Professional Documents
Culture Documents
7f8732d1661be4d
7f8732d1661be4d
7f8732d1661be4d
………………………………………………………………………
…………
หัวใจล้มเหลว, บทน า
ประวัติการเจ็บป่ วยในอดีต
ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ าดี เมื่อ 40 ปี ที่แล้ว ผ่าตัดกระเพาะ
อาหาร เมื่อ 32 ปี ที่แล้ว ป่ วยเป็ นโรคความดันโลหิตสูง 20
ปี ป่ วยเป็ น CKD 5 ปี และป่ วยเป็ นโรคหัวใจ 2 ปี ปฏิเสธ
การเจ็บป่ วยด้วยโรคติดต่อร้ายแรง ปฏิเสธอุบัติเหตุร้าย
แรงและโรคติดต่อทางกรรมพันธุ์ ปฏิเสธการผ่าตัด และ
ปฏิเสธการแพ้ยา
การประเมินสภาพจิตใจและสังคม วิตกกังวลเกี่ยวกับการเจ็บ
ป่ วย ถึงขั้นตอนการรักษาพยาบาล และผลของการรักษา
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
HCT= 32 % WBC = 3,960 /ul Platelet 84,000 /ul ,TSH
= 12.58 uLU/ml, FT3 =
1.76 Pg/ml , FT4 = 1.25 mg/dl , K= 3.3 mmol/L, Mg= 1.4 ,
eGFR=38.65
ผลการตรวจพิเศษ
CXR พบ Right pleural effusion
5
1. ติดตามประเมินอาการ อาการแสดงของภาวะเลือดไปเลี้ยงอวัยวะ
ต่างๆ ได้แก่ ระดับความ รู้สึกตัว สีผิวซีดเย็นของผิวหนัง ความชัดเจนสม่
าเสมอของชีพจรส่วนปลาย ความอุ่นของปลายมือปลาย เท้า ทดสอบ Ca
pillary refill time
2. ประเมินการหายใจ เช่น หายใจเร็ว หายใจล าบาก หายใจเร็วตื้น
และสังเกตอาการไอ ฟั งเสียง ปอด อาการใจสั่น เจ็บแน่นหน้าอก
3. จัดให้นอนศีรษะสูง 30-45 องศา ให้ Absolute bed rest ท า
กิจกรรมทุกอย่างบนเตียง
4. ดูแลให้ได้รับออกซิเจนตามแผนการรักษา คือ On O2 Cannula
3 LPM
5. Record urine output q 1 hr keep > 27.5 cc/hr เพื่อประ
เมินการท างานของหัวใจและไต การประเมินผล ผู้ป่ วยรู้สึกตัวดี หอบลด
ลง นอนราบได้ lung crepitation both Lower lung ลดลง No E
xacerbation/Wheezing สัญญาณชีพจรปกติ BT 36.6 องศา
เซลเซียส, PR 74 bpm, RR 20 ครั้ง/นาที BP 113 / 89 mmHg, O2
sat 96% ปลายมือปลายเท้าอุ่น คล าชีพจรส่วนปลายได้ชัดเจน ไม่มีเจ็บ
แน่นหน้าอก ยังมีหายใจล าบาก ไอห่างๆ มีเสมหะลดลง ปั ญหานี้หมดไป
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลที่ 2 เสี่ยงต่อการแลกเปลี่ยนก๊าซบกพร่อง
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลง ระบบไหลเวียนเลือดในปอด จากการบีบตัว
ของหัวใจผิดปกติ ข้อมูลสนับสนุน
Subjective Data: ผู้ป่ วยบอกว่า “หายใจล าบาก หอบเหนื่อย”
Objective Data: - หายใจหอบลึก RR 22 ครั้ง/นาที, Lung
crepitation Both Lung
, O2 sat room air 93% ไอมีเสมหะ
8
เกณฑ์การประเมินผล
1. สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ BP 90-140/60-90 mmHg
2. HR 60-100 ครั้งต่อนาที ชีพจรส่วนปลายแรงชัดเจน, RR 16-20
ครั้งต่อนาที,
3. O2 Sat ≥ 95%
