Professional Documents
Culture Documents
บทที่ 6 โมเมนตัมและการชน_ว30213-66
บทที่ 6 โมเมนตัมและการชน_ว30213-66
# ้นม
ชื่ .........................................................................................เลขที่...............ชั
13 ..................
414 ·
บทที่ 6 โมเมนตัมและการชน
6.1 โมเมนตัม (Momentum, 𝒑⃑)
เราทราบกันแล า ัตถุที่กำลังเคลื่ นที่จะมีพลังงานจลนและจะมีคุณ มบัติข นึ่งคื พยายามเคลื่ นที่ไป
ขาง นาตล ดเ ลา ถาจะใ ัตถุที่กำลังเคลื่ นที่ ยุดลง เราจะต ง กแรงกระทำกับ ัตถุและแรงนั้นจะต งเปนแรง
ตานคื มีทิ ตรงขามกับทิ การเคลื่ นที่ข ง ัตถุ ถาเราใชมื ตานการเคลื่ นที่ข ง ัตถุก น นึ่งซึ่งมีค ามเร็ ไมเทากัน
แตมีม ลเทากัน เราจะรู ึก กแรงตานไมเทากัน ัตถุที่มีค ามเร็ มากจะต งใชแรงตานมากก า และถาเราใชมื
ตานการเคลื่ นที่ข ง ัตถุ งก นซึ่งมีค ามเร็ เทากัน แตมีม ลไมเทากัน ัตถุที่มีม ลมากต งใชแรงตานมากก า
ัตถุที่มีม ลน ย ฉะนั้นเรา ามารถบ กได าในการเคลื่ นที่ข ง ัตถุจะใชแรงมาก รื น ย ขึ้นกับม ลและค ามเร็
ข ง ตั ถุ ถาเรานำม ลคูณกับค ามเร็ ข ง ัตถุเราเรียกคาที่ได า โมเมนตัมข ง ัตถุ
โมเมนตัม (Momentum, 𝒑⃑) เป น ปริ ม าณ นึ่ ง ซึ ่ ง บ ก ภาพการเคลื ่ นที่ ข ง ั ตถุ รื ปริ มาณที ่ บ ก
ค ามพยายามข ง ัตถุท่จี ะเคลื่ นที่ไปขาง นา าไดจากผลคูณระ างม ล (𝑚) กับค ามเร็ (𝑣⃑) เปนปริมาณ
เ กเต รที่ มีทิ ตามทิ ทางเดีย กันกับทิ ทางข งค ามเร็ มี น ยเปน กิโลกรัม.เมตร/ ินาที (kg.m/s) ัตถุที่มี
โมเมนตัมมากจะทำใ ยุดการเคลื่ นที่ยากก า ัตถุที่มีโมเมนตัมน ย
𝒑⃑ = 𝒎𝒗⃑ (1)
เมื่ 𝑝⃑ คื โมเมนตัมข ง ัตถุ (kg.m/s) 𝑚 คื ม ลข ง ัตถุ (kg) 𝑣⃑ คื ค ามเร็ ข ง ัตถุ (m/s)
แบบฝก ดั 6.1
1. รถบรรทุกชนิดเดีย กันและมีขนาดเทากัน งคัน คันแรกบรรทุก ินคาจนเต็ม คันที่ งไมมี ินคา รถทั้ง งนี้แลน
ด ยค ามเร็ เทากัน รถคันใดมีโมเมนตัมมากก ากัน เพราะเ ตุใด
2 P&
-
นแรก เพรา
4. นกตั นึ่งมีม ล 30 กรัม บินด ย ัตราเร็ 8 เมตรต ินาที ขนาดโมเมนตัมข งนกตั นี้เปนเทาใด
5. จง าโมเมนตัมข งรถบรรทุกที่มีม ล 1.5x104 กิโลกรัม กำลังเคลื่ นที่ด ยค ามเร็ 36 กิโลเมตรต ชั่ โมง ไปทาง
ทิ ตะ ัน ก
7. ตั ถุมีม ล 6 กิโลกรัม เคลื่ นที่จาก ยุดนิ่งด ยค ามเรง 2 เมตร/ ินาที2 ลังจากเ ลาผานไป 3 ินาที จะมี
โมเมนตัมเทาใด
8. ัตถุมีม ล 8 กิโลกรัม เคลื่ นที่ด ยค ามเรง 5 เมตร/ ินาที2 ไดระยะทาง 10 เมตร จะมีโมเมนตัมเทาไร
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก 13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 3
9. ปล ยก น ินม ล 0.15 กิโลกรัม ใ เคลื่ นที่ลงในแน ดิ่ง จงคำน ณโมเมนตัมข งก น ิน เมื่ ก น ินตกลงได
ระยะทาง 5 เมตร กำ นดใ g=10 m/s2
6.2 แรงและการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม
1) การเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม (∆𝑝⃑)
เมื่ ัตถุมีการเคลื่ นที่เปลี่ยนไปจากเดิม ขนาดข งค ามเร็ เปลี่ยนแปลงไปโดยไมเปลี่ยนทิ ทาง รื ขนาดข ง
ค ามเร็ ไมเปลี่ยนแตทิ ข งค ามเร็ เปลี่ยน ก็เปนผลใ ภาพการเคลื่ นที่ข ง ัตถุเปลี่ยนไปด ย ซึ่งเรียก า มี
การเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม ทิ ข งการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัมจะมีทิ เดีย กับการเปลี่ยนแปลงค ามเร็ ามารถ า
ขนาดข งการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัมไดดังนี้
∆𝑝⃑ = 𝑝⃑ − 𝑝⃑
รื ∆𝑝⃑ = 𝑚𝑣⃑ − 𝑚𝑢⃑
2) แรงและการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม
เมื่ ัตถุม ล 𝑚 เคลื่ นที่บนพื้นไรค ามเ ียดทาน กำลังเคลื่ นที่ด ยค ามเร็ ตน 𝑢⃑ มีแรงคงตั 𝐹⃑ กระทำต
ัตถุในช งเ ลา ∆𝑡 ทำใ ค ามเร็ ข ง ัตถุเปลี่ยนไปเปน 𝑣⃑ ดังรูปที่ 1
จากกฎการเคลื่ นที่ข ที่ 2 ข งนิ ตัน
⃑ ⃑
𝐹⃑ = 𝑚𝑎⃑ และ 𝑎⃑ =
∆
จะได า
⃑ ⃑
𝐹⃑ = 𝑚
∆
12. กระ ุนม ล 20 g เคลื่ นที่ด ย ัตราเร็ 500 m/s เขาไปในกระ บทรายและ ยุด ยูในกระ บทรายภายใน
เ ลา 1 ms กำ นดใ แรงตานจากทรายที่กระทำต กระ ุนเปนแรงคงตั จงคำน ณแรงตานนี้
13. ลูกฟุตบ ลม ล 0.5 กิโลกรัม เคลื่ นที่ด ยค ามเร็ 20 เมตรต ินาที ถาผูรัก าประตูใชมื รับลูกฟุตบ ลใ ยุด
นิง่ ภายในเ ลา 0.04 ินาที แรงเฉลี่ยที่มื กระทำต ลูกบ ลมีขนาดเทาใด
14. ลูกกลม นึ่งม ล 2 กิโลกรัม เคลื่ นที่ด ย ัตราเร็ 1 เมตรต ินาทีไปกระทบฝาผนังและกระด นกลับด ย
ัตราเร็ 1 เมตรต ินาที ถาแรงเฉลี่ยที่กระทำต ผนังในช งเ ลาที่มีการชนเปน 4 นิ ตัน เ ลาดังกลา มีคา
เทาใด
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก 13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 5
15. นักกี าเตะลูกบ ลม ล 400 กรัม ัดกำแพงแล ลูกบ ล ะท น นกลับมาด ย ัตราเร็ 5 เมตรต ินาที ซึ่ง
เทากับ ัตราเร็ เดิม ถาแรงที่กำแพงกระทำต ลูกบ ลเปน 80 นิ ตัน ลูกบ ลกระทบกำแพง ยูนานเทาใด
16. ตั ถุม ล 4 กิโลกรัม เคลื่ นที่ด ย ัตราเร็ คงตั 5 เมตรต ินาที ในแน ระดับไปชนกำแพงแน ดิ่ง ลังจากชน
แล กระด นกลับในแน เดิมด ย ัตราเร็ คงเดิม แตทิ ทางตรงกันขาม
ก. จง าโมเมนตัมที่เปลี่ยนไป
ข. ถาเ ลาที่ ัตถุชนกำแพง 0.5 ินาที แรงเฉลี่ยที่ ัตถุนั้นกระทำต กำแพงเปนเทาใด
18. มชายข างลูกเทนนิ ม ล 50 g ลงบนพื้นเรียบด ย ัตราเร็ 30 m/s ในทิ ทำมุม 30o กับแน ราบ จากนั้นลูก
บ ลกระด นขึ้นจากพื้นด ย ัตตราเร็ เทาเดิมในทิ ทำมุม 30o กับแน ราบเชนกัน ากลูกเทนนิ กระทบพื้นเปน
เ ลา 0.03 s จง าแรงเฉลี่ยที่พื้นกระทำต ลูกเทนนิ
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก 13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 6
19. ปล ยลูกบ ลม ล 100 g ูงจากพื้น 20 m ลังจากกระทบพื้นลูกบ ล ะท นกลับในแน ดิ่งดังเดิม งู 11.25 m
ถาช งเ ลาที่ลูกบ ล ัมผั พื้นเปนเ ลา 10-2 s จง าแรงเฉลี่ยที่พ้นื กระทำต ลูกบ ล
6.3 การดลและแรงดล
การดล (Impulse, 𝑰⃑) คื โมเมนตัมที่เปลี่ยนไป (∆𝑝⃑ = 𝑚𝑣⃑ − 𝑚𝑢⃑) รื แรงลัพธคูณกับเ ลา (𝐹⃑∆𝑡) การดล
แยกพิจารณาเปน 2 แบบ คื การดลเนื่ งจากแรงคงที่ และการดลเนื่ งจากแรงไมคงที่
1) การดลเนื่องจากแรงคงที่ ถามีแรงคงที่กระทำกับ ัตถุจะไดการดลเทากับ ผลคูณข งแรงลัพธกับเ ลา มี น ย
เปน นิ ตัน. ินาที
𝑰⃑ = ∆𝒑⃑ = 𝒎𝒗⃑ − 𝒎𝒖⃑ = 𝑭⃑∆𝒕 (4)
เมื่ ⃑𝐼 คื การดลข ง ตั ถุ (kg.m/s) 𝑣⃑ คื ค ามเร็ ปลายข ง ัตถุ (m/s)
𝑝⃑ คื โมเมนตัมข ง ัตถุ (kg.m/s) 𝐹⃑ คื แรงลัพธที่กระทำกับ ัตถุ (N)
𝑚 คื ม ลข ง ัตถุ (kg) ∆𝑡 คื ช งเ ลา ั้น ๆ (s)
𝑢⃑ คื ค ามเร็ ตนข ง ัตถุ (m/s)
ถาขนาดข งการดลข งแรงมีคาเปนบ ก แ ดง าโมเมนตัมข ง ัตถุที่เรากำลังพิจารณามีคาเพิ่มขึ้น ถาเปนลบ
แ ดง าโมเมนตัมข ง ัตถุจะมีคาลดลง และถาการดลมีคา เปน ูนยแ ดง าไมมีการ กแรงกระทำกับ ัตถุเลย
2) การดลเนื่องจากแรงไมคงที่ ถามีแรงไมคงที่กระทำกับ ัตถุจะไดการดลมีคาเทากับพื้นที่ใตกราฟระ างแรง
กับเ ลา แยกการพิจารณาเปน 2 แบบ คื
(1) ถามีแรงไมคงที่เพียงแรงเดีย กระทำกับ ัตถุ จะได
การดลเทากับพื้นที่ใตกราฟ 𝐹 กับ ∆ 𝑡
(2) ถ า มี แ รงคงที่ แ ละไม ค งที ่ ก ระทำกั บ ั ต ถุ จะได
การดลเทากับผลร มข งพื้นที่ใตกราฟ โดยแรงที่มีทิ ตามกัน
การดลจะเทากับผลบ กข งพื้นที่ใตกราฟ แรงที่มีทิ ตรงขาม
กัน การดลจะเทากับผลตางข งพื้นที่ใตกราฟ
การดลที่เราพบบ ย ๆ นั้นเปนการดลที่แรงมีคามาก รูปที่ 2 เมื่ มีแรงไมคงที่กระทำกับ ัตถุ การดล า
มากระทำกับ ตั ถุในช งเ ลา ้นั ๆ เชน รถยนตชนกัน การตีลูก ไดจากพื้นที่ใตกราฟ 𝐹 − 𝑡
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก 13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 7
เทนนิ การตีลูกปงป ง การต กตะปูด ยค น ลูกบิลเลียดชนกัน เปนตน
แรงดล (Impulsive Force) มายถึง แรงที่กระทำกับ ัตถุในช งเ ลา ั้น ๆ าไดจาก มการที่ (5)
𝒎𝒗⃑ 𝒎𝒖⃑ 𝑰⃑
𝑭⃑ = = (5)
∆𝒕 ∆𝒕
แบบฝก ัด 6.3
20. การ ยโ นข งนักแ ดงกายกรรมจำเปนต งมีตาขายขึงไ เบื้ งลาง ตาขายนี้ใชร งรับนักแ ดงเมื่ พลาดตกลง
มา ถาผูแ ดงตกลงมา ถาผูแ ดงตกบนตาขายกับตกลงบนพื้นด ยค ามเร็ ก นกระทบเทากันกรณีใดจะไดรับ
ันตรายมากก ากัน เพราะเ ตุใด
22. “เ ลากระโดดจากที่ ูง เมื่ เทาถึงพื้นเรามักจะย เขาเพื่ ช ยป งกันไมใ เกิด าการบาดเจ็บที่เทา” ข ใดเปน
เ ตุผลทางฟ ิก ข งคำกลา นี้
ก. การง เขาทำใ ค าม ูงที่กระโดดลงมาเพิ่มขึ้น ทำใ เกิดแรงที่เทาน ยลง
ข. การง เขาทำใ โมเมนตัมลดลง ทำใ เกิดแรงที่เทาน ยลง
ค. การง เขาทำใ เ ลาที่เทากระทำต พื้น ั้นลง ทำใ เกิดแรงที่เทาน ยลง
ง. การง เขาทำใ เ ลาที่กระทบพื้นนานขึ้น ทำใ เกิดแรงที่เทาน ยลง
จ. การง เขาเปน ัญชาตญาณป งกันไมใ เทาบาดเจ็บ
23. การดล 100 N.s ทำใ ัตถุม ล 1 kg เริ่มเคลื่ นที่ด ยค ามเร็ เทาใด
24. ลูกเทนนิ ม ล 50 g เคลื่ นที่เขาชนผนังด ย ัตราเร็ 20 m/s จากนั้นกระด นกลับด ย ัตราเร็ 15 m/s จง า
การดลที่ผนังกระทำต ลูกเทนนิ
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก 13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 8
25. ปล ยลูกบ ลม ล 0.1 kg จากที่ ูงจากพื้น 1.8 m ลูกบ ลตกกระทบพื้นแล กระด นขึ้นได ูงจากพื้นเปน
ระยะทาง 0.8 m จงคำน ณการดลที่แรงจากพื้นกระทำต ลูกบ ล กำ นดใ g=10 m/s2
26. ปล ยลูกบ ลม ล 0.2 กิโลกรัม จากระดับค าม ูง 1.8 เมตร ลังจากกระทบพื้นแล ลูกบ ลกระด นขึ้น ูง
1.25 เมตร
ก. จง าการดลที่ลูกบ ลไดรับเมื่ กระทบพื้น
ข. ถา ัตถุใชเ ลากระทบพื้น 0.5 ินาที แรงดลเฉลี่ยที่พื้นกระทำต ลูกบ ลนี้เทากับเทาไร
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก 13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 9
27. ัตถุ ัน นึ่งถูกแรงกระทำ มีค าม ัมพันธระ างแรงกับเ ลาดังกราฟ จง าการดลและแรงดล
28. ลูกบ ลม ล 100 กรัม เคลื่ นที่ด ยค ามเร็ 20 เมตร/ ินาที ในแน ระดับ ชายคน นึ่งใชไมตีลูกบ ลนี้ น
กมาในทิ ตรงขาม แรงที่กระทำต ลูกบ ลกระทบไมตีแทนด ยกราฟนี้ ยากทราบ า ลูกบ ลจะมีค ามเร็ ลัง
กระทบไมตีเทาใดใน น ยเมตร/ ินาที
29. ลูกบ ลม ล 25 g เคลื่ นที่ในแน ระดับด ยค ามเร็ ตน 25 m/s ถาชายคน นึ่งใชไมตีลกู บ ลนี้ น กมาใน
ทิ ตรงขาม เขียนกราฟแรงที่กระทำต ลูกบ ลกับเ ลาไดดัง
รูป จง า
ก. การดลมีคาเทาใด
ข. ลังจากถูกไมตี ลูกบ ลมีค ามเร็ เทาใด
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก 13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 10
30. กล งบรรจุข งมีม ล 4 กิโลกรัม มีแรงลัพธที่มีขนาดเปลี่ยนแปลงตามเ ลากระทำดังกราฟที่แ ดงในรูป ทำใ
กล งเคลื่ นที่ไปโดยมีค ามเรงไมคงตั เมื่ เ ลา t=0 ินาที กล งนี้มคี่ ามเร็ 10 เมตรต ินาที ในทิ ทางข ง
แรงลัพธ จง า
ก. ัตราเร็ ข งกล งเมื่ เ ลา t = 4 s ·
&
>>> # CV- 13
1203=#LV- 10
v= =27
13.125 =
-
201
IS
31. ตั ถุชิ้น นึ่งม ล 1 กิโลกรัม เคลื่ นที่ด ยค ามเร็ v ขนาด 1 m/s ที่เ ลา t = 0 นิ าที มีแรง F(t) ซึ่งขนาดข ง
แรงแทนไดด ยกราฟดังรูป กระทำต ัตถุในทิ เดีย กันกับ v ตั ราเร็ ข ง ัตถุที่เ ลา t = 1 ินาที และ 2 ินาที
มีคาเปนเทาใด
-1 = ↓- no
F (N) sirim
=
1
1= meV-> V + - >1
1 2 t (s) =
-1
วั
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก 13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 11
6.4 การชนและกฎการอนุรัก โ มเมนตัม
1) การชน (Collision) คื การที่ ัตถุกระทบกันในช งเ ลา ั้น ๆ เชน การชนกันข งรถ การกระทบกันข ง
ลูกตุมกับเ าเข็ม การตีเทนนิ ตีปงป ง ตีก ลฟ การเตะลูกบ ล รื ในบางครั้ง ัตถุ าจไมต งกระทบกันแตมีแรงมา
กระทำต ัตถุแล ใ ผลเ มื นกับการชน เชน การระเบิดข ง ัตถุระเบิด การยิงปน เปนตน ในการชนข ง ัต ถุ
โดยมากมักจะมีแรงภายน กมากระทำต ัตถุ ซึ่งขนาดข งแรงจะมาก รื น ยขึ้น ยูกับลัก ณะการชนข ง ัตถุ และ
ในการชน าจมีการ ูญเ ียโมเมนตัมมาก รื น ย รื ไม ูญเ ียเลยก็ได เรา าจแยกการชน กได 2 ลัก ณะดังนี้
(1) เมื่อโมเมนตัมของระบบมีคา คงที่ เปนการชนที่ขณะชนมีแรงภายน กมากระทำน ยมาก ๆ เมื่ เทียบกับ
ขนาดข งแรงดลที่เกิดขึ้น รื แรงภายน กเปน ูนย เชน การชนกันข งลูกบิดเลียด การชนข งรถยนต การยิงปน
เปนตน
(2) เมื่อโมเมนตัมของระบบไมคงที่ เปนการชนที่ขณะชนมีแรงภายน กมากระทำมากก าแรงดลที่เกิดกับ
ัตถุขณะชนกัน เชน ลูกบ ลตกกระทบพื้น รถยนตชนกับตนไม เปนตน
2) กฎการอนุรัก โมเมนตัม (Law of conservation of momentum)
ในที่น้เี ราจะกลา ถึงการชนข ง ัตถุเมื่ ไมมีแรงภายน กมากระทำต ระบบ ซึ่งจะเปนผลใ โมเมนตัมข งระบบ
มีคาคงที่ พิ ูจนไดจากกฎการเคลื่ นที่ข ที่ 3 ข งนิ ตัน เมื่ ัตถุชนกันจะเกิดแรงกระทำซึ่งกันและกันด ยขนาดที่
เทากันแตทิ ตรงกันขาม ดังรูปที่ 3
จากรูปที่ 3 ตามกฎการเคลื่ นที่ข ที่ 3 ข งนิ ตัน
จะได 𝐹⃑ = −𝐹⃑
จากกฎการเคลื่ นที่ข ที่ 2 ข งนิ ตัน 𝐹⃑ = 𝑚𝑎⃑
จะได 𝑚 𝑎⃑ = −𝑚 𝑎⃑
∆⃑ ∆⃑ รูปที่ 3 ัตถุ งก นชนกันในแน เ นตรง
𝑚 ∆
= −𝑚 ∆
⃑ ⃑ ⃑ ⃑
𝑚 ∆
= −𝑚 ∆
𝑚 𝑣⃑ − 𝑚 𝑢⃑ = − 𝑚 𝑣⃑ + 𝑚 𝑢⃑
ดังนั้น 𝑚 𝑢⃑ + 𝑚 𝑢⃑ = 𝑚 𝑣⃑ + 𝑚 𝑣⃑
(𝑝⃑ + 𝑝⃑ )ก นชน = (𝑝⃑ + 𝑝⃑ ) ลังชน
∑ 𝒑⃑𝒊 = ∑ 𝒑⃑𝒇 (6)
มการที่ (6) เรียก า กฎการอนุรัก โมเมนตัม รุปได า “การชนของวัตถุ เมื่อมีแรงภายนอกที่เปนศูนย
มากระทำ ผลรวมของโมเมนตัมของระบบกอนชนจะเทากับผลรวมของโมเมนตัมของระบบ ลังชนเ มอ”
6.4.1 การชนใน นึ่งมิติ (Collision in one dimension)
เปนการชนในแน ตรง แน การเคลื่ นที่ข ง ัตถุทั้ง งทั้งก นชนและ ลังชน ยูในแน เดีย กัน จะเกิดขึ้นเมื่
ัตถุทั้ง งมีการชนผานจุด ูนยกลางม ล การชนใน นึ่งมิติยังแบง กเปน
(1) การชนแบบยื ด ยุ น (Elastic collision) เป น การชนที่ โ มเมนตั ม ข งระบบมี ค า คงตั
(∑ 𝑝⃑ = ∑ 𝑝⃑ ) และพลั ง งานจลนข งระบบมี ค า คงตั (∑ 𝐸 = ∑ 𝐸 ) ัต ถุช นกั นแล รู ป ร า งข ง ั ต ถุ ไ ม มี
การเปลี่ยนแปลง ลังชนแล ัตถุแยก กจากกัน
𝑢⃑ 𝑢⃑ 𝑣⃑ 𝑣⃑
𝑚 𝑚 𝑚 𝑚
ก นชน ลังชน
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก 13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 12
จากพลังงานจลนข งระบบมีคาคงตั ∑𝐸 = ∑𝐸
𝑚 𝑢 + 𝑚 𝑢 = 𝑚 𝑣 + 𝑚 𝑣 (7)
นำ 2 คูณตล ด 𝑚 𝑢 +𝑚 𝑢 =𝑚 𝑣 +𝑚 𝑣
𝑚 𝑢 −𝑚 𝑣 =𝑚 𝑣 −𝑚 𝑢
𝑚 (𝑢 − 𝑣 ) = 𝑚 (𝑣 − 𝑢 )
𝑚 (𝑢⃑ − 𝑣⃑ )(𝑢⃑ + 𝑣⃑ ) = 𝑚 (𝑣⃑ − 𝑢⃑ )(𝑣⃑ + 𝑢⃑ )
จากโมเมนตัมข งระบบมีคาคงตั ∑ 𝑝⃑ = ∑ 𝑝⃑
𝑚 𝑢⃑ + 𝑚 𝑢⃑ = 𝑚 𝑣⃑ + 𝑚 𝑣⃑
𝑚 𝑢⃑ − 𝑚 𝑣⃑ = 𝑚 𝑣⃑ − 𝑚 𝑢⃑
𝑚 (𝑢⃑ − 𝑣⃑ ) = 𝑚 (𝑣⃑ − 𝑢⃑ ) (8)
นำ มการ (( )) จะได 𝒖⃑ 𝟏 + 𝒗⃑ 𝟏 = 𝒖⃑ 𝟐 + 𝒗⃑ 𝟐 (9)
ขอควรทราบเกี่ยวกับการชนแบบยืด ยุนใน นึ่งมิติ
มวล กอนชน ลังชน
𝑢⃑ = 0 𝑣⃑ = 0 𝑣⃑ = 𝑢⃑
𝑢⃑
𝑚 𝑚
𝑚 =𝑚 𝑚 𝑚
ลังชน ัตถุแรก ยุดนิ่ง น ัตถุที่ งกระเด็น กไป
เทากับค ามเร็ ข ง ัตถุ
𝑢⃑ = 0 𝑣⃑ 𝑣⃑
𝑢⃑ 𝑚 𝑚
𝑚 >𝑚 𝑚 𝑚
ลังชน ัตถุแรกเคลื่ นที่ไปด ยค ามเร็ 𝑣⃑ น ัตถุที่
งกระเด็น กไปด ยค ามเร็ 𝑣⃑ โดย 𝑣⃑ < 𝑣⃑
𝑢⃑ = 0 𝑣⃑ 𝑣⃑
𝑢⃑ 𝑚 𝑚
𝑚 <𝑚 𝑚 𝑚
ลังชน ัตถุแรกกระเด็นกลับด ยค ามเร็ 𝑣⃑ น ัตถุ
ที่ งกระเด็น กไปด ยค ามเร็ 𝑣⃑ โดย 𝑣⃑ > 𝑣⃑
(2) การชนแบบไมยืด ยุน (Inelastic collision) เปนการชนที่พลังงานจลนข งระบบไมคงตั ลัง
การชนจะมีการ ูญเ ียพลังงานจลนไปบางบาง นในรูปข งพลังงานเ ียง แ ง ค ามร น เปนตน โดยพลังงานจลน
ก นชนจะไมเทากับพลังงานจลน ลังชน (∑ 𝐸 ≠ ∑ 𝐸 โดย ∑ 𝐸 > ∑ 𝐸 ) แตยังมีการ นุร ัก โ มเมนตัม
(∑ 𝑝⃑ = ∑ 𝑝⃑ ) การชนที่ ัตถุติดกันไปจะทำใ ูญ เ ีย พลังงานจลนมากที่ ุด เรียก า “การชนแบบไมยื ด ยุ น
มบูรณ”
𝑢⃑ 𝑢⃑ 𝑣⃑
𝑚 𝑚 𝑚 𝑚
ก นชน ลังชน
จากโมเมนตัมข งระบบมีคาคงตั ∑ 𝑝⃑ = ∑ 𝑝⃑
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก 13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 13
จะได า 𝒎𝟏 𝒖⃑ 𝟏 + 𝒎𝟐 𝒖⃑𝟐 = (𝒎𝟏 + 𝒎𝟐 )𝒗⃑ (10)
รูปที่ 4 การระเบิด
แบบฝก ัด 6.4.1
32. จงพิจารณาข ค ามต ไปนี้ ข ค ามใดกลา ถูกต งเกี่ย กับการชนข ง ัตถุ
ก. พลังงานจลนก นชนเทากับพลังงานจลน ลังชน
ข. พลังงานร มข งระบบก นการชนเทากับพลังงานร มข งระบบ ลังการชน
ค. โมเมนตัมข งระบบมีคาคงตั เมื่ แรงลัพธที่กระทำต ระบบไมเปน ูนย
ง. กฎการ นุรัก โมเมนตัมใชไมไดกับ ัตถุเดีย
33. เมื่ ัตถุเล็กชนกับ ัตถุใ ญที่ ยุดนิ่ง แล ัตถุเล็กกระเด็นในทิ ตรงกันขามกับก นชน ข ใดถูกต ง
ก. โมเมนตัมร ม ลังชนเทากัน ูนย
ข. โมเมนตัม ลังชนข ง ัตถุเล็กมีปริมาณเทาเดิมแตมีทิ ทางตรงกันขาม
ค. โมเมนตัมร ม ลังชนมีขนาดเทาเดิมและมีทิ เดีย กับทิ ก นชน
ง. โมเมนตัมข ง ตั ถุใ ญต งเทากับ ัตถุเล็กแตมีทิ ตรงกันขาม
34. ในการชนกันข ง ัตถุแบบยืด ยุน ข ใดถูกต ง
ก. พลังงานจลนมคี าคงตั แตโมเมนตัมไมคงตั ข. โมเมนตัมมีคาคงตั แตพลังงานจลนไมมีคาคงตั
ค. ทั้งโมเมนตัมและพลังงานจลนมีคาไมคงตั ง. ทั้งโมเมนตัมและพลังงานจลนมีคาคงตั
35. ในการชนกันข ง ัตถุแบบไมยืด ยุน ข ใดถูกต ง
ก. พลังงานจลนมคี าคงตั แตโมเมนตัมไมคงตั ข. โมเมนตัมมีคาคงตั แตพลังงานจลนมีคาไมคงตั
ค. ทั้งโมเมนตัมและพลังงานจลนมีคาไมคงตั ง. ทั้งโมเมนตัมและพลังงานจลนมคี าคงตั
36. จากรูปเปนการชนข ง ัตถุ 2 ก น รูปใดเปนการชนแบบยืด ยุน มบูรณ เพราะเ ตุใด
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก 13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 14
37. ตั ถุ A เคลื่ นที่ด ยค ามเร็ 10 m/s เขาชน ัตถุ B ซึ่ง ยูนิ่ง ๆ ในแน ผานจุด ูนยกลางม ลทั้ง งแบบ
ยืด ยุน มบูรณ จง าค ามเร็ ข ง ัตถุ A และ B ลังชนกันเมื่
ก. mA = 4 kg mB = 1 kg ข. mA = 4 kg mB = 4 kg ค. mA = 1 kg mB = 4 kg
38. ลูกปนม ล 3 กรัม มีค ามเร็ 700 เมตร/ ินาที ิ่งทะลุผานแทงไมม ล 600 กรัม เกิดการดล ทำใ แทงไมมี
ค ามเร็ 2 เมตร/ ินาที จง าค ามเร็ ข งลูกปน ลังทะลุผาน
39. ม ล 1 กิโ ลกรั ม เคลื่ นที่ไปทางข าด ยค ามเร็ 4 เมตร/ ินาที เขาชนม ล 2 กิโลกรัม ซึ่งเคลื่ นที่ไปทาง
เดีย กันด ยค ามเร็ 2 เมตร/ ินาที ถาการชนเปนแบบยืด ยุนโดย มบูรณ จง าค ามเร็ ลังชนข งม ลทั้ง
งใน น ย เมตร/ ินาที
U, + V. = VINg
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก 13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 15
40. ตั ถุม ล 2 kg ิ่งด ยค ามเร็ 4 m/s เขาชน ัตถุม ล 1 kg ซึ่งกำลังเคลื่ นที่ด ยค ามเร็ 2 m/s ไปในทิ ทาง
เดีย กัน ถาการชนไมมีการ ูญเ ียพลังงาน ค ามเร็ ข งม ลทั้ง ง ลังชนเปนเทาใด โมเมนตัมที่เปลี่ยนไปข ง
ัตถุม ล 1 kg เปนเทาใด 5. 5
WetV2 *
8 *2 = enyteve - 24, + 2
3
v2
1 #" Bra
#
ข. "
41. ลูกปนม ล 4 กรัม ถูกยิงในแน ระดับด ย ัตราเร็ 500 เมตร/ ินาที ่งิ เขาชนแทงไมม ล 2 กิโลกรัม ซึ่งแข นไ
ด ยเชื กเบายา 1 เมตร ลูกกระ ุนเคลื่ นที่เขาไปในเนื้ ไมและทะลุ กด ย ัตราเร็ 100 เมตร/ ินาที จง า า
แทงไมจะแก งขึ้นไปได ูงกี่เซนติเมตรเ นื ระดับเดิม
/
2 = 3.
FTCV2 I have migh
= 008 (Post) : bh
ht ·
42. ตั ถุม ล 10 กิโลกรัม เคลื่ นที่ไปทางข าตามพื้นโตะซึ่งไรค ามเ ียดทานด ย ัตราเร็ 50 เมตร/ ินาที ัตถุนี้ชน
ในแน ตรงกับ ัตถุ ีกชิ้น นึ่งซึ่งกำลังเคลื่ นที่มาทางซายด ย ัตราเร็ 30 เมตร/ ินาที ถา ลังจากการชน ัตถุทั้ง
งติดไปด ยกันและเคลื่ นที่ไปทางข าด ย ัตราเร็ 20 เมตร/ ินาที ัตถุก นที่ งมีม ลกี่กิโลกรัม และ
พลังงานจลนที่ ูญเ ียไปเปนเทาใด in ue?, +
& Immersi
3
30- 3pin = 21( 10 + mm) = Itisse + =6 900
33 = <h
6
Imarf I mv
m = 2xx
( 12 - ⑥ #
1-
+
=
-
·
-
-
1920>
2002 + 125
320
12003
3 Lot
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก 13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 16
43. ชางไมใชค นม ล 200 กรัม ตีตะปูม ล 2 กรัม ในแน ราบ โดยค ามเร็ ข งค นก นกระทบตะปูเปน 10 เมตร/
ินาที และค นไมกระด นจาก ั ตะปู ถาเนื้ ไมมีแรงตานเฉลี่ย 1,000 นิ ตัน ตะปูเจาะลึกในเนื้ ไมก่เี ซนติเมตร
44. ลูกเ ล็กทรงกลมม ล 1 กิโลกรัม กลิ้งเขาชนแทงไม นัก 4 กิโลกรัม ที่ าง ยูบน พื้นด ยค ามเร็ 20 เมตรต
ินาที ถา ัมประ ิทธิ์ข งแรงเ ียดทานระ างผิ ข งแทงไม กับพื้นเทากับ 0.2 ลังจากชนแล ลูกเ ล็ก ยุดนิ่ง
กับที่ แทงไมจะไถลไปไดไกลเทาไร
45. ปริง ยูในแน ราบติดกับม ล m2 ขนาด 480 g ถายิงลูกปนม ล 20 g ในแน ราบเขาไปฝงในม ล m2 ทำใ
ปริง ดเขาไปจากเดิม 5 cm โดยลูกปน ิ่งชนม ล m2 ด ย ตั ราเร็ 50 m/s จง าคาคงตั ข ง ปริง
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก 13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 17
46. ยิงลูกปนม ล 0.002 กิโลกรัม กไปด ยค ามเร็ 1000 เมตร/ ินาที ถาตั ปนมีม ล 2 กิโลกรัม ยากทราบ า
ปนจะถ ย ลังด ยค ามเร็ เทาใด
47. ปนใ ญและรถม ล 10,000 กิโลกรัม ติด ปริงกันการ ะท นถ ย ลังดังรูป เมื่ ยิงปนใ ญปรากฏ ากระ ุน ิ่ง
กไปด ยค ามเร็ 1,000 เมตร/ ินาที
ก. จง าค ามเร็ ข งรถทันทีท่ยี ิงปนใ ญ ถากระ ุนมีม ล 10 กิโลกรัม
ข. ถาตั รถและปนใ ญเคลื่ นที่ถ ย ลังไปเพียง 0.2 เมตร จง าคานิจข ง
ปริง
48. รถ งคันมีม ล 1.0 กิโลกรัม และมีม ล M ผูกติดกันด ย ปริงดังรูป เมื่ กแรงดันรถทั้ง ง ัด ปริงเขา ากัน
แล ปล ยทันที ปรากฏ ารถคันที่มีม ล M มี ัตราเร็ เทากับ ข ง ัตราเร็ ข งรถคันที่มีม ล 1.0 กิโลกรัม
ม ล M มีคาเทาใด
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก 13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 18
49. ลูกระเบิดลูก นึ่งตกลงในแน ดิ่ง ขณะที่ ยู ูงจากพื้นดิน 2000 m และมีค ามเร็ 60 m/s ไดระเบิดขึ้นและแยก
กเปน 2 เ ่ยี งเทาๆ กัน ภาย ลังการระเบิด ชิ้น น นึ่งไดตกลงด ยค ามเร็ 80 m/s ในแน ดิ่ง ยากทราบ
า ลังจากการระเบิดผานไปนาน 12 s ชิ้น นทั้ง งจะ ยู างกันกี่ m
50. ยิงลูกปนม ล 0.06 kg ไปยัง ัตถุท่ี างนิ่ง ยูบนพื้นที่มี ัมประ ิทธิ์ค ามเ ียดทาน 0.50 ลูกปนผานทะลุ ัตถุม ล
8 kg แล ฝง ยูกับ ัตถุม ล 6 kg ถา ัตถุทั้ง งไถลไปไดระยะทางดังรูป จง าค ามเร็ ตนข งลูกปน
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก 13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 19
6.4.2 การชนใน องมิติ (Two-dimension collision)
เปนการชนที่ภาย ลังการชนแล ทิ ทางการเคลื่ นที่ข ง ัตถุไม ยูในแน เ นตรงเดีย กัน จะเกิดขึ้นเมื่ ัตถุทั้ง
งมีการชนไมผานจุด นู ยกลางม ล การชนใน งมิติยังแบง กเปนการชนแบบยืด ยุน การชนแบบไมยืด ยุนและ
การระเบิดเชนเดีย กันกับการชนใน นึ่งมิติ
(1) การชนแบบยื ด ยุ น (Elastic collision) เป น การชนที่ โ มเมนตั ม ข งระบบมี ค า คงตั
(∑ 𝑝⃑ = ∑ 𝑝⃑ ) และพลังงานจลนข งระบบมีคาคงตั (∑ 𝐸 = ∑ 𝐸 )
1. เมื่อมวลทั้ง องกอนเทากัน กำ นดใ ม ล 𝑚 มีค ามเร็ 𝑢⃑ เขาชนม ล 𝑚 ีกก น นึ่ง ซึ่ง ยู
นิ่งในแน ไมผานจุด นู ยกลางข งม ล ทำใ ม ลทั้ง งแยก กจากกันทำมุม 𝜃 มีค ามเร็ 𝑣⃑ และ 𝑣⃑ ตามลำดับ
ดังรูปที่ 5
นิง 𝑚
𝑣⃑
𝑣⃑ 𝑚
𝑚
ก นชน ลังชน
รูปที่ 9 การระเบิด ำ รับการชนใน งมิติ
แบบฝก ัด 6.4.2
51. ลูก นุก ีฟาและ ีชมพูมีม ล 0.5 กิโลกรัม เทากัน ลูก ีฟาเคลื่ นที่ด ย ัตราเร็ 2 เมตร/ ินาที เขาชนลูก ีชมพู
ซึ่ง ยูนิ่ง ถาการชนเปนการชนใน งมิติ และเปนการชนแบบยืด ยุน จง า าภาย ลังการชนกันแล ลูก นุกทั้ง
งจะเคลื่ นที่ ยางไร
ก. แยก กจากกันเปนมุม 60o ข. แยก กจากกันเปนมุม 90o
ค. เคลื่ นที่ตามกันไปในทิ ทางเดีย กัน ง. เคลื่ นที่ไปในทิ ตรงกันขาม
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก 13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 21
52. ลูกบิลเลียด A ิ่งด ย ัตราเร็ 10 เมตร/ ินาที เขาชนกับลูกบิลเลียด B ที่ ยูนิ่งและมีม ลเทากับ A ลังจากชน
กัน แล ลูกบิลเลียดทั้ง งเคลื่ นที่แยก กจากกันโดย A ทำมุม 37o กับแน เดิมดังรูป ถาการชนเปนแบบ
ยืด ยุน และไมคิดผลจากการ มุนและค ามฝดข งพื้นกับลูกบิลเลียด ัตราเร็ ข งลูกบิลเลียดทั้ง งจะเปน
เทาใด
53. ลูกกลมขนาดเทากัน 2 ลูก A และ B โดยลูก A ิ่งเขาชนลูก B ซึ่ง ยูนิ่งในแน ไมผานจุด ูนยกลาง ทำใ ลูก A
กระเด็นเบี่ยงไปจากแน เดิมเปนมุม 60 ก นชนลูกกลม A มีค ามเร็ 8 เมตรต ินาที และเปนการชนแบบ
ยืด ยุน ลังชนลูกกลม A และ B จะมีค ามเร็ เทาใด
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก 13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 22
54. แม ตั นึ่งมีม ล 1 kg ิ่งด ย ัตราเร็ 5 m/s ชนแบบยืด ยุนกับตะกราแ ปเปลที่ างนิ่ง ยู ลังการชนทำใ
แม กระเด็นไปในทิ ทางทำมุม 90o กับทิ ทางการ ่งิ ข งแม ก นชนด ย ัตราเร็ 4 m/s จง า า ลังการชน
ตระกราแ ปเปลมีขนาดโมเมนตัมเทาไร
55. รถยนต A ม ล 1000 kg ิ่งจากทิ ใตไปยังทิ เ นื และรถยนต B ม ล 1500 kg ่งิ จากทิ ตะ ันตกไปยังทิ
ตะ ัน ก เมื่ รถทั้ง งชนกันจะไดไถลลื่นติดกันไปในทิ ทางทำมุม 30o กับแน ทิ ตะ ัน ก ถารถยนต A ขับ
ด ยค ามเร็ 80 km/h จง า ตั ราเร็ ข งรถยนต B
เอก ารประกอบการ อนวิชา 30213 ฟ ิก 13 เรื่อง โมเมนตัมและการชน โดยนางจิราพร ง ทอง นา 23
56. ตั ถุ A ม ล 8 กิโลกรัม เคลื่ นที่ไปทาง +x ด ยค ามเร็ 10 m/s ชนกับ ัตถุ B ม ล 10 กิโลกรัม ซึ่งกำลัง
เคลื่ นที่ไปทางแกน +y ด ยค ามเร็ 6 m/s ภาย ลังการชน ัตถุทั้ง 2 ก น เคลื่ นที่ติดกันไป จง า ัตราเร็
ภาย ลังการชน
57. ตั ถุ นึ่งที่ างนิ่งแตก กเปน 3 น นที่ นึ่งมีม ล 1.5 กิโลกรัม ัตราเร็ 10 เมตรต ินาที นที่ งมีม ล
1.0 กิโลกรัม ัตราเร็ 20 เมตรต ินาที โดยทิ ทางค ามเร็ ข ง นที่ นึ่งและ งทำมุมฉากกัน ถา นที่ ามมี
ม ล 2.0 กิโลกรัม จะมี ัตราเร็ เทาใด
*************************************************************************