Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 9

แบบทดสอบ กฎหมายอาญา หมวด ๗ หลายบทหลายกระทง

ข้อ ๑๘๑. ข้อใดเป็นการกระทากรรมเดียว


๑. เผาโรงเรือนหลังเดียวแต่ไฟลามไปไหม้บ้านหลังอื่นอีกหลายหลัง
๒. จาหน่ายเมทแอมเฟตามีนไป และยังเหลือเฮโรอีนอีกส่วนหนึ่ง
๓. มีปืนไม่มีทะเบียนไว้ในครอบครองใส่ไว้ในรถยนต์ตลอดเวลา
๔. ปลอมสลากกินแบ่งแล้วนาไปขึ้นเงิน
คาตอบ ๑. ป.อ. มาตรา ๙๐ “เมื่อการกระทาใดอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อ กฎหมายหลายบท ให้ใช้
กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่ผู้กระทาความผิด”
ข้อ ๑๘๒. การกระทาความผิดหลายบท หมายความว่าอย่างไร
๑. การกระทาความผิดกรรมเดียว แต่ไปเข้าความผิดตามกฎหมายหลายบท
๒. การกระทาความผิดหลายกรรม และไปเข้าความผิดตามกฎหมายหลายบท
๓. การกระทาความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรมและไปเข้าความผิดตามกฎหมายหลายบท
๔. การกระทาผิดหลายกรรม แต่ไปเข้าความผิดตามกฎหมายบทเดียว
คาตอบ ๑. ป.อ. มาตรา ๙๐ “เมื่อการกระทาใดอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อ กฎหมายหลายบท ให้ใช้
กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่ผู้กระทาความผิด”
ข้อ ๑๘๓. เมื่อมีการกระทาความผิดหลายบท กฎหมายกาหนดให้ลงโทษอย่างไร
๑. ให้ลงโทษทุกกระทงความผิด ๒. ให้ลงโทษกระทงที่หนักที่สุด
๓. ให้ลงโทษบทที่เบาที่สุด ๔. ศาลจะลงโทษบทใดก็ได้
คาตอบ ๒. ป.อ. มาตรา ๙๐ “เมื่อการกระทาใดอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อ กฎหมายหลายบท ให้ใช้
กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่ผู้กระทาความผิด”
ข้อ ๑๘๔. การกระทาความผิดหลายกระทง หมายความว่าอย่างไร
๑. การกระทาความผิดหลายอันต่างกันและการกระทานั้นไปเข้าความผิดตามกฎหมายหลายบท
๒. การกระทาความผิดกรรมเดียว แต่ไปเข้าความผิดตามกฎหมายหลายบท
๓. การกระทาความผิดหลายกรรม แต่ไปเข้าความผิดตามกฎหมายบทเดียว
๔. การกระทาความผิดหลายอันต่างกัน แต่ไปเข้าความผิดตามกฎหมายบทเดียว
คาตอบ ๑. ป.อ. มาตรา ๙๑ เมื่อปรากฏว่าผู้ใดได้กระทาการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ศาล
ลงโทษผู้นั้นทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป
ข้อ ๑๘๕. เมื่อมีการกระทาความผิดหลายกระทง กฎหมายกาหนดให้ลงโทษอย่างไร
๑. ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ๒. ให้ลงโทษบทหนักที่สุด
๓. ให้ลงโทษบทเบาที่สุด ๔. ศาลจะลงโทษทุกกระทงเรียงไป
คาตอบ ๑. ป.อ. มาตรา ๙๑ เมื่อปรากฏว่าผู้ใดได้กระทาการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ศาล
ลงโทษผู้นั้นทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป
ข้อ ๑๘๖. กฎหมายกาหนดให้ลงโทษผู้กระทาทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ในการกระทาความผิดประเภทใด
๑. การกระทาความผิดหลายบท ๒. การกระทาความผิดหลายกระทง
๓. การกระทาความผิดอีก ๔. การกระทาความผิดหลายคน
คาตอบ ๒. ป.อ. มาตรา ๙๑ เมื่อปรากฏว่าผู้ใดได้กระทาการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ศาล
ลงโทษผู้นั้นทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป
ข้อ ๑๘๗. กฎหมายกาหนดให้ลงโทษผู้กระทาโดยใช้บทมาตราที่หนักที่สุด ในการกระทาความผิดประเภทใด
๑. การกระทาความผิดหลายบท ๒. การกระทาความผิดหลายกระทง
๓. การกระทาความผิดอีก ๔. การกระทาผิดเหตุฉกรรจ์
คาตอบ ๑. ป.อ. มาตรา ๙๐ “เมื่อการกระทาใดอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ใช้
กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่ผู้กระทาความผิด”
ข้อ ๑๘๘. นายเอใช้ปืนยิงนายบีซึ่งยืนอยู่ที่หน้าต่าง กระสุนปืนไม่ถูกนายบีแต่เลยไปถูกกระจกหน้าต่างบ้าน
นายบีแตกเสียหาย ดังนี้ ข้อใดถูกต้อง
๑. นายเอผิดพยายามฆ่านายบีและฐานทาให้เสียทรัพย์ เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทตาม
ป.อ. มาตรา ๙๐ ต้องรับโทษบทหนักที่สุดคือพยายามฆ่า
๒. นายเอผิดพยายามฆ่านายบีและฐานทาให้เสียทรัพย์ เป็นการกระทาหลายกรรมต่างกันต้องลงโทษ
ทุกกรรมตาม ป.อ. มาตรา ๙๑
๓. นายเอผิดพยายามฆ่านายบีและฐานทาให้เสียทรัพย์โดยพลาด เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท
ต้องรับโทษบทหนักที่สุดคือพยายามฆ่า
๔. นายเอผิดพยายามฆ่านายบีและฐานทาให้เสียทรัพย์โดยพลาด เป็นการกระทาหลายกรรมต่างกัน
ต้องลงโทษทุกกรรมตาม ป.อ. มาตรา ๙๑
คาตอบ ๑. ตาม ป.อ. มาตรา ๙๐
ข้อ ๑๘๙. นายเมษาเป็นหนี้นางมีนาจานวนห้าแสนบาทแต่ไม่มีเงินชาระหนี้ นายเมษาจึงไปหลอกพา ด.ญ.
กันยาบุ ตรสาวของนางมีนาอายุ ๘ ปี ไปจากโรงเรียนไปกักขังไว้ที่บ้านของตน แล้ว ส่งข้อความไปข่มขู่
นางมีน าให้ น าสัญญากู้มาเพื่อเผาทาลาย มิฉะนั้นจะไม่รับรองความปลอดภัยของ ด.ญ.กันยา ถึงเวลา
นัดหมายนางมีนานาสัญญากู้ไปให้นายเมษาตามนัด พร้อมทั้งแจ้งเจ้าหน้าที่ตารวจให้ไปจับกุม นายเมษา
ถูกเจ้าหน้าที่ตารวจจับกุมได้ก่อนที่จะได้รับสัญญากู้จากนางมีนา ดังนี้ ข้อใดถูกต้อง
๑. นายเมษาผิดเรียกค่าไถ่ตาม ป.อ. มาตรา ๓๑๓ และผิดพรากเด็กตาม ป.อ. มาตรา ๓๑๗ ซึ่ง
เป็นการกระทาหลายกรรมต่างกันต้องลงโทษทุกกรรมตาม ป.อ. มาตรา ๙๑
๒. นายเมษาผิดเรียกค่าไถ่ตาม ป.อ. มาตรา ๓๑๓ และผิดพรากเด็กตาม ป.อ. มาตรา ๓๑๗ ซึ่ง
เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทตาม ป.อ. มาตรา ๙๐ ต้องรับโทษบทหนักฐานเรียกค่าไถ่
