บทละคร ต้านทุจริต

You might also like

Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 6

บทละคร ต้านทุจริต

เรื่อง Time Line

ฉากเริ่มต้น รวมข่าวสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา
ฉากที่1
มะตอย กำลังนั่งดูรายงานข่าวสถานการณ์โควิด 19 ทางโทรทัศน์ช่อง NBT กับครอบครัวที่บ้าน
พิธีกรหญิง : สวัสดีค่ะ ต้อนรับท่านผู้ชมเข้าสู่การแถลงข่าวจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19
จากทำเนียบรัฐบาลนะคะ วันนี้ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เช่นเคยเรายังคงต้องติดตามเรื่องของสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 กัน
อยู่ วันนี้ช่วงของการแถลงข่าว คุณหมอทวีศักดิ์จะแบ่งการพูดคุยออกเป็น 3 ช่วงด้วยกัน เรียนเชิญนายแพทย์ทวีศักดิ์
วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.สรุปประเด็นการแถลงในวันนี้ เรียนเชิญคุณหมอค่ะ
นายแพทย์ทวีศักดิ์ : สวัสดีครับพี่น้องประชาชนครับ ขอบคุณพิธีกรนะครับที่ได้เกริ่นนำไว้ก่อน ก็ติดตามกันได้ใน
ครึ่งค่อนชั่วโมงนี้กับสถานการณ์โควิด19 นะครับ ต้องขอบคุณพี่น้องทุกท่านนะครับที่ได้โหลดแอพหมอชนะ ตอนนี้ก็มียอด
ดาวน์โหลด 6 ล้าน 8 แสนกว่าครั้งแล้วนะครับ ศบค.ขอรายงานสถานการณ์โควิดวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 ดังนี้
สถานการณ์โลกวันนี้พบผู้ติดเชื้อ 999,999,999 คน อีกแค่1 คน ก็จะครบ 1,00 ล้านคนแล้ว ส่วนในประเทศไทยสถาน
การ์ตอนนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 809 ราย เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 796 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 25,089 ราย พบ
ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นชายอายุ 67 ปี มีโรคประจำตัวคือเบาหวานและความดัน ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตอนนี้ 95 ราย
ขอเรียนให้พี่น้องประชาชน ยังคงรักษามาตรการสวมแมส ล้างมือ ทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน และขอความร่วมมือไม่ไป
สถานที่เสี่ยงหากไม่จำเป็น หรือหากจำเป็นควรกลับมารายงานตัวกลับ อสม.ใกล้บ้าน และปฏิบัติตามกฎของการกักตัวด้วย
นะครับ ที่สำคัญงดกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดการแพร่เชื้อ อาทิ การจัดงานปาร์ตี้ สังสรรค์กับคนจำนวนมาก
แม่ : เนี่ย ยอดคนติดเชื้อไม่ลดเลย พรุ่งนี้ก็วันเกิดแกแล้ว แกยังจะจัดปาร์ตี้วันเกิดอีกเหรอ
มะตอย : ทำไมล่ะ ตอยไม่ได้ติดโควิดซะหน่อยจะไปกลัวไรแม่
แม่ : แกแน่ใจได้ไงว่าแกจะไม่ติด เชื้ออาจจะอยู่ในตัวแกแล้วก็ได้ ไปโรงเรียนก็ให้ระวัง ใส่แมสให้ดี
มะตอย : โอ๊ย แม่กลัวอะไรไม่เข้าเรื่อง เนี่ย ๆ เห็นมั้ย แข็งแรงดี ไม่ได้เป็นไร
แม่ : เฮ้อ พูดไม่ฟัง เดี๋ยวถ้าติดมานะ จะสมน้ำหน้า
มะตอย : ก็คอยดูเถอะแม่
ฉากที่ 2 วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 เปิดเทอมวันแรก ณ โรงเรียนธาตุนารายณ์วิทยา
คาบเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ขณะที่ครูกำลังสอน มะตอยกำลังนั่งหันหน้าคุยกับแต้วแว้ว
แต้วแว้ว : ไงแก ปิดเทอมเป็นไง ชั้นแอบส่อง IG แก เห็นรูปอยู่นะ
มะตอย : รูปอะไรแก ชั้นไม่ได้ไปไหนเลยนะช่วงปิดทอม
แต้วแว้ว : แหม ก็รปู งานวันเกิดแก เมื่อ 2 วันก่อน ที่บ้านแกไง เห็นชวนพี่คนนั้นไปปาร์ตี้ริมสระอยู่เลย
กับเพื่อนนี่ไม่เคยชวน
มะตอย : โอ้โห นี่แอบอยู่ใต้เตียงบ้านชั้นป่ะเนี่ย รู้ทุกเรื่อง ชั้นไม่ได้ถ่ายคู่กับพี่เค้า แกเห็นได้ไง
แต้วแว้ว : ถ่ายติดแค่หางคิ้วชั้นก็จำได้ย่ะ
มะตอยรู้สึกอะเมซิ่งในความเป็นนักสืบของเพื่อนเธอมากกกก ได้แต่ยิ้มแห้ง ไม่โต้ตอบอะไร
ครูหันมาเจอสองสาวกำลังคุยกันพอดี เลยสุ่มเรียกตอบคำถาม
ครู : ข้อที่ 2 ครูขออนุญาตสุ่มถาม วันนี้วันที่ 21 ขอถามเลขที่ 21 แล้วกัน นางสาวแต้วแว้ว ได้ยินครูมั้ย
แต้วแว้ว รีบหันมายิ้มให้ครู และตอบอย่างมั่นใจ
แต้วแว้ว : 500 ค่ะครู
ครู : เดีย๋ วก่อน โจทย์สมการข้อนี้ครูถามว่า ปัจจุบันพ่ออายุเท่าไหร่ เธอตอบ 500 อายุพ่อยืนยาวยิ่งกว่าสมัย
รัตนโกสินทร์อีกนะ
เพื่อน ๆ ในห้องหัวเราะครืนนนนน
แต้วแว้วยิ้มแหยๆ
แต้วแว้ว : แหะ ๆ หนูก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้างอะค่ะครู ขอโทษค่ะ
ครู : วันนี้ครูจะหักคะแนน 5 คะแนน
แต้วแว้ว : ครูคะเพิ่งเปิดเทอม ครูจะหักคะแนนหนูแล้วเหรอ
ครูส่ายหัว พร้อมเปลี่ยนเรื่องคุย
ครู : อ้อ ครูมีเรื่องจะแจ้ง ทางโรงเรียนต้องการข้อมูลนักเรียนเรื่องการเดินทางในช่วงปิดเทอม ให้นักเรียนทำ
แบบสอบถามตามลิ้งค์ที่ส่งไปให้ในไลน์กลุ่มด้วย ให้ตอบตามความเป็นจริง อย่าปิดบังข้อมูล ทุกคนต้องรับผิดชอบต่อ
ตัวเองและสังคม เข้าใจมั้ย?
นักเรียน : เข้าใจค่ะ/เข้าใจครับ

ฉากที่ 3 โรงอาหาร เวลาพักเที่ยง


นักเรียนนั่งกินข้าวในโรงอาหาร แม้โรงเรียนจะบอกให้ทุกคนเว้นระยะห่าง แต่ก็มีนักเรียนบางคนที่ตั้งใจฝ่าฝืนกฎ
โดยเฉพาะกลุ่มของมะตอย ทั้ง 4 คน นั่งกินข้าวพูดคุยกันเสียงดัง ไม่เกรงใจคนรอบข้าง
แต้วแว้ว : ปิดเทอม จัดปาร์ตี้วันเกิด มีคนติดโควิดมางานบ้างป่าวเนี่ย
มะตอย : ไม่มหี รอก ชั้นไม่ได้ชวนใครมาซะหน่อย
ทุกคน : แน่ใจ
มะตอย : นี่พวกแกกลัวชั้นเหรอ
ทุกคนทำหน้าเลิ่กลั่ก “เปล๊า” พร้อมหยิบแมสขึ้นมาสวมพร้อมกัน
ฉากที่ 4 กลางดึก ณ ห้องนอนบ้านมะตอย
มะตอยกำลังนั่งซึมเศร้า คิดถึงใครบางคน พลางถอนหายใจ
มะตอย : เฮ่ออออออ หายไปไหนของเค้าน้า ไม่โทรมาเลย โทรหาดีมั้ยนะ ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวเค้าว่าเราคิดถึง แต่
ก็คิดถึงจริง ๆ นี่นา แต่ไม่ได้ ๆ เราเป็นผู้หญิง ต้องให้เค้าโทรมาเองสิ แต่นี่มันก็หลายวันแล้วนะ ไปไหนอะ หายไป
ไหนนนนนนนนนนนนน คิดถึง ๆๆๆๆ
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น มะตอยรีบลุกขึ้นอาบน้ำไปโรงเรียน ขณะที่เดินเข้าโรงเรียนก็พยายามมองหาใครคนหนึ่ง
ฉากที่ 5 วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 คาบเรียนวิชาคณิตศาสตร์
ครู : นักเรียนทราบข่าวรึยัง ทางโรงเรียนแจ้งมาว่า เด็กโรงเรียนเราติดโควิด 19 หนึ่งคน เพราะเพิ่งไปเที่ยว
เชียงใหม่มา
เสียงฮือฮาตามมา ทุกคนตกใจมองหน้ากัน พร้อมคุยกันเสียงดัง
ครู : เอาล่ะ ๆๆๆๆ เงียบก่อน อย่าเพิ่งตื่นตระหนกกันไป จากข้อมูลที่โรงเรียนได้มาวันนี้ ยังไม่มีใครเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือ
ใกล้ชิดผู้ป่วยคนนี้
มยุรี : ใครติดเหรอคะครู ห้องไหน
ครู : ณัฐนนท์ รุ่นพี่ 6/1 นักกีฬาบาสสุดหล่อของโรงเรียนที่พวกเธอกรี๊ด ๆ อยู่ไง
รดากำลังคิดถึงภาพพี่ ม.6 สุดหล่อ ขณะกำลังชู้ตบาสลงห่วง พร้อมส่งสายตาหวาน ๆ มาให้สาว ๆ ที่กำลังเชียร์อยู่ข้าง
สนาม
รดา : โอ๊ยยยย มิน่าล่ะ ตั้งแต่เปิดเทอมมา หนูไม่เห็นพีเ่ ค้ามาซ้อมบาสเลย หนูก็แอบมองหาเค้าอยู่ทุกวัน โธ่ น่าสงสารพี่
เค้านะคะ หนูเป็นห่วงเขาจังเลยค่ะครู อยากไปดูแล
ขณะที่ทุกคนกำลังคุยกัน ไม่มีใครสังเกตสีหน้ามะตอย ที่เริ่มไม่ค่อยจะสู้ดีนัก มีเพียงแต้วแว้วที่เห็นอาการที่เปลี่ยนไปของ
มะตอย
แต้วแว้ว : แกเป็นไร ทำไมหน้าซีดขนาดนั้น
มะตอย : เปล่าหรอก...ไม่มีไร๊
แต้วแว้วนึกได้ ว่าพี่คนนั้นเพิ่งไปปาร์ตี้วันเกิดมะตอยมา เธอรีบหยิบแมสขึ้นมาสวม พร้อมขยับเก้าอี้ออกห่างมะตอย
เล็กน้อย
วันต่อมา 26 กุมภาพันธ์ 2564
ข่าวในเพจมหัศจรรย์สกลนคร เปิดเผยไทม์ไลน์ผู้ติดโควิดรายที่ 2 ของจังหวัดสกลนคร

ไทม์ไลน์ ผู้ป่วยโควิด19 รายที่ 2 จังหวัดสกลนคร เป็นชาย อายุ 18 ปี


วันที่ 7 ก.พ. 64
11.00 เดินทางจากสนามบินอุดรธานีถึงสนามบินเชียงใหม่ พร้อมครอบครัว ใส่แมสตลอดเวลาที่ขึ้นเครื่อง
12.00 กินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับครอบครัว ไม่ใส่แมส
13.00 ไปถ่ายรูปที่คาเฟ่แห่งหนึ่ง
14.00 เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง

วันที่ 8 ก.พ. 64 ช้อปปิ้งที่เซ็นทรัลกาดสวนแก้วเชียงใหม่ พักเที่ยงรับประทานอาหารร้าน MK


วันที่ 9 ก.พ. 64
11.00 ไปร้านอาหารในตัวเมืองเชียงใหม่
12.00 เดินทางด้วยรถที่เช่ามา เดินทางไปเที่ยวม่อนแจ่ม ไม่ได้สวมแมส
14.00 เดินทางด้วยรถที่เช่ามา เดินทางเที่ยวสวนดอกมากาเร็ต
วันที่ 10 ก.พ. 64
11.00 เดินทางจากโรงแรมด้วยรถตู้ โรงแรมไปสนามบินเชียงใหม่ สวมแมสตลอดเวลา
15.00 เดินทางถึงสนามบินอุดรธานี
วันที่ 11 ก.พ. นอนพักที่บ้านทั้งวัน
วันที่ 12 ก.พ.
11.00 ออกจากบ้านไปโรบินสันด้วยรถยนต์ส่วนตัว เข้า B2S
13.00 -15.00 ร้านชาบูชิ
วันที่ 13 ก.พ. นอนอยู่บ้านทั้งวัน
วันที่ 14 ก.พ. มีอาการปวดหัว นอนอยู่บ้านทั้งวัน
วันที่ 15 ก.พ. ออกไปซื้อของข้างนอก 30 นาที ร้านกิฟท์ช้อปในตัวเมือง จำชื่อร้านไม่ได้
วันที่ 16 – 17 ก.พ. มีอาการเจ็บคอ นอนอยู่บ้านทั้งวัน
วันที่ 18 ออกไปทำธุระข้างนอกบ้านเป็นเพื่อนแม่ที่บิ๊กซี สวมแมสตลอดเวลา
วันที่ 19 จำไม่ได้
วันที่ 20 เข้ารับการตรวจ พบว่าติดเชื้อโควิด 19 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล
อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุการติดเชื้อ โควิด 19
หลังจากที่แต้วแว้วได้อ่านไทม์ไลน์ เธอจำได้ว่า วันที่ 19 กุมภาพันธ์ เป็นวันเกิดของมะตอย พี่คนนี้จำไทม์ไลน์วันนั้นไม่ได้
แปลว่าต้องการจะปกปิดข้อมูล เธอจึงเข้าไปดูรูปใน IG ของมะตอยอีกครั้ง แต่ก็พบว่ารูปงานปาร์ตี้วันเกิดของมะตอยถูก
ลบไปหมดแล้ว
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564
รูปมะตอยในงานวันเกิดถูกเผยแพร่ผ่านทางโซเชียลอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้นำไปเผยแพร่
โรงเรียนประกาศปิดโรงเรียนเป็นกรณีพิเศษเป็นเวลา 14 วัน เนื่องจากข่าวนักเรียน ม.1 เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้
ติดเชื้อโควิด19 แพร่ออกไปตามสื่อต่าง ๆ
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564
มะตอย ถ่ายรูปผลตรวจโควิดลง Facebook ยืนยันผลตรวจว่าตนเองไม่ติดโควิด มีเพื่อนเข้ามาคอมเม้นให้
กำลังใจ แต่มีบางส่วนแสดงความคิดเห็นให้กักตัวอย่างน้อย 14 วันก่อน แล้วค่อยตรวจอีกที
วันที่ 8 มีนาคม 2564
มะตอยโพสรูปตัวเองในร้านกาแฟ ลง Facebook
โดยลงแคปชั่นว่า “วันนี้มาตรวจโควิดครั้งที่ 2 ที่โรงพยาบาล ระหว่างรอผลตรวจ ขอแวะมาถ่ายรูปที่ร้านกาแฟ
ซัก 10 นาที”
หลังจากนั้น 2 ชั่วโมง มีผู้คนแชร์รูปของมะตอยไปมากกว่า 2,000 ครัง้ มีคอมเม้นท์ 5,000 คอมเม้นท์
“กักตัวครบ 14 วันแล้วเหรอคะ”
“ไปร้านแค่ 10 นาที แต่ร้านอาจจะปิดไปหลายวันก็ได้นะคะ คิดถึงคนค้าขายด้วย”
“เป็นเรื่องของจิตสำนึกต่อสังคมล้วน ๆ ”
“กักตัวคือต้องกักตัวนะคะ กักตัวแปลว่าห้ามออกไปไหน แต่นี่ยังแวะซื้อกาแฟ ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม”
“แวะร้านกาแฟแล้วกลับไปกักตัวต่อก็ได้เหรอครับ”
“รูปสวยมากครับ กักตัวไม่ครบ หน้ากากไม่ใส่ แย่สุด ๆ”
“ออกมา swab test ผลเป็นลบ แล้วถ้าครบ 14 วัน มันเป็นบวกไม่เดือดร้อนกันหมดเลยเหรอ”
“คนที่เขากลับจากต่างประเทศ เค้าต้องกักตัวอยู่ในห้อง 14 วัน เบื่อแค่ไหนก็ต้องทน ตัวเองสัมผัสผู้ป่วยโดยตรง มี
ความเสี่ยงสูงมาก ควรระมัดระวังมากกว่านี้”
“น้องควรมีจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อส่วนรวมบ้างนะคะ ในเมื่อต้องกักตัว 14 วัน ก็ต้องปฏิบัติให้ครบ”
“บางคนเกิน 14 วัน ค่อยแสดงอาการก็มี จริง ๆ ควรกักตัว 21 วันเลยนะ”
“ไปกับใครคะ ใครถ่ายรูปให้ ถามเฉย ๆ คนถ่ายต้องกักตัวด้วยมั้ย”
“น้องควรตรงกลับบ้านเลย ไม่ควรแวะที่ไหนนะ ความรับผิดชอบควรมีตั้งแต่เด็ก โตไปจะได้มีสามัญสำนึก”
วันที่ 10 มีนาคม 2564
มะตอยไลฟ์สดผ่าน Facebook รู้สึกผิดในสิ่งที่ได้ทำไป
“วันนี้ตอยกักตัวเป็นวันที่ 9 แล้ว และได้เดินทางออกจากบ้าน ไป swab test ที่โรงพยาบาล ด้วยการให้คุณแม่
ขับรถไปให้ สวมแมสตลอดเวลา หลังจากตรวจเสร็จก็แวะถ่ายรูปเล่นที่ร้านกาแฟ ระหว่างนั่งรอกาแฟ ก็ออกไปถ่ายรูป
ด้านนอก โดยถอดแมสออกเพียง 2 นาที เท่านั้น แต่หลาย ๆ คนอาจจะไม่สบายใจที่ตอยยังกักตัวไม่ครบ 14 วัน จน
ก่อให้เกิดความกังวลกับสังคม จึงขอใช้พื้นทีน่ ี้ในการออกมาขอโทษกับทุกคน หากตอยทำให้เกิดความเสียหายจากการ
กระทำดังกล่าวไม่ว่ามากหรือน้อยก็ตาม อย่างน้อยตอยควรปฏิบัติตัวให้เหมาะสมและถูกต้องตามหลักการ ตอยจะ
ระมัดระวัง ควบคุมตัวเองอย่างเคร่งครัดให้ครบ 14 วัน และจะคอยแจ้งผลตรวจให้ทุกคนทราบเพื่อยืนยันผลให้ชัดเจนค่ะ
กราบขอโทษสังคม ต่อไปจะรับผิดชอบต่อส่วนรวมให้มากกว่านี้ ขอโทษจากใจ หวังว่าทุกคนจะให้อภัยค่ะ”

ในความโชคร้าย ยังมีความโชคดี ขณะที่มะตอยนั่งคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาและรู้สึกสำนึกผิดต่อสิ่งที่ตัวเองได้ทำไป


จู่ ๆ ก็มีเสียงไลน์เตือนจากโทรศัพท์ มะอยหยิบขึน้ มาดูก็แอบนั่งยิ้ม
“หายเร็ว ๆ นะคะ พี่ขอโทษที่ทำให้เดือดร้อน ขอโทษที่ไม่ได้โทรหา เพราะพี่อยู่โรงพยาบาลมาหลายวัน
พีจ่ ะขอรับผิดชอบทุกอย่างเอง ต่อไปนี้พจี่ ะดูแลมะตอยให้ดีที่สุด .........เป็นแฟนกันนะ.........”

จบ บริบูรณ์

ละครเรื่องนี้ สอดคล้องกับหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา และหน่วยการเรียนรู้ที่โรงเรียนกำหนด


โดยอยู่ในหน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม
“ความรับผิดชอบต่อสังคมคือความรู้สึกรับผิดชอบต่อส่วนรวม เป็นการกระทำหรือการละเว้นการกระทำ
ใด ๆ ในทางที่จะไม่ทำให้เกิดผลเสียหายแก่ส่วนรวม แต่ทำให้เกิดผลดีแทน”
“สังคมจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขปลอดภัยได้ คนในสังคมต้องมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อส่วนรวมและมี
วินัยในตัวเอง ความรับผิดชอบไม่ใช่...ภาระ...แต่เป็น...หน้าที่...ที่ทุกคนต้องยึดถือปฏิบัติ การขาดความรับ
รับผิดชอบแม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลต่อคนส่วนมากและกลายเป็นผลเสียในวงกว้างได้”

You might also like