Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 43

เซต 0

เซต
ชวนคิด สมมติวา แจแปนมีวัวอยู 6 ตัว ถาเขาตองการลอมรั้ว 3 รั้ว ใหมีเงื่อนไขดังตอไปนี้
(i) มี 1 รั้วที่ลอมวัวทั้งหมดไว (ii) มีวัว 3 ตัวที่มรี ั้ว 2 รั้วลอมไว
(iii) มีวัว 2 ตัวที่มรี ั้ว 3 รั้วลอมไว
หากนักเรียนเปนเจแปน นักเรียนมีวิธีการลอมรั้ว และจัดวางวัวอยางไร
* สามารถสรางรั้วทับซอนกันบางสวนได

ในชวงปลายศตวรรษที่ 19 นักคณิตศาสตรชาวเยอรมัน ชื่อ


เกออรก คันทอร (Georg Cantor) เปนผูริเริ่มใชคําวา “เซต” จากนั้นนักคณิตศาสตร
จึงใชคํานี้กันอยางแพรหลาย โดยความรูในเรื่องเซตสามารถนํามาเชื่อมโยงเนื้อหาคณิตศาสตร
ในหลาย ๆ เรื่อง เชน ความสัมพันธและฟงกชัน รวมถึงความนาจะเปน
เซตเปนคําอนิยามหมายถึงกลุมของสิ่งตาง ๆ และตองทราบแนนอนวาสิ่งใดอยูในกลุม
และสิ่งใดไมอยูในกลุม เชน เซตของจํานวนนับที่นอยกวา 4, เซตของสระในภาษาอังกฤษ (Georg Cantor)
เปนตน และเซตจะไมใชกับสิ่งที่บอกถึงคุณภาพ เชน เซตของคนสวย เปนตน

เซตที่เราควรรูจักไดแก
 คือ เซตของจํานวนจริงทั้งหมด  คือ เซตของจํานวนตรรกยะทั้งหมด
 คือ เซตของจํานวนเต็มทั้งหมด  คือ เซตของจํานวนนับทั้งหมด
  คือ เซตของจํานวนเต็มบวก   คือ เซตของจํานวนเต็มลบ
 ' คือ เซตของอตรรกยะทั้งหมด

ขอตกลงเบื้องตน หนังสือบางเลมอาจใชสัญลักษณ  แทนเซตของจํานวนเต็มทั้งหมด ซึ่งมาจากคําวา


Integers ในภาษาอังกฤษ แทนการใช  ซึ่งมาจากคําวา Zahlen ในภาษาเยอรมัน แตในเอกสาร
ประกอบการเรียนชุดนี้จะใช  แทนเซตของจํานวนเต็มทั้งหมด

เซต 1
การเขียนแสดงเซต
การเขียนแสดงเซตสามารถเขียนได 2 แบบคือ การเขียนเซตแบบแจกแจงสมาชิก และการเขียนเซต
แบบบอกเงื่อนไขของสมาชิก
การเขียนเซตแบบแจกแจงสมาชิก
- เขียนสมาชิกทุกตัวของเซตลงในวงเล็บปกกาและใชเครื่องหมายจุลภาค , คั่นระหวางสมชิกแตละ
ตัว เชน เซตของจํานวนนับที่นอ ยกวา 5 เขียนไดดังนี้ 1,2,3,4
เซตของสระในภาษาอังกฤษ เขียนไดดงั นี้ ...........................................................
บางครั้งอาจใช “...” เพื่อแสดงวายังมีสมาชิกตัวอื่น ๆ ในเซตนั้นตอไปอีก เชน
เซตของจํานวนนับ เขียนไดดังนี้ 1,2,3,4,5,....
เซตของจํานวนเต็ม เขียนไดดังนี้ ....,3,  2,1,0,1,2,3,....
เซตของจํานวนเต็มที่มีคาระหวาง -5 กับ 50 เขียนไดดังนี้ ...............................................................
เรานิยมแทนเซตดวยตัวอักษรพิมพใหญในภาษาอังกฤษ เชน A, B , C และแทนสมาชิกในเซตดวย
ตัวอักษรพิมพเล็กในภาษาอังกฤษ เชน a , b , c สัญลักษณ x  A หมายความวา x เปนสมาชิกของ A
และถา x ไมเปนสมาชิกของ A เราใชสัญลักษณ x  A และ n A แทนจํานวนสมาชิกของเซต A
ตัวอยางเชน A 1,2,3
เราจะไดวา 1  A , 2  A และ 3  A แต 4  A และ n A .......
B  2,4,6,8,10
เราจะไดวา 1......B , 2......B , 3......B และ 4  B เปนตน และ n B  ........
การเขียนเซตแบบบอกเงื่อนไขของสมาชิก
- เราจะใชตัวแปรแทนสมาชิกแลวบรรยายสมบัติหรือเงื่อนไข เชน
F  {x | x เปนจํานวนนับที่นอยกวา 5 }
อานวา F เปนเซตซึ่งประกอบดวยสมาชิก x โดยที่ x เปนจํานวนนับที่นอยกวา 5
เครื่องหมาย “|” แทนคําวา “โดยที่” ซึ่งอาจจะใชเครื่องหมาย “:” แทนก็ได
นอกจากนี้เราอาจจะเขียนเซตแบบบอกเงื่อนไขของสมาชิกไดโดย
A  {x   | x  5}
อานวา A เปนเซตซึ่งประกอบดวยสมาชิก x ที่เปนจํานวนนับ โดยที่ x มีคานอยกวา 5
ทบทวนความรูเดิมกันหนอย
จงเติมเครื่องหมาย หรือ  ลงในชองวางใหถูกตอง
1) 3 ..........  2) 1 .......... 

3) 3.14 ..........  4) 5 .2 .......... 

5)  ..........  6)  5 ..........  
3
7) 300 ..........  8) .......... '
2
9) 8 ..........  10) 2, 400 .......... 
เซต 2
เซตวาง (Empty set / Null set)
เราเรียกเซตที่ไมมีสมาชิกวา เซตวาง (Empty set / Null set) เขียนแทนเซตวางดวยสัญลักษณ
“   ” หรืออาจใชสัญลักษณ “  ” ซึ่งสัญลักษณนี้มีตนกําเนิดมาจากอักษร  ในภาษาเดนมารกและ
ภาษานอรเวย ,André Weil (1906-1998)
ตัวอยาง A  x   | 2x  1
จะเห็นไดวา หลักจากที่เราแกสมการ 2x  1 จะไดคําตอบของสมการคือ x .........
ซึ่ง 1
 สงผลให ไมมีจํานวนนับ x ใด ๆ ที่สอดคลองกับสมการ 2x  1
2
นั่นคือ A  
ตัวอยาง จงเขียนเซตตอไปนี้แบบแจกแจงสมาชิก
1) เซตของประเทศที่มีพรมแดนติดตอกับประเทศไทย
.........................................................................................................................................................................
2) เซตของจํานวนเฉพาะที่มีคาตั้งแต 1 ถึง 20
.........................................................................................................................................................................
3) เซตของจํานวนคี่บวก
.........................................................................................................................................................................
4) เซตของจํานวนนับที่มีคานอยกวา -1
.........................................................................................................................................................................
5) {x | x  1 เมื่อ n  และ n  5}
n
.........................................................................................................................................................................

ตัวอยาง จงเขียนเซตตอไปนี้แบบบอกเงื่อนไขของสมาชิก
1) A 3,2,1,0,1,2,3
.........................................................................................................................................................................
2) B  ....., 4,3, 2, 1
.........................................................................................................................................................................
3) C  3,3
.........................................................................................................................................................................
4) D  1,4,9,16, 25,36,49,64,81,100
.........................................................................................................................................................................
5) E   
.........................................................................................................................................................................