4. ไม่มีอาการหายใจล าบาก ไม่หอบเหนื่อย RR 16-20 ครั้ง/นาที
5. ไม่มีภาวะ Cyanosis Oxygen sat 95-100%
6. เสียงการหายใจปกติ Lung clear หลอดเลือดด าจูกูลาร์ไม่โป่ ง
พอง
7. Electrolyte, BUN, Cr อยู่ในเกณฑ์ปกติ BUN = 7.9-20.2
mg/dl, Cr = 0.6-1.3 mg/dl,
K = 3.5-5.0 mmol/l, Na = 135-150 mmol/l, Cl = 95-112
mmol/l, CO2 = 22-32 mmol/l
8. ผล film chest X-ray ปอดปกติไม่มีภาวะน้ าคั่งในปอด หรือ
improve ขึ้นจากเดิม กิจกรรมการพยาบาล
1. ประเมินสัญญาณชีพ ประเมินการหายใจ เช่น หายใจเร็ว
หายใจล าบาก หายใจเร็วตื้น นอน ราบไม่ได้ และสังเกตอาการไอ
เสมหะเป็ นฟองสีชมพู ฟั งเสียงปอด เช่น Crepitation, Wheezing
2. ประเมินอาการบวมบริเวณแขนขา ก้นกบ รอบกระบอกตา
อย่างน้อยทุกเวร ประเมินการ โป่ งพองของหลอดเลือดด าจูกูลาร์
3. ชั่งน้ าหนักวันละ 1 ครั้งในช่วงเช้า
4. จัดให้นอนศีรษะสูง 30-45 องศา
11
5. ดูแลให้ได้รับออกซิเจนตามแผนการรักษา คือ On O2
Cannula 3 LPM
6. จ ากัดน้ า <1000 ml/day ตามแผนการรักษา
7. จ ากัดโซเดียมในอาหารและเครื่องดื่ม จัดให้รับประทาน
อาหารรสจืด
8. ให้ยาตามแนวทางการรักษา Lasix 40 mg IV q 8 hr.
พร้อมติดตาม repeat electrolyte หลังได้ยาขับปั สสาวะ
9. Record I/O, Urine output q 1 hr keep > 27.5
cc/hr เพิ่มประเมินการท างานของหัวใจ และไต การประเมินผล
ระดับความรู้สึกตัวปกติ E4V5M6, หอบลดลง สัญญาณชีพปกติ BT 3
6.8 องศา
เซลเซียส, PR 96 bpm, RR 20 ครั้งต่อนาที, BP 110 / 58 mmHg
O2 Sat 96 %, ไม่มีภาวะ Cyanosis หอบเหนื่อยลดลง Lung
= Crepitation Both Lower lung ลดลง No
Exacerbation/Wheezing ,Intake 950 ml/output 2,100
ml/เวร, I/O negative 1,150 ml/day, ไอห่างๆ มีเสมหะลดลง ไม่มี
เสมหะเป็ นฟองหรือมีสีชมพู ไม่มีการโป่ งพองของหลอดเลือดด าจูกูลาร์
ผล Lab electrolyte อยู๋ในเกณฑ์ปกติ Na 141 mmol/l, K 3.1 m
mol/l, Cl 100 mmol/l, CO2 37 mmol/l, CXR = Right pleura
l effusion ลดลง
12
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ 4 : มีภาวะ
Hypokalemia ข้อมูลสนับสนุน
Subjective Data: ผู้ป่ วยบอกว่า “เหนื่อยเพลีย ให้ประวัติหอบเหนื่อย
มา 7 วัน”
Objective Data: K (22/01/63) : 3.3 mmol/L
K (23/01/63) : 3.1 mmol/L
: แพทย์วินิจฉัย CHF, Paroxysmal AF. Hypothyroidism,
thrombocytopenia,
Hypokalemia
วัตถุประสงค์ เพื่อให้ โปแตสเซี่ยมใน
ร่างกายกลับสู่ภาวะปกติ
เกณฑ์การประเมินผล
1. โปแตสเซี่ยมในร่างกายปกติ K 3-55 mEq/l
2. ไม่มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง
3. ไม่มีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
4. รู้สึกตัวดี ไม่มีอาการสับสน
กิจกรรมการพยาบาล
1. สังเกตอาการเหนื่อยอ่อนเพลีย ใจสั่น คลื่นไส้อาเจียน
