Professional Documents
Culture Documents
รายงาน Word - Copy(1)
รายงาน Word - Copy(1)
รายงาน Word - Copy(1)
และแจ้งเตือนเหตุขัดข้อง
DESIGN OF ELECTRICAL PARAMETER
MONITORING SYSTEM AND NOTIFICATORNOTIFICATOR
ชนัญญู ศรีโยธา
วันทริยา ต้นพรหม
ระสา วงษ์ชัย
ปริญญานิพนธ์เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต
สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น
พ.ศ. 2566
ลิขสิทธิ์ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
ก
การออกแบบสร้างระบบตรวจวัดค่าพารามิเตอร์ทางไฟฟ้า
และแจ้งเตือนเหตุขัดข้อง
ชนัญญู ศรีโยธา
วันทริยา ต้นพรหม
ระสา วงษ์ชัย
ปริญญานิพนธ์เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต
สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น
พ.ศ. 2566
ลิขสิทธิ์ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
Design of Electrical Parameter
Monitoring System and Notificator
ข
Chananyoo Sriyotha
Vantriya Tonprom
Rasa Wongchai
หัวข้อปริญญานิพนธ์ การออกแบบสร้างระบบตรวจวัดค่าพารามิเตอร์ทางไฟฟ้าและแจ้งเตือน
เหตุขัดข้อง
จัดทําโดย ชนัญญู ศรีโยธา วันทริยา ต้นพรหม และระสา วงษ์ชัย
ปีที่ปริญญานิพนธ์สําเร็จ พ.ศ. 2567
สาขาวิชา วิศวกรรมไฟฟ้า
ที่ปรึกษา อาจารย์กําธร เลยหยุด
บทคัดย่อ
ปริญญานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อออกแบบสร้างระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร
โดยมีเป้าหมายการออกแบบให้มีการแสดงค่าแรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า กำลังไฟฟ้า กำลังไฟฟ้าจริง
กำลังไฟฟ้าสูญเสีย กำลังไฟฟ้าปรากฏ ตัวประกอบกำลังไฟฟ้า ค่าพลังงานไฟฟ้า วันที่และเวลา
เมื่อเกิดความผิดปกติขึ้นในระบบไฟฟ้าหรือเหตุการณ์ไฟฟ้าดับ ระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร
สามารถบันทึกข้อมูลหรือตรวจเช็คข้อมูลพารามิเตอร์แบบเรียลไทม์และแจ้งเตือนเหตุความผิดปกติ
ภายในระบบไฟฟ้าได้
การออกแบบและสร้างระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร สามารถวัดค่าพารามิเตอร์
ทางไฟฟ้า ซึ่งจะแสดงค่าแรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า กำลังไฟฟ้าจริง กำลังไฟฟ้าสูญเสีย กำลังไฟฟ้า
ปรากฏ ตัวประกอบกำลังไฟฟ้า ค่าพลังงานไฟฟ้า วันที่และเวลาแล้วยังสามารถแจ้งเตือนสถานะการ
ติดดับของไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้าต่ำ แรงดันไฟฟ้าเกิน และสามารถนำข้อมูลที่บันทึกได้จากเหตุการณ์
ไฟฟ้าดับ แรงดันไฟฟ้าต่ำ แรงดันไฟฟ้าเกิน มาวิเคราะห์หาชนิดของการเกิดความผิดปกติได้
ระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคารที่วัดค่าพารามิเตอร์ทางไฟฟ้าเปรียบเทียบกับเครื่อง
วัดมาตรฐาน พบความผิดพลาดในการวัดแรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า กำลังไฟฟ้าจริง กำลังไฟฟ้าสูญ
เสีย กำลังไฟฟ้าปรากฏ ตัวประกอบกำลังไฟฟ้า และค่าพลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ 0.12, 0.39, 0.43, 0.51,
0.45, 0.98 และ 1.43 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ระบบจะแจ้งเตือนผู้ใช้งานเมื่อเกิดความผิดปกติหรือแรง
ดันไฟฟ้ากลับมาปกติ และสามารถตรวจเช็คข้อมูลต่าง ๆ ผ่านกูเกิ้ลชีตและเว็บไซต์ Magellan จาก
การติดตั้งทดสอบในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานวิทยาเขตขอนแก่นเป็นระยะเวลา 1
สัปดาห์
จ
Abstract
กิตติกรรมประกาศ
ปริญญานิพนธ์นี้สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ด้วยดี เนื่องจากได้รับความรู้และคำ
แนะนำต่าง ๆ ตลอดจนการที่ได้แก้ไขข้อบกพร่องและปัญหาที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่ได้จัดทำปริญญา
นิพนธ์ ซึ่งได้ทำการถ่ายทอดประสบการณ์และคำปรึกษาในการจัดทำปริญญานิพนธ์
จากอาจารย์กำธร เลยหยุด ที่ปรึกษาปริญญานิพนธ์ ซึ่งท่านอาจารย์คอยชี้แนะแนวทางในการดำเนิน
งานตลอดจนประสบความสำเร็จตามกฎเกณฑ์แบบแผนที่ตั้งไว้
ผู้จัดทำจึงขอขอบพระคุณอาจารย์ทุกท่าน ที่ประสิทธิประสาทวิชาความรู้อันเป็น
ประโยชน์ในการจัดทำปริญญานิพนธ์ ขอขอบคุณความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ ในห้องเรียนที่คอยให้คำ
ปรึกษาและเป็นกำลังใจให้เสมอมา
เหนือสิ่งอื่นใดคณะผู้จัดทำรู้สึกสำนึกในพระคุณบุพการีและครอบครัวอย่างหาที่เปรียบไม่
ได้ ซึ่งคอยเป็นกำลังใจและสนับสนุนทางด้านทุนทรัพย์หลักในการศึกษาโดยตลอด
ชนัญญู ศรีโยธา
วันทริยา ต้นพรหม
ระสา วงษ์ชัย
ช
สารบัญ
หน้า
บทคัดย่อภาษาไทย ง
บทคัดย่อภาษาอังกฤษ จ
กิตติกรรมประกาศ ฉ
สารบัญ ช
สารบัญตาราง ฌ
สารบัญรูป ฎ
บทที่
1 บทนำ 1
1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา 1
1.2 วัตถุประสงค์ของปริญญานิพนธ์ 2
1.3 ขอบเขตของโครงงาน 2
1.4 ประโยชน์ที่นักศึกษาจะได้รับจากการดำเนินโครงงาน 2
2 ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง 3
2.1 บทนำ 3
2.2 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 3
2.3 กำลังไฟฟ้า 4
2.4 พลังงานไฟฟ้า 6
2.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง 7
2.6 ทฤษฎี Modbus RTU 8
2.7 มาตรฐานแรงดันไฟฟ้าของการไฟฟ้าภูมิภาค 13
3 ขั้นตอนและวิธีการดำเนินโครงงาน 15
3.1 ขั้นตอนการดำเนินโครงงาน 15
3.2 บล็อกไดอะแกรมการทำงาน 17
3.3 วงจร DEVIO NB-DEVKIT I และเครื่องวัดคุณภาพไฟฟ้า 18
3.4 การต่อใช้งานเครื่องวัดคุณภาพไฟฟ้ากับโหลด 19
สารบัญ (ต่อ)
บทที่ หน้า
3.5 ตัวอย่างการแสดงผลบนเว็ปไซต์และแอพพลิเคชั่น 20
3.6 การออกแบบโครงสร้างของระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร 22
ซ
4 ผลการดำเนินงาน 26
4.1 ลำดับขั้นตอนการทดลอง 26
