ชุ ดที่ 2 เวลาทาข้อสอบ 60 นาที

1. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการสื บพันธุ์ 5. ข้อใดเป็ นผลดีของการขยายพันธุ์พืชโดย

แบบอาศัยเพศ เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
ก. เกิดขึ้นได้เฉพาะสิ่ งที่มีชีวติ ที่เป็ นสัตว์ ก. ได้พืชที่แข็งแรง ปราศจากโรค
ข. ใช้ระยะเวลานานกว่าการสื บพันธุ์ ข. ได้พืชที่มีลกั ษณะเหมือนเดิม
แบบไม่อาศัยเพศ ทุกประการ
ค. ไม่ตอ้ งมีการผสมของเซลล์สืบพันธุ์ ค. ได้จานวนต้นมากในคราวเดียวกัน
เพศผูแ้ ละเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย ง. ถูกทั้ง 3 ข้อ
ง. ต้องมีการปฏิสนธิ 6. ถ้าต้องการให้ตน้ เฟื่ องฟ้าต้นเดียวมีดอก
2. เกสรเพศเมียบางชนิดจะมีลกั ษณะเป็ นขน หลายสี ควรใช้วธิ ีขยายพันธุ์วธิ ีใด
บางชนิดจะมีลกั ษณะเหนียวเพื่อประโยชน์ ก. ตอนกิ่ง
อะไร ข. ติดตา
ก. เพื่อให้ละอองเรณู เกาะติดอยูไ่ ด้ ค. โน้มกิ่ง
ข. ช่วยล่อแมลงให้มาตอมเพื่อช่วยผสม ง. ทาบกิ่ง
เกสร 7. ดอกไม้ชนิดใดเป็ นดอกสมบูรณ์เพศ
ค. ช่วยป้ องกันอันตรายจากสิ่ งต่างๆ ก. ดอกบวบ ดอกมะละกอ
ง. ช่วยสร้างเซลล์สืบพันธุ์ ข. ดอกมะยม ดอกบัว
3. ผลมะละกอ เจริ ญมาจากสิ่ งใด ค. ดอกพูร่ ะหง ดอกข้าว
ก. ใบ ข. ดอก ง. ดอกกล้วยไม้ ดอกฟักทอง
ค. เมล็ด ง. รังไข่
4. การขยายพันธุ์ตน้ กล้วยควรใช้วธิ ีใด
ก. เพาะเมล็ด ข. ใช้หน่อ
ค. ปักชา ง. ต่อกิ่ง

9
อ่านเรื่ องทีก่ าหนด แล้วตอบคาถามข้ อ 8 - 10
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในลาธารน้ าใสเย็นริ นไหลผ่านพื้นกรวด มีหนอนตัวแบนตัวหนึ่ง
อาศัยอยูบ่ นพื้นใต้น้ า ตัวมันไม่ใหญ่เท่าไหร่ ยาวเพียงแค่ 2 เซนติเมตร ถ้าเราดูมนั ดีๆ จะมองเห็นว่า
มันตาเหล่
แต่สาหรับสัตว์ตวั เล็กมากๆ ยาวไม่กี่มิลลิเมตร อย่างเหาน้ า หมีน้ า กุง้ เม็ดถัว่ และตัว
ไซคล็อบส์ หนอนตัวแบนเป็ นสัตว์น่ากลัวที่สุด มันไถตัวแบนกระดืบๆ ไปตามพื้นใต้น้ า ที่ไหนมี
สัตว์นอ้ ยเกาะซ่อนอยู่ มันก็จะเปิ ดปากที่อยูต่ รงพุงพอดิบพอดีอา้ รวบสัตว์นอ้ ยกลืนกินเข้าไปทั้งตัว
วันหนึ่ง เหล่าสัตว์ตวั น้อยจึงหารื อร่ วมกัน “ฉั นทนไม่ ไหวแล้ ว เราจะทาอย่ างไรดี” เหาน้ า
ว่า “เราไปขอให้ มวนแมงป่ องนา้ จัดการหนอนตัวแบนกันดีกว่ า” หมีน้ าเสนอ
มวนแมงป่ องน้ าชอบกินสัตว์อื่นเหมือนกัน แต่มนั ชอบสัตว์ตวั ใหญ่กว่าพวกเหาน้ า อย่าง
พวกลูกปลา ลูกอ๊อด หรื อลูกแมลงน้ าตัวโตๆ เท่าปลายนิ้วก้อย
แล้วมวนแมงป่ องน้ าก็แอบซุ่ มดักจับหนอนตัวแบน มวนแมงป่ องน้ ายืน่ ขาหน้าแสนคม
ออกไป ฟ้าบ ! หนอนตัวแบนแสนลื่นแสนแบน แนบหิ นจนจับไม่อยู่ กระดืบหนีไปได้
แต่ดูนนั่ สิ ! บาดแผลแสนฉกรรจ์ หนอนตัวแบนถูกแมงป่ องน้ าฟัน ผ่าหัวมันแบะออกเป็ น
สองซีก ปฏิบตั ิการสาเร็ จแล้ว !
