บทที่ 6 โมเมนตัมและการชน_ว30213-66

You might also like

Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 23

เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 1

# ้นม
ชื่ .........................................................................................เลขที่...............ชั
13 ..................
414 ·

บทที่ 6 โมเมนตัมและการชน
6.1 โมเมนตัม (Momentum, 𝒑⃑)
เราทราบกันแล า ัตถุที่กำลังเคลื่ นที่จะมีพลังงานจลนและจะมีคุณ มบัติข นึ่งคื พยายามเคลื่ นที่ไป
ขาง นาตล ดเ ลา ถาจะใ  ัตถุที่กำลังเคลื่ นที่ ยุดลง เราจะต ง กแรงกระทำกับ ัตถุและแรงนั้นจะต งเปนแรง
ตานคื มีทิ ตรงขามกับทิ การเคลื่ นที่ข ง ัตถุ ถาเราใชมื ตานการเคลื่ นที่ข ง ัตถุก น นึ่งซึ่งมีค ามเร็ ไมเทากัน
แตมีม ลเทากัน เราจะรู ึก กแรงตานไมเทากัน ัตถุที่มีค ามเร็ มากจะต งใชแรงตานมากก า และถาเราใชมื
ตานการเคลื่ นที่ข ง ัตถุ งก นซึ่งมีค ามเร็ เทากัน แตมีม ลไมเทากัน ัตถุที่มีม ลมากต งใชแรงตานมากก า
ัตถุที่มีม ลน ย ฉะนั้นเรา ามารถบ กได าในการเคลื่ นที่ข ง ัตถุจะใชแรงมาก รื น ย ขึ้นกับม ลและค ามเร็
ข ง ตั ถุ ถาเรานำม ลคูณกับค ามเร็ ข ง ัตถุเราเรียกคาที่ได า โมเมนตัมข ง ัตถุ
โมเมนตัม (Momentum, 𝒑⃑) เป น ปริ ม าณ นึ่ ง ซึ ่ ง บ ก ภาพการเคลื ่ นที่ ข ง ั ตถุ รื ปริ มาณที ่ บ ก
ค ามพยายามข ง ัตถุท่จี ะเคลื่ นที่ไปขาง นา าไดจากผลคูณระ างม ล (𝑚) กับค ามเร็ (𝑣⃑) เปนปริมาณ
เ กเต รที่ มีทิ ตามทิ ทางเดีย กันกับทิ ทางข งค ามเร็ มี น ยเปน กิโลกรัม.เมตร/ ินาที (kg.m/s) ัตถุที่มี
โมเมนตัมมากจะทำใ  ยุดการเคลื่ นที่ยากก า ัตถุที่มีโมเมนตัมน ย
𝒑⃑ = 𝒎𝒗⃑ (1)
เมื่ 𝑝⃑ คื โมเมนตัมข ง ัตถุ (kg.m/s) 𝑚 คื ม ลข ง ัตถุ (kg) 𝑣⃑ คื ค ามเร็ ข ง ัตถุ (m/s)

แบบฝก ดั 6.1
1. รถบรรทุกชนิดเดีย กันและมีขนาดเทากัน งคัน คันแรกบรรทุก ินคาจนเต็ม คันที่ งไมมี ินคา รถทั้ง งนี้แลน
ด ยค ามเร็ เทากัน รถคันใดมีโมเมนตัมมากก ากัน เพราะเ ตุใด

2 P&
-
นแรก เพรา

2. รถยนต งคันมีม ลเทากันกำลังเคลื่ นที่ด ย ัตราเร็ เทากัน โดยรถยนตคันที่ 1 เคลื่ นที่ไปทางทิ เ นื  น


รถยนตคันที่ งเคลื่ นที่ไปทางทิ ตะ ัน ก ข ค ามใดต ไปนี้ถูกต ง ทิ เ นื
ก. รถยนตท้งั งคันมีพลังงานจลนเทากัน และมีโมเมนตัมเทากัน
⑧ข. รถยนตท้งั งคันมีพลังงานจลนเทากัน แตมีโมเมนตัมไมเทากัน คันที่ 1 ทิ ตะ ัน ก
ค. รถยนตทั้ง งคันมีโมเมนตัมเทากัน แตพลังงานจลนไมเทากัน
ง. พลังงานจลนและโมเมนตัมข งรถยนตทั้ง งคันไมเทากัน คันที่ 2
ค้
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 2
3. ัตถุ งก นที่มีขนาดข งโมเมนตัมเทากัน จำเปนต งมีพลังงานจลนเทากันด ย รื ไม เพราะเ ตุใด

4. นกตั นึ่งมีม ล 30 กรัม บินด ย ัตราเร็ 8 เมตรต ินาที ขนาดโมเมนตัมข งนกตั นี้เปนเทาใด

5. จง าโมเมนตัมข งรถบรรทุกที่มีม ล 1.5x104 กิโลกรัม กำลังเคลื่ นที่ด ยค ามเร็ 36 กิโลเมตรต ชั่ โมง ไปทาง
ทิ ตะ ัน ก

6. ัตถุชิ้น นึ่งมีค ามเร็ 4 เมตร/ ินาที มีพลังงานจลน 8 จูล จะมีโมเมนตัมเทาใด

7. ตั ถุมีม ล 6 กิโลกรัม เคลื่ นที่จาก ยุดนิ่งด ยค ามเรง 2 เมตร/ ินาที2 ลังจากเ ลาผานไป 3 ินาที จะมี
โมเมนตัมเทาใด

8. ัตถุมีม ล 8 กิโลกรัม เคลื่ นที่ด ยค ามเรง 5 เมตร/ ินาที2 ไดระยะทาง 10 เมตร จะมีโมเมนตัมเทาไร
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 3
9. ปล ยก น ินม ล 0.15 กิโลกรัม ใ เคลื่ นที่ลงในแน ดิ่ง จงคำน ณโมเมนตัมข งก น ิน เมื่ ก น ินตกลงได
ระยะทาง 5 เมตร กำ นดใ  g=10 m/s2

6.2 แรงและการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม
1) การเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม (∆𝑝⃑)
เมื่ ัตถุมีการเคลื่ นที่เปลี่ยนไปจากเดิม ขนาดข งค ามเร็ เปลี่ยนแปลงไปโดยไมเปลี่ยนทิ ทาง รื ขนาดข ง
ค ามเร็ ไมเปลี่ยนแตทิ ข งค ามเร็ เปลี่ยน ก็เปนผลใ  ภาพการเคลื่ นที่ข ง ัตถุเปลี่ยนไปด ย ซึ่งเรียก า มี
การเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม ทิ ข งการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัมจะมีทิ เดีย กับการเปลี่ยนแปลงค ามเร็ ามารถ า
ขนาดข งการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัมไดดังนี้
∆𝑝⃑ = 𝑝⃑ − 𝑝⃑
รื ∆𝑝⃑ = 𝑚𝑣⃑ − 𝑚𝑢⃑

