พลเมือกำลังไทย

You might also like

Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 290

Cover Power of Thai People_Edit.

indd 1 21/3/2561 BE 14:43


รวมเรื่องสั้น รางวัลวรรณกรรมสถาบันพระปกเกล้า

“พลเมืองก�ำลังไทย”
พ.ศ.๒๕๖๑

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 1 21/3/2561 BE 10:00


2 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 2 21/3/2561 BE 10:00


วรรณกรรมเรื่องสั้น
“พลเมืองก�ำลังไทย”

สถาบันพระปกเกล้า 3

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 3 21/3/2561 BE 10:00


วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของส�ำนักหอสมุดแห่งชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
สถาบันพระปกเกล้า.
พลเมืองก�ำลังไทย.-- กรุงเทพฯ :  สถาบัน, ๒๕๖๑.
๒๘๘ หน้า.
๑. เรื่องสั้นไทย--รวมเรื่อง.   I. ชื่อเรื่อง.
๘๙๕.๙๑๓๐๑
ISBN ๙๗๘-๙๗๔-๔๔๙-๙๘๘-๒
ขลธ.๖๑-๐๓-๕๐๐๐.๐

พิมพ์ครั้งแรก    มีนาคม ๒๕๖๑


จ�ำนวนพิมพ์    ๕,๐๐๐ เล่ม
จ�ำนวนหน้า    ๒๘๘ หน้า
บรรณาธิการ    นิคม ชาวเรือ
ออกแบบปก/รูปเล่ม ชมพูนุช ขอดค�ำ/รจนา นครโสภา
ภาพปกและภาพประกอบ ปวีณา ศรีละพันธ์
พิสูจน์อักษร    วรรัตน์ ชัยชนะ

จัดท�ำโดย สถาบันพระปกเกล้า
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา.
อาคารรัฐประศาสนภักดี
เลขที่ ๑๒๐ หมู่ ๓ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง
เขตหลักสี่ กรุงเทพ ๑๐๒๑๐
พิมพ์ท
ี่ บริษัท เอ.พี. กราฟิคดีไซน์และการพิมพ์ จ�ำกัด
๑/๘ หมู่ ๔ ต�ำบลบางขนุน อ�ำเภอบางกรวย
จังหวัดนนทบุรี ๑๑๑๓๐
โทรศัพท์ ๐ ๒๔๙๗ ๖๘๔๐-๓
โทรสาร ๐ ๒๔๙๗ ๖๘๔๔

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 4 21/3/2561 BE 10:00


ค�ำน�ำ

ส ถาบันพระปกเกล้า สถาบันวิชาการด้านการส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตย
เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างยั่งยืน มุ่งหวังที่จะสร้างความเป็น
ประชาธิปไตยด้วยการปลูกฝังค่านิยมและสร้างความเป็นพลเมืองให้เกิดขึ้นใน
ทุกภาคส่วน สถาบันฯตระหนักถึงความส�ำคัญของงานด้านวรรณศิลป์ ซึ่งเป็นทั้ง
ศาสตร์และศิลป์ในการถ่ายทอดผลงานผ่านงานเขียน การประพันธ์ ซึ่งเป็นการ
ถ่ายทอดเรื่องราว วิถีชีวิต ที่มีความส�ำคัญทั้งในเชิงคุณค่า วรรณกรรม และความ
บั น เทิ ง การน� ำ เสนอเนื้ อ หาการส่ ง เสริ ม และเผยแพร่ ค วามเป็ น พลเมื อ งและ
ประชาธิปไตยแก่ประชาชน ท�ำให้สามารถถ่ายทอดในรูปแบบภาษา และเนื้อหาที่
เข้าใจง่าย
ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น จึงท�ำให้สถาบันพระปกเกล้าริเริ่มโครงการ
รณรงค์สืบสานความเป็นพลเมืองด้วยงานวรรณศิลป์ขึ้นเป็นครั้งแรก ในปี ๒๕๖๐
โดยจัดกิจกรรมการสัมมนาเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจการเมืองการปกครองใน
ระบอบประชาธิปไตย และการมีส่วนร่วมของศิลปินด้านวรรณศิลป์ในการเผยแพร่
ประชาธิปไตย ความเป็นพลเมืองผ่านงานวรรณกรรม ซึ่งได้รับเกียรติจาก อาจารย์
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ อาจารย์ชมัยภร บางคมบาง และอาจารย์อัศศิริ ธรรมโชติ
ศิลปินแห่งชาติ ศาสตราจารย์ ดร. รื่นฤทัย สัจจพันธุ์ ปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย
อาจารย์กนกวลี กันไทยราษฏร์ นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย รวมทั้ง

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 5 21/3/2561 BE 10:00


นักเขียนรางวัลซีไรต์ และนักวิจารณ์วรรณกรรมร่วมเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้
ทักษะงานวรรณกรรมเรื่องสั้น และกวีนิพนธ์ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งผู้เข้าร่วมสัมมนา
ประกอบด้วยบุคลากรที่หลากหลาย ทั้งนักเขียน ครูภาษาไทย ประชาชนและ
เยาวชนที่สนใจ
จนน�ำไปสู่แรงบันดาลใจในการจัดประกวดงานวรรณกรรม ภายใต้หัวข้อ
“พลเมืองก�ำลังไทย” ซึ่งได้รับความสนใจจากนักเขียนและประชาชนส่งผลงานเข้า
ร่วมประกวดกว่า ๒๐๐ ผลงาน ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการคัดเลือกผลงาน
และคณะกรรมการตัดสินผลงาน รวมทั้งสิ้น จ�ำนวน ๒๐ ผลงาน อีกทั้งในผลงาน
วรรณกรรมเรือ่ งสัน้ ทีอ่ ยูใ่ นมือท่านนี้ ยังได้รบั เกียรติจากอาจารย์ชมัยภร บางคมบาง
น�ำผลงานเรื่องสั้น “แม่มดในซอย” และผลงานของอาจารย์อัศศิริ ธรรมโชติ เรื่อง
“เธอยังมีชีวิตอยู่อย่างน้อยก็ในใจฉัน”มาจัดพิมพ์ในหนังสือวรรณกรรมเล่มนี้ด้วย
ผลงานทั้ง ๒๐ เรื่องนี้ ประกอบไปด้วยเรื่องราวสะท้อนมุมมองทางด้านสังคม
จิตส�ำนึกความเป็นพลเมือง ในแง่มมุ ต่างๆ ซึง่ หวังว่าท่านจะได้รบั อรรถรสและข้อคิด
ดีๆ ไปพร้อมกันด้วย
สถาบันพระปกเกล้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผลงานวรรณกรรมเรื่องสั้น
“พลเมืองก�ำลังไทย”ภายใต้โครงการรณรงค์สบื สานพลเมืองด้วยงานวรรณศิลป์ จะ
ช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ผลงานด้านการรณรงค์สืบสานพลเมือง และ
สืบสานเจตนารมณ์ในการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างยั่งยืนสืบไป

(ศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย)
เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 6 21/3/2561 BE 10:00


บทน�ำเรื่อง

ศาสตราจารย์ ดร. รื่นฤทัย สัจจพันธุ์

ส ถาบันพระปกเกล้าซึ่งเป็นสถาบันวิชาการที่มุ่งเน้นการส่งเสริมและพัฒนา
ประชาธิปไตยเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างยั่งยืน ได้เล็งเห็นความ
ส�ำคัญของงานวรรณกรรมว่ามีพลังในการสร้างจิตส�ำนึกทางสังคม นอกเหนือไปจาก
ความคิดสร้างสรรค์ทางศิลปะ สถาบันพระปกเกล้าจึงจัดท�ำโครงการรณรงค์สบื สาน
ความเป็นพลเมืองด้วยงานวรรณศิลป์ โดยมุ่งหวังเพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้
ความเข้าใจเรื่องความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยผ่านงานวรรณกรรม
อันมีความเป็นศาสตร์และเป็นศิลป์ที่มีพลังในการปลูกฝังความคิด ความเชื่อและ
ค่านิยมต่างๆ แก่ผู้อ่าน
ในการจัดประกวดครั้งแรกนี้ สถาบันพระปกเกล้าจัดประกวดเรื่องสั้นที่
ไม่เคยเผยแพร่ในสือ่ ใดๆ มาก่อน ในหัวข้อ “พลเมืองก�ำลังไทย” และได้รบั การตอบ
รับจากนักเขียนอย่างมากทัง้ นักเขียนผูม้ ชี อื่ เสียงและนักเขียนหน้าใหม่ มีผสู้ ง่ ผลงาน
เข้าประกวดจ�ำนวนหลายร้อยเรือ่ ง ในจ�ำนวนนีม้ เี รือ่ งสัน้ ๒๐ เรือ่ งผ่านการคัดเลือก
และการตัดสินให้เป็นเรื่องสั้นยอดเยี่ยม

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 7 21/3/2561 BE 10:00


เรื่องสั้นยอดเยี่ยม ๒๐ เรื่องตีความประเด็นของ “พลเมืองก�ำลังไทย”
ในแง่มุมต่างๆ อันท�ำให้เรื่องสั้นทั้ง ๒๐ เรื่องสามารถสะท้อนภาพกว้างของความ
เป็นพลเมืองในฐานะเป็นพลังในการขับเคลื่อนสังคมประชาธิปไตยได้เป็นอย่างดี
เพราะแสดงให้เห็นว่าหากพลเมืองขาดคุณภาพและขาดคุณลักษณะของการเป็น
พลเมืองที่ดี การพัฒนาความเป็นประชาธิปไตยก็ยากจะประสบผลส�ำเร็จที่ยั่งยืน
เมื่อกล่าวถึงเนื้อหา เรื่องสั้นยอดเยี่ยม ๒๐ เรื่องเสนอคุณลักษณะของ
พลเมืองไทยในมิติต่างๆ ดังจะขอยกตัวอย่างบางเรื่อง เช่น ความมีน�้ำใจ ซึ่งเป็น
คุณธรรมส�ำคัญที่ควรได้รับการปลูกฝังอย่างต่อเนื่อง เพราะสังคมปัจจุบันมีการ
แข่งขันสูงและเติบโตทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ท�ำให้คนรุ่นใหม่หมกมุ่นอยู่กับ
ตนเองจนแล้งน�ำ้ ใจต่อผูอ้ นื่ เนือ้ หานีน้ ำ� เสนอในเรือ่ งสัน้ เรือ่ ง คนพิการบนขบวนรถไฟ
สายชานเมือง นักเขียนแสดงให้เห็นว่าความมีน�้ำใจมีคุณค่าเหนือการใช้สิทธิ์ตาม
ระเบียบหรือข้อก�ำหนด เรื่องการสละที่นั่งแก่เด็ก ผู้หญิง คนชรา นักบวช และ
ผู้บกพร่องทางร่างกาย เป็นวัฒนธรรมอันดีงามที่ประเทศต่างๆ ส่งเสริมมายาวนาน
แต่ในปัจจุบนั ค่านิยมนีม้ อี ยูใ่ นจิตส�ำนึกของคนรุน่ เก่ามากกว่าคนรุน่ ใหม่ทใี่ ห้ความ
ส�ำคัญกับเรือ่ งสิทธิข์ องตนมากกว่าจะค�ำนึงถึงความล�ำบากของผูอ้ นื่ ดังนัน้ แม้เรือ่ ง
สั้นจะน�ำเสนอภาพเล็กๆ ในสังคม เพียงเหตุการณ์บนรถไฟ แต่เนื้อหาสาระมีความ
ส�ำคัญที่ท�ำให้ผู้อ่านตระหนักว่าการอบรมแก่คนรุ่นใหม่เรื่องศีลธรรมจริยธรรมมี
ความส� ำ คั ญ เคี ย งคู ่ กั บ การสอนให้ รู ้ จั ก สิ ท ธิ แ ละหน้ า ที่ ข องตนตามระบอบ
ประชาธิปไตย
นักเขียนกล่าวถึงหน้าทีข่ องพลเมืองไว้ในเรือ่ งสัน้ หลายเรือ่ ง เช่น เรือ่ ง เฟือง
ชิน้ เล็กทีห่ ล่นใต้โต๊ะอุปกรณ์ ผูเ้ ขียนสร้างเหตุการณ์ให้เกิดขึน้ ในโลกอนาคต ทีภ่ าษา
ไทยแทบจะสูญหาย ถูกแทนที่ด้วยภาษาอังกฤษ และเครื่องจักรกลท�ำหน้าที่แทน
มนุษย์ ผูเ้ ขียนเสนอว่าแม้โลกจะเปลีย่ นไป แต่สงิ่ ทีพ่ ลเมืองทีม่ คี ณ ุ ภาพ จ�ำต้องรักษา
ไว้ให้มั่นคง คือ การท�ำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เหมือนฝนที่ตกลงมาเพื่อสร้างความ
ชุม่ ฉ�ำ่ แก่ผนื โลก ผูเ้ ขียนกล่าวถึงหน้าทีพ่ ลเมืองหลายระดับ ในระดับครอบครัว พ่อ-
ท�ำหน้าที่พ่อที่ให้ความรู้ความคิดแก่ลูก ลูก-ท�ำหน้าที่เรียนหนังสืออย่างเอาใจใส่

8 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 8 21/3/2561 BE 10:00


ย่า-ผูม้ ปี ระสบการณ์ชวี ติ ท�ำหน้าทีเ่ ชือ่ มโยงอดีต ปัจจุบนั และอนาคตผ่านการเอาใจ
ใส่ ใ นความเป็ น อยู ่ แ ละความเป็ น ไปของลู ก หลานและรั ก ษาความสั ม พั น ธ์ ใ น
ครอบครัวให้แน่นแฟ้น ในระดับสังคม การรักษารากเหง้าทางวัฒนธรรมของตนเอง
ในท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของสังคมจะท�ำให้สังคมเดินหน้าสู่อนาคตอย่าง
เข้มแข็ง นอกจากนี้ ความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ต่อทุกชีวติ บนผืนโลกเดียวกัน เป็น
จริยธรรมทีส่ ำ� คัญ ดังทีต่ วั ละครพ่อซึง่ เป็นนักวิทยาศาสตร์ ไม่ยอมปล่อยสิง่ ประดิษฐ์
มนุษย์กลออกสู่สังคม จนกว่าจะประดิษฐ์สร้างแผงวงจรพิเศษส�ำหรับควบคุมให้
มนุษย์กลมีความรับผิดชอบต่อชีวิตของมนุษย์จริงมากกว่าพิทักษ์ทรัพย์สินซึ่งเป็น
วัตถุ
ส่วนเรือ่ ง เสียงจากจิตส�ำนึก กล่าวถึงหน้าทีข่ องพลเมืองอีกมุมหนึง่ นัน่ คือ
การใส่ใจผู้อื่นในสังคมรอบตัว ดังที่ตัวละครในเรื่องนี้ ซึ่งอาศัยอยู่ในชุมชนเล็กๆ
สามารถช่วยเด็กๆ ให้รอดพ้นจากแก๊งค้ามนุษย์ซึ่งหลอกลวงเด็กมาใช้แรงงานอย่าง
ไม่เป็นธรรม ก็เป็นเพราะเสียงจากจิตส�ำนึกในใจเฝ้าเตือนให้เขาท�ำหน้าทีพ่ ลเมืองดี
ไม่ละเลยต่อความเดือดร้อนของผู้อื่น และไม่เพิกเฉยต่อความอยุติธรรมทั้งปวง
ชุมชนจึงเป็นสุขและสงบได้ก็เพราะคนในชุมชนนั้นท�ำหน้าที่พลเมืองที่ดี ดูแล
เอาใจใส่ ช่วยเหลือและแบ่งปันกัน
เรื่องสั้น กลายเป็นเรื่องของเราและคนอื่นๆ เป็นตัวอย่างอีกเรื่องหนึ่งที่
แสดงให้เห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีความสัมพันธ์กันไม่มากก็น้อย เหตุการณ์ในเรื่อง
เริม่ ต้นจากเพือ่ นบ้านขอสุนขั มาเลีย้ งแต่เลีย้ งไม่ได้ จากนัน้ สุนขั ก็มาอยูใ่ นความดูแล
ของตัวละคร “ผม” วันหนึ่งสุนัขตายเพราะถูกยาเบื่อ ผมกับลูกน�ำซากสุนัขไปฝัง
แต่ขุดหลุมไปกระทบท่อประปาแตก ซึ่งจะท�ำให้เกิดความเดือดร้อนทั้งหมู่บ้าน
ดังนั้นจุดก�ำเนิดจากเรื่องเล็กๆ อาจจะสร้างเหตุเดือดร้อนใหญ่โตได้ แต่ทุกคนต้อง
รับผิดชอบและร่วมมือกันแก้ไข
หลายครัง้ การท�ำตัวเป็นคนดีตอ้ งเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ โดยเฉพาะอย่าง
ยิ่งอุปสรรคที่เกิดจากตนเอง เรื่องสั้นบางเรื่องกล่าวถึงปัจเจกบุคคลที่ต้องต่อสู้กับ
ภาวการณ์ในใจที่ขัดขวางการท�ำความดี ภาวการณ์ที่ว่าอาจจะเกิดจากความโลภ

สถาบันพระปกเกล้า 9

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 9 21/3/2561 BE 10:00


ความอยาก หรือความหลงผิด เรื่องสั้นเรื่อง ความจริงภายในใจ น�ำเสนอเรื่องของ
ชาติ- เด็กที่ขโมยหุ่นยนต์จากร้านขายของเล่น โดยมีวิน-เพื่อนนักเรียนชั้นเดียวกัน
เห็นเหตุการณ์ หลังจากขโมยของเพราะไม่อาจสกัดกลั้นความอยากไว้ได้ ชาติก็ไม่
เป็นสุขอีกเลย คิดกังวลต่างๆ นานา รวมทั้งเสียใจที่ได้ทำ� สิ่งเลวร้าย ยิ่งนึกถึงเพื่อน
ร่วมชัน้ เรียนผูร้ เู้ ห็นเหตุการณ์ ชาติกค็ ดิ ว่าต้องยอมเป็นทาสของวินเพือ่ ให้เก็บความ
ลับไว้ตลอดไป วันรุ่งขึ้นเมื่อชาติไปพบวินเพื่อขอร้องให้เก็บความลับไว้ วินกลับ
แนะน�ำให้เอาหุ่นยนต์ไปคืน ชาติคิดหนักตลอดคืนแต่ก็ตัดสินใจท�ำตามค�ำแนะน�ำ
หลังจากสารภาพผิดกับเจ้าของร้านขายของเล่น ชาติจงึ รูว้ า่ หุน่ ยนต์ถกู ขโมยไปจาก
ร้าน ๒ ตัว เขาย้อนนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นก็เดาออกว่าใครเป็นผู้ขโมยหุ่นยนต์
อีกตัวหนึ่งไป เจ้าของร้านพาชาติไปพบครูใหญ่เพื่อฟ้องร้อง เมื่อชาติเห็นวิน เขายิ้ม
อย่างผูช้ นะทีต่ ระหนักว่าตนยังมีความดีอยูใ่ นตัวจึงยอมรับผิด ในขณะทีว่ นิ ใช้เล่หก์ ล
เพือ่ ปกปิดความผิดของตนเอง วินจะมีบาดแผลในใจตลอดไป ในขณะทีช่ าติรสู้ กึ โล่ง
ใจ ดังนัน้ เรือ่ งสัน้ นีช้ ใี้ ห้เห็นว่าคนเราอาจท�ำผิดพลาดกันได้ แต่หากยอมรับโทษทัณฑ์
จากความผิดพลาดนั้น ก็แสดงให้เห็นว่าเราไม่ใช่คนเลวโดยสันดาน
ประเด็นการกล้าตัดสินใจเลือกท�ำสิ่งที่ถูกต้องยังปรากฏในเรื่องสั้นเรื่อง
ความศักดิ์สิทธิ์เหนี่ยวไกที่ปลายนิ้ว ผู้เขียนใช้ฉากของต�ำรวจและทหารที่สนธิก�ำลัง
กันสลายการชุมนุมของนักศึกษา นักศึกษา ๓ คนซ่อนตัวอยู่ ๓ วัน จึงออกมามอบตัว
แต่ผกู้ องสัง่ ให้ตวั ละคร “ผม” ยิงนักศึกษา ผลการยิงไม่ส�ำเร็จ กระสุนด้านทัง้ ๓ นัด
จากนั้น “ผม” ก็ลาออกจากราชการ แต่โชคชะตาท�ำให้ “ผม” กับผู้กองที่ลาออก
จากราชการเช่นกันมาท�ำงานร่วมกันอีก ท�ำให้ “ผม” ฟื้นความทรงจ�ำเรื่องการยิง
นักศึกษา แล้วโยงเข้ากับการทีผ่ กู้ องหรือเถ้าแก่รบั เหมาก่อสร้างต่อว่าว่าพระเครือ่ ง
ที่ยึดมาจากนักศึกษาไม่ศักดิ์สิทธิ์แล้ว เพราะนักศึกษาถูกยิง ๓ นัดแต่กระสุนด้าน
ในขณะที่เขาถูกยิง ๓ นัด กระสุนเข้าทุกนัดจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และผู้เขียนยัง
โยงเรือ่ งการเชือ่ ถืออ�ำนาจของพระเครือ่ งเข้ากับการทีช่ าวบ้านบนบานเจ้าแม่ขอให้
ช่วยเรื่องน�้ำท่วม แต่นำ�้ ก็ยังท่วม ชาวบ้านจึงช่วยกันสร้างเขื่อนกั้นน�้ำด้วยกระสอบ
ทรายจนสกัดกัน้ น�ำ้ ได้สำ� เร็จ เหตุใด “ผม” จึงยิงนักศึกษาไม่ตาย อันท�ำให้พระเครือ่ ง

10 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 10 21/3/2561 BE 10:00


ทีน่ กั ศึกษาห้อยคอกลายเป็นเครือ่ งรางของขลัง ผูเ้ ขียนได้เฉลยไว้ในตัวเรือ่ งแล้ว ส่วน
เหตุการณ์ทงั้ สามทีผ่ เู้ ขียนประกอบสร้างในตัวเรือ่ งท�ำหน้าทีป่ ระสานกันในการเสนอ
ความคิดว่าพลังของพลเมืองอยูใ่ น “มือ” ของตน นัน่ คือแรงกาย แรงใจ ความศรัทธา
เชื่อมั่นในตนเอง มิใช่หวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ที่ส�ำคัญที่สุดที่เรื่องสั้นนี้น�ำเสนอไว้ คือ
แม้ในยามวิกฤต เราก็ต้องตัดสินใจให้ถูกต้องในการเลือกท�ำสิ่งที่ดี สิ่งที่ถูก และเกิด
ประโยชน์ต่อส่วนรวม
คุณลักษณะของพลเมืองทีย่ นื หยัดในการท�ำความดีเพือ่ เป็นก�ำลังของเมือง
ยังปรากฏในเรื่องสั้นอีกหลายเรื่อง เช่น พ่อก็ยังเป็นพ่อเหมือนเดิม วันที่แกะเปลี่ยนสี
และมือของก้อม เรื่อง พ่อก็ยังเป็นพ่อเหมือนเดิม เน้นประเด็นข้าราชการชั้นผู้น้อย
ที่ยืนหยัดในการท�ำสิ่งที่ถูกต้องไม่ว่าจะถูกกลั่นแกล้งรังแกสักเพียงใด นับเป็นแบบ
อย่างให้ลกู ด�ำเนินรอยตาม เพราะการสร้างพลเมืองรุน่ ใหม่ให้มคี ณ ุ ภาพต้องเกิดจาก
การทีผ่ ใู้ หญ่ทำ� ตนให้เป็นแบบอย่างทีค่ นรุน่ หลังเชือ่ ถือและภาคภูมใิ จ เรือ่ ง วันทีแ่ กะ
เปลี่ยนสี กล่าวถึงหญิงสาวผู้ติดยึดกับปมด้อยของตนจึงท�ำตัวแปลกแยกจากสังคม
แต่ในที่สุดก็เปลี่ยนพฤติกรรม กลับเป็นจิตอาสาช่วยเหลือสังคมส่วนรวมเหมือนที่
แม่และครอบครัวของเธอท�ำเป็นแบบอย่างมาตลอดชีวิต ส่วนเรื่อง มือของก้อม
กล่าวถึงก้อม-เด็กหนุ่มขี้โรค ผอมเกร็ง ผู้มุ่งมั่นยิงกระสุนเมล็ดพันธุ์มะค่าโมงเข้าป่า
เสือ่ มโทรมเพราะหวังจะปลูกป่าให้อดุ มสมบูรณ์ตามเดิมแม้จะขาดการสนับสนุนจาก
ผูใ้ หญ่ใจคับแคบทีม่ งุ่ แสวงหาผลประโยชน์ทางวัตถุ เรือ่ งสัน้ นีช้ วนให้คดิ ว่าปัจเจกชน
ผูท้ ำ� ความดีตามล�ำพังอย่างไม่ทอ้ ถอยมีอกี เป็นจ�ำนวนมากในสังคมไทย ดังนัน้ หาก
พลังของปัจเจกชนเหล่านี้สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการร่วมมือกันท�ำสิ่งที่
เกิดประโยชน์สขุ แก่สว่ นรวม บทบาทของ “พลเมือง-พลังแห่งเมือง” จะเข้มแข็งและ
ยิ่งใหญ่เกินคาดคิดสักเพียงใด
ความกตัญญูเป็นคุณลักษณะส�ำคัญอีกอย่างหนึ่งของความเป็นพลเมืองที่
มีคุณภาพ เรื่องสั้นเรื่อง คนปัญญาอ่อนแห่งหมู่บ้านทางควาย สร้างความประทับใจ
และสะเทือนอารมณ์แก่ผู้อ่านด้วยการน�ำเสนอภาพของคนปัญญาอ่อนที่ท่องบท
กรวดน�้ำผิดๆ ถูกๆ ในงานศพแม่ก่อนน�ำไปเผา ภาพของชายหนุ่มปัญญาอ่อน

สถาบันพระปกเกล้า 11

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 11 21/3/2561 BE 10:00


เนือ้ ตัวมอมแมม หลบหน้าผูค้ นทีไ่ ม่รจู้ กั ดูเป็นบุคคลทีไ่ ร้ความสลักส�ำคัญใดๆ ในงาน
พระราชทานเพลิงศพมารดาที่พี่น้องผู้มีต�ำแหน่งหน้าที่สูงในราชการได้เชิญแขก
เหรื่อผู้มีเกียรติมาร่วมงานจ�ำนวนมาก ภาพที่ตัดกันเช่นนี้กลับฉายภาพของหนุ่ม
ปัญญาอ่อนผู้ที่รักและกตัญญูต่อมารดาด้วยหัวใจ ให้เด่นขึ้นในท่ามกลางงานศพที่
หรูหราผูค้ นคับคัง่ แต่กลับเป็นเพียงสัญญะของแสดงออกเพือ่ รักษาหน้าตาและบ�ำรุง
เกียรติของพี่น้องที่เป็นเจ้าภาพ
โลกปัจจุบันเป็นโลกยุคข้อมูลข่าวสารซึ่งถาโถมมาสู่เราอย่างท่วมท้น จน
บางเรื่องยากจะแยกแยะว่าข้อมูลใดจริง ข้อมูลใดปลอม ดังนั้น สิ่งที่ควรค�ำนึงไว้ใน
ใจตลอดเวลาคือการไม่ด่วนหลงเชื่อข้อมูลโดยปราศจากการตรวจสอบ เพราะจะ
ท�ำให้เราตัดสินบุคคลหรือเรือ่ งราวผิดพลาดจนอาจเกิดความเสียหายอย่างต่อเนือ่ ง
ได้ เรื่องสั้น รูเล็กข้างรั้ว เสนอประเด็นการด่วนตัดสินคนอื่น เพราะถึงแม้จะเป็นสิ่ง
ทีเ่ ห็นด้วยตาตนเอง แต่เราอาจจะใส่ความหมายลงไปในสิง่ ทีเ่ ห็นนัน้ อย่างไม่ถกู ต้อง
เพราะตีความตามแบบฉบับที่คุ้นชิน หรือมีทัศนคติคับแคบ ประดุจการมองผ่าน
รูเล็กๆ
การเปิดใจยอมรับความเปลี่ยนแปลงและรู้จักปรับตัว เป็นคุณลักษณะที่
ส�ำคัญอีกอย่างหนึง่ ซึง่ จะท�ำให้พลเมืองของชาติดำ� รงชีวติ อย่างมีความสุข ดังเช่นนัก
เขียนน�ำเสนอผ่านเรื่องสั้นเรื่องคนปลูกชากับนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งกล่าวถึงชาวเขา
ที่พยายามปรับเปลี่ยนไร่ชาของเขาให้เป็นสถานที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกับ
ต้นพญาเสือโคร่งที่บานรับนักท่องเที่ยวในแต่ละปี แต่ล�ำพังปัจเจกบุคคลอาจจะไม่
สามารถช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ รวมทัง้ เศรษฐกิจของครอบครัวได้สำ� เร็จ
รัฐจะต้องมีนโยบายที่ชัดเจนและยั่งยืนในการสนับสนุนประชาชนและชุมชนด้วย
ไม่ใช่มีนโยบายที่หวือหวาไปตามกระแส
การกล่ า วถึ ง นโยบายของรั ฐ ว่ า ต้ อ งปรั บ ปรนกั บ ความต้ อ งการของ
ประชาชนยังแฝงนัยอยู่ในเรื่องสั้นเรื่อง จักรเครื่องเก่าสายพานขาด ซึ่งกล่าวถึง
เครือ่ งจักรในโรงงานใหญ่ทเี่ กือบหมดอายุใช้งาน ต้องซ่อมแซมอยูบ่ อ่ ยๆ แต่เจ้าของ
โรงงานรุ่นพ่อยังเชื่อมั่นว่ายังสามารถซ่อมเครื่องจักรเก่าให้ใช้งานได้อยู่ เพียงแต่

12 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 12 21/3/2561 BE 10:00


คนงานต้องขยันขึ้นอีกเพื่อท�ำผลผลิตให้เท่าเดิมหรือดีกว่าเดิม แทนที่จะเสียเวลา
ชุมนุมนัดหยุดงาน
ส่วนทายาทรุน่ ลูกต้องการเปลีย่ นเป็นเครือ่ งจักรรุน่ ใหม่ตามความต้องการ
ของคนงาน เพื่อจะได้ท�ำงานได้เร็วขึ้น มากขึ้น และผ่อนแรงงานคน ผู้เขียนจัดตัว
ละครเป็น ๒ กลุ่ม กลุ่มผู้อาวุโสคือเถ้าแก่เจ้าของโรงงานและปู่-พ่อของหัวหน้าคน
งานซึง่ เป็นช่างซ่อมเครือ่ งจักรมือหนึง่ ทัง้ สองมีความเห็นว่าของเก่ายังดี ต้องรักษาไว้
จะลงทุนกับของใหม่ไปท�ำไม ส่วนเจ้าสัวน้อยทายาทเถ้าแก่ หัวหน้าคนงานและ
คนงานทั้งปวงต่างต้องการเครื่องจักรรุ่นใหม่ เช่นเดียวกับลูกสะใภ้ของปู่ที่อยากได้
จักรไฟฟ้าเพื่อจะได้เย็บผ้าได้เร็วขึ้น ไม่ติดๆ ขัดๆ เหมือนเครื่องเก่าที่ช�ำรุด อันจะ
ท�ำให้หารายได้จากการเย็บเสื้อโหลได้มากขึ้น และมีเงินซื้อรถของเล่นคันใหม่ให้
ลูกชาย แทนจะรอให้ปู่ช่วยซ่อมเครื่องยนต์กลไกที่หยุดท�ำงานอยู่บ่อยๆ ในที่สุด
หัวหน้าคนงานถูกต�ำรวจจับฐานเป็นแกนน�ำการชุมนุม ปู่สงสารลูกชายแต่ในขณะ
เดียวกันก็ภมู ใิ จทีล่ กู ชายใช้ “สิทธิพลเมือง” ในฐานะทีเ่ ขารูส้ กึ ว่าตนเองเป็นส่วนหนึง่
ของโรงงาน จึงมีความเป็นเจ้าของเช่นเดียวกับเจ้าของโรงงาน และมีจติ ส�ำนึกในการ
ท�ำให้โรงงานทันสมัยก้าวหน้าและสร้างผลผลิตได้มากขึ้น
เรื่องสั้น จักรเครื่องเก่าสายพานขาด ยังแฝงนัยให้ครุ่นคิดถึงการเมืองใน
ระบอบประชาธิปไตย ทีต่ อ้ งสร้างความมัน่ ใจว่าพลเมืองทุกคนเป็นเจ้าของประเทศ
โดยเท่าเทียมกัน และมี “สิทธิพลเมือง” ในการแสดงความคิดเห็นหรือกระท�ำการ
เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
การแฝงนัยทางการเมืองในเรื่องสั้นที่ส่งเข้าประกวดถือได้ว่าเป็นเรื่อง
ธรรมดาส�ำหรับเวทีประกวดที่เป็นสถาบันพัฒนาการเมืองเช่นสถาบันพระปกเกล้า
เรื่องสั้น การมาของฝรั่ง เป็นเรื่องหนึ่งที่แฝงนัยการเมืองไว้ในเรื่องราวของลุงฝรั่ง
ผู้มีจิตอาสาเก็บขยะในหมู่บ้านทุกวัน ท�ำให้หมู่บ้านสะอาดสวยงาม คณะกรรมการ
หมู่บ้านจึงยกย่องให้เป็นบุคคลดีเด่น ๒ ปีซ้อน เมื่อมีการเมืองเข้ามาแทรก ลุงฝรั่ง
ถูกใส่ร้ายต่างๆ นานาเพื่อที่ลูกชายนายก อบต. ได้รับรางวัลอันจะเป็นฐานเสียงใน
การลงเล่นการเมืองท้องถิ่นต่อไป ตลอดเวลาดังกล่าว ลุงฝรั่งก็ท�ำหน้าที่จิตอาสา

สถาบันพระปกเกล้า 13

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 13 21/3/2561 BE 10:00


พลเมืองดีต่อไปโดยไม่สนใจบริบทรอบข้าง เมื่อ อบต.ถูกยุบไปเพราะทุจริต คณะ-
กรรมการหมู่บ้านชุดใหม่ก็ยกย่องลุงฝรั่งเป็นบุคคลดีเด่นประจ�ำปีอีกครั้ง เรื่องสั้น
เรื่องนี้น�ำเสนอประเด็นการท�ำหน้าที่พลเมืองดีด้วยส�ำนึกในใจ โดยไม่ใส่ใจเสียงนก
เสียงกา แต่ในขณะเดียวกัน ประโยคหนึ่งในเรื่องสั้นที่กล่าวว่า “ประชาธิปไตยเป็น
ของฝรั่งก็จริง เมื่อมันมาบ้านเราแล้วมีประโยชน์ ท�ำให้สังคมเราพัฒนา ลุงบ็อคแก
เป็นฝรั่ง มาเมืองไทย คนไทยก็ได้ประโยชน์ ข้อนี้เราน�ำไปสอนลูกหลานได้เลย”
บ่งชี้นัยว่าเรื่องสั้นเรื่องนี้มีจุดประสงค์จะแสดงความคิดว่าแม้ประชาธิปไตยจะเป็น
ของน�ำเข้าจากต่างประเทศ แต่มีจุดดีที่เราไม่อาจปฏิเสธได้ อยู่ที่ประชาชนคนไทย
จะเอาจริงเอาจังในการท�ำความเข้าใจกับความเป็นประชาธิปไตยเพียงใด และพัฒนา
ให้เกิดส�ำนึกในหมูล่ กู หลานได้อย่างไร การยกย่องให้รางวัลคนดีเป็นเพียงการเข้าถึง
เปลือกนอกเท่านั้นยังไม่ใช่แก่นแท้ แก่นแท้คือการท�ำให้คนทั้งปวงเชื่อมั่นในการ
ท�ำดีและเป็นคนดีด้วย
เรื่องความเป็นไปได้บนทางคู่ขนาน ใช้กลวิธีของการสร้างประเทศไทยใน
อุดมคติ ซึง่ ราวกับเป็นมิตคิ ขู่ นานกับโลกปัจจุบนั เพียงแต่ประเทศไทยในมิตคิ ขู่ นาน
นั้นมีความเป็นประชาธิปไตยตามที่ทุกคนปรารถนา นั่นคือผู้ปกครองสูงสุดคือ
ผลรวมของมติของประชาชนทั้งประเทศ ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข
สงบ การคมนาคมสะดวก สิ่งแวดล้อมสะอาด การเกษตรและอุตสาหกรรมเข้มแข็ง
จนประเทศไทยไม่เคยประสบปัญหาเศรษฐกิจล่มสลาย ไม่มกี ารคอร์รปั ชัน่ หรือฉ้อฉล
เพือ่ แสวงหาผลประโยชน์สว่ นตัว ประชาชนทุกคนมีเหตุมผี ล มีสติและวิจารณญาณ
ในการรับข่าวสาร ฯลฯ แม้สงิ่ ทีก่ ล่าวมานีจ้ ะเป็นเพียงฝันของนักเขียน แต่คงปฏิเสธ
ไม่ได้ว่าเป็นฝันของคนไทยทุกคน
เรื่องสั้นที่กล่าวถึงการเมืองโดยตรงเรื่องหนึ่งคือเรื่อง พลังเงียบของเขต ๘
ซึ่งกล่าวถึงผลการเลือกตั้งที่เป็นไปตามกติกาแต่ไม่ยุติธรรม เพราะผู้ที่ได้คะแนน
สูงสุดได้คะแนนน้อยกว่าผลโหวตโน (Vote No) จึงมีผู้คิดสร้างเพจเพื่อใช้สื่อสังคม
ออนไลน์เป็นกลไกในการให้ความรู้ทางการเมืองแก่ประชาชน รวมทั้งเปิดโปงการ
ทุจริตคิดมิชอบของนักการเมืองบางคน ทีส่ ำ� คัญคือการเปิดเวทีให้คนนับแสนเข้ามา

14 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 14 21/3/2561 BE 10:00


แสดงความคิดเห็นอย่างเสรี และมีกจิ กรรมชุมนุมทางการเมืองกดดันให้นกั การเมือง
ทุจริตลาออก ตัวละครผูส้ ร้างเพจใช้วธิ ี “เกลือจิม้ เกลือ” คือรับเงินจากพรรคการเมือง
ฝ่ายตรงข้ามมาท�ำเพจท�ำร้ายคู่ต่อสู้ เมื่อเพจได้รับความนิยมสูงจากมหาชน ก็เลิก
รับเงินจากพรรคการเมือง แต่หาเงินจากโฆษณาและเงินบริจาคมาจัดท�ำสือ่ ออนไลน์
เพื่อพัฒนาความรู้เรื่องการเมืองให้แก่ประชาชน และสนับสนุนคนดีให้ท�ำงานเพื่อ
ประเทศชาติ
เรื่องสั้นนี้ท�ำให้เห็นอ�ำนาจของสื่อสมัยใหม่ในการสร้างคนดีให้เป็นพลัง
เมือง และผลักดันให้คนชั่วตกเวทีไป ในขณะเดียวกัน ก็ต้องตระหนักว่ามีการใช้สื่อ
เพื่อจุดประสงค์ตรงกันข้ามด้วย เรื่องสั้นนี้พยายามชี้ให้เห็นว่าประชาชนไม่ควรนิ่ง
เฉยๆ เป็น “ประชาชนเชื่องๆ ” แต่ควรหาทางแก้ไขสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่การใช้พลัง
มหาชนในโซเชียลมีเดียและเล่หเ์ หลีย่ มต่างๆ ให้เกิด “ดราม่า” เพือ่ เรียกยอดวิวยอด
แชร์ให้สูงขึ้น จะเป็นวิถีทางอันถูกต้องของการเดินไปสู่สังคมประชาธิปไตยหรือไม่
เป็นเรื่องที่น่าใคร่ครวญคิด
เรือ่ งสัน้ เรือ่ ง ความจ�ำเป็นของการหยุดและถอย เป็นอีกเรือ่ งหนึง่ ทีแ่ ฝงนัย
การเมืองไว้ในเรือ่ งราว ของการขับขีร่ ถยนต์ในซอยแคบ ทีต่ อ้ งมีการหยุดรถและการ
ถอยรถเพื่อเปิดทางให้อีกฝ่ายหนึ่งขับรถผ่านไปได้ การจราจรในซอยแคบจึงจะไม่
ติดขัด เรื่องราวเล็กๆ นี้สะท้อนภาวะทางการเมืองในปัจจุบันที่ต้องมีการหยุดการ
ถอยบ้าง ใช่แต่จะดึงดันเดินหน้าอย่างเดียวเพื่อประโยชน์ของตน ต้องหยุดฟังและ
มองเห็นความเดือดร้อนของผู้อื่นด้วย นอกจากนี้ ความมีนำ�้ ใจ การเสียสละ ความ
มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ของตน และการยกย่องคนดี อันเป็นคุณลักษณะของพลเมือง
ก�ำลังไทยถูกน�ำเสนอผ่านตัวละครต่างๆ ในเรื่อง
สันติวธิ เี ป็นคุณลักษณะหนึง่ ของความเป็นประชาธิปไตย ผูท้ อี่ ยูใ่ นระบอบ
ประชาธิปไตยจะเป็นผู้ที่ใฝ่สันติภาพและภราดรภาพ สังคมจึงเกิดสันติสุข เรื่องสั้น
เรือ่ ง ห้องละหมาดทีย่ งั ไม่มหี ลังคา เป็นเรือ่ งสัน้ เรือ่ งเดียวทีเ่ ขียนถึงชาวมุสลิมภาคใต้
เรือ่ งสัน้ เรือ่ งนีใ้ ช้กลวิธกี ารเขียนแบบวรรณกรรมหลังสมัยใหม่ คือใช้แนวคิดสัจนิยม
มหัศจรรย์ (magical realism) ผีตัวต่อและชาวเมืองเป็น “สิ่งแปลกแยก” ที่เข้ามา

สถาบันพระปกเกล้า 15

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 15 21/3/2561 BE 10:00


ท�ำลายศรัทธาและความสามัคคีของชาวบ้าน ท�ำให้แบ่งแยกเป็นฝักเป็นฝ่าย และ
ขัดขวางการสร้างห้องละหมาดให้เสร็จสมบูรณ์ เมื่อชาวเมืองสร้าง “ผี” หรือมายา
ภาพในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อหลอนและท�ำร้ายคนดีไม่ส�ำเร็จ ก็สร้างเรื่องเล่าเกี่ยว
กับผีให้เกิดความหวาดกลัวและยั่วยุให้ตอบโต้ กาเส็มตัวละครเอกดีใจที่ตนไม่ได้
วูว่ ามแก้ปญ ั หาด้วยก�ำลังเหมือนกับมี “ผี” ในใจไปด้วย และตระหนักว่าสันติวธิ เี ป็น
กลวิธีรับมือกับ “ผี” จากนอกหมู่บ้านได้ดี และที่ดีที่สุดคือความร่วมมือ ความรัก
และความเข้มแข็งของชุมชนจะเป็นพลังแข็งแกร่งที่ “ผี” จากแหล่งไหนก็ไม่อาจ
ท�ำลายได้
เรื่องที่ใช้กลวิธีของสัจนิยมมายาหรือสัจนิยมมหัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่ง คือ
คาวบอยไอศกรีม ที่สร้างตัว
ละครเป็นปัจเจกบุคคลที่มีลักษณะเด่นเฉพาะตัว ทั้งจอมกวนและต่อต้าน
กฎระเบียบ แต่ไม่เอาเปรียบใคร
เป็นพลเมืองก�ำลังไทยอีกแบบหนึ่ง
ในขณะที่มีเรื่องสั้นบางเรื่องเสนอภาพอุดมคติของสังคมไทย เรื่องสั้นเรื่อง
หนูนิดต้องไปซื้อของหน้าปากซอย กลับน�ำเสนอให้เห็นว่าสังคมจริงที่เราเผชิญอยู่
ทุกเมือ่ เชือ่ วันไม่ได้สดใสโลกสวยเหมือนสังคมอุดมคติ ดังนัน้ เราจะเลีย้ งดูลกู หลาน
ของเราอย่างไรให้สามารถด�ำรงชีวิตในสังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยอันตรายจาก
อาชญากรรม จากความเห็นแก่ตวั และหลงใหลในวัตถุมากกว่าสร้างปฏิสมั พันธ์กบั
บุคคล เราจะทะนุถนอมเลี้ยงดูแบบไข่ในหิน ให้ความสะดวกสบายทุกอย่างแต่ขาด
พลังชีวิตช่วยตัวเองไม่ได้แบบเลี้ยงนกเลี้ยงปลาที่หากปล่อยไปสู่ธรรมชาติก็ไม่รอด
ชีวิต หรือว่าเราจะเสริมสร้างประสบการณ์ให้ลูกหลานเรียนรู้และกล้าเผชิญโลกแต่
วัยเยาว์ เพือ่ จะได้แกร่งขึน้ ในยามเติบโต ครอบครัวในเรือ่ งสัน้ เลือกประการหลัง เพือ่
สร้างพลเมืองที่มีคุณภาพและเข้มแข็ง อันจะท�ำให้สังคมและประเทศชาติแข็งแกร่ง
ด้วย
จากทีไ่ ด้วเิ คราะห์เรือ่ งสัน้ ยอดเยีย่ มข้างต้น รวมทัง้ เรือ่ งสัน้ ทีส่ ง่ เข้าประกวด
ทั้งหมด อาจกล่าวได้ว่านักเขียนทุกคนพยายามตีโจทย์ “พลเมืองก�ำลังไทย” อย่าง

16 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 16 21/3/2561 BE 10:00


เอาจริงเอาจัง ทั้งการกล่าวถึงคุณลักษณะของพลเมือง หน้าที่ของพลเมือง บทบาท
ของพลเมืองในการขับเคลื่อนสังคมไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย เรื่องสั้นส่วนใหญ่
เป็นเรือ่ งเล่าทีเ่ น้นเนือ้ หามากกว่ากลวิธี แต่กม็ เี รือ่ งสัน้ จ�ำนวนหนึง่ ทีใ่ ช้กลวิธกี ารแต่ง
เพื่อสนับสนุนเนื้อหาให้ชวนอ่าน ชวนคิด ชวนตีความมากขึ้น เช่น การใช้แนวคิด
โลกอนาคต (Futurism) การใช้แนวคิดสัจนิยมมายา (Magical Realism) การใช้
เรื่องเล็กๆ ในบ้าน ในชุมชน ฯลฯ เป็นสัญญะแทนสังคมโดยรวม การใช้ผู้เล่าเรื่อง
หลากหลาย เป็นต้น
สุดท้ายนี้ อยากจะกล่าวว่า เวทีประกวดวรรณกรรมอื่นๆ ให้รางวัลยอด
เยีย่ มเพียงเรือ่ งเดียว และอาจมีรางวัลรองๆ ลงไป แต่การให้รางวัลเรือ่ งสัน้ ยอดเยีย่ ม
ของสถาบันพระปกเกล้าต่างจากเวทีประกวด อื่นๆ เพราะสถาบันพระปกเกล้าให้
รางวัลเรื่องสั้นยอดเยี่ยมจ�ำนวน ๒๐ เรื่องพร้อมกัน ทั้งนี้เพราะให้ความส�ำคัญกับ
ฐานกว้างของวรรณกรรมทีย่ ดึ โยงเป็นพลังแข็งแกร่งให้สงั คม มากกว่าให้ความส�ำคัญ
กับสุดยอดฝีมือเพียงหนึ่งเดียว รางวัลของสถาบันพระปกเกล้ามุ่งหวังที่ให้ก�ำลังใจ
แก่นกั เขียน และส่งเสริมการสร้างสรรค์งานวรรณศิลป์เพือ่ สร้างจิตส�ำนึกและจรรโลง
สังคมมากกว่าจะสร้างระบบแข่งขันชิงรางวัล กล่าวได้วา่ นโยบายเช่นนีเ้ ป็นประโยชน์
แก่นักเขียนและวงวรรณกรรมอย่างแท้จริง

สถาบันพระปกเกล้า 17

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 17 21/3/2561 BE 10:00


สารบัญ
เรื่องสั้นเกียรติยศ
๑ เธอยังมีชีวิตอยู่อย่างน้อยก็ในใจฉัน
อัศศิริ ธรรมโชติ (ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์).............................. ๒๓
๒ แม่มดในซอย
ชมัยภร แสงกระจ่าง (ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์)........................๒๙

เรื่องสั้นวรรณกรรมสถาบันพระปกเกล้า
๑ วันที่แกะเปลี่ยนสี
กฤติศลิ ป์ ศักดิศ์ ริ .ิ ................................................................................ ๓๗
๒ รูเล็กข้างรั้ว
จันทรา รัศมีทอง.................................................................................. ๕๑
๓ เฟืองชิ้นเล็กที่หล่นใต้โต๊ะอุปกรณ์
ทวิวฒั น์................................................................................................. ๖๔
๔ พ่อก็ยังเป็นพ่อเหมือนเดิม
นิราศ นิรนั ดร...................................................................................... ๗๙
๕ ความศักดิ์สิทธิ์เหนี่ยวไกที่ปลายนิ้ว
ปะการัง................................................................................................. ๙๕
๖ หนูนิดต้องไปซื้อของหน้าปากซอย
จารี จันทราภา.................................................................................... ๑๐๕
๗ ความจริงภายในใจ
สเนค รัสเซล........................................................................................ ๑๑๔
๘ คนปัญญาอ่อนแห่งหมู่บ้านทางควาย
ธารา ศรีอนุรกั ษ์.................................................................................. ๑๓๐

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 18 21/3/2561 BE 10:00


๙ คนปลูกชากับนางพญาเสือโคร่ง
นรพัลลภ ประณุทนรพาล................................................................... ๑๔๒
๑๐ ความเป็นไปได้บนทางคู่ขนาน
ปองวุฒิ รุจริ ะชาคร............................................................................ ๑๔๘
๑๑ ความจ�ำเป็นของการหยุดและถอย
พยุงศักดิ์ แบบอย่าง........................................................................... ๑๖๔
๑๒ ห้องละหมาดที่ยังไม่มีหลังคา
พิณพิพฒ ั น ศรีทวี.............................................................................. ๑๗๙
๑๓ จักรเครื่องเก่าสายพานขาด
บุหลันบัณรสี...................................................................................... ๑๙๒
๑๔ มือของก้อม
รมณ กมลนาวิน................................................................................. ๒๐๒
๑๕ พลังเงียบของเขต ๘
วุฒนิ นั ท์ ชัยศรี................................................................................... ๒๑๑
๑๖ การมาของฝรั่ง
นทธี ศศวิมล...................................................................................... ๒๒๙
๑๗ กลายเป็นเรื่องของเราและคนอื่นๆ
สุนนั ทวงศ์ เทพชู................................................................................ ๒๓๗
๑๘ เสียงจากจิตส�ำนึก
กันย์นรา พิชาพร................................................................................ ๒๕๔
๑๙ คาวบอยไอศกรีม
อนันต์ เกษตรสินสมบัต.ิ ...................................................................... ๒๖๔
๒๐ คนพิการบนขบวนรถไฟสายชานเมือง
สุพชิ ฌาย์ ศรีประสิทธิ.์ ........................................................................ ๒๗๔

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 19 21/3/2561 BE 10:00


01-288 Power of Thai People_Edit.indd 20 21/3/2561 BE 10:00
วรรณกรรมเรื่องสั้น
“พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 21 21/3/2561 BE 10:00


22 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 22 21/3/2561 BE 10:00


เธอยังมีชีวิตอยู่
อย่างน้อยก็ในใจฉัน
อัศศิริ ธรรมโชติ

ส ถานการณ์ทางการเมืองได้เลวร้ายลงตามล�ำดับนับแต่ปลายเดือนทีแ่ ล้ว ใครๆ


ต่างก็พูดกันว่าเดือนตุลาคมนั้นเป็นเดือน “อาถรรพ์” จะน�ำความยุ่งเหยิงมา
ไม่รจู้ กั จบสิน้ ความรุนแรงจะอุบตั ขิ นึ้ อย่างหลีกเลีย่ งไม่ได้ในไม่ชา้ นี้ ต่างก็พากันคาด
คะเนและวิพากษ์วิจารณ์ไปด้วยความมั่นใจ คล้ายกับการท�ำนายดินฟ้าอากาศเมื่อ
ยามเห็นเมฆฝนตั้งเค้าทะมึนมืดมัว
บรรยากาศบ้านเมืองอยู่ในช่วงประชาธิปไตย ความเคลื่อนไหวของชน
แต่ละกลุม่ เป็นไปอย่างคึกคัก ตรงกันข้ามกับความรูส้ กึ อันวังเวงซ่อนลึกอยูใ่ นใจของ
ผม ใบหน้าของคนที่พบพานผ่านไปมา ผมแลเห็นริ้วรอยหม่นหมองอมความทุกข์
อย่างประหลาด
อากาศต้นเดือนตุลาคมนีเ้ ข้าปลายฤดูฝนแล้ว แต่กร็ อ้ นอบอ้าว มีความระอุ
คุกรุ่นเหมือนได้รับไอผะผ่าวจากเปลวไฟซึ่งเลียลามไหม้อยู่ไม่ไกลออกไปนัก ก่อน
หน้านัน้ มีฝนตกมาบ้างเหมือนกัน โปรยละอองบางเบาให้หล่นไหลมา ดูไม่ผดิ หยด
น�้ำตาบนใบหน้าของหญิงสาว มันให้ความรู้สึกซึมเศร้าเงียบเหงา ว้าเหว่ และ
รันทด

สถาบันพระปกเกล้า 23

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 23 21/3/2561 BE 10:00


ผมม้วนกระดาษบางๆ ๒-๓ แผ่น เหน็บเข้ากระเป๋าหลังก้าวเท้าออกจาก
บ้านเช่าเล็กและแคบคล้ายเตาไฟทีแ่ มวอาศัยนอนนัน้ เป็นปกติประจ�ำวัน และอย่าง
รู้หน้าที่...ใช่! ผมรู้หน้าที่ที่จะต้องเฝ้าอยู่ ณ สถานศึกษาแห่งหนึ่งซึ่งมีผู้คนไม่ใช่น้อย
ชุมนุมกันอยูท่ นี่ นั่ โดยทีผ่ มจะต้องไปถึงทีน่ นั่ และนัง่ จับตามองนับตัง้ แต่ตอนเช้า คอย
ดูความเคลือ่ นไหวว่าๆ ได้มอี ะไรผิดแปลกออกไปบ้าง จ�ำนวนคนทีม่ าชุมนุมเพิม่ ขึน้
หรือน้อยลง และเขาต่างพูดอะไรกันในวันนี้ จะมีมาตรการใหม่ตอ่ ไปหรือไม่ หรือว่า
จะได้โต้ตอบอย่างใดกับฝ่ายตรงกันข้ามทีไ่ ม่สจู้ ะเห็นด้วยกับการชุมนุมประท้วงของ
พวกเขา ทัง้ หมดนีค้ อื สิง่ ทีผ่ มจะต้องรายงานเข้าไปยังโรงพิมพ์ทกุ ๆ ๑ ชัว่ โมง เมือ่ ผม
ไปถึง
“อย่าเป็นเหมือนเมื่อครั้งก่อนล่ะ อะไรๆ ก็ขอให้ดีขึ้นเถอะ” ผมนึกถึงค�ำ
เพื่อนร่วมบ้านเช่าที่เขาเอ่ยปรารภก่อนจากมาเช้านี้
“ใครๆ ก็อยากให้ดีขึ้นทั้งนั้นแหละ นอกจากคนไม่กี่คน” ผมพูดออกไป
อย่างนั้น
บนตรอกแคบทีเ่ ปลีย่ วและยาวเหยียดเหมือนกับทางรถไฟซึง่ จะน�ำผมจาก
บ้านออกไปสูถ่ นนใหญ่สายนี้ ไม่มรี ถประจ�ำทางวิง่ รับส่งเหมือนเช่นตรอกอืน่ ผมเดิน
ย�่ำเข้าออกอยู่อย่างจ�ำเจและอย่างไม่รู้สึกเมื่อยเช่นเดียวกับผู้คนทั่วไป มีบ่านเรียง
รายอยูส่ องฟากข้างของตรอก มีบา้ นไม่กหี่ ลังนักหรอกทัง้ ทีต่ รอกก็ยาวออกอย่างนัน้
ส่วนใหญ่เป็นบ้านสวน ปลูกดอกไม้ดอกไร่กบั พืชผักเล็กๆ น้อยๆ มีบา้ นเป็นบ้านแบ่ง
ให้เช่าเล็กเท่าเตาแมวนอนอย่างที่ผมกล่าวแล้วประมาณ ๔-๕ หลัง
ขณะผมเดินก้าวเท้าปล่อยความคิดจ่อจับอยู่กับสถานการณ์การเมืองอัน
น่าหวาดวิตกนั้น ผมได้ยินเสียงฝึเท้าดังตุ้บตั้บขึ้นข้างหน้า และฉับพลันเมื่อเงยหน้า
ผมก็ต้องผงะชะงักหยุด
ร่างเล็กๆ ของเด็กสาวคนหนึ่งก�ำลังวิ่งตรงมายังผมด้วยความตื่นตระหนก

24 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 24 21/3/2561 BE 10:00



เธอหยุดร่างเล็กๆ พาลมหายใจหอบหนักๆ มาอยู่เบื้องหน้าไม่มีใครวิ่งไล่
หลังตามเธอมาแม้สักคนเดียว แต่เธอก็ยังส่อแววตระหนก ทีท่าเก้ๆ กังๆ จนผม
พลอยตกใจไปกับเธอด้วย
“เกิดอะไรขึ้นหรือ”...ผมถาม เธอมองหน้ามองหลังแล้วตอบ “มีคนสิ่งไล่
ตามมา...!”
“ไม่เห็นมีสักคน คงเลยไปแล้วละ” ผมแปลกใจขณะพินิจมองเธอ
ในมือขวาเรียวงามเปือ้ นเปรอะไปด้วยกาวเหนอะเหนียวแขนบอบบางข้าง
ซ้ายแนบล�ำตัวไว้แน่นด้วยกระดาษใบปลิวปึกหนึ่ง ดวงหน้างามสะอาด ไร้การตก
แต่งใดๆ เกลี้ยงเกลาเฉิดฉายอยู่ในชุดเสื้อด�ำและกางเกงยีนมอมแมม
เธอสะพายย่ามไว้ที่ไหล่ สวมรองเท้าผ้าใบสีขาวเปื้อนฝุ่น...
ผมส่งยิม้ ให้ดว้ ยไมตรีจติ แล้วยืน่ มือออกไป “ขอผมดูหน่อยซิ” เธอยิม้ ตอบ
อย่างเหยๆ ก่อนส่งกระดาษใบปลิวให้ผม ๒-๓ แผ่น
รูปอดีตนักการเมืองถูกล้อมกรอบสีเ่ หลีย่ มด�ำสะดุดเด่นอยูบ่ นแผ่นใบปลิว
นัน้ ใต้ภาพบรรยายข้อความต่อต้านการกลับมาด้วยถ้อยค�ำกราดเกรีย้ ว มากไปด้วย
ศัพท์คนุ้ หูอยูใ่ นยุคประชาธิปไตย เรียกร้องเชิญชวนให้ทกุ คนขับไล่อดีตนักการเมือง
ผู้เคยยิ่งใหญ่ภายในกรอบภาพนั้นออกไปจากประเทศ
“ผมรู้ละว่าพวกใครวิ่งไล่คุณ พวกเขาไม่อยากให้คุณติดใบปลิวน่ะซี” ผม
ว่าเหมือนกระจ่างในใจแล้ว
“พวกรับจ้าง! เขาห้ามเราติดโปสเตอร์และเอาไม้ไล่ตีพวกเราหนีแตกกัน
ไปคนละทาง” เธอตอบ ท�ำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“ช่างเถอะ คุณไปกับผม แต่...” ผมมองใบปลิวที่เธอหอบ “เอามันทิ้งไว้ที่
กองขยะนั่นเถอะ จะได้ไม่เกิดเรื่องอีก”
เธอพยักหน้า เหวี่ยงใบปลิวปึกนั้นว่อนไปบนกองขยะริมซอย
ระหว่างเธอเดินไปกับผม มุ่งหน้าออกสู่ถนนใหญ่ซึ่งเธอเพิ่งจะวิ่งเลี้ยวเข้า
มานั้น ในยามเช้าทุกอย่างยังดูเงียบเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ ผมถามถึงเหตุการณ์

สถาบันพระปกเกล้า 25

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 25 21/3/2561 BE 10:00


ชุมนุมประท้วงต่อต้านการกลับมาของอดีตนักการเมืองในสถานศึกษาดังกล่าว หลัง
จากที่สังเกตว่าเธอหายจากความหวาดกลัวแล้ว ซึ่งเธอก็ได้เล่าให้ผมฟังพร้อมกับ
แสดงทั ศ นะต่ อ สถานการณ์ ก ารเมื อ งด้ ว ย แม้ เ ป็ น ค� ำ พู ด สั้ น ๆ แต่ เ ธอก็ ส รุ ป
สถานการณ์ด้านต่างๆ ได้กะทัดรัด มีนำ�้ หนัก และมากด้วยเหตุผล เหนืออื่นใด เธอ
มีความเชื่อมั่นในความคิดของตนเองสูงพอๆ กับความบริสุทธิ์ใจที่ผมคิดว่าเธอมี
“คุณเป็นนักศึกษาอยู่ที่นั่นหรือ” ผมหมายถึงสถานที่ชุมนุม เธอส่งยิ้มฟัน
ขาว “คุณล่ะ ท�ำงานอยู่ที่ไหน”
“ก็เป็นประชาชนธรรมดานีแ่ หละ ไม่คอ่ ยมีความหมาย” ผมกล่าวอย่างให้
ตลก
เธอยิ้มอีก ... “เป็นมวลชนต่างหาก...”
ผมส่งเธอขึน้ รถเมล์ทปี่ า้ ย เธอยกมือไหว้กล่าวขอบคุณอย่างนอบน้อม และ
ก่อนพาร่างเล็กบางเบานั้นเบียดคนหายเข้าไปในรถเมล์เธอบอกชื่อนามสกุลให้ผม
ไว้ เหมือนส�ำนึกในบุญคุณอันเล็กน้อย ผมหันกลับเดินเข้าร้านกาแฟประจ�ำนั่งลง
คว้ากระดาษขึ้นมาจดชื่อและนามสกุลของเธอไว้ และผมจดทุกค�ำพูดอันแสน
ธรรมดาของเธอไว้ด้วยว่า
“...ในประเทศของเรานั้น เราจะต้องช่วยกันสร้างความถูกต้องและเป็น
ธรรม!”


ผมถูกสับเปลี่ยนหน้าที่ให้เข้าประจ�ำอยู่แต่โรงพิมพ์เมื่อสองวันต่อมา ช่วง
นี้เองที่ผมได้รับข่าวที่ทยอยเข้าโรงพิมพ์ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างได้กลิ่นมรณะของ
ประชาธิปไตย ความไม่ลงรอยของบุคคลในรัฐบาลประดุจผูบ้ รรเลงเพลงสังหารบท
แรก โดยมีสอื่ มวลชนบางแห่งบางทีเ่ ป็นผูก้ ระหน�ำ่ ซ�ำ้ เติมอย่างสอดคล้องเข้าท�ำนอง
กลุม่ พลังต่างๆ เรือ่ งของการต่อต้านการกลับมาของอดีตนักการเมืองดูเป็นเรือ่ งเล็ก
น้อยและไกลประเด็นไปเสียแล้ว มีเรื่องที่ยิ่งใหญ่กระทบถึงสถาบันและจุดพลังแห่ง
ความแค้นเคืองกระทบถึงคนส่วนมากในประเทศ

26 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 26 21/3/2561 BE 10:00


เคราะห์ร้ายเหลือเกินที่เราได้รัฐบาลที่ตัดสินใจอะไรแทบจะไม่ได้เลยนั้น
มาเพิ่มความมืดด�ำเป็นเงาคลุมประชาธิปไตย ก่อสถานการณ์ให้ทรุดหนัก เลว และ
สับสนจนไร้ต้นปลายอันแท้จริงของเหตุการณ์
ผมไม่อยากใส่ใจต่อรัฐบาลประชาธิปไตยในขณะนัน้ ไม่อยากแยแสกลุม่ พลัง
ใดๆ อีกต่อไป และแม้แต่สอื่ มวลชนเช่นหนังสือพิมพ์ซงึ่ เป็นอาชีพของผม ผมก็อยาก
จะเหวี่ยงทิ้งออกไปเสียให้ไกลๆ ..ผมนึกถึงแต่มือเรียวเล็กที่เปื้อนเปรอะเลอะกาว
นึกถึงดวงหน้าอันสะอาดในชุดเสื้อผ้ามอมแมมและทีท่าอันตื่นตระหนกที่เราได้พบ
กันบนซอยเหงาอ้างว้างเมื่อเช้าตรู่ของวันนั้น –ป่านนี้เธอจะรู้หรือไม่หนอว่าจะเกิด
อะไรขึ้นกับตัวเธอ...
เหมือนพายุที่ระเบิด ส�ำแดงฤทธิ์อันหยาบช้าหลังตั้งเค้าให้ท้องฟ้ามัวมืด
มาแล้วก็นานนักหนา และเหมือนเปลวไฟทีไ่ หม้รอ้ นท�ำลายผลาญพร่าสรรพสิง่ นานา
อยูท่ ไี่ หนสักแห่ง ผมรับรายงานข่าวเช้าวันนีเ้ หมือนกับทีก่ ล่าวมาแล้วนัน้ แทบจะทุก
บรรทัด มีความตายด้วยหยาดน�ำ้ ตาเรียงรายไหลเป็นทางอยู่ในที่แห่งนั้น


เมื่อเหตุการณ์ทุกๆ อย่างได้ก้าวเข้าสู่ภาวะสงบเป็นปกติเรียบร้อยมาได้
หลายวันแล้วนัน่ แหละ ผมถึงได้มโี อกาสรายงานข่าวชือ่ คนตายบนวันอันวุน่ วายเหล่า
นัน้ ซึง่ มีเธออยูด่ ว้ ย เธอผูห้ อบหิว้ ใบปลิวมาชะงักหยุดอยูเ่ บือ้ งหน้าผมบนซอยเล็กๆ
แคบๆ เปลี่ยวและยาวเหยียดเหมือนเส้นทางรถไฟ เมื่อเช้าของวันที่เพิ่งจะผ่านมา
ไม่นานนัก
เธอ-ผูเ้ ป็นเจ้าของค�ำพูดอันจะธรรมดา “ในประเทศของเรานัน้ เราจะต้อง
ช่วยกันสร้างความถูกต้องและเป็นธรรม” เธอมีวันเวลาเกิดมา ซึ่งถ้าจะคาดคะเน
แล้วก็ราวน้องสาวคนเล็กของผม ความผิดของเธอที่พอจะรู้ได้โดยไม่ต้องใช้การ
วิเคราะห์ก็คือ เธอมีความคิดที่โตใหญ่เสียจนเป็นภัยต่อตัวเธอเอง
ผมไม่อาจแสดงทัศนะทีจ่ ะสนับสนุนหรือคัดค้านได้วา่ สิง่ ทีเ่ ธอได้กระท�ำลง
ไปนั้นผิดหรือถูก ชอบธรรมหรือไม่ แต่สิ่งที่ผมจะปักใจเชื่ออยู่ตลอดไป ไม่ว่าวันนี้

สถาบันพระปกเกล้า 27

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 27 21/3/2561 BE 10:00


หรือวันไหน ก็คือเชื่อความคิดของเธอบริสุทธิ์ สะอาด ไร้เล่ห์กลมารยาคล้ายทีท่า
และรอยยิ้มที่ได้พบเห็นวันนั้น
ผมเกิดความคิดอันวิปริต อยากจะไปทีโ่ รงพยาบาลทีศ่ พของเธอยังค้างคา
อยู่ ด้วยความอยากรู้ว่าเธอถูกท�ำร้ายที่ตรงไหนบ้าง..เรือนร่างเล็กๆ บอบบางคงอยู่
ในชุดเสือ้ ด�ำกางเกงยีน รองเท้าผ้าใบเปือ้ นฝุน่ หรือว่าเปลีย่ นไปเสียแล้ว นิว้ มือเรียว
งามที่เปรอะเลอะกาวและล�ำแขนอันสลักเสลาที่เคยแนบแผ่นใบปลิวนั้นเล่า จะคง
อยู่ดีอยู่หรือ-หรือว่าเต็มไปด้วยรอยแผล แหลกหักยับเยินอย่างจดจ�ำกันไม่ได้
และใบหน้าอันงามสะอาดของเธอ ไร้การตกแต่ง แย้มยิม้ บริสทุ ธิจ์ ะส่อแวว
ปวดร้าว ตกใจก่อนหมดลมหายใจ-เป็นอย่างนั้นหรือไม่ ผมอยากรู้นัก!
แต่จนแล้วจนรอดผมไม่อาจขยับไปไหนได้ คงได้แต่นั่งจ่อมมองดูชื่อของ
เธอที่ผมแอบจดใส่กระดาษเอาไว้ในร้านกาแฟวันนั้น กระดาษแผ่นนั้นยับยู่ยี่ แต่ยัง
ขาวสะอาด
ผมหยิบสีแดงขีดทับลงบนชือ่ และนามสกุลของเธอแต่เขียนเติมลงว่า.. “เธอ
ยังมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยก็ในใจของฉัน...”
นักหนังสือพิมพ์อย่างผมขี้ขลาดและอับอายเกินกว่าจะท�ำอะไรได้มากไป
กว่านี้...

อัศศิริ ธรรมโชติ
เป็นนักเขียนเรือ่ งสัน้ เจ้าของรางวัลซีไรต์
ปี พ.ศ. ๒๕๒๔ (ขุนทอง เจ้าจะกลับเมื่อฟ้าสาง)
เกิดเมื่อ: ๑๐ กรกฎาคม ๒๔๙๐ อ�ำเภอ
หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
หนั ง สื อ : ขอทาน แมว และคนเมา,
มหกรรมในท้องทุ่ง, ขอบฟ้าทะเลกว้าง
ภาพยนตร์: ครูแก

28 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 28 21/3/2561 BE 10:00


แม่มดในซอย
ชมัยภร แสงกระจ่าง

ผ มเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ครับ เพราะพ่อย้ายงาน ผมก็เลยต้องย้าย


โรงเรียนทั้งที่ไม่อยากย้ายเพราะเพื่อนๆ ก็สนิทกันดีแล้ว ผมเรียนแค่ชั้น ป.๔
เองครับ ไม่อยากย้ายเลยเพราะคิดถึงเพือ่ น แต่พอ่ บอกว่า เดีย๋ วก็ได้เพือ่ นใหม่ไปเอง
อย่าพูดมาก ผมก็เลยต้องหุบปากครับ เพราะพ่อผมเป็นใหญ่ในบ้าน พ่อพูดค�ำไหน
ก็ตอ้ งค�ำนัน้ ผมมีนอ้ งสาวอีกคนหนึง่ อยู่ ป.๑ แหมเราสองคนหน้าตาไปกันคนละทิศ
ละทางจนแทบจะพูดได้ว่า เราไม่น่าจะเป็นลูกพ่อเดียวกันได้เลย อย่าว่าแต่พ่อเลย
แม้แต่แม่ ก็น่าจะไม่แม้แต่จะแม่เดียวกัน พ่อบอกสั้นๆ ว่า อย่าเรื่องมาก แกสองคน
ฉันเก็บมาจากข้างถนน แม่ได้ยินเข้าก็จุปากแล้วว่า “ไม่ใช่ ไม่ใช่ข้างถนน...แม่ไปขอ
หนูมาจากโรงพยาบาล” ผมละรักแม่ผมทีส่ ดุ เลยครับ เพราะแม่พดู ตรงไปตรงมา ผม
ยังแอบได้ยินแม่พูดกับพ่อว่า จ�ำไม่ได้หรือว่าคนกระทรวงพัฒนาสังคมเขาบอกว่า
อย่างไร เขาบอกว่าให้พูดความจริงเสียตั้งแต่แรกๆ ไม่ต้องปิดบังอะไรทั้งนั้น
ผมก็เลยไม่ว่าอะไรหรอกครับที่ผมได้เป็นแค่ลูกบุญธรรม เพราะพ่อกับแม่
เขาก็ไม่มลี กู ของเขาเองเลย แม่กระซิบบอกผมว่า เพราะแม่ตดั มดลูกไปตัง้ แต่ยงั สาว
ผมก็ฟังไปอย่างนั้นเองครับ ก็ผมไม่รู้จักมดลูกอะไรนี่เลย

สถาบันพระปกเกล้า 29

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 29 21/3/2561 BE 10:00


30 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 30 21/3/2561 BE 10:00


พ่อท�ำงานบริษัทครับ แต่ทำ� อะไรผมก็ไม่รู้ ส่วนแม่ท�ำงานแม่บ้าน รับจ้าง
บ้านโน้นบ้านนีท้ ำ� ความสะอาดบ้านไป ผมไม่คอ่ ยชอบเท่าไรเพราะมีความรูส้ กึ ว่าแม่
เหนื่อยมาก และเงินรายได้ของแม่ก็ไม่แน่นอน แล้วแต่เขาจะจ้าง เมื่อย้ายมาอยู่
หมู่บ้านใหม่ แม่ก็ต้องหางานใหม่ ต้องสังเกตเอาเองว่าบ้านไหนเขาจะจ้างแม่บ้าง
นั่นเป็นสาเหตุท�ำให้ผมไม่ชอบบ้านในซอยนี้เท่าไรครับ
เพราะอะไรน่ะหรือครับ ก็เพราะว่าหมู่บ้านนี้มีแต่แม่มดครับ
แม่มดจริงๆ นะครับ ผมเห็นตั้งแต่วันแรกเลยครับ ผมเอาจักรยานคันเล็ก
ออกมาขี่กับน้องจี้ ให้น้องจี้ซ้อนท้าย เจอแม่มดตัวแรก เอ๊ยคนแรก ถือไม้เท้าจังก้า
อยู่กลางถนน ผมสั้นแต่ขาวโพลนไปทั้งหัว แกหยุดยืนแล้วตะโกนว่า
“ยู้ด..”
เล่นเอาผมเบรคแทบไม่ทัน
แกเอาไม้เท้ากายสิทธิ์ชี้หน้าผมแล้วว่า
“นี่ๆ อย่าขี่ฉวัดเฉวียนสิ..เดี๋ยวล้มไปแล้วจะว่ายังไง”
ผมท�ำคอย่นมองไปยังใบหน้าแก แต่แล้วก็ต้องตกใจสุดขีด แม่มดชัดๆ ตา
แกงี้ขุ่นเชียวครับ แกใส่ชุดด�ำๆ เทาๆ ท�ำท่าเหมือนจะขี่ไม้เท้า ซ�้ำยังแผดเสียงได้
เหมือนแม่มดอีกเพราะมันสั่นๆ แหบๆ ชอบกล แต่ผมก็อาศัยความกล้า ตอบไปว่า
“ไม่ล้มหรอกครับ...เพราะผมเก่ง”
สิน้ เสียงผมแกก็แกว่งไม้เท้ากายสิทธิท์ นั ที เกือบจะโดนหน้าผม น้องจีก้ อด
เอวผมแน่น
“เก่งยังไง แล้วถ้าชั้นล้มไปล่ะ”
“อ้าว..”ผมอุทานด้วยความแปลกใจ แกกลัวแกล้มต่างหากแกไม่ได้กลัว
ผมล้ม ผมก็เลยแลบลิ้นหลอกแกทีหนึ่งก่อนจะบึ่งพาน้องจี้กลับบ้าน เรื่องนี้เราสอง
คนเก็บกันเงียบกริ๊บ สัญญากันว่า เราจะไม่มีวันให้พ่อกับแม่รู้เป็นอันขาด
แต่เหมือนแม่มดจะรู้ แค่สามวันหลังจากนั้นผมก็สังเกตได้ว่า มีความ
เคลื่อนไหวบางอย่างเกิดขึ้นในซอย พอตอนเย็นเราสองคนออกไปขี่จักรยาน ก็จะมี

สถาบันพระปกเกล้า 31

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 31 21/3/2561 BE 10:00


คนเปิดประตูรั้วออกมา บางคนก็ออกมารดน�้ำต้นไม้ บางคนก็พาหมาออกมาขี้
บางคนก็ออกมากวาดหน้าบ้าน แต่สังเกตได้ว่าสายตาของทุกคู่มองมาที่ผมกับน้อง
และที่สำ� คัญก็คือที่โผล่ออกมาจากบ้านเป็นแม่มดกันทั้งนั้นเลย ชุดด�ำๆ เทาๆ แล้ว
ก็ตาขุน่ ๆ ขวางๆ และเสียงแหบๆ สัน่ ๆ ท่าทางงกๆ เงิน่ ๆ ตามแบบแม่มดเลยทีเดียว
น้องจี้บอกกับผมว่า “น่ากัวทุกตัวเลย”
ผมไม่ค่อยกลัวเท่าไรเพราะผมเป็นลูกผู้ชาย สงสารแต่น้องจี้ที่ขึ้นจักรยาน
ทีไรก็เอาแต่กอดหลังผมแล้วก็ร้องว่า หนูกัวๆ พวกแม่มดได้ยินแต่ก็ไม่เคยยิ้ม หรือ
บางตัว(ขอเรียกตามน้องบ้าง)ก็ยิ้มแสยะๆ ชอบกล
ผมหนีพวกแม่มดโดยการขีพ่ าน้องไปจนสุดท้ายซอยซึง่ เป็นชายคลองและ
มีต้นไม้ใหญ่ร่มครึ้ม เหมาะส�ำหรับการห้อยโหนของผมเป็นอย่างยิ่ง ส่วนน้องจี้ก็จะ
ยืนเต้นเร่าๆ ร้องกรี๊ดๆ อยู่โคนต้น “ขึ้นด้วยๆ ..” เธอร้องอยู่อย่างนั้น
ทันใดนัน้ สิง่ ทีไ่ ม่คาดฝันก็เกิดขึน้ แม่มดสามตนปรากฏตัวขึน้ ทีโ่ คนต้น มา
ได้ไงผมก็ยังสงสัย คนที่เป็นหัวโจก(ดุกว่าเพื่อน) มองน้องจี้ ชี้มือมาที่ผมแล้วร้อง
ตะโกนว่า
“พาน้องกลับบ้านเดี๋ยวนี้นะ..จ�ำไว้อย่ามาเล่นแถวนี้อีก”
ผมมองลงมาจากต้นไม้ น้องจี้ร้องไห้เสียงดังกว่าเสียงร้องกรี๊ดๆ อีก แถม
ยังร้องตะโกนด้วยว่า “แม่มดๆ ไป๊ๆ ”
แม่มดตัวที่ชี้หน้าผม หันมามองมือเล็กๆ ที่ชี้หน้าไล่แกแล้วหันมาชี้หน้า
น้องจีบ้ า้ งและว่า “หนูไม่ตอ้ งมาไล่ฉนั หรอก ฉันก็ไม่อยากยุง่ กับเด็กโง่ๆ แบบแกสอง
คนเท่าไหร่นักหรอก”
“แงๆ แง้ๆ ” น้องจี้ตะเบ็งเสียงดังลั่น
แม่มดสามตัวไม่ไปตามมือเล็กๆ ของน้องจี้ หากยืนมองจนกระทั่งเราสอง
คนต้องกลับบ้าน ผมเป็นห่วงน้องนะครับว่ากลัวยายแม่มดจนเสียงแหบเสียงแห้ง
จึงขี่กลับบ้านโดยเร็ว แม่มดคนเดิม ยังส่งเสียงดังตามมาส�ำทับอีกว่า “อย่ามาแถว
นี้อีกนะ จ�ำไว้ ไม่ได้มีแต่แม่มด มีพ่อมดด้วย” แล้วตามด้วยเสียงหัวเราะเหอๆ แบบ
ที่ผมเคยได้ยินในหนังเลยครับ อูยๆ ผมงี้กลัวจนผมตั้งเด่เลย

32 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 32 21/3/2561 BE 10:00


เราสองคนเก็บเรื่องนี้เป็นความลับเงียบอีก เพราะแม่บอกเรามาก่อนหน้า
นัน้ แล้วว่า ห้ามไปเล่นริมคลองเพราะกลัวเราตกน�ำ้ ไป งานนีผ้ มก็เลยต้องท�ำเป็นไม่รู้
ไม่ชี้ สั่งก�ำชับน้องจี้ด้วยเป็นเด็ดขาดว่า ห้ามบอกกับพ่อหรือแม่ ไม่เช่นนั้นแล้วผม
จะไม่ให้น้องจี้ซ้อนท้ายจักรยานไปไหนมาไหนอีก
น้องจี้พยักหน้า ท�ำท่าเม้มปากแน่น และยกมือขึ้นตีมือกับผมหนึ่งทีแทน
ค�ำมั่นสัญญา
แม่มดก็ยงั เมียงๆ มองๆ เราเหมือนเดิม ผมก็พยายามหลีกเลีย่ งไม่ให้แม่มด
เห็น เราเรียนที่โรงเรียน กทม.ในหมู่บ้าน ตอนเย็นเราเดินกลับบ้านพร้อมกัน พอถึง
ซอย ผมก็จะแอบส�ำรวจก่อนว่ามีแม่มดตัวไหนอยู่หน้าบ้านบ้าง ถ้ามีหลายตัว ผมก็
จะไม่โผล่ออกจากบ้าน ไม่จูงจักรยานออกมาให้แม่มดเห็น จนกว่าแม่มดจะตายใจ
หายเข้าไปในบ้าน นั่นแหละ ผมจึงจะพาน้องจี้ขี่จักรยานซ้อนท้ายเล่น
เย็นวันทีป่ ลอดโปร่งสายตามาดร้ายของแม่มด ผมไปทีต่ น้ ไม้ใหญ่ชายคลอง
อีก เราก็ได้เจอกับพี่ๆ วัยรุ่นสามคนนั่งกันอยู่ที่โคนต้น เขาก�ำลังสุมหัวท�ำอะไรกัน
ไม่รู้ คนหนึ่งพอเห็นผมกับน้องจอดจักรยานมองดูก็กวักมือเรียก
“หนูมานี่ซิ...”
อีกคนหนึง่ ลุกขึน้ ยืนและเดินตรงมาทีเ่ ราสองคนด้วย ผมรูส้ กึ ไม่ชอบมาพา
กล รีบหันหัวจักรยานออก เสียงคนสองคนที่โคนต้นไม้หัวเราะตามมา เป็นเสียงที่
ผมเห็นว่า น่ากลัวยิ่งกว่ายายแม่มดในซอยเสียอีก
“อยู่บ้านหลังไหนวะ...เด็กนี่ เมื่อก่อนซอยนี้ไม่มีเด็กนี่หว่า มีแต่ยายแก่”
“หนูตัวเล็กน่ะ ท�ำไมไม่ลงจากจักรยานล่ะ” อีกคนทัก
ผมหันหัวจักรยานได้ครึ่งเดียว และผู้ชายคนนั้นก็เดินมาถึง เขายกตัวน้อง
สาวขึน้ มาจากจักรยานพร้อมกับพูดด้วยน�ำ้ เสียงเย็นๆ ว่า “ลงมา...มานีส่ พิ มี่ ขี นมให้
กิน”
ผมนึกค�ำทีพ่ อ่ เคยสอนทันที ถ้าเจอคนแปลกหน้าห้ามกินน�ำ้ กินขนม “อย่า
นะ จี้ อย่ากิน พ่อสอนไว้ไม่ให้กิน”

สถาบันพระปกเกล้า 33

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 33 21/3/2561 BE 10:00


มันอุ้มน้องจี้ไว้ ปากก็พูดว่า “เฮ่ย...ไอ้บ้านนี้พ่อมันสอนดี.. ไม่กินเดี๋ยวกู
ป้อนเอง”
ถึงตอนนี้ยายจี้ก็ดิ้นร้องไห้ออกมาดังลั่น แต่ไอ้คนที่อุ้มมันเอามือปิดปาก
น้องไว้ ผมรู้แล้วว่า สถานการณ์ไม่ดี
“ช่วยด้วย” ผมร้องตะโกนออกไปดังลั่น “ช่วยด้วย”
ผมร้องได้สองครั้งก็รู้สึกเหมือนมีมือมากระแทกเข้าที่หัว ผมล้มลงไปที่พื้น
และมองไปเห็นน้องจี้ดิ้นกระแด่วๆ อยู่ในมือของคนร้าย พ่อครับ ช่วยผมด้วย ผม
คิดได้แค่นั้นก่อนจะรู้สึกว่าทุกอย่างมันชุลมุนพัลวันพัลเกไปหมด
ภาพทีผ่ มลืมไปแล้วกลับเข้ามาวนอยูใ่ นหัวของผมอีกครัง้ ผมยืนอยูร่ ะหว่าง
คนสองคนที่ก�ำลังตบตีกัน แต่ไม่ใช่พ่อกับแม่หรอก เพราะตอนนั้นผมยังไม่เจอพ่อ
กับแม่ มีเสียงด่าทอกัน ผมไม่รู้ว่ามันเป็นค�ำว่าอะไร รู้แต่ว่ามันหยาบคาย ต่างคน
ต่างก็ฟาดมือกันไปมา โดยมีผมวิง่ ไปวิง่ มาอยูต่ รงกลาง ท้ายสุดคนหนึง่ ก็หายไป และ
คนที่ผมอยู่ด้วยก็หายไปอีกคน ผมจ�ำได้แค่นั้นและเป็นความจ�ำที่ผมไม่อยากจ�ำ รู้
แต่ว่ามันน่ากลัว มีเสียงดังและเสียงคนทุบตีกัน ผมเกลียดเสียงนี้และขณะนี้มันดัง
อยู่ต่อหน้าผม
“กรี๊ดๆ กรี๊ดๆ กรี๊ดๆ ”
ผมได้ยินเสียงร้องจริงๆ ครับ แต่ไม่ใช่เสียงของน้องสาวผม เพราะมันดัง
กว่ามาก มันก้องเข้าไปในโสตประสาทของผมจนผมสะเทือนไปทั้งตัว มีความรู้สึก
เหมือนว่าตัวผมแทบจะแตกออกจากกัน
พอเสียงสงบลง ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้น คนสามคนนั้นหายไปหมดแล้วครับ
รอบตัวผมมีแต่แม่มดเต็มไปหมด ผมกลัวจนตัวสั่น นี่ผมกับน้องจะต้องตายเพราะ
ยายพวกแม่มดนี่ใช่ไหม “จี้...”ผมเรียกชื่อน้องและมองไปรอบๆ ไม่มีเงาของน้อง
น้องผมหายไปแล้ว เพราะค�ำสาปของยายแม่มดนี่กระมัง ผู้ชายสามคนนั้นก็คงเป็น
แม่มดปลอมตัวมา
“จี้..จี้”

34 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 34 21/3/2561 BE 10:00


ผมเรียกน้องอีกครั้ง รู้สึกเหมือนหัวใจไม่เข้าที่
ทันใดนั้น ผมก็ได้ยินเสียงเล็กๆ ของน้องสาว “พี่โจ้...พี่โจ้..”
ผมมองไปยังที่มาของเสียง น้องสาวของผมในอ้อมกอดของแม่มดตัวหนึ่ง
ใบหน้านัน้ เป็นน้องสาวของผมแน่นอน และแม่มดก�ำลังจะเอาตัวเธอไปอย่างนัน้ หรือ
“จี.้ .มาหาพีม่ า” ผมเรียกเธอ แม่มดปล่อยตัวเธอลงบนพืน้ และเธอก็วงิ่ มา
หาผม “พีโ่ จ้...”เธอผวาเข้ากอดผม พอรูแ้ น่วา่ เป็นเธอ ไม่ใช่เรือ่ งในฝันอีกต่อไป น�ำ้ ตา
ของผมก็พร่างพรูออกมาราวสายฝน
“เดี๋ยวต�ำรวจมา” แม่มดตัวหนึ่งพูดขึ้น
คราวนี้ผมกลัวจนสั่นไปทั้งตัว ครับ ผมกลัวต�ำรวจยิ่งกว่าแม่มดไปอีก

บ้านเช่าหลังใหม่ทอี่ ยูไ่ ด้ไม่นานแต่แสนจะอบอุน่ พ่อกับแม่นงั่ อยูก่ ลางบ้าน


มีผมกับน้องจีน้ งั่ อยูต่ รงกลาง รอบๆ ตัวเราเต็มไปด้วยแม่มดชุดเทาๆ ด�ำๆ นัง่ ๆ ยืนๆ
เท่าทีจ่ ะสามารถมีเก้าอีร้ องรับได้ ทุกคนก�ำลังพูดคุยสนทนากันว่าด้วยเรือ่ งทีเ่ กิดขึน้
“ฉันก็บอกแล้วว่า อย่าไปเล่นท้ายซอย..มันก็ไม่ฟัง” แม่มดตัวดุ เอ๊ย คนดุ
คนแรกเอ่ยขึ้น “มันดื้ออออ”
“บอกมันหรือเปล่าว่ามีพวกติดยา”แม่มดอีกคนถาม
แม่มดคนดุค้อนขวับแล้วว่า “ไปบอกยังงั้นได้ไง พวกมันรู้เข้ามันมาทุบหัว
ฉันตายพอดี...ยิ่งอยู่คนเดียวอยู่ด้วย ดีนะนี่ ต�ำรวจจับมันไปแล้ว ไม่งั้นละพวกเรา
จะล�ำบากเพราะเป็นหูเป็นตาให้คนอื่นนี่ละ”
แม่มดไม้เท้ากายสิทธิ์เอ่ยขึ้นบ้าง “จ�ำไว้นะไอ้หนู อย่าพาน้องซ่าอีก บ้าน
เมืองเราเดี๋ยวนี้ไม่ปลอดภัย ต้องช่วยๆ กัน เอ็งก็ต้องช่วยยายด้วย ไม่ใช่ยายช่วยเอ็ง
อย่างเดียว แล้วก็ไม่ใช่ช่วยยายคนเดียว เห็นมั้ยล่ะ ซอยนี้มีแต่คนแก่เอ็งก็ต้องช่วย
ให้หมดทุกบ้าน”
“อั๊ยย่ะ” ผมร้อง ไม้เท้ากายสิทธิ์เด้งดึ๋งมาเกือบถึงหน้า ทุกคนหัวเราะกัน
ครืน

สถาบันพระปกเกล้า 35

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 35 21/3/2561 BE 10:00


นับแต่วันนั้นมา ผมกับน้องจี้ไม่เคยกลัวแม่มดอีกเลยเพราะเรารู้แล้วว่า
ซอยแม่มดมีแต่คนใจดี ส่วนท้ายซอยเป็นเรื่องของต�ำรวจ และผมกับน้องก็ไม่ย่าง
กรายไปอีกเลย แต่เราแวะเวียนเข้าไปเล่นในบ้านแม่มดแทน แล้วแต่วา่ แม่มดตัวไหน
เอ๊ยคนไหนจะเปิดบ้านให้เราเข้าไปคร้าบ...

ชมัยภร แสงกระจ่าง
ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์
ประจ�ำปี ๒๕๕๗
นามเดิม ชมัยพร วิทูธีรศานต์
เกิดเมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๓
หนั ง สื อ : อ่ า นหนั ง สื อ เล่ ม นี้
เถอะ..ที่รัก, บ้านหนังสือในหัวใจ: วรรณ
รําลึก
รางวัลที่ได้รับ: รางวัลศิลปิน
แห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์

36 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 36 21/3/2561 BE 10:00


วันที่แกะเปลี่ยนสี
กฤติศิลป์ ศักดิ์ศิริ

๑.

เ สียงไก่ขนั ขานรับกันเป็นทอดๆ ตัง้ แต่ทอ้ งฟ้ายังไม่ทนั สว่างดี เสมือนเป็นสัญญาณ


บ่งบอกให้รู้ว่าวิถีของยามเช้าก�ำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว หากแต่ยามเช้าของกิ่งแก้ว
ดูจะผิดแผกไปจากคนวัยเดียวกัน นัน่ เป็นเพราะแต่ละวัน หญิงสาวต้องตืน่ นอนก่อน
คนอื่นเสมอ ด้วยอาชีพขายข้าวแกงของเธอ ไม่อนุญาตให้ลุกขึ้นจากเตียงหลังดวง
อาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า เพราะมันเป็นเวลาที่ชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่ในชุมชนเล็กๆ ที่
ชื่อ ‘ดอนโพธิ์’ แห่งนี้ เริ่มทยอยออกจากรวงรังเพื่อซื้อหาอาหาร กิ่งแก้วจึงต้องตื่น
นอนตอนตีสามทุกวัน โดยไม่มีวันหยุด เหตุผลคือไม่อยากให้ลูกค้าที่ให้คุณค่าในรส
มือเธอต้องกลับไปมือเปล่า นอกเสียจากมีความจ�ำเป็นจริงๆ เท่านั้น
น่าจะเป็นเพราะโชคชะตา ที่บีบบังคับให้กิ่งแก้วเลือกเดินทางสายนี้ หรือ
หากจะกล่าวว่าเป็นกรรมเก่าที่พาเธอมาสู่จุดนี้ก็คงไม่ผิด ความสวยงามบนใบหน้า
ซึง่ ควรเป็นไปตามธรรมชาติ ทีห่ ญิงสาวพึงได้พงึ มีอย่างเช่นเพือ่ นรุน่ เดียวกันหายวับ
ไปในพริบตา หลังเกิดเหตุวยั รุน่ ตีกันแล้วเธอโดนลูกหลง ไม่ใช่มดี ไม้ หรือปืน อย่าง
เช่นคนอืน่ ๆ มักโดนกัน แต่กลับเป็นน�ำ้ มันร้อนๆ ทีแ่ ม่ของเธอใช้ทอดกล้วยขาย เพือ่

สถาบันพระปกเกล้า 37

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 37 21/3/2561 BE 10:00


38 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 38 21/3/2561 BE 10:00


ให้มรี ายได้เพิม่ เติมจากการขายข้าวแกงช่วงกลางวัน ในงานประจ�ำปีทจี่ ดั ขึน้ ภายใน
วัดซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของเธอเพียงไม่กี่ร้อยเมตร
เหตุการณ์อันเลวร้ายครั้งนั้น เกิดขึ้นตอนกิ่งแก้วอายุสิบเจ็ดปี ขณะวง
ดนตรีเพื่อชีวิตก�ำลังบรรเลงเพลงอย่างเมามันอยู่บนเวที วัยรุ่นต่างถิ่นกลุ่มใหญ่ก็วิ่ง
กรูกนั เข้ามารุมตีวยั รุน่ ในพืน้ ทีซ่ งึ่ ก�ำลังเต้นแร้งเต้นกากันอย่างสนุกสนาน ผูบ้ กุ รุกไม่
เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายทันตั้งตัว ความโกลาหลที่เกิดขึ้นชั่วอึดใจ ส่งผลให้ฝุ่นตลบ
อบอวลไปทั่วจนมองไม่ออกว่าใครเป็นใคร นักร้องน�ำส่งสัญญาณให้ดนตรีหยุดเล่น
ก่อนนักดนตรีจะสลายตัวในเวลาอันรวดเร็วเพราะไม่อยากถูกลูกหลง ในช่วงทีก่ ำ� ลัง
ชุลมุนอยู่นั้น เกิดเสียงปืนไม่รู้ที่มาดังขึ้นหนึ่งนัด แต่มันไม่ได้ทำ� ให้ทุกอย่างหยุดนิ่ง
วัยรุน่ สองกลุม่ ยังคงไล่ตกี นั จนมาถึงร้านกล้วยทอดของเย็นจิต-ผูเ้ ป็นแม่ของกิง่ แก้ว
เย็นจิตไม่ได้อยูท่ รี่ า้ นในตอนนัน้ กล้วยทอดชุดสุดท้ายถูกตักขึน้ จากกระทะ
ด้วยเวลาใกล้สี่ทุ่มเป็นเวลาที่สมควรแก่การเก็บร้านแล้ว หลังปิดหัวแก๊สเรียบร้อย
ผูเ้ ป็นแม่จงึ บอกกับลูกสาวว่าจะน�ำกล้วยทอดไปส่งให้กบั แม่คา้ น�ำ้ ผลไม้ปน่ั ทีต่ งั้ ร้าน
อยูใ่ กล้กบั ซุม้ ทางเข้า แล้วพากวิน-น้องชายวัยสิบขวบของเธอ ทีเ่ ริม่ งอแงเพราะง่วง
นอนอย่างหนักไปส่งบ้านก่อน กิ่งแก้วพยักหน้ารับรู้ โดยไม่สังหรณ์ใจสักนิดเลยว่า
หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาที เธอจะถูกน�้ำมันที่ยังคงร้อนระอุอยู่ในกระทะ กระฉอก
เข้าใส่ใบหน้าซีกซ้ายทั้งแถบ หลังหนึ่งในวัยรุ่นไม่รู้ฝ่าย พลาดท่าเสียหลักวิ่งมาชน
กระทะใบเขื่องเข้าอย่างจัง
แม้ในเวลาต่อมา บาดแผลบนใบหน้าของกิง่ แก้วจะได้รบั การรักษาจนดีขนึ้
ตามล�ำดับ แต่บาดแผลในหัวใจกลับกลายเป็นตรงกันข้าม เด็กสาวที่กำ� ลังอยู่ในวัย
ผลิบานอย่างเธอต้องมาเจอกับสิ่งที่เลวร้าย เพียงเพราะคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่มีความรับ
ผิดชอบต่อสังคม ส่งผลให้คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย ร้าย
แรงกว่านั้นคือกิ่งแก้วเริ่มไม่อยากไปโรงเรียน ทั้งที่อีกปีเดียวก็จะจบมอหก หลังเธอ
ถูกเพื่อนนักเรียนซึ่งเป็นหัวโจกกับพวกลิ่วล้อ น�ำเรื่องแผลเป็นอันอัปลักษณ์มาล้อ
เลียนราวเธอเป็นตัวประหลาด เพราะอยู่ในวัยที่ยังไม่มีภูมิต้านทานมากพอ ความ
อับอายที่เกิดขึ้นกับเด็กวัยนี้จึงเป็นเรื่องยิ่งใหญ่เสมอ

สถาบันพระปกเกล้า 39

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 39 21/3/2561 BE 10:00


เด็กสาวต้องใช้หน้ากากอนามัยแบบเดียวกับทีใ่ ช้กนั ตามโรงพยาบาล คาด
ใบหน้าเพือ่ ปิดบังแผลเป็นอยูต่ ลอดเวลา กลายเป็นคนเก็บตัว ไม่สงุ สิงกับใครแม้แต่
เพือ่ นหญิงทีเ่ คยสนิทสนมด้วย พูดน้อยค�ำ แอบร้องไห้คนเดียวบ่อยครัง้ ผลการเรียน
ตกต�ำ่ อย่างทีไ่ ม่เคยเป็นมาก่อน จนครูประจ�ำชัน้ ต้องเรียกแม่ของเธอไปหารือ แต่มนั
ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ชีวิตของเด็กสาวที่ควรเบ่งบานตามวัยเปลี่ยนไปแล้วโดยสิ้นเชิง
สังคมในโรงเรียนของกิ่งแก้วที่แต่เดิมไม่ได้ใหญ่โตอะไรถูกบีบให้เล็กลง
เรื่อยๆ จนถึงวันที่ความอดทนสิ้นสุด เด็กสาวจึงบอกแม่ไปตรงๆ ถึงปัญหาที่ต้อง
เผชิญอยู่ทุกวี่วัน พร้อมยืนยันด้วยน�ำ้ เสียงหนักแน่นว่าจะไม่เรียนต่อ กิ่งแก้วพูดไป
ร้องไห้ไป ยิง่ ท�ำให้เย็นจิตรูส้ กึ สงสารลูกจับใจ แผลเป็นทีฝ่ งั อยูบ่ นใบหน้าสร้างความ
เจ็บปวดให้เธอมากพออยู่แล้ว ในฐานะแม่ เย็นจิตจึงไม่อยากบีบบังคับอะไรลูกสาว
อีก เพราะลึกๆ แล้ว เย็นจิตรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลาที่พาลูกมาช่วยขายของ จนท�ำให้
ต้องมาเจอกับเรื่องไม่คาดฝันเช่นนี้
หลังออกจากโรงเรียน กิ่งแก้วไม่ได้ท�ำให้ผู้เป็นแม่ผิดหวัง เด็กสาวมีความ
ขยันขันแข็งกว่าแต่กอ่ นทีเ่ ป็นเพียงแค่ลกู มือ ทัง้ ยังสามารถเรียนรูก้ ารเป็นแม่ครัวมือ
อาชีพได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับปักหลักช่วยเย็นจิตท�ำอาหารขายอย่างเป็นจริงเป็น
จังมานับแต่นั้น

๒.
แสงเช้าโรยตัวเข้ามาทักทาย ขณะเดียวกับแกงหม้อสุดท้ายซึ่งถูกเคี่ยวจน
ส่งกลิ่นหอมฉุยถูกยกลงจากเตา ก่อนน�ำขึ้นไปวางเรียงแถวกับหม้ออื่นๆ บนแผงค้า
หน้าร้าน ที่ต่อเติมจากตัวบ้านเป็นเพิงแบบง่ายๆ ดุจเดียวกับร้านค้าในชนบททั่วไป
หลังหมดงานหน้าเตาไฟแล้ว กิ่งแก้วจึงสวมผ้ากันเปื้อนที่มีกระเป๋าเย็บติดไว้ด้าน
หน้า ล้วงหน้ากากอนามัยในนัน้ ขึน้ มาคาดบังแผลเป็นบนแก้มซ้าย ทีไ่ ม่อยากให้ใคร
เห็นแม้แต่คนเดียว
รวบผมยาวหางม้าเกล้าขึ้นเป็นมวย ก่อนหันไปส่องกระจกที่ติดไว้กับเสา
เพือ่ ดูความเรียบร้อย แล้วจึงเข้ายืนประจ�ำที่ ทยอยตักกับข้าวทีม่ อี ยู่ ๖ อย่างใส่ถงุ มือ

40 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 40 21/3/2561 BE 10:00


เป็นระวิงรอลูกค้ามาจับจ่าย โดยไม่ลืมตักแยกไว้หนึ่งชุดส�ำหรับใส่บาตร หมู่บ้าน
เล็กๆ ที่มีพระภิกษุเพียงไม่กี่รูป แบ่งเส้นทางการเดินรับบาตรออกเป็นสี่ทิศ บ้าน
ของกิ่งแก้วซึ่งอยู่ทางด้านหลังของวัดจึงอยู่ในความรับผิดชอบของพระภิกษุวัยใกล้
หกสิบ ที่ครอบครัวของเธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี
หลังตักแกงได้จ�ำนวนหนึง่ ปลายตาของกิง่ แก้วสัมผัสเข้ากับชายผ้าเหลือง
ทีถ่ กู สายลมกระพือพัดอยูไ่ หวๆ เมือ่ หันไปดูจงึ พบพระภิกษุรปู ร่างสูงโปร่งคุน้ ตาเดิน
เนิบช้ามาพร้อมกับกวิน ที่ตอนนี้กลายเป็นเด็กวัดโดยสมบูรณ์ หลังจากแม่ของเธอ
ได้ฝากฝังไว้กบั หลวงลุงซึง่ เป็นพีช่ ายแท้ๆ ของพ่อ เพือ่ ให้ชว่ ยขัดเกลาความเป็นทโมน
ที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็กให้ลดน้อยลง
กิ่งแก้ววางมือจากงานตรงหน้า แล้วจึงหยิบถาดใส่อาหารที่เตรียมไว้ใส่
บาตรเดินไปนั่งคุกเข่าที่หน้าร้าน หลังใส่บาตรเสร็จแล้ว หลวงลุงกล่าวบทสวดสั้นๆ
เป็นการให้พรเหมือนอย่างเคย น�้ำเสียงของท่านดูอบอุ่นมีเมตตา แม้ว่าตอนเป็น
ฆราวาสท่านจะคนเป็นอีกแบบ ทีแ่ ตกต่างไปจากตอนนีโ้ ดยสิน้ เชิง แต่เมือ่ เปลีย่ นวิถี
มาครองผ้าเหลือง ได้เรียนรูซ้ มึ ซับในหลักธรรมค�ำสอน หลวงลุงกลายเป็นคนใจเย็น
ลงอย่างที่หลายคนคิดไม่ถึง
แม่เคยเล่าให้กงิ่ แก้วฟังว่า ในอดีตหลวงลุงเป็นนักศึกษาหัวรุนแรง เทิดทูน
อุดมการณ์เหนือสิง่ อืน่ ใด ก่อนจะกลายมาเป็นนักเคลือ่ นไหวตัวยง ทีร่ วบรวมสมัคร
พรรคพวกเรียกร้องในสิ่งซึ่งเป็นประโยชน์ต่อคนในวงกว้างแล้วประสบผลส�ำเร็จ
เสมอ จนเมื่อเรียนจบกลับมาอยู่บ้านเกิด หลวงลุงจึงกลายเป็นผู้น�ำชุมชนโดยไม่มี
ต�ำแหน่งใดๆ ห้อยท้าย ความยอมรับนับถือเกิดจากการอุทิศตนช่วยเหลือชาวบ้าน
ทีป่ ระสบความเดือดร้อน ทีเ่ ห็นได้ชดั เจนทีส่ ดุ คือการอาสาเป็นแกนน�ำ เข้าร่วมชุมนุม
กับชาวสวนยางในจังหวัดใกล้เคียง เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขราคายางตกต�่ำ โดยมี
พ่อของเธอปักหลักอยูเ่ คียงข้าง ทว่าการชุมนุมในครัง้ นัน้ นอกจากราคายางไม่ดขี นึ้
ดังหวังแล้ว หลวงลุงยังสูญเสียน้องชายคนเดียวที่แสนรักยิ่งไปตลอดกาล
กิ่งแก้วพอจะจ�ำเหตุการณ์ได้เลาๆ ในวันที่พ่อเสียชีวิต มัจจุราชซึ่งบัดนี้ยัง
หาตัวไม่พบแฝงตัวมาตอนเช้ามืด ขณะทีพ่ อ่ ของเธอลุกออกไปดูไก่ทเี่ ลีย้ งไว้หลังบ้าน

สถาบันพระปกเกล้า 41

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 41 21/3/2561 BE 10:00


เหตุจากพวกมันส่งเสียงกระต๊ากแข่งกันราวกับตื่นกลัวอะไรสักอย่าง งูเหลือมที่เคย
ปรากฏตัวก่อนหน้านี้ทำ� ให้พ่อมิอาจวางใจ ไม่กี่นาทีต่อมาแม่ก็ลุกตามพ่อไป ไม่ทัน
ก้าวถึงเล้าไก่ก็เกิดเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด มันเป็นเวลาเดียวกับที่หลวงลุงถลาออก
จากห้องนอนด้วยความรูส้ กึ สังหรณ์ใจบางอย่าง หลังพบร่างก�ำย�ำอาบเลือดนอนแน่
นิง่ ไม่ไหวติง แกนน�ำคนส�ำคัญรูไ้ ด้ทนั ทีวา่ เพราะรูปร่างหน้าตาทีค่ ล้ายกันนัน่ เป็นแน่
ที่ท�ำให้น้องชายต้องมารับเคราะห์แทนตน
หลวงลุงตกอยูใ่ นความเศร้าโศกไม่พดู ไม่จากับใครอยูห่ ลายวัน ก�ำลังส�ำคัญ
ของครอบครัวขาดหายไปหนึ่งโดยอ�ำนาจมืด ความรู้สึกผิดที่ชักชวนพ่อของกิ่งแก้ว
เข้าร่วมชุมนุมจนตกเป็นเป้า ท�ำให้หลวงลุงวางมือจากทุกอย่าง ก่อนตัดสินใจบวช
อุทศิ ส่วนกุศลให้นอ้ งชายโดยไม่คดิ สึก ถึงแม้จะเป็นพระอย่างสมบูรณ์แล้วก็ตาม แต่
ปณิธานของหลวงลุงไม่เคยเปลีย่ น ท่านยังคงท�ำประโยชน์ให้แก่สว่ นรวมเท่าทีค่ วาม
เป็นสงฆ์จะอ�ำนวย กระทั่งได้รับการเรียกขานว่า ‘พระนักพัฒนา’ มาจนถึงวันนี้
“อีกสามวันก็จะถึงวันถวายดอกไม้จันทน์ อาตมาเห็นโยมจิตไปช่วยเก็บ
ล้างครัวตัง้ แต่ฟา้ ยังไม่สว่าง คนหนุม่ สาวบ้านเราติดงานประจ�ำกันเสียมาก จิตอาสา
ส่วนใหญ่เลยมีแต่พวกสูงอายุ ถ้าโยมพอจะมีเวลาว่าง แวะไปช่วยงานที่วัดบ้างนะ
โยม”
หลวงลุงเอ่ยขึน้ หลังสวดให้พรจบลง ปกติแล้วท่านไม่คอ่ ยจะพูดอะไรยาวๆ
กับกิ่งแก้วนัก นอกจากเรื่องที่ส�ำคัญจริงๆ หญิงสาวรู้ข่าวนี้มาร่วมเดือนแล้ว ว่าวัด
ดอนโพธิซ์ งึ่ มีพนื้ ทีก่ ว้างขวางร่มรืน่ ถูกจัดให้เป็นสถานทีถ่ วายดอกไม้จนั ทน์ในหลวง
รัชกาลที่ ๙ ชาวบ้านที่สะดวกในการเป็นจิตอาสาจึงไปลงชื่อที่อ�ำเภอ เพื่อลงพื้นที่
ในการท�ำหน้าที่ต่างๆ อย่างเช่นงานดอกไม้จันทน์ งานโยธา งานจราจร งานบริการ
ประชาชน ฯลฯ โดยเย็นจิตเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
“แม่บอกหนูแล้วค่ะหลวงลุง แกน่าจะเดินลัดออกทางหลังบ้าน เพราะหนู
ไม่ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์ ถ้าว่างหนูจะไปช่วยแล้วกันนะคะ”
กิง่ แก้วทิง้ ท้ายแบบไม่มนั่ ใจนัก เธอไม่ได้เข้าสังคมมานาน หมกตัวอยูแ่ ต่ใน
สังคมเล็กๆ กับลูกค้าที่คุ้นหน้าไม่กี่ครัวเรือน หากต้องไปอยู่ท่ามกลางคนหมู่มาก

