องการทหารทีมีร่างกายสมบูรณ์เต็มที มีกําลัง
กายและความทรหดอดทน ผู้บงั คับบัญชาจะต้ องเอาใจใส่ดแู ลการฝึ กพลศึกษาของทหารอยู่เสมอ การฝึ ก
ให้ มีร่างกายสมบูรณ์ การเดินด้ วยท้ าวและการหัดจะทําให้ เกิดกําลังร่างกายและความทรหดอดทน การ
เดินและการกีฬาทําให้ สภาพของร่างกายแข็งแรงคงที การเล่นกีฬาทหารจะมีความแข็งแกร่งในทางจิตใจ
เช่นเดียวกับกําลังกาย ซึงนับเป็ นการสอนทังความเป็ นผู้นํา และ การทํางานเป็ นชุดไปด้ วยในตัว
ผู้บงั คับบัญชาควรจะเอาใจใส่การกีฬาของทหารทีสมัครเล่น เพือการบันเทิงเป็ นอย่างยิง
8.3.2 การอบรมกฎอนามัย ทีเกียวกับการฝึ กพลศึกษา ความสะอาดหมดจด การหลับสนิท
นิสยั การกินอาหารเพือสุขภาพของตนเอง และการบันเทิงเพือพลานามัย เหล่านีย่อมเป็ นสิงพึงปฏิบตั ทิ งสิ ั น
8.3.3 กําหนดการฝึ กพลศึกษาทีเหมาะสม ย่อมทําให้ เกิดท่วงทีอนั เป็ นคุณประโยชน์ตอ่
หน้ าทีของตนเองเมือทหารรู้จกั ฝึ กพละของตนดีแล้ ว ก็จะบังเกิดความเชือมันในความสามารถทีปฏิบตั ิ
ร่วมงานเป็ นชุดกันได้ และเมือมีความเชือมัน ก็ย่อมเกิดความสนใจในหน้ าทีและภายในหน่วยของตน
ความเชือมันและความสนใจนีนับว่าเป็ นคุณลักษณะของจิตใจอันประเสริ ฐ
8.3.4 การฝึ กพลศึกษา ทหารทุคนคนภายในหน่วยจะต้ องกระทําอยู่เสมอ
8.4 แนวทางทีทําให้ เกิดอุปนิสัย
ความรับผิดชอบของผู้บงั คับบัญชาย่อมรวมถึงการบํารุงขวัญทหารด้ วยไม่ว่าจะเป็ นการฝึ ก
ประเภทใดในระหว่างการฝึ กจะต้ องเอาใจใส่ปลูกฝั งความประพฤติและความซือสัตย์สุจริตของทหาร ให้ อยู่
ในระดับสูง ปลูกฝั งความสํานึกในความรับผิดชอบต่อหน้ าที ความผูกพันต่อผู้ใต้ บงั คับบัญชา และการ
ปฏิบตั ทิ กุ ประการทีเกียวถึงสวัสดิภาพของหน่วยทหาร ผู้บงั คับบัญชาย่อมสนับสนุนการฝึ ก ด้ วยการแสดง
ตนเป็ นตัวอย่างประกอบทัง ความประพฤติของผู้บงั คับบัญชาชันรองทีควรนําเป็ นตัวอย่างได้ จะต้ องเอาใจ
ใส่ตอ่ วิธีการไม่วา่ ทังทางทหารและพลเรื อน เพือให้ เกิดความบันเทิง อนุศาสนาจารย์ซงมี ึ หน้ าทีช่วยเหลือ
ผู้บงั คับบัญชาจะเป็ นผู้ชกั จูงใจให้ เกิดกํ าลังนําใจ และบํารุ งขวัญของหน่วยนัน
1-8
8.5 การบันเทิง
การบันเทิงทีเกียวกับพลานามัย และความพักผ่อนหย่อนใจ นับว่าเป็ นสิงสําคัญยิงทีจะ
ทําให้ เกิดสมรรถภาพ ผู้บงั คับบัญชาควรจะจัดให้ มีการบันเทิงนอกเวลาทํางาน และอนุญาตให้ ลาพักผ่อน
ทัวทุกคนภายในหน่วย ให้ ทหารทราบว่าควรจะได้ รับความรื นเริงบันเทิงใจอย่างไรบ้ าง ตลอดจนทราบถึง
นโยบายการให้ ลา และการพักผ่อน
8.6 กําหนดการบํารุ งความร้ ูและการศึกษา
กองทัพบก ย่อมให้ ข่าวสถานการณ์ทวโลกแก่ ั ทหารในหน่วยต่าง ๆ สร้ างสมความนับถือ
