1

สรุปเนื้อหาความรู้การเรียนครั้งที่ 3 วันที่ 10 เมษายน 2567

ตัวเลขในผังดวงเอามาจากไหน ก็เอามาจากวันเดือนปีเกิดของคนที่มาดูดวง แต่ที่อาจารย์
ยกตัวอย่างให้ดูในคืนก่อน อาจารย์สมมุติตัวเลขขึ้นมาเอง เพื่อให้เข้าใจว่าถ้าเลขนั้นลงในภพเสีย
ดาวนั้นย่อมเสีย ดาวลงในภพดีดาวนั้นย่อมส่งผลดี และเรื่องตั้งผังดวงอาจารย์ค่อยสอนละเอียด
อีกครั้งนะ เอาไปทีละขั้นก่อนนะ อาจารย์ทบทวนของเก่านิดนะ
ถ.ดาว 1 มัชฌิมา+พันธุ+ศุภะ+มหาโภคสมบัติ+อัตตะ ฐาน 9 แบบนี้ ดาว 1 เสียไหม เอา
เฉพาะในผังดวงนะ – แบบนี้ไม่เสียนะ ในเมื่อไม่เสียก็ต้องเอาความหมายดาวด้านดีของดาว 1 มา
ใช้ทำนาย เราก็ต้องดูความหมายดาว 1 ด้านดี เช่น เป็นคนรักเกียรติรักศักดิ์ศรีของตัวเอง พอ
เข้าใจดาวดีดาวเสียในดวงแล้วนะ ค่อยว่ากันอย่างละเอียดในบทเรียนต่อไปนะ
ดาว 1 เกี่ยวกับสถานที่ ได้แก่ สถานที่ทำงานของรัฐ พระราชวัง สถานที่หรูหราโอ่โถง
สถานที่ใหญ่โตโอ่อ่า คฤหาสน์ บ้านที่เด่นเป็นสง่า บ้านที่มีแสงสว่างมาก ๆ ที่ทำการพรรค
การเมืองต่าง ๆ ร้านขายทอง ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านขายคอมพิวเตอร์ บริษัทและห้างร้าน
ใหญ่ สถานที่ที่เป็นแหล่งพลังงาน สถานที่ราชการ สถานที่ที่คนระดับสูงเขาอยู่กัน สำนักนายก
รัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ที่ว่าการของกระทวงต่าง ๆ รัฐสภา
ทำเนียบรัฐบาล ศาลาว่าการกรุงเทพ ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ พระตำหนัก องค์การ
บริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กรมการปกครอง การไฟฟ้าฝ่าย
ผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โรงไฟฟ้า กรมองครักษ์ ที่ทำการ
กำนันและผู้ใหญ่บ้าน กรมทหารรักษาพระองค์
เราเอาสถานที่ไปทำนายในลักษณะไหนได้บ้าง เช่น เราต้องการดูว่าบ้านเจ้าชะตาเป็น
อย่างไร เช่น ดาว 1 ลงภพเคหัง คือบ้านเด่นเป็นสง่าสว่างไสว หรือบ้านใกล้โรงไฟฟ้า หรือบ้านพัก
ทางราชการ คือเอาความหมายเกี่ยวกับสถานที่ดาว 1 มาใช้ทำนายได้ นั่นแค่ยกตัวอย่างพื้นฐาน
ค่อยเรียนละเอียดลงลึกเรื่อย ๆ สังเกตไหมกระทรวงมหาไทยใช้โลโก้เป็นรูปราชสีห์ ก็คือที่มาของ
ดาว 1 พระอิศวรเสกดาว 1 มาจากราชสีห์
ดาว 1 เกี่ยวกับทิศ ได้แก่ ทิศอีสาน (ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ)
 2