4.2 อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดสอบ 27
4.3 การทดสอบวัดค่าแรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้า 29
4.4 การทดสอบวัดค่าแรงดันไฟฟ้าและการส่งข้อมูลสถานะผ่าน Magellan 36
กับแอพลิเคชั่น
4.5 การทดสอบวัดค่ากำลังไฟฟ้าจริง, กำลังไฟฟ้าสูญเสีย, กำลังไฟฟ้าปรากฏ, 66
ตัวประกอบ กำลังไฟฟ้า
4.6 ทดสอบการแสดงข้อมูลผ่านกูเกิ้ลชีต 76
4.7 ทดสอบการแสดงข้อมูลผ่าน Magellan 78
4.8 การทดสอบวัดค่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ 83
4.9 การทดสอบวัดค่าความถี่ 85
4.10 การทดสอบวัดอุณหภูมิ ความชื้น 86
5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 88
5.1 สรุปผลการดำเนินปริญญานิพนธ์ 88
5.2 ปัญหาและอุปสรรค 89
5.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางพัฒนาปริญญานิพนธ์ 89
บรรณานุกรม 90
ภาคผนวก 91
ภาคผนวก ก. 92
ภาคผนวก ข. 94
ภาคผนวก ค. 95
ประวัติผู้เขียน 96
ฌ
สารบัญตาราง
ตารางที่ หน้า
2.1 แสดงค่ามาตรฐานแรงดันไฟฟ้า (System Voltage) และ Voltage Regulation 14
ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
2.2 แสดงค่ามาตรฐานความถี่ไฟฟ้า (System Frequency) ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 14
4.1 การทดสอบวัดค่าแรงดันไฟฟ้าของระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคารกับ 31
เครื่องมือวัดมาตรฐาน
4.2 การทดสอบวัดค่ากระแสไฟฟ้าของระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคารกับ 34
เครื่องมือวัดมาตรฐาน
4.3 เงื่อนไขการทดสอบวัดค่าแรงดันไฟฟ้า 37
4.4 ผลการทดสอบวัดสถานะแรงดันไฟฟ้า เฟส A = ดับ เฟส B = ปกติ เฟส C = ปกติ 39
4.5 ผลการทดสอบวัดสถานะแรงดันไฟฟ้า เฟส A = ปกติ เฟส B = ดับ เฟส C = ดับ 42
4.6 ผลการทดสอบวัดสถานะแรงดันไฟฟ้า เฟส A = ดับ เฟส B = ดับ เฟส C = ดับ 45
4.7 ผลการทดสอบวัดสถานะแรงดันไฟฟ้า เฟส A = ต่ำ เฟส B = ปกติ เฟส C = ปกติ 48
4.8 ผลการทดสอบวัดสถานะแรงดันไฟฟ้า เฟส A = ปกติ เฟส B = ต่ำ เฟส C = ต่ำ 51
4.9 ผลการทดสอบวัดสถานะแรงดันไฟฟ้า เฟส A = ต่ำ เฟส B = ต่ำ เฟส C = ต่ำ 56
4.10 ผลการทดสอบวัดสถานะแรงดันไฟฟ้า เฟส A = เกิน เฟส B = ปกติ เฟส C = 59
ปกติ
4.11 ผลการทดสอบวัดสถานะแรงดันไฟฟ้า เฟส A = ปกติ เฟส B = เกิน เฟส C = เกิน 60
4.12 ผลการทดสอบวัดสถานะแรงดันไฟฟ้า เฟส A = เกิน เฟส B = เกิน เฟส C = เกิน 63
4.13 การทดสอบวัดค่ากำลังไฟฟ้าจริงของเครื่องสมาร์ทมิเตอร์สามเฟส 68
4.14 การทดสอบวัดค่ากำลังไฟฟ้าสูญเสียของเครื่องสมาร์ทมิเตอร์สามเฟส 70
4.15 การทดสอบวัดค่ากำลังไฟฟ้าปรากฏของเครื่องสมาร์ทมิเตอร์สามเฟส 72
4.16 การทดสอบวัดค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้าของเครื่องสมาร์ทมิเตอร์สามเฟส 74
4.17 การทดสอบวัดค่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ของเครื่องสมาร์ทมิเตอร์สามเฟสกับระบบ 84
ตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร บริเวณอาคารวิศวกรรมไฟฟ้าชั้น 4
4.18 การทดสอบวัดค่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ของเครื่องสมาร์ทมิเตอร์สามเฟสกับระบบ 85
ตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร บริเวณอาคารวิศวกรรมไฟฟ้าชั้น 4
สารบัญตาราง (ต่อ)
ตารางที่ หน้า
4.19 การทดสอบวัดค่าอุณหภูมิของเครื่องสมาร์ทมิเตอร์สามเฟสกับระบบตรวจสอบ 86
ไฟฟ้าภายในอาคาร บริเวณอาคารวิศวกรรมไฟฟ้าชั้น 4
ญ
4.20 การทดสอบวัดค่าความชื้นของเครื่องสมาร์ทมิเตอร์สามเฟสกับระบบตรวจสอบ 87
ไฟฟ้าภายในอาคาร บริเวณอาคารวิศวกรรมไฟฟ้าชั้น 4
ค.1 งบประมาณสร้างระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร 97
ฎ
สารบัญรูป
รูปที่ หน้า
2.1 สามเหลี่ยมกำลังไฟฟ้า 5
2.2 การสื่อสารแบบอนุกรมด้วย RS – 485 สำหรับ Modbus RTU 8
2.3 ชุดข้อมูลสำหรับการสื่อสาร Modbus RTU [Ref. 1] 9
2.4 รายละเอียดชุดข้อมูล Function Code [Ref. 2] 10
2.5 ตำแหน่งแอดเดรสใน Modbus RTU โดยแบ่งตามรูปแบบการทำงาน 10
2.6 ชุดคำสั่งสำหรับการอ่าน (Read Command) 11
2.7 ชุดคำสั่งสำหรับการเขียน (Write Command) 11
2.8 การรับ-ส่งเฟรมข้อมูล Modbus RTU 11
2.9 ตัวอย่าง Modbus RTU (RS-485) 12
2.10 การเชื่อมต่อของผู้ผลิตไฟฟ้าหรือผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีคอนเวอร์เตอร์แบบหนึ่งเฟสเชื่อมต่อ 13
กับระบบจำหน่าย 220 โวลต์
3.1 ขั้นตอนการดำเนินโครงงาน 16
3.2 แสดงแผนการทำงานของโครงงาน 17
3.3 วงจรการติดต่อระหว่างไมโครคอนโทรลเลอร์และเครื่องวัดคุณภาพไฟฟ้า 18
3.4 การต่อเครื่องวัดคุณภาพไฟฟ้ากับโหลด 19
3.5 ตัวอย่างการแสดงผลบนเว็ปไซต์ 20
3.6 แจ้งเตือนขณะไฟฟ้าดับ 20
3.7 แจ้งเตือนขณะไฟฟ้าติดปกติ 21
3.8 การออกแบบภายในของระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร 22
3.9 การออกแบบโครงสร้างของระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร 23
3.10 การออกแบบการวางตำแหน่งของอุปกรณ์ส่วนที่ 1 24
3.11 การออกแบบการวางตำแหน่งของอุปกรณ์ชั้นที่ 2 25
4.1 เครื่องมือวัดมาตรฐานใช้อ้างอิงในการทดสอบเครื่องสมาร์ทมิเตอร์สามเฟส 27
4.2 โหลดที่ใช้ในการทดสอบเครื่องสมาร์ทมิเตอร์สามเฟส 28
ฏ
สารบัญรูป (ต่อ)
รูปที่ หน้า
4.3 การต่อวงจรทดสอบวัดค่าแรงดันไฟฟ้า 29
4.4 การต่ออุปกรณ์ทดสอบวัดค่าแรงดันไฟฟ้าของเครื่องสมาร์ทมิเตอร์สามเฟส 30
4.5 การต่อวงจรทดสอบวัดค่ากระแสไฟฟ้า 32
4.6 การต่ออุปกรณ์ทดสอบวัดค่ากระแสไฟฟ้าของระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร 33
4.7 การต่อวงจรทดสอบวัดค่าแรงดันไฟฟ้าของระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร 36
4.8 การต่ออุปกรณ์ทดสอบวัดค่าแรงดันไฟฟ้าของระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร 36
