Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 9

 ⌫    ⌫         


โมนาลิซา (Monalisa) เปนผลงานชิน้ เอกของลีโอนารโด ดาวินชี (Leonardo Da Vinci) ทีม่ ชี อื่ เสียงและมีผู
กลาวถึงมากทีส่ ดุ สาเหตุของความมีชอื่ เสียงนี้ อาจเกิดจากปริศนาทีซ่ อ นไวในภาพโมนาลิซา ไมวา จะเปนทีม่ าของตัว
ตนทีแ่ ทจริงของโมนาลิซา เทคนิคการเขียนภาพ รอยยิม้ ใบหนา และสวนประกอบอืน่ ๆ ในภาพ จนทำใหเกิดคน
ควาวิจยั ตางๆ ตามมามากมาย เพือ่ หาหลักฐานมายืนยันขอคนพบอันเปนคำตอบของปริศนานี้ แมกระทัง่ ปจจุบนั ก็ยงั
คงมีการคนหาความลับทีซ่ อ นไวในภาพโมนาลิซานีอ้ ยางไมมวี นั จบสิน้ และดวยความลับนีเ้ องทีเ่ ปนทีม่ าของการมีชอื่
เสียงที่สุดในโลกของภาพโมนาลิซา

คำสำคัญ: โมนาลิซา, ความลับ ปริศนา, ลีโอนารโด ดาวินชี


เมือ่ เอยถึงภาพ "โมนาลิซา" (Monalisa) คงนอยคนนัก
ทีจ่ ะไมรจู กั จิตรกรรมเอกของโลกชิน้ นี้ แตเคยสงสัยกันบาง
หรือไมวา เหตุใดภาพโมนาลิซาจึงเปนภาพทีม่ ชี อื่ เสียงมาก
ทีส่ ดุ ทัง้ ทีเ่ ปนเพียงภาพผหู ญิงคนหนึง่ เทานัน้ ซึง่ ก็คลาย ๆ
กับภาพเขียนคนทัว่ ไป ภาพเขียนหญิงสาวทีส่ วยงามนัน้ มิได
มีแคภาพโมนาลิซาเพียงภาพเดียว แตเหตุใดภาพเขียนหญิง รูปที่ 1 โมนาลิซา (Monalisa) วาดโดย ลีโอนารโด ดาวินชี
สาวภาพนีจ้ งึ มีชอื่ เสียงมากทีส่ ดุ (Leonardo Da Vinci)
ภาพโมนาลิซานีน้ อกจากเปนภาพทีเ่ ขียนโดยจิตรกร จริงหรือที่โมนาลิซาอาจเปนภาพเหมือนของตัว
เอกของโลก ลีโอนารโด ดาวินชี แลวยังมีบางสิง่ ทีท่ ำใหเกิด ลีโอนารโด ดาวินชีเองในแบบผูหญิง ทั้งนี้จะพบวามีการ
ข อ สงสั ย และข อ คำถาม ตลอดจนข อ ถกเถี ย งต า ง ๆ วิเคราะหวจิ ยั ถึงขอถกเถียงตางๆ เกี่ยวกับภาพโมนาลิซานี้
ตามมามากมาย เปนตนวา โมนาลิซาคือใครกันแน? กันมากมาย

อรอนงค ฤทธิฤ์ ๅชัย


ผชู ว ยศาสตราจารย
อาจารยประจำสาขาวิชาศิลปศึกษา
คณะศึกษาศาสตร มหาวิทยาลัยขอนแกน
e-mail : tumtom@kku.ac.th

     


 

 ⌫    ⌫         

นักวิชาการรวมถึงนักวิทยาศาสตรหลายทานยัง ภาพโมนาลิซา หรือเรียกอีกชือ่ หนึง่ วา ลาโฌก็องด