ทิศสำคัญมากนะ เช่น เขาไปสอบราชการจังหวัดไหนในทิศไหนที่ไม่ดีกับเขาบ้าง หรือทิศ

ไหนเป็นโชคลาภในดวงของเขา
ดาว 1 เกี่ยวกับแร่ธาตุ ได้แก่ ทองคำ
เขาถามว่าเปิดร้านทองได้ไหม เราก็ดูดาว 1 ในผังดวง ถ้าดาว 1 ไม่ลงในภพเสีย ก็แสดงว่า
เปิดได้ (แต่เป็นข้อมูลเบื้องต้นนะต้องดูจุดอื่น ๆ อีก) แต่ต้องดูจุดอื่น ๆ อีกค่อยว่ากัน ถ้าไม่ลงใน
ภพเสียเปิดขายทองคำได้ไหม
ดาว 1 เกี่ยวกับรส ได้แก่ รสเผ็ดร้อนแรง รสจัด หนักไปทางรสเผ็ดและร้อน (มากไปด้วย
เครื่องเทศ)
เราจะดูตรงไหนในดวงที่บอกว่าเจ้าชะตาชอบทานอาหารรสจัดรสเผ็ด ให้ดูภพปิตาคือ
ตำแหน่งปาก ดาว 1 ลงที่ตำแหน่งปากคือภพปิตา คือชอบอาหารแบบดาว 1
ดาว 1 เกี่ยวกับผักผลไม้ ได้แก่ ต้นไม้เปลือกแข็งทุกชนิด เช่น มะพร้าว อินทผาลัม ปาล์ม
เขาถามว่าในดวงของเขาทำสวนปลูกมะพร้าวได้ไหม เราก็ดูดาว 1 ในผังดวง ถ้าดาว 1 ลง
ในภพเสีย คือทำไม่ดี ถ้าดาว 1 ลงภพดีทำได้ ดาว 1 เสียคือลงในภพเสีย ภพเสียมี 5 ภพนะ คือ
ภพอริ ภพมรณะ ภพพยายะ ภพภมหาอุบาทว์ นี้คือภพเสียนะ เราไม่จำเป็นต้องดูภพกัมมะ เช่น
ดาว 1 ลงภพกัมมะ เป็นเลขเดียวกันกับภพหินะ แบบนี้ถือว่าดาว 1 เสีย ทำอาชีพปลูกผลไม้แบบ
ดาว 1 ไม่ดี ภพมหาโจรไม่ถือว่าเป็นภพเสีย
ดาว 1 เกี่ยวกับอาชีพ ได้แก่ รับราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานบริษัทต่าง ๆ ห้าง
ร้านใหญ่ ๆ นักการเมือง เจ้าของร้านทอง พนักงานไฟฟ้า ช่างไฟฟ้า ขายเครื่องไฟฟ้า ตู้เกมส์
ธุรกิจคอมพิวเตอร์ IT งานที่คอยรับใช้พระราชา งานที่มีเกียรติทั้งหลาย งานที่มีตำแหน่งที่เด่น
เจ้าของกิจการขนาดใหญ่ ผู้บริหาร เจ้าของร้านเพชรพลอย วัตถุที่มีแสงมีพลังงานเทคโนโลยี
สมัยใหม่
เรื่องอาชีพจำเป็นมาก ๆ เพราะเขาต้องถามแน่นอน การดูอาชีพไม่จำเป็นต้องดูภพกัมมะ
นะ และฐานรองรับของดาวตัวนั้น ๆ เป็นตัววัดคุณภาพดาวเรื่องราวในภพนั้น ๆ ว่าดีหรือไม่ดี
เลขฐานดีมาก มี 9 11 13 14 16 18 19 ดาว 1/11 โภคา+ตนุ+ลาภะ มหาอุปถัมภ์+ภริยัง เลข
 3

11 คือฐานที่ 4 เลขในฐานนั้นเป็นกำลังเทวดา (หรือกำลังพระเคราะห์ ) เลข 11 เป็นเลขฐานดี