เซต 3
แบบฝกหัดที่ 1
1. จงเขียนเซตตอไปนี้แบบแจกแจงสมาชิก

2. จงบอกจํานวนสมาชิกของเซตตอไปนี้

3. จงเขียนเซตตอไปนี้แบบบอกเงื่อนไขของสมาชิก

เซตจํากัดและเซตอนันต

เราเรียกเซต A วาเปน เซตจํากัด (finite set) ก็ตอเมื่อ A   หรือ


A มีจํานวนสมาชิกเปนจํานวนเต็มบวกใด ๆ เชน

สวนเซตที่ไมใชเซตจํากัดเราเรียกวา เซตอนันต (infinite set) เชน

เซต 4
ตัวอยาง จงพิจารณาวาเซตตอไปนี้เปนเซตจํากัด หรือเซตอนันต
1) 1,2,3,4,....,300 ตอบ ................................................................
2) 1, 1, 1 , 1 ,...... ตอบ ................................................................
3)   ตอบ ................................................................
4) 1, 1, 1 , 1, 2,3,.....  ตอบ ................................................................
5) เซตของวงกลมที่มีจุดศูนยกลางรวมกัน ตอบ ................................................................
6) เซตของจํานวนคูบวกที่มีคาไมเกิน 10 ตอบ ................................................................
7) เซตของจํานวนคูที่มี 8 เปนหลักรอย ตอบ ................................................................
8) เซตของจํานวนเต็มทีอ่ ยูระหวาง 2 กับ 5 ตอบ ................................................................
9) เซตของจํานวนที่อยูระหวาง 2 กับ 5 ตอบ ................................................................
10) x   | x  4 ตอบ ................................................................

ลองทําดู
เซตที่กาํ หนดใหตอไปนี้ เซตใดบางที่เปนเซตอนันต
(i) A 1,2,3,....,999999 (ii) B  x   | x  0
(iii) C  x   | 5  x  5 (iv) D  x   | 5  x  5
(v)  (vi) E  1, 2,3, 4,....

เซตที่เทากัน (Equal sets / Identical sets)


กําหนดให A  0,1, 2,3 และ B  1,0,3, 2 เซตทั้งสองนี้มีสมาชิกเหมือนกันทุกตัว แมลําดับ
ของสมาชิกจะตางกันก็ถือวาเซตทั้งสองคือเซตเดียวกัน หรือกลาวไดวา เซต A กับเซต B เปนเซตที่เทากัน
(Equal sets / Identical sets) หรือเซต A เทากับเซต B เขียนแทนดวย A  B
ขอสังเกต
1. เซต 1,2,1,2,3,1,2,1,2,1 เปนเซตที่ไมตางจากเซต 1,2,3 เพื่อความสะดวกเราจะเขียนเซต
ที่มีสมาชิกในเซตเดียวกันซํ้ากันเพียงครั้งเดียว เชน 1,2,1,2,3,1,2,1,2,1 เขียนแทนดวย 1,2,3
2. การสลับลําดับระหวางสมาชิกภายในเซตเดียวกัน ไมทําใหเซตเปลี่ยนแปลง เชน
A  0,1, 2,3 และ B  1,0,3,2
3. การนําเซตบางเซตมาเขียนแบบบอกเงื่อนไขของสมาชิก อาจเขียนไดมากกวา 1 แบบ เชน
1,2,3 อาจเขียนไดเปน {x | x เปนจํานวนนับที่นอ ยกวา 4} หรืออาจเขียนเปน {x   | 0  x  4}

เซต 5
บทนิยาม
เซต A เทากับเซต B หมายถึง สมาชิกทุกตัวของเซต A เปนสมาชิกของเซต B และสมาชิกทุกตัวของ
เซต B เปนสมาชิกของเซต A

เซต A ไมเทากับเซต B หมายถึง มีสมาชิกอยางนอย 1 ตัวของเซต A ที่ไมเปนสมาชิกของเซต


B หรือมีสมาชิกอยางนอย 1 ตัวของเซต B ที่ไมเปนสมาชิกของเซต A เขียนแทนดวย A  B
เชน กําหนดให A 0,1,2,3 และ B  1,2,3,4
จะเห็นไดวา 0  A แต 0  B และในทํานองเดียวกัน 4  B แต 4  A
นั่นคือ A  B

ตัวอยางที่ 1 จงพิจารณาวาเซตในขอใดบางเทากัน และเซตในขอใดบางไมเทากัน


1) A 1,2,3 และ B  3,2,1 ตอบ .....................................

2) C   p, o, s, t และ D  s, t, o, p ตอบ .....................................

3) E  1234 และ F  1, 2 ,3, 4 ตอบ .....................................

4) A 10,20,30,40,....
และ B  { x | x เปนจํานวนเต็มที่หารดวย 10 ลงตัว } ตอบ .....................................

ตัวอยางที่ 2 ให S  2, 4,6,....,16 และ T  {x | x เปนจํานวนคูบวกที่มีคานอยวา 20}


จงพิจารณาวาเซต S เทากับเซต T หรือไม
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

เซต 6
แบบฝกหัดที่ 2
1. เซตตอไปนี้เซตใดเปนเซตจํากัด เซตใดเปนเซตอนันต

2. เซตตอไปนี้เซตใดเปนเซตวาง

3. จงพิจารณาวาเซตในขอใดบางเทากัน และเซตในขอใดบางไมเทากัน

เซต 7
สับเซต (Subsets)

คําถามชวนคิด
กําหนดเซต A a,b,c มาให เพื่อน ๆ คิดวาจะมีเซตใดบางที่เปนเซตที่ไมมีสมาชิก หรือมีสมาชิกจํานวน
ไมมากกวาจํานวนสมาชิกในเซต A โดยที่สมาชิกในเซตเหลานี้จะตองเปนสมาชิกในเซต A ดวย
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

กําหนดให A a,b,c และ B  a,b จะเห็นวาสมาชิกทั้งหมดของเซต ............ ตางก็เปน


สมาชิกในเซต ............. ในกรณีดังกลาวนี้ กลาวไดวาเซต B เปนสับเซต (Subset) ของเซต A
เขียนแทนดวยสัญลักษณ B  A

บทนิยาม
เซต A เปนสับเซตของเซต B ก็ตอเมื่อ สมาชิกทุกตัวของเซต A เปนสมาชิกของเซต B

กรณี เซต A เปนสับเซตแทของเซต B


ถา A  B และ A  B แลว เซต A เปนสับเซตแทของเซต B
ตัวอยางเชน กําหนดให A  a,b และ B a,b,c
จะไดวา A  B และ A  B
นั่นคือ เซต A เปนสับเซตแทของเซต B

กรณี เซต A ไมเปนสับเซตของเซต B


เซต A ไมเปนสับเซตของเซต B ก็ตอเมื่อ มีสมาชิกอยางนอย 1 ตัวในเซต A ที่ไมเปนสมาชิกของเซต B
ตัวอยางเชน กําหนดให A a,b,c และ B  a,b,1
จะเห็นไดวา c  B จะได A  B
นั่นคือ เซต A ไมเปนสับเซตของเซต B

หมายเหตุ 1) เซตทุกเซตเปนสับเซตของตัวมันเอง นั่นคือ ถาเซต A เปนเซตใด ๆ แลว A  A


2) เซตวางเปนสับเซตของทุก ๆ เซต นั่นคือ ถาเซต A เปนเซตใด ๆ แลว   A
3) ถา A  B และ B  C แลว A  C
4) เซต A เทากับเซต B ก็ตอเมื่อ สมาชิกทุกตัวของเซต A เปนสมาชิกของเซต B และ
สมาชิกทุกตัวของเซต B เปนสมาชิกของเซต A
นั่นคือ A  B ก็ตอเมื่อ A  B และ B  A

เซต 8
ตัวอยางที่ 1 : จงหาสับเซตทั้งหมดของเซตที่กําหนดใหตอไปนี้
1) A 1,2 2) A 1,2,3
………………………………………………………………. ……………………………………………………………….
………………………………………………………………. ……………………………………………………………….
………………………………………………………………. ……………………………………………………………….
3) A7,8,9 4) A  x   | x 2  2
………………………………………………………………. ……………………………………………………………….
………………………………………………………………. ……………………………………………………………….
………………………………………………………………. ……………………………………………………………….
………………………………………………………………. ……………………………………………………………….
5) A 1, 1 6) A  , 
………………………………………………………………. ……………………………………………………………….
………………………………………………………………. ……………………………………………………………….
………………………………………………………………. ……………………………………………………………….