42 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 42 21/3/2561 BE 10:00


หญิงสาวไม่รู้ว่าเธอจะทนต่อสายตาของพวก ขี้สงสัย ว่าท�ำไมเธอต้องคาดหน้ากาก
อนามัยปิดบังใบหน้าอยู่ตลอดเวลานั่นได้หรือเปล่า

๓.
เย็นจิตรูส้ กึ ขุน่ เคืองลูกสาวอยูเ่ หมือนกัน ในตอนทีช่ วนกิง่ แก้วไปสมัครเป็น
จิตอาสาแล้วเธอไม่ให้ความสนใจ แม้จะย�้ำว่าจิตอาสาทุกคนจะได้รับสิ่งของ
พระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ มาไว้เป็นมงคลกับตัว แต่มันก็ไม่ได้ท�ำให้
กิ่งแก้วเปลี่ยนใจไปจากเดิม ผิดกับกวินที่กระตือรือร้น พาเย็นจิตซ้อนมอเตอร์ไซค์
ไปลงชื่อที่อ�ำเภอพร้อมกับสมัครเป็นจิตอาสา โดยที่แม่ไม่ต้องอ้อนวอนเลยสักค�ำ
“กิ่งต้องขายของ แม่ไปกับวินสองคนก็พอแล้ว”
เหตุผลทีก่ งิ่ แก้วบอกแม่ไปมีเท่านี้ แม้เย็นจิตจะบอกลูกสาวว่าว่างตอนไหน
ก็ให้ไปตอนนัน้ แต่อกี ฝ่ายก็ยงั นิง่ เฉย จนคนเป็นแม่ตอ้ งปล่อยเลยตามเลยด้วยความ
ระอา
ไม่ใช่กิ่งแก้วจะไม่รู้ว่าแม่โกรธ ตั้งแต่ถูกชักชวนแล้วเธอปฏิเสธ เย็นจิตพูด
กับเธอน้อยค�ำ เรื่องแบบนี้แม่ให้ความส�ำคัญแค่ไหนเธอรู้ดี แม้อายุจะปาไปห้าสิบ
กว่าแล้วก็ตาม ทว่าในเรือ่ งของความเป็นจิตอาสา เย็นจิตไม่เคยถอย คล้ายมันฝังอยู่
ในจิตวิญญาณของหญิงสูงวัยไปแล้ว ตัง้ แต่กงิ่ แก้วจ�ำความได้ เธอเห็นแม่ทำ� เพือ่ ส่วน
รวมมานับครัง้ ไม่ถว้ น งานบุญ-งานกุศลอย่าให้ได้รขู้ า่ ว เย็นจิตจะเร่งงานของตัวเอง
จนเสร็จสิ้น แล้วรีบดิ่งไปช่วยทันที
ชัดเจนทีส่ ดุ ก็เมือ่ ช่วงต้นปีทผี่ า่ นมา เกิดวิกฤติปริมาณน�ำ้ ล้นเขือ่ น หลังฝน
ตกกระหน�่ำต่อเนื่องยาวนานนับสัปดาห์ ผสมผสานกับน�้ำป่าไหลหลาก จนท�ำให้
บ้านเรือนซึ่งอยู่ใกล้ทางน�้ำผ่านได้รับความเดือดร้อนจากการถูกสายน�้ำที่มีความ
รุนแรงโถมซัดข้าวของพังเสียหาย แม้ทางการจะประกาศเตือนให้ระวังภัย ชาวบ้าน
พากันยกของขึน้ ทีส่ งู เพือ่ หนีน�้ำแล้วก็ตาม แต่นำ�้ ทีค่ ดิ ว่ามาเต็มทีเ่ พียงหัวเข่ากลับสูง
เลยหัว โชคดีที่บ้านของกิ่งแก้วอยู่ห่างจากจุดนั้นหลายกิโลเมตร ไม่อย่างนั้น
ครอบครัวของเธอเองก็คงไม่พ้นสิ่งที่เรียกว่าภัยพิบัติ

สถาบันพระปกเกล้า 43

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 43 21/3/2561 BE 10:00


พวกชาวบ้ า นที่ พ าตั ว เองรอดจากสายน�้ ำ อั น หฤโหดเล่ า ว่ า ก่ อ นเกิ ด
เหตุการณ์อนั น่าสะพรึง ช่วงเย็นของวันนัน้ ไฟฟ้าเกิดดับพรึบเป็นลางน�ำมาก่อน แล้ว
ไม่กนี่ าทีตอ่ มา มวลน�ำ้ สีนำ�้ ตาลขุน่ ทีถ่ าโถมเข้ามาในปริมาณมากก็พดั พาสิง่ ต่างๆ ซึง่
ทนแรงดันน�ำ้ ไม่ไหวหายไปในพริบตา พวกเขาไม่อาจคว้าสิง่ ใดไว้ได้นอกจากเอาชีวติ
ตัวเองให้รอด บ้างปีนขึ้นไปบนขื่อ บ้างไต่ขึ้นไปอยู่บนหลังคา อกสั่นขวัญแขวนกับ
เหตุการณ์ข้างหน้าที่ไม่อาจคาดเดา
หลังความมืดมิดเข้าโอบล้อม พวกเขาจึงไม่ต่างจากคนตาบอดที่จ� ำต้อง
อาศัยอยูบ่ นนัน้ ทนทรมานกับการถูกฝูงยุงรุมสูบเลือดไม่ปรานี โทรศัพท์มอื ถือไม่มี
ประโยชน์อะไรเพราะเสาสัญญาณหักโค่น ราวสี่-ห้าชั่วโมงผ่านไปแล้วนั่นเอง ถึงได้
รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการในพืน้ ที่ น�ำเรือไปรับผูป้ ระสบภัยไปไว้ทวี่ ดั
อันเป็นที่พ�ำนักชั่วคราว
วัดดอนโพธิ์ก็เป็นหนึ่งในสถานที่พักพิงครั้งนั้น แม้ชาวบ้านจะหนีตายมา
ได้แล้ว แต่พวกเขาก็ตอ้ งประสบกับความอดอยากหิวโหย เพราะร้านค้าส่วนใหญ่ไม่
อาจรอดพ้นจากภัยธรรมชาติ ข้าวของพังเสียหายจนไม่เหลืออะไรให้ชาวบ้านจับ
จ่ายประทังชีวติ ถนนในชุมชนหลายเส้นถูกสายน�้ำตัดขาด ชาวบ้านเหมือนติดเกาะ
รถยนต์ทั่วไปไม่สามารถวิ่งได้เพราะอาจเกิดอันตราย หากจะสัญจรต้องใช้เรือหรือ
รถของทหารเท่านั้น นั่นจึงเป็นหน้าที่ของหลายหน่วยงานที่ต้องระดมก�ำลังเข้ามา
ช่วยเหลือ รวมถึงบรรดาจิตอาสา ที่บ้านของตนรอดพ้นจากสายน�ำ้ อันบ้าคลั่ง เข้า
ร่วมลงแรงท�ำทุกอย่างเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้
เว้นแต่เพียงกิ่งแก้วคนเดียวที่นิ่งดูดายจนถูกมารดาดุไปหลายค�ำ เย็นจิต
ทิ้งประโยคที่ทิ่มแทงใจให้เธอต้องจดจ�ำว่า “ความสุขของกิ่งอาจอยู่ที่ขายของหมด
ทุกวันแล้วได้ยอดเงินตามทีห่ วัง แต่ความสุขของแม่คอื ได้ทำ� ประโยชน์ให้คนอืน่ ท�ำ
แทนพ่อของกิง่ ทีไ่ ม่มโี อกาสได้ทำ� เรามันพวกรากหญ้า ชีวติ จะมีคณ ุ ค่าขึน้ ก็จากการ
ได้ทำ� อะไรให้สังคมบ้างนี่ล่ะ”
กิ่งแก้วนั่งฟังนิ่ง ไม่ตอบอะไร และไม่เปลี่ยนใจ ไม่ใช่เพราะเธอเห็นแก่ตัว
แต่โลกที่โหดร้ายนั่นต่างหากที่ท�ำให้เธอกลายเป็นคนแปลกแยกเช่นนี้ หญิงสาว

44 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 44 21/3/2561 BE 10:00


ยึดติดอยูก่ บั ปมด้อยของตัวเองอย่างไม่อาจสลัดพ้น แผลเป็นบนใบหน้าท�ำให้เธอ
ไม่อยากออกไปพบปะกับผู้คนมากหน้าหลายตาด้วยเหตุผลเดิมๆ จึงได้แต่เก็บ
ตัวเงียบอยู่ในบ้าน ขณะที่ร้านข้าวแกงเองก็ไม่ได้เปิด เพราะเย็นจิตน�ำวัตถุดิบที่
มีอยู่ทั้งหมดไปท�ำเป็นอาหารกล่องแจกผู้ประสบภัยจนไม่มีอะไรเหลือแม้แต่ไข่
สักใบ

๔.
กิง่ แก้วเก็บภาชนะทีล่ า้ งไว้คว�ำ่ คืนทีเ่ รียบร้อยแล้ว ตอนทีก่ วินในชุดนักเรียน
มอปลายก้าวฉับๆ มาทิ้งตัวลงบนแคร่นั่งเล่นที่มีไว้ส�ำหรับคนในครอบครัว
“เลิกเรียนแล้วเหรอเอ็ง แล้วนี่มาบ้านท�ำไม ท�ำไมไม่ไปอยู่รับใช้หลวงลุง”
กิ่งแก้วปรายตามองน้องชายที่มาพร้อมกระเป๋า รองเท้านักเรียนเต็มยศ
นั่นแสดงว่าพอออกจากโรงเรียนแล้วกวินก็ตรงมาที่นี่
“มาดูพี่กิ่งน่ะสิ” กวินเอ่ยพร้อมกับท�ำหน้าเนือย
“ดูทำ� ไม ไม่เคยเห็นข้าหรือไง”
กิ่งแก้วตอบยียวน เพราะรู้ดีว่าน้องชายจะพาวกเข้าเรื่องที่หลวงลุงพูดไว้
เมื่อเช้า
“เมื่อไหร่พี่กิ่งจะเลิกท�ำตัวเป็นแกะด�ำเสียที ใครๆ ก็รู้ว่าที่หน้าพี่เป็นแบบ
นี้เพราะอะไร ไม่มีใครสนใจจะเอามาล้อพี่หรอก ไม่ใช่เด็กๆ โตจนป่านนี้แล้ว พี่จะ
อยู่แต่ในเพิงแบบนี้อีกนานเท่าไหร่ หัดออกไปพบปะผู้คนกับเขาบ้างสิพี่”
กวินเอ่ยอย่างหวังดี เขาไม่อยากให้กงิ่ แก้วต้องขังตัวเองไว้แต่ในพืน้ ทีเ่ พียง
ไม่กเี่ มตรไปจนตาย เมือ่ เห็นพีส่ าวท�ำทีเป็นเช็ดโต๊ะง่วน ไม่ตอบอะไรกลับมา กวินจึง
พูดต่อ
“พี่ดูพี่ค่อมสิ ทั้งหน้าตาผิดชาวบ้านชาวเมือง ทั้งหลังค่อม พ่อแม่เป็นใคร
ก็ไม่รู้ ไม่เห็นแกจะคิดมากอะไร ใครอยากล้ออะไรแกก็ไม่สน แกว่าเดี๋ยวคนล้อมันก็
เบื่อไปเอง แล้วแกก็ไปไหนมาไหนได้เหมือนคนอื่นๆ ไม่เห็นจะพะวงกับหน้าตา กับ
หลังที่ค่อมของแกเลย”

สถาบันพระปกเกล้า 45

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 45 21/3/2561 BE 10:00


กวินหมายถึง ‘ค่อม’ อดีตเด็กชายจรจัดทีไ่ ม่มใี ครรูว้ า่ เขาพลัดหลงมาอาศัย
อยู่ในวัดดอนโพธิ์ตั้งแต่ราวๆ ยี่สิบปีก่อนได้อย่างไร ค่อมเป็นชายรูปร่างเตี้ยม่อต้อ
ผิวสีคล�ำ้ เข้มดังสีของกาแฟ หน้าตาไม่เหมือนคนปกติ ปลายจมูกทีค่ ล้ายงวงช้างของ
เขายาวลงมาจดริมฝีปากบน ในขณะทีก่ ลางแผ่นหลังมีกอ้ นกระดูกปูดโปนจนกลาย
เป็นที่มาของชื่อเรียก ไม่ว่าร่างกายของค่อมจะผิดเพี้ยนไปจากคนอื่นอย่างไร แต่
ค่อมกลับมีคณ ุ สมบัตขิ องคนดีครบถ้วน นอกจากเป็นคนขยัน เก็บกวาดวัดจนสะอาด
เอีย่ มอยูเ่ ป็นนิจแล้ว ค่อมยังชอบให้ความช่วยเหลือผูอ้ นื่ พูดจาไพเราะน่าฟัง จนเป็น
ที่รักของชาวบ้านละแวกนี้
“ก็นั่นมันไอ้ค่อม ไม่ใช่ข้า”
กิง่ แก้วตอบกลับเสียงเขียว ร�ำคาญน้องชายผูม้ คี วามคิดโตเกินไวทีข่ ยันมา
สั่งสอน กวินเห็นอีกฝ่ายไม่คล้อยตามจึงเปลี่ยนเรื่อง
“เมื่อเช้าพี่ก็ได้ยินที่หลวงลุงพูดแล้ว ที่วัดเขายังต้องการจิตอาสาอีกมาก
หนุ่มสาวแรงดีๆ ท�ำงานเก่งๆ อย่างพี่กิ่งเนี่ย ไม่รู้ไปไหนกันหมด เหลือแต่คนแก่ๆ
ลุกก็โอย นั่งก็โอย ถึงใจเกินร้อยแต่สังขารไม่ไหว งานมันก็ไม่คืบเอานาพี่กิ่งนา”
กวินเสียงอ่อน แกล้งเยินยอพี่สาวเผื่อเธอจะเปลี่ยนใจ
“แล้วเอ็งจะมาบอกข้าท�ำไม ข้าไม่ได้วา่ งเหมือนคนอืน่ ข้าต้องท�ำมาหากิน
เอ็งไม่เห็นหรือไง แล้วการทีแ่ ม่ไปช่วยวัดเนีย่ ข้าก็ตอ้ งท�ำงานอยูค่ นเดียว มันก็ชดเชย
กันแล้วนี่”
ขอบตาของกิ่งแก้วเริ่มร้อนผ่าวด้วยความรู้สึกน้อยใจ ท�ำไมไม่มีใครเข้าใจ
เธอเลยสักคน
“พีก่ งิ่ นีเ่ ข้าใจอะไรย๊ากยาก” กวินลากเสียงยาว ก่อนพูดต่อ “เรือ่ งส่วนตัว
กับเรื่องส่วนรวม พี่ยังแยกไม่ออกอีก เฮ้อ...ไปดีกว่า เสียเวลาชะมัด”
ค�ำพูดของกวินไม่เพียงท�ำให้กิ่งแก้วชาที่ใบหน้า แต่มันสะเทือนไปถึงข้าง
ใน เด็กหนุม่ ท�ำหน้านิว่ ลุกพรวดพราด ก่อนจะคว้ากระเป๋านักเรียนแล้วเดินฉับๆ โดย
ไม่คิดจะหันกลับมามองสีหน้าอันหม่นหมองของพี่สาว

46 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 46 21/3/2561 BE 10:00


๕.
เวลาล่วงเลยจนกระทั่งบ่ายสามโมงกว่าแล้ว แต่เย็นจิตก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะ
กลับจากวัด กิง่ แก้วจึงจ�ำเป็นต้องไปตลาดเองก่อนไม่มอี ะไรให้จบั จ่าย ทัง้ ทีไ่ ม่อยาก
จะก้าวพ้นบริเวณบ้านเลย โดยปกติแล้วระหว่างเย็นจิตกับเธอมีการแบ่งหน้าที่กัน
ชัดเจน แม่ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ในการเลือกวัตถุดิบมากกว่าจะช่วยไปจ่ายตลาด
ให้ในช่วงบ่ายสองโมง ขณะทีเ่ ธอก�ำลังทยอยเก็บร้าน ล้างถ้วยชามรามไหเสร็จหญิง
สาวจะเข้าบ้านไปเอนหลังเพือ่ เรียกแรงกลับคืนมาสักงีบ แล้วจึงลุกออกมาตระเตรียม
วัตถุดิบต่างๆ ที่จะใช้แกงในตอนเช้ามืด โดยมีแม่คอยเป็นลูกมือ กิจวัตรประจ�ำวัน
ของหญิงสาววนเวียนอยู่เท่านี้
กิง่ แก้วจ�ำเป็นทีจ่ ะต้องสตาร์ตมอเตอร์ไซค์พว่ งข้างออกจากบ้านก่อนตลาด
วาย โดยไม่ลมื สวมหมวกทีเ่ จาะช่องโหว่ไว้แค่ลกู ตาอย่างชาวสวนชอบใช้กนั เพือ่ คลุม
ใบหน้าให้มดิ ชิด แม้จะรูส้ กึ อึดอัดอยูบ่ า้ งแต่มนั ก็เป็นสิง่ เดียวทีช่ ว่ ยท�ำให้เธอมีความ
มั่นใจขึ้น
ระหว่างทางหญิงสาวพบว่าบ้านเรือนทีก่ ระจายตัวกันอยูส่ องฟากถนนปิด
ประตูเงียบเชียบ สมาชิกในบ้านคงไปเป็นจิตอาสาช่วยงานอยูท่ วี่ ดั กันหมด นึกถึงสิง่
ทีก่ วินพูดเมือ่ ชัว่ โมงก่อนแล้วกิง่ แก้วอดไม่ได้ทจี่ ะถอนหายใจ พร้อมกับภาพของชาย
หนุ่มชื่อค่อมปรากฏขึ้นในความคิด เธอไม่รู้ว่าค่อมท�ำได้อย่างไร กับการไม่ใส่ใจใน
ปมด้อยของตัวเอง อดทนต่อสายตาทุกคู่ที่มองมาราวกับว่าเขาเป็นตัวประหลาดที่
ผุดมาจากโลกอื่น นั่นเป็นสิ่งที่กิ่งแก้วรู้สึกสงสัยเหลือเกิน
แล้วความสงสัยของกิ่งแก้วก็ได้รับค�ำตอบจากค่อม โดยที่เธอเองไม่คิดว่า
จะได้พบเขาตรงทางเข้าตลาด ดูเหมือนมอเตอร์ไซค์ที่ค่อมขี่มาจะมีปัญหา กิ่งแก้ว
เห็นเขาสตาร์ตมันอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่ติด หลังลอบสังเกตการณ์อยู่อีกฝั่งถนนครู่
หนึ่ง เธอจึงเคลื่อนรถเข้าไปสอบถาม
“รถเป็นอะไรล่ะค่อม”

สถาบันพระปกเกล้า 47

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 47 21/3/2561 BE 10:00


เพราะกิง่ แก้วใช้หมวกปิดบังหน้าตา ค่อมจึงไม่รวู้ า่ เธอเป็นใคร เมือ่ เห็น
เขามีสีหน้าสงสัย หญิงสาวจึงบอกไปว่าเธอเป็นพี่สาวของกวิน เพียงแค่นั้นค่อม
ก็ร้องอ๋อ เพราะนอกจากสนิทกับกวินแล้ว ค่อมยังเคยไปซื้อแกงที่ร้านของ
กิ่งแก้วอยู่หลายครั้ง
“หลวงพ่อให้มาซื้อไม้กวาดเพิ่ม” ค่อมตอบ พลางเบนสายตาไปที่กอง
ไม้กวาดทางมะพร้าวซึง่ กองสุมกันอยูก่ บั พืน้ ก่อนจะพูดต่อ “ตอนขีม่ าก็ดๆี อยู่ ท�ำไม
พอจะกลับสตาร์ตไม่ติดซะก็ไม่รู้”
“รถเก่ามากแล้วก็แบบนี้ล่ะ มาๆ ยกมาขึ้นซาเล้งนี่ เดี๋ยวเราไปส่งเอง”
“เสียเวลาเธอเปล่าๆ มาซือ้ ของไม่ใช่เหรอ” ค่อมตอบด้วยความรูส้ กึ เกรงใจ
“ฮื้อ นิดหน่อยเอง ไม่เสียเวลาเท่าไหร่หรอก”
กิง่ แก้วพูดแค่นนั้ ก่อนกุลกี จุ อลงจากมอเตอร์ไซค์พว่ งข้าง แล้วไปช่วยค่อม
ยกมอเตอร์ไซค์ของเขาพร้อมกับไม้กวาดขึน้ มา เพราะต่างฝ่ายต่างก็ไม่มเี ชือกติดรถ
มาด้วย ค่อมจึงต้องนัง่ คร่อมอยูบ่ นรถของตน ก่อนหันมาพยักหน้าให้กงิ่ แก้วเป็นเชิง
บอกว่าเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวจึงเบนหัวรถกลับเพื่อตรงไปที่วัดโดยใช้ความเร็ว
ไม่มากนัก ระหว่างทางนั้นเอง ที่ค่อมเอ่ยถามในสิ่งที่กิ่งแก้วไม่คาดคิด
“ไม่มาช่วยงานที่วัดบ้างเหรอ”
“เราไม่ว่าง” กิ่งแก้วตอบสั้นๆ
“คนที่มาช่วยหลายๆ คนเขาก็ไม่ว่างกันหรอก แต่เขาอยากมา” ค่อมเอ่ย
เสียงเรียบ ก่อนว่า “เราว่าเธอออกมาเจอคนอื่นๆ บ้างก็ดีนะ”
“เจ้าวินบ่นเรื่องเราให้เธอฟังงั้นสิ” หญิงสาวแค่คาดเดา เพราะค�ำพูดของ
ค่อมไม่ได้ต่างจากน้องชาย เขาอาจรู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงไม่อยากเข้าสังคม
“อย่าไปสนใจค�ำคน หมั่นท�ำความดีเข้าไว้ แล้วความดีจะปกป้องเธอเอง”
แม้จะเป็นประโยคสั้นๆ แต่มันกลับกินใจ จนกิ่งแก้วถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ
“เราอยากท�ำได้แบบเธอเหมือนกัน ไม่ต้องสนใจใคร” กิ่งแก้วเกือบจะพูด

48 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 48 21/3/2561 BE 10:00


ต่อว่า “ทั้งที่เธอเป็นแบบนี้” แต่เลือกที่จะหยุดค�ำพูดของตัวเองไว้แค่นั้น ไม่อยาก
ให้ค่อมรู้สึกสะเทือนใจ หากเอ่ยถึงปมด้อยของเขา
“เราข้ามพ้นจุดนั้นมานานแล้ว” ค่อมหยุดระบายลมหายใจเบาบาง แล้ว
จึงพูดต่อ “ไม่มีใครสนใจปมด้อยของเราหรอก เขาสนใจสิ่งที่เราท�ำมากกว่า”
กิง่ แก้วเผลอพยักหน้าเห็นด้วย ดูเหมือนในหลายปีทผี่ า่ นมา เรือ่ งของค่อม
ทีผ่ า่ นหู ส่วนใหญ่แล้วเป็นการกระท�ำความดีของเขาในแง่มมุ ต่างๆ โดยไม่หวังอะไร
ตอบแทน แม้คอ่ มจะพลัดหลงมาจากทีอ่ นื่ แต่เขากลับท�ำให้ชาวดอนโพธิร์ กั เขาจาก
สิ่งที่เขาท�ำ นาทีนั้น กิ่งแก้วย้อนมองตัวเองจากข้างใน ชีวิตที่ผ่านมา เธอท�ำอะไร
เพื่อใครบ้างหรือยัง?
แล้วเสียงของแม่ก็ดังขึ้นในหัว “เรามันพวกรากหญ้า ชีวิตจะมีคุณค่าขึ้นก็
จากการได้ท�ำอะไรให้สังคมบ้างนี่ล่ะ”
เสียงนัน้ ท�ำให้กงิ่ แก้วน�ำ้ ตารืน้ โดยทีค่ อ่ มเองไม่ทนั สังเกต ขณะรถเลีย้ วหัว
เข้าไปในวัดที่มีชาวบ้านช่วยกันคนละไม้คนละมือ ถางหญ้า ฟันวัชพืช ขุดรอกทาง
น�ำ้ ทีร่ กเรือ้ เก็บกวาดใบไม้ ท�ำความสะอาดรอบพระอุโบสถซึง่ ใช้เป็นจุดถวายดอกไม้
จันทน์ ส่วนอีกกลุ่มที่อยู่ในครัว ก�ำลังลงมือท�ำอาหารมื้อเย็นให้กับบรรดาจิตอาสา
กิง่ แก้วน�ำรถไปจอดหลบแสงแดดใต้ชายคาศาลาหลังใหญ่ ถอดหมวกออก
ระบายความอบอ้าว แต่เพราะไม่ชินกับใบหน้าเปลือยเปล่าขณะอยู่ในกลุ่มคน เธอ
จึงน�ำหน้ากากอนามัยมาคาดทับ ค่อมเอ่ยขอบคุณพร้อมรีบน�ำมอเตอร์ไซค์ของตน
กับไม้กวาดลงจากรถ เพราะคิดว่ากิ่งแก้วคงต้องรีบย้อนกลับไปซื้อของที่ตลาด
หากแต่ค่อมคิดผิด หญิงสาวยื่นมือมาขอไม้กวาดอันหนึ่งก�ำไว้แน่นพร้อม
ส่งยิ้มกว้าง โดยไม่ต้องมีค�ำพูดแต่ค่อมก็เข้าใจได้ทันที เขาสบตากิ่งแก้วอย่างจงใจ
แล้วยกแขนขวาขึ้นตั้งศอก ในความหมายที่บอกอีกฝ่ายว่า “สู้ๆ ”
เย็นจิตซึ่งก�ำลังง่วนอยู่ในครัว ถูกเพื่อนบ้านสะกิดให้หันมองสองหนุ่มสาว
ที่ยืนห่างออกไปไม่ถึงสิบเมตร คนเป็นแม่นึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อยที่ลูกสาวมา

สถาบันพระปกเกล้า 49

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 49 21/3/2561 BE 10:00


ปรากฏตัวที่นี่ แถมยังมีไม้กวาดที่ขอแบ่งมาจากค่อมในมือ ก่อนเดินฉับๆ เข้าไป
สมทบกับชาวบ้าน ที่กระจายตัวเก็บกวาดใบไม้แห้งอยู่รอบๆ บริเวณวัด
เย็นจิตท�ำงานของตัวเองต่อพร้อมรอยยิม้ ทีพ่ ร่างพราวบนใบหน้า ไม่เพียง
ดีใจที่ลูกสาวมาช่วยลงแรงในการเป็นจิตอาสา แต่การที่กิ่งแก้วหลุดพ้นกรอบกรงที่
กักขังตัวเองไว้ แล้วออกมาพบโลกกว้างนั่นย่อมเป็นนิมิตหมายที่ดียิ่งกว่า
สักวันหนึง่ กิง่ แก้วจะรับรูไ้ ด้เอง ว่าแผลเป็นบนใบหน้าไม่อาจท�ำร้ายเธอ
ได้อีก ความดีที่สั่งสมไว้จะช่วยลบล้างสิ่งที่เธอคิดเอาเองว่ามันคือปมด้อยให้
เลือนหาย.

กฤติธ์ศิลป์ ศักดิ์ศิริ
จบปริญญาตรีคณะ
ศิลปศาสตร์ เขียนหนังสือมาหลายแนว
เรื่องสั้นผ่านเวทีประกวดมาหลายแห่ง
ต้นปี ๒๕๖๐ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ
เรื่องสั้นรางวัลกนกพงศ์ สงสมพันธุ์ ,
ปลายปีได้รับรางวัลรองชนะเลิศเรื่อง
สั้นรางวัลพานแว่นฟ้า

50 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 50 21/3/2561 BE 10:00


รูเล็กข้างรั้ว
จันทรา รัศมีทอง

“ โอ๊ยยยย.....เจ็บปวดเหลือเกินแล้ว คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกด้วย”
เสียงคร�ำ่ ครวญของยายพร หญิงชราวัยเจ็ดสิบหกปี ดังข้ามรัว้ มาบ่อยๆ แต่
วันนีเ้ สียงนัน้ โหยหวนราวกับโดนไฟช็อต รบกวนการเล่นเฟซบุก๊ ของผม จนต้องวาง
โทรศัพท์มอื ถือ ลุกจากม้าหินริมรัว้ เพือ่ ไปดูเหตุการณ์เยีย่ งพลเมืองดี ตามทีแ่ ม่พร�่ำ
สอนนักหนา แม้ว่าเมื่อเก้าปีก่อน เราต้องสูญเสียพ่อไปเพราะความเป็นพลเมืองดี
ก็ ต าม แต่ แ ม่ ก็ ไ ม่ ย อมให้ เ หตุ ร ้ า ยในอดี ต เข้ า มากุ ม บั ง เหี ย นการด� ำ รงชี วิ ต ใน
ปัจจุบัน
ผมจ�ำได้แม่นย�ำว่าวันนั้นเป็นวันเกิดพ่อ พวกเราจึงชวนกันไปตลาดใกล้
หมูบ่ า้ น เพือ่ หาซือ้ ของสดของแห้งมาท�ำอาหารเลีย้ งญาติมติ ร พอซือ้ เสร็จ เราก็ชว่ ย
กันหิ้วข้าวของพะรุงพะรังมาเก็บที่รถ ระหว่างนั้นมีเด็กวัยรุ่นรูปร่างสูงโปร่งวิ่งตรง
มา ตามด้วยเสียงผู้หญิงตะโกนให้ช่วยจับคนร้ายกระชากกระเป๋า
ด้วยความที่ชอบช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากอยู่แล้ว พ่อผมซึ่งเป็นคนตัว
ใหญ่ จึงคิดว่าการต่อสูก้ นั ตัวต่อตัว น่าจะช่วงชิงกระเป๋ามาคืนให้หญิงผูเ้ คราะห์รา้ ย
ได้ แต่ไอ้โจรถ่อยไม่คดิ จะเล่นตามกฎกติกา อย่างทีพ่ อ่ คาดหวัง มันชักปืนออกมายิง
ทะลุต้นแขนพ่อจนเลือดไหลอาบ

สถาบันพระปกเกล้า 51

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 51 21/3/2561 BE 10:00


52 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 52 21/3/2561 BE 10:00


แม่ตกใจต่อเหตุการณ์ทเี่ กิดขึน้ อย่างฉับพลัน จึงรีบดึงร่างสัน่ เทาของผมไป
หลบข้างหลังอย่างปกป้อง ส่วนคนร้ายแทนที่จะรีบหนีไป มันกลับส่ายปืนไปมา
ราวกับคนเสียสติ พ่อเกรงว่าลูกเมียจะพลอยโดนลูกหลงไปด้วย จึงยอมคุกเข่าร้องขอ
ชีวิต แต่ไอ้โจรบ้าเลือดยังกระหน�ำ่ ยิงพ่ออีกสามนัด กว่าต�ำรวจจะมาระงับเหตุ พ่อ
ก็อาการสาหัสแล้ว วันต่อมาพ่อเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ผมกับแม่กอดคอกันร้องไห้
จนแทบไม่มีน�้ำตาจะไหล
ภาพความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในครอบครัว ผลักผมให้ดิ่งลึกลงไปในความ
เคียดแค้นอยูห่ ลายปี ได้ขา่ วว่าไอ้ระย�ำนัน่ ติดคุกแค่เจ็ดปีกอ็ อกมาเดินลอยนวล ขณะ
ทีผ่ มกับแม่จะไม่ได้เห็นหน้าพ่ออีกชัว่ ชีวติ เพียงเพราะมันมีปนื อยูใ่ นมือ ชีวติ เราเลย
ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของมัน เราต้องเป็นฝ่ายร้องขอชีวิตตัวเอง แต่มันก็ยังกระชาก
วิญญาณพ่อไปจากร่างอย่างเหี้ยมโหด
ผมเคยปฏิญาณว่าจะไม่สอดเท้าเข้าไปช่วยเหลือใครอีก ใครจะเป็นใครจะ
ตาย ปล่อยให้เป็นภารกิจของยมบาล แต่แม่กลับคัดค้าน
“ให้คนร้ายพรากพ่อไปคนเดียวก็พอเถอะ อย่าให้มนั ฉกฉวยจิตส�ำนึกของ
เราไปด้วยเลย ไอ้สารเลวนั่นไม่มีสิทธิ์ชี้นำ� เราให้กลายเป็นคนใจด�ำนะลูก”
แม่ชอบอธิบายด้วยถ้อยค�ำที่ฟังยากๆ ส�ำหรับเด็กอายุสิบสองอย่างผม
“คนมีปืนอยู่ในมือ อย่าว่าแต่ชี้น�ำเลย มันสั่งให้เราเอาหัวมุดน�้ำเน่ายังได้
นะแม่” ผมโต้แย้งตามความเชื่อ
แต่ไหนแต่ไรมาแล้ว พ่อกับแม่ไม่เคยตีกรอบ ท่านยอมให้ผมแสดงความ
คิดเห็นเต็มที่ แต่ถ้าผมเลือกแนวทางสุดโต่งเกินไป พ่อกับแม่ก็จะยกเหตุผลขึ้นมา
หักล้าง ตอนนี้พ่อไม่อยู่แล้ว จึงเป็นหน้าที่ของแม่คนเดียว
“ถ้าวันหนึ่งแม่ตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายบ้าง ลูกจะอยากให้มีคนยื่น
มือมาช่วยมัย้ ล่ะ” แม่ยอ้ นถามพลางยิม้ บางๆ “บทเรียนจากพ่อ สอนให้เราต้องค�ำนึง
ถึงศักยภาพตัวเอง แต่ไม่ใช่เพิกเฉยไปทุกเรื่อง”
แต่ภาพทีพ่ อ่ ร้องขอชีวติ จากไอ้เวรนัน่ ยังติดตาต�ำใจ ผมจึงประกาศแตกหัก
กับคุณธรรมอยู่หลายปี ความดีเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมยอมท�ำเพื่อความสบายใจของแม่

สถาบันพระปกเกล้า 53

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 53 21/3/2561 BE 10:00


ก็อย่างเช่นหย่อนเหรียญลงกระป๋องให้ขอทาน หรือสอดธนบัตรสีเขียวลงในตู้ตาม
โรงพยาบาล ส่วนที่เหลือก็ตัวใครตัวมัน
ตอนเรียนอยูม่ ธั ยมปลาย เห็นเพือ่ นสนิทโดนรุน่ พีร่ มุ กระทืบ ผมยังเดินหนี
เฉยเลย กว่าจะมีคนวิ่งไปบอกอาจารย์ เพื่อนผมก็สะบักสะบอมแล้ว แต่มันดีกว่าที่
ผมจะเป็นฝ่ายบอบช�้ำเสียเอง ใช่ไหมล่ะ
หลายปีที่ผ่านมา แม่พร�่ำสอนผมอย่างอดทน พร้อมกับส่งเสียเลี้ยงดูด้วย
เงินเดือนสมุหบ์ ญ ั ชี ในบริษทั ส่งออกแห่งหนึง่ ตอนนีผ้ มเรียนอยูป่ สี ามแล้ว โตพอจะ
เข้าใจถ้อยค�ำยากๆ ทีแ่ ม่ยำ�้ เตือนเสมอมา ผมจึงยอมคืนดีกบั คุณธรรม ภายใต้ขอ้ แม้
ว่าผมจะต้องปลอดภัยก่อน
ดังนัน้ ในวันทีผ่ มกลับจากหอพักมานอนค้างทีบ่ า้ น การลุกไปดูวา่ เสียงร้อง
ของหญิงชรา สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดเหตุฆาตกรรมหรือไม่ จึงอยู่ในเงื่อนไขที่ไม่ก่อให้
เกิดอันตรายต่อผมเลยสักนิด วันนีแ้ ม่ออกไปเยีย่ มเพือ่ นตัง้ แต่เช้า ผมจึงไม่เหลือใคร
ให้เกี่ยงงอนอีก
บ้านผมทางฝั่งซ้ายอยู่ติดกับบ้านยายพร แนวรั้วก่อด้วยอิฐบล็อกแบบทึบ
แต่ยา่ ผมกับยายพร ซึง่ เป็นเพือ่ นกันมาตัง้ แต่สาวๆ สัง่ ให้ชา่ งตัดอิฐทีม่ คี วามสูงระดับ
สายตาออกครึ่งก้อน เกิดเป็นรูสี่เหลี่ยมเท่าฝ่ามือ เพื่อเป็นช่องทางส�ำหรับพูดคุยห
รือส่งของให้กัน โดยไม่ต้องเดินอ้อมไปนอกรั้ว พอย่าตาย ผมเลยลากกระถาง
ต้นโมกมาบังรูไว้ เพื่อความเป็นส่วนตัว เพราะบ้านหลังนั้นไม่มีสาวน้อยหน้าใส
ชวนให้ทอดทัศนาเลยสักคน
ยายพรมีลกู สามคน ลุงพจน์ลกู คนโตเป็นนายทหารยศพันเอก ป้าแพรวคน
รองได้สามีเป็นนักธุรกิจผู้มั่งคั่ง แม่บอกว่าสองพี่น้องส่งเงินมาให้ยายพรใช้จ่าย
ทุกเดือน บางวันก็ขับรถยนต์คันงามมาเยี่ยม พร้อมด้วยของกินของใช้เหลือเฟือ
ได้ยินทีไรผมนึกชื่นชมในความกตัญญูของพวกเขาทุกที
ส่วนป้าพิณวัยสี่สิบเจ็ดปีเป็นลูกคนเล็ก ย่าเคยเล่าให้ฟังว่า ป้าพิณขี้เกียจ
เรียนหนังสือตั้งแต่เด็กๆ พอจบประถมหกก็ไปเป็นลูกจ้างในร้านอาหาร ตอนเป็น
สาวรุน่ ๆ ก็เก็บเสือ้ ผ้าไปอยูก่ นิ กับช่างในอูซ่ อ่ มรถ ต่อมาได้เลือ่ นขึน้ เป็นผูช้ ว่ ยแม่ครัว

54 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 54 21/3/2561 BE 10:00


แล้วก็โดนผัวทิ้ง
หลังจากร้านอาหารปิดกิจการเมื่อแปดปีก่อน ผมก็ไม่เห็นป้าพิณท�ำงาน
อะไร นอกจากประพฤติตวั เป็นกาฝาก อาศัยกินอยูก่ บั ยายพรฟรีๆ นับว่าลุงพจน์กบั
ป้าแพรวใจดีมาก ที่ยอมรับเลี้ยงน้องสาวจอมขี้เกียจอีกคน
ป้าพิณมีรปู ร่างผอมบาง หน้าตาเคร่งเครียด พูดจาห้วนสัน้ ชอบตวาดยาย
พรอยู่เสมอ เพื่อนบ้านมักเห็นแกน�ำอาหารดีๆ เช่น ขาหมู เป็ดย่าง พะแนงไก่ หรือ
พวกขนมหวานที่พวกพี่ๆ ซื้อมา ไปแจกเด็กๆ บ่อยครั้ง
ชมรมตะกร้อในหมู่บ้านที่ผมเป็นสมาชิกอยู่ ลงความเห็นว่าป้าพิณอิจฉา
ที่เพื่อนบ้านชื่นชมแต่พวกพี่ๆ แกเลยน�ำอาหารดีๆ ไปแจกคนอื่นเพื่อเอาหน้าบ้าง
แล้วปล่อยให้ยายพรกินอยูอ่ ย่างอดๆ อยากๆ แต่ผมไม่เคยเล่าทัศนคติเชิงลบทีไ่ ด้ยนิ
มาให้แม่ฟัง เพราะแม่เป็นคนคิดบวก เดี๋ยวก็หาข้ออ้างมาเข้าข้างป้าพิณอีกจนได้
“ยังไม่พออีกเหรอ อยากให้หนักมือกว่านี้ใช่มั้ย” ป้าพิณตะโกนลั่น
ผมรีบแหวกกิ่งโมก อันพร่างพราวไปด้วยดอกสีขาวหอมกรุ่น แนบหน้า
หล่อๆ ติดรูเล็กข้างรั้ว มองผ่านแปลงผักสวนครัวและกระถางชวนชมหลากสี ไปยัง
ลานหินอ่อนหน้าประตูบ้าน จึงได้เห็นเต็มสองตาว่า ป้าพิณก�ำลังทารุณแม่บังเกิด
เกล้า ด้วยการใช้สองเท้าเหยียบย�ำ่ ไปบนร่าง ทีน่ อนคว�ำ่ หน้าร้องโอดโอยของยายพร
ก่อนจะพลิกร่างท้วมให้นอนหงาย กระชากขาทัง้ สองข้างสลับกันไปมาอย่างบ้าคลัง่
เห็นแล้วก็อดโมโหไม่ได้ แต่ผมจะหยุดยัง้ ความรุนแรงตรงหน้าได้อย่างไร โดยไม่โดน
ป้าพิณด่ากราด หรือขว้างมีดปังตอข้ามรั้วมา
“เจ็บปวดทรมานเหลือเกินแล้ว เมื่อไหร่จะพ้นเวรพ้นกรรมซะที” ยายพร
คร�่ำครวญอย่างน่าสงสาร
“เงียบไปเลยนะแม่” ป้าพิณตะเบ็งเสียงขูย่ ายพร “เดีย๋ วพวกชาวบ้านก็จะ
มามุงดูหน้าประตูรั้วอีก”
จ�ำได้วา่ ครัง้ หนึง่ เพือ่ นบ้านฝัง่ ตรงข้าม ทนเห็นความโหดร้ายของป้าพิณไม่
ไหว เลยขู่จะเอาต�ำรวจมาจับ แต่ยายพรห้ามไว้เพราะสงสารลูก วันนั้นผมรีบไป
มหาวิทยาลัย เลยไม่ทันดูว่าเหตุการณ์จบลงอย่างไร แต่วันนี้ผมไม่อาจเพิกเฉยต่อ

สถาบันพระปกเกล้า 55

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 55 21/3/2561 BE 10:00


ความสยดสยอง ที่รูเล็กข้างรั้วฉายภาพให้เห็นอย่างชัดเจนได้ ผมจึงหยิบโทรศัพท์
มือถือ ถ่ายคลิปวีดีโอการกระท�ำอันป่าเถื่อนของป้าพิณ ส่งไปให้คุณอาสารวัตร ซึ่ง
เป็นต�ำรวจและเป็นเพื่อนรุ่นน้องของพ่อ ที่ย้ายมาประจ�ำอยู่โรงพักเจ้าของท้องที่
พร้อมกับขอความช่วยเหลือแทนยายพร
“บ้านหลังนี้มีคนร้องเรียนหลายครั้งแล้ว ต�ำรวจเคยไปชี้แจงกับลูกสาวให้
ละเว้นการกระท�ำทารุณ แต่เห็นๆ อยู่ว่าไม่ได้ผล คงต้องน�ำตัวมาตักเตือนให้เป็น
เรื่องเป็นราวซะที” คุณอาสารวัตรบอกผม
ยายพรร้องครวญครางอยูส่ กั พักก็เงียบเสียงลง ผมเดินไปเมียงมองทีร่ เู ล็ก
ข้างรั้วอีกครั้ง พบว่าสองแม่ลูกกลับเข้าบ้านแล้ว เลยขึ้นไปข้างบนเตรียมตัวจะ
อาบน�้ำ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาจอด พอรูดม่านหน้าต่างก็เห็นต�ำรวจ
สายตรวจสองนาย พาตัวป้าพิณขึน้ รถไป ผมโทรศัพท์สอบถามไปทางโรงพักได้ความ
ว่า ถ้ายายพรผู้เป็นเจ้าทุกข์ไม่เอาเรื่อง อีกสักพักต�ำรวจจะปล่อยตัวป้าพิณกลับ
พอแต่งตัวเสร็จ ผมเข็นรถมอเตอร์ไซค์ออก เพื่อจะไปเที่ยวกับเพื่อนตาม
ที่นัดกันไว้ แต่อดเป็นห่วงยายพรไม่ได้ เลยถอยรถมาหน้าบ้านแก เห็นหญิงชรายืน
เกาะรั้ว พลางโบกมืออยู่ข้างอุปกรณ์ช่วยเดินแบบสี่ขา
“จะไปไหนครับยาย” ผมเหวี่ยงขาลงจากรถ เดินไปหายายพร
“ยายไม่อยากกินไข่” ยายพรตอบด้วยสีหน้างุนงงพอๆ กับผม
“ผมถามว่ายายจะไปไหน” ผมพูดช้าลง
“ปลาไหลยายก็ไม่กิน”
ตายโหงแล้ว ยายพรคงหูตึงแน่ๆ ผมจึงถามด้วยเสียงอันดังกว่าเดิม
“ยายจะไปไหนครับ”
ปรากฏรอยยิ้มซื่อๆ บนใบหน้าเหี่ยวย่น
“ยายเผลอหลับไป พอตืน่ ขึน้ มา ไม่รนู้ งั พิณมันหายหัวไปไหน จะเทีย่ งแล้ว
ยังไม่มาหาข้าวให้ยายเลย”
ฟังจากน�้ำเสียงที่พูดถึงป้าพิณแล้ว เชื่อว่ายายพรคงไม่ปลื้มลูกคนเล็กสัก
เท่าไหร่ แน่ละ ยายพรอาจจะหูตึง แต่สมองยังดีอยู่ เพราะแกจ�ำได้ว่าผมเป็นหลาน

56 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 56 21/3/2561 BE 10:00


ย่า ซึ่งเป็นเพื่อนรักของแก ผมจึงเชื่อว่ายายพรรู้ตัวมาตลอดว่าโดนทรมาน แต่ด้วย
ความเป็นแม่แกจึงไม่อยากเอาเรื่องลูก เลยมาระบายอารมณ์ผ่านค�ำเรียกขาน
แม้จะรู้ว่าป้าพิณอยู่โรงพัก เพื่อรับฟังค�ำตักเตือนจากเจ้าหน้าที่ แต่ผมไม่
กล้าบอกความจริง กลัวยายพรจะตื่นตระหนก เลยคิดว่าจะหาข้าวให้หญิงชราผู้น่า
สงสารกินก่อน
“ป้าพิณคงไปตลาดน่ะครับ” ผมแกล้งออกความเห็น “ยายจะทานอะไร
เดี๋ยวผมขับรถไปซื้อให้ก็ได้”
“นังพิณท�ำกับข้าวไว้แล้ว ช่วยอุ่นให้หน่อยได้มั้ย ยายหมุนหัวแก๊สไม่ไหว
ไอ้ตู้เวฟฯนั่นก็ใช้ไม่เป็น”
ขืนปล่อยให้ยายพรไปวุน่ วายกับเตาแก๊ส หรือเครือ่ งใช้ไฟฟ้าตามล�ำพัง อาจ
เป็นอันตรายทัง้ บ้านแกเองและบ้านข้างเคียง ผมจึงพยุงยายพรให้เดินกลับเข้าไปใน
ห้องรับแขก อันมีเก้าอี้ไม้มะค่าตัวยาวสองตัวตั้งฉากกัน บนโต๊ะกระจกตัวเตี้ย มี
ตะกร้าใส่เสื้อคอกระเช้ากับผ้าถุงพับซ้อนไว้ หมอนผ้าห่มกองสุมอยู่บนเก้าอี้
ผมไม่ทนั ได้ใส่ใจกับความรกรุงรัง เพราะกลิน่ ปัสสาวะฉุนกึก้ จูโ่ จมเข้าจมูก
กลิน่ นัน้ คงมาจากผ้าถุงชุม่ น�ำ้ ทีก่ องแหมะอยูใ่ กล้ขาเก้าอี้ ผมสะบัดแขนออกจากมือ
เหีย่ วแห้งอย่างลืมตัว เพราะไม่แน่ใจว่ามือคูน่ นั้ ผ่านการล้างมาหรือยัง แต่ยายพรไม่
สนใจท่าทีกระอักกระอ่วนของผม แกเดินผ่านห้องนัน้ ไปยังห้องโล่งๆ ซึง่ มีโต๊ะอาหาร
ตั้งอยู่
“ยายจะนั่งรออยู่ตรงนี้ หลานชายไปอุ่นกับข้าวให้หน่อยนะ”
ผมทิ้งยายพรไว้ที่โต๊ะ ซึ่งมีกล่องพลาสติกใส่ยาหลายชนิดวางอยู่ แล้วรีบ
เดินเข้าครัว กวาดตามองหากับข้าว อันเป็นแกงจืดผักกาดขาวกับเต้าหู้ไข่ ที่อยู่ใน
หม้อใบเล็กบนโต๊ะ ผมเปิดเตาแก๊สอุน่ จนเดือด ตักข้าวสวยใส่จาน ยกมาให้หญิงชรา
ซึ่งเอาแต่ชะเง้อมองไปทางประตู
“ขอบใจนะหลานชาย”
ผมผละจากยายพร เพื่อไปรินน�้ำในตู้เย็น เลยถือโอกาสส�ำรวจข้าวของที่
แช่อยู่ ตั้งแต่ไก่ กุ้ง หมู อาหารส�ำเร็จรูปแช่แข็ง ขนมหวาน กระปุกไอศกรีม ผลไม้

สถาบันพระปกเกล้า 57

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 57 21/3/2561 BE 10:00


น�้ำอัดลม น�ำ้ ผลไม้หลากรส ล้วนแต่ของดีๆ ทั้งนั้น ป้าพิณคงเก็บไว้กินเอง ขณะริน
น�้ำองุ่นใส่แก้ว ผมนึกสมน�ำ้ หน้า ที่แกโดนต�ำรวจจับไปคาดโทษเสียบ้าง
“นังพิณมันให้ยายกินแต่นำ�้ เปล่า ถ้ามันรูว้ า่ ยายแอบกินน�ำ้ หวาน มันก็เอา
แต่บ่นๆ ขี้เกียจฟัง” ยายพรเลื่อนแก้วน�ำ้ ผลไม้ออกห่างตัว
ผมนึกสงสารยายพรที่กลัวป้าพิณลนลาน ถ้ามีโอกาสคุยกันบ่อยๆ ผมจะ
ยุให้แกลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิ์ อย่างน้อยก็ควรบอกลุงพจน์กับป้าแพรว ซึ่งเป็น
เจ้าของเงินให้รับรู้พฤติกรรมของป้าพิณบ้าง แต่วันนี้ผมมีธุระ จึงไปรินน�้ำอุ่นใน
กระติกมาให้แต่โดยดี แล้วก็สงั เกตเห็นว่าสองมือของยายพรสัน่ เทา หยิบจับช้อนไม่
ถนัด เม็ดข้าวร่วงหล่นลงไปกองเรี่ยราดอยู่บนพื้นห้อง ผมเลยต้องป้อนให้แกเหมือ
นเด็กๆ
เมือ่ หญิงชรากินข้าวอิม่ ผมรีบเก็บจานไปล้าง ออกมาอีกทีเห็นยายพรเลือก
ยาในกล่องอย่างงกๆ เงิ่นๆ พอเงยหน้าเห็นผม แกก็บอกให้จัดยาชนิดที่เขียนว่ากิน
หลังอาหารให้ด้วย เพราะแกมองตัวหนังสือไม่เห็น ผมเพิ่งรู้ว่าคนเราพอแก่ตัวลง
ต้องกินยามากมายขนาดไหนเพื่อยื้อลมหายใจ
“ยาพวกนี้แก้โรคอะไรบ้างครับ” ผมชวนคุยด้วยเสียงอันดัง
“เบาหวาน ความดัน หัวใจ ไขมัน ยาถ่าย ยานอนหลับ และยาสลายก้อน
นิ่ว” ยายพรชี้ไปที่กระปุกยาสีเขียว “ไอ้ยาผงบ้าเนี่ย กินแล้วรากจะแตก พวกหมอ
ก็ดีแต่สั่งๆ ไม่รู้เคยชิมกันบ้างหรือเปล่า”
“กินตามหมอสัง่ เถอะครับ ยายจะได้หายไวๆ ” ผมเอือ้ มมือไปหยิบกระปุก
ยา เพื่อจะอ่านวิธีใช้
แต่ยายพรส่ายหน้า “หมอให้กนิ หลังอาหารเช้าเย็น โรคพวกนีไ้ ม่หายง่ายๆ
หรอก กินแต่ยา ยา ยา”
ยายพรบ่นพึมพ�ำ แล้วแกก็หาวหวอดๆ เป็นจังหวะที่เพื่อนผมโทรศัพท์มา
ตามพอดี ผมเลยถือโอกาสเอ่ยปากลา แต่หญิงชรากลับดึงแขนไว้
“มีอะไรหรือครับ” ผมถามเสียงดังจนแสบคอ
“ช่วยพายายออกไปนอนเล่นข้างนอกหน่อย จะนอนในบ้านก็ไม่ไหว

58 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 58 21/3/2561 BE 10:00


ยายเยี่ยวราดเลอะเทอะไปหมด เดินเข้าส้วมไม่ทัน แข้งขาไม่ดีกลัวหกล้ม เดี๋ยวนัง
พิณกลับมาค่อยให้มันเอาผ้าถุงไปซัก”
ผมจ�ำเป็นต้องพายายพรเดินช้าๆ ผ่านห้องรับแขกเหม็นคลุ้ง ทันทีที่ก้าว
ขาพ้นออกมา ยายพรก็ขอให้ผมกลับไปหยิบหมอนกับที่นอนบางๆ ออกมาปูหน้า
ระเบียง ผมเหลือบเห็นยาอีกตะกร้า คงเป็นยากินตอนเย็น
“ถ้าเจอนังพิณกลางทาง บอกให้มันรีบกลับด้วยนะ หายหัวไปไหนก็ไม่
บอก” ยายพรสั่งก่อนเอนตัวลง
เข้าใจว่าป้าพิณคงอายทีต่ ำ� รวจมาเอาตัวไป จึงไม่อยากปลุกยายพรขึน้ มาบ
อกว่าจะไปไหน ป่านนีแ้ กคงก�ำลังเดินทางกลับ ผมไม่ได้โทรศัพท์ถามคุณอาสารวัตร
เพราะจะรีบไปหาเพื่อน
ผมกินข้าวกลางวันตอนบ่ายโมงครึ่ง ดูหนัง แล้วก็เดินดูอุปกรณ์กีฬา กว่า
จะกลับถึงบ้านก็เกือบหกโมง แวะไปดูที่รูเล็กข้างรั้ว เห็นทุกอย่างเงียบสงบก็หาย
ห่วง คิดว่าป้าพิณคงดูแลยายพรด้วยความละมุนละม่อมขึ้น
สิบนาทีต่อมา แม่กลับมาถึงก็บอกว่า เพื่อนที่อยู่สมุทรสาครให้กุ้งแห้งมา
เยอะ แม่ไม่ได้โทรศัพท์ถามป้าพิณว่าต้องการอะไรบ้าง เพราะแบตเตอรี่หมด เมื่อ
เช้าลืมชาร์จ แม่เลยแบ่งกุ้งแห้งใส่ถุงให้ผมน�ำไปให้ คิดว่าป่านนี้แกคงจัดการกับไอ้
กองผ้าเหม็นคลุง้ เรียบร้อยแล้ว ผมคว้าถุงกุง้ แห้งวิง่ เหยาะๆ ไปหน้าบ้านยายพร กด
กริง่ เรียกอยูห่ ลายครัง้ ไม่มใี ครโผล่หน้าออกมา ขยับประตูเล็กเห็นว่าไม่ได้ลอ็ ก เลย
ถือวิสาสะเดินเข้าไป
พอประตูหอ้ งรับแขกอันมืดตึด๊ ตือ๋ เปิดออก ผมก็โดนกลิน่ เหม็นหึง่ ฟาดจมูก
อย่างแรง คราวนี้คงไม่ได้มีแต่ของเหลวแล้ว ผมค่อยๆ คล�ำทางไปเปิดไฟ เห็นกอง
ผ้าถุงปิดทับของเสียเละเทะ อย่างไม่คอ่ ยมิดชิดนัก ผมรีบสาวเท้าต่อไปยังห้องอาหาร
เปิดไฟกลางห้อง แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นยายพรนั่งเอาหลังพิงฝาผนังอย่างอ่อน
เปลี้ย รอบตัวมีขนมหกเกลื่อน จานใบเล็กกระเด็นคว�่ำอยู่ใต้โต๊ะ กองทัพมดดาหน้า
กันเข้ามาขนเสบียงอย่างย่ามใจ ผมทิ้งถุงกุ้งแห้ง ตรงเข้าประคองร่างหญิงชรา
“ยายเป็นอะไรไปครับ” ผมเอื้อมมือไปหาหลอดยาดมในตะกร้า ก่อนจะ

สถาบันพระปกเกล้า 59

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 59 21/3/2561 BE 10:00


แกว่งไปมาตรงรูจมูกบานๆ
พอยายพรเห็นผมก็ร้องขอกินน�้ำผลไม้ ผมรีบเทน�้ำองุ่นใส่แก้วให้ดื่ม
พออาการดีขึ้นแกก็เอาแต่ด่าลูกสาว ก่อนจะเล่าว่า ตอนบ่ายแกเคยกินผลไม้ทุกวัน
พอป้าพิณไม่อยูเ่ ลยไม่มคี นจัดหาให้ ครัน้ จะปอกเองก็กลัวมีดบาด ตอนเย็นความหิว
ตะกุยกระเพาะหนักเข้า จึงเดินไปหยิบจานใส่แยมโรลในตูเ้ ย็น แต่ตอ้ งใช้มอื ข้างหนึง่
ถือจาน เหลือมือเดียวเลยจับอุปกรณ์ช่วยเดินไม่ถนัด แล้วก็สะดุดขาตัวเองล้มลง
เลยนั่งหมดสภาพอยู่ตรงนั้น เพราะไม่สามารถพยุงตัวเองขึ้นมาได้
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าป้าพิณยังไม่กลับบ้าน หรือว่าหลังจากต�ำรวจปล่อยตัว
แล้ว แกฉวยโอกาสไปเดินซือ้ ของในห้างสรรพสินค้าจนเพลิน ผมรีบโทรศัพท์หาคุณ
อาสารวัตร เพื่อสอบถามเหตุการณ์
“ผู้หญิงคนนั้นเอะอะอาละวาด ด่ากราดต�ำรวจทั้งโรงพัก เลยถูกควบคุม
ตัวข้อหาดูหมิน่ เจ้าพนักงาน ต้องมีคนมาประกันถึงจะออกไปได้ ตอนบ่ายอาโทร.ไป
หา แต่เธอไม่รับสาย”
ไม่คิดว่าเรื่องราวจะบานปลายถึงเพียงนี้ แต่ผมไม่มีเวลาชี้แจงว่าก�ำลังดู
หนังเพลิน ได้แต่ขอพูดกับป้าพิณอย่างกระวนกระวาย พอรูว้ า่ ผมโทรศัพท์ไป ป้าพิณ
รีบถามด้วยน�้ำเสียงกระหืดกระหอบ
“ยายเป็นยังไงบ้าง”
“ไม่เป็นไรแล้วครับ” ผมเล่าครึ่งๆ กลางๆ
“แม่หนูกลับมาหรือยัง” ป้าพิณถามต่อ “ตอนบ่ายป้าขออนุญาตต�ำรวจ
โทร.ไปหา แต่แม่หนูไม่รับสาย”
“ถึงบ้านแล้วครับ ได้ยินแม่บอกว่าแบตฯหมด เลยไม่ได้ติดต่อใคร” ผม
บอกไปตามความจริง
“ช่วยไปบอกแม่หนูให้มาฉีดอินซูลินสามสิบหกยูนิต ให้ยายแกด้วย ยาอยู่
ในขวดเล็กๆ จุกสีขาวแช่อยู่ตรงฝาตู้เย็น เข็มอยู่ในกล่องสีเขียวบนโต๊ะ ส�ำลีกับ
แอลกอฮอล์อยู่ในตู้ยา จากนั้นอีกยี่สิบนาที ช่วยเวฟฯข้าวต้มกุ้งให้กินด้วย ขอบใจ
มากนะลูก” ป้าพิณสั่งอย่างร้อนรน ราวกับโดนปีศาจไล่ล่า

60 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 60 21/3/2561 BE 10:00


ผมรีบวิ่งไปบอกแม่ว่าป้าพิณอยู่โรงพัก ให้แม่มาฉีดอินซูลิน ซึ่งเป็นยา
ควบคุมระดับน�้ำตาลให้ยายพรด้วย แม่มาถึงก็จัดการตามขั้นตอนอย่างคล่องมือ
พร้อมกับบอกว่าป้าพิณเคยสอนไว้ เวลาแกไปหาหมอตามนัดแล้วกลับไม่ทัน แกก็
โทรศัพท์มาวานให้แม่ช่วยฉีดให้ ส่วนผมรีบเก็บกวาดขนมที่หกเกลื่อน ก่อนจะเข้า
ครัวไปอุ่นข้าวต้มกุ้งเตรียมไว้
พอยายพรกินข้าวกินยาเสร็จ แม่ก็อาบน�ำ้ เปลี่ยนเสื้อผ้า ทายาแก้ปวด ทา
ครีมกันผิวแห้ง และทายารักษาแผลกดทับให้ แม่คงมาคุยกับป้าพิณบ่อยๆ ถึงได้รู้
ว่ายายพรต้องใช้ยาชนิดไหนอย่างไรบ้าง
“ท�ำไมชาวบ้านไม่ยอมเข้าใจกันซะทีว่า ยายแกปวดเมื่อยต้องเหยียบต้อง
นวดอย่างหนักมือทุกวัน คนแก่ก็ร้องโวยวายไปเรื่อยเปื่อย” แม่บ่น หลังจากเปิด
รายการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งให้ยายพรดูแล้ว
“อย่างนั้นหรือครับ” ผมหยิบผ้ามาเช็ดโต๊ะ เพื่อหลบสายตาแม่
“คงเป็นบ้านตรงข้ามทีเ่ พิง่ มาอยูใ่ หม่แน่เลย” แม่สนั นิษฐาน “วันก่อนเขา
เห็นพี่พิณเอากับข้าวไปแจกเด็กๆ ก็เข้าใจว่าแกท�ำเอาหน้า แม่เลยบอกไปว่าของ
พวกนั้นใกล้หมดอายุแล้ว ขืนเก็บไว้ก็ต้องโยนทิ้ง”
เจ้าของบ้านฝัง่ ตรงข้าม เปิดบ้านให้คนอืน่ เช่า จึงมีคนแปลกหน้าแวะเวียน
มาอยูเ่ สมอๆ พวกเขาคงไม่เข้าใจพฤติกรรมของป้าพิณ เลยร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่
บ่อยๆ แต่คราวนี้เขากลายเป็นแพะรับบาปแทนผม ผู้ซึ่งใส่ใจต่อปัญหาของเพื่อน
บ้านน้อยเต็มที ทุกครั้งที่กลับจากหอพัก เวลาส่วนใหญ่ของผมก็ไปติดหนึบอยู่ใน
เครือข่ายสังคมออนไลน์
“ได้ยนิ ยายแกเรียกป้าพิณอย่างไม่คอ่ ยปลืม้ นัก แม่ไม่คดิ ว่ายายจะคับแค้น
ใจบ้างหรือครับ” ผมอยากรู้ว่าแม่มีมุมมองอย่างไร
แม่หัวเราะเบาๆ “ยายแกเรียกลูกเหมือนกันหมด ต่อให้เป็นนายทหารยศ
พันเอก แกก็เรียกว่าไอ้พจน์ หรือเป็นเถ้าแก่เนี้ย แกก็เรียกว่านังแพรว”
“อ้อ ครับ” ผมเพิ่งรู้ว่ายายพรมีมาตรฐานเดียว แต่ผมกลับเข้าใจผิดว่าแก
ยกย่องลูกที่ให้เงิน มากกว่าลูกที่อาศัยกินไปวันๆ

สถาบันพระปกเกล้า 61

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 61 21/3/2561 BE 10:00


“ยายแกเป็นสารพัดโรค หมอห้ามของหวาน มัน เค็มทุกชนิด” แม่สาธยาย
“แต่พี่พจน์กับพี่แพรวก็ชอบซื้อมาเรื่อย พี่พิณก็กินไม่ค่อยได้ เพราะมีโรคประจ�ำตัว
เหมือนกัน ถ้าแกจะโวยวายบ้าง เราก็ต้องเห็นใจนะลูก”
“ครับ” ผมรับปากอย่างห่อเหี่ยว นึกถึงตะกร้ายาที่แยกไว้ในห้องรับแขก
ต้องเป็นของป้าพิณแน่เลย
ฉิบหายแล้ว ป่านนี้ป้าพิณก็คงยังไม่ได้กินยาเช่นกัน
“แม่จะไปประกันตัวพี่พิณออกมาก่อน พี่พจน์กับพี่แพรวไปเที่ยวต่าง
ประเทศ อีกหลายวันกว่าจะกลับ ส่วนลูกก็เอาผ้าถุงกองนั้นไปแช่ในกะละมัง แล้ว
เช็ดถูห้องให้หมดกลิ่นด้วย” แม่สั่งเสร็จก็ออกจากบ้านไป
ผมไม่ทันได้สารภาพผิด เกรงว่าแม่จะต้องเสียเวลาอบรมอีกยืดยาว เดี๋ยว
ไปถึงโรงพัก คุณอาสารวัตรก็คงรายงานเอง ผมโกหกยายพรว่าป้าพิณไปหาหมอ แม่
ผมก�ำลังจะไปรับ หญิงชราพยักหน้าหงึกๆ
จากนั้นผมก็สวมถุงพลาสติกมัดติดกับข้อมือ เดินไปในห้องรับแขก กลั้น
ลมหายใจ เปิดกองผ้าถุง โปะกระดาษช�ำระหนาเตอะทับกองของเสียเละเทะ รวบ
ใส่ถุงด�ำ ผูกมัดหลายชั้นอย่างแน่นหนา หิ้วไปทิ้งในถังขยะ น�ำผ้าถุงสามผืนไปโยน
ใส่กะละมังซักผ้าหลังครัว ราดน�ำ้ ยาขัดพื้นทั่วห้อง ก่อนจะเช็ดถูจนสะอาดเอี่ยม
ระหว่างจัดการกับสิ่งสกปรกพวกนั้น ผมไม่ทันได้รู้สึกขยะแขยง เพราะใน
ใจมัวแต่สาปแช่งรูเล็กข้างรัว้ ทีน่ ำ� เสนอทัง้ ภาพและเสียงอย่างชัดเจน แต่ไม่อาจตีแผ่
ความจริงอันถูกต้องรอบด้านได้ ส่งผลให้วจิ ารณญาณของผมบิดเบีย้ ว มองคนอย่าง
ผิวเผินเพียงแค่ขาวกับด�ำ จนเกือบสร้างความเสียหายใหญ่หลวง
ถ้าผมอยากเป็นพลเมืองดี เป็นก�ำลังอันแข็งแกร่งของประเทศในอนาคต
แค่เปิดหูเปิดตาคงไม่เพียงพอแล้ว ต้องเปิดใจรับฟังอย่างเป็นธรรมด้วย แต่ถงึ อย่างไร
พลเมืองดีมือใหม่อย่างผมก็จะไม่ฝังกลบศรัทธาตัวเอง เพราะความเข้าใจคลาด
เคลือ่ นอย่างเด็ดขาด แม่ยำ�้ เตือนและท�ำให้ดเู ป็นตัวอย่าง จนผมพอเข้าใจความหมาย
ของค�ำยากๆ นั้นแล้ว
“ถ้าเราเพิกเฉยเมื่อไหร่ จะกลายเป็นหายนะทางจิตวิญญาณทันที”

62 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 62 21/3/2561 BE 10:00


จันทรา รัศมีทอง
เป็นคนกรุงเทพฯ จบการ
ศึกษาชั้นประถมปีที่เจ็ด ท�ำงานใน
โรงงานเย็บผ้าตั้งแต่อายุ ๑๔ ปี หลัง
จากท�ำงานได้ ๓๒ ปี จึงลาออกมา
ดู แ ลมารดา ชอบอ่ า นหนั ง สื อ ทุ ก
ประเภท พอมีเวลาก็หดั เขียนหนังสือ
บ้าง เข้ารับการอบรมเพิม่ เติมบ้างเคย
ได้รับรางวัลเป็นครั้งคราวตั้งใจว่าจะ
เขียนหนังสืออีกสักพัก จนกว่าใบนัด
หมอจะกองท่วมจนไม่เป็นอันท�ำอย่างอื่น

สถาบันพระปกเกล้า 63

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 63 21/3/2561 BE 10:00


เฟืองชิ้นเล็ก
ที่หล่นใต้โต๊ะอุปกรณ์
ทวิวัฒน์

พิรุณโปรยร่วงหล่นจากฟากฟ้า
หล่นร่วงมาตรงเวลาทุกเช้าค�ำ่
เสียงหยาดฝนบรรเลงเป็นประจ�ำ

ส ายตาของ ทอมมัส กวาดมองตัวหนังสือที่เขาเขียนไว้บนกระดาษอิเล็ค


โทรนิกส์ซำ�้ ไปซ�ำ้ มาหลายหน ท่อนประโยคขาดๆ เกินๆ ทีเ่ จ้าตัวลืมไปแล้วว่า
ครูผสู้ อนวิชาภาษาไทยเรียกมันว่าอะไร แต่ทแี่ น่ๆ ทอมมัสจ�ำได้วา่ มันจะสมบูรณ์เมือ่
ครบสี่ประโยค
...ซึง่ แน่นอน หน้าทีข่ องเขาคือการเติมเต็มเจ้าประโยคทีส่ นี่ ี้ แต่เขาเสียเวลา
ไปกว่าสามชั่วโมงตั้งแต่เช้าเพื่อคิดหาประโยคสุดท้าย
...ไร้สาระ
ทอมมัสโยนกระดาษอิเล็คโทรนิกส์ลงบนเตียงนอน ซึ่งระบบกันกระแทก
ของมันยังคงใช้การได้ดี พริบตาที่กระดาษแผ่นบางสัมผัสกับพื้นเตียงนอน มันพับ
ตัวเองทบไปมาจากขนาด เอ๔ กลายเป็นกระดาษขนาดเท่านามบัตรเพื่อให้ง่ายต่อ
การพกพาทันที

64 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 64 21/3/2561 BE 10:00


สถาบันพระปกเกล้า 65

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 65 21/3/2561 BE 10:00


เด็กชายเอือ้ มมือไปหยิบกระดาษบนเตียงมาถือไว้พกั หนึง่ ก่อนมันจะกลาย
เป็นแผ่นกระดาษขนาด เอ๔ พร้อมใช้งานตามเดิม และไม่นานนักเขาก็โยนมันลง
บนเตียงนอน การกระท�ำเช่นนี้วนไปมาอยู่พักใหญ่เพราะเขาไม่รู้ว่าจะท�ำเช่นไร
การบ้านที่แสนน่าเบื่อนี้จะเสร็จลงเสียที
การบ้านปิดเทอมวิชาอื่นนั้นเขาท�ำเสร็จไปหลายวันแล้ว ไม่ว่าจะเป็น
คณิตศาสตร์ เคมี หรือภาษาอังกฤษ เหลือเพียงวิชาภาษาไทยที่เขาแสนเกลียด
...วิชาอะไร ? ไร้ประโยชน์สิ้นดี เหมือนกับการสอนว่าจะกินข้าวยังไงทั้งที่
คนเราก็กินข้าวเป็นกันทุกคนอยู่แล้ว
ทอมมัสสนับสนุนแนวคิดของนักวิชาการวัยรุ่นท่านหนึ่งที่เขาเห็นผ่านสื่อ
โทรทัศน์ นักวิชาการท่านนั้นเสนอให้รัฐบาลสร้างสถาบันเฉพาะทางให้กับผู้ที่สนใจ
ในศาสตร์แขนงนั้นๆ ไม่จ�ำเป็นต้องเรียนวิชาจับฉ่ายทุกแขนง เพราะเด็กแต่ละคนมี
ความถนัดต่างกันไป หากมุ่งเน้นพัฒนาความถนัดนั้นเพียงด้านเดียวย่อมท�ำให้เด็ก
คนนั้นแสดงศักยภาพออกมาได้เต็มที่
...แนวคิดเช่นนี้แหละที่เขาต้องการ เก่งด้านไหนไปด้านนั้น ท�ำไมเราต้อง
ฝืนท�ำในสิ่งที่ไม่ชอบ ฝืนเรียนรู้ในสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ทั้งที่คนเรามีเวลาเท่า
กันท�ำไมไม่จัดสรรเวลาให้เกิดประโยชน์กับตัวเราเองให้มากที่สุด
เขาเป็นลูกชายของนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังระดับต้นๆ ของโลกในยุคนี้ ไม่มี
ใครไม่รจู้ กั Korn (กรณ์) นักวิทยาศาสตร์ผใู้ ห้กำ� เนิดสิง่ ประดิษฐ์หลายอย่างทีเ่ รียก
ว่าบันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับมนุษยชาติ นักวิทยาศาสตร์ด้วยกันบอกว่า
พ่อของเขาเป็นอัจฉริยะในหมูอ่ จั ฉริยะ ดังนัน้ เขาจึงอยากเดินตามรอยเท้าพ่อให้เร็ว
ที่สุด เขาอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์แบบเดียวกับพ่อ
...เขาควรได้สทิ ธิท์ จี่ ะเริม่ ต้นความฝันนัน้ ทันที ไม่ใช่จมปลักอยูก่ บั การเรียน
รู้ตามวัยที่ถูกปลูกฝังมาเป็นวัฒนธรรมคร�ำ่ ครึนั่น
“ดูเหมือนหลานจะก�ำลังมีปัญหานะ ?”
ไม่ต้องเงยหน้าขึ้นทอมมัสก็จำ� เสียงสุภาพสตรีวัยย่างแปดสิบได้ วันรุ่ง ย่า
ของเขาเคลื่อนรถเข็นเข้ามาในห้องนอน ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบัน

66 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 66 21/3/2561 BE 10:00


การที่คนชราจะมีอายุยืน ๙๐-๑๐๐ ปีนับว่าไม่ใช่เรื่องแปลก อีกทั้งย่ายังรักสุขภาพ
ออกก�ำลังกายเบาๆ ยามเช้าเป็นประจ�ำ ท�ำให้ใครต่อใครบอกว่าย่าวันรุ่งดูอ่อนกว่า
อายุเสมอ
“การบ้านอีกล่ะสิ ?” วันรุ่งเอ่ยพร้อมหยิบกระดาษอิเล็คโทรนิกส์มาคลี่
อ่าน ไม่นานนักรอยยิม้ มุมปากก็ปรากฎขึน้ บนใบหน้า “การแต่งกลอนไม่ใช่เรือ่ งยาก
เลยนะธรรมะ”
ธรรมะ คือชื่อเล่นของเขาที่ย่าเป็นผู้ตั้งให้ ในยุคสมัยที่ชื่อจริงกับชื่อเล่น
ไม่ต่างกันเช่นนี้ การมีชื่อเล่นนับเป็นเรื่องน่าอายไม่ต่างจากการน�ำชื่อบุพการีมา
ล้อกันในสมัยดึกด�ำบรรพ์ อีกทัง้ ย่ายังบอกให้ลกู หลานเขียนชือ่ เล่นไว้ตอ่ ท้ายชือ่ จริง
แทนที่นามสกุลที่ถูกยกเลิกไปหลายสิบปีแล้ว เพื่ออย่างน้อยยังเป็นการอนุรักษ์ไว้
ซึ่งชื่อไทยๆ บ้าง ไม่ใช่เห่อไปตามกระแสสากลดังที่เป็นอยู่ตอนนี้
ย่าบอกว่าถ้าไม่มกี ฎหมายให้เขียนชือ่ จริงเป็นภาษาอังกฤษ ย่าจะเขียนชือ่
เป็นภาษาไทยเสียด้วยซ�้ำ
Value (วันรุ่ง)
Korn (กรณ์)
Thomas (ธรรมะ)
...ชื่อคนในบ้านเขามักถูกเพื่อนๆ ในชั้นเรียนล้อเสมอว่าเป็นพวกอนุรักษ์
นิยม ชื่นชมของโบราณ
“ผมไม่ได้ชอบวิชาภาษาไทยเหมือนย่านี่ครับ” ทอมมัสตอบ
“แต่มนั เป็นภาษาบ้านเกิดของเรา ยังไงหลานก็ควรใช้ให้ถกู ต้อง” วันรุง่ ส่ง
กระดาษอิเล็คโทรนิกส์คนื ให้ทอมมัส โดยทีเ่ จ้าตัวก็ไม่รวู้ า่ จะท�ำเช่นไรกับการบ้านที่
เปรียบเสมือนเขาวงกตไร้ทางออกเช่นนี้
“ย่าช่วย...”
“หลานต้องท�ำด้วยตัวเองนะ พ่อของหลานก็ผ่านอุปสรรคนี้ได้ด้วยตัวเอง
เหมือนกัน”
เปรียบประหนึ่งผู้พิพากษาอ่านบทลงโทษ ย่าไม่เคยช่วยทอมมัสท�ำการ

สถาบันพระปกเกล้า 67

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 67 21/3/2561 BE 10:00


บ้านโดยการบอกเฉลย สิ่งที่เธอช่วยคือการให้คำ� แนะน�ำ ซึ่งในความคิดของเขามัน
ช่างน่าเบื่อและเสียเวลาเป็นที่สุด
...ในเมื่อมีคำ� ตอบท�ำไมไม่ให้ค�ำตอบนั้นมา
“เฮ้อ...ผมไม่ชอบวิชานี้จริงๆ เลย ให้ตายเถอะ”
ทอมมัสสบถและพรัง่ พรูความในใจออกมา ท�ำไมเขาต้องมาเรียนวิชาโบร�ำ่
โบราณอย่างภาษาไทย ภาษาที่ถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในภาษาโบราณที่ชาวต่างชาติลง
ความเห็นว่าเป็นภาษาที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้
...แต่ไม่ควรน�ำมาใช้
“ท�ำไมหลานพูดแบบนั้นล่ะ ?”
“ก็มันจริงนี่ครับย่า” ทอมมัสยืนกรานในความคิดของตนเอง “ภาษาไทย
ใช้ได้ในเฉพาะแผ่นดินไทย แต่ยุคสมัยนี้มันก้าวหน้ากว้างไกลไปมากกว่านั้นแล้วนะ
ครับ การไปต่างประเทศง่ายเหมือนพลิกลิ้น”
“เขาพูดว่าพลิกฝ่ามือจ้ะ”
“ผมหมายความว่าอย่างนั้นแหละครับ” ทอมมัสถอนหายใจ “ภาษา
อังกฤษจัดเป็นภาษาสากล หรือภาษาจีนกับญีป่ นุ่ ก็จดั เป็นภาษาเศรษฐกิจ แล้วภาษา
ไทยล่ะครับ ใช้ในสถานการณ์ไหนบ้างนอกจากพูดคุยกับคนไทยด้วยกันเอง”
“ภาษาไทยมีความงามในรูปแบบของมันเอง อย่าดูถกู รากเหง้าของตัวเอง
สิ อย่าน�ำความเป็นตัวตนของเราไปเปรียบเทียบกับชนชาติอนื่ เพราะนัน่ หมายความ
ว่าเราก�ำลังดูถูกตัวเอง ทุกคนย่อมมีข้อดีในแบบฉบับของตัวเองทั้งนั้น”
“แต่เราควรมองไปข้างหน้าไม่ใช่เหรอครับย่า?”
ทอมมัสแย้งว่าโลกพัฒนาไปไกลเกินกว่าที่ประเทศไทยจะตามทัน เพราะ
ค�ำว่าอนุรักษ์ จริงๆ เราควรให้ความส�ำคัญกับค�ำว่าพัฒนามากกว่าย�่ำอยู่กับที่ หา
ทางแก้ไขปัญหามากกว่าหาคนรับผิดชอบ เขายกตัวอย่างกรณีธรรมชาติของประเทศ
ที่อดีตเคยถูกยกว่าสวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของโลก บัดนี้ถูกท�ำลายไปจนแทบ
ไม่เหลือ รัฐบาลก็มงุ่ หาแต่ผรู้ บั ผิดชอบบอกแต่วา่ ทุกคนต้องช่วยกันดูแลฟืน้ ฟูสภาพ

68 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 68 21/3/2561 BE 10:00


สิง่ แวดล้อม แต่ตา่ งชาติพฒ ั นาธรรมชาติเทียมดึงดูดนักท่องเทีย่ วไปจนหมด คนไทย
แทบไม่เหลือตัวตนในสายตาของต่างชาติอีกต่อไปแล้ว เว้นเสียแต่กรณ์ผู้เป็นพ่อที่
เป็นนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกที่ต่างชาติยังให้การยอมรับนับถืออยู่บ้าง
“ผมอยากเป็นแบบพ่อครับย่า” ทอมมัสบอก “ผมอยากให้คนยอมรับใน
ฐานะบุคคลที่สร้างอนาคต ไม่ใช่ถูกเรียกว่าเป็นกลุ่มคนล้าหลังตามใครไม่ทัน”
“แม่ครับ แม่ได้เข้ามาในห้องท�ำงานของผมหรือเปล่าครับ ?”
บุคคลทีถ่ กู เอ่ยถึงชะโงกหน้าผ่านประตูอตั โนมัตเิ ข้ามาในห้องของทอมมัส
ชายวัยสีส่ บิ ต้นๆ แต่ใบหน้ายังหนุม่ ราวกับเพิง่ ผ่านสามสิบมาหมาดๆ มีนกั ข่าวหลาย
คนบอกถ้ากรณ์ดูแลใส่ใจเรื่องภาพลักษณ์กว่านี้คงเป็นนายแบบได้สบาย หากแต่
กรณ์ไม่มีเวลาจัดแต่งทรงผม หรือเครื่องแต่งกายให้อยู่ในสภาพดีกว่าที่เป็นอยู่นี้
ตราบใดทีก่ รณ์ยงั เกาหัวตลอดเวลาคิดอะไรไม่ออก ล้วงกระเป๋าเข้าๆ ออกๆ เมือ่ หา
ของไม่พบจนเสื้อผ้ายับยู่ยี่
...เหมือนเช่นที่กำ� ลังท�ำอยู่ในขณะนี้
“อะไรหายล่ะกรณ์ ?”
“เฟืองตัวหนึ่งครับแม่” กรณ์กวาดสายตามองไปทั่วห้องราวกับก�ำลังคิด
ว่าเฟืองที่หายไปจะมีขามาหล่นอยู่ในห้องของทอมมัส “สงสัยผมจะไปลืมวางทิ้งไว้
ที่ไหน มีอะไรให้พ่อช่วยไหมลูก ?”
สีหน้าของทอมมัสคงบ่งบอกได้วา่ ก�ำลังมีปญ ั หา ผูเ้ ป็นพ่อจึงเอ่ยค�ำถามนัน้
ออกมา แต่เขาคงไม่จ�ำเป็นต้องตอบ เพราะพ่อยังพูดไม่จบประโยค
“ยังไงให้ย่าช่วยไปก่อนนะ งานพ่อยังไม่เสร็จเลย”
...นี่แหละประโยคจบที่สมบูรณ์
...ถามตามมารยาท
“ครัง้ นีล้ กู คงต้องช่วยทอมมัสหน่อยแล้วแหละ” วันรุง่ เอ่ยประโยคทีท่ ำ� ให้
ทอมมัสกับกรณ์หันไปมองเธอแทบพร้อมกัน
“แค่สอนการบ้านแม่ก็ช่วยได้นี่ครับ ผมก�ำลัง...”
“ไม่ใช่การบ้านน่ะ” วันรุ่งมองหน้าลูกชายพร้อมคลี่ยิ้มที่เมื่อใดปรากฏขึ้น

สถาบันพระปกเกล้า 69

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 69 21/3/2561 BE 10:00


กรณ์จะไม่สามารถขัดค�ำสั่งได้ “เรื่องหน้าที่ที่ควรจะท�ำในฐานะที่เป็นพลเมืองของ
ประเทศไทยมากกว่าที่ทอมมัสควรต้องเรียนรู้ในตอนนี้”
“แต่แม่...”
“ย่าครับผมว่าไม่ต้อง...”
“อีกหนึ่งชั่วโมงย่าจะมาถามว่าหลานได้อะไรจากนักวิทยาศาสตร์ใหญ่คน
นีบ้ า้ งนะ” วันรุง่ เอ่ยพร้อมบังคับให้รถเข็นเคลือ่ นออกจากห้องไป และไม่ลมื ทีจ่ ะส่ง
ยิ้มให้ลูกชายที่ยืนเกาหัวแกรกๆ “พยายามเข้านะนักวิทยาศาสตร์รางวัลพัฒนา
ศักยภาพสาขาการด�ำรงชีวิตของมนุษยชาติ”
...มีเพียงความเงียบที่ท�ำหน้าที่อย่างขยันขันแข็ง
ทอมมัสกับกรณ์มองหน้ากันพักหนึ่ง เขาเชื่อว่าพ่อคงมีความคิดไม่ต่างกัน
เท่าไร
...จะคุยอะไรกัน ?
“อืม...ลูก...สนใจจะไปดูห้องท�ำงานของพ่อไหม ?”
“ไปสิครับพ่อ”

ทอมมัสไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่เขาฝันจะมาถึงเร็วขนาดนี้ ขึ้นชื่อว่าเด็กอายุ
สิบเอ็ดปีคงมีสถานที่อยากไปมากมาย สวนสนุก ห้างสรรพสินค้า ส�ำหรับเขาสถานที่
ที่อยากไปนั้นใกล้กว่ามากแต่มันกลับดูห่างไกลเสียเหลือเกิน...ห้องท� ำงานของผู้
เป็นพ่อ
...ข้างในมีของละเอียดจุกจิกเยอะแยะ ห้ามเข้ามาเด็ดขาดนะทอมมัส
ค�ำสั่งเด็ดขาดทั้งจากกรณ์และวันรุ่งย�ำ้ เตือนอยู่ในใจเขาตลอดมา หากแต่
วันนี้พ่อกลับอนุญาตให้เขาเข้าไปข้างในได้
ระหว่างทางเดินจากห้องนอนของทอมมัสไปยังห้องท�ำงานของกรณ์ เขามอ
งออกไปนอกระเบียงทางเดินที่ถูกล้อมด้วยกระจกแก้วใสความหนาหลายสิบ
มิลลิเมตร เพือ่ ให้แข็งแรงพอจะป้องกันมวลน�ำ้ มหาศาลทีร่ ายล้อมอยูภ่ ายนอกไม่ให้
พังเข้ามาในบ้านได้ ย่าเล่าให้เขาฟังว่าเมื่อก่อนโลกเราไม่ได้มีสภาพเหมือนดังเช่น

70 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 70 21/3/2561 BE 10:00


ทุกวันนี้ พื้นดินบางแห่งแร้นแค้นแห้งแล้ง บางแห่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้และ
สัตว์ป่า หากแต่เมื่อกิเลสครอบง�ำจิตใจมนุษย์มากขึ้นและคิดแสวงหาแต่ประโยชน์
ใส่ตนเอง โลกจึงแก้แค้นคืนจนมีสภาพดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ฟ้าสั่งให้ฝนตกวันละ
หลายครั้งท�ำให้ปริมาณน�้ำเพิ่มสูงขึ้น หลายเมืองต้องจมอยู่ใต้บาดาล แต่โชคดีที่
วิทยาการท�ำให้มนุษย์สามารถปรับตัวอยูใ่ ต้นำ�้ ได้ไม่ยากนัก ทอมมัสมองเห็นพาหนะ
ทรงกลมมี ค นนั่ ง อยู ่ ด ้ า นในพุ ่ ง ไปมาในน�้ ำ แล้ ว อดคิ ด ไม้ ไ ด้ ว ่ า รถยนต์ ห รื อ รถ
มอเตอร์ไซค์ที่มีล้อจะให้ความรู้สึกเช่นไรเวลานั่ง พาหนะเหล่านั้นเป็นได้เพียงเศษ
ซากที่จมอยู่ใต้ผืนน�ำ้ อันกว้างใหญ่นี้เท่านั้น
...ถ้าไม่ปรับตัวก็อยู่ไม่ได้ บอกแล้วว่าคนเราต้องก้าวไปข้างหน้า
เมื่อประตูอัตโนมัติเปิดออก ทอมมัสมองไปรอบห้องต่อมใคร่รู้ของเขา
ท�ำงานต่อเนื่อง สิ่งประดิษฐ์แปลกๆ ที่เขาเคยเห็นและไม่เคยรู้จักวางกองสูงชนิดที่
หากถล่มลงมาทับ คนโดนทับไม่ตายก็คงพิการแบบหาอะไหล่มาเปลี่ยนไม่ได้
อุปกรณ์บางชนิดกรณ์บอกว่าเป็นต้นแบบที่รอคอยการพัฒนา บางอย่างก็เตรียม
พร้อมเปิดตัวเร็วๆ นี้ นอกจากนั้นยังมีของที่ยังค้นคว้าค้างไว้อีกหลายอย่าง แต่สิ่งที่
สะดุดตาทอมมัสมากทีส่ ดุ คือหลอดทดลองกลางห้อง เพราะกระดาษอิเล็คโทรนิกส์
หลายใบรวมทัง้ คอมพิวเตอร์หลายเครือ่ งวางกองไว้ตรงหน้า หมายความว่าอุปกรณ์
ชิ้นนี้คือสิ่งที่กรณ์ก�ำลังให้เวลาทั้งหมดกับมัน
“ดูเหมือนย่าอยากให้พ่อคุยกับลูกเรื่อง...เรื่อง...”
“หน้าที่ที่ผมต้องท�ำครับ” ทอมมัสต่อให้จบประโยค
“อ้อ ใช่ๆ หน้าที่ที่ลูกต้องท�ำในฐานะที่เป็นพลเมืองประเทศไทย” กรณ์
หยุดเกาหัวและเดินไปหย่อนก้นลงบนโต๊ะไม้เก่าๆ ข้างหลอดทดลองโดยปัดกระดาษ
อิเล็คโทรนิกส์ออกให้พอมีที่ว่างส�ำหรับนั่งได้ “อืม...เราจะเริ่มตรงไหนกันดี”
พ่อลูกมองหน้ากันพักหนึ่งก่อนกรณ์จะเริ่มท�ำลายก�ำแพงความเงียบ
“เห็นว่าลูกอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ ?” กรณ์เอ่ยและถามต่อเมือ่ ทอมมัส
พยักหน้า “ท�ำไมถึงอยากเป็นล่ะ ? อาชีพนีน้ า่ เบือ่ จะตายไปนะ ไม่มวี นั หยุด ไม่มคี ำ�
ว่าสิ้นสุด ไม่มีคำ� ว่างานเสร็จ ดูอย่างงานชิ้นนี้อันที่จริงมันจะเสร็จเมื่อไรก็ได้ แต่พ่อ

สถาบันพระปกเกล้า 71

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 71 21/3/2561 BE 10:00


ก็เติมนั่นเพิ่มนี่จนมันไม่เสร็จสักที”
กรณ์วางมือสัมผัสหลอดทดลองด้านข้างเบาๆ ราวกับเกรงว่ามันจะปริแตก
ออก จากนัน้ จึงอธิบายว่าของในหลอดทดลองนีต้ นประดิษฐ์และทดลองซ�ำ้ ไปซ�ำ้ มา
อยู่หลายปี มีบริษัทน้อยใหญ่มาติดต่อขอซื้อไปเปิดตัวแต่ตนยังไม่ตัดสินใจขายให้
ใคร เพราะเห็นถึงจุดบกพร่องบางอย่างที่อยากแก้ไขให้ใกล้เคียงกับค�ำว่าสมบูรณ์
มากที่สุด
“ผมอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์เพราะเป็นอาชีพที่มุ่งค้นคว้าพัฒนาให้โลก
ก้าวไปข้างหน้า ทุกคนจะมีความสุขความสบายเพิม่ ขึน้ เป็นอาชีพทีไ่ ด้รบั การยอมรับ
จากคนอืน่ มากทีส่ ดุ ครับ” ทอมมัสคิดค�ำตอบ สวยหรูทสี่ ดุ เท่าทีเ่ ด็กวัยเท่านีจ้ ะตอบ
ได้แล้ว
...แต่ดูเหมือนจะยังไม่ตรงใจผู้เป็นพ่อ
“งัน้ เหรอ แล้วลูกคิดว่านักวิทยาศาสตร์จำ� เป็นต้องมีทกั ษะความรูอ้ ะไรบ้าง ?”
ทอมมัสนึกพักหนึ่งจึงบอกว่า ความคิด จินตนาการ ช่างสังเกต ช่างสงสัย
และอื่นๆ แต่เขายืนยันว่าภาษาไทยไม่เห็นจ�ำเป็นในการเป็นนักวิทยาศาสตร์แม้แต่
น้อย
“ท�ำไมล่ะ ?” กรณ์เลิกคิ้ว
“ภาษาไทยมีไว้ส�ำหรับคนไทยเท่านั้นนี่ครับพ่อ” ทอมมัสบอก “ภาษา
สากลคนเขาก็ใช้ภาษาอังกฤษ ภาษาญีป่ นุ่ หรือภาษาจีนกันทัง้ นัน้ หนังสือเรียนต่างๆ
ยังเป็นภาษาอังกฤษเลย”
“ก็จริงนะ” กรณ์เหลือบตาไปทางกองหนังสือบนโต๊ะไกลออกไป ซึ่งล้วน
เป็นต�ำราภาษาอังกฤษ ทุกเล่ม “ลูกก็เลยไม่อยากเรียนภาษาไทย ?”
“ครับ ผมว่ามันไม่จำ� เป็นในการท�ำตามความฝันของผมเลย”
“ภาษาไทยอาจไม่จ�ำเป็นในการเป็นนักวิทยาศาสตร์นะ แต่มันจ�ำเป็น
เพราะลูกเป็นคนไทย หากคนไทยใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง คิดหรือว่าจะได้รับการ
ยอมรับการคนอืน่ ” กรณ์ยมิ้ เล็กน้อยพร้อมยกตัวอย่างหาก วันหนึง่ ทอมมัสได้ชอื่ ว่า

72 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 72 21/3/2561 BE 10:00


เป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าของโลก แต่กลับเขียนข้อความด้วยภาษาไทยผิดๆ
ถูกๆ แทนที่จะได้รับการยกย่องตนกลับคิดว่ามันน่าอับอายเสียมากกว่า
“แต่กว่าจะถึงตอนนั้นภาษาไทยอาจผิดเพี้ยนไปจากเดิมหมดแล้วก็ได้นี่
พ่อ” ทอมมัสแย้งเพราะ ทุกวันนี้น้อยคนนักจะใช้ภาษาไทยถูกต้องทุกค�ำ
“แล้วลูกจะยอมรับในสิ่งที่ผิดๆ แบบนั้นเหรอ ? เห็นคนอื่นท�ำผิดเราก็ทำ�
ตามได้เหรอ ?” กรณ์ถามกลับท�ำให้ทอมมัสสะอึกเล็กน้อย “ถ้าลูกคิดแบบนัน้ เท่ากับ
ลูกขาดคุณสมบัติของนักวิทยาศาสตร์แล้วนะ”
“หมายความว่ายังไงครับ ?”
กรณ์อธิบายว่าคุณสมบัติของนักวิทยาศาสตร์ที่ดีคือการไม่ยอมรับอะไร
ง่ายๆ โดยเฉพาะหากสิง่ นัน้ ตนเห็นว่าผิดด้วยแล้ว เพราะหน้าทีข่ องนักวิทยาศาสตร์
คือการแก้ไขสิง่ ทีผ่ ดิ หรือไม่สมบูรณ์ให้มสี ภาพสมบูรณ์และพัฒนาให้กา้ วหน้าขึน้ กว่า
เดิม ดังนั้นถ้าทอมมัสยอมรับว่าภาษาไทยที่ใช้กันทุกวันนี้เพียงพอแล้วโดยไม่คิดหา
ทางแก้ไขให้สมบูรณ์ถูกต้อง เท่ากับขาดคุณสมบัติส�ำคัญที่นักวิทยาศาสตร์พึงมี
“นี่พ่อหลอกให้ผมกลับไปท�ำการบ้านหรือเปล่าเนี่ย ?”
“ฮ่าๆ ๆ จะคิดแบบนั้นก็ไม่ผิดนะลูก” กรณ์หัวเราะ
“ภาษาไทยตอนนี้ทำ� ได้แค่อนุรักษ์ไว้เท่านั้นนะพ่อ เอาไปใช้อะไรอย่างอื่น
ไม่ได้แล้วเรียนไปสักวันก็จะค่อยๆ สูญหายไปตามกาลเวลาเท่านั้นแหละ”
“แต่มนั ก็คอื พืน้ ฐานในความเป็นไทย ในฐานะทีล่ กู เป็นคนไทยก็ควรจะ...”
“พื้นฐาน ?” ทอมมัสแย้งพ่อโดยไม่สนค�ำว่ามารยาท “ผมมองว่ามัน
เป็นการย�ำ่ อยู่กับที่มากกว่านะครับ ถ้าเราไม่เดินไปข้างหน้าเมื่อไรเราจะก้าวทันคน
อื่นเขา”
กรณ์เกาหัวแกรกๆ พักหนึ่งก่อนจะพ่นลมหายใจเบาๆ ออกทางจมูก
“ในความคิดพ่อพื้นฐานเป็นสิ่งส�ำคัญก่อนจะพัฒนาไปข้างหน้านะ ถ้าเรา
ยังยืนไม่มั่นคงเร่งแต่จะเดินๆ ก็มีแต่ล้ม สู้ท�ำรากฐานให้ดีก่อนค่อยเดินจะไปได้เร็ว
กว่า”

สถาบันพระปกเกล้า 73

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 73 21/3/2561 BE 10:00


กรณ์ลกุ ขึน้ จากโต๊ะทีน่ งั่ อยูเ่ ดินไปทางโต๊ะท�ำงานอีกตัวทีเ่ ต็มไปด้วยเอกสาร
ทัง้ กระดาษอิเล็คโทรนิกส์และกระดาษปกติทสี่ มัยนีไ้ ม่มคี นใช้กนั แล้ว หากแต่เจ้าตัว
เคยบอกว่าตอนทีก่ ำ� ลังมีความคิดอะไรทีอ่ ยูใ่ กล้ตวั ย่อมสะดวกทีส่ ดุ กรณ์คน้ หาบาง
อย่างบนโต๊ะก่อนจะส่งมันให้กับทอมมัส
ทอมมัสรับกระดาษอิเล็คโทรนิกส์แผ่นหนึ่งมาเปิดออก ข้อมูลต่างๆ พรั่ง
พรูออกมาในรูปแบบสามมิติ แผงวงจรและแบบแปลนการสร้างหุ่นจักรกลตัวหนึ่ง
ดูซับซ้อน มีทั้งขั้นตอนที่เขาพอรู้เนื่องจากเคยเรียนในวิชาเทคโนโลยีเบื้องต้น และ
วงจรชัน้ สูงทีเ่ ชือ่ ได้วา่ นักศึกษาในคณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์ในมหาวิทยาลัยก็ยงั ไม่
เคยเจอ ทอมมัสดูแบบแปลนตรงหน้าพักหนึ่งก่อนหันไปทางผู้เป็นพ่อ
“นี่คือ...”
“การบ้านของพ่อเองแหละ”
กรณ์เคาะหลอดทดลองเบาๆ พร้อมบอกว่าเจ้าหุน่ ทีน่ อนหลับอยูใ่ นหลอด
ทดลองนี้คือการบ้านที่ตนก�ำลังตั้งใจท�ำอยู่ทุกวันนี้
“ถ้าสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ของพ่อสมบูรณ์ ไม่สิ...ต้องบอกว่าถ้าสิ่งประดิษฐ์ชิ้น
นี้ของพ่อเป็นที่พอใจของพ่อเมื่อไร พ่อจะเปิดตัวมันให้โลกรู้จัก พ่อเชื่อเลยว่าจะ
เป็นการพลิกหน้ากระดาษของโลกไปหน้าต่อไปแน่นอน”
...ค�ำว่าพลิกหน้ากระดาษเป็นค�ำพูดติดปากของพ่อเสมอ
วันรุง่ บอกว่าประวัตศิ าสตร์ของโลกเปรียบเสมือนบันทึกขนาดใหญ่ เมือ่ ใด
ที่มีการเปลี่ยนแปลงหน้ากระดาษของบันทึกนั้นก็จะพลิกไปหน้าถัดไป อาทิ การ
ก�ำเนิดของมนุษย์ การล่าอาณานิคม สงครามโลก หรือแม้กระทั่งภัยพิบัติครั้งใหญ่
ทีท่ ำ� ให้โลกเปลีย่ นแปลงภูมปิ ระเทศไปเมือ่ หลายร้อยปีกอ่ นก็เช่นเดียวกัน นอกจาก
นั้นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีการเปิดตัวก็สามารถพลิกหน้ากระดาษของโลกได้เช่น
เดียวกัน การใช้รถยนต์กลายเป็นสิ่งล้าสมัยเมื่อมีการเปิดตัวอุปกรณ์ย้ายมวลสาร
การจดบันทึกในกระดาษกลายเป็นเรือ่ งยุง่ ยากเมือ่ กระดาษอิเล็คโทรนิกส์แผ่นเดียว
สามารถแทนสมุดได้หลายสิบเล่ม
...แล้วหุ่นจักรกลของพ่อจะพลิกหน้ากระดาษยังไง ?