มาก รองรับดาว 1 คือ ดาว 1/11 ถ้าลงแบบนั้นทำอาชีพดาว 1 ได้ ถ้าดาว 1/13 ปิตา+พันธุ+
ศุภะ+ทาสา+เคหัง ลงแบบนี้ทำอาชีพดาว 1 ได้ไหม ถ้าลงแบบนั้นเปิดร้านทองก็ได้ ขายอุปกรณ์
เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ได้ หรืออื่น ๆ ที่เป็นอาชีพดาว 1 และถ้าดาว 1/14 ปิตา+ปุตตะ+กัมมะ+
อาตมา+เคหัง ทำอาชีพดาว 1 ได้ดีมาก ดาวลงในภพเสีย แต่ฐานรองรับดาวนั้นเป็นเลขดีมาก
แสดงว่าดาวตัวนั้นยังดีอยู่เพียงแต่ลดความดีลงเล็กน้อย ฐานรองรับเป็นตัววัดคุณภาพของดาวนะ
ในกรณีดาว 1 ลงในภพเสีย แต่ฐานดีมาก เช่น 9 11 13 14 16 18 19 คือว่าดาว 1 เสียไหม
คุณภาพของดาวขึ้นอยู่กับฐานรองรับ ฐานรองรับเป็นเลขดี ดาวนั้นยังส่งผลดี เพียงแต่ลดความดี
ลงเล็กน้อย คือดีแต่ดีไม่สุด มันยังมีตำหนิเพราะลงในภพเสีย
ดาว 1 เกี่ยวกับสิ่งของ ได้แก่ สิ่งของที่มีแสงในตัวเอง เช่น หลอดไฟ กระแสไฟ และสิ่งของ
ที่มีพลังงานในตัวเอง เช่น ถ่ายไฟฉาย กระแสแม่เหล็ก ตลอดแหล่งความร้อนทั้งหลาย ถ่านไฟที่
อยู่ในเตา แว่นตา เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ บ้านที่เด่นสง่า บ้านที่มีแสงสว่างมาก
บ้านพักข้าราชการ บ้านหรูหราสวยงามมากค่า เครื่องประดับตกแต่งที่มีราคาแพง
วิธีการเอาไปใช้ เช่น ดาว 1 ลงในภพเสีย ภพอะไรก็ได้ใน 5 ภพนั้น และเลข 1 อีกตัวไป
ลงที่ภพเคหัง แบบนี้หลอดไฟอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านเสีย ดาว 1 คือหลอดไฟฟ้า ภพเคหังคือบ้าน
ภพเสียคือความเสื่อม หลอดไฟฟ้าชำรุดเสียหาย เข้าใจนะ ถ้าดาว 1 ลงภพเคหังคือบ้าน เป็นเลข
เดียวกันกับเลขในภพกัมมะคือที่ทำงาน ชนภพหินะ แสดงว่าไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทำงานเสีย
เลข 1 ที่อาจารย์บอกว่าลงภพนั้นภพนี้ คืออาจารย์สมมุติขึ้นมานะ เพื่อให้เข้าใจ
ดาว 1 เกี่ยวกับอักษร ได้แก่ อักษร อ. และสระทั้งหลายที่มีอยู่ในภาษาไทย ยกเว้น
วรรณยุกต์ ได้แก่ ตัวการันต์ (อ์) และไม้หันอากาศ (อั) ที่เป็นอักษรลดรูป ลดเสียง
เคยได้ยินไหมคนเกิดวันจันทร์ห้ามมีสระ เพราะว่าคนเกิดวันจันทร์ สระเป็นกาลกิณี
ดาว 1 เป็นคู่สมพลกับดาว 6 ดาวคู่สมพลคือดาวที่เอากำลังของดาวทั้งคู่มาบวกกันได้
เท่ากับ 27 ถือเป็นดาวคู่สมพล เช่น ดาวอาทิศมีกำลัง 6+ดาวศุกร์มีกำลัง 21 บวกได้เท่ากับ 27
พอดี ดาวคู่สมพลส่งผลดีนะ ดาวคู่สมพลสังเกตง่าย ๆ เมื่อเอากำลังของดาวคู่นั้นมารวมกันจะได้
เท่ากับ 27 ดาว 1 มีกำลัง 6 และดาว 6 มีกำลัง 21 , 6+21=27 ถ้าเปรียบเทียบดาวคู่นี้เหมือน
 4

เพื่อนร่วมงาน ช่วยบ้างบางโอกาสขอความช่วยเหลือได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราเห็นดาวคู่นี้ในผังดวง