๓. นายเมษาผิดพยายามเรียกค่าไถ่ตาม ป.อ. มาตรา ๓๑๓ และผิดพรากเด็กตาม ป.อ. มาตรา ๓๑๗ ซึ่งเป็น
การกระทาหลายกรรมต่างกันต้องลงโทษทุกกรรมตาม ป.อ. มาตรา ๙๑
๔. นายเมษาผิดพยายามเรียกค่าไถ่ตาม ป.อ. มาตรา ๓๑๓ และผิดพรากเด็กตาม ป.อ. มาตรา ๓๑๗ ซึ่งเป็น
กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทตาม ป.อ. มาตรา ๙๐ ต้องรับโทษบทหนักฐานเรียกค่าไถ่
คาตอบ ๒. ตาม ป.อ. มาตรา ๙๐
ข้อ ๑๙๐. นายหินจานาสร้อยคอทองคาไว้กับนางทรายแต่ไม่มีเงินไถ่คืน นายหินอยากได้สร้อยคืนจึงสวม
หมวกคลุมหน้าเป็นคนร้ายใช้ปืนขู่บังคับให้นางทรายให้ส่ง สร้อยคอทองคาเส้นนั้นมาให้ นางทรายเกรงว่า
จะถูกยิงจึงส่งสร้อยเส้นนั้นให้นายหินไป ดังนี้ข้อใดถูกต้อง
๑. นายหินผิดชิงทรัพย์ตาม ป.อ. มาตรา ๓๓๙ และโกงเจ้าหนี้ตาม ป.อ. มาตรา ๓๔๙ เป็นกรรมเดียวผิด
กฎหมายหลายบทตาม ป.อ. มาตรา ๙๐ ต้องรับโทษบทหนักฐานชิงทรัพย์
๒. นายหินผิดฐานกรรโชกตาม ป.อ. มาตรา ๓๓๗ วรรคสอง และโกงเจ้าหนี้ตาม ป.อ. มาตรา ๓๔๙
เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทตาม ป.อ. มาตรา ๙๐ ต้องรับโทษบทหนักฐานกรรโชก
๓. นายหินไม่ผิดฐานชิงทรัพย์ แต่ผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตาม ป.อ. มาตรา ๓๔๙ ฐานกรรโชกตาม
ป.อ. มาตรา ๓๓๗ วรรคสองและความผิดต่อเสรีภาพตาม ป.อ. มาตรา ๓๐๙ วรรคสอง เป็น
กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทตาม ป.อ. มาตรา ๙๐ ต้องรับโทษบทหนักฐานกรรโชก
๔. นายหินผิดฐานชิงทรัพย์ ตาม ป.อ. มาตรา ๓๓๙ ผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตาม ป.อ. มาตรา ๓๔๙ ฐาน
กรรโชกตาม ป.อ. มาตรา ๓๓๗ วรรคสองและความผิดต่อเสรีภาพตาม ป.อ. มาตรา ๓๐๙
วรรคสอง เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทตาม ป.อ. มาตรา ๙๐ต้องรับโทษบทหนักฐาน
ชิงทรัพย์
คาตอบ ๓. ตาม ป.อ. มาตรา ๙๐
ข้อ ๑๙๑. จ.ส.ต.เดช จะเข้าจับกุมนายดาที่หน้าตลาดสด นายดาวิ่งหนีไม่ยอมให้จับกุม จ.ส.ต.เดช วิ่งไล่ตามไป
เมื่อจวนตัวนายดาจึงชักปืนยิงขึ้นฟ้า ๒ นัด เพื่อขู่ จ.ส.ต.เดช ไม่ให้จับ ดังนี้ข้อใดถูกต้อง
๑. นายดาผิดฐานพาอาวุธไปในเมือง ตาม ป.อ. มาตรา ๓๗๑ ผิดต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้
อาวุธปืน ตาม ป.อ. มาตรา ๑๔๐ และยิงปืนโดยใช่เหตุในที่ชุมนุมชนตาม ป.อ. มาตรา ๓๗๖ เป็น
กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทตาม ป.อ. มาตรา ๙๐ ต้องรับโทษบทหนักฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้า
พนักงาน
๒. นายดาผิดฐานพาอาวุธไปในเมือง ตาม ป.อ. มาตรา ๓๗๑ และผิดต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน
โดยใช้อาวุธปืน ตาม ป.อ. มาตรา ๑๔๐ กับผิดยิงปืนโดยใช่เ หตุใ นที่ชุมนุมชนตาม ป.อ.
