Professional Documents
Culture Documents
ruchjira1234,+{$userGroup},+7-4
ruchjira1234,+{$userGroup},+7-4
ruchjira1234,+{$userGroup},+7-4
บทบาทพยาบาลในการดูแลผู้รับบริการโรคตับแข็ง
ที่มีภาวะแทรกซ้อน
The Role of Nurses in Caring for Patients with
Complications of Cirrhosis
ญานิศา ดวงเดือน*
Yanisa Duangduen*
บทคัดย่อ
โรคตับแข็งเป็นโรคทีพ่ บได้บอ่ ยและเป็นสาเหตุของการเสียชีวติ ได้ในทุกประเทศทัว่ โลก เนือ่ งจาก
ในระยะแรกผูป้ ว่ ยจะแสดงอาการไม่ชดั เจน จึงไม่มารักษาทีโ่ รงพยาบาล ระยะหลังผูป้ ว่ ยจะมีอาการจำ�เพาะ
ต่อโรคตับแข็งมากขึ้นและมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่สังเกตเห็นได้ชัดเจน เนื่องจากเซลล์ตับมีการ
เปลีย่ นแปลงและการทำ�หน้าทีข่ องตับลดลง ส่งผลกระทบต่ออวัยวะอืน่ ๆ จนเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา
มากมาย ภาวะแทรกซ้อนทีพ่ บ คือ ความดันในหลอดเลือดดำ�พอร์ทลั สูง เลือดออกจากหลอดเลือดดำ�
บริเวณทางเดินอาหารขอด ท้องมาน ติดเชือ้ ในช่องท้อง มีความผิดปกติทางสมอง ไตเสียหน้าที่ และขาด
สารอาหาร ซึง่ เป็นการเพิม่ อัตราการเสียชีวติ ของผูป้ ว่ ยมากขึน้ ดังนัน้ พยาบาลซึง่ เป็นผูท้ ด่ี แู ลผูป้ ว่ ยอย่าง
ใกล้ชดิ ตลอดเวลา ควรมีความรูค้ วามเข้าใจเกีย่ วกับอาการ อาการแสดง และภาวะแทรกซ้อนทีอ่ าจเกิดขึน้
และบทบาทพยาบาลในการดูแลผูป้ ว่ ยตับแข็งทีม่ ภี าวะแทรกซ้อน เพือ่ ช่วยลดความทุกข์ทรมานของผูป้ ว่ ย
และลดอัตราการเสียชีวติ ของผูป้ ว่ ย รวมถึงประคับประคองให้ผปู้ ว่ ยมีชวี ติ ทีย่ นื ยาวขึน้
Received : August 3, 2016 Revised : October 7, 2019 Accepted : November 29, 2019
Abstract
Cirrhosis is a disease that is common and is the leading cause of death in every
country around the world. In the first phase, the patient shows general symptoms of
illness. As they do not seem serious, the patients often do not to a hospital. After
that, patients will experience more specific symptoms of liver cirrhosis and physical
changes. The liver cell changes and the disfunction affects other organs and causes many
complications. Common complications include portal hypertention, esophageal varices,
ascites, spontaneous bacterial peritonitis, hepatic encephalopathy, hepatorenal syndrome,
and malnutrition, which increases the mortality rate of more patients. Nurses should have
knowledge about the signs and symptoms, complications of cirrhosis, and the role of
nurses to care for patients with liver cirrhosis complications. This will help to reduce the
suffering of patients and reduce mortality among patients including helping palliative
patients to live longer.
อาการบ่งชีถ้ งึ สารน้�ำ ในร่างกายต่�ำ ซึง่ อาจเกิดเลือด 2.2.4 ดูแลให้ผรู้ บั บริการชัง่ น้�ำ หนักทุก
ออกจากระบบทางเดินอาหารได้ วัน วันละหนึง่ ครัง้ ด้วยเครือ่ งชัง่ เดิม วัดรอบท้อง
2.1.5 ให้สารน้ำ�ทดแทนตามแผนการ และประเมินอาการบวมบริเวณอวัยวะส่วนปลาย
รักษาของแพทย์ เมื่อพบว่ามีภาวะเลือดออกจาก ร่วมกับติดตามปริมาณสารน้�ำ เข้าออกจากร่างกาย
หลอดเลือดดำ�ขอดในหลอดอาหาร โดยรักษาระดับ เพือ่ ประเมินปริมาณสารน้�ำ ทีค่ ง่ั ค้างอยูใ่ นชัน้ ไขมัน
ความดันโลหิตซิสโตลิก (systolic blood pres- ใต้ผวิ หนังและช่องท้อง
sure) ให้มากกว่า 90 มิลลิเมตรปรอท และมีอตั รา 2.2.5 ประเมินน้�ำ หนักของผูร้ บั บริการ
การเต้นของหัวใจน้อยกว่า 100 ครัง้ /นาที8 ทีไ่ ด้รบั ยาขับปัสสาวะทุกวัน โดยผูร้ บั บริการทีไ่ ม่มี
2.1.6 ติดตามภาวะเลือดออกจากระบบ การบวมบริเวณอวัยวะส่วนปลาย น้�ำ หนักควรลด
ทางเดินอาหารอย่างน้อย 5 วันตัง้ แต่รบั เข้าอยูใ่ น 0.3-0.5 กิโลกรัม/วัน และผูร้ บั บริการทีม่ อี วัยวะ