ให้ทายดีนะ คำว่าสมพลคือมีพละกำลังพอ ๆ กัน
ดาว 1 เป็นคู่มิตรกับดาว 5 (อาทิตย์ (1) เป็นมิตรกับครู (5) เป็นดาวคู่ส่งเสริมกันในทางที่
ดี ในผังดวงเราจะเห็นดาว 1/5 เป็นส่งผลดี เป็นมิตรกันเรื่องอะไร ทำไมถึงถูกคอกันดี ดาว 5 เป็น
ฤาษี อาจารย์ (เป็นพ่อตา) ดาว 1 เป็นลูกศิษย์ (เป็นลูกเขย) แสดงว่าดาวคู่นี้ผูกพันกันในทำนอง
ครูกับศิษย์รัก และเป็นพ่อตากับลูกเขย คู่มิตรเป็นคู่ดาวที่ดีที่สุด เปรียบเสมือนเพื่อนซี้ถึงไหนถึง
กันช่วยเหลือกันดีมาก เราจะเห็นเลข 5 ในฐานที่ 4 ในผังดวง ถ้าดาว 1 ฐาน 5 ถพกัมมะ จะเห็น
ในผังดวงลักษณะแบบนั้น ถ้าดาว 1 ไม่ลงในภพเสียจะส่งผลดีมาก ถึงแม้นว่าดาว 1 ลงในภพเสีย
บ้าง แต่ก็เสียไม่มากเพราะเป็นคู่มิตร
ดาว 1 เป็นธาตุไฟต้นธาตุ (ไฟบรรลัยกัลป์) คู่ธาตุกับดาว 7 เป็นธาตุไฟปลายธาตุ (ไฟสุม
ขอน) คู่ธาตุส่งผลดีนะ คือถ้าดาว 1 ไม่ลงในภพเสียเลย และมีดาว 7 เป็นฐานรองรับ คือดาว 1/7
ส่งผลดี เพราะเป็นคู่ธาตุแสดงถึงความมั่นคง ถ้าเปรียบเทียบดาว 1/7 คู่ธาตุเหมือนญาติพี่น้อง
ดาว 1 คู่ศัตรูกับดาว 3 เป็นคู่ศัตรู คู่ทำลาย คู่เลือด คู่อุบัติเหตุ คู่ขัดแย้ง ส่งผลในทางที่
เสื่อมในผังดวงจะเห็น ดาว 1/3 หรือดาว 3/6 ถ้าดาว 1/3 อัตตะ+ตนุ+มรณะ หรือ ดาว 1/3
ธนัง+สหัสชะ+กัมมะ จะเห็นในผังดวงในลักษณะแบบนี้ ถึงแม้ว่าดาว 1 ไม่ลงในภพเสียเลย แต่ 1
ฐาน 3 ส่งผลเสียนะ และถ้าดาว 1/3 มัชฌิมา+ปัตนิ+ทาสี ถ้าเขาถามเรื่องคู่จะมีปัญหาทะเลาะ
กันไหม ตอบได้เลยมีปัญหากระทบกระทั่งทะเลาะกันแน่นอน เพราะเป็นคู่ศัตรูกัน เป็นศัตรูกัน
เรื่องอะไร เป็นมิตรกันเรื่องอะไร ต้องอ่านตำนานชาติเวร จะได้รู้ที่ไปที่มาของคู่ดาว ตอนทำนาย
เอาอารมณ์ของดาวไปใช้ มาถึงตรงนี้ที่สอนผ่านมาแล้วใครมีคำถามบ้าง
ถ.หากฐานดีแต่ชนเสียสองภพขึ้นไปจะส่งผลอย่างไร - ดาวยังส่งผลดี แต่ส่งผลดีน้อยลง
ตามภพเสีย
ถ.ถ้าดาว 1 เสีย 2 ดวงถือว่าไม่ดีแล้วใช่ไหม – ขึ้นอยู่กับฐานรองรับ ถ้าฐานดีมากต้องออก
คำทำนายทั้งดีทั้งเสียปนกัน
ถ.หินะ+อริ+มรณะ+มหาอุบาทว์+ธนัง ดาว 1/11 แปลว่าเสียเรื่องการเงินใช่ไหมแบบไหน
- ถูกต้อง เสียแบบซ้ำซ้อน
 5

ถ.ฐาน 4 สำคัญกว่าภพใช่ไหม - เป็นตัวตัดสินคุณภาพของดาว ดีมาก ดีน้อย หรือเสีย

ถ.คู่มิตร คู่ธาตุ คู่สมพล หากมีดาวใดดาวหนึ่งเป็นฐาน 4 ความดีเทียบเท่ามากกว่า หรือ
น้อยกว่า ฐานดี 9 11 13 14 16 18 19 – คู่ที่ดีที่สุดคือดาวคู่มิตร ค่อยว่ากันอย่างละเอียดนะ