คงพยายามออกมามีบทบาทตอการสำรวจรูปภาพของหญิง ในภาษาฝรัง่ เศส เขียนขึน้ ระหวาง ค.ศ.1500 -1504 บนแผน
สาวทีว่ า กันวาสวยทีส่ ดุ ในโลกนี้ ซึง่ ตางก็มขี อ มูลมาสนับสนุน ไมปอ บลาร มีขนาดเพียง 21 X 31 นิว้ เลโอนารโด ดาวินชี
และยืนยันขอสันนิษฐานตางๆ ของตน จนบางครัง้ ผลทีไ่ ด ไดวาดภาพโมนาลิซา ทีเ่ มืองฟลอเรนซ ซึง่ มีหลักฐานกลาว
ก็ทำใหหลายคนแปลกใจไปตาม ๆ กัน เมือ่ พบวายังมีมมุ อางวาเปนภาพของ ลิซา เดล กิโอคอนดา (Lisa Del
ลึกลับซอนอยเู บือ้ งหลังภาพโมนาลิซาอีกมากมาย ไมวา จะเปน Gioconda) ภรรยาของฟรานเซสโก เดล กิโอคอนดา
การตรวจสอบผลงานอยางละเอียดเพื่อศึกษาหาเทคนิคที่ เจาเมืองฟลอเรนซ ภาพนีด้ าวินชี ใชเวลาวาดถึง 4 ปทเี ดียว
ลีโอนารโด ดาวินชีใชในการวาดภาพ และความพยายาม โดยสลับกันไปกับการวาดภาพอืน่ ๆ ซึง่ ทำใหมขี อ สงสัยกัน
ในการคนหาเหตุผลของรอยยิ้มปริศนา ไมวาจะเปนการ วาตัวจริงของลิซาที่แทอาจไมไดยิ้มอยางนั้นจริงๆ ก็ได
คำนวณสัดสวนของรอยยิม้ หรือการนำหลักทฤษฎีตา ง ๆ แตตัวดาวินชี เปนผูสรางรอยยิ้ม ซึ่งมาจากภาพเขียน
มาเชื่อมโยง ของเขาที่วาดเมื่อ ค.ศ.1484 ใหแก เซซิเลีย กัลเลอรานิ
ปริศนาความลับจากภาพโมนาลิซาเปนเสนหด งึ ดูด (Cecilia Gallerani) ซึง่ เปนภรรยาลับของเขา แตบางแหลง
ใจให ห ลาย ๆ ท า นอยากจะค น หาคำตอบที่ ซ อ นไว อางอิงกลาววาเธอคือ อิซาเบล เดอเอสเต (Isabella de'
ขอถกเถียงตาง ๆ เหลานี้ยังรอใหทุกทานพิสูจนความจริง Este)ภรรยาหมายของมารควิชแหงแมนตัว (Mantau)
อยูจึงเปนเหตุผลทีผ่ คู นทัว่ โลกตางมงุ หนาไปยังพิพธิ ภัณฑ หรืออาจจะเปนปาซิฟก า บรานดาโน (Pacifica Brandano)
ลูฟท เพื่อจะไดยลโฉมภาพวาดชิ้นเอกของโลกนี้ อยางไร สหายของจูลยาโน เดอ เมดิชิ (Giulianoo de' Medici)
ก็ ต ามภาพโมนาลิ ซ านี้ ยั ง คงความอมตะของปริ ศ นา นายธนาคาร แหงเมืองฟลอเรนซดงั ทีห่ ลายคนเสนอแนะไว
อีกตอไปอยางไมมีที่สิ้นสุด หรืออาจจะเปนภรรยาลับของชารล ดอัมบัวส (Charles
de'Amboise)หรื อ เธออาจเป น องค ป ระกอบของสตรี
 ทัง้ หลายทีล่ โี อนารโด ดาวินชี รจู กั อันไดแก มารดา ภรรยา
กวา 500 ปมาแลวกับคำถามที่วา โมนาลิซานั้น ภรรยาลับของขุนนาง หญิงตามทองไรทอ งนา และโสเภณี
เปนใคร ซึ่งยังคงเปนปริศนาและยังไมมีคำตอบที่ชัดเจน ตามทองถนนทีเ่ ขาใชเวลานับชัว่ โมงเฝาสังเกตและรางภาพ
แนนอนวาบุคคลในภาพเขียนของ ลีโอนารโด ดาวินชีคอื ใคร อย า งไรก็ ต ามข อ ถกเถี ย งถึ ง ที่ ม าของโมนาลิ ซ าก็ ยั ง หา
กันแน ภาพนี้แฝงรอยยิ้มที่ลึกลับนาเคลือบแคลงไปดวย ขอสรุปไมได หลังจากวาดภาพโมนาลิซา ดาวินชี ไดวาดภาพ
ปริศนามากมาย ใหผคู นไดนกึ คิด จินตนาการกันไปตาง ๆ ลีดากับหงส (Leda and The Swan) ภาพแมพระ
นา ๆยาวนานถึง 5 ศตวรรษ จวบจนกระทัง่ ปจจุบนั คำถาม กับ พระบุตร และ เซนตแอนน (Virgin and Child with
ที่ผูคนสงสัย และไดคนควาหาคำตอบกันอยางมากมาย St. Ann) และเมือ่ เขากลับมายังมิลานใน ค.ศ.1516
ก็คอื โมนาลิซาคือใคร?

      


