Professional Documents
Culture Documents
Screenshot 2024-07-09 at 17.41.36
Screenshot 2024-07-09 at 17.41.36
ตรรกศาสตร
1. ประพจน
ประพจน คือประโยคที่เปนจริงหรือเท็จอยางใดอยางหนึ่งเพียงอยางเดียว ซึ่งอาจจะอยูในรูปประโยค
บอกเลาหรือประโยคปฏิเสธก็ได
2. นิเสธและตัวเชื่อมประพจน
เราสรางประพจนใหมที่มีคาความจริงตรงขามกับเดิมไดโดยอาศัยตัวดําเนินการที่เรียกวานิเสธ
ซึ่งเขียนแทนดวยสัญลักษณ ∼ ซึ่งสามารถแสดงคาความจริงดวยตารางคาความจริงไดดังนี้
p ∼p
T F
F T
หลักในการจําคาความจริงสําหรับตัวเชื่อมตางๆ
1. ตัวเชื่อม และ เปน T เมื่อทั้งคูเปน T นอกนั้นเปน F
2. ตัวเชื่อม หรือ เปน F เมื่อทั้งคูเปน F นอกนั้นเปน T
3. ตัวเชื่อม ถา...แลว เปน F สําหรับ T → F เพียงกรณีเดียวเทานั้น ที่เหลือเปน T
4. ตัวเชื่อม ก็ตอเมื่อ ถาเหมือนกันเปน T และถาตางกันเปน F
คณิตศาสตร ตรรกศาสตร 5
3. ตารางคาความจริง
การสรางตารางคาความจริงของประพจนเปนการแจงกรณีทเี่ ปนไปไดทั้งหมดทุกกรณี ซึ่งทําไดไมยาก
แตเสียเวลา หากมีประพจนยอยตางๆ กันอยู n ประพจนยอย จะมีกรณีที่แตกตางกันไดทั้งหมด 2n กรณี
ตัวอยาง จงสรางตารางคาความจริงของ (p → q ) ∧ r
วิธีทํา
p q r p →q (p → q ) ∧ r
T T T T T
T T F T F
T F T F F
T F F F F
F T T T T
F T F T F
F F T T T
F F F T F
4. ประพจนที่สมมูลกัน
ประพจนใดๆ สองประพจนสมมูลกัน เมื่อไมวาคาความจริงในประพจนยอยจะเปนอยางไร คาความ
จริงของทั้งสองประพจนนั้นจะเหมือนกันทุกกรณี การตรวจสอบการสมมูลสามารถทําไดโดยสรางตารางคา
ความจริงหรืออาศัยประพจนสมมูลพื้นฐานเขาชวย
ถา p และ q เปนประพจนที่สมมูลกัน จะเขียนแทนดวย p ≡q
เพื่อใหตรวจสอบประพจนที่สมมูลกันไดงาย เราอาจอาศัยรูปแบบที่สมมูลกันตอไปนี้เขาชวย
1. การสลับที่ T-f = F
p ∨q ≡ q ∨q T1T = T
p ∧q ≡ q ∧ p F VF = F
p ↔q ≡ q ↔ p
2. การจัดหมู
(p ∨ q ) ∨ r ≡ p ∨ (q ∨ r )
(p ∧ q ) ∧ r ≡ p ∧ (q ∧ r )
3. การกระจาย
p ∧ (q ∨ r ) ≡ (p ∧ q ) ∨ (p ∧ r )
p ∨ (q ∧ r ) ≡ (p ∨ q ) ∧ (p ∨ r )
6 ตรรกศาสตร คณิตศาสตร
4. เอกลักษณ
p∨p ≡ p
p∧p ≡ p
p∧T ≡ p
p∨F ≡ p
5. ถา...แลว
p → q ≡ ∼ p ∨q ≡ ∼ q → ∼ p
6. นิเสธซอน