∆𝒑⃑ = 𝒎(𝒗⃑ − 𝒖⃑) = 𝒎∆𝒗⃑ (2)


เมื่ 𝑝⃑ คื โมเมนตัมข ง ัตถุ (kg.m/s) 𝑢⃑ คื ค ามเร็ ตนข ง ัตถุ (m/s)
𝑚 คื ม ลข ง ต ั ถุ (kg) 𝑣⃑ คื ค ามเร็ ปลายข ง ัตถุ (m/s)

2) แรงและการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม
เมื่ ัตถุม ล 𝑚 เคลื่ นที่บนพื้นไรค ามเ ียดทาน กำลังเคลื่ นที่ด ยค ามเร็ ตน 𝑢⃑ มีแรงคงตั 𝐹⃑ กระทำต
ัตถุในช งเ ลา ∆𝑡 ทำใ ค ามเร็ ข ง ัตถุเปลี่ยนไปเปน 𝑣⃑ ดังรูปที่ 1
จากกฎการเคลื่ นที่ข ที่ 2 ข งนิ ตัน
⃑ ⃑
𝐹⃑ = 𝑚𝑎⃑ และ 𝑎⃑ =

จะได า
⃑ ⃑
𝐹⃑ = 𝑚

𝒎𝒗⃑ 𝒎𝒖⃑ ∆𝒑⃑


𝑭⃑ = = (3)
∆𝒕 ∆𝒕
รูปที่ 1 เมื่ มีแรงกระทำกับ ัตถุ ัตถุจะมีการเปลี่ยนค ามเร็
เมื่ 𝐹⃑ คื แรงลัพธที่กระทำกับ ัตถุ (N) 𝑢⃑ คื ค ามเร็ ตนข ง ัตถุ (m/s)
𝑝⃑ คื โมเมนตัมข ง ัตถุ (kg.m/s) 𝑣⃑ คื ค ามเร็ ปลายข ง ัตถุ (m/s)
𝑚 คื ม ลข ง ัตถุ (kg) ∆𝑡 คื ช งเ ลาที่แรงกระทำกับ ัตถุ (s)
จะเ ็น าแรงลัพธที่กระทำกับ ัตถุใดจะเทากับ ัตราการเปลี่ยนโมเมนตัมดัง มการที่ (3) แรงที่กระทำกับ ัตถุใน
ช งเ ลา ั้น ๆ เรียก า แรงดล (Impulsive Force, 𝑭⃑) เปนปริมาณเ กเต รมีทิ เดีย กันกับโมเมนตัมที่เปลี่ยนไป
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 4
แบบฝก ัด 6.2
10. รถบรรทุกชนิดเดีย กันและมีขนาดเทากัน งคัน คัน นึ่งบรรทุกข งจนเต็ม ีกคัน นึ่งไมมีข งบรรทุก รถทั้ง
งนี้แลนด ยค ามเร็ เทากัน ในการทำใ รถทั้ง ง ยุดนิ่งในระยะทางเทากัน บนถนน ายเดีย กัน รถคันใด
ต งใชแรงตานมากก า เพราะเ ตุใด

11. ถานการณต ไปนี้มีการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม รื ไม เพราะเ ตุใด


ก. การตกแบบเ รีข งก น ิน ข. ัตถุที่ข าง กไป ค. จุกยางที่มีการเคลื่ นที่แบบ งกลม

12. กระ ุนม ล 20 g เคลื่ นที่ด ย ัตราเร็ 500 m/s เขาไปในกระ บทรายและ ยุด ยูในกระ บทรายภายใน
เ ลา 1 ms กำ นดใ แรงตานจากทรายที่กระทำต กระ ุนเปนแรงคงตั จงคำน ณแรงตานนี้

13. ลูกฟุตบ ลม ล 0.5 กิโลกรัม เคลื่ นที่ด ยค ามเร็ 20 เมตรต ินาที ถาผูรัก าประตูใชมื รับลูกฟุตบ ลใ  ยุด
นิง่ ภายในเ ลา 0.04 ินาที แรงเฉลี่ยที่มื กระทำต ลูกบ ลมีขนาดเทาใด

14. ลูกกลม นึ่งม ล 2 กิโลกรัม เคลื่ นที่ด ย ัตราเร็ 1 เมตรต ินาทีไปกระทบฝาผนังและกระด นกลับด ย
ัตราเร็ 1 เมตรต ินาที ถาแรงเฉลี่ยที่กระทำต ผนังในช งเ ลาที่มีการชนเปน 4 นิ ตัน เ ลาดังกลา มีคา
เทาใด
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 5
15. นักกี าเตะลูกบ ลม ล 400 กรัม ัดกำแพงแล ลูกบ ล ะท น นกลับมาด ย ัตราเร็ 5 เมตรต ินาที ซึ่ง
เทากับ ัตราเร็ เดิม ถาแรงที่กำแพงกระทำต ลูกบ ลเปน 80 นิ ตัน ลูกบ ลกระทบกำแพง ยูนานเทาใด

16. ตั ถุม ล 4 กิโลกรัม เคลื่ นที่ด ย ัตราเร็ คงตั 5 เมตรต ินาที ในแน ระดับไปชนกำแพงแน ดิ่ง ลังจากชน
แล กระด นกลับในแน เดิมด ย ัตราเร็ คงเดิม แตทิ ทางตรงกันขาม
ก. จง าโมเมนตัมที่เปลี่ยนไป
ข. ถาเ ลาที่ ัตถุชนกำแพง 0.5 ินาที แรงเฉลี่ยที่ ัตถุนั้นกระทำต กำแพงเปนเทาใด

17. ตั ถุม ล 10 kg ไดรับแรงผลักคงที่ 60 N กระทำในแน ราบ ทำใ  ัตถุเริ่มไถลจาก ยุดนิ่งไปบนพื้น ซึ่งมี


ัมประ ิทธิ์ค ามเ ียดทาน 0.4 เปนเ ลา 10 s ัตถุจะมีค ามเร็ กี่ m/s

18. มชายข างลูกเทนนิ ม ล 50 g ลงบนพื้นเรียบด ย ัตราเร็ 30 m/s ในทิ ทำมุม 30o กับแน ราบ จากนั้นลูก
บ ลกระด นขึ้นจากพื้นด ย ัตตราเร็ เทาเดิมในทิ ทำมุม 30o กับแน ราบเชนกัน ากลูกเทนนิ กระทบพื้นเปน
เ ลา 0.03 s จง าแรงเฉลี่ยที่พื้นกระทำต ลูกเทนนิ
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 6
19. ปล ยลูกบ ลม ล 100 g ูงจากพื้น 20 m ลังจากกระทบพื้นลูกบ ล ะท นกลับในแน ดิ่งดังเดิม งู 11.25 m
ถาช งเ ลาที่ลูกบ ล ัมผั พื้นเปนเ ลา 10-2 s จง าแรงเฉลี่ยที่พ้นื กระทำต ลูกบ ล