ลองทําดู : ให A 2,4,6,8 จงพิจารณาวาขอความตอไปนี้ถูกหรือผิด


.............. 1) 6  A .............. 2) 6  A
.............. 3) 8  A .............. 4)   A
.............. 5) 2,4  A .............. 6) 8,4  A
แบบฝกหัดที่ 3
1. ให A 2, 4,5 , 4 จงพิจารณาวาขอความตอไปนี้ถูกหรือผิด

2. จงหาสับเซตทั้งหมดของเซตที่กําหนดใหตอไปนี้
1) 4,5 2) 4,5
3) x   | 1  x 1 4) 4, 5
5) 0,  6) 1, 1 , 1, 1
3. ใหเซต A เปนเซตจํากัดใด ๆ และเซต B เปนเซตอนันตใด ๆ ขอความตอไปนี้ถูกหรือผิด
และยกตัวอยางประกอบ
1) มีเซตจํากัดที่เปนสับเซตของ A 2) มีเซตจํากัดที่เปนสับเซตของ B
3) มีเซตอนันตที่เปนสับเซตของ A 4) มีเซตอนันตที่เปนสับเซตของ B

เซต 9
เพาเวอรเซต (Power Set)

ชวนคิด : กําหนดใหเซต A  s ,t  และเซต B  X | X  A จงเขียนเซต B แบบแจกแจงสมาชิก


.......................................................................................................................................................................

เราเรียกเซตของสับเซตทั้งหมดของเซต A วา เพาเวอรเซต (Power Set) ของเซต A


เขียนแทนดวย P A
ตัวอยางที่ 1 กําหนดให A    จงหา P A
สับเซตทั้งหมดของเซต A คือ ...........................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
ดังนั้น P A  ………………………………………………………………………………………………………………………………….

ตัวอยางที่ 2 กําหนดให B  1 จงหา PB


สับเซตทั้งหมดของเซต B คือ ...........................................................................................................................
ดังนั้น P B   ………………………………………………………………………………………………………………………………….

ตัวอยางที่ 3 กําหนดให C  1,2 จงหา P C 


สับเซตทั้งหมดของเซต C คือ ...........................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
ดังนั้น P C   ………………………………………………………………………………………………………………………………….
.............................................................................................................................................................................

ตัวอยางที่ 4 กําหนดให D  1, 2,3 จงหา P D


สับเซตทั้งหมดของเซต D คือ ...........................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
ดังนั้น P D  ………………………………………………………………………………………………………………………………….
.............................................................................................................................................................................

ตัวอยางที่ 5 กําหนดให E  1, 1 จงหา PE


สับเซตทั้งหมดของเซต E คือ ...........................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
ดังนั้น P E   ………………………………………………………………………………………………………………………………….
.............................................................................................................................................................................

เซต 10
ชวนคิด

ลองพิจารณาตัวอยางที่ 1 – 3 พบวา
n A ................ n P A  ................ ซึ่งเขียนไดในรูป 2........
n B   ................ n P B   ................ ซึ่งเขียนไดในรูป 2........
n C   ................ n P C   ................ ซึ่งเขียนไดในรูป 2........
n D   ................ n P D   ................ ซึ่งเขียนไดในรูป 2........
n E   ................ n P E   ................ ซึ่งเขียนไดในรูป 2........
เพื่อน ๆ คิดวา ถาเซต S มีจํานวนสมาชิกเทากับ k ตัว
แลวจํานวนสมาชิกของ P S  จะเทากับ ............. ตัว

ขอสังเกตเพิ่มเติมเกี่ยวกับเพาเวอรเซต
1. ถาเซต A เปนเซตใด ๆ แลว  P A
2. ถาเซต A เปนเซตใด ๆ แลว P A
3. ถาเซต A เปนเซตใด ๆ แลว A  P A
แบบฝกหัดที่ 4
1. จงหาเพาเวอรเซตของเซตที่กําหนดใหตอไปนี้
1) A  4 2) B  a,b ,c
3) P 4) A 1,2, 

2. กําหนดให A  ,1, 2,3 ขอความตอไปนี้ถูกหรือผิด


1)  P A 2)  P A
3) A  P A 4) 2,3 P A
5) 2 P A 6)   P A
7) ,1  P A 8) n P A  16
3. กําหนดให A , B เปนเซตใด ๆ ขอความตอไปนี้ถูกหรือผิด
1)  P A 2)  P A
3) A  P A 4) ถา A  B แลว P A  P B 
5) มีเซต A ที่ทําให P A  6) มีเซต A ที่ทําให P A  
7) มีเซต A ที่ทําให n P A  32 8) มีเซต A ที่ทําให n P A  300
4. จงยกตัวอยางเซต A และเซต B ที่ทําให A  B และ A  P B

เซต 11
สรุป
การเขียนเซตโดยทั่วไปเขียนได 2 แบบ คือ แบบแจกแจงสมาชิกและแบบบอกเงื่อนไขของสมาชิก
แบบแจกแจงสมาชิก เชน
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
แบบบอกเงื่อนไขของสมาชิก เชน
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
เซตที่มีจํานวนสมาชิกเทากับศูนยหรือเซตที่มจี ํานวนสมาชิกเปนจํานวนเต็มบวกใด ๆ เรียกวา เซตจํากัด
เซตที่ไมใชเซตจํากัด เรียกวา เซตอนันต
เซตจํากัด เชน ........................................................................................................................................
เซตอนันต เชน ........................................................................................................................................

เซตจํากัดที่มีจํานวนสมาชิกเทากับศูนย เรียกวา เซตวาง เขียนแทนดวยสัญลักษณ ...........................................


เซตวาง เชน ........................................................................................................................................

สับเซต
บทนิยาม
เซต A เปนสับเซตของเซต B ก็ตอเมื่อ สมาชิกทุกตัวของเซต A เปนสมาชิกของเซต B
ตัวอยาง A เปนสับเซตของเซต B
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
ตัวอยาง A ไมเปนสับเซตของเซต B
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
เพาเวอรเซตของเซต A เขียนแทนดวย P A  หมายถึง
เซตที่ประกอบดวยสมาชิกที่เปนสับเซตของเซต A
ถาเซต A มีสมาชิก n ตัว แลว P A จะมีจํานวนสมาชิก 2n ตัว
กําหนด A  …………………………………………………………………………………………………………………….
จะได P A   …………………………………………………………………………………………………………………….
จะไดวา n P A  ……………………………..
เซต 12
แบบฝกทักษะ
1. กําหนด A, B เปนเซตที่มีลกั ษณะ AB และ A  B ถา x  A และ y  B แลวขอความตอไปนี้ถูก
หรือผิด
1) x   B 2) y A
3) A  B  4) A  B

2. ให A   ,a,b, a , a,b ขอความตอไปนี้ถูกหรือผิด


1)   A 2) a  ,b  A
3)   A 4) a,b  A แต a,b  A

3. ให S  1,2,3,4,5,6,7 และกําหนด X  {A  P S  |1  A และ 7  A}


และ Y  {A  X | ผลบวกของสมาชิกภายใน A ไมเกิน 6} จงหา n X และ n Y 

เอกภพสัมพัทธ
เราเรียกเซตที่กาํ หนดขอบเขตของสิ่งที่เราจะพิจารณาวา เอกภพสัมพัทธ (relative universe) เขียน
แทนดวยสัญลักษณ U โดยมีขอตกลงวา เมื่อกลาวถึงสมาชิกของเซตใด ๆ เราจะไมกลาวถึงสิ่งอื่นที่
นอกเหนือจากสมาชิกในเอกภพสัมพัทธ
ในกรณีท่พี ูดถึงเซตของจํานวน
ตัวอยางที่ 1
และไมไดระบุเอกภพสัมพัทธ
ในบทนี้ใหถือวาเอกภพสัมพัทธคือ
เซตของจํานวนจริง

ตัวอยางที่ 2 จงเขียนเซต A ในแตละขอตอไปนี้แบบแจกแจงสมาชิก


1) A  x | 5  x  5 เมื่อ U  2,1,0,1,2
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
2) A  x | x  5 เมื่อ U  4,5,6,7,.....,100
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3) A  x | x  3 เมื่อ U  
……………………………………………………………………………………………………………………………………….

