Professional Documents
Culture Documents
bvis
bvis
้ ธยมศึกษาปี ที่ 4
คาอธิบายรายวิชา
รายวิชา สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส 31101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต ภาคเรียนที่ 1
คาอธิบายรายวิชา
มาตรฐาน / ตัวชี้วัด
ผ ังมโนท ัศน์
รายวิชา สังคมศึกษา รหัสวิชา ส 31101
ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562
รายวิชาหน้าที่พลเมือง
ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 4
จานวน 40 ชั่วโมง ชื่อหน่วย 3 พลเมืองดีของ
ชื่อหน่วย 7 กฏหมายในชีวิตประจาวัน ประเทศชาติและสังคมโลก
จานวน 8 ชั่วโมง : 3 คะแนน จานวน 5 ชั่วโมง : 2 คะแนน
ชื่อหน่วย 6 รัฐธรรมนูญแห่ง
ชื่อหน่วย 4 สิทธิมนุษยชน
ราชอาณาจักรไทย ชื่อหน่วย 5 ระบอบการเมืองการปกครอง
จานวน 5 ชั่วโมง : 5 คะแนน
จานวน 5 ชั่วโมง : 5 คะแนน จานวน 6 ชั่วโมง : 5 คะแนน
ผ ังมโนท ัศน์
รายวิชาหน้าที่พลเมือง รหัสวิชา ส 31101
ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง สังคมมนุษย์
จานวน 5 ชั่วโมง : 5 คะแนน
ชื่อเรื่อง โครงสร้างทางสังคมและการขัดเกลาทางสังคม
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
เรื่อง สังคมมนุษย์
จานวน 5 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน
โครงสร้างทางสังคม
การจัดระเบียบทางสังคม สถาบันทางสังคม
¬ ระบบคุณค่าของสังคม ¬ สถาบันครอบครัว
¬ บรรทัดฐานหรือปทัสถานทางสังคม ¬ สถาบันเศรษฐกิจ
¬ สถานภาพและบทบาท ¬ สถาบันการเมืองการปกครอง
¬ สถาบันการศึกษา
¬ สถาบันศาสนา
¬ สถาบันนันทนาการ
¬ สถาบันสื่อสารมวลชน
- ขั้นสอน
1. ให้นักเรียนรวมกลุ่มกัน กลุ่มละ 6 คน และให้ทุกคนมีหมายเลขประจาตัว 1-6 ตามลาดับ แล้วให้
10. การวัดผลและประเมินผล
3. มีภูมิคมุ กันในตัวที่ดี ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ
ระมัดระวัง ระมัดระวัง สร้างสรรค์
กิจกรรม
ครู ผู้เรียน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
หน่วยสังคมมนุษย์ หน่วยสังคมมนุษย์ หน่วยสังคมมนุษย์
- รวบรวมฐานข้อมูลโรงเรียน - รวบรวมพันธุ์พืชในโรงเรียน - ลงมือปฏิบัติข้อมูลพันธุ์พืชในโรงเรียน
ลงชื่อ..................................................ผู้สอน
( นางณิภาทิพย์ มูลแก้ว )
2. สมาชิกของสถาบันมีบทบาทสาคัญต่อการพัฒนาประเทศอย่างไร
2. สมาชิกของสถาบันมีบทบาทสาคัญต่อการพัฒนาประเทศอย่างไร
2. สมาชิกของสถาบันมีบทบาทสาคัญต่อการพัฒนาประเทศอย่างไร
อภิปรายตามหัวข้อที่กาหนดให้
1. จงอธิบายความสาคัญของสถาบันการศึกษา
2. สมาชิกของสถาบันมีบทบาทสาคัญต่อการพัฒนาประเทศอย่างไร
2. สมาชิกของสถาบันมีบทบาทสาคัญต่อการพัฒนาประเทศอย่างไร
1. จงอธิบายความสาคัญของสถาบันนันทนาการ
2. สมาชิกของสถาบันมีบทบาทสาคัญต่อการพัฒนาประเทศอย่างไร
คาชี้แจง สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันคิดแนวทางการปฏิบัติตนที่แสดงถึงการเป็นสมาชิกที่ดีของสถาบันทางสังคม
โดย นางณิภาทิพย์ มูลแก้ ว กลุม่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
แผนการจัดการเรี ยนรู้ รายวิชาหน้ าที่พลเมืองฯ ชันมั
้ ธยมศึกษาปี ที่ 4
1.
2.
3.
4.
ประเมินผลกำรปฏิบัติ
ลำดับที่ 5. กรรมที่กำหนด
พฤติ พฤติกรรมที่ปฏิบัติ ลงชื่อผู้รับรอง พอ ปรับ
ดี
ดี ปรุ ง
มำก ใช้
ลงชื่อ ผู้รายงาน
1. ปัญหาที่เด็กและเยาวชนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม มีปัญหาใดบ้ าง
2. ผลของการกระทาเป็ นอย่างไร
3. ปัญหาเหล่านี ้ ส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างไร
แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม
การร่วม
ชื่อ – สกุล การแสดง การรับฟัง การตั้งใจ รวม
ลาดับ ความร่วมมือ ปรับปรุง
ความคิดเห็น ความคิดเห็น ทางาน
ที่ ของผู้รับการ ผลงานกลุ่ม 20
ประเมิน คะแนน
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1
เกณฑ์การให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
ดีมาก =4
ดี =3 ............../.................../................
พอใช้ =2
ปรับปรุง = 1
หมายเหตุ ครูอาจใช้วิธีการมอบหมายให้หัวหน้ากลุ่ม
เป็นผู้ประเมิน หรือให้ตัวแทนกลุ่มผลัดกันประเมิน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ หรือให้มีการประเมินโดยเพื่อน โดยตัวนักเรียนเอง
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
ตามความเหมาะสมก็ได้
17 – 20 ดีมาก
13 – 16 ดี
9 – 12 พอใช้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่2
5–8 ปรับปรุง
โดย นางณิภาทิพย์ มูลแก้ ว กลุม่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
แผนการจัดการเรี ยนรู้ รายวิชาหน้ าที่พลเมืองฯ ชันมั
้ ธยมศึกษาปี ที่ 4
6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน
7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : (ให้สอดคล้อง กับตัวชี้วัด /ผลการเรียนรู้ ในแผนการเรียนรู้นี้ )
- ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงในสังคม
โดย นางณิภาทิพย์ มูลแก้ ว กลุม่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
แผนการจัดการเรี ยนรู้ รายวิชาหน้ าที่พลเมืองฯ ชันมั
้ ธยมศึกษาปี ที่ 4
- ขั้นนาเข้าสู่บทเรียน/ขั้นตั้งคาถาม
1. ครูทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับผลเสียที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในสังคม ทาให้เกิดปัญหาสังคมตามมา
และให้นักเรียนช่วยกันอภิปรายปัญหาของสังคมไทยที่กาลังประสบอยู่ โดยเขียนชื่อปัญหาบนกระดาน
- ขั้นสอน
1. ให้นักเรียนแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-7 คน ให้แต่ละกลุ่มศึกษาค้นคว้าเรื่อง ปัญหาสังคมไทยและแนว
ทางการแก้ไขปัญหา จากหนังสือเรียน และทาใบงานที่ 2.2 เรื่อง ปัญหาสังคมไทย โดยให้นักเรียนร่วมกันคิดว่า เรื่อง
ใดบ้างที่เป็นปัญหาสังคมอยู่ในขณะนั้น จากนั้นให้แต่ละกลุ่มร่วมกันตัดสินใจ เลือกปัญหาสาคัญ 1 ปัญหา ที่สมาชิกใน
กลุ่มคิดว่าสามารถมีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ไขปัญหาได้ แล้วช่วยกันวิเคราะห์และตอบคาถามตามหัวข้อในใบงาน
2. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลงานที่หน้าชั้นเรียน แล้วช่วยกันสรุปประเด็นปัญหาสาคัญที่ต้อง
ร่วมมือกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน
3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทาแผนผังความคิด เรื่อง สังคมมนุษย์ โดยวิเคราะห์ลักษณะสังคม
มนุษย์ให้ครอบคลุมหัวข้อ ต่อไปนี้
1) ความสาคัญของการอยู่ร่วมกันเป็นสังคม
2) โครงสร้างทางสังคม
3) การขัดเกลาทางสังคม
4) การเปลี่ยนแปลงในสังคม
- ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน แล้วบันทึกข้อสรุปลงในสมุด
9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้
10. การวัดผลและประเมินผล
3. มีภูมิคมุ กันในตัวที่ดี ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ
ระมัดระวัง ระมัดระวัง สร้างสรรค์
กิจกรรม
ครู ผู้เรียน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ลงชื่อ..................................................ผู้สอน
( นางณิภาทิพย์ มูลแก้ว )
3............................................. 4. ..............................................................................
5............................................. 6. ..............................................................................
ลาดับ คุณภาพผลงาน
รายการประเมิน
ที่ 4 3 2 1
1 ความสาคัญของการอยู่ร่วมกันเป็นสังคม
2 โครงสร้างทางสังคม
3 การขัดเกลาทางสังคม
4 การเปลี่ยนแปลงในสังคม
รวม
ลงชื่อ..............................................................................ผู้ประเมิน
เกณฑ์การให้คะแนน
ดีมาก =4
ดี =3
พอใช้ = 2
ปรับปรุ ง = 1
เกณฑ์การตัดสิ นคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
13-16 ดีมาก
9-12 ดี
5-8 พอใช้
1-4 ปรับปรุ ง
การเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจขณะนี้ได้แก่ความเป็นสากลของภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาหลัก
(Mother Language) ใช้กันทั่วโลก ในประเทศไทยผ่านธุรกิจ ป้ายชื่อร้าน อาคาร ส่วนใหญ่ก็เขียนเป็น
ภาษาอังกฤษ แม้แต่ดารา นักแสดง ก็ได้นาเสนอดาราลูกครึ่งเป็นตัวหลัก
การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเราจะมองเห็นว่าก้าวหน้าเด่นชัด การขยายตัวของประชากรของเมือง และการ
สื่อสารและเทคโนโลยีก็เหมือนกัน แต่ผลร้ายที่ตามมา คือ สภาพแวดล้อมที่ดีงามถูกทาลาย มีการตัดไม้ทาลายป่า สัตว์
พืช แหล่งน้า แร่ธาตุถูกทาลายมากขึ้น การใช้รถยนต์ใช้พลังงาน ใช้ตู้เย็น แอร์ สเปรย์ จะมีการปล่อยสารพิษไปทาลาย
โอโซนมากขึ้น คุณภาพชีวิตลดลงมากกว่าจะทาให้ชีวิตมีความสุขขึ้น ยิ่งการส่งเสริมการท่องเที่ยวมากก็ยิ่งมีโสเภณี มี
โรคเอดส์มากตามมา
พฤติกรรมทางวัฒนธรรม สังคม ประเพณี ศีลธรรม จริยธรรม แม้แต่ภาษาซึ่งล้วนเป็นเอกลักษณ์ของชาติ เรา
ต้องดูแลไม่ให้สูญสลายไป การดารงชีวิตของคนเป็นสิ่งที่ดีงาม อุปถัมภ์เกื้อกูลกัน มีจิตใจดีมีความอ่อนโยนอ่อนน้อม
และมีชีวิตที่เรียบง่าย ซึ่งหาได้ยากในสังคมขึ้น
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเราไม่อาจต้านกระแสโลกได้ และการเปลี่ยนแปลงก็ไม่ใช่สื่อเลวร้ายเสมอไป เราคง
ขวางกระแสใหญ่ของโลกาภิวัตน์ทั้งหมดไม่ได้ ในแง่ดีผลกระทบจากโลกาภิวัตน์ให้ประโยชน์ต่อคนไทยเป็นความทันสมัย
ไม่โง่เขลา ล้าหลัง เมืองไทยนับจาก ค.ศ.2000 เราจะก้าวสู่สหัสวรรษใหม่ที่มีการแข่งขันกันสูง เกิดปัญหาหลายประการ
ตามมา ขณะเดียวกันเราก็ต้องช่วยกันประคับประคองให้แก้ปัญหาต่างๆ ตลอดจนกาหนดแนวทางบารุงรักษาดุลยภาพ
แห่งชีวิตของคนไทยให้ดารงความเป็นไทยในสังคมยุคโลกาภิวัตน์ให้ได้
1. ปัญหาที่ส่งผลกระทบทาให้เกิดความเสียหายต่อสังคมมากที่สุด คือ
2. กลุ่มนักเรียนมีความสนใจในการมีส่วนร่วมป้องกันแก้ไขปัญหาได้โดยการจัดทาโครงงานเรื่อง
3. แนวทางการพัฒนาสังคมตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่กลุ่มนักเรียนนามาปรับใช้
ในการทาโครงงานได้แก่เรื่องใด
แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม
กำรร่ วม รวม
ลำดับ ชื่อ – สกุล กำรแสดง กำรรับฟั ง กำรตัง้ ใจ
ควำมร่ วมมือ ปรับปรุ ง 20
ที่ ควำมคิดเห็น ควำมคิดเห็น ทำงำน
ของผู้รับกำร ผลงำนกลุ่ม คะแนน
ประเมิน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1
เกณฑ์การให้คะแนน
ดีมาก =4
ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
ดี =3
พอใช้ =2
ปรับปรุง = 1 ............../.................../................
