Professional Documents
Culture Documents
ติว 41214 กม.แพ่ง-อัตนัย
ติว 41214 กม.แพ่ง-อัตนัย
ว่าด้วยบุคคล นิติกรรม
และหนี้ (แนว-อัตนัย)
CIVIL LAW : Persons, Juristic Acts And
Obligations
ตัวอย่างและการวิเคราะห์คาถาม : การเขียนคาตอบ
• “เขียนจากเหตุไปหาผล” หมายถึง การยกหลักกฎหมายหรือตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องขึ้นก่อน แล้วจึงนา
ข้อกฎหมายนั้นมาปรับกับข้อเท็จจริง เพื่อวินิจฉัยประเด็นปัญหาตามคาถามและสรุปเป็นธงคาตอบในที่สุด
• (1) การยกหลั ก กฎหมาย ยกหลั ก กฎหมายที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ ประเด็ น ต่ า ง ๆ ไม่ จ าเป็ น ต้ อ งใส่ เ ลขมาตรา
ก. กรณีตามปัญหาประมวลกฎหมาย..................................เรื่อง........................วางหลักไว้ว่า............................
ป.พ.พ. มาตรา 15 วางหลักไว้ว่า..........................................................
ข. กรณีตามปัญหาประมวลกฎหมาย.................................. สภาพบุคคลย่อมเริ่มแต่เมื่อคลอด...
• (2) การวินิจฉัยปัญหา นาหลักกฎหมายที่ยกมาไปปรับใช้กับข้อเท็จจริงหรือการปรับข้อเท็จจริงตามประเด็น
คาถามเข้ากับหลักกฎหมายเพื่อวินิจฉัยนั่นเอง
• (3) ธงคาตอบ หมายถึงการสรุปคาตอบตามประเด็นต่าง ๆ ในคาถามซึ่งต้องตอบให้ตรงประเด็นและครบทุก
ประเด็น
กฎหมายแพ่งฯ 41214 : (แนวข้อสอบ 2565 )
คาถาม :
นายแดงมีบุตรสองคน นายดาเป็นบุตรคนแรกของนายแดงและเป็นบุตรที่ช่วยเหลือกิจการที่นายแดง
มอบหมายด้วยดีมาโดยตลอด วันหนึ่งนายแดงคิดอยากจะให้สร้อยคอทองคาน้าหนัก 5 บาท แก่นายดาเพื่อ
เป็นรางวัลที่นายดาช่วยเหลืองานของตน นายแดงจึงยกสร้อยคอทองคาน้าหนัก 5 บาทให้แก่นายดา แต่ด้วย
เกรงว่านายขาว บุตรอีกคนหนึ่งจะรู้ว่าตนยกสร้อยคอทองคาน้าหนัก 5 บาท ให้แก่นายดาเพียงคนเดียว และ
อาจน้อยใจ นายแดงจึงสมคบกับนายดาและได้ทาสัญญาซื้อขายสร้อยคอทองคาน้าหนัก 5 บาท กับนายดาขึ้น
อีกฉบับ
เช่นนี้ ให้ท่านวินิจฉัยว่า นิติกรรมระหว่างนายแดงและนายดาดังกล่าวมีผลทางกฎหมายอย่างใร จง
อธิบาย
1. ยกสร้อยฯให้ (ต้องการผูกพันธ์)
นายแดง นายดา
2. ทาสัญญาซื้อ-ขาย
กฎหมายแพ่งฯ 41214 : (แนวข้อสอบ 2565 )
แนวคาตอบ :
หลักกฎหมาย
กรณีตามปัญหา ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (มาตรา 155) วางหลักไว้ว่า
“การแสดงเจตนาลวงโดยสมรู้กับคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งเป็นโมฆะ แต่จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอก
ผู้กระทาการโดยสุจริต และต้องเสียหายจากการแสดงเจตนาลวงนั้นมิได้
ถ้าการแสดงเจตนาลวงตามวรรคหนึ่งทาขึ้นเพื่ออาพรางนิติกรรมอื่น ให้นาบทบัญญัติของกฎหมายอัน
เกี่ยวกับนิติกรรมที่ถูกอาพรางมาใช้บังคับ ”
วินิจฉัย
ตามปัญหาการที่นายแดงจะยกสร้อยคอทองคาน้าหนัก 5 บาทให้แก่นายดาแต่ด้วยเกรงว่านายขาว
บุตรอีกคนหนึ่งจะรู้ว่าตนยกสร้อยคอทองคาน้าหนัก 5 บาท ให้แก่นายดาเพียงคนเดียวและอาจน้อยใจ นาย