เซต 13
แผนภาพเวนน-ออยเลอร (Venn-Euler Diagrams)
แผนภาพออยเลอร เปนแผนภาพที่ใชในการอธิบายความสัมพันธของเซตตาง ๆ
โดยใหรูปวงกลม รูปวงรี หรือรูปปดใด ๆ แตละรูปแทนแตละเซต
และแสดงความสัมพันธของแตละเซตดวย การครอบซึ่งแสดงความเปนสับเซต
การทับซอนกัน หรือการไมทับซอนกันซึ่งแสดงวาทั้งสองเซตไมมีความสัมพันธกัน
ลักษณะแผนภาพวงกลมเชนนี้เชื่อวาถูกใชครั้งแรกโดยนักคณิตศาสตรชาวสวิสนาม
วา เลออนฮารด ออยเลอร
แผนภาพเวนน จอหน เวนนไดรับแรงบันดาลใจจากนักคณิตศาสตร
และนักตรรกศาสตรชาวสวิสแหงศตวรรษที่ 18 ที่ชื่อเลออนฮารด ออยเลอร
ซึ่งใชแนวทางที่คลายกันจัดระเบียบขอมูลดวยวงกลม และเวนนเรียกสิ่งที่เขาคิดคนขึ้นมาวา
"วงกลมออยเลอรเรียน" ประมาณ 30 ปตอมา ชื่อแผนภาพเวนนถึงไดรับการบัญญัตขิ ึ้นมา

ความแตกตางระหวางแผนภาพเวนน และ แผนภาพออยเลอร


ทั้งสองแผนภาพนี้มักเปนที่นิยมใชในเรื่องเซต รวมถึงการใหเหตุผล แตมีสิ่งที่แผนภาพทั้ง 2 ชนิด
แตกตางกันเล็กนอยคือ แผนภาพเวนน จะแสดงบริเวณที่สามารถเกิดขึ้นไดทั้งหมดของความสัมพันธระหวาง
เซตตาง ๆ ในขณะที่ แผนภาพออยเลอร จะแสดงเฉพาะความสัมพันธระหวางเซตตาง ๆ ที่เรามีอยู
ตัวอยางเชน A  1,3,5,7 , B  2,4,6,8 และ C  5
เขียนเปน แผนภาพเวนน และแผนภาพออยเลอร ไดดังนี้

แผนภาพเวนน แผนภาพออยเลอร
ขอสังเกต แผนภาพเวนนจะยังมีสวนที่เซต A และเซต B ซอนทับกัน ถึงแมวาจะไมมสี มาชิกรวมกันก็ตาม
แตแผนภาพออยเลอรจะแสดงเฉพาะความสัมพันธระหวางเซต ที่เรามีอยูเทานั้น และเรียกความสัมพันธ
ระหวางเซต A กับเซต B วาเปน เซตที่ไมมีสว นรวม (Disjoint sets)
การเขียนแผนภาพแสดงเซตมักจะแทนเอกภพสัมพัทธ U
ดวยรูปสี่เหลี่ยมผืนผาหรือรูปปดใด ๆ
สําหรับในเนื้อหาในเอกสาร
สวนเซตอื่น ๆ ซึ่งเปนสับเซตของ U นั้น
ประกอบการเรียนนี้
อาจเขียนแทนดวยวงกลม วงรี หรือรูปปดใด ๆ
เราจะเรียก แผนภาพเวนน-ออย
เลอร หรือแผนภาพ นะครับ

เซต 14
พิจารณาแผนภาพเวนน-ออยเลอร และความสัมพันธระหวางเซตตอไปนี้

จากรูป เซต A และเซต B เปนเซตที่ไมมสี มาชิก เซต A และเซต B มีสมาชิกบางสวนรวมกัน


รวมกัน แต A  B และ B  A

สมาชิกทุกตัวในเซต B เปนสมาชิกในเซต A สมาชิกทุกตัวในเซต A เปนสมาชิกในเซต B


จะไดวา ...........  ............ และสมาชิกทุกตัวในเซต B เปนสมาชิกในเซต A
จะไดวา ......................................

ตัวอยาง กําหนดให U  1,2,3,4,5,6,7,8 จงเขียนแผนภาพตามเงื่อนไขที่กาํ หนดในแตละขอ ตอไปนี้


1) A 1,3,5 2) A 1,3,8
B  2, 4,6 U B  2,4,6,8
U

3) A 1,2,3,4,5 4) A  1, 2,3, 4


B  3,4,5 B  1,3,4
U U

5) A 5,7 U
B  4,5,6,7

เซต 15
6) A 1,3,5 7) A  1,2,3,4,5
B  2, 4,6 U B  1,2,3
U
C  8 C  1

8) A  1,2 9) A  2,3,5,6
B  2,3 B  3,4,6,7
U
C  3,4,5,6 C  5,6,7,8 U

10) A 1,2,3,5,7 U
B  4,5,6,7
C  2,3,5,7

ลองทําดู
กําหนดให U  1,2,3,4,5,6,7,8 จงเขียนแผนภาพตามเงื่อนไขที่กําหนดในแตละขอตอไปนี้
1) A 1,2 , B  2, 4,6 และ 2) A 1,3,8 , B  2,4,6,8
C  7,8 C  7,8 และ D  1,5,6,8
(ขอ 1 ใหลองเขียนเปนแผนภาพออยเลอร)
U U

3) กําหนดให U  x   | 0 x 16 U
A  1,2,5,8,9,12,13,15
B  2,3,10,11,12,13,14,15
C  6,7,8,9,10,11,12,13
D  4,5,7,8,11,12,14,15

เซต 16
แบบฝกหัดที่ 5
1. กําหนดให U  1, 2,3,4,5,6,7,8,9,10
A  2, 4,6
B  1,3,5,9
จงเขียนแผนภาพเวนน-ออยเลอร แสดงเซต A และ B

2. จงเขียนแผนภาพเวนน-ออยเลอร แสดงเซตตอไปนี้ เมื่อ U  1,2,3,4,5,6,7,8,9,10,11,12

3. จากแผนภาพที่กาํ หนดให

4. สมมติวาแจแปนมีวัวอยู 10 ตัว (หมายเลข 1 ถึง 10) ถาเขาตองการลอมรั้ว 4 รั้ว คือ A, B, C และ D


(แตละรั้ววางซอนทับกันได) และมีเงื่อนไขดังตอไปนี้
(i) รั้ว A ลอมวัวทั้ง 10 ตัว (ii) วัวหมายเลข 1 และ 4 อยูรั้ว B แตไมอยูรั้ว D
(iii) ในรั้ว C มีวัวหมายเลข 2, 4, 7, 5, 10 (iv) วัวหมายเลข 3 อยูในรั้ว A, D แตไมอยูในรั้ว B, C
(v) วัวหมายเลข 4, 5, 6 ถูกรั้ว 3 รั้วลอมเอาไว
(vi) วัวหมายเลข 7 ถูกรั้วทั้ง 4 รั้วลอมเอาไว
จงเขียนแผนภาพจากเงื่อนไขที่กําหนดให

5. จงเขียนแผนภาพเวนน-ออยเลอรของเซตที่มีความสัมพันธตามที่กําหนดให
1) A  B  C โดยที่ A  B , A  C และ B  C
2) A, B , C ตางเปนเซตที่มีสมาชิกบางตัวเหมือนกัน
3) A  B และ C  B แต A กับ C ไมมีสมาชิกรวมกันเลย และมีสมาชิกบางตัวของ B
ที่ไมอยูใน A กับ C
เซต 17
การดําเนินการระหวางเซต

ออ เรือ่ งเซต ก็มกี ารดําเนินการ ออ งัน้ เหรอ


ตังเมรูสกึ สงสัยเหมือนเราไหมวา
ระหวางเซตเหมือนกันนะ
ทําไมเรียนเรือ่ ง เซต ไมเหมือน
แตไมใชการบวก ลบ คูณ หาร
คณิตศาสตรบทอื่น ๆ เลยละ
เฉยๆ
ทําไมเหรอ?
ก็ตอน ม. ตน เราเรียน การบวก
ลบ คูณ หาร เยอะแยะ ทําไมพอ
มาเรียน ม.4 ไมเห็นจะเจออะไร
แบบนั้นเลยละ