 
 ⌫    ⌫         

ก็ ไ ด รั บ การว า จ า งให ม าเป น ศิ ล ป น แห ง ราชสำนั ก ของ นอกจากนีย้ งั มีรายงานขาววา บิลเกตต มหาเศรษฐี
พระเจาฟรานซิส ที่ 1 แหงฝรัง่ เศส ดาวินชี ไดนำภาพ ของโลก ประมูลบันทึกของดาวินชีเลมหนึง่ ในราคา 40 ลาน
โมนาลิซา ติดตัวไปพรอมกับทรัพยสนิ มีคา อืน่ ๆ ทีเ่ ขารัก เหรียญสหรัฐ สมุดบันทึกของดาวินชีใชรูปภาพ แผนผัง
และหวงแหนดวยเหตุนี้เอง ผูครอบครองภาพโมนาลิซา สัญลักษณ และภาพประกอบในการจัดความคิดเห็นทีม่ อี ยู
คนแรกก็คอื กษัตริยฝ รัง่ เศส ซึง่ โปรดใหนำภาพไปประดับ เปย มลนสมอง ลงบนกระดาษไดอยางสมบูรณแบบ เปนที่
ที่หองสรง ในพระราชวังฟองแตนโบล แตเมื่อจักรพรรดิ ยอมรั บ กั น ว า บั น ทึ ก ของดาวิ น ชี เ ป น หนั ง สื อ ที่ มี คุ ณ ค า
โปเลียนขึ้นครองราชย ภาพโมนาลิซาจึงถูกยายมาไวใน มากทีส่ ดุ ในโลก
หองพระบรรทมและมีชอื่ เรียกอยางสนิทสนมวา "มาดามลิซา "
ชวงเวลานีเ้ อง ทีด่ าวินชีไดแสดงใหเห็นถึงความเปนอัจฉริยะ ⌫
เพราะภาพเขี ย นทุ ก ภาพของเขาได ใ ช มื อ ซ า ยเขี ย นขึ้ น ⌫
ทั้งหมด เนื่องจากเขาเปนอัมพาตมือขวาเสีย ไมวาจะเปน
การรางแผนผังเมืองตาง ๆ วางโครงการขุดทอง รวมถึง
ภาพวาดชิน้ สุดทาย คือ นักบุญจอหนแบบทิสต (John the ดาวินชีสนับสนุนแนวคิดเรื่องความสมดุลระหวาง
Baptist) เพศชายกับเพศหญิง เขาเชือ่ วาจิตวิญญาณของมนุษยจะเกิด
ลีโอนารโด ดาวินชี ถึงแกกรรมเมื่อ ค.ศ.1519 ปญญาไดก็ตอเมื่อมีทั้งสวนที่เปนเพศชายและเพศหญิง
ในประเทศฝรั่งเศส อายุได 63 ป วันและเดือนที่เขาตาย เหตุผลนี้สอดคลองกับแหลงอางอิงซึ่งกลาวอางวาดาวินชี
ไม ป รากฏแน ชั ด ตามพิ นั ย กรรมของเขา ที่ ทำไว เ มื่ อ เปนหนึ่งในสมาชิกสมาคมลับแหงหนึ่งในยุโรป ที่มีชื่อวา
ค.ศ.1517 ใหศษิ ยรกั ซึง่ เปนชาวมิลานชือ่ เมลซี เปนผจู ดั การ เดอะไพรเออรีอ่ อฟไซออน (The Priory of Sion) ซึง่ เปน
มรดกของเขา โดยแบงมรดกใหแกเหลาศิษยและนองๆ สมาคมพิทักษความลับที่สืบทอดมาชานาน และคนพบ
ผทู เี่ กลียดชังเขา ทัง้ นีเ้ พราะเขามีกริยาคอนขางถือตัว เขากับ หลักฐานบนแผนผนังจารึกที่ระบุชื่อสมาชิกไว สมาคมนี้
ใครไมคอ ยได เมลซีเปนผทู ไี่ ดบทความตางๆ ทีเ่ ขาเขียนและ มีความเชื่อเรื่องความเสมอภาคกันระหวางเพศชายกับ
เครือ่ งมือเขียนภาพ หนังสือตางๆ ทีเ่ ขาเขียนนัน้ เมือ่ เมลซี เพศหญิง
สิน้ ชีวติ ในระยะเวลาตอมาอีกเกือบ 50 ปกก็ ระจัดกระจาย จริงหรือไมทวี่ า โมนาลิซาอาจเปนภาพของดาวินชีแตง
ไปอยูตามที่ตางๆ เชน ตกอยูแกหอสมุด เมืองมิลานก็มี ตัวเปนผหู ญิง เคยมีการนำภาพโมนาลิซากับภาพของดาวินชี
ที่ปารีสก็มี และที่พระเจาชารลที่ 1 แหงอังกฤษซื้อไปบาง ที่เขาวาดเองมาวิเคราะหดวยคอมพิวเตอร พบวา มีจุด
ก็มี ซึ่งทางอังกฤษไดเก็บรักษาไวในพระราชวังวินเซอร ที่คลายกันในใบหนาของทั้งคูอยางนาพิศวง
สวนภาพโมนาลิซาปจจุบันอยูที่พิพิธภัณฑลูฟร

     


 