เกณฑ์การตัดสิ นคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
หมายเหตุ ครูอาจใช้วิธีการมอบหมายให้หัวหน้ากลุ่ม
17 – 20 ดีมาก
13 – 16 ดี เป็นผู้ประเมิน หรือให้ตัวแทนกลุ่มผลัดกันประเมิน
9 – 12 พอใช้ หรือให้มีการประเมินโดยเพื่อน โดยตัวนักเรียนเอง
5–8 ปรับปรุ ง ตามความเหมาะสมก็ได้
แบบประเมินข้อสอบ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
รายวิชา หน้าที่พลเมือง วัฒนะรรมและการดาเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส 31101 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4
มาตรฐาน/ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้
มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และธารงรักษา
ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสันติสุข
ตัวชี้วัด ม.4 6/2 วิเคราะห์ความสาคัญของโครงสร้างทางสังคม การขัดเกลาทางสังคม และการเปลี่ยนแปลง
ทางสังคม
6. รูปภาพ/สถานการณ์ตรง ตรงกับคาถาม(โจทย์)และคาตอบ
7. ความชัดเจนของคาตอบ (ตัวเลือก) มีคาตอบแน่นอนเป็นคาตอบเดียว
8. ตัวเลือกที่เป็นคาตอบ(ถูก) ตัวเลือกที่………. มีความเหมาะสม
9. ตัวเลือกที่เป็นตัวลวง คาตอบ(ผิด) ตัวเลือกที่………. มีความเหมาะสม
10. ตัวเลือกที่เป็นตัวลวง คาตอบ(ผิด) ตัวเลือกที่………. มีความเหมาะสม
11. ตัวเลือกที่เป็นตัวลวง คาตอบ(ผิด) ตัวเลือกที่………. มีความเหมาะสม
12. ตัวเลือกที่เป็นตัวลวง คาตอบ(ผิด) ตัวเลือกที่………. มีความเหมาะสม
13. ข้อความตัวเลือกในข้อทดสอบมีอานาจจาแนกได้
14. เนื้อหาในข้อสอบมีความยากง่ายที่เหมาะสม
15. ความเหมาะสมของข้อสอบกับคะแนน หลักเกณฑ์การคิดคะแนน
มีสัดส่วนชัดเจน เหมาะสม
16. ความเหมาะสมของข้อสอบกับเวลา เนื้อหาการทดสอบมีความ
เหมาะสมกับระยะเวลาที่กาหนด
แบบประเมินข้อสอบ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
รายวิชา หน้าที่พลเมือง วัฒนะรรมและการดาเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส 31101 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4
14. เนื้อหาในข้อสอบมีความยากง่ายที่เหมาะสม
15. ความเหมาะสมของข้อสอบกับคะแนน หลักเกณฑ์การคิดคะแนน
มีสัดส่วนชัดเจน เหมาะสม
16. ความเหมาะสมของข้อสอบกับเวลา เนื้อหาการทดสอบมีความ
เหมาะสมกับระยะเวลาที่กาหนด
วิชาหน้าที่พลเมือง ข้อสอบ
รหัสวิชา ส 31101 เรื่อง เวลา 30 นาที
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 สังคมมนุษย์
ก. เพื่อถ่ายทอดวัฒนธรรม ข. เพื่อสร้างความเจริญให้กับสังคม
ค. เพื่อความพอใจของตนเอง ง. เพื่อสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในสังคม
จ. เพื่อสนองความต้องการพื้นฐานของมนุษย์
2. ข้อใดจัดเป็นสังคม (ความเข้าใจ)
ก. สุพจน์นั่งอ่านหนังสือการ์ตูนริมน้า ข. สุชาติยืนรอรถเมล์สาย 113 ที่ป้ายรถเมล์
ค. นารีหัวเราะเสียงดังเมื่อดูรายการชิงร้อยชิงล้าน ง. สุรีพรเปิดดูโทรทัศน์ที่ห้องรับแขก
จ. วิชัยชวนแม่ไปเที่ยวที่สนามหลวงในงานสัปดาห์วิสาขบูชา
3. ข้อใดสอดคล้องกับคากล่าวที่ว่า “มนุษย์เป็นสัตว์สังคม” (การวิเคราะห์)
ก. มนุษย์ต้องอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเพื่อพึ่งพาอาศัยกัน
ข. มนุษย์สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี
ค. มนุษย์ต้องดิ้นรนเพื่อต่อสู้กับความอยู่รอดของชีวิต
ง. มนุษย์ไม่จาเป็นต้องดิ้นรนเพื่อต่อสู้กับความอยู่รอด
จ. มนุษย์สามารถใช้สมองและร่วมมือกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. สถาบันศาสนาควรมีบทบาทร่วมกับรัฐบาล ในเรื่องใด (ความจา)
ก. ควบคุมและระงับข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้น ข. ท้วงติง วิจารณ์นโยบายที่ไม่เหมาะสมของรัฐ
ค. ปลูกฝังค่านิยม จริยธรรม ความเป็นพลเมืองดีแก่ประชาชน ง.สนับสนุนศาสนาใดศาสนาหนึ่ง
จ. ให้ความร่วมมือกับรัฐอบรมสมาชิกให้มีเจตคติที่ดีต่อการปกครองของรัฐ
5. สถาบันพื้นฐานแรกสุดของสังคมที่ทาหน้าที่อบรมและขัดเกลาให้สมาชิก คือ สถาบันใด (ความจา)
ก. สถาบันครอบครัว ข. สถาบันเศรษฐกิจ ค. สถาบันการศึกษา
ง. สถาบันศาสนา จ. สถาบันครอบครัวและสถาบันการศึกษา
6. “โครงสร้างของสังคม” คือข้อใด (ความเข้าใจ)
ก. สิ่งที่เป็นองค์ประกอบค้าจุนสังคม
ข. อุดมการณ์ของสังคมเพื่อความมั่นคงถาวร
ค. วัตถุประสงค์ที่วางไว้เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมาย
ง. ความจงรักภักดี ต่ออุดมการณ์ของตนเองและสังคม
จ. ความสัมพันธ์อย่างมีแบบแผนที่เกื้อหนุนและโยงใยต่อกันและกัน
7. นายนพพรปฏิบัติตามระเบียบของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด เขาปฏิบัติตามข้อใด (การนาไปใช้)
ก. ค่านิยมทางสังคม ข. บรรทัดฐานทางสังคม
ค. สถานภาพทางสังคม ง. ศีลธรรมจรรยา
จ. ค่านิยมทางสังคมและศิลธรรมจรรยา
8. ข้อใดไม่ใช่วิถีประชา (การวิเคราะห์)
ก. วัยรุ่นชอบใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ ข. นักเรียนพูดจาไม่สุภาพจะถูกติเตียนเสมอ
ค. นักเรียนชอบหลับในขณะเรียนหนังสือ ง. ห้ามสูบบุหรี่บนรถประจาทาง ปรับ 2,000 บาท
จ. ชาวพุทธสวดมนต์ไหว้พระเพื่อทาจิตใจให้สงบ
9. ข้อใดถือเป็นสถานภาพที่ได้มาด้วยความสามารถ (ประเมินค่า)
ก. นายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นคนจังหวัดสุพรรณบุรี
ข. สัญญาเป็นลูกคนโตพ่อจึงมอบกิจการให้เขาดูแล
ค. หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล สร้างภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์
ง. พรทิพย์ นาคหิรัญกนก ได้รับคัดเลือกเป็นนางงามจักรวาล
จ. บรรจุ เป็นที่ยอมรับจากเพื่อนร่วมงานว่าเป็นผู้ที่ทางานยอดเยี่ยมแห่งปี
10. ข้อใดถือว่า เป็นการทาผิดจารีตหรือกฎศีลธรรม (การวิเคราะห์)
ก. ลูกอกตัญญู ข. การเขียนหนังสือด้วยมือซ้าย
ค. การหลีกเลี่ยงการเสียภาษี ง. การไม่ทาพิธีเจิมร้านค้าที่เปิดใหม่
จ. ไม่เข้าร่วมงานแต่งงาน
11. องค์กรใดที่มีบทบาทสาคัญที่สุด ในกระบวนการขัดเกลาทางสังคม (ความจา)
ก. วัด ข. โรงเรียน ค. ครอบครัว ง. สื่อมวลชน จ. มูลนิธิเด็ก
12.การกระทาใดถือว่าเป็นการขัดเกลาทางสังคมโดยทางอ้อม (การวิเคราะห์)
ก. ดวงจิตรนาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามา
ข. คุณยายสอนให้สวยรู้จักทาความเคารพผู้ใหญ่
ค. คุณครูให้นักเรียนทางานเป็นกลุ่มเพื่อฝึกความเป็นประชาธิปไตย
ง. ดวงใจและเพื่อนสามารถร้องเพลงตามจังหวะที่ฟังจากวิทยุได้ถูกต้อง
จ. ในขณะรับประทานอาหารร่วมกัน คุณแม่จะบอกให้เคี้ยวอาหารหมดปากก่อนที่จะพูด
13. ข้อใดกล่าวถึง “การจัดระเบียบทางสังคม” ได้อย่างชัดเจนที่สุด (สร้างสรรค์)
ก. กฎระเบียบและกติกาของกลุ่มคนที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ข. ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ตกลงเฉพาะบุคคลหรือกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้น
ค. ความสัมพันธ์ของสมาชิกในแต่ละสังคมซึ่งมีความผูกพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้น
ง. การอยู่ร่วมกันของกลุ่มคนในแต่ละสังคมซึ่งมีการดาเนินชีวิตไม่แตกต่างกัน
จ. วิธีการที่คนในสังคมกาหนดขึ้นเพื่อให้เป็นระเบียบกฎเกณฑ์ในการอยู่ร่วมกัน
ง. สถาบันศาสนา จ. สถาบันพระมหากษัตริย์
16. ปัญหาสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมายในปัจจุบัน มีสาเหตุพื้นฐานมาจากข้อใด (ความเข้าใจ)
ก. วัฒนธรรมตะวันตกหลั่งไหลเข้ามา
ข. ความบกพร่องของผู้บริหารประเทศ
ค. จานวนการเพิ่มของจานวนประชากร
ง. การบริหาร การดูแล จากครอบครัว
จ. ความเสื่อมโทรมทางศีลธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ดี
17. ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาต่อสังคมหลายๆ ด้าน ข้อใดไม่ใช่ปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับปัญหายาเสพติด (การวิเคราะห์)
ก. ปัญหาอาชญากรรม ข ปัญหาทาร้ายร่างกาย ค. ปัญหาความยากจน
ง. ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ จ. ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว
18. การกระทาในข้อใด ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศและกลายเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สาคัญในสังคมไทย (การวิเคราะห์)
ก. การจราจรติดขัด ข. การตัดไม้ทาลายป่า ค. การสร้างโรงงานอุตสาหกรรมมาก
ง. การใช้วัสดุอุปโภคบริโภคไม่เหมาะสม จ. เกิดจากการทิ้งขยะไม่ถูกที่ถูกทาง
19. ปัญหาการทุจริตซึ่งถือเป็นปัญหาที่สาคัญระดับชาติ ข้อใดเป็นแนวทางการแก้ไขที่สาคัญ (สร้างสรรค์)
ก. สอนให้ภูมิใจในศักดิ์ศรีของตนเอง
ข. รณรงค์ให้คนในสังคมรังเกียจการทุจริต
ค. รณรงค์ให้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง
ง. แจ้งความผู้ที่กระทาผิด หรือฟ้องร้องต่อผู้ที่ทุจริต
ง. ปลูกฝังค่านิยมให้เห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน
20. “หลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิ ทาให้หมู่บ้านบางหมู่บ้านกลายเป็นหมู่บ้านร้าง” ข้อความนี้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลง
ทางสังคมที่เกิดขึ้นจากปัจจัยใด (ความเข้าใจ)
ก. ปัจจัยครอบครัว ข. ปัจจัยทางสังคม ค. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ
ง. ปัจจัยทางธรรมชาติ จ. ปัจจัยทางวัฒนธรรม
แบบประเมินข้อสอบ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
รายวิชาหน้าที่พลเมือง รหัสวิชา ส 31101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง สังคมมนุษย์
ชื่อ – สกุล ครูผู้สอน นางณิภาทิพย์ มูลแก้ว
********************************************************************
คาชี้แจง ให้ผู้ประเมินทาเครื่องหมาย ⁄ ลงในช่องว่างหัวข้อต่างๆ ต่อไปนี้ ตามความคิดเห็นที่ตรงความจริงที่สุด
ข้อสอบที่ รายการประเมิน
ข้อสอบมีการวัดตรงตาม ข้อสอบมีการวัดระดับ สอดคล้อง ไม่สอดคล้อง ไม่สอดคล้อง ข้อควรแก้ไข
ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้(ระบุทา้ ย พฤติกรรมตรงตามตัวชี้วัด/ผล (1) (0) (-1)
ข้อ) การเรียนรู้(ระบุท้ายข้อ)
โดย นางณิภาทิพย์ มูลแก้ ว กลุม่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
แผนการจัดการเรี ยนรู้ รายวิชาหน้ าที่พลเมืองฯ ชันมั
้ ธยมศึกษาปี ที่ 4
ความเหมาะสมของเครื่องมือวัดและประเมินผล ความสอดคล้องของเครื่องมือวัด
และประเมินผล
คะแนนระหว่าง 1-7 ระดับคุณภาพ ต้องปรับปรุง ค่าความสอดคล้องต้อง
คะแนนระหว่าง 8-14 ระดับคุณภาพ พอใช้ มีค่า
คะแนนระหว่าง 15-20 ระดับคุณภาพ ดี ตั้งแต่ 0.50 ขึ้นไป
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง วัฒนธรรมไทย แผนจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง รักวัฒนธรรม
รายวิชา หน้าที่พลเมืองฯ รหัสวิชา ส 31101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ มัธยมศึกษาปีที่ 4
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 น้าหนักเวลาเรียน 1.0 (นน./นก.) เวลาเรียน 40 ชั่วโมง/สัปดาห์
เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3 ชั่วโมง
..........................................................................................................................................................
1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจที่คงทน)
ประเทศไทย มีวัฒนธรรมซึ่งใช้เป็นแนวทางและวิถีปฏิบัติต่อกันในสังคมไทย ส่งผลต่อบุคลิกลักษณะของคนไทย
และความเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย
2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี/ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรียนรู้
มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และธารงรักษา
ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสันติสุข
ตัวชี้วัด ม.4 6/5 วิเคราะห์ความจาเป็นที่จะต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย และเลือก
รับวัฒนธรรมสากล
3. สาระการเรียนรู้
3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge (นักเรียนต้องรู้อะไร)
นักเรียนสามารถเขียน ลักษณะและความสาคัญของวัฒนธรรมไทยได้
3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (นักเรียนสามารถปฏิบัติอะไรได้)
นักเรียนสามารถอธิบายความหมายความสาคัญของวัฒนธรรมได้
3.3 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ : Attitude (นักเรียนควรแสดงพฤติกรรมการเรียนอะไรบ้าง)
นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่รู้ มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายตามเวลาที่กาหนด
4. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. คุณลักษณะของวิชา
- ความรับผิดชอบ
- กระบวนการกลุ่ม
6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน
สมาชิกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของใบงานที่กลุ่มรับผิดชอบ และทาความเข้าใจจน
กระจ่างชัดเจนแล้วแยกย้ายกันกลับไปกลุ่มเดิม ซึ่งเรียกว่า กลุ่มบ้าน (Home Groups)
สมาชิกกลุ่มบ้านแต่ละหมายเลขผลัดกันเล่าความรู้จากใบงานที่ตนศึกษามาให้แก่สมาชิกหมายเลขอื่นฟัง และผลัดกัน
ซักถามจนมีความเข้าใจชัดเจนดีทุกคน
- ขั้นสรุป
ครูสุ่มเรียกนักเรียนบางคนในกลุ่มออกมาเฉลยคาตอบของใบงาน ทุกใบงานตามความเหมาะสม จากนั้น
ช่วยกันสรุปความรู้เกี่ยวกับ ลักษณะสาคัญของวัฒนธรรมไทยในแต่ละภูมิภาค
9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้
10. การวัดผลและประเมินผล
3. มีภูมิคมุ กันในตัวที่ดี ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ
ระมัดระวัง ระมัดระวัง สร้างสรรค์
กิจกรรม
ครู ผู้เรียน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
หน่วยวัฒนธรรมไทย หน่วยวัฒนธรรมไทย หน่วยวัฒนธรรมไทย
- รวบรวมฐานข้อมูลโรงเรียน - รวบรวมพันธุ์พืชในโรงเรียน - ลงมือปฏิบัติข้อมูลพันธุ์พืชในโรงเรียน
ลงชื่อ..................................................ผู้สอน
( นางณิภาทิพย์ มูลแก้ว )
ใช้ ประโยชน์
ต่ อการดารงชีวิต
ควำมสำคัญ
ของ
ก่ อให้ เกิดความเป็ น
วัฒนธรรม
อันหนึ่งอันเดียวกัน
ทาหน้ าที่หล่ อหลอม
บุคลิกภาพ
ตอนที่ 2
คาชี ้แจง ให้ นกั เรี ยนยกตัวอย่างประเภทของวัฒนธรรมในกรอบที่วา่ ง
ประเภทของวัฒนธรรม
การจัดประเภทตามลักษณะที่ การจัดประเภทตามเนื้อหา
มองเห็นหรือสัมผัสได้
ตัวอย่าง ตัวอย่าง
ตอนที่ 1
คาชี้แจง ให้นักเรียนเขียนแผนผังความคิด เรื่อง ความสาคัญของวัฒนธรรม
เป็นเป้าหมาย กาหนดพฤติกรรม
ในการดารงชีวิต ของมนุษย์
ควบคุมสังคม
ใช้ ประโยชน์ ร่ วมมื อกันอนุรกั ษ์
ตอบสนองความต้องการ
ต่ อการดารงชีวิต ด้านร่างกายและจิตใจ วัฒนธรรม
ความผูกพัน
ควำมสำคัญ
ของ
ก่ อให้ เกิดความเป็ น
วัฒนธรรม
อันหนึ่งอันเดียวกัน
ทาหน้ าที่หล่ อหลอม
บุคลิกภาพ
ความเชื ่อ กิ ริยาท่าทาง
การพึ่งพา
ความสนใจ การแต่งกาย จิ ตสานึกเป็ น
อาศัยกัน
พวกเดียวกัน
ทัศนคติ ความคิ ดสร้างสรรค์
ความรู้
ตอนที่ 2
ประเภทของวัฒนธรรม
การจัดประเภทตามลักษณะ การจัดประเภทตามเนื้อหา
ที่มองเห็นหรือสัมผัสได้
คติ ธรรม วัตถุธรรม เนติ ธรรม สหธรรม
วัฒนธรรมทาง วัฒนธรรมทา
วัตถุ งอวัตถุ
ตัวอย่าง ตัวอย่าง ตัวอย่าง ตัวอย่าง
ตัวอย่าง ตัวอย่าง
ความเมตตา บ้ าน กฎหมาย มารยาทใน
ค่านิยม ความกรุณา รถยนต์ กฎศีลธรรม การพบ
หนังสือ ผู้ใหญ่
มารยาท ความ โทรทัศน์ จารีต
แว่นตา
ปรัชญา กตัญญู หนังสือ มารยาทใน
รถยนต์
ความเชื ่อ ความขยัน เครื ่องแต่ง การเข้ า
โทรทัศน์ สังคม
ความอดทน กาย
ถนน
พระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจ มีการทาพิธีกรรมในวันสาคัญของชาติ
เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน
คาชี้แจง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
คาชี้แจง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
คาชี้แจง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
1. วัฒนธรรมท้ องถิ่น
ภาคกลางด้ านศาสนา
และลัทธิความเชื่อที่
สาคัญได้ แก่อะไรบ้ าง
1.
จงยกตัวอย่าง
2. วัฒนธรรม
เกี่ยวกับการดารงชีวิตทาง
การเกษตรของภาค
กลางได้แก่อะไรบ้าง
จงยกตัวอย่าง
3. วัฒนธรรมด้านยาและ
การรักษาพื้นบ้าน
ที่สาคัญคืออะไร
จงยกตัวอย่าง
คาชี้แจง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
ที่สาคัญคืออะไร
จงยกตัวอย่าง
คาชี้แจง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
1. วัฒนธรรมท้ องถิ่น
ด้ านอาหารของภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ที่สาคัญได้ แก่
อะไรบ้ าง
1.
2. วัฒนธรรมท้ องถิ่น
ด้ านศาสนาและลัทธิ
ความเชื่อของภาคตะวัน
ออกเฉียงเหนือที่สาคัญ
ได้ แก่อะไรบ้ าง
3. วัฒนธรรมด้ านที่เกี่ยว
กับการดารงชีวติ ทาง
การเกษตรของภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ได้ แก่อะไรบ้ าง
คาชี้แจง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
1.