4.9 ระยะเวลาในการทดสอบวัดสถานะแรงดันไฟฟ้า 37
4.10 กราฟแสดงสถานะแรงดันไฟฟ้าสามเฟส ตามตารางที่ 4.4 40
4.11 กราฟแสดงสถานะแรงดันไฟฟ้าแต่ละเฟส ตามตารางที่ 4.4 40
4.12 การแจ้งเตือนสถานะผ่านไลน์โนติฟาย 41
4.13 กราฟแสดงสถานะแรงดันไฟฟ้าสามเฟส ตามตารางที่ 4.5 43
4.14 กราฟแสดงสถานะแรงดันไฟฟ้าแต่ละเฟส ตามตารางที่ 4.5 43
4.15 การแจ้งเตือนสถานะผ่านไลน์โนติฟาย 44
4.16 กราฟแสดงสถานะแรงดันไฟฟ้าสามเฟส ตามตารางที่ 4.6 46
4.17 กราฟแสดงสถานะแรงดันไฟฟ้าแต่ละเฟส ตามตารางที่ 4.6 46
4.18 การแจ้งเตือนสถานะผ่านไลน์โนติฟาย 47
4.19 กราฟแสดงสถานะแรงดันไฟฟ้าสามเฟส ตามตารางที่ 4.7 49
4.20 กราฟแสดงสถานะแรงดันไฟฟ้าแต่ละเฟส ตามตารางที่ 4.7 49
4.21 การแจ้งเตือนสถานะผ่านไลน์โนติฟาย 50
4.22 กราฟแสดงสถานะแรงดันไฟฟ้าสามเฟส ตามตารางที่ 4.8 52
4.23 กราฟแสดงสถานะแรงดันไฟฟ้าแต่ละเฟส ตามตารางที่ 4.8 52
4.24 การแจ้งเตือนสถานะผ่านไลน์โนติฟาย 53
4.25 กราฟแสดงสถานะแรงดันไฟฟ้าสามเฟส ตามตารางที่ 4.9 55
4.26 กราฟแสดงสถานะแรงดันไฟฟ้าแต่ละเฟส ตามตารางที่ 4.9 55
4.27 การแจ้งเตือนสถานะผ่านไลน์โนติฟาย 56
4.28 กราฟแสดงสถานะแรงดันไฟฟ้าสามเฟส ตามตารางที่ 4.10 58
สารบัญรูป (ต่อ)
รูปที่ หน้า
4.29 กราฟแสดงสถานะแรงดันไฟฟ้าแต่ละเฟส ตามตารางที่ 4.10 58
4.30 การแจ้งเตือนสถานะผ่านไลน์โนติฟาย 59
ฐ
รูปที่ หน้า
ก.5 เทอร์มินอล 93
ก.6 พาวเวอร์ซับพลาย และแบตเตอร์รี่สำรอง 93
ข.1 การติดตั้งระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร 94
ข.2 การติดตั้งระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคารเสร็จสมบูรณ์ 94
1
บทที่ 1
บทนำ
1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
ระบบไฟฟ้าในประเทศไทยเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ ความถี่ 50 เฮิร์ตซ์ มีทั้งระบบ 1 เฟส
แรงดัน 220 โวลต์ ซึ่งใช้ในบ้านอยู่อาศัยและระบบ 3 เฟส แรงดัน 380 โวลต์ ใช้ในกิจการขนาดเล็ก
โรงงานอุตสาหกรรมและแรงดันขนาด 69, 115, 230 และ 500 กิโลโวลต์ สำหรับการส่งจ่ายไฟฟ้า
ภายในประเทศ ซึ่งระบบไฟฟ้าที่ดีต้องมีความเสถียรภาพที่ดี มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยต่อผู้ใช้
ระบบไฟฟ้า
ในบางครั้งระบบไฟฟ้าก็อาจจะเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ทำให้ไม่สามารถใช้ระบบไฟฟ้าได้
ชั่วคราว เช่น เกิดความผิดพลาดจากอุปกรณ์ หรือเกิดความผิดพลาดที่เกิดจากภัยธรรมชาติ เป็นต้น
แต่ในกรณีนี้ผู้ใช้ระบบไฟฟ้าก็มีแผนสำรองเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้โดยใช้เครื่อง
กำเนิดไฟฟ้าสำรอง หรือ UPS สำรองไฟฟ้า เป็นต้น แต่การใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง หรือ UPS
สำรองไฟฟ้าก็มีข้อจำกัดที่อาจจะต้องรับมือ เช่น ระบบไฟฟ้าสำรอง UPS มีปริมาณการสำรองไฟฟ้าที่
ไม่เพียงพอ เมื่อระบบไฟฟ้าเกิดผิดพลาดหรือไฟฟ้าดับเป็นเวลานาน ๆ และเมื่อระบบไฟฟ้ามีความผิด
พลาดเกิดขึ้น อาจจะเกิดในช่วงเวลาที่ผู้ดูแลระบบไฟฟ้าไม่อยู่ในช่วงเวลาปฏิบัติงานจนไม่อาจจะทันได้
เตรียมรับมือ
ผู้จัดทำจึงเล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าวเพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหา ผู้จัด
ทำจึงมีความคิดเห็นเสนอโครงงานการออกแบบสร้างระบบตรวจวัดค่าพารามิเตอร์ทางไฟฟ้าและแจ้ง
เตือนเหตุขัดข้องที่สามารถตรวจเช็คสถานะแรงดันระบบไฟฟ้ารวมไปถึงการตรวจวัดค่าแรงดันไฟฟ้า
ที่สามารถเก็บข้อมูลสถานะแรงดันระบบไฟฟ้าสำหรับใช้ในการตรวจสอบดูข้อมูลและสถิติย้อนหลังได้
เพื่อเป็นประโยชน์หรือแนวทางในการแก้ไขจุดบกพร่องของระบบไฟฟ้าในอาคารบ้านเรือน โรงงาน
อุตสาหกรรม หรือจะเป็นโรงไฟฟ้า เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น
2
1.2 วัตถุประสงค์ของโครงงาน
1.2.1 เพื่อศึกษาและออกแบบสร้างระบบตรวจวัดค่าพารามิเตอร์ทางไฟฟ้าและแจ้งเตือน
เหตุขัดข้องผ่านทาง LINE แอพพลิเคชั่นและสามารถดูข้อมูลย้อนหลังผ่านทางเว็บไซต์
1.2.2 เพื่อศึกษาการเขียนโปรแกรมในไมโครคอนโทรลเลอร์เชื่อมต่อกับระบบ IoT
1.2.3 เพื่อพัฒนาเครื่องตรวจวัดให้เป็นต้นแบบและนำไปติดตั้งใช้งานได้จริง
1.3 ขอบเขตของโครงงาน
1.3.1 ศึกษาและติดตั้งการออกแบบสร้างระบบตรวจวัดค่าพารามิเตอร์ทางไฟฟ้าและแจ้ง
เตือนเหตุขัดข้องโดยใช้กับระบบแรงดันไฟฟ้า 3 เฟส 4 สาย ตรวจวัดภายในอาคาร
1.3.2 ค่าพารามิเตอร์ที่แสดง คือ แรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า ความถี่ กำลังไฟฟ้าจริง
กำลังไฟฟ้าสูญเสีย กำลังไฟฟ้าปรากฏ ตัวประกอบกำลังไฟฟ้า พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในแต่ละวัน วันที่
เวลา อุณหภูมิ ความชื้น และมีค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 1 เปอร์เซ็นต์
1.3.3 แสดงผลการตรวจวัดผ่านเว็บไซต์ Magellan , Google Appsheet , LINE
1.3.4 สามารถแจ้งเตือนในกรณีไฟฟ้าดับ ไฟฟ้าปกติ แรงดันตก แรงดันเกินตามมาตรฐาน
อ้างอิงการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
1.4 ประโยชน์ที่นักศึกษาจะได้รับจากการดำเนินโครงงาน
1.4.1 สามารถเขียนโปรแกรมในไมโครคอนโทรลเลอร์เพื่อตรวจวัดค่าพารามิเตอร์ทาง
ไฟฟ้าและแสดงผลข้อมูลได้
1.4.2 ได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับไมโครคอนโทรลเลอร์ที่นำไปใช้งานด้านระบบ IoT
1.4.3 สามารถใช้เป็นชุดต้นแบบในการพัฒนาชุดตรวจวัดระบบไฟฟ้าของระบบ 3 เฟส
4 สาย สำหรับใช้ทดลองในห้องปฏิบัติการระบบไฟฟ้ากำลัง
1.4.4 เมื่อนำไปใช้งานติดตั้งจริง สามารถที่จะแจ้งเหตุไฟฟ้าขัดข้องไปยังเจ้าหน้าที่การ
ไฟฟ้าโดยตรงได้ทันที
3
บทที่ 2
ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