แต่หนอนตัวแบนไม่ยกั ตาย มันงอกเนื้ อซ่อมแซมหัวขาดขึ้นมาใหม่กลายเป็ นหนอนตัวแบน
2 หัว ออกล่าเหยือ่ กินต่อไป
กุง้ เม็ดถัว่ จึงขอให้มวนแมงป่ องน้ าดักจับหนอนตัวแบนอีกครั้ง ฉึ ก ! คราวนี้หนอนตัวแบน
ถูกตัดขาดออกเป็ น 2 ท่อน แต่หนอนตัวแบนก็ไม่ตาย ทั้งท่อนหัว ท่อนหางกระดืบหนี ไปได้
แล้วท่อนหัวก็งอกหางใหม่ออกมา แล้วท่อนหางก็งอกหัวใหม่ออกมา กลายเป็ นหนอนตัวแบน
2 ตัว ตัวหนึ่งมี 2 หัว อีกตัวหนึ่งมีหวั เดียว พากันกระดืบๆ ล่าสัตว์กินตามท้องน้ าต่อไป
พวกสัตว์นอ้ ยขอให้มวนแมงป่ องน้ าจัดการมันอีกครั้ง คราวนี้มวนแมงป่ องน้ าฉี กหนอน
ตัวแบนซ้ า ซ้ า ซ้ า ซ้ า จนกลายเป็ นเศษเนื้ อชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่หนอนตัวแบนก็ไม่ตาย เศษเนื้อทุกชิ้น
กระดืบหนีไปได้อีก และ... ใช่เลย ทุกๆ ชิ้นงอกออกกลายเป็ นหนอนตัวแบนมากมายหลายๆ ตัว
จากเรื่ อง หนอนตัวแบนแห่ งธารนา้ ใส ของ อ้ อย กาญจนะวณิ ชย์

10
8. จากเนื้อเรื่ อง กล่าวถึงสัตว์ประเภทใด 12. สัตว์ในข้อใดที่มีการสื บพันธุ์แบบ
ก. สัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง ไม่อาศัยเพศ
ข. สัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง ก. กุง้ ข. ปู
ค. สัตว์ที่มีลาตัวเป็ นปล้อง ค. ม้าน้ า ง. ดาวทะเล
ง. สัตว์ที่มีขาเป็ นข้อ 13. พืชชนิดใดมีการสื บพันธุ์คล้ายกับไฮดรา
9. จากเนื้อเรื่ อง กล่าวถึงสัตว์ท้ งั หมดกี่ชนิด ก. เฟิ ร์น ข. กล้วย
ก. 6 ชนิด ข. 7 ชนิด ค. มะพร้าว ง. ข้าว
ค. 8 ชนิด ง. 9 ชนิด 14. การงอกหางใหม่ของจิง้ จก จัดเป็ นการ
10. จากเรื่ องที่กาหนด หนอนตัวแบนเป็ นสัตว์ สื บพันธุ์เหมือนพลานาเรี ยหรื อไม่
ชนิดใด และมีการสื บพันธุ์ในลักษณะใด ก. เป็ นการสื บพันธุ์ เพราะทาให้
ก. พารามีเซียม – แบ่งเซลล์เป็ น 2 ส่ วน ร่ างกายสมบูรณ์ข้ ึน
ข. พลานาเรี ย – งอกใหม่ ข. เป็ นการสื บพันธุ์ เพราะทาให้จิ้งจก
ค. ไฮดรา – แตกหน่อ มีชีวติ อยูไ่ ด้
ง. ยูกลีนา – งอกใหม่ ค. ไม่เป็ นการสื บพันธุ์ เพราะไม่ได้
11. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับการปฏิสนธิ เจริ ญเป็ นจิ้งจกตัวใหม่
ก. การปฏิสนธิภายนอกมีการผสมของ ง. ไม่มีคาตอบที่ถูกต้อง
เซลล์อสุ จิกบั เซลล์ไข่ภายในร่ างกาย 15. ในการผสมเทียมปลา เพราะเหตุใดจึงต้อง
ของเพศเมีย แต่ตวั อ่อนออกมาเจริ ญ ฉี ดฮอร์ โมนให้กบั พ่อพันธุ์และแม่พนั ธุ์
ภายนอก ก. เพื่อให้ปลาแม่พนั ธุ์ออกไข่
ข. การปฏิสนธิภายใน เซลล์อสุ จิเข้า จานวนมาก
ผสมกับเซลล์ไข่ภายนอกร่ างกายของ ข. เพื่อให้ปลาพ่อพันธุ์และแม่พนั ธุ์
เพศเมีย แต่ตวั อ่อนเจริ ญภายในครรภ์ ยินยอมให้ผสมเทียม
ค. การปฏิสนธิ ภายนอกไม่มีการผสม ค. เพื่อกระตุน้ ให้ไข่ของปลาแม่พนั ธุ์
ของเซลล์อสุ จิกบั เซลล์ไข่ สุ กเต็มที่และปลาพ่อพันธุ์มีน้ าเชื้อ
ง. การปฏิสนธิภายในมีการผสมของ ที่สมบูรณ์
เซลล์อสุ จิกบั เซลล์ไข่ภายในร่ างกาย ง. เพื่อย่นระยะเวลาในการให้กาเนิด
ของเพศเมีย ลูกปลา

11
16. พฤติกรรมใดของสัตว์เป็ นไปเพื่อการสื บพันธุ์ 20. ถ้าต้องการไม่ให้โต๊ะไม้เกิดรอยขีดข่วน
ก. การอพยพย้ายถิ่น บนพื้นผิวโต๊ะ ควรแก้ปัญหาอย่างไร
ข. การพรางตัว ก. ใช้ผา้ ปูโต๊ะคลุมโต๊ะไว้
ค. การปรับเปลี่ยนรู ปร่ าง ข. ปูดว้ ยผ้าพลาสติก
ง. การเกี้ยวพาราสี ค. ปูดว้ ยแผ่นกระจก
17. ข้อใดที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดลักษณะทาง ง. ปูดว้ ยผ้ายาง
พันธุกรรม 21. สมบัติการนาความร้อนของวัสดุนาไปใช้
ก. นิ้วหัวแม่มืองอได้ - นิ้วหัวแม่มืองอ ประโยชน์ในการทาสิ่ งใด
ไม่ได้ ก. เครื่ องครัว
ข. กระดิกนิ้วมือได้ - กระดิกนิ้วมือ ข. เครื่ องประดับ
ไม่ได้ ค. ของตกแต่งบ้าน
ค. ดีดนิ้วมือได้ - ดีดนิ้วมือไม่ได้ ง. เครื่ องเรื อน
ง. กามือได้ - กามือไม่ได้ 22. การใช้ทพั พีโลหะคนแกงที่กาลังเดือด
18. หน่วยพันธุ กรรมที่ควบคุมการถ่ายทอด จะรู ้สึกร้อนมือเพราะอะไร
ลักษณะทางพันธุ กรรมอยูใ่ นส่ วนใด ก. มืออยูใ่ กล้เตาไฟเกินไป
ก. เซลล์ร่างกาย ข. โลหะนาความร้อนมาสู่ มือ
ข. ต่อมเหงื่อ ค. ไอร้อนจากแกงลอยขึ้นมาถูกมือ