∼ (∼ p) ≡ p
7. นิเสธ
∼ (p ∨ q ) ≡ ∼ p ∧ ∼q
∼ (p ∧ q ) ≡ ∼ p ∨ ∼q
∼ (p → q ) ≡ p ∧ ∼q
8. ก็ตอเมื่อ
p ↔ q ≡ (p → q ) ∧ (q → p)
5. สัจนิรันดร
เราจะเรียกประพจนใดวา สัจนิรันดร ก็ตอเมื่อไมวาคาความจริงของประพจนยอยจะเปนอะไรก็ตาม
คาความจริงของประพจนนั้นจะเปนจริงเสมอ
6. ประโยคเปดและวลีบงปริมาณ
ประโยคเปด คือ ประโยคบอกเลาหรือปฏิเสธที่มีตัวแปร ประโยคเปดไมเปนประพจน แตถาแทนตัว
แปรดวยสมาชิกในเอกภพสัมพัทธแลวเราจะไดประพจน
การทําประพจนเปดใหเปนประพจนสามารถทําไดโดยการใส วลีบงปริมาณ ซึ่งมีอยูดวยกัน 2 ตัว คือ
“ ∀ ” (for all, ทุกๆ) และ “ ∃ ” (for some, บางตัว) ซึ่งการกําหนดคาความจริงและการใสนิเสธเปนไป
ตามตารางตอไปนี้
ขอความ เงื่อนไขที่ทําใหจริง เงื่อนไขที่ทําใหเท็จ
ทุกๆ x ในเอกภพสัมพัทธ มีบาง x ในเอกภพสัมพัทธ
∀x [P (x )]
ทําให P (x ) จริง ที่ทําให P(x ) เท็จ
มีบาง x ในเอกภพสัมพัทธ ทุกๆ x ในเอกภพสัมพัทธ
∃x [P (x )]
ที่ทําให P(x ) จริง ทําให P(x ) เท็จ
คณิตศาสตร ตรรกศาสตร 7
7. นิเสธของประพจนที่มีวลีบงปริมาณ
1. ∼ ∀x [P (x )] ≡ ∃x [∼ P (x )]
2. ∼ ∃x [P (x )] ≡ ∀x [∼ P (x )]
3. ∼ ∀x ∀y [P (x , y )] ≡ ∃x ∃y [∼ P (x , y )]
4. ∼ ∀x ∃y [P (x , y )] ≡ ∃x ∀y [∼ P (x , y )]
5. ∼ ∃x ∀y [P (x , y )] ≡ ∀x ∃y [∼ P (x , y )]
6. ∼ ∃x ∃y [P (x , y )] ≡ ∀x ∀y [∼ P (x , y )]
8. การอางเหตุผล
การอางเหตุผลคือการอางวาเมื่อมีขอความ p1, p2 , …, pn ชุดหนึ่งเปนจริง จะสามารถสรุปขอความ q
ไดหรือไม นั่นคือขอความ (p1 ∧ p2 ∧ ∧ pn ) → q เปนสัจนิรันดรหรือไมนั่นเอง
ถาขอความ (p1 ∧ p2 ∧ ∧ pn ) → q เปนสัจนิรันดร เราจะกลาววาการอางเหตุผลนี้สมเหตุสมผล
(valid) ถาไมเปนสัจนิรันดรจะกลาววาการอางเหตุผลนี้ไมสมเหตุสมผล (invalid)
MATH HORWAMG ~5~
ปีการศึกษา 2562
1. ข้ ใดเป็นประพจน์
1) a2 0 2) b − 5 = 5 − b
3) ประโยคทุกประโยคมีค่าความจริงเป็นจริงเ ม 4) Next School เป็นระบบดูแลช่วยเ ลื นักเรียนที่ดีที่ ุด
MATH HORWAMG
MATH HORWAMG ~6~
6. กา นดใ ้ค่าความจริงข งรูปแบบประพจน์ x → ( y → z ) → ( y → z ) เป็นเท็จ
รูปแบบประพจน์ในข้ ใดมีค่าความจริงเป็นเท็จ