แดงจึงได้สมคบกับนายดาและได้ทาสัญญาซื้อขายสร้อยคอทองคาน้าหนัก 5 บาท กับนายดาขึ้นอีกฉบับ
กฎหมายแพ่งฯ 41214 : (แนวข้อสอบ 2565 )
แนวคาตอบ :
วินิจฉัย
กรณีปัญหา มีการทานิติกรรมทั้งหมด 2 นิติกรรม
(1) นิติกรรมซื้อขาย และ
(2) นิติกรรมการให้
เช่นนี้ จะเห็นได้ว่านิติกรรมการซื้อขายนั้นเป็นนิติกรรมซึ่งนายแดงและนายดาสมคบกันเพื่อลวงบุคคลภายนอก
ให้เข้าใจผิด โดยนิติกรรมซื้อขายนั้นถือว่าเป็นนิติกรรมที่ปกปิกหรืออาพรางนิติกรรมการให้ ดังนั้น ตาม ป.พ.พ. มาตรา
155 วรรค 1 นั้น ผลของนิติกรรมดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะ สาหรับนิติกรรมการให้เป็นนิติกรรมที่ถูกปกปิดหรือถูกอา
พราง ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรค 2 ให้นากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนิติกรรมดังกล่าวมาใช้บังคับ
สรุป
ดังนั้น นิติกรรมระหว่างนายดากับนายแดง คือ (1) นิติกรรมซื้อขายมีผลเป็นโมฆะ ส่วน (2) นิติกรรมการให้ ให้
นากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนิติกรรมดังกล่าวมาใช้บังคับตามที่ได้วินิจฉัยดังกล่าวข้างต้น
กฎหมายแพ่งฯ 41214 : (แนวข้อสอบ 2565 )
คาถาม :
นายกุ้งเป็นหนี้เงินกู้นายกล้า จานวน 200,000 บาท ให้ระหว่างที่หนี้ยังไม่ถึงกาหนดชาระ นายกล้า
ทาหนังสือโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินกู้ดังกล่าวให้แก่นายไก่โดยนายกุ้งไม่ได้ยินยอมด้วยเป็นหนังสือ ต่อมา
นายไก่ส่งหนังสือบอกกล่าวการโอนหนี้นั้นให้แก่นายกุ้ง เมื่อนายกุ้งทราบข้อความในหนังสือแล้วได้ทาหนังสือ
แสดงเจตนาไม่ยินยอมด้วยกับการโอนหนี้นั้นไปยังนายไก่ทันที หลังจากนั้น นายกุ้งได้นาเงินไปชาระหนี้ให้แก่
นายกล้าจานวน 100,000 บาท แก่นายกล้า ได้รับไว้แล้ว ต่อมาหนี้เงินกู้นั้นถึงกาหนดชาระ นายไก่เรียกร้อง
ให้นายกุ้งชาระหนี้แก่ตนเป็นเงินจานวน 200,000 บาท แต่นายกุ้งปฏิเสธอ้างว่าการโอนหนี้นั้นมีผลไม่สมบูรณ์
และตนสามารถยกการชาระหนี้จานวน 100,000 บาท แก่นายกล้า ขึ้นต่อสู้นายไก่ได้อีกด้วย
ให้วินิจฉัยว่า การโอนหนี้นั้นมีผลสมบูรณ์หรือไม่ และนายกุ้งสามารถยกการชาระหนี้จานวน 100,000
บาท แก่นายกล้าขึ้นต่อสู้กับนายไก่ได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
กฎหมายแพ่งฯ 41214 : (แนวข้อสอบ 2565 )
แนวคาตอบ :
หลักกฎหมาย
กรณีตามปัญหา ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (มาตรา 306 วรรค 1) วางหลักไว้ว่า
“การโอนหนี้อันจะพึงต้องชาระแก่เจ้าหนี้คนหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจงนั้นถ้าไม่ทาเป็นหนังสือ ท่านว่าไม่สมบูรณ์ อนึ่งการ
โอนหนี้นั้นท่านว่าจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ลูกหนี้หรือบุคคลภายนอกได้แต่เมื่อได้บอกกล่าวการโอนไปยังลูกหนี้หรือลูกหนี้จะได้ยินยอม
ด้วยในการโอนนั้น คาบอกกล่าวหรือความยินยอมเช่นว่านี้ท่านว่าต้องทาเป็นหนังสือ...”