 ⌫    ⌫         

โมนาลิซาคือใครกันแน หรือเธออาจเปนภาพเหมือนของตัว 


ดาวินชีเองทีผ่ ดิ ธรรมดาดังทีเ่ คยมีคนเสนอแนะไว หลักฐาน
ที่ น า สนใจสำหรั บ ข อ วิ นิ จ ฉั ย หลั ง สุ ด นี้ ถู ก เสนอโดย ภาพโมนาลิซาเปนภาพวาดที่มีโครงสรางของภาพ
ดร.วิลเลีย่ น ชวารตซ (Lillian Schwartz) เธอไดเปรียบ การจัดภาพ ทักษะในการเขียนภาพไดอยางยอดเยี่ยม
เทียบภาพโมนาลิซากับภาพเหมือนของดาวินชีทยี่ งั หลงเหลือ เปนภาพที่นาศึกษาอยางยิ่งในเรื่องแสงเงา กายวิภาคและ
อยูเพียงภาพเดียว ซึ่งเปนภาพที่วาดโดยใชชอลกแดง เทคนิคตาง ๆ ในการสรางทีว่ า ง (Space) ซึง่ ทำใหภาพนี้
โดยใชวธิ สี รางแบบจากคอมพิวเตอร อันซับซอนกับการวัด มีความสมดุล และกลมกลืนกันอยางหาทีต่ ไิ มได เปนภาพ
ที่ใชมาตราสวนและการปรับวางแนวที่ละเอียดแมนยำ คนเหมือน (Portrait) ทีด่ เี ยีย่ มทีส่ ดุ ของโลก
ดังที่ ดร.ชวารตซ ไดอธิบายไววา "เมือ่ วางภาพเทียบเคียง เราอาจสงสัยวา ทำไมภาพนี้จึงเปนภาพปริศนา
กันทุกจุดทีต่ อ งการเพือ่ หลอมรวมเขาดวยกันแลว ตำแหนง ที่ใครๆ มองแลวจะตองฉงนสนเทห พิจารณาจากภาพ
ทีส่ มั พันธกนั ของจมูก ปาก คาง ตา และหนาผากของรูป เธอกำลั ง นั่ ง มองออกมาจากภาพเพื่ อ สบตากั บ คนดู
หนึ่งเขากันไดอยางพอเหมาะพอดีกับอีกรูปหนึ่ง เพียงแค บรรยากาศใตแสงเงาสลัวๆ ดาวินชีไดเนนถึงแสงสวาง
เลื่อนมุมปากขึ้นก็ทำใหเกิดรอยยิ้มอันลึกลับ" เธอสรุปวา บนใบหนา หนาอกและมือของเธอ สวนที่ขอบตาและ
ผูที่เปนแบบใหกับภาพจิตรกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดนี้มิใช ริมฝปากนั้น เขาใชการแรเงาใหเนื้อหนังดูกลมกลืนกัน
ใครทีไ่ หนแตเปนตัวศิลปนชัน้ ครูนนั่ เอง (ไมเคิล เกลบ,2548)

รูปที่ 2 การเปรียบเทียบภาพวาดใบหนาของโมนาลิซากับภาพเหมือนใบหนาของดาวินชี

      


 
 ⌫    ⌫         

ใหบรรยากาศเหมือนมีหมอกอาบอยูบางเบา ซึ่งเกิดจาก เกิดขึ้นในระบบการรับรูทางสายตาของผูที่มองภาพอัน


ความเชี่ยวชาญพิเศษของดาวินชีในการเขียนภาพสไตล บรรลือโลกชิน้ นี้ นักวิจยั ทัง้ 2 ไดนำภาพวาดโมนาลิซาบันทึก
สฟูมาโต (Sfumato)ที่รูปรางของสิ่งตางๆ ดูเหมือนกลืน ลงคอมพิวเตอร แลวสมุ ใสนอยซลงในภาพ หลาย ๆ แบบ
เข า หากั น เพื่ อ สร า งความรู สึ ก และอารมณ ให แ ก ค นดู (นอยซ หรือ noise ทีห่ มายถึงสัญญาณรบกวน แตในภาพ
จากจุดนีเ้ องทีน่ บั วาเปนเทคนิคแบบใหมของดาวินชี เมือ่ เรา คือจุดสีเล็กทีเ่ กิดขึน้ บนภาพ ทำใหภาพไมชดั อยางเชนการ
ลองพิจารณาใบหนาของโมนาลิซาอยางละเอียด เราไมสามารถ ดูโทรทัศนที่สัญญาณไมดีก็จะทำใหเห็นภาพเปนจุดๆ)
จะบอกไดเลยวาเธอกำลังจะยิม้ หัวเราะ หรือรองไหกนั แน และเมื่อนักวิจัยทั้ง 2 สุมใสนอยซลงในภาพโมนาลิซา
คนทีด่ ภู าพนีจ้ ะเกิด จินตนาการ ตาง ๆ ในการจะสรางความ แลวก็ใหผสู งั เกตการณจำนวน 12 คนดูวา หนาตาโมนาลิซา
รูสึกหรืออารมณ ขาไปในภาพดวย สิ่งที่ปรากฏในภาพ จะเปลี่ยนไปมากนอยแคไหน
ที่ทำใหเกิดแงคิดตางๆ รอยยิ้มของโมนาลิซาเปนรอยยิ้ม ทั้งนี้ผลการพินิจดูภาพโมนาลิซาที่มีนอยซมาฉาบ
ปริ ศ นา เพราะผู ดู เ กิ ด ความรู สึ ก ได ห ลายแง ห ลายมุ ม ไว นั้ น ก็ เ ป น ไปตามความคาดหมายของคริ ส โตเฟอร
จะเปนยิม้ ทีซ่ อื่ บริสทุ ธิห์ รือยิม้ เยาะก็ไดนยั นตาก็เชนเดียวกัน และลีโอนอยด กลาวคือ นอยซสว นทีอ่ ยตู รงมุมปากทำให
ในความรสู กึ ของผดู ู ก็จะแตกตางกันออกไป ปากของโมนาลิซายกขึน้ จึงทำใหโมนาลิซามีใบหนาเปอ นยิม้
ดูอิ่มเอมมีความสุข สวนนอยซอีกภาพหนึ่งที่อยูบนปาก
ของโมนาลิซากลับทำใหรูปปากแบนลง ภาพนี้เลยทำให
โมนาลิซาดูเศราสรอย อยางไรก็ตาม จุดรบกวนหรือนอยซ
เหลานีท้ ำใหผสู งั เกตการณทมี่ าดูภาพโมนาลิซาทีเ่ คย ๆ เห็น
เกิดการรับรทู แี่ ตกตางออกไปจากเดิมไดอยางนาประหลาดใจ
เทยเลอร เปดเผยวาระบบการรับภาพในสมอง
ของมนุษยทวั่ ไปนัน้ จะเปลีย่ นไปตามสิง่ รบกวน และอยางกรณี
ภาพโมนาลิซาฉาบนอยซคราวนีก้ เ็ ชนกัน เมือ่ ผมู องเห็นภาพ
ทีม่ เี ม็ดสีเล็ก ๆ ไมชดั อยบู นภาพ อนุภาคโฟตอนหรือหนวย
รูปที่ 3 ภาพใบหนาโมนาลิซา พลังงานของรังสีแสงที่จอตา (เรตินา) รับเขามาก็จะเปน
คริสโตเฟอร เทยเลอร และลีโอนอยด คอนตเซวิช ลักษณะแกวงไปมา (เหมือนตอนที่เรามองภาพเบลอ ๆ)
แหงสถาบันวิจยั ทางจักษุสมิธ-แคตเทิลเวลล ในซานฟราน จากนั้นเซลลรับแสงที่จอตาก็จะอานคาเม็ดสีที่มองเห็น
ซิ ส โก เชื่ อ ว า เหตุ ท่ีโมนาลิ ซามี รอยยิ้ ม ชวนหลงใหลได ผิดเพีย้ น และในทีส่ ดุ การรับรเู ม็ดสีทผี่ ดิ เพีย้ นนีก้ ถ็ กู สงตอ
ขนาดนีก้ เ็ พราะนอยซ (noise) หรือมีสญ ั ญาณรบกวน ไปยังเสนประสาท และสมองในทีส่ ดุ