ค. เม็ดเลือด ง. น้ าแกงที่กาลังเดือดกระเด็นถูกมือ
ง. ยีน 23. อนุภาคของสารในข้อใดมีลกั ษณะ
19. สัตว์ชนิดหนึ่งเป็ นสัตว์เลือดอุ่น มีขนแบบ ฟุ้งกระจาย
เส้นผมปกคลุมลาตัว หายใจโดยใช้ปอด มี ก. น้ าแข็ง
การปฏิสนธิ ภายในร่ างกาย ออกลูกเป็ นไข่ ข. น้ าเชื่อม
มีต่อมน้ านมใช้เลี้ยงลูก ว่ายน้ าได้และหา ค. ไอน้ า
กินในน้ า ง. หยดน้ า
อยากทราบว่าเป็ นสัตว์ชนิดใด
ก. แมวน้ า ข. ตุ่นปากเป็ ด
ค. สิ งโตทะเล ง. วอลลัส

12
24. วัสดุชนิดหนึ่งเมื่อถูกแรงกระทาแล้วมีการ 25. จากคาตอบข้อ 24 น่าจะเป็ นวัสดุในข้อใด
เปลี่ยนรู ปร่ างหรื อขนาด และเมื่อหยุดออก ก. ดินเหนียว
แรงก็คืนสภาพเดิม แสดงว่าวัสดุน้ นั มีสมบัติ ข. ดินน้ ามัน
ด้านใด ค. ฟองน้ า
ก. การคืนสภาพ ง. เชือกฟาง
ข. สภาพยืดหยุน่
ค. การยืดหด
ง. การคลายตัว
ใช้ ข้อมูลในตาราง ตอบคาถามข้ อ 26-28
สถานะ สมบัติของสารในสถานะต่ างๆ
ของสาร มวล ทีอ่ ยู่ รูปร่ าง ปริมาตร
มีมวล ไม่มีมวล ต้องการ ไม่ตอ้ งการ คงที่ ไม่คงที่ คงที่ ไม่คงที่
A    
B    
C    

26. แก๊สมีสมบัติตรงกับข้อใด 28. สถานะของสารในข้อใดที่มีปริ มาตร

ก. A ฟุ้งกระจาย
ข. B ก. A
ค. C ข. B
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ค. ค. C
27. น้ าแข็งมีสมบัติตรงกับข้อใด ง. สรุ ปไม่ได้
ก. A 29. ถ้าต้องการหาปริ มาตรของของแข็ง
ข. B ด้วยการแทนที่น้ า ต้องใช้อุปกรณ์ใด
ค. C ก. บีกเกอร์
ง. ไม่มีขอ้ ถูก ข. ถ้วยยูรีกา
ค. เครื่ องชัง่
ง. หลอดทดลอง

13
30. ทดลองปล่อยลมจากลูกโป่ งเข้าไปใน
ถุงมือยาง จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
ก. ถุงมือยางพองขึ้น มีรูปร่ างเหมือน
ลูกโป่ ง
ข. ถุงมือยางพองขึ้น จนเท่ากับลูกโป่ ง
ค. ถุงมือยางพองขึ้น ขณะที่ลูกโป่ ง
แฟบลง
ง. ถุงมือยางแฟบลง ขณะที่ลูกโป่ ง
พองขึ้น
31. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับสมบัติของสาร
ในสถานะต่างๆ
ก. แก๊สมีรูปร่ าง และปริ มาตรไม่คงที่
จะเปลี่ยนแปลงไปตามภาชนะที่