เราจะสามารถสรางเซตใหมจากเซตที่กาํ หนดให ซึ่งมีเอกภพสัมพัทธเดียวกันไดดังนี้


1) อินเตอรเซกชัน (Intersection) 2) ยูเนียน (Union)
3) คอมพลีเมนต (Complement) 4) ผลตางระหวางเซต (Difference of sets)

1) อินเตอรเซกชัน (Intersection)
อินเตอรเซกชันของเซต A และเซต B คือ เซตที่ประกอบดวยสมาชิกซึ่งเปนสมาชิกของทั้งเซต A
และเซต B ซึ่งอินเตอรเซกชันของเซต A และเซต B เขียนแทนดวย AB
บทนิยาม
A  B  {x | x  A และ x  B }

ตัวอยางที่ 1 กําหนด U  1,2,3,.....,11,12 , A 1,3,5,7,9 และ B  7,8,9,10


จงเขียนแผนภาพเวนน-ออยเลอรแสดงเซต พรอมแรเงาบริเวณเซต AB

จะได : A B  7,9

ตัวอยางที่ 2 กําหนด U  1,2,3,4,5 , A 1,3,5 , B  2,4


จงเขียนแผนภาพเวนน-ออยเลอรแสดงเซต พรอมแรเงาบริเวณเซต AB

จะได : A  B  ............................

เซต 18
2) ยูเนียน (Union)
ยูเนียนของเซต A และเซต B คือ เซตที่ประกอบดวยสมาชิกของเซต A หรือสมาชิกของเซต B
ซึ่งยูเนียนของเซต A และเซต B เขียนแทนดวย AB
บทนิยาม
A  B  {x | x  A หรือ x  B }

ตัวอยางที่ 1 กําหนด U  1,2,3,.....,11,12 , A 1,3,5,7,9 และ B  7,8,9,10


จงเขียนแผนภาพเวนน-ออยเลอรแสดงเซต พรอมแรเงาบริเวณเซต AB

จะได : A  B  ............................

ตัวอยางที่ 2 กําหนด U  1,2,3,4,5 , A 1,3,5 , B  2,4


จงเขียนแผนภาพเวนน-ออยเลอรแสดงเซต พรอมแรเงาบริเวณเซต AB

จะได : A  B  ............................
ตัวอยางที่ 3 กําหนด U  1,2,3,.....,11,12 , A 1,3,5,7,9 , B  7,8,9,10 และ
C  1,5,6,11 จงตอบคําถามตอไปนี้
1) เขียนแผนภาพเวนน-ออยเลอรแสดงเซต และแรเงาบริเวณ AB C
2) เขียนเซต AB C แบบแจกแจงสมาชิก
วิธีคดิ

นี่คอื บริเวณของเซต AB นี่คือบริเวณของเซต C จะไดบริเวณ AB C

จะได : AB C  ..................................

เซต 19
3) คอมพลีเมนต (Complement)
ใหเซต A เปนสับเซตของเอกภพสัมพัทธ U (เซต A เปนเซตที่มี U เปนเอกภพสัมพัทธ) เราจะ
เรียกเซตซึ่งประกอบดวยสมาชิกที่เปนสมาชิกของ U แตไมเปนสมาชิกของเซต A วา คอมพลีเมนต
(Complement) ของเซต A เมื่อเทียบกับ U หรือคอมพลีเมนตของเซต A
ซึ่งคอมพลีเมนตของเซต A เขียนแทนดวย A' (ในหนังสือบางเลมอาจใชสัญลักษณ AC ,A)

บทนิยาม
A '  {x  U | x  A}

ตัวอยางที่ 1 กําหนด U  1,2,3,.....,11,12 , A 1,3,5,7,9 และ B  2, 4,6


จงเขียนแผนภาพเวนน-ออยเลอรแสดงเซต พรอมแรเงาบริเวณเซต A' และ B'

จะได : A '  ............................ จะได : B '  ............................

ตัวอยางที่ 2 กําหนด U  1,2,3,4,5 , A 1,3 , B  2,4


จงเขียนแผนภาพเวนน-ออยเลอรแสดงเซต พรอมแรเงาบริเวณเซต A B '

จะได : A  B  '  ............................

เซต 20
4) ผลตางระหวางเซต (Difference of sets)
ผลตางระหวางเซต A และเซต B คือ เซตที่ประกอบดวยสมาชิกของเซต A แตไมเปนสมาชิก
ของเซต B ซึ่งผลตางระหวางเซต A และเซต B เขียนแทนดวย AB

บทนิยาม
A  B  {x  U | x  A และ x  B}

ขอสังเกต AB  {x  U | x  A และ x  B }


 {x  U | x  A และ x  B '}

 A B '
ตัวอยางที่ 1 กําหนด U  1,2,3,.....,11,12 , A 1,3,5,7,9
และ B  7,8,9,10
จงเขียนแผนภาพเวนน-ออยเลอรแสดงเซต พรอมแรเงาบริเวณ AB

จะได : AB  1,3,5

ตัวอยางที่ 2 กําหนด U  1,2,3,4,5 , A 1,3,5 , B  2,4


จงเขียนแผนภาพเวนน-ออยเลอรแสดงเซต พรอมแรเงาบริเวณ AB

จะได : A  B  ............................

ตัวอยางที่ 3 กําหนด U  1,2,3,4,5 , A 1,3,5 , B  1,3


จงเขียนแผนภาพเวนน-ออยเลอรแสดงเซต พรอมแรเงาบริเวณเซต AB และ BA

จะได : A  B  ............................ จะได : B  A  ............................

เซต 21
ลองทําดู

1. จากแผนภาพที่กาํ หนดให จงเขียนเซตตอไปนี้แบบแจกแจงสมาชิก

1) AB =…………………………………………..
2) AB C =…………………………………………..
3) AB C  =…………………………………………..
4) AB =…………………………………………..
5) A  B  =…………………………………………..
6) B  A' =…………………………………………..
7) AB B A =…………………………………………..
8) A  B   C  ' =…………………………………………..

2. จงเขียนแผนภาพออยเลอร สําหรับเซต A และ B ใด ๆ ตามเงื่อนไขที่กาํ หนด


1. A  B   2. A  B   และ A  B
U U

3. A B  B แต A B 4. A B  B แต A B

U U

เซต 22
การแรเงาแผนภาพแทนเซต
ตัวอยางที่ 1 จงแรเงาแผนภาพสวนที่แทนเซตในแตละขอตอไปนี้

ตัวอยางที่ 2 กําหนดให A  5,6,7


B  { x | x เปนจํานวนคี่ที่มากกวา 2 แตนอยกวา8 }
และ C  { x | x  3n  2 เมื่อ n1,2,3} จงหา  A B  C (O-net 63)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

เซต 23
ลองทําดู จงแรเงาแผนภาพสวนที่แทนเซตในแตละขอตอไปนี้

เซต 24
แบบฝกหัดที่ 6
1. ให U  1,2,3,4,5,6,7 จงเขียนแผนภาพเพื่อแทนเซตตอไปนี้

2. ให U  0,1,2,3, 4,5,6,7,8 , A  0, 2, 4, 6,8 , B  1,3,5,7 และ C  3,4,5,6


จงเขียนเซตตอไปนี้แบบแจกแจงสมาชิก

3. จงแรเงาแผนภาพสวนที่แทนเซตในแตละขอตอไปนี้

เซต 25
4. จงเขียนเครื่องหมาย  หากแผนภาพที่กําหนดใหหมายถึง AB C 
หากไมใช AB C  ใหใสเครื่องหมาย 
1) 2) 3)

4) 5)

เซต 26
สมบัติของการดําเนินการระหวางเซต
กฎทางพีชคณิตของเซต
ใหเซต A , B และเซต C เปนเซตใด ๆ ที่เปนสับเซตของเอกภพสัมพัทธ U กฎทางพีชคณิตของ
เซตตอไปนี้ เปนจริง (มีการพิสูจนทางคณิตศาสตรแลว)
จงยกตัวอยางเพื่อแสดงวากฎตอไปนี้เปนจริง
1. กฎไอเดมโพเทนต (Idempotent laws)
1.1) A A  A 1.2) AAA
ตัวอยางเชน ตัวอยางเชน
A 1,2,3 A 1,2,3
A  A  ............................. A  A  .............................