รูปที่ 17
การกำเนิดพระจันทร์ (2)
พระอิศวรมหาเทพผู้เป็นเจ้า ได้สร้างพระจันทร์ขึ้นมาจากเมืองนาคราช (เมืองบาดาล)
ด้วยการนำเอานางฟ้าที่สวยที่สุด จำนวน 15 องค์ มายืนรวมกัน แล้วร่ายพระเวทมนต์ให้นางฟ้า
15 องค์ กลายเป็นผงธุลี แล้วห่อด้วยผ้าสีเหลืองอ่อน (สีขาวเหลือง) จากนั้นทรงประพรมด้วยน้ำ
อมฤต จึงบังเกิดขึ้นมามีชื่อเล่นว่า พระจันทร์ มีชื่อจริงว่า พระจันทร์เทพบุตร มีสีวรกายเป็นสีขาว
นวล ทรงทิพยอาภรณ์แก้วประพาฬพิจิตร มีวิมานที่สถิตเป็นสีแก้วมุกดา ทรงอัศวราช (ม้า) เป็น
พาหนะ เพื่อให้มีพลังที่สมบูรณ์โดยให้ไปเวียนเขาพระสุเมรุ เท่ากับจำนวนนางฟ้าที่เสกขึ้นมา.
โดยให้มีจุดเริ่มต้นในการเวียนที่แหล่งน้ำทางทิศทักษิณ (ทิศใต้) เวียนไปตามทักษิณาวรรต (เวียน
ขวา) ทรงอัศวราช (ม้า) โคจรไปทีละระยะ ให้ทิศใต้เป็นระยะที่ 1 โคจรเวียนไปจนครบ 15 ระยะ
ตามทักษา แล้วให้สถิตในทิศบูรพา (ทิศตะวันออก) มีกำลัง 15 (เท่าจำนวนนางฟ้าที่นำมาสร้าง)
จึงเป็นแหล่งกำเนิดแห่งธาตุดินต้นธาตุ เป็นดินผสมน้ำ ดินเลน เป็นดาวศุภเคราะห์ เป็นดาวฝ่าย
กุศล ดาวทุกดาว เมื่อพระอิศวรเสกเสร็จแล้วให้เริ่มเวียนทางทิศใต้ ตอนเวียนตามเข็มนาฬิกา
เดินไปทีระยะ สังเกตให้ดีดาว 2 จะไปรับแสงอาทิตย์ 2 ครั้ง ตอนเดินเวียนเขาพระสุเมรุไม่ใช่ 15
รอบนะ แต่เป็น 15 ระยะนะ มีหลายคนในเฟสบอกว่าพระจันทร์ธาตุน้ำ เพราะตอนทำนายดาว 2
 6

ทายเกี่ยวกับน้ำ หลายคนไม่รู้ที่มาว่าทำไมดาว 2 เกี่ยวกับน้ำ ตอนนี้น่าจะรู้กันแล้ว เพราะนาง