และหยิงในวิชาชีพในเหล่าของตน ส่งเสริ มความรับผิดชอบ ให้ เข้ าใจในหลักประชาธิปไตย เพิมความ
เชือมันในอนาคตของประเทศ เพิมพูนกําลังนําใจ ให้ การศึกษาเพิมเติม และชักจูงให้ เอาใจใส่ตอ่ การศึกษ
ของทหาร โดยเฉพาะตามแนวการข้ าราชการในกองทัพบกดังรายการต่อไปนี .-
8.6.1 กําหนดหารบํารุงความรู้เป็ นวิธีการอันหนึงทีผู้บงั คับบัญชา ทีจะแจ้ งให้ ทหารภายใน
กองทัพทราบถึงเรื องราวต่างๆ อันเกียวกับหน้ าที และข่าวสถานการณ์ทวๆ ั ไปเพือให้ สามารถ
ประมาณคุณค่า และเข้ าใจถึงความรับผิดชอบในฐานะทีเป็ นสมาชิก ภายในกองทัพ และการเป็ น
พลเมืองของชาติ สิงสําคัญในกําหนดการนีก็คือ ปล่อยให้ เปิ ดการอภิปรายในเรื องเกียวกับทาหร และ
เรื องทัวไป ๆ คืออยู่ในรายการของชัวโมงบํารุงความรู้
8.6.2 กําหนดการศึกษาของกองทัพบก เป็ นส่วนหนึงของระบบการศึกษาในกองทัพบก
ซึงสอนวิชาทีสอนในโรงเรี ยนพลเรื อน และในสถาบันวิชาชีพ วัตถุประสงค์ของกําหนด การศึกษาของ
กองทัพบก ก็คือสนับสนุนพัฒนาการศึกษา ตามแนวการรับราชการในกองทัพบก และ จัดวิธีการเฉพาะ
สําหรับ ผู้บงั คับบัญชา เพือเปิ ดโอกาสให้ ทหารใหม่ของตนได้ รับการศึกษาต่อเนืองกัน โดยมุง่ หวังให้
ทหารได้ ปฏิบตั หิ น้ าทีเหมาะสมกับตําแหน่ง เพิมพูนความรู้ในการรับตําแหน่งหน้ าทีมีความรับผิดชอบมาก
ขึน,ทังในโอกาสว่างก็จะได้ ให้ ทาหรศึกษาเพือบังเกิดความรอบรู้ ตามความประสงค์ของตน การศึกษาของ
กองทัพบกนีแบ่งแยกกําหนดการออก เป็ นการศึกษาชันประถม,การศึกษาชันต้ น,การศึกษาชันมัธยม และ
การศึกษาทีเทียบระดับวิทยาลัย ศูนย์การศึกษานี ผู้บงั คับบัญชาชันผู้บงั คับกองพัน และผู้บงั คับทหาร
หน่วยใหญ่ขึนไปเป็ นผู้ตงขึ ั น การศึกษาในลักษณะต่างๆนี อาจจัดขึนและทําการสอนโดยครูทีมาจาก
โรงเรี ยน และวิทยาลัยซึงอยูใ่ กล้ ทีตังหน่วยทหาร หรื อครู ทีรับราชการอยูใ่ นกองทัพบก และด้ วยการเรี ยน
ทางไปรษณีย์ ตลอดจนเรี ยนด้ วยตนเองตามทีสถาบันการศึกษาของกระทรวงกลาโหมจะจัดให้
สถาบันการศึกษาของกระทรวงกลาโหมจะได้ จา่ ยตําราเรี ยน การตรวจสอบ และสิงอุปกรณ์ การศึกษาอืนๆ
ให้ แก่ศนู ย์การศึกษาของ กองทัพบท กําหนดการของกองทัพบกเป็ นการบังคับเรี ยนเฉพาะระดับ
การศึกษาชันประถมเท่านันส่วนการศึกษาชันต่อไปเป็ นการสมัครเรี ยนของทหาร ในเมือมีโอกาสว่าง เพือ
มุ่งหมายความก้ าวหน้ าของตนเอง และเป็ นการศึกษาทีเกียวกับการฝึ ก เพือให้ เหมาะกับความต้ องการของ
ราชการก็ได้ แต่ไม่ใช่เป็ นการบังคับ
1-9
8.7 การฝึ กในหน้ าทีพลเมือง
วิชาทหารทีสําคัญทีสุด ก็คือ หน้ าทีพลเมืองการฝึ กนีจัดอยูใ่ นกําหนดการบํารุงความรู้
