Professional Documents
Culture Documents
นำเสนอ
นำเสนอ
เมื่อ และ
k k −1 +¿ ¿
a k n + ak−7 n +…+ a1 n+a 0 k ∈I a k , a k−1 , … a 1 , a0 ∈ R
จากตัวอย่างข้างต้น หากพิจารณาจะได้แผนภาพดังนี้
a1 , a2 , a3 , a4 , … , an
C ǰǰDǰ ǰǰE
Y Y Y
2
จะได้ c – b=x
c=b+ x
d – c=x
d=c+ x
¿ b+ x + x
¿ b+ 2 x
ปรับแผนภาพได้ ดังนี้
a1 , a2 , a3 , a4 , … , an n óÝî Ť
ǰ
x x x n- 2 óÝî Ť
จะได้ว่า a1 = a1
a2 = a1 + b
a3 = a1 + b + (b+x)
a4 = a1 + b + (b+x) + (b+2x)
. ข้อสังเกต
a1 , a2 , a3 , a4 , … , an
.
C Cǰǰ Y Cǰǰ Y Cǰǰ ļ Y b+(n-2)x
.
Y Y Y
óÝî ÿč
Ťéì šć÷đðŨ
î ǰn- 2 đîČ
Ă
ęÜÝćÖêĆ
ǰǰ üĒðøöŠ
ĕ ÙÜìĊ
ęđøööêĆÜĒêŠ
ĉę ĊĚ óÝî ŤĊ
ì ęǰ3
an = a1 + b(n-1) + (x+2x+3x+…)
an = a1 + b(n-1) + x(1+2+3+…(n-2))
n
จากสูตรอนุกรมเลขคณิต Sn= 2 ( a1+ an )
จะได้ a n=a1 +b (n−1)+ x [ (n−2)
2
(1+n−2) ]
3
(n−2)
a n=a1 +b (n−1)+ x
2
(n−1) [ ]
a n=a1 +b (n−1)+
2 [
(n−1)(n−2)
x ]
สังเกตพบว่า b คือ ผลต่างครั้งที่ 1 กำหนดให้แทนด้วย d1
และ x คือ ผลต่างครั้งที่ 2 กำหนดให้แทนด้วย d2
∴ a n=a1 +(n−1)d 1+ [ (n−1)(n−2)
2
d2 ]
สูตรที่ 1 an =
สรุปสูตรได้ว่า
a 1+(n−1)d 1 + [ (n−1)(n−2)
2 ]
d2
x x x x n- 3 óÝî Ť
จะได้ว่า a1 = a1
a2 = a1 + b
4
a3 = a1 + b + (b+c)
a4 = a1 + b + (b+c) + (b+2c+x)
a5 = a1 + b + (b+c) + (b+2c+x) + (b+3c+3x)
.
.
.
an = a1 + b(n-1) + (c + 2c + x + 3c + 3x …)
an = a1 + b(n-1) + (c +2c+3c+…+(n-2)c) +
(x+3x+6x+ …)
an = a1 + b(n-1) + c(1+2+3+…+(n-2)) +
x(1+3+6 + …) ……………¿
พิจารณา 1+3+6 + … ซึ่งมี n-3 พจน์
จะได้ว่า a1 = 1
a2 = 3 (1+2)
a3 = 6 (1+2+3)
a4 = 10 (1+2+3+4)
.
.
.