ในบทนี้จะกล่าวถึงทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องในการจัดทำโครงงานการออกแบบสร้าง
ชุดตรวจสอบระบบไฟฟ้าขัดข้องภายในอาคารที่สามารถบันทึกและแจ้งเตือนเหตุความผิดพร่องใน
ระบบไฟฟ้า ซึ่งข้อมูลที่ผู้จัดทำได้ศึกษาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น อินเตอร์เน็ต ปริญญานิพนธ์
ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น แหล่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการดำเนินการออกแบบสร้างระบบตรวจ
วัดค่าพารามิเตอร์ทางไฟฟ้าและแจ้งเตือนเหตุขัดข้องที่สามารถบันทึกและแจ้งเตือนเหตุความผิดพร่อง
ในระบบไฟฟ้า
2.1 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
นพรัตน์ ไปดี และสามารถ อันทะนิล (2563) นักศึกษาสาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะ
วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ได้เสนอโครงงานเรื่อง
การออกแบบสร้างชุดตรวจวัดค่าพารามิเตอร์ทางไฟฟ้าและคุณภาพไฟฟ้าปริญญานิพนธ์นี้มีจุด
ประสงค์เพื่อเพื่อออกแบบสร้างเครื่องตรวจวัดคุณภาพไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายการออกแบบให้การสร้าง
เครื่องตรวจวัดมีราคาถูกและสามารถแสดงค่าผ่านเว็บไซต์ได้ สามารถตรวจวัดค่าได้ถูกต้อง เช่นเดียว
กับเครื่องตรวจวัดมาตรฐาน จากนั้นได้ทำการออกแบบชุดทดลอง ติดตั้งในห้องปฏิบัติการระบบไฟฟ้า
กำลังเพื่อเป็นสื่อประกอบการสอนและให้ผู้สนใจได้ศึกษาถึงขั้นตอนและวิธีการตรวจวัดตามมาตรฐาน
ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เครื่องวัดคุณภาพไฟฟ้าที่ได้ออกแบบและสร้างขึ้น ได้ทำการติดตั้งตรวจวัด
ในห้องปฏิบัติการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยทำการเก็บผลการวัดค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ทางไฟฟ้า
ได้แก่ ค่าแรงดันไฟฟ้า ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าแรงดันฮาร์มอนิก ค่ากระแสฮาร์มอนิก ค่าความถี่ไฟฟ้า ค่า
กำลังไฟฟ้าจริง ค่ากำลังไฟฟ้ารีแอกทีฟ ค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้า และมีการแสดงผลการตรวจวัด
คุณภาพไฟฟ้าบนเว็บไซต์ ผ่านแอปพลิเคชั่นเน็ตพายและทางสมาร์ทโฟน โดยมีการบันทึกข้อมูลการ
ตรวจวัดคุณภาพไฟฟ้าในการ์ดหน่วยความจำ ซึ่งสามารถเปิดดูข้อมูลการตรวจวัดย้อนหลังได้
4
2.2 กำลังไฟฟ้า
กำลังไฟฟ้า (Electrical Power) คือในวงจรไฟฟ้ากระแสตรง กำลังไฟฟ้าบนอุปกรณ์
สามารถคำนวณได้จากผลคูณของแรงดันไฟฟ้ากับกระแสไฟฟ้าที่ไหลในอุปกรณ์นั้น แต่ในวงจร
ไฟฟ้ากระแสสลับจำเป็นต้องทราบค่าตัวประกอบกำลัง (Power factor) ค่าตัวประกอบกําลัง คือ ค่า
โคไซน์ (Cosine) ของมุมระหว่างแรงดันไฟฟ้ากับกระแสไฟฟ้า บนอุปกรณ์หรือวงจรนั้น ๆ กําลังไฟฟ้า
ในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับเป็นปริมาณเชิงซ้อน (Complex Power) แยกออกเป็นส่วนที่เป็นกําลัง
ไฟฟ้าจริงและส่วนที่เป็นกําลังไฟฟ้าสูญเสีย
2.2.1 ค่ากำลังไฟฟ้าจริง (Active Power) คือ กำลังไฟฟ้าที่จ่ายให้กับโหลดแล้วได้เป็น
พลังงานรูปอื่น เช่น ความร้อน แสงสว่าง โดยค่าที่แรงดันไฟฟ้าคูณกับกระแสไฟฟ้าแล้วคูณด้วยโคไซน์
ของมุมระหว่างแรงดันไฟฟ้ากับกระแสไฟฟ้านั้น ๆ
Q=VISin θ 2.2
5
จะเห็นได้ว่าค่ากำลังไฟฟ้าในไฟฟ้ากระแสสลับนั้นมีหลายค่าที่ต้องพิจารณา แต่เนื่องจาก
การใช้พลังงานไฟฟ้าภายในบ้านเรือนทั่วไปนั้นจะใช้ค่ากำลังไฟฟ้าสูญเสียต่ำหรือค่าตัวประกอบกำลัง
ไฟฟ้ามีค่าเข้าใกล้หนึ่งส่งผลให้ค่ากำลังไฟฟ้าปรากฏมีค่าใกล้เคียงกับค่ากำลังไฟฟ้าจริงมีค่าใกล้เคียง
กันมาก เราจึงสามารถคำนวณค่าพลังงานไฟฟ้าที่ถูกใช้งานได้จริงจากสูตรของกำลังไฟฟ้าปรากฏและ
กำลังไฟฟ้าจริง
6
2.3 พลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้า (Electric Energy) คือ ปริมาณไฟฟ้าที่อุปกรณ์ไฟฟ้าใช้ไปทั้งหมดหรือ
แหล่งจ่ายไฟฟ้าจ่ายให้ทั้งหมด คิดในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง วัดได้ด้วยเครื่องมือวัดพลังงานไฟฟ้า
หรือกิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งค่าพลังงานไฟฟ้าจะหาได้จากสมการที่ 2.4
W =Pt 2.4
E= 2.5
2.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง
กิโลวัตต์ชั่วโมงส่วนใหญ่เป็นเครื่องวัดที่ทำงานด้วยการเหนี่ยวนำไฟฟ้า ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อ
วัดปริมาณกำลังไฟฟ้ากระแสสลับทั้งในบ้านเรือนและในโรงงานอุตสาหกรรม โดยมีหน่วยวัดพลังงาน
ไฟฟ้าเป็นกิโลวัตต์ชั่วโมง (Kilowatt-hour) สามารถจำแนกตามระบบไฟฟ้าได้ 2 ประเภท
2.4.1 กิโลวัตต์ชั่วโมงหนึ่งเฟส
7
กิโลวัตต์ชั่วโมงหนึ่งเฟส จะทำงานเหมือนกับกิโลวัตต์มิเตอร์ชนิดที่ทำงานด้วยการเหนี่ยว
นำไฟฟ้าและมีส่วนประกอบที่เหมือนกัน คือ ขดลวดกระแสไฟฟ้า (Current Coil) และขดลวดแรงดัน
ไฟฟ้า (Potential Coil) ส่วนที่แตกต่างกันก็คือในกิโลวัตต์ชั่วโมงจะแสดงค่าด้วยการบ่ายเบนของเข็ม
ชี้ ซึ่งใช้ค่าบนสเกลส่วนกิโลวัตต์ชั่วโมงจะแสดงค่าโดยใช้แม่เหล็กเหนี่ยวนำให้เกิดกระแสไฟฟ้าไหลวน
ทำให้จานหมุนและใช้ชุดเฟืองไปขับชุดตัวเลขหรือชุดเข็มชี้ให้แสดงค่าออกมาบนหน้าจอ
โครงสร้างประกอบด้วยขดลวดกระแสไฟฟ้าต่ออนุกรมกับโหลดและขดลวดแรงดันไฟฟ้า
ต่อขนานกับโหลดขดลวดทั้งสองชุดจะพันอยู่บนแกนเหล็กที่ออกแบบโดยเฉพาะและมีจานอะลูมิเนียม
บางๆ ยึดติดกับแกนหมุนวางอยู่ในช่องว่างระหว่างขดลวดทั้งสองหลักการทำงาน ขดลวดกระแสไฟฟ้า
และขดลวดแรงดันไฟฟ้าทำหน้าที่สร้างสนามแม่เหล็ก ส่งผ่านไปยังจานอะลูมิเนียมที่วางอยู่ระหว่างขด
ลวดทั้งสอง ทำให้เกิดแรงดันไฟฟ้าเหนี่ยวนำและมีกระแสไฟฟ้าไหลวน (Eddy Current) เกิดขึ้นใน
จานอะลูมิเนียม แรงต้านระหว่างกระแสไฟฟ้าไหลวนและสนามแม่เหล็กของขดลวดแรงดันไฟฟ้าจะ