1. บุญบังไฟ
้ เป็ นการเตรี ยมไถนาและจัดบูชาพิธีบชู าพญา
แถนทุกปี ด้วยการทาบังไฟ
้ โดยมีความเชื่อว่าของสิง่ ลี ้ลับ
และเทวดาหรื อพญาแถนที่อยู่บนสวรรค์สามารถบันดาล
ให้ ฝนตกได้
2. วัฒนธรรมท้ องถิ่น 2. การแห่ผีตาโขนที่อาเภอด่านซ้ าย จังหวัดเลย ผู้เล่นจะนารู ป
ด้ านศาสนาและลัทธิ หน้ ากากที่มีลกั ษณะน่าเกลียดมาใส่ แต่งตัวมิดชิด เข้ า
ขบวนแห่ มีการรวมบุญประเพณี บุญพระเวสและบุญ
ความเชื่อของภาคตะวัน บังไฟเข้
้ าด้ วยกัน มีการทาพิธีอญ ั เชิญพระอุปคุตเข้ ามา
ออกเฉียงเหนือที่สาคัญ ประดิษฐานในวัดโพนชัย เพราะเชื่อว่าจะสามารถป้องกัน
ได้ แก่อะไรบ้ าง เหตุเภทภัยต่างๆที่จะเกิดในงานได้
คาชี้แจง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
1. วัฒนธรรมท้ องถิ่น
ภาคใต้ ด้านอาหาร
ได้ แก่อะไรบ้ าง
1.
2. วัฒนธรรมท้ องถิ่น
ภาคใต้ ด้านศาสนาและ
ลัทธิความเชื่อที่สาคัญ
ได้ แก่อะไรบ้ าง
3. วัฒนธรรมท้ องถิ่น
ภาคใต้ ด้านศิลปะ
ได้ แก่อะไรบ้ าง
คาชี้แจง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
1.
1. ประเพณีลากพระ ชักพระ หรื อแห่พระ ชาวบ้ านจะอัญเชิญ
พระพุทธรู ปจากวัดขึ ้นรถล้ อเลื่อนหรื อเรื อ แล้ วลากหรื อ
ชักแห่ไปตามถนน หรื อตามแม่น ้าลาคลอง ประชาชนจะ
นาภัตตาหารไปใส่บาตรที่เรี ยงไว้ ตรงหน้ าพระลาก เรี ยกว่า
2. วัฒนธรรมท้ องถิ่น
ตักบาตรหน้ าล้ อ ชาวบ้ านจะนิยมนาต้ ม(ข้ าวเหนียวห่อใบ
ภาคใต้ ด้านศาสนาและ
กะพ้ อทาเป็ นรู ปสามเหลี่ยม) มาแขวนที่ล้อเลื่อนเพื่อทาบุญ
ลัทธิความเชื่อที่สาคัญ
2. ประเพณีสารทเดือนสิบของจังหวัดนครศรี ธรรมราช เพื่อ
ได้ แก่อะไรบ้ าง
อุทศิ ส่วนบุญกุศลให้ แก่ผ้ ลู ว่ งลับ
แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม
โดย นางณิภาทิพย์ มูลแก้ ว กลุม่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
แผนการจัดการเรี ยนรู้ รายวิชาหน้ าที่พลเมืองฯ ชันมั
้ ธยมศึกษาปี ที่ 4
การร่วม
ชื่อ – สกุล การแสดง การรับฟัง การตั้งใจ รวม
ลาดับ ความร่วมมือ ปรับปรุง
ความคิดเห็น ความคิดเห็น ทางาน
ที่ ของผู้รับการ ผลงานกลุ่ม 20
ประเมิน คะแนน
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1
เกณฑ์การให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
ดีมาก =4
ดี =3 ............../.................../................
พอใช้ =2
ปรับปรุง = 1
หมายเหตุ ครูอาจใช้วิธีการมอบหมายให้หัวหน้ากลุ่ม
เป็นผู้ประเมิน หรือให้ตัวแทนกลุ่มผลัดกันประเมิน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ หรือให้มีการประเมินโดยเพื่อน โดยตัวนักเรียนเอง
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
ตามความเหมาะสมก็ได้
17 – 20 ดีมาก
13 – 16 ดี
9 – 12 พอใช้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่2
5–8 ปรับปรุง
โดย นางณิภาทิพย์ มูลแก้ ว กลุม่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
แผนการจัดการเรี ยนรู้ รายวิชาหน้ าที่พลเมืองฯ ชันมั
้ ธยมศึกษาปี ที่ 4
6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน
7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : (ให้สอดคล้อง กับตัวชี้วัด /ผลการเรียนรู้ ในแผนการเรียนรู้นี้ )
- ใบงานที่ 2.1 เรื่อง วิเคราะห์วัฒนธรรม
- ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนช่วยกันเฉลยคาตอบในใบงาน และร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
วัฒนธรรมไทย อิทธิพลของชาติตะวันตกที่มีต่อวัฒนธรรมไทย การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง
วัฒนธรรมไทย ความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมไทยกับวัฒนธรรมสากล
- ขั้นสอน
1. ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเห็นคุณค่าของวัฒนธรรมไทยที่ได้สร้างและสั่งสมกันมาเป็นเวลานาน จนเป็น
เอกลักษณ์ของตนเอง มรดกทางวัฒนธรรมล้วนมีความสาคัญต่อการดาเนินชีวิตของคนไทย
มีประโยชน์ต่อคนรุ่นหลังไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมทางด้านวัตถุ และวัฒนธรรมทางด้านจิตใจ หรือจะ
เป็นวัฒนธรรมตามเนื้อหา คือ ทางคติธรรม วัตถุธรรม เนติธรรม หรือสหธรรม จึงเป็นหน้าที่ของ
ชาวไทยทุกคนจะต้องร่วมมือกันอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ดีงามไว้ และยังต้องรู้จักเลือกรับวัฒนธรรม
สากลที่ดีงามเช่นเดียวกัน
2.นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาความรู้ เรื่อง แนวทางการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ดีงาม และวิธีการเลือกรับ
วัฒนธรรมสากล จากหนังสือเรียน หรือแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ
3. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนาความรู้ที่ได้จากการศึกษามาเขียนเป็นบทความ เรื่อง
การอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและการเลือกรับวัฒนธรรมสากล โดยเขียนเป็นบทวิเคราะห์และนาเสนอความคิดเห็น ใน
ประเด็นต่อไปนี้
1)ความจาเป็นที่จะต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมไทย
2)แนวทางการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
3)การเลือกรับวัฒนธรรมสากล
4. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานที่หน้าชั้นเรียน ซึ่งอาจจะใช้วิธีหลากหลาย เช่น
-การอภิปราย
-การถามตอบ
-การแสดงบทบาทสมมุติ
-การบรรยาย
-การบรรยายสลับการแสดงสถานการณ์จาลอง
- ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปถึงความจาเป็นที่ต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมไทย การอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
และเลือกรับวัฒนธรรมสากล
นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง วัฒนธรรมไทย
9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้
10. การวัดผลและประเมินผล
ตัวอย่ ำงสื่อประกอบกำรสอน
อาหารไทย
อาหารจีน
อาหารญี่ปนุ่
อาหารยุโรป
ตัวอย่ ำงสื่อประกอบกำรสอน
การแต่งกายของชาวไทย
การแต่งกายของชาวญี่ปนุ่
การแต่งกายของชาวยุโรป
ตัวอย่ ำงสื่อประกอบกำรสอน
บ้านทรงไทย
บ้านทรงตะวันตก
ตัวอย่ ำงสื่อประกอบกำรสอน
ยาแผนปัจจุบนั
ยาแผนโบราณ
สมุนไพร
ตอนที่ 1
คาชี้แจง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
1. วัฒนธรรมดั้งเดิมของไทยผูกพันกับวัฒนธรรมชาติใด จงยกตัวอย่าง
2. วัฒนธรรมของชาวตะวันตกที่เผยแพร่เข้ามาในประเทศไทยนั้น เกี่ยวกับเรื่องใด
3. การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างรวดเร็ว มีผลต่อสังคมและวัฒนธรรมอย่างไร
ตอนที่ 2
คาชี้แจง ให้นักเรียนเปรียบเทียบความแตกต่างของวัฒนธรรมไทยกับวัฒนธรรมสากล
วัฒนธรรมสากล วัฒนธรรมไทย
ตอนที่ 1
คาชี้แจง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
1. วัฒนธรรมดั้งเดิมของไทยผูกพันกับวัฒนธรรมชาติใด จงยกตัวอย่าง
วัฒนธรรมอินเดียและจีน เช่น ความเชื่อ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พิธีกรรม อาหาร มารยาท
และวิถีการดาเนินชีวิต
2. วัฒนธรรมของชาวตะวันตกที่เผยแพร่เข้ามาในประเทศไทยนั้น เกี่ยวกับเรื่องใด
ความรู้ ความคิด และวิทยาการแผนใหม่ เช่น การพิมพ์ การแพทย์ การศึกษา ความรู้ทางวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี การคมนาคมขนส่ง การปกครอง การแต่งกาย
3. การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างรวดเร็ว มีผลต่อสังคมและวัฒนธรรมอย่างไร
1. การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว มีผลต่อความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัว
เปลี่ยนไป ครอบครัวที่เคยมีความสัมพันธ์กันอย่างอบอุ่นก็ต้องห่างเหินกัน
2. วิถีชีวิตของคนในสังคมเปลี่ยนแปลงไป ลักษณะที่เคยมีความเกื้อกูลกัน ช่วยเหลือกัน ก็มีความ
ห่างเหินกัน ต่างคนต่างอยู่ ขาดปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในชุมชนและสังคมทั่วไป
ตอนที่ 2
คาชี้แจง ให้นักเรียนเปรียบเทียบความแตกต่างของวัฒนธรรมไทยกับวัฒนธรรมสากล
วัฒนธรรมสากล วัฒนธรรมไทย
1. เน้นปรัชญา “มนุษย์เป็นนายธรรมชาติ” สามารถ 1. เน้นปรัชญา “มนุษย์ควรอยู่แบบผสมกลมกลืนกับ
บังคับธรรมชาติให้ตอบสนองความต้องการของ ธรรมชาติ” วัฒนธรรมไทยจะสอดคล้องกับสภาพ
มนุษย์ เช่น การประดิษฐ์รถยนต์ เครื่องใช้ แทน ธรรมชาติ เช่น การสร้างบ้านเรือน
การเดินทางโดยสัตว์พาหนะ
2. มีการแบ่งทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสองส่วนตรงกันข้าม 2. เน้นการมองทุกอย่างเป็นองค์รวมการที่จะส่งเสริม
กัน เช่น ขาว-ดา ดี-เลว ทันสมัย-ล้าสมัย โลกให้มีความสมดุลนั้น ต้องอาศัยปัจจัยหรือ
องค์ประกอบต่างๆ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง พลเมืองดีของประเทศชาติและสังคมโลก แผนจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง พลเมืองดี
รายวิชา หน้าที่พลเมืองฯ รหัสวิชา ส 31101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ มัธยมศึกษาปีที่ 4
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 น้าหนักเวลาเรียน 1.0 (นน./นก.) เวลาเรียน 40 ชั่วโมง/สัปดาห์
เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3 ชั่วโมง
..........................................................................................................................................................
1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจที่คงทน)
การปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีนั้น มีความสาคัญต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ซึ่งประชาชนทุกคนนาหลัก
คุณธรรม จริยธรรม มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ
2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี/ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรียนรู้
มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ ดีงาม และธารงรักษา
ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสันติสุข
ตัวชี้วัด ม.4 6/3 ปฏิบัติตนและมีส่วนสนับสนุนให้ผู้อื่น ประพฤติปฏิบัติเพื่อเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติและ
สังคมโลก
3. สาระการเรียนรู้
3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge (นักเรียนต้องรู้อะไร)
นักเรียนสามารถวิเคราะห์ความสาคัญและคุณลักษณะของพลเมืองดีของประเทศชาติและสังคมได้
3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (นักเรียนสามารถปฏิบัติอะไรได้)
นักเรียนสามารถอธิบายแนงทางการปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีได้
3.3 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ : Attitude (นักเรียนควรแสดงพฤติกรรมการเรียนอะไรบ้าง)
นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่รู้ มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายตามเวลาที่กาหนด
4. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. คุณลักษณะของวิชา
- ความรับผิดชอบ
- กระบวนการกลุ่ม
6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน
- ขั้นสอน
2. ครูให้ นกั เรี ยนยกตัวอย่างบุคคลที่มีการกระทาที่แสดงถึงการเป็ นพลเมืองดีของสังคม ประเทศชาติ
และสังคมโลก แล้ วช่วยกันวิเคราะห์ผลของการปฏิบตั ิตนของบุคคลดังกล่าว
3. นักเรี ยนแบ่งกลุม่ กลุม่ ละ 4-5 คน ช่วยกันทาใบงานที่ 1.1 เรื่ อง พลเมืองดีเป็ นศรี ประเทศ
ผลงานเพิ่มเติม
การปกครอง และคุณลักษณะของพลเมืองดี
ขั้นสรุป
ครูและนักเรี ยนช่วยกันสรุปคุณลักษณะ คุณธรรม จริยธรรม พลเมืองดีของประเทศและสังคมโลก
- วิธีการสัมภาษณ์
- วิธีการบันทึกสรุปข้ อมูลการสัมภาษณ์
- ปัญหา/อุปสรรค และวิธีการแก้ ไข
- ขั้นสอน
นักเรี ยนแต่ละกลุม่ ออกมานาเสนอผลงานการสัมภาษณ์พลเมืองดี ซึง่ อาจนาเสนอในรูปแบบต่างๆ ที่นา่ สนใจ
เช่น
- การสนทนา - การถามตอบ
- การแสดงบทบาทสมมุติ - การบรรยาย
- การบรรยายประกอบดนตรี /เพลง - การอภิปราย ฯลฯ
3. นักเรี ยนที่เป็ นผู้ฟังการนาเสนอผลงานจะมีหน้ าที่วิเคราะห์ข้อคิดที่ได้ จากการฟั ง เมื่อจบการนาเสนอ
ของแต่ละกลุม่
4. นักเรี ยนแต่ละกลุม่ นาผลงาน บันทึกสรุปการสัมภาษณ์พลเมืองดี มาจัดป้ายนิเทศแสดงผลงานของ
นักเรี ยนที่หน้ าชันเรี
้ ยน
- ขั้นสรุป
ครูและนักเรี ยนร่วมกันสรุปคุณลักษณะ คุณธรรม จริยธรรม พลเมืองดีของประเทศชาติ และสังคมโลก
9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้
10. การวัดผลและประเมินผล
8. มีภูมิคมุ กันในตัวที่ดี ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ
ระมัดระวัง ระมัดระวัง สร้างสรรค์
กิจกรรม
ครู ผู้เรียน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
หน่วยพลเมืองดี หน่วยพลเมืองดี หน่วยพลเมืองดี
- รวบรวมฐานข้อมูลโรงเรียน - รวบรวมพันธุ์พืชในโรงเรียน - ลงมือปฏิบัติข้อมูลพันธุ์พืชในโรงเรียน
ลงชื่อ..................................................ผู้สอน
( นางณิภาทิพย์ มูลแก้ว )
ด้ ำนสังคม
ควำมสำคัญ
ของพลเมืองดี
ด้ ำนกำรเมืองกำรปกครอง
ตอนที่ 2
ตอนที่ 1
โดย นางณิภาทิพย์ มูลแก้ ว กลุม่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
แผนการจัดการเรี ยนรู้ รายวิชาหน้ าที่พลเมืองฯ ชันมั
้ ธยมศึกษาปี ที่ 4
คาชี้แจง ให้นักเรียนวิเคราะห์ความสาคัญของพลเมืองดี
ด้ านสังคม ด้ านเศรษฐกิจ
- สังคมสงบเรี ยบร้ อย เพราะทุกคนปฏิบตั ติ ามกฎ - ฐานะทางเศรษฐกิจของแต่ละครอบครัวมัน่ คง
กติกา กฎหมาย เพราะสมาชิกในครอบครัวรู้ จกั ใช้ จา่ ยอย่าง
- สังคมสงบ เพราะทุกคนสามารถแก้ ปัญหาความ มีเหตุผล
ขัดแย้ งได้ ด้วยเหตุผล - - ประชาชนรู้ จกั ปฏิบตั ติ นอย่างพอเพียง เพราะ
สังคมได้ รับการพัฒนา เพราะพลเมืองดีจะเสียสละ พลเมืองย่อมต้ องรู้ จกั การออม และปฏิบตั ติ าม
และร่ วมมือกันพัฒนาท้ องถิ่นและสังคม นโยบายของประเทศ
- มีการช่วยเหลือกันในการพัฒนาอาชีพ เพราะ
พลเมืองดีย่อมมีการช่วยเหลือและบาเพ็ญ
ประโยชน์ตอ่ ผู้อื่น
ควำมสำคัญ
ของพลเมืองดี
ด้ านการเมืองการปกครอง
- การดาเนินกิจกรรมวิถีประชาธิปไตยเป็ นไปอย่างมีระบบ เพราะประชาชน
จะตระหนักถึงความสาคัญและมีสว่ นร่ วมในการเมืองการปกครอง
- ประชาชนปฏิบตั ติ ามกฎหมาย เพราะทุกคนจะต้ องปฏิบตั ติ นเป็ นสมาชิกที่ดี
ในการเคารพกฎ กติกา และระเบียบของสังคม
- ประชาชนปฏิบตั ติ ามสิทธิ หน้ าที่ของตน เพราะต้ องทาตามบทบัญญัตขิ อง
รัฐธรรมนูญ
ตอนที่ 2
คาชี้แจง ให้นักเรียนเขียนแผนผังความคิด เรื่อง คุณลักษณะพลเมืองดี
เคารพกฎหมาย มีคณ
ุ ธรรม จริ ยธรรม
แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม
เกณฑ์การให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
ดีมาก =4
ดี =3 ............../.................../................