6.3 การดลและแรงดล
การดล (Impulse, 𝑰⃑) คื โมเมนตัมที่เปลี่ยนไป (∆𝑝⃑ = 𝑚𝑣⃑ − 𝑚𝑢⃑) รื แรงลัพธคูณกับเ ลา (𝐹⃑∆𝑡) การดล
แยกพิจารณาเปน 2 แบบ คื การดลเนื่ งจากแรงคงที่ และการดลเนื่ งจากแรงไมคงที่
1) การดลเนื่องจากแรงคงที่ ถามีแรงคงที่กระทำกับ ัตถุจะไดการดลเทากับ ผลคูณข งแรงลัพธกับเ ลา มี น ย
เปน นิ ตัน. ินาที
𝑰⃑ = ∆𝒑⃑ = 𝒎𝒗⃑ − 𝒎𝒖⃑ = 𝑭⃑∆𝒕 (4)
เมื่ ⃑𝐼 คื การดลข ง ตั ถุ (kg.m/s) 𝑣⃑ คื ค ามเร็ ปลายข ง ัตถุ (m/s)
𝑝⃑ คื โมเมนตัมข ง ัตถุ (kg.m/s) 𝐹⃑ คื แรงลัพธที่กระทำกับ ัตถุ (N)
𝑚 คื ม ลข ง ัตถุ (kg) ∆𝑡 คื ช งเ ลา ั้น ๆ (s)
𝑢⃑ คื ค ามเร็ ตนข ง ัตถุ (m/s)
ถาขนาดข งการดลข งแรงมีคาเปนบ ก แ ดง าโมเมนตัมข ง ัตถุที่เรากำลังพิจารณามีคาเพิ่มขึ้น ถาเปนลบ
แ ดง าโมเมนตัมข ง ัตถุจะมีคาลดลง และถาการดลมีคา เปน ูนยแ ดง าไมมีการ กแรงกระทำกับ ัตถุเลย
2) การดลเนื่องจากแรงไมคงที่ ถามีแรงไมคงที่กระทำกับ ัตถุจะไดการดลมีคาเทากับพื้นที่ใตกราฟระ างแรง
กับเ ลา แยกการพิจารณาเปน 2 แบบ คื
(1) ถามีแรงไมคงที่เพียงแรงเดีย กระทำกับ ัตถุ จะได
การดลเทากับพื้นที่ใตกราฟ 𝐹 กับ ∆ 𝑡
(2) ถ า มี แ รงคงที่ แ ละไม ค งที ่ ก ระทำกั บ ั ต ถุ จะได
การดลเทากับผลร มข งพื้นที่ใตกราฟ โดยแรงที่มีทิ ตามกัน
การดลจะเทากับผลบ กข งพื้นที่ใตกราฟ แรงที่มีทิ ตรงขาม
กัน การดลจะเทากับผลตางข งพื้นที่ใตกราฟ
การดลที่เราพบบ ย ๆ นั้นเปนการดลที่แรงมีคามาก รูปที่ 2 เมื่ มีแรงไมคงที่กระทำกับ ัตถุ การดล า
มากระทำกับ ตั ถุในช งเ ลา ้นั ๆ เชน รถยนตชนกัน การตีลูก ไดจากพื้นที่ใตกราฟ 𝐹 − 𝑡
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 7
เทนนิ การตีลูกปงป ง การต กตะปูด ยค น ลูกบิลเลียดชนกัน เปนตน
แรงดล (Impulsive Force) มายถึง แรงที่กระทำกับ ัตถุในช งเ ลา ั้น ๆ าไดจาก มการที่ (5)
𝒎𝒗⃑ 𝒎𝒖⃑ 𝑰⃑
𝑭⃑ = = (5)
∆𝒕 ∆𝒕

แรงดลไมใชเปนแรงใ ม ะไร ค ามจริงคื แรงภายน กที่กระทำกับ ัตถุดังกลา มาแล มีข แตกตางกัน


เพียงเ ลาที่แรงกระทำกับ ัตถุกับ ัตถุต งเปนเ ลา ั้น ๆ จึงเรียกชื่ ใ ตาง กไปเ ียใ ม า “แรงดล” น ยที่ใชก็
เปน น ยเดีย กัน ูตรที่ใชก็เปน ูตรเดีย กัน มี ิ่งที่ค ร ังเกต ถา 𝑚𝑣 – 𝑚𝑢 (การเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม) นั้นเทา
เดิม แต 𝑡 มีคาน ย เราจะไดคา 𝐹 มากขึ้น

แบบฝก ัด 6.3
20. การ  ยโ นข งนักแ ดงกายกรรมจำเปนต งมีตาขายขึงไ เบื้ งลาง ตาขายนี้ใชร งรับนักแ ดงเมื่ พลาดตกลง
มา ถาผูแ ดงตกลงมา ถาผูแ ดงตกบนตาขายกับตกลงบนพื้นด ยค ามเร็ ก นกระทบเทากันกรณีใดจะไดรับ
ันตรายมากก ากัน เพราะเ ตุใด

21. เ ตุใดที่ นามแขงรถค ามเร็ ูงดานขางถนนจึงมีก งฟาง รื ยางรถยนต างก งไ 

22. “เ ลากระโดดจากที่ ูง เมื่ เทาถึงพื้นเรามักจะย เขาเพื่ ช ยป งกันไมใ เกิด าการบาดเจ็บที่เทา” ข ใดเปน
เ ตุผลทางฟ ิก ข งคำกลา นี้
ก. การง เขาทำใ ค าม ูงที่กระโดดลงมาเพิ่มขึ้น ทำใ เกิดแรงที่เทาน ยลง
ข. การง เขาทำใ โมเมนตัมลดลง ทำใ เกิดแรงที่เทาน ยลง
ค. การง เขาทำใ เ ลาที่เทากระทำต พื้น ั้นลง ทำใ เกิดแรงที่เทาน ยลง
ง. การง เขาทำใ เ ลาที่กระทบพื้นนานขึ้น ทำใ เกิดแรงที่เทาน ยลง
จ. การง เขาเปน ัญชาตญาณป งกันไมใ เทาบาดเจ็บ
23. การดล 100 N.s ทำใ  ัตถุม ล 1 kg เริ่มเคลื่ นที่ด ยค ามเร็ เทาใด

24. ลูกเทนนิ ม ล 50 g เคลื่ นที่เขาชนผนังด ย ัตราเร็ 20 m/s จากนั้นกระด นกลับด ย ัตราเร็ 15 m/s จง า
การดลที่ผนังกระทำต ลูกเทนนิ
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 8
25. ปล ยลูกบ ลม ล 0.1 kg จากที่ ูงจากพื้น 1.8 m ลูกบ ลตกกระทบพื้นแล กระด นขึ้นได ูงจากพื้นเปน
ระยะทาง 0.8 m จงคำน ณการดลที่แรงจากพื้นกระทำต ลูกบ ล กำ นดใ  g=10 m/s2