มาตรา ๓๗๖ ซึ่งความผิดตาม ป.อ. มาตรา ๑๔๐กับ ป.อ. มาตรา ๓๗๖ เป็นกรรมเดียวผิด
กฎหมายหลายบทตาม ป.อ. มาตรา ๙๐
๓. นายดาผิดฐานพาอาวุธไปในเมือง ตาม ป.อ. มาตรา ๓๗๑ ผิดต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้
อาวุธปืน ตาม ป.อ. มาตรา ๑๔๐ และยิงปืนโดยใช่เหตุในที่ชุมนุมชนตาม ป.อ. มาตรา ๓๗๖
เป็นการกระทาหลายกรรมต่างกันต้องลงโทษทุกกรรมตาม ป.อ. มาตรา ๙๑
๔. นายดาผิดฐานพาอาวุธไปในเมือง ตาม ป.อ. มาตรา ๓๗๑ และผิดต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดย
ใช้อาวุธปืนตาม ป.อ. มาตรา ๑๔๐ กับฐานยิงปืนโดยใช่เหตุในที่ชุมนุมชนตาม ป.อ. มาตรา
๓๗๖ ซึ่งความผิดตาม ป.อ. มาตรา ๓๗๑ กับ ป.อ. มาตรา ๓๗๖ เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมาย
หลายบทตาม ป.อ. มาตรา ๙๐
คาตอบ ๒. ตาม ป.อ. มาตรา ๙๐
ข้อ ๑๙๒. นายสินขับรถบรรทุกสิบล้อตามหลังรถยนต์บรรทุกที่นายแสงขับช้า ทาให้นายสินอารมณ์เสีย
นายสิ น จึ งขับ รถแซงรถนายแสงแล้ ว แกล้ งปาดหน้าทาให้ ท้ายรถบรรทุกของนายสิ นปัดถูกหน้ารถของ
นายแสงเสียหาย รถของนายแสงแฉลบเกือบตกถนนซึ่งสูงจากข้างทางราวหนึ่งเมตร ดังนี้ ข้อใดถูกต้อง
๑. นายสินผิดพยายามทาร้ายร่างกายตาม ป.อ. มาตรา ๒๙๕, ๘๐ และผิดฐานทาให้เสียทรัพย์ตาม
ป.อ. มาตรา ๓๕๘ เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทตาม ป.อ. มาตรา ๙๐ ต้องรับโทษ
ตาม ป.อ. มาตรา ๓๕๘ อันเป็นบทหนักที่สุด
๒. นายสินผิดพยายามฆ่าตาม ป.อ. มาตรา ๒๘๘, ๘๐ และผิดฐานทาให้เสียทรัพย์ตาม ป.อ.
มาตรา ๓๕๘ เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทตาม ป.อ. มาตรา ๙๐ ต้องรับโทษตาม ป.อ.
มาตรา ๒๘๘ และมาตรา ๘๐ อันเป็นบทหนักที่สุด
๓. นายสินผิดพยายามทาร้ายร่างกายตาม ป.อ. มาตรา ๒๙๕, ๘๐ และผิดฐานทาให้เสียทรัพย์ตาม
ป.อ. มาตรา ๓๕๘ เป็นการกระทาหลายกรรมต่างกันต้องลงโทษทุกกรรมตาม ป.อ. มาตรา ๙๑
๔. นายสินผิดพยายามฆ่าตาม ป.อ. มาตรา ๒๘๘, ๘๐ และผิดฐานทาให้เสียทรัพย์ตาม ป.อ.