ทำให้เกิดแรงผลักขึ้น จานอะลูมิเนียมจึงหมุนไปได้ที่แกนของจานอะลูมิเนียมจะมีเฟืองติดอยู่ เฟืองนี้
จะไปขับชุดตัวเลขที่หน้าจอของเครื่องวัดแรงผลักที่เกิดขึ้นจะเป็นสัดส่วนระหว่างความเข้มของสนาม
แม่เหล็กของขดลวดแรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าไหลวนในจานอะลูมิเนียมและขึ้นอยู่กับจำนวนรอบ
ของขดลวดด้วย ส่วนจำนวนรอบการหมุนของจานอะลูมิเนียมขึ้นอยู่กับการใช้พลังงานไฟฟ้าของโหลด
2.4.2 กิโลวัตต์ชั่วโมงสามเฟส
กิโลวัตต์ชั่วโมงสามเฟส มีส่วนประกอบเหมือนกับกิโลวัตต์ชั่วโมง ชนิดหนึ่งเฟสหรือกิโลวัตต์ชั่วโมง
หนึ่งเฟสสามตัวมาประกอบรวมกันเป็นกิโลวัตต์ชั่วโมงสามเฟส การทำงานจะทำงานเหมือนกับวัตต์
มิเตอร์ชนิดเหนี่ยวนำไฟฟ้า
8
ตัวอย่าง
การอ่านค่าของ Holding register ที่แอดเดรส 40103 ถึง 40105 จากอุปกรณ์ Slave
หมายเลข 19
ดังนั้น Frame Message (ไม่รวม Start และ End bits) ที่ถูกส่งไป คือ 13 03 0066
0003 E6A6 โดย
ชุดข้อความสำหรับการอ่านค่าจาก Holding register (Request)
- 13 คือ Station address (19 DEC = 13 HEX)
- 03 คือ Function code (การอ่านค่าที่ Holding registers)
- 0066 คือ Address ของ register ตัวแรก (40103 – 40001 = 102 DEC= 66
HEX)
- 0003 คือ จำนวน Registers ที่ต้องการอ่าน (ทั้งหมด 3 ตัว คือ 40103 ถึง 40105)
13
Medium 22,33
+5 % -5 % +10 % -10 %
industrial (Line-line)
Small 0.38
+10 % -10 % +10 % -10 %
industrial (Line-line)
0.22
Residential +10 % -10 % +10 % -10 %
(Line-neutral)
ที่มา : คู่มือถามตอบปัญหาเทคนิคด้านคุณภาพไฟฟ้าอุตสาหกรรม
บทที่ 3
ขั้นตอนและวิธีการดำเนินโครงงาน
หัวข้อนี้ได้กล่าวถึงขั้นตอนและวิธีการดําเนินงานจัดทำโครงงาน ตลอดจนการออกแบบ
โครงสร้าง และชิ้นส่วนต่าง ๆ ของโครงงาน ซึ่งได้ศึกษาข้อมูลและทฤษฎีที่ เกี่ยวข้องแล้วในบทที่ 2
จึงได้นําข้อมูลที่ได้ศึกษามาวิเคราะห์ออกแบบเพื่อเลือกใช้วัสดุที่จะนํามาทำโครงงานให้มีความถูกต้อง
เหมาะสมกับลักษณะงานและดำเนินการสร้างโครงงานให้มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์
ของการทำโครงงาน
1. ขั้นตอนการดำเนินโครงงาน
2. บล็อกไดอะแกรมการทำงาน
3. วงจรไมโครคอนโทรลเลอร์และเครื่องวัดคุณภาพไฟฟ้า
4. การต่อใช้งานเครื่องวัดคุณภาพไฟฟ้ากับโหลด
5. การทดสอบเครื่องวัดที่ออกแบบสร้างกับเครื่องวัดมาตรฐาน
6. การออกแบบการแสดงผลผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชันไลน์
7. การออกแบบโครงสร้างของระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร
3.1 ขั้นตอนการดำเนินโครงงาน
การจัดทำโครงงานนี้ได้ดําเนินงานตามขั้นตอนที่ได้วางแผนไว้มีอยู่ด้วยกันสองขั้นตอน
โดยขั้นตอนแรกนั้น ต้องทำการศึกษาการตรวจวัดคุณภาพตามมาตรฐานการไฟฟ้า การรับส่งข้อมูล
ของไมโครคอนโทรลเลอร์เครื่องวัดคุณภาพไฟฟ้า
การโชว์ค่าพารามิเตอร์ทางไฟฟ้าของเครื่องวัดคุณภาพไฟฟ้าขึ้นบนเว็บไซต์และการเก็บ
ข้อมูลไว้ในการ์ดหน่วยความจํา จากนั้นจึงทำการทดลองและออกแบบวงจรเพื่อสร้างเครื่องตรวจวัด
คุณภาพไฟฟ้าขึ้นให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ดังรูปที่ 3.1 และทำการเก็บข้อมูลแล้วนําข้อมูลดัง
กล่าวไปเปรียบเทียบกับเครื่องวัดที่ได้ตามมาตรฐานจริง
17
3.2 บล็อกไดอะแกรมการทำงาน
18
ขั้นตอนการทำงานของบล็อกไดอะแกรมจะมีอุปกรณ์ที่ประกอบไปด้วย Analog to
Digital EASTRON SMART X835 DEVIO NB-DEVKIT AIS-IoT และ Power Supply and
Battery Back-up ขั้นตอนการทำงานของบล็อกไดอะแกรมเริ่มจากการวัดแรงดันจากหม้อแปลงโดย
เข้าไปที่ Analog to Digital Converter และ Power Energy Meter EASTRON SMART X835
โดยอุปกรณ์ 2 ตัวนี้จะทำหน้าที่แตกต่างกัน แต่มีหน้าที่รับข้อมูลที่เหมือนกันเพื่อส่งไปยัง DEVIO NB-
DEVKIT AIS-IoT จะรับข้อมูลต่อและนำไปดัดแปลงค่าต่าง ๆ หลังจากนั้นส่งต่อข้อมูลค่าที่ได้ไปยัง
MEGELLAN เพื่อให้แสดงข้อมูลผ่านเว็บไซต์ แจ้งเตือนไฟติดไฟดับไปที่LINE Notification และเก็บ
บันทึกข้อมูลย้อนหลังไว้ที่ Google AppSheet โดยจะมี Power Supply and Battery Back-up
สำรองให้กับ DEVIO NB-DEVKIT AIS-IoT
3.4 การต่อใช้งานเครื่องวัดคุณภาพไฟฟ้ากับโหลด
ในขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนการต่อใช้เครื่องวัดคุณภาพไฟฟ้า EASTRON SMART X835
และโหลด ซึ่งการต่อวงจรจะสามารถต่อวงจรการทดสอบได้
การทดสอบวัดค่าพารามิเตอร์ทางไฟฟ้า คือ แรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า กำลังไฟฟ้าจริง
กำลังไฟฟ้ารีแอกทีฟ กำลังไฟฟ้าปรากฏ และตัวประกอบกำลังไฟฟ้า ที่วัดได้จากเครื่องวัดค่า
พารามิเตอร์ทางไฟฟ้า โดยจะทำการทดสอบเปรียบเทียบค่ากับเครื่องวัดที่ได้มาตรฐาน คือ Power &
Quality Analyzer รุ่น C.A 8332B เพื่อทำการทดสอบหาค่าความถูกต้อง และแม่นยำของเครื่องวัด
คุณภาพไฟฟ้า EASTRON SMART X835 ซึ่งการต่อวงจรการทดสอบจะสามารถต่อวงจรการ
20
3.5 ตัวอย่างการแสดงผลบนเว็ปไซต์และแอปพลิเคชัน
3.6 การออกแบบโครงสร้างของระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร
การออกแบบโครงสร้างของระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคารเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้อง
ดำเนินการอย่างละเอียดและพิถีพิถันเพื่อให้การตรวจสอบและดูแลระบบไฟฟ้าภายในอาคารมี
ประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยสูงสุดการวางตำแหน่งชุดโมดูลของระบบตรวจสอบไฟฟ้าจะจัดวาง
ไว้อย่างเหมาะสมและจะช่วยให้การตรวจสอบและบำรุงรักษาทำได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น
กระบวนการออกแบบเริ่มต้นด้วยการสร้างแบบจำลองของอาคารที่ต้องการติดตั้งระบบ
ตรวจสอบไฟฟ้า โดยใช้ Shapr 3D ในการสร้างโครงสร้างอาคารในรูปแบบ 3 มิติ หลังจากนั้นจะ