26. ปล ยลูกบ ลม ล 0.2 กิโลกรัม จากระดับค าม ูง 1.8 เมตร ลังจากกระทบพื้นแล ลูกบ ลกระด นขึ้น ูง
1.25 เมตร
ก. จง าการดลที่ลูกบ ลไดรับเมื่ กระทบพื้น
ข. ถา ัตถุใชเ ลากระทบพื้น 0.5 ินาที แรงดลเฉลี่ยที่พื้นกระทำต ลูกบ ลนี้เทากับเทาไร
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 9
27. ัตถุ ัน นึ่งถูกแรงกระทำ มีค าม ัมพันธระ างแรงกับเ ลาดังกราฟ จง าการดลและแรงดล

28. ลูกบ ลม ล 100 กรัม เคลื่ นที่ด ยค ามเร็ 20 เมตร/ ินาที ในแน ระดับ ชายคน นึ่งใชไมตีลูกบ ลนี้ น
กมาในทิ ตรงขาม แรงที่กระทำต ลูกบ ลกระทบไมตีแทนด ยกราฟนี้ ยากทราบ า ลูกบ ลจะมีค ามเร็ ลัง
กระทบไมตีเทาใดใน น ยเมตร/ ินาที

29. ลูกบ ลม ล 25 g เคลื่ นที่ในแน ระดับด ยค ามเร็ ตน 25 m/s ถาชายคน นึ่งใชไมตีลกู บ ลนี้ น กมาใน
ทิ ตรงขาม เขียนกราฟแรงที่กระทำต ลูกบ ลกับเ ลาไดดัง
รูป จง า
ก. การดลมีคาเทาใด
ข. ลังจากถูกไมตี ลูกบ ลมีค ามเร็ เทาใด
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 10
30. กล งบรรจุข งมีม ล 4 กิโลกรัม มีแรงลัพธที่มีขนาดเปลี่ยนแปลงตามเ ลากระทำดังกราฟที่แ ดงในรูป ทำใ 
กล งเคลื่ นที่ไปโดยมีค ามเรงไมคงตั เมื่ เ ลา t=0 ินาที กล งนี้มคี่ ามเร็ 10 เมตรต ินาที ในทิ ทางข ง
แรงลัพธ จง า
ก. ัตราเร็ ข งกล งเมื่ เ ลา t = 4 s ·

ข. ัตราเร็ ข งกล งเมื่ เ ลา t = 1 s ภ &

&
>>> # CV- 13
1203=#LV- 10
v= =27
13.125 =
-

201
IS

31. ตั ถุชิ้น นึ่งม ล 1 กิโลกรัม เคลื่ นที่ด ยค ามเร็ v ขนาด 1 m/s ที่เ ลา t = 0 นิ าที มีแรง F(t) ซึ่งขนาดข ง
แรงแทนไดด ยกราฟดังรูป กระทำต ัตถุในทิ เดีย กันกับ v ตั ราเร็ ข ง ัตถุที่เ ลา t = 1 ินาที และ 2 ินาที
มีคาเปนเทาใด
-1 = ↓- no
F (N) sirim
=

1
1= meV-> V + - >1
1 2 t (s) =

-1
วั
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 11
6.4 การชนและกฎการอนุรัก โ มเมนตัม
1) การชน (Collision) คื การที่ ัตถุกระทบกันในช งเ ลา ั้น ๆ เชน การชนกันข งรถ การกระทบกันข ง
ลูกตุมกับเ าเข็ม การตีเทนนิ ตีปงป ง ตีก ลฟ การเตะลูกบ ล รื ในบางครั้ง ัตถุ าจไมต งกระทบกันแตมีแรงมา
กระทำต ัตถุแล ใ ผลเ มื นกับการชน เชน การระเบิดข ง ัตถุระเบิด การยิงปน เปนตน ในการชนข ง ัต ถุ
โดยมากมักจะมีแรงภายน กมากระทำต ัตถุ ซึ่งขนาดข งแรงจะมาก รื น ยขึ้น ยูกับลัก ณะการชนข ง ัตถุ และ
ในการชน าจมีการ ูญเ ียโมเมนตัมมาก รื น ย รื ไม ูญเ ียเลยก็ได เรา าจแยกการชน กได 2 ลัก ณะดังนี้
(1) เมื่อโมเมนตัมของระบบมีคา คงที่ เปนการชนที่ขณะชนมีแรงภายน กมากระทำน ยมาก ๆ เมื่ เทียบกับ
ขนาดข งแรงดลที่เกิดขึ้น รื แรงภายน กเปน ูนย เชน การชนกันข งลูกบิดเลียด การชนข งรถยนต การยิงปน
เปนตน
(2) เมื่อโมเมนตัมของระบบไมคงที่ เปนการชนที่ขณะชนมีแรงภายน กมากระทำมากก าแรงดลที่เกิดกับ
ัตถุขณะชนกัน เชน ลูกบ ลตกกระทบพื้น รถยนตชนกับตนไม เปนตน
2) กฎการอนุรัก โมเมนตัม (Law of conservation of momentum)
ในที่น้เี ราจะกลา ถึงการชนข ง ัตถุเมื่ ไมมีแรงภายน กมากระทำต ระบบ ซึ่งจะเปนผลใ โมเมนตัมข งระบบ
มีคาคงที่ พิ ูจนไดจากกฎการเคลื่ นที่ข ที่ 3 ข งนิ ตัน เมื่ ัตถุชนกันจะเกิดแรงกระทำซึ่งกันและกันด ยขนาดที่
เทากันแตทิ ตรงกันขาม ดังรูปที่ 3
จากรูปที่ 3 ตามกฎการเคลื่ นที่ข ที่ 3 ข งนิ ตัน
จะได 𝐹⃑ = −𝐹⃑
จากกฎการเคลื่ นที่ข ที่ 2 ข งนิ ตัน 𝐹⃑ = 𝑚𝑎⃑
จะได 𝑚 𝑎⃑ = −𝑚 𝑎⃑
∆⃑ ∆⃑ รูปที่ 3 ัตถุ งก นชนกันในแน เ นตรง
𝑚 ∆
= −𝑚 ∆
⃑ ⃑ ⃑ ⃑
𝑚 ∆
= −𝑚 ∆