และการศึกษาโดยตลอด เพือช่วยให้ ทหารเข้ าใจจึงความรับผิดชอบในฐานะทีตนเป็ นทหาร และเป็ น
พลเมืองของชาติ ซึงต้ องมีความจงรักภักดีตอ่ ประเทศชาติของตน
8.8 ความรับผิดชอบและความเป็ นผ้ ูนํา
จุดมุง่ หมายของการฝึ กทหาร คือ สร้ างสรรค์ให้ สํานึกต่อความรับผิดชอบ ภายในทหารทุก
หน่วยอบรมให้ ทาหารทุกคนรู้ สึกถึงความจําเป็ น ทีต้ องปฏิบตั หิ น้ าทีของตนให้ เกิดผลและเกิดประสิทธิภาพ
ตามหน้ าทีในชุด นอกจากนี ยังเปิ ดโอกาสให้ ผ้ ทู ีมีลกั ษณะเป็ นผู้นําได้ ทําหน้ าทีบังคับบัญชา หน้ าที
หลักการของการฝึ กทหาร คือ สร้ างผู้นําหน่วย ผู้ทีลักษณะดีมีไหวพริ บ และมีความปรารถนาจะเป็ นผู้นํา
ย่อมเหมาะทีจะได้ รับการอบรมให้ เป็ นผู้นําทหารทีสามารถได้ ด้วยผ่านการฝึ กตามลําดับขัน และอยูใ่ นความ
ควบคุมโดยใกล้ ชิดถึงกระนัน ตนเองก็จะต้ องเอาใจใส่ปฏิบตั ิในหลักการและทางเทคนิคของการฝึ กด้ วย
ผู้นําหน่วยซึงได้ รับการฝึ กในหน้ าทีสูงถัดขึนไปมีหวังจะครองตําแหน่งนันได้ ในยามสงคราม
8.9 การฝึ กนายสิบ
8.9.1 ผู้บงั คับบัญชาย่อมมอบความรับผิดชอบให้ แก่นายสิบตามความสามารถใน หน้ าที
สร้ างสรรค์ให้ เป็ นผู้นําหน่วยโดยการให้ ปฏิบตั ิตามความสามารถและโดยการบรรจุตําแหน่งในหน่วยนัน ๆ
8.9.2 ผู้บงั คับบัญชาใช้ หน่วยทหาร และโรงเรี ยนทีตังขึนในหน่วยเพือฝึ กอบรมนายสิบ
ตามหน้ าทีของตนและเตรี ยมให้ ปฏิบตั ิการในหน่วยใหญ่ ผู้บงั คับบัญชาย่อมจะเลือกพลทหารทีฝึ กแล้ ว
เพือเลือนฐานะขึนเป็ นนายสิบได้
8.10 การฝึ กนายทหาร
8.10.1 การฝึ กนายทหาร จะต้ องกระทําต่อเนืองตลอดเวลารับราชการ ตัวนายทหารเอง
จะต้ องเพิมพูนความรู้ และความชํานาญด้ วยการฝึ กหัดงานในหน่วย และหน้ าทีฝ่ ายอํานวยการ ด้ วยการ
ให้ ปฏิบตั งิ านในกิจการต่าง ๆ ด้ วยการให้ ประจําหน่วย และเข้ าโรงเรี ยนทีหน่วยตังขึน กับการศึกษาด้ วย
ตนเอง
8.10.2 ผู้บงั คับบัญชาย่อมเอาใจใส่ และช่วยเหลือนายทหารในหน่วย เพือให้ ก้าวหน้ าใน
วิชาชีพของตนให้ ความชัดเจนอย่างกว้ างขวาง โดยการมอบหน้ าทีทีเหมาะสมให้
8.11 แนวทางการรับราชการ และการปฏิบัติราชการ
แผนการรับราชการในกองทัพบก ย่อมจะช่วยให้ ผ้ บู งั คับบัญชาเพิมพูนความสามารถของ
นายทหาร และนายสิบ แผนการรับราชการนีกองทัพบกเป็ นผู้กําหนด ผู้บงั คับบัญชาชันรองเป็ นผู้
ดําเนินงาน เป็ นแผนทีกําหนดขึน เพือวางระบบพัฒนาการของทหารในการครองตําแหน่งหน้ าที ในการฝึ ก
และ ความก้ าวหน้ าซึงอาศัยหลักจากความสามารถในบุคคล ท่วงทีและความริ เริ ม แผนการรับราชการ
นียังช่วยให้ ใช้ กําลังพลได้ ดีทีสุด ตลอดจนเปิ ดโอกาสให้ หนทางก้ าวหน้ าตามความสามารถของบุคคลด้ วย