พอใช้ =2
ปรับปรุง = 1
หมายเหตุ ครูอาจใช้วิธีการมอบหมายให้หัวหน้ากลุ่ม
เป็นผู้ประเมิน หรือให้ตัวแทนกลุ่มผลัดกันประเมิน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ หรือให้มีการประเมินโดยเพื่อน โดยตัวนักเรียนเอง
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
ตามความเหมาะสมก็ได้
17 – 20 ดีมาก
13 – 16 ดี
9 – 12 พอใช้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่2
5หน่
– 8วยการเรียนรู
ปรับ้ทปรุี่ 3ง เรื่อง พลเมืองดีของประเทศชาติและสังคมโลก แผนจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่องวิถึชีวิตพลเมืองดี
รายวิชา หน้าที่พลเมืองฯ รหัสวิชา ส 31101
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ มัธยมศึกษาปีที่ 4
โดย นางณิภาทิพย์ มูลแก้ ว กลุม่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
แผนการจัดการเรี ยนรู้ รายวิชาหน้ าที่พลเมืองฯ ชันมั
้ ธยมศึกษาปี ที่ 4
6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน
7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : (ให้สอดคล้อง กับตัวชี้วัด /ผลการเรียนรู้ ในแผนการเรียนรู้นี้ )
- ใบงานที่ 2.1 เรื่อง แนวทางการปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี
- ใบงานที่ 2.2 เรื่อง วิเคราะห์พลเมืองดี
และเพิ่มเติมตามความเหมาะสม จากนันให้
้ ชว่ ยกันแสดงความคิดเห็นว่า แนวทางการปฏิบตั ิตนเป็ น
สมาชิกที่ดีของครอบครัว โรงเรี ยน ชุมชน ประเทศชาติและสังคมโลกนัน้ นักเรี ยนสามารถนาไป
ผลงานต่อชันเรี
้ ยน 2-3 กลุม่ แล้ วให้ กลุม่ ที่มีผลงานแตกต่างกันได้ ออกไปนาเสนอเพิ่มเติม
- ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปแนวทางการปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว โรงเรียน ชุมชน
ประเทศชาติ และสังคมโลก และมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคนได้ปฏิบัติตนตามแนวทางการปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี แล้ว
บันทึกสิ่งที่นักเรียนปฏิบัติได้จริงและรายงานผลต่อครู ครูชมเชยนักเรียนที่ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างของพลเมืองดี
- ขั้นสอน
1.ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มที่หาข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับบุคคลที่มีการกระทาเป็นพลเมืองดี ที่ทาประโยชน์ต่อ
สังคมและประเทศชาติหรือสังคมโลก มาวิเคราะห์ตามหัวข้อในใบงานที่ 2.2 เรื่อง วิเคราะห์พลเมืองดี ดังนี้
1)บุคคลที่แสดงว่าเป็นพลเมืองดี คือใคร
2)เขามีการกระทาที่แสดงว่าเป็นพลเมืองดี อย่างไร
3)จากการปฏิบัติตนในข้อ 2 สอดคล้องกับคุณลักษณะของพลเมืองดีอย่างไร จง
อธิบาย
4)นักเรียนสามารถนาแบบอย่างของบุคคลดังกล่าวไปประยุกต์ปฏิบัติได้อย่างไร
2.นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานต่อชั้นเรียน โดยให้กลุ่มอื่นที่เป็นผู้ฟังได้ให้ข้อคิดหรือ ข้อเสนอแนะ
เพิ่มเติม
3.ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปข้อคิดที่ได้รับจากการนาเสนอผลงานของพลเมืองดีในระดับ ชุมชน ประเทศ และ
สังคมโลก
4.ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มวางแผนร่วมกันทากิจกรรมที่แสดงถึงการเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติ
และสังคมโลกโดยให้ครอบคลุมประเด็นต่อไปนี้
1)การมีส่วนร่วมกิจกรรมทางการเมืองการปกครอง
2)การมีส่วนร่วมกิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจ
3)การมีส่วนร่วมกิจกรรมทางด้านสังคมและวัฒนธรรม
4)การมีส่วนร่วมกิจกรรมทางด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
5.นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งแผนการดาเนินกิจกรรมต่อครูผู้สอน เพื่อตรวจสอบความเหมาะสมก่อนนาไปปฏิบัติจริง
6.นักเรียนแต่ละกลุ่มดาเนินกิจกรรมตามแผนงานที่กาหนดในเวลาที่ตกลงกันระหว่างครูผู้สอนกับนักเรียน ครู
จะคอยติดตามความเคลื่อนไหวของการดาเนินกิจกรรมของนักเรียนแต่ละกลุ่มเป็นระยะๆ
7.นักเรียนแต่ละกลุ่มรายงานผลการดาเนินงานตามกิจกรรมตามหัวข้อที่กาหนด
- ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปผลของการปฏิบัติตนและสนับสนุนให้ผู้อื่นปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติ และ
สังคมโลก
นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง พลเมืองดีของประเทศชาติและสังคม
9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้
10. การวัดผลและประเมินผล
ตัวอย่างข่าวเกี่ยวกับพลเมืองดี
แบบประเมินรายงานการดาเนินกิจกรรมการปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี
กลุม่ ที่..................................................
3. .............................................................................. 4. ..............................................................................
5. .............................................................................. 6. ..............................................................................
ลำดั คุณภำพผลงำน
รำยกำรประเมิน
บที่ 4 3 2 1
รวม
2. แนวทางการปฏิบตั ิตน
เป็ นสมาชิกที่ดีของ
โรงเรี ยน
3. แนวทางการปฏิบตั ิตน
เป็ นสมาชิกที่ดีของ
ชุมชน
4. แนวทางการปฏิบตั ิตน
เป็ นสมาชิกที่ดีของ
ประเทศชาติและสังคม
โลก
โลก 2. มีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
3. แสวงหาข้อมูลต่างๆ ให้ทันต่อ
เหตุการณ์ของโลก
4. ให้ความร่วมมือกับประเทศต่างๆ
ในการป้องกัน แก้ปัญหาภัยพิบัติ
ต่างๆ
5. ร่วมมือกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
6. ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาส
เมื่อมีโอกาส
ชื่อเรื่ อง
สรุปประเด็นสาคัญ
บุคคลที่เป็นพลเมืองดี คือ
บุคคลดังกล่าวมีการกระทาที่แสดงว่าเป็นพลเมืองดี อย่างไร
นักเรียนสามารถนาแบบอย่างการกระทาของบุคคลนี้ไปประยุกต์ปฏิบัติได้อย่างไร
ชื่อเรื่ อง
สรุปประเด็นสาคัญ
บุคคลที่เป็นพลเมืองดี คือ
บุคคลดังกล่าวมีการกระทาที่แสดงว่าเป็นพลเมืองดี อย่างไร
นักเรียนสามารถนาแบบอย่างการกระทาของบุคคลนี้ไปประยุกต์ปฏิบัติได้อย่างไร
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สิทธิมนุษยชน แผนจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ความสาคัญของสิทธิมนุษยชน
รายวิชา หน้าที่พลเมืองฯ รหัสวิชา ส 31101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ มัธยมศึกษาปีที่ 4
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 น้าหนักเวลาเรียน 1.0 (นน./นก.) เวลาเรียน 40 ชั่วโมง/สัปดาห์
เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2 ชั่วโมง
..........................................................................................................................................................
1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจที่คงทน)
สิทธิมนุษยชน เป็นสิทธิพื้นฐานที่ทุกคนมีอยู่ในฐานะที่เกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นไปตามหลักการของสิทธิ
มนุษยชนตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี/ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรียนรู้
มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และธารงรักษา
ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสันติสุข
ตัวชี้วัด ม.4 6/4 ประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และเสนอแนวทางพัฒนา
3. สาระการเรียนรู้
3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge (นักเรียนต้องรู้อะไร)
นักเรียนสามารถเขียนความสาคัญของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้
3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (นักเรียนสามารถปฏิบัติอะไรได้)
นักเรียนสามารถอธิบายความสาคัญ แนวคิด และหลักการของสิทธิมนุษยชนได้
3.3 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ : Attitude (นักเรียนควรแสดงพฤติกรรมการเรียนอะไรบ้าง)
นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่รู้ มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายตามเวลาที่กาหนด
4. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. คุณลักษณะของวิชา
- ความรับผิดชอบ
- กระบวนการกลุ่ม
6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน
- ขั้นสอน
1.ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเรื่อง ความหมายและความสาคัญของสิทธิมนุษยชน
2. ครูอธิบายเพิ่มเติมให้เห็นถึงความจาเป็นที่ทุกคนจะต้องให้ความสาคัญของสิทธิมนุษยชนและให้
นักเรียนศึกษาความรู้เพิ่มเติมเรื่อง สิทธิมนุษยชน จากหนังสือเรียน
3. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน โดยให้จับคู่กันเป็น 2 คู่ และให้แต่ละคู่ช่วยกันทาใบงานที่ 1.1
เรื่อง แนวคิดและหลักการของสิทธิมนุษยชน ดังนี้
-คู่ที่ 1 วิเคราะห์กรณีตัวอย่างที่ 1 เรื่อง น้องบอล...เด็กเร่ร่อน
-คู่ที่ 2 วิเคราะห์กรณีตัวอย่างที่ 2 เรื่อง กรกับแก้ว...ลูกชาวนา
4. ให้นักเรียนแต่ละคนทาใบงานและวิเคราะห์หาคาตอบด้วยตนเองก่อน และผลัดกันอภิปรายผล
การวิเคราะห์ให้กับคู่ของตนฟังจนครบทั้ง 2 คู่
6. ครูสมุ่ เรี ยกนักเรี ยนออกมานาเสนอผลงานที่หน้ าชันเรี ้ ยน 2-3 กลุม่ และให้ กลุม่ อื่นๆ เสนอแนะเพิ่มเติมใน
ประเด็นที่แตกต่างกัน
ขั้นสรุป
นักเรี ยนและครูร่วมกันสรุปความสาคัญ แนวคิด และหลักการของสิทธิมนุษยชน
10. การวัดผลและประเมินผล
แห่งสหประชาชาติ
ได้
สามารถอธิบาย การสังเกต แบบสังเกต แบบสังเกต ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ความสาคัญ แนวคิด
และหลักการของ
สิทธิมนุษยชนได้
สนใจ ใฝ่รู้ มีความ การสังเกต แบบสังเกต แบบสังเกต ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
รับผิดชอบต่องานที่
ได้รับมอบหมายตาม
เวลาที่กาหนด
11. จุดเน้นของโรงเรียน การบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ครู ผู้เรียน
11. ความพอประมาณ พอดีด้านเทคโนโลยี พอดีด้านจิตใจ
รู้จักใช้เทคโนโลยีมาผลิตสื่อที่เหมาะสม
และสอดคล้องเนื้อหาเป็นประโยชน์ต่อ มีจิตสานึกที่ดี เอื้ออาทร ประนีประนอม นึก
ผู้เรียนและพัฒนาจากภูมิปญ ั ญาของผู้เรียน ถึงประโยชน์ส่วนรวม/กลุ่ม
12. ความมีเหตุผล - ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความถูกต้อง ไม่หยุดนิ่งที่หาหนทางในชีวิต หลุดพ้นจาก
สุจริต แม้จะตกอยู่ในภาวะขาดแคลน ใน ความทุกข์ยาก (การค้นหาคาตอบเพื่อให้
การดารงชีวิต หลุดพ้นจากความไม่รู้)
13. มีภูมิคมุ กันในตัวที่ดี ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ
ระมัดระวัง ระมัดระวัง สร้างสรรค์
14. เงื่อนไขความรู้ ความรอบรู้ เรื่อง วัฒนธรรมไทย ที่ ความรอบรู้ เรื่อง วัฒนธรรมไทย กรณีที่
เกี่ยวข้องรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนา เกิดงาน ปริมาณที่เกี่ยวข้อง สามารถนา
ความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน ความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน
เพื่อประกอบการวางแผน การดาเนินการจัด สามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน
กิจกรรมการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน
15. เงื่อนไขคุณธรรม มีความตระหนักใน คุณธรรม มีความ มีความตระหนักใน คุณธรรม มีความ
ซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร ซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร
ใช้สติปัญญาในการดาเนินชีวิต ใช้สติปัญญาในการดาเนินชีวิต
กิจกรรม
ครู ผู้เรียน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
หน่วยสิทธิมนุษยชน หน่วยสิทธิมนุษยชน หน่วยสิทธิมนุษยชน
- รวบรวมฐานข้อมูลโรงเรียน - รวบรวมพันธุ์พืชในโรงเรียน - ลงมือปฏิบัติข้อมูลพันธุ์พืชในโรงเรียน
การเลือกใช้และรวบรวมพันธุ์พืชใน กระบวนการรวบรวมพันธ์พืชในโรงเรียน
โรงเรียน
ลงชื่อ..................................................ผู้สอน
( นางณิภาทิพย์ มูลแก้ว )
กรณีตวั อย่างที่ 1
เรื่ อง น้ องบอล...เด็กเร่ร่อน
ตารวจได้ รับแจ้ งจากป้าสายใจว่า พบเด็กชายบอล อายุประมาณ 6 ปี เร่ร่อนขอทานอยูใ่ นซอยของตน ตอน
กลางคืนอาศัยแผงในตลาดใช้ เป็ นที่นอน ป้าสายใจเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจึงให้ การช่วยเหลือหาอาหารและพาไป
อาบน ้าเปลีย่ นเสื ้อผ้ าและให้ อาศัยอยูด่ ้ วย ป้าสายใจพยายามสอบถามเด็กชายบอล ได้ ความว่า เร่ร่อนมา 3 เดือน
แล้ ว โดยพ่อแม่เสียชีวติ ป้าสายใจสงสารจึงแจ้ งความกับตารวจเพื่อขออุปการะเด็กให้ ถกู ต้ องและส่งเสียให้ เรี ยน
หนังสือในโรงเรี ยนใกล้ บ้าน เด็กชายบอลเรี ยนไม่เก่งนักแต่มีความสามารถในการเล่นฟุตบอล
ต่อมาเป็ นนักกีฬาของโรงเรี ยนและได้ สร้ างชื่อเสียงให้ กบั โรงเรียนอย่างมาก หลังจากเรี ยนจบชัน้
มัธยมศึกษาปี ที่ 6 บอลได้ รับการคัดเลือกให้ เข้ าเรียนในมหาวิทยาลัยชันน ้ าของประเทศในโควตานักกีฬา สมาคม
กีฬาแห่งหนึง่ สนใจในความสามารถของบอลจึงให้ การสนับสนุนส่งบอลไปฝึ กฝนกับสโมสรฟุตบอลในยุโรป และได้
ลงแข่งขันฟุตบอลนานาชาติหลายครัง้ จนได้ รับการยกย่องเป็ นนักฟุตบอลดีเด่น
คาถาม
ข้อความใดที่แสดงว่าบอล มีสิทธิในเรื่องต่อไปนี้
สิทธิในชีวิต
สิทธิในการยอมรับนับถือ
สิทธิในการดาเนินชีวิตและพัฒนาตนเอง
กรณีตวั อย่างที่ 2
เรื่ อง กรกับแก้ ว...ลูกชาวนา
คาถาม
จากกรณีตัวอย่าง กร แก้ว และพ่อแม่ได้ดาเนินชีวิตในสังคมตามหลักสิทธิมนุษยชนในเรื่องใด
จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่างประกอบ
กรณีตวั อย่างที่ 1
เรื่ อง น้ องบอล...เด็กเร่ร่อน
คาถาม
ข้อความใดที่แสดงว่าบอล มีสิทธิในเรื่องต่อไปนี้
1.สิทธิในชีวิต
2.สิทธิในการยอมรับนับถือ
3.สิทธิในการดาเนินชีวิตและพัฒนาตนเอง
กรณีตวั อย่างที่ 2
เรื่ อง กรกับแก้ ว...ลูกชาวนา
คาถาม
จากกรณีตัวอย่าง กร แก้ว และพ่อแม่ได้ดาเนินชีวิตในสังคมตามหลักสิทธิมนุษยชนในเรื่องใด
จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่างประกอบ
แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม
การร่วม
ชื่อ – สกุล การแสดง การรับฟัง การตั้งใจ รวม
ลาดับ ความร่วมมือ ปรับปรุง
ความคิดเห็น ความคิดเห็น ทางาน
ที่ ของผู้รับการ ผลงานกลุ่ม 20
ประเมิน คะแนน
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1
เกณฑ์การให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
ดีมาก =4
ดี =3 ............../.................../................
