Verbs

You might also like

Download as docx, pdf, or txt
Download as docx, pdf, or txt
You are on page 1of 4

Verbs (กริยา)

♦ Verb คืออะไร
Verb is a word or phrase that describes an action, condition, or experience
Verb อ่านว่า เวิบ คือ คำหรือกลุ่มคำที่บรรยาย การกระทำ สถานะ หรือประสบการณ์
กล่าวคือ เป็นคำที่บอกให้รู้ว่าประธานของประโยค ทำอะไร หรือมีสถานะเป็นอย่างไรนั่นเอง เช่น

A man eats a mango. ผู้ชาย กิน มะม่วง – คำว่า eat บอกการกระทำ

The sun is hot. พระอาทิตย์ (คือ) ร้อน – คำว่า is บอกสถานะของพระอาทิตย์ว่าเป็นอย่างไร แต่คำว่า is am are บางทีจะไม่
แปลกัน

I feel cold. ฉัน รู้สึก หนาว – คำว่า feel บอกประสบการณ์ของตัวฉันให้รู้ว่าฉันรู้สึกอย่างไร

♦ Verb มีอะไรบ้าง มีกี่ประเภท


การแบ่งประเภทของ Verb ขึ้นอยู่กับว่า จะแบ่งกันอย่างไรนะครับ ไม่กำหนดหลักเกณฑ์ตายตัวแน่นอน

1. สกรรมกริยา (Transitive Verb) และ อกรรมกริยา (Intransitive Verb)

– สกรรมกริยา (Transitive Verb) คือกริยาที่ต้องมากรรมมารับ มิฉะนั้นจะไม่สามารถสื่อความหมายได้สมบูรณ์ คำกริยา


ชนิดนี้ ได้แก่ love, like, eat, hit, clean, buy, cut, do, have, make, meet เป็นต้น ถ้าไม่มีกรรมมารับจะไม่สามารถสื่อความกัน
ได้เป็นที่เข้าใจกัน เช่น

I love. ผมรัก…. อ้าวแล้วรักอะไรล่ะ ..ดังนั้นจึงต้องมีกรรมมารองรับ

We eat. พวกเรากิน…. อ้าวแล้วกินอะไรล่ะ ..ดังนั้นจึงต้องมีกรรมมารองรับ

ตัวอย่างเช่น

• I love you.
ผมรักคุณ (คุณเป็นกรรมของประโยค)

• You like a cat.


คุณชอบแมว (แมวเป็นกรรมของประโยค)

• We eat rice.
พวกเรากินข้าว (ข้าวเป็นกรรมของประโยค)

• They buy a car.


พวกเขาซื้อรถยนต์ (รถยนต์เป็นกรรมของประโยค)

– อกรรมกริยา (Transitive Verb) คือกริยาที่ไม่ต้องมากรรมมารับ ก็สามารถสื่อความหมายได้สมบูรณ์ คำกริยาชนิดนี้ ได้แก่


sit, stand, swim, walk, sleep, fly, run, sing, dance เป็นต้น
• I sit.
ผมนั่ง

• You stand.
คุณยืน

• We walk.
พวกเราเดิน

• They sleep.
พวกเขานอนหลับ

จะเห็นได้ว่าแค่มีประธาน กับกริยา ก็สามารถสื่อความได้แล้วว่า ใครทำอะไร

2. กริยาแท้ (Main Verb) และ กริยาช่วย (Helping Verb)

– กริยาแท้ (Main Verb) หรือกริยาหลักของประโยค ถ้าในประโยคนั้นๆมีคำกริยาตัวเดียว จะไม่ใช่ปัญหาใดๆ เพราะคำ


กริยาที่ปรากฎ มันก็คือกริยาหลักของประโยคนั้นเอง เช่น

• I walk to school.
ฉันเดินไปโรงเรียน ( walk เป็นกริยาแท้)

• You are a doctor.


คุณเป็นหมอ (are เป็นกริยาแท้)

• They sing beautifully.