𝑚 𝑣⃑ − 𝑚 𝑢⃑ = − 𝑚 𝑣⃑ + 𝑚 𝑢⃑
ดังนั้น 𝑚 𝑢⃑ + 𝑚 𝑢⃑ = 𝑚 𝑣⃑ + 𝑚 𝑣⃑
(𝑝⃑ + 𝑝⃑ )ก นชน = (𝑝⃑ + 𝑝⃑ ) ลังชน
∑ 𝒑⃑𝒊 = ∑ 𝒑⃑𝒇 (6)
มการที่ (6) เรียก า กฎการอนุรัก โมเมนตัม รุปได า “การชนของวัตถุ เมื่อมีแรงภายนอกที่เปนศูนย
มากระทำ ผลรวมของโมเมนตัมของระบบกอนชนจะเทากับผลรวมของโมเมนตัมของระบบ ลังชนเ มอ”
6.4.1 การชนใน นึ่งมิติ (Collision in one dimension)
เปนการชนในแน ตรง แน การเคลื่ นที่ข ง ัตถุทั้ง งทั้งก นชนและ ลังชน ยูในแน เดีย กัน จะเกิดขึ้นเมื่
ัตถุทั้ง งมีการชนผานจุด ูนยกลางม ล การชนใน นึ่งมิติยังแบง กเปน
(1) การชนแบบยื ด ยุ  น (Elastic collision) เป น การชนที่ โ มเมนตั ม ข งระบบมี ค  า คงตั
(∑ 𝑝⃑ = ∑ 𝑝⃑ ) และพลั ง งานจลนข งระบบมี ค า คงตั (∑ 𝐸 = ∑ 𝐸 ) ัต ถุช นกั นแล รู ป ร า งข ง ั ต ถุ ไ ม มี
การเปลี่ยนแปลง ลังชนแล ัตถุแยก กจากกัน
𝑢⃑ 𝑢⃑ 𝑣⃑ 𝑣⃑
𝑚 𝑚 𝑚 𝑚

ก นชน ลังชน
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 12
จากพลังงานจลนข งระบบมีคาคงตั ∑𝐸 = ∑𝐸

𝑚 𝑢 + 𝑚 𝑢 = 𝑚 𝑣 + 𝑚 𝑣 (7)
นำ 2 คูณตล ด 𝑚 𝑢 +𝑚 𝑢 =𝑚 𝑣 +𝑚 𝑣
𝑚 𝑢 −𝑚 𝑣 =𝑚 𝑣 −𝑚 𝑢
𝑚 (𝑢 − 𝑣 ) = 𝑚 (𝑣 − 𝑢 )
𝑚 (𝑢⃑ − 𝑣⃑ )(𝑢⃑ + 𝑣⃑ ) = 𝑚 (𝑣⃑ − 𝑢⃑ )(𝑣⃑ + 𝑢⃑ )
จากโมเมนตัมข งระบบมีคาคงตั ∑ 𝑝⃑ = ∑ 𝑝⃑
𝑚 𝑢⃑ + 𝑚 𝑢⃑ = 𝑚 𝑣⃑ + 𝑚 𝑣⃑
𝑚 𝑢⃑ − 𝑚 𝑣⃑ = 𝑚 𝑣⃑ − 𝑚 𝑢⃑
𝑚 (𝑢⃑ − 𝑣⃑ ) = 𝑚 (𝑣⃑ − 𝑢⃑ ) (8)
นำ มการ (( )) จะได 𝒖⃑ 𝟏 + 𝒗⃑ 𝟏 = 𝒖⃑ 𝟐 + 𝒗⃑ 𝟐 (9)
ขอควรทราบเกี่ยวกับการชนแบบยืด ยุนใน นึ่งมิติ
มวล กอนชน ลังชน
𝑢⃑ = 0 𝑣⃑ = 0 𝑣⃑ = 𝑢⃑
𝑢⃑
𝑚 𝑚
𝑚 =𝑚 𝑚 𝑚
ลังชน ัตถุแรก ยุดนิ่ง  น ัตถุที่ งกระเด็น กไป
เทากับค ามเร็ ข ง ัตถุ
𝑢⃑ = 0 𝑣⃑ 𝑣⃑
𝑢⃑ 𝑚 𝑚
𝑚 >𝑚 𝑚 𝑚
ลังชน ัตถุแรกเคลื่ นที่ไปด ยค ามเร็ 𝑣⃑  น ัตถุที่
งกระเด็น กไปด ยค ามเร็ 𝑣⃑ โดย 𝑣⃑ < 𝑣⃑
𝑢⃑ = 0 𝑣⃑ 𝑣⃑
𝑢⃑ 𝑚 𝑚
𝑚 <𝑚 𝑚 𝑚
ลังชน ัตถุแรกกระเด็นกลับด ยค ามเร็ 𝑣⃑  น ัตถุ
ที่ งกระเด็น กไปด ยค ามเร็ 𝑣⃑ โดย 𝑣⃑ > 𝑣⃑
(2) การชนแบบไมยืด ยุน (Inelastic collision) เปนการชนที่พลังงานจลนข งระบบไมคงตั ลัง
การชนจะมีการ ูญเ ียพลังงานจลนไปบางบาง  นในรูปข งพลังงานเ ียง แ ง ค ามร น เปนตน โดยพลังงานจลน
ก นชนจะไมเทากับพลังงานจลน ลังชน (∑ 𝐸 ≠ ∑ 𝐸 โดย ∑ 𝐸 > ∑ 𝐸 ) แตยังมีการ นุร ัก โ มเมนตัม
(∑ 𝑝⃑ = ∑ 𝑝⃑ ) การชนที่ ัตถุติดกันไปจะทำใ  ูญ เ ีย พลังงานจลนมากที่ ุด เรียก า “การชนแบบไมยื ด ยุ น
มบูรณ”
𝑢⃑ 𝑢⃑ 𝑣⃑
𝑚 𝑚 𝑚 𝑚

ก นชน ลังชน
จากโมเมนตัมข งระบบมีคาคงตั ∑ 𝑝⃑ = ∑ 𝑝⃑
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 13
จะได า 𝒎𝟏 𝒖⃑ 𝟏 + 𝒎𝟐 𝒖⃑𝟐 = (𝒎𝟏 + 𝒎𝟐 )𝒗⃑ (10)

(3) การระเบิด ระเบิดม ล 𝑚 + 𝑚 เคลื่ นที่ด ยค ามเร็ 𝑢⃑ ลังจากนั้น


ระเบิ ด กเป น ง  นมี ม ล 𝑚 และ 𝑚 และยั ง ามารถเคลื ่ นที่ใ นแน ตรงด ย
ค ามเร็ 𝑣⃑ และ 𝑣⃑ ดังรูปที่ 4 พลังงานจลน ลังชนจะเพิ่มขึ้นเนื่ งจาก ัตถุทั้ง งก นมี
ค ามเร็ มากขึ ้ น ทำใ  พ ลั ง งานจลน ก  นชนจะไม เ ท า กั บ พลั ง งานจลน ลั ง ชน
(∑ 𝐸 ≠ ∑ 𝐸 โดย ∑ 𝐸 > ∑ 𝐸 ) แตยังมีการ นุรกั โมเมนตัม (∑ 𝑝⃑ = ∑ 𝑝⃑ )