2. กฎการสลับที่ (Commutative laws)


3.1) A  B  B  A 3.2) AB  B A
ตัวอยางเชน ตัวอยางเชน
A 1,2,3 และ B  2,3,4 A 1,2,3 และ B  2,3, 4

A  B  ............................. A  B  .............................
B  A  ............................. B  A  .............................
จะเห็นไดวา A  B  B  A จะเห็นไดวา AB  B A
3. กฎการเปลี่ยนกลุม (Associative laws)
2.1) A  B C  A B C  2.2) A  B C  A B C 
ตัวอยางเชน ตัวอยางเชน
A 1,2,3 , B  2,3, 4 และ C  3,4,5 A 1,2,3 , B  2,3, 4 และ C  3,4,5

A  B  ............................. A  B  .............................
A  B C  ............................. A  B C  .............................
B C  ............................. B C  .............................
A B C   ............................. A B C   .............................
จะเห็นไดวา จะเห็นไดวา
A  B C  A B C  A  B C  A B C 
NOTE: สําหรับ AB C และ AB C  ที่มีสมบัติการเปลี่ยนกลุม ดังนั้นเราสามารถเขียน
แทน AB C และ AB C  ดวย A  B C ไดอยางไมกํากวม และในทํานองเดียวกัน
จะไดวา A  B  C  A B C   A  B C

เซต 27
4. กฎการแจกแจง (Distributive laws)
4.1) A  B C  AC  B C  4.2) A  B C  AC  B C 
ตัวอยางเชน ยกตัวอยางเปนแบบฝกหัด
A 1,2,3 , B  2,3, 4 และ C  3,4,5 ..............................................................................
..............................................................................
A  B  ............................. ..............................................................................
A  B C  ............................. ..............................................................................
AC   ............................. ..............................................................................
B C   ............................. ..............................................................................
A C  B C   ............................. ..............................................................................
จะเห็นไดวา ..............................................................................
A  B C  A C  B C  ..............................................................................
NOTE : จะไมเขียน A  B C เพราะโดยทั่วไป A B C  AB C  (ไมมีสมบัติ
เปลี่ยนกลุม) หากไมใสวงเล็บจะทําใหเกิดความกํากวมในลําดับการดําเนินการกอน-หลัง

5. กฎการมีเอกลักษณ (Identity laws)


5.1) AA 5.2) AU  A
5.3 AU U 5.4 A

6. กฎเดอมอรแกน /เดอร มอรกอง (ตามภาษาฝรั่งเศส)/ (De morgan’s laws)


6.1) A  B  '  A ' B ' 6.2) A  B  '  A ' B '
พิจารณาจากแผนภาพ พิจารณาจากแผนภาพ

เซต 28
7. กฎการคอมพลีเมนต (Complement laws)
7.1) AA' U 7.2) A  A '  
ยกตัวอยางเปนแบบฝกหัด

กําหนดให U  1,2,3,4,5 และ A2,3,4


A '  .............................
A  A '  .........................
7.3) A ' '  A 7.4) U ' 
7.5) ' U 7.6) A  B '  A  B

ชวนคิด

ใหเซต A , B เปนเซตใด ๆ กําหนดการดําเนินการ AB นิยามโดย AB  AB B A


1) จงวาดแผนภาพเวนน-ออยเลอร แสดงเซต AB

2) ขอความตอไปนี้ ขอใดเปนจริง ขอใดเปนเท็จ


(i) …….. AA
(ii) …….. AA
(iii) …….. การดําเนินการ  มีสมบัติสลับที่
(iv) …….. การดําเนินการ  มีสมบัติเปลี่ยนกลุม
(v) …….. ถา A  B จะไดวา AB  AB
(vi) …….. ถา A  B จะไดวา AB  A  B

เซต 29
แบบฝกหัดทาทาย
1. ขอความที่กําหนดใหตอไปนี้ ขอใดเปนจริง ขอใดเปนเท็จ จงยกตัวอยางประกอบ
(โดยยกตัวอยางเซต หรือวาดแผนภาพก็ได) **(ถาขอความนั้นเปนเท็จ ตองยกตัวอยางคานเทานั้น!)**
1) ถา AB  แลว A  B
2) ถา AB  แลว A   และ B 
3) ถา AB B A C แลว A C  B C
4) ถา A  B C แลว A C  B C
5) ถา A  B C แลว A C  B C
6) ถา A C  B C แลว A  B
7) ถา A  B แลว B '  A '
8) ถา A  B ' แลว AB U
9) ถา AB เปนเซตอนันต แลว A และ B เปนเซตอนันต
10) ถา A และ B เปนเซตอนันต แลว AB เปนเซตอนันต
11) มีเซต A และ B ที่เปนเซตอนันต แลว AB เปนเซตจํากัด
12) มีเซต A และ B ที่เปนเซตอนันต แลว AB เปนเซตจํากัด
13) ถา A C แลว A  B C  B
2. ใหเซต A , B และ C เปนสับเซตของเอกภพสัมพัทธ U ขอใดถูกตองบาง
1) AB C   AB AC  2) AB C  AC  B C 
3) AB C   A B 'C ' 4) ABC  AB C 

จํานวนสมาชิกในเซตจํากัด
ในหัวขอนี้เราจะใชแผนภาพเวนน-ออยเลอร มาชวยในการหาจํานวนสมาชิกของเซต ลักษณะของ
ปญหาในหัวขอนี้จะเปนการกําหนดจํานวนสมาชิดของสวนตาง ๆ บางสวนมาให แลวใหเราหาจํานวนสมาชิก
ในสวนที่โจทยตองการ
ชวนคิด 1 กําหนดแผนภาพดังนี้

เซต 30
ชวนคิด 2
ใหนําตัวอักษรหนา Keyword ไปจับคูกับแผนภาพที่สอดคลองกับ Keyword นั้น ๆ

ตอนที่ 1
(A) A (B) B (C) A และ B (D) A หรือ B (E) A หรือ B เพียง
อยางเดียว
(F) A แตไม B (G) B แตไม A (H) ไม A (I) ไม B (J) ไมทั้ง A และ B

ตอบ A ตอบ ................... ตอบ ................... ตอบ ................... ตอบ ...................

ตอบ ................... ตอบ ................... ตอบ ................... ตอบ ................... ตอบ ...................
ตอนที่ 2
(K) A (L) ทั้ง A และ B และ (M) A หรือ B (N) A เพียงอยางเดียว (O) A หรือ B
C หรือ C หรือ C เพียงอยาง
เดียว
(P) A และ C (Q) A และ C (R) ไม A (S) A หรือ B (T) ไมท้งั A, B
แตไม B แตไม C และ C

ตอบ K ตอบ ................... ตอบ ................... ตอบ ................... ตอบ ...................

ตอบ ................... ตอบ ................... ตอบ ................... ตอบ ................... ตอบ ...................

เซต 31
ชวนคิด

ใหเพื่อน ๆ ลงสีในแผนภาพตามขั้นตอนตอไปนี้ โดยใชปากกาสีที่แตกตางกันในแตละขั้นตอนนะครับ


(i) ลงสีบริเวณเซต A ดวยปากกาสีที่ 1
(ii) ลงสีบริเวณเซต B ดวยปากกาสีที่ 2

บริเวณของเซตใดตอไปนี้ที่มีการลงสีทับกันทั้ง 2 สีครับ?
1) AB 2) AB
3) AB 4) A B '

จากกิจกรรมชวนคิดดานบน ถากําหนดให n S  แทนจํานวนสมาชิกในเซต S

จะไดวา n AB  ……………….  ………………………  ………………………………..