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (มาตรา 308 วรรค 2) วางหลักไว้ว่า
“ถ้าลูกหนี้ได้ให้ความยินยอมดังกล่าวมาในมาตรา ๓๐๖ โดยมิได้อิดเอื้อน ท่านว่าจะยกข้อต่อสู้ที่มีต่อผู้โอนขึ้นต่อสู้ผู้รับ
โอนนั้นหาได้ไม่ แต่ถ้าเพื่อจะระงับหนี้นั้นลูกหนี้ได้ใช้เงินให้แก่ผู้โอนไปไซร้ ลูกหนี้จะเรียกคืนเงินนั้นก็ได้ หรือถ้าเพื่อการเช่นกล่าวมา
นั้น ลูกหนี้ รับภาระเป็นหนี้อย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นใหม่ต่อผู้โอน จะถือเสมือนหนึ่งว่าหนี้นั้นมิได้ก่อขึ้นเลยก็ได้
ถ้าลูกหนี้เป็นแต่ได้รับคาบอกกล่าวการโอน ท่านว่าลูกหนี้มีข้อต่อสู้ผู้โอก่อนเวลาที่ได้รับคาบอกกล่าวนั้นฉันใด ก็จะยกขึ้น
เป็นข้อต่อสู้แก่ผู้รับโอนได้ฉันนั้น ถ้าลูกหนี้มีสิทธิเรียกร้องจากผู้โอน แต่สิทธินั้นยังไม่ถึงกาหนดในเวลาบอกกล่าวไซร้ ท่านว่าจ ะเอา
สิทธิเรียกร้องนั้นมาหักกลบลบกันก็ได้ หากว่าสิทธินั้นจะได้ถึงกาหนดไม่ช้ากว่าเวลาถึงกาหนดแห่งสิทธิเรียกร้องอันได้โอนไปนั้น
กฎหมายแพ่งฯ 41214 : (แนวข้อสอบ 2565 )
แนวคาตอบ :
วินิจฉัย
กรณีปัญหา นายกุ้งเป็นหนี้เงินกู้นายกล้าจานวน 200,000 บาท ซึ่งเป็นหนี้ที่ต้องชาระแก่เจ้าหนี้คนหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจง ใน
ระหว่างที่หนี้ยังไม่ถึงกาหนดชาระ นายกล้า ทาหนังสือโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินกู้ดังกล่าวให้แก่นายไก่ ดังนี้ การโอนหนี้ที่ต้องชาระแก่
เจ้าหนี้คนหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจงนั้น เมื่อนายกล้าได้โอนหนี้ให้แก่นายไก่โดยทาเป็นหนังสือแล้ว การโอนหนี้นั้นย่อมเป็นผลสมบูรณ์ ตาม
ป.พ.พ. มาตรา 306 วรรค 1 แม้ว่านายกุ้งลูกหนี้จะไม่ได้ยินยอมในการโอนหนี้นั้นด้วยก็ตาม
การที่นายไก่ส่งหนังสือบอกกล่าวการโอนหนี้นั้นให้แก่นายกุ้ง เมื่อนายกุ้งทราบข้อความในหนังสือนั้นแล้วย่อมยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้
นายกุ้งลูกหนี้ได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 306 วรรค 1 แม้ว่านายกุ้งจะมีหนังสือแสดงเจตนาไม่ยินยอมด้วยกับการโอนหนี้นั้นก็ตาม อย่างไรก็
ตาม ถ้าลูกหนี้เป็นแต่ได้รับคาบอกกล่าวการโอน ลูกหนี้มีข้อต่อสู้ผู้โอนก่อนเวลาที่ได้รับคาบอกกล่าวนั้นฉันใด ก็จะยกขึ้นเป็นข้อต่อ สู้แก่
ผู้รับโอนได้ฉันนั้น ตาม ป.พ.พ. มาตรา 308 วรรค 2 เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า นายกุ้งได้นาเงินไปชาระหนี้แก่นายกล้าจานวน 100,000
บาท ภายหลังจากที่ได้รับคาบอกกล่าวการโอนหนี้นั้นแล้ว ดังนี้ นายกุ้งย่อมไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้นายไก่ผู้รับโอนหนี้นั้นได้