1-10
9. การฝึ กหน่ วยและฝึ กผสมเหล่ า
9.1 กล่ าวทัวไป
การฝึ กหน่วยและฝึ กผสมเหล่าเป็ นการเน้ นการฝึ กเพือพัฒนาการของหน่วยผสม สิงสําคัญ
ทีสุดของการฝึ กหน่วยและฝึ กผสมเหล่า ก็คือ ดําเนินการฝึ กตามหลักทางยุทธวิธี ทางเทคนิคหรื อกิจการ
ช่วยรบ และหลักการอย่างใดอย่างหนึง โดยทําให้ มีสภาพคล้ ายคลึงกับเหตุการณ์รบ เหล่านีเรี ยกว่า การ
ฝึ กทางยุทธวิธี
9.2 การฝึ กทางยุทธวิธี
9.2.1 การฝึ กทางยุทธวิธีบางอย่าง มุง่ หมายเป็ นการฝึ กทหารเบืองต้ นเพือให้ ทําหน้ าที
ภายในชุดสําหรับปั จจุบนั หรื ออนาคต การฝึ กเหล่านี คือ การแก้ ปัญหาบนโต๊ ะทราย การแก้ ปัญหาบน
แผนที การแก้ ปัญหาในภูมิประเทศ และการจําลองยุทธบนแผนที ส่วนการฝึ กยุทธวิธีอืน ๆ กําหนดไว้
เพือการฝึ กเป็ นชุดและเพือให้ เกิดความชํานาญ และทางเทคนิคอย่างสมบูรณ์ ตลอดการปฏิบตั ิ เช่น
ตัวอย่าง การฝึ กปั ญหาทีบังคับการ การฝึ กเข้ าสนามยุทธ และการประลองยุทธ เป็ นต้ น
9.2.2 การฝึ กทางยุทธวิธี ควรจะเริ มในระยะแรกของการปฏิบตั ิ และกระทําต่อเนือง
ตลอดเวลาของการฝึ ก มักจะทําบ่อย ๆ เพือเป็ นการพร้ อมรบของหน่วยด้ วย การฝึ กทางยุทธวิธียอ่ ม
ประกอบด้ วยเหตุการณ์สมจริ ง โดยให้ ปัญหาเฉพาะเพือให้ หน่วยแก้ การปฏิบตั ขิ องข้ าศึกอาจกระทําด้ วย
ข้ าศึกสมมุติ
9.2.3 คําว่า การฝึ กทางยุทธวิธี ไม่หมายถึงการใช้ เฉพาะหน่วยรบเท่านัน ยังต้ องใช้
หลักการและเทคนิคของการฝึ กทางยุทธวิธี แก่หน่วยทหารทุกเหล่าจําพวกทีรับการฝึ กด้ วย การฝึ กชนิดนี
เป็ นการเน้ นเพือให้ สามารถทนต่อสภาพการรบในยามสงครามและความยากลําบากทุกกรณีได้
9.3 การแก้ ปัญหาบนโต๊ ะทรายและภมิู ประเทศจําลอง
การฝึ กทีจะกล่าวนีเป็ นการฝึ กทางยุทธวิธี ซึงใช้ โต๊ ะทราย สนามยิงปื นจําลอง หรื อภูมิ
ประเทศจําลองอืน ๆ เป็ นเครื องสอน คือ สอนยุทธวิธีของหน่วยต่าง ๆ การฝึ กยุทธวิธีเป็ นบุคคล การ
ตรวจผลการยิง และเรื องคล้ าย ๆ กับทีกล่าวมานี ขนาดของเครื องมือทีใช้ สอนเปลียนแปลงมาตราส่วน
ตามขนาดของหน่วยทีจะแก้ ปัญหา ใช้ เครื องหมายแทนหน่วยทหารตามเหล่าทีต่างกัน
9.4 การแก้ ปัญหาบนแผนที
9.4.1 การแก้ ปัญหาบนแผนทีเป็ นการฝึ กทางยุทธวิธีโดยสมมุตปิ ั ญหาเหตุการณ์ตอ่ เนือง
ตามลําดับ และให้ แก้ ปัญหาเป็ นรายบุคคล โดยอาศัยแผนทีเป็ นหลักแทนภูมิประเทศ มีประโยชน์สําคัญ
ในการฝึ กเป็ นบุคคลในขันสูง ทีเกียวกับเทคนิคของฝ่ ายอํานวยการ การนําหน่วยทหาร และการใช้ หลัก
ยุทธวิธีของหน่วยใหญ่
1-11
สัปดาห์ที 1 ชม.การฝึ ก -
สัปดาห์ที 2 ชม.การฝึ ก 45 ชม.