ท้องอืด
2. บันทึกสัญญาณชีพทุก 2–4 ชั่วโมง
3. จัดให้ผู้ป่ วยพักผ่อนบนเตียง มีกิจกรรม เท่าที่จ าเป็ น
ระวังอุบัติเหตุ
4. แนะน าญาติให้จัดหา ผลไม้ที่มีโปตัสเซียม สูงให้ผู้ป่ วย
รับประทาน เช่น กล้วย ส้ม องุ่น
13
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลที่ 6 : มีภาวะ
Hypothyroidism ข้อมูลสนับสนุน
Subjective Data: ผู้ป่ วยบอกว่า “ป่ วยเป็ นโรคไทรอยด์ รับยา โรง
พยาบาลรัตนบุรีหลายปี แล้ว”
Objective Data: จากประวัติ ป่ วยเป็ นโรค Hypothyroidism
15
: ตรวจร่างกายพบก้อนที่คอขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4
cms
: ผลตรวจ TSH = 12.58 uLU/ml, FT4 = 1.25
mg/dl, FT3 = 1.76 Pg/ml : แพทย์ Order
ยา Thyroxine (100mg) 1x1 oral ac.
เป้ าหมาย
เพื่อผู้ป่ วยปลอดภัยจากภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมน
เกณฑ์การประเมินผล
1. ผลตรวจ TSH = 0.270-4.20 uLU/ml, FT4 = 0.932-1.71
mg/dl, FT3 = 2.02-4.43
Pg/ml
2. ไม่มีอาการเหนื่อยง่าย หัวใจเต้นช้า เซื่องซึม ง่วงนอนตลอดเวลา
เป็ นตะคริว
กิจกรรมการพยาบาล
1. ให้ความรู้ผู้ป่ วยและญาติเกี่ยวกับสาเหตุของโรคอาการอาการแสดง
ภาวะแทรกซ้อนที่ อาจจะ เกิด แผนการรักษาพยาบาลและเปิ ด
โอกาสให้ซักถามปั ญหาและข้อข้องใจ
2. ดูแลให้ผู้ป่ วยได้รับความอบอุ่น
3. รับประทานที่ให้พลังงานต่ าแต่โปรตีนสูง มีวิตามินครบถ้วนและ
อาหารที่มีกากใย
4. ติดตามผลการตรวจหาค่า total T3 total T4 free T4 และ
TSH
5. ดูแลให้รับประทานฮอร์โมนทดแทน
16
6. สังเกตอาการข้างเคียงของยา
7. บันทึกสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง เพราะผู้ป่ วยอาจมีหัวใจเต้นผิด
จังหวะ เหนื่อยง่าย
8. ปฏิบัติตามที่แพทย์/พยาบาลแนะน าเสมอ
9. ให้ค าแนะน าเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวขณะอยู่ที่บ้าน เช่น กินยาให้
ครบถ้วน ห้ามขาดยา โดยเฉพาะยาไทรอยด์ฮอร์โมน (แพทย์จะ
ปรับขนาดยาให้เหมาะกับสภาพอาการของผู้ป่ วย) การประเมินผล
ระดับความรู้สึกตัวปกติ E4V5M6, สัญญาณชีพปกติ BT 36.6
องศา เซลเซียส, PR 74 bpm, RR 20 ครั้งต่อนาที, BP 113 /
89 mmHg อาการอ่อนเพลียดีขึ้น ไม่มีอาการหัวใจเต้นช้า เซื่อง
ซึม ง่วง นอนตลอดเวลา เป็ นตะคริว ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลที่
7 ผู้ป่ วยและญาติวิตกกังวล เนื่องจากผู้ป่ วยอยู่ในภาวะเจ็บป่ วย
วิกฤต ข้อมูลสนับสนุน
Subjective Data: ผู้ป่ วยและญาติบอกว่า “มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับ
อาการเจ็บป่ วย เพราะยังนอน พักรักษาตัวในหอผู้ป่ วยวิกฤต อาการยังไม่
คงที่ จึงมีความวิตกกังวล กลัวต่างๆ นาๆ” ผู้ปว่ ยถามว่า
“เมื่อไหร่จะได้ออกจากห้องไอซียู”