สรุป
การโอนหนี้นั้นมีผลสมบูรณ์ และนายกุ้งไม่สามารถยกการชาระหนี้จานวน 100,000 บาทแก่นายกล้าขึ้นต่อสู้นายไก่ได้
กฎหมายแพ่งฯ 41214 : (แนวข้อสอบ 2564)
คาถาม :
นายมะม่วงต้องการจะซื้อพระเครื่องซึ่งมีลักษณะเป็นพระนางพญา องค์หนึ่งจากนายมะนาวในราคา
40,000 (สี่หมื่นบาทถ้วน) ก่อนทาการซื้อขายพระเครื่องซึ่งมีลักษณะเป็นพระนางพญาองค์ดังกล่าว นาย
มะม่วงได้ถามนายมะนาวว่า พระเครื่องซึ่งมีลักษณะ เป็นพระนางพญาองค์ดังกล่าวได้เคยผ่านการประกวด
จากงานประกวดพระเครื่องแห่งใดหรือไม่ นายมะนาว ได้ตอบนายมะม่วงไปว่าพระเครื่องซึ่งมีลักษณะ เป็น
พระนางพญาองค์ดังกล่าวได้รับรางวัลที่ 1 ในงานประกวดพระเครื่องแห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี ตามที่นาย
มะนาวได้กล่าวอ้างให้มะม่วงหลงเชื่อจึงทาการซื้อพระเครื่องซึ่งมีลักษณะเป็นพระนางพญาดังกล่าวจากนาย
มะนาว
เช่นนี้ ให้ท่านวินิจฉัยว่าสัญญาซื้อขายพระเครื่องซึ่งมีลักษณะเป็นพระนางพญาองค์ดังกล่าวระหว่าง
นายมะม่วงกับนายมะนาวมีผลเป็นเช่นไร อธิบาย
กฎหมายแพ่งฯ 41214 : (แนวข้อสอบ 2564 )
แนวคาตอบ :
หลักกฎหมาย
กรณีตามปัญหา ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (มาตรา 161วรรค 1) วางหลักไว้ว่า
“การถ้ากลฉ้อฉลเป็นแต่เพียงเหตุจูงใจให้คู่กรณีฝ่ายหนึ่งยอมรับข้อกาหนดอันหนักยิ่งกว่าที่คู่กรณีฝ่าย
นั้นจะยอมรับโดยปกติ คู่กรณีฝ่ายนั้นจะบอกล้างการนั้นหาได้ไม่ แต่ชอบที่จะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อ
ความเสียหายอันเกิดจากกลฉ้อฉลนั้นได้”
วินิจฉัย
ตามปัญหา การที่นายมะนาวได้ตอบนายมะม่วงไปว่าพระเครื่องซึ่งมีลักษณะเป็นพระนางพญาองค์ที่
นายมะม่วงประสงค์จะทาการซื้อขายดังกล่าวได้รับรางวัลที่ 1 ในงานประกวดพระเครื่องแห่งหนึ่งในจังหวัด
สุพรรณบุรี ทั้งที่พระเครื่ององค์ดังกล่าวเพียงได้รับรางวัลที่ 3 ในงานประกวดพระเครื่อง ที่จังหวัดสุพรรณบุรี
ตามที่นายมะม่วงได้กล่าวอ้าง จนทาให้นายมะม่วงหลงเชื่อเป็นกรณีที่นายมะนาวใช้กลฉ้อฉลเป็นเหตุจูงใจให้
นายมะม่วงยอมรับข้อกาหนด ข้อตกลงหรือเงื่อนไขที่หนักขึ้นยิ่งกว่าที่นายมะม่วงจะยอมรับโดยปกติ
กฎหมายแพ่งฯ 41214 : (แนวข้อสอบ 2564 )
แนวคาตอบ :
วินิจฉัย
ดังนั้น เมื่อมะม่วงหลงเชื่อและสัญญาซื้อขายพระเครื่องซึ่งมีลักษณะเป็นพระนางพญาองค์ดังกล่าวจึง
ไม่มีผลทาให้ นิติกรรมตกเป็นโมฆียะ เพียงแต่นายมะม่วงมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนอันเนื่องจากการรับ
ข้อกาหนดอันหนักกว่าปกติจากนายมะนาวเท่านั้น
สรุป