NOTE : *กรณี เซตที่ไมมีสวนรวม (disjoint set) *


ในกรณีที่ A และ B เปนเซตที่ไมมีสวนรวม (disjoint set) เราจะไดวา AB 
นั่นคือ n A  B   ....... ดังนั้นจะไดวา n AB  n A n B

ตัวอยางที่ 1 จากแผนภาพที่กําหนดให จงตอบคําถามตอไปนี้

U  1,2,3,4,5,6,7,8 A  1, 2,3, 4 n A  4


B………………………………………. n B   ……………………………………….
A  B  ………………………………………. n AB  ……………………………………….
AB  ………………………………………. n AB  ……………………………………….
ตัวอยางที่ 2 กําหนดให n A 15, n B  22 และ n A  B   6 จงหา n A  B 
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................

เซต 32
ชวนคิด

กําหนดแผนภาพเวนน-ออยเลอร มาให
และแบงสวนตาง ๆ ออกเปน 7 สวน ดังรูป

ให n A แทนจํานวนสมาชิกในเซต A


จากแผนภาพจะไดวา n A เกิดจาก การรวมกันของบริเวณหมายเลข (1), (2), (3) และ (4)
นั่นคือ nA  1 2 3 4
ในทํานองเดียวกันจะไดวา n B   2 4 5  6
n C   …………………………………………………..
n AB  2 4
n AC   …………………………………………………..
n B C   …………………………………………………..
และ n A B C   …………………………………………………..
จะไดวา n A n B n C  n A  B n A C  n B C  n A  B C 
= 1  2  3  4  2  4  5  6  [………………………..]
 [ 2 4 ]  [………………..]  [………………..]  [………………………..]

= 1 2 3 4  ……………………………………………………………….


= n A  B C 

จะไดวา
n A B C   n A n B n C  n A  B n A C n B C  n A B C 

เซต 33
กําหนดให U  1, 2,3,....,10 , A  1,2,3,4 และ B  3,4,5,6,7
สามารถเขียนเปนแผนภาพเวนน-ออยเลอร ได 2 ชนิด ดังนี้

เขียนสมาชิกทุกตัว เขียนเฉพาะจํานวนสมาชิก

ตัวอยาง กําหนดจํานวนสมาชิกของเซตตาง ๆ ดังนี้


n U  n A n B n C  n A  B  n A C  n B C  n A  B C 
50 25 20 30 12 15 10 5
วิธีทํา
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
จงหาจํานวนสมาชิกในแตละขอตอไปนี้
1) n A C 
………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………….
2) n A  B C 
………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………….
3) n A  B C  '
………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………….
4) n B A C 
………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………….
5) n A  B C 
………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………….

เซต 34
แบบฝกหัดที่ 8
1. กําหนดตัวเลขในแผนภาพแสดงเซตแทนจํานวนสมาชิกในเซตตามแผนภาพที่กาํ หนดให

จงหาจํานวนสมาชิกของเซตตอไปนี้
1) A 2) AC
3) AB 4) A  B C
5) ABC 6) C AB
7) A'B C  8) AB C 
9) A ' ' B  ' 10) AB B A

การแกปญหาโดยใชเซต
ชวนคิด

จากการสํารวจจํานวนลูกคาในรานคาแหงหนึ่งพบวา ในวันที่สํารวจมีลูกคาซื้อสินคาทั้งหมด 55 คน
เปนผูที่มีซื้อขาวกลอง 38 คน และเปนผูที่มาซื้อนํ้าอัดลม 22 คน จงหาวามีลูกคาที่ซื้อสินคาทั้ง 2 ประเภท คือ
ขาวกลองและนํ้าอัดลมจํานวนทั้งสิ้นกี่คน
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
เซต 35
ตัวอยางที่ 1 จากการสอบถามนักเรียนหองหนึ่งซึ่งมีจํานวน 30 คน พบวามีนักเรียนชอบเรียนวิชา
คณิตศาสตร 12 คน ชอบเรียนวิชาภาษาอังกฤษ 15 คน โดยชอบทั้งสองวิชาอยู 5 คน จงหาวามีนักเรียนใน
หองนี้ที่ไมชอบเลยทั้งสองวิชาอยูกี่คน
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
ตัวอยางที่ 2 ผลการสํารวจการเลือกคณะเขาศึกษาตอของนักเรียนกลุมหนึ่งจํานวน 50 คน พบวา
1) มีนักเรียนเลือกทั้งคณะรัฐศาสตรและคณะนิเทศศาสตร 10 คน
2) มีนักเรียนเลือกทั้งคณะรัฐศาสตรแตไมเลือกคณะนิเทศศาสตร 8 คน
3) มีนักเรียนเลือกคณะอื่นๆ ที่ไมใชคณะรัฐศาสตรและคณะนิเทศศาสตร 12 คน
มีนักเรียนเลือกคณะนิเทศศาสตรกี่คน (O-net 63)
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
ตัวอยางที่ 3 นักเรียน 80 คน เปนนักกีฬา 35 คน เปนนักดนตรี 27 คน และไมไดเปนทั้งนักกีฬาและนักดนตรี
32 คน จงหาวามีนักเรียนที่ไมไดเปนนักกีฬาหรือไมไดเปนนักดนตรีอยูกี่คน
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................

เซต 36
ตัวอยางที่ 4 ในการสอบของนักเรียนชั้นหนึ่ง พบวามีผูสอบผานวิชาคณิตศาสตร 37 คน วิชาสังคมศึกษา 48
คน วิชาภาษาไทย 45 คน โดยมีผูที่สอบผานทั้งวิชาคณิตศาสตรและสังคมศึกษา 15 คน ทั้งสังคมศึกษาและ
ภาษาไทย 13 คน ทั้งคณิตศาสตรและภาษาไทย 7 คน และมีผูที่สอบผานทั้งสามวิชาเพียง 5 คน จงหาวาที่
กลาวมานี้มนี ักเรียนอยูทั้งหมดจํานวนเทาใด
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
ตัวอยางที่ 5 พนักงานบริษัท 34 คน ถูกสํารวจเกี่ยวกับการสวมนาิกา แวนตา และแหวน ปรากฏวาสวม
แวนอยางเดียว 5 คน และมีจํานวนคนสวมนาิกามากกวาจํานวนคนสวมแวนตาอยู 1 คน จํานวนคนไม
สวมนาิกาเปน 3 เทาของจํานวนคนสวมแหวน นอกจากนั้น คนสวมแหวนทุกคนสวมแวน แตคน
สวมนาิกาไมมีคนใดสวมแวน จะมีคนสวมนาิกากี่คน
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
ตัวอยางที่ 6 ในการสํารวจงานอดิเรกของนักเรียน 200 คน ปรากฏวา
120 คน ชอบเลนกีฬา 60 คน ชอบเลนกีฬาและทําอาหาร
110 คน ชอบทําอาหาร 70 คนชอบเลนกีฬาและชอบเลนเกมคอมพิวเตอร
130 คน ชอบเลนเกมคอมพิวเตอร 50 คนชอบทําอาหารและชอบเลนเกมคอมพิวเตอร
นักเรียนที่ชอบเลนเกมคอมพิวเตอรอยางเดียวมีกี่คน
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................