ทำการวางแผนและออกแบบตำแหน่งของชุดโมดูลสำหรับตรวจสอบระบบไฟฟ้าซึ่งรวมถึงการกำหนด
จุดติดตั้ง RS485, DEVIO NB-DEVKIT I และอุปกรณ์ตรวจสอบอื่น ๆ ให้มีความเหมาะสมกับการใช้
งานและง่ายต่อการเข้าถึง
หลังจากที่การออกแบบเสร็จสิ้นจะมีการตรวจสอบความสมบูรณ์ของแบบจำลองโดยใช้
ฟังก์ชันการตรวจสอบภายใน Shapr 3D เพื่อตรวจสอบว่าการวางตำแหน่งและการเชื่อมต่อของ
อุปกรณ์ต่าง ๆ นั้นเป็นไปตามมาตรฐานและข้อกำหนดที่กำหนดไว้หรือไม่ การตรวจสอบนี้จะช่วยลด
ความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในขั้นตอนการติดตั้งจริงและช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น
โดยการออกแบบวางตำแหน่งของอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้มีขนาดที่เหมาะสมกับการนำไป
ใช้งานสามารถแบ่งการวางตำแหน่งของอุปกรณ์ได้เป็น 3 ส่วน
ส่วนที่ 1 ของระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร มีความยาว 300 มิลลิเมตร และความ
กว้าง 260 มิลลิเมตร มีอุปกรณ์ประกอบไปด้วย RS485 (หมายเลขที่ 1) DEVIO NB-DEVKIT I
(หมายเลขที่ 2) โมดูลแปลงแรงดัน (หมายเลขที่ 3) เทอร์มินอล (หมายเลขที่ 4) และ UPS (หมายเลข
ที่ 5) ดังรูปที่ 3.10
25
เมื่อทำการออกแบบเสร็จสิ้นเรียบร้อยจึงทำการสร้างเครื่องสมาร์ทมิเตอร์สามเฟสที่
ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังแสดงในรูปที่ 3.10 เป็นรูปเครื่องสมาร์ทมิเตอร์สามเฟสและรูปที่
3.11 เป็นรูปการวางตำแหน่งอุปกรณ์ของเครื่องสมาร์ทมิเตอร์สามเฟส ของชั้นที่ 1 รูปที่ 3.23
เป็นการวางตำแหน่งอุปกรณ์ของเครื่องสมาร์ทมิเตอร์สามเฟส ของชั้นที่ 2 และรูปที่ 3.24 เป็นการวาง
ตำแหน่งอุปกรณ์ของเครื่องสมาร์ทมิเตอร์สามเฟส ของชั้นที่ 3
27
บทที่ 4
ผลการดำเนินงาน
ในบทนี้กล่าวถึงการทดสอบระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร ที่สามารถบันทึกและแจ้ง
เตือนเหตุความผิดพร่องในระบบไฟฟ้าโดยหลักการทำงานจะตรวจวัดค่าพารามิเตอร์ทางไฟฟ้าและ
บันทึกค่าข้อมูลที่ได้คือ สถานะแรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า กำลังไฟฟ้าจริงและพลังงานไฟฟ้า หากเกิด
ความผิดพร่องในระบบไฟฟ้าขึ้นจะแจ้งข้อมูลค่าพารามิเตอร์ผ่านข้อความทางโทรศัพท์ โดยจะทำการ
ทดสอบเปรียบเทียบกับเครื่องมือวัดที่ได้มาตรฐาน คือ ดิจิตอลมัลติมิเตอร์ (Digital Multimeter) รุ่น
FLUKE 117 เครื่องวัดค่าพลังงานไฟฟ้า (Power Quality) รุ่น C.A 8332B แคมป์มิเตอร์ (Clamp
meter) รุ่น FLUKE 376 FC เพื่อทำการทดสอบหาค่าความถูกต้องแม่นยำของเครื่องสมาร์ทมิเตอร์
สามเฟส
4.1 ลำดับขั้นตอนการทดลอง
เมื่อทำการออกแบบและสร้างระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคารที่สามารถบันทึกและ
แจ้งเตือนเหตุความผิดพร่องในระบบไฟฟ้าเสร็จสิ้นขั้นตอนต่อไปคือการทดสอบการทำงานของ
อุปกรณ์ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องและแม่นยำของเครื่องสมาร์ทมิเตอร์สามเฟสว่าสามารถทำงานได้
ตามวัตถุประสงค์และขอบเขตที่ตั้งไว้ โดยลำดับขั้นตอนการทดสอบมีดังต่อไปนี้
4.1.1 การทดสอบวัดค่าแรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้า
4.1.2 การทดสอบวัดค่าแรงดันไฟฟ้าในสถานะไฟดับ สถานะแรงดันไฟฟ้าเกิน
สถานะแรงดันไฟฟ้าต่ำและการส่งข้อมูลสถานะผ่านข้อความทางโทรศัพท์
4.1.3 การทดสอบการเกิดเหตุความผิดพร่องในระบบไฟฟ้า
4.1.4 การทดสอบวัดค่ากำลังไฟฟ้าจริง กำลังไฟฟ้าสูญเสีย กำลังไฟฟ้าปรากฏ
ตัวประกอบกำลังไฟฟ้า
4.1.5 การทดสอบการแสดงข้อมูลผ่านกูเกิ้ลชีต
4.1.6 การทดสอบการแสดงข้อมูลผ่าน Magellan
4.1.7 การทดสอบวัดค่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้
4.1.8 การทดสอบวัดค่าความถี่
4.1.9 การทดสอบวัดค่าอุณหภูมิและความชื้น
28
4.2 อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดสอบ
อุปกรณ์ในการทดสอบจำเป็นต้องมีความถูกต้องแม่นยำจึงใช้เครื่องมือวัดมาตรฐาน
ดิจิตอลมัลติมิเตอร์ รุ่น FLUKE 117 เครื่องวัดค่าพลังงานไฟฟ้า (Power Quality) รุ่น C.A 8332B
แคมป์มิเตอร์ รุ่น FLUKE 376 FC ดังรูปที่ 4.1 ซึ่งเป็นอุปกรณ์เครื่องมือวัดที่ใช้อ้างอิงการทดสอบวัด
ค่าแรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า วัดค่ากำลังไฟฟ้าจริง และพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ ซึ่งทำการทดสอบเปรียบ
เทียบกับเครื่องสมาร์ทมิเตอร์สามเฟส โดยทำการทดสอบกับโหลดตัวต้านทาน โหลดตัวเหนี่ยวนำ
โหลดตัวเก็บประจุ และระบบสายส่ง ดังรูปที่ 4.2
ก. เครื่องมือวัดมาตรฐานดิจิตอลมัลมิเตอร์ ข. เครื่องมือวัดมาตรฐานแคมป์มิเตอร์
รุ่น FLUKE 117 รุ่น FLUKE 376 FC
ก. โหลดตัวต้านทาน ข. โหลดตัวเหนี่ยวนำ
ค. โหลดตัวเก็บประจุ ง. ระบบสายส่ง
4.3 การทดสอบวัดค่าแรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้า
การทดสอบวัดค่าแรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้า เป็นการต่อใช้งานของระบบตรวจสอบ
ไฟฟ้าภายในอาคาร เพื่อเปรียบเทียบค่าแรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าให้มีความถูกต้องแม่นยำ
โดยอ้างอิงค่าแรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าจากเครื่องมือวัดมาตรฐาน ซึ่งเป็นการต่อวงจรกับแหล่ง
จ่ายไฟฟ้าสามเฟส ปรับค่าได้ด้วยระดับแรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้า 100 โวลต์ ถึง 250 โวลต์
และ 1 แอมแปร์ ถึง 20 แอมแปร์ ดังตารางที่ 4.1 และ 4.2 จะทำการวัดแรงดันไฟฟ้าและกระแส
ไฟฟ้า แต่ละเฟส ด้วยเครื่องสมาร์ทมิเตอร์สามเฟสกับเครื่องมือวัดมาตรฐาน เพื่อตรวจสอบแรงดัน
ไฟฟ้า และกระแสไฟฟ้าของระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคารว่ามีความถูกต้องแม่นยำตามเครื่องมือ