โรงพยาบาล โดยเฝ้าระวังอย่างใกล้ชดิ ภายใน 72 ชม. ส่วนปลายบวมน้ำ� ควรมีนำ้�หนักลดลง 0.8-1
เนื่องจากเป็นระยะที่อาจเกิดภาวะเลือดออกจาก กิโลกรัม/วัน12 เป็นการลดปริมาณสารน้�ำ ในร่างกาย
ระบบทางเดินอาหารเฉียบพลันได้7 และป้องกันการเกิดภาวะไตวายได้
2.2 ภาวะท้องมาน 2.2.6 เฝ้าระวังระดับอิเล็กโทรลัยต์ใน
2.2.1 ดูแลให้ผู้รับบริการได้รับอาหาร เลื อ ดเปลี่ ย นแปลงในผู้ รั บ บริ ก ารที่ ไ ด้ รั บ ยาขั บ
โซเดียมต่�ำ หรือจำ�กัดปริมาณเกลือให้ผรู้ บั บริการได้ ปัสสาวะ หรือได้รับการเจาะท้อง โดยเฉพาะ
รับน้อยกว่า 2,000 มิลลิกรัม/วัน12 นอกจากนัน้ ยัง โพแทสเซียมและโซเดียมต่�ำ
ต้องแนะนำ�ญาติเกีย่ วกับอาหารทีส่ ามารถนำ�มาให้ 2.3 ภาวะติดเชือ้ ในช่องท้อง
ผูร้ บั บริการรับประทานได้ เพือ่ ลดการดูดกลับของ 2.3.1 ดูแลให้ผรู้ บั บริการได้รบั ยาปฏิชวี นะ
สารน้�ำ เข้าสูร่ า่ งกาย ตามแผนการรักษาของแพทย์
2.2.2 จำ�กัดน้ำ�ดื่มตามแผนการรักษา 2.3.2 ดูแลร่างกายและสิง่ แวดล้อมรอบ
เพือ่ ลดปริมาณสารน้�ำ เข้าสูร่ า่ งกาย ตัวผูร้ บั บริการให้สะอาด เปลีย่ นผ้าปูเตียงทุกครัง้
2.2.3 จัดท่าศีรษะสูง 15 องศา ให้กบั เมือ่ ถึงกำ�หนด
ผู้รับบริการเพื่อให้สารน้ำ�ไหลลงตามแรงโน้มถ่วง 2.3.3 ติดตามอาการแสดงของการติด
ลดการกดจากกระบังลมหรือสารน้ำ�ในช่องท้อง เชือ้ ในช่องท้อง เช่น มีไข้ ปวดท้องและกดเจ็บ หน้า
ทำ�ให้ปอดขยายตัวได้ โดยมีการศึกษาพบว่าการจัด ท้องแข็งเกร็ง8 หากพบอาการดังกล่าว พยาบาล
ท่าศีรษะสูง 15 องศา, 30 องศา และ 45 องศา ต้องรีบประสานงานกับแพทย์ เพือ่ ให้การช่วยเหลือ
ให้ผลไม่แตกต่างกันในเรือ่ งของความสุขสบายและ ได้ทนั ท่วงที
ค่าออกซิเจนในเลือด แต่ผรู้ บั บริการทีม่ นี �ำ้ ในช่อง 2.4 อาการผิดปกติทางสมอง
ท้อง การจัดท่าศีรษะสูง 45 องศา จะทำ�ให้ผรู้ บั 2.4.1 ดูแลให้ผ้รู ับบริการได้รับยา เช่น
บริการหายใจลำ�บากมากกว่าการจัดท่าศีรษะสูง 15 lactulose เพื่ อ ลดการสร้ า งแอมโมเนี ย ของ
องศา16 แบคทีเรียในระบบทางเดินอาหาร และสอบถาม
เอกสารอ้างอิง
1. Asrani SK, Devarbhavi H, Eaton J, Kamath PS. Burden of liver disease in the world.
J Hepatol 2019;70(1):151-71.
2. International Health Policy Program. Disability-adjusted life years: burden of disease
Thailand 2014. Nonthaburi: Graphico system; 2017. (in Thai)
3. Bethea ED, Chopra S. Cirrhosis and Portal Hypertension. In: Lawrence SF, Paul M,
editors. Handbook of liver disease. 4th ed. Philadelphia: Elsevier; 2018. p.158-71.
4. Jirapongsathorn S. Cirrhosis. In: Sakarin J, Chaipichit P, editors. Manual of gastroen-
terology. Bangkok: Nam Aksorn Printing House; 2018. p.183-202. (in Thai)
5. Saeian K, Shaker R. Liver disorders: a point of care clinical guide. Zug, Switzerland:
Springer International Publishing; 2017.
6. Chirapongsathorn S. Stage and natural history of cirrhosis. Thai J Hepatol 2018;1(2):14-8.
7. Bosch J, Iwakiri Y. The portal hypertension syndrome: etiology, classification, relevance,
and animal models. Hepatol Int 2018;12(1):1-10.
8. Chainuvati S. Portal Hypertention and Complications. In: Supot P, Tawesak T,
Sathaporn M, editors. Clinical practice in gastroenterology. 3rd ed. Bangkok Wetchasan
Printing House; 2014. p.456-76. (in Thai)
9. Piano S, Tonon M, Angeli P. Management of ascites and hepatorenal syndrome.
Hepatol Int 2018;12(1):122-34.
10. Yao J, Zhou X, Kong M, Li L, Hua X, Zhao Y, et al. Effects of eating frequency on
respiratory quotient in patients with liver cirrhosis: a randomized controlled trial. Asia
Pac J Clin Nutr 2018;27(2):322-28.