พอใช้ =2
ปรับปรุง = 1
หมายเหตุ ครูอาจใช้วิธีการมอบหมายให้หัวหน้ากลุ่ม
เป็นผู้ประเมิน หรือให้ตัวแทนกลุ่มผลัดกันประเมิน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ หรือให้มกี ารประเมินโดยเพื่อน โดยตัวนักเรียนเอง
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
ตามความเหมาะสมก็ได้
17 – 20 ดีมาก
13 – 16 ดี
9 – 12 พอใช้ โดย นางณิภาทิพย์ มูลแก้ ว กลุม่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
5–8 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรี ยนรู้ รายวิชาหน้ าที่พลเมืองฯ ชันมั
้ ธยมศึกษาปี ที่ 4
แผนการจัดการเรียนรู้ที่2
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สิทธิมนุษยชน แผนจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและบทบาท
องค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน
รายวิชา หน้าที่พลเมืองฯ รหัสวิชา ส 31101
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ มัธยมศึกษาปีที่ 4
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 น้าหนักเวลาเรียน 1.0 (นน./นก.) เวลาเรียน 40 ชั่วโมง/สัปดาห์
เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2 ชั่วโมง
..........................................................................................................................................................
1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจที่คงทน)
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มีบทบัญญัตเิ กี่ยวกับสิทธิมนุษยชนซึง่ เป็ นไปตามความร่วมมือระหว่าง
องค์กรระหว่างประเทศ
2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี/ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรียนรู้
มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และธารงรักษา
ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสันติสุข
ตัวชี้วัด ม.4-6/4 ประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และเสนอแนวทางพัฒนา
3. สาระการเรียนรู้
3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge (นักเรียนต้องรู้อะไร)
นักเรียนสามารถเขียนวิเคราะห์บทบัญญัติของรับธรรมนูญแค่งราชอาณาจักรไทยเกี่ยวกับสิทธิ
มนุษยชนได้
3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (นักเรียนสามารถปฏิบัติอะไรได้)
นักเรียนสามารถอธิบายบทบาทองค์กรระหว่างประเทศในเวทีโลกเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่มีผลต่อ
ประเทศไทยได้
3.3 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ : Attitude (นักเรียนควรแสดงพฤติกรรมการเรียนอะไรบ้าง)
นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่รู้ มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายตามเวลาที่กาหนด
4. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. คุณลักษณะของวิชา
- ความรับผิดชอบ
- กระบวนการรายบุคคล /กลุ่ม
6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน
โดย นางณิภาทิพย์ มูลแก้ ว กลุม่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
แผนการจัดการเรี ยนรู้ รายวิชาหน้ าที่พลเมืองฯ ชันมั
้ ธยมศึกษาปี ที่ 4
- ขั้นสรุป
นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานที่หน้าชั้นเรียน และให้นักเรียนกลุ่มอื่นช่วยกันแสดง ความคิดเห็น
เพิ่มเติม จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับ ประโยชน์ของการได้รับสิทธิ ในทุกๆ ด้าน และให้นักเรียนร่วมกัน
พิจารณาแนวทางในการรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
- ขั้นสอน
1. ครูเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจถึงวิกฤติการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศต่างๆในโลกยังคงมีอยู่ แม้ว่าคณะ
มนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ซึ่งมีหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบ ให้คาแนะนาแก่ประเทศต่างๆ แต่ไม่สามารถทาได้
เต็มที่ เพราะขาดความร่วมมือจากบางประเทศหรือบุคคลบางกลุ่ม
2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-7 คน ตามความสมัครใจ ศึกษาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับบทบาทขององค์กรระหว่าง
ประเทศในเวทีโลกที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน จากหนังสือเรียน หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม หรือจากแหล่งข้อมูล
สารสนเทศ ตามความเหมาะสม
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาข้อมูลที่ได้ศึกษาค้นคว้ามาเป็นพื้นฐานการวิเคราะห์สถานการณ์ ตามหัวข้อในกรณีตัวอย่าง
ในใบงานที่ 2.2 เรื่อง เปลือยชีวิตชาวโรฮิงญากับชีวิตที่มากกว่าคาว่า โหดร้าย
4. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มรวมพลังสมอง ช่วยกันคิดวิเคราะห์ตามคาถามที่กาหนดให้
5. ครูสุ่มเรียกนักเรียน 2-3 กลุ่ม ออกมานาเสนอผลงานต่อชั้นเรียน และให้กลุ่มอื่นเสนอแนะเพิ่มเติมในประเด็นที่
แตกต่างกันออกไป
- ขั้นสรุป
ครูและนักเรี ยนช่วยกันสรุปข้ อคิดที่ได้ จากการวิเคราะห์กรณีตวั อย่าง และแนวทางการนาไปปฏิบตั ติ นต่อ
ชาวต่างชาติที่เข้ ามาท่องเที่ยวหรื อประกอบอาชีพ โดยไม่มีการเลือกปฏิบตั ิ จึงทาให้ ประเทศไทยของเราไม่มีความ
ขัดแย้ งกับประเทศต่างๆ
9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้
10. การวัดผลและประเมินผล
ใบงานที่ 2.1
เรื่อง บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ 2550 ที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
ที่
ใบงานที่ 2.1
เรื่อง บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ 2550 ที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
ลาดับ
สิทธิตามรัฐธรรมนูญ สิทธิตามปฏิญญาสากล ผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต
ที่
โดย นางณิภาทิพย์ มูลแก้ ว กลุม่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
แผนการจัดการเรี ยนรู้ รายวิชาหน้ าที่พลเมืองฯ ชันมั
้ ธยมศึกษาปี ที่ 4
ตัวอย่าง
สิทธิ สิทธิในการเดินทาง ได้รับประสบการณ์และความรู้
(ข้อ 13) ได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และพัฒนา
ศักยภาพด้านต่างๆ
ใบงานที่ 2.2
เรื่อง เปลือยชีวิตชาวโรฮิงญากับชีวิตที่มากกว่าคาว่า โหดร้าย
ย เพราะทุกคนรู้ว่ารอดแล้ ว จากความรู้สึกในตอนนัน”
้ พวกเราไม่เคยคิดที่จะมาทาให้ คนไทย
ยุง่ ยาก เพียงแต่ไม่ร้ ูวา่ จะไปไหน ทุกประเทศล้ วนรังเกียจพวกเรา
หลักการสิทธิมนุษยชน ตัวอย่างการกระทา
1. สิทธิ (right) เช่น สิทธิจะมีชีวิตอยู่รอด และอยู่อย่าง
สมเกียรติ
1.โรฮิงญา หมายถึง
ใบงานที่ 2.2
เรื่อง เปลือยชีวิตชาวโรฮิงญากับชีวิตที่มากกว่าคาว่า โหดร้าย
1. โรฮิงญา หมายถึง
ชนกลุ่มน้อย เชื ้อสายอาระกัน อาศัยอยู่ในพืน้ ที จ่ งั หวัดหม่องดอและจังหวัดมุสิดอ ประเทศพม่า
เดิ มอาศัยอยู่ในพืน้ ที ่บงั กลาเทศ และรัฐบาลอังกฤษเกณฑ์ ให้มาสู้รบกับพม่าเพือ่ ยึดพม่าเป็ นอาณานิ คม
หลักการสิทธิมนุษยชน ตัวอย่างการกระทา
1. สิทธิ (right) เช่น สิทธิจะมีชีวติ อยูร่ อด และอยูอ่ ย่าง โรฮิ งญาถูกละเมิ ดสิ ทธิ หลายประการ เช่น จากัด
สมเกียรติ ทีอ่ ยู่อาศัย ขาดการศึกษา การรักษา -
พยาบาล อดอยาก ฯลฯ
2. เสรี ภาพ (freedom) เช่น การแสดงความคิดเห็น โรฮิ งญาประกอบอาชี พทานา มี ความยาก
การเลือกคูค่ รอง การสร้ างครอบครัว การประกอบ ลาบาก และถูกเจ้าหน้าทีบ่ งั คับเอาผลผลิ ตไปการ
อาชีพ เดิ นทางข้ามเขตไม่สามารถทาได้ ไปสมัครงานที ่
ไหนไม่ได้เพราะเป็ นชนกลุ่มน้อย
3. ศักดิ์ศรีความเป็ นมนุษย์ (human dignity) เช่น คุณค่า โรฮิ งญาถูกเฆีย่ นหรื อาจโดนฆ่าทิ้ งเมื ่อขัดขื น
ความเป็ นคน ความเท่าเทียมกัน เจ้าหน้าที ่ และโดนทาร้ายร่างกายโดยชาวพม่า
โดนดูถูกเหยียดหยามถ่มน้าลายใส่
4. ความเสมอภาคและการเลือกปฏิบตั ิ (equality and รัฐบาลพม่าจากัดสิ ทธิ เกื อบทุกด้านแก่โรฮิ งญา
diserimination) เช่น การปฏิบตั ิตอ่ กันฉันท์พี่น้อง กระทาการทารุณโหดร้ายและปฏิ บตั ิ ต่อชาว
ความเป็ นธรรม โรฮิ งญาแตกต่างจากชาวพม่าทัว่ ไป
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สิทธิมนุษยชน แผนจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่องปัญหาสิทธิมนุษยชนและแนวทางการแก้ไขพัฒนา
รายวิชา หน้าที่พลเมืองฯ รหัสวิชา ส 31101
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ มัธยมศึกษาปีที่ 4
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 น้าหนักเวลาเรียน 1.0 (นน./นก.) เวลาเรียน 40 ชั่วโมง/สัปดาห์
เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1 ชั่วโมง
..........................................................................................................................................................
1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจที่คงทน)
ปัญหาสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย เป็ นสิ่งที่ชาวไทยทุกคนต้ องร่วมมือกันป้องกัน แก้ ไข และช่วยกันหา
แนวทางพัฒนา
2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี/ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรียนรู้
มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และธารงรักษา
ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสันติสุข
ตัวชี้วัด ม.4-6/4 ประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และเสนอแนวทางพัฒนา
3. สาระการเรียนรู้
3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge (นักเรียนต้องรู้อะไร)
นักเรียนสามารถเขียนปัญหาสิทธิมนุษยชนในประเทศได้
3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (นักเรียนสามารถปฏิบัติอะไรได้)
นักเรียนสามารถอธิบายแนวทางแก้ไขและพัฒนาสิทธิมนุษยชนได้
3.3 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ : Attitude (นักเรียนควรแสดงพฤติกรรมการเรียนอะไรบ้าง)
นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่รู้ มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายตามเวลาที่กาหนด
4. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. คุณลักษณะของวิชา
- ความรับผิดชอบ
- กระบวนการรายบุคคล /กลุ่ม
6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน
7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : (ให้สอดคล้อง กับตัวชี้วัด /ผลการเรียนรู้ ในแผนการเรียนรู้นี้ )
- ใบงานที่ 3.1 เรื่อง ปัญหาการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน
- ใบงานที่ 3.2 เรื่อง แนวทางการช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน
- ใบงานที่ 3.3 เรื่อง แนวทางในการพัฒนาสิทธิมนุษยชน
- ขั้นสอน
1.ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจถึงผลดีและผลเสียของการเคารพสิทธิมนุษยชนของบุคคลในสังคม
2.นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-7 คน จานวน 6 กลุ่ม ตามความสมัครใจ ศึกษาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับปัญหาสิทธิ
มนุษยชน จากหนังสือเรียน หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม หรือแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ตามความเหมาะสม
3.ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอข้อมูลความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้ามาเป็นพื้นฐานการวิเคราะห์และประเมิน
เหตุการณ์ที่กาหนดให้ในใบงาน และให้ตัวแทนกลุ่มออกมานาเสนอผลงานต่อชั้นเรียน
- กลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ทากิจกรรมในใบงานที่ 3.1 เรื่อง ปัญหาการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน
- กลุ่มที่ 3 และกลุ่มที่ 4 ทากิจกรรมในใบงานที่ 3.2 เรื่อง แนวทางการช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน
- กลุ่มที่ 5 และกลุ่มที่ 6 ทากิจกรรมในใบงานที่ 3.3 เรื่อง แนวทางในการพัฒนาสิทธิมนุษยชน
- ขั้นสรุป
1. นักเรี ยนทุกคนช่วยกันสรุปปั ญหาสิทธิมนุษยชน พร้ อมทังเสนอแนะแนวทางแก้
้ ไขและการพัฒนา
9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้
10. การวัดผลและประเมินผล
ใบงานที่ 3.1
เรื่อง ปัญหาการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน
1. การกระทาใดที่แสดงถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชน
1. สาถูกนายจ้างข่มขู่ และให้ค่าตอบแทนแรงงานน้อยกว่าเพือ่ นๆ
3. นายจ้างแจ้งตารวจกล่าวหาว่าเธอลักทรัพย์
2. ผลของการกระทาการละเมิดคืออะไร
1. ขาดความยุติธรรมเกี ่ยวกับสิ ทธิ ในการรับค่าตอบแทน และเสี ยผลประโยชน์อนั พึงจะได้รับ
2. เป็ นการละเมิ ดสิ ทธิ ในชี วิตและร่ างกาย ศักดิ์ ศรี ของความเป็ นมนุษย์
2. สานักงานตารวจแห่งชาติ
3. มูลนิ ธิเด็กและสตรี
ใบงานที่ 3.2
เรื่ อง แนวทางการช่วยเหลือผู้ถกู ละเมิดสิทธิมนุษยชน
การดาเนินการกับผู้ละเมิด และผู้ถกู
ละเมิด
องค์กรที่ดแู ล
โดยให้ความช่วยเหลื อรี บด่วน และ
ด้ านสิทธิมนุษยชน
ประสานหน่วยงานทีเ่ กี ่ยวข้อง พร้อม
เข้าจับกุมผูล้ ะเมิ ด
ใบงำนที่ 3.3
เรื่ อง แนวทำงในกำรพัฒนำสิทธิมนุษยชน
คำชีแ้ จง ให้ นกั เรี ยนร่วมกันอภิปรายเสนอแนวทางในการพัฒนาสิทธิมนุษยชน
แนวทางในการพัฒนาสิทธิมนุษยชน ผลของการพัฒนาสิทธิมนุษยชน
1. การให้ความรู้ ข้อมูล ข่าวสารเกี ่ยวกับ 1. เกิ ดความรู้ เข้าใจเกี ่ยวกับสิ ทธิ เสรี ภาพ
เกี ่ยวกับมนุษยชน ของตนอันพึงได้รบั
5. การเข้าเป็ นภาคีอนุสญ
ั ญา หรื อข้อตกลง 5. เกิ ดความร่วมมื อ ร่ วมใจ คุม้ ครองสิ ทธิ
ระหว่างประเทศด้านสิ ทธิ มนุษยชน มนุษยชนอย่างกว้างขวาง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง ระบอบการเมืองการปกครอง แผนจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
รายวิชา หน้าที่พลเมืองฯ รหัสวิชา ส 31101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ มัธยมศึกษาปีที่ 4
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 น้าหนักเวลาเรียน 1.0 (นน./นก.) เวลาเรียน 40 ชั่วโมง/สัปดาห์
เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4 ชั่วโมง
..........................................................................................................................................................