     


 

 ⌫    ⌫         

เปนโปรแกรมทีพ่ วกเขาไดพฒ ั นาขึน้ โดยรวมมือกับนักพัฒนา


จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส (University of Illinois) เพือ่ ใช
เทคโนโลยีอันสุดทันสมัยตีความผลงานชิ้นเอกของดาวินชี
ซึง่ งานวิจยั ครัง้ นีไ้ มใชงานใหญสลักสำคัญอะไร แตตอ งการ
แสดงใหเห็นถึงเหตุแหงยิม้ ของหญิงสาวทีถ่ กู กลาวขวัญมาก
ทีส่ ดุ หลายศตวรรษศ.ฮารโร สโตกแมน (Harro Stokman)
ม.อัมสเตอร ซึง่ รวมทีมวิจยั ครัง้ นีเ้ ปดเผยวา บรรดาผรู ว ม
งานตางรูดี วาผลการวิเคราะหไมไดเปนไปตามหลักวิทยา
ศาสตร ซอฟต แ วร ชิ้ น ดั ง กล า วไม ไ ด อ อกแบบมาให
รูปที่ 4 การทดลองใสนอยซ (noise) ลงใน ภาพโมนาลิซา จดจำอารมณหรือสีหนาที่แสดงออกมาเปนเลศนัย ดังนั้น
สิ่งรบกวนโดยธรรมชาติเหลานี้ ทำใหคนทั่วไป จึงไมสามารถตรวจจับรองรอยแหงชสู าวและความรังเกียจ
มองภาพโมนาลิซาแลวเห็นวาภาพชิน้ นีเ้ ปลีย่ นไป มากกวา ทีห่ ลาย ๆ คนอานไดผา นดวงตาของเธอ
ที่ จ ะเห็ น เหมื อ นแต ก อ นว า โมนาลิ ซ ามี ก ารแสดงสี ห น า อยางไรก็ดี เทคโนโลยีการวิเคราะหอารมณนั้น
ที่นาสงสัยลึกลับ นอยซนี่เองจึงทำใหภาพวาดชิ้นนี้มีพลัง สรางขึ้นมาเพื่อใชกับภาพดิจิตอลยุคใหม ซึ่งแรกสุดนั้น
จนถึงทุกวันนี้ เทยเลอร เผยวาการทีด่ าวินชีวาดภาพโมนาลิซา จะต อ งมี ก ารจดจำสภาวะไร อ ารมณ ห รื อ ภาพใบหน า
ไดออกมาจนมีชื่อเสียงขนาดนี้ เพราะดาวินชีรูไดดวย ทีด่ เู ฉย ๆ ไมสอ อารมณใด ๆ กอน จึงจะสามารถจับสภาพ
สัญชาติญาณศิลปนของเขาแลววา นอยซ นี่เองสามารถ อารมณอนื่ ๆ ไดอยางแมนยำ ทางดาน นิกู เซเบ (Nicu
สรางการรับรูของคนไดตางออกไป Sebe) หัวหนาทีมวิเคราะหรอยยิม้ โมนาลิซา ก็ไดพยายาม
นอกจากนี้ทีมนักวิทยาศาสตรจากมหาวิทยาลัย หาภาพใบหน า ของหญิ ง สาวที่ สื บ ทอดเชื้ อ สายจากชาว
แหงกรุงอัมสเตอรดัม (University of Amsterdam) เมดิเตอรเรเนียนจำนวน 10 หนา เพือ่ นำมาเปนภาพตนแบบ
ประเทศเนเธอรแลนด ออกมาเปดเผยอยางชัดเจนวา ที่แสดงอารมณนิ่งเฉย จากนั้นเขาไดเทียบภาพหญิงสาว
ยิ้มที่ปรากฏอยูบนภาพของโมนาลิซา ผลงานชิ้นเอกของ ทั้งหลายกับโมนาลิซา ดวยอารมณพื้นฐาน 6 ชนิด คือ
ลีโอนารโด ดาวินชีนนั้ เปนยิม้ ทีเ่ ปย มสุขถึง 83% ผลวิเคราะห สุข ประหลาดใจ โกรธ รังเกียจ กลัว และเศราสโตกแมน
อารมณบนใบหนาของโมนาลิซา ยังแสดงถึงอารมณอื่นๆ กลาวถึงใบหนาที่แสดงถึงความสุข ซึ่งพบบนใบหนาของ
ออกมาอีกวา ใบหนาของเธออีก 9% แสดงถึงความชิงชัง, โมนาลิซา 83% นับเปนอารมณ หลักของผูหญิงทั่วไป
6% สื่อถึงความหวาดกลัว และแสดงอารมณโกรธผาน โดยตัวโปรแกรมจะสำรวจดูริ้วรอยตาง ๆ บนใบหนา
ใบหนาเดียวกันนีอ้ อกมา 2% แตสหี นาทีแ่ สดงอาการเฉย ๆ จากนั้นก็จะไดเห็นโพรงจมูกที่ขยายมากขึ้น หรือความลึก
โปรแกรมตีความออกมาวานอยกวา 1% ซึ่งทั้งหมดนี้ ของรอยยนบริเวณรอบ ๆ ดวงตา
ทีมนักวิทยาศาสตรเผยวาไมใชเรื่องนาแปลกใจซอฟตแวร
"การจดจำสภาพอารมณ" (emotion recog nition)