74 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 74 21/3/2561 BE 10:00


กรณ์กดเปิดหลอดทดลองตรงหน้าให้ทอมมัสได้เห็นชิน้ งานชัดๆ หุน่ จักรกล
ขนาดเท่าผูใ้ หญ่นอนนิง่ อยูใ่ นหลอดทดลอง มีสายไฟโยงเต็มไปหมด ผิวหนังบางส่วน
เป็นหนังสังเคราะห์ให้ความรู้สึกเทียบกับผิวหนังของมนุษย์จริงๆ ซึ่งกรณ์บอกว่า
เมื่องานเสร็จตามต้องการจะหุ้มหนังสังเคราะห์นี้ทั้งตัว หมายความว่าหุ่นตัวนี้จะ
เหมือนมนุษย์ทุกประการ ไม่ใช่มีบางส่วนเป็นเครื่องจักรกลให้เห็นชัดเจนดังเช่น
ตอนนี้ ชิน้ ส่วนเฟืองและแผงวงจรทีย่ งั บัดกรีไม่เสร็จเปิดอ้าตรงบริเวณช่วงอก ใบหน้า
ของหุ่นยนต์เสร็จไปแล้วกว่า ๙๕% เหลือเพียงปั้นแต่งอีกเล็กน้อย แต่ถึงกระนั้น
ทอมมัสคิดว่าหากดูเพียงส่วนหัวแล้ว หุน่ ตรงหน้าไม่ตา่ งจากคนก�ำลังนอนนิง่ อยูเ่ ลย
ทีเดียว
กรณ์บรรยายสรรพคุณที่ทอมมัสพอทราบได้จากการอ่านข้อมูลเมื่อครู่
มนุษย์จักรกลตัวนี้จะท�ำหน้าที่แทนมนุษย์ได้ทุกรูปแบบ แต่กรณ์อยากเน้นให้มัน
ท�ำงานเสีย่ งอันตรายแทนมนุษย์มากกว่า เนือ่ งจากปัจจุบนั อัตราการก่อการร้ายและ
ภัยธรรมชาติตา่ งๆ ยังอยูใ่ นเกณฑ์ไม่ปลอดภัย ทุกปีจะมีมนุษย์ตอ้ งเสียชีวติ ไปเพราะ
เรื่องเหล่านั้นไม่น้อยกว่า ๒๐% เพราะเครื่องจักรกลที่ท�ำหน้าที่ตรวจสอบรวมทั้ง
เสี่ยงภัยแทนยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ ดังนั้นมนุษย์จักรกลตัวนี้ตนจึงคิดว่าตอบ
โจทย์และตอบสนองความต้องการของมนุษย์มากที่สุดในเวลานี้
“ความจริงมันก็เสร็จแล้วละนะ” กรณ์วางมือลงบนหน้าผากของมนุษย์
จักรพร้อมไล่นวิ้ เรือ่ ยมาตามร่างกาย “การตอบสนอง การเคลือ่ นไหว ความทนทาน
รวมทั้งการตระหนักรับรู้ถึงอันตราย แต่มีข้อหนึ่งที่พ่อยังไม่ให้ผ่าน”
ทอมมัสสะดุ้งเมื่อกรณ์กระชากแผงวงจรแผ่นหนึ่งตรงอกของมนุษย์จักร
กลออกมา
“ถ้าพ่อถอดแผงวงจรนีอ้ อกไป เจ้านีก่ จ็ ะเสร็จพร้อมเปิดตัวทันที” กรณ์ยมิ้
แต่ไม่นานก็วางแผงวงจรนั้นลงที่เดิม “แต่การท�ำเช่นนั้นเท่ากับเมินเฉยต่อระบบ
ความปลอดภัยของมนุษย์ เจ้านี่จะคิดถึงความปลอดภัยของทรัพย์สินมากกว่าตัว
บุคคล จะท�ำให้เกิดอันตรายเพิ่มขึ้น ๕% ซึ่งถ้าพ่อต้องการความส�ำเร็จพ่อก็แค่มอง
ผ่านมันไป เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในฐานะนักประดิษฐ์แต่ไม่... พ่อต้องการให้งานออก

สถาบันพระปกเกล้า 75

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 75 21/3/2561 BE 10:00


มาใกล้เคียงกับ ค�ำว่าสมบูรณ์ทสี่ ดุ ดังนัน้ แผงวงจรทุกอย่างล้วนมีความจ�ำเป็นในตัว
ของมันเพื่อให้งานออกมาดี เปรียบได้กับประเทศที่จะพัฒนาได้ชิ้นส่วนทุกชิ้นหรือ
พลเมืองทุกคนต้องตระหนักถึงหน้าที่ของตน ร่วมกันท�ำหน้าที่ให้ดีเพื่อสร้างความ
มั่นคงก่อนจะเดินไปข้างหน้า”
...ถ้าเพียงแต่จะไปให้ถึงจุดหมาย ทุกคนต่างเดินไปตามแบบที่ตนเอง
ต้องการ แทนทีจ่ ะไปข้างหน้าได้ บางทีอาจเป็นการย�ำ่ อยูก่ บั ทีห่ รือเลวร้ายถึงขัน้ ล้ม
พังไม่เป็นท่า
“พ่อพูดเรื่องยากไปหรือเปล่า ?” กรณ์ถาม
“ไม่ครับ” ทอมมัสฉีกยิ้มกว้าง “ผมควรท�ำหน้าที่ของตนเองในตอนนี้ให้ดี
ที่สุด เพราะหน้าที่เล็กๆ นั้นก็เป็นกลไกส�ำคัญให้เกิดความส�ำเร็จใหญ่ๆ ได้”
...ทอมมัสตั้งใจเรียน วันรุ่งก็ไม่เหนื่อยมีเวลาพักผ่อน กรณ์ก็มีเวลาค้นคว้า
โดยไม่ตอ้ งพะวงเรือ่ งเขา เฟืองทุกชิน้ หมุนต่อเป็นระบบอย่างทีค่ วรจะเป็น ครอบครัว
ก็จะเดินหน้าต่อไป
...ถ้าทุกครอบครัวตระหนักได้ถึงทฤษฎีนี้ ประเทศก็จะก้าวหน้าไปได้
รวดเร็วกว่าการที่ทุกคนมุ่งหน้าแข่งขันโดยไม่สนใจคนอื่นรอบข้าง
“สรุปได้ด”ี กรณ์วางมือบนบ่าของทอมมัส “เอาล่ะ ถึงเวลาทีล่ กู ควรไปท�ำ
หน้าที่ของตัวเองได้แล้วนะ”
ทอมมัสกับกรณ์เดินตรงไปทางประตูเพือ่ ออกจากห้องท�ำงานพร้อมกัน เขา
ดีใจที่การไม่ตระหนักรับรู้ถึงหน้าที่ทำ� ให้ได้มีช่วงเวลาเช่นนี้
...เวลาที่ได้พูดคุยกันตามประสาพ่อลูก
“หืม...”
“ท�ำไมเหรอครับพ่อ ?”
ทอมมัสเลิกคิ้วเมื่อกรณ์ผละจากเขาตรงไปทางมุมหนึ่งของห้อง ใต้โต๊ะ
ท�ำงานมีเฟืองเล็กๆ ชิ้นหนึ่งตกอยู่ สีหน้าของกรณ์บ่งบอกได้ทันทีว่าเฟืองชิ้นนี้คือ
สิ่งที่กำ� ลังตามหา

76 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 76 21/3/2561 BE 10:00


“เจอแล้ว! เดี๋ยวพ่อขอกลับไปท�ำงานก่อนนะลูก ลูกกลับไปท�ำหน้าที่ของ
ตัวเองต่อนะ” กรณ์บอกพร้อมเดินกลับไปทางหลอดทดลอง แต่ดูเหมือนจะยังไม่
ลืมหน้าที่ของผู้เป็นพ่อ “อย่าเข้ามาในห้องนี้ถ้าพ่อไม่อนุญาตนะ”
...ความสุขนั้นสั้นนัก
“ครับ” ทอมมัสยิ้มพลางนึกในใจว่าสักวันเขาจะเข้ามาในห้องนี้อีกครั้ง
...เมื่อวันที่เขาเปลี่ยนหน้าที่ที่ต้องกระท�ำ

“ดูเหมือนกรณ์จะสอนลูกได้ดีนะ”
วันรุง่ เอ่ยเมือ่ เห็นทอมมัสก้มหน้าก้มตาท�ำการบ้านในห้องนอน เธอยิม้ และ
ตั้งใจจะเก็บความลับที่ไม่คิดจะบอกใครไว้กับตัวไปตลอดกาล
บางทีกรณ์ก็ต้องตระหนักถึงหน้าที่ของพ่อบ้าง ไม่ใช่หมกมุ่นอยู่กับงาน
เพียงอย่างเดียว เช่นเดียวกับหน้าที่ของเธอที่ต้องท�ำให้สัมพันธภาพของครอบครัว
เชื่อมชิดสนิทกัน
...คุ้มค่ากับที่ลงทุนเอาเฟืองไปซ่อนจริงๆ

ทอมมัสลองอ่านบทกลอนวิชาภาษาไทยที่เป็นการบ้านอีกครั้ง และมั่นใจ
แล้วว่าเป็นวรรคจบที่ลงตัวที่สุด
...ทุกคนย่อมมีหน้าที่ของตัวเอง
...ฝนเองก็เช่นกัน

พิรุณโปรยร่วงหล่นจากฟากฟ้า หล่นร่วงมาตรงเวลาทุกเช้าค�่ำ
เสียงหยาดฝนบรรเลงเป็นประจ�ำ คือหน้าที่ต้องกระท�ำของพิรุณ

สถาบันพระปกเกล้า 77

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 77 21/3/2561 BE 10:00


ชัยวัฒน์ จงมั่นวัฒนา
เริ่มเขียนเรื่องสั้นส่งเข้า
ประกวดตัง้ แต่ศกึ ษาระดับมหาวิทยาลัย
ได้รางวัลบ้าง พลาดรางวัลบ้าง แต่ถอื ว่า
เป็นประสบการณ์ทดี่ ใี นการหาข้อ
บกพร่ อ งของตนเอง จนกระทั่ ง ได้ มี
นิยายของตัวเองได้ตีพิมพ์อย่างไรก็ตาม
การส่งเรื่องสั้นเข้าประกวดในเวทีต่างๆ
ก็ถอื เป็นความท้าทายทีผ่ เู้ ขียนหาโอกาส
กระท�ำอยู่เสมอ ทั้งนี้ขอฝากเรื่องสั้น
‘เฟืองชิ้นเล็กที่หล่นใต้โต๊ะอุปกรณ์’ ไว้ให้ผู้อ่านได้สนุกกับเรื่องสั้นเรื่องนี้

78 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 78 21/3/2561 BE 10:00


พ่อก็ยังเป็นพ่อเหมือนเดิม
นิราศ นิรันดร

ส ายลมยามเช้าพัดโชยมาบางเบาผ่านสวนหย่อมของหมู่บ้าน
จัดสรรริมแม่น�้ำเจ้าพระยา สัมผัสได้ถึงความแปรเปลี่ยนของอากาศ
ปลายฝนต้นหนาวทีก่ ำ� ลังจะมาเยือน จากระเบียงบ้านทาวน์เฮ้าส์ทผี่ มอยูจ่ ะมองเห็น
ยอดไม้ส่ายใบไหวระริกอยู่กับสายลม พร้อมเสียงกังวานใสของนกกางเขนที่เพรียก
ร้องหากันดังระงม สวนหย่อมแห่งนี้แม้จะมีปริมาณเนื้อที่ไม่มากนัก แต่ก็มีขนาด
กว้างพอที่จะให้คนในหมู่บ้านได้มาพักผ่อนหย่อนใจกันในยามว่าง
ในเช้าของวันหยุดอย่างนี้จึงไม่ค่อยมีใครอยากตื่น นอกจากลุงเดชเพื่อน
ของพ่อซึง่ มีบา้ นอยูต่ รงหัวมุมถนนฝัง่ ตรงกันข้ามก�ำลังลากสายยางสีขาวขุน่ ขดใหญ่
จากก๊อกน�ำ้ ไปรดต้นไม้รอบๆ สวน จริงๆ แล้วมันไม่ใช่กงการอะไรของแกที่จะต้อง
ท�ำเช่นนั้น แต่ใครๆ ต่างทราบดีว่าลุงเดชเป็นคนรักต้นไม้ และมีเวลาว่างเหลือเฟือ
หลังเกษียณจากข้าราชการต�ำรวจออกมาใช้ชีวิตอย่างสงบอยู่กับบ้าน บางครั้งแกดู
ออกจะเหงาๆ อาจเป็นเพราะภรรยาได้เสียชีวิตไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อสองปีก่อน แต่
หมดปัญหาเรื่องลูกที่แต่งงานมีครอบครัวไปหมดแล้วทั้งสองคน

สถาบันพระปกเกล้า 79

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 79 21/3/2561 BE 10:00


80 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 80 21/3/2561 BE 10:00


เดิมทีที่ดินตรงสวนหย่อมเป็นจุดที่เจ้าของโครงการหมู่บ้านเตรียมไว้
ส�ำหรับสร้างสระว่ายน�ำ้ แต่หลังจากเข้ามาอยูไ่ ด้ไม่นานก็มขี า่ วร้ายว่าเขาถูกฟ้องร้อง
ล้มละลาย เพราะขาดทุนจากโครงการอื่นซึ่งขายไม่ออกจนทนแบกรับภาระหนี้สิน
ไม่ไหว สระว่ายน�ำ้ ทีผ่ มกับน้องสาววาดฝันว่าจะได้ลงว่ายเล่นให้สนุกสนานกลับกลาย
เป็นพงหญ้ารกปกคลุมไปทั่ว
เช้าวันหนึ่งลุงเดชก�ำลังวิ่งออกก�ำลังกายผ่านมาเจอพ่อตรงหน้าบ้านพอดี
คนทัง้ สองต่างยืนปรึกษาหารือกันถึงเรือ่ งจะแปรสภาพทีด่ นิ ตรงนัน้ ให้เป็นสวนหย่อม
เพื่อใช้เป็นสาธารณประโยชน์ร่วมกันของคนในหมู่บ้าน เพราะหากปล่อยทิ้งร้างไว้
คงไม่เกิดประโยชน์อะไร ก่อนหน้านี้ลุงเดชได้ไปคุยกับผู้ใหญ่เล็กซึ่งชอบช่วยเหลือ
กิจการของชุมชนมาแล้ว ผู้ใหญ่ก็เห็นด้วยกับความคิดดังกล่าวและยินดีสนับสนุน
อย่างเต็มที่
ตกเย็นวันนั้นพ่อกับลุงเดชชวนกันหามีดพร้ามาแผ้วถางพงหญ้าและตัด
โค่นต้นกระถินยักษ์จนเตียนราบ พร้อมปรับผิวดินทีเ่ ป็นหลุมเป็นบ่อให้ได้ระดับเสมอกัน
ส่วนการไปหาซื้อต้นไม้มาปลูกหรือตกแต่งสวนนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของลุงเดช
โดยเฉพาะ บางครั้งพ่อและเพื่อนบ้านใกล้เคียงช่วยกันออกเงินสมทบซื้อกระถาง
ซื้อปุ๋ย รวมทั้งบิลค่าน�้ำ เพราะไม่อยากให้แกต้องควักตังค์จ่ายอยู่คนเดียว ไม่กี่ปี
ต่อมาต้นไม้เหล่านั้นก็เจริญเติบโตแผ่กิ่งก้านและแตกใบให้ความร่มรื่น
พ่อเจอลุงเดชครัง้ แรกตอนทีเ่ ราย้ายครอบครัวมาจากต่างจังหวัดและคบหา
กันเรื่อยมาในฐานะเป็นต�ำรวจรุ่นพี่ จากนั้นอีกสามปีเพื่อนคู่หูต่างวัยได้ชวนกันมา
ซือ้ บ้านทาวน์เฮ้าส์แห่งนีค้ นละห้อง พ่ออยูใ่ นต�ำแหน่งจ่าสิบต�ำรวจมานานกว่าจะได้
เป็นนายดาบ และพยายามสอบเลือ่ นชัน้ เพือ่ ไต่เต้าระดับขึน้ เป็นนายร้อยต�ำรวจ แต่
ก็พลาดหวัง ผิดกับเพื่อนบางคนที่สามารถสอบผ่านได้อย่างง่ายดาย เพราะอาศัย
เงินหรือไม่ก็ใช้เส้นสายของเจ้าใหญ่นายโต
หลายครั้งที่พ่อระบายความน้อยเนื้อต�่ำใจให้แม่ฟังเกี่ยวกับความไม่เป็น
ธรรมต่างๆ นานาในสายงานอาชีพของพ่อ ตอนนั้นผมยังเรียนอยู่ ป.๕ไม่ค่อยจะ

สถาบันพระปกเกล้า 81

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 81 21/3/2561 BE 10:00


ประสีประสาสักเท่าไรกับเรื่องเหล่านี้ แต่พอโตขึ้นมาอยู่มัธยมผมเริ่มรับรู้และเข้าใจ
ในระบบราชการว่ามีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลและแก่งแย่งแข่งขันกันแสวงหาผล
ประโยชน์อย่างน่าละอาย
จุดนี้เองที่ค้างคาใจพ่อและกลายเป็นปมปัญหาให้ผมต้องขบคิดเรื่อยมา
มีอยู่ครั้งหนึ่งสมัยที่พ่อยังเป็นต�ำรวจอยู่ทางภาคใต้ วันนั้นได้รับค�ำสั่งให้
ปฏิบัติหน้าที่ในการตั้งด่านตรวจจับรถบรรทุกที่ขนไม้เถื่อนออกจากป่ายามค�่ำคืน
พ่อเรียกให้รถหยุดแล้วท�ำการตรวจค้นและพบว่าไม้เหล่านั้นขนย้ายมาไม่ถูกต้อง
ตามกฎหมาย คนขับรถกลับไม่รู้สึกไม่สะทกสะท้านอะไร อ้างว่าเขาเป็นเด็กของ
นักการเมืองใหญ่ แต่พ่อไม่ยอม
“จะเป็นเด็กของใครไม่ส�ำคัญ ถ้าท�ำผิดกฎหมายบ้านเมืองต้องถูกจับหมด
โดยไม่มีข้อยกเว้น”
วันรุ่งขึ้นนักการเมืองคนดังกล่าวขับรถเก๋งยี่ห้อหรูมาปรากฏตัวบนโรงพัก
ในชุดสูทสุดเท่เพือ่ ขอประกันตัวลูกน้องทีถ่ กู จับกุมอยูใ่ นห้องขัง เขาเดินเชิดหน้าตรง
เข้าไปหาผู้ก�ำกับในห้องท�ำงานโดยไม่สนใจไยดีนายต�ำรวจหน้าไหน สักพักผู้ก�ำกับ
รีบออกมาสั่งให้ปล่อยตัวผู้ต้องขัง นักการเมืองผู้มีอิทธิพลเดินตามมาชี้หน้าพ่อแล้ว
กล่าวข่มขู่ด้วยถ้อยค�ำอาฆาตแค้น “จ�ำเอาไว้ มึงโดนแน่”
การปฏิบัติงานในหน้าที่อันดีงามของพ่อแทนที่จะได้รับการยกย่องชื่นชม
แต่กลับถูกต�ำหนิติเตียนว่าจับไม่ดูตาม้าตาเรือ ทั้งๆ ที่พ่อได้ท�ำหน้าที่ของตัวเอง
ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง หน�ำซ�้ำยังโดนเหยียบย�่ำเกียรติภูมิจนไม่เหลือค่าของ
ความเป็นคน
ผมมาตรึกตรองเรือ่ งนีอ้ ยูห่ ลายครัง้ หลายหน พร้อมตัง้ ค�ำถามถึงความเทีย่ ง
ธรรมว่ามันอยู่ตรงไหนกันแน่.... เจ้านายของพ่อเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ มีศักดิ์ศรีในความ
เป็นพลเมืองเท่าเทียมกันกับคนอื่นๆ แต่ท�ำไมต้องใช้ยศและใช้อ�ำนาจกดขี่ผู้น้อย
อย่างไร้ความเป็นธรรม....
บางครั้งผมปล่อยให้ความคิดเหล่านี้ลอยวนอยู่ในสมองอย่างไร้ทางออก

82 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 82 21/3/2561 BE 10:00


ต�ำรวจเล็กๆ อย่างพ่อจะมีอำ� นาจอะไรไปสูร้ บปรบมือกับเขา อย่างดีกเ็ ป็น
ลูกไก่ในก�ำมือซึ่งเขาจะบีบขย�ำให้บี้แบนเสียเมื่อไหร่ก็ได้
สุดท้ายพ่อโดนแจ๊คพ็อตเข้าเต็มเปา นั่นเป็นครั้งแรกที่พ่อถูกค�ำสั่งย้ายให้
ไปอยู่ทสี่ ถานีต�ำรวจภูธรแห่งใหม่ซึ่งห่างไกลออกไปคนละจังหวัด แน่นอนค่าใช้จ่าย
ในการเดินทาง ค่าอาหารการกินและค่าที่พักอาศัยย่อมสิ้นเปลืองเป็นเงาตามตัว
เงินเดือนพ่อที่มีอยู่น้อยนิดแทบไม่พอใช้พอจ่าย
ทุกครั้งที่พ่อกลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ผมสังเกต
แววตาของพ่อเหมือนมีความวิตกกังวลซ่อนเร้นอยูข่ า้ งใน ผมไม่ทราบเลยจริงๆ ว่าพ่อ
คิดอะไรอยู่ และแล้ววันหนึ่งสิ่งที่ผมสงสัยก็ถูกเปิดเผยออกมาเมื่อได้ยินเสียงพ่อกับ
แม่นั่งปรึกษาหารือกันถึงเรื่องจะขอย้ายไปอยู่ที่ไกลๆ ที่ไหนสักแห่ง อดสูตัวเองที่
ต้องตกเป็นเหยือ่ ของระบบทีข่ าดความชอบธรรม แม่เองจ�ำต้องท�ำใจรับชะตากรรม
ไปด้วยโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เย็นวันหนึ่งแม่เข้ามาโอบกอดผมกับน้องสาวด้วยสีหน้า
เศร้าซึม “เราต้องย้ายตามพ่อไปอยู่ที่อื่นแล้วล่ะ เรื่องโรงเรียนไม่ต้องห่วงพ่อจะ
จัดการหาให้ลูกเอง”
ตอนมาอยู่นนทบุรีใหม่ๆ เราอยู่กันแบบกระเบียดกระเสียรสุดขีด ยังดีที่
ว่าแม่ได้งานตัดเย็บเสื้อผ้าให้กับญาติคนหนึ่งที่มีร้านขายส่งอยู่แถวประตูน�้ำ มีเงิน
ค่าจ้างพอแบ่งเบาภาระพ่อไปได้บ้าง อย่างน้อยก็เป็นค่าน�ำ้ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ และ
ค่าอาหารการกินในแต่ละวัน
แต่บางครั้งความปวดร้าวในชีวิตไม่ใช่เป็นเรื่องเลวร้ายเสมอไป เพราะมัน
เป็นบทเรียนสอนให้พ่อมีพลังในการก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่ท้อถอย สิ่งที่พ่อ
ปรารถนาก็คือการสอบเลื่อนชั้นจากนายดาบขึ้นเป็นนายร้อยให้ได้ สอบหนแรก
ปรากฏว่าพ่อท�ำไม่ส�ำเร็จ แต่พยายามสู้ใหม่ มุมานะอ่านต�ำรับต�ำราหาความรอบรู้
ให้มากขึน้ กว่าเดิมแล้วลงสนามสอบอีกครัง้ คราวนีพ้ อ่ ยิม้ หน้าบานเมือ่ รูผ้ ลว่าตัวเอง
สอบผ่านไปได้อย่างราบรื่น มันเป็นความภาคภูมิใจที่สามารถพูดได้เต็มปากว่าพ่อ
ได้ใช้ความสามารถของตัวเองล้วนๆ โดยไม่ตอ้ งอาศัยเงินซือ้ ต�ำแหน่งแม้แต่บาทเดียว

สถาบันพระปกเกล้า 83

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 83 21/3/2561 BE 10:00


ทุกคนในครอบครัวต่างดีอกดีใจกันถ้วนหน้าทีพ่ อ่ มียศร้อยต�ำรวจตรีตดิ อยู่
บนบ่า ไม่สงู ส่งแต่กไ็ ม่ตำ�่ ต้อยด้อยเกียรติไปกว่าใคร แต่ชวี ติ การท�ำงานของพ่อกลับ
ไม่ลื่นไหลอย่างที่คิด สาเหตุหลักมาจากตัวพ่อนั่นเองที่เป็นคนตรงไปตรงมาจน
เกินไป ไม่รู้จักรับใช้นาย ไม่ประจบนาย และไม่หาเงินให้นายเพื่อความดีความชอบ
นานๆ พ่อถึงจะได้สองขัน้ กับเขาสักครัง้ บางปีมผี ลงานเห็นๆ ว่าไม่พลาดแน่ แต่กลับ
วืดไปอย่างน่าเสียดาย นั่นเป็นผลมาจากการจับแหลกแบบไม่เกรงอกเกรงใจใคร
จึงถูกอ�ำนาจมืดเล่นงานเสียย�่ำแย่ เพื่อนบางคนเข้ามาปลอบอกปลอบใจให้พ่อลอง
ปรับเปลี่ยนทัศนคติในการท�ำงานเสียใหม่ คือให้รู้จักใกล้ชิดนายและท�ำตัวผสม
กลมกลืนกับคนอื่นบ้าง ท�ำนองเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม
แต่พ่อก็ยังเป็นพ่ออยู่ดี อุดมการณ์อย่างไรก็เป็นอย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง
ตอนนั้นลุงเดชลากสายยางฉีดน�้ำรดต้นไม้เข้ามาใกล้ทุกที จนเกือบมาถึง
มุมบ้านที่ผมยืนอยู่
“ยังขยันขันแข็งเหมือนเดิมนะลุง” ผมร้องทักออกไปแบบคนคุ้นเคย
ลุงเดชชะงักนิดหนึ่งก่อนเหลียวหน้ามามอง แล้วยิ้มแฉ่ง “มาเมื่อไหร่วะ
ชาติ”
“เมื่อคืนเกือบสองทุ่มครับลุง รถติด” ผมพูดจานอบน้อมและให้เกียรติ
เพื่อนของพ่อทุกครั้ง “เป็นห่วงทางบ้าน ได้ข่าวน�้ำท่วมแล้วใจคอไม่ดี ไม่น่าเชื่อว่า
ปีนนี้ ำ�้ ในแม่นำ�้ เจ้าพระยาจะเอ่อขึน้ สูง มีแต่แม่กบั น้องสาวเท่านัน้ ทีอ่ ยูบ่ า้ น หากมัน
ท่วมขึ้นมาจริงๆ คงช่วยไม่ทันแน่ อีกอย่างพ่อก็ไม่อยู่เสียด้วย”
ลุงเดชรับรูเ้ รือ่ งราวทีพ่ อ่ ถูกค�ำสัง่ ย้ายจากนนทบุรไี ปอยูน่ ครนายกมาตัง้ แต่
สองปีทแี่ ล้ว เป็นเคราะห์กรรมของพ่ออีกตามเคยทีไ่ ปจับบ่อนการพนันของเจ้าพ่อ
คนหนึง่ เข้า ในวันเดียวกันนัน้ เจ้าของบ่อนคนดังก็โทรศัพท์ถงึ ผูก้ ำ� กับเพือ่ ระงับเรือ่ ง
ไม่ให้ไปถึงศาล และแล้วเรือ่ งทุกอย่างก็ถกู เก็บดองไว้ในลิน้ ชักอย่างเงียบเชียบ ชีวติ
การงานของพ่อดูเหมือนหักงอและระหกระเหินไม่มีที่สิ้นสุด ตอนนั้นผมเรียนจบ
มหาวิทยาลัยพอดี และได้งานท�ำที่บริษัทผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่งย่าน

84 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 84 21/3/2561 BE 10:00


รังสิต ปทุมธานี โดยมีรถบัสรับส่งคนงานไป-กลับทุกวัน แต่ผมทนกับสภาพรถติด
ไม่ไหว จ�ำต้องเช่า อพาร์ทเม้นท์อยู่ใกล้ๆ ที่ทำ� งานเสียเลย ตกเย็นวันศุกร์หรือเช้า
วันเสาร์ถึงจะได้กลับบ้านมาเจอหน้าแม่และน้องสาวซึ่งตอนนั้นเธอก�ำลังเรียนอยู่
ชั้น ม.ปลาย
“เรื่องขนข้าวขนของไม่ต้องห่วงหรอก บ้านแกกับบ้านลุงมีปัญหาอะไร
ก็ไม่ทอดทิง้ กันอยูแ่ ล้ว” ลุงเดชพูดออกมาด้วยความจริงใจ “นีก่ ห็ วัน่ ๆ อยูเ่ หมือน
กัน เมือ่ วานตอนเย็นลุงขีม่ อเตอร์ไซค์ไปดูระดับน�ำ้ ตรงท่าน�ำ้ หน้าวัด เห็นกระสอบ
ทรายวางซ้อนกันเป็นชัน้ ๆ สูงราวครึง่ เมตรเรียงยาวไปจดก�ำแพงวัดอีกด้านหนึง่ ”
จ�ำได้ว่าน�้ำท่วมใหญ่ปี ๕๔ ผมยังเรียนอยู่ชั้น ม.๕ ยังหนุ่มแน่น มีเรี่ยวมี
แรง ช่วยเขาหิว้ กระสอบทรายไปวางซ้อนทับกันบนแนวตลิง่ หน้าวัด มีชาวบ้านท�ำ
ข้าวกล่องมาแจก เอาน�้ำและผลไม้มาบริการ ทุกคนต่างมากันด้วยน�้ำจิตน�้ำใจใน
การพิทักษ์ภัยจากสายน�้ำ ผมจ�ำได้ว่าพ่อช่วยบรรจุทรายใส่ถุง ส่วนลุงเดชขี่
มอเตอร์ไซค์ตระเวรไปตามซอยต่างๆ เพื่อระดมชาวบ้านออกมาช่วยกันคนละไม้
คนละมือ แต่แล้วก็ยังต้านกระแสน�้ำไม่อยู่ ตอนดึกคืนหนึ่งเจ้าหน้าที่ อบต.ใช้รถ
กระบะออกประกาศเตือนผู้คนในหมู่บ้านและละแวกใกล้เคียงให้เตรียมขนย้าย
ข้าวของขึน้ ที่สูง เพราะน�้ำก�ำลังบ่าไหลเข้ามาท่วมบ้านและท่วมสวนผลไม้ทอี่ ยูล่ กึ
เข้าไปข้างใน เราช่วยกันยกตูเ้ ย็น จักรเย็บผ้าวางไว้บนม้าหิน กะว่าน�ำ้ คงท่วมไม่ถงึ
นอกนั้นปล่อยทิ้งไว้ที่เดิมเพราะไม่รู้จะยกไปไว้ที่ไหน วันรุ่งขึ้นเราพากันหนีไปอยู่
บ้านเพื่อนสนิทคนหนึ่งของพ่อที่ฉะเชิงเทรา
ขณะทีผ่ มคุยไปลุงเดชก็ใช้สายยางรดน�ำ้ ต้นไม้จนชุม่ ฉ�ำ่ ไม่ตา่ งอะไรกับการ
ให้ความรักความอบอุน่ แก่ลกู ๆ ทีเ่ ลีย้ งมาด้วยมือตัวเอง โดยเฉพาะต้นชมพูพนั ธ์ทพิ ย์
และราชพฤกษ์แตกกิง่ แตกก้านสูงใหญ่ให้รม่ เงา ส่วนไม้ดอกไม้ประดับต่างก็ผลิดอก
ออกช่องดงามน่าชื่นชม
ผมบอกกล่าวเล่าเรือ่ งให้ลงุ เดชฟังว่าทีก่ ลับมาบ้านไม่ใช่วา่ จะเป็นห่วงเรือ่ ง
น�ำ้ ท่วมเพียงอย่างเดียว แต่เป็นห่วงเรือ่ งพ่อด้วย ลุงเดชท�ำหน้าฉงนและถามว่า “ไป
ห่วงท�ำไม พ่อแกไม่ใช่คนเกเรเถลไถล”

สถาบันพระปกเกล้า 85

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 85 21/3/2561 BE 10:00


“ห่วงสิลุง ไม่รู้จะโดนย้ายไปไหนอีกหรือเปล่าปีนี้”
“คนตงฉินแบบนั้น บางทีเจ้านายเขาไม่ชอบขี้หน้า เลยหาทางเขี่ยให้
กระเด็นไปที่อื่น ไม่ต้องมาขวางหูขวางตาใคร” พูดแล้วแกก็หัวเราะฮึฮึอยู่ใน
ล�ำคอ
“เรือ่ งกลัน่ แกล้งข่มเหงรังแกกันในระบบราชการ ผมว่ามันน่าจะเลิกเสียที
หากว่ายึดหลักการประชาธิปไตยเป็นกติกาของบ้านเมือง ใครถูกใครผิดก็ว่ากันไป
ตามระบบระเบียบของกฎหมาย ไม่ใช่ไม่พอใจใครแล้วเล่นงานเขาตะพึดตะพือ”
ผมแสดงความคิดเห็นออกไปอย่างโจ่งแจ้งและเติมอารมณ์ลงไปนิดหน่อย
จริงๆ แล้วผมเองก็ไม่คอ่ ยชอบเจ้าหน้าทีร่ ฐั ทีใ่ ช้อำ� นาจกดขีผ่ อู้ ยูใ่ ต้บงั คับบัญชาหรือ
เพื่อนร่วมงาน เพราะทุกคนต่างมีศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน ลุงเดช
เหมือนโดนกระตุกต่อมอารมณ์ข้างในให้คุเดือด
“เรื่องแบบนี้มันมีมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมีในสมัยพ่อแก”
ชายผู้สูงวัยหยุดครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนย้อนรอยอดีตของตัวเองที่เต็มไป
ด้วยความบอบช�ำ้ ทางจิตใจ “ตอนทีล่ งุ ยังรับราชการอยู่ ลุงก็เป็นไม้บรรทัดแบบพ่อ
แกนี่แหละ โดนย้าย โดนกลั่นแกล้งสารพัดอย่าง ถูกแป้กขั้นเงินเดือนก็มี แต่ครั้งที่
เจ็บแสบที่สุดก็คือการตกเป็นจ�ำเลยในข้อหารับสินบนจากผู้ต้องหารายหนึ่งซึ่งเคย
มีเรือ่ งบาดหมางใจกันมาก่อน เขาถูกนักข่าวหนังสือพิมพ์ทอ้ งถิน่ ยุให้เล่นงานลุงด้วย
การแจ้งความเอาผิด จนกระทั่งมีการฟ้องร้องกันในศาล ซ�ำ้ ร้ายผู้ก�ำกับก็ไม่เข้าข้าง
ลุง แถมออกค�ำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนจนกว่าคดีจะสิ้นสุด แต่ลุงรู้ตัวเองดีว่า
ไม่ได้กระท�ำผิด จึงต้องสู้คดีกันเกือบสองปีเต็ม ผลสุดท้ายลุงเป็นฝ่ายชนะ เลยฟ้อง
กลับในข้อหาหมิ่นประมาทอันเป็นเหตุให้เสียเกียรติยศและชื่อเสียง ในที่สุดศาลได้
พิ พ ากษาตั ด สิ น ลงโทษให้ จ� ำ เลยถู ก จ� ำ คุ ก และปรั บ และให้ ล งข่ า วขอขมาใน
หนังสือพิมพ์รายวันชื่อดังฉบับหนึ่งเป็นเวลาเจ็ดวันติดต่อกัน หลังรอดพ้นคดี ลุงได้
กลับเข้ารับราชการตามเดิม ขัน้ และเงินเดือนทีง่ ดจ่ายไปก็ได้กลับคืนมาทัง้ หมด ชีวติ
ตอนนั้นช่างรันทดหดหู่สุดขีด ต้องออกไปช่วยเมียขายข้าวแกงพร้อมส่งลูกเรียน”

86 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 86 21/3/2561 BE 10:00


“ลุงรู้จักคุ้นเคยกับพ่อมานาน น่าจะติติงพ่อบ้างว่าสิ่งไหนควรท�ำไม่ควร
ท�ำ”
“เรื่องแบบนั้นพ่อแกรู้ยิ่งกว่ารู้ อะไรดี อะไรชั่ว เขาแยกแยะได้หมด ลุงไม่
จ�ำเป็นต้องสอนเขาหรอก” ลุงเดชให้เหตุผลในข้อกังขาของผมแล้วเบีย่ งเบนไปเรือ่ ง
อืน่ ทีต่ วั เองยังห่วงกังวล “น�ำ้ ก�ำลังจะท่วมบ้าน พ่อแกน่าจะกลับมาดูแลลูกเมียบ้าง”
“เมื่อวานโทร.บอกผมแล้วว่าจะเดินทางกลับมาวันนี้แหละ”
“มาก็ดี จะได้เจอหน้าเจอตากัน เห็นหายต๋อมไปสองอาทิตย์แล้ว”
ในตอนสายของวันเสาร์พ่อกลับมาด้วยรถเก๋งมือสองที่พ่อซื้อต่อมาจาก
เพื่อนต�ำรวจนายหนึ่งหลังจากสอบเลื่อนต�ำแหน่งขึ้นเป็นร้อยต�ำรวจตรีได้ส�ำเร็จ
อย่างน้อยมันก็เพิ่มความมีสง่าราศีให้พ่อได้บ้าง ดีกว่าขับกระบะคันเขียวโทรมๆ
เหมือนตอนเป็นนายดาบ เหตุผลทีพ่ อ่ เปลีย่ นรถใหม่เพราะเห็นว่าตัวเองเดินทางออก
ต่างจังหวัดบ่อยๆ จ�ำเป็นต้องมีรถที่มีสภาพค่อนข้างไว้ใจได้สักคัน
หลังจากพ่อเอารถเข้าจอดในบ้านได้สกั พัก ผมเห็นลุงเดชเดินตัดสนามสวน
หย่อมมากลางแดด ตั้งใจจะมาเจอหน้าพ่อซึ่งก�ำลังเอนตัวลงนอนผึ่งลมอยู่บนโซฟา
ไม่ทันที่ลุงเดชจะเข้ามานั่ง พ่อรีบชิงถามขึ้นก่อน
“ปีนี้เราเจองานหนักอีกหรือเปล่าไม่รู้นะ”
“ยังบอกไม่ได้หรอกหมวดวุฒิ น�้ำเหนืออาจจะถูกปล่อยลงมามากกว่านี้
เพราะคนที่อยู่ข้างบนเขาเดือดร้อนเหมือนกันถ้าบ้านเรือนถูกน�้ำท่วมขังนานๆ ยัง
เข็ดไม่หายเลยกับการขนข้าวของหนีนำ�้ ” ลุงเดชให้เกียรติเรียกชือ่ พ่อเสียโก้หรู หลัง
จากปรับเปลี่ยนสถานภาพจากนายดาบมาเป็นนายร้อย
“มาคิดอีกที ผลร้ายจากน�ำ้ ท่วมคราวนัน้ มีคนได้รบั ความเสียหายกันถ้วน
หน้า โดยเฉพาะหมู่บ้านที่อยู่ริมแม่นำ�้ โดนเข้าไปเต็มๆ แต่ผลดีมันมีอยู่นะ” พ่อค้าง
ค�ำพูดเอาไว้ลอยๆ ก่อนยืดหลังขึน้ พิงพนักโซฟาแล้วบอกผมไปชงกาแฟมาให้ลงุ เดช
สักถ้วย
“น�ำ้ ท่วมมีแต่ขอ้ เสียหาย ยังจะมีขอ้ ดีอกี หรือ” ลุงเดชย้อนถามแล้วหัวเราะ
จนมองเห็นตีนกาแผ่กางเป็นริ้วๆ อยู่ตรงหางตา

สถาบันพระปกเกล้า 87

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 87 21/3/2561 BE 10:00


“อ้าวก็ดซู ิ เมือ่ ก่อนโน้นคนในหมูบ่ า้ นเราไม่คอ่ ยมีใครคบค้าสมาคมกัน ต่าง
คนต่างอยู่แบบตัวใครตัวมัน บางบ้านก�ำแพงติดกันแท้ๆ อยู่เห็นหน้ากันทุกวัน แต่
ไม่เคยพูดเคยจากันด้วยซ�้ำ พอมีเหตุการณ์น�้ำท่วม ทุกคนต่างเป็นน�้ำหนึ่งใจเดียว
ออกมาปกป้องภัยพิบัติจากสายน�ำ้ กันอย่างพร้อมเพรียง แบ่งงานแบ่งหน้าที่กันท�ำ
โดยไม่เห็นแก่ตัวหรือความเหน็ดเหนื่อย ไม่ถือเขาถือเรา ไม่ว่าคนจนหรือคนรวย
ทัง้ ก�ำนัน ผูใ้ หญ่บา้ น ใครมีรถกระบะก็ชว่ ยไปขนทรายมากองไว้ พวกหนึง่ คอยบรรจุ
ทรายใส่กระสอบ อีกพวกหนึ่งหิ้วส่งต่อไปให้คนที่อยู่ข้างบนน�ำไปวางซ้อนทับกัน
เป็นแนวเขื่อน โชคดีที่นายก อบต.และลูกน้องต่างเอาการเอางาน ไม่ปล่อยให้ชาว
บ้านท�ำกันเองตามล�ำพัง” พ่อหยุดคิดอยู่พักใหญ่ก่อนพูดต่อในสิ่งที่ประสบพบมา
กับตัวเอง
“ผมได้รู้จักคนในหมู่บ้านเราที่มารวมตัวกันแบบจิตอาสาก็วันนั้นแหละ
เดี๋ยวนี้เจอหน้ากันที่ไหนต่างทักทายและยิ้มให้กันตลอด สังคมเรามันควรแบ่งปัน
น�้ำใจไมตรีต่อกัน ไม่ควรนิ่งเฉยดูดาย ประชาธิปไตยก็เช่นกันมันต้องเริ่มต้นก่อตัว
จากคนเล็กๆ ในชุมชนแบบนี้แหละถึงจะเป็นสังคมที่น่าอยู่”
“ตั้งแต่เป็นนายร้อย มีคารมคมคาย ความคิดความอ่านหลักแหลมเชียว
นะ ดูอนาคตท่าจะไปไกล”
“ไกลสุดกู่แน่ หากโดนย้ายอีกรอบ” แล้วทั้งคู่ต่างก็หัวเราะกันครื้นเครง
อย่างคนเข้าอกเข้าใจกัน
“คนเรา จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่ได้หรอก มันต้องมีการเปลี่ยนแปลงกันบ้าง
ชีวิตที่ผ่านมาผมไม่ประสบความส�ำเร็จในหน้าที่การงานอย่างที่พี่รู้ แต่การที่ผมถูก
ย้ายไปอยู่ สภ.ประจ�ำต�ำบลเล็กๆ มันก็ดีไปอย่าง ไม่ค่อยมีคดีให้วุ่นวายมากนัก
ข้อเสียก็คือต้องอยู่ห่างบ้านห่างลูกเมีย ผมเลยพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส” พ่อยกเอา
เหตุผลต่างๆ ที่ตัวเองประสบอยู่มาเอ่ยอ้างอย่างเป็นจริงเป็นจัง
“โอกาสอะไรล่ะ” ลุงเดชยิงค�ำถามให้ตรงจุดเพื่อความกระจ่าง
“คือผมต้องการฝึกฝนตนเองให้มคี วามรูท้ างด้านกฎหมายมากขึน้ เรือ่ ง
กินเหล้ากินยาเลิกประพฤติโดยเด็ดขาด เอาเวลามาอ่านกฎหมายดีกว่า เพราะ

88 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 88 21/3/2561 BE 10:00


ต�ำรวจต้องรู้ ต้องเข้าใจ และต้องใช้กฎหมายให้เป็น ผมสมัครเรียนนิตศิ าสตร์รามฯ
ไว้สามปีแล้ว ก่อนจะโดนย้ายไปอยู่ที่โน่นเสียอีก แต่ผมเงียบๆ ไม่อยากบอกให้
ใครรู้แม้แต่เพื่อนร่วมงาน ซื้อต�ำรับต�ำรารวมทั้งชี้ตสรุปค�ำบรรยายมาศึกษาด้วย
ตัวเอง ถึงเวลาสอบก็ไปสอบ นี่ก็เกือบจบแล้ว ยังต้องเก็บหน่วยกิตที่เหลืออีกไม่
กี่หน่วย”
ผมเองก็เพิ่งจะทราบเรื่องนี้เมื่อไม่นานนัก ความจริงพ่อไม่ได้บอกคนใน
ครอบครัวด้วยซ�ำ้ แต่ผมนึกแปลกใจทีเ่ ห็นพ่อถือต�ำรากฎหมายติดตัวอยูเ่ สมอ บางที
นั่งท่องมาตราต่างๆ จากประมวลกฎหมายแพ่งและอาญางึมง�ำอยู่คนเดียว อดนึก
ชืน่ ชมในความมานะบากบัน่ ของพ่อไม่ได้ มันเกิดมาจากแรงบีบคัน้ อันใดอันหนึง่ หรือ
มีเป้าหมายอะไรสักอย่างที่ท�ำให้พ่อเอาจริงเอาจังถึงขนาดนั้น
“จะสู้พวกเด็กๆ ไหวหรือหมวด” ลุงเดชถามเพื่อหยั่งเชิงแกมหยอกเย้า
“อายุก็มากแล้ว”
“เรื่องอายุผมว่าไม่ส�ำคัญ บางคนห้าสิบหกสิบ ยังเรียนกันเลย ส่วนมาก
เป็นพวกมีงานท�ำ หาเงินด้วยเรียนด้วย ของอย่างนี้มันขึ้นอยู่กับความตั้งใจนะครับ
มันยากก็จริงแต่เรียนแล้วสนุก มีแง่มุมต่างๆ ของกฎหมายอีกเยอะแยะที่เรายังไม่รู้
ผมสอบเก็บสะสมหน่วยกิตไปเรื่อยๆ ตกบ้างเป็นธรรมดา คิดเสียว่าเรียนไปปฏิบัติ
งานไปในฐานะเป็นเจ้าพนักงานสอบสวน วิชาไหนสอบไม่ผ่านก็ลงทะเบียนเรียน
ใหม่” พ่อวางแผนการเรียนรู้ตามก�ำลังสติปัญญาของตัวเอง คนวัยสี่สิบห้าอย่างพ่อ
จะให้สมองเฉียบแหลมคมกริบเหมือนคนหนุ่มๆ คงเป็นไปไม่ได้ แต่พ่อเอาลูกขยัน
เข้าว่า
หลังจากพ่อกลับไปนครนายกเพียงไม่กวี่ นั มีกลุม่ เด็กวัยรุน่ มาเล่นฟุตบอล
กันทีส่ นามของสวนหย่อมตามปกติในตอนเย็น วันนัน้ ผมเห็นเด็กวัยรุน่ แปลกหน้าสี่
ห้าคนจากข้างนอกมาสมทบกับเด็กในหมูบ่ า้ น บางคนขีม่ อเตอร์ไซค์ซอ้ นท้ายกันมา
พร้อมส่งเสียงโว้กว้ากโวยวายได้ยินไปถึงบ้านผม พอเอารถจอดใต้ร่มไม้พวกเขาก็
แบ่งข้างออกเป็นสองฝ่าย คนหนึ่งโยนลูกฟุตบอลที่ถือมาลงไปกลางสนาม คนที่จับ

สถาบันพระปกเกล้า 89

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 89 21/3/2561 BE 10:00


ได้ใช้เท้าคลึงลูกไปมาแล้วเดาะขึ้น ก่อนหวดเข้าไปเต็มเหนี่ยว จากนั้นก็ผลัดกันรุก
ผลัดกันรับด้วยลีลาหลบหลีกที่ว่องไว แต่ช่วงจังหวะหนึ่งผมมัวนั่งกดไลน์เพลินไป
หน่อยไม่ทันได้ดูอย่างต่อเนื่อง ได้ยินเสียงลูกฟุตบอลพุ่งไปกระทบกระถางเฟื่องฟ้า
ทีล่ งุ เดชวางไว้บนแท่งปูนหล่นโผละลงมากระแทกพืน้ แตกกระจัดกระจาย วินาทีนนั้
ทุกคนต่างพากันเงียบกริบ ลุงเดชพรวดพราดออกจากบ้าน แล้วร้องถามว่าใครเป็น
คนท�ำ แต่ไม่มคี นยอมรับ จากนัน้ ก็พากันเดินเลีย่ งออกไปจากสนามทีล่ ะคนสองคน
ลุงเดชจึงบอกเตือนเด็กกลุ่มนั้นว่า
“ไอ้หนู ถ้าจะเล่นกันก็ต้องระมัดระวังหน่อยนะ ไมงั้นกระถางต้นไม้พัง
หมด”
บางคนเบ้ปากแสดงกิรยิ าอาการไม่พอใจ ทัง้ ๆ ทีแ่ กไม่ได้พดู จาเกรีย้ วกราด
อะไร แค่บอกให้รู้จักค�ำนึงถึงทรัพย์สินของส่วนรวมบ้าง พูดแล้วลุงเดชก็เดินไปเก็บ
เศษกระเบื้องดินเผาที่แตกกระจายอยู่กับพื้น เด็กกลุ่มนั้นคงรู้สึกเคืองขุ่นที่มีไอ้แก่
คนหนึ่งมาขัดขวางความสนุก จึงพากันสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์บึ่งออกไปด้วยเสียงที่
ดังลั่นแสบแก้วหู
“ไม่เล่นก็ได้วะ” ใครคนหนึง่ ในนัน้ ประกาศออกมาด้วยความฉุนเฉียวแบบ
ไม่ย�ำเกรงผู้หลักผู้ใหญ่
ลุงเดชยืนซึมไปครูห่ นึง่ พลางส่ายหน้าไปมา แล้วหันมาทางผมซึง่ ก�ำลังจะ
ออกจากประตูบ้านไปช่วยแกเก็บกวาดกระถางแตก “ดูสิ ลุงไม่ได้ตั้งใจจะเอาโทษ
ใครสักหน่อย แค่ตักเตือนเท่านั้นเอง”
“พูดยากกับเด็กๆ พวกนี้ ผมไม่อยากยุ่งด้วยหรอก มีเรื่องกันแล้วไม่คุ้ม
พ่อแม่ผปู้ กครองเขาคงไม่ดแู ลเอาใจใส่ สังคมเราเริม่ อยูย่ ากขึน้ ทุกวัน เพราะมีแต่คน
เห็นแก่ตัว ไม่เคารพกฎกติกาและไม่ให้เกียรติผู้อื่น ” ผมรู้สึกไม่สบอารมณ์กับ
พฤติกรรมของเด็กกลุ่มนั้นเช่นกัน
“ลุงสงสัยว่าจะติดยงติดยาบ้างหรือเปล่าไม่รู้ บางวันเห็นกระป๋องเบียร์
ก้นบุหรี่เกลื่อนเลย” ลุงเดชตั้งข้อสังเกต “หมู่บ้านเราไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน”

90 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 90 21/3/2561 BE 10:00


“พ่อก็บอกผมให้จบั ตาเด็กกลุม่ นีเ้ อาไว้บา้ ง ดีไม่ดมี นั แฝงตัวเข้ามาดูลาดเลา
แล้วขโมยทรัพย์สินของคนในหมู่บ้าน เราต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย ผมว่าลุงคิด
ถูกแล้วที่ไม่ท�ำอะไรรุนแรงลงไปเมื่อตะกี้ ไม่ยังงั้นเรื่องคงยาวแน่ เพราะดูท่าทาง
แต่ละคนกุ๊ยๆ กวนๆ ”
หลังจากเราสองคนช่วยกันเก็บเศษกระเบือ้ งดินเผาของกระกระถางต้นไม้
ใบนัน้ ไปใส่ในถังขยะเรียบร้อยแล้ว ต่างคนต่างก็เดินกลับเข้าบ้านตัวเอง ไม่อยากเอา
เรื่องหงุดหงิดใจมาเก็บไว้ในสมอง
พ่อกลับมาบ้านอีกครั้งในอาทิตย์ถัดมา ความทุกข์ใจเกี่ยวกับเรื่องน�ำ้ ท่วม
ค่อยคลายความกังวลลงไปบ้างแล้ว เพราะฝนเริ่มจางหาย ความหนาวของอากาศ
เริม่ แผ่ลงมาครอบคลุมติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ลุงเดชมานัง่ ปรับทุกข์กบั พ่อเกีย่ ว
กับเรื่องกลุ่มวัยรุ่นที่ชักชวนเพื่อนข้างนอกมาเล่นกันในสนามของสวนหย่อมและ
สร้างความเสียหายให้เกิดแก่ทรัพย์สนิ บางอย่าง พ่อนัง่ ฟังลุงเดชพูดอย่างสงบ พลาง
ครุ่นคิดอย่างสุขุมรอบคอบและออกความเห็นไปว่าหากห้ามไม่ให้ใครมาเล่นเสียที
เดียวก็คงท�ำไม่ได้ เพราะการเล่นกีฬาเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ เด็กๆ ส่วนใหญ่ก็ชอบ
ออกก�ำลังกายด้วยการเล่นกีฬากันทั้งนั้น แต่เมื่อเล่นแล้วก็ควรระมัดระวังกระถาง
ต้นไม้หรือข้าวของอย่างอื่นที่อยู่รอบๆ สนามด้วย และที่ส� ำคัญคือสวนหย่อมใน
หมู่บ้านไม่ใช่เป็นแหล่งมั่วสุมที่ใครๆ จะมาท�ำอะไรก็ได้
หลังจากนั้นลุงเดชได้ใช้เวลาว่างของแกไปพูดคุยกับพ่อแม่ผู้ปกครองของ
เด็กบางคนให้เข้าใจในปัญหาทีเ่ กิดขึน้ ทัง้ หมดและจะหาทางแก้ไขกันอย่างไร หลาย
คนเห็นด้วย และรับปากว่าจะช่วยดูแลลูกหลานของตัวเองให้อยู่ในกรอบวินัย เช้า
วันหนึ่งขณะที่ลุงเดชรดน�้ำต้นไม้อยู่ในสวนหย่อม แกต้องพบกับความแปลกใจเมื่อ
มาเห็นกระถางดินเผาใหม่เอี่ยมอ่องถูกน�ำมาวางตั้งไว้บนแท่งปูนดังเดิม แม้ว่าข้าง
ในจะไม่มีต้นเฟื่องฟ้าก็ตามที แค่นั้นมันก็ท�ำให้ลุงเดชอิ่มอกอิ่มใจพอแล้วกับการมี
จิตส�ำนึกอันดีงามด้วยการซื้อกระถางมาทดแทนกระถางใบเก่าที่เสียหายไป
ช่วงหลังพ่อยังคงคร�่ำเคร่งอยู่กับกฎหมายจนแทบไม่ออกไปเปิดหูเปิดตา
ที่ไหนเลย ผมเห็นพ่อ กลับมาบ้านทีไรยังหอบต�ำรากฎหมายกองโตมานั่งอ่านจน

สถาบันพระปกเกล้า 91

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 91 21/3/2561 BE 10:00


ดึกๆ ดื่นๆ จนกระทั่งแม่ต้องมาเตือนว่าอย่าหักโหมให้มากนัก เป็นห่วงสุขภาพของ
ตัวเองบ้าง
วันนั้นเองพ่อถือโอกาสระบายความคับแค้นในใจที่เก็บง�ำมานานให้แม่รับรู้
“อยูท่ โี่ น่นคนมันดูถกู ” ในทีส่ ดุ แม่กไ็ ด้รคู้ วามจริงอีกอย่างว่าพ่อไปมีเรือ่ งขัดแย้งกับ
ผู้ก�ำกับที่โรงพักแห่งนั้น ท�ำเอาผู้ก�ำกับโกรธ พูดจาเย้ยหยันใส่พ่ออย่างไม่ไว้หน้า
“เป็นแค่สารวัตรสอบสวน มันจะใหญ่สักแค่ไหน” สาเหตุเบื้องต้นมีชายคนหนึ่งมา
ร้องเรียนว่าได้ให้เงินผูก้ ำ� กับไปจ�ำนวนหนึง่ เพือ่ ให้ชว่ ยเหลือน้องชายของตัวเองทีถ่ กู
จับในคดีลกั ทรัพย์ แต่ผกู้ ำ� กับกลับเงียบเฉยปล่อยให้คดีดำ� เนินไปตามปกติโดยไม่ได้
ช่วยดังที่รับปาก เมื่อพ่อเข้าไปเจรจาเรื่องนี้ให้กระจ่างว่ามีมูลความจริงมากน้อยแค่
ไหน ผู้ก�ำกับกลับถือโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และยังกล่าวหาว่าพ่อเป็นคนยุยงส่งเสริม
ให้ชายคนดังกล่าวเอากฎหมายมาเล่นงานตน
แม่ฟังแล้วรู้สึกหนาวในหัวอก ได้แต่บอกพ่อให้ระมัดระวังตัวเองมากกว่านี้
ใจเย็นๆ ก่อนคิดจะท�ำอะไรลงไป เพราะมันจะส่งผลกระทบมาถึงครอบครัวในวันใด
วันหนึ่ง
เทอมสุ ด ท้ า ยปลายปี นั้ น ผมได้ ข ่ า วว่ า พ่ อ กวาดเรี ย บทุ ก วิ ช า และจบ
หลักสูตรปริญญาตรีทางกฎหมายสมความตั้งใจ พ่อกลับมาบ้านแล้วพาเราออกไป
นัง่ ร้านอาหารริมแม่นำ�้ เจ้าพระยา เป็นการฉลองความส�ำเร็จให้ตวั เองพร้อมกับชวน
ลุงเดชไปร่วมโต๊ะด้วย ผมนึกว่าพ่อจะเลิกรากับกฎหมายเสียที แต่เปล่าเลยพ่อยังคง
ลุยอ่านหนังสือหนักกว่าเดิมเป็นสองเท่า เรื่องงานในหน้าที่ก็พยายามไม่ให้ขาดตก
บกพร่อง ส่วนเรือ่ งทีไ่ ม่ลงรอยกับผูบ้ งั คับบัญชาพ่อเก็บง�ำไว้ในใจ ไม่ขยายปมขัดแย้ง
ให้ลุกลามบานปลาย
จากนั้นพ่อใช้เวลาเรียนและสอบเนติบัณฑิตผ่านภายในปีเดียว
พวกเราไม่คิดต�ำหนิติเตียนพ่อที่ห่างเหินครอบครัวไปบ้าง ทุกคนเข้าใจดี
ว่าพ่อคงทุ่มเทชีวิตจิตใจให้กับการเรียนรู้กฎหมายอย่างเต็มที่
แล้ววันหนึ่งเป็นวันที่ผมปลื้มปีติจนน�้ำตาคลอเบ้าเมื่อได้รับโทรศัพท์จาก
พ่อ หลังจากทราบผลว่าตัวเองผ่านการสอบเป็นผูช้ ว่ ยผูพ้ พิ ากษาได้อย่างไม่คาดคิด

92 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 92 21/3/2561 BE 10:00


นั่นเป็นข่าวดีที่สุดส�ำหรับครอบครัวของเราเลยทีเดียว ผมไม่รอช้า รีบโทรศัพท์ไป
บอกให้แม่และน้องสาวรับรู้ ทุกคนพากันงุนงงและตื้นตันใจระคนกัน พลอยมี
ความสุขไปกับความส�ำเร็จของพ่อ
เมือ่ สะสางงานทีค่ งั่ ค้างทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เช้าวันรุง่ ขึน้ พ่อได้เข้าไปพบ
ผู้ก�ำกับในห้องท�ำงานพร้อมบอกกล่าวว่าตนจะโอนย้ายไปอยู่หน่วยงานอื่น
ผูก้ ำ� กับเงยหน้าขึน้ มองพ่อด้วยความแปลกใจ จึงถามว่าจะโอนไปท�ำหน้าที่
อะไร
“ผมสอบผู้ช่วยผู้พิพากษาได้แล้วครับ” พ่อเอ่ยตอบด้วยน�ำ้ เสียงเรียบนิ่ง
ดวงตาของผู้บังคับบัญชาจับจ้องมองหน้าพ่ออีกครั้งแล้วนั่งอึ้งไปพักใหญ่
ไม่เชื่อหูตัวเองว่านายต�ำรวจที่เขาเคยเยาะหยันและถากถางในวันก่อนกลับก้าวขึ้น
ไปสู่ต�ำแหน่งอันทรงเกียรติ
“จริงหรือเปล่าสารวัตร”
“เป็นความจริงครับ”
ตอนนั้นเองผู้ก�ำกับถึงระบายยิ้มออกมาพร้อมกับส่งมือมาให้พ่อจับ “เก่ง
ว่ะ สารวัตรเรียนกฎหมายเอาตอนไหน ถึงสอบเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษาได้โดยไม่บอก
ไม่กล่าวกันบ้าง”
และแล้วพ่อได้ใช้โอกาสนัน้ ระบายความอัดอัน้ ตันใจให้ผกู้ ำ� กับฟังอย่างหมด
เปลือก ย้อนเล่าเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตที่ต้องพบกับความเจ็บปวดเพราะถูกความ
อยุติธรรมเล่นงาน พ่อทนก้มหน้ารับกรรมจากสิ่งเหล่านั้นอย่างทุกข์ระทมขมขื่น
จนกระทั่งฝ่าฟันอุปสรรคมาได้ด้วยความยากแค้นแสนเข็ญ และตอนท้ายพ่อไม่ลืม
บอกย�ำ้ เรือ่ งทีค่ นทัง้ สองต้องมาโกรธเคืองกันเพราะมาจากความไม่ซอื่ สัตย์ในหน้าที่
การงานที่ตัวเองท�ำ
“ผมอยากให้ผู้ก�ำกับเคลียร์เรื่องที่เขามาร้องเรียนด้วยนะครับ บอกตาม
ตรงผมเองก็ไม่สบายใจ”

สถาบันพระปกเกล้า 93

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 93 21/3/2561 BE 10:00


วันนัน้ พ่อเหมือนได้หลุดพ้นจากกรงขังออกไปสูอ่ สิ รภาพอันหอมหวาน ไม่
กี่วันต่อมาพ่อก็ท�ำเรื่องโอนย้ายต�ำแหน่งจากร้อยต�ำรวจตรีไปท�ำหน้าที่ในต�ำแหน่ง
ผู้ช่วยผู้พิพากษาประจ�ำศาลจังหวัดสระบุรี ตอนแรกผมคิดว่าพ่อจะพาครอบครัว
ย้ายไปอยูท่ โี่ น่นด้วยกัน แต่พอ่ ได้บอกกับพวกเราว่าจะอยูท่ ที่ าวน์เฮ้าส์หลังเดิม เป็น
เพื่อนกับลุงเดช พ่อมีบ้านพักอยู่ในศาลจังหวัดก็จริง แต่ในวันหยุดพ่อจะกลับมา
เยี่ยมบ้านเป็นประจ�ำ ทุกอย่างยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะพ่อรู้
ตัวเองดีวา่ แม้จะมีตำ� แหน่งสูงส่งสักแค่ไหน แต่จติ ใจก็ยงั เป็นพลเมืองธรรมดาคนหนึง่
ซึ่งมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน

เชาว์ศิลป์ จินดาละออง
พื้นเพเป็นชาวนครศรีธรรมราช
ปั จ จุ บั น อยู ่ ที่ น นทบุ รี จบมั ธ ยมต้ น จาก
ร.ร.มหาวชิราวุธ สงขลา มาเรียนต่อชั้นมัธยม
ปลายที่กรุงเทพฯ ส�ำเร็จการศึกษาจากคณะ
มนุษยศาสตร์และคณะนิตศิ าสตร์ มหาวิทยาลัย
รามค�ำแหง มีผลงานทั้งบทกวี เรื่องสั้น และ
บทความในนิตยสารต่างๆ ได้รับรางวัลพาน
แว่นฟ้าจากบทกวีการเมืองในปี ๒๕๔๗ และ ปี ๒๕๕๐,รางวัลสุภาว์ เทวกุลฯ,
รางวัลนายอินทร์อะวอร์ดจาก “รวมเรื่องสั้นยอดเยี่ยมประจ�ำปี ๒๕๔๙”,
ผลงานรวมบทกวี นิ พ นธ์ : “ค� ำ ร้ อ งขอของแผ่ น ดิ น ”,“บาดแผลของ
แผ่นดิน”,ผลงานรวมเรือ่ งสัน้ : “ใครจะรูว้ า่ โลกนีย้ งั มีแสงสว่าง”,“ท่ามกลาง
ความขัดแย้ง”,“เหมือนวันวานเพิง่ ผ่านเลย (ในนาม นิราศ นิรนั ดร) ”,How
To :“ก้าวอย่างผู้ชนะ”,“สุขสร้างได้ด้วยใจเรา”
ปัจจุบนั เชาว์ศลิ ป์ จินดาละออง เป็นนักเขียนอิสระและข้าราชการ
บ�ำนาญ

94 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 94 21/3/2561 BE 10:00


ความศักดิ์สิทธิ์
เหนี่ยวไกที่ปลายนิ้ว
ปะการัง

ผ มยกปืนขึ้นเล็งตามค�ำสั่งของผู้กอง เมื่อเห็นนักศึกษา ๓ คนเดินออกมาจาก


ตึกของคณะหนึ่งในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ที่พวกเรา-ต�ำรวจกับทหารประสาน
ก�ำลังกันเข้าล้อมเพื่อสลายการชุมนุม ตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อน...
นักศึกษาชายคนแรกทีเ่ ดินน�ำหน้าค่อยๆ ยกมือขึน้ เหนือศรีษะอย่างกล้าๆ
กลัวๆ มือข้างหนึ่งโบกผ้าเช็ดหน้าขะมุกขะมอมไปมา เพื่อใช้เป็นสัญญาณของการ
ยอมจ�ำนน ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นเดิมทีคงขาวสะอาด แต่สามวันมานี้ ได้เปรอะเปื้อน
หม่นมัวไปหมดแล้ว
“ไอ้พวกหัวแข็ง หนอยแน่ ซ่อนตัวอยู่ในนั้นตั้งสามวัน ท�ำให้ฉันเดือดร้อน
ไม่ได้กลับบ้านไปหาลูกเมีย”
ผู้กองตะโกนเสียงเข้ม ขณะที่กวักมือเรียกให้นักศึกษาสามคนนั้นเดินเข้า
มาหา ผมดูออกว่าผู้กองก�ำลังเครียดจัด สามวันมานี้ เขาต้องอยู่แต่ในพื้นที่ แทบไม่
ได้พักผ่อน บางครั้งดูเหมือนเบลอๆ อ่อนแรง บางทีก็ดูแข็งกร้าวดุดันอย่างไม่มี
เหตุผล!

สถาบันพระปกเกล้า 95

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 95 21/3/2561 BE 10:00


96 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 96 21/3/2561 BE 10:00


เมื่อพวกเขาเดินเข้าใกล้ในระยะห่างประมาณ ๓ เมตร ผู้กองกระซิบเบาๆ
ข้างหูผมว่า “ยิง!”
ผมสะดุ้งตกใจกับค�ำสั่งนั้น หันไปมองหน้าเพื่อความแน่ใจ แต่ผู้กองไม่
สบตาด้วย
“ผมว่า....”
ผมตัดสินใจเอ่ยด้วยน�ำ้ เสียงแห้งผาก เพราะเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าขณะนี้
สงบลงแล้ว ต่างจากเมื่อสามวันก่อนที่ยังค่อนข้างสับสนรุนแรง และอีกอย่าง เราได้
รับค�ำสั่งแค่ให้คุมพื้นที่เท่านั้น ไม่มีคำ� สั่งจับตายใครทั้งสิ้น
“ไม่ต้องเถียง ฉันบอกให้ยิง!”
ผู้กองพูดเบาแบบกระซิบข้างหู แต่หนักแน่นชัดเจนทุกถ้อยค�ำจนเกินกว่า
จะรับไหว ผมรู้ดีว่า การออกค�ำสั่งแบบได้ยินกันแค่ ๒ คน นี้ ถ้าเกิดโชคร้ายกลาย
เป็นคดีที่ต้องมีการสอบสวน ผมโดนรับความผิดเต็มๆ ไปคนเดียว!
.....
ฤดูหนาวปีนี้มาเร็ว แต่ไม่แน่ใจว่าจะอยู่นานหรือไม่... บางวัน แค่เพียงลม
หนาวแผ่วบางโชยมาตอนเช้า สายหน่อยก็แดดเปรี้ยง และเปลี่ยนเป็นฤดูร้อนอย่าง
เต็มทีใ่ นตอนกลางวัน ครัน้ ตกบ่ายถึงเย็น อาจกลายเป็นฤดูฝน ผูค้ นในประเทศนี้ จึง
มีคำ� กล่าวติดปากว่า ‘สามฤดูในวันเดียว!’ และไม่แปลกเลย แม้ผ่านมาจนเกือบถึง
ต้นธันวาแล้ว ยังมีอีกค�ำกล่าวติดปากชาวบ้านที่ใช้ทักถามกันจนเบื่อว่า ‘ปีนี้น�้ำจะ
ท่วมไหมเนี่ย?’

เย็นวันหนึ่ง ขณะขับรถบนถนนสายเล็กๆ เลียบคลอง ตรงไปยังบ้านของ


ผม ระหว่างทาง สังเกตเห็นชาวบ้าน ๔-๕ คน ก�ำลังยืนจับกลุม่ พูดคุยกันอยูข่ า้ งถนน
ผมจอดรถ เปิดกระจกหน้าต่างถามพวกเขาว่ามีอะไรหรือ? ชายคนหนึ่งตอบว่า น�ำ้
ในล�ำคลองก�ำลังขึ้นสูง
“ไม่เกินตีสอง น�ำ้ ท่วมถนนนี้แน่...”

สถาบันพระปกเกล้า 97

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 97 21/3/2561 BE 10:00


เขาตะโกนเสียงดังด้วยความมั่นใจ
“พรุ่งนี้ หมู่บ้านเราคงติดเกาะเหมือนปีก่อนโน้น”
ชายอีกคนที่ผมคุ้นหน้าคุ้นตา หันมาบอกผม – เราอยู่ซอยเดียวกัน แต่ผม
จ�ำชื่อเขาไม่ได้
ผมพยักหน้ารับรู้ บอกพวกเขาว่า ขอตัวกลับเข้าบ้านก่อน แล้วจะระดม
พรรคพวกเตรียมกระสอบทรายมาช่วยกันท�ำคันกั้นน�ำ้ ที่ริมคลอง ดีกว่าต่างคนต่าง
ป้องกันบ้านตัวเอง แล้วก็ทว่ มอยูด่ ี สูก้ นั้ น�ำ้ ตัง้ แต่รมิ คลองเลย จะได้มถี นนไว้ใช้สญ
ั จร
ไปมา ถนนสายนี้ไม่ยาวนัก ช่วยกันคนละไม้คนละมือ เดี๋ยวก็เสร็จ
“โอ้ย ไม่ไหว เอาไม่อยูห่ รอก” ใครคนเดิมเอ่ยขึน้ “ผมว่า ตอนนี้ เราไปจุด
ธุปไหว้เจ้าแม่ทองขาวก่อนดีกว่า ขอให้ท่านช่วยปกป้องไม่ให้นำ�้ ท่วม”
“จริงด้วย เกือบลืมไปเลย เดี๋ยวท่านจะหาว่าพวกเราลบหลู่ไม่ใส่ใจ รีบไป
กันเถอะ”
อีกคนส�ำทับอย่างเห็นด้วย
ก่อนที่ผมจะทันพูดอะไร โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น จากเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย...
เมื่อผมรับสายสนทนา ชาวบ้านกลุ่มนั้นก็ชวนกันเดินไปทางปลายถนน-ที่มีเจ้าแม่
ทองขาวยืนต้นอยู่
.....
ผมไปถึงโรงพยาบาล ตอนเย็นย�ำ่ ขณะที่เดินออกจากประตูลิฟท์ ชั้น ๕
สวนกับแอนนาพอดี เธอเป็นแฟนสาวคนทีเ่ ท่าไหร่แล้วของเถ้าแก่กจ็ ำ� ไม่ได้ แต่เป็น
คนที่โทรไปตามผมเมื่อตอนเย็น เธอบอกสั้นๆ ว่าเถ้าแก่โดนยิง ตอนนี้ พ้นขีด
อันตรายแล้ว ต้องการพบผมด่วน!
“มีอะไรหรือ?”
ผมถามทันทีเมือ่ เจอหน้า แล้วนึกได้... รีบเปลีย่ นค�ำถามเสียใหม่ เพือ่ ไม่ให้
ดูแล้งน�้ำใจเกินไป
“เขาเป็นยังไงบ้าง”

98 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 98 21/3/2561 BE 10:00


“โดนยิงไป ๓ นัด แต่โชคดี รอดตายมาได้”
แอนนาตอบแล้วหัวเราะหึๆ เหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดา
“ก�ำลังหลับอยู่หรือเปล่า?”
“เพิ่งตื่นพอดี คุณมาถูกเวลาเลย ฉันจะได้ลงไปกินข้าว”
ผมทักทายลูกน้องคนหนึง่ ของเถ้าแก่ทนี่ งั่ อยูห่ น้าห้อง ก่อนผลักบานประตู
เข้าไป คนไข้วัยปลายหกสิบนอนดูทีวีอยู่บนเตียง มีผ้าพันแผลโพกที่ศรีษะ ตามล�ำ
ตัวและแขน เมื่อเขาเห็นว่าเป็นผม ก็ตะโกนเสียงดังใส่อารมณ์ทันที
“ไอ้ณพ ท�ำไมไม่ศักดิ์สิทธิ์แล้ววะ”
“เรื่องอะไร” ผมงง
เขาพยายามเอื้อมมืออีกข้างที่ไม่มีผ้าพันแผลไปยังโต๊ะข้างเตียงอย่างยาก
ล�ำบาก ก่อนกัดฟัน คว้าสร้อยที่วางอยู่บนโต๊ะยื่นมาตรงหน้าผม
“ก็นี่ไง เอ็งจ�ำได้ไหม”
ท�ำไมจะจ�ำไม่ได้... วันนั้นเป็นวันที่ผมกลัวที่สุดวันหนึ่งในชีวิต และอยาก
จะลืมมันเสียทุกเช้าทีล่ มื ตาตืน่ แต่กเ็ ป็นไปไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่แค่ฝนั ร้าย หากเป็น
เรื่องจริง- เป็นโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นบนลานกว้างใจกลางเมือง - -
และมีบางเรื่อง ที่ผมต้องเก็บเป็นความลับมาตลอดหลายสิบปีนี้
“ไม่ต้องเถียง ฉันบอกให้ยิง!”
ผู้กองพูดเสียงลอดไรฟันเบาๆ แต่หนักแน่นน่ากลัว - - อย่าว่าแต่ตอนนั้น
ซึง่ ผมยังเป็นเด็กหนุม่ ไม่ประสีประสาอยูเ่ ลย ต่อให้เป็นทุกวันนี้ หนุม่ ใหญ่ทผี่ า่ นอะไร
มาโชกโชนค่อนชีวิต ก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่ดีที่จะท�ำอย่างนั้นได้ ผมคงไม่เหมาะกับ
อาชีพนีแ้ น่ หลังเหตุการณ์ผา่ นไปไม่นาน ผมก็ตดั สินใจลาออก พยายามห่างไกลจาก
อดีตและเจ้านายเก่าคนนี้ แต่โชคชะตาเล่นตลกให้ผมต้องเจอเขาอยูด่ แี ละหนีไม่พน้ ...
เมื่อเขาเห็นผมลังเล ก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นตบศรีษะด้านหลังผมอย่างแรง
“ยิง!” เขายื่นหน้ามากระซิบข้างหู

สถาบันพระปกเกล้า 99

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 99 21/3/2561 BE 10:00


ผมตัดสินใจเหนี่ยวไก เสียงดังแชะ กระสุนด้าน! ผมได้ยินเพื่อนที่ยืนข้าง
หลังแอบถอนหายใจด้วยความโล่ง ผมหันไปสบตากับผูก้ องเผือ่ เขาเปลีย่ นใจ แต่เขา
กลับถลึงตามองผม เหมือนเป็นค�ำสั่งให้ยิงอีกครั้ง
แชะ! แชะ!
ผมกลั้นหายใจ เหนี่ยวไกติดกัน ๒ ครั้ง เพื่อป้องกันความลับของผมไม่ให้
ลั่น!
แทนที่จะหัวเสียคว้าปืนไปยิงเองอย่างที่ผมกลัวนักหนา ผู้กองกลับท�ำมือ
สัง่ ให้ผมลดปากกระบอกปืนลงจ่อพืน้ ผมได้ยนิ เสียงถอนหายใจด้วยความโล่งอีกครัง้
แต่คราวนี้เป็นของผมเอง- - ผู้กองเดินเข้าไปหานักศึกษาคนนั้น ที่ยังคงเอามือปิด
หน้าร้องไห้ เนื้อตัวสั่น ขาอ่อนแรง จนทรุดฮวบลงไปกองอยู่ที่พื้น
“มึงมีอะไรดีวะ”
ผูก้ องกระชากคอเสือ้ ของนักศึกษาคนนัน้ อย่างแรง จนกระดุมหลุด เผยให้
เห็นสร้อยเส้นเล็กตรงคอทีแ่ ขวนพระเครือ่ งอยูอ่ งค์หนึง่ เขาก้มลงหรีต่ ามองพระเครือ่ ง
องค์นั้น พลิกดูไปมาในมือ แล้วถือวิสาสะดึงสร้อยเส้นนั้นหลุดจากคอของนักศึกษา
ยัดใส่กระเป๋าเสื้อตัวเอง ก่อนที่นักข่าวกลุ่มหนึ่งจะเดินผ่านมา และเริ่มถ่ายรูป
นักศึกษา ๓ คนนั้น – “นักศึกษาดวงดี ปืนกระสุนด้านถึง ๓ นัด!”
“ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ”
ผู้กองยกมือที่กระพุ่มพระเครื่ององค์นั้นขึ้นจรดหน้าผาก ก่อนจะสวมคอ
ทุกครั้ง และเมื่อใดก็ตามที่เล่าให้ใครฟังถึงความศักดิ์สิทธิ์ เขามักเอ่ยชื่อผมเข้าไป
เกีย่ วพันอยูใ่ นประโยคเหล่านัน้ ด้วย – “ไม่เชือ่ มึงไปถามไอ้ณพดู มันอยูใ่ นเหตุการณ์
และเป็นคนยิง”
ผมฟังแล้วสะดุง้ รูส้ กึ คลืน่ ไส้จะอาเจียนเสียให้ได้ มันไม่ใช่เรือ่ งทีน่ า่ อวดโอ่
หรือชื่นชมยินดีแต่อย่างใดเลย ผมไม่อยากมีส่วนร่วมอยู่ในเหตุการณ์หรือประโยค
เหล่านั้นเสียด้วยซ�้ำ

100 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 100 21/3/2561 BE 10:00


นัน่ เป็นสาเหตุหลักทีท่ ำ� ให้ผมตัดสินใจลาออก ไปช่วยพีช่ ายท�ำงานรับเหมา
ก่อสร้างแทน และอย่างทีบ่ อก โชคชะตาช่างเล่นตลกร้าย หลังจากนัน้ ไม่นาน ผูก้ อง
ก็จบชีวิตราชการ หันมาเป็นเถ้าแก่เจ้าของร้านขายวัสดุก่อสร้าง ท�ำให้วงโคจรชีวิต
ของเราต้องกลับมาทับซ้อนกันอีก แต่พักหลังยังดีหน่อย ที่เขาเริ่มพูดถึงเรื่องนี้
น้อยลง อาจเป็นเพราะผมเคยเตือนเขาว่า มันเป็นเรือ่ งเก่าทีไ่ ม่ควรพูดถึง โดยเฉพาะ
ขณะนี้ บ้านเมืองของเราก�ำลังแตกเป็นเสี่ยง ต้องการความสามัคคีอย่างยิ่ง ความ
คิดต่างไม่ควรเป็นชนวนบาดหมางให้เราต้องท�ำร้ายกันอีก เพราะไม่ว่าใคร อยู่ใน
เครื่องแบบหรืออาชีพใดก็ตาม เราต่างเป็นก�ำลังส�ำคัญของบ้านเมือง - -
“เรื่องผิดพลาดในอดีต ไม่ควรรื้อฟื้น แต่ก็ไม่ใช่แกล้งลืม เราควรต้องจ�ำไว้
เป็นบทเรียนว่า อย่าวนย�ำ้ รอยเดิมอีก”
ผมมักพูดอย่างนั้นซ�ำ้ ๆ เพราะมันใช้ได้กับทุกยุคจริงๆ !
ไม่รู้เป็นเพราะเชื่อผม หรือเป็นเพราะตอนนี้เราอยู่ในวงการที่ต้องจับค้อน
จับเกรียง มากกว่าปืน เขาเลยไม่ค่อยพูดถึงเรื่องนี้ จนผมนึกว่าเขาลืมไปแล้ว...
ที่ไหนได้ จู่ๆ ก็มีเหตุให้เขากลับมานึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง
“วันนัน้ มึงก็เห็นกับตา ว่าพระองค์นศี้ กั ดิส์ ทิ ธิแ์ ค่ไหน... มันด้านทัง้ สามนัด
แต่กับกู มันโดนทั้งสามนัด!...”
เขาตัง้ ท่าจะเริม่ ฟืน้ เหตุการณ์วนั นัน้ ขึน้ มาอีกรอบ ผมรีบโบกมือห้าม เพราะ
ไม่อยากคลื่นไส้อาเจียน ล�ำพังบรรยากาศในโรงพยาบาล ก็ใช่ว่าจะน่ารื่นรมย์นัก
ผมเลยพูดตัดบทปลอบใจเขาไปว่า
“ถ้าไม่ศักดิ์สิทธิ์ เถ้าแก่ก็ไม่รอดมานั่งคุยกับผมบนเตียงหรอก ตอนนี้
คงนอนฟังพระสวดที่ศาลาแล้ว”
เขาหัวเราะหึๆ ท�ำท่าจะยกเท้าขึ้นถีบผมที่ยืนอยู่ปลายเตียง แต่ไม่ไหว
เพราะยังเจ็บระบมอยู่
“เออ มันก็จริงนะ...”

สถาบันพระปกเกล้า 101

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 101 21/3/2561 BE 10:00


เขาพึมพ�ำเบาๆ พร้อมรอยยิ้มสบายใจอย่างเห็นได้ชัด ยกมือที่กระพุ่ม
พระเครื่ององค์นั้นขึ้นจรดหน้าผาก ก่อนจะสวมคออีกครั้ง
ส่วนผมถอนหายใจด้วยความโล่ง ที่ความลับยังไม่ลั่น!
.....
ระหว่างขับรถกลับบ้านตอนดึก ผมนึกถึงนักศึกษาคนนัน้ ซึง่ ผมจ�ำชือ่ และ
ใบหน้าของเขาได้อย่างแม่นย�ำ เพราะในเวลาต่อมา เขาได้ให้สัมภาษณ์ทางหน้า
หนังสือพิมพ์เกี่ยวกับเหตุการณ์วันนั้นว่า เขาถูกยิงถึง ๓ นัด แต่กระสุนด้าน!
“เป็นเพราะปาฏิหาริย์จริงๆ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ต้องการให้ผมมีชีวิตอยู่
ต่อไป ผมจึงขอให้สัญญากับตัวเองว่า ต่อไปนี้ จะตั้งใจเรียน ท�ำหน้าที่ของตัวเองให้
ดีที่สุด และจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน”
ผมจ�ำค�ำพูดของเขาได้ดที กุ ประโยค และพยายามติดตามข่าวคราวของเขา
มาตลอด - - เมื่อเรียนจบ เขาเป็นทนายความที่มีชื่อเสียงด้านช่วยเหลือผู้อ่อนแอ
เสียเปรียบและด้อยโอกาสของสังคม หลังจากนัน้ ไม่นาน เขาผันตัวเองมาเป็นนักการ
เมืองน�้ำดีที่มีค�ำพูดติดปากจนกลายเป็นนโยบายติดตัวว่า
“ประเทศชาติจะแข็งแรงได้ ประชาชนต้องแข็งแรง!”
ผมขอสารภาพว่า ผมชื่นชอบเขา และแอบภูมิใจตัวเองที่มีส่วนส�ำคัญใน
‘สิ่งศักดิ์สิทธิ์’... ซึ่งท�ำให้เขารอดชีวิตมาท�ำประโยชน์ให้คนอื่นได้อีกมากมาย และ
ท�ำให้จิตใจประชาชนอย่างผม ‘แข็งแรง’ขึ้นด้วย
ดึกมากแล้ว เมื่อตอนที่ผมขับรถกลับมาถึงถนนสายเล็กเลียบริมคลองอีก
ครัง้ - - ถนนยังแห้งสนิท น�ำ้ ไม่ทว่ มดังทีใ่ ครคนหนึง่ พยากรณ์เสียงดังอย่างมัน่ ใจเมือ่
ตอนเย็น!
หรือ เจ้าแม่ทองขาว ต้นไม้โบราณที่มีผ้าเจ็ดสีล้อมรอบโคนต้นตรงปลาย
ถนน จะส�ำแดงฤทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์จริง!
เมื่อผมขับรถเข้ามาได้ครึ่งทาง เห็นคนกลุ่มหนึ่งก�ำลังช่วยกันวางแนว
กระสอบทรายเป็นคันกัน้ น�้ำ คนทีบ่ อกว่าจะไปไหว้เจ้าแม่เมือ่ ตอนเย็นก็สาละวนอยู่

102 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 102 21/3/2561 BE 10:00


ในกลุ่มนั้นด้วย ผมจอดรถตะโกนถามเขาว่าไปไหว้เจ้าแม่หรือยัง
“เรียบร้อยแล้ว...”
เขาตะโกนตอบ
“ไหว้เสร็จปุป๊ น�ำ้ ในคลองก็สงู ขึน้ เรือ่ ยๆ จนเห็นท่าไม่ดี เลยรีบระดมพรรค
พวกมาวางกระสอบทรายดีกว่า”
เขาหัวเราะเสียงดัง หลายคนหัวเราะตาม พลางปาดเหงื่อบนใบหน้า แล้ว
ก้มลงขนกระสอบทรายต่อไป
“ความศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่มือเรา... แน่นอนกว่านิ”
ใครคนหนึ่งตะโกนบอก พร้อมชูมือขึ้น
ผมยิ้มให้เขา พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
“เดี๋ยวผมกลับไปขนกระสอบทรายที่บ้านมาช่วยอีกแรง”
ผมบอกพวกเขา ก่อนขับรถต่อไปบนถนนสายเล็กเลียบริมคลอง มุ่งหน้า
กลับบ้าน- - ในใจยังแว่วเสียงของใครคนนั้น “ความศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่มือเรา”
จริงทีเดียว! หากไม่ใช่เพราะวันนั้น ผมตัดสินใจแอบปลดกระสุนออกเสีย
ก่อน เราคงไม่มีทนายความนักการเมืองที่ดีในวันนี้ คนที่พร�่ำบอกเราว่า ประชาชน
ต้องแข็งแรง และชาวบ้านที่ก�ำลังสร้างคันกั้นน�้ำริมถนนเลียบคลอง ก็ได้พิสูจน์ให้
เห็นถึง ‘ความแข็งแรง’ นั้นว่า ความศักดิ์สิทธิ์มาจากมือของพวกเขาเอง ที่ประสาน
ก�ำลังกันเพื่อให้ทุกสิ่งส�ำเร็จลงได้... โดยไม่ต้องคอยพึ่งพาเจ้าพ่อเจ้าแม่ที่ไหน
อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนีเ้ ลย เมือ่ คิดถึงเรือ่ งนีท้ ไี ร ผมอดรูส้ กึ ขอบคุณตัวเอง
ไม่ได้ ที่กล้าตัดสินใจในวันนั้น...
ความศักดิ์สิทธิ์จึงเกิดขึ้นที่ปลายนิ้ว เมื่อเหนี่ยวไก!

สถาบันพระปกเกล้า 103

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 103 21/3/2561 BE 10:00


ณรงค์ฤทธิ์ ยงจินดารัตน์
นามปากกา ปะการัง
นักเขียน, นักแต่งเพลง มีผล
งานรวมบทกวีเล่มแรก “สุดฝัง่ ทีข่ อบฟ้า”
ในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ พร้อมทั้งเข้าท�ำงาน
ทีก่ องบรรณาธิการนิตยสารแพรว เคย
แต่งเพลงให้ศิลปินนักร้อง อย่างเช่น
สุชาติ ชวางกูร, นันทิดา แก้วบัวสาย,
ฐิ ติ ม า สุ ต สุ น ทร และอี ก หลายท่ า น
ปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ได้เดินทางไปศึกษาต่อ
ปริ ญ ญาโทที่ ส หรั ฐ อเมริ ก า และได้
ท�ำงานที่นั่นเป็นเวลาเกือบ ๑๖ ปี เพิ่งกลับเขียนหนังสืออีกครั้ง มีผลงานได้
รับรางวัลหนังสือดีเด่นจาก สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ, เรื่องสั้นชนะเลิศ
รางวัลพานแว่นฟ้า และอีกหลายรางวัล

104 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 104 21/3/2561 BE 10:00


หนูนิดต้องไปซื้อของ
หน้าปากซอย
จารี จันทราภา

ม องปลาทองในตู้ปลาสี่เหลี่ยมใหญ่ที่ตั้งอยู่หน้าบ้านพลางก้าวลงบันได เห็น
กรงนกหงส์หยกสามตัวในนัน้ กระพือปีกโผไปเกาะกิง่ ไม้ดา้ นบน ทัง้ ตูป้ ลาและ
กรงนกมีขนาดใหญ่เท่าที่จะหาได้…
ทัง้ หมดคือทีผ่ มท�ำ แต่ทลี่ กู สาวผมก�ำลังจะท�ำก็คอื การไปซือ้ ของหน้าปาก
ซอย เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ชีวิตอย่างหนึ่งของเด็กวัยห้าขวบที่ควรจะเริ่มได้แล้ว
ก่อนหน้านีผ้ มกับภรรยาเคยคุยกัน ยุคสมัยทีเ่ ปลีย่ นไปจากสังคมในยุคก่อนทีแ่ ม้แต่
จะเกิดและเติบโตอยูใ่ นเมืองมาตลอดชีวติ อย่างผม การออกไปซือ้ ของให้ตวั เองหรือ
ให้พอ่ แม่ในยุคสามสิบปีกอ่ นดูเป็นเรือ่ งปกติและธรรมดามาก วัยสามสีข่ วบเราก็ท�ำ
กันจนเป็นเรือ่ งสามัญ แต่ยคุ สมัยนีท้ รี่ า้ นค้าคือร้านสะดวกซือ้ ทีถ่ งึ แม้จะเข้าไปซือ้ ทุก
วัน เขาจะจ�ำเราได้หรือรูจ้ กั เรา แต่ความเอือ้ อาทร ไว้เนือ้ เชือ่ ใจ หรือฝากฝังอะไรกัน
ได้ ด ้ วยมิ ต รจิ ต มิ ต รใจมั นไม่ มี แ ล้ ว พนั ก งานก็คือพนักงานของร้านของบริษัท
หมุนเวียนเปลีย่ นถ่ายเดีย๋ วเข้าเดีย๋ วออก ไม่มแี ล้วเจ๊ อาปะ อากง พีเ่ จีย๊ บ น้าเป้าหรือ
พี่ล�ำดวนที่จะมาเชื่อไว้ก่อน หรือฝากดูแลลูกไว้แป๊ปนึงนะเดี๋ยวมา มันไม่มีแล้ว…

สถาบันพระปกเกล้า 105

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 105 21/3/2561 BE 10:00


106 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 106 21/3/2561 BE 10:00


ผมมองไปกรงนกขนาดใหญ่สูงจากพื้นจรดศีรษะสองเมตรพอดิบพอดี
มีกงิ่ ไม้วางพาดกับตัวกรงหลายระดับชัน้ มีจานรองน�ำ้ มีอาหารนกและมีรงั ทีท่ ำ� ด้วย
ลูกมะพร้าวสามใบวางไล่ระดับให้พวกมันได้เข้าพักและรู้สึกปลอดภัย ตอนแรกไม่
เคยคิดจะเลี้ยงนกแต่ภรรยาอยากให้ลูกรู้จักการเลี้ยงสัตว์ นกคือสัตว์เลี้ยงที่ไม่เป็น
ภาระมากและน่ารักในมุมมองของเธอ ว่าไปเพราะเธอชอบมากกว่า เธอมีความทรง
จ�ำที่ดีกับนกหงส์หยก เฉกเช่นเดียวกับผมที่มีความทรงจ�ำที่ดีกับปลาทอง ผมจึงซื้อ
ตู้ปลาใหญ่ยักษ์ขนาดความสูงเท่าคนสูง ๑๕๐ ซม. และสั่งท�ำขาตั้งสูงจากพื้น
๒๐ ซม.เป็นแท่นวาง เลี้ยงปลาทองพันธุ์ดี มีเครื่องกรองน�้ำภายในและเปลี่ยนน�้ำ
ใหม่ๆ ทุกๆ สี่วัน หนูนิดลูกสาวผมเติบโตในสภาพแวดล้อมที่บ้านเต็มไปด้วยต้นไม้
มากมาย บ้านเดี่ยวกลางใจเมืองราคา ๘ ล้านที่เราพอผ่อนจ่ายธนาคารได้ทุกเดือน
รถยนต์ขบั เคลือ่ นสีล่ อ้ พอพาเราไปเทีย่ วจังหวัดไกลๆ ได้โดยมีประสิทธิภาพ อุปกรณ์
เครื่องใช้ส�ำหรับเด็ก เสื้อผ้า อาหาร ของเล่น เครื่องนอน เครื่องครัวฯ สารพัดที่เรา
จะมีไว้อย่างดีพอประมาณเพื่อชีวิตที่ดีในยุคสมัยนี้ เราเป็นพ่อแม่ที่เกิดมาในยุคที่
เทคโนโลยี่คือเครื่องประกอบของชีวิต เราอยู่กับสิ่งเหล่านี้และใช้ประโยชน์จาก
สิง่ เหล่านี้ ผมเป็นวิศวะกรคอมพิวเตอร์ ภรรยาเป็นโปรแกรมเมอร์ เราเป็นส่วนหนึง่
ของพลเมืองในอนาคตที่ดีแน่ หากให้เราเป็นและเราต้องการเป็น
แต่ลำ� พังการไปซือ้ ของหน้าปากซอยในยุคพอศอ ๒๕๖๐ กลายเป็นเรือ่ งที่
ต้องเตรียมการวางแผนไปแล้ว หน้าปากซอยห่างจากบ้านเราราวห้าร้อยเมตร ทว่า
ข่าวคราวในสื่อออนไลน์แสดงออกมาเสมอถึงอันตราย การลักพา การจับไปท�ำมิดี
มิรา้ ย เป็นยุคสมัยของสังคมไทยทีเ่ ราวางใจใครไม่ได้เลย แม้แต่คนใกล้ตวั เพือ่ นข้าง
บ้าน ทุกอย่างเป็นเงินทองและธุรกิจ แปรเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยและ
กล้องวงจรปิดมาท�ำหน้าที่ความปลอดภัยเพื่อความไว้ใจยังด�ำรงอยู่
“อะไรนะ” ผมถามลูก
“ตรงนัน้ มีนก” ลูกสาวชี้ ผมมองไป เป็นนกจริงๆ ด้วย นกกระจอกธรรมดา
ที่ลงมากินน�้ำในบ่อบัวภายในเขตรั้วบ้านของเรา ผมมองลูกสาวที่น่ารัก ใสซื่อ
ผิวขาว รูปร่างหน้าตาเหมือนตุก๊ ตา อย่างนีห้ รือทีเ่ ราจะปล่อยให้ไปเดินถนน ใช้ชวี ติ

สถาบันพระปกเกล้า 107

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 107 21/3/2561 BE 10:00


อย่างเมื่อสามสิบปีก่อน ภาพในโทรทัศน์ ข่าวในโทรศัพท์มือถือ ท�ำให้ผมลังเล
อยู่นาน
แต่ลูกต้องมีชีวิตต่อไปนะ ภรรยาบอกกับผม
ก่อนหน้านีผ้ มบอกลูกว่าวันนีต้ อนเช้า พ่อจะให้ลกู ช่วยพ่อหน่อยนึงนะ ช่วย
ไปซื้อขนมปังแถวยาวที่พ่อเคยไปซื้อกับลูก แล้วก็ไส้กรอกชีสเส้นหนึ่งจะได้ไหม
ลูกสาวดีใจมาก เธอเคยไปซื้อลูกชิ้นหมูปิ้งภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่ผมชี้ให้
ลูกไปซื้อ โดยให้เงินไปยี่สิบบาท บอกให้ซื้อมาสองไม้ แล้วแอบยืนดูห่างๆ ปรากฏ
ว่าลูกซื้อได้ถูกต้อง มีเงินทอนกลับมาครบถ้วนด้วย คือสิบบาท ลูกดีใจมากที่ได้ท�ำ
ด้วยตัวเองเช่นนี้
ภรรยาเองก็เคยให้ลูกไปซื้อมะละกอชิ้นหนึ่งจากรถขายผลไม้ที่มาเร่ขาย
หน้าหมูบ่ า้ น เราหยุดรถของเรา มองซ้ายขวาแล้วให้ลกู ลงไปซือ้ โดยทีเ่ ราสองคนอยู่
ในรถมองดูห่างๆ และเตรียมการณ์ไว้หากเกิดเหตุไม่คาดคิด ลูกก็เข้าใจซื้อได้ไม่มี
ปัญหา
ทว่าวันนีเ้ ป็นหนทางทีไ่ กลกว่า โดยเราไม่บอกลูกว่ายังอยูใ่ นสายตาของพ่อ
ของแม่นะ ผมซือ้ กล้องขนาดเท่ากระดุมจากเว็บไซต์ตา่ งประเทศติดไว้ทกี่ ระดุมเสือ้
ลูก มันดูเหมือนกระดุมมากจนคนดูไม่รู้ กล้องจะเสมือนแทนตา ซึ่งเราจะมองเห็น
จากคอมพิวเตอร์ที่บ้านของเรา ผมกับภรรยาจะนั่งเฝ้าดู กล้องบันทึกภาพไว้ตลอด
จากบ้านไปสองร้อยเมตรและอีกระยะสองร้อยเมตร แม้แต่ในร้านเซเว่นฯ ผมจะมี
ลูกน้องจุดละหนึ่งคนคอยเฝ้าดู หากเกิดเหตุไม่ดีไม่คาดคิดลูกน้องจะถึงตัวลูกสาว
ผมภายใน ๑๕-๓๐ วินาที แน่นอนลูกน้องทุกคนกับผมมีวิทยุขนาดเท่ากระดุมเสื้อ
ติดไว้บนคอปกเสื้อเพื่อการติดต่อสื่อสาร
เมื่อตรวจสอบทุกอย่างเรียบร้อย ผมจึงเปิดประตูให้หนูนิดลูกสาวผมออก
ไปซื้อของหน้าปากซอย
จากภาพที่ผมเห็นจากกล้องกระดุม ลูกเดินไปบนฟุตบาทภายในหมู่บ้าน
ตามอย่างพ่อสอน ผมยิ้มอีก เมื่อเห็นลูกไม่เหยียบฝาท่อระบายน�้ำบนฟุตบาท เธอ
ใช้วธิ เี ดินเลียบๆ ขอบฝาแทน อย่างทีผ่ มสอน เพราะผมเกรงลูกจะตกท่อ หากเหยียบ

108 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 108 21/3/2561 BE 10:00


ไปตรงๆ เกิดฝาท่อนั้นช�ำรุด ผมเองก็ท�ำเช่นนี้เวลาเดินถนน “พี่ไม่เคยไว้ใจฝาท่อใน
ประเทศเรา จึงต้องฝึกให้ลูกท�ำเป็นนิสัย” ผมบอกกับภรรยา
จากบ้านเราถึงป้อมยามรักษาความปลอดภัยหน้าหมูบ่ า้ นราวๆ ร้อยเมตร
ช่วงตรงนีค้ าดหมายว่าปลอดภัยนีแ้ ต่กย็ งั มีลกู น้องผมแสตนบายไว้หนึง่ คน คอยดูรถ
ทีว่ งิ่ เข้าออก อย่างทีบ่ อกกับภรรยา แม้แต่ถนนในหมูบ่ า้ น คนก็ยงั คิดว่ารถคือเจ้าของ
ถนน เล็กกว่ารถต้องระวังตัวเอง “เรามักเจอความคิดอย่างนี้เสมอสะท้อนมายังวิธี
การขับรถที่ไม่สนใจวัตถุสิ่งของสิ่งมีชีวิตที่เล็กกว่า ที่เขาระวังคือไม่ให้มีเรื่อง เขาไม่
ได้รักชีวิตมากกว่าไม่อยากเสียเวลาหรือเกิดเรื่องราวให้เสียเวลา พี่คิดอย่างนี้”
หนูนดิ ผ่านป้อมยามฯ ยามถามว่าจะไปไหนหรือ ผมได้ยนิ เสียง เมือ่ ลูกหัน
ไปมองยามฯ คนนัน้ ผมจึงจ�ำหน้าได้ แต่ผมบอกล่วงหน้ายามไว้แล้วว่าให้แค่ทกั บอก
พร้อมเงินสองร้อยบาทใส่กระเป๋าเสือ้ เขา เขายิม้ ให้ลกู สาวผมพร้อมกับยกแผงกัน้ รถ
เข้าออกขึ้นสูง รอจนหนูนิดผ่านไปก่อนค่อยกดปล่อยลง
ผ่านร้อยเมตรไปแล้ว ต้องเลี้ยวซ้ายเพื่อตรงไปร้านเซเว่นฯ หนูนิดมอง
ซ้ายขวา ท�ำเอาผมยิ้มออกอีกครั้ง ผมเคยสอนให้ลูกดูซ้ายขวาก่อนก้าวลงถนน
เพราะถนนช่วงต่อไปนี้ไม่มีฟุตบาท เป็นทางสัญจรปะปนกันของคนเดินเท้าและ
รถใช้ถนน รวมถึงจักรยาน หาบเร่ รถเข็นขายอาหารขายผลไม้ ความระแวดระวัง
จึงต้องเพิ่มขึ้น
หนูนิดเดินไปเรื่อยๆ อีกราวสิบก้าว ปรากฏว่าสิ่งไม่คาดคิดแรกก็เกิดขึ้น
หมาจรมาจากไหนไม่รู้เห่าลูกผม ขนาดตัวของมันท�ำให้ผมตกใจ มันสูงกว่าลูกผม
ราวคืบ ปกติหมาพวกนี้เมื่อเห็นเด็กเล็กมักกระโดดเข้าใส่ มันเห่าแยกเขี้ยว ตั้งขา
เกร็งขา เห็นชัดเจนในกล้องกระดุมที่ผมมองผ่าน ราวกับเตรียมกระโจนใส่เมื่อเข้า
ใกล้กว่านี้ แต่ลูกน้องผมที่อยู่ออกไปสามสิบเมตรมาถึงอย่างรวดเร็ว กระทืบเท้า
ลงพืน้ จนเจ้าหมามันตกใจ วิง่ หางจุกตูดหายไปในรัว้ สังกะสีรมิ ทางทีล่ อ้ มทีด่ นิ รกร้าง
ว่างเปล่า ผมถอนหายใจพรู…
ผมดีใจอีกทีล่ กู สาวผมยกมือไหว้ลกู น้องผมทีเ่ ธอก็ไม่รวู้ า่ คือใคร ลูกน้องผม
ท�ำท่ายิ้มแล้วยีหัวลูกผมอย่างเอ็นดู ก่อนจะถามว่า ไปไหนหรือ ผมมักจะสอนลูก

สถาบันพระปกเกล้า 109

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 109 21/3/2561 BE 10:00


เสมอว่า อย่าคุยกับคนแปลกหน้า แต่ทว่าเหตุการณ์เมือ่ ครูค่ งท�ำให้ลกู คิดของลูกว่า
ไม่ใช่คนแปลกหน้าแล้ว เพราะได้ช่วยเหลือจากอันตราย ลูกสาวผมตอบว่า ไปซื้อ
ของหน้าปากซอยค่ะ ผมหันไปพูดกับภรรยา ตรงนี้คงต้องสอนลูกอีกครั้ง ว่าแต่จะ
สอนยังไงดีล่ะ ถึงยังไงก็ยังเป็นคนแปลกหน้าอยู่ดี ภรรยาผมตอบ ไว้ค่อยคิด
หนูนิดมองไปยังข้างหน้า มีรถยนต์ผ่านมาข้างๆ แล้วผ่านไป ตามด้วย
จักรยานสีขาวของนักจักรยานมืออาชีพแน่เพราะดูจากชนิดเสื้อผ้าถ้าไม่แข่งตูร์เดอ
ฟองซ์กต็ อ้ งชิงแชมป์ประเทศไทยล่ะ แล้วถัดจากนัน้ รถมอเตอร์ไซค์บกิ๊ ไบค์กค็ ำ� ราม
ไล่หลังมา รถแต่งเครือ่ งของเด็กแว้นดังก้อง ตลอดเวลาลูกสาวผมเดินชิดซ้ายก�ำแพง
ของหมู่บ้าน ซึ่งถัดไปอีกสองร้อยเมตรก็จะถึงเซเว่น
ผ่านวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ผมอุทานขึ้นมา เอาล่ะวะ ไม่ได้เตี้ยมไว้ก่อน
จะเกิดอะไรขึน้ ไหม มอเตอร์ไซค์วนิ พวกนีร้ จู้ กั ลูกผมดีแน่ๆ บางทีเราก็เคยใช้บริการ
และพวกเขาก็มีบริการรับซื้ออาหารส่งถึงบ้านเสมอเพียงแค่โทรไปบอก ผมมักเห็น
เพื่อนบ้านใช้บริการจากเขาเสมอ เวลาเขามาหลายครั้งเราพ่อลูกเคยอยู่ในรั้วบ้าน
ของเรา มองไปก็เห็นเขามาส่งของ ผมเองเคยใช้บริการหนสองหน ตอนหิวๆ และ
ขี้เกียจออกไปซื้อเอง ปรากฏว่าวินมอไซคนนั้นไม่รู้จักลูกผมหรือไม่สนใจก็ไม่รู้
ไม่ทักลูกผมและไม่เรียก ปล่อยให้เด็กเดินผ่านหน้าไป ผิดคาดมาก ผมถามลูกน้อง
ทีหลังก็บอกผมตามนี้ “คุณหนูนิดเดินผ่านวินมอไซโดยปกติครับ ไม่มีการทักการ
เรียกจากพวกวินสามสี่คนในซุ้มนั้น”
วินพวกนี้ไว้ใจไม่ได้ ถ้าไม่เข้าไปตีสนิทก็ต้องสอนลูกให้ไม่ไว้ใจ ผมหันบอก
ภรรยาแล้วผมก็บ่นเรื่องมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ชอบขับขี่บนฟุตบาท ชอบวิ่งย้อนศร
จนภรรยาผมท�ำปากจุ๊ๆ ให้ดูลูกก่อน
เวลานัน้ เองก็มคี นท่าทางแปลกๆ สภาพเหมือนคนจรเดินตรงเข้ามายังลูก
ผม ผมวอใส่หูฟังให้ลูกน้องทุกจุดเตรียมพร้อม เขาตรงเข้ามาแล้วยื่นมือต่อหน้าลูก
ผม บอกว่า “ขอตังหน่อย” ตอนนัน้ ลูกน้องชะงัก หยุดดูทา่ ที ผมบอกซ�้ำในวอให้ทกุ
คนหยุดดูเหตุกาณณ์อีกครั้ง ผมอยากดูการตัดสินใจของลูกสาว
หนูนิดยื่นเงินให้ชายคนนั้นไปห้าสิบบาท ผมให้ธนบัตรใบละห้าสิบบาท

110 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 110 21/3/2561 BE 10:00


ไปสองใบ ด้วยมูลค่าของอาหารทีจ่ ะซือ้ ขนมปังแถวละ ๓๓ บาท ไส้กรอกชีสราคา
๒๗ บาท เงินทีเ่ หลือคงไม่พอแน่ผมตัง้ ใจว่าราคาของ ๖๐ บาทดูซลิ กู จะจัดการเงิน
ที่มีนั้นอย่างไร เดี๋ยวค่อยว่ากันล่ะกัน ให้ลูกน้องเข้าไปจ่ายเงินแทนก็ได้
คนจรได้เงินไปก็ยกมือไหว้ลูกผมยกใหญ่ หนูนิดกลับตอบว่า “ไม่ต้องไหว้
หนูเป็นเด็ก” ดีแฮะ ลูกเรา น่ารักจัง ผมหันไปยิ้มและพูดกับภรรยา
เซเว่นอยู่ข้างหน้าแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นอีก
หนูนิดเดินถึงเซเว่นก�ำลังจะก้าวเข้าก็เจอหมาอีก ท�ำไมหมาเยอะจัง อ๋อ
หน้าเซเว่นนีเ่ อง แต่หมาหน้าเซเว่นไม่เห่า มันกระดิกหางให้ หนูนดิ ก้าวเข้าผ่านประตู
เข้าไป เธอตรงไปยังเคาน์เตอร์ทวี่ างขนมปัง แน่นอนมันอยูส่ งู เกินกว่าจะเอือ้ มมือถึง
หนูนดิ สะกิดพนักงานทีก่ ำ� ลังจัดของพลางบอกให้ชว่ ยหยิบขนมปังให้ พนักงานหยิบ
ยื่นให้ ไม่พูดตอบอะไร หันไปจัดของต่อ ลูกสาวผมเดินมาหน้าเคาน์เตอร์ช�ำระเงิน
เธอจ�ำได้ว่าพ่อท�ำเช่นนี้เวลาจะซื้อไส้กรอก
“ขอไส้กรอกชีสค่า” หนูนิดบอกพนักงาน
“ฟุตลองชีสใช่ไหม”
“ที่มันยาวๆ ค่า ไส้กรอกชีส”
พนักงานท�ำหน้าอย่างไร กล้องจับเห็นแต่กระปุกยาอมและแผงถุงยาง
อนามัยทีอ่ ยูข่ า้ งหน้า มันคงสูงจนบังใบหน้า ได้ยนิ เสียงพนักงานๆ ถามลูกอีก “อุน่ ไหม”
“อุ่นค่ะ”
ลูกน้องผมทีอ่ ยูใ่ นเซเว่น เดินมาใกล้ลกู สาวผม เพราะผมสัง่ ทางวิทยุวา่ เดีย๋ ว
จ่ายเพิ่มให้นะ เงินที่ลูกสาวมีคงไม่พอแล้ว
ไม่นานพนักงานก็บอกว่า “หกสิบบาทจ้ะหนู มีเงินไหม”
ลูกสาวผมยื่นเงินให้ ก็ธนบัตรใบนั้นแหละ พนักงานรับมาแล้วบอกว่าไม่
พอค่า รายการสินค้าทั้งหมด ๖๐ บาท ลูกสาวผมท�ำหน้าไม่เข้าใจ ลูกน้องผมเล่า
ภายหลัง พนักงานจึงเน้นย�้ำอีกครั้ง ตอนนั้นเองที่มีป้าคนหนึ่งได้ยินเสียงจากข้าง
หลังอย่างเบาๆ อ่อนโยน บอกว่า ขาดอีกเท่าไหร่ เดีย๋ วป้าจ่ายให้ พร้อมทัง้ ใช้นำ�้ เสียง
อีกอย่างกับพนักงาน นี่มาเอาที่ชั้น เท่าไหร่

สถาบันพระปกเกล้า 111

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 111 21/3/2561 BE 10:00


เสียงพนักงานตอบว่าขาดอีกสิบบาท ลูกน้องผมทีอ่ ยูด่ า้ นหลังก�ำลังจะเข้า
จ่าย ผมวอบอกไปว่าอย่าเพิง่ เดีย๋ วค่อยให้ปา้ ภายหลัง ตอนลูกผมออกจากร้านแล้ว
อยากให้แกรู้สึกดีกับมนุษย์ที่มีน�้ำใจคนหนึ่ง
หนูนดิ รับสินค้าแล้วหันไปยกมือไหว้ขอบคุณป้าอย่างเรียบร้อย ลูกน้องผม
แอบใช้โทรศัพท์มอื ถือถ่ายภาพมาให้ดู ลูกสาวออกมาถึงหน้าเซเว่นก็เจอหมาตัวเดิม
ที่กระดิกหางให้อีก เธอจึงหยิบไส้กรอกยื่นใกล้ปากหมาแล้ววางลงบนพื้น หมางับ
ไปกินทันที เอ้า ลูกเรา ผมหันไปพูดกับภรรยา ช่างเหอะ ลูกเรามีนำ�้ ใจ ดีแล้ว คราว
หลังค่อยสอนว่าคนละเรื่องกัน แยกกันระหว่างค�ำสั่งซื้อที่รับจากพ่อกับน�ำ้ ใจที่ให้
จะเข้าใจหรือไม่เข้าใจก็อีกเรื่อง
ขากลั บ บ้ า นกลั บ ราบรื่ น ปลอดโปร่ ง ไม่ มี ทั้ ง คนหมาและคนจรหรื อ
เหตุการณ์คาดไม่ถึงเกิดขึ้น ลูกสาวผมเดินถือถุงอาหารเข้าบ้านอย่างร่าเริงแล้ว
เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดทางอย่างตื่นเต้นสนุกสนาน ราวกับผจญภัยในดิน
แดนมหัศจรรย์ปานนั้น
ผมดีใจที่ลูกมีความสุข
“ลูกก็คงมีบทเรียนชีวิตอีกหนึ่งครั้ง” ผมหันพูดกับภรรยา
“ค่ะ ลูกจะเรียนรูแ้ ละเข้าใจอย่างไรนัน่ เป็นก�ำไรและไม่สำ� คัญเท่า “ ภรรยา
ผมกล่าว
ตอนทีผ่ มกับภรรยาก�ำลังยืนรอรับลูกทีห่ น้าบ้าน ผมบอกภรรยาว่า “ปล่อย
นกไปเถอะ สงสาร”
ภรรยาตอบว่า “ปล่อยไปก็ตาย มันยังไม่พร้อม ที่สำ� คัญมันถูกดูแลมาให้
มีกินอยู่ตลอด มันหาอาหารเองไม่เป็น และนึกว่าโลกนี้ปลอดภัย”
ท�ำให้ผมนึกถึงลูกขึ้นมาได้ ผมมองไปยังตู้ปลาทองก็คงเหตุผลเดียวกัน
ปลาทองถูกพัฒนาสายพันธุ์มาให้เป็นปลาสวยงาม ส�ำหรับมนุษย์เอาไว้ดูเล่น
เพลิดเพลิน หากปล่อยลงแม่น�้ำล�ำคลองก็ต้องตายแน่นอนและอย่างเร็วด้วย
“ถ้าอย่างนั้น เราควรดูแลลูกเราอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นอย่างนกหงส์หยก
และปลาทอง” ผมถามภรรยาแต่ก็เหมือนถามตัวเองเช่นกัน #

112 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 112 21/3/2561 BE 10:00


จารี จันทราภา
นามปากกาของ ติณ นิติกวินกุล
เกิดวันที่ ๙ มกราคม พ.ศ.
๒๕๑๓ ริมทางรถไฟแถวบางขุนเทียน
กรุงเทพฯ ในสมัยทีย่ งั เป็นจังหวัดธนบุรี
ปัจจุบันอยู่กับภรรยาและลูก ๒ คน
แถวดอนเมือง กรุงเทพฯ
ผลงานรวมเล่ม
พ.ศ.๒๕๔๓ รวมเรื่ อ งสั้ น
คุยกับเฮ็มมิงเวย์และเรื่องสั้นอื่นๆ
สนพ.ดาว
พ.ศ.๒๕๔๘ รวมเรื่องสั้น สบตากับตัวเอง สนพ.สามัญชน
พ.ศ.๒๕๕๔ รวมเรื่องสั้น ชีวิตปกติ สนพ.สามัญชน
พ.ศ.๒๕๕๕ นวนิยาย พายุ สนพ.เปนไท พับลิชชิ่ง
พ.ศ.๒๕๕๘ รวมเรื่องสั้น ผูกพันธนาการ สนพ.มติชน
พ.ศ.๒๕๖๐ นวนิยาย โลกไม่ได้หายไปเพราะหลับตา สนพ.เทียน

สถาบันพระปกเกล้า 113

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 113 21/3/2561 BE 10:00


ความจริงภายในใจ
สเนค รัสเซล

ก รี๊งงงงงงงง!
หลังจากที่สัญญาณเลิกเรียนดังขึ้น โรงเรียนที่เคยเงียบสงัดก็เต็มไปด้วย
เสียงพูดคุยและร้องตะโกนของเหล่าเด็กนักเรียนหลากหลายวัย ต่างก็มุ่งหน้าตรง
กลับบ้านด้วยการเดินหรือไม่ก็วิ่งขึ้นรถไปบ้าง บ้างก็อยู่ท�ำกิจกรรมกับเพื่อนๆ
ต่ออีกเช่น เล่นฟุตบอลหรือกระโดดหนังยางกันไป
แต่กต็ อ้ งมีเด็กส่วนหนึง่ ทีจ่ ะต้องรีบมุง่ หน้าไปทีร่ า้ นของอาแปะหงส์ เพราะ
ว่าร้านของอาแปะคนนี้เป็นร้านขายของเล่นจ�ำพวกโมเดลประกอบและแอคชั่นฟิก
เกอร์ (โมเดลของเล่นทีข่ ยับแขนขาได้) ซึง่ ใหญ่และใกล้ทสี่ ดุ ของโรงเรียนแห่งนี้ เหล่า
ตัวละครทีเ่ ป็นของเล่นพลาสติกจากหนังการ์ตนู ชือ่ ดังตอนเช้าวันเสาร์อาทิตย์ทเี่ ด็ก
ติดกันงอมแงมกันทัว่ ประเทศดึงดูดให้รา้ นแห่งนีม้ เี ด็กล้นอยูท่ กุ เย็น อาแปะหงษ์เอง
ก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นเขาจึงจะอยู่เฝ้าร้านอย่างใจจดใจจ่อเพื่อที่จะเก็บ
เงินจากการขายของช่วงหลังเลิกเรียนเป็นประจ�ำ มันจึงจะเป็นช่วงเวลาเดียวที่ร้าน
ขายของเล่นแห่งนีจ้ ะยุง่ วุน่ วายในวันทีม่ เี รียน แถมภายในร้านแห่งนีก้ ย็ งั ติดแอร์เย็นๆ
ท�ำให้เด็กประถมยิง่ อยากจะหนีออกมาจากห้องเรียนร้อนๆ ทีแ่ สนน่าเบือ่ มายังแดน
สวรรค์ของเยาวชนที่ชอบของเล่น

114 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 114 21/3/2561 BE 10:00


สถาบันพระปกเกล้า 115

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 115 21/3/2561 BE 10:00


ไม่เว้นแม้แต่ “ชาติไท” หรือว่า “ชาติ” ที่ชอบแวะเวียนมาที่ร้านนี้ด้วย
เช่นกัน
ชาติเป็นเด็กที่แวะมาร้านขายของเล่นแห่งนี้บ่อยที่สุดอีกคนหนึ่ง เพียงแต่
เขาไม่เคยได้กลับออกไปพร้อมกับของเล่นในร้านของอาแปะหงษ์เหมือนกับคนอืน่ ๆ
เลยสักครั้ง เนื่องจากราคาสินค้าที่ค่อนข้างสูงเกินก�ำลังที่เขาจะจับจ่ายได้ อันที่จริง
อาแปะก็ไม่ได้จะตัง้ ราคาของเล่นในร้านแพงมากหรอก เพียงแต่วา่ ตัวของชาติไม่ได้
เป็นเด็กทีจ่ ะมีฐานะเหลือกินเหลือใช้พอทีจ่ ะใช้ฟมุ่ เฟือยไปกับของทีเ่ กินความจ�ำเป็น
เช่นนี้ได้ เด็กชายจึงท�ำได้เพียงแค่มองของเล่นที่เขาอยากจับจองเป็นเจ้าของทุกวัน
ที่เข้าไป
และของเล่นที่เขาแวะมาเฝ้ามองอยู่ทุกวันก็คือ หุ่นยนต์เกราะสีขาวสลับ
แดงที่ตั้งอยู่ในตู้โชว์กระจก...
หลังจากที่ชาติเดินฝ่าเพื่อนร่วมโรงเรียนเดียวกับเขา เด็กชายผ่านชั้นวาง
ของทีต่ งั้ เป็นแถวตอน ๑๐ กว่าชัน้ ไปยังมุมร้านทีต่ งั้ ของเล่นทีเ่ ขาหมายตา วันนีก้ อ็ กี
เช่นเคยทีช่ าติมายืนมองหุน่ ยนต์รบจากการ์ตนู ชือ่ ดังในตอนเช้าทีเ่ ขาติดหนักชนิดที่
ไม่เคยขาดชมเลยสักตอน ท่ายืนและทรงของหุ่นยนต์ดูแข็งแกร่งสง่างามราวกับมัน
หลุดออกมาจากในโลกอุปโลกน์ มือข้างหนึ่งที่ถือปืนยาวขนาดยักษ์เกินตัวในโลก
อนาคตท�ำให้มนั ดูรา้ ยกาจหากยามทีม่ นั ได้ออกรบ โล่อกี ข้างในมือก็ชา่ งไร้เทียมทาน
พร้อมใช้ป้องกันตัวหากมีภัยใดๆ มุ่งมาที่มัน
ชาติอดใจไม่ได้ทจี่ ะจินตนาการว่าเขาได้ครอบครองหุน่ ยนต์รบตัวนีไ้ ว้เป็น
เจ้าของ มันคงจะช่วยให้เขาโดดเด่นในหมูเ่ พือ่ นฝูงและเป็นทีย่ อมรับในกลุม่ มากกว่า
นี้ กระนั้นมันก็เป็นได้เพียงแค่ความฝันลมๆ แล้งๆ
ระหว่างที่ชาติก�ำลังมองหุ่นยนต์ของเล่นอยู่นั้น เด็กชายก็เบนสายตามอง
ไปที่อาแปะหงษ์ที่วุ่นอยู่กับลูกค้าเด็กคนอื่นอยู่ ครั้งเขาคิดในใจว่าหากวันหนึ่งเขา
เก็บเงินได้จ�ำนวนหนึ่ง เขาจะลองขอร้องให้เจ้าของร้านขายของเล่นลดราคาให้เขา
สักหน่อยหนึง่ จะได้ไหม แต่มนั ก็คงจะเป็นเรือ่ งทีย่ ากเกินจะเป็นไปได้ ขนาดแค่ชาติ
เดินเข้ามาอยู่ตรงนี้เจ้าของร้านเชื้อสายไทยจีนยังคงไม่สังเกตเห็นเขาเลยด้วยซ�ำ้ ...