สัญญาซื้อขายพระเครื่องซึ่งมีลักษณะเป็นพระนางพญาองค์ดังกล่าวระหว่างนายมะม่วงกับนายมะนาว
มีผลไม่ตกเป็นโมฆียะเพียงแต่นายมะม่วงมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนอันเนื่องจากการรับข้อกาหนดอันหนัก
กว่าปกติจากนายมะนาว เท่านั้น
กฎหมายแพ่งฯ 41214 : (แนวข้อสอบ 2564 )
คาถาม :
นายแดดกู้ยืมเงินนายร่ม จานวน 90,000 บาท โดยมีข้อตกลงว่าจะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีเมื่อถึง
กาหนดชาระ นายร่มได้มีหนังสือแจ้งให้นายแดดชาระหนี้โดยแจ้งว่าหากนายแดดไม่นาเงินมาชาระหนี้ก็ไม่มี
เงินไปชาระค่าที่ดินให้ตนไปทาสัญญาจะซื้อไว้ และจะถูกรับมัดจา 90,000 บาท นายแดดตอบมาว่ายังไม่มี
เงินขอผลัดไปอีก 2 เดือน นายร่มฟ้องเรียกเงินต้นพร้อมดอเบี้ยร้อยละ 15 จากนายแดดจนกว่าจะชาระเสร็จ
นายแดดต่อสู้ว่าตนได้ขอผลัดหนี้ไปแล้วจึงไม่ผิดนัดและแม้จะผิดนัดก็ต้องคิดดอกเบี้ยระวังผิดนัดร้อยละ 7.5
เท่านั้น ท่านเห็นว่าข้ออ้างของนายแดดถูกต้องหรือไม่
กฎหมายแพ่งฯ 41214 : (แนวข้อสอบ 2564 )
แนวคาตอบ :
หลักกฎหมาย
กรณีตามปัญหา ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (มาตรา 204 วรรค 1) วางหลักไว้ว่า
“ถ้าหนี้ถึงกาหนดชาระแล้ว และภายหลังแต่นั้นเจ้าหนี้ได้ให้คาเตือนลูกหนี้แล้ว ลูกหนี้ยังไม่ชาระหนี้ไซร้
ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดเพราะเขาเตือนแล้ว”
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (มาตรา 224 วรรค 1) วางหลักไว้ว่า
“หนี้เงินนั้น ท่านให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดร้อยละเจ็ดกึ่งต่อปี ถ้าเจ้าหนี้อาจจะเรียกดอกเบี้ยได้
สูงกว่านั้นโดยอาศัยเหตุอย่างอื่นอันชอบด้วยกฎหมาย ก็ให้คงส่งดอกเบี้ยต่อไปตามนั้น ”
กฎหมายแพ่งฯ 41214 : (แนวข้อสอบ 2564 )
แนวคาตอบ :
วินิจฉัย
ตามหลักกฎหมาย ป.พ.พ. มาตรา 204 วรรค 1 เมื่อหนี้ถึงกาหนดชาระแล้ว และภายหลังแต่นั้นเจ้าหนี้
ได้ให้คาเตือนลูกหนี้แล้ว ลูกหนี้ยังไม่ชาระหนี้ ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดเพราะเขาเตือนแล้วกรณีตามปัญหา เมื่อหนี้
ถึงกาหนดชาระ นายร่มได้มีหนังสือแจ้งให้นายแดดชาระหนี้ แต่นายแดดตอบมาว่ายังไม่มี เงินขิผลัดไปอีกสอง
เดือน เมื่อนายแดดไม่ชาระหนี้เมื่อนายร่มมีหนังสือเตือน นายแดดจึงตกเป็นผู้ผิดนัด การขอผลัดชาระหนี้ไม่มี
ผลตามกฎหมายแต่อย่างใด
เมื่อลูกหนี้ผิดนัด ตาม ป.พ.พ. มาตรา 224 ได้กาหนดอัตราดอกเบี้ยฐานผิดนัดไว้ร้อยละ 7.5 ต่อปี แต่
เจ้าหนี้อาจเรียกได้มากกว่านั้น โดยอาศัยเหตุอันชอบด้วยกฎหมาย กรณีตามปัญหามีข้อตกลงเรื่องอัตรา