Objective Data : ญาติ สีหน้าท่าทางวิตกกังวล มีการซักถามข้อมูล
ค่อนข้างเยอะขณะเข้าเยี่ยม
: ผู้ป่ วยสีหน้าไม่สดชื่น
วัตถุประสงค์ ผู้ป่ วยและญาติคลายความวิตกกังวล เข้าใจขั้นตอนและ
แผนการรักษาและวิธีการผ่อนคลาย
17
ความเครียด เกณฑ์การ
ประเมินผล
1. ผู้ป่ วยและญาติมีสีหน้าสดชื่น คลายความวิตกกังวล ไม่มีหน้า
นิ่วคิ้วขมวด
2. ผู้ป่ วยและญาติบอกสบายใจขึ้น
3. มีความสามารถในการเผชิญปั ญหาและขอความช่วยเหลือใน
การแก้ไขปั ญหา
4. ผู้ป่ วย และญาติสามารถบอกได้ถึงภาวะความเจ็บป่ วย
แนวทางการรักษา ยอมรับต่อการ รักษาของแพทย์
5. ผู้ป่ วยสามารถนอนหลับพักกลางวันได้อย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง
กลางคืนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง กิจกรรมการพยาบาล
1. สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ป่ วยและญาติเพื่อให้รู้สึกไว้วางใจ มั่นใจได้
ว่าจะได้รับการพยาบาลที่ดี
2. ให้การพยาบาลผู้ป่ วยอย่างใกล้ชิดในระยะที่มีอาการเปลี่ยนแปลง
มากและอาการรุนแรง สนับสนุนให้ก าลังใจ ให้ความอบอุ่น ห่วงใยและ
ช่วยเหลือกิจกรรมต่างๆ
3. ให้การพยาบาลที่นุ่มนวล ค านึงถึงความเป็ นบุคคลของผู้ป่ วยโดย
การเรียกชื่อ และบอกผู้ป่ วย ทุกครั้งก่อนให้การพยาบาลเพื่อผ่อนคลาย
ความวิตกกังวลและเพื่อให้ผู้ป่ วยเกิดความมั่นใจในการดูแล อย่างใกล้ชิด
และความพร้อมของทีมบุคลากรสุขภาพ
4. ประเมินระดับความวิตกกังวล ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรค
แนวทางการรักษาของแพทย์ และการปฏิบัติตัวของผู้ป่ วยและญาติ
5. อธิบายสภาพแวดล้อม เครื่องมือต่างๆ การปฏิบัติตัวและระเบียบ
ของหอผู้ป่ วย
18
6. ให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะของโรคตามความเหมาะสมกับการยอมรับ
และความพร้อมในการรับ ฟั งของผู้ป่ วยและญาติ
7. เปิ ดโอกาสให้ผู้ป่ วยและญาติได้ระบายความรู้สึก ซักถามถึงข้อสงสัย
ต่างๆ
8. จัดสิ่งแวดล้อมให้เงียบสงบ เรียบร้อย ให้ผู้ป่ วยได้มีเวลาพักผ่อน
9. แนะน าเทคนิคผ่อนคลายที่เหมาะสมและช่วยค้นหาและแนะน าวิธี
การแก้ปั ญหาที่ผู้ป่ วยและ ครบครัวเคยใช้และประสบผลส าเร็จ เช่น การ
ฝึ กหายใจ การท าจิตใจให้สงบ ไหว้พระ สวดมนต์ ฟั ง ธรรมะ
10. ประสานให้ผู้ป่ วย/ญาติได้รับทราบข้อมูลจากแพทย์อย่าง
น้อยวันละครั้งและทุกครั้งที่มีอาการ เปลี่ยนแปลงหรือเมื่อญาติต้องการ
11. แนะน าแนวทางการติดต่อสื่อสารระหว่างญาติกับเจ้าหน้าที่
และระหว่างญาติกับผู้ป่ วย
12. ให้ข้อมูลการด าเนินของโรค แนวทางการรักษาของแพทย์แก่
ผู้ป่ วยและญาติทุกวัน การประเมินผล ผู้ป่ วยเข้าใจแผนการรักษา ให้
ความร่วมมือในการรักษา สีหน้าสดชื่นขึ้น นอนหลับพักผ่อนได้ ผู้ป่ วยรับ