116 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 116 21/3/2561 BE 10:00


แวบนั้นเองที่ชาติเกิดความคิดที่ไม่ซื่อขึ้นมา
ใช่... อาแปะหงษ์ยังคงวุ่นอยู่กับลูกค้าจนไม่ทันได้สังเกตเห็นชาติที่ยืนอยู่
ตรงนัน้ ชาติทใี่ นตอนแรกคิดจะใช้เวลาเก็บเงินซือ้ ของเล่นชิน้ นีก้ ลับมีความคิดทีแ่ สน
ชัว่ ร้ายราวกับมีปศี าจมากระซิบบอกให้เขากระท�ำการสิง่ นี้ ขมับของชาติเริม่ มีเหงื่อ
ผุดขึน้ มาทัง้ นีแ้ อร์ภายในร้านเย็นฉ�ำ่ จนแทบจะหนาว เด็กชายหันสลับไปมองเจ้าของ
ร้านกับของเล่นที่เขาหมายตา แม้ว่าตัวที่เขามองอยู่จะเป็นของโชว์ที่ไม่สามารถจับ
ต้องได้ภายใต้หลังกระจก แต่ตัวใหม่เอี่ยมที่ยังไม่ได้แกะกล่องก็วางอยู่ใต้ชั้นวาง
หุน่ ยนต์ตวั โชว์ไม่ไกลเกินเอือ้ ม ชาติแสร้งท�ำทีเป็นหยิบกล่องมาไว้ในมือและพิจารณา
รายละเอียดบนกล่องของเล่น เด็กชายหันรีหันขวางมองทั้งเจ้าของร้านและสิ่ง
รอบตัว ซึง่ บัดนีม้ เี พียงเขาคนเดียวทีย่ นื อยูท่ มี่ มุ นัน้ ทุกอย่างมันช่างดูเหมือนจะเปิด
เป็นโอกาสที่จะท�ำให้เขาท�ำเรื่องที่เลวร้ายครั้งแรกในชีวิต
ชาติกลั้นใจวินาทีที่มือไวกว่าความคิด เขาเปิดกระเป๋าเรียนของเขาอย่าง
ตะกุกตะกักก่อนที่จะยัดกล่องของเล่นลงไปในกระเป๋า เด็กชายผู้กระท�ำการ
ลักทรัพย์มองชายผอมผูเ้ ป็นเจ้าของร้าน ซึง่ ยังคงไม่ได้รตู้ วั เลยสักนิดว่ามีโจรวัยก�ำลัง
เรียนได้กระท�ำการขโมยของในร้านเขาส�ำเร็จไปแล้ว
เด็กชายกระท�ำการโจรกรรมส�ำเร็จเพียงครึ่งเดียว เขานั้นยังออกไปจาก
ร้านแห่งนีโ้ ดยทีไ่ ม่ถกู จับได้กอ่ นจึงจะถือว่าภารกิจเสร็จสมบูรณ์ ชาติหนั ตัวเตรียมที่
จะเดินออกไปจากร้านโดยไม่ให้มีพิรุธที่สุด
ทว่า!
ทันทีที่ชาติหันตัวกลับไปนั้น เขาก็เกือบจะเดินไปชนกับ “วิน” เพื่อนร่วม
ห้องเดียวกับเขา ทั้งสองสบสายตากันโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ปากของชาติเผยอราวกับ
อยากจะพูดอะไรแต่ก็พูดไม่ออก ส่วนวินเองนั้นก็มีอาการไม่ได้ต่างอะไรจากชาติ
สายตาและอาการของวินชี้ชัดว่าเขานั้นได้รู้เห็นเป็นพยานเหตุการณ์เมื่อสักครู่ มัน
ท�ำให้โลกของชาติแทบจะดับวูบลงตรงหน้าเมื่อรู้ว่ามีพยานรู้เห็นการกระท�ำผิดใน
ครั้งนี้

สถาบันพระปกเกล้า 117

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 117 21/3/2561 BE 10:00


“ชาติ เมื่อกี้นาย...” ไม่ทันที่เด็กชายเพื่อนร่วมชั้นจะพูดจบประโยค ไหล่
ของชาติชนเข้าไหล่ของวินที่ยืนขวางทางไว้ ชาติตัดสินใจฝ่าตัวเองออกไปจากร้าน
ขายของเล่น ทันทีที่ชาติเอาตัวเองพ้นออกมาจากสถานการณ์ที่ตึงเคร่งภายในร้าน
อาแปะหงษ์ได้ เด็กชายก็ไม่รีรอที่จะสับฝีเท้าวิ่งตรงกลับบ้านในทันที...
วินาทีที่ชาติไทกลับมาถึงบ้านเขาก็ดิ่งเข้าห้องก่อนจะปิดประตูลงกลอน
อย่างแน่นหนาราวกับว่าก�ำลังมีอสูรกายไล่ตามหลังเขามา ชาติหอบหายใจถี่พร้อม
กับเพิง่ รูส้ กึ ตัวว่าหัวใจตนนัน้ เต้นแรงกว่าปกตินบั ตัง้ แต่ออกมาจากร้านขายของเล่น
ไม่สิ! คงต้องบอกว่านับตั้งแต่ตอนที่หยิบกล่องหุ่นยนต์มาไว้ในมือแล้วต่างหาก
เด็กชายเริ่มสงบสติอารมณ์ลงได้อย่างช้าๆ เมื่อทุกอย่างเริ่มกลับมาเป็นปกติ ชาติ
เบนสายตามองทีก่ ระเป๋าทีซ่ อ่ นของทีเ่ พิง่ ลักมา เด็กชายเดินเข้าไปเปิดกระเป๋าออก
ซึ่งก็พบกล่องหุ่นยนต์ที่เขาอยากได้ครอบครองมาไว้ตั้งนานแล้ว แม้ว่าตอนนี้เขาจะ
ได้เป็นเจ้าของมันแล้ว แต่ไม่รู้ท�ำไมเขากลับไม่ได้รู้สึกดีใจกับเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย
แน่นอนว่าอยูแ่ ล้ว ก็เพราะเขาได้มนั มาโดยทีไ่ ม่ชอบธรรมอย่างไงเล่า แถมการได้มา
ครั้งนี้ก็ยังมีพยานรู้เห็นอีกด้วย
ความคิดพลันแล่นของชาติคิดไปต่างๆ นานาว่าวินนั้นจะท�ำเช่นไรหลัง
จากนี้ เขาจะเดินไปบอกกับอาแปะหงษ์เรือ่ งการโจรกรรมครัง้ นีไ้ หม หรือว่าวินอาจ
จะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับคุณครูที่โรงเรียนก็เป็นได้ ซึ่งไม่ว่าวินจะเอาเรื่องนี้ไปบอก
กับใคร สุดท้ายแล้วมันก็จะย้อนกลับมาเล่นงานเขาอยู่ดี เรื่องราวก็จะบานปลาย
ใหญ่โต ชาติจะถูกท�ำโทษเช่นไร เขาจะถูกพักการเรียนหรืออาจจะถูกไล่ออกจาก
โรงเรียนก็เป็นได้ ถ้ายิง่ แย่ไปกว่านัน้ อาแปะหงษ์อาจจะแจ้งความกับต�ำรวจและเอา
ชาติเข้าคุกเลยก็เป็นได้ ยิ่งคิดมันก็ยิ่งสร้างความกังวลใจมากขึ้นไปอีก ความกลัว
เหลือคณารุมเร้าจิตใจของชาติจนเด็กชายอยากจะย้อนเวลากลับไปเมือ่ ไม่กชี่ วั่ โมง
ที่แล้วและไม่ได้ทำ� ในสิ่งที่เพิ่งท�ำลงไป แต่ใครกันเล่าจะมีพลังวิเศษไปแก้ไขเรื่องใน
อดีตแบบนั้นได้
กุญแจส�ำคัญก็คอื ตัวของวินเท่านัน้ แหละ ถ้าวินเอาเรือ่ งนีไ้ ปบอกใครสักคน
ชีวิตเขาก็เป็นอันจบอย่างไม่ต้องสงสัย ชาติเริ่มคิดวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ว่า

118 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 118 21/3/2561 BE 10:00


วินนั้นจะน�ำเรื่องนี้ไปบอกกับใครก่อน ตัววินนั้นเป็นถึงระดับหัวหน้าห้องที่มีความ
ประพฤติที่ดีมาตลอด ซึ่งกว่าจะได้ตำ� แหน่งนี้มาผลงานการปฏิบัติตนก็ต้องเป็นเลิศ
อยูแ่ ล้ว ไหนจะเรือ่ งการเรียนทีไ่ ด้ครองต�ำแหน่งที่ ๑ ของห้อง อีกทัง้ ยังเป็นหน้าเป็น
ตาให้กับโรงเรียนเมื่อเขาได้ไปแข่งคณิตศาสตร์กับโรงเรียนอื่นจนได้รับชัยชนะ
กลับมา ซึ่งทางโรงเรียนถึงกับท�ำป้ายหน้าของเขาติดหราอยู่หน้าทางเข้าด้วยซ�้ำ
หากวินคิดจะเอาหน้ากับอาจารย์หรือยึดมั่นในความยุติธรรม เรื่องนี้คงจะไม่พ้นที่
จะถูกรายงานกับใครสักคนอยูแ่ ล้ว ถ้าเช่นนัน้ ชาติกค็ งต้องหาหนทางทีจ่ ะเกลีย้ กล่อม
หัวหน้าชัน้ ให้ยอมความเรือ่ งนีใ้ ห้จงได้ ซึง่ คิดอย่างไงก็มเี พียงหนทางเดียวคือต้องให้
สินบนหัวหน้าชัน้ เพือ่ ทีจ่ ะให้เขาปิดปากเงียบสนิท แต่จะมีสงิ่ ใดทีช่ าติสามารถใช้เป็น
เครือ่ งมือต่อรองครัง้ นีไ้ ด้เล่า ของเล่นทีเ่ ขามีอยูก่ ใ็ ช่วา่ จะมากมายพอทีจ่ ะท�ำเช่นนัน้
เงินทองทีเ่ ขามีอยูก่ ไ็ ม่ตอ้ งพูดถึง ไม่อย่างนัน้ เขาคงไม่ตอ้ งมานัง่ ขโมยของเล่นแบบนี้
หรอก คิดไปคิดมาชาติพอได้ค�ำตอบว่าจะยอมเป็นทาสทุกอย่างให้แก่วินเป็นการ
แก้หน้า ซึ่งอาจจะรับใช้หัวหน้าห้องด้วยการยอมท�ำการบ้านให้หรือไม่ก็ท�ำเวรแทน
นั้นก็น่าจะเป็นหนทางที่พอจะตกลงกันได้อย่างลับๆ
ก๊อกๆ
ท่ามกลางความคิดที่สับสนและไม่สามารถหาค�ำตอบให้แก่ทางออกครั้งนี้
เสียงเคาะประตูส่งผลให้เด็กชายสะดุ้งโหยง เขาหันขวับไปที่ประตูพร้อมกับได้ยิน
เสียงเรียกชื่อของเขา
“ชาติ พ่อเองลูก เปิดประตูให้พอ่ หน่อย” ผูเ้ ป็นบิดานัน่ เอง แวบหนึง่ ทีช่ าติ
เผลอคิดว่าเป็นต�ำรวจที่ตามมาจับตัวเขาถึงบ้าน เด็กชายรวบรวมสติเข้ามาอยู่กับ
เนื้อกับตัวก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกและเดินไปเปิดประตู
“ท�ำอะไรอยูล่ กู ลงมากินข้าวได้แล้ว” ประโยคค�ำถามแรกไม่ได้คาดคัน้ เอา
ค�ำตอบ พ่อของชาติแค่มาตามเด็กชายให้ลงไปกินข้าวปลาตามปกติทกุ เย็นก็เท่านัน้
“ครับพ่อ...” ผูเ้ ป็นลูกตอบเสียงค่อยและไม่กล้าทีจ่ ะสบตากับบิดา อาจจะ
เป็นเพราะว่าเขาเพิ่งท�ำความผิดมาก็ได้ ที่ผ่านมาตัวชาติแม้จะไม่ได้มีการเรียนหรือ

สถาบันพระปกเกล้า 119

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 119 21/3/2561 BE 10:00


ผลงานอะไรที่โดดเด่นเหมือนกับวิน ทว่าพ่อของเขาก็ไม่เคยคิดจะกดดันคนเป็น
ลูกชายเพียงคนเดียวของเขาอยูแ่ ล้ว ครัง้ ยังรูส้ กึ ภูมใิ จในตัวเขามาตลอดเวลาด้วยซ�้ำ
ซึง่ ชาติไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าพ่อของเขารูเ้ รือ่ งทีเ่ ขากลายเป็นหัวขโมยขึน้ มา คน
เป็นพ่อจะเกิดปฏิกิริยาต่อเด็กชายเช่นไร แต่ที่แน่ๆ มันไม่ใช่ปฏิกิริยาในด้านที่ดี
อยู่แล้ว
“อะไรเนี่ยลูก ?” หัวใจของชาติร่วงหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เมื่อแทนที่พ่อของ
เขาจะเดินออกไปจากห้องเหมือนทุกคร่าว แต่ชายวัยกลางคนกลับเดินไปหยิบกล่อง
หุน่ ยนต์ของเล่นทีว่ างหราอยูบ่ นเตียง วินาทีนนั้ ชาติหาค�ำพูดทีจ่ ะอธิบายเรือ่ งนีแ้ ทบ
ไม่ทัน ทว่าเขาก็หาค�ำโกหกมาได้อย่างหวุดหวิด
“อ้อ ผมจับฉลากได้มาน่ะครับ”
“เหรอ...” พ่อของชาติหันกลับมาสบตาลูกชาย ซึ่งเสมือนกับว่าแววตา
คู่นั้นรับรู้ความจริงอะไรบางอย่างที่ไม่ได้เอ่ยออกมา หรืออาจจะเป็นความรู้สึกที่
คิดมากไปเองของชาติก็เป็นได้ เด็กชายที่มองตาบิดาอยู่พักหนึ่งอดทนต่อไปไม่ไหว
เขาเลือกทีต่ อ้ งหลบเลีย่ งสายตาทีเ่ หมือนมีนยั ยะอะไรบางอย่างไปมองอย่างอืน่ แทน
“ลูกของพ่อโชคดีจริงๆ นะ ไป... ไปกินข้าวได้แล้ว” ซึ่งมันก็คงเป็นสิ่งชาติ
คิดไปเองจริงๆ ด้วย เพราะชายวัยกลางคนวางกล่องของเล่นลงก่อนจะพูดเสียงร่า
และเดินออกไปหน้าตาเฉย งานนี้ทำ� เอาชาติใจหายจนหัวใจเกือบหยุดเต้น
เด็กชายใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะย้ายตัวเองลงไปยังห้องกินข้าวได้
ที่โต๊ะกลางมีอาหารอยู่ ๔ อย่างวางรออยู่แล้ว โดยรอบโต๊ะมีพ่อกับแม่ของชาติที่
ลงมือกินข้าวโดยที่ไม่ได้รอลูกชาย
“กว่าจะเสด็จลงมาได้นะ รีบมากินข้าวก่อนที่อาหารจะเย็นหมดสิลูก”
มารดาของเด็กชายกึ่งบ่นกึ่งพูด ชาติยังคงเคลื่อนไหวชักช้าไม่ได้ดังใจตนเอง แต่ใน
ที่สุดก็ไปนั่งประจ�ำที่จนได้
ระหว่างทีท่ กุ คนก�ำลังเจริญอาหารอยูน่ นั้ มีเพียงตัวชาติคนเดียวทีแ่ ทบจะ
กระเดือกอะไรลงท้องไม่ได้ ภายในใจเขายังอดครุ่นคิดเรื่องที่ก�ำลังเป็นปัญหาของ
เขาในตอนนี้ไม่ได้จริงๆ

120 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 120 21/3/2561 BE 10:00


“ทีโ่ รงเรียนเป็นยังไงบ้างลูก ?” คนเป็นแม่พดู ขึน้ แทรกเสียงช้อนทีก่ ระทบ
จานชาม ท�ำเอาเด็กชายสะดุ้งเล็กน้อย
“กะ... ก็เรื่อยๆ ครับ” คนตอบเสียงสั่นเครือเล็กน้อย เพราะแอบคิดว่าค�ำ
ว่า “เรื่อยๆ ” มันอาจจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปในอนาคต
“แม่กบั พ่อได้คยุ กันแล้ว เห็นว่าทีผ่ า่ นลูกเองก็พยายามตัง้ ใจเรียนมาตลอด
แม้ว่าลูกจะไม่ได้เรียนดีเด่นอะไรมากที่สุดในห้อง แต่ผลการเรียนของลูกก็ดีจากแต่
ก่อนมากขึ้น เพราะฉะนั้นแม่กับพ่อเลยคิดว่าเทอมหน้าถ้าลูกสอบเกรด ๔ ได้สัก ๕
ตัวขึ้นไป พวกเราจะซื้อของเล่นที่ลูกอยากได้ ๑ ชิ้นเป็นรางวัลให้” ดวงตาของเด็ก
ชายประจ�ำบ้านเบิกกว้างขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น เขาหันสลับมองบุพการีทั้งสอง
ซึ่งต่างมีรอยยิ้มน้อยๆ ให้อย่างภาคภูมิใจ คนเป็นพ่อเขยิบตาเล็กน้อยให้ด้วย
พระเจ้าช่วยด้วย! ปกติที่ผ่านมาตัวชาติสอบคะแนนได้เกรด ๔ อยู่ที่ ๔ ตัว
เป็นประจ�ำอยู่แล้ว การจะเอามาเพิ่มอีกตัวคงจะไม่ใช่ปัญหายากเย็นอะไร ทว่า
ปัญหาของเขาในตอนนี้มันก็คือ ถ้ามีใครแพร่งพรายเรื่องที่เขาไปขโมยในร้านค้า
นอกจากข้อตกลงนีจ้ ะต้องถูกยกเลิกอย่างไม่ตอ้ งสงสัยแล้ว รอยยิม้ ทีเ่ พิง่ ปรากฏบน
ใบหน้าของบุพการีเช่นนี้คงจะไม่มีวันได้เห็นในชาตินี้อีกต่อไปแน่
งานนีห้ ากชาติไม่ลงมือท�ำอะไรสักอย่าง เห็นทีชวี ติ นีค้ งจะอยูอ่ ย่างสงบสุข
ไม่ได้แล้ว...
ในวันรุ่งขึ้น ชาตินั้นตื่นเช้ากว่าปกติเพื่อที่จะรีบไปที่โรงเรียน เด็กชาย
ตั้งมั่นไว้อย่างแน่วแน่แล้วว่าจะพูดเรื่องทั้งหมดกับวินให้รู้เรื่องกันไปข้างหนึ่ง ทว่า
ตัวชาติเองนัน้ มาถึงโรงเรียนก่อนทีว่ นิ จะมาถึงก่อนอยูน่ าน ท�ำให้เด็กชายผูท้ ำ� ผิดต้อง
กระสับกระส่ายเดินรอบโรงเรียนไปมาเพื่อรอการโผล่มาของหัวหน้าห้อง
จนเวลาล่วงเลยไปถึงช่วงที่เพลงเรียกรวมตัวเข้าแถวของโรงเรียนถูก
เปิดขึ้น ชาติที่ยังไม่เห็นวี่แววของเพื่อนร่วมชั้นจ�ำใจต้องไปเข้าแถวหน้าเสาธงก่อน
ในระหว่างที่ชาติก�ำลังคิดว่าวันนี้วินอาจจะป่วยและไม่ได้มาที่โรงเรียนก็เป็นได้
ตอนนั้นเองคนที่ชาติหมายจะคุยด้วยก็โผล่เข้ามาบริเวณสนามหน้าเสาธงพอดี

สถาบันพระปกเกล้า 121

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 121 21/3/2561 BE 10:00


ตัวชาติอยากจะปรี่เข้าไปคุยกับคู่กรณีให้รู้เรื่องในตอนนี้ไปเลย ทว่าเวลายังคงไม่
เป็นใจให้แก่เขา ชาติจึงต้องรอให้ถึงช่วงเวลาพักก่อนจึงจะเริ่มเจรจาเรื่องนี้ได้
ระหว่างที่วินเดินมายังแถวของชั้นเรียนตัวเอง เด็กชายหัวหน้าห้องได้หัน
มาสบตาเข้ากับชาติทยี่ งั คงจ้องเขาไม่ยอมหยุด สายตาของวินไม่สามารถคาดเดาได้
ว่าวินมองชาติด้วยความรู้สึกเช่นไร มันเรียบเฉยจนยากเกินกว่าที่จะบอกได้ว่ามันมี
ความหมายอะไร ซึ่งมันยิ่งท�ำให้ชาติรู้สึกกระวนกระวายมากขึ้นไปอีก
เมือ่ จบการสวดมนต์เคารพธงชาติและช่วงทีอ่ าจารย์ขนึ้ มากล่าวโอวาทและ
ข่าวสารทั่วไปเสร็จเรียบร้อย เหล่านักเรียนทั้งหมดก็ทยอยขึ้นห้องเรียนของตน
เหมือนเช่นกับทุกวันที่แสนน่าเบื่อ เวลาเรียนที่แสนจะเชื่องช้าได้ผ่านไปช้ากว่าเดิม
เมือ่ ต้องเจอกับคนร้อนใจ เนือ้ หาทีถ่ กู สัง่ สอนโดยอาจารย์ไม่ได้ซมึ เข้าสมองชาติเลย
แม้แต่น้อย ขาของชาติกระดกสั่นไปมาตลอดเวลาที่จ้องมองนาฬิกาบนผนัง ครั้ง
อยากจะหมุนเวลาให้ถึงเวลาพักเรียนช่วงแรกเสียที ระหว่างนั้นภายในหัวของเด็ก
ชายก็เรียบเรียงค�ำพูดทีจ่ ะประนีประนอมหาข้อตกลงทีท่ �ำให้ชวี ติ ของเขาไม่ตอ้ งจบ
ลงแต่เพียงเท่านี้
กรี๊งงงงงงง!
ถึงแม้เวลาจะผ่านไปช้าเพียงใด แต่สุดท้ายมันก็ผ่านไปได้เสียที เสียงออด
ของช่วงพัก ๑๕ นาทีแรกได้ดังขึ้น นักเรียนต่างรีบวิ่งออกไปจากห้องเรียนอย่าง
รวดเร็วเพื่อลงไปเล่นหรือไม่ก็ท�ำภารกิจส่วนตัว จนภายในห้องเกือบจะปราศจาก
นักเรียนและคุณครูเพียงไม่กี่วินาที
“เดีย๋ วก่อนวิน” ขณะทีห่ วั หน้าชัน้ ก�ำลังจะเดินออกไปจากห้องเป็นคนรอง
สุดท้าย ชาติได้พูดรั้งตัวเขาเอาไว้ ปฏิกิริยาของเด็กชายผู้ถูกเรียกก็หยุดอยู่กับที่
ในทันที วินหันมาสบตากับคนเรียก ซึ่งต่างคนต่างก็รู้ว่าประเด็นที่ทั้งคู่จะพูดคุยนั้น
เป็นเรื่องอะไร
“ว่าไงเหรอชาติ?” ไม่รู้ว่าวินพยายามเล่นเกมไขสือหรือท�ำเป็นไม่รู้เรื่อง
อย่างที่ปากว่าจริงๆ ถึงกระนั้นชาติก็ไม่อยากจะเปิดเกมท�ำให้คู่กรณีอารมณ์เสีย
ตั้งแต่เริ่มต้น

122 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 122 21/3/2561 BE 10:00


“เรือ่ งเมือ่ วาน...” ชาติเว้นช่วงลังเลอยูน่ านทีจ่ ะพูดต่อ “นายได้ไปบอกใคร
ไหม?” เด็กชายถามห้วนๆ หวังลึกๆ ว่าหัวหน้าห้องอาจจะตอบกลับมาว่าไม่เข้าใจ
ถึงสิ่งที่ชาติพยายามจะสื่อ ทว่าค�ำตอบของเด็กชายหัวหน้าห้องก็สรุปในตัวมันเอง
อยู่แล้ว
“ยังไม่ได้บอกใคร...” วินพูดหน้านิง่ ไม่ไหวติง่ ก้อนในทรวงอกซ้ายของชาติ
เริ่มเต้นแรงขึ้น มันบีบรัดทุกวินาทีกว่าจะออกมาแต่ละค�ำพูด
“แล้วนายจะบอกใครไหม ?” เป็นอีกครั้งที่ชาติคาดหวังจะได้รับการช่วย
เหลือจากค�ำว่าเพื่อนร่วมชั้นในการกระท�ำผิดครั้งนี้ แต่ตัวชาติเองนั้นก็ไม่ได้สนิท
สนมกับวินถึงขนาดที่จะช่วยปกป้องความผิดครั้งนี้
“ไม่รสู้ .ิ ..” เป็นค�ำตอบทีฟ่ งั ดูแย่กว่าทีจ่ ะรับรูว้ า่ ผูก้ มุ ความลับจะระบุวา่ จะ
เอาเรื่องนี้ไปบอกใครคนใดคนหนึ่งเสียอีก
ถึงตรงนี้ชาติก็ไม่มีอะไรที่จะต้องเสียแล้ว!
“จะให้เราท�ำอะไรให้นายบอกมาเลย เรายอมทุกอย่าง เราขอร้องอย่าง
เดียวว่าช่วยเก็บเรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเราสองคนได้ไหม ?” คงจะไม่มีอะไรที่
จะพูดตรงไปตรงมาได้ดีไปกว่านี้แล้ว ขณะที่วินมองตาคู่สนทนาและครุ่นคิดอะไร
บางอย่างในใจอยู่พักใหญ่ ก่อนที่เด็กชายหัวหน้าห้องจะทันได้อ้าปากพูดอะไร ชาติ
ก็ดักคอไว้ก่อน “ให้เราท�ำเวรแทนนาย ท�ำการบ้านแทน อยากได้อะไรบอกมาได้
หมด แต่ถา้ นายเอาเรือ่ งนีไ้ ปบอกใครชีวติ เราเป็นต้องจบอย่างแน่นอน เราไม่เหมือน
กับนายที่เป็นเด็กผลงานการเรียนและฐานะที่ดีเด่นกว่าเราทุกอย่าง เพราะฉะนั้น
ขอร้องหน่อยเถอะ ช่วยเราหน่อยเถอะนะ” เหมือนกับค�ำขอร้องจะเปลี่ยนในสิ่งที่
วินตัง้ ใจจะพูดก่อนหน้านี้ เด็กชายนิง่ ไปอีกรอบ นึกถึงสิง่ ทีจ่ ะพูดต่อมา จนกระทัง่ ผู้
เป็นหัวหน้าห้องเริ่มที่จะพูดบ้าง
“ถ้าเราไม่บอกใครแล้วจะยังไงต่อ ?”
“หมายความว่าไง ?” มันเป็นค�ำถามที่ค่อนข้างกว้างในความคิดของชาติ
“ก็ถ้าสมมุติเราเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ แล้วนายจะไม่ท�ำเรื่องแบบนี้อีก
หรือเปล่าล่ะ ?” ชาตินึกค�ำตอบไม่ทัน เพราะเขาเองก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องอนาคตต่อไป

สถาบันพระปกเกล้า 123

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 123 21/3/2561 BE 10:00


ถ้ารอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้ ซึ่งก่อนจะทันได้ตอบ วินก็พูดแทรกขึ้นมาต่อว่า
“ถ้าวันนีน้ ายไม่ถกู จับได้ นายจะรูส้ กึ ปลอดภัยและโล่งใจทีร่ อดไปได้ และนายจะท�ำ
เรือ่ งแบบนีอ้ กี ไหม ?” เป็นค�ำถามทีด่ ที เี ดียว ถึงกระนัน้ ชาติกต็ อบตอนนีไ้ ม่ได้หรอก
คิว้ ของผูถ้ กู ถามขมวดเป็นปมอย่างคิดไม่ตก “นายรับปากให้ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ ?” ก็คง
เป็นเช่นนั้นในความคิดของชาติ แต่ก็ไม่ได้ทำ� ให้ชาติยอมแพ้ในตอนนี้ได้
“มันไม่ใช่ประเด็นในตอนนี้ซะหน่อย เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของอนาคต
ไม่มใี ครรูแ้ น่นอนหรอก” น�ำ้ เสียงของชาติเร่งดังขึน้ เพือ่ เป็นการข่มขวัญฝ่ายตรงข้าม
“งั้นเหรอ ?” วินพูดเสียงเรียบอย่างไม่ได้เกรงกลัว “มีคนในซอยบ้านเรา
ก็ถูกจับได้ว่าไปขโมยของที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ซึ่งพอต�ำรวจไปค้นของในห้อง
ของเขาก็พบของกลางว่าเขาท�ำเรื่องแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว” เป็นการยก
ตัวอย่างทีเ่ ห็นภาพได้ชดั เจนมาก แต่สดุ ท้ายชาติกไ็ ม่รวู้ า่ จุดประสงค์ทวี่ นิ ต้องการให้
ชาติท�ำนั้นคืออะไร ซึ่งหัวหน้าห้องก็ย่างเท้าเข้าไปในระยะมือเอื้อม ก่อนที่เด็กชาย
จะวางมือลงบนบ่าของเพื่อนร่วมชั้น
“ฟังนะชาติ ถ้านายเอาของไปคืนอาแปะหงษ์ในตอนนี้ เราเชื่อว่าแกจะ
ต้องให้อภัยและไม่เอาเรื่องกับนายแน่นอน นอกจากนี้แล้วนายเองก็จะได้พ้นจาก
ตราบาปทีน่ ายได้ทำ� ลงไปในครัง้ นีด้ ว้ ย” กล่าวจบประโยคเพียงเท่านัน้ วินก็กลับหลัง
หันก�ำลังจะเดินออกไปจากห้อง ซึ่งชาติตระหนักในสิ่งได้รับการตักเตือนจากเพื่อน
ร่วมชัน้ แต่กอ่ นทีว่ นิ จะเดินพ้นจากสายตาของเขา ชาติได้พดู ถามเขาด้วยความอยาก
รู้ว่า
“แล้วถ้าเราไม่ท�ำตามที่นายบอกล่ะ ?” วินหยุดเท้าก่อนจะหันกลับมา
พร้อมการมองด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร
“เราก็คงจะไม่ได้เป็นเพือ่ นกันอีกต่อไปน่ะสิ” เพียงเท่านัน้ วินก็เดินออกไป
จากห้อง
เรื่องราวการสนทนาครั้งนี้ท�ำให้ชาติต้องเอาเรื่องนี้กลับไปนั่งคิดนอนคิด
อย่างหนัก เขาคิดในมุมมองหลายๆ ด้าน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่วินประกาศว่าจะเลิก

124 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 124 21/3/2561 BE 10:00


คบกับเขาหากไม่ยอมท�ำในสิ่งที่ถูกต้อง อีกอย่างตัวหัวหน้าห้องเองก็ไม่ได้รับปาก
ด้วยว่าถ้าชาติไม่ยอมเอาของไปคืนเรือ่ งนีจ้ ะถูกเก็บไว้เป็นความลับ ชาติได้นกึ ถึงเรือ่ ง
ที่วินบอกไว้หากเขายอมเอาของเล่นไปคืน ตัวเขานั้นจะต้องได้รับการให้อภัยจาก
เจ้าของร้านของเล่นอย่างแน่นอน ซึง่ ยิง่ คิดเท่าไรก็ยงิ่ สร้างความหวาดกลัวให้แก่เด็ก
ชายผู้ท�ำผิดมากขึ้น มันเป็นความกลัวที่มากกว่าตอนที่เขาลงมือขโมยเจ้าหุ่นยนต์
ของเล่นตัวนี้เสียอีก
ท่ามกลางความกลัวและความสับสน จู่ๆ ความคิดเหล่านั้นก็ค่อยๆ มลาย
หายไปจากสมองเขาอย่างไม่มีสาเหตุ เสมือนกับว่าเขาเป็นพระพุทธเจ้าในโลกยุค
ใหม่ที่ได้ตื่นแจ้งรู้ความจริง สีหน้าของเด็กชายเริ่มสงบนิ่งขึ้น
ชาติตัดสินใจแล้วว่าพรุ่งนี้เขาจะเอาของที่ขโมยมาไปคืนเจ้าของ!
ในวันต่อมาชาติไปโรงเรียนพร้อมกับน�ำหุน่ ยนต์ของเล่นทีย่ งั ไม่ได้แกะออก
มาจากกล่องเลยสักครั้งไปด้วย แต่เนื่องจากร้านของอาแปะหงษ์จะเปิดในช่วงหลัง
เลิกเรียน ชาติจึงจ�ำใจต้องใช้เวลาเรียนอยู่ในห้องเรียนให้ครบเวลาก่อนที่จะแก้ไข
ความผิดของตัวเองได้
ซึ่งในระหว่างที่ปล่อยพักระหว่างคาบเรียน วินที่ก�ำลังจะลุกออกไปจาก
ห้องได้หันมาทางชาติและสังเกตเห็นหุ่นยนต์ของเล่นที่อยู่ในถุงพลาสติก
“นายตัดสินใจได้แล้วสินะ” คนเป็นหัวหน้าห้องบอกพร้อมกับรอยยิม้ เล็กๆ
พลอยท�ำให้ชาติยมิ้ ออกมาได้เช่นกัน “นายท�ำถูกต้องแล้วแหละ ฉันดีใจกับนายด้วย
จริงๆ นะ” พูดจบวินก็เดินออกจากห้องไป ซึง่ ประโยคนีอ้ ดท�ำให้ชาติรสู้ กึ ภาคภูมใิ จ
ที่ได้รับค�ำชมจากเด็กที่เก่งรอบด้านอย่างวินไม่ได้จริงๆ
หลังจากที่ได้เวลาเลิกเรียนแล้ว ชาติก็ไม่รีรอช้าแม้แต่สักวินาทีเดียว
เด็กชายวิ่งดิ่งตรงไปยังร้านของเล่นหน้าโรงเรียนดังที่ตั้งใจไว้
“ยินดีตอ้ นรับครับ” เสียงอาแปะหงษ์เจ้าของร้านทีค่ นุ้ เคยกล่าวต้อนรับ
ลูกค้ารายแรกของวันนี้ ชาติที่ก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยความกล้า เริ่มเกิดใจเสียขึ้น
มาเล็กน้อย หัวใจของเขาเริม่ เต้นแรงขึน้ เพราะกลัวว่าถ้าท�ำไปแล้วมันจะถอยหลัง

สถาบันพระปกเกล้า 125

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 125 21/3/2561 BE 10:00


กลับไปอีกไม่ได้แล้ว ไม่สิ! เขาถอยหลังไม่ได้ตั้งแต่เขาขโมยของออกจากร้านนี้
แล้วล่ะ
“อาแปะครับ ผมมีเรื่องจะคุยด้วยครับ” เด็กชายที่เดินไปถึงเคาร์เตอร์
กล่าวเสียงอ่อย ชายวัยกลางคนร่างผอมมองเด็กชายอย่างงงๆ เพราะปกติไม่เคยมี
ลูกค้าจะเกริน่ อะไรแบบนี้ “ผะ... ผมอยากจะเอาของเล่นทีร่ า้ นของอาแปะมาคืนน่ะ
ครับ” คิ้วของชายเจ้าของร้านย่นอย่างไม่เข้าใจ
“มันเจ๊งเหรอ ?”
“เปล่าครับ...” ชาติเงียบไปเล็กน้อยโดยไม่กล้าที่จะสบตากับชายที่สูงโย่ง
ก่อนทีจ่ ะโพล่งความจริงออกมา “ผมขโมยมันเมือ่ วันก่อนจากร้านของอาแปะครับ!”
ดวงตาของอาแปะถึงกับเบิกกว้างกับสิง่ ทีเ่ พิง่ ได้ยนิ ชายเจ้าของร้านของเล่นคว้าของ
เล่นหุ่นยนต์ก่อนจะดึงกล่องมันออกมาจากถุงพลาสติก
“อ่อ อั๊วก็ว่าแล้วว่าวันก่อนตอนที่ตรวจบัญชีท�ำไมหุ่นยนต์มันถึงไม่ลง
จ�ำนวนกับของทีม่ ี ลือ้ นีเ่ องทีเ่ ป็นคนขโมยไป” น�้ำเสียงชายวัยกลางคนแลดูไม่พอใจ
อยู่พอสมควร ท�ำเอาใจคอของชาติรู้สึกไม่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ผิดคาดจากสิ่งที่หัวหน้า
ห้องบอกกับเขาเสียสนิท
“ผมขอโทษครับอาแปะ ผมรู้สึกไม่ค่อยดีกับเรื่องนี้ เลยอยากเอาของมา
คืนอาแปะน่ะครับ ผมสัญญาว่าผมจะไม่ท�ำแบบนีอ้ กี แล้วครับ” ชาติพยายามเอาน�้ำ
เย็นเข้าลูบให้อารมณ์ของเจ้าของร้านเย็นลง ทว่าดูเหมือนอาแปะหงษ์จะไม่ได้เย็น
ลงแม้แต่น้อย ครั้งยังเร่งเสียงดังขึ้นจากเดิมอีกด้วยซ�้ำ
“ลือ้ ไม่ตอ้ งพูดมากเลย สันดานขีข้ โมยลือ้ คงไปได้มาจากพ่อแม่ของลือ้ สินะ
ถึงได้กล้าขโมยหุน่ ยนต์จากร้านอัว๊ ไปถึง ๒ ตัวเนีย่ ” ค�ำพูดทีถ่ กู ปรามาสเรือ่ งบุพการี
ยังไม่น่าตกใจเท่ากับประโยคหลังที่สร้างความงุนงงให้แก่เด็กชาย
“อะไรนะครับ! แต่ผมเอาไปแค่ตัวเดียวเองนะครับ!” ชาติพูดความจริง
ทว่าเจ้าของร้านของเล่นไม่มีท่าทีจะเชื่อเด็กชายหัวขโมยเลยแม้แต่น้อย
“มาถึงขนาดนีแ้ ล้วยังจะมาปากแข็งอีกเหรอ หุน่ ยนต์อกี ตัวทีห่ ายไป มันก็
อยู่บนชั้นวางถัดไปไม่ไกลจากที่หุ่นยนต์ตัวนี้ที่วางอยู่นั่นแหละ”

126 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 126 21/3/2561 BE 10:00


“แต่วา่ ผม...” ขณะทีช่ าติอา้ ปากเถียงไปได้เพียงเล็กน้อย วินาทีนนั้ เองเด็ก
ชายก็ยั้งปาก เพราะฉุกคิดขึ้นมาในสิ่งที่อาแปะหงษ์เพิ่งพูดเมื่อสักครู่ เนื่องจากอา
แปะแกบอกว่าหุน่ ยนต์อกี ตัวทีห่ ายไปอยูบ่ นชัน้ วางถัดไปจากชัน้ วางหุน่ ยนต์ตวั ทีเ่ ขา
ขโมยมา...
ซึ่ง ณ เวลานั้นก็มีเด็กชายวิน ผู้เป็นหัวหน้าห้องเพียงคนเดียวที่อยู่บริเวณ
ชั้นวางของดังกล่าว!
ความทรงจ�ำในวันนั้นค่อยๆ ผุดขึ้นมาในหัวเด็กชาย เนื่องจากวันนั้นชาติ
รีบร้อนที่จะหนีออกไปจากร้าน เขาจึงไม่ทันสังเกตเห็นชัดๆ ว่าที่มือขวาของวินมี
ปลายกล่องหุ่นยนต์ของเล่นที่โผล่พ้นออกมาจากขอบถุงผ้าที่เขาถืออยู่นั่นเอง...
ดวงตาของเด็กชายทีก่ ำ� ลังจะถูกเจ้าของร้านขายของเล่นเอาเรือ่ งเต็มทีเ่ บิก
กว้าง ชาติเข้าใจในทันทีถึงเหตุผลที่ท�ำไมวินถึงไม่กล้าที่จะไปฟ้องเรื่องนี้กับใคร เขา
รู้แล้วว่าท�ำไมเจ้าหัวหน้าห้องถึงอยากให้ตัวชาตินั้นไปยอมรับสารภาพผิดพร้อมกับ
เอาของไปคืน ชาติมวั แต่คดิ ถึงแต่เรือ่ งของตัวเองและมองว่าวินนัน้ เป็นคนดีเกินกว่า
ที่จะลงมือท�ำเรื่องเลวๆ เหมือนเช่นเขา ถึงกระนั้นเมื่อชาติรับรู้ความจริงข้อนี้ ภาพ
ของวินหัวหน้าห้องผู้พร้อมเพียงและเป็นคนดีทั้งหลายทั้งมวลก็พังทลายไปต่อหน้า
ทันที
วินมันเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าสุนัขจิ้งจอกเสียอีก!
“ไปเลย! มากับอั๊วที่โรงเรียนเลย อั๊วจะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องครูใหญ่ของลื้อ
และเอาเรือ่ งลือ้ ให้ถงึ ทีส่ ดุ เลย จะได้ดดั นิสยั เสียให้เข็ดอย่างจริงจังหน่อย” แขนของ
ชาติถูกมืออันหยาบกร้านของชายวัยกลางคนกึ่งฉุดกึ่งลากออกไปจากร้านขายของ
เล่น ชาติไม่ได้ขดั ขืนแม้แต่นอ้ ย เพราะในหัวของเขารูด้ วี า่ ท�ำอะไรมากไปกว่านีไ้ ม่ได้
อีกแล้ว เหลือแค่ปล่อยไปตามชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นต่อไป
ในระหว่างที่เขาโดนลากกลับเข้าไปในโรงเรียน ชาติตั้งค�ำถามว่าการที่เขา
ยอมมาสารภาพความจริงมันคือสิง่ ทีถ่ กู ต้องแล้วเหรอ ถ้าเขาเงียบเรือ่ งนีไ้ ป สุดท้าย
อาแปะหงษ์ก็คงจะจับตัวขโมยไม่ได้สักคน เพราะวินเองก็คงไม่กล้าที่จะเอาเรื่องนี้
ไปบอกใครอยู่แล้ว

สถาบันพระปกเกล้า 127

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 127 21/3/2561 BE 10:00


แต่กระนั้นคนที่ไม่ใช่คนเลวโดยสันดาน ถ้าเวลาที่ได้ท�ำความผิดลงไป
ต่อให้ไม่มใี ครจับได้ มันก็คงจะเหมือนเป็นตราบาปทีม่ ตี ดิ ตัวไม่วา่ จะไปทีไ่ หนก็ตาม
มันจะสร้างความละอายใจและความรู้สึกส�ำนึกผิด แต่ในทางกลับกัน ใครที่
ท�ำความผิดแบบนีแ้ ล้วไม่รสู้ กึ รูส้ าต่อสิง่ ใด คนพวกนีก้ จ็ ะยังคงท�ำเรือ่ งแบบนีอ้ ยูต่ อ่
ไปอีก จนมันกลายเป็นความเคยชินเหมือนกับการกินข้าว ซึ่งเรื่องแบบนั้นมัน
เลวร้ายและยากเกินกว่าที่จะกู้กลับมาให้เป็นปกติได้ สุดท้ายแล้วสักวันหนึ่ง
คนพวกนี้ก็จะพลาดท่าถูกจับได้เข้าสักวัน ซึ่งเขาคนนั้นก็จะถูกตีตราในสังคมว่า
เป็นคนเลวอย่างสมบูรณ์แบบและถ้าถึงตอนนั้นหากเขาหรือเธอคิดจะกลับเนื้อ
กลับตัวเปลี่ยนใจท�ำตัวเป็นคนดีขึ้น ทว่าเวลานั้นเอาเข้าจริง ไม่ว่าเขาหรือเธอจะ
พยายามแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาดในอดีต ผู้คนในสังคมก็คงจะไม่มีวันเปิดโอกาสให้
คนคนนั้นมีที่ยืนอีกต่อไปแล้วก็ได้
ถึงแม้ตอนนี้ชาติจะถูกจับได้ก็ตาม แต่สิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากเหตุการณ์
ในครั้งนี้มันก็มีค่ามากมายเหลือคณาที่จะท�ำให้เขากลายเป็นพลเมืองที่ดีใน
อนาคตได้
ชาติไม่ใช่คนเลว เขารู้แล้ว เขามีจิตส�ำนึกของความเป็นคนดีอยู่ในใจ เด็ก
ชายได้ท�ำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และบทลงโทษมันก็เป็นแค่ในวันนี้ แต่ไม่ใช่ทั้งชีวิต
ของเขา
ขณะทีช่ าติกำ� ลังถูกอาแปะลากไปทีห่ อ้ งพักครู ตอนนัน้ เองทีช่ าติเห็นวินที่
ยืนอยู่ไกลๆ เด็กชายผู้เป็นหัวหน้าห้องมองเพื่อนร่วมชั้นด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยราวกับ
ไม่ได้รู้สึกผิดที่หลอกล่อให้เพื่อนร่วมชั้นเช่นชาติไปเป็นตัวตายตัวแทนในความผิดที่
เขาเป็นคนก่อไว้อีกคดีหนึ่ง
ทว่าชาติกลับไม่ได้รู้สึกคับแค้นอะไรหัวหน้าห้องเลยแม้แต่น้อย เพราะ
อาการที่เด็กชายชาติไทมองวินกลับไป...
ก็มีเพียงแค่รอยยิ้มเล็กๆ ของผู้ที่มีชัยที่มองผู้แพ้ก็เท่านั้น

128 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 128 21/3/2561 BE 10:00


“สิ่งที่มนุษย์มีเหมือนกันคือความผิดพลาด
แต่สิ่งที่มนุษย์มีแตกต่างกันก็คือ ปฏิกิริยาต่อความผิดพลาด”

ประภาส ชลศรานนท์

ขอมอบเรื่องนี้ให้แก่คุณปู่ของผม Otto Vogel


ผู้สั่งสอนเรื่องคุณธรรมความเป็นมนุษย์ที่ดีเสมอมา

ทอมมัส โฟเกิล
นามปากกา “สเนค รัสเซล”
ลูกครึง่ ไทย-สวิสฯครูสอน
คลาสฟิตเนสผู้รักในการ
จินตนาการ จบเอกวิชาการแสดง
และชอบแต่งนิยายเป็นเวลาว่าง ได้
มีโอกาสเขียนหนังสือจริงจังช่วงปี
๒๐๑๒ ผลงานที่ถือก�ำเนิดเล่มแรก
ก็คือเรื่อง “เงาอ�ำพราง” ได้ที่ ๓
ของการประกวดนานมี ป ี ค.ศ.
๒๐๑๒ และมี ผ ลงานอื่ น ๆ เช่ น
“ค�ำสารภาพ”ในชุด “ตายโหง”ของโซฟา“Twins Bathory” ในชุด
“รักลวงหลอน” หนังสือ “๗ สยองในโรงเรียน” ของดอกหญ้า รางวัลที่
ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตก็คือได้เป็น “สุดยอดแฟนพันธุ์แท้ ตอน ผีนานาชาติ”

สถาบันพระปกเกล้า 129

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 129 21/3/2561 BE 10:00


คนปัญญาอ่อน
แห่งหมู่บ้านทางควาย
ธารา ศรีอนุรักษ์

“ ข้าวสุกหรือยังลูก พระใกล้จะมาแล้วนะ”
หญิงชราส่งเสียงร้องเรียกลูกชายให้เตรียมส�ำรับกับข้าวส�ำหรับใส่
บาตร เพราะดูเวลาจากนาฬิกาติดฝาผนังที่ลูกชายอีกคนซื้อให้เมื่อวันสงกรานต์ที่
ผ่านมา บอกเวลาว่าพระจวนจะมารับบาตรแล้ว ไม่นานหลังจากนัน้ ชายวัยสามสิบ
เศษๆ ทีต่ งั้ แต่เช้ามืดขลุกอยูใ่ นครัวหุงข้าวท�ำกับข้าว รีบกุลกี จุ อถือถาดทีร่ องขันข้าว
ทองเหลืองและถ้วยใส่กับข้าวปลาแห้งทอดสองตัวมาวางที่แคร่ไม้ไผ่ริมชายคาบ้าน
จากนั้ น ค่ อ ยเดิ น ไปอุ ้ ม แม่ จ ากบนเตี ย งมาวางให้ นั่ ง บนรถวี ล แชร์ อ ย่ า งว่ อ งไว
คล่องแคล่ว แล้วเข็นไปยังจุดรอพระใส่บาตรที่มีถาดข้าวตั้งอยู่บนแคร่
ชาวบ้านในหมู่บ้านทางควายต่างเรียกเขาว่า ‘น้าบาวไก่’ เป็นชายเกิดมา
ผิ ด ปกติ ท างสมอง ศั พ ท์ ท างแพทย์ เรี ย กว่ า อะไรไม่ รู ้ แต่ ช าวบ้ า นเรี ย กกั น ว่ า
ปัญญาอ่อน แต่ถึงจะปัญญาอ่อน น้าบาวไก่ก็รู้เรื่องรู้ราวดี ลูกเด็กเล็กแดง ผู้เฒ่า
ผู้แก่ต่างล้วนเรียกเขาว่า น้าบาวไก่
แม่ของน้าบาวไก่ พอคลอดลูกคนสุดท้องออกมาได้ไม่ถึงปี ก็ตกพุ่มหม้าย
สามีชิงเดินทางไกลไปอีกมิติหนึ่งก่อนวัยอันสมควรด้วยโรคตับแข็ง ซึ่งถือเป็นโรค

130 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 130 21/3/2561 BE 10:00


สถาบันพระปกเกล้า 131

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 131 21/3/2561 BE 10:00


ยอดนิยมของผู้ชายที่นี่ เพราะต่างชอบท�ำลายตับกันด้วยเหล้าโรงเพรียวๆ ตั้งแต่
วัยหนุ่ม จึงต้องดิ้นรนเลี้ยงลูกทั้งหมดเพียงล�ำพัง สู้ทนท�ำงานเป็นแม่ค้าขายของ
ในตลาด ส่งเสียลูกสองคนให้มกี ารศึกษาเรียนจบมีงานมีการท�ำสร้างครอบครัวเป็น
หลักเป็นฐานมั่นคง
น้าบาวไก่มีน้องที่เกิดร่วมท้องแม่ด้วยกันสองคน คนถัดจากน้าบาวไก่
พ่อแม่ส่งให้เรียนจบอุดมศึกษา ท�ำงานเป็นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง
ผู้แทนราษฎร ชื่อเหมือนจะเป็นส�ำนักงานเลขาอะไรสักอย่าง แต่งงานมีครอบครัว
อาศัยอยู่ในเมืองหลวง นานๆ จะกลับมาเยี่ยมแม่สักครั้งหนึ่ง คนสุดท้อง น้องสาว
หลังจากเรียนจบทางครุศาสตร์สอบบรรจุครู ได้สอนทีจ่ งั หวัดแห่งหนึง่ ทางภาคกลาง
และแต่งงานมีครอบครัวกับครูโรงเรียนเดียวกันที่นั่น น้องๆ ทั้งสอง ปีหนึ่งจะกลับ
มาเยี่ยมแม่สักครั้ง โดยจะมากันในช่วงท�ำบุญว่างวันสงกรานต์ มาแต่ละครั้งก็ซื้อ
ของมาฝากมากมาย โดยเฉพาะน้องชาย เหมือนว่าจะเป็นที่ฮือฮาของชาวบ้านเป็น
พิเศษ ดูภูมิฐาน น่าเชื่อถือ ท�ำให้เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ที่ยังคบหากันอยู่มาเยี่ยม
ตลอดวัน บางคนมีของติดไม้ติดมือ โดยเฉพาะเหล้ายี่ห้อดังๆ มาฝากเสมอ และก็
ถือโอกาสตั้งวงกันด้วยเลย
วันทีน่ อ้ งๆ มาเยีย่ ม แม่ของน้าบาวไก่จะมีความสุขเป็นพิเศษทีล่ กู ๆ สติปญ
ั ญา
ปกติ มีหน้าที่การงานมั่นคง ฐานะภูมิฐาน ขับรถยนต์หรูๆ มาจอดชายคาบ้าน
ยิม้ แย้มแจ่มใส จนใครๆ ในหมูบ่ า้ นทางควายล้อกันว่า พอลูกรักมาเยีย่ มยิม้ น�ำ้ หมาก
ย้อยเชียวนะยาย ส่วนน้าบาวไก่เหมือนจะรู้ตัวเองดีว่าวันนั้นต้องไปอยู่วัด และ
ยิ่งเคยเกิดเรื่องเมื่อคราวที่น้องชายลงมาเยี่ยมแม่หลายปีก่อน ซึ่งตรงกับฤดูเลือก
ตัง้ ผูใ้ หญ่บา้ นคนใหม่พอดี ผลจากเกิดเรือ่ งคราวนัน้ ได้ฝากรอยแผลข้อมือหักผิดรูป
มาตราบเท่าทุกวันนี้ เลยยิ่งตอกย�้ำว่า ถ้าน้องมาบ้านอย่าได้ไปยุ่มย่ามวุ่นวาย
เด็ดขาด
“แมะๆ ๆ ๆ แม่ ตะๆ ๆ ๆ ตาหลวงมะๆ ๆ ๆ ๆ มา แล้ว...”
น้าบาวไก่ร้องบอกให้ผู้เป็นแม่รู้ตัว เมื่อเห็นพระภิกษุชราจากวัดใกล้ๆ ซึ่ง
เดินมารับบาตรทีช่ ายคาบ้านทุกวัน เคลือ่ นกายห่มด้วยผ้าสีเหลืองดูสงบน่าเลือ่ มใส

132 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 132 21/3/2561 BE 10:00


มาตรงปากทางเข้าบ้าน น้าบาวไก่นอกจากจะปัญญาอ่อนแล้วยังพูดติดอ่างนิดๆ จน
เป็นที่ตลกขบขับของคนที่ได้ยินได้ฟัง
ตาหลวง ทีน่ า้ บาวไก่เรียกคือพระภิกษุชราผูร้ บั หน้าทีเ่ ป็นเจ้าอาวาสซึง่ รูจ้ กั
สนิทกันเป็นอย่างดี และวัดก็อยูไ่ ม่หา่ งจากบ้านเท่าใดนัก ระยะแค่ชวั่ ร้องตะโกนถึง
เวลาน้าบาวไก่ไปวัดก็มกั จะไปนัง่ ทีก่ ฏุ ขิ องท่าน นัง่ นอนอยูเ่ ป็นนานสองนาน จนคน
มาวัดให้สมญานามว่า ท่านรองเจ้าอาวาส
ตอนแรกที่แม่ของน้าบาวไก่ยังเดินได้ดี ยามว่างเว้นจากช่วยเป็นลูกมือแม่
ท�ำขนมขาย ก็จะมานัง่ อยูท่ ชี่ านกุฏเิ จ้าอาวาส และดูเหมือนเขาจะพอใจกับสมญานาม
ทีช่ าวบ้านบ้านทางควายตัง้ ให้ เลยสวมบทบาทเหมือนกับว่าต้องรับภาระดูแลวัดไป
ด้วย แต่พอแม่ป่วยเป็นอัมพฤตขาไม่มีเรี่ยวไม่มีแรงต้องนั่งรถเข็นตลอด น้าบาวไก่
เลยไม่ค่อยมีเวลามานั่งที่กุฏิเหมือนเมื่อก่อน จะมาได้ก็ต่อเมื่อวันพระแปดค�่ำสิบ
ห้าค�่ำหรือวันมีงานที่วัดเพราะต้องท�ำหน้าที่ยกแม่ขึ้นรถรุน หรือรถเข็นสองล้อ
ซึ่งเมื่อก่อนใช้ส�ำหรับบรรทุกถาด-และหม้อใส่ขนมไปขาย พอไม่ได้ขายก็กลายเป็น
รถส�ำหรับพาแม่ไปวัดหรือไปที่ต่างๆ ตามแต่แม่ต้องการไป เช่นงานศพ งานบวช
เพือ่ นบ้านทีส่ นิทกัน โดยน้าบาวไก่จะยกแม่ขนึ้ นัง่ บนรถรุนก่อนแล้วตามด้วยรถวีลแชร์
แต่โดยมากไม่ต้องใช้รถวีลแชร์ เพราะจะเกะกะล�ำบากเปล่าๆ เอาแม่นั่งบนรถรุน
พอจะลงก็อุ้มไปวางไว้ตรงจุดที่แม่ต้องการนั่ง เวลากลับก็อุ้มแม่วางบนรถเข็นกลับ
และอาจเพราะภารกิจนีน้ เี่ อง ท�ำให้ชาวบ้านบ้านทางควายรวมถึงพระเณรในวัดต่าง
พร้อมใจกันเรียกเขาว่า ‘น้าบาว’ ไม่มีใครเรียกเขาว่า ‘ไอ้’ สักคน
แม่ของน้าบาวไก่ ก่อนหน้าที่ยังไม่ประสบเคราะห์กรรมเป็นอัมพฤต
มักโมโหขัดหูขัดตาทุกครั้งที่มองลูกชายคนหัวปี ปัญญาอ่อนอย่างเดียวยังไม่พอ
รูปร่างหน้าตาก็ดูพิลึกพิลั่น มือหนาตีนหนา ต้นคอกับท้ายทอยขนาดเท่ากัน จน
บางทีนางเผลอคิดไปว่า เพราะบาปกรรมทีส่ ามีชอบเล่นวัวชน ลูกเลยออกมาละม้าย
ควายกับวัว ระหว่างความรักทีม่ เี ป็นสามัญส�ำนึกส�ำหรับจิตใจของแม่กบั ความชิงชัง
ในใจเพราะไม่ได้สมดั่งใจจึงวิ่งสวนทางกันไปมาตลอด รักก็รักเพราะเป็นลูก ชังก็ชัง
เพราะเหมือนเป็นตัวบาปกรรมที่ตกผลมาให้รับในชาตินี้ บางทีแสนรักแสนสงสาร

สถาบันพระปกเกล้า 133

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 133 21/3/2561 BE 10:00


ชะตากรรมลูกจนน�้ำตาไหล แต่พอโมโหก็บันดาลโทสะชนิดที่ไม่ต้องกลัวบอบช�้ำ
เพราะทนไม้ทนมือเหมือนกับวัวไม่มีผิด
พอแม่ตักข้าวสวยจากขันทองเหลืองใส่บาตรสามทัพพีเสร็จ น้าบาวไก่ที่
นั่งคุกเข่ากับพื้นดินข้างๆ ก็หยิบจานที่ใส่ปลาแห้งยื่นให้แม่ พร้อมกับช่วยประคอง
มือแม่นำ� ใส่บาตร พอใส่เสร็จก็รบี หยิบแก้วน�ำ้ ทีว่ างบนจานและมีชอ่ ดอกเข็มช่อหนึง่
วางอยู่ซึ่งตนเป็นคนเตรียมไว้ทุกๆ เช้า ส�ำหรับกรวดน�ำ้ มาตั้งบนตักแม่
“กรวดๆ ๆ ๆ ๆ ๆ นะๆ ๆ น�ำ้ ให้ พะๆ ๆ พ่อ นะๆ ๆ ๆ แม่ๆ ๆ นะ”
และเหมือนภิกษุชราจะรู้จุดประสงค์ของสองแม่ลูกดี เพราะทั้งสองท�ำ
แบบนี้อยู่ทุกเช้า คือพอใส่บาตรเสร็จก็จะกรวดน�้ำอุทิศส่วนบุญส่าวนกุศลไปให้กับ
อดีตเสาหลักของครอบครัวผูจ้ ากไป แม้จะไม่มธี รรมเนียมให้พรเสียงดังตอนใส่บาตร
เสร็จของพระสงฆ์ทนี่ ี่ เพราะต้องท่องบทพิจารณาตอนรับบาตรในใจอยูแ่ ล้ว แต่เพือ่
ฉลองศรัทธาความมุง่ มัน่ ของแม่ลกู โดยเฉพาะน้าบาวไก่ ภิกษุชราเลยยืนให้พรในใจ
อีกครู่หนึ่งทุกครั้งก่อนค่อยๆ หันหลังกลับเพื่อเดินไปรับบิณฑบาตบ้านอื่นต่อ
ใส่บาตรเสร็จ น้าบาวไก่ปล่อยให้แม่ได้นั่งตรงที่เดิมอีกครู่ใหญ่ เพื่อให้แม่
ได้เอาเศษข้าวสุกทีเ่ หลือก้นขันโปรยให้ไก่และนกต่างๆ กิน พอแดดเริม่ ไล่ระดับลาม
มาถึงจุดทีแ่ ม่นงั่ จึงค่อยเดินมาอุม้ ไปวางบนเตียง แล้วเตรียมข้าวปลาอาหารมาป้อน
ให้แม่เหมือนทุกวันที่ผ่านมา
เมนูกับข้าวส�ำหรับแม่วันนี้ ไม่แตกต่างกับวันก่อนมากนัก คือ ปลาแห้ง
กับข้าวเปียก ปลาแห้งน้าบาวไก่ทอดส�ำหรับใส่บาตรพระแต่กท็ อดเผือ่ มือ้ เช้าแม่ดว้ ย
คือ ทุกเช้าหากท�ำอะไรใส่บาตร ก็จะท�ำเผือ่ แม่ดว้ ย ไม่วา่ จะต้มไข่ ปลาทอด หมูทอด
ส่วนข้าวนัน้ พอหุงสุกตักใส่ขนั ส�ำหรับตักบาตรแล้ว ก็ใส่นำ�้ ลงไปอีกค่อนหม้อเพือ่ หุง
ต่อท�ำเป็นข้าวเปียก แม่ไม่มีฟันจึงต้องกินอะไรที่อ่อนๆ
ขณะป้อนข้าว แม่ของน้าบาวไก่ซึ่งกึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียง พยายามไม่
มองข้อมือของลูกชาย เพราะมองทีไรน�ำ้ ตาจะปริม่ รืน้ ขอบตาทุกครัง้ มือข้างทีว่ า่ หัก
ผิดรูปแม้จะรักษาจนใช้การได้ แต่ก็ไม่เหมือนเดิม จากรูปกายทั้งหมดที่ดูน่าสังเวช

134 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 134 21/3/2561 BE 10:00


ใจอยู่แล้ว กลับเพิ่มต�ำหนิมีข้อมือคดหักเข้าไปอีก นางผู้เป็นแม่จึงสุดแสนจะขมขื่น
เวทนาใจ
‘หลายปีทแี่ ล้ว วันนัน้ นางจ�ำได้ เป็นช่วงก่อนถึงวันสงกรานต์ ลูกๆ ทีท่ ำ� งาน
อยูแ่ ดนไกลต่างพาครอบครัวกันมาเพือ่ ร่วมท�ำบุญให้พอ่ ซึง่ ถือเป็นประเพณีทอ้ งถิน่
ทีล่ กู หลานปฏิบตั สิ บื ต่อกันมาอย่างเหนียวแน่น คือพอถึงช่วงวันสงกรานต์ หรือ ‘วัน
ว่าง’ ไม่วา่ จะอยูไ่ กลแค่ไหนอย่างไรต้องกลับบ้านเพือ่ มาร่วมท�ำบุญกระดูกให้บรรพ
ชนปู่ย่าตายาย ปีนั้นลูกชายคนรองที่ท�ำงานอยู่กรุงเทพฯ นางไม่รู้เหมือนกันว่า
ท�ำงานเป็นอะไรและท�ำหน้าที่อะไร รู้แต่ว่า ต้องเป็นอะไรที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง
ผู้แทน ท�ำให้เถ้าแก่เส้ง เพื่อนสมัยเรียนมัธยมของลูกชาย ที่พอเรียนจบมัธยมก็ผัน
ตัวเองไปจับธุรกิจด้านเรือประมงจนร�ำ่ รวยใหญ่โต และพอผูใ้ หญ่บา้ นคนเก่าสิน้ บุญ
ต้องเลือกผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ เถ้าแก่เส้งเล็งเห็นผลประโยชน์ที่จะได้จากต�ำแหน่ง
ผู้ใหญ่บ้านที่มีพื้นที่ด้านหนึ่งติดกับทะเล เลยเข้าร่วมสมัครร่วมกับคู่แข่งอีกสามราย
หนึง่ ในสามคูแ่ ข่งทีส่ มัครเข้าชิงต�ำแหน่งผูใ้ หญ่บา้ นเป็นคนมุสลิม ทีช่ าวบ้านทีน่ เี้ รียก
กันแบบภาษาปากว่า คนแขก ชื่อบังเหม
หมู่บ้านทางควายหกสิบเปอร์เซ็นต์เป็นชาวไทยพุทธ อีกสี่สิบเปอร์เซ็นต์
เป็นมุสลิมซึ่งส่วนมากยึดอาชีพประมงชายฝั่ง สร้างชุมชนอยู่กันอย่างหนาแน่น
มีบา้ งบางทีเกิดความทะเลาะเบาะแว้งกันระหว่างสองชุมชน โดยมากก็เรือ่ งเกีย่ วกับ
การประมงเรือเล็กริมทะเล ตามประสาของคนที่อยู่กันจ�ำนวนมาก ยากที่จะเลี่ยง
การกระทบกระทั่งกันในเรื่องหาอยู่หากิน และทุกครั้งที่เกิดเรื่อง บังเหมคือตัวแทน
ฝ่ายชุมชนมุสลิมทีอ่ าสาเข้ามาไกล่เกลีย่ และยิง่ ไปกว่านัน้ งานศพ งานบวช ของคน
ไทยพุทธทุกงาน บังเหมจะมาร่วมช่วยงาน แม้กระทั้งงานวัดงานทอดกฐินผ้าป่า
ท�ำให้ชาวหมู่บ้านทางควายทั้งไทยพุทธและมุสลิมทุกคนรู้จักบังเหมเป็นอย่างดี
โค้งสุดท้ายการของเลือกตั้ง เถ้าแก่เส้งต้องการให้ลูกชายของนางเป็น
หัวคะแนนให้ ให้ค่าตอบแทนเป็นเงินแต่นางก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าจ�ำนวนมากแค่ไหน
รู้แต่ว่าจ่ายสองงวด งวดแรกตอนก่อนเลือกตั้ง และอีกงวดหลังผลการเลือกตั้ง
ออกมา ซึ่งดูเหมือนว่าเถ้าแก่เส้งจะทุ่มงบไม่อั้นเพื่อหวังผลชนะให้ได้

สถาบันพระปกเกล้า 135

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 135 21/3/2561 BE 10:00


ช่วงวันว่างปีนั้น จึงเป็นปีที่ไม่ได้เอาโกศเก็บกระดูกของสามีของนางที่ถูก
บรรจุบัวที่วัดมาท�ำพิธีสวดมาติกาบังสุกุลที่บ้านเหมือนปีก่อนๆ เพราะลูกชายต้อง
วุ่นอยู่กับการออกไปหาคะแนนเสียงให้กับเถ้าแก่เส้ง จนเมื่อถึงวันสุดท้ายก่อนการ
เลือกตัง้ เมือ่ เห็นว่าคะแนนนิยมในตัวเถ้าแก่เส็งด้อยกว่าผูส้ มัครรายอืน่ จ�ำเป็นต้อง
ใช้กลเม็ดทุกทางเพื่อให้ชนะคู่ต่อสู้ นางจ�ำได้ว่า ลูกชายของนางถึงกับมีสมุดจดชื่อ
คนทีจ่ ะไปลงคะแนนเสียงให้กบั เถ้าแก่เส้ง ในนัน้ คือชือ่ เพือ่ นบ้านทัง้ ทีเ่ ป็นญาติใกล้
ชิดและญาติห่างๆ และยังก�ำชับลูกชายคนหัวปีที่สติปัญญาไม่ดีว่า พรุ่งนี้ให้พานาง
ไปเลือกตัง้ ด้วย สัง่ ให้กาเบอร์เถ้าแก่เส้งทัง้ สองคน บอกว่า คนปัญญาอ่อนก็สามารถ
ลงคะแนนเสียงได้ กฎหมายห้ามใช้สิทธิ์เลือกตั้งเฉพาะ พระภิกษุ สามเณร นักพรต
หรือนักบวช คนอยูใ่ นระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตัง้ ผูต้ อ้ งคุมขัง คนวิกลจริต หรือ
คนบ้า แต่คนปัญญาอ่อน ออทิสติก คนพิการ มีสิทธิ์เลือกตั้งได้
ลูกชายคนทีส่ องของนางหายไปค่อนคืนกับคนของเถ้าแก่เส้งพร้อมกับเงิน
แบงก์ใหญ่เป็นบึกๆ กลับมาเอาตอนเกือบรุ่งสางด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และพอถึง
ช่วงเลือกตั้ง ลูกชายคนโตที่ปัญญาอ่อนก็นำ� ร่างของนางขึ้นรถรุนสองล้อ โดยยกรถ
วีลแชร์บรรทุกไปด้วย แล้วเข็นไปยังสถานทีเ่ ลือกตัง้ ผูใ้ หญ่บา้ น นางได้รบั อภิสทิ ธิใ์ ห้
ลูกชายเข็นรถวีลแชร์เข้าไปในคูหา แต่ต้องออกมาคอยอยู่ข้างนอก พอนางกาเสร็จ
ค่อยเข้าไปเข็นออกมา ก่อนให้ลูกชายเข้าไปกากบาทเลือกตั้งต่อ นางกาชื่อของ
เถ้าแก่เส้งตามลูกคนรองสั่งอย่างถูกต้อง
ผลคะแนนเสียงเมื่อนับแล้ว ปรากฏว่า บังเหมชนะคู่แข่งอย่างขาดลอย
โดยคะแนนของเถ้าแก่เส้งรั้งท้ายสุด เย็นวันนั้นเองมีปากเสียงกันค่อยข้างรุนแรง
ระหว่างเถ้าแก่เส้งกับลูกชายของนาง แต่ก็สงบลงด้วยดีเมื่อฝ่ายเถ้าแก่เส้งจากไป
และเหมือนจะจบด้วยการเลิกคบหาสมาคมกันตลอดกาล
ลับหลังจากเถ้าแก่เส้งจากไป เป็นเวลาย�่ำเย็นที่ถึงเวลานางต้องอาบน�้ำ
ลูกชายคนหัวปีก็โผล่ร่างมาจากไปนอนอยู่วัดเหมือนรู้เวลา และพอลูกชายคนรอง
เห็นเข้าก็เหมือนยิ่งเกิดเพลิงโทสะอย่างไม่มีเหตุผล ตะคอกถามพี่ว่าตอนกาลง
คะแนน กาให้ใคร ลูกชายคนหัวปีที่ปัญญาอ่อนและพูดติดอ่างตอบไปว่า

136 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 136 21/3/2561 BE 10:00


“กะๆ ๆ ๆ ๆ ๆ กา หะๆ ๆ ๆ ๆ ให้บะๆ ๆ ๆ บัง เหม” เพราะรู้จักสนิท
กันดี เวลาบังเหมมาวัดก็มักจะไปทักทายเอาขนมให้กิน เขาจ�ำได้ พอเห็นหน้าและ
เบอร์เลยกาช่องที่บังเหมอยู่ จะด้วยเพราะความซื่อหรือเพราะปัญญาอ่อนก็ไม่อาจ
ระบุได้
เพียงเท่านัน้ เอง ดุน้ ไม้เงาะ ขนาดเท่าท่อนแขนผูใ้ หญ่ ทีล่ กู ชายคนหัวปีไป
หามาตัดเป็นท่อนๆ ส�ำหรับเป็นไม้ฟืนไว้ต้มน�้ำในกระทะใบบัวให้นางอาบ ก็ถูก
ลูกชายคนรองจับมาฟาดพีเ่ ข้าเต็มแรง เพราะกลัวเจ็บคนถูกฟาดเลยเอามือรับ ท�ำให้
ข้อมือหัก ร้อง โอยๆ ๆ ๆ ร้องเจ็บ แต่ไม่ต้องร้องไห้ เขาไม่เคยร้องไห้ และอาจด้วย
เหตุนี้เองที่น้องกล้าตีพี่หนักๆ ตีอย่างไรก็ได้ เพราะตอนเด็กเวลาโกรธก็ตีพี่คนนี้อยู่
บ่อยๆ จนกลายเป็นความเคยชิน....แม้จะรักษาใส่เฝือกจนกระดูกสมานกัน แต่ก็ไม่
เข้ารูปดั่งเดิม ลูกคนหัวปีที่ปัญญาอ่อนของนางกลายเป็นคนข้อมือคดตั้งแต่ตอน
นั้น...’
แต่ละปีจะมีกุลบุตรในหมู่บ้านทางควายที่อายุครบอุปสมบทมาบวชหน้า
เข้าพรรษากันมาก สิ่งหนึ่งที่เหมือนกับว่าเป็นภาพจ�ำของชาวบ้านที่นี้ คือ ภาพน้า
บาวไก่ใช้บา่ แบกพ่อนาคแห่รอบโบสถ์ ญาตินาคจะค้านอย่างไรไม่สน ต้องไปแย่งมา
แบกจนได้ และเหมือนว่าชาวบ้านจะพร้อมใจกันให้น้าบาวไก่ทำ� หน้าที่นี้ กลายเป็น
ธรรมเนียม นาคบวชต้องมีน้าบาวไก่แบกแห่รอบโบสถ์ น้าบาวไก่จะท�ำหน้าที่อย่าง
มุ่งมั่นด้วยแววตาที่เอาจริงเอาจังไม่เล่น ราวกับว่าหน้าที่นั้นเป็นอีกหน้าที่ที่ตนต้อง
เอาชีวิตเข้ารับผิดชอบ นอกเหนือจากการเป็น ‘ท่านรองเจ้าอาวาส’
ทุกๆ วันพระเวลาถึงช่วงพิธกี รรมทางศาสนา หากว่าวันไหนไม่มนี า้ บาวไก่
กับแม่บนศาลาการเปรียญ พระภิกษุชราเจ้าอาวาสจะรอจนกว่าเห็นน้าบาวไก่รุน
ร่างแม่ทนี่ งั่ บนรถรุน กระหืดกระหอบเข็นมาจอดตรงข้างศาลา ก่อนจะอุม้ ร่างแม่มา
วางให้นั่งพิงเสาโดยที่ตนคอยนั่งดูแลอยู่ข้างๆ ท่านจึงจะใช้ให้เริ่มสวดมนต์ไหว้พระ
ท�ำกิจกรรมวันพระ โดยชาวบ้านจะพูดติดตลกกันว่า ‘ต้องรอท่านรองเจ้าอาวาส
ก่อน’

สถาบันพระปกเกล้า 137

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 137 21/3/2561 BE 10:00


และแล้ว วันนั้นเป็นวัดพระใหญ่ขึ้นสิบห้าค�ำ่ เจ้าอาวาสและพระทั้งวัดขึ้น
มาพร้อมกันแล้วบนศาลา ชาวบ้านมากันหนาแน่นเป็นพิเศษ และดั่งเช่นทุกครั้ง...
พิธีกรรมจะยังไม่เริ่มหากยังไม่มี ‘ท่านรองเจ้าอาวาส’
แต่แล้วขณะทีท่ กุ คนก�ำลังพูดคุยกันอย่างครืน้ เครง หน้าตาเบิกบานแจ่มใส
เอิบอิม่ บุญกุศล ทักทายหยอกเล่นกัน เพือ่ ฆ่าเวลารอน้าบาวไก่รนุ ร่างแม่มาร่วมไหว้
พระฟังเทศน์ จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเหมือนเสียงวัวร้อง เสียงดังและดังขึ้นเรื่อยๆ
กลายเป็นความโหยหวนชวนขนลุก เป็นเสียงที่ดังมาจากบ้านน้าบาวไก่ และพอทุก
คนหยุดฟังอย่างพินิจพิเคราะห์จึงรู้ว่าเป็นเสียงร้องของน้าบาวไก่
พระภิกษุชราเจ้าอาวาสใช้ให้พระใหม่ไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ชาวบ้านหลาย
คนร่วมตามไปดูเหตุการณ์ด้วย ภาพที่เห็นเมื่อทุกคนไปถึง คือน้าบาวไก่นั่งอยู่ข้าง
เตียงแม่ เอาหน้าไปซบบนร่างแม่ทนี่ งิ่ สนิท ร้องไห้เสียงดังลัน่ อย่างไม่กลัวฟ้าไม่กลัว
ดิน ทุกคนที่ไปไม่กล้าแม้จะเข้าไปพูดอะไร เหมือนต่างรู้ดีกว่า มวลพลังความรัก
กตัญญูทงั้ หมดได้พรูพลัง่ ออกมาเป็นสายน�ำ้ ตาและเสียงร้องไห้อยูใ่ นขณะนัน้ ทุกคน
ไม่อาจจะสกัดกลัน้ น�้ำตาเอาไว้ได้ ต่างหลัง่ รวมเป็นสายธารเมตตารินไหลมอบให้คน
ปัญญาอ่อนแห่งหมู่บ้านทางควายที่นั่งกอดร่างแม่อยู่ตรงหน้า
งานศพแม่น้าบาวไก่ถูกจัดขึ้นที่วัด เจ้าอาวาสให้ช่างเลื่อยไม้กระท้อนต้น
ท้ายวัดส�ำหรับเอาไม้ท�ำเป็นโลงศพ ช่างชัยคนท�ำลายข้างโลงมาติดลายประดับ
ตกแต่งให้พร้อมลูกมืออีกสามคน ช่างด�ำรงค์แทงหยวกมาร่วมประดับชัน้ รองโลงศพ
ด้วยลายแทงหยวกอย่างวิจติ รสวยงาม ผูค้ นหลัง่ ไหลมารดน�ำ้ ศพ และค�ำ่ นัน้ เองโลง
ศพก็เสร็จสิน้ วางกลางศาลาการเปรียญมีดอกไม้ประดับจากฝีมอื ครูและนักเรียนมา
ช่วยประดับ เสร็จก่อนที่บรรดาลูกๆ ของแม่น้าบาวไก่อีกสองคนรีบด่วนนั่งเครื่อง
บินมาลงที่สนามบินในตัวจังหวัดแล้วเดินทางมาถึงทันได้นำ� ร่างแม่ใส่โลง
เมือ่ น้องๆ ทัง้ สองของน้าบาวไก่เดินทางมาจัดการงานศพแม่ในแบบทีพ่ วก
ตนอยากให้เป็น คือพร้อมรองรับเกียรติเจ้านายมียศมีต�ำแหน่งที่จะมาร่วมงาน
มีการขอพระราชทานเพลิงศพ และตบแต่งที่ตั้งศพด้วยร้านดอกไม้ที่ถูกจ้างมาเป็น
พิเศษ

138 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 138 21/3/2561 BE 10:00


น้องๆ ของน้าบาวไก่มีมติร่วมกันว่าตั้งศพสวดอภิธรรมแม่สามคืน แต่ละ
คืนจึงมีเจ้าภาพจากหน่วยงานราชการที่อยู่ในสายงานของทั้งสองมาเป็นเจ้าภาพ
สวดอภิธรรม ตลอดงานช่วงพิธีกรรมทางศาสนาน้าบาวไก่จะนั่งรวมอยู่กับคนเฒ่า
คนแก่บ้านทางควายที่มานั่งฟังพระสวด และร่วมกรวดน�้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้
แม่ โดยไม่มีสักครั้งที่น้องๆ ทั้งสองจะแนะน�ำผู้หลักผู้ใหญ่ในสายงานที่มาเป็นเจ้า
ภาพสวดอภิธรรมแม่ให้รู้จักพี่ชายคนโต
ในวันพระราชทานเพลิงศพ ข้าราชการในท้องทีแ่ ละทีม่ าร่วมงาน แต่งกาย
ด้วยชุดขาวสะอาดสว่างตายิง่ นัก นัง่ กันอย่างเป็นระเบียบในเต็นท์ขนาบข้างเมรุและ
ในศาลาพิธีกรรม ดูยิ่งใหญ่สมเกียรติ ผิดจากงานชาวบ้านธรรมดาทั่วไป แต่ถ้าวัด
จ�ำนวนคนที่แต่งชุดขาวกับแต่งชุดด�ำบ้านๆ คนแต่งชุดขาวมีจ�ำนวนแค่ห้าสิบกว่า
คน ซึง่ คนเหล่านัน้ นอกเหนือจากครูโรงเรียนในหมูบ่ า้ นทางควายแล้ว ล้วนมาเพราะ
หน้าที่ที่ต้องมา ในขณะที่คนแต่งชุดด�ำจ�ำนวนมหาศาลชนิดที่ตั้งแต่งานเผาศพอดีต
ท่านเจ้าอาวาสรูปก่อนสิบกว่าปีที่ผ่านมา ก็มีงานศพแม่ของน้าบาวไก่นี่แหละที่คน
มามากที่สุด ชาวบ้านทั้งหมดที่มา...มาเพราะรู้จักน้าบาวไก่
ช่วงพิธกี รรมทางศาสนา พอประธานฝ่ายสงฆ์ซงึ่ เป็นพระราชาคณะชัน้ เทพ
จากวัดพระอารามหลวงในตัวจังหวัดซึ่งถูกนิมนต์มาร่วมงาน เป็นตัวแทนฝ่ายสงฆ์
จะขึ้นบทให้พร ยะถา วาริวะหาฯ เพื่อให้เจ้าภาพลูกหลานของผู้วายชนม์ได้กรวด
น�้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลสุดท้ายก่อนสลายสรีระด้วยเพลิงพระราชทาน พระภิกษุ
ชราเจ้าอาวาสยกมือขึ้นห้ามประธานสงฆ์ บอกให้รอลูกอีกคนก่อน อย่าเพิ่งขึ้นบท
ให้พร ข้าราชการในชุดขาวทีร่ ว่ มพิธถี งึ กับงงงันเพราะไม่นกึ ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบ
นี้ขึ้น แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านทางควายทั้งหมดที่นั่งร่วมพิธีกรรมในศาลา ต่างรู้ว่า
พระภิกษุชราต้องการรอใครให้มาร่วมกรวดน�ำ้ ให้แม่ครั้งสุดท้าย
น้าบาวไก่ซึ่งนั่งแอบอยู่หลังเมรุ ในมุมที่สามารถมองเห็นโลงแม่ได้ชัด
ถูกชาวบ้านมาตามให้ร่วมกรวดน�้ำ ตอนแรกเขาไม่ไปยกมือป่ายไปมาปฏิเสธเป็น
พัลวัน แต่พอชาวบ้านบอกว่า ตาหลวงใช้ให้ไป จึงค่อยๆ ลุกขึ้นเดินเข้าไปในศาลา
ท่ามกลางสายตารื้นน�ำ้ ตาของชาวบ้านทางควายนับพันคู่ที่มองมาด้วยความสงสาร

สถาบันพระปกเกล้า 139

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 139 21/3/2561 BE 10:00


“น้าบาวไก่ กรวดน�้ำให้แม่ครั้งสุดท้ายนะ เดี๋ยวเขาจะเผาร่างแม่แล้ว...”
พระภิกษุชราเอ่ยกับน้าบาวไก่ด้วยน�้ำเสียงแผ่วเบาแต่ชัดเจนและมีพลัง ในขณะที่
พระราชาคณะประธานสงฆ์ดมู สี หี น้าเหนือ่ ยหน่ายทีแ่ ค่คนปัญญาอ่อนคนหนึง่ ก็ตอ้ ง
หยุดรอท�ำให้เสียเวลาเสียพิธกี รรมทีม่ ใิ ช่แบบบ้านๆ แต่เป็นพิธพี ระราชทานเพลิงศพ
ที่มีข้าราชการผู้หลักผู้ใหญ่มาร่วม
และเมื่อประธานฝ่ายสงฆ์เริ่มสวดบทให้พร ว่า ยะถา วาริวะหา ปูรา ปริปู
เรนติ สาคะรัง ฯ พลันข้าราชการในชุดขาวทั้งหมดถึงกับต้องตกอกตกใจกันอีกครั้ง
ในเสียงกรวดน�้ำของน้าบาวไก่ที่ดังลั่นศาลา เสียงท่องที่ติดอ่างผสมเสียงร้องไห้ พอ
เปล่งออกมาสุดแรงแม่เบ่งเกิด เลยฟังเหมือนเสียงวัวร้อง ข้าราชการบางคนถึงกับ
เผลอหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน ประธานฝ่ายสงฆ์หนั มองน้าบาวไก่ดว้ ยสีหน้า
ยุง่ ๆ สองสามรอบอย่างไม่ชอบใจ เพราะกลัวคนปัญญาอ่อนจะท�ำเสียพิธกี รรมทีม่ ใิ ช่
เป็นพิธีกรรมแบบบ้านๆ
น้าบาวไก่ยังคงก้มหน้าท่องบทกรวดน�้ำผิดๆ ถูกๆ ตามแต่จะจ�ำที่แม่ท่อง
ให้ได้ยินตอนใส่บาตรเสร็จได้ ออกเสียงวนอยู่แต่ว่า นาๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แมะๆ ๆ ๆ ๆ
ๆ แม่ๆ ๆ ๆ ๆ อิๆ ๆ ๆ ๆ ๆ นาๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ลั่นอยู่อย่างนั้น จนประธานฝ่ายสงฆ์
ร�ำคาญ รีบรวบรัดตัดบทให้พรไปบทจบภวันตุสัพ ด้วยความอิหลักอิเหลื่อใจ
ทว่าเสียงกรวดน�้ำของน้าบาวไก่กลับมีพลังสะท้อนให้หัวใจของพระและ
ชาวบ้านบ้านทางควายทัง้ หมดทีม่ าร่วมงานสัน่ ไหวโยกคลอน ทุกคนมิอาจสกัดกลัน้
น�้ำตาแห่งความสงสารและตื้นตันใจในความกตัญญูของน้าบาวไก่ได้ ภาพที่น้าบาว
ไก่เอาแม่ใส่รถรุน รุนไปวัด รุนไปไหนต่อไหน เลีย้ งดูแม่ ปรนนิบตั ิ อาบน�้ำ ป้อนข้าว
ป้อนปลาให้แม่ คือเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ที่ทุกคนพร้อมใจกันมอบให้ ดังนั้นภาพของ
ชายปัญญาอ่อนวัยสามสิบเศษๆ หน้าตาขมุกขมัว มีขอ้ มือหักคดผิดรูป ใส่เสือ้ ผ้าด�ำ
ขุ่นมัวตัวเก่า กลับดูขาวสว่างสะอาดตากว่าเครื่องแบบราชการชุดขาวที่น้องๆ
ทั้งสองสวมอยู่เป็นยิ่งนัก.