1) ( x z ) ( y z ) 2) ( y z ) ( z x )
3) ( z x ) ( x z ) 4) ( x y ) ( y z )
MATH HORWAMG
MATH HORWAMG ~7~
12. พิจารณาการ ้างเ ตุผลต่ ไปนี้
เ ตุ 1. ถ้าซ้ งปีบไม่ไปดู นังแล้วญาญ่าจะ ยู่บ้าน
2. ญาญ่าไม่ ยู่บ้าน รื กา ะล งไปโรงเรียน
3. กา ะล งไม่ไปโรงเรียน
ผล a
a แทนประพจน์ในข้ ใด จึงจะทาใ ้การ ้างเ ตุผลข้างต้น มเ ตุ มผล
1) กา ะล งไปโรงเรียน 2) ถ้าซ้ งปีบไปดู นังแล้วญาญ่าไม่ ยู่บ้าน
3) ญาญ่าจะ ยู่บ้านก็ต่ เมื่ ซ้ งปีบไปดู นัง 4) ญาญ่าจะ ยู่บ้านแต่กา ะล งไปโรงเรียน
MATH HORWAMG
MATH HORWAMG ~8~
16. ถ้าเ กภพ ัมพัทธ์คื เซตข งจานวนเต็ม แล้วข้ ใดต่ ไปนี้ถูกต้อง
1) x ( x + 4 = 0 ) ( x − 2 = −6 ) มีค่าความจริงเป็นเท็จ
2) x ( x 2 0 ) ( x 2 + 1 = 0 ) มีค่าความจริงเป็นจริง
3) x x → x x 0 มีค่าความจริงเป็นเท็จ
4) x ( x 0 ) ( x 0 ) ( x x 0 x x 0 ) มีค่าความจริงเป็นจริง
18. ข้ ใดไม่ถูกต้อง
(
1) x x 0 → x x 2 0 ) (x x 2 0 → x x 0)
2) x ( x 4 ) → ( x = 16 ) x ( x = 4 ) → ( x = 16 )
3) x ( x + 2 = 5) ( x ) x ( x ) ( x + 2 5)
4) x ( x 2 0 ) → ( x 0 ) x ( x 0 ) → ( x 2 0 )
MATH HORWAMG
MATH HORWAMG ~9~
ปีการศึกษา 2561
1. ข้ ใดเป็นประพจน์
1) เขาเป็นนักกี าว ลเล่ย์บ ลทีมชาติไทย 2) ข ใ ้ทุกคนโชคดีในการ บ
3) 3x + 2y = 12 เป็น มการพาราโบลา 4) x 2 − 9 = 0
4. ข้ ใดมีค่าความจริงเ มื นกัน
1) T p และ p T 2) F p และ T → p
3) p → p และ T p 4) p p และ p p
MATH HORWAMG
MATH HORWAMG ~ 10 ~
6. กา นด p, q และ r เป็นประพจน์ที่มีค่าความจริงเป็น T, F และ T ตามลาดับ
จง าว่าประพจน์ p → ( q → r ) → ( p → q ) → ( p → r ) มีค่าความจริงตรงกับข้ ใด
1) p → ( p q ) 2) ( p q ) → ( p q )
3) ( p q ) p 4) ( p q ) ( q r )
8. รูปแบบประพจน์ p q → r มมูลกับข้ ใด
1) (p r ) → (q r ) 2) (p r ) → (q r )
3) (p → r ) (q → r ) 4) (p → r ) (q → r )
10. เครื่ ง มายในข้ ใดที่ทาใ ร้ ูปแบบประพจน์ p → (q q ) ( r r ) p เป็น ัจนิรันดร์
1) 2) และ → 3) 4) → และ
MATH HORWAMG
MATH HORWAMG ~ 11 ~
12. พิจารณาการ ้างเ ตุผลต่ ไปนี้