      


 
 ⌫    ⌫         

นอกจากนี้ เหล า ผู เ ชี่ ย วชาญทางด า นชี ว มิ ติ ศิลปะที่มีชื่อเสียง ทีส่ ดุ ในโลกของโมนาลิซาอาจไมเกีย่ วอะไร
(biometrics) แมไมไดรว มการทดลองก็แสดงอาการสนใจ กับรอยยิม้ ลึกลับของเธอไมไดอยทู กี่ ารทีน่ กั ประวัติศาสตร
ผลการศึกษาใบหนาของโมนาลิซาในครัง้ นี้ โดยลารรี ฮอรนคั ศิลปและผูคลั่งไคลเรือ่ งลึกลับจำนวนมากพากันตีความเธอ
(Larry Hornak) ผอู ำนวยการศูนยวจิ ยั เทคโนโลยีการพิสจู น แตที่โมนาลิซา มีชื่อเสียงเพราะดาวินชี อางวา เธอคือ
รูปพรรณ (Center for Identification Technology ความสำเร็จชิน้ โบวแดงของเขา ดังทีไ่ ดกลาวไวขา งตนแลว
Research) มหาวิทยาลัยแหงเวสต เวอรจิเนีย (West วาไมวา จะเดินทางไปไหน เขาก็ขนเธอไปดวย โดยใหเหตุผล
Virginia University) กลาววา เทคโนโลยีการจดจำใบหนา วาเขาทำใจไมไดที่จะพรากจากการแสดงออกซึ่งความงาม
นัน้ พัฒนาไปอยางรวดเร็ว แตเรือ่ งการจดจำสภาพอารมณ แหงสตรีชิ้นเลิศที่สุดของเขา
นั้นกลับคืบคลานไปอยางตวมเตี้ยม ความมีชื่อเสียงของภาพโมนาลิซานั้น หลายทาน
นักชีวมิตจิ ากสหรัฐฯ แสดงความเห็นเกีย่ วกับการ อาจมี เ หตุ ผ ลที่ แ ตกต า งกั น ไป เหตุ ผ ลอี ก ข อ หนึ่ ง ก็ คื อ
วิจัยนี้วา"เหมือนวาพวกเขาไดพยายามใชขอมูลชุดหนึ่ง เพราะเปนผลงานของเลโอนารโด ดาวินชี ศิลปนทีไ่ ดรบั การ
มาวิเคราะห แมวา ขอบเขตของขอมูลจะดูแคบ และตัวงาน ยกยองวาเปนอัจฉริยะบุคคลผูสรางสรรคอันยิ่งใหญและ
ก็ เ หมื อ นๆ กั บ คนอื่ น ทั่ ว ไปที่ ใ ช เ ทคนิ ค ใหม ใ นสาขานี้ มีชอื่ เสียงมากทีส่ ดุ ดาวินชีไดรบั ฉายาวา "ผรู อบรจู กั รวาล"
แตผลทีอ่ อกมาก็ถอื วานาสนใจทีเดียว" (universal man) เนื่องจากเขาเปนผูที่มีความชำนาญ
อยางไรก็ดี สโตกแมน เชือ่ วา ความพยายามของ ในศาสตรหลายดาน เปนทัง้ จิตรกรเอก ประติมากร วิศวกร
ทีมนักวิจยั จากอัมสเตอรดมั คงไมใชเพือ่ พิสจู นหรือหักลาง สถาปนิก นักวิทยาศาสตร ดาราศาสตร พฤกษศาสตร
ทฤษฎีทเี่ กีย่ วกับการวาดภาพ ซึง่ หนึง่ ในคำวิพากษวจิ ารณ มีความรอบรเู รือ่ งกายวิภาคศาสตร เปนผคู น พบเรือ่ งการ
ทีม่ กี ารกลาวถึงภาพโมนาลิซานัน่ ก็คอื แทจริงแลวหญิงสาว ไหลเวี ย นของกระแสโลหิ ต เป น นั ก ประดิ ษ ฐ ซึ่ ง เขาได
ผูนี้เปนภาพที่ดาวินชีวาดตัวเองขึ้นมาโดยตองการใหเปน ประดิ ษ ฐ เ ครื่ อ งมื อ ที่ ใ ช ใ นการบิ น เขี ย นแบบแรกของ
ผูหญิง เฮลิปคอปเตอร เรือใตน้ำ และรางแบบตาง ๆ ไวนับ
หลายพันชิน้ (โทนี่ บูซาน, 2547)
⌫⌫⌫⌫ หนังสือประวัติศาสตรศิลปสวนใหญไดกลาวถึง
ภาพโมนาลิซาวา เปนหนึ่งในภาพที่ซอนแงมุมขันๆไวมาก
มีหลักฐานอางอิงมากมายที่กลาวถึงที่มาของความ
ทีส่ ดุ ในโลก การผนึกรวมระหวางความหมายแบบซอนนัย
มีชอื่ เสียงของโมนาลิซา เหตุผลหนึง่ ก็คอื ภาพโมนาลิซานี้
ถือกันวาเปนภาพสตรีที่แสดงความหมายอันมหัศจรรย และแงมุมแบบยั่วเยา ลอเลน ที่ซุกซอนอยูในภาพเขียน
ของอิตถีเพศ คือมีความงามเปนเลิศ การแอบแฝงไว ชิ้นนี้จึงไมนาเชื่อที่ผูคนทั่วไปยังคงเห็นวารอยยิ้มของเธอ
ดวยเลห การยิม้ อันทรงพลังอำนาจสถานะความเปนผลงาน เปนสิง่ ลึกลับยิง่