ธารา ศรีอนุรักษ์

140 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 140 21/3/2561 BE 10:00


ธารา ศรีอนุรักษ์
เป็นคนอ�ำเภอร่อนพิบูลย์
จั ง หวั ด นครศรี ธ รรมราช จบการ
ศึ ก ษาระดั บ ปริ ญ ญาตรี จากคณะ
ครุศาสตร์ เอกการสอนภาษาไทย
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช
วิทยาลัย (มหาวิทยาลัยสงฆ์) เขียน
เรื่องสั้น กวีนิพนธ์ และวรรณกรรม
เยาวชน เป็ น นั ก เขี ย นรางวั ล
“รพีพร” (คนที่ ๕) ปัจจุบันประกอบ
อาชีพอิสระ สร้างครอบครัวเล็กๆ อยู่
ชานเมืองกรุงเทพฯ

สถาบันพระปกเกล้า 141

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 141 21/3/2561 BE 10:00


คนปลูกชา
กับนางพญาเสือโคร่ง
นรพัลลภ ประณุทนรพาล

พ่
อาเซียน
อเบือนหน้าหนีตอนที่รายการสู่ประชาคมอาเซียนก�ำลังจบ บอกว่าดูมาตั้ง
นานก็ไม่เข้าใจว่าท�ำไมการพัฒนาดอยเราถึงเกี่ยวข้องกับกลุ่มประชาคม

ผมคิดว่าไม่ใช่พ่อไม่เข้าใจแต่ผิดหวังมากกว่า
“รัฐบาลจะท�ำให้ดอยเราเจริญจริงๆ แล้วนะพ่อ”
“เพิ่งคิดได้เหรอ” พ่อสวน
ก็จริง แต่นี่ควรเป็นเวลาดีใจมากกว่า ความเจริญอย่างถาวรก�ำลังจะเกิด
กับหมู่บ้านเรา หมู่บ้านที่แม้จะอยู่บนดอยสูงแต่ก็เป็นแผ่นดินไทย และเราก็ถือ
สัญชาติไทยมาตั้งสองรุ่นแล้ว
ผมปิดทีวีก่อนชวนพ่อไปนั่งที่ระเบียง ลมยามเย็นไม่ได้พัดพาไอเย็นเท่าที่
เคย ฤดูกาลเปลี่ยนไปแล้วไม่ว่าจะเพราะอะไร และนางพญาเสือโคร่งก็แทบไม่
ออกดอกมาหลายปี
ผมไม่คอ่ ยหลงใหลต้นไม้ทอี่ อกดอกปีละครัง้ แค่คดิ ว่าก็สวยดีเวลาเห็นดอย
เป็นสีชมพู แต่ผมไม่แค่อยากเห็นดอยเป็นสีชมพู ผมอยากเห็นไร่ชาขยายพื้นที่ปลูก
ให้มากขึ้นด้วย

142 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 142 21/3/2561 BE 10:00


สถาบันพระปกเกล้า 143

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 143 21/3/2561 BE 10:00


สมัยก่อนทางลูกรังที่พาขึ้นดอยแม้จะเป็นความเคยชินของเรา แต่มันเป็น
เรื่องยากเย็นส�ำหรับคนอื่น เราจึงตื่นเต้นมากในวันที่รู้ว่าดอยจะมีถนนลาดยาง พ่อ
คิดต่อทันทีวา่ เมือ่ ถึงวันนัน้ จะเลือกอย่างไหนดี ระหว่างขนชาลงไปขายกับปรับปรุง
บ้านให้เป็นร้านขายชา
ขณะถนนลาดยางค่อยๆ เสร็จ นักท่องเทีย่ วก็คอ่ ยๆ เพิม่ ทีละคนทีละกลุม่
จนวันหนึ่งพ่อก็เลือกเปลี่ยนบ้านเป็นร้านขายชา พร้อมปรับพื้นที่เล็กๆ ข้างบ้านให้
เป็นลานกางเต็นท์ ลานนี้อาจไม่ใช่จุดที่ดีที่สุดส�ำหรับชมดอยสีชมพู แต่บนลานมี
นางพญาเสือโคร่งอยู่สองต้นที่นักท่องเที่ยวจะแย่งกันกางเต็นท์แบบแนบชิด
แต่นั่นก็เป็นอดีตไปแล้ว เพราะการส่งเสริมที่ห่างเหินจนเงียบหาย
ลมไม่เย็น แต่คงไม่ใช่สาเหตุที่พ่อหน้าเครียด
“ตอนนี้เราต้องท�ำอะไร”
พอพ่อถามผมจึงรู้ว่ามันมาจากรายการทีวีที่เพิ่งจบ
“เราก็เตรียมดอยต้อนรับนักท่องเที่ยว”
พ่อขมวดคิ้วพลางส่ายหน้าก่อนชี้ไปบนลาน
“ก่อนท�ำอย่างอื่นเขาน่าจะส่งปุ๋ยมาให้หน่อย”
“ท�ำไมพ่อถึงห่วงมันนัก หรือว่าพ่อชอบสีชมพู”
ผมแกล้งล้อหวังให้พ่อผ่อนคลาย
“ไม่ได้ห่วงแค่เรื่องนี้ หรือจะให้พูดทุกเรื่อง”
พ่อไม่ข�ำด้วยแถมยังเสียงดังขึ้น
“พ่ออยากพูดเรื่องอะไรบ้าง”
พ่อถอนหายใจแทนค�ำตอบก่อนลุกเดินตรงไปยังนางพญาเสือโคร่งสองต้น
ที่ยืนอยู่บนลานอย่างไร้ชีวิตชีวา พอๆ กับท่าเดินของพ่อ
พอพ่อไปผมก็เดินลงเนินไปยืนมองไร่ชาของเรา เนือ้ ทีไ่ ม่มากมายแต่กม็ าก
พอจะช่วยให้ชีวิตดีขึ้นถ้าเราท�ำได้ดี และได้รับการส่งเสริมอย่างดีพอกัน
ช่วงทีเ่ รียนเทอมสุดท้ายผมถามแม่วา่ ถ้าไม่ตอ้ งปลูกชาอีกแม่อยากท�ำอะไร
แม่ตอบว่าต้องถามพ่อ ผมเข้าใจดีทแี่ ม่พร้อมจะท�ำอะไรก็ได้หรือไม่ท�ำอะไรก็ได้ตาม

144 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 144 21/3/2561 BE 10:00


ที่พ่อบอก รวมทั้งพี่ชายสองคนที่ตายพร้อมกันจากอุบัติเหตุรถตกเขาในฤดูฝนหนึ่ง
ขณะที่ผมอยากเรียนหนังสือจึงช่วยพ่อได้น้อยมาก
ไร่ชาเบื้องหน้าพาให้คิดซ�้ำๆ ถึงการส่งเสริม ผมอยากให้รัฐบาลมั่นใจว่า
เรารู ้ แ ละเข้ า ใจเรื่ อ งการปรั บ ตั ว ให้ ทั น กั บ ความเปลี่ ย นแปลงของโลก ความ
เปลี่ยนแปลงที่เคยเป็นความแปลกใหม่ แต่เราใช้ความเข้าใจท�ำให้มันกลายเป็น
ความคุ้นเคยได้แล้ว
พ่อปรับตัวถึงขนาดยอมเป็นดาราหน้ากล้อง เมือ่ มีนกั ท่องเทีย่ วขอถ่ายรูป
พ่อกับไร่ชาบ้าง หน้าร้านบ้าง หรือให้พ่อยืนระหว่างนางพญาเสือโคร่งสองต้นบ้าง
แล้ววันหนึง่ นักท่องเที่ยวคนนั้นก็กลับมาพร้อมรูปถ่ายพ่อกับนางพญาเสือโคร่งทีไ่ ด้
รางวัลชนะเลิศจากการประกวดอะไรสักอย่าง ก่อนกลับเขายังช่วยหามุมติดรูป
ข้างฝาให้ พ่อบอกว่าแปลกดีที่รูปนี้ช่วยให้ขายชาได้มากขึ้น
ผมบอกพ่อว่าเป็นเพราะการปรับตัวของพ่อต่างหาก
แต่หลายปีหลังมานี้การชมไร่ชามีมากกว่าการชิมชา และการชิมชาก็มี
มากกว่าการซือ้ ชา ผมอยากให้ทกุ อย่างมากเท่ากันเพือ่ ให้ความเป็นอยูด่ ขี นึ้ และผม
ขอดีขึ้นในแบบของเรา ไม่อย่างนั้นผมคงไม่กลับมาหลังเรียนจบปริญญาตรีและหา
ประสบการณ์ด้านการตลาดอีกเกือบสองปี
นึกถึงรายการทีวีที่เพิ่งจบ ผมแอบหวังว่าสิ่งที่เห็นจะเป็นจริง เหมือนที่
นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันที่พูดภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่นพอๆ กับผมบอกว่า
กลุ่มประชาคมอาเซียนก็เหมือนกับกลุ่มสหภาพยุโรป เริ่มตั้งแต่ระบบการเดินทาง
ทัง้ ของคนและสินค้าจะเป็นหนึง่ เดียวกัน และยังบอกอีกว่าเราต้องเตรียมความเป็น
ตัวเองให้พร้อม
ผมละสายตาจากไร่ชามองไปบนลานเห็นพ่อใช้ฝ่ามือสัมผัสนางพญา
เสือโคร่ง ต้นไม้ที่ส�ำหรับคนอื่นอาจเป็นต้นไม้แห่งการรอคอย แต่ส�ำหรับพ่อไม่ใช่
พ่อไม่เคยเมินหน้าหนีในยามที่มันไร้ดอก
ท่าทีของพ่อท�ำให้ผมอยากรู้ว่าพ่อคิดอะไรอยู่ พ่ออาจตั้งค�ำถามว่าท�ำไม
ลมไม่เย็นเหมือนที่เคยเย็น ฤดูกาลจะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่ เราจะกินข้าวกับ

สถาบันพระปกเกล้า 145

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 145 21/3/2561 BE 10:00


อะไรถ้ามีแต่คนชิมชา หรือพ่ออาจสงสัยว่ากลุม่ ประชาคมอาเซียนจะส่งผลดีกบั ดอย
เราแค่ไหน หรือพ่ออาจคิดแค่ว่าต้องท�ำอย่างไรจึงจะช่วยไม่ให้ต้นไม้ทั้งสองต้นตาย
อย่างไร้ค่า
ความอยากรู้ทำ� ให้ผมเดินขึ้นเนิน
ผมชวนพ่อนั่งพิงนางพญาเสือโคร่งคนละต้น
“พ่อคิดอะไรอยู่”
“เราเป็นคนไทยแล้วจริงๆ ใช่ไหม”
ผมอึ้งกับการถามกลับ มันไม่ใกล้เคียงกับสิ่งที่ผมคิดไว้เลย
“อะไรท�ำให้พ่อคิดอย่างนี้”
“ท�ำไมเขาท�ำเหมือนเราไม่มีความหมาย...” พ่อหลับตาลงครู่หนึ่ง
“เราเป็นคนไทยเหมือนเขาแล้ว เราไม่ใช่คนไร้สัญชาติเหมือนปู่ที่นอนอยู่
ตรงนั้นแล้วใช่ไหม”
พ่อชี้ไปยังฮวงซุ้ยบนเนินเขาเบื้องหน้า
ผมรู้ความคิดพ่อแล้ว “พ่อคิดว่าเราเป็นนางพญาเสือโคร่งไร้ดอกใช่ไหม”
ผมเอื้อมมือแตะแขนพ่อ พอพ่อหันมาผมก็เห็นน�ำ้ เอ่อในดวงตา
พ่อเงยหน้าขึน้ อาจเพราะอยากให้นำ�้ ตาไหลกลับเข้าไป แต่คงไม่สำ� เร็จพ่อ
จึงเช็ดมันด้วยแขนเสื้อ
ผมขยับตัวนั่งชิดพ่อ อยากบอกให้พ่อมั่นใจในกลุ่มประชาคมอาเซียน
ทัง้ ทีล่ กึ ๆ แล้วผมก็ไม่ได้มนั่ ใจเท่าทีอ่ ยากมัน่ ใจ เป็นไปได้วา่ นักท่องเทีย่ วชาวเยอรมัน
คนนั้นอาจแค่พูดเปรียบเทียบให้เห็นจากสิ่งที่เขาเป็น
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าเขาพูดถูก นั่นคือเราต้องเตรียมความเป็นตัวเองให้
พร้อมส�ำหรับความหวังครั้งใหม่ของคนปลูกชาและนางพญาเสือโคร่ง
“พ่อคิดว่าเราเป็นนางพญาเสือโคร่งไร้ดอกใช่ไหม” ผมถามซ�ำ้
พ่อถอนหายใจพลางลูบโคนต้น
ผมจับมือพ่อไว้ ผมรูว้ า่ พ่อไม่ได้ออ่ นแอ สิง่ ทีพ่ อ่ ท�ำมาตลอดยืนยันได้วา่ พ่อ
ไม่เคยอ่อนแอ พ่อส�ำนึกบุญคุณแผ่นดินนี้และตั้งใจจะท�ำให้ผืนดินตรงนี้สวยงาม

146 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 146 21/3/2561 BE 10:00


ในวันทีไ่ ด้รบั สัญชาติไทยพ่อก้มกราบผืนดินหลายรอบ จากนัน้ ก็ถอื เอกสาร
ไปหาปู่ที่ฮวงซุ้ยและสัญญากับปู่ว่าจะดูแลนางพญาเสือโคร่งแทนปู่ให้ดีที่สุด
ผมได้ยินเรื่องนี้มาตั้งแต่ยังเด็ก แม้จะไม่หลงใหลนางพญาเสือโคร่งเท่าพ่อ
กับปู่ แต่ผมตั้งใจว่าจะต้องปลูกชาที่ท�ำให้ทุกคนจดจ�ำดอยเราให้ได้ เพราะผมถือว่า
นี่ก็คือการท�ำให้ผืนดินตรงนี้สวยงามด้วยเช่นกัน

และเราต้องการความช่วยเหลือ

นรพัลลภ ประณุทนรพาล
เกิด ๖ มิถุนายน ๒๕๐๙ ที่จังหวัด
ยะลา
จบการศึ ก ษา นิ ติ ศ าสตร์ บั ณ ฑิ ต
จากมหาวิทยาลัยรามค�ำแหง

สถาบันพระปกเกล้า 147

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 147 21/3/2561 BE 10:00


ความเป็นไปได้
บนทางคู่ขนาน
ปองวุฒิ รุจิระชาคร

ถ้ าประเทศนี้เติบโตในทิศทางแตกต่างจากความเป็นจริงในปัจจุบัน มันจะมี
รูปลักษณ์อย่างไร?
ค�ำถามเช่นนี้ผุดพรายในใจประชากรส่วนใหญ่อยู่เสมอ คงเป็นเรื่องปกติ
ของมนุษย์ทมี่ กั คิดถึงเส้นทางทีแ่ ตกต่างออกไป ทว่าสุดท้ายก็เป็นเพียงความคิด ไม่มี
ใครมีโอกาสเห็นความเป็นไปได้ดังกล่าว ยกเว้นเขา...
สิง่ อัศจรรย์เกินจะสรรหาถ้อยค�ำใดมาบรรยายเกิดแก่เมฆาภายในชัว่ เวลา
ข้ามคืน หลังชายวัยห้าสิบห้าเอนกายปิดตาลงบนที่นอนนุ่ม ภายในคฤหาสน์ราคา
สามสิบล้านที่เพิ่งปลูกสร้างเสร็จ ทว่าเขากลับลืมตาตื่นในเช้าวันถัดมา ในห้องนอน
บ้านหลังเก่าซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากบิดามารดา
ทว่าสิง่ ทีเ่ ขาคิดว่าแปลก กลับเป็นเพียงเศษเสีย้ วเล็กจ้อยในความผิดเพีย้ น
มากมายที่ตามมา มันขยายจากระดับบ้านหลังเดียว สู่เมืองและประเทศ หลังเมฆา
ก้าวขาออกมาจากบ้านเก่าทีต่ งั้ อยูใ่ นแพร่งสรรพศาสตร์ในสภาพงุนงง พร้อมสังเกต
เห็นความเปลี่ยนแปลงมากมาย

148 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 148 21/3/2561 BE 10:00


สถาบันพระปกเกล้า 149

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 149 21/3/2561 BE 10:00


เริม่ จากตัวเรือนไม้เก่าทีถ่ กู ทาสีใหม่สดสวย ทัง้ บ้านใกล้เรือนเคียงไม่วา่ จะ
ปลูกสร้างด้วยไม้หรือปูนล้วนอยู่ในสภาพดีสะอาดตา เมื่อเดินส�ำรวจสักพัก ชายวัย
กลางคนก็เห็นทางเท้าปูเรียบสวยงามทั้งกว้างขวาง ไม่มีคนตั้งแผงขายของหรือ
สิ่งของเกะกะขวางทางแม้แต่น้อย ส่วนหนึ่งแบ่งเป็นทางเดินส�ำหรับคนพิการที่
ออกแบบมาอย่างดี ถัดจากนั้นคือเลนจักรยานที่ถูกกั้นปันเป็นส่วนและมีคนใช้งาน
เยอะพอสมควร
ยิง่ ก้าวเดินต่อไปยังย่านถนนดินสอ ต่อเนือ่ งถึงศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
และอนุสาวรียป์ ระชาธิปไตย ทุกอย่างก็ยงิ่ ชัดเจน กลุม่ อาคารเก่าแก่ได้รบั การบูรณะ
เก็บรายละเอียดอย่างมีชั้นเชิงทางศิลป์
บนถนนมีรถแล่นค่อนข้างน้อย แต่กลับมีระบบขนส่งมวลชนครบครัน
เขาเห็นสถานีรถไฟใต้ดนิ ใกล้ศาลาว่าการทีม่ ปี า้ ยระบุวา่ สร้างเสร็จในปี พ.ศ. ๒๕๓๐
รถเมล์ทมี่ สี ภาพดีกว่าทีค่ นุ้ ตาหลายเท่า ทีส่ ร้างความตืน่ ตาตืน่ ใจให้เมฆาต้องหยุดดู
คือรถรางซึ่งสัญจรอยู่ถัดจากเลนจักรยาน มีข้อความข้างตัวรถเขียนว่าใช้พลังแสง
อาทิตย์ผา่ นแผงโซล่าร์เซลล์ ผลงานโดยมหาวิทยาลัยแห่งหนึง่ ของไทย ผูค้ นต่อแถว
ขึ้นอย่างมีระเบียบ
เขาหั น ไปเห็ น จอโทรทั ศ น์ ด ้ า นหน้ า ร้ า นหนั ง สื อ ใหญ่ ใ กล้ อ นุ ส าวรี ย ์
ประชาธิปไตย บนนัน้ ก�ำลังฉายข้อความเขียนว่า “นโยบายจากผลประชามติประจ�ำ
วันพฤหัสที่ ๒๐ ธันวาคม งดใช้รถยนต์ส่วนตัวทุกวันที่ ๑๕ ของเดือนเพื่อประหยัด
พลังงานและลดมลพิษ”
“นี่มันอะไรกันวะ” เขาเอ่ยถามตัวเองด้วยเสียงแหบแห้ง
ทุกคนล้วนรับรู้ว่าประเทศไทยในช่วงทศวรรษหลังถูกครอบง�ำด้วยความ
ขัดแย้ง มีแต่ความแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย สาดใส่ความเกลียดชังใส่กัน น�ำมาสู่
ความติดขัดในการเดินหน้าพัฒนาทุกภาคส่วน คนที่สามารถเก็บผลประโยชน์และ
เอาตัวรอดได้ ต้องเลือกหนทางไต่สู่ที่สูง ร�่ำรวยหรือมีต�ำแหน่ง อาศัยอยู่ส่วนยอด
ของพีรามิดทางสังคม

150 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 150 21/3/2561 BE 10:00


เมฆามั่นใจว่าตัวเขาเองจัดเป็นพวก ‘อยู่เป็น’ โดยแท้ เริ่มต้นประกอบ
อาชีพหลักเป็นข้าราชการสังกัดกระทรวงส�ำคัญของประเทศ เข้าหาเจ้านายถูกจุด
ไม่นานก็ได้เลือ่ นขัน้ เลือ่ นต�ำแหน่งสูง ส่งผลท�ำให้มที งั้ เวลาและทรัพยากรมาประกอบ
ธุรกิจส่วนตัวเพิ่ม ซึ่งส่วนใหญ่ก็เน้นผูกโยงกับภาครัฐ พลิกแพลงให้เหมาะกับ
สถานการณ์ ตามหลักคนฉลาดต้องรู้จักปรับตัว
ในผลงานทั้งหมด สิ่งที่เมฆาภูมิใจมากที่สุดคือการสร้างตัวตนให้โดดเด่น
ท่ามกลางยุคสมัยแห่งความขัดแย้ง เขามีพื้นที่ในสื่อเสมอไม่ว่าจะเป็นยามขับไล่
นักการเมืองทุจริตหรือกระทั่งต้านรัฐประหาร คนอยู่เป็นเชี่ยวชาญด้านการพาตัว
ไปอยู่ในจุดสร้างชื่อและได้รับความนับถือ
“ผมอ่านบทสัมภาษณ์ใหม่ของลุงเมฆแล้ว โดนใจมากเลยครับ” พิชานนท์
ลูกชายของเนตรทิพย์ลูกน้องคนสนิทที่ท�ำงานติดสอยห้อยตามเขามาตลอดยี่สิบปี
ในสายราชการบอก เด็กหนุ่มอ่านความคิดเขาที่ลงในเพจส�ำนักข่าวรุ่นใหม่ที่ได้รับ
ความนิยมจากพวกเด็กเจนวาย
“วัยรุ่นอย่างพิชเห็นเป็นยังไง ความคิดลุงยังพอไหวไหม”
“เยี่ยมเลยครับ โดยเฉพาะท่อนที่ลุงบอกว่าคนรุ่นเก่าต้องเปิดกว้าง ต้อง
วางมือ เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่อย่างพวกผมได้ผลักดันประเทศก้าวไปข้างหน้า ถ้า
คนรุน่ ลุงหลายคนคิดแบบนีบ้ า้ งก็คงดี” เด็กหนุม่ ผูเ้ รียนอยูช่ นั้ มัธยมห้าและมีหวั สมัย
ใหม่ตามวัยบอก
“ลุงเชื่ออย่างนั้น” เขาบอกแล้ววางมือลงบนบ่าเด็กหนุ่ม “ประเทศนี้ควร
ฝากไว้ในมือคนรุ่นใหม่”
ตอนแรกเมฆาคิดว่าตัวเองหลุดมาโลกอนาคต แต่พอเดินเข้าไปในร้าน
หนังสือใหญ่ก็เห็นหนังสือพิมพ์ระบุวันเดือนปีเดียวกับที่เขาอยู่ หนุ่มใหญ่อยาก
ระบายความอัดอั้นงุนงง แต่ก็ไม่รู้จะพูดกับใครดี สุดท้ายตัดสินใจเดินเข้าไปใน
หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานครซึ่งในมิติเดิมเพิ่งเปิดท�ำการในปีนี้ แต่ที่นี่แผ่นป้าย
จารึกทีต่ ดิ อยูบ่ ริเวณปากทางเข้าระบุวา่ ถูกสร้างขึน้ ตัง้ แต่ พ.ศ. ๒๕๒๕ สมัยกรุงเทพ

สถาบันพระปกเกล้า 151

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 151 21/3/2561 BE 10:00


ฉลองครบรอบ ๒๐๐ ปี ทั้งยังมีภาพจัดแสดงให้เห็นหอสมุดรูปแบบคล้ายกันใน
เขตอื่นของกรุงเทพและต่างจังหวัด ล้วนแต่ดูทันสมัยและได้รับการออกแบบให้มี
เอกลักษณ์เข้ากับพื้นถิ่นกว่าร้อยแห่ง
นอกจากหนังสือที่อัดแน่นเต็มชั้นแยกหมวดอย่างเป็นระเบียบแล้ว ยังมี
ส่วนคอมพิวเตอร์ทพี่ ร้อมให้บริการสืบค้นข้อมูล เมฆาพิมพ์คน้ หาเรือ่ งประวัตศิ าสตร์
ประเทศไทยในช่วงหกสิบปีหลัง จนได้รับค�ำตอบที่ทั้งน่าทึ่งและชวนตกใจไป
พร้อมกัน เช่นภาครัฐให้ความส�ำคัญกับการพัฒนาเรื่องระบบพื้นฐานอย่างขนส่ง
สาธารณะและการศึกษาตัง้ แต่ยคุ พ.ศ. ๒๕๐๕ เพราะเล็งเห็นว่าเข้าสูย่ คุ เด็กเกิดใหม่
เกินหลักล้าน ในปีเดียวกับที่หอสมุดแห่งนี้เปิดท�ำการ รถไฟฟ้าและรถใต้ดินทุก
สายหลักของกรุงเทพก็เสร็จหมด และมีปรับปรุงขยายเส้นทางแตกย่อยภายหลัง
ล่วงเข้าปีพ.ศ. ๒๕๓๐ เป็นต้นมาไทยกลายเป็นเสือตัวที่ห้า ประเทศ
อุตสาหกรรมใหม่อย่างเต็มภาคภูมิ ระบบรัฐและประชากรทีม่ คี ณ ุ ภาพร่วมแรงร่วมใจ
กันผลักดันประเทศให้เติบโตอย่างมีเอกลักษณ์ไม่คดิ เดินตามใคร ผสานทัง้ การเกษตร
ดั้งเดิมและอุตสาหกรรมใหม่อย่างสมดุล เมื่อเศรษฐกิจเติบโตจริงแบบมั่นคงยั่งยืน
จึงไม่เคยมีวิกฤตฟองสบู่แตก ปัญหาต้มย�ำกุ้งในปีพ.ศ. ๒๕๔๐ อีกด้วย
ช่วงรอยต่อเข้าสหัสวรรษใหม่ ค.ศ.๒๐๐๐ เป็นต้นมา เรื่องส�ำคัญที่ได้รับ
ความสนใจคือการเตรียมพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงจากเทคโนโลยี ในองค์รวม
ประเทศไทยยังคงขยับตัวก่อนประเทศส่วนใหญ่ เด็กรุ่นใหม่ใช้ทั้งภาษาไทยและ
อังกฤษได้คล่องและศึกษาภาษาที่สามเป็นเรื่องปกติ ผลจากการทุ่มเทพัฒนาด้าน
การศึกษามาหลายสิบปี ท�ำให้คนรุ่นยุคเกิดเกินล้านที่เรียนจบเข้าสู่ตลาดแรงงานมี
ทักษะเฉียบคมกว่ารุ่นก่อน พากันเป็นแรงขับเคลื่อนสังคมทั้งภาครัฐและเอกชนให้
พัฒนาไปอีกระดับ มีคนไทยสร้างชื่อระดับโลกมากมาย สินค้ายี่ห้อไทยขับเคี่ยวกับ
เกาหลีใต้และญี่ปุ่นอย่างสูสี
หลังอ่านข้อมูลเหล่านี้ ท่ามกลางบรรยากาศเงียบงันของห้องสมุด หัวใจ
เมฆาเต้นแรง ตระหนักชัดว่าเขาก�ำลังอยู่ในประเทศไทยแห่งเดิม แต่เป็นมิติที่วิถี

152 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 152 21/3/2561 BE 10:00


ความเป็นไปสังคมแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
ทุกอย่างที่เขาพูดกับพิชานนท์เป็นแค่ค�ำโกหก เมฆาไม่ได้เชื่อเช่นนั้น เขา
ไม่คิดให้โอกาสคนรุ่นใหม่ ทั้งไม่เคยมีจุดยืนหรือยึดมั่นอุดมการณ์ใด ไม่เคยสนใจ
ด้วยซ�ำ้ ว่าสังคมจะเป็นแบบไหน ประชาชนได้มสี ว่ นร่วมในการผลักดันประเทศหรือ
เปล่า เขาเป็นเพียงนักธุรกิจที่เน้นกลยุทธ์ลงทุนเข้าออกให้ถูกจังหวะ ผู้คนเห่อเหิม
ไล่นกั การเมืองทุจริตเขาก็เอาด้วย พอกระแสเปลีย่ นกลายเป็นต่อต้านรัฐประหาร ก็
พร้อมผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้ากลายเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่
บทสัมภาษณ์ล่าสุด เขาเพิ่งเอ่ยประณามคนวัยใกล้เกษียณรุ่นเดียวกันว่า
เป็นตัวการสร้างปัญหาที่สั่งสมมานานของประเทศ เมฆารู้ตัวอยู่ว่าตัวเองเป็นคน
แบบนัน้ เพียงเก่งในการใช้วาทกรรมให้จบั ใจ หวังจับตลาดคนรุน่ ใหม่กดไลค์กดแชร์
ซึง่ ก็ได้ผล เด็กอย่างพิชานนท์หลงเชือ่ และมองเขาด้วยสายตาชืน่ ชมราววีรบุรษุ ส่วน
พวกคนที่ร่วมวงกอบโกยกับเขาไม่เคยสนใจอ่านส�ำนักข่าวออนไลน์อย่างนี้อยู่แล้ว
เดือนก่อน เมฆาไปเก็บข้าวของบางชิน้ ในบ้านเก่าเพือ่ ย้ายไปคฤหาสน์ใหม่
ตอนยกของเดินออกมาหน้าบ้าน ชายแก่เกือบโดนรถมอเตอร์ไซค์คนั หนึง่ ทีแ่ ล่นสวน
ทางมาบนฟุตบาทเฉี่ยวเอา
“โธ่เว้ย! ระวังหน่อยสิวะ เดี๋ยวก็ชนคนพอดี” เขาตะโกนโวยด้วยความ
หงุดหงิด
รถมอเตอร์ไซค์ชะลอหยุด หลังได้ยนิ ค�ำบ่น ทัง้ คนขับและคนซ้อนท้ายเป็น
เด็กวัยรุ่นอายุไม่เกินสิบห้า ต่างมองคนรุ่นลุงด้วยแววตาหาเรื่อง ก่อนเด็กสาวสวม
เสื้อกล้ามนุ่งสั้นที่เกาะเอวคนรักเอ่ยเสียงดัง
“บ่นอะไรลุง เดินไม่ระวังเองนี่หว่า” เด็กผู้หญิงยกนิ้วกลางชูให้เขา ก่อน
คนขับจะเร่งเครื่องแผดเสียงแสบหูแล้วขับจากไป
ชายวัยห้าสิบห้าลุกจากพื้นที่ส่วนใช้งานคอมพิวเตอร์ หมุนตัวมองไปรอบ
ห้องสมุดด้วยแววตาเลื่อนลอย สักพักสายตาประสานกับใครบางคน เป็นครั้งแรกที่
เจอมนุษย์คุ้นหน้า

สถาบันพระปกเกล้า 153

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 153 21/3/2561 BE 10:00


เด็กผู้หญิงที่เขาเคยตั้งสมญาว่าเป็นพวกสก๊อยใจแตกและเพิ่งท�ำกิริยา
หยาบคายใส่ตวั เองเมือ่ เดือนก่อน ขณะนีเ้ ธอสวมชุดนักเรียนนัง่ อยูบ่ นโต๊ะไม้ตวั ใหญ่
เด็กสาวยกมือไหว้เขาอย่างนอบน้อมจากระยะไกลเมฆายกมือขึน้ รับไหว้โดยอัตโนมัติ
ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเลือกเดินไปหา
“สวัสดีค่ะ ลุงเมฆ” เธอยกมือไหว้ทักทายเขาอีกครั้งด้วยเสียงนุ่มนวลเมื่อ
ชายวัยกลางคนเดินมาถึงโต๊ะ
“สวัสดี” เขาตอบกลับเสียงแผ่ว “นี่...หนูจ�ำได้ใช่ไหมว่าลุงเป็นใคร”
“ลุงเมฆพูดอะไรแปลกจัง ต้องจ�ำได้สิคะ พวกเราเป็นเพื่อนบ้านกันนี่นา”
เด็กสาวตอบเสียงสดใส เมฆานึกแย้งในใจว่าผิดแล้ว ในโลกใบเดิมเขาไม่เคยรับรูก้ าร
มีอยู่ของเธอ จนกระทั่งเดือนก่อน
“หนู...ท�ำการบ้านอยู่เหรอ” เขาเลือกเปิดทางด้วยถ้อยค�ำแสนธรรมดา
“จอยกับเพื่อนมานั่งประชุมคิดงานไปส่งประกวด หัวข้อเทคนิคผสาน
ประโยชน์การค้าระหว่างไทยกับประเทศเพือ่ นบ้านในศตวรรษที๒่ ๑” เธอบอกแล้ว
จากนั้นก็หันไปคุยกับเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างกันด้วยภาษาอังกฤษ ซึ่งท�ำให้เมฆาทึ่งเป็น
อย่างมาก เพราะเด็กสาวทั้งกลุ่มเจื้อยแจ้วภาษาอังกฤษได้คล่องส�ำเนียงถูกต้อง
ราวกับศึกษาโรงเรียนนานาชาติค่าเทอมหลักแสน ทั้งที่สวมเครื่องแบบโรงเรียนรัฐ
ท้องถิ่นธรรมดา
หลังนัง่ คุยกับจอยและเพือ่ นต่ออีกนิด เขาจึงเห็นชัดมากขึน้ ว่าเด็กวัยเรียน
ของ “ที่นี่” แตกต่างจาก “ที่เดิม” ชนิดหลังเท้าเป็นหน้ามือ ในขณะที่เมืองไทยใน
มิตเิ ดิมระบบการศึกษายังวุน่ วายอยูก่ บั การเปลีย่ นแปลงวิธคี ดั เลือกเข้ามหาวิทยาลัย
ไปมา ปัญหาคุณภาพครูและโรงเรียน ความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงความรูข้ องเด็ก
ต่างฐานะ ที่นี่ปัญหาเหล่านั้นถูกแก้ไขหมดสิ้นนานแล้ว รัฐลงทุนกับเรื่องการศึกษา
มากสุด เพราะเล็งเห็นว่าจะก่อให้เกิดประชากรมีคุณภาพ ยิ่งเด็กรุ่นหลังหลักสูตร
พัฒนาไปถึงขั้นโรงเรียนให้ความใส่ใจด้านจิตวิทยาหรือการปลูกฝังแนวคิดใฝ่ดีนอก
หลักสูตร

154 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 154 21/3/2561 BE 10:00


“ใครเป็นผู้น�ำ นายกคนปัจจุบันคือใคร” เมฆาอยากรู้เหลือเกินว่าใครกัน
ที่บริหารประเทศนี้
เด็กสาวหันไปมองหน้าเพื่อนๆ ก่อนทั้งหมดพูดพร้อมเพรียงเสียงสดใส
“นายกคือพวกเรา ประชาธิปไตยก�ำเนิดจากประชาชนค่ะ”
เมฆาไม่เข้าใจว่าค�ำพูดดังกล่าวหมายความว่าอะไร เด็กสาวคิดว่าคนวัยลุง
เล่นมุกแกล้งท�ำเป็นความจ�ำเสื่อม สักพักจึงขอตัวเพราะนึกได้ว่ามีธุระอื่นต้องไป
จัดการ เขาจึงไม่ทันถามอะไรต่อ
จอโทรทัศน์ที่ติดอยู่บริเวณผนังห้องสมุดด้านหนึ่งฉายภาพข่าวสารหลาย
อย่างวนเวียนไปมา ทีค่ นุ้ ตาคือเจ้านโยบายผลประชามิตงิ ดใช้รถส่วนตัวเดือนละวัน
เพื่อลดมลพิษ ที่เคยเห็นมาก่อนหน้านี้
ท่ามกลางทศวรรษแห่งความขัดแย้ง เมฆาเก็บเกี่ยวประโยชน์มาได้ตลอด
ทั้งสร้างสัมพันธ์กับสื่อ ฉลาดใช้เทคโนโลยีเรียกคะแนนนิยมจากพวกเด็กรุ่นใหม่ ที่
วาดหวังอนาคตที่ดีกว่านี้ ขณะเดียวกันก็ร่วมมือกับเหล่าผู้ด�ำรงต�ำแหน่งส�ำคัญ กุม
ชะตาของประเทศ ใช้เส้นสายกอบโกยสัมปทานผลประโยชน์ไปพร้อมกัน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเขามักเลือกกินเงียบอยู่เบื้องหลัง จนกระทั่งได้
รับค�ำชวนให้รับต�ำแหน่งส�ำคัญในรัฐบาลปัจจุบัน
“รับไปเถอะ งานสบายจะตาย ทีส่ ำ� คัญคือคอนเน็คชัน่ ” พลเดชเพือ่ นร่วม
วงราชการที่ร่วมหัวจมท้ายกันมานานออกความเห็น
“ผมยังลังเลอยู่ เอาเข้าจริงไม่ชอบแนวคิดของรัฐตอนนี้นัก อนุรักษ์นิยม
เกินไป”
พลเดชหัวเราะในล�ำคอ “โธ่เอ๊ยไอ้แนวคิดอย่างนีเ้ ก็บไว้ให้พวกเด็กๆ เถอะ
นี่ได้ข่าวมาว่าปีหน้าโครงการใหญ่มาเพียบ หลักพันล้านทั้งนั้น ถ้าไม่รีบเอาบริษัท
ตัวเองไปจ่อรอรับ ผิดพลาดครั้งใหญ่เชียว”
เมฆากลับไปบ้านทีแ่ พร่งสรรพศาสตร์อกี ครัง้ เมือ่ ตระหนักชัดว่าตัวเองไม่
ได้ฝัน ทั้งหมดนี้คือโลกแห่งความเป็นจริง เพียงแค่เป็นความจริงของประเทศชาติที่

สถาบันพระปกเกล้า 155

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 155 21/3/2561 BE 10:00


แตกต่างออกไป เขากลับไปบ้านค้นดูข้าวของส่วนตัว แล้วพบบัตรประจ�ำตัว
ข้าราชการ ทั้งมีรูปถ่ายคู่กับพลเดชแสดงว่าในมิตินี้เขากับอีกฝ่ายก็รู้จักกัน
“ผมก�ำลังเป็นห่วงคุณเลย หยุดงานไปก็ไม่บอก” นัน่ คือค�ำทักทายแรกของ
พลเดช หลังเจอเขาโผล่หน้าไปที่ท�ำงาน ยังตั้งอยู่ที่เดิมแต่อาคารเปลี่ยนไป ตึกเก่า
ที่ปลูกสร้างตั้งแต่ร้อยปีก่อนยังถูกรักษาเอาไว้แทนการทุบทิ้งอย่างในโลกเดิม
แต่ด้านในถูกปรับปรุงให้สะอาดสะอ้านทันสมัย ชวนให้คิดถึงบริษัทชั้นน�ำ
“คือว่า...ผม...ผมแค่ปวดหัวน่ะ” เขาไม่รู้จะแก้ตัวยังไงดี
“ไม่เป็นไร แต่คราวหน้าคุณโทรมาแจ้งหน่อยเถอะ ผมอยากท�ำให้ถูก
ระเบียบ” พลเดชบอกแล้วเสนอให้เมฆาพิมพ์กรอกเหตุผลลางานลงบนพื้นโต๊ะ
ท�ำงานที่เป็นหน้าจอสัมผัส
“ผมขอถามอะไรหน่อยนะ” เขาตัดสินใจโน้มตัวข้ามโต๊ะเพือ่ กระซิบใกล้หู
พลเดช ต้องการพิสจู น์อะไรบางอย่าง “เมือ่ ปีทแี่ ล้วคุณกับผม เราซิกแซกโครงการ.....
ด้วยกันหรือเปล่า”
“ซิกแซก...คุณหมายถึงโกงกินและเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองน่ะเหรอ”
“ใช่ ก็ท�ำนองนั้น” เขาพยักหน้าตอบรับเสียงเบา
พลเดชขมวดคิ้วนิ่วหน้า ท�ำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแล้วก็ชะงักไป
คิดอีกสักพัก จึงค่อยพูด
“นี่คุณพูดเล่นใช่ไหม มีข้าราชการประเทศนี้คนไหนกล้าทุจริตได้ แค่พูดก็
น่าอายแล้วนะ ใกล้เคียงการทุจริตมากสุดก็น่าจะร่วมสิบปี ตอนมีคนตั้งข้อสงสัยว่า
ข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยรั่วจนลูกชายรัฐมนตรีณรงค์ได้ประโยชน์หรือเปล่า แต่เขา
รีบออกมาก้มหัวขอโทษและประกาศลาออกทันทีเลย”
เมฆาเงียบไปราวสิบวินาที ไม่รู้จะพูดอะไรดี เพราะในประเทศไทยมิติเดิม
คงไม่มีทางเป็นไปได้
“เท่าที่ผมเข้าใจ ระบบการเมืองประเทศนี้เป็นประชาธิปไตย มีนายกและ
รัฐสภาใช่ไหม”

156 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 156 21/3/2561 BE 10:00


“แน่สิ นายกคือพวกเรา ประชาธิปไตยก�ำเนิดจากประชาชน” เขาพูด
ประโยคเดียวกับกลุม่ เด็กสาวในห้องสมุด “ท่องจ�ำกันมาตัง้ แต่เด็กไม่เห็นแปลกเลย
นี่เกิดอะไรขึ้นกับคุณหรือเปล่า”
เมฆาไม่กล้าถาม แถมยังโดนเพื่อนสอบสวนเสียแทน เพราะจับสังเกตได้
ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เมฆาเลือกกลับมาตั้งหลักที่บ้านก่อน ด้วยนึกหวั่น ไม่แน่ใจว่าถ้ามีใครรู้ว่า
เขาไม่ใช่คนของที่นี่อาจจะก่อให้เกิดปัญหา ซึ่งหลังกลับมาถึงได้ไม่นาน ก็มีคนมา
เคาะประตูเรียกหาเขา
“คุณเมฆาอยู่ในบ้านหรือเปล่า ผมต�ำรวจท้องที่นะครับ”
หัวใจเขาเต้นแรงเมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว นี่มันเกิดอะไรขึ้น ท�ำไมถึงมี
ต�ำรวจมาเคาะบ้านด้วย ความแตกแล้ว และเขาจะโดนจับในฐานะของแปลกปลอม
อย่างนั้นเหรอ
สุดท้ายเมฆาตัดสินใจรับต�ำแหน่งที่ปรึกษากระทรวงตามที่พลเดชแนะน�ำ
พูดกันตามตรง เขารู้สึกล�ำบากใจเล็กน้อย เพราะไม่อยากออกไปยืนกลางแจ้งออก
ฉากหน้าว่าเขาสนับสนุนผู้มีอ�ำนาจ แต่หนนี้ประเมินแล้วว่าน่าจะเป็นการเดิมพันที่
คุ้มค่า
ปรากฏว่าต�ำรวจเพียงแค่มาตรวจสอบตามหน้าทีเ่ ท่านัน้ เพราะพลเดชโทร
ไปปรึกษา ๑๙๑ ด้วยความเป็นห่วงเพือ่ นร่วมงาน เมือ่ เห็นว่าเมฆามีพฤติกรรมแปลก
ไปจากปกติ ดูเหมือนจะเป็นเรือ่ งปกติของพลเมืองชาติไทยในมิตนิ ี้ ทีใ่ ส่ใจคนอืน่ มาก
และหน่วยงานต่างๆ ก็พร้อมตอบสนองท�ำงานอย่างแข็งขัน
เมฆาถื อ โอกาสขอลาพั ก อ้ า งว่ า พฤติ ก รรมแปลกๆ เกิ ด จากภาวะ
ความเครียด ช่วงเวลายีส่ บิ สีช่ วั่ โมงหลังจากนัน้ เขาใช้เวลากับการตะลอนส�ำรวจเพือ่
ศึกษาประเทศไทยในมิตินี้ทุกแง่มุม
สิง่ ทีเ่ ขาพบเห็นคือผูค้ นไม่ทะเลาะแตกแยก ทัง้ ยังมีระเบียบวินยั สูงลิบ ไม่มี
คนแอบฝ่าไฟแดง ขับขี่สวนทาง ไม่มีการตั้งแผงขายของกีดขวางทางเท้า ขนส่ง

สถาบันพระปกเกล้า 157

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 157 21/3/2561 BE 10:00


สาธารณะดีเยี่ยม ปราศจากปัญหารถติด ล�ำคลองหลายสายที่ในมิติเก่าโดนถมเป็น
ถนนไปแล้วยังมีอยูแ่ ถมอยูใ่ นสภาพใสสะอาดมีปลาแหวกว่าย ต้นไม้รม่ รืน่ และได้รบั
การตัดแต่งแบบเน้นให้รม่ เงาอย่างมีศลิ ปะ สายไฟเสาไฟฟ้าถูกน�ำลงใต้ดนิ ขยะตาม
ถนนก็ไม่มี หรือถ้าหลุดรอดมาประชาชนคนแรกที่เดินผ่านจะรีบเก็บและน�ำไปทิ้ง
ลงถังขยะทันที แน่นอนว่าถังก็มีการแยกประเภทชัดเจนเพื่อให้ก�ำจัดหรือรีไซเคิล
สะดวก
มันพัฒนาจนถึงขีดสุดในเรือ่ งหลักใหญ่ จนดูเหมือนในแต่ละวัน รัฐบาลกับ
หน่วยงานราชการจะเหลือเวลาและทรัพยากรมาใช้ในการปรับปรุงแต่งเติมเรื่อง
เล็กน้อย เช่น หาทางช่วยเหลือนกพลัดถิ่นที่อพยพมาอาศัยในเขตตัวเมือง หรือคิด
แผนปรับปรุงรูปแบบเก้าอี้ในระบบขนส่งมวลชนเพื่อเตรียมรับสังคมสูงอายุ
แต่ถงึ แม้ประเทศไทยในมิตใิ หม่จะเป็นประเทศพัฒนาแล้ว แต่แทนทีเ่ มฆา
จะมีความสุข เขากลับรูส้ กึ แปลกแยกผิดทีผ่ ดิ ทาง ทีน่ บี่ ทบาทฐานะเขาไม่ได้โดดเด่น
หรือร�่ำรวยเหนือใคร เพราะความเท่าเทียมสูง
“นโยบายจากผลประชามิตปิ ระจ�ำวันที่ ๑๙ พ.ค. ๒๕๖๐ งดใช้ถงุ พลาสติก
ในวันจันทร์-ศุกร์”
หลังจากอ่านค�ำประกาศทีแ่ ล่นผ่านหน้าจอโฆษณาขนาดใหญ่บริเวณสีแ่ ยก
ร่างเมฆากระตุกเมื่อมีความคิดบางอย่างแล่นวาบในหัว นี่ไงล่ะ! ความบกพร่อง
ท่ามกลางความสมบูรณ์แบบ เขาค้นพบมันแล้ว
ตัง้ แต่ลมื ตาตืน่ ขึน้ มาในประเทศไทยแห่งใหม่ เขาผ่านตาประกาศนโยบาย
จากผลประชามิติอยู่หลายครั้ง แต่ทีแรกไม่ได้ใส่ใจนัก เห็นมันทุกที่และดูเหมือน
ประชาชนก็ตอบสนองด้วยการปฏิบัติตามอย่างไม่สงสัยหรือโต้แย้ง
เมฆารู้สึกดีใจเหลือเกินที่สามารถจับผิดที่นี่ได้ แท้จริงคงไม่ต่างจาก
ประเทศไทยแห่งเดิมของเขา ภายใต้ฉากหน้าประชาชนสุขสันต์หน้าใส คงมีบางคน
หรือบางกลุ่มคอยควบคุมชักใยออกค�ำสั่ง จูงให้ประชาชนสงบเชื่องปฏิบัติตามผ่าน
ค�ำสั่งในแต่ละวัน

158 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 158 21/3/2561 BE 10:00


การสังเกตเห็นความเป็นไปได้ดังกล่าวปลุกให้เมฆาเกิดแรงใจ เขารีบกลับ
บ้านแล้วดึงทักษะที่ชำ�่ ชองตลอดช่วงสิบปีหลัง นั่นคือปลุกปั่นสร้างกระแส หวังดึง
มวลชนเข้าข้าง เพื่อผลักดันตัวไปสู่สถานะผู้น�ำ โดยการเขียนบทความแนวเร้า
อารมณ์ว่าคนไทยก�ำลังยอมรับค�ำสั่งจากอ�ำนาจมืด จากนั้นปล่อยให้แพร่กระจาย
ไปในโลกออนไลน์
เมฆาเฝ้ารอว่าบทความดังกล่าวจะสามารถสร้างความปั่นป่วน หรือได้รับ
การตอบสนองอย่างไร ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือขัดแย้งล้วนแต่ดีทั้งสิ้น เขาเรียนรู้จาก
การใช้ชีวิตผ่านยุคสมัยแห่งความเกลียดชังว่าต่อให้เลือกน�ำเสนอตัวแนวรุนแรงจน
มีคนเกลียดชังมากมาย ก็จะได้สาวกกลับมาเช่นกัน
ผลลัพธ์นั้นผิดจากความคาดหวัง เมื่อคนไทยทั้งประเทศมีปฏิกิริยาตอบ
สนองต่างจากที่คิดมาก ส่วนใหญ่เลือกเมินเฉย มีส่วนน้อยเขียนข้อความสั้นห้วน
แนะน�ำว่าเขาควรไปศึกษาการเมืองไทยให้ดีก่อนเขียนบทความ อีกส่วนก็ออกมา
เตือนทั้งเขาและผู้รับสารว่าให้วิเคราะห์ถกเถียงอย่างมีเหตุผล ไม่ควรเน้นใช้
วาทกรรมเพื่อปลุกปั่นสร้างความเกลียดชัง
เมฆาหงุดหงิดจนแทบอยากจิกทึ้งหัวตัวเอง มันก็จริงอยู่ที่เขาไม่มีเวลา
ศึกษาข้อมูลของประเทศไทยในมิตินี้ให้ดี แต่ดูเหมือนคนอื่นก็ช่างมีสติและยึดหลัก
เหตุผลดีเหลือเกิน
อย่างไรก็ตาม ความพยายามของเขาได้รับการตอบสนองจากคนที่ไม่ได้
คาดหวังไว้ มีข้อความส่งมาทางโทรศัพท์มือถือเขียนว่า “รัฐบาลได้รับทราบความ
คิดเห็นของคุณ จึงอยากขอเชิญให้มาพบที่รัฐสภาเพื่อพูดคุยเพิ่มเติม”
ไม่ผิดจากที่คิดไว้แต่แรก การรับต�ำแหน่ง ออกฉากหน้าชัดเจนว่ายอม
สวามิภักดิ์กับฝ่ายเป็นใหญ่ที่ครองอ�ำนาจอยู่ในปัจจุบัน ส่งผลให้ชื่อเมฆาได้รับการ
วิพากษ์วจิ ารณ์ โดยเฉพาะจากพวกคนรุน่ ใหม่ทเี่ คยเชือ่ ว่าเขาเป็นวีรบุรษุ เป็นผูใ้ หญ่
ที่แตกต่างจากคนรุ่นเก่ารายอื่น

สถาบันพระปกเกล้า 159

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 159 21/3/2561 BE 10:00


“ท�ำไมลุงเมฆ ถึงท�ำอย่างนีล้ ะ่ ครับ ไปรับใช้พวกมันท�ำไม” พิชานนท์ถาม
เขาด้วยน�้ำเสียงเจ็บปวด “ไหนลุงเคยบอกว่าเชื่อเหมือนผม ต่อต้านอ�ำนาจที่ไม่ได้
มาจากการเลือกตั้ง”
“เด็กอย่างพิชไม่เข้าใจหรอก มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่”
พิชานนท์มองเขาด้วยแววตาผิดหวัง หลังเมฆาใช้ค�ำแก้ตัวตามสูตร เด็ก
หนุ่มหันหลังและเดินจากไป ชายวัยกลางคนได้แต่ถอนหายใจ จนเนตรทิพย์ผู้เป็น
แม่ต้องเดินมาขอโทษแทนลูกชาย
“ไม่เป็นไรหรอก ผมไม่ถือ...” เมฆาบอก ก่อนพูดประโยคถัดไปด้วยน�้ำ
เสียงเบาลง “ยังไงก็ลูก”
ความลับเรื่องหนึ่งที่ไม่มีใครรู้ คือแท้จริงพิชานนท์เป็นลูกของเขากับ
เนตรทิพย์ ช่วงที่ทั้งสองแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเมื่อหลายปีก่อน เมฆาจึงเอ็นดู
อีกฝ่ายเป็นพิเศษเพราะเห็นตัวเองในตัวเด็กชาย ทางที่เขาเลือกจะท�ำให้ทั้งเนตร
ทิพย์และพิชานนท์สขุ สบายไปด้วย เพียงแค่เด็กหนุม่ ยังอ่อนต่อโลกเกินกว่าจะเข้าใจ
มันเท่านั้นเอง
ถึงเป็นลูกนอกสมรส แต่ถ้าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา พิชานนท์จะได้รับ
โอกาสเหนือกว่าประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศ
เมฆาเดิ น ทางมารั ฐ สภาตามเวลานั ด หมาย เขาใช้ โ ทรศั พ ท์ มื อ ถื อ และ
แอปพลิเคชั่นทันสมัยเพื่อถ่ายทอดสดทุกย่างก้าว คิดเผื่อรอบคอบในกรณีโดน
รัฐบาลเผด็จการเล่นงาน อย่างน้อยก็จะมีภาพบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ให้แพร่กระจาย
ไปทั่วโลกออนไลน์ อาจเป็นเพราะความอัดอั้น ผลักดันให้กล้าเกินปกติ ไม่กลัวโดน
จับขังคุกหรือแม้แต่ความตาย พร้อมเสี่ยงเพื่อให้ตัวเองโดดเด่นอีกครั้ง
ทันทีเมื่อเดินเข้าไปในอาคารรัฐสภา เจ้าหน้าที่หน้าตาจิ้มลิ้มนางหนึ่งยืน
รออยู่บริเวณปากทางเข้า บอกว่าได้รับมอบหมายให้ช่วยน�ำทางเมฆาไปยังห้อง
ท�ำงานนายกรัฐมนตรี ห้านาทีถดั มาเมือ่ ถึงจุดหมายเธอเปิดประตู ผายมือให้เขาเดิน
เข้าไปตามล�ำพัง ชายวัยใกล้เกษียณสูดลมหายใจลึกปลุกความกล้า

160 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 160 21/3/2561 BE 10:00


ที่ยืนรออยู่กลางห้อง กลับเป็นคนที่เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีโอกาสได้เจอ
หน้าที่นี่ พิชานนท์...ลูกชายนอกสมรส
“เป็นไปได้ยังไง...”
“สวัสดีครับ คุณเมฆา ทางเราเลือกใช้รา่ งนีเ้ พราะพิจารณาข้อมูลทีส่ ง่ ผ่าน
หัวสมองมา ว่าคุณจะให้การตอบสนองได้ดีที่สุด” เด็กหนุ่มทักทายเขาด้วยน�ำ้ เสียง
เป็นมิตร
เมือ่ ชายวัยกลางคนตัง้ ใจพิจารณาให้ดจี งึ เห็นว่าร่างพิชานนท์ตรงหน้าเป็น
เพียงภาพสามมิติที่เกิดจากเครื่องฉายบนเพดานห้องเท่านั้น ไม่ใช่มนุษย์ที่มีเลือด
เนื้อลมหายใจจริง
“คุณ...คุณเป็นตัวอะไร”
“ผมคือนายกรัฐมนตรี ไม่สิ พูดแบบนี้คุณอาจจะไม่เข้าใจ เท่าที่เราได้รับ
ข้อมูลมา ดูเหมือนสมองคุณจะได้รับความกระทบกระเทือน จนลืมข้อมูลพื้นฐาน
หลายอย่ า งของประเทศนี้ ดั ง นั้ น เราจะอธิ บ ายให้ ล ะเอี ย ดขึ้ น ผมคื อ ระบบ
คอมพิวเตอร์ของรัฐสภาซึ่งท�ำหน้าที่นายกรัฐมนตรีภายใต้การมอบอ�ำนาจจาก
ประชาชนอีกที”
ภาพลวงตาของพิชานนท์ชว่ ยอธิบายหลักการเมืองการปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตยของที่นี่ให้เขาฟังอย่างละเอียด ไทยที่พัฒนามาถูกทาง จนกลายเป็น
ประเทศชั้นแนวหน้าของโลก ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจแทบทุกอย่าง
ตัง้ แต่เข้าสหัสวรรษใหม่ได้ไม่นาน พลเมืองอายุ ๑๘ ปีขนึ้ ไปสามารถใช้สทิ ธิโหวตลง
คะแนนผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน่ ส่วนห้าปีหลังสุดพัฒนาไปถึงขัน้ ใช้ชพิ ประจ�ำ
ตัวประชาชนที่ฝังอยู่ในหัวสมองเพื่อส่งความคิดเห็น ลงคะแนนเสียง ร่วมกันตัดสิน
ใจในเรื่องต่างๆ ได้ในระดับวันต่อวัน
“หมายความว่านายกรัฐมนตรีในปัจจุบนั คือผลรวมของคนไทยทัง้ ประเทศ
อย่างนั้นเหรอ” เขาคิดตามค�ำพูดอีกฝ่าย

สถาบันพระปกเกล้า 161

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 161 21/3/2561 BE 10:00


“ถูกต้องครับ ตามหลักประชาธิปไตย เสียงทุกคนเท่าเทียมกัน เมื่อมีการ
ตัดสินใจเรื่องใด ระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐสภาอย่างผมจะท�ำหน้าที่เป็นศูนย์กลาง
รวบรวมความคิด สรุปผลลงคะแนนของประชาชนแล้วดูว่าเสียงข้างมาก เลือก
ตั ด สิ น ใจไปทางใด อย่ า งเช่ น ล่ า สุ ด มี ป ระชาชน ๗๐% เห็ น ด้ ว ยกั บ การงดใช้
ถุงพลาสติกในวันจันทร์ถึงศุกร์ในขณะที่ ๒๐% ไม่เห็นด้วย ส่วน ๑๐ % โนโหวต
ทางรัฐสภาจึงประกาศนโยบายเลิกใช้ครับ”
เมฆาตื่นตะลึงกับความจริงตรงหน้า แทนที่เขาจะมีโอกาสได้กระชาก
หน้ากากผู้น�ำเผด็จการ เรื่องราวกลับหักมุมไปอีกทาง นั่นคือประเทศไทยแห่งนี้มี
ระบบการเมืองการปกครองเป็นประชาธิปไตยชนิดประชาชนมีส่วนร่วมในทุกการ
ตัดสินใจ โดยผู้แทนในทุกกระทรวงและข้าราชการคอยท�ำหน้าที่เสมือนแขนขา
สนับสนุนแปรสภาพความคิดเหล่านั้นให้ออกมาเป็นรูปธรรม
“ผมไม่อยากจะเชือ่ ว่าจะเป็นไปได้...” เขาพูดเสียงสัน่ “ทีป่ ระเทศไทยเจริญ
ก้าวหน้าแบบนี้ เป็นผลจากประชาชนคนธรรมดาอย่างนั้นเหรอ”
“ถูกต้อง ไม่เห็นแปลกเลยนี่ครับ” นายกรัฐมนตรีตอบ
ยามมองร่างพิชานนท์ตรงหน้า เมฆาก็คิดได้ว่าขณะที่เขาอาศัยอยู่ในมิตินี้
ในหัวคงมีชิพถ่ายทอดความคิดเห็น แสดงสิทธิเหมือนประชาชนชาวไทยคนอื่น
“ท�ำไมทุกคนถึงเลือกทางที่ถูก เป็นคนดีเลือกเสียสละให้ประเทศได้ มัน
เกิดขึ้นได้ยังไง” เขาถามเสียงแหบแห้ง
“คุณเข้าใจคลาดเคลื่อนไปครับ” นายกรัฐมนตรีตอบข้อข้องใจ “ระบบ
การเมืองการปกครอง ไม่ได้ผูกโยงกับเรื่องความดีในระดับปัจเจกบุคคลแต่เป็นผล
รวมพฤติกรรมสังคมโดยรวม ประชาชนทุกคนเพียงเข้าใจหลักการพื้นฐาน พวกเขา
ร่วมกันตัดสินใจเลือกสิง่ ทีด่ ที สี่ ดุ ให้สงั คม ก็จะส่งผลให้คณ
ุ ภาพชีวติ ในสังคมดี มีความ
สุขไปด้วย เป็นการท�ำเพื่อตัวเองตามหลักเหตุและผลเท่านั้นเองครับ”
เมฆายอมรับว่าไม่เคยคิดถึงแง่มุมนี้มาก่อนเลย เขาเคยชินกับสังคมแบบ
มือใครยาวสาวได้สาวเอา จนไม่อยากเชือ่ ว่าถ้าสังคมเลือกเดินไปอีกทาง ผลลัพธ์จะ
แตกต่างออกไปขนาดนี้

162 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 162 21/3/2561 BE 10:00


ฉับพลันชายวัยกลางคนรู้สึกสูญสิ้นเรี่ยวแรง ทรุดตัวลงกับพื้น มองภาพ
พิชานนท์ซึ่งถ่ายทอดจากหัวสมองแล้วตระหนักว่าเด็กหนุ่มต่างหากควรเป็นคนได้
รับโอกาสมาอาศัยอยูท่ นี่ ี่ แทนทีค่ นอย่างเขาทีย่ งั ติดค้างอยูก่ บั คติความเชือ่ เก่า แปลก
แยกกับระบบที่พัฒนาแล้วจนแทบไม่อยากมีลมหายใจอีกต่อไป

ปองวุฒิ รุจิระชาคร
เป็นนักเขียนทีม่ ผี ลงาน
หลากทัง้ วรรณกรรมเข้มข้นและ
แนวมหาชนเกื อ บ ๑๐๐ เล่ ม
เกิ ด ในเดื อ นเมษายน พ.ศ.
๒๕๒๕ เป็นผู้ได้รับรางวัลหรือ
เข้ารอบสุดท้ายประกวด
วรรณกรรมจากหลายเวทีเช่น
พานแว่ น ฟ้ า สุ ภ าว์ เทวกุ ล ฯ
ตะวันส่องอะวอร์ด นายอินทร์
อวอร์ด เซเว่นบุ๊คอะวอร์ด เรื่อง
สั้นวิทยาศาสตร์ รวมทั้งเป็นผู้
เข้ารอบรางวัลซีไรต์อะวอร์ดสองหน ผลงานบางชิ้นทั้งเรื่องสั้นและนิยาย
ได้รับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศ รวมทั้งมีผลงานขายลิขสิทธิ์ดัดแปลง
เป็นสื่ออื่นอย่างเช่นละครโทรทัศน์

สถาบันพระปกเกล้า 163

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 163 21/3/2561 BE 10:00


ความจ�ำเป็น
ของการหยุดและถอย
พยุงศักดิ์ แบบอย่าง

“ ปรี๊ด..... ถอย... ถอย... ปิ๊ด... พอ...” ทั้งสัญญาณนกหวีด สัญญาณมือ และ


การออกปากก�ำกับการถอยของ “สังวาลย์” พนักงานรักษาความปลอดภัย
วัยสีส่ บิ กว่าๆ ช่วยให้รถส่งนมค่อยๆ ถอยหลังออกจากประตูโรงเรียนได้อย่างราบรืน่
ก่อนที่คนขับจะเร่งเครื่องเพื่อมุ่งหน้าไปส่งนมยังโรงเรียนอื่นต่อไป
สังวาลย์ หันไปขอบคุณคนขับรถคันอืน่ ๆ อีก ๓ คัน ทีส่ ละเวลาจอดรอการ
ถอยของรถส่งนม ด้วยการวันทยาหัตถ์อย่างเข้มแข็ง
ทัง้ เครือ่ งแบบทีแ่ ต่งมาอย่างเต็มยศ โดยเฉพาะเสือ้ และกางเกงสีเขียวขีม้ า้
เข็มขัดสนามเส้นใหญ่ทมี่ กี ระบองไม้สดี ำ� และกุญแจมือห้อยอยูค่ นละข้าง หมวกทรง
เดียวกันกับของสารวัตรทหารขาดแต่ตัวอักษรย่อ ส.ห. รวมถึงรองเท้าคอมแบ็ทที่
ขัดเสียเงาวับจนแมลงวันทีบ่ นิ มาเกาะอาจลืน่ ไถลเอาง่ายๆ หากดูเผินๆ ก็คล้ายทหาร
อยูเ่ หมือนกัน จะต่างกันบ้างก็ตรงการไม่มเี ครือ่ งหมายบอกยศและเหรียญตราต่างๆ
รวมถึงอาร์มที่แขนซึ่งบ่งบอกต้นสังกัดว่าเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่ง
เพียงเท่านั้น ทว่าความจริงจังตั้งใจและความภูมิใจในเครื่องแบบที่เขาสวมใส่นั้นมี
อยูอ่ ย่างเต็มเปีย่ ม ส่วนหนึง่ ก็นา่ จะเป็นเพราะความใฝ่ฝนั ตัง้ แต่วยั เยาว์ของสังวาลย์

164 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 164 21/3/2561 BE 10:00


สถาบันพระปกเกล้า 165

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 165 21/3/2561 BE 10:00


ซึ่งก็น่าจะใกล้เคียงกับความฝันของเด็กชายชาวไทยทั่วไป หากมีการท�ำโพลส�ำรวจ
ความนิยมจากเด็กผู้ชายทั่วประเทศ อาชีพทหารน่าจะเป็นอาชีพที่ได้รับความนิยม
อันดับต้นๆ
แต่กน็ นั่ ล่ะ ใช่วา่ ทุกคนทีจ่ ะสามารถท�ำความฝันให้เป็นจริงได้ ทีใ่ กล้เคียง
กับความฝันที่จะได้อยู่ในเครื่องแบบมากที่สุดก็คือการสมัครเป็นทหารเกณฑ์ ๒ ปี
เมือ่ อายุถงึ เกณฑ์ โดยไม่จบั ใบด�ำใบแดง สังวาลย์ได้สวมเครือ่ งแบบทหารสมความ
ปรารถนา แต่ความฝันทีจ่ ะแต่งชุดเครือ่ งแบบทหารกลับบ้านไปให้พอ่ แม่ญาติพนี่ อ้ ง
ได้สมั ผัสความภาคภูมใิ จของเขา ถูกลดทอนไปด้วยเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ๒๕๓๕
ปีเดียวกันกับที่สังวาลย์เป็นทหารเกณฑ์พอดิบพอดี แม้หน่วยงานต้นสังกัดและตัว
เขาจะไม่ได้มสี ว่ นเข้าไปร่วมในเหตุการณ์ใดๆ ช่วงทีฝ่ นุ่ ควันแห่งความสูญเสียยังฟุง้
ตลบอยู่ เขาได้รบั ค�ำแนะน�ำจากทหารรุน่ พีว่ า่ หากจะกลับบ้านไปเยีย่ มพ่อแม่ญาติ
พี่น้อง ก็ให้ถอดเครื่องแบบแล้วใส่ชุดพลเรือน น่าจะดูเหมาะสมกับสถานการณ์
มากกว่า ซึ่งถ้ามีการท�ำโพลส�ำรวจความนิยมจากเด็กผู้ชายทั้งประเทศ ณ เวลานั้น
คะแนนความนิยมในอาชีพทหารอาจตกต�ำ่ ลงไปบ้าง
หลังปลดประจ�ำการ สังวาลย์พยายามสอบเข้านักเรียนนายสิบอีกหลายครัง้
แต่ด้วยหัวที่ไม่ค่อยเอาไหน จึงจ�ำใจต้องโบกมือลาความฝันของตัวเอง แล้วหันหน้า
สู่ความเป็นจริงด้วยการสมัครเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย และยึดมั่นกับ
อาชีพนีม้ ายีส่ บิ กว่าปีเห็นจะได้ เขาวนเวียนกับการถูกให้ไปประจ�ำตามธนาคาร ตาม
บริษัทห้างร้านทั่วไปอยู่หลายปี จนมา ๖ ปีหลัง ที่ได้ย้ายมาประจ�ำยังโรงเรียนแห่งนี้
แม้รายได้จากอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัยจะไม่ได้มากมายอะไร
แต่มันก็พอเพียงที่จะส่งไปให้เมียและลูกชายที่อยู่ต่างจังหวัด ให้ได้ใช้อยู่ ใช้กิน
ใช้เรียนหนังสือได้แบบไม่เดือดร้อนนัก
รถทั้ง ๓ คัน ที่จอดรอการถอยของรถส่งนมค่อยๆ เคลื่อนที่ผ่านหน้า
โรงเรียนไปอย่างช้าๆ สีหน้าของคนขับรถคันที่ ๑ กับคันที่ ๒ ดูจะไม่คอ่ ยเคร่งเครียด
กับการต้องจอดรอรถส่งนมสักเท่าใด ผิดกับคนขับรถคันที่ ๓ ที่ลดกระจกฝั่งคนขับ
ลงขณะก�ำลังจะผ่านสังวาลย์ไป

166 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 166 21/3/2561 BE 10:00


“เปิดเทอมวันแรกก็ได้เรือ่ งเลยนะ” เสียงทีด่ งั ออกมาจากภายในรถบ่งบอก
ระดับอารมณ์ของคนขับได้เป็นอย่างดี แม้สังวาลย์จะรู้สึกไม่ค่อยพอใจอยู่บ้าง แต่ก็
ไม่ได้โต้แย้งใดๆ กลับไป เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกและก็คงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย นับตั้งแต่
บริษทั รักษาความปลอดภัยต้นสังกัดส่งให้มาประจ�ำทีโ่ รงเรียนแห่งนี้ สังวาลย์มกั จะ
โดนกระแนะกระแหนพาลไปถึงต่อว่าต่อขานจากบรรดาคนขับรถบางคนที่ต้องใช้
เส้นทางผ่านหน้าโรงเรียนจนชินชาไปเสียแล้ว แรกๆ ก็เคยตอบโต้กลับไปว่า เขาไม่ใช่
เจ้าของโรงเรียน ถ้าไม่พอใจอะไรก็ให้เข้าไปฟ้องเจ้าของโรงเรียนข้างในเอาเอง ไม่ใช่
มาด่าฝากผ่านฟ้าผ่านลมหรือฝากตัวเขาเช่นนี้ แต่ก็ไม่เคยมีใครเลยสักคนที่จะท�ำ
ตามอย่างสังวาลย์ว่า
นอกจากหน้าทีร่ กั ษาความปลอดภัย คอยตรวจตราคนเข้าออก และหน้าที่
ในการอ�ำนวยความสะดวกด้านการจราจรหน้าโรงเรียนแล้ว การต้องรองรับอารมณ์
ของคนขับรถบางคนก็เป็นอีกหน้าที่หนึ่งซึ่งสังวาลย์ไม่ค่อยเต็มใจแต่ก็ทนมาได้กว่า
๖ ปี เข้าให้แล้ว
การที่โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนเอกชน แม้จะไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังเป็น
ทีร่ จู้ กั อย่างกว้างขวางของคนทัว่ ไป แต่กม็ มี าตรฐานการเรียนการสอนเป็นทีย่ อมรับ
ของคนในละแวกนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองที่พอจะมีรายได้ระดับปานกลาง ส่งลูกหลาน
มาเรียนนับรวมกันทั้งอนุบาลและประถมแล้ว ก็เกือบ ๕๐๐ คนนั่นเลยทีเดียว
นับว่ามากเอาการอยู่เมื่อเทียบกับต�ำแหน่งที่ตั้งของโรงเรียนที่อยู่ลึกเข้ามาในซอย
ราว ๒๐๐ เมตร
ความลึกคงไม่ใช่ปัญหา แต่ความกว้างของซอยที่พอจะให้รถสองคัน
สวนกันไปมาได้อย่างพอดีๆ นัน่ ต่างหากทีท่ �ำให้สงั วาลย์ตอ้ งยุง่ ยากล�ำบากล�ำบนใน
การปฏิบัติหน้าที่ การเป็นซอยตัน แถมบางช่วงของซอยมีรถของชาวบ้านแถวนี้มา
จอดทิ้งไว้ข้างทาง ท�ำให้บางช่วงเหลือเพียงแค่เลนเดียว นั่นยิ่งยุ่งยากเพิ่มเข้าไปอีก
โดยเฉพาะเวลาที่รถมาประดังกันอย่างในเช้าวันแรกของการเปิดเทอมเช่นนี้
การก�ำกับการถอยให้กบั รถส่งนม ซึง่ ท�ำให้รถติด ๓ คันก่อนหน้านี้ เทียบกัน
ไม่ได้เลยกับสภาพการจราจรนับจากนีเ้ ป็นต้นไป สังวาลย์เหลือบไปมองนาฬิกาข้อมือ

สถาบันพระปกเกล้า 167

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 167 21/3/2561 BE 10:00


ที่ตอนนี้บอกเวลาเจ็ดโมงสิบห้านาที แล้วรีบเดินกลับไปประจ�ำต�ำแหน่งที่หน้า
โรงเรียนอีกครั้ง เขาไม่ลืมที่จะหยิบนกหวีดสีขาวคู่กายมาสะบัดน�้ำลายที่คั่งค้างอยู่
ข้างในออกไป
นกหวีดตัวนี้ สังวาลย์หาซือ้ มาด้วยเงินของตัวเอง ส่วนนกหวีดทีบ่ ริษทั แจก
ให้ดูเหมือนเสียงของมันจะดังไม่เพียงพอต่อความต้องการของสังวาลย์ นกหวีดนับ
เป็นอุปกรณ์ส�ำคัญในการท�ำงานทีใ่ ช้งานได้จริง ใช้เป็นประจ�ำ อานุภาพของมันช่าง
ทรงพลัง สามารถสะกดให้รถเดินหน้า ถอยหลัง หรือหยุดก็ยังได้ ทว่าในบางครั้งก็
ต้องแลกมาด้วยความไม่พอใจของผู้ที่ถูกมันสะกดเช่นกัน
เมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ เคยมีผู้ปกครองของเด็กในโรงเรียนที่หวังดีเอา
นกหวีดมาให้สังวาลย์ ตั้งใจให้ใช้สลับสับเปลี่ยนกับนกหวีดคู่กาย แต่ด้วยขนาด
อันใหญ่โตของนกหวีดทีใ่ หญ่ราวก�ำปัน้ ของเขา บวกกับสีของนกหวีดและสายคล้องคอ
ทีเ่ ป็นลายธงชาติ ท�ำเอาสังวาลย์ตอ้ งออกปากปฏิเสธไป แม้จะเป็นแค่พนักงานรักษา
ความปลอดภัย แต่การด�ำรงไว้ซงึ่ ความเป็นกลางน่าจะท�ำให้การท�ำงานของเขาราบรืน่
และเข้ากับทุกคนได้ดีกว่า ใช่แต่จะปฏิเสธนกหวีดสีธงชาติ ผู้ปกครองอีกรายที่หวังดี
น�ำพัดรูปตีนสีแดงมาให้หวังคลายร้อน ก็ได้รับการปฏิเสธไปเช่นกัน
นอกจากนกหวีดแล้ว ทีข่ าดไม่ได้กค็ อื กระบองกับกุญแจมือ แต่จะว่าไปเจ้า
สองสิ่งที่ว่าก็เป็นเพียงแค่เครื่องประดับที่ช่วยให้เครื่องแบบพนักงานรักษาความ
ปลอดภัยชัดเจนขึ้นมากกว่า เพราะตลอดอาชีพการเป็นพนักงานรักษาความ
ปลอดภัย สังวาลย์ไม่เคยใช้งานกระบองกับกุญแจมือเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“ปรีด๊ ดด...” สิน้ เสียงนกหวีดยาว รถยนต์คนั หนึง่ ก็แล่นมาจอดหน้าประตู
โรงเรียน เด็กชายคนหนึ่งก้าวขาลงมาจากรถ ท่าทางดูจะยังไม่ค่อยตื่นสนิทดีนัก
คนขับรถหน้าตาสะสวยสมวัย ลดกระจกลง แล้วตะโกนออกมาเบาๆ จากในรถว่า
“ตั้งใจเรียนนะลูก แล้วตอนเย็นแม่จะมารับ” เด็กชายพยักหน้ารับหงึกๆ ใช้นิ้วมือ
เขี่ยขี้ตาออกเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าโรงเรียน
“ปิด๊ ๆ ...” สังวาลย์เป่านกหวีดสัน้ กระชับติดกันสองครัง้ ท�ำเอาคุณแม่ตอ้ ง
รีบเร่งเครื่องรถออกไป

168 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 168 21/3/2561 BE 10:00


เหตุที่สังวาลย์ต้องเร่งให้รถเคลื่อนออกไปก็ด้วยว่า ความห่วงหาอาทร
ระหว่างแม่ลูกคู่นี้ อาจท�ำให้รถที่ตามมาข้างหลังชะลอตัวหรือติดสะสมต่อเนื่องได้
และนั่นอาจน�ำมาซึ่งความหงุดหงิดหรืออาจถึงขั้นไม่พอใจจากคนขับรถคันอื่นๆ
บางคน ที่ไม่ได้มีลูกหลานเรียนอยู่ในโรงเรียนนี้ก็เป็นได้
การหยุดรถเพือ่ ส่งบุตรหลานเข้าโรงเรียน ถ้าเป็นครอบครัวทีต่ นื่ ตัว เตรียม
พร้อม มีวินัย ใส่ใจผู้อื่น ความต่อเนื่องของการจราจรก็จะไม่ติดขัดหรือหยุดชะงัก
นานมากจนเกินไปนัก แต่หากเป็นครอบครัวที่ไม่ค่อยเร่งรีบในชีวิต เรื่อยๆ เปื่อยๆ
ขี้หลงขี้ลืม ละเมียดละไมในการบอกลากันและกัน ความล่าช้าในการส่งบุตรหลาน
ก็จะตามมา บางครัง้ แทนทีม่ าถึงหน้าโรงเรียนแล้วรีบเปิดประตูลงจากรถเข้าโรงเรียน
ไป กว่าจะบอกลากัน กว่าจะหอมแก้มซ้ายขวา กว่าจะสั่งเสียกันจบ ก็กินเวลาโดย
ไม่จ�ำเป็น แถมบางคันต้องวุ่นวายช่วยกันหาสมุด หนังสือ การบ้าน งานฝีมือที่ครู
ให้ทำ� ผ้าพันคอ หมวกลูกเสือ และอีกหลายๆ อย่างที่ควรจะเตรียมตัวมาให้พร้อม
ก่อนหน้า นั่นยิ่งท�ำให้การจราจรติดขัดมากขึ้นเข้าไปอีก แม้กระทั่งพลังนกหวีดของ
สังวาลย์ก็ไม่สามารถช่วยแก้ไขสถานการณ์เหล่านี้ได้
การประชุมผู้ปกครองช่วงก่อนเปิดเทอม เจ้าของโรงเรียน หรือจะเรียก
ต�ำแหน่งอย่างเป็นทางการว่าผู้อ�ำนวยการ ก็ได้หยิบยกเรื่องนี้มาท�ำความเข้าใจกับ
บรรดาผู้ปกครองเกี่ยวกับการจอดรถรับส่งบุตรหลานหน้าโรงเรียนตามที่สังวาลย์
ได้เสนอแนะ แต่ก็แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น ยังดีอยู่บ้างที่หลาย
ครอบครัวเลือกใช้มอเตอร์ไซค์ เพราะหากเป็นรถยนต์ทั้งหมด ปัญหาการจราจร
ติดขัดหน้าโรงเรียนคงจะหนักหนาสาหัสกว่านี้เป็นหลายเท่า
“ปีน๊ นน...” เสียงแตรรถยนต์จากรถคันหนึง่ ทีด่ เู หมือนเจ้าของรถจะบีบแตร
แช่ไว้นานเกินความจ�ำเป็น ท�ำเอาสังวาลย์ที่ตอนนี้ก�ำลังโบกมือสลับกับเป่านกหวีด
เป็นพัลวันต้องรีบหันไปมอง รถยนต์คันนี้ก�ำลังมุ่งหน้าจะออกไปทางหน้าปากซอย
สภาพอากาศกลางเดือนพฤษภาคมที่ว่าร้อนอยู่แล้วยิ่งร้อนเพิ่มมากขึ้น
เมื่อสังวาลย์พบว่ารถยุโรปคันใหญ่ราคาหลายล้านที่ส่งเสียงแตรกระหึ่มออกมาอยู่
ในตอนนี้ เป็นรถของขาประจ�ำที่มักจะแสดงความไม่พอใจกับสภาพรถติดหน้า

สถาบันพระปกเกล้า 169

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 169 21/3/2561 BE 10:00


โรงเรียนอันมีสาเหตุเนื่องมาจากพ่อแม่ผู้ปกครองที่ขับรถมาส่งลูกเรียนที่โรงเรียน
แห่งนี้นั่นเอง
“ปิ๊ดๆ ๆ ... ปิ๊นๆ ๆ ...” สถานการณ์ในตอนนี้ที่ท�ำได้ คือเร่งระบายรถ
ด้านหน้าโรงเรียนให้เร็วที่สุด สังวาลย์เป่านกหวีดดังและถี่ขึ้น สลับกับเสียงบีบแตร
ทีย่ งั คงดังออกมาอย่างต่อเนือ่ ง หากจับเวลาแล้ว รถคันนีน้ า่ จะเสียเวลาราว ๑ นาที
แต่ดูเหมือนมันจะเป็น ๑ นาทีที่มีค่ามหาศาลและไม่ควรค่าแก่การที่จะต้องเสีย
มันไปในความคิดของผู้เป็นเจ้าของรถ
รถยุโรปคันหรูหยุดตรงหน้าสังวาลย์แทนที่จะมุ่งตรงไปยังหน้าปากซอย
เหมือนที่ตั้งใจแต่แรก และทันทีที่กระจกด้านคนขับลดลง ชายคนขับรถก็สาดเสียง
ต่อว่าต่อขานออกมาให้สังวาลย์รับไปเต็มๆ หลายดอก แต่ที่พอจับใจความได้ก็
เห็นจะเป็นสองดอกสุดท้าย
“จะสร้างโรงเรียนท�ำไมมาสร้างในซอยแบบนี้ คิดไม่เป็นกันหรือไงวะ...
เดี๋ยวถ้าลูกกูไปโรงเรียนสายนะมึง... น่าดู” หลังใช้เวลาต่อว่าต่อขานสังวาลย์ราว
๑๕ วินาที คนขับก็รีบเร่งเครื่องออกไป รวมเวลาที่รถคันนี้ต้องเสียเวลาไปทั้งสิ้น
๑ นาที ๑๕ วินาทีโดยประมาณ เด็กผู้ชายในเครื่องแบบนักเรียนที่นั่งเล่นเกมใน
โทรศัพท์มือถืออยู่บนเบาะหลัง ถูกชายคนขับรถใช้อ้างอิงความเร่งรีบที่จะต้องออก
จากซอยเพือ่ ส่งลูกไปโรงเรียนอืน่ ทีอ่ ยูไ่ กลออกไป เวลามีคา่ ไม่เคยคอยใคร แต่สำ� หรับ
เวลา ๑ นาที หากจะต้องเสียไปบ้างก็ไม่น่าจะท�ำให้ต้องถึงขั้นโมโหโกรธากันขนาดนี้
สังวาลย์รู้สึกไม่สบอารมณ์ โดยเฉพาะการขึ้น วะ โว้ย มึง กู กับเขา หากจะต่อว่ากัน
ด้วยภาษาของสุภาพชนก็พอท�ำเนา หรือเครื่องแบบพนักงานรักษาความปลอดภัย
จะไม่มีเกียรติ ไม่มีศักดิ์ศรีพอ หากเขาเป็นทหารและอยู่ในเครื่องแบบทหาร อาชีพ
ที่เขาใฝ่ฝันอยากจะเป็นตั้งแต่วัยเด็ก ไม่แน่ใจนักว่าค�ำพูดที่ดูจะละเมิดศักดิ์ศรีมาก
เกินความจ�ำเป็นเช่นนี้ จะมีโอกาสเข้าหูให้ได้ยินบ้างหรือเปล่า สังวาลย์นึกน้อยใจ
แต่เมื่อนึกย้อนกลับไปในคราวเป็นทหารเกณฑ์ปีแรก ที่ไม่มีโอกาสสวมเครื่องแบบ
ทหารกลับไปเยีย่ มบ้านหลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ๒๕๓๕ เขาจึงคลายความน้อยใจ
ลง เครื่องแบบและอาชีพไม่น่าจะเกี่ยวข้อง แต่น่าจะเป็นสามัญส�ำนึกของแต่ละคน

170 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 170 21/3/2561 BE 10:00


มากกว่า ความน้อยใจคลีค่ ลายลงไปบ้าง แต่ความไม่พอใจยังหลงเหลืออยูพ่ อสมควร
“ไม่ใช่โรงเรียนกูโว้ย มีอะไรท�ำไมไม่ไปบอกข้างในวะ” สังวาลย์พึมพ�ำกับ
ตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่ได้โต้ตอบชายคนขับรถคันนั้นในทันที แต่รอจนรถได้
เคลื่อนออกไปไกลพอที่จะไม่ได้ยินเสียงของเขาแล้ว จึงค่อยระบายความอัดอั้น
ตันใจออกมาผ่านฟ้าผ่านลมไปตามเรื่อง ผู้ปกครองที่เดินอยู่แถวนั้นหันมาสบตา
พร้อมพยักหน้าพลางส่งยิ้มให้เพื่อเป็นก�ำลังใจกับเขา นั่นพอจะท�ำให้คลายความ
โมโหลงได้บ้าง
แม้จะมีโรงเรียนอยูใ่ กล้บา้ น แต่กใ็ ช่วา่ ทุกคนในซอยจะต้องส่งลูกหลานมา
เรียนโรงเรียนนี้เสมอไป คนที่มีรายได้น้อยก็เห็นจะต้องพึ่งโรงเรียนรัฐบาลที่อยู่
ฝั่งตรงข้ามกับซอยนี้ ส่วนผู้ที่มีรายได้มากหน่อย โรงเรียนเอกชนธรรมดาๆ แห่งนี้
ก็คงไม่สมศักดิ์ศรีและฐานะของตัวเอง เช่นเดียวกับชายคนขับรถเมื่อสักครู่
ความจริงโรงเรียนแห่งนีส้ ร้างมาเกือบ ๓๐ ปีแล้ว ก่อนทีซ่ อยนีจ้ ะคับคัง่ ไป
ด้วยบ้านเรือนและผู้คน ซึ่งส่วนใหญ่จัดอยู่ในฐานะปานกลาง แต่ก็มีหลายหลังที่จัด
อยู่ในข่ายร�่ำรวย อย่างเจ้าของรถคันที่เพิ่งต่อว่าสังวาลย์ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งนอกจาก
การต่อว่าผ่านสังวาลย์ที่ดูไม่ค่อยถูกต้องตรงประเด็นแล้ว การระบุว่าท�ำไมต้องมา
สร้างโรงเรียนอยูใ่ นซอย ก็ไม่นา่ จะถูกต้องและตรงประเด็นเช่นกัน เพราะขณะสร้าง
โรงเรียน ซอยนี้ยังมีผู้คนอาศัยอยู่ไม่มาก เจ้าของรถคันที่เพิ่งต่อว่าสังวาลย์ก็เพิ่งมา
ปลูกบ้านทีหลังด้วยซ�้ำ จะว่าไปแล้วคนที่คิดไม่เป็นคงไม่ใช่สังวาลย์หรือเจ้าของ
โรงเรียน แต่น่าจะเป็นเจ้าของรถคันนั้นมากกว่า เพราะถ้าคิดเป็นก็คงไม่เลือกมา
ปลูกบ้านในซอยที่มีโรงเรียนตั้งอยู่ ซึ่งเขาคิดว่ามันเป็นต้นเหตุที่ทำ� ให้รถติด
หลังจากนั้นชั่วโมงเร่งด่วนในช่วงเช้าก็ผ่านพ้นไป นับว่าไม่เลวนักกับเช้า
วันเปิดเทอมวันแรก ถ้าไม่นบั เจ้าของรถยุโรปคันหรูคนั นัน้ แม้จะยังหลงเหลือความ
ขุ่นเคืองอารมณ์อยู่บ้าง แต่สังวาลย์ก็พยายามไม่เก็บเอามาคิดให้เปลืองสมองมาก
เกินความจ�ำเป็น เพราะถึงอย่างไรเหตุการณ์แบบนีก้ จ็ ะต้องเกิดขึน้ อีกอย่างแน่นอน
นอกเสียจากว่าสังวาลย์จะได้รับค�ำสั่งจากบริษัทฯ ให้ย้ายไปประจ�ำที่อื่น หรือไม่ก็
เจ้าของรถคันนั้นย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่น

สถาบันพระปกเกล้า 171

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 171 21/3/2561 BE 10:00


การเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย และต้องคอยอ�ำนวยความสะดวก
ด้านการจราจรหน้าโรงเรียน ก็ใช่วา่ จะมีแต่เรือ่ งทีท่ �ำให้รสู้ กึ ท้อแท้ เหนือ่ ยหน่ายกับ
ค�ำพูดของคนบางจ�ำพวกแต่อย่างเดียว
ปลาหมึกแห้งจากภาคใต้ ล�ำไยกับแคบหมูจากภาคเหนือ หม�ำ่ เนือ้ จากภาค
อีสาน ที่ผู้ปกครองบางรายติดไม้ติดมือมาฝากด้วยความถูกอัธยาศัยใจคอกัน พอที่
จะท�ำให้สังวาลย์กลับมารู้สึกดีกับอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัยได้อีกครั้ง
นอกจากความมีระเบียบวินัยที่ติดตัวเป็นนิสัยมาตั้งแต่เป็นทหารเกณฑ์
ความมุ่งมั่นตั้งใจในการท�ำงานตามหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งผู้ปกครอง ครู นักเรียน
ต่างรับรู้และสัมผัสได้ อีกส่วนส�ำคัญก็คือ เขาเป็นคนที่ยึดมั่นในความเป็นกลางได้ดี
โดยเฉพาะการควบคุมการจราจรหน้าโรงเรียน ที่บางครั้งจะต้องมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
ยอมหยุดรถ เพื่อให้อีกฝ่ายไปก่อน หรือแม้กระทั่งจะต้องยอมถอยรถหลบข้างทาง
เพือ่ หลีกให้อกี ฝ่ายไปก่อนในกรณีทจี่ ำ� เป็นจริงๆ จะว่าไปแล้วหากผูท้ เี่ ข้ามาท�ำหน้าที่
ตัวกลางในเรื่องนี้เป็นต�ำรวจจราจรหรือเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ซึ่งมีกฎหมาย มีหน้าที่
และมีอ�ำนาจบังคับใช้อยู่ในมือ ผู้ใช้รถทั้งหลายจ�ำเป็นต้องปฏิบัติตาม แต่กับสังวาลย์
ที่เป็นเพียงพนักงานรักษาความปลอดภัย ขอบเขตและอ�ำนาจหน้าที่ย่อมมีอย่าง
จ�ำกัด ทว่าเขามักจะประสบความส�ำเร็จในการคลีค่ ลายปัญหาเหล่านีด้ ว้ ยการขอร้อง
อย่างนอบน้อม โดยไม่ใช้การบังคับหรืออ�ำนาจพิเศษแต่อย่างใด เมือ่ ทุกอย่างผ่านพ้น
เขาไม่เพียงแต่วันทยาหัตถ์ให้กับผู้ที่ยอมจอดหรือยอมถอย ถึงขั้นยกมือไหว้ก็มีอยู่
บ่อยครั้ง รวมถึงการยอมทนโดนด่าอย่างเหตุการณ์เมื่อเช้านี้
เมื่อผนวกเข้ากับอัธยาศัยใจคอที่ไม่มีพิษมีภัยกับใคร ของฝากของก�ำนัล
จากทัง้ ครูและผูป้ กครองจึงมีมาไม่ขาดสาย ประหยัดค่ากับข้าวตอนเช้ากับตอนเย็น
ไปได้ไม่น้อย ส่วนข้าวกลางวันอาศัยฝากท้องกับทางโรงเรียนที่จัดสวัสดิการให้ครู
สังวาลย์จึงได้รับอานิสงส์นี้ไปด้วย รวมถึงห้องพักที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้ นั่นท�ำให้
เงินเดือนของเขาไปถึงมือลูกเมียเกือบทั้งหมด แบ่งไว้เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวเพียง
เล็กน้อย ก็พออยู่ได้ทั้งเดือนแล้ว

172 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 172 21/3/2561 BE 10:00


สังวาลย์เหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือ ตอนนี้บอกเวลาบ่ายสองสี่สิบห้านาที
ก่อนจะจัดระเบียบเครื่องแต่งกายของตัวเอง เพื่อให้พร้อมส�ำหรับการท�ำหน้าที่ใน
ช่วงหลังเลิกเรียน เขาไม่ลืมที่จะไปกดน�้ำร้อนใส่แก้ว แล้วเอานกหวีดสีขาวคู่กาย
แช่ทงิ้ ไว้เพือ่ ล้างคราบน�ำ้ ลายออกไปเสียบ้าง เพราะดูเหมือนเสียงของมันในตอนเช้า
จะยังไม่เข้าที่เข้าทางนักหลังไม่ค่อยได้ใช้มันมาเกือบ ๒ เดือนตลอดช่วงปิดเทอม
การจราจรในช่วงหลักเลิกเรียนไม่หนักหนาสาหัสมากนัก เพราะผู้ใหญ่ยัง
ไม่เลิกงาน รถจึงไม่มาประดังกันเหมือนตอนเช้าที่ต่างคนต่างแย่งกันไปท�ำงาน
แย่งกันไปเรียน แต่ถึงแม้จะยังอยู่ในช่วงที่มีปริมาณรถไม่มาก ก็ใช่ว่าจะไร้ซึ่งปัญหา
สังวาลย์เหลือบไปเห็นรถ ๒ คัน ก�ำลังประจันหน้าอยู่ในเลนเดียวกัน
เนื่องจากอีกเลนหนึ่งมีรถของชาวบ้านจอดอยู่ ห่างจากประตูโรงเรียนไปทางหน้า
ปากซอยไม่มากนัก ยังโล่งใจได้อยู่บ้าง เมื่อทั้งสองฝ่ายพยายามหาทางหลบหลีก
ให้กัน ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดยอมถอย สังวาลย์ตัดสินใจเดินเข้าไป
คลีค่ ลายสถานการณ์ เขาใช้เวลาไม่นานนักทุกอย่างก็ผา่ นพ้นไปได้ดว้ ยดี เจ้าของรถ
ทัง้ สองคันลดกระจกลงแล้วขอบคุณซึง่ กันและกัน รถทีก่ ำ� ลังมุง่ หน้าไปทางปากซอย
มีสติ๊กเกอร์เป็นรูป “แผนที่ประเทศไทยลายธงชาติ” ติดอยู่ที่กระจกด้านหลัง ส่วน
รถที่ก�ำลังจะเข้ามาในซอยมีสติ๊กเกอร์ระบุค�ำว่า “รถคันนี้เสื้อแดง” ติดอยู่ที่ท้าย
กระโปรงรถ สติ๊กเกอร์ของรถทั้งสองคันเริ่มหลุดลอก สีสันจืดจางไปตามกาลเวลา
ทั้ ง สองคนก็ คื อ ผู ้ ป กครองที่ เ คยจะเอานกหวี ด สี ธ งชาติ ม าไว้ ใ ห้ ส ลั บ
สับเปลี่ยนกับนกหวีดของสังวาลย์ ส่วนอีกคนก็คือคนที่จะเอาพัดรูปตีนสีแดงมาให้
หวังคลายร้อนนั่นเอง ในช่วงที่ประเทศไทยก�ำลังวุ่นวายอยู่กับมหกรรมกีฬาสี ทั้งคู่
ต้องผิดใจกันเล็กน้อยด้วยความเห็นต่างทางการเมือง ทัง้ ทีล่ กู ชายของทัง้ คูเ่ ป็นเพือ่ น
ซีเ้ รียนห้องเดียวกันมาตัง้ แต่เตรียมอนุบาล ต่อเมือ่ ลูกชายของทัง้ คูไ่ ด้เป็นนักฟุตบอล
ของโรงเรียน เลยต้องคอยตระเวนพาลูกไปแข่งตามสนามต่างๆ ด้วยกันเป็นประจ�ำ
ความเห็นต่างทางการเมือง และเรื่องขุ่นเคืองที่ผ่านมา ก็พลอยได้รับการเยียวยา
ด้วยกีฬาฟุตบอล จนทัง้ สองครอบครัวกลายเป็นสนิทชิดเชือ้ กันไปโดยปริยาย ความ
เห็นต่างทางการเมืองของทัง้ คูอ่ าจยังหลงเหลืออยูบ่ า้ ง แต่ความหวังทีจ่ ะเห็นอนาคต

สถาบันพระปกเกล้า 173

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 173 21/3/2561 BE 10:00


และความสุขของลูก อนาคตและความสุขของครอบครัวรวมถึงตัวเอง นั่นน่าจะ
ส�ำคัญกว่าเป็นไหนๆ
สังวาลย์โล่งใจที่ภารกิจในการควบคุมการถอยครั้งนี้ส�ำเร็จลุล่วงไปได้
ด้วยดี แต่นนั่ ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นเช่นนีใ้ นทุกๆ ครัง้ การแก้ไขสถานการณ์
ส�ำหรับการเผชิญหน้ากันของรถทัง้ สองคัน ทีท่ งั้ คูต่ า่ งมีไมตรีจติ กันดี เทียบไม่ได้เลย
กับเหตุการณ์ที่ก�ำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้
“ปี๊นนน.... ปี๊นนน...” สังวาลย์หันมองไปทางต้นเสียงที่ดังมาจากทาง
หน้าปากซอย ห่างจากหน้าประตูโรงเรียนราว ๓๐ เมตร ก่อนจะพึมพ�ำออกมาว่า
“งานเข้าแล้วกู”
ภาพทีเ่ ห็นก็คอื รถแท็กซีค่ นั หนึง่ ซึง่ น่าจะเป็นรถทีม่ าจากทีอ่ นื่ และไม่เคย
เข้ามาในซอยนี้ ก�ำลังมุ่งหน้าจะเข้าไปทางท้ายซอยเพื่อส่งผู้โดยสาร ขับมาทางเลน
ซ้ายตามกฎจราจรอย่างถูกต้อง แต่ตอนนีไ้ ม่สามารถจะเดินหน้าต่อไปได้อกี ด้วยว่า
ก�ำลังเผชิญหน้าอยู่กับรถอีกคันที่ขับออกมาจากท้ายซอย โดยมีรถขับตามหลังไป
ติดๆ อีก ๓ คัน แม้ว่าซอยนี้จะแคบ หากยังวิ่งได้สองเลนตามปกติ ก็คงไม่มีปัญหา
อันใด แต่นี่ รถที่ขับออกมาจากท้ายซอยทั้ง ๔ คัน ไม่ได้วิ่งตามเลนของตัวเอง กลับ
วิ่งสวนมาทางเลนขวา ด้วยว่ามีรถของชาวบ้านมาจอดเรียงรายอยู่ทางเลนซ้ายอยู่
หลายคัน สถานการณ์เช่นนี้ แม้จะประสบพบเจออยู่บ่อยครั้ง แต่ในทุกครั้งก็สร้าง
ความยุ่งยากล�ำบากกายใจให้กับผู้ที่จะเข้าไปคลี่คลายสถานการณ์ อย่างสังวาลย์ได้
ในทุกครั้งเช่นกัน
แม้จะเลยเขตความรับผิดชอบด้านหน้าโรงเรียนไปแล้ว แต่รถสี่ในห้าคันที่
ก�ำลังติดแหงกอยู่ตอนนี้เป็นผู้ปกครองของนักเรียน นั่นท�ำให้สังวาลย์อดไม่ได้ที่จะ
ยื่นมือเข้าไปไกล่เกลี่ยปัญหา
การเร่งระบายรถให้เดินหน้า หรือควบคุมการหยุดรถ เทียบกันไม่ได้เลย
กับการควบคุมหรือก�ำกับการถอยหลัง ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้วการถอยรถก็ไม่ได้ยุ่งยาก
อะไรนักหรอก การยอมที่จะเป็นฝ่ายถอยนั่นต่างหากที่ยุ่งยากที่สุดส�ำหรับการ
ไกล่เกลี่ยปัญหาขณะนี้

174 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 174 21/3/2561 BE 10:00


“ปี๊นนน.... ปี๊นนน...” ชายคนขับแท๊กซี่ที่ก�ำลังจะเข้าไปส่งผู้โดยสารที่อยู่
ท้ายซอย ยังคงกระหน�่ำบีบแตรและกะพริบไฟหน้าใส่รถฝั่งตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง
ด้วยความมั่นใจในประสบการณ์การขับรถของตัวเองมาหลายสิบปี
“กะพริบไฟใส่แล้ว มันยังจะขับสวนเลนออกมาอีก ได้ใบขับขี่มายังไง
กันวะ ไปบอกให้มันรีบถอยเลย” ชายคนขับแท๊กซี่เปิดประตูรถออกมายืนตะโกน
โหวกเหวก ท�ำเอาสังวาลย์ตอ้ งเลีย่ งเดินไปหารถคูก่ รณีทงั้ ๔ คันทีว่ งิ่ สวนเลนออกมา
ซึ่งทั้ง ๔ คัน ล้วนแต่เป็นรถของผู้ปกครองนักเรียน ระหว่างนั้น รถอีกคันก็ขับมา
จ่อท้ายรถทั้ง ๔ คันเพิ่มเข้าไปอีก รวมในขณะนี้เป็น ๕ ต่อ ๑
ใช้เวลากับฝัง่ ตรงข้ามได้ไม่นาน สังวาลย์กใ็ ช้วจิ ารณญาณของตนเองตัดสิน
ปัญหานี้ ด้วยการเดินกลับมาหาชายคนขับรถแท๊กซี่ ซึ่งตอนนี้กลับเข้าไปนั่งในรถ
ตามเดิมพร้อมทีจ่ ะขับรถเดินหน้าเต็มก�ำลัง ความคาดหวังทีต่ อ้ งการคือรถทัง้ ห้าคัน
จะต้องถอยหลังหลีกทางให้เขา
“ขอโทษนะครับพี่ ผมว่าพี่ยอมถอยให้หน่อยแล้วกันนะครับ...”
สังวาลย์ยกเหตุผลว่า ชายคนขับรถคันที่หนึ่งของฝั่งตรงข้ามเป็นมือใหม่
หัดขับ เพิ่งได้รถป้ายแดงมาไม่ถึงอาทิตย์ ส่วนอีกสี่คันที่จ่อท้ายต่างก็มีผู้หญิงเป็น
คนขับ แถมสองในสี่คน ยังไม่มีใบขับขี่อีกต่างหาก และเมื่อรวมเข้ากับระยะทางใน
การถอยอีกเกือบ ๒๐ เมตรแล้ว ผู้ที่สมควรจะเป็นฝ่ายถอยก็เห็นจะเป็นไปตามที่
สังวาลย์ได้พิจารณาด้วยความรอบคอบแล้ว แม้จะไม่ถูกต้องตามกฎหมายและ
กฎจราจร รวมถึงไม่ถูกใจชายคนขับรถแท๊กซี่ด้วยก็ตาม
“ผมว่าพี่ขับรถแม่นกว่าฝั่งโน้น ถอยไปหลบตรงนั้นก่อนนะพี่... อ้อ...
ฝั่งนั้นเขาฝากมาขอโทษพี่ด้วย เขาบอกว่ายังขับรถไม่ค่อยช�ำนาญ” สังวาลย์ยกมือ
วันทยาหัตถ์ตลอดเวลาในการไกล่เกลี่ย ก่อนจะชี้มือไปยังที่ว่างข้างทางซึ่งน่าจะใช้
ระยะทางในการถอยไม่เกิน ๖ เมตร เพื่อหลบทางให้รถอีกฝั่งไปได้
“อะไรกันวะ มาถูกเลนแท้ๆ ยังต้องถอยให้อีก” เป็นไปตามที่สังวาลย์
คาดการณ์วา่ คงจะได้รบั การตอบกลับด้วยความไม่พอใจ แต่กย็ งั รูส้ กึ เบาใจไปได้บา้ ง
เมื่อเห็นชายคนขับรถแท๊กซี่เข้าเกียร์ถอยหลัง สังวาลย์รีบไปยืนคอยก�ำกับการถอย

สถาบันพระปกเกล้า 175

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 175 21/3/2561 BE 10:00


รถในทันที เพราะหากปล่อยเวลาเนิ่นนานไป เกิดมีรถทั้งสองฝั่งเข้ามาต่อท้ายเพิ่ม
การคลี่คลายปัญหานี้คงยุ่งยากเข้าไปอีก
“ปรี๊ด..... ถอย... ถอย... ปิ๊ด... พอ...พอ... ครืด...”
สังวาลย์ที่เป็นคนผิวสีด�ำแดงถึงกับหน้าถอดสี เมื่อพบว่ากันชนท้ายของ
รถแท็กซี่ไปกระแทกเข้าให้กับกันชนหน้าของรถกระบะของชาวบ้านที่จอดอยู่ ด้วย
ความทีก่ นั ชนของรถกระบะเป็นเหล็กเสริมเพิม่ จากกันชนปกติ รถแท็กซีจ่ งึ เกิดความ
เสียหายมากกว่า ถึงจะไม่มากนักแต่ก็เห็นรอยบุบชัดเจน ด้วยความมั่นใจใน
ประสบการณ์การขับรถมาหลายสิบปี ผสมเข้ากับอารมณ์ไม่พอใจที่ต้องยอมเป็น
ฝ่ายถอย ทัง้ ๆ ทีต่ วั เองขับรถมาถูกต้องตามเลน ตามกฎกติกาจราจรทุกอย่าง ท�ำให้
ชายคนขับรถแท๊กซี่ใช้ความเร็วในการถอยเกินความจ�ำเป็น แล้วอุบัติเหตุก็เกิดขึ้น
“เป็นไงล่ะ... แล้วใครจะรับผิดชอบ...”
ทันทีที่ลงจากรถ และเห็นสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น ชายคนขับรถแท๊กซี่
ก็ทงั้ ด่าทัง้ บ่นสังวาลย์เป็นการใหญ่ ผูโ้ ดยสารทีอ่ ยูใ่ นรถรีบจ่ายค่าโดยสารแล้วเดินเข้า
ซอยไป ส่วนรถฝัง่ ตรงข้ามทัง้ ๕ คัน รีบพากันขับรถออกจากบริเวณนัน้ ทันทีเมือ่ เห็น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังดีที่รถแท็กซี่คันนี้เป็นรถส่วนบุคคลมีประกันชั้นหนึ่ง แต่กว่า
ประกันจะมา สังวาลย์ก็คงต้องทนยืนฟังเสียงบ่นเสียงด่าอยู่อีกนาน นับเป็นความ
ซวยต้อนรับเปิดเทอมวันแรกของเขา
“ไม่น่าเลยกู...” สังวาลย์บ่นพึมพ�ำ คนขับรถทั้ง ๕ คัน ได้แต่ส่งสายตา
แสดงความเห็นใจให้ขณะขับรถผ่านเขาไป
เช้าวันรุ่งขึ้นสังวาลย์ยังคงมาประจ�ำการณ์ที่หน้าประตูโรงเรียนเหมือน
เช่นเดิม ความขุ่นมัวในอารมณ์จากเหตุการณ์เมื่อวานได้รับการเยียวยาด้วยกาแฟ
กระป๋องและเครื่องดื่มบ�ำรุงก�ำลังอย่างละ ๔ แพ็ค ผู้ปกครองที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์
ช่วยกันรวบรวมเงินซือ้ มาให้ ตลอดครึง่ เดือนทีเ่ หลือ เขาคงไม่จ�ำเป็นต้องควักเงินไป
หาซื้อกาแฟและเครื่องดื่มบ�ำรุงก�ำลังเพิ่มเติมอีก
นอกจากนั้น ยังได้รับข่าวดีว่า ทางโรงเรียนก�ำลังจะเพิ่มพนักงานรักษา
ความปลอดภัยอีก ๑ คน เพื่อมาช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ของสังวาลย์ โดยเฉพาะ

176 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 176 21/3/2561 BE 10:00


การดูแลเรือ่ งการจราจร ซึง่ หากมีคนมาช่วยหยุดรถหรือกักรถไว้ในบางช่วงของซอย
ที่เหลือเพียงเลนเดียวจากการที่มีรถของชาวบ้านมาจอดอยู่ ก็น่าจะช่วยลดการ
เผชิญหน้ากันของรถทีจ่ ะผ่านเข้าออกซอยลงไปได้บา้ ง สังวาลย์รสู้ กึ ดีไม่นอ้ ยทีไ่ ด้รบั
ความห่วงใยจากทั้งผู้ปกครองและจากทางโรงเรียน
แต่ถึงแม้สังวาลย์จะไม่ได้รับกาแฟกระป๋อง เครื่องดื่มบ�ำรุงก�ำลัง และ
พนักงานรักษาความปลอดภัยเพิ่มอีก ๑ คน เขาก็ยังคงต้องมาท�ำงานตามหน้าที่ให้
ดีทสี่ ดุ เหมือนเช่นเดิมอยูแ่ ล้ว มันเป็นหน้าทีค่ วามรับผิดชอบทีจ่ ะน�ำมาซึง่ รายได้เลีย้ ง
ครอบครัวและตัวเอง การตั้งใจท�ำหน้าที่ของตนเองแม้จะเป็นเพียงหน้าที่เล็กๆ
แต่มนั ก็เป็นสิง่ ส�ำคัญทีส่ ดุ ทีค่ นทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ ทุกฐานะ พึงตระหนัก
และระลึกถึงอยู่เสมอ และที่ส�ำคัญไม่น้อยไปกว่าการตั้งใจท�ำงานตามหน้าที่ ก็คือ
การรูจ้ กั ยอมทีจ่ ะหยุดและถอยให้แก่กนั และกัน เพือ่ ให้แต่ละคนสามารถเดินทางไป
ยังจุดหมายที่ตนเองคาดหวังเอาไว้
ในห้วงความคิดขณะหนึง่ ของสังวาลย์ “ความจ�ำเป็นของการหยุดและถอย”
ยังคงจะต้องมีอยู่คู่กับซอยนี้ต่อไป เพื่อให้รถทุกคันที่จะผ่านเข้าออกเดินทางไปถึง
ยังจุดหมายของตนเอง เพราะมันไม่มีทางที่จะขยายซอยให้กว้างไปกว่านี้ได้อีกแล้ว
การมีน�้ำใจที่จะหยุดและถอยให้กันอาจหาได้ไม่ง่ายนักกับสภาพที่เห็นและเป็น
อยู่ในทุกวันนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะหาเอาไม่ได้เสียเลย อย่างน้อยการเป็นคนคอยก�ำกับ
การหยุดและถอยของรถในซอยนี้ ก็น่าจะท�ำให้อะไรต่อมิอะไรดีขึ้นมาบ้าง
สังวาลย์จัดเครื่องแบบของตัวเองให้เข้าที่ หยิบนกหวีดสีขาวคู่กายขึ้นมา
สะบัดเพือ่ ไล่นำ�้ ลายทีค่ งั่ ค้างออกไป ก่อนจะเดินไปประจ�ำต�ำแหน่งทีห่ น้าประตูโรงเรียน
“ปรี๊ด..... ถอย... ถอย... ปิ๊ด... พอ...” ทั้งสัญญาณนกหวีด สัญญาณมือ
และการออกปากก�ำกับการถอยของสังวาลย์ช่วยให้รถส่งนมค่อยๆ ถอยหลังออก
จากประตูโรงเรียนได้อย่างราบรื่นเหมือนเช่นทุกวัน ก่อนที่คนขับจะเร่งเครื่องเพื่อ
มุ่งหน้าไปส่งนมยังโรงเรียนอื่นต่อไป
สังวาลย์หันไปขอบคุณคนขับรถคันอื่นๆ ที่สละเวลาจอดรอการถอยของ
รถส่งนม ด้วยการวันทยาหัตถ์อย่างเข้มแข็ง

สถาบันพระปกเกล้า 177

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 177 21/3/2561 BE 10:00


พยุงศักดิ์ แบบอย่าง
อายุ ๔๖ ปี ปัจจุบันท�ำงานเป็น
ครูอยู่ที่ “พีระยานุเคราะห์มูลนิธิ” ใน
พระอุ ป ถั ม ภ์ ข องสมเด็ จ พระศรี นคริน-
ทราบรมราชชนนี โดยเป็นรูปแบบของ
โรงเรียศึกษาสงเคราะห์ รับผิดชอบสอน
วิชาพลศึกษา กับวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสือ่ สาร เคยส่งผลงานวรรณกรรม
เยาวชนเข้าร่วมประกวดรางวัล “นายอินทร์
อะวอร์ด” และ “แว่นแก้ว” อย่างละ ๓ เรื่อง โดยเรื่อง “เจ้าหนูหลังขาว”
ผ่านเข้ารอบสุดท้ายรางวัลนายอินทร์อะวอร์ด ปี ๒๕๕๓ (ไม่ได้รบั การตีพมิ พ์)

178 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 178 21/3/2561 BE 10:00


ห้องละหมาด
ที่ยังไม่มีหลังคา
พิณพิพัฒน ศรีทวี

ป๊ ะเป็นนักเล่าเรื่องผีชั้นเยี่ยมที่สุด ป๊ะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีที่พิลึกพิลั่น
มากมายท�ำให้เราต้องอ้าปากค้างอยู่เสมอ มะล้อว่าป๊ะเป็นพ่อมดที่มี
กระสอบใบใหญ่เอาไว้ใส่เรือ่ งเล่า อยากฟังเรือ่ งอะไรป๊ะก็แค่ลว้ งออกมา อย่างทีบ่ อก
ป๊ะเป็นนักเล่าเรื่องผีชั้นเยี่ยมที่สุด ผีของป๊ะมักไม่เหมือนผีในเรื่องเล่าของคนอื่นที่
เราเคยฟัง
มีเรื่องผีที่ป๊ะล้วงออกมาจากกระสอบเรื่องหนึ่ง ที่ผมไม่เคยลืม…


ก้อนสีขาวเท่าหัวเข็มหมุดเคลื่อนไปหน้าช้าๆ พร้อมเส้นสีด�ำบนพื้นดินนุ่มหลัง
ฝนตก ฝนแรกท�ำให้กลิน่ ดินหอมรืน่ กาเส็มเพ่งพิศก้อนสีขาวบนเส้นสีดำ� อีกครัง้ จึง
เห็นว่าภาพตรงหน้าคือขบวนมดก�ำลังช่วยกันขนเศษเนื้อปลา เนื้อปลาสีขาวถูกมด
ตัวน้อยสีด�ำล�ำเลียงไปเป็นอาหาร กาเส็มไม่รู้ว่ารังของเจ้ามดพวกนี้อยู่แห่งหนใด
สายลมระรืน่ หอบกลิน่ ดินหอมมาเป็นระลอก ผีเสือ้ ออกร่ายร�ำเหนือพุม่ ชบา กาเส็ม

สถาบันพระปกเกล้า 179

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 179 21/3/2561 BE 10:00


180 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 180 21/3/2561 BE 10:00


มองภาพเหล่านัน้ อย่างรืน่ รมย์ จากนัน้ ภาพอดีตก็เข้าแทรก แผ่นความทรงจ�ำบางอย่าง
เริ่มจากรางเลือนและค่อยแจ่มชัดขึ้นตามล�ำดับ
“ครูไผทบอกว่าซอดิกีนหนีโรงเรียนอีกแล้ว…” อาซีซะห์บอกกาเส็มก่อน
ปิดไฟนอนคืนหนึ่ง
“ลูกเราหนีโรงเรียนสามสี่ครั้งแล้ว คราวนี้เพราะอะไรอีก” กาเส็มถาม
“ก็เหมือนเดิม แกกับเพื่อนสี่ห้าคนหนีไปละหมาดวันศุกร์ที่บาลาย”
หมู่บ้านของกาเส็มเป็นหมู่บ้านเล็กๆ เชิงเขา ไม่มีมัสยิด มีแต่ ‘บาลาย’ ซึ่งคล้ายกับ
มัสยิด เพียงแต่สร้างขึ้นง่ายๆ เหมือนบ้านขนาดย่อมชั้นเดียว ไม่มีโต๊ะอิหม่ามและ
โต๊ะกอเต็บประจ�ำศาสนสถานเหมือนกับมัสยิดทั่วไป
“ซอดิกีนไม่ใช่เด็กเกเร เขาเคร่งครัดในศาสนบัญญัติแต่ยังเด็กจึงเลือกใช้
วิธีการไม่ถูกไม่ควร หนีโรงเรียนเป็นการละเมิดกฎเกณฑ์ เราจะปล่อยไปแบบนี้
ไม่ได้อีกแล้ว อาเด๊ะคุยกับลูกให้เข้าใจเถอะแบบไม่ต้องใช้ไม้เรียว บังจะไปปรึกษา
กับครูใหญ่ไผท วันจันทร์นา่ จะรูเ้ รือ่ ง” กาเส็มบอกกับอาซีซะห์ ก่อนลุกปิดไฟ ปล่อย
ให้ความเงียบยามค�่ำคืนของหมู่บ้านเชิงเขาท�ำหน้าที่แทนตน

“ครูเห็นด้วยกับแนวคิดกาเส็ม แต่โรงเรียนไม่มงี บ” ครูใหญ่ไผทถอนหายใจตอบ


หลังกาเส็มอธิบายจบ แดดสายยังไม่ทะลุมา่ นใบตะแบกลงมาสร้างความร้อนให้คน
ทั้งสอง ครูใหญ่ไผทได้ยินเสียงนกเขาชวากู่ขันอยู่ไกลๆ ส่วนกาเส็มได้ยินเสียงหัวใจ
ตัวเองเต้น ภาพสิง่ ก่อสร้างทรงสีเ่ หลีย่ มผืนผ้าทาสีขาวสะอาดตาผุดพราย กาเส็มยิม้
อธิบายครูใหญ่ต่อ
“เรื่องงบประมาณโครงการสร้างห้องละหมาดในโรงเรียน ครูไม่ต้องกังวล
ครับ ขอเพียงทางโรงเรียนเห็นด้วย ชาวบ้านก็พร้อมจะร่วมแรงร่วมใจ ผมคุยกับ
ผู้ใหญ่บ้านและกรรมการหมู่บ้านคร่าวๆ แล้ว ถ้าทางโรงเรียนไม่ขัดข้อง กรรมการ
หมู่บ้านก็จะจัดประชาคมถามความเห็นส่วนรวม หาวิธีระดมทุนต่อไป คิดว่าน่าจะ
ใช้งบไม่เกินสีห่ มืน่ ” เสียงนกเขาชวาหายไป ครูใหญ่ไผทได้ยนิ แต่เสียงกาเส็มอยูใ่ กล้ๆ
“ครูรับปากตอนนี้ไม่ได้ ขอประชุมโรงเรียนก่อน…”

สถาบันพระปกเกล้า 181

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 181 21/3/2561 BE 10:00


“ผมเข้าใจครับครู” กาเส็มยิ้มอีก ครูใหญ่ยิ้มตอบ ดีใจที่กาเส็มไม่หัวรั้น
ครูใหญ่ไผทเคยสอนกาเส็มมาแต่ชั้นประถม ครูใกล้เกษียณอย่างเขาอดอมยิ้ม
อย่างมีความสุขไม่ได้เมือ่ กาเส็มลูกศิษย์เก่ามีความคิดความอ่านเป็นผูใ้ หญ่ แม้กาเส็ม
จะเป็นแค่คนหนุ่มอาชีพท�ำสวนแต่กลับประสานกับฝ่ายต่างๆ ในหมู่บ้านมายอได้
อย่างลงตัวไม่นา่ เชือ่ ต่อไปกาเส็มจะต้องขึน้ เป็นผูน้ ำ� ของมายออย่างแน่นอน ครูใหญ่
ไผทท�ำนายอยู่ในใจ
แต่แล้วครูใหญ่ไผทก็ถอนใจ เมือ่ นึกถึงเรือ่ งซอดิกนี ลูกชายกาเส็มกับเพือ่ น
ร่วมห้องหลายคนหนีโรงเรียนไปละหมาดวันศุกร์ เขาเองเป็นกังวลเรื่องนี้อยู่
พอสมควร อะไรทีเ่ กีย่ วกับศาสนานัน้ บอบบางยิง่ นัก ท�ำอะไรผลีผลามไม่ได้ ระเบียบ
กฎเกณฑ์ส�ำคัญในการอยู่ร่วมกัน แต่หลักศาสนาก็ส�ำคัญต่อการรวมจิตรวมใจ
ครูใหญ่ไผทคิดแล้วคิดอีก ท�ำอย่างไรถึงจะผสานกฎเกณฑ์ทางสังคมให้ลงตัวกับ
ศาสนบัญญัติ ประจวบเหมาะกับกาเส็มมาปรึกษาเรือ่ งนีพ้ อดี กาเส็มบอกว่าชาวบ้าน
พร้อมด�ำเนินการสร้างห้องละหมาดร่วมกับทางโรงเรียน แต่ในฐานะครูใหญ่เขาต้อง
น�ำเรื่องเข้าที่ประชุม ครูใหญ่ไผทเห็นว่าการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายนั้นส�ำคัญยิ่งนัก
มันคือการประสานพลังอย่างแท้จริง
นกเขาชวาที่หลบเสียงหายไปเมื่อห้านาทีก่อน บัดนี้บินมาเกาะกิ่งตะแบก
ส่งเสียงไพเราะเจือ้ ยแจ้ว ทัง้ ครูใหญ่ไผทและกาเส็มได้ยนิ เสียงกูข่ นั ชัดเจนเหลือเกิน

การประชาคมหมู่บ้านผ่านไปด้วยดี ทุกคนเห็นด้วยกับการสร้างห้องละหมาด
ในโรงเรียน โดยการประสานของกาเส็มและผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายช่างของ อบต.จึง
รับปากเขียนแบบให้โดยไม่มคี า่ ใช้จา่ ย ส่วนค่าวัสดุอปุ กรณ์นนั้ ต่างช่วยกันคนละเล็ก
ละน้อยเท่าที่พอให้ได้ แต่ยังขาดอยู่อีกจ�ำนวนหนึ่ง โรงเรียนจึงอาสาจัดงานแข่งขัน
นกเขาชวาเสียงหาทุนสร้างห้องละหมาด ใช้วิธีการเก็บเงินค่าสมัคร กันรายได้จาก
ค่าสมัครส่วนหนึง่ ไว้เป็นรางวัลแก่นกเขาทีข่ นั เสียงดีกว่าตัวอืน่ รายได้ทเี่ หลือทัง้ หมด
ทางโรงเรียนมอบให้โครงการก่อสร้างห้องละหมาด ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี พร้อม

182 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 182 21/3/2561 BE 10:00


ด�ำเนินการสร้างห้องละหมาดได้ในทันที กาเส็มยิ้มชื่น ต่อจากนี้ซอดิกีนลูกชายเขา
และเพือ่ นร่วมชัน้ ไม่ตอ้ งหนีโรงเรียนไปละหมาดตอนหลังเทีย่ งวันศุกร์ทบี่ าลายอีกแล้ว
พอแผ่นภาพความทรงจ�ำของวันก่อนพลิกมาถึงตรงนี้ ซึง่ เรียกว่าวันวานไล่
ตามทันกับความเป็นปัจจุบัน กาเส็มก็นั่งยิ้มรื่นรมย์ให้กับฝูงมดที่ก�ำลังช่วยกัน
ล�ำเลียงเศษเนื้อปลา
หมู่บ้านของกาเส็มชื่อบ้านมายอ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ บริเวณลาดเชิงเขา
ในอดีตทีน่ อี่ ดุ มไปด้วยเรือ่ งเล่าลีล้ บั เช่น เรือ่ งแสงประหลาดบนภูเขา นางจระเข้ใหญ่
ฟาดหางในคลองฤดูนำ�้ แดง ผีกะ ผีชนิ ผีหลังกลวง และผีตา่ งๆ ห่างไปทางทิศตะวันออก
ของหมูบ่ า้ นราวสิบห้ากิโลเมตรเป็นสถานีรถไฟเก่าแก่ และสถานีรถไฟนีเ้ องทีน่ ำ� พา
คนหนุ่มสาวของหมู่บ้านจากไป และน�ำพาบางคนกลับมา
‘ซอบา’ กลับสู่หมู่บ้านแล้วเช่นกัน โดยขบวนรถไฟกรุงเทพฯ-สุไหงโกลก
เช้าวันหนึ่ง
ซอบา ชายหนุม่ ของหมูบ่ า้ นวัยยีส่ บิ สอง อดีตเพือ่ นร่วมชัน้ เรียนของกาเส็ม
ลูกชายคนเดียวของครูใหญ่ไผท เพิ่งเรียนจบจากกรุงเทพฯ แววตาของซอบาตอน
สบตากับแดดเช้าและผูค้ นหลังกระโดดลงจากประตูรถไฟทีบ่ า้ นเกิด บอกแก่หมูบ่ า้ น
ว่า ความเป็นคนเมืองกลืนกินซอบาไปแล้วครึ่งหนึ่ง
ก็เหมือนกับหนุ่มสาวหลายคนของหมู่บ้าน ซอบาขึ้นไปเรียนต่อที่เมือง
หลวงหลังเรียนจบชั้นมัธยมจากปอเนาะประจ�ำต�ำบล ซอบากลับมาบ้านเที่ยวนี้
พร้อมด้วยสมัครพรรคพวกสีห่ า้ คน เป็นการมาเทีย่ วพักผ่อนและเยีย่ มบ้านหลังเรียน
จบระดับปริญญาตรี เพือ่ นๆ ของซอบาล้วนพูดจาด้วยภาษาทีแ่ ตกต่างจากชาวบ้าน
มายอ หน้าตาผิวพรรณดูสะอาด พากันเดินเฉิดฉายไปทัว่ ตัง้ แต่วนั แรกทีม่ าถึง เพือ่ น
ทีม่ าด้วยกันเรียกชือ่ ซอบาว่า แจ๊คกี้ ไม่มใี ครเรียกซอบาว่า ‘ซอบา’ ทีแ่ ปลว่า ‘ความ-
ปล่อยวาง’ เลยสักคน ซอบาหัวเราะเสียงดังท่ามกลางเพือ่ นหนุม่ สาวจากกรุงเทพฯ
โดยเฉพาะตอนที่พวกเขาเห็นความงกเงิ่นของคนแก่ในหมู่บ้าน กาเส็มเฝ้ามองอดีต
เพื่อนร่วมชั้นเรียน กาเส็มก้มหน้ายิ้มกับต้นไม้ใบหญ้า เขาก็เคยผ่านการศึกษาจาก
เมืองใหญ่มาเหมือนกัน หลังจบปวส.สาขาเทคโนโลยีการเกษตรจากวิทยาลัยแห่ง

สถาบันพระปกเกล้า 183

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 183 21/3/2561 BE 10:00


หนึ่ง กาเส็มก็หอบความรู้กลับมาตั้งหลักปักฐานที่บ้านเกิด สวนยางพารา สวน
ผลไม้ และสวนรักของกาเส็มงอกงามจนกาเส็มไม่อยากหวนสู่ในเมืองอีก
นกเขาชวาคูห่ นึง่ คูขนั อยูบ่ นกิง่ ตะแบกข้างอาคารเรียน ถัดมาทางซ้ายเป็น
ที่ก่อสร้างห้องละหมาด เสาเก้าต้นยืนเด่นกลางแดดเช้า กาเส็มยืนมองด้วยความ
อิ่มเอม ไม่ช้าตรงนี้ก็จะกลายเป็นที่ละหมาดของเด็กๆ กาเส็มรู้สึกว่าวันนี้แดดอุ่น
กว่าทุกวัน อีกสักครู่ชาวบ้านที่พร้อมร่วมแรงก่อสร้างคงมาถึง ถัดจากนั้นก็เป็นฝ่าย
ผู้หญิงของหมู่บ้านที่มีหน้าที่จัดเตรียมส�ำรับกับข้าวเที่ยง ทุกคนแบ่งหน้าที่กัน
ตามความถนัด ใครท�ำอะไรได้ก็ท�ำ ใครไม่มีฝีมือด้านการช่างหรือการท�ำอาหารก็
คอยหาน�้ำหาท่า หยิบจับเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่ตนท�ำได้ ความร่วมมือร่วมใจเล็กน้อย
เหล่านี้จะประสานเป็นก�ำลังที่ยิ่งใหญ่ของหมู่บ้าน ของชุมชนและของประเทศ
กาเส็มคิดว่าหากทุกคนประสานพลังกัน จะสร้างห้องละหมาดเท่าสนามฟุตบอล
หรือใหญ่โตแค่ไหนก็ได้ทั้งนั้น
“ยืนยิ้มคนเดียว เหมือนคนบ้าพบเบี้ย…” เสียงหนึ่งดังขึ้นตามด้วยเสียง
หัวเราะครืนใหญ่ กาเส็มตื่นจากภวังค์ เห็นซอบาบัณฑิตจากกรุงเทพฯ ยื่นหน้าเข้า
ท�ำท่าล้อเลียน ด้านหลังเป็นหนุ่มสาวแต่งตัวหล่อสวยยืนหัวเราะกันคิกคัก เมื่อเห็น
เสื้อผ้ามอมแมมและท่าทางเปิ่นเชยของกาเส็ม
“เหมือนตอนโน้นไม่มีผิด พ่อคนช่างฝันเอ๊ย…” ซอบาท�ำเสียงสูงเท่า
ต้นตะแบก
“มีอะไรรึซอบา ฝันของฉันมันสร้างปัญหาให้นายรึไง” กาเส็มรู้สึกว่าแดด
เริ่มร้อน เสียงนกเขาชวาหายไปแล้ว คงหลบแดดอยู่ไหนสักแห่ง
“มากันเยอะๆ อยู่ว่างๆ ถ้าไม่กลัวมือบอบบางจะแตก ก็มาช่วยกันขนหิน
ขนปูนท�ำห้องละหมาดกันบ้างก็ดี ขนาดครูใหญ่ไผทพ่อนายยังมาช่วยเสิร์ฟน�้ำ”
กาเส็มกระทุง้ ซอบากลับบ้าง ด้วยรูส้ กึ ขัดเคืองทีถ่ กู ล้อว่าเป็นคนช่างฝัน ตัง้ แต่เรียน
ประถมห้องเดียวกันซอบาก็ชักชวนคนอื่นๆ ล้อเขาอย่างนี้ตลอด
“พูดบ้าๆ …พวกเราไม่ต้องท�ำงานออกแรงให้เหนื่อยหรอก เราเรียนจาก
ในเมือง เราเป็นปัญญาชน” ซอบาขึ้นเสียง ก่อนท�ำจมูกฟุดฟิด ส�ำรวจเสื้อผ้าเก่า

184 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 184 21/3/2561 BE 10:00


เขรอะของกาเส็ม ชี้นิ้วแล้วพูดขึ้นว่า
“เหม็นขี้ยาง”
เสียงฮากราวใหญ่ดังจากสมัครพรรคพวกของซอบา กาเส็มดึงเสื้อตรง
อกซ้ายขึ้น แล้วพูด
“เสื้อสกปรกตัวนี้ฉันใส่เพื่อสร้างห้องละหมาดที่สะอาด พ่อนายก็เป็นครู
จบจากในเมือง มหาลัยนายคงไม่สอนเรื่องจิตสาธารณะและหน้าที่พลเมือง”
ซอบาหน้าแดงก�ำ่ สวนค�ำพูดออกมาเสียงต�ำ่ สั่นเครือเหมือนน�ำ้ ในแก้วที่
ถูกเขย่าว่า “จิตสาธารณะบ้าบอแกน่ะสิ แกหลอกใช้แรงชาวบ้าน หลอกพ่อฉัน สร้าง
ห้องละหมาดเอาหน้าคนเดียว แกมันผีหลังกลวงชัดๆ ” ซอบาเหมือนไก่ชนตาแตก
กาเส็มรู้ตัวว่าพลาดแล้วที่ต่อล้อต่อเถียงกับคนแบบนี้จึงหันหลังเดินจาก ซอบา
เลือดขึ้นหน้าเมื่อถูกหันหลังให้ดื้อๆ ชี้นิ้วตามหลังกาเส็มแล้วหันหน้าสู่พรรคพวก
ตะโกนว่า
“ดูๆ ไอ้บา้ นนอกขีก้ ลากมันท�ำ ขีฉ้ อ้ อย่างมันอย่าหวังว่าจะได้ดี คอยดูขา่ ว
ในเฟซบุ้กก็แล้วกัน!..”