รูปที่ 4 การระเบิด
แบบฝก ัด 6.4.1
32. จงพิจารณาข ค ามต ไปนี้ ข ค ามใดกลา ถูกต งเกี่ย กับการชนข ง ัตถุ
ก. พลังงานจลนก นชนเทากับพลังงานจลน ลังชน
ข. พลังงานร มข งระบบก นการชนเทากับพลังงานร มข งระบบ ลังการชน
ค. โมเมนตัมข งระบบมีคาคงตั เมื่ แรงลัพธที่กระทำต ระบบไมเปน ูนย
ง. กฎการ นุรัก โมเมนตัมใชไมไดกับ ัตถุเดีย
33. เมื่ ัตถุเล็กชนกับ ัตถุใ ญที่ ยุดนิ่ง แล ัตถุเล็กกระเด็นในทิ ตรงกันขามกับก นชน ข ใดถูกต ง
ก. โมเมนตัมร ม ลังชนเทากัน ูนย
ข. โมเมนตัม ลังชนข ง ัตถุเล็กมีปริมาณเทาเดิมแตมีทิ ทางตรงกันขาม
ค. โมเมนตัมร ม ลังชนมีขนาดเทาเดิมและมีทิ เดีย กับทิ ก นชน
ง. โมเมนตัมข ง ตั ถุใ ญต งเทากับ ัตถุเล็กแตมีทิ ตรงกันขาม
34. ในการชนกันข ง ัตถุแบบยืด ยุน ข ใดถูกต ง
ก. พลังงานจลนมคี าคงตั แตโมเมนตัมไมคงตั ข. โมเมนตัมมีคาคงตั แตพลังงานจลนไมมีคาคงตั
ค. ทั้งโมเมนตัมและพลังงานจลนมีคาไมคงตั ง. ทั้งโมเมนตัมและพลังงานจลนมีคาคงตั
35. ในการชนกันข ง ัตถุแบบไมยืด ยุน ข ใดถูกต ง
ก. พลังงานจลนมคี าคงตั แตโมเมนตัมไมคงตั ข. โมเมนตัมมีคาคงตั แตพลังงานจลนมีคาไมคงตั
ค. ทั้งโมเมนตัมและพลังงานจลนมีคาไมคงตั ง. ทั้งโมเมนตัมและพลังงานจลนมคี าคงตั
36. จากรูปเปนการชนข ง ัตถุ 2 ก น รูปใดเปนการชนแบบยืด ยุน มบูรณ เพราะเ ตุใด
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 14
37. ตั ถุ A เคลื่ นที่ด ยค ามเร็ 10 m/s เขาชน ัตถุ B ซึ่ง ยูนิ่ง ๆ ในแน ผานจุด ูนยกลางม ลทั้ง งแบบ
ยืด ยุน มบูรณ จง าค ามเร็ ข ง ัตถุ A และ B ลังชนกันเมื่
ก. mA = 4 kg mB = 1 kg ข. mA = 4 kg mB = 4 kg ค. mA = 1 kg mB = 4 kg

38. ลูกปนม ล 3 กรัม มีค ามเร็ 700 เมตร/ ินาที ิ่งทะลุผานแทงไมม ล 600 กรัม เกิดการดล ทำใ แทงไมมี
ค ามเร็ 2 เมตร/ ินาที จง าค ามเร็ ข งลูกปน ลังทะลุผาน

39. ม ล 1 กิโ ลกรั ม เคลื่ นที่ไปทางข าด ยค ามเร็ 4 เมตร/ ินาที เขาชนม ล 2 กิโลกรัม ซึ่งเคลื่ นที่ไปทาง
เดีย กันด ยค ามเร็ 2 เมตร/ ินาที ถาการชนเปนแบบยืด ยุนโดย มบูรณ จง าค ามเร็ ลังชนข งม ลทั้ง
งใน น ย เมตร/ ินาที
U, + V. = VINg
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 15
40. ตั ถุม ล 2 kg ิ่งด ยค ามเร็ 4 m/s เขาชน ัตถุม ล 1 kg ซึ่งกำลังเคลื่ นที่ด ยค ามเร็ 2 m/s ไปในทิ ทาง
เดีย กัน ถาการชนไมมีการ ูญเ ียพลังงาน ค ามเร็ ข งม ลทั้ง ง ลังชนเปนเทาใด โมเมนตัมที่เปลี่ยนไปข ง
ัตถุม ล 1 kg เปนเทาใด 5. 5

WetV2 *
8 *2 = enyteve - 24, + 2

3
v2
1 #" Bra
#
ข. "

41. ลูกปนม ล 4 กรัม ถูกยิงในแน ระดับด ย ัตราเร็ 500 เมตร/ ินาที ่งิ เขาชนแทงไมม ล 2 กิโลกรัม ซึ่งแข นไ 
ด ยเชื กเบายา 1 เมตร ลูกกระ ุนเคลื่ นที่เขาไปในเนื้ ไมและทะลุ กด ย ัตราเร็ 100 เมตร/ ินาที จง า า
แทงไมจะแก งขึ้นไปได ูงกี่เซนติเมตรเ นื ระดับเดิม

/
2 = 3.
FTCV2 I have migh
= 008 (Post) : bh
ht ·

42. ตั ถุม ล 10 กิโลกรัม เคลื่ นที่ไปทางข าตามพื้นโตะซึ่งไรค ามเ ียดทานด ย ัตราเร็ 50 เมตร/ ินาที ัตถุนี้ชน
ในแน ตรงกับ ัตถุ ีกชิ้น นึ่งซึ่งกำลังเคลื่ นที่มาทางซายด ย ัตราเร็ 30 เมตร/ ินาที ถา ลังจากการชน ัตถุทั้ง
งติดไปด ยกันและเคลื่ นที่ไปทางข าด ย ัตราเร็ 20 เมตร/ ินาที ัตถุก นที่ งมีม ลกี่กิโลกรัม และ
พลังงานจลนที่ ูญเ ียไปเปนเทาใด in ue?, +
& Immersi
3
30- 3pin = 21( 10 + mm) = Itisse + =6 900

1230) + 270 = 1520

33 = <h
6
Imarf I mv
m = 2xx

( 12 - ⑥ #

1-
+

=
-
·
-
-
1920>
2002 + 125
320

12003
3 Lot
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 16
43. ชางไมใชค นม ล 200 กรัม ตีตะปูม ล 2 กรัม ในแน ราบ โดยค ามเร็ ข งค นก นกระทบตะปูเปน 10 เมตร/
ินาที และค นไมกระด นจาก ั ตะปู ถาเนื้ ไมมีแรงตานเฉลี่ย 1,000 นิ ตัน ตะปูเจาะลึกในเนื้ ไมก่เี ซนติเมตร