สัปดาห์ที 3 ชม.การฝึ ก 45 ชม.
สัปดาห์ที 4 ชม.การฝึ ก 45 ชม.
สัปดาห์ที 5 ชม.การฝึ ก 45 ชม.
7. มาตรฐานการฝึ ก
ผลการฝึ กเป็ นรายวิชา จะต้ องได้ ตามเกณฑ์ทีกําหนดไว้ ในระเบียบหลักสูตรการฝึ ก การฝึ กทหาร
ใหม่สําหรับทหารทุกเหล่าของ ทบ. (8 สัปดาห์) พ.ศ.2542 และคูม่ ือการฝึ กของ ทบ.ว่าด้ วยมาตรฐาน
การฝึ กเป็ นบุคคล สําหรับทหารทุกเหล่าของ ทบ. พ.ศ.2529
การประเมินผลการฝึ กทหารใหม่ จะต้ องดําเนินการตามคูม่ ือการฝึ กว่าด้ วยการประเมินผลการฝึ ก
ทหารใหม่ สําหรับทหารทุกเหล่าของ ทบ. พ.ศ. 2542
8. สนามฝึ กต่าง ๆ ให้ ………………………………จัดเตรี ยมให้ เรี ยบร้ อย ดังนี
8.1 สนามการฝึ กเบืองต้ น
8.2 ราวเดียว 5 ช่อง
8.3 สนามฝึ กการใช้ ดาบปลายปื น
8.4 สนามฝึ กขว้ างลูกระเบิดซ้ อมขว้ าง
8.5 สนามฝึ กเล็งปื น
8.6 สนามฝึ กยุทธวิธี
8.7 สนามฝึ กยิงปื น 25 เมตร
8.8 สนามฝึ กเดินทางด้ วยเข็มทิศ (ย่อระยะ)
9. เครื องช่วยฝึ กต่าง ๆ รวมทังแผ่นภาพเครื องช่วยฝึ ก ให้ …………………………..เตรี ยมไว้ ให้ เรี ยบร้ อย
10. ตารางกําหนดการฝึ ก
10.1 ตารางกําหนดการฝึ กเป็ นสัปดาห์ (หรื อตารางกําหนดการฝึ กหลัก) ตามระเบียบหลักสูตรการ
ฝึ กการฝึ กทหารใหม่ สําหรับทหารทุกเหล่า (8 สัปดาห์) พ.ศ. 2542 (ตามผนวก ค)
10.2 ตารางกําหนดการฝึ กประจําสัปดาห์ (ตามผนวก ง)
10.3 ตารางกําหนดการฝึ กเมือสภาพอากาศเปลียนแปลง (อนุผนวก 1 ประกอบ ผนวก ง)
10.4 ตารางกําหนดการฝึ กประจําวัน,ตารางกําหนดการฝึ กเมือสภาพอากาศเปลียนแปลง กําหนด
ขึนให้ สอดคล้ องกับตารางกําหนดการฝึ กประจําสัปดาห์
11. การตรวจการฝึ ก
11.1 ผบ.พัน จะตรวจการฝึ กหรื อมอบหมายให้ ผ้ อู ืน หรื อ ฝอ.ตรวจอย่างไม่เป็ นทางการได้ ทุกวัน
11.2 เจ้ าหน้ าทีตรวจการฝึ กทหารใหม่ (ตามผนวก จ)
11.3 การตรวจการฝึ ก ผู้ตรวจจะต้ องบันทึกผลการตรวจการฝึ กทหารใหม่ในสมุดรับตรวจรายงาน
ให้ ผบ.พัน ทราบทุกวัน
12. บันทึกและรายงาน ให้ ดําเนินการตามระเบียบหลักสูตรโดยเคร่งครัด
2-11
13. คําแนะนําการฝึ ก
13.1 ให้ ใช้ ห้องเรี ยนนอกอาคาร มากกว่าห้ องเรี ยนในอาคาร
13.2 ให้ ทหารใหม่ได้ มีการฝึ กปฏิบตั มิ ากกว่าการสอนด้ วยการบรรยาย