เซต 37
ตัวอยางที่ 7 ในการสํารวจความเห็นของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนตราษตระการคุณ
จํานวน 880 คน เพื่อสอบถามขอมูลเกี่ยวกับการศึกษาตอ ปรากฏผลดังนี้ [ดัดแปลงจากขอสอบ PAT1]
มีผูตองการศึกษาตอ 725 คน
มีผูที่ตองการทํางาน 160 คน
มีผูตองการศึกษาตอหรือทํางาน 813 คน
จะมีผูที่ตองการศึกษาตอไปดวยพรอมกับทํางานไปดวยกี่คน คิดเปนรอยละเทาไรของนักเรียนทั้งหมด
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
แบบฝกหัดที่ 8
1) จากการสํารวจนักเรียนที่พูดภาษาที่ 3 ไดจํานวน 50 คน พบวามีนักเรียนชาย 22 คน และพบวามีนักเรียน
ที่เปนผูหญิงหรือเปนนักเรียนที่พูดภาษาเกาหลีได 38 คน จงหาวามีนักเรียนชายที่พูดภาษาเกาหลีไดกี่คน

2) จากการสํารวจนักเรียนหองหนึ่ง พบวามี 20 คนที่เลือกเรียนฝรั่งเศสหรือคณิตศาสตร (อยางใดอยางหนึ่ง)


ซึี่งมี 17 คนที่ไมเรียนคณิตศาสตร และมี 15 คนที่ไมเรียนฝรั่งเศส แลวมีกี่คนที่ไมเลือกเรียนทั้งสองวิชานี้เลย

3) โรงพยาบาลแหงหนึ่งทําการสํารวจขอมูลจากผูปวยที่มีอายุเกิน 40 ป จํานวน 1,000 คน ปรากฏวามีคนสูบ


บุหรี่ 312 คน มีคนเปนมะเร็งปอด 180 คน และมี 660 คนไมสูบบุหรี่และไมเปนมะเร็งปอด จงหาวามีผูที่
สูบบุหรี่และเปนมะเร็งปอดกี่คน

4) ในการสํารวจความชอบของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 โรงเรียนตราษตระการคุณ จํานวน 100 คน


พบวามีนักเรียน ชอบกวยเตี๋ยว 49 คน ชอบกวยเตี๋ยวและขาวมันไก 22 คน
ชอบขาวมันไก 48 คน ชอบกวยเตี๋ยวและขาวหมูแดง 32 คน
ชอบขาวหมูแดง 59 คน ชอบขาวมันไกและขาวหมูแดง 27 คน
และ ชอบทั้ง 3 อยาง 15 คน
มีนักเรียนที่ไมชอบอาหารทั้ง 3 ชนิดนี้กี่คน

เซต 38
5) จากการสํารวจพฤติกรรมการทานทุเรียน มะมวง และมังคุด ของคน 100 คนกลุมหนึ่งพบวาทุกคนชอบ
ทานผลไมทั้งสามชนิดนี้อยางนอยหนึ่งอยาง ถามี 50 คนไมชอบทานมังคุด, 30 คนชอบทานมังคุดแตไมทาน
ทุเรียน, และมี 10 คนชอบทานผลไมทั้งสามอยางนี้ แลวจํานวนคนที่ชอบทานทุเรียนและมังคุดแตไมชอบทาน
มะมวงเลย เทากับเทาใด

6) จากการสอบถามผูดื่มกาแฟ 20 คน พบวาจํานวนผูใสครีม นอยกวาสองเทาของผูใสนํ้าตาลอยู 7 คน และ


จํานวนผูที่ใสทั้งครีมและนํ้าตาล เทากับจํานวนผูที่ไมใสทั้งครีมและนํ้าตาลดังนั้นมีผูที่ใสครีมทั้งหมดกี่คน

7) นักเรียนคนหนึ่งไปพักผอนที่พัทยา ตลอดชวงเวลานั้นเขาสังเกตไดวามีฝนตก 7 วัน ในชวงเชาหรือเย็น โดย


ถาวันใดฝนตกชวงเชาแลวจะไมตกในชวงเย็น, มี 6 วันที่ฝนไมตกในชวงเชา และมี 5 วันที่ฝนไมตกในชวงเย็น
ถามวานักเรียนคนนี้ไปพักผอนที่พัทยากี่วัน

8) โรงเรียนแหงหนึ่งมีนักเรียนชาย 600 คน หญิง 500 คน ในจํานวนนี้มนี ักเรียนที่มาจากตางจังหวัดรวม 300


คน เปนผูชาย 200 คน และมีนักกีฬารวม 50 คน เปนผูชาย 30 คน โดยมีนักกีฬาที่มาจากตางจังหวัด 25 คน
เปนชาย 15 คน ถามวานักเรียนชายที่ไมไดมาจากตางจังหวัดและไมไดเปนนักกีฬาดวย มีกี่คน

9) ในการสํารวจความนิยมของผูที่ไปเที่ยวสวนสัตวจํานวน 100 คน พบวามี 50 คนชอบชาง, 35 คนชอบลิง,


25 คนชอบหนู, 32 คนชอบชางอยางเดียว, 20 คนชอบหนูแตไมชอบลิง, 10 คนชอบชางและลิงแตไมชอบหนู
จงหาวาจํานวนคนที่ไมชอบสัตวสามชนิดนี้เลย ตางกับ จํานวนคนที่ชอบหนูกี่คน

10) ในการสอบวิชาภาษาไทย วิชาภาษาอังกฤษและวิชาคณิตศาสตร ของโรงเรียนแหงหนึ่ง มีนักเรียนเขาสอบ


ทั้งหมด 66 คน ปรากฏวามีนักเรียนที่สอบตกทั้งสามวิชาจํานวน 13 คน นักเรียนที่สอบไดทั้งสามวิชา มีจํานวน
17 คน นักเรียนที่สอบไดวิชาภาษาไทยและวิชาภาษาอังกฤษแตสอบตกวิชาคณิตศาสตรมีจํานวน 10 คน
นักเรียนที่สอบไดวิชาภาษาไทยและวิชาคณิตศาสตรแตสอบตกวิชาภาษาอังกฤษ มีจํานวน 11 คน นักเรียนที่
สอบไดเพียงวิชาเดียว มีจํานวน 6 คน จํานวนนักเรียนที่สอบไดวิชาภาษาอังกฤษและวิชาคณิตศาสตร เทากับ
เทาใด

11) กําหนดให A และ B เปนเซตจํากัด โดยที่ จํานวนสมาชิกของ P A เปนสองเทาของจํานวนสมาชิก


ของ P B จํานวนสมาชิกของ P  A  B   8 และจํานวนสมาชิกของ P  A  B  256
จงหาจํานวนสมาชิกของ P  A  B 

เซต 39
มาทบทวนกันหนอยดีกวา วาจําอะไรไดบาง
เขียนนิยามของการดําเนินการตอไปนี้

เราสามารถเขียนแผนภาพเวนน-ออยเลอร ได 2 แบบ


แบบที่ 1 : เขียนสมาชิกทุกตัวลงแผนภาพ แบบที่ 2 : เขียนเฉพาะจํานวนสมาชิก
เชน กําหนดให U  x   | x 10 , A 1,2,3,4,5 และ B  3, 4,5,6,7
แบบที่ 1 (เติมแผนภาพใหครบ) แบบที่ 2 (เติมแผนภาพใหครบ)

เซต 40
แบบฝกทายบท
1. จงใชสมบัติทางพีชคณิตของเซต เขียนเซตตอไปนี้ใหอยูในรูปอยางงาย (สั้นที่สุด)
1) A  A  A  A B  B  B  B
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2) AB B A A  B 
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3) A  A ' B   B  B ' A '
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
4) A  B   B  A  A '  A ' A  B   B  A 
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
5) A  B  ' B C '   C  E   C ' E '  A  E ' '
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ถา U  1, 2,3,....,7,8 , A U 1 , B  2, 4,6 และ C  1,7
มีเซต D ที่เปนไปไดกี่แบบที่ตรงตามเงื่อนไข B 'C   D  A
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

เซต 41
4. กําหนดให U  x   | 2  x  6 , A  k 2 | k U  และ B  k | k U
จงหา n C  เมื่อ C  {X | A  B  X และ X  A  B }
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
5. กําหนดเซต A , B เปนสับเซตของ U หาก n U   100, n A '  40, n B   55 และ
n A  B '  32 จงหาคาของ n A ' B '  32
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
6. เซตของจํานวนเต็มเซตหนึ่ง หากนํา 3 หรือ 4 ไปหารจะปรากฏวา 4 หารลงตัวอยางเดียว 6
จํานวน, 3 หารลงตัวทั้งหมด 8 จํานวน ซึ่งเปนจํานวนคู 3 จํานวน, ทั้ง 3 และ 4 หารลงตัว มี 2
จํานวน, และ 4 หารไมลงตัว 18 จํานวน ซึ่งเปนจํานวนคู 4 จํานวน ถามวาจํานวนสมาชิกของเซตนี้
เปนเทาใด, จํานวนคูในเซตนี้มีกี่จํานวน, และมีจํานวนที่ 3 หรือ 4 หารไมลงตัวกี่จํานวน
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
เซต 42

You might also like