Professional Documents
Culture Documents
1996_2539_6
1996_2539_6
1996_2539_6
เกริ่นนา
มีคนสงสัยว่าทาไมมาราลึกถึงอดีตที่อปั ลักษณ์น่าเจ็บปวด ทั้ง ๆ ที่มีความสาเร็ จอีกมากให้น่าราลึกจดจา
ทุกคนหวาดกลัวและหลบหนีความเจ็บปวดบาดแผลในอดีตด้วยกันทั้งนั้น สังคมไทยอาจมีอาการเช่นนี้
มากสักหน่อยเพราะเราพอใจจะสร้างอนาคตบนความฝันหวานถึงอดีตอันรุ่ งโรจน์มากกว่าจะอาศัยความ
กล้าหาญทบทวนอดีตที่ไม่รุ่งโรจน์ เพื่อเรี ยนรู ้วา่ อะไรควรไม่ควร เราพอใจจะอาศัยความเงียบมาเยียวยา
และให้บทเรี ยนแก่คนที่เกี่ยวข้อง เพื่อมิให้เกิดการเสี ยหน้า แตกความสามัคคี มากกว่าจะใช้ความกล้า
หาญทางจริ ยธรรมและความซื่ อสัตย์ต่อตนเองต่ออดีตเป็ นเครื่ องนาทางสู่ อนาคต เรามักเอาคากล่าวหาว่า
“ฟื้ นฝอยหาตะเข็บ” หรื อ “กวนน้ าให้ข่นุ ” มาใช้กนั พร่ าเพรื่ อเพื่อปิ ดกั้นปั ญญาของเราเอง
หากสังคมไทยกล้าหาญพอก็ไม่ควรปิ ดฉากมันลงง่าย ๆ
เพราะ 6 ตุลา 2519 ไม่มีความสาเร็ จใด ๆ ให้อวดอ้าง อดีตอันเจ็บปวดจึงปกคลุมปั จจุบนั อยูอ่ ย่างเงียบ
ๆ ราวกับเป็ นปี ศาจหลอกหลอนเราอยูเ่ ป็ นครั้งคราว ตราบใดที่เราไม่สามารถจับปี ศาจตนนี้ให้กลายมา
เป็ นถ้อยคา เป็ นเรื่ องราวที่เราสามารถเข้าใจได้ ราลึกได้ในหลาย ๆ แง่มุมตามที่เราต้องการ ปี ศาจตนนี้ก็
ยังไม่กลายเป็ นประวัติศาสตร์
ผูผ้ า่ นพบเหตุการณ์เช้าวันนั้นมาด้วยตนเอง อาจเก็บความทรงจาไว้กบั ตน แต่ก็จะเป็ นอดีตของเขาเอง
ไม่กลายเป็ นประวัติศาสตร์ ให้สาธารณชนร่ วมรับรู ้ ร่ วมรู ้สึก
ทัศนะต่อ 6 ตุลา คลี่คลายเป็ นลาดับเห็นได้ชดั ใน 2 กรณี ดว้ ยกัน กรณี แรก คือ กระแสเรี ยกร้องให้นิร
โทษกรรมผูต้ อ้ งหาคดี 6 ตุลา และการพิจารณาคดีซ่ ึ งทาให้นกั ศึกษาพ้นจากการเป็ นอาชญากร ผูก้ ่อ
จลาจล ผูใ้ ช้ความรุ นแรง กรณี ที่สองคือ ครั้งที่ พล.ต.จาลอง ศรี เมือง ถูกกล่าวหาก่อนการเลือกตั้ง 2531
ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ 6 ตุลา 2519 ซึ่ งเห็นได้ชดั ว่าผูม้ ีส่วนเกี่ยวข้องกับการปราบปรามและการชุมนุม
ลูกเสื อชาวบ้านเช้าวันนั้น กลับเป็ นฝ่ ายถูกสงสัยและเสี ยหาย จนกระทัง่ ต้องพากันปั ดให้พน้ ตัวเป็ น
พัลวันว่า ตนมิได้ยา่ งกรายเข้าไปใกล้ธรรมศาสตร์ เลยในเช้าวันนั้น
คราวพฤษภา 2535 ผูค้ นอาจลังเลต่อการนาของ พล.ต.จาลอง ศรี เมือง บ้าง แต่เขาไม่ลงั เลที่จะเข้าข้าง
ฝ่ ายต่อต้านรสช. ชัยชนะของฝ่ ายนั้นจึงถือเป็ นชัยชนะของประชาชนส่ วนใหญ่ไปด้วย ใครดีใครร้าย
สามารถเข้าใจได้ชดั เจน
ยกเว้นผูท้ ี่ยนิ ดีปรี ดากับการนองเลือด คนอื่น ๆ ที่รับฟังหรื อชมหรื อฟังกับตาหู ตนเอง คงล้วนแต่เศร้า
สลดและไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง ผูค้ นทั้งสังคมต้องย้อนถามตนเองว่าความวิปริ ตเช่นนั้นเกิดขึ้นได้
อย่างไรในสังคมไทย ความผิดถูกดีร้ายเป็ นเรื่ องซับซ้อนสับสนที่สังคมยากจะสะสาง
อาชญากรรมที่ห้ามสะสาง
ทันทีที่มีความคิดว่าจะราลึก 20 ปี 6 ตุลา 2519 ก็เกิดคาถามขึ้นมาว่า จะเป็ นการแก้แค้นกันหรื อไม่?