13.3 การฝึ กยิงปื น เมือทหารใหม่ส่วนหนึงเข้ าแนวยิงแล้ ว ส่วนทีเหลือให้ ทําการฝึ ก
ทบทวนเรื องต่าง ๆ ของวิชาใช้ อาวุธประจํากาย เพือให้ เกิดความชํานาญและต้ องใช้ กระสุน………นัด/คน
13.4 การฝึ กหมูท่ างยุทธวิธี จะต้ องพยายามให้ ทหารใหม่ปฏิบตั ไิ ด้ ทกุ เรื องทีได้ รับ
การฝึ กสอนมาแล้ ว
14. การสนับสนุน
14.1 ให้ ฝอ.4 สนับสนุน กระสุน ปลย. ขนาด 5.56 มม. จํานวน…………...นัด
14.2 มว.สร. จัดเจ้ าหน้ าทีเสนารักษ์ ประจําหน่วยฝึ กทหารใหม่ พร้ อมเวชภัณฑ์
14.3 ยานพาหนะ ให้ ผ้ ฝู ึ ก ประสานกับ ฝอ.4 โดยตรง เมือจําเป็ นต้ องใช้ ทังนี ตังแต่วนั มีผล
บังคับใช้ เป็ นต้ นไป
ตรวจถูกต้ อง
พ.ต.
ฝอ.3………………………………
หมายเหตุ
1. เนืองจากทหารใหม่ได้ รายงานตัวเข้ าหน่วยใน วันพุธที 1 พ.ย.43 หน่วยได้ ดําเนินกรรมวิธีตอ่
ทหารใหม่เป็ นเวลา 3 วัน ดังนันในสัปดาห์ที 1 จะสังเกตได้ ว่า ไม่มีชวโมงการฝึ
ั กแต่กําหนดให้ เป็ นสัปดาห์
การฝึ กหลัก เพือเป็ นการควบคุมการปฏิบตั ิตงแต่
ั ทหารใหม่เข้ าหน่วยของผู้บงั คับบัญชา เป็ นการแบ่งมอบ
ความรับผิดชอบในการจัดการกําลังคน และเตรี ยมกําลังพลให้ พร้ อมรับการฝึ ก
2. วันหยุดราชการคือ วันอังคารที 5 ธ.ค.43,วันจันทร์ ที 11 ธ.ค.43 (วันหยุดชดเชยวันรัฐธรรมนูญ)
และวันอังคารที 2 ม.ค.44 (วันหยุดชดเชยวันขึนปี ใหม่) ทําให้ ชวโมงการฝึ
ั กในสัปดาห์การฝึ กที 6 และ 7 มี
จํานวนลดลง เหลือสัปดาห์ละ 36 ชัวโมง ดังนันชัวโมงการฝึ กจึงต้ องขยายไปจนถึงสัปดาห์ที 10 ซึงมี
จํานวน 18 ชัวโมง
3-1
บทที 3
การดําเนินการฝึ ก
1. รปแบบและลั
ู กษณะการฝึ ก
1.1 การฝึ กทหารใหม่ จะดําเนินการด้วยวิธีใดนัน ผูฝ้ ึ กทหารใหมจะต้
่ องใช้ดุลยพินิจในการกาหนด ํ
ั านวนทหารใหม่ จํานวนเครื องชวยฝึ
วิธีการฝึ กให้เหมาะสมกบจํ ่ ก และจํานวนครู ฝึกทีมีอยูเ่ พือป้องกนมิ
ั ให้
ทหารต้องรอคอยการฝึ กอันเนืองมาจากความจํากดของเครื ั ่ ก และครู ซึง ผูฝ้ ึ กสามารถทําการฝึ ก
องชวยฝึ
ได้ 3 แบบ คือ
1.1.1 การฝึ กแบบรวมการฝึ ก เชน่ วิชาการสอนอบรม, การฝึ กแถวชิด
1.1.2 การฝึ กแบบแยกการฝึ ก (การฝึ กหมุนเวียน แยกเป็ นสถานีฝึก)