1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจที่คงทน)
การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริ ย์ทรงเป็ นประมุขของไทย เป็ นการปกครองที่มี
หลักการสาคัญในการใช้ อานาจอธิปไตยเพื่อประโยชน์สงู สุดของประชาชน โดยมีพระมหากษัตริย์เป็ นศูนย์รวมจิตใจ
ของปวงชน ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศในทุกด้ าน
2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี/ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรียนรู้
มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และธารงรักษา
ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสันติสุข
ตัวชี้วัด ม.4 6/3 วิเคราะห์ความสาคัญและความจาเป็นที่ต้องธารงรักษาไว้ซึ่งการปกครอง ตามระบอบ
ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
3. สาระการเรียนรู้
3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge (นักเรียนต้องรู้อะไร)
นักเรียนสามารถวิเคราะห์ความจาเป็นในการธารงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้
3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (นักเรียนสามารถปฏิบัติอะไรได้)
นักเรียนสามารถอธิบายการปกครองระบอบประชาธิปไตยของไทยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
ประมุขได้
3.3 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ : Attitude (นักเรียนควรแสดงพฤติกรรมการเรียนอะไรบ้าง)
นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่รู้ มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายตามเวลาที่กาหนด
4. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. คุณลักษณะของวิชา
- ความรับผิดชอบ
- กระบวนการกลุ่ม
6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์
1. มีวินัย
โดย นางณิภาทิพย์ มูลแก้ ว กลุม่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
แผนการจัดการเรี ยนรู้ รายวิชาหน้ าที่พลเมืองฯ ชันมั
้ ธยมศึกษาปี ที่ 4
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน
- สมาชิกคนที่ 4 ตรวจสอบความถูกต้อง
3. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มจะหมุนเวียนเปลี่ยนหน้าที่กันตอบคาถาม หรือประเด็นที่กาหนด จนครบทุกข้อ
ขัน้ สรุป
ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคาตอบในใบงาน และช่วยกันสรุปความแตกต่างของการปกครอง
ระบอบประชาธิปไตย กับระบอบเผด็จการ
ชั่วโมงที่ 2 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝ่เรียนรู้ / ช่วยกันคิดช่วยกันเรียน)
- ขั้นนาเข้าสู่บทเรียน/ขั้นตั้งคาถาม
ครูตั้งคาถามเพื่อเป็นการตรวจสอบความรู้ของนักเรียน เช่น
- ประเทศที่เป็นเอกรัฐ หรือรัฐเดี่ยว ได้แก่ประเทศใดบ้าง
แนวคาตอบ ไทย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สเปน
- ประเทศที่เป็นสหพันธรัฐ หรือรัฐรวม ได้แก่ประเทศใดบ้าง
แนวคาตอบ สหรัฐอเมริกา สหพันธรัฐรัสเซีย มาเลเซีย
- ขั้นสอน
1.ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจถึงความแตกต่างกันของรัฐเดี่ยวหรือเอกรัฐ กับสหพันธรัฐหรือรัฐรวม
และสรุปประเด็น ดังนี้
- รัฐเดี่ยวหรือเอกรัฐ เป็นรัฐที่มีรัฐบาลกลางเพียงรัฐเดียว ใช้อานาจอธิปไตยปกครองดินแดน
ทั้งหมด อาจมีการกระจายให้ท้องถิ่นได้บริหารกิจการของท้องถิ่นตามที่รัฐบาลเห็นสมควร
- รัฐรวมหรือสหพันธรัฐ เป็นรัฐที่มีรัฐบาลหลายระดับ คือ รัฐบาลกลาง และรัฐบาลท้องถิ่น
ของแต่ละมลรัฐ
2. ครูเชื่อมโยงเข้าสู่เรื่อง รูปแบบของรัฐไทย ซึ่งเป็นรัฐเดี่ยว มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
3. นักเรียนกลุ่มเดิมจากชั่วโมงที่แล้วจับคู่กันเป็น 2 คู่ ช่วยกันศึกษาความรู้เรื่อง การใช้อานาจอธิปไตย
จากหนังสือเรียน แล้วช่วยกันทาใบงานที่ 1.2 เรื่อง การใช้อานาจอธิปไตย
นักเรียนแต่ละคู่ของกลุ่มช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของใบงานและอธิบายความรู้ในประเด็นสาคัญของคาตอบ
ในแต่ละข้อ
- ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนช่วยกันเฉลยคาตอบในใบงาน และสรุปประเด็นสาคัญของการใช้อานาจอธิปไตย
ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล
- ขั้นนาเข้าสู่บทเรียน/ขั้นตั้งคาถาม
1.ครูให้ นั กเรี ยนชมวีดิทัศน์ ห รือภาพเกี่ยวกับพระราชกรณี ยกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หั ว รัช กาล
ปัจจุบัน แล้วให้นักเรียนผลัดกันแสดงความประทับใจในพระราชกรณียกิจของพระองค์ ครูอธิบายเชื่ อมโยงให้นักเรียน
เข้าใจว่า พระราชกรณียกิจดังกล่าวนั้น จัดเป็นบทบาทของพระมหากษัตริย์ไทยที่ปฏิบัติตามฐานะและพระราชอานาจตาม
บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
- ขั้นสอน
นักเรียนรวมกลุ่มกัน กลุ่มละ 4 คน ตามความสมัครใจ ให้แต่ละกลุ่มศึกษาความรู้เรื่อง ฐานะและ
พระราชอานาจของพระมหากษัตริย์ จากหนังสือเรียนนักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทาใบงานที่ 1.3 เรื่อง ฐานะและพระ
ราชอานาจของพระมหากษัตริย์ไทยนักเรียนแต่ละกลุ่มผลัดกันนาเสนอผลงานจากใบงาน แล้วให้กลุ่มที่มีความคิดเห็น
ต่างกันออกไปนาเสนอเพิ่มเติม โดยครูเป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้อง
- ขั้นสรุป
ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มค้นคว้าความรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจที่สาคัญของ
พระมหากษัตริย์ไทย และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่มีผลต่อการพัฒนาประเทศไทย
ชั่วโมงที่ 4 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝ่เรียนรู้ / ช่วยกันคิดช่วยกันเรียน)
- ขั้นนาเข้าสู่บทเรียน/ขั้นตั้งคาถาม
ครูสนทนาซักถามนักเรียนถึงความพร้อมของนักเรียนแต่ละกลุ่มที่ไปสืบค้นหาความรู้เกี่ยวกับ
พระราชกรณียกิจสาคัญของพระมหากษัตริย์ไทย และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่มีผลต่อการพัฒนาประเทศไทย วิธีการ
สืบค้น และการเบ่งหน้าที่กันทางานของนักเรียน
- ขั้นสอน
นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทาใบงานที่ 1.4 เรื่อง พระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ไทย
3.นักเรียนแต่ละกลุ่มเสนอผลงานต่อชั้นเรียน ดังนี้
-กลุ่มที่ 1 นาเสนอผลงาน กลุ่มที่ 2 แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
-กลุ่มที่ 2 นาเสนอผลงาน กลุ่มที่ 3 แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
-กลุ่มที่ 3 นาเสนอผลงาน กลุ่มที่ 4 แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
-กลุ่มที่ 4 นาเสนอผลงาน กลุ่มที่ 5 แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
-กลุ่มที่ 5 นาเสนอผลงาน กลุ่มที่ 1 แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
- ขั้นสรุป
ครูและนักเรี ยนช่วยกันอภิปรายความสาคัญและความจาเป็ นที่ต้องรักษาไว้ ซงึ่ การปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข
9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้
10. การวัดผลและประเมินผล
18. มีภูมิคมุ กันในตัวที่ดี ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ
ระมัดระวัง ระมัดระวัง สร้างสรรค์
19. เงื่อนไขความรู้ ความรอบรู้ เรื่อง วัฒนธรรมไทย ที่ ความรอบรู้ เรื่อง วัฒนธรรมไทย กรณีที่
เกี่ยวข้องรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนา เกิดงาน ปริมาณที่เกี่ยวข้อง สามารถนา
ความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน ความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน
เพื่อประกอบการวางแผน การดาเนินการจัด สามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน
กิจกรรมการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน
20. เงื่อนไขคุณธรรม มีความตระหนักใน คุณธรรม มีความ มีความตระหนักใน คุณธรรม มีความ
ซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร ซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร
ใช้สติปัญญาในการดาเนินชีวิต ใช้สติปัญญาในการดาเนินชีวิต
กิจกรรม
ครู ผู้เรียน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
หน่วยสิทธิมนุษยชน หน่วยสิทธิมนุษยชน หน่วยสิทธิมนุษยชน
- รวบรวมฐานข้อมูลโรงเรียน - รวบรวมพันธุ์พืชในโรงเรียน - ลงมือปฏิบัติข้อมูลพันธุ์พืชในโรงเรียน
ลงชื่อ..................................................ผู้สอน
( นางณิภาทิพย์ มูลแก้ว )
ตัวอย่ ำงสื่อประกอบกำรสอน
พระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยูห่ วั
เสด็จไปเยี่ยมเยียนราษฎรในท้ องถิ่นต่างๆ
พระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยูห่ วั
ต้ อนรับพระราชอาคันตุกะ
พระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยูห่ วั
เสด็จไปประกอบพิธีทางศาสนา
1. หลักการสาคัญของ
ระบอบประชาธิปไตย
ระบอบเผด็จการ
แผนการจัดการเรี ยนรู้ รายวิชาหน้ าที่พลเมืองฯ ชันมั
้ ธยมศึกษาปี ที่ 4
3. รูปแบบของการ
ปกครองระบอบ
เผด็จการ
4. ความแตกต่างระหว่าง
ระบอบเผด็จการ
คอมมิวนิสต์ กับ
ระบอบเผด็จการทหาร
โดย นางณิภาทิพย์ มูลแก้ ว กลุม่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
แผนการจัดการเรี ยนรู้ รายวิชาหน้ าที่พลเมืองฯ ชันมั
้ ธยมศึกษาปี ที่ 4
5. ความแตกต่างของ
เอกรัฐกับสหพันธรัฐ
ทีร่ ัฐจัดให้แก่ประชาชน
3. โดย
ผูน้ าสามารถอยู
นางณิภาทิพย์่ในอ
มูลานาจได้
แก้ ว กลุม่ ตสาระการเรี
ลอดชี วิตยหรื
นรู้อสัเท่ าที ผ่ กรู้ษา่ วมงานหรื
งคมศึ อ ฒนธรรม
ศาสนาและวั
กองทัพสนับสนุน
แผนการจัดการเรี ยนรู้ รายวิชาหน้ าที่พลเมืองฯ ชันมั
้ ธยมศึกษาปี ที่ 4
ที่มีใจความสัมพันธ์กนั
6 11, 15 1, 2, 14, 15
3, 9, 13 4 5, 7, 8, 12 10
7. มีอานาจพิจารณาและวินิจฉัยคดีที่เกี่ยวกับการเลือกตังและเพิ
้ กถอนสิทธิเลือกตังในการเลื
้ อกตังสมาชิ
้ ก
สภาท้ องถิ่นและผู้บริหารท้ องถิ่น
8. มีอานาจพิจารณาและวินิจฉัยคดีที่เกี่ยวกับการเลือกตังและเพิ
้ กถอนสิทธิเลือกตังในการเลื
้ อกตัง้
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
9. บริหารราชการแผ่นดินส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้ องถิ่น
10. มีอานาจพิจารณาพิพากษาคดีพิพาทระหว่างหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ เจ้ าหน้ าที่ของรัฐกับ
เอกชน อันเนื่องมาจากการดาเนินกิจการการปกครองของหน่วยงานราชการ
11. เสนอและพิจารณากฎหมาย
12. ศาลชันต้ ้ น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา
13. ควบคุมข้ าราชการประจาให้ นานโยบายไปปฏิบตั ิ
14. ถอดถอนผู้ดารงตาแหน่งทางการเมืองหรื อข้ าราชการระดับสูงออกจากตาแหน่ง
15. ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน โดยการตังกระทู
้ ้ ถามรัฐมนตรี หรื อนายกรัฐมนตรี ในเรื่ องเกี่ยวกับงานใน
หน้ าที่
ใบงำนที่ 1.3 เรื่อง ฐำนะและพระรำชอำนำจของพระมหำกษัตริย์ไทย
ตอนที่ 1
ตอนที่ 2
1. พระมหากษัตริ ย์ไทยทรงมีฐานะและพระราชอานาจตามรัฐธรรมนูญอย่างไร
ตอนที่ 1
เป็ นอยู่ของราษฎร
แผนการจัดการเรี ยนรู้ รายวิชาหน้ าที่พลเมืองฯ ชันมั
้ ธยมศึกษาปี ที่ 4
ตอนที่ 2
1. พระมหากษัตริ ย์ไทยทรงมีฐานะและพระราชอานาจตามรัฐธรรมนูญอย่างไร
ทรงดารงตาแหน่งจอมทัพไทย 6.
ทรงเป็ นตัวแทนของปวงชนชาวไทยในการติ ดต่อกับประมุขต่างประเทศ
ต่อส่วนรวม ประเทศ เมื ่อมี เหตุการณ์ขดั แย้งกันขึ้น กลุ่มผูม้ ี อดุ มการณ์ทางการเมื องแตกต่างกัน
ฯลฯ
และตอบคาถามตามหัวข้ อที่กาหนด
และตอบคาถามตามหัวข้ อที่กาหนด
แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม
การร่วม
ชื่อ – สกุล การแสดง การรับฟัง การตั้งใจ รวม
ลาดับ ความร่วมมือ ปรับปรุง
ความคิดเห็น ความคิดเห็น ทางาน
ที่ ของผู้รับการ ผลงานกลุ่ม 20
ประเมิน คะแนน
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1
เกณฑ์การให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
ดีมาก =4
ดี =3 ............../.................../................
พอใช้ =2
ปรับปรุง = 1
หมายเหตุ ครูอาจใช้วิธีการมอบหมายให้หัวหน้ากลุ่ม
เป็นผู้ประเมิน หรือให้ตัวแทนกลุ่มผลัดกันประเมิน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ หรือให้มีการประเมินโดยเพื่อน โดยตัวนักเรียนเอง
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
ตามความเหมาะสมก็ได้
17 – 20 ดีมาก
13 – 16 ดี
9 – 12 พอใช้
5–8 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่2
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง ระบอบการเมืองการปกครอง แผนจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเมืองกับชีวิต
รายวิชา หน้าที่พลเมืองฯ รหัสวิชา ส 31101
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ มัธยมศึกษาปีที่ 4
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 น้าหนักเวลาเรียน 1.0 (นน./นก.) เวลาเรียน 40 ชั่วโมง/สัปดาห์
เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2 ชั่วโมง
..........................................................................................................................................................
1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจที่คงทน)
การมีส่วนร่วมของประชาชนในการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยของไทยนั้น มีปัญหาต่างๆ ซึ่งเป็น
อุปสรรคต่อการบริหารบ้านเมืองและประเทศ ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันหาแนวทางแก้ไข อีกทั้งยังต้องร่วมมือกันทาง
การเมืองการปกครองที่จะนาไปสู่ความเข้าใจและการประสานประโยชน์ระหว่างประเทศ
2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี/ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรียนรู้
มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และธารงรักษา
ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสันติสุข
6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน
7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : (ให้สอดคล้อง กับตัวชี้วัด /ผลการเรียนรู้ ในแผนการเรียนรู้นี้ )
-
- ขั้นสอน
อย่างไร
ชีวิตของประชาชน เช่น
- ประชาชนมีสิทธิเสรี ภาพเท่าเทียมกัน
- ประชาชนมีความสนใจในทางการเมือง
ปานกลางค่อนข้ างอ่อน และอ่อน และให้ นกั เรี ยนแต่ละกลุม่ แบ่งออกเป็ น 2 กลุม่ ย่อย กลุม่ ละ 3 คน
- ขั้นสอน
นักเรี ยนกลุม่ ย่อยของแต่ละกลุม่ ผลัดกันเล่าผลงานที่กลุม่ ตนรับผิดชอบตามหัวข้ อในใบงาน ให้ สมาชิก
เป็ นผู้ตรวจสอบความถูกต้ อง
กิจกรรมการเมืองการปกครองสาคัญที่นาไปสู่ความเข้ าใจและการประสานประโยชน์ร่วมกัน
ระหว่างประเทศ
ในประเด็นต่อไปนี ้
1) การวิเคราะห์ปัญหาการเมืองในประเทศ
2) การเสนอแนวทางการเมืองการปกครอง
3) การวิเคราะห์ความจาเป็ นในการธารงรักษาการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริ ย์
ทรงเป็ นประมุข
- ขั้นสรุป
นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานต่อครูผู้สอน แล้วครูเลือกบทความวิเคราะห์ที่มีผลงานอยู่ในเกณฑ์ดี
นาไปจัดป้ายนิเทศ
นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง ระบอบการเมืองการปกครอง
9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้
10. การวัดผลและประเมินผล
ปัญหาเรื่ อง
สาระสาคัญ
2. สาเหตุของปัญหา คืออะไร
3. มีแนวทางแก้ ไขอย่างไร
ปัญหาเรื่ อง
โดย นางณิภาทิพย์ มูลแก้ ว กลุม่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
สาระสาคัญ
แผนการจัดการเรี ยนรู้ รายวิชาหน้ าที่พลเมืองฯ ชันมั
้ ธยมศึกษาปี ที่ 4
2. สาเหตุของปัญหา คืออะไร
3. มีแนวทางแก้ ไขอย่างไร
ปัญหาเรื่ อง
สาระสาคัญ
1. ข้ อมูล/ข่าว เรื่ อง
ปัญหาเรื่ อง
สาระสาคัญ
1. ข้ อมูล/ข่าว เรื่ อง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แผนจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง รู้ชัดรัฐธรรนูญ
รายวิชา หน้าที่พลเมืองฯ รหัสวิชา ส 31101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ มัธยมศึกษาปีที่ 4
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 น้าหนักเวลาเรียน 1.0 (นน./นก.) เวลาเรียน 40 ชั่วโมง/สัปดาห์
เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3 ชั่วโมง
..........................................................................................................................................................