am = 1+2+3+4+…+m
m ( m+1 )
= 2
=
5
จากสูตร จะได้ว่า
ดังนั้น =
=
จาก ¿ จะได้ a n=a1 +b ( n−1 ) +c [
( n−2 )
2 ] [
( 1+ n−2 ) + x
(n−3)(n−2)(n−1)
6 ]
a n=a1 +b ( n−1 ) +c
[
( n−2 )
2 ] [
( n−1 ) + x
(n−1)(n−2)(n−3)
6 ]
a n=a1 +b (n−1)+ [ (n−1)(n−2)
2 ] [ c+
(n−1)(n−2)(n−3)
1× 2× 3 ] x
∴ a n=a1 + ( n−1 ) d 1+
[ 2 ] [
( n−1 ) ( n−2 )
d2+
(n−1)∙(n−2)∙(n−3)
6
d3
]
สูตรที่ 2 an =
[
a 1+ ( n−1 ) d 1+
สรุปสูตรได้ว่า
( n−1 ) ( n−2 )
2 ] [
d2+
(n−1)∙(n−2)∙(n−3)
6
d3
]
เมื่อ a1 แทน พจน์ที่ 1
n แทน จำนวนพจน์ที่ลำดับนั้นทั้งหมด
d1 แทน ผลต่างครั้งที่ 1
d2 แทน ผลต่างครั้งที่ 2
d3 แทน ผลต่างครั้งที่ 3
บทที่ 4
ผลการดำเนินการศึกษา
7
จากการศึกษาค้นคว้าและการดำเนินการ การทำโครงงาน
คณิตศาสตร์ ประเภทสร้างทฤษฎีหรือคำอธิบายทางคณิตศาสตร์
เรื่อง ถอดรหัสลำดับพหุนาม เพื่อหาพจน์ทั่วไปของลำดับพหุนาม
และอธิบายสูตรด้วยลำดับและอนุกรมเลขคณิต ได้ผลดังนี้
d 2 3 4 5
d 1 1 1
จากแผนผลต่างระหว่างลำดับทำให้ทราบว่า a1 = 1 , d1 =
2 , d2 = 1
จากสูตร an = a 1+(n−1)d 1 + [
(n−1)(n−2)
2
d2 ] ถึงแค่ d 2 เท่านั้น
(n−1)∙(n−2)
แสดงว่า an = a1 + ( n−1 ) d 1+ 2
d2
1 + ( n−1 ) 2+
( n−1 ) ∙ ( n−2 )
an = 2
(1)
8
an =
2+ 4 n−4+n −3 n+2
2
2
an =
n +n
2
2
E ǰǰ
จากแผนผลต่างระหว่างลำดับทำให้ทราบว่า a1 =
1 , d1 = 4 , d2 = 1
จากสูตร an =
(n−1)(n−2)
a 1+(n−1)d 1 +
2 [ d2 ] ถึงแค่ d 2 เท่านั้น
(n−1)∙(n−2)
แสดงว่า an = a1 + ( n−1 ) d 1 +
2
d2
an = 1 + ( n−1 ) 4+
( n−1 ) ∙ ( n−2 )
(1)
2
2
an =
2+ 8 n−8+n −3 n+ 2
2
2
an =
n +5 n−4
2
2
สูตรที่ 2 an =
a 1+ ( n−1 ) d 1+ [ 2 ] [
( n−1 ) ( n−2 )
d2 +
(n−1)∙(n−2)∙(n−3)
6
d3 ]
ตัวอย่างที่ 1 จงหาพจน์ทั่วไปของลำดับ 5,19,42,76,123,...
9
5 19 42 76 123
d1 14 23 34 47
d2 9 11 13
d3 2 2
จากแผนผลต่างระหว่างลำดับทำให้ทราบว่า a1 = 5 , d1 = 14 , d2
ถึงแค่ d 3 เท่านั้น
= 9 และ d3 = 2
จากสูตร an = a 1+ ( n−1 ) d 1+
[
( n−1 ) ( n−2 )
2
d2+
] [
(n−1)∙(n−2)∙(n−3)
6
d3
]
(n−1)∙(n−2) (n−1)∙(n−2)∙( n−3)
แสดงว่า an = a1 + ( n−1 ) d 1+ 2
d 2+
6
d3
( n−1 ) ∙ ( n−2 ) (n−1)∙(n−2)∙( n−3)
an = 5 + ( n−1 ) (14)+ 2
(9) +
6 (2)
5(6) ( n−1 ) (14 )(6) ( n−1 ) ∙ ( n−2 ) (9)(3)
an = 6 + 6
+
2(3) +
(n−1)∙(n−2)∙( n−3)(2)
6
30+84 ( n−1 ) +27 ( n−1 ) ∙ ( n−2 )+ 2(n−1)∙(n−2)∙(n−3)
an = 6
2 3 2
30+84 n−84+ 27 n −81 n+54 +2 n −12 n +22 n−12
an = 6
3 2
2n + 15 n + 25 n−12
an = 6
3 2
2n 15 n 25 n 12
an = 6 + 6 + 6 − 6
a =
3 2
n 5 n 25 n
ดังนั้น n 3
+
2
+
6
−2
ตัวอย่างที่ 2 จงหาพจน์ทั่วไปของลำดับ
3,17,47,99,179,...