มาตรา ๓๕๘ เป็นการกระทาหลายกรรมต่างกันต้องลงโทษทุกกรรมตาม ป.อ. มาตรา ๙๑
คาตอบ ๑. ตาม ป.อ. มาตรา ๙๐
ข้อ ๑๙๓. นายแดงยิงนายจ้างเพราะโกรธแค้นที่ถูกไล่ออกจากงาน และยิงนายบัง รปภ. เพื่อที่จะปิดปาก
แต่ นายบัง รปภ. ไม่ตาย ดังนี้ นายแดงผิดฐานใด
๑. ฆ่าผู้อื่น กรรมเดียว
๒. ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพยายามฆ่า
๓. ฆ่าผู้อื่น และพยายามฆ่า
๔. ฆ่าผู้อื่น และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยพลาด
คาตอบ ๒. เป็นความผิดสองกรรม ตามฎีกาที่ ๑๐๐๒/๒๕๑๒
ข้อ ๑๙๔. นายแดงพา ด.ญ.น้อยอายุ ๑๔ ปีออกจากบ้านไป แล้วกระทาอนาจาร ดังนี้ นายแดงกระทา
ความผิดกี่กรรม
๑. พาไปเพื่อการอนาจารหนึ่งกรรม
๒. พรากผู้เยาว์ พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร อนาจารบุคคลอายุไม่เกิน ๑๕ ปี สามกรรม
๓. พรากผู้เยาว์ พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร สองกรรม
๔. อนาจารบุคคลอายุไม่เกิน ๑๕ ปี หนึ่งกรรม
คาตอบ ๓. เป็นความผิดสองกรรม ตามฎีกาที่ ๑๒๕๑/๒๕๒๐
ข้อ ๑๙๕. คนร้ายปล้นร้านทองแล้ววิ่งหลบหนีออกจากร้าน เจ้าหน้าที่ตารวจไล่ติดตามจับกุม คนร้ายจึงยิง
เจ้าหน้าที่ตารวจ แต่ไม่ถูกแล้วหลบหนีต่อไป เป็นความผิดกี่กรรม
๑. ปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน หนึ่งกรรม
๒. ปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านฯ
สามกรรม
๓. พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน หนึ่งกรรม
๔. ปล้นทรัพย์โดยมีเหตุฉกรรจ์ หนึ่งกรรม
คาตอบ ๒. ตามฎีกาที่ ๑๖๖๐/๒๕๒๐
ข้อ ๑๙๖. นายแดงใช้มือซ้ายกระชากสร้อยคอผู้ เสียหาย ในขณะที่มือขวาก็ยิงไปทาง รปภ. ดังนี้ นายแดง
กระทาความผิดกี่กรรม
๑. วิ่งราวทรัพย์ หนึ่งกรรม ๒. วิ่งราวทรัพย์โดยมีเหตุฉกรรจ์ หนึ่งกรรม
๓. วิ่งราวทรัพย์ พยายามฆ่า สองกรรม ๔. พยายามฆ่า หนึ่งกรรม
คาตอบ ๓. เป็นการกระทาที่แยกออกจากกันได้ แม้กระทาในวาระเดียวกัน จึงเป็นการกระทาความผิดสองกรรม
ข้ อ ๑๙๗. นายแดงเข้ าไปลั กทรั พย์ ในบ้ านของนายจ้ างหลายชิ้ น โดยเข้ าไปยกคอมพิ ว เตอร์ โทรทั ศน์
โทรศัพท์มือถือออกจากบ้านนายจ้าง เป็นการกระทากี่กรรม
๑. ลักทรัพย์ในเคหะสถาน หนึ่งกรรม ๒. ลักทรัพย์ สามกรรม
๓. ลักทรัพย์หนึ่งกรรม บุกรุกหนึ่งกรรม ๔. ลักทรัพย์สามกรรม บุกรุกหนึ่งกรรม
คาตอบ ๑. เป็นการกระทาหนึ่งกรรม โดยผู้กระทามีเจตนาเดียวคือการลักทรัพย์ ไม่ว่าจะกี่ชิ้นก็เอามาในคราว
เดียว เป็นหนึ่งกรรม
ข้อ ๑๙๘. นายสมศักดิ์กระทาอนาจารแก่เด็กหญิง ๓ คน ในสถานที่แห่งเดียวกัน ในระยะเวลาต่อเนื่อง
ใกล้ชิดกัน เป็นความผิดกี่กรรม
๑. หนึ่งกรรม ๒. สองกรรม
๓. สามกรรม ๔. ไม่มีคาตอบที่ถูกต้อง