1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจที่คงทน)
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มีหลักการสาคัญและบทบัญญัติซึ่งเป็นแนวทางในการใช้อานาจอธิปไตย
ของปวงชนชาวไทย
2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี/ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรียนรู้
มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดมั่น ศรัทธา และธารงรักษาไว้ซึ่งการปกครอง
ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ตัวชี้วัด ม.4 6/4 เสนอแนวทางและมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ
3. สาระการเรียนรู้
3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge (นักเรียนต้องรู้อะไร)
นักเรียนสามารถเขียนหลักการสาคัญของรัฐธรรมนูญ แนวทางการปฏิบัติตนตามบทบัญญัติของ
รัฐธรรมนูญได้
3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (นักเรียนสามารถปฏิบัติอะไรได้)
นักเรียนสามารถอธิบายความเป็นมา โครงสร้าง และความสาคัญของรัฐธรรมนูญได้
3.3 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ : Attitude (นักเรียนควรแสดงพฤติกรรมการเรียนอะไรบ้าง)
นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่รู้ มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายตามเวลาที่กาหนด
4. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. คุณลักษณะของวิชา
- ความรับผิดชอบ
- กระบวนการกลุ่ม
6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน
ขั้นสรุป
สมาชิกทุกคนร่วมมือกันทาใบงานจนครบทุกข้อ มีการพึ่งพาอาศัยกัน ช่วยเหลือกันและอธิบายให้กัน
ฟังจนเข้าใจ จนสมาชิกทุกคนสามารถทาแบบฝึกหัดได้ครบทุกข้อ จากนั้นให้สมาชิกทุกคนกลับไปทบทวนความรู้
เพิ่มเติมเพื่เตรียมการแข่งขันตอบคาถามกับกลุ่มอื่นในชั่วโมงต่อไป
- ขั้นนาเข้าสู่บทเรียน/ขั้นตั้งคาถาม
โดย นางณิภาทิพย์ มูลแก้ ว กลุม่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
แผนการจัดการเรี ยนรู้ รายวิชาหน้ าที่พลเมืองฯ ชันมั
้ ธยมศึกษาปี ที่ 4
- ขั้นสรุป
ครูและนักเรี ยนช่วยกันสรุปความรู้เกี่ยวกับสาระสาคัญของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550
9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้
10. การวัดผลและประเมินผล
23. มีภูมิคมุ กันในตัวที่ดี ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ
ระมัดระวัง ระมัดระวัง สร้างสรรค์
24. เงื่อนไขความรู้ ความรอบรู้ เรื่อง วัฒนธรรมไทย ที่ ความรอบรู้ เรื่อง วัฒนธรรมไทย กรณีที่
เกี่ยวข้องรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนา เกิดงาน ปริมาณที่เกี่ยวข้อง สามารถนา
ความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน ความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน
เพื่อประกอบการวางแผน การดาเนินการจัด สามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน
กิจกรรมการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน
25. เงื่อนไขคุณธรรม มีความตระหนักใน คุณธรรม มีความ มีความตระหนักใน คุณธรรม มีความ
ซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร ซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร
ใช้สติปัญญาในการดาเนินชีวิต ใช้สติปัญญาในการดาเนินชีวิต
กิจกรรม
ครู ผู้เรียน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
หน่วยรัฐธรรมนูญแห่ง หน่วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หน่วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ราชอาณาจักรไทย - รวบรวมพันธุ์พืชในโรงเรียน - ลงมือปฏิบัติข้อมูลพันธุ์พืชในโรงเรียน
- รวบรวมฐานข้อมูลโรงเรียน
สิ่งแวดล้อม ครู ผู้เรียน
หน่วยรัฐธรรมนูญแห่ง หน่วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หน่วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ราชอาณาจักรไทย
กระบวนการรวบรวมพันธ์พืชในโรงเรียน เสนอแนะการรวบรวมพันธุ์พืชในโรงเรียน
การเลือกใช้และรวบรวมพันธุ์พืชใน
โรงเรียน
ลงชื่อ..................................................ผู้สอน
( นางณิภาทิพย์ มูลแก้ว )
4. รัฐธรรมนู ญมีความสาคัญอย่างไร
7. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับสมาชิกวุฒิสภา มีจานวนแตกต่างกันอย่างไรบ้ าง
9. รัฐมนตรี ต้องมีคณ
ุ สมบัติอย่างไรบ้ าง และไม่มีลกั ษณะต้ องห้ ามอย่างไร
12. การเลือกตังมี
้ ความสาคัญอย่างไร
ได้ อย่างไร
4. รัฐธรรมนูญมีความสาคัญอย่างไร
1) ยืนยันความเป็ นเอกราชของประเทศไทย
2) รับรองความเป็ นเอกรัฐของประเทศไทย
2) การลดการผูกขาดอานาจรัฐและการใช้อานาจอย่างไม่เป็ นธรรม
กฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอานาจของศาลอื ่น
ศาลทหาร มี อานาจพิ จารณาพิ พากษาคดี อาญา และคดี อื่นตามที ก่ ฎหมายบัญญัติ ซึ่ งผูก้ ระทาผิ ด
1) วางนโยบายในการแก้ไขปัญหาของประเทศ และแถลงนโยบายให้ประชาชนทราบ
2) พิ จารณาคัดเลื อกผูม้ ี คณ
ุ สมบัติเหมาะสม ที ่จะลงสมัครรับเลื อกตัง้ ในนามของพรรค ทัง้ ในระดับชาติ
และระดับท้องถิ่ น
12. การเลือกตังมี
้ ความสาคัญอย่างไร
4) เป็ นวิ ธีการทีท่ าให้เกิ ดการหมุนเวียนเปลี ่ยนอานาจ เปิ ดโอกาสให้บคุ คลกลุ่มอื ่นได้เข้ามาใช้
อานาจในการบริ หารประเทศ
1) หลักอิ สระแห่งการเลือกตัง้
5) หลักการออกเสียงโดยทัว่ ไป
6) หลักการลงคะแนนลับ
3) การใช้เงิ นซื ้อคะแนนเสียง หรื อการให้สิ่งของ หรื อผลประโยชน์ เพือ่ การซื ้อคะแนนเสียง
ความยุติธรรม
โดย นางณิภาทิพย์ มูลแก้ ว กลุม่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
แผนการจัดการเรี ยนรู้ รายวิชาหน้ าที่พลเมืองฯ ชันมั
้ ธยมศึกษาปี ที่ 4
1) ความสามารถในการตรวจสอบความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่อย่างทัว่ ถึงและเท่าเทียมกัน
ได้ อย่างไร
ผูด้ ารงตาแหน่งทางการเมื อง เช่น นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิ กสภาผูแ้ ทนราษฎร ต้องยื น่ บัญชี
แสดงรายการทรัพย์สินและหนี ส้ ิ นของตน คู่สมรส และบุตรที ย่ งั ไม่บรรลุนิติภาวะต่อคณะกรรมการ
แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม
การร่วม
ลาดับ ชื่อ – สกุล การแสดง การรับฟัง การตั้งใจ รวม
ความร่วมมือ ปรับปรุง
ที่ ความคิดเห็น ความคิดเห็น ทางาน
ของผู้รับการ ผลงานกลุ่ม 20
ประเมิน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 คะแนน
เกณฑ์การให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
ดีมาก =4 เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
ดี =3 ............../.................../................
พอใช้ =2 17 – 20 ดีมาก
ปรับปรุง = 1 13 – 16 ดี
9 – 12 พอใช้ หมายเหตุ ครูอาจใช้วิธีการมอบหมายให้หัวหน้ากลุ่ม
5–8 ปรับปรุง เป็นผู้ประเมิน หรือให้ตัวแทนกลุ่มผลัดกันประเมิน
หรือให้มีการประเมินโดยเพื่อน โดยตัวนักเรียนเอง
แผนการจัดการเรียตามความเหมาะสมก็
นรู้ที่2 ได้
การตรวจสอบการใช้อานาจรัฐนั้นสามารถทาได้โดยประชาชนและองค์กรอิสระตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี/ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรียนรู้
มาตรฐาน ส 2.2
ตัวชี้วัด ม.4-6/4 เสนอแนวทางและมีสว่ นร่วมในการตรวจสอบการใช้ อานาจรัฐ
3. สาระการเรียนรู้
3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge (นักเรียนต้องรู้อะไร)
นักเรียนสามารถอธิบายรายงานการเสนอแนวทางในการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ ได้
3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (นักเรียนสามารถปฏิบัติอะไรได้)
นักเรียนสามารถอธิบายแนวทางการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบใช้อานาจรัฐได้
3.3 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ : Attitude (นักเรียนควรแสดงพฤติกรรมการเรียนอะไรบ้าง)
นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่รู้ มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายตามเวลาที่กาหนด
4. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. คุณลักษณะของวิชา
- ความรับผิดชอบ
- กระบวนการรายบุคคล /กลุ่ม
6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน
7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : (ให้สอดคล้อง กับตัวชี้วัด /ผลการเรียนรู้ ในแผนการเรียนรู้นี้ )
- ประเมินรายงานการเสนอแนวทางและการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ
- คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
- คณะกรรมการการเลือกตัง้
ให้ นกั เรี ยนช่วยกันสรุปความจาเป็ นหรื อความสาคัญของการตรวจสอบการใช้ อานาจรัฐ
นักเรี ยนแบ่งกลุม่ กลุม่ ละ 5-6 คน ตามความสมัครใจ ให้ แต่ละกลุม่ ร่วมกันศึกษาความรู้จากหนังสือ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 เรื่ อง การตรวจสอบการใช้ อานาจรัฐ ในหัวข้ อ
ต่อไปนี ้
- การตรวจสอบทรัพย์สิน
- การกระทาที่เป็ นการขัดกันแห่งผลประโยชน์
- การถอดถอนจากตาแหน่ง
- การดาเนินคดีอาญาผู้ดารงตาแหน่งทางการเมือง
นักเรี ยนแต่ละกลุม่ ช่วยกันสรุปประเด็นสาคัญของการตรวจสอบการใช้ อานาจรัฐตามหัวข้ อที่ศกึ ษา
และตัวแทนแต่ละกลุม่ นาเสนอผลงานต่อชันเรี
้ ยนกลุม่ ละ 1 หัวข้ อ
ครูมอบหมายให้ นกั เรี ยนแต่ละกลุม่ สืบค้ นข้ อมูลความรู้และตัวอย่างการกระทาที่แสดงถึงแนวทางการ
ตรวจสอบ การใช้ อานาจรัฐและการมีสว่ นร่วมในการตรวจสอบการใช้ อานาจรัฐ เขียนรายงานต่อครู
ผู้สอนในหัวข้ อ แนวทางและการมีสว่ นร่วมในการตรวจสอบการใช้ อานาจรัฐ ในประเด็นต่อไปนี ้
1) แนวทางการตรวจสอบการใช้ อานาจรัฐโดยประชาชน
2) แนวทางการตรวจสอบการใช้ อานาจรัฐโดยองค์กรอิสระ
3) การเสนอตัวอย่างแนวทางการตรวจสอบการใช้ อานาจรัฐ
4) การมีสว่ นร่วมในการตรวจสอบการใช้ อานาจรัฐ
นักเรี ยนแต่ละกลุม่ วางแผนการนาเสนอผลงานต่อชันเรี
้ ยนด้ วยวิธีการที่หลากหลาย เช่น
- การรายงาน - การอภิปราย
- การแสดงบทบาทสมมุติ - การถามตอบ
- การจัดทาสถานการณ์จาลอง - การแสดงละคร
ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนแต่ละกลุ่ม ร่วมกันสรุปและวิเคราะห์ผลงานที่ได้จัดทารายงาน แนวทางและการมีส่วนร่วมในการ
ตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ
ชั่วโมงที่ 2 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝ่เรียนรู้ / ช่วยกันคิดช่วยกันเรียน)
- ขั้นนาเข้าสู่บทเรียน/ขั้นตั้งคาถาม
ครูซักถามนักเรียนถึงความพร้อมในการนาเสนอผลงาน เรื่อง แนวทางและการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการใช้อานาจ
รัฐ
- ขั้นสอน
นักเรี ยนแต่ละกลุม่ นาเสนอผลงานต่อชันเรี
้ ยนตามที่วางแผนไว้ โดยให้ ปฏิบตั ิ ดังนี ้
- กลุม่ ที่ 1 นาเสนอผลงาน กลุม่ ที่ 2 มีหน้ าที่แสดงข้ อคิดที่ได้ รับ
- กลุม่ ที่ 2 นาเสนอผลงาน กลุม่ ที่ 3 มีหน้ าที่แสดงข้ อคิดที่ได้ รับ
- กลุม่ ที่ 3 นาเสนอผลงาน กลุม่ ที่ 4 มีหน้ าที่แสดงข้ อคิดที่ได้ รับ
- กลุม่ ที่ 4 นาเสนอผลงาน กลุม่ ที่ 5 มีหน้ าที่แสดงข้ อคิดที่ได้ รับ
- กลุม่ ที่ 5 นาเสนอผลงาน กลุม่ ที่ 1 มีหน้ าที่แสดงข้ อคิดที่ได้ รับ
- ขั้นสรุป
ครูและนักเรี ยนช่วยกันสรุปแนวทางและการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการใช้ อานาจรัฐ
9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้
รายการสื่อ จานวน สภาพการใช้สื่อ
1. สื่อหน้าที่พลเมืองppt. 1 ชุด ขั้นสร้างความสนใจ
2. หนังสือเรียน 1 ชุด ขัน้ ขยายความรู้
10. การวัดผลและประเมินผล
เป้าหมาย หลักฐานการเรียนรู้ ประเด็น/
วิธีวัด เครื่องมือวัดฯ
การเรียนรู้ ชิ้นงาน/ภาระงาน เกณฑ์การให้คะแนน
สามารถอธิบายรายงานการ ประเมินรายงานการเสนอ แบบประเมิน แบบประเมิน ระดับคุณภาพ2ผ่านเกณฑ์
เสนอแนวทางในการ แนวทางและการมีส่วนร่วมใน
ตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ การตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ
ได้
สามารถอธิบายแนวทางการ ประเมินรายงานการเสนอ แบบประเมิน แบบประเมิน ระดับคุณภาพ2ผ่านเกณฑ์
มีส่วนร่วมในการตรวจสอบ แนวทางและการมีส่วนร่วมใน
ใช้อานาจรัฐได้ การตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ
มีความสนใจ ใฝ่รู้ มีความ การสังเกต แบบสังเกต แบบสังเกต ระดับคุณภาพ2ผ่านเกณฑ์
รับผิดชอบต่องานที่ได้รับ
มอบหมายตามเวลาที่
กาหนด
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง กฎหมายในชีวิตประจาวัน แผนจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องกฎหมายเกี่ยวกับตนเอง
ครอบครัว และมรดก
รายวิชา หน้าที่พลเมืองฯ รหัสวิชา ส 31101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ มัธยมศึกษาปีที่ 4
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 น้าหนักเวลาเรียน 1.0 (นน./นก.) เวลาเรียน 40 ชั่วโมง/สัปดาห์
เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3 ชั่วโมง
..........................................................................................................................................................