จันทร์พระอิศวรเสกมาจากเมืองบาดาล เมืองนาคราช เสกมาจากใต้น้ำ แต่เป็นเป็นธาตุดินนะ แต่
ดินผสมน้ำ ดินเลน
ดาวจันทร์แทนสัญลักษณ์ด้วยเลข 2
ความหมายทั่วไป แสดงให้เห็นถึงความอ่อนโยน ความสวยงาม ความคิดฝัน ความอ่อนไหว
ความใจอ่อนดังหญิง ความเปลี่ยนแปลงง่าย ความมีจริตมายา ความมีเสน่ห์นิยม
ในผังดวงถ้าดาว 2 ไม่ลงในภพเสียจะสวย อ่อนโยน น่ารัก ถ้าดาว 2 ลงในภพเสียจะตรง
ข้ามเลย
ด้านดีของดาว 2 อ่อนโยน นุ่มนวล อ่อนหวาน ใจคอบริสุทธิ์ ดูดีมีเสน่ห์ เรียบร้อย รักสวย
รักงาม มีความเมตตาปรานี รู้จักเอาใจคน ความอ่อนไหว การมองโลกในแง่ดี การใส่ใจและการ
บริการดูแล การให้ความช่วยเหลือ การเข้าใจในความรู้สึก การมีความเมตตากรุณาต่อเพื่อนร่วม
โลก เอาใจใส่ในความทุกข์และความสุขของผู้อื่นได้ดี
แต่ละคนเก่งมาก ความจำดี ในดวงดูอย่างไรว่าต้องอ่านด้านดี ดาว 2 ไม่ลงในพภเสีย ให้
เอาความหมายด้านดีของดาว 2 มาทำนาย เช่น ถ้าดาว 2 ปิตา+พันธุ+ศุภะ+มหาสิทธิโชค+ธนัง
แบบนี้ดาว 2 ไม่ลงในภพเสียเลย เอาความหมายด้านดีมาทำนาย ลงภพดีภพอื่น ๆ ก็ได้นะ หรือ
ถ้าดาว 2 ธนัง+ปุตตะ+ลาภะ แบบนี้ก็ได้ คืออย่าให้ลงภพหินะ ภพอริ ภพมรณะ ภพพยายะ ภพ
มหาอุบาทว์ นั้นคือการดูดาว 2 ในด้านดีขั้นแรก ส่วนขั้นที่ 2 ต้องดูว่าดาว 2 รองรับด้วยฐานดี
หรือไม่ด้วยนะ ฐานดีจะมีเลข 9 11 13 14 16 18 19 ฐานเลข 13 บางตำราจัดให้อยู่ระดับดีปาน
กลาง นอกจากดาว 2 ลงในภพดีแล้ว มีฐานดีมารองรับด้วยถึงจะดีจริง ตัวอย่าง ถ้าดาว 2/9
ธนัง+ปุตตะ+ศุภะ ดาว 2/9 ดาว 2 ลงในภพดี มี 9 รองรับเป็นฐานเลขอยู่ในกลุ่มดี หรือถ้าดาว
2/16 ปิตา+พันธุ+ศุภะ+มหาสิทธิโชค+ธนัง ลักษณะแบบนี้ถือว่าเอาด้านดีมาใช้ทำนาย ฐาน 16
เป็นฐานที่ดีมาก สรุปคือถ้าดาว 2 ลงในภพดี ฐานรองรับดี ก็เอาความหมายด้านดีของดาว 2 ให้
ตรงกับเรื่องราวภพนั้น ๆ มาทำนายด้านดี
ด้านเสียของดาว 2 เจ้าอารมณ์ จิตใจโลเล ไม่เรียบร้อย แข็งกระด้าง ไม่รู้จักเอาใจคน.
อ่อนแอ หูเบา เชื่อคนง่าย ตื่นตกใจง่าย ขลาดกลัว มีลักษณะเหมือนคนเป็นโรคประสาทอ่อน ๆ
 7

ใจน้อยขี้งอน น้ำตาร่วงง่าย อารมณ์เร็วแปรเปลี่ยนกลับไปกลับมาไม่แน่นอน ชอบคิดเฟ้อฝันแต่ไม่