วัดมาตรฐานหรือไม่ จากนั้นนำค่าแรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้ามาคำนวณหาค่าความผิดพลาด
ดังสมการ 4.1
สมการหาเปอร์เซ็นต์ความผิดพลาด
เปอร์เซ็นต์ความผิดพลาด 4.1
เมื่อ คือ ค่าที่วัดได้
คือ ค่าอ้างอิงมาตรฐาน
การทดสอบวัดค่าแรงดันไฟฟ้า เปรียบเทียบกับเครื่องมือวัดมาตรฐานสามารถทำการ
ต่อวงจรการทดสอบ ดังรูปที่ 4.3
การทดสอบวัดค่ากระแสไฟฟ้า เปรียบเทียบกับเครื่องมือวัดมาตรฐานสามารถทำการต่อวงจรการ
ทดสอบ ดังรูปที่ 4.5
โดยมีขั้นตอนในการทดสอบการใช้งานระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร จะมีการ
กำหนดเงื่อนไขการทำงานให้เหมาะสมและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ดังนี้
ช่วงเวลา 0 ถึง 5 วินาที กำหนดให้ แรงดันไฟฟ้าปกติ
ช่วงเวลา 6 ถึง 15 วินาที กำหนดให้ แรงดันไฟฟ้าผิดปกติ
ช่วงเวลา 16 ถึง 20 วินาที กำหนดให้ แรงดันไฟฟ้าปกติ
ߊüÜđüúćǰǰċǰÜ
ëċǰĉ
Ċ
ǰǰüĉ
î ćì Ċ ߊüÜđüúćǰ6ǰëÜċǰǰĉ
Ċ
üĉ
î ćì Ċ ċǰǰĉ
ߊüÜđüúćǰ 6ǰëÜ Ċ
üĉ
î ćì Ċ
ĒøÜéĆî ĕôôćðÖê
Ŝ ĉ ĒøÜéĆî ĕôôćŜǰñéðÖê
ĉ ĉ ĒøÜéĆ
î ĕôôćðÖê
Ŝ ĉ
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
đüúćǰü îĉćì Ċ
สำหรับการทดสอบสถานะแรงดันไฟฟ้าเกินจะมีการปรับแรงดันไฟฟ้าให้สูงกว่า
240 โวลต์ เพื่อจำลองสภาวะที่แรงดันไฟฟ้าเกินค่ามาตรฐานและสถานะปกติจะถูกตั้งค่าให้แรงดัน
ไฟฟ้าอยู่ที่ 220 โวลต์ การทดสอบนี้จะถูกดำเนินการที่เฟส A, เฟส B, เฟส C และในกรณีที่แรงดัน
ไฟฟ้าเกินทั้งสามเฟสพร้อมกัน โดยผลการทดสอบจะถูกบันทึกในตารางที่ 4.10, 4.11 และ 4.12 ตาม
ลำดับ
สำหรับการทดสอบสถานะแรงดันไฟฟ้าต่ำ จะมีการปรับแรงดันไฟฟ้าให้น้อยกว่า 200
โวลต์ เพื่อจำลองสภาวะที่แรงดันไฟฟ้าต่ำกว่าค่ามาตรฐาน และสถานะปกติจะถูกตั้งค่าให้แรงดัน
ไฟฟ้าอยู่ที่ 220 โวลต์ การทดสอบนี้จะถูกดำเนินการที่เฟส A, เฟส B, เฟส C และในกรณีที่แรงดัน
ไฟฟ้าต่ำทั้งสามเฟสพร้อมกัน โดยผลการทดสอบจะถูกบันทึกในตารางที่ 4.7, 4.8 และ 4.9 ตามลำดับ
การทดสอบเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการตรวจสอบความสามารถของระบบไฟฟ้า
ในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของแรงดันไฟฟ้าในสถานการณ์ต่างๆ การปรับแรงดันไฟฟ้าใน
สถานะต่างๆ และการบันทึกผลการทดสอบในตารางที่ระบุช่วยให้สามารถวิเคราะห์และปรับปรุง
ประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถประเมินความ
เสถียรและความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
41
4.6 ทดสอบการแสดงข้อมูลผ่านกูเกิ้ลชีต
เมื่อทำการทดลองตรวจสอบค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ในระบบไฟฟ้า โดยการใช้เครื่องมือวัดที่
มีมาตรฐานเป็นเกณฑ์ในการเปรียบเทียบค่าที่ได้จากการทดลอง การเปรียบเทียบนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ
ยืนยันความแม่นยำและความถูกต้องของค่าพารามิเตอร์ที่ได้รับจากการทดลอง
หลังจากที่ได้ค่าพารามิเตอร์ที่ต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเขียนโค้ดเพื่อส่งข้อมูล
เหล่านี้ไปบันทึกใน Google Sheet การใช้ Google Sheet เป็นที่เก็บข้อมูลนั้นมีข้อดีหลายประการ
เช่น สามารถเข้าถึงและแบ่งปันข้อมูลได้ง่าย, มีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย และสามารถใช้งาน
ร่วมกับแอปพลิเคชันอื่นๆ ได้อย่างสะดวก
ขั้นตอนสุดท้ายคือการตรวจสอบว่าข้อมูลที่ส่งไปยัง Google Sheet นั้นถูกต้องและครบ
ถ้วน ซึ่งจะช่วยให้การจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การ
ทำเช่นนี้จะช่วยให้กระบวนการตรวจสอบค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ในระบบไฟฟ้ามีความเป็นระบบและ
สามารถใช้งานข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
79
4.8 การทดสอบวัดค่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้
การทดสอบวัดค่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ เพื่อหาค่าความผิดพลาดในการวัดค่าพลังงานไฟฟ้า
จึงได้ทำการติดตั้งระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร ณ บริเวณตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าอาคาร
วิศวกรรมไฟฟ้าชั้น 4 โดยจะทำการต่อวงจร ดังรูปที่ 4.44 เพื่ออ่านค่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้จากกิโลวัตต์
ชั่วโมงสามเฟสจากสมาร์ทมิเตอร์สามเฟสเปรียบเทียบกับระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคารและหา
ค่าความผิดพลาดของค่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้
4.9 การทดสอบวัดค่าความถี่
การทดสอบวัดค่าความถี่เพื่อหาค่าความผิดพลาดในความถี่จึงได้ทำการติดตั้งระบบตรวจ
สอบไฟฟ้าภายในอาคาร ณ บริเวณตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าอาคารวิศวกรรมไฟฟ้าชั้น 4 โดยจะทำการต่อ
วงจร ดังรูปที่ 4.44 เพื่ออ่านค่าความถี่ที่ใช้จากสมาร์ทมิเตอร์สามเฟสเปรียบเทียบกับระบบตรวจสอบ
ไฟฟ้าภายในอาคารและหาค่าความผิดพลาดของค่าความถี่ที่ใช้
ก ข
09:00 84.00 84.54 0.64
10:00 79.00 79.41 0.52
11:00 74.00 74.15 0.21
12:00 69.00 69.17 0.24
13:00 67.00 67.18 0.27
14:00 67.00 67.12 0.18
15:00 68.00 68.54 0.79
16:00 69.00 69.65 0.94
17:00 72.00 72.66 0.90
หมายเหตุ ก คือ ค่าจากเว็บไซต์ The Weather Channel
ข คือ ค่าที่วัดจากระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร
บทที่ 5
สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
ปริญญานิพนธ์นี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จบรรลุตามเป้าหมายที่ได้กล่าวไว้ คือ
ได้ออกแบบสร้างระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร ที่สามารถบันทึกและแจ้งเตือนเหตุความผิด