44. ลูกเ ล็กทรงกลมม ล 1 กิโลกรัม กลิ้งเขาชนแทงไม นัก 4 กิโลกรัม ที่ าง ยูบน พื้นด ยค ามเร็ 20 เมตรต
ินาที ถา ัมประ ิทธิ์ข งแรงเ ียดทานระ างผิ ข งแทงไม กับพื้นเทากับ 0.2 ลังจากชนแล ลูกเ ล็ก ยุดนิ่ง
กับที่ แทงไมจะไถลไปไดไกลเทาไร

45. ปริง ยูในแน ราบติดกับม ล m2 ขนาด 480 g ถายิงลูกปนม ล 20 g ในแน ราบเขาไปฝงในม ล m2 ทำใ 
ปริง ดเขาไปจากเดิม 5 cm โดยลูกปน ิ่งชนม ล m2 ด ย ตั ราเร็ 50 m/s จง าคาคงตั ข ง ปริง
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 17
46. ยิงลูกปนม ล 0.002 กิโลกรัม กไปด ยค ามเร็ 1000 เมตร/ ินาที ถาตั ปนมีม ล 2 กิโลกรัม ยากทราบ า
ปนจะถ ย ลังด ยค ามเร็ เทาใด

47. ปนใ ญและรถม ล 10,000 กิโลกรัม ติด ปริงกันการ ะท นถ ย ลังดังรูป เมื่ ยิงปนใ ญปรากฏ ากระ ุน ิ่ง
กไปด ยค ามเร็ 1,000 เมตร/ ินาที
ก. จง าค ามเร็ ข งรถทันทีท่ยี ิงปนใ ญ ถากระ ุนมีม ล 10 กิโลกรัม
ข. ถาตั รถและปนใ ญเคลื่ นที่ถ ย ลังไปเพียง 0.2 เมตร จง าคานิจข ง
ปริง

48. รถ งคันมีม ล 1.0 กิโลกรัม และมีม ล M ผูกติดกันด ย ปริงดังรูป เมื่ กแรงดันรถทั้ง ง ัด ปริงเขา ากัน
แล ปล ยทันที ปรากฏ ารถคันที่มีม ล M มี ัตราเร็ เทากับ ข ง ัตราเร็ ข งรถคันที่มีม ล 1.0 กิโลกรัม
ม ล M มีคาเทาใด
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 18
49. ลูกระเบิดลูก นึ่งตกลงในแน ดิ่ง ขณะที่ ยู ูงจากพื้นดิน 2000 m และมีค ามเร็ 60 m/s ไดระเบิดขึ้นและแยก
กเปน 2 เ ่ยี งเทาๆ กัน ภาย ลังการระเบิด ชิ้น  น นึ่งไดตกลงด ยค ามเร็ 80 m/s ในแน ดิ่ง ยากทราบ
า ลังจากการระเบิดผานไปนาน 12 s ชิ้น  นทั้ง งจะ ยู างกันกี่ m

50. ยิงลูกปนม ล 0.06 kg ไปยัง ัตถุท่ี างนิ่ง ยูบนพื้นที่มี ัมประ ิทธิ์ค ามเ ียดทาน 0.50 ลูกปนผานทะลุ ัตถุม ล
8 kg แล ฝง ยูกับ ัตถุม ล 6 kg ถา ัตถุทั้ง งไถลไปไดระยะทางดังรูป จง าค ามเร็ ตนข งลูกปน
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 19
6.4.2 การชนใน องมิติ (Two-dimension collision)
เปนการชนที่ภาย ลังการชนแล ทิ ทางการเคลื่ นที่ข ง ัตถุไม ยูในแน เ นตรงเดีย กัน จะเกิดขึ้นเมื่ ัตถุทั้ง
งมีการชนไมผานจุด นู ยกลางม ล การชนใน งมิติยังแบง กเปนการชนแบบยืด ยุน การชนแบบไมยืด ยุนและ
การระเบิดเชนเดีย กันกับการชนใน นึ่งมิติ
(1) การชนแบบยื ด ยุ  น (Elastic collision) เป น การชนที่ โ มเมนตั ม ข งระบบมี ค า คงตั
(∑ 𝑝⃑ = ∑ 𝑝⃑ ) และพลังงานจลนข งระบบมีคาคงตั (∑ 𝐸 = ∑ 𝐸 )
1. เมื่อมวลทั้ง องกอนเทากัน กำ นดใ ม ล 𝑚 มีค ามเร็ 𝑢⃑ เขาชนม ล 𝑚 ีกก น นึ่ง ซึ่ง ยู
นิ่งในแน ไมผานจุด นู ยกลางข งม ล ทำใ ม ลทั้ง งแยก กจากกันทำมุม 𝜃 มีค ามเร็ 𝑣⃑ และ 𝑣⃑ ตามลำดับ
ดังรูปที่ 5