ทำความคิดที่ได้จินตนาการไว้ให้ประสบความสำเร็จ คือคิดได้แต่ไม่ยอมทำสักที เป็นคนสร้าง
วิมานในอากาศ เมตตากรุณาจนกระทั่งต้องตกอยู่ในความเดือดร้อน ประเภททำคุณคนไม่ขึ้น
จิตใจขาดความมั่นคง โลเลใจได้ง่าย ไม่แน่นอนกับใคร เอาใจยาก คิดอย่างทำอย่าง คิดเกิน
ขอบเขตทั้ง ๆ ที่สิ่งนั้นยังไม่เกิด ถือเป็นประเภทกระต่ายตื่นตูม ตีตนไปก่อนไข้
เราเอาด้านเสียของดาว 2 มาใช้ในกรณีดาว 2 ตัวหนึ่งตัวใดลงในภพเสีย เช่น ภพหินะ ภพ
อริ ภพมรณะ ภพพยายะ ภพมหาอุบาทว์ จะลงจุดเดียวหรือหลายจุดก็ถือว่าเสีย ตัวอย่าง ถ้าดาว
2 หินะ+ปัตนิ+กัมมะ+มหาอุบาทว์+สักกะ ดาว 2 ไม่จำเป็นต้องลงภพเสียทุกภพนะแต่เสีย นั้น
คือขั้นแรกการดูดาว 2 เอาด้านเสียมาใช้ ขั้นที่สองต้องดูฐานรองรับของดาว 2 ด้วย ถ้าฐานรองรับ
ดาว 2 เป็นเลขกลุ่มดี แสดงว่าดาว 2 ที่เสียก็เสียไม่มากก็น้อย แต่ถ้าดาว 2 ลงในภพเสีย และ
ฐานรองรับเสียด้วย นั่นคือเสียแน่นอน กลุ่มระดับดี ได้แก่ 9 11 13 14 16 18 19 กลุ่มระดับ
ปานกลาง ได้แก่ 5 6 15 17 21 กลุ่มระดับไม่ดี (เลว) ได้แก่ 3 4 7 8 10 12 20 นั้นคือเลข
ฐานรองรับของดาวต่าง ๆ เลขกลุ่มต่าง ๆ เราจะเห็นได้ในฐานที่ 4 ของผังดวง ถ้าดาว 2 หินะ+
ปัตนิ+กัมมะ+มหาอุบาทว์+สักกะ ฐาน 10 คือฐานที่ 4 ในผังดวง ดาว 2 ลงในภพเสียคือภพหินะ
และภพมหาอุบาทว์ ทำให้เรื่องราวของภพอืน่ ๆ ที่ดาว 2 ไปลงเสื่อมไปด้วย จะเห็นว่าดาว 2 ฐาน
10 เป็นเลขฐานในกลุ่มเสีย จะเขียนเป็นสัญลักษณ์แบบนี้นะ คือดาว 2/10 คือดาว 2 ฐาน 10 ถ้า
ดาว 2 ลงในภพเสีย จะเสียกี่ภพก็ได้ถือว่าเสีย และเมื่อมีเลขฐานเสียมารองรับก็ยิ่งย้ำชัดว่าดาว 2
เสียแน่นอน เสียในเรื่องราวของดาว 2 ที่ลงภพอื่น ๆ เช่น ดาว 2 ลงในภพกัมมะ ดาว 2 กัมมะ+
หินะคือความเสื่อม แสดงว่าอาชีพการงานที่ทำมีความเสื่อมเกิดขึ้น ภพกัมมะแปลว่าอาชีพการ
งาน ไม่ไปชนภพเสีย ก็ทำให้การงานมีความเสื่อมอย่างหนึ่งอย่างใดเกิดขึ้น คำว่า ไปชน คือเลข
ภพหนึ่งไปเป็นเลขเหมือนกับอีกภพหนึ่ง ภาษาโหรเรียกว่า “ชน” เช่น ภพกัมมะไปชนภพหินะ
เพราะสองภพนี้เลขเหมือนกัน หรือภพปัตนิไปชนภพมหาอุบาทว์ ภพมหาอุบาทว์เป็นภพเสีย
ความหมายไปในทางที่เสื่อม เสื่อมในเรื่องราวของภพนั้น ๆ ที่ไปชนภพเสีย เช่น ภพมหาอุบาทว์
ไปชนภพปัตนิ แปลว่าคู่คนรัก เพราะฉะนั้นคู่คนรักต้องมีความเสือ่ มอย่างหนึ่งอย่างใดเกิดขึ้น เช่น
คู่คนรักเอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ เอาแต่ใจไม่ฟังเหตุผลของเจ้าชะตา ทำให้มีปัญหากันได้
ง่าย นีแ่ ค่ยกตัวอย่างนะ พอเข้าใจไหม
 8

การสอนแบบนี้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการหาคำตอบ คนที่ตามในห้องไม่ทันก็สามารถเข้า
อ่านย้อนหลังในห้องข้อมูลได้ตลอดเวลา ไม่เข้าใจถามอาจารย์ได้นะ มีห้องสอนเสริมอาจารย์น้อย
ช่วยแนะนำอีกครั้ง มันต้องได้ต้องเข้าใจต้องเป็นแน่นอน คืนนี้เอาประมาณนี้ หลับฝันดี
66666666666666666666666666666666666666666666666666666666666666666666
อาจารย์ผสู้ อน : นายอนุสรณ์ สาระพงศ์ (อ.หมอคนไกล)
(10/4/2567)