พวกเขาร้องเพลงอย่างไพเราะ (sing เป็นกริยาแท้)

• They eat rice.


พวกเขากินข้าว (eat เป็นกริยาแท้)

กริยาช่วย (Helping Verb) บ้างก็เรียกว่า auxiliary verb หมายถึง คำกริยาที่เป็นตัวเสริมเข้าไปร่วมกับกริยาแท้ ให้ถูกต้องตาม


โครงสร้างของประโยค โดยที่ไม่มีความหมายใดๆ

• I am walking to school.
ฉันกำลังเดินไปโรงเรียน ( am เป็นกริยาช่วย ส่วน walk เติม ing เป็นกริยาแท้)

• You are a doctor.


คุณเป็นหมอ (are เป็นกริยาแท้)

• They are singing beautifully.


พวกเขากำลังร้องเพลงอย่างไพเราะ (are เป็นกริยาช่วย ส่วน sing เติม ing เป็นกริยาแท้)

• They have eaten rice.


พวกเขากินข้าวแล้ว (have เป็นกริยาช่วย ส่วน eaten เป็นกริยาแท้)
ปล. คำว่า is am are และ have has ถ้าปรากฎลำพังในประโยคจะเป็นกริยาแท้ แต่ถ้าไปเสริมเข้ากับกริยาตัวอื่นจะเป็นกริยา
ช่วย เช่น

I am a doctor. ผมเป็นหมอ (am เป็นกริยาแท้)

I am singing. ผมกำลังร้องเพลง (am เป็นกริยาช่วย)

I have a dog. ผมมีหมาหนึ่งตัว (have เป็นกริยาแท้)

I have eaten rice. ผมกินข้าวแล้ว (have เป็นกริยาช่วย)

2. กริยาปกติ (Regular Verb) และ กริยาอปกติ (Iregular Verb)

กริยาปกติ (Regular Verb) คือ คำกริยาที่เติม ed ต่อท้าย ในช่อง 2 และ 3 ซึ่งเป็นการง่ายสำหรับผู้เรียน ถ้าจะผันกริยา เพราะ
แค่เติม ed ต่อท้ายแค่นั้นเอง เช่น
1 answer answered answered ตอบ (คำถาม) รับ (โทร
2 arrive arrived arrived ศัพท)
มาถึง ไปถึง
3 attend อะเท็นด attended อะเท็นเด็ด attended (เข้าร่วม) ประชุม
4 beg เบก begged เบกด begged ขอ
5 call คอล called คอลด called เรียก โทรหา
6 change เชนจึ changed เชนจดึ changed เปลี่ยน
7 clean คลีน cleaned คลีนด cleaned ทำความสะอาด

กริยาอปกติ (Regular Verb) จะเรียกมันว่า กริยาผิดปกติก็ได้นะ เพราะกริยากลุ่มนี้ จะแปลงร่างตัวเอง ในช่อง 2 และ 3 ซึ่ง
ทำให้ผู้เรียนต้องจดจำให้ได้ว่า มันแปลงร่างไปยังไง และบางคำก็คงรูปเดิมไว้ซะอย่างนั้น เช่น

1 be = is, am, are was, were been เป็ น อยู่ คือ


2 become (บิคั๊ม) became (บิเค๊ม) become กลายเป็น
3 begin (บิกิ๊น) began (บิแก๊น) begun (บิกั๊น) เริ่มต้น
4 cut คัท cut cut ตัด
5 do ดู did ดิด done ดัน ทำ
6 go โก went เว็นท gone กอน ไป

♦ หลักการใช้ Verb ใช้ยังไง

หลักการใช้ verb จะว่าไปแล้วมันก็คือ Verb Tense หรือ Tense 12 นั่นแหละครับ คำกริยาคำเดียวเดียวกัน สามารถสื่อความ
ได้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต

I eat. ฉันกิน
I am eating. ฉันกำลังกิน

I have eaten. ฉันกินเสร็จแล้ว

I ate. ฉันกินมาแล้ว

I will eat. ฉันจะกิน

You might also like