รูปที่ 6 การ าค ามเร็ ตนด ยการบ ก


รูปที่ 5 การชนแบบยืด ยุน เมื่ ม ลทั้ง งก นเทากัน เ กเต รค ามเร็ ปลายข งม ลทั้ง ง

จากกฎการ นุรัก โมเมนตัม ∑ 𝑝⃑ = ∑ 𝑝⃑


𝑚 𝑢⃑ + 𝑚 𝑢⃑ = 𝑚 𝑣⃑ + 𝑚 𝑣⃑
เมื่ ม ล m เทากัน และ 𝑢 ยูนิ่ง ดังนั้นจึงมีคาเทากับ ูนย
จะได 𝑢⃑ = 𝑣⃑ + 𝑣⃑
แ ดงไดดงั รูปที่ 6 าขนาดค ามเร็ ตนไดดังนี้ 𝑢 =𝑣 = 𝑣 + 𝑣 + 2𝑣 𝑣 𝑐𝑜𝑠𝜃 (11)
จากกฎการ นุรัก พลังงานจลน ∑𝐸 = ∑𝐸
𝑚 𝑢 + 𝑚 𝑢 = 𝑚 𝑣 + 𝑚 𝑣 (12)
เมื่ ม ล 𝑚 เทากัน และ 𝑢⃑ ยุดนิ่ง ดังนั้นจึงมีคาเทากับ ูนย
จาก มการที่ (12) จะได า 𝑢 =𝑣 +𝑣 (13)
(11) = (13) จะได า 2𝑣 𝑣 𝑐𝑜𝑠𝜃 = 0
ดังนั้น 𝑐𝑜𝑠𝜃 = 0
𝜃 = 90°
รุปได า ถาม ลเทากัน ชนกันแบบยืด ยุนในแน ไมผานจุด ูนยกลางม ลและม ลถูกชน ยูนิ่ง ลังชนกัน
มวลทั้ง องจะแยกออกจากกันทำมุม 90 เ มอ
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 20
2. เมื ่ อ มวลทั ้ ง องก อ นไม
เทากัน ลังชนม ลทั้ง งก นจะแยก กจาก
กันไมเปนมุมฉาก โดยเกิดมุม α และ β ขึ้น ดัง
รู ป ที ่ 7 การคำน ณโจทย ป  ญ าการชนแบบ
ยื ด ยุ  น ในการชน งมิ ต ิ น ี ้ ต  งทำการแยก
เ กเต รค ามเร็ ในแน ขนาน (แกน x) และ
แน ตั้งฉาก (แกน y) ลังจากนั้นจึงพิจารณากฎ
การ นุรัก โมเมนตัมและพลังงานจลนคงตั ที
ละแน แกน
รูปที่ 7 การชนแบบยืด ยุน เมื่ ม ลทั้ง งก นไมเทากัน
(2) ก า ร ช น แ บ บ ไ ม  ย ื ด ยุ น
(Inelastic collision) เปนการชนที่โ มเมนตั ม
ข งระบบมีคาคงตั (∑ 𝑝⃑ = ∑ 𝑝⃑ ) แตพลังงาน
จลนข งระบบมีคาไมคงตั ( ∑ 𝐸 ≠ ∑ 𝐸
โดย ∑ 𝐸 > ∑ 𝐸 ) ลั ง การชนจะมี ก าร
ูญเ ียพลังงานจลนไปบางบาง  นในรูป ข ง
พลั ง งานเ ี ย ง แ ง ค ามร น เป น ต น โดย
พลังงานจลนก นชนจะไมเทากับพลังงานจลน
รูปที่ 8 การชนแบบไมยดื ยุน
ลังชน แตยังมีการ นุรัก โมเมนตัม โดยการชน
ัตถุมักติดกันไปดังรูปที่ 8
(3) การระเบิด ระเบิดม ล 𝑚 ยุดนิ่ง ลังจากนั้นระเบิด กเปน าม  นมีม ล 𝑚 𝑚 และ 𝑚
เคลื่ นที่ ด ยค ามเร็ 𝑣⃑ 𝑣⃑ และ 𝑣⃑ ดัง รูป ที ่ 9 โดยพลั งงานจลน ก นชนจะไม เ ท า กั บ พลัง งานจลน ลั ง ชน
(∑ 𝐸 ≠ ∑ 𝐸 โดย ∑ 𝐸 < ∑ 𝐸 ) แตยังมีการ นุรัก โมเมนตัม (∑ 𝑝⃑ = ∑ 𝑝⃑ )
𝑣⃑

นิง 𝑚
𝑣⃑

𝑣⃑ 𝑚
𝑚
ก นชน ลังชน
รูปที่ 9 การระเบิด ำ รับการชนใน งมิติ

แบบฝก ัด 6.4.2
51. ลูก นุก ีฟาและ ีชมพูมีม ล 0.5 กิโลกรัม เทากัน ลูก ีฟาเคลื่ นที่ด ย ัตราเร็ 2 เมตร/ ินาที เขาชนลูก ีชมพู
ซึ่ง ยูนิ่ง ถาการชนเปนการชนใน งมิติ และเปนการชนแบบยืด ยุน จง า าภาย ลังการชนกันแล ลูก นุกทั้ง
งจะเคลื่ นที่ ยางไร
ก. แยก กจากกันเปนมุม 60o ข. แยก กจากกันเปนมุม 90o
ค. เคลื่ นที่ตามกันไปในทิ ทางเดีย กัน ง. เคลื่ นที่ไปในทิ ตรงกันขาม
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 21
52. ลูกบิลเลียด A ิ่งด ย ัตราเร็ 10 เมตร/ ินาที เขาชนกับลูกบิลเลียด B ที่ ยูนิ่งและมีม ลเทากับ A ลังจากชน
กัน แล ลูกบิลเลียดทั้ง งเคลื่ นที่แยก กจากกันโดย A ทำมุม 37o กับแน เดิมดังรูป ถาการชนเปนแบบ
ยืด ยุน และไมคิดผลจากการ มุนและค ามฝดข งพื้นกับลูกบิลเลียด ัตราเร็ ข งลูกบิลเลียดทั้ง งจะเปน
เทาใด

53. ลูกกลมขนาดเทากัน 2 ลูก A และ B โดยลูก A ิ่งเขาชนลูก B ซึ่ง ยูนิ่งในแน ไมผานจุด ูนยกลาง ทำใ ลูก A
กระเด็นเบี่ยงไปจากแน เดิมเปนมุม 60 ก นชนลูกกลม A มีค ามเร็ 8 เมตรต ินาที และเปนการชนแบบ
ยืด ยุน ลังชนลูกกลม A และ B จะมีค ามเร็ เทาใด
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 22
54. แม ตั นึ่งมีม ล 1 kg ิ่งด ย ัตราเร็ 5 m/s ชนแบบยืด ยุนกับตะกราแ ปเปลที่ างนิ่ง ยู ลังการชนทำใ 
แม กระเด็นไปในทิ ทางทำมุม 90o กับทิ ทางการ ่งิ ข งแม ก นชนด ย ัตราเร็ 4 m/s จง า า ลังการชน
ตระกราแ ปเปลมีขนาดโมเมนตัมเทาไร

55. รถยนต A ม ล 1000 kg ิ่งจากทิ ใตไปยังทิ เ นื และรถยนต B ม ล 1500 kg ่งิ จากทิ ตะ ันตกไปยังทิ
ตะ ัน ก เมื่ รถทั้ง งชนกันจะไดไถลลื่นติดกันไปในทิ ทางทำมุม 30o กับแน ทิ ตะ ัน ก ถารถยนต A ขับ
ด ยค ามเร็ 80 km/h จง า ตั ราเร็ ข งรถยนต B
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก  13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 23
56. ตั ถุ A ม ล 8 กิโลกรัม เคลื่ นที่ไปทาง +x ด ยค ามเร็ 10 m/s ชนกับ ัตถุ B ม ล 10 กิโลกรัม ซึ่งกำลัง
เคลื่ นที่ไปทางแกน +y ด ยค ามเร็ 6 m/s ภาย ลังการชน ัตถุทั้ง 2 ก น เคลื่ นที่ติดกันไป จง า ัตราเร็
ภาย ลังการชน

57. ตั ถุ นึ่งที่ างนิ่งแตก กเปน 3  น  นที่ นึ่งมีม ล 1.5 กิโลกรัม ัตราเร็ 10 เมตรต ินาที  นที่ งมีม ล
1.0 กิโลกรัม ัตราเร็ 20 เมตรต ินาที โดยทิ ทางค ามเร็ ข ง  นที่ นึ่งและ งทำมุมฉากกัน ถา  นที่ ามมี
ม ล 2.0 กิโลกรัม จะมี ัตราเร็ เทาใด

*************************************************************************

You might also like