1.1.3 หรื อผูฝ้ ึ ก อาจใช้ทงั สองแบบผสมกนั
ิ
1.2 การฝึ กหมุนเวียน เป็ นวิธีการฝึ กทีดีมากทําให้ทหารเกดความสนใจ และมีความชํานาญ ทหาร
่ กอยางทั
ได้มีโอกาสใช้เครื องชวยฝึ ่ วถึง ทหารไมเกดความเบื
่ ิ อหนาย่ โดยจัดทหารแบงออกเป็
่ นกลุ่ม หรื อ
พวกฯ ให้มีจาํ นวนใกล้เคียงกนั จํานวนกลุ่มทีเหมาะสมคือ 4 กลุ่ม เพือรับการฝึ กสอนหมุนเวียน 4 วิชา ๆ
ละ 2 ชม. ในแตละวั ่ นหรื ออาจแบงเป็ ่ น 8 กลุ่มวิชา ๆ ละ 1 ชม. ทําการฝึ กอยูใ่ นบริ เวณไมหางไกลกน
่ ่ ั
เรื องทีสามารถนํามาจัดการฝึ กหมุนเวียนได้ คือ
1.2.1 การฝึ กแบบรวมการฝึ ก
่ องต้น
1.2.2 การขาวเบื
1.2.3 การป้องกนั นชค.
1.2.4 การพรางและการซอนพราง ่
1.2.5 การเดินทางไกลและพักแรม
่
1.2.6 การอานแผนที
1.2.7 การใช้อาวุธประจํากาย
1.2.8 ลูกระเบิดขว้าง
1.2.9 การปฐมพยาบาล ฯ
1.2.10 การระเบิดทําลาย
1.2.11 การฝึ กบุคคลทําการรบในเวลากลางวัน
1.2.12 ป้อมสนาม
1.2.13 การฝึ กหมูท่ างยุทธวิธี
ี
1.2.14 เครื องกดขวาง
่
แตเวลาการฝึ กสอนของแตละวิ ่ ชาไมเทากน
่ ่ ั การจัดการฝึ กหมุนเวียน จะต้องกาหนดให้
ํ ดี เมือ
ํ
กาหนดเวลาของวิ ชานัน ๆ แล้วกเอาวิ ็ ชาอืนมาแทนตอไป ่
3-2
็
1.3 รู ปแบบการฝึ กจะเป็ นแบบใดกตามการดํ าเนิ นการฝึ กนัน ผูฝ้ ึ กและครู ฝึกจะต้องปฏิบติั ใน
ลักษณะดังนี
1.3.1 มุง่ เน้นการปฏิบตั ิมากกวาการบรรยาย
่
่
1.3.2 ฝึ กจากงายไปหายาก
ํ
1.3.3 เป็ นไปตามตารางกาหนดการฝึ ก
1.3.4 มีการประเมินผลตลอดเวลา
1.3.5 ไมมี่ การแจกจายเอกสารฝึ
่ ก ให้ทหารใหมนํ่ าไปทองจํ
่ า
่ กมาใช้อยางเหมาะสม
1.3.6 นําเครื องชวยฝึ ่
1.3.7 ไมมี่ การบอกให้ทหารจด
1.3.8 มีการแกไขทั ้ นที เมือทหารใหมปฏิ ่ บตั ิผิดในการฝึ ก
1.3.9 เมือฝึ กจบจะต้องมีการประเมินผล
2. การฝึ กทีเน้ นผลการปฏิบตั ิ
ลักษณะของการฝึ กทีเน้นผลการปฏิบตั ิ ต้องมีวตั ถุประสงค์การฝึ กทีแนชั่ ด วัตถุประสงค์การฝึ กที
่ ดแจ้งวาทหารจะต้
ระบุไว้อยางชั ่ องมีขีดความสามารถทําอะไรได้บา้ งเมือจบการฝึ ก โดยวัตถุประสงค์การฝึ ก
ทีมีโครงสร้างอันถูกต้องจะต้องประกอบด้วยสวนตาง ่ ่ ๆ สามสวน ่ คือ