ดอกเบี้ยไว้ร้อยละ 15 ต่อปี นายร่มเจ้าหนี้จึงมีสิทธิเรียกในอัตรานั้นต่อไปได้
สรุป
ข้ออ้างของนายแดดไม่ถูกต้อง
กฎหมายแพ่งฯ 41214 : (แนวข้อสอบ 5 )
คาถาม 5
นายชุบตกลงเช่าบ้านจากนายอาจ มีกาหนดเวลาเช่ากัน 5 ปี โดยนายชุบตั้งใจจะใช้บ้านเช่าเป็นที่เก็บสินค้าหนี
ภาษี แต่ขณะที่ทาสัญญาไม่บอกให้นายอาจทราบ เพราะเกรงว่านายอาจจะไม่ให้เช่า คิดค่าเช่ากันเดือนละ
10,000 บาท ได้ทาสัญญาเช่าเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว พอตกลงเช่ากันได้ 2 เดือน
นายอาจจึงรู้ว่านายชุบเอาบ้านไปทาเป็นที่เก็บสินค้าหนีภาษีตั้งแต่แรกทีเดียว นายชุบผิดนัดค้างชาระค่าเช่ามา
ตั้งแต่เริ่มเช่ากัน ต่อมาอีก 3 เดือน นายอาจเรียกร้องให้นายชุบชาระค่าค่าเช่าที่ค้างทั้งหมด 5 เดือน นายชุบ
โต้แย้งว่า สัญญาเช่าเป็นโมฆะ เพราะนายอาจก็รู้แล้วว่าตนเอาบ้านไปทาเป็นที่เก็บสินค้าหนีภาษีตนไม่ต้องชาระ
ค่าเช่า ท่านเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของนายอาจและขอโต้แย้งของนายชุบหรือไม่
กฎหมายแพ่งฯ 41214 : (แนวข้อสอบ 5 )
แนวตอบ 5
ป.พ.พ. มาตรา 150 วางหลักไว้ว่า “การใดมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายเป็น
การพ้นวิสัยหรือเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน การนั้นเป็นโมฆะ”
ตามปัญหา นายอาจเพิ่งมารู้ตอนหลังเมื่อทาสัญญากันแล้ว 2 เดือน ไม่ได้ร่วมรู้ด้วยมาแต่แรก สัญญา
ระหว่างนายอาจกับนายชุบจึงไม่ตกเป็นโมฆะ นายอาจมีสิทธิเรียกร้องค่าเช่าได้ทั้ง 5 เดือนจากนายชุบได้
ข้าพเจ้าเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของนายอาจและไม่เห็นด้วยกับข้อโต้แย้งของนายชุบ
กฎหมายแพ่งฯ 41214 : (แนวข้อสอบภาค 1/2564)
คาถาม 1:
นายดาอายุ 20 ปี จดทะเบียนสมรสกับนางแดงอายุ 21 ปี อีกสิบเอ็ดเดือนต่อมานายดาได้ไปซื้อแหวน
ทองคาวงหนึ่งราคา 50,000 บาท โดยนายดาไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ใดเลย ต่อมานายดา ประสบอุบัติเหตุกลายเป็น
คนวิกลจริต นายดาได้ไปซื้อสร้อยมุก 1 เส้นราคา 40,000 บาท ซึ่งในขณะที่ซื้อสร้อยมุกเส้นดังกล่าวนายดามี
อาการจริตวิกลและนายเขียวคนขายสร้อยมุกก็รู้ว่านายดาเป็นคนวิกลจริต แต่ได้ขายสร้อยมุกให้แก่นายดาไป
ให้วินิจฉัยว่า นิติกรรมการซื้อขายแหวนทองคาและสร้อยมุกของนายดาดังกล่าวมีผลอย่างไร
เพราะเหตุใด (20 คะแนน)
กฎหมายแพ่งฯ 41214 : (แนวข้อสอบภาค 1/2564)
แนวคาตอบ :
หลักกฎหมาย
กรณีตามปัญหา ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (มาตรา 19) วางหลักไว้ว่า
“บุคคลย่อมพ้นจากภาวะผู้เยาว์และบรรลุนิติภาวะเมื่อมีอายุยี่สิบปีบริบูรณ์”