เพียงใด?
เหยือ่ หรือวีรชน
ประวัติศาสตร์ แห่งชาติของไทยที่เน้นการต่อสู ้เพื่อปกป้ องรักษา หรื อกอบกูเ้ อกราชและอิสระของชาติ
กาหนดลักษณะของความตายที่พึงได้รับการยกย่องไว้เด่นชัด “วีรชน” ในประวัติศาสตร์ ไทยล้วนแล้วแต่
เป็ นผูน้ า กษัตริ ย ์ นักรบ
ผูเ้ สี ยสละเมื่อ 14 ตุลา 2516 ไม่เข้าข่ายผูก้ อบกูร้ ักษาเอกราชของชาติดว้ ยการต่อสู ้กบั ชาติอื่นก็จริ ง แต่
พวกเขาเข้าข่ายนาพาประเทศชาติสู่ความเจริ ญก้าวหน้าครั้งใหญ่ พวกเขาตายท่ามกลางความขัดแย้งทาง
การเมืองที่สาธารณชนเข้าข้างพวกเขา สาธารณชนต่างรู ้สึกร่ วมว่าตนตกเป็ น “เหยือ่ ” ของระบอบเผด็จ
การทหาร กล่าวได้วา่ ความตายของพวกเขาเป็ นการเสี ยสละ “แห่งชาติ” ในนามของชาติและเพื่อชาติ
โดยที่ชาติในที่น้ ีเริ่ มเกิดความหมายใหม่คือ การมีส่วนร่ วมของประชาชนจานวนมหาศาลภายในชาติท้ งั ที่
มาร่ วมเดินขบวนและที่เอาใจช่วยอยูก่ บั บ้าน ผูเ้ สี ยชีวติ เมื่อ 14 ตุลา จึงได้เป็ น “วีรชน” ทันที คน
จานวนมากยังเรี ยกได้เต็มปากไม่ขดั เขิน 14 ตุลา ยังเป็ นกรณี พิเศษในแง่ที่วา่ สมญานามดังกล่าวมาจาก
สาธารณชนและสื่ อมวลชนโดยไม่สนใจว่าทางการจะเรี ยกเช่นนั้นหรื อไม่
เพราะอดีตอย่าง 6 ตุลา 2519 ยังค้างคาอยูใ่ นใจทุกฝ่ าย จะเรี ยกผูเ้ สี ยชีวติ ในวันนั้นว่าเป็ นอะไรดี ศัตรู
ของชาติหรื อวีรชนประชาธิปไตย?
ชัยชนะทาให้ชีวติ ที่เสี ยสละกลายเป็ นวีรชนได้ฉบั พลัน ทัศนะประวัติศาสตร์ ไม่วา่ ของชาติหรื อของ พคท.