เรานอนฟังป๊ะอยู่นาน ผลัดกันหาวแล้วหาวอีก ป๊ะก็ไม่ยอมล้วงผีออกมาจาก


กระสอบสักที จนมะต้องร้องเตือนว่า ‘ป๊ะ ป๊ะ พรุง่ นีเ้ ด็กๆ ต้องไปโรงเรียน’ ป๊ะเลย
บอกว่าจะปล่อยฉากผีออกมาแล้ว ทันใดนั้นเราก็พากันหายง่วง ผมดึงผ้าห่มขึ้น
คลุมหัว น้องชายดึงกลับ ผมดึงกลับอีกที น้องชายก็ดงึ กลับอีกทีเหมือนกัน น้องชาย
พูดขึน้ ว่าท�ำไมวันนีผ้ า้ ห่มดูผนื เล็กกว่าเมือ่ วาน พ่อหัวเราะ แล้วเริม่ ต้นเล่าเรือ่ งตอน
ที่มีฉากผี…


รถไฟไม่ได้พาเอาเฉพาะคนหนุ่มสาวกลับบ้านเกิด บางขบวนยังพา “ผี” เข้ามา
สู่หมู่บ้านอีกด้วย เล่าลือกันว่าไล่หลังซอบาสามสิบนาที รถไฟขาล่องขบวนหนึ่ง
จอดตรงชานชาลาหมายเลข ๒ เช่นเดียวกับรถไฟขบวนที่ ๑ หรือขบวนที่พาซอบา

สถาบันพระปกเกล้า 185

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 185 21/3/2561 BE 10:00


มาจากกรุงเทพฯ ไม่มีคนลงจากตู้รถไฟขบวนหลัง มีแต่ตัวต่อฝูงใหญ่สีดำ� ทะมึนกรู
ออกทางประตูหน้าต่าง ตัวต่อฝูงนั้นพอโดนแดดของสถานีรถไฟเข้าก็สลายกลาย
เป็นกลุ่มควัน แผ่ขยายคลี่คลุมตัวสถานีเอาไว้จนมืดมิด เล่าลือกันอีกว่ารถไฟขบวน
นั้นเป็นรถไฟผีในต�ำนานที่ไม่เคยมีใครเห็นตัวตนที่แท้จริงของมัน แต่วันใดที่ฝนตก
แดดออกลงเม็ดเท่าก�ำปั้นและเป็นสีด�ำ วันนั้นขบวนรถไฟผีจะปรากฏ มีคนพูดว่า
วันนัน้ ก็มฝี นตกแดดออกลงมาเม็ดใหญ่จนหลังคาเก่าๆ ของสถานีเกือบพังยุบลงมา
ทั้งแถบ ไม่แน่ใจนักว่าเม็ดเท่าก�ำปั้นหรือเปล่า แต่น�้ำก้อนใหญ่ที่ตกจากฟ้าเป็นสีดำ�
แน่นอน
ต่อมา มีบางคนเห็นตัวต่อฝูงใหญ่ย้ายจากสถานีรถไฟเข้ามาว่อนวนเหนือ
หมู่บ้านมายอ แต่ก็ยังเป็นแค่การบอกเล่า ใครเลยจะเชื่อ กระทั่งเย็นวันหนึ่งขณะ
ครูใหญ่ไผทเดินส�ำรวจตรวจตราบริเวณโรงเรียน พอถึงทีก่ อ่ สร้างห้องละหมาดก็ตอ้ ง
ตะลึงตัวแข็งทื่อขนลุกชัน เพราะตรงหลังคาห้องละหมาดที่ยังไม่ได้มุงกระเบื้องนั้น
ปรากฏฝูงตัวต่อนับหมื่นแสนส่งเสียงอื้ออึงท�ำหน้าที่แทนหลังคา
จากนั้นไม่นาน บริเวณที่ก่อสร้างห้องละหมาดก็ปรากฏเรื่องราวน่าขนลุก
ใครเผลอเดินผ่านตอนฟ้ามืดเป็นได้เห็นฝูงตัวต่อกลายเป็นหญิงชราไม่มีลูกตาบ้าง
กลายเป็นงูจงอางใหญ่ล�ำตัวพันรอบเสาห้องละหมาดบ้าง บางทียังกลายเป็นผีวัวที่
มีแต่ลำ� ตัวท่อนบนเทีย่ วแถกคลานไปทัว่ ผีทกุ ตนตัวมีกลิน่ คาวคละคลุง้ การก่อสร้าง
ห้องละหมาดที่เหลือเพียงมุงหลังคาเป็นอันชะงัก เพราะไม่มีใครกล้ายุ่งเกี่ยวกับผี
ทั้งหลาย แม้ผีตัวต่อจะไม่ปรากฏในตอนที่มีแสงสว่างก็ตาม ‘ผีไม่อยู่แต่กลิ่นมัน
ยังอยู่’ บางคนพูด พอคนอื่นได้ยินเข้าก็เห็นว่าเป็นค�ำพูดที่มีเหตุผล จึงพากันพูด
ตามว่า ‘ผีไม่อยู่แต่กลิ่นมันยังอยู่’ ซอบากับเพื่อนชาวกรุงเทพฯ พากันโพสต์ลง
เฟซบุ้กเกี่ยวกับผีห้องละหมาดที่ยังสร้างไม่เสร็จ หาว่ากาเส็มเป็นคนเลี้ยงผี พอถูก
‘แจ๊คกี้ ซอ’ จับได้ว่าเป็นพวกขี้โกงหลอกชาวบ้านสร้างห้องละหมาดให้ตนได้หน้า
ได้ตา กาเส็มก็ปล่อยผีทั้งหลายออกมาปั่นป่วน
ชือ่ ของซอบาในโลกเสมือนคือ ‘แจ๊คกี้ ซอ’ โพสต์ของซอบาหรือ แจ๊คกี้ ซอ
ถูกไลค์ คอมเมนต์ และแชร์ออกไปไม่มากนัก เพราะเป็นเรื่องเหลือเชื่อเกินกว่าจะ

186 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 186 21/3/2561 BE 10:00


รับได้ หากซอบามีรูปถ่ายผีมาโชว์ในเฟซบุ๊กบ้างก็จะมีคนแห่กันเชื่ออยู่แล้ว สังคม
ออนไลน์พร้อมจะแชร์เรื่องพวกนี้เสมอขอเพียงมีรูปประกอบสวยงาม แม้รูปนั้นจะ
เป็นรูปปลอม ตัดต่อมาก็ตาม
แต่แจ๊คกี้ ซอกับพรรคพวกกลัวผีหลอก จึงไม่กล้าไปห้องละหมาดทีย่ งั สร้าง
ไม่เสร็จในตอนฟ้ามืด เพื่อถ่ายภาพผีไปยืนยันกับเพื่อนในโลกเสมือน
เกี่ยวกับการเล่นงานกาเส็มโดยอาศัยเฟซบุ้กนั้น ซอบาท�ำไปเพราะความ
เคยชินแบบคนเมืองตอนเรียนที่กรุงเทพฯ หากไม่พอใจเพื่อนร่วมคณะคนไหน
ซอบาก็โพสต์ประจานด้วยถ้อยค�ำดุเดือดเป็นประจ�ำ แต่ซอบาไม่รวู้ า่ กาเส็มไม่ได้เล่น
เฟซบุ๊กแต่อย่างใด ตอนเรียนเกษตรฯ กาเส็มเคยเล่น Hi๕ ตามประสาวัยรุ่น
พอเรียนจบกลับมาท�ำสวนที่บ้านและแต่งงานกับฮาซีซะห์และมีลูกคือซอดิกีนในปี
ที่ Hi๕ เสือ่ มความนิยมพอดี กาเส็มก็ตดั ขาดจากโลกออนไลน์โดยเฉพาะเฟซบุก๊ โดย
สิ้นเชิง เหลือแต่กูเกิลกับยูทูบไว้ติดตามข่าวเทคโนโลยีใหม่ๆ ทางการเกษตรเท่านั้น
ซอบาพอเล่นงานกาเส็มทางเฟซบุก๊ ไม่สำ� เร็จ ก็หนั มาใช้วธิ เี ยาะหยันต่อหน้า
และยุแหย่ลับหลัง เริ่มมีชาวบ้านบางคนเชื่อว่ากาเส็มปล่อยผีที่มีกลิ่นคาวพวกนั้น
ออกมา กาเส็มผ่ายผอมลง เขากินข้าวไม่ค่อยได้หลังจากตัวต่อผีมายึดครองห้อง
ละหมาด กาเส็มอยากปรึกษาเรื่องนี้กับครูใหญ่ไผท อยากบอกให้ครูใหญ่รับรู้
พฤติกรรมของซอบาผู้เป็นลูกชายบ้าง กาเส็มกับซอบาเป็นคู่แข่งกันมาตั้งแต่ตอน
เรียนหนังสือที่นี่ พอขึ้นชั้นปอหกกาเส็มถูกเพื่อนๆ ลงคะแนนให้เป็นหัวหน้าห้อง
ซอบาได้คะแนนรองลงมาจึงเป็นได้แค่รองหัวหน้า กาเส็มกับซอบามีหน้าทีเ่ ดินขาย
คูปองอาหารกลางวันให้กบั เด็กทุกคนในโรงเรียน ต่อมาซอบาแอบขโมยตรายางของ
โรงเรียนในห้องเก็บของมาปั๊มบนกระดาษแข็งท�ำเป็นคูปองเอง กะเอาไปขายราคา
ถูกกว่าของโรงเรียน (ตอนนั้นยังใช้คูปองกระดาษ) กาเส็มรู้เข้าเลยไปฟ้องครูใหญ่
ไผท กาเส็มจ�ำไม่ได้แล้วว่าซอบาถูกครูใหญ่ไผทตีในฐานะลูกศิษย์และลูกชายไปกี่ที
แต่กาเส็มไม่เคยลืมตอนซอบาชีห้ น้า ร้องว่า ‘แกจ�ำไว้ ไอ้กาเส็มคนช่างฝันบ้าบอ…”
หลังจากนั้นกาเส็มก็จ�ำไม่ได้แล้วว่าซอบาพูดอะไร

สถาบันพระปกเกล้า 187

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 187 21/3/2561 BE 10:00


หลังจากผีเข้ายึดครองห้องละหมาดได้หนึ่งเดือน หมู่บ้านมายอก็แตกเป็น
สามซีกแล้ว ฝ่ายหนึง่ เป็นพวกของซอบา ฝ่ายหนึง่ ยังเชือ่ มัน่ ในค�ำของกาเส็ม ครูใหญ่
ไผทแม้เป็นพ่อแท้ๆ ของซอบาแต่กเ็ ป็นคนหนักแน่นไม่เอนเอียงไปทางลูกชายอย่าง
ไร้เหตุผล แต่จะให้ออกหน้าเป็นฝ่ายกาเส็มเต็มตัวก็ไม่ได้ ครูใหญ่ไผทจึงกลายเป็น
ฝ่ายที่สามคือฝ่ายครูที่ไม่เอนไปทางกาเส็มหรือซอบา แม้ครูใหญ่ไผทจะหนักใจอยู่
บ้างแต่ก็เฝ้าดูสถานการณ์อย่างเงียบๆ พวกครูในโรงเรียนตกเย็นสอนเสร็จก็รีบ
กลับบ้านพักเพราะกลัวผีตวั ต่อ อีกทัง้ ไม่อยากทนอึดอัดใจตอนชาวบ้านสองฝ่ายมา
หว่านล้อมเข้าเป็นพวก
อิทธิฤทธิข์ องผีตวั ต่อมีมากพอกับกลิน่ คาวของมัน หลังชาวบ้านทุกคนเลือก
ฝ่ายของตนแล้ว เด็กของหมูบ่ า้ นก็ตอ้ งเลือกฝ่ายเช่นกัน เด็กคนไหนพ่อแม่หรือญาติ
พี่น้องเป็นฝ่ายกาเส็มก็ถือตนเป็นฝ่ายกาเส็ม เด็กคนไหนพ่อแม่หรือญาติพี่น้องเป็น
ฝ่ายซอบาก็ถือตนเป็นฝ่ายซอบา แล้วเด็กสองฝ่ายก็ไม่ชอบขี้หน้ากัน เจอที่ไหนก็
ชกต่อยกัน พ่อแม่หรือญาติพี่น้องทั้งสองฝ่ายของเด็กที่ชกต่อยกันพอเจอหน้าก็
พากันชกต่อยเหมือนกับเด็กๆ แม้แต่นกเขาชวาก็แยกกันขันบนต้นไม้คนละต้น ไม่
ขันร่วมกันดังก่อน เหตุการณ์ทำ� ท่าบานปลาย ห้องละหมาดไม่ได้สร้างต่อ หมู่บ้าน
มายอเหมือนถูกไฟสุมอยู่ใต้ผืนดิน ซอบายิ่งกระพือข่าวว่ากาเส็มปล่อยผีสู่ห้อง
ละหมาดแล้วก็จะปล่อยฝูงผีเข้ากินตับคนในหมูบ่ า้ นในไม่ชา้ บางคนกลัวผีกนิ ตับถึง
กับบอกขายที่ดินเตรียมอพยพ แต่ที่ดินในหมู่บ้านเชิงเขาห่างไกลเมืองและเต็มไป
ด้วยเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีในอดีตและผีในปัจจุบันอย่างนี้ ไม่มีใครอยากซื้อไว้แม้ว่า
ราคาถูกมากก็ตาม
อยู่มาวันหนึ่ง กาเส็มตื่นเช้ามาพบก้อนอะไรสักอย่างชุ่มน�้ำสีแดงกองอยู่
หน้าบ้านถึงสิบก้อน กาเส็มเพิง่ ตืน่ นอน พอขยีต้ าก็เห็นว่าก้อนสิบก้อนนัน้ คือไก่ทถี่ กู
เชือดคอนอนตายอยู่หน้าบ้านถึงสิบตัว ถึงตอนนี้ กาเส็มกลายเป็นน�้ำเดือดขึ้นมา
แล้ว ต้องมีคนท�ำเรื่องบ้าๆ แกล้งกันแน่ กาเส็มเห็นหน้าไก่ทุกตัวเป็นหน้าซอบา
เขาไม่อาจนั่งมองความล้มเหลวของห้องละหมาดที่ยังไม่ได้มุงหลังคาอีกต่อไป

188 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 188 21/3/2561 BE 10:00


“เราจะได้เห็นดีกนั …” กาเส็มกัดฟัน มองก�ำปัน้ ตัวเองแต่ก�ำปัน้ กลับกลาย
เป็นซอบาลอยหน้าลอยตา แล้วใบหน้าของซอบาก็กระจายกลายเป็นฝูงผีตวั ต่อบิน
กระจายขึน้ ฟ้า กาเส็มตัดสินใจก้าวสวบๆ ไปยังบ้านครูใหญ่ไผท น�ำ้ ร้อนคุคลัง่ ในอก
ของกาเส็มพร้อมทะลักจากพวยทุกเวลา


บ้านครูใหญ่เงียบงัน ไร้เสียงเฮฮาของซอบาและพรรคพวก กาเส็มไปถึงหน้าบ้าน
ครูใหญ่ไผทด้วยใจพร้อมแตกหักกับซอบา แต่ครูใหญ่ไผทบอกว่าซอบาไปแล้ว
ซอบาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีหลายวันจนครบก�ำหนดก็ต้องกลับไป
จัดแจงที่กรุงเทพฯ
“ห้องละหมาดจะได้มุงหลังคาเสียที…” ครูใหญ่ไผทกับซอบาคิดตรงกัน
บทผีจะไปก็ไปเสียง่ายๆ ไม่น่าเชื่อว่าผีตัวต่อที่เฝ้าห้องละหมาดที่ยังไม่มี
หลังคาจะจากไปอย่างง่ายดายเช่นนั้น วันที่ซอบากับพรรคพวกขึ้นรถไฟกลับ
เมืองหลวง เล่าลือกันว่าเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึน้ ทีส่ ถานีรถไฟคล้ายคลึงกับวันที่
ซอบาเดินทางมาถึง นั่นคือฝูงตัวต่อนับหมื่นบินออกจากหมู่บ้านมายอมาว่อนวน
เหนืออาคารไม้ของสถานี ขบวนรถไฟผีเข้าเทียบชานชาลาต่อท้ายขบวนทีซ่ อบาและ
เพือ่ นจากกรุงเทพฯ เพิง่ ขึน้ ฝูงตัวต่อบินผลุบเข้าขบวนรถไฟผีจนหมด ท้องฟ้าเหนือ
สถานีรถไฟก็สว่างขึ้น แล้วรถไฟทั้งสองขบวนก็แล่นออกจากสถานี จากเชื่องช้า
จนกระทั่งเร็วขึ้น ลับหายไปพร้อมกันในที่สุด

“ป๊ะ ป๊ะ พรุง่ นีเ้ ด็กๆ ต้องไปโรงเรียน” มะเตือนป๊ะเป็นครัง้ ทีส่ อง ป๊ะบอกเรือ่ งก�ำลัง
จะจบ น้องชายขอให้ป๊ะเล่าต่อแล้วค่อยนอน ผมบอกป๊ะด้วยประโยคเดียวกับ
น้องชาย ป๊ะมองหน้ามะ จากนั้นจึงรีบเล่าเรื่องผีตอนจบ

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 189 21/3/2561 BE 10:00



ผีตัวต่อออกจากหมู่บ้านไปแล้ว กาเส็มคิดว่าโชคดีเหลือเกินที่ตนไม่ทันท�ำอะไร
วูว่ ามลงไป ครัง้ นีผ้ ใี ห้บทเรียน ต่อไปถ้ามีเหตุการณ์เช่นนีอ้ กี จะใจเย็นให้มากกว่านี้
ไม่คดิ แก้ปญั หาด้วยก�ำลังอีกแล้ว ถ้ากาเส็มได้ใช้กำ� ปัน้ คุยกับซอบา เรือ่ งราวคงบาน
ปลายไม่สิ้นสุด ผีบางตนอยู่ในใจเรานี่เอง แต่ผีบางตนที่มาจากนอกหมู่บ้านอย่าง
ผีตัวต่อที่มากับขบวนรถไฟนั้น กาเส็มรู้ว่าเป็นเรื่องธรรมดาเสียแล้วส�ำหรับหมู่บ้าน
ที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าเกี่ยวกับผี ผีจากภายนอกไม่สามารถห้ามเข้าสู่หมู่บ้านได้
แต่กาเส็มเชื่อว่าวิธีรับมือกับผีนั้นต้องมีอย่างแน่นอน
หยาดน�้ำค้างจับอยู่แพรวพราวบนยอดหญ้าและตามกิ่งใบตะแบก กลิ่น
น�้ำค้างชื้นยังล่องลอยในอากาศ แดดเช้าส่องกระทบเสาห้องละหมาดที่ยังไม่มุง
หลังคา เงาของเสาทั้งเก้าต้นทาบทับลงพื้นดิน ดูเป็นเหลื่อมชั้นสวยงาม กาเส็มยืน
เคียงครูไผทมองสิ่งก่อสร้างตรงหน้าอย่างสงบ วันนี้เป็นวันเสาร์ อีกสักประเดี๋ยว
ชาวบ้านก็คงทยอยแบกหามเครือ่ งมือก่อสร้างกันมา ผีตวั ต่อหายไปพร้อมซอบาและ
หนุม่ สาวจากเมืองหลวง ตอนนัน้ กาเส็มเจ็บใจว่าผีตวั ต่อออกจากหมูบ่ า้ นไปเสียก่อน
ที่จะพบวิธีไล่ผี แต่ตอนนี้กาเส็มกลับคิดได้อย่างหนึ่งว่า ตอนผีตัวต่อมาเฝ้าห้อง
ละหมาดทีย่ งั สร้างไม่เสร็จ ก่อนมายอจะแตกเป็นสามส่วน เขาและชาวบ้านและทาง
โรงเรียนได้เฝ้าระวังผีอย่างสงบไม่เข้าต่อกรกับผีพวกนั้น ความสงบเฉยไว้นั่นคือวิธี
รับมือกับผีอย่างหนึง่ นัน่ เอง ส�ำคัญว่าอย่าให้ผภี ายในสัน่ คลอนพลังของหมูบ่ า้ นอย่าง
ที่ผ่านมาก็แล้วกัน
พอผีไปแล้ว มายอทีเ่ คยแตกเป็นสามส่วนก็กลับเป็นหนึง่ เดียวเช่นเดิมราว
ถูกคลายมนต์สะกด คนที่เคยต่อยกันก็หันมาวาฮับหรือขอโทษและจับมือกัน เด็กๆ
ของหมู่บ้านก็กลับมาเล่นด้วยกันอย่างสนุกสนาน ห้องละหมาดยังไม่มีหลังคา
จากนีไ้ ปต้องเดินหน้าสานต่อ กาเส็มเชือ่ ว่ามือทุกมือของชาวมายอ คือมือทีจ่ ะสร้าง
ห้องละหมาดที่มีหลังคามั่นคงแข็งแรง ผีร้ายตนไหนก็ไม่อาจท�ำลายหรือยึดครอง
ทันใดนั้น กาเส็มและครูใหญ่ไผทก็ได้ยินเสียงนกเขาชวาหลายตัวกู่ขันขึ้น
พร้อมกัน.

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 190 21/3/2561 BE 10:00


พิณพิพัฒน ศรีทวี
จบศิลปศาสตรบัณฑิต
เกียรตินยิ มอันดับ ๑ จากมหาวิทยาลัย
ราชภัฏภูเก็ต ชอบทดลองชีวิต เคย
เป็นกรรมกรลูกจ้างแผนกบัญชี ฝ่าย
ทรั พ ยากรบุ ค คล ฝ่ า ยบริ ห ารหนี้
ของบริษทั ใหญ่จกั รยานยนต์รบั จ้าง
นักดนตรีในผับ เด็กเสิรฟ์ เจ้าของร้าน
อาหาร เด็กรถสิบแปดล้อ ดีเจวิทยุ
ชายผู้เคว้งคว้างว่างเปล่า ฯลฯ เคย
เซ็นสัญญาออกอัลบั้มเพลงกับบริษัท
ทีเ่ มืองหลวงของประเทศ ปัจจุบนั ทดลองเป็นนักเขียน มีรางวัลประดับใจ
บ้าง เช่น รางวัลสุภาว์ เทวกุลฯ รางวัลเปลือ้ ง วรรณศรี รางวัลจากสถาบัน
ปรีดี พนมยงค์ ฯลฯ

สถาบันพระปกเกล้า 191

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 191 21/3/2561 BE 10:00


จักรเครื่องเก่า
สายพานขาด
บุหลันบัณรสี

โ ต๊ะไม้มะค่าลงยาชันชักเงาจนแวววับ เห็นลายไม้แจ้งตา ตั้งเป็นเครื่องเรือนชิ้น


เดียวในห้องโถงที่ดูมีราคาและแปลกตา ขาเหล็กของมันมีแผ่นรองเท้าติดแกน
ข้อเหวีย่ ง ส่งต่อไปถึงวงล้อขนาดใหญ่ใต้โต๊ะ หล่อนวางถุงพลาสติกขนาดใหญ่เปียก
น�ำ้ ฝนใส่ชนิ้ งานทีเ่ พิง่ รับมาลงทีพ่ นื้ เปิดฝาโต๊ะอย่างเบามือ เพราะไม่เพียงแต่จะเป็น
มรดกตกทอดทีพ่ อ่ สามีของหล่อนหวงแหนหนักหนา โต๊ะตัวนีย้ งั เป็นก�ำลังส�ำคัญใน
การหารายได้มาจุนเจือครอบครัวขนาดเล็ก ทีม่ กี นั สีค่ น พ่อ แม่ ลูก และปู่ ช่วยสามี
ของหล่อนซึ่งเป็นก�ำลังหลักเพียงล�ำพัง โดยเฉพาะในเวลานี้ ที่เกิดการประท้วงปิด
โรงงานมาหลายวันแล้ว
หล่อนยกตัวจักรออกจากตูไ้ ม้ ตัง้ ฐาน ใส่สายพานคล้องวงล้อใหญ่ดา้ นล่าง
กับวงล้อหัวจักร ตรวจดูความเรียบร้อยของส่วนต่างๆ หยอดน�้ำมันหล่อลื่นเพื่อให้
กลไกของจักรเย็บผ้าหลังเก่า น�ำเข้าจากต่างประเทศเกือบร้อยปีมาแล้วเดินคล่อง
ตัวไม่ติดขัด ก่อนจะเริ่มต้นร้อยด้าย
เสียบหลอดด้ายลงในแกน แล้วดึงเส้นด้ายผ่านที่คล้องด้ายบน สอดปลาย
ลงในรูเล็กบนคันกระตุก คล้องด้ายผ่านปุม่ ปรับความตึง แล้วในทีส่ ดุ ก็รอ้ ยผ่านรูบน

192 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 192 21/3/2561 BE 10:00


สถาบันพระปกเกล้า 193

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 193 21/3/2561 BE 10:00


เข็มทีถ่ กู ล็อกกับหลักเข็ม หมุนวงล้อกระทะช้าๆ ให้เข็มทิม่ ผ่านรูเล็กบนแผ่นฟันจักร
ซึง่ ขยับยกตัวตามจังหวะด้วยกลไกทีป่ ระสานกับแกนส่ง ไปล้วงเอาด้ายกระสวยด้าน
ล่าง หล่อนวางผ้าทดลองเย็บเพื่อปรับฝีเข็ม ความตึงของด้ายบน และด้ายล่างให้
พอดีกัน เกิดเป็นฝีเย็บเรียบพอดี หล่อนพิศวงความสามารถในการคิดประดิษฐ์ของ
มนุษย์เสมอ ช่างสรรให้ทุกส่วนประสานและลงตัว ส่วนหัวเป็นที่ตัวจักรส�ำคัญ
เดินได้ด้วยตีนถีบ ยิ่งถีบไวยิ่งได้งาน
วางชิ้นงานลงแล้วปลดล็อก ให้ตีนผีตรึงผ้าไว้บนฟันจักร หล่อนหมุนวงล้อ
หัวจักรเข้าหาตัว เป็นจังหวะเดียวกับทีข่ ยับถีบบนทีว่ างเท้า ยกคันปรับฝีเข็มให้ไปที่
เลขศูนย์ เพือ่ ให้ฟนั จักรเดินถอยหลังแล้วโยกกลับมาทีเ่ ดิมเพือ่ เย็บย�ำ้ ขึน้ ต้นชิน้ งาน
แล้วจึงเริ่มถีบจักรอย่างสม�ำ่ เสมอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะท�ำได้
เสียงฝนเปาะแปะด้านนอกประสานกับจักรเย็บดังกึงกัง ที่ด้านใน เป็น
จังหวะเดียวกับการถีบ เพื่อยกข้อเหวี่ยง หมุนวงล้อใหญ่ ถ่ายพลังผ่านสายพานไป
ยังวงล้อกระทะหัวจักร หมุนแกนส่งก�ำลัง ให้เข็มจักรเลื่อนขึ้นลง เข้าจังหวะกับการ
ยกตัวเลื่อนผ้าของฝีจักร เข็มจิ้มลงบนผ้า ทะลุไปคล้องด้ายกระสวยเป็นห่วงโซ่เย็บ
ให้ผ้าสองชิ้นต่อติดกัน ไม่นานกางเกงขายาวหนึ่งตัวก็ส�ำเร็จ หล่อนผ่อนปรนฝีเท้า
จนเข็มบนหัวจักรนิ่งสนิท แล้วค่อยก้มหยิบชิ้นงานที่สอง...
เท้าเล็กทั้งคู่ขยับโยก กดแผ่นรอง หล่อนเร่งฝีถีบให้เร็วรัวขึ้นอีกนิด งานที่
ส�ำเร็จไวขึน้ รับประกันรายได้ในครอบครัวมากขึน้ ...หล่อนเร่งฝีเท้าจนเต็มที่ แม้จะ
เหนื่อยล้าเปลี้ยแขนขา จักรหลังเก่ายังคงส่งเสียงดังกึงกังเคล้าเสียงสายฝนตก
กระทบหลังคาหนาเม็ดขึ้นเรื่อย
และแล้ว...สายพานก็ขาดผึง ตอนที่มีแสงสว่างจ้าทะลุเมฆด�ำแล้วสายฟ้า
ฟาดดังเปรี้ยง
ปู่ทองดีสะดุ้งสุดตัวจนรถบังคับวิทยุของหลานชายในมือตกพืน้ ไม่ใช่เสียง
ฟ้าฝนกับแสงจ้านัน่ หรอกทีเ่ ป็นต้นเหตุ หากเป็นเสียงโหยหวนของไซเรนบนหลังคา
รถต�ำรวจที่แล่นผ่านหน้าบ้านไปทางท้ายซอยเจ้าคุณโชฏึกฯ ปู่ชะเง้อตามแสงไฟ

194 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 194 21/3/2561 BE 10:00


สีน�้ำเงินวิบวับ เสียงถีบจักรของลูกสะใภ้ด้านในเรือนไม้สองชั้นเงียบไปแล้ว เสียง
ไซเรนจางหู แต่ยังก้องในความกังวลของปู่
เสียงหวูดจากปล่องควันของโรงงานท่านเจ้าสัว ที่ท้ายซอย เงียบหายไป
หลายวันแล้ว ตั้งแต่วันที่ไฟตกคราวก่อน ลูกชายของปู่ทองดีก็หยุดงานมาหลายวัน
แล้วเช่นกัน เหมือนมีลางร้ายให้สะท้อนในอก ชายชราถอนหายใจหนักหน่วง
ชันกายขึ้นมองท้องฟ้าพยับเมฆชุ่มน�ำ้ นัยน์ตาฝ้าฟางของแกมีแววกังวลใจ
“ปู่จะไปไหน”
หลานชายตัวจ้อยนอนพังพาบแนบพื้นกระดาน รอให้ปู่ซ่อมรถบังคับ
คันเก่าตกทอดมาตั้งแต่รุ่นพ่อ อา ผ่านมาจนถึงมือเขา เงยมองผู้ชราซึ่งลุกขึ้น คว้า
งอบที่ใส่เวลาลงแปลงผักสวนครัวครอบหัว
“ปู่จะไปดูพ่อเอ็งที่โรงงานสักหน่อย”
เด็กชายได้ยนิ ค�ำตอบก็ทำ� หน้าม่อย แต่ไม่กล้าบ่นอะไรมากนัก ถึงรถบังคับ
จะเสีย เขาก็ยังพอสนุกกับมันได้ด้วยการไถรถไปกับพื้น แล้วใช้ปากท�ำเสียงบรื้นๆ
แทนเสียงเครือ่ งยนต์ บางทีตอนสิน้ เดือนถ้าพ่อขยัน ได้เงินโอทีเยอะๆ ปูอ่ าจจะยอม
ให้พ่อซื้อรถบังคับคันใหม่ให้สักคัน
ชายชราเดินตากฝนออกไปแล้ว ไม่ทันได้ยินเสียงเรียกของลูกสะใภ้ที่
ขอให้ช่วยซ่อมจักรเย็บผ้าให้ก่อน รอยต่อบนสายพานที่ปู่ซ่อมไว้คราวก่อน ขาดลง
อีกแล้ว
ที่สุดซอยเจ้าคุณโชฎึกฯ เป็นที่ตั้งโรงงานอุตสาหกรรมขนาดกลางที่มีอายุ
เก่าแก่พอๆ กับท่านเจ้าพระยากินนาผู้เป็นเจ้าของที่ดินแถบนี้เกือบทั้งหมด ท่าน
เจ้าคุณฯ และโรงงานของท่านเป็นหัวใจเป็นชีวติ ของชาวบ้านในละแวกนี้ โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งเครื่องจักรฝรั่งที่น�ำเข้ามาช่วยการผลิต ท�ำให้โรงงานของท่านเจ้าคุณในยุค
นัน้ น�ำสมัยและเป็นทีก่ ล่าวขวัญถึง เป็นตัวอย่างให้อกี หลายโรงงานท�ำตามเพือ่ เพิม่
ศักยภาพ ในตอนแรกคนงานก็กริ่งเกรงกันว่าจะต้องตกงานเพราะโดนเครื่องจักร
แย่งที่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปท่านเจ้าคุณฯ กับเครื่องจักรเครื่องใหม่ก็ได้พิสูจน์ตัวเอง

สถาบันพระปกเกล้า 195

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 195 21/3/2561 BE 10:00


แล้วว่าน�ำความเจริญ และความมั่งมีมาสู่ชุมชน ท�ำให้ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงมี
งาน มีเงิน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมทั้งปู่และครอบครัวของปู่ทองดี
ปู่ทองดีไม่ได้เกิดมากับเครื่องจักรใหม่เอี่ยมของท่านเจ้าคุณ แต่โตขึ้นมา
พร้อมกับมัน และท่านเจ้าสัวใหญ่ ไม่มีใครรู้จัก รู้ใจเครื่องจักร และหลานชายคน
เดียวของท่านเจ้าคุณฯ ดีเท่าปู่อีกแล้ว นอตทุกตัว ฟันเฟืองทุกซี่ ปู่รู้จักดีเสียยิ่งกว่า
ลายบนฝ่ามือตนเองเสียอีก ปู่เป็นคนงานธรรมดาที่ทำ� หน้าที่ดูแลเครื่องจักร บ�ำรุง
โรงงาน และซื่อสัตย์ต่อท่านเจ้าสัวใหญ่มาโดยตลอดจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าจะวางมือ
มานานแล้ว แต่เครือ่ งจักรใหม่ของท่านเจ้าคุณฯ โรงงาน และท่านเจ้าสัวใหญ่ ยังคง
เป็นชีวิต ศรัทธาและความซื่อสัตย์ของปู่ทองดีเสมอมา จนกระทั่งวันที่ฝนพร�ำแล้ว
ไฟตกครั้งก่อน เสียงหวูดจากปลายคันโพงปล่องไฟโรงงานเงียบหายไป มีเสียงร�่ำ
ร้องของคนงานอย่างลูกชายปูด่ งั ขึน้ แทน มันเริม่ จากแผ่วเบาแล้วดังขึน้ เรือ่ ย เมือ่ เจ้า
สัวถือตนว่าเป็นเจ้าของ รัก และรู้จักโรงงาน เครื่องจักรของตนดีพอที่จะ...ใช้มันต่อ
ไป ไม่ว่ามันจะเก่าล้าหลังแค่ไหน
ประตูหน้าหน้าโรงงานเปิดกว้างกระทัง่ ประตูโรงเรือนทีต่ งั้ เครือ่ งจักร มีคน
ชุมนุมอยูท่ นี่ นั่ เป็นจ�ำนวนมาก แต่ไม่มใี ครท�ำงานสักคน และทุกคนก�ำลังส่งเสียงดัง
แทนเครื่องจักรใหม่ของท่านเจ้าคุณฯ ที่เงียบสนิท ปู่รู้ว่าเครื่องจักรหยุดท�ำงานไป
ตั้งแต่ไฟตกครั้งก่อน ลูกชายปู่ซึ่งรับหน้าที่ต่อจากผู้เป็นพ่อพยายามซ่อมมันให้ติดๆ
ดับๆ หลายครั้ง จนล่าสุดเครื่องไม่ท�ำงานอีกเลยเพราะคนงานพร้อมใจกันหยุดงาน
...พวกเขาต้องการให้เจ้าสัวท�ำอะไรสักอย่างกับเครื่องจักรเก่า ที่ปู่และท่านเจ้าสัว
เรียกว่าเครื่องจักรใหม่ ตามแบบท่านเจ้าคุณฯ ...มันทันสมัยมากในยุคของปู่กับเจ้า
สัวใหญ่
ปูท่ องดีพยายามเดินผ่านคนงานทีช่ มุ นุมกันอยูท่ างด้านหน้า อยากจะตาม
เจ้าสัวน้อยไปพบเจ้าสัวใหญ่ บางทีปู่ทองดีต้องลงมือซ่อมเครื่องจักรใหม่ของท่าน
เจ้าคุณฯ อีกครั้ง
“ผมว่าเตี่ยน่าจะลงทุน...”

196 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 196 21/3/2561 BE 10:00


ได้ยนิ เสียงถามของเจ้าสัวน้อย ลูกชายคนเดียวทีเ่ จ้าสัวใหญ่สง่ ไปเรียนเมือง
นอก เพือ่ น�ำความรูก้ ลับมาบริหารโรงงาน เหมือนทีป่ ทู่ องดีสง่ พ่อของหลานชายเรียน
สูงๆ ปู่รู้ว่าเจ้าสัวใหญ่คงจะโบกมือช้าๆ เหมือนกับตอนที่พ่อคุยกับปู่เรื่องซื้อจักร
ไฟฟ้าใหม่ให้ลูกสะใภ้สักหลัง แทนจักรเก่า ...ที่มันยังใช้ได้ตามความคิดของปู่ ก็แค่
เท้าที่ต้องขยันถีบเท่านั้นเอง
“ของเก่าถึงแม้มนั จะคร�ำ่ ครึไปบ้าง แต่ทนทานกว่าของสมัยใหม่ ถ้าเราซ่อม
มันได้ ก็ให้คนเร่งมือ มันก็ท�ำให้โรงงานไปได้แบบเดิมนั่นแหละ”
“แต่เตีย่ ก็เห็นว่าเครือ่ งของเรามันล้าสมัยไปมากแล้วก�ำลังผลิตไม่สรู้ นุ่ ใหม่
ต่อให้คนงานของเราขยันเข้างานทุกกะ ท�ำกันทั้งวันทั้งคืนก็ไม่ทันเขา ยิ่งฝนตก ไฟ
ดับเครื่องก็พังทุกครั้งแบบนี้ เราจะท�ำยังไงให้ทันโรงงานอื่นล่ะเตี่ย”
“ทันสิ ก็ให้คนงานของเราขยันมากขึ้น อีกหน่อย ไม่ใช่พากันนัดหยุดงาน
แบบนี้ ”
ปูเ่ ห็นด้วยกับความคิดของเจ้าสัวใหญ่ ถึงเจ้าสัวน้อยจะมีความคิดก้าวหน้า
แบบคนหัวนอก แต่เรื่องประสบการณ์จะสู้คนผ่านโลกมาแบบเจ้าสัวใหญ่ได้ยังไง ปู่
รู้ตรงนี้ดีเหมือนปู่กับพ่อนั่นแหละ ที่ปู่รู้จักเครื่องจักรใหม่ของท่านเจ้าคุณดีกว่าพ่อ
หลายขุมนัก เหมือนจักรเก่าที่บ้านแค่ต้องขยันถีบ จะต้องเห่อของใหม่ทำ� ไมนัก
ปูท่ องดีเห็นพ่อของหลานชายเดินออกมาจากกลุม่ ผูช้ มุ นุม ยกมือให้ทกุ คน
อยู่ในความเงียบสงบ ขอเจรจากับเจ้าสัวน้อย
“ผมว่าถึงเวลาแล้วที่โรงงานของเราควรจะเปลี่ยนแปลงเสียที”
เสียงพ่อจริงจังแต่ยงั แฝงความเคารพเจ้าสัวน้อยอยูค่ รามครัน ใครๆ ต่างก็
รูด้ วี า่ เจ้าสัวน้อยเป็นผูจ้ ดั การตามต�ำแหน่งเท่านัน้ อ�ำนาจการตัดสินใจทัง้ หมดยังอยู่
ในมือเจ้าสัวใหญ่ ผู้ไม่เคยวางมือการบริหารโรงงานอย่างแท้จริงสักที เหมือนที่บ้าน
ที่ปู่ทองดียังมีอ�ำนาจเหนือทุกคน ค�ำของปู่คือค�ำขาด ค�ำของเจ้าสัวใหญ่ก็เช่นกัน
“คุณรูเ้ ท่าๆ กับผมนัน่ แหละนายช่าง” เจ้าสัวน้อยถอนหายใจ “เราต้องทน
ใช้เครื่องเก่าและปรับตัวให้เข้ากับมัน”
“เจ้าสัวก็เข้าใจนีค่ รับว่าผมขันนอตหมดทุกตัวแล้ว เครือ่ งจักรเก่ามันก็ทำ� ได้

สถาบันพระปกเกล้า 197

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 197 21/3/2561 BE 10:00


แค่นี้ ถ้าจะให้แน่นกว่านี้ หัวนอตจะขาด แล้วทุกอย่างก็จะพังหมด ต่อให้คนงานเร่ง
มือ เพิม่ เวลายังไง เครือ่ งมันสูไ้ ม่ไหว ถึงเวลาต้องปรับเปลีย่ น” พ่อลงท้ายเสียงหนัก
แน่น แล้วกลับไปรวมตัวกับเพื่อนคนงานคนอื่นๆ
ปู่ทองดีถอนหายใจ ที่ลูกชายพูดก็มีส่วนถูก เคยดูอาการเครื่องจักรแล้วก็
หนักใจไม่น้อยไปกว่าทุกคน เครื่องจักรใหม่ของท่านเจ้าคุณเป็นของนอก ตอนน� ำ
เข้ามาไม่มีใครได้เรียนรู้จักมันมากเท่าไหร่ การติดตั้งอาจจะผิดพลาด จึงท�ำให้เกิด
ปัญหาขัดข้องบ่อยๆ ก็แก้ไขกันไป มีปู่ที่รู้ใจมันมากกว่าใครๆ ปู่ทองดีถึงไม่ยอมไป
ไหน อยู่ใกล้ๆ คอยแวะเวียนมาดูแลอยู่เสมอ
ปู่ยังคงง่วนอยู่ในภวังค์ ค้นหาจุดเกิดเหตุบกพร่องในเครื่องจักรใหม่ของ
ท่านเจ้าคุณ เสียงเอะอะดังขึ้นมาอีก สักพักเดียวก็เห็นคนงานที่เหลือมารวมตัว
พากันเดินออกไปสมทบกันเพื่อนร่วมงานคนอื่นที่ด้านฝนซาเม็ดไปแล้วแต่ฟ้ายัง
ฉ�่ำน�้ำ เหมือนความตึงเครียดที่ยังคงครอบคลุมอยู่ทั่วอาณาบริเวณโรงงาน
หล่อนง่วนอยูก่ บั การพยายามซ่อมสายพานจักรทีข่ าดแล้วขาดอีกตรงรอย
เดิม เรียกลูกชายตัวจ้อยมาช่วยกันปล�้ำอยู่พักใหญ่ จนเหงื่อตกก็ยังไม่เห็นผล มอง
กองผ้าชิน้ งานทีร่ บั มาเมือ่ เช้าแล้วทดท้อ ตัง้ ใจจะเร่งมือป้อนผ้า เร่งเท้าถีบจักร ตอน
บ่าย อาจจะเอางานไปส่งแล้วรับผ้าถุงใหม่มาท�ำต่อตอนกลางคืน หล่อนต้องท�ำแบบ
นี้ ขยันให้มากขึ้นถึงจะได้งานทันคนอื่นที่มีจักรไฟฟ้า
หล่อนรู้ว่าปู่ของลูกชายคงไม่กลับมาง่ายหากออกไปที่โรงงานในวันที่ฝน
ตกและฟ้าผ่า ทีน่ นั่ มีเครือ่ งจักรเก่าต้องซ่อม เหมือนของหลายชิน้ ในบ้านทีก่ ำ� ลังหมด
อายุขยั อย่างจักรหลังนี้ หล่อนยอมรับว่ามันสวยมากและมีคา่ ทางใจมหาศาลส�ำหรับ
พ่อสามี แม้กระทั่งกับหล่อนเอง แต่หล่อนต้องการจักรใหม่ที่ช่วยผ่อนแรงมากกว่า
จักรสวยแต่เก่า หล่อนถอนหายใจ มองดูรถบังคับของลูกชายทีต่ อ้ งการการซ่อมแซม
เช่นเดียวกัน บางที ถ้าส่งผ้าได้มากขึ้น หล่อนจะมีเงินเจียดมาซื้อความสุขเล็กๆ ให้
คนที่หล่อนรักได้บ้าง โดยเฉพาะในเวลาที่สามีของหล่อนต้องการก�ำลังสนับสนุน
หล่อนจะเย็บผ้าให้มากกว่านี้ ถ้าจักรของหล่อนสายพานไม่ขาดไปเสียก่อน
“พวกมันต้องการอะไรอีก”

198 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 198 21/3/2561 BE 10:00


เจ้าสัวใหญ่ถามเจ้าสัวน้อย มองดูคนงานทิง้ งาน ทยอยออกไปรวมตัวกันที่
ด้านหน้า ปู่พลอยมองตามเห็นลูกชายของตัวเองอยู่ด้านหน้ากลุ่มคนทั้งหมด
“ผมคิดว่าพวกเขาอยากจะคุยกับเตี่ยเรื่องเครื่องจักร”
“อั๊วไม่มีอะไรต้องคุย พวกนั้นเป็นแค่คนงาน มีหน้าที่ทำ� งาน ส่วนอั๊วเป็น
เจ้าของทีน่ ี่ มีหน้าทีต่ ดั สินใจ อัว๊ ตัดสินใจแล้วว่าเราจะซ่อมเครือ่ งจักรให้กลับมาใช้ได้
เหมือนเดิม และพวกมันต้องเร่งงาน เพิ่มกะให้ทันส่งของ ท�ำงานมากขึ้น อั๊วก็จ่าย
ค่าแรงตามชัว่ โมงทีท่ �ำ มันจะเดือดร้อนอะไรนักหนา โรงงานนีข้ องอัว๊ ไม่ใช่ของพวก
มันสักหน่อย”
“ผมว่าเตี่ยคิดแบบนั้นก็ไม่ถูกเท่าไหร่ โรงงานเป็นชีวิต เป็นทุกอย่างของ
ทุกคน”
“ถ้าโรงงานเป็นชีวติ ของพวกมันทุกคน แล้วท�ำไมมันถึงทิง้ งาน ทิง้ ชีวติ ไปล่ะ”
“ผมว่าเป็นเพราะเขามีสิทธิ์จะตัดสินใจนะเตี่ย”
“ลื้อเห็นด้วยกับพวกมันรึ”
“ผมเห็นด้วยที่จะฟังความเห็นของพวกเขา”
“ถ้าพวกลื้อไม่กลับเข้าท�ำงานทันที ก็ไม่ต้องอยู่ด้วยกันอีก ไปให้พ้นจาก
โรงงานของอั๊ว ไม่อย่างนั้นอั๊วจะให้เจ้าหน้าที่มาลากคอพวกลื้อออกไป” เจ้าสัว
ประกาศกร้าว เมื่อคนงานส่งเสียงดังจะยึดโรงงานไม่ไปไหน จนกว่าเจ้าสัวใหญ่จะ
ตัดสินใจเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่
“ถึงพวกผมจะกลับเข้าประจ�ำที่แต่เราจะท�ำอะไรได้ในเมื่อเครื่องจักรเสีย
เจ้าสัวครับ ท�ำไมเราถึงไม่เปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ แทนที่จะบังคับให้คนงานเร่งงาน
เร่งไปมันก็ไวและดีไปกว่านี้ไม่ได้ เครื่องกับคนต้องเดินไปด้วยกันถึงจะถูก”
“ถ้าพวกลื้อไม่อยากท�ำงานกับเครื่องจักรเก่าก็ออกไปหาโรงงานอื่นที่มี
เครื่องจักรใหม่ๆ สิ อั๊วไม่ได้ว่าอะไร แต่ไปแล้วอย่าหวนกลับมา”
“ถ้าคนงานไปกันหมด เจ้าสัวคิดว่ามีแต่เครื่องจักรงานมันจะเดินไปได้เอง
หรือ พวกผมต้องอาศัยโรงงานของเจ้าสัวถึงจะมีเงินเดือนกิน มันก็จริงอยู่ แต่เจ้าสัว
ก็ตอ้ งอาศัยแรงงานของพวกผม ถึงจะมีกำ� ไร เราต่างต้องพึง่ พาอาศัยกันทัง้ สองฝ่าย

สถาบันพระปกเกล้า 199

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 199 21/3/2561 BE 10:00


โรงงานเป็นของเจ้าสัวก็จริงนะครับแต่มันเป็นชีวิต เป็นปากท้องของพวกเราด้วย
แล้วท�ำไมคนงานถึงไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นเกี่ยวกับปากท้องของตัวเองบ้าง”
ปู่ไม่รู้หรอกว่าเจ้าสัวใหญ่ จะตัดสินใจว่าอย่างไร เพราะจู่ๆ ก็เกิดเสียง
อึกทึก เสียงคนงานตะโกนลัน่ ชุลมุนกันอยูจ่ นต�ำรวจทีเ่ จ้าสัวใหญ่ขอให้มาช่วยดูแล
ความสงบ กรูกันเข้าไปใช้ก�ำลังจับกุมแกนน�ำการชุมนุมอย่างสงบในข้อหาก่อความ
ไม่สงบ
ปู่ทองดีเห็นลูกชายของตนถูกล็อกแขนไขว้หลัง และถูกผลักจนล้มลงไป
นอนคว�ำ่ ลงกับพืน้ ปูนแฉะน�ำ้ ฝน มีตำ� รวจสองนายคร่อมอยูบ่ นหลังก�ำลังใส่กญ ุ แจมือ
จองจ�ำ สิ้นอิสรภาพ แต่ลูกชายของปู่ทองดียังตะโกนก้องว่าเขาก็เป็นเจ้าของโรงงานนี้
เท่าเทียมกับทุกๆ คน
ปู่ทองดีมองตามลูกชายที่ถูกต�ำรวจถูกจับไป น่าประหลาดที่แกไม่ได้คิด
กังวลมากนักแต่กลับเกิดความเบาในอกที่หน่วงอัดอยู่ก่อนหน้านี้ ส่วนหนึ่งคงเป็น
เพราะเจ้าสัวน้อยเองที่ให้ความมั่นใจกับคนงานที่เหลือทุกคนว่าเขาจะดูแลประกัน
ตัวทุกๆ คน และอีกส่วนใหญ่คงเป็นเพราะความแน่วแน่ประกาศตัวเองของลูกชาย...
ผมแค่ออกความเห็นในส่วนที่เป็นชีวิตของผม ...ใช่ โรงงานและเครื่องจักรเป็นชีวิต
ของคนงานทุกคนและเป็นชีวิตของทุกชีวิตในชุมชนที่ต้องอาศัยรายได้จากการ
ท�ำงานที่นี่
ใจของปู่ที่วาบหายตอนเห็นลูกชายร่วงลงไปกองกับพื้นกลับพองโต ฟูขึ้น
ปู่รู้ว่าลูกชายไม่ได้ท�ำอะไรผิด เขาแค่ท�ำตามสิทธิ์ของคนงานคนหนึ่งซึ่งมีความเป็น
‘เจ้าของ’ โรงงาน เช่นเดียวกับเจ้าสัวใหญ่ น่าประหลาดที่ลูกชายถูกจับ แต่ปู่กลับ
ภาคภูมิใจ ปู่มองสบตาเจ้าสัวใหญ่ แม้จะเข้าใจความคิดของคนรุ่นเดียวกันที่วางใจ
กับเครื่องจักรเก่า แต่...มันถึงเวลาที่จะต้องปรับเปลี่ยนแล้ว
ปู่เดินกลับบ้านรู้สึกเบาตัว สบายใจกว่าขามา ฝนหยุดตกแล้ว ฟ้าหลังฝน
ใสกระจ่างกว่าเดิม หยุดดูราคารถบังคับที่วางขายอยู่ในร้านกลางซอย บางทีรถคัน
เก่าของหลานชายคงถึงเวลาเวลาที่จะเก็บไว้เป็นที่ระลึกถึง
ทีบ่ า้ นเงียบเชียบไร้เสียงถีบจักร ลูกสะใภ้ของปูท่ องดียงั ง่วนอยูก่ บั การซ่อม

200 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 200 21/3/2561 BE 10:00


จักรเย็บ ชิ้นผ้าที่ยังไม่ส�ำเร็จกองอยู่บนพื้น ปู่รับสายพานจากมือลูกสะใภ้ ใช้วิชาที่
เรียนรูม้ าชัว่ ชีวติ กับเครือ่ งจักรใหม่ของท่านเจ้าคุณฯ ซ่อมสายพานตรงรอยขาดเดิม
ให้พอใช้ได้ไปก่อนอีกสักครั้ง ถ้ามันขาดลงอีกที...ก็คงจะถึงเวลาเหมือนกัน
ปูท่ องดีออกมานัง่ นอกชานเรือน มองดูหลานชายนอนคว�ำ่ หน้า ไถรถบังคับ
ที่ใช้การไม่ได้แล้วเล่นกับพื้น ปากท�ำเสียงบรื้นๆ อย่างสนุกสนาน เสียงถีบจักรของ
ลูกสะใภ้ผู้รีบเร่งเย็บชิ้นงานส่งให้ทันเวลาดังระรัว เป็นสิ่งที่ปู่คุ้นเคย รู้สึกใจหาย
เหมือนกันเมื่อถึงวันที่จักรไฟฟ้าเข้ามาแทนที่ แววตาของปู่ทองดีหมองไปวูบหนึ่ง
คล้ายแววตาของเจ้าสัวใหญ่ แต่แล้วกลับสดใสเหมือนฟ้าหลังฝน
“ถึงยังไงมันก็ต้องใช้ตีนอยู่ดีแหละ ไอ้จักรไฟฟ้าหลังใหม่นั่นน่ะ” ปู่ทองดี
หัวเราะเบาๆ คลอเสียงถีบจักร

เพ็ญจันทร์ เพชรสุวรรณ
กองสตอง
จบการศึกษาทาง
วิทยาศาสตร์การแพทย์
วทบ(รังสีเทคนิค) เริ่มต้น
จากเขียนบันทึกสั้นๆ ตาม
โซเชียลเน็ตเวิร์คเมื่อหลาย
ปีก่อน เขียนนิยายสารพัด
รูปแบบตัง้ แต่นยิ ายรักนรกๆ
อย่างกว่าที่กิ่งชงโคจะน้าวโน้มมาชมจันทร์ จนถึงนิยายรักซบตักประวัติ
ศาตร์อย่างอุษณกรนารายณ์ ภายใต้นามปากกา บุหลันบัณรสี งานชิ้น
ล่าสุดที่ได้รับการตีพิมพ์รวมเล่มคือสารภีตีครู วรรณกรรมการเมืองจาก
เวทีพานแว่นฟ้า

สถาบันพระปกเกล้า 201

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 201 21/3/2561 BE 10:00


มือของก้อม
รมณ กมลนาวิน

ที่ ปลายสุดสายตา ร่างหนึง่ เคลือ่ นไหวอยูใ่ ต้แสงแดดสาย ผมบิดคันเร่งรถเครือ่ ง


ให้เร็วขึ้น ขี่ตัดถนนสี่เลนข้ามฟากไปยังที่เขายืนอยู่ ‘ก้อม’-เด็กหนุ่มก้มลง
หยิบก้อนสีนำ�้ ตาลเข้มขนาดเท่าหัวแม่โป้งจากถังพลาสติกสีดำ� ซึง่ วางอยูท่ พี่ นื้ ข้างตัว
บรรจุใส่หนังสติ๊กแล้วเหนี่ยวยิงไปยังพื้นที่แห้งแล้งเบื้องหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้มันเคย
เป็นป่าชุมชนสีเขียวขจี เป็นทีท่ คี่ นตัง้ แต่บรรพบุรษุ ได้เก็บกิน หากแต่บดั นีถ้ กู พราก
ความอุดมสมบูรณ์ไปจนเกือบหมดสิน้ กระสุนทีก่ อ้ มยิงไปนัน้ คือเมล็ดพันธุม์ ะค่าโมง
เขาเหนีย่ วหนังสติก๊ สุดแขนแล้วยิงกระสุนเข้าป่าเบือ้ งหน้าอย่างไม่ลดละ ทัง้ ทีล่ ำ� แขน
ของเขาเรียวเล็ก เรี่ยวแรงน้อยกว่าคนปกติอยู่มาก
ก้อมเกิดมาพร้อมการจากไปของแม่หลังคลอดเขา เขาเป็นเด็กขี้โรค
ตัวเล็กและผอมบางกว่าเพือ่ นรุน่ ราวคราวเดียวกัน เหมือนของทีผ่ ลิตมาต�ำ่ กว่าสเป็ก
เขาจึงไม่ชอบไปเรียนหนังสือและตัดสินใจไม่เรียนต่อหลังจบป.๖ แม้จะไม่มีใคร
รังเกียจข้อด้อยหรือกลั่นแกล้งเขาก็ตาม ผมเป็นคนเดียวที่เขาสนิทด้วย อาจเพราะ
เคยเป็นครูของเขาและเราก็ชอบการปลูกพืชผักต้นไม้ใบหญ้าเหมือนกัน แต่ถึง
อย่างนั้น เขาก็เลือกที่จะอยู่เงียบๆ คนเดียวมากกว่า

202 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 202 21/3/2561 BE 10:00


สถาบันพระปกเกล้า 203

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 203 21/3/2561 BE 10:00


ในแต่ละวัน ก้อมใช้เวลาหมดไปกับการเพาะต้นอ่อนทานตะวัน ในโรงเรือน
ที่ผมไปช่วยพ่อของเขาสร้าง เขาว่าเรี่ยวแรงอย่างเขาเหมาะแล้วกับต้นกล้าเล็กๆ
เหล่านี้ ผมแย้งกลับไปว่า มือมนุษย์นนั้ สามารถสร้างสิง่ ทีย่ งิ่ ใหญ่กว่านีไ้ ด้ ผมพยายาม
ชี้ให้ก้อมเห็นว่า เพราะพืชผักจากมือน้อยๆ ของก้อมนี่ล่ะ ที่ท�ำให้พ่อของเขาไม่ต้อง
กระเสือกกระสนนัก เพราะหากพึ่งรายได้จากการเก็บของป่าขายอย่างเดียว คงไม่
พอเลี้ยงสองปากแน่ๆ เพราะบัดนี้ป่าที่เคยอุดมสมบูรณ์เปลี่ยนไปจากเดิม แห้งแล้ง
มากขึ้นจากธรรมชาติที่วิปริตผิดเพี้ยน แม้เขาจะไม่แย้งกลับ แต่ท่าทีของเขานั้น
แสดงออกถึงความเจียมเนือ้ เจียมตัวอย่างชัดเจน ผมถอนหายใจแรงทุกครัง้ ทีเ่ ราคุย
กันเรือ่ งนี้ เขาไม่เพียงไร้เรีย่ วแรงทางกาย ยังขาดก�ำลังใจทีด่ อี กี ด้วย นีเ่ องทีท่ ำ� ให้พอ่
ของก้อมรู้สึกเป็นกังวล จนต้องระบัดระบายกับผมอยู่บ่อยครั้ง ผมจึงเสนอว่า
ควรหาสิ่งที่เขาชอบให้ท�ำ จึงเกิดโรงเรือนเพาะต้นกล้าพืชผักหลายชนิดขึ้นมา แต่ก็
ดูเหมือนว่า สิ่งเหล่านี้จะช่วยเขาเพียงไม่ให้นั่งเหงาไปวันๆ เท่านั้นเอง
ในระหว่างที่เราเฝ้ามองต้นกล้าในโรงเรือนของก้อมเจริญเติบโต ข่าวเงิน
สนับสนุนทุนหมูบ่ า้ นของรัฐบาลก็เข้าหูผม ขณะนัง่ รอกาแฟถ้วยร้อนในร้านของเมีย
ผู้ใหญ่บ้าน งบสองแสนบาทรัฐให้น�ำมาจัดท�ำโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อหมู่บ้าน-
เมียผู้ใหญ่บ้านคุยให้ลูกค้าโต๊ะหนึ่งฟังว่าอย่างนั้น ดูเหมือนเขาจะลิงโลดขึ้นมากับ
เงินก้อนโตราวกับจะได้มนั ไว้ครอบครองคนเดียว ผมนัง่ ฟังความเพ้อฝันของพวกเขา
ได้แต่กลอกตาแล้วถอนหายใจทิ้ง มีแต่ผลประโยชน์ส่วนตนทั้งนั้น แต่ครั้นพอคิด
อะไรขึ้นมาได้ผมก็มีเริ่มอารมณ์ดีขึ้น ผมเงี่ยหูฟังวันนัดหมายประชุมหมู่บ้าน แล้ว
เดินออกจากร้านหลังจัดการกับกาแฟจนหมดแก้ว
ผมแวะไปหาพ่อของก้อมที่บ้าน เล่าสิ่งที่ได้ยินมาให้เขาฟัง พ่อของก้อม
สีหน้ากังวล นึกไม่ออกว่าอย่างลูกชายของเขาจะท�ำประโยชน์ให้หมูบ่ า้ นได้จริงหรือ
ผมยืนยันหนักแน่น ก้อมมีความรักการปลูกพืชผักและค้นคว้าวิธีการปลูกจนได้
ผลผลิตงอกงามโดยไม่พึ่งสารเคมี ไม่ว่าผมจะหาเมล็ดพันธุ์ใดมาให้ ก้อมมักใช้เวลา
ศึกษาท�ำความรู้จักในเวลาอันสั้น เหล่าเมล็ดพันธุ์หลายหลากออกดอกออกผลเต็ม

204 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 204 21/3/2561 BE 10:00


โรงเรือน มือเล็กๆ ของก้อมนี่ล่ะจะท�ำประโยชน์ให้กับคนส่วนรวมให้มีรายได้
จนอาจยกระดับเป็นอาชีพหลักของหมูบ่ า้ น แทนการปลูกพันธุพ์ ชื เดิมทีร่ าคาผลผลิต
ก�ำลังเป็นปัญหาอยู่ตอนนี้ก็เป็นได้ พ่อของก้อมฟังผมอธิบายจนมีท่าทีคล้อยตาม
แต่ยังแฝงความกังวลใจอยู่บ้าง ผมส�ำทับไปอีกว่า หากก้อมรู้ว่าตนเองสามารถท�ำ
ประโยชน์ต่อผู้อื่นได้ เขาคงจะมีความสุขขึ้น พ่อของก้อมพยักหน้ารับ จากนั้นเราก็
ชวนกันเดินไปยังหลังบ้าน ซึ่งเป็นโรงเรือนปลูกผักของก้อม และทันทีที่ผมบอกสิ่ง
ทีเ่ พิง่ คุยกับพ่อของเขา ผมเห็นประกายความหวังในดวงตาเล็กๆ ตามมาด้วยรอยยิม้
ที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน แม้กระทั่งพ่อของเขา
ถึงวันนัดประชุมหมูบ่ า้ นเกีย่ วกับงบประมาณสองแสนบาททีไ่ ด้มา ผูใ้ หญ่บา้ น
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กรรมการหมู่บ้าน และชาวบ้านหลายสิบคนนั่งอยู่ในศาลา
อเนกประสงค์แน่นขนัด ผูใ้ หญ่บา้ นเกริน่ ถึงทีม่ าของเงินงบประมาณ โดยมีกรรมการ
หมู่บ้านนั่งฟังอย่างตั้งใจ เคร่งเครียด ราวกับจะจับทุกค�ำพูดของผู้ใหญ่บ้านไม่ให้
หลุดหายไปจากความรับรู้ พวกเขาท�ำหน้าทีเ่ หมือนฝ่ายค้าน ทีค่ อยเป็นปรปักษ์กบั
ผู้ใหญ่บ้านมากกว่าจะท�ำหน้าที่ถ่วงดุล ผมนั่งประเมินสถานการณ์ ก้อมนั่งไหล่ลู่
ลอบมองคนโน้นทีคนนีท้ ี ดูเหมือนว่าตัวเขาจะออกอาการประหม่า จนพ่อต้องโอบ
ไหล่เล็กของเขาไว้ ก้อมคงไม่เคยพูดต่อหน้าคนเยอะๆ แต่ไม่เป็นไร เรือ่ งโน้มน้าวใจ
คน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผม ผมเรียบเรียงค�ำพูดไว้ในใจ รอโอกาสมาถึง
เมื่อถึงเวลาที่ผู้ใหญ่บ้านเปิดโอกาสให้ลูกบ้านเสนอความเห็น มีคนลุก
พรวดขึ้นตัดหน้าผม เขาคือคนที่ลิงโลดที่สุดในร้านกาแฟของเมียผู้ใหญ่บ้าน
เขาเสนอว่าควรจะออกเงินกู้ให้กับคนที่เดือดร้อน เสียงฮือฮาคล้ายจะเห็นด้วย
ดังขึ้น ผมอารมณ์เสียขึ้นมาทันทีแต่พยายามระงับไว้ ต่างคนต่างกู้ มันจะสร้าง
ประโยชน์ให้ชมุ ชนได้อย่างไร ทีผ่ า่ นมาโครงการให้กเู้ งิน พวกทีก่ ไู้ ด้กม็ แี ต่หน้าเดิมๆ
บางพวกกู้ไปแล้วก็บริหารเงินไม่ได้ ไม่ใช้หนี้กองทุน ปัญหาปากท้องปัญหาอาชีพ
กลายเป็นปัญหาซ�้ำซ้อน เหมือนมาเพิ่มหนี้ให้มากกว่า ทั้งที่รู้ แต่ก็ทำ� ท่าเหมือนจะ
อยากได้กนั อีก ผมยกมือลุกขึน้ ค้านทันที ชายคนนัน้ ก็มองผมตาขวาง และผมก็รสู้ กึ

สถาบันพระปกเกล้า 205

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 205 21/3/2561 BE 10:00


ได้ว่า มีสายตาอีกหลายสิบคู่ลอบมองมาอย่างขัดเคืองใจ ช่างปะไร ผมไม่สนใจ
คนพวกนี้นักหรอก
พ่อของก้อมดูเหมือนจะอึดอัดกับสถานการณ์ มีสีหน้ากังวล ก้อมเองก็
ตัวสั่นมากขึ้น ผู้ใหญ่บ้านมีท่าทีเห็นด้วยกับผม แต่ก็แสดงออกแบบแบ่งรับแบ่งสู้
ไม่อยากคัดง้างกับลูกบ้านเหมือนเคย วัยรุ่นคนหนึ่งยกมือขึ้นเสนอ บอกว่าอยากได้
ลานกีฬาและสนามฟุตบอล มันก็เป็นความคิดที่ดี แต่ผมอยากได้โครงการของผม
มากกว่า อึดใจหนึง่ ก็มพี วกกรรมการหมูบ่ า้ นยกมือขึน้ ค้านแทบจะประสานเสียงกัน
ทั้งที่เจ้าหนุ่มนั่นยังพูดไม่จบ บอกว่าลานกีฬานั่นมีประโยชน์แต่เฉพาะคนไม่กี่คน
เท่านัน้ คนส่วนมากเงยหน้าจากงานก็มดื ค�ำ่ แล้ว จะเอาเวลาทีไ่ หนมาออกก�ำลังกาย
มีแต่พวกว่างงานกับพวกไม่ช่วยพ่อแม่ท�ำงานเท่านั้นที่ได้ใช้ประโยชน์ เจ้าหนุ่มนั่น
อ้าปากค้าง คงตะลึงไม่น้อยที่ถูกกล่าวหาแบบนี้ ดูเหมือนเขาจะไม่อยากยอมแพ้
ชูเหตุผลเรือ่ งสุขภาพของคนในหมูบ่ า้ นขึน้ มา หากทุกคนสุขภาพดี ก็จะมีแรงท�ำงาน
ได้มากขึน้ ซ�ำ้ ยังไม่ตอ้ งเจ็บไข้ มีโรคภัยรุมเร้าจนต้องเข้าโรงพยาบาล ถึงกระนัน้ พวก
กรรมการก็ไม่ยอมอยู่ดี ที่สุด เสียงของเจ้าหนุ่มนั่นซึ่งมีเพียงไม่กี่คน ก็สู้เสียงที่ดัง
กว่าของกรรมการหมู่บ้านไม่ได้ พวกเขาจึงชักแถวเดินออกจากที่ประชุมไปอย่าง
หัวเสีย ผมมองว่าอารมณ์หุนหันของเด็กหนุ่มนั่น ไม่เป็นผลดีเอาเสียเลย ผมจึง
พยายามเตือนตัวเองให้ควบคุมอารมณ์ไว้ให้นิ่งที่สุด
ผมมองหน้ า ก้ อ มเหมื อ นส่ ง สั ญ ญาณ พอเขาพยั ก หน้ า ผมก็ ย กมื อ ขึ้ น
ท่ามกลางผู้คน ที่ก�ำลังก่นด่าการกระท�ำของพวกเด็กหนุ่ม ผมพูดถึงโครงการปลูก
ผักไฮโดรโปนิกส์พร้อมสะกิดแขนก้อม เขาค่อยๆ ลุกขึน้ ด้วยอาการประหม่า พูดเสริม
ว่าเราควรปลูกผักพื้นบ้านที่เกรงจะสูญหายด้วย ยังไม่ทันที่จะได้พูดถึงประโยชน์ใน
ด้านใดผมก็ถกู พวกกรรมการหมูบ่ า้ นค้านเอาเสียแล้ว ผมพยายามจะควบคุมอารมณ์
ตัวเองไม่ให้เสียเรื่องอย่างเจ้าหนุ่มน้อยนั่น ผมบอกไปว่า หากเรารวมกันจัดตั้งกลุ่ม
ศึกษาเรื่องปลูกผักและเพาะต้นกล้า จะท�ำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ซ�้ำยังได้เก็บกิน
ลดภาระการใช้จ่ายในครัวเรือนอีกด้วย ผมผายมือไปยังก้อม พยายามสร้างความ

206 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 206 21/3/2561 BE 10:00


เชื่อมั่น ให้ทุกคนเห็นความอัจฉริยะของก้อม ผมบอกทุกคนว่าเด็กหนุ่มคนนี้
เชี่ยวชาญเรื่องการปลูกพันธุ์พืชทุกชนิด เขาศึกษาและสังเกต ลองผิดลองถูกจนได้
วิธกี ารปลูกทีม่ ปี ระสิทธิภาพ เทียบเท่าหรืออาจเหนือกว่าคนทีจ่ บด้านเกษตรโดยตรง
ด้วยซ�ำ้ พวกกรรมการและชาวบ้านต่างมองก้อมเป็นสายตาเดียวกัน ก้อมสะดุง้ แล้ว
ยืนแข็งทือ่ ราวกับปลาถูกช็อต ผมพยายามเรียกสติของเขาคืนมา กระซิบบอกให้เขา
เล่าเรื่องที่พ่อของเขาเก็บผักจากโรงเรือนไปขายที่ตลาดหมดเกลี้ยงทุกวัน แต่ก้อม
กลับยืนนิ่งเหมือนสติเตลิดหาย พวกกรรมการฉวยโอกาสนี้แย้งขึ้นว่า เขาไม่มั่นใจ
เมื่อมีเรื่องเงินทองเข้ามาเกี่ยว ต่อไปอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อน ใครบางคนจะผัน
ตัวเป็นนายหน้า ได้รับเงินจากการประสานงานระหว่างโครงการกับตลาดรับซื้อก็
เป็นได้ ผมเริม่ หัวเสียจากการถูกใส่รา้ ยแม้เขาจะไม่ออกชือ่ ก้อมก้มหน้างุดและทีส่ ดุ
ก็นงั่ ลงอย่างคนยอมแพ้ ผมพยายามจะสูต้ อ่ แต่พวกกรรมการรีบปิดโอกาสนัน้ ทันที
ด้วยโครงการหนึ่ง
ราวกับได้ตกลงกันมาแล้ว ที่สุดโครงการของพวกกรรมการหมู่บ้านก็ชนะ
พวกเขาจะสร้างศาลาอเนกประสงค์ด้วยงบประมาณทั้งก้อน ไม่มีใครสักคนยกมือ
ค้านด้วยเหตุผลที่กรรมการหนึ่งในนั้นพูดว่า ผลประโยชน์จะไม่ตกไปอยู่กับใครคน
ใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทุกคนจะได้ผลประโยชน์ร่วมกัน ผมระเบิดหัวเราะ
ขึ้นมาราวกับคนเสียสติ เย้ยหยันให้กับความกลัวที่จะเสียเปรียบให้ใครของพวกเขา
ผมดึงแขนก้อมและพ่อของเขาเดินออกมาหลังผู้ใหญ่บ้านสรุปมติ พ่อของ
ก้อมไม่พูดอะไรสักค�ำ หากแต่แสดงออกทางสีหน้าแทน คงคิดไว้แต่แรกแล้วว่า
โครงการของเราต้องถูกคัดค้าน แต่คงนึกไม่ถึงว่าจะถูกคิดในแง่ร้ายด้วย ผมสบถ
ในใจขณะเดินผ่านศาลาอเนกประสงค์หลังที่สี่ของหมู่บ้าน ซึ่งถูกปล่อยทิ้งร้างไม่มี
คนใช้ประโยชน์ หมู่บ้านเราคงเป็นหมู่บ้านที่มีศาลาอเนกประสงค์มากที่สุดใน
ประเทศกระมัง ผมแค่นเสียงประชดในใจ
กลับถึงบ้าน ก้อมมีท่าทีเศร้าสลดราวกับต้นไม้ขาดน�ำ้ ส่วนพ่อของก้อมก็
เดินเข้าบ้านไปแล้วกลับออกมาพร้อมย่ามคู่ใจที่ท�ำจากกระสอบปุ๋ยใบใหญ่ บอกว่า

สถาบันพระปกเกล้า 207

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 207 21/3/2561 BE 10:00


จะเข้าป่า ผมพยักหน้ารับ พ่อของก้อมคงไม่อยากนั่งจมอยู่กับความผิดหวัง เขาเดิน
มาแตะต้นแขนผมพร้อมพูดขอบคุณ บอกว่าอย่างน้อยก็พยายามแล้ว ผมพยักหน้า
รับอีกไม่รจู้ ะพูดอะไรกลับไป ได้แต่มองร่างผอมเกร็งผิวเกรียมแดดเดินพ้นร่มเงาของ
ชายคาบ้าน ฝ่าเปลวแดดเที่ยงออกไป ก้อมมีท่าทีสงสารพ่ออย่างเห็นได้ชัด แม้ตัว
เองจะดูสิ้นหวังไม่แพ้กัน ก้อมบอกว่าถ้าปลูกให้คนในชุมชนไม่ได้ ก้อมก็จะปลูก
ให้พ่อ
ผมนิง่ ฟังความคิดของก้อมแล้วก็นกึ ค้านในใจ แม้เป็นผมเองทีเ่ คยบอกกับ
เขาว่า มือมนุษย์นั้นสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ แต่คงไม่ใช่กับป่าชุมชน ที่นับวันจะเสื่อม
ถอยลงเรือ่ ยๆ ก้อมเคยพูดเรือ่ งทีพ่ อ่ ของเขาชอบเข้าป่าทัง้ ทีแ่ ทบไม่มอี ะไรให้เก็บกิน
เก็บขายแล้ว แต่พ่อก็ยังเข้าไปทุกวัน อาจเพราะผูกพันกันมาแต่เด็กก็เป็นได้ แม้จะ
รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่อาจเป็นไปได้ยาก แต่หากท�ำแล้วก้อมรู้สึกมีความหวังในชีวิตขึ้น
มาบ้าง ก็คงไม่เสียหายอะไร ผมถามก้อมว่าจะปลูกป่าด้วยวิธีใด ก้อมยิ้มให้แทน
ค�ำตอบ
หลังกลับจากบ้านของก้อม ผมทิง้ ตัวนอนบนแคร่หน้าบ้าน คิดถึงสิง่ ทีก่ อ้ ม
จะท�ำต่อไปในอนาคต และคิดไปถึงเรื่องในที่ประชุม การที่คนตัวเล็กๆ อยากท�ำ
ประโยชน์เพื่อคนอื่นเหตุใดถึงยากล�ำบากเช่นนี้ ผมท้อแท้ระคนโกรธเคืองที่ถูกมอง
ในแง่ร้าย และก้อม-เขาคงหมดก�ำลังใจยิ่งกว่า ผมรู้สึกผิดที่จุดประกายความหวังให้
เขา แล้วพากันล่มไม่เป็นท่า ไม้ซีกสองสามท่อนคิดจะไปงัดไม้ซุงเป็นสิบ ก็มีแต่โดน
หักทิ้งเท่านั้น คนบางพวก หากผลประโยชน์ไม่ตกกับตัวก็อย่าหวังว่าใครจะได้ หวง
ก้างขวางคอกันอย่างนี้ ก็อย่าหวังว่าชุมชนจะพัฒนาไปถึงไหนได้ ถึงจะมีงบส่งมาให้
เป็นร้อยโครงการก็เถอะ เปล่าประโยชน์ ภาพศาลาอเนกประสงค์นบั ร้อยหลังเบียด
เสียดกันกลางอากาศ ราวดอกเห็ดตอนหน้าฝน ผมแค่นหัวเราะในล�ำคอ
รุง่ เช้า มีขา่ วลือลอยมาตามลม ขณะผมนัง่ ดืม่ กาแฟทีร่ า้ นของเมียผูใ้ หญ่บา้ น
หญิงร่างอ้วนช่างจ้อ ผู้กุมอ�ำนาจเหนือผู้ใหญ่บ้านเล่าให้ลูกค้าในร้านฟังว่า รัฐบาล
จะยกป่าชุมชนติดกับหมู่บ้านของเราให้เอกชนเช่า โดยรายได้จากการเช่านั้นจะตก

208 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 208 21/3/2561 BE 10:00


เป็นขององค์การบริหารส่วนต�ำบล เพือ่ น�ำเงินมาพัฒนาท้องถิน่ ผมพูดสวนเมียผูใ้ หญ่
บ้านขึ้นว่า จะให้เอกชนเช่าได้อย่างไร ในเมื่อชาวบ้านยังใช้ประโยชน์จากป่านั้นอยู่
สิ่งที่เมียผู้ใหญ่บ้านพูด ท�ำผมแทบหงายหลัง หล่อนบอกว่ากรรมการหมู่บ้านและ
ชาวบ้านมีมติร่วมกันแล้วในที่ประชุมเมื่อวาน ว่าจะเอาเงินค่าเช่ามาพัฒนาหมู่บ้าน
ดีกว่ามีป่าที่หาประโยชน์ใช้สอยแทบไม่ได้แล้ว ผมด่าตัวเองในใจที่ไม่น่าหุนหันออก
จากที่ประชุมก่อน หากยังนั่งอยู่คงได้ค้านสุดตัว พ่อของก้อมก็คงไม่ยอมเช่นกัน
เพราะทุกวันนีเ้ ขาก็ยงั ได้หาอยูห่ ากินจากผลผลิตของป่า ความจริงไม่เพียงแค่พอ่ ของ
ก้อมเท่านั้น คนในหมู่บ้านกว่าครึ่งก็ยังถือมีดเข้าป่ากันอยู่ แต่เขาลงมติกันไปแล้ว
แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ผมหุนหันออกจากร้าน ย�่ำเท้าเดินไปเรือ่ ยๆ ด้วยความขุน่ เคือง
รู้สึกตัวผมก็มายืนอยู่ใต้ชายคาบ้านของก้อมแล้ว ทั้งบ้านเงียบกริบ ผมพอจะเดาได้
ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน
ที่ปลายสุดสายตา ร่างหนึ่งเคลื่อนไหวอยู่ใต้แสงแดดสาย ผมบิดคันเร่งรถ
เครื่องให้เร็วขึ้น ขี่ตัดถนนสี่เลนข้ามฟากไปยังที่เขายืนอยู่ ก้อมก้มลงหยิบก้อน
สีน�้ำตาลเข้มขนาดเท่าหัวแม่โป้งจากถังพลาสติกสีด�ำซึ่งวางอยู่ที่พื้นข้างตัว พ่อของ
ก้อมขับรถเครื่องมาสมทบ ยกย่ามบรรจุเมล็ดพันธุ์ลงจากรถ สิ่งที่ก้อมกับพ่อของ
เขาท�ำ ก�ำลังเป็นเรือ่ งเสียแรงเปล่า อีกไม่นานป่าทัง้ ผืนจะถูกโยนทิง้ กลายเป็นพืน้ ที่
สร้างโรงงาน ผมอยากห้าม แต่พอเห็นความมุง่ มัน่ ของทัง้ สอง ก็ทำ� เอาผมไม่กล้าพูด
ผมตัดสินใจที่จะเก็บเรื่องข่าวนั้นไว้กับตัว อย่างน้อยที่สุดในช่วงเวลานี้ ก้อมคงรู้สึก
ว่าตนเองมีค่า มีความสุขที่ได้ท�ำอะไรเพื่อพ่อและผืนป่า ผมควรจะปล่อยให้เขาท�ำ
สิ่งที่อยากท�ำ จนกว่าข่าวร้ายจะเดินทางมาถึงเขา
ล�ำแขนเล็กๆ ของก้อมเหนีย่ วยิงอย่างไม่ลดละ ผมยืนเฉยต่อไปไม่ไหว เมล็ด
มะค่าโมงนับสิบลอยขึ้นกลางอากาศ มุ่งไปยังผืนป่ากว้างเบื้องหน้า

สถาบันพระปกเกล้า 209

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 209 21/3/2561 BE 10:00


รมณ กมลนาวิน
ใช้ชอื่ -นามสกุลจริงในการเขียน
หนังสือ ลาออกจากงานประจ�ำตั้งแต่ปี
๒๕๕๔ มีผลงานผ่านตีพิมพ์ตามหน้า
นิตยสารและหนังสือพิมพ์มาบ้าง
ปัจจุบันยังเขียนหนังสืออยู่

รางวัลที่เคยได้รับ
๑. รางวั ล เรื่ อ งสั้ น ชนะเลิ ศ
วรรณกรรมรามค�ำแหง ๒๕๕๕ จากเรือ่ งสัน้ “เปลวไฟแห่งความเกรีย้ วกราด”
๒. รางวัลเรื่องสั้นชนะเลิศ วรรณกรรมรามค�ำแหง ๒๕๕๖ จาก
เรื่องสั้น “ศพในแม่นำ�้ ”
๓. รางวัลรองชนะเลิศ เวที ปิ๊ง โปรเจ็คส์ (สนับสนุนโดย สสส.และ
สมาคมนักเขียนฯ) ปี ๒๕๕๗ จากเรื่องสั้น “นาฎกรรมความรัก”
๔. รางวัลรองชนะเลิศ ประเภทเรือ่ งสัน้ วิทยาศาสตร์ รางวัลมติชน
ปี ๓ (๒๕๕๗) จากเรื่องสั้น “Genlife Shop”
๕. รางวัลชมเชยจากสมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทย
ในพระบรมราชูปถัมภ์ ปี ๒๕๕๘ จากเรื่องสั้น “ในรัตติกาล”
๖. รางวัลเรื่องสั้นชนะเลิศ เปลื้อง วรรณศรี ครั้งที่ ๓ ปี ๒๕๖๐
จากเรื่อง “หญิงสาวกับชายชรา ผู้อ่านปรัชญาชีวิตของยิบราน”
๗. รางวัลวรรณกรรมเรื่องสั้น สถาบันพระปกเกล้า ปี ๒๕๖๐จาก
เรื่อง “มือของก้อม”

210 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 210 21/3/2561 BE 10:00


พลังเงียบของเขต ๘
วุฒินันท์ ชัยศรี

พู            ดไปใครจะเชือ่ ว่าเพจเฟซบุก๊ เพจหนึง่ ทีผ่ มตัง้ ขึน้ มาโดยไม่ได้คาดหวังอะไร จะ


ใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งปีสถาปนาตัวเองเป็นเพจที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดใน
ชั่วโมงนี้ ส่วนหนึ่ง...ไม่สิ ทั้งหมดคงต้องยกความดีความชอบให้กับเพื่อนผม เพราะ
จะว่าไปถ้าไม่มมี นั เรือ่ งราวต่างๆ ก็คงไม่บานปลายมาจนถึงวันนี้ ถึงผมจะยังไม่รวู้ า่
ตอนสุดท้ายของเรือ่ งนีจ้ ะจบลงตรงไหน แต่ถา้ เป็นจุดเริม่ ต้น มันคงเริม่ จากประโยค
สั้นๆ เพียงประโยคเดียวในวันนั้น
“มันต้องไม่จบแบบนี้สิวะ”
ผมกระแทกนิ้วลงบนหน้าจอ ส่งข้อความผ่านโปรแกรมสนทนาออนไลน์
ทันทีที่รู้ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ
“อันทีจ่ ริงมันจบตัง้ แต่มงึ เลือกจะไปกากบาทในคูหาแล้ว ในเมือ่ มึงยอมรับ
กติกาของเค้า พอแพ้แล้วก็อย่าพาลดีกว่า” ข้อความจากอีกฟากฝั่งส่งกลับมาทันที
ตามด้วยข้อความสติ๊กเกอร์รูปกระต่ายหน้ากวนหัวเราะเยาะเย้ย

สถาบันพระปกเกล้า 211

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 211 21/3/2561 BE 10:00


212 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 212 21/3/2561 BE 10:00


นิว้ ผมชะงักค้างตรงแป้นพิมพ์ในหน้าจอโทรศัพท์ พยายามจะหาเหตุผลมา
เอาชนะคะคานเจ้าเพื่อนจอมกวนใจ แต่จนแล้วจนรอดก็นึกค�ำพูดอะไรไม่ออก
จึงวางโทรศัพท์มอื ถือบนหัวเตียง หลับตาสงบสติอารมณ์ แต่จะว่าไปผมไม่เห็นจ�ำเป็น
ต้องฉุนเฉียวอะไร เพราะที่จริงแล้ว ผลการเลือกตั้งก็ควรจะเป็นแบบนี้แหละ
ถามใครใครก็รู้ว่าจังหวัดของผมอยู่ในเขตอิทธิพลของพรรคการเมืองไหน เขาจะ
กวาดที่นั่งในสภาไปได้หมดก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร
แต่ที่หงุดหงิดคงเพราะเป็นการพ่ายแพ้ทั้งที่มีคะแนนเสียงมากกว่าเป็น
เท่าตัว!
ตอนนีม้ งึ แพ้แล้วตามกติกา... แว่วค�ำพูดเยาะเย้ยของเพือ่ นผมในความคิด
เฮอะ ใช่ส!ิ ผมและอีกสีห่ มืน่ กว่าเสียงแพ้ผสู้ มัครคนหนึง่ ทีไ่ ด้ไปเพียงสองหมืน่ คะแนน
เพี ย งเพราะสี่ ห มื่ น กว่ า เสี ย งนั้ น กากบาทในช่ อ งไม่ ล งคะแนนเสี ย งเพื่ อ แสดง
เจตนารมณ์ว่าไม่อยากจะเสียคะแนนโหวตให้ผู้สมัครคนไหนเลย
เขตใหม่ของจังหวัดผมคือเขต ๘ ซึ่งแยกออกมาจากเขต ๓ เนื่องจาก
กิง่ อ�ำเภอเดิมมีประชากรเพิม่ ขึน้ เรือ่ ยๆ จากการขยายโรงงานอุตสาหกรรมของบริษทั
ต่างชาติ จนเพิ่งจะได้สถาปนาตัวเองเป็นอ�ำเภอใหม่เมื่อไม่นานมานี้ บวกกับอ�ำเภอ
ใกล้เคียงก็มปี ระชากรเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ท�ำให้การเลือกตั้งครัง้ ล่าสุด จังหวัดผมจึง
มีเขตการเลือกตั้งเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเขต
ปกติแล้วถ้าเกิดเขตการเลือกตั้งใหม่ คงจะมีผู้สมัครหน้าใหม่ๆ กระเหี้ยน
กระหือรือมาแย่งชิงความนิยมในพื้นที่ เพราะถือเป็นโอกาสทองไม่ต้องไปรบรากับ
เจ้าของพื้นที่เก่า แต่ก็อย่างที่เคยเล่าไปว่า จังหวัดของผมอยู่ในเขตอิทธิพลของ
พรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งการเลือกตั้งสองครั้งหลังสุด พรรคนี้กวาดคะแนนเรียบ
ทุกเขต พรรคอื่นคงจะคิดว่าลงทุนในจังหวัดนี้ก็เหมือนต�ำน�้ำพริกละลายแม่น�้ำ
จึงส่งคนมาแข่งเหมือนไม่เต็มใจจะแข่ง
ยิ่งการเลือกตั้งครั้งล่าสุดนี้ ไอ้เจ้าพรรคคู่แข่งเล่นไปขุดเอาอดีต ส.ส.
คนหนึง่ ทีเ่ คยมีขา่ วพัวพันการทุจริตงบประมาณจังหวัดเมือ่ หลายปีทแี่ ล้วมาลงสมัคร

สถาบันพระปกเกล้า 213

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 213 21/3/2561 BE 10:00


เป็นตัวแทนพรรค เพื่อจะ ‘ถนอมน�ำ้ ใจ’ ญาติของ ส.ส. คนนี้ซึ่งเป็นหัวคะแนนของ
อีกจังหวัดหนึง่ พอพรรคเจ้าของพืน้ ทีเ่ ห็นท่าว่าคูแ่ ข่งจะทิง้ เขตนีแ้ น่นอน เลยไปคว้า
เอานายชูชาติ อดีตผูอ้ ำ� นวยการโรงเรียนแห่งหนึง่ มาลงสมัคร ซึง่ ถ้าจะว่ากันตามตรง
นายคนนีไ้ ม่เคยมีผลงานอะไรเป็นชิน้ เป็นอันเลยนอกจากข่าวเสียหายเรือ่ งทุจริตเงิน
บริจาคของผูป้ กครองจนต้องโดนค�ำสัง่ ย้ายโรงเรียนไปถึงสองสามที่ แต่ถงึ จะฉาวโฉ่
ขนาดนี้ก็ยังอุตส่าห์ได้เป็นตัวแทนพรรคเพราะเป็นญาติสนิทของผู้สมัครเขต ๓
ซึ่งพอจะใช้ฐานเสียงร่วมกันได้
หันทางนั้นก็เสือสิงห์ หันทางนี้ก็กระทิงแรด ไม่สิ เสือสิงห์กระทิงแรดมัน
ยังเป็นนักล่าที่งามสง่าและเปี่ยมด้วยศักดิ์ศรีเสียยิ่งกว่าผู้อาสาเป็นตัวแทนของ
ราษฎรในเขตนี้ หากมีชอ่ งให้กาเลือกสัตว์พวกนีย้ งั จะดีเสียกว่าต้องจ�ำใจเลือกไอ้คน
ที่ทั้งสองพรรคส่งมาแบบลวกๆ
ใช่ ว ่ า ผมจะคิ ด แบบนี้ อ ยู ่ ค นเดี ย ว อี ก สี่ ห มื่ น กว่ า เสี ย งก็ ค งไม่ ต ่ า งกั น
ผลคะแนนช่อง “ไม่ลงคะแนน” ที่สูงกว่าผลโหวตผู้สมัครถึงสองเท่าคงจะเป็น
ค�ำตอบที่ชัดเจนว่าประชาชน ‘เสียงส่วนใหญ่’ ในเขตนี้อยากเลือกใคร แต่ในเมื่อ
ไม่มกี ฎหมายว่าหากเสียง “ไม่ลงคะแนนเสียง” ชนะแล้วต้องโละผูส้ มัครเก่าให้หมด
ผลโหวตก็ไร้ค่า เพราะนายชูชาติก็ชนะตามกติกาทุกอย่าง ได้ผลคะแนนมากกว่า
ร้อยละ ๒๐ และชนะผู้สมัครเขตเดียวกันอย่างไม่เห็นฝุ่น
แพ้แล้วก็อย่าพาลดีกว่า ผมนึกหน้าเจ้าเพื่อนจอมยียวนออกตอนมันพิมพ์
ประโยคนี้ พอนึกถึงมันก็พอดีเสียงข้อความในโทรศัพท์ดังขึ้นอีกสองสามระลอก
คงจะเป็นค�ำทับถมต่อเนื่องของเพื่อนผม ช่างเถอะ ถึงคราวแพ้ก็ต้องเหยียบให้
จมดิน เหมือนที่ผมชอบล้อเลียนเวลาที่ทีมหงส์แดงลิเวอร์พูลของมันแพ้
นึกแล้วก็ข�ำดี ทั้งที่คนอย่างมันน่าจะเป็นเดือดเลือดร้อนกับเรื่องการเมือง
มากกว่าผม เพราะชั่วโมงบินเรื่องการเมืองของมันสูงกว่าผมเยอะ ทั้งที่เรียนมาจาก
คณะรัฐศาสตร์เหมือนกัน แต่พอเรียนจบผมก็มาเป็นพนักงานบริษทั ธรรมดาๆ ส่วน
มันเป็นมาหมดแล้วทั้งเอ็นจีโอ แกนน�ำการชุมนุม และอะไรต่างๆ ที่ภาครัฐมักจะ

214 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 214 21/3/2561 BE 10:00


ตราหน้าว่า “พวกหัวรุนแรง”
จนกระทัง่ ต้นปีทแี่ ล้ว มันหอบลูกวัยขวบเศษกับภรรยามาเยีย่ มผมถึงบ้าน
พอผมถามถึงเรื่องการเมือง มันพูดสั้นๆ แค่ว่า กูพอแล้ว พร้อมกับยักไหล่ ผมไม่
เข้าใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ถ้ามันอยากเล่ามันคงเล่าให้ฟังสักวัน
เอื้อมมือปิดไฟที่หัวเตียง วันนี้พอแค่นี้ก่อน หยิบโทรศัพท์มากดดูเป็นครั้ง
สุดท้าย
ผิดคาด ข้อความต่อมาดูเหมือนให้กำ� ลังใจ
“มึงลองท�ำอะไรสักอย่างสิ”
ผมขยี้ตา สลัดศีรษะไล่ความง่วง พิมพ์ข้อความตอบกลับ
“ท�ำอะไรสักอย่าง? หมายความว่าไง”
“ก็ลองเคลื่อนไหวอะไรสักอย่าง เช่น ยื่นหนังสือประท้วง เป็นแกนน�ำ
การชุมนุมอะไรท�ำนองนี้”
“นี่ล้อเล่นให้กูข�ำเฉยๆ ใช่มั้ยเนี่ย”
เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่ข้อความจะดังขึ้นอีก “เออ...กูว่ากูไม่ได้ล้อเล่น
กูคิดจริงจังขึ้นมาว่ะ”
ผมขมวดคิ้ว พิมพ์ข้อความตอบกลับไป “อะไรของมึงวะ”
“ถึงจะแพ้การเลือกตัง้ ไปก็จริง แต่คะแนนไม่เอาใครมันสูงกว่าเป็นสองเท่า
มันมีความหมายอะไรบางอย่างนะ... กูเสียดายว่ะถ้าจะยอมแพ้ไปง่ายๆ แบบนี้
มึงน่าจะท�ำอะไรสักอย่าง”
“ไม่ใช่ยื่นหนังสือประท้วงหรือจัดชุมนุมแน่ๆ เพราะอีกฝ่ายยังไม่ได้ทำ� ผิด
อะไรสักหน่อย ถ้ามึงคิดจะท�ำมึงท�ำเถอะ มึงถนัดกว่ากูเยอะ”
“กูไม่อยากท�ำอะไรพวกนั้นแล้วว่ะ” คงจะเป็นเรื่องท�ำนอง ‘กูพอแล้ว’
ของมัน “อีกอย่างกูไม่ได้ไปร่วมสังฆกรรมกับการเลือกตัง้ ครัง้ นีด้ ว้ ย ตามกฎหมายกู
ไม่มีสิทธิ์แสดงความไม่พอใจผู้สมัครด้วยซ�ำ้ ”
“แล้วกูควรจะท�ำอะไรดีวะ”

สถาบันพระปกเกล้า 215

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 215 21/3/2561 BE 10:00


“ไม่รู้สิ มึงเป็นประชาชนที่ถูกต้องตามกฎหมาย มันคงมีช่องทางให้มึงสัก
ทางแหละ”
ประชาชนที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างนั้นหรือ อ่านข้อความแล้วก็นึกข�ำ
ประชาชนอย่างเพื่อนผมที่โดนตราหน้าว่า “หัวรุนแรง” คงจะเป็นคนผิดกฎหมาย
ในสายตาของรัฐ แต่คนถูกกฎหมายอย่างผมจะท�ำอะไรได้นอกจากเสียภาษีตรงเวลา
เพราะกลัวถูกสรรพากรจับยัดซังเต ถ่อสังขารไปเลือกตั้งเพราะกลัวถูกตัดสิทธิ์
ทางการเมือง มันจะมีช่องทางอะไรให้ผมพูดเสียงดังให้สังคมได้ยินบ้างว่าเราไม่เอา
นายชูชาติคนนี้มาเป็นตัวแทนของเขตเรา
ช่องทางที่ท�ำให้พูดเสียงดังขึ้น? ผมนึกถึงช่องทางที่ผมกับเพื่อนก�ำลังคุย
กันอยู่ ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์อาจจะท�ำอะไรได้บ้าง
“ตั้งเพจดีไหมวะ”
“เพจอะไรวะ”
“เพจของเฟซบุ๊กไง” ผมหมายถึงการสร้างหน้าชุมชนหน้าหนึ่งขึ้นมาบน
เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่โด่งดังที่สุดในโลกอย่างเฟซบุ๊ก พอสร้างพื้นที่ชุมชน
เหล่านี้ขึ้นมาแล้ว คนที่อยากติดตามเรื่องราวในเพจก็ต้องคลิกไลก์เพจ จากนั้นหาก
มีหัวข้ออะไรขึ้นมา สมาชิกในเพจก็สามารถโต้ตอบกระทู้กันได้อย่างอิสระ ใครที่
แสดงความคิดเห็นน่าสนใจก็จะมีคนกดไลก์มากมายกลายเป็นกระแสให้คนสนใจ
ปกติเพจเหล่านี้ก็มีทั้งที่ดังบ้างไม่ดังบ้าง เพจที่โด่งดังนั้นมีสมาชิกนับหมื่นนับ
แสนคน เช่นพวกเพจตลกอย่างอีเจี๊ยบเลียบด่วน เพจมุกควาย เพจการ์ตูนล้อเลียน
เพจวิจารณ์หนังต่างๆ ที่ผมกดไลก์ไว้อ่านรีวิวหนัง อันที่จริงเพจเกี่ยวกับการเมืองก็
มีหลายเพจเพียงแต่ผมไม่ค่อยกดติดตามนัก
“กูอยากรู้ว่าสี่หมื่นเสียงที่กาช่องไม่ลงคะแนนนั้นคิดเหมือนกูรึเปล่า หรือ
แค่เพราะเบื่อการเมืองไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับใครแต่ไม่อยากถูกตัดสิทธิ์ ถ้ามีพื้นที่คุย
กันอาจจะหาทางออกกันได้”