กรณีตามปัญหา ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (มาตรา 21) วางหลักไว้ว่า
“ผู้เยาว์จะทานิติกรรมใด ๆ ต้องได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน การใด ๆ ที่ผู้เยาว์ได้ทาลง
ปราศจากความยินยอมเช่นว่านั้นเป็นโมฆียะ เว้นแต่จะบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น”
กรณีตามปัญหา ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (มาตรา 30) วางหลักไว้ว่า
“การใด ๆ อันบุคคลวิกลจริตซึ่งศาลยังมิได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถได้กระทาลง การนั้นจะเป็นโมฆียะ
ต่อเมื่อได้กระทาในขณะที่บุคคลนั้นจริตวิกลอยู่ และคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้รู้แล้วด้วยว่าผู้กระทาเป็นคนวิกลจริต”
กฎหมายแพ่งฯ 41214 : (แนวข้อสอบภาค 1/2564)
แนวคาตอบ :
วินิจฉัย
กรณีตามปัญหานายดาอายุ 20 ปีได้ซื้อแหวนทองคาวงหนึ่งราคา 50,000 บาท แม้นายดาจดทะเบียน
สมรสแล้วกับนางแดงหรือไม่ก็ตาม ก็ถือว่านายดาเป็นผู้บรรลุนิติภาวะเนื่องจากอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์จึงไม่
ต้องได้รับอนุญาตจากผู้แทนโดยชอบธรรมก่อนทานิติกรรม นิติกรรมการซื้อแหวนของนายดาจึงมีผลสมบูรณ์
ต่อมานายดาประสบอุบัติเหตุกลายเป็นคนวิกลจริต ตามโจทย์ไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่าศาลมีคาสั่งให้
นายดาเป็นคนไร้ความสามารถ โดยนายดาได้ไปซื้อสร้อยมุก นายดามีอาการจริตวิกลและนายเขียวคนขายก็
ทราบด้วยว่านายดาเป็นคนวิกลจริต ตามหลักกฎหมายมีผลทาให้นิติกรรมเป็นโมฆียะ
สรุป
นิติกรรมการซื้อขายแหวนทองคาของนายดา มีผลสมบูรณ์ และ
นิติกรรมการซื้อขายสร้อยมุกของนายดา มีผลเป็นโมฆียะ เพราะเหตุผลตามที่ได้วินิจฉัยข้างต้น
กฎหมายแพ่งฯ 41214 : (แนวข้อสอบภาค 1/2564)
คาถาม 2 :
นายเมษาประกาศขายลูกสุนัขพันธุ์บางแก้วจานวน 5 ตัว ที่เกิดจากพ่อพันธุ์ซึ่งเป็นแชมป์ประเทศไทยในราคาตัวละ 20,000
บาท และนายสิงหาตกลงซื้อลูกสุนัขพันธุ์บางแก้วตัวหนึ่งจากนายเมษา โดยตกลงกันว่าอีก 1 สัปดาห์ นายสิงหาจะนารถยนต์กระบะ
มารับลูกสุนัขที่ตนเลือก ในวันดังกล่าวพร้อมกับชาระราคาทั้งหมด ปรากฎว่าก่อนถึงกาหนดเวลาเพียง 2 วัน นายกันยาคู่อริ ของนาย
เมษาลักลอบเข้ามาในบ้านของนายเมษาและวางยาพิษลูกสุนัขพันธุ์บางแก้วทั้ง 5 ตัวนั้น จนตายทั้งหมด เมื่อถึงกาหนดเวลาตามที่ตก
ลงกันนายสิงหาได้นารถยนต์กระบะเพื่อมารับลูกสุนัข และนายเมษาได้นาภาพลูกสุนัขทั้ง 5 ตัวที่ตายเพราะถูกวางยาพิษมาให้นาย
สิงหาดูและเล่าเหตุการณ์ให้ทราบ นายสิงหารู้สึกผิดหวังที่ไม่สามารถเป็นเจ้าของลูกสุนัขพันธุ์บางแก้วได้เป็นอย่างมาก