เ ตุ 1. ถ้าปลื้มจิตรไปเที่ยวแล้วชัชชุ รไปโรงเรียน
2. ร ุมาไม่ไปซ้ มว ลเล่ย์บ ล
3. ถ้าปลื้มจิตรไม่ไปเที่ยวแล้วทัดดาวไม่น นพักผ่ น
4. ทัดดาวน นพักผ่ น รื ร ุมาไปซ้ มว ลเล่ย์บ ล
ผล p
p แทนประพจน์ในข้ ใด จึงจะทาใ ้การ ้างเ ตุผลข้างต้น มเ ตุ มผล
1) ทัดดาวไม่น นพักผ่ น 2) ร ุมาไปซ้ มว ลเล่ย์บ ล
3) ปลื้มจิตรไปเที่ยวและชัชชุ รไม่ไปโรงเรียน 4) ทัดดาวน นพักผ่ นและชัชชุ รไปโรงเรียน
15. ข้ ใดไม่ถูกต้ ง
1) x 2 − 16 = ( x − 4 )( x + 4 ) เป็นประโยคเปิด
2) 2x 2 − y = 3 มีกราฟเป็นกราฟพาราโบลา เป็นประโยคเปิด
3) 5 เป็นคาต บข ง มการ 8x − 7 = 0 ไม่เป็นประโยคเปิด
4) ถ้า x = 0 แล้ว xy = 0 ไม่เป็นประโยคเปิด
MATH HORWAMG
MATH HORWAMG ~ 12 ~
16. กา นดใ ้ ก) x x + 2 5 , U = 0,1,2,3
ข) x x 2 0 x x 3 − 9x 2 = 0 , U = I
ข้ ใดถูกต้ ง
1) ก) และ ข) จริง 2) ก) จริง และ ข) เท็จ 3) ก) เท็จ และ ข) จริง 4) ก) และ ข) เท็จ
MATH HORWAMG
MATH HORWAMG ~ 13 ~
ปีการศึกษา 2560
1. ใ ้พิจารณาข้ ความต่ ไปนี้
ก) า รับจานวนจริง x ทุกตัว x 2 + 1> 0
ข) กราฟ มการ y = x 2 + 5x − 3 เป็นกราฟเ ้นตรง
ค) x 2 + 2x = 0
ข้ ใดต่ ไปนี้ถูกต้ งที่ ุด
1) เป็นประพจน์ทั้ง 3 ข้ 2) เป็นประพจน์เพียง 2 ข้
3) เป็นประพจน์เพียง 1 ข้ 4) ไม่เป็นประพจน์ทั้ง 3 ข้
MATH HORWAMG
MATH HORWAMG ~ 14 ~
6. กา นดใ ้ ( p q ) ( r r ) มีค่าความจริงเป็นเท็จ แล้ว r r มีค่าความจริงตรงกับข้ ใด
1) ( p q ) → r 2) q ( p r ) 3) p ( q → r ) 4) ( r p ) → q
MATH HORWAMG
MATH HORWAMG ~ 16 ~
17. กา นดใ ้ a) x ถ้า x เป็นจานวนตรรกยะ แล้ว x 2 เป็นจานวนคู่ , U = −2,3, −4,5
b) x x 2 − 1 = 0 x x 2 = x , U = I
ข้ ใดต่ ไปนี้ถูกต้ งที่ ุด
1) ทั้งประโยค a) และ ประโยค b) มีค่าความจริงเป็นจริง
2) ประโยค a) มีค่าความจริงเป็นจริง และ b) มีค่าความจริงเป็นเท็จ
3) ประโยค a) มีค่าความจริงเป็นเท็จ และ b) มีค่าความจริงเป็นจริง
4) ทั้งประโยค a) และ ประโยค b) มีค่าความจริงเป็นเท็จ
19. กา นดใ ้ เ ตุ 1. p → q
2. q → r
3. r → s
4. s
ผลในข้ ใดทาใ ้การ ้างเ ตุผล มเ ตุ มผล
1) p 2) q 3) r 4) ถูกทุกข้
MATH HORWAMG