10
วิธีทำ
3 17 47 99 179
d1 14 30 52 80
d2 16 22 28
d3 6 6
จากแผนผลต่างระหว่างลำดับทำให้ทราบว่า a1 = 3 , d1 = 14 , d2
ถึงแค่ d 3 เท่านั้น
= 16 และ d3 = 6
จากสูตร an = a 1+ ( n−1 ) d 1+
[
( n−1 ) ( n−2 )
2
d2+
] [
(n−1)∙(n−2)∙(n−3)
6
d3
]
(n−1)∙(n−2) (n−1)∙(n−2)∙( n−3)
แสดงว่า an = a1 + ( n−1 ) d 1+ 2
d 2+
6
d3
( n−1 ) ∙ ( n−2 ) (n−1)∙(n−2)∙( n−3)
an = 3 + ( n−1 ) (14)+ 2
(16) +
6
(6)
an = 3 + ( n−1 ) (14)+ [ ( n−1 ) ∙ ( n−2 ) (8) ] + [ ( n−1)∙( n−2)∙ (n−3) ]
an = 3 + 14n – 14 + ¿ + ¿
an = 3 + 14n – 14 + ¿ + [ n −6 n +11n−6 ]
3 2
ดังนั้น an =
3 2
n +2 n +n−1
11
บทที่ 5
การศึกษาค้นคว้าและการดำเนินการ การทำโครงงาน
คณิตศาสตร์ ประเภทสร้างงทฤษฎีหรือคำอธิบายทางคณิตศาสตร์
เรื่อง ถอดรหัสลำดับพหุนาม ซึ่งได้ทำการสร้างสูตรและอธิบานสูตร
การหาพจน์ทั่วไปของลำดับพหุนาม โดยใช้ความรู้เรื่องอนุกรม
เลขคณิต จะสรุปผลดังต่อไปนี้
วัตถุประสงค์ของโครงงาน
1. เพื่อหาสูตรทั่วไปอย่างง่ายของลำดับพหุนาม
2. เพื่อนำสูตรทั่วไปอย่างง่ายของลำดับพหุนามที่ได้ ไป
ประยุกต์ใช้ในการแก้ปั ญหา
สรุปผลการทำโครงงาน
1. จากการศึกษาเรื่อง อนุกรมเลขคณิตและการใช้สัญลักษณ์
แทนผลรวม ( ) สามารถสร้างสูตรวิธีการหาพจน์ทั่วไปของลำดับ
พหุนามผลต่างสองชั้นได้ดังนี้
12
อภิปรายผล
1. การใช้สูตรการหาพจน์ทั่วไปของลำดับพหุนาม ช่วยในการ
หาผลลัพธ์ทำให้แก้ปั ญหาหาผลลัพธ์ได้ง่ายขึ้น รวดเร็ว ประหยัด
เวลา
2. ทำให้มีความเข้าใจเนื้อหา คณิตศาสตร์ในเรื่องดังกล่าวได้
มากขึ้น
ข้อเสนอแนะ
1. ควรมีการเผยแพร่สูตรการหาพจน์ทั่วไปของลำดับพหุนาม
2. ควรจัดทำโครงงานในเนื้อหาหรือวิชาอื่นๆ ที่เน้นทักษะ
กระบวนการในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองของนักเรียน
14