พร่องในระบบไฟฟ้า ซึ่งในบทที่ 5 นี้กล่าวถึงการสรุปผลการดำเนินงานของปริญญานิพนธ์ทั้งหมดรวม
ทั้งข้อเสนอแนะและปัญหาต่าง ๆ ที่ได้พบในระหว่างการดำเนินงาน เพื่อที่จะได้เป็นแนวทางสำหรับผู้
ที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับการออกแบบระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร ที่สามารถบันทึกและแจ้ง
เตือนเหตุความผิดพร่องในระบบไฟฟ้า
5.1 สรุปผลการดำเนินปริญญานิพนธ์
เมื่อออกแบบสร้างระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร ที่สามารถบันทึกและแจ้งเตือน
เหตุความผิดพร่องในระบบไฟฟ้า ซึ่งได้ดำเนินการจนเสร็จสมบูรณ์ระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร
สามารถวัดค่าแรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า กำลังไฟฟ้าจริง กำลังไฟฟ้าสูญเสีย กำลังไฟฟ้าปรากฏ
ตัวประกอบกำลังไฟฟ้า และค่าพลังงานไฟฟ้าได้จริง เปรียบเทียบกับเครื่องมือวัดมาตรฐาน อีกทั้งยัง
สามารถบันทึกค่าพารามิเตอร์ที่เกี่ยวข้องในกูเกิ้ลชีตและ Magellan และแจ้งเตือนได้ผ่านแอปพลิเค
ชันไลน์์ เมื่อเกิดความผิดพร่องในระบบไฟฟ้าตามเงื่อนไขที่ได้ตั้งไว้
จากการติดตั้งระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร ณ บริเวณตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าตึก
วิศวกรรมไฟฟ้า ชั้น 4 ติดตั้งวันที่ 21 มิถุนายน 2567 ถึงวันที่ 27 มิถุนายน 2567 เป็นเวลา 7 วัน
ค่าพลังงานไฟฟ้าที่วัดได้มีค่าความผิดพลาดไม่เป็นไปตามค่าที่ได้คำนวณไว้ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นต์
ความผิดพลาดสูงสุดที่ 4.65 เปอร์เซ็นต์ ค่าความผิดพลาดอาจเกิดจากระยะเวลาเริ่มต้นในการเก็บ
ข้อมูลห่างกัน และการส่งข้อมูลมีการประมวลผลค่าพารามิเตอร์ที่ใช้เวลานาน เนื่องจากการประมวล
ผลของค่าพารามิเตอร์มีจำนวนหลายตัว ทำให้บอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ประมวลผลได้ล่าช้า
91
5.2 ปัญหาและอุปสรรค
จากการทำปริญญานิพนธ์ในครั้งนี้ได้พบกับอุปสรรคและปัญหาที่มากมายหลายอย่าง
การประมวลผลของบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ ไม่เป็นไปตามที่คาดหมาย ซึ่งสามารถสรุปปัญหา
ต่าง ๆ ได้ดังนี้
5.2.1 การส่งข้อความแจ้งเตือน เมื่อเกิดความผิดพร่องมายังผู้รับผิดชอบหรือศูนย์ควบคุม
โดยมีเวลาในการส่ง 10-60 วินาที และทำให้คำสั่งหยุดทำงานจนกระทั่งส่งข้อความสำเร็จ
ค่อยจะกลับมาประมวณผลคำสั่งใหม่อีกครั้ง จึงทำให้การส่งข้อมูลเกิดความล่าช่า
5.2.2 ในการประมวลผลของบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ มีการประมวลผลค่า
พารามิเตอร์ที่ใช้เวลานาน เนื่องจากการประมวลผลของค่าพารามิเตอร์มีจำนวนหลายตัว ทำให้บอร์ด
ไมโครคอนโทรลเลอร์ประมวลผลได้ล่าช้า
5.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางพัฒนาปริญญานิพนธ์
สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาและพัฒนาระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร ที่สามารถบันทึก
และแจ้งเตือนเหตุความผิดพร่องในระบบไฟฟ้า ทางคณะผู้จัดทำได้มีข้อเสนอแนะและแนวทาง ดังนี้
5.3.1 การบันทึกข้อมูลสามารถบันทึกได้ 1 วินาที ต่อ 1 ข้อมูล ในการวิเคราะห์หาสาเหตุ
ของการเกิดความผิดพร่องในระบบไฟฟ้า จึงควรบันทึกให้มีความถี่มากยิ่งขึ้น
5.3.2 เนื่องจากค่าพารามิเตอร์ที่ใช้แสดงผลมีจำนวนหลายตัว การประมวลผลจึงมีความ
ล่าช้า จึงทำให้เกิดความผิดพลาดไม่เป็นไปตามที่คาดหมาย ดั้งนั้นควรใช้โปรแกรมที่มีการคำนวณที่ดี
กว่าไมโครคอนโทรลเลอร์
5.3.3 เพื่อให้มีการทำงานที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ควรเขียนโปรแกรมให้อยู่
ในรูปแบบของแอปพลิเคชัน ที่สามารถส่งข้อมูลได้ทางอินเตอร์เน็ตและดูข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์รวม
กัน ซึ่งจะทำให้รวดเร็วกว่าการส่งข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันแยกกัน และ
สามารถดูข้อมูลได้ทุกที่โดยไม่ต้องไปดูข้อมูลผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันไลน์
92
บรรณานุกรม
ภาคผนวก
94
ภาคผนวก ก.
อุปกรณ์ที่ใช้สร้างเครื่องสมาร์ทมิเตอร์สามเฟส
ภาคผนวก ข.
การติดตั้งระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร
ในการติดตั้งระบบตรวจสอบไฟฟ้าภายในอาคาร ติดตั้งที่อาคารเรียนสาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า
ภาคผนวก ค.
งบประมาณสร้างเครื่องสมาร์ทมิเตอร์
ประวัติผู้เขียน
99
ประวัติผู้เขียน
อีเมล์ tarchananyoo.syt@gmail.com
เบอร์โทรศัพท์ 0943094225
สถานที่ทำงานปัจจุบัน -
ประวัติการศึกษา
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น
จังหวัดขอนแก่น ปีการศึกษา 2564
ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
ปีการศึกษา 2562
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
ปีการศึกษา 2559
100
ประวัติผู้เขียน
อีเมล์ vantriya99@gmail.com
เบอร์โทรศัพท์ 0938161492
สถานที่ทำงานปัจจุบัน -
ประวัติการศึกษา
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น
จังหวัดขอนแก่น ปีการศึกษา 2564
ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
ปีการศึกษา 2562
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
ปีการศึกษา 2559
101
ประวัติผู้เขียน
อีเมล์ rasawongchai1730@gmail.com
เบอร์โทรศัพท์ 0960845159
สถานที่ทำงานปัจจุบัน -
ประวัติการศึกษา
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น
จังหวัดขอนแก่น ปีการศึกษา 2564
ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
ปีการศึกษา 2562
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ โรงเรียนจตุรมิตรวิทยาคาร จังหวัดขอนแก่น
ปีการศึกษา 2557