ทราบการพยากรณ์และการด าเนินของโรค ผู้ป่ วยและญาติมีความหวังว่า
จะสามารถออกจาก โรงพยาบาลได้โดยเร็ว
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลที่ 8 พร่องความรู้ในการปฏิบัติตัวและการ
ดูแลตนเองอย่างเหมาะสมเมื่อ กลับบ้าน ข้อมูลสนับสนุน
Subjective Data: ผู้ป่ วยบอกว่า “ผมไม่รู้เลยว่าห้ามกินน้ าเยอะ ท า
งานเหนื่อยๆ ก็กินน้ าเยอะเลย จะ ได้มีแรง แต่จะพยายามปฏิบัติตามค า
แนะน าที่แพทย์/พยาบาลได้ให้ค าแนะน าในการปฏิบัติตัว”
Objective Data: จากการประเมินผู้ป่ วยมีความรู้เกี่ยวกับโรคบ้างบาง
ส่วน แต่ยังคงพร่องความรู้ เช่น เรื่องการจ ากัดน้ าดื่ม การสังเกตอาการ
19
เกณฑ์การประเมินผล
1. บอกเกี่ยวกับโรค การรับประทานยา การปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง
2. บอกชนิดอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงและควรรับประทานได้
3. บอกวันเวลาที่ต้องมาพบแพทย์และอาการผิดปกติที่ต้องมา
พบแพทย์ก่อนนัดได้ กิจกรรมการพยาบาล
1. ประเมินความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพยาธิสภาพของโรคและ
แผนการรักษา
2. ให้ความรู้และการปฏิบัติตัวผู้ป่ วยขณะอยู่ในโรงพยาบาลดังนี้
2.1 อธิบายพยาธิสภาพของโรค เช่น อาการ อาการแสดง การด า
เนินของโรคให้
สอดคล้องตามแผนการรักษาของแพทย์
2.2 การรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง การลดพฤติกรรมเสี่ยงที่ท า
ให้เกิดโรคซ้ าได้ เช่น การลดสารหรือยาออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจ
เช่น กาแฟ เหล้า หลีกเลี่ยงการออกก าลังกายอย่างหนัก การ
ขาดยา เป็ นต้น แนะน าการสังเกตผลข้างเคียงของยาที่ได้รับ
เมื่อกลับบ้าน
2.3 อธิบายถึงปั จจัยเสี่ยงที่เป็ นสาเหตุของการเกิดความรุนแรง
ของโรค คือ การขาดยา
การท างานหนัก การดื่มน้ าปริมาณมาก
20
- สามารถอธิบายเกี่ยวกับการรับประทานยา อาหารและการ
ปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง
- สามารถอธิบายถึงการลดปั จจัยเสี่ยงที่ท าให้เกิดโรคซ้ า
- สามารถอธิบายถึงวันเวลาที่ต้องมาพบแพทย์ตามนัด และ
บอกอาการผิดปกติที่ต้องมาพบ แพทย์ก่อนนัดได้ วิจารณ์และข้อเสนอ
แนะ วิจารณ์ กรณีศึกษารายนี้เป็ นผู้ป่ วยชายไทย วัยสูงอายุ ที่มาโรง
พยาบาลด้วยอาการหายใจหอบ เหนื่อย เพลีย แรกรับแพทย์วินิจฉัย
โรคเป็ นภาวะหัวใจล้มเหลว เมื่อศึกษาประวัติพบว่าผู้ป่ วยมีโรคประจ
าตัว หลายโรค เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ,โรคความดันโลหิตสูง , CK
D , โรคไทรอยด์และโรคหัวใจ ซึ่งโรคที่ กล่าวมา ล้วนเป็ นปั จจัยส
าคัญในการส่งเสริมให้หัวใจท างานหนัก จนเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้
เมื่อ ผู้ป่ วยมารับการรักษาด้วยอาการหอบ เหนื่อยเพลีย กลับพบว่า
21
เอกสารอ้างอิง