บรรจุ
ข. ของเหลวมีรูปร่ าง และปริ มาตร
ไม่คงที่ จะเปลี่ยนแปลงไปตาม
ภาชนะที่บรรจุ
ค. ของแข็งมีมวล รู ปร่ าง และ
ปริ มาตรคงที่ แต่มีความหนาแน่น
ไม่คงที่
ง. ของแข็ง ของเหลว แก๊ส มีมวล
ต้องการที่อยู่ และมีรูปร่ างคงที่
32. ถ้ามีแรง 3 นิวตัน และแรง 2 นิวตัน กระทา
ต่อวัตถุในทิศทางเดียวกัน แรงลัพธ์จะมีค่า
เท่าไร
ก. 1 นิวตัน ข. 2 นิวตัน
ค. 3 นิวตัน ง. 5 นิวตัน
14
33. ถ้ามีแรง 3 นิวตัน และแรง 2 นิวตัน
กระทาต่อวัตถุในทิศทางตรงกันข้ามกัน
แรงลัพธ์จะมีค่าเท่าไร
ก. 1 นิวตัน
ข. 2 นิวตัน
ค. 3 นิวตัน
ง. 5 นิวตัน
34. สารในข้อใดมีสถานะเป็ นของเหลว
ก. สังกะสี
ข. ปรอท
ค. ตะกัว่
ง. อะลูมิเนียม
35. ความกดอากาศเกิดจากสาเหตุใด
ก. เพราะอากาศมีน้ าหนัก
ข. เพราะอากาศต้องการที่อยู่
ค. เพราะอากาศมีปริ มาณมาก
ง. เพราะอากาศเคลื่อนที่ตลอดเวลา
36. เมื่อดูดน้ าเข้าหลอดดูดครึ่ งหนึ่ง แล้วใช้นิ้ว
อุดปลายข้างหนึ่งของหลอดไว้ น้ าจะไหล
ออกจากหลอดหรื อไม่ เพราะอะไร
ก. ไม่ไหล เพราะหลอดดูดซับน้ าไว้
ข. ไม่ไหล เพราะอากาศภายนอกดัน
น้ าไว้
ค. ไหล เพราะน้ าในหลอดมีน้ าหนัก
เบา
ง. ไหล เพราะอากาศภายในหลอด
ดันน้ าให้ไหลออกมา
37. ความดันของน้ ากับระดับความลึกมีความ
สัมพันธ์กนั อย่างไร
ก. ที่ระดับความลึกน้อย ความดันของ
น้ าจะมีค่ามาก
ข. ที่ระดับความลึกมาก ความดันของ
น้ าจะมีค่าน้อย
ค. ที่ระดับความลึกมาก ความดันของ
น้ าจะมีค่ามาก
ง. ไม่มีคาตอบที่ถูกต้อง
38. ถ้าลอยวัตถุชิ้นเดียวกันในของเหลวที่มีความ
หนาแน่นต่างกัน ข้อใดถูกต้อง
ก. วัตถุจะจมลงไปมากในของเหลว
ที่มีความหนาแน่นน้อยกว่า
ข. วัตถุจะจมลงไปน้อยในของเหลว
ที่มีความหนาแน่นน้อยกว่า
ค. ของเหลวที่มีความหนาแน่นมากกว่า
มีแรงลอยตัวน้อยกว่า
ง. ของเหลวที่มีความหนาแน่น
น้อยกว่า มีแรงลอยตัวมากกว่า
39. น้ าหนักของวัตถุข้ ึนอยูก่ บั สิ่ งใด
ก. แรงดึงดูดของโลกที่กระทาต่อวัตถุ
ข. แรงเสี ยดทานที่มีต่อพื้นผิวของวัตถุ
ค. แรงดึงดูดของบรรยากาศ
ง. แรงดึงดูดของวัตถุ