216 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 216 21/3/2561 BE 10:00


“คุยกันในโลกออนไลน์เหรอวะ” มันส่งข้อความสติ๊กเกอร์หัวเราะมาอีก
รอบ “คนที่ไม่เห็นหน้ากันจริงๆ จะเชื่อได้สักกี่นำ�้ ”
“กูกไ็ ม่แน่ใจเหมือนกันว่ะ แต่ถา้ มีพนื้ ทีใ่ ห้คนมาพูดคุยกัน มันน่าจะมีอะไร
เกิดขึ้นบ้าง และถ้ามันมีความคิดดีๆ ขึ้นมาในเพจ กลายเป็นเรื่องโด่งดังขึ้นมา อาจ
จะช่วยให้มีคนสนใจเสียงของพวกเรามากขึ้น”
“ก็ตามใจมึง” มันส่งข้อความสติ๊กเกอร์รูปสุนัขยักไหล่กลับมา “เพจชื่อ
อะไรบอกกูด้วยก็แล้วกัน กูจะคอยดูความเคลื่อนไหวด้วย”
นึกถึงสัปดาห์แรกของการตั้งเพจ “พลังเงียบของเขต ๘” ที่ผมตั้งใจว่าจะ
เปิดให้เป็นพื้นที่พูดคุยกันของผู้กากบาทในช่องไม่ลงคะแนนเสียงของเขต ๘
ในจังหวัดผม ทั้งที่เขียนอธิบายความเป็นมาของเพจไว้ในหน้าแรกเสียดิบดี แต่เอา
เข้าจริงมีสมาชิกไม่ถึงสิบคน แถมถ้าไม่นับผู้ก่อตั้งเพจอย่างผมและเพื่อนของผมที่
เข้ามาร่วมกลุ่มตั้งแต่วันแรก สมาชิกของกลุ่มนี้ก็ไม่ใช่คนในเขต ๘ ทั้งหมด อย่าว่า
แต่บางคนเข้ามาเพื่อป่วนเพจด้วยซ�ำ้ พวกนี้ใช้ชื่อแอคเคาท์แปลกๆ คงจะสมัครใช้
งานโดยไม่ใช้ชื่อกับรูปจริง
“เพจพวกขี้แพ้เหรอวะ”
“แพ้เลือกตั้งก็ยอมรับความจริงกันหน่อยสิวะ”
“มีพวกเหีย้ ๆ อย่างพวกมึงทีไ่ ม่ยอมท�ำตามกติกานีแ่ หละ บ้านเมืองถึงเดือด
ร้อนอยู่ทุกวันนี้”
สรุปว่านอกจากเสียงด่าจากสมาชิกนิรนาม สมาชิกคนอืน่ ๆ ก็เงียบเสียงไป
อาจจะเพราะไม่อยากยุ่งวุ่นวาย ถึงพูดคุยไปก็คงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ความรู้สึก
ของผมจากทีเ่ คยภูมใิ จว่าได้ลงมือท�ำอะไรสักอย่างกลับร่วงลงมาเท่ากับวันทีร่ ผู้ ลการ
เลือกตัง้ นัน่ สินะ แพ้กค็ งต้องยอมรับกติกาไป ค่อยว่ากันใหม่ในการเลือกตัง้ ครัง้ หน้า
ยังไงผมก็ไม่ได้เสียเงินเสียทองอะไรกับการเปิดเพจ แค่กดลบเพจซะแล้วก้มหน้ากลับ
สู่โลกความจริงก็พอ

สถาบันพระปกเกล้า 217

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 217 21/3/2561 BE 10:00


“ท�ำไมเพจเงียบจังวะ” ไอ้เพือ่ นตัวป่วนทักมาในข้อความส่วนตัวได้เหมาะ
เหม็ง
“ช่างแม่งเหอะ กูจะลบเพจแล้ว” ผมพิมพ์ข้อความอย่างซังกะตาย
“เฮ้ยเดีย๋ ว เพิง่ เปิดมาอาทิตย์เดียวจะลบแล้วเหรอ ไหนมึงว่าโลกออนไลน์
ท�ำให้พูดเสียงดังขึ้น”
“เปิดไปก็มีแต่คนมาด่า...ด่าเหมือนที่มึงด่ากูนั่นแหละ”
ข้อความฝั่งนั้นขึ้นสัญลักษณ์ว่าอ่านแล้วแต่เงียบไป “เออ ช่างมันเถอะ
กูกดปิดเพจล่ะนะ”
“เดี๋ยว มันต้องไม่จบแบบนี้สิวะ” ค�ำพูดคุ้นตาถูกพิมพ์มาจากฝั่งนั้น แล้ว
ก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมีอีกข้อความตามมา “มึงตั้งกูเป็นคนจัดการเพจได้ไหม
เดีย๋ วกูจะลองใช้ไอ้สอื่ สังคมออนไลน์นเี่ อง ขอเวลากูสกั เดือนสองเดือน กูวา่ น่าจะท�ำ
อะไรได้บ้าง”
ผมหัวเราะพร้อมกับส่งข้อความสติก๊ เกอร์รปู กระต่ายหน้ากวนทีม่ นั เคยส่ง
ให้ “อะไรของมึงวะ จูๆ่ ก็หนั มาสนใจการเมืองซะอย่างนัน้ ไอ้ประชาชนผิดกฎหมาย”
“ไม่รู้สิ กูแค่นึกเสียดายล่ะมั้ง”
เสียดายอะไรวะ ผมนึกในใจแต่ขี้เกียจถามต่อ “เอาเถอะ ตามใจมึง”
ผมคลิกที่หน้าจัดการเพจ กดเลือกให้เพื่อนผมเป็นผู้จัดการเพจร่วมกัน
เสร็จแล้วก็ลงชื่อออกจากเพจ และไม่กลับมาเหลียวแลเพจนี้อีกเลยจนเกือบจะลืม
ไปแล้วว่าเคยสร้างเพจนี้
กว่าผมจะเห็นเพจนี้อีกครั้ง ก็ตอนที่มันออกข่าวในโทรทัศน์แทบทุกช่อง
แวบแรกผมไม่แน่ใจนัก ต่อเมื่อผู้ประกาศข่าวอ่านชื่อเพจ “พลังเงียบของเขต ๘”
ตามด้วยค�ำอธิบายสรรพคุณว่า “เพจของคนรุน่ ใหม่ทตี่ งั้ ขึน้ ด้วยความไม่พอใจในผล
การเลือกตัง้ ของเขต ๘” ตามด้วยชือ่ จังหวัดอย่างชัดเจน ผมคว้าโทรศัพท์ขนึ้ มาพิมพ์
ข้อความหาเจ้าเพื่อนตัวกวนอย่างเร่งด่วน
“เฮ้ยเพจเราออกข่าวด้วยเหรอวะ”

218 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 218 21/3/2561 BE 10:00


มันเงียบอยู่พักใหญ่ทีเดียวกว่าจะตอบกลับมา “เหรอ กูไม่ได้ดูทีวีเลย
แป๊บนะ กูไล่ลบพวกคอมเม้นต์ป่วนเพจอยู่ มึงน่าจะลองล็อกอินเข้ามาดูนะว่าเพจ
มึงโตขึ้นแค่ไหนแล้ว”
จะว่าไปหลังจากผมกดตัง้ ให้มนั เป็นผูจ้ ดั การเพจร่วมกัน เพือ่ นผมมันก็เงียบ
หาย ตอบข้อความช้าบ้าง อ่านแล้วมาตอบวันหลังบ้าง ผมเข้าใจมาตลอดว่ามันคง
ยุ่งกับงานของมัน
เพียงแต่ผมไม่คิดว่างานยุ่งของมันคือการท�ำเพจนี้
ทันทีที่ผมล็อกอินเข้ามาในฐานะผู้จัดการเพจ ค�ำแจ้งเตือนทยอยโผล่ขึ้นที่
หน้าแรกจนนับไม่หวาดไม่ไหว ยอดคนกดไลก์เพจนีห้ ลายหมืน่ ยอดคนเข้าถึงแต่ละ
โพสต์ก็เหยียบๆ แสนแทบทุกโพสต์ มีคอมเม้นต์เขียนชมและเขียนด่าตอบโต้กันไป
มาอย่างร้อนแรงทุกโพสต์ ยอดแชร์แต่ละโพสต์ขึ้นเป็นพันๆ เหลือบไปที่ภาพโลโก้
ของเพจทีเ่ ปลีย่ นจากภาพข้อความจืดๆ เป็นสัญลักษณ์กำ� ปัน้ และนกพิราบสวยงาม
มีข้อความใต้ภาพว่า “เขต ๘ จะก�ำหนด...อนาคตตัวเอง” ไล่อ่านตั้งแต่โพสต์แรก
เล่าถึงที่มาของการตั้งเพจเหมือนกัน แต่ส�ำนวนภาษาของเพื่อนผมช่างเร้าใจและ
ปลุกใจคนอ่านได้ดีเกินคาด
นอกจากที่มาของการตั้งเพจ ในเพจนี้ยังมีบทสัมภาษณ์สั้นๆ ของคนที่
กากบาทช่องไม่ลงคะแนนเสียงของเขต ๘ ในจังหวัดผมนับร้อยคน มีโพสต์แฉ
หลักฐานการทุจริตงบประมาณโรงเรียนของนายชูชาติ พร้อมด้วยบทสัมภาษณ์พเิ ศษ
(ปิดหน้า) ของคณาจารย์ทเี่ คยร่วมงานกับท่านสมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎรผูท้ รงเกียรติ
อดีตผู้อ�ำนวยการที่ใครๆ ต่างก็จงเกลียดจงชังไม่เว้นแม้แต่เด็กมัธยมฯ ที่เคยเรียน
สมัยทีน่ ายคนนีเ้ ป็นผูอ้ ำ� นวยการ ส่วนคดีเก่าของผูส้ มัครอีกรายหนึง่ ก็มบี า้ งไม่มากนัก
อีกส่วนหนึ่งเป็นโพสต์เชิงวิชาการ เรียบเรียงความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งและ
ประชาธิปไตยของต่างประเทศ ตัวเลขต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาท�ำ
เป็นภาพอินโฟกราฟิกสวยงาม ไม่น่าเชื่อว่านี่จะเป็นฝีมือของเพื่อนผมทั้งหมด

สถาบันพระปกเกล้า 219

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 219 21/3/2561 BE 10:00


แต่ที่ส�ำคัญกว่านั้นก็คือ โพสต์ล่าสุดที่ปักหมุดไว้ เป็นโพสต์เชิญชวนให้
สมาชิกในเพจออกไปแสดงพลังประท้วงหน้าที่ท� ำการพรรคของนายชูชาติใน
วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ซึ่งมีเสียงตอบรับดีไม่น้อย ตอนที่ผมอ่านโพสต์นี้ก็พอดีกับที่
พิธีกรในโทรทัศน์ก�ำลังอ่านประกาศนี้เช่นกัน ก่อนจะปิดท้ายว่าเราจะติดตาม
สถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เท่ากับว่าเพจนี้ก�ำลัง ‘ส่งเสียงดัง’ และมีคนเฝ้า
ติดตามอยู่ทั้งประเทศ
แค่พมิ พ์ถามในข้อความคงไม่พอ ผมกดโทรศัพท์หาเจ้าเพือ่ นจอมกวนทันที
“เออกูเอง... เกิดอะไรขึน้ กับเพจเราวะ” ผมเผลอใช้คำ� ว่าเรา อันทีจ่ ริงควร
พูดว่าเพจของมันต่างหาก
“อืม... กูจะต้องเล่าตั้งแต่แรกเลยมั้ยเนี่ย” มันหัวเราะ “ตั้งแต่วันที่มึงพูด
เรือ่ งเพจอะไรของมึงเนีย่ กูกล็ องไปหาความรูเ้ กีย่ วกับเพจ ก็เลยคิดว่า มันน่าจะเป็น
วิธีการต่อสู้แบบใหม่ของคนรุ่นเราว่ะ”
“วิธีการต่อสู้แบบใหม่?”
“มึงคิดดู คนเป็นแสนมารวมตัวกันในเพจ พูดคุยกัน ถกเถียงกัน โดยไม่
ต้องไปเปิดเวที ไม่ต้องมีตึกให้คนไปนั่งคุยกัน ไม่เฉพาะแค่คนในเขต ๘ ของเรา
แต่เป็นคนที่เห็นด้วยกับแนวทางของเราทั่วประเทศ เราไม่ต้องมีช่องข่าวแบบพวก
พรรคการเมือง แค่เรามีเอกสารหลักฐานการทุจริตของมัน มีรปู ภาพ มีคลิป ก็โพสต์
ลงเพจ มีคนแชร์เป็นพันๆ คนเห็นหลายหมื่น ยิ่งเรื่องฉาวโฉ่เท่าไร คนก็ยิ่งชอบ
ยิง่ แชร์มากเท่านัน้ แล้วก็อย่างทีม่ งึ เห็น ในทีส่ ดุ ช่องข่าวก็มาตามเพจออนไลน์ไปออก
ในทีวี ยิ่งขยายฐานผู้ชมเพจเข้าไปอีก ทั้งหมดเราก็แค่บริหารให้ดี ท�ำเนื้อหาให้
ทันสมัย เพจก็จะเป็นเครื่องมือให้เรา ‘พูดเสียงดัง’ ได้อย่างที่มึงเคยบอก”
“ไอ้เนื้อหาทั้งหมดที่มึงท�ำ” ผมนึกถึงรูปภาพ บทสัมภาษณ์ และโพสต์
วิชาการย่อยง่ายซึ่งมีมากมายเต็มเพจ “มึงท�ำเองหมดเลยเหรอวะ”
“กูมีทีมท�ำงาน” มันเงียบไปพักนึง “อันที่จริงกูน่าจะบอกมึงว่า กูลาออก
จากงานประจ�ำสักพักแล้ว”

220 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 220 21/3/2561 BE 10:00


“เฮ้ย” ผมตะโกน “อย่าบอกว่าลาออกเพื่อมาท�ำไอ้เพจนี้นะ”
มันหัวเราะแทนค�ำตอบ “ต้องขอบใจมึงที่ท�ำให้กูมีแรงใจท�ำเรื่องอะไร
แบบนีอ้ กี ครัง้ ตอนนีก้ รู สู้ กึ ว่ากูกำ� ลังจะเปลีย่ นแปลงอะไรได้จริงๆ ว่ะ มึงรูแ้ ล้วใช่มยั้
ว่าวันอาทิตย์จะมีกิจกรรมอะไร ขอโทษทีที่กูไม่ได้บอกมึงก่อน งานมันยุ่งจนกูลืม
แต่กูอยากให้มึงไปร่วมแสดงพลังนะ”
“เฮ้ยไม่เป็นไร มึงท�ำให้เรื่องมันมาไกลขนาดนี้กูก็ภูมิใจมากแล้ว”
“มันอาจจะไปไกลกว่านีก้ ไ็ ด้ เดีย๋ วมึงรอดูวนั นัน้ ก็แล้วกัน” มันหัวเราะอย่าง
มีเลศนัยก่อนจะวางสายไป เป็นอีกครั้งที่ผมไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร เพราะถึง
ถามไปก็ไม่ได้คำ� ตอบชัดเจนเท่ากับไปดูให้เห็นด้วยตาตัวเอง
ถึงแม้จะมีสหี่ มืน่ กว่าเสียงกากบาทในช่องไม่ลงคะแนน แต่จะยอมโผล่หน้า
มาชุมนุมสักสองร้อยก็คงเกินคาดแล้ว ผมเองหากไม่ได้รู้จักกับเจ้าของเพจก็คงไม่
กล้าออกหน้ามาชุมนุมกับคนอื่นแบบนี้ แต่ประเมินด้วยสายตาแล้ว ผู้คนที่ออกมา
น่าจะเกือบๆ ถึงพัน หลายคนผมคุ้นหน้าเพราะเป็นคนที่เคยให้สัมภาษณ์ในเพจ
แต่มีกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งที่จับกลุ่มอยู่ด้านหลังไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเอาเสียเลย
จ�ำนวนคนว่าน่าแปลกใจแล้ว ทีมงานของเพือ่ นผมยิง่ น่าแปลกใจเข้าไปใหญ่
เพราะมีสมาชิกเกือบสิบคนทีเดียว แถมยังใส่ชุดและหมวกสกรีนโลโก้ของเพจสีสัน
สวยงาม ของแบบนี้มันไม่น่าใช่แค่แรงใจหรือจิตอาสา แต่น่าจะต้องใช้งบประมาณ
ไม่น้อย เจ้าเพื่อนผมพาผมไปแนะน�ำตัวกับทีมงานของมัน พร้อมกับคะยั้นคะยอให้
ผมใส่เสื้อและหมวกของเพจในฐานะผู้ก่อตั้งเพจ แต่ผมปฏิเสธไป บอกว่าขอมาใน
ฐานะของประชาชนเขต ๘ คนหนึ่งเท่านั้น
การปราศรัยเริ่มขึ้นช่วงสิบโมง มีประชาชนมายืนชุมนุมอยู่หน้าที่ท�ำการ
พรรคราวๆ พันกว่าคน แต่ละกลุ่มต่างก็ถือป้ายท�ำนองว่า “ไม่ต้องการ ส.ส. แพ้
Vote No” “พลังเงียบไม่ต้องการท่าน” “ท่านชนะตามกติกา แต่ไม่ชนะใจเรา”
“ลงจากเก้าอีอ้ ย่างงามสง่า ดีกว่าอยูไ่ ปให้คนครหา” ป้ายไวนิลพิมพ์สสี่ ดี ไี ซน์สวยงาม
น่าจะเตรียมการกันมาตั้งแต่ประกาศจะรวมพลแสดงพลัง มีเจ้าหน้าที่ต�ำรวจมาคุม

สถาบันพระปกเกล้า 221

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 221 21/3/2561 BE 10:00


สถานการณ์กันไม่ถึงสิบนาย สื่อมวลชนยังจะมากันเยอะกว่าเสียอีก เพื่อนผมใช้
โทรโข่งประกาศเจตนารมณ์
“พวกเรามากันในวันนี้ก็เพื่อต้องการแสดงพลังของประชาชนเขต ๘
ทีก่ ากบาทช่องไม่ลงคะแนนหรือโหวตโนกว่าสีห่ มืน่ เสียง ว่าเราไม่ประสงค์จะเลือกใคร
เพราะตัวเลือกทีใ่ ห้เรามายังไม่ดพี อ...ผมพยายามเลีย่ งค�ำว่าห่วยแตกแล้วนะ” เสียง
เฮจากกลุม่ ผูเ้ ข้าร่วมชุมนุมดังขึน้ “เรายังทราบอีกว่าท่านผูท้ รงเกียรติมคี ดีทจุ ริตเงิน
งบประมาณของโรงเรียนถึงสองแห่งสมัยที่ท่านเป็นผู้อ�ำนวยการ และเราก็มีหลัก
ฐานชัดเจน จึงอยากจะให้ท่านมาไขข้อข้องใจให้ประชาชนได้รับทราบ และเพื่อให้
ท่านได้พิจารณาตนเองว่า ยังมีหน้า... เอ้อ ยังเหมาะสมที่จะเรียกตนเองว่าตัวแทน
ของประชาชนหรือไม่”
เสียงเฮดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับเสียงตะโกนที่ค่อยๆ ดังขึ้นมาจากข้างหลัง
ว่า “ออกไปๆ ๆ ” ไม่นานประตูที่ท�ำการพรรคก็เปิดออก มีชายสวมสูทภูมิฐาน
คนหนึ่งเดินออกมาพร้อมกับหันโทรโข่งไปยังสื่อมวลชนที่มารอท�ำข่าว
“สื่อมวลชนทุกท่านโปรดฟังผม นี่เป็นแผนของกลุ่มเครือข่ายผู้สมัครอีก
พรรคหนึง่ พวกคุณอย่าหลงกลพวกมัน มันจ้างกันมาล้มท่านชูชาติเพราะรูว้ า่ เลือกตัง้
ไปก็ไม่ชนะ”
จากนั้นหันมาทางผู้ชุมนุม “ผมเป็นทนายของ ส.ส. ชูชาติ ผมเก็บภาพคน
ทีม่ าชุมนุมทัง้ หมดไว้แล้ว ผมจะฟ้องพวกคุณทุกคนโดยเฉพาะแกนน�ำในข้อหาหมิน่
ประมาท” เขาชีห้ น้าเพือ่ นผม “ถ้ามีหลักฐานว่าท่านชูชาติทจุ ริตจริงก็ควรจะเอาไป
ฟ้องศาล ไม่ใช่น�ำมากล่าวหากันลอยๆ แบบนี้”
เสียงโห่ไล่ดงั ขึน้ เรือ่ ยๆ เพือ่ นผมพูดโต้ตอบผ่านโทรโข่งอย่างเผ็ดร้อน ทนาย
ของนายชูชาติตะโกนตอบอย่างไม่ไว้หน้าเช่นกัน สักพักเขาท�ำท่าจะกลับเข้าทีท่ ำ� การ
พรรค แต่มีแกนน�ำกลุ่มหนึ่งเดินไปขวางประตู จากนั้นทนายกับเพื่อนผมก็เริ่ม
ทะเลาะกันยกใหญ่จนกระทั่งเกิดเสียงเอะอะขึ้น มีการตะลุมบอนกันระหว่างกลุ่ม
แกนน�ำกับทนายเล็กน้อย ดีทตี่ ำ� รวจตรงนัน้ จับแยกทัง้ คูอ่ อกมาได้ เพือ่ นผมปากแตก

222 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 222 21/3/2561 BE 10:00


เลือดไหลจากจมูกเล็กน้อย คงจะโดนชกเข้าสักหมัด ส่วนทนายรีบแหวกฝูงชนกลับ
เข้าที่ท�ำการพรรค เพื่อนผมยกโทรโข่งขึ้นประกาศอีกครั้ง
“พี่น้องที่รัก นี่คือสิ่งที่ท่านผู้ทรงเกียรติตอบแทนที่เรามาแสดงพลังอย่าง
สันติ เขาปล่อยให้ทนายส่วนตัวออกมาขู่ฟ้องคดีและให้รางวัลผมหนึ่งหมัด” เสียง
โห่ฮาดังขึ้นไม่หยุดหย่อน “แต่นั่นก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเกรงกลัวพลังของพวกเรา
พลังเงียบที่จะไม่เงียบอีกต่อไป พลังเงียบที่พร้อมจะส่งเสียงให้ทั้งโลกได้ยินว่า
เขต ๘ จะก�ำหนดอนาคตตัวเอง ใช่มั้ยครับพี่น้อง...”
การชุมนุมจบลงหลังจากนั้นไม่นาน แต่การชุมนุมบนโลกออนไลน์ก�ำลัง
เริ่มขึ้น คลิปสั้นๆ ที่ทีมงานเร่งตัดต่อ ภาพเพื่อนผมปากแตกพร้อมข้อความปลุกใจ
ถูกพิมพ์และเผยแพร่ออกไปไม่หยุดหย่อน ยอดแชร์จากร้อยเพิม่ ขึน้ เป็นพันเป็นหมืน่
อย่างรวดเร็ว ยังไม่นับภาพจากสื่อมวลชนที่ได้ข่าวดังน่าจะเรียกเรตติ้งได้ไม่น้อย
ผมขนลุกขณะนั่งมองกระบวนการผลิตเนื้อหาในเพจที่บ้านของมัน ห้องที่เคยเป็น
ห้องนอนของมันเองแปรสภาพเป็นห้องคอมพิวเตอร์ของทีมงานเกือบสิบชีวติ แต่ละ
คนเร่งผลิตเนื้อหาป้อนเพจ แถมยังถือแอคเคาท์ทั้งจริงและปลอมกดแชร์ภาพข่าว
ไปยังเพจอืน่ ๆ ไม่ขาดสาย อย่างทีผ่ มนึกสงสัยตอนไปร่วมชุมนุม... ของแบบนีม้ นั ไม่
น่าใช่แค่แรงใจหรือจิตอาสา
“ถ้ากูถามมึงแล้วมึงจะตอบตามความจริงไหม”
“มึงจะถามว่าเรื่องนี้มีเบื้องหลังอะไรไหม...ใช่มั้ย” ผมพยักหน้า
“กูบอกมึงตรงๆ ก็ได้ เป็นอย่างที่ไอ้ทนายหน้าหอนั่นมันพูด กูรับเงิน
สนับสนุนมาจากผู้สมัครอีกพรรคหนึ่ง”
“เพื่อมาล้มนายชูชาติ?”
“เปล่า? เพื่อมาล้มล้างไอ้ระบบการเมืองระย�ำนี่” มันมองหน้าผมเขม็ง
“ตอนที่กูคุยกับมึงครั้งแรก มึงรู้มั้ยกูเห็นอะไร กูเห็นโอกาส กูเห็นเสียงสี่หมื่นเสียง
ที่ร้องระงมในคูหาว่า กูไม่เอาพวกเหี้ยนั่นทั้งสองคน แต่เสียงพวกนั้นแม่งไม่ออกมา
พูดกันต่อหน้า เหมือนมึงที่พูดอยู่แต่กับกูนี่แหละ เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะพวกมึง

สถาบันพระปกเกล้า 223

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 223 21/3/2561 BE 10:00


กลัวไง มึงกลัวอ�ำนาจ กลัวโดนหมายหัว กลัวโดนสองหมื่นเสียงที่เลือกไอ้เหี้ยนั่น
เกลียดหน้า กลัวโดนพวกรักประชาธิปไตยจนปากเปียกปากแฉะกล่าวหาว่าล้มล้าง
ประชาธิปไตย กลัวเหี้ยกลัวห่าอะไรมากมาย แต่ตอนมึงกากบาทในคูหา ไม่มีใครรู้
ว่ามึงกากบาทลงไป มึงตะโกนออกมาเป็นเสียงกากบาท มันชัดเสียจนเป็นบัตรดี
บัตรดีๆ สีห่ มืน่ บัตรทีบ่ อกว่าทีจ่ ริงกูไม่ได้เกลียดประชาธิปไตย แต่กไู ม่เอาพวกเหีย้ ”
“แล้วพื้นที่เพจของมึงคือพื้นที่ของสี่หมื่นเสียงที่ว่านั่นเหรอ?”
“อาจใช่ หรืออาจไม่ใช่ ช่างแม่งสิ” มันหัวเราะ “ที่จริงมันก็คือพื้นที่ของ
คนทีค่ ดิ แบบเดียวกับเรา คนกาโหวตโนทัง้ ประเทศ คนทีไ่ ม่ได้รงั เกียจประชาธิปไตย
แต่รังเกียจตัวแทนของระบอบประชาธิปไตย รังเกียจคนที่เสนอหน้ามาท�ำงานได้
เพราะแม่งเส้นใหญ่ มีเครือข่ายอ�ำนาจหนุนหลัง พื้นที่ของเพจเราคือพื้นที่ของคน
ที่อยากเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองเหี้ยๆ นี่ อยากเลือกคนที่ตัวเองอยากจะเลือก
จริงๆ ”
“คนเราจะเลิกกลัวก็ต่อเมื่อรู้สึกว่าปลอดภัย กูก็แค่สร้างพื้นที่ปลอดภัยไว้
ให้คนเข้ามาตะโกนได้สะดวกปาก ถ้ามึงสังเกตมึงจะเห็นแอคเคาท์ชอื่ แปลกๆ เพียบ
นั่นทีมกูสร้างเองให้เป็นสมาชิกผีไว้กดไลก์กดแชร์เยอะๆ ให้ดูเหมือนมีสมาชิกเป็น
พัน เอาเงินพวกแม่งซื้อโฆษณาของเฟซบุ๊กให้แต่ละโพสต์ดันขึ้นหน้าแรกบ่อยๆ
ให้มีคนเห็นเยอะๆ เข้าร่วมกลุ่มกันเยอะๆ สี่ซ้าห้าหมื่น เท่านี้คนก็รู้สึกว่าพวกกู
เยอะว่ะ คนคิดแบบกูเยอะว่ะ กล้าพูดอะไรได้มากขึ้น สุดท้ายคนที่ยังศรัทธาใน
ระบอบประชาธิปไตยอยู่ก็เข้ามาร่วมพูดคุยกับเราจริงๆ ยอมเปิดเผยตัวเองจริงๆ
ลองถ้าคนหร็อมแหร็มเหมือนตอนทีม่ งึ เปิดเพจครัง้ แรก ใครมันจะกล้าเอาตัวเข้ามา
เสี่ยงได้วะ”
“หลังจากมึงตัง้ กูให้ดแู ลเพจ กูโทรไปหาพรรคพวกเก่าๆ ทีเ่ คยท�ำงานด้วย
กันสมัยเป็นเอ็นจีโอมานัง่ วางแผนงานท�ำเพจด้วยกัน แล้วก็พากันหอบแผนไปเสนอ
ไอ้พรรคฝั่งตรงข้าม ตอนแรกมันไล่ตะเพิดไม่ให้เข้าพบด้วยซ�้ำ ก็แหงล่ะพวกกูเคย
ท�ำอะไรกับพวกแม่งไว้มันก็คงคุ้นหน้าอยู่” มันหัวเราะ “กูตื้อจนมันยอมให้พบ

224 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 224 21/3/2561 BE 10:00


พยายามอธิบายว่านีไ่ ม่ใช่แค่แผนล้มนายชูชาติคนเดียว แต่จะใช้สอื่ สมัยใหม่ทำ� ลาย
ฐานอ�ำนาจของอีกพรรคในเขตนีแ้ บบถอนรากถอนโคน และอาจจะรวมถึงเขตอืน่ ๆ
ในจังหวัดนี้ด้วย กว่าที่สมองทึบๆ ของมันจะเข้าใจก็นานอยู่ สุดท้ายมันก็ให้ทุน
อุดหนุนกูมาก้อนหนึ่ง พอเพจเริ่มดัง ทีนี้เงินเข้ามาไม่อั้นเลย”
“เอออีกอย่างกูจะบอกให้ อันที่จริงวันนี้มีคนมาด้วยใจแค่ร้อยกว่าคนนะ
ก็คงร้อยคนที่กูเคยไปสัมภาษณ์นั่นแหละ พวกนี้แฟนพันธุ์แท้ ส่วนอีกเก้าร้อยกว่า
คนกูจ้างหัวละห้าร้อย ค่าม็อบสมัยนี้แพงชิบหาย ดีที่ไม่ใช่เงินกู” มันคงหมายถึง
บรรดาคนแปลกหน้าที่ชุมนุมอยู่ด้านหลัง “ตอนนี้เพจดังจนออกโทรทัศน์แล้ว กูก็
เริ่มขอเงินบริจาคสนับสนุน หาสปอนเซอร์เองด้วย สักพักคงไม่ต้องง้อเงินไอ้พวก
พรรคนั้นแล้ว”
“แปลว่ามึงรับเงินเค้าแต่ไม่สนับสนุนเค้า”
“แหงล่ะ ศัตรูของศัตรูกค็ อื มิตร แต่พอโค่นศัตรูตวั เอ้ได้ มึงก็กลายเป็นศัตรู
กันเหมือนเดิม”
“แล้วยังไงต่อ ถ้าล้มนายชูชาติไปได้ มึงจะลงสมัครเองเหรอ” ผมเริ่มเดา
ทางเพื่อนไม่ถูกเสียแล้ว
“โนวๆ ๆ ๆ ไม่เลย อย่างนั้นก็พังหมดสิ แกนน�ำลงสมัครซะเอง เหมือน
หัวหน้ารัฐประหารท�ำส�ำเร็จก็รับเป็นนายกฯ ซะเองนั่นแหละ นอกจากไม่งามสง่า
แล้วยังโดนด่าทุกราย” มันหัวเราะ “ตอนนีม้ อี ยูส่ องช้อยส์ ข้าราชการเกษียณคนนึง
กับอดีตคณบดีมหาวิทยาลัยอีกคนนึง ทัง้ สองคนโปรไฟล์ดมี าก เพือ่ นเอ็นจีโอกูกำ� ลัง
ติดต่ออยู่ และถ้าเค้ายอมลงสู้เป็นผู้สมัครอิสระ ทีมพวกกูก็พร้อมจะซัพพอร์ต
นั่นแหละ ตอนนี้กำ� ลังหยั่งเสียงในเพจอยู่ว่าพร้อมจะสนับสนุนมั้ย แต่เสียงออกมา
ก็โอเคนะ อย่างน้อยก็ดีกว่าไอ้สองคนนั้น”
“นี่แหละ การเลือกตั้งของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชนอย่าง
แท้จริง” มันยิ้มเยาะ ท�ำหน้าคล้ายๆ กับข้อความสติ๊กเกอร์รูปกระต่ายที่มันชอบ
ส่งให้ พอดีกบั ภาพข่าวในโทรทัศน์ทเี่ ริม่ อ่านข่าวการชุมนุมครัง้ นี้ พร้อมกับฉายภาพ

สถาบันพระปกเกล้า 225

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 225 21/3/2561 BE 10:00


เพื่อนผมถูกท�ำร้ายเลือดกบปาก
“ที่จริงกูยั่วตีนไอ้ทนายนั่นเองแหละ ด่าพ่อล่อแม่หนักๆ ด่าลูกสาวมันว่า
เป็นกะหรี่ด้วย ดูท่าทางหัวร้อนยุง่ายดี กูชอบ”
“เพื่ออะไรวะ”
“มึงก็เห็นแล้วนี่” มันพยักเพยิดไปทางโทรทัศน์ “เพื่อเล็งผลเลิศไงล่ะ”
ภาพข่าวแกนน�ำการชุมนุมของพลังบริสุทธิ์ถูกท�ำร้ายจากทนายป่าเถื่อน
เคล้าเสียงวิพากษ์วจิ ารณ์เผ็ดร้อนของนักข่าวทีม่ งุ่ จะท�ำเรตติง้ ขณะทีแ่ กนน�ำคนนัน้
ก�ำลังนัง่ ยิม้ ไม่หบุ อยูข่ า้ งๆ ผมนีเ่ อง ผมได้แต่ถอนหายใจยาว ยิม้ เหนือ่ ยๆ มันยักไหล่
“เดี๋ยวมึงก็คงเข้าใจเอง”
“กูก็หวังอย่างนั้น” ก่อนผมจะเดินออกไปก็นึกอะไรขึ้นได้ “เออ กูจ�ำได้
ครั้งหนึ่งมึงเคยบอกว่า กูพอแล้ว ตอนนั้นมึงหมายความว่าอะไรวะ”
“กูเบื่อการเมือง” มันหัวเราะ “การเมืองที่กูเข้าไปยุ่งแม่งมีแต่เรื่องเหี้ยๆ
เอ็นจีโอรับเงินจากอีกฟากมาด่าอีกฝ่าย แกนน�ำรับตังค์จา้ งม็อบจากพรรคการเมือง
แล้ ว อมตั ง ค์ หั ก เปอร์ เซ็ น ต์ เข้ า กระเป๋ า เพื่ อ นแทงข้ า งหลั ง เพื่ อ นเพราะแย่ ง
ผลประโยชน์กัน เกลียดกันจนไม่เหยียบเงาไม่เผาผี มันเยอะซะจนกูบอกตัวเองว่า
พอเถอะ กูไม่ไหวแล้ว กูควรจะวางมือไปท�ำมาหากินสุจริต เป็นประชาชนเชือ่ งๆ ที่
ถูกต้องตามกฎหมายแบบมึงดีกว่า”
“แต่มึงก็ยังกลับมา”
“นักเขียนคนหนึ่งเคยบอกกูว่า หากท่านเห็นว่าการเมืองสกปรก ท่านก็
ต้องเข้ามาท�ำให้มนั สะอาด แต่เค้าคงลืมพูดต่อว่า มือของคนท�ำความสะอาด ต่อให้
ระวังแค่ไหนมันก็ไม่พ้นต้องสกปรกอยู่ดี สุดท้ายกูก็เข้าใจว่าการเป็นประชาชน
เชื่องๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมายมันไม่ได้ช่วยให้ต่อสู้กับพวกเหี้ยนี่ได้เลย ถ้ากูมัวแต่
กลัวมือสกปรกก็คงเปลีย่ นแปลงอะไรไม่ได้ กูตอ้ งขอบคุณการเมืองทีส่ อนเรือ่ งเหีย้ ๆ
ประสบการณ์เหี้ยๆ ทั้งหลาย ท�ำให้กูมีเล่ห์เหลี่ยม มีเส้นสาย มีพรรคพวกเพื่อกลับ
มาท�ำเรื่องเหี้ยๆ ให้บ้านเมืองมันดีขึ้นแบบที่กูก�ำลังท�ำนี่ไงล่ะ”

226 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 226 21/3/2561 BE 10:00


พูดไปใครจะเชื่อว่าเพจเฟซบุ๊กเพจหนึ่งที่ผมตั้งขึ้นมาโดยไม่ได้คาดหวัง
อะไร จะใช้เวลาเพียงแค่ครึง่ ปีสถาปนาตัวเองเป็นเพจทีไ่ ด้รบั การกล่าวถึงมากทีส่ ดุ
ในชั่วโมงนี้ หนึ่งอาทิตย์หลังเกิดเหตุความวุ่นวาย ทางพรรคแถลงว่านายชูชาติ
ประกาศลาออกจากต�ำแหน่งโดยไม่ได้ประกาศเหตุผลแน่ชัด บ้างก็ว่าถูกพรรคบีบ
ให้ออกเพราะทนกระแสสังคมไม่ไหว บ้างก็ว่าลาออกเพื่อเตรียมสู้คดีทุจริตที่ถูก
กล่าวหา
เพจ “พลังเงียบของเขต ๘” ถูกกล่าวขวัญว่าเป็นพลังของคนรุน่ ใหม่อย่าง
แท้จริง เพราะถูกเชื่อมโยงว่าเป็นสาเหตุของการโค่นล้มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ได้อย่างไม่เคยมีมาก่อน สือ่ มวลชนทุกช่อง สือ่ สังคมออนไลน์ทกุ ช่องทางต่างจับตา
มองความเคลื่อนไหวของเพจไม่วางตา เครือข่ายอ�ำนาจของพรรคนายชูชาติใน
จังหวัดนี้ถูกแฉออกมาอย่างต่อเนื่อง ยอดไลค์พุ่งขึ้นทะลุหลักล้าน ยอดบริจาค
เพิ่มขึ้น โฆษณาต่างๆ ติดต่อมาที่เพจอย่างไม่ขาดสาย การเลือกตั้งครั้งใหม่ก�ำลัง
จะเริ่มขึ้น พรรคเจ้าของพื้นที่และพรรคคู่แข่งคัดเอาตัวแทนที่ดีที่สุดมาลงชิงชัยใน
เขต ๘ ขณะที่ในเพจเหมือนจะลงมติกันแล้วว่าอดีตคณบดีมหาวิทยาลัยคนนั้นคือ
คนที่เหมาะสมที่สุดในฐานะผู้สมัครอิสระ
บางทีอาจจะจริงอย่างที่ผมเคยอ่านมาจากหนังสือสักเล่มหนึ่ง สายรุ้งจะ
ไม่เกิดขึน้ ถ้าพายุฝนไม่กระหน�ำ่ เสียก่อน และบางที เมฆฝนทีเ่ กิดจากละอองไออาจม
หรือน�้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ก็แลดูไม่แตกต่างกัน
บางทีวิถีแห่งฝนก็เป็นเช่นนี้...
มองออกไปข้างนอก ดูเหมือนว่าเมฆฝนมหึมาจะตั้งเค้ามาได้ครึ่งค่อนวัน
แล้ว เพียงแต่สายตาฝ้าฟางของผมยังมองไม่ออกว่านี่เป็นฝนช�ำระล้างก่อนรุ้งจะ
ทอแสงหรือเป็นมหาอุทกภัยที่ก�ำลังก่อตัว

สถาบันพระปกเกล้า 227

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 227 21/3/2561 BE 10:00


วุฒินันท์ ชัยศรี
นั ก หลงทางสายชี วิ ต ทน
มลพิ ษ ของเมื อ งหลวงไม่ ไ หวจึ ง
อั ป เปหิ ตั ว เองมาสอนหนั ง สื อ ที่
มหาวิทยาลัยใกล้บ้าน เคยมีรางวัล
ทางการเขียนติดไม้ติดมือบ้างช่วงที่
เป็ น หนุ ่ ม กระทง ช่ ว งหลั ง สนใจ
วรรณกรรมการเมืองเป็นพิเศษ และ
หวังใจว่าอยากจะเขียนให้คนอ่านรูส้ กึ
ว่าเรื่องสั้นการเมืองไม่ใช่ยาขมหรือ
สูตรส�ำเร็จ แต่เป็นแนวเรื่องที่สนุกได้
ไม่แพ้เรื่องสั้นแบบอื่นๆ ปัจจุบันประกอบอาชีพอาจารย์มหาวิทยาลัยด้วย
ใจภักดิ์ และเจียดเวลามาเขียนเรื่องสั้นที่รักด้วยใจปอง

228 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 228 21/3/2561 BE 10:00


การมาของฝรั่ง
นทธี ศศิวิมล

ใ นหมูบ่ า้ นจัดสรรขนาดใหญ่แห่งหนึง่ ในจังหวัดปทุมธานี เมือ่ ราวยีส่ บิ กว่าปีกอ่ น


หลายคนในหมู่บ้านต้องประหลาดใจที่ได้เห็นฝรั่งแก่ๆ คนหนึ่ง ใส่กางเกงบอล
เสื้อกล้าม แตะหูคีบ ผมยาวประบ่าที่มัดรวบง่ายๆ เป็นสีทองแซมขาวตามอายุ เดิน
เก็บขยะที่หล่นตามทางเดินลงถังขยะ และบางวันที่ใบไม้หล่นมากก็จะเห็นแกเดิน
เอาไม้กวาดทางมะพร้าวกวาดไปเรือ่ ยๆ จนสุดถนนท้ายหมูบ่ า้ น แกท�ำแบบนีท้ กุ เช้า
หลังเดินออกก�ำลังกาย
แกชื่อลุงบ็อคโควิช อายุ ๗๐ ปี ชื่อเต็มๆ ว่า อัลแลน บ็อคโควิช คนมัก
เรียกสั้นๆ ว่าลุงบ็อค แกมาจากโครเอเชีย ภายหลังโซเวียตล่มสลาย สโลวีเนียกับ
โครเอเซียก็ประกาศเอกราชแยกออกมาจากยูโกสลาเวีย ลุงบ็อคเดินทางมาเที่ยว
ไทย พอเกิดความวุ่นวายในแถบนั้น ก็เลยไม่กลับประเทศ ว่ากันว่าแกมามีเมียเป็น
คนรับจ้างซักรีดอยูใ่ นหมูบ่ า้ นและแกก็แต่งงานจดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย ได้
สัญชาติไทยด้วย เมียแกเองปกติก็ไม่ค่อยพูดหรือสุงสิงกับใคร ดูเรียบร้อย เก็บตัว
ไม่เหมือนคาแรกเตอร์เมียฝรั่งแบบที่เราคุ้นเคยกัน ว่าต้องเป็นสาวเปรี้ยว มั่นใจๆ

สถาบันพระปกเกล้า 229

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 229 21/3/2561 BE 10:00


230 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 230 21/3/2561 BE 10:00


อายุอานามดูห่างกันโขอยู่ เรียกว่าเป็นพ่อลูกกันได้สบายๆ ซึ่งในเมื่อเป็นแบบนี้ก็
ธรรมดาที่ชาวหมู่บ้านจะเมาท์กันสนุกปากในช่วงแรกๆ ว่าจับผลัดจับผลูมาได้กัน
อีท่าไหน ก่อนที่จะค่อยๆ ราไปเมื่อมีเรื่องอื่นที่น่าเมาท์วิ่งเข้ามาในหมู่บ้านแทน
มาแปลกใจก็เรือ่ งเก็บขยะของลุงแกนีแ่ หละ เนือ่ งจากแกเก็บอย่างเอาจริง
เอาจังมาก ตรงตามเวลาทุกวัน หลายคนพยายามเข้าไปชวนคุย แกก็ถามค�ำตอบค�ำ
ยิม้ ๆ ว่า ก็ไม่อยากให้หมูบ่ า้ นสกปรก แต่การทีแ่ กพูดไทยไม่ดแี ละไม่พยายามหัดเลย
ท�ำให้เพื่อนร่วมหมู่บ้านซึ่งพูดอังกฤษได้ตามมาตรฐานคนไทยทั่วไป ก็เลยคุยกะแก
ได้แค่ประโยคเดิมๆ ซ�้ำๆ ไฮบ็อค ฮาวอาร์ยู แอมไฟแต้งกิ้ว ซิทดาวน์ นานวันเข้าก็
เบื่อและเมื่อยมือ เลิกคุย หันมายิ้มพยักหน้าทักทายเอา ลุงแกก็สื่อสารตอบด้วยวิธี
เดียวกัน
ลุงบ็อคยังชอบเด็กๆ เวลาเด็กๆ มาเล่นกันที่สนามกลางหมู่บ้านแล้วรถ
ไอติมกะทิผ่านมา แกครึ้มอกครึ้มใจก็ซื้อไอติมเลี้ยงเด็ก ท�ำให้เด็กๆ ติดลุงบ็อคมาก
แม้จะคุยกันแทบไม่รู้เรื่อง แต่ก็รับรู้ได้ว่าแกใจดี
ตลอดสองปีแรกของลุงบ็อคในเมืองไทย กลายเป็นภาพจ�ำของทุกคนว่า
ลุงเป็นฝรั่งใจดี ที่เสียสละท�ำเพื่อชุมชน จนเมื่อมีการคัดเลือกบุคคลตัวอย่างของ
หมู่บ้าน ในที่ประชุมคณะกรรมการหมู่บ้านก็พากันลงมติอย่างเอกฉันท์ว่า ควรจะ
มอบรางวัลบุคคลตัวอย่างให้กับลุงบ็อค เพื่อเป็นก�ำลังใจให้แกที่เสียสละท�ำเพื่อ
ส่วนรวมโดยไม่หวังผลตอบแทน และเป็นเยี่ยงอย่างกับคนอื่นๆ
ในวันงานรับรางวัล เมียลุงบ็อคจับแกแต่งตัวอย่างโก้ หวีผมรวบเรียบแปล้
ใส่เสือ้ เชิต้ ขาว ใส่สทู อย่างหล่อ รับมอบรางวัลด้วยใบหน้าอมยิม้ น้อยๆ ดูไม่คอ่ ยยินดี
ยินร้ายเท่าไหร่ รับรางวัลแล้วก็ลงมานั่งกินข้าวกับพวกกรรมการหมู่บ้าน ที่อุตส่าห์
จัดโต๊ะจีนฉลองซะใหญ่โตกว่าทุกปี ในงานหลายคนก็ยังชื่นชมลุงบ็อคว่า เป็นฝรั่ง
ต่างบ้านต่างเมืองมาอาศัยยังรักชุมชนรักหมู่บ้านมากกว่าคนไทยแท้ๆ ที่อยู่กันมา
นมนานเสียอีก

สถาบันพระปกเกล้า 231

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 231 21/3/2561 BE 10:00


หลังรับรางวัลคนในหมู่บ้านก็ยังคงเห็นลุงบ็อคเก็บขยะกวาดขยะเช่นเดิม
หลายคนเสนอว่า ไหนๆ แล้วควรมีค่าเหนื่อยให้ลุงบ้าง แต่อีกหลายคนรีบขัดว่า
คนที่เขามีจิตสาธารณะอยากท�ำให้เพื่อส่วนรวม ไม่ควรเอาเงินไปให้เขาจะถือว่า
เป็นการดูถกู ดังนัน้ หลายบ้านจึงเริม่ มีการตอบแทนน�ำ้ ใจลุงบ็อคด้วยน�ำ้ หวาน ขนม
ผลไม้ บางบ้านท�ำกับข้าวเยอะก็ตักใส่ถุงมายื่นให้เมียแกถึงที่บ้าน ลุงบ็อคเองแรกๆ
ก็ดูงงๆ แต่ต่อมาใครให้อะไรแกก็รับไว้ แล้วก็แทงกิ้วๆ แกหาถังสีเปล่าล้างสะอาด
เอามาวางไว้ใส่ของกินที่ได้รับ วางไว้ข้างศาลตายายกลางหมู่บ้าน เพราะขี้เกียจถือ
ไปเป็นภาระระหว่างเก็บกวาด เมื่อจะกลับบ้านนั่นแหละ ค่อยโทรตามเมียมาช่วย
กันยกเดินกระย่องกระแย่งกลับบ้านกันไป
ช่วงนัน้ กลายเป็นช่วงเวลาทีห่ วานชืน่ น่ารักของหมูบ่ า้ นเลยทีเดียว บางคน
ไปขอถ่ายรูปคูก่ บั ลุงบ็อค ถ้าเป็นสมัยนีก้ ค็ งถ่ายคลิป อัพรูปโพสลงเฟสบุค๊ อินสตรา
แกรม แชร์กนั ในไลน์กนั สนุกสนานและก็ได้รบั ความสนใจมากแน่นอน ทว่าความดัง
ของลุงบ็อคสมัยนั้นก็กระจายแค่ในต�ำบลในหมู่บ้านเท่านั้น ถึงกระนั้นลุงบ็อคยังได้
ไม้กวาดทางมะพร้าวดีๆ อีกหลายด้ามจากคนที่อยากจะช่วย แต่แกก็ยังใช้อันเก่าๆ
อันเดิมทีแ่ กถนัด ช่วงฝนตกน�ำ้ ท่วมน�ำ้ ขัง แกก็ได้รบั ทัง้ เสือ้ กันฝนและรองเท้าบูท๊ แต่
ก็เช่นเคยแกก็ยังคงรักษาเครื่องแบบเสื้อกล้ามกางเกงบอลย้วยๆ รองเท้าแตะหูคีบ
ไม่ยอมใช้อะไรใหม่ๆ
หลายเดือนหลังจากนัน้ บรรยากาศช่วงฮันนีมนู ก็หายไป ทุกอย่างเริม่ กลับ
เข้าสู่ภาวะปกติ ลุงฝรั่งกวาดของแกไป คนอื่นๆ ก็ทำ� ธุระของตัวเองไป ต่างคนต่าง
อยู่ ไม่ค่อยได้มาเกี่ยวข้องกันอีก
หนึง่ ปีผา่ นไปเวียนมาถึงงานท�ำบุญประจ�ำปีของหมูบ่ า้ นอีกครัง้ การประชุม
คณะกรรมการคราวนี้มองหาคนที่รับรางวัลบุคคลดีเด่นประจ�ำปีเช่นเคย หนนี้
กรรมการแบ่งเป็นสองฝ่ายชัดเจน คือ ฝ่ายหนึ่งเสนอว่า คนที่ทำ� เพื่อหมู่บ้านอย่าง
สม�่ำเสมอมาตลอดปีที่ผ่านมาก็ยังเป็นลุงบ็อค แกก็ควรจะได้ต�ำแหน่งนี้ไปอีกสมัย
แต่อกี ฝ่ายหนึง่ ว่า รางวัลควรจะกระจายให้คนอืน่ บ้าง เพือ่ เป็นก�ำลังใจให้คนท�ำงาน

232 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 232 21/3/2561 BE 10:00


“ประชาธิปไตยเป็นของฝรัง่ ก็จริง เมือ่ มันมาบ้านเราแล้วมีประโยชน์ ท�ำให้
สังคมเราพัฒนา ลุงบ็อคแกเป็นฝรั่ง มาเมืองไทยคนไทยก็ได้ประโยชน์ ข้อนี้เราน�ำ
ไปสอนลูกหลานเราได้เลย”
ด้วยเหตุผลนี้ เวลาลงคะแนน ฝ่ายที่เชียร์ลุงบ็อคจึงชนะไป แถมชาวบ้าน
ทีม่ าแอบฟังอยูด่ ว้ ยรอบๆ ศาลาอเนกประสงค์กย็ งั ช่วยเสริมเป็นระยะๆ ว่ายังอยาก
ให้ลุงบ็อคได้รางวัลอยู่นะ
ลุงฝรั่งเลยได้รางวัลบุคคลดีเด่นอีกปี...
ช่วงฮันนีมูนปีนี้สั้นและไม่คึกคักเท่าปีที่แล้ว อาจจะเพราะคนในหมู่บ้าน
เลิกเห่อลุงแล้ว แต่ลุงบ็อคก็ดูไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไร ของฝากมากขึ้นหรือน้อย
ลง แกก็ยังท�ำของแกเหมือนเดิมอย่างนั้น
เวลาผ่านไปอีกปีอย่างรวดเร็ว เมือ่ ใกล้ถงึ วาระเลือกบุคคลดีเด่นอีกครัง้ ใน
ที่ประชุมกรรมการก็ทะเลาะกันอีก คราวนี้ฝ่ายที่อยากให้เปลี่ยนผู้ได้รับรางวัลบ้าง
แต่ก็เถียงไม่ชนะ เพราะไม่มีใครที่มีผลงานโดดเด่นเท่าลุงฝรั่งเอาจริงๆ
เรือ่ งพิลกึ ของหมูบ่ า้ นก็เลยเริม่ ตรงนี้ เพราะมีคนหว่านล้อมลุงแกว่า ไม่ตอ้ ง
มากวาดทุกวันหรอก พักบ้างก็ได้ แต่ลุงแกฟังไม่รู้เรื่องหรือไงไม่รู้ ยังกวาดตามปกติ
กลุ่มต่อต้านไม่ยอมแพ้ ถึงกับซื้อกระเช้าไปเยี่ยมลุงฝรั่งถึงที่บ้านในตอนค�่ำๆ พร้อม
พูดกับเมียแกว่า ขอร้องให้ลงุ งดออกไปกวาดถนนสักพัก อย่างน้อยก็ให้ผา่ นช่วงเลือก
บุคคลดีเด่นไปก่อนได้ไหม เมียแกรับปากว่าจะคุยให้
แต่... เช้าวันรุง่ ขึน้ ชาวหมูบ่ า้ นก็ยงั คงได้ยนิ เสียงไม้กวาดทางมะพร้าวกวาด
อยู่เป็นจังหวะตามปกติ
ชาวบ้านในหมูบ่ า้ นว่ากันว่า สมาชิกหมูบ่ า้ นคนหนึง่ ทีเ่ ป็นนายกอบต. อยาก
ให้ลูกชายตัวเองที่ใกล้จบมหาวิทยาลัยได้ต�ำแหน่งบุคคลตัวอย่าง เพราะไปแข่งขัน
หุน่ ยนต์ระดับโลกมา สร้างชือ่ เสียงให้ครอบครัว แกนึกไปว่า รางวัลชุมชนแบบนีน้ า่
จะเป็นการแนะน�ำตัวลูกชายของแกได้ดี หากหวังจะให้ลูกเล่นการเมืองท้องถิ่นใน
อีกไม่กี่ปีข้างหน้า

สถาบันพระปกเกล้า 233

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 233 21/3/2561 BE 10:00


ซึ่งจริงๆ ถ้าลุงบ็อคเลิกกวาดขยะ ลูกชายนายกอบต.คนนี้ก็คงเป็นคนที่มี
ผลงานโดดเด่นที่สุดจริงๆ นั่นแหละ(เพราะคนอื่นนอกจากนี้แล้วก็ไม่มีผลงานอะไร
เลย)
เรือ่ งความดือ้ ไม่ยอมเลิกเก็บกวาดขยะของลุงบ็อคท�ำให้ฝา่ ยเชียร์ลกู ชาย
อบต.ปวดหัวและไม่พอใจกันมาก แต่กน็ กึ อะไรไม่ออก จะให้ถงึ กับจ้างมือปืนมาเก็บ
ฝรั่งแก่ๆ ก็คงไม่มีใครใจด�ำแถมลงทุนขี่ช้างจับตั๊กแตนกันถึงขนาดนั้น
“งั้นก็เอามาเป็นพวกสิวะ” นายก อบต.พูดกับลูกน้อง จึงมีการเข้าหาลุง
ฝรัง่ เพือ่ ชวนแกลงสมัครรับเลือกตัง้ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนต�ำบลทีจ่ ะถึงใน
ระยะเวลาอันใกล้นี้
“แต่แกพูดไทยแทบไม่ได้นี่” เมียฝรั่งกล่าวกับคนที่มาชักชวน
“ไม่เป็นไร แค่เดินตามนายกฯ หาเสียง ก็พอแล้ว” คนมาชักชวนตอบ
แต่ลุงบ็อคก็ไม่สนใจ ยังคงออกมากวาดขยะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
สัปดาห์ตอ่ มาเริม่ มีขา่ วลือพิลกึ ๆ เกิดขึน้ มาอีกเกีย่ วกับลุงบ็อค เรือ่ งทีม่ าที่
ไปของแกก่อนที่จะมาอยู่ในหมู่บ้าน ลือกันให้แซ่ดว่า แกหนีคดีบางอย่างมาซ่อนตัว
อยู่ที่นี่ ข่าวลือมันมาแค่นั้น หลังจากนั้นคนก็เริ่มต่อกันจนปากยาวยืด เดาเอามั่วซั่ว
จากนิสยั รักเด็กของลุงบ็อคว่าแกชอบเด็ก แต่ไม่ได้ชอบธรรมดา แกน่าจะชอบหลอก
เด็กไปท�ำอย่างว่า คดีความที่ว่าหนีมาก็คงเป็นเรื่องพวกนี้
ธรรมดา เรื่องเมาท์เน่าๆ นี่ลามเร็วเหมือนขี้กลาก เรื่องลุงบ็อคเป็นโรคจิต
ชอบลวนลามเด็กกระจายไปทั่ว ซ�้ำบางรายยังตีไข่ใส่สีว่าลุงแกหนีคดีตุ๋ยเด็กผู้ชาย
มาจากอเมริกา(ทัง้ ๆ แกเป็นชาวโครแอตและเกิดมาแกยังไม่เคยเดินทางไปอเมริกา
เลย) จนพ่อแม่ไม่ยอมให้ลูกๆ ออกมาวิ่งเล่นกันที่สนามกลางหมู่บ้านอย่างเคย ไม่มี
ใครสักคนเอะใจว่าตลอดสามสีป่ ที แี่ กมาอยูท่ นี่ กี่ ไ็ ม่เคยมีเด็กคนไหนถูกท�ำร้าย ซ�ำ้ ยัง
ไม่มีใครเอะใจสงสัยว่าข่าวลือพวกนี้จริงเท็จแค่ไหน “กันไว้ก่อน” หลายคนว่า
แน่นอนว่าอาหารการกิน ขนม ของฝากที่เคยมีก็หายไปจนหมดสิ้น คนที่
เคยพูดคุย หรือยิ้มทักทายกันบ้าง พอต้องผ่านลุงบ็อคก็ไม่พยายามหันไปสบตา

234 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 234 21/3/2561 BE 10:00


รีบปั่นรีบขับรถผ่านแกไปเร็วๆ ราวกับว่าแกเป็นซอมบี้ที่พร้อมจะกระโจนเข้ามากัด
คออย่างนั้น
เด็กในหมู่บ้านที่แกเคยเลี้ยงไอติมก็พากันหวาดกลัวถึงขนาดบางคนแค่
ได้ยินเสียงกวาดถนนก็ร้องไห้ ลุงเก็บขยะไปถึงหน้าบ้านไหนแม่เด็กก็รีบออกมาจูง
ลูกเข้าบ้านแล้วปิดประตูหน้าต่างมิดชิด
ถึงกระนั้นลุงฝรั่งก็ยังคงออกมากวาดขยะเก็บขยะของแกทุกวัน เหมือน
วันแรกทีย่ งั ไม่มใี ครกล้าคุยกับแก เหมือนวันทีแ่ กใส่สทู กินโต๊ะจีนเสร็จก็มาเก็บขยะต่อ
เหมือนวันที่แกซื้อไอติมเลี้ยงเด็ก เมียแกก็ยังคงรับจ้างรีดผ้าโดยที่ลูกค้าไม่ได้มาก
หรือน้อยลงกว่าเดิม
ผ่านไปหลายปี คณะกรรมการชุดเก่าส่วนใหญ่หมดแรงกับการแก้ปัญหา
ในหมู่บ้านจนถอนตัวกันไปหมด การเลือกตั้งอบต.ก็ไม่มี ทั้งนายกฯและสมาชิกอบ
ต.แทบทัง้ หมดถูกปลดจากส่วนกลางเนือ่ งจากทุจริตกันจนแทบไม่เป็นอบต.อีกแล้ว
ส่วนหนึ่งในคณะกรรมการหมู่บ้านชุดใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่ย้ายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านกัน
ได้ปสี องปี สังเกตเห็นลุงฝรัง่ แก่หง่อมผมยาวท่าทางเงียบๆ คนหนึง่ ตัง้ ใจเดินเก็บขยะ
ผ่านหน้าบ้านทุกวันก็นึกชื่นชมในใจ แล้วก็ตั้งใจเอาไว้ว่า ประชุมใหญ่กรรมการ
หมู่บ้านประจ�ำปีนี้ จะลองเสนอชื่อลุงฝรั่งใจดีคนนี้รับรางวัลบุคคลดีเด่นประจ�ำปี
เผื่อแกจะมีก�ำลังใจในการท�ำเพื่อส่วนรวมมากขึ้น
“จะได้เป็นตัวอย่างอันดีส�ำหรับเด็กๆ พลังของชาติ พลเมืองทีด่ ขี องเราใน
อนาคต” หนึ่งในนั้นกล่าวต่อที่ประชุม.

สถาบันพระปกเกล้า 235

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 235 21/3/2561 BE 10:00


นทธี ศศิวิมล
หรือ น.ส.ศศิวิมล นทธี สุระเดชชะ
มงคล ปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ วิทยากรด้าน
การเขียน และเขียนคอลัมน์ประจ�ำทีห่ นังสือพิมพ์
ข่าวสดรายวัน (หลอน) เขียนบทภาพยนตร์สั้น
การศึกษา
ปริ ญ ญาตรี ค ณะมนุ ษ ย์ ศ าสตร์ เอก
ภาษาไทย มหาวิทยาลัยรามค�ำแหง ปี พ.ศ.
๒๕๔๕ และคณะศึกษาศาสตร์ สาขาจิตวิทยา
คลินิกและชุมชน มหาวิทยาลัยรามค�ำแหง ปี พ.ศ.๒๕๕๒
ตัวอย่างผลงานรางวัลทางวรรณกรรม
ปี พ.ศ.๒๕๕๗
- เรื่องสั้น “มักกะลีผล” เข้ารอบสุดท้ายรางวัลนายอินทร์อวอร์ด
- รับรางวัล “รพีพร” จากมูลนิธิ เพ็ญศรี รพีพร และสมาคม
นักเขียนแห่งประเทศไทย
- รวมเรื่องสั้น “มหรสพยังไม่ลาโรง” เข้ารอบ ๑๕ เล่มสุดท้าย
รางวัลซีไรต์ ปี ๒๕๕๗
ปี ๒๕๕๘
- เรือ่ งสัน้ “Heal” เข้ารอบสุดท้ายรางวัลมติชนอวอร์ดประเภทเรือ่ ง
สั้นวิทยาศาสตร์
- เรื่องสั้น “นายหนุ่ม นามสมมติ” เข้ารอบสุดท้ายรางวัลมติชนอ
วอร์ดประเภทเรื่องสั้นทั่วไป
- นิทานเรือ่ ง “สายรุง้ ของเด็กชายข้าวโพด” ได้รบั รางวัลชมเชยจาก
มูลนิธิเด็ก
- เรื่องสั้น “นายหนุ่ม นามสมมติ” ได้รับรางวัลชมเชยจากสมาคม
ภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทย

236 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 236 21/3/2561 BE 10:00


กลายเป็นเรื่องของเรา
และคนอื่นๆ
สุนันทวงศ์ เทพชู

ค งไม่ได้ออกก�ำลังกายมานาน ผมตัง้ ข้อสังเกตกับตัวเอง ขณะกลับมานัง่ เหนือ่ ย


หอบบนม้านั่งหินอ่อนหลังบ้าน แสงจากหลอดนีออนสว่างจ้าอยู่เหนือกรอบ
ประตู ผมมองล�ำตัวด้านหน้าที่อาบชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ มันดูไม่ต่างจากเพิ่งอาบ
น�้ำมาใหม่ๆ ครั้งนี้ผมแทบกลายเป็นคนพิการ ล�ำพังแค่ยกแข้งขา ก้าวเท้าออกเดิน
ยังเป็นเรื่องยาก ผมไม่น่ามีส่วนไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องบ้าๆ นี้เลย แค่จัดการกับหมาตัว
หนึ่ง ผมก็รู้สึกยุ่งยากและเหนื่อยอ่อนพอแล้ว ไม่น่าเชื่อ ยังมีปัญหาอื่นตามมาให้
ร�ำคาญใจอีก
พวกเหงือ่ นีม่ าจากไหนกันนักหนา ผมไล่มองส�ำรวจตัวเอง ปัดขุยมะพร้าว
ทีต่ ดิ ค้างบนหัวอีกรอบ และพบว่ายังมีหลงเหลืออยูอ่ กี มาก เมือ่ มันร่วงมาสมทบกับ
ของเดิมที่กระจายอยู่ตามเนื้อตัว บางส่วนหยาดเหงื่อก็พามันเอื่อยไหลลงไปช้าๆ
พร้อมรู้สึกคันยิกๆ ในทันที ผมไล่ตาไปหยุดที่หน้าท้อง เริ่มลงพุงตั้งแต่เมื่อไหร่ นี่ก็
น่าหดหู่อีกเรื่องหนึ่ง แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาค้นหาค�ำตอบ ผมเอานิ้วชี้ขวาทาบติด
ผิวเนือ้ ใต้แผลถลอกขนาดใหญ่ตรงร่องอก กดน�ำ้ หนักเล็กน้อย แล้วรีดเหงือ่ ลงไปรวม
อยู่ที่สะดือ มันผุดขึ้นมาเหมือนตาน�้ำหรือยังไง ซ�้ำจมูกยังได้กลิ่นคาวเหงื่อขึ้นมาอีก

สถาบันพระปกเกล้า 237

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 237 21/3/2561 BE 10:00


238 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 238 21/3/2561 BE 10:00


ต่างหาก แล้วไหนกลิ่นตุๆ จากจั๊กกะแร้อีกล่ะ ตอนนี้ผมรู้สึกเหนียวหนึบไปทั้งตัว
และเหงื่อก็ท�ำให้เจ็บแสบไปทุกจุดของแผลถลอก ไม่ว่าที่วงแขน ต้นขาด้านใน
กระทั่งฝ่าเท้าที่ยังแสบร้อนทั้งสองข้าง
ในห้องน�ำ้ ผมได้ยินเสียงขันพลาสติกครูดกับพื้นก้นกะละมัง ดังติดต่อกัน
สามสี่ครั้ง
“เฮ้ย... ยังล้างมือ ล้างเท้าไม่เสร็จอีกหรือ” ผมเริ่มหงุดหงิดในความล่าช้า
ของลูกชายวัยสิบขวบ อยากให้เขาขี่มอเตอร์ไซค์ไปร้านสะดวกซื้อยี่สิบสี่ชั่วโมง ผม
ต้องการน�้ำเกลือแร่แช่เย็นสักขวด ส่วนเขาอยากซื้ออะไรก็ตามใจ
“น�ำ้ ประปาไม่คอ่ ยไหล อะพ่อ” ลูกชายร้องตอบ “แย่กว่าวันก่อนๆ ซะอีก
คราวนี้จะอาบน�้ำกันที่ไหน”
ผมฉุกคิดเรื่องนี้ขึ้นมา และยิ่งท�ำให้หงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก หลายวันมา
แล้วหรืออาจค่อนเดือนได้กระมัง ประปาหมู่บ้านมีปัญหา เพื่อนบ้านต่างบ่นระอา
กันทุกวัน พวกช่างซ่อมบ�ำรุงและผูเ้ กีย่ วข้องทุกคน ถูกเอ่ยชือ่ พร้อมค�ำต�ำหนิ ไล่เรียง
ไปถึงสมาชิกเทศบาล และนายกเทศมนตรีกนั เลยทีเดียว แม้ทกุ คนต่างรูเ้ ต็มอก หลัง
น�้ำท่วมใหญ่ปีนี้ ช่วงสามสี่เดือนต่อมา พวกเราต่างต้องเผชิญภัยแล้งกันอย่างเท่า
เทียม ยิ่งช่วงเช้าและตอนเย็นๆ ที่ทุกคนต่างต้องการใช้น�้ำ ชุมชนที่ก�ำลังเป็นเมือง
ใหม่อย่างที่นี่ เสียงขุ่นเคืองก็พร้อมจะดังขึ้นทุกหลังคาเรือน
“อาบน�้ำในโอ่งของย่าก็แล้วกัน”
ผมตัดบทเอาง่ายๆ เหมือนกับวันก่อนๆ โดยใช้โอ่งเก็บน�ำ้ หลังบ้านของแม่
ที่มีอยู่สี่ใบแก้ขัดไปพลางๆ ทั้งๆ ที่แม่ก็บ่นให้ได้ยินอยู่ทุกวันเช่นกัน
“กูว่าเอาไว้ล้างถ้วย ล้างชาม แต่มันพากันมาอาบ ทั้งพ่อทั้งลูก...” แม่มัก
บ่นปอดแปดท�ำนองนี้ และเหมือนพยายามให้เข้าหูผมไปด้วย แต่แกก็บ่นไปอย่าง
นั้นแหละ เพราะบ้านติดกันย่อมรู้และพบเจอปัญหาเดียวกัน “ตอนกลางวัน ต้อง
รูจ้ กั เอาถังรองน�ำ้ ไว้มงั่ สิ ของกูในห้องน�ำ้ เปิดไว้เรือ่ ยแหละ เข้าแลเป็นทีๆ เต็มถังแล้ว
ค่อยปิด”

สถาบันพระปกเกล้า 239

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 239 21/3/2561 BE 10:00


มีบ้างที่ผมทนค�ำพร�ำ่ บ่นไม่ไหว จึงส่งเสียงผ่านช่องลมบนฝาผนังห้องครัว
กลับไป “แม่ก็บ่นอยู่ได้ เราใช่เอาน�้ำในโอ่งมาอาบกันทุกวัน บางวันก็รองน�้ำไว้มั่ง
แหละ ถึงอาบก็ไม่กี่ขันหรอก เพราะรู้อยู่ว่าต้องประหยัดน�ำ้ ”
จบค�ำพูดของผม แม่ก็จะไพล่พาดพิงไปถึงพวกดูแลเรื่องน�้ำประปา “ไอ้
พวกนัน้ ก็ไม่รยู้ งุ่ อะไรกันนักหนา ชาวบ้านเดือดร้อนจะตาย น่าจะโผล่หวั มาดูกนั มัง่ ”
เมื่อแม่เริ่มพูดแล้ว ทุกเรื่องมักจะยาวและจบยาก
ผมจึงรีบเบรกเอาไว้ก่อน
“ฮาย... เมื่อวานตอนเช้า นายกอุดมก็มาดูเรื่องนี้ให้แล้ว มาแวะที่บ้านเรา
ด้วย ยังถามถึงแม่อยู่เลย แต่แม่คงไปตลาด แกบอกว่า บางทีท่อประปาอาจรั่วไหล
หรืออุดตันอยู่ที่ไหนสักแห่ง ที่บ้านของแกก็เดือดร้อนเหมือนกัน และตอนนี้ก็ระดม
คนช่วยหาสาเหตุกนั อยู”่ ผมพูดตามจริง พร้อมอ้างพยาน “ไม่เชือ่ ก็ถามพ่อดูสิ นายก
อุดมยังถามพ่อเลยว่า ..จ�ำแกได้รึเปล่า”
ผมได้ยินแม่ถามพ่อเสียงดัง “นายกอุดม มาจริงรึเมื่อวาน”
“ไม่.. ไม่รู้ กูไม่เห็น ” พ่อตอบ
ผมเกาหัวแกรกๆ ยิ่งแก่เฒ่าพ่อยิ่งหลงลืม “ฮาย... ที่แกมาแวะหน้าบ้าน
นั่นไง”
“ไม่รู้... กูจำ� ไม่ได้แล้ว”
แม่หัวเราะด้วยความขื่นแค้น “มีเรื่องเดียวนิ ที่พ่อมึงไม่ลืมคือเรื่องกิน คน
อะไรกินเหมือนผีอยู่ข้างใน วันหนึ่งๆ กินไม่รู้กี่หน กินแล้วกินเล่า แต่พอใครถามก็
จะบอกว่ายังไม่กินที แต่ละวันถ้วยชามกี่ใบๆ ที่เต็มอยู่ในกะละมัง ไม่รู้ผีที่ไหนมา
กิน” แม่หยุดไว้นิดหนึ่ง ก่อนจบด้วยประโยคที่ว่า “กินให้มากๆ ขึ้นอีกนะ เพราะ
ถ้วยชามก็ไม่ค่อยมีนำ�้ ล้างอยู่แล้ว...”

อาบน�ำ้ เสร็จ ผมสวมแต่กางเกงขาสัน้ แล้วออกมานัง่ บนม้าหินอ่อนหลังบ้านอีกครัง้


จวนจะสี่ทุ่มแล้ว แต่อากาศยังร้อนอยู่เลย ได้ยินก็แต่เสียงจิ้งหรีด ผมไล่มองไปที่กอ
กล้วยน�้ำว้า และแนวต้นไม้นอกชายคา ตรงที่แสงนีออนส่องไปถึง สังเกตเหล่าใบ

240 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 240 21/3/2561 BE 10:00


ของมัน ไม่เห็นจะส่ายไหวแม้แต่นอ้ ย อากาศอบอ้าวและลมทีเ่ งียบกริบอย่างนี้ ว่าที่
จริงฝนน่าจะตกสักห่าใหญ่ๆ แต่คงไม่หรอก เพราะไม่ได้ยินเสียงฟ้าลั่นตูมตามเลย
สักครั้ง
ผมมองหลอดยาไดฟีลีนขนาดเล็กในมือ และบีบเอาน�้ำสีขุ่นขาวละเลงไป
ตามจุดปวดเมื่อย โดยเฉพาะที่น่องและต้นขาทั้งสองข้าง บีบนวดแต่เพียงเบาๆ
หลอดยาแบนแฟบลงไปมากแล้ว ครั้งล่าสุดผมใช้มันตอนปวดข้อเท้าซ้าย หลังไป
เล่นฟุตบอลนัดกระชับมิตรระหว่างศิษย์เก่าโรงเรียนใกล้บ้าน นับแต่นั้นก็เก็บมันไว้
ในลิ้นชักโต๊ะมาตลอด
นี่คงเป็นเรื่องจริง ดั่งค�ำพูดที่ว่า คนที่เคยเล่นกีฬาออกก�ำลังกายอยู่บ่อยๆ
เมือ่ หยุดไปนานๆ ส่วนใหญ่มกั ลงพุง โดยเฉพาะคนทีเ่ ป็นผูช้ ายจะเห็นได้ชดั เจน แม้
รูปทรงจะไม่แปรเปลี่ยนเร็วเท่าพวกหันไปดวดดื่มเหล้าเบียร์ก็เถอะ ผมมองพุงของ
ตัวเอง น่าเกลียดอยู่ไม่น้อย ก่อนหน้านี้ เพื่อนฝูงที่ยังหุ่นดีบางคน เคยหยอกล้อผม
บ้างเหมือนกัน มันบอกจะเห็นได้ง่าย ตอนที่ยืนหันข้าง
“เออว่ะ...” ผมรีบออกตัว พร้อมนึกต�ำหนิที่ดูแลตัวเองไม่ดี “ต้องหาเวลา
ไปออกก�ำลังกายบ้างแล้ว”
แต่ก็เปล่า ผมไม่ได้ท�ำอย่างที่พูดเลยสักที แม้แต่ออกไปวิ่งเหยาะๆ เรียก
เหงื่อในตอนเย็น
ผมไล่ตามองขึ้นมาถึงหน้าอก ตรงจุดที่เป็นแผลถลอก ยังมีเศษผิวหนัง
ชั้นนอกให้เห็นอยู่บ้าง แม้อาจไม่เจ็บแสบเท่าตอนอาบน�้ำ แต่ก็ยังรู้สึกแปลบปลาบ
อยูไ่ ม่นอ้ ย และอีกสักครู่ เมือ่ เอาก้อนส�ำลีเปียกชุ่มด้วยน�้ำยาล้างแผล ไล่เช็ดไปตาม
บริเวณแผลทุกจุด ผมรู้ดีว่าความรู้สึกนั้นจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว แม้จะมียาน�้ำแดง
ตามมาช่วยให้ผ่อนคลายลงก็ตาม
บ้าจริง... เรื่องนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มแรก ถ้าเพียงแต่ป้าฉลวยที่อยู่
ถัดไปทางหลังบ้านของเรา จะเป็นคนรู้รับผิดชอบสักหน่อย แค่หมาตัวเดียว ไม่น่า
เชื่อ แกจะเลี้ยงไม่ได้ วันที่แกกลับมาบ้านอีกครั้ง และรู้ว่าหมาตัวนั้นได้มาอาศัยอยู่
กับผมเสียแล้ว แกยังมีหน้ามาพูดตะล่อมขอร้องผมอีก

สถาบันพระปกเกล้า 241

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 241 21/3/2561 BE 10:00


“ ป้าเห็นมันน่ารักดี ชอบเข้ามาคลอเคลีย กระดิกหางประจบประแจง ใคร
ไปใครมาก็ชอบมันกันทัง้ นัน้ ” ใครไปใครมาทีป่ า้ ฉลวยกล่าวถึงก็คอื พวกทีร่ ว่ มวงไพ่
“ที่จริง มันมีอยู่สองตัว ตัวเมียทั้งคู่ สีขาวเหมือนกันเลย ตอนแรกจะขอมาทั้งสอง
ตัวนัน่ แหละ กลัวว่าแยกกันแล้ว มันจะเหงา แต่เจ้าของอยากเลีย้ งเฝ้าบ้านไว้สกั ตัว”
โชคดีเป็นบ้า ผมนึกในใจ
“เลี้ยงไว้ตะ ใช่สิ้นเปลืองอะไรนักหนา” แกพูดหน้าตาเฉย ก่อนตบท้าย
ด้วยแง่คิดดีๆ “ กลางคืนมึงจอดรถยนต์ไว้หน้าบ้าน มันจะได้นอนเฝ้า อ่อ.. แล้วคืน
ก่อนรู้ข่าวยัง รถเก๋งของน้ากล้วยก็ถูกลัก...”
ชื่อนี้คุ้นหู ไม่แน่ใจว่าเป็นคนเดียวกับน้ากล้วย เจ้าของร้านน�ำ้ ชาในตลาด
หรือเปล่า และผมก็ไม่ได้ซักไซ้ไล่เรียงอะไร
“..นั่นแกก็จอดไว้หน้าบ้านเหมือนกัน” ป้าฉลวยย�ำ้ อีกที
คงเพราะไม่มีหมาคอยเฝ้าให้แน่ๆ ผมพอนึกออก
บ่ายวันนัน้ แม่ไม่อยู่ ไม่รไู้ ปไหน แต่ทนั ทีทรี่ คู้ วามจริง แม่กใ็ ส่ไม่ยงั้ คงหวัง
ให้ดังไปถึงท้ายบ้าน แต่ป้าฉลวยออกไปข้างนอกเสียแล้ว
“อีเปรตนั่น มันเคยอยู่ติดบ้านเสียเมื่อไหร่ วันๆ ออกไปเล่นไพ่ถึงไหน
ต่อไหนก็ไม่รู้ บางทีหายไปสามสีว่ นั กว่าจะกลับสักหน แล้วอ้อร้ออยากจะเลีย้ งหมา”
แม่วิพากษ์เสียงดัง “แล้วทีนี้พอใครให้ข้าวให้น�้ำ มันก็จะมาอยูก่ บั คนนั้นนั่นแหละ”
แม่หยุดปากครู่หนึ่ง เมื่อสบตากับอีขาว และเห็นหางที่กำ� ลังกระดิกไปมา
“แต่ช่างเถอะ สงสารมัน ถือว่าเลี้ยงเอาบุญ...”
แม่ไม่ชอบคนเล่นการพนัน อาจฝังใจที่เมียของผมก็เคยเป็นแบบนั้น จาก
เล่นสนุกครั้งละไม่กี่บาท จนติดงอมแงมสร้างหนี้สินไว้รอบบ้าน หน้าที่ในครัวเรือน
ไม่เอาใจใส่ และเป็นเหตุถงึ ขัน้ หย่าร้าง แม้เรือ่ งนีป้ า้ ฉลวยมีสว่ นเข้ามาเกีย่ วข้องเพียง
เล็กน้อย แต่ก็ท�ำให้แม่พาลเกลียดแกไปด้วย
นับแต่นนั้ ‘อีขาว’ หมาถูกทิง้ ก็มาอยูก่ บั เราจริงๆ แต่คนทีใ่ ส่ใจมันมากทีส่ ดุ
คือลูกชายของผม เขาชอบเล่น ชอบหยอกกับมัน บางครั้งผมเห็นเขาจับมันให้นอน
หงาย แล้วเอาเท้าไปเหยียบซอกคอมันเบาๆ ขณะอีขาวพยายามดิน้ รน หากท�ำได้ก็

242 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 242 21/3/2561 BE 10:00


แค่ใช้ขาตะกุยอากาศ ส่วนปากก็พยายามจะงับเจ้าสิ่งที่กดทับอยู่ใต้คาง เปล่า..
มันไม่ได้โกรธ กลับสนุกเสียด้วยซ�ำ้ ช่วงแรกๆ ลูกชายต้องไล่จบั มันไปอาบน�ำ้ ฟอกตัว
ด้วยแชมพู ต่อมาดูมันไม่ค่อยดื้อ กลัวน�ำ้ น้อยลง คงรู้สึกสบายเนื้อตัว แต่หมาก็คือ
หมา ยังไงก็ต้องหลอกล่อจับมาอาบน�้ำ แต่เชื่อเถอะ สักประเดี๋ยวมันก็จะกลับไป
คลุกดินคลุกทรายตามเดิม
ตอนโรงเรียนยังไม่ปดิ เทอม ช่วงกลางวันอีขาวมักออกไปสังคมกับหมาอืน่ ๆ
อยูบ่ า้ ง แรกๆ ก็จำ� กัดบริเวณอยูแ่ ค่ละแวกบ้าน ต่อมาก็เดินทอดน่องไปถึงร้านสะดวก
ซื้อยี่สิบสี่ชั่วโมงในตลาด แต่ไม่ว่ามันจะไปไกลขนาดไหน หากเมื่อถึงตอนเย็น มันก็
จะกลับมารอลูกชายผมอยู่ที่หน้าบ้านเสมอ และทันทีที่เห็น มันจะวิ่งออกไปรับ
กระโจนเข้าหาพร้อมร้องครางหงิงๆ เหยียดขาคู่หน้าเหมือนจะสวมกอด จากนั้นก็
จะตามพันแข้งพันขามาถึงประตูบ้าน
“แลตะ... มันคงดีใจทีเ่ จ้าของกลับมา” แม่พดู พร้อมหัวเราะขบขัน เมือ่ เห็น
ภาพตรงหน้า “ นี่ถ้ามึงไม่เลี้ยงไว้ ป่านนี้ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน หมาก็เหมือนคนนั่นแหละ
พอหิวก็อยากกิน แต่นี่อีฉลวยวันๆ ไม่รู้แล่นเปรตไปถึงไหนต่อไหน คนบ้าอะไร เล่น
จนกลับบ้านไม่ถูก”
ส�ำหรับผม อีขาวอาจท�ำให้รู้สึกดีอยู่บ้าง โดยเฉพาะช่วงที่มีข่าวรถถูก
ลักขโมยกันบ่อยๆ เมือ่ เห็นมันเข้าไปนอนใต้ทอ้ งรถทุกคืน จริงอยูแ่ ม้รถกระบะค่อน
ไปทางเก่าแล้วก็ตาม แต่กส็ ำ� คัญยิง่ ยวดส�ำหรับคนชัน้ ล่างอย่างผม แม้รถทีห่ ายส่วน
ใหญ่มกั จะเป็นมอเตอร์ไซค์กเ็ ถอะ และบางครัง้ ก็รสู้ กึ ดีทไี่ ด้เห็นมันวิง่ ตามหลัง ตอน
ผมขี่มอเตอร์ไซค์ไปตลาด แม้ทุกครั้งแค่ห่างบ้านไม่เกินร้อยเมตร ผมเป็นต้องหยุด
รถแล้วหันมาไล่มันกลับ
ผมไม่ ใช่ พ วกชอบเลี้ ย งหมาเลี้ ย งแมวอะไรนั ก หากจะเลี้ ย งไว้ สั ก ตั ว
นั่นหมายถึงไม่รู้ใครที่ไหนแอบมาทิ้งเอาไว้ และเจ้าสัตว์สี่ขาก็อาจเล็กบอบบางเกิน
กว่าจะใส่กระสอบไปทิง้ ต่อยังทีอ่ นื่ ผมกลัวความผูกพันทีม่ าพร้อมกับการพลัดพราก
เพราะทีผ่ า่ นมาก็มไี ม่นอ้ ย แม้เจ้าของอุตส่าห์เลีย้ งดูอย่างดี แต่ดว้ ยความซุกซนตาม
ประสา สุดท้ายมักถูกรถเหยียบตายอยู่บนถนน

สถาบันพระปกเกล้า 243

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 243 21/3/2561 BE 10:00


อีขาวมาอยู่กับครอบครัวของเรา ตอนที่มันเริ่มโตมากแล้ว หลังออกไป
เที่ยวโปรยเสน่ห์ข้างนอกไม่กี่วัน และมีหมาหนุ่มตามก้นมาพัวพันถึงหน้าบ้าน ไม่
นานมันก็ตงั้ ท้องและออกลูกให้เป็นภาระอีกสีต่ วั ทัง้ นีก้ เ็ พราะผมไม่คอ่ ยใส่ใจ ไม่คดิ
จับไปท�ำหมันหรือฉีดยาคุมแต่แรกนั่นแหละ
“กูเคยเตือนแล้ว ทีนเี้ ป็นยังไงล่ะ” แม่พดู ดันเสียงขึน้ จมูก ขณะยืนดูบรรดา
ลูกอีขาวทีย่ งั ลืมตาไม่ขนึ้ และก�ำลังปีนป่ายแย่งหาเต้าน�ำ้ นม ส่วนอีขาวก็ได้แต่นอน
ตะแคงตัวนิ่งๆ เหลือกตาขึ้นมองเจ้าของบ้านเหมือนส�ำนึกผิด “แม่ม..คราวนี้เลี้ยง
กันล่ะมึง”
ผมพูดไม่ออก หาทางแก้ปัญหาไม่ได้ จะจับใส่กระสอบไปโยนทิ้งก็สงสาร
พวกมันยังเล็กเกินไป
“ น่าเอาไปให้อีฉลวยเลี้ยงมั่ง มึงเลี้ยงแต่อีขาวก็พอ” แม่โพล่งขึ้นมา แล้ว
หันไปทางบ้านต้นเหตุที่ปิดเงียบ “แลตะ.. ไม่รู้กี่วันแล้ว ไม่เห็นมันกลับบ้านเลย
อีเปรต.. ปากก็ว่าอยากเลี้ยงหมา แต่ไม่เคยอยู่ติดบ้าน ท�ำให้คนอื่นต้องพลอยเดือด
ร้อนไปด้วย”
ไม่กี่วันต่อมา ภาคใต้หลายจังหวัดก็เกิดน�ำ้ ท่วมใหญ่สองครั้งติดๆ ภายใน
ชั่วระยะเวลาหนึ่งเดือน และช่วงที่น�้ำแรกก�ำลังเจิ่งนองนั่นเอง ที่ท�ำให้ผมนึกเอ็นดู
มันขึน้ มา เมือ่ ตอนค�ำ่ วันนัน้ ผมเหลือบตาไปเห็นมันคาบลูก และค่อยๆ เดินตัดผ่าน
จากหลังบ้านไปด้านหน้า โดยปกติถ้ามันบังอาจเหยียบย่างเข้ามาข้างใน ผมเป็น
ต้องตะเพิดไล่ไปทุกครัง้ แต่ครัง้ นีด้ เู หมือนมันไม่มที างเลือก เพราะรอบบ้านทุกหลัง
ต่างเอ่อนองด้วยน�ำ้ สีขนุ่ โคลน แรกเห็นมันมีทา่ ทีขลาดกลัวไม่นอ้ ย คล้ายกริง่ เกรงใจ
อยูใ่ นที มันค่อยๆ เดินเลียบชิดฝาผนัง ปรายตามองผมกับลูกชายราวขอความเห็นใจ
ขณะเราก�ำลังยุง่ กับการขนข้าวของขึน้ เก็บในทีส่ งู เพือ่ ให้พน้ ระดับน�้ำทีเ่ ริม่ รุกไล่มา
จากด้านหลัง และก่อนนี้มันก็คาบลูกขึ้นไว้บนม้าหินอ่อนทีหนึ่งแล้ว อาจรู้ด้วย
สัญชาตญาณ ยังไงน�้ำแรกต้องท่วมถึงที่ตรงนั้นแน่ๆ มันจึงตัดสินใจคาบลูกไปไว้
หน้าบ้าน

244 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 244 21/3/2561 BE 10:00


ตอนนั้นผมให้ลูกชายเอาตะกร้าทรงสี่เหลี่ยมตื้นๆ ไปช่วยเคลื่อนย้ายสาม
ชีวิตที่เหลือ ก่อนใช้ผ้านุ่มๆ รองพื้นกันหนาว
แต่เมื่อพ้นผ่านน�้ำใหญ่ครั้งที่สองนั่นเอง ผมกลับต้องเกลียดอีขาวจนเข้า
กระดูก เมื่อแม่ให้พามันไปเฝ้าบ้านของญาติคนหนึ่ง เราจึงต้องขนเอาลูกของมันไป
ด้วย บ้านหลังนั้นไม่ได้ไกลจากบ้านเรามากนัก เพียงแต่ต้องข้ามถนนสายเอเชียไป
เท่านั้น เขาบอกจะไปต่างจังหวัดไม่กี่วัน กลัวขโมยขึ้นบ้าน และหมาของเขาก็เพิ่ง
ถูกวางยาตายไปก่อนหน้านี้ แต่เรื่องกลายเป็นว่า เมื่อเราไปถึงที่นั่น และล่ามอีขาว
ไว้กับโคนเสาใกล้บันไดขึ้นบ้าน มันกลับเอาแต่ดิ้น ไม่ยอมอยู่ยามให้ท่าเดียว แม้จะ
มีลูกๆ อยู่เคียงข้าง มีข้าวให้กินวันละสองมื้อแล้วก็ตาม เช้าต่อมา เราเข้าไปพบว่า
เชือกปลอกคอได้บาดมันจนเป็นแผลลึก
ระหว่างนั้น ผมกับลูกชายต้องผลัดเปลี่ยน ขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามถนนสี่เลน
เพื่อไปให้ข้าวน�้ำ เอายาไปทาแผล ก่อนตัดสินใจปล่อยให้เป็นอิสระ แต่จนแล้วจน
รอดมันก็ยังวิ่งตามเรากลับบ้านอยู่ดี ไม่สนใจแม้กระทั่งลูกๆ ที่ยังเล็ก ผมเริ่มเกลียด
มันตั้งแต่ตอนนั้น และยืนยันกับแม่ว่าค�ำกล่าวอ้างแต่โบร�่ำโบราณนั้น ใส่ร้ายชิงชัง
หญิงทิ้งลูกจนเกินไป
“ เห็นไหม.. ที่ว่าหมามันยังรักลูก แล้วอีขาวเป็นยังไง”
คราวนีแ้ ม่ไม่เถียงสักค�ำ แต่กลับสงสารบรรดาลูกหมา อยากให้ญาติคนนัน้
กลับมาโดยเร็ว วันนั้นผมกับลูกชายต้องอุ้มมันขึ้นมอเตอร์ไซค์ไปส่งอีกรอบ และ
ระหว่างทีม่ นั วิง่ ไล่หลังตามกลับมาอีก เราต้องจอดรถลงไปตะเพิดมัน ทัง้ หาท่อนไม้
และก้อนดินมาเป็นตัวช่วย
แต่สุดท้ายในวันรุ่งขึ้น อีขาวก็ยอมเสี่ยงตาย ข้ามถนนกลับมาบ้านเรา
จนได้ และทิง้ พวกลูกๆ ให้เผชิญชะตากรรมอยูข่ า้ งหลัง ไม่แม้จะกลับไปให้นมลูกสัก
ครัง้ ผมยิง่ เศร้าใจและเกลียดจนอยากจะฆ่ามันให้ตาย เมือ่ เข้าไปยังบ้านญาติอกี ครัง้
และพบว่าบรรดาลูกหมาต่างได้ตายไปหมดแล้ว ทั้งที่ชั่วเวลาไม่ทันข้ามวันด้วยซ�้ำ
อาจมีหมาอื่นผ่านมาพบและกัดพวกมันจนตาย ผมคิดอย่างนั้น เพราะบางตัวมี
รอยเขี้ ย วฝั ง ลึ ก ตรงล� ำ คอ บางตั ว ก็ โ ดนลากไส้ อ อกมาข้ า งนอก และทุ ก ตั ว ที่

สถาบันพระปกเกล้า 245

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 245 21/3/2561 BE 10:00


กระจัดกระจายไม่ไกลกันนัก ต่างถูกกลุ้มรุมด้วยฝูงมดแดง
“น่าเวทนา ลูกเอ๊ย...” แม่หมายถึงเคราะห์กรรมของลูกหมาทั้งสี่
แล้วหลังจากนั้น อีขาวก็เอาแต่เที่ยวตะลอนไปเรื่อย แต่ก็ไม่ลืมมารอ
ลูกชายของผมที่หน้าบ้านทุกวัน และเมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว มันก็จะออกไปข้างนอก
อีกรอบ ก่อนกลับมานอนอยู่ใต้ท้องรถเหมือนเดิม

วันนี้ ผมกลับถึงบ้านจวนมืดค�ำ่ เต็มที หลังไปร่วมงานบวชของเพือ่ นบ้านในตอนบ่าย


อากาศต้นเดือนเมษาร้อนอบอ้าวเหลือเกิน เมื่อเปลี่ยนเป็นนุ่งกางเกงขาสั้น ผมก็
หยิบขวดน�้ำจากตูเ้ ย็นมาหนึง่ ขวด แล้วก้าวผ่านประตูไปรับลมอยูท่ หี่ ลังบ้าน สีเขียว
ของพรรณไม้ทลี่ ดหลัน่ ในสวนสมรม คงช่วยให้ผมได้พกั สายตาและผ่อนคลายลงบ้าง
วางขวดน�ำ้ ไว้บนม้านัง่ หินอ่อน แล้วเดินไปทีโ่ อ่งเก็บน�ำ้ หวังตักมาล้างหน้าล้างตัวสัก
หน่อย แต่สายตาก็เหลือบไปเห็นอีขาวนั่งท�ำเสียงประหลาดอยู่ในล�ำคอ เหมือน
พยายามขากขย่อนอะไรสักอย่างออกมา คงตะกละรีบกินเกินไปแน่ๆ ผมคิด และ
ไม่ได้ใส่ใจนัก
เมื่อเรียกความเย็นชื่นได้พอสมควร ไม่คิดซับหยาดน�ำ้ ด้วยผ้าขนหนู ผมก็
กลับมานั่งบนม้าหินอ่อน แหงนมองท้องฟ้า ยอดไม้ ไม่มีท่าทีลมจะพัดมาสักสาย
ใบไม้ไม่ไหวติง ผมคว้าขวดน�ำ้ ใกล้มือมาเปิดฝา แล้วกรอกคลั่กๆ ผ่านล�ำคอ รู้สึกดี
ขึน้ เยอะทีเดียว ลูกชายไม่รหู้ ายหัวไปไหน มอเตอร์ไซค์หน้าบ้านก็ไม่มี คงออกไปซือ้
หาของกินในตลาด ไม่ก็อาจไปหาเพื่อนสนิทสักคน
อีขาวยังท�ำเสียงประหลาดอยู่ที่เดิม มันหันมองผมสองสามครั้ง เหมือน
บอกว่าก�ำลังมีปญ ั หา ผมลุกไปตักน�ำ้ จากโอ่ง ใส่ถว้ ยพลาสติกเก่าๆ ไปวางใกล้ๆ ผม
คิดเอาเอง เผื่อมันต้องการ จากนั้นก็กลับมานั่งที่เดิม แต่เปล่า.. อีขาวไม่แตะน�ำ้ เลย
สักนิด กลับส่งเสียงขากขย่อนหนักขึ้น
“เป็นอะไรของมึง” ผมส่งเสียงไปถาม มันเพียงหันมองมาอีกครัง้ แต่คล้าย
นิง่ นานกว่าปกติ แววตาคูน่ นั้ ท�ำให้นกึ ไปถึงวันทีม่ นั คาบลูกไปไว้หน้าบ้าน แล้วครูต่ อ่
มา มันก็ลุกเดินอย่างโรยแรงมาที่ผม เข้ามาเบียดขาแล้วล้มลงทันที และชั่วอึดใจ

246 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 246 21/3/2561 BE 10:00


กลับลุกขึน้ ใหม่ จากนัน้ ก็บา่ ยหน้าโซซัดโซเซไปทีก่ อกล้วยน�ำ้ ว้า ไม่ทนั ถึงก็ทรุดฮวบ
ลงไปอีก ขณะที่ยังขากขย่อนไม่ยอมหยุด
ผมไม่เคยเห็นอาการเริ่มแรกของหมาที่โดนวางยา หากเข้าใจว่าอีขาวคง
โดนเช่นนั้น และผมพอรู้วิธีแก้ไขอยู่บ้าง คิดได้อย่างนี้ ผมรีบเข้าไปในบ้าน เปิดไฟ
นีออนเหนือกรอบประตู เพือ่ ไล่ความมืดทีก่ ำ� ลังแผ่ลามเข้ามา ไม่ลมื คว้าไฟฉายติดมือ
มาด้วย ก่อนพุ่งแผล็วเข้าสวนสมรมหลังบ้าน เมื่อไปถึงโคนต้นมะพร้าวน�ำ้ หอม ผม
ส่องไฟไปรอบๆ จนพบล�ำไม้ไผ่เข้าท่อนหนึ่ง หมายกระทุ้งให้มะพร้าวหล่นมาสักลูก
จะรีบเอาน�้ำไปกรอกใส่ปากอีขาว แต่ไม้ไผ่ในมือก็เก่าผุและสั้นเกินไป ส่องไฟหาไม้
ดุ้นอื่นๆ ก็ไม่มีให้เห็น หนทางเดียวคือต้องปีนขึ้นไป
ผมกลัวความสูง เดีย๋ วนีไ้ ม่เหมือนตอนเด็กๆ อีกแล้ว ต้นมะพร้าวสูงไม่เกิน
ห้าเมตร แต่ในห้วงฉุกละหุกอย่างนี้ เหมือนไม่มีทางเลือก หากรอช้าอาจช่วยอีขาว
ไม่ทนั มือซ้ายจับกระบอกไฟฉายไว้แน่น แล้วผมก็เริม่ ปีนอย่างหมายให้เร็วทีส่ ดุ ไม่มี
เวลาให้หยุดพัก ทางมะพร้าวแห้งทีห่ อ้ ยติดล�ำต้นสร้างความยุง่ ยากร�ำคาญใจไม่นอ้ ย
ผมต้องกระชากมันลงมาเป็นอันดับแรก พร้อมหลับตาปี๋ กดแก้มข้างหนึ่งเข้ากับ
ล�ำต้น ขณะมือที่ถือไฟฉายก็ต้องออกแรงโอบล�ำต้นให้แน่นเข้าอีก แล้วขุยมะพร้าว
ก็ร่วงพรูลงบนหัว บางส่วนได้ฟุ้งกระจายไปตามเนื้อตัว จากนั้นผมก็ปีนขึ้นไปอยู่
ระดับเดียวกับทะลายของมัน และเอื้อมมือไปบิดหมุนเจ้าลูกสีเขียวๆ ครั้งแล้วครั้ง
เล่า สลับกับยื่นเท้าไปถีบ สิ่งที่เคยคิดว่าง่าย ใช้เวลาเพียงนิด กลับไม่เป็นอย่างนั้น
และกว่าลูกมะพร้าวจะหลุดจากทะลาย ผมก็เกือบหล่นลงกระแทกพื้นดินพร้อม
กับมัน
เมื่อคลายวงแขนและฝ่าเท้าทั้งคู่ ผมรีบไถลตัวจากล�ำต้นที่มีรอยหยักนูน
ถี่ยิบลงมา ในชีวิตไม่เคยเหนื่อยหอบอย่างนี้ ลงมาถึงโคนต้นแล้วไม่ต่างจากคนง่อย
เปลีย้ เสียขา แสบร้อนและคันระคายไปทัง้ ตัว ส่องไฟหาลูกมะพร้าวได้กร็ บี ตุปดั ตุเป๋
กลับไปทีบ่ า้ น ด้วยความเร่งร้อนผมหาพร้าเก่าๆ ในบ้านของแม่ไม่เจอ คว้าติดมือมา
ก็แค่มีดท�ำครัวเล่มหนึ่ง ก่อนลงมือสับคมไปยังส่วนท้ายของมัน กว่าจะเสร็จช่าง
ทุลักทุเล หยิบขันในโอ่งแล้วเทน�้ำใสๆ ลงไป จากนั้นก็ถ่ายน�้ำใส่ขวดพลาสติก

สถาบันพระปกเกล้า 247

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 247 21/3/2561 BE 10:00


อีกที แล้วคว้าไฟฉายตรงไปยังกอกล้วย
อีขาวยังนอนอยูท่ เี่ ดิม แต่หายใจรวยรินเต็มที ดวงตาสีขนุ่ ขาวเบิกกว้าง ผม
นั่งยองๆ เร่งมืออ้าปากของมันอย่างยากล�ำบาก แล้วกรอกน�้ำมะพร้าวลงไปทันที
“กระดูกไก่คงติดคอ...” แม่เปรยขึ้น มองร่างแน่นิ่งของอีขาวอย่างเวทนา
หลังลูกชายของผมอุ้มมาวางใกล้ๆ ม้านั่งหินอ่อน และปิดตาที่เหลือกโพลงให้มัน
ช่วงหลังๆ ไม่รแู้ ม่ไปถูกคอถูกใจกับแม่คา้ ไก่ทอดในตลาดได้ยงั ไง ตอนบ่ายๆ
แทบทุกวัน แม่คา้ คนนัน้ เป็นต้องขีม่ อเตอร์ไซค์เอาถุงไก่มาให้ถงึ บ้าน เรือ่ งให้อาหาร
หมาแมวที่ถูกต้อง ผมพอรู้มาบ้าง คนที่รักสัตว์ประเภทนี้ไม่ต่างลูกคนหนึ่ง เขามัก
ดูแลใส่ใจเป็นอย่างดี พวกก้างปลาเศษกระดูกจะไม่ให้ติดในจานอาหารของมันเป็น
อันขาด ฟังว่าความแหลมคมของสิ่งเหล่านี้อาจทิ่มแทงช่องปาก ล�ำคอหรือกระทั่ง
ล�ำไส้ หากสัตว์เลี้ยงขบเคี้ยวไม่ละเอียดพอ แต่ส�ำหรับอีขาวเราเลี้ยงมันแบบตามมี
ตามเกิด เหมือนกับหมาพื้นถิ่นทั่วๆ ไป
“ตายแล้วก็อย่าให้ทันขึ้นอืด เอาไปฝังในที่ไกลๆ สักหน่อย”
แม่สรุปอย่างง่ายๆ แล้วก็เดินเข้าบ้านไปเงียบๆ ขณะผมยังนั่งหมดสภาพ
อยู่บนม้าหินอ่อนตัวเดิม และมองลูกชายที่นั่งประคองหัวอีขาวไว้ในอ้อมแขน เขา
คงเสียใจไม่น้อย เพราะทันทีที่แม่จบค�ำพูดลง ผมเห็นเขาก้มหน้าเก็บเสียงสะอื้นจน
ตัวโยนขึ้นมาอีก
เราเลือกท�ำเลด้านหลัง ถัดจากสวนสมรมไปอีกที พูดให้ชัดก็คือใช้ริมคัน
ดินของเหมืองชลประทานเป็นบ้านหลังใหม่ของมัน กะระยะประมาณสองร้อยเมตร
ให้หา่ งจากบ้านเดีย่ วหลังหนึง่ ทีป่ ลูกในระนาบเดียวกัน ในยามค�ำ่ คืนทีท่ กุ คนเริม่ ปิด
ไฟหลับนอน เราช่วยกันหิว้ กระสอบทีใ่ ส่อขี าวและเดินไปอย่างระแวดระวัง ไม่อยาก
ให้ใครเห็นและตะโกนถาม มือขวาของผมรวบหูกระสอบไว้แน่น อีกข้างก็ถือจอบ
เหี้ยนๆ เล่มหนึ่งไว้ในก�ำมือ ลูกชายก็รวบหูกระสอบอีกด้านไว้เช่นกัน อีกมือก็ส่อง
ไฟฉายไปบนทางเดิน
เมือ่ ถึงทีห่ มาย ผมเริม่ ลงมือทันที อยากให้เสร็จเร็วทีส่ ดุ แต่พอฟาดคมจอบ
ลงบนเนื้อดินแข็งๆ ได้ไม่กี่ครั้ง ลิ่มไม้ที่เคยติดแน่นระหว่างตัวจอบกับด้ามของมันก็

248 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 248 21/3/2561 BE 10:00


หลุดกระเด็น โชคดีอยูบ่ า้ งทีแ่ ผ่นเหล็กนัน่ ไม่หล่นใส่หวั กะบาลเราสักคน เมือ่ ส่องไฟ
หาและน�ำมาประกอบเข้าใหม่อีกครั้ง กลับแย่กว่าเก่า เรียกว่าแทบใช้การไม่ได้ จน
ต้องให้ลกู ชายกลับไปหาเศษแผ่นกระดานหลังบ้าน พร้อมหาพร้าติดมือมาด้วย นั่น
ล่ะ... จอบของน้าผ่องน้องสาวแม่ทบี่ า้ นอยูใ่ กล้กบั เรา ถึงได้ท�ำงานอย่างไม่ทลุ กั ทุเล
มากนัก แม้คมของมันกระเดียดไปทางเหี้ยนกุด ใช้ประโยชน์แค่ถากหญ้าริมบ้าน
เท่านัน้ แต่ไม่มที างเลือก หมูบ่ า้ นทีก่ ำ� ลังเป็นเมืองใหม่อย่างทีน่ ี่ เหมือนได้ละทิง้ จอบ
พร้ากันไปหมดแล้ว ยามจ�ำเป็นต้องใช้ จึงต้องนึกเอาว่าใครบ้านไหนยังมีอยูบ่ า้ ง และ
ตอนเดินผ่านหลังบ้านของแก ผมก็ถอื วิสาสะหยิบเอามาดือ้ ๆ เห็นปิดไฟมืดแกคงจะ
หลับไปแล้ว ซึ่งก็เป็นผลดีที่ไม่ต้องถูกซักถามให้มากความ
เราผลัดกันขุดดิน เป็นหลุมขนาดให้อขี าวเหยียดนอนได้สบาย แต่เมือ่ ลอง
หย่อนร่างมันลงไป กลับพบว่าความลึกยังไม่เพียงพอ อีกทัง้ ในห้วงยามนี้ ยากจะไป
หาปูนขาวมารองพืน้ ช่วยดับกลิน่ จากทีไ่ หน มีทางเดียวคือต้องลงมือขุดอีกครัง้ และ
ผมเลือกที่จะรับจอบเป็นคนสุดท้าย
การขุดหลุมให้ลึก โดยใช้คมจอบสั้นๆ สร้างความยุ่งยากอยู่อักโข แม้จะ
เอียงด้ามให้ชิดขอบดินสักเพียงใด อย่างดีคมจอบก็แค่ฝังอยู่กลางหลุม ฉะนั้นผมจึง
ต้องเวียนขุดทัง้ สองด้าน แล้วก้มงุดกอบเอาผงดินขึน้ มา ตอนนัน้ ผมนึกอยากได้เหล็ก
ชะแลงสักอัน ปัญหาตรงหน้าก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย แต่นึกไม่ออกจะหยิบยืมจาก
ใคร อีกอย่างเวลานี้ทุกคนต่างหลับนอน
ผมโถมแรงอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง คิดว่าเมื่อกอบเศษดินขึ้นมาแล้ว
ทุกอย่างคงจะจบสิน้ ในชัว่ ไม่กนี่ าที แต่แล้วเมือ่ ฟาดคมจอบครัง้ สุดท้ายลงไปนัน่ เอง
ทัง้ ผมและลูกชายต้องสะดุง้ โหยง กระโดดออกมาทันที เมือ่ ได้ยนิ เสียงแรงอัดถูกปลด
ปล่อย พร้อมสายน�ำ้ ที่พุ่งฉีดขึ้นมา
ท่อประปา!
ไม่เคยรู้มาก่อน มันมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร
ผมมองไปทางบ้านเดีย่ วหลังนัน้ ซึง่ อยูท่ างทิศตะวันตก และรีบผินหน้ากลับ
ไปยังฝัง่ ตรงข้าม โดยมีผมยืนอยูต่ รงกลาง อีกประมาณร้อยเมตร ตามแนวคันดินว่าง

สถาบันพระปกเกล้า 249

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 249 21/3/2561 BE 10:00


เปล่าของเหมืองชลประทาน ก็เป็นถนนสายเอเชียที่พาดผ่านล�ำเหมือง ด้านขวาริม
ถนนทางทิศใต้ เมือ่ ผ่านหนองน�ำ้ ทีร่ กเรือ้ ขนาดใหญ่ ก็ยงั มีหมูต่ กึ แถวยาวเหยียดอยู่
ที่นั่น และหากเริ่มมองจากจุดที่ยืนอยู่อีกครั้ง ทั้งสองฟากล�ำเหมืองทางตะวันออก
ของถนนเอเชีย ก็เต็มไปด้วยบ้านเรือนซึ่งอยู่ในเขตหมู่บ้านเดียวกัน
ผมรู้สึกใจหายวาบ เมื่อตั้งสติได้แล้ว จึงหันบอกลูกให้ไปหายางในของ
มอเตอร์ไซค์มาสักเส้น เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนตรงหน้า
“ป่านนี้แล้ว.. จะหาที่ไหนล่ะพ่อ” ลูกประท้วง เหมือนจนแต้ม “ร้านซ่อม
รถแถวบ้านเรา เขาปิดกันตั้งแต่ตอนเย็นโน่นแล้ว”
จริงของลูกชาย ผมมองน�้ำประปาที่ยังฉีดพุ่งขึ้นมา แม้ตอนนี้แรงอัดได้ลด
ลงเกือบครึง่ แต่หากปล่อยให้ลา่ ช้าคงไม่ดแี น่ จะแก้ปญ ั หานีอ้ ย่างไร แล้วไหนเรายัง
จะต้องยุ่งยาก เปลี่ยนที่ขุดหลุมกันใหม่อีกรอบ จู่ๆ ผมก็ฉุกคิดขึ้นมา
“ลองไปดู.. บางทีแถวหน้าร้าน เขาอาจทิ้งไว้บ้าง”
ได้ยินเพียงเท่านี้ ลูกชายก็วิ่งเหย่าๆ พร้อมไฟฉายส่องทางกลับไปที่บ้าน
ขณะผมยืนมองอยู่ในความมืด

เสียงทีวียังดังอยู่ในบ้าน ลูกอาจก�ำลังดูหนังยาวอยู่สักเรื่องก็ได้ ช่วงนี้โรงเรียนปิด


เทอม ผมจึงปล่อยให้นอนดึกได้บ้าง อีกอย่างเรื่องของค�่ำวันนี้ก็ท�ำให้เขารู้สึกแย่มา
พอแล้ว
อากาศยังร้อนอบอ้าว นานๆ จะมีลมพัดมาสักที ยาทาบรรเทาอาการ
อักเสบ ปวดเจ็บกล้ามเนื้อ ท�ำให้ผมผ่อนคลายได้มากทีเดียว และยาน�้ำแดงก็คง
ท�ำให้แผลถลอกตามจุดต่างๆ คืนสภาพในเร็ววัน ผมนัง่ มองสารรูปตัวเองแล้วรูส้ กึ
หดหู่อย่างบอกไม่ถูก นับแต่ไม่ได้ออกก�ำลังกาย ไม่น่าเชื่อ สุขภาพจะแย่เอาถึง
ขนาดนี้
“ไหน.. มันท�ำอะไรกันนักหนา ถึงยังไม่หลับไม่นอน” เสียงแม่ดงั ขึน้ คงลุก
เข้าห้องน�้ำตามปกติ “ไฟก็เปิดไว้ทั้งบ้าน ดวงไหนไม่ใช้ก็ปิดเสียมั่ง ค่าไฟมาใครจะ
ช่วยจ่าย”

250 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 250 21/3/2561 BE 10:00


“ร้อนนิ แม่..” ผมส่งเสียงกลับไป เพื่อให้รู้ว่ายังนั่งอยู่หลังบ้าน ขณะ
เดียวกันก็นึกค้านค�ำพูดที่เกินจริง เพราะเปิดไว้แค่สองดวง คือในบ้านและหลังบ้าน
เท่านั้น
“แล้วมึงเอาไปฝังไว้ที่ไหน” หมายถึงหมา
ผมอึดอัดที่จะบอกตรงๆ จึงเลี่ยงตอบไปว่า “ไกลนุ...”
“เออ.. หลุมก็ต้องขุดให้ลึกๆ ไม่งั้นเวลาเหม็นขึ้นมา คนอื่นจะด่าเอา”
อยากตอบไปว่า ผมขุดหลุมได้ลึกมาก แต่ก็พูดไม่ออก เหมือนเกิดอาการ
จุกเสียดอย่างทันทีทันใด และชั่วไม่กี่อึดใจ เสียงแม่ก็ดังหงุดหงิดตามมา
“น�ำ้ ไม่ไหล.. พวกท�ำน�้ำประปาต้องถูกด่ากันบ้างแล้ว”
ผมแทบดีดผึง เพือ่ ไปพิสจู น์ทกี่ อ๊ กประปาห้องน�ำ้ ตัวเอง แต่กอ็ ยากได้ความ
ชัดเจนเสียก่อน เพราะหลังจากผ่ายางในรถมอเตอร์ไซค์ ผมได้รดั พันท่อประปาขนาด
ท่อนแขนนัน่ ตัง้ หลายรอบ แม้รอยคมจอบได้บาดลึกจนแทบขาด แต่ระหว่างโดนน�ำ้
ฉีดใส่หน้าตาและเปียกมะลอกมะแลกอยู่นั้น ผมก็มั่นใจว่าการรั่วซึมที่อาจมีอยู่บ้าง
ไม่น่าส่งผลกระทบถึงเพียงนี้
ผมกลั้นหายใจ และถาม “..ไม่ไหลเลยหรือ”
“ไหลอยู่มั่ง แต่น้อยเต็มที”
ได้ยินค�ำตอบ ผมรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย แต่พอนึกไปถึงค�ำก่นด่าจากบรรดา
เพื่อนบ้านในตอนรุ่งเช้า จิตใจก็มีแต่ความกังวล เชื่อได้เลย ต่างคนคงพูดกันเอ็ดอึง
แน่ๆ ผมนึกภาพเห็นพวกช่างประปาและผู้เกี่ยวข้องต่างจ้าละหวั่นเหมือนมดตื่นไฟ
แม้สถานทีท่ เี่ ราไปสร้างวีรกรรมเอาไว้นนั้ จะไม่คอ่ ยมีใครสัญจรกันมากนัก นอกจาก
พวกเลี้ยงวัวคนสองคน แต่หากพรุ่งนี้มีใครไปเจอมันเข้า และได้แจ้งต่อผู้เกี่ยวข้อง
กับน�ำ้ ประปา เมือ่ กลุม่ คนพวกนัน้ ไปถึง อาจพบว่ามีนำ�้ รัว่ ซึมมากกว่าเดิม หรือบางที
ก็อาจถึงขัน้ ดันผิวดินจนทะลักขึน้ มา ค�ำถามแรกคงไม่แคล้ว ใครเป็นคนท�ำ ใครเป็น
คนขุด ขุดท�ำไม.. และเมือ่ ช่วยกันสอดส่องไปรอบๆ อย่างผิวเผิน พวกเขาก็จะไม่เจอ
สิ่งผิดปกติอันใด แต่หากมีใครสักคนเดินส�ำรวจไปทางหนองน�้ำ ห่างจากจุดน�้ำ
ประปารัว่ ไหลไม่เกินเจ็ดก้าว เขาก็จะพบกับพุม่ สาบเสือขนาดใหญ่ และทีร่ มิ พุม่ สาบ

สถาบันพระปกเกล้า 251

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 251 21/3/2561 BE 10:00


เสืออีกด้านนั่นเอง เมื่อเขามองต�่ำลงไป รอยขุดหลุมและกลบทับด้วยเนื้อดินใหม่
หมาดก็จะเด่นชัดในสายตา ทั้งชวนฉงนเป็นอย่างยิ่ง
คิดอย่างนี้แล้ว ผมไม่สบายใจเลย แม้เหตุการณ์หลังจากนั้นจะยิ่งแจ่มชัด
ในจินตนาการ กระทั่งล่วงเลยไปถึงขั้นพิสูจน์ และจบลงที่ว่า หมาของใคร!
แต่เรือ่ งของเรือ่ ง มันจะจบลงแค่นนั้ ล่ะหรือ ไม่มใี ครเอาไปพูดแบบปากต่อ
ปาก ว่าผมคือสาเหตุหนึ่งที่ท�ำให้น�้ำประปาไม่ไหล
เอาล่ะ... วันนี้ผมเหนื่อยล้าเต็มทน ควรถึงเวลาเข้านอนเสียที ผมผิดเองที่
ไม่นา่ ไปยุง่ เกีย่ วกับเรือ่ งบ้าๆ นีเ้ ลย ผมไล่ตามองไปยังทุกจุดของแผลถลอก แน่ใจว่า
ได้ทายาน�้ำแดงอย่างทั่วถึงแล้ว หันไปคว้าถุงส�ำลี พวกขวดยามารวมไว้ในถุงใหญ่
เหลือเพียงขวดเปล่าของน�้ำเกลือแร่กบั ก้อนส�ำลีทใี่ ช้แล้ว พรุง่ นีค้ อ่ ยเก็บทิง้ แต่ทนั ที
ทีล่ กุ ขึน้ ยืน ผมถึงกับต้องร้องโอดโอยออกมา หายเจ็บเมือ่ ไหร่ ผมควรใส่ใจเรือ่ งออก
ก�ำลังกายเสียที
ปิดประตู ปิดไฟหลังบ้าน ขณะประคองตัวไปยังห้องนอน ผมคิดไปว่าพรุง่
นีจ้ ะท�ำอย่างไรดี เรือ่ งหลุมทีฝ่ งั อีขาวเอาไว้ ผมหวัน่ วิตกเกินไปหรือเปล่า บางทีอาจ
ไม่มีใครพบเห็นเลยก็ได้ ใช่.. ผมควรจะคิดอย่างนั้น และหากเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผม
ควรจะนิ่งเงียบ ท�ำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อย่างนั้นล่ะหรือ ผมถามตัวเองและรู้สึกลังเล แต่ที่
แน่ๆ รุ่งเช้าพรุ่งนี้ เสียงก่นด่าจากเพื่อนบ้านจะดังขึ้นอย่างแน่นอน
บ้าจริง... เรื่องทั้งหมด เริ่มที่หมาตัวหนึ่งเท่านั้น.

