Download as docx, pdf, or txt
Download as docx, pdf, or txt
You are on page 1of 3

218

ความร้อนกับการทำงาน

ที่มา: https://www.tosh.or.th/index.php/blog/item/901-2021-06-02-06-54-17

ความร้อนเป็ นพลังงานรูปแบบหนึ่งที่มนุษย์ใช้ประโยชน์ได้ทั้งในชีวิต
ประจำวันและการทำงาน มนุษย์สามารถรับรู้ความร้อนได้โดยการสัมผัส
พลังงานความร้อนใกล้กับวัตถุจะอยู่ในรูปของพลังงานจลน์ของโมเลกุล
ของวัตถุนั้น เมื่อวัตถุได้รับความร้อนเพิ่มขึ้น โมเลกุลจะเคลื่อนไหวเร็วขึ้น
พลังงานความร้อนสามารถเปลี่ยนกลับเป็ นพลังงานรูปแบบอื่นได้ และ
สามารถถ่ายเทระหว่างมนุษย์และสิ่งแวดล้อมในรูปของการนำความร้อน
การพาความร้อน การแผ่รังสีความร้อน การระเหย และการเผาผลาญ
ความร้อนจากกระบวนการเมตาบอลิซึม (Metabolism)
ความร้อนในการทำงานแบ่งออกเป็ น 2 ประเภท ได้แก่
1. ความร้อนแห้ง เป็ นความร้อนที่เล็ดลอดจากอุปกรณ์ในกรรมวิธีการ
ผลิตที่ร้อน และมักอยู่รอบๆ บริเวณที่ทำงาน
2. ความร้อนชื้น เป็ นสภาพที่มีไอน้ำเพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศซึ่งเกิด
จากกรรมวิธีผลิตแบบเปี ยก
กลไกของร่างกายในการควบคุมความร้อน
โดยปกติร่างกายของมนุษย์มีอุณหภูมิปกติอยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส
หรือ 98.6 องศาฟาเรนไฮต์ ซึ่งควบคุมโดยศูนย์ควบคุมอุณหภูมิของ
219

ร่างกายที่สมองส่วนไฮโปธาลามัส ศูนย์นี้จะทำหน้าที่ควบคุมการระบาย
ความร้อนโดยการกระตุ้นต่อมเหงื่อ การถ่ายเทความร้อนของร่างกายเกิด
ขึ้นผ่านทางการนำ การพา และการแผ่รังสีความร้อน ประสิทธิภาพการ
ถ่ายเทความร้อนของร่างกายขึ้นอยู่กับหลายปั จจัย เช่น กระแสลมที่ช่วย
ให้การพาความร้อนได้ดี และความชื้นในบรรยากาศที่ต่ำทำให้การระเหย
ของเหงื่อจากร่างกายทำได้มากขึ้น เมื่อร่างกายต้องทำงานในที่ที่มี
อุณหภูมิสูง การระบายความร้อนจากร่างกายจะน้อยลงเนื่องจากความ
ร้อนจากบรรยากาศถูกพาเข้าสู่ร่างกายมากกว่าที่จะสามารถระบายออก
ได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกาย โดยทั่วไป ร่างกายจะได้รับความ
ร้อน จากสองทางหลัก คือ พลังงานเมตาบอลิซึม: เกิดจากการเผาผลาญ
ในร่างกายระหว่างการทำงาน และ พลังงานความร้อน: เกิดจากสภาพ
แวดล้อมในการทำงาน เช่น ในกระบวนการผลิต
ประเภทอุตสาหกรรมที่เสี่ยงต่อความร้อนในการทำงาน ได้แก่:
โรงงานหล่อโลหะ, หลอมโลหะ, ถลุงโลหะ และรีดโลหะ โรงงานทำแก้ว,
เซรามิก โรงงานทำขนม/อาหาร ที่ต้องใช้เตาเผาหรือเตาอบ โรงงานฟอก
หนัง โรงงานเคลือบดินเผา โรงงานทำยาง โรงงานทำกระดาษ โรงงาน
ซักรีด โรงงานทำสีย้อมผ้า งานเหมืองใต้ดิน หรือลักษณะที่ใกล้เคียงกัน
(ในอุโมงค์และในถ้ำ) ช่างเครื่อง หรือบุคคลอื่นที่ทำงานอยู่ใต้ท้องเรือ หรือ
ทำงานในบริเวณที่อับอากาศ คนงานก่อสร้าง, ชาวนา, ชาวสวน, ชาวไร่
และงานที่ต้องทำงานในที่โล่งแจ้งและได้รับแสงอาทิตย์โดยตรง
การป้ องกันและควบคุมความร้อนจากสิ่งแวดล้อม
ในการระบายความร้อนจากสภาพแวดล้อมในการทำงาน สามารถ
ดำเนินการได้โดยทั่วไปมี 2 วิธี:
1. การออกแบบและสร้างอาคารให้มีระบบระบายอากาศที่ดี: การจัด
รูปแบบโครงสร้างที่สามารถถ่ายเทความร้อนระหว่างภายในและภายนอก
220

อาคาร ธรรมชาติของอากาศร้อนจะถูกพาไปสู่เบื้องบน แล้วอากาศที่มี


อุณหภูมิเย็นกว่าจะไหลเข้ามาแทนที่
2. การเป่ าอากาศเย็นที่จุดที่ทำงาน: ในกรณีที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยวิธี
การออกแบบหรือวิธีการอื่น ถ้าหากความร้อนที่เกิดขึ้นเนื่องจากการพา
อย่างเดียว สามารถที่จะเป่ าอากาศที่เย็นกว่าเข้าไปทดแทน หรือชดเชยที่
ตำแหน่งคนงานที่ทำงานในพื้นที่ร้อน
การป้ องกันที่ตัวคนงาน: โดยทั่วไปแล้ว การป้ องกันและควบคุมที่จุดต้น
กำเนิดความร้อนในบางครั้งในทางปฏิบัติอาจจะทำได้ยาก ดังนั้น การ
ป้ องกันที่ตัวคนงานจึงมีความจำเป็ นอย่างยิ่ง ซึ่งมีหลักการดังนี้:
1. การสวมใส่อุปกรณ์ป้ องกันความร้อน: ใช้อุปกรณ์เช่น เสื้อผ้าที่
สะท้อนความร้อน หมวกป้ องกันความร้อน และอุปกรณ์ป้ องกันความร้อน
อื่นๆ ที่เหมาะสม
2. การพักผ่อนอย่างเพียงพอ: การให้พนักงานพักในที่ที่มีอากาศเย็น
ในช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อลดความเครียดจากความร้อน
3. การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ: การดื่มน้ำเพื่อทดแทนการสูญเสียเหงื่อ
และรักษาสมดุลของของเหลวในร่างกาย
4. การฝึ กอบรมและให้ความรู้: ให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับการ
รับมือกับความร้อน และสัญญาณเตือนของความเครียดจากความร้อน
5. การจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก: จัดเตรียมที่นั่งพักและเครื่อง
ดื่มที่มีความเย็นใกล้บริเวณที่ทำงานเพื่อให้พนักงานสามารถพักผ่อนได้
ง่าย

You might also like