ช่วยให้เห็นคุณูปการของความตาย จึงทาให้คนเสี ยชีวิตกลายเป็ นวีรชนได้
“วีรชน” ในวัฒนธรรมการเมืองไทยผูกติดกับชัยชนะของพลังทางการเมืองที่เขาสังกัดและทัศนะ
ประวัติศาสตร์ ของพลังทางการเมืองนั้น ไม่วา่ จะเรี ยกว่ารัฐบาล ชาติไทย หรื อ พคท. ผูเ้ สี ยชีวติ เป็ นวีร
ชนได้โดยอัตโนมัติหากเขาต่อสู ้ ผกค.เพื่อชาติ ต่อสู้เผด็จการเพื่อประชาชน หรื อหากสังคมนิยมเผอิญ
ชนะขึ้นมา วีรกรรมของวีรชนมิได้ตดั สิ นที่คุณสมบัติอนั น่าเคารพยกย่องของบุคคลหรื อชี วติ นั้น ๆ
อนุสาวรี ยเ์ ดือนตุลาที่ตอ้ งผนวกเอา 6 ตุลา เข้าไปด้วย ความทรงจาของคนรุ่ นเดือนตุลาที่พว่ งเอา 6 ตุลา
เข้าไปด้วย จึงพกพาปั ญหาการประเมินคุณค่าของชีวติ และความตายเข้าไปด้วยอย่างแยกไม่ออก ความ
อิหลักอิเหลื่อต่อความตายเมื่อ 6 ตุลา 2519 ไม่รู้จะให้คุณค่า เกียรติภูมิความเคารพยกย่องหรื อไม่ ?
อย่างไรดี ? จึงพลอยทาให้อนุสรณ์และความทรงจาต่อเดือนตุลายากจะยอมรับได้ง่าย ในสังคมไทย
อนุสรณ์ใด ๆ จึงมีหน้าที่เพื่อการจดจาและความหลงลืมในเวลาเดียวกัน
อนุสาวรี ยแ์ ห่งนี้กลายเป็ นอนุ สาวรี ยร์ ะบอบประชาธิ ปไตยอันมีพระมหากษัตริ ยเ์ ป็ นประมุข บรรจุ
ประวัติศาสตร์ ไทยตั้งแต่ศิลาจารึ กสมัยพ่อขุนรามคาแหงมหาราชมาจนถึงรัชกาลที่ 7 ต่างหากจาก
อนุสาวรี ยป์ ระชาธิ ปไตยกลางถนนราชดาเนิน ซึ่งสร้างโดยรัฐบาลคณะราษฎร สมัยจอมพล ป. พิบูล
สงคราม กับบรรจุหลัก 6 ประการของคณะราษฎรไว้ ต่างหากจากอนุสาวรี ยว์ ีรชนเดือนตุลาหรื อวีรชน
ประชาธิ ปไตย เพื่อราลึกถึงการต่อสู ้ของประชาธิ ปไตย ซึ่ งยังคงติดปั ญหาทางเทคนิ คค้างคามา
ตลอดเวลา 20 กว่าปี โดยไม่มีวแี่ ววว่าปั ญหาเทคนิคนั้นจะแก้ตกลุล่วงไปได้
คิดถึงผูเ้ สี ยชีวติ บาดเจ็บ เขามี พ่อ แม่ ญาติพี่นอ้ ง ที่เฝ้ าเลี้ยงเขามานานหลายปี แต่แล้วกลับดับไป
ฉับพลัน หลายคนยังเก็บความทุกข์ไว้จนทุกวันนี้ หลายคนยังปฏิเสธไม่ยอมพูดถึงอดีต ส่ วนมากเผชิญ
ชีวติ ที่เจ็บปวดตามลาพัง
ความสู ญเสี ยอันดับแรกไม่ใช่การเมืองฝ่ ายใด แต่คือชีวติ ที่มีชื่อ มีสกุล มีพอ่ แม่ มีวนั เกิด และน่าจะมี
อนาคตการราลึกถึงอดีตที่เจ็บปวดคือร่ วมรู ้สึกกับความสู ญเสี ยของคนตัวเล็ก ๆ จานวนมากที่เผชิญทุกข์
นานหลายปี ตามลาพัง โดยไม่มีความสาเร็ จนามธรรมใด ๆ มาปลอบประโลม
กับความใฝ่ ฝัน
เมื่อ 20 ปี ก่อน ชีวติ ที่สูญเสี ยเหล่านั้นถูกหาว่าเป็ นศัตรู ของ ชาติ ศาสน์ กษัตริ ย ์ เป็ นญวนพูดไทย
ไม่ได้ เป็ นอาชญากร เป็ นผูก้ ่อการจลาจล ผูก้ ่อการร้าย