252 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 252 21/3/2561 BE 10:00


สุนันทวงศ์ เทพชู
เป็นชาวพัทลุงจาก
ครอบครัวชาวไร่ ชาวนา มีงานตีพิมพ์
ครั้งแรกตอนเป็นนักศึกษา เป็นหนึ่ง
ในสมาชิก ‘กลุ่มศิลปะวรรณกรรม
ม.รามค�ำแหง’ ปัจจุบันเปิดร้านศิลป์
เล็กๆ ใช้ชีวิตเรียบง่ายที่บ้านเกิดยัง
เขียนเรื่องสั้น บทกวีอยู่เรื่อยๆ พร้อม
ท�ำกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน-การเขียน
อย่างต่อเนื่องในนาม ‘เครือข่ายนัก
เขียนจังหวัดพัทลุง’ ซึ่งน�ำทีมโดย ประมวล มณีโรจน์ สมคิด ทองสง
ยงยุทธ ชูแว่น อัตถากร บ�ำรุง และผองเพื่อน
เรือ่ งสัน้ ‘การอุบตั ขิ องสิง่ มีชวี ติ บนโลกสองใบ’ ได้รบั รางวัลสุภาว์
เทวกุลฯปี ๒๕๕๖

สถาบันพระปกเกล้า 253

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 253 21/3/2561 BE 10:00


เสียงจากจิตส�ำนึก
กันย์นรา พิชาพร

บ้ านที่เอกพลกับครอบครัวย้ายมาอยู่ใหม่ เป็นทาวน์เฮาส์ ๒ ชั้นเนื้อที่ ๒๓


ตารางวา ตั้งอยู่ในซอยลึก แต่มีรถราสัญจรเข้าออกตลอดเวลา เพราะเป็น
ทางลัดเข้าออกซอยอื่นและตัดออกถนนใหญ่อีกด้าน ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดเล็กๆ ที่มี
พระสงฆ์จ�ำพรรษาอยู่ ๗-๘ รูป ทัศนียภาพโดยรอบร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย หลัง
วัดติดล�ำคลองธรรมชาติที่ทอดกายยาวเหยียดสุดสายตา
เอกพลค่อนข้างพอใจ เมื่อส�ำรวจภายในบ้านจนทั่วแล้ว เขาซื้อบ้านหลังนี้
ในราคาไม่แพง จากการแนะน�ำของเพื่อนครูด้วยกัน ซึ่งรู้จักเจ้าของเดิม ประจวบ
เหมาะเมือ่ สามีภรรยารุน่ คุณปูค่ ณ ุ ย่าทีอ่ ยูด่ ว้ ยกันในบ้านหลังนีม้ านานนับสิบปี ก�ำลัง
จะติดตามลูกหลานไปอยูต่ า่ งประเทศ จึงบอกฝากขายกะทันหัน เป็นการง่ายต่อการ
ตัดสินใจ เมื่อปรับปรุงบริเวณที่จอดรถหน้าบ้าน เก็บกวาดตกแต่ง และทาสีกำ� แพง
ใหม่ บ้านทัง้ หลังก็นา่ อยูข่ นึ้ มาทันที ภายในห้องนอนและห้องน�ำ้ ก็ดสู ะอาดเรียบร้อย
แสดงว่าเคยผ่านการดูแลรักษาอย่างดีมาก่อน เขายิ้มร่าด้วยความสุข เมื่อภรรยา
และลูกต่างก็ชื่นชอบบ้านหลังใหม่เช่นกัน
แสงทองส่องสาดผ่านกระจกหน้าต่างเข้าในบ้าน เขาเปิดประตูอ้าทิ้งไว้ให้
ลมผ่าน ความร่มเย็น เงียบสงบคือความสุขของครอบครัว เขาเชื่อมั่นในความเป็น

254 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 254 21/3/2561 BE 10:00


สถาบันพระปกเกล้า 255

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 255 21/3/2561 BE 10:00


ผู้น�ำอันจะพาครอบครัวขับเคลื่อนไปอย่างมั่นคงก้าวหน้าด้วยแสงหวังเรืองรอง
แม้จะเหน็ดเหนื่อยปานใดก็ตาม นานร่วมสิบปีที่เขาครองคู่อยู่กับเธอ เพียงเพราะ
เธอเป็นคนใจเย็น เรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ เขาเป็นครูโรงเรียนรัฐ ส่วนเธอเป็นพนักงาน
บัญชีในบริษทั ขายเครือ่ งครัว ความรักเติบโตงดงามจนมีพยานรักเป็นชายหนึง่ เดียว
เมื่อแรก ทั้งคู่เช่าห้องแถวอยู่กันแออัดในย่านผู้คนพลุกพล่านตามประสาผัวหนุ่ม
เมียสาว ช่วยกันเก็บหอมรอมริบ จนบัดนี้เขาอายุขึ้นเลขสามมาสามปีแล้ว ส่วน
ภรรยาอ่อนกว่าเพียง ๒ ปี เมื่ออยู่ห้องเช่า มักพบปัญหาจุกจิกหยุมหยิมร�ำคาญใจ
ตัง้ แต่ของหาย เสียงดังเปรีย้ งปร้างด้วยเรือ่ งทะเลาะวิวาทของผัวเมียข้างห้อง วัยรุน่
แอบดมกาวตามซอกตึกร้างให้เห็น คนเมาเละเทะนอนเหยียดยาวอยูห่ น้าห้อง เด็กๆ
พูดจาหยาบคายโดยจ�ำค�ำด่าทอจากพ่อแม่ ฯลฯ เขารับไม่ได้กับสภาพสังคม
ฟอนเฟะเหล่านี้ เพราะเขามาเช่าห้องราคาถูกๆ ในสิ่งแวดล้อมเช่นนี้ นับวันยิ่งจะ
ท�ำให้ลูกชายวัย ๖ ขวบจดจ�ำภาพอันน่าสะพรึงกลัวของดงสลัมกลางน�้ำเน่าเหม็น
เขาไม่สามารถท�ำให้สงั คมรอบตัวน่าอยูก่ ว่านี้ นอกจากจะคิดขยับขยายเปลีย่ นทีอ่ ยู่
ใหม่ในย่านที่เจริญหูเจริญตากว่านั้นได้ จนกระทั่งมาลงตัวที่บ้านหลังนี้
ก่อนตัดสินใจย้ายมา เอกพลเคยเดินส�ำรวจตัง้ แต่ตน้ ซอยยันท้ายซอย พลาง
สอดส่ายสายตาดูสภาพแวดล้อม ตึกแถวพาณิชย์ ๓ ชั้นหน้าปากซอยเปิดกิจการ
ค้าขายทุกร้าน ครั้นเดินทอดน่องเข้าซอยมาเรื่อยๆ จะเห็นร้านอาหาร ร้านสะดวก
ซื้อ ร้านขายยา ตู้หยอดเหรียญซักผ้าตั้งเรียงราย ถัดมาเป็นหอพักสูง ๕ ชั้น ร้าน
เสริมสวยโดดเด่นตั้งอยู่ถัดไป รถเข็นขายลูกชิ้นปิ้งและขายขนมครกจอดอยู่ริมทาง
เพิงขายข้าวแกงมีอาหารตั้งไว้เป็นหม้อๆ มีลูกค้าอุ่นหนาฝาคั่ง นั่งกินกันบนม้ายาว
ใต้ผืนผ้าใบกันแดด นับว่าพรั่งพร้อมด้วยอาหารการกินบริบูรณ์ ครั้นเดินเลียบถนน
เข้ามาถึงกลางซอย สภาพบ้านเรือนตัง้ อยูห่ า่ งๆ บางหลังมีรวั้ รอบชอบชิด เสียงหมา
เห่ากระโชกดังมาจากบ้านบางหลัง ครั้นเดินเล่นพอเพลิดเพลินจนมาถึงร้านกาแฟ
โบราณใกล้บ้านใหม่ เขาอยากท�ำความรู้จักเพื่อนบ้านบ้าง จึงหยุดพักแวะทักทาย
กล่าวสวัสดีกับเจ้าของร้าน ก่อนจะนั่งลงสั่งกาแฟเย็นและแนะน�ำตัว โกเฮงเจ้าของ
ร้านรีบกุลกี จุ อรับรองลูกค้าแข็งขัน พลางชวนคุยด้วยอย่างสนิทสนม ในเวลาไม่นาน

256 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 256 21/3/2561 BE 10:00


ความเป็นไปของเพื่อนบ้านละแวกนี้จึงถูกเปิดเผยอย่างไม่ปิดบัง เช่น บ้านยายรัตน์
มีลูกชายท�ำงานธนาคาร บ้านลุงบุญมีขายของที่ตลาด ส่วนบ้านหลังใหญ่นั่นที่ติด
กับบ้านใหม่ครูเอก เขาอยู่กันหลายคน มีคนขับรถเวียนเข้าเวียนออกทุกวัน แต่ไม่รู้
ท�ำกิจการอะไร เพราะบ้านนีเ้ ขาไม่คอ่ ยสุงสิงกับใคร ชอบปิดบ้านอยูก่ นั เงียบๆ มีแต่
เสียงรถเข้าๆ ออกๆ ตอนกลางคืน เมื่อรู้รายละเอียดของสภาพแวดล้อมพอสมควร
แล้ว เอกพลจึงพาลูกเมียย้ายมา
เวลาทีด่ ที สี่ ดุ ของครอบครัวคือวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ วันทีค่ รอบครัวอยูก่ นั
พร้อมหน้า ได้ชวนกันออกจากบ้านไปตลาดเช้า ก่อนกลับมาช่วยกันท�ำอาหารง่ายๆ
แล้วร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยกัน พูดคุยกัน เสียงหัวเราะมีความสุขตามประสา ต่อจาก
นั้นจึงซักผ้าแล้วตากบนราวเรียบร้อย แล้วจึงช่วยกันท�ำความสะอาดบ้าน เอกพล
รับหน้าที่เก็บกวาด ส่วนสินีขัดห้องน�้ำทั้งชั้นบนชั้นล่าง ขณะเด็กชายต้นถือสายยาง
ช่วยพ่อรดน�้ำต้นไม้เก้ๆ กังๆ อยู่หน้าบ้าน เมื่อเสร็จภารกิจเรียบร้อย ทุกคนจึงมา
รวมตัวกันบนโซฟายาวแสนสบาย นั่งพักผ่อนเปิดโทรทัศน์ดูข่าวบ้าง เกมโชว์บ้าง
การ์ตูนบ้าง เด็กชายต้นนั่งเบียดข้างแม่ ก่อนจะขึ้นไปนั่งบนตักให้แม่โอบกอด
เด็กชายชี้ไปที่หน้าจอพลางร้องอย่างตื่นเต้น “พ่อ! ดูสิ พี่การ์ตูนๆ ”
ข่ า วในที วี เ สนอภาพศิ ล ปิ น นั ก ร้ อ งชายชื่ อ ดั ง วิ่ ง ระดมทุ น ช่ ว ย ๑๑
โรงพยาบาล กลายเป็นข่าวดังกระฉ่อนไปทัว่ ประเทศ เป็นทีก่ ล่าวถึงในวงสังคมอย่าง
กว้างขวาง เพราะไม่เคยมีใครกล้าท�ำมาก่อน จึงเป็นที่ยกย่องชมเชยและให้การ
ยอมรับสนับสนุนร่วมบริจาคตลอดเส้นทางทีเ่ ขาวิง่ ผ่าน มีคนเพียงส่วนน้อยทีไ่ ม่เห็น
ด้วย ไม่วา่ ใครจะว่าอย่างไร นักร้องเพลงร็อคผูน้ กี้ ไ็ ม่เสียก�ำลังใจ ยังคงมุง่ มัน่ ท�ำตาม
จุดมุ่งหมายเดิมที่จะหาเงินช่วยโรงพยาบาลที่ขาดแคลน เอกพลมองภาพในจอ
สี่เหลี่ยมตรงหน้าอย่างชื่นชม เขาอยากให้มีคนเช่นนี้มากๆ ในประเทศนี้
“พ่อ ท�ำไมพี่ตูนไม่ไปร้องเพลง” เสียงลูกชายตั้งค�ำถามอย่างสงสัยตาม
ประสาเด็กฉลาด
“เพราะพี่ตูนเป็นคนดีน่ะซี จึงอาสาช่วยหาเงินให้โรงพยาบาลเพื่อซื้อ
อุปกรณ์การแพทย์ที่ยังขาดแคลนยังไงล่ะ” ต้นมองหน้าพ่ออย่างเข้าใจเมื่อเอกพล

สถาบันพระปกเกล้า 257

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 257 21/3/2561 BE 10:00


กล่าวจบ เสียงผู้เป็นแม่อธิบายบ้าง “เราทุกคนสามารถช่วยให้บ้านเมืองดีขึ้นได้นะ
ลูก เราต่างก็เป็นก�ำลังส�ำคัญช่วยให้ประเทศเจริญก้าวหน้า อะไรทีเ่ ราสามารถท�ำได้
เราก็จะท�ำ เช่นเรื่องนี้ พ่อกับแม่ไม่สามารถออกไปวิ่งกับพี่ตูนได้ เพราะไม่เคยวิ่ง
พ่อกับแม่ก็จะบริจาคเงินไปร่วมสมทบด้วย เพียงเท่านี้ เราก็มีส่วนในการท�ำความดี
เพื่อบ้านเมือง เข้าใจรึยังลูก” ต้นพยักหน้ารับรู้
ข่าวต่อไปเป็นเรื่องของแท็กซี่พลเมืองดี เก็บกระเป๋าเงินของผู้โดยสาร
ชาวต่างชาติทลี่ มื ทิง้ ไว้บนรถ น�ำส่งคืนเจ้าของ ยังความปลาบปลืม้ ยินดีมาก ฝรัง่ ต่าง
ชาติเจ้าของเงินสองแสนบาท จึงมอบเงินส่วนหนึ่งตอบแทนให้คนขับแท็กซี่เป็นสิน
น�้ำใจ ครั้นมีข่าวการท�ำความดีเช่นนี้ เอกพลกับสินีมักจะน�ำมาแนะน�ำสั่งสอนให้ลูก
เห็นเป็นตัวอย่างอันดีงาม เพื่อบ่มเพาะให้ลูกเติบโตอย่างมีคุณค่า แต่หากเป็นข่าว
คนร้ายกระท�ำความผิด พวกเขาก็จะอบรมสั่งสอนไม่ให้เอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพื่อ
ป้องกันไม่ให้ลูกหลงเดินผิดทาง เป็นปัญหาสังคมในภายหน้า เพราะเชื่อว่า เด็กก็
เหมือนผ้าขาว ที่พ่อแม่จ�ำต้องปกป้องไม่ให้แปดเปื้อนเป็นสีด่างด�ำไปได้ เวลาดู
โทรทัศน์ของเด็ก จึงต้องมีผู้ใหญ่นั่งอยู่ด้วย เพื่อคอยคัดกรองไม่ให้เด็กซึมซับเอา
สิ่งเลวร้ายไปใช้ได้
ตอนค�ำ่ เมือ่ ลูกเข้านอนแล้ว เอกพลกับสินมี านัง่ รับลมทีม่ า้ หินบริเวณสวน
เล็กๆ ภายในรั้วบ้าน ทั้งสองมักใช้เวลาว่างร่วมสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
เสมอ บางครั้งก็เป็นปัญหาในที่ท�ำงานที่อยากจะระบายสู่กันฟัง ตอนหนึ่งของ
ค�ำสนทนา เอกพลถอนหายใจพลางเล่าเรื่อง ผอ.ที่โรงเรียนทุจริตค่าจัดซื้ออุปกรณ์
กีฬาให้ฟัง
“เฮ้อ! ผมไม่อยากเชื่อเลยนะว่า ผอ.จะเป็นคนแบบนี้ไปได้”
“แล้วคุณจะท�ำอย่างไรต่อไปล่ะ”
“ผมกับเพื่อนครูหลายคนก�ำลังหาหลักฐานเอาผิดเขาอยู่ ยังมีอีกเรื่อง มีผู้
ปกครองเด็กแอบมาฟ้องว่าถูก ผอ.เรียกเก็บเงินแปะเจี๊ยะแรกเข้าส�ำหรับนักเรียนที่
สอบเข้าไม่ผ่านให้เข้ามาเรียนได้ด้วยนะ”
“เรื่องนี้ก็ต้องหาหลักฐานให้แน่นหนาพอจะเอาผิดกับเขาได้” ต่อจากนั้น

258 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 258 21/3/2561 BE 10:00


ก็เป็นเรื่องสัพเพเหระของทั้งคู่
“ดึกแล้ว เราเข้านอนกันเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปท�ำงาน” เอกพลพูด
ตัดบทเมื่อเห็นภรรยาอ้าปากหาว บอกอาการง่วงงุน
ยังไม่ทนั ทีท่ งั้ สองจะลุกขึน้ เสียงหนึง่ ก็แว่วๆ มากระทบโสตประสาท “คุณ
ได้ยินเสียงอะไรไหม” สินีเอ่ยถามสามีในความสลัวรางของถนนซอย มีแสงไฟหน้า
บ้านที่ยังเปิดอยู่
“เสียงเหมือนเด็กร้องไห้นะ ฟังดีๆ ใช่มยั๊ ” เอกพลเงีย่ หูฟงั สักพักใหญ่เสียง
นั้นค่อยๆ แผ่วเงียบลง
คืนต่อมา เอกพลกับสินียังคงได้ยินเสียงคล้ายเด็กร้องไห้ดังมาจากบ้าน
ข้างๆ ซึง่ เป็นบ้านหลังใหญ่รวั้ ติดกัน เอกพลจึงหาโอกาสตอนเลิกงานแล้วไปแวะร้าน
โกเฮงเพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว “โกครับ ถามหน่อย บ้านหลังใหญ่นั่น เขามีลูกกัน
กี่คน ผมได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ตอนดึกๆ น่ะครับ”
“เอ ก็เห็นสองคนนะ เป็นชายทัง้ คู่ อายุราว ๗-๘ขวบ คนเล็กน่าจะ ๕ ขวบ
ได้ ตอนเช้าๆ เคยเห็นเขาขับรถไปส่งที่โรงเรียนอยู่นะ” โกเฮงเงยหน้าขึ้นจากการ
ชงกาแฟ หันมาตอบค�ำถาม ก่อนจะถามกลับไปบ้าง “คุณเอกสงสัยอะไรหรือ”
“ผมสงสัยว่า บ้านนีเ้ ขาจะตีลกู ทุกคืนเลยหรือ ลูกเขาดือ้ มากหรืออย่างไรนะ”
“อั๊วว่าไม่น่าใช่นะ อย่าไปยุ่งกับเขาดีกว่า เรื่องส่วนตัวของบ้านนี้ ไม่มีใคร
อยากจะข้องเกีย่ วด้วยหรอก เขาไม่คบใครทัง้ นัน้ ปิดบ้านเงียบตลอด ท�ำตัวน่าสงสัย
อั๊วยังคิดเลยว่า แกจะท�ำอะไรผิดกฎหมายรึเปล่าก็ไม่รู้ซี”
หลังจากไม่ได้ความกระจ่างในเรื่องนี้ เอกพลจึงลากลับด้วยสีหน้า
ผิดหวัง
ดึกสงัดคืนนัน้ เมือ่ เข้านอนกันแล้ว เอกพลพลิกตัวไปมาบนทีน่ อน ลมหนาว
พัดผ่านมุ้งลวดเข้ามาทางหน้าต่าง ในฤดูที่อากาศเย็นสบาย เขาจึงไม่ได้เปิดเครื่อง
ปรับอากาศ ขณะก�ำลังจะเคลิ้มหลับ พลันก็สะดุ้งตื่นด้วยเสียงเด็กร้องโยเยคล้ายได้
รับความเจ็บปวด ในความมืด เขาเห็นภรรยาสาวลืมตาตื่นเช่นกัน ต่างมองหน้ากัน
ก่อนจะปรับทุกข์ด้วยกัน “เฮ้อ แล้วนี่มันเรื่องอะไรกันนะพ่อ บ้านนี้เขายังไงกันนะ

สถาบันพระปกเกล้า 259

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 259 21/3/2561 BE 10:00


ถึงจะตีเด็กดึกๆ ดื่นๆ ไม่เกรงใจชาวบ้านอย่างนี้” สินีบ่นอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนที่
สามีจะตั้งข้อสังเกตบ้าง “รู้สึกว่าคืนนี้ เสียงเด็กร้องจะดังกว่าคืนก่อนๆ นะ” สินี
ยอมรับว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
“แม่ว่า เราโทร.แจ้งต�ำรวจดีไหม เผื่อเขาจะท�ำทารุณเด็ก”
“แต่นั่นมัน ลูกเขานะพ่อ เอ! หรือจะเป็นพ่อเลี้ยงกันแน่ ถ้าใช่นะ ก็น่า
สงสารเด็กมากเลย”
หลังจากนั้น เสียงเด็กร้องก็เงียบหายไปกับความมืดของรัตติกาล ก่อนที่ทั้งคู่จะล้ม
ตัวลงนอนเพราะความง่วง
วันต่อมา หลังเลิกงานแล้ว เอกพลไปรับลูกทีโ่ รงเรียนประถมใกล้บา้ นกลับ
ด้วยกัน ขณะขับรถจะเข้าบ้านนัน้ เขาเหลือบไปเห็นป้าแม่ครัวข้างบ้านก�ำลังจะออก
ไปซื้อของ เขารีบลงจากรถเพื่อจะสอบถามเรื่องเมื่อคืน เมื่อส่งเสียงเรียก ยังไม่ทัน
ไต่ถามเรื่องราว ป้าคนรับใช้รีบหลบฉากจากไปอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าแลบทันที
เขากลับเข้าบ้านนั่งรอที่ม้าหินตรงชานหน้าบ้าน เฝ้ารอให้ป้าคนนั้นกลับ
มา หวังจะคาดคั้นเรื่องดังกล่าว เสียงลูกบอลเด้งดังกระทบพื้นติดๆ กันรัวๆ หลาย
ที เขามองไปทีถ่ นนหน้าบ้าน จึงเห็นเด็กคนหนึง่ ก�ำลังเล่นบอลอยูต่ ามล�ำพัง เขารูไ้ ด้
ทันทีว่า น่าจะเป็นลูกชายคนข้างบ้านนี่เอง จากการส�ำรวจร่างกายเด็ก ก็ไม่พบร่อง
รอยฟกช�้ำหรือบาดแผลใดๆ ที่บอกได้ว่าถูกเฆี่ยนตีแต่อย่างใด กลับเห็นแต่ความ
สะอาดสะอ้านของผิวพรรณและเสื้อผ้าที่สวมใส่ แสดงให้เห็นถึงความทะนุถนอม
และใส่ใจของพ่อแม่ เขารีบรุดออกนอกรัว้ บ้านเพือ่ สอบถามอะไรบางอย่าง เมือ่ เข้าไป
ประชิดตัว เด็กชายชะงัก หยุดเล่นบอล หันมามองหน้าเขา เมือ่ เขาตะล่อมถามเรือ่ ง
เด็กร้องไห้เมื่อคืนนี้ เด็กชายมองหน้าเขาอย่างลังเล พลางเดินหนีจะหลบเข้าบ้าน
และหันมาบอกว่า “พ่อไม่ให้คุยกับคนแปลกหน้า” ขณะมีเสียงเรียกจากในรั้วบ้าน
นั้น เด็กชายตัวโตกว่าออกมาคว้าตัวน้องกลับเข้าบ้านไปอย่างมีพิรุธ ก่อนเสียงงับ
ประตูรั้วดังขึ้น เขาทันเห็นเด็กตัวโตก็มีใบหน้าเกลี้ยงเกลา ตามล�ำตัวไม่มีร่องรอย
บาดแผลใดๆ ให้เห็นเช่นกัน เป็นที่น่าฉงนใจยิ่ง พลางครุ่นคิดเท่าไรก็นึกไม่ออกว่า
เสียงร้องไห้ยามวิกาล เป็นเสียงใครกันแน่

260 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 260 21/3/2561 BE 10:00


หลั ง จากวั น นั้ น เขาพกพาความสงสั ย ในใจออกไปหาความกระจ่ า ง
นอกบ้าน เขาเดินเข้าไปหาเพือ่ นบ้านอีกหลังหนึง่ ทีม่ รี วั้ ติดกันกับบ้านหลังใหญ่ซงึ่ อยู่
ถัดไป เพียงผ่านบ้านหลังใหญ่กถ็ งึ บ้านนี้ เจ้าของบ้านเป็นหญิงวัยกลางคน อาศัยอยู่
กับลูกชายซึ่งท�ำงานธนาคาร ป้ารัตน์เป็นคนคุยเก่ง อัธยาศัยดี ให้การต้อนรับผู้มา
ใหม่อย่างอบอุ่น เมื่อรู้จุดประสงค์ของเอกพล เธอก็ถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ พลาง
เล่าเรือ่ งราวแต่หนหลังทีเ่ กีย่ วข้องกับบ้านหลังใหญ่ให้รวู้ า่ เธอเคยมีเรือ่ งหมางใจกับ
คนบ้านนั้น เมื่อครั้งที่เธอย้ายมาใหม่ๆ เธอเลี้ยงหมาอยู่ตัวหนึ่ง ตกดึก หมาตัวนี้จะ
เห่ากระโชกอย่างหนัก เมือ่ เสียงรถตูจ้ ากบ้านนีข้ บั ผ่านเข้าๆ ออกๆ หมาคงเห่าเสียงดัง
เมือ่ พบคนแปลกหน้าเดินไปเดินมาผ่านหน้าบ้านด้วย แต่เธอก็ไม่เคยลงมาดู เพราะ
คิดว่าหมาก็คงเห่าเฝ้าบ้านไปตามธรรมชาติ จนวันหนึ่ง เมื่อหมาหลุดออกจากบ้าน
ไปเดินเล่นตามปกติ ครั้นหายไปนานร่วมชั่วโมง มันซมซานกลับมาน�้ำลายฟูมปาก
นอนชักดิ้นพราดจนตายไปต่อหน้าตรงหน้าบ้านเพราะช่วยไม่ทัน เธอรู้ทันทีว่าเป็น
ฝีมอื ใคร เพราะเคยได้ยนิ ค�ำกล่าวอาฆาตมาดร้ายลอยข้ามรัว้ มาให้ได้ยนิ บ่อยๆ บาง
ครัง้ มีการปาหินก้อนเล็กลอยข้ามก�ำแพงรัว้ คงร�ำคาญเสียงหมาเห่าหอน เมือ่ หมาตาย
เธอร้องไห้อย่างหนักเพราะรักมันมาก มันแสนรู้และเชื่องมาก ต้องมาตายด้วยฝีมือ
คนใจร้ายใจด�ำ เธอตั้งใจจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จึงเกิดการทะเลาะกันอย่างรุนแรง
เมือ่ เธอจะไปแจ้งความเอาผิดกับผูก้ ระท�ำ กลับถูกข่มขูแ่ ละแสดงอิทธิพล เพราะเขา
มีเส้นสาย มีญาติเป็นนายต�ำรวจ ถ้าจะเอาเรื่อง คงเสียเวลาเปล่า
“ป้าก็เคยได้ยินนะ เสียงเด็กร้องตอนดึกๆ บางทีก็ห้าทุ่ม- เที่ยงคืน แต่ก็
ไม่รู้เป็นใคร อาจเป็นลูกหลานเขารึเปล่าไม่รู้ สองสามวันเงียบไปที แล้วก็กลับมา
ได้ยินใหม่ ถ้าเกี่ยวกับบ้านหลังนี้ ป้าไม่อยากจะยุ่งด้วยจริงๆ เราต่างคนต่างอยู่ดี
กว่า” ป้ารัตน์แสดงเจตนารมณ์อย่างเปิดเผย
“แล้วป้าไม่สงสารเด็กหรือ แกอาจจะถูกทารุณจนบาดเจ็บ อาจจะรุนแรง
ถึงตายได้นะครับ” เอกพลวอนขอความเห็นใจ เผื่อเธอจะลุกขึ้นมาปกป้องเด็กร่วม
กับเขา แต่เธอก็ตอบปฏิเสธไปในที่สุด

สถาบันพระปกเกล้า 261

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 261 21/3/2561 BE 10:00


เอกพลพลิกตัวกระสับกระส่ายในค�ำ่ คืนอันยาวนาน เขานอนไม่หลับ เสียง
กรีดร้องดังโหยหวนกว่าทุกคืนที่ผ่านมา เมื่อเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ ช่างคล้ายแก้วเสียง
ของเด็กผู้หญิง สินีเองก็คิดว่าใช่ แต่มันไม่ใช่เสียงของเด็กเพียงคนเดียวอย่างที่เคย
เข้าใจแต่แรก มันเป็นเสียงของเด็กหลายคนด้วยกัน หรือว่าเป็นผีหลอก.. แต่ไม่น่า
เป็นไปได้ ช่างลึกลับซับซ้อนอะไรเช่นนี้ เอกพลไพล่คดิ ถึงแม่ ในวัยเด็ก เขาถูกอบรม
ให้เป็นคนมีเมตตา ให้รจู้ กั แบ่งปันและรักเพือ่ นมนุษย์ดว้ ยกัน แม่เคยเป็นครูใหญ่ใน
โรงเรียนประชาบาลที่บ้านเกิด ในจังหวัดที่ทุรกันดารและห่างไกลความเจริญ ส่วน
พ่อของเขาเป็นหัวคะแนนให้กับนักการเมืองคนหนึ่ง จนที่สุดถูกยิงตาย พ่อกับแม่
แยกทางกันด้วยความคิดเห็นต่างกันตัง้ แต่เขายังเด็ก เขาอยูใ่ นความดูแลของแม่ จึง
ซึมซับในความอ่อนโยนดีงามของแม่ไว้ทั้งหมด ใครมีเรื่องเดือดร้อน แม่ช่วยทุกคน
อย่างสุดความสามารถ แม่ทำ� หน้าที่ครูด้วยความทุ่มเท เสียสละแรงกายและแรงใจ
สอนนักเรียนที่อ่อนวิชา ให้อ่านออกเขียนได้ อบรมศิษย์ให้เป็นคนดี แม่ย�้ำเสมอว่า
การสร้างทรัพยากรมนุษย์เป็นสิง่ ส�ำคัญทีส่ ดุ พลเมืองคือพละก�ำลังของประเทศชาติ
หากภาคพลเมืองเข้มแข็ง ประชาธิปไตยจะมั่นคงก้าวหน้าถาวร การศึกษาช่วยให้
คนเรารู้จักคิด สามารถแยกแยะความดีความชั่วได้ และรู้เท่าทันผู้อื่น ไม่หลงไปใน
ทางผิด ถึงแม้วนั นีแ้ ม่ได้จากเขาไปแล้วเมือ่ หลายปีกอ่ น แต่เรือ่ งราวของแม่ยงั คงตรา
ตรึงในความทรงจ�ำเสมอ เสียงจากจิตส�ำนึกภายในเฝ้าย�้ำเตือนให้เขาท�ำหน้าที่
พลเมืองดี ไม่ละเลยต่อความเดือดร้อนของผูอ้ นื่ ไม่เพิกเฉยต่อความอยุตธิ รรมทัง้ ปวง
รออรุณรุง่ พรุง่ นี.้ .พรุง่ นีเ้ ขาจะจัดการขจัดความเลวร้าย เพือ่ ช่วยเหลือชีวติ น้อยๆ ไม่
ให้ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของผู้ใหญ่ให้ได้ พรุ่งนี้เถิดนะ..ทุกอย่างจะดีขึ้น
สองวันต่อมา สือ่ ทุกส�ำนัก หนังสือพิมพ์ทกุ ฉบับและสถานีโทรทัศน์ทกุ ช่อง
เสนอข่าวตรงกัน เจ้าหน้าที่ต�ำรวจบุกทลายโรงงานเถื่อน ในบ้านหลังใหญ่ย่านพุทธ
มณฑล จับกุมสองผัวเมียเจ้าของบ้านในข้อหาใช้แรงงานเด็ก ต�ำรวจช่วยเหลือเด็ก
ทั้งหมด ๑๒ ชีวิตอายุตั้งแต่ ๗-๑๑ ปีให้ออกมาได้อย่างปลอดภัย เด็กส่วนใหญ่มี
ร่างกายซูบผอม สภาพอิดโรย มีร่องรอยถูกทุบตี ฟกช�้ำตามร่างกาย บางรายมี
บาดแผลคล้ายถูกของมีคม บ้างมีแผลพุพองที่เกิดจากถูกจี้ด้วยบุหรี่ เด็กๆ ทั้งหมด

262 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 262 21/3/2561 BE 10:00


ต่างมีอาการหวาดผวา ถูกกักขังรวมกันในห้องแคบ บนชั้นสองของบ้าน ถูกบังคับ
ใช้งานอย่างหนักจนดึกดื่น พักผ่อนน้อย ทั้งหมดถูกส่งตัวให้แพทย์รักษาพยาบาล
และฟื้นฟูจิตใจ ก่อนส่งกลับบ้าน บางรายถูกล่อลวงมา บ้างถูกขายมาโดยพ่อแม่
ยินยอมเพราะความยากจน เรือ่ งราวเป็นทีโ่ จษขานกันในวงกว้างทัง้ ในโซเชียลมีเดีย
และวงสนทนาทั่วไป ไม่เว้นแม้แต่สภากาแฟ นักสิทธิมนุษยชนออกมาปกป้องเด็ก
และวิพากษ์วิจารณ์ข่าว ส่วนนักสังคมสงเคราะห์ออกมารับเด็กบางคนไปดูแล
ส�ำหรับสถานที่เกิดเหตุ ผู้คนในละแวกนั้นต่างตกตะลึงด้วยคาดไม่ถึงว่าจะมีการ
หน่วงเหนี่ยวกักขังและทรมานเด็กให้ใช้งานเยี่ยงทาสเช่นนี้ หลายคนมามุงดู แล้ว
กลัน้ น�ำ้ ตาไม่อยูด่ ว้ ยความสงสารเด็ก ต่างสาปแช่งสองผัวเมียให้ตกนรกหมกไหม้ไป
ตามๆ กัน
ไม่มใี ครรูว้ า่ พลเมืองดีทแี่ จ้งต�ำรวจให้มาตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวเป็นใคร
ยกเว้นป้ารัตน์กบั โกเฮง หลังจากเหตุการณ์ผา่ นไป บ้านหลังใหญ่กถ็ กู ปิดเงียบ คล้อง
ลูกกุญแจดอกใหญ่ไว้ มีปา้ ยปิดประกาศขายด้วยอักษรตัวโต ส่วนลูกชายทัง้ สองของ
บ้านนี้ มีญาติรับไปเลี้ยงดู
เมือ่ เหตุการณ์ตา่ งๆ คลีค่ ลายลง เอกพลและครอบครัวจึงอยูด่ ว้ ยกันอย่าง
สงบสุขและนอนหลับอย่างสบายใจในยามวิกาลนับแต่นั้นมา

สุพร นราพิชญ์
นามปากกา กันย์นรา พิชาพร เกิดวันที่
๑ กันยายน ๒๔๙๖ ที่ อ.บางรัก จ.พระนครศรีอยุธยา
การศึกษา จบม.ศ.๓ ที่ร.ร.สตรีศรีสุริ
โยทัย แล้วไม่ได้เรียนต่อ ไปใช้ชวี ติ อยูท่ ี่ อ.ศรีราชา
จ.ชลบุรอี ยูถ่ งึ ๒๐ ปี ก่อนย้ายกลับมาอยูก่ รุงเทพฯ
เคยมีผลงานเรือ่ งสัน้ และบทกวี ตามหน้า
นิตยสารบ้างประปราย
ปัจจุบัน ยังรักการอ่านและเขียนอย่างต่อเนื่อง

สถาบันพระปกเกล้า 263

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 263 21/3/2561 BE 10:00


คาวบอยไอศกรีม
อนันต์ เกษตรสินสมบัติ



ายอายุเลยวัยกลางคนนิสยั ไม่รจู้ กั โต ดวงตาใสวาวเหมือนดวงตาเด็กนัน้ เปีย่ ม
แววท้าทายและไม่กลัวใคร ผิวของแกคล�้ำเกรียมแดด จมูกแบะรูบาน ปาก
หนากว้าง แก้มป่องและอ้วนจนพุงโย้ สวมหมวกคาวบอยสีนำ�้ ตาล ขับขีม่ อเตอร์ไซค์
รุ่นเก่าทรงโบราณพ่วงถังเหล็กทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ที่บรรจุไอศกรีมแท่งราคาถูก
วางบนฐานวางด้านหลังของอานรถ
ขับขี่ไปเขย่าระฆังใบจิ๋วไป ส่งเสียงกังวานใสเป็นสัญญาณการมาถึงของคน
ขายไอศกรีมผู้ขับรถเร่ขายตามซอกซอยและชุมชนริมถนนใหญ่
นั่นคือนายเอี๋ยว ชายปากเสีย พูดและกระท�ำการเป็นเรื่องเล่นอย่างไม่รู้จัก
กาลเทศะได้ตลอด
ขนาดว่าลูกหลานของมันโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว... ใครบางคนนินทา
ช่วงเวลานั้นผมยืนประจ�ำการอยู่หน้าเขียงร้านข้าวมันไก่ของผม นายเอี๋ยว
เคยขับมอเตอร์ไซค์พว่ งถังไอศกรีมมาจอดหน้าร้าน เดินไปนัง่ ทีโ่ ต๊ะ สัง่ ข้าวหนึง่ จาน
เมือ่ ยกจานข้าวมันไก่ไปเสิรฟ์ นายเอีย๋ วตักข้าวเข้าปากค�ำแรก หน้าด�ำๆ ของ
แกก็ออกอาการปุเลีย่ นจนผมตกใจ ผมรีบตักข้าวในหม้อมาชิม หาได้เจอความแปลก

264 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 264 21/3/2561 BE 10:00


สถาบันพระปกเกล้า 265

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 265 21/3/2561 BE 10:00


ความพิกลอันใดไม่ แถมนายเอี๋ยวยังละเลียดกินข้าวในจานอย่างช้าๆ จนหมดไม่
เหลือกระทั่งเศษข้าวติดจานสักเม็ด
กินเสร็จแกเดินมาขอจานเปล่าหนึง่ ใบจากผม เดินไปทีม่ อเตอร์ไซค์ เดินกลับ
มายื่นจานที่มีไอศกรีมแท่งสิบแท่งวางอยู่ในนั้น ฉีกยิ้มเหี้ยมเกรียมแล้วบอกผมด้วย
เสียงดังอันห้วนสั้นว่า “ค่าข้าว” ก่อนเดินกลับไปที่รถ ถีบคันสตาร์ทขับขี่จากไป
หน้าตาเฉย
ผมโกรธหัวฟัดหัวเหวีย่ ง แต่กท็ ำ� ได้แค่คน้ คิดจินตนาการถึงวิธกี ารแก้เผ็ดกลับ
ไปอย่างงี่เง่าต่างๆ นานา ซึ่งเอาเข้าจริงก็คงไม่กล้าท�ำ ส�ำคัญว่าหลังจากวันนั้นนาย
เอี๋ยวไม่เคยแวะกินข้าวมันไก่ร้านผมอีกเลย อาจเป็นเพราะรสชาติไม่ถูกปาก หรือ
แกอาจไม่ชอบกินข้าวมันไก่ก็เป็นไปได้
ช่วงเวลานั้น กฎจราจรเรื่องการบังคับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ต้องสวมหมวกกัน
น็อคเพิง่ ถูกน�ำมาปฏิบตั บิ งั คับใช้อย่างจริงจังในพืน้ ที่ ต�ำรวจจัดตัง้ ด่านย่อยมากมาย
ดักจับและท�ำการปรับผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย ปรับครั้งละหนึ่งร้อยห้าสิบบาท มีใบเสร็จ
ให้ ย้ายจุดตรวจและก�ำหนดเวลาดักจับปรับเปลีย่ นไปเรือ่ ยไม่ถาวร ไม่มกี ารบอกให้
รู้ล่วงหน้า
ต�ำรวจมาตัง้ ด่านย่อยริมถนนใหญ่ตรงสีแ่ ยกใกล้รา้ นข้าวมันไก่ของผมสัปดาห์
ละสองครั้ง
ผมเห็นด้วยในการใช้กฎหมายบังคับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์สวมใส่หมวกนิรภัย
ดัดนิสยั คนในพืน้ ที่ - ทีภ่ าพความตายและความพิการอันเป็นผลจากอุบตั เิ หตุมอิ าจ
เตือนสติได้เท่ากับการถูกบังคับให้ต้องชักเงินออกจากกระเป๋า ผู้ขับขี่จึงเริ่มรู้จักหา
ซือ้ หมวกกันน็อคมาครอบศีรษะ แต่อกี มากก็ยงั ดือ้ ดึง อ้างเรือ่ งความคุน้ เคยทีท่ ำ� ให้
ไม่หนักศีรษะ ซึง่ ต�ำรวจไม่รบั ฟัง พวกเขาจึงได้แต่หาวิธหี ลีกเลีย่ งเส้นทางทีม่ ตี ำ� รวจ
ดักจับกันเรื่อยไป
“บางคนในนั้นถูกปรับเป็นเงินรวมหลายพันบาทแล้ว หมวกใบละสามร้อย
ยังไม่ยอมซื้อ” ต�ำรวจที่รู้จักกับผมชี้ไปยังโต๊ะธุรการเคลื่อนที่ที่มีคนยืนต่อแถวรอ
จ่ายค่าปรับเป็นแถวยาว พลางส่ายหน้าอย่างระอิดระอา

266 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 266 21/3/2561 BE 10:00


เมื่อผ่านไปอีกช่วงเวลาหนึ่ง การดักจับผู้ไม่สวมหมวกกันน็อคก็เริ่มส่งผลต่อ
กิจการของคนค้าขาย ไม่เว้นแม้แต่ผมผู้เห็นด้วยมาตลอดกับการบังคับใช้กฎหมาย
ข้อนี้ ช่วงเวลาทีต่ ำ� รวจมาตัง้ ด่านดักจับ – ร้านค้าจะขายของไม่ดี ผูค้ นกลัวโดนปรับ
จนไม่ขี่มอเตอร์ไซค์มาซื้อของ ไม่ขับขี่มาซื้อข้าวกิน
ผมเริ่มหงุดหงิด แต่ก็เก็บง�ำไม่ให้ออกอาการอย่างที่ใครอื่นเป็นกัน หงุดหงิด
ไม่ต่างกับคนที่ต้องมายืนต่อคิวรอจ่ายค่าปรับ ซึ่งเมื่อถึงเวลาหนึ่งนักจ่ายค่าปรับก็
ยังปรับตัวได้ รู้จักหาวิธีหลบหลีกด่านต�ำรวจ เมื่อเป็นเช่นนั้นต�ำรวจจึงเพิ่มเวลาดัก
จับให้นานขึ้น นั่นเท่ากับเพิ่มเวลาที่รายได้หดหายให้กิจการร้านค้าแถวนั้น
ใครๆ ล้วนกลัวต�ำรวจ ใครๆ ล้วนเบื่อต�ำรวจ แต่อีกหลายคนช่างท้าทาย ไม่
สวมหมวกกันน็อคแล้วยังเร่งความเร็วรถหนี ถูกตามจับได้ก็ถูกปรับเพิ่ม ที่เป็นเด็ก
วัยรุ่นวัยคะนองอาจถูกท�ำร้ายร่างกายอย่างเบาเป็นของแถม
นายเอีย๋ วเป็นหนึง่ ในคนเหล่านัน้ แกไม่เคยสวมหมวกกันน็อค สวมแต่หมวก
คาวบอยสีนำ�้ ตาล ขับมอเตอร์ไซค์โบราณพ่วงถังไอศกรีมผ่านเลยต�ำรวจหน้าตาเฉย
เมื่อถูกโบกมือเรียกให้จอด
คราวที่ถูกต�ำรวจยืนดักหน้ารถจนต้องยอมจอดให้จับ แกนั่งบนเบาะรถไม่
ยอมลง ชีห้ น้าต�ำรวจคนนัน้ แผดเสียงตะคอก “ไอ้ตี๋ หนก่อนอีนชุ คนสวยขีร่ ถไม่สวม
หมวก มึงแสร้งไม่เห็น ปล่อยมันผ่านไปไม่เรียกมาปรับ ชาวบ้านเห็นกันทั้งเมือง”
หรืออีกคราว
“ไอ้ทอม มึงนี่แหละตัวดี ขี่รถนอกเครื่องแบบเคยใส่หมวกกันน็อคสักครั้ง
หรือเปล่า ไอ้เหี้ย...”
คล้ายนายเอี๋ยวจะเป็นนักเก็บข้อมูลตัวยง แกอาจหนีต�ำรวจไม่ส�ำเร็จในบาง
ครั้ง แต่แกก็มีเรื่องตอบโต้ให้คนจับต้องเจ็บมากบ้างน้อยบ้างเสียทุกครั้งไป แก
ตะคอก ตอกถ้อยค�ำผรุสวาทใส่ ปากร้ายเพียงใดก็ไม่มตี �ำรวจคนไหนกล้าใช้มาตรการ
รุนแรงกับคนชรา ไม่ใช่เด็ก แม้นิสัยจะไม่ต่างจากเด็ก แถมดื้อเสียยิ่งกว่า

สถาบันพระปกเกล้า 267

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 267 21/3/2561 BE 10:00



สารวัตรหนุ่มหน้าใหม่ไฟแรงเพิ่งย้ายมารับต�ำแหน่งเป็นผู้บังคับบัญชาการ
ประจ�ำสถานี ขยันออกงานบุญงานสังคม ประชาสัมพันธ์ตนเองอย่างเปีย่ มชีวติ ชีวา
หวังให้ตนอยู่ในสายตาของชาวบ้าน เขาลงพื้นที่ทำ� งานภาคสนามร่วมกับเจ้าหน้าที่
ผู้อยู่ใต้การบังคับบัญชา ประกาศตัวตนให้เป็นที่รับรู้ว่าเขาไม่ใช่คนท�ำงานประเภท
ก้นติดเก้าอี้ในห้องปรับอากาศอย่างนายต�ำรวจคนเก่าก่อน
ย้ายมารับต�ำแหน่งไม่ถึงสองสัปดาห์ ผมเห็นเขามายืนบังคับบัญชาการตั้ง
ด่านดักจับผู้กระท�ำผิดกฎจราจรร่วมกับลูกน้องริมถนนใหญ่ตรงสี่แยกตอนเที่ยง
วันนั้น
ดังที่กล่าวไปแล้วว่านักท�ำผิดกฎจราจรปรับตัวได้แล้วเป็นส่วนใหญ่ ต�ำรวจ
ตั้งด่านราวสิบนาทีถนนกลางแดดเที่ยงก็เริ่มโล่ง ไม่มีใครเผลอผ่านมาให้จับ
แต่ยังมีเสียงระฆังใบเล็กกังวานใสส่งเสียงน�ำมาแต่ไกล นายเอี๋ยวสวมหมวก
คาวบอยขีม่ อเตอร์ไซค์ทแี่ ผดเสียงเฉพาะตัวของเครือ่ งยนต์รนุ่ ดึกด�ำบรรพ์ แล่นตรง
มายังด่านต�ำรวจกลางแดดเปรี้ยง ไม่เกรงกลัวและไม่หลบหลีก
มอเตอร์ไซค์พ่วงถังไอศกรีมหนักอึ้งแล่นผ่านต�ำรวจที่ยืนประจ�ำการริมถนน
ณ จุดที่ห่างจากด่านสองร้อยเมตร ผ่านต�ำรวจคนที่ยืนเฉยเหมือนมองไม่เห็นนาย
เอี๋ยว
แล้วก็ผา่ นต�ำรวจอีกคน ณ จุดหนึง่ ร้อยห้าสิบเมตรทีไ่ ม่คดิ จะยกมือโบกเรียก
ให้แกจอด
สารวัตรหนุ่มชักเอะใจ ชี้นิ้ว ตะโกนสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาที่จุดหนึ่งร้อยเมตร
ให้รีบปฏิบัติหน้าที่ นายเอี๋ยวไม่สนใจมือต�ำรวจที่ยกโบกเรียกให้หยุด ยังคงเคลื่อน
รถฝ่าตรงเข้ามาไม่ลดละ
แกหักหัวรถไปทางซ้าย หลบต�ำรวจที่ออกมายืนขวางหน้ารถ ณ จุดห้าสิบ
เมตร
แล้วหักหัวรถไปทางขวาหลบต�ำรวจอีกคน ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยตรง
สีแ่ ยกด้วยความเร็วรถคงที่ ไม่ชะงัก ไม่เร่งเครือ่ งหนี ไม่มอี าการหวัน่ ไหวใดๆ ให้เห็น

268 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 268 21/3/2561 BE 10:00


ต่อหน้าต่อตาสารวัตรหนุ่มหน้าใหม่ไฟแรงในระยะใกล้
สารวัตรหนุ่มตกตะลึงกับการท้าทายกฎหมายของชายขายไอศกรีมที่เพิ่ง
เจอะเจอกันเป็นครัง้ แรก ก่อนจะแปรเปลีย่ นเป็นอาการโกรธจนหน้าแดง หันลงเอย
กับผู้ใต้บังคับบัญชาผู้ไม่เอาไหน เขาสั่งการด้วยค�ำตวาดดังลั่น
“ไปจับตัวมา จับไม่ได้ ไม่ต้องกลับสถานี”
พลต�ำรวจผู้รับค�ำสั่งรีบขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ สตาร์ทเครื่อง ขับขี่ด้วย
ความเร็วพุ่งเข้าซอย พ่อค้าแม่ค้าที่หงอยจากการขาดรายได้คล้ายได้สิ่งประเทือง
อารมณ์อย่างฉับพลัน รีบกรูมามุงตรงปากซอยนั้น ลุ้นผลที่อยากให้เป็นตามแต่ใจที่
แต่ละคนหวังผล
จากปากซอยเราต่างเห็นรถนายเอี๋ยวขับอยู่บนเส้นโค้งของถนนก่อนจะ
เคลือ่ นลับหายไปจากสายตา รถของต�ำรวจขับตามไล่หลังไปด้วยความเร็วทีเ่ ร็วกว่า
และหายลับไปตามเส้นโค้งถนนนั้นด้วยกันทั้งคู่
ราวหนึ่งนาที เป็นพลต�ำรวจที่ขับมอเตอร์ไซค์ย้อนกลับมา หน้าตาบอกบุญ
ไม่รับ เรียกเสียงฮือฮาอย่างชอบอกชอบใจจากผู้ชมที่เฝ้าลุ้นกลุ่มหนึ่ง
อีกหนึ่งนาทีเสียงฮือฮาที่ดังยิ่งกว่าจากผู้ชมอีกกลุ่มก็กระหึ่มขึ้น นายเอี๋ยว
โผล่จากโค้งถนน สองมือกุมแฮนด์รถสองข้าง เดินเข็นมอเตอร์ไซค์โบราณพ่วงถัง
ไอศกรีมหนักอึ้งตรงมายังปากซอย เหงื่อโชกไหลหยดเต็มใบหน้า หน้าตาด�ำๆ
บอกบุญไม่รับเสียยิ่งกว่าพลต�ำรวจ
พวงกุญแจมอเตอร์ไซค์ของนายเอี๋ยวถูกพลต�ำรวจคนนั้นน�ำไปวางไว้ที่โต๊ะ
ธุรการ
“ท�ำผิดกฎจราจรไม่สวมหมวกนิรภัย พยายามหลบหนี ไม่ให้ความร่วมมือ
เจ้าหน้าที่ ปรับเป็นเงินหนึ่งพันบาท” สารวัตรออกค�ำสั่งบังคับโทษด้วยเสียงหนัก
แน่น ทันทีที่นายเอี๋ยวเข็นรถมาถึง
นายเอี๋ยวพูดเสียงกร้าวสวนไป “เงินยังไม่มีสักบาท หน้าหนาวอากาศเย็น
ของขายไม่ดี” ยกมือปาดเหงื่อที่ไหลอาบใบหน้า ปลดสายรัดถังไอศกรีม แบกลง
จากฐานวาง โยนเสียงดังโครมลงบนทางเท้าข้างโต๊ะธุรการก่อนจะเดินออกมา

สถาบันพระปกเกล้า 269

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 269 21/3/2561 BE 10:00


แกเดินยืดอกหลังตรง ตรงไปยังร้านน�ำ้ แข็งที่อยู่เลยจากร้านของผมไปห้าห้อง
ครู่หนึ่งแกหิ้วน�้ำแข็งบดถุงใหญ่กับเกลือเม็ดอีกหนึ่งถุงเดินกลับมายังโต๊ะ
ธุรการ
นายเอี๋ยวเปิดฝาครอบตัวถังชั้นนอกของถังไอศกรีม เทน�้ำแข็งใส่ โรยเกลือ
ตาม เทน�ำ้ แข็ง โรยเกลือใส่ สลับชั้นกันไป กระทั่งน�้ำแข็งและเกลือหมดจึงปิดฝาถัง
เงยหน้าพูดลอยๆ ไม่มองหน้าใคร
“เอาไปเลย...ค่าปรับ เกินหนึ่งพันบาทด้วย ผมยกให้ทั้งถัง”
แกเดินไปที่มอเตอร์ไซค์ ถีบคันสตาร์ท บิดคันเร่งแล่นจากไปอย่างรวดเร็ว
กุญแจรถถูกคว้าไปจากโต๊ะธุรการตั้งแต่เมื่อไรไม่มีใครทันสังเกตเห็น
เงียบกริบทั้งพ่อค้าแม่ค้าไทยมุง รวมทั้งเหล่าต�ำรวจ ผมเห็นใบหน้าสารวัตร
หนุ่มเปลี่ยนสีเป็นสีแดงขึ้นมาอีก ก่อนจะจางหายในเวลาไม่นานตามคุณสมบัติของ
คนรู้จักเก็บอารมณ์และรู้จักวางท่าทีต่อสาธารณะ
น�้ำจากน�้ำแข็งบดละลายเจือเกลือทะเลไหลหยดติ๋งๆ ออกจากรูหลอดโลหะ
ระบายน�ำ้ ตรงก้นถังไอศกรีม หยดและซึมลงไปในก้อนตัวหนอนปูทางเท้าสีอฐิ ความ
เปียกชืน้ ทีน่ า่ จะมีความเค็มไม่นอ้ ยระบายสีเข้มคล�ำ้ ลงบนตัวหนอน กระจายตัวออก
เป็นวงกว้างขึ้น กว้างขึ้น ตามจ�ำนวนหยดน�ำ้ ที่หยดใส่ไม่หยุด
ไม่มีผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรหลงทางขับขี่ผ่านมาให้จับอีก มหรสพลาโรง ไทยมุง
กระจัดกระจายกลับคืนสู่พื้นที่ของตน
ความเงียบเหงากลับเข้ามาครอบคลุม เหล่าต�ำรวจว่างงานแล้ว ผมเห็น
สารวัตรหน้าใหม่ยกมือปิดปากทีอ่ า้ หาวขณะมองถนนโล่งว่าง เขาเดินไปทีโ่ ต๊ะธุรการ
เปิดฝาถังไอศกรีม ล้วงและหยิบไอศกรีมเสียบไม้แท่งเหลืองรสวานิลลาขึ้นมา
ยืดหลังตรง แล้วยืนดูดกินตรงนั้น ส่งสายตาปรามเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่มองมา
คล้ายมีคำ� ถาม
“อร่อยดี มากินด้วยกัน”
การปฏิบัติหน้าที่ยุติ ต�ำรวจรุมถังไอศกรีม หยิบกินคนละแท่งบ้าง สองแท่ง
บ้าง พับโต๊ะธุรการและเก้าอี้เก็บขึ้นรถ ก่อนแยกย้ายขึ้นรถแล่นกลับสถานี

270 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 270 21/3/2561 BE 10:00


ถังไอศกรีมทีย่ งั มีไอศกรีมเหลืออยูใ่ นถังถูกวางทิง้ ไว้ตรงทีเ่ ดิม ไม่มใี ครยกขึน้
รถไปด้วย กระทั่งผมปิดร้านเดินทางกลับบ้านก็ยังเห็นมันวางอยู่ตรงนั้น
วันต่อๆ มาจึงได้เห็นมันกลับไปอยู่บนฐานวางหลังอานมอเตอร์ไซค์ของ
นายเอี๋ยว - ผู้ยังคงสวมหมวกคาวบอยขี่มอเตอร์ไซค์โบราณเขย่าระฆังใบเล็ก ท่อไอ
เสียดึกด�ำบรรพ์ร่วมส่งเสียงสัญญาณการเดินทางมาถึงเพื่อค้าขาย และท้าทายกฎ
เกณฑ์สังคมต่อไปตามประสา


กระทัง่ ถึงวันทีแ่ ม่ปว่ ยหนักต้องส่งตัวเข้าโรงพยาบาลฉุกเฉิน ผมหยุดขายข้าว
มันไก่ไปเฝ้าดูแลแม่ที่โรงพยาบาลสองเดือน อาการป่วยของแม่ทุเลา ออกจาก
โรงพยาบาลได้ แต่ก็ไม่แข็งแรงเหมือนเก่า ต้องไปฟอกเลือดที่ศูนย์ไตเทียมสัปดาห์
ละสองครัง้ คนในครอบครัวมีมติให้ผมเป็นคนติดตามและเฝ้าดูแลแม่ หยุดพักกิจการ
ร้านข้าวมันไก่
ผมใช้เวลาว่างช่วงอยูก่ บั แม่เขียนเรือ่ งสัน้ และบทกวี ผลงานได้รบั การตีพมิ พ์
ลงนิตยสารหลายเรื่อง มีโอกาสได้อวดให้แม่อ่าน
ในที่สุดผมไม่ได้กลับไปเปิดร้านข้าวมันไก่ริมถนนใหญ่อีก อยู่เฝ้าแม่ในบ้าน
สวน เดินทางไปโรงพยาบาล ท�ำงานเขียนอิสระ กับช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ ในกิจการ
ของครอบครัวเป็นบางเวลา
จากการใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กันสองคนกับแม่ ทุกสิ่งหาใช่คงที่เป็นนิรันดร์
เวลาต่อมาผมก็ต้องอยู่ตัวคนเดียว อยู่ร่วมกับเหล่าสัตว์เลี้ยงและสิ่งมีชีวิตต่างเผ่า
พันธุ์ในบ้านสวน เฝ้ามองการผลิดอกแตกใบสดเขียวสลับกับการห่อเหี่ยวหลุดร่วง
ของดอกไม้และใบไม้รุ่นก่อน เช่นเดียวกับเหล่าสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กที่ช่วงอายุไม่ได้
ยืนยาว ผมเห็นพวกมันตั้งแต่เพิ่งคลอดเหมือนยังไม่นาน แล้วก็ต้องมาขุดหลุมฝัง
ร่างนอนแข็งนิง่ จากความชราสุดบัน้ ปลายของพวกมันในเวลาต่อมา ผ่านไปรุน่ แล้ว
รุ่นเล่า
แม้ชมุ ชนและตลาดริมถนนใหญ่จะห่างไกลจากบ้านแค่สองกิโลเมตร แต่ผม

สถาบันพระปกเกล้า 271

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 271 21/3/2561 BE 10:00


ตัดขาดการรับรู้ความเป็นไปของสังคมเสียแล้ว ใครได้ดี ใครเจ็บป่วย ใครมีอันเป็น
ไป เด็กๆ แถวนั้นโตแล้วแค่ไหน หน้าตาหรือนิสัยใจคอเปลี่ยนไปอย่างไร เหล่านั้น
ล้วนเดินทางมาสู่การรับรู้ของผมอย่างล�ำบากยากเย็น
เก้าปีที่ไม่ได้เจอนายเอี๋ยว เก้าปีก่อนที่ผมยังเป็นคนหนุ่ม บัดนี้ย่างเข้าสู่
วัยกลางคน นายเอี๋ยวจ�ำผมได้ทันทีที่เจอหน้ากันที่แผงลอยร้านโจ๊กริมถนนร้านนั้น
ตอนเช้าตรู่
แกฉีกยิม้ เหีย้ มเกรียมให้ผม ผมยิม้ ตอบกลับไป มองดวงตาทีเ่ คยวาวใสเหมือน
ตาเด็ก แต่ขณะนี้เปี่ยมความหมองหม่น ขุ่นมัว
ขาสองข้างของแกก้าวเดินได้เพียงครัง้ ละหนึง่ ในสีข่ องหนึง่ ก้าวการเดินปกติ
เท้ายกจากพืน้ แทบไม่ขนึ้ ในแต่ละย่างก้าว นายเอีย๋ วผอมลงจากทีผ่ มเห็นครัง้ สุดท้าย
ประมาณสามเท่า ถุงหูหวิ้ บรรจุถงุ ใส่โจ๊กร้อนๆ เกีย่ วห้อยกับมือข้างซ้ายทีก่ มุ ก�ำท่อน
ไม้ไผ่รวกท่อนยาวซึ่งถูกใช้เป็นไม้เท้า
นายเอีย๋ วหาได้สวมหมวกคาวบอยสีนำ�้ ตาลใบเดิม แต่ศรี ษะของแกถูกครอบ
ด้วยหมวกกันน็อคเก่าโทรมสีเขียวซึ่งเต็มด้วยรอยขีดข่วนและถอดหน้ากากกันลม
ออกไป แกสวมเสื้อยืดที่เคยมีสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีขี้ม้าเก่าๆ มีกลิ่นปัสสาวะ
อบอวล
มือซ้ายหิว้ ถุงโจ๊กและก�ำไม้รวกท่อนยาวทีใ่ ช้เป็นไม้เท้า นายเอีย๋ วค่อยๆ หมุนกาย
หันหลังให้ผม ยกเท้าย�ำ่ เดินอย่างล�ำบาก เดินจากผมไปอย่างเชือ่ งช้า และคล้ายยอม
จ�ำนนแล้วต่อบางสิ่ง
ผมมองหลังนายเอี๋ยวที่ค่อยๆ เคลื่อนห่างจากไป
ทันใดนั้นร่างนายเอี๋ยวหยุดชะงัก แกเอี้ยวศีรษะหันมายังผม มองมาด้วย
ดวงตาประสงค์ร้ายที่ผมคุ้นเคย พูดเสียงห้าวและดัง “กูหลอกมึงนะ ไอ้คนขาย
ข้าวมันไก่”
นายเอี๋ยวดึงหมวกกันน็อกเก่าโทรมออกจากศีรษะ เหวี่ยงมันทิ้งลงพื้น
จับหมวกคาวบอยสีนำ�้ ตาลใบเดิมขึ้นสวมครอบ เหวี่ยงไม้เท้าและถุงโจ๊กลงพื้นแตก
กระจายเปรอะเปื้อน แกแนบนิ้วชี้กับนิ้วกลางข้างซ้ายยัดเข้าปาก เป่าลมผ่านเป็น

272 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 272 21/3/2561 BE 10:00


เสียงหวีดแหลมราวเสียงนกหวีด
เสี ย งเครื่ อ งยนต์ ดึ ก ด� ำ บรรพ์ แ ผดดั ง มาจากที่ ไ กล ก่ อ นเผยตั ว ตนของ
มอเตอร์ไซค์บรรทุกถังไอศกรีมทรงสีเ่ หลีย่ มทีร่ บี แล่นมาถึงพร้อมเสียงกังวานใสของ
ระฆังใบจิ๋ว มันแล่นฉิวมาจอดนิ่งให้นายเอี๋ยวจับแฮนด์รถ กระโดดขึ้นคร่อมลงบน
อาน กดแตรรถแผดเสียงแสบแก้วหู บังคับให้มันยกล้อหน้าท�ำมุมสี่สิบห้าองศาจาก
ล้อหลังขึ้นไปกลางอากาศ
นายเอี๋ยวยักคิ้วหลิ่วตาใส่ผม ควักปืนลูกโม่ออกจากเอว ยกเล็งมาที่ใบหน้า
ของผม แล้วลั่นไกยิง
ปัง ปัง ปัง...
กระสุนที่นุ่มเย็นปะทะใบหน้าและเปลือกตาที่หุบปิดโดยสัญชาตญาณ
มันละลายไหลย้อยเข้าปากให้ผมสัมผัสรสหวานมันอันเย็นเฉียบ
คาวบอยบนอานมอเตอร์ไซค์แสยะยิ้ม ยกปากกระบอกปืนเงยขึ้นแนบ
ริมฝีปาก เป่าควันเย็นสีขาวกระจายฟุง้ สะบัดปืนหมุนควงในมือ ก่อนเสียบมันกลับ
ลงสู่ปลอกข้างเอว แล้วหันหัวรถ บิดคันเร่ง แล่นจากผมไปอย่างรวดเร็ว.

อนันต์ เกษตรสินสมบัติ
เกิดวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ ใน
ห้ อ งแถวที่ ต� ำ บลไร่ ใ หม่ อ� ำ เภอสามร้ อ ยยอด
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จบการศึกษาชั้น ปวส.
แผนกพาณิชย์ศิลป์ วิทยาเขตเพาะช่าง ปัจจุบัน
ท�ำงานอิสระถ่ายภาพขาย เขียนหนังสือ มีผลงาน
หนั ง สื อ สองเล่ ม คื อ รวมบทกวี “ในจานที่ ไ ม่
เคยล้าง” และ รวมเรื่องสั้น “ชายผู้หันหลังให้
พระจันทร์เป็นคนที่เจ็ด” โดยเป็นผู้จัดพิมพ์และ
จ�ำหน่ายเอง และยังพยายามส่งผลงานวรรณกรรมสู่สนามประกวด ซึ่งได้
รางวัลบ้าง ตกรอบบ้างเป็นเรื่องปกติ

สถาบันพระปกเกล้า 273

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 273 21/3/2561 BE 10:00


คนพิการบนขบวนรถไฟ
สายชานเมือง
สุพิชฌาย์ ศรีประสิทธิ์

เ ป็นปกติวิสัยของเช้าวันจันทร์...ผู้โดยสารบนขบวนรถไฟชานเมืองสายนี้เบียด
เสียดเยียดยัดยิง่ กว่าวันไหนๆ ในสัปดาห์ คนท�ำงานในกรุงเทพฯ จ�ำนวนไม่นอ้ ย
เลือกอาศัยรถไฟเป็นพาหนะเดินทางระหว่างบ้านแถบชานเมืองกับออฟฟิศใจกลาง
เมืองหลวง รถไฟสายนี้เป็นสายสั้นๆ รับส่งระหว่างกรุงเทพฯ กับจังหวัดรอบนอก
ใช้เวลาอย่างมากแค่ราวชั่วโมงเศษๆ ม้าเหล็กบุโรทั่งก็แล่นกึงกังจากสถานีต้นทาง
ถึงสถานีปลายทางแล้ว
ผมเป็นอีกคนหนึง่ ทีเ่ ดินทางไปท�ำงานและกลับบ้านด้วยรถไฟในทุกรุง่ เช้า
และเย็นย�ำ่ แม้รถไฟไทยสายชานเมืองเป็นขบวนรถชัน้ สามเก่าคร�ำ่ คร่าท�ำความเร็ว
ได้อืดเอื่อยเฉื่อยช้าราวหนอนยักษ์จากโลกดึกด�ำบรรพ์ ทว่าหากเทียบกับการเดิน
ทางโดยรถยนต์ซงึ่ ต้องเผชิญภาวะอัมพาตทางการจราจรอย่างบัดซบแล้ว รถไฟก็ถอื
เป็นตัวเลือกชั้นดีส�ำหรับผมและเพื่อนร่วมขบวนอีกนับจ�ำนวนไม่ถ้วน อีกอย่าง
ค่าโดยสารรถไฟยังเป็นศูนย์สบื เนือ่ งจากนโยบายรถไฟฟรีของรัฐบาลชุดเก่าลากยาว
ต่อเนื่องมาหลายปี

274 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 274 21/3/2561 BE 10:00


สถาบันพระปกเกล้า 275

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 275 21/3/2561 BE 10:00


วันนีผ้ มมาถึงสถานีลา่ ช้ากว่าปกติเล็กน้อย ก้าวขึน้ ขบวนรถไฟทีจ่ อดรอนิง่
อยูก่ พ็ บว่ามีผโู้ ดยสารเบียดเต็มแทบทุกตารางนิว้ แล้ว ทีน่ งั่ ว่างเป็นไม่ตอ้ งพูดถึง ผม
พยายามเดินแทรกเข้าไปช่วงกลางตูโ้ ดยสารด้วยไม่อยากยืนเกะกะกีดขวางผูโ้ ดยสาร
ที่จะขึ้นมาเพิ่มในสถานีต่อๆ ไป ในที่สุดผมมาหยุดยืนอยู่ใกล้พัดลมเพดานตัวหนึ่ง
ซึ่งหมุนวนอยู่ช้าๆ พร้อมส่งเสียงครางราวคนป่วยใกล้สิ้นใจ มือข้างหนึ่งยึดจับราว
โหนประคองร่างไม่ให้ซวนเซเมื่อรถไฟเริ่มเคลื่อนขบวนอีกครั้ง
ม้านัง่ สีท่ ใี่ กล้ตำ� แหน่งทีผ่ มยืนอยูถ่ กู จับจองโดยผูโ้ ดยสารสีค่ น คนหนึง่ เป็น
หญิงสาววัยราวๆ สามสิบ เด็กนักเรียนอายุไม่เกินสิบขวบนั่งฟากตรงข้ามน่าจะเป็น
ลูกชายของเธอ ผูโ้ ดยสารทีน่ งั่ ติดกับหญิงสาวเป็นหนุม่ ใหญ่ในชุดท�ำงานรีดเรียบกริบ
ส่วนคนนัง่ ติดกับเด็กชายเป็นเด็กหนุม่ หน้าตาดีในชุดนักศึกษาของมหาวิทยาลัยมีชอื่
เสียงแห่งหนึ่ง หนุ่มนักศึกษาผู้นี้กำ� ลังก้มหน้าก้มตาเล่นสมาร์ตโฟนราคาแพงในมือ
ผมไม่ได้มีเจตนาเสียมารยาทลอบมอง แต่ก็พอเห็นว่าเขาก�ำลังไล่ดูเรื่องราวความ
เคลื่อนไหวในโลกโซเชียลมีเดียตรงหน้า
เสียงจากทางสถานีประกาศแจ้งว่า ได้เวลาขบวนรถไฟสายชานเมืองเคลือ่ น
ตัวออกจากชานชาลาแล้ว ได้ยินเสียงตีระฆังดังกังวานตามมา แล้วหัวรถจักรก็
ออกแรงกระชากฉุดตู้โดยสารอีกสี่ห้าตู้ให้เคลื่อนขยับออกจากสถานี
ยังมีผโู้ ดยสารบางคนเพิง่ ก้าวขึน้ มาบนขบวนรถไฟก่อนรถเคลือ่ นออกจาก
สถานีเล็กน้อย หญิงชราท่าทางเหมือนคนบ้านนอกคอกนาน่าจะเป็นหนึง่ ในนัน้ ผม
เห็นแกเดินเบียดแทรกเข้ามาใกล้พลางชะเง้อชะแง้มองซ้ายแลขวา แกคงก�ำลังมอง
หาที่นั่งว่างหรือคนใจดีสักคนซึ่งพอสละที่นั่งให้คนแก่เฒ่าเรี่ยวแรงโรยราได้บ้าง
หญิงชราเดินเบียดแทรกมาถึงจุดที่ผมยืนอยู่ แกเงยหน้ายิ้มให้เล็กน้อย
ท�ำท่าจะขยับเท้าแทรกร่างต่อไปข้างหน้า ผมมองผูช้ ายสองคนทีน่ งั่ อยูเ่ บือ้ งหน้า เด็ก
หนุ่มนักศึกษาไม่แสดงปฏิกิริยาอาการอันใด ยังคงสนใจแต่สมาร์ตโฟนในมือตัวเอง
เป็นหนุ่มใหญ่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงสแล็กสีด�ำต่างหากที่ลุกขึ้นพร้อมกับสะกิด
เรียกหญิงชรา
“ยายมานั่งตรงนี้ก็ได้ครับ” เขาเอ่ยยิ้มๆ

276 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 276 21/3/2561 BE 10:00


หญิงชราหันกลับมาส่งยิ้มให้ เอ่ยปากให้ศีลให้พรชายคนนั้นแล้วทรุดตัว
นัง่ ลงตรงทีว่ า่ ง หนุม่ ใหญ่อายุนอ้ ยกว่าผมยืนเบียดอยูข่ า้ งๆ ผมพยายามห่อไหล่เบีย่ ง
ตัวเพื่อให้เราไม่เบียดดันกันจนอึดอัดเกินไป
เดาใจหนุม่ ใหญ่ผนู้ ไี้ ม่ออกว่าแท้จริงแล้วเขาเต็มใจเสียสละทีน่ งั่ ให้หญิงชรา
หรือไม่ เขาอาจลุกจากที่นั่งเพราะไม่อยากถูกสังคมบนขบวนรถไฟเล็กๆ ประณาม
ด้วยสายตาว่าแล้งไร้น�้ำใจ หรืออาจท�ำไปด้วยความเต็มอกเต็มใจก็เป็นได้ อย่างไร
ก็ตามนั่นไม่ใช่ประเด็นต้องตั้งค�ำถาม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใด ชายผู้นี้ได้ท�ำหน้าที่
อันพึงควรแล้ว เขายังไม่แก่เฒ่า มีพละก�ำลังมากกว่า จึงควรเสียสละความสบายของ
ตัวเองให้หญิงชราคนหนึ่งได้ผ่อนพักนั่งลง หากต้องยืนขาแข็งนานนับชั่วโมงบน
ขบวนรถไฟแน่นขนัด หญิงชราผูน้ า่ สงสารคงปวดแข้งตึงขาทุกข์ทรมานเกินบรรยาย
ผมยิ้มกับตัวเองเงียบๆ ...อย่างน้อยน�้ำใจก็ยังพอหาได้ในสังคมชั่วคราว
เล็กๆ บนรถไฟขบวนนี้
จริงอยู่ว่ารถไฟชั้นสามเป็นเหมือนสมบัติของส่วนรวม ทุกคนมีสิทธิเท่า
เทียมกันบนขบวนรถนี้ ใครมาถึงก่อนก็ย่อมได้เลือกที่นั่งก่อนตามใจชอบ อีกทั้งไม่
ว่าใครก็อยากได้ที่นั่งด้วยกันทั้งนั้น แต่เราจ�ำต้องยอมรับว่าปริมาณคนโดยสารกับ
ปริมาณเก้าอีท้ นี่ งั่ ไม่เคยสอดคล้องสมดุลกัน แทบไม่มรี ถไฟชัน้ สามขบวนไหนมีทนี่ งั่
เพียงพอส�ำหรับผู้โดยสารทุกคน ไม่คนใดก็คนหนึ่งจ�ำเป็นต้องยืนห้อยโหนเพราะไม่
เหลือที่นั่งว่างให้หย่อนก้นลงนั่ง เมื่อเป็นเช่นนี้ผมจึงมองว่าเราควรหยิบยื่นน�้ำใจให้
แก่กนั ใครยังหนุม่ ยังสาวก็ควรเสียสละทีน่ งั่ ของตัวเองให้คนแก่หรือเด็กซึง่ มีเรีย่ วแรง
ก�ำลังน้อยกว่า
ผมเองไม่ใช่คนจิตใจดีงามสูงส่งอะไรนักหนา แต่ผมก็เสียสละที่นั่งให้คน
ชราหรือเด็กเล็กเสมอ ผมพอยืนไหว อดทนได้ บางครัง้ บางคราวความอิม่ สุขทีไ่ ด้รบั
จากการเสียสละที่นั่งให้คนอื่น ก็มีค่ามากกว่าความสบายทางร่างกายเล็กๆ น้อยๆ
ของตัวเอง
ครั้ ง คราวใดโดยสารรถไฟแล้ ว พบเจอใครบางคนวางข้ า วของเกะกะ
กีดขวางบนม้านั่งจนคนอื่นนั่งไม่ได้ ผมอดนึกรังเกียจเดียดฉันท์คนประเภทนี้ไม่ได้

สถาบันพระปกเกล้า 277

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 277 21/3/2561 BE 10:00


บางคนไม่สนใจเลยว่าคนอื่นต้องทนยืนเมื่อยล้าสักแค่ไหน ขอแค่ตัวเองสบายเป็น
พอ สัมภาระมีเท่าไหร่แทนทีจ่ ะยกวางไว้บนหิง้ ชัน้ เหนือหัวกลับวางกองสุมไว้ทเี่ ก้าอี้
ข้างตัวแทน หรือบางคนก็นงั่ กินทีล่ ามข้ามไปยังทีน่ งั่ ซึง่ ควรเป็นของผูโ้ ดยสารคนอืน่
หรือเหยียดแข้งเหยียดขายื่นยาวเกะกะไปไกล ท�ำราวกับว่าตัวเองจ่ายเงินเหมา
จับจองเป็นเจ้าของม้านั่งรอบตัว คนอื่นจึงไม่มีสิทธิ์ก้าวเข้าไปนั่ง
เด็กหนุ่มนักศึกษาผู้จ่อมจมอยู่กับการเล่นสมาร์ตโฟนอาจไม่ถึงขั้นท�ำตัว
น่ารังเกียจอย่างชัดแจ้ง ทว่าเขาก็เข้าข่ายคนแล้งน�ำ้ ใจคนหนึง่ ในความคิดของผม ผม
ไม่เชือ่ ว่าเขาจะไม่สงั เกตเห็นหญิงชราแทรกร่างงองุม้ เฉียดผ่านมา เพียงแต่เขาแสร้ง
ท�ำเป็นไม่เห็น ไม่สนใจ ก้มหน้าเล่นสมาร์ตโฟนต่อไป ใครจะมองอย่างไรก็ช่าง
ในที่สุดหนุ่มใหญ่จึงเป็นฝ่ายเสียสละที่นั่งให้หญิงชราแทน ทั้งที่หากชั่งวัดกันด้วย
วันวัยแล้ว เด็กหนุ่มควรเป็นฝ่ายยอมเสียสละความสบายของตัวเองมากกว่า เขา
อายุยังน้อย ยังหนุ่มยังแน่น แข้งขาไม่อ่อนล้าง่ายๆ ที่ส�ำคัญเขาอยู่ในวัยอุดมศึกษา
ก�ำลังจะกลายเป็นอนาคตของชาติ ควรรู้จักคุณธรรมพื้นฐานที่ชื่อว่าเสียสละ
ไม่ว่าเขาจะเรียนสาขาอะไร เรียนเก่งสักแค่ไหน จบออกไปท�ำงานอะไร
หากขาดไร้ซึ่งน�้ำจิตน�ำ้ ใจเสียแล้ว ผมไม่เชื่อว่าประเทศชาติจะได้อะไรจากเด็กหนุ่ม
ผู้นี้มากมายนัก
หากมองว่าสถานการณ์ตอนหญิงชราเดินเบียดแทรกร่างผ่านมาเมื่อครู่
น่าอึดอัดแล้ว สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอีกราวสิบห้านาทีต่อมายิ่งชวนอึดอัดอึมครึม
เข้าไปใหญ่ในความรูส้ กึ ของผม ขบวนรถไฟจอดรับผูโ้ ดยสารสถานีหนึง่ ผมเห็นมีคน
ก้าวขึ้นมาไม่กี่คน หนึ่งในนั้นเป็นชายพิการขาข้างหนึ่งกุดด้วนเหนือเข่า เขาใช้ไม้คำ�้
ยันพาร่างแทรกลึกเข้ามาตอนในของตู้โดยสาร คงมีเจตนาหาที่นั่งว่างเช่นเดียวกับ
หญิงชราก่อนหน้านี้ หากแต่ยังไม่เห็นมีใครลุกเสียสละที่นั่งให้เขาแม้แต่คนเดียว
ชายพิการก้าวกะโผลกกะเผลกมาหยุดอยูใ่ กล้ผม ชะเง้อคอมองไปทางตอน
หน้าของขบวนรถ ไม่เห็นวี่แววว่าจะมีที่นั่งว่างหรือมีใครลุกให้นั่ง ผมมองดูเขา เขา
ยิ้มเจื่อนๆ ตอบกลับมา มือข้างหนึ่งก�ำกระชับไม้ค�้ำยัน อีกข้างเอื้อมขึ้นจับราวโหน
ประคองร่างไม่ให้เสียหลักล้ม

278 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 278 21/3/2561 BE 10:00


ชายพิการหยุดยืนอยูข่ า้ งๆ เด็กหนุม่ นักศึกษาพอดิบพอดี เก้าอีน้ งั่ ตรงหน้า
ชายพิการไม่มีใครสมควรลุกจากที่นั่งมากไปกว่าหนุ่มนักศึกษาอีกแล้ว นั่นเพราะ
อีกสามคนคือผู้หญิง เด็ก และคนชรา ทว่าเด็กหนุม่ ยังคงท�ำเหมือนไม่มอี ะไรเกิดขึน้
ผมเห็นเขาเปิดแอปพลิเคชันสนทนาบางตัวแล้วจิม้ นิว้ รัวเร็วพิมพ์ขอ้ ความโต้ตอบกับ
ใครบางคน บางขณะเขาถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆ ด้วยซ�ำ้ ชายขาด้วนไม่ได้พดู อะไร
ไม่ใครพูดอะไร ผมเองได้แต่จับจ้องมองดูว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะนั่งเล่นสมาร์ตโฟนไม่รู้
ร้อนรู้หนาวต่อไปได้อีกนานแค่ไหน
หรือมีเพียงผมทีร่ สู้ กึ อึดอัดกับสถานการณ์เช่นนี้ ส่วนเขาไม่รสู้ กึ รูส้ าอะไรเลย
อาจเพราะผมมองโลกด้วยสายตาของคนรุน่ เก่าเกินไปก็เป็นได้ แต่มนั เป็น
ความจริงที่ว่าเด็กรุ่นใหม่สมัยนี้ขาดจิตส�ำนึกร่วมทางสังคม เด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่สน
อกสนใจแต่เรือ่ งของตัวเอง หรือไม่กเ็ อาแต่ทำ� เรือ่ งไร้สาระไปวันๆ ไม่นำ� พาแต่อย่าง
ใดว่าเกิดอะไรขึน้ กับประเทศชาติหรือสังคมส่วนรวมบ้าง บ้านเมืองจะพินาศย่อยยับ
หรือเดินหน้าไปผิดทิศผิดทางอย่างไรไม่จ�ำเป็นต้องส�ำเหนียกสนใจ เด็กสาวพากัน
ถ่ายรูปตัวเองเปิดเปลือยเนื้อหนังโพสต์โชว์ในโลกสังคมเสมือนอันเปล่ากลวง
เด็กหนุม่ โพสต์อวดโอ่รถหรูคนั ใหม่หรือข้าวของเครือ่ งใช้ราคาแพงระยับ ทีน่ า่ สมเพช
กว่านั้นคือเด็กรุ่นใหม่มากมายก่ายกองพากันมองว่าพวกเดนคุกเดนตะรางสักยันต์
ลายพร้อยเต็มร่างคือแบบอย่างที่ควรเอาเยี่ยง
คนหนุ่มคนสาวสมัยนี้ไม่มีวันนึกภาพออกหรอกว่า นักศึกษายุคก่อนเคย
ต่อสู้เอาชีวิตเข้าแลกมาอย่างไรบ้างเพื่อหวังให้สังคมประชาธิปไตยเดินหน้าไปใน
ทิศทางทีถ่ กู ต้องเหมาะควร หนุม่ สาวแห่งยุคโซเชียลมีเดียเบ่งบานไม่เคยได้ยนิ เสียง
ปืนกึกก้องกับเสียงกู่ตะโกนระคนเสียงแผดร้องอย่างเจ็บปวด ไม่เคยได้กลิ่นฉุนขื่น
ของดินปืนและกลิ่นคาวคลุ้งจากธารเลือดแดงข้นอาบทาท้องถนน...
...ผ่านไปราวห้านาทีเห็นจะได้ จังหวะหนึง่ ขบวนรถไฟโยกกระชากรุนแรง
ขณะแล่นเข้าช่วงทางโค้ง มือของชายขาด้วนพลัดหลุดจากราวจับ เขาเสียหลักเซ
ถลาท�ำท่าจะล้มคะม�ำไปกับพื้นตู้โดยสารรถไฟ ผมกับผู้โดยสารอีกสองสามคนรอบ
ตัวช่วยกันจับประคองร่างของเขาไว้ได้ทันพอดี เขาหน้าซีด หัวเราะเจื่อนๆ พยุง

สถาบันพระปกเกล้า 279

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 279 21/3/2561 BE 10:00


ร่างขึ้นตั้งตรงได้อีกครั้ง มือข้างหนึ่งยึดราวเกาะแน่นขึ้น ส่วนอีกข้างจับมั่นอยู่กับ
ไม้ค�้ำยัน
เด็กหนุ่มในชุดนักศึกษายังคงพิมพ์ข้อความโต้ตอบในสมาร์ตโฟนราวกับ
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เป็นตอนนัน้ เองทีผ่ มทนนิง่ เฉยอยูต่ อ่ ไปไม่ไหว หลุดค�ำพูดโพล่งพรวดออก
ไปเสียงดัง
“คุณครับ คุณเห็นไหมครับว่ามีคนพิการยืนอยู่ตรงนี้?”
หนุม่ นักศึกษาเงยหน้ามองผม แสยะยิม้ พลางท�ำหน้าตายียวนกวนประสาท
“ลุงพูดกับผมหรือ?”
“ใช่ ผมพูดกับคุณนั่นแหละ ผมถามคุณว่าเห็นไหมมีคนพิการยืนอยู่นี่”
“อ้อ...เห็นครับ”
“แล้วไม่คิดจะลุกให้คนพิการนั่งหน่อยหรือครับ?” ผมถามตรงๆ อย่าง
ไม่เกรงอกเกรงใจ
“บนรถไฟมีที่นั่งส�ำรองส�ำหรับคนพิการครับ อยู่ทางท้ายขบวนโน่น”
เด็กหนุ่มโต้ตอบด้วยน�ำ้ เสียงอวดดี มองหน้าผมราวกับเป็นคนโง่งมเต็มประดา
ผู ้ โ ดยสารแถวนั้นเริ่มหันมาสนใจเหตุการณ์เล็กๆ ที่แ ผ่ระลอกความ
เคลือ่ นไหวไปโดยรอบ หญิงชรานัง่ ตรงข้ามเด็กหนุม่ ได้แต่ยมิ้ แห้งๆ หญิงสาวแม่ของ
เด็กชายเสมองออกไปนอกหน้าต่างรถไฟ ขณะที่เด็กชายจ้องมองผมกับเด็กหนุ่ม
สลับกันไปมาตามประสาวัยอยากรู้อยากเห็น
ชายขาด้วนพยายามบอกผมว่าไม่เป็นไร เขายืนโหนรถไฟได้ไม่ล�ำบาก
ล�ำบนอะไรนักหนา แต่อารมณ์ของผมพุ่งโพลงจนหยุดได้ยากแล้ว
“คุณคิดว่าคนขาด้วนแบบนี้มันเดินไปท้ายขบวนรถไฟได้ง่ายนักหรือครับ
แถมรถก็แน่นขนาดนี้ คุณใช้สมองส่วนไหนคิดครับว่าให้เขาเดินไปหาที่นั่งคนพิการ
เอาเอง”
“ก็แล้วท�ำไมตอนแรกไม่ขึ้นที่ท้ายขบวนล่ะครับ?” เด็กหนุ่มโต้แย้งมาอีก
“แล้วทุกคนจะรู้เหมือนคุณไหมครับว่าท้ายขบวนมีที่นั่งส�ำหรับคนพิการ

280 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 280 21/3/2561 BE 10:00


บางคนก็ไม่ได้ขึ้นรถไฟบ่อยๆ อีกอย่างถ้ารถไฟจอดไม่ตรงพอดี คนขาด้วนจะวิ่งไป
ขึ้นตู้ท้ายไหวไหมครับ” ผมเถียงเต็มที่
“ทีจ่ ริงผมจะนัง่ ตรงนีห้ รือไม่นงั่ มันก็สทิ ธิข์ องผมนะ รถไฟชัน้ สามนีใ่ ครมา
ถึงก่อนก็ได้นั่งก่อน ผมไม่ได้ไปแย่งที่นั่งใครเสียหน่อย” นักศึกษาหนุ่มยังไม่ยอมแพ้
ง่ายๆ
“ผมเห็นด้วยครับว่ามันเป็นสิทธิข์ องคุณ แล้วก็ไม่ผดิ ทีค่ ณ ุ ปกป้องสิทธิข์ อง
คุณ แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราให้ความส�ำคัญกับเรื่องน�้ำใจมากกว่าสิทธิ์ของตัวเอง
คุณต้องรู้จักยอมเสียสละสิทธิ์เล็กๆ น้อยๆ ของคุณให้คนอื่นบ้าง สังคมมันจะได้
น่าอยู่ขึ้น คุณอยากรักษาสิทธิ์ของตัวเองแต่เป็นคนใจด�ำแล้งน�้ำใจ หรือจะเสียสละ
สิทธิข์ องตัวเองบ้างเพือ่ เป็นคนดีมนี ำ�้ ใจล่ะ?” ผมยิงค�ำถามซึง่ เขาไม่จำ� เป็นต้องตอบ
เด็กหนุ่มมองหน้าผมอย่างเอาเรื่อง ผมไม่นึกกริ่งเกรงแม้แต่น้อย แม้อายุ
อานามของผมกับเด็กหนุ่มผู้นี้ห่างกันหลายรอบ แต่หากต้องตะบันหมัดใส่หน้ากัน
ในนาทีนี้ผมก็พร้อมสู้
พริบตาเดียวสีหน้าของเด็กหนุ่มเริ่มจืดเจื่อนไป คงสังเกตเห็นแล้วว่า
ผูโ้ ดยสารรถไฟรายรอบต่างหันมามองทีเ่ ขาเป็นตาเดียว เขาก�ำลังถูกสังคมขนาดย่อม
ภายในตู้รถไฟพิพากษาค่าที่ท�ำตัวไร้น�้ำใจอย่างน่ารังเกียจ ยิ่งเขาแสดงพฤติกรรม
ถ่อยเถื่อนมากขึ้นเท่าไหร่ เขาจะยิ่งอับอายมากขึ้นเท่านั้น
“ผมว่าคุณยอมเสียสละที่นั่งให้คนพิการน่าจะง่ายกว่าไหมครับ คิดเสียว่า
เขาเป็นญาติของคุณก็ได้ หากคุณมีญาติพนี่ อ้ งแข้งขาด้วน หรือแม้แต่ตวั คุณเองต้อง
โชคร้ายพิการเข้าสักวัน คุณก็คงอยากให้คนบนรถไฟเสียสละทีน่ งั่ ให้ตวั คุณหรือญาติ
พี่น้องของคุณไม่ใช่หรือครับ” ผมแดกดันเขาเสียงดัง
“แล้วท�ำไมต้องเป็นผม คนอื่นไม่เห็นลุกล่ะ?” เขายังไม่ยอมจ�ำนน
“น้องชายคนนีเ้ พิง่ ลุกให้ยายนัง่ คุณก็นา่ จะเห็น” ผมพยักพเยิดไปทางหนุม่
ใหญ่ยืนอยู่ข้างๆ ฝ่ายนั้นยิ้มตอบเล็กน้อย “แล้วตอนนี้คนพิการก็มายืนอยู่ตรงหน้า
คุณ ไม่ใช่ตรงหน้าคนอื่น หรือคุณคิดว่าต้องเป็นเด็กนักเรียนประถมข้างๆ คุณล่ะที่

สถาบันพระปกเกล้า 281

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 281 21/3/2561 BE 10:00


ควรเสียสละที่นั่งให้คนพิการ”
เด็กหนุ่มยักไหล่ “โอเคครับ งั้นเชิญคนขาด้วนนั่งให้สบาย คนแส่เรื่อง
ชาวบ้านจะได้สบายใจ”
เขาพูดประชดประชันแล้วถลันลุกขึ้นยืน เก็บสมาร์ตโฟนราคาแพงใส่
กระเป๋ากางเกงนักศึกษาขายาว เตรียมท�ำท่าจะผละจากตรงนั้นไป ผมไม่คิดว่า
ตอนนีใ้ กล้ถงึ สถานีปลายทางของเขาแล้ว เด็กหนุม่ คงทนสายตาจับจ้องของผูโ้ ดยสาร
แถวนี้ไม่ไหว จึงคิดเดินเลี่ยงหนีไปยังตู้โดยสารอื่น
ทว่าก่อนจะผละเดินหนีไป เด็กหนุ่มนักศึกษาแล้งน�้ำใจผู้นี้ได้แสดงความ
ถ่อยต�่ำซึ่งเขาคงเชื่อว่าจะไม่มีใครสังเกตเห็น เขาใช้ส้นรองเท้านักศึกษากระทืบลง
มาที่ปลายเท้าของผมเต็มแรง แล้วจึงใช้ไหล่เบียดดันหลีกผ่านร่างผมไปอย่าง
รวดเร็ว...
ห้วงเหตุการณ์บนขบวนรถไฟสายชานเมืองคืนกลับสู่สภาวะปกติอีกครั้ง
จุดศูนย์กลางของความขัดแย้งหายไปจากตู้โดยสารรถไฟตู้นี้แล้ว ชายขาด้วนทรุด
นั่งลงอย่างประดักประเดิด เขาเอ่ยขอบอกขอบใจผมเป็นการใหญ่ ผมได้แต่ยิ้มให้
บอกว่าไม่เป็นไร ในขณะเดียวกันผมก็พยายามข่มอารมณ์โกรธซึ่งยังคงระอุกรุ่นอยู่
ภายใน
ผมท�ำหน้าที่ทวงถามจิตส�ำนึกดีงามเล็กๆ ในสังคมกลับคืนมา ชายพิการมี
ที่นั่งแล้ว คนไร้น�้ำใจก็จากไปพร้อมความอับอายขายหน้า ผมไม่ควรต้องเก็บอะไร
มาครุ่นคิดให้หงุดหงิดขัดเคืองใจอีก
คิดให้ดแี ล้วเด็กหนุม่ หน้าตาดีคนนัน้ น่าสงสารกว่าใคร นึกไม่ออกว่าเขาถูก
เลี้ยงดูมาอย่างไร เติบโตมาในครอบครัวชนิดไหน อยู่ในสิ่งแวดล้อมประเภทใด เขา
จึงมีพฤติกรรมที่สังคมรังเกียจและไม่เป็นที่ต้องการของใครเช่นนี้
คนน่าสมเพชเวทนาที่สุดไม่ใช่คนร่างกายพิการเลย...
แล้วนึกไปนึกมาก็นา่ ขันข�ำยิง่ นัก ก่อนเดินจากไปเด็กหนุม่ ใช้สน้ เท้ากระทืบ
ใส่ปลายเท้าของผมโดยแรง คงหวังให้ผมเจ็บปวดสะดุ้งพรวดหรือแหกปากร้อง
โอดโอยออกมา เขาคงไม่คาดคิดหรอกว่าผมจะไม่รู้สึกรู้สาใดๆ กับการกระท�ำของ

282 วรรณกรรมเรื่องสั้น “พลเมืองก�ำลังไทย”

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 282 21/3/2561 BE 10:00


เขาแม้จนนิดเดียว
ถัดต�ำ่ จากข้อต่อหัวเข่าทัง้ สองข้างของผมลงไปคือท่อนขาเทียมหล่อขึน้ ด้วย
อะลูมิเนียมแข็งและหนา...
แล้วบังเอิญอะลูมิเนียมเย็นชืดเชื่อมชิดอยู่กับเนื้อขาใต้เข่ามันก็เจ็บก็
ปวดไม่เป็นเสียด้วยสิ!

สุพิชฌาย์ ศรีประสิทธิ์
เริ่มเขียนงานวรรณกรรม
อย่างจริงจังตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๓
สมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย เคยมี
เรื่องสั้นผ่านการตีพิมพ์ตามหน้า
นิตยสาร หนังสือพิมพ์ และหนังสือ
อื่นๆ นับร้อยๆ เรื่อง เคยมีผลงาน
วรรณกรรมตีพิมพ์เป็นเล่มออกไป
แล้วมากกว่า ๑๐ เล่ม และเคยได้
รับรางวัลทางวรรณกรรมมาแล้ว
กว่า๒๐ รางวัลปัจจุบันใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาและลูกสาวที่บ้านเกิดจังหวัด
ฉะเชิงเทรา หาเลี้ยงชีพด้วยการเขียนหนังสือและยังคงสร้างสรรค์งาน
วรรณกรรมด้วยใจรักอยู่เช่นเดิม

สถาบันพระปกเกล้า 283

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 283 21/3/2561 BE 10:00


บันทึก
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 284 21/3/2561 BE 10:00


................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 285 21/3/2561 BE 10:00


................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 286 21/3/2561 BE 10:00


................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 287 21/3/2561 BE 10:00


วรรณกรรมสร้างสรรค์
สถาบันพระปกเกล้า

01-288 Power of Thai People_Edit.indd 288 21/3/2561 BE 10:00


Cover Power of Thai People_Edit.indd 1 21/3/2561 BE 14:43

You might also like