1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจที่คงทน)
การปฏิบตั ิตนอย่างถูกต้ องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้ องกับตนเองและครอบครัว ย่อมส่งผลให้ การดาเนินชีวิต
เป็ นไปอย่างปกติสขุ
2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี/ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรียนรู้
มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และธารงรักษา
ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสันติสุข
ตัวชี้วัด ม.4 6/1 วิเคราะห์และปฏิบัติตนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ครอบครัว ชุมชน
ประเทศชาติ และสังคมโลก
3. สาระการเรียนรู้
3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge (นักเรียนต้องรู้อะไร)
นักเรียนสามารถเขียนวิเคราะห์กฎหมายเกี่ยวกับชื่อบุคคล บัตรประจาตัวประชาชนและความสามารถ
ผู้เยาว์ได้
3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (นักเรียนสามารถปฏิบัติอะไรได้)
นักเรียนสามารถอธิบายหลักกฏหมายแพ่งเกี่ยวกับครอบครัวและมรดกได้
3.3 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ : Attitude (นักเรียนควรแสดงพฤติกรรมการเรียนอะไรบ้าง)
นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่รู้ มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายตามเวลาที่กาหนด
4. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. คุณลักษณะของวิชา
- ความรับผิดชอบ
- กระบวนการกลุ่ม
6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน
ตังแต่
้ วนั ออกบัตร
ดังนี ้
1) กฎหมายครอบครัว
- การหมัน้
- การสมรส
- ความสัมพันธ์ระหว่างบิดามารดากับบุตร
- สิทธิและหน้ าที่ของบิดามารดา
- สิทธิและหน้ าที่ของบุตร
2) กฎหมายเรื่ องมรดก
ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปกฎหมายเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว และมรดก
ชั่วโมงที่ 2 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝ่เรียนรู้ / ช่วยกันคิดช่วยกันเรียน)
- ขั้นนาเข้าสู่บทเรียน/ขั้นตั้งคาถาม
ครูและนักเรี ยนช่วยกันทบทวนความรู้เรื่ อง กฎหมายแพ่งเกี่ยวกับครอบครัวและมรดก
- ขั้นสอน
1.นักเรี ยนแต่ละกลุม่ ช่วยกันทาใบงานที่ 1.1 เรื่ อง ครอบครัวและมรดก โดยให้ สมาชิกในกลุม่
แบ่งหน้ าที่กนั ทางาน ดังนี ้
- สมาชิกคนที่ 2 ฟั งขันตอน
้ รวบรวมข้ อมูล เสนอแนะแนวทางการตอบคาถาม
- สมาชิกคนที่ 3 ตอบคาถาม
- สมาชิกคนที่ 4 ตรวจสอบความถูกต้ อง
สมาชิกทุกคนหมุนเวียนกันทาหน้ าที่ตอบคาถามในใบงานจนครบทุกข้ อ
- ขั้นสรุป
นักเรี ยนและครูชว่ ยกันสรุปสาระสาคัญของกฎหมายแพ่งเกี่ยวกับครอบครัวและมรดก
9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้
10. การวัดผลและประเมินผล
28. มีภูมิคมุ กันในตัวที่ดี ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ
ระมัดระวัง ระมัดระวัง สร้างสรรค์
กิจกรรม
ครู ผู้เรียน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
หน่วยกฏหมายในชีวิตประจาวัน หน่วยกฏหมายในชีวิตประจาวัน หน่วยกฏหมายในชีวิตประจาวัน
- รวบรวมฐานข้อมูลโรงเรียน - รวบรวมพันธุ์พืชในโรงเรียน - ลงมือปฏิบัติข้อมูลพันธุ์พืชในโรงเรียน
ลงชื่อ..................................................ผู้สอน
( นางณิภาทิพย์ มูลแก้ว )
กรณีศึกษำที่ 1
กรณีศึกษาที่ 2
กรณีศึกษาที่ 3
กรณีศึกษาที่ 4
กรณีศึกษำที่ 5
ตอนที่ 2
ตอนที่ 1
คาชี้แจง ให้นักเรียนอ่านกรณีศึกษา แล้วตอบคาถาม
กรณีศึกษาที่ 1
คาถาม โจ้และจอยควรปฏิบัติอย่างไรจึงจะถูกต้องตามกฎหมาย
จอยและโจ้ต้องร้องขออนุญาตต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคาสั่งอนุญาตให้ทาการสมรสได้
กรณีศึกษาที่ 2
คาถาม โดมและดาวควรปฏิบัติตนอย่างไร
โดมและดาวต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดาเสียก่อนจึงทาการสมรส หรือจดทะเบียนสมรส กัน
ได้
กรณีศึกษาที่ 3
2. สินสมรสของไกรและเก๋ มีอะไรบ้าง
1. สินส่วนตัวของไกรและเก๋ มีดังนี้ ไกร
รถยนต์ เงินสด 1 แสนบาท ที่ดิน 1 แปลง เก๋
แหวนเพชร 1 วง สายสร้อยทอง 1 เส้น นาฬิกา 1 เรือน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง 2. สินสมรส
ของทั้งสอง คือ เงินสด 5 ล้าน 1 แสนบาท
กรณีศึกษาที่ 4
กรณีศึกษาที่ 5
ตอนที่ 2
คาชี้แจง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
1. บิดามารดามีหน้าที่ต่อบุตรอย่างไรบ้าง
1. อุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่บุตรตามสมควรระหว่างบุตรเป็นผู้เยาว์
2. อุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้ทุพพลภาพและหาเลี้ยงตนเองไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะบรรลุนิติภาวะแล้ว
3. ใช้อานาจปกครองบุตร โดยมีสิทธิกาหนดที่อยู่ของบุตร ทาโทษบุตรตามสมควร หรือว่ากล่าว
สั่งสอนให้บุตรทางานตามความเหมาะสมแก่ความสามารถและฐานานุรูป
4. มีสิทธิเรียกบุตรคืนจากผู้อื่น ซึ่งกักบุตรไว้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
5. เป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตรในการฟ้องคดี
6. มีสิทธิจัดการทรัพย์สินของบุตร ถ้าบุตรมีเงินได้ และมีสิทธินามาใช้เป็นค่าอุปการะเลี้ยงดู และ
การศึกษาของบุตร ส่วนที่เหลือเก็บรักษาไว้เพื่อมอบแก่บุตรภายหลัง
2. สิทธิและหน้าที่ของบุตรต่อบิดามารดา มีอะไรบ้าง
1. บุตรมีสิทธิใช้ชื่อสกุลของบิดา เว้นแต่ไม่ปรากฏบิดาให้ใช้ชื่อสกุลของมารดา
2. บุตรมีสิทธิได้รับการอุปการะเลี้ยงดูและได้รับการศึกษาตามสมควรจากบิดามารดา
3. บุตรมีหน้าที่ต้องดูแลบิดามารดาของตนเป็นการตอบแทนบุญคุณ
4. บุตรจะฟ้องบิดามารดา รวมทั้งบุพการีอื่นของตนเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญาไม่ได้ ต้องให้พนักงาน
อัยการคดีขึ้นว่ากล่าวให้
3. ทายาทแบ่งเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง
มี 2 ประเภท คือ
แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม
การร่วม
ชื่อ – สกุล การแสดง การรับฟัง การตั้งใจ รวม
ลาดับ ความร่วมมือ ปรับปรุง
ความคิดเห็น ความคิดเห็น ทางาน
ที่ ของผู้รับการ ผลงานกลุ่ม 20
ประเมิน คะแนน
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1
เกณฑ์การให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
ดีมาก =4 เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
ดี =3 ............../.................../................
พอใช้ =2 17 – 20 ดีมาก
ปรับปรุง = 1 13 – 16 ดี
9 – 12 พอใช้ หมายเหตุ ครูอาจใช้วิธีการมอบหมายให้หัวหน้ากลุ่ม
5–8 ปรับปรุง เป็นผู้ประเมิน หรือให้ตัวแทนกลุ่มผลัดกันประเมิน
หรือให้มีการประเมินโดยเพื่อน โดยตัวนักเรียนเอง
ตามความเหมาะสมก็ได้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2
6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน
7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : (ให้สอดคล้อง กับตัวชี้วัด /ผลการเรียนรู้ ในแผนการเรียนรู้นี้ )
- ประเมินรายงานการเสนอแนวทางและการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ
ครูนากรณีตัวอย่างเกี่ยวกับบุคคลที่ถูกเอาเปรียบ เช่น
- ชาวนาถูกนายทุนครอบครอง / ยึดที่นาที่นาไปขายฝากไว้
- คนจนยอมเสียดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่ผู้ให้เงินกู้ในอัตราร้อยละยี่สิบบาทต่อเดือน
- การเช่า ซื้อรถยนต์ แต่ไม่สามารถชาระค่าเช่าซื้อได้สองงวดติดต่อกัน แล้วถูกผู้ให้เช่าซื้อริบทรัพย์สิน คือ
รถยนต์
- การให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยไม่ได้ทาสัญญาเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อผู้รับผิด
- ขั้นสอน
1.ครูให้ นกั เรี ยนร่วมกันวิเคราะห์หาสาเหตุของการถูกเอาเปรี ยบหรื อการเสียเปรี ยบผู้อื่นและ
แนวทางป้องกันแก้ ไข
ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนแต่ละกลุ่ม ร่วมกันสรุปและวิเคราะห์ผลงานที่ได้จัดทารายงาน แนวทางและการมีส่วนร่วมใน
การตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ
- ขั้นสอน
1. นักเรียนกลุ่มผู้เชี่ยวชาญของแต่ละกลุ่มกลับไปยังกลุ่มเดิม (กลุ่มบ้าน) สมาชิกแต่ละหมายเลข
นาความรู้ที่ได้ศึกษามาพร้อมผลงานในใบงานไปอธิบายให้สมาชิกหมายเลขอื่นฟัง ดังนี้
- สมาชิกหมายเลข 1 สรุปความรู้จากใบงานที่ 2.1 เรื่อง ซื้อขาย ขายฝาก
- สมาชิกหมายเลข 2 สรุปความรู้จากใบงานที่ 2.2 เรื่อง เช่าทรัพย์ เช่าซื้อ
- สมาชิกหมายเลข 3 สรุปความรู้จากใบงานที่ 2.3 เรื่อง กู้ยืมเงิน จานา จานอง
2. เมื่อสมาชิกทุกคนผลัดแลกเปลี่ยนความรู้กันและสร้างความกระจ่างในความรู้ที่ได้รับระหว่างกัน
แล้วครูสุ่มเรียกนักเรียนแต่ละกลุ่มออกไปเล่าความรู้ของตนในเรื่อง นิติกรรมและสัญญา
- ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนสรุปประเด็นสาคัญของนิติกรรมและสัญญา ในเรื่อง ซื้อขาย ขายฝาก เช่าทรัพย์ เช่าซื้อ กู้ยืม จานา
จานอง
9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้
รายการสื่อ จานวน สภาพการใช้สื่อ
1. สื่อหน้าที่พลเมืองppt. 1 ชุด ขั้นสร้างความสนใจ
2. หนังสือเรียน 1 ชุด ขัน้ ขยายความรู้
10. การวัดผลและประเมินผล
กรณีศึกษาที่ 1
กรณีศึกษาที่ 2
คาถาม มณีมีกรรมสิทธิ์ในรถยนต์หรือไม่และธารีมีสิทธิไถ่รถยนต์คืนได้หรือไม่
คาตอบ
กรณีศึกษาที่ 1
กรณีศึกษาที่ 2
คาถาม มณีมีกรรมสิทธิ์ในรถยนต์หรือไม่และธารีมีสิทธิไถ่รถยนต์คืนได้หรือไม่
คาตอบ มณีมีกรรมสิทธิ์ในรถยนต์เป็นไปตามสัญญาขายฝาก คือ กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกเป็นของผู้ซื้อ
ตั้งแต่วันทาสัญญา แต่มีข้อตกลงว่าผู้ขายอาจไถ่ทรัพย์คืนได้ภายในเวลาที่ตกลงกัน แต่ธารีไม่ได้ไถ่รถยนต์
คืนจากนายมณีภายในเวลาที่กาหนด นายธารีจึงไม่มีสิทธิไถ่คืน
กรณีศึกษาที่ 1
สมเจตน์ทาสัญญาเช่าห้องแถวของวาเรศ เป็นเวลา 4 ปี ทั้งสองคนทาสัญญาเป็นหนังสือที่บ้านของวาเรศ โดยมี
เก่งและก้านลงลายมือชื่อเป็นพยาน ต่อมาเมื่อสัญญาครบ 3 ปี วาเรศเปลี่ยนใจไม่ยอมให้สมเจตน์เช่าต่อ
กรณีศึกษาที่ 2
กรณีศึกษาที่ 1
สมเจตน์ทาสัญญาเช่าห้องแถวของวาเรศ เป็นเวลา 4 ปี ทั้งสองคนทาสัญญาเป็นหนังสือที่บ้านของวาเรศ โดยมี
เก่งและก้านลงลายมือชื่อเป็นพยาน ต่อมาเมื่อสัญญาครบ 3 ปี วาเรศเปลี่ยนใจไม่ยอมให้สมเจตน์เช่าต่อ
กรณีศึกษาที่ 2
กรณีศึกษาที่ 1
กรณีศึกษาที่ 2
กรณีศึกษาที่ 3
ทนงนาเครื่องจักรผลิตอะไหล่รถจักรยานยนต์ไปทาสัญญาจานองกับสมยศ เพื่อเป็นการประกันหนี้ที่ทนงกู้ยืม
เงินสมยศไปจานวนห้าแสนบาท มีกาหนดชาระหนี้คืนภายใน 2 ปี โดยไปทาหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงาน
เจ้าหน้าที่ แต่เครื่องจักรยังอยู่ที่โรงงานผลิตอะไหล่รถจักรยานยนต์ เมื่อถึงกาหนดเวลาชาระหนี้ ทนงไม่นาเงินที่กู้ยืม
พร้อมดอกเบี้ยไปชาระให้แก่สมยศ
คาถาม สมยศควรปฏิบัติต่อทนงอย่างไรจึงจะสามารถบังคับจานองได้
คาตอบ
กรณีศึกษาที่ 1
กรณีศึกษาที่ 2
กรณีศึกษาที่ 3
ทนงนาเครื่องจักรผลิตอะไหล่รถจักรยานยนต์ไปทาสัญญาจานองกับสมยศ เพื่อเป็นการประกันหนี้ที่ทนงกู้ยืม
เงินสมยศไปจานวนห้าแสนบาท มีกาหนดชาระหนี้คืนภายใน 2 ปี โดยไปทาหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงาน
เจ้าหน้าที่ แต่เครื่องจักรยังอยู่ที่โรงงานผลิตอะไหล่รถจักรยานยนต์ เมื่อถึงกาหนดเวลาชาระหนี้ ทนงไม่นาเงินที่กู้ยืม
พร้อมดอกเบี้ยไปชาระให้แก่สมยศ
คาถาม สมยศควรปฏิบัติต่อทนงอย่างไรจึงจะสามารถบังคับจานองได้
คาตอบ สมยศควรมีหนังสือบอกกล่าวให้ทนงชาระหนี้พร้อมดอกเบี้ยภายในเวลาสมควร หลังจากนั้น
หากทนงไม่ชาระหนี้ สมยศสามารถฟ้องทนงต่อศาลเพื่อให้พิพากษาสั่งให้ยึดเครื่องจักรนั้นและให้ขาย
ทอดตลาดก็ได้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง กฎหมายในชีวิตประจาวัน แผนจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง กฏหมายอาญา
รายวิชา หน้าที่พลเมืองฯ รหัสวิชา ส 31101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ มัธยมศึกษาปีที่ 4
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 น้าหนักเวลาเรียน 1.0 (นน./นก.) เวลาเรียน 40 ชั่วโมง/สัปดาห์
เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2 ชั่วโมง
..........................................................................................................................................................
1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจที่คงทน)
การปฏิบัติตนอย่างถูกต้องตามหลักกฎหมายอาญา ย่อมทาให้ไม่พลาดพลั้งในการกระทาความผิดทางอาญา ซึ่ง
เป็นผลดีต่อตนเองและสังคม
2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี/ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรียนรู้
มาตรฐาน ส 2.1เข้าใจและปฏิบั ติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และธารงรักษา
ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสันติสุข
ตัวชี้วัด ม.4-6/1 วิเคราะห์และปฏิบัติตนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติ และ
สังคมโลก
3. สาระการเรียนรู้
3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge (นักเรียนต้องรู้อะไร)
นักเรียนสามารถวิเคราะห์การกระทาตามหลักกฏหมายอาญาในความผิดต่อชีวิตและร่างกายและ
ความผิดต่อทรัพย์สินได้
3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (นักเรียนสามารถปฏิบัติอะไรได้)
นักเรียนสามารถอธิบายลักษณะการกระทาผิดทางอาญาและความรับผิดชอบทางอาญาได้
3.3 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ : Attitude (นักเรียนควรแสดงพฤติกรรมการเรียนอะไรบ้าง)
นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่รู้ มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายตามเวลาที่กาหนด
4. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. คุณลักษณะของวิชา
- ความรับผิดชอบ
- กระบวนการรายบุคคล /กลุ่ม
6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน
- ขั้นสอน
ครูให้ นกั เรี ยนช่วยกันวิเคราะห์วา่ การกระทาผิดดังกล่าวมีผลเสียต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ
อย่างไร
1) ความหมายและลักษณะของกฎหมายอาญา
2) ความรับผิดทางอาญา
- กระทาโดยเจตนา
- กระทาโดยไม่เจตนา
- กระทาโดยประมาท
3) ความผิดต่อชีวิตและต่อร่างกาย และความผิดต่อทรัพย์สิน
ครูให้ นกั เรี ยนแต่ละกลุม่ ช่วยกันทาใบงานที่ 3.1 เรื่ อง กฎหมายอาญาที่ควรรู้ เสร็จแล้ วนักเรี ยนและ
- ข่าวเกี่ยวกับอะไร
- ผู้กระทาความผิดเข้ าองค์ประกอบความผิดในฐานใด
ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปกฏหมายอาญา
- ขั้นสอน
1. นักเรี ยนแต่ละกลุม่ ออกมาแสดงบทบาทสมมุติ เมื่อแสดงจบให้ นกั เรี ยนกลุม่ อื่นที่เป็ น
- ขั้นสรุป
ครูและนักเรี ยนช่วยกันสรุปสาระสาคัญของกฎหมายอาญา
9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้
รายการสื่อ จานวน สภาพการใช้สื่อ
1. สื่อหน้าที่พลเมืองppt. 1 ชุด ขั้นสร้างความสนใจ
2. หนังสือเรียน 1 ชุด ขัน้ ขยายความรู้
10. การวัดผลและประเมินผล
กรณีศึกษาที่ 1
นายก้อนใช้มีดปลายแหลมแทงนายก้านในเวลากลางวัน โดยเลือกแทงเข้าที่ช่องท้องถูกอวัยวะภายในของนาย
ก้อน นายก้อนตายในวันนั้นเอง
คาถาม นายก้อนมีความผิดฐานใด
คาตอบ ฆ่าคนตายโดยเจตนา
กรณีศึกษาที่ 2
นายมั่นสนทนากับนายแมนเกี่ยวกับข่าวอาชญากรรม
มั่น : ฉันฟังวิทยุวันนี้ว่ากลุ่มวัยรุ่นชุมชนบางบอนรุมกันเตะต่อยนายหมึกซึ่งเป็นคู่แค้นได้รับบาดเจ็บ
ศีรษะแตก เย็บหลายเข็ม หน้าบวมปูด
แมน : หนังสือพิมพ์วันนี้ลงข่าวการล้างแค้นของช่างก่อสร้างชื่อนายจอมกับพวกรุมซ้อมนายเจิด หมดสติไป
พอฟื้นขึ้นมาแพทย์วินิจฉัยว่าหูหนวก
กรณีศึกษาที่ 3
คาถาม นายมากมีความผิดฐานใดหรือไม่
คาตอบ นายมากมีความผิดฐานลักทรัพย์
กรณีศึกษาที่ 4
นายจ้อนเห็นนางสาวหวานนั่งรอรถเมล์โดยเอากระเป๋าถือคล้องไหล่ไว้ นายจ้อนกระชากกระเป๋าถือของ
นางสาวหวานแล้วเดินไปขับรถจักรยานยนต์หนีไป
คาถาม นายจ้อนมีความผิดฐานใด
คาตอบ นายจ้อนมีความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์
กรณีศึกษาที่ 5
คาถาม ใครมีความผิดและผิดฐานใด
คาตอบ นายนนท์และนายเดชมีความผิดฐานชิงทรัพย์
กรณีศึกษาที่ 6