     


 

 ⌫    ⌫         

โมนาลิซาเปนภาพของผหู ญิงธรรมดา ๆ ทีแ่ ตงกาย


ตามสมัยนิยมในแฟชัน่ แบบฟลอเรนไทน ในอิตาลีเบือ้ งหลัง
เปนภูเขา โดยดาวินชีไดเขียนภาพฉากหลังใหดูนุมเบา
แตใชโทนสีหนักกับตัวนางแบบ ฉากดานหลังใบหนาเธอ
ไมเสมอกัน ดาวินชีวาดเสนขอบฟาทางดานซายต่ำกวา
ดานขวาอยางมีนยั ยะ เปนกลเม็ดเล็กๆ นอยๆ ของดาวินชี
ดวยการวาดใหทวิ ทัศนดา นซายต่ำกวาดานขวา ดาวินชีทำ
ใหเวลาดูจากดานซาย โมนาลิซาจะตัวใหญกวาเวลาดูจากดาน
ขวามาก เปนการเลนสนุก เล็กๆ นอยๆ ของดาวินชีเอง รูปที่ 5 ผเู ขาชมภาพโมนาลิซาทีพ่ พิ ธิ ภัณฑลฟู ท
เขามีความเชือ่ วาเพศชายกับเพศหญิงมีดา นทีถ่ กู กำหนดให
มาตัง้ แตไหนแตไรแลว คือ ดานซายเปนเพศหญิง เขาก็เลย ภาพโมนาลิซาเคยถูกขโมยไปแลว 2 ครัง้ ครัง้ ลาสุด
ทำใหโมนาลิซาดูงามสงาจากทางดานซายมากกวาทางดานขวา เมื่อป ค.ศ.1911 เมื่อภาพโมนาลิซาหายไปจากโถงจัตุรัส
และดวยเหตุผลหลายๆ ประการดังกลาวมานี้ จึงทำใหจดุ หมาย ของลูฟท ซึง่ ไดรบั สมญาวาเปนหองทีไ่ มมีใครบุกเขาไปได
ปลายทางของผูที่เดินทางไปกรุงปารีสตางมุงหนาไปยัง ชาวปารีสถึงกับรองหมรองไหตามทองถนน และเขียน
พิพธิ ภัณฑลฟู ทเพือ่ รอเขาชมภาพจิตรกรรมระดับโลกทีอ่ ยู บทความไปลงหนังสือพิมพเพื่อใหพวกขโมยสงภาพคืน
ในพิพธิ ภัณฑแหงนี้ นัน่ คือภาพโมนาลิซา อายุกวา 500 ป สองป ถั ด มาภาพโมนาลิ ซ าถู ก ค น พบในที่ ซ อ นด า นล า ง
ซึง่ เปนผลงานของจิตรกรเอก ลีโอนาโด ดาวินชีภณ ั ฑารักษ ที่ ทำลวงไว ข องกระเป า เดิ น ทางขนาดใหญ ในห อ งพั ก
ของพิพธิ ภัณฑลฟู ท ไดเคลือ่ นยาย โมนาลิซา จากหองแสดง โรงแรมแหงหนึ่งในฟลอเรนซ
เดิมซึ่งออกจะคับแคบไปยังหองใหมที่ใชเงินปรับปรุงกวา
240 ลานบาท ซึง่ มีความพรอมรองรับผคู นไดมากกวาเดิม

รวมทั้งมีระบบควบคุมความชื้นและอุณหภู มิ ที่ ทั น สมัย
และแนนอนวาระบบรักษา ความปลอดภัยจะยังเขมงวดเชนเดิม ถึ ง แม เ วลาจะผ า นไปนานเท า ใด โมนาลิ ซ าก็
เพราะโมนาลิซา เปนงานศิลปะระดับโลกทีไ่ มอาจประเมินคา ยังคงกำความลับทีเ่ ปนปริศนา ทีด่ งึ ดูดใหผคู นอยากเขาไป
เปนราคาได คนหาสิง่ ทีเ่ ธอซอนไว บางทีโมนาลิซาอาจจะเปนภาพเหมือน
ภาพวาดทีว่ าดขึน้ เมือ่ ป ค.ศ.1517 ถูกนำมาแสดง ของจิตวิญญาณของดาวินชีก็ได ไมวาสถานะที่แทจริง
ที่ พิ พิ ธ ภั ณ ฑ ลู ฟ ท ตั้ ง แต ป 1804 และทุ ก ป จ ะมี ผู ม า ของโมนาลิซาจะเปนอยางไร เธอคือผูที่ทำใหเราเขาใจ
เขาชมเปนจำนวนถึงกวา 6 ลานคน และแมจะยายที่อยู ถึงความสำคัญของขอความทีข่ ดั แยงกับคนทัว่ ไป ในทัศนะ
ใหกับสาวที่มีรอยยิ้มอันเปนปริศนานี้แลว แตที่อยูใหม ที่มีตอโลกของดาวินชี
ของเธอก็ยงั คงอยใู นกระจกนิรภัยทีไ่ มมวี นั แตกและทีพ่ เิ ศษ
คือไมทำใหเกิดแสงสะทอนรบกวนผูตองการมาไขปริศนา

      


 
 ⌫    ⌫         


โทนี บูซาน. 2547. พลังความฉลาดเชิงสรางสรรค. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพขวัญขาว.
ผูจัดการออนไลน..2547. เบื้องหลังโมนาลิซา. [ออนไลน] [อางถึงเมื่อ 24 มิถุนายน 2547]. เขาถึงไดจาก
http:// www.lionardo.exteen.com/category/MONALISA
พจรินทร หะยะกุล. 2546. โมนาลิซา . [ออนไลน] [อางถึงเมือ่ 15 กันยายน 2546]. เขาถึงไดจาก http://schoolnet.
nectec.or.th/library/create-web/10000/history/10000-11094.html
ไมเคิล เกลบ. 2548. คิดเยีย่ งครู ดูอยาง เลโอนารโด ดาวินชี. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพขวัญขาว.
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี.2551.โมนาลิซา. [ออนไลน] [อางถึงเมื่อ 30 มีนาคม 2551]. เขาถึงไดจาก : http://
th.wikipedia. org/wiki/
หนังสือพิมพโพสตทเู ดย. 2549. ไขชีวติ อัจฉริยะผอู ยเู บือ้ งหลังหลังรอยยิม้ โมนาลิซา . [ออนไลน]
[อ า งเมื่ อ วั น ที่ 21 พฤษภาคม 2549]. เข า ถึ ง ได จ าก : http://www.rcthai.net/forum/
showthread.php?t=28967
อัศนีย ชูอรุณ. 2546. ประวัติศาสตรศิลปยุคฟนฟูและยุคใหม. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพโอเดียนสโตร.
(Anonymous). 2000. Who is Mona Lisa?. [online][Cited 29 May 2007]. Available from :
http://www.artofcolour.com/in-depth/mona-lisa/monawho.html
(Anonymous).2008.Mona Lisa and the The Last Supper. [Online] [Cited 8 April 2008]. Available from
: http://www.ezmuseum.com/davinci1.htm
David Alan Brown. Quoted in "A Work in Progress," [Online] [Cited 29 May 2008]. Available from
: http : // www.thisdayonline.com/archive/2003/01/12/20030112art03. html
Pietro C. Marani , leonardo da Vinci : The Complete Paintings. (New York : Harry N. Abrams, Inc.,
1999 ; 2003 ed.), p. 198-199
Phys (นามแฝง). 2548. ปริศนาภาพวาดโมนาลิซา. [ออนไลน] [อางถึงเมือ่ วันที่ 5 มิถนุ ายน 2548]. เขาถึงไดจาก :
http://www.sudipan.net/phpBB2/viewtopic.php?t=16125&start=0&postdays=0&postorder=
asc&highlight=

     


 


You might also like