2.1 กิจเฉพาะ คือ เรื องทีจะต้องปฏิบตั ิให้สาํ เร็ จลุล่วงไป (ผูฝ้ ึ กทราบได้จากระเบียบ หลักสู ตร
การฝึ กทหารใหม่ 8 สัปดาห์ พ.ศ. 2542 แถลงหลักสู ตรการฝึ กหัวข้อ เรื องและรายละเอียดทีฝึ กสอน)
2.2 เงือนไข คือ เรื องทีจะต้องปฏิบตั ินนั จะต้องกระทําให้สาํ เร็ จลุล่วงไป ภายใต้เงือนไขอยางใด ่ (ผู ้
ฝึ กทราบได้จาก คู่มือการประเมินผลการฝึ กทหาร ใหม่ 8 สัปดาห์ พ.ศ. 2542)
2.3 มาตรฐานการฝึ ก คือ มาตรฐานของการปฏิบตั ิทียอมรับแล้ว (ผูฝ้ ึ กทราบได้จากคูม่ ือการ
ประเมินผลการฝึ กทหารใหม่ 8 สัปดาห์ พ.ศ. 2542)
การทีระบุ กิจเฉพาะ, เงือนไข และมาตรฐานการฝึ กไว้ในวัตถุประสงค์การฝึ กโดยชัดแจ้งนัน
่
ยอมจะทํ าให้ทหารมีความเข้าใจวา่ ถ้าตนสามารถปฏิบตั ิงานได้สาํ เร็ จเรี ยบร้อยตามมาตรฐานทีกาหนดนั ํ นก็
่ ได้ แตถ้่ าไมสามารถปฏิ
แสดงวาใช้ ่ ็
บตั ิได้ ทหารกจะทราบได้ ่
เองวาตนจะต้ องเรี ยนรู ้ในสิ งใดอีกจึงจะบรรลุ
ถึงซึ งมาตรฐานนัน ฉะนันในทุกครังทีทําการฝึ กจึงมีความจําเป็ นต้องทําให้ทหารมีสภาวการณ์ของการเรี ยน
่
คือ มีความสํานึกงาตนต้ องรับการฝึ ก และมีความเข้าใจวาจะต้ ่ องเรี ยนรู ้ในเรื องอะไรบ้าง
พ.ต.
(………………………………)
ฝอ.3…………………………
ข-1
ผนวก ข. (เจ้ าหน้ าทีฝึ กทหารใหม่ ผลัดที………../…………) ประกอบ
คําสัง กองพันทหาร…..ที….กรมทหาร…..ที…./……ลงวันที………เดือน………...พ.ศ…………
1. ผูอ้ าํ นวยการฝึ ก (ควรเป็ น ผบ.หนวย่ )
2. รองผูอ้ าํ นวยการฝึ ก (ควรเป็ น รอง ผบ.หนวย่ )
3. ผูช้ ่วยผูอ้ าํ นวยการฝึ ก (ควรเป็ น ฝอ.3)
4. ผบ.หนวยฝึ ่ ก (ควรเป็ น ผบ.ร้อย)
5. เจ้าหน้าทีประจําหนวยฝึ ่ ก (จํานวนเจ้าหน้าที ตามความเหมาะสม)
6. ผูฝ้ ึ ก
7. ผูช้ ่วยผูฝ้ ึ ก
8. ครู นายสิ บ
……………………………………………….
………………………………………………..
………………………………………………..
…………………………………………………
…………………………………………………
9. ครู ทหารใหม่ (พลทหาร)
……………………………………………….
………………………………………………..
………………………………………………..
…………………………………………………
…………………………………………………
…………………………………………………
………………………………………………..
………………………………………………..
…………………………………………………
…………………………………………………
พ.ต. (………………………………..)
ฝอ. 3 …………………………