คาตอบ ๓. การกระทาต่อเด็กหญิงคนละคน จึงเป็นหลายกรรม ตามฎีกาที่ ๒๖๙๓-๓๖๙๕/๒๕๑๖
ข้อ ๑๙๙. นายสมศักดิ์ออกเช็คธนาคารเดียวกัน ๓ ฉบับ ให้นายแดงในวันเดียวกัน สั่งจ่ายเงินลงวันที่
เดียวกัน ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินด้วยเหตุผลเงินในบัญชีไม่พอจ่าย เป็นความผิดที่กรรม
๑. หนึ่งกรรม ๒. สองกรรม
๓. สามกรรม ๔. ไม่มีคาตอบที่ถูกต้อง
คาตอบ ๓. การออกเช็ค มีเจตนาให้ไม่ได้รับการจ่ายเงินแยกออกจากกันเป็นเช็ครายฉบับ จึงเป็นสามกรรม
ตามฎีกาที่ ๓๑/๒๕๑๘
ข้อ ๒๐๐. นายสมศักดิ์บุกรุกเข้าไปในบ้านผู้เสียหายแล้วหลบซ่อนตัวอยู่ เมื่อผู้เสียหายรู้ตัวจึงเรียกให้นาย
สมศักดิ์ออกมา นายสมศักดิ์จึงทาลายฝาผนังห้องกระโดดหลบหนีออกไป เป็นการกระทากี่กรรม
๑. บุกรุกกรรมเดียว ๒. ทาให้เสียทรัพย์กรรมเดียว
๓. บุกรุก และพยายามลักทรัพย์ ๔. บุกรุก และทาให้เสียทรัพย์
คาตอบ ๔. การพังฝาผนังบ้านเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภายหลัง จึงเป็นสองกรรม ตามฎีกาที่ ๖๗๘/๒๕๓๐
ข้อ ๒๐๑. นายสมศักดิ์หลอกลวงเอาไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้เสียหายแล้ว ในวันต่อมาผู้เสียหายมาทวงเงินที่ถูก
หลอกให้โอนไป นายสมศักดิ์จึงมอบเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อเป็นการชาระหนี้โดยมีเจตนาเพื่อไม่ให้มีการใช้เงิน
ตามเช็ค เมื่อเช็คเด้ง ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ เป็นการกระทาความผิดกี่กรรม
๑. ผิดตามพ.ร.บ.ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค หนึ่งกรรม
๒. ผิดฐานฉ้อโกง หนึ่งกรรม
๓. ผิดฐานฉ้อโกง และตามพ.ร.บ.ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค สองกรรม
๔. ไม่เป็นความผิดอาญา เป็นความรับผิดในเรื่องตั๋วเงินในทางแพ่ง
คาตอบ ๓. ฎีกาที่ ๑๓๙๘/๒๕๓๐
ข้อ ๒๐๒. นายแดงพานางสาวน้อยมาข่มขืนกระทาชาเราที่บ้านของตนหลายครั้งหลายวัน เป็นเวลา ๗ วัน
แล้วปล่อยนางสาวน้อยกลับบ้านไปทุกครั้ง เป็นการกระทาความผิดกี่กรรม
๑. ข่มขืนกระทาชาเรากรรมเดียว
๒. ข่มขืนกระทาชาเรา ๗ กรรม
๓. ข่มขืนกระทาชาเรา ๗ กรรม และหน่วงเหนี่ยวกักขัง ๗ กรรม
๔. ข่มขืนกระทาชาเราหนึ่งกรรม หน่วงเหนี่ยวกักขังหนึ่งกรรม
คาตอบ ๒. เป็นการกระทาต่อผู้เสียหายต่างวันต่างเวลา ตามฎีกาที่ ๓๗๙๖/๒๕๕๐
ข้อ ๒๐๓. นายหนุ่มปีนเข้าไปในบ้านนางสาวน้อยแฟนสาว เมื่อเข้าไปแล้วพบว่านางสาวน้อยอยู่ในห้องนอน
กับชายอื่น นายหนุ่มจึงคว้ามีดที่วางอยู่บริเวณนั้นแทงชายคนนั้น นายหนุ่มกระทาความผิดกี่กรรม
๑. พยายามฆ่า หนึ่งกรรม ๒. บุกรุก หนึ่งกรรม
๓. บุกรุก และพยายามฆ่า สองกรรม ๔. พยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หนึ่งกรรม