15
40. วัตถุบางชนิดจมน้ าเพราะเหตุใด
ก. มวลของวัตถุ มีค่าน้อยกว่าแรง
ต้านทานของน้ า
ข. แรงต้านทานของน้ า มีค่ามากกว่า
มวลของวัตถุ
ค. แรงต้านทานของน้ า มีค่าน้อยกว่า
มวลของวัตถุ
ง. แรงต้านทานของน้ า มีค่าเท่ากับ
มวลของวัตถุ
41. ข้อใดเกิดแรงเสี ยดทานระหว่างพื้นผิวของ
วัตถุนอ้ ยที่สุด
ก. ปอเตะลูกบอลให้กลิ้งไปบนสนาม
ข. ปาล์มเล่นสเกตบนพื้นน้ าแข็ง
ค. เปิ้ ลขี่จกั รยานบนถนนลูกรัง
ง. เป๋ าเดินลุยโคลน
42. การกระทาในข้อใดมีขนาดของแรง
เสี ยดทานน้อยที่สุด
ก. กลิ้งลูกปิ งปองบนพื้นเรี ยบ
ข. กลิ้งลูกปิ งปองบนสนามหญ้า
ค. กลิ้งลูกมะกรู ดบนพื้นเรี ยบ
ง. กลิ้งลูกมะกรู ดบนสนามหญ้า
43. เสี ยงของคนเกิดจากอะไร
ก. การสัน่ สะเทือนของลาคอ
ข. การสั่นสะเทือนของริ มฝี ปาก
ค. การสั่นสะเทือนของลูกกระเดือก
ง. การสั่นสะเทือนของเส้นเสี ยง
ในกล่องเสี ยง
44. ถ้าจุดสี ดาเป็ นแหล่งกาเนิดเสี ยง คลื่นเสี ยง 48. ถ้าประเทศไทยเป็ นช่วงเวลากลางวัน
เดินทางจากแหล่งกาเนิดเสี ยงอย่างไร ประเทศใดจะเป็ นช่วงเวลากลางคืน
ก. ก. มาเลเซีย ข. จีน
•
ค. เวียดนาม ง. อังกฤษ
ข. 49. แม่บอกให้ ด.ช.ต้น สังเกตว่าฝนตกมาก
•
น้อยเพียงใด เพื่อเฝ้าระวังภาวะน้ าท่วม
ค. • ด.ช.ต้น ควรเลือกใช้เครื่ องมือในข้อใด
ง. • ตรวจสอบ
ก. เรนเกจ
45. อวัยวะสาคัญที่ทาให้เราได้ยนิ เสี ยง
ข. วินด์เวน
คืออวัยวะใด
ค. บารอมิเตอร์
ก. ใบหู ข. ช่องหู
ง. เทอร์มอมิเตอร์
ค. เยือ่ แก้วหู ง. สมอง
50. ปุ้มต้องการศึกษาและสังเกตกลุ่มดาวบน
46. เมื่ออากาศเคลื่อนที่จากบริ เวณที่มีความกด
ท้องฟ้าในช่วงเวลาต่างๆ ตลอดสัปดาห์
อากาศสู งไปยังบริ เวณที่มีความกดอากาศต่า
เขาควรใช้สิ่งใดช่วยค้นหาตาแหน่งของ
จะทาให้เกิดสิ่ งใด
กลุ่มดาวจึงจะเหมาะสม
ก. ไอน้ า ข. เมฆ
ก. เข็มทิศ
ค. ลม ง. ฝน
ข. แผนที่ดาว
47. ปรากฏการณ์ใดไม่ได้เกิดจากการหมุนรอบ
ค. แว่นตาสุ ริยะ
ตัวเองของโลก
ง. กล้องโทรทรรศน์
ก. การขึ้นตกของดวงดาว
ข. กลางวัน – กลางคืน
ค. น้ าขึ้น – น้ าลง
ง. การเกิดทิศ


16