คาตอบ ๓. ฎีกาที่ ๗๑๔๖/๒๕๕๒
ข้อ ๒๐๔. นายแดงมีเครื่องมือปลอมเงินตรา แล้วทาเงินตราปลอม เมื่อปลอมแล้วก็มีเงินตราปลอมนั้นไว้ใช้
ดังนี้ นายแดงมีความผิดกี่กรรม
๑. มีเครื่องมือปลอมเงินตรา ทาเงินตราปลอม มีเงินตราปลอมไว้ใช้ สามกรรม
๒. มีเครื่องมือปลอมเงินตรา ทาเงินตราปลอม สองกรรม
๓. ทาเงินตราปลอม หนึ่งกรรม
๔. มีเครื่ องมือปลอมเงิ นตรา ทาเงินตราปลอม มีเงินตราปลอมไว้ใช้ สามกรรมแต่ให้ลงโทษ
ในความผิดฐานทาเงินตราปลอมเพียงกระทงเดียว
คาตอบ ๔. ป.อ. มาตรา ๒๔๘ เป็นบทเฉพาะ ยกเว้นมาตรา ๙๑ ฎีกาที่ ๒๘๔๘/๒๕๑๙
ข้อ ๒๐๕. นายแดงคนต่างด้าวไม่มีบัตรประชาชน ไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานว่าบัตรประชาชนหาย และ
ขอมีบัตรใหม่ เมื่อได้บัตรประชาชนมาแล้วนายแดงนาบัตรนั้นไปยื่นแสดงขอเปิดบันชีธนาคาร นายแดงมี
ความผิดกี่กรรม
๑. แจ้งความเท็จ หนึ่งกรรม
๒. แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ หนึ่งกรรม
๓. แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ และใช้เอกสารที่เกิดจากการแจ้งความเท็จ สองกรรม
ให้ลงโทษฐานใช้เอกสารที่เกิดจากการแจ้งความเท็จเพียงหนึ่งกระทง
๔. แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ และใช้เอกสารที่เกิดจากการแจ้งความเท็จ สองกรรม
ให้ลงโทษฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันความเท็จเพียงหนึ่งกระทง
คาตอบ ๓. ป.อ. มาตรา ๒๖๘ เป็นบทเฉพาะ ยกเว้นมาตรา ๙๑ ฎีกาที่ ๒๓๓๕/๒๕๕๐
ข้อ ๒๐๖. นายแดงออกเช็คชาระหนี้ค่าพลอยให้แก่นางรวยหลายครั้ง และยักยอกทรัพย์นางรวยอีกหลายครั้ง
นายแดงกระทาความผิดกี่กรรม ต้องระวางโทษอย่างไร
๑. ต้องลงโทษทุกกระทงความผิด โดยเรียงกระทงลงโทษ
๒. ต้องลงโทษทุกกระทงความผิด เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้วให้ลงโทษจาคุกไม่เกิน ๑๐ ปี
๓. ต้องลงโทษทุกกระทงความผิด เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้วให้ลงโทษจาคุกไม่เกิน ๒๐ ปี
๔. ลงโทษในความผิดตาม พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับเช็คฯ และยักยอกทรัพย์ สองกรรม
คาตอบ ๒. ป.อ. มาตรา ๙๑ ฎีกาที่ ๒๘๔๑/๒๕๔๔
ข้อ ๒๐๗. นายแดงกระทาความผิดฐานฆ่าผู้อื่น และอีกคดีกระทาความผิดฐานมีและพกพาอาวุธปืน ต่อสู้
ขัดขวางและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทาการตามหน้าที่ โดยศาลพิพากษาถึงที่สุด นายแดงจะต้องรับ
โทษอย่างไร
๑. เป็นการกระทาความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษบทหนักที่สุด
๒. กระทาความผิดต่อชีวิตร่างกาย ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน และความผิดต่อเจ้าพนักงาน ต้องเรียง
กระทงลงโทษ
๓. กระทาความผิดต่อชีวิตร่างกาย ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน และความผิดต่อเจ้าพนักงาน ต้องเรียง
กระทงลงโทษ แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้ว จาคุกไม่เกิน ๒๐ ปี
๔. กระทาความผิดต่อชีวิตร่างกาย ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน และความผิดต่อเจ้าพนักงาน ต้องเรียง
กระทงลงโทษ แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้ว จาคุกไม่เกิน ๕๐ ปี
คาตอบ ๒. การกระทาทั้งสองคดีเป็ น ความผิ ดต่างกรรมต่างวาระ และมีเจตนากระทาความผิ ดที่แยก
ต่างหากจากกัน ไม่มีความเกี่ยวพันกัน จึงไม่อยู่ในบังคับ ป.อ. มาตรา ๙๑ ฎีกาที่ ๑๒๔๔/๒๕๔๕
ข้อ ๒๐๘. นายแดงเป็นเจ้าพนักงานกระทาการฉ้อโกงเงินของผู้เสียหาย ๓๕๓ ครั้ง เมื่อมีการฟ้องคดีมาใน
คราวเดียวกัน ศาลจะลงโทษนายแดงอย่างไร
๑. เป็นการกระทากรรมเดียว ลงโทษฐานฉ้อโกงกระทงเดียว
๒. เป็นการกระทา ๓๕๓ กรรม ลงโทษเรียงทุกกระทงความผิด
๓. เป็นการกระทา ๓๕๓ กรรม ลงโทษเรียงทุกกระทงความผิดแล้ว ลงโทษจาคุกนายแดงไม่เกิน ๑๐ ปี
๔. เป็นการกระทา ๓๕๓ กรรม ลงโทษเรียงทุกกระทงความผิดแล้ว ลงโทษจาคุกนายแดงไม่เกิน ๒๐ ปี
คาตอบ ๓. คดีฉ้อโกงทรัพย์มีความเกี่ยวพันกันจนฟ้องมาเป็นคดีเดียวกัน จึงอยู่ในบังคับ ป.อ. มาตรา ๙๑
(๑) ฎีกาที่ ๓๙๔/๒๕๕๓
ข้อ ๒๐๙. นายแดงเป็นเจ้าพนักงานกระทาการฉ้อโกงเงินของผู้เสียหาย ๓๕๓ ครั้ง แต่ไม่ได้ฟ้องมาเป็นคดี
เดีย วกัน โดยโจทก์แยกฟ้องเป็ น แต่ล ะคดี และศาลก็ไม่ได้สั่ งรวมการพิจารณา ศาลจะลงโทษนายแดง
อย่างไร
๑. เป็นการกระทากรรมเดียว ลงโทษฐานฉ้อโกงกระทงเดียว
๒. เป็นการกระทา ๓๕๓ กรรม ลงโทษเรียงทุกกระทงความผิด
๓. เป็นการกระทา ๓๕๓ กรรม ลงโทษเรียงทุกกระทงความผิดแล้ว จาคุกนายแดงไม่เกิน ๑๐
ปี
๔. เป็นการกระทา ๓๕๓ กรรม ลงโทษเรียงทุกกระทงความผิดแล้ว จาคุกนายแดงไม่เกิน ๒๐ ปี
คาตอบ ๓. คดีที่มีความเกี่ยวพันกันซึ่งสามารถฟ้องรวมกันได้ แต่กลับฟ้องแยกคดีและศาลไม่ได้สั่งรวมคดี
ก็ตาม ก็ไม่อาจลงโทษจาคุกจาเลยเกินกว่าที่กาหนดใน ป.อ. มาตรา ๙๑ ได้
ข้อ ๒๑๐. นายแดงข่มขืนกระทาชาเรานางสาวน้อยที่บ้านนายแดง เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔ แล้วยัง
ควบคุมนางสาวน้อยไว้ตลอดเวลา และได้ข่มขืนกระทาชาเราตลอดเวลาที่นางสาวน้อยอยู่ที่บ้านนายแดง
ทุกวัน จนนางสาวน้อยหลบหนีออกมาได้ในวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๔ นายแดงกระทาความผิ ดข่มขืน
กระทาชาเรากี่กรรม
๑. กรรมเดียว
๒. ๗ กรรม
๓. ข่มขืน และหน่วงเหนี่ยวกักขัง ๒ กรรม
๔. ข่มขืน ๗ กรรม และหน่วงเหนี่ยวกักขัง ๗ กรรม
คาตอบ ๑. ตามฎีกาที่ ๒๘๘